Professional Documents
Culture Documents
ประวัติพิมพ์ดีดและการฝึกพิมพ์
ประวัติพิมพ์ดีดและการฝึกพิมพ์
และแปนพิมพเบื้องตน
Teaching Basic Typewriting
and Keyboarding
เรื่อง ประวัติเครื่องพิมพดดี
และการฝกหัดพิมพดีด
• ตอมาไดมีนักประดิษฐพยายามสรางเครื่องชวยเขียน
ตัวอักษรอีกมากกวา 50 คน ซึ่งมีทั้งผลงานที่สําเร็จ
และลมเหลวเชน ผลงานของ William Austin Burt
แห ง เมื อ ง Detroit รั ฐ Michigan ซึ่ ง เป น ผู ป ระดิ ษ ฐ
เครื่อ ง Typographer ใช ชวยเขี ย นตัว อั ก ษรไดเป น
คนแรกของอเมริก าเมื่ อ ป ค.ศ.1828(พ.ศ.2371)
โดยได รั บ สิ ท ธิ บั ต รจากประธานาธิ บ ดี Andrew Typographer ของ Burt
Jackson แตเครื่องตนแบบของเขาถูกเผาทําลายไป
ในเหตุ ก ารณ เ พลิ ง ไหม สํ า นั ก งานสิ ท ธิ บั ต รเมื่ อ ป
ค.ศ.1836(พ.ศ.2379)
ประวัติเครื่องพิมพดีดภาษาอังกฤษ
• จนถึง ค.ศ.1867(พ.ศ.2410) Christopher Latham Sholes,
Carlos Glidden และ Samual W. Soule ชาวเมือง Milwaukee รัฐ
Wisconsin สหรัฐ อเมริกา ไดรวมกัน ประดิษ ฐเ ครื่ องพิ มพ ดีดที่
สามารถใชง านไดจริ งและจําหนายไดในเชิงพาณิช ยเปนเครื่อง
แรก โดยตั้งชื่ อสิ่ง ประดิษฐ ของเขาว า Type-Writer และไดรั บ
สิทธิบัตรในเดือนมิถุนายน 1868
เครื่องพิมพดีดของ Sholes
• เครื่องพิมพดีดของ Sholes เปนแบบแปนพิมพ 4 แถว พิมพโดย
การเคาะแป น อั ก ษรลงไป แต ผู พิ ม พ ยั ง ไม ส ามารถมองเห็ น Christopher L. Sholes
ตัวอักษรที่พิมพลงบนกระดาษได เพราะใชร ะบบแบบดีดแปน Lillion บุตรสาวของ Sholes ถือ
อักษรขึ้น (up- strike) จึง มีผู เรี ย กพิ มพ ดีดของเขาว า Blind- เปนนักพิมพดีดคนแรกของโลก
Writer พิมพดีดดวยเครื่องของบิดา ที่ผู
พิมพยังตองหมุนลูกบิดขึ้นเพื่อดู
• สวนการจัดวางตําแหนงแปนอักษรนั้น Sholes ไดออกแบบไป ขอความที่พิมพ
พรอมกับการสรางเครื่องพิมพดีด โดยมีผูเรียกแปนอักษรของเขา
วาแปนแบบ Universal มีลักษณะคลายกับ ที่ใชกัน ในปจ จุ บั น
ซึ่ ง ต อ มาได เ ปลี่ ย นมาเรี ย กว า แป น แบบ QWERTY และ
กลายเปนแปนพิมพมาตรฐานที่ใชกันทุกวันนี้
ออกแบบโดย
Franz Xavier Wagner
นักประดิษฐชาวเยอรมัน
ซึ่งมีคุณลักษณที่กลายมาเปน
Blickensderfer 1893 มาตรฐานของเครื่องพิมพดีด
Underwood 1895
ทั่วไป
ประวัติเครื่องพิมพดีดภาษาอังกฤษ
จากพิมพดีดธรรมดาสูพิมพดีดไฟฟา
• จากขอมูลที่ปรากฏพบวา Thomas Alva Edison นักประดิษฐคนสําคัญ
ของโลกชาวอเมริกั น ไดเ คยประดิ ษ ฐ เ ครื่ อ งพิม พดี ดที่ ทํา งานด วยไฟฟ า
มาแลวไมนานหลังจากที่ Edison ไดไปพบกับ Sholes เพื่อขอดูเครื่อง
พิมพดีดของเขา แตเครื่องพิมพดีดของ Edison มีขนาดใหญ รุงรังและ
ตนทุนสูง จึงไมไดนําออกวางตลาด
• จนเมื่อป ค.ศ.1902(พ.ศ.2445) George Canfield Blickensderfer
Thomas Alva Edison
นักอุตสาหกรรมชาวอเมริกันไดผลิตเครื่อง
พิมพดีดไฟฟาที่ทํางานไดดีเครื่องแรกขึ้น
ซึ่งใชกําลังไฟฟากระแสสลับ 104 Volts
60 Cycles ใชหัวพิมพแบบ Golf ball
ณ โรงงานในเมือง Stamford มลรัฐ
Connecticut เครือ่ งพิมพดดี ไฟฟา Blickensderfer Blickensderfer
ประวัติเครื่องพิมพดีดภาษาอังกฤษ
IBM ผูบุกเบิกพิมพดีดไฟฟาในสํานักงาน
• วิวัฒนาการของเครื่องพิมพดีดไฟฟา IBM เกิดจากผลงานการประดิษฐ
ของ James Fields Smathers เมือง Kansas City รั ฐ Missouri ในป
ค.ศ.1914(พ.ศ.2457) และได พั ฒ นารุ น ที่ มี คุ ณ ภาพสู ง ขึ้ น ในป
ค.ศ.1920 จนถึ ง ป ค.ศ.1923 ก็ ไ ด ม อบสิ ท ธิ ก ารผลิ ต ให กั บ บริ ษั ท
Northeast Electric Company เมือง Rochester รัฐ New York ใหเปน
ผูผลิตและจําหนาย
สิ่งพิมพโฆษณา
ขายเครื่องพิมพดีด Smith Premier
ประวัติเครื่องพิมพดีดภาษาไทย
เกษมณี VS ปตตะโชติ
• ในป พ.ศ.2465 Dr.George Macfarland เดินทางไปสหรัฐอเมริกา
และได ร ว มให คํ า ปรึ ก ษาแก บ ริ ษั ท Remington ถึ ง การผลิ ต
เครื่ องพิม พดีด ไทยขนาดเล็ กที่ สามารถพิ มพสั มผั สสิ บนิ้ว ได จน
สามารถทําไดสําเร็จเปนแปนแบบ 4 แถว และไดนําเครื่องพิมพดีด
รุนดังกลาวเขามาเผยแพรในประเทศไทยจนไดรับความนิยมแทนที่
เครื่อง Smith Premier ในเวลาตอมา แตก็ยังมีปญหาเรื่องการพิมพที่
ยังขัดกับวิธีการเขียนภาษาไทยอยูบาง
• ถึงกระนั้นก็ยังมีผูรูหลายคนออกมาวิจารณถึงจุดออนและ
ความไม เ หมาะสมบางประการของแป น แบบป ต ตะโชติ
ประกอบกับคนไทยสวนใหญเคยชินกับการพิมพดวยแปน
เกษมณีแ ล ว จึ ง ทํา ให แ ปน แบบปตตะโชติไ มไ ดรั บ ความ
นิยมจนหายไปในที่สุด (ปจ จุบัน เหลือนักพิมพ ดีดรุน เกา
ไม กี่ ค นที่ ยั ง ค งใช แป น แบบป ต ตะโช ติ ) แต เ ค รื่ อ ง
คอมพิวเตอรในปจจุบันสามารถเลือกใชสลับระหวางแปน
ทั้งสองแบบได
ประวัติการฝกหัดพิมพดีด
• ระยะแรกที่เครื่องพิมพดีดเริ่มเผยแพรออกไป บริษัทผูผลิตมักเนน
แต ก ารขายไม มี ก ารอบรมวิ ธี พิ ม พ ใ ห ลู ก ค า วิ ธี ก ารพิ ม พ ดี ด จึ ง มี
หลากหลายแลว แตค วามถนั ดของคนใช ไมมี รู ปแบบการพิม พ ที่
แนนอน บางคนก็ใชเพียง 2 นิ้ว บางก็ใช 4 นิ้ว บางก็ใช 6 นิว้ จิม้ ไป
พรอมกับมองแปนพิมพ ซึ่งเปนวิธีพิมพที่เรียกวา Hunt and Peck
(จิ้มดีด) จึงทําใหโรงเรียนธุรกิจของเอกชนเล็งเห็นความสําคัญของ
การสอนพิมพดีดขึ้นมา