Professional Documents
Culture Documents
ศรชัย ฉัตรวิริยะชัย
นี่ เ ป็ น เพี ย งตั ว อย่ า งเดี ย วของกระแสความคลั่ ง ไคล้ ความสวย ความงาม ซึ่ ง ถั่ ง โถมเข้ า สู่
ประเทศไทยของเราอย่างไม่หยุดยั้ง ถ้าหันมองดูรอบตัวเรา ประเทศไทยมีหัวนิตยสารที่เกี่ยวกับ
ความสวยงามของผู้หญิงอยู่ไม่ตำ่า กว่า 32 เล่ม1 มีคลินิคศัลยกรรมนับเฉพาะที่ลงทะเบียนอยู่กับ
สมาคมศั ล ยแพทย์ อ ยู่ ไ ม่น้ อ ยกว่ า 300 แห่ ง 2 และมี เ อกชนที่ใ ห้ บริ ก ารเกี่ ย วกั บ การลดกระชั บ
สั ด ส่ ว นอยู่ ม ากมายในมู ล ค่ า รวมไม่ น้ อ ยกว่ า 2,000 ล้ า นบาท 3 ภาพรวมของอุ ต สาหกรรมที่
เกี่ยวข้องกับความสวยความงามของผู้หญิงคิดเป็นมูลค่าเกือบ 46,000 ล้านบาท และมีการเติบโต
กว่า 4-5% ต่อปี4 แนวโน้มของการใส่ใจต่อสุขภาพ และความสวยงามนั้นไม่ได้จำากัดอยู่ที่สตรีเพศ
อย่างเดียวเท่านั้น ปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่ไม่ว่าจะอยู่ในเพศและวัยใดก็ได้รับผลกระทบจาก “
คลื่นกระแสนิยมความงาม” นี้ด้วยกันทั้งนั้นไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม
บทละครนั้นในทัศนะของผู้เขียนบทความ เป็นความซับซ้อนที่เกิดขึ้นจากการเหลื่อมซ้อนกันทาง
ความคิด จิตใจ อารมณ์ ของมนุษย์ ซึ่งแสดงออกทางกลวิธีอันหลายหลากของบทละคร ความซับ
ซ้อนนี้ชวนให้เข้าใจว่า ผู้เขียนที่มีความละเมียดละไม ย่อมจะจงใจที่จะซ่อน “แก่น” ของสารของ
เรื่องนี้เอาไว้บางอย่าง การสืบเสาะเจาะหาร่องรอยที่ได้บรรจงวางเอาไว้อย่างแยบคาย จึงเป็น
หน้าที่ของผู้ที่สนใจการละครทุกคน
เริ่มแรกสุดที่ชักชวนให้เราพิจารณาก่อนเป็นอันดับแรกก็คือชื่อเรื่อง เพราะถ้าเปรียบเป็นร้านค้าแล้ว
ชื่อร้านก็ควรจะทำาหน้าที่ชักชวนให้ลูกค้าสนใจใคร่รู้ว่าด้านในของร้านจะสวยงาม หรือน่าประทับใจ
ขนาดไหน ชื่อเรื่อง “สวยแล้ว ที่รัก” ก็ได้ทำา หน้าที่นั้นเป็นอย่างดี เพราะสร้างความน่าสนใจ เป็น
พลังดึงดูดให้เราอยากจะเข้าไปสัมผัส การเลือกชื่อเรื่องนี้มีความน่าสนใจ เพราะคำาว่าสวยเป็นคำาที่
มักจะใช้ชมรูปลักษณ์ภายนอกของผู้หญิง ส่วนคำาว่า แล้ว เป็นคำาคุณศัพท์ที่แปลว่า “เสร็จสิ้น” ซึ่ง
คำานี้เมื่อนำามาใช้กับคำาว่า “สวย” จะกลายเป็นคำาแสลงที่สามารถจะถือได้ว่าเป็นคำาประชดประชัน
ในบริบทของสังคมไทย และมีนัยที่เกี่ยวกับตัดสินความสวยความงามด้วยอัตวิสัย เมื่อเติมคำาว่า
“ที่รัก” ก็ยิ่งชวนให้ค้นหา และสงสัยใคร่รู้เพราะเนื่องจากคำา นี้บอกให้รู้ว่าผู้ที่ชมว่าสวยน่าจะเป็น
เพศชาย และมีความสนิทชิดเชื้อพอที่จะเรียกผู้ที่ถูกเรียกว่าที่รักได้ ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าเพียงแค่ชื่อ
เรื่องก็สามารถรวมประเด็นของแก่นของเรื่องที่ต้องการนำา เสนอได้ทั้งหมด อีกทั้งยังน่าติดตามจึง
เป็นสิ่งที่โดดเด่นมากสำาหรับบทละครเรื่องนี้
เรื่องต่อมาก็คือเรื่องของฉากในละคร จะเห็นว่าบทละครเรื่องนี้ผู้แต่งมีเจตนาที่จะยกสัญญะบาง
อย่างมาเหน็บแนมค่านิยมของสังคมที่เห็นได้อย่างดาษดื่น แล้วจะมีอะไรดีกว่าการให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
ใน “ร้านเสริมสวย” ซึ่งถือได้ว่าเป็นปริมณฑลของสตรีเพศ ซึ่งคนไทยยังถือว่าร้านเสริมสวยธรรมดา
ที่มีอยู่ทั่วไปในตรอกซอกซอยนี้ เป็นสถานที่ที่ผู้หญิงจะสามารถมาพักผ่อน และหลีกไกลจากความ
ฉาบทา ที่สังคมจ้องจะแปะตรา ประทับยี่ห้อ ให้กับเธอ และเธอสามารถพูดคุยกันได้ในทุกเรื่องราว
ไม่เว้นแม้แต่เรื่องบนเตียง หรือสองแง่สองง่าม (“สงสัยหนูมีนแกได้เชื้อพ่อมาแรงมั้งคะ” [จูนพูดกับ
เมษา] น. 2) แต่ในขณะเดียวกันสถานที่นี้ก็มีความขัดแย้ง เพราะเป็นแหล่งที่ผู้หญิงทุกคนรู้ว่าน
อกจากที่ตนจะมาให้เวลากับตัวเองแล้ว ก็ยังเป็นสถานที่ที่ต้องมาแต่งองค์ทรงเครื่อง หรือ “ทำาสวย”
เพราะวัตถุประสงค์หลักอันหนึ่งก็คือการต้องทำาตัวให้ดูดีเป็นที่ต้องตาของผู้ที่พบเห็น และที่สำาคัญ
ก็คือให้ดึงดูดผู้ที่เธอรักและปารถนา ([กุมภาพูดกับพยศ] “... ผู้หญิงน่ะลำา บากมากรู้ไหมเวลา
อยากจะสวย ต้องเลือกเสื้อให้เข้ากับกระโปรง หมั่นทำา ผม แต่งหน้าแต่งตา อาหารการกินก็ต้อง
ควบคุม แต่คุณยศรู้หรือเปล่า พวกผู้หญิงเราก็ทนลำาบากได้นะเพื่อคนที่เรารัก… ถ้าคนอื่นมาชม
เนี่ยมันก็ดีใจอยู่หรอก แต่แหม มันก็ไม่พิเศษหรอก…” น.4)
ความระยำาที่เคลือบด้วยนำ้าตาลสีสวย
ความพยายามสื่อให้เห็นเงื่อนงำาของเบื้องลึกเบื้องหลังของมนุษย์ที่น่าเกลียดไม่สวยงามนี่เองได้
ปรากฏโดดเด่นขึ้นมาเป็น Main Idea ของเรื่อง และพ้นไปจากการเสียดสีวาทกรรมเรื่อง “ความ
สวยงามภายนอก และคุณความดีภายใน” ซึ่งถ้าอ่านอย่างไม่ทันระวังพินิจพิเคราะห์แล้วจะเข้าใจ
ไปเป็นเช่นนั้นได้ไม่ยาก เหตุที่ได้ข้อสรุปเช่นนั้นเป็นเพราะหลายสาเหตุด้วยกัน
ตัวละครและปมความขัดแย้ง
ความคิดในเรื่องของความสวย กับความดีนี้เป็นวาทกรรมที่ปรากฏขึ้นในสังคมไทยทุกยุคทุกสมัย
มิใช่พึ่งปรากฏในละครเวทีร่วมสมัยอย่างเรื่องนี้ แต่ในขณะที่บทละครเรื่องนี้ได้นำา เสนอโดยจับ
ประเด็นของกระแสสังคมในปัจจุบันที่ยึดถือว่ารูปลักษณ์ หรือ ร่างกายนั้นแท้จริงแล้วมีลักษณะ
เพียง “โครงการ” อย่างหนึ่งที่ต้องทำาให้เสร็จลุล่วง เพราะมันเป็นสิ่งที่จะนำามาซึ่งตัวตนของผู้ครอบ
ครอง และยังผลักดันให้เจ้าของมีอำานาจต่อรองในปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเพิ่มขึ้นด้วย6 แนวโน้มการ
เสริมดั้ง ตบนม ที่เห็นอยู่ในปัจจุบันจึงสามารถเข้าใจได้ว่าเป็นเพราะเรามีทัศนคติต่อร่างกายที่
เปลี่ ย นไปตามแนวทางของตะวัน ตกนั่น เอง ซึ่ ง มองร่ า งกายเป็ น ทุ น ชนิ ด หนึ่ ง เรี ย กว่ า ทุ น ทาง
กายภาพ7 และผู้ที่รับเอาแนวความคิดดังกล่าวมาใช้อย่างเต็มที่ เรามักจะเพ่งเล็กมาที่สตรีเพศเป็น
หลัก
ระวังดูปูปัดสลัดที่นอน ทั้งฟูกหมอนอย่าให้มีธุลีลง
ถ้าแม้วา่ ภัสดาเข้าไสยาสน์ จงกราบบาททุกครั้งอย่างพลั้งหลง...
นายภู่ : สุภาษิต สอนสตรี
ซึ่งแม้ว่าผู้หญิงไทยของเราจะมีอิสรภาพจากค่านิยมอันครำ่าครึนี้แล้ว แต่ก็น่าสนใจว่าแท้จริงแล้วผู้
หญิ ง ไทยนั้ นได้ ห ลุด พ้ น จากอี ก กรงกรอบความคิ ด หนึ่ ง ไปยั ง อี ก ความคิ ด หนึ่ ง หรื อ ไม่ เรี ย กว่ า
เป็นการหนีเสือปะจรเข้ เพราะเราจะเชื่อได้อย่างไรว่า กระแสของความสวยความงามที่กำา ลังนำา
กลับมานำาเสนอในรูปแบบใหม่ๆ และเรียกว่าเป็น “กระแสเพื่อสุขภาพ” นี้จะไม่ใช่การพะยี่ห้อใหม่
ฉาบทาด้วยคำาพูดที่ไฉไลขึ้นกว่าเก่า แต่เมื่อมองให้ดีแล้ว เนื้อแท้ความจริงเป็นเรื่องของการกระตุ้น
ความต้องการที่เป็นสัญชาติญานดิบข้างในลึกๆของเรา ที่เรามักจะเก็บงำาซ่อนเร้นไว้ไม่ให้ใครเห็น
และถ้าเราโชคดี... ไม่แน่ว่าบางครั้งเราอาจจะหลอกตัวเองได้บ้างกระมัง
บรรณานุกรม
1
http://www.magazinedee.com/
2
http://www.plasticsurgery.or.th/main/memlist.html
3
(ตัวเลขในปี 2547) ผู้จัดการรายวัน. มารีฟรานซ์ไทยหวังโค่นสิงคโปร์ เล็งตลาดศูนย์ลดอ้วนยุโรป
อีก 3 ปี.30 พฤษภาคม 2548
4
ผู้จัดการรายสัปดาห์ "ลอรีอัล"บุกตลาดความงามเต็มสูบสิ้นปีหวังโต 20%สูงสุดในรอบ 5 ปี. 2 กรกฎาคม
2550
5
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารสุข. เผยหญิงไทยตกเป็นเหยื่อกามช่วงปี47 กว่าแสนคน. 15/9/2548
6
น. 202 เสนาะ เจริญพร. ผู้หญิงกับสังคมในวรรณกรรมไทยยุคฟองสบู่. กรุงเทพฯ : มติชน, 2548.
7
จากทีเ่ ดียวกัน หน้า 203
8
น. 70 บุณยงค์ เกศเทศ. สถานภาพสตรีไทย. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์ 2532
9
จากทีเ่ ดียวกัน