You are on page 1of 465

ไทยใต้ ร่ม

สมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่

หนังสื อทีก ล้ าเปิ ดเผยความจริง


ท่ านกล้ าเปิ ดสมองรับความจริงหรือไม่
ว่ าใครสร้ าง ใครทําลายระบอบประชาธิปไตย

ดารณี รวีโชติ
บรรณาธิการ


ถึงผูใ้ ฝ่หาสจธรรม

งานวิชาการ “ไทยใต ้ร่มสมบูรณาญาสิทธิราชใหม่” นี้เป็ นความ


ร่ ว มมือ ของบุ ค คลหลายกลุ่ม อาชีพ ทั ง้ ที่อ ยู่ ใ นต่ า งประเทศและใน
ประเทศไทย โดยเฉพาะคณาจารย์ใ นมหาวิทยาลัย ที่แบ่ งหน ้าที่เก็ บ
ข ้อมูล คําบอกเล่า และเรียงร ้อยเป็ นหนังสือเล่มนี้ ด ้วยเจตจํ านงร่วมกัน
ว่าการจะแก ้ปั ญหาสังคมไทยให ้ก ้าวไปสู่สันติประชาธรรมได ้นั น ้ ต ้อง
เริ่ม ต ้นจากการพู ด ความจริง แต่ก รอบแห่ ง กฎหมาย การเมือ ง และ
วัฒนธรรมในประเทศไทยวันนี้ไ ด ้ปิ ดกัน ้ และหลอกลวง จนแม ้กระทั่ ง
นั กวิชาการในรัว้ มหาวิทยาลัย ที่ไ ด ้ชือ ่ ว่าเป็ นนั กอ่านและนั กค ้นคว ้ายั ง
ไม่ อ าจจะก ้าวข ้ามรั ว้ กํา แพงแห่ง วาทะกรรมทางสัง คมได ้ด ้วยเพราะ
หลงเชือ ่ , เกรงกลัวคุกตะราง และการเสียผลประโยชน์
พวกเราในนามกลุ่มน ักวิชาการแห่งประว ัติศาสตร์จงึ ได้
สานประสานความคิดเพือ & สร้างผลงานทางวิชาการชิน ) นีข ) นึ) โดย
ไม่มุ่ง หว ังผลประโยชน์ใดๆ แม้แ ต่ช อ ื& เสีย งของต วั เอง เพือ & จุด
ประกายความจริงทางสงคมให้ ั สว่างขึน ) เพือ & ให้คนไทยทุกคนห ัน
มาทบทวนดูวา ่ การอาศยอยู ั ่ใต้รม
่ ของระบอบสมบูรณาสิทธิราช
ใหม่น ี) แท้จริงมีรม ั
่ เงาให้อาศยอยู่จริงหรือไม่?, หากมีรม ่ เงาจริง
ทําไมสงคมจึ ั งปั&นป่วน?, เดือนร้อน?, การเมืองจึงหาเสถีย รภาพ
ไม่ไ ด้? , ผู ค ้ นอดอยากยากแค้น ?, คุ ณ ภาพชีว ต ิ ไม่ ไ ด้ร ับการ
พ ัฒนา?, นโยบายร ัฐสว ัสดิการกลายเป็นสิงเลวร้าย แต่เศรษฐกิจ &
พอเพียงกล ับได้ร ับการเชิดชู?
เราขอมอบงานชิน ้ นี้เป็ นลิขสิทธิข ์ องสาธารณะ หากผู ้อ่านท่าน
ใดเห็นประโยชน์ของข ้อมูลทีร่ วบรวมนี้จะนํ าไปเผยแพร่ เรายินดีและจะ
ไม่ท ้วงติง เพียงแต่ขอให ้เคารพความคิดเห็นของเรา โดยขอสัจจะวาจา
จะไม่นํางานของเราไปแก ้ไขและบิดเบือนให ้ร ้าย และหากจะมีท่านใด
โต ้แย ้งวิจารณ์ เรายินดีทจ ี่ ะรับฟั งอย่างน ้อมคารวะ โดยวิจ ารณ์ผ่านสือ ่
เว็ บ ไซต์ต่า งๆ ที่ม ีอ ยู่ ใ นขณะนี้ หรือ ผ่ า นหน า้ หนั ง สือ พิม พ์ก็ ไ ด ้หาก
เจ ้าของสื่อ เว็ บ ไซต์ และเจ ้าของสํ า นั ก พิม พ์ยั ง หลงเหลือ ความกล ้า
หาญทางจริยธรรมอยู่บ ้าง
การเปลี&ย นแปลงทางส งั คมเป็ นส จ ั ธรรมที&ไ ม่ อ าจจะ
หลีกเลีย & งได้ เราย ังฝันทีจ & ะเห็ นการเปลีย & นผ่านอย่างสนติ ั เพือ & ให้


สงคมก้ ั
าวสู่ส งคมส ั ประชาธรรมโดยทุกสถาบ ันทีด
นติ & งี ามย ังอยู่
ครบ โดยเฉพาะสถาบ ันพระมหากษ ต ั ริย ์ แต่ตอ
้ งปร ับต วั ไปก ับ
การเปลีย & นแปลงของกาลเวลา
ขอขอบคุณ ท่ า นปรี ด ี พนมยงค์ ผู จ้ ุ ด ประกายความคิด เสรี
ให ้แก่สังคม ในนามของผู ้ประสาทการมหาวิท ยาลัย ธรรมศาสตร์และ
การเมืองทีใ่ ห ้ความรู ้แก่คณะผู ้เรียบเรียง, คุณสุพจน์ ด่านตระกูล ผู ้กล ้า
ประกาศสัจ ธรรมจนสิน ้ ลมหายใจ และขอขอบคุณ ผู ้ต่อสู ้เพื่อ ให ้เกิด
ประกายแห่งความจริงทุกท่านทั่วโลก ทัง้ ที่ไ ด ้ลาจากไปแล ้วและยังมี
ชีวติ อยู่
หวังเป็ นอย่างยิง่ ว่าทุกฝ่ ายจะเข ้าใจเจตนาแห่งสันติธรรมของ
เรา และศึกษางานวิชาการนี้ด ้วยจิตใจที่เปิ ดกว ้าง พร ้อมทัง้ ให ้โอกาส
แก่ดอกไม ้แห่งเสรีภาพเจริญงอกงาม

ดารณี รวีโชติ
บรรณาธิการ
สารบัญ

หน้ า
ถึงผู้ใฝ่ หาสั จธรรม ก-ค
บทที 1 ระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ 1
1.1 ปฏิวตั ิสลับฉากประชาธิปไตย 1
1.2 หมินสถาบันฯ ข้อหายอดนิ ยม 4
1.3 ทําไม! ต้องยึดอํานาจล้มประชาธิปไตยอยูเ่ สมอ? 6
1.4 อัศวินม้าขาว : วาทกรรมเผด็จการทหาร 9
1.5 รัฐธรรมนูญฉี กแล้วเขียนใหม่ : วนอยูใ่ นอ่าง 13
1.6 ยึดอํานาจทุกครั<งทําไมในหลวงลงพระปรมาภิไธยให้ทุกครั<ง? 17
1.7 เข้าใจระบอบ จึงจะเข้าใจสถานการณ์ 20
บทที 2 ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่ 22
2.1 ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชดั<งเดิมเป็ นเช่นไร 22
2.2 ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่เป็ นอย่างไร? 35
2.3 วันชาติภาพสะท้อนรัฐคือกษัตริ ย ์ 56
2.4 ประชาธิปไตยพระราชทานคือสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่ 57
บทที 3 การเกิดระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่ 68
3.1 ความขัดแย้ง เจ้า-คณะราษฎร 68
3.2 คณะราษฎรล้างอํานาจกษัตริ ยไ์ ม่เสร็ จสิ<น 72
3.3 ความขัดแย้งของคณะราษฎรเปิ ดเงือนไขเจ้าฟื< นอํานาจ 75
3.4 กรณี ลอบปลงพระชนม์ : จากวิกฤตเป็ นโอกาส 78
3.5 วิกฤตสวรรคตสู่รัฐประหาร 8 พฤศจิกายน 2490 82
3.6 ความเหมือนคล้ายรัฐประหาร 8 พ.ย.90 กับ 19 ก.ย.49 83
3.7 ทําลายระบอบรัฐธรรมนูญ ฟื< นระบอบกษัตริ ย ์ 89
3.8 รัฐธรรมนูญ 2490 วางระบบอํานาจฝ่ ายเจ้าให้เข้มแข็ง 92
3.9 แม้ฟ<ื นอํานาจแล้วแต่เจ้ายังคุมทหารไม่ได้ 95
3.10 รัฐประหาร 2500 ระบอบกษัตริ ยเ์ ริ มตั<งมัน อย่างเข้มแข็ง 99
3.11 เข้าสู่สมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่โดยกฎหมาย 105
3.12 การยึดอํานาจของวังมีสูตรมาตรฐาน 107
3.13 อํานาจนอกระบบ : เครื องมือสําคัญ 110
3.14 วังเข้มแข็งเป็ นภาวะวิสยั ทางประวัติศาสตร์ 112
บทที 4 บทบาททีขดั ขวางต่ อพัฒนาการระบอบประชาธิปไตย
ผ่ านเครือข่ ายราชสํ านัก 117
4.1 สร้างเครื อข่ายราชสํานักเพือบริ หารจัดการรัฐ 117
4.2 บทบาทของวังในสายตาต่างประเทศ 121
4.3 รู ปธรรมอันน่ าสงสัยจากถนอมถึงทักษิณ 128
4.4 อํานาจนอกระบบคือปั จจัยหลักทําลายประชาธิปไตย 130
4.5 โฆษณาด้านเดียว ทําลายประชาธิปไตย 132
4.6 สร้างระบบตรวจสอบนักการเมืองฝ่ ายเดียว 136
4.7 ข้าราชการ และองคมนตรี ไม่ตอ้ งแสดงทรัพย์สิน 138
4.8 ความรํารวยของพลเอกสุ รยุทธ์ฯ 139
4.9 ใครกันแน่ ทีเป็ นทุนสามานย์? 142
4.10 สร้างระบอบประชาธิปไตยทีบิดเบี<ยว 144
4.11 จ๊อกกี<ไม่ใช่เจ้าของม้า : ทหารไม่ตอ้ งขึ<นต่อรัฐบาล 149
4.12 ข้าราชการมุ่งสู่ราชสํานัก ปฏิเสธอํานาจประชาชน 151
4.13 ราชเลขาคือหัวหน้าปลัดกระทรวง 154
บทที 5 การบริหารอํานาจของราชสํ านัก รู ปธรรมจาก ถนอม ถึง สุ จนิ ดา 156
5.1 บริ หารอํานาจผ่านผูม้ ีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ 156
5.2 บทบาท “ผูม้ ีบารมี ฯ” ในแต่ละสถานการณ์ 160
5.3 บริ หารอํานาจผ่านข้อจํากัดของทุกรัฐบาล 183
5.4 รู ปธรรมกําจัดอํานาจรัฐบาลถนอม-ประภาส 193
5.5 รู ปธรรมการกําจัดอํานาจรัฐบาลสังคมนิ ยมอ่อนๆ 200
5.6 รู ปธรรมการกําจัดอํานาจรัฐบาล พล.อ.เกรี ยงศักดิP 210
5.7 รู ปธรรมการกําจัดอํานาจรัฐบาลพลเอกเปรม 215
5.8 รู ปธรรมการกําจัดอํานาจรัฐบาลพลเอกชาติชาย 221
5.9 รู ปธรรมการกําจัดอํานาจรัฐบาลพลเอกสุ จินดา 234
5.10 รอยแผลทางสังคมของสายสกุลแห่ งอํานาจ 242
บทที 6 การบริหารอํานาจของราชสํ านัก รู ปธรรมรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ 244
6.1 ธุรกิจ ไอทีวี ทั<งรับใช้และรับกรรม 244
6.2 บริ หารตามนโยบาย ยิง จริ งจังยิง สร้างศัตรู 247
6.3 แปรรู ปรัฐวิสาหกิจ คือแปรประโยชน์เจ้าฯ 252
6.4 รัฐวิสาหกิจเป็ นของประชาชนจริ งหรื อ 255
6.5 ปฏิรูประบบราชการ กระเทือนราชสํานัก 260
6.6 นโยบายประชานิ ยม แต่ราชสํานักไม่นิยม 265
6.7 เสี ยง 377 คืออันตราย 270
6.8 กําจัดทักษิณ : เครื อข่ายราชสํานักขับเคลือน 272
6.9 ทักษิณ คือ ตากสิ น กลับชาติมาเกิด 274
6.10 กรณี สนธิ กลายเป็ นระเบิดทําลายทักษิณ 278
6.11 ปชป. + ทหาร + NGO คือกําลังสําคัญ 280
6.12 สัญญาณชัดเจนจากราชสํานักให้ทาํ ลายระบอบทักษิณ 284
6.13 ยุบสภาประกายไฟไหม้ลามทักษิณ 288
6.14 เพียงแต่ในหลวงกระซิบข้างหู ผมจะลาออกทันที 291
6.15 ลาพักแต่ไม่ลาออก ความปันป่ วนและซับซ้อนฯ 295
6.16 ลอบฆ่า 3 ครั<ง - คาร์ บอมคาร์ บอ้ งของจริ ง 300
6.17 ทักษิณขู่เปิ ดเทปแผนลอบฆ่า!! 302
6.18 องคมนตรี เปรม ปิ ดฉากนายกฯ ทักษิณ 305
6.19 กราบแผ่นดินสุ วรรณภูมิคือกราบกษัตริ ย ์ 311
บทที 7 จุดเปลีย นอํานาจราชสํ านัก 312
7.1 สร้างรัฐธรรมนูญ 50 เพือตัดอํานาจประชาชน 312
7.2 ประชามติผา่ นรัฐธรรมนูญ 50 ทั<งหลอก ทั<งบีบฯ 317
7.3 “รัฐธรรมนูญศักดิPสิทธิP” ประกาศิตห้ามแก้ 318
7.4 ม็อบพันธมิตรฯ ใกล้ชิดราชสํานัก 321
7.5 ทําลายรัฐบาลเงาทักษิณ โดยไม่สนใจความถูกต้อง 325
7.6 พระราชดํารัสกระทบรัฐบาลฯ 327
7.7 ม็อบเส้นใหญ่ ผบ.ทบ.ไม่กล้าแตะ 329
7.8 เส้นทางสู่วงั ของนายสนธิอนั อื<อฉาว 331
7.9 ตุลาการภิวฒั น์ทาํ ราชสํานักเสื อมทรุ ดฯ 333
7.10 ตุลาการภิวฒั น์ ราชสํานักทรุ ดหนักฯ 341
7.11 อภิสิทธิP รัฐบาลเทพประทาน 356
7.12 คําประกาศสงครามประชาชนของสนธิ 359
7.13 รวมศูนย์ความขัดแย้งทีกษัตริ ย ์ 363
7.14 รัฐบาลเทพประทาน-ทักษิณจะเป็ นประธานาธิบดี 366
7.15 บทสรุ ป จุดจบคือบทเริ มต้นแห่ งยุคสมัย 368
บทที 8 สถานการณ์ใหม่ การเมืองไทย ขบวนการประชาชน “นาโน” 371
8.1 กษัตริ ยบ์ ริ หารรัฐ โดยไม่ตอ้ งรับผิดชอบต่อรัฐ 372
8.2 แผ่นดินนี< เป็ นของกษัตริ ย ์ ประชาชนคือผูอ้ าศัย 375
8.3 การเมืองปลายรัชกาลกับภาวการณ์เปลียนแปลง 377
8.4 ยุบพรรคตัดสิ ทธิP วิกฤตสังคม - ระบบพิกลพิการ 385
8.5 สงครามเสื<อเหลือง-เสื<อแดง 387
8.6 เสื< อเหลืองล่อเป้ า - เสื<อแดงยิงเป้ า 389
8.7 กระแสวิกฤตโลก ผนวก กระแสวิกฤตภายใน 392
8.8 เหลือง-แดง ต่างต้องการประชาธิปไตยทีแท้จริ ง 396
8.9 ขบวนการประชาชนขบวนการนาโน 398
บทที 9 บทพยากรณ์ : การกําเนิดรัฐไทยใหม่ 404
ภาคผนวก
บทที 1
ระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ

นั บ แต่ เ ปลี ย นแปลงการปกครองเมื อ 24 มิ ถุ น ายน 2475 ถึ ง


ปั จจุบัน ไทยเป็ นประเทศเดียวในโลกที มีการฉี กรั ฐธรรมนู ญมากทีสุด
ข้ อ อ้ างการฉี ก รั ฐ ธรรมนู ญ ก็วนเวีย นแต่ ข้ อ กล่ าวหาว่ าผู้ นํ ารั ฐ บาลไม่
จงรักภักดี และทุจริตประพฤติมชิ อบ ข้ อถกเถียงในการร่ างรัฐธรรมนู ญก็
วนเวียนอยู่แต่ เรืองเดิมๆ กลัวแต่ จะกระทบอํานาจพระมหากษัตริ ย์ และ
กลายเป็ นระบบประธานาธิบดี จนไม่ สามารถจะเกิดรัฐบาลทีมเี สถียรภาพ
ได้ ภาวะความปั นป่ วนของบ้ านเมือ งเช่ น นี;ถู ก ขนานนามว่ า “ระบอบ
ประชาธิปไตยแบบไทยๆ” แท้ จริงคือระบอบอะไรกันแน่ ?

1.1 ปฏิวตั สิ ลับฉากประชาธิปไตย


ประเทศไทยเป็ นประเทศเดี ย วในโลกที มี ก ารฉี ก และร่ าง
รัฐธรรมนูญมากทีสุดในโลกก็ว่าได้ รั ฐธรรมนู ญฉบับปี 2550 ที ใช้อยู่ใน
ขณะนี* เป็ นรั ฐธรรมนู ญ ฉบับที 18 หากนับตั*งแต่ การเปลีย นแปลงการ
ปกครองเมื อวัน ที 24 มิ ถุน ายน 2475 จนถึ งปั จ จุ บัน นี* ก็ เฉลี ย อายุข อง
รั ฐธรรมนู ญ แต่ ละฉบับประมาณฉบับละสี ปี ซึ งก็ ใกล้เคี ยงกับอายุข อง
2

รัฐบาลแต่ ละสมัย เพราะนายกฯ คนปั จจุ บนั คื อ นายอภิ สิทธิ; เวชชาชี วะ


ก็เป็ นนายกรัฐมนตรี คนที 27 เฉลียระบอบประชาธิ ปไตยแบบไทยๆ ก็ใช้
นายกรัฐมนตรี เปลืองมากคือเฉลียสามปี เศษต่อหนึ งคน ในขณะที ระบอบ
การปกครองแบบประชาธิปไตยของประเทศต่างๆ ทัว โลกทุ กประเทศจะ
กํา หนดให้ ผูน้ ํา รั ฐ บาลมี อ ายุใ นการบริ หารสมัย ละสี ปี เป็ นอย่ า งน้ อ ย
เพื อให้ก ารบริ หารประเทศชาติ มีค วามต่ อเนื อ งเพื อประโยชน์ สุข ของ
ราษฎร แต่ อายุรัฐบาลของประเทศไทยมีอายุส* ันกว่ ามาตรฐานอายุของ
รั ฐบาลทุ ก ประเทศในโลก และล่าสุ ดได้ทาํ ลายสถิ ติ โลกคื อในปี 2551
ปี เดียวประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรี 4 คน คื อ 1.พลเอกสุ รยุทธ จุ ลานนท์
(ม.ค.-ก.พ.), 2.นายสมัคร สุ นทรเวช(ก.พ.-ต.ค.), 3.นายสมชาย วงศ์สวัสดิ;
(ต.ค.-ธ.ค.) และ 4.นายอภิสิทธิ; เวชชาชีวะ(ธ.ค.-ปั จจุบนั ) ด้วยเหตุน* ีเองจึง
เป็ นผลโดยตรงต่อระบบเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของราษฎร
ก็เมือระบบการเมือ งไทยไม่ มีเ สถีย รภาพแล้ ว ระบบเศรษฐกิจ
ของไทยจะมีเสถียรภาพได้ อย่ างไร
ความไร้ เสถี ยรภาพของรั ฐบาลตลอดระยะเวลา 70 กว่ าปี ของ
ประชาธิ ปไตยไทย ได้ส่งผลกระทบต่ อพัฒ นาการทางเศรษฐกิ จ และ
คุณภาพชีวิตของราษฎรเป็ นอย่างมาก
3

เมื อเศรษฐกิ จ ยําแย่ ผูค้ นหิ ว โหย การฉกชิ งวิงราว ปล้น ฆ่ าชิ ง
ทรั พย์ จึ งเป็ นวิถีชีวิ ต ปกติ ข องสังคมไทย รวมตลอดถึ งการกระทําผิด
กฎหมายเกี ย วกับ สิ ง แวดล้อ มโดยราษฎรผูท้ ุ ก ข์ ย ากคนยากคนจนที
ปากท้องหิ วไม่สามารถจะดํารงชี วิตตามมาตรฐานขั*นพื*นฐานของมนุ ษย์
ในสั ง คมสมัย ใหม่ ไ ด้ ต่ า งก็ พ ากัน บุ ก รุ กป่ าสงวน ที ภู เ ขาชายทะเล
รวมตลอดถึงพื*นที ทางเดิ นเท้า หาบเร่ แผงลอยของชี วิตคนในเมื องก็ไม่
อาจจะบังคับให้เป็ นไปตามระบบกฎหมายได้ดว้ ยปั ญหาความยากจนของ
ผูค้ น แต่ สิ งเหล่ านี* ได้ถูก นํามาอธิ บายใหม่ ว่าเป็ นลักษณะพิเศษของคน
ไทยทีไม่เหมือนกับผูค้ นชาติใดๆ ในโลกนี* ว่า “ทําอะไรได้ ตามใจคือไทย
แท้ ” นัน ก็คือผูป้ กครองรัฐได้กล่าวหาราษฎรว่าเป็ นสันดานของคนไทยที
ไม่มีระเบียบแบบแผน ชอบทําอะไรตามใจตัวเองนัน เอง ทั*งที แท้จริ งแล้ว
ต้นตอของวิถีชีวิตทั*งหมดมาจากปั ญหาที ระบอบการปกครองที เรี ยกว่ า
ประชาธิ ปไตยแบบไทยๆ ที ได้สร้ างความไร้ เสถีย รภาพของรั ฐบาลจน
สร้ างผลกระทบต่ อระบบเศรษฐกิ จ สังคม และวัฒ นธรรม ซึ งสะสมมา
นานเกื อบศตวรรษแล้วยังไม่อาจจะแก้ไขได้ จึ งทําให้สภาวะสังคมไทย
เกิดภาวะความไร้ระเบียบ เกิดความปันป่ วนถึงขั*นกลายเป็ นประเทศแห่ ง
มิ ค สั ญ ญี ในขณะที ประเทศต่ างๆ ทัว ทั*ง โลกกํา ลัง พัฒ นาจัด ระเบี ย บ
ประเทศของตนให้ ก ้า วเข้า สู่ ป ระเทศที ทัน สมัย ด้ว ยการสร้ า งความ
เจริ ญเติบโตทางระบบเศรษฐกิจ และสร้ างความมัน คงให้แก่ ระบบสังคม
4

แต่ ประเทศไทยซึ งมีศกั ยภาพพื*น ฐานในด้านการพัฒนาดี ก ว่าอีก หลาย


ประเทศในโลกโดยเฉพาะในกลุ่ มประเทศอาเซี ยนกลับกลายต้องเป็ น
ประเทศที ลม้ ลุ กคลุกคลานพายเรื อวนอยู่ในอ่างเช่ นนี* ซึ งหากยังเป็ นอยู่
เช่นนี* ต่อไปประเทศไทยเราจะได้พบความจริ งว่าในอนาคตอันไม่ไกลเรา
จะถอยหลังมาเป็ นเพื อนกับประเทศพม่ าและก้าวไม่ทัน ประเทศเพื อน
บ้าน แม้แต่ลาวและกัมพูชา

ท่ านจะยอมให้ ประเทศไทยของเราเป็ นเช่ นนั;นหรือ?

1.2 หมิน สถาบันฯ ข้ อหายอดนิยม


การล้ มรั ฐ บาลด้ วยความรุ น แรง นอกกติกาประชาธิ ปไตยเป็ น
ภาวะปกติข องสั ง คมไทยและข้ อ กล่ าวหาว่ าผู้ นํ ารั ฐ บาลไม่ จงรั ก ภั ก ดี
คิดตั;งตัวเป็ นประธานาธิบดีกเ็ ป็ นปกติทีใช้ ล้มล้ างรัฐบาลกันมาตลอด
หากจะทบทวนประวัติศาสตร์ ดูจะเห็นได้ว่าข้อกล่าวหาที พลเอก
สนธิ บุญยรั ตกลิน หัวหน้าคณะปฏิวตั ิ ใช้กล่าวหาในการโค่ นล้มรั ฐบาล
พ.ต.ท.ทัก ษิ ณ ชิ นวัต ร เมือ 19 กัน ยายน 2549 ก็ไม่ ได้แตกต่ างจากข้อ
กล่าวหาที ใช้โ ค่ น ล้มรั ฐบาลก่ อนๆ ทั*งที ก ล่าวหาอย่างเป็ นทางการและ
กล่ าวหาใส่ ร้ ายใต้ดิ น ว่ า “รั ฐบาลไม่ จ งรั ก ภัก ดี ” บ้าง “ผูน้ ําคิ ด จะเป็ น
ประธานาธิ บ ดี ” บ้า ง เช่ น การปฏิ ว ัติ โ ค่ น ล้ม อํา นาจของท่ า นปรี ดี
5

พนมยงค์ เมือ 8 พฤศจิกายน 2490 ก็ดว้ ยข้อกล่าวหาว่า “ปรี ดีวางแผนลอบ


ปลงพระชนม์รั ช กาลที 8 และคิ ด จะตั*งระบอบมหาชนรั ฐ ตั*ง ตัว เป็ น
ประธานาธิ บ ดี ” ก็ คื อ ระบอบสาธารณรั ฐ ที ใ ช้เ รี ย กอยู่ใ นปั จ จุ บัน นี*
จอมพลถนอม กิติขจร ถูกพลังมวลชนนิ สิตนักศึกษาเดิ นขบวนขับไล่เมือ
14 ตุลาคม 2516 ก็ถกู ข้อกล่าวหารําลือไปทั*งสังคมว่า พ.อ.ณรงค์ กิ ติขจร
(ลูก ชายจอมพลถนอม) คิ ด จะเป็ นประธานาธิ บดี , พลเอกเกรี ย งศัก ดิ;
ชมะนันท์ นายกรัฐมนตรี ถกู ประชาชนเดินขบวนขับไล่เรื องขึ* นค่ ารถเมล์
จนต้องลาออก ก็ถูกกล่าวหาไม่เคารพในหลวงว่า “ชอบเมาเหล้าเข้าเฝ้ า
ในหลวง” แม้แ ต่ พ ลเอกเปรม ติ ณ สู ล านนท์ เมื อ ครั* งดํา รงตํา แหน่ ง
นายกรัฐมนตรี นานติดต่อกันถึง 8 ปี ในปี สุ ดท้ายก็ถกู ราษฎรและนักศึกษา
เดินขบวนขับไล่จนตัดสิ นใจไม่รับตําแหน่ งนายกฯ อีก ก็ถูกกล่าวหาว่า
“เทียบพระบารมี” เพราะมีภาพปรากฏในสื อมวลชนหลายครั*งว่าพลเอก
เปรมเดินเหยียบผ้าขาวม้าทีราษฎรมาต้อนรับ โดยนําผ้าขาวม้าปูให้เหยียบ
เพือนําไปใช้กราบด้วยความเคารพ เป็ นต้น


เมื อ 15 กัน ยายน 2490 พอ.พระยาวิ ชิ ต สรศาสตร์ ( จิ น ดา วัช รเสถี ย ร) อดี ต
นายทหารกรมช่างแสงได้แจ้งความต่อตํารวจว่าปรี ดี พนมยงค์ เป็ นผูบ้ งการให้เกิด
กรณี สวรรคตของในหลวงรั ชกาลที 8 (หนังสื อพิมพ์สุภาพบุรุษ 11 ตุลาคม 2490)
และพรรคประชาธิ ปัตย์ ก็กล่าวหาปรี ดี พนมยงค์ ในทางสาธารณะในขณะนั*นใน
ลักษณะเดียวกัน (สุ ธาชัย ยิม* เจริ ญ ,แผนชิงชาติไทย หน้า 56)
6

1.3 ทําไม! ต้ องยึดอํานาจล้ มประชาธิปไตยอยู่เสมอ?


“นัก การเมื องเลวจึ งต้องยึดอํานาจ หรื อระบอบประชาธิ ปไตย
แบบไทยๆ เลว จึงจ้องแต่จะยึดอํานาจ?”
คนเลวหรือระบอบเลว?
“นักการเมืองเลว” ก็เป็ นข้อกล่าวหายอดนิ ยมควบคู่ไปกับข้อหา
หมิ น สถาบัน ฯ ที ใ ช้ในการยึ ด อํา นาจล้ม ระบอบประชาธิ ปไตย และ
กลายเป็ นวาทกรรมทีพดู ต่อๆ กันมาไม่รู้จกั จบสิ*น
ความล้ ม เหลวของประชาธิ ป ไตยไทยได้ ถู ก วางไว้ ที ต ั ว
นักการเมืองว่าเป็ นคนเลวและมีความคิดมุ่งร้ายต่อพระมหากษัตริ ย ์ แต่ ไม่
มีใครให้ความสําคัญกับระบอบการเมืองไทยทีพิกลพิการที เราขนานนาม
หลอกตัวเองว่า “ระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ” แต่ ในระยะเวลายีสิบ
กว่าปี ทีผา่ นมานี* เทคโนโลยีการสื อสารของโลกก้าวหน้าขึ*นทําให้ราษฎร
สามารถรั บ รู้ ค วามจริ งของรากเหง้า แห่ ง ปั ญ หาได้ด ้ว ยเหตุ ผ ลง่ า ยๆ
เพียงแต่ จ ับข้อมูลข่ าวสารเปรี ยบเที ย บคุ ณ ภาพของนักการเมืองไทยกับ
ประเทศเพือนบ้าน เช่ น ระหว่างไทยกับสิ งคโปร์ ไทยกับมาเลเซี ย หรื อ
ไทยกับฟิ ลิปปิ นส์ เป็ นต้น ก็เห็ นได้แล้วว่านักการเมืองในบ้านเมืองอืนๆ
ก็ ค ล้ายกับบ้านเรา รวมทั*งราษฎรในประเทศเพื อนบ้าน คุ ณ ภาพด้า น
การศึ ก ษาก็ ใ กล้ เ คี ย งกั น ทํา ไมบ้ า นเขาถึ ง ปกครองด้ ว ยระบอบ
ประชาธิ ปไตยกันได้ราบรื น แล้วทําไมของเราจึ งไม่ราบรื น ความจริ งก็
7

ปรากฏชัดเจนว่ าบ้านเมื องที เขาเป็ นประชาธิ ปไตยนั*น เขาไม่ มีระบอบ


กษัตริ ย ์ หรื อหากมีระบอบกษัตริ ย ์ เช่ น อังกฤษ ญี ปุ่น มาเลเซี ย กษัตริ ย ์
หรื อสุ ลต่าน(กรณี มาเลเซีย) ก็อยูเ่ หนื อการเมืองอย่างแท้จริ ง และสถาบัน
กษัตริ ยเ์ ป็ นเพียงสัญลักษณ์ทีเป็ นประมุขแห่ งรัฐ ส่ วนการบริ หารเป็ นเรื อง
ของประชาชนทีเลือกตั*งตัวแทนกันเข้ามาสู่สภาตามวาระ
แท้จริ งแล้วปั ญหาการไม่มีเสถียรภาพของระบอบประชาธิ ปไตย
ในประเทศไทยนั*น เป็ นปั ญ หาของความขัดแย้งเชิ งโครงสร้ างระหว่าง
อํานาจของประชาชนที มีฐานอยู่ทีระบอบพรรคการเมือง กับอํานาจของ
พระมหากษัตริ ยท์ ี มีฐานอยู่ทีระบอบข้าราชการ ดังนั*นถ้าระบอบพรรค
การเมืองเข้มแข็ง ระบอบประชาธิปไตยก็จะเข้มแข็ง อํานาจของราษฎรก็
จะเข้มแข็ง รัฐบาลทีมาจากราษฎรก็จะเป็ นรั ฐบาลที มีเสถียรภาพ และจะ
ส่ งผลให้ระบอบข้าราชการ(ระบอบเจ้าขุนมูลนาย)อ่อนแอ โดยถูกราษฎร
ควบคุ ม ผ่ า นระบอบพรรคการเมื อ ง การแต่ ง ตั*ง ทหาร ตํา รวจ และ
ข้าราชการก็จะอยูภ่ ายใต้การควบคุมของระบอบพรรคการเมืองเช่ นนานา
อารยประเทศทั*งหลาย อันจะทําให้การใช้อาํ นาจแทรกแซงของกษัตริ ย ์
ลดลง ส่ งผลทําให้สถาบันพระมหากษัตริ ยท์ ีมีอาํ นาจจริ งในสังคมไทยเกิด
กระทบกับการใช้อาํ นาจของพรรคการเมือง
ในสภาวการณ์ ของความเป็ นจริ งทางอํานาจเช่ นนี* แกนนําของ
ระบอบราชการอัน ได้แ ก่ ผูบ้ ัง คับ บัญ ชาเหล่ า ทัพ ผบ.ทบ., ผบ.ทร.
8

ผบ.ทอ., บรรดาปลัดกระทรวงและอธิ บดี ท* งั หลาย ก็อยากคงอํานาจของ


พวกเขาไว้ท* งั ๆ ทีเปลียนแปลงการปกครองมาใกล้จะร้ อยปี แล้ว พวกเขา
จึงพยายามจัดโครงสร้างอํานาจของตนขึ*น เพือขัดขวางการขยายตัวของ
ระบอบพรรคการเมือง และความมีเสถียรภาพของระบอบประชาธิ ปไตย
โดยพวกเขาทุกคนรู้ดีว่าหลังพิงของพวกเขาก็คือสถาบันพระมหากษัตริ ย ์
ระบอบราชการแทนทีจะเป็ นเครืองมือในการบริ หารงานรั ฐเพือ
ประโยชน์ สุ ข ของราษฎรตามระบอบประชาธิ ป ไตยเหมื อ นนานา
อารยประเทศ ก็ ก ลั บ กลายเป็ นเครื อ งมื อ ที ค อยบ่ อ นทํ า ลายระบอบ
ประชาธิปไตยเพือ ช่ วงชิงอํานาจทางการเมืองอยู่รําไป
ด้ ว ยเหตุ แ ห่ ง ความขั ด แย้ง ในเชิ ง โครงสร้ า งอํา นาจเช่ น นี*
ประชาธิปไตยของไทยจึ งล้มลุกคลุกคลาน รั ฐบาลของราษฎรจึงมีภาวะ
สามวันดีสีวนั ใคร่ พอมีปัญหานิ ดหน่ อยก็จะมีพวกข้าราชการนักวิชาการ
สอพลอออกมาเรี ย กร้ องเปิ ดเงื อนไขให้ทหารออกมายึดอํานาจอยู่ร ําไป
และทุกครั*งทีลากรถถังออกมายึดอํานาจสําเร็ จ พระมหากษัตริ ยก์ ็ลงพระ
ปรมาภิไธยรับรองกันรําไปเช่นกัน
สภาวการณ์ทางการเมืองทีเป็ นจริ งเช่นนี*เป็ นสิงทีสามารถเห็ นได้
เข้าใจได้ในสังคมไทย แต่ เราไม่ ยอมพูดความจริ งกัน เพราะมีกฎหมาย
อาญาปิ ดปาก โดยศาลได้ทาํ หน้าที ตีความกฎหมายมาตรา112 เกี ยวกับ
การหมินพระบรมเดชานุ ภาพไว้อย่างกว้างขวางตามแนวบรรทัดฐานศาล
9

ฎี ก า จนกลายเป็ นว่ าไม่ ว่ าพูด อะไรที เกี ย วกับพระมหากษัต ริ ย ก์ ็ จ ะผิด


กฎหมายเสี ยทั*งนั*น กลายเป็ นว่าสังคมไทยไม่อาจจะศึกษาปั ญหาทางการ
เมื อ งที พู ด ถึ ง ความจริ งได้ ด้ว ยเหตุ น* ี ปั ญ หาความขัด แย้ง ของอํา นาจ
ระหว่ างสถาบัน กษัตริ ย ก์ ับสถาบัน พรรคการเมื อง ซึ งเป็ นปั ญ หาหลัก
จึงถูกปกปิ ดไว้มองไม่เห็น และถูกเบียงเบนไปว่าเป็ นลักษณะเฉพาะของ
สังคมไทย และสรุ ปเรี ยกให้งงๆ ว่า “ระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ”

1.4 อัศวินม้ าขาว : วาทกรรมเผด็จการทหาร


การจะล้ มระบอบประชาธิปไตยเพือ ช่ วงชิงอํานาจของทหารทีทํา
กันอยู่ สมําเสมอ จนขนานนามว่ าเป็ นระบอบประชาธิ ปไตยแบบไทยๆ
ดังทีกล่ าวมาแล้ วนั;น ก็จาํ เป็ นทีจะต้ องหาความชอบธรรมให้ แก่ ตนทีเข้ า
มามีอาํ นาจโดยไม่ ผ่านความเห็นชอบจากประชาชน โดยสร้ างวัฒนธรรม
“อัศวินม้ าขาว” ขึน;
อัศ วิน ม้ าขาวจึ งกลายเป็ นวาทกรรมที เ ล่ า ขานต่ อ ๆ กัน มาว่ า
ทุกครั*งทีมีปัญหาของประเทศชาติ ก็จะมีอศั วินขี มา้ ขาวออกมาแก้ปัญหา
ก็ คื อ ทหารขี ร ถถัง ออกมายึ ด อํา นาจนัน เอง ดัง นั*น อัศ วิ น ม้า ขาวจึ ง
กลายเป็ นวี ร บุ รุ ษในความฝั น ของสั ง คมไทย แต่ จ ากบทเรี ยนของ
ประชาชนซํ*าแล้วซํ*าเล่ากลับต้องเจ็บปวดกับอัศวินม้าขาวทุ กคน เพราะ
ทุ ก คนที ขี มา้ ขาวเข้ามายึดอํานาจเริ มต้น ก็จ ะกล่าวว่ า “รั กชาติ จนนํ*าตา
10

ไหล” และสุ ดท้ายกลายเป็ น “รักชาติจนนํ*าลายไหล” เป็ นเช่นนี*เสี ยทุ กคน


นับตั*งแต่จอมพลสฤษดิ; ธนะรัชต์, จอมพลถนอม กิ ติขจร, พลเอกสุ จินดา
คราประยูร และล่ าสุ ด คื อพลเอกสนธิ บุ ญ ยรั ต กลิ น ที ต อนเข้ามาเป็ น
อัศวิน แต่ตอนออกไปเป็ นอาชญากร เข้าทํานองว่า “เริ มต้นเป็ นลําไม้ไผ่
พอเหลาลงไปกลายเป็ นบ้องกัญชา”
ในที สุด อัศวิ น ม้าขาวก็ ก ลายเป็ น “อัศ วิน ม้ าคาว” ที เหม็น คาว
คละคลุง้ ไปด้วยการทุจริ ต ประพฤติมิชอบ ยิง กว่านักการเมืองที เขากล่าว
โจมตี ดว้ ยเหตุ เพราะระบอบอัศวินม้าขาวเป็ นระบอบเผด็จการสมบูร ณ์
แบบไม่ อาจจะตรวจสอบได้ โดยกล่ าวอ้างความจงรั ก ภัก ดี ต่ อสถาบัน
กษัตริ ย ์ เป็ นเวทมนต์ทีใช้หลอกลวงประชาชน และใช้ก ฎหมายกดหัว
ประชาชน และสื อมวลชนถูกปิ ดปากห้ามวิพากษ์วิจารณ์
ต้องยอมรับความจริ งว่าไม่มีระบอบการปกครองใดหรื อไม่มีการ
บริ หารของรั ฐบาลใดในโลกที ไม่ประสบปั ญหาเลย โดยเฉพาะอย่างยิง
การเดิ นขบวนของประชาชนซึ งเป็ นการแสดงออกถึงความไม่พอใจใน
นโยบายของรั ฐบาลนั*น ถื อเป็ นเรื องปกติ ข องการปกครองในระบอบ
ประชาธิ ปไตยเพราะเป็ นสิ ทธิ ข* นั พื*น ฐานของประชาชนซึ งเกิ ด ขึ* น ใน
ทุ ก ประเทศ แต่ แ ทนที เ ราจะสร้ า งวัฒ นธรรมให้ ก ลไกของระบอบ
ประชาธิปไตยแก้ปัญหาด้วยตัวของมันเอง แต่ กลับทําลายระบบเสี ยด้วย
กลุ่มอํานาจนอกระบบซึ งประกอบไปด้วยผูถ้ ืออาวุธและนักวิชาการอัน
11

เป็ นข้าราชการประจําทีเป็ นลูกสมุนคอยป่ าวประกาศอธิบายปรากฏการณ์


เหล่านี*อย่างเบียงเบนไปอีกทางหนึ งด้วยมีเป้ าหมายที แอบแฝงเพือจะแย่ง
ชิ งอํานาจด้วยเหตุ ผลต่ างๆ นานา เพือเปิ ดทางให้แก่ อศั วิ นม้าขาว เช่ น
การกล่าวหาว่ามีประชาชนประท้วงแล้วรั ฐบาลจึ งไม่มีความชอบธรรมที
จะปกครองต่อไป หากคํากล่าวเช่นนี*เป็ นสิงทีถกู ต้องก็จะเห็ นได้ว่าจะไม่
มี รั ฐบาลประชาธิ ปไตยใดๆ ในโลกสามารถปกครองประเทศได้เลย
สิ งต่างๆ เหล่านี*ได้กลายเป็ นนวนิ ยายนํ*าเน่ าอันทําให้ประชาชนเกิ ดความ
เข้าใจผิดและเบื อหน่ ายต่ อระบอบประชาธิ ปไตย และที เลวร้ ายอย่างยิง
ก็คื อ บรรดาครู บาอาจารย์ทีไปศึ ก ษาต่ อในประเทศสหรั ฐอเมริ ก า ใน
อังกฤษ และนานาอารยประเทศทีปกครองด้วยระบอบประชาธิ ปไตย ก็ดู
จะปิ ดหูปิดตาตัวเอง และปิ ดใจของตนไม่ยอมรั บพัฒนาการของระบอบ
ประชาธิ ปไตย และบุ คคลเหล่านี* ก็ทาํ หน้าที เป็ นเสมื อนสมุนรั บใช้ของ
เผด็จ การโดยสนับสนุ น แนวทางอัศวิ นม้าขาว และเมื อมี การยึดอํานาจ
บุคคลเหล่านี* ได้สร้ างความชอบธรรมให้แก่ อาชญากรรมประชาธิ ปไตย
ด้วยการเข้าไปเป็ นผูร้ ่ างรั ฐธรรมนู ญให้แก่ ทหาร ไปเป็ นสมาชิ กสภานิ ติ
บัญญัติภายใต้คาํ กล่าวที หลอกลวงว่า “เข้ าไปช่ วยเหลือประเทศชาติใ น
ระยะผ่ าน” ซึ งก็เป็ นเรื องน่ าชวนหัวว่าทําไมจึ งผ่านไม่พน้ ระบอบเผด็ จ
การทหารเสี ยที เป็ นระยะเวลา 70 กว่าปี แล้ว จนก่ อตัวเป็ นวัฒนธรรมที
เชือมัน ว่าอัศวินม้าขาวจะแก้ปัญหาสังคมได้
12

กลุ่ มอํานาจนอกระบบที ประกอบไปด้ว ย ทหาร ตํารวจ และ


นักวิชาการผูฝ้ ักใฝ่ ระบอบเผด็จการ และต้องการจะได้รับประโยชน์จาก
การเข้ามามีอาํ นาจในการปกครองประเทศโดยไม่ผา่ นความเห็ นชอบของ
ประชาชนเหล่ า นี* ในทางวิ ช าการได้ ถู ก ขนานนามว่ า “ระบอบ
อํามาตยาธิปไตย”
จากทีกล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าในประเทศหนึ งๆ นั*น การแย่ง
ชิ งอํานาจเพื อจะไปมี อ าํ นาจในการบริ หารประเทศนั*น เป็ นเรื องปกติ
ธรรมดาซึงจะมีความขัดแย้งอยูเ่ สมอ หากแต่ ความสําคัญอยู่ทีว่าประเทศ
นั*นจะต้องมีระบบการปกครองทีชดั เจนในการเข้าสู่อาํ นาจและการพ้นไป
จากอํา นาจ ซึ ง ระบบปกครองที ป ระเทศทั*ง โลกยอมรั บ เสมื อ นเป็ น
ศีลธรรมใหม่ของโลก คือ ระบอบประชาธิปไตย ซึ งผูก้ าํ หนดจะต้องเป็ น
ประชาชนด้วยการเลือกตั*ง แต่ระบอบอํามาตยาธิปไตยได้สร้ างวาทกรรม
จนกลายเป็ นวัฒ นธรรมทางการเมื อ งของไทยว่ า การตัด สิ น ใจของ
ประชาชนไม่ ใ ช่ สิ ง สํา คัญ เสี ย งของประชาชนไม่ ใช่ เ สี ย งสวรรค์ แ ต่
เสี ยงสวรรค์ ที จ ะทํ า ให้ ผู้มี อ ํา นาจเป็ นรั ฐ บาลได้ น* ั นคื อ เสี ย งของ
พระมหากษัต ริ ย ท์ ี จ ะรั บรองใครก็ ได้ทีจ ะเป็ นผูม้ ี อาํ นาจโดยไม่ สนใจ
ความถูกต้องของระบอบประชาธิ ปไตย ด้วยเหตุ น* ี การยึดอํานาจทุ กครั*ง
ในการล้มระบอบประชาธิปไตยนั*นจึ งถูกกล่าวอ้างอย่างเสมอว่าเป็ นการ
ปฏิรูปการปกครองอยูม่ ิได้ขาดภายใต้วฒั นธรรมอัศวินม้าขาว และทุกครั*ง
13

ทีมีการยึดอํานาจพระมหากษัตริ ยข์ องไทยก็จะลงพระปรมาภิ ไธยให้แก่


อัศวิน ม้าขาวหรื อหัวหน้าคณะปฏิ วตั ิ ทุกครั* งไป นี คื อต้น เหตุ แห่ งความ
ระสําระสายของระบอบการปกครองไทยทีเรี ยกว่าระบอบประชาธิ ปไตย
แบบไทยๆ
คนไทยเราได้ถูก สร้ างวาทกรรม “พู ด ต่ อ ๆ กันมา” ว่ าเมื อเกิ ด
วิกฤตทางสังคมการเมืองแล้ว ก็จะเรี ยกหาอัศวินม้าขาวให้มายึดอํานาจ
ล้มระบอบประชาธิ ปไตยเพื อเป็ นการปกป้ องสถาบัน พระมหากษัต ริ ย ์
แต่จากการรัฐประหารตลอดระยะเวลา 70 กว่าปี ทีเกิ ดขึ*นอยู่เสมอๆ นั*นก็
ได้พิสูจน์ตวั เองแล้วว่าอัศวินม้าขาวไม่สามารถจะแก้วิกฤตของสังคมการ
เมืองไทยได้ และกลับยิง เพิมปั ญหาทับถมอย่างฝังรากลึก และก็ได้พิสูจน์
ตัวเองแล้วว่าเหตุผลทีแท้จริ งของการยึดอํานาจแต่ละครั*งนั*นมิใช่เป็ นเรื อง
ของการแก้ “ปั ญหา” หากแต่ เป็ นเรื องของ “ตัณหา” ที จะช่ วงชิ งอํานาจ
โดยไม่ยอมรับการมีอาํ นาจของประชาชนโดยผ่านการเลือกตั*งนัน เอง

1.5 รัฐธรรมนูญฉีกแล้ วเขียนใหม่ : วนอยู่ในอ่ าง


รั ฐบาลประชาธิ ปไตยในประเทศไทยพอเริ มไอเจ็ บคอ อํานาจ
นอกระบบ(หรื ออํา มาตยาธิ ป ไตย) ก็ จ ะทํา ตัว เหมื อ นเชื* อ โรคคอย
แทรกแซงทัน ที เริ มต้น ก็ จ ะบี บ ให้ ป รั บ คณะรั ฐ มนตรี ถ ้า ยัง ไม่ ถู ก ใจ
ขั*น ต่ อไปก็ จะใช้วิ ธีบีบให้นายกรั ฐมนตรี ลาออกแล้ว เปลี ยนตัว นายกฯ
14

ใหม่ ถ้าไม่ได้ก็จะเพิมดี กรี ให้แรงขึ*นโดยขอนายกฯ พระราชทาน แต่ ถา้


รั ฐบาลมี ความเข้มแข็งและยังแข็ งขื นต่ อคําเตื อนที ส่งสัญ ญาณลงมาใน
รู ปแบบต่างๆ แล้วอํานาจนอกระบบก็จะเริ มก่ อตัวโดยใช้กระแสมวลชน
กระแสนัก วิ ชาการ, กระแสสื อ รวมศูน ย์โ จมตี แล้วก็ ปิดท้ายด้ว ยการ
ยึดอํานาจเมือได้โอกาส ประวัติศาสตร์ ทีผา่ นมาในระยะใกล้คือกรณี ของ
รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิ ณ ชิ นวัตร เป็ นตัวอย่างที ทุกคนจะเห็นได้ชดั เพราะ
เป็ นรัฐบาลทีมีเสถียรภาพและมีภาวะเศรษฐกิ จดี และโดยเฉพาะอย่างยิง
กํา ลังผลัก ดัน ให้ ประเทศไทยเป็ นรั ฐ ที ทัน สมัย ในระบบโลกาภิ ว ัต น์
ซึงอํานาจนอกระบบไม่อาจจะใช้มาตรการปกติ บีบให้ลาออกได้ ก็จะถูก
การใช้มาตรการรุ นแรงทําการโค่นล้ม
เมือกระทํารัฐประหารโค่ นล้มก็จาํ เป็ นต้องฉี กรั ฐธรรมนูญ และ
ร่ างรัฐธรรมนูญขึ*นใหม่ และทุ กครั*งที มีการร่ างรั ฐธรรมนู ญใหม่ก็จะตัด
ไม้ต ัด มื ออํานาจของประชาชนมากขึ* น แล้ว เพิ ม อํานาจให้ แก่ ร ะบอบ
ราชการมากขึ*น โดยใส่ ร้ายป้ ายสี ว่าประชาชนยังไม่พร้ อมที จะปกครอง
ตนเองอยู่ร ําไป โดยเนื* อหาหลักๆ ของรั ฐธรรมนู ญก็ เปิ ดช่ องทางให้แก่
อํา นาจนอกระบบเข้ า มามี อ ํา นาจให้ ส มบู ร ณ์ ม ากขึ* น ตัว อย่ า งเช่ น
รัฐธรรมนูญฉบับ รสช.(ปี 2534) ก็ตดั อํานาจการบริ หารของรั ฐบาลที มา
จากการเลือกตั*งในการที จ ะโยกย้ายข้าราชการ โดยให้รัฐมนตรี ว่าการ
กระทรวงมี ค าํ สังโยกย้ายได้เ ฉพาะปลัด กระทรวงซึ ง เป็ นระดับซี 11
15

เท่ านั*น ส่ ว นราชการตั*งแต่ ซี 10 ลงมาห้ามยุ่ง ซึ งเป็ นฝี มื อของนายกฯ


อนันต์ ปั นยารชุ น(ที มาจากการแต่ งตั*งของคณะรั ฐประหาร รสช.) หรื อ
รั ฐธรรมนู ญ ฉบับ คมช.(ปี 2550) ก็ ต ัด อํานาจของรั ฐบาลที มาจากการ
เลื อกตั*งให้มากขึ* น และทําลายความเข้มแข็ งของระบบพรรคการเมื อง
โดยให้อาํ นาจ ส.ส.ที จะไม่พงั มติ พรรคได้รวมตลอดทั*งการเปิ ดช่ องทาง
ให้ศาลและราชการเข้ามาควบคุ มรั ฐสภาและรั ฐบาลโดยตรง โดยให้
อํานาจศาลและองค์ก รอิ สระ(ซึ งเกื อบทั*งหมดเป็ นข้าราชการ) เป็ นผู้
มีอาํ นาจในการแต่งตั*งวุฒิสภาได้ครึ งหนึ ง(74 คน) โดยมีอาํ นาจควบคุ ม
รัฐบาลได้เสมือนหนึ งเป็ นสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ที มาจากการเลือกตั*งของ
ประชาชน เป็ นต้น
เมื อ หลั ก ๆ ได้ อ ํา นาจเพิ ม จนพอใจแล้ว ก็ จ ะมาตั* งคํา ถาม
รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แบบพายเรื อวนในอ่างจนน่ าเวียนหัวกับระบอบ
ประชาธิปไตยซึงเป็ นเรื องเก่าๆ เช่น เขตเลือกตั*งควรจะเป็ นเขตเล็กเบอร์
เดียว หรื อเขตใหญ่เรี ยงเบอร์ ?, เลือกตั*งนายกรั ฐมนตรี โดยตรงดี หรื อไม่?
เพราะเกรงจะเป็ นระบบประธานาธิบดี?, วุฒิสภาควรจะมาจากการแต่งตั*ง
จะดีกว่าการเลือกตั*งโดยตรงไหม?, หมวดพระมหากษัตริ ยห์ ้ามแตะต้อง
เพราะจะเป็ นการละเมิดพระราชอํานาจ เป็ นต้น
จากประวัติ ศ าสตร์ พอร่ า งรั ฐธรรมนู ญ ตามใจผูม้ ี อาํ นาจเสร็ จ
ใช้ไปอีกไม่นานก็ฉีกอีก แล้วก็ร่างใหม่อีก ด้วยข้อถกเถียงเดิ มๆ เหล่านี*
16

แม้การร่ างรัฐธรรมนู ญฉบับปี 2540 ที ได้รับการยอมรั บมากที สุดว่าเป็ น


การร่ างจากการมีส่ว นร่ ว มของประชาชนมากที สุด มิได้เกิ ด จากความ
ต้องการของคณะยึด อํานาจกลุ่มหนึ งกลุ่มใด ก็ ยงั ไม่ว ายที อาํ นาจนอก
ระบบยังไม่พอใจ ก็ยงั ให้ฉีกเสี ยเมือ 19 กันยายน 2549
การร่ างรั ฐ ธรรมนู ญ แต่ ล ะฉบับ ก็ ต ้อ งเอาเงิ น ภาษี อ ากรของ
ประชาชนมาใช้ จ่ า ยเป็ นจํา นวนมาก เฉพาะค่ า ใช้ จ่ า ยในการร่ าง
รั ฐ ธรรมนู ญ เกื อ บ 20 ฉบับ ก็ ห มดไปหมื น ล้า นบาท(เฉพาะฉบับ ปี
2540+2550 ใช้จ่ายกว่า 5,000 ล้านบาท) ยังไม่นับความเสี ยหายจากการ
หยุดชะงักในการพัฒนาของบ้านเมืองอีกไม่รู้เท่าไร แต่ก็ไม่มีใครให้ความ
สนใจกับการฉี กรัฐธรรมนู ญอย่างจริ งจัง ขึ*นอยู่กบั ผูม้ ีอาํ นาจนอกระบบ
ว่ า หากเขาไม่ พ อใจรั ฐ บาลที ม าจากการเลื อ กตั*ง เมื อ ไร เขาก็ จ ะฉี ก
รัฐธรรมนูญนั*นเสี ยโดยง่าย เพือจะเปลียนตัวรั ฐบาลที เขาไม่พอใจ และที
ประหลาดใจทีสุดทีคนไทยทุกคนมีคาํ ถามอยูใ่ นหัวใจแต่ ไม่กล้าถามให้มี
เสี ยงดัง ก็คือ
“เมือทหารยึดอํานาจฉี กรั ฐ ธรรมนู ญ ทุ กครั; ง ทํ าไมในหลวงจึง
ยอมลงพระปรมาภิไธยรับรองคณะผู้ฉีกรัฐธรรมนูญทุกครั;งไป?”
17

1.6 ยึดอํานาจทุกครั;งทําไมในหลวงลงพระปรมาภิไธยให้ ทุกครั;ง?


เป็ นที สงสัย กันไม่เฉพาะในหมู่คนไทยเท่ านั*น แต่ คนทั*งโลกก็
สงสัย ว่าการยึดอํานาจที มกั จะเรี ยกว่าการปฏิวตั ิ ท* งั ๆ ที แท้จ ริ งก็คื อการ
รั ฐประหารนั*นเป็ นอาชญากรรมทางการเมืองต่ อระบอบประชาธิ ปไตย
เป็ นเรื องทีร้ายแรง และนับวันยิง ร้ายแรงยิง ขึ*นด้วยนานาอารยประเทศไม่
ยอมรับการกระทําดังกล่าวแล้ว แต่ทุกครั*งทีมีการกระทําอาชญากรรมต่ อ
ระบอบประชาธิ ปไตยในประเทศไทย ทําไมพระมหากษัต ริ ย ซ์ ึ งเป็ นที
เคารพสักการะของราษฎรคนไทยทั*งประเทศ จึ งยอมซึ งหากพระองค์จะ
มีดาํ รัสตักเตือนพวกทหารทีชอบยึดอํานาจเสี ยบ้าง ทุกคนก็จะเชื อฟั งและ
ทําตาม แต่ ทาํ ไมพระองค์ไม่ทรงยับยั*งการกระทําอันเป็ นอาชญากรรม
เช่ น นี* เล่ า ? และไม่ เ พี ย งแต่ ไ ม่ ท รงยับ ยั*ง เท่ า นั* นยัง ได้ ท รงลงพระ
ปรมาภิไธย(ลายเซ็น)ให้แก่การรัฐประหารที กระทําสําเร็ จทุ กครั* งอีกด้วย
ทําให้ ผูก้ ระทําการรั ฐประหารเหล่ านั*น มี ค วามชอบธรรมในการที จ ะ
ปกครองประเทศชาติ และประชาชนทัว ไปก็จาํ เป็ นต้องหวานอมขมกลืน
เนื องจากเคารพสัก การะในพระองค์ท่าน และไม่อาจจะโต้แย้งใดๆได้
เนื องจากมีกฎหมายอาญาปิ ดปากไว้ในมาตรา 112 ซึ งมีความรุ นแรงไม่
เฉพาะแต่ตวั บุคคลทีถกู กล่าวหาว่ากระทําผิดแต่ยงั กระทบกระเทือนไปถึง
ลูกหลานวงศ์ตระกูลที ใช้นามสกุลเดี ยวกันในข้อหาหมินพระบรมเดชา
นุ ภาพด้วย ดังนั*นกฎหมายดังกล่าวจึ งกลายเป็ นเครื องมือปิ ดปากที จะให้
18

ราษฎรไม่ว่าใครทั*งนั*นไม่สามารถตั*งคําถามอันเป็ นข้อคับข้องใจตลอด
ระยะเวลา 70 กว่าปี ทีผา่ นมานี*ได้
มีคนตั*งคําถามว่าหากในหลวงไม่ลงพระปรมาภิ ไธยให้แก่ ผทู้ ี ทาํ
การยึดอํานาจบุ คคลเหล่ านั*นจะกระทําการยึดอํานาจได้หรื อไม่? เป็ นที
ชัดเจนว่าไม่ได้แน่ นอนและจะไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนและคน
ทั*งโลกด้วย คําถามจึงยิง มีความเข้มข้นมากขึ*นว่า
“ทําไมพระองค์ จงึ กระทําการเช่ นนั;น?”
คําตอบทีนกั วิชาการทั*งหลายพยายามเสกสรรปั* นแต่ งให้คนไทย
ทั*งประเทศยอมรับก็คือ
“หากพระองค์ไม่ลงพระปรมาภิ ไธยให้คณะผูย้ ึดอํานาจ จะเป็ น
อันตรายแก่พระองค์เอง...................................................จริงหรือ?”
“พระองค์ต ้องทรงปฏิบัติ เช่ น นั*น เพราะพระองค์ทรงอยู่เหนื อ
การเมือง........................................................................จริงหรือ?”
เท่ าที ผูเ้ ขี ย นได้พยายามรวบรวมเหตุ ผลของนัก วิ ชาการที ข าย
จิ ตวิ ญญาณทั*งหลายที ก ล่าวมาข้างต้น นั*น ล้ว นแล้ว แต่ เป็ นเหตุ ผลที ค น
ทัว ไปยังขัดข้องหมองใจอยูก่ ล่าวคือ
1.ก็ในเมือราษฎรทั*งประเทศเคารพสักการะพระองค์ท่าน เชื อใน
สิ งที ท่านทรงมี พ ระราชดํารั สจึ ง เป็ นไปไม่ ไ ด้ที อาํ นาจนอกระบบซึ ง
ก็ คื อกลุ่ ม ข้ า ราชการที ถู ก บ่ มเพ าะมาให้ ยึ ด มั น เชิ ดชู สถาบั น
19

พระมหากษัตริ ยเ์ หนื อชีวิต และจะเห็นได้ว่ากลุ่มข้าราชการต่างๆทั*งหลาย


จะกล่ า วอ้า งเสมอเมื อ มี ค วามขัด แย้ง กับ นั ก การเมื อ งว่ า พวกตนคื อ
ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั (หรื อในหนึ งก็คือเขาเป็ นพวก
ในหลวง) บุ ค คลเหล่านี* จะกล้ากระทําในสิ งที ไม่บงั ควรต่ อพระองค์ได้
อย่างไร
2.การกล่ า วว่ าพระองค์ ท รงอยู่เ หนื อ การเมื อ งจึ ง ต้อ งลงพระ
ปรมาภิ ไธยรั บรองการกระทําอัน ไม่ ถูก ต้องต่ อระบอบประชาธิ ปไตย
ทีคนทั*งโลกไม่ยอมรับนั*นทุกครั*งไป จึงเป็ นการกล่าวทีไม่บงั ควรต่ อพระ
เกียรติยศของพระองค์ เพราะเท่ากับเป็ นการกล่าวหาว่าพระองค์ทรงมิตอ้ ง
รับผิดชอบแก่การกระทําการใดๆ อันไม่ถูกต้องนันเอง ดังนั*นปั ญหาอัน
ไม่อาจจะหาคําตอบได้ จึงทําให้เกิดข้อครหาค้างคาใจในหมู่ประชาชนว่า
“ทําไมระบอบประชาธิปไตยของไทยจึงไม่อาจมีรัฐบาลทีมีเสถียรภาพได้
เลย?”
สิ ง เหล่ านี;ห รื อ ที เ รี ย กว่ า “ระบอบประชาธิ ป ไตยแบบไทยๆ”
แท้ จริงมันคือระบอบอะไรกันแน่ ?
20

1.7 เข้ าใจระบอบ จึงจะเข้ าใจสถานการณ์


ระบอบการเมื อ งของไทยมี ค วามซับ ซ้อ นมากจนเป็ นผลให้
นักวิชาการทางรัฐศาสตร์ และผูท้ ีสนใจในแวดวงการเมือง เกิ ดการมึนงง
ในการทีจะประเมินและวิเคราะห์วิกฤตการณ์ ทางการเมืองว่าจะคลีคลาย
ไปในทางใด อย่างเช่ น การประท้ว งยึด ทําเนี ยบรั ฐบาลที ยาวนานของ
กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพือประชาธิ ปไตย และขยายตัวไปยึดสนามบิ น
ซึงกลายเป็ นวิกฤตการณ์ทางการเมืองเรื* อรังของไทยในขณะนี*,ไม่เพียงแต่
ไม่อาจจะวิเคราะห์สถานการณ์ ในอนาคตได้เท่ านั*นแต่ ยงั ไม่อาจจะรู้ ได้
ด้วยว่าแท้จริ งแล้วมีตน้ เหตุมาจากอะไรกันแน่ ?
ดังนั*นการทีจะเข้าใจสถานการณ์ ทางการเมืองของไทยได้จริ งๆ
นั* น จํ า เป็ นอย่ า งยิ ง ที จะต้ อ งรู้ ใ ห้ แ น่ ชั ด ว่ า แท้ จ ริ งแล้ ว ระบอบ
ประชาธิปไตยแบบไทยๆ นี* คือระบอบอะไรกันแน่ ?
หากเราดู วิ ว ัฒ นาการทางการเมื อ งของไทย โดยเฉพาะการ
ผลัดเปลียนอํานาจรั ฐบาลด้วยการโค่ นล้มฉี กรั ฐธรรมนู ญด้วยแล้ว ก็จ ะ
เห็นว่าทุกครั*งทีมีการร่ างรัฐธรรมนูญใหม่ ก็จะมีการจัดโครงสร้ างอํานาจ
ให้รวมศูนย์ไปที องค์พระมหากษัตริ ยม์ ากขึ*น ทุ ก ที จนกระทังพระราช
อํานาจของพระมหากษัตริ ยก์ ลายเป็ นอํานาจทีไม่อาจโต้แย้งได้ รวมตลอด
ทั*งพระราชดํารั สก็กลายเป็ นเสมือนองค์การแห่ งสวรรค์ทีพสกนิ กรต้อง
ปฏิ บัติ ต าม ไม่ อ าจจะโต้แ ย้งหรื อสงสัย ได้ สภาวะเช่ น นี* จึ งมี ล ัก ษณะ
21

ใกล้เคี ย งกับระบอบสมบูร ณาญาสิ ทธิ ร าชย์ทีอาํ นาจรวมศูนย์อยู่ทีองค์


พระมหากษัตริ ยเ์ ท่ านั*น และพระองค์ทรงใช้พระราชอํานาจได้โดยตรง
ด้ว ยอํานาจทางวัฒ นธรรม ที ค รอบงําอํานาจทางกฎหมายและอํานาจ
อธิปไตยทั*งสาม คือ อํานาจบริ หาร, นิ ติบญั ญัติ และตุ ลาการ ดังนั*นคําพูด
หรื อแนวคิ ดไม่ ว่าเรื องเล็ก หรื อใหญ่ ประชาชนทุ กคนต้องพึงสังวรและ
คอยรับใส่ เกล้าใส่ กระหม่อมนําไปปฏิบตั ิ
ในภาวะแห่ งโครงสร้ างของระบอบการเมืองแบบประชาธิปไตย
แต่ อํ านาจกลับ รวมศู น ย์ ที อ งค์ พระมหากษั ต ริ ย์ เ ช่ น นี; ไม่ มีคํา ใดทีใ ห้
ความหมายได้ เหมาะสมกับคําว่ า “ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่ ”
22

บทที 2
ระบบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่

การรั ฐ ประหาร 8 กัน ยายน 2490 เป็ นจุ ด เริ มต้ น ของการฟื; น
อํานาจของฝ่ ายราชสํ านั ก และเข้ มแข็ ง ขึ; น ในการรั ฐ ประหารปี 2500
สมัยจอมพลสฤษดิN ธนะรัชต์ จนถึงปั จจุบัน ทําให้ ระบอบประชาธิปไตยที
พระมหากษัตริ ย์อยู่ใต้ กฎหมายอย่ างอังกฤษตามแนวทางทีคณะราษฎร
สถาปนาขึน; แปรเปลีย นไป และพัฒนากลายเป็ นระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิ
ราชใหม่

2.1 ระบบสมบูรณาญาสิทธิราชดั;งเดิมเป็ นเช่ นไร


ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิ ราช(Absolute Monarchy) เป็ นระบอบ
การปกครองอันเป็ นผลแห่ งพัฒนาการทางการผลิตของมนุ ษย์ในอดีตทียงั
ล้าหลัง และมีจาํ นวนประชากรไม่มาก เป็ นรั ฐขนาดเล็ก ผลผลิตหลักยัง
เป็ นผลผลิตทางการเกษตรทีเน้นการผลิตเพือการกินอยูเ่ ป็ นหลัก มิใช่ การ
ผลิตเพือเป็ นสิ นค้า และเพือการตลาด การผลิตทั*งหมดใช้แรงงานคนและ
สัต ว์ เช่ น การไถนาด้ว ยควาย ถากถางไร่ ด้ว ยแรงงานคน ไม่ ไ ด้ใ ช้
เครื องจักรทุ่นแรง ดังนั*นด้วยขนาดของจํานวนประชากรและวิถีชีวิต และ
23

การผลิตทีไม่สลับซับซ้อนทําให้การปกครองที รวมศูนย์อาํ นาจอยู่ทีคนๆ


เดียว ทีเรี ยกว่า “กษัตริ ย”์  โดยอาศัยวัฒนธรรมความเชือทางไสยศาสตร์
ว่าเป็ นสมมุติเทพ เป็ นผูม้ ีบุญบารมีมาเกิ ด จึ งทําให้ระบอบการปกครอง
แบบสมบูรณาญาสิ ทธิราชมีประสิ ทธิภาพในการบริ หารจัดการตามขนาด
และความเจริ ญของชุมชน ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชของไทยในยุคต้น
ได้จ ัด ระบบบริ หารที ก ้า วหน้ า ที สุ ด ในขณะนั*น โดยแบ่ งงานของรั ฐ
ออกเป็ น 4 งาน คือ เวียง, วัง, คลัง, และนา
ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิ ราชของไทยก่ อกําเนิ ดเริ มต้นที เด่ นชัด
เมื อประมาณ 500 กว่ าปี นับตั*งแต่ เริ มก่ อตั*งกรุ งศรี อยุธยาเป็ นราชธานี
โดยได้รั บอิ ทธิ พลของศาสนาพราหมณ์ ซึ งนับว่ าเป็ นระบบคิ ด ในการ
บริ หารรัฐขนาดเล็กทีกา้ วหน้าทีสุดในยุค 3,000 ปี ก่อนทีแบ่งงานหรื อแบ่ง
อาชี พ คนเป็ นชนชั*น ถาวร โดยอ้างพระเจ้าเป็ นผูก้ ําหนด มี 4 ชนชั*น
ที เรี ย กว่ าวรรณะ ได้แก่ วรรณะพราหมณ์ ทําหน้าที เป็ นนัก บวชคล้าย
นัก วิ ช าการในปั จ จุ บัน ที ก ล่ อ มเกลาความคิ ด ผูค้ นให้เ ชื อ ในเทพเจ้า
เหมือนกับทีพวกเขาได้แต่งนิ ยายไว้เพือให้ผคู้ นในสังคมยอมจํานน และ
ยอมทํางานหาเลี*ยงคนชั*นสูงซึงมีอยู่ 2 กลุ่ม คือ พวกวรรณะพราหมณ์ กับ


กษัต ริ ย ์ ตามความหมายในพจนานุ กรมฉบับ ราชบัณ ฑิต สถาน นอกจากจะมี
ความหมายว่าพระเจ้าแผ่นดินแล้ว ยังหมายถึงคนในวรรณะที 2 แห่งสังคมฮินดู ซึ งมี
อยู่ 4 วรรณะ ได้แก่ วรรณะพราหมณ์ วรรณะกษัตริ ย ์ วรรณะแพศย์ และวรรณะศูทร
24

วรรณะกษัตริ ยซ์ ึงเป็ นคนส่ วนน้อยของสังคม คนสองวรรณะนี* จึงร่ วมกัน


กดขีคนส่ วนใหญ่ของสังคมอีกสองวรรณะคื อวรรณะแพศย์ ผูเ้ ป็ นพ่อค้า
และศูทร ผูเ้ ป็ นเกษตรกร ด้ว ยการหลอกลวงให้เชื อและยอมจํานนใน
ชะตากรรมของตนทีเกิดมายากจนและทุ กข์ยาก และให้เกรงกลัวต่ อการ
ลงโทษของพระเจ้าที มีพราหมณ์ และกษัตริ ยเ์ ป็ นตัวแทนหากใครจะคิ ด
นอกกรอบจากที พราหมณ์ ได้สงั สอนไว้ ดังนั*นคําสังสอนของพราหมณ์
จึงเหมือนระบบกฎหมายทีใช้เทพเจ้ามาหลอกลวงให้ผคู้ นยอมรับ แต่ เมือ
วิทยาศาสตร์ ได้เจริ ญขึ*นและสังคมมนุ ษย์ขยายใหญ่ โตขึ*น การกดขี ดว้ ย
การหลอกลวงให้เชื อในเทพเจ้าก็เสื อมลง ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิ ราช
ที เ ป็ นผลพวงมาจากความงมงายของมนุ ษ ย์ก็ เ สื อ มทรุ ด ตามไปด้ว ย
ระบอบกษัตริ ยจ์ ึ งเริ มทยอยสู ญ สิ* นไปจากโลก และเหลื อเพี ยง 20 กว่ า
ประเทศเท่านั*น ซึงแม้นกั วิชาการปั จจุบนั จะพยายามอธิ บายคุ ณงามความ
ดีของระบอบกษัตริ ยอ์ ย่างไร ก็ไม่อาจทําให้ระบอบกษัตริ ยฟ์ *ื นชี วิตขึ*นมา
ในโลกได้อี ก ในประเทศก็ เ ช่ น เดี ย วกัน ระบอบกษัต ริ ย ์ห รื อระบอบ
สมบู ร ณาญาสิ ทธิ ร าชแบบดั* งเดิ ม ก็ ไ ด้ ส*ิ นสุ ดเมื อ เกิ ด การปฏิ ว ั ติ
เปลีย นแปลงการปกครอง 24 มิถุน ายน 2475 โดยคณะราษฎร แต่ ก าร
เปลียนแปลงทีสาํ คัญทีสุดทีคณะราษฎรไม่อาจเปลียนแปลงได้ในทันทีคือ
การเปลี ย นแปลงทางวัฒ นธรรมความเชื อซึ งเป็ นรากฐานอํา นาจของ
ระบอบการเมือง จึงเป็ นผลให้โครงสร้ างอํานาจของระบอบสมบูรณาญา
25

สิ ทธิราชพัฒนาตัวเองขึ*นมาใหม่ในภาวการณ์ ของโลกสมัยใหม่ จึ งทําให้


สังคมไทยเกิดความขัดแย้งเชิงโครงสร้างระหว่างระบบเศรษฐกิ จ ซึ งเป็ น
ทุ น นิ ย มเสรี ที ส ร้ า งแนวคิ ด เสรี นิ ย ม แต่ ร ะบบการเมื อ งกลับ เป็ นอํา
มาตยาธิ ปไตยที ไม่ ชอบเลื อกตั*ง และชอบประนามนัก ธุ ร กิ จ (วรรณะ
แพศย์) เป็ นพวกเลวร้ ายและประนามชาวนากรรมกร(วรรณะศูทร) ว่ า
โง่เง่าเลือกตั*งไม่เป็ น จึ งเกิ ดความชอบธรรมที ขุนนางจะเข้ามายึดอํานาจ
เป็ นระยะๆ โดยหลอกลวงให้ผคู้ นยอมรั บว่านี* คื อ “ประชาธิ ปไตยแบบ
ไทยๆ”
เพือทําความเข้าใจกับระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ ที เป็ นอยู่
ในปั จจุ บัน ซึ งยังคงมี ก รอบความคิ ด ของระบอบสมบู ร ณาญาสิ ทธิ ร าช
แบบดั*งเดิ มเป็ นพื*นฐานอยู่ ดังนั*น เราควรจะทําความเข้าใจกับระบอบ
สมบูรณาญาสิ ทธิ ราชที เป็ นมาในประวัติศาสตร์ ของไทย โดยแยกศึกษา
ในกรอบการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม โดยสังเขปได้ดงั นี*
ในกรอบการเมือ ง ระบอบสมบู รณาญาสิ ทธิ ร าชแบบดั*งเดิ มมี
พระมหากษัตริ ยเ์ ป็ นประมุข เป็ นผูบ้ ริ หารรั ฐที เรี ยกว่า “ราชอาณาจักร”
(รัฐของราชา) โครงสร้างการปกครองแห่ งอํานาจรั ฐทั*งหมดไม่ว่าจะเป็ น
อํานาจบริ หาร, อํานาจนิ ติบญ ั ญัติ(อํานาจออกกฎหมาย) และอํานาจตุ ลา
การ(อํานาจในการพิพากษาคดี ) จะรวมอยู่ทีองค์พระมหากษัต ริ ยเ์ พีย ง
พระองค์เดี ย ว โดยไม่ มีองค์ก รอํานาจอื น มาเคี ย งคู่ ถ่ว งดุ ล, คําพูด ของ
26

พระมหากษัตริ ยค์ ือกฎหมายทีเรี ยกว่า “พระบรมราชโองการ” เมือระบอบ


สมบู รณาญาสิ ทธิ ร าชพัฒนาสู งขึ*น ก็มีการรวบรวมคําพูดและคําตัดสิ น
ของพระมหากษัตริ ยข์ * ึนเป็ นระบบกฎหมายทีเรี ยกว่า “ระบบกฎหมายตรา
สามดวง” แต่ แม้มีระบบกฎหมายไว้แล้วพระมหากษัตริ ยก์ ็ยงั ทรงไว้ซึ ง
อํานาจในการออกกฎหมายหรื อยกเลิก กฎหมายที เรี ยกว่าพระบรมราช
โองการตามอําเภอใจ และทรงไว้ซึงอํานาจที จะสังประหารชี วิตผูใ้ ดก็ได้
ทีกษัตริ ยไ์ ม่พึงพอใจ หรื อเห็นว่าผูน้ * นั จะเป็ นภัยต่อพระองค์ รวมตลอดทั*ง
สัง ประหารชีวิตผูค้ นทีมิได้กระทําผิดเพียงแต่เป็ นญาติ พีน้องของบุ คคลที
กษัตริ ยไ์ ม่พึงพอใจในลักษณะล้างเผ่าพันธุท์ ีเรี ยกว่าประหารเจ็ดชัว โคตร
คือนับสายญาติจากตัวผูถ้ กู ลงโทษขึ*นไป 3 ชั*น ได้แก่ พ่อ-แม่,ปู่ ย่า-ตายาย
ทวด และนับสายญาติ จ ากตัวผูถ้ ูก ลงโทษลงมาอีก 3 ชั*น ได้แก่ ลูก-เมี ย
หลาน, เหลน รวมตลอดทั*งมีอาํ นาจสัง ยึดทรัพย์ผทู้ ีถกู ประหารชี วิตเข้ามา
เป็ นของตนซึ งมีฐานะเป็ นรั ฐ การใช้อาํ นาจในการล้างเผ่าพัน ธุ์เช่ น นี*
มักจะกระทําต่อผูท้ ีถกู กล่าวหาว่าไม่จงรั กภักดี หรื อกษัตริ ยเ์ ห็ นว่าบุ คคล
นั*นเป็ นปฏิ ปักษ์ทางการเมือง เป็ นกบฏต่ อแผ่น ดิ นหรื อผิดศีล ผิด ธรรม
เป็ นต้น
ในระบอบสมบู ร ณาญาสิ ทธิ ร าชไม่มีก ารรั บรองสิ ทธิ เสรี ภ าพ
ของพลเมือง ราษฎรทุกคนเป็ นข้าทาส และบ่ าวไพร่ มีฐานะตํา เป็ นผูอ้ ยู่
ใต้ฝุ่นละอองเท้าของกษัต ริ ย โ์ ดยต้องประกาศตนขณะอยู่ต่ อหน้าองค์
27

พระมหากษั ต ริ ย์ทุ ก ครั* งว่ า “ใต้ ฝ่ าละอองธุ ลี พ ระบาทปกเกล้า ปก


กระหม่ อ ม” เมื อ ราษฎรมี ฐ านะตํา กว่ า ฝุ่ นที อ ยู่ใ ต้พ ระบาทขององค์
พระมหากษัตริ ย ์ ราษฎรจึงไม่มีสิทธิเสนอแนะหรื อโต้แย้งความเห็ นใดๆ
กับองค์พระมหากษัตริ ย ์ รวมตลอดทั*งห้ามเกี ย วข้องใดๆ กับอํานาจรั ฐ
หรื อกิ จการของรั ฐ ดังนั*นอํานาจรั ฐและรั ฐจึ งเป็ นทรั พย์สินส่ วนตัวของ
พระมหากษัตริ ยเ์ ท่ านั*น เมือพระมหากษัตริ ยถ์ ึงแก่ ความตาย อํานาจรั ฐ
และทรั พย์สินแห่ งรั ฐทั*งหมดก็จะตกทอดแก่ รัชทายาทโดยราษฎรไม่ มี
สิ ทธิแม้แต่จะคิดว่าผูท้ ีจะขึ*นเถลิงถวัลย์เป็ นพระมหากษัตริ ยอ์ งค์ต่อไปนั*น
เหมาะสมหรื อไม่ แม้ว่าการขึ*นครองราชย์น* ันจะต้องมีผลต่ อชี วิ ตความ
เป็ นอยูข่ องตนเองก็ตาม
ในกรอบเศรษฐกิจ ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชมีระบบการผลิต
ทีเรี ยกว่าระบบศักดินา โดยแบ่งคนออกเป็ นชนชั*นไม่เท่าเทียมกัน ชนชั*น
ปกครองคื อกษัตริ ยเ์ ป็ นผูป้ กครองมีอาํ นาจสู งสุ ดและมีกลุ่มขุนนางเป็ น
ฐานอํานาจกษัตริ ยแ์ ละขุนนางเท่ านั*นที จะมีสิทธิ;ถือครองที ดินที เรี ยกว่า
“ศักดิ น า” ส่ ว นราษฎรเป็ นผูใ้ ช้แรงงานทําการผลิตให้ชนชั*นผูป้ กครอง
โดยราษฎรมี ฐานะทางสังคมเป็ นทาสหรื อไพร่ ไม่มีสมบัติใดๆ ติ ด ตัว
และอาศัยทํานาหากิ นอยู่ในไร่ ของขุนนางโดยต้องอยู่ในบังคับดูแลของ
กษัต ริ ย ์ หรื อขุน นางผูม้ ี ศกั ดิ น า รวมทั*งเมื อเกิ ด ศึก สงครามขุ นนางก็จ ะ
เกณฑ์คนในไร่ นาของตนนี*ไปเป็ นทหารรบกับข้าศึก ดังนั*นการมีศกั ดิ นา
28

มากหรื อน้อยโดยนับจํานวนทีดินทีอนุ ญาตให้ถือครอง เช่น มีศกั ดินา 400


ไร่ จึ งไม่ใช่ มีแต่ ภ าระหน้าที ในการผลิต ธัญ ญาหารเท่ านั*น แต่ มีหน้าที
ในทางการทหารควบคู่ไปด้วย
ลําดับของขุนนางแบ่งชั*นตามฐานันดรของศักดิ นา โดยแบ่ งตาม
ฐานะของการถือครองที ดิน โดยมีประชาชนเป็ นขี*ขา้ ที มีฐานะเป็ นทาส
และบ่าวไพร่ เป็ นผูท้ าํ งานอยูใ่ นไร่ นาของกษัตริ ย ์ เชื*อพระวงศ์และขุนนาง
เพือเลี*ยงชนชั*นสู งเหล่านี* เมือผลผลิตส่ วนใหญ่ ท* งั แผ่นดิ นรวมศูนย์เป็ น
ของพระมหากษัต ริ ย ์ ดังนั*น การค้าขายทั*งในประเทศและส่ งออกขาย
ต่างประเทศจึงเป็ นอํานาจของพระมหากษัตริ ยแ์ ต่ ผเู้ ดี ยว พระองค์จึงเป็ น
ผูผ้ กู ขาดทางการค้า จากหลัก ฐานบันทึ กจดหมายเหตุ ของเดอ ลาลูแบร์
ซึงเป็ นเอกอัครราชทูตของพระเจ้าหลุยส์ที 14 กษัตริ ยข์ องฝรังเศสทีเข้ามา
ประเทศไทยในรั ชสมัยพระนารายณ์ มหาราชเมือ 300 กว่าปี ทีผ่านมาใน
สมัยกรุ งศรี อยุธยาเป็ นราชธานี ได้บนั ทึกถึงการใช้อาํ นาจผูกขาดทางการ
ค้ า ของกษั ต ริ ย์ส ยาม อัน เป็ นหลัก ฐานยื น ยัน ถึ ง อํา นาจของระบบ
สมบูรณาญาสิ ทธิราชของไทยว่า
“ธรรมดาการค้าขายนั*นย่อมต้องการเสรี ภาพทีแน่ ชดั ไม่มีใครตก
ลงใจไปสู่ กรุ งสยามเพือขายสิ นค้าที ตนนําเข้าไปให้แก่ พระมหากษัตริ ย ์
ด้วยความจําเป็ นจําใจแล้ว และซื*อสิ นค้าทีตนต้องการได้จากพระองค์ท่าน
เพีย งเจ้าเดี ยวเท่ านั*น แม้ว่ าสิ น ค้านั*นจะมิได้ทาํ ขึ*นในราชอาณาจักรเอง
29

ก็ตาม ยิงกว่านั*นยามเมือมี เรื อกําปั น ต่ างประเทศไปถึงกรุ งสยามพร้ อม


หลายลําด้วยกันเล่า ก็ไม่อนุ ญาตให้ทาํ การซื*อขายกันเองระหว่างลําต่ อลํา
หรื อขายให้แก่ ชาวเมื องไม่ เลือกว่ าจะเป็ นคนพื*น เมื องหรื อคนต่ างด้าว
จนกว่าพระมหากษัตริ ยซ์ ึงทรงอ้างบุริมสิ ทธิ;อนั ควรแก่พระราชอิสริ ยศักดิ;
ทรงกว้านซื* อเอาสิ น ค้าที ดี ทีสุด ในระวางเรื อไปหมดตามสนนราคาที
โปรดกําหนดพระราชทานให้แล้ว เพือทรงนําเอาไปขายต่อไปด้วยราคาที
ทรงกําหนดขึ*นตามพระราชอัชฌาสัย”
จากจดหมายเหตุ ของบาทหลวงเดอ ชัวซี ย ์ ที เดิ นทางร่ วมมากับ
คณะของเชอวาลิเอร์ เดอโชมองต์ ราชทูตฝรังเศสคนแรกที เข้ามาในสมัย
พระนารายณ์ ม หาราช เมื อ ปี พ.ศ.2228 ก็ ไ ด้บัน ทึ ก ถึ ง ความรํ ารวย
พระมหากษัตริ ยท์ ี เก็บสะสมเงิ นทองไว้จาํ นวนมากโดยไม่นาํ ออกมาใช้
จ่ายพัฒนาบ้านเมือง ซึงเป็ นการยืนยันถึงอํานาจทางเศรษฐกิจ และอํานาจ
ทางการเมืองทีเป็ นจริ งโดยไม่มีใครโต้แย้งดังนี*
“พระมหากษัตริ ยท์ ีเสด็จสวรรคตโดยทิ*งพระราชทรัพย์สมบัติไว้
มากมายก่ายกองนั*นได้รับความยกย่องนับถือยิง กว่าองค์ทีทรงมีชยั ในงาน
พระราชสงครามมาเสี ย อี ก เป็ นนโยบายการปกครองที ไ ม่ เ ข้า ท่ า เอา
เสี ยเลย เพราะทองคําและเงินนั*นจะเอาไปลงทุ นทํามาค้าขายก็ไม่ได้ และ

บันทึกจดหมายเหตุ เดอ ลาลูแบร์ ,หน้า 338 สันต์ ท.โกมลบุตร ผูแ้ ปล.สํานักพิมพ์
ศรี ปัญญา, นนทบุรี
30

มิเป็ นการดีกว่าหรื อทีพระมหากษัตริ ยจ์ กั ทรงสละพระราชทรัพย์สักสอง


ล้านเพือสร้างนํ*าพุข* ึน แทนทีจะนําเอาพระราชทรั พย์ไปฝั งไว้ แล้วละให้
ประชาชนพลเมืองลําบากยากแค้น? เพราะทีนีเขาไม่แตะต้องกับพระราช
ทรั พย์เลย การใช้จ่ ายของพระเจ้าแผ่นดิ นนั*น ชักจากผลประโยชน์ ที
พระองค์ ท รงได้ รั บ และเมื อ เหลื อ จ่ า ยแล้ว ก็ เ ก็ บ สะสมเข้ า ไว้ ใ น
ท้องพระคลัง ปี ใดทีพระเจ้าแผ่นดินทรงมีผลประโยชน์เพิมขึ*น ไม่ว่าเป็ น
ด้ว ยไปรบชนะมาหรื อมี ก ํา ไรจากการค้า พระองค์ ก็ จ ะทรงรุ่ มรวย
ยิง ขึ*น”
ในกรอบวั ฒ นธรรม ระบอบสมบู ร ณาญาสิ ทธิ ร าชได้ ใ ช้
วัฒนธรรมความเชื อทางศาสนาที เป็ นไสยศาสตร์ เป็ นเครื องมือที สาํ คัญ
ในการถื อครองอํานาจ และสื บต่ ออํานาจโดยใช้ค วามเชื อทางศาสนา
ครอบงําความคิดของประชาชนเพือให้ยอมรับการมีอาํ นาจรัฐของกษัตริ ย ์
และการสื บอํานาจต่อโดยรั ชทายาทในฐานะผูท้ รงคุ ณธรรม และเป็ นผูม้ ี
บุญบารมีมาแต่ชาติปางก่อนโดยราษฎรห้ามโต้แย้ง การสงสัยและโต้แย้ง
อํา นาจของกษัต ริ ย์แ ละองค์ รั ช ทายาทผูส้ ื บ ต่ อ อํา นาจ นอกจากเป็ น
ความผิด ทางกฎหมายที มีโ ทษรุ น แรงถึ งประหารชี วิต เจ็ ดชัวโคตรแล้ว

จากจดหมายเหตุรายวันการเดินทางไปสู่ ประเทศสยามในปี ค.ศ.1685 และ 1686
ของบาทหลวงเดอ ชัวซี ย,์ หน้า 248 สันต์ ท.โกมลบุตร ผูแ้ ปล, สํานักพิมพ์ศรี ปัญญา
นนทบุรี
31

ยังมีโทษเป็ นบาปติดตัวราษฎรไปเมือสิ*นชีวิต ต้องตกนรกหมกไหม้ไม่ได้


ผุดไม่ได้เกิดอีกด้วย
วัฒนธรรมในระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิ ราชของไทย ก็คล้ายกับ
ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชของประเทศต่ างๆ ทัว โลกที ผ่านมาแล้ว แต่
ของไทยใช้ศาสนาพราหมณ์ เป็ นฐานความเชื อครอบงําความคิ ด ของ
ประชาชนเพราะศาสนาพราหมณ์ได้สร้ างวาทะกรรมว่าพระมหากษัตริ ย ์
คื อสมมุติ เทพ และเทพเจ้าสู งสุ ด คื อพระพรหม ซึ งเป็ นผูส้ ร้ างโลกและ
มนุ ษย์(ซึ งคล้ายกับความเชื อของฝรังว่ าพระยะโฮวาในศาสนายูด าและ
ศาสนาคริ สต์ หรื อตามความเชือของพวกอาหรั บที ออกเสี ยงเรี ยกพระเจ้า
องค์ เดี ย วกัน ว่ าพระอัลเลาะในศาสนาอิ สลามซึ ง เป็ นผูส้ ร้ างโลกและ
มนุ ษ ย์) และเป็ นผูป้ ระทานพระเจ้า จากสวรรค์ ล งมาจุ ติ เ ป็ นกษัต ริ ย์
ปกครองมนุ ษ ย์ ดัง นั*น พระมหากษัต ริ ย ์ทุก พระองค์และราชวงศ์ลว้ น
แล้วแต่ เป็ นเชื*อสายของพระเจ้าที อยู่บนฟากฟ้ า และศาสนาพราหมณ์ ยงั
ได้จดั โครงสร้างสังคมโดยแบ่งชนชั*นมนุ ษย์ในโลกออกเป็ น 4 ชนชั*น(คือ
การแบ่งงานเมือก่อน 2,500 ปี ทีแล้ว) โดยเรี ยกว่า วรรณะ ได้แก่ กษัตริ ย์,
พราหมณ์ , แพศย์ (พ่ อค้ า) และศู ทร(ชาวนา กรรมกร) ซึ งชนชั*นเหล่านี* ถูก
กําหนดอย่างตายตัว โดยพระพรหมซึ งเป็ นมาตั*งแต่ ชาติ ทีแล้วสื บต่ อถึ ง
ปั จจุ บนั นี* และเมือตายแล้วเกิ ดใหม่ในชาติ หน้าก็ตอ้ งอยู่ในชนชั*นเดิ มนี*
อีก และหากใครแต่ งงานข้ามชนชั*น ก็จ ะเป็ นบาปอย่างยิง ลูกที เกิ ด ขึ* น
32

เรี ยกว่ า “จัณฑาล” ห้ามคนในสังคมไปยุ่งเกี ยว หรื อไปถูก เนื* อต้องตัว


พวกจัณฑาล เพราะจะเป็ นบาปติดตัว และหากพวกจัณฑาลมาถูกเนื* อต้อง
ตัวกษัตริ ยก์ ็จะต้องถูกฆ่า ดังนั*นเพือให้การครอบงําความคิ ดประชาชนมี
ความสมจริ งสมจังและฝั งรากลึก แห่ งความเชื อให้มากยิงขึ* น จึ งมี ก าร
สร้างวัฒนธรรมการใช้สรรพนามทีนาํ หน้าชือของกษัตริ ย ์ และรั ชทายาท
ให้เป็ นเช่ นเดี ยวกับการเรี ยกพระเจ้าด้วยคําขึ*น ต้นว่า “พระเจ้า” เหมือน
กัน เช่ น เรี ยกพระมหากษั ต ริ ย์แ ละรั ช ทายาทว่ า “พระเจ้ า อยู่ หั ว ”
“พระองค์ เ จ้ า” หรื อแม้แต่ ในระดับรุ่ น หลานก็ เรี ย กว่า “พระเจ้ าหลาน
เธอ” เป็ นต้น รวมตลอดทั*งชือของกษัตริ ย ์ ก็จะนําชือของพระเจ้าที สังคม
เคารพนั บ ถื อ มาใช้ป ระกอบด้ว ย เช่ น พระราม, พระนารายณ์ หรื อ
พระพุทธเจ้า มาเป็ นองค์ประกอบสําคัญของชื อที ให้ประชาชนเรี ยกขาน
เช่ น สมเด็ จ พระรามาธิ บดี ที 1 (ต้น ราชวงศ์อยุธยาหรื อที รู้ จ ัก ในนาม
พระเจ้าอู่ทอง), สมเด็จพระนารายณ์มหาราช หรื อสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ า
จุฬาโลก(รัชกาลที 1 ต้นราชวงศ์จกั รี ) เป็ นต้น
นอกจากนี* ยังได้สร้ างวัฒนธรรมทางภาษาที ร าษฎรจะต้องใช้
สื อสารกับพระมหากษัต ริ ยแ์ ละราชวงศ์ทุกพระองค์ ให้แตกต่ างไปจาก
ภาษาพูดทีราษฎรใช้กนั เองในชี วิตประจําวัน ที เรี ยกว่า “ราชาศัพท์” เมือ
ราษฎรจะพูดถึงหรื อจะต้องพูดกับพระมหากษัตริ ยแ์ ละราชวงศ์ต ้องใช้
ราชาศัพท์ แต่ถา้ พระมหากษัตริ ยแ์ ละราชวงศ์จะพูดกับราษฎรก็ใช้ภาษา
33

พูดธรรมดา ทั*งนี* เพือสร้ างผลทางจิ ตวิทยาหลอกลวงให้ราษฎรเชื ออย่าง


เป็ นจริ ง ถึ ง ความไม่ เท่ าเที ย มกัน ระหว่ า งกษัต ริ ย์,ราชวงศ์ กับราษฎร
กล่าวคือกษัตริ ยแ์ ละราชวงศ์คือ “เทพ” ที อยู่บนฟ้ า ราษฎร คื อ “มนุ ษย์”
ทีเดินอยูบ่ นดินและในระบบการศึกษาก็จะมีการสังสอน เรี ยนรู้ เกี ยวกับ
ราชาศัพท์และพงศาวดาร เกียวกับระบบคิ ดและประวัติความเป็ นมาของ
พระเจ้าทีเรี ยกว่า “เทวะวิทยา” โดยจะให้ขอ้ มูลเผ่าพงศ์ของเทพเจ้าว่าใคร
เป็ นพีใครเป็ นน้อง ผูท้ ีรู้เรื องราชาศัพท์ และเทวะวิทยาดี ก็จะมีโอกาสที ดี
ทางสั ง คมได้ เ ข้ า ไปทํา งานในรั* วในวัง ได้ มี โ อกาสรั บ ใช้ ใ กล้ชิ ด
พระมหากษัตริ ย ์ ซึงเป็ นศูนย์รวมอํานาจ ก็จะได้เป็ นเจ้าคนนายคน
แม้ห ลัก การพื* น ฐานของศาสนาพุ ทธ จะแตกต่ า งจากศาสนา
พราหมณ์ อย่างยิง กล่าวคื อ ศาสนาพุทธไม่เชื อว่ ามีพระเจ้า ความดี หรื อ
ความเลวเกิดจากผลแห่ งการกระทําของแต่ละคน แต่ศาสนาพราหมณ์ เชื อ
ว่ า มี พ ระเจ้ า ความดี ห รื อความเลวเป็ นผลมาจากวรรณะทางสัง คม
กล่าวคื อ กษัตริ ย แ์ ละราชวงศ์จะเป็ นคนดี เพราะเป็ นเทพ ไม่สามารถจะ
กระทําผิดได้ แม้กระทําผิดใครไปกล่าวก็จะเป็ นบาปติดตัว ส่ วนพวกศูทร
และจัณฑาลเป็ นคนเลวมาตั*งแต่ชาติทีแล้วถึงได้เกิ ดมาเป็ นผูใ้ ช้แรงงานที
ต้อ งรั บ ใช้ ค นชั*น สู ง ตลอดชี วิ ต หลัก การนี* ปรากฏในพระไตรปิ ฎก
อัคคัญ ญสู ตร ว่าวรรณะทั*ง 4 จะดี จะชัว ก็อยู่ทีการกระทําของแต่ ละคน
ไม่ใช่อยูท่ ีวรรณะ ความว่า
34

“ดูก่อนผู้สืบวงศ์ แห่ งวาสิ ษฐะและภารัทวาชะทั;งหลาย บุคคลบาง


คนในโลกนีท; ีเป็ นกษัตริย์กม็ ี เป็ นพราหมณ์ กม็ ี เป็ นแพศย์ กม็ ี เป็ นศู ทรก็มี
ย่ อมฆ่ าสั ตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผดิ ในกาม พูดเท็จ พูดส่ อเสี ยด (ยุให้ เขา
แตกร้ าวกัน) พูดคําหยาบ พูดเพ้ อเจ้ อ มักได้ มีจติ พยาบาท มีความเห็นผิด
เมือวรรณะทั;ง สี ยังดาษดืนทั; งสองทางยังประพฤติท;ังในธรรมที ดําและ
ขาว ทีผู้รู้ ตเิ ตียนและสรรเสริญอยู่อย่ างนี; คําใดทีพวกพราหมณ์ กล่ าวอย่ าง
นี;ว่าวรรณะพราหมณ์ เท่ านั; น ประเสริ ฐ สุ ด วรรณะอืน ๆ เลว, วรรณะ
พราหมณ์ เท่ านั;นขาว วรรณะอืน ๆ ดํา, พราหมณ์ ท;ังหลายเท่ านั;นย่ อ ม
บริสุทธิN คนทีมใิ ช่ พราหมณ์ ย่อมไม่ บริ สุทธิN, พราหมณ์ ท;ังหลายเป็ นบุ ตร
เป็ นโอรสของพรหม เกิดจากปากพรหม มีพรหมเป็ นแดนเกิด เป็ นผู้อัน
พรหมสร้ างสรรค์ เป็ นทายาทของพรหม ดังนี.; วิญTูชนทั;งหลายย่ อมไม่
รับรู้ คาํ กล่ าวของพราหมณ์ เหล่ านั;น”
แม้ศาสนาพุ ทธจะเป็ นศาสนาประจําชาติ แต่ ผลทางวัฒนธรรม
ภายใต้ร ะบบสมบู ร ณาญาสิ ทธิ ร าช กษัต ริ ยก์ ็ ได้บิด เบื อนหลัก การของ
ศาสนาพุ ทธโดยนําอิ ท ธิ พ ลของศาสนาพราหมณ์ มาเจื อ ปนอย่างมาก
จนทํา ให้แ ก่ น แห่ งศาสนาพุ ทธที เป็ นวิ ท ยาศาสตร์ หมดสิ* น กลายเป็ น


ข้อความน่ ารู ้ จากพระไตรปิ ฎก พระไตรปิ ฎกฉบับประชาชนของมหามกุฎราช
วิทยาลัย, สุ ชีพ ปุญญานุภาพ จัดทํา ตีพิมพ์ครั*งที 17/2550 หน้า 133
35

ศาสนาแห่ งไสยศาสตร์ คล้ายกับศาสนาพราหมณ์ ทีตอ้ งรั บรองความเป็ น


เทพของกษัตริ ยแ์ ละราชวงศ์ มี ความเชื องมงายในสวรรค์ นรก และมี
ความเชื อในชาติ ก าํ เนิ ด เหมื อนกับศาสนาพราหมณ์ และได้ส่งผลเป็ น
ปฏิปักษ์ทางความคิดกับประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนในการเรี ยนรู้ ทาง
วิ ท ยาศาสตร์ อ ย่ า งยิง ตัว อย่ างเช่ น โดยเหตุ ผลทางวิ ท ยาศาสตร์ แ ล้ว
ประชาชนกับกษัต ริ ย ์และราชวงศ์ ล้ว นแล้ว แต่ เ กิ ด มาโดยธรรมชาติ
เป็ นมนุ ษย์เหมือนกัน แต่ในความเป็ นจริ งของชีวิตประจําวันไม่อาจจะพูด
ถึ ง ความเสมอภาคกัน ระหว่ า งประชาชนกับ กษัต ริ ย์ไ ด้ ทั*ง นี* เพราะมี
วัฒนธรรมครอบงําความคิ ดไว้ หากใครไม่เชื อและยังกล้าฝ่ าฝื นก็จะถูก
สังคมประณามและรังเกียจ ไม่คบหาสมาคมด้วย รวมตลอดทั*งอาจจะถูก
ทําร้ายร่ างกายหรื อถูกเจ้าหน้าทีบา้ นเมืองจับกุมดําเนิ นคดี เป็ นต้น

2.2 ระบบสมบูรณาญาสิ ทธิ ราชใหม่เป็ นอย่างไร?


ระบอบสมบู รณาญาสิ ทธิ ราชใหม่ (Neo Absolute Monarchy)
เป็ นการวิ เ คราะห์ ใ นเชิ ง โครงสร้ า งของระบอบการปกครองแบบ
ประชาธิปไตยทีมีพระมหากษัตริ ยท์ รงเป็ นประมุข ทีเป็ นอยูใ่ นปั จจุบนั ซึง
มี ล ั ก ษณะพิ เ ศษ ที แตกต่ างไปจ ากระบอบประ ชาธิ ปไตยอั น มี
พระมหากษัตริ ยท์ รงเป็ นประมุข ในนานาอารยะประเทศ เช่ น อังกฤษ
นอร์ เวย์ ญี ปุ่น เป็ นต้น กล่ าวคื อโดยหลัก แห่ งการปกครองในระบอบ
36

ประชาธิปไตยนั*น อํานาจอธิ ปไตยจะต้องเป็ นของประชาชน แต่ สาํ หรั บ


ประชาธิปไตยของประเทศไทยอํานาจอธิ ปไตยที เป็ นของประชาชนนั*น
เป็ นเพี ยงรู ปแบบเท่ านั*น แต่ เนื* อหาที แท้จริ งแล้วอํานาจอธิ ปไตยยังเป็ น
ของพระมหากษัต ริ ย ์อยู่ โดยทั*งอํา นาจทางการเมื อ ง เศรษฐกิ จ และ
วัฒนธรรม ล้ว นแล้วแต่ รวมศูนย์อยู่ทีองค์พระมหากษัตริ ยเ์ ช่ นเดี ยวกับ
ระบบสมบูรณาญาสิ ทธิ ราชในอดี ต ด้วยเหตุ น* ี เพือให้เกิ ดความเข้าใจต่ อ
ระบบการปกครองทีเป็ นจริ งของไทยในปั จจุ บนั และเพือประโยชน์ทาง
วิชาการในการสื อความหมาย และทําความเข้าใจต่ อปั ญหาทางการเมือง
เศรษฐกิจ และสังคม จึงเรี ยกระบบการปกครองทีมีลกั ษณะพิเศษเช่ นนี* ว่า
“ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่ ” แทนทีจะเรี ยกว่าประชาธิ ปไตยแบบ
ไทยๆ
เพือให้เกิดองค์ความรู้ทีเป็ นจริ งของระบอบการปกครองของไทย
ในปั จจุบนั ตามทีกล่าวข้างต้น ผูอ้ ่านจะต้องเปิ ดใจกว้างและกล้าที จะมอง
ปั ญหาผ่านม่ านทางวัฒนธรรมที ครอบงําความคิ ดของสังคมไทยอยู่ใน
ขณะนี* โดยเฉพาะอย่างยิงสื อมวลชนและนัก วิ ชาการในมหาวิ ทยาลัย
เกื อ บทั*ง หมดได้ ท รยศต่ อ วิ ช าชี พ ของตน กล่ า วคื อ สื อ มวลชนและ
นักวิชาการไม่กล้าพูดความจริ ง และบางคนไม่เพียงแต่ ไม่กล้าพูดความ
จริ งเท่ า นั*น แต่ ไ ด้ส ร้ า งความอัป ยศต่ อ วงการด้ว ยการพู ด บิ ด เบื อ น
หลอกลวงประชาชนว่าการปกครองของไทยทีเป็ นอยูท่ ุกวันนี*เป็ นระบอบ
37

ประชาธิ ปไตยที มีลกั ษณะพิ เศษของตัวเองเรี ยกว่ าประชาธิ ปไตยแบบ


ไทยๆ หรื อเลวร้ายยิงกว่านั*นก็โจมตี ว่าระบอบประชาธิ ปไตยที ใช้อยู่กนั
ทั*งโลกนี* ไม่ถกู ต้อง และไม่เหมาะสมกับประเทศไทยเพราะนักการเมือง
ของไทยเลวเกินกว่าที จะนําระบอบประชาธิ ปไตยของตะวันตกมาใช้ได้
จึ งเห็ น สมควรต้องสร้ างการเมื องใหม่ คื อคื น อํานาจทั*งหมดกลับคื น สู่
พระมหากษัต ริ ย ์ และให้พระองค์เป็ นผูใ้ ช้พระราชอํานาจนั*น ตามพระ
บรมราชวิ นิ จฉัย เอง เพราะพระมหากษัต ริ ยแ์ ละราชวงศ์ลว้ นแต่ เป็ นผู้
บริ สุทธิ;ผดุ ผ่อง เป็ นผูป้ ระกอบแต่คุณงามความดี ประดุจดังเทพเจ้าจึ งเป็ น
ผูเ้ หมาะสมที จะเป็ นผูใ้ ช้อาํ นาจรั ฐ และชี*ขาดความถูกต้องทางการเมือง
ด้วยเหตุน* ีผเู้ ขียนจึงขอวิเคราะห์และเปรี ยบเที ยบให้ผอู้ ่านเห็ นเนื* อหาของ
ระบอบการปกครองในปั จ จุ บัน นี* ว่ า แท้จ ริ งแล้ว มิ ใ ช่ ป ระชาธิ ป ไตย
หากแต่ เ ป็ นระบอบการปกครองที มี เ นื* อ หาคล้า ยคลึ ง กับ ระบอบสม
บู ร ณาญาสิ ท ธิ ร าชในอดี ต เป็ นอย่ า งมาก ดัง นั*น ในที น* ี จึ ง ขอเรี ยกว่ า
ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่ ดังนี*
ในกรอบการเมือง แม้อาํ นาจอธิ ปไตยของไทยในปั จจุ บนั จะถูก
กล่าวอ้างว่าเป็ นของประชาชนโดยแบ่ งออกเป็ น 3 อํานาจ ถ่วงดุ ลกันอัน
ได้แก่อาํ นาจนิ ติบญั ญัติ บริ หาร ตุ ลาการ และพระมหากษัตริ ยท์ รงอยู่ใต้
กฎหมายรัฐธรรมนูญโดยใช้อาํ นาจนิ ติบญ ั ญัติผ่านทางรั ฐสภา ใช้อาํ นาจ
บริ หารผ่านทางรั ฐบาล และใช้อาํ นาจตุ ลาการผ่านทางศาล แต่ในความ
38

เป็ นจริ งหาเป็ นเช่ น นั*นไม่ กล่ าวคื อพระมหากษัต ริ ยแ์ ละรั ชทายาททุ ก
พระองค์ทรงอยูเ่ หนื อกฎหมายรัฐธรรมนูญ และกฎหมายทัว ไป ดังจะเห็ น
ได้ว่าตลอดระยะเวลา 60 กว่าปี ในรั ชสมัยของรั ชกาลปั จจุบนั กฎหมาย
รัฐธรรมนูญซึงถือเป็ นกฎหมายสําคัญสู งสุ ดเพราะเป็ นกฎหมายแม่บทที
คํ*าประกันสิ ทธิเสรี ภาพของประชาชนแต่กลับมีผกู้ ระทําผิดโดยทําการฉี ก
รัฐธรรมนูญครั*งแล้วครั*งเล่าซึ งเป็ นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 116 ที มีโ ทษถึ งประหารชี วิ ต แต่ พระองค์ ก ลับ รั บรองการฉี ก
รั ฐธรรมนู ญนั*นโดยลงพระปรมาภิ ไธยรั บรองการกระทําที ผิดกฎหมาย
นั*นมาโดยตลอดโดยถือเป็ นพระราชอํานาจของพระองค์ ซึ งก็ แสดงให้
เห็ นได้ชดั แล้วว่าพระองค์ทรงมีพระราชอํานาจอยู่เหนื อกฎหมายสู งสุ ด
จึ ง มี อ ํา นาจรั บ รองการฉี ก กฎหมายรั ฐ ธรรมนู ญ ของผู้ก ระทํา การ
รั ฐประหารยึดอํานาจ และเป็ นผลให้เกิ ดการร่ างกฎหมายโดยบุคคลคน
เดี ยว โดยไม่ ตอ้ งผ่านความเห็ น ชอบของประชาชนที เรี ย กว่า ประกาศ
คณะปฏิว ตั ิ บา้ ง, ประกาศคณะปฏิรูปบ้าง(แล้วแต่ ว่าผูย้ ึด อํานาจจะเรี ย ก
ตัวเองว่าอะไร) เป็ นต้น
พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชอํานาจเหนือรั ฐธรรมนู ญมิใช่ อยู่
ใต้ รัฐธรรมนู ญ การรั บรองรั ฐธรรมนู ญทีคณะปฏิวัติคณะต่ างๆ ร่ างขึ;น
โดยประชาชนไม่ มีส่วนร่ วมนั;นแสดงถึงพระราชอํานาจทีพระองค์ ทรง
สร้ างรัฐธรรมนูญได้ เอง
39

นอกจากนี*ประมวลกฎหมายรัษฎากรซึงเป็ นกฎหมายทีใช้ในการ
เรี ยกเก็บภาษี แก่ คนไทยทุ กคนที มีรายได้ แต่ ปรากฏว่าพระมหากษัตริ ย ์
และรัชทายาททุกพระองค์ทีมีรายได้ในรู ปเงินเดือนจากเงินภาษีอากรของ
ประชาชน และจากการรับบริ จาค รวมทั*งจากการประกอบธุรกิ จในฐานะ
ที ถื อหุ ้ น อยู่ในบริ ษ ัท ธุ ร กิ จ มากมายในประเทศไทยและต่ า งประเทศ
แต่กลับไม่ตอ้ งเสี ยภาษี โดยกรมสรรพากรไม่กล้าดําเนิ นการเรี ยกเก็บหรื อ
ฟ้ องร้อง ความเป็ นจริ งทีสามารถพิสูจน์ได้น* ีแสดงให้เห็ นว่าพระองค์ทรง
อยู่เหนื อกฎหมาย ซึ งไม่ ต่างอะไรจากระบอบสมบู รณาญาสิ ทธิ ราชใน
อดีต
ส่ วนอํานาจอธิปไตยทีรัฐธรรมนู ญทุ กฉบับกล่าวอ้างว่าเป็ นของ
ประชาชนนั*น ก็ไม่เป็ นความจริ งทั*งรู ปแบบและเนื* อหากล่าวคื ออํานาจ
อธิ ปไตยแบ่ งออกเป็ น 3 อํานาจ คื อ อํานาจนิ ติบัญ ญัติ, อํานาจบริ หาร
และอํานาจตุ ลาการ หากดูจ ากเปลือกนอกก็จ ะเห็ น ภาพสวยหรู ว่ าเป็ น
อิสระ และเป็ นอํานาจที มาจากประชาชน แต่ หากเจาะลึกมองเข้าไปข้าง
ในก็จะเห็นความจริ งว่าทั*ง 3 อํานาจนี* ถูกครอบงําโดยราชสํานักทั*งหมด
ดูจากภายนอกจะเห็นว่ามีเพียงอํานาจนิ ติบญั ญัติและอํานาจบริ หารเท่านั*น
ที มีรู ปแบบมาจากการเลือกตั*งของประชาชน แต่ อาํ นาจตุ ลาการนั*นทั*ง
รู ปแบบและเนื*อหาไม่มีส่วนใดทีเชือมโยงกับประชาชนเลย
40

อํานาจนิติบั ญญั ติและอํานาจบริ หาร แม้จ ะมาจากการเลือกตั*ง


แต่ก็ถกู ตัดทอนด้วยการรัฐประหารล้มระบบการเลือกตั*งอยูเ่ สมอ และเมือ
รวมระยะเวลาแห่ งการใช้อาํ นาจนิ ติบญ ั ญัติและอํานาจบริ หารที มาจาก
ประชาชนด้ ว ยการเลื อ กตั*ง ตามระบอบประชาธิ ป ไตยแล้ว ก็ จ ะมี
ระยะเวลาทีส* นั กว่าอํานาจทีมาจากการกระทําผิดกฎหมายของคณะปฏิวตั ิ
ทีไม่เป็ นไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย และยิง กว่านั*นทุกครั*ง
ทีฉีกรัฐธรรมนู ญและร่ างรั ฐธรรมนู ญใหม่ก็จะตัดอํานาจของประชาชน
และเพิมอํานาจให้แก่ขา้ ราชการ โดยเฉพาะอํานาจของฝ่ ายทหารให้มาก
ขึ* น ทุ ก ครั* งไป โดยกําหนดไว้ในรั ฐธรรมนู ญ ที ร่ า งใหม่ อยู่เ สมอ ด้ว ย
รู ปแบบที ปกปิ ดหลอกลวง อาทิ เช่ น กําหนดที มาและวิ ธี ก ารเลื อกตั*ง
สมาชิกรัฐสภาให้มีความลําบากมากขึ*นเพือมิให้เกิดอํานาจนิ ติบญั ญัติและ
อํานาจบริ หารที เป็ นปึ กแผ่น และมิให้เกิ ดระบบพรรคการเมืองที มนั คง
รวมทั*ง กํา หนดในรั ฐธรรมนู ญ เพื อตัด สิ ท ธิ อ าํ นาจของผูแ้ ทนราษฎร
และจํากัด สิ ทธิ อาํ นาจของรั ฐ มนตรี ในฐานะของฝ่ ายบริ ห ารที ม าจาก
ประชาชนเลือกตั*ง มิให้เข้าไปควบคุ มระบบราชการที ข* ึนตรงต่ อกษัตริ ย ์
โดยเฉพาะอํานาจในการแต่ งตั*ง โยกย้าย ข้าราชการที ข* ึนตรงต่ อกษัตริ ย ์
โดยเฉพาะอย่างยิงในองค์กรทหารและตํารวจมิให้คณะรั ฐมนตรี เข้าไป
แตะต้องได้เลย อีกทั*งการบริ หารราชการแผ่นดินของรัฐบาลในฐานะฝ่ าย
บริ ห ารและของสภาในฐานะฝ่ ายนิ ติ บัญ ญัติ ราชสํานัก ก็ จ ะใช้ร ะบบ
41

ราชการควบคุม โดยใช้สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาซึงเกือบทั*งหมด


เป็ นข้าราชการที มีประวัติการทํางานเป็ นผูม้ ีแนวคิ ดจารี ตนิ ยม และเป็ น
ผูใ้ กล้ชิดราชสํานัก และโดยเฉพาะในขณะนี* ยงั ใช้ศาลฎี กา ศาลปกครอง
และศาลรัฐธรรมนูญ เข้ามาควบคุมรัฐบาลและสภาอีกชั*นหนึ ง
ดังนั;นอํานาจบริหารและอํานาจนิตบิ ัญญัตจิ งึ ถูกครอบงําจากราช
สํ านักอย่ างเข้ มแข็ง
อํานาจตุลาการนั*นนับตั*งแต่ ก่อนการเปลียนแปลงและหลังการ
เปลียนแปลงการปกครองเมือ 24 มิถุนายน 2475 ยังคงเป็ นอํานาจเฉพาะ
ของพระมหากษัต ริ ย ม์ าโดยตลอดโดยเป็ นผูแ้ ต่ งตั*งโดยตรงที เรี ย กว่ า
“โปรดเกล้ า” โดยมีกระบวนการคัดเลือกตามระบบงานราชการก่ อนการ
โปรดเกล้า โดยทั*งกระบวนการของการแต่ งตั*งผูพ้ ิ พากษาซึ งเป็ นผูใ้ ช้
อํานาจตุลาการนั*นตั*งแต่ ผพู้ ิพากษาธรรมดาจนถึงประธานศาลฎี กา ไม่มี
ส่ วนยืดโยงหรื อเกียวข้องใดๆ กับอํานาจของราษฎรเลย ซึงแตกต่ างจาก
ระบอบประชาธิ ปไตยที แท้จริ งที ต* งั มัน อยู่ในยุโรปและอเมริ กา ที ตอ้ งมี
การเลือกตั*งผูพ้ ิพากษาด้วยวิธีการพิเศษกว่าการเลือกตั*งสมาชิกสภาผูแ้ ทน
ราษฎร บางประเทศเลือกตั*งโดยตรง เช่ น ประเทศสหรั ฐอเมริ กา และอีก
หลายประเทศก็ เลือกตั*งโดยอ้อม เหตุ ผลสําคัญที โ ครงสร้ างอํานาจของ
ไทยไม่ ย อมให้ ร าษฎรมี ส่ ว นเกี ย วข้องกับ อํา นาจตุ ล าการทั*ง ทางตรง
และทางอ้อ ม แท้จ ริ งก็ คื อ การรั ก ษาอํา นาจโดยสมบู ร ณ์ ไ ว้ก ับ องค์
42

พระมหากษัตริ ย ์ แต่ ไม่มีใครกล้าที จะพูด ความจริ งเช่ น นี* หากแต่ ได้ให้


เหตุ ผ ลหลอกลวงราษฎรว่ า หากราษฎรมี ส่ ว นเลื อ กตั*ง ผู้พิ พ ากษา
ทั*งทางตรงและทางอ้อมแล้ว ก็จะทําให้ศาลเสี ยความเป็ นกลาง ไม่อาจจะ
ประสิ ทธิประสาทความยุติธรรมได้ แต่จากความเจริ ญทางการสื อสารของ
โลกก็ทาํ ให้เราเห็นชัดเจนว่าข้ออ้างเหล่านี*เป็ นเรื องโกหก เพราะก็ปรากฏ
หลัก ฐานของประเทศต่ า งๆ ที เ จริ ญแล้ว ว่ า อํา นาจตุ ล าการที ผ่ า น
กระบวนการประชาธิปไตยทีแท้จริ งก็สามารถให้ความยุติธรรมแก่ราษฎร
ได้ และได้ดีกว่าระบบยุติธรรมทีเป็ นอยูใ่ นประเทศไทยเสี ยอีก ดังจะเห็ น
จากข่ าวมีก ารฉ้อราษฎร์ ของผูค้ นในวงการตุ ลาการไม่น้อยหน้าไปกว่ า
หน่ วยงานอืนๆ ของรัฐ
จากตัวอย่ างทีเป็ นจริงของระบอบประชาธิปไตยทีใช้ กนั อยู่ทวั ไป
ในโลกนี; ได้ พิสูจน์ ให้ เห็ นแล้ วว่ าอํานาจอธิป ไตยที เป็ นของราษฎรนั; น
เกิด ขึ;นได้ จริ ง และให้ ความเป็ นธรรมแก่ ราษฎรได้ ซึ ง เป็ นการตบปาก
นักวิชาการทั;งหลายทีโฆษณาหลอกลวงราษฎร
เพือสร้างความชอบธรรมให้แก่การผูกขาดอํานาจตุ ลาการไว้กบั
องค์พระมหากษัต ริ ย ์ ระบบความยุติ ธรรมของไทยจึ งต้องสร้ างกรอบ
ความคิดให้เห็นว่าความยุติธรรมทีแท้จริ งต้องเป็ นเสมือนหนึ งลอยมาจาก
สรวงสวรรค์ ด้ว ยการแต่ งตั*ง จากสมมุ ติ เ ทพคื อองค์ พระมหากษัต ริ ย์
เท่ านั*นจึ งจะเป็ นความยุติ ธรรมที แท้จ ริ ง ด้ว ยเหตุ น* ี ระบบยุติธรรมหรื อ
43

อํานาจตุลาการของไทยจึงบิดเบี*ยวและมีอาํ นาจกระทําต่ อราษฎรเสมือน


หนึ งเป็ นข้า ทาสเช่ น อดี ต ส่ ว นตัว ผูพ้ ิ พ ากษามี ฐ านะเหมื อ นขุ น นาง
ผูใ้ กล้ชิดกษัตริ ย ์ เราจึงเห็นผูพ้ ิพากษาดุและตวาดราษฎรทีไปขอความเป็ น
ธรรม ไม่ เว้น แม้แ ต่ ทนายความและอัย การเมื ออยู่ใ นศาลเยีย งข้าทาส
และเป็ นทีประจักษ์ชดั ทีสุดว่าอํานาจตุลาการนั*นเป็ นเครื องมือของกษัตริ ย ์
และราชวงศ์ จะเห็ นได้ว่ าตลอดตั*งแต่ ต* งั ประเทศไทยมาทั*งในระบอบ
สมบู ร ณาญาสิ ท ธิ ร าชดั*ง เดิ ม ก่ อ นการเปลี ย นแปลงการปกครอง
24 มิ ถุน ายน 2475 และในระบอบประชาธิ ปไตยแบบไทยๆ หลังการ
เปลี ย นแปลงการปกครอง เราจึ ง ไม่ อ าจจะเห็ น การดํา เนิ น คดี ก ั บ
พระมหากษัตริ ยแ์ ละพระบรมวงศานุ วงศ์ และผูม้ ีเชื*อพระวงศ์ท* งั หลายที มี
การกระทํา ผิด กฎหมายได้เลย เชื* อพระวงศ์แ ห่ งราชสํานั ก ทั*งหมดจึ ง
กลายเป็ นชนชั*นอภิสิทธิ;ชนอยูเ่ หนื อระบบกฎหมาย เหมือนในระบอบสม
บูรณาญาสิ ทธิราชแบบดั*งเดิมทุกประการ
การทีผเู้ ขียนกล่าวข้างต้นนี* มิได้กล่าวหาว่าพระมหากษัตริ ยแ์ ละ
พระบรมวงศานุ วงศ์พระองค์ใดจะเป็ นผูก้ ระทําผิดแต่อย่างใด แต่ เป็ นการ
กล่ าวโดยหลัก การเพื อแสดงให้เห็ น ว่ าเมื อระบบยุติ ธรรมหรื ออํานาจ
ตุลาการถูกจัดวางเช่นนี* อีกทั*งมีวฒั นธรรมครอบงําความคิดของคนทีเป็ น
ผูพ้ ิ พากษาด้ว ย ให้เคารพสัก การะองค์พระมหากษัต ริ ย ซ์ ึ งเป็ นดังองค์
สมมุติ เทพด้วยแล้ว อํานาจตุ ลาการจึ งไม่อาจจะดํารงอยู่อย่างเป็ นกลาง
44

เป็ นธรรม และอย่างเสมอภาคกันกับมนุ ษย์ทุกคนในประเทศนี*ได้ และใน


ความเป็ นจริ งทีทุกคนต่างก็เป็ นมนุ ษย์ ก็อาจจะมีการกระทําผิดได้ทุกคน
ตัวอย่างความไม่เป็ นธรรมก็ได้ปรากฏให้เห็นชัดเจนในสังคมนี* แล้ว กรณี
การกระทําผิดทางเพศ ข่มขืนกระทําชําเราต่อเด็กผูห้ ญิงทีอายุตาํ กว่า 15 ปี
ตามประมวลกฎหมายอาญาถือว่าเป็ นความผิดทีรุนแรงและไม่อาจจะยอม
ความได้ ก็ปรากฏขึ*นกรณี หม่อมลูกปลาทีเชื*อพระวงศ์ท่านหนึ ง(น้องชาย
ของสมเด็จพระราชินี)ได้เก็บเด็กผูห้ ญิ งบ้านนอกคนหนึ งที ชือลูกปลามา
เลี*ยงไว้ต* งั แต่อายุ 11 ขวบ เพือมาบริ การทางเพศให้แก่ ตนเป็ นระยะเวลา
ยาวนานกว่า 10 ปี แต่ก็ไม่มีการดําเนิ นคดีจนกระทัง ข้อเท็จจริ งได้ปรากฏ
แดงขึ*น ในภายหลัง, หลังจากที เกิ ดกรณี ฆาตกรรมเชื*อพระวงศ์คุณ ชาย
ท่านนั*น สังคมจึงได้รับทราบความจริ งอันขมขืนทีเด็กผูห้ ญิงบ้านนอกคน
หนึ งถูก กระทําอย่างไร้ ซึ งคุ ณ ธรรมและต้องตกเป็ นจําเลยในข้อหาฆ่ า
เชื*อพระวงศ์ท่านนั*น เป็ นต้น ซึงเหตุการณ์อนั ไม่ถกู ต้องโดยกระบวนการ
ยุติธรรมไม่อาจจะเข้าไปประสาทความยุติธรรมได้ในลักษณะนี* ยงั มีอีก
มากก็กลายเป็ นเรื องซุบซิบนิ นทากันทั*งสังคม เช่น การหายตัวอย่างลึกลับ
ของนางศิ ริ น ทิ พ ย์ ผูอ้ าํ นวยการสร้ างภาพยนตร์ และการตายอย่า งมี
ปริ ศนาด้วยโรคหัวใจล้มเหลวของ พ.ท.ณรงค์เดช ทั*งๆ ที เป็ นผูม้ ีสุขภาพ
แข็งแรง ซึงนักวิชาการจะอธิบายกระบวนการยุติธรรมของไทยที เป็ นอยู่
ในปั จจุบนั นี*อย่างไร
45

นอกจากอํา นาจตุ ล าการไม่ อ าจจะให้ ค วามเป็ นธรรมต่ อ


ประชาชนในกรณี ทีเชื*อพระวงศ์เป็ นผูก้ ระทําผิดเท่ านั*น จากโครงสร้ างที
ไม่ เป็ นประชาธิ ปไตยเช่ นนี* อํานาจตุ ลาการได้ก ลายเป็ นเครื องมื อทาง
การเมื องที ใช้ในการกล่าวหาใส่ ร้ ายประชาชนหรื อนักการเมืองที เป็ น
ปฏิปักษ์กนั ด้วยข้อหา “หมินพระบรมเดชานุ ภาพ” อันเป็ นความผิดตาม
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ทีมีโทษรุ นแรง อีกทั*งมาตรานี* ได้ถูก
ใช้เป็ นเครื องมือในการปิ ดปากประชาชนห้ามมิให้มีการวิพากษ์วิจารณ์
ใดๆ ทั*งสิ* น รวมตลอดทั*งใช้เป็ นข้ออ้างในการยึดอํานาจล้มล้างระบอบ
ประชาธิปไตยอยูเ่ สมอมา ซึงปั จจุบนั ก็มีหลักฐานเชิ งประจักษ์ทีใช้ขอ้ หา
นี* เป็ นเครื องมือทางการเมืองเพือทําลายฐานของพรรคการเมือง พรรคไทย
รั ก ไทย และทําลายพ.ต.ท.ทักษิ ณ ชิ นวัต ร อดี ต นายกรั ฐมนตรี ทีได้รั บ
ความนิ ยมชมชอบจากราษฎร แต่ ดว้ ยสํานักพระราชวังหวัน เกรงว่าจะมี
อํานาจบารมีมากขึ*น มาเที ยบหรื อมาแข่ งอํานาจของกษัตริ ยไ์ ด้ ด้วยการ
ตัดสิ นลงโทษจําคุก ยึดทรัพย์ ยุบพรรคเพือทําลายฐานอํานาจทั*งหมดของ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็ นต้น
ส่ ว นอํา นาจนิ ติ บัญ ญัติ และอํานาจบริ หารนั*น แม้จ ะมาจาก
ประชาชนโดยตรงดังทีกล่าวในเบื*องต้น แต่ ในการบริ หารอํานาจรั ฐบาล
และรั ฐสภาก็ ไ ม่ อ าจกระทํ า การใดๆ ขั ด พระราชประสงค์ ข อง
พระมหากษัตริ ย ์ ทั*งในกิ จ การส่ ว นพระองค์หรื อในกิ จการของรั ฐ เช่ น
46

โครงการตามพระราชดําริ ต่างๆ รั ฐบาลต้องตอบสนอง และรั ฐสภาไม่


อาจจะตรวจสอบการใช้เงิ นของโครงการได้เสมือนหนึ งว่าการประมูล
งานการจัด ซื* อจัด จ้า งเกี ย วกับ โครงการพระราชดําริ ที ปลัด กระทรวง
อธิ บ ดี เป็ นผูด้ ํา เนิ น การนั*น มี แต่ ค วามบริ สุ ท ธิ; ผุ ด ผ่ อ ง รวมตลอดทั*ง
กฎหมายที เข้าสู่ ก ารพิ จ ารณาของสภาจะขัด พระราชประสงค์ก็ ไม่ ไ ด้
แม้ก ระทัง พระราชบัญ ญัติ งบประมาณแผ่ น ดิ น ที ผูแ้ ทนราษฎรจะใช้
อํานาจราษฎรในการวิพากษ์วิจารณ์จาํ นวนตัวเงินและความเหมาะสมของ
โครงการพระราชดําริ ทีแฝงอยูใ่ นกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ ก็ไม่ได้ดว้ ย
มีคาํ สังลับในทุ กรั ฐบาลห้ามอภิ ปรายงบประมาณของสํานักพระราชวัง
และงบอืนๆ ทีเกียวกับโครงการพระราชดําริ โดยเด็ดขาด ดังนั*นกฎหมาย
ที ก ้า วหน้ า หลายฉบับ โดยเฉพาะกฎหมายเกี ย วกับ การจัด เก็ บ ภาษี ,
กฎหมายการถื อครองที ดิ น และภาษี ม รดกที จ ะมี ผลทําให้ได้เม็ด เงิ น
จํานวนมากมาดูแลคนยากจน, ที ในต่ างประเทศล้ว นแต่ มีระบบจัดเก็ บ
ภาษีดงั กล่าวอย่างก้าวหน้า แต่ สาํ หรั บประเทศไทยไม่อาจออกกฎหมาย
ทั*ง 2 ฉบับนี* ได้ ด้วยเพราะพระมหากษัตริ ยม์ ี ทีดินมากที สุดในประเทศ
ไทยและมี สิน ทรั พย์ทีเ ป็ นมรดกตกทอดมากที สุด ในประเทศไทย สิ ง
ทั*งหลายทั*งปวงของอํานาจฝ่ ายบริ หารและฝ่ ายนิ ติ บัญ ญัติ ทีก ล่ า วมา
ข้างต้นนี* ไม่ อาจจะกระทําได้ด ้ว ยเหตุ ผลที ว ฒ ั นธรรมและกฎหมายใน
47

สังคมไทยสร้ างขึ* นปิ ดกั*น ไว้โ ดยถือว่า “เป็ นการระคายเคือ งเบื;องยุคล


บาท”
กล่าวโดยสรุ ปก็จะเห็ นได้ว่า ที กล่าวอ้างว่าอํานาจอธิ ปไตยเป็ น
ของราษฎร โดยผ่านระบบการเลือกตั*งตัวแทนนั*นจึงเป็ นเพียงรู ปแบบซึ ง
มิใช่ ความเป็ นจริ งแต่ โดยเนื* อหาแห่ งความเป็ นจริ งนั*น อํานาจอธิ ปไตย
เป็ นของพระมหากษัต ริ ย ์ โดยเป็ นพระราชอํานาจตามที น ายประมวล
รุ จ นเสรี อดี ต ปลัด กระทรวงมหาดไทย และอดี ต รั ฐ มนตรี ช่ว ยว่ าการ
กระทรวงมหาดไทยได้บนั ทึ กความเป็ นจริ งไว้ในหนังสื อเรื องพระราช
อํานาจ
ในกรอบเศรษฐกิจ พระมหากษัตริ ยข์ องไทยเป็ นผูม้ ีสินทรั พย์อนั
เป็ นมรดกตกทอดทั*งที ดิน สิ งก่ อสร้ าง ธุ รกิ จการค้า ทั*งในประเทศและ
ต่ างประเทศ รวมทั*งทองคํา เพชรนิ ล จิ น ดา เครื อ งประดับต่ างๆ และ
ผลประโยชน์ ทีเ กิ ด ขึ* น จากการประกอบธุ ร กิ จ ในปั จ จุ บัน รวมแล้ว มี
มากมายมหาศาล โดยนิ ตยสารฟอร์ บ(FORB) ได้เสนอบทความราชวงศ์ที
รวยทีสุดในโลกเมือวันที 20 สิ งหาคม 2551 โดยระบุ ว่า พระมหากษัตริ ย ์
ของไทยมีพระราชทรัพย์มากทีสุดในบรรดา 15 ราชวงศ์ทีอยู่ในทําเนี ยบ
การจัดอันดับของฟอร์ บโดยมีพระราชทรั พย์ประมาณการได้ล่าสุ ดกว่ า
48

35 พัน ล้า นเหรี ยญสหรั ฐ (ประมาณ 1.19 ล้า นล้า นบาท ตามอัต รา
แลกเปลียน 1 ดอลล่าร์ = 34 บาท)
ความมากมายของจํานวนทรั พย์สิน ของพระมหากษัต ริ ย ไ์ ทย
มีมากจนต้องตั*งสํานัก งานบริ หารจัด การทรั พย์สิน ส่ ว นพระองค์ เป็ น
องค์กรขนาดใหญ่ทีเรี ยกว่า “สํ านักงานทรั พย์ สินส่ วนพระมหากษัตริ ย์”
ทรัพย์สินทีเป็ นทีรู้จกั ดีของราษฎร ก็คือทีดินของพระมหากษัตริ ยท์ ี ต* งั อยู่
กลางเมืองในย่านธุ รกิ จของทุ กจังหวัดในประเทศไทยที มีการเก็บค่ าเช่ า
ในแต่ ล ะเดื อ นมี มู ล ค่ า มหาศาล กิ จ การขนาดใหญ่ เ ป็ นที ท ราบกั น
โดยทัว ไป เช่ น บริ ษทั ปู นซี เมนต์ไทย ธนาคารไทยพาณิ ชย์ ศูนย์การค้า
สยามพารากอน ศู น ย์ก ารค้า ดิ โ อลด์ พลาซ่ า เจริ ญกรุ ง เป็ นต้น และ
นอกจากนี* ก็ มี ก ารถื อ หุ ้ น ในบริ ษั ท มหาชนที อ ยู่ใ นตลาดหลัก ทรั พ ย์
อีกจํานวนมาก ซึงรายได้หลักของพระมหากษัตริ ยท์ ี มาจากกิ จการต่ างๆ
อันได้แก่ ค่าเช่าทีดินและธุรกิ จต่ างๆ แล้วยังมีรายได้หลักจากเงิ นบริ จาค
ต่างๆ จากราษฎร และจากบริ ษทั ห้างร้ านต่ างๆ ในโอกาสวันสําคัญๆ อีก
มากมายในแต่ละปี


แปลภาษาไท ย ตี พิ ม พ์ ใ น http://www.prachatai.com/05web/th/home/13273
วันที 22 สิ งหาคม 2551
49

ธุ ร กิ จของพระมหากษัตริ ย ์ นอกจากจะไม่ มีความเสี ยงต่ อการ


ขาดทุนตามกลไกตลาดของระบบการค้าแล้ว ยังได้รับการคุ ม้ ครองจาก
ระบบอํานาจการเมืองทีทุกรัฐบาลจะต้องดูแลคุม้ ครองให้ เช่ น การขอขึ*น
ราคาปูน ซี เมนต์ซึ งเป็ นสิ น ค้าควบคุ มจะมีอยู่เสมอในทุ กๆ ปี หรื อกรณี
เกิ ด วิ ก ฤตเศรษฐกิ จ ค่ า เงิ น บาทในปี 2540 เป็ นผลให้ ธุ ร กิ จ ของ
พระมหากษัตริ ย ์ เช่น บริ ษทั ปูนซีเมนต์ไทย และธนาคารไทยพาณิ ชย์ตอ้ ง
ประสบกับภาวะล้มละลาย ก็ ปรากฏหลัก ฐานเป็ นที ทราบกัน ทัวไปว่ า
รั ฐ บาลของนายชวน หลี ก ภั ย โดยนายธาริ นทร์ นิ ม มานเหมิ น ทร์
รั ฐมนตรี ว่าการกระทรวงการคลัง ก็ได้นาํ เงิ นภาษี ของประชาชนไปอุ ม้
กิจการดังกล่าวจนพ้นวิกฤต
หากจะพิจ ารณาถึงอํานาจเศรษฐกิ จในประเทศไทย ก็สามารถ
สรุ ปได้ว่ ากลุ่ มธุ รกิ จการลงทุ นที ใหญ่ ทีสุดก็ คือกลุ่ มทุ น ของราชสํานัก
ซึงมีท* งั ทุนและอํานาจทางการเมืองให้ความคุม้ ครอง ลักษณะทุนเช่นนี* ได้
กลายเป็ นต้น แบบของระบบทุ น นิ ย มในประเทศไทย ซึ ง มี ศ ัพ ท์ ท าง
วิชาการเรี ยกว่ า “ระบอบทุ นนิ ยมขุน นาง” กล่าวคื อได้มีบริ ษทั เอกชน
ขนาดใหญ่ จ าํ นวนมากได้น ําหุ ้นของบริ ษทั ตนจํานวนหนึ งถวายให้แก่
พระมหากษัตริ ยแ์ ละพระบรมวงศานุ วงศ์ พร้ อมทั*งแบ่ งปั นผลประโยชน์
ให้เป็ นประจําทุกปี ทั*งนี*ก็เพือให้ได้รับการคุม้ ครองหรื อเกิ ดความเกรงใจ
ของหน่ วยงานราชการในการจั ด เก็ บ ภาษี แ ละบั ง คั บ ใช้ ก ฎหมาย
50

บริ ษทั เอกชนในลัก ษณะนี* ได้ถูก จัดอยู่ในกลุ่มความหมายของระบอบ


ทุ นนิ ยมขุนนางด้วย จะสังเกตได้ง่ายโดยดูจากรู ปตราครุ ฑที ติดอยู่หน้า
บริ ษทั นั*นๆ
จากข้ อสรุ ปการวิเคราะห์ ความเป็ นระบอบสมบู รณาญาสิ ทธิราช
ใหม่โดยมองจากกรอบอํานาจทางเศรษฐกิจ ก็จะเห็นว่ าพระมหากษัตริ ย์
ไทยยั ง ทรงมี อํ า นาจพิ เ ศษทางเศรษฐกิ จ สู งสุ ดของรั ฐ ไทย เฉก
เช่ นเดี ย วกั บ เมื อ ครั; ง อาณาจั ก รสยามยั ง คงปกครองด้ ว ยระบอบสม
บูรณาญาสิ ทธิราชแบบดั;งเดิม
ในกรอบวัฒ นธรรม แม้คาํ พูดของพระมหากษัตริ ย ไ์ ทยจะมิใช่
กฎหมายดังที เรี ยกว่าพระบรมราชโองการ เหมือนอย่างแต่ ก่อนเมือครั*ง
ปกครองโดยระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิ ราชก็จริ ง แต่ โดยการสร้ างระบบ
วัฒนธรรมทีรวมศูนย์อาํ นาจความเชือถือไว้ทีองค์พระมหากษัตริ ยป์ ระดุ จ
ดังสมมุติเทพ และอํานาจทางกฎหมายทีหา้ มวิพากษ์วิจารณ์โต้แย้งต่อองค์
พระมหากษัตริ ยท์ ีมีโทษรุ นแรง ได้สร้ างอํานาจเผด็จการทางวัฒนธรรม
ขึ* น ทําให้พระราชอํานาจของพระมหากษัต ริ ย ใ์ นระบอบสมบู รณาญา
สิ ทธิ ร าชใหม่ มี ค วามเข้มแข็ ง ยิงกว่ า ในระบอบสมบู ร ณาญาสิ ทธิ ร าช
ดั*งเดิมเสี ยอีก กล่าวคื อ ไม่เฉพาะแต่ คาํ พูดของพระมหากษัตริ ยเ์ ท่ านั*นที
ต้องปฏิบตั ิ ตามเสมือนหนึ งเป็ นกฎหมาย เพียงแต่ แค่ แนวคิ ดก็กลายเป็ น
กฎหมายเช่ น เดี ย วกัน เช่ น แนวคิ ด เรื อ งเศรษฐกิจ พอเพีย ง ซึ ง สังคม
51

เรี ยกว่า “แนวพระราชดําริ ” ก็กลายเป็ นสิ งสําคัญที ใครๆ จะโต้แย้งไม่ได้


และจากอํานาจเผด็จการทางวัฒนธรรมนี* รั ฐบาลสุ รยุทธ จุ ลานนท์ ที มา
จากการยึ ด อํา นาจหรื อเรี ยกว่ า รั ฐ บาลพระราชทานก็ ไ ด้ แ ปรแนว
พระราชดําริ ซึงเป็ นอํานาจเผด็จการทางวัฒนธรรม เป็ นอํานาจเผด็จการ
ทางกฎหมายโดยไม่มีใครโต้แย้งได้ โดยการนําแนวพระราชดําริ ไปบรรจุ
ไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 เป็ นแนวนโยบายเศรษฐกิจหลักแห่ งรั ฐซึ ง
เป็ นผลให้ไม่ว่ าพรรคการเมื องใดจะเสนอนโยบายเศรษฐกิ จ ทีแตกต่ าง
จากพระราชดําริ ต่อราษฎรแม้ว่าจะได้รับความเห็นชอบจากราษฎรในการ
เลื อ กตั*ง แล้ว ก็ ไ ม่ อ าจจะดํา เนิ น การได้เ พราะเป็ นการกระทํา ผิ ด ต่ อ
รั ฐธรรมนู ญซึ งจะถูกอํานาจตุ ลาการ คื อศาลรั ฐธรรมนู ญ ซึงเป็ นอํานาจ
ของพระมหากษัตริ ยถ์ อดถอนออกจากการเป็ นรัฐบาลได้
หากจะวิเคราะห์เจาะลึกลงไปถึงรากฐานวัฒนธรรมทางศาสนา
รัชกาลปั จจุบนั แห่ งราชวงศ์จกั รี แม้จะอยู่ในศตวรรษที 21 ที โลกทั*งโลก
เจริ ญด้วยเทคโนโลยี ราษฎรในทุกประเทศแข่งขันทางด้านการศึกษาและ
พัฒนาการทางวิทยาศาสตร์ แต่วฒั นธรรมของประเทศไทยโดยมีสถาบัน
พระมหากษัตริ ยเ์ ป็ นผูน้ าํ ดูเสมือนจะหันหลังให้แก่ โลกทางวิทยาศาสตร์
ด้วยการเป็ นผูน้ าํ ทางจิตวิญญาณในการปลุกเสกวัตถุมงคล เครื องรางของ
ขลัง จนกระทัง ในปี พ.ศ.2549 ต่ อ 2550 ซึ งเป็ นช่ วงการรั ฐประหารยึด
อํานาจโดยการนําของพลเอกสนธิ บุ ญ ยรั ต กลิน ที มีผลทําให้เศรษฐกิ จ
52

ตกตํา แต่ ปรากฏว่ายอดการซื*อขายจตุ คามรามเทพ เครื องรางของขลัง


สัญลักษณ์แห่ งศาสนาพราหมณ์มีตวั เลขสูงจนช่วยให้เกิดการขยายตัวทาง
เศรษฐกิ จ เติ บ โตขึ* น รวมตลอดถึ ง การใช้ชื อ ราชวงศ์ว่ า ราชวงศ์จ ัก รี
และสัญลักษณ์แห่ งราชวงศ์เป็ นครุ ฑก็ดี ล้วนแล้วแต่ เป็ นสัญลักษณ์ แห่ ง
ศาสนาพราหมณ์ และมีพราหมณ์ประจําราชสํานักในการดูฤกษ์ดูยามและ
ผูก ดวงชะตาราศี ในการกําหนดพระราชพิ ธีต่ างๆ ทั*งหมด โดยคนใน
ราชวงศ์ช* ัน สู งก็ เ ชื อมัน ในกรอบแนวคิ ด แบบพราหมณ์ มากกว่ า พุ ท ธ
จนกระทัง ก่ อให้ เกิ ด ปั ญ หาความขัด แย้ง ทางการเมื องขึ* น เช่ น สมเด็ จ
พระราชิ นีก็ ทรงเชื อว่ าพระองค์คือพระนางศรี สุริ โ ยทัย (ผูเ้ คยช่ วยพระ
สวามีจนกระทัง สิ*นพระชนม์บนคอช้างเมือสมัยอยุธยาเป็ นราชธานี )กลับ
ชาติ มาเกิ ด ในปั จ จุ บัน นี* และทรงสนับ สนุ น ให้ สร้ า งภาพยนตร์ เ รื อง
สุ ริโยทัยเพือประกาศเกียรติคุณของสมเด็จพระราชิ นีทีจงรั กภักดี ต่อองค์
พระมหากษัตริ ยใ์ ห้ประชาชนได้รับรู้ และในชาติ น* ี พระองค์ก็จะมาช่ วย
กอบกูบ้ า้ นเมืองเหมื อนเช่ นอดี ตอีกจนกลายเป็ นปั ญหาวิกฤตการณ์ ทาง
การเมืองในขณะนี* ด้วยเพราะเชือว่าพ.ต.ท.ทักษิ ณ ชิ นวัตร อดี ตชาติ เป็ น
พระเจ้า ตากสิ น กลับชาติ ม าเกิ ด เพราะมี ชื อที ส ะกดเป็ นภาษาอังกฤษ
(TAKSIN) ออกเสี ยงเหมือนกัน และจะมาล้างแค้นราชวงศ์จกั รี อนั เป็ นผล
จากความขัดแย้งทางการเมืองในอดีตชาติ
53

ปั จจุ บั น นี; แม้ ราษฎรส่ วนใหญ่ จะนั บ ถื อ ศาสนาพุ ท ธ แต่ ก็ไ ม่


อาจจะกล่ าวได้ ว่าประเทศไทยมีศาสนาพุทธเป็ นศาสนาประจําชาติเพราะ
จากสภาพความเป็ นจริงหากจะกล่ าวว่ า “ประเทศไทยมีศาสนาพราหมณ์
เป็ นศาสนาประจําชาติ” น่ าจะมีเหตุผลมากกว่ า
การคงรักษาวัฒนธรรมทางไสยศาสตร์ ด* งั เดิ มไว้ในภาวะที โลก
กําลังค้นคว้าพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ และโลกกําลังพัฒนาความสัมพันธ์
ระหว่างรั ฐด้วยการแข่ งขันทางเศรษฐกิ จ ได้ก่อให้เกิ ดความขัดแย้งทาง
วัฒนธรรมเก่ากับใหม่ข* ึนในประเทศไทย แต่สถาบันกษัตริ ยก์ ็ได้พยายาม
ระดมนักคิดนักวิชาการเพือสร้างระบบคิดหาเหตุผลสร้างความชอบธรรม
ให้แก่ ข ้อคิ ด ทางไสยศาสตร์ เพื อกล่ อมเกลาให้ประชาชนเชื อในสิ ง ที
พิสูจน์ไม่ได้ เช่นชาติกาํ เนิ ด,โลกนี*และโลกหน้า, เมือตายแล้วจะต้องกลับ
ชาติ มาเกิ ด ใหม่ และเรื องเทพยาดาฟ้ าดิ นโดยจะรู้ ความลึกลับเหล่านี* ได้
จะต้องฝึ กสมาธิ นังทางในจึ งจะรู้ อดี ต ชาติ ได้ โดยมี เกจิ อาจารย์ต ามวัด
ต่างๆ ทีราชสํานักกําหนดขึ*นว่าเป็ นผูว้ ิเศษหลายคนที หลงเชื อก็เดิ นทาง
ไปสู่สาํ นักเกจิอาจารย์เพือฝึ กฝน ถ้ายังไม่เห็ นสวรรค์เกจิ อาจารย์ก็อา้ งว่า
ยังฝึ กฝนไม่ เพีย งพอ, ถ้ายังไม่ เห็ น อดี ตชาติ ก็อา้ งว่ าจิ ตยังหยาบ เป็ นต้น
ทั*งนี* เพือให้ประชาชนยอมรั บการมีอาํ นาจรั ฐของพระมหากษัตริ ย ์ และ
ราชวงศ์ทีทาํ บุญมาแต่ชาติปางก่อนจึงมีสิทธิทีจะเสพสุ ขจากเงินภาษีอากร
ของราษฎรได้อย่างชอบด้วยเหตุผล ในขณะทีคนไทยส่ วนใหญ่แม้ยากจน
54

แต่ก็จาํ ยอมด้วยระบบคิดทีถกู สร้างขึ*นและไม่อาจจะโต้แย้งได้ดว้ ยเหตุผล


กําปั*นทุบดินว่า “ไม่เชืออย่าลบหลู่” หรื ออาจจะเจอข้อหา “หมินพระบรม
เดชานุ ภาพ” ก็ได้ ดังนั*นจึ งต้องยอมรั บว่าพระมหากษัตริ ยค์ ื อสมมุติเทพ
โดยไม่โต้แย้ง
ในกระบวนการทางวัฒนธรรมความเชือนับว่าเป็ นแนวรบที ทาง
ราชสํานัก ให้ความสําคัญ เพื อสร้ างระบบคิ ด ครอบงําสังคมให้ร าษฎร
เชือถือและยอมรั บทั*งการดํารงอยู่และแนวคิ ดของพระมหากษัตริ ย ์ ด้วย
เหตุน* ีจึงมีการระดมนักวิชาการผูข้ ายจิ ตวิญญาณมาร่ วมคิ ดเพือหาเหตุ ผล
มาสนับสนุ นแนวคิ ดของกษัตริ ยใ์ ห้เลอเลิศ เช่ น แนวพระราชดําริ เรื อง
เศรษฐกิ จ พอเพี ย งก็ เห็ น กัน อย่างตําหู ต าํ ตาว่ าพระองค์สอนให้ร าษฎร
ประหยัด แต่ ก ารใช้ชี วิ ต ของพระองค์ แ ละราชวงศ์ก็ ใ ช้จ่ า ยกัน อย่ า ง
ฟุ่ มเฟื อย ไม่ มี พ ระองค์ ใ ดประหยัด เลย และพวกนั ก วิ ช าการหรื อ
องคมนตรี , รั ฐมนตรี ท* งั หลายที สังสอนชาวบ้านเรื องเศรษฐกิ จพอเพีย ง
นั*นก็ลว้ นแต่เป็ นมหาเศรษฐี มีทรัพย์สินเกินพอทั*งสิ*น ในขณะที ราษฎรที
ฟังคนพวกนี* พดู นั*นวันๆ ไม่พอจะกิน หรื อแม้แต่ในภาวะเศรษฐกิ จตกตํา
ในปั จจุบนั พระมหากษัตริ ยท์ รงมีพระราชดํารั สเตื อนรั ฐบาลว่าให้ใช้เงิ น
งบประมาณด้ว ยความประหยัด ให้ รั ก ษาวิ นั ย การเงิ น การคลัง อย่ า ง
เคร่ งครั ด แต่ จากความเป็ นจริ งในงานพระราชพิธีพระราชทางเพลิงศพ
สมเด็จพระเจ้าพีนางเธอฯ ก็ใช้จ่ายเงินอย่างมากมาย เฉพาะพระเมรุ มาศที
55

สร้ า งแล้ว ก็ ต ้ อ งรื* อทิ* ง มี มู ล ค่ า สู ง ถึ ง 300 ล้า นบาท และค่ า ใช้ จ่ า ย


งบประมาณทั*งหมดในการจัดงานประมาณ 1 ปี ที ผ่านมา สู งถึงประมาณ
3,000 ล้านบาท ซึ งเป็ นเงิ นภาษี ของราษฎร จํานวนเงิ นนี* สูงเกื อบเท่ ากับ
งบประมาณประจําปี ของกระทรวงพาณิ ชย์หรื อกระทรวงต่ างประเทศทั*ง
ปี ซึงขัดแย้งกับพระราชดํารั สที เตื อนรั ฐบาล แต่ พวกนักวิชาการผูท้ รยศ
ต่ อวิชาชี พก็ต่างปิ ดปากเงี ยบทําไม่ รู้ไม่เห็ นแล้วก้มหน้าก้มตาหาเหตุ ผล
จากมุ มมองแปลกๆ มาเชี ย ร์ แนวคิ ด เศรษฐกิ จ พอเพีย งกัน ตะพึด ตะพื อ
ทั*งๆ ทีนกั วิชาการก็รู้แก่ใจว่าการเสนอแนวคิดนี*แท้จริ งคือ การหลอกลวง
เมื อ มองทั; ง ในกรอบโครงสร้ า ง อํา นาจ การเมือ ง เศรษฐกิ จ
วัฒนธรรม แล้ วก็จะเห็นว่ าทีมาแห่ งอํานาจในปั จจุบันนีม; แี ต่ เพียงรู ปแบบ
เท่ า นั; น ที เ รี ย กว่ า ประชาธิ ป ไตย แต่ เ นื;อ ของอํานาจที แ ท้ จริ ง เป็ นของ
พระมหากษัตริย์ จึงไม่ อาจจะกล่ าวเป็ นอย่ างอืน ได้ ว่าระบอบการปกครอง
ของไทยวั น นี;ไ ม่ ใ ช่ ร ะบอบประชาธิ ป ไตยอั น มี พระมหากษั ตริ ย์ เ ป็ น
ประมุขแต่ แท้ จริง คือ ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่
56

2.3 วันชาติภาพสะท้ อนรัฐคือกษัตริย์


หากจะมองระบอบการปกครองผ่ านสั ญลักษณ์ ของรัฐคือวันชาติ
ก็จะเห็นชั ดเจนว่ า รั ฐนี;ไม่ ใช่ รัฐของราษฎร แต่ รัฐนี;เป็ นรั ฐของกษัตริ ย์
เพราะวันชาติคอื วันที 5 ธันวาคม คือวันเกิดของกษัตริย์
ประเทศทุ ก ประเทศจะมี ว ัน ชาติ ซึ ง เป็ นวัน สํา คัญ ของรั ฐ ซึ ง
ส่ วนมากจะถือเอาวันที ประชาชนเข้ามามีส่วนร่ วมในการสร้างชาติ มาก
ทีสุด เช่น วันประกาศเอกราชจากการเป็ นอาณานิ คม วันที 4 กรกฎาคม
เป็ นวั น ชาติ อ เมริ กาที ป ระเทศได้ เ อกราชจากอั ง กฤษ หรื อวัน ที
เปลียนแปลงระบอบการปกครองรัฐใหม่ เช่น วันที 1 ตุลาคม เป็ นวันชาติ
รั ส เซี ย ที เ ปลี ย นแปลงจากระบอบสมบู ร ณาญาสิ ท ธิ ร าชโดยโค่ น ล้ม
ราชวงศ์โ รมานอฟมาเป็ นระบอบสาธารณรั ฐ ซึ ง ประเทศไทยก็ เ คย
ประกาศใช้วนั ที 24 มิถุนายน ของทุ กปี เป็ นวันชาติ เมือครั* งคณะราษฎร
ซึงเป็ นแกนนําการเปลียนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิ
ราชมาเป็ นระบอบประชาธิ ปไตยอันมีพระมหากษัตริ ยท์ รงเป็ นประมุ ข
แบบอังกฤษ แต่เมือสิ*นสุ ดอํานาจของคณะราษฎร และเข้าสู่ยคุ ร่ วมมือกัน
ระหว่างราชสํานักกับทหารอย่างเข้มแข็งในสมัยจอมพลสฤษดิ; ธนะรั ชต์
ก็ร*ื อฟื* นอํานาจราชวงศ์ข* ึ นโดยใช้ว นั ที 5 ธันวาคม ซึ งเป็ นวัน พระราช
สมภพของรัชกาลปั จจุบนั เป็ นวันชาติ และก็ใช้สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี*
ซึงก็เป็ นภาพสะท้อนให้เห็ นชัดเจนว่าวันสําคัญของรั ฐไทยนี* คือวันของ
57

กษัตริ ยน์ นั ก็คือวันต่างๆ ทีสาํ คัญในรั ฐนี* รวมศูนย์อยู่ทีตวั พระองค์ ไม่ว่า
จะเป็ นวันชาติ ,วันขึ*นครองราชย์,วันแต่ งงาน รวมตลอดทั*งวันสําคัญใน
รัชกาลก่อนๆ ก็นาํ มารวมเป็ นวันสําคัญของประเทศด้วย ซึงสิ งเหล่านี* คือ
สัญ ลัก ษณ์ ทีบ่งชี* ถึงอํานาจรวมศูน ย์อยู่ทีพระมหากษัต ริ ย ์ มิ ใช่ ร าษฎร
และสิ งนี* คือสัญ ลักษณ์ แห่ งระบอบปกครองแบบสมบูร ณาญาสิ ทธิ ราช
นัน เอง
กล่ าวโดยสรุ ป ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่ กค็ อื ระบอบการ
ป ก ค รอ ง ที ก ล ไ ก อํ า น า จทั; ง ห ล า ย ข อ ง รั ฐ รว ม ศู น ย์ อ ยู่ ที อ ง ค์
พระมหากษัตริ ย์ แ ละครอบครั ว เพีย งแต่ มีอ งค์ ก รอํานาจอืน ๆ ของรั ฐ
ทําหน้ าทีเสมือนหนึงเป็ นของราษฎร เช่ น องค์ กรรั ฐบาล,องค์ กรรั ฐสภา
องค์ ก รศาล แต่ แท้ จริ ง ทํ า งานภายใต้ ต ามพระราชประสงค์ ข อง
พระมหากษัตริย์

2.4 ประชาธิปไตยพระราชทานคือสมบูรณาญาสิทธิราชใหม่
มีการถกเถียงกัน มากในทางประวัติศาสตร์ ว่ าพระมหากษัตริ ย ์
ไทยมีแนวคิดประชาธิปไตย และเตรี ยมจะมอบอํานาจการปกครองตัวเอง
ให้แก่ ประชาชนแล้ว แต่ ค ณะราษฎรใจร้ อนเกิ นไปที ทาํ การปฏิว ตั ิ แย่ง
อํานาจเมื อวัน ที 24 มิ ถุ น ายน 2475 และปั จ จุ บัน เมื อมี ก ารตั*งสถาบัน
พระปกเกล้าขึ* น เพื อทําหน้าที ส่งเสริ มแนวคิ ดการปกครองในระบอบ
58

ประชาธิ ปไตยอั น มี พ ระมหากษั ต ริ ย์ ท รงเป็ นประมุ ข โดยเป็ น


สถาบัน การศึ ก ษาของรั ฐ สภา แต่ ป รากฏว่ า หน้ าที ห ลัก ของผูบ้ ริ ห าร
สถาบันคื อทําหน้าที ทาํ ลายระบอบการปกครองประชาธิ ปไตย เพราะ
ผลงานของสถาบันพระปกเกล้าที เด่ นชัดคื อสนับสนุ นการยึดอํานาจล้ม
ระบอบประชาธิปไตยเมือ 19 กันยายน 2549 และนับแต่ ต* งั ขึ*น สถาบันฯ
ก็ทาํ หน้าทีบิดเบื อนป้ ายสี ความผิดให้แก่ คณะราษฎรมาตลอด โดยเชิ ดชู
พระปกเกล้ารัชกาลที 7 ว่าเป็ นนักประชาธิ ปไตย ซึ งทั*งหมดมีเพียงความ
จริ งบางส่ วนเพียงน้อยนิ ด กล่าวคื อที สถานการณ์ ปลายรั ชกาลที 7 ก่ อน
เปลียนแปลงการปกครองได้เกิ ดวิกฤตต่ อสถาบันพระมหากษัตริ ยอ์ ย่าง
รุ น แรง และรั ช กาลที 7 ก็ รู้ พระองค์เ องว่ าไม่ อาจจะประคับ ประคอง
ระบอบสมบูร ณาญาสิ ทธิ ราชแบบดั*งเดิ มต่ อไปได้แล้วด้วยในขณะนั*น
เป็ นช่วงรอยต่อระหว่างรัชกาลที 6 กับรั ชกาลที 7 ได้เกิดวิกฤตเศรษฐกิ จ
ของโลกกระทบต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ งบประมาณได้เกิ ดการขาด
ดุลติดต่อกันตั*งแต่ ปี 2465 ถึง 2568 และเกิ ดการตื นตัวทางการเมืองของ
ผูม้ ีการศึกษาในเขตเมืองหลวง และการเฟื องฟูของสื อมวลชนมีการเปิ ด
กิจการหนังสื อพิมพ์และวารสารจํานวนมาก โดยเฉพาะหนังสื อพิมพ์ราย
59

วัน ในขณะนั*น มี ม ากถึ ง 35 ฉบั บ และมี ว ารสารประมาณ 130 กว่ า


ฉบั บ  ทํา ให้ เ กิ ด การแพร่ ขยายแนวคิ ด ทางการเมื อ งออกไปมาก
โดยเฉพาะในหมู่ผมู้ ีการศึกษา(คล้ายเหตุ การณ์ ในปั จจุ บนั ที สือขยายตัว
อย่างมากในรู ปแบบใหม่คืออินเตอร์ เน็ต และแนวคิดการเมืองขยายตัวลง
สู่ รากหญ้า) และได้มีบทความในหน้าหนังสื อพิ มพ์โจมตี ราชสํานักเชิ ง
กระทบกระเที ยบอยู่เสมอ เช่ น บทความเรื อง “เห็ นว่าเจ้าเป็ นลูกตุ ม้ ถ่วง
ความเจริ ญ” ในหนังสื อพิมพ์ราษฎร ฉบับวันพุธที 9 มกราคม 2471
ด้วยเหตุแห่ งสถานการณ์การเมืองไทยในขณะนั*นรั ชกาลที 7 จึ ง
พยายามจะหาทางออกที จ ะผ่อนคลายโดยสร้ างระบอบประชาธิ ปไตย
แบบไทยๆ ขึ* น โดยเป็ นประชาธิ ปไตยภายใต้อาํ นาจของสมบู รณาญา
สิ ทธิราช, มี 3 อํานาจ คล้ายๆ ทุกวันนี*คือมีคณะรั ฐมนตรี (อํานาจบริ หาร)
มีรัฐสภา(อํานาจนิ ติบญั ญัติ), และศาล (อํานาจตุลาการ ซึงเป็ นอํานาจของ
พระมหากษัตริ ยอ์ ยูเ่ ดิมจนถึงปั จจุบนั นี*) ซึงระบบ 3 อํานาจนี* ในขณะนั*น
ก็เป็ นที รู้จ ักกัน ทั*งโลกเพราะได้ต* งั มัน ในยุโ รปและอเมริ ก า และถูก ใช้
อย่างมีประสิ ทธิภาพแล้ว แต่ท* งั 3 อํานาจตามแนวคิ ดของรั ชกาลที 7 นั*น
มิใช่เป็ นประชาธิปไตยแบบทีโลกใช้กนั อยูใ่ นขณะนั*น หากแต่เป็ นอํานาจ
ทีพระมหากษัตริ ยท์ รงเป็ นผูแ้ ต่งตั*งเอง และมีอาํ นาจถอดถอนได้


การเมื องการปกครองไทยสมัยใหม่, ชัยอนันต์ สมุ ท วาณิ ช หน้า 219, 2522
โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
60

พระปกเกล้าฯ รั ชกาลที 7 มีทีปรึ กษาคนสําคัญเป็ นฝรังสัญชาติ


อเมริ กนั คือ ดร.ฟรานซิส บี.แซร์ (Mr.Francis B.Sayre) ซึงได้รับพระราช
ทินนามเป็ นพระยากัลยาณไมตรี โดยพระองค์ได้เขียนหนังสือด้วยลายมือ
ของพระองค์ (พระราชหัตถเลขา) ลงวันที 23 กรกฎาคม 2469 เล่าความ
เน่ าเฟะในพระราชสํานักให้นายฟรานซิส บี.แซร์ และพยายามหาทางออก
ปรากฏอยู่ใ นหนั ง สื อเอกสารวิ ช าการของสมาคมสั ง คมศาสตร์ แ ห่ ง
ประเทศไทย โดยนายชัยอนันต์ สมุทวาณิ ช ตีพิมพ์โดยโรงพิมพ์มหาวิทยา
ลันธรรมศาสตร์ ปี 2522 ในหน้า 226 ความว่า
“ตามทีท่านทราบดีอยูแ่ ล้วว่าพระมหากษัตริ ยท์ รงไว้ซึ งพระราช
อํานาจเด็ดขาดในทุกสิงทุกอย่าง หลักการข้อนี*เป็ นสิงที ดีมาก และเหมาะ
กั บ ประเทศนี* อย่ า งยิ ง ตราบเท่ าที เรามี พ ระมหากษั ต ริ ย์ ที ดี ถ้ า
พระมหากษัต ริ ย์เ ป็ นอเนกนิ ก รสโมสรสมมติ จ ริ งก็ เ ป็ นที ห วัง ได้ว่ า
พระองค์จะทรงเป็ นกษัตริ ยท์ ี ดีพอประมาณ แต่ ความคิ ดเรื องอเนกนิ ก ร
สโมสรสมมติ น* ี แท้ทีจริ งเป็ นแต่ ทฤษฎี เท่ านั*น ตามความเป็ นจริ งแล้ว
กษัตริ ยข์ องสยามครองราชย์โดยการสื บสันตติ วงศ์ ซึ งก็มีผจู้ ะให้เลือกที
จํากัด มาก ด้ว ยเหตุ น* ี เองจึ งไม่ แ น่ น อนว่ าเราจะมี ก ษัต ริ ย์ที ดี เ สมอไป
ฉะนั*นอํานาจเด็ดขาดอาจกลายเป็ นภยันตรายโดยตรงต่อประเทศก็เป็ นได้
นอกจากนี*เหตุการณ์ก็เปลียนไปมาก ในสมัยก่อนนั*นไม่มีการตั*งข้อสงสัย
ใดๆ ในพระราชกรณี ยกิ จของพระมหากษัตริ ยเ์ ลย เพราะจะเป็ นการไม่
61

ปลอดภัยเลยที จะทําเช่ น นั*น พระมหากษัต ริ ย เ์ ป็ นที เคารพนับถื ออย่าง


แท้จ ริ ง และพระราชดําริ ของพระองค์ก็คือกฎหมายเราดี ๆ นี เอง แต่ สิ ง
เหล่านี*เริ มจะเปลียนแปลงไปตามกาลเวลาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั นั*น พระมหากษัตริ ยย์ งั ทรงเป็ นที เกรงกลัวและ
เคารพนับถือ แม้กระนั*นในปลายรัชสมัยของพระองค์ก็ยงั มีคนหนุ่ มคณะ
หนึ งเริ มวิ จ ารณ์ พระองค์ในหลายเรื อ งด้ว ยกัน แต่ ก็ มิไ ด้ก ระทํา อย่า ง
เปิ ดเผย ในรัชกาลทีเพิงจะสิ*นไปเร็ วๆ นี* สภาพการณ์ ยิงเลวร้ ายลงไปมาก
ด้วยเหตุ ผลหลายประการ ซึ งล้ว นไม่มีความจําเป็ นที จะต้องเล่าต่ อท่ าน
เพราะท่ านคงจะทราบดี อยู่แล้ว พระมหากษัต ริ ยก์ ลายเป็ นผูท้ ี ถูกหว่าน
ล้อมชักจูงได้โดยใครก็ได้ ซึงเป็ นผูท้ ีคุน้ เคยกับผูซ้  ึงเป็ นทีโปรดปรานของ
พระองค์ ข้าราชการทุกคนก็มกั จะถูกสงสัยว่าทําการฉ้อฉลหรื อไม่ก็เล่น
พรรคเล่ น พวก แต่ ย งั นั บว่ าเป็ นโชคที เ จ้านายชั*น สู งยังคงได้รั บความ
เคารพนับถือว่าเป็ นผู้ ทีมีความซือสัตย์อยู่ สิ งที น่าเสี ยใจเป็ นอย่างยิงก็คือ
การทีราชสํานักถูกดูหมินดูแคลน และในระยะใกล้จะสิ* นรั ชกาลก็กาํ ลัง
จะเริ มถู ก เยาะหยัน กํ า เนิ ด ของหนั ง สื อ พิ ม พ์ ที มี อิ ส ระเสรี ทํา ให้
สภาพการณ์ดงั กล่าวนี*ยา ํ แย่ลงไปอีกมาก ฐานะของพระมหากษัตริ ยต์ อ้ ง
ตกอยู่ในความยากลําบากอย่า งยิง ความเคลื อนไหวทางความคิ ด ใน
ประเทศนี* ชี* ให้เห็ น สัญ ญาณอันแน่ ชัดว่าวัน เวลาของการปกครองแบบ
ผูน้ าํ ถืออํานาจสิ ทธิ;ขาดแต่ ผเู้ ดี ยวใกล้จะหมดลงทุ กที ถ้าราชวงศ์น* ี จะอยู่
62

ได้ต ลอดรอดฝัง ก็ จะต้องทําให้ฐานะของพระมหากษัตริ ยม์ นั คงกว่าที


เป็ นอยูจ่ ะต้องหาหลักประกันบางอย่างในการป้ องกันพระมหากษัตริ ยท์ ี
ไม่ฉลาดนัก”
ในพระราชหั ต ถเลขาฉบับ นี* พระบาทสมเด็ จ พระปกเกล้า
เจ้าอยูห่ วั ทรงปรึ กษาพระยากัลยาณไมตรี ดว้ ยว่าถึงเวลาแล้วหรื อยังที จะ
เปลียนรู ปการปกครองไปเป็ นประชาธิ ปไตยโดยมีรัฐสภา และควรจะมี
รัฐธรรมนูญในรู ปใด พระยากัลยาณไมตรี ตอบพระราชปรารภว่าในเวลา
นี* ย งั ไม่ค วรมี การปกครองระบอบรั ฐสภา และเสนอให้ใช้ร ะบอบการ
ปกครองแบบสมบูรณาญาสิ ทธิ ราชต่ อไป แต่ แนะนําให้นาํ ระบอบการมี
นายกรัฐมนตรี รับผิดชอบในการบริ หารราชการแผ่นดินมาใช้ และได้ร่าง
รัฐธรรมนูญฉบับ ดร.ฟรานซิส บี.แซร์ ถวาย ซึ งมีเพียง 12 มาตราเท่ านั*น
และเพื อ เป็ นบทศึ ก ษาตอบโต้ ส ถาบั น พระปกเกล้า ให้ เ ห็ น ว่ า เรื อง
ประชาธิ ปไตยที รั ชกาลที 7 จะมอบให้น* ัน เป็ นเรื องจอมปลอมทั*งสิ* น
จึงนําร่ างรัฐธรรมนูญฉบับ ดร.ฟรานซิส บี.แซร์ ที มีการกล่าวอ้างกันมาก
ว่าเป็ นรัฐธรรมนูญทีรัชกาลที 7 จะพระราชทานให้เพือให้มีการปกครอง
ด้ ว ยระบอบประชาธิ ป ไตย มาตี พิ ม พ์ เ พื อ เป็ นประจั ก ษ์ พ ยานว่ า
ประชาธิปไตยพระราชทานนั*นมีจริ งหรื อไม่ ดังนี*
63

ร่ างรัฐธรรมนูญของพระยากัลยาณไมตรี
มาตรา ๑ พระมหากษัต ริ ย ท์ รงพระราชอํานาจสู งสุ ด ตลอด
พระราชอาณาจักร
มาตรา ๒ พร ะ มห า ก ษั ต ริ ย์ ท ร ง แ ต่ ง ตั* ง และ ถอด ถอน
นายกรัฐมนตรี ผูซ้ ึงจะรับผิดชอบในการบริ หารราชการแผ่นดิน
มาตรา ๓ นายกรั ฐมนตรี เป็ นผูแ้ ต่ งตั*งและถอดถอนรั ฐมนตรี
ประจํากระทรวงต่างๆ และรับผิดชอบโดยตรงต่อพระมหากษัตริ ยใ์ นการ
บริ หารของทุกกระทรวง นายกรัฐมนตรี เป็ นผูป้ ฏิบตั ิตามนโยบายต่ างๆ ที
รั บมอบหมายไปจากพระมหากษัตริ ย ์ และเป็ นผูป้ ระสานงานระหว่ าง
นโยบายเหล่านี* ก ับการบริ หารงานให้เป็ นไปตามนโยบายดังกล่ าวของ
กระทรวงต่างๆ
มาตรา ๔ รั ฐมนตรี รั บผิดชอบโดยตรงต่ อนายกรั ฐมนตรี ใน
การบริ หารงานของกระทรวง และช่วยนายกรัฐมนตรี ในการนํานโยบาย
ไปปฏิบตั ิให้บรรลุผลตามทีได้รับมอบหมาย
มาตรา ๕ คณะรัฐมนตรี ประชุมปรึ กษากันโดยนายกรั ฐมนตรี
เป็ นประธาน คณะรัฐมนตรี อาจปรึ กษาหารื อกันในกิจการทัว ไป แต่ความ
รับผิดชอบในการตัดสิ นใจในทุกเรื องอยูท่ ีนายกรัฐมนตรี
64

มาตรา ๖ นายกรั ฐมนตรี เป็ นผูน้ ําผลการตัดสิ น ใจในปั ญ หา


ต่างๆ เกียวกับนโยบายทัว ๆไป ขึ*นกราบบังคมทูลพระมหากษัตริ ย ์ แต่การ
ตัดสิ นใจในปั ญหาเหล่านี* ขึ*นอยูก่ บั พระมหากษัตริ ยโ์ ดยตรง
มาตรา ๗ พระมหากษั ต ริ ย์ ท รงแต่ ง ตั*ง อภิ รั ฐ มนตรี สภา
ประกอบด้ ว ยสมาชิ ก จํา นวน ๕ นาย นายกรั ฐ มนตรี เป็ นสมาชิ ก
อภิ รั ฐ มนตรี สภาโดยตํา แหน่ ง แต่ รั ฐ มนตรี ผูอ้ ื น ไม่ อ าจเป็ นสมาชิ ก
อภิ รั ฐมนตรี สภาได้ อภิ รั ฐ มนตรี ส ภาไม่ มี อาํ นาจในการบริ หารใดๆ
หน้ า ที ข องอภิ รั ฐ มนตรี สภาจํา กัด อยู่เ ฉพาะการถวายคํา ปรึ กษาเมื อ
พระมหากษัต ริ ย์ ทรงขอความเห็ น หรื อคํา ปรึ กษาในส่ ว นที เ กี ยวกับ
นโยบายทัว ไป หรื อนโยบายอืนใดที ไม่เกี ยวข้องกับการบริ หารราชการ
แผ่นดินที เป็ นเรื องของราชการประจํา อภิ รัฐมนตรี สภาไม่มีอาํ นาจที จะ
ถวายคําปรึ กษาเกียวกับการแต่งตั*งข้าราชการหรื อเรื องเกียวกับข้าราชการ
ประจํา แต่ มีอาํ นาจในการตั*งกระทูถ้ ามนายกรั ฐมนตรี หรื อรั ฐมนตรี คน
อืนๆ
มาตรา ๘ พระมหากษัตริ ยท์ รงแต่ งตั*งและถอดถอนสมาชิ ก
สภาอภิรัฐมนตรี
มาตรา ๙ ภายในเวลาสามวัน นั บ แต่ ว ัน ที พ ระมหากษัต ริ ย์
เสด็ จขึ* นครองราชย์ พระมหากษัตริ ยท์ รงเลือกรั ชทายาทโดยการถวาย
คําปรึ ก ษา และการถวายความยิน ยอมจากอภิ รั ฐมนตรี สภา การเลื อ ก
65

(รั ชทายาท) นี* จะต้องเลือกจากพระราชโอรสของพระมหากษัตริ ย แ์ ละ


พระบรมราชินีนาถ หรื อจากพระบรมวงศานุ วงศ์ โดยไม่จาํ กัดลําดับชั*น
ยศหรื ออาวุโส การเลือกรัชทายาทไม่ถือว่าเด็ดขาดซึงจะเปลียนแปลงมิได้
แต่ อ าจทบทวนได้ทุก ๆ ห้ า ปี นั บแต่ ว นั เลื อ กครั* งแรก โดยการถวาย
คําปรึ ก ษาและการถวายความยินยอมจากอภิ รัฐมนตรี สภา (หมายเหตุ :
หรื อในบางกรณี ระยะเวลานี*อาจนานกว่าห้าปี ก็ได้ตามแต่ จะเห็ นสมควร)
ในกรณี ทีพระมหากษัตริ ยเ์ สด็จสวรรคตก่ อนที จะมีก ารเลื อกรั ชทายาท
อภิ รั ฐมนตรี สภาจะเป็ นผูเ้ ลื อ กรั ช ทายาททัน ที ภ ายหลังการสวรรคต
ทุ ก กรณี จะต้ อ งใช้ ค ะแนนเสี ย งสามในสี ของจํา นวนสมาชิ ก สภา
อภิรัฐมนตรี ท* งั หมด ซึงอยูใ่ นพระราชอาณาจักรขณะนั*นในการเลือก
มาตรา ๑๐ อํานาจตุ ลาการซึ งอยู่ภ ายใต้พระราชอํานาจสู งสุ ด
ของพระมหากษัตริ ยใ์ ช้ทางศาลฎี กา และศาลอืนๆตามที ทรงมีพระบรม
ราชโองการจัดตั*งขึ*นตามเวลาอันสมควร
มาตรา ๑๑ พระมหากษัต ริ ย์ท รงไว้ซึ ง อํา นาจนิ ติ บัญ ญัติ แ ต่
ผูเ้ ดียว
มาตรา ๑๒ การเปลียนแปลงแก้ไขรั ฐธรรมนู ญนี* จะกระทําได้
โดยพระมหากษัตริ ย ์ โดยคําแนะนําและยินยอมจากสามในสี ของจํานวน
สมาชิกอภิรัฐมนตรี สภา
66

จากร่ างรั ฐ ธรรมนู ญ นี* นายชัย อนั น ต์ สมุ ท วาณิ ช ได้ เ ขี ย น


โครงสร้ า งอํา นาจตามรั ฐ ธรรมนู ญ ไว้ด ้ ว ยเพื อ เข้ า ใจได้ โ ดยง่ า ยว่ า
ประชาธิปไตยในแนวคิดของพระมหากษัตริ ยน์ * นั อํานาจยังรวมศูนย์อยู่ที
พระมหากษั ต ริ ย์ ซึ งแม้ปั จ จุ บั น เมื อ เปลี ย นแปลงการปกครองแล้ว
มี รั ฐธรรมนู ญ 300 กว่ ามาตราก็ จ ริ ง แต่ ปรั ชญาแนวคิ ด ยังคงเดิ มเช่ น
แนวคิดในสมัยรัชกาลที 7 ตามแผนภาพดังนี*
แผนภาพที ๑
แสดงความสั มพันธ์ ระหว่ างพระมหากษัตริ ย์, อภิรัฐมนตรี สภา
และนายกรั ฐมนตรี

อภิรัฐมนตรีสภา ทําหน้ าทีถ วายคําปรึกษา พระมหากษัตริย์

นายกรัฐมนตรี

รัฐมนตรี รัฐมนตรี
67

เป็ นทีป ระจัก ษ์ ชัดแล้ วว่ าระบอบสมบู รณาญาสิ ท ธิราชใหม่ น;ั น


เป็ นแนวคิ ด ของราชสํ า นั ก มายาวนานตั; ง แต่ ส มั ย รั ช กาลที 7 ก่ อ น
เปลีย นแปลงการปกครอง และเมือ อํานาจของคณะราษฎรเพลียงพลํา; ถู ก
ทําลายในช่ วงประวัติศาสตร์ ของการต่ อสู้ แย่ งชิ งอํานาจระหว่ างราษฎร
กับขุนนางอํามาตย์ ราชสํ านักจึงฟื; นกลับระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชขึน;
ใหม่ โดยมีประชาธิปไตยเป็ นเพียงรู ปแบบ แต่ เนื;อหาอํานาจยังรวมศู นย์
อยู่ทีราชสํ านัก และเมือ ใดทีอาํ นาจของรั ฐสภาจะเข้ มแข็ง ราชสํ านักก็จะ
ส่ งสั ญญาณให้ ก องทหารล้ มระบอบรั ฐสภา แล้ วก็ว่างเว้ นสั กระยะหนึ ง
เพือ ออกกฎหมายตัด อํานาจฝ่ ายราษฎรในนามประกาศขณะปฏิวัติซึง
ออกได้ เร็ ว แล้ วหลังจากนั;นก็จัดตั;งระบอบสภากันขึ;นใหม่ รั ฐบาลทีมา
จากราษฎรเลือกตั;งเข้ ามา ก็ถูกจํากัดอํานาจโดยกฎหมายของคณะปฏิวัติ
ทั;งนีก; เ็ พือ ไม่ให้ อาํ นาจของราษฎรเกิดขึ;นได้ จริ ง และทุ กครั; งของการยึด
อํานาจก็จะใส่ ร้ายป้ายสี หลอกลวงโลกตลอดเวลาว่ า “ราษฎรยังไม่ มคี วาม
พร้ อมทีจะปกครองตัวเอง”
เหตุการณ์ รัฐประหารในประเทศไทย จึงเกิดอยู่รําไปโดยความ
เห็ น ชอบของราชสํ านัก ด้ วยข้ อ อ้ างว่ า “พระมหากษั ตริ ย์ ทรงอยู่เ หนื อ
การเมือง”
68

บทที 3
การเกิดระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่

อุดมการณ์ ของคณะราษฎรทีต้องการสร้ างระบอบประชาธิปไตย


อัน มีพระมหากษั ตริ ย์ ท รงเป็ นประมุข และทรงอยู่ เ หนื อ การเมือ งตาม
ต้ นแบบประเทศอังกฤษ เพือความวัฒนาถาวรของประเทศชาติเป็ นอัน
สิ;นสุ ด เมือฝ่ ายนิยมเจ้ ารวมตัวกันจัดตั;งพรรคประชาธิปัตย์ และทําแนว
ร่ ว มกั บ ฝ่ ายจอมพล ป. โดยอาศั ย เหตุ ล อบปลงพระชนม์ รั ชกาลที 8
เมือ 9 มิถุนายน 2489 ทํารัฐประหาร 8 พฤศจิกายน 2490 โค่ นล้ มอํานาจ
ฝ่ ายปรี ดี พนมยงค์ ศั ตรู ร่วม โดยป้ายสี ว่าเป็ นผู้วางแผนลอบปลงพระ
ชนม์ เพือ จะสถาปนาระบอบมหาชนรัฐ นับแต่ น;ันก็เป็ นจุดเริ มต้ นการก่ อ
ตัวของระบอบประชาธิปไตยพิกลพิการทีเรี ยกว่ า “ระบอบสมบู รณาญา
สิ ทธิราชใหม่ ”

3.1 ความขัดแย้ ง เจ้ า-คณะราษฎร


การปฏิวตั ิของคณะราษฎร เมือ 24 มิถุนายน 2475 เป็ นการโค่น
ล้มระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชโดยเปลียนฐานะจากกษัตริ ยใ์ นฐานะเจ้า
มหาชีวิตทีอยูเ่ หนื อกฎหมาย กลายมาเป็ นเพียงประมุขแห่ งรัฐโดยมีฐานะ
69

ต้องอยูภ่ ายใต้กฎหมายเสมือนประชาชนทัว ไป เป็ นความโกรธแค้นของ


ฝ่ ายกษัตริ ยแ์ ละราชวงศ์อย่างยิง อีกทั*งคณะราษฎรก็ได้ออกประกาศฉบับ
ที 1 เปิ ดโปงความจริ งทีชวั ร้ายของกษัตริ ยแ์ ละราชวงศ์ ว่าทรงแต่งตั*งญาติ
วงศ์และคนสอพลอไร้ คุณความรู้ ให้ดาํ รงตําแหน่ งที สาํ คัญๆ ไม่ทรงฟั ง
เสี ย งราษฎร มีก ารรั บสิ นบนในการก่ อสร้ าง และซื*อของใช้ในราชการ
กดขีข่มเหงราษฎร ปล่อยให้ราษฎรทุกข์ยากลําบาก แต่ พวกเจ้ากลับนอน
กินกันเป็ นสุ ข คําประกาศดังกล่าวได้ตอกยํ*าถึงความขัดแย้งระหว่างฝ่ าย
เจ้าและคณะราษฎรที ไม่อาจประนี ประนอมได้ และในปี รุ่ งขึ*น(ปลายปี
2476) ฝ่ ายเจ้าภายใต้ก ารนําของพล.อ.พระองค์เจ้าบวรเดช เป็ นแม่ ทัพ
ใหญ่ และพ.อ.พระยาศรี สิทธิสงคราม(นายดิน ท่ าราบ) เป็ นรองแม่ทพั
ก็ได้รวบรวมกําลังทหารหัวเมืองโดยใช้เมืองนครราชสี มาเป็ นศูนย์กลาง
ภายใต้ชือ “คณะกู้บ้านกู้เมือง” ยกกําลังมาทางรถไฟบุ กเข้าพระนคร ฝ่ าย
คณะราษฎรมี พ.ท.หลวง พิบูลสงคราม(จอมพล ป.พิ บูลสงคราม) เป็ น
ผูอ้ าํ นวยการฝ่ ายปราบปราม เกิ ด การปะทะกัน ที ทุ่ ง ดอนเมื อ ง ฝ่ าย
พระองค์เจ้าบวรเดชเป็ นฝ่ ายพ่ายแพ้ พ.อ.พระยาศรี สิทธิสงคราม ตายในที
รบ “คณะกูบ้ า้ นกูเ้ มือง” จึงถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ ว่า “กบฏบวรเดช”
และได้มีการสร้างอนุ สาวรี ยป์ ราบกบฏไว้เป็ นสัญลักษณ์ แห่ งชัยชนะของ


นายดิน ท่าราบ เป็ นตาของ พล.อ.สุ รยุทธ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี สมัย
คมช.และดํารงตําแหน่ งองคมนตรี ปัจจุบนั
70

คณะราษฎร โดยเรี ยกชื อว่าอนุ สาวรี ย์ปราบกบฏ (ปั จจุ บนั ถูกเปลียนชื อ
ใหม่เพือไม่ให้กระทบกระเทือนใจฝ่ ายเจ้าว่า “อนุ สาวรี ยห์ ลักสี ” ซึ งตั*งอยู่
ทีสีแยกหลักสี )
หลังจากฝ่ ายกบฏบวรเดชพ่ายแพ้ คณะราษฎรก็ได้ทาํ การกวาด
ล้างขุมกําลังของฝ่ ายเจ้าโดยจับกุมดําเนิ นคดีผเู้ กียวข้องและต้องสงสัยเป็ น
จํานวนมากส่ งฟ้ องศาล 346 คน มีการตั*งศาลพิเศษตัดสิ นลงโทษในขั*น
ต่ างๆ 250 คน และที ไม่ถูกลงโทษจากศาลแต่ ถูกปลดออกจากราชการ
มากถึ ง 117 คน(กจช.(2) สช.0201.4/8) และจากเหตุ ก ารณ์ น* ี ได้ทาํ ให้
ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลคณะราษฎรกับพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า
เจ้าอยูห่ วั ทีไม่ราบรื นอยูแ่ ล้วต้องเลวร้ายหนักขึ*นอีก โดยฝ่ ายคณะราษฎร
มีความเห็ น ว่าพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ เป็ นผูส้ นับสนุ นกบฏบวร
เดช และอยูเ่ บื*องหลังการวางแผนโค่ นล้มรั ฐบาล ซึ งเป็ นสาเหตุ สาํ คัญ
ประการหนึ งทําให้พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ สละราชสมบัติ (เมื อ
2 มีนาคม 2477)
ความขัดแย้งระหว่างฝ่ ายเจ้ากับคณะราษฎรแสดงให้เห็ นเด่ นชัด
ในรัฐธรรมนูญฉบับปี 2475(ซึ งเป็ นรั ฐธรรมนู ญถาวรฉบับแรกของไทย
ประกาศใช้ 10 ธันวาคม 2475) มาตรา 11 กําหนดห้ามพระบรมวงศานุ


ประกาศของกรมโฆษณาการ คํา พิ พ ากษาศาลพิ เ ศษ พ.ศ.2482 เรื องกบฏ
หน้า 16-17 (พระนคร : โรงพิมพ์พาณิ ชศุภผล)
71

วงศ์ช* ัน สู ง ยุ่ง เกี ย วกับ การเมื อ ง และในยุ ค ที จ อมพล ป.พิ บู ลสงคราม
ได้กา้ วขึ*นเป็ นนายกรั ฐมนตรี แล้วก็ได้ยกเลิกบรรดาศักดิ;แบบขุนนางใน
วัฒ นธรรมของศัก ดิ นาทั*งหมดโดยเมื อ 6 ธัน วาคม 2484 คณะรั ฐบาล
ภายใต้ก ารนําของจอมพล ป.ได้ล าออกจากบรรดาศัก ดิ; ทั*ง หมดเป็ น
ตัว อย่ า ง และต่ อ มาเดื อ นพฤษภาคม 2485 ก็ มี ประกาศพระบรมราช
โองการยกเลิกบรรดาศักดิ;ทวั ประเทศ(ราชกิจจานุ เบกษาเล่มที 59: 1089)
นับแต่ น* ันจึ งมี การเปลียนชื อนามสกุลกันมาก บุ คคลสําคัญที เปลียนชื อ
นามสกุลได้แก่
จอมพล หลวงพิบูลสงคราม เป็ น จอมพล ป. พิบูลสงคราม
หลวงประดิษฐ์ มนูธรรม เป็ น นายปรี ดี พนมยงค์
พล.ต.ต.หลวงอดุลเดชจรัส เป็ น พล.ต.ต.อดุล อดุลเดชจรัส
หลวงโกวิทอภัยวงศ์ เป็ น นายควง อภัยวงศ์
พล.ร.ท.หลวงสิ นธุสงครามชัย เป็ น พล.ร.ท.สิ นธุ์ กมลนาวิน
พล.ต.พระบริภัณฑ์ ยทุ ธกิจ เป็ น พล.ต.เภา เพียรเลิศ
บริ ภณั ฑ์ยทุ ธกิจ
พล.อ.ต.พระเวชยันตรังสฤษฎ์ เป็ น พล.อ.ต.มุนี มหาสันทนะ
เวชยันตรังสฤษฎ์
หลวงนฤเบศร์ มานิต เป็ น นายสงวน จูฑะเตมีย ์
น.อ.หลวงธํารงนาวาสวัสดิN เป็ น น.อ.ถวัลย์ ธํารงนาวาสวัสดิ;
พล.ท.หลวงพรมโยธี เป็ น พล.ท.มังกร พรหมโยธี
พล.ท.หลวงเกรียงศักดิNพิชิต เป็ น พล.ท.พิชิต เกรี ยงศักดิ;พิชิต
72

พล.ท.พระยาพหลพลพยุหะเสนา เป็ น พล.ท.พจน์ พหลโยธิน


พ.อ.ขุนปลดปรปักษ์ เป็ น พ.อ.ปลด ปลดปรปักษ์
พิบูลภานุวธั น์
หลวงวิจิตรวาทการ เป็ น นายวิจิตร วิจิตรวาทการ
พระยาศรีเสนา เป็ น นายศรี เสนา สมบัติศิริ
ฯลฯ

3.2 คณะราษฎรล้ างอํานาจกษัตริย์ไม่เสร็จสิ;น


แม้พฒั นาการทางการผลิ ตของสังคมไทยในขณะนั*นจะได้กา้ ว
เข้าสู่ ระบบเศรษฐกิ จทุ นนิ ยมแล้ว แต่ ยงั เป็ นระยะเริ มต้น ราษฎรส่ ว น
ใหญ่ ย งั เป็ นเกษตรกร ดํารงชี วิตด้ว ยการผลิต เพือบริ โภคเป็ นหลัก มิใช่
ผลิตเพือเป็ นสิ นค้า เป็ นวิถีชีวิตการผลิตแบบพออยูพ่ อกิน(ซึงก็คือวิถีชีวิต
แบบเศรษฐกิจพอเพียงที กล่าวติ ดปากกันอยู่ในปั จจุ บนั ) และวัฒนธรรม
ความคิ ดของราษฎรส่ วนใหญ่ ยังติ ด ยึด อยู่กบั ระบบเจ้าขุ นมูลนายและ
ความเชือเรื องบุญทํากรรมแต่ง โดยเชือว่าความยากจนในชาติน* ี เป็ นผลมา


ระบบเศรษฐกิจทุนนิ ยมในประเทศไทยเริ มต้นเมือใด? นักวิชาการส่ วนใหญ่มี
ความเห็นว่าน่าจะเริ มต้นเมือรัชกาลที 4 ได้ลงนามในสนธิ สัญญาพระราชไมตรี กบั
เซอร์ จอห์น เบาว์ริ ง เอกอัครราชทูตจากสหราชอาณาจักร เมือปี พ.ศ.2398 ทีเรี ยกว่า
สนธิสัญญาเบาว์ริ ง
73

จากชาติทีแล้ว ราษฎรส่ วนใหญ่ ยงั ไม่มีความเข้าใจต่ อเรื องสิ ทธิ เสรี ภาพ
และความเสมอภาคทางสังคม ซึ งเป็ นวัฒนธรรมของระบบเศรษฐกิ จทุ น
นิ ยม ผูท้ ีเข้าใจและต้องการเห็ นความเสมอภาคทางสังคมจึ งเป็ นคนส่ วน
น้อยในขณะนั*น ด้วยเหตุน* ีเองการปฏิวตั ิของคณะราษฎรจึงยังไม่สามารถ
จะเปลี ยนแปลงระบอบการปกครองของกษัต ริ ย ไ์ ด้อย่างถอนรากถอน
โคน ซึ งแตกต่ างจากการปฏิว ตั ิ ใหญ่ ในฝรั งเศส, รั สเซี ย และจี น ที ลม้
สถาบันกษัตริ ยอ์ ย่างสิ*นซาก เมือคณะราษฎรโค่ นล้มอํานาจกษัตริ ยล์ งได้
เมือ 24 มิถุนายน 2475 ก็มีการประนี ประนอมกับฝ่ ายเจ้าในเรื องการใช้
ธรรมนู ญการปกครอง และการแต่ งตั*งนายกรั ฐมนตรี ค นแรกโดยเริ ม
ตั*งแต่ เปลี ยนฐานะของธรรมนู ญการปกครองฉบับแรกที ร่างโดยหลวง
ประดิ ษ ฐ์มนู ธรรม(ปรี ดี พนมยงค์) ที ค ณะราษฎรมุ่ งที จ ะนํามาใช้เป็ น
ธรรมนูญการปกครองฉบับถาวรทีเหมือนกับการปฏิวตั ิใหญ่เปลียนแปลง
การปกครองทัวไป กล่ าวคื อ ตามร่ างเดิ มไม่ มีค าํ ว่า “ชัว คราว” แต่ เมื อ
ทูลเกล้าถวายต่ อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ พระองค์ได้เติ มด้วยลาย
พระหัตถ์ว่า “ชัว คราว”ลงไปซึงคณะราษฎรก็ยนิ ยอมเป็ นผลให้ตอ้ งร่ าง
รัฐธรรมนูญใหม่โดยตั*งคณะกรรมการร่ วมกันระหว่างฝ่ ายคณะราษฎรกับ


ทิพยวรรณ บุญแท้ 2528 หน้า 133-134 “ความคิดทางการเมืองของปรี ดี พนมยงค์
ระยะเริ มแรก(พ.ศ.2443-2477) วิท ยานิ พนธ์ รัฐ ศาสตร์ มหาบัณฑิ ต ภาควิ ชาการ
ปกครอง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
74

ฝ่ ายเจ้า และมีการมอบรั ฐธรรมนู ญฉบับถาวรฉบับแรกเมือ 10 ธันวาคม


2475(และหลังจากนั*น มาก็มีการฉี ก รั ฐธรรมนู ญ และร่ างใหม่ เป็ นของ
เล่น) และหนึงในคณะกรรมการการร่ างรั ฐธรรมนู ญซึ งเป็ นตัวแทนของ
ฝ่ ายเจ้ า ก็ไ ด้ รั บ ความเห็ น ชอบให้ ม าเป็ นนายกรั ฐ มนตรี ค นแรก คื อ
พระยามโนปกรณ์ นิตธิ าดา
เมือมีการประนี ประนอมอํานาจการเมืองกันเช่ นนี* การถอนราก
ถอนโคนทางอํานาจที จะกระทําต่ อฝ่ ายเจ้าด้วยการยึดทรั พย์อนั เป็ นฐาน
อํานาจทางเศรษฐกิ จ เป็ นฐานอํานาจที แท้จริ งของฝ่ ายเจ้าจึ งไม่ เกิ ดขึ* น
ดังนั*นแม้ความขัดแย้งทางอํานาจระหว่างฝ่ ายคณะราษฎรกับฝ่ ายเจ้ายัง
ดํารงอยูโ่ ดยคณะราษฎรมีอาํ นาจเป็ นด้านหลักในฐานะเป็ นฝ่ ายกระทําใน
ระยะเริ มต้นของการเปลีย นแปลงการปกครองก็ ไม่ อาจจะทําลายฐาน
อํานาจของฝ่ ายเจ้าได้ และด้วยสภาวะทางสังคมดังกล่าวข้างต้น เป็ นผลทํา
ให้แนวคิ ด อุด มการณ์ ทางการเมื อง ที คณะราษฎรมุ่ งหวังให้ระบบการ
ปกครองของไทยเป็ นประชาธิปไตยทีมีพระมหากษัตริ ยเ์ ป็ นประมุขแบบ
อังกฤษ โดยกษัตริ ยแ์ ละราชวงศ์ทรงอยู่เหนื อการเมืองจึ งเป็ นไปได้โดย
ยาก ด้วยวัฒนธรรมของไทยยังติ ดยึดอยู่กบั ความเชื อเรื องชนชั*นวรรณะ
เป็ นเรื องของบาปบุญจากชาติปางก่อน อันเป็ นผลจากระบบเศรษฐกิจการ
ผลิตแบบศักดินาทีผลิตแบบพออยูพ่ อกินพึงพิงธรรมชาติ ซึงแม้นายปรี ดี
พนมยงค์ จะได้ เ ห็ นปั ญหาทางวั ฒ นธรรมที ไม่ เ อื* อต่ อระบอบ
75

ประชาธิ ปไตยเช่ น นี* และพยายามจะสร้ างคนรุ่ น ใหม่ ทีตื น ตัว ต่ อสิ ท ธิ


เสรี ภาพ และความเสมอภาค อันเป็ นวัฒนธรรมใหม่ซึ งเป็ นรากฐานของ
ระบอบประชาธิปไตย ด้วยการตั*งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และการเมือง
ขึ* น  แต่ แ ล้ว ก็ ไ ม่ อ าจจะขัด ขวางการฟื* นตัว ทางอํา นาจของฝ่ ายเจ้า ที
พัฒนาขึ*นมาเป็ นระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่ เช่นทุกวันนี*ได้

3.3 ความขัดแย้ งของคณะราษฎรเปิ ดเงือนไขเจ้ าฟื; นอํานาจ


เมือ จอมพล ป.พิบู ล สงคราม เข้ ามามีอํานาจทางการเมือ งใน
ระยะแรกก็ยังยืนยันในแนวทางการปฏิวัติของคณะราษฎร โดยร่ วมมือ
กับ แกนนํ าของคณะราษฎร คือ นายปรี ดี พนมยงค์ ในการปิ ดกั;น การ
ขยายตัวทางอํานาจของฝ่ ายเจ้ า แต่ เมือครองอํานาจนานเข้ าจอมพล ป.
พิบูลสงคราม ก็ลุ แก่ อํานาจมากขึ;น จนผิดแนวทางกลายเป็ นผู้เผด็จการ
ด้ วยการสร้ างรั ฐ ทหารให้ เข้ มแข็ ง จนเกิ ด ความขั ด แย้ งกั บ ฝ่ าย
ประชาธิปไตยพลเรือนทีมนี ายปรีดี พนมยงค์ เป็ นแกนนํา


ชือเดิมของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทีนายปรี ดี ต้องการสร้ างคนรุ่ นใหม่ข* ึนเพือ
เป็ นฐานของระบอบประชาธิ ป ไตย แต่สุด ท้า ยก็ถู กวัฒนธรรมเจ้าขุน มูล นายของ
กษัตริ ยค์ รอบงําอีก ด้วยวัฒนธรรมพระราชทานปริ ญญาบัตรทีมีความสําคัญสู งสุ ด
ของการศึกษายิง กว่าความรู ้จากการเรี ยน และการมีงานทํา
76

เหตุการณ์สงครามโลกครั*งที 2 ทีญีปุ่นประกาศตัวเป็ นฝ่ ายอักษะ


และยกกําลังบุกเอเชียโดยผ่านประเทศไทยโดยฝ่ ายจอมพล ป.ได้ประกาศ
ตัว ร่ วมรบกั บ ฝ่ ายญี ปุ่ น และประกาศสงครามกับ ฝ่ ายสั ม พัน ธมิ ต ร
เหตุการณ์ดงั กล่าวได้ส่งผลให้คณะราษฎรที มีความขัดแย้งภายในอยู่เดิ ม
แล้ว กลายเป็ นความแตกแยกและเป็ นศัตรู กนั โดยฝ่ ายจอมพล ป.ในฐานะ
รั ฐ บาลเข้ากับฝ่ ายญี ปุ่นซึ ง เป็ นฝ่ ายอัก ษะ และฝ่ ายนายปรี ดี ได้ก่ อ ตั*ง
ขบวนการเสรี ไทยโดยเคลือนไหวต่อต้านญี ปุ่นและรั ฐบาลจอมพล ป.ใน
ประเทศไทย ซึงการต่อต้านญีปุ่นในขณะนั*นเป็ นกระแสแนวคิ ดของฝ่ าย
เสรี นิยมที ไม่ชอบระบอบอํานาจรั ฐทหาร ดังนั*นคนไทยในต่ างประเทศ
โดยเฉพาะทีองั กฤษและสหรัฐอเมริ กาก็เกิดการรวมตัวกันต่อต้านรั ฐบาล
จอมพล ป.และญีปุ่นด้วย โดยมีฝ่ายเจ้าที ไปศึกษาต่ อในต่างประเทศเป็ น
แกนนํา ตรงจุดสําคัญทางประวัติศาสตร์ น* ีเองจึงเป็ นจุดเริ มต้นของการฟื* น
อํา นาจของฝ่ ายเจ้ า อย่ า งเป็ นฝ่ ายกระทํา โดยพวกเชื* อ พระวงศ์ ใ น
ต่างประเทศได้จดั ตั*งขบวนการเสรี ไทยขึ*นในประเทศสหรั ฐอเมริ กาโดย
การนําของมรว.เสนี ย ์ ปราโมช ขบวนการเสรี ไทยในอังกฤษโดยมีหม่อม
เจ้าศุ ภ สวัสดิ;วงศ์สนิ ท สวัสดิ ว ฒ ั น์ พระเชษฐาของสมเด็ จ พระนางเจ้า
รําไพพรรณี (พระราชิ นีในรั ชกาลที 7) เป็ นหัวหน้าคณะ ส่ วนขบวนการ
เสรี ไทยในประเทศไทยหัว หน้าคณะก็ คื อนายปรี ดี พนมยงค์ ผูส้ ําเร็ จ
ราชการแทนพระองค์ในรัชกาลที 8 ในขณะนั*น
77

เมือเสร็ จสิ*นสงครามโลกครั*งที 2 ซึ งญี ปุ่นเป็ นผูแ้ พ้สงครามเป็ น


ผลให้อ าํ นาจของรั ฐทหารของจอมพล ป.ต้อ งอ่ อนตัว ลง จอมพล ป.
พิบูลสงคราม กลายเป็ นอาชญากรสงคราม โครงสร้างอํานาจทางการเมือง
ใหม่จึงเป็ นของฝ่ ายเสรี ไทยซึงเป็ นฝ่ ายปรี ดีและฝ่ ายเจ้าเป็ นผูน้ าํ
เหตุ ก ารณ์ สําคัญ ในสภาผูแ้ ทนราษฎรเมื อปี 2487 เกิ ด ขึ* น เมื อ
จอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้ลาออกจากนายกรั ฐมนตรี เมือ 24 กรกฎาคม
2487 โดยหวังว่าเสี ยงส่ วนใหญ่ ในสภาจะเลือกจอมพล ป.พิบูลสงคราม
กลับมาใหม่ แต่เสี ยง ส.ส.ในสภาในส่ วนของปรี ดี พนมยงค์ ได้ผนึ กกําลัง
กับฝ่ ายเจ้าเลือกนายควง อภัยวงศ์ ขึ*นเป็ นนายกรัฐมนตรี (ขณะนั*นยังไม่ได้
ตั*งพรรคประชาธิปัตย์) โดยนายปรี ดี พนมยงค์ ขณะนั*นดํารงตําแหน่ งเป็ น
ผูส้ ําเร็ จ ราชการแทนพระองค์รัชกาลที 8 เป็ นผูล้ งนามแต่ งตั*งนายควง
อภัยวงศ์ และรั ฐบาลได้เสนอญัตติ ด่วนเรื องแก้ไขรั ฐธรรมนู ญเข้าสู่ สภา
เมือวันที 19 กรกฎาคม 2488 โดยมีสาระที สาํ คัญคื อ ให้ยกเลิกมาตรา 11
ทีว่าด้วยการห้ามพระบรมวงศานุ วงศ์ช* นั สูงยุง่ เกียวกับการเมือง
จุ ด การเปลี ย นแปลงรั ฐ ธรรมนู ญ ที เ ปิ ดทางให้ ฝ่ ายเจ้ า เข้ า สู่
การเมืองได้ นีจ; งึ เป็ นจุดเริ มต้ นอย่ างเป็ นทางการของการฟื; นอํานาจของ
ฝ่ ายเจ้ า ที พัฒ นาขบวนการกลับ มาสู่ อํานาจทีเ ข้ มแข็ ง อีก ครั; ง หนึ ง จน
กลายเป็ นระบอบสมบู รณาญาสิ ท ธิราชใหม่ ที ขั ดขวางพัฒ นาการของ
ระบอบประชาธิปไตยอยู่ในขณะนี;
78

3.4 กรณีลอบปลงพระชนม์ : จากวิกฤตเป็ นโอกาส


ในภาวะการณ์ ทีฝ่ายคณะราษฎรเกิ ดความแตกแยกกันระหว่าง
ฝ่ ายทหารจอมพล ป.พิบูลสงคราม กับฝ่ ายของปรี ดี พนมยงค์ แต่ ดว้ ยนาย
ปรี ดีมีความเข้าใจในระบอบประชาธิ ปไตยและมีสายตาที ยาวไกลกว่าจึ ง
ได้จ ัด ตั*ง พรรคการเมื องขึ* น ก่ อ นเพื อเตรี ยมการเคลื อ นมวลชนระดม
สมาชิ กเพือปูทางสู่ ชยั ชนะในการเลือกที นายปรี ดีเตรี ยมการผลักดันให้
สังคมไทยก้าวเข้าสู่ ระบอบประชาธิ ปไตยสมบูรณ์ แบบ จึ งถือเป็ นพรรค
การเมืองที เป็ นทางการเป็ นครั*งแรกในนามพรรคสหชี พและส่ งผูส้ มัค ร
ส.ส.ในนามพรรคในการเลือกตั*งเมือวันที 6 มกราคม 2489 ฝ่ ายเจ้าก็จดั ตั*ง
พรรคการเมืองเข้าต่ อสู้ในนามพรรคประชาธิ ปัตย์(จัดตั*งเมือ 6 เมษายน
2489 ซึงตรงกับวันจักรี ) โดยมีแกนนําสําคัญคือ นายควง อภัยวงศ์ และพี
น้องราชสกุลปราโมช และในการก้าวเข้าสู่ การเมื องของม.ร.ว.คึกฤทธิN
ปราโมช นั;นก็ได้ ประกาศนโยบายชัดแจ้ งว่ า “จะแอนตีพ; วกผู้ก่อการ 2475
ทุกวิถีทาง”และมรว.คึกฤทธิ; ปราโมช เองก็ได้ประกาศเจตนารมณ์ ดว้ ย
การเขี ย นบทความลงในหนังสื อประชามิต ร(12 ธัน วาคม 2488) เรื อง
“ข้ าพเจ้ าเป็ นรอยะลิสต์ ” โดยยอมรั บว่าตนเองเป็ นฝ่ ายเจ้าและไม่พอใจ


ฟรี เพรส (นามแฝง) 2493, หน้ า 17 ใน “นั ก การเมื อ งสามก๊ ก ตอนที 2”
(พระนคร: โรงพิมพ์เอกการพิมพ์)
79

พวกคณะราษฎร ดังนั*น การปรากฏตัว ของพรรคประชาธิ ปัต ย์จึ งเป็ น


สัญญาณบ่งชี*ให้เห็นถึงการฟื* นอํานาจทางการเมืองของฝ่ ายเจ้าที ขยายเติ บ
ใหญ่ ข* ึน อย่างเป็ นระบบนับตั*งแต่ ตอ้ งเพลีย งพลํ*าจากการยึดอํานาจของ
กลุ่มสามัญชนทีใช้นามว่า “คณะราษฎร” และเพียงสองเดื อนหลังจากนั*น
ก็เกิ ด เหตุ ก ารณ์ ทีไม่ มีใครคาดหมายมาก่ อนคื อกรณี สวรรคตของพระ
เจ้าอยู่หัว อานัน ทมหิ ดล รั ชกาลที 8 ด้ว ยพระแสงปื น(เมือเช้าของวัน ที
9 มิถุนายน 2489) ซึงกลายเป็ นวิกฤตการณ์ ทางการเมืองในขณะนั*นด้วย
เพราะเป็ นเงื อ นงํา ที ย ากแก่ ก ารไขปริ ศนาในขณะนั*น และต่ อ เนื อ ง
ยาวนานมาจนถึงทุ ก วัน นี* ว่ าสาเหตุ ทีแท้จริ งเป็ นอุ บตั ิ เหตุ หรื อการลอบ
ปลงพระชนม์กนั แน่
จากการวินิจฉัยเหตุการณ์ ครั*งแรกในวันนั*น ระหว่างอธิ บดี กรม
ตํารวจ อธิ บดี กรมการแพทย์ นายกรั ฐมนตรี รั ฐมนตรี มหาดไทย พร้ อม
ด้วยเจ้านายชั*นผูใ้ หญ่ เช่ น กรมขุนชัย นาทนเรนทร พระราชชนนี พระ
ราชอนุ ชา ต่างก็มีความเห็นว่ากรณี น* ีเป็ นอุบตั ิเหตุ ดังนั*นสํานักพระราชวัง
จึ งเป็ นผูอ้ อกแถลงการณ์ เมือ 9 มิ ถุนายน 2489 มี ขอ้ ความว่ า “ได้ ความ
สั นนิษฐานว่ าคงจะจับคลําพระแสงปื นตามพระราชอัฌชาศั ยทีทรงชอบ
แล้ วเกิดอุบัทวเหตุขึน; ” แต่ปรากฏว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ใช้กรณี น* ี มา


สรรใจ แสงวิ เ ชี ย ร และวิ มลพรรณ ปิ ตธวัชชัย 2517. หน้า 5 “กรณี ส วรรคต
9 มิถุนายน 2489” (กรุ งเทพฯ : กรุ งสยามการพิมพ์)
80

เป็ นประเด็นการเมืองเพือทําลายศัตรู ทางการเมืองของฝ่ ายเจ้าคือ นายปรี ดี


พนมยงค์
บทบาทของพรรคประชาธิ ปัตย์ ในปี 2489 ไม่ ต่างจากบทบาท
ของพรรคประชาธิ ปั ต ย์ ใ นปั จจุ บั น ที ใ ช้ ส ถาบั น พระมหากษั ตริ ย์ เ ป็ น
เครืองมือในการทําลายศัตรู ทางการเมืองทีตนไม่ อาจเอาชนะทางการเมือง
ได้ คอื กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทีเป็ นอยู่ในปั จจุบัน
ในขณะนั*น พรรคประชาธิ ปัต ย์ได้ใช้เหตุ ก ารณ์ สวรรคตกล่ าว
โจมตี ว่ า เป็ นเหตุ ก ารณ์ ล อบปลงพระชนม์ โดยตี พิ ม พ์ เ ผยแพร่ ใน
หนังสื อพิมพ์ อทิ ธิพลของนายไถง สุ วรรณทัต สมาชิกพรรคประชาธิ ปัตย์
เป็ นฉบับแรก และตามติ ด ด้ว ยการตี พิมพ์ในหนั ง สื อ พิมพ์ เ กีย รติศั ก ดิN
หนังสื อพิมพ์ ประชาธิปไตย หนังสื อพิมพ์ เสรี และพรรคประชาธิปัตย์
ได้ใช้ประเด็ น นี* ขยายพลกลายมาเป็ นการโจมตี รั ฐ บาลของนายปรี ดี


นายปรี ดี พนมยงค์ เป็ นผูเ้ ขียนประกาศคณะราษฎรฉบับที 1 ทีวิพากษ์วิจารณ์
กษัตริ ยแ์ ละราชวงศ์อย่างรุ นแรง และเป็ นทีชิงชังของราชสํานัก และต้องลี* ภยั ใน
กรณี ลอบปลงพระชนม์ ไปอยู่ต่างประเทศตลอดชีวิต ล่าสุ ด พํานัก อยู่ทีกรุ งปารี ส
ฝรังเศส และไม่อาจจะกลับมาตายในผืนแผ่นดินไทยได้ คงกลับมาได้เฉพาะกระดูก
เท่านั*น

สุ ธาชั ย ยิ* ม ประเสริ ฐ 2550.หน้ า 56 “แผนชิ ง ชาติ ไ ทย” พิ ม พ์ ค รั* งที 2
(กรุ งเทพ: บริ ษทั พี.เพรส. จํากัด)
81

พนมยงค์ และนําประเด็ น นี* ไปปราศรั ย หาเสี ย งปลุ ก ปั น ให้เป็ นความ


รับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี ปรี ดี พนมยงค์ โดย ม.ร.ว.คึกฤทธิN ปราโมช
และนายเลีย ง ไชยกาล(ส.ส.ประชาธิ ปั ตย์ ใ นขณะนั; น ) ได้ ใ ช้ ใ ห้ คนไป
ตะโกนในโรงภาพยนตร์ ว่า “ปรีดีฆ่าในหลวง” ในที สุดจากแถลงการณ์
สํานัก พระราชวังว่าเป็ นเรื องอุบตั ิ เหตุ ก็ ได้ก ลายเป็ นกรณี ลอบปลงพระ
ชนม์โ ดยมี ก ารจับตัว ผูต้ ้องสงสั ย คื อ ทหารมหาดเล็ก ในวัง ที เ ฝ้ าห้ อ ง
บรรทมและพรรคพวกขึ*นศาลสื บพยานและขยายผลเป็ นประเด็นการเมือง
ทําลายฐานการเมืองของฝ่ ายปรี ดี พนมยงค์ โดยพระพินิจชนคดี พีเขยของ
ม.ร.ว.คึกฤทธิ; ปราโมช ได้ป* ันพยานเท็จขึ*นโดยจ้างนายตี‚ ศรี สุวรรณ เป็ น
ผูย้ นื ยันให้การว่าเห็ นเหตุ การณ์ การวางแผนลอบปลงพระชนม์ของนาย
ปรี ดี พนมยงค์ และศาลได้ตดั สิ นประหารชีวิตมหาดเล็กทีเฝ้ าห้องบรรทม
2 คน คื อนายชิ ต สิ งหเสนี , นายบุ ศย์ ปั ทมศริ น และบุ ค คลภายนอกคื อ
นายเฉลียว ปทุ มรส ที ถูกป้ ายสี ว่าเป็ นผูใ้ กล้ชิดนายปรี ดี ซึ งต่ อมาก่ อนที
นายตี‚ ศรี สุวรรณ จะถึงแก่ความตายด้วยโรคชราก็เกรงกลัวบาปจึ งได้ไป
สารภาพผิดโดยทําบันทึกเป็ นเอกสารต่อท่านปั ญญานันทภิ กขุ เจ้าอาวาส
วัดชลประทาน เมือวันที 25 มกราคม 2522 โดยสารภาพว่าพระพินิจชน


สมุทร สุ รักขกะ 2507.หน้า 364 “ปฏิวตั ิไทยและรั ฐประหารสมัย 2489 ถึง 2507
(พระนคร: สื อการพิมพ์)
82

คดี(อธิบดีกรมตํารวจ และเป็ นพีเขยของมรว.คึ กฤทธิ; ปราโมช)ได้เกลีย


กล่อมว่าจะให้เงินเลี*ยงนายตี‚จนตาย โดยจะให้เงินจํานวน 20,000 บาท แต่
เมือให้การแล้ว พระพินิจได้ให้เงิ นเพียง 500-600 บาท และให้นายตี‚ กิน
อยูห่ ลับนอนอยูท่ ีสนั ติบาลประมาณสองปี เศษ

3.5 วิกฤตสวรรคตสู่ รัฐประหาร 8 พฤศจิกายน 2490


จากวิก ฤตกรณี สวรรคตของพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิ ด ลได้ถูก
พรรคประชาธิปัตย์ฉกชิงไปขยายผลเป็ นประเด็นทางการเมือง เพือทําลาย
ศัตรู ทางการเมืองคือนายปรี ดี พนมยงค์ และพวก ซึ งเป็ นทีชิงชังของฝ่ าย
เจ้ากลายเป็ นภาวะวิก ฤตทางสังคม และจากสภาวะความปั น ป่ วนทาง
การเมื อ งในขณะนั* นที ก ลุ่ ม ทหารภายใต้ ก ารนํ า ของจอมพล ป.
พิบูลสงคราม ซึ งอ่อนกําลังลงไปจากกรณี ญีปุ่นมิตรร่ วมรบของรั ฐบาล
ทหารจอมพล ป.พิบูลสงคราม ต้องแพ้ในเหตุ การณ์ สงครามโลกครั* งที 2
แต่ตอ้ งการช่วงชิงอํานาจรัฐกลับคืนมา จึงได้ทาํ แนวร่ วมกับฝ่ ายเจ้าที เห็ น
ว่าปรี ดี พนมยงค์ เป็ นศัต รู หลัก ฝ่ ายทหารของจอมพล ป.จึ งจับมื อกับ
พรรคประชาธิปัตย์ทีมีแนวคิดนิ ยมเจ้าทําการยึดอํานาจในเวลา 21.00 น.

บัน ทึ กสํา เนาจดหมายขอขมาของนายตี‚ ศรี สุ ว รรณ ดู ร ายละเอี ย ดในหนังสื อ
“ผูว้ างแผนปลงพระชนม์ ร.8 ตัวจริ ง” สุ พจน์ ด่านตระกูล 2551 (กรุ งเทพฯ:โรงพิมพ์
ตถาตา พับลิเคชัน จํากัด)
83

ของวันที 8 พฤศจิ ก ายน 2490 ภายใต้การนําของจอมพลผิน ชุ ณ หะวัณ


เมือทําการยึด อํานาจสําเร็ จแล้ว ก็ต* งั ให้นายควง อภัยวงศ์ หัวหน้าพรรค
ประชาธิปัตย์เป็ นนายกรัฐมนตรี จดั ตั*งรัฐบาล

3.6 ความเหมือนคล้ ายรัฐประหาร 8 พ.ย. 90 กับ 19 ก.ย.49


การรัฐประหารเมือ 8 พฤศจิ กายน 2490 มีสถานการณ์ ทีเหมือน
คล้ายกับการยึดอํานาจเมือ 19 กันยายน 2549 ในสถานการณ์ทางการเมือง
สภาพแวดล้อมของสังคมโลก และตัวละครของพรรคการเมื องคู่ก รณี
ดังนั*นในทีน* ีผเู้ ขียนขอนําเหตุการณ์บางประการที เหมือนคล้ายกันมาเพือ
ศึกษาเป็ นบทเรี ยน และเพือประโยชน์ต่อผูส้ นใจที จะศึกษามองอนาคต
ของการเมืองไทยต่อไป ดังนี*
1.มีเ หตุ ก ารณ์ ที รุน แรงเกีย วกั บ สถาบั น กษั ตริ ย์ กล่ าวคื อในปี
2489 พรรคประชาธิ ปั ต ย์โ จมตี ใส่ ร้ ายนายปรี ดี พนมยงค์ ว่ าเป็ นผูอ้ ยู่
เบื* องหลังการวางแผนลอบปลงพระชนม์รัชกาลที 8 จนเป็ นเหตุ ให้เกิ ด
การโค่ นล้มรั ฐบาลนายเถลิง ธํารงนาวาสวัสดิ; กลุ่ มอํานาจของฝ่ ายนาย
ปรี ดี พนมยงค์ และนายปรี ดี พนมยงค์ ต้องลี*ภยั ไปอยู่ต่างประเทศจนจบ
ชีวิตลงในต่างประเทศ ส่ วนในเหตุการณ์ปัจจุบนั กลุ่มพันธมิตรประชาชน
เพือประชาธิปไตยก็ร่วมกับพรรคประชาธิ ปัตย์จดั การชุ มนุ มเคลือนไหว
โจมตีว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร วางแผนโค่นล้มสถาบันกษัตริ ยใ์ นภาวะที
84

สถาบันกําลังเกิดวิกฤตค่อนข้างรุ นแรงอันเป็ นผลจากอายุและสุ ขภาพของ


พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว องค์ปัจจุ บัน ที ทรงเจริ ญ พระชนมายุมาก
แล้ว และสุ ขภาพไม่ดีซึ งเป็ นภาวะของการใกล้ทีจะผลัดเปลียนแผ่นดิ น
จนในที สุ ด ก็ เ กิ ด การยึ ด อํา นาจรั ฐ บาลพ.ต.ท.ทั ก ษิ ณ ชิ น วัต ร เมื อ
19 กัน ยายน 2549 โดยใส่ ร้ ายพ.ต.ท.ทัก ษิ ณ ชิ น วัต ร ต่ างๆ นาๆ และ
สุ ดท้ายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องลี*ภยั อยูใ่ นต่างประเทศ เพียงแต่ปัจจุบนั
ละครการเมืองยังไม่จบ บทสุ ดท้ายของเหตุการณ์จึงยากทีจะทํานาย
2. ทหารจับ มือ กับ พรรคประชาธิ ปั ต ย์ เหตุ ก ารณ์ รั ฐประหาร
8 พฤศจิกายน 2490 มีกลุ่มทหารร่ วมมือกับพรรคประชาธิ ปัตย์ ทําการยึด
อํานาจและหนุ นให้นายควง อภัยวงศ์ หัวหน้าพรรคขึ*นเป็ นนายกรัฐมนตรี
และอยู่ได้ไม่พอ 6 เดื อน นายควงก็ถูก ทหารใช้ปืนจี*ให้ออกจากนายกฯ
แล้วเชิญจอมพล ป.กลับมาเป็ นนายกฯ แทน เหตุ การณ์ การเมืองปั จจุ บนั
ตั ว ละครก็ ย ัง เป็ นกลุ่ ม ทหารโดยใช้ ชื อ ว่ า คมช.ร่ วมกั น กั บ พรรค
ประชาธิ ปั ต ย์ และหนุ น ให้ น ายอภิ สิ ท ธ์ เวชชาชี ว ะ หั ว หน้ า พรรค
ประชาธิ ปัตย์ข* ึ นเป็ นนายกรั ฐมนตรี เหมื อนกัน แต่ จ ะจบลงเหมือนกับ
นายควง อดีตหัวหน้าพรรคหรื อไม่ยงั ไม่อาจจะทราบได้
3. ทําลายรัฐบาลทีมาจากการเลือกตั;ง รัฐบาลของกลุ่มอํานาจนาย
ปรี ดี พนมยงค์ ในปี 2490 เป็ นรั ฐบาลประชาธิ ปไตยของฝ่ ายพลเรื อนที
ได้อาํ นาจมาโดยชอบและเป็ นที ชื น ชมของประชาชน เนื องจากเป็ น
85

รัฐบาลของกลุ่มขบวนการเสรี ไทยภายในประเทศที ต่อต้านการยึดครอง


ของญีปุ่นทีร่วมมือกับกลุ่มทหารจอมพล ป.พิบูลสงคราม และได้รับความ
เชื อมัน จากต่ างประเทศ ซึ งขณะนั*น ประเทศมหาอํานาจเป็ นรั ฐบาลของ
ฝ่ ายสัมพันธมิตรทีเป็ นฝ่ ายชนะสงครามโลกครั*งที 2 จึ งให้การสนับสนุ น
รัฐบาลทีมาจากขบวนการเสรี ไทย ซึ งปั จจุ บนั รั ฐบาลของพ.ต.ท.ทักษิ ณ
ชิ น วัต ร ก็ เ ป็ นรั ฐ บาลประชาธิ ป ไตยของฝ่ ายพลเรื อนที ไ ด้ ม าตาม
รัฐธรรมนูญของประชาชน ปี 2540 โดยสมบูรณ์ แบบที ได้รับการยอมรั บ
จากต่างประเทศ ด้วยอยูใ่ นยุคโลกาภิวฒั น์ และเป็ นที นิยมของประชาชน
ดังนั*นการยึดอํานาจของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ท* งั สองครั*งนี* จึงเป็ น
ทีจบั ตามองของประเทศมหาอํานาจมาก ผูย้ ดึ อํานาจจําเป็ นต้องเล่นละคร
หลอกลวงชาวโลกและประชาชนไทยให้เป็ นไปอย่างแนบเนี ยน ด้วยเหตุ
นี* ในเหตุ ก ารณ์ ยึ ด อํา นาจเมื อ 8 พฤศจิ ก ายน 2490 ฝ่ ายทหารจึ ง ต้อ ง
อําพรางภาพลักษณ์ ของเผด็จ การเพือมิให้เกิ ดการบาดหู บาดตาประเทศ
มหาอํานาจ เพราะจอมพล ป.พิ บูลสงคราม ก็ พึงหลุดจากคดี อาชญากร
สงครามมาไม่นาน ด้วยเหตุน* ีคณะรัฐประหารจึงได้เชิญนายควง อภัยวงศ์
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ*นเป็ นนายกรัฐมนตรี เพือสร้างภาพลักษณ์ทีดี
ในลักษณะทีว่าคณะรัฐประหารนั*นไม่ตอ้ งการอํานาจทางการเมือง แต่ ก่อ
การยึดอํานาจเพือแก้ไขปั ญหาของประเทศโดยแท้จริ ง ปรากฏหลักฐาน
86

ตามทีจอมพลผิน ชุณหะวัณ ได้เล่าไว้ในหนังสื ออนุ สรณ์ งานศพ หน้า 88


ว่า
“วันที 9 พฤศจิกายน 2490 ได้ประชุ มคณะรั ฐประหารชั*นผูใ้ หญ่
มี จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็ นประธานพิจารณาจัดตั*งรั ฐบาลใหม่ในที
ประชุ มเห็ นว่ านายควง อภัยวงศ์ ซึ งเป็ นฝ่ ายค้านได้เปิ ดอภิ ปรายทัวไป
โจมตี รั ฐ บาลปั จ จุ บัน ในรั ฐ สภา โดยใช้เ ครื องกระจายเสี ย งเปิ ดการ
อภิปรายของฝ่ ายค้าน ให้ราษฎรได้ฟังทัว ประเทศ ทําให้ราษฎรได้ทราบ
ความบกพร่ องของรัฐบาลอย่างมากมาย เพือเป็ นการสนองพรรคฝ่ ายค้าน
ทีประชุมจึงลงมติเอกฉันท์ให้ต* งั นายควง อภัยวงศ์ เป็ นนายกรัฐมนตรี ”
เหตุการณ์การเมืองในปั จจุบนั นี*ก็คล้ายคลึงกัน ผูท้ าํ รั ฐประหารก็
พยายามผลักดันให้หวั หน้าพรรคประชาธิปัตย์คือนายอภิ สิทธิ; เวชชาชี วะ
เป็ นนายกรัฐมนตรี ภายหลังการเลือกตั*งเมือ 23 ธันวาคม 2550 โดยผ่าน
กระบวนการของรัฐบาลชัว คราว พลเอกสุ รยุทธ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี
ที ม าจากองคมนตรี ซึ ง เป็ นรั ฐ บาลของฝ่ ายเจ้า อย่ า งชั ด เจนมาเป็ น
ผูส้ นับสนุ น ปู ทางให้ แต่ สถานการณ์ โ ลกและความคิ ด ของประชาชน
แตกต่างไปจากเหตุการณ์ในอดี ตมาก จึ งทําให้แผนการสร้ างภาพฝ่ ายตัว
ละครพรรคประชาธิ ปั ต ย์จึ งไม่ สัม ฤทธิ; ผล พรรคประชาธิ ปัต ย์จึ ง ไม่


ผิน ชุณหะวัณ,จอมพล 2513 “ชีวิตกับเหตุการณ์ ” อนุสรณ์ในงานพระราชทาน
เพลิงศพจอมพลผิน ชุณหะวัณ (กรุ งเทพมหานคร: อรุ ณการพิมพ์), 2516
87

สามารถเอาชนะพรรคพลังประชาชนซึ ง เป็ นกลุ่ มอํานาจของพ.ต.ท.


ทักษิ ณ ชิ นวัต ร ได้ และล่ าสุ ดฝ่ ายรั ฐประหาร 19 กันยายน 2549 ยังใช้
ความพยายามโค่นล้มรัฐบาลของกลุ่มพ.ต.ท.ทักษิ ณ ชิ นวัตร อีกด้วยการ
สมคบกันให้กลุ่ มพัน ธมิต รฯ ออกปลุ ก ระดมเคลื อนไหวประชาชนซึ ง
ส่ วนใหญ่ เป็ นคนจากภาคใต้ซึ งเป็ นฐานของพรรคประชาธิ ปัตย์ ออกมา
ก่อการจลาจลเป็ นเวลานานกว่าหกเดือนโดยยึดถนนราชดําเนิ น ทําเนี ยบ
รั ฐ บาล สนามบิ น สุ ส วรรณภู มิ ส นามบิ น ดอนเมื อ ง สนามบิ น ภู เ ก็ ต
สนามบินหาดใหญ่ และสมคบกับอํานาจศาลรัฐธรรมนู ญ จนรั ฐบาลกลุ่ม
พ.ต.ท.ทัก ษิ ณ ต้องล้มควําไปถึ ง2 รั ฐบาล คื อ รั ฐบาลภายใต้การนําของ
นายสมัคร สุ น ทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ; นายกรั ฐมนตรี และ
สุ ดท้ายพวกทหารก็แสดงบทบาทอย่างออกหน้าออกตาเป็ นนายหน้าของ
ฝ่ ายวังหนุ นให้หวั หน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ*นเป็ นนายกรัฐมนตรี จนได้ใน
การประชุมสภาผูแ้ ทนราษฎรเมือ 15 ธันวาคม 2551
4.คนใกล้ ชิ ด ปรี ดี พนมยงค์ หลวงกาจสงคราม(พ.อ.กาจ
การสงคราม) คนใกล้ชิดปรี ดี พนมยงค์ ทรยศโดยย้ายฝากอํานาจไปอยูก่ บั
ฝ่ ายเจ้าและกล่าวโจมตี ว่าปรี ดีคิ ดการใหญ่ จะจัดตั*งระบอบสาธารณรั ฐ
และตั*งตัว เองขึ* น เป็ นประธานาธิ บดี เป็ นกรณี ค ล้ายกับกรณี น ายเนวิ น
ชิดชอบ คนใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทีทรยศย้ายข้างไปอยูฝ่ ่ ายทหาร
และพรรคประชาธิ ปัตย์ ฝ่ ายเจ้าโดยร่ วมสนับสนุ นการจัดตั*งรั ฐบาลเพือ
88

โค่นล้มฝ่ ายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และทีขาดไม่ได้ก็โจมตี พ.ต.ท.ทักษิ ณ


ว่าคิดการใหญ่คล้ายกับเหตุการณ์ทีเกิดกับนายปรี ดี พนมยงค์
เหตุการณ์ในครั*งนั*น หลวงกาจสงครามเป็ นคนหนึ งในคณะเสรี
ไทยโดยร่ วมมือกับปรี ดี พนมยงค์ ในการตั*งขบวนการต่ อต้านญี ปุ่น โดย
ยอมลาออกจากตําแหน่ งรั ฐมนตรี เมือตุ ลาคม 2486 เป็ นตัวแทนเสรี ไทย
เดิ น ทางไปประเทศจี น และเมื อ สงครามยุ ติ แ ล้ว หลวงกาจสงครามก็
ร่ ว มกับปรี ดี พนมยงค์ ก่ อตั*งพรรคสหชี พ ซึ งเป็ นพรรคที ก ้าวหน้าที มี
นโยบายเป็ นประชาธิปไตยของฝ่ ายพลเรื อนในขณะนั*น แต่ ภายหลังจาก
เกิ ด กรณี วิ ก ฤต กรณี ส*ิ น พระชนม์ข องรั ช กาลที 8 โดยมี หลัก ฐานทาง
ประวัติศาสตร์ ว่าหลวงกาจสงครามได้แกล้งให้ร้ ายปรี ดี พนมยงค์ ว่ามี
แผนการจัดตั*งมหาชนรั ฐ(ในความหมายปั จจุ บนั ก็คือการโจมตี ว่าจะล้ม
สถาบันกษัตริ ย ์ จัดตั*งสาธารณรั ฐนัน เอง) โดยจะยึดอํานาจทัว ประเทศ
ไปสู่ มหาชนรั ฐ เมือคณะทหารทราบเข้าจึ งปฏิวตั ิ ตดั หน้า(หนังสื อพิมพ์
เสรี ภาพ 18 พฤศจิ กายน 2490 อ้างในสุ ธาชัย ยิ*มเจริ ญ หน้า 114,แผนชิ ง
ชาติไทย)
89

3.7 ทําลายระบอบรัฐธรรมนูญ ฟื; นระบอบกษัตริย์


รั ฐประหาร 8 พฤศจิกายน 2490 เป็ นจุด เริ มต้ นของการทําลาย
ระบอบรัฐธรรมนูญและฟื; นระบอบกษัตริย์
ความมุ่งมัน ของคณะราษฎรที ทาํ การเปลียนแปลงการปกครอง
ต้ อ งการจะพลิ ก จากระบอบสมบู ร ณาญาสิ ทธิ ราชเป็ นระบอบ
ประชาธิ ป ไตยอัน มี พ ระมหากษั ต ริ ย์เ ป็ นประมุ ข นั*น ก็ จ ํา เป็ นต้ อ ง
เปลียนแปลงวัฒนธรรม โดยให้ความสําคัญกับระบอบรั ฐธรรมนูญที เป็ น
กฎหมายสูงสุ ดการสถาปนาลัทธิรัฐธรรมนูญขึ*น โดยยกรั ฐธรรมนู ญให้มี
ฐานะสู ง เด่ น เป็ นสัญ ลัก ษณ์ แห่ ง ชาติ มาแทนที สถาบัน กษัต ริ ย์ที เ ป็ น
สัญลักษณ์แห่ งชาติอยูเ่ ดิม โดยคณะราษฎรได้ให้การศึกษาประชาชนโดย
ส่ ง กลุ่ ม ปาฐกถาเดิ น ทางไปยัง จังหวัด ต่ างๆทัว ประเทศ เพื อเผยแพร่
ระบอบรัฐธรรมนูญ นํารู ปภาพรั ฐธรรมนู ญไปแจกตามหมู่บา้ นห่ างไกล
และเอาตัวบทรัฐธรรมนูญไปแจกข้าราชการอําเภอ ครู กํานัน ผูใ้ หญ่ บา้ น
จากนั*น ก็ จ ัด ให้มี ก ารจัด งานฉลองรั ฐธรรมนู ญ เป็ นประจําทุ ก ปี และ
พยายามสร้ างสัญลักษณ์ รั ฐธรรมนู ญขึ*น เพื อให้อยู่ในใจของประชาชน
90

เช่ น การสร้ า งอนุ ส าวรี ย์รั ฐ ธรรมนู ญ ที ถ นนราชดํา เนิ น  (ที เ รี ยกว่ า
อนุ สาวรี ยป์ ระชาธิ ปไตยในปั จจุ บนั ) และได้สร้ างอนุ สาวรี ยป์ ราบกบฏ
โดยมี รู ปพานรั ฐธรรมนู ญ เป็ นสัญ ลัก ษณ์ หลังจากได้ชัย ชนะจากการ
ปราบกบฏบวรเดชซึ งเป็ นการปราบปรามการลุกขึ*นสู้ของฝ่ ายเจ้าเมือปี
2476
การรั ฐประหารเมื อ 8 พฤศจิ ก ายน 2490 นั*น ถือได้ว่ าเป็ นการ
สร้างวัฒนธรรมฉี กรั ฐธรรมนู ญเป็ นครั*งแรกเพราะก่ อนหน้านั*นแม้จะมี
การยึดอํานาจแต่ ก็ไม่มีการฉี กรั ฐธรรมนู ญ และรั ฐธรรมนู ญที ถูกฉี กนี* ก็
เป็ นรั ฐ ธรรมนู ญ ฉบั บ ถาวรฉบั บ แรกของไทยที ร่ างขึ* นจากการ
เปลีย นแปลงการปกครองและประกาศใช้เมือ 10 ธัน วาคม 2475 ในปี
ปฏิวตั ิเปลียนแปลงการปกครอง ซึงใช้มาประมาณ 15 ปี โดยคณะราษฎร
มีความมุ่งหมายที จะให้ระบอบรั ฐธรรมนู ญ มีความมัน คงให้ประชาชน
ยึด ถื อ เป็ นระบอบกฎหมายสู ง สุ ด ตลอดไป ให้เ ป็ นรากฐานของการ
ปกครองในระบอบประชาธิ ปไตยเหมื อนกับที เกิ ด ขึ* น ในอังกฤษ และ
สหรัฐอเมริ กา ทีมีการใช้รัฐธรรมนูญฉบับดั*งเดิมมาเป็ นเวลานานกว่าสอง


รั ศ มี ชาตะสิ ง ห์ 2521 หน้ า 384 “บทบาทพลเอกพระยาพหลพลพยุ ห เสนา
ในฐานะนายกรั ฐมนตรี 6 ปี แรกของการเปลียนแปลงการปกครอง” วิ ทยานิ พนธ์
อักษรศาสตร์ มหาบัณฑิต ภาควิชาประวัติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
91

ร้อยปี โดยกลายเป็ นวัฒนธรรมความเชือซึมอยูใ่ นสายเลือดของประชาชน


ทีดาํ รงชีวิตอยูใ่ นสังคมนั*นๆ
จากความเห็ น ของสุ ธาชัย ยิ*มเจริ ญ อาจารย์คณะอัก ษรศาสตร์
จุ ฬาลงกรณ์ มหาวิ ทยาลัย บัน ทึ ก ในหนังสื อแผนชิ งชาติ ไทย หน้า 102
เห็นว่า “ความจริ งแล้วนัยยะของลัทธิ รัฐธรรมนู ญที คณะราษฎรพยายาม
เสนอและผลักดัน ส่ วนหนึ งก็เป็ นการลดความสําคัญของพระมหากษัตริ ย ์
ในฐานะทีเป็ นสัญลักษณ์แห่ งชาติทีตกค้างมาจากยุคสมบูรณาญาสิ ทธิราช
ด้วยเหตุน* ีการพังทลายของรัฐธรรมนูญในฐานะทีเป็ นสัญลักษณ์ แห่ งชาติ
ก็เท่ากับเป็ นการรื* อฟื* นความสําคัญของพระมหากษัตริ ยใ์ ห้สูงเด่นขึ*น”
ดังนั;นการรัฐประหารเมือ 8 พฤศจิกายน 2490 จึงมิใช่ เป็ นเพียง
การช่ วงชิ ง อํ า นาจทางการเมือ งโดยความร่ ว มมื อ กัน ของฝ่ ายทหาร
กั บ พรรคประชาธิ ปั ตย์ เท่ านั; น แต่ เ นื; อ แท้ คื อ การทํ า ลายแนวคิ ด
ประชาธิปไตยของคณะราษฎรโดยการทํ าลายระบอบรั ฐธรรมนู ญเพือ
พลิกฟื; นอํานาจของฝ่ ายเจ้ าให้ กลับคืนมาทั;งหมด และเป็ นจุดเริ มต้ นของ
ระบอบสมบู รณาญาสิ ท ธิ ราชใหม่ ที ท รงอํานาจ และบดทําลายระบอบ
ประชาธิปไตยอยู่ในขณะนี;
จากความเห็นของสุ ธาชัย ยิม* เจริ ญ ใน แผนชิ งชาติ ไทยหน้า 103
อ้างถึงหนังสื อพิมพ์การเมืองรายสัปดาห์ 29 พฤศจิกายน 2490 ว่า
คณะรัฐประหารจึงได้นาํ ความสัมฤทธิผลมาสู่กลุ่มเจ้า-ขุนนาง
92

บางประการ นันคื อ “การถวายอํานาจคืน ” โดยคณะรั ฐประหารเป็ นผู้


มอบให้ผ่านรั ฐธรรมนู ญ ฉบับชัว คราวที ประกาศใช้ สําหรั บจอมพล ป.
พิบูลสงคราม นั*น แม้ว่ าจะเคยเป็ นคู่ ปฏิ ปัก ษ์ก ับฝ่ ายเจ้าขุนนางมาก่ อน
แต่ก็ได้ฉวยสถานการณ์ เป็ นประโยชน์ต่อตนเอง ดังคําให้สัมภาษณ์ เมือ
วัน ที 9 พฤศจิ ก ายน 2490 ในนามของหั ว หน้ า คณะรั ฐ ประหารว่ า
“รั ฐ ประหารครั; งนี; ค ณะทหารอยากเปลี ย นรั ฐ บาล จะเพิ ม อํ า นาจ
พระมหากษั ต ริ ย์ ใ ห้ มากขึ; น ท่ านจะได้ โ อกาสช่ วยดู แ ลบ้ า นเมื อ ง”
(การเมืองรายสัปดาห์ 25 พฤศจิกายน 2490) และในทีสุด พระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว ก็ ทรงพระราชหัต ถเลขาในวัน ที 25 พฤศจิ ก ายน แสดง
ความปิ ติ ยิ น ดี ด ้ ว ยกับ การรั ฐ ประหารครั* งนี* (ว.ช.ประสั ง สิ ต 2492 :
245-248)

3.8 รัฐธรรมนูญ 2490 วางระบบอํานาจฝ่ ายเจ้ าให้ เข้ มแข็ง


รัฐธรรมนูญแห่ งราชอาณาจักรไทยฉบับชัว คราว พ.ศ.2490 หรื อ
ที รู้ จ ั ก กั น ในนามรั ฐ ธรรมนู ญ ใต้ ตุ่ ม เนื อ งจากคณะรั ฐ ประหารได้
เตรี ยมการร่ างรัฐธรรมนูญไว้ล่วงหน้าแต่ดว้ ยเกรงว่าจะมีคนรู้เห็ นจึ งซ่ อน
ไว้ใต้ตุ่ ม จากคําให้สัมภาษณ์ ข อง น.อ.กาจ เก่ งระดมยิง (ชื อเดิ มกาจ
กาจสงคราม) ผูร้ ่ างได้กล่าวว่า
93

“เตรียมร่ างรัฐธรรมนูญไว้ วนั ละเล็กละน้ อย โดยมิได้ มีผู้ใดพึงรู้


เห็นแล้ วเก็บซ่ อนไว้ใต้ ตุ่มสามโคก ครั;นเมือ ทําการรัฐประหารสํ าเร็จลงจึง
ได้ นํารัฐธรรมนูญทีซ่อนไว้ ใต้ ตุ่มแดงออกประกาศใช้ ทันที รั ฐธรรมนู ญ
ฉบับนีจ; งึ มีฉายาว่ ารัฐธรรมนูญใต้ ตุ่ม”
รัฐธรรมนูญฉบับนี*ได้เป็ นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ชดั เจนว่า
เป็ นรั ฐธรรมนู ญที พลิกฟื* นอํานาจของกษัตริ ยข์ * ึนอย่างค่ อนข้างสมบูร ณ์
นับตั*งแต่มีการเปลียนแปลงการปกครองเมือ 24 มิถุนายน 2475 กล่าวคื อ
ได้กาํ หนดให้มี 2 สภา คื อสภาผูแ้ ทนราษฎร และวุฒิสภา โดยมีจาํ นวน
เท่ากัน และเฉพาะวุฒิสภาทั*งหมดนั*นให้เป็ นอํานาจของพระมหากษัตริ ย ์
ทีจะทรงคัดเลือกเอง(มาตรา 33) และกําหนดให้มีการรื* อฟื* นอภิ รัฐมนตรี
สภาซึ งเป็ นองค์ก รบริ ห ารของเจ้านายสมัย รั ช กาลที 7 และถูก รั ฐบาล
คณะราษฎรยกเลิ ก ไปแล้ว โดยรั ฐ ธรรมนู ญ ฉบับ ปี 2490 มาตรา 2
กําหนดให้มีข* ึนมาใหม่ อภิรัฐมนตรี สภาก็มีฐานะคล้ายคณะองคมนตรี ใน
ปั จจุบนั นี*
การมีวุ ฒิสภาที มาจากการแต่ งตั*งของกษัตริ ย ท์ * งั สภา และให้มี
อํา นาจเสมอเช่ น สมาชิ ก สภาผูแ้ ทนราษฎรที ม าจากการเลื อ กตั*ง ของ

สุ ต มัย ศรี สุข 2510.หน้า 80 ในหนัง สื อ “ฯพณฯ พลโทหลวงกาจสงคราม
(นายพลตุ่ มแดง) ยัง ไม่ ต าย” อนุ ส รณ์ ใ นงานพระราชทานเพลิ งศพ พล.ท.กาจ
กาจสงคราม 20 เมษายน 2510 (กรุ งเทพฯ : โรงพิมพ์กรมสื อสารทหาร)
94

ประชาชน จึ งเป็ นการบ่ งชี* ให้เห็ นว่ ามีอาํ นาจของกษัตริ ยค์ ุ มอํานาจทาง
การเมืองของประชาชนอย่างชัดเจน ดังนั*นหลักการของการปกครองใน
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริ ยเ์ ป็ นประมุขโดยทรงอยู่เหนื อ
การเมื อ งตามแนวคิ ด ของคณะราษฎรจึ ง ไม่ เ ป็ นจริ ง และตั* งแต่
รั ฐธรรมนู ญ ฉบับ 2490 เป็ นต้น มา เมื อ มี ก ารฉี ก รั ฐ ธรรมนู ญ และร่ า ง
รัฐธรรมนูญใหม่อาํ นาจของกษัตริ ยใ์ นวุฒิสภาก็ยงั คงสื บเนื องต่ อไป และ
มาสิ*นสุ ดเมือเกิดการร่ างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ปี 2540 ทียกเลิกการ
แต่งตั*งวุฒิสภาจากกษัตริ ย ์ โดยให้วุฒิสภามาจากการเลือกตั*งโดยตรงจาก
ประชาชนทั*งหมด ซึงถือเป็ นรัฐธรรมนูญทีให้อาํ นาจเต็มแก่ประชาชน
เมือนําเหตุ การณ์ การยึดอํานาจเมือ 19 กันยายน 2549 มาศึกษา
เปรี ยบเทียบก็จะพบประเด็นทีมาแห่ งวุฒิสภาเป็ นชนวนระเบิ ด ที ฝ่ายเจ้า
ไม่พอใจรัฐธรรมนูญปี 2540 และเก็บความไม่พอใจนี*ซ่อนไว้อย่างเงี ยบๆ
โดยปล่อยให้รัฐธรรมนู ญปี 2540 ประกาศใช้ไปสักระยะหนึ งก่ อน แล้ว
นักวิชาการและนักเคลือนไหวใน “เครื อข่ายราชสํานัก”(Royol Network)
เช่น อธิ บดี มหาวิทยาลัย คณบดี หรื อพวกที ต* งั ชื อตัวเองแปลกว่าราษฎร
อาวุโส ก็ออกมาโจมตีเพือทําลายกระบวนการเลือกตั*งสมาชิ กวุฒิสภาว่า
เป็ นสภาผัวเมีย เพือให้เกิ ดการเสื อมความนิ ยมในหมู่ประชาชนเกี ยวกับ
การเลือกสมาชิกวุฒิสภาโดยตรงจากประชาชน และให้หันหลังกลับมาสู่
การแต่ ง ตั* งโดยสถาบั น พระมหากษั ต ริ ย์อี ก ในที สุ ดเมื อ เกิ ด การ
95

รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 โดยนําระบบการแต่งตั*งวุฒิสมาชิ กกลับมา


ใหม่ แต่ ยงั เหนี ยมอายถึ งการกระทําที ไม่เป็ นประชาธิ ปไตย จึ งใช้คาํ ว่ า
“สรรหา” ในรั ฐธรรมนู ญ ฉบับปี 2550 โดยฝ่ ายเจ้าใช้อาํ นาจผ่านกลไก
ของประธานศาลฎี ก า ประธานศาลปกครอง และประธานศาล
รัฐธรรมนูญ และกลไกของระบบข้าราชการที มาในรู ปขององค์กรอิสระ
และในเบื*องต้นของรัฐธรรมนูญปี 2550 ก็ลองเชิงแต่งตั*งวุฒิสภาเพียงครึ ง
สภาก่ อน แต่ ทีสะท้อนความต้องการของฝ่ ายเจ้าที อยากจะเห็ น ระบบ
การเมื อ งโดยตัด มื อ ตัด เท้า ของฝ่ ายประชาชนอย่ า งชัด แจ้ง ก็ คื อ การ
นําเสนอ “การเมืองใหม่” ของฝ่ ายพันธมิตรประชาชนเพือประชาธิ ปไตย
ซึ ง เป็ นที รู้ ก ัน ทัว ไปว่ า เป็ นม็ อ บของฝ่ ายเจ้า (โดยเรี ยกขานกั น เป็ น
สัญลักษณ์ ตามท้องตลาดว่าม็อบเส้นใหญ่ ) โดยเสนอให้ก ารเลือกตั*งใน
สภาผูแ้ ทนราษฎรซึ งเป็ นฐานอํานาจที สาํ คัญของระบอบประชาธิ ปไตย
แบบรั ฐสภาให้เป็ นแบบ 30:70 คื อเลือกตั*ง 30 เปอร์ เซ็ นต์ แต่ งตั*ง 70
เปอร์ เซ็นต์ และได้กลายเป็ นชนวนระเบิดในสังคมไทยในขณะนี*

3.9 แม้ ฟื;นอํานาจแล้ วแต่เจ้ ายังคุมทหารไม่ได้


ในการรัฐประหาร 8 พฤศจิ กายน 2490 แม้จะเป็ นการกําจัดฐาน
อํานาจของคณะราษฎรด้วยการยึดอํานาจขับไล่ปรี ดี พนมยงค์ และแกน
นํา ออกนอกประเทศ พร้อมกวาดล้างจับกุมพลพรรคของปรี ดี พนมยงค์
96

แล้วก็ตาม แต่อาํ นาจของฝ่ ายเจ้าโดยพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่มีอาํ นาจที จะ


ควบคุ ม ฝ่ ายทหารของจอมพล ป.พิ บู ล สงคราม ได้ ประกอบกับ ใน
ขณะนั*นพระเจ้าอยูห่ วั ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที 9 ก็ยงั ทรงพระเยาว์ ต้อง
มีผสู้ าํ เร็ จราชการแทนคือกรมขุนชัยนาทนเรนทร และเนื องจากพระองค์
เพิงขึ*นครองราชย์ (ขึ*นครองราชย์ในตอนเย็นวันที 9 กันยายน 2489 ซึ ง
เป็ นวัน เดี ย วกันกับที รั ชกาลที 8 สิ* น พระชนม์เมือตอนเช้า) พระบรมเด
ชานุ ภาพยังไม่แกร่ งกล้าทีจะสยบอํานาจของฝ่ ายทหารได้ เมือฝ่ ายเจ้ายืม
มื อ ของฝ่ ายทหารทํา ลายฝ่ ายประชาชนภายใต้ก ารนํา ของปรี ดี เป็ น
ผลสําเร็ จแล้ว อํานาจการเมืองทีขบั เคียวกันจึงเหลือเพียง 2 ฝ่ าย คือฝ่ ายเจ้า
โดยมีพรรคประชาธิปัตย์เป็ นฐานฝ่ ายหนึ ง กับฝ่ ายทหารโดยมีกองทัพเป็ น
ฐานให้แก่ จอมพล ป.พิบูลสงคราม อีก ฝ่ ายหนึ งแล้ว ละครนํ*าเน่ าที เคย
แสดงความรั ก อั น ดู ด ดื ม ระหว่ า งควง อภั ย วงศ์ กั บ จอมพล ป.
พิบูลสงคราม ก็ขาดสะบั*นในวันที 6 เมษายน 2491 ด้วยการที จอมพล ป.
พิบูลสงคราม ส่ งทหารคนสนิ ทคื อ พล.ต.สวัสดิ; ส.สวัสดิ; เกี ย รติ , พ.อ.
ศิลป์ รัตนพิบูลชัย, พ.ท.ก้าน จํานงภูมิเวช และพ.ท.ลม้าย อุทยานานนท์
มาขอเข้ า พบและจี* ตั ว นายควง อภั ย วงศ์ ให้ ล าออกจากการเป็ น
นายกรัฐมนตรี ภายใน 24 ชัว โมง นายควง อภัยวงศ์ ก็ยอมลาออกแต่โดยดี
โดยถวายบังคมลาในตอนเย็นวันที 6 เมษายน นั*นเอง โดยกรมขุนชัยนาท
97

นเรนทร ประธานคณะผูส้ ํ า เร็ จ ราชการแทนพระองค์ ก็ ไ ม่ ก ล้า ที จ ะ


ทัดทาน
กรณี ความร่ วมมือระหว่างฝ่ ายเจ้ากับฝ่ ายทหารที จบั มือกันโค่ น
ล้มฐานการเมืองฝ่ ายประชาชนของปรี ดี พนมยงค์ เป็ นบทเรี ยนทีน่าศึกษา
เปรี ยบเที ย บกับการเมื อ งในปั จ จุ บัน ที มี ก ารจับ มื อ กัน ระหว่า งพรรค
ประชาธิปัตย์โดยนายอภิ สิทธิ; เวชชาชี วะ หัวหน้าพรรคในนามตัวแทน
ของฝ่ ายเจ้ากับพล.อ.อนุ พงศ์ เผ่าจิ นดา ในนามตัวแทนของฝ่ ายทหารที
ต่ า งก็ อยู่ภ ายใต้พระบรมเดชานุ ภ าพ โดยร่ ว มกัน ทํา การโค่ น ล้มฐาน
การเมืองฝ่ ายประชาชนของพ.ต.ท.ทักษิ ณ ชิ นวัตร ซึ งมีลกั ษณะคล้ายกัน
โดยรู ปแบบ แต่ มีเนื* อหาที แตกต่ างกัน ในเงื อนไขเวลาของยุคสมัย และ
ปั จจัยใหม่คือการมีส่วนร่ วมของภาคประชาชน แต่ แม้กระนั*นต่ างก็ยงั อยู่
ในบทสัจ ธรรมเดี ย วกันไม่ เปลี ย นแปลงคื อ อํานาจเป็ นสิ งที หอมหวน
ดังนั*นการเห็นบทหวานชืนระหว่างอภิสิทธิ;กบั พล.อ.อนุ พงศ์ วันนี* ก็ใช่ ว่า
จะราบรื นตลอดไปไม่ ลองมาดูบทละครการเมืองอันหวานชื นในระยะ
เริ มแรกของนายควงกับจอมพล ป. แต่ก็อยูก่ ินกันหม้อข้าวไม่ทนั ดําก็เลิก
ร้างกันไป ลองดูบทเกี*ยวพาราสี กนั ระหว่างนายควง อภัยวงศ์ ,มรว.เสนี ย ์


สิ ริ รั ต น์ เรื อ งวงษ์ว าร 2521.หน้า 359 “บทบาททางการเมื อ งของนายควง
อภัยวงศ์ ตั*งแต่การเปลียนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 ถึง 2491” วิทยานิพนธ์อกั ษร
ศาสตร์ มหาบัณฑิต ภาควิชาประวัติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
98

ปราโมช กับจอมพล ป.พิบูลสงคราม แล้วก็จะรู้ เองว่าพรรคประชาธิ ปัตย์


มีประวัติการแสดงละครทางการเมืองชนิ ดที เรี ย กว่ าตลบตะแลงถึ งบท
จริ ง ๆ แต่ สุด ท้า ยก็ แตกกัน เพราะต่ า งฝ่ ายต่ า งก็ อยากได้อาํ นาจสู งสุ ด
ด้วยกัน
นายควง : นี ไงกัปตัน ผมเอารายชือรัฐมนตรี มาให้ดู
จอมพล ป. : เอามาให้ผมดูทาํ ไม ผมบอกแล้วว่า
ไม่ตอ้ งการอํานาจทางการเมือง
คุณเห็นดีอย่างไรก็เอาอย่างนั*นแหละ
นายควง : แต่มีรัฐมนตรี หลายคนทีกปั ตันคงไม่ชอบ
จอมพล ป. : อย่าได้ถือความเห็นผมเป็ นสําคัญ....”

ส่ ว นม.ร.ว.เสนี ย์ ปราโมช ก็ อ อกมาปกป้ องจอมพล ป.


พิบูลสงคราม ทั*งๆ ที ประชาธิ ปัตย์เคยโจมตี ว่าเป็ นจอมเผด็จการมาก่ อน
แต่ ว นั นี* จําเป็ นต้องกลับหลังหัน มาจู บปากกัน , บรรพบุ รุ ษ ของพรรค
ประชาธิปัตย์มีความสามารถพิเศษในเรื องเหล่านี* โดยกล่าวชื นชมเพือให้
สังคมวางใจในตัวจอมพล ป.โดยเปรี ยบเปรยว่าคนที กลัวความเป็ นเผด็จ
การมากที สุดในเมืองไทยวันนี* ก็คือตัวของท่ านจอมพล ป.เองโดยกล่าว
ว่า “หม่ อมคึกฤทธิN เป็ นเจ้ าของคําคมอีกคนหนึงโดยได้ กล่ าวว่ าเวลานี;คน


หนังสื อพิมพ์ศรี กรุ ง 12 พฤศจิกายน 2490
99

ในเมืองไทยทีกลัวเผด็จการมากทีสุดได้ แก่ จอมพล ป.ข้ อนีเ; ป็ นคํากล่าวทีม ี


เหตุผล” 
ส่ ว นความรั ก อัน หวานชื น ระหว่ างอภิ สิทธิ; กับพล.อ.อนุ พงศ์
ในปั จจุบนั นี*จะจบลงอย่างไรเป็ นเรื องทีผอู้ ่านจะต้องติดตามกันต่อไป

3.10 รัฐประหาร 2500 ระบอบกษัตริย์เริมตั;งมัน อย่ างเข้ มแข็ง


การเฝ้ ารอคอยโอกาสเพือ เผด็จอํานาจทางการเมืองเป็ นคุณสมบัติ
และประสบการณ์ ทีสําคัญของพระเจ้ าอยู่หัวรั ชกาลปั จจุบัน ทีใช้ เป็ นกล
ยุทธ์ ในการสร้ างสมบารมีจนกลายเป็ นพระบรมเดชานุ ภาพที พลิกฟื; น
อํานาจของกษั ตริ ย์ กลับ ขึ;นมาใหม่ จนเข้ มแข็ง และพัฒนาอํานาจทําให้
ระบอบการปกครองของไทยกลายเป็ นระบอบสมบู รณาญาสิ ทธิราชใหม่
ในทุกวันนี;
เมือจอมพล ป.พิบูลสงคราม กลับสู่ อาํ นาจการเมืองใหม่อีกครั* ง
ด้วยการจี*ให้นายควง อภัยวงศ์ ลาออก ในเส้นทางการเมืองยุคสุ ดท้ายของ
จอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็ตอ้ งประสบปั ญหามากมาย และการดิ*นรนเพือ
รั ก ษาอํา นาจอยู่ต่ อ ไปนั* นในแต่ ล ะวัน ก็ ย ากเย็น แสนเข็ ญ และโดย


แมลงหวี(นามแฝง) 2490 หน้า 72,”เบื*องหลังประวัติศาสตร์ ทางการเมืองของ
ม.ร.ว.เสนีย ์ ปราโมช” (พระนคร:ไทยวัฒนาพานิช),2511
100

ธรรมชาติทางการเมืองก็เกิดความขัดแย้งระหว่างลูกน้องของจอมพล ป.
ด้ว ยกัน เข้าทํานองว่ า เสื อสองตัว อยู่ในถํ*าเดี ย วกัน ไม่ ได้ นัน คื อความ
ขัดแย้งระหว่างพลตํารวจเอกเผ่า ศรี ยานนท์ กับพลเอกสฤษดิ; ธนะรั ชต์
โดยเฉพาะอย่างยิงในช่ ว งขาลงของจอมพล ป.นั*น กระแสตื น ตัว ของ
ประชาชนต่อสิ ทธิเสรี ภาพในระบอบประชาธิปไตย เป็ นกระแสการเมือง
ใหม่ทีเริ มมีพลังขึ*น อันเป็ นผลสะเทือนจากการเปลียนแปลงการปกครอง
เมื อ 24 มิ ถุ น ายน 2475 และการก่ อตั*ง มหาวิ ทยาลัย ธรรมศาสตร์ และ
การเมื อ ง อี ก ทั*ง จอมพล ป. ต้ อ งการจะลบภาพจอมเผด็ จ การที เ คย
แสดงออกในอดีตเมือครั*งลัทธิ ทหารเป็ นกระแสหลักของโลกโดยมีผนู้ าํ
ทางทหารทีมีชือเสี ยงเช่น ฮิตเลอร์ ผูน้ าํ เยอรมัน มุสโสลินี ผูน้ าํ อิตาลี และ
โตโจ ผูน้ ํา ญี ปุ่ น จอมพล ป.จึ ง หนุ น ระบอบประชาธิ ป ไตยให้ มี ก าร
เลื อกตั*ง เปิ ดสนามหลวงให้เป็ นเวที ประชาธิ ปไตยที ประชาชนจะไป
แสดงความคิ ดเห็ น ใดๆ ก็ ได้ คล้ายกับสวนสาธารณะ “ไฮด์ ป าร์ ค” ใน
อังกฤษ จนคําว่า “ไฮด์ปาร์ ค”กลายเป็ นคําสะแลง หมายถึง ลักษณะการ
เปิ ดปราศรัยแบบด่าแหลกและตัวท่ านเองก็ต* งั พรรคการเมืองเข้าแข่ งขัน
ในนามพรรคเสรี นงั คศิลา
โดยธรรมชาติ แห่ ง ระบอบประชาธิ ป ไตยนั*น มี พลังอํา นาจที
สําคัญคือ “อํานาจต้องมาจากประชาชน” ดังนั*นระบอบเผด็จการใดๆ ที
พยายามจะฉาบสี สนั ของประชาธิปไตยเพียงรู ปแบบนั*น ไม่ว่ากรณี ใดๆ ก็
101

ยากทีจะดํารงอยู่ได้ และวาระสุ ดท้ายของจอมพล ป.ก็พบกับสัจธรรมนี*


เมือจอมพล ป.ไม่ยอมลงจากอํานาจทั*งๆ ทีความนิ ยมของประชาชนเสื อม
ลงไปมากแล้ว อีกทั*งฐานอํานาจทางทหารก็แตกกัน ดังจะเห็ นได้ว่าใน
ขณะนั*นจอมพลสฤษดิ; ธนะรัชต์ ก็ตีตวั ออกห่ างจากจอมพล ป.ทั*งๆ ทีเป็ น
ผูค้ ุมกําลังทหารสําคัญ แต่ก็ไม่ยอมออกคําสัง ให้ทหารในบังคับบัญชาไป
ลงคะแนนเลื อ ก ส.ส.ของพรรคเสรี มนั ง คศิ ล าโดยแสดงตัว เป็ นนั ก
ประชาธิ ปไตยเต็มใบโดยกล่ าวว่า “เมื อจะเป็ นประชาธิ ปไตยกัน จริ งๆ
แล้ว ขออย่าได้บงั คับกะเกณฑ์ให้ไปลงคะแนนให้พรรครัฐบาลเลย บุคคล
อืนๆ ทีอยูพ่ รรคการเมืองฝ่ ายค้านก็อาจจะเป็ นคนดีได้”
ด้วยภาวะขาลงเช่นนี* จอมพล ป.ไม่มีทางเลือกที จะสื บต่ ออํานาจ
ประชาธิ ปไตย จึ งเกิ ด กรณี การโกงการเลือกตั*งอย่างครึ ก โครมในการ
ประกาศผลการเลือกตั*งเมื อ 1 มีน าคม 2500 จึ งเกิ ดกระแสการต่ อต้าน
โอกาสทองทางการเมืองของจอมพลสฤษดิ; จึ งเกิ ด ขึ* น ซึ งในขณะนั*น
ความคิ ดการมี ส่ว นร่ ว มทางการเมื องของประชาชนเริ มถ่ ายเทลงไปสู่
ขบวนการนักศึกษาอย่างมีผลแล้ว แม้จะเป็ นยุคต้นๆ ก็ทาํ ให้เกิ ดเงื อนไข
ความชอบธรรมของผูม้ ี อาํ นาจทั*งของทหารและฝ่ ายเจ้า ที จ ะใช้พลัง
นักศึกษาประชาชนกล่าวอ้างเพือทําลายปฏิปักษ์ทางการเมืองและการช่วง

เฉลิ ม มะลิ ล า 2517 หน้ า 139 “รั ฐ ประหาร พ.ศ.2500 ในประเทศไทย”
วิทยานิพนธ์แผนกวิชาภาควิชาประวัติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
102

ชิงอํานาจทางการเมือง ในเหตุการณ์เวลานั*นพลังนักศึกษาจากจุ ฬาฯ และ


ธรรมศาสตร์ ก็ ร วมตัว ประท้ว งการโกงการเลื อ กตั*งโดยยกขบวนไป
ทําเนี ยบรัฐบาล เพือจะซักฟอกจอมพล ป.พิบูลสงคราม ซึ งขณะนั*นจอม
พลสฤษดิ; เป็ นผูบ้ ัญชาการทหารบกและเป็ นผูร้ ั กษาพระนครแทนที จ ะ
ขัดขวางเพือปกป้ องรั ฐบาล ก็ ทาํ การลอยตัว (คล้ายๆ กับพล.อ.อนุ พงษ์
ผูบ้ ังคับ บัญ ชาการทหารบกในปั จ จุ บัน กรณี พนั ธมิ ต รบุ ก ยึด ทําเนี ย บ
รั ฐบาลในปี 2551) และแสดงตัว เป็ นนัก ประชาธิ ปไตยเต็มที (แท้จ ริ ง
เตรี ยมช่วงชิงยึดอํานาจ) โดยจอมพลสฤษดิ;ปล่อยให้ฝงู ชนเดินทางผ่านไป
เผชิญหน้ากับจอมพล ป.นายกรั ฐมนตรี เพือซักฟอก, แล้วจอมพลสฤษดิ;
ก็ แ สดงตัว เป็ นพระเอกสลายฝูง ชนโดยกล่ า วปราศรั ย บอกนั ย สํา คัญ
ทางการเมืองว่าจะเกิดการเปลียนแปลงตามทีฝงู ชนต้องการโดยกล่าวว่า
“ข้าพเจ้าเป็ นทหารของชาติ และขอพูด อย่างชายชาติ ทหารว่ า
ข้าพเจ้ามีความเห็นใจประชาชน สิงใดทีมติมหาชนไม่ตอ้ งการข้าพเจ้าจะ
ไม่ ร่ วมมื อด้ว ย” และกล่ าวลงท้า ยคํา ปราศรั ย อย่า งมี ค วามหมายทาง
การเมืองว่า “พบกันใหม่ เมือ ชาติต้องการ”
ต่อมาไม่นาน 16 กันยายน 2500 จอมพลสฤษดิ;ก็ทาํ การยึดอํานาจ
ขับ ไล่ จ อมพล ป.พิ บู ล สงคราม และพล.อ.เผ่ า ศรี ย านนท์ ออกนอก

ประยุ ท ธ สิ ทธิ พ ั น ธ์ 2507 หน้ า 58 “ชี วิ ต และงานของจอมพลสฤษดิ; ”
(ธนบุรี :สํานักพิมพ์กรุ งธน)
103

ประเทศ แล้วจอมพลสฤษดิ;ก็ถอดหน้ากากประชาธิ ปไตยทิ*ง เปิ ดเผยโฉม


หน้าจริ งของตนด้ว ยการใช้อาํ นาจเผด็ จ การโดยปกครองประเทศด้ว ย
รัฐธรรมนู ญฉบับชัว คราวมีเพียง 17 มาตรา โดยมีมาตรา 11 เป็ นอํานาจ
เผด็จ การสู งสุ ดของนายกรั ฐมนตรี ทีสังฆ่าคนได้โ ดยไม่ต ้องสอบสวน
เป็ นเวลานานถึง 6 ปี ก่ อนจะสิ* นชี วิต โดยตั*งสภาร่ างรั ฐธรรมนู ญขึ*นจาก
นักวิชาการทีขายตัว(ซึงไม่แตกต่ างจากนักวิชาการในมหาวิทยาลัยต่ างๆ
ในวันนี*) โดยรับนโยบายจากจอมพลสฤษดิ;ว่าไม่ตอ้ งร่ างให้เสร็ จ
บทบาททางการเมื อ งของพระเจ้ า อยู่ หั ว ภู มิพ ลที ช าญฉลาด
นับตั;งแต่ ปลายยุคจอมพล ป.ถึงยุคจอมพลสฤษดิN ทั;งทียังทรงพระเยาว์
นั;น ไม่ อ าจจะปฏิ เ สธบทบาทของเสนาธิ ก ารใหญ่ ผู้ อ ยู่ เ บื;องหลัง ที เ ป็ น
สามัญชนคือสมเด็จพระราชชนนี ทีช่วยวางแผนประสานแนวร่ วมและ
ทําลายศัตรู ทีละส่ วน จนอํานาจวังกล้ าแข็งและพัฒนามาเป็ นระบอบสม
บูรณาญาสิ ทธิราชใหม่ อยู่ในขณะนี;
ดังจะเห็นความชาญฉลาดในการแสวงหาอํานาจของวัง กล่าวคื อ
ตลอดระยะเวลาการครองอํานาจของจอมพลสฤษดิ;ได้เกิ ดเรื องอื*อฉาว
ของการกระทําทุ จริ ตอย่างขนานใหญ่ รวมตลอดทั*งการตั*งฮาเร็ มโดยมี
หญิ ง สาวมาบํา รุ งบํา เรอจอมพลสฤษดิ; และการมี เ พศสั ม พั น ธ์ ก ั บ
นางบําเรอนั*นจอมพลสฤษดิ;ก็ชอบนุ่ งผ้าขาวม้าสี แดง แต่ ก็ไม่มีขอ้ วิจารณ์
ใดๆ จากวัง
104

ทําไมพระมหากษัตริ ย์ผู้ทรงคุณธรรมไม่ เคยตําหนิหรื อว่ ากล่ าว


กระทบกระเทือบถึงจอมพลสฤษดิNเลยจนถึงทุกวันนี;
เป็ นเพราะอะไร ?

คําตอบทางประวัติ ศาสตร์ ทีเด่ น ชัด ก็ คื อจอมพลสฤษดิ; ได้เปิ ด


ศักราชยุคใหม่ของเมืองไทยทีฝ่ายเจ้าต้องการและรอคอยมานาน
จอมพลสฤษดิNไ ด้ เปลีย นปรั ชญาของกองทัพ จากกองทัพของ
ชาติ แ ละประชาชนภายใต้ ก ารนํ า ของคณะราษฎรเป็ นกองทั พ ของ
พระราชาโดยสมบูรณ์ แบบ
จอมพลสฤษดิN ได้ ทําลายปรัชญารากฐานความคิดของสั งคมทีจะ
มุ่ ง ไปสู่ ระบอบประชาธิ ป ไตยอัน มีพระมหากษั ต ริ ย์ ท รงเป็ นประมุ ข
กลายเป็ นระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่โดยทําลายความศักดิNสิทธิNของ
สถาบันรัฐธรรมนูญทีคณะราษฎรสร้ างขึน; เพือ มาทดแทนความศักดิNสิทธิN
ของสถาบั น กษั ต ริ ย์ และทํ า ลายวั น ชาติ จ าก 24 มิ ถุ น ายน คื อ วั น
เปลีย นแปลงการปกครองมาเป็ นวันพ่ อ 5 ธันวาคม คือวันพระราชสมภพ
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่หัวภู มิพลอดุ ลยเดช และถือเป็ นวันชาติ
ของประเทศไทยโดยปริยายตั;งแต่ น;ัน
นับตั*งแต่ การเปลียนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475 ฝ่ าย
กษัต ริ ย์ไ ด้เ ริ มตั*ง มัน อย่ า งเข้ม แข็ ง เมื อ เกิ ด การรั ฐ ประหารของจอม
105

พลสฤษดิ; ธนะรัชต์ เมือปี 2500, จาก 2475-2500 จึ งเป็ น 25 ปี ของการรอ


คอยเพือการฟื* นอํานาจใหม่, ดังนั*นฐานะของวังภายใต้อาํ นาจคณะราษฎร
จึ ง เป็ นฝั น ร้ า ยที ห ลอกหลอนราชสํา นั ก เป็ นอย่ า งมาก จนส่ ง ผลต่ อ
การเมืองปั จจุบนั นี*ทีราชสํานักจะเกิดความระแวงโดยเกรงว่าฝ่ ายการเมือง
ภาคพลเรื อน หรื อภาคทหารจะก่ อตั*งสถาบันทางอํานาจขึ*น มาเข้มแข็ ง
แข่งกับอํานาจของฝ่ ายตน
ดังนั;นการควบคุมและแทรกแซงอํานาจทางการเมืองของฝ่ ายเจ้ า
ในช่ วงเวลาทีผ่านมา นับตั;งแต่ จอมพลสฤษดิN สิ;นชีวติ จนถึงปั จจุบันนี; จึง
เกิดขึน; เป็ นประจําอย่ างใกล้ ชิดและเกาะติด จนกระทังเกิดเป็ นโครงสร้ าง
อํานาจนอกระบบขึ;น และมีอํานาจเข้ มแข็งกว่ าอํานาจในระบบเลือกตั;ง
ทีมาจากประชาชน

3.11 เข้ าสู่ สมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่โดยกฎหมาย


รั ฐประหาร 16 กันยายน 2500 เป็ นเส้ นแบ่ งทางประวัติศาสตร์
ชัดเจนว่ าประเทศไทยได้ ก้าวเข้ าสู่ ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่ แล้ ว
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ทีจะยืนยันให้เห็ นถึงพระราชอํานาจ
ของกษัตริ ยไ์ ทยว่ามีอยูจ่ ริ งโดยวัฒนธรรมและโดยกฎหมายอย่างสมบูรณ์
นับ ตั*ง แต่ ถูก ยึด อํา นาจไปเมื อ 24 มิ ถุ น ายน 2475 ก็ คื อ การยึ ด อํานาจ
ทางการเมืองทีถกู ช่วงชิงไป กลับคื นมาสู่ ราชสํานักโดยปรากฏหลักฐาน
106

จากเหตุการณ์การโค่นล้มรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ซึงถือเป็ นการ


สิ* นเชื*อสายพันธุค์ ณะราษฎรเมือ 16 กันยายน 2500 โดยพระมหากษัตริ ย ์
ได้แ สดงพระองค์ อ ย่ า งเปิ ดเผยในประกาศพระบรมราชโองการตั*ง
จอมพลสฤษดิ; ธนะรั ชต์ เป็ นผูร้ ั กษาพระนครฝ่ ายทหาร โดยไม่ มีผู้ใดลง
นามรั บสนองพระบรมราชโองการ ซึ งถือเป็ นครั* งแรกที แสดงออกทาง
อํานาจการเมืองด้ว ยพระองค์เองโดยไม่มีผใู้ ดมารั บผิดชอบแทน ซึ งผิด
จากแนวทางของระบอบประชาธิ ปไตยอัน มี พระมหากษัตริ ย ท์ รงเป็ น
ประมุข และโดยกฎหมายจึงถือว่าระบอบการปกครองของไทยได้กลับมา
สู่ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิ ราชนับแต่ น* นั แล้ว, รายละเอียดของพระบรม
ราชโองการทีแสดงถึงพระราชประสงค์ทีมีต่อการยึดอํานาจว่า
“ประชาชนทั;งหลายจงอยู่ในความสงบ และให้ ข้าราชการทุกฝ่ าย
ฟังคําสั งจอมพลสฤษดิN ธนะรัชต์ ตั;งแต่ บัดนีเ; ป็ นต้ นไป”
เมื อพิ จารณาจากตัวนายกรั ฐมนตรี คือนายพจน์ สารสิ น ก็เห็ น
ชัดเจนว่าพระองค์เป็ นผูท้ รงอํานาจทางการเมืองอย่างแท้จริ งนับแต่ น* ัน
เพราะนายพจน์ทีข* ึนเป็ นนายกฯ คนที 9 นี* เป็ นผูร้ ั บใช้ใกล้ชิดราชสํานัก
ดังจะเห็นได้ว่าปั จจุ บนั นามสกุลนี* ยงั รั บใช้ใกล้ชิดราชสํานักต่ อเนื องกัน
มาถึงปั จจุบนั คือ นายอาสา สารสิ น ในฐานะราชเลขาฯ


ผศ.ดร. สุ ธาชัย ยิม* ประเสริ ฐ สายธารประวัติศาสตร์ ฯ หน้า 86
107

นอกจากนี* ยัง ปรากฏหลัก ฐานคํา สั ม ภาษณ์ ข องพล.ต.อ.เผ่ า


ศรี ย านนท์ ยืน ยัน ชัด เจนว่ ากษัต ริ ย เ์ ป็ นผูห้ นุ น หลังการยึด อํานาจของ
จอมพลสฤษดิ; โดยนายเผ่าให้สัมภาษณ์ ทีกรุ งการาจี ประเทศปากี สถาน
เมือวันที 17 กันยายน 2500 ขณะลี*ภยั ว่า “รัฐประหารครั;งนีเ; ป็ นทีคาดและ
ทราบกันอยู่แล้ ว เพียงแต่ ว่าไม่ มใี ครคิดจะสู้ กบั ทหารและกษัตริย์”

3.12 การยึดอํานาจของวังมีสูตรมาตรฐาน
จากหลัก ฐานทางประวัติศ าสตร์ ข องไทยในเหตุก ารณ์ ก ารยึด
อํ า นาจของฝ่ ายทหารตามที ค นไทยเข้ าใจมาโดยตลอดนั; น หากจะ
พิจารณาจากรู ปแบบการจัดการแล้ วจะเห็นว่ าการยึดอํานาจนับตั;งแต่ ปี
2500 จนถึงปั จจุบัน หากครั; งใดทีมีข่าวลือ ว่ าเป็ นพระราชประสงค์ แล้ ว
รู ป แบบการจัด การก่ อ นและหลังการยึด อํานาจจะมีรูป แบบทีคล้ ายกัน
หมดเกือบจะเรียกว่ ามีสูตรสํ าเร็จเป็ นมาตรฐานเลยทีเดียว นับตั;งแต่ การ
เคลือ นไหวประท้ วงของประชาชน เพือ สร้ างความชอบธรรมก่ อนการยึด
อํานาจ, การใช้ กําลังทหารเข้ ายึดอํานาจโดยรวมศู นย์ เป็ นเอกภาพ, การ
จัดตั;งรัฐบาลพระราชทานโดยให้ คนใกล้ ชิดมาเป็ นนายกฯ และการดํารง


ไทยน้อย และ กมล จันทรสร 2500, หน้า 337 “วอเตอร์ ลูของจอมพลแปลก”
(พระนคร: แพร่ วิทยา)
108

อยู่ ข องรั ฐ บาลพระราชทานนั; น จะมีอ ายุ อ ยู่ ป ระมาณ 1 ปี โดยจัด ร่ าง


รั ฐ ธรรมนู ญ ทีสร้ างความเข้ มแข็ง ให้ แ ก่ ระบบราชการ และสร้ างความ
อ่ อนแอให้ แก่ ระบบพรรคการเมืองโดยนักร่ างมืออาชีพ แล้ วหลังจากนั;นก็
จะจัด ให้ มีก ารเลือ กตั;ง เมือ อยู่ไ ด้ สัก พัก หนึ ง ก็จะเกิด การยึด อํานาจใน
ลักษณะนีอ; กี
กล่าวโดยสรุ ปแล้วการมีอาํ นาจของรัฐบาลนับแต่ปี 2500 เป็ นต้น
มา จะไม่มีรัฐบาลใดทีเข้มแข็งเลยด้วยสู ตรยึดอํานาจแบบมาตรฐานสลับ
กับการเลือกตั*ง การยึดอํานาจครั*งสําคัญๆ ทีจะชี*ให้เห็ นถึงสู ตรมาตรฐาน
ได้แก่
1. เกิดการเดินขบวนต่อต้านจอมพล ป.แล้วก็มีการยึดอํานาจเมือ
16 กันยายน 2500 ของจอมพลสฤษดิ; ธนะรั ชต์ โดยให้นายพจน์ สารสิ น
คนใกล้ชิดมาเป็ นนายกรัฐมนตรี อยูไ่ ด้ประมาณ 1 ปี ก็เปิ ดให้มีการเลือก
ตั*งอยูไ่ ด้ไม่นาน ก็เกิดการยึดอํานาจใหม่อีกที เมือ 20 ตุ ลาคม 2501 แล้วก็
เผด็จการยาว
2. เกิ ด การเดิ น ขบวนของนั ก ศึ ก ษาปั ญ ญาชนต่ อต้านจอมพล
ถนอม แล้วพลเอกกฤษ สี วะรา ก็ยดึ อํานาจในนามมวลชนเป็ นผูข้ บั ไล่ลม้
อํานาจจอมพลถนอมเมื อ 14 ตุ ลาคม 2516 ก็ ได้นายสัญ ญา ธรรมศัก ดิ;
คนใกล้ชิด วังเป็ นนายกรั ฐมนตรี อยู่ 1 ปี แล้ว ก็ เปิ ดการเลื อกตั*งทัว ไป
ปี 2518 พอถึงปลายปี 2519 ก็เกิดรัฐประหารอีก
109

3. เกิดการเคลือนไหวไม่พอใจพลเอกชาติ ชาย มีนักศึกษาเผาตัว


ประท้วง แล้วก็เกิดการยึดอํานาจเมือ 23 กุมภาพันธ์ 2534 โดยคณะทหาร
รสช.บุกจี*ตวั นายกฯ บนเครื องบินขณะทีพลเอกชาติชายกําลังจะไปเข้าเฝ้ า
ที เ ชี ย งใหม่ แ ล้ ว ก็ ไ ด้ น ายอานั น ท์ ปั ณยารชุ น คนใกล้ ชิ ด วั ง เป็ น
นายกรั ฐมนตรี 1 ปี แล้ว ก็ เปิ ดเลือกตั*งทัว ไปต้นปี 2535 พล.อ.สุ จิ น ดา
ตั*งรั ฐบาลได้ 45 วัน ก็ถูกเดิ นขบวนขับไล่ โดยการนําของพล.ต.จําลอง
คนสนิ ทพลเอกเปรม แล้ว ก็ได้น ายอานัน ท์ ปั ณยารชุ น มาเป็ นนายกฯ
ใหม่อีกครั*งหนึ ง แบบหัก มุม แล้วก็มีรัฐบาลแบบอ่อนแอ 8 ปี 4 รั ฐบาล
(2535-2543)
4. เกิ ด การเคลื อนไหวต่ อต้า นรั ฐบาลพ.ต.ท.ทัก ษิ ณ ของกลุ่ ม
พันธมิตรฯ ก่อน แล้วก็เกิดการยึดอํานาจเมือ 19 กันยายน 2549 โดยคณะ
ทหารทีใช้ชือว่า คปค.แล้วต่อมาเปลียนเป็ น คมช.โดยมีนายกรั ฐมนตรี มา
จากองคมนตรี โดยตรงคื อ พล.อ.สุ รยุทธ์ จุ ลานนท์ อยู่ได้ 1 ปี แล้วก็เปิ ด
ให้มีการเลือกตั*งทัวไปในวันที 23 ธันวาคม 2550 แล้วก็มีรัฐบาลที ไม่ มี
เสถียรภาพทําลายสถิติโลกคือ ภายใน 1 ปี (2551) มี 4 รัฐบาล
สู ตรสํ าเร็ จทางการเมืองทีสรุ ปได้ คือ ยึดอํานาจโดยกําลังทหาร
แล้ วตั;งรัฐบาลพระราชทานประมาณ 1 ปี ในระหว่ างนีจ; ดั ร่ างรัฐธรรมนูญ
ใหม่ แล้ วเปิ ดเลือกตั;ง แล้ วหลังจากนั;นถ้ าได้ รัฐบาลทีวงั พอใจก็อยู่ได้ นาน
110

หน่ อย แต่ไม่ นานมากก็ต้องเปลียนนายกฯ แต่ ถ้าได้ รัฐบาลทีวังไม่ พอใจ


รัฐบาลก็จะอายุส;ั น
การเมืองไทยก็จะมีวงั วนเช่ นนี;
จากสู ตรมาตรฐานทางการเมืองของราชสํานัก นี* เป็ นผลให้การ
ดํารงอยูข่ องราชสํานักมีความเข้มแข็งแผ่บารมีไพศาล ไม่มีสถาบันอํานาจ
การเมืองใดเติบโตมาเทียบบารมีได้ นับเป็ นสูตรสําเร็ จทางการเมือง ที บ่ง
บอกถึงลักษณะเด่นของระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่ทีชดั เจน

3.13 อํานาจนอกระบบ : เครืองมือสํ าคัญ


อํานาจนอกระบบทีมีท;ังองค์ กรมวลชน, ทหาร, ข้ าราชการเกาะ
กลุ่ มกั น เป็ นเครื อ ข่ าย โดยตั; ง ตั ว เป็ นปฏิ ปั ก ษ์ ต่ อระบอบรั ฐ สภา
ได้ กลายเป็ นเครื องมือ สํ าคัญของราชสํ านัก ในการทํ าลายรั ฐ บาลทีราช
สํ านักไม่ พงึ พอใจจนกลายเป็ นเส้ นทางใหม่
นับแต่ การสิ* นชี วิต ของจอมพลสฤษดิ; ธนะรั ชต์, จอมพลถนอม
กิติขจร ก็กา้ วขึ*นสู่อาํ นาจอย่างสมบูรณ์แบบแทน แต่การมีอาํ นาจของจอม
พลถนอมมี ล ัก ษณะเป็ นเครื อข่ า ยทางทหารที เ ข้ม แข็ ง โดยมี จ อมพล
ประภาส จารุ เสถียร ก้าวเคียงคู่มาด้วย ขุนศึกทั*งสองมีลกั ษณะเป็ นตัวของ
ตัวเอง และผูกติดเป็ นเครื อญาติกนั โดยถือเป็ นขุนศึกยุคสุ ดท้ายที ได้ผงาด
ขึ*นอย่างเข้มแข็ง ในขณะเดี ยวกันอํานาจของฝ่ ายเจ้าก็เริ มตั*งมัน เข้มแข็ง
111

แล้ว เช่ น กัน ในช่ ว งระยะเวลาสิ บกว่ าปี นับแต่ ปี 2490 ฝ่ ายเจ้าได้สร้ า ง
เครื อข่ายอํานาจของตนขึ*นครอบงําสังคมไทย โดยรวบรวมนักวิชาการใน
มหาวิทยาลัย และตามกระทรวง ทบวง กรม รวมตลอดทั*งทหาร ตํารวจ
สื อสารมวลชน ที มีแนวคิ ดจารี ตนิ ยมกลุ่มหนึ งขึ*นแล้ว โดยมีองคมนตรี
เป็ นกลไกอํานาจสู งสุ ดในการเชื อมโยงโครงข่ าย และกลายเป็ นอํานาจ
นอกระบบที เข้มแข็งขึ*นตรงต่ อสถาบันพระมหากษัตริ ย ์ การล้มรั ฐบาล
ของจอมพลถนอมจึ งเป็ นเหตุ การณ์ ทางประวัติศาสตร์ ทีมีผลเท่ ากับเป็ น
การทดลองการใช้เ ครื องมื อใหม่ ทีฝ่ายเจ้าได้ประดิ ษ ฐ์คิ ด สร้ างขึ* น คื อ
“อํานาจนอกระบบ” โดยใช้ทหารที เปลี ย นปรั ชญามาเป็ นทหารของ
พระราชา แล้ว เป็ นตัว จักรสําคัญ ในการขับเคลือนโดยประสานกับผูม้ ี
บารมีนอกรั ฐธรรมนู ญในขณะนั*น คื อม.ร.ว.คึ ก ฤทธิ; ปราโมช ที เป็ นตัว
จักรสําคัญในการขับเคลือนนักศึกษาปั ญญาชน แล้วทุ กอย่างก็สาํ เร็ จตาม
ประสงค์
อํานาจนอกระบบทีควบคุ มโดยราชสํานักจึ งกลายเป็ นเครื องมือ
สําคัญทางการเมือง ดังนั*นตลอดระยะเวลา 5 ทศวรรษที ผ่านมานับแต่ ปี
2500 อํานาจนอกระบบนี* ก็ได้แสดงบทบาทอย่างเข้มแข็งโดยบดขยี*ทุก
อํานาจในระบอบรัฐสภาและอํานาจเผด็จการทหารแปลกปลอม ที ไม่ยอม
ขึ*นต่ออํานาจฝ่ ายเจ้า หรื อมีทีท่าว่าจะเข้มแข็ง มาตีเสมอและทัดเที ยมฝ่ าย
เจ้า อํานาจการเมืองนั*นก็จะถูกบดขยี*อย่างแนบเนี ยนเสมือนหนึ งว่าการ
112

พังทลายของอํานาจนั*นเกิดขึ*นเพราะความเลวร้ ายของผูถ้ ืออํานาจนั*นเอง


นับตั*งแต่รัฐบาลของจอมพลถนอม-ประภาส เป็ นต้นมาจนถึงปั จจุ บนั แต่
เหยือรายล่าสุ ด คื อรั ฐบาลพ.ต.ท.ทัก ษิ ณ ชิ นวัต ร ดู เหมื อนว่าเครื องมื อ
สําคัญคื อ “อํานาจนอกระบบ” นี* จะล้าสมัยไปเสี ยแล้ว เนื องจากยุคสมัย
ของเทคโนโลยีทางข่าวสารได้เปลียนไปในทางที กา้ วหน้ามาก ประกอบ
กับเป็ นรั ฐบาลที มีผลงานและนโยบายที ต อบสนองความต้องการของ
ประชาชนระดับล่ างได้อย่า งเป็ นรู ปธรรม และที สําคัญ ที สุด ก็ คื อเป็ น
รัฐบาลทีมาจากระบอบประชาธิปไตยอย่างชัดเจนและสมบูรณ์แบบในยุค
โลกาภิวฒั น์ ประกอบกับเป็ นช่ วงปลายของรั ชกาลปั จจุ บนั ทีวงั เองก็เกิ ด
ความขัด แย้งกัน ภายในรุ น แรง จึ งเกิ ด สภาวะการเปิ ดโปงตัว เองทาง
ประวัติศาสตร์ กลายเป็ นบทศึกษาทางการเมืองให้แก่ ประชาชนได้เห็ น
ระบอบการปกครองปั จจุบนั ทีแท้จริ งว่า“ไม่ใช่ ระบอบประชาธิปไตย”

3.14 วังเข้ มแข็งเป็ นภาวะวิสัยทางประวัตศิ าสตร์


นักการทหารและปั ญญาชนไทยส่ วนหนึ งทีไ ม่ เห็ นโอกาสทีจะ
หลุดพ้ นจากระบบเผด็จการทหารในอดีตได้ ส่วนหนึงจึงตัดสิ นใจเข้ าป่ า
ไปร่ วมมือกับ พรรคคอมมิวนิสต์ แห่ ง ประเทศไทย ด้ วยหวังที จะสร้ าง
ระบอบประชาธิปไตยมวลชนด้ วยมือของราษฎรเอง แต่ อีก ส่ วนหนึง ก็
113

โผเข้ าสวามิ ภั ก ดิN ต่ อ วั ง ซึ ง มี ส หรั ฐ อเมริ ก าหนุ น หลั ง เพื อ ต่ อ สู้ กั บ
คอมมิวนิสต์ อนิ โดจีนในยุคสงครามเย็น
อํานาจเผด็ จ การทหารได้ส ร้ างความหวาดกลัว โดยก่ อ ตัว มา
ยาวนานตั*งแต่จอมพล ป.พิบูลสงคราม นําประเทศชาติเข้าร่ วมกับกองทัพ
ญี ปุ่นในสงครามโลกครั*งที 2 และเมื อเผด็ จการทหารจอมพล ป.ล้มลง
เผด็ จการทหารจอมพลสฤษดิ; ธนะรั ชต์ ก็ สืบต่ ออี ก ความโหดร้ ายของ
เผด็จการทหารได้ปรากฏชัดเจนเช่นการลอบฆาตกรรมศัตรู ทางการเมือง
กรณี การฆ่านายเตียง ศิริขนั ธ์ รัฐมนตรี และคณะ, ทีทุ่งรังสิ ตโดยอ้างข้างๆ
คู ๆ ว่ า เกิ ด จากการแย่ ง ชิ งตัว รั ฐ มนตรี ที ถู ก จับ กุ ม ตัว เป็ นนั ก โทษใน
ขณะนั*นโดยกลุ่มโจรจีนเข้าแย่งชิงตัวและถูกลูกหลงเสี ยชีวิตในทีเกิ ดเหตุ
และเหตุ ก ารณ์ ลอบทํา ร้ ายอื น ๆ อี ก มากจนทําให้ ก ลุ่ ม ปั ญ ญาชนและ
นั ก การทหาร อย่ า งเช่ น พ.ท.โพยม จุ ล านนท์ (บิ ด าพลเอกสุ ร ยุ ท ธ
จุลานนท์ อดีตนายกรั ฐมนตรี ปัจจุ บนั ) ได้ร่วมทําการยึดอํานาจจากจอม
พล ป.แต่ ไ ม่ สํ า เร็ จจึ ง กลายเป็ นกบฏที มี ชื อ ในประวัติ ศ าสตร์ ว่ า
“กบฏเสนาธิการ” และได้ตดั สิ นใจเดินทางออกจากเมืองเข้าสู่ เขตป่ าเขา
ชนบท ร่ ว มสมทบกับพรรคคอมมิ วนิ สต์แห่ งประเทศไทยที ก่ อตั*งเมื อ
วัน ที 1 ธัน วาคม 2485 ไว้ก่ อนแล้ว และจัด ตั*งกองกําลังทหารในนาม
“กองทัพปลดแอกประชาชนไทย” เข้าต่ อสู้ก ับรั ฐบาลโดยใช้น โยบาย
ชนบทล้อมเมื องและยึ ด เมื อ งในที สุด และเมื อวัน ที 7 สิ งหาคม 2508
114

เปิ ดฉากใช้กาํ ลังอาวุธอันเป็ นสัญญาณของสงครามประชาชนทีบา้ นนาบัว


อําเภอเรณู นคร จังหวัดนครพนม โดยมีการเรี ยกขานเชิ งสัญลักษณ์ ของ
วัน ที 7 สิ ง หาคม ว่ า “วัน เสี ย งปื นแตก” ซึ งถื อ เป็ นวิ ก ฤตการณ์ ท าง
การเมืองทีรุนแรงทีสุดของประเทศไทยด้วยนโยบายทางเศรษฐกิ จที เป็ น
รู ปธรรมทีสุดทีพรรคคอมมิวนิ สต์แห่ งประเทศไทยนําเสนอแก้ปัญหาของ
ชาวนาคนยากคนจนทีไม่มีทีดินทํากิ นคื อ “การปฏิวตั ิ ทีดิน” เป็ นผลให้มี
ประชาชนเข้าร่ วมเป็ นจํานวนมากซึงไม่เคยมีการเคลือนไหวทางการเมือง
ใดๆ ทีเป็ นระบบพรรคการเมืองในประเทศไทยทีมีประชาชนเข้าร่ วมเป็ น
จํานวนมาก และมีระบบการจัดตั*งที เข้มแข็ง เช่ น พรรคคอมมิวนิ สต์ฯ นี*
ในประเทศไทยมาก่ อ นเลย อี ก ทั*ง การก่ อ ตัว ของสงครามประชาชน
ดังกล่าว ก็ เชื อมต่ อขบวนการคอมมิว นิ สต์ในอิน โดจี น และขบวนการ
คอมมิวนิ สต์สากล ซึงเป็ นกระแสความขัดแย้งของโลกในยุคสงครามเย็น
ที แบ่ งโลกเป็ นสองค่ ายระบบเศรษฐกิ จ การเมืองคื อค่ ายสังคมนิ ยม ที มี
รัสเซียและจีนเป็ นผูน้ าํ กับค่ายทุนนิ ยมทีมีสหรัฐอเมริ กาเป็ นผูน้ าํ
ด้วยสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศไทยที เชื อมต่ อกับความ
ขัดแย้งของโลกเช่นนี* ทําให้สหรัฐอเมริ กาเข้ามามีอิทธิพลในภูมิภาคเอเชีย
ตะวัน ออกเฉี ยงใต้เพือต่ อต้านการขยายตัว ของขบวนการคอมมิวนิ สต์
สากล โดยเฉพาะอย่างยิงสหรั ฐอเมริ ก าเชื อใน “ทฤษฎี โ ดมิ โน” ว่าเมื อ
ประเทศในอินโดจีนถูกเปลียนระบบเป็ นคอมมิวนิ สต์แล้วประเทศไทยก็
115

จะได้รั บผลกระทบโดยเปลี ย นเป็ น “คอมมิ ว นิ ส ต์” ด้ว ย และจะเกิ ด


ผลกระทบต่ อๆ ไปยังประเทศอื น ๆ ในเอเชี ย ตะวัน ออกเฉี ย งใต้ ซึ งจะ
เหมือนกับตัวโดมิโนที ลม้ ลงต่ อๆ กันไป ด้วยเหตุ น* ี สหรั ฐอเมริ กาจึ งยืน
มือมาจับกับระบอบเผด็ จการทหารในยุคจอมพลสฤษดิ; ธนะรั ชต์ และ
หนุ นสถาบันกษัตริ ยท์ ีมีวฒั นธรรมสื บทอดมายาวนานให้สูงเด่นขึ* น เพือ
เป็ นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั*งชาติให้เป็ นสถาบันหลักของชาติ ในการ
ต่ อต้านการขยายตัวของขบวนการคอมมิวนิ สต์ในประเทศไทย ซึ งเป็ น
ความลงตัวทีสอดคล้องกันของผลประโยชน์ทางการเมืองระหว่างฝ่ ายเจ้า
และฝ่ ายทหาร เพราะพรรคคอมมิวนิ สต์แห่ งประเทศไทยมีเป้ าหมายที จะ
โค่ น ล้ม อํา นาจทั*ง สองฝ่ ายเพื อ เปลี ย นแปลงสู่ ร ะบบสั ง คมนิ ย มตาม
อุดมการณ์
ในสถานการณ์ ค วามขัด แย้งของโลกดังกล่ าวข้างต้น จึ งทําให้
สถาบันพระมหากษัตริ ยใ์ นประเทศไทยทีกาํ ลังฟื* นชีวิตจากการเสื อมทรุ ด
ลงหลังเหตุ การณ์ การปฏิว ตั ิ เปลียนแปลงการปกครองเมื อ 24 มิถุนายน
2475 เกิดความเข้มแข็งขึ*นด้วยการอัดฉี ดของสหรั ฐอเมริ กาอีกทางหนึ ง
เพื อ ให้ ท รงพลานุ ภ าพและจู ง ใจอํา นาจฝ่ ายทหารให้ ส ยบต่ อ ฝ่ ายเจ้า
สหรัฐอเมริ กาก็หนุ นช่ วยงบประมาณทางการทหารอย่างมหาศาลให้แก่
รั ฐบาลจอมพลสฤษดิ; ธนะรั ชต์ ที มีทิศทางสนับสนุ นฝ่ ายเจ้าด้ว ย โดย
ในขณะนั*นสหรัฐอเมริ กาไม่สนใจว่ารัฐบาลจะเป็ นประชาธิ ปไตยหรื อไม่
116

เพราะสถานการณ์โลกในขณะนั*นเป็ นสถานการณ์ ทางการทหารที กาํ ลัง


เผชิญหน้ากันหลังจากเสร็ จสิ*นสงครามโลกครั*งที 2
ด้ วยเหตุนีอ; าํ นาจของฝ่ ายเจ้ าจึงขยายตัวครอบงําสั งคมไทย และ
พัฒนาบทบาททางอํานาจเด่ นชั ดขึ;นจนกลายเป็ น “ระบอบสมบู รณาญา
สิ ทธิราชใหม่ ” อยู่ในขณะนี;
117

บทที 4
บทบาททีขัดขวางต่ อพัฒนาการระบอบประชาธิปไตย
ผ่านเครือข่ ายราชสํ านัก

จากภูมหิ ลังทางการเมืองทีเจ็บปวดและความยาวนานกว่ า 60 ปี
ในการครองอํานาจของพระเจ้ าอยู่หัวรัชกาลที 9 ได้ เกิดการบริหารจัดการ
ทางอํานาจผ่ านผู้มีบารมีนอกรั ฐธรรมนู ญจนสถาบันพรรคการเมืองใน
ระบอบประชาธิปไตยไม่ อาจจะเติบโตเข้ มแข็งขึ;นนําการบริ หารจัดการ
รัฐสมัยใหม่ เพือ แข่ งขันในสงครามเศรษฐกิจแห่ งโลกยุคโลกาภิวตั น์ ได้

4.1 สร้ างเครือข่ ายราชสํ านักเพือ บริหารจัดการรัฐ


เมือ อํานาจของราชสํ านักได้ เริ มตั;งมันในยุคของจอมพลสฤษดิN
ธนะรั ชต์ แล้ วราชสํ านัก ก็ได้ เปลียนฐานะจากฝ่ ายรั บเป็ นฝ่ ายรุ กในทาง
การเมือง หรื อเปลียนจากด้ านรองกลายเป็ นด้ านหลักของคู่ขัดแย้ งทาง
การเมือง และนับแต่ น;ันมาบทบาทของสถาบันพระมหากษัตริ ย์ของไทย
จึ ง มิ ใ ช่ บ ท บ า ท ใ น ระบ อ บ ก า รป ก ค ร อ ง ป ระช า ธิ ป ไ ต ย อั น มี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุขอีกต่ อไป หากแต่ เป็ นบทบาทในระบอบ
การปกครองใหม่ ทีเรียกว่ า “ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่ ”
118

ราชสํานักได้แสดงบทบาททางการเมืองที เป็ นด้านหลัก ในการ


ควบคุ ม กลไกของระบบการเมื อ ง เศรษฐกิ จ และสั ง คมวัฒ นธรรม
โดยผ่านกลไกต่างๆ ทีถกู จัดสร้างขึ*นอย่างแนบเนี ยนทีเรี ยกว่า “เครื อข่ าย
์ (Network Monarchy) โดยมี ค ณะ
ราชสํ านั ก ” หรื อเครื อข่ ายกษัต ริ ย 
องคมนตรี เป็ นศูน ย์กลางในการบริ หารเครื อข่ ายอํานาจด้ว ยวิธีการถ่าย
อํานาจเชิงสัญลักษณ์ของราชสํานักไปสู่บุคคลทีมีสถานภาพสูงทางสังคม
การเมือง และรั บใช้ใกล้ชิดเบื*องยุคลบาท โดยคํากล่าวแสดงเจตนาของ
บุ ค คลนั* นจะถู ก สั ง คมตี ค วามเป็ นเสมื อ นความต้ อ งการขององค์
พระมหากษัตริ ย ์ ซึงบุคคลในลักษณะนี*สงั คมได้เรี ยกขานด้วยถ้อยคําที


เครื อข่ายกษัตริ ย ์ (Network Monarchy) เป็ นคําทีถูกประดิษฐ์ใช้และตีพิมพ์ใ น
หนังสื อพิมพ์ The Pacific Review.,Vol.18 No.ประจําวันที 4 ธันวาคม 2005 หน้า
499-519 บทความเรื อง “วิกฤตเครื อข่ายกษัตริ ยแ์ ละความชอบธรรมในไทย” เขียน
โดย Duncan McCargo ศาสตราจารย์ด ้า นการเมื อ งเอเชี ย ตะวัน ออกเฉี ย งใต้
มหาวิทยาลัยลีดส์
119

สั* น กะทั ด รั ด และแสดงคุ ณ ลัก ษณะได้ ค รบถ้ว นว่ า “ผู้มี บ ารมี น อก


รัฐธรรมนูญ”
ในช่ ว งระยะเวลา 5 ทศวรรษ เครื อ ข่ ายราชสํานั ก ได้ข ยายตัว
ครอบงําไปในทุ ก วงการของสังคมไทย นับตั*งแต่ วงการทหาร ตํารวจ
ข้าราชการ สถาบัน การศึ ก ษา สื อมวลชน แม้ก ระทังขบวนการ NGO
(องค์กรพัฒนาภาคเอกชน) โดยทุ กวงการจะมีแกนนําที ได้รั บพระมหา
กรุ ณาธิคุณให้เข้าเฝ้ าใกล้ชิด ในฐานะเป็ นคนไทยตัวอย่าง และหลายคน
ได้รับการยกย่องจากสื อมวลชนทีทาํ หน้าทีเสมือนหนึ งเป็ นกระบอกเสี ยง
ของเครื อข่ ายราชสํานักว่ าเป็ นนัก คิ ดตามแนวพระราชดําริ ทีประชาชน
ควรจะเชื อ ฟั ง และถื อ เป็ นแบบอย่ า ง เช่ น พลเอกสุ ร ยุ ท ธ จุ ล านนท์ ,
นายแพทย์ ประเวส วะสี , นายสุ เมธ ตันติเวชกุล เป็ นต้น จนกระทัง บุ คคล
เหล่ า นี* เป็ นเสมื อ นหนึ งเงาแห่ ง พระองค์ ที ค นในสั ง คมจะติ เ ตี ย น
วิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ แต่ในด้านกลับกัน บุคคลเหล่านี* กลับกลายเป็ นกลุ่ม


“ผูม้ ีบารมีนอกรั ฐธรรมนู ญ” เป็ นคําทีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นํา มาใช้เป็ นครั* ง
แรกในขณะทีดาํ รงตําแหน่ งนายกรั ฐมนตรี ในสภาวะความขัดแย้งทางการเมืองที
กําลังขึ*นสู่ กระแสสู ง โดยมุ่งหมายถึงพลเอกเปรม ติณสู ลานนท์ ประธานองคมนตรี
และหลังจากทีใช้ถอ้ ยคํานี* ไม่นาน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ถูกรั ฐประหารโค่นล้ม
อํานาจจนไม่สามารถจะกลับประเทศไทยได้ อันเป็ นการแสดงให้เห็นถึงพลังอํานาจ
ทีแท้จริ งของ “ผูม้ ีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ”
120

ผูม้ ีอาํ นาจทางสังคมที ค อยตําหนิ ติเตี ยนผูอ้ ืนในสังคมนี* โดยเฉพาะการ


ตําหนิ ฝ่ายการเมืองทีมาจากการเลือกตั*งของประชาชน ลักษณะของบุคคล
เหล่ านี* ส่ วนใหญ่ จะเป็ นบุ ค คลผูส้ ู งอายุ และมีลกั ษณะเกาะกลุ่มกัน ทาง
ความคิ ด ในฐานะเป็ นผู้ห วัง ดี ต่ อ บ้า นเมื อ งจึ ง ทํา ให้ ผูม้ ี บ ารมี น อก
รัฐธรรมนูญทีถกู ขนานนามขึ*นนั*นเกิดภาพเชิ งสัญลักษณ์ เป็ น “สถาบันผู้
มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ” ของสังคมไทย
การแสดงบทบาทของเครื อข่ ายราชสํานักในการโค่ นล้มอํานาจ
ของรัฐบาลในรั ชกาลปั จจุ บนั ซึ งได้ต* งั มัน มากว่า 5 ทศวรรษแล้วนี* เป็ น
ข้อมูลที ดาํ มื ดไม่ อาจจะเปิ ดเผยได้ คนไทยจึ งเห็ น แต่ เหตุ ก ารณ์ ก ารล่ ม
สลายของรัฐบาลต่างๆ ด้วยเหตุผลทีค่อนข้างจะแปลกประหลาด โดยมอง
ไม่เห็ นความขัดแย้งเชิ งโครงสร้ างที ร าชสํานักเป็ นตัว จักรสําคัญ ทําให้
การเรี ยนรู้ทางการเมืองถูกจํากัดข้อมูลและทฤษฎีการวิเคราะห์ ดังนั*นนัก
รัฐศาสตร์ และอาจารย์ในมหาวิทยาลัยของไทยจึ งกลายเป็ นผูด้ อ้ ยปั ญญา
โดยถูกครอบงําทางวัฒนธรรมด้วยวาทะกรรมว่า “พระองค์ ทรงอยู่เหนือ
การเมือง” และทั*งการคิ ดและการกล่าวถึงพระองค์เป็ นสิ งต้องห้ามทาง
กฎหมายและทางวัฒนธรรม แต่แล้วทฤษฎีวิวฒั นาการทางประวัติศาสตร์


วิ จั ย ใจภัก ดี ,2550 “เปิ ดหน้ า กากผู ้มี บ ารมี น อกรั ฐ ธรรมนู ญ ” (กรุ งเทพฯ:
สํานักพิมพ์สยามปริ ทศั น์)
121

ก็ได้ทาํ หน้าทีของมัน กรณี วิกฤติ การณ์ การเมืองไทยเริ มจากการโค่ นล้ม


รั ฐ บาลประชาธิ ป ไตยที ป ระชาชนพึ ง พอใจและเห็ น ประโยชน์ ข อง
นโยบายทีดีอย่างเป็ นรู ปธรรมคือรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิ ณ เมือ 19 กันยายน
2549 และขยายสู่ การก่ อจลาจลของกลุ่ มพัน ธมิต รฯ ล้มรั ฐบาลจากการ
เลือกตั*งติดต่อกันอีก 2 รัฐบาลคือ รัฐบาลนายสมัคร และนายสมชาย อย่าง
ไร้เหตุผล และติดตามมาด้วยการเปิ ดเผยข้อมูลลับของทักษิณ ที เปิ ดโปง
เครื อข่ายราชสํานัก ได้แก่พลเอกเปรม, พลเอกสุ รยุทธ องคมนตรี , ม.ล.ปี ย์
มาลากุล ทีมีการร่ วมประชุมลับกันเพือโค่นล้มรัฐบาลทักษิณ กับประธาน
ศาลฎี กาและประธานศาลปกครองสู งสุ ด โดยเป็ นผลจากพระราชดํารั ส
ของพระมหากษัตริ ย ์ เมื อวันที 25 เมษายน 2549 ที ส่งสัญญาณความไม่
พอใจต่อรัฐบาลของพ.ต.ท.ทักษิณ ชิ นวัตร (รายละเอียดดูภาคผนวกท้าย
เล่ม)
เครือข่ ายราชสํ านักจึงเป็ นตัวจักรสํ าคัญของการกําหนดทิศทาง
การเมืองไทย

4.2 บทบาทของวังในสายตาต่ างประเทศ


ด้วยการเป็ นพระมหากษัตริ ยท์ ี ครองราชย์ยาวนานที สุดในโลก
นั*น ย่อ มเป็ นธรรมดาที จ ะมี ค นสนใจทั*ง ที ชื น ชม และวิ พากษ์วิ จ ารณ์
โดยเฉพาะนัก วิชาการและผูส้ ื อข่ าวต่ างประเทศที จะใช้เป็ นกรณี ศึกษา
122

เกี ยวกับการบริ หารจัดการทางอํานาจว่าอะไรเป็ นปั จจัย สําคัญ ที ทาํ ให้


สามารถครองราชย์ได้ยาวนาน
นายดันแคน แมคคาร์ โก(Duncan Mccargo) ศาสตราจารย์ดา้ น
การเมืองเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้ มหาวิทยาลัยลีดส์ ได้ทาํ การศึกษาวิจยั
และตีพิมพ์ลงในหนังสื อพิมพ์ The Pacific Review เมือ 4 ธันวาคม 2005
โดยมีขอ้ ความสําคัญตอนหนึ งว่า
“ลักษณะสําคัญของเครื อข่ ายกษัตริ ยไ์ ทยตั*งแต่ ปี 2523 ถึง 2544
ก็คือกษัตริ ยเ์ ป็ นผูช้ * ีขาดสูงสุ ดในการตัดสิ นใจทางการเมืองเวลาเกิ ดวิกฤต
และการทีกษัตริ ยเ์ ป็ นต้นกําเนิ ดหลักของความชอบธรรมของชาติ กษัตริ ย ์
ทําตัวเป็ นผูอ้ อกความคิ ดเห็ นและชอบสังสอนเกี ยวกับปั ญหาต่ างๆ ของ
ชาติ และช่ ว ยกํา หนดวาระแห่ งชาติ ผ่ านพระราชดํา รั ส วัน เฉลิ มพระ
ชนมพรรษาทุ ก ปี กษัต ริ ย์แ ทรกแซงการพัฒ นาทางการเมื อ งอย่ า ง
กระตื อ รื อร้ น โดยส่ ว นมากจะผ่ า นทางตั ว แทนของพระองค์ เช่ น
องคมนตรี และนายทหารที ได้รับความไว้วางใจ โดยมี อดี ตผูบ้ ัญชาการ
ทหารบกและอดี ต นายกฯ เปรม ติ ณ สู ลานนท์ เป็ นหั ว หน้ าของเหล่ า
ตัวแทนคอยช่วยกําหนดลักษณะของรัฐบาลผสม และคอยตรวจสอบการ
ดําเนิ น การทางทหารและการโยกย้ายต่ างๆ ระบบการปกครองแบบ
เครื อ ข่ ายนี* ต้อ งพึ ง พาการจัด ประชาชนที เ หมาะสม(โดยเฉพาะคนที
123

เหมาะสม) ไว้ในงานที เหมาะสมซึ งการจัดสรรตําแหน่ งนี* เป็ นบทบาท


หลักของเปรม”
โดยเฉพาะในช่ วงภาวะวิ กฤติ ก ารณ์ ทางการเมืองปี 2549-2551
ทีมีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพือประชาธิปไตยภายใต้การนําของนายสนธิ
ลิ* ม ทองกุ ล ที เ ริ มออกมาเคลื อ นไหวขั บ ไล่ พ .ต.ท.ทั ก ษิ ณ ชิ น วัต ร
นายกรั ฐมนตรี จนเกิ ดการฉวยโอกาสกระทําการรั ฐประหารโดยทหาร
กลุ่ มหนึ งที ใช้ชือว่ า คณะปฏิ รูปการปกครองในระบอบประชาธิ ปไตย
อัน มี พ ระมหากษัต ริ ย์ท รงเป็ นประมุ ข (คปค.) และภายหลัง จากการ
เลื อกตั*งเมื อ 23 ธัน วาคม 2550 แล้ว กลุ่ ม พัน ธมิ ต รฯ ยังก่ อ เหตุ ค วาม
วุ่นวายต่ อเนื องเพือขับไล่ รัฐบาลของนายสมัค ร สุ นทรเวช และรั ฐบาล
ของนายสมชาย วงสวัสดิ; จนถึงขั*นเป็ นเหตุ จลาจลให้ยึดทําเนี ยบรั ฐบาล
และปิ ดสนามบินทั*งสุ วรรณภูมิและดอนเมืองอย่างอุกอาจ โดยทหารและ
ตํารวจไม่กล้าใช้อาํ นาจดําเนิ นการปราบปรามหรื อยับยั*งขัดขวาง จนเป็ น
ที ก ล่ า วขานกัน ทัว ไปทั*ง บ้า นทั*ง เมื อ งว่ า เป็ น “ม็ อ บเส้ น ใหญ่ ” โดย
เชือมโยงการเคลือนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าได้รับการสนับสนุ นจาก
ราชสํานักนั*น จนเกิ ดการวิพากษ์วิ จารณ์ ของสื อมวลชนในต่ างประเทศ
อย่างเปิ ดเผยว่าเหตุ ก ารณ์ ทีกระทําผิดกฎหมายอย่างอุกอาจนั*นเป็ นการ
กระทํ า ของราชสํ า นั ก ที ไ ม่ พ อใจต่ อตั ว พ.ต.ท.ทั ก ษิ ณ ชิ นวั ต ร
นายกรัฐมนตรี โดยการขับเคลือนของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธาน
124

องคมนตรี ทีแสดงตัวเด่ นชัดในทางสังคมว่าเป็ นตัวแทนของราชสํานัก


หรื อผูม้ ีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ เช่น บทวิจารณ์ของนิ ตยสาร เดอะ อิโคโน
มิ ส (The Economist) ฉบับลงวัน ที 4 ธัน วาคม 2008 โดยมี ข ้อ ความ
ตอนหนึ งว่า
“After the 2006 coup, the 15th in Bhumibol’s reign, officials tried to tell
foreigners that protocol obliged the king to accept the generals’ seizure of power.
Thais got the opposite message. The king quickly granted the coupmakers an
audience, and newspapers splashed pictures of it, sending Thais the message that
he approved of them. In truth the king has always been capable of showing his
displeasure at coups when it suited him, by rallying troops or by dragging his feet
in accepting their outcome. And he exerts power in other ways. Since 2006, when
he told judges to take action on the political crisis, the courts seem to have
interpreted his wishes by pushing through cases against Mr Thaksin and his
allies—most recently with this week’s banning of the parties in the government”
“หลังจากเกิ ด เหตุ การณ์ การรั ฐประหารในปี พ.ศ.2549 ซึงเป็ น
ครั*งที 15 ในรัชสมัยของกษัตริ ยภ์ ูมิพล เจ้าหน้าทีทางการของไทยพยายาม
ที จ ะบอกชาวต่ างชาติ ว่ ารั ฐพิธีบีบบังคับให้ก ษัต ริ ย ต์ ้องยอมรั บการยึด
อํานาจของนายทหารในกองทัพ ในขณะทีคนไทยถูกบอกอีกอย่างหนึ งว่า
กษัตริ ยไ์ ด้พระราชทานพระบรมราชานุ ญาตให้คณะผูก้ ่ อการรัฐประหาร
เข้าเฝ้ าฯ และหนังสื อพิมพ์ต่างๆ ได้ตีพิมพ์ภาพดังกล่าวในหน้า 1 เสมือน
เป็ นการบอกว่ า กษัต ริ ย์ไ ด้ใ ห้ ก ารยอมรั บ กับ การยึ ด อํา นาจดัง กล่ า ว
125

ในความเป็ นจริ งแล้วกษัตริ ยท์ รงมีพระราชอํานาจที จะแสดงออกว่าทรง


ไม่เป็ นทีพอพระราชหฤทัยต่อการยึดอํานาจ หากทรงเห็นเช่นนั*นโดยการ
สัง การให้กาํ ลังทหารภายใต้พระองค์ออกมาต่อสูห้ รื อแม้แต่การที จะเลือก
ทรงนิ งเฉยไม่ยอมรั บผลดังกล่าวก็ได้แต่ ทรงกลับเลือกที จะใช้พระราช
อํานาจในอีกทางหนึ งแทน ตั*งแต่ ปี พ.ศ.2549 ซึ งได้ทรงมีพระราชดํารั ส
ต่อบรรดาผูพ้ ิพากษาให้ดาํ เนิ นการจัดการกับวิกฤตการเมืองนั*น บรรดา
ศาลดูเหมือนจะได้แปลพระราชประสงค์ออกมาโดยการเร่ งดําเนินการกับ
คดี ต่างๆ ต่ อตัวอดี ตนายกฯ ทักษิ ณ ชิ นวัตร และเครื อข่ายของเขา โดย
ล่าสุ ดโดยการตัดสิ นยุบพรรคการเมืองทีร่วมรัฐบาลทั*งสามพรรคลง”
จากหนังสื อพิมพ์ยกั ษ์ใหญ่ ของญี ปุ่น “อาซาฮี ชิ มบุ น(The Asahi
Shimbun)” ฉบับประจําวัน ที 19 ธันวาคม 2008 ก็ได้แสดงความกังวลใจ
ต่ อการเข้ามายุ่งเกี ยวทางการเมืองของสถาบัน พระมหากษัตริ ยแ์ ละเป็ น
ห่ วงเป็ นใยต่อความมัน คงของนักธุ รกิ จญี ปุ่นที ลงทุ นในประเทศไทยใน
กรณี ทีหากเกิ ด การผลัด เปลี ย นแผ่น ดิ น ในหัว เรื อง “สื อญี ปุ่นออกโรง
เตือนไทยและนายอภิสิทธิ%” ดังความตอนหนึ งว่า
“Thailand's credibility has been shattered in the international
community. The weeklong siege of Bangkok's two airports from late November
by the anti-Thaksin People's Alliance for Democracy (PAD) stranded many


นิตยสาร เดอะ อิโคโนมิส (The Economist) ฉบับลงวันที 4 ธันวาคม 2008
126

foreign tourists, including Japanese, and affected foreign companies operating in


Thailand.
There are also concerns about the health of King Bhumibol Adulyadej,
who has been playing a vital role in keeping the country together. The monarch
turned 81 on Dec. 5 but did not give his customary pre-birthday address to the
nation this year.
Unless the Thai government is able to regain its trust at home and
abroad and reassure everyone, Japanese businesses in Thailand will have to re-
examine their long-term strategies. The Japanese government ought to convey this
concern to Abhisit.
The government and the people of Thailand also need to engage in open
debate on the role of the monarchy in politics to ensure the establishment of their
democracy over the long term. The Thais cannot secure political stability if they
keep relying on the king to intervene in times of crisis”
“เครดิตความเชือถือของเมืองไทย ได้ลดตําลงอย่างมากในสังคม
โลก โดยเฉพาะหลังการปิ ดสนามบิ นในกรุ งเทพทั*งสองสนามเมือปลาย
เดื อนพฤศจิ กายน โดยกลุ่ มพันธมิ ตรที ต่ อต้านทัก ษิ ณ ซึ งได้สร้ างความ
เดือดร้อนอย่างมากให้แก่นกั ท่ องเที ยวชาวต่ างประเทศ รวมทั*งชาวญี ปุ่น
และเกิดผลกระทบต่อบริ ษทั ต่างชาติทีดาํ เนิ นการอยูใ่ นประเทศไทยด้วย
127

ความกัง วลที มี ต่ อ สุ ข ภาพของกษัต ริ ย์ภู มิพ ล อดุ ลยเดช ซึ ง มี


บทบาทในการดู แ ลประเทศชาติ ซึ ง จะมี อ ายุ ใ กล้ค รบ 81 ปี ในวัน ที
5 ธันวาคมนี* แต่ในปี นี*ไม่มีการออกมาพูดกับคนในชาติก่อนวันเกิด
รั ฐบาลไทยจะต้องทํางานเพื อเพิมความเชื อมัน ทั*งในประเทศ
และต่างประเทศ ธุ รกิ จของชาวญี ปุ่นในไทยจะต้องทบทวนยุทธศาสตร์
ระยะยาวใหม่ รั ฐ บาลญี ปุ่ นจะต้องสื อสารไปยังนายอภิ สิทธิ; ถึ งเรื อ ง
ดังกล่าวนี*
ให้รั ฐบาลและประชาชนชาวไทย มี ส่ว นร่ ว มในการเปิ ดเวที
ถกปั ญ หาเกี ย วกับ บทบาทของสถาบัน พระมหากษัต ริ ย์ใ นการเมื อ ง
เพือทีจะเป็ นการสร้างพื*นฐานประชาธิ ปไตยในระยะยาว ประชาชนไทย
จะต้องไม่ แก้ปัญหาที เกี ยวกับเสถียรภาพทางการเมือง เพียงการพึงพิ ง
พระมหากษัตริ ยใ์ นการแทรกแซงเมือเกิดวิกฤต”
ความเห็ น ของนั ก วิ ช าการต่ า งประเทศและสื อ สิ ง พิ ม พ์ ใ น
ต่ างประเทศที นาํ มาตี พิมพ์น* ี เป็ นเพียงส่ วนหนึ งจากจํานวนมากที แสดง
ความเห็ น เจาะลึ กอย่างตรงไปตรงมาที สือไทย และคนไทยไม่อาจจะรู้
ความเป็ นจริ งเหล่านี*ได้ดว้ ยอํานาจเผด็จการทางกฎหมายและอํานาจเผด็จ
การทางวัฒนธรรมของราชสํานัก


Thaienews.bolgsport.com คัดจาก posted by editor 01
128

4.3 รู ปธรรมอันน่ าสงสั ยจากถนอมถึงทักษิณ


นับตั*งแต่ ส*ิ น รั ฐบาลจอมพลสฤษดิ; ธนะรั ชต์ การพังทลายของ
รั ฐบาลในหลายรั ฐบาลโดยเฉพาะรั ฐบาลที มีลกั ษณะบ่ งบอกว่ ามีค วาม
เข้ม แข็ งและมัง คง ล้ว นแล้ว แต่ ต ้องพังทลายลงทุ ก รั ฐบาลไปด้ว ยข้อ
กล่าวหาทางการเมืองที คล้ายคลึงกันคื อ “ไม่จงรั กภักดี ” บ้างก็ถูกขับไล่
โดยพลังมวลชน บ้างก็ถกู ขับไล่โดยการรั ฐประหาร ไม่เว้นแม้แต่ พลเอก
เปรม ติ ณสู ลานนท์ เมือครั*งดํารงตําแหน่ งผูน้ าํ รั ฐบาลที มีความเข้มแข็ ง
และครองอํานาจยาวนานถึง 8 ปี ก็ตอ้ งมีอนั เป็ นไปในลักษณะคล้ายๆ กัน
จนสามารถสรุ ปได้ว่าในช่วงนับแต่ปี 2506-2551 ซึงประวัติศาสตร์ ได้เริ ม
เข้าสู่ ยุคประชาธิ ปไตยที ภาคพลเรื อนเริ มมีบทบาทมากขึ* นนั*น ประเทศ
ไทยก็ยงั ไม่อาจมีรัฐบาลที มีเสถียรภาพได้ และแม้ล่าสุ ดวิวฒั นาการของ
ระบบพรรคการเมื อ งไทยได้พ ัฒ นาสู ง ขึ* นจนถึ ง ขั*น เกิ ด ระบบพรรค
การเมืองทีเข้มแข็งจนทําให้การเมืองไทยเกิ ดเสถียรภาพด้วยการสามารถ
จัดตั*งรัฐบาลด้วยพรรคการเมืองเพียงพรรคเดี ยวได้คือ พรรคไทยรักไทย
โดยการนําของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในช่วงเวลา 2544-2549 และความมี
เสถียรภาพของรัฐบาลประชาธิปไตย ก็ได้ส่งผลดี ต่อการแก้ปัญหาวิกฤต
เศรษฐกิ จ ที ต กค้า งมาตั*ง แต่ ปี 2540 และยกระดับ คุ ณ ภาพชี วิ ต ของ
ประชาชนให้ ดี ข* ึ นมามากกว่ า แต่ ก่ อ นในระดั บ หนึ งด้ ว ยนโยบาย
สาธารณสุ ขทีกา้ วหน้าตามโครงการ 30 บาทรั กษาทุ กโรค และนโยบาย
129

พัฒนาเศรษฐกิจรากหญ้าตามโครงการหนึ งตําบลหนึ งผลิตภัณฑ์ (OTOP)


เป็ นต้น จนเป็ นที ถูก ตาต้องใจของประชาชนส่ ว นข้างมาก รั ฐบาลจาก
ระบอบประชาธิ ปไตยที มนั คงและมี ประสิ ทธิ ภ าพ เช่ น รั ฐบาลทัก ษิ ณ
นี* ก็ยงั ไม่อาจจะดํารงอยูไ่ ด้ ทั*งๆ ทีมีผลงานและมีคุณภาพมากกว่ารั ฐบาล
ก่ อ นแต่ ก ลับ มี อ ายุ ส* ัน กว่ า รั ฐ บาลก่ อ นๆ ที ด ้อ ยคุ ณ ภาพกว่ า เสี ย อี ก
โดยรั ฐบาลทักษิ ณได้จบบทบาทลงด้วยการยึดอํานาจของฝ่ ายทหารใน
ข้อหาเดียวกันว่า “ไม่จงรักภักดี” อีกเช่นเดียวกัน
จากภาวะความไร้เสถียรภาพของรัฐบาลทีไม่ว่าจะมาจากระบอบ
เผด็จการทหาร ระบอบประชาธิ ปไตยครึ งใบ หรื อเต็มใบ ดังที กล่าวมา
ทั*งหมดเหล่ านี* ทําให้เกิ ด ข้อกังขาในทางวิ ชาการว่ า การพังทลายของ
รั ฐ บาลจนไม่ อ าจจะมี รั ฐ บาลที มี เ สถี ย รภาพได้เ ลยนี* เป็ นผลมาจาก
นักการเมืองไทยเลว หรื อ อํานาจนอกระบบการเมืองไทยเลว กันแน่
ถ้าปั ญ หาความไม่มนั คงของระบอบประชาธิ ปไตยของไทยมี
สาเหตุหลักมาจากอํานาจนอกระบบ ก็จะต้องมีคาํ ถามต่ อไปว่า “อํานาจ
นอกระบบนั นคือใคร?”
130

4.4 อํานาจนอกระบบคือปั จจัยหลักทําลายประชาธิปไตย


มีก ารบิ ด เบื อนข้อเท็ จจริ งจากนักวิ ชาการในมหาวิทยาลัย จาก
สื อ มวลชน และผู้น ํ า ทางความคิ ด ของสั ง คมที มี แ นวคิ ด “ศั ก ดิ น า
สวามิภักดิN” โดยได้ประสานเสี ยงโฆษณามอมเมาประชาชนว่า “ระบอบ
ประชาธิ ปไตยของไทยที ไม่อาจจะดําเนิ นไปได้เหมือนต่ างประเทศนั*น
เกิดจากความเลวร้ายของนักการเมืองไทย” คํากล่าวเหล่านี* เป็ นการโกหก
ของพวกนักวิชาการจอมตลบตะแลง โดยแท้จริ งแล้วพวกเขานอกจากจะ
ขี*ขลาดไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์อาํ นาจนอกระบบแล้ว พวกเขายังเกาะกลุ่ม
หาประโยชน์ทางการเมืองกับอํานาจนอกระบบหรื ออํานาจเผด็จการอีก
ด้วย และทุกครั*งทีอาํ นาจนอกระบบใช้กาํ ลังทหารเข้ายึดอํานาจล้มรัฐบาล
พวกเขาก็จะออกมาให้เหตุ ผลความถูกต้องของการยึดอํานาจและเข้ามา
เป็ นรัฐมนตรี และสมาชิกสภานิ ติบญ ั ญัติ โดยการแต่ งตั*งของอํานาจนอก
ระบบกันเป็ นทิวแถว
หากเราจะเปรี ยบเที ย บคุ ณ ภาพของนั ก การเมื อ งไทยกั บ
นักการเมืองต่างประเทศในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึงถือได้ว่ามีวฒั นธรรม
และพัฒ นาการใกล้เคี ยงกัน แล้วก็ จะเห็ นได้ว่ า “วาทะกรรม” ของพวก
ศักดินาสวามิภกั ดิ;น* นั เป็ นการโกหกที ต่อเนื องมายาวนาน และใช้อาํ นาจ
เผด็จ การทางกฎหมาย และอํานาจเผด็ จ การทางวัฒนธรรมมาครอบงํา
131

ความคิดของประชาชนไม่ให้กล้ามองทะลุม่านประเพณี ว่าแท้จริ งความ


เลวร้ ายของระบบการเมืองไทยวันนี* อยู่ทีอาํ นาจนอกระบบที ไม่ยอมรั บ
ระบอบประชาธิปไตย กล่าวคือคุณภาพของนักการเมือง นั*นเราสามารถดู
ได้จากตัวชี*วดั ก็คือ ดูจากคุณภาพของประชาชนซึงประชาชนในประเทศ
ไทยก็มีคุณภาพทางการศึกษาในอัตราส่ วนใกล้เคี ยงกันกับประเทศเพือน
บ้านในอาเซียน เช่น สิ งคโปร์ มาเลเซีย ฟิ ลิปปิ นส์ เหมือนกัน หรื ออาจจะ
สูงกว่าอีกหลายประเทศด้วยซํ*าไป แต่ ทาํ ไมประเทศเพือนบ้านของเราจึ ง
สามารถปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยกันได้ต่อเนื องยาวนาน จนทํา
ให้ประเทศของเขามีความเจริ ญรุ่ งเรื องได้
แท้จ ริ งแล้ว ประเทศเพื อนบ้านของเราที ปกครองด้ว ยระบอบ
ประชาธิปไตยได้ต่อเนื องยาวนานนั*น เพราะเขาไม่มีอาํ นาจนอกระบบที
ทรงประสิ ท ธิ ภ าพเช่ น ประเทศไทยที มีท* งั อิ ทธิ พลทางการทหาร และ
อิทธิพลทางความคิดและวัฒนธรรมทีทบั อยู่บนหัวและคอยเข้ามาทําลาย
ระบอบประชาธิปไตยอยูต่ ลอดเวลา
อํานาจนอกระบบทีทรงพลังของไทยก็คืออํานาจของกลุ่มทหาร
และกลุ่มข้ าราชการทีมรี าชสํ านักคอยหนุนหลังอยู่ตลอดเวลานันเอง
132

4.5 โฆษณาด้ านเดียว ทําลายประชาธิปไตย


การกล่าวโจมตีนกั การเมืองทีมาจากการเลือกตั*งว่าเป็ นการเข้าสู่
อํานาจโดยใช้เงินซื*อเสี ยง และใช้เงินทุ นมหาศาล เมือเข้ามามีอาํ นาจก็มา
กอบโกยโกงกิ น ได้ ก ลายเป็ นวาทะกรรมที พ วกขุ น นาง อาจารย์
มหาวิทยาลัย และสื อมวลชนสาย “ศั กดินาสวามิภักดิN” ได้ประสานเสี ยง
กันจนกลายเป็ นกระแสหลักครอบงําความคิ ด ของสังคม จนกระทังไม่
อาจจะมี พ รรคการเมื อ งใดเลยที จ ะมี ค วามชอบธรรมในระบอบ
ประชาธิ ปไตยมาปกครองประเทศได้ จะมี ก็แต่ พรรคการเมืองที โ กหก
หลอกลวงแนบเนี ย นที สุด เช่ น พรรคประชาธิ ปัต ย์ ที รั บใช้ฝ่ายเจ้ามา
ยาวนานเท่านั*น จึงจะมีความชอบธรรมในการเป็ นรัฐบาล ดังนั*นด้วยการ
สร้างวาทะกรรมเช่นนี* จึงไม่อาจเกิ ดการพัฒนาระบอบประชาธิ ปไตยได้
อย่างเป็ นจริ งเลย กล่าวคื อนักการเมืองทุ กคนกลายเป็ นผูร้ ้ าย และพรรค
การเมืองทุกพรรคกลายเป็ นซ่องโจรในสายตาของประชาชน ซึ งส่ งผลให้
เกิดวัฒนธรรม “การเมืองเป็ นเรื องน่ ารั งเกียจ” และด้วยวาทะกรรมและ
วัฒนธรรมเช่นนี*จึงสร้างความชอบธรรมให้แก่อาํ นาจนอกระบบเข้ามาใช้
อํานาจแทรกแซงทางการเมือง ตั*งแต่ การแต่ งตั*งคณะรั ฐมนตรี ก็จะมีเด็ก
ฝากของวังบ้าง ของทหารบ้าง จนถึงการรวบอํานาจไปทั*งหมดด้วยการทํา
รัฐประหารยึดอํานาจ
133

ภาพการเมืองประชาธิปไตยในสายตาของเจ้ าจึงเป็ นภาพแห่ งการ


ล้ มลุกคลุกคลานทีน่าสมเพชเวทนา ของพวกไพร่ พวกเจ๊ กแป๊ ะทีไม่ รู้ จัก
ประชาธิ ป ไตยแต่ อ ยากมี อํ า นาจทางการเมื อ ง ทั; ง ๆ ที ไ ม่ มี ค วามรู้
ความสามารถ เพียงแต่ มเี งินก็มกี ารซื;อเสี ยงกันมาโดยไม่ รู้ จกั อับอาย
สมมุ ติ ว่ าหากจะยอมรั บแนวคิ ด ของราชสํานั ก ที โ จมตี ให้ร้ า ย
ระบอบประชาธิ ปไตยอย่างเกิ นจริ งแล้ว ก็จะขอให้ผรู้ ั กความเป็ นธรรม
ทั*งหลาย ลองตั*งคําถามในใจของตนดูเถอะว่า
“การเข้ าสู่ อํานาจด้ วยการซื;อเสี ยง กับ การเข้ าสู่ อํานาจด้ วยการ
รัฐประหารนั;น อย่ างไหนเลวร้ ายกว่ ากัน” และ
“การเข้ าสู่ อาํ นาจด้ วยการซื;อเสี ยง กับ การอยู่ในอํานาจตลอดการ
ด้ วยการหลอกลวงประชาชนว่ าเป็ นผู้มีบุญบารมีมาแต่ ชาติปางก่ อนนั;น
อย่ างไหนเลวร้ ายกว่ ากัน”
แม้จะมีการซื*อเสี ยงอย่างไร การเข้าสู่ อาํ นาจทางการเมืองก็ตอ้ ง
ผ่านการเห็นชอบจากประชาชนและตรวจสอบได้ทุกๆ 4 ปี แต่ การเข้ามา
มีอาํ นาจโดยการยึด อํานาจและการมี อาํ นาจโดยการอ้างบุ ญ บารมี น* ัน
ประชาชนไม่มีสิทธิ ตรวจสอบเลยไม่ว่ากรณี ใดๆ นอกจากจะใช้อาํ นาจ
เผด็จการทางกฎหมายปิ ดกั*นโดยมีคุกตารางข่ มขู่แล้ว ยังใช้อาํ นาจเผด็จ
การทางวัฒนธรรมข่มขู่หลอกลวงว่าห้ามพูดถึงเพราะเป็ นบาปกรรมที จะ
ตามติดไปชาติหน้าอีกด้วย
134

เราไม่ อ าจจะปฏิ เ สธได้ว่ า กระบวนการประชาธิ ป ไตยของ


ประเทศด้อยการพัฒนาทางการเมืองจะไม่มีการซื*อเสี ยง แต่จากความเป็ น
จริ งได้พิสูจน์แล้วว่านักการเมืองทีซ*ือเสี ยงทุกคนนั*นไม่ได้ประสบชัยชนะ
ทุกคน และมิใช่นกั การเมืองทุกคนเป็ นผูซ้ *ือเสี ยงหมด และสาเหตุสาํ คัญที
ประชาชนต้องการผลตอบแทนจากการลงคะแนนเลื อกตั*งนั*น ก็ เป็ น
เพราะระบบการเมื อ งประชาธิ ป ไตยแบบไทยๆ ไม่ มี ค ําตอบในการ
แก้ปัญหาความทุ ก ข์ยากของเขา ซึ งประชาชนรั บรู้ รูปธรรมทางตรงได้
เพียงเท่านี* ด้วยเพราะการทีจะก้าวลึกเข้าไปด้วยการศึกษาแลกเปลียนเพือ
รับรู้ความจริ งแท้น* นั กระทํามิได้เพราะมีระบบกฎหมายคอยควบคุ มไว้
โดยเฉพาะอย่างยิง ความผิดในข้อหา “หมินพระบรมเดชานุ ภาพ” มาตรา
112 และกบฏภายในราชอาณาจัก ร มาตรา 116 แห่ งประมวลกฎหมาย
อาญา ด้ว ยเหตุ น* ี ประชาชนจึ ง ไม่ อาจจะเข้าใจความจริ งได้ว่ าที พรรค
การเมืองไม่มีคาํ ตอบให้ได้น* นั แท้ทีจริ งก็เพราะพรรคการเมืองไม่มีความ
มัน คงด้ ว ยการถู ก แทรกแซงจากอํา นาจนอกระบบด้ ว ยการปฏิ ว ัติ
รั ฐประหารอยู่ตลอดเวลา และแก่ นแท้ปัญหาคื อ ความมัน คงของพรรค
การเมื อ งนั*น เป็ นปฏิ ปั ก ษ์ ต่ อ ระบอบสมบู ร ณาญาสิ ท ธิ ร าชใหม่ ซึ ง
หลักฐานชัดเจนทีสุดทีได้อธิบายให้เห็ นชัดก็คือเมือเกิ ดพรรคการเมืองที
เข้มแข็งขึ*นแล้วในปี 2544 คื อพรรคไทยรั กไทยโดยการนําของ พ.ต.ท.
ทัก ษิ ณ ชิ น วัต ร จึ ง สามารถจัด ทํา นโยบายที แ ก้ ปั ญ หาพื* น ฐานของ
135

ประชาชนได้จริ ง และประชาชนก็ได้แสดงถึงความเข้าใจต่ อความดี งาม


ของระบอบประชาธิปไตยด้วยการลงคะแนนให้พรรคไทยรั กไทย อย่าง
ท่ วมท้นในการเลือกตั*งทัว ไปเมือ 2548 โดยได้คะแนนเสี ยง ส.ส.สู งถึ ง
377 คน จาก ส.ส.ทั*งสภามี 500 คน ซึ งสภาพการเมืองเช่ นนี* ได้แสดงผล
ให้เห็นถึงพัฒนาการทีดีของระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทยแล้วว่า
จะเกิดการแข่งขันเชิงนโยบายในระบบพรรคซึงจะลดทอนการซื*อเสี ยงลง
อย่างแน่ นอน แต่ แล้วระบอบสมบูร ณาญาสิ ทธิ ร าชใหม่ ก็เกรงกลัว การ
เข้มแข็งของระบบพรรคการเมื องของประชาชน ซึ งจะลดทอนอํานาจ
นอกระบบของตน จึ งได้ใช้ก ลไกทางสังคมทั*งหมดโดยเฉพาะทหาร
อาจารย์ม หาวิ ท ยาลัย สื อ มวลชน และกลุ่ ม พลัง มวลชนสายศัก ดิ น า
สวามิ ภ ั ก ดิ; เข้ า บดขยี* อ ย่ า งเป็ นขบวนการโดยผ่ า นผู้มี บ ารมี น อก
รั ฐธรรมนู ญ พลเอกเปรม ติ ณสู ลานนท์ เป็ นผูป้ ระสานการเคลือนไหว
ตั*งแต่ ตน้ ปี 2548 หลังทราบผลการเลื อกตั*งที พรรคไทยรั กไทยได้ 377
เสี ยง โดยมีกลุ่มพันธมิตรฯ จุ ดประกายไฟให้เกิ ดปั ญหาแล้วระดมตี ดว้ ย
อาจารย์มหาวิ ทยาลัย และสื อมวลชน แล้ว ปิ ดท้ายด้ว ยละครฉากเก่ าคื อ
ทหารออกมายึดอํานาจเมือ 19 กันยายน 2549 แม้คณะรัฐประหารจะจัดตั*ง
รั ฐบาลพร้ อมกับสร้ างรั ฐธรรมนู ญ ฉบับปี 2550 ที เอื*อประโยชน์ ให้แก่
พรรคประชาธิ ปัตย์ทีคณะทหารสนับสนุ น อย่างเต็ มที แล้ว พร้ อมกับยุบ
พรรคไทยรักไทย ตัดสิ ทธิ;ทางการเมือง กีดกันพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ
136

แกนนํา ออกจากระบบการเมื อ งแล้ว ก็ ต าม แต่ ก ารเลื อ กตั*ง เมื อ วัน ที


23 ธันวาคม 2550 หลังการยึดอํานาจประชาชนก็ยงั ลงคะแนนให้พรรค
พลังประชาชน ซึ งเป็ นที รู้ก ันของประชาชนว่าเป็ นพรรคการเมื องของ
ทักษิ ณกลับมาเป็ นเสี ยงข้างมากและสามารถจัดตั*งรั ฐบาลได้อีก แต่ ฝ่าย
เจ้าก็ ไม่ ยิ น ยอมและได้แ สดงบทบาทโดยใช้อาํ นาจนอกระบบกดดัน
รั ฐบาลนายสมัค รและนายสมชายให้พน้ อํานาจไป ทําให้ประเทศไทย
ทําลายสถิติโลก คือ เพียง 1 ปี มีถึง 4 รัฐบาล
เหตุก ารณ์ ท;ั งหมดนี;ได้ เป็ นบทพิสูจน์ แล้ วว่ าประชาชนได้ เ ห็ น
คุ ณประโยชน์ ข องระบอบประชาธิ ป ไตย และพึ ง พอใจต่ อ หลัก การที
อํานาจอยู่ในมือของตนแล้ ว แต่ อาํ นาจนอกระบบต่ างหากทีไม่ พึงพอใจที
อํานาจจะเป็ นของประชาชน และอํานาจนอกระบบนี;เองได้ กลายเป็ น
ปั จจัยสํ าคัญทีทําให้ ระบอบประชาธิปไตยของไทยไม่ อาจจะพัฒนาต่ อไป
ได้ ดังเช่ นนานาอารยประเทศ

4.6 สร้ างระบบตรวจสอบนักการเมืองฝ่ ายเดียว


การหาประโยชน์ โ ดยมิชอบของนัก การเมื องไทยตั*งแต่ ร ะดับ
ท้อ งถิ น จนถึ ง ระดับ ชาติ เป็ นตํา นานแห่ ง ความเลวร้ ายที ฝ่ายขุ น นาง
พยายามโฆษณาให้ร้ายจนกลายเป็ นวาทะกรรมทางสังคมว่าเมือขึ* นชื อว่า
เป็ นนักการเมืองแล้วไม่มีใครดีท* งั นั*น ดังนั*นจึงจําเป็ นต้องมีกฎหมายคอย
137

ตรวจสอบและควบคุมทรัพย์สินของทุกๆ คนทีเข้ามายุง่ เกียวกับการเมือง


เริ มตั*งแต่ ชาวบ้านที จะเข้ามาเป็ นกรรมการสาขาพรรคในระดับหมู่บา้ น
และตําบล โดยจะต้องแจ้งความมีอยูข่ องทรัพย์สินทั*งของตนเอง ของเมีย
และของลูกทียงั ไม่บรรลุนิติภาวะ โดยพวกขุนนางข้าราชการและอาจารย์
มหาวิ ท ยาลัย ได้อ ้า งอิ ง หลัก วิ ช าการอย่ า งน่ า เชื อ ถื อ ว่ า เป็ นหลัก การ
ปกครองที โปร่ งใส ที เรี ยกว่า “ธรรมาภิบาล” และเพื อความน่ าเชื อถือก็
อ้างชือเป็ นภาษาอังกฤษเสี ยด้วยว่า “Good Governance” แต่ ในความเป็ น
จริ ง มันกลับกลายเป็ นวาทะกรรมทีหลอกลวง พูดจริ งเพียงด้านเดียว
ผูม้ ี จิ ต ใจอัน เป็ นธรรมลองตั*ง คํา ถามตัว เองเถิ ด ว่ า “ระหว่ า ง
นายอําเภอ กับ ชาวนาทีเข้ ามาเป็ นกรรมการสาขาพรรคการเมืองในระดับ
ท้ องถินนั;น ใครมีโอกาสโกงงบประมาณแผ่ นดินมากกว่ ากัน”
ตอบได้ทนั ทีว่า “นายอําเภอ” และตัวอย่างที เกิ ดขึ*นจริ งและรู้ กนั
ทัว ไปว่าทั*งนายอําเภอ ผูว้ ่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่ วนราชการเกื อบ
ทุกคนล้วนแต่ทุจริ ตทุกโครงการ ราชการที ตอ้ งเปิ ดประมูลงาน ผ่านการ
รั บ ผิ ด ชอบของตนในอัต ราส่ ว น 20 เปอร์ เ ซ็ น ต์ ต ํา สุ ด ไม่ ว่ า จะเป็ น
โครงการก่ อสร้ างอาคาร ทําถนน ขุ ด คลอง แล้วทําไมพวกข้าราชการ
เหล่านี*จึงไม่ตอ้ งถูกควบคุ มทรั พย์สิน เหมือนกับชาวนาที เป็ นกรรมการ
สาขาพรรคการเมือง?
138

แท้ จริ ง ระบบกฎหมายควบคุ มทรั พย์ สิน ของนั กการเมืองก็คือ


การโฆษณาให้ ร้ายด้ านเดียว และกีดกันไม่ให้ ประชาชนเข้ ามาเกีย วข้ องกับ
ระบอบพรรคการเมืองซึงเป็ นฐานสํ าคัญของระบอบประชาธิปไตย

4.7 ข้ าราชการ และองคมนตรีไม่ ต้องแสดงทรัพย์ สิน


ในการกล่ าวอ้ างระบบธรรมาภิบาล เพือให้ เกิดการบริ หารงานที
โปร่ งใส แต่ ข้าราชการทั;งระบบในฐานะเป็ นผู้รับใช้ ของพระมหากษัตริ ย์
กลับไม่ ต้องแสดงการมีอยู่ของทรัพย์ สินต่ อสาธารณะเหมือนนักการเมือง
และกรรมการสาขาพรรคการเมือง รวมตลอดทั;งองคมนตรี ผู้มีอํานาจตัว
จริ ง ในฐานะที ป รึ ก ษาของพระมหากษั ตริ ย์ นอกจากไม่ ต้อ งแสดงต่ อ
สาธารณะแล้ ว ยั ง ไม่ ต้ อ งแจ้ ง การมี อ ยู่ ข องทรั พ ย์ สิ น ต่ อ ปปช.ด้ ว ย
เช่ นเดียวกัน
ความเป็ นจริ งในวัน นี* ปรากฏว่ าองคมนตรี เกื อบทุ ก คนเป็ นที
ปรึ กษาทางธุรกิจให้แก่บริ ษทั ขนาดใหญ่ และบริ ษทั เงิ นทุนธนาคาร อาทิ
เช่ น พลเอกเปรม ติ ณ สู ลานนท์ ก็เป็ นที ปรึ ก ษาของธนาคารกรุ งเทพมา
เป็ นเวลายาวนาน นับตั*งแต่ เริ มดํารงตําแหน่ งองคมนตรี ซึ งก็เป็ นที รู้ก ัน
ทัว ไปในสังคมนี*
สํา หรั บ ข้า ราชการที ต ้อ งแจ้ง ทรั พ ย์สิน ก็ มี เ ฉพาะข้า ราชการ
ระดับสูง เช่น ปลัดกระทรวง(ผูบ้ ญ ั ชาการเหล่าทัพไม่แจ้งทรั พย์สิน) แต่
139

ระบบตรวจสอบก็ ไม่ เข้ม ข้น เหมื อ นอย่า งของนัก การเมื องที ต ้อ งแจ้ง
ทรัพย์สิน และต้องนําไปเปิ ดเผยต่อสาธารณะ ความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ
ของเอกสารก็มีสิทธิถกู ดําเนิ นคดี และอาจถูกถอดถอนหลุดจากตําแหน่ ง
หรื อติดคุกติดตะรางได้
ผูม้ ีจิตใจอันเป็ นธรรมลองคิ ดดูหน่ อยเถอะว่า ทหารและตํารวจ
ผูบ้ ัญ ชาการเหล่ าทัพทั*ง หลาย ล้ว นแต่ เป็ นผูม้ ี อาํ นาจตัว จริ งในสังคม
การเมื องไทยทํา ไมไม่ ถูก ควบคุ ม ด้ว ยระบบกฎหมาย การตรวจสอบ
ทรัพย์สินเหมือนกับประชาชนทัว ไปทีกา้ วเข้ามายุง่ เกียวกับการเมืองเล่า?
รวมตลอดถึ ง ผู้ ที อ ยู่ในราชสํ านั ก ที ห าผลประโยชน์ จากระบบ
การเมืองกันอย่ างขวักไขว่ไปหมด ทําไมไม่ ต้องถู กตรวจสอบด้ วยระบบ
การแจ้ งทรัพย์ สิน เหมือนอย่ างเช่ นนักการเมืองเล่ า?
มีแต่ ข้ าราชการการเมืองผู้รับใช้ ใต้ เ บื;องยุคลบาทเท่ านั;น หรื อ ที
ทุจริตเป็ น, ส่ วนข้ าราชการประจําผู้รับใช้ ใต้ เบือ; งยุคลบาทเท่ านั;นทุจริตไม่
เป็ นใช่ ไหม?

4.8ความรํารวยของพลเอกสุ รยุทธ์ ตัวอย่ างธรรมาภิบาลด้ านเดียว


จากหลัก ฐานหนังสื อ “เปิ ดหน้ากากผูม้ ี บารมีนอกรั ฐธรรมนู ญ
ความจริ งวิกฤตการเมือง” สํานักพิมพ์สยามปริ ทศั น์ ฉบับพิมพ์ครั*งที 2 ได้
ให้ขอ้ มูลทีเป็ นจริ งว่าแม้แต่ผทู้ ีอยูใ่ นตําแหน่ งองคมนตรี อย่างเช่น พลเอก
140

สุ รยุทธ์ จุลานนท์ ก็มีประวัติมวั หมองว่ามีทรั พย์สินจํานวนมากเกิ นกว่า


รายได้ทีเกิดจากการรับราชการอันเป็ นปกติได้อย่างไร โดยกล่าวว่า
“นายกรั ฐมนตรี พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ อ้ างตัวเป็ นข้ าราชการที
ซื อสัตย์ สุจริ ตมาตลอดชี วิต แต่ กลับมีสินทรั พย์ และเงินสดทั/ งหมดทั/ งของ
ตัวเองและของภรรยาที แจ้ งต่ อ ปปช.รวมถึง 94 ล้ านบาท เฉพาะทรั พย์ สิน
ของภรรยาซึ งเป็ นข้ าราชการทหารแค่ ยศระดับพันเอกกลับมีทรั พย์ สิน
มากถึง 65,566,363.11 บาท (หกสิ บห้ าล้ านห้ าแสนหกหมื นหกพันสาม
ร้ อยหกสิ บสามบาทสิ บเอ็ดสตางค์ ) เฉพาะเครื องประดับของพันเอกหญิ ง
คุ ณ หญิ ง จิ ต รวดี จุ ล านนท์ ซึ งเป็ นภรรยาของนายกรั ฐมนตรี นั/ น
มีเครื องประดั บที เป็ นอั ญ มณี และมี นาฬิ ก ายี ห้อดั งๆ เป็ นมูลค่ ารวมถึ ง
14,157,000 บาท(สิ บสี ล้ านหนึ ง แสนห้ าหมื น เจ็ ด พั น บาท) และยั ง มี
บ้ า นพั ก ตากอากาศสวยหรู บ นยอดเขายายเที ย ง อํา เภอสี คิ/ว จั ง หวั ด
นครราชสี มา ซึ งเป็ นการใช้ อิทธิ พลเมื อครั/ งเป็ นแม่ ทัพภาคเข้ าครอบครอง
โดยใช้ งบประมาณทหารทําถนนลาดยางจากตี นเขาถึง ยอดเขารอบบ้ าน
ซึ งเป็ นความผิดอย่ างชัดแจ้ งในอดีตแต่ ไม่ เคยถูกตรวจสอบเลยจนกระทั ง
ก้ าวเข้ าสู่วงจรการเมืองในฐานะนายกรั ฐมนตรี ซึ งหากไม่ ก้าวเข้ ามาเป็ น
นักการเมืองสิ นทรั พย์ ที ได้ มาเมื อครั/ งเป็ นทหาร ก็จะไม่ มีผ้ ใู ดล่ วงรู้
ที ก ล่ า วถึ ง รู ป ธรรมกรณี พลเอกสุ ร ยุ ท ธ์ ก็ เ พื อ แสดงให้ เห็ น
ตั ว อย่ า งที เป็ นจริ งว่ า ยัง มี ผ้ ู น ํา เหล่ า ทั พ อี ก มากมายที มี อ ํานาจในการ
แสวงหาผลประโยชน์ โดยมิชอบเต็มบ้ านเต็มเมืองภายใต้ คาํ อวดอ้ างว่ ารั ก
141

ชาติโดยไม่ มีระบบตรวจสอบควบคุมเลยซึ งจากโครงสร้ างระบบราชการ


ที มีอาํ นาจเผด็จการทางกฎหมายและวัฒนธรรมของกลุ่มอํามาตยาธิ ปไตย
ครอบงําอยู่เช่ นนี /ย่อมเป็ นการเพาะเชื /อร้ ายของระบบคอรั ปชั นให้ ขยาย
ใหญ่ โตและเข้ มแข็ง และยิ งมีการรั ฐประหารเพื อสร้ างเกราะคุ้ มกันระบบ
ราชการให้ เข้ มแข็งยิ งขึน/ ด้ วย การแก้ ปัญหายิ งมืดมน”
กล่าวโดยสรุ ปแล้ว ธรรมาภิ บาลที โฆษณาเรี ยกร้ องกันทัว เมือง
แท้จริ งก็คือ การโฆษณาชวนเชือของฝ่ ายเจ้าทีจะควบคุมการขยายตัวของ
ระบบพรรคการเมือง ด้วยความหวาดกลัวว่าอํานาจทางการเมืองของภาค
ประชาชนจะเกิดความเข้มแข็งขึ*นจริ งในวิถีทางระบอบประชาธิปไตย
ธรรมาภิบาลหรือการบริหารทีโปร่ งใสเป็ นสิ งทีถูกต้ อง แต่ เพือ ให้
เกิดประโยชน์ ทีแท้ จริง ต้ องทําทั;งกระบวนของผู้ทีมีการใช้ อํานาจรั ฐและ
มีโ อกาสหาผลประโยชน์ จากเงิ น ภาษี อ ากรของประชาชนไม่ ใ ช่ ทํ ากับ
ชาวนาชาวไร่ ทีจะเข้ ามาสู่ กระบวนการทางการเมือง เพียงเพราะเข้ ามา
เป็ นกรรมการสาขาพรรคการเมืองในชนบทอย่ างเช่ นทุกวันนี;


วิ จัย ใจภักดี พิมพ์ค รั* งที 2 หน้า 56 “เปิ ดหน้า กากผูม้ ี บารมีน อกรั ฐธรรมนู ญ
ความจริ งวิกฤตการเมือง” กรุ งเทพฯ : สํานักพิมพ์สยามปริ ทศั น์
142

4.9 ใครกันแน่ ทีเป็ นทุนสามานย์?


“ทักษิ ณไม่เสี ยภาษี หุ้น, ทักษิ ณเป็ นทุ นสามานย์” ได้กลายเป็ น
วาทะกรรมทางสั ง คมที นั ก วิ ช าการพัน ธุ์ “ศัก ดิ น าสวามิ ภ ั ก ดิ; ” ได้
กล่าวโทษพ.ต.ท.ทักษิ ณ นายกรั ฐมนตรี จนเกิ ดกระแสโค่ นล้มรั ฐบาล
ทักษิณ
หากจะมองด้วยมุมมองการตรวจสอบอํานาจของผูม้ ีอาํ นาจแล้ว
การตรวจสอบการกระทําของนายกฯ ทัก ษิ ณ เป็ นเรื องที ดี ยิง แต่ ก าร
ตรวจสอบต้องยึดแนวพระราชดํารัสของพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลที ทรงเตื อน
พสกนิ ก รว่ า “อย่ าใช้ สองมาตรฐาน”หรื อที พูด ติ ดปากเป็ นภาษาฝรั งว่ า
double standard แต่ ปรากฏว่านักวิชาการและสื อมวลชนที แสดงตัวเป็ น
นักอุด มการณ์ ในบ้านเมืองนี* กลับไม่ยึดแนวพระราชดํารั ส และใช้การ
ตรวจสอบแบบสองมาตรฐานตลอดเวลา ซึ งปรากฏความเป็ นจริ งว่าการ
ขายหุ ้น ในตลาดหลักทรั พย์ไม่ว่าบริ ษทั ใดๆ ก็ไม่ ได้เสี ย ภาษี เหมือนกัน
โดยเฉพาะการขายหุ ้ น ของหนั ง สื อ พิ ม พ์ ม ติ ช น และหนั ง สื อ พิ ม พ์
เดอะเนชัน ซึงอยูใ่ นตลาดหลักทรัพย์เช่นกัน ที เป็ นตัวตั*งตัวตี ในการออก
ข่ าวนี* ก็ไม่ได้เสี ยภาษี เหมือนกัน รวมตลอดทั*งการขายหุ ้นของธนาคาร
ไทยพาณิ ชย์ และอี ก หลายบริ ษัท มหาชนที ร าชสํา นั ก ถื อหุ ้ น ใหญ่ อ ยู่
ก็ไม่ ได้เสี ยภาษี เหมื อนกัน แต่ นัก วิชาการและสื อมวลชนสาย “ศัก ดิ น า
สวามิภกั ดิ;” ต่างก็ปิดปากเงียบ
143

ทุนสามานย์ คอื อะไรกันแน่ ?


ในระบบทุนนิ ยมนั*นเป็ นทีรู้กนั ทัว ไปว่า ทุกคนมีสิทธิทีจะลงทุ น
ค้าขาย แข่ งขันกันอย่างเสรี โดยปฏิบตั ิ ตามกรอบกฎหมายเดียวกันอย่าง
เสมอภาค ใครทําผิด กติ ก าย่อมถูก วิ พากษ์วิ จ ารณ์ ได้ ดังเช่ น ที พ.ต.ท.
ทักษิณ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ขณะดํารงตําแหน่ งนายกรัฐมนตรี แต่ ปรากฏว่า
ราชสํานักซึ งเป็ นกลุ่มทุ นใหญ่ สุดในประเทศไทย ได้ทาํ กิ จการหากําไร
เยียงสามัญชนทัวไป ทั*งลงทุ น เองและร่ วมทุ น กับเอกชนอืน ๆ นับเป็ น
ร้ อยๆ บริ ษ ัท ตั*งแต่ ธนาคารไทยพาณิ ชย์ บริ ษ ัทเงิ น ทุ น หลัก ทรั พย์อีก
มากมาย บริ ษ ัทผลิ ต และค้าวัสดุ ก่ อสร้ างใหญ่ สุด เช่ น ปู น ซี เมนต์ไทย
จนถึงบริ ษทั ประมูลรับเหมาก่อสร้างอืนๆ แต่ปรากฏว่ารายได้ทางธุ รกิ จที
เข้าสู่ ร าชสํานัก และเชื* อพระวงศ์ก ลับ ไม่ ได้เสี ย ภาษี เ งิ น ได้ อี ก ทั*งเมื อ
กิจการค้าเกิดวิกฤตต้องขาดทุน ซึงเป็ นภาวะปกติของการทําธุรกิจทีตอ้ งมี
ทั*งกําไร และขาดทุนนั*น แต่กิจการของราชสํานักกลับใช้อาํ นาจรั ฐนําเงิ น
ภาษี อากรของราษฎรไปคํ*าจุ นให้ เช่ น กรณี เกิ ดวิ กฤตเศรษฐกิ จ ปี 2540
ทีเป็ นผลให้บริ ษทั เอกชนมากมายเกิดล้มละลาย แต่ในเวลานั*นรัฐบาลของ
นายชวน หลี ก ภัย โดยนายธาริ น ทร์ นิ มานเหมิ น ทร์ รั ฐมนตรี ว่ า การ
กระทรวงการคลัง ก็นาํ เงิ นภาษี อากรเข้าช่ วยคํ*าจุ น ธนาคารไทยพาณิ ชย์
และบริ ษทั ปูนซีเมนต์ไทย เพือให้รอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก เป็ นต้น
หรื อแม้บ ริ ษ ัทธุ ร กิ จ อื น ๆ ของราชสํานั ก ที ต ้อ งประสบกับภาวการณ์
144

ขาดทุน แต่ไม่ใหญ่โตถึงขนาดจะต้องเอาเงินภาษี อากรมาอุม้ ก็ใช้วิธีผ่อง


ถ่ายให้แก่กลุ่มทุ นผูจ้ งรั กภักดี ต่างๆ รั บเซ้งไป เช่ น กรณี สถานี โทรทัศน์
ITV เป็ นต้น
การบริ หารจัดการทุ นของราชสํานักดังที กล่าวมาข้างต้น ไม่ใช่
ระบบทุ น เสรี อ ย่ า งแน่ น อน และก็ ไ ม่ อ ยู่ใ นฐานะที ใ ครจะวิ จ ารณ์ ไ ด้
นอกจากมีกฎหมายอาญา มาตรา 112 ปิ ดปากแล้ว แต่ทีร้ายกว่านั*นคือการ
ปิ ดปากด้วยอํานาจมืดนอกกฎหมายด้วยการ “ถูกอุ้ม” หายตัว ซึงเป็ นเรื อง
ปกติของบ้านเมืองนี*
ลักษณะธุรกิจของทุนราชสํ านักเช่ นนีอ; ยู่ในคําจํากัดความของทุน
สามานย์ หรื อ ไม่ พวกอธิ การบดีมหาวิทยาลัยทั; งหลายจะตอบลูก ศิ ษ ย์
อย่ างไร?
จะนําพระราชดํารั สเรื อง “สองมาตรฐาน” มาอธิ บายอย่างไร
ดี!!!

4.10 สร้ างระบอบประชาธิปไตยทีบ ิดเบีย; ว


การรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนู ญทีเกิดขึ;นซํ;าแล้ วซํ;าเล่ าโดยได้ รับ
การรั บรองจากราชสํ านัก ทําให้ ระบบพรรคการเมือง และการปกครอง
แบบประชาธิปไตยอ่ อนแอลง แต่ แม้ กระนั;นก็ไม่ อาจจะปิ ดกั;นอํานาจของ
ประชาชนได้ เพราะการเติ บ ใหญ่ ของพลั ง มวลชนที เ รี ย กร้ อง
145

ประชาธิปไตยนั;นเป็ นพลังทางประวัติศาสตร์ ทีเจตนาแห่ งปั จเจกชนไม่


อาจจะขัดขวางได้
พลังแห่ งประชาธิปไตยจึงไม่ต่างอะไรจากทารกหัวดื*อทีแม้แม่ใจ
ร้ายทีไม่อยากจะมีลกู พยายามกินยาขับให้แท้ง แต่ในทีสุดก็คลอดออกจน
ได้ฉนั ใดก็ฉนั นั*น ดังนั*นในรอบ 60 กว่าปี ของการครองราชย์ก็ไม่อาจจะ
คุมกําเนิ ดพลังประชาธิปไตยได้ ราชสํานักทําได้เพียงทําให้ประชาธิปไตย
แคระแกรน ไม่อาจจะเติ บใหญ่ เข้มแข็งได้ แต่ ผลร้ ายก็ต กแก่ ประชาชน
โดยรวมเพราะพลังแห่ งระบอบประชาธิปไตยจอมปลอมเช่ นของไทยทุ ก
วันนี* ไม่สามารถจะสร้างความอุดมสมบูรณ์พลู สุ ข และสร้ างคุ ณภาพชีวิต
ที ดี ใ ห้ แ ก่ ป ระชาชนได้ เมื อ เปรี ยบเที ย บกับ ประเทศที เ ขามี ร ะบอบ
ประชาธิปไตยเข้มแข็ง
นับวัน ที ประชาธิ ปไตยได้ถูก ปิ ดกั*น ขาดสารอาหารจนแคระ
แกร็ น และแม้เด็กหัวดื*อคนนี* จะเกิ ดเข้มแข็งขึ*นมาได้ก็ไม่เว้นยังต้องถูก
หัก แข็ งหักขาให้พิก ารอีก จนได้ ดังเช่ นกรณี ก ารรั ฐประหารล้มรั ฐบาล
ทักษิ ณ ที มีความเข้มแข็ง และมีศรั ทธาจากประชาชนสนับสนุ น, สภาพ
ต่างๆ เช่ นนี* นับวันยิงประจานตัวเองให้เห็ นว่าประเทศไทยมีรูปร่ างเป็ น
เด็กพิการอมโรคทีน่าเกลียด และแปลกประหลาดมากยิง ขึ*นในสายตาของ
ชาวโลก
146

ในการรั ฐประหารครั*งหนึ งๆ อํานาจของทหารที ได้ร่ว มมือกับ


ระบอบราชการได้สร้างกรอบล้อมระบอบราชการให้เข้มแข็งยิงขึ*น และ
ลดอํา นาจของฝ่ ายการเมื อ งลงจนกระทัง ไม่ อ าจจะควบคุ ม บริ หาร
ข้า ราชการได้ ทํา ให้ ร ะบอบราชการหรื อ ที นิ ย มเรี ย กกัน ว่ า “ระบอบ
อํามาตยาธิ ปไตย” ขึ* น ครอบงําอํานาจของรั ฐ บาลที มาจากประชาชน
เกือบจะไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน
จากรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ได้แสดงให้เห็นชัดว่าเป็ นมรดกตก
ทอดของระบอบอํามาตยาธิ ปไตยที พฒั นาต่ อยอดจนกลายเป็ นระบอบ
อํามาตยาธิปไตยอย่างสมบูรณ์แบบและแนบเนี ยน กล่าวคือรัฐธรรมนู ญปี
2550 ได้วางโครงสร้ างให้ศาลทั*ง 3 สถาบัน คื อ ศาลฎี กา ศาลปกครอง
สู งสุ ด และศาลรั ฐธรรมนู ญ เป็ นผูค้ ุ มอํา นาจของรั ฐ บาลทั*ง หมดโดย
ประธานศาลทั*ง 3 สถาบัน เป็ นผูต้ * ังองค์ก รอิ สระที มาจากข้าราชการ
อาวุ โ ส ที ต ้องเป็ นข้าราชการอาวุ โ สเพราะ(แก่ เ กิ น แกงความคิ ด เป็ น
อํามาตย์สมบูรณ์แบบไม่เปลียนแปลงแล้ว) อีก 4 องค์กร และหลังจากนั*น
ตัวแทนศาลทั*ง 3 สถาบัน กับ ตัวแทนองค์กรอิสระทั*ง 4 องค์กร ก็ร่วมกัน
เลือกสมาชิ กวุ ฒิสภา 74 คน เพื อมาคุ มรั ฐบาลโดยมี อาํ นาจเสมอเท่ ากับ
สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร ยิง กว่านั*นก็ให้อาํ นาจพิเศษแก่องค์กรอิสระเช่ น
กกต. ,ปปช. ที ทาํ หน้าที เหมือนพนักงานสอบสวนคอยตรวจสอบจับกุม
นักการเมืองทุกคนขึ*นฟ้ องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาการเมือง ศาลปกครอง
147

และศาลรั ฐธรรมนู ญ เพื อถอดถอนออกจากตําแหน่ ง หรื อนัย หนึ งก็คื อ


เปลียนอํานาจของรัฐบาลที ประชาชนตัดสิ นมาแล้ว ตามชอบใจของศาล
ซึ งอยู่ภ ายใต้ก ารควบคุ มจากราชสํานัก โดยผ่านมื อที มองไม่ เห็ น ของ
เครื อข่ายราชสํานัก และก็ได้ปฏิบตั ิการเป็ นผลจริ งแล้ว เช่น การตัดสิ นให้
นายกรัฐมนตรี สมัคร สุ นทรเวช ออกจากตําแหน่ ง ด้วยเพราะทํากับข้าว
โชว์ท างโทรทัศ น์ และตัด สิ น ล้ม รั ฐ บาลนายสมชาย วงศ์ส วัส ดิ; ใน
ระยะเวลาไล่เลียกัน ด้วยการยุบพรรคอย่างฉุ กละหุ ก และมีพิรุธ เมือวันที
2 ธันวาคม 2551 ก่ อนที นายสมชาย นายกรั ฐมนตรี และรั ฐมนตรี ว่าการ
กระทรวงกลาโหมจะเข้าเฝ้ าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพียง 2 ชัว โมง
ในงานสวนสนามกองทหารรักษาพระองค์
ไม่เพียงแต่โครงสร้างของรัฐธรรมนูญที ราชสํานักเข้ามาควบคุ ม
อํานาจรั ฐโดยผ่านอํานาจศาลทั*ง 3 สถาบัน ดังกล่าวข้างต้นเท่ านั*น โดย
เนื* อแท้ข องรั ฐธรรมนู ญ แล้ว ยังบรรจุ แนวคิ ด เศรษฐกิ จ พอเพี ย งไว้ใ น
แนวนโยบายแห่ งรัฐ ทําให้พรรคการเมืองทุ กพรรคไม่มีอิสระที จะเสนอ
นโยบายต่อประชาชนเพือให้ประชาชนเป็ นผูใ้ ห้ความเห็ นชอบ อีกทั*งยัง
สกัด กั*น อํา นาจของฝ่ ายการเมื อ งให้ เ กิ ด ความยุ่ ง ยากในการบริ หาร
ไม่สามารถจะตัดสิ นการแก้ปัญหาของประชาชนอย่างฉับไวได้ เช่ น การ
จะไปตกลงการค้าหรื อสัญ ญาใดๆ กับต่ างประเทศต้องนํามาขอความ
148

เห็นชอบต่อรัฐสภา ทีมีราชสํานักวางโครงสร้างควบคุมอย่างแน่ นหนาไว้


แล้วอีกด้วย
จากโครงสร้ างที ปิดกั*น อํานาจของรั ฐบาลที มาจากประชาชน
เช่นนี* ได้ทาํ ให้ระบอบประชาธิปไตยบิดเบี*ยว ทําให้ทุกฝ่ ายในรั ฐสภา ทั*ง
ระหว่างสมาชิ กสภาด้วยกันเอง และระหว่างสมาชิ ก สภากับประชาชน
เกิดความขัดแย้งกันไม่มีทีส*ิ นสุ ด โดยเปิ ดช่ องให้ฟ้องร้ องกันยังโรงศาล
เพือช่วงชิงอํานาจทางการเมืองกันโดยศาลเป็ นผูต้ ดั สิ น ดังนั*นนักการเมือง
ในสภาแทนทีจะมุ่งสร้างผลประโยชน์ให้ประชาชน เพือขอคะแนนความ
เห็ น ชอบจากประชาชนก็ ก ลายมาเป็ นใช้วิ ธีแย่งชิ งอํานาจกัน ด้ว ยการ
ฟ้ องร้องโดยหาข้อผิดพลาดทางกฎหมายเล็กๆ น้อยๆ ขึ*นดําเนิ นคดีต่อกัน
ระบอบการเมื อ งของไทยปั จจุ บั น จึ งกลายเป็ นระบอบ
ประชาธิ ปไตยแบบค้าความ ซึ งหากนําไปใช้ในสหรั ฐอเมริ กาวันนี* ก็น่ า
เชือได้ว่า แม้ประธานาธิ บดี โอบามาจะได้รับการเลือกตั*งจากประชาชน
แล้ว ก็คงจะยังไม่อาจจะเข้าบริ หารราชการได้ เพราะ กกต.ยังไม่รับรอง
หรื อแม้ว่ารับรองแล้ว แต่ ปปช.กําลังสอบสวนเรื องทีฝ่ายพ่ายแพ้ร้องเรี ยน
อยู่ หรื ออาจจะต้องใจหายใจคําไม่แน่ นอนว่าในอนาคตอันใกล้น* ี จะหลุด
จากตําแหน่ งหรื อไม่ เพราะมีนาย ก. นาย ข.ไปยืนฟ้ องคดี ในข้อหาต่ างๆ
ทั*งในอดี ต และปั จจุ บนั ที ศาลอยู่ และศาลกําลังจะพิ จารณาตัดสิ น หาก
ตัดสิ นจําคุกก็จะต้องหลุดจากตําแหน่ งทันที
149

ระบอบประชาธิ ป ไตยของไทยได้ ถู ก ถอดกระดู ก เขี; ย วเล็ บ


จนกลายเป็ นมนุษย์ พกิ ารไปเสี ยแล้ ว

4.11 จ๊ อกกีไ; ม่ใช่ เจ้ าของม้ า : ทหารไม่ ต้องขึน; ต่ อรัฐบาล


“จ๊ อ กกี ไ ม่ ใ ช่ เจ้ าของม้ า ม้ าเป็ นของเจ้ าของคอก ม้ าไม่ ต้องฟั ง
จ๊ อกกี”
วลี ท องข้า งต้น นี* เป็ นความหมายแห่ ง คํา กล่ า วของประธาน
องคมนตรี พลเอกเปรม ติ ณสู ลานนท์ ที กล่าวให้โอวาทแก่ นักเรี ยนนาย
ร้ อย จปร. เมือวันที 14 กรกฎาคม 2549 ที มีผลให้เกิ ดวิ กฤตการณ์ ทาง
การเมื อ งในการต่ อ ต้ า นรั ฐ บาล พ.ต.ท.ทัก ษิ ณ ชิ น วัต ร จนนํา ไปสู่
เหตุการณ์ทีพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ผูบ้ ญั ชาการทหารบกนํากําลังทหาร
ออกมายึดอํานาจจากรัฐบาล
วลีทองนี* ไม่เพีย งแต่ เป็ นการส่ งสัญญาณเชิ งสัญลักษณ์ ว่าทหาร
ซึงเป็ นเสมือนม้าไม่ตอ้ งฟั งรั ฐบาลซึ งเป็ นเสมือนจ๊อกกี* เพราะทหารเป็ น
ของพระราชาซึ งเปรี ยบเสมือนเจ้าของคอกม้าเท่ านั*น แต่ แท้จริ งคื อสรุ ป
ให้เห็นถึงระบบการเมืองที เป็ นจริ งและเป็ นความถูกต้อง แต่ ไม่ใช่ ความ
ถูกต้องของระบอบประชาธิ ปไตยอันมีพระมหากษัตริ ยท์ รงเป็ นประมุข
แบบอังกฤษหรื อแบบญี ปุ่น แต่ เป็ นความถูกต้องแท้จริ งของระบอบสม
บูรณาญาสิ ทธิ ร าชใหม่ ที อาํ นาจทางการเมือง การทหาร ที เป็ นจริ งนั*น
150

มิได้ข* ึนต่ออํานาจการบริ หารของรัฐบาล ตัวโครงสร้างอํานาจของรั ฐบาล


ที มาจากประชาชนนั*นเป็ นเพียงรู ปแบบของอํานาจการบริ หารจัดการที
คล้ายกับอํานาจการบริ หารของรั ฐบาลในระบอบประชาธิ ปไตยทัว ๆ ไป
แต่เนื*อแท้อาํ นาจกลับรวมศูนย์อยูท่ ีตวั องค์พระมหากษัตริ ย ์
ด้วยเหตุ ทีกล่าวมาข้างต้นนี* เราจึ งได้เห็ นความขัดแย้งระหว่าง
ข้าราชการประจํา กับรัฐบาลอยูเ่ สมอมา โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่าง
รัฐมนตรี กบั ปลัดกระทรวงและอธิบดี ซึงประชาชนจะเห็นการแสดงออก
ของข้าราชการชั*นผูใ้ หญ่ ทีไม่ ย อมขึ* นต่ อการบริ หารของรั ฐมนตรี และ
นายกรัฐมนตรี อยูเ่ สมอซํ*าแล้วซํ*าเล่าด้วยถ้อยคําว่า
“ผมเป็ นข้ า ราชการในพระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว ไม่ ใ ช่
ข้ าราชการของนักการเมือง”
ล่าสุ ดนายพงศ์โ พยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เมือไม่
พอใจต่ อ คํา สัง โยกย้า ยตํา แหน่ ง จากคํา สัง ของนายสมัค ร สุ น ทรเวช
นายกรัฐมนตรี เมือวันที 2 กันยายน 2551 ก็แสดงความไม่พอใจในคําสัง
นั*น ด้วยข้อความว่า
“เราเป็ นข้ าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่หัว เราเป็ นข้ าราชการ
ของประชาชน เป็ นข้ าราชการของบ้ านเมื อง เราไม่ ใช่ ข้ าราชการของ
รั ฐบาล รั ฐบาลไม่ ใช่ เจ้ าของเรา”


คําสัมภาษณ์ในหนังสื อพิมพ์มติชนรายวัน วันที 22 กันยายน 2551 หน้า 11
151

ด้ว ยเพราะระบอบการปกครองที เ ป็ นจริ ง ของไทยนั*น ไม่ ใ ช่


ประชาธิ ปไตยรั ฐบาลที มาจากการเลื อกตั*งของประชาชน จึ งไม่อาจจะ
บั ง คั บ บั ญ ชาข้ า ราชการได้ และจากรณี คํา สั ง ย้า ยนายพงศ์ โ พยม
ปลัดกระทรวง โดยคําสังของนายกรั ฐมนตรี น* ี ก็ได้แสดงให้เห็ น ชัด ถึ ง
อิทธิ พลทางความคิ ดของราชสํานัก ที กลายมาเป็ นอุปสรรคขัดขวางการ
บริ หารของรั ฐบาล และไม่ เพี ยงแต่ เป็ นปั ญ หาทางวัฒ นธรรมความเชื อ
แต่เป็ นเรื องอํานาจการแทรกแซงจริ งด้วย เพราะปรากฏเป็ นข่ าววงในว่า
ทันทีทีนายกฯ สมัคร มีคาํ สังย้ายปลัดอย่างเป็ นทางการ ก็มีพระสุ รเสี ยง
ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ โทรมายับยั*งทันทีเหมือนกัน

4.12 ข้ าราชการมุ่งสู่ ราชสํ านัก ปฏิเสธอํานาจประชาชน


จากสภาวะความเป็ นจริ งที โ ครงสร้ างอํานาจรั ฐ ทั*ง การเมื อ ง
เศรษฐกิ จ และสังคมวัฒนธรรม รวมศูนย์อยู่ทีสถาบันพระมหากษัตริ ย ์
รวมทั*งมีระเบียบราชการให้ขา้ ราชการชั*นสู งตั*งแต่ ระดับ 10 ขึ*นไป รวม
ตลอดทั*ง ตําแหน่ งผูบ้ ริ ห าร และในสถาบัน การศึ ก ษาของรั ฐ คณบดี
อธิการบดี และกรรมการสภามหาวิทยาลัยทั*งหมด จะต้องได้รับการโปรด
เกล้าจากพระมหากษัต ริ ยก์ ่ อนจึ งจะเข้าปฏิบตั ิ หน้าที ได้ และวัฒนธรรม
โปรดเกล้ามหากรุ ณาธิ คุณนี* ได้ขยายครอบคลุมไปทุ กกระบวนการของ
พิธีกรรมในระดับรากหญ้า เช่ น การพระราชทานเพลิงศพได้ขยายลงไป
152

ถึงครอบครัวกํานัน ผูใ้ หญ่บา้ น สมาชิก อ.บ.ต.แล้ว ด้วยสถานการณ์เช่นนี*


จึ งทําให้ถนนทุ กสายมุ่งสู่ ราชสํานักทั*งสิ* น ดังนั*นในระบบงานราชการ
ปั จ จุ บันจึ งเกิ ด กระบวนการวิงเต้น ของข้าราชการทุ ก ระดับชั*นที ต่ างก็
ต้องการที จ ะเข้าไปรั บใช้ใกล้ชิด เจ้านายเชื* อพระวงศ์ทุ ก พระองค์ ทั*ง
ข้าราชการพลเรื อน ทหาร ตํารวจ และหากใครได้รับการโปรดปราน โดย
ได้รั บ ยศศัก ดิ; เครื องราชชั*น สู ง เป็ นกรณี พิ เ ศษ หรื อเป็ นพระสหาย
โดยเฉพาะข้ า ราชการสตรี หากได้ รั บ การโปรดเกล้า เป็ นคุ ณ หญิ ง
ท่านผูห้ ญิงแล้วก็จะกลายเป็ นคนมีปลอกคอที รัฐมนตรี ไม่มีใครกล้าแตะ
ต้อง แม้ขา้ ราชการชั*นผูใ้ หญ่เหล่านั*นจะไม่ตอบสนองนโยบายของรัฐบาล
ก็ ไ ม่ มี รั ฐ มนตรี คนใดอยากจะไปยุ่ ง เกี ย วด้ ว ย ดั ง นั* นการบริ หาร
ประเทศชาติตามแนวนโยบายของพรรคการเมืองทีเสนอต่ อประชาชนซึ ง
จําเป็ นจะต้องมาผลัก ดันผ่านโครงสร้ างของระบบราชการ จึ งเป็ นเรื อง
หลอกลวงประชาชนตั*งแต่วนั แรกทีโฆษณาหาเสี ยงต่อประชาชน แต่ หาก
ผูน้ ําพรรคการเมื องใดต้องการจะสร้ างผลงานให้เข้าตาประชาชนตาม
นโยบายทีเป็ นประโยชน์ต่อประชาชน ก็จะต้องมีความกล้าหาญและกล้า
เสี ยงต่อการฝ่ าแนวกีดขวางของกลุ่มข้าราชการ “เส้นใหญ่ ” เหล่านี* ซึ งมี
เครื อข่ายเข้มแข็งคอยเพ็ททูลใส่ ร้าย กันอย่างเป็ นระบบจนเกิดความเข้าใจ
ผิดต่อตัวนายกรัฐมนตรี และนํามาซึงการพังทลายของหลายรัฐบาลที ผ่าน
มา และล่าสุ ดก็คือกรณี ของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
153

นายกรั ฐมนตรี ข องไทยจึ งน่ าสงสารมากเพราะกว่ าจะมาเป็ น


นายกฯ ได้ก็ยากแค้นแสนเข็ญ ต้องเอาใจประชาชนคนลงคะแนนทั*งบ้าน
ทั*งเมือง แต่เมือมาเป็ นนายกฯ แล้วก็ยงั มีตาํ แหน่ งเล็กกว่าข้าราชบริ พารใน
ราชสํานักเสี ยอีก โดยเฉพาะพวกราชเลขาและรองราชเลขาทั*งหลาย
โครงสร้างการบริ หารรัฐของประเทศไทยที ผ่านมาต้องตกอยู่ใน
ฐานะเดียวกันทีนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ทุกคนทีได้รับมอบอํานาจมา
จากประชาชนต้องคอยเอาอกเอาใจนางสนองพระโอฐทั*งหลายที จะมีคาํ
ขอร้องเชิงบังคับมายังตัวรั ฐมนตรี ไม่ได้หยุดหย่อน และไม่สามารถที จะ
สัง การตามนโยบายต่อข้าราชการในสายงานของตนแต่ เป็ นผูใ้ กล้ชิดราช
สํานักได้ สภาพโครงสร้ างอํานาจรั ฐเช่ นนี* จึ งสร้ างอํานาจที ซ้อนอํานาจ
และเกิ ด ความซับซ้อนในการบริ หารจัด การที ผูม้ ี อ าํ นาจรั ฐตัว จริ งคื อ
สถาบันพระมหากษัตริ ย ์ แต่ก็ไม่ลงมือสัง การบริ หารจัดการโดยตรง ส่ วน
รั ฐบาลซึ งเป็ นผูท้ าํ หน้าที บริ หารรั ฐโดยตรงแต่ กลับไม่ มีอาํ นาจจริ งซึ ง
เป็ นไปตามข้อสรุ ปว่า
ผู้บริหารไม่ มอี าํ นาจ แต่ผู้มอี าํ นาจไม่บริหาร
เมื อ รั ฐ ไทยต้อ งตกอยู่ใ นสภาวะที ซับซ้อ นที รั ฐ บาลในฐานะ
ผูบ้ ริ หารตัวจริ งแต่ไม่มีอาํ นาจ และความมัน คงของรัฐบาลมิได้อยูท่ ีระบบ
รัฐสภา หากแต่ อยู่ทีความพึงพอใจของข้าราชบริ พารผูร้ ั บใช้ใกล้ชิดราช
สํานัก แน่ นอนทีสุดผลร้ายย่อมจะตกแก่ราษฎรอย่างแน่ นอน
154

4.13 ราชเลขาคือหัวหน้ าปลัดกระทรวง


ในโครงสร้ า งการบริ หารราชการแผ่ น ดิ น ของรั ฐ บาลนั* น
ปลัดกระทรวงถือว่าเป็ นมือไม้สาํ คัญในการนํานโยบายของรั ฐไปปฏิบตั ิ
ให้เกิ ด ความสัมฤทธิ; ดังนั*น ในการปฏิ บตั ิ ราชการ จึ งมีก ารประชุ มร่ ว ม
ปลัด กระทรวงทุ ก กระทรวงประมาณเดื อ นละหนึ งครั* ง โดยแต่ ล ะ
กระทรวงผลัดกันเป็ นเจ้าภาพในการจัดประชุมและเลี*ยงอาหารหมุนเวียน
กันไป ทั*งนี*เพือแลกเปลียนความคิดเห็นและให้เกิดการประสานงานอย่าง
มีประสิ ทธิภาพ
ในระบบประชาธิปไตยถือว่าเป็ นเรื องปกติ ทีจะปฏิบตั ิ การเช่ นนี*
แต่ สําหรั บประเทศไทยราชสํานัก นั*น โดยหน้าที ตามกฎหมายจะไม่ยุ่ง
เกี ย วกับ การเมื อ ง แต่ ค วามเป็ นจริ งปรากฏว่ า ทุ ก ครั* งในการประชุ ม
ปลัด กระทรวงจะมี ท่านราชเลขาในพระบาทสมเด็ จ พระเจ้าอยู่หัว คื อ
ท่านแก้วขวัญ วัชโรทัย มาร่ วมประชุ มด้วยเสมอ ซึ งในฐานะทางสังคมก็
เป็ นที เกรงใจอยู่มากแล้ว และปรากฏว่าอายุข องท่ านก็อาวุโ สสู งสุ ดคื อ
ประมาณ 80 กว่าปี (เนื องจากข้าราชการในราชสํานักไม่มีเกษี ยณอายุ)
ในขณะที ป ลัด กระทรวงทุ ก คนมี อ ายุ ไ ม่ เ กิ น 60 ปี ประกอบกับ เป็ น
ผูใ้ กล้ชิดกษัตริ ย ์ ใครๆ ก็ตอ้ งเกรงใจไม่กล้าเสนอความเห็ นโต้แย้ง ดังนั*น
ฐานะของท่ านราชเลขาจึ งอยู่ในฐานะเป็ นซุ ปเปอร์ ปลัดกระทรวง หรื อ
หัวหน้าปลัดกระทรวง ในทีประชุมซึงมีนายกรัฐมนตรี นงั ร่ วมประชุ มอยู่
155

ด้วยนั*น จึงเท่ากับถูกครอบงําโดยท่านราชเลขาธิการหรื อหนึ งในนั*นก็คือ


ราชสํานักได้ลงมาครอบงําระบบบริ หารราชการทั*งหมดนัน เอง
ดังนั*นการขับเคลือนสังคมไทยที แท้จริ งจะดี หรื อเลว จะไวหรื อ
ช้า ก็ข* ึนอยูก่ บั วัฒนธรรมแนวคิดของราชสํานักเป็ นสําคัญ
วันนีจ; งึ ถือได้ ว่าประเทศไทยได้ ปกครองด้ วยระบอบสม
บูรณาญาสิ ทธิราชใหม่ โดยสมบูรณ์ แล้ ว
156

บทที 5
การบริหารอํานาจของราชสํ านัก
รู ปธรรมจาก ถนอม ถึง สุ จินดา

บทบาทการบริ ห ารอํานาจทางการเมือ งของราชสํ านั กมีความ


เด่ นชัดมากขึน; นับตั;งแต่ การโค่ นล้ มรั ฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร โดย
ใช้ พลังมวลชน และพรรคประชาธิปัตย์ เป็ นเครืองมือโดยผ่ าน “ผู้มีบารมี
นอกรั ฐธรรมนู ญ” เพือไม่ ให้ กลุ่มการเมืองใดมีอํานาจเข้ มแข็ง แข่ งกับ
อํานาจสถาบันพระมหากษัตริ ย์ได้ ระบอบ “สมบู รณาญาสิ ทธิราชใหม่ ”
จึง สถาปนาขึ;นโดยสมบู รณ์ และนั บ แต่ น;ั นรั ฐ บาลทีมีเ สถี ย รภาพ และ
ระบบพรรคการเมืองทีเข้ มแข็งจึงไม่ สามารถจะเกิดขึ;นได้ แม้ แต่ รัฐบาล
ของพล.อ.เปรมเองก็ต้องมีอนั เป็ นไป

5.1 บริหารอํานาจผ่ านผู้มบี ารมีนอกรัฐธรรมนูญ


ลัก ษณะพิ เศษของระบอบสมบู ร ณาญาสิ ทธิ ร าชใหม่ ก็ คื อการ
บริ หารอํา นาจผ่ า นตัว แทนเชิ ง สั ญ ลัก ษณ์ ที เป็ นบุ ค คลที มี ฐ านะหรื อ
ฐานั น ดรทางสั ง คม เพื อ ผลัก ดัน กลไกทางการเมื อ ง เศรษฐกิ จ และ
วัฒนธรรม ให้ตอบสนองอํานาจของสถาบันพระมหากษัตริ ย ์ โดยไม่ให้
157

ประชาชนรู้สึกว่าเป็ นการใช้อาํ นาจโดยตรงขององค์พระมหากษัตริ ย ์ และ


ราชวงศ์ เพือให้สงั คมได้หลงเชืออย่างจริ งจังตามปรั ชญาทางการเมืองว่า
“พระมหากษัตริ ยท์ รงอยู่เหนื อการเมือง” บุ คคลที ถูกถ่ายทอดอํานาจเชิ ง
สัญลักษณ์น* ีมีมานานแล้ว แต่ไม่เคยมีใครบัญญัติศพั ท์เรี ยกขานได้ชดั เจน
เท่ากับที พ.ต.ท.ทักษิ ณ ชิ นวัตร ได้บญ ั ญัติข* ึน คื อคําว่า “ผู้มีบารมีนอก
รัฐธรรมนูญ”
พ.ต.ท.ทัก ษิ ณ ได้ใช้ค าํ ว่ า ผูม้ ี บารมี น อกรั ฐธรรมนู ญ แทนการ
กล่ า วถึ ง พลเอกเปรม ติ ณ สู ล านนท์ ในช่ ว งวิ ก ฤตการณ์ ท างการเมื อ ง
ปี 2548-2549 ด้วยเพราะในขณะนั*นพล.อ.เปรม มีบารมีลน้ ฟ้ า การเอ่ยอ้าง
ชื อตรงๆ ก็ ย งั เป็ นเรื องที ไม่ อาจจะทําได้ ทั*งๆ ที พล.อ.เปรมได้เข้ามา
แทรกแซงการบริ หารราชการแผ่น ดิ นอันเป็ นการกระทําที ไม่ ชอบด้ว ย
กฎหมายในฐานะประธานองคมนตรี ด้วยเหตุน* ีจึงได้ประดิ ษฐ์ใช้คาํ แทน
ความหมายถึงตัว พล.อ.เปรมว่า “ผูม้ ีบารมีนอกรั ฐธรรมนู ญ” แต่ แท้จริ ง
แล้วผูม้ ีบารมีน อกรั ฐธรรมนู ญ มีมาช้านานแล้ว และที เด่ น ชัดในปี 2516
ก็ คื อ ม.ร.ว.คึก ฤทธิN ปราโมช โดยสังคมถูก ทําให้เ ชื อว่ า เป็ นผูใ้ กล้ชิ ด
พระมหากษัตริ ยภ์ ูมิพล โดยการแสดงออกของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ;ทางข้อเขียน
บทความและการกล่าวปราศรัยในทีสาธารณะทีจะอ้างอิงถึงความใกล้ชิด
ความจงรั ก ภักดี อยู่เสมอ รวมตลอดทั*งพระมหากษัต ริ ย เ์ องก็ทรงแสดง
ความห่ วงใยในตัวม.ร.ว.คึกฤทธิ; ในโอกาสต่างๆ เช่น พระราชทานแจกัน
158

ดอกไม้เยีย มไข้ เมือ ม.ร.ว.คึ กฤทธิ; ป่ วย และบางโอกาสก็ทรงเสด็จพระ


ราชดําเนิ นมาเยีย มด้วยพระองค์เอง ดังนั*นการแสดงความคิ ดเห็ นในทาง
สาธารณะของคึกฤทธิ;ก็ถกู ตีความว่าเป็ นพระราชประสงค์ของพระองค์ที
ต้องการจะถ่ายทอดถึงพสกนิ กร
แต่ ห ากจะได้ศึ ก ษาประวัติ ศ าสตร์ ก ารเมื อ งของไทยในช่ ว ง
ห้ า ทศวรรษตั*ง แต่ ปี 2500 เป็ นต้ น มาจะเห็ น ได้ ว่ า ผู้มี บ ารมี น อก
รั ฐธรรมนู ญ นั*น มิใช่ มีเพีย งคนเดี ยว หากแต่ ได้ถูกสร้ างขึ*น หลายคนใน
แต่ละช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ โดยคําพูดของบุคคลที สังคมเชื อว่าเป็ น
ผูม้ ีบารมีนอกรัฐธรรมนูญเหล่านั*นจะถูกตี ความจากสังคมว่าเป็ นการพูด
แทนพระมหากษัตริ ย ์ หรื อเป็ นคําพูดที แสดงถึงความต้องการทางการ
เมืองของพระองค์, ฐานะของผูม้ ีบารมีนอกรัฐธรรมนูญจึงคล้ายกับศาสดา
พยากรณ์ ในศาสนายูด า หรื อศาสนายิว ที เป็ นผูถ้ ่ ายทอดความประสงค์
ของพระยะโฮวา ซึงเป็ นพระเจ้าผูอ้ ยูบ่ นสรวงสวรรค์ซึงจะไม่ลงมาเกลือก
กลั*วกับมนุ ษย์บนแผ่นดินนี*, ดังนั*นฐานะของพระมหากษัตริ ยใ์ นระบอบ
การเมืองไทยจึงมีฐานะเทียบได้กบั พระเจ้า อีกทั*งวัฒนธรรมทางภาษาของ
ไทยก็ สอดคล้องกับระบบศาสนาพราหมณ์ ซึ ง เป็ นศาสนาเทวะนิ ย ม
กล่าวคื อคนไทยจะเรี ยกกษัตริ ยโ์ ดยต้องมีคาํ ว่าพระเจ้ านําหน้าอยู่เสมอ
เช่น พระเจ้ าอยูห่ วั “ซึ งก็ไม่ต่างอะไรจากพระเจ้าบนฟากฟ้ านันเอง และ
เมือใครได้ถูกคัดเลือกให้เป็ นผูร้ ั บมอบอํานาจเชิ งสัญลักษณ์ จากกษัตริ ย ์
159

หรื อผูม้ ีบารมีนอกรัฐธรรมนูญแล้ว สังคมก็จะให้ความเชื อถือต่ อผูน้ * ันใน


ฐานะผูม้ ี เกี ย รติ; สู งยิงขึ* นไปจากเดิ มที ต นเคยมี ด้ว ยเหตุ น* ี เองในช่ วงห้า
ทศวรรษทีผา่ นมา จึงเกิดความแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นทีจะเป็ น “ผูม้ ีบารมีนอก
รัฐธรรมนูญ” หรื อ นัยหนึ งก็เหมือนอยากเป็ นศาสดาพยากรณ์ เพือจะเป็ น
ผูแ้ สดงความประสงค์ของพระเจ้าซึ งบุ คคลที อยากจะเป็ นผูม้ ีบารมีนอก
รัฐธรรมนู ญเหล่านั*นจะมีท* งั ผูท้ ี เป็ นเชื*อพระวงศ์ เป็ นทหาร ตํารวจ และ
สามัญ ชน รวมทั*งพระสงฆ์ด ้ว ย เราจะสังเกตได้ว่ าในหมู่บุค คลเหล่ านี*
พยายามจะสร้างกิจกรรมเพือเชิดชูเกียรติ;ของพระองค์ เช่น เป็ นกรรมการ
มูลนิ ธิ 5 ธัน วามหาราช, หรื อเป็ นกรรมการมูลนิ ธิชัย พัฒ นา, หรื อจัด
กิ จกรรมแข่ งรถเฉลิมพระเกี ยรติ; หาเงิ นเพื อถวายเงิ น เป็ นส่ วนพระองค์
บ้าง เป็ นพระราชกุ ศลบ้าง เป็ นต้น และหลายคนที เฝ้ าถวายงานก็ จะถูก
เลือกสรร และกําหนดบทบาททางสังคมให้เข้ามาอยู่ใกล้ชิด และหากมี
ความเหมาะสมมีค วามสามารถในระดับสู งก็จ ะพัฒ นาไปเป็ นผูม้ ี บารมี
นอกรัฐธรรมนูญ และในแต่ละยุคสมัย แต่ละสถานการณ์ทางการเมือง ตัว
ละครทางการเมืองทีเรี ยกว่า “ผูม้ ีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ” ก็จะถูกสร้ างให้
แตกต่ า งกัน ไป ซึ งผูม้ ี บารมี น อกรั ฐ ธรรมนู ญ นี* จะมี อาํ นาจทํา การผิ ด
กฎหมาย หรื อท้าทายอํานาจการบริ หารของรั ฐบาล ที มาจากการเลือกตั*ง
หรื อรัฐบาลเผด็จการก็ได้หากมีความจําเป็ นเพือตอบสนองกับเป้ าหมาย
ทางการเมืองของราชสํานัก เช่น การกําจัดบุคคลทางการเมืองทีราชสํานัก
160

คิดว่าจะเป็ นอันตรายหรื อกระทบกระเทือนต่ออํานาจของราชสํานัก แม้วา่


บุคคลผูน้ * นั จะเคยอยูใ่ นฐานะผูม้ ีบารมีนอกรัฐธรรมนูญมาก่อนก็ตาม หาก
มีพฤติกรรมทางการเมืองทีน่าสงสัย ไม่สอดรับกับอํานาจของราชสํานักก็
จะมี อนั เป็ นไปอย่างไม่ มีข ้อยกเว้น เช่ น ม.ร.ว.คึ ก ฤทธิ; ปราโมช หรื อ
แม้แต่พลเอกเปรม ติ ณสู ลานนท์ เมืออยู่ในฐานะที พระเจ้าอยู่หัวไม่ทรง
โปรดก็ตอ้ งพ้นจากตําแหน่ งหน้าทีทางการเมืองไปเช่นกัน

5.2 บทบาท “ผู้มบี ารมี ฯ” ในแต่ละสถานการณ์

“ผูม้ ี บารมี น อกรั ฐธรรมนู ญ ” ที แสดงบทบาทเด่ น ชัด ในการ


ควบคุ มและกํากับการทางการเมืองที เป็ นบุ คคลสําคัญที ควรจะกล่าวถึ ง
เพือประโยชน์ในการศึกษาวิวฒั นาการของการเมืองไทยมีดงั นี*
นายสั ญญา ธรรมศั กดิN อดี ตผูพ้ ิพากษาซึ งมีความใกล้ชิดกับราช
สํา นัก เคยเป็ นผูด้ ู แลคํา ให้ ก ารของพระเจ้า อยู่หัว ภู มิ พ ลฯ ในคดี ก าร
สิ* น พระชนม์ของรั ชกาลที 8 และในช่ ว งเหตุ ก ารณ์ 14 ตุ ลาคม 2516
ก็พอดี เป็ นอธิ ก ารบดี มหาวิ ทยาลัย ธรรมศาสตร์ ซึ งในขณะนั*น ยังไม่ มี
บทบาทโดดเด่ นในฐานะผูม้ ีบารมี นอกรั ฐธรรมนู ญ เมือเที ย บกับม.ร.ว.
คึกฤทธิ; ปราโมช แต่ก็เป็ นหลักฐานเชิงประจักษ์ได้ว่าราชสํานักได้บริ หาร


จากหนังสื อ The King never smiles บทที 12
161

อํานาจทางการเมืองอย่างเงี ยบๆ กับนายสัญญา ธรรมศักดิ;มาก่ อนตั*งแต่


เมือครั* งดํารงตําแหน่ งเป็ นผูพ้ ิพากษา และเมือเกิ ด เหตุ การณ์ จลาจลของ
มวลชนเมือ 14 ตุ ลาคม 2516 จนสามารถโค่ น ล้มรั ฐบาลจอมพลถนอม
กิตติขจร และจอมพลประภาส จารุ เสถียร ลงได้ เครื อข่ ายราชสํานักก็เริ ม
ปฏิ บัติ ก ารได้อ ย่ า งมี ประสิ ท ธิ ภ าพทัน ที โดยนายสั ญ ญา ธรรมศัก ดิ;
ก็ได้รับแต่ งตั*งขึ*นเป็ นนายกรั ฐมนตรี ในภาวะฉุ กเฉิ นทันที ถือได้ว่าเป็ น
นายกพระราชทานคนแรกในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ และหลัง
การแต่งตั*งนายสัญญา ธรรมศักดิ; แล้วนายสัญญาก็ทาํ การบริ หารการเมือง
โดยได้รับแนวคิดของกษัตริ ยไ์ ปปฏิบตั ิได้อย่างชัดเจนในฐานะผูเ้ คยเป็ นผู้
มีบารมีนอกรั ฐธรรมนู ญมาก่ อน โดยจัดตั*งสมัชชาประชาชนเพือเตรี ยม
รองรับการจัดทํารั ฐธรรมนู ญ เสมือนหนึ งจะรู้ กนั ว่าจะให้ผมู้ ีบารมีนอก
รัฐธรรมนูญตัวจริ งคือ ม.ร.ว.คึ กฤทธิ; ปราโมช ขึ* นเป็ นนายกรั ฐมนตรี มา
ต่อจากตน, และหลังจากบริ หารจัดการทางการเมืองอย่างมีประสิ ทธิ ภาพ
จนได้ ม.ร.ว.คึ กฤทธิ; ปราโมช เป็ นนายกฯ ตามพระราชประสงค์แล้ว
นายสัญญา ธรรมศักดิ; ก็ได้รับแต่งตั*งเป็ นประธานองคมนตรี
การเคลือนไหวในช่วงหัวเลี*ยวหัวต่อปี 2516-2517 หลังจากโค่ น
ล้มรัฐบาลถนอม-ประภาส ทีเป็ นเสี*ยนหนามราชสํานักแล้วนั*นจะเห็ นได้
ว่าการใช้อาํ นาจของราชสํานักผ่านตัวแทนหรื อผูม้ ีบารมีนอกรัฐธรรมนู ญ
ในขณะนั*นก็พฒั นาขึ*นอย่างเป็ นระบบและกระทําการควบคุ มระบบงาน
162

ของรัฐมากขึ*น แต่เป็ นไปอย่างแนบเนี ยนยากที ใครจะมองเห็ นดังเช่ นใน


ยุคของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์
ม.ร.ว.คึกฤทธิN ปราโมช เป็ นเชื* อพระวงศ์ทีถือได้ว่าเป็ นผูม้ ีบารมี
นอกรัฐธรรมนูญรุ่ นคลาสสิ คยุคแรกๆ ที เริ มตั*งแต่ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ
ขึ* น ครองราชย์ในตอนเย็น ของวัน ที 9 มิ ถุน ายน 2489(พระเจ้าอยู่หั ว
อานันทมหิ ดล สิ*นพระชนม์เช้าในวันเดียวกันนั*น) โดยเป็ นผูก้ ่ อตั*งพรรค
ประชาธิปัตย์ยคุ แรกเมือ 6 เมษายน 2489 และเป็ นแกนนําคนหนึ งที พลิก
สถานการณ์จากการสิ*นพระชนม์ของรัชกาลที 8 กลายเป็ นเรื องลอบปลง
พระชนม์เพือทิ มแทงนายปรี ดี พนมยงค์ ซึ งไม่ เป็ นที ชืน ชอบของราช
สํ า นั ก โดยม.ร.ว.คึ ก ฤทธิ; ได้ มี บ ทบาททางการเมื อ งทั*ง ในฐานะ
นักการเมืองในยุคแรกๆ และนักคิดนักเขียน เจ้าของหนังสือพิมพ์สยามรัฐ
ที คอยปกป้ องคุ ม้ ครองราชย์สาํ นัก มาตลอดตั*งแต่ เริ มบทบาทอย่างเป็ น
ทางการโดยจัดตั*งพรรคก้าวหน้าขึ*นก่อน และประกาศตัวอย่างเปิ ดเผยใน
เวลานั* นว่ า เป็ นผู้นิ ย มเจ้ า (Royalist) ซึ งเท่ า กั บ เป็ นการประกาศตั ว
เผชิ ญ หน้า กับคณะราษฎร และกลุ่ มอํานาจทหารในปี 2489 ผ่ านยุ ค
จอมพล ป., จอมพลสฤษดิ; ธนะรั ชต์ จนถึ งยุค จอมพลถนอม กิ ต ติ ข จร
ซึ งเป็ นช่ ว งที พระเจ้าอยู่หัว ภู มิพลเริ มมี ค วามมัน คงทางการเมื องอย่าง
ชัดเจนแล้ว
163

ในช่ ว งรั ฐ บาลจอมพลถนอม-ประภาส นั* นม.ร.ว.คึ ก ฤทธิ;


ปราโมช ได้มีบทบาทเป็ นตัวแทนอํานาจเชิงสัญลักษณ์อย่างชัดเจนในการ
บริ หารทางการเมื องเพื อล้มรั ฐบาลทหารของจอมพลถนอม กิ ต ติ ข จร
ด้วยการปลุกระดมพลังมวลชน นิ สิต นักศึกษาปั ญญาชน ในเหตุ การณ์
14 ตุลาคม 2516, เนื องจากราชสํานักได้เคยมีบทเรี ยนที เป็ นอันตรายอัน
เกิดจากอํานาจรัฐของสามัญชนผูถ้ ืออาวุธอย่างเจ็บปวดมานานเกือบ 40 ปี
นับตั*งแต่ เปลียนแปลงการปกครองเมือ 2475, ดังนั*นเมื อม.ร.ว.คึ กฤทธิ;
ปราโมช ได้ท ํา งานรั บ ใช้พ ระเจ้า อยู่หัว ภู มิ พ ลทางการเมื องมาอย่ า ง
ซื อสัต ย์และเด็ ด เดี ย ว อี ก ทั*งเป็ นเชื* อพระวงศ์ด ้ว ย เมื อโค่ น ล้มจอมพล
ถนอม-ประภาส ได้แล้วบําเหน็ จ รางวัลอย่างงามก็ต กแก่ ม.ร.ว.คึ กฤทธิ;
ปราโมช หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ก็เป็ นผูจ้ ดั ดําเนิ นการให้เกิดสภา
สนามม้า โดยพระเจ้าอยู่หัว เป็ นผูแ้ ต่ งตั*ง หลัก ฐานที ปรากฏเด่ น ชัด


สภาสนามม้า เป็ นชื อเรี ยกที สือมวลชนขนานนามให้ เนื อ งจากพระเจ้าอยู่หัว
ภูมิพ ลได้ใช้อ าํ นาจของพระองค์เ องคัดเลื อกบุ คคล 2,347 คน และแต่งตั*งให้เป็ น
สมัชชาประชาชนขึ* น เมื อ 10 ธัน วาคม 2516 หลัง จากล้มรั ฐ บาลจอมพลถนอม
กิตติขจร แล้ว โดยใช้คนเหล่านี* เลือกกันเองให้มาเป็ นสมาชิกสภาร่ างรั ฐธรรมนู ญ
จํานวน 299 คน โดยจัดประชุมกันทีสนามม้านางเลิ*ง ล่าสุ ดรั ฐบาลเผด็จการ คมช.
ของพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ในปี 2550 ก็เลียนแบบเดียวกันนี* อีก เสมือนหนึ งเป็ น
หนังม้วนเก่าของราชสํานัก
164

ได้แก่บุคคลทีถกู แต่ งตั*งเป็ นสมาชิ กสภาสนามม้าหลายคน ต่ อมาก็กลาย


มาเป็ นสมาชิ ก พรรคกิ จ สั ง คมของม.ร.ว.คึ ก ฤทธิ; เช่ น นายประที ป
เสี ยงหวาน นายกสมาคมสามล้อเครื องแห่ งประเทศไทย เป็ นต้น และใน
ที สุด ม.ร.ว.คึ กฤทธิ; ก็ ได้รับเลือกจากสภาสนามม้าให้เป็ นประธานสภา
ร่ างรัฐธรรมนูญในเบื*องต้นเพือจัดเตรี ยมกฎหมายรั ฐธรรมนู ญเพือปูทาง
ให้ตวั เองขึ*นเป็ นนายกรัฐมนตรี ซึง ม.ร.ว.คึกฤทธิ;ก็ได้กา้ วขึ*นเป็ นนายกฯ
ได้ตามความประสงค์ ซึงการเตรี ยมการจัดการอํานาจในลักษณะปรุ งเอง
กิ น เองของราชสํานัก ในขณะนั*นก็ มีผูอ้ ่านเกมส์ออก ดังจะเห็ น ได้จ าก
หน้าปกและบทความของนิ ตยสารรายสัปดาห์ “มหาราช” ซึ งมีนายปรี ชา
สามัคคีธรรม เป็ นบรรณาธิการ โดยนักเขียนการ์ ตูนชือดังคือ ชัย ราชวัตร
ได้วาดรู ปม.ร.ว.คึกฤทธิ; ประธานสภาร่ างรั ฐธรรมนู ญกําลังเปิ ดม่านโรง
ลิเกเพือโชว์ตวั นายกฯ ซึ งผูท้ ี แต่ งตัวเป็ นนายกฯ อยู่หลังม่าน ก็มีหน้าตา
เหมือนคึกฤทธิ;นนั เอง
แต่อย่างไรก็ตามการขึ*นเป็ นนายกฯ ของม.ร.ว.คึกฤทธิ; ก็ทุลกั ทุเล
เพราะ ม.ร.ว.คึกฤทธิ; ในฐานะหัวหน้าพรรคกิ จสังคมได้พ่ายแพ้แก่ พรรค
ประชาธิ ปัตย์อย่างไม่เป็ นท่ าคื อได้ ส.ส.เพีย ง 18 คนเข้าสภา แต่ ก็ได้ใช้
เล่ห์เหลียมในสภาตลบหลังจนหัวหน้าพรรคประชาธิ ปัตย์คือมรว.เสนี ย ์
ปราโมช พีชายของตัวเองต้องพ่ายแพ้กลางสภาอย่างไม่เป็ นท่าแล้วตัวเอง
ก็ ได้ก ้าวขึ* น เป็ นนายกรั ฐมนตรี โ ดยไม่ ชอบธรรมจนได้ฉ ายานามจาก
165

สื อมวลชนว่า “เฒ่ าสารพัดพิษ” กล่าวคือม.ร.ว.คึกฤทธิ;ได้ปฏิบตั ิการอย่าง


อุกอาจในระบอบประชาธิปไตยอย่างยิง ด้วยการล้มพรรคประชาธิปัตย์ทีมี
เสี ยงข้างมาก โดยเปิ ดประวัติศาสตร์ ตน้ แบบการเมืองนํ*าเน่ าโดยประกาศ
ชัดเจนว่าใครรวม ส.ส.ได้ 5 คน ก็จะแจกตําแหน่ งรัฐมนตรี ให้ 1 ตําแหน่ ง
จากแผนนี*ก็ทาํ ให้ม.ร.ว.คึกฤทธิ;ได้เป็ นนายกรัฐมนตรี ครั*งแรกอย่างสมใจ
ในปี 2518 และพระเจ้าอยูห่ วั ก็ลงนามรับรองความถูกต้องให้ไม่ต่างจากที
นายชวน หลีกภัย ตั*งรัฐบาลงูเห่ าที ลม้ อํานาจของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ
ซึงเป็ นรัฐบาลที ราชสํานักไม่ได้วางใจเมือปี 2540 และไม่ต่างจากที นาย
อภิ สิทธิ; เวชชาชี วะ ตั*งรั ฐบาลงูเห่ ารอบสองในปี 2551 เมื อล้มรั ฐบาล
ตัวแทนของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทีราชสํานักไม่ชืนชอบเช่นเดียวกัน
จะเห็นได้ ว่าราชสํ านักได้ บริหารอํานาจในระบอบประชาธิปไตย
ภายใต้ ก ารควบคุ มผ่ านผู้ มี บ ารมีน อกรั ฐ ธรรมนู ญ มีมานานแล้ ว และ
ราชสํ านักจะไม่ สนใจความถู กต้ องของครรลองประชาธิปไตย เพียงแต่
ขอให้ เป็ นรัฐบาลทีสยบต่ อราชสํ านักก็แล้ วกัน ถ้ าแปรเปลียนหรื อไม่ พอ
พระทัยเมือใด รั ฐบาลก็จะถู กโค่ นล้ ม ดังนั;นภาวะการณ์ ของรั ฐบาลที มี
ลัก ษณะทุ ลัก ทุ เ ลตั;ง แต่ อ ดี ตถึ ง ปั จ จุ บั น จึง เกิด ขึ;น เสมอ และได้ ส่ งผล
กระทบต่ อ ชี วิต ความเป็ นอยู่ ข องประชาชนอั น เนื อ งมาจากการไม่ มี
เสถียรภาพของรัฐบาลมาตราบเท่ าทุกวันนี;
166

เมือรัฐบาล ม.ร.ว.คึกฤทธิ; ซึ งมีพรรคกิ จสังคมเป็ นแกนนําโดยมี


เสี ยงอยู่เพียง 18 เสี ยงเข้าบริ หารประเทศได้ จึ งถูก พรรคร่ วมรั ฐบาลที มี
เสี ย งมากกว่ า บี บ เอาผลประโยชน์ อ ย่ างมู ม มาม จึ ง ทํา ให้ ก ารบริ หาร
ประเทศเป็ นไปอย่างล้มลุ กคลุ กคลาน แต่ เมื อบริ หารต่ อไปได้สักระยะ
หนึ งม.ร.ว.คึกฤทธิ;ก็ได้ส่อแววว่าจะไม่ตอบสนองแนวทางทางการเมือง
ของราชสํานัก เพราะพยายามแก้ปัญ หาประเทศชาติ ด ้วยการจับมื อกับ
ประเทศทีปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิ สต์ ซึ งราชสํานักเชื อว่าเป็ นศัตรู
ตัวฉกาจคือ เวียตนาม และจีน คอมมิวนิ สต์ โดย ม.ร.ว.คึ กฤทธิ; ปราโมช
เดินทางไปจับมือกับเมาเซตุ ง ซึ งราชสํานักเชื อมัน ว่ามีเจตนาล้มราชวงศ์
ของพระองค์ และในขณะนั*นพรรคคอมมิวนิ สต์แห่ งประเทศไทยก็เปิ ด
ฉากสงครามประชาชนในประเทศอย่างเข้มแข็ง ประกอบกับเกิ ด การ
เคลือนไหวเรี ยกร้องความเป็ นธรรมขนานใหญ่ ของชาวนา และกรรมกร
โดยการปลุกระดมของนักศึกษา ภายหลังเหตุ การณ์ 14 ตุ ลาคม 2516 จึ ง
เกิ ด ขบวนการฝ่ ายขวาที มีแ นวความคิ ด อนุ รั ก ษ์ นิ ย ม เทิ ด ทู น สถาบัน
พระมหากษัต ริ ย์อ ย่า งไม่ ลืม หู ลื มตา เช่ น กลุ่ ม กระทิ งแดงที มี พล.ต.
สุ ด สาย เทพหั ส ดิ น กลุ่ ม ลู ก เสื อ ชาวบ้า นซึ งนํา โดย พล.ต.ท.สุ ร พล
จุลละพราหมณ์ และกลุ่มนวพลมีแกนนํา เช่ น นายวัฒนา เขี ยววิมล และ
พระกิตติวุฒโท ผูป้ ระกาศฆ่าคอมมิวนิ สต์ไม่บาป (ซึ งผูม้ ีชือเหล่านี* กลาย
มาเป็ นตัว ละครตัว ใหม่ ในฐานะผูม้ ี บารมี น อกรั ฐธรรมนู ญ ) ก็ออกมา
167

เคลื อ นไหวโจมตี รั ฐ บาล ม.ร.ว.คึ ก ฤทธิ; ปราโมช อย่ างรุ น แรง และ
บ่อยครั*งกระทําการต่อต้านการชุ มนุ มของนักศึกษาที เรี ยกร้ องความเป็ น
ธรรมให้แก่คนยากจนและถึงขั*นลอบสังหารผูน้ าํ นักศึกษา กรรมกรและ
ชาวนา โดยเฉพาะกรณี การลอบฆ่า 9 ผูน้ าํ ชาวนาภาคเหนื อ ที ลุกขึ* นนํา
ชาวนาต่อต้านการขูดรี ดค่ าเช่ านาอย่างทารุ ณ จนกลายเป็ นเรื องสะเทื อน
ขวัญของสังคมไทยในขณะนั*นโดยกลุ่มขวาจัดเหล่านี*ได้กระทําการอย่าง
ผิดกฎหมาย พกอาวุธทําร้ายนักศึกษา ก่อกวนผูช้ ุมนุ มอย่างเปิ ดเผย (คล้าย
ม็อบเส้นใหญ่พนั ธมิตรเช่นในปั จจุบนั นี*) โดยรัฐบาล ม.ร.ว.คึ กฤทธิ; ก็ทาํ
อะไรไม่ได้ และล่าสุ ดม.ร.ว.คึ กฤทธิ;ในฐานะนายกรั ฐมนตรี ก็ได้ทาํ การ
ยกเลิกสัญ ญาการตั*งฐานทัพของสหรั ฐอเมริ กาในประเทศไทย ยิงสร้ าง
ความวิตกกังวลต่อราชสํานักว่าจะไม่สามารถยันกองทัพของคอมมิวนิ สต์
ทีจะรุ กเข้าประเทศไทยได้ และในทีสุดรัฐบาลม.ร.ว.คึ กฤทธิ; ก็ตอ้ งล้มลง
ด้ว ยการยุบสภา รวมเวลาอยู่ได้ไม่ พอปี เมื อมีก ารเลือกตั*งใหม่ ม.ร.ว.
คึกฤทธิ; ปราโมช ซึงเคยชนะลอยลําในเขต 1 กรุ งเทพฯ โดยเฉพาะในเขต
อําเภอดุสิต ซึงมีค่ายทหารมีคะแนนนอนก้นถุงอยู่ประมาณ 20,000 เสี ยง
ก็พลิกควําโดยแพ้คู่แข่งจากพรรคประชาธิ ปัตย์ในขณะนั*นคื อนายสมัคร
สุ นทรเวช ตัวละครตัวใหม่ของราชสํานักที ป* ั นขึ* นมาเป็ น “ผูม้ ีบารมีนอก
รัฐธรรมนู ญ” ในเวลานั*นอีกคนหนึ งโดยเป็ นดาวเด่ นและเป็ นคนสําคัญ
ในการจัดตั*งรั ฐบาลของพรรคประชาธิ ปัตย์ ต่ อจากคึ กฤทธิ; และได้เป็ น
168

รั ฐมนตรี ร่ ว มในคณะรั ฐ มนตรี ข องรั ฐบาลมรว.เสนี ย ์ ปราโมช (ก่ อ น


เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519) ทีกา้ วขึ*นมาแทนคึ กฤทธิ; และจากการแพ้การ
เลื อกตั*งครั* งนั*น ม.ร.ว.คึ ก ฤทธิ; ก็ไว้หนวดยาวตั*งแต่ น* ัน มาจนสิ* น ชี วิ ต
เสมือนหนึ งว่าจะประท้วงใครสักคนทีเคยเคารพนับถือแต่ไม่อาจจะพูดถึง
ได้
นายธานิ น ทร์ กรั ย วิ เ ชี ย ร ผูพ้ ิ พ ากษาผูม้ ี แ นวความคิ ด ทาง
การเมื องแบบขวาจัด ซึ งแสดงตัว อย่างโดดเด่ น ในขณะที ม.ร.ว.เสนี ย ์
ปราโมช หัวหน้าพรรคประชาธิ ปัตย์ พีชายของคึ กฤทธิ;ที กา้ วเข้ามาเป็ น
นายกรัฐมนตรี ต่อจากม.ร.ว.คึ กฤทธิ; ปราโมช และจากข้อมูลในหนังสื อ
เดอะ คิง เนฟเวอร์ สไมส์ ในบทที 12 ก็ให้ขอ้ มูลว่านายธานิ นทร์ เป็ นคน
ใกล้ชิดกับพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที 9 ซึงนายธานิ นทร์ ก็ได้แสดงบทบาทใน
ฐานะผูม้ ีบารมีนอกรั ฐธรรมนู ญร่ วมมือกับนายดุ สิต ศิริวรรณ อาจารย์


นายดุสิต ศิริวรรณ ได้โปรดเกล้าเป็ นรั ฐมนตรี ประจําสํานักนายกรั ฐมนตรี ใน
รั ฐบาลของนายธานิ นทร์ กรั ยวิ เชีย ร หลังเหตุ การณ์ สังหารนัก ศึกษาปั ญญาชน 6
ตุลาคม 2519 และต่อมาก็ถูก พล.ร.อ.สงัด ชะลออยู่ และพล.อ.เกรี ยงศักดิ; ชมะนันท์
ทํารัฐประหารยึดอํานาจล้มรั ฐบาลนายธานิ นทร์ แล้ว ความสัมพันธ์ทีเป็ นเครื อข่าย
ระหว่างนายธานินทร์ -นายดุสิต-นายสมัคร ก็ยงั ดํารงอยู่ โดยนายดุสิตก็ได้รับโบนัส
และเป็ นหู เป็ นตาให้ราชสํานักสายนายธานิ นทร์ องคมนตรี โดยได้รับแต่ งตั*งเป็ น
กรรมการสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตลอดมา และเกาะกลุ่มผลประโยชน์กบั บริ ษทั
ซี พี ซึ งเป็ นฐานเศรษฐกิจใหญ่ทีรับใช้ราชสํานัก
169

หนุ่ มจากมหาวิทยาลัยเชี ยงใหม่ และนายสมัคร สุ นทรเวช ซึงเป็ น ส.ส.


พรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั*นทีแตกแถวออกมาแสดงบทบาทรั บใช้ราช
สํานักอย่างเต็มทีโดยทําการประสานงานกับกลุ่มขวาจัดในขณะนั*นอย่าง
ชัด เจน เพื อเตรี ย มการล้มรั ฐบาล ม.ร.ว.เสนี ย ์ ปราโมช และกวาดล้าง
ขบวนการนักศึกษา ซึ งราชสํานักเชื อมัน ว่ากลุ่มนักศึกษาหัวก้าวหน้าได้
ร่ วมมือกับพรรคคอมมิวนิ สต์แห่ งประเทศไทยเพือโค่นล้มระบอบกษัตริ ย ์
ซึ งเป็ นอันตรายแก่ ราชสํานัก และไม่อาจจะปล่อยไว้ได้แล้ว แต่ ม.ร.ว.
เสนี ย ์ นายกฯ ก็ไม่ตอบสนอง
บทบาทของนายสมัค รในฐานะรั ฐ มนตรี ช่ ว ยมหาดไทยได้
เคลือนไหวเป็ นเครื อข่ายกับนายธานิ นทร์ และกลุ่มมวลชนขวาจัดต่ อต้าน
นโยบายพรรคประชาธิ ปัต ย์ภ ายใต้ก ารนําของม.ร.ว.เสนี ย ์ ปราโมชที
อ่อนแอเกินไปที จะปราบปรามขบวนการนักศึกษา อีกทั*งยังแสดงความ
โลเลทีจะปกป้ องราชสํานักโดยประกาศนโยบายเศรษฐกิ จว่าเป็ น “สังคม
นิ ยมอ่อน” ตามกระแสสูงของแนวคิดสังคมนิ ยมในขณะนั*น
สัญ ญาณโค่ น ล้มรั ฐบาล ม.ร.ว.เสนี ย ์ ปราโมช จึ ง เกิ ด ทั*งๆ ที
พรรคประชาธิ ปั ตย์เ ป็ นพรรคที รั บ ใช้ ร าชสํ า นั ก มาแต่ ต ้ น , แต่ ใ น
สถานการณ์ ขณะนั*น ไม่ อาจตอบสนองเป้ าหมายทางการเมื องของราช
สํานักได้ และแล้วสถานการณ์ ก็ถูกสร้ างขึ*นจากสื อเครื องมือสําคัญของ
ราชสํานัก โดยเฉพาะสถานี วิทยุยานเกราะประสานกับกลุ่มขบวนการทาง
170

การเมืองขวาจัดทั*งหมด อาทิเช่น กระทิงแดง นวพล ลูกเสื อชาวบ้าน และ


ส่ วนราชการคือ ตํารวจ ตํารวจตระเวนชายแดน ทหาร ก็ประสานงานกัน
ระดมล้อมมหาวิ ทยาลัย ธรรมศาสตร์ และเข่ น ฆ่ านัก ศึ กษา ประชาชน
อย่างโหดเหี* ยม ในวันที 6 ตุลาคม 2519 แล้วพลเรื อเอกสงัด ชะลออยู่ (ลุง
ของภรรยาพลเอกวิ นั ย ภั ท ทิ ย กุ ล แกนนํ า คมช.ที ยึ ด อํา นาจเมื อ
19 กันยายน 2549) ก็ ยึดอํานาจล้มรั ฐบาลมรว.เสนี ย ์ ปราโมช แล้วนาย
ธานิ น ทร์ กรั ย วิ เ ชี ย ร ก็ ข* ึ นเป็ นนายกรั ฐ มนตรี บนคราบเลื อ ดที น อง
สนามหลวง พร้ อ มคู่ หู คนสํ า คั ญ คื อ นายสมั ค ร สุ นทรเวช เป็ น
รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงมหาดไทย
เหตุ ก ารณ์ ทรยศของนายสมัค ร สุ น ทรเวช ที ก ระทําต่ อพรรค
ประชาธิ ปัตย์เพือตอบสนองผลประโยชน์ทางการเมื องของราชสํานัก ที
เกิ ด ขึ* นเมื อ ปี 2519 ก็ ค ล้า ยกับกรณี ก ารทรยศของนายเนวิ น ชิ ด ชอบ
ที ท รยศต่ อ พ.ต.ท.ทัก ษิ ณ เพื อ ไปหนุ น นายอภิ สิ ท ธิ; เวชชาชี ว ะ เป็ น
นายกรั ฐมนตรี เมือวันที 15 ธัน วาคม 2551 ตามความประสงค์ของราช
สํานัก เหตุ ก ารณ์ 6 ตุ ลาคมได้สร้ างความเคี ย ดแค้น ให้แก่ ปีกซ้ายของ
พรรคประชาธิ ปัต ย์ที มีหั ว ก้าวหน้ าโดยมี น ายชวน หลี ก ภัย ส.ส.ตรั ง
นายวี ร ะ มุ สิ กพงศ์ ส.ส.กทม.และนายสุ ริ นทร์ มาศดิ ษ ฐ์ ส.ส.
นครศรี ธรรมราช เป็ นแกนนํา ได้ก ล่าวประนาฌนายสมัค ร สุ น ทรเวช
โดยให้ฉายาใหม่ว่า “ไอ้ซ่าจอมเนรคุณ” และมีการกล่าวกระทบกระเที ยบ
171

ภายในพรรคประชาธิ ปัตย์ถึงราชสํานักที เข้ามาเกี ย วข้องกับเหตุ การณ์


สังหารโหด โดยนายสุ ริน ทร์ มาศดิ ษฐ์ ได้เกิ ด ช็อคเส้น โลหิ ต ในสมอง
แตกเป็ นอัมพาตนอนป่ วยจนถึ งแก่ ชีวิ ต จากเหตุ ก ารณ์ ทางการเมื องนี*
ดังนั*น การที สังคมและนัก วิ ชาการมัก จะประณามนัก การเมื องว่ าไม่ มี
อุดมการณ์ ชอบย้ายพรรค หาประโยชน์เฉพาะตัวนั*นแท้จริ งเป็ นการมอง
ปั ญ หาด้านเดี ย วและเหตุ ก ารณ์ ในประวัติศาสตร์ ก็พิสูจ น์ ตวั เองแล้ว ว่ า
ภายใต้ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่น* ี นักการเมืองเป็ นเพียงของเล่น
ของราชสํานักที กษัต ริ ยจ์ ะบี บบังคับเอาอย่างไรก็ได้เพือสนองตอบการ
บริ หารอํานาจของพระองค์โดยไม่สนใจว่าระบอบประชาธิ ปไตยจะเดิ น
ไปตามครรลองหรื อไม่ และก็ไม่สนใจว่านักการเมืองเลวหรื อดี แต่ ขอให้
ยินยอมก้มหัวรั บใช้อาํ นาจทางการเมืองของราชสํานักก็แล้วกัน ดังนั*น
ภายใต้ร่มเงานี* ภาพลักษณ์ ของนักการเมืองที ดีในระบบเลือกตั*งจึ งถูกใส่
ร้ ายป้ ายสี จนเสี ย หายไปทั*งระบบและเปิ ดทางให้นักการเมืองเลวขยาย
บทบาทและฉกชิงผลประโยชน์ได้โดยมิชอบ และยากที นักการเมืองที ดี
มีอุดมการณ์ เพือประชาชนจะยืนอยูไ่ ด้ แม้หากนักการเมืองทีมีอุดมการณ์
จะแข็งขื นยืนหยัดตามอุดมการณ์ เพือประชาชนของตนก็จะถูกป้ ายสี ว่ า
เป็ นผูไ้ ม่จงรักภักดี และไม่มีแผ่นดินจะอยู่ เช่ น นายปรี ดี พนมยงค์, พ.ท.
โพยม จุลานนท์ (บิดาของพลเอกสุ รยุทธ จุลานนท์), นายป๋ วย อึ*งภากรณ์
ทีผา่ นมา เป็ นต้น รายล่าสุ ดก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
172

สุ ดท้ายเหตุ การณ์ ฆาตกรรมการเมืองที สะเทื อนขวัญคนทั*งโลก


เมือ 6 ตุลาคม 2519 ก็กลายเป็ นคลืนกระทบฝังหาคนผิดไม่ได้ ซึ งไม่ต่าง
จากเหตุ ก ารณ์ เข่ น ฆ่ าประชาชนในเวลาก่ อนและหลัง เช่ น เหตุ ก ารณ์
14 ตุลาคม 2516 และเหตุ การณ์ พฤษภาทมิฬ 17 พฤษภาคม 2535 ก็ไม่มี
การดําเนิ นคดีกบั ผูก้ ระทําผิดทีฆ่าประชาชน และล่าสุ ดก็ทาํ นายได้ว่าการ
ก่ อ จลาจลยึ ด ทํา เนี ย บรั ฐ บาล ยึ ด สถานี โ ทรทัศ น์ ช่ อ ง NBT และยึ ด
สนามบิ น ดอนเมื องและสุ ว รรณภู มิข องกลุ่ ม พัน ธมิ ต รประชาชนเพื อ
ประชาธิปไตย รวมตลอดถึงการฆาตกรรมในเหตุ การณ์ เหล่านี* ทีเกิ ดคน
บาดเจ็ บล้มตายเพีย งเพื อจะทําลาย พ.ต.ท.ทัก ษิ ณ ชิ น วัตร ซึ งไม่ เป็ นที
โปรดปรานของราชสํานัก ก็ จ ะไม่ มีก ารสอบสวนนําคนผิด มาลงโทษ
ทั*งสิ* น นี* คื อตัว อย่างเชิ งประจัก ษ์ของอํานาจในระบอบการปกครองที
เรี ยกว่า “สมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่ ”
หลังจากนายธานิ น ทร์ กรั ย วิ เชี ย ร ขึ* น เป็ นนายกรั ฐมนตรี ต าม
ความประสงค์ข องราชสํานักแล้ว ธานิ น ทร์ ก็ สะท้อนแนวคิ ด ของราช
สํานักทีตอ้ งการระบอบประชาธิปไตยทีมีลกั ษณะพิเศษที แตกต่างไปจาก
ตะวันตก คือเป็ นประชาธิปไตยแบบคลัง ชาติขวาจัดโดยยึดอุดมการณ์ชาติ
ศาสนา พระมหากษัต ริ ย ,์ โดยนายธานิ น ทร์ ได้ประกาศขอเวลาอยู่ใน
อํานาจ 12 ปี โดยไม่ให้มีการเลื อกตั*ง เพือจะใช้เวลาฝึ กฝนเยาวชนให้มี
อุดมคติ ดงั กล่าว แต่ สุดท้ายอยู่ได้ประมาณ 12 เดื อน ก็ถูกคณะทหารนํา
173

โดยพลเรื อเอกสงัด ชลออยู่ คนเดิ มเป็ นหัวหน้า แต่ คนคุ มกําลังจริ งคื อ
พลเอกเกรี ยงศักดิ; ชมะนันท์ เลขาธิการคณะปฏิรูปการปกครองทําการยึด
อํานาจโค่นล้มรัฐบาลของราชสํานักลง ซึงทําให้พระเจ้าอยูห่ วั ภูมิพลฯ ไม่
พอพระทัยอย่างยิง โดยแสดงออกทันทีในขณะนั*นโดยตั*งให้นายธานิ นทร์
กรัยวิเชียร นายกรัฐมนตรี มือเปื* อนเลือดเป็ นองคมนตรี ต* งั แต่บดั นั*นจนถึง
บัดนี* และต่อมาพลเอกเกรี ยงศักดิ; ชมะนันท์ ก็ครองอํานาจอยูไ่ ด้ประมาณ
3 ปี ก็ ถู ก โค่ น ล้ม ด้ว ยพลัง มวลชนนํา โดยนายไพศาล ธวัช ชัย นั น ท์
ประธานสหภาพแรงงานการไฟฟ้ านครหลวง ปลุ ก ระดมประชาชน
เดินขบวนขับไล่เนื องจากรัฐบาลอนุ ญาตให้ข* ึนราคานํ*ามัน(ขณะนั*นราคา
นํ*ามันถูกควบคุ มมิใช่ ลอยตัวเหมือนทุ กวันนี* ) และทําให้รถเมล์ข* ึนราคา
50 สตางค์ เป็ นผลให้พลเอกเกรี ยงศักดิ; ต้องลาออกจากนายกรัฐมนตรี ซึ ง
พลังมวลชนทีเดินขบวนนั*นก็เป็ นเพียงแต่เงือนไขสร้างความชอบธรรมที
จะขับไล่ พล.อ.เกรี ยงศักดิ; เพือให้บทละครการเมืองแนบเนี ยนเท่ านั*น
แท้จริ งแล้วผูท้ ีทาํ ให้พลเอกเกรี ยงศักดิ;ต้องตัดสิ นใจลาออกก็คือคนที ชือ
พลเอกเปรม ติ ณ สู ลานนท์ ที ราชสํานักสนับสนุ นในฐานะผูบ้ ญ ั ชาการ
ทหารบกทีกลุ่มทหารยังเตอร์ กผูค้ ุ มกําลังตัวจริ งหันหลังกลับจากพลเอก
เกรี ยงศัก ดิ; มาหนุ น พลเอกเปรม แล้ว นายกคนใหม่ ก็ คื อ พลเอกเปรม
ติณสูลานนท์
174

พลเอกเปรม ติณสู ลานนท์ นายทหารที ใกล้ชิดราชสํานักและผูม้ ี


บารมีนอกรั ฐธรรมนู ญตัวจริ ง จากอดี ตถึงปั จจุ บนั ได้เริ มฉายแสงตั*งแต่
เป็ นแม่ทพั ภาคที 2 คุมกําลังทหารภาคอีสาน พื*นที อนั ตรายที สุดในการสู้
รบกับพรรคคอมมิวนิ สต์แห่ งประเทศไทย ได้ถกู ดึงตัวเข้ามาอยูส่ ่ วนกลาง
จนเป็ นผูบ้ ญั ชาการทหารบก และเข้ามาอยู่ในตําแหน่ งทางการเมืองเป็ น
รั ฐมนตรี ว่าการกระทรวงมหาดไทย และก้าวขึ*นเป็ นนายกรั ฐมนตรี ใน
ทีสุดต่อจากพลเอกเกรี ยงศักดิ; ชมะนันท์ ในปี 2523
ในช่วงเส้นทางทางการเมืองของพลเอกเปรม ตั*งแต่ก่อนและหลัง
ปี 2523 เป็ นช่วงเวลาทีผมู้ ีบารมีนอกรัฐธรรมนูญคนเดิ ม อย่างเช่ น ม.ร.ว.
คึกฤทธิ; ปราโมช อยูใ่ นช่ วงปลายชี วิต เป็ นช่ วงเวลาที ผมู้ ีบารมีฯ ทั*งสอง
ทับซ้อนอํานาจกันอยู่ ดูเหมือนว่าม.ร.ว.คึ กฤทธิ; จะตกอันดับอับแสงเสี ย
แล้ว ในขณะนั*น เราจึ งเห็ น ภาพข่ าวในหน้าหนังสื อพิมพ์เกี ย วกับความ
ขัดแย้งระหว่างบุคลทั*งสองอยูเ่ สมอแต่ส่วนมากจะเป็ นการวิพากษ์วิจารณ์
ของม.ร.ว.คึกฤทธิ; ปราโมช ที ทิมแทงอย่างรุ นแรงต่ อพลเอกเปรมในเชิ ง
ประชดประชัน เกี ย วกับแนวทางความจงรั ก ภัก ดี ข องพลเอกเปรมจน
สิ* นชีวิตของท่าน แต่ก็ไม่อาจขัดขวางเส้นทางอํานาจของพลเอกเปรมได้
การสร้างนิ ยายทางการเมืองเพือเสริ มสร้างบารมีให้ตวั เองของพล
เอกเปรมในบทที สาํ คัญที ควรจะกล่าวไว้ในที น* ี เพราะละครบทนี* ยงั ทรง
อิ ท ธิ พ ลให้ พ ลเอกเปรมเป็ นผูใ้ กล้ชิ ด ราชสํา นัก ไม่ ใ ช่ เ ฉพาะว่ า เป็ น
175

ประธานองคมนตรี ในขณะนั*น แต่ในฐานะทีเป็ นผูไ้ ด้รับความไว้เนื* อเชื อ


ใจอย่างยิงจากสมเด็ จพระบรมราชิ นีน าถ นัน ก็คื อละครชี วิ ตทางสังคม
เบื* องหลังชี วิต พลเอกเปรมถื อครองความเป็ นโสด ไม่ ย อมแต่ งงานมา
ตลอดชีวิตนั*นก็เพราะหลงรักผูห้ ญิงสูงศักดิ;คนหนึ ง แล้วผิดหวัง ซึ งเรื อง
ซุบซิบการเมืองนี*ถกู ทิ*งท้ายไว้ให้เป็ นที สงสัยเป็ นเสมือนคําตอบของการ
ซุบซิบว่าผูห้ ญิงสูงศักดิ;น* นั ก็คือ องค์สมเด็จฯ นัน เอง
แม้การขึ*น มาเป็ นนายกรั ฐมนตรี ของพลเอกเปรม จะเป็ นที พึง
พอใจของราชสํานัก รวมตลอดทั*งมี ผลงานยุติสงครามประชาชนของ
พรรคคอมมิวนิ สต์แห่ งประเทศไทยทียดื เยื*อยาวนานและเป็ นที วิตกกังวล
ของราชสํานักด้วยนโยบาย 66/ 2523 โดยใช้การเมืองนําการทหารซึ งก่ อ
ประโยชน์ ต่อราชสํานัก อย่างมาก, แต่ อย่างไรก็ต ามเมือพลเอกเปรมอยู่
ครองอํานาจในตําแหน่ งนายกฯ นานถึง 8 ปี ผลพลอยได้ก็เกิ ดขึ*นคื อเกิ ด
บารมีแผ่ไพศาลจนเกิดบทกลอนเชี ยร์ พลเอกเปรมให้เป็ นนายกรัฐมนตรี
ตลอดกาล ไม่ว่าจะไปตรวจการในจังหวัดใด ปลัดกระทรวงมหาดไทยก็
จะสัง การให้ผวู้ ่าราชการจังหวัดเกณฑ์มวลชนมาถือป้ ายเชียร์ ดว้ ยข้อความ
ว่า “นํ;าเป็ นของปลา ฟ้ าเป็ นของนก นายกเป็ นของเปรม”, ความมัน คง
ทางการเมือง และการมีบารมีไพศาลเช่นนี* ก็ถกู เขม่นและไม่พอใจจากวัง
เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี ทุกคนทีผา่ นมา
176

ดูเหมือนว่าพลเอกเปรมจะรู้แนวคิดของราชสํานักดีว่าไม่ตอ้ งการ
เห็นนายกรัฐมนตรี คนใดมีอาํ นาจและมีเสถียรภาพยาวนาน ดังนั*นในวัน
แรกทีได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าให้เป็ นนายกรัฐมนตรี พลเอก
เปรมก็ ประกาศต่ อสาธารณะเพื ออําพรางความคิ ดของตน เพื อให้ร าช
สํานักสบายใจว่า “ผมไม่ มคี วามทะเยอทะยานทางการเมือง” แต่ จากการ
ครองอํานาจปรากฏว่าพลเอกเปรมได้แสดงออกถึงความมักมากในอํานาจ
อย่างซ่อนเร้น โดยทําลายคู่แข่ งที คาดหมายว่าจะเข้ามาแย่งตําแหน่ งของ
ตน เช่ น ในขณะนั*นนายเกษม จาติ ก วนิ ช(ลุงของนายกรณ์ จาติ ก วนิ ช
รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการคลัง) เป็ นที โปรดปรานของพระเจ้าอยู่หัว
เนื อ งจากเป็ นคนเก่ ง มี ผ ลงานบริ หารการไฟฟ้ าฝ่ ายผลิ ต (กฝผ.) ได้
เจริ ญก้าวหน้าจึ งตกเป็ นข่ าวว่าจะเข้ามาเป็ นนายกฯ(ขณะนั*นนายกฯ ไม่
ต้องมาจาก ส.ส.) พลเอกเปรมก็จดั การทําลายชื อเสี ยงโดยจับกุมน้องชาย
ชือนายไกรศรี จาติกวนิ ช(พ่อนายกรณ์) อธิบดีกรมศุลกากร ในข้อหาโกง
ภาษี น ํารถยนต์โตโยต้าเข้าประเทศ และอี กหลายคนที ตอ้ งมี ชะตาชี วิ ต
เช่นนี* จนพลเอกเปรมได้รับสมยานามจากสื อมวลชนว่า “นักฆ่ าแห่ งลุ่ม
นํา; เจ้ าพระยา”
แท้ จ ริ ง โดยส่ วนลึ ก พลเอกเปรมมี ค วามทะเยอทะยานทาง
การเมืองอย่ างสู ง แต่ ปกปิ ดไว้ได้ แนบเนียนด้ วยคําพูดว่ า “ทดแทนบุญคุณ
แผ่ นดิน”
177

เมือการอยูใ่ นอํานาจนายกรัฐมนตรี ของพลเอกเปรมยาวนานถึง 8


ปี ต่อมความระแวงของราชสํานักก็เริ มทํางานโดย “เครื อข่ ายราชสํานัก”
ก็รับรู้สญั ญาณนั*นโดยเริ มทําหน้าทีโจมตีและบ่อนเซาะทําลายอํานาจของ
พลเอกเปรมโดยมีการกล่าวหาว่าพลเอกเปรมกระทําการแอบอ้างสถาบัน
พระมหากษัตริ ยอ์ ย่างไม่เหมาะสม โดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ; ปราโมช เคยเขี ยน
บทความโจมตี แนวคิ ด ประชาธิ ปไตยแบบนายกฯ ไม่ ต ้องมาจากการ
เลื อกตั*งของพลเอกเปรมที แอบอิ งสถาบัน และแล้วในวัน หนึ งพลเอก
เปรมก็เกิดพลาดขึ*นแบบไม่คาดคิด นันก็คือระหว่างออกเยียมประชาชน
ได้มีชาวบ้านที เลื อมใสพลเอกเปรมต่ างเอาผ้ามาปู ให้พลเอกเปรมเดิ น
เหยีย บเพื อนําไปกราบสัก การะ คล้ายๆ กับที ชาวบ้านกระทํากับพระ
เจ้าอยูห่ วั ภูมิพลฯ เท่านั*นเอง “เครื อข่ายราชสํานัก” ก็ได้ที ประกอบกับผูม้ ี
บารมี ฯ อื น ๆ ที ย งั ไม่ อ ับแสงเสี ย ที เ ดี ย ว เช่ น ม.ร.ว.คึก ฤทธิN ปราโมช
นายสมัค ร สุ น ทรเวช ก็ ประสานเสี ย งโจมตี ว่ าไม่ เ หมาะสมเป็ นการ
“เทียบบารมีในหลวง” และนับแต่น* นั ก็มีขบวนการมวลชนต่อต้านพลเอก
เปรมมาตลอด ถึงขนาดเด็กนักศึกษารามคําแหงก็โดดชกหน้าพลเอกเปรม
ขณะไปประกอบพิธีกรรมเปิ ดงานทีสนามกีฬาเป็ นข่าวฮือฮามาก และนับ
แต่น* นั พลเอกเปรมก็เริ มอยู่ในฐานะที คล้ายกับ พ.ต.ท.ทักษิ ณในวันนี* คือ
“ทําอย่ างไรก็ไม่ ถูกใจราชสํ านัก” เหมือนกับคําพังเพยโบราณว่า “ผีซ* าํ ด้าม
พลอย” กล่าวคื อผูท้ ี เป็ นปฏิปักษ์ หรื อผูท้ ี เสี ยผลประโยชน์ท* ังหลายจาก
178

การครองอํานาจและจากนโยบายของพลเอกเปรมก็ประสานเสี ย งกัน
โจมตี โดยเฉพาะในส่ วนนักการเมืองที เด่ นชัดก็คือนายสมัคร สุ นทรเวช
หัว หน้าพรรคประชากรไทย และ ร.ต.อ.เฉลิ ม อยู่บาํ รุ ง หัว หน้าพรรค
มวลชน และล่าสุ ดเมือมีการยุบสภาเลือกตั*งใหม่ เมือรู้ผลการเลือกตั*งแล้ว
ก็มีกลุ่มประชาชนที เกลียดพลเอกเปรมและเหมือนจะรู้ ว่าราชสํานักคิ ด
อย่างไรก็ได้รวมตัวกันเดิ นขบวนขับไล่ไม่ให้กลับมาเป็ นนายกฯ อีก ซึ ง
พลเอกเปรมรู้วฒั นธรรมการเมืองไทยที ส่งสัญญาณมาจากราชสํานักดี ว่า
หมายถึงอะไร? จึงประกาศวางมือทางการเมือง แล้วหนุ นพลเอกชาติ ชาย
ชุณหะวัณ ขึ*นเป็ นนายกรัฐมนตรี ส่ วนตัวท่านเองเมือลาออกจากการเมือง
ในตําแหน่ งนายกฯ แล้วก็หมอบกราบให้แก่ราชสํานัก จึงได้รับการโปรด
ปราณไว้เนื*อเชือใจ แต่งตั*งให้เป็ นองคมนตรี และเป็ นประธานองคมนตรี
ต่ อมาโดยแทนนายสัญ ญา ธรรมศัก ดิ; ประธานองคมนตรี เมื อถึ งแก่
อสัญ กรรม แล้วนับแต่ น* นั บทบาททางการเมื องใหม่ ของพลเอกเปรมก็
เด่นชัดขึ*นเรื อยๆ ในฐานะผูม้ ีบารมีนอกรัฐธรรมนูญจนถึงทุกวันนี*
พลเอกเปรม ติ ณสู ลานนท์ อยู่ในอํานาจอย่างยาวนานมาก และ
ต่อเนื องนับตั*งแต่เป็ นผูบ้ ญั ชาการทหารบกจนกระทัง ก้าวขึ*นเป็ นนายกฯ
และเป็ นประธานองคมนตรี จนถึงปั จจุบนั รวมอยูใ่ นอํานาจนานกว่า 30 ปี
และเมือไม่ มี ม.ร.ว.คึ กฤทธิ;มาเป็ นคู่แข่ งบารมี คอยถ่วงดุ ลแล้ว พลเอก
เปรมจึ งสามารถแสดงบทบาทของผูม้ ี บารมี นอกรั ฐธรรมนู ญ ได้อย่าง
179

เต็ มที และเป็ นระบบที สุด โดยแสดงบารมีอย่างเด่ น ชัดคื อการโค่ น ล้ม


รัฐบาลพลเอกชาติชาย เมือวันที 23 กุมภาพันธ์ 2534, โค่ นรั ฐบาลพลเอก
สุ จิ น ดา คราประยูร เมื อ พฤษภาคม 2535 และต่ อจากนั*น เข้าควบคุ ม
จัด การทุ ก รั ฐ บาลจนถึ งปั จ จุ บัน ล่ า สุ ด การโค่ น ล้มรั ฐ บาลนายสมัค ร
สุ น ทรเวช และรั ฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ; และจัด ตั*ง รั ฐบาลนาย
อภิ สิทธิ; เวชชาชี วะ ขึ* นมาบริ หารประเทศ ในช่ วงนี* ถือได้ว่าเป็ นยุคผูม้ ี
บารมีน อกรั ฐธรรมนู ญเฟื องฟูทีสุด เพราะพลเอกเปรมได้แสดงอํานาจ
เหนื อรัฐอย่างชัดเจนและเป็ นระบบ ดังจะเห็ นได้จากการเปิ ดไฟเขี ยวให้
กลุ่ มพัน ธมิ ต รดําเนิ น การท้าทายกฎหมายอย่ างอุ ก อาจโดยเจ้าหน้า ที
บ้านเมืองไม่กล้าแตะต้อง เพียงเพือต้องการล้มรัฐบาลนายสมัคร และนาย
สมชาย รวมตลอดถึงใช้ศาลเป็ นเครื องมือตัดสิ นเอาผิดจนนายกฯ ถึงสอง
คนต้องหลุด จากตําแหน่ ง ทําให้ประเทศไทยทําลายสถิติโลกคื อปี เดี ย ว
“ป๋ าเปรม” บริ หารจัด การจนมี น ายกฯ ได้ถึ ง 4 คน  และเมื อได้น าย
อภิสิทธิ; เป็ นนายกฯ สมใจนึ กแล้ว “ป๋ า” ก็เปิ ดบ้านต้อนรับกล่าวชืนชมว่า
“ประเทศไทยโชคดีทีได้ อภิสิทธิNเป็ นนายกฯ”


ในปี 2551 ต้นปี เดือนมกราคมยังเป็ นนายกฯ พลเอกสุ รยุทธ จุลานนท์ , เดือ น
กุมภาพัน ธ์ มี น ายกฯ ชื อ นายสมั คร สุ น ทรเวช, ตุ ล าคมมี น ายกฯ ชื อ นายสมชาย
วงศ์ สวัสดิN และธันวาคมมีนายกฯ ชือนายอภิสิทธิN เวชชาชีวะ
180

ถ้าเช่นนั*นการที ประเทศไทยได้พ.ต.ท.ทักษิ ณ, นายสมัคร, นาย


สมชายเป็ นนายกฯ ตามครรลองประชาธิ ปไตยนั*น เป็ นความโชคร้ าย
หรื อ? คงจะด้วยเหตุน* ี “ป๋ า” ถึงได้ใช้อาํ นาจโค่นล้มรัฐบาลของประชาชน
จนบ้านเมืองป่ วนมาทุกวันนี*ใช่หรื อไม่?
เมือเป็ นเช่ นนี* ถนนทุ กสายจึ งวิงหาพลเอกเปรมเพราะบุ คคลใน
แวดวงการเมืองได้พบเห็นช่องทางลัดของการขึ*นสู่ อาํ นาจการเมืองอย่าง
ชัดเจนแล้ว ดังนั*น จึ งมี แต่ ค นโง่ เท่ านั*นที ตอ้ งการมีอาํ นาจทางการเมือง
โดยผ่านการเลือกตั*งของประชาชน เพราะทั*งต้องทุ่ มเททั*งแรงกาย แรง
ทรั พย์ และเสี ย งภัย สายตัว แทบขาด ด้ว ยเหตุ น* ี หลายคนจึ ง พยายามมี
อํานาจการเมืองด้วยการแสดงความจงรั กภักดี อย่างสุ ดลิมทิมประตู หรื อ
นัย หนึ งก็ คื อพยายามจะโหนสถาบันพระมหากษัต ริ ย เ์ ข้าสู่ อาํ นาจทาง
การเมือง ซึงง่ายกว่าและเบาแรงกว่ากันมาก และมีตวั อย่างให้เห็ นชัดเจน
แล้ว ดังนั*นทุ กคนจึ งมุ่งที จะวิงเข้าหาพลเอกเปรม ติ ณสู ลานนท์ แล้วทุ ก
คนก็จะไม่ผิดหวังดังเช่ น หลังการยึดอํานาจ 19 ก.ย. 49 คนในเครื อข่ าย
ของพลเอกเปรมได้ดิบได้ดีกนั เป็ นแถว พลเอกสุ รยุทธ จุ ลานนท์ ลูกเลี*ยง
ก็ ได้เป็ นนายกฯ นายมี ชัย ฤชุ พ ัน ธ์ ลูก น้ องก็ ได้เป็ นประธานสภานิ ติ
บั ญ ญั ติ แ ห่ งชาติ นาวาอากาศเอกประสงค์ สุ่ น สิ ริ ลู ก น้ อ งก็ เ ป็ น
ประธานสภาร่ างรัฐธรรมนูญ นายชาญชัย ลิขิตจิ ตกะ ประธานศาลฎี กาที
ให้ความร่ วมมือในการตัดสิ นจําคุกลงโทษ กกต. และไม่ให้ประกันตัวจน
181

ต้องหลุ ด จากตํา แหน่ งตามแผน ก็ ได้รั บตําแหน่ งเป็ นรั ฐมนตรี ว่ าการ
กระทรวงยุติ ธรรม นายอารี ย ์ วงศ์อารยะ ลู ก น้องอดี ต ปลัด กระทรวง
มหาดไทยก็ได้เป็ นรัฐมนตรี มหาดไทย นายบัญญัติ จันทร์ เสนะ อดี ตผูว้ ่า
สงขลาเมือปลดเกษียณ แล้วก็ทาํ ตัวเป็ นรับใช้คอยเฝ้ าบ้านทีสงขลาให้ก็ได้
เป็ นรั ฐ มนตรี ช่ ว ยมหาดไทย, นายโฆษิ ต ปั* นเปี ยมรั ฐ ผูจ้ ัด การใหญ่
ธนาคารกรุ งเทพ ที ช่วยดูแลเศรษฐกิ จการเงิ นให้และเคยร่ วม ค.ร.ม.กับ
พลเอกเปรมก็ได้เป็ นรองนายกฯ และแม้แต่ เจ้าหน้าที ของมูลนิ ธิรัฐบุ รุษ
ก็ได้รับแต่งตั*งให้มีฐานะทางการเมืองเป็ นทิวแถว หลังการรัฐประหารเมือ
19 กันยายน 2549 ด้วยเหตุทีมีตวั อย่างการได้ดิบได้ดีเช่ นนี* จึ งเกิ ดบุ คคล
มากมายต่างก็พยายามแสดงตัวเป็ นผูใ้ กล้ชิดราชสํานักกัน ด้วยหวังจะเป็ น
ผู้มี บ ารมี น อกรั ฐ ธรรมนู ญ กั บ เขาบ้ า ง ซึ งมี ท* ั งจริ งบ้ า ง เท็ จ บ้ า ง
ตัวอย่างเช่นนายสุ เมธ ตันติเวชกุล (เลขานุ การมูลนิ ธิชยั พัฒนา) ซึ งอ้างว่า
รั บใช้ใ กล้ชิด และรู้ เรื องแนวพระราชดําริ เศรษฐกิ จ พอเพี ยงมากที สุ ด
นายแพทย์ ป ระเวช วะสี ผูต้ * ังฐานัน ดรทางสัง คมของตนเองขึ* น มาว่ า
“ราษฎรอาวุ โ ส” ซึ ง อ้า งว่ า เป็ นแพทย์ผูใ้ กล้ชิด , นายแพทย์ ป ระดิ ษ ฐ์
เจริ ญไทยทวี ที อา้ งว่าเป็ นหมอหลวงผูใ้ กล้ชิด , นายโสภณ สุ ภาพงศ์ ก็
อ้างว่าเป็ นคนใกล้ชิดเนื องจากทําธุ รกิ จในนามเรมอนฟาร์ มของปั™ มบาง
จาก เป็ นการรับใช้แนวพระราชดําริ , ม.ล.ปี ย์ มาลากุล ที อา้ งตัวเป็ นตลก
หลวงผูใ้ กล้ชิดพระองค์ทรงโปรดให้เข้านอกออกในสํานักพระราชวังได้
182

และรายล่าสุ ดที ดูจะกะเลวกะราชมากกว่าเขาก็คือนายสนธิ ลิม; ทองกุ ล


แกนนําพันธมิต รที พยายามจะแอบอ้างกับสังคมในหลากหลายกรณี ว่ า
เป็ นผูใ้ กล้ชิดกับราชสํานักสายสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชิ นีนาถ เช่ น
อ้างว่ า ได้รั บพระราชทานผ้าพัน คอสี ฟ้าซึ ง เป็ นสี พ ระราชสมภพของ
สมเด็จพระนางเจ้าฯ เพือมาใช้ในการสร้ างความชอบธรรมในการปลุ ก
ม๊อบโค่ น ล้มรั ฐบาล พ.ต.ท.ทัก ษิ ณ รั ฐบาลนายสมัค ร สุ น ทรเวช และ
รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ; เป็ นต้น
เมือ เล่ น นอกกติก าประชาธิ ป ไตยเช่ น นี; บ้ านเมือ งจึง ปั น ป่ วน
ประชาชนก็เดือดร้ อน
ผูม้ ีรายชือดังกล่าวข้างต้นได้แสดงบทบาททางสังคมในแต่ ละยุค
แต่ละสมัย มีลกั ษณะทีเป็ นปฏิปักษ์ต่ออํานาจรัฐบาลในแต่ละยุคที มีความ
เข้มแข็ งหรื อเป็ นรั ฐบาลที น ายกรั ฐมนตรี ไม่เป็ นที โ ปรดปราน และใน
ที สุดต้องมีอนั เป็ นไป ซึ งส่ วนใหญ่ รั ฐบาลก็จะล้มลงด้วยการเดิ นขบวน
หรื อด้วยการรั ฐประหาร หรื อรั ฐประหารซ้อนรั ฐประหาร แล้วแต่ กรณี
ส่ วนรัฐบาลทีจะอยูร่ อดปลอดภัยก็คือรัฐบาลทีอ่อนแอ หรื อรั ฐบาลที ไม่มี
โอกาสจะสร้างความระคายเคืองเบื*องยุคลบาทได้เลย เช่น รัฐบาลผสมที ดู
แล้วอายุไม่ยนื ยาว เช่น รัฐบาลของนายชวน หลีกภัย หรื อรัฐบาลของนาย
บรรหาร ศิลปอาชา เป็ นต้น
183

ด้วยเหตุการณ์ทีเป็ นจริ งทีเกิดขึ*นแก่ หลายรั ฐบาลที ผ่านมาได้ถูก


กระบวนการนอกระบบประชาธิ ปไตยคื อขบวนการของผู้มีบ ารมีนอก
รัฐธรรมนูญแทรกแซงได้โดยเปิ ดเผยและระบบกฎหมายไม่อาจเอาผิดกับ
ผูม้ ี บารมี ฯ ได้แม้แต่ ค นเดี ย วเช่ น นี* จึ งเป็ นการยืนยัน ให้เห็ นถึ งระบอบ
การเมื องที แ ท้จ ริ ง ของไทยคื อ “สมบู ร ณาญาสิ ท ธิ ร าชใหม่ ” ไม่ ใ ช่
ประชาธิปไตย ดังนั*นจึ งไม่อาจจะมีกลุ่มการเมือง หรื อสถาบันการเมือง
ใดๆ ก้าวขึ*นมามี บทบาทนําทางสังคมที เข้มแข็งได้ เพราะเครื อข่ ายราช
สํานักจะเป็ นองค์กรเฝ้ าระวังไม่ให้สถาบันการเมืองของประชาชนเติ บโต
ขึ*นมาแข่งบารมีกบั สถาบันพระมหากษัตริ ยไ์ ด้

5.3 บริหารอํานาจผ่ านข้ อจํากัดของทุกรัฐบาล


โดยโครงสร้างทางสังคมของประเทศด้อยพัฒนาทุกประเทศจะมี
ลัก ษณะปั ญ หาร่ ว มทางสังคมที ค ล้ายคลึ ง กัน คื อ มี ช่องว่ างทางสังคม
ระหว่างคนจนซึงเป็ นคนส่ วนใหญ่ของประเทศ กับคนรํารวย ซึ งเป็ นคน
ส่ วนน้อยของประเทศ ส่ วนคนกลุ่มที เข้ามาสู่ อาํ นาจรั ฐก็จะเป็ นตัวแทน
ผลประโยชน์ข องคนรวย แต่ เฉพาะของสังคมไทยมีความสลับซับซ้อน
ทางโครงสร้างยิง กว่านั*นไปอีกกล่าวคือจะมีกลุ่มผลประโยชน์แบ่งได้เป็ น
3 กลุ่มใหญ่ๆ ทีขดั แย้งกัน คือ
184

1.กลุ่ ม พลเรื อนคนยากจนซึ ง เป็ นคนกลุ่ ม ใหญ่ ข องประเทศ


ส่ วนมากเป็ นเกษตรกร และเป็ นกรรมกรรั บจ้างผูไ้ ร้ สมบัติ ส่ วนใหญ่ มี
ภูมิลาํ เนาอยูใ่ นชนบท
2.กลุ่มพลเรื อนพ่อค้านายทุ น รวมถึงคนระดับกลาง ซึ งเป็ นคน
ส่ วนน้อยของประเทศเมือเปรี ยบกับคนกลุ่มแรกและ ส่ วนมากประกอบ
อาชีพค้าขายจะอยูใ่ นเมืองหลวง และชุมชนเมืองตามอําเภอและจังหวัด
3.กลุ่ มขุ นนางซึ งเป็ นคนหยิบมื อเดี ยว เมื อเปรี ย บเที ย บกับคน
กลุ่มที 1 และกลุ่มที 2 คนกลุ่มนี* เป็ นข้าราชการ ทั*งข้าราชการพลเรื อน
ตํารวจ และทหาร แม้จะเป็ นคนกลุ่มเล็กๆ ในสังคม แต่ เนื องจากมีระบบ
จัด ตั*ง เป็ นองค์ ก ร และมี ว ัฒ นธรรมองค์ ก รที สื บ เนื อ งมายาวนานกับ
สถาบัน พระมหากษัต ริ ย ์ โดยมี ก ารกล่ อ มเกลาทางสั งคมวัฒ นธรรม
(Socialization) ที เ ข้ ม แข็ ง ให้ มี สํ า นึ กผู ก พั น และรั บ ใช้ โ ดยตรงต่ อ
พระมหากษัตริ ย ์
จากโครงสร้างของกลุ่มผลประโยชน์ 3 กลุ่มนี* จะเห็ นได้ว่ากลุ่ม
ขุนนางแม้จะเป็ นคนกลุ่มน้อยที สุด แต่ ก ลับเป็ นกลุ่มชนที มีอาํ นาจมาก
ทีสุด เพราะได้รับการสนับสนุ นทางอํานาจโดยตรงจากพระมหากษัตริ ย ์
เช่ นการให้เครื องราชอิสริ ยาภรณ์ อนั เป็ นสัญลักษณ์ เกี ยรติยศทางสังคม
ซึงพ่อค้านายทุน และชาวนาชาวไร่ จะไม่ได้รับเกียรติ;เช่นนี* รวมตลอดทั*ง
การให้โอกาสแก่กลุ่มข้าราชการเข้าเฝ้ าใกล้ชิดอยูเ่ สมอ อีกทั*งมีพิธีกรรมที
185

ให้ขา้ ราชการเข้าไปมีส่วนร่ วมอยูเ่ สมอ ดังนั*นเมือประชาชนก้มหัวให้แก่


พระมหากษัตริ ยก์ ็ตอ้ งก้มหัวให้แก่ทหาร ตํารวจ และข้าราชการผูใ้ กล้ชิด
พระองค์ ด ้ว ย และการก้ม หั ว ให้ น* ัน เองก็ คื อ การยอมรั บ อํา นาจที อ ยู่
เหนื อกว่ า ด้ว ยเหตุ น* ี จึ งทําให้ก ลุ่ มขุน นางมี เงื อนไขทางสังคมที ดูด เอา
ผลประโยชน์และทรั พยากรจากสังคมไปหล่อเลี*ยงพวกตนได้มากที สุด
ทําให้บ่อนํ*าแห่ งผลประโยชน์ทางสังคมเหลือน้อย จําต้องแย่งกันระหว่าง
กลุ่มพลเรื อนกลุ่มที 1 กับกลุ่มพลเรื อนกลุ่มที 2 ซึงมีความเข้มแข็งกว่า จึ ง
เป็ นผลให้เกษตรกรคนยากจนทุกข์ยากยิง ขึ*น และเกิดความขัดแย้งกัน แต่
ในช่วงห้าทศวรรษทีผา่ นมานี* กลุ่มพ่อค้านายทุ นได้เติ บใหญ่ เข้มแข็งขึ*น
มาก และนับตั*งแต่เกิดวิกฤตการณ์ ทางการเมืองในเหตุ การณ์ 14 ตุ ลาคม
2516 กลุ่ มพลเรื อนพ่ อ ค้า นายทุ น นี* ได้แ สดงบทบาทนําทางการเมื อ ง
เด่นชัดมากขึ*น จากเดิมต้องแอบผูอ้ ยูข่ า้ งหลังกลุ่มขุนนาง แต่ปัจจุบนั กลับ
ยืนอยู่หน้ากลุ่มขุนนาง โดยอาศัย ระบอบประชาธิ ปไตยเข้าสู่ อาํ นาจใน
ฐานะหัว หน้ าพรรคการเมื อง และเป็ นนายกรั ฐมนตรี ซึ ง มี ฐานะเป็ น
เจ้านายกลุ่ มขุ น นางโดยอาศัย ระบอบการเมื อ งแบบรั ฐ สภา ผ่า นการ
เลือกตั*ง ดังจะเห็นนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ส่วนมากทีมาจากนักธุรกิจ
ซึ งแตกต่ างจากการเมื องก่ อนปี 2500 ที มีแต่ นายทหารและขุน นางเป็ น
ผูน้ าํ อย่างเด่นชัด ซึงย่อมจะเกิดความไม่พอใจแก่ กลุ่มขุนนาง ข้าราชการ
ทั*งหลาย อีกทั*งกลุ่มพลเรื อนพ่อค้าได้ใช้อาํ นาจรั ฐแย่งชิ งทรั พยากรจาก
186

ขุนนางที เคยอิมหมีพีมนั มาแบ่ งปั น ให้แก่ ก ลุ่มชาวนาชาวไร่ คนยากจน


เพื อช่ ว งชิ งให้เป็ นพรรคพวกหรื อนัย หนึ งก็ เ พื อขอแรงสนับสนุ น ทาง
การเมือง ในรู ปของคะแนนเสี ยงโดยเสนอนโยบายที เด่ นชัดเช่นนโยบาย
ประชานิ ยมของทักษิณ ยิง ทําให้กลุ่มขุนนางไม่พอใจกลุ่มพลเรื อนพ่อค้า
ที ครองอํานาจมากยิงขึ*น ดังนั*นความขัด แย้งทางการเมื องระหว่างกลุ่ ม
พ่อค้านายทุน กับกลุ่มขุนนาง จึงเป็ นความขัดแย้งที ชิงความเป็ นใหญ่ ใน
กรอบอํานาจทางการเมืองอยูเ่ สมอ ในช่วงห้าทศวรรษทีผา่ นมานี*นบั ตั*งแต่
ความขัดแย้งในระดับทีประนี ประนอมกันได้ เช่นการทะเลาะเบาะแว้งกัน
ระหว่างข้าราชการกับนักการเมือง ในการบริ หารงานราชการในภาวะที มี
การเลือกตั*ง และความขัดแย้งในระดับทีประนี ประนอมกันไม่ได้ เช่นการ
ทํารัฐประหารยึดอํานาจล้มอํานาจของพรรคการเมือง และความขัดแย้งยิง
รุ นแรงขึ*นเมือกลุ่มพลเรื อนพ่อค้าได้พยายามจะหยัง รากลึกสู่กลุ่มพลเรื อน
เกษตรกรเพือจะผนึ กกําลังทางการเมืองร่ วมกัน ซึ งหากปล่อยให้พฒั นา
ไปโดยสันติก็จะพัฒนาไปสู่ ระบอบประชาธิ ปไตยที แท้จริ งก็คือตัวแทน
กลุ่มพลเรื อนเป็ นกลุ่มผลประโยชน์ใหญ่ สุด ที จะต้องขึ*นมามีอาํ นาจจาก
การเลื อ กตั*ง แต่ เนื องจากระบอบปกครองของไทยยังเป็ นระบอบสม
บูรณาญาสิ ทธิ ร าช อํานาจการเมื องยังรวมศูน ย์อยู่ทีกษัต ริ ยแ์ ละขุ นนาง
ด้ว ยเหตุ น* ี ก ลุ่มขุ นนางซึ งเป็ นกลุ่ มคนเพีย งหยิบมื อเดี ย วแต่ มีก ารจัด ตั*ง
เข้มแข็ ง จึ งไม่ อาจจะยอมให้เกิ ด การพัฒนาอํานาจของพลเรื อนให้กา้ ว
187

ขึ*นมาเป็ นผูป้ กครองอย่างมัน คงได้ ความขัดแย้งทางการเมืองของไทยจึ ง


นับวันจะยิง รุ นแรงขึ*น
ดังนั;นเหตุผลของการรั ฐประหารโค่ นล้ มรั ฐบาลพลเรื อนในทุ ก
ครั;งทีกล่ าวอ้ างนั;นจึงเป็ นเรืองโกหก และความจริงทีเป็ นเนือ; แท้ ของความ
ขัดแย้ งก็คอื การทําลายฐานอํานาจของกลุ่มพลเรื อนพ่ อค้ านายทุ นไม่ ให้
ก้ าวขึน; มาปกครองและเพือ รักษาประโยชน์ ทางสั งคมของกษัตริ ย์และขุน
นางไว้ เท่ านั;น
ในสภาพความเป็ นจริ งกลุ่มพลเรื อนของพ่อค้านายทุ นก็มีความ
ขัด แย้งกัน แบ่ ง เป็ นหลายกลุ่ มผลประโยชน์ ทั*ง กลุ่ ม อาชี พ และกลุ่ ม
การเมื อ ง ได้แ ก่ ก ารจั ด ตั*ง พรรคการเมื อ งที แ บ่ ง กัน เป็ นหลายพรรค
การเมื อง ซึ งเป็ นสภาพธรรมชาติ ของระบอบประชาธิ ปไตย แต่ แทนที
กษัต ริ ยแ์ ละกลุ่มขุ น นางจะปล่ อยให้เป็ นไปตามธรรมชาติ โ ดยยืน ดู อยู่
ห่ างๆก็กลับกลายเป็ นใช้เงือนไขแห่ งธรรมชาติความแตกต่างทางความคิด
นี* ขยายผลให้เป็ นความแตกแยกและเข้าแทรกแซงหนุ นหลังฝ่ ายใดฝ่ าย
หนึ ง ทําให้กลุ่ มขุ นนางกลายเป็ นตัว แปรที สาํ คัญ ในทางการเมื อง และ
สุ ดท้ายก็จบลงด้วยทีทาํ การยึดอํานาจและใส่ ร้ายป้ ายสี บิดเบื อนการเมือง
ระบอบประชาธิปไตยเสมอมา
ในการแก่ งแย่งอํานาจทางการเมื องกัน ระหว่ างกลุ่ มพลเรื อ น
พ่อค้า รู ปธรรมก็คือพยายามช่ วงชิ งกลุ่มคนยากจนซึ งเป็ นกลุ่มใหญ่ ของ
188

สังคมเป็ นพรรคพวก ในโครสร้ างอํานาจของพรรคการเมื องด้ว ยทั*ง


โฆษณาใส่ ร้ายซึ งกัน และกัน และพยายามจะหาคะแนนเสี ย งด้ว ยการ
อวดอ้างว่ากลุ่มตนเป็ นผูใ้ ห้ผลประโยชน์แก่ กลุ่มคนยากจนมากกว่าโดย
มองไม่เห็นภัยของกลุ่มขุนนาง ดังนั*นจะเห็ นได้ว่าความขัดแย้งทุ กครั*งก็
จบลงด้ว ยการรั ฐประหารยึด อํานาจ และในระยะต้น ฝ่ ายขุ น นางพวก
ทหาร ในฐานะหัวหน้าขุนนางก็จะพยายามหลอกลวงทําดี กบั คนยากจน
เช่ น เดี ย วกับ พวกพรรคการเมื อ งด้ว ยนโยบายแจกผลประโยชน์ และ
อวดอ้างคุ ณ ธรรม พร้ อมทั*งโจมตี พวกพ่ อค้านายทุ น ที เป็ นผูน้ ําพรรค
การเมืองว่ าเป็ นผูค้ ิ ดคดทรยศต่ อบ้านเมื อง หาผลประโยชน์โดยมิ ชอบ
เป็ นนายทุนขูดรี ดขูดเนื*อประชาชน แต่ เหตุ การณ์ ทางประวัติศาสตร์ ก็ให้
บทเรี ยนแก่ ประชาชนซํ*าแล้วซํ*าเล่าว่าพวกขุนนางที เข้ามายึดอํานาจนั*น
สุ ดท้าย คื อฝูงเหลือบตัว จริ งที ครองอํานาจโดยการหลอกเรื องคุ ณธรรม
และความเชื อทางไสยศาสตร์ ว่าพวกเขามีอาํ นาจด้วยบุ ญบารมีและห้าม
ตรวจสอบ ซึงแตกต่างจากกลุ่มพลเรื อนพ่อค้าทีมีอาํ นาจโดยขอความชอบ
ธรรมจากประชาชนในรู ปของนโยบายทางการเมือง และตรวจสอบได้
ทุกๆ สี ปี
แต่อย่างไรก็ตามแม้คนในกลุ่มพ่อค้านายทุนด้วยกันเองจะขัดแย้ง
กันในทางการเมือง และจะขัดแย้งกับกลุ่มขุนนางก็ตามที แต่ คนทั*งสอง
กลุ่มนี* ก็เป็ นกลุ่มคนที ได้เปรี ย บทางสังคม เป็ นเศรษฐี และเจ้าที ดินซึ งมี
189

ฐานะที ดี ก ว่ า คนส่ วนใหญ่ ข องสั ง คม ดั ง นั* นคน 2 กลุ่ ม นี* จึ ง มี


ผลประโยชน์ร่วมกัน และจะไม่แบ่งผลประโยชน์หลักให้แก่คนยากจนดัง
จะเห็นได้ว่า 50 กว่าปี ทีผา่ นมานี*ไม่ว่าคนกลุ่มไหนจะไปมีอาํ นาจในสภา
ก็จะไม่มีการออกกฎหมาย การจัดเก็บภาษีมรดก และการจัดเก็บภาษีทีดิน
ทีกา้ วหน้าได้เลย ด้วยเพราะกระทบกระเทือนต่อผลประโยชน์ของคนทั*ง
2 กลุ่ ม คื อกลุ่ มที 2 กับกลุ่มที 3 ดังที กล่าวข้างต้น ซึงเป็ นผลประโยชน์
เดียวกันกับของสถาบันพระมหากษัตริ ย ์ เพราะพระมหากษัตริ ยเ์ ป็ นผูท้ ี
รํารวยทีสุดในประเทศไทยที รวยทั*งทรั พย์สินที เป็ นเงิ นสด ประกอบกับ
สิ น ทรั พย์ และรวยที ดิ นมากที สุด ในประเทศ ด้ว ยเหตุ น* ี เองกลุ่ มพ่ อค้า
นายทุน และกลุ่มขุนนาง จึงแย่งชิงสะสมสิ นทรัพย์ เงินทอง และที ดินกัน
อย่างบ้าคลัง เพราะนอกจากเก็บภาษีการสะสมทีดินเพียงนิ ดหน่ อยเท่านั*น
และไม่ตอ้ งเสี ยภาษีมรดกอีกด้วย กลุ่มบุ คคลผูไ้ ด้เปรี ยบเหล่านี* จึ งระดม
สะสมที ดิน กัน จึ งทําให้ช่องว่ างระหว่ างกลุ่มคนจนกับคนรวยห่ างกัน
ยิง ขึ*นไปอีก ผลประโยชน์ทีคนกลุ่มที 2 กับกลุ่มที 3 (เมือเป็ นรั ฐบาล) จัด
ให้แก่ ค นกลุ่มที 1 ซึ งเป็ นคนยากคนจนนั*น ก็เป็ นเพีย งเนื* อข้างเขี ยง ซึ ง
เป็ นเศษผลประโยชน์เพียงนิ ดหน่ อยเท่ านั*น เนื องจากไม่ว่าใครจะเข้ามา
เป็ นรั ฐบาล ในสภาวะของประเทศด้อยพัฒนาเช่ น ประเทศไทยเรานี* ก็
ล้วนแต่เก็บภาษีได้นอ้ ย ดังนั*นเมือนําภาษีไปจัดแบ่งเป็ นผลประโยชน์ของ
เงินเดือนข้าราชการ การซื*ออาวุธ และครุ ภณ ั ฑ์แล้ว ก็เหลือเงิ นจํานวนไม่
190

มากทีจะผลักให้แก่ประชาชนในรู ปเงินรัฐสวัสดิการ หรื อเงิ นภาคบริ การ


สั ง คม ซึ ง ในประเทศที พ ัฒ นาแล้ว ทั*ง หลายในโลกนี* ล้ว นแล้ว แต่ มี
ผลประโยชน์หลักๆ จากการเก็บภาษี การถือครองทรั พย์สินโดยเฉพาะ
ที ดิ น และภาษี มรดกด้วยกันทั*งสิ* น ซึ งเป็ นฐานของรายรั บของรั ฐที จ ะ
นําไปจัดบริ การให้แก่ คนยากคนจน,ในภาวะแห่ งความขัดแย้งเช่ นนี* จึ ง
เกิดการเรี ยกร้องผลประโยชน์ทางสังคมของคนยากคนจนอยูไ่ ม่ขาดสาย
ด้วยเหตุผลดังทีกล่าวมาข้างต้นจึงเกิดภาวะความขัดแย้งของกลุ่ม
คนทางสั ง คมทั*ง 3 กลุ่ ม อัน เป็ นปกติ ต ลอดเวลา 70 กว่ า ปี ของการ
เปลี ย นแปลงการปกครอง ดัง นั*น ไม่ ว่ า ใครจะมาเป็ นรั ฐ บาลบริ หาร
ประเทศ ก็จะมีขอ้ จํากัดด้วยการแบ่งปั นผลประโยชน์ไม่พอเพียงเกิดอยู่ร ํา
ไป ด้วยเหตุน* ีสถาบันพระมหากษัตริ ยท์ ี เป็ นกลุ่มผลประโยชน์ทีมีอาํ นาจ
มากทีสุดในสังคม จึงอยูใ่ นฐานะทีได้เปรี ยบที จะกําจัดอํานาจของฝ่ ายใด
ฝ่ ายหนึ งที ตนไม่พึงพอใจ และเพือนําไปสู่ เป้ าหมายสู งสุ ด ทางการเมือง
คื อไม่ ให้ก ลุ่ มการเมื องใดมี ค วามเข้มแข็ ง ทางการเมื องอัน อาจจะเป็ น
อันตรายต่ ออํานาจสู งสุ ดทางการเมื องของตนได้โดยการบริ หารจัดการ
ตามทฤษฎี “แบ่ ง แยกแล้ วปกครอง” แต่ ดาํ เนิ นการอย่างแนบเนี ย นใน
ฐานะที เสมือนเทพยาดาที ไม่ยุ่งเกี ยวกับการเมืองด้วยการบริ หารอํานาจ
ผ่านผูม้ ี บ ารมี น อกรั ฐธรรมนู ญ โดยอาศัย ข้อจํากัด ทางอํานาจของทุ ก
รัฐบาล
191

การดํ ารงอยู่ ข องสถาบั น กษั ตริ ย์ ใ นภาวะโครงสร้ างการเมือ ง


ปั จจุบันจึง กลายเป็ นการสร้ างความแตกแยกทางการเมืองมากกว่ าทีจะ
สร้ างสามัคคีทางการเมือง
ด้วยภาวะของการบริ หารอํานาจในระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราช
ใหม่เช่นนี*เอง เราจึงไม่อาจจะมีรัฐบาลใดทีมีเสถียรภาพได้เลย รวมตลอด
ทั*งไม่อาจจะมีการพัฒนาระบอบประชาธิ ปไตยและพัฒนาระบบพรรค
การเมืองให้เข้มแข็งเพือเป็ นฐานของรัฐบาลทีมีเสถียรภาพได้ดว้ ยเช่ นกัน
ซึ งล่าสุ ด ในต้นศตวรรษที 21 (ระหว่างปี 2544-2551) แม้จ ะเกิ ด ระบบ
พรรคการเมื องที เข้มแข็ ง และมี รั ฐบาลที เข้มแข็งในการแก้ปัญ หาของ
ประเทศปกติได้แล้วก็ตาม ก็ถกู อํานาจของกลุ่มขุนนางข้าราชการ ทําการ
ก่อกวนและยึดอํานาจในที สุด เมือ 19 กันยายน 2549 พร้ อมทั*งยุบพรรค
การเมืองและตัดสิ ทธิ;กรรมการการบริ หารในปี 2550 ซึ งเท่ ากับกลุ่มขุน
นาง ทําลายกระบวนการเติบโตของกลุ่มพลเรื อนที เข้มแข็งขึ*นเกิ นกว่าที
ราชสํานักจะคุมได้เช่นในอดีตแล้ว
การบริ หารอย่างมีขอ้ จํากัดของรัฐบาลทุกรัฐบาลนั*น ได้พิสูจน์ให้
เห็ น แล้ว ว่ า แท้จ ริ ง แล้ว รั ฐบาลทุ ก รั ฐบาลไม่ มีอาํ นาจที แท้จ ริ งในการ
บริ หารประเทศชาติ โดยเฉพาะอย่างยิง ในภาวะวิกฤตทีมีความขัดแย้งทาง
ความคิดและทางผลประโยชน์ของกลุ่มคนด้วยแล้ว เราจึ งเห็ นรู ปธรรมที
เป็ นจริ งว่าหากเกิดการรวมตัวของฝูงชนประท้วงรั ฐบาลเมือใดแล้ว ก็จะ
192

เป็ นสัญญาณทีจะบ่งบอกถึงการพังทลายของรัฐบาลนั*นทันที โดยรั ฐบาล


ไม่มีอาํ นาจที จะจัดการทางกฎหมายใดๆ ทั*งสิ* น แม้จะมีตวั บทกฎหมาย
บัญญัติไว้ชดั เจน แต่ทุกรัฐบาลก็ไม่อาจจะใช้กลไกของทางราชการ ทหาร
ตํารวจ เข้าจัดการได้ เหมือนอย่างเช่ นในนานาอารยะประเทศที ปกครอง
ด้ว ยระบอบประชาธิ ปไตย เพราะตามความเป็ นจริ งแล้ว ทหาร ตํารวจ
ไม่ ใ ช่ เ ครื อ งมื อของรั ฐบาล แต่ เป็ นเครื อ งมื อ ของกษัต ริ ย์ ดังคํากล่ า ว
เปรี ยบเที ยบเชิ งสัญลักษณ์ ของพลเอกเปรม ติ ณสู ลานนท์ ที ว่า “จ๊ อกกี;
ไม่ใช่ เจ้ าของม้ า ม้ าเป็ นของเจ้ าของคอก ม้ าไม่ ต้องฟังคําสั งจ๊ อกกี”; อีกทั*ง
ในอดีตก็พิสูจน์มาแล้วว่าแม้รัฐบาลมาจากทหารอาชี พซึ งเปรี ยบเหมือน
เป็ นจ็ อกกี* ก็ไม่อาจจะบังคับบัญ ชาม้านั*น ได้ เช่ น รั ฐบาล คมช.ในช่ ว ง
ระหว่างปี 2549-2550 ก็ไม่อาจจะจัดการกับกลุ่ม นปช.ผูป้ ระท้วงได้ และ
หากรัฐบาลใดฝ่ าฝื นกฎเกณฑ์น* ีโดยใช้กาํ ลังทหาร ตํารวจ เข้าปราบปราม
การประท้วงรัฐบาลนั*นก็จะพังทลายเร็ วขึ*นกว่าเดิ มดังเช่ นรั ฐบาลพลเอก
สุ จินดา คราประยูร ในเหตุ การณ์ ปราบจลาจลพฤษภาทมิฬ เมื อปี 2535
เป็ นต้น ดังนั*นจึ งไม่ใช่ เรื องแปลกอะไรที เหตุ การณ์ จลาจลในปี 2551 ที
กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพือประชาธิ ปไตยทําการยึดทําเนี ยบรั ฐบาล ยึด
สถานี โทรทัศน์ NBT และยึดสนามบิ น เพียงเพือขับไล่รัฐบาลนายสมัคร
สุ น ทรเวช ต่ อเนื องถึ งรั ฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ; รั ฐบาลก็ ไม่ ก ล้า
ดําเนิ นการใดๆ จนแม้ว่าเป็ นการจลาจลอันไม่อาจจะทนได้โดยแม้รัฐบาล
193

จะได้สงั การโดยประกาศภาวะฉุ กเฉิ นให้อาํ นาจแก่ ทหารและตํารวจแล้ว


แต่ท* งั ทหารและตํารวจก็ไม่กล้าดําเนิ นการใดๆ เช่ นกัน ด้วยเพราะทุ กคน
ฟังอํานาจจากเบื*องบนเป็ นหลัก จนเกิดการกล่าวขานว่า “ม็อบเส้ นใหญ่ ”
โดยนํ า มาจากคํ า ตอบกระทู้ ใ นสภาของ พล.ต.อ.โกวิ ท วั ฒ นะ
รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงมหาดไทย

5.4 รู ปธรรมกําจัดอํานาจรัฐบาลถนอม-ประภาส
แม้รัฐบาลถนอม กิตติขจร และจอมพลประภาส จารุ เสถียร เป็ น
ผูส้ ื บต่ออํานาจจากรัฐบาลจอมพลสฤษดิ; ธนะรัชต์ ทีสนับสนุ นให้อาํ นาจ
ของราชสํานัก เข้มแข็ งและมัน คงขึ*น แต่ โ ดยเนื* อแท้ของรั ฐบาลถนอม
กิตติขจร เป็ นรัฐบาลของทหารที ยงั สื บต่ อวัฒนธรรมทหารทีเป็ นตัวของ
ตัวเองไม่ข* ึนต่อกษัตริ ย ์ และทั*งจอมพลถนอมและจอมพลประภาส ก็เป็ น
ทหารทีเคยสูร้ บกับฝ่ ายเจ้าในสงครามปราบกบฏพระองค์เจ้าบวรเดช เมือ
ปี 2476 อีก ทั*งได้แสดงศัก ยภาพในความเข้มแข็ งที จะสื บต่ ออํานาจอัน
ยาวนานในอนาคตด้วยการผนึ กกําลังโดยอาศัยวัฒนธรรมเครื อญาติ โดย
การแต่งงานระหว่าง พันเอกณรงค์ กิ ตติ ขจร ลูกชายจอมพลถนอม กับ
ลูก สาวจอมพลประภาส โดยเห็ น ชัด ถึ งการถ่ ายทอดอํา นาจต่ อให้แ ก่
ทายาทคือพันเอกณรงค์ กิตติขจร อย่างแน่ นอน จึงเป็ นทีหวาดระแวงของ
กษัตริ ยภ์ ูมิพลเป็ นอย่างมาก
194

ตลอดระยะเวลาการครองอํานาจของจอมพลถนอม และจอมพล
ประภาส ตั*งแต่ปี 2506 เป็ นต้นมานับตั*งแต่การสิ*นชีวิตของจอมพลสฤษดิ;
ธนะรัชต์ จนถึงปลายปี 2516จอมพลถนอมกิ ติขจร และจอมพลประภาส
ได้แสดงบทบาทของการสื บทอดอํานาจแบบไร้กติ กาโดยต่ ออายุราชการ
ให้จ อมพลถนอม ให้มีอาํ นาจในตําแหน่ งผูบ้ ัญชาการทหารสู งสุ ดถึ ง 2
ครั*ง และในขณะที เป็ นนายกรั ฐมนตรี อยู่แท้ๆ ก็ยงั ปฏิวตั ิ ตวั เองเพือรวบ
อํานาจทั*งหมดไว้กบั ตนโดยใช้อาํ นาจคณะปฏิวตั ิ บริ หารประเทศนานถึง
13 เดื อนโดยไม่ขออํานาจจากราชสํานักเพือออกธรรมนู ญการปกครอง
ด้วย เท่ ากับประเทศชาติ บริ หารโดยไม่ มีกฎหมายอีกทั*งยังขยายอํานาจ
ครอบงําทุ กองค์กร แม้แต่ องค์กรศาลที เป็ นฐานอํานาจอันเดี ยวของราช
สํานักทีเป็ นหนึ งเดียวใน 3 อํานาจอธิ ปไตยที ทีปลอดจากอํานาจก้าวก่ าย
ของทหารทีขณะนั*นคุมสภาและคุมฝ่ ายบริ หารอย่างเหนี ยวแน่ นโดยจอม
พลถนอมในฐานะหัว หน้าคณะปฏิ ว ตั ิ เมื อ 17 พฤศจิ ก ายน 2514 ออก
ประกาศคณะปฏิวตั ิฉบับที 299 ทีกาํ หนดให้รัฐบาลเข้ามาครอบงําอํานาจ
ศาลได้ ซึ งถูก ขนานนามว่ าเป็ น “กฎหมายโบว์ ดํ า”และจากจุ ด นี* เอง
รู ปธรรมความขัดแย้งกับราชสํานักก็ ปรากฏเด่ น ชัด ขึ*น โดยขบวนการ
ต่อต้านรั ฐบาลจอมพลถนอมได้ก่อตัวขึ*นจากผูม้ ีบารมีนอกรั ฐธรรมนู ญ
ในขณะนั*นคือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ; ปราโมช ผูเ้ ป็ นเชื* อพระวงศ์ เป็ นทั*งนักคิ ด
นักเขียนเป็ นนายทุนธนาคารเจ้าของกิ จการธนาคารกรุ งเทพพาณิ ชยการ
195

และเป็ นเจ้ า ของหนั ง สื อพิ ม พ์ ส ยามรั ฐ ก็ ได้ ใ ช้ ก ระบอกเสี ย ง


วิ พากษ์ วิ จ ารณ์ รั ฐ บาลจอมพลถนอม อย่า งไม่ ก ลัว เกรงและได้ส่ งผล
สะเทือนให้กลุ่มนักศึกษาปั ญญาชนซึงนอนสงบนิงมานานนับแต่ ปี 2500
ที ถูก ปราบปรามสมัยจอมพลสฤษดิ; ก็เริ มฟื* นตื น ขึ*น และก่ อตัวร่ ว มกัน
ระหว่ า งจุ ฬ าและธรรมศาสตร์ ทํา การประท้ว งแบบค้า งคื น ต่ อ เนื อ ง
ยาวนานหลายวัน ณ ที ทาํ การศาลที สนามหลวงโดยอาจารย์กฎหมายใน
มหาวิทยาลัยสายราชสํานักให้การสนับสนุ นจนได้รับชัยชนะ และนับแต่
นั* นขบวนการนั ก ศึ ก ษาเติ บ ใหญ่ แ ละเชื อ มต่ อ กั บ ผู้มี บ ารมี น อก
รั ฐธรรมนู ญซึ งในขณะนั*นเป็ นที รู้กนั ทัว ไปว่า ม.ร.ว.คึ ก ฤทธิ; ปราโมช
เป็ นตัวแทนเชิงสัญลักษณ์กษัตริ ยภ์ ูมิพลฯ ทั*งในฐานะเชื*อพระวงศ์ และผู้
ใกล้ ชิ ด ข้ อ คิ ด เห็ น ทางการเมื อ งของม.ร.ว.คึ ก ฤทธิ; ที แ สดงใน
หนังสื อพิมพ์สยามรัฐ จึ งเป็ นธงนําการต่ อต้านรั ฐบาลของจอมพลถนอม
โดยประชาชนกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ ที เสี ยประโยชน์จากนโยบายการ
บริ หารราชการของรั ฐ บาลจอมพลถนอม ต่ า งก็ ติ ด ตามข่ าวสารจาก
สยามรั ฐแต่ ทาํ อะไรไม่ได้ก็ ได้แต่ เก็บสะสมความชิ งชังโดยเฉพาะกลุ่ ม
ผูร้ ับเหมาก่อสร้างทีไม่สามารถเกาะสายอํานาจได้ รวมตลอดถึงนโยบาย
การคุ มอํานาจแบบเผด็ จการ ก็ก่ อให้เกิ ด ความไม่พอใจในหมู่นัก ศึกษา
ปั ญ ญาชน รวมตลอดทั*งครู อาจารย์ในมหาวิ ทยาลัย ต่ า งๆ มากยิงขึ* น
ดังนั*น กลุ่ มผลประโยชน์ ทีไม่ พึงพอใจต่ อนโยบายของรั ฐบาลจอมพล
196

ถนอม จึ งเกิ ดการถักทอประสานมื อกัน ซึ งในขณะนั*นกลุ่มแกนนําการ


เคลือนไหวยังอยูใ่ นหมู่นกั ศึกษา ปั ญญาชน เป็ นหลัก
ในด้านพรรคการเมือง ก็มีพรรคประชาธิ ปัตย์ ซึ งเป็ นพรรคฝ่ าย
เจ้ามาแต่เดิม และมีราชนิ กลู คือ ม.ร.ว.เสนี ย ์ ปราโมช เป็ นหัวหน้าพรรค
ก็ทาํ การประสานเคลื อนไหวกับกลุ่ มนัก ศึ ก ษา ปั ญ ญาชน โดยเฉพาะ
หนั ง สื อ พิ ม พ์ส ยามรั ฐ ก็ เ ป็ นที ส ะสมกํา ลัง พลนั ก คิ ด นั ก เขี ย นที เ ป็ น
ปฏิ ปัก ษ์ก ับรั ฐบาลของจอมพลถนอม, สยามรั ฐจึ งเป็ นแหล่ งขุมกําลัง
สําคัญซึ งกําลังส่ วนหนึ งก็เชื อมต่ อกับพรรคประชาธิ ปัตย์ เช่ น นายวีร ะ
มุสิกะพงศ์ (เดิ มเป็ นนักเขี ยนค่ ายสยามรั ฐ) นามปากกา “ไข่ มุกดํา” นาย
สมัคร สุ นทรเวช นักเขียนนามปากกา “นายหมอดี” และบางคนก็เชือมต่อ
กับนัก วิ ชาการในมหาวิ ทยาลัย เช่ น ดร.เกษม ศิ ริ สัมพัน ธ์ ซึ งเป็ นทั*ง
นักเขียน และเป็ นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย และเมือโค่ นล้มจอมพลถนอม
แล้ว ดร.เกษม ก็ร่วมจัดตั*งพรรคกิจสังคมกับม.ร.ว.คึกฤทธิ; เป็ นต้น
ขบวนการต่อต้านรัฐบาลถนอมได้สร้างภาพลักษณ์ทีน่าเกลียดน่า
ชังให้แก่รัฐบาลจอมพลถนอม ด้วยการเรี ยกขานว่าเป็ นรั ฐบาลครอบครั ว
บ้าง รั ฐบาลทรราชบ้าง แต่ ทีติ ด ปากจนถึ งทุ ก วัน นี* คื อ “รั ฐบาลถนอม-
ประภาส” และจากจุดอ่อนทั*งภาพลักษณ์ และเนื*อหาความเป็ นเผด็จการที
ผูก ขาดทั*งอํา นาจทางเศรษฐกิ จ และอํานาจทางการเมื อ ง การทหาร
ที เตรี ย มปู ทางให้พนั เอกณรงค์ กิ ตติ ข จร ขึ* น เป็ นผูบ้ ัญชาการทหารบก
197

และเป็ นนายกฯ คนต่ อไปแต่ พ.อ.ณรงค์เป็ นคนที มีอุปนิ สัย มุทะลุ ดุด ัน
จึ งถูกเครื อข่ ายราชสํานักปล่อยข่ าวเพือเตรี ยมโค่ นล้มอํานาจว่ าพัน เอก
ณรงค์ เหิ มเกริ มคิดจะล้มล้างราชวงศ์เพือเตรี ยมตัวขึ*นเป็ นประธานาธิ บดี
และอุ ก อาจถึ งขนาดเคยชัก ปื นขึ* น ยิงในพระบรมมหาราชวัง ข่ า วลื อ
ในทางร้ายเช่นนี*เกิดขึ*นหนาหูมากขึ*นทุกวัน จนสร้างกระแสเกลียดชังใน
หมู่ประชาชนมากขึ*นเรื อยๆ
ในช่วงปี 2513 ถึง 2516 ได้เกิ ดกรณี เดิ นขบวนของนักศึกษาอยู่
เสมอ ไม่ว่าจะเป็ นปั ญหาเรื องเล็กน้อย หรื อเรื องใหญ่ เช่น การเดิ นขบวน
ต่ อต้านการทุ จ ริ ตในจุ ฬาลงกรณ์ มหาวิ ทยาลัย , การเดิ น ขบวนต่ อต้าน
สิ นค้าญีปุ่น, เดินขบวนต่ อต้านการล่าสัตว์ป่าในทุ่ งใหญ่ของ พ.อ.ณรงค์
กิ ต ติ ข จร และพรรคพวก, เดิ น ขบวนต่ อ ต้ า นการลบชื อ นั ก ศึ ก ษา
มหาวิทยาลัยรามคําแหง และเริ มเข้าสู่ ประเด็นการต่ อต้านทางการเมือง
ชัดเจนขึ*น เช่ น การเดิ นขบวนต่ อต้านการยึดอํานาจตัวเองของจอมพล
ถนอม กิตติขจร เมือ 17 พฤศจิกายน 2514 การเดินขบวนต่อต้านกฎหมาย
โบว์ด ํา ที ริ ดรอนอํา นาจศาล จนกระทัง เกิ ด การเดิ น ขบวนเรี ยกร้ อ ง
รัฐธรรมนูญจนเกิดเหตุการณ์จลาจลเมือ 14 ตุลาคม 2516
การเดิ น ขบวนของนั ก ศึ ก ษาในช่ ว งตั*งแต่ ปี 2513-2516 นี* ได้
กลายเป็ นสัญ ญาณทางสั ง คมที บ่ ง บอกให้ ร าชสํา นั ก มองเห็ น ถึง ช่ อ ง
ทางการพังทลายของ “ระบอบถนอม-ประภาส” และแล้วสัญญาณทีจะพุ่ง
198

ชนอํา นาจทหารของถนอม-ประภาสก็ ป รากฏชัด เจนขึ* น และเมื อ มี


นักศึกษาและอาจารย์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , จุฬาฯ และประชาชน
รวมตั ว กั น ลงลายมื อ ชื อ รวม 99 คน ถวายฎี ก าต่ อ กษั ต ริ ย์เ พื อ ขอ
พระราชทานรัฐธรรมนูญ (อาจารย์หลายคนในนั*น วันนี* ก็แสดงตัวชัดเจน
ว่าเป็ นเครื อข่ายราชสํานัก เช่น นายชัยอนันต์ สมุทรวานิช เป็ นต้น) และก็
นัดชุมนุ มเคลือนไหวเรี ยกร้องทีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึงมีนายสัญญา
ธรรมศัก ดิ; ผู้พิ พ ากษาผู้ใ กล้ชิ ด วัง เป็ นอธิ ก ารบดี (ซึ งช่ า งเป็ นเรื อง
พอเหมาะที ล งตั ว จริ งๆ), ได้ เ กิ ด การจั บ กุ ม ตั ว แกนนํ า ผู้เ รี ยกร้ อ ง
รัฐธรรมนูญ 13 คน จึ งเกิ ดการชุ มนุ มใหญ่ ข* ึนที ธรรมศาสตร์ และในคื น
วัน ที 13 ตุ ลาคม 2516 ขบวนนัก ศึ ก ษาที เรี ย กร้ องรั ฐธรรมนู ญ และให้
ปล่ อ ยตั ว แกน นํ า ที ถู ก จั บ ทั* ง 1 3 ค น ก็ เคลื อนข บวน ออก จา ก
มหาวิ ทยาลัยธรรมศาสตร์ ภ ายใต้การนําของนายเสกสรร ประเสริ ฐกุ ล
ผูน้ าํ นักศึกษา ซึงมีผคู้ นเต็มถนนราชดําเนิ นประมาณไม่น้อยกว่า 5 แสน
คน โดยไม่ มีใครคาดฝั น ว่ าจะมี ค นมากถึ งขนาดนี* นายเสกสรร ก็ ไ ม่
สามารถจะควบคุ มผูค้ นที มากมายขนาดนี* ได้ สุ ดท้ายนายเสกสรรจึ งนํา
ขบวนไปขอพึ งบารมี ที ว งั สวนจิ ต รลดาแน่ น ไปหมด ซึ งสถานการณ์
ทางการเมื อ งในขณะนั* นก็ ไ ด้ ป รากฏชั ด ถึ ง ความขั ด แย้ง ระหว่ า ง
ฝ่ ายรัฐบาลถนอม-ประภาส กับกษัตริ ยภ์ ูมิพลแล้ว ทุ กฝ่ ายจึ งระมัดระวัง
ตัวกันต่างคุมเชิงทางการเมืองกัน อีกทั*งก็เกิ ดความสงสัยว่านายเสกสรร
199

ประเสริ ฐกุ ล ผูน้ ํา มวลชนนั ก ศึ ก ษาในขณะนั*น และพรรคพวกเป็ น


คอมมิ ว นิ สต์ และถนอม-ประภาส ก็ เชื อว่ า มี ก ลุ่ มทหารพราน และ
ตํารวจ ตชด.ทีมีวงั หนุ นหลังอยู่เข้าแทรกแซงด้วย ดังนั*นในช่ วงเย็นของ
วันที 13 ตุลาคม 2516 รัฐบาลถนอม-ประภาส ก็ยอมปล่อยแกนนําทั*ง 13
คน และพอตกคําก็ผอ่ นปรนโดยให้คาํ มัน สัญญาว่าจะร่ างรั ฐธรรมนู ญให้
เสร็ จ ภายใน 6 เดื อน โดยแกนนําประกาศในที ชุม นุ มหน้ าวังสวนจิ ต
ผูช้ ุมนุ มต่างพอใจ และเตรี ยมการสลายตัวกลางดึ กของคื นนั*น แต่ กลัวจะ
เกิดอันตรายจึงรอให้ฟ้าสางก่อน จึงจะแยกย้ายกันกลับบ้าน พอฟ้ าเริ มสาง
ประมาณ 6 โมงเช้าของวันที 14 ตุ ลาคม 2516 ก็เกิ ดเหตุ การณ์ ไม่คาดฝั น
และยังหาคําตอบไม่ได้จนถึงปั จจุบนั นี*ว่าใครเป็ นผูอ้ อกคําสังให้ตาํ รวจที
ตรึ งฝูงชนอยูห่ น้าวังสวนจิตรลดา เป็ นผูเ้ ปิ ดศึกใช้กระบองตี นักศึกษา จน
ฝูงชนแตกฮือ และกลายเป็ นจลาจลขึ*น และมีเหตุการณ์สาํ คัญทียนื ยันได้ก็
คือนักศึกษาหน้าวังทีแตกฮือนั*น ส่ วนหนึ งกระโดดลงคูน* าํ รอบวัง และวิง
หลุดเข้าไปในรั*วสวนจิตรลดาได้รับการต้อนรับอย่างดีจากราชสํานัก และ
ในคื น ของวันที 14 ตุ ลาคม 2516 นั*น ท่ ามกลางความโกลาหล จอมพล
ถนอมได้เข้าเฝ้ าพระมหากษัตริ ย ์ และมีพระบรมราชโองการให้ออกไป

เหตุการณ์ใ นคืน วัน ที 13 ตุ ล าคม 2516 นักศึ กษาประชาชนชุ ม นุ ม อยู่หน้าวัง สวน
จิตรลดาฝังตรงข้ามสวนสัตว์ ได้ยินนายธี รยุทธ บุญมี ที เป็ นหนึ งในแกนนํา 13 คนที ถูก
ปล่อยตัวพูดผ่านเครื องกระจายเสี ยงหลังกําแพงในสวนสัตว์โดยหลงเชื อการใส่ ความของ
ฝ่ ายทหารว่า “นายเสกสรร ประเสริ ฐกุล เป็ นคอมมิวนิ สต์”
200

นอกประเทศ และรับปากว่าเหตุการณ์สงบแล้วจะให้กลับมาใหม่ จอมพล


ถนอมและจอมพลประภาสจึ งหนี อ อกนอกประเทศ แล้ว เหตุ ก ารณ์ ก็
ค่ อ ยๆ เริ ม สงบลง แต่ สิ ง ที น่ า สัง เกตและเป็ นที สงสั ย ตลอดมาในทุ ก
เหตุการณ์ความไม่สงบ เพือขับไล่รัฐบาลทีราชสํานักไม่โปรดนั*น มักจะมี
เหตุ ก ารณ์ เ หล่ า นี* เกิ ด ขึ* นซึ งจะคล้ายกับเหตุ ก ารณ์ ลม้ อํานาจรั ฐบาลที
เกิดขึ*นในภายหลังจนถึงปั จจุบนั คือ
 หลังจากถนอม-ประภาส-ณรงค์ หมดอํานาจแล้ว ก็ติดตามมา
ด้วยการยึดทรัพย์ท* งั หมดเป็ นการตัดอํานาจ
 ทําท่ าว่า จะดําเนิ น คดี กบ ั ถนอม-ประภาส-ณรงค์ กรณี สังหาร
ประชาชน แต่แล้วก็ลม้ เลิกกันไป
อดีตนายกฯ ทุ กคนที ถูกขับไล่ หรื อ ถู กยึดอํานาจ สุ ดท้ ายก็ไม่ มี
อะไร และทุกคนจะมาเข้ าเฝ้ าในพระราชพิธีสําคัญ โดยนังอยู่ในปรั มพิธี
เดียวกัน ดูคล้ ายๆ สุ สานนายกรัฐมนตรี

5.5 รู ปธรรมการกําจัดอํานาจรัฐบาลสั งคมนิยมอ่อนๆ


เมือรัฐบาลถนอม-ประภาส-ณรงค์ ถูกกําจัดอย่างสิ* นซาก ก็ถือได้
ว่าราชสํานักก็หมดเสี*ยนหนามแล้ว และรัฐบาลทีเกิดขึ*นใหม่ก็เป็ นรัฐบาล
ทีข* ึนต่อราชสํานัก คือรัฐบาลนายสัญญา ธรรมศักดิ; รัฐบาลม.ร.ว.คึกฤทธิ;
ปราโมช และรั ฐบาล ม.ร.ว.เสนี ย ์ ปราโมช ซึ งเป็ นเชื* อพระวงศ์ แต่
201

เนื องจากพลังนักศึกษาทีถกู ปลุกให้ตืนขึ*นเพือใช้เป็ นเครื องมือในการโค่น


ล้มรัฐบาลเผด็จการทหารถนอม-ประภาส-ณรงค์ ตามความต้องการของ
ราชสํานักนั*น ถือเป็ นครั*งแรกที ขบวนการนักศึกษาประชาชนผนึ กกําลัง
กัน และโค่นล้มรัฐบาลได้อย่างฉับพลันจึ งยังไม่มีใครทํานายได้ว่าพลังนี*
จะเคลื อนตัว ไปในทิ ศทางใด รวมทั*งราชสํานัก ก็ ไม่ อาจจะควบคุ มได้
ปรากฏว่าพลังนักศึกษาประชาชนได้พฒั นากลายเป็ นพลังประชาธิ ปไตย
ที ตอ้ งการสิ ทธิ เสรี ภาพ ความเสมอภาค และความเป็ นธรรมทางสังคม
โดยพลังนักศึกษาเหล่านี*ได้เกิดการจัดองค์กรมากมายหลากหลายรู ปแบบ
แต่ มีอุด มการณ์ หลัก ๆ เหมื อนกัน คื อต้องการเห็ น ความเป็ นธรรมทาง
สังคม ทุกกลุ่มมุ่งเข้าหาประชาชน มุ่งสู่ ชนบทเพือต่ อสู้เรื องสิ ทธิ ในที ทาํ
กิ น ต่ อต้านการขูด รี ดค่ าเช่ านา มุ่ งสู่ โ รงงาน สนับสนุ น การต่ อสู้ เพื อ
เรี ยกร้ องค่ าแรงที เป็ นธรรม และสิ ทธิ ก ารรวมตัว จัดตั*งองค์กรสหภาพ
แรงงาน และมุ่งสู่คนยากจนในแหล่งชุ มชนแออัดในเมือง ต่ อสู้เพือสิ ทธิ
ในที อยู่อาศัย และส่ ว นที กา้ วหน้ามากๆ ก็ เห็ น ปั ญ หาว่ าเป็ นปั ญหาเชิ ง
โครงสร้างทีเกิดจากการกดขี ขูดรี ด และหลอกลวงของสถาบันกษัตริ ย ์ จึง
เดิ นทางเข้าร่ วมกับพรรคคอมมิวนิ สต์แห่ งประเทศไทย จับอาวุธลุกขึ* น
ต่อสูเ้ พือโค่นล้มอํานาจของราชสํานักก็มี
ในสภาวการณ์ทีกระแสเรี ยกร้องความเป็ นธรรมขึ*นสู่ กระแสสู ง
จึ ง เกิ ด การตื น ตัว ทางความคิ ด เกี ย วกับ ลัทธิ สั งคมนิ ย ม ว่ า เป็ นระบบ
202

เศรษฐกิ จ ที เหมาะกับประเทศไทยเพราะมีค นยากจนอยู่มาก ควรจะนํา


ระบบเศรษฐกิจแนวสังคมนิ ยมมาใช้ในประเทศไทยเพือเฉลียสุ ขจากคน
รวยให้แก่คนจน และในทางการเมืองก็เกิดพรรคแนวนโยบายสังคมนิ ยม
ขึ*นได้แก่พรรคพลังใหม่ พรรคแนวร่ วมสังคมนิ ยม และพรรคสังคมนิ ยม
แห่ ง ประเทศไทย ซึ ง จากการเลื อ กตั*ง ตามรั ฐ ธรรมนู ญ ปี พ.ศ.2517
ประชาชนในชนบทก็ พึงพอใจนโยบายสังคมนิ ยม จึ งมี ส.ส.ของทั*ง 3
พรรคนี* เข้ามาจํานวนมาก ด้ว ยเหตุ น* ี พรรคประชาธิ ปัต ย์ซึ งเป็ นพรรค
การเมืองทีฉวยโอกาสเน้นการโหนกระแสเป็ นหลัก และขณะนั*นรั ฐบาล
ม.ร.ว.เสนี ย ์ ปราโมช ในช่ วงท้ายก่ อนเกิ ดเหตุ ก ารณ์ 6 ตุ ลาคม 2519 จึ ง
ประกาศตัวเป็ นสังคมนิ ยมอ่อนๆ จึ งทําให้ราชสํานักไม่ไว้วางใจ ยิงก่ อน
หน้ า นี* ม.ร.ว.คึ ก ฤทธิ; ก็ เ ปิ ดสั ม พั น ธ์ ท างการทู ต กั บ ประเทศจี น
คอมมิวนิ สต์ โดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ; นายกรัฐมนตรี เดินทางไปกรุ งปั กกิง จับ
มือเมาเซตุงศัตรู หมายเลข 1 ของราชวงศ์ดว้ ยแล้ว ก็ยงิ ทําให้ราชสํานักไม่
มัน ใจต่อบทบาทของพีนอ้ งสกุลปราโมช ในขณะนั*น ในสภาพการเช่ นนี*
จึงเกิดการผลักดันให้จดั ตั*งองค์กรอุดมการณ์ ขวาจัดขึ*นมามากมาย เป็ น
เครื อข่าย เพือปกป้ องราชสํานัก มีการถ่ายเทพลังสู่ บุคคลให้มีอาํ นาจเชิ ง
สัญ ลัก ษณ์ เช่ น พล.ต.สุ ด สาย เทพหัสดิน หัวหน้ากลุ่ มกระทิ งแดง ซึ ง
ส่ ว นใหญ่ เป็ นนัก เรี ย นอาชี ว ะที มีพฤติ กรรมเป็ นนัก เลงเพือเอาไว้ต่ อสู้
ทําลายองค์กรนักศึกษา พันโทอุทาน สนิทวงศ์ ณ อยุธยา หัวหน้าสถานี
203

วิทยุยานเกราะ ผูท้ าํ หน้าที ปลุกระดมทางความคิ ดโดยใช้วิทยุยานเกราะ


เป็ นกระบอกเสี ยง(คล้ายกับนายสนธิ ลิ*มทองกุล ที ใช้สถานี ASTV ปลุก
ระดมในวันนี* ) พล.ต.ต.สุ รพล จุลพราหมณ์ ผูบ้ ญ ั ชาการตํารวจตระเวน
ชายแดน ในฐานะแกนนําองค์ก รลูกเสื อชาวบ้าน ดร.วัฒนา เขี ยววิมล
แกนนํากลุ่ มนวพล และพระกิตติวุฒโท เจ้าอาวาสวัดจิ ต ภาวัน แกนนํา
กลุ่มสงฆ์ต่อต้านคอมมิวนิ สต์ และกลุ่มบุ คคลในกลุ่มอาชี พทีน่ าเชื อถื อ
คื อ นายธานิ น ทร์ กรั ย วิ เ ชี ย ร ผูพ้ ิ พ ากษาศาลฎี ก า และเป็ นอาจารย์
สอนกฎหมายพร้ อ มเครื อข่ า ย เช่ น นายดุ สิ ต ศิ ริ ว รรณ อาจารย์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนายสมัคร สุ นทรเวช ในฐานะนักการเมืองที มี
แนวความคิดขวาจัด ในขณะนั*นได้รวมศูนย์การโจมตีพรรคการเมืองแนว
สังคมนิ ยม และพรรคประชาธิ ปัต ย์ ที เป็ นรั ฐบาลโดยประกาศนโยบาย
สังคมนิ ยมอ่ อนๆ ในขณะนั*นว่ า “สั งคมนิ ยมทุ กชนิดเป็ นคอมมิวนิสต์
ทั; ง นั; น ” ทั*ง นี* เพื อ สร้ า งเอกภาพทางความคิ ด ให้ ฝ่ ายขวาจัด รั ง เกี ย จ
แนวความคิ ด ทางการเมืองทุ กชนิ ด ที จ ะมี ผลกระทบต่ ออํานาจของราช
สํานัก ดังนั*น บุ ค คลผูเ้ ป็ นแกนนําขวาจัด ที ก ล่ าวถึ งข้างต้น เหล่ านี* ก็ ไ ด้
แสดงบทบาทเป็ นกลุ่มผูม้ ีบารมีนอกรัฐธรรมนูญทีกระทําการเคลือนไหว
อยูเ่ หนื อกฎหมาย มีอาวุธติดตัว ขว้างระเบิด ยิงปื นใส่ กลุ่มนักศึกษา มีการ
ลอบฆาตกรรมผูน้ าํ ชาวนา กรรมกร และผูน้ าํ นักศึกษา รวมตลอดทั*งฆ่า
ผูน้ าํ ทางการเมือง เช่น การฆ่า ดร.บุญสนอง บุณโยทยาน เลขาธิการพรรค
204

สังคมนิ ยมแห่ งประเทศไทย โดยไม่มีการดําเนิ นคดี ใดๆ กับผูก้ ระทําผิด


(คล้ายกับเหตุ ก ารณ์ ทีรั ฐบาลพรรคประชาธิ ปัต ย์ไม่ ด าํ เนิ น คดี ก ับกลุ่ ม
พันธมิตรฯ ในขณะนี*) รวมตลอดทั*งพระกิ ตติ วุฒโฑ ที กล่าวถ้อยคําอย่าง
ผิดพระวินัยอย่างชัดเจนว่า “ฆ่ าคอมมิวนิสต์ ไม่ บาปคล้ ายกับฆ่ าปลาทํ า
แกงไปถวายพระ”(คล้ายกับพระโพธิรักษ์แห่ งสันติอโศกทีเป็ นแกนนําขึ*น
เวทีปราศรัยการชุ มนุ มของพันธมิตรฯ) ก็ไม่ถูกดําเนิ นการทางวินัยสงฆ์
และทางกฎหมาย การเคลือนไหวของกลุ่มขวาจัดต่างๆ เหล่านี* บ่อยครั* งที
องค์พระมหากษัตริ ยล์ งไปร่ วมงานด้วย เช่ นการไปมอบธงเมือเสร็ จการ
อบรมลูกเสื อชาวบ้าน การไปทําบุ ญที วดั จิ ตตภาวัน เป็ นต้น(คล้ายกับที
สมเด็จพระราชิ นี ไปร่ วมงานกับพัน ธมิตรฯ โดยไปเป็ นประธานเผาศพ
น.ส.อังคณา หรื อน้องโบ) แล้ว ในที สุด ก็ ถึงเหตุ ก ารณ์ สํา คัญ คื อ การ
กลับมาของจอมพลถนอมตามคําสัญญาจากราชสํานัก โดยจอมพลถนอม
ได้บวชเป็ นเณรเข้ามาในประเทศไทย และหลัก ฐานที น่าเชื อถือว่ าราช
สํานักมีส่วนเกี ยวข้องโดยตรงก็คือพระที เป็ นอุปัฌชาโดยเดิ นทางไปรั บ
ถึงสนามบินดอนเมืองในขณะนั*น คือพระญาณสังวร จากวัดบวร ซึ งเป็ น
พระทีมีความใกล้ชิดกับพระเจ้าอยูห่ วั ภูมิพลอย่างยิง (ในอดีตก่อนหน้านั*น
เป็ นพระพี เลี*ย งของพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลขณะทรงผนวชที ว ดั บวร และ
หลังจากนั*น ก็เกิ ด เหตุ ก ารณ์ 6 ตุ ลาคม 2519 และอี ก ไม่ นานพระญาณ
สังวรก็ได้รับสถาปนาให้เป็ นสมเด็จพระสังฆราช)
205

การกลับมาของเณรถนอม และการจัดพิธีกรรมการบวชพระให้
เป็ นที เ รี ยบร้ อ ยได้ก ลายเป็ นชนวนระเบิ ด ก่ อ ให้ เ กิ ด การเปลี ย นทาง
การเมื องครั* งสําคัญ ที เป็ นรอยด่ างทางประวัติ ศาสตร์ ชาติ ไทยที เลวร้ าย
ทีสุด คือเหตุการณ์สงั หารหมู่นิสิตนักศึกษากลางเมืองที เรี ยกปากต่ อปาก
ว่า “เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519” ซึงน่ าเชือว่าเป็ นการเตรี ยมการสังหารหมู่
มากกว่าอุบตั ิเหตุทางการเมือง ด้วยเหตุผล 3 ประการคือ
1.ขณะนั* น สถานการณ์ มี ค วามวุ่ น วายทางการเมื อ งจากการ
ประท้วงเรี ยกร้องทางเศรษฐกิจของกรรมกร และชาวนา เนื องจากชี วิตที
ทุ ก ข์ ย ากของพวกเขาท่ า มกลางกลิ น ไอสงครามประชาชนจากการ
เคลือนไหวปฏิวตั ิดว้ ยกําลังอาวุธของพรรคคอมมิวนิ สต์ในชนบทที ชูธง
การปฏิวตั ิ ทีดินโดยจะยึดที ดินของกษัตริ ย ์ และเจ้าที ดินทั*งหลายมาแบ่ ง
ให้แก่ชาวนาผูย้ ากไร้ท* งั หมด และสถานการณ์ ในเมืองที มีการปลุกระดม
องค์กรมวลชนฝ่ ายขวา โดยสร้างกระแสขวาพิฆาตซ้าย โดยมีสถานี วิทยุ
ยานเกราะโดย พท.อุ ทาน สนิ ทวงศ์ ณ อยุธยา เป็ นแกนนํา ปลุ กใจให้
ประชาชนที มี แ นวคิ ด อนุ รั ก ษ์ นิ ย มรวมพลัง ออกมาปกป้ องสถาบัน
พระมหากษัตริ ย ์ โดยพุ่งเป้ าไปทีนิสิต นักศึกษา โดยกล่าวหาว่าเป็ นพวก
คอมมิวนิ สต์และตรี ยมการกวาดล้างนิ สิต นักศึกษาครั*งใหญ่ (ซึงคล้ายกับ
เหตุ การณ์ ปัจจุ บนั ในปี 2549-2552 ที สถานี โทรทัศน์ ASTV ทําหน้าที
เหมือนวิทยุยานเกราะ และนายสนธิ ลิ*มทองกุล ทําหน้าที คล้ายกับ พท.
206

อุ ท านฯ) และเกิ ด การลอบฆาตกรรมผู้น ํ า นั ก ศึ ก ษา เช่ น ในเดื อ น


กุมภาพันธ์ 2519 เกิดการลอบสังหารนายปรี ดี จินดานนท์ และนายอมเรศ
ไชยสะอาด ผูน้ าํ นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิ ดล, 28 กุมภาพันธ์ 2519 ลอบ
สังหารนายบุ ญสนอง บุ ญ โยทยาน เลขาธิ การพรรคสังคมนิ ยม และเกิ ด
การขว้างระเบิ ดเข้าไปในการชุ มนุ มขับไล่ฐานทัพอเมริ กาหน้าโรงหนัง
สยาม เมือ 21 มีนาคม 2519 มีคนเสี ยชีวิต 4 คน เป็ นต้น
2.หลังจากถูกขับออกนอกประเทศเมือ 14 ตุลาคม 2516 แล้วการ
กลับมาของจอมพลถนอม เป็ นความพยายามที แสดงออกมาหลายครั* ง
และทุกครั*งทีเหยียบแผ่นดิ น นิ สิต นักศึกษาก็จะประท้วงรุ นแรงทุ กครั* ง
ด้วยเคี ยดแค้น ที รัฐบาลถนอม-ประภาส สังฆ่านักศึ กษา ประชาชน เมื อ
เหตุ การณ์ นองเลือด 14 ตุ ลาคม และรั ฐบาลประชาธิ ปัตย์ในขณะนั*นไม่
ยอมดําเนิ น คดี กบั ฆาตกร ดังนั*นการกลับมาครั* งล่าสุ ดด้วยการบวชเณร
และบวชพระโดยพระญาณสังวร(สังฆราชองค์ปัจจุ บัน) ผูใ้ กล้ชิด พระ
เจ้าอยูห่ วั ภูมิพลดําเนิ นการจึงเป็ นการสร้างความชอบธรรมเชิ งสัญลักษณ์
ว่าราชสํานักได้เห็ นชอบแล้วและเพือเรี ยกร้ องความเห็ นใจว่าสังคมควร
ยินยอมเพราะ จอมพลถนอมยอมแล้วด้วยการห่ มผ้าเหลืองเพือชี*ให้เห็นว่า
นิ สิต นักศึกษา เป็ นฝ่ ายทีไม่มีศาสนา และต่อต้านสถาบันกษัตริ ยห์ มายถึง
พวกคอมมิวนิ สต์ตามทีรัฐเผด็จการในขณะนั*นได้สร้างภาพไว้
207

3.รู้ท* งั รู้ว่าเมือจอมพลถนอมกลับมาต้องเกิดเรื องแน่ แต่ ราชสํานัก


ก็ยงั ยอมเพราะหากไม่ยอมถนอมก็จะกลับเข้ามาไม่ได้ จึ งเป็ นเรื องเจตนา
ที ประสงค์ ต่ อ ผล(เปรี ยบเที ย บกับปั จ จุ บัน นี* เมื อราชสํา นัก ไม่ ยิน ยอม
ทักษิณก็กลับเข้าประเทศไม่ได้)
แล้ว ทุ ก อย่างก็ เป็ นไปตามความคาดหมาย เมือนิ สิต นักศึก ษา
รวมตั ว ประท้ ว งใหญ่ ที ม หาวิ ท ยาลั ย ธรรมศาสตร์ พร้ อ มทั* งเกิ ด
จุ ด ปะ ทุ ที อยู่ ๆ ระ ห ว่ า งก า รชุ มนุ มก็ ที มี ภ าพ ก าร เล่ น ละ คร ใน
มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ทีแสดงภาพเลียนแบบการแขวนคอกรรมกร
2 คนทีร่วมการประท้วงขับไล่การกลับมาของจอมพลถนอมที นครปฐม
แต่ หน้า ตัว แสดงคนหนึ งกลับกลายไปมี หน้าคล้ายพระพัก ตร์ ข องเจ้า
ฟ้ าชายโดยหนังสื อดาวสยาม ซึงเป็ นหนังสื อพิมพ์แนวขวาจัดในขณะนั*น
เป็ นผูต้ ี พิมพ์เป็ นฉบับแรก และในภาวะชุ ลมุนนั*นความเข้าใจผิด ความ
เกลียดชัง ก็ขยายตัวทียากจะควบคุมแล้วก็เกิดเงือนไขการฉวยโอกาสของ
กลุ่มการเมืองขวาจัด กลุ่ มต่ างๆ ที สร้ างเครื อข่ ายไว้แต่ เดิ มแล้ว ก็ได้จุ ด
กระแสร่ วมมือกันโดยสร้ างเอกภาพทางความคิ ดผ่านศูนย์กลางที สถานี
วิ ทยุ ย านเกราะ โดยปลุ ก ระดมให้อ งค์ ก รขวาจัด และมวลชนลูก เสื อ
ชาวบ้าน ออกมาปกป้ องราชบัล ลังก์ โ ดยล้อ มปราบ เข่ น ฆ่ า นัก ศึ ก ษา
ประชาชนที ชุ ม นุ ม กัน อยู่ใ นมหาวิ ท ยาลัย ธรรมศาสตร์ อ ย่ า งบ้า คลัง
และในขณะเดี ย วกั น นายสมัค ร สุ นทรเวช ก็ ป่ าวประกาศว่ า ใน
208

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีอุโมงค์สะสมอาวุธ และมีพวกเวียตนามร่ วม


ชุมนุ มประท้วงด้วย และนอกจากกล่าวหานักศึกษาเป็ นคอมมิวนิ สต์แล้ว
นายป๋ วย อึ*งภากรณ์ อธิ การบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (เป็ นอธิ การบดี
ต่อจากนายสัญญา ธรรมศักดิ; ซึงได้รับโปรดเกล้าเป็ นนายกรั ฐมนตรี หลัง
เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516) ซึงเคยเป็ นอดีตเสรี ไทย และเป็ นข้าราชการที
ซื อสัตย์สุจริ ต ก็ถูก กล่ าวหาว่ าเป็ นคอมมิ ว นิ สต์ด ้วยเช่น กัน เหตุ ก ารณ์
ทั*งหมดนี*เชือว่าเป็ นการทํางานของเครื อข่ายราชสํานักทั*งสิ*น
ภาพเหตุการณ์ ฆาตกรรมกลางสนามหลวงด้วยการจับนักศึกษา
แขวนคอ จับ เผาทั*ง เป็ นด้ว ยยางรถยนต์ นัก ศึ ก ษาถูก ยิง ถูก แทงอย่า ง
สยดสยอง นั ก ศึ ก ษาหญิ ง ที เ สี ย ชี วิ ต ถู ก เอาไม้ต ํา ที ช่ อ งคลอดดู น่ า
อเนจอนาถ ด้วยฝูงชนฝ่ ายขวาเชือว่าเป็ นการกระทําเพือรั กษาราชบัลลังก์
เมือ 6 ตุลาคม 19 ได้กลายเป็ นคราบเลือดทางประวัติศาสตร์ ทีไม่อาจลบ
เลือนได้
ในตอนคําของวันที 6 ตุลาคม 2519 ก็เกิดการยึดอํานาจล้มรัฐบาล
นโยบายสังคมนิ ยมอ่อนๆ ของพรรคประชาธิ ปัตย์ และกวาดล้างพรรค
การเมื องแนวคิ ด สังคมนิ ยมทั*งหมด โดยมีพลเรื อเอกสงัด ชลออยู่ เป็ น
ผูน้ าํ การยึดอํานาจ และมีพลเอกเกรี ยงศักดิ; ชมะนันท์ เป็ นเลขาธิ การของ
คณะผูย้ ดึ อํานาจในนามคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินโดยการเห็ นชอบ
อย่างวางเฉยทางการเมืองจากกษัตริ ยภ์ ูมิพลเช่นเคยแต่ก็ปรากฏว่าบุ คคลผู้
209

ใกล้ชิดราชสํานัก คื อนายธานิ น ทร์ กรั ยวิ เชี ย รได้รับโปรดเกล้าขึ*น เป็ น


นายกรัฐมนตรี (ปั จจุ บนั เป็ นองคมนตรี ) และในวันรุ่ งขึ*นราชสํานักก็ส่ง
พระบรมวงศานุ วงศ์ไปเยียมเจ้าหน้าที และพวกลูกเสื อชาวบ้านที ได้รั บ
บาดเจ็บจากการไปล้อมปราบทําร้ายนักศึกษาทีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ส่ วนนิ สิต นักศึกษาและประชาชนที บาดเจ็บล้มตาย ไม่เพียงแต่ ไม่ได้รับ
การเหลียวแลเลย แล้วยังไม่มีการดําเนิ นการใดๆ กับฆาตกรทีเข่นฆ่านิ สิต
นักศึกษาประชาชน อีกด้วย
การขึ*นดํารงตําแหน่ งนายกรัฐมนตรี ของนายธานิ นทร์ กรัยวิเชียร
นั*น นายบุญชนะ อัตถากร นักการเมืองอาวุโสในยุคนั*นได้ยืนยันว่าเป็ น
การชี*แนะมาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั 
เหตุ ก ารณ์ โ หดร้ า ยในวัน ที 6 ตุ ล าคม 2519 พร้ อ มกับ การล้ ม
รัฐบาล มรว.เสนีย์ ปราโมช และการเกิดรั ฐบาลนายธานินทร์ กรั ยวิเชี ยร
ประเภทม้ วนเดียวจบเช่ นนี; ปฏิเสธไม่ได้ ว่าเป็ นการกระทําของเครื อข่ าย
ราชสํ านักอย่ างแน่ นอน


บุ ญ ชนะ อั ต ถากร 2526, บั น ทึ ก วิ เ คราะห์ วิ จ ารณ์ 16 นายกรั ฐ มนตรี ไทย
(กรุ งเทพฯ: มูลนิธิศาสตราจารย์บุญชนะ อัตถากร เพือการศึกษาและวิจยั )
210

5.6 รู ปธรรมการกําจัดอํานาจรัฐบาล พล.อ.เกรียงศักดิN


เมือรั ฐบาลนายธานิ นทร์ กรั ยวิเชี ยร ได้รับการแต่ งตั*งแล้วก็รับ
สนองแนวคิ ด ของราชสํานัก อย่างชัด เจน โดยทําการกวาดล้างแนวคิ ด
สังคมนิ ยมทั*งหมดตามคํากล่าวหาของฝ่ ายขวาที ว่า “สังคมนิ ยมทุ กชนิ ด
เป็ นคอมมิว นิ สต์ท* งั นั*น ” โดยออกกวาดจับนัก ศึก ษา ประชาชนทุ ก คน
โดยเข้าตรวจค้น ทุ ก บ้านที มีห นังสื อแนวคิ ด สั งคมนิ ย ม ซึ งขณะนั*น มี
วางขายเกลือนกลาดทัว ไป เป็ นผลทําให้เกิดความหวาดกลัว ประเทศไทย
กลายเป็ นอาณาจักรแห่ งความหวาดกลัว โดยนายกรั ฐมนตรี ธานิ นทร์
กรัยวิเชียร ไม่แสดงความสะทกสะท้านแต่ อย่างใดต่ อสายตาชาวโลกเลย
แถมยังประกาศด้วยว่าจะใช้เวลาครองอํานาจ 12 ปี เพืออบรมให้เยาวชนมี
ความเข้าใจต่ อระบอบประชาธิ ปไตยอัน มีพระมหากษัตริ ยเ์ ป็ นประมุ ข
โดยเยาวชนจะต้องรู้จกั หน้าทีและรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริ ย ์ ซึงเป็ น
การสร้างประชาธิ ปไตยใหม่ในแนวทางของเขา ซึ งน่ าเชื อว่าเป็ นการรั บ
แนวคิ ดมาจากราชสํานัก และจากนโยบายขวาจัด ปราบปรามนักศึกษา
ประชาชน ทีมีแนวคิดต่างจากรัฐบาลเช่นนี* ทําให้มีผคู้ นหวาดกลัวหนี ตาย
ไปเข้าร่ วมกับกองกําลังของพรรคคอมมิวนิ สต์แห่ งประเทศไทยในป่ าเขา
ทีมีอยูท่ ุกภาคของประเทศไทยเต็มไปหมด
ในขณะนั*นทําให้กองทัพที ติดอาวุธของพรรคคอมมิวนิ สต์แห่ ง
ประเทศไทยเติบใหญ่ข* ึนทันที เมือรัฐบาลของนายธานิ นทร์ ได้แสดงฤทธิ;
211

เดชไปสักระยะหนึ งประมาณ 12 เดือน เท่านั*น ก็มีนายทหารกลุ่มหนึ งไม่


เห็ นด้วยกับแนวนโยบายของรั ฐบาลนายธานิ น ทร์ นําโดยพล.ร.อ.สงัด
ชะลออยู่(หัวหน้าคณะปฏิรู ปเจ้าเก่ า) และพลเอกเกรี ยงศัก ดิ; ชมะนัน ท์
ผูบ้ ญ
ั ชาการทหารสู งสุ ด ซึ งเป็ นเลขาธิ การคณะผูย้ ึดอํานาจอยู่เดิ ม โดย
ร่ วมกับกลุ่มนายทหารยังเตอร์ ก ซึงเป็ นผูป้ ฏิบตั ิการคุมกําลัง ซึงส่ วนใหญ่
เป็ นเตรี ยมทหารรุ่ น 7 เป็ นฐานกําลังให้แก่ พลเอกเกรี ยงศัก ดิ; ก็ เข้ายึ ด
อํานาจอีกครั*งหนึ งโดยล้มรัฐบาลนายธานิ นทร์ กรัยวิเชียร เมือ 20 ตุ ลาคม
2520 โดยให้เหตุผลว่า “นโยบายพัฒนาประชาธิปไตย 12 ปี นั;น เป็ นเวลา
ทีนานเกินความจําเป็ น และไม่ สอดคล้ องกับความต้ องการของประชาชน
คณะทหารตํารวจ และพลเรื อ นเห็นสมควรให้ ปรั บ ปรุ งระยะเวลาทีจะ
พัฒนาประชาธิปไตยเสี ยใหม่ คือกําหนดเป้าหมายให้ มกี ารเลือกตั;งทัวไป
ในปี 2521” การกระทํา ของคณะทหารที ล ้ม แผนการวางรากฐาน
ประชาธิปไตยทีให้เยาวชนเกิดความรั กชาติ ศาสน์ กษัตริ ย ์ ตามแนวทาง
ของราชสํานักนี* ทาํ ให้เกิ ดความไม่ พอใจของราชสํานัก กล่าวคื อทันที ที
นายธานิ นทร์ หลุดจากนายกรัฐมนตรี ดว้ ยการยึดอํานาจนี*กษัตริ ยภ์ ูมิพลก็
แต่งตั*งให้นายธานิ นทร์ ข* ึนเป็ นองคมนตรี นบั แต่น* นั มาจนถึงปั จจุบนั นี*


ผศ.ดร.สุ ธ าชัย ยิ*มประเสริ ฐ, สายธารประวัติ ศาสตร์ ประชาธิ ปไตย หน้า 177
(กทม: บริ ษทั พี.เพรส จํากัด)
212

รัฐบาลพลเอกเกรี ยงศักดิ;ได้ข* ึนเป็ นนายกรั ฐมนตรี จากการเลือก


ของสภานโยบายทีพลเอกเกรี ยงศักดิ;แต่ งตั*งขึ*นเมือวันที 11 พฤศจิ กายน
2520 ซึ งต้องใช้เวลาหลังการยึด อํานาจถึง 21 วัน ทําให้เป็ นที น่าสังเกต
มากว่าเกิดการต่อรองกันภายใน อันเป็ นผลมาจากความไม่พอใจของราช
สํานัก และเมือขึ* นบริ หาร พลเอกเกรี ยงศักดิ; ได้หักล้างแนวคิ ด ของราช
สํานักทั*งหมดด้วยการกระชับความสัมพันธ์กบั รั ฐบาลจี นคอมมิวนิ สต์ที
รัฐบาล ม.ร.ว.คึ กฤทธิ; ปูทางไว้ก่อนหน้านี* โดยต้อนรั บการมาเยือนของ
รองนายกฯ เติ*งเสี ยวผิงเมือ 5 พฤศจิกายน 2521 และเปิ ดสัมพันธ์ทางการ
ทูตกับรั ฐบาลคอมมิวนิ สต์เวี ยตนาม โดยเชิ ญนายกรั ฐมนตรี ฟ่ามวันดง
ซึ งเป็ นคอมมิว นิ สต์ต ัวฉกาจในสายตาราชสํานัก มาเยียมเมื องไทยเมื อ
6 กั น ยายน 2521 พร้ อ มทั* ง ออกประกาศนิ ร โทษกรรมให้ แ ก่ นิ สิ ต
นักศึกษา ทีหนี เข้าไปร่ วมปฏิวตั ิ กบั พรรคคอมมิวนิ สต์แห่ งประเทศไทย
เมือ 16 กันยายน 2521 และให้มีโครงการ “คื นสู่ เหย้า” หรื อ “กลับคืนสู่
ห้ องเรียน” ก็ได้มีนักศึกษาจํานวนหนึ งกลับคื นสู่ เมือง โดยกลับมาเรี ยน
หนังสื อต่อในมหาวิทยาลัย โดยพลเอกเกรี ยงศักดิ; ได้จดั เลี*ยงอาหารให้แก่
ผูน้ ํานัก ศึ กษาชุ ด แรกโดยถ่ ายภาพร่ ว มกัน ตี พิมพ์ในหน้าหนังสื อพิ มพ์
เกือบทุกฉบับ
213

จากนโยบายที ก ลับ หลัง หั น ของรั ฐ บาลพลเอกเกรี ยงศัก ดิ;


ชมะนันท์ เช่นนี* ดูจะไม่ได้รับความพึงพอใจจากราชสํานักอย่างมาก และ
แล้วเครื อข่ายราชสํานักก็เริ มทํางานอีก โดยเกิดกระแสข่าวลือทัว ไปว่า
“พลเอกเกรียงศักดิNไม่ เคารพในหลวง”
“พลเอกเกรียงศักดิNชอบเมาเหล้ าเข้ าเฝ้ าในหลวง”
เนื องจากพลเอกเกรี ยงศักดิ; เป็ นคนชอบดืมบรันดี เป็ นชี วิตจิ ตใจ
และชอบทํากับข้าว และบ่ อยครั*งสื อมวลชนก็จะลงภาพการทํากับข้าวที
พลเอกเกรี ยงศักดิ;เวลาออกหาเสี ยงทางการเมืองโดย แสดงฝี มือทํากับข้าว
เลี*ยงประชาชน และเลี*ยงแขกทัว ไป ด้วยภาพการเทบรันดี ลงในกระทะ
ขณะกําลังปรุ งอาหาร, กับข้าวที ข* ึ น ชื อของพลเอกเกรี ย งศัก ดิ; คื อแกง
เขี ย วหวานใส่ บ รั น ดี และในวัน ที 5 ธัน วาคม อัน เป็ นวัน เฉลิ ม พระ
ชนมพรรษา ซึงเป็ นวันสําคัญทีนายกรัฐมนตรี ทุกคนจะต้องเป็ นผูน้ าํ ถวาย
พระพรพระมหากษัตริ ยท์ ี กลางท้องสนามหลวง ปรากฏว่าพลเอกเกรี ยง
ศัก ดิ; ก็ น ําถวายพระพรแตกต่ างจากอดี ต นายกฯ ทุ ก คน คื อจะถื อแก้ว
บรันดีดืมถวายพระพร ดังนั*นข่าวลือจากเครื อข่ายราชสํานักที ว่า “พลเอก
เกรี ยงศักดิ; ไม่เคารพในหลวง ชอบเมาเหล้าเข้าเฝ้ า” ก็เป็ นเรื องจริ งจังมี
เหตุผล
ในที สุ ด จุ ด จบของพลเอกเกรี ยงศัก ดิ; ก็ ม าถึ งในลัก ษณะที ทุ ก
รัฐบาลจะต้องพบก็คือข้อจํากัดของทุ กรั ฐบาลในการบริ หารประเทศคื อ
214

ปั ญหาความขัดแย้งของกลุ่มผลประโยชน์ตามที ได้กล่าวข้างต้น แต่ หาก


ราชสํานักยังหนุ นหลังอยูก่ ็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ กรณี น* ี ดูเหมือนว่าราช
สํานักไม่เป็ นที พึงพอใจเสี ยแล้ว ในที สุดรั ฐบาลพลเอกเกรี ยงศักดิ;ก็เดิ น
เข้ากับดัก ของวิก ฤตเศรษฐกิ จ, โดยรั ฐบาลได้อนุ มตั ิ ให้ข* ึ นราคานํ*ามัน
(ขณะนั*น รั ฐบาลเป็ นผูค้ วบคุ มราคานํ*ามัน ราคาไม่ ได้ลอยตัวอย่างเช่ น
ปั จจุบนั ) ทําให้ขา้ วของขึ*นราคา และรถเมล์ข* ึนราคาตัว‚ อีก 50 สตางค์ จึ ง
เกิดการกดดันนอกสภาโดยเกิ ดการเดิ นขบวนประท้วงการขึ*นค่ ารถเมล์
โดยการนําของนายไพศาล ธวัชชัยนันท์ ผูน้ าํ สหภาพแรงงานการไฟฟ้ า
นครหลวง จากสนามหลวงไปยังสภาผูแ้ ทนราษฎร ประสานกับพรรค
การเมืองฝ่ ายค้านโดยพรรคประชาธิ ปัต ย์เป็ นแกนนํา เปิ ดอภิ ปรายไม่
ไว้วางใจ และที สาํ คัญที สุดก็คือ กลุ่มทหารยังเตอร์ กที เคยเป็ นฐานกําลัง
ให้แก่พลเอกเกรี ยงศักดิ;ก็ได้แปรภักดิ;มาหนุ นพลเอกเปรม ติ ณสู ลานนท์
นายทหารที ใ กล้ชิ ด กับ ราชสํ า นั ก ซึ ง ขณะนั*น มี ต ํา แหน่ ง ร่ วมอยู่ใ น
คณะรัฐมนตรี ดว้ ย
จากแรงกดดั น สามประสานก็ เ ป็ นสั ญ ญาณที ท ํา ให้ พ ลเอก
เกรี ยงศัก ดิ; รู้ ช ะตากรรมของตนดี จึ ง ประกาศลาออกกลางสภาเมื อ
29 กุ ม ภาพั น ธ์ 2523 เปิ ดทางให้ แ ก่ พ ลเอกเปรม ก้ า วขึ* นมาเป็ น
นายกรัฐมนตรี คนที 16 โดยมีพรรคประชาธิปัตย์เป็ นฐานการเมือง ตั*งแต่
215

วัน ที 3 มี น าคม 2533 และความผูก พัน ระหว่ างพลเอกเปรมกับพรรค


ประชาธิปัตย์ ยังแนบแน่ นมานับแต่น* นั จนถึงบัดนี*
เป็ นเรื องน่ าอายของประวัติศาสตร์ การเมืองไทยที พิกลพิการอีก
เรื องหนึ งคื อนายกฯ ของไทยต้องหลุดจากตําแหน่ งเพราะตัว‚ รถเมล์ข* ึ น
ราคา 50 สตางค์
อะไรก็เกิดขึน; ได้ ภายใต้ ร่มพระบารมี

5.7 รู ปธรรมการกําจัดอํานาจรัฐบาลพลเอกเปรม
รัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็ นอีกประจักษ์พยานหนึ งว่า
แม้จ ะมี ความใกล้ชิด ราชสํานักอย่างไรก็ต าม หากนายกฯ ผูน้ * ัน มีค วาม
มัน คงในอํานาจของรั ฐบาล และได้รับความนิ ยมชมชอบจากประชาชน
มาก ก็ จ ะต้ อ งมี อ ัน เป็ นไปด้ว ยข่ า วลื อ ที ไ ม่ เ ป็ นมงคลว่ า “เป็ นผู้ไ ม่
จงรักภักดี” ด้วยผลงานแห่ ง “เครื อข่ายราชสํานัก” ทุกครั*งไป
ในช่ วงแรกของรั ฐบาลพลเอกเปรม ได้แสดงบทบาทที ร าชสํานัก
ชื น ชมคื อ การดับ ไฟสงครามคอมมิ ว นิ ส ต์ ที เ ป็ นอัน ตรายกับ วัง ด้ว ย
นโยบายปราบปรามคอมมิ ว นิ สต์ต ามแนวคิ ดใหม่ ได้ประสบผลสําเร็ จ
โดยมี น ายทหารคู่ ใ จคื อ พลเอกชวลิ ต ยงใจยุท ธ เป็ นแกนนํา คื อ ใช้
นโยบาย “การเมืองนําการทหาร” หรื อที เรี ยกสั*นๆ ว่านโยบาย 66/23แต่
หากพิจารณาจากข้อเท็จจริ งแล้ว น่ าจะเป็ นความโชคดี ของพลเอกเปรม
216

มากกว่าความมีฝีมือในการปราบพรรคคอมมิวนิ สต์แห่ งประเทศไทยได้


สําเร็ จตามนโยบาย 66/23 เพราะขณะนั*นเกิ ดความแตกแยกภายในโลก
คอมมิวนิ สต์อย่างรุ นแรง โดยพลเอกเปรมได้ฉวยโอกาสเปิ ดให้ชาวพรรค
คอมมิ ว นิ ส ต์ ไ ทยในป่ าที อ่ อ นล้า ทางอุ ด มการณ์ เ ข้า มอบตัว ในฐานะ
“ผูร้ ่ วมพัฒนาชาติไทย” แต่นโยบายต่อคอมมิวนิ สต์ต่างประเทศ รัฐบาล
พลเอกเปรมยังแข็งกร้ าวจากพื*น ฐานความเชื อเดิ มว่าเวีย ตนามคื อศัต รู
สําคัญ ทีจะรุ กรานไทยตามทฤษฎีโดมิโนของสหรัฐอเมริ กาที ว่า เมือไทย
เป็ นคอมมิวนิ สต์ทุกประเทศทีเป็ นประชาธิปไตยในเอเชียตะวันออกเฉี ยง
ใต้จะเปลียนแปลงเป็ นคอมมิวนิ สต์หมด ด้วยเหตุน* ีรัฐบาลพลเอกเปรมจึ ง
กลับหลังหัน ต่ างจากรั ฐบาลพลเอกเกรี ย งศัก ดิ; โดยสิ* น เชิ ง โดยรั บใช้
แนวคิดของราชสํานักอย่างเต็มที กล่าวคื อเมือพรรคคอมมิวนิ สต์จีนแตก
กับพรรคคอมมิวนิ สต์เวียตนามซึ งมีความใกล้ชิดกับคอมมิวนิ สต์รัสเซี ย
และกองทัพเวียตนามได้บุกเข้าไปล้มรัฐบาลคอมมิวนิ สต์ในกัมพูชา ซึ งมี
ความใกล้ชิ ด กับ จี น เมื อ มกราคม 2522 ทํา ให้ จี น ไม่ พ อใจ จี น จึ ง ทํา


ปัจจุบนั พลเอกเปรมก็ยงั เป็ นผูค้ วบคุมนโยบายการปราบปรามขบวนการโจรก่อ
การร้ายมุสลิมใน 3 จังหวัดภาคใต้ดว้ ยสารพัดนโยบาย ก็ยงั ไม่ประสบความสําเร็ จ
จึงเป็ นการยืนยันว่าการยุติสงครามของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยด้านหลัก
เกิด จากปั ญหาภายในของพรรคคอมมิว นิ ส ต์เองมากกว่ าเกิ ดจากฝี มื อของพลเอก
เปรม
217

สงครามสัง สอนเวียตนรามโดยยกกําลังทหารบุ กข้ามพรมแดนเวียตนาม


ตอนเหนื อเข้ามาทําลายฐานกําลังเวียตนามเหนื อสมใจ แล้วก็ยกกําลังกลับ
ซึงทําความเสี ยหายให้แก่เวียตนามมากซึงก็เป็ นทีพอใจของไทยด้วยเกรง
ว่ า กองทั พ เวี ย ตนามจะรุ กคื บ เข้ า สู่ ประเทศไทย ดั ง นั* นนโยบาย
ต่ างประเทศของไทยจึ งจับมื อทอดสะพานกับฝ่ ายจี น ที หัน มากระชับ
ความสัมพันธ์กบั สหรัฐอเมริ กา โดยเปิ ดทางให้จีนขนอาวุธเข้ามาไทยเพือ
สนับสนุ น เขมรแดง ภายใต้ก ารนําของพอลพตที ทาํ สงครามต่ อต้า น
เวียตนาม มีฐานที มนั อยู่ตามแนวตะเข็บชายแดนไทยกับกัมพูชาเพือกัน
กองกําลังเวียตนามที เชื อว่าจะบุ กเข้ามาประเทศไทยในขณะนั*น เป็ นผล
ให้ประเทศไทยกับเวียตนามเผชิญหน้าเป็ นศัตรู กนั
เมือพลเอกเปรมบริ หารประเทศไปได้สักระยะหนึ งก็เกิ ดข้อจํากัด
อันเป็ นปกติของรัฐบาลในประเทศด้อยพัฒนาคือเกิดวิกฤตเศรษฐกิ จและ
วิกฤตภายในกลุ่มทหารโดยเฉพาะทหารยังเตอร์ กที เป็ นฐานกําลังให้แก่
พลเอกเปรม แต่ เกิ ดความไม่ พอใจในการแบ่ งผลประโยชน์ โดยมีพอ.
มนูญ รู ปขจร, พอ.ประจักษ์ สว่างจิต และพอ.พัลลภ ปิ นมณี เป็ นแกนนํา
ทําให้กลุ่มยังเตอร์ กแตกเป็ นสองฝ่ าย, ฝ่ ายหนึ งมีพอ.พัลลภ ปิ นมณี , พอ.
มนูญ รู ปขจร และพอ.ประจักษ์ สว่างจิ ต เป็ นแกนนํา และอีกฝ่ ายหนึ งยัง
สวามิภกั ดิ;กบั พลเอกเปรมอยู่ โดยมีพล.ต.จําลอง ศรี เมือง เป็ นแกนนําแต่
เป็ นกลุ่มข้างน้อย จึงเกิดการรัฐประหารโดยทหารยังเติร์กลูกป๋ าหลายครั*ง
218

แต่ ไม่ สําเร็ จ ถึ งขนาดเกิ ด การลอบสังหารพลเอกเปรมที ลพบุ รี และมี


เหตุการณ์เตรี ยมการลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระนางเจ้าฯ โดยเป็ นคดี
ออกหมายจับ พอ.มนู ญ รู ปขจร ในขณะนั* นด้ว ย วิ ก ฤตเศรษฐกิ จ ที
กระหนํารัฐบาลพลเอกเปรมอย่างรุ นแรงที สุด คื อวิกฤตค่ าเงิ นบาท ที ทาํ
ให้ รั ฐ บาลพลเอกเปรมต้อ งประกาศลดค่ า เงิ น บาทจาก 23บาท ต่ อ 1
ดอลล่ าร์ มาเป็ น 27 บาท ต่ อ 1 ดอลล่ าร์ เมื อ 5 พฤศจิ ก ายน 2527 และ
เปลียนระบบค่ าเงิ นจากเดิ มไทยใช้ระบบอิ งค่ าเงิ นดอลล่ าร์ เป็ นหลัก มา
เป็ นระบบตะกร้าเงิน โดยอิงเงินจากหลายสกุล แต่แม้รัฐบาลพลเอกเปรม
จะพบกับมรสุ มอย่างไร แม้ในสภาก็ปั นป่ วน ถูกฝ่ ายค้านฝี ปากกล้าอย่าง
นายสมัคร สุ นทรเวช และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บาํ รุ ง โจมตี อย่างหนักพลเอก
เปรมก็ ยงั ประคับประคองตัว อยู่รอดปลอดภัย เพราะพลเอกเปรมรั บใช้
ใกล้ชิดราชสํานัก
ในระหว่ า งนั*น ก็ เกิ ด คลื น ลมในสภา มี ก ารยุบสภาหลายครั* งแต่
รั ฐบาลพลเอกเปรมก็ประคองตัวไปได้ ทําให้บารมีของนายกฯ พลเอก
เปรม ขยายตัวไปทัว ทั*งแผ่นดิ นจนดูเหมือนว่าจะเป็ นนายกฯ ตลอดกาล
เพราะไม่ว่าจะเดิ นทางไปที ไหนก็จะมีผคู้ นออกมาต้อนรั บแห่ แหนแน่ น
ไปหมดพร้อมกับชูป้ายข้อความทีสร้างความพอใจให้แก่ พลเอกเปรม แต่
อาจจะกระเทือนใจราชสํานักว่า “นํ;าเป็ นของปลา ฟ้ าเป็ นของนก นายก
เป็ นของเปรม” การโฆษณาความโดดเด่นในภาพลักษณ์ของพลเอกเปรม
219

ทั*งหมดนี* ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็ นฝี มือของปลัดกระทรวงมหาดไทยคู่ใจคื อ


นายพิศาล มูลศาสตร์ สาธร และสุ ดท้ายเหตุ การณ์ ทีกระทบจุ ดอ่อนของ
ราชสํานักก็เกิดขึ*น คื อที ภาคอีสานมีประเพณี ว่าเมือผูม้ ีอาํ นาจวาสนาไป
ตรวจเยีย ม ชาวบ้านถือว่า “ช้างเหยียบนา พญาเหยียบเมือง” จะนําความ
เจริ ญ มาสู่ ท้องถิน ตน ทุ ก คนก็ จ ะเอาผ้าขาวม้ามาผูก มัด สะเอวเป็ นการ
ต้อนรับ แต่กรณี ของพลเอกเปรมนั*นใครๆ ก็เอาผ้าขาวม้ามามัดจนล้นถึง
คอแล้ว ในที สุด ก็มีชาวบ้านเอาผ้ามาปูให้พลเอกเปรมเหยีย บเพือนําไป
กราบบูชา คล้ายกับที ประชาชนกระทําต่ อพระมหากษัตริ ย ์ ด้วยภาพที จ* ี
จุดอ่อนของราชสํานักนี*ได้เกิดขึ*นหลายครั*งในช่ วงปลายสมัยของรั ฐบาล
พลเอกเปรม อีกทั*งรั ฐบาลก็สืบทอดอํานาจติ ดต่ อกันมายาวนานถึง 8 ปี
ความวิ ตกกังวลว่าพลเอกเปรมจะกลายเป็ นขุน ศึกผูม้ ากบารมี และเป็ น
อันตรายกับราชสํานักก็เกิ ดขึ*น ดังนั*นจากการครองอํานาจยาวนานและ
รู ป ธรรมการเหยี ย บผ้า ขาวม้า เอาไว้ใ ห้ ป ระชาชนนํา ไปบู ช านี* เอง
“เครื อข่ ายราชสํานัก ” ก็ เริ มทํางาน ข่ าวลือเริ มเกิ ด ขึ* น จากปากต่ อปาก
ขยายตัว ไปทั*งสังคมว่าการกระทําของพลเอกเปรมไม่เหมาะสม โดยมี
ข้อความติดปากทําลายพลเอกเปรมว่า
“พลเอกเปรมกําลังเทียบบารมีในหลวง”
ตั*งแต่ น* นั ยุคเสื อมของพลเอกเปรมก็มาถึง กระแสความเบื อหน่ าย
พลเอกเปรมระบาดทัว ไปโดยเฉพาะในกรุ งเทพ จะมี ก ระแสสู งเพราะ
220

ใกล้ชิดข่าวสารมากทีสุด สื อมวลชนต่างๆ ก็ทาํ หน้าที ของตนเสมือนเป็ น


เครื อข่ายราชสํานักชั*นดี การเลือกตั*งครั*งสุ ดท้ายในปี 2531 พรรคมวลชน
ทีมี ร.ต.อ.เฉลิม อยูบ่ าํ รุ ง หาเสี ยงเลือกตั*งโดยง่ายว่า
“ใครต้ อ งการให้ เ ปรมเป็ นนายกฯ ให้ เ ลือ กประชาธิ ปั ตย์ ใครไม่
ต้ องการให้ เปรมเป็ นนายกฯ ให้ เลือกพรรคมวลชน”
เพียงแค่ ค าํ ขวัญง่ ายๆ ของพรรคมวลชนที เป็ นปฏิ ปักษ์กบั พลเอก
เปรมมาแต่ ตน้ ก็ได้รับความไว้วางใจจากคนกรุ งเทพโดยเลือกผูส้ มัค ร
ส.ส.ของพรรคมวลชนเข้าไปในสภาเกินคาดในกรุ งเทพมหานคร
ดูเหมื อนพลเอกเปรมจะรู้ สัญ ญาณความไม่ พอใจของราชสํานัก
เพราะหลังการเลือกตั*งแล้ว แม้เสี ยงสนับสนุ นของพลเอกเปรม จากพรรค
ประชาธิ ปัตย์ภายใต้การนําของนายพิชยั รั ตตกุล พรรคชาติ ไทย ภายใต้
การนําของพลเอกชาติ ชาย ชุ ณหวัณ และพรรคกิ จสังคม ภายใต้การนํา
ของพลอากาศเอกสิ ท ธิ; เศวตศิ ล า รวมกัน แล้ว ยัง เป็ นเสี ย งข้า งมาก
สนับสนุ นพลเอกเปรมให้เป็ นนายกฯ ต่ อไป แต่ พลเอกเปรมก็ตดั สิ นใจ
ประกาศไม่รับตําแหน่ งในวันที 27 กรกฎาคม 2531 และผ่องถ่ายให้พล
เอกชาติชาย ชุณหวัน ขึ*นเป็ นนายกคนที 17 ต่อไป
การลงจากเวทีนายกฯ ของพลเอกเปรม ยังไม่ได้รับการตอบสนอง
จากวังทันที พลเอกเปรมต้องรออีก ระยะเวลาหนึ งเสมือนรอตรวจสอบ
ความจงรักภักดี แล้วก็ได้รับโปรดเกล้าให้เป็ นองคมนตรี ต่อมา
221

5.8 รู ปธรรมการกําจัดอํานาจรัฐบาลพลเอกชาติชาย
การขึ; น ดํ า รงตํ า แหน่ งนายกรั ฐ มนตรี ข องพลเอกชาติ ช าย
ชุ ณหะวัน เป็ นความลงตัวของบุ คคล 2 คนทีเห็นร่ วมกันต้ องกล่ าวไว้ ใน
ทีนีค; อื พลเอกเปรม ติณสู ลานนท์ กับพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ผู้บัญชาการ
ทหารบกในขณะนั;น ด้ วยเพราะท่ าทีทีหน่ อมแน้ มของพลเอกชาติชาย
เมือพลเอกเปรมตัดสิ นใจลงจากตําแหน่ งด้วยรู้ สัญญาณจากราช
สํ า นั ก ก็ จ ํา เป็ นอยู่ เ องที จ ะต้ อ งเลื อ กบุ ค คลที จ ะขึ* นดํา รงตํา แหน่ ง
นายกรัฐมนตรี แทนตน ซึงขณะนั*นตามรัฐธรรมนูญนายกฯ จะเป็ นใครมา
จากไหนก็เป็ นนายกฯ ได้ท* งั นั*น ดังตัวอย่าง 8 ปี ที ผ่านมา พลเอกเปรมไม่
มีเสี ยงในสภาเลยก็ยงั เป็ นได้ เพราะเสี ยงชี*ขาดทีจะหนุ นให้ใครเป็ นนายก
ฯ นั*นคือ ราชสํานักและปื นของทหาร ดังนั*นเมือภาพที เปิ ดเผยคื อทหาร
หนุ นใคร พรรคการเมืองก็จะเฮละโลมาหนุ นคนนั*น เพือจะได้กระโดด
ขึ*นรถไปเป็ นรัฐมนตรี กบั เขาด้วย ดังนั*นการตัดสิ นใจของพลเอกเปรมที
จะหนุ นพลเอกชาติ ชายให้ข* ึนเป็ นนายกฯ จึ งเป็ นความซับซ้อนที ควรจะ
บันทึกเป็ นประวัติศาสตร์ ไว้ ณ ทีน* ี
พลเอกชาติชาย ได้เล่าในโอกาสสรวลเสเฮฮากับพรรคพวก และ
ส.ส.ลูก พรรคบ่ อยครั* งอย่ างเปิ ดเผยถึ ง การตัด สิ น ใจของพลเอกเปรม
หลัง จากที ด ํา รงตํา แหน่ ง นายกฯ โดยคนใกล้ชิ ด พลเอกชาติ ช ายได้
ถ่ายทอดข้อมูลให้ฟังว่า
222

“พลเอกเปรมนั*นตัดสิ นใจว่าจะลงจากตําแหน่ งนายกฯ ก่ อนแล้ว


และจะหาคนมาเป็ นนายกฯ แทนตน ดั ง นั* นเมื อ มี โ อกาสก็ ไ ด้ถ าม
พลอากาศเอกสิ ทธิ; เศวตศิลา ในฐานะหัวหน้าพรรคกิจสังคมก่ อนว่า หาก
พลเอกเปรมไม่รับตําแหน่ งนายกฯ พลเอกสิ ทธิ; จะเป็ นนายกฯ แทนได้
ไหม พลเอกสิ ทธิ; ก็ ต อบว่ า เป็ นได้ค รั บ ไม่ มีปัญ หาและพร้ อมจะเป็ น
ต่อมาหลังจากนั*นวันหนึ งขณะพลเอกชาติชายไปตี กอล์ฟร่ วมก๊วนกับพล
เอกเปรม, พลเอกชาติชาย ก็ได้รับคําถามในทํานองเดียวกันว่า”
พลเอกเปรม : “ท่านผูก้ ารหากผมไม่รับตําแหน่ งนายกฯ
ท่านผูก้ ารจะรับเป็ นนายกฯ แทนได้ไหม”
พลเอกชาติชาย : “โอ้! ไม่ได้หรอกครับ แค่คิดผมก็ผดิ แล้ว
ผมมัน เพลย์บอย เป็ นนายกฯ ไม่ ไ ด้ห รอก
ท่านเป็ นนายกฯ เหมาะแล้วครับ”
“ปรากฏว่า พลเอกเปรมกลับมาหนุ น ผมเป็ นนายกฯ เมืองไทยเรา
นี* แปลก ไอ้คนทีอยากได้จะไม่ได้ ไอ้คนทีไม่อยากได้มกั จะได้”


พลเอกเปรมจะเรี ยกพลเอกชาติชายจนติดปากว่าท่านผูก้ าร เพราะในอดีตพลเอก
ชาติชายมียศเติบโตทางการทหารเป็ นผูก้ ารทหารม้าก่อนพลเอกเปรม เนื องจากเป็ น
ลูก ของจอมพลผิ น ชุ ณ หะวัณ ซึ งเป็ นหัว หน้าคณะยึด อํา นาจเมือ 8 พฤศจิ ก ายน
2490...และเป็ นผูบ้ ญั ชาการทหารบก
223

เรื องเล่าตลกทางการเมืองทีมีนยั สําคัญเรื องนี* ทุ กครั* งที เล่าจบจะ


มีเสี ยงฮาตามมาตลอด
เหตุผลสําคัญทีพลเอกเปรมเลือกหนุ นพลเอกชาติชายเป็ นนายกฯ
เพราะดูเป็ นคนหน่ อมแน้ม ไม่เป็ นเรื องเป็ นราว ซึ งพลเอกเปรมคิ ดว่าจะ
คุมได้โดยง่าย ซึ งเป็ นธรรมชาติ ของมนุ ษย์ทีมกั จะไม่ชอบเลือกคนที เก่ ง
กว่าตนมาแทนตําแหน่ งตัวเอง เพราะจะบดบังรัศมีบารมีของตน และยาก
ที จ ะควบคุ มสังการ ซึ งในขณะนั*น พลอากาศเอกสิ ทธิ; ดู จ ะเป็ นคนที มี
ความเหมาะสม และพร้อมกว่าพลเอกชาติชายมาก แต่ ดว้ ยท่ าทางที ฉลาด
เหมาะสมนี*เอง พลเอกเปรมก็ไม่เลือก
อีกคนหนึ งทีมีบทบาทสนับสนุ นก็คือ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ซึง
วางแผนไว้ลึก ซึ* งแบบขงเบ้งในสามก๊ ก โดยหนุ น พล.อ.ชาติ ชาย ด้ว ย
เหตุผลคล้ายกันกับพลเอกเปรม แต่ ลุ่มลึกกว่าเพราะตัวเองจะเข้ามาเสี ยบ
นายกฯ แทนต่ อจากชาติ ชายอี กที โดยพลเอกชวลิ ตเห็ น ว่าความไม่ เอา
ไหนของพลเอกชาติ ชายนั*น เป็ นความเหมาะสมแล้ว และประเมิ น ว่ า
รัฐบาลของพลเอกชาติชายจะอยูไ่ ด้ไม่เกิน 6 เดือน ก็จะพอดี กบั เวลาที พล
เอกชวลิ ตจะออกจากตําแหน่ งผูบ้ ญ ั ชาการทหารบกแล้ว ซึ งเป็ นเวลาที
รัฐบาลพลเอกชาติชายก็จะถึงกาลอวสาน ในเรื องนี* พลเอกชาติ ชายก็เล่า
เบื*องหลังให้หลายคนในวงสนทนาฟังด้วยความสนุ กสนานเช่นกันว่า
224

“ไอ้จิ‚ว มันกะว่ารัฐบาลผมจะอยูไ่ ด้เพียงแค่ 6 เดือน แล้วมันจะมา


เป็ นนายกฯ แทน ปรากฏว่าพอรัฐบาลผมอยู่ได้ครบ 6 เดื อน สถานการณ์
บ้านเมืองยิง ดี รัฐบาลผมยิง ลอยลํา ผมก็เลยทําถ้วยกาแฟเป็ นทีระลึกโดยมี
คําว่า ลอยลํา ไว้ดว้ ย”
แต่ความเห็ นร่ วมกันของหลายฝ่ ายโดยเฉพาะพลเอกเปรม และ
พลเอกชวลิต ล้วนแต่ อ่านหมากการเมืองผิดหมด ปรากฏว่าพลเอกชาติ
ชายกลายเป็ นมีดคมอยู่ในฝั ก ซึ งไม่ มีใครมองเห็ น และวันแรกที พลเอก
ชาติ ช ายรั บพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ เป็ นนายกรั ฐ มนตรี
วลีแรกทีพลเอกชาติชายประกาศก็เกิดผลสะเทือนเลือนลัน จากวันนั*นถึง
วันนี* คือคําว่า
“ผมจะแปรสนามรบให้ เป็ นสนามการค้ า”
ตลอดระยะเวลาการเป็ นนายกฯ ของพลเอกชาติ ชาย ตั*งแต่ กา้ ว
แรกก็ได้ปฏิเสธแนวคิ ด และแนวนโยบายของพลเอกเปรม และปฏิเสธ
แนวคิ ด หลัก ของราชสํ า นั ก ทั*ง หมด เริ มจากพลเอกชาติ ช ายไม่ ใ ห้
ความสําคัญ กับชุ ด พระราชทานที ออกแบบในสมัย ของพลเอกเปรมที


ถ้วยกาแฟทีพลเอกชาติชายทําไว้ในโอกาสรัฐบาลอยูค่ รบ 6 เดือน มีอยูจ่ ริ งทีบา้ น
ของพลเอกชาติชาย เป็ นถ้วยกาแฟพร้อมจานรอง เป็ นแก้วใส มีรูปคนพายเรื อติดอยู่
ด้านข้าง และมีภาษาไทยคําว่า “ลอยลํา” ติดไว้ดว้ ยจริ ง
225

พลเอกเปรมภูมิใจมาก โดยตลอดการเป็ นนายกฯ พลเอกชาติ ชายใส่ สูท


อย่างดี ข องอิ ต าลี และเนคไทแบรนเนมส์ โดยปฏิ เสธชุ ด พระราชทาน
เปลี ย นนโยบายต่ า งประเทศของพลเอกเปรม จากการเป็ นศัต รู ก ั บ
เวี ยตนามและประเทศในอิน โดจี น โดยหันมาจับมื อเพือทําการค้าตาม
นโยบายแปรสนามรบให้ เ ป็ นสนามการค้า และผลัก ดัน ประเทศให้
เจริ ญก้าวหน้าในระบบทุนนิ ยม ซึงตรงข้ามกับแนวคิ ดเศรษฐกิ จพอเพียง
ของราชสํานัก โดยประกาศว่าประเทศไทยจะเป็ นเสื อตัวที 5 ของเอเชี ย
หรื อนัยหนึ งก็คือผลักดันให้ประเทศไทยเป็ นประเทศอุตสาหกรรมใหม่
เหมื อ นประเทศเกาหลี ใ ต้ห รื อไต้ห วัน หรื อที เ รี ยกกัน ว่ า NIC(New
Industrial Country) โดยผลักดันให้เกิ ดการลงทุ นจากต่ างประเทศขนาน
ใหญ่ โดยเฉพาะญี ปุ่นที ตอ้ งการเปิ ดแหล่งลงทุ นใหม่ในภาคตะวันออก
คือการลงทุนสร้างท่าเรื อแหลมฉบัง เพือเปิ ดประตูการส่ งออกแทนท่ าเรื อ
คลองเตยเป็ นผลสําเร็ จ เป็ นผลให้เกิ ดนิ คมอุต สาหกรรมภาคตะวันออก
หลายแห่ ง ในเขตจัง หวัด ชลบุ รี , ระยองจนถึ งจัน ทบุ รี และตราด เพื อ
รองรับทุนต่างชาติทีจะเข้ามาตั*งโรงงานอุตสาหกรรม ทําให้เศรษฐกิจไทย
เกิดการเคลือนตัวอย่างรวดเร็ ว ทีดินราคาแพงขึ*น ชาวนาชาวไร่ ขายที ดิน
ในเขตอุตสาหกรรม และเขตใกล้ถนน รํารวยกันมหาศาลซึ งเป็ นครั* งแรก
ที ร าคาที ดิ น พุ่ ง สู ง ขึ* น ตั*ง แต่ ต* ังประเทศไทยมา รวมตลอดทั*ง รั ฐ บาล
พลเอกชาติ ชายได้ทาํ การปริ ว ตั ิ เงิ น ตราโดยลงนามในข้อตกลงระหว่าง
226

ประเทศให้การไหลเข้าออกของเงิ น สะดวกขึ* น อัน เป็ นผลให้เงิ น บาท


กลายเป็ นเงินสกุลสากล
จากผลงานที เกิ นความคาดหมายของพลเอกเปรม พลเอกชวลิต
และความตกใจของราชสํานักทําให้ผลงานของรั ฐบาลพลเอกชาติ ชาย
กลายเป็ นความวิ ต กกัง วลของทุ ก ฝ่ าย โดยเฉพาะราชสํา นัก มี แนวคิ ด
อนุ รั ก ษ์นิ ย มอย่างรุ น แรงในเรื องการถื อครองที ดิน ยิงจากผลของการ
พัฒนา ทําให้ชาวนาชาวไร่ ขายทีดิน ทิ*งถินทํากินของตนมากขึ*น ยิงทําให้
ราชสํานักไม่พึงพอใจนายสุ เมธ ตันติเวชกุล ผูร้ ับใช้ใกล้ชิดเบื*องยุคลบาท
ได้ออกมาแสดงความเห็ นเบรกแนวทางเศรษฐกิ จของพลเอกชาติ ชาย
หลายครั*งทีว่าประเทศไทยจะเป็ นเสื อตัวที 5 ว่า
“เป็ นคนอยู่ดีๆ ไม่ ชอบ ชอบเป็ นสั ตว์ เดรัจฉาน”
เพราะแนวทางเสื อ ตัว ที 5 แห่ ง เอเชี ย คื อ พัฒ นาประเทศเป็ น
ประเทศอุตสาหกรรมใหม่ รองมาจากญี ปุ่น จี น เกาหลี ไต้หวัน นั*นเป็ น
แนวทางทีขดั กับราชสํานัก ทีเน้นการผลิตแนวเกษตรกรรมแบบพออยูพ่ อ
กิน ด้วยเชือว่าการมีชาวนาทีทาํ การผลิตขนาดเล็กแบบพออยูพ่ อกินนั*นจะ
เป็ นฐานความเชือมัน ต่อแนวคิดแบบจารี ตนิ ยมที เชื อผีสางเทวดา และจะ
จงรั กภักดี ต่อสถาบัน กษัตริ ย ม์ ากกว่าที คนส่ วนใหญ่ จะเป็ นกรรมกรใน
ภาคอุ ต สาหกรรม เพราะมี ต ั ว อย่ า งแล้ว ว่ า ในประเทศที มี ก ารผลิ ต
ภาคอุตสาหกรรมเป็ นหลักนั*น จะไม่มีสถาบันพระมหากษัตริ ย ์ หรื อมีก็
227

เป็ นเพี ยงสัญ ลักษณ์ ไม่มีอาํ นาจจริ ง ประกอบกับโครงการพัฒ นาของ


รัฐบาลชาติชายเริ มไม่ให้ความสนใจต่ อผลประโยชน์ของราชสํานักจาก
หลักฐานในหนังสื อ The King never smiles บทที 17 ได้ให้ขอ้ มูลว่า
“นักธุ รกิ จพวกพ้องของชาติ ชายอย่างเช่ น ประชัย เลียวไพรั ต น์
จากกลุ่มที พีไอได้รับอนุ ญ าตให้เฉื อนแบ่ งชิ*นเนื* อจากเครื อซี เมนต์ไทย
ของสํานักงานทรัพย์สินฯ ในตลาดวัสดุ ก่อสร้ างกับปิ โตรเคมี ประชัยซึ ง
เป็ นผูผ้ ลิตปิ โตรเคมีรายแรกของประเทศ ไม่พอใจที เครื อซีเมนต์ไทยได้
เข้ามาทําลายการผูกขาดของเขาไปก่อนหน้านี* เขาเกลี*ยกล่อมรั ฐบาลชาติ
ชายอนุ ญ าตให้เขาผลิ ต ปู น ซี เมนต์ และทําการช่ ว งชิ งลูก ค้าของเครื อ
ซี เมนต์อย่างดุ เดื อด และเขายังได้สิทธิ พิเศษเหนื อเครื อซี เมนต์ในการ
ลงทุนทางปิ โตรเคมีใหม่ๆ อีกด้วย ในทํานองเดียวกันบริ ษทั อืนๆ ก็ได้รับ
โอกาสที ดี ก ว่ า เครื อซี เ มนต์ ใ นการลงทุ น อุ ต สาหกรรมเหล็ ก และ
โทรคมนาคม บางครั*งชาติชายก็ไม่เหลือบแลผลประโยชน์ของวัง รั ฐบาล
ของเขาสนับสนุ นโครงการขนส่ งมวลชนทีเรี ยกว่า โฮปเวลล์ ซึ งเป็ นทาง
รถไฟยกระดับวิงผ่านสวนจิตรลดากับสถานทีสาํ คัญๆ ของพวกเจ้า อันจะ
เป็ นการล่วงลํ*าความศักดิ;สิ ทธิ; วังถือเป็ นการลบหลู่และบริ วารในระบบ
ราชการก็ปฏิเสธทีจะให้ความร่ วมมือกับโฮปเวลล์
รัฐบาลชาติชายยังปฏิเสธบทบาทครอบงําเชิงสังคมการเมืองของ
กองทัพอีกด้วย ชาติชายพยายามลดอํานาจของวุฒิสภาทีมาจากการแต่งตั*ง
228

ซึ งยังคงเต็มไปด้วยทหาร ตํารวจและข้าราชการหัวอนุ รักษ์ แม้ว่าจะไม่


สามารถลดจํานวนวุฒิสภาลงได้ แต่ชาติชายก็ตอ้ งการให้ประธานรั ฐสภา
มาจากสส. ไม่ใช่จากวุฒสภาอย่างทีเป็ นอยู่ เนื องจากประธานรั ฐสภาเป็ น
ผูเ้ สนอชื อนายกฯ แก่ กษัต ริ ย ์ บทบาทสําคัญ นี* จึ งจะเปลี ย นจากมื อของ
อํานาจเก่ ามายังนัก การเมื องที มาจากการเลือกตั*ง” จากข้อมูลนี* ก็ต อบ
ปั ญหาค้างคาใจให้ก ับคนไทยได้หมดประเทศว่ า ทํ าไมโครงการรถไฟ
โฮปเวลจึงค้ างเติง หยุดนิงทันทีหลังพลเอกชาติชายถูกยึดอํานาจ? และค้าง
คากลายเป็ นอนุ สาวรี ยน์ ิ รนามที ไม่รู้จะเอาผิดกับใครมาถึงทุ กวันนี* และ
โครงการโรงปูน PTI ของคุณประชั ยทีล้มละลาย และมีการปรั บปรุ งหุ้ น
ใหม่ไม่ อาจกลับมาเป็ นของคุณประชัยได้ อกี ต่ อไป เพราะอะไร?
อี ก รู ปธรรมหนึ งที แสดงให้ เห็ น ว่ า ราชสํานัก ไม่ พอใจต่ อการ
บริ หารประเทศของพลเอกชาติชาย ก็คือการปรับ ค.ร.ม.โดยเอาพลอากาศ
เอกสิ ทธิ; เศวตศิลาทีมีความใกล้ชิดกับราชสํานัก ออกจากรั ฐมนตรี ว่าการ
กระทรวงการต่ างประเทศแล้ว หลังจากนั*นราชสํานักจึ งได้ส่งสัญญาณ
ความไม่ พอใจโดยประกาศตั*งพลเอกสิ ท ธิ; เป็ นองคมนตรี (คล้ายกับ
เหตุ ก ารณ์ ใ นสมั ย รั ฐ บาลทั ก ษิ ณ ที น ายแพทย์เ กษม ลาออกจาก
รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงศึกษา และกรณี นายพลากร สุ วรรณรัตน์ ถูกย้าย
ออกจากการเป็ นผูอ้ าํ นวยการ ศอ.บต.จากภาคใต้ในสมัยนายกฯ ทักษิ ณ
ราชสํานักก็ต* งั บุคคลทั*งสองนี*เป็ นองคมนตรี ทนั ที ) และอีกรู ปธรรมหนึ ง
229

ก็ คื อ การดึ ง ตัว พอ.มนู ญ รู ป ขจร กลับ เข้า มาประเทศไทยให้มาช่ ว ย


ราชการของรัฐบาลพลเอกชาติชาย โดยเลือนยศให้เป็ นพล.ต.และยุติเรื อง
คดีลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระราชินีฯ ของ พ.อ.มนูญ ให้ดว้ ย
กลุ่ มทหาร จปร.รุ่ น 5 ที เติ บโตขึ* น มาเป็ นใหญ่ พร้ อมๆ กัน อัน
ได้แก่พลอากาศเอกเกษตร โรจนนิ ล ผูบ้ ญ ั ชาการทหารอากาศ พลเอกสุ
จิ นดา คราประยูร ผูบ้ ัญชาการทหารบก(พลเอกชวลิต ลาออกจาก ผบ.
ทบ.ไปร่ วมรั ฐบาลพลเอกชาติ ชาย ตําแหน่ งนี* จึ งตกแก่ พลเอกสุ จิ น ดา
คราประยูร) พลเอกอิสระพงษ์ หนุ นภักดี (ญาติ ทีเป็ นคู่เขยกับพลเอกสุ
จินดา) ดํารงตําแหน่ งรองผูบ้ ญั ชาการทหารบก และผูบ้ ญั ชาการทหารเรื อ
ครบ 3 เหล่ าทัพ รวมทั*งพลเอกสุ น ทร คงสมพงษ์ ผูบ้ ัญ ชาการทหาร
สูงสุ ด รุ่ นพีทีรักน้องและใจนักเลงเจ้าของคําขวัญประจําใจ “ไม่ ฆ่าน้ อง
ไม่ ฟ้องนาย ไม่ ขายเพือน” เมือได้รับสัญญาณจากราชสํานักเช่ นนี* และ
กลุ่ มพวกตนในฐานะข้าราชการก็เห็ น ว่าหากปล่อยให้ร ะบบเศรษฐกิ จ
ขยายตัว ไปมากเช่ น นี* ก็ จ ะทํา ให้ ร ะบบการเมื องแบบประชาธิ ปไตย
เข้มแข็งมากขึ*น ประเทศชาติ จะเจริ ญ คนจะฉลาด และในที สุดโอกาสที
ข้าราชการทหารจะขึ*นเป็ นใหญ่อย่างในอดีตก็จะถึงกาลอวสานเพราะเมือ
ประชาชนฉลาดก็จะกดหัวได้ยาก อีกทั*งเกิ ดปั ญหาความขัดแย้งระหว่าง
พลเอกชวลิต กับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บาํ รุ ง ซึ งต่ างก็เป็ นรั ฐมนตรี ร่วมอยู่ใน
รั ฐบาลด้วยกัน โดยพลเอกชวลิตได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ การทุ จริ ตใน
230

รั ฐบาลของนายกฯ ชาติ ชาย อย่างหนัก ว่าเป็ น “บุ ฟเฟ่ แคบิเนต” ร.ต.อ.


เฉลิม จึงตอบโต้ไปทีภรรยาของพล.อ.ชวลิตว่าเป็ น “ตู้เพชรเคลือ นที” ซึ ง
ได้สร้างความโกรธแค้นให้แก่ พล.อ.ชวลิตมาก และลามไปถึงกลุ่มทหาร
จปร.5 ที ไม่ พึ งพอใจ ร.ต.อ.เฉลิ ม พร้ อ มกับเครื อข่ ายราชสํา นัก ก็ เริ ม
ทํางาน โดยเกิ ด การวิพากษ์วิ จารณ์ จ ากสื อมวลชนอย่างหนักโดยเอาคํา
กล่าวโจมตีของพลเอกชวลิตไปขยายผลว่าเป็ นรั ฐบาลที มีการทุจริ ตอย่าง
มาก หรื อ “บุฟเฟต์ แคบิเนท” ดังนั*นฝ่ ายทหารจึ งรวมศูนย์กดดันให้ปลด
ร.ต.อ.เฉลิม ออกจากรัฐมนตรี สาํ นักนายกฯ เพราะ ร.ต.อ.เฉลิม ทําหน้าที
เป็ นโฆษกพิ เ ศษของพลเอกชาติ ช าย ในการตอบโต้ ท หารอย่ า งไม่
ลดราวาศอก ในที สุดพลเอกชาติ ชายก็ดูเหมือนว่าจะทําตามคําเรี ยกร้ อง
ของฝ่ ายทหารเพื อปลดเงื อนไขความขัดแย้งโดยปรั บ ครม.เอา ร.ต.อ.
เฉลิม ออกจากรั ฐมนตรี สาํ นักนายกรั ฐมนตรี ตามคําเรี ยกร้ องของทหาร
จริ ง แต่ แต่ งตั*งใหม่ ให้ ร.ต.อ.เฉลิ ม ดํารงตําแหน่ งรั ฐมนตรี ช่ว ยว่ าการ
กระทรวงศึกษาแทน ยิง ทําให้ฝ่ายทหารเคียดแค้นเป็ นการใหญ่
231

เหตุ ก ารณ์ เริ มประทุ รุ น แรงขึ* น เมื อ พลเอกชวลิ ต ลาออกจาก


ค.ร.ม.ของพลเอกชาติ ชาย และดึ งนายประสงค์ สุ่ นสิ ริ คนสนิ ทของ
พลเอกเปรมอี ก คนหนึ ง มาตั*ง พรรคความหวัง ใหม่ เพื อ เข้า ต่ อสู้ โ ดย
ประกาศเดิ น ทางไกลหมื น ลี* เพื อ จะกลับ เข้ามาเป็ นนายกฯ ก็ เ ป็ นจุ ด
แตกหักทีร้อนแรง ซึงแสดงให้เห็นว่าสายสัมพันธ์ระหว่างพลเอกชาติ ชาย
กับพลเอกเปรม และทหาร ขาดสะบั*น แล้ว เพราะพลเอกชวลิต เป็ นคน
สนิ ทของพลเอกเปรม และเป็ นตัวเชื อมต่ อกับฝ่ ายทหาร จปร.5 ให้แก่
รัฐบาลชาติชาย
ในช่ ว งปลายของรั ฐ บาลพลเอกชาติ ช ายดู เ หมื อ นว่ า พลเอก
ชาติ ช ายพยายามที จ ะเอาใจราชสํา นั ก ด้ว ยการปรั บ ค.ร.ม.ในเดื อ น
สิ งหาคม 2533 โดยนําคนของพลเอกเปรม(ขณะนั*นพลเอกเปรมได้รั บ
แต่ งตั*งเป็ นองคมนตรี แล้ว) คื อนายวีระพงษ์ รามางกูร และคนของราช
สํานักคือนายอมเรศ ศิลาอ่อน อดี ตผูบ้ ริ หารบริ ษทั เครื อซี เมนต์ไทยของ
ราชสํานัก และนายวิสิษฐ์ เดชกุญชร นายตํารวจผูร้ ั บใช้ใกล้ชิดเบื*องยุคล


การลาออกจากคณะรัฐมนตรี ของพลเอกชวลิต มีขอ้ น่ าสังเกตทางประวัติศาสตร์
การเมืองไทยกล่าวคือทุ กครั* งทีมีเ หตุก ารณ์ ลาออกของพลเอกชวลิต ก็จ ะเกิ ดการ
รั ฐ ประหารหลัง จากนั*น ในกรณี ก ารรั ฐ ประหารพลเอกชาติ ชายของรสช.เมื อ
23 กุ มภาพัน ธ์ 2534 และการรั ฐ ประหารพ.ต.ท.ทัก ษิณ ชิ น วัต ร ของคมช.เมื อ
19 กันยายน 2549 ก็เกิดจากการออกจากครม.ของพลเอกชวลิต คล้ายกัน......ผูเ้ ขียน
232

บาท ด้วยหวังว่าจะลดแรงกดดันจากวัง ส่ วนความขัดแย้งกับฝ่ ายทหาร


นั*น พลเอกชาติ ชายไม่ใยดี และไม่เกรงกลัวเลยเพราะพลเอกชาติ ชายพูด
อยู่เสมอว่ าเขาเติ บโตมาในโรงทหาร และล่าสุ ด ยังจะตั*งพลเอกอาทิ ต ย์
กําลังเอก ซึ งมี ความขัด แย้งกับ จปร.รุ่ น 5 อย่างรุ น แรงมาเป็ นรั ฐมนตรี
ช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เพือมาคุม จปร.5 ด้วย
กรณี ข่าวจะตั*งพลเอกอาทิตย์ มาเป็ น รมช.กลาโหมนี*เอง จึงทําให้
จปร.5 ตัด สิ น ใจฉวยโอกาสจี*จ ับตัว พลเอกชาติ ชายบนเครื องบิ น ขณะ
เดิ นทางจะขึ*นไปเข้าเฝ้ าพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ ที เชี ยงใหม่ และประกาศ
การยึดอํานาจทันทีในวันที 23 กุมภาพันธ์ 2534 ด้วยความฉุ กละหุ ก โดย
สัง เกตการณ์ ต* ังชื อคณะยึ ด อํา นาจก็ แ ปลกๆ ว่ า คณะรั ก ษาความสงบ
เรี ยบร้ อ ยแห่ งชาติ (รสช.) ทั*งๆ ที ข ณะนั*น บ้านเมื องสงบเรี ยบร้ อ ยดี
เศรษฐกิจกําลังเจริ ญเติบโตดีๆ แท้ๆ ด้วยข้อเท็จจริ งทีกล่าวมาข้างต้นนั*น
จะเห็ นว่าการยึดอํานาจดูเหมื อนว่าจะเกิ ดขึ*นอย่างฉุ กละหุ ก โดยบังเอิ ญ
แต่ เ หตุ ใ ดทํ า ไมหลั ง การยึ ด อํา นาจจึ ง ได้ รั บ พระปรมาภิ ไ ธยจาก
พระมหากษัต ริ ย อ์ ัน เป็ นการยอมรั บการยึด อํานาจโดยง่ าย ในขณะที
พลเอกเปรมเป็ นองคมนตรี อีกทั*งการยึดอํานาจโดยทําการจับตัวพลเอก
ชาติ ชาย ขณะกําลังนังบนเครื องบิ น เพือจะไปเข้าเฝ้ าพระเจ้าอยู่หัว ตาม
หมายกําหนดการของราชสํานักถือได้ว่าเป็ นการปล้นอํานาจทีหน้าวังเลย
ทีเดียว ซึงแทนทีพระเจ้าอยูห่ วั จะทรงพิโรธแต่กลับทรงพระเกษมสําราญ
233

ดังนั*นหากจะวิเคราะห์เจาะลึกจากเหตุ การณ์ ก่อนหน้านั*น ก็จะเห็ นว่ามี


สัญญาณบ่งบอกมากมายว่ากลุ่มทหารน่ าจะกระทําได้ราบรื น ซึงแตกต่ าง
จากการยึดอํานาจครั*งก่ อนๆ ที มกั จะมีข่าวลือที ไม่เป็ นมงคลเกี ยวกับตัว
นายกฯ ว่าไม่จงรักภักดี เพราะในกรณี ของพลเอกชาติชายนั*นส่ วนตัวของ
พลเอกชาติชายมีแต่ประวัติทีผกู พันใกล้ชิดกับราชสํานักทั*งในเหตุ การณ์
6 ตุลาคม 2519 พลเอกชาติชายก็ยนื อยูฝ่ ่ ายราชสํานัก และภรรยาของท่ าน
คือ ท่านผูห้ ญิงบุญเรื อน ก็มีศกั ดิ;เป็ นหลานทีสมเด็จย่าเป็ นผูเ้ ลี*ยงมา จึ งไม่
มีข่าวลื อทางด้านนี* แต่ จ ากความเห็ นของพอล แฮนด์ลี( Paul Handley)
ผูเ้ ขี ยน The King never smiles ในบทที 17 ก็ยืนยันว่า “มีการเปิ ดทาง
สํ าหรับการรัฐประหารจากราชสํ านักมาหลายเดือนก่ อนหน้ านั;นแล้ ว โดย
มีหลักฐานว่ าพลเอกชาติชายวิง เข้ าเฝ้ าพระเจ้ าอยู่หัว ทุ กครั; งทีถูกพลเอก
สุ จนิ ดาข่ มขู่ และเป็ นการเห็นร่ วมกันกับพลเอกเปรมว่ าการรั ฐประหาร
เป็ นทางการเลือกทีวงั ยอมรับได้ ในการเมืองไทยสมัยใหม่ ”
ไม่ ว่าจะด้ว ยเหตุ ผลใดก็ต ามแต่ เป็ นความจริ งที พิสูจ น์ได้ก็ คื อ
การเป็ นนายกรั ฐมนตรี ของประเทศไทยนั*นมีความเสี ยงสู งมาก และไม่
อาจจะนํารั ฐนาวาสู่ ความมีเสถียรภาพได้ ดังตัวอย่างของรั ฐบาลพลเอก
ชาติชายมีภูมิหลังผูกพันลึกซึ*งอยู่กบั วังแท้ๆ อีกทั*งได้บริ หารประเทศจน
นําประเทศไปสู่ ความเจริ ญจนรุ่ งเรื อง แต่ ก็จะต้องพบกับข้อจํากัดความ
234

ขัดแย้งอันไม่อาจประคองตัว ได้ และเมือเปรี ยบเที ยบกับรั ฐบาลพ.ต.ท.


ทักษิณ ชินวัตร ก็อยูใ่ นลักษณะเดียวกัน
รั ฐ บาลพลเอกชาติชายก็ถึง กาลอวสานด้ วยการยึด อํานาจของ
จปร.5 .ในนาม รสช. เมือ 23 กุมภาพันธ์ 2534

5.9 รู ปธรรมการกําจัดอํานาจรัฐบาลพลเอกสุ จนิ ดา


เมือพลเอกสุ จินดา คราประยูร ทํ าการยึดอํานาจเป็ นผลสํ าเร็ จ
แล้ วก็ไ ด้ ก ระทํ าการเสมื อ นหนึ ง เป็ นการสนองพระราชประสงค์ ข อง
ราชสํ านั ก โดยแต่ ง ตั;ง ให้ พลเรื อ นที เ ป็ นทีโ ปรดปรานคือ นายอานั น ท์
ปั นยารชุ น เป็ นนายกรัฐมนตรี และจากหลักฐานทีน่าเชื อว่ านายอานันท์
เป็ นทีโปรดปรานโดยแท้ จริงก็จากกรณีหลังเกิดวิกฤตการณ์ ทางการเมือง
ในกลางปี 2535 นายอานันท์ ก็ได้ รับโปรดเกล้ าให้ เป็ นนายกรั ฐมนตรี อีก
ครั; ง หนึ ง ด้ ว ยความฉงนงุ น งงที ร ถยนต์ ข อง ดร.อาทิ ต ย์ อุ ไ รรั ต น์
ประธานสภาผู้แ ทนราษฎรวิงผ่ านบ้ านของพล.อ.อ.สมบุ ญ ระหงษ์ ซึ ง
เป็ นผู้กุมเสี ยงสนับสนุนของส.ส.ข้ างมากในสภา และเป็ นทีคาดหมายว่ า
จะต้ องได้ เ ป็ นนายกรั ฐมนตรี อย่ างแน่ นอน โดยรถยนต์ วิง ผ่ านนําพระ
บรมราชโองการไปยังบ้ านนายอานันท์ ปั นยารชุ น แทน
ในระยะเวลา 1 ปี ในปี 2534 ทีนายอานันท์เข้ามาบริ หารประเทศ
เป็ นระยะเวลาสั*น ๆ ซึ งไม่ มีโ อกาสที จ ะสื บทอดอํานาจได้เลย จึ งเป็ น
235

รัฐบาลทีปลอดภัยจากโรคแทรก แต่นายอานันท์ก็รักษาความสัมพันธ์กบั
คณะทหาร รสช.อย่ า งดี ยิ ง ด้ ว ยการตามใจคณะรสช.ในการจั ด ตั*ง
งบประมาณซื* ออาวุ ธให้เพื อให้ ทหารหาเงิ น ในการสื บต่ ออํา นาจทาง
การเมื องในนามพรรคสามัค คี ธรรม และอนุ ม ัติ โ ครงการ “ทหารเสื อ
ประชาธิ ปไตย” โดยให้ทหารและตํารวจ จัดหน่ วยผสม หน่ วยละ 3 คน
ไปประจําทุ ก หมู่บ้านในประเทศไทย ด้ว ยเหตุ ผลว่ า เป็ นการเผยแพร่
ความคิดประชาธิปไตย แต่แท้จริ งแล้วเป็ นการวางฐานใช้เจ้าหน้าทีของรัฐ
เป็ นหัวคะแนนให้พรรคสามัคคีธรรมโดยใช้เงิ นหลวงเพือทําการควบคุ ม
กํานัน ผูใ้ หญ่บา้ น ซึงเป็ นผูก้ ุมเสี ยงประชาชนตัวจริ งทั*งหมดให้สนับสนุ น
พรรคทหารของรสช.ทีใช้ชือว่าพรรคสามัคคีธรรม
ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที นายอานันท์บริ หารประเทศชาติ พลเอก
สุ จินดาได้แสดงบทบาทที ดูจะไม่แนบเนี ยนนักว่าตนเองนั*นไม่มกั ใหญ่
ใฝ่ สูง โดยปฏิเสธชัดเจนว่าจะไม่รับตําแหน่ งนายกรั ฐมนตรี ซึ งดูเหมือน
จะเป็ นที ชืน ชอบของราชสํานัก เพราะราชสํานักนั*นจะคอยระมัด ระวัง
ตลอดเวลาไม่ให้มีกลุ่มการเมืองใดพัฒนาจนเข้มแข็งอันจะเป็ นปฏิปักษ์
ต่ อวังได้ โดยเฉพาะการรวมตัว ของกลุ่ มทหารที เ ข้ม แข็ งก็ จ ะยิง เป็ น
อันตรายต่อวังมากดังเช่นในอดีตสมัยจอมพล ป.และจอมพลถนอม อีกทั*ง
การที ค ณะ รสช.ประกาศยึด ทรั พย์รัฐมนตรี ทุก คนในคณะของพลเอก
ชาติชาย ก็เป็ นประโยชน์ต่อวังและเป็ นสู ตรสําเร็ จในทุ กสมัยเพือทําลาย
236

ฐานทางการเมื องของกลุ่ มการเมื อ ง เพราะยิงกลุ่ ม การเมื องพลเรื อ น


พังทลาย การสร้ างฐานอํานาจการเมืองในระบบพรรคการเมืองก็จะทิ* ง
ห่ าง สถาบันกษัตริ ย ์ และสถาบันทหาร ซึ งมีผลประโยชน์ร่วมกันในการ
ทําลายกลุ่ มอํานาจของพลเรื อน เพราะว่ ากลุ่ มนัก การเมื องขาใหญ่ จ ะ
รวมตัวกันใหม่อีกทีก็ตอ้ งใช้เวลาอีกนาน วิธีการนี*ถกู ใช้อีกครั* งในการยึด
อํานาจของคณะคมช.เมือ 19 กันยายน 2549 และมีประสิ ทธิภาพยิง ขึ*นเมือ
ใช้ผพู้ ิพากษาศาลรั ฐธรรมนู ญเป็ นเครื องมือในการตัดสิ นยุบพรรค และ
ตัดสิ ทธิ;กรรมการบริ หารพรรคทั*งหมด 5 ปี เสริ มเข้าไปอีก ซึ งเป็ นผลให้
ตระกูลการเมืองทีมีบารมีในต่างจังหวัดจํานวนมากต้องสะดุดหัวขมําทาง
การเมืองไปตามๆ กัน
แม้การแสดงตัวของคณะรสช.จะเอาอกเอาใจราชสํานักอย่างไร
ก็ ไ ม่ ส ามารถจะทํา โดยตรงได้ เพราะสถานการณ์ ใ นขณะนั*น จนถึ ง
ปั จจุบนั อยูใ่ นยุคผูม้ ีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ทีมีประสิ ทธิภาพทีสุดแล้ว คื อ
พลเอกเปรมที ได้รั บความไว้เนื* อเชื อใจจากราชสํานัก ด้วยประวัติก าร
ทํางานรั บใช้ร าชสํานั ก ที ผ่านมายาวนาน ประกอบกับ เป็ นโสด ไม่ มี
ทายาท และอายุมากแล้ว ดูจะปลอดภัยต่ อราชสํานักมากที สุด ดังนั*นทุ ก
อย่างของคณะ รสช.ทีจะติดต่อกับพระเจ้าอยูห่ วั ก็จะต้องผ่านบุคคลสําคัญ
ท่านนี*ก่อน……คือพลเอกเปรม ติณสูลานนท์
237

ในเบื* องต้น ที รสช.โค่ น ล้มรั ฐบาลพลเอกชาติ ชาย และตัดราก


ถอนโคนอํานาจของกลุ่มพลเรื อนด้วยการยึดทรั พย์ ดูจะเป็ นที พึงพอใจ
ของพลเอกเปรม และพลเอกชวลิต ซึ งได้พฒั นาเป็ นกลุ่มอํานาจตัวจริ ง
ทางการเมื องของราชสํานักไปเสี ยแล้ว โดยทุ กคนในกลุ่ มอํานาจของ
พลเอกเปรมต่ างก็คิด ว่ากลุ่มรสช.จะเข้ามาอยู่ในกลไกการควบคุ มของ
พลเอกเปรม โดยเฉพาะพลเอกชวลิ ต ฝั น ว่าน้องๆ รสช.จะเอาตําแหน่ ง
นายกฯ มามอบให้แก่ ตนในฐานะหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ เมือเปิ ด
การเลือกตั*งทัว ไปในปี 2535 แต่ ปรากฏว่าระหว่างที นายอานันท์ตวั แทน
ราชสํานักบริ หารงานในฐานะนายกฯ อยูน่ * นั คณะรสช.ก็ออกลายให้เห็ น
ว่า “อํานาจทางการเมืองนั;น พวกฉั นจะเอาเอง” ด้วยการส่ งตัวแทนของ
ตนเข้าไปกุมพรรคการเมืองแนวร่ วมในตําแหน่ งเลขาธิการพรรคไว้ เกือบ
ทั* ง หมดเพื อ เตรี ยมจั ด ตั*ง รั ฐ บาลภายหลั ง การเลื อ กตั*ง ทัว ไป เช่ น
พรรคชาติ ไทยพลอากาศเอกสุ มบุ ญ ระหงส์ มื อประสานสิ บทิ ศมาดูแล
และพรรคกิจสังคมส่ ง ร.อ.ขจิต เพือนของพล.อ.สุ จินดามาเป็ นเลขาธิ การ
พรรค และตัวเองก็จดั ตั*งพรรคหลักไว้ในการเดิ นเกมการเมืองคื อพรรค
สามัค คี ธ รรม โดยมี ข ้อ แลกเปลี ย นโดยปลดการยึ ด ทรั พ ย์ใ ห้แ ก่ น าย
บรรหาร ศิ ลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติ ไทย และนายมนตรี พงษ์พานิ ช
หัวหน้าพรรคกิ จ สังคมด้ว ย โดยเฉพาะพรรคชาติ ไทย นายบรรหารได้
ต่ อ เชื อ มขอความช่ ว ยเหลื อ จากทั*ง พลเอกเปรม และยอมปฏิ บัติ ต าม
238

เงือนไขของรสช.โดยเป็ นพรรคอะไหล่รับฝาก ส.ส.ที รสช.ส่ งเข้ามาเก็บ


สต๊อกไว้เตรี ยมการเลือกตั*ง ดังนั*นนายบรรหารจึ งหลุดจากการยึดทรั พย์
เป็ นรายแรก และเมือรั ฐบาลนายอานันท์ทีเข้ามาขัดตาทัพ จัดการเคลียร์
หน้า เสื อ ให้แ ล้ว ก็ เปิ ดการเลื อกตั*งทัว ไปตามแผนของราชสํานัก แต่ ดู
เหมือนว่าหน้าตาของรั ฐบาลใหม่น* นั จะเป็ นอันตรายต่ อวังยิงกว่ารั ฐบาล
พลเอกชาติชายในสายตาของพลเอกเปรมและพลเอกชวลิต เพราะเริ มเห็ น
ชัดเจนแล้วว่า รสช.ทําการสื บต่ออํานาจโดยสร้างอํานาจทางการเมืองใหม่
ทีแข็งแกร่ งและควบคุมยากยิง กว่ารัฐบาลพลเอกชาติ ชายเสี ยอีก ด้วยการ
เป็ นรัฐบาลโดยการเลือกตั*งทีมีท* งั พรรคการเมืองของตัวเองและกองทหาร
ของตัวเอง โดยมีกองทัพหนุ นหลังอย่างเต็มที ด้วยการควบคุ มกําลังผ่าน
รุ่ น 5 และผ่านเครื อญาติ และทันที ทีผลการเลือกตั*งปรากฏขึ*น เสี ยงข้าง
มากที ผ่านกลไกของทุ น ที ร สช. ตุ นไว้สมัย นายกฯ อนัน ต์อนุ มตั ิ และ
กลไกของทหารโดย “สามทหารเสื อ” ประจําหมู่บา้ นที น ายกฯ อนัน ต์
อนุ มตั ิให้เพือใช้เป็ นหัวคะแนนทุกหมู่บา้ นก็บรรดาลผลให้พรรคสามัคคี
ธรรมเป็ นเสี ย งข้างมากอัน ดับหนึ งขึ* น มาทัน ที และเริ มแสดงบทบาท
ขึ* นมาทันที และเริ มแสดงบทบาท โดยเป็ นแกนกลางจัดตั*งรั ฐบาล และ
ทัน ที ทีน ายณรงค์ วงศ์วรรณ หัว หน้าพรรคสามัค คี ธรรมเสนอตัว เป็ น
นายกรัฐมนตรี ตัวแทนพรรคการเมืองฝ่ ายตรงข้ามคือพรรคประชาธิ ปัตย์
พรรคความหวังใหม่ และพรรคพลังธรรม ก็จบั มือกันค้านโจมตี ว่านาย
239

ณรงค์ วงศ์วรรณว่ามีบญั ชีดาํ เป็ นผูค้ า้ ยาเสพติดเข้าประเทศสหรั ฐอเมริ กา


ไม่ได้จึงเกิดความโกลาหลแล้ว อํานาจนายกรั ฐมนตรี คนใหม่ล่าสุ ดจึ งมา
ตกอยู่ทีพ ลเอกสุ จิ น ดา คราประยูร (เพราะรั ฐธรรมนู ญ ขณะนั*น มิ ไ ด้
กําหนดว่านายกฯ ต้องเป็ น ส.ส.) เมือภาพปรากฏชัดเช่ นนั*น ความวิต ก
กังวลว่ ากลุ่มรสช. จะกลายพันธุ์เป็ นราชวงศ์ รสช. เช่นกลุ่มทหารการเมือง
ในอดี ต จึ งมาหลอกหลอน ดังนั*น เครื อข่ ายราชสํานักซึ งปั จ จุ บันบังคับ
บัญชาโดยพลเอกเปรม ก็ทาํ งานประสานกันทันที โดยกลไกของพลเอก
เปรมทั*งหมดตั*งแต่ พรรคประชาธิ ปัตย์ พรรคความหวังใหม่ และพรรค
พลังธรรม ก็ประสานตี กระหนําพรรคสามัคคี ธรรมทั*งในสภาและนอก
สภา โดยมี ต ัว ละครในเครื อข่ ายผูม้ ี บารมี น อกรั ฐธรรมนู ญที สําคัญ คื อ
พลตรี จาํ ลอง ศรี เมือง หัวหน้าพรรคพลังธรรม เตรี ยมทหารรุ่ น 7 ทีขดั แย้ง
กับรุ่ น 5,นายประสงค์ สุ่ นสิ ริ และพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรค
ความหวังใหม่ก็ทาํ การเชื อมต่ อกับกลุ่มเคลื อนไหวประชาธิปไตย เช่ น
นพ.สันต์ หัตถีรัตน์, นพ.เหวง โตจิ ราการ, นายไพศาล พืชมงคล เจ้าของ
สํานักงานทนายความธรรมนิ ติ คนสนิ ทพลเอกชวลิต(ปั จจุบนั เป็ นแกนนํา
พันธมิตร) และเชื อมต่ อกลุ่มมวลชน มอเตอร์ ไซด์รับจ้าง กลุ่มกรรมกร
ของสหภาพแรงงาน โดยรวมกําลังกันประท้วงขับไล่ พล.อ.สุ จินดา ทันที
อย่างเป็ นเอกภาพ และมีประสิ ทธิภาพ
240

จากเหตุการณ์ทีผคู้ นจํานวนมากโดยมีท* งั กําลังจัดตั*งนักการเมือง


ของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคความหวังใหม่ พรรคพลังธรรม ที เสี ย
ประโยชน์ พร้อมด้วยกําลังจัดตั*งของสันติอโศก พร้อมด้วยนักเคลือนไหว
ฝ่ ายซ้ายเดิมทีแปรรู ปมาเป็ นคนชั*นกลาง และประชาชนทัว ไปผูร้ ั กความ
เป็ นธรรม รวมกําลังกันเป็ นเรื อนแสน ประท้วงกดดันให้พลเอกสุ จินดา
ลาออก และวาระสุ ด ท้า ยของสุ จิ น ดาก็ ม าถึ ง เมื อกระสุ น นัด แรกลัน
ออกไป การปราบปรามก็เกิดขึ*นจากจุดกลางถนนราชดําเนิ นโดยทหารก็
บุกเข้าจับตัว พล.ต.จําลอง ศรี เมือง แกนนําม็อบ แต่แทนที สถานการณ์ จะ
คลี ค ลายลง ก็ ก ลับ เขม็ ง เกลี ย ว และขยายตัว ออกรอบๆ บริ เวณนั* น
กลายเป็ นจลาจล จนรั ฐ บาลพลเอก สุ จิ น ดาอยู่ใ นฐานะลํา บากที จ ะ
ปราบปรามอย่างต่อเนื องจนจบขบวนการได้
เหนือฟ้ ายังมีฟ้า เหนือรสช. ยังมีราชสํ านักคอยคุมเกมส์ เมือลูก
บอลไหลเข้ าเท้ าตรงบริ เวณหน้ าประตูพอดีเช่ นนี;พลเอกเปรมจึงเตะลูก
เข้ าโกล์ ทันที
ดัง นั*น อํา นาจจากราชสํ า นั ก โดยพลเอกเปรมผู้มี บ ารมี น อก
รัฐธรรมนูญตัวจริ งก็แสดงบทบาทโดยการเรี ยกตัวทั*งพลเอกสุ จินดา และ
พล.ต.จําลอง ซึ งกลายเป็ นคู่พิพาท ทั*งๆ ที พลเอกสุ จินดาพึงได้รับโปรด
เกล้าฯ จากพระมหากษัต ริ ย ใ์ ห้เป็ นนายกรั ฐมนตรี บริ หารประเทศมา
หมาดๆ ไม่พอเดือน เพียงแต่มีคนนําม็อบมาขับไล่นายกฯ ก็มีอาํ นาจที จะ
241

ดําเนิ น การปราบปรามใดๆ ทั*งสิ* น เมื อเกิ ดเลือดตกยางออกเข้า พลเอก


สุ จินดาผูม้ ี อาํ นาจทางการทหารเข้มแข็งก็หนี ไม่พน้ ที จะต้องเป็ นจําเลย
ทางการเมือง ต้องคลานเข้าไปกราบแทบเบื*องยุคลบาทของพระเจ้าอยู่หัว
ภูมิพล
บรรยากาศทีท* งั พลเอกสุ จินดา และพลตรี จาํ ลองหมอบกราบต่ อ
หน้าพระมหากษัตริ ย ์ และถูกต่อว่าสัง สอนโดยถ่ายทอดสดออกโทรทัศน์
รวมการเฉพาะกิ จ ทุ ก ช่ องนั*น กลายเป็ นภาพประวัติ ศาสตร์ ทีท ําลาย
เกียรติภูมิของผูท้ ีมีอาํ นาจตามตัวหนังสื อในฐานะนายกรัฐมนตรี ของไทย
อย่างยิง เป็ นความเจ็บปวดของพลเอกสุ จินดามาจนทุ กวันนี* และเป็ นการ
ยืนยันให้เห็นถึงระบอบการปกครองของไทยว่า คือระบอบสมบู รณาญา
สิ ทธิ ร าชใหม่ อํ า นาจมิ ใ ช่ อยู่ ที ตั ว นายกรั ฐมนตรี แต่ อยู่ ที อ งค์
พระมหากษั ต ริ ย์ โดยใช้ ผ่ านผู้ มีบ ารมี น อกรั ฐ ธรรมนู ญ มิใ ช่ ใช้ ผ่ า น
นายกรัฐมนตรี
ความเจ็บปวดของพลเอกสุ จินดาที ฝังลึกนานกว่า 10 ปี ไม่เลือน
ไปจากความทรงจําก็ ไ ด้แสดงออกที ค าํ พูด ของพลเอกสุ จิ น ดาที เตื อ น
ทหารรุ่ น น้องในเหตุ ก ารณ์ ประท้วงของพัน ธมิ ต รขับไล่ รั ฐบาลสมัค ร
ในช่วงเริ มต้นทีปกครองมาได้ไม่พอ 3 เดือน เช่นเดียวกับทีเกิดกับตนเมือ
เดือนพฤษภาคม 2551 เป็ นการสะท้อนความเจ็บปวดของฝ่ ายทหารที เข้า
มายุง่ เกียวกับการเมืองโดยได้รับความเห็นชอบจากราชสํานักก็คือ
242

“ทหารอย่ า เข้ า ไปยุ่ ง ทหารมี ป ระสบการณ์ ค รั; งสํ า คั ญ เมื อ


เหตุ ก ารณ์ พ ฤษภาทมิ ฬ ปี 2535 และประสบการณ์ ค รั; ง ล่ า สุ ด ก็ เ มื อ
19 กันยายน 2549”
จากคํา เตื อ นนี* น่ า จะเป็ นส่ ว นหนึ งที ท ํา ให้ พ ลเอกอนุ พ งษ์
ผูบ้ ญั ชาการทหารบกไม่นาํ ทหารเข้าไปจัดการใดๆ กับการประท้วงของ
พันธมิตร รวมตลอดทั*งไม่ทาํ การยึดอํานาจตามความประสงค์ของวังโดย
ทําการวางเฉยต่อสถานการณ์มาโดยตลอด เข้าทํานองตามสุ ภาษิตไทยว่า
“เนือ; ไม่ได้ กนิ หนังไม่ได้ รองนัง ได้ แต่ กระดูกแขวนคอ”
จะด้ วยเป็ นบทเรียนของทหารหรือเป็ นเพราะ “ม็อบส้ นใหญ่ ” ก็
เป็ นเรื อ งที จ ะศึ ก ษาข้ อ เท็ จจริ ง กัน ต่ อ ไป แต่ ที แ น่ ๆ คือ รั ฐ ไทยภายใต้
ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่ นี; ได้ พฒ ั นาไปสู่ รัฐอนาธิปไตยแล้ ว

5.10 รอยแผลทางสังคมของสายสกุลแห่ งอํานาจ


เหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองตลอดระยะเวลา 70 กว่าปี ที
ผ่านมา อดีตนายกรัฐมนตรี ทีเคยอยูใ่ นอํานาจอย่างมัน คงโดยมองไม่เห็ น
ในขณะนั*น ว่ า จะล่ ม สลายลงได้อ ย่ างไร ได้ก ลายเป็ นฉากละครทาง
การเมืองที เจ็บปวดที สุดที ฝังรากลึกในทุ กสายสกุลของอดีตนายกฯ ทั*ง
ที มาจากพลเรื อนและนายกฯ ที มาจากทหาร นับตั*งแต่ พระยาพหลพล
พยุ ห ะเสนา (พหล พหลโยธิ น ) จอมพล ป.พิ บู ล สงคราม นายปรี ดี
243

พนมยงค์ หรื อแม้แต่ จอมพลสฤษดิ; ธนะรั ชต์(ที มีบทบาทสําคัญต่ อการ


ฟื* นอํา นาจของราชสํานั ก อย่า งมัน คง เมื อตายก็ ถูก ยึ ด ทรั พ ย์) จอมพล
ถนอม กิตติขจร จอมพลประภาส จารุ เสถียร พลเอกเกรี ยงศักดิ; ชมะนันท์
พลเอกสุ จินดา คราประยูร พลเอกอิสระพงศ์ หนุ นภักดี และล่าสุ ดสาย
สกุลชินวัตร เราจะสังเกตได้ว่าสังคมจะไม่เคยได้ยิน บุ คคลรุ่ นหลังที ใช้
นามสกุลเหล่านี* เข้าไปรั บใช้ในวังในฐานะเป็ นนางสนองพระโอฐ หรื อ
ในฐานะเจ้าหน้าทีในสํานักราชเลขาในราชสํานักเลย
เพราะอะไร ?
244

บทที 6
การบริหารอํานาจของราชสํ านัก
รู ปธรรมรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ

ไม่ ว่าใครจะขึน; มาเป็ นนายกรั ฐมนตรี ของประเทศไทยก็จะต้ อง


รั บใช้ ใต้ เบื;องยุคลบาท, ทั;งทํานโยบายไปรั บใช้ และนําส่ วนตัวไปรั บใช้
การถวายทรั พย์ สินใดๆ แก่ พระองค์ ถือเป็ นบุ ญของผู้ถวายซึ งคล้ ายกับ
ถวายปั จจัยให้ พระสงฆ์ และทั; งหมดนั; นไม่ มีบุ ญคุ ณ ไม่ มีเมตตา ส่ วน
นายกฯ จะบริหารประเทศเป็ นประโยชน์ ต่อประชาชนมากน้ อยเพียงไร
ไม่ สําคัญ ทีสําคัญทีสุดคือ “อย่ ามันคง อย่ าให้ คนรั กมาก” ถ้ าผิดจากนี;
อันตรายก็จะเกิดกับตัวนายกฯ ทุกคน, รู ปธรรมทีชัดเจนทีสุดคือกรณีของ
รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

6.1 ธุรกิจ ไอทีวี ทั;งรับใช้ และรับกรรม


เป็ นเรื องที รับรู้ กนั ทัว ไป แต่ ไม่มีใครกล้าพูดกันคื อกรณี การทํา
ธุรกิจโทรทัศน์ช่องไอทีวี (ITV) ซึงเริ มต้นไม่ได้เกี ยวอะไรกับทักษิ ณเลย
แต่ ทกั ษิ ณต้องจํายอมรั บใช้ และสุ ดท้ายก็ตอ้ งรั บกรรมเอง เพราะไอที วี
กลายเป็ นธุรกิจทีสร้างศัตรู ทางการเมืองมากมาย โดยทักษิณก็พูดไม่ออก
245

ไอที วีเป็ นธุ ร กิ จ หนึ งในหลายพัน กิ จ การของราชสํานัก ที ก่ อตั*งเริ มแรก


เมือปี 2536 ด้วยทุนหลักมาจากสํานักงานทรั พย์สินส่ วนพระมหากษัตริ ย ์
ผ่านทางธนาคารไทยพาณิ ชย์ ด้วยการลงทุนเริ มแรกประมาณ 3,000 ล้าน
บาท โดยมีกลุ่มผูด้ าํ เนิ นการคื อสํานักข่ าวเนชัน มีนายสุ ทธิ ชยั หยุ่น เป็ น
หั ว หน้ า ที ม งาน ทุ ก คนได้ดู โ ทรทัศ น์ ไ อที วี ก็ ส นุ ก สนานตื น เต้น กั บ
ข่ า วสาร การบัน เทิ ง ดี แต่ ห ารู้ ไ ม่ ว่ า ไอที วี ข าดทุ น ทุ ก เดื อ น แต่ ก ลุ่ ม
ผูด้ าํ เนิ นการไม่เดื อดร้ อนเพราะเป็ นลักษณะมือปื นรั บจ้างคื อถือหุ ้นน้อย
แต่บริ หารเองและรับเงินเดือนกันสูงๆ ในทีสุดไอทีวีก็ “บักโกรก” หนี* สิน
ล้นพ้นตัว และด้วยวัฒนธรรมการดําเนิ นธุรกิจแบบราชสํานักที มีลกั ษณะ
พิเศษคือมีแต่กาํ ไร แต่เมือเกิดการขาดทุนก็แก้ปัญหาโดยผ่องถ่ายยัดเยียด
ให้แก่กลุ่มทุนทีจงรั กภักดี แต่ ท* งั เบี ยร์ ชา้ ง, ซี พี, กระทิ งแดง ไม่มีใครรั บ
จึงถูกโบ้ยมาหาทักษิณซึงขณะนั*นได้กระโดดเข้ามาสู่ การเมืองเต็มตัวใน
ฐานะหัว หน้าพรรคไทยรั ก ไทย และพร้ อมจะก้าวขึ* น สู่ น ายกรั ฐมนตรี
คนที 23 ของประเทศไทย เป็ นทั*งคนกระเป๋ าหนัก และใจถึง บริ ษ ัทใน
กลุ่มของทักษิ ณจึ งรั บผ่องธุ รกิ จขาดทุ นมาดําเนิ นการต่ อด้วยความภัก ดี
เป็ นเงินถึง 3,000 กว่าล้านบาท เท่ากับทีราชสํานักลงทุนไป
ในชี วิตอันเป็ นปกติ ของมนุ ษย์มีใครไหมที จ่ายเงิ นมากขนาดนี*
แล้วปล่อยให้กิจการล่มสลายไปต่อหน้าต่อตาอีก
246

ทักษิ ณจึ งจัดการหานัก บริ หารมื ออาชี พมาบริ หารจัดการ คณะ


ผูบ้ ริ หารใหม่จึงเข้าแทนที ชุดบริ หารเก่ า และเบี ยดแก๊งของสุ ทธิ ชยั หยุ่น
ออก ซึงก็เป็ นเรื องธรรมดาในวงการบริ หารจัดการของธุ รกิจขนาดใหญ่
แต่ ทีไม่ ธรรมดาก็ คื อสุ ทธิ ชัย หยุ่น เป็ นขาใหญ่ ทีม ากบารมี ในวงการ
สื อสารมวลชน และตั*งแต่น* นั ทักษิณก็ได้ศตั รู กลุ่มใหญ่ กลุ่มหนึ งจากค่ าย
เนชัน ผูเ้ สี ยผลประโยชน์โดยทําหน้าที ทิมแทงตลอดตั*งแต่ น* นั มา จนถึง
การรั ฐประหารเมื อ 19 กันยายน 2549 แก๊ งเนชัน ที มีน ายสุ ทธิ ชยั หยุ่น
เป็ นหัว หน้าใหญ่ ก็ เปิ ดโปงตัว เองโดยนํานายเทพชัย หย่อง(น้องชาย
สุ ทธิชยั หยุน่ ), นายกนกรัตน์ วงศ์สกุล และพรรคพวกที โด่งดังหลายคน
ร่ วมมือกับคมช.เข้าไปเป็ นกระบอกเสี ยง และหาผลประโยชน์ใน อสมท.
และโทรทัศน์ช่องของทหารอย่างอิมหนําสําราญ
กิ จ การไอที วี ภ ายใต้ก ารบริ หารใหม่ ข องมื ออาชี พ นําโดยนาย
นิ วฒั น์บุญทรง ธํารงไพศาล ค่ายทักษิณ ก็ทาํ กําไรทําให้ไอทีวีฟ*ื นชี วิตขึ*น
ได้แต่ ก็ไม่พน้ ศัตรู ช* นั ครู อย่างสุ ทธิ ชยั หยุ่น และพรรคพวกที จะทิมแทง
และแย่งยึดกลับคืนได้ โดยสร้างเรื องให้ฝ่ายทหารวิตกกังวลว่าโทรทัศน์
ไอที วี เ ป็ นฐานอํา นาจสํา คัญ ของทัก ษิ ณ ที มี อิ ท ธิ พ ลต่ อความคิ ด ของ
ประชาชน และเป็ นแหล่งสําคัญทีสนับสนุ นการเมืองให้ทกั ษิ ณพร้ อมทั*ง
ชงประเด็นให้พลเอกสุ รยุทธ จุลานนท์ ในนามรั ฐบาล คมช.โดยกล่าวหา
ว่าบริ ษ ัทไอที วีก ระทําผิด พร้ อมกับยุให้ใช้อาํ นาจเผด็จ การของรั ฐบาล
247

และอํานาจเผด็จการสภายึดไอทีวีไปดื*อๆ โดยออกเป็ นกฎหมายอ้างว่าจะ


ตั*ง เป็ นที วี ส าธารณะ พร้ อ มกัน นั*น ก็ สัง ปรั บ บริ ษัท ไอที วี เ ป็ นเงิ น ถึ ง
100,000 ล้านบาท โดยไม่ยอมผ่อนผัน ก็เป็ นที รู้กนั ว่าเป็ นค่ าปรั บที ไม่มี
ใครจะมี ปัญ ญาจ่ ายแน่ น อน สุ ดท้ายก็ ยึด ไอที วี ไปให้กลุ่ มเนชันบริ หาร
จัด การภายใต้ชือใหม่ ทีหลอกลวงประชาชนได้เนี ย นว่ าโทรทัศน์ไทย
พี บีเ อส(TPBS) หรื อ โทรทัศน์ สาธารณะ และได้เพิม ภาระให้แก่ รั ฐ ที
จะต้องเอาภาษีประชาชนมาจ่ายให้พวกแก๊งเนชัน ใช้ปีละประมาณ 2,000
ล้านบาท ซึงแต่เดิมรัฐบาลไม่ตอ้ งจ่ายเงินแถมยังเก็บภาษีได้อีก
โทรทั ศ น์ ไ อที วี จึ ง เป็ นตั ว อย่ า งหนึ ง ของการดํ าเนิ น ธุ ร กิจ ใน
ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่ ทีใครจะขึ;นมามีอํานาจทางการเมืองก็
ต้ องพร้ อมทีจะรับใช้ ด้วยใจภักดีท;ังส่ วนตัวและส่ วนรวม

6.2 บริหารตามนโยบาย ยิง จริงจังยิง สร้ างศัตรู


ไม่ มี น โยบายของรั ฐ บาลใดในโลกที ไ ด้รั บ ความพอใจจาก
ประชาชนทุ กคน การปฏิบตั ิ ตามนโยบายของรั ฐบาลย่อมทําให้คนกลุ่ ม
หนึ งได้ประโยชน์ และคนอีกกลุ่มหนึ งเสี ยประโยชน์ กลุ่มทีได้ประโยชน์
ก็พอใจ กลุ่มที เสี ยประโยชน์ก็ไม่พอใจ ตัวอย่างเช่ น นโยบายนําหวยใต้
ดินขึ*นบนดิน แล้วนําเงินมาสนับสนุ นการศึกษา ประชาชนย่อมพอใจ แต่
เจ้ามือหวยใต้ดินย่อมไม่พอใจ หรื อนโยบายปราบปรามยาเสพติ ดอย่าง
248

จริ งจังก็ยอ่ มทําให้เครื อข่ายผูค้ า้ ยาเสพติดไม่พอใจ เป็ นต้น ปั ญหาจึ งอยู่ที


คนเป็ นนายกฯ ต้องกล้าตัดสิ นใจ และยึดถือประโยชน์ของคนส่ วนใหญ่
เป็ นสําคัญ ดังนั*นถ้านายกฯ กลัวจะกระทบตัวเองโดยมีศตั รู เกลียดชัง ก็จะ
ทําอะไรไม่ได้เลย ด้วยเหตุน* ีเอง ยิง รัฐบาลทักษิณปฏิบตั ิตามนโยบายที ให้
ไว้ต่อประชาชนอย่างจริ งจัง รัฐบาลทักษิณก็ยงิ ก่อศัตรู มากขึ*น
ในต่ างประเทศสิ งเหล่ านี* เป็ นเรื องธรรมดา แต่ สําหรั บประเทศ
ไทยไม่ใช่เรื องธรรมดา เพราะจะมีอาํ นาจนอกระบบทีเข้มแข็งคอยช่ วงชิ ง
อํานาจโดยจะกระพือข่าวใส่ ร้ายเพือไม่ให้รัฐบาลนั*นได้รับความพึงพอใจ
จากประชาชน และเมื อเห็ นว่ารั ฐบาลนั*นมีแนวโน้มจะได้รับความนิ ย ม
สูงสุ ดจากประชาชนก็จะเป็ นที จบั ตามองของราชสํานัก และเมือถึงจุ ดที
เห็นว่าจะกระทบต่ออํานาจเบื*องบนแล้ว เครื อข่ายราชสํานักก็จะทําหน้าที
รวมศูน ย์ทาํ ลาย โดยโจมตี ใ ส่ ร้ า ยบิ ด เบื อ นข้อ เท็ จ จริ ง รวมถึ งการใช้
อํานาจโค่นล้มรั ฐบาล ซึ งในอดี ตหลายรั ฐบาลก็โดนกระทํามาเช่ นนี* แต่
รัฐบาลทักษิณโดนอย่างหนักหน่ วงที สุด เพราะเป็ นรั ฐบาลพลเรื อนที มา
จากการเลือกตั*งเป็ นรั ฐบาลแรก นับตั*งแต่ เปลียนแปลงการปกครองเป็ น
ต้นมา ที มีค วามเข้มแข็ งที สุด สามารถจัด ตั*งรั ฐบาลด้วยพรรคการเมือง
เพี ย งพรรคเดี ย ว และเป็ นรั ฐ บาลแรกที ส ามารถแก้ปัญ หาได้โ ดนใจ
ประชาชนทีสุด
249

ตลอดระยะเวลายาวนานของระบอบประชาธิ ปไตยที ลม้ ลุ ก


คลุ ก คลาน ทํา ให้ร ะบบพรรคการเมื อ งไม่ ส ามารถจะทํา งานบริ การ
ประชาชนอย่างต่ อเนื องได้ ผูน้ าํ รั ฐบาลทุ กคนที ได้สัญญากับประชาชน
ก่อนการเลือกตั*งว่ามีนโยบายทีจะสร้ างประโยชน์ต่อประชาชนอย่างนั*น
อย่างนี* ก็มกั จะทําไม่ได้ดว้ ยเพราะเป็ นรั ฐบาลผสมหลายพรรคบ้าง เป็ น
รัฐบาลอายุส* นั บ้าง หรื อนายกรัฐมนตรี เป็ นเพียงนักการเมืองผูฉ้ วยโอกาส
พูด เก่ ง แต่ ทาํ งานไม่ เป็ น จึ งไม่ สามารถควบคุ ม และขับ เคลื อ นระบบ
ข้าราชการทีมีกฎระเบียบซับซ้อน และเปิ ดช่องให้ขา้ ราชการเฉื อยงานได้
ระบบข้าราชการจึงเหมือนม้าดื*อทียากแก่การบังคับ ยิง ราชสํานักพยายาม
สร้างเกราะคุม้ กันไว้หลายชั*น ในทีสุดอํานาจของรัฐบาลไม่อาจขับเคลือน
ระบบข้าราชการให้ด าํ เนิ นการตามนโยบายที มีประสิ ทธิ ภาพในเวลาที
จํากัดได้ ประชาชนจึงเสื อมศรัทธา ไม่เชือถือต่ อนักการเมืองจนกล่าวกัน
ติดปากว่า “พวกนักการเมืองดีแต่พดู ” และสุ ดท้ายความเบือหน่ ายทีสะสม
เช่นนี* จึงกลายเป็ นฐานแห่ งการก่อกําเนิ ดการซื*อเสี ยง เพราะประชาชนไม่
อาจจะได้รับผลประโยชน์ใดๆ จากสัญญาของพรรคการเมือง จึ งเรี ยกรั บ
เอาผลประโยชน์เฉพาะหน้า แต่รัฐบาลที มีเสี ยงข้างมากที มีความเข้มแข็ง
อันเป็ นผลจากรัฐธรรมนูญปี 2540 ประกอบกับตัวนายกฯ ทักษิณ เป็ นนัก
บริ หารที มีค วามสามารถ กล้าเสี ย ง กล้าตัด สิ น ใจ และกล้าที จ ะบังคับ
บัญชาข้าราชการทีเป็ นเสมือนม้าดื*อให้ปฏิบตั ิ ตามนโยบาย ประชาชนจึ ง
250

ได้รับประโยชน์จากนโยบายของรั ฐบาลทักษิ ณอย่างเป็ นรู ปธรรม และ


เป็ นครั*งแรก ดังนั*น จึ งก่ อให้เกิ ดความขัดแย้งกับข้าราชการที ตอ้ งเหน็ ด
เหนื อยจากการทํางานหนัก ซึ งวัฒนธรรมข้าราชการนั*นเป็ นวัฒนธรรม
ของขุ น นางเจ้า นายประชาชนที “กิ น ข้ า วร้ อน นอนตื น สาย” อี ก ทั*ง
นโยบายต่างๆ ทีเป็ นประโยชน์ต่อประชาชนส่ วนใหญ่ก็ยงิ ก่อศัตรู มากขึ*น
เช่น
-นโยบายทําสงครามปราบปรามยาเสพติดอย่างจริ งจัง ก็
ทําให้เครื อข่ ายยาเสพติ ด ที มีต* งั แต่ ระดับหมู่บา้ น ถึ งเมื องหลวง มีต* งั แต่
ชาวบ้านธรรมดาจนถึงคนที มีสี ที มีท* งั ตํารวจ ทหาร และข้าราชการ เสี ย
ผลประโยชน์จากนโยบายนี* ซึ งเป็ นคนกลุ่มใหญ่ ในสังคมที มีระบบการ
จัดตั*ง ซ้อนอยูใ่ นระบบของรัฐทีต* งั ตนเป็ นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลทักษิ ณอย่าง
เอาเป็ นเอาตาย
-นโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรคทําให้หมอตี‚ตามร้านขาย
ยา และเจ้าหน้าทีโรงพยาบาลส่ วนใหญ่ ไม่พอใจในนโยบายของทักษิ ณ
เพราะนั บ แต่ ใ ช้ น โยบายนี* ประชาชน ทุ ก คนก็ ถู ก ดึ ง เข้ า สู่ ร ะบบ
สาธารณสุ ขของโรงพยาบาลด้วยราคาที ถูกกว่าไปซื*อยาหมอตี‚ ตามร้ าน
ขายยา ชาวบ้านได้ประโยชน์มาก แต่ หมอตี‚ เสี ย ประโยชน์ และแพทย์
พยาบาลทํางานหนักมากขึ* นก็ไม่ พอใจ ดังนั*นจึ งไม่ แปลกที จะเห็ นร้ าน
251

ขายยาส่ ว นใหญ่ และหมอ ชอบเปิ ดโทรทัศน์ ASTV สนับ สนุ น กลุ่ ม


พันธมิตร
-นโยบายกองทุนหมู่บา้ น โดยรัฐบาลให้เงิ น 1 ล้านบาท
แก่ทุกหมู่บา้ น และทุกชุมชนในเขตเทศบาล โดยส่ วนใหญ่ชาวบ้านได้นาํ
เงินกองทุนนี*ออกหมุนเวียนผลัดเปลียนกันกูด้ ว้ ยดอกเบี*ยราคาถูก ทําให้
นายทุนตามหมู่บา้ นและชุมชนทีปล่อยกูด้ ว้ ยดอกเบี*ยมหาโหดขาดรายได้
จากการปล่อยเงินกู้ ไม่พอใจนโยบายของรัฐบาล
-นโยบายนําหวยใต้ดินขึ*นบนดิ นโดยรั ฐบาลเป็ นเจ้ามือ
เอง ขายหวย 3 ตัว 2 ตัว แข่งกับเจ้ามือหวยใต้ดินทีเป็ นเครื อข่ายใหญ่ และ
เป็ นต้นรากของระบบเจ้าพ่อมาเฟี ย ทีจะต้องร่ วมมือกันระหว่างเจ้าพ่อกับ
เจ้าหน้าที รัฐ โดยเจ้าพ่อจะทําหวยและส่ งส่ วยให้แก่ ตาํ รวจโรงพัก และ
เจ้าหน้าทีปกครอง เครื อข่ ายที เลวร้ ายนี* มีเงิ นหมุนเวียนกันเป็ นแสนล้าน
ตามผลงานวิจยั ของนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ นักวิชาการในมหาวิทยาลัย
ซึงเป็ นข้อมูลทีน่าเชื อถือ เพราะเฉพาะที รัฐบาลเพิงเข้าไปแย่งตลาดในปี
แรกมาส่ วนหนึ งก็ได้เงินมาใช้บริ หารงานของรัฐเป็ นจํานวนเงิ นกว่าหมืน
ล้านบาทต่ อปี เครื อข่ ายหวยใต้ดินนี* ยิงใหญ่ มาก เพราะฝั งรากลึกมาเป็ น
เวลายาวนานนับ 100 ปี แล้ว และเจ้ามื อหวยใต้ดิน รายใหญ่ สุด จะอยู่ที
เยาวราช กรุ งเทพมหานคร และกระจายสายอยู่ในตัวจังหวัดทุกจังหวัด
ดังนั*นเครื อข่ายเจ้าพ่อเจ้าแม่หวยเถือนจึ งเป็ นศัตรู ของรั ฐบาลทักษิ ณ ที มี
252

อัน ตรายไม่ ยิงหย่อนไปกว่าพวกพ่ อค้ายาเสพติ ด เพราะมี ลกั ษณะเป็ น


องค์กรจัดตั*งทีซอ้ นอยูใ่ นองค์กรมวลชน และองค์กรจัดตั*งรั ฐบาล ดังนั*น
เมือมีสญ
ั ญาณไฟเขียวจาก “ผูม้ ีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ” และยิง มีสัญญาณ
แน่ ชัด ว่ า ราชสํา นั ก ไม่ พึ ง พอใจต่ อ รั ฐ บาลทัก ษิ ณ ด้ว ยแล้ว รั ฐ บาลที
เข้มแข็งของทักษิณก็ไม่อาจจะต้านทานได้

6.3 แปรรู ปรัฐวิสาหกิจ คือแปรประโยชน์ เจ้ าและสหภาพฯ


ในยุคโลกไร้พรมแดน รัฐวิสาหกิจมิได้เป็ นพียงบริ การสาธารณะ
แต่รัฐวิสาหกิจได้กลายเป็ นต้นทุนพื*นฐานทางการผลิตของสิ นค้าทุ กชนิ ด
โดยเฉพาะค่ า ไฟฟ้ า ดัง นั*น การบริ หารจัด การจะต้อ งเป็ นไปอย่ า งมี
ประสิ ทธิภาพ ทีตอ้ งมีตน้ ทุนตําสุ ด แต่มีประสิ ทธิภาพสูงสุ ด แต่จากความ
เป็ นจริ งรัฐวิสาหกิจก็คือ “ระบบราชการภาคธุ รกิจ” ที การบริ หารจัดการ
ไม่ได้แตกต่างจากระบบราชการไทยทีเป็ นระบบขุนนางเลย จะเห็ นได้ว่า
ข้าราชการนั*นเวลาบริ การประชาชนผูไ้ ม่มีเส้นสายจะอืดอาดล่าช้า แต่ จะ
บริ การคนทีมียศถาบรรดาศักดิ;ดว้ ยความรวดเร็ ว และยิง ถ้าเป็ นการบริ การ
ราชสํานักก็จะยิง รวดเร็ วเป็ นพิเศษ ซึงระบบงานรัฐวิสาหกิจก็เป็ นเช่นนี*
ระบบงานรัฐวิสาหกิจจึงมีลกั ษณะเป็ นธุรกิจคล้ายธุรกิจเครื อข่ าย
ของราชสํานั ก ที ต ้อ งบริ การราชสํา นัก เป็ นอัน ดับแรก โดยพนัก งาน
รัฐวิสาหกิจก็คล้ายกับขุนนางทีได้เงินเดือนโดยไม่ให้ความสนใจต่อลูกค้า
253

ทีเป็ นประชาชน การบริ การประชาชนจึงเป็ นงานรอง และยิงรั ฐวิสาหกิ จ


ที มีลกั ษณะผูกขาดด้วยแล้ว ประชาชนจึ งกลายเป็ นผูข้ อ “ส่ ว นบุ ญ” ใน
การรับบริ การจากกิจการไฟฟ้ า หรื อโทรศัพท์ ดังจะเห็ นได้เมือไปขอรั บ
บริ การก็จะต้องนัง คอย และคอยรับอารมณ์ของพนักงานรั ฐวิสาหกิ จด้วย
และเพื อ ให้ ฝั ง ลึ ก ความรู้ สึ ก แบบขุ น นางเช่ น นี* แก่ ทุ ก คนในองค์ ก ร
รัฐวิสาหกิจ ก็ได้สร้ างวัฒนธรรมการสร้ างแรงจูงใจว่าใกล้ชิดราชสํานัก
ด้วยการมอบเครื องราชอิสริ ยาภรณ์ ให้แก่ พนักงานรั ฐวิสาหกิจด้วย และ
คณะกรรมการหรื อบอร์ ดส่ วนใหญ่ ก็เป็ นข้าราชการประจําเกือบทั*งหมด
ส่ วนใหญ่มาจากปลัดกระทรวงต่างๆ ทีเกียวข้อง โดยได้เงินเดื อนสู ง เบี*ย
ประชุมแพงๆ อย่างน้อยประชุมครั*งละไม่นอ้ ยกว่า 10,000 บาท ดังนั*นทุ ก
คนจึงมีวฒั นธรรมทีตอ้ งขึ*นต่อราชสํานักเช่นเดียวกับข้าราชการ ดังนั*นใน
ทํานองเดี ยวกันเมือ ราชสํานักต้องการประโยชน์เป็ นส่ วนพระองค์ตาม
พระราชอัธยาศัย รั ฐวิสาหกิ จก็ มีหน้าที จะต้องควัก เงิ น และประโยชน์
ต่ างๆ มากมาย โดยไม่ ตอ้ งคํานึ งถึ งกําไรขาดทุ น เพราะทุ นทั*งหมดเป็ น
ของรัฐ ดังตัวอย่างทีเห็นซึ งเป็ นหนึ งในหลายตัวอย่างที เกิ ดซํ*าแล้วซํ*าเล่า
จนกลายเป็ นความเคยชินของสังคมไปแล้ว เช่ น การเป็ นสปอนเซอร์ ราย
ใหญ่ ของการบิ นไทยและกองสลากในการสร้ างภาพยนตร์ เรื อง “สุ ริโ ย
ทัย” เพือเชิดชูการเป็ นวีรสตรี ของสมเด็จพระราชิ นีในสมัยอยุธยาที ยอม
เสี ย สละชี วิต เพือช่ ว ยพระสวามีอนั เป็ นการสนองพระราชปณิ ธานของ
254

สมเด็ จ พระบรมราชิ นี น าถ, การแปรพระราชฐานไปพัก ผ่ อ นตาม


พระราชวังต่ างๆ ตามเขื อนและตามภูเขาก็เป็ นหน้าที ของการไฟฟ้ าฝ่ าย
ผลิต เจ้าของสถานทีทีจะต้องควักเงินมาจ่าย หรื อการบริ การเครื องบินเพือ
การเสด็จประพาสของพระเจ้าอยูห่ วั รัชทายาท และข้าราชบริ พารทั*งหมด
ทั*งในประเทศและต่ างประเทศโดยไม่คิดค่ าใช้จ่าย ทั*งโดยเสด็จในงาน
ราชการและเป็ นการส่ วนพระองค์ ดังนั*นการแปรรู ปรั ฐวิสาหกิ จจึ งเป็ น
การนํารั ฐวิสาหกิ จเข้าสู่ กลไกการตลาด คื อจะต้องตัดสิ นใจบนพื*นฐาน
แห่ งกําไรขาดทุนในระบบธุ รกิ จของระบอบทุ นนิ ยม โดยไม่อาจจะควัก
เงิ น ไปใช้ต ามชอบใจ หรื อบริ ก ารที ไม่ มีข ้อจํากัด แบบที เป็ นอยู่ในรู ป
แบบเดิ มๆ ได้ เพราะต้องถูก ควบคุ มเข้มงวดขึ*นจากกลไกผูถ้ ือหุ ้น และ
ตลาดหลักทรั พย์ ดังนั*นการแปรรู ปจึ งเป็ นการกระทบต่ อประโยชน์ราช
สํานั ก โดยตรง แต่ เป็ นประโยชน์ ต่ อประชาชน และต่ อ การผลิ ต ของ
ประเทศในโครงสร้ างของโลกยุค ไร้ พรมแดนที มีก ารแข่ งขัน กัน ทาง
การค้าทีเข้มข้นเหมือนการทําสงคราม
255

6.4 รัฐวิสาหกิจเป็ นของประชาชนจริงหรือ


เครื อข่ายราชสํานักได้สร้ างวาทะกรรมครอบงําสังคมไทยอย่าง
บิ ด เบื อนข้อเท็ จจริ งว่ า “รั ฐวิ สาหกิ จ เป็ นของประชาชน” ซึ งเป็ นความ
ถูกต้องเพียงครึ งเดียว ทีถกู ต้องนั*นต้องกล่าวว่า
“โดยรู ป แบบรั ฐ วิ ส าหกิ จ เป็ นของประชาชน แต่ โ ดยเนื; อ หา
รัฐวิสาหกิจเป็ นของราชสํานัก และคณะบุคคลผูบ้ ริ หารรัฐวิสาหกิจ”
ตามที ได้ก ล่ าวไว้ข ้า งต้น แล้ว ที เ ป็ นตัว อย่ างรู ป ธรรมหนึ งใน
หลากหลายตัวอย่างทีสงั คมได้เห็นการนําเงินรายได้ของรัฐวิสาหกิจไปใช้
ในรู ปของการ “ถวาย” เพือสนองตอบแนวพระราชดําริ และตามพระราช
อัธยาศัยในวาระต่างๆ ทีไม่เกี ยวข้องกับกิ จการของรั ฐวิสาหกิ จนั*นๆ เลย
ซึ งทําให้ต ้น ทุ น รั ฐวิ สาหกิ จทุ ก แห่ งต้องเพิมขึ*น โดยไม่จ าํ เป็ น และเมื อ
ประสบกับภาวะขาดทุนจนไปไม่ไหว ประชาชนก็รับภาระไปโดยรัฐบาล
จะนําเงินภาษีไปโป๊ ะชดเชยให้ หรื อกูห้ นี*ยมื สิ นโดยรัฐบาลคํ*าประกัน
แนวคิดรัฐวิสาหกิจเป็ นของประชาชน การแปรรู ปรัฐวิสาหกิจคือ
การขายชาติ ราชสํานักไม่เพียงแต่ เป็ นแกนหลักทางความคิ ดเท่ านั*น แต่
แนวคิ ดนี* ถูก ตอกยํ*าอย่างหนักแน่ นด้ว ยสหภาพแรงงานรั ฐวิสาหกิ จทุ ก
แห่ ง เพราะเนื* อแท้ของการดําเนิ นธุ ร กิ จในรู ปของรั ฐวิสาหกิ จนั*น ก็คื อ
เพื อผลประโยชน์ข องพนัก งานรั ฐวิ สาหกิ จ มิใช่ เพื อผลประโยชน์ข อง
เจ้าของกิจการคือประชาชน เพราะประชาชนโดยปั จเจกแต่ ละคนต้องทํา
256

มาหากิน ขายก๋ วยเตี‚ยว กล้วยแขก จึงเป็ นไปไม่ได้ทีจะตรวจสอบในฐานะ


เจ้า ของกิ จ การ อี ก ทั*งประชาชนก็ ไ ม่ มีอ งค์ ก รจัด ตั*งของตัว เองที จ ะมี
ความสามารถในการตรวจสอบได้จริ ง ส่ วนรั ฐบาลในฐานะตัวแทนของ
ประชาชน โดยกฎหมายก็ไม่อาจจะควบคุมตรวจสอบรั ฐวิสาหกิ จได้จริ ง
เพราะตลอดระยะเวลา 70 ปี ทีผา่ นมาของการพัฒนาการทางการเมืองไทย
ไม่เปิ ดโอกาสให้มีรัฐบาลของประชาชนอย่างแท้จริ งได้ รัฐบาลส่ วนใหญ่
เป็ นตัวแทนของขุนนางและกลุ่มทุนทีร่วมมือกับพวกขุนนาง โดยเฉพาะ
อย่างยิงรั ฐบาลที มาจากการรั ฐประหาร ซึ งมี ระยะเวลายาวนานในการ
ปกครองประเทศไทย ดังนั*น รั ฐบาลของไทยที ผ่านมาก็คื อกลุ่ มขุน นาง
อภิสิทธิชน ด้วยเหตุ น* ี โครงสร้ างของรั ฐวิสาหกิ จผูท้ ี ได้รับผลประโยชน์
หลักในลักษณะ “รุ มทึ*ง” ก็คือ
ราชสํ านัก + พนักงาน + รัฐบาล
ประชาชนจึ งได้ภ าพลวงตาแห่ งผลประโยชน์ ในรู ปของการมี
ไฟฟ้ าใช้ มีน* าํ ประปาใช้ ได้เห็ นรถไฟวิง แต่ สิ งที ประชาชนต้องรั บภาระ
ตลอดการคือ ภาระหนี*สินทีเกือบทุกกิจการของรั ฐวิสาหกิ จขาดทุ นหมด
การบริ หารของรั ฐวิสาหกิ จก็เป็ นระบบเจ้าขุนมูลนายไม่แตกต่ างไปจาก
ระบบข้าราชการ ยิง นับวันยิง เลวร้าย ไม่อาจจะแก้ปัญหาการขาดทุ น และ
ปรั บปรุ งระบบการบริ การประชาชนได้ เมื อนานเข้าได้ก ลายเป็ นภาระ
257

แห่ งการบริ หารรัฐ ยิง ในยุคโลกไร้พรมแดนยิง กลายเป็ นปั ญหาเร่ งเร้าของ


การบริ หารรัฐสมัยใหม่มากขึ*น
หลักฐานทีแสดงความล้มเหลวของระบบรั ฐวิสาหกิ จแบบไทยๆ
ก็ คื อการล้ม ละลายของรั ฐวิ สาหกิ จ หลายแห่ ง ในฐานะที เ ป็ นผูผ้ ูก ขาด
ทางการค้าแท้ๆ แต่ ย งั เจ๊ ง เช่ น กิ จ การ ร.ส.พ.องค์ก ารแก้ว องค์ก าร
แบตเตอรี และอีกหลายกิ จการที มีหนี* สินล้นพ้นตัวอันไม่อาจฟื* นชี วิตได้
แล้ว แต่ไม่ยอมล้มละลาย และไม่ยอมแปรรู ป เช่น กิจการรถไฟ องค์การ
ค้าคุรุสภา เป็ นต้น
รู ปธรรมการรุ มทึ*งของพนักงานรั ฐวิสาหกิ จที กระทําต่ อกิ จการ
ของตน เช่น ใครเคยเป็ นบอร์ ดการบินไทย แม้แต่วนั เดียวได้บินฟรี ตลอด
ชี วิตทั*งครอบครั ว พนักงานการบิ น ไทย และครอบครั ว บิ นฟรี ปีละครั* ง
และบิ นกี ครั* งก็ได้ เสี ยค่ าตั‚วแค่ 10% การได้ประโยชน์ จากกิ จการของ
รั ฐวิสาหกิ จของพนักงานเป็ นกรณี พิเศษในลักษณะ “รุ มทึ*ง” เช่ นนี* มีใน
ทุกกิจการรัฐวิสาหกิจ เช่น พนักงานการรถไฟและครอบครัวนังรถไฟฟรี
พนักงานการไฟฟ้ าได้ใช้ไฟฟ้ าฟรี จาํ นวนหนึ ง พนักงานโทรศัพท์ได้ใช้
โทรศัพท์ฟรี จาํ นวนหนึ ง เป็ นต้น
การจ่ายโบนัสของรั ฐวิสาหกิ จก็แตกต่ างจากกิ จการธุ รกิ จทัว ไป
กล่าวคือกิจการค้าทัว ไปนั*นถ้าปี ไหนขาดทุ นก็ไม่มีโบนัส ถ้ากําไรจึ งจะ
จัด แบ่ งโบนัสให้ แต่ ก ารบริ หารกิ จ การรั ฐวิ สาหกิ จในแต่ ละปี ไม่ว่ าจะ
258

ขาดทุนหรื อกําไรเขาจะแจกโบนัสกันทุ กปี โดยถือเอาโบนัสเป็ นต้นทุ น


ของกิ จการเพียงแต่ ว่าถ้าขาดทุ น ก็แจกโบนัสน้อยหน่ อย ถ้ากําไรก็แจก
มาก รวมตลอดทั*งเงิ นเดื อนพนักงานก็ไต่ ระดับขึ*นเรื อยๆ เหมือนระบบ
ราชการ(แต่ฐานเงินเดือนสูงกว่าข้าราชการมาก) ดังนั*นการขึ*นเงินเดือนจึง
ไม่ตอ้ งคํานึ งถึงผลงานว่าดีหรื อไม่ดี เช่ นคนเข้าเล่มหนังสื อของโรงพิมพ์
คุรุสภาเงินเดือนสามหมืนกว่าบาท หรื อคนปูทีนอนบนรถไฟก็เงิ นเดื อน
ใกล้เคียงกันนี* เป็ นต้น
ที ก ล่าวมาข้างต้น เป็ นเพี ย งรู ปธรรมบางส่ ว นของการรุ มทึ*งซึ ง
เป็ นเนื* อแท้ข องรั ฐ วิ สาหกิ จ แบบไทยๆ และปั จ จุ บัน ทัว โลกก็ ประสบ
ปั ญหาเช่ น เดี ย วกัน ดังนั*นการแปรรู ปรั ฐวิ สาหกิ จจึ งกลายเป็ นแนวทาง
ของการบริ หารรั ฐสมัยใหม่ ในประเทศที พฒ ั นาแล้วต่ างก็ทาํ กันทั*งนั*น
แต่ ทุก ประเทศก็ ต ้องเผชิ ญ กับ ปั ญ หาการต่ อต้านของสหภาพแรงงาน
ประเทศไทยก็ประสบปั ญหาเช่นเดียวกัน แต่ประเทศไทยมีลกั ษณะพิเศษ
มากกว่าที มีอาํ นาจนอกระบบ คื ออํานาจจากราชสํานัก และอํานาจของ
องค์การทหาร ที พร้ อมจะเข้าช่ วงชิ งอํานาจทางการเมืองของรั ฐบาลพล
เรื อนเสมอมา ดังนั*นจะเห็ นได้ว่าในโครงสร้ างของระบอบสมบูรณาญา
สิ ทธิ ราชใหม่ ได้ขยายเครื อข่ ายระบอบขุนนาง ทั*งรู ปการจิ ตสํานึ กและ
รู ปการจัดตั*งองค์กร ครอบงําองค์กรต่ างๆ ในสังคมไทย รวมทั*งครอบงํา
องค์กรรัฐวิสาหกิจด้วย โดยกรรมกรได้ถูกปูนบําเหน็ จให้มีฐานะเช่ นขุน
259

นางโดยได้รับเครื องราชอิสริ ยาภรณ์เสมอเช่ นขุนนางจนลืมกําพืดชนชั*น


ผูใ้ ช้แรงงานของตนจนหมดสิ*น, กรรมกรรั ฐวิสาหกิ จได้ถูกครอบงําให้มี
จิตสํานึ กแบบราชสํานักทีร่วมกันกดขีประชาชนโดยผลักภาระหนักตกอยู่
บนหลังประชาชน ซึงประชาชนไม่เพียงแต่ ตอ้ งทนต่ อภาระหนี* สินที ราช
สํานักและพนักงาน และนักการเมืองร่ วมกันก่ อขึ*นเท่ านั*น แต่ ยงั ต้องรั บ
กรรมจากภาระการบริ การทีเลวร้ายอย่างไม่มีทางเลือกอีกด้วย
ด้ว ยเหตุ น* ี ภาพของสหภาพแรงงาน ซึ งทัว ไปเป็ นภาพของ
ตัวแทนผลประโยชน์ของกรรมกรผูท้ ุ กข์ยาก แต่ ในระบอบสมบูรณาญา
สิ ทธิราชใหม่ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจจึงเป็ นภาพลวงตาว่าเป็ นองค์กร
ตัวแทนชนชั*นกรรมกร แต่ เนื* อแท้คือมือไม้ของขุนนางที ร่วมมือกับราช
สํานัก แร่ เนื*อเถือหนังประชาชนนัน เอง
ด้ว ยโครงสร้ า งที ซับ ซ้อ นของระบอบการปกครองของไทย
ปั จจุบนั จึงยากทีจะแก้ไขปั ญหาต้นทุ นพื*นฐานของการพัฒนาเศรษฐกิ จ
ในยุคโลกไร้ พรมแดนได้ แม้จะมีรัฐบาลพลเรื อนที เข้มแข็งอย่างรั ฐบาล
พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีเจตนาทีจะแปรรู ปรัฐวิสาหกิจเพือให้มีประสิ ทธิ ภาพ
เหมือนอย่างนานาอารยะประเทศ แต่สุดท้ายราชสํานักก็ใช้กลไกสหภาพ
แรงงานทีกล่อมเกลากลายเป็ นขุนนางใหม่ร่วมกับทหาร และพันธมิตรฯ
โค่นล้มรัฐบาลประชาธิปไตยอย่างแนบเนี ยน

6.5 ปฏิรูประบบราชการ กระเทือนราชสํ านัก


260

ระบบข้าราชการนี* โดยเนื* อแท้เป็ นองค์กรที เป็ นฐานอํานาจของ


ราชสํานักโดยตรงเพราะโดยความหมายของคําว่า “ข้าราชการ” ก็แปลได้
ตรงตัวว่า “ขี*ขา้ แห่ งกิจการของราชา” ดังนั*นปรัชญาสูงสุ ดของข้าราชการ
คือบริ การพระราชา ไม่ใช่บริ การประชาชน ซึงก็มีรูปธรรมให้เห็ นเด่ นชัด
เช่น เอกอัครราชทูต และทูตพาณิ ชย์ในประเทศทีพระมหากษัตริ ยแ์ ละเชื*อ
พระวงศ์เสด็จไปบ่อย เช่น อังกฤษ,ฝรังเศสเยอรมัน,อเมริ กา ก็จะมีหน้าที
หลักในการเฝ้ ารั บเสด็ จและรั บใช้ใต้เบื* องยุคลบาทเป็ นหลัก มิใช่ มุ่งหา
ตลาดส่ งออกสิ นค้าเกษตรกรเป็ นหลัก รวมตลอดทั*งเป็ นผูจ้ ดั ซื*อสิ นค้า
ข้าวของเครื องใช้ในห้องนํ*า ห้องบรรทม ที ทรงโปรดจัด ส่ งถวายเป็ น
ระยะๆ โดยมีการบิ นไทยรั บหน้าที เป็ นผูข้ นส่ ง เป็ นต้น และจะด้วยเป็ น
เพราะพวกหัวหน้าพรรคการเมืองที ครําหวอดรู้ ถึงรหัสอันตรายนี* แต่ ใน
ขณะเดี ย วกัน ก็ เห็ น ความจําเป็ นที ต ้องปฏิ รู ประบบราชการจึ งได้ป่าว
ประกาศนโยบาย “ปฏิ รู ประบบราชการ” มานานนับ สิ บ ปี แต่ แล้ว ก็
หายไปกับสายลม อาทิเช่น นายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
นายบรรหาร ศิลปะอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ
หั ว หน้ า พรรคความหวัง ใหม่ ก็ ไ ด้ป ระกาศนโยบาย “ปฏิ รู ประบบ
ราชการ” มาช้านาน ก่ อนที ทกั ษิ ณจะเข้าสู่ วงการการเมืองว่าหากเขาได้
เป็ นนายกฯ เขาจะดําเนิ นการปฏิรูประบบราชการทันที แต่จนแล้วจนรอด
นับเป็ นเวลากว่า 10 ปี แล้วก่อนทีทกั ษิณจะมาเป็ นนายกฯ ก็ไม่ทาํ กันสักที
261

ตั*งแต่ นายชวนเข้ามาเป็ นนายกฯ 2 รอบ นายบรรหาร และพลเอกชวลิต


ก็ปล่อยให้ระบบราชการคงเป็ นระบบขุนนางถ่วงการพัฒนาประเทศสื บ
ต่ อมา ด้วยเพราะเกรงว่ าจะระคายเคื องเบื*องยุคลบาท,ระบบราชการจึ ง
กลายเป็ นภาระของประชาชนที รั ฐ ต้อ งใช้ ภ าษี เ กิ น กว่ า 50 % ของ
งบประมาณประจําปี ไปเป็ นเงิ นเดื อนและเบี* ยเลี* ยงข้าราชการที ทาํ งาน
บริ การประชาชนแบบเช้าชามเย็นชาม
เมือ พ.ต.ท.ทักษิณ ขึ*นเป็ นนายกรัฐมนตรี ปีแรก 2544 ก็ประกาศ
ปฏิรูประบบราชการทัน ที ดว้ ยมาตรการ 3 ขั*น ,มาตรการที 1 ทําการจัด
หมวดหมู่กระทรวงใหม่ บางกระทรวงยุบ และบางกระทรวงก็จดั ตั*งใหม่
เพือให้สอดคล้องกับสภาพการเปลียนแปลงของโลก และการแก้ปัญหา
ของประชาชนในประเทศไทย มาตรการที 2 ลดขนาดจํานวนข้าราชการ
เปิ ดทางให้ขา้ ราชการทีเหนื อยหน่ ายต่อหน้าทีการงานลาออกก่อนกําหนด
โดยให้เงิ นชดเชย (early retirement) ส่ วนพวกที ยงั อยู่ก็เพิมเงิ นเดื อนให้
สูงขึ*น และมาตรการที 3 ก็ดาํ เนิ นการเร่ งรั ดประสิ ทธิ ภาพด้วยการจัดให้
ทุกหน่ วยงานตรวจวัดคุณภาพการทํางาน
เฉพาะมาตรการหลักๆ 3 มาตรการนี* ก็ทาํ ให้ขา้ ราชการส่ วนหนึ ง
ไม่ พอใจโดยเฉพาะมาตรการที 3 เนื องจากระบบราชการไม่ เคยมีก าร
ตรวจวัดคุณภาพกัน ข้าราชการหลายหน่ วยงานมีการเคลือนไหว ประท้วง
คัดค้านนโยบายนี*มาก
262

เป้ าหมายการปฏิรู ประบบราชการนี* พ.ต.ท.ทักษิ ณ มี ความมุ่ ง


หมายชัดเจนโดยประกาศต่อสาธารณชนหลายครั*งว่า เพือจะเปลียนระบบ
ราชการให้เป็ นระบบการบริ หารแบบภาคธุ รกิ จเอกชน ที ราชการจะต้อง
มุ่งถึ งประสิ ทธิ ภาพของผลงาน ไม่ ใช่ เน้น แต่ ค วามถูก ระเบี ยบ โดยไม่
คํานึ งถึงผลลัพธ์ทีจะเกิดขึ*น และพยายามปรั บปรุ งระบบงานราชการจาก
รัฐโบราณให้เป็ นรัฐสมัยใหม่ ด้วยการใส่ เทคโนโลยีระบบข้อมูลข่ าวสาร
เข้าไป เพือให้เกิ ดความสะดวกต่ อการบริ การประชาชน เช่ นการจัดทํา
บัต รประชาชน ซึ ง แต่ เ ดิ ม มี ค วามยุ่ ง ยากมากโดยเฉพาะเมื อ ทํา บัต ร
ประชาชนหาย ทุ กคนที ไปรั บจ้างทํางานอยู่นอกภูมิลาํ เนาจะต้องลางาน
นานเป็ นสั ป ดาห์ เ พื อ ใช้เ วลาไปทํา บั ต รประชาชนใหม่ โดยทุ ก คน
จําเป็ นต้องเดินทางกลับไปยังภูมิลาํ เนาของตัวเองเพือขอทําบัตรใหม่ โดย
จะต้องค้นหาข้อมูลจากสมุ ด เล่ มใหญ่ ๆ ที มีเป็ นสิ บๆ เล่ ม เพือดู ว่าครั* ง
ก่ อ นเขาเคยทํา บัต รไว้เ มื อไร ซึ ง กลายเป็ นช่ อ งทางทํา มาหากิ น ของ
เจ้าหน้าทีบนอําเภอทุกแห่ ง เหตุ การณ์ เช่ นนี* เกิ ดขึ*นเป็ นปกติ ของชี วิตคน
ไทย ซึงนอกจากต้องเสี ยทั*งเงิ นทั*งเวลาทํางานแล้ว ยังจะต้องตกเป็ นเบี*ย
ล่างให้พวกข้าราชการทีคิดทุจริ ตรี ดไถกลายเป็ นการคอร์ รัปชัน ประจําวัน
ตามทีทาํ การอําเภอต่างๆ แต่เมือปฏิรูประบบราชการโดยใช้ระบบข้อมูล
ออนไลน์เข้ามาใช้ การทําบัตรประชาชนใหม่ กรณี ต่ออายุ หรื อบัตรหาย
ใช้เวลาแค่ 10 นาที โดยประชาชนสามารถไปทําที ไหนก็ได้ โดยไม่ตอ้ ง
263

เสี ยเวลาการลางานเพือกลับไปภูมิลาํ เนาของตนอีกเลย และเป็ นการปิ ด


ช่องทางการทุจริ ตจากการทําบัตรของเจ้าหน้าทีบนสถานทีราชการ
ความมุ่ ง หมายที จ ะปรั บ ปรุ งระบบราชการให้ ทัน สมัย เช่ น นี*
ได้กลายเป็ นความหวาดระแวงอีกเรื องหนึ งของราชสํานัก เพราะเป้ าหมาย
หลักของระบบราชการนั*น เป็ นเครื องมือในการควบคุ มระบบรั ฐให้เกิ ด
ความมัน คงต่อราชสํานัก ไม่ใช่ เป็ นเครื องมือของรั ฐบาลที จะสร้างความ
นิ ยมให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิ ณ และพรรคการเมืองของพ.ต.ท.ทักษิ ณ ดังนั*น
รู ปธรรมความไม่พอใจก็เกิ ดขึ*น เมือข้าราชการเหลือน้อยลงต้องทํางาน
หนั ก ขึ* นในการบริ การประชาชนเพื อ ให้ คุ ้ ม กั บ เงิ น เดื อ นที ไ ด้ รั บ
ข้า ราชการชั*น ผูใ้ หญ่ ต ้อ งมี ภ าระและความรั บ ผิ ด ชอบมากขึ* น เช่ น
เอกอัครราชทูตก็ตอ้ งเป็ นทั*งทูตและเป็ นทั*งพ่อค้า เพือหาเงิ นเข้าประเทศ
ผูว้ ่าราชการจังหวัดต้องเป็ นพ่อเมืองที ดูแลราษฎรจริ งๆ โดยจะปั ดภาระ
ความรับผิดชอบว่าไม่ใช่งานของกระทรวงมหาดไทยไม่ได้ ตามโครงการ
ผูว้ ่าฯ CEO เป็ นต้น ซึ งก็สร้ างความไม่พอใจแก่ ขา้ ราชการที คุ ้นเคยกับ
วัฒนธรรมขุนนาง
ภาวการณ์ เช่ น นี* ได้สร้ างความวิ ต กกังวลแก่ ร าชสํานัก ว่ าหาก
ปล่อยให้ระบบราชการเปลียนแปลงไปเช่ นนี* ในที สุดระบบข้าราชการที
เป็ นฐานอํานาจในการรั บใช้ราชสํานัก ทั*งที เป็ นเครื องมื อในการรั กษา
อํา นาจและที เ ป็ นเครื องมื อ รั บ ใช้ บ ริ การเป็ นส่ ว นตั ว ก็ จ ะต้ อ งแปร
264

เปลียนไป และประกอบกับความไม่พอใจของข้าราชการที เคยแต่ กินข้าว


ร้อนนอนตืนสาย ใครๆ ก็ว่ากล่าวไม่ได้ ต้องกลายมาเป็ นขี* ขา้ ประชาชน
และถูกตรวจสอบติ ดตามผลงานอย่างเป็ นระบบก็กลายเป็ นปฏิปักษ์ก ับ
รั ฐบาลทัก ษิ ณ และกลายเป็ นประเด็ นที พนั ธมิต รฯ นํามาโจมตี พ.ต.ท.
ทักษิ ณ ว่าได้ใช้อิทธิ พลครอบงําระบบราชการเพื อไปสนับสนุ นตนเอง
และทีขาดไม่ได้ก็คือการหาเรื องโยงให้ถึงความไม่จงรักภักดี
ในทีสุดเหตุการณ์ ก็ตกผลึกทางความคิ ดที ทหารพร้ อมจะเข้ารั บ
ใช้โดยขับรถย้อนศรระบอบประชาธิ ปไตย ทําการยึดอํานาจเพือสนอง
พระราชปณิ ธานเมื อ 19 กันยายน 2549, หลัก ฐานปรากฏชัด จากคําให้
สั ม ภาษณ์ โ ฟนอิ น ของทั ก ษิ ณ ที ยื น ยัน ว่ า พลเอกสุ ร ยุ ท ธ จุ ล านนท์
องคมนตรี นงั ประชุมร่ วมกับประธานศาลฎีกา ประธานศาลปกครอง โดย
วางแผนยึด อํานาจที บ้า นของ มล.ปี ย์ มาลากุ ล ที บ้า นในซอยสุ ขุ มวิ ท
(โฟนอิน เมื อ 27 มี นาคม 2552 ในการชุ มนุ มคนเสื* อแดงหน้าทําเนี ย บ
รัฐบาล) และต่อมาพลเอกพัลลภ ปิ นมณี ที นังร่ วมประชุ มด้วยก็ยืนยันว่า
เป็ นจริ ง

6.6 นโยบายประชานิยม แต่ ราชสํ านักไม่นิยม


265

นโยบายประชานิ ย มหลายโครงการได้ส ร้ างความนิ ย มในตัว


พ.ต.ท.ทักษิณ ในหมู่ประชาชนโดยเฉพาะคนรากหญ้าในชนบททีเป็ นคน
ส่ วนใหญ่ ข องประเทศ ได้ก่อให้เกิ ดความไม่ พอใจและหวาดระแวงแก่
ราชสํานักเป็ นอย่างมาก โดยมีเสี ยงสะท้อนเล็ดรอดออกมาจากรั*ววัง เช่น
- นโยบายกองทุ น หมู่ บ้ า นหมู่ บ้ า นละล้า น ทํ า ให้
ประชาชนมี นิ สั ย ฟุ่ มเฟื อย ชาวบ้ า นมั ก จะกู้ เ งิ น กองทุ นไปซื* อ
โทรศัพท์มื อถื อ ของพ.ต.ท.ทัก ษิ ณ ทํา ให้ชาวบ้านเป็ นหนี* เป็ นสิ น ไม่
สอดคล้องกับแนวพระราชดําริ เรื องเศรษฐกิจพอเพียง
ตามความเป็ นจริ งแล้ วนโยบายนี /มีประโยชน์ ต่อประชาชนใน
ชนบทมาก เพราะเป็ นอีกทางหนึ งที ทาํ ให้ ชาวบ้ านหลุดพ้ นจากระบบการ
กู้เงินนอกระบบที ขูดรี ดดอกเบีย/ อย่ างหนัก ซึ งเป็ นที ร้ ู กันทั วไปว่ ามีการขูด
รี ดดอกเบี ย/ กันถึงร้ อยละ 10 ต่ อเดื อน หรื อร้ อยละ 120 ต่ อปี และรั ฐบาล
คมช. เมื อปฏิวัติมีอาํ นาจเต็ม ก็ไม่ กล้ าล้ มเลิกนโยบายนี /
- นโยบายหนึ งตําบลหนึ งผลิตภัณฑ์ หรื อที เรี ยกติ ดปาก
ว่ า โอท็ อ ป(OTOP) ก็ ถู ก กล่ า วหาว่ า ไม่ มี ป ระโยชน์ รั ฐ บาลน่ า จะ
สนับสนุ นกิจการศูนย์ศิลปาชีพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ มากกว่า และคํา
ว่า OTOP ซึงย่อมาจากคําว่า One Tambol One Product (วันตําบลวันโพร
ดักท์) ก็ถกู กล่าวหาว่าเป็ นตัวย่อชือของทักษิณและภรรยา คื อ “วันทักษิ ณ
วันพจมาน”
266

- นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค เป็ นการบริ การทางด้าน


สาธารณสุ ขแนวใหม่ทีประชาชนจะได้รับบริ การจากรั ฐอย่างเป็ นระบบ
โดยทุ กครั*งประชาชนที เจ็ บป่ วยก็สามารถไปใช้บริ ก ารได้เองโดยเป็ น
สิ ทธิของประชาชน ซึ งแต่ เดิ มประชาชนจะต้องรอหน่ วยแพทย์เคลือนที
ไปให้บริ การนานๆ สักครั*งหนึ งเหมือนสวรรค์เทวดามาโปรด และหากว่า
หน่ วยแพทย์เคลือนที ยงั ไม่เข้าไปดูแลรั กษา ก็ตอ้ งดูแลตัวเองด้วยความ
ทนทุกขเวทนา ซึงประชาชนมีชีวิตอยูเ่ ช่นนี*มาเป็ นเวลานานแล้ว
นโยบาย 30 บาทรั ก ษาทุ ก โรคได้ก ลายเป็ นจุ ด เปลี ย นแนวคิ ด
ปรัชญาจากรัฐเจ้าขุนมูลนาย ไปสู่รัฐบริ การประชาชนทีประชาชนเป็ นผูม้ ี
สิ ทธิทีจะได้รับบริ การ ซึงการบริ การลักษณะนี*ได้กระทบต่ อลักษณะการ
บริ การทีราชสํานักกระทํามาแต่เก่าก่อน โดยใช้หน่ วยแพทย์เคลือนที เช่ น
หน่ ว ยแพทย์อ าสาของสมเด็ จ พระราชชนนี เดิ น ทางไปให้ บ ริ การ
ประชาชนในชนบท ซึ งนานๆ จะไปสัก ครั* งหนึ งในจุ ด บริ การหมู่บ้าน
เดี ย วกัน นั*น และทุ ก ครั* งที ได้รั บ ยา ประชาชนจะต้อ งกราบไหว้เ ป็ น
บุญคุณอย่างล้นพ้นเสมือนหนึ งเทพผูโ้ ปรดสัตว์ ภาพเช่นนี* คนไทยจะเห็ น
อยู่ทางโทรทัศน์ ในข่ าวพระราชสํานัก ตอนสองทุ่ มทุ กเมื อเชื อวัน เป็ น
เสมือนการทําบุญด้วยเวทนามากกว่าเป็ นบริ การของรัฐ ดังนั*นเมือพ.ต.ท.
ทัก ษิ ณ จัด ระบบให้เกิ ด ความสะดวกแก่ ประชาชนโดยเดิ น ทางไปรั บ
บริ การได้ทนั ที ในฐานะผูถ้ ือบัต รทองที มีเกี ยร์ ติและมีศกั ดิ;ศรี ของความ
267

เป็ นมนุ ษย์ ซึงไม่ตอ้ งนัง คอยรถบริ การหน่ วยแพทย์เคลือนที เหมือนอย่าง


แต่ก่อน ลักษณะนโยบายเช่ นนี* ย่อมกระทบต่ อการสร้ างภาพการให้ทาน
ในฐานะเจ้าบุญนายคุณทีสถิตอยูเ่ หนื อประชาชน
- นโยบาย 1 ทุน 1 อําเภอ ที ใช้เงิ นหวยใต้ดินที นาํ ขึ*นมา
บนดิ น (เป็ นเงิ น ได้เดื อนละประมาณ 1,000 ล้านบาท) ส่ งลูกคนจนใน
ชนบททีแยกการแข่งขันในแต่ ละเขตอําเภอ เป็ นผลให้เด็กชนบทที เรี ยน
เก่งมีโอกาสแข่งขันได้ทุนไปเรี ยนต่างประเทศ ซึงในอดีตใครอยากชิ งทุ น
ไปต่างประเทศจะต้องเดินทางไปสอบรวมกันทีกรุ งเทพ ทั*งลูกคนจน คน
รวย ร่ วมกันสอบแข่งขันชิงทุน “มหิ ดล” ของราชสํานักซึงทําให้ลกู คนจน
ต้องเสี ยเปรี ยบในการแข่งขันเพราะนอกจากจะเสี ยเปรี ยบลูกคนรวยที อยู่
ในกรุ งเทพฯ อยู่แล้ว ยังจะต้องเสี ยเปรี ยบจากการเดิ นทางเข้ากรุ งเทพฯ
อีก ซึงคนจนก็ไม่มีค่าพาหนะเดินทาง และไม่มีทีพกั ค้างคื นในกรุ งเทพฯ
อีกทั*งจํานวนนักเรี ยนทีจะได้รับทุนในอดีตนั*นก็มีจาํ นวนน้อย แต่ ปรากฏ
ว่าทุ นหวยบนดิ นตามนโยบายนี* มีจาํ นวนมาก เพี ยงปี เดี ยวก็มีทุนให้ไป
ต่างประเทศเกือบ 900 คน ซึ งมากกว่าที ระบบราชการเดิ มเคยทําในนาม
ทุนมหิ ดลถึง 10 ปี อีกทั*งผูท้ ีจะเข้ารับทุนนี*ก็กาํ หนดรายได้ของผูป้ กครอง
ว่าต้องเป็ นคนจนเท่านั*นด้วย และให้แบ่งสอบแข่งขันแยกกันเป็ นอําเภอๆ
ไป จึ งทําให้ลูกคนจนในชนบทได้รับโอกาส และแทนที จะตั*งชื อยกให้
268

เป็ นเกี ยรติ; แก่ ร าชสํานัก แต่ รัฐบาลพ.ต.ท.ทัก ษิ ณ ก็ กลับไปเรี ย กชื อว่ า
“โครงการหนึงทุนหนึงอําเภอ” ก็เกิดความไม่พอใจจากราชสํานัก
- โครงการที ดู เ หมื อนว่ า เป็ นอัน ตรายมากที สุ ด ก็ คื อ
โครงการแก้ปัญหาความยากจน “กรณีอาจสามารถ” ที พ.ต.ท.ทักษิ ณได้
ออกแสดงบทบาท โดยลงไปค้างคื นในชนบทเพือทําเป็ นตัวอย่าง ด้ว ย
การสํารวจความยากจนของประชาชน และร่ ว มกับผูว้ ่าราชการจังหวัด
ร้อยเอ็ด และนายอําเภออาจสามารถ ในการแก้ปัญหาเพือเป็ นต้นแบบให้
ข้าราชการทุ ก จังหวัด ได้เ ป็ นแนวทาง ปรากฏว่ าจากกรณี น* ี ได้มีเสี ย ง
สะท้อ นจากราชสํา นั ก ชัด เจนว่ า ไม่ เ ป็ นที พ อใจ เพราะแนวทางการ
แก้ปัญหาความยากจนในชนบทนั*น พระเจ้าอยูห่ วั ฯ ทรงเป็ นต้นแบบของ
การแก้ปัญหาความยากจน ซึงแตกต่างจากที พ.ต.ท.ทักษิณ ทําอยู่ และนับ
แต่เหตุการณ์กรณี อาจสามารถนี* ก็กลายเป็ นจุดประทุทีส่งสัญญาณให้เห็น
เด่นชัดว่า “นายกฯ ทักษิณ เป็ นอันตราย”
หลักฐานที แสดงให้เห็ นว่านโยบายของทักษิ ณเป็ นนโยบายที ดี
และเป็ นประโยชน์ต่อประชาชน แต่ราชสํานักมีความระแวงในตัวพ.ต.ท.
ทัก ษิ ณ จึ ง ขยายผลไปถึ ง นโยบายต่ า งๆ ดัง จะเห็ น ได้จ ากการโจมตี
นโยบายของทัก ษิ ณ อย่างรุ น แรงมาตั*งเริ มแรก และรุ น แรงมากขึ*น โดย
เครื อข่ายราชสํานักทั*งพรรคประชาธิปัตย์ อาจารย์มหาวิทยาลัย และแกน
นําพันธมิตรฯ ประสานเสี ยงกันเป็ นเสี ยงเดียวว่า “ระบอบทักษิณ” แต่เมือ
269

พวกเขายึดอํานาจเมือ 19 ก.ย.49 และตั*งองคมนตรี พลเอกสุ ร ยุทธ เป็ น


นายกฯ ก็ไม่ได้ยกเลิกนโยบายของทักษิ ณ และยิงเมืออุม้ นายอภิ สิทธิ;ขึ* น
เป็ นนายกฯ หลังจากโค่ นล้มรั ฐบาลสมัคร และรั ฐบาลสมชายได้สมใจ
แล้ว ก็ ป รากฏว่ า นายอภิ สิ ท ธิ; ก็ น ํา นโยบายที พ วกเขากล่ า วให้ ร้ า ยว่ า
“ระบอบทัก ษิ ณ ” หรื อนโยบายประชานิ ย มนี* ไปใช้ท* ังดุ ้น เพี ย งแต่ ไ ป
เรี ยกชื อ ใหม่ เ พื อ เป็ นการยกยอราชสํานั ก ทุ ก อย่ างก็ ไ ม่ มี ปัญ หา เช่ น
นโยบายกองทุ น หมู่ บ้ าน ก็ เ ปลี ย นชื อ ใหม่ ว่า “นโยบายส่ งเสริ มชี วิ ต
เศรษฐกิจพอเพียง” เป็ นต้น
หลัก ฐานอี กชิ* น หนึ งที แสดงให้เห็ น ถึงความเป็ นจริ งของความ
ปั นป่ วนของการเมืองไทยนั*นแท้จริ งมาจากราชสํานักที ไม่ ยอมรั บการ
ปกครองในระบอบประชาธิปไตย และหวาดระแวงต่ อความเข้มแข็งของ
ระบบพรรคการเมื อง และพัฒ นาการของระบอบประชาธิ ปไตย โดย
ตัดสิ นใจทําลายทักษิณ ทั*งล้มรัฐบาลและสัง ฆ่า ซึ งแตกหักเมือพรรคไทย
รั กไทยได้รับชัยชนะอย่างท่ ว มท้น ในการเลือกตั*งทัว ไปเมื อต้น ปี 2548
โดยได้เสี ยง ส.ส.มากทีสุดเป็ นประวัติการณ์คือ 377 เสียง

6.7 เสี ยง 377 คืออันตราย


270

เราเคยได้ยิน พรรคประชาธิ ปัตย์ และนักวิ ชาการพูดจาถากถาง


ส.ส.พรรคอื นๆ เสมอๆ ว่ า “พวกนั ก การเมื องชอบตั/งพรรคขึ /นมาเป็ น
เพี ย งพรรคเฉพาะกิ จ เดีL ย วก็เ ลิ ก เพราะไม่ มี อุด มการณ์ ทําให้ ระบอบ
ประชาธิ ปไตยของไทยไม่ เข้ มแข็ง แนวทางที ถูกต้ องนั ก การเมื องต้ อง
สร้ างพรรคให้ เป็ นสถาบันทางการเมืองอย่ างพรรคประชาธิ ปัตย์ ” และยัง
กล่ า วถากถาง พ.ต.ท.ทัก ษิ ณ ว่ า “เป็ นพวกเศรษฐี ใ จร้ อน ตั/ ง พรรค
เดีLยวเดียวก็คงเลิก”
ทุกอย่างของการวิพากษ์วิจารณ์ขา้ งต้นผิดทั*งหมด เพราะ พ.ต.ท.
ทักษิ ณ มีความคิ ดที จะทําการเมืองจริ งๆ และมุ่งที จะสร้ างพรรคไทยรั ก
ไทยให้เป็ นสถาบันทางการเมือง และผลทีปรากฏต่อสาธารณชนก็ปรากฏ
ว่ าทําได้ดี ก ว่ าพรรคเก่ าแก่ อย่ างประชาธิ ปัต ย์เสี ย อี ก นัน ก็ คื อ พ.ต.ท.
ทักษิ ณ ได้สร้ างนโยบายที เป็ นประโยชน์ ต่อประชาชน และประชาชน
สามารถจับต้องได้ตามที ได้สัญญาไว้ จึ งเป็ นผลให้การเลือกตั*งทัว ไปใน
ต้น ปี 2548 พรรคไทยรั ก ไทย จึ งได้รับความเชื อถื อจากประชาชนโดย
ผูส้ มัคร ส.ส.ของพรรคไทยรักไทยได้รับเลือกเข้ามามากถึง 377 เสี ยง จาก
เสี ย งในสภาผูแ้ ทนทั*งหมดมี 500 เสี ย ง ทําให้ พ.ต.ท.ทักษิ ณ สามารถ
จัดตั*งรั ฐบาลจากพรรคการเดี ยวได้เป็ นครั*งแรกของประวัติ ศาสตร์ การ
เมืองไทย ซึงทําให้เครื อข่ายราชสํานักไม่พอใจ และเกรงว่า พ.ต.ท.ทักษิ ณ
จะมีบารมีเหนื อกว่าราชสํานัก เพราะเนื องจากจํานวน ส.ส. 377 เสี ยงใน
สภานั* น ไม่ เ พี ย งแต่ เ กิ น ครึ งของสภาผู้แ ทน แต่ เ มื อ รวมเสี ย งของ
271

วุฒิสมาชิกอีก 200 เสี ยงแล้ว เสี ยงของพรรคไทยรั กไทย ก็ยงั เกิ นกว่ากึ ง
หนึ งของสมาชิกรัฐสภา(ส.ส.500 เสี ยง + สว.200 เสี ยง รวมเป็ นเสี ยงของ
สมาชิ ก รั ฐ สภา 700 เสี ย ง) ซึ งตามรั ฐ ธรรมนู ญ ปี 2540 ในหมวด
พระมหากษัตริ ยไ์ ด้ระบุ ให้รัฐสภาเป็ นผูร้ ั บรองรั ชทายาทที จะก้าวขึ*นมา
เป็ นพระมหากษัตริ ย ์ ซึงก็เป็ นหลักการทัว ไปของประเทศที ปกครองด้วย
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริ ยท์ รงเป็ นประมุขที รัฐสภาใน
ฐานะตัวแทนประชาชนจะต้องรั บรองกษัตริ ยพ์ ระองค์ใหม่ เมือถึงคราว
ผลัดเปลียนแผ่นดิน แต่ในอดีตไม่มีปัญหา เพราะการผลัดเปลียนแผ่นดิ น
ยังไกล ประกอบกับไม่มีพรรคการเมืองใดมี ความเข้มแข็งที คุ มเสี ยงใน
สภามากเท่านี*
ด้ วยเหตุดังทีกล่ าวมาข้ างต้ นนีจ; งึ เป็ นผลให้ สถานการณ์ การเมือง
นับแต่ น;ันมาเริมดีกรีความรุ นแรงขึน; ดังนั;นข้ อเท็จจริ งเหล่ านี;จึงบ่ งบอก
ให้ เ ห็ น ชั ด เจนว่ า ระบอบประชาธิ ป ไตยนั; น ไม่ อ าจจะเบ่ ง บานภายใต้
ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่ ซึงเป็ นระบอบการปกครองตัวจริงของ
ไทยได้

6.8 กําจัดทักษิณ : เครือข่ ายราชสํ านักขับเคลือ น


272

เมือ สั ญญาณความไม่ พอใจของราชสํ านักต่ อกรณีความเข้ มแข็ง


ของรัฐบาลพรรคไทยรั กไทยทีมีเสี ยงในรั ฐสภาเกินกึงหนึงเช่ นนี;เริ มดัง
ขึน; เครื อข่ ายราชสํ านักก็เริ มขับเคลือน และเป็ นการขับเคลือนในช่ วงที
ราชสํ านักใกล้ จะเกิดการผลัดเปลียนรั ชกาล จึง เกิดการรวมศู นย์ อํานาจ
อย่ างรุ นแรง โดยแสดงบทบาทชัดเจนถึงระบอบการปกครองของไทยทีมี
ลักษณะพิเศษคือระบอบสมบู รณาญาสิ ทธิราชใหม่ นันคือได้ มีตัวแทน
ราชสํ านักทีชัดเจน และจัดอย่ างเป็ นระบบโดย การปรากฏตัวอย่ างเด่ นชัด
ของพลเอกเปรม ติณสู ล านนท์ ประธานองคมนตรี ในฐานะผู้มีบ ารมี
นอกรัฐธรรมนูญตัวจริง
เริ มต้นตั*งแต่ ปลายรั ฐบาลสมัย แรกประมาณปี 2546-2547 ใน
ภาคใต้ ซึงเป็ นพื*นทีอิทธิพลของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ งเป็ นพรรคที ตกอยู่
ใต้อาํ นาจอิ ทธิ พลของพลเอกเปรม ได้มีการกล่าวปราศรั ยโจมตี พ.ต.ท.
ทักษิณ ในลักษณะทีเชือมโยงกับสถาบันพระมหากษัตริ ย ์ จนกระทัง เกิ ด
การเลือกตั*งทัว ไปในต้นปี 2548 พรรคไทยรักไทยได้รับชัยชนะอย่างท่วม
ท้น ได้สร้างความวิตกกังวลให้แก่ ราชสํานักเป็ นอย่างยิง ซึ งเป็ นไปตาม
ความคาดหมายทีราชสํานักวิตกกังวลเป็ นทุนเดิมอยูแ่ ล้ว ทําให้แผนกําจัด
ทักษิณในฐานะทีเป็ น “บุคคลอันตรายต่อราชสํานัก” ก็เกิดขึ*น
เริ มต้นของการใส่ ร้ ายที เป็ นพยานหลัก ฐานเด่ น ชัด ถึงความไม่
พอใจของราชสํานักก็คือ กรณี ทีศาสตราจารย์ ดร.ระพี สาคริ ก ผูเ้ ชียวชาญ
273

ด้านกล้วยไม้ และทํางานในโครงการหลวง ซึ งเป็ นคนใกล้ชิดราชสํานัก


ออกมาเปิ ดประเด็ นเรื องการทําบุ ญ ประเทศว่า พ.ต.ท.ทัก ษิณ ไปนังใน
โบสถ์วดั พระแก้ว โดยไม่ได้รับอนุ ญาต และยังไปวางเก้าอี*นงั ของพ.ต.ท.
ทักษิณ ทับทีทีพระเจ้าอยู่หัวเคยประทับอยู่ อันเป็ นการอาจเอื*อมอย่างยิง
ได้กลายเป็ นประเด็นการเมืองทีพรรคประชาธิ ปัตย์ และกลุ่มเครื อข่ ายใช้
เป็ นข้อกล่าวหาโจมตีอย่างรุ นแรง และล่าสุ ดนายสนธิ ลิ*มทองกุล เมือเริ ม
เกิดความขัดแย้งกับพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะไม่ได้รับประโยชน์ตามทีตนร้อง
ขอให้ทกั ษิณช่วยเหลือ ก็ได้นาํ ประเด็นนี* ออกโจมตี ในรายการเมืองไทย
รายสัปดาห์ ทางโทรทัศน์ช่อง 9 และกลายเป็ นจุ ดเริ มต้นของการเปิ ดศึก
ทําลายรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แม้สุดท้ายจะได้แสดงหลักฐานแล้ว
ว่าสํานักพระราชวังโดยราชเลขาธิ การได้อนุ ญาตให้ใช้โบสถ์ในวัดพระ
แก้วจัดงานทําบุญประเทศได้ อีกทั*งเคยมีส่วนราชการกระทรวงต่างๆ เคย
ขอพระบรมราชานุ ญาตใช้ประกอบพิธีเช่นเดียวกัน ไม่ใช่ทกั ษิณทําอยูค่ น
เดียว แต่ก็ไม่อาจจะหยุดกระแสการทําลายของเครื อข่ายราชสํานักได้
การใส่ ร้ายโจมตี ต่อตัวพ.ต.ท.ทักษิ ณจากเครื อข่ ายราชสํานักได้
กระทําอย่างต่ อเนื องในทุ กประเด็ น เพื อตอบสนองต่ ออารมณ์ ข องราช
สํานัก และสร้ างข่ าวปิ ดล้อมข้อมูลที จ ะถวายสมเด็ จ พระเจ้าอยู่หัว และ
สมเด็จพระนางเจ้าฯ ให้เป็ นไปในทางเดี ยวกัน โดยกล่าวหาแม้กระทัง
274

เรื องราวที ไม่ น่าเชื อ เช่ น ทักษิ ณ คื อพระเจ้าตากสิ น กลับชาติ มาเกิ ดเพื อ
ทวงคืนพระราชบัลลังก์

6.9 ทักษิณ คือ ตากสิน กลับชาติมาเกิด


การโจมตี ใส่ ร้ายป้ ายสี ทางการเมืองต่ อ พ.ต.ท.ทักษิ ณ ในฐานะ
นายกรัฐมนตรี ได้กระทํากันอย่างหลากหลายรู ปแบบ ทั*งให้เหตุ ผลทาง
วิทยาศาสตร์ และเหตุ ผลทางไสยศาสตร์ โดยกลุ่มผูเ้ สี ยผลประโยชน์ได้
ผนึ ก กํา ลัง กับ เครื อข่ า ยราชสํ า นั ก สร้ า งข้อ มู ล เพื อ ให้ ร าชสํา นั ก และ
ประชาชนเชื อโดยไม่มีขอ้ สงสัยว่ า พ.ต.ท.ทักษิ ณ เป็ นอัน ตรายต่ อราช
สํา นั ก อย่ า งแน่ น อนเพื อ ผู้เ สี ย ประโยชน์ ท างการเมื อ งรวมทั*ง พรรค
ประชาธิ ปัต ย์จะได้ใช้ความหวาดระแวงสงสัย เป็ นเครื องมื อในการหา
ผลประโยชน์ทางการเมือง โดยกระทําถึงขนาดกล่าวให้ร้ายว่า
“ทั ก ษิ ณ คือ พระเจ้ าตากสิ น กลั บ ชาติมาเกิด เพือ ทวงคืน ราช
บัลลังก์ ”
เรื องของพระเจ้าตากสิ นเป็ นรอยด่ างของราชวงศ์จกั รี เนื องจาก
พระเจ้าตากสิ นเป็ นคนเชื*อสายจีน (ซึงเป็ นคนส่ วนใหญ่ของสังคมไทยใน
ขณะนี*) ทีเสี ยสละกูช้ าติบา้ นเมืองในสมัยอยุธยาตอนปลายที ตอ้ งเสี ยเมือง
ให้แก่พม่า แต่ได้ถกู ต้นราชวงศ์จกั รี คือนายทองด้วงในขณะนั*นยึดอํานาจ
ประหารพระเจ้าตากสิ นพร้อมลูกเมียทั*งหมดอย่างโหดร้ าย และตั*งตัวเอง
275

ขึ*นเป็ นกษัตริ ยร์ าชวงศ์จกั รี ปกครองโดยมีเครื อญาติสืบต่ อราชวงศ์จนถึง


ปั จจุบนั เรื องราวของพระเจ้าตากสิ นจึงกลายเป็ นความไม่เป็ นธรรมที คน
ไทยเชื*อสายจีนได้รับจากราชวงศ์จกั รี และจนถึงวันนี* คนไทยเชื*อสายจี น
ยังถูก กี ด กัน ด้ว ยระเบี ย บข้อบังคับในการรั บราชการทหาร และตํารวจ
ด้ว ยเหตุ น* ี เรื องราวของพระเจ้าตากสิ น จึ งเป็ นภาพหลอนของราชวงศ์
จนถึงปั จจุบนั
หากพิ จ ารณาด้ว ยเหตุ ผ ลในศตวรรษที 21 ซึ งเป็ นยุ ค แห่ ง
วิทยาศาสตร์ เจริ ญก้าวหน้าถึงขั*นมนุ ษย์เดิ นทางไปเหยียบดวงจันทร์ ได้
แล้ว ก็ถือได้ว่าเป็ นคํากล่าวโจมตีทีไร้เหตุผลอย่างยิง แต่ ปรากฏความจริ ง
ว่ า ในราชสํ า นั ก ของไทยและประชาชนหั ว โบราณที เ กาะติ ด อยู่ก ั บ
เครื อข่ายสํานักสงฆ์และสํานักเทพพวกทรงเจ้าเข้าผีจาํ นวนมากยังคงเชื อ
เรื องการกลับชาติ มาเกิ ดของบุ คคลตามวัฒนธรรมความเชื อโบราณของ
ศาสนาพราหมณ์ และศาสนาพุ ท ธสายอวิ ช ชาอย่ า งมาก ซึ ง สมเด็ จ
พระบรมราชินีนาถก็ทรงเชือเช่นนั*นจริ งๆ ซึงพระองค์เคยแสดงทรรศนะ
ต่อข้าราชบริ พารจนเป็ นทีล่วงรู้ กนั ทัว บ้านทัว เมืองว่าพระองค์คือสมเด็จ
พระศรี สุริ โ ยทัย กลับชาติ มาเกิ ด และในชาติ น* ี พระองค์ก็ จ ะเป็ นผูช้ ่ ว ย
พระมหากษัตริ ยท์ ีเป็ นพระสวามีอีก และก็มีหลักฐานสนับสนุ นถึงความ
เชื อของพระองค์ต่อสาธารณชนอี กก็ คือพระองค์ได้มีพระราชดํารั สให้
สร้างภาพยนตร์ ประวัติศาสตร์ ทียงิ ใหญ่ทีสุดในวงการภาพยนตร์ ไทยโดย
276

ลงทุ นหลายร้ อยล้านบาทเรื อง “สุ ริโยทัย” เพือเชิ ดชูคุณ งามความดี ของ


สมเด็จพระศรี สุริโยทัย เมือครั*งเป็ นเอกอัครมเหสี ทีใสช้างออกขวางพระ
เจ้าแปรแห่ งกรุ งหงสาวดี จนถูกพระแสงของ้าวฟันจนสิ*นพระชนม์บนคอ
ช้าง เพือปกป้ องพระสวามี
ด้วยโครงสร้างวัฒนธรรมความเชื อแบบโบราณที ฝังลึกดังกล่าว
ข้างต้นทําให้การเคลือนไหวต่ อสู้ทางการเมืองในสังคมไทยได้หยิบฉวย
วัฒ นธรรมความเชื อนี* มาหาประโยชน์ ก ัน อยู่เสมอ ดังนั*น เรื อ งที ไม่ มี
เหตุผลในการเมืองฝังตะวันตกก็กลายเป็ นเรื องทีมีเหตุผลของการเมืองฝัง
ตะวันออก โดยกล่าวหาว่า “ทักษิ ณ คื อพระเจ้าตากสิ น กลับชาติ มาเกิ ด
เพือมาทวงคืนราชบัลลังก์” จึงกลายเป็ นเรื องทีเชือกันจริ งจังขึ*นมาในราช
สํานักและในหมู่มวลชนทีเป็ นพวกคนหัวโบราณ โดยให้เหตุผลกันเป็ นตุ
เป็ นตะว่าการออกเสี ยงชือก็คล้ายกันและหากสะกดชือเป็ นภาษาอังกฤษก็
จะเขี ย นเหมือนกัน ว่ า “TAKSIN” อี ก ทั*งทักษิ ณ และตากสิ น ก็ เป็ นคน
ภาคเหนื อและมีเชื*อสายจีนเหมือนกัน และภาพวาดของพระเจ้าตากสิ นที
มีปรากฏมาแต่ โ บราณก็มีโ ครงหน้าเป็ นรู ปสี เหลียมคล้ายกับทัก ษิ ณอี ก
ด้วย
ในการต่อสูข้ องพันธมิตร นายสนธิ ได้นาํ จุ ดอ่อนของราชสํานัก
ในเรื อ งความเชื อทางไสยศาสตร์ เหล่ านี* มาขยายผล จนกระทังตลอด
เส้นทางการเคลือนไหวของขบวนการพันธมิตรฯ จึ งเจื อปนไปด้วยความ
277

เชือทางไสยศาสตร์ เพือให้เชื อมต่ อความคิ ดกับราชสํานัก และเป้ าหมาย


สู ง สุ ด ก็ เ พื อ ให้ ร าชสํา นั ก เชื อ มัน ในขบวนการพัน ธมิ ต ร และให้ ก าร
สนับสนุ น พัน ธมิ ตรจนถึ งที สุด ดังนั*น จึ งไม่แปลกที ได้เกิ ด ข่ าวอื*อฉาว
เกียวกับการทําไสยศาสตร์ ต่างๆ นานา อยูเ่ สมอของขบวนการพันธมิตรฯ
ระหว่างการชุ มนุ มประท้วง เช่ น การนําผ้าอนามัยของสตรี ทีเปื* อนเลือด
ไปวางรอบอนุ สาวรี ยพ์ ระบรมรู ปทรงม้า เพือขับไล่วิญญาณภูตผีทีมาปิ ด
ล้อมดวงวิญญาณของสมเด็จพระปิ ยะมหาราช ไม่ให้ออกมาช่วยบ้านเมือง
ให้ออกไปเสี ย รวมตลอดทั*งนายสนธิ ก็ต* งั ตัวเป็ นเกจิ อาจารย์ใส่ ชุดขาว
แต่งตัวคล้ายนักบวชผูท้ รงศีลทําการพรมนํ*ามนต์ไล่ภูตผีปีศาจในทําเนี ยบ
รั ฐบาลขณะที พวกเขาปั กหลักพักค้างกัน ในทําเนี ยบและทําให้เจ้าที เจ้า
ทางโกรธ อีก ทั*งทําพิ ธีปิดตาเทวรู ปพระพรหมที ประจําทําเนี ยบรั ฐบาล
เพือไม่ให้เห็นเหตุการณ์ทีพวกเขากระทํามิดีมิร้ายในทําเนี ยบรั ฐบาล เป็ น
ต้น จนมีการกล่าววิพากษ์วิจารณ์ ก ันว่าเหตุ การณ์ ในปั จจุ บันนี* คล้ายกับ
เหตุการณ์ในรัสเซีย ก่อนทีราชวงศ์โรมานอฟจะถูกโค่ นล้มเปลียนแปลง
เป็ นระบอบสังคมนิ ย ม โดยขณะนั*น ราชสํานัก รั สเซี ยก็เชื อในเรื องไสย
ศาสตร์ อย่างงมงาย โดยมีนกั บวชในคริ สต์ศาสนานิ กายออโธด๊อก ชื อรั ส
ปูติน เป็ นผูม้ ีอิทธิพลครอบงําความคิดราชสํานักในขณะนั*น และสําหรั บ
ประเทศไทยปั จ จุ บันก็ มีคนเปรี ย บเที ยบว่านายสนธิ ลิ*มทองกุ ล ก็เป็ น
คล้ายกับ รัสปูติน ในราชวงศ์จกั รี
278

6.10 กรณีสนธิ กลายเป็ นระเบิดทําลายทักษิณ


จากสัจ ธรรมของโครงสร้ างการเมื องในประเทศด้อยพัฒ นาที
ความขัดแย้งทางสังคมเป็ นความอ่อนไหวที ดาํ รงอยู่ และพร้อมจะแสดง
บทบาทอยู่เป็ นนิ จ สัญญาณที บ่งบอกถึงการพังทลายของรั ฐบาลพ.ต.ท.
ทักษิณ ก็มาถึง เมือเกิ ดกรณี ของสนธิ ลิ*มทองกุล สื อมวลชนที มีประวัติ
สร้างความรํารวยให้แก่ตวั เองด้วยการฉกฉวยจังหวะเวลาหาผลประโยชน์
ให้แก่ตวั เอง ด้วยความกล้า และความบ้า
สนธิ ลิ*มทองกุล จากมิตรผูส้ นับสนุ นนายกฯ ทักษิณ อย่างสุ ดลิม
ทิ มประตู พลิ ก กลับมาเป็ นศัต รู ต ัว ฉกาจ ด้ว ยกําลังตกอยู่ในภาวะใกล้
ล้มละลายจากการเป็ นนัก เก็ งกําไร และได้รั บผลกระทบมาจากวิ ก ฤต
เศรษฐกิ จ ปี 2540 แต่ ยงั ไม่ ฟ*ื น เมือถูก ปฏิ เสธการหาผลประโยชน์ จ าก
นายกฯ ทักษิณ ในหลายเรื องโดยเฉพาะที สนธิ เดิ นหน้าลงทุ นเตรี ยมการ
เปิ ดสถานี โทรทัศน์ช่องใหม่ทีเรี ยกว่า “ฟรี ทีวี” ช่ อง 11/1 ซึ งเป็ นเรื อง
ผิดกฎหมาย ด้วยเหตุน* ีนายสนธิ จึ งหยิบฉวยความขัดแย้งที เครื อข่ ายราช


สถานี โทรทัศน์ ฟรี ทีวี เป็ นแหล่งผลประโยชน์ทีให้ผลตอบแทนเป็ นกอบเป็ น
กรรม แต่มีกฎหมายผูกขาดไว้ให้มีอยู่ได้เพียงแค่ 6 ช่องเท่านั*น คือ ช่อง 3,5,7,9,11
และไอทีวี ซึ งตลาดขนาดของประชากร 63 ล้านยังไม่เพียงพอ
279

สํานักได้ส่งสัญญาณพร้ อมจะทําลายรั ฐบาลทักษิ ณแล้ว มาเป็ นประเด็น


การเมื อ ง โดยใช้ร ายการ “เมื อ งไทยรายสั ป ดาห์ ” ที อ อกอากาศทาง
สถานี โ ทรทัศน์ ช่ อ ง 9 เป็ นเครื อ งมื อต่ อ รอง เมื อไม่ ไ ด้ผ ลทุ ก อย่ า งก็
เดิ น หน้าโดยเริ มจากประเด็ น ทัก ษิ ณ ทําบุ ญ ประเทศเพื อเรี ยกร้ องให้
ประชาชนทุกศาสนาในประเทศไทยร่ วมทําบุญเพือให้เกิดความสงบใน 3
จังหวัดภาคใต้ ซึ งเป็ นเรื องดี ก็กลายเป็ นเรื องร้ าย เพราะทักษิ ณประกอบ
พิธีทางพุ ทธศาสนาในวัด พระแก้ว โดยถูกกล่าวหาว่ าจงใจละเมิ ดพระ
บารมีของพระเจ้าอยูห่ วั ภูมิพลฯ ด้วยจุดตั*งเก้าอี*ทีนายกฯ ทักษิ ณ นังตรง
นั*นเป็ นจุดทีพระเจ้าอยูห่ วั เคยประทับซึงเป็ นเรื องทีดูเหมือนจะไร้สาระใน
สายตาของชาวโลก แต่เป็ นเรื องสําคัญของคนไทย จากเรื องนี* ไฟที จะเผา
ไหม้รั ฐบาลทัก ษิ ณ ก็จุ ด ติ ด และลุ ก ลามออกไป แม้ต่ อมาจะมี หลัก ฐาน
ยืน ยัน ว่ าข้อเท็ จ จริ งมิ ได้เป็ นดังที น ายสนธิ กุ ข่ าวใส่ สีตี ไข่ แต่ ก็ ไม่ เป็ น
ผลเสี ยแล้ว เพราะกระแสความขัดแย้งทางการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์
และพรรคฝ่ ายค้าน รวมทั*งความขัดแย้งกับผูส้ ูญเสี ยผลประโยชน์จากกรณี
ที น ายกฯ ทัก ษิ ณ ได้ป ฏิ บัติ ต ามนโยบายอย่ า งเป็ นผล เช่ น นโยบาย
ปราบปรามยาเสพติ ด เป็ นต้ น นั* น ก็ ร วมศู น ย์ถ ล่ ม ทั ก ษิ ณ โดยการ
ประสานงานของเครื อข่ ายราชสํานัก ภายใต้ก ารชี* นาํ ของพลเอกเปรม
ติ ณสู ลานนท์ หัวหน้าพรรคประชาธิ ปัตย์ตวั จริ ง ในฐานะผูม้ ีบารมีนอก
รัฐธรรมนูญ ทีแฝงตัวอยูเ่ บื*องหลัง
280

6.11 ปชป. + ทหาร + NGO คือกําลังสํ าคัญ


เมือสนธิ เปิ ดฉากเป็ นศัตรู โดยใช้รายการ “เมืองไทยรายสัปดาห์”
เป็ นอาวุธทิมแทงรัฐบาล ในทีสุดรายการของสนธิ ก็ถูกถอดออกจากช่ อง
9 ทันที กระบวนการโค่นล้มรัฐบาลทักษิณ ทีเริ มต้นจากห้องส่ งโทรทัศน์
ก็ไหลออกสู่ทอ้ งถนน โดยเครื อข่ ายราชสํานักก็ประสานงานให้รายการ
“เมืองไทยรายสัปดาห์” มาเปิ ดสัญจรทีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วยการ
เปิ ดตัวของนายสุ รพล นิ ติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ออกมาสนับสนุ นอย่างเต็มกําลัง และนับแต่ น* นั เกมส์การเมืองนอกสภา
ด้วยการปลุกระดมมวลชนโค่ นล้มรั ฐบาล ที สาํ นักพระราชวังเคยกํากับ
การแสดงมาตลอด นับแต่ อดี ตตั*งแต่ การโค่ นล้มรั ฐบาลถนอม-ประภาส
รัฐบาลพลเอกเกรี ยงศักดิ; และรั ฐบาลพลเอกสุ จินดาก็เริ มขึ*นอีกครั* งหนึ ง


นายสุ รพล นิติไกรพจน์ ได้แสดงบทบาททางสาธารณะชัดเจน ในฐานะเครื อข่าย
ราชสํานักคนหนึงในการทีจะโค่นล้มรั ฐบาลทักษิณ โดยเป็ นคนแรกทีเสนออย่างมี
นํ*าหนักในฐานะนักกฎหมาย และอธิการบดี ว่าให้นาํ คนนอกมาเป็ นนายกฯ โดยใช้
มาตรา 7 แห่ งรั ฐธรรมนู ญปี 2540 ขอพระราชทานนายกฯ จากพระเจ้าอยู่หัว และ
เมือเกิดการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ก็ได้รับแต่งตั*งเป็ นสมาชิกสภานิ ติบญ
ั ญัติ
แห่งชาติ
281

แต่ครั*งนี*ได้เกิดเหตุการณ์เกินความคาดหมายของราชสํานัก นันก็คือศัตรู
สําคัญทางประวัติศาสตร์ ของราชสํานัก ได้แฝงตัวเข้ามาใช้เงื อนไขความ
ขัด แย้งแสดงตัว เป็ นผูจ้ งรั ก ภัก ดี ใ นลัก ษณะ “โบกธงกษั ต ริ ย์ ทํ าลาย
กษัตริย์” โดยจับมือกับนายสนธิ บุ คคลที แฝงตัวเหล่านั*นคื ออดี ตสมาชิ ก
พรรคคอมมิวนิ สต์แห่ งประเทศไทย ผูม้ ีอุดมการณ์ต่อต้านกษัตริ ยไ์ ม่เสื อม
คลาย ในฐานะแกนนํา NGO และสหภาพแรงงาน เช่ น นายพิ ภพ ธงชัย
นายสมศัก ดิ; โกศัย สุ ข , นายสมเกี ย รติ; พงศ์ไ พบู ล ย์ 3 ใน 5 แกนนํา
พัน ธมิ ตรประชาชนเพือประชาธิ ปไตย ซึ งเป็ นองค์ก รจัด ตั*งที ประกาศ
แนวทางชัดเจนว่าจะล้มรั ฐบาลของพ.ต.ท.ทักษิ ณ ชิ นวัตร ที มาจากการ
เลือกตั*งด้วยคะแนนเสี ยงของประชาชน 19 ล้านเสี ยง
ขบวนการ เอ็น จี โอ (NGO) คื อองค์กรการพัฒนาภาคเอกชน
ซึงได้พฒั นาตนเองมาเป็ นเวลานานกว่า 30 ปี แล้ว และเติบใหญ่ เข้มแข็ง
มากขึ*น ภายหลังจาก “ป่ าแตก” เมือปี 2523 ด้วยปั ญญาชนที เข้าร่ วมการ
ปฏิวตั ิสงั คมด้วยต้องการเห็นสังคมอุดมคติ ต้องผิดหวัง ออกจากป่ าเพราะ
ความขัดแย้งแตกหักในค่ายสังคมนิ ยมระหว่างรั สเซี ยกับจีน และเมือเกิ ด
สงครามชายแดนระหว่างจีน-เวียตนาม หลายคนกลับเข้าเมือง และมุ่งมัน
ที จ ะทํางานตามอุ ด มคติ ต่ อไป จึ งหัน เข้า เป็ น NGO โดยทํางานอยู่ใ น
มูลนิ ธิ และสมาคมต่างๆ เป็ นจํานวนมาก โดยเกาะเกี ยวอยู่กบั ประชาชน
คนยากจนในระดับรากหญ้า และฝึ กฝนให้ประชาชนเคลือนไหวลุกขึ* น
282

ประท้วงต่อสูเ้ พือสิ ทธิผลประโยชน์ของตนเอง โดยไม่งอมืองอเท้ารอการ


ช่วยเหลือจากกลไกรัฐ ขบวนการ เอ็น จี โอ จํานวนหนึ งประกาศตัวเป็ น
ปฏิปักษ์ต่อรั ฐบาลทักษิ ณที กล่าวหาพวกเขาว่าเป็ น “ขบวนการค้าความ
จน” และไม่ยอมเจรจาปั ญหาของคนยากจนโดยผ่านองค์กรเอ็น จี โอ
ด้วยเหตุ น* ี กระแสมวลชนจึ งถูกปลุกขึ*นจากขบวนการเอ็น จี โอ ที เกาะ
เกียวอยูก่ บั ชาวบ้าน ดังนั*นในระยะเริ มต้นทีตอ้ งการมวลชนมาสนับสนุ น
ก็มาจากกําลังจัดตั*งส่ วนนี* เป็ นตัวยืนโดยร่ วมกันกับมวลชน และสมาชิ ก
ของพรรคประชาธิ ปัตย์ทีมาจากภาคใต้ และในกรุ งเทพมหานคร เพราะ
หากโค่ น ล้ม รั ฐ บาลทั ก ษิ ณ ได้ อํา นาจทางการเมื อ งก็ ต ้อ งตกอยู่ก ั บ
ประชาธิ ปัตย์โดยไม่มีทางเลือก นอกจากนี* ก็มีขาจรกองกําลังผสมจากผู้
เสี ยผลประโยชน์ เช่น ผูค้ า้ ยาเสพติด พ่อค้าแม่คา้ เจ้ามือหวยใต้ดิน หมอตี‚
ร้านขายยา ทีเสี ยรายได้จากนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค เป็ นต้น
เมือขบวนการมวลชนเริ มขับเคลือนได้แล้ว การจัดเครื อข่ายก็เริ ม
ชัด เจนขึ* น โดยคนใกล้ชิ ด พลเอกเปรม ติ ณ สู ล านนท์ องคมนตรี ที มี


ทักษิณ ได้กล่าวประนาฌในความหมายว่าพวกเอ็น จี โอ นั*น โดยเนื* อแท้คือไม่
ต้อ งการให้คนจนหลุ ดพ้นจากความยากจนเพราะจะทํา ให้เอ็น จี โอ หมดอาชี พ
ไม่สามารถจะเรี ยรายเงินบริ จาคจากในประเทศ และต่างประเทศเพือมาช่วยเหลือคน
จนได้ จึงถากถางกลุ่มเอ็น จี โอ ว่าเป็ น “ขบวนการค้าความจน” ซึ งทําให้เกิดความ
โกรธแค้นมาก
283

ประสบการณ์การขับเคลือนมวลชน ก็ปรากฏตัวขึ*นบนเวที ของสนธิ เช่ น


พลตรี จาํ ลอง ศรี เมือง (อดี ตเลขาธิ การนายกฯ พลเอกเปรม) ซึ งเป็ นแกน
นํากลุ่มสันติ อโศก สํานักพุทธศาสนานอกรี ต ก็ได้นาํ กองทัพญาติ ธรรม
และนั ก บวชนอกรี ตออกมาเป็ นกองกํา ลัง หลัก ร่ วมประท้ ว งด้ ว ย
นอกจากนี*ยงั มีบุคคลสําคัญทีใกล้ชิดพลเอกเปรมทีตอ้ งกล่าวถึงเช่ น นาวา
อากาศตรี ประสงค์ สุ่ นศิริ ซึ งเป็ นอดี ตแกนนํามวลชนโค่ นล้มรั ฐบาลพล
เอกสุ จิ น ดา คราประยู ร และนายพลลู ก ป๋ า เช่ น พลอากาศเอกชลิ ต
พุ ก ผาสุ ก  แม่ ทัพ อากาศ โดยเฉพาะลู ก ป๋ าผูบ้ ้าบิ น คื อ พลโทสะพรั ง
กัลยาณมิตร ซึงแสดงตัวเปิ ดเผยขณะดํารงตําแหน่ งแม่ทพั ภาค 3 ว่าพร้ อม
จะโค่นล้มรัฐบาลทักษิณโดยไม่มีใครกล้าแตะต้อง

ภายในวงการรั ฐ บาลขณะนั*น ข่ า วสารในทํา เนี ย บรั ฐ บาลก็


ปรากฏชัด เจนว่ ามีทหารในสายของพลโทสะพรัง และสายของแม่ ทัพ


พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุ ก ได้เป็ นตําแหน่งผูบ้ ญั ชาการทหารอากาศโดยพลเอกเปรม
ต่อรอง โดยบีบให้นายกทักษิณเปลียนโผ หลังจากทีผ่านกระบวนการสรรหา และ
นายกฯ ลงนามเสนอทู ล เกล้าแล้ว ด้ว ย ซึ งกลายเป็ นความขัด แย้งประเด็นสํา คัญ
ระหว่างเปรม และ ทักษิณ ประเด็นหนึงในช่วงปี 2548-2549
284

อากาศถอดเครื องแบบแฝงตัวออกมาร่ วมชุมนุ มในฐานะมวลชน และคอย


เป็ นหน่ วยรักษาความปลอดภัยให้แก่ผชู้ ุมนุ ม

6.12 สั ญญาณชัดเจนจากราชสํ านักให้ ทําลายระบอบทักษิณ


ความคุกรุ่ นทีส่งสัญญาณว่าจะต้องล้มรั ฐบาลทักษิ ณ เริ มต้นจาก
กลางปี 2547 และเริ มเด่ นชัดมากขึ*นเมือผ่านการเลือกตั*งทัว ไปเมือต้นปี
2548 สัญญาณอันตรายของรัฐบาลทักษิณสมัยที 2 คือความเข้มแข็งยิงขึ*น
ของรัฐบาลทักษิณเองที ได้รับความนิ ยมจากประชาชนสู งสุ ดถึง 19 ล้าน
เสี ยง และได้ ส.ส.มากทีสุดถึง 377 จาก ส.ส.ทั*งสภา 500 คน ทักษิ ณได้
เปิ ดหน้ า ใหม่ ข องประวั ติ ศาสตร์ การเมื อ งไทยคื อเป็ นรั ฐบาล
ประชาธิปไตยรัฐบาลแรกทีจดั ตั*งด้วยพรรคการเมืองเพียงพรรคเดี ยว คื อ
พรรคไทยรักไทย


19 ล้านเสี ยงวัดจากคะแนนทีประชาชนหย่อนบัตรเลือก ส.ส.แบบบัญชีรายชือ
โดยตามรั ฐ ธรรมนู ญ ปี 2540 กํา หนดให้ท* งั ประเทศเป็ น 1 บัญ ชี ร ายชื อ โดยมี
หมายเลขเดียว ในกรณี พรรคไทยรักไทยมี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็ นหัวหน้าคณะของบัญชี
รายชือ,ซึ งเป็ นเหตุผลสําคัญทีราชสํานักสังให้แก้ไขในรั ฐธรรมนู ญปี 2550 ให้บญ
ั ชี
รายชื อ แบ่ ง เป็ น 8 เขต เพื อ ไม่ ใ ห้ก ารลงคะแนนของประชาชนรวมศู น ย์ส ร้ า ง
ความชอบธรรมอยูท่ ีตวั นายกรัฐมนตรี
285

ความวิตกกังวลของราชสํานักทีเป็ นความเจ็บปวดแห่ งอดี ต ก็คือ


ความเข้มแข็งของรั ฐบาลที จะเข้ามาบัน ทอนอํานาจของราชสํานัก และ
ด้ว ยเพราะเนื* อแท้ข องระบอบการปกครองของไทย คื อ “ระบอบ สม
บูรณาญาสิ ทธิราชใหม่” ทีอาํ นาจรวมศูนย์อยูท่ ีองค์พระมหากษัตริ ย ์ ความ
มี เสถี ย รภาพของรั ฐบาล จึ ง กลายเป็ นความน่ ากลัว ในสายตาของราช
สํานัก
คํากล่าวของนายกฯ ทักษิ ณ ที ว่า “ผมมาจากประชาชน 19 ล้าน
เสี ยง” จึ งกลายเป็ นการยํ*าเตื อนให้เครื อข่ ายราชสํานักเร่ งทําลายรั ฐบาล
ทักษิณให้ส*ินซาก โดยพรรคประชาธิ ปัตย์(ภายใต้การบงการของพลเอก
เปรม หัว หน้า พรรคตัว จริ ง) ได้ร่ ว มกับเครื อ ข่ ายราชสํานัก ซึ ง ได้แ ก่
อาจารย์ มหาวิทยาลัย และสื อมวลชนบางคนได้สร้ างวาทะกรรมให้ดูน่า
กลัวเกียวกับความคิดพ.ต.ท.ทักษิณ เพือป้ ายสี ว่าทักษิณจะล้มล้างสถาบัน
กษัตริ ยเ์ พือให้ดูเป็ นเหตุผลมากกว่าทีจะโจมตีว่าพระเจ้าตากสิ นกลับชาติ
มาเกิดเป็ นทักษิณ โดยเรี ยกนโยบายตามแนวคิดของทักษิณว่า
286

“ระบอบทักษิณ”และประกาศเป็ นนโยบายของพรรคประชาธิ ปัตย์รวม


กับกลุ่มพันธมิตรฯ เพือทําลาย “ระบอบทักษิณ” ว่า “เอาประเทศไทยคืน
มา”  ซึงมีความหมายในตัวเองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ทาํ การใหญ่ กําลัง
จะยึดเอาพระราชอํานาจของกษัตริ ยไ์ ปเป็ นของตัวเองแล้ว


ระบอบทักษิณ ในความหมายของเครื อข่ายราชสํานักหมายถึง นโยบายประชา
นิ ย ม และแนวคิ ด การปฏิ รู ประบบราชการให้มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพเพื อ ผลัก ดัน ให้
สังคมไทยก้าวจากประเทศด้อยพัฒ นาทีทาํ ตัวเหมือนขอทาน ชอบแต่จ ะขอความ
ช่วยเหลือจากประเทศรํารวยไปสู่ ประเทศทีทนั สมัยไม่ขอความช่วยเหลือจากใคร
เพือสร้างภาพลักษณ์ให้ทวั โลกเห็นว่าประเทศไทยเป็ นประเทศทีน่าลงทุนและไทย
เป็ นประเทศหุ ้นส่ ว นทางเศรษฐกิจที เท่ าเที ยมกับนานาประเทศ เมื อต่ างประเทศ
เชือมัน ผลกําไรจากการค้าจะได้มากกว่าเงินบริ จาค และสุ ดท้ายเมือทําลายรั ฐบาล
ทักษิ ณแล้ว พรรคประชาธิ ปัต ย์โ ดยนายอภิ สิทธิ; เวชชาชี วะ นายกรั ฐ มนตรี ก็น ํา
แนวคิดของระบอบทักษิณทีเคยโจมตีมาใช้อีกเช่นกัน

เป็ นคําขวัญของพรรคประชาธิ ปัตย์ ทีนาํ เสนอในการเลือกตั*งทัว ไปเมือต้นปี
2548 ภายใต้การนํา ของนายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้า พรรค และต้อ งประสบ
ความพ่ายแพ้อย่างไม่เป็ นท่าจนนายบัญญัติ ลาออก เปิ ดทางให้นายอภิสิทธิ; ก้าวขึ*น
เป็ นหัวหน้าพรรค และเดินเกมส์ร่วมกับนายสนธิ ลิ*มทองกุล อย่างเปิ ดเผย
287

ในวันที 3 กุมภาพันธ์ 2549 พันธมิตรฯ จัดให้มีการชุ มนุ มที ลาน


พระบรมรู ปทรงม้า โดยทํา หนั ง สื อเรี ยกร้ อ งให้ 3 หน่ ว ยงานสํา คัญ
ดําเนิ นการกดดันให้พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออก โดยยืน หนังสื อในเวลาสามทุ่ ม
เศษต่ อ 3 หน่ วยงาน โดยแยกออกเป็ น 3 สาย คื อ ถวายฎี ก าต่ อ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั โดยยืน ทีสาํ นักราชเลขาฯ สํานักพระราชวัง
อีกฉบับยืน ต่อพลเอกเปรมติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และฉบับที 3
ยื น ต่ อ พลเอกสนธิ บุ ญ ยรั ต กลิ น ผูบ้ ั ญ ชาการทหารบก ปรากฏทุ ก
หน่ ว ยงานเปิ ดรั บหนั งสื อกลางดึ ก หมด โดยเฉพาะที ยืน ให้ ฝ่ายทหาร
ผูบ้ ญั ชาการทหารบกออกมารั บด้วยตนเอง และเปิ ดห้องต้อนรับแกนนํา
พันธมิตรฯ ปรึ กษาหารื อเป็ นเวลาเกือบหนึ งชัว โมง และหลังจากนั*นนาย
สนธิ ก็ ข* ึนประกาศต่ อฝูงชนว่ าพวกเขาชนะแล้ว เพราะทั*ง 3 หน่ ว ยงาน
เปิ ดรั บหนังสื อของพวกเขาในยามวิก าล และพลเอกสนธิ ก็ไม่พึงพอใจ
รัฐบาลของพ.ต.ท.ทักษิณ
การรั บหนังสื อในยามวิ ก าลในภาวะที มี ผูค้ นมาชุ มนุ ม กัน ซึ ง
ขณะนั*นจํานวนไม่มากนัก ยังอยูใ่ นระดับไม่เกิน 5,000 คน ก็ไม่น่าจะเป็ น
เรื องแปลก แต่เฉพาะสํานักราชเลขาฯ สํานักพระราชวัง ซึงที ทาํ การอยู่ที
วัดพระแก้วนั*นไม่ใช่เรื องปกติแน่ นอน
ทําไมสํ านักพระราชวังบริการประชาชนดีเหลือเกิน?
288

คําถามถึงสัญญาณเชิ งสัญลักษณ์ จากข่ าวในหน้าหนังสื อพิมพ์ที


แสดงให้เห็นถึงเจตนาของ “วัง” ว่าต้องการจะล้มรั ฐบาลทักษิ ณ เกิ ดขึ*น
ในใจของผูค้ น

6.13 ยุบสภาประกายไฟไหม้ลามทักษิณ
เพียงแค่ ระยะเวลาเพียงปี เศษ นับแต่ การเลือกตั;งทัวไปตามวาระ
เมือ เดือนมกราคม 2548 การประท้ วงขององค์ กรพันธมิตรประชาชนเพือ
ประชาธิปไตยทีเรียกร้ องให้ ทักษิณลาออกในขณะทีเศรษฐกิจเจริญเติบโต
รั ฐ บาลมีผ ลงานดู จะไม่ มีเ หตุผ ลเอาเสี ย เลยในสายตาของคนทั วโลกที
ปกครองด้ วยระบอบประชาธิปไตย แต่ ภายใต้ ระบอบการปกครองทีแอบ
แฝงทีเป็ นของจริงคือสมบู รณาญาสิ ทธิราชใหม่ น;ันทําเอานักข่ าวทั;งโลก
“มึน” และวิเคราะห์ ไม่ ถูก
การเปิ ดประตูว งั กลางดึ ก ของคื นวัน ที 3 กุมภาพันธ์ 2549 เพื อ
รั บหนั งสื อถวายฎี ก าขับ ไล่ น ายกฯ ทัก ษิ ณ นั*น คื อ สัญ ลัก ษณ์ ทีบ อกว่ า
“วังไม่ เอาทักษิ ณ” แต่ ขณะนั*นยังไม่ มีใครเชื อว่ าเป็ นพระประสงค์ข อง
พระองค์ ดังนั*นความพยายามที จะแก้ปัญหาในระบบจึ งยังดําเนิ นต่ อไป
ด้วยการเข้าพบพลเอกเปรม ประธานองคมนตรี ของทักษิ ณหลายครั* งใน
ช่วงแรก ความคิ ดของพ.ต.ท.ทักษิ ณ ที จะปรั บคณะรั ฐมนตรี ก็เกิ ดขึ*น ดู
เหมือนว่ารัฐนาวาของรัฐบาลทักษิณจะไปไม่รอดและในช่วงสถานการณ์
289

แห่ งภาวะวิ กฤตการเมือง การเข้าเฝ้ าพระเจ้าอยู่หัว ของพ.ต.ท.ทักษิ ณ ก็


เกิดขึ*นโดยเนื* อหาของพระราชดํารั สนั*นเป็ นความลับ แต่ แล้วทุ กอย่างก็
จบลงด้ ว ยการยุ บ สภาซึ งเป็ นไปตามวิ ถี ท างประชาธิ ป ไตยที น านา
อารยประเทศใช้ ก ั น โดยพ.ต.ท.ทั ก ษิ ณ เองก็ ไ ม่ รู้ ว่ า ในวิ ถี ท าง
ประชาธิ ปไตยแบบไทยๆ กลับกลายเป็ นการจบลงของตําแหน่ งนายกฯ
ของตัวเอง
ทัน ที ที ป ระกาศยุบ สภาเมื อ ต้น ปี 2549 และกํา หนดให้ มีก าร
เลือกตั*งวันที 2 เมษายน 2549 ในขณะทีพ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศด้วยความ
มัน ใจว่าหากได้ค ะแนนเสี ยงจากประชาชนทั*งประเทศไม่ ถึงครึ งของผู้
ที มาลงคะแนนเสี ย งทั*งหมดที ให้แก่ ต น(คะแนนเลื อก ส.ส.แบบบัญ ชี
รายชื อ ) พ.ต.ท.ทัก ษิ ณ จะไม่ ข อรั บ ตําแหน่ งนายกรั ฐ มนตรี น* ั น นาย
อภิสิทธิ; เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ดูจะห้าวหาญเหมือนรู้ว่า
ฟ้ าไม่ โปรดทัก ษิ ณ แน่ ก็ ประกาศควําบาตรการยุบสภาโดยไม่ส่ง ส.ส.
พรรคประชาธิ ปัตย์ ลงสมัค รรั บเลือกตั*ง โดยอ้างว่าการยุบสภาไม่ เป็ น
ธรรม ท่ามกลางเสี ยงไชโยโห่ ร้องของกลุ่มพันธมิตรฯ ที พอใจต่ อการรั บ
ลูกป่ วนระบอบทักษิณของประชาธิปัตย์อย่างถึงทีสุด เพราะรู้ดีว่าเลือกตั*ง
ใหม่ก็ ไม่ อาจจะเอาทักษิ ณออกจากตําแหน่ งนายกฯ ได้ เพราะคะแนน
นิ ยมของประชาชนทีมีต่อทักษิณท่วมท้น
290

การควํา บาตรการเลื อกตั*งลามสู่ พรรคการเมื องร่ ว มฝ่ ายค้า น


ทั*งหมด เพราะทุ กพรรคหมดโอกาสที จะเป็ นรั ฐบาลได้แล้ว ตราบเท่ าที
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังอยูใ่ นวงการเมือง
คะแนนนิ ย มของทัก ษิ ณ ที ม ากมายเช่ น นี* หากอยู่ใ นระบอบ
ประชาธิปไตยที แท้จริ ง ก็เป็ นเรื องปกติ ทีฝ่ายค้านต้องรอคอย และสร้ าง
ผลงานแข่ ง กับรั ฐ บาล เช่ น ประเทศอัง กฤษที เป็ นต้น แบบ ซึ งพรรค
กรรมกรก็ต ้องรอคอยการเสื อมความนิ ย มของประชาชนอังกฤษที มีต่ อ
พรรคมาร์ ก าเรต อนุ รั ก ษ์ นิ ย มเป็ นเวลานานกว่ า 10 ปี ในสมัย ของ
นายกรั ฐมนตรี น างแธตเชอร์ แต่ สํา หรั บประเทศไทยมี เพี ย งรู ปแบบ
เท่ านั*นที เป็ นประชาธิ ปไตย แต่ เนื* อแท้คือระบอบสมบู รณาญาสิ ทธิ ราช
ใหม่ ดังนั*นการยุบสภาแทนที จะเป็ นทางออกของระบอบประชาธิ ปไตย
ก็กลายเป็ นกับดักของระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ
ความปั น ป่ วนทางการเมืองทีเ กิด ขึ;น บนถนนจึง ลามเข้ าสู่ สภา
แล้ วลามเข้ าสู่ ระบบ และเมือ ผลเลือ กตั;งออกมา เสี ย งประชาชนยัง ให้
ทัก ษิณเป็ นนายกฯ ต่ อไป แต่ เสี ย งกระซิ บ จาก “อํานาจรั ฐ ตัวจริ ง” ให้
ทักษิณออกไปก็ดังขึน;
291

6.14 เพียงแต่ในหลวงกระซิบข้ างหู ผมจะลาออกทันที !!


ด้ว ยเพราะรั ฐ บาลทั ก ษิ ณ มาจากการเลื อ กตั*ง โดยชอบด้ ว ย
กฎหมาย และชอบด้วยระบอบประชาธิ ปไตย และเป็ นรั ฐบาลที ได้รั บ
ความนิ ยมสู งสุ ดจากประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิงในศตวรรษที 21 ยุค
โลกาภิวตั น์ ทําให้รัฐบาลทักษิ ณมีความชอบธรรมมากกว่ารัฐบาลทหาร
และรัฐบาลประชาธิปไตยครึ งใบทีเป็ นเหยือของราชสํานักในอดี ตที ผ่าน
มา การขับไล่ให้ทกั ษิณออกจากวงการเมืองจึงยากทีจะทําได้ นอกจากการ
ทํารัฐประหารยึดอํานาจของฝ่ ายทหารเท่ านั*น แต่ แม้กระนั*นการเข้ามามี
อํานาจของฝ่ ายทหารก็ใช่ว่าราชสํานักจะอุม้ ชูอย่างถาวรก็หาไม่ และจาก
เหตุ ก ารณ์ ประวัติศาสตร์ ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าอํานาจที แท้จริ งของระบอบ
การปกครองของไทยนั*น อยู่ที องค์พระมหากษัต ริ ย ์เท่ านั*น และจาก
ประสบการณ์ทางการเมืองของฝ่ ายทหารทีเจ็บปวดที สุดที ยืนยันถึงความ
จริ งแห่ งระบอบการปกครองของไทยก็ คือเหตุการณ์พฤษภาทมิฬปี 2535
แต่ ก ลับต้องเสื อมเสี ยเกี ย รติ ยศด้ว ยการถูกเรี ย กเข้าราชสํานัก และพระ
เจ้าอยูห่ วั ออกปากตําหนิ นายกรัฐมนตรี ออกโทรทัศน์ทุกช่อง ทําให้พล.อ.
สุ จินดา ตายทั*งเป็ น จึงเป็ นบาดแผลในจิตใจของทหารมาจนทุกวันนี*
นี* คือลักษณะพิเศษของระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ !!
แม้ จ ะเป็ นนายกฯ มาจากระบอบประชาธิ ป ไตย แต่ ถ้ า หาก
กษัตริย์ไม่ ชอบ ก็ต้องออกไป
292

พ.ต.ท.ทักษิณ รู้ถึงความจริ งนี* แต่เมือยังดํารงอยูใ่ นตําแหน่ ง ก็ไม่


ต่างอะไรกับการขีหลังเสื อ หากลงอย่างไม่มีจงั หวะจะโคน ก็จะถูกเสื อกิน
แต่หากจะหาทางเจรจากับเสื อก็ยากทีจะเจรจากันได้ จึงใช้วิธีการประกาศ
ต่อสาธารณะว่า “ถ้ าเพียงแต่ในหลวงกระซิบข้ างหู ผมจะลาออกทันที”
จากคําพูด นี* ยิงเป็ นการเติ มเชื*อไฟให้เครื อข่ ายราชสํานัก ยิงเร่ ง
เครื องขับพ.ต.ท.ทักษิณ ให้พน้ จากอํานาจ และแล้ วก็มีเสี ยงกระซิ บข้ างหู
ของ พ.ต.ท.ทักษิณ จริง แต่ มใิ ช่ ให้ ออกจากนายกฯ แต่ กระซิ บให้ ออกจาก
อํานาจไปเลยแล้ วไม่ ต้องกลับมา
เมื อวันที 4 เมษายน 2549 หลังเสร็ จสิ* นการลงคะแนนหมาดๆ
เมือวันที 2 เมษายน อันเป็ นผลจากการยุบสภา พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ถกู เรี ยกให้
เข้า เฝ้ าโดยเร่ ง ด่ ว นที พ ระตําหนั ก หัว หิ น พ.ต.ท.ทัก ษิ ณ เดิ น ทางด้ว ย
เครื องบินในเวลาบ่ายโมงเศษ หลังจากเสร็ จสิ*นการประชุ มคณะรั ฐมนตรี
ครั* งสุ ด ท้ายก่ อนมี รั ฐบาลใหม่ ด ้ว ยสี หน้ ายิ*มแย้มโดยไม่ รู้ ว่ าจะมี เสี ย ง
กระซิบข้างหู แต่ทนั ทีทีออกจากพระตําหนัก ทักษิณได้พบความจริ งของ
การเมืองไทยในระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่ โดยไม่อาจจะบอกกับ
ใครได้ในขณะนั*น เพียงแต่ มีคาํ สังของนายกฯ ให้สํานักนายกรั ฐมนตรี
เตรี ยมการแถลงข่ าวสําคัญอย่างฉุ ก เฉิ น และเป็ นการแถลงครั* งแรกและ
ครั*งสุ ดท้ายทีกลางห้องโถงหน้าบันไดของตึกไทยคู่ฟ้า ของพ.ต.ท.ทักษิ ณ
ชินวัตร
293

เวลาประมาณหนึ งทุ่ มเศษของวันที 4 เมษายน 2549 ทั*งๆ ที พึ ง


ลงคะแนนเลือกตั*งทัว ไปเมือวันที 2 เมษายน 2549 ท่ ามกลางนักข่ าวเต็ม
ทําเนี ย บ พ.ต.ท.ทักษิ ณ ยืนที โพเดี ยมหน้าบันไดกลางห้องโถงทําเนี ย บ
รัฐบาล โดยมีรัฐมนตรี และบุคคลสําคัญของพรรคไทยรักไทยยืนเป็ นแถว
อยู่ด ้านหลัง สองคนสําคัญ ในนั*น มี นายเนวิ น ชิ ด ชอบ และนายอนุ ทิน
ชาญวีรกูร รัฐมนตรี ผใู้ กล้ชิดยืนอยูด่ ว้ ย
พ.ต.ท.ทักษิ ณ ชิ นวัตร แถลงด้วยนํ*าตาคลอ และเสี ยงขมขื นใน
ลําคอ โดยมีคุณหญิงพจมาน ภรรยายืนอยูเ่ คียงข้างว่า
“ผมขอลาพัก ถาวร และแต่ งตั*งให้ พล.ต.อ.ชิ ดชัย วรรณสถิ ต ย์
รองนายกรัฐมนตรี เป็ นผูร้ ักษาการแทน”
ทันทีทีส*ินเสี ยงคําแถลง ท่ามกลางความเงียบกริ บ ไม่ได้ยนิ แม้แต่
เสี ยงหายใจของตัวเอง นายเนวิน ชิ ดชอบ ก็โผเข้ากอดพร้ อมหลัง นํ*าตา
ก่อนที พ.ต.ท.ทักษิณ จะโอบกอดคุณหญิงพจมาน เสี ยอีก


นายเนวิน ชิดชอบ และนายอนุ ทิน ชาญวีรกูร รั ฐมนตรี ในคณะรั ฐมนตรี ทกั ษิณ
ทีมีความใกล้ชิด และซื อสัตย์ต่อทักษิณโดยเฉพาะนายเนวิน ชิดชอบ ถึงขนาดหลัง
นํ*าตา เมือทราบผล ทักษิณ ต้องออกจาวงการการเมือง แต่ล่าสุ ดเมือปลายปี 2551
เมื อ เกิ ด วิก ฤตการณ์ ท างการเมื อ ง กรณี พ ัน ธมิ ต รฯ สร้ า งความวุ่ น วาย กดดัน ให้
เปลี ย นขั*ว อํา นาจก็ เ ป็ น 2 แกนนํา ที แ ปรภัก ดิ; พาพวก ส.ส. หนี จ ากทัก ษิ ณ ไป
สนับสนุนนายอภิสิทธิ; เวชชาชีวะ เมือวันที 15 ตุลาคม 2551
294

บรรยากาศการออกจากทําเนี ยบรัฐบาลในคืนนั*นมิใช่ บรรยากาศ


ลาพัก แต่เป็ นบรรยากาศลาออกจากวงการเมือง เพราะภาพทางโทรทัศน์
พ.ต.ท.ทัก ษิ ณ ทําการเก็ บข้าวของ และสิ งที ข าดไม่ได้คื อรู ปถ่ ายคู่ ก ับ
ภรรยาที ต* งั อยู่บนโต๊ะทํางานในทําเนี ยบ พ.ต.ท.ทักษิ ณ ถือรู ป และโอบ
กอดภรรยา เดิ น ขึ* น รถยนต์พ ร้ อ มกัน และเดิ น ทางออกนอกประเทศ
หลังจากนั*นนัยว่าเป็ นการพักผ่อน
วันที 5 เมษายน 2549 นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ; น้องสาวแท้ๆ ของ
พ.ต.ท.ทักษิณ แกนนําพรรคไทยรั กไทย เดิ นทางเข้าไปที ทาํ การพรรคฯ
พร้ อมด้วยญาติ พีน้อง และแกนนําพรรค เธอและหลายคนหลัง นํ*าตาใน
ห้องทํางาน
วันที 11 เมษายน 2549 พรรคไทยรั กไทยเรี ยกประชุ มใหญ่ ส.ส.
รั ฐมนตรี และแกนนําพรรค บนห้องประชุ มใหญ่ ชั*น 7 เพื อรั บทราบ
สถานการณ์ มี ส.ส. หลายคนผลัดกัน ลุก ขึ*น พูด เพื อให้กาํ ลังใจ พ.ต.ท.
ทักษิณ แต่ดูเหมือนว่าทักษิณจะไม่ได้ยนิ ใครพูด เพราะเจ็บปวดเกินกว่าที
จะได้ยนิ เสี ยงของผูค้ น และสัจธรรมความจริ งของระบอบการเมืองไทยก็
ปรากฏจากปากของทักษิณท่ามกลางความเงียบกริ บของห้องประชุมว่า
“ผมพึง รู้ ว่าประเทศไทยไม่ มปี ระชาธิปไตย”
295

คําพูดอันเป็ นปริ ศนาทีไม่มีใครรู้ ว่าเงามืดที บดบังประชาธิ ปไตย


คือใครในขณะนั*น แต่ความลับไม่มีในโลกฉันใด เงามืดก็ไม่อาจจะปกปิ ด
ตัวเองได้ฉนั นั*น
จากปากคําของทัก ษิ ณที ถูก เล่าต่ อๆ กัน มาจากการเดิ น ทางไป
เยีย มเยือน พ.ต.ท.ทักษิ ณ ของ ส.ส.และผูค้ นมากมายก็ไขข้อข้องใจทาง
ประวัติศาสตร์ อย่างชัดแจ้งว่า เงามืดนั*นก็คือคนที ทกั ษิ ณพร้ อมจะรั บฟั ง
เสี ยงกระซิบ แต่ในวันนั*นมิได้กระซิบให้ทกั ษิณลาออก แต่กระซิบให้
ทักษิณเลิกเล่ นการเมือง
ข้อมูลที ก ล่ าวมาข้างต้น ทั*งหมดนี* เป็ นสิ งที เกิ ด ขึ* น จริ งในการ
เมืองไทย และเป็ นการยํ*าชัดอีกครั*งหนึ งในประวัติศาสตร์ การเมืองไทยว่า
ประเทศไทยมิได้ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย
การปฏิวตั ปิ ระชาธิปไตย 2475 ยังไม่ เสร็จสิ;น

6.15 ลาพักแต่ไม่ลาออก ความปั นป่ วนและซับซ้ อน ของระบอบฯ


การลาพักงานถาวรของพ.ต.ท.ทักษิ ณ ในวันที 4 เมษายน 2549
แล้ว มอบให้ พล.ต.ต.ชิ ด ชัย รองนายกรั ฐมนตรี รั ก ษาการโดยไม่ ย อม
ลาออกตามเสี ยงกระซิบ จึ งกลายเป็ นปั ญหาว่า “ไม่จงรั กภักดี ” แต่ กลไก
ของระบบกฎหมายและการเมืองในขณะนั*น ทําไม่ได้ตามความประสงค์
ของผูก้ ระซิบ เพราะขณะนั*นพึงเลือกตั*งเสร็ จใหม่ๆ นายกฯ ก็ยงั ไม่ได้รับ
296

โปรดเกล้าฯ จึงอยูใ่ นภาวะสุ ญญากาศ เพราะนายกฯ หัวหน้าฝ่ ายบริ หารก็


ไม่มี สภาก็ไม่มี พ.ต.ท.ทักษิ ณ จึ งเป็ นเพียงนายกฯ รั กษาการ ส่ วน ส.ส.
ในสภาก็ส*ิ น สภาพไปตั*งแต่ ว นั ยุบสภา ไม่อาจจะเปิ ดสภาเลื อกนายกฯ
ใหม่ ไ ด้ ดัง นั*น หากว่ า ทัก ษิ ณ ประกาศลาออกตามกฎหมาย ก็ เ ท่ า กับ
เปิ ดทางให้ อ าํ นาจเผด็ จ การซึ ง เป็ นอํา นาจนอกระบบเข้ า มาทํา ลาย
ประชาธิ ป ไตยได้ ทั น ที เ พราะไม่ มี ท างออก แล้ว บาปเคราะห์ ท าง
ประวัติ ศาสตร์ ท* งั หมดก็จ ะตกอยู่ก ับทัก ษิ ณ จากวี รบุ รุษ ประชาธิ ปไตย
ก็จะกลายเป็ นผูไ้ ม่รับผิดชอบต่อประชาธิปไตย
สัจธรรมของระบอบการปกครองสมบูรณาญาสิ ทธิ ราชใหม่ใน
ยุคโลกาภิวตั น์ คือความซับซ้อน สับสน หาระบบไม่ได้ ก็เกิ ดขึ*นอีก เมือ
พระเจ้าอยู่หัวมี พระราชดํารั สแก่ ค ณะผูพ้ ิ พากษาศาลปกครองเมือวัน ที
25 เมษายน 2549 ที ถูกตี ความกันทั*งโลกว่าตกลงพระองค์จะเอาอย่างไร
แน่ ซึ งแท้จริ งเป็ นการกระหนาบตี ทกั ษิ ณให้หลุดออกนอกวงโคจรของ
อํานาจการเมืองให้ได้ดว้ ยพระองค์เอง เพราะขณะนั*นศาลปกครองไม่กล้า
ก้าวล่ วงเข้าไปตัดสิ น คดี ทางการเมื อง การเลื อกตั*งเพราะเกิ น ขอบเขต
อํานาจ แต่พระเจ้าอยู่หัวก็กล่าวเป็ นนามธรรมเชิ งสัญลักษณ์ เปิ ดไฟเขี ยว
ให้ศาลปกครองดําเนิ นการได้ดว้ ยข้อความสําคัญของพระราชดํารัสมีว่า
“ท่ านอาจจะนึกว่ าหน้ าที%ของผู้ที%เป็ นศาลปกครองมีขอบข่ ายทีไ% ม่
กว้ างขวางมาก......ก็เขาเลือกตั งอยู่คนเดียวซึ% งมีความสํ าคัญเพราะว่ าถ้ า
297

ไม่ ถึ ง 20 เปอร์ เซ็ น ต์ แล้ วก็ เ ขาคนเดี ย ว ในที% สุด การเลื อ กตั ง ไม่ ครบ
สมบู รณ์ . ......แล้ วก็ อี ก ข้ อ หนึ% ง การที% จะบอกว่ ามี ก ารยุบ สภาและต้ อ ง
เลื อ กตั ง ภายใน 30 วัน ถู ก ต้ อ งหรื อ ไม่ ไ ม่ พูด เลย ไม่ พูด กัน เลย ถ้ าไม่
ถูกต้ องก็ต้องแก้ ไข แต่ กอ็ าจจะให้ การเลือกตั งนี เป็ นโมฆะหรื อเป็ นอะไร
ซึ%งท่ านจะมีสิทธิที%จะบอกว่ าอะไรที%ควรที%ไม่ ควร”
นั บ แต่ น* ั นเองขบวนการตุ ล าการภิ ว ัฒ น์ ก็ เ กิ ด ขึ* นโดยมี ศ าล
ปกครองเป็ นกองหน้าภายใต้การนําของนายอัคราธร จุ ฬารั ตน์ ประธาน
ศาลปกครอง  โดยออกมาตัด สิ น พลิ ก กลับว่ าศาลปกครองมี อ าํ นาจ
พิจารณาคดีเลือกตั*งได้ ซึงเดิมเคยวินิจฉัยว่าศาลปกครองไม่มีอาํ นาจแล้ว


นายอัคราธร จุฬารัตน์ ประธานศาลปกครอง ผูน้ บั ถือศาสนาอิสลามเป็ นชือแรกที
จะได้รั บ แต่ ง ตั*ง เป็ นนายกรั ฐ มนตรี ในคื น วัน ที 19 กัน ยายน 2549 ที เ กิ ด การ
รั ฐประหารโดยสํานักข่าว CNN ตีข่าวออกทัว โลกซึ งเป็ นการยืนยันว่าเป็ นบุคคล
ใกล้ชิดได้รับความไว้วางพระราชหฤทัย แต่เป็ นความหวาดกลัวของราชสํานักทีใน
ภาวะวิกฤตของการจัดอํานาจทางการเมืองทีหัวหน้าคณะผูย้ ึดอํานาจก็เป็ นมุสลิ ม
นายกฯ ก็จะเป็ นมุสลิมอีก ด้วยเหตุน* ีจึงหลุดและเปลียนเป็ น พล.อ.สุ รยุทธ จุลานนท์
องคมนตรี ซึ งเป็ นการยืนยันถึงความใกล้ชิดระหว่างการยึดอํานาจ กับราชสํานักมาก
ยิง ขึ*น และเป็ นผูท้ ีถูกทักษิณกล่าวโฟนอินพาดพิงเมือ 27 มีนาคม 2552 ว่ามีส่วนร่ วม
วางแผนกับ พลเอกสุ ร ยุท ธ ในการยึด อํานาจที บ ้า นของมล.ปี ย์ มาลากุ ล ที ถ นน
สุ ขมุ วิท
298

ขบวนการตุ ลาการภิ วฒั น์ก็ ขยายวงไปสู่ ศาลฎี ก า และศาลรั ฐธรรมนู ญ


โดยศาลทั*ง 3 สถาบันก็ ประสานเสี ยงกันภายใต้การนําของพลเอกเปรม
ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี โดยศาลทั*งหมดประสานเสี ยงกันพลิก
ควําการเลือกตั*งเมือ 2 เมษายน 2549 เป็ นโมฆะ และศาลฎี กายังข่ มขู่ให้
กกต. (คณะกรรมการการเลือกตั*ง) ลาออกอีกด้วย
ความปั น ป่ วนทางการเมื องในขณะนั*น เปรี ย บได้ด ังพายุหมุ น
“ทอร์ นาโด”ทีมีพลังดึงดูดอย่างรุ นแรงโดยดูดเอาสถาบันศาลออกมาเล่น
การเมืองอย่างเปิ ดเผย เมือนายจรั ล ภักดี ธนากุล เลขานุ การประธานศาล
ฎีกา ประกาศก่อนที กกต. จะถูกฟ้ องเป็ นจําเลยในศาลว่า
“ถ้า กกต. ไม่ลาออกจะต้องติดตาราง”
คํากล่าวนี* ละเมิดหลักนิ ติธรรมเป็ นอย่างยิงเพราะเป็ นการแสดง
ความอาฆาตมาดร้ า ยต่ อผูท้ ี ก าํ ลังจะตกเป็ นจําเลยว่ าจะตัด สิ น ลงโทษ
ในขณะที ผจู้ ะถูก ตัดสิ น ยังไม่ เป็ นจําเลยในศาล และที สาํ คัญที สุด ที เป็ น
หลักฐานยืนยันว่าศาล ซึงเป็ นทีพึงแห่ งสุ ดท้ายของคนไทยได้ถูกครอบงํา
แล้ว โดยชัดเจนเมือรู ปของนายวิรัช ชิ นวินิจกุล เลขานุ การศาลฎี กา และ
นายไพโรจน์ วรานุ ช หรื อ “นายเจี™ยบ” รองเลขานุ การศาลฎีกายืนถ่ายคู่ใน
เวลาแถลงข่าวกับนายจรัล ภักดีธนากุล เพราะนายเจี™ ยบ”ผูน้ * ี อดี ตเคยเป็ น
นักศึกษาคณะรั ฐศาสตร์ จุฬาฯ รุ่ น 25 ที ทุ กคนรู้ จกั ดี ว่าเป็ นเด็กในบ้าน
ของป๋ าเปรมที ท่ า นเลี* ยงดู จ นได้ดิ บ ได้ดี เป็ นผูพ้ ิ พ ากษา และเป็ นผู้
299

ประสานงานกับศาลในวิ ก ฤตการณ์ ในนามตัว แทนของ “ป๋ า” และที


สําคัญใครก็รู้ว่า นายเจี™ยบคนนี*เป็ น “ตุ๊ด” เด็กเลี*ยงของป๋ าเปรมเอง รวมทั*ง
นายวิรัช วินิจกุล ก็เป็ นพวกไม้ป่าเดียวกัน
แต่ดว้ ยในเดื อนมิถุนายน 2549 มีการเตรี ยมงานราชพิธีสาํ คัญที
รั ฐบาลเป็ นเจ้าภาพ ทู ลเชิ ญ กษัต ริ ย ท์ วั โลก ซึ งมี ประมาณ 28 ประเทศ
มาร่ ว มฉลองการครองราชย์ครบ 60 ปี ที ยาวนานที สุดในโลกของพระ
เจ้าอยูห่ วั ภูมิพล เมือไม่มีรัฐบาลทีเป็ นทางการ ความปันป่ วนแห่ งงานราช
พิธีก็เกิดขึ*นอีก ราชสํานักจึ งไม่มีทางเลือกจึ งต้องเรี ยกทักษิ ณกลับมาอีก
ครั*งหนึ ง เพือมาทํางานฉลองครองราชย์ 60 ปี ในวันที 9 มิถุนายน
ทักษิณ ได้เดินทางกลับประเทศไทยตามพระราชดํารัสให้กลับมา
จัดงาน หลังจากได้ยนิ เสี ยงกระซิบทีหูและได้เดินทางออกไปต่างประเทศ
ตามเสี ยงกระซิ บแล้ว เมือกลับมา พ.ต.ท.ทักษิ ณ ก็ได้จดั งานเฉลิมฉลอง
การครองราชย์ครบ 60 ปี อย่างยิง ใหญ่ทีสุดทีไม่เคยมีใครทํามาก่ อน ภาพ
ของประชาชนทีสวมเสื*อยืดสี เหลืองมากมายเต็มถนนสุ ดลูกหู ลูกตา จาก
ลานพระบรมรู ปทรงม้ายาวไกลตลอดถนนราชดําเนิ นจนถึงสะพานผ่าน
ฟ้ า และท่ า มกลางความปลาบปลื* ม ปิ ติ ยิ น ดี ข องผู้ค น ก็ ดู เ หมื อ นว่ า
สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ ภาวะปกติ ทีพระองค์ทรงพระเกษมสําราญและ
คงจะมีพระเมตตามองเห็ นถึงความจงรั กภักดี ของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ แล้ว
ขณะที ความปิ ติ ยินดี ข องผูค้ นยังไม่ทนั จางหาย วันที 19 กันยายน 2549
300

ทหารก็ ได้รั บสัญ ญาณออกมายึด อํานาจโค่ น ล้มรั ฐบาลทัก ษิ ณ ขณะที


พ.ต.ท.ทัก ษิ ณ เดิ น ทางไปมหานครนิ วยอร์ คเพือกล่ าวสุ น ทรพจน์ในที
ประชุ มสหประชาชาติ และพระเจ้าอยู่หัว ก็ ลงพระปรมาภิ ไธยรั บรอง
ความชอบธรรมของการยึดอํานาจ
การยึดอํานาจเช่นนี*เป็ นประชาธิปไตยหรื อไม่?
พระองค์ ไ ด้ เ คยมี พ ระราชดํา รั ส พระราชทานแก่ ผูพ้ ิ พ ากษา
สํานักงานยุติธรรมเมือ 25 เมษายน 2549 ว่า
“ไม่ ทราบใครจะทํามัว แต่ ว่าปกครองประเทศมัว ไม่ได้ ”
กรณี การยึดอํานาจจะปรับเข้ากับพระราชดํารัสอย่างไร

6.16 ลอบฆ่ า 3 ครั;ง - คาร์ บอมคาร์ บ้องของจริง!!


เมือเห็ นว่าการกําจัดรั ฐบาลนายกฯ ทักษิ ณ ไม่ ใช่ เรื องง่ าย ด้ว ย
เพราะกลไกของระบบรั ฐ สภาและทหารก็ ไ ม่ ก ล้า เสี ย งในเบื* อ งต้ น
เครื อข่ายราชสํานักสายเหยีย ว ก็ตดั สิ นใจกําจัดตัวทักษิณ แล้วอํานาจของ
รัฐบาลทักษิณก็ยอ่ มต้องพังทลายไปเองโดยสภาพ แล้วเหตุการณ์วางแผน
ลอบฆ่าทักษิณก็เกิดขึ*นจากคนร่ วมสนทนา 2 คนซึงเป็ นผูใ้ กล้ชิดอย่างยิง
ทําการมอบงานให้กบั พล.อ.พัลลภ ปิ นมณี โดยจะใช้ปืนติ ดกล้องสแนป
เปอร์ ยงิ จากระยะไกล โดยจุดแรกจะซุ่มยิง พ.ต.ท.ทักษิณ บนเวทีปราศรั ย
ทีจงั หวัดลําปาง ตามกําหนดการทีทกั ษิณจะเดิ นทางกลับจากเชี ยงรายไป
301

ปราศรัยทีจงั หวัดลําปางในระหว่างหาเสี ยงในเดือนมีนาคม 2549 แต่ แล้ว


เปลี ย นแผนเข้า จัง หวัด เชี ย งใหม่ จึ ง แคล้ว คลาด ต่ อ มาจะซุ่ ม ยิ ง จาก
ธรรมศาสตร์ ข ณะที ปราศรั ย บนเวที สนามหลวงในเวลาตอนหัว คํา แต่
ปรากฏว่าทักษิณเห็นมวลชนกําลังคึ กคักจึ งขึ*นปราศรั ยก่ อนกําหนดเวลา
ก็แคล้วคลาดอีก ล่าสุ ดจึงวางแผนถล่มทักษิ ณด้วยคาร์ บอมบนเส้นทางที
ทักษิณออกจากบ้านไปทํางาน โดยเครื อข่ ายของ กอ.รมน. เป็ นผูร้ ั บงาน
โดยการควบคุมงานของพลเอกสนธิ ผบ.ทบ. แต่โชคดี ทีเวลาเดิ นทางเกิ ด
คลาดเคลือน และแผนรัว จึ งถูกหน่ วยรั กษาความปลอดภัยของนายกฯ
ทักษิณ รวบตัวและของกลางคือรถยนต์ทีบรรทุกระเบิ ดพร้ อมปฏิบตั ิ งาน
เรี ยบร้อยแล้ว
ฝ่ ายพัน ธมิ ต รฯ โดยหนังสื อพิ ม พ์ผูจ้ ัด การ และเครื อ ข่ ายราช
สํานักพยายามจะบิ ด เบื อนเรื องนี* ว่าเป็ นคาร์ บอ้ ง มากกว่า คาร์ บอม แต่
แล้ว จากหลัก ฐานพยานวัต ถุ และพยานบุ ค คล ก็ ช* ี ชัด ทําให้อยั การไม่
อาจจะเป่ าสํานวนทิ*งได้ ทั*งๆ ทีอยูใ่ นเงื อนไขที ทกั ษิ ณหมดอํานาจแล้ว
จึงเป็ นเหตุการณ์ทีเชือมัน ได้ว่ามีหลักฐานมัดแน่ น


การสังฟ้ องคดีลอบฆ่านายกฯ ทักษิณ ด้วยวิธีคาร์ บอม อัยการสังฟ้ องหลังการยึด
อํานาจเมือ 19 กันยายน 2549 ล้มอํานาจทักษิณแล้ว และอยู่ในอํานาจของรั ฐบาล
เผด็จการ คมช. ขณะทีทกั ษิณต้องลี*ภยั ในต่างประเทศ
302

ในภายหลังการสื บข้อเท็จจริ งว่าใครเป็ นคนสัง ให้ลอบฆ่าทักษิ ณ


ซึงมิใช่เกิดขึ*นครั*งเดียว ข้อมูลก็ถูกเปิ ดเผยในช่ วงปลายปี 2551 ที พลเอก
พัลลภ ปิ นมณี ผูม้ ีข่าวลือว่าเกียวข้องกับการลอบสังหารได้ไปพบเคลียร์
ปั ญหากันกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทีประเทศจีนก็ปรากฏชัดว่าพลเอกเปรมและ
พลเอกสุ รยุทธ ได้เรี ย กพลเอกพัลลภไปพบและมอบหมายงานให้กาํ จัด
ทักษิณ โดยกล่าวอ้างว่าเป็ นความประสงค์ของเบื*องบนที ตอ้ งการจะล้ม
รัฐบาลทักษิณ และจะทํางานถวายให้พระองค์โดยจะไม่รับตําแหน่ งใดๆ
หลังการยึดอํานาจและการทีพลเอกพัลลภนําข้อมูลนี*ไปเปิ ดเผยให้ทกั ษิ ณ
ทราบเพราะถื อ ว่ า พลเอกสุ รยุ ท ธผิ ด คํ า สั ญ ญาที ไ ปเอาตํ า แหน่ ง
นายกรัฐมนตรี

6.17 ทักษิณขู่เปิ ดเทปแผนลอบฆ่ า!!


การลอบฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะดํารงตําแหน่ งนายกรัฐมนตรี ของ
ประเทศไทยนั*นเป็ นเรื องใหญ่ ระดับโลก และเป็ นที สนใจของสํานักข่ าว
ต่ า งประเทศ จึ ง ขอนํา คํา กล่ า วของพ.ต.ท.ทัก ษิ ณ ที ใ ห้ สัม ภาษณ์ แ ก่
นิ ตยสารไทม์ ซึงเป็ นหนังสื อพิมพ์ยกั ษ์ใหญ่ระดับโลกโดยตีพิมพ์เผยแพร่
เมื อ 6 มีน าคม 2552 แปลเป็ นไทย ตี พิมพ์ในหนังสื อพิมพ์โ พสต์ ทูเดย์
เมือวันเสาร์ ที 7 มีนาคม 2552 ซึงเป็ นข้อความทางประวัติศาสตร์ ทีสมควร
บันทึกไว้ว่า
303

“เคยมีการประชุ มกันทีบ้านหลังหนึงบนถนนสุ ขุมวิท และหนึง


ในคนทีร่วมประชุ มนั;น ก็บอกกับผมทั;งหมด ผมยังมีเทปบันทึกอยู่เลยว่ า
พวกเขาคุยอะไรกัน ว่ าจะกําจัดผมด้ วยการลอบสั งหาร หรือไม่ กก็ าํ จัดผม
ผ่ านกระบวนการศาล ผมรู้ ว่าคนพวกนี;คือ ใคร ผมเคยคิด ว่ าจะเผยชื อ
เหล่ านั;น แต่ ผมหวัน ว่ าอาจจะทําให้ สถานการณ์ แย่ ลงไปอีก ผมต้ องระวัง
ให้ มาก ผมต้ องกัดลิน; ตัวเอง และต้ องยอมทนกับรสชาติของเลือดผมเอง”
ในทีสุดความอึมครึ มของเหตุการณ์การยึดอํานาจโค่นล้มระบอบ
ประชาธิปไตยเมือ 19 กันยายน 2549 ก็ถกู เปิ ดเผยตัวแสดงออกมาทั*งหมด
ว่ า กระทํา โดยเครื อข่ า ยราชสํา นั ก โดยมี พ ลเอกเปรม ติ ณ สู ล านนท์
ประธานองคมนตรี เป็ นแกนนําในฐานะผูม้ ีบารมีนอกรั ฐธรรมนู ญ โดยมี
การร่ วมวางแผนกันทีบา้ นของมล.ปี ย์ มาลากุล อยูท่ ีสุขุมวิท ประธานในที
ประชุมเป็ นตัวแทนของพลเอกเปรม คือพลเอกสุ รยุทธ จุลานนท์ และร่ วม
ด้ว ยนายชาญชัย ลิ ขิ ต จิ ต ถะ ประธานศาลฎี ก า, นายจรั ญ ภัก ดี ธนากุ ล
เลขาธิการประธานศาลฎีกา (ปั จจุบนั เป็ นศาลรั ฐธรรมนู ญ), นายอัคราธร
จุ ฬารั ตน์ ประธานศาลปกครองสู งสุ ด (ตัวเก็งคนแรกที สาํ นักข่ าว CNN
ออกข่าวว่าจะเป็ นนายกฯ หลังการยึดอํานาจ), นายปราโมทย์ นาครทรรพ
นักการเมืองรุ่ นเก๋ า แนวคิ ดสังคมนิ ยมแกนนําพันธมิตร, มล.ปี ย์ เจ้าของ
บ้าน และพล.อ.พัลลภ ปิ นมณี ผูเ้ ปิ ดเผยข้อมูลลับนี*
304

วันที เปิ ดเผยข้อมูลลับนี* ถือได้ว่าเป็ นวันประวัติศาสตร์ คือ วัน ที


27 มีนาคม 2552 โดย พ.ต.ท.ทักษิ ณ โฟนอินมาที การชุ มนุ มของคนเสื* อ
แดงที หน้าทําเนี ยบรั ฐบาลแล้ว หลังจากนั*นตัวแสดงทุ กตัวก็ ออกมารั บ
ข้อเท็จจริ งกัน แต่ใช้วิธีภาคเสธคือ รับครึ งปฏิเสธครึ งแต่ ไม่อาจจะปิ ดบัง
ความจริ งได้อีกต่อไป เพราะเหตุการณ์ทีศาลทําผิดกระบวนการยุติธรรมก็
ดี , เจ้าหน้าที ตาํ รวจ ทหาร ไม่กล้าดําเนิ นการทางกฎหมายใดๆ กับม็อบ
พัน ธมิ ต รก็ ดี มัน ได้สอดรั บกับเหตุ ก ารณ์ ก ารประชุ มลับที ถูก เปิ ดเผย
ออกมาทั*งหมดนี*
มล.ปี ย์ มาลากุล ได้ให้สัมภาษณ์ ชดั เจนว่ามีการประชุ มดังกล่าว
จริ งที บ้านของตน หลังจากที พระบาทสมเด็ จ พระเจ้าอยู่หัว มีพระราช
ดํารั สกับศาลปกครองเมือ 25 เมษายน 2549 (ไทยรั ฐ 30 มีนาคม 2552)
แสดงให้เห็นถึงการปฏิบตั ิหน้าทีของเครื อข่ายราชสํานักโดยอัตโนมัติ
รายละเอียดคําให้สมั ภาษณ์โฟนอินของทักษิ ณ และคําสัมภาษณ์
ของพล.อ.พัลลภ อยู่ในภาคผนวกท้ายเล่ ม ซึ งผูส้ นใจควรต้องติ ด ตาม
เพราะเหตุ ก ารณ์ น* ี จะเป็ นกุ ญ แจไขไปสู่ เหตุ ก ารณ์ ในประวัติ ศาสตร์
ประชาธิปไตยย้อนหลังไปทั*งหมดทีแสดงบทบาทของราชสํานัก
305

6.18 องคมนตรีเปรม ปิ ดฉากนายกฯ ทักษิณ


เมื อสิ* น สุ ด งานพระราชพิ ธีฉ ลองการครองราชย์ค รบ 60 ปี ที
ยิง ใหญ่ท่ามกลางความปิ ติ ยินดี ของพสกนิ กร พลเอกเปรม ติ ณสูลานนท์
ประธานองคมนตรี ก็ ได้ก ้า วออกมาหน้ าฉากในฐานะผูม้ ี บารมี น อก
รั ฐธรรมนู ญตัวจริ ง ซึ งเป็ นเสมือนประธานเครื อข่ ายราชสํานักได้แสดง
ตนส่ งสัญ ญาณโค่ น ล้มพ.ต.ท.ทักษิ ณ ที พึงเสร็ จสิ* นจากการจัด งานพระ
ราชพิ ธีถวายพระเจ้าอยู่หัว โดยออกเดิ นสายกล่ าวปาฐกถากับนัก เรี ย น
นายร้อยทั*ง 3 เหล่าทัพ และในวาระต่ างๆ โดยส่ งสัญญาณเชิ งสัญลักษณ์
ให้ทหารเคลือนพลออกมาทํารัฐประหารได้แล้ว เพือจะขับไล่อาํ นาจของ
นายกรั ฐมนตรี ทีประชาชนรั ก แต่ ราชสํานักไม่ชอบ และนับแต่ น* ันทุ ก
องคาพยพ ตั*งแต่อาจารย์ ศาล ทหาร ตํารวจ พรรคการเมืองฝ่ ายค้าน และ
พันธมิตรฯ ก็ออกมาประสานเสี ยงล้มรัฐบาลทักษิณด้วยการรัฐประหาร
กลางเดื อ นกัน ยายนกลุ่ ม พัน ธมิ ต รฯ ซึ งได้รั บ สั ญ ญาณแล้ว
จึ ง เรี ยกชุ ม นุ ม ใหญ่ พ ร้ อ มจะปะทะให้ เ กิ ด เลื อ ดตกยางออกในวัน ที
20 กันยายน 2549 เพือสร้ างความชอบธรรมให้ทหารยกกําลังออกมาทํา
การรัฐประหาร ด้วยเหตุ ผลที ลวงโลกว่า “คนไทยจะแตกความสามัคคี ”
ทหารจึงต้องรี บสร้างความสามัคคี
แต่จากข่าวภายในเป็ นทีรู้กนั ว่าจะมีกาํ ลังทหารจากกองทัพภาคที
3 ภายใต้การนําของพลโทสะพรัง กัลยาณมิตร แม่ทพั ภาคที 3(ยศในขณะ
306

นั*น) จะถอดเครื องแบบเป็ นชาวบ้านแฝงตัวอยูใ่ นม็อบพันธมิตรฯ เพือก่ อ


เหตุรุนแรง
ในขณะทีทกั ษิณเดินทางไปต่างประเทศเพือไปกล่าวสุ นทรพจน์
ในที ประชุ มสหประชาชาติ ในนามตัวแทนของประเทศไทยในวันที 19
กันยายน 2549 และจะเดินทางกลับในวันที 20 กันยายน 2549 ซึ งจะเป็ น
วันเคลื อนพลของพันธมิตรฯ เพือก่ อความรุ นแรง(เพราะแต่ เดิ มรั ฐบาล
ทักษิณรู้สถานการณ์ทางการเมือง จึงไม่ยอมให้เกิดการกระทบกระทัง กับ
ม็อบเลย) และในเย็นวันที 19 กันยายน นั*นเองก็เกิ ดการเคลือนพลของ
กองกําลังทหารเข้ายึดอํานาจโค่นล้มรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน
ในสภาพความเป็ นจริ งของระบอบสมบูร ณาญาสิ ทธิ ราชใหม่
ภาวะการเมืองจะมีความซับซ้อนซ่อนเงือนมาก ประชาชนจะไม่สามารถ
มองเห็ น ความจริ งทางการเมื อ งอย่ า งตรงไปตรงมาได้ และแม้แ ต่
สื อมวลชนเองก็ไม่อยูใ่ นฐานะทีจะบอกความจริ งตรงๆ ต่ อประชาชนได้
เช่นกัน ความจริ งจึ งดูได้จากผลที เกิ ดขึ*นต่ อสาธารณะว่าใครกันแน่ ทีจะ
สัง ทําการล้มระบอบประชาธิปไตย ด้วยสิงทีเกิดขึ*นดังต่อไปนี*
- คณะผูย้ ดึ อํานาจใช้ชือว่า “คณะปฏิรูปการปกครองใน
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริ ยท์ รงเป็ นประมุข”(คปค.) จาก
ชือนี* ก่อให้เกิดความสับสนในต่างประเทศมากว่า คณะรั ฐประหารชุดนี* มี
ความใกล้ชิดกับพระมหากษัต ริ ยม์ าก จึ งรี บทําการแก้ไขเปลียนชื อเป็ น
307

“คณะมนตรี ความมัน คงแห่ งชาติ”(คมช.) และไม่ให้มีการใช้ชือเดิ มเรี ยก


ขานอีกต่อไป
- พลเอกเปรม พาคณะรั ฐประหารทั*งหมดเข้าเฝ้ าพระ
เจ้าอยูห่ วั อย่างรวดเร็ วเหมือนเตรี ยมการล่วงหน้าในกลางดึกของคื นวันที
19 กันยายน นั*นเอง
- คณะรั ฐประหารหลังการยึดอํานาจได้ประกาศจัดตั*ง
รัฐบาลซึงบุคคลทีเข้ามาเป็ นคณะรัฐมนตรี น* นั ล้วนแล้วแต่เป็ นคนใกล้ชิด
ราชสํานักทั*งสิ*น และที สาํ คัญคื อคนสนิ ทที เคยทํางานกับพลเอกเปรมมา
ก่อนสมัยเป็ นนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะอย่างยิง คือคนในสํานักงานมูลนิ ธิ
รั ฐบุ รุ ษ ของ พลเอกเป รม นั บ ตั* ง แต่ พล เอก สุ รยุ ท ธ จุ ลา นน ท์
นายกรั ฐมนตรี ซึ งได้รับแต่ งตั*งขณะดํารงตําแหน่ งองคมนตรี และเป็ น
เสมือนบุตรบุญธรรมของพลเอกเปรมด้วย,นายโฆษิต ปั; นเปี ยมรั ตน์ รอง
นายกรัฐมนตรี ผจู้ ดั การใหญ่ของธนาคารกรุ งเทพ จํากัด ซึงเป็ นทั*งกระเป๋ า
เงิ นที สนับสนุ น พันธมิตรฯ และเป็ นกระเป๋ าเงิ นให้แก่ พลเอกเปรม โดย
พลเอกเปรมได้รับเงินเดือนในฐานะประธานที ปรึ กษาธนาคารกรุ งเทพฯ
มานานกว่า 20 ปี และอดีตเคยเป็ นรัฐมนตรี ร่วมในคณะของพลเอกเปรม
ด้ว ย,นายอารี ย์ วงศ์ อ ารยะ รั ฐมนตรี ว่ าการกระทรวงมหาดไทยอดี ต
ลูกน้องผูใ้ กล้ชิดพลเอกเปรม นายบัญญัติ จันเสนะ รั ฐมนตรี ช่วยว่าการ
308

กระทรวงมหาดไทย อดีตเป็ นผูว้ ่าราชการกจังหวัดสงขลา เมือเกษียณอายุ


แล้วก็เป็ นผูด้ ูแลบ้านของพลเอกเปรมทีสงขลา เป็ นต้น
- พลเอกเปรมเคยพูดต่อสาธารณะชืนชมนายกฯ สุ รยุทธ
ว่าเป็ นคนดี และทุกคนทีช่วยเหลืองานในภาคใต้ของมูลนิ ธิรัฐบุรุษ ก็ลว้ น
แต่ได้ดีหมด
- นายมี ชั ย ฤชุ พั น ธุ์ ประธานสภานิ ติ บัญ ญั ติ ก็ เ ป็ น
ลูกน้องคนสนิ ทของพลเอกเปรม และเคยเป็ นรองนายกฯ และรั ฐมนตรี
ร่ วมในคณะรั ฐบาลเปรมหลายครั* งรวมตลอดถึงสมาชิ กสภานิ ติ บญ ั ญัติ
ส่ ว นข้ า งมากที ไ ด้รั บ แต่ ง ตั*ง ก็ ล ้ว นแต่ เ ป็ นแกนนํา พัน ธมิ ต รฯ ผู้อ ยู่
ล้อมรอบนายสนธิ ลิ*มทองกุล และเป็ น NGO ที ร่วมเคลือนไหวกับกลุ่ม
พั น ธมิ ต รฯ และโดยเฉพาะ NGO บางองค์ ก รที อ ยู่ ใ นโครงการ
พระราชดําริ รวมทั*งอธิการบดี และอาจารย์ มหาวิทยาลัย และข้าราชการ
สํานักนายกฯ ในรั ฐบาลทัก ษิ ณ เช่ น นายบวรศั กดิN อุ วรรโณ เลขาธิ การ
คณะรั ฐ มนตรี และนายพิ ษ ณุ เครื อ งาม รองนายกรั ฐ มนตรี ที ไ ด้รั บ
สั ญ ญาณจากพลเอกเปรม ให้ ล าออกจากรั ฐ บาลทัก ษิ ณ เพื อ ทํา ลาย
ความชอบธรรมของทักษิณ และรู้ภายหลังว่าทั*ง 2 คนนี* เป็ นญาติคู่เขยกัน
และเป็ นคนสงขลา จังหวัดฐานทีมนั ของพลเอกเปรม
309

- นาวาอากาศตรี ป ระสงค์ สุ่ นศิ ริ ประธานยกร่ าง


รั ฐ ธรรมนู ญ ปี 2550 ก็ คื อ ลู ก น้ อ งใกล้ชิ ด พลเอกเปรมและเป็ นผูอ้ ยู่
เบื*องหลังการขับเคลือนของพันธมิตรฯ อย่างใกล้ชิด
- นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ประธานศาลฎีกาผูใ้ ฝ่ ฝั นอยาก
เป็ นองคมนตรี และได้กลายเป็ นศาลทีรับใช้อาํ นาจการเมืองอย่างเปิ ดเผย
เริ มตั*งแต่ ได้เข้าไปมีบทบาทจัดการกับ กกต. โดยผ่านการประสานงาน
ของนายไพโรจน์ วรานุ ช เด็กในบ้านเปรมซึงเป็ นผูพ้ ิพากษา และเป็ นรอง
เลขานุ การประธานศาลฎี กา โดยพลเอกเปรมมีคาํ มัน สัญญาว่าจะแต่ งตั*ง
ให้ น ายชาญชั ย เป็ นองคมนตรี เมื อ เกษี ย ณอายุ แ ล้ว แต่ เ มื อ เกิ ด การ
รั ฐประหาร นายชาญชัย ลิขิ ตจิ ตถะ ก็ได้รั บการปู นบําเหน็ จโดยแต่ งตั*ง
ให้ เ ป็ นรั ฐ มนตรี กระทรวงยุ ติ ธ รรม และมี บ ทบาทสํา คั ญ ผ่ า นนาย
จรั ล ภัก ดี ธ นากุ ล เลขานุ ก ารประธานศาลฎี ก า ที ก ระโดดข้า มห้ ว ย
จากผูพ้ ิพากษามาเป็ นปลัดกระทรวงยุติธรรมทํางานร่ วมกับนายชาญชัย
ลิขิตจิตถะ เพือมาดําเนิ นการทางกฎหมายทําลายทักษิ ณ และเป็ นแกนนํา
ในการร่ างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ตามความต้องการของราชสํานัก และ
สุ ดท้ายนายชาญชัย ก็ได้รับโปรดเกล้าเป็ นองคมนตรี ได้จริ งๆ
หลัก ฐานทางประวัติ ศ าสตร์ เ หล่ า นี* เป็ นการยื น ยัน ชัด เจนถึ ง
อํานาจปกครองของราชสํานักด้วยวิธีการบริ หารจัดการทีซบั ซ้อน ผ่านผูม้ ี
บารมีนอกรั ฐธรรมนู ญ และเครื อข่ ายราชสํานัก แต่ การดําเนิ นการกําจัด
310

รัฐบาลทักษิณทีไม่พึงประสงค์น* ี มีความยุง่ ยากและซับซ้อนยิง กว่ารัฐบาล


ใดๆ ไม่ใช่ เป็ นเพราะเครื อข่ ายราชสํานัก ไม่มีประสิ ทธิ ภ าพ ไม่ ใช่ เป็ น
เพราะราชสํา นั ก เสื อ มบารมี แต่ ต รงข้ า มกัน เครื อข่ า ยราชสํ า นั ก มี
ประสิ ทธิภาพมาก ราชสํานักมีบารมีอย่างล้นพ้นและเข้มแข็ง แต่ ทียุ่งยาก
เป็ นเพราะทักษิ ณเป็ นตัว แทนของทุ นสมัย ใหม่ และเป็ นกลุ่ มทุ นในยุค
โลกาภิวตั น์ ทีเส้นสายความสัมพันธ์ทางธุ รกิ จกว้างขวาง สัมพันธ์ท* งั ใน
ประเทศและต่ างประเทศ ในรู ปของหุ ้นส่ วนซึ งซับซ้อนซึ งแตกต่ างจาก
อดีตนายกฯ ที มาจากทหารที เป็ นเพียงขุนนางในโครงสร้ างของระบอบ
สมบู ร ณาญาสิ ทธิ ร าชใหม่ ไม่ มีสายสัมพัน ธ์ ทางธุ ร กิ จ ผูก โยงมากนั ก
โดยเฉพาะการผูกโยงกับทุ น ต่ างประเทศ ดังนั*นเมื ออดี ต นายกฯ ที เป็ น
ขุนนางต้องพ้นจากตําแหน่ งก็หมดฤทธิ;เดชทันที แต่ กรณี ของทักษิ ณนี* จึง
ยุ่งยากมากกว่า และที ก่ อปั ญ หายุ่งยากจนจะส่ งผลสะเทื อนต่ อระบอบ
อํานาจของราชสํานักในอนาคตก็คือ ความกล้า และความบ้า ของทักษิ ณ
ซึ ง อยู่ใ นช่ ว งกระแสประวัติ ศ าสตร์ ข องการใกล้เ ปลี ย นรั ช กาลพอดี
ดังนั*นการแสดงอํานาจของราชสํานัก จึ งอยู่ในภาวะอันตรายที สุด และ
สถานการณ์ ก ารเมื อ งหลัง จากนั* นก็ จ ะพิ สู จ น์ ใ ห้ เ ห็ น สั จ ธรรมแห่ ง
ประวัติศาสตร์
311

6.19 กราบแผ่นดินสุ วรรณภูมคิ อื กราบกษัตริย์


หลังการเลือกตั*ง 23 ธันวาคม 2551 เมือสมัครได้รับโปรดเกล้า
เป็ นนายกรั ฐมนตรี แล้ว เมื อต้น ปี 2552 ทักษิ ณก็เดิ นทางกลับสู่ มาตุ ภู มิ
ทันทีทีเหยียบสนามบินสุ วรรณภูมิ พ.ต.ท.ทักษิ ณ ได้กม้ ลงกราบแผ่นดิ น
ซึงภาพนี* ได้ถกู ตีพิมพ์ไปทัว โลก แต่ไม่มีใครรู้ ว่าในใจของพ.ต.ท.ทักษิ ณ
คิดอะไร แต่จากแวดวงคนใกล้ชิดได้เปิ ดเผยให้ทราบว่า ภาพนั*นต้องการ
สื อความหมายถึงราชสํานักว่า
“ข้ าพเจ้ าขอกราบบังคมแทบเบือ; งยุคลบาทของพระบาทสมเด็จ
พระเจ้ าอยู่หั ว เพือ ขอพระบรมราชานุ ญ าตอาศั ย อยู่ในแผ่ น ดิ น นี;เ ยีย ง
พสกนิกร”
แต่ทกั ษิณก็ไม่อาจจะอาศัยใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารได้เฉกเช่ น
ปรี ดี พนมยงค์ และนายป๋ วย อึ*งภากรณ์ ที ตอ้ งจบชี วิตในต่ างประเทศ แต่
ต่ างกันว่ าขณะนี* พ.ต.ท.ทัก ษิ ณ ยังมีชีวิต อยู่และประวัติ ศาสตร์ บทนี* ยัง
เขียนไม่จบ
ใครจะเป็ นผู้เขียน
312

บทที 7
จุดเปลียนอํานาจราชสํ านัก

เจตนารมณ์ ของราชสํ านักทีต้อ งการทําลายรั ฐ บาลทัก ษิณ และ


ทุกรัฐบาลทีมสี ายสั มพันธ์ กบั ทักษิณ ทําให้ เกิดความปั นป่ วนในกลไกการ
บริ ห ารรั ฐ ในระบอบประชาธิป ไตยอย่ างมาก และเมือถู กแอบแฝงด้ วย
ความมุ่งหมายทางการเมืองทีเป็ นปริ ศนาของแกนนําพันธมิตรฯ ผู้มีภูมิ
หลังและอุดมการณ์ เป็ นปฏิปักษ์ ต่อราชสํ านักด้ วยแล้ ว การถลําเข้ าสู่ สนาม
รบแห่ งความคิดทางการเมืองของสตรี ผู้สูงศั กดิN ทําให้ พุทธศั กราช 2551
กลายเป็ นศตวรรษใหม่ แห่ งการเปิ ดเผยตัวตนอันเป็ นจุดเริมต้ นแห่ งความ
เสื อมของราชสํ านักอย่ างยากทีจะหวนคืน

7.1 สร้ างรัฐธรรมนูญ 50 เพือ ตัดอํานาจประชาชน


รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนปี 2540 ได้สร้างความไม่พอใจให้แก่
ราชสํานักแต่เก็บความรู้สึกนั*นอย่างเงี ยบๆ โดยไม่มีใครสังเกตเห็ น ด้วย
เพราะรั ฐธรรมนู ญ ปี 2540 ได้ต ัด อํานาจของราชสํานัก ในการแต่ งตั*ง
วุฒิสมาชิกออกทั*งหมด, การกําหนดให้สมาชิกวุฒิสภามาจากการเลือกตั*ง
โดยตรงของประชาชนเหมื อน ส.ส.เป็ นผลให้ร าชสํานัก ไม่สามารถจะ
313

ควบคุมกลไกสภาได้ท* งั ๆ ทีราชสํานักได้เริ มต้นฟูมฟั กฟื* นอํานาจในสภา


มาตั*งแต่รัฐธรรมนู ญฉบับใต้ตุ่มปี 2490 ที ฝ่ายทหารจับมือกับราชสํานัก
ทํารัฐประหารล้มอํานาจของปรี ดี พนมยงค์ ดังนั*นรัฐธรรมนูญปี 2490 จึ ง
เป็ นรัฐธรรมนูญฉบับแรกนับแต่การเปลียนแปลงการปกครอง 2475 ทีคืน
อํานาจในรั ฐสภาครึ งหนึ งให้ แก่ ร าชสํา นัก โดยกํา หนดให้ร าชสํานั ก
แต่งตั*งสมาชิกวุฒิสภาได้เต็มสภา อีกทั*งรัฐธรรมนูญปี 2540 ได้ให้อาํ นาจ
ประชาธิ ปไตยเต็ มใบแก่ ประชาชน จนส่ งผลให้เกิ ด ระบบพรรคใหญ่ ที
เข้มแข็ง และรั ฐบาลที มีเสถียรภาพ ดังนั*นเมือรั ฐบาลทักษิ ณ และพรรค
ไทยรั ก ไทยเป็ นผลผลิ ต ของรั ฐธรรมนู ญ ปี 2540 อี ก ทั*งความสามารถ
เฉพาะตัวในการบริ หารจัดการของทักษิณทีหาตัวจับได้ยาก ยิงทําให้ราช
สํานักวิ ตกกังวลต่ อความมี เสถีย รภาพของอํานาจประชาชนทีมาในรู ป
พรรคการเมืองของชนชั*นนายทุน
ดัง นั*น เมื อ ทํา ลายรั ฐ บาลทัก ษิ ณ ด้ว ยกํา ลัง ทหารแล้ว เมื อ 19
กันยายน 2549 เครื อข่ายราชสํานักก็ทาํ การถอนรากถอนโคนอํานาจทาง
การเมืองของทักษิณ ต่อด้วยการยุบพรรคไทยรักไทยโดยใช้กาํ ลังตุลาการ
ทีเรี ยกว่า ตุลาการภิวฒั น์ แล้วจึงได้สถาปนารั ฐธรรมนู ญปี 2550 ในแบบ
ฉบับอํามาตยาธิ ปไตยที สมบูร ณ์ แบบขึ* น ด้ว ยด้ านหนึ ง ก็ทาํ ลายระบบ
พรรคการเมืองให้อ่อนแอ โดยให้เอกสิ ทธิ; ส.ส. ที จะไม่ฟังมติ พรรคตาม
มาตรา 122 และตัดอํานาจของรัฐมนตรี และ ส.ส. ตามมาตรา 265-268 ที
314

จะไม่ให้ ส.ส. เข้ามาเป็ นเลขานุ การรัฐมนตรี และทีปรึ กษารัฐมนตรี , รวม


ตลอดทั*งห้าม ส.ส. และรัฐมนตรี เข้ายุ่งเกี ยวกับงานราชการทั*งหมด เว้น
แต่ เฉพาะที เป็ นอํานาจหน้าที ตามกฎหมาย อีก ด้ านหนึงก็ให้อาํ นาจของ
ระบบข้าราชการเข้าควบคุ มรั ฐสภา โดยให้อาํ นาจแก่ ศาลทั*ง 3 สถาบัน
ร่ ว มกับองค์ก รอิ สระ 4 องค์ก ร ซึ งทั*งหมดเป็ นข้าราชการ โดยเป็ นผูม้ ี
อํานาจแต่ งตั*งสมาชิ กวุ ฒิสภาครึ งหนึ งของสภาวุฒิ และมีอาํ นาจในการ
ถอดถอน ส.ส. และยุบพรรคการเมื อง และเพื อให้รั ฐธรรมนู ญ ปี 2550
ศัก ดิ; สิ ท ธิ; ไม่ อ าจเปลี ย นแปลงได้ โ ดยง่ า ย ก็ น ํา ไปให้ ป ระชาชนลง
ประชามติ ซึ งการลงประชามติ น* ัน ก็ อ ยู่ใ นบรรยากาศอํา นาจเผด็ จ
การทหารครอบงําเต็มเปี ยม โดยรัฐบาลเผด็จการ คมช. ของราชสํานักเป็ น
ผูค้ ุ มกลไกการลงประชามติ ท* งั หมด แล้ว ในที สุด รั ฐธรรมนู ญ ปี 2550
ก็คลอดผ่านมติมหาชนสมใจ
ความสําเร็ จของการสร้ างรั ฐธรรมนู ญปี 2550 ไม่เพีย งแต่ สร้ าง
ความเข้มแข็งให้แก่ราชสํานักด้วยการทําลายระบบพรรคการเมืองเท่ านั*น
แต่ ย งั ตอบสนองเป้ าหมายที ยิงใหญ่ ทีสุด ที แอบซ่ อนไว้ในใจของราช
สํานักนั*น ก็คือการเตรี ยมการเพือรองรับการเปลียนแปลงรัชกาลที ใกล้จะ
มาถึ ง โดย รั ฐธรรมนู ญฉบับปี 2550 นี* จะสร้ างหลักประกัน ที มนั คงต่ อ
รัชกาลใหม่ดว้ ยอํานาจทีอยูใ่ นมือของศาลและระบบราชการทีราชสํานักมี
ความเชื อมัน มากกว่ าที จ ะปล่ อยให้อ าํ นาจอยู่ในมื อ ของนั ก การเมื อ ง
315

ทั*งหมด ทั*งนี*เพือให้การควบคุมกลไกรัฐในช่วงระยะเปลียนผ่านสู่รัชกาล
ใหม่เกิดความมัน คง
ในความสําเร็ จ สู งสุ ดตามรั ฐธรรมนู ญ ที เป็ นแม่ บทของการจัด
อํานาจนี* ก็ คื อพรรคการเมื องในสายทัก ษิ ณ จะต้องไม่ก ลับมามี อาํ นาจ
ดังนั*นด้วยกฎเกณฑ์แห่ งรัฐธรรมนูญ และด้วยอํานาจของศาล และองค์กร
อิสระทีอาํ นาจเผด็จการแต่งตั*งขึ*นนี* จึงได้ผนึ กกําลังกันเป็ นเครื อข่ ายราช
สํานัก ทําหน้าที ปิดกั*น พรรคพลังประชาชน ซึ งเป็ นพรรคตัว แทนของ
ทักษิณไม่ให้ได้รับชัยชนะในสนามเลือกตั*ง ตั*งแต่ ห้าม ส.ส.หาเสี ยงโดย
เอ่ ยชื อของทัก ษิ ณ และชื อพรรคไทยรั กไทย จนถึ งกรณี กกต.ประเคน
ใบแดงใบเหลืองให้แก่ ผสู้ มัคร ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนอย่างเต็มที
จนถึงศาลรั ฐธรรมนู ญ สังยุบพรรค และในระหว่ างที รุ มถล่ มพรรคพลัง
ประชาชนนี* พวกองค์กรอิ สระและศาลก็ ปกป้ อง และหนุ น ช่ ว ยพรรค
ประชาธิ ปัต ย์อ ย่างเต็ มที ในสนามการเลื อ กตั*งทัว ไป โดยผูส้ มัค รของ
พรรคประชาธิปัตย์และพรรคแนวร่ วมที วางแผนให้จดั ตั*งรั ฐบาลร่ วมกัน
ทํา อะไรก็ ไ ม่ ผิ ด หรื อแม้ผิ ด ก็ ห นั ก เป็ นเบา เช่ น ควรจะได้ ใ บแดงก็
เปลียนเป็ นใบเหลือง และหากหลักฐานเป็ นแค่ใบเหลืองก็จะหลุดพ้นโดย
ประกาศให้เป็ น ส.ส.ได้เลย เป็ นต้น แต่ สิ งที ราชสํานักวาดหวังไว้ถึงชัย
ชนะนี* สุ ด ท้ายก็ ปรากฏชัด ว่ าเป็ นการประเมิ น พรรคประชาธิ ปัต ย์สู ง
เกิ นไป และประเมิ นวิ วฒั นาการทางความคิ ดของประชาชนตําเกิ น ไป
316

ผลลัพธ์ออกมาจึงผิดถนัดคือ พรรคประชาธิปัตย์แพ้อย่างไม่เป็ นท่า พรรค


พลังประชาชนภายใต้การนําของนายสมัคร สุ นทรเวช ในนามตัวแทน
ของทักษิณกําชัยชนะจากความเชือมัน ของประชาชนเป็ นอันดับหนึ งได้ที
นัง ส.ส. 233 เสี ยง เป็ นแกนนําจัดตั*งรัฐบาล แม้องค์กรอิสระ กกต. จะมุ่ง
ทําลายล้างด้วยการแจกใบแดง ใบเหลือง อย่างไร จํานวนเสี ยงพรรคพลัง
ประชาชนก็ ยงั เป็ นอัน ดับหนึ งเหนื อกว่ าพรรคประชาธิ ปัตย์ซึ งได้เพีย ง
165 เสี ยง และแม้จะรวมเสี ยงของพรรคแนวร่ วม คมช. ทั*งหมด อันได้แก่
พรรคชาติ ไทย,พรรคเพื อแผ่นดิ น พรรครวมใจไทยชาติ พฒ ั นา,พรรค
มัชฌิมา และพรรคประชาราษฎร์ แล้วเสี ยง ส.ส.ก็ยงั ไม่อาจจะตั*งรั ฐบาล
ได้ ในทีสุดความฝันของราชสํานักและความคาดหวังของพลเอกเปรม ใน
ฐานะเป็ นผูบ้ ริ หารจัดการแทนก็ พงั ทลาย ดังนั*น รั ฐบาลภายใต้เงาของ
บารมีทกั ษิณโดยการนําของนายสมัคร สุ นทรเวช นายกรัฐมนตรี ก็เกิดขึ*น
ซึ งได้สร้ างความเจ็ บปวดรวดร้ าวแก่ ร าชสํานักต่ อการกลับมาสู่ ว งการ
อํานาจของพ.ต.ท.ทักษิณ อีกครั*งหนึ งเป็ นอย่างมาก
317

7.2 ประชามติผ่านรัฐธรรมนูญ 50 ทั;งหลอก ทั;งบีบ และข่ มขู่


“รับร่ างรัฐธรรมนูญก่ อนแก้ไขทีหลัง”
ระหว่างการรณรงค์รับร่ างรัฐธรรมนูญของรัฐบาลเผด็จการ คมช.
กับพรรคประชาธิปัตย์ ก็ประสานเสี ยงหลอกลวงให้ประชาชนช่วยรั บร่ าง
ไปก่อน แล้วค่อยมาแก้ไขในภายหลัง ทั*งนี*เพือให้มีการเลือกตั*ง บ้านเมือง
จะได้เข้าสู่ ภ าวะปกติ เพราะหากประชามติ ไม่ ยอมให้รัฐธรรมนู ญ ผ่าน
พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ในฐานะประธาน คมช.ก็ข่มขู่ว่ามีอาํ นาจจะเอา
รั ฐธรรมนู ญ ฉบับใดมาใช้ก็ ได้ ซึ งอาจจะเลวร้ ายกว่ าฉบับนี* ก็ ได้ และ
ในทางปฏิบตั ิทีเป็ นจริ งระหว่างการขอประชามติน* นั ทหารก็ใช้กองกําลัง
ในทุ กพื* นที ปิดกั*นฝ่ ายที ไม่ เห็ นด้วยกับร่ างรั ฐธรรมนู ญฉบับนี* ด้วยการ
ข่มขู่ และจับกุม ยัดข้อหาทางกฎหมายทีรุนแรงโดยอาศัยอํานาจกฎอัยการ
ศึก คอยจับผูท้ ีเคลือนไหวคัดค้าน โดยมีอาํ นาจจับกุมคุ มขังได้ 7 วัน โดย
ไม่ให้ประกันตัว
การกระทํา การอย่ า งอุ ก อาจของทหารประสานกั บ พรรค
ประชาธิ ปัต ย์ เป็ นการแสดงให้เห็ นถึ งการใช้อาํ นาจเผด็จ การอย่างผิด
ทํานองคลองธรรม ทั*งข่มขู่ และหลอกลวง ซึงเป็ นการส่ งสัญญาณให้เห็ น
ว่ ารั ฐธรรมนู ญ ฉบับ ปี 2550 เป็ นความต้องการของอํานาจที สู งเหนื อ
อํานาจของทหาร ทุกกลไกรัฐต้องจํายอมซึงไม่มีอาํ นาจใดนอกจากอํานาจ
ของราชสํานัก
318

การที คมช.ทําการยึดอํานาจแล้ว ร่ างรั ฐธรรมนู ญ โดยใช้ปืนขู่


บังคับ ทั*งข่ มขู่และหลอกลวง กระทําการยํายีต่อระบอบประชาธิ ปไตย
เช่ นนี* มีความเลวร้ ายกว่าระบอบประชาธิ ปไตยตามรั ฐธรรมนู ญฉบับปี
2540 มากเหลื อเกิ น ทําไมพระเจ้าอยู่หัวไม่ ทรงตําหนิ การกระทําของ
รั ฐบาล คมช.เลย หรื อเป็ นเพราะว่ านายกรั ฐ มนตรี สุ ร ยุท ธ จุ ลานนท์
มาจากองคมนตรี อะไรจึงดีไปหมด?
เป็ นคําถามที ตอบเป็ นอืน ไม่ ได้ นอกจากเป็ นพระราชประสงค์
ของพระองค์

7.3 “รัฐธรรมนูญศักดิNสิทธิN” ประกาศิตห้ ามแก้


แม้จะถูกบีบบังคับอย่างไร พรรคไทยรั กไทยที แฝงตัวมาในนาม
พรรคพลัง ประชาชนก็ ไ ด้จ ับ มื อ ร่ วมกั บ องค์ ก รภาคประชาชนที รั ก
ประชาธิ ปไตย และเห็ น อัน ตรายของร่ า งรั ฐธรรมนู ญ ปี 2550 ทําการ
คัด ค้านจนจํานวนประชาชนที ลงคะแนนเสี ย งคัด ค้านมี สูงถึง 40 กว่ า
เปอร์ เซ็ นต์ ทําให้รัฐบาลเผด็จ การ คมช.ของราชสํานักเสี ย หน้า เพราะ
คะแนนเสี ยงที ใช้วิธีการหลอกลวงและข่ มขู่มานั*น ชนะไม่เป็ นเอกฉันท์
และเมือเปิ ดให้มีการเลือกตั*งทัว ไป พรรคพลังประชาชนก็ชูนโยบายขอ
แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็ นนโยบายหลัก ซึงก็ได้รับเสี ยงตอบรับอย่างท่ วมท้น
319

จากประชาชนด้วยการลงคะแนนให้ผสู้ มัค ร ส.ส.พรรคพลังประชาชน


ได้รับเลือกตั*งสูงสุ ดเป็ นอันดับหนึ ง และเป็ นแกนนําจัดตั*งรัฐบาล
เมือนายสมัคร สุ นทรเวช ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน
ได้รับแต่งตั*งเป็ นนายกรัฐมนตรี เข้าบริ หารประเทศชาติ ก็ดาํ เนิ นการตาม
นโยบายที เสนอกับประชาชนในข้อสําคัญคื อ ยืนร่ างแก้ไขรั ฐธรรมนู ญ
โดยใช้แนวรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนปี 2540 เป็ นตัวตั*ง เข้าสู่ สภาเพียง
เท่านั*นเองเสี ยงคัดค้านที เป็ นเครื อข่ ายราชสํานักก็ดงั กระหึ มขึ* นทันที ท* งั
องค์ก รพัน ธมิ ตรฯ อาจารย์มหาวิ ทยาลัย บางคน อดี ต สสร.และที ข าด
ไม่ ไ ด้คื อ พรรคประชาธิ ปัต ย์ ที เป็ นหุ่ น เชิ ด ของพลเอกเปรมในสภาก็
ออกมาคั ด ค้ า นโดยลื ม คํา พู ด ที เ คยแถลงต่ อ ประชาชนว่ า “ให้ รั บ
รัฐธรรมนูญก่อน แล้วแก้ทีหลัง”
นายสมัคร สุ นทรเวช ผิดอะไรทีเสนอให้ แก้ไขรัฐธรรมนูญ
เมือนายสมัครในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชนได้เสนอเป็ น
นโยบายไว้ตอนหาเสี ยงเลือกตั*ง เมือได้มาเป็ นนายกรัฐมนตรี ก็ดาํ เนิ นตาม
นโยบายทีจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึงก็เป็ นหนทางในระบอบประชาธิปไตย
นายสมัค ร ก็ เ ป็ นข้ า รองพระบาทมายาวนานเมื อ ได้ เ ป็ น
นายกรั ฐมนตรี ก็ ทาํ หน้ าที บริ หารบ้านเมื องตามครรลองของระบอบ
ประชาธิ ป ไตยแบบไม่ ม ัว ตามแนวพระราชดํา รั ส ที พ ระเจ้ า อยู่ หั ว
พระราชทานให้ ผู้พิ พ ากษาประจํา ศาลสํ า นั ก งานยุ ติ ธ รรมเมื อ วัน ที
320

25 เมษายน 2549 แต่ กลับถูกรั งแกจากม็อบพันธมิต รที ใครๆ ก็รู้ ว่าเป็ น


ม็ อ บเส้ น ใหญ่ จนบ้ า นเมื อ งปั นป่ วน เพี ย งเพราะจะยื น ขอแก้ ไ ข
รั ฐธรรมนู ญต่ อสภาตามที หาเสี ยงไว้กบั ประชาชน ทําไมพระองค์ไม่ มี
พระราชดํารั สเพือให้สติ แก่ สังคมเพือไม่ให้สังคมต้องเดิ นไปสู่ ความมัว
อย่างทุกวันนี*
ทําไม?
ทักษิ ณเป็ นนายกโดยได้รับมติ มหาชนในปี 2548 เครื อข่ ายราช
สํานักก็กลับไม่ยอมรับโดยกล่าวหาว่าเป็ นเผด็จการรั ฐสภา เพราะมีเสี ยง
ข้างมาก ดังจะเห็ น การส่ งเสี ยงของอธิ การบดี และอาจารย์มหาวิทยาลัย
สายศักดินาสวามิภกั ดิ; แต่ มาวันนี* เครื อข่ ายราชสํานักกลับส่ งเสี ยงระเบ็ง
เซ็งแซ่ แปลงกายเป็ นผูศ้ รั ทธาต่ อมติ มหาชนอย่างยิงด้วยเสี ยงข้างมากที
เห็ น ด้ว ยกับ รั ฐ ธรรมนู ญ ปี 2550 โดยกล่ า วว่ า “รั ฐ ธรรมนู ญ ที ผ่ า น
ประชามติเป็ นสิ งศั กดิNสิทธิNห้ามแก้ ไข” ไปเสี ยแล้ว พันธมิตรฯ ม็อบเส้น
ใหญ่ก็ประกาศอย่างแข็งกร้าวเสมือนเป็ นประกาศิตจากฟากฟ้ าว่า
“ถ้ ารัฐบาลยังขืนแก้ รัฐธรรมนูญจะต้ องแตกหักกัน”
321

7.4 ม็อบพันธมิตรฯ ใกล้ ชิดราชสํ านัก


เจตนาของเครื อข่ายราชสํานักได้เปิ ดเผยตัวเองชัดเจนว่าเจตนาที
แท้จริ งไม่ใช่ อยู่ทีการคัดค้านการแก้ไขรั ฐธรรมนู ญ แต่ อยู่ทีตอ้ งการล้ม
อํานาจรัฐบาลของทักษิณให้ส*ินซาก เพราะเมือรั ฐบาลถอดถอนญัตติ ร่าง
แก้ไขรัฐธรรมนูญออกจากวาระของสภาแล้ว ม็อบพันธมิตรฯ ทียึดครอง
สะพานมัฆวาน ปิ ดถนนราชดําเนิ น ก็ไม่ยตุ ิแต่กลับรุ กหนักขึ*น โดยขยาย
ข้อ เรี ยกร้ อ งแบบชวนทะเลาะพัง บ้า น ด้ ว ยการเรี ยกร้ อ งให้รั ฐ บาล
ดําเนิ นการในสิงทีทาํ ไม่ได้ และยุ่งยากมาก เริ มจากเรี ยกร้ องให้นายจักร
ภพ เพ็ญแข รัฐมนตรี ประจําสํานักนายกฯ ลาออก เมือนายจักรภพลาออก
แล้วก็เรี ยกร้องให้เอาเขาพระวิหารทีศาลโลกตัดสิ นว่าเป็ นของกัมพูชามา
นานตั*ง แต่ ปี 2505 แล้ว คื น แล้ว เรี ยกร้ อ งให้ น ายสมัค ร ลาออกจาก
นายกรัฐมนตรี
ข้อเรี ย กร้ องที เลอะเทอะไร้ เหตุ ผลของพันธมิตรฯ ประสานกับ
การเคลื อนไหวที เลอะเทอะผิด กฎหมายตลอดระยะเวลา 6 เดื อนเศษ
ติ ด ต่ อ กัน ทั*ง ยึ ด ครองทํา เนี ย บรั ฐ บาล ยึ ด สถานี โ ทรทัศ น์ ช่ อ ง NBT
ยึดสนามบิ นหลายแห่ งในภาคใต้ จนถึงปิ ดตายสนามบิ นศูนย์ก ลางของ
ประเทศคื อ สุ ว รรณภูมิ และดอนเมือง ซึ งไม่ มีม็อบที ไหนในโลกนี* จะ
กระทําได้โดยรัฐบาลไม่กล้าปราบปราม แต่สภาวะความไร้เหตุผลนี* แกน
นําม็อบพันธมิตรฯ ก็ได้สร้างเรื องทีคนทั*งสังคมต้องตกตะลึงโดยไม่มีใคร
322

กล้าแตะต้อง คือม็อบพันธมิตรฯ ได้ประกาศตัวเองต่ อสาธารณะ ยํ*าแล้ว


ยํ*าเล่าว่าพวกเขาเป็ นม็อบทีจงรักภักดี และดําเนิ นการประท้วงเพือพิทกั ษ์
ประโยชน์ของราชสํานัก และโดยเฉพาะอย่างยิง สมเด็จพระราชิ นีเป็ น
ผูใ้ ห้การสนับสนุ น
นายสนธิ ลิ*มทองกุล ได้กล่าวบนเวทีพร้อมแสดงหลักฐานตีพิมพ์
ลงในหนังสื อพิมพ์ผจู้ ดั การหลายครั*งซํ*าแล้วซํ*าเล่า อย่างเป็ นรู ปธรรมเช่น
- นายสนธิได้ประกาศว่าเขาได้รับเงินสนับสนุ นจากสตรี
ผูส้ ูงศักดิ;ทีมอบให้เป็ นเงิน 400,000 บาท โดยเงิ นที นาํ มามอบให้บรรจุ ไว้
ในกระเป๋ าของโครงการศูนย์ศิลปาชีพ
- นายสนธิ ป ระกาศว่ า ได้ รั บ ผ้า พั น คอสี ฟ้ า และมี
สัญลักษณ์ทีเป็ นพระนามย่อ “สก.” ของสมเด็จพระราชิ นีปรากฏอยู่ จาก
ราชสํานักโดยนายสนธิได้ใช้ผา้ พันคอนี*ผกู ทีคอแสดงต่อสาธารณะตลอด
การชุ มนุ ม และนําผ้าพัน คอเช่ น เดี ย วกันนี* แจกจ่ ายให้แก่ ผชู้ ุ มนุ ม รวม
ตลอดทั*งได้ใช้ธงสี ฟ้าที มีพระนามย่อ “สก.” ดังที กล่ าวนี* โ บกสะบัดใน
การเคลื อ นไหวของฝู ง ชนตลอดเวลา และในวัน เดิ น ขบวนไปยึ ด
สถานี โทรทัศน์ NBT ในเช้าของวันที 26 สิ งหาคม 2551 ก็ถือธง “สก.”
โบกนําหน้าไปด้วย
- นายสนธิ และพรรคพวกใช้เสื* อสี เหลื องซึ งเป็ นสี ว นั
พระราชสมภพของพระเจ้า อยู่หัว เป็ นสี สั ญ ลัก ษณ์ ข องกลุ่ ม ผูช้ ุ ม นุ ม
323

โดยกํา หนดให้ ผูช้ ุ ม นุ ม ทุ ก คนใส่ เ สื* อ ยื ด สี เ หลื อง เพื อแสดงถึ ง ความ


จงรั ก ภัก ดี รวมตลอดทั*ง ได้ใส่ เ สื* อยื ด สี เ หลื องนี* ไปกระทํา การที ผิ ด
กฎหมายต่ างๆ ในระหว่างการชุ มนุ ม ซึ งสังคมมีก ารวิ พากษ์วิจ ารณ์ ถึง
ความไม่เหมาะสมในการกระทําในสัญลักษณ์ น* ี แต่ ก็ไม่มีการดําเนิ นการ
ใดๆ ทางกฎหมาย แม้ศาลอาญาจะเคยมีคาํ พิพากษาระบุ รายละเอี ยดถึ ง
ความไม่ เหมาะสมของการใช้เสื* อสี เหลื องของม็อบพัน ธมิต รฯ และไป
กล่าวให้ร้ายผูอ้ ืนในคดีหมินประมาทที พ.ต.ท.ทักษิ ณ ชิ นวัตร เป็ นโจทก์
ฟ้ องนายสนธิ ลิ*มทองกุล จําเลย มาแล้วก็ตาม
- ตลอดการชุ ม นุ ม แกนนํา พัน ธมิ ต รฯ ก็ ก ล่ า วอ้า ง
ตลอดเวลาว่ าได้รั บการสนับสนุ น นํ*าดื มตรา “สวนจิ ต รดา” ซึ งเป็ นชื อ
สํานัก พระราชวังที ประทับของพระเจ้าอยู่หัว และเป็ นสิ น ค้าของราช
สํานัก จากคนของราชสํานัก
- ในวันที 24 สิ งหาคม 2551 นายสนธิ ลิ*มทองกุล ได้นาํ
เทปซึงอ้างว่าเป็ นพระสุ รเสี ยงของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทีทรงอัดเสี ยงเป็ น
การส่ วนพระองค์ในห้องปฏิบตั ิธรรมมาเปิ ดให้ทีชุมนุ มฟั งก่ อนที ผชู้ ุ มนุ ม
จะไปเวียนเทียนในวันอาสาฬหะบูชา เพือเป็ นสิ ริมงคล ซึ งคํากล่าวอ้างนี*
ได้โน้มน้าวให้ผชู้ ุ มนุ ม ประชาชน และข้าราชการทัว ไปเชื อว่านายสนธิ
เป็ นผูใ้ กล้ชิด ราชสํานัก จริ ง เข้า-ออกวังได้เหมือนคนในราชสํานัก ถึ ง
ขนาดได้รับเทปอัดพระสุ รเสี ยงเกียวกับธรรมะเป็ นการส่ วนพระองค์ได้
324

ที กล่าวข้างต้นนี* เป็ นเพียงตัวอย่างบางส่ วนของการกล่าวอ้างที


เกิดขึ*นตลอดเวลาของการชุ มนุ มนานเกื อบ 7 เดื อน บนถนนราชดําเนิ น
ในทําเนี ยบรัฐบาลในสนามบิ นสุ วรรณภูมิ และสนามบิ นดอนเมือง โดย
ไม่มีใครกล้าดําเนิ นคดี กบั นายสนธิ ลิ*มทองกุล และแกนนําผูก้ ล่าวอ้าง
ในข้อหาหมิน พระบรมเดชานุ ภ าพเลย ซึ งสังคมได้รั บทราบถึงบรรทัด
ฐานทางกฎหมาย และวัฒ นธรรมของไทยดี ว่ า การกล่ าวอ้า งถึ ง องค์
พระมหากษัตริ ย ์ และรัชทายาทในทางทีจะหาผลประโยชน์แม้แต่เล็กน้อย
นั* น เป็ นการไม่ บั ง ควรและเป็ นเรื องที ต ้ อ งห้ า มซึ งจะถู ก เจ้า หน้ า ที
ดําเนิ นการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด แต่ปรากฏว่านายสนธิ และแกนนําผู้
กล่าวอ้างทุ กคนไม่ถูกดําเนิ นการทางกฎหมายใดๆ เลย อีกทั*งเหตุ การณ์
หนึ งทีช็อคความรู้สึกของประชาชนและเจ้าหน้าที ตาํ รวจอย่างไม่คาดฝั น
คือเมือวันที 13 ตุลาคม 2551 สมเด็จพระราชินีได้เสด็จไปเป็ นประธานเผา
ศพนางสาวอังขณา ระดับปั ญญาวุฒิ หรื อน้องโบว์ หญิงสาวทีเสี ยชีวิตจาก
เหตุการณ์ทีกลุ่มพันธมิตรฯ ปิ ดล้อมสํานักงานตํารวจนครบาลในตอนเย็น
ของวันที 7 ตุลาคม 2551 ซึงเป็ นวันเดียวกับที พนั ธมิตรฯ ปิ ดล้อมรั ฐสภา
โดยทรงพระเมตตาให้บิดา มารดา พีน้องของนางสาวอังขณา ได้เข้าเฝ้ า
ใกล้ชิ ด และมี พ ระราชปฏิ สั ณ ฐานกั บ ครอบครั ว ของผู้เ สี ย ชี วิ ต ว่ า
“น้ องโบว์ เป็ นวีรสตรีผู้ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์” เพียงเท่านี*ทุกคน
ก็เชือว่าม็อบพันธมิตรฯ ใกล้ชิดราชสํานักจริ ง
325

7.5 ทําลายรัฐบาลเงาทักษิณ โดยไม่ สนใจความถูกต้ อง


“เมือ ฉันสั งให้ ออกไปแล้ ว ยังจะหวนกลับมา และยังชนะฉันอีก”
ด้วยความชิ งชัง พ.ต.ท.ทักษิ ณ เป็ นส่ ว นตัว ดังนั*นชัยชนะของ
พรรคพลังประชาชนจึงกลายเป็ นความผิดทีร้ายแรงทีทกั ษิณจะต้องได้รับ
โทษเพราะในอดีตทีเคยมีมานั*น ไม่เคยมีนายกฯ คนใดทีถกู เล่นงานจนตก
อํานาจไปแล้ว สามารถหวนกลับคืนมามีอาํ นาจใหม่ได้ ดังนั*นการทําลาย
รั ฐบาลเงาแห่ งอํานาจของทักษิ ณจึ งเป็ นสิ งที ตอ้ งทําโดยเร่ งด่ วนโดยไม่
ต้องคํานึ งถึงความถูกต้องของระบบการเมือง และระบบกฎหมาย
ด้วยเป็ นที รู้ กนั ภายในว่ าเป็ นพระราชประสงค์ของพระองค์มา
ตั*งแต่ตน้ พรรคการเมืองและกลุ่มทหารต่างๆ ทีตอ้ งการอํานาจโดยมิชอบ
จึ งฉกฉวยโอกาสนี* ต อบสนองพระราชประสงค์ ด้วยเหตุ น* ี จึ งเกิ ด พลัง
มวลชนเกลือนถนนเพือทําลายล้างอํานาจรั ฐของทัก ษิ ณอีกครั* งอย่างไร้
เหตุ ผ ลในระบอบประชาธิ ป ไตยขึ* น โดยการขับ เคลื อ นขององค์ ก ร
พันธมิตรฯ ร่ วมมือกับพรรคประชาธิ ปัตย์ก่อหวอดนับตั*งแต่ วนั แรกของ
การจัดตั*งรัฐบาล ซึงเริ มเมือต้นปี 2551 การชุมนุ มขับไล่รัฐบาลเริ มต้นเมือ
วันที 25 พฤษภาคม 2551 โดยรัฐบาลพึงบริ หารประเทศได้ไม่พอ 4 เดื อน
เท่านั*น
326

เริ มต้นจากการปิ ดถนนราชดําเนิ น โดยอ้างว่าเป็ นการชุมนุ มอย่าง


สัน ติ ต ามสิ ทธิ ใ นรั ฐธรรมนู ญ แล้ว ต่ อ มาก็ ล ามไปถึ ง การยึ ด ทํา เนี ย บ
รัฐบาล ยึดสถานี โทรทัศน์ และยึดสนามบิ น โดยมีกองกําลังติ ดอาวุธที มี
มีด ไม้ ปื น และระเบิ ด ปรากฏต่ อสาธารณะอย่างชัด เจน แต่ เจ้าหน้าที
บ้านเมืองไม่กล้าแตะต้องหรื อขัดขวางใดๆ จนเป็ นผลให้รัฐบาลที มาจาก
การเลือกตั*งของประชาชนโดยชอบด้วยกฎหมายต้องถูกโค่ นล้มไปต่ อ
หน้าต่อตาใน 3 ปี ถึง 3 รัฐบาล (2549-2551) ด้วยข้ออ้างที ไร้ เหตุ ผล แล้ว
กลุ่มผูท้ าํ ลายรั ฐบาลก็ฉกฉวยเอาอํานาจของประชาชนไปดื*อๆ โดยพระ
เจ้าอยู่หัว ก็ ไม่ ทรงทัก ท้ว งใดๆ ต่ อการกระทําอัน ไม่ ถูก ต้องนั*น ทั*งๆ ที
พระองค์ทรงแสดงตัวเป็ นผูท้ รงคุ ณธรรม เป็ นพ่อของแผ่นดิ น และทรง
ตําหนิ ท้ว งติ งการกระทําอัน ไม่ ถูก ต้องทางสังคมในกรณี อืน ๆ มาโดย
ตลอด พระองค์ทรงมีพระราชอํานาจเต็มเปี ยม และอยู่ในฐานะทีจะแสดง
พระราชอํานาจได้ แต่พระองค์กลับนิงเฉย
ด้วยเหตุการณ์วุ่นวายไม่เคารพกฎหมายตลอด 3 ปี เต็มๆ ทีผา่ นมา
เช่นนี* ทําให้นกั วิเคราะห์ข่าว นักวิชาการ งุ นงงต่ อปรากฏการณ์ ของพลัง
มวลชนอันเข้มแข็งทีผิดธรรมชาติ และกล้าหาญที จะกระทําผิดกฎหมาย
อย่ า งอุ ก อาจโดยผูส้ ื อ ข่ า วที ไ ม่ รู้ ถึ ง ภู มิ ห ลัง ก็ จ ะวิ เ คราะห์ ไ ม่ อ อกว่ า
เหตุ การณ์ ลกั ษณะนี* เกิ ดขึ* นได้อย่างไร และบางคนถึงขนาดวิเคราะห์ว่ า
เป็ นปรากฏการณ์ ทีกา้ วหน้าของพลังมวลชนไทย โดยให้เกี ยรติ; ยกย่อง
327

แกนนําโดยเรี ยกขานว่า “ปรากฏการณ์สนธิ” และวิเคราะห์ถึงอนาคตของ


การเมืองไทยไปต่างๆ นานาแบบคาดเดา โดยผูว้ ิเคราะห์ไม่รู้เนื* อแท้ของ
ระบอบการปกครองของไทยว่าแท้จริ งแล้วเป็ นระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิ
ราช ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย ดังนั*นอะไรก็เกิดขึ*นได้ในบ้านเมืองนี*
พฤติ ก รรมทางการเมืองของม็อบพัน ธมิ ต รก็ ดี การนิ งเฉยของ
เจ้าหน้าทีบา้ นเมืองต่อการกระทําผิดที เห็ นเป็ นประจักษ์ต่อหน้าต่ อตาก็ดี
การออกมาสัมภาษณ์สนับสนุ นของบรรดาอาจารย์มหาวิทยาลัยสายศักดิ
นาสวามิ ภ ัก ดิ; ก็ ดี ล้ว นแล้ว แต่ เ ป็ นสัญ ญาณทางสั งคมที เห็ น ชัด เจนว่ า
ราชสํานักไม่ประสงค์แม้แต่เงาของทักษิณให้ทาบติดอยูท่ ีรัฐบาล
การทํ าลายรั ฐ บาลสมัคร และรั ฐ บาลสมชายจึง ชั ด เจนว่ าเป็ น
สั ญญาณจากราชสํ านัก

7.6 พระราชดํารัสกระทบรัฐบาลท่ ามกลางม็อบล้ มรัฐบาล


ในขณะทีสถานการณ์ การชุ มนุ มของกลุ่มพันธมิตรฯ เพือขับไล่
รัฐบาลสมัครกําลังคุ กรุ่ น ก็อยู่ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิ จโลกที ขยายตัวมา
จากประเทศสหรั ฐอเมริ กา นายแพทย์สุรพงษ์ สื บวงศ์ลี รั ฐมนตรี ว่าการ
กระทรวงการคลัง ก็ได้ออกนโยบาย “ 6 เดื อน กระตุ ้นเศรษฐกิ จ” และ
นโยบายนี* ขัด แย้ง กับ ความเห็ น ของธนาคารแห่ ง ประเทศไทย โดย
รั ฐมนตรี ว่าการกระทรวงการคลังเห็ นว่าต้องลดดอกเบี*ยเพือกระตุ น้ ให้
328

เกิดการลงทุน แต่ผวู้ ่าการธนาคารฯ ไม่เห็นด้วย ปรากฏว่าในขณะนั*นผูว้ ่า


การธนาคารแห่ งประเทศไทยได้รับพระราชทานวโรกาศให้เข้าเฝ้ า และ
พระเจ้าอยูห่ วั มีพระราชดํารัส โดยถ่ายทอดออกโทรทัศน์มีขอ้ ความสําคัญ
ทีบ่งบอกถึงสถานการณ์ของรัฐบาลว่าจะอยูห่ รื อไปว่า
“ขอบใจที% เ หน็ ด เหนื% อ ยเรื% อ งการเงิ น ซึ% ง เป็ นงานหนั ก และ
สามารถปฏิบัติงานด้ านการเงินเป็ นที%เรี ยบร้ อยไม่ ให้ บ้านเมืองล่ มจม แม้
ตอนนี ใกล้ ล่มจมแล้ ว ซึ%งอาจใช้ เงินไม่ ระวังเพราะใช้ เงินไม่ ระวัง ขอบใจที%
ท่ านระวังเรื%องการดําเนินด้ านการเงิน ขอให้ สําเร็ จในการบริ หารการเงิน
ของประเทศชาติ ขอบใจท่ านที%เ หน็ด เหนื% อยเรื% องการเงิน เรารู้ ว่าท่ าน
เหน็ดเหนื%อย ลําบากใจ นอกจากเหน็ดเหนื%อยแล้ วยังถูกหาว่ าทําไม่ ได้ ดี
ทํ าไม่ ถู ก ต้ อ ง ขอบใจทุ ก คนที% มาในวัน นี และยั ง ทํ างานอย่ างเข้ มแข็ ง
เพือ% ให้ บ้านเมืองมีเงินใช้ ใครที%บริหารการคลังควรรู้ว่าเป็ นสิ%งที%สําคัญของ
ชาติบ้านเมือง”
แต่ ปรากฏว่าหลังจากกลุ่ มพัน ธมิ ต รล้มรั ฐบาลนายสมัค ร และ
รัฐบาลนายสมชายแล้ว โดยเกิ ดรั ฐบาล “เทพประทาน” ที มีนายอภิ สิทธิ;
เป็ นนายกฯ ก็ได้นาํ นโยบายกระตุน้ เศรษฐกิจของรั ฐบาลนายสมัครนี* ไป
ดําเนิ นการต่อในเดือนมกราคม 2552 ซึ งมีรายละเอียดหนักหน่ วงยิงกว่า

พระราชดํารั สของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตรั สแก่ผูว้ ่าการธนาคารแห่ ง
ประเทศไทย เมือวันที 20 สิ งหาคม 2551
329

นโยบายสมัยนายสมัครอีก ถึงขั*นมีการหว่านเงินเละเทะเพียงเพือหาเสี ยง
ทางการเมือง เช่นนโยบายแจกเงิน 2,000 บาท ให้แก่ คนประมาณ 9 ล้าน
คนทีอ*ือฉาว เป็ นต้น โดยเฉพาะกําหนดให้มีการลดดอกเบี*ยในรู ปธรรม
เดี ยวกันกับรั ฐบาลนายสมัคร ซึ งธนาคารแห่ งประเทศไทยก็ปฏิบตั ิ ตาม
โดยดี และในครั*งนี* ดูการกระทําของรั ฐบาลน่ าเป็ นห่ วงยิงกว่า แต่ พระ
เจ้า อยู่หั ว กลับ ไม่ มี พ ระราชดํา รั ส ใดๆ ในเชิ ง ตํา หนิ รั ฐ บาลของนาย
อภิสิทธิ;เลย
นายอภิสิทธิN และนายกร ใช้ เงินอย่ างระวังหรือ?

7.7 ม็อบเส้ นใหญ่ ผบ.ทบ.ไม่กล้ าแตะ


การกระทําของม็อบพันธมิตรฯ ได้ก่อให้เกิ ดความเดื อดร้ อนแก่
ผูใ้ ช้รถใช้ถนนในกรุ งเทพฯ ในช่วงเริ มต้นและขยายตัวเป็ นจลาจลโดยบุ ก
เข้ายึดทําเนี ย บรั ฐบาลอย่างถาวร ประชาชนที ติด ตามข่ าวสารเกิ ด ความ
โกรธแค้นเมื อเจ้าหน้าที บา้ นเมื องไม่กล้าดําเนิ นการ จึ งรวมตัวบุ ก กลุ่ ม
ม็อบพันธมิตรฯ สถานการณ์ทีเลวร้ายเช่นนี*ได้ก่อให้เกิดความไม่สบายใจ
ของประชาชน จนคนทั*งบ้านทั*งเมืองรุ มด่ ารั ฐบาลว่าทําไมไม่ดาํ เนิ นการ
ทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับบุคคลเหล่านั*น จนกระทัง รั ฐบาลนายสมัคร
สุ นทรเวช ถึงจุดแตกหักทางอารมณ์ทีไม่อาจจะอดทนได้ต่อข้อมูลลับว่ามี
อํานาจเบื*องสู งให้การสนับสนุ น เพราะได้เกิ ดการปะทะกันระหว่างคน
330

ม็อบพันธมิตรฯ กับประชาชนที โกรธแค้นจนเกิ ดการเสี ยชี วิตขึ*นในคื น


วันที 2 กันยายน 2551 นายสมัคร สุ นทรเวช นายกรั ฐมนตรี ผทู้ ี ข* ึ นชื อว่า
ใกล้ชิดราชสํานักที สุด ก็ประกาศภาวะฉุ กเฉิ นและโดยผลแห่ งกฎหมาย
อํานาจการจัดการอย่างเด็ดขาดจึงตกอยูท่ ีผบู้ ญั ชาการทหารบก ซึ งจะต้อง
ดําเนิ นการให้บา้ นเมืองกลับสู่ ความสงบโดยเร็ ว แต่ สิ งที ทุก คนต้องตก
ตะลึงก็คือ พลเอกอนุ พงศ์ เผ่าจิ นดา ผูบ้ ญ ั ชาการทหารบกไม่กล้าปฏิบตั ิ
ตามกฎหมาย และได้กล่าวเป็ นวลีประวัติศาสตร์ ทีจะต้องจดบันทึ กเป็ น
รอยด่างของภารกิจทหารทีจะต้องรักษาความสงบว่า
“ทหารไม่ เกีย ว เป็ นเรืองทางการเมือง ต้ องแก้ ด้วยการเมือง”
จากท่าทีทีนิงเฉยของ ผบ.ทบ. แม้จะมีประกาศภาวะฉุ กเฉิ นที ถือ
ว่ า เป็ นยาแรงที ช อบด้ว ยกฎหมายที สุ ด ที ม อบให้ แ ล้ว เช่ น นี* ทํา ให้
สั ง คมไทยเชื อ แน่ ว่ า พัน ธมิ ต รฯ คื อ “ม็ อ บเส้ นใหญ่ ” จริ ง และจาก
เหตุการณ์น* ีก็ทาํ ให้ผรู้ ่ วมชุมนุ มทุกคนเกิดความฮึกเหิ มว่าราชสํานักได้ส่ง
สัญญาณอย่างเปิ ดเผยให้ลม้ รั ฐบาลโดยชอบด้วยกฎหมายของนายสมัคร
ได้อย่างไม่เคยมีครั*งใดในประวัติศาสตร์ การเมืองไทยปรากฏมาก่ อนเลย
และเมื อ นายสมัค รยัง ไม่ ย อมลาออก การก่ อ ความรุ นแรงของม็ อ บ
พันธมิตรฯ จึ งขยายตัวไปสู่ การพยายามจะก่ อจลาจลยึดสภา และเข้ายึด
สนามบินในรัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ; จนกลายเป็ นความเสี ยหาย
อย่างใหญ่หลวงต่อบ้านเมือง
331

หลักฐานที ยืนยันชัดเจนอย่างเป็ นทางการอี กครั*งหนึ งว่ า ม็อบ


พันธมิตรฯ เป็ นม็อบที ราชสํานัก ให้ก ารสนับสนุ น ก็คื อการตอบกระทู้
ถามทีฝ่ายค้านในสภาผูแ้ ทนราษฎรตั*งกระทูถ้ ามนายกฯ สมชาย แต่ นายก
ฯ สมชายได้ ม อบหมายให้ พ ล.ต.อ.โกวิ ท วัฒ นะรั ฐ มนตรี ว่ า การ
กระทรวงมหาดไทยเป็ นผูต้ อบ ซึ งคําตอบของพล.ต.อ.โกวิ ท ได้สร้ าง
ความตกตะลึ ง แก่ สั ง คมอย่ า งไม่ เ คยปรากฏมาก่ อ นโดยตอบว่ า
“พันธมิตรเป็ นม็อบเส้ นใหญ่ ถ้ าไม่ มเี ส้ น ผมจัดการเสร็จไปนาน
แล้ ว”

7.8 เส้ นทางสู่ วงั ของนายสนธิอนั อือ; ฉาว


นายสนธิ ลิ*มทองกุล ได้ใช้กลยุทธ์การสร้างข่าวลือด้วยวิธีการ
เล่นกับข่าวลือโดยหยิบข่าวลือทีอ*อื ฉาวมาขึ*นเวทีปราศรัยซํ*าแล้วซํ*าเล่าคือ
กรณี ข่ า วอื* อ ฉาวกับ ท่ า นผูห้ ญิ ง สุ ธ าวัล ย์ เสถี ย รไทยภรรยาของนาย
สุ รเกียรติ เสถียรไทย ซึงเป็ นบุตรสาวของ มรว.บุษบา และเป็ นหลานสาว
แท้ๆ ของสมเด็ จพระราชิ นี ด้วยวิธีก ารหยิบข่ าวลือที อยู่ใต้ดิน ชิ*นเล็ก ๆ
ขึ*นมาปฏิเสธโดยนําไปปราศรั ยบนเวที การชุ มนุ มของพันธมิตรฯ หลาย
ครั* ง แล้วทุ กอย่างก็เป็ นไปตามความประสงค์ เกิ ดการแพร่ สะพัดไปทัว
สังคมว่า นายสนธิได้กลายเป็ นราชหลานเขยของสมเด็จพระราชิ นีไปเสี ย
แล้ว ซึ งข่ าวในลัก ษณะนี* จะจริ งหรื อเท็จ ก็ ไม่ มีใครจะยืน ยัน ได้ และที
332

สําคัญทีสุดก็ไม่ควรจะหยิบฉวยข่าวในลักษณะนี* มากล่าวในที สาธารณะ


ไม่ว่าจะรับหรื อปฏิเสธเพราะมันเสี ยหายต่ อผูห้ ญิ งที ถูกพาดพิงถึงทั*งขึ*น
ทั*งล่อง แต่ดว้ ยเพราะกลยุทธ์ “แบล็คเมล์” แบบนักหนังสื อพิมพ์น* าํ เน่ าที
ชอบทํากัน แต่ กรณี น* ี นายสนธิ ยอมลงทุ นเป็ นเหยือข่ าวที ปรุ งเองกิ นเอง
เพราะต้องการสร้ างความสําคัญให้กบั ตัวนายสนธิ เอง ซึ งนายสนธิ ไม่ มี
อะไรจะสู ญ เสี ย จากกรณี น* ี เลยในทางการเมื อง เนื อ งจากเป็ นบุ ค คล
ล้มละลาย และ “สิ* นไร้ ไม่ ตอก” ทางการเมื องแล้ว ดังนั*นในกรณี น* ี นาย
สนธิมีแต่ได้กบั ได้เท่านั*น
นายสนธิได้ใช้กลยุทธ์เช่ นนี* กบั ข่ าวต่ างๆ ที จะนําตัวเองไปสู่
ความสัมพันธ์กบั ราชสํานักอีกหลายข่าวเท่าทีจะพอบันทึกไว้ได้ เช่ น การ
ได้ไปพบกับ มรว.บุ ษบา กิ ติยากร น้องสาวของพระราชิ นี ที วดั ป่ าบ้าน
ตาด จังหวัดอุดรธานี ของหลวงตาบัว เนื องจากต่ างคนต่ างก็เป็ นลูกศิษย์
ซึงหลวงตาบัวเป็ นเกจิอาจารย์ทีมีลกู ศิษย์มาก และอาวุโสมากแล้ว ก็เป็ น
ธรรมชาติของคนแก่ ทีชอบคนเอาใจใกล้ชิด ถ้าลูกศิษย์คนไหนห่ างไปก็
จะไม่ชอบ คนในสํานักวัดป่ าบ้านตาดรู้ ดี เช่ นกรณี ทีรู้กนั ทัว สํานักฯ ว่า
เดิ มนายทองก้อน ลูก ศิษ ย์ค นโปรดซึ งเคยเป็ นแกนนําประท้ว งต่ อต้าน
สมเด็จพุฒาจารย์ (เกียว) ขึ*นรักษาการแทนสมเด็จพระสังฆราช แต่ต่อมาก็
เกลียดไม่ให้เข้าวัดเป็ นต้น นักการเมืองดังๆ ก็เคยมี เช่น เดิมเคยโปรดนาย
ธาริ นทร์ นิ มมานเหมินทร์ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการคลัง ในสมัยนาย
333

ชวนเป็ นนายกฯ ใหม่ ๆ แต่ ต่อมาก็ เกลี ยด, พ.ต.ท.ทักษิ ณก็ อยู่ในฐานะ
คล้ายกัน ตอนขึ*นมาเป็ นนายกฯ ใหม่ๆ ก็รัก ต่อมาเมือห่ างไปก็เกลียด เมือ
นายสนธิ มาเป่ าหู ด ้วยก็ เชื อเช่ น นั*น ซึ งนายสนธิ รู้ ดี ว่ าหลวงตาบัว เป็ น
เกจิ อาจารย์ทีร าชสํานัก โปรดปราณ โดยเฉพาะสมเด็ จ พระราชิ นี และ
มรว.บุษบา ก็มาปฏิบตั ิธรรมทีสาํ นักนี* บ่อย เมือนายสนธิ เกาะติ ดสํานักนี*
หลวงตาบัว จึ งกลายเป็ นตัวเชื อมระหว่ างนายสนธิ กบั มรว.บุษบา แล้ว
หม่อมบุ ษบาก็เป็ นผูพ้ านายสนธิ ไปเข้าเฝ้ าสมเด็จ ฯ เพือกราบบังคมทู ล
ข้อ มู ล ต่ า งๆ ที ใ ห้ ร้ า ยต่ อ พ.ต.ท.ทัก ษิ ณ ซึ ง ในขณะนั*น ปี กหนึ งของ
เครื อข่ายราชสํานักก็ระแวงไม่ไว้ใจทักษิ ณอยู่เป็ นทุ นเดิ มแล้ว ด้วยเหตุ น* ี
ข่ าวการเข้าไปในราชสํานักของนายสนธิ จึ งสอดคล้องกับข่ าวลือต่ างๆ
ทั*งหมดทีว่านายสนธิใกล้ชิดราชสํานัก และเกื*อหนุ นการเคลือนไหวของ
ขบวนการพันธมิตรฯ

7.9 ตุลาการภิวฒ
ั น์ ทําราชสํ านักเสื อมทรุด (ก่อน 19 ก.ย. 49)
ในเหตุ การณ์ ทางการเมืองของไทยที ผ่านๆ มาในอดี ต ศาลได้
แสดงบทบาทไม่เกี ย วข้องกับการเมืองโดยตรงมาโดยตลอด แต่ในช่ ว ง
วิกฤตการณ์ทางการเมืองปลายรัชกาลนี* ราชสํานักได้ดึงสถาบันศาลลงมา
ใช้ควบคู่กบั สถาบันทหารทีเหม็นโฉ่ มานานแล้ว,เริ มต้นทีเห็นชัดจากกรณี
334

ที พ ระเจ้า อยู่หัว ได้ก ล่ า วต่ อศาลปกครองที เ ข้า เฝ้ าถวายสัต ย์เมื อวัน ที
25 เมษายน 2549 ว่า
“ก็เขาเลือกตั;งอยู่คนเดียว ซึงมีความสํ าคัญเพราะว่ าถ้ าไม่ ถึง 20
เปอร์ เซ็ น ต์ แ ล้ ว ก็ เ ขาคนเดี ย ว ในที สุ ด การเลื อ กตั; ง ไม่ ค รบสมบู ร ณ์
ไม่ ทราบว่ าเกีย วข้ องเหมือนกัน......แล้ วก็อกี ข้ อหนึง การทีจะบอกว่ ามีการ
ยุบสภาและต้ องเลือกตั;งภายใน 30 วัน ถู กต้ องหรื อไม่ ไม่ พูดเลย ไม่ พูด
กันเลย ถ้ าไม่ ถูกต้ องก็จะต้ องแก้ไข แต่ กอ็ าจจะให้ การเลือกตั;งนีเ; ป็ นโมฆะ
หรือเป็ นอะไรซึงท่ านจะมี จะมีสิทธิNทีจะบอกว่ าอะไรทีควร ทีไม่ ควร”
พระราชดํารั สนี* จึ งเป็ นเสมือนสัญญาณบ่ งบอกเจตนาของราช
สํานักต่อตัวนายกฯ ทักษิณ เพราะขณะนั*นพรรคประชาธิปัตย์เป็ นแกนนํา
“บอยคอร์ ต” ไม่ ส่งผูส้ มัค รรั บเลือกตั*งเพราะรู้ ว่ าลงเลือกตั*งก็ แพ้พรรค
ไทยรักไทย เพราะประชาชนนิ ยมในตัว พ.ต.ท.ทักษิณมาก และเมือพรรค
ประชาธิปัตย์จบั มือกับกลุ่มพันธมิตร เพือโค่นล้มรั ฐบาลของทักษิ ณนอก
สภา นายกฯ ทัก ษิ ณ จึ ง แก้ปั ญ หาทางการเมื อ งตามครรลองระบอบ
ประชาธิ ปไตย ด้ว ยการยุบสภา ซึ งเป็ นเรื องที ชอบด้ว ยเหตุผลแล้ว และ
ศาลก็ไม่กล้าที จะตัด สิ นให้การเลือกตั*งเป็ นโมฆะ ดังนั*นพระราชดํารั ส
ของพระเจ้าอยู่หัวจึ งเป็ นการส่ งสัญญาณที ชดั แจ้งที สุดว่าต้องการให้ลม้
รัฐบาลพรรคไทยรักไทย และนับแต่น* นั องค์กรศาลสูงทั*ง 3 สถาบัน ได้แก่
ศาลฎี ก า ศาลปกครองสู ง สุ ด และศาลรั ฐ ธรรมนู ญ ก็ ผ นึ ก กํา ลัง เพื อ
335

ปฏิบตั ิการทางการเมืองเพือสนองพระราชดํารั สกันอย่างต่ อเนื อง ภายใต้


การประสานงานของผูพ้ ิพากษาชือ “ไอ้เจี™ยบ” เด็กเลี*ยงในบ้านสี เสา โดย
มีเป้ าหมายเพือทําลายอํานาจของรัฐบาลทักษิณ และรัฐบาลเงาของทักษิ ณ
รวมตลอดทั*งทําลายตัว ทัก ษิ ณ เองอย่างถึงที สุด ด้ว ย โดยเครื อข่ ายราช
สํานักสายอาจารย์มหาวิทยาลัย ต่างออกมาขานรั บการกระทํานอกลู่นอก
ทางของศาลทั*ง 3 สถาบัน ว่าถูกต้อง โดยไม่รู้ว่าจะให้เหตุ ผลว่าอะไร ก็
บั ญ ญั ติ ศ ัพ ท์ ม าให้ ไ พเราะแต่ เ ข้ า ใจยากว่ า “ตุ ล าการภิ วั ฒ น์ ” ซึ งมี
ความหมายว่าตุลาการทําการปฏิวตั ิ ซึงก็คือผูพ้ ิพากษาไม่ตอ้ งตัดสิ นคดีอยู่
ในหลัก เกณฑ์ ต ามตัว บทกฎหมายแล้ว แต่ ต ั ด สิ น ตามนโยบายเพื อ
เป้ าหมายทางการเมื อง ต่ อมาเมื อประชาชนเห็ นความจริ งของตุ ลาการ
ภิ ว ฒ
ั น์ มากเข้าก็ บญ ั ญัติศพั ท์ใหม่เพื อให้ต รงกับความจริ งว่า “ตุ ล าการ
วิบัต”ิ
เริ มจากศาลปกครองสงขลา เคยตัดสิ นว่าไม่มีอาํ นาจตัดสิ นคดี
เลือกตั*งก็พลิกกลับว่ามี อาํ นาจ และตัดสิ นการเลือกตั*งที จงั หวัดสงขลา
เมือ 2 เมษายน 2549 ตามทีนายถาวร เสนเนี ยม ส.ส.ประชาธิปัตย์ จังหวัด
สงขลา ร้องเรี ยนว่ามีพรรคไทยรั กไทยพรรคเดี ยวนั*นไม่ชอบ และต่ อมา
ศาลรัฐธรรมนูญทีเคยนิงเฉยก็ถกู บีบให้ออกมาตัดสิ นว่าการเลือกตั*งเมือ 2
เมษายน 2549 เป็ นโมฆะทั*งหมด ด้วยเหตุผลข้างๆ คูว่า เนื องจาก กกต.ชุด
ที พล.ต.อ.วาสนา เพิมลาภ เป็ นประธานจัดหน่ วยลงคะแนนให้ประชาชน
336

กาบัตรหันหลังออกจึ งถือว่าไม่เป็ นความลับ เพราะคนอืนอาจจะเห็ นได้


โดยศาลรั ฐธรรมนู ญ ไม่แตะต้องเรื องการสมัค รรั บเลือกตั*งพรรคเดี ย ว
ตามทีมีพระราชดํารัส เพราะตามข้อเท็จจริ งมีพรรคเล็กๆ หลายพรรคลง
สมัครเพียงแต่พรรคหลักๆ เช่น ประชาธิปัตย์ ชาติไทย เท่านั*น ทีไม่ลง
เมือสิ* นเสี ยงการอ่านคําพิพากษาการเลือกตั*งโมฆะ ก็มีเสี ยงไชโย
โห่ ร้ องของกลุ่ มพัน ธมิ ต รฯ และพรรคประชาธิ ปัต ย์ ที มีผลประโยชน์
ร่ วมกันทางการเมืองในสถานการณ์ เฉพาะหน้าซึ งเป็ นสัญลักษณ์ ชดั เจน
ว่ากระบวนการยุติธรรมไทยได้ถกู บงการแล้วภายใต้การชี*นาํ ของพลเอก
เปรม ประธานองคมนตรี ทีทาํ หน้าทีประธานเครื อข่ายราชสํานัก
ธงชัยแห่ งเหตุตุลาการวิบัตไิ ด้ เริมต้ นแล้ ว
เมือประกาศเลือกตั*งเป็ นโมฆะ ตามขั*นตอนของกฎหมายก็ตอ้ ง
เตรี ยมการเลื อกตั*งใหม่ เกมส์ต่ อไปก็ จะต้องเปลี ยนคณะกรรมการการ
เลื อกตั*ง (กกต.) ชุ ด พล.ต.อ.วาสนา ที เครื อข่ ายราชสํานัก เห็ น ว่าเป็ น
องค์ก รสําคัญ ที มี บทบาทกํา หนดว่ า พรรคใดจะได้เ ป็ นแกนนํา จัด ตั*ง
รั ฐบาล ด้วยการแจกใบเหลืองใบแดงให้ผสู้ มัครรั บเลือกตั*ง โดยเห็ นว่ า
กลุ่ม กกต. ทั*ง 5 คน เป็ นพวกของทักษิณ โดยเฉพาะพล.ต.อ.วาสนา เพิม
ลาภ ประธาน กกต. ดังนั*นกลุ่มพันธมิตรฯ จึงออกเดินขบวนไปชุมนุ มกัน
ที หน้าที ทาํ การ กกต.และปั ก หลัก พัก แรมอยู่ทีนัน เพือกดดัน ให้ กกต.
ลาออกโดยใช้สัญลักษณ์ เพื อทําลายภาพลักษณ์ กกต.ว่ า “อย่างหนาห้า
337

ห่ ว ง” ซึ งเป็ นการถากถางโดยนําข้อความมาจากโฆษณากระเบื* องบุ ง


หลังคาตราห้าห่ ว งที ท* งั หนาทั*งทนและก็ ต รงกับจํานวน กกต. 5 คนที
อดทนไม่ยอมลาออก และคําว่า “หนา” ก็เป็ นการล้อเลียนชือของประธาน
คําว่า “วาสนา” แต่แล้ว กกต.ทั*งหมดก็ยงั อดทนอยู่เพราะรู้ ดีว่าถ้าลาออก
ทั*งหมด บ้านเมืองจะวุ่นวายเพราะกกต.เป็ นกลไกสําคัญของการเลือกตั*ง
และขณะนั*นพึงเลือกตั*งเสร็ จยังไม่ได้ประกาศผลเป็ นที เรี ยบร้ อย กกต.จึ ง
ไม่มีทางเลือกอย่างอืน แต่มีกกต. เพียงคนเดียวทีลาออกคือ พล.อ.จารุ ภทั ร
เรื องสุ วรรณ ซึงมีความใกล้ชิดกับพลเอกเปรม และจากข่ าววงในปรากฏ
ว่าพลเอกเปรมได้เรี ยก กกต.ทุกคนเข้าพบ และขอให้ลาออก ถ้าไม่ลาออก
จะติ ด ตารางทุ ก คน สุ ด ท้ายข่ าวลื อที เ ป็ นความลับนี* ก็ ถูก เปิ ดเผย โดย
ผูพ้ ิพากษาซึงเป็ นเลขานุ การของนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ประธานศาลฎี กา
ในขณะนั*น คื อนายจรั ล ภัก ดี ธนากุ ล และนายวิ รั ช ชิ น วิ นิ จ กู ล เลขา
สํานักงานศาลฎี ก า ได้ออกมายืนแถลงข่ าวคู่ก ับผูช้ ่ ว ยคื อ นายไพโรจน์
วรานุ ช หรื อ “ไอ้เจี™ ยบ” (ผูพ้ ิ พากษาซึ งเป็ นที รู้ กนั ทั*งวงการศาลและหมู่
เพือนรัฐศาสตร์ จุฬาฯ รุ่ น 25 ว่าเป็ นเด็กเลี*ยงในบ้านที พลเอกเปรมเลี*ยงดู
ส่ งเรี ย น และมี ร สนิ ย มทางเพศเหมื อนเจ้า ของบ้าน) ว่ าหาก กกต.ไม่
ลาออกจะต้องติดตาราง เพราะการติดตารางแม้วนั เดี ยวโดยกฎหมายก็จะ
ทําให้ข าดคุ ณสมบัติการเป็ น กกต.ทันที การแถลงข่ าวในนามศาลฎี ก า
เช่นนั*น ถือเป็ นความอัปยศอย่างทีสุด เพราะขณะนั*น กกต.ทุ กคนยังมิได้
338

เป็ นจําเลยในศาลเพี ยงแต่ ต กเป็ นผูต้ ้องหาในชั*น สอบสวนของตํารวจที


นายถาวร เสนเนี ยม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์เป็ นผูก้ ล่าวหาเท่ านั*น
การแสดงความอาฆาตมาดร้ายของตัวแทนศาลฎีกาต่อ กกต.ทียงั ไม่ได้เข้า
สู่กระบวนการพิจารณาในศาลเลยเช่ นนี* จึ งเป็ นการสร้ างความเสื อมเสี ย
ให้แก่สถาบันศาลอย่างยิง และดูเหมือนว่า พล.ต.อ.วาสนา เพิมลาภ และ
กกต.ทุกคนทียงั ยืนหยัดอยูจ่ ะรู้ชะตากรรมดี โดยประธาน กกต.ได้แถลง
ข่าวว่าตัวเองมีเทปลับทีอดั จากการพูดโทรศัพท์ของบุ คคลสําคัญคนหนึ ง
ทีข่มขู่ตนให้ลาออก ไม่เช่นนั*นจะติดตะรางแต่ไม่อาจจะเปิ ดเผยได้ เพราะ
เป็ นการกล่ าวพาดพิ งถึ งบุ ค คลชั*น สู ง จะขอเปิ ดเผยในงานศพของตน
เท่ านั*น จากคําประกาศของพล.ต.อ.วาสนา นี* ได้ถูก โจษขานกัน ต่ างๆ
นานาอย่างเข้าใจความเป็ นจริ งของการเมืองไทยว่าเป็ นเผด็จการทั*งทาง
การเมือง และเผด็จการทางวัฒนธรรม และทันที เมือ กกต.ที เหลืออยู่เดิ น
ขึ*นศาลอาญา ในฐานะจําเลย ศาลก็ตดั สิ นลงโทษให้จาํ คุกทั*งหมด และไม่
อนุ ญ าตให้ ประกัน ตัว ในชั*น อุ ทธรณ์ ดังนั*น กรรมการการเลื อกตั*งซึ ง
ทั*งหมดล้วนแต่เป็ นอดี ตข้าราชการชั*นผูใ้ หญ่ ทีปฏิบตั ิ หน้าที ทางราชการ
มาโดยไม่มีประวัติด่างพร้ อยมาก่ อน ซึ งถูกตรวจสอบและเลือกเฟ้ นมา
จากรั ฐสภาตามรั ฐธรรมนู ญปี 2540 ก็ตอ้ งเดิ นเข้าคุ กโดยไม่ได้รับความ
ปราณี ท่ามกลางคําถามเงียบๆ ในหัวใจของผูค้ นทั*งสังคมว่า “บรรทัดฐาน
ของศาลทีเคยอนุ ญาตให้ จําเลยทีประกอบคดีอุกฉกรรจ์ เ ช่ น ฆ่ าคนตาย
339

หรือค้ ายาเสพย์ ตดิ ประกันตัวในระหว่ างอุทธรณ์ คดีได้ น;ัน แล้ วทําไมจึง


ไม่ให้ กกต.ทีเป็ นอดีตข้ าราชการชั;นผู้ใหญ่ ประกันตัว” ทั*งๆ ที คดี น* ี ก็เป็ น
คดี ก ารเมื องซึ ง เป็ นเรื องของความคิ ด เห็ น เกี ย วกับการวินิ จ ฉัย ว่ าการ
เลือกตั*งเมือ 2 เมษายน 2549 นั*นชอบหรื อไม่ จากรู ปธรรมการกล่าวหาว่า
การจัดคูหาเลือกตั*งของ กกต.ทีให้หนั หลังออกนั*นชอบหรื อไม่ชอบนั*นดู
“หน่ อมแน้ม” ทีสุด ดังนั*นการตัดสิ นของศาลให้กกต.ทั*งหมดมีความผิด
ลงโทษติดคุก และไม่ยอมให้ประกันตัวชั*นอุทธรณ์ เพียงเพือให้หลุดจาก
ตําแหน่ งด้วยผลของกฎหมาย จึ งเห็ นชัดว่าเป็ นคําพิพากษาที เกิ ดขึ*นจาก
นโยบายการเมื องของราชสํานัก และที ร้ ายยิงกว่ านั*น ที แสดงถึ งความ
อาฆาตมาดร้ายตามคําประกาศิต ก็คือกว่าจะประกันตัวได้ตอ้ งนอนในคุ ก
หลายคืน ทั*งๆ ทีนอนคุกเพียงคืนเดียวก็ได้ผลตามนโยบายการเมืองแล้ว
เพียงแค่ บทเริ มต้น ของตุ ลาการภิ วฒั น์ ก็เห็ น ชัดเจนแล้ว ว่าเป็ น
สัญ ญาณอัน ตรายของราชสํานัก ที มอบอํานาจเชิ งสัญ ลัก ษณ์ เป็ นกรณี
พิเศษให้แก่ศาลปกครอง ศาลยุติธรรม และศาลรัฐธรรมนู ญ เพือทําลาย
พ.ต.ท.ทั ก ษิ ณ ชิ น วัต ร ซึ ง ผู้ค นในสั ง คมก็ เ ริ มเห็ น ความวิ ป ริ ตของ


ดูรายละเอียดได้จากพระราชดํารั ส พระราชทานแก่ตุลาการศาลปกครองสู งสุ ด
และพระราชทานแก่ผูพ้ ิพากษาประจําศาลสํานักงานศาลยุติธรรม ที เข้าเฝ้ าในวัน
เดียวกัน วันอังคารที 25 เมษายน 2549 แต่คนละเวลา ภาคผนวกท้ายเล่ม
340

กระบวนการยุติธรรม แต่ทุกคนก็เชือมัน อยูใ่ นใจว่าสถาบันศาลคงไม่กล้า


เดิ น ออกนอกลู่น อกทางไปมากกว่ านี* แต่ นัน เป็ นเพี ย งความเชื อมัน ที
ประชาชนมีต่อศาล แต่แล้วความเชือมัน ก็พลันสู ญสลาย เพราะความจริ ง
ของระบอบการปกครองของไทยมิใช่ เป็ นระบอบประชาธิ ปไตยที มีการ
ตรวจสอบถ่ ว งดุ ล และประชาชนมิ ไ ด้ มี สิ ท ธิ จ ริ งตามที เ ขี ย นไว้ใ น
รัฐธรรมนู ญ หากแต่ เป็ นระบอบปกครองที อาํ นาจทั*งหมดรวมศูนย์อยู่ที
องค์พระมหากษัตริ ย ์ การมีรัฐธรรมนู ญ และตัวบทกฎหมายจึงเป็ นเพียง
กระดาษเปื* อนหมึก ที มิได้รับรองสิ ทธิ ของพลเมืองจริ ง ,ตัวบทกฎหมาย
จึ ง เป็ นเพี ย งรู ปแบบเพื อ แต้ ม สี สั น ให้ อํา นาจที ร วมศู น ย์อ ยู่ ที อ งค์
พระมหากษั ต ริ ย์เ กิ ด ความชอบธรรม สามารถดํา รงอยู่ ใ นโลกยุ ค
โลกาภิวฒั น์ได้ตราบเท่ าที การกระทําผิดกฎหมายมิได้กระทบกระเทื อน
ถึงผลประโยชน์ของพระองค์
จากโครงสร้ างเช่ นนี; จึงเป็ นรู ปธรรมชั ดเจนทีอธิบายถึงระบอบ
การปกครองทีเ รี ยกว่ า “สมบู รณาญาสิ ทธิราชใหม่ ” และความจริ งของ
“ตุ ล าการวิบั ติ” ก็ป รากฏเด่ น ชั ด ขึ;น ! และ เด่ น ชั ด ขึ;น ! ภายหลัง การ
รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ทีทัวโลกเชื อว่ าเป็ นคําสั งทีออกจากราช
สํ านัก
341

7.10 ตุลาการภิวฒ
ั น์ ราชสํ านักทรุ ดหนัก (หลัง 19 ก.ย. 49)
หลังเหตุ การณ์ ยึด อํานาจเมือ 19 กันยายน 2549 แล้วขบวนการ
ตุลาการภิวฒั น์ได้แสดงบทบาทที ไม่ยึดหลักกฎหมายมากยิงขึ*น และแต่
ละคดี ทีเกี ยวโยงกับ พ.ต.ท.ทักษิ ณ เมือเปรี ยบเที ยบกับคดี อืนๆ แล้วจะ
เห็นว่าศาลได้ใช้มาตรฐานที แตกต่ างกันอย่างสิ* นเชิ ง ดังนั*นจึ งเห็ นชัดว่า
คําวินิจฉัยของศาลในคดี การเมืองต่ างๆ นั*น ผูกติ ดกับความต้องการของ
ราชสํา นั ก จึ ง ยิง สร้ า งความเสื อ มทรุ ดให้ แ ก่ ร าชสํ า นั ก มากขึ* น โดย
รวบรวมเหตุการณ์เบื*องหลังคดีทีมวั หมองดังนี*

7.10.1 คดียบุ พรรคไทยรักไทย


ความเป็ นตุลาการวิบตั ิ เริ มต้นจากผูพ้ ิพากษาที ยอมรั บคําสังของ
พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะผูย้ ดึ อํานาจทีออกคําสัง แต่งตั*งให้ผู้
พิพากษาอาวุโสจากศาลฎี กามาเป็ นตุ ลาการรั ฐธรรมนู ญตัดสิ นยุบพรรค
ไทยรั ก ไทย และตัด สิ ท ธิ ก รรมการทั*ง หมด 111 คน เมื อ ปลายเดื อ น
พฤษภาคม 2550 เพียงพรรคเดี ยว โดยเก็บพรรคประชาธิ ปัตย์ไว้ท* งั ๆ ที
ทั*งสองพรรคต่างก็เป็ นจําเลยด้วยกันในคดี ยุบพรรคโดยรายละเอียดของ
คํา พิ พ ากษาก็ ทิ ม แทงพรรคไทยรั ก ไทยว่ า เลวร้ า ยอย่ า งไม่ มี ช*ิ น ดี
เหมือนกับเป็ นคําแถลงการณ์ ของพรรคประชาธิ ปัต ย์ทีเป็ นพรรคคู่แข่ ง
ทางการเมืองทีเดียว
342

ดูเหมือนจะเป็ นทีรู้กนั ทั*งสังคม ในขณะนั*นว่าศูนย์กลางควบคุ ม


และจัดการอยู่ทีบ้านสี เสาเทเวศน์ และทัน ที ทีมีการอ่านคําพิ พากษายุบ
พรรค ,ประชาชนที เห็ นความไม่ชอบมาพากลมาก่ อนหน้านี* แล้ว ก็ ได้
รวมตัวกันภายใต้ชือว่า แนวร่ วมประชาธิปไตยต่ อต้าน เผด็จการ (นปก.)
ประท้วงคําพิพากษาของศาลรั ฐธรรมนู ญทันที ทีอ่านจบ ณ ที ทาํ การศาล
รัฐธรรมนูญ แล้วก็ขยายตัวเป็ นการชุมนุ มใหญ่ปักหลักทีสนามหลวงแล้ว
เคลือนตัวไปประท้วงพลเอกเปรมทีบา้ นพักสี เสาเทเวศน์เสมือนเป็ นการชี*
เป้ าให้สงั คมเห็ นว่าพลเอกเปรมนั*นเองคื อประธานเครื อข่ ายราชสํานักที
กําลังสร้างความเสื อมเสี ยอย่างหนักให้แก่สถาบันพระมหากษัตริ ย ์ โดยที
พลเอกเปรมเป็ นประธานองคมนตรี แต่กลับใช้อาํ นาจบารมีของพระองค์
เข้าแทรกแซงทางการเมือง

7.10.2 คดีทีดินรัชดา
จากคํา พิ พ ากษายุ บ พรรคตัด สิ ท ธิ ก รรมการแล้ว ก็ ม าสู่ เ รื อง
อื*อฉาวที ศาลฎี กาแผนกคดี อาญานักการเมือง (เป็ นศาลพิเศษมีศาลเดี ยว
จําเลยห้ามอุ ทธรณ์ ฎี ก า) ได้ต ัด สิ น จําคุ ก พ.ต.ท.ทัก ษิ ณ ชิ น วัต ร อดี ต
นายกรั ฐมนตรี 2 ปี ในคดี ทีคุณ หญิ งพจมานฯ ภรรยา ประมูลซื* อที ดิ น
ถนนรัชดาจากการขายทอดตลาดโดยเปิ ดเผยเป็ นราคาประมาณ 700 ล้าน
บาท ก็แสดงให้เห็ นถึ งกระบวนการยุติธรรมที ไม่เป็ นธรรม เพราะศาล
ตั ด สิ นว่ า การซื* อที ดิ น นั* นถู ก ต้ อ งคุ ณ หญิ ง พจมานได้ รั บ ที ดิ น ไป
343

ครอบครองแต่ ทกั ษิ ณผิดที เซ็นอนุ ญาตให้ภรรยาซื*อที ดินได้ ฟั งดูแปลก


เต็ มที เพราะโดยกฎหมายผัว เมีย นั*นใครจะไปทํานิ ติก รรมอี ก ฝ่ ายต้อง
อนุ ญาต แต่ศาลกลับตัดสิ นเอาผิดเมือเปรี ยบเทียบคดี กบั อดี ตนายกฯ ที มา
จากราชสํา นั ก ในคดี ค ล้า ยกัน กรณี พลเอกสุ ร ยุ ท ธ จุ ล านนท์ อดี ต
นายกรัฐมนตรี ทีมีลกั ษณะคดีเกียวกับทีดินเหมือนกัน และเป็ นการกระทํา
ผิด ชัด เจนยิงกว่ า กรณี ข อง พ.ต.ท.ทัก ษิ ณ คื อ เรื อ งภรรยาของพลเอก
สุ รยุทธซื*อทีดินทียอดเขายายเที ยงที จงั หวัดนครราชสี มา ซึ งเป็ นที ดินป่ า
สงวนแท้ๆ ที ไม่ อาจจะจับจองหรื อซื*อขายกันได้ และซื* อเพี ย ง 50,000
บาท แต่กลับไม่มีการดําเนิ นคดีใดๆ จึงเห็นชัดเจนว่าเป็ นการเลือกปฏิบตั ิ
พ.ต.ท.ทักษิณ รู้ ถึงอํานาจที อยู่เบื*องหลัง ตุ ลาการดี แต่ ไม่อาจจะ
กล่าวถึงโดยตรงได้ จึ งให้สัมภาษณ์ อย่างมีนัยสําคัญในต่ างประเทศผ่าน
ทางวี ดี ทัศน์ ในการชุ มนุ มใหญ่ ข องประชาชนคนเสื* อแดงที สนับสนุ น
พ.ต.ท.ทัก ษิ ณ ที ส นามกี ฬ ารั ช มัง คลาเมื อ 1 พฤศจิ ก ายน 2551 ว่ า
“ขบวนการยุตคิ วามเป็ นธรรม”

7.10.3 สองคดีมอ็ บตัดสิ นไม่ เหมือนกัน


กรณี มอ็ บพันธมิตรยึดทําเนี ยบฯ และบริ เวณถนนโดยรอบถูกปิ ด
ตาย โดยเฉพาะการปิ ดถนนพิ ษณุ โ ลกหน้าทําเนี ย บได้ก่อให้เกิ ดความ
เดือดร้อนรําคาญแก่นกั เรี ยน และครู โรงเรี ยนราชวินิจ เพราะรถยนต์ของ
ผูป้ กครองไม่อาจจะนําส่ งและรั บนักเรี ย นได้ ประกอบกับเสี ยงจากเวที
344

ปราศรั ย ก็ ด ัง หนวกหู ม าก นัก เรี ย นเรี ยนหนังสื อไม่ ได้ ดังนั*น ครู และ
นักเรี ยนจึงร่ วมกันฟ้ องต่อศาลเพือเป็ นการปกป้ องสิ ทธิของตน และขอให้
ศาลไต่ สวนและมีค าํ สังตามคําขอคุ ม้ ครองชัว คราว ปรากฏว่าศาลที รั บ
ฟ้ องเรื องนี* เป็ นศาลแพ่งทีผพู้ ิพากษาส่ วนใหญ่ เป็ นศาลใหม่ เป็ นคนหนุ่ ม
คนสาว ที ไม่ มีส่ว นได้เสี ย เมื อรั บคดี ก็ วิ นิ จฉัย ตามข้อกฎหมาย ให้ก าร
คุม้ ครองโดยให้พนั ธมิตรถอนตัวจากการปิ ดถนนทีทาํ ให้โจทก์ซึ งเป็ นครู
และนักเรี ยนเดือดร้อน และยุติการกระจายเสี ยงในเวลาเรี ยน เพราะถือว่า
พัน ธมิ ต รได้ใช้สิทธิ ทางกฎหมายเกิ น ส่ ว นทําให้ผูอ้ ื นเดื อดร้ อน ซึ งใน
สายตาของสุ จ ริ ตชนทัว ไปก็ ชื น ชมต่ อ คํา พิ พ ากษาที ยื น อยู่บ นหลัก
กฎหมาย แต่ปรากฏว่าต่ อมาม็อบพันธมิตรได้ถอนกําลังไปใช้พ*ืนที หน้า
กระทรวงศึกษาแทน โดยมีพฤติ กรรมปิ ดถนน เปิ ดปราศรั ยทั*งวันทั*งคื น
เช่ น เดี ย วกัน กับ ที ก ระทํา ต่ อ ครู แ ละนั ก เรี ยนราชวิ นิ จ แต่ ค ราวนี* เป็ น
ข้าราชการกระทรวงศึกษา ดังนั*นข้าราชการทีเดือดร้อนจึงยืน ฟ้ องเป็ นคดี
ต่ อศาลแพ่ ง และยืน คํา ร้ องขอคุ ้มครองชัว คราวเช่ น เดี ย วกับ ที ค รู และ
นักเรี ยนโรงเรี ยนราชวินิจเคยยืนฟ้ องและยืนคําร้ อง แต่ คราวนี* ศาลกลับ
วินิจฉัยแปลกโดยตัดสิ นไปคนละทางกับคดี ก่อนโดยไม่ให้การคุ มครอง
ซึ งเป็ นที ฮื อฮามาก ว่าทําไมศาลมีมาตรฐานไม่ เหมื อนกัน ซึ งมารู้ ความ
จริ งในภายหลังว่าผูพ้ ิพากษาผูใ้ หญ่ ซึ งเป็ นผูบ้ ริ หารได้มีคาํ สังหลังจากที
ศาลเคยตัดสิ นให้เปิ ดทางแล้วว่า คดีทีเกียวข้องกับการเมืองให้ส่งสํานวน
345

ขึ* น ไปให้อธิ บดี พิจ ารณาจ่ ายสํานวน (มิ ใช่ รั บสํานวนคําฟ้ องตามเวร)
ให้แก่ศาลโดยอธิบดีศาลจะเป็ นผูเ้ ลือกผูพ้ ิพากษามาพิจารณาคดี
กรณี น* ี ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กนั ว่าศาลตกอยู่ใต้อิทธิ พลของผูอ้ ยู่
เบื*องหลังม็อบพันธมิตรทีใครๆ ก็รู้และต่างขนานนามว่า “ม็อบเส้นใหญ่”

7.10.4 คดีสมัครฯ ทํากับข้ าวหลุดจากนายกฯ


หลัง การยึ ด อํา นาจ 19 กัน ยายน 2549 ขับ ไล่ ทัก ษิ ณ ไปแล้ว
รั ฐบาล คมช.ภายใต้ก ารนําของพลเอกสุ รยุทธ จุ ลานนท์ องคมนตรี ก็
จัด ทํารั ฐธรรมนู ญ ฉบับรวบหัว รวบหาง และกองทัพก็ เกณฑ์กองกําลัง
ออกควบคุ ม และหนุ นช่ วยพรรคประชาธิ ปัต ย์ เพือให้ชนะการเลือกตั*ง
ตามการชี*นาํ ของพลเอกเปรม ในการเลือกตั*ง 23 ธันวาคม 2550 แต่ ก็ยงั
ไม่สามารถจะกําจัดทักษิณออกจากอํานาจการเมืองได้ และทีทาํ ให้พลเอก
เปรมเจ็บปวดทีสุดก็คือ นายสมัคร สุ นทรเวช ศัตรู เก่ าทางการเมือง และ
เป็ นผูใ้ กล้ชิด ราชสํานัก สายองคมนตรี ธานิ น ทร์ กรั ย วิ เชี ย ร ที แก่ งแย่ง
ความเป็ นผู้จ งรั ก ภั ก ดี ก ั บ พลเอกเปรมมายาวนาน ก้ า วขึ* นมาเป็ น
นายกรัฐมนตรี โดยการสนับสนุ นของ พ.ต.ท.ทักษิ ณ อีกจนได้ ซึ งทําให้
การใช้อาํ นาจครอบงําการบริ หารจัดการรัฐของพลเอกเปรมเป็ นไปได้ยาก
กว่าสมัยทีทกั ษิณเป็ นนายกฯ เสี ยอีก อีกทั*งจะโค่ นล้มนายกฯ สมัคร ด้วย
ข้อหายอดนิ ยมว่าไม่จงรักภักดีก็เป็ นไปได้โดยยาก อีกทั*งนายสมัครก็เป็ น
นักสูท้ างการเมืองในระบอบรั ฐสภาที มีประวัติศาสตร์ ยาวนานที สู้รบตบ
346

มือกับพวกม็อบในสายตาของเขาว่าเป็ นพวก “แก๊งข้างถนน” มาแล้วอย่าง


ขึ*นชือลือชา และแล้วเหตุ การณ์ ก็บ่งบอกความจริ งดังการคาดหมาย เมือ
นายสมัคร สุ นทรเวช นังในตําแหน่ งนายกรั ฐมนตรี ได้เพียงแค่ 3 เดื อน
ตูดไม่ทนั ร้อนพลเอกเปรมก็ทนไม่ไหว แล้วม็อบพันธมิตรก็ก่อตัวขึ* นเมือ
25 พฤษภาคม 2551 โดยมี เป้ าหมายแท้จ ริ งคื อเพือโค่ น ล้มรั ฐบาลนาย
สมัค ร สุ นทรเวช ,นายกฯ สมัค ร ก็ออกมาตอบโต้สู้อย่างยิบตา แม้ราช
สํานักสายหนึ งจะส่ งสัญญาณว่าสนับสนุ นอยูข่ า้ งหลังม็อบพันธมิตรฯ แต่
นายกฯ สมัครก็ทาํ เป็ นไม่รู้ไม่เห็ น และอาศัยความใกล้ชิดพระเจ้าอยู่หัว
และตําแหน่ งหน้าที ข องตนเข้าเฝ้ าพระเจ้าอยู่หัวเพือถวายรายงานอย่าง
ชนิ ด ที บุ ค คลอื น กระทํา ได้ย าก จนเกิ ด ความสั บ สนในเบื* อ งต้น ของ
เครื อข่ายราชสํานักในการรับสัญญาณทางการเมืองจากเบื*องบนว่า จะเอา
อย่างไรแน่
นายสมัครได้แสดงให้เห็นถึงความใกล้ชิด และความไว้วางพระ
ราชหฤทัย ตั*งแต่ เหตุ ก ารณ์ 6 ตุ ลาคม 2519 จนถึ งปั จ จุ บัน เมื อมาเป็ น
นายกรั ฐมนตรี เช่ นมี ข่าวว่าทหารจะทําการรั ฐประหารให้เสร็ จ สิ* น เสี ย
โดยเร็ วตามการชี*นาํ ของพลเอกเปรมอีกครั*งหนึ งหลังการรั ฐประหาร 19
กันยายน 2549 โดยแกนนําเหล่าทัพได้ไปประชุ มกันที บา้ นสี เสาเทเวศร์
อย่างลับๆ ในคืนวันอังคารที 6 พฤษภาคม 2551 แต่ เมือความแตกปรากฏ
เป็ นข่ าวเล็ ก ๆ ในหน้ าหนัง สื อ พิ ม พ์ก รุ งเทพธุ ร กิ จ เพี ย งฉบับ เดี ย วใน
347

วัน รุ่ งขึ*น วัน พุ ธ นายสมัครก็แสดงศัก ยภาพใกล้ชิด เบื* องยุคลบาททัน ที


โดยในคืนของวันพฤหัสบดีที 8 พฤษภาคม 2551 นายสมัครก็เข้าเฝ้ าพระ
เจ้าอยูห่ วั โดยกะทันหันเพือถวายรายงานสถานการณ์ ทนั ที เล่นเอาพลโท
ประยุทธ จันทร์ โอชา แม่ทพั ภาคที 1(ยศในขณะนั*น) ในฐานะทหารเสื อ
พระราชินี ซึงเป็ นทีรู้กนั ว่าเป็ นผูใ้ กล้ชิดสมเด็จพระราชินี และเป็ นทีจบั ตา
ว่านายทหารคนนี*แหละทีจะเป็ นแกนนําหากมีการยึดอํานาจต้องอ่อนยวบ
ลงทันที
ในภาวะความปันป่ วนเช่นนี* นายสนธิ ลิ*มทองกุล ดูเหมือนจะกุม
สถานการณ์ได้มนั จึงไม่ยอมปล่อยให้สถานการณ์เกิดความสับสน จึ งเร่ ง
ยกระดับสงครามให้รุนแรงขึ*น โดยนําม็อบบุ กเข้ายึดทําเนี ยบรั ฐบาล แต่
ปรากฏว่าพลเอกอนุ พงษ์ เผ่าจิ นดา ผบ.ทบ. ก็ยงั นิ งเฉยแม้นายสมัคร จะ
ประกาศภาวะฉุ กเฉิ น การนิ งเฉยไม่ปฏิบตั ิ ตามหน้าที ของ ผบ.ทบ.แม้จะ
เป็ นการส่ งสัญญาณให้เห็ นว่าเบื*องหลังม็อบนั*นมีเส้นใหญ่ หนุ นหลังอยู่
จริ ง แต่ ด ้วยลัก ษณะพิ เศษของนายสมัคร ปรากฏว่าก็ย งั ไม่ยอมลาออก
และยังกัดฟันสู้ ซึงเหตุ การณ์ น* ี เท่ ากับเป็ นการยืนยันโดย ผบ.ทบ.แล้วว่า
เบื*องบนไม่เอาสมัคร แล้วแต่ ผบ.ทบ.ก็อยูใ่ นฐานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ถ้าจะทําการปฏิวตั ิ ตามใจเบื*องบน บ้านเมืองก็จะพัง แต่ ถา้ จะดําเนิ นการ
ตามกฎหมายกับกลุ่มพันธมิตรฯ ก็เป็ นการขัดใจเบื*องบน สุ ดท้ายจึ งเลือก
ทางออกที ดีทีสุดคื ออยู่เฉยๆ ไม่ทาํ อะไร ในที สุดเหตุ การณ์ จึงบี บบังคับ
348

ให้เครื อข่ ายราชสํานักจําต้องใช้อาํ นาจตุ ลาการวิ บตั ิ ทีเปิ ดโปงความไร้


หลักนิ ติธรรมจากการยืนฟ้ องคดี ของสว.เรื องไกร ลูกสมุน คมช.ต่ อศาล
รัฐธรรมนูญเพือให้ปลดสมัครออกจากอํานาจ โดยศาลรั ฐธรรมนู ญก็ได้
ทําหน้าทีอย่างดียงิ ตามความประสงค์ของราชสํานักทีจะเอาสมัครออกไป
จึ งพิพากษาว่าให้นายสมัครพ้นจากตําแหน่ งนายกรั ฐมนตรี ในข้อหาได้
ประโยชน์ จากการทํากับข้าวโชว์ทางโทรทัศน์ ซึ งนายสมัคร เป็ นผูจ้ ัด
รายการทําครั ว มานานกว่ า 7 ปี ก่ อนที จ ะเป็ นนายกฯ แล้ว เมื อวัน ที 9
กัน ยายน 2551 ตามคําวิ นิ จ ฉั ย ที 12-12/2551 โดยศาลตี ค วามว่ า เป็ น
ความผิดตามความหมายในพจนานุ ก รมในเรื องลูก จ้าง ในขณะที ศาล
รัฐธรรมนูญผูต้ ดั สิ นหลายคน เช่ น นายจรั ล ภักดี ธนากุล ก็เป็ นลูกจ้างหา
ประโยชน์จากการสอนหนังสื อ ตามความหมายในพจนานุ กรมเหมือนกัน
แต่กลับไม่เป็ นไร
ต่อมาสังคมก็ยงิ เห็นชัดเจนมากขึ*นว่ากระบวนการยุติธรรมของ
ไทยได้กลายเป็ นกระบวนการยุ ติความเป็ นธรรมแล้ ว เมื อนายอภิ สิทธิ;
เวชชาชี ว ะ ได้ถูกราชสํานัก อุม้ ให้มาเป็ นนายกรั ฐมนตรี (หลังจากม็อบ
พัน ธมิ ต รได้กดดัน และศาลรั ฐธรรมนู ญ ได้ใช้อาํ นาจตัดสิ น ล้มอํานาจ
นายกฯ สมัคร สุ นทรเวช และนายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ; แล้ว) ก็ปรากฏ
หลักฐานชัดเจนว่านายอภิสิทธิ; มีคดีติดตัวคือหนี การเกณฑ์ทหาร ซึ งเป็ น
ความผิ ด ร้ า ยแรง แต่ น ายอภิ สิ ท ธิ; กลับ ลอยนวลเป็ นนายกฯ ได้ จน
349

กลายเป็ นทีกล่าวขานกันอย่างสนุ กสนานในวงการทูตในประเทศไทยว่า


นายกฯ ทํากับข้าวมีความผิดรุ นแรงกว่านายกฯ หนี ทหาร
ความผิดทีศาลลงโทษนายกฯ ซึ งเป็ นประมุขฝ่ ายบริ หารเช่ น นี;
จึงเป็ นสิ งทีไร้ เหตุผลทีสุดในสายตาคนไทย และในสายตาชาวโลก และ
กลายเป็ นเรืองล้ อเลียนในการ์ ตูนทางการเมือง และข่ าวตลกทางการเมือง
ของสื อทั;งโลก

7.10.5 คดีปลดนายกฯ สมชาย


เมือ นายสมัครต้ องพ้ นจากตําแหน่ งด้ วยใช้ คําพิพากษาของศาล
รั ฐธรรมนู ญ อัน ชวนหัว ก็ไม่ อ าจจะสยบพลัง ทีเ ชื อ มันในความถู ก ต้ อ ง
ของระบอบประชาธิปไตยของทักษิณได้ นายสมชาย วงศ์ สวัสดิN น้ องเขย
สามีของนางเยาวภา ชิ นวัตร ก็ก้าวขึ;นเป็ นนายกรั ฐมนตรี อีก ท่ ามกลาง
ความไม่ พอใจของราชสํ านักอย่ างรุ นแรง
ความต้องการที จ ะล้มรั ฐบาลนายกฯ สมชายได้ถูก ดําเนิ น การ
อย่างเร่ งด่วนด้วยเพราะใกล้วนั เฉลิมฉลองพระชนม์พรรษาวันที 5 ธันวา
แล้ว และราชสํานักไม่ ตอ้ งการให้น ายกฯ สมชายเข้าเฝ้ า, ระยะเวลา 2
เดื อนนับจากเดื อนตุ ลาคม จึ งต้องเร่ งเกมส์ ให้จ บ ดังนั*น เครื อข่ ายราช
สํานักโดยพัน ธมิตรและพรรคประชาธิ ปัตย์จึ งต้องเปิ ดตัว ชัดเจนพร้ อม
ด้ว ย สว.กลุ่ ม 40 ผนึ ก กําลัง กัน ปิ ดล้อ มรั ฐสภาโดยมี ส.ส.สมเกี ย รติ
พงศ์ไพบูลย์(แกนนําพันธมิตร) นายสาธิ ต ปิ ตุ เตชะ ส.ส.จังหวัดระยอง
350

นายถาวร เสนเนี ยม ส.ส.จังหวัดสงขลา (ต่ อมาได้รับปูนบําเหน็ จเป็ น


รัฐมนตรี ช่วยมหาดไทย) และอีกหลายคนได้นาํ รถยนต์ติดตราพรรคออก
หนุ น ช่ ว ยม็อบพัน ธมิต รที น ํากําลังล้อมรอบปิ ดทางประตูทางเข้า-ออก
สภาในวั น ที 7 ตุ ล าคม 2551 เพื อ ไม่ ใ ห้ น ายสมชาย วงศ์ ส วัส ดิ;
นายกรัฐมนตรี นาํ คณะรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่ อสภาภายใน 15 วัน นับ
แต่วนั เข้าเฝ้ าพระเจ้าอยู่หัว ซึ งจะมีผลทําให้นายสมชายต้องพ้นตําแหน่ ง
นายกฯ ทันทีตามรัฐธรรมนูญ ซึงขณะนั*นเป็ นวันทีใกล้จะครบกําหนด 15
วันแล้ว โดยกลุ่ม สว. 40 เช่ น นางรสนา โตสิ กะตระกูล ก็เปิ ดเกมส์ตีโต้
ในสภาให้นายกฯ สมชาย ลาออกจนสภาปันป่ วน ส่ วนข้างนอกสภากลุ่ม
พัน ธมิ ตรฯ ก็ วางแผนก่ อจลาจลด้ว ยการเตรี ย มรถบรรทุ ก ระเบิ ด “คาร์
บอม” และนักรบศรี วิชยั ตระเตรี ยมอาวุธปื น ระเบิ ดปิ งปอง มีด ไม้ เพือ
ปะทะกับเจ้าหน้าที โดยกีดขวางไม่ให้คณะรั ฐมนตรี และสมาชิ กรั ฐสภา
เข้าไปในรัฐสภาได้ แต่หากขัดขวางไม่สาํ เร็ จก็จะจัดการระเบิดประตูสภา
ด้วยคาร์ บอม แล้วมวลชนพันธมิตรฯ ก็จะฮื อบุ กเข้าสภาซึงจะเกิ ดภาวะ
จลาจลเพือกดดันให้ฝ่ายทหารทําการยึดอํานาจล้มรั ฐบาลนายสมชายเงา
อํานาจของทักษิ ณ ให้ได้ และหลักฐานที ยืนยันถึงแผนการอันเลวร้ ายนี*
โดยไม่คาํ นึ งถึงการเสี ยชีวิตของใครทั*งสิ*นของแกนนําพันธมิตรฯ ก็คือคํา


รายชือ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทีระบุน* ี มีรูปปรากฏในสื อมวลชนทางโทรทัศน์ที
ถ่ายทอดสดในวันที 7 ตุลาคม 2551
351

ประกาศบนเวที ม็ อ บพัน ธมิ ต รของนายสนธิ ในขณะเกิ ด เหตุ ก ารณ์


ปิ ดล้อมสภาว่ า “นายสมชาย จะต้องออกจากนายกฯ ภายใน 6 โมงเย็น
นี* ” แ ต่ เ ดชะ บุ ญ รถยนต์ บ ร รทุ กระ เบิ ดที จ อด คอยไว้ อ ยู่ ห น้ า
พรรคชาติ ไ ทย ซึ ง ห่ า งจากสภาประมาณ 200 เมตร ที มี พ.ต.ท.เมธี
ชาติมนตรี หรื อสารวัตรจ๊าบ ซึ งเป็ นแกนนําฝ่ ายการทหารคนสําคัญของ
พันธมิตรฯ น้องเขยนายการุ ณ ใสงาม สว.สายประชาธิปัตย์ เป็ นผูค้ วบคุ ม
โดยจะจุ ดระเบิ ด ด้ว ยสัญญาณโทรศัพท์ แต่ เกิ ด อุบัติเหตุ จาก สัญญาณ
โทรศัพท์ทีภรรยาโทรเข้าไปหาทําให้วงจรระเบิ ดทํางานก่ อนกําหนดจึ ง
เกิดระเบิดขึ*นอย่างรุ นแรงก่อนเวลาปฏิบตั ิ การเพียงเล็กน้อย(กําหนดการ
ประมาณจะ 4 โมงเย็น) เป็ นผลทําให้สารวัตรจ๊าบเสี ยชี วิตทันที จากแรง
ระเบิ ด และตํารวจก็ได้ตดั สิ นใจยิงแก๊สนํ*าตาเปิ ดทางจนเป็ นเหตุ จลาจล
ลุกลามจากสภาขยายตัวไปปิ ดล้อมสํานักงานตํารวจนครบาลที อยู่ใกล้ๆ
ตั*งแต่น* นั ตลอดคืนของวันที 7 ตุลาคม มีผคู้ นเสี ยชีวิตและบาดเจ็บจํานวน
มาก แต่ผบู้ ญ ั ชาการทหารบกก็ไม่ยอมที จะทําการรั ฐประหาร ทําให้ราช


คําประกาศของนายสนธิ ลิ*มทองกุล ทีกล่าวในเวลากลางวันขณะชุมนุ มปิ ดล้อม
สภานั*นได้ถูกเปิ ดเผยในคืนวันเดียวกันนั*นหลังจากแผนการล้มเหลวที “คาร์ บอม”
เกิดระเบิดก่อนเวลา ทําให้แกนนําคนสําคัญเสี ยชีวิตว่าแท้จริ งแล้วเป็ นการสร้ างเหตุ
ความรุ นแรงเพือกดดันให้พลเอกอนุพงศ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ต้องทําการยึดอํานาจโดย
ไม่มีทางเลือกเพือโค่นล้มรัฐบาลตัวแทนของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
352

สํา นั ก ไม่ พ อใจ โดยในคื น นั*น นายสนธิ ไ ด้ข* ึ นปราศรั ย ด่ า ทอพลเอก


อนุ พงศ์ ผบ.ทบ.อย่างรุ นแรง และกล่าวหาว่าไม่ยอมออกมายึดอํานาจเป็ น
การขัด พระประสงค์ และแล้วปั ญ หาที สงสัย งุ น งงทั*งหมดว่ าม็อบเส้น
ใหญ่หมายถึงใคร ก็ไขคําตอบด้วยการที สมเด็จพระราชิ นี เสด็จพระราช
ดําเนิ น มาทรงเป็ นประธานเผาศพ “น้องโบว์” ด้ว ยพระองค์เอง และ
ยกย่องเป็ นวีรสตรี ผพู้ ลีชีพเพือสถาบันพระมหากษัตริ ย ์ และพระราชทาน
เพลิงศพให้แก่สารวัตรจ๊าบด้วย
แม้เหตุการณ์จะเปิ ดเผยชัดเจนแล้วว่าพระองค์คือผูส้ นับสนุ นการ
กระทําของพันธมิตรฯ มาโดยตลอดเพือโค่ นล้มรั ฐบาลทักษิ ณ เริ มตั*งแต่
เมื อ 19 กัน ยายน 2549 และล้มรั ฐบาลนายสมัค ร ซึ งเป็ นตัว แทนของ
ทักษิ ณ แต่ ปรากฏว่านายกฯ สมชาย น้องเขยทักษิ ณก็ยงั ดื*อรั* นอยู่ต่อไป
ราชสํานักต้องการจะกําจัดรั ฐบาลเงาของทัก ษิ ณ ให้ส*ิ นซากด้ว ยการใช้
ม็อบพันธมิตร ก็ยงั ไม่สาํ เร็ จ จะกําจัดด้วยการให้ทหารยึดอํานาจก็ติด ที
พลเอกอนุ พงศ์ ผบ.ทบ.ขวางทางวางเฉยไม่ยอมทํา ทําให้พลเอกประยุทธ


“น้องโบว์” หรื อนางสาวอังขณา ระดับปัญญาวุฒิ ได้เสี ยชีวิตจากแรงระเบิด (จาก
ผลการพิสูจน์หลักฐานของนักวิชาการสํานักงานตํารวจแห่ งชาติ) บริ เวณหน้าทีทาํ
การกองบัญชาการตํารวจนครบาลทีอยูใ่ กล้ๆ กับรัฐสภา และได้กลายเป็ นกุญแจดอก
สําคัญว่าสมเด็จพระราชินีเป็ นผูเ้ กียวข้องกับม็อบพันธมิตรโดยตรงเมือพระองค์ทรง
เสด็จไปเป็ นประธานเผาศพด้วยพระองค์เอง
353

จันทร์ โอชา ทหารเสื อราชินีคนสนิ ทจึงไม่อาจจะขยับได้ในสถานการณ์ ที


ผูม้ ี อาํ นาจในบ้านเมื องกลื น ไม่ เข้าคายไม่ ออกเช่ น นี* ในที สุด นายสนธิ
ลิ*มทองกุล กับนายสุ เทพ เทื อกสุ บรรณ เลขาพรรคประชาธิ ปัตย์ ก็แสดง
ตนตอบสนองพระราชประสงค์อนั เกินความคาดหมายของมนุ ษย์ทียงั ไม่
เสี ย สติ ทีจะคาดการได้นนั ก็ คื อ ได้ทุ่มเทกําลังมวลชนเข้ายึด สนามบิ น
นานาชาติของประเทศไทยทั*งหมดในกรุ งเทพฯ คื อ สนามบิ นสุ วรรณภูมิ
และสนามบินดอนเมือง เพือกดดันให้รัฐบาลสมชายหมดอํานาจไปไม่ว่า
จะด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม แม้ว่าบ้านเมืองจะพังพินาศไปต่ อหน้าต่ อตา ซึ งเป็ น
มาตรการสุ ดท้ายที รุนแรงสุ ด จนกลายเป็ นปั ญหาของนานาชาติ เพราะ
ประชาชนทุ ก ชาติ ต ้องอกสัน ขวัญ หาย ตกค้างอยู่ในประเทศไทยและ
ประเทศเพือนบ้าน เพราะสนามบินสุ วรรณภูมิ เป็ นศูนย์กลางการบิ นของ
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้ แต่ ฝ่ายทหารก็ยงั นิ งเฉยทั*งไม่ยึดอํานาจ
และก็ไม่ดาํ เนิ นการทางกฎหมายใดๆ อีกเช่นกัน รวมตลอดทั*งนายสมชาย
ก็ยงั ดื*อสูไ้ ม่ลาออกจากนายกฯ และหนี ไปตั*งหลักที จงั หวัดเชี ยงใหม่ทีมี
มวลชนคนรักทักษิณหนาแน่ นคอยปกป้ อง และขณะนั*นก็ใกล้วนั สําคัญ
ของชาติ คื อ วัน เฉลิ ม พระชนมพรรษา 5 ธัน วาคม ซึ ง พระองค์ จ ะมี
พระชนมายุครบ 81 พรรษา
ด้วยสถานการณ์ทีบีบรัด และไม่มีองค์กรรัฐหน่ วยงานใดกล้าเข้า
มาปราบปรามเหตุการณ์จลาจล และเข้ามาล้มรัฐบาลนายสมชายที ไม่ทรง
354

โปรดได้ และในระหว่างนั*นก็มีข่าวลือแพร่ สะพัดไปหมดว่าเครื อข่ ายราช


สํานักจะต้องทําทุกวิถีทางไม่ให้นายกฯ สมชายเป็ นผูน้ าํ การถวายพระพร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ในปี นี*ได้ ซึงขณะนั*นหมายกําหนดการของ
สํานัก พระราชวังได้ก าํ หนดให้ มีก ารสวนสนามของกองทหารรั ก ษา
พระองค์ ณ บริ เวณลานพระบรมรู ปทรงม้า ในวันที2 ธันวาคม 2551 เวลา
15.00 น. ,นายกฯ สมชาย ในฐานะรัฐมนตรี กลาโหมจะต้องเข้าเฝ้ าเป็ นวัน
แรกของพระราชพิธี แล้วข่ าวลือก็เป็ นจริ งโดยเครื อข่ ายราชสํานักได้ตก
ลงกันใช้ศาลรัฐธรรมนูญเป็ นเครื องมือดําเนิ นการปลดนายกฯ สมชาย ใน
คดี ยุบพรรคโดยเร่ งดําเนิ น การรวบหัวรวบหางเล่นงานนายกฯ สมชาย
วันที 2 ธันวาคม ทั*งๆ ที วนั นั*นเป็ นวันนัดพิจารณามิ ใช่ วนั นัดตัดสิ นคดี
แต่ศาลรัฐธรรมนูญก็ดาํ เนิ นการอย่างทุ ลกั ทุ เลจนเสร็ จสิ* นก่ อนเวลาสวน
สนามอย่างหวุดหวิดจนได้
การแสดงออกของศาลรัฐธรรมนู ญในวันที 2 ธันวาคม 2551 จึ ง
กลายเป็ นละครราคาถูก ด้ว ยการเขี ย นบทละครอย่างเร่ งด่ ว นให้ ศาล-
ทหาร-ตํารวจ-พันธมิตรฯ เล่นให้ประสานกันโดยมีเป้ าหมายคื อ ทําลาย
รัฐบาลตัวแทนทักษิณให้จงได้ ข่าวนี*ได้รัวไหลออกไปจึงมีประชาชนผูร้ ัก
ความเป็ นธรรมกลุ่ ม ใหญ่ รวมตัว กัน ไปปิ ดล้อมศาลรั ฐธรรมนู ญ ทํา
ให้ ผูพ้ ิ พ ากษาต้องย้ายไปอ่ านคําพิ พากษาที ศาลปกครองแทน ทํา ให้
355

บรรยากาศการพิจารณาคดี โ บว์ดาํ ของศาลรั ฐธรรมนู ญ จึ งเป็ นไปอย่าง


ทุลกั ทุเล กว่าจะเริ มได้ก็เป็ นเวลาเกือบเทียง
ในวันที 2 ธันวาคม นั*นตรงกับวันนัดพิจารณาคดี ยุบพรรคพลัง
ประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิ ปไตย แต่ ปรากฏว่าศาลได้
แอบทําคําพิพากษาไว้ล่วงหน้าเรี ยบร้ อยแล้ว บรรยากาศในห้องพิจารณา
นั*น ตัวแทนของพรรคการเมืองทีเป็ นจําเลยจะแถลงขอสื บพยานใดๆ ศาล
ก็ไม่อนุ ญาต ดังนั*นตัวแทนทุกพรรคฯ จึงขอยืน คําแถลงปิ ดคดี ศาลก็เพียง
รับไว้แต่ไม่อ่าน แล้วศาลก็รีบหยิบคําพิพากษาทีตดั สิ นยุบพรรคทั*งหมดที
แอบเขียนไว้ล่วงหน้าขึ*นมาอ่านทันที โดยอ่านผิดๆ ถูกๆ เช่ นใช้ชือพรรค
พลังประชาชนไปเขียนไว้ในสํานวนยุบพรรคชาติไทย เป็ นต้น และแม้จะ
ถึงเวลาเที ยง ศาลก็ไม่ พกั การพิ จารณาโดยพยายามจะอ่ านคําพิ พากษา
เพือให้นายสมชาย หมดอํานาจลงให้ได้ก่อนจะถึงเวลาสวนสนามของ
ทหารรั ก ษาพระองค์ เ วลา 15.00 น. ปรากฏว่ า อ่ านคําพิ พ ากษาเสร็ จ
ประมาณ 14.00 น.
เวลาทีลอ็ คไว้ หวุดหวิดจริงๆ
ทัน ที ทีมีคาํ พิ พากษาทําให้นายกฯ สมชายหมดอํานาจลงทัน ที
กลุ่ ม พัน ธมิ ต รฯ ก็ ติ ด ต่ อ ทหาร ตํา รวจ เพื อ เตรี ยมถอนตัว ออกจาก
สนามบิ น และทําเนี ยบนายกฯ และก็ประกาศชัยชนะทันที ซึงเป็ นที ผิด
สั ง เกตว่ า เมื อ ครั* งศาลตั ด สิ น ให้ น ายสมัค รหลุ ด จากนายกฯ เพราะ
356

ทํากับข้าว หากใช้มาตรฐานเดี ยวกันพันธมิตรฯ ก็น่าจะประกาศชัยชนะ


และถอนตัว จากทําเนี ย บ และยุติ ค วามวุ่ นวายเสี ย ได้ แต่ ข ณะนั*น กลับ
ไม่ทาํ
จากข้ อเท็จจริงทีกล่ าวข้ างต้ นนี; คําพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ
กรณียุ บ พรรคพลัง ประชาชน นี;จึง เป็ นประจั ก ษ์ พยานชั ด เจนว่ าศาล
รัฐธรรมนูญตัดสิ นคดีตามคําสั งของเครือข่ ายราชสํ านักและตรงตามพระ
ราชประสงค์ มิใช่ ตดั สิ นคดีตามสํ านวน
การยุติการชุมนุ มของพันธมิตรก็เป็ นไปตามเกมส์ทีเครื อข่ ายราช
สํานั ก เป็ นผูก้ าํ หนดเพื อ ให้ป ระสานกับคําพิ พ ากษายุ บพรรค รวมทั*ง
ประสานกับทหารและกลุ่มเนวินทีแปรภักดิ;ไปร่ วมกับพรรคประชาธิปัตย์
จัดตั*งรัฐบาล

7.11 อภิสิทธิN รัฐบาลเทพประทาน


ทันทีทีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ; พ้นจากหน้าที โดยผลคําพิพากษา
ให้ยบุ พรรค และตัดสิ ทธิ ทางการเมือง เครื อข่ ายราชสํานักภายใต้การนํา
ของพลเอกเปรมก็ทาํ งานอย่างเร่ งด่ วน เพือหาทางออกที เป็ นไปได้โดย
อาศัยกลไกระบบรั ฐสภา แม้จะเป็ นการกระทําที ไม่ถูกต้องตามครรลอง
แต่ก็ยงั เสี ยหายน้อยกว่าที จะหักด้ามพร้ าด้วยเข่ า โดยการยึดอํานาจ โดย
357

กดดันทุกพรรคการเมืองให้สนับสนุ นนายอภิสิทธิ;เป็ นนายกรั ฐมนตรี แต่


ก็ยงั เป็ นไปไม่ได้ดว้ ยเพราะเสี ยงส่ วนใหญ่ เป็ นพรรคพลังประชาชน แม้
ถูกยุบพรรคแล้วก็ยงั มารวมตัวกันอยูท่ ีพรรคเพือไทยทีเตรี ยมจัดตั*งไว้คอย
ล่วงหน้าแล้ว อํานาจทหารจึ งกดดันนายเนวิน ชิ ดชอบ และนายอนุ ทิน
ชาญวีรกูร (คนสนิ ทของฟ้ าชาย) สองคนที เป็ นกําลังสําคัญในฝ่ ายทักษิ ณ
ให้ ท รยศต่ อ ทัก ษิ ณ โดยนํากํา ลัง ส.ส.ออกมาสนับ สนุ น นายอภิ สิ ท ธิ;
ภาวการณ์ดงั กล่าวจึงเกิดภาพทุลกั ทุเลทางการเมืองมาก กลายเป็ นข่ าวเน่ า
ชิ* น ใหญ่ ส่ ง กลิ น เหม็ น อบอวลทัว บ้ า นทัว เมื อ งเมื อ เห็ น นายอภิ สิ ท ธิ;
(ที สือมวลชนยกย่องว่ าขาวสะอาดผุดผ่อง) ยืนกอดกับนายเนวิ น(ที สือ
ประนาฌว่าเลวบริ สุทธิ;มาโดยตลอด) เพือร่ วมรั ฐบาลกันภายใต้ข่าวลือที
พูดลับๆ กับ ส.ส. ฝ่ ายรัฐบาลทุกคนเพือให้โอนอ่อนผ่อนตามว่า
“มึงรู้ไหมว่ ามึงกําลังสู้ กบั ใคร”
ข่ า วลื อ ด้ว ยวลี ส* ัน ๆ แต่ รู้ ค วามหมายดี น* ี ได้ก ดดัน ให้ ทุ ก ฝ่ าย
จําต้องยอมให้นายอภิสิทธิ;เป็ นนายกฯ แล้วเงาของผูม้ ีอาํ นาจที สังคมไทย
ไม่อาจจะกล่าวถึงได้ ก็ทอดยาวลงมาที ค่ายทหารโดยมีแกนนําทุ กพรรค
การเมืองทีถกู กกต.ตัดสิ ทธิ; และห้ามเคลือนไหวการเมือง ไปรวมตัวกัน
เตรี ยมจัดตั*งรัฐบาลโดยไม่เกรงกลัวอํานาจ กกต.ที เข้มงวดต่ อพรรคไทย
รั ก ไทย และ พ.ต.ท.ทัก ษิ ณ มาแล้ว ในอดี ต โดยนัง ประชุ ม ร่ วมกั บ
นายทหารใหญ่ 3 นาย ผูใ้ กล้ชิดเบื*องบนคื อ พลเอกประวิช วงศ์สุวรรณ
358

อดี ต ผบ.ทบ.พลเอกอนุ พงษ์ เผ่าจิ น ดา ผบ.ทบ. (บิ™ กป๊ อก) และพลเอก


ประยุทธ จันทร์ โอชา เสนาธิ การ ซึ งสื อมวลชนได้ต* งั ฉายาให้กบั รั ฐบาล
นายอภิสิทธิ;ว่า “รัฐบาลทหาร 3 ป.” คือ ประวิช-ป๊ อก-ประยุทธ
จากวลีประวัติศาสตร์ ว่า “มึงรู้ไหม มึงกําลังสูก้ บั ใคร” แพร่ ไปทัว
แต่ ดูเหมือนว่า พ.ต.ท.ทักษิ ณจะไม่รู้ หรื อพยายามไม่อยากรู้ ว่า “กําลังสู้
กับใคร” ดังนั*นศึกช่วงชิง ส.ส.ทีพรรคถูกยุบให้ไปสนับสนุ นอภิสิทธิ; เป็ น
นายกฯ จึงคุกรุ่ นขึ*นด้วยฝ่ ายทีตอ้ งการจัดตั*งรัฐบาลใหม่หรื อเครื อข่ายราช
สํานักได้ทาํ การเสนอเงินซื*อตัว ส.ส.ออกไปเพือให้สนับสนุ นนายอภิสิทธิ;
จึงเกิดขึ*นอย่างรุ นแรงด้วยตัวเลขซื*อ ส.ส.สูงถึง 20 ล้านบาทต่อคน
เสี ยง ส.ส.ฝ่ ายใดมากกว่ากันในขณะนั*น สู้กนั ฉิ วเฉี ยดกันในแต่
ละวันไม่แน่ นอน ถ้าจะชนะแพ้กนั ก็ไม่เกิน 10 เสี ยง ในทีสุดเวลา 4.00 น.
เช้า มื ด ของวัน ที 15 ธั น วาคม 2551 ซึ งจะเป็ นการโหวตเสี ย งเลื อ ก
นายกรั ฐมนตรี กนั ในสภา ก็มีการนัดหมายให้แกนนําทุ กพรรค และทุ ก
พวกในพรรคที จ ะหนุ นอภิ สิ ท ธิ; ไปรวมกั น ที บ้ า นพลเอกประวิ ช
วงศ์สุวรรณ เพือไปรั บฟั งเสี ยงจากโทรศัพท์เปิ ดลําโพง Speaker Phone
ของสตรี ผสู้ ูงศักดิ; โดยให้ฟังพร้ อมกันทุ กคนเพือความมัน ใจว่าพระองค์
ต้องการให้อภิสิทธิ;เป็ นนายกรัฐมนตรี อย่างแท้จริ ง มิใช่ แอบอ้างกันอย่าง
เพ้อเจ้อ เพือให้ทุกคนไปดําเนิ นการโหวตในสภาในวันเดี ยวกันที สภาจะ
เปิ ดประชุมเวลา 9 โมงเช้า อย่างพร้อมเพรี ยงโดยไม่ตอ้ งสงสัย
359

พอได้เวลาตี 4 ของวันที 15 ธันวาคม ก็มีเสี ยงของสตรี ดงั กล่าวที


แกนนําพรรคทุ ก คนรู้ จ ัก และเข้าใจความหมายดี ก็ด ังขึ*น ให้สนับสนุ น
อภิสิทธิ; เป็ นนายกฯ จริ ง
จากข่ าวลับยืนยันว่าเป็ นเสี ยงของท่ านผูห้ ญิ งจรุ งจิ ตต์ ที ข ะระ
รองราชเลขาธิการในสมเด็จพระราชิ นี เป็ นผูก้ ล่าว และเวลาตี สีก็เป็ นที รู้
กันว่าเป็ นเวลาปกติทียงั ไม่นอนของบุคคลสําคัญท่านนี*
ในทีสุดเสี ยงในสภาก็อุ้มอภิสิทธิNขึน; เป็ นนายกฯ แต่ ผู้สือข่ าวสภา
กลับให้ ฉายารัฐบาลอภิสิทธิNว่า “รัฐบาลเทพประทาน”

7.12 คําประกาศสงครามประชาชนของสนธิ
ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ ของนายสนธิ และแกนนําพัน ธมิต ร
ทุ ก คนล้ว นแล้ว แต่ มิใช่ ผูจ้ งรั ก ภัก ดี และมิ ใช่ เป็ นผูม้ ีแนวคิ ด “กษัต ริ ย์
นิ ยม” แต่อย่างใด และเกื อบทั*งหมดของแกนนําพันธมิตรฯ ล้วนแล้วแต่
เป็ นอดีตผูป้ ฏิบตั ิงานของพรรคคอมมิวนิ สต์แห่ งประเทศไทยที เคยจับปื น
สูร้ บกับรัฐบาลเผด็จการทหารและศักดินาในเขตป่ าเขามาก่ อนทั*งนั*น แม้
พลตรี จาํ ลอง ศรี เมือง จะมิได้มีภูมิหลังดังเช่นคนอืนๆ แต่ พลตรี จาํ ลอง ก็
มีพฤติกรรมทีแปลกแยกทางสังคมสนับสนุ นนักบวชสันติอโศก ซึ งถือว่า
เป็ นพุทธศาสนาในนิ กายทีแปลกประหลาด และไม่อยู่ในกรอบของเถระ
360

สมาคมซึงราชสํานักเห็นว่าเป็ นอันตรายต่อความมัน คงแห่ งรัฐ และได้เคย


สัง การให้ดาํ เนิ นคดี และกําจัดให้ส*ินไปมาแล้วในอดีตแต่ไม่สาํ เร็ จ
การปรากฏตัวของขบวนการพันธมิตรนับแต่ เริ มต้นที นายสนธิ
ไม่พอใจในตัวทักษิ ณเป็ นการส่ ว นตัว เนื องจาก พ.ต.ท.ทักษิ ณ ไม่ยอม
ตอบสนองผลประโยชน์ ทีร้ องขอ แล้ว ก็ ขยายตัวออกไปโดยอุ ปโลกน์
ตนเองและพรรคพวกว่ า เป็ นผูจ้ งรั ก ภั ก ดี ที จ ะมากอบกู้ร าชบั ล ลัง ก์
เนื องจาก พ.ต.ท.ทักษิ ณ เป็ นผูไ้ ม่ จงรั กภักดี ต้องการจะโค่ นล้มระบอบ
กษัตริ ย ์ และสร้ างระบอบสาธารณรั ฐขึ*น กลุ่มพันธมิ ตรได้จงใจที จะใช้
เสื* อยื ด สี เ หลื อ งซึ ง เป็ นสี ว ัน พระราชสมภพของพระเจ้า อยู่ หัว เป็ น
สัญลักษณ์ และจงใจทีชดั เจนทีสุดคือ ติดคําว่า “เราจะสู้เพือในหลวง” ไว้
บนเสื*อสี เหลืองทุกตัวทีใช้สวมใส่
จากการที ร าชสํานักยิน ยอมให้นายสนธิ และแกนนําพันธมิต ร
ดําเนิ นการเช่นนี*ได้โดยไม่มีการดําเนิ นคดีใดๆ ทางกฎหมาย เช่ นในอดี ต
ทีผา่ นมาจึงเท่ากับเป็ นการเปิ ดเผยตัวตนของราชสํานักในการลงสู่ สนาม
การเมืองด้วยตนเอง ซึงถือได้ว่าเป็ นการแสดงตัวตนอย่างเปิ ดเผยของราช
สํานักเป็ นครั*งแรกในประวัติศาสตร์ การเมืองไทย และตลอดเวลาของการ
ประท้ว งพัน ธมิ ต รฯ ในฐานะตัว แทนนายหน้ า ของราชสํา นั ก ก็ ไ ด้
ก่อให้เกิดความเดือดร้อน และความเสี ยหายให้แก่ประเทศชาติ ประชาชน
อย่างเลวร้ายที สุด ตั*งแต่ การปิ ดถนนราชดําเนิ นสร้ างรั ฐอิสระที ยาวนาน
361

ยึดทําเนี ยบรัฐบาล ยึดสนามบิน จนก่อให้เกิ ดความเสี ยหายทางเศรษฐกิ จ


การค้าของรัฐอย่างมากและส่ งผลกระทบมาจนถึงทุกวันนี*
จากการแสดงตัวอย่างเปิ ดเผยของราชสํานักในการสนับสนุ นการ
เคลือนไหวของม็อบพันธมิตรครั*งนี*แสดงให้เห็ นถึงแนวคิ ดทางการเมือง
ของราชสํานัก ชัด เจนว่ าราชสํานัก ไม่ ย อมรั บระบอบประชาธิ ปไตยที
แท้จริ ง เพียงแต่ยอมทีจะอยูก่ บั ระบอบประชาธิปไตยทีพิกลพิการแต่ เรี ยก
ให้ไพเราะว่าระบอบประชาธิ ปไตยแบบไทยๆ หรื อนัยหนึ งก็คือระบอบ
สมบู ร ณาญาสิ ทธิ ร าชใหม่ และในการต่ อ สู้ เ พื อ พิ ทั ก ษ์ ร ะบอบ
ประชาธิปไตยทีพิกลพิการนี* ราชสํานักก็มีแนวทางและยุทธวิธีชดั เจน คื อ
สามัคคีแนวร่ วมทุกฝ่ ายเพือโค่นล้มศัตรู หลัก แล้วจัดระบบอํานาจใหม่ให้
อํานาจของตนเข้มแข็ งขึ* น แม้แนวร่ ว มนั*น ตัว ราชสํานัก อาจจะไม่ ชอบ
ขี* หน้า เช่ น อดี ต สมาชิ ก พรรคคอมมิ ว นิ สต์หรื อพวกสัน ติ อโศกก็ ต าม
เพียงเพือใช้เป็ นเครื องมือในการทําลายศัตรู ทีตนเองเชือว่าร้ายกาจกว่า ซึ ง
ก็เป็ นยุทธวิธีเดี ยวกันกับในปี 2490 ที ราชสํานักเอาจอมพล ป.เป็ นแนว
ร่ วม (ทั*งๆ ทีไม่ได้ชอบ) เพือสามัคคีกนั ทําลายนายปรี ดี พนมยงค์ ซึ งเชื อ
ว่าเป็ นศัตรู ทีร้ายกาจกว่าแล้วจึงกลับมาทําลายจอมพล ป.ในภายหลังโดย
อาศัย มื อ ของจอมพลสฤษดิ; ซึ งก็ เ ป็ นเช่ น เดี ย วกั บ กรณี เหตุ ก ารณ์
14 ตุ ลาคม 2516 ที ใช้พลังนัก ศึ ก ษาทําลายจอมพลถนอม แล้ว กลับมา
ทําลายขบวนการนักศึกษาในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ 6 ตุลาคม 2519
362

สิ งทีราชสํ านักมองไม่ เห็นเลยนันคือราชสํ านักกําลังสร้ างบาปใน


ประวัตศิ าสตร์ และจะต้ องรับผลแห่ งกรรมนั;น
ด้ว ยข้ อ เท็ จ จริ งดั ง ที ก ล่ า วมาข้ า งต้ น นี* จึ ง มี ข ้ อ น่ า สั ง เกตว่ า
ภยันตรายที จะมี ต่อราชสํานักนั*น มิ ได้มาจาก พ.ต.ท.ทักษิ ณ ตามที วิต ก
กังวลแต่ทางเดียว หากแต่มาจากนายสนธิ, แกนนําพันธมิตรและอีกหลาย
ทิศทางทีแวดล้อมกษัตริ ยแ์ ละบรมวงศานุ วงศ์อยู่ กล่าวคือแม้ราชสํานักจะ
พึงพอใจต่ อการโค่ นล้มรั ฐบาลนายสมัคร และนายสมชาย ซึ งถือว่าเป็ น
ตัวแทนของทักษิณไปแล้ว และได้นายอภิสิทธิ; เวชชาชีวะ เป็ นนายกฯ ซึง
ดูเหมื อนว่ าจะยุติ ค วามขัด แย้งทางสังคมได้แล้ว แต่ หาเป็ นเช่ น นั*น ไม่
เพราะประวัติศาสตร์ ไม่เคยถอยหลังกลับ และการพังทลายของราชวงศ์
ทั*งหลายในโลกได้พิสูจน์ต ัวเองแล้วว่ าเกิ ดจากการกระทําของตัวเองที
หวงแหนอํานาจและไม่ยอมปรั บตัว ด้วยเหตุ น* ี จึงเกิ ด “ปรากฏการสนธิ
ใหม่ ” ที ราชสํานัก ก็ควบคุ มไม่ได้นันคื อนายสนธิ แกนนําพัน ธมิตรได้
ขยายความขัดแย้ง เพิมความรุ นแรง โดยยัว ยุให้เกิดการปะทะกันระหว่าง
กลุ่ ม คนเสื* อ เหลื อ ง และกลุ่ ม คนเสื* อ แดงมากยิง ขึ* น โดยเมื อ วัน ที 31
มกราคม 2552 นายสนธิ ได้จดั ชุ มนุ มคนเสื* อเหลือง หรื อกลุ่มพันธมิตรที
จังหวัดสระบุรี และประกาศออกอากาศทางโทรทัศน์ต่อหน้าสาธารณชน
ว่าเขาจะทําสงครามประชาชนกับ พ.ต.ท.ทักษิ ณ และพรรคพวกคนเสื* อ
แดง โดยป้ ายสี ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื*อแดงคือผูท้ ีจะทําลายชาติ
363

ศาสนา พระมหากษัตริ ย ์ และราชบัลลังก์ ส่ วนพวกของตนคื อพวกที จะ


ปกป้ องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริ ย ์ และราชบัลลังก์ และหลังจากนั*น
วัน ที 14 กุ มภาพัน ธ์ 2552 ก็ เคลื อนตัว นํากลุ่ มพัน ธมิ ต รไปบุ ก จังหวัด
อุดรธานี และเตรี ยมการที จะบุ กไปทัว ประเทศ โดยเฉพาะในจังหวัด ที
ประชาชนส่ ว นมากนิ ย ม พ.ต.ท.ทักษิ ณ เช่ น เชี ย งใหม่ เชี ยงราย พะเยา
ร้อยเอ็ด ยโสธร เป็ นต้น
พฤติ กรรมอันน่ าสงสัยในเจตนาที จ ะสุ มไฟความขัดแย้งในหมู่
ประชาชนของนายสนธิ และแกนนําพันธมิตรนี* ดู เหมือนว่าราชสํานัก
และเจ้าหน้าที ฝ่ายความมัน คงจะเห็ น ด้ว ย หรื อไม่ เฉลี ย วใจก็ ย ากที จ ะ
ทราบได้ แต่ทีแน่ นอนทีสุดพฤติกรรมของนายสนธิตลอดมาก็คือ
นายสนธิกาํ ลังดึงฟ้ าตํา ทําหินแตก
“นายสนธิกาํ ลังหาศัตรู ให้สถาบันกษัตริ ยท์ ุกวัน”
เจตนาทีแท้ จริงของพันธมิตรคืออะไรกันแน่ ?

7.13 รวมศู นย์ ความขัดแย้งทีกษัตริย์

โดยวัฒนธรรมของราชสํานักการจะกล่าวถึงองค์พระมหากษัตริ ย ์
และรัชทายาท ในชีวิตประจําวันโดยมิได้มีวาระทางการงานใดๆ นั*นเป็ น
สิ งที ไม่ บงั ควร ยิงการวิ พากษ์วิจ ารณ์ แม้จะกล่ าวในทางดี ก็ค วรต้องใช้
364

ความระมัด ระวัง ส่ ว นการวิ พากษ์วิ จ ารณ์ หรื อแสดงความคิ ด เห็ น ต่ อ


พระองค์ในทางร้ายนั*น นอกจากเป็ นการกระทําผิดกฎหมายแล้ว คนไทย
แต่โบราณยังถือเป็ นบาปในความเชือทางศาสนาอีกด้วย แต่ปรากฏว่านาย
สนธิ ลิ*มทองกุล และแกนนําพันธมิตรฯ ได้นาํ พระอิสริ ยยศ และพระราช
อํานาจแห่ งองค์พระมหากษัต ริ ย ม์ ากล่ าวอ้าง เพื อสร้ างประโยชน์ ทาง
การเมืองให้แก่ตนและพรรคพวก
นายสนธิ ได้พยายามแสดงตัวว่าเป็ นผูจ้ งรั กภักดี และพร้ อมกัน
นั*นก็ให้ร้ ายต่ อพ.ต.ท.ทัก ษิ ณ และบุ คคลที ต นเกลียดชังว่าไม่ จงรั กภัก ดี
อีกทั*งยังได้กล่าวหาผูค้ นที รับใช้ใกล้ชิด เบื*องยุคบาทมายาวนานซึ งเป็ น
เสมือนข้าในวังซึ งไม่มีทางที จะคิ ดร้ ายต่ อกษัตริ ยไ์ ด้เลย เช่ น นายดิสธร
วัชโรทัย รองประธานมูลนิ ธิราชประชานุ เคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์
และนายสุ เมธ ตันติเวชกุล เลขานุ การมูลนิ ธิชยั พัฒนา นายสนธิก็กล่าวหา
ให้ร้ายอย่างเสี ยๆ หายๆ โดยเสมือนหนึ งมีเจตนาทางการเมืองแอบแฝงที
ต้ อ งการรวมศู น ย์ ค วามขั ด แย้ ง ในสั ง คมไทยทั* งหมดไว้ ที องค์
พระมหากษัตริ ย ์ โดยทําการยุยงเสมือนหนึ งพระองค์กาํ ลังมีศตั รู รอบด้าน
และศัต รู น* นั ก็ คื อประชาชนของพระองค์เอง และพวกเขาพร้ อมจะทํา
สงค รา มป ระ ชา ชน กั บ พว กข อง ทั ก ษิ ณ แ ละ ผู้ คิ ดร้ าย ต่ ออง ค์
พระมหากษัตริ ยท์ ุกคน
365

การประกาศตัวเป็ นผูจ้ งรักภักดีสูงสุ ดของนายสนธิ น* ี ได้ลามปาม


ไปถึ ง นายทหารและนายตํา รวจชั*น ผูใ้ หญ่ ห ลายท่ า น โดยกล่ า วสบ
ประมาทในการปราศรั ย บนเวที ว่ า “พวกนี; มี ย ศถาบรรดาศั ก ดิN
มีสายสะพาย มีเงิ น เดือ นกิน แต่ มีความจงรั กภั ก ดี สู้ พวกเราพันธมิตร
ไม่ได้ ........พวกเราคือทหารเสื อพระราชินีตัวจริ ง” ดังนั*นการกระทําของ
นายสนธิจึงมีลกั ษณะปลุกปันสร้างกระแสให้ผคู้ นในบ้านเมืองเกิ ดความ
ขัด แย้งกัน โดยมี ประเด็ น สําคัญ อยู่ทีองค์พระมหากษัต ริ ย ์ โดยมี ฝ่ายที
เกลี ย ด และฝ่ ายที รั ก คอยหํ*าหัน กัน ตลอดเวลาทั*งๆ ที ใ นอดี ต ไม่ เคยมี
เหตุการณ์เช่ นนี* มาก่ อน ด้วยเหตุ น* ี การดํารงอยู่ขององค์พระมหากษัตริ ย ์
และรัชทายาทจึงกลายเป็ นประเด็นทีสงั คมมีความสงสัย สนใจ และอยาก
ศึกษาค้นคว้าถึงบทบาททางการเมืองของพระมหากษัตริ ย ์ ซึ งเป็ นการก่ อ
ความลําบากในการดํารงพระองค์อยูเ่ หนื อความขัดแย้งอย่างยากยิง
หากจะได้ลาํ ดับเหตุการณ์การเคลือนไหวของนายสนธิ และแกน
นําพันธมิตร ตั*งแต่เริ มต้นจนถึงปั จจุบนั ก็จะยิง เห็นชัดถึงกลอุบายที ลึกซึ*ง
ทีเคลือนไหวจนกระทัง สมเด็จพระบรมราชินีนาถถลําพระองค์ออกมาสู่ ที
โล่งแจ้งท่ามกลางสายตาของคนทั*งโลกทีเพ่งมองด้วยความสงสัยในกรณี
เป็ นองค์ประธานเผาศพน้องโบว์เมือ 13 ตุลาคม 2551 และนับแต่ น* ันการ
อยากรู้ อยากเห็ นถึ งบทบาททางการเมื องของราชสํานักที เคยปกปิ ดอยู่
หลังฉากซึ งถือเป็ นศาสตร์ ทางการเมืองสู งสุ ดก็ถูกเปิ ดเผย และเกิ ดการ
366

เรี ยนรู้คน้ คว้ากันอย่างทัว ด้านและลึกซึ*ง จนเห็นความจริ งของระบอบการ


ปกครองในปั จ จุ บันว่า โดยเนื* อแท้แล้ว มิใช่ ประชาธิ ปไตย หากแต่ เป็ น
ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่
นายสนธิกาํ ลังนําพาปี ศาจแห่ งการเวลามาทําลายพระราชอํานาจ
ของพระองค์ แล้ ว

7.14 รัฐบาลเทพประทาน - ทักษิณจะเป็ นประธานาธิบดี


เรื องราวที ราชสํานักเกลียดทักษิ ณไม่เพียงแต่ ได้กลายเป็ นเหยือ
อัน โอชะของพัน ธมิ ต รฯ เท่ านั*น แต่ ได้กลายเป็ นซุ ปหู ฉ ลามชามใหญ่
ให้แก่พรรคประชาธิปัตย์แกนนํารัฐบาลด้วย
ผูส้ ื อข่าวรัฐสภาได้ต* งั ชือฉายาในโอกาสปี ใหม่ให้แก่ รัฐบาลนาย
อภิสิทธิ;อย่างมีนยั ยะสําคัญว่า “รั ฐบาลเทพประทาน” ซึ งตามเหตุ ผลตาม
กฎหมายหมายถึ ง นายสุ เ ทพ เทื อ กสุ บ รรณ เป็ นผูป้ ระทาน แต่ อี ก
ความหมายหนึ งซึงไม่อาจจะกล่าวในทีสาธารณะได้คือ “ราชสํานักเป็ นผู้
ประทานรัฐบาลนี*” และนอกจากนี*ยงั มีข่าวลือน่ าเชือถือในลักษณะนํ*าเน่ า
ด้วยว่า สายสัมพันธ์ของนายสุ เทพในฐานะผูจ้ ดั การรัฐบาลเทพประทานนี*
ได้ต่ อเชื อมถึ งสมเด็ จ พระราชิ นี ซึ งได้ก ลายเป็ นศูน ย์ก ลางอํานาจราช
สํานักตัวจริ งใหม่ในวันนี*แล้ว โดยมีท่านผูห้ ญิงทีรับใช้ใกล้ชิดพระองค์ที
ชือท่านผูห้ ญิงดารา แฉ่ งสมบูรณ์ มีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ*งกับนายสุ เทพ
367

เทื อกสุ บรรณ ซึ งข้อ เท็ จ จริ งเหล่ า นี* ยากที ใครจะรู้ ได้อ ย่างแท้จ ริ ง แต่
พฤติ กรรมของบุ คคลจะอธิ บายถึงข้อสมมติ ฐานเหล่านั*น ปรากฏว่าเมื อ
วันที 3 กุมภาพันธ์ 2552 นายสุ เทพได้แสดงออกอย่างถวายชีวิตเพือให้
เห็ น ว่ า ตนเป็ นผูจ้ งรั ก ภัก ดี อย่ า งยิง อี ก คนหนึ งที สํานั ก พระราชวัง จะ
ไว้วางใจให้ดูแลบ้านเมืองได้ เพือจะได้เลือนฐานะเป็ นผูใ้ กล้ชิดเบื*องยุคล
บาทเสมอเท่ากับนายสนธิ ลิ*มทองกุล โดยนายสุ เทพได้แถลงข่ าวตอบโต้
ใส่ ร้ายพ.ต.ท.ทักษิณ ทีโทรศัพท์พดู คุยกับ ส.ส.ของพรรคเพือไทยในการ
สัมมนาทีโรงแรมในเขาใหญ่ว่า “พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ โฟนอินว่ าต้ องการจะ
เป็ นประธานาธิบ ดี ” ซึ งเป็ นคํากล่ าวที ถือว่ านายสุ เทพลงทุ นอย่างมาก
เพราะนายสุ เ ทพมิ ไ ด้ก ล่ า วในฐานะส่ ว นตัว แต่ ก ล่ า วในฐานะรอง
นายกรั ฐมนตรี ทีดูแลด้านความมัน คง จึ งเป็ นข่ าวมีน* าํ หนัก ได้รับความ
สนใจของสั ง คมมาก และที สํา คัญ ที สุ ด ก็ คื อ เป็ นคํา กล่ าวเท็ จ เพราะ
พ.ต.ท.ทักษิณ มิได้กล่าวคํานั*น และต่ อมา วันพฤหัสบดี ที 5 กุมภาพันธ์
ก็ ต อบกระทู้ถามในสภาโดยยืน ยัน ว่ าตนพู ด ให้สัม ภาษณ์ จ ริ งตามนั*น
เพราะตนเชือว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการจะเป็ นประธานาธิ บดีจริ งๆ พร้ อม
ทั*งสาธยายให้เหตุ ผลประกอบ และปิ ดท้ายว่าพร้ อมจะเป็ นจําเลยในศาล
หากถูกฟ้ องคดี และวัน รุ่ งขึ* นทนายความของพ.ต.ท.ทักษิ ณ ก็ เข้าแจ้ง
ความจับนายสุ เทพจริ งๆ
368

การกระทําของนายสุ เทพ เทื อกสุ บรรณ รองนายกฯ และเป็ น


ผูจ้ ดั การใหญ่ของรัฐบาลครั*งนี* จึ งเป็ นการยืนยันว่าทุ กฝ่ ายกําลังใช้ความ
เกลี ยดชังที ราชสํานัก มีต่อพ.ต.ท.ทักษิ ณ เป็ นเครื องมือในการแสวงหา
อํานาจ โดยให้ราชสํานักพึงพอใจและสนับสนุ นการมีอาํ นาจของกลุ่มตน
ต่อไป
การดํารงอยู่ของอํานาจราชสํ านักในวันนี;จึงเป็ นการดํารงอยู่ใน
จุดทีอนั ตราย จากกลุ่มบุคคลผู้หิวกระหายอํานาจแห่ งความจงรักภักดี

7.15 บทสรุ ป จุดจบคือบทเริมต้ นแห่ งยุคสมัย


ยุทธการทํา ลายอํา นาจรั ฐ บาลทัก ษิ ณ ได้ก ลายเป็ นบาดแผลที
เจ็บปวดทีสุดของราชสํานักอย่างไม่เคยปรากฏมาก่ อนในประวัติศาสตร์
มิใช่ เกิ ดจากความไม่ ย อมพ่ ายแพ้ต่ ออํานาจที ไม่เป็ นธรรมของ พ.ต.ท.
ทักษิ ณ เท่ านั*นหากแต่ เกิ ด จากความหิ ว กระหายอํานาจของผูค้ ลัง ความ
จงรักภักดีทีผสมโรงเข้าร่ วมโรมรันอย่างมีวาระแอบแฝงอีกทางหนึ งด้วย
ประกอบกับเป็ นเวลาแห่ งยุคสมัยศตวรรษที 21 ที กระแสประชาธิ ปไตย
เป็ นกระแสหลัก ของโลก อํานาจของประชาชนที มอบให้แ ก่ พ.ต.ท.
ทักษิณซึงอดีตเป็ นเพียงกําแพงลม แต่วนั นี*มนั ได้กลายเป็ นกําแพงเหล็กที
สร้างความชอบธรรมในสายตาชาวโลกให้แก่พ.ต.ท.ทักษิณไปเสี ยแล้ว
369

ในภาวะแห่ งความเจริ ญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีก ารสื อสาร


ทีส่งผ่านข่าวสารข้อมูลไปสู่ทุกหัวระแหงได้เพียงกระพริ บตา ได้ส่งผลให้
การใช้อาํ นาจของราชสํานักไม่อาจจะปิ ดบังเป็ นความลับได้ดงั เช่ น อดี ต
อีกต่ อไป ท่ ามกลางการมีส่วนร่ วมของประชาชนที เป็ นวัฒนธรรมใหม่
ของระบอบประชาธิปไตย ซึงได้หยัง รากลงสู่ฐานรากของสังคมไทยแล้ว
และสิงทีไม่อาจก้าวล่วงได้ในการมองวิวฒั นาการอย่างเป็ นวิทยาศาสตร์
ก็คือกลุ่มบุคคลทีเป็ นแกนนํามวลชนพันธมิตรฯ และแกนนํามวลชนฝ่ าย
ต่ อ ต้ า นพัน ธมิ ต รฯ ทั*ง 2 ฝ่ ายก็ มี ล ัก ษณะร่ วมกั น คื อ ต่ า งก็ เ ป็ นนั ก
เคลือนไหวมืออาชี พ ผูม้ ีอุดมการณ์ ทีตอ้ งการให้เกิ ดประชาธิ ปไตยของ
ประชาชน มิใช่ประชาธิปไตยในกรอบอํานาจของสมบูรณาญาสิ ทธิราช
การเชิ ด ชู สถาบั น พระมหากษั ตริ ย์ อ ย่ างสุ ด โต่ ง นั บ แต่ เ ริ มเกิด
วิกฤตการณ์โค่ นล้ มรั ฐบาลทักษิณปลายปี 2548 โดยเนื;อแท้ จึงกลายเป็ น
วิกฤตของสถาบันกษัตริย์ ไม่ใช่ วกิ ฤตของทักษิณ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงเป็ นเพียงเงือนไขแห่ งความเกลียดชังใน
ช่ วงเวลาแห่ งความวิต กกังวลของการผลัดเปลีย นรั ชกาลที ใกล้จะมาถึ ง
เท่านั*น
“ระบอบทั ก ษิ ณ ” ตามคํา ประกาศของพัน ธมิ ต รและพรรค
ประชาธิ ปัตย์ จึงกลายเป็ นพลังดึงดู ดให้ ราชสํ านัก ลงมาเปิ ดตัวทางการ
370

เมือง ด้ วยยุทธวิธีข องนัก เคลือนไหวมือ อาชี พทีมีเ ป้าหมายอํานาจทาง


การเมือง ในทิศทางเฉพาะของตน
ชั ย ชนะของราชสํ านั ก กรณีก ารเกิดขึ;นของรั ฐ บาลอภิสิทธิN คือ
จุ ด เริ ม ต้ น แห่ งความพ่ า ยแพ้ ข องราชสํ า นั ก และเป็ นบทใหม่ ข อง
ประวัตศิ าสตร์
371

บทที 8
สถานการณ์ ใหม่ การเมืองไทย
ขบวนการประชาชน “นาโน”

โดยโครงสร้ างของระบอบสมบู ร ณาญาสิ ท ธิ ร าชใหม่ นี; ได้


ขัดขวางพัฒนาการทางการผลิต ท่ ามกลางกระแสการแข่ งขันเพือความ
อยู่รอดของรัฐในระบบทุนนิยมโลก และโลกกําลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจอัน
เป็ นการส่ งสั ญ ญาณการปรั บ ตั ว ครั; งใหญ่ ประกอบกั บ ไทยได้ เ กิ ด
สถานการณ์ พเิ ศษทีใกล้ เวลาของการผลัดเปลีย นแผ่ นดินยิง ก่อให้ เกิดภาวะ
วิก ฤตการเมือ งและเศรษฐกิจหนั ก ยิงขึ;น เป็ นทวีคูณ เมือ กระแสวิก ฤต
เศรษฐกิจทางสากลไหลบ่ าเข้ าสู่ ประเทศไทย บรรจบกับวิกฤตการเมืองใน
ประเทศเช่ นนี; การเผชิญหน้ าระหว่ างราชสํ านักกับขบวนการประชาชนที
มีลกั ษณะ “นาโน” จึงเป็ นสิ งทีไม่ อาจหลีกเลียงได้ แต่ จะจบอย่ างไร นัน
คือบทท้ าทายของผู้เฝ้ าสั งเกตการณ์
372

8.1 กษัตริย์บริหารรัฐ โดยไม่ ต้องรับผิดชอบต่ อรัฐ


The king can do no wrong กษัตริย์ไม่ อาจจะกระทําผิดได้
ในโลกปั จจุบนั คํากล่าวนี*ยงั เป็ นความถูกต้องอยู่ โดยเฉพาะอย่าง
ยิงในระบอบประชาธิ ปไตยอันมี พระมหากษัต ริ ย ท์ รงเป็ นประมุ ข เช่ น
ประเทศอังกฤษ สวีเดน ญีปุ่น แต่พระมหากษัตริ ยท์ รงมีฐานะเป็ นประมุข
ทีเป็ นเพียงสัญลักษณ์แห่ งรัฐ ทําหน้าทีการเจริ ญสัมพันธไมตรี ระหว่างรั ฐ
มิได้ลงมาสู่การบริ หารจัดการรัฐในส่ วนทีเกียวข้องกับชีวิตความเป็ นอยู่ที
เป็ นจริ งของประชาชน ซึงเป็ นอํานาจของรัฐบาลในโครงสร้างของระบบ
พรรคการเมื องที มาจากการเลือกตั*งของประชาชนที มีก ารผลัด เปลี ย น
รัฐบาลอยูเ่ สมอ ตามเหตุผลและเงื อนไขของสถานการณ์ ทางสังคมในแต่
ละช่ วงเวลา แต่ พระมหากษัตริ ยข์ องไทยมิได้อยู่ในฐานะเช่น นี* หากแต่
ทรงมีพระราชอํานาจเต็มเปี ยมในการบริ หารรั ฐด้วยพระองค์เองทั*งโดย
ทางตรงและทางอ้อม เช่ น บริ หารงานในรู ปแบบโครงการหลวงที มีอยู่
หลายร้อยโครงการ และโครงการในสมเด็จพระราชินี เช่ น โครงการดอย
คํา โครงการศูนย์ศิลปาชี พ รวมทั*งโครงการในเครื อราชสํานักทั*งหมดที
พระเจ้าลูกเธอ และพระเจ้าหลานเธอ และพระวรชายาทรงเป็ นผูบ้ ริ หาร
จัดการหาผลประโยชน์กนั เองทุ กพระองค์ เช่ น โครงการ to be number
one ของฟ้ าหญิ งอุ บลรั ต น์ โครงการแฟชันระดับโลกของพระองค์เจ้า
ศิ ริ วรรณวลี รวมตลอดถึ ง การเปิ ดร้ านค้าสวนจิ ต รลดา ,ร้ า นภู ฟ้าใน
373

สนามบินสุ วรรณภูมิ และทีต่างๆ อีกมากมาย ซึ งมีท* งั ที เป็ นผลประโยชน์


ส่ ว นพระองค์ และผลประโยชน์ ข องรั ฐ ด้ว ยเงิ น ลงทุ น และเงิ น เดื อ น
ผูป้ ระกอบการ ล้ว นแต่ เ ป็ นเงิ น งบประมาณที ม าจากภาษี อ ากรของ
ประชาชน รวมทั*งการบริ หารงานรัฐของราชสํานักที ทาํ ผ่านรั ฐบาล ทั*งที
สัง การโดยตรง และกํากับดูแลรัฐบาลอยูข่ า้ งหลัง ดังนั*นจึ งไม่แปลกที เรา
จะเห็นนายกรัฐมนตรี ทุกคนทีตอ้ งเทียวเข้าเฝ้ ารายงานการบริ หารงานรั ฐ
ของรัฐบาลอยูเ่ ป็ นประจํา และปั จจุบนั ได้พฒั นาเข้มแข็งถึงขั*นรัฐบาลทีมา
จากการเลือกตั*งจะต้องปฏิบัติตามแนวนโยบายเศรษฐกิ จ หลัก ของราช
สํานัก คือนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง โดยบัญญัติชดั เจนไว้ในรัฐธรรมนู ญ
ฉบับปี 2550 มาตรา 83 อยูใ่ นหมวดที 5 แนวนโยบายพื*นฐานแห่ งรั ฐ ซึ ง
เท่ ากับเป็ นการบังคับให้รัฐบาลที มาจากการเลื อกตั*งของประชาชนต้อง
เดิ น ตามแนวทางของราชสํานั ก และหากรั ฐบาลจะดื* อ โดยนําเสนอ
แนวนโยบายทีแตกต่างไปจากนี* คณะรัฐมนตรี ทุกคนก็จะมีความผิด และ
ถูกศาลรั ฐธรรมนู ญตัด สิ นถอดถอนออกจากตําแหน่ งได้ แต่ จากอํานาจ
บริ หารเต็ มเปี ยมของราชสํานักเช่ นนี* ก็ ยงั คงเต็ มเปี ยมด้ว ยหลัก การว่ า
The king can do no wrong
เมือมีอาํ นาจบริ หาร และก็ทาํ การบริ หารด้ว ย แต่ ยงั ยึด ถือหลัก
กษัตริ ยไ์ ม่ ตอ้ งรั บผิด เช่ นนี* จึ งกลายเป็ นช่ องว่างของอํานาจบริ หารที จ ะ
กระทําอย่างไรก็ได้ตามพระราชประสงค์ โดยไม่ตอ้ งรั บผิดทางกฎหมาย
374

ใดๆ รวมตลอดทั*งผูท้ ี ได้รั บ ผลกระทบจากการบริ หารอํานาจนั*น คื อ


ประชาชนทุกคน ก็ไม่อาจจะกล่าวตําหนิ หรื อวิพากษ์วิจารณ์ ได้ เพราะมี
กฎหมายอาญามาตรา 112 บัญญัติรองรั บหลักการ The king can do no
wrong ไว้ดว้ ย
อํานาจราชสํานักทีทาํ การบริ หารรัฐในโครงสร้ างประชาธิปไตย
จึงหาผูร้ ับผิดชอบใดๆ ไม่ได้หากมีความเสี ยหายเกิดขึ*น
เวรกรรมจึงตกหนักทีรัฐบาลและประชาชน
ด้วยช่องว่างแห่ งอํานาจ หรื อการใช้อาํ นาจโดยไม่ตอ้ งรับผิดชอบ
ใดๆ เช่นนี*จึงเกิดเหตุการณ์ วิปริ ตทางการเมืองในช่ วงวิกฤตการเมืองนับ
แต่ปี 2548 จนถึงปี 2552 เมือราชสํานักเกิดไม่พอใจ ตัวนายกรั ฐมนตรี
ทีชือทักษิ ณ ชิ นวัตร ขึ*นมา ก็ส่งสัญญาณโดยตรงไปที ผพู้ ิพากษา โดยมี
พระราชดํารั สกับศาลที เข้าเฝ้ าเมือ 25 เมษายน 2549 จนเกิ ดการกระทํา
นอกอํานาจของศาลปกครอง และกระบวนการยุติธรรม มีการสังให้การ
เลือกตั*งเมือ 2 เมษายน 2549 เป็ นโมฆะจนเกิดความปันป่ วนทางการเมือง
ตั*งแต่การรัฐประหารเมือ 19 กันยายน 2549 รวมตลอดถึงการเกิดม็อบเส้น
ใหญ่ออกมาขับไล่รัฐบาลนายสมัคร และรัฐบาลนายสมชายอย่างต่ อเนื อง
โดยกระทําผิด กฎหมายอย่างอุก อาจ ตั*งแต่ ยึด ถนน ยึดทําเนี ย บรั ฐบาล
จนถึ งยึ ด สนามบิ น ก็ ไ ม่ มีเ จ้า หน้ า ที บ้า นเมื อ งดํา เนิ น การใดๆ ได้ จึ ง
กลายเป็ นสิ งแปลกประหลาดในโลกการเมื องสมัย ใหม่ทีหนังสื อพิ มพ์
375

ผูจ้ ดั การเรี ยกอย่างยกย่องว่า “ปรากฏการณ์ สนธิ ” ซึ งได้ส่งผลต่ อความ


เดือดร้อนในการดํารงชีวิตของประชาชนในปั จจุบนั และในอนาคต ตราบ
เท่าทีโครงสร้างการปกครองของไทยยังเป็ นเช่ นนี* ดังนั*นการปฏิวตั ิ โค่ น
ล้มโครงสร้างการปกครองรัฐไทยเก่า เพือสถาปนาระบอบประชาธิ ปไตย
ทีแท้จริ ง จึงเป็ นสิงทีหลีกเลียงได้ยาก

8.2 แผ่ นดินนีเ; ป็ นของกษัตริย์ ประชาชนคือผู้อาศัย


เมือเนื*อแท้ของโครงสร้างการปกครองเป็ นสมบูรณาญาสิ ทธิ ราช
กลไกของรัฐต่างๆ ตั*งแต่กองทัพ ศาล ทหาร ตํารวจ ก็ตอ้ งตอบสนองต่ อ
อํานาจเบื*องบนทั*งหมด ทั*งกฎหมายที บงั คับ และวัฒนธรรมความเชื อที
ครอบงําความคิดว่ากษัตริ ย ์ คือผูม้ ีบารมีมาเกิด หากขาดพระองค์ท่านแล้ว
สังคมไทยจะล่มสลาย และสิ งสําคัญ ที สุดที บ่งชี* ถึงพระราชอํานาจของ
ราชสํานักก็คือ งบประมาณแผ่นดินทีเก็บภาษีจากประชาชนทั*งหมดนั*นก็
คือเป็ นหน้าทีของประชาชนเท่านั*นทีจะต้องจ่ายเงินภาษี, ส่ วนพระองค์จะ
ใช้เงินภาษีน* นั อย่างฟุ่ มเฟื อยอย่างไรเป็ นเรื องของพระองค์ ประชาชนไม่มี
สิ ทธิโต้แย้งแม้แต่คิดก็ติดตะรางได้ ดังนั*นการเก็บภาษีของรัฐไทยวันนี* จึง
คล้ายการเก็บส่ วยในสมัยโบราณทีกษัตริ ยเ์ ป็ นผูเ้ ก็บ โดยกษัตริ ยแ์ ละพระ
ราชวงศ์ไม่ตอ้ งเสี ยภาษีรายได้และจะนําภาษีไปใช้ได้ตามอําเภอใจ เพราะ
รัฐนี* เป็ นของพระองค์
376

หลัก ฐานทางการเมื อ งที สํ า คัญ อี ก ประการหนึ งที ยื น ยัน ถึ ง


หลักการว่ารั ฐนี* เป็ นทรั พย์สินส่ วนตัวของพระองค์ ประชาชนเป็ นเพีย ง
ลูกจ้างเสมือนทาส ซึงถือปฏิบตั ิกนั มาเป็ นเวลานานแล้วก็คือ การพิจารณา
งบประมาณแผ่น ดิ น และการติ ดตามการใช้งบประมาณของราชสํานัก
และโครงการต่างๆ ตามพระราชดําริ ทั*งที บริ หารจากราชสํานักโดยตรง
และบริ หารผ่านกระทรวงทีใช้เงินภาษีอากรของประชาชนในการบริ หาร
จัด การนั*น สมาชิ ก สภาผูแ้ ทนราษฎร และสมาชิ ก วุ ฒิ ส ภา ไม่ มีสิ ท ธิ
อภิปรายความเหมาะสมว่าถูกหรื อแพง ควรทําหรื อไม่ควรทํารวมตลอด
ทั*งไม่มีสิทธิทีจะทําการตรวจสอบได้ว่ามีการทุจริ ตในชั*นการประมูลงาน
และการจัดจ้างหรื อไม่ โครงการพระราชดําริ บางโครงการทีใช้ทรั พยากร
ของรั ฐ มี ก ําลัง คนและใช้งบประมาณต่ อปี ยิงใหญ่ ก ว่ ากระทรวงบาง
กระทรวงเสี ยอีก
ไม่ เพียงแต่ เท่ านั;น แม้ แต่ ทรัพย์ สินทั;งหลายทีประชาชนทํามาหา
ได้ จากนํา; พักนํา; แรงของตัวเองนั;น โดยปรัชญาแห่ งราชสํ านักทีผู้คนในวัง
ได้ บอกกล่ าวเล่ าขานกันนั;นถือว่ า ล้ วนแล้ วแต่ เป็ นทรัพย์ สินของพระองค์
ทั;งสิ;น เพราะแผ่ นดินนีเ; ป็ นของพระองค์ ประชาชนเป็ นเพียงผู้อยู่อาศั ย
ดั ง นั; น การปลู ก ข้ า ว และผลผลิต ทั; ง หลายที เ กดขึ;น จากการทํ ากิ น บน
แผ่ นดินนี; จึงล้ วนแล้ วแต่ เป็ นของพระองค์ ท;ังสิ;น
377

การยึดทรัพย์สินของทักษิณ 70,000 กว่าล้านบาทที หามาได้ก่อน


เข้าสู่วงการเมืองนั*น แม้มิได้เกิ ดจากการคอร์ รัปชัน ,ไม่ผิดกฎหมาย ก็ยึด
ได้เพราะเป็ นทรั พย์สินที เกิ ดขึ*นบนแผ่นดิ นของพระองค์ เมือเป็ นความ
ประสงค์ของพระองค์ก็ยอ่ มกระทําได้
ปรัชญาของราชสํ านักเป็ นปรั ชญาทีย้อนยุคและยากทีคนในยุค
ปั จจุบั นจะเข้ าใจได้ ดังนั;น เหตุก ารณ์ ทีเกิด ขึ;นในประเทศไทยทีผ่ านมา
โดยเฉพาะนับตั;งแต่ การยึดอํานาจเมือ 19 กันยายน 2549, การยึดทําเนียบ
ยึดสนามบิน, ยึดอํานาจรั ฐบาลสมัคร, ยึดอํานาจรั ฐบาลสมชาย รวมถึง
การยึดทรัพย์ สิน 70,000 กว่ าล้ านบาทของทักษิณทั;งๆ ทีไม่ มีคําพิพากษา
ใดๆ ตัด สิ นว่ าทัก ษิณกระทํ าการทุ จริ ตเลยนั; น ซึ งคนทั;งโลกเห็นว่ าเป็ น
เรื อ งผิ ด กฎหมาย ไม่ มีเ หตุ ผ ลแต่ สําหรั บ ประเทศไทยถื อ ว่ าชอบด้ ว ย
กฎหมาย และมี เ หตุ ผ ลเพราะแผ่ น ดิ น นี; เ ป็ นทรั พ ย์ สิ น ส่ วนตั ว ของ
พระองค์ ความประสงค์ ของพระองค์ จงึ ถูกต้ อง
ประชาชนเป็ นเพียงผู้อาศัยจึงไร้ สิทธิN

8.3 การเมืองปลายรัชกาลกับภาวการณ์ เปลีย นแปลง


อํานาจการเมืองรวมศูนย์อยูท่ ีไหน ผลประโยชน์ของรั ฐก็จะรวม
ศูนย์อยูท่ ีนนั รวมตลอดทั*งกําลังพลก็จะรวมศูนย์รับใช้อาํ นาจอยู่ ณ ที น* นั
ด้ว ย เพราะยศถาบรรดาศัก ดิ; อาหารการกิ น ความสมบู รณ์ พูน สุ ข เป็ น
378

เป้ าหมายของมนุ ษ ย์ ซึ งในระบอบประชาธิ ปไตย อํานาจรั ฐเป็ นเรื อ ง


สมบัติผลัดกันชม แต่ในระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชอํานาจรัฐเป็ นทรั พย์
สมบัติของกษัตริ ยท์ ี ไม่อาจจะผลัดให้ใครมาชมได้ เมือครองอํานาจแล้ว
ต้อ งครองต่ อไป ไม่ มี ว าระการดํา รงตํา แหน่ งเหมื อนการเลื อกตั*ง ใน
ระบอบประชาธิ ปไตย ยิงพระมหากษัตริ ย ข์ องไทยองค์ปัจจุ บนั มีทรั พย์
สมบัติส่วนพระองค์มากถึง 1.19 ล้านล้านบาท ซึ งเป็ นกษัตริ ยท์ ี รวยที สุด
ในโลกด้ ว ยแล้ว พระราชอํา นาจของท่ า นจึ ง ยิ ง ใหญ่ เมื อ ใกล้ก าร
ผลัดเปลียนแผ่นดิ น พระองค์ใดจะขึ*นมาครองราชย์เป็ นรั ชกาลที 10 จึ ง
เป็ นเรื องทีโลกต้องจับตามอง และสําหรั บข้าราชบริ พารทหาร ตํารวจ ที
แบ่ งเป็ นฝั ก เป็ นฝ่ ายย่ อมมี เ ดิ มพัน ทางผลประโยชน์ ผูก พัน ไปกับสาย
เจ้านายพระองค์ใดพระองค์หนึ งด้วย
ด้วยสังคมไทยมีกฎหมาย และวัฒนธรรมโบราณที ปิดกั*นการคิ ด
และการรับรู้ของประชาชนเกียวกับการสื บราชสมบัติของราชสํานักด้วย
แล้ว เรื องราวการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเจ้านายพระองค์ใดมีความเหมาะสมที
จะขึ*นครองราชย์จึงกลายเป็ นเรื องต้องห้าม แต่ ความเป็ นจริ งก็ไม่อาจจะ
ปิ ดกั*น ความคิ ด ของชาวบ้านได้ เรื องราวราชสํานัก จึ งกลายเป็ นเรื อ ง
ซุ บซิ บกัน ทั*งบ้านทั*งเมื องว่ า “รั ชกาลที 10 จะเป็ นฟ้ าชาย หรื อ สมเด็ จ
พระเทพ?” แต่วนั แล้ววันเล่า พสกนิ กรก็เฝ้ าทีจะชืนชมบารมีดว้ ยใจจดจ่อ
อย่างเงียบๆ แต่ก็ไม่มีหมายกําหนดการ ทั*งๆ ทีพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลก็ทรง
379

พระเจริ ญในพระชนมายุมากแล้ว และก็ทรงประชวรอยู่บ่อยครั*งตามที


เป็ นข่ าว แต่ ก็ย งั ไม่มีข่าวที พสกนิ กรเฝ้ ารอ ในที สุดก็ซุบซิ บกันต่ อจนมี
ข้อสรุ ปตรงกันว่าราชสํานักคงมีปัญหาไม่ลงตัวในการผลัดเปลียนรั ชกาล
อย่างแน่ นอน ทําให้สถานการณ์ ทางการเมื องในระบอบรั ฐสภา ซึ งก็ มี
ความขัด แย้งช่ ว งชิ งผลประโยชน์ก ันเป็ นปกติ อยู่แล้ว เกิ ด ความรุ น แรง
ยิงขึ* น ตามสภาพความไม่ลงตัว ของราชสํานัก นั*นด้วย เพราะผูน้ าํ ของ
พรรคการเมืองก็ตอ้ งหู ตาไว คอยเกาะติ ดข่ าวกับข้าราชบริ พารในสํานัก
พระราชวัง รวมถึงองคมนตรี ดว้ ย
ด้ ว ยเหตุ ที อํ านาจการเมื อ งที แ ท้ จริ ง รวมศู น ย์ อ ยู่ ที ร าชสํ า นั ก
ดังนั;นถ้ าใครเกาะผิดสาย หรือตกขบวนรถไฟก็หลุดอํานาจทางการเมือง
ทั น ที ดั ง นั; น เหตุ ก ารณ์ ท างการเมื อ ง ที น ายทหารใหญ่ ตํ า รวจใหญ่
ทั;งหลาย มุ่งแต่ จะฟังคําสั งจากพลเอกเปรมมากกว่ าจะปฏิบัติตามหน้ าที
ของตนตามกฎหมาย ก็เ พราะเชื อ มัน ว่ าพลเอกเปรมเป็ นผู้ใ กล้ ชิด ทั; ง
กษั ตริ ย์ และราชิ นี ซึ ง จะเป็ นผู้มีส่วนสํ าคัญ ในการขึ;นครองราชย์ ข อง
รัชกาลที 10
จากสภาพการเมื อ งปลายรั ช กาล และความไม่ ลงตัว ของราช
สํานักเช่นนี*จึงเกิดความวิตกกังวลต่ อการสื บต่ ออํานาจของราชวงศ์ ด้วย
เกรงว่าจะเกิดการแย่งชิงอํานาจกันจนเป็ นเหตุ ให้ราชวงศ์สิ*นสุ ดเพียงแค่
10 รั ชกาล ยิงมี ค าํ ทํานายโบราณของสมเด็ จ พุ ฒาจารย์ทีมีมาตั*งแต่ ต ้น
380

ราชวงศ์ โดยพยากรณ์ เป็ นปริ ศนาว่ าจะเกิ ดเหตุ ก ารณ์ สาํ คัญๆ ในแต่ ละ
รัชกาล และสิ*นสุ ดเพียง 10 รัชกาล จึงกลายเป็ นความวิตกอย่างยิง ของราช
สํานักตามคําทํานาย ดังนี*
มหากาฬ(รั ช กาลที 1) ,ภาณยัก ษ์ ( รั ช กาลที 2) ,รั ก ษ์ บัณ ฑิ ต
(รัชกาลที 3) ,สถิตย์ธรรม(รัชกาลที 4) ,จําแขนขาด(รั ชกาลที 5), ราชโจร
(รั ชกาลที 6) ,นนทุ ก ข์( รั ชกาลที 7) ,ยุค ทมิ ฬ(รั ชกาลที 8), ถิ น กาขาว
(รัชกาลที 9) ,ชาวศิวิไลย์(รัชกาลที 10)
จากคําพยากรณ์น* ีได้มีการตีความกันว่าราชวงศ์จกั รี จะมีเพียง 10
รัชกาลเท่านั*น เพราะเมือถึงยุคชาวศิวิไลย์แล้วทุ กอย่างก็เจริ ญรุ่ งเรื องไม่
ต้องมีก ษัตริ ยป์ กครองอีก ต่ อไป และที สังคมไทยมีความเชื อมากยิงขึ* น
เพราะคําทํานายนี*ได้บอกเหตุการณ์สาํ คัญๆ ในแต่ ละรั ชกาลถูกต้อง อาทิ
เช่น รัชกาลที 1 มีความยากลําบากต้องเผชิ ญสงครามกับพม่า จึ งเรี ยกว่า
เป็ นยุคมหากาฬ ,ส่ วนรัชกาลที 2 นั*นทํานายว่าจะเป็ นผูท้ ีทรงความรู้ก็เป็ น
จริ ง เพราะพระองค์ทรงเป็ นนักปราชญ์ ,ในรัชกาลที 3 ก็ทาํ นายว่าเป็ นยุค
ทีบณั ฑิตเฟื องฟู ซึงในสมัยรั ชกาลที 3 ก็มีความเจริ ญรุ่ งเรื อง มีการสร้ าง
วัดวาอาราม แต่ งสําเภาไปค้าขายต่ างประเทศ และทํานายว่ารั ชกาลที 4
สถิตธรรมก็มีส่วนจริ ง เพราะก่ อนขึ*นครองราชย์รัชกาลที 4 ก็ทรงผนวช
และเป็ นผูส้ ร้ างนิ ก ายศาสนาพุ ทธขึ* น อี ก นิ ก ายหนึ งคื อนิ ก ายธรรมยุติ ,
รัชกาลที 5 จําแขนขาด ก็หมายถึงการเสี ยดินแดนก็เป็ นจริ ง ,รัชกาลที 6 ก็
381

มีการใช้เงินหมดพระคลัง ,รัชกาลที 7 ก็ตอ้ งรับภาระ เพราะเกิดการปฏิวตั ิ


เปลียนแปลงการปกครอง และต้องสละราชสมบัติเหมือนนนทุกข์ ซึงเป็ น
ตัวละครในรามเกียรติ; ,รั ชกาลที 8 ก็ถูกลอบปลงพระชนม์สมกับเป็ นยุค
ทมิฬ ส่ วนรัชกาลที 9 ก็ตีความหมายกันมากมายว่ามีฝรังผิวขาวเข้ามาใน
ประเทศมาก บางสํานักก็ ตีความว่าเป็ นยุคแห่ งความผิดปกติวุ่ นวายผิด
ธรรมชาติ เพราะธรรมชาติอีกาต้องสี ดาํ แต่ อีกากลับกลายเป็ นสี ขาวหมด
และเมือถึงรัชกาลที 10 ก็จะกลายเป็ นยุคแห่ งความเจริ ญคือชาวศิวิไลย์ ซึ ง
วันนี* ก็เห็นแล้วว่าใกล้จะเป็ นจริ ง เพียงแต่ มีกระบวนการของราชสํานักที
จะเหนี ยวรั* งไม่ให้เกิ ดความเจริ ญขึ* นด้วยการนําเสนอแนวคิ ด เศรษฐกิ จ
พอเพี ย ง เพื อ ให้ ประชาชนทํางานแต่ พออยู่พอกิ น ไม่ เ น้น การผลิ ต ที
ก้าวหน้าทันสมัย และไม่เน้นการเก็บระบบภาษีทีกา้ วหน้าจากคนรวยเพือ
มาเฉลีย สุ ข ให้แก่ ค นจน เพราะจะกระทบผลประโยชน์ข องราชสํานัก
ดังนั*นการเหนี ยวรั*งสังคมเช่นนี*ในภาวะที เกิ ดวิกฤตเศรษฐกิ จ คนยากจน
อดอยาก จึงบ่งบอกถึงการจะเกิดปฏิวตั ิใหญ่ในประเทศไทย เพือก้าวสู่ ยุค
ชาวศิวิไลย์
ความวิ ต กกัง วลของราชสํา นั ก ได้ถูก กระพื อ โหมจากพรรค
ประชาธิปัตย์ และกลุ่มบุคคลทีเสี ยผลประโยชน์ทางการเมืองจากนโยบาย
และความนิ ยมของประชาชนที มีต่อตัว พ.ต.ท.ทักษิ ณ เพือให้ราชสํานัก
เกิ ดความตื นกลัวแล้วมาสนับสนุ นพวกของตนที จะเอาชนะทักษิณด้ว ย
382

วิ ธีก ารนอกกฎหมาย ด้ว ยเหตุ น* ี จึ ง เกิ ด การวางแผนช่ ว งชิ งอํานาจทาง


การเมืองด้วยวิธีการที นอกระบอบประชาธิ ปไตยโดยการแสดงตัวเป็ นผู้
จงรั ก ภัก ดี ต่ อราชสํานัก และใส่ ร้ ายว่ าทัก ษิ ณ คิ ด การใหญ่ จ ะสถาปนา
สาธารณรัฐ เพือขึ*นเป็ นประธานาธิบดีเอง และเพือให้เกิ ดความน่ าเชื อถือ
ก็มีผใู้ กล้ชิดพลเอกเปรม เช่น นายโสภณ สุ ภาพงศ์ และนายสนธิ ลิ*มทอง
กุล และพรรคพวกออกมาระบุรายละเอียดว่าทักษิ ณได้ร่วมปรึ กษาหารื อ
กับ อดี ต แกนนํา พรรคคอมมิ ว นิ ส ต์ แ ห่ ง ปะเทศไทย ที เ ป็ นอดี ต ผูน้ ํ า
นักศึกษาหัวรุ นแรง เช่น นายเกรี ยงกมล เลาหะไพโรจน์ และนายภูมิธรรม
เวชชยะชัย ทีประเทศฟิ นแลนด์ โดยจัดทําเป็ นเค้าโครงเรี ยกว่า “ปฏิญญา
ฟิ นแลนด์” เพือล้มราชวงศ์ แต่ ก็ถูกตอบโต้จากนายภูมิธรรมและพวกทํา
การฟ้ องร้องคดีต่อศาลในข้อหาหมินประมาท และแม้ศาลจะตัดสิ นนาย
สนธิ ลิ*มทองกุล และพวก ว่ามีความผิด แล้วแต่ กระแสข่ าวก็ยงั ไม่หยุด
ล่ า สุ ดนายสุ เ ทพ เทื อ กสุ บรรณ แม้ จ ะดํ า รงตํ า แหน่ งเป็ นถึ ง รอง
นายกรั ฐมนตรี ในรั ฐบาลนายอภิ สิทธิ; ก็ ย งั ใส่ ร้ าย พ.ต.ท.ทัก ษิ ณ อย่าง
เปิ ดเผยในการตอบกระทู้ในสภาเมื อ 5 กุ มภาพัน ธ์ 2552 ว่ า “พ.ต.ท.
ทักษิณ ต้องการจะเป็ นประธานาธิบดี”
การใส่ ร้ายป้ ายสี เพือช่ วงชิ งอํานาจการเมื องจาก พ.ต.ท.ทักษิ ณ
ได้กระทํากันอย่างเป็ นระบบโดยเครื อข่ายราชสํานัก จนในทีสุดก็เกิ ดการ
ช่ ว งชิ ง อํานาจจากรั ฐ บาลทัก ษิ ณ เป็ นผลสํา เร็ จ แต่ ก็ ก ลายเป็ นจลาจล
383

วุ่นวายทางการเมืองของไทยนับแต่ การยึดอํานาจเมือ 19 กันยายน 2549


เป็ นต้น มาจนถึ ง จลาจลการยึด สนามบิ น และสงครามประชาชนเสื* อ
เหลือง เสื* อแดงทีคุกรุ่ นขึ*นจนถึงทุกวันนี*
หลัก ฐานทางประวัติ ศ าสตร์ ที ยื น ยัน ได้ถึ ง ความขัด แย้ง ทาง
การเมืองทีเป็ นผลจากภาวะการเมืองปลายรั ชกาล โดยมีพลเอกเปรมเป็ น
ผูใ้ ช้อาํ นาจอันมิชอบนี* ก็คือการเปิ ดเผยข้อเท็จจริ งของพ.ต.ท.ทักษิ ณ ที รู้
ปั ญหาเต็มอกแต่ยากทีจะเปิ ดเผยอย่างหมดเปลือกต่อสาธารณะชนได้ก็คือ
คําให้สมั ภาษณ์ผสู้ ื อข่าวหนังสื อพิมพ์อาซาฮี ชิมบุน ทีญีปุ่น ว่า
“ อาซาฮี : คุ ณ มี ค วามเห็ น ยั ง ไงกั บ รั ฐ บาลใหม่ ของไทย
ทักษิณ : พรรคประชาธิปัตย์ได้ อํานาจจากเสี ยงส่ วนใหญ่ ด้ วย
การสนับสนุนจากศาล จากกองทัพ และคณะองคมนตรี สาเหตุทีพวกเขา
เรียกร้ องให้ ผมเลิกยุ่งกับการเมืองไทย ก็เพราะพวกเขาไม่ มันใจว่ าจะกุม
อํานาจได้ ถ้ าผมยังยุ่งเกีย วกับการเมือง ผมเชื อว่ า จริ งๆ แล้ วกองทัพและ
คณะองคมนตรีนันแหละทีต้องเลิกยุ่งกับการเมือง
อาซาฮี : คุณยังจะสู้ ต่อหรือเปล่ า
ทักษิณ : ผมกําลังจะอายุครบ 60 ปี ในเดือนกรกฎาคมปี นี; ผม
อยากจะใช้ ชีวติ อย่ างสงบ และหวังว่ า จะได้ เห็นความสมานฉั นท์ อีกครั; ง
ในหมู่ คนไทย แต่ ผ มยัง ไม่ ได้ รับ ข้ อ เสนออะไรจากรั ฐ บาล หรื อ กลุ่ ม
ต่ อต้ านทักษิณว่ า ต้ องการจะเจรจา ผมยังตายไม่ได้ ก่อนทีจะพิสูจน์ ว่าผม
384

ไม่ได้ รับความยุตธิ รรม และผมเชือว่ า กลุ่มผู้สนับสนุนผมจะสู้ กบั พวกเขา


ต่ อ แม้ ว่าผมจะตายไปแล้ วทีนี”
(คัดจากหนังสื อพิมพ์มติชนรายวัน ตีพิมพ์เมือวันที 23 มกราคม พ.ศ. 2552
ปี ที 32 ฉบับที 11276)

หลังจากนั*น พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ให้สมั ภาษณ์สดทางโทรทัศน์ DTV


เช้าวันอาทิตย์ที 25 มกราคม 2552 เวลา 10.00 น. ความสําคัญตอนหนึ งว่า
“ไม่ ว่าจะต่ อสู้ บนนรกหรื อสวรรค์ ก็จะต่ อสู้ ถ้ าไม่ คืนความเป็ น
ธรรมให้ ก็ จ ะไม่ มี วั น หยุ ด เคลื อ นไหว ซึ ง ทุ ก วั น นี; มี ค วามพยายาม
ดําเนินคดีแ ละรั งแกตนเองทุ กอย่ าง แล้ วอย่ าคิด ว่ าจะส่ งคนมาฆ่ าตนที
ต่ างประเทศ เพราะถึงตายก็ไม่ หยุดแน่ ปั ญหาทีเกิดขึ;นขณะนี; เพราะมีผู้
ระแวงว่ าตนเองไม่ จงรักภักดี…........ผมขอยืนยันว่ าตนเองจงรักภักดีมาก
ทีสุดคนหนึง อย่ ามาหาเรืองกัน สมมติฐานนีผ; ดิ ก็ควรทําสมมติฐานให้ ถูก
ความไม่ จงรักภักดีทีผมถูกกล่ าวหาก็จะได้ รับการแก้ไข ผมขอเรียกร้ องว่ า
ขอให้ ทุกฝ่ ายหันหน้ าเข้ าหากัน เริมต้ นใหม่ ทุกอย่ างต้ องเป็ นไปตามกติกา
ในชีวติ ผมเองได้ รับพระราชทานอะไรมามากมาย ผมมีความกตัญTู หวัง
ว่ าสั กวันหนึงเมือ ใช้ กรรมทีเกิดขึน; ในชาติทีแล้ วหมด ต่ อไปก็คงจะโชคดี
ได้ รับกรรมดีกลับมารับใช้ แก้ ปัญหาให้ พีน้องประชาชนถ้ าพรรคพวกได้
เป็ นรัฐบาล”
385

8.4 ยุบพรรคตัดสิ ทธิN วิกฤตสั งคม - ระบบพิกลพิการ


เมือราชสํานักเกิดความวิตกกังวลต่อการสิ*นสุ ดราชวงศ์เป็ นอย่าง
มาก เครื อข่ายราชสํานักที ผนึ กกําลังกันอย่างเป็ นระบบโดยพลเอกเปรม
ในฐานะประธานเครื อข่าย ก็ทาํ หน้าทีทีน่าชืนชมในสายตาของราชสํานัก
แต่ แท้จ ริ งกลับเป็ นอัน ตรายต่ อราชสํานัก อย่างยิง โดยพลเอกเปรมได้
บัญชาการอยูห่ ลังฉาก โดยใช้ท* งั องค์กรทหาร และองค์กรศาล ในการยึด
อํานาจทําลายองค์กรพรรคการเมืองอย่างตัดรากถอนโคน ด้วยการทําลาย
สายตระกูลของนักการเมืองทีเป็ นหัวขบวนของแต่ละพรรคการเมือง โดย
ข้ออ้างว่ าเป็ นผูม้ ี ส่วนร่ ว มในการทุ จริ ตเลือกตั*งในฐานะเป็ นกรรมการ
พรรคจึ งถูก ตัด สิ ทธิ; 5 ปี รวมนักการเมืองระดับหัว กะทิ ประมาณเกื อบ
300 คน ทีถกู กีดกันออกจากวงการเมือง ซึงมีผลทําให้องค์กรพรรคอยู่ใน
สภาพล้มลุกคลุกคลานโดยไม่อาจจะเป็ นรากฐานคํ*าจุนระบบรัฐสภาได้
ดัง นั*น โดยผลแห่ ง การยึ ด อํา นาจของทหาร และผลแห่ ง คํา
พิพากษายุบพรรค ตัดสิ ทธิ;กรรมการบริ หารพรรค จึ งทําให้ระบบพรรค
การเมืองอ่อนแอทันตาเห็น อีกทั*งได้สร้างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ที เน้น
ระบบตรวจสอบ ควบคุ ม อํานาจของรั ฐบาลและส.ส.โดยองค์กรอิสระ
และศาลตามแนวคิ ดอํามาตยาธิ ปไตยจึ งทําให้รัฐสภาของไทยกลายเป็ น
สภาของเด็กขี*ฟ้อง จนรั ฐบาลและฝ่ ายค้านไม่อาจจะทําหน้าที ตามกลไก
ของระบอบประชาธิปไตยเพือรักษาประโยชน์ของประชาชนได้
386

การเมืองของไทย จึงกลายเป็ นการเมืองค้ าความ ส.ส.ก็กลายเป็ น


ทนายความตีนโรงตีนศาล
จากสถานการณ์ เ ช่ น นี* ก็ แ น่ น อนว่ าสถาบัน ทางการเมื องของ
ประชาชนอันได้แก่พรรคการเมือง และรัฐสภา จึงอ่อนแอลงอย่างเห็ นได้
ชัด และสถาบันทีจะเข้มแข็งขึ*นก็เหลือเพียงสถาบันพระมหากษัตริ ย ์ และ
สถาบันทหารเท่านั*น
การเมืองไทยวันนี*ก็คือการทําลายสถาบันพรรคการเมืองเพือเปิ ด
โอกาสให้กลุ่มข้าราชการเข้มแข็งขึ*น เป็ นแกนหลักในการบริ หารรั ฐ ซึ ง
เป็ นการเปิ ดโปงตัวเองของราชสํานักว่าไม่พึงพอใจ และไม่ไว้วางใจพวก
นักการเมืองที มาจากการเลือกตั*ง จึ งไม่ตอ้ งการให้อาํ นาจอยู่กบั สถาบัน
พรรคการเมืองและสถาบันรั ฐสภาในการบริ หารประเทศ ซึ งนับว่าเป็ น
อัน ตรายอย่างยิงต่ อประเทศชาติ แ ละประชาชน เพราะในภาวะวิ ก ฤต
เศรษฐกิจโลกทีรุนแรงเช่นนี* แทนทีขา้ ราชการประจําและข้าราชการเมือง
ควรจะประสานสามัคคี กนั เพือแก้ปัญหาของประเทศ แต่ กลับกลายต้อง
มาทะเลาะกันเพือช่วงชิงอํานาจโดยไม่มีกติกากลาง
จากการบงการของพลเอกเปรมเช่ น นี* ได้ส่งผลกระทบที เป็ น
อันตรายอย่างยิงต่ อราชสํานัก อย่างไม่ เคยปรากฏมาก่ อน และยากที จ ะ
สมานแผลใจอันเกิดจากการทําลายสายตระกูลของแกนนําพรรคการเมือง
ซึงเป็ นชนชั*นนําฝ่ ายพลเรื อนที มีบารมีในลักษณะเกาะติ ดกับประชาชน
387

ทัว ประเทศอย่างเป็ นรู ปธรรม และหากจะเปรี ยบเที ยบประสิ ทธิภาพของ


การแก้ปัญหาทุกข์ร้อนของประชาชนระหว่างนักการเมืองกับข้าราชการ
ประจําในวันนี* ก็จะเห็นว่านักการเมืองมีประสิ ทธิ ภาพสู งกว่าข้าราชการ
ประจําเพราะองค์กรข้าราชการนั*นจะงุ่ มง่ าม เนื องจากเป้ าหมายหลักถูก
ฝึ กให้บริ ก ารราชวงศ์ มิ ได้มีเป้ าหมายอยู่ทีประชาชน ซึ งแตกต่ างจาก
พรรคการเมืองทีมีแรงจูงใจ คือความนิ ยมของประชาชน
ดังนั*นเมือเกิดภาวะวิกฤตเศรษฐกิจทีรุนแรงเช่นนี* ก็ยากที องค์กร
ราชการทีเป็ นองค์กรหลักจะตั*งรั บได้ และเมือเกิ ดความหิ วโหยก็จะเกิ ด
การลุก ฮื อของประชาชน อัน จะส่ งผลกระทบต่ อระบบโครงสร้ างการ
ปกครองของระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่น* ีอย่างแน่ นอน

8.5 สงครามเสื;อเหลือง-เสื;อแดง
ความขัดแย้งในหมู่ประชาชนที ใช้สีสัญลักษณ์ เป็ นฝ่ ายสี เหลือง
และสี แดง เป็ นความขัด แย้งเชิ งอุ ดมการณ์ ทางการเมื องที เชื อมโยงถึ ง
สถาบันกษัตริ ย ์ และมีความโกรธแค้นกันระหว่างกลุ่มเสื* อเหลืองเสื* อแดง
ถึงขนาดทําร้ ายกัน ถึงชี วิต ซึ งไม่ เคยเกิ ดขึ* นมาก่ อนเลยในประเทศไทย
เป็ นความขัดแย้งทีมีรากความคิดลึกถึงการเกลียดชังต่ อเจ้าฟ้ าเจ้าแผ่นดิ น
บางพระองค์ทียากจะแก้ไข และมีลกั ษณะกว้าง แม้เหตุ การณ์ 6 ตุ ลาคม
2519 ก็ไม่อาจจะเทียบความรุ นแรงได้
388

เริ มต้นจากการปลุกระดมผูค้ นโดยใช้สีเหลืองอันเป็ นสี วนั พระ


ราชสมภพของพระเจ้าอยูห่ วั เป็ นสัญลักษณ์ โดยใส่ ร้าย พ.ต.ท.ทักษิ ณ ว่า
เป็ นผูไ้ ม่จงรักภักดีและอยากจะเป็ นประธานาธิ บดี จนเกิ ดการรั ฐประหาร
ล้มอํานาจทักษิณสมใจพรรคประชาธิปัตย์ทีไม่สามารถจะต่อสูใ้ นเวที การ
เลือกตั*งได้ แต่ดว้ ยเพราะระบบข่าวสารทีกา้ วหน้า และประชาชนมีความ
เข้าใจต่อระบบการเมืองดีแล้ว ประกอบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็ นนายกฯ คน
แรกที มาตามระบอบประชาธิ ป ไตยอย่ างชัด เจน และมี ผ ลงานเป็ นที
ประทับใจของประชาชน จึงสร้างความไม่พอใจให้แก่ ประชาชนที ได้รับ
ผลประโยชน์จากนโยบายประชานิ ยมของทักษิ ณ ประชาชนเห็ นว่าเป็ น
การกระทําทีไม่เป็ นธรรมต่อคนที ทาํ ดี แก่ บา้ นเมือง จึ งสงสารและผูกพัน
ในตัว พ.ต.ท.ทักษิณ แม้ฝ่ายทหารจะทําการโฆษณาชวนเชื อฝ่ ายเดี ยว ใส่
ร้ายทักษิณต่างๆ นาๆ ตลอด 1 ปี เต็ม หลังการยึดอํานาจก็ไม่อาจจะทําลาย
ศรัทธาทีมีต่อตัวทักษิณได้ ในทีสุดความสงสารและความไม่เป็ นธรรมที
กระทําต่อทักษิณก็พฒั นากลายเป็ นกลุ่มบุคคลทีผกู พันกันเพือช่ วยทักษิ ณ
และพัฒนาไปเป็ นองค์กรมวลชนที มีอุดมการณ์ ประชาธิ ปไตยที แท้จริ ง
โดยใช้สีแดงเป็ นสัญลักษณ์ และมีการชุ มนุ มเคลือนไหวต่ อต้านกลุ่มคน
เสื* อเหลื องที ใช้ชือว่ า กลุ่ มพัน ธมิต รฯ (พธม.) ต่ อมากลุ่ มคนเสื* อแดงก็
พัฒนาไปเป็ นองค์ก รใช้ชือว่า แนวร่ ว มประชาธิ ปไตยต่ อต้านเผด็ จการ
แห่ ง ชาติ (นปช.) และยิงเมื อเสื* อเหลื อ งแสดงบทบาทที ไ ม่ เกรงกลัว
389

กฎหมายโดยทําการอุ ก อาจยึด ทําเนี ย บรั ฐ บาล ยึด สถานี โ ทรทัศน์ ยึ ด


สนามบิน รวมทั*งติดอาวุธจัดตั*งเป็ นกองทัพประชาชนโดยที เจ้าหน้าที ไม่
กล้าดําเนิ นการใดๆ ในนามม็อบ“เส้นใหญ่” ก็ยงิ สร้ างความไม่พอใจและ
โกรธแค้นแก่ ฝ่ายคนเสื* อแดงมากยิงขึ*น จึ งเกิ ด การรวมตัว และขยายตัว
ครอบครองพื*นที โดยสร้ างเขตพื*นที อิทธิ พลของตนขึ* นอย่างมีลกั ษณะ
จัดตั*งและลักษณะขบวนการ รวมตลอดทั*งมีกระบอกเสี ยงเป็ นวิทยุชุมชน
และสถานี โทรทัศน์เป็ นของแต่ละฝ่ าย โดยกีดขวางไม่ให้ผนู้ าํ มวลชนของ
ฝ่ ายตรงข้ามเดินทางเข้ามาในพื*นทีจงั หวัดทีเป็ นอิทธิพลของตน ถึงขั*นยก
พวกไปทํา ร้ า ยกัน สภาวการณ์ เ ช่ น นี* คื อ หน่ อ อ่ อ นๆ ของสงคราม
ประชาชน
ความขั ด แย้ ง ทางความคิด การเมือ งของคนไทยที รุนแรง และ
กว้ างขวางเช่ น นี;เ ป็ นสิ ง ทีไ ม่ เ คยปรากฏมาก่ อ น และได้ กลายเป็ นแนว
ทางการปฏิ วั ติ สั งคมแนวใหม่ ที มี ค วามแตกต่ างจากการปฏิ วั ติ
เปลีย นแปลงการปกครองเมือ 24 มิถุนายน 2475

8.6 เสื;อเหลืองล่อเป้า - เสื;อแดงยิงเป้า


หากจะได้มองการเคลือนตัวของกลุ่มคนเสื* อเหลืองและเสื* อแดง
อย่างวิเคราะห์เจาะลึก โดยมิได้มองติ ดอยู่ทีกลุ่มเกลียดทักษิ ณ และกลุ่ม
รักทักษิ ณแล้ว ก็จะเห็ นว่าการเคลือนไหวของคนทั*งสองกลุ่มมีลกั ษณะ
390

เป็ นเอกภาพกัน และเสมือนหนึ งประสานกัน โดยสภาวะวิ สัย อย่างน่ า


อัศ จรรย์ ซึ ง สอดคล้อ งกับ ทฤษฎี แ ห่ ง องค์ เ อกภาพของความขัด แย้ง
กล่าวคือกลุ่มเสื*อเหลืองจะกล่าวอ้างถึงสถาบันพระมหากษัตริ ยต์ ลอดเวลา
ว่าเป็ นผูส้ นับสนุ นอยู่เบื*องหลัง รวมตลอดทั*งโชว์หลัก ฐาน วัต ถุพยาน
ต่างๆ เพือให้สงั คมเชือตามคํากล่าวอ้างนั*น ในขณะที สาํ นักพระราชวังก็
ปล่อยให้กล่าวอ้างตลอดระยะเวลาของการชุ มนุ มที ยาวนาน ซึงหากมอง
ด้วยสายตาธรรมดาก็น่าเชื อว่ากลุ่มพันธมิตรฯ มีความจงรักภักดี จริ ง แต่
หากดูอย่างวิเคราะห์เจาะลึกแล้วจะเห็ นว่าเป็ นการ “ดึงฟ้ าตํา อย่ างแยบ
ยล” ซึ งโดยผลของการดึ งฟ้ าตําย่อมจะก่ อให้เกิ ด ความเกลี ยดชัง และ
โกรธแค้นในฟ้ าของฝ่ ายเสื* อแดงมากยิงขึ*น จึ งมีลกั ษณะเสมือนกลุ่มเสื* อ
เหลืองมีความจงใจที พยายามดึ งฟ้ าให้ลงมาตํา เพือให้ฝ่ายเสื* อแดงเป็ นผู้
ทําลายฟ้ าเข้าลักษณะว่า “เสื; อเหลืองล่ อเป้ า เสื; อแดงยิงเป้า” ตลอดเวลา
และก็ปรากฏว่าแม้จะขับไล่รัฐบาลทักษิณ และตัวแทนออกจากอํานาจไป
ในลักษณะถอนรากถอนโคนจนพวกเสื*อเหลืองสามารถจัดตั*งรั ฐบาลโดย
มีนายอภิ สิทธิ;เป็ นนายกฯ ได้แล้ว และพวกพัน ธมิ ตรฯ อีก หลายคนก็ มี
ตําแหน่ งได้เป็ นรัฐมนตรี และทีปรึ กษารัฐมนตรี แล้ว แต่เสื* อเหลืองก็ยงั ไม่
ยอมยุติความขัดแย้ง และยังคงใช้สถาบันกษัตริ ยม์ าแอบอ้างเพือขยายตัว
หาสมาชิกในขอบเขตทัว ประเทศ มีลกั ษณะเป็ นขบวนการทางการเมือง
อย่างชัดเจนแล้ว
391

เมือวัน ที 31 มกราคม 2552 ขณะกลุ่มคนเสื* อแดงชุ มนุ มใหญ่ ที


ท้องสนามหลวง กลุ่มคนเสื*อเหลืองพันธมิตรฯ ก็ชุมนุ มใหญ่ กนั ที สระบุ รี
โดยนายสนธิ ลิ*มทองกุ ล ได้ประกาศบนเวที ชัด เจนว่าได้เกิ ดสงคราม
ประชาชนแล้ว โดยกล่าวว่า
“บั ด นี;ไ ด้ เ กิด สงครามประชาชนแล้ ว ฝ่ ายหนึ ง คื อ พวกเราที
ปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริ ย์ และราชบั ลลังก์ อีก ฝ่ ายหนึง คือ
ทักษิณ และพวกเสื; อแดงทีมุ่งทําลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริ ย์ และ
ราชบัลลังก์
การขยายตัวของเสื*อเหลืองออกต่ างจังหวัด โดยอ้างการปกป้ อง
สถาบันฯ ด้านหนึ งจึงเป็ นการขยายการจัดตั*งของกองกําลังเสื* อเหลือง แต่
อีกด้านหนึ งกลับกลายเป็ นแรงกระตุ น้ ให้กลุ่ มคนเสื* อแดงไม่พอใจและ
ขยายตัว มากขึ* น เพื อ เตรี ย มการจัด ตั*งกองกําลังเช่ น กัน ซึ ง ภาวการณ์
เผชิ ญ หน้ า ของมวลชนเสื* อเหลื อ ง และเสื* อแดง โดยมี ส ถาบั น
พระมหากษัตริ ยเ์ ป็ นเป้ าล่อของการทําลายล้างกันเช่นนี* จึงเป็ นผลลัพธ์ทีผู้
อยูเ่ บื*องหลัง “ม็อบเส้นใหญ่” คาดไม่ถึง
สงครามนี;ผู้ที จะต้ องขาดทุ นอย่ างย่ อ ยยับทั;งขึ;นทั; งล่ องคือราช
สํ านัก
392

8.7 กระแสวิกฤตโลก ผนวก กระแสวิกฤตภายใน


ตามทฤษฎี ไร้ ร ะเบี ย บ(Kaos Theory) การเปลี ย นแปลงทาง
ธรรมชาติ และการเปลียนแปลงทางสังคมมีลกั ษณะคล้ายกัน คือสภาวะ
ความไร้ระเบียบ ทีเกิดขึ*นอย่างรุ นแรงจะนําไปสู่การปรับตัวครั*งใหญ่ของ
ระบบธรรมชาติ ใ หม่ หรื อเกิ ด การปรั บ ตัว ครั* งใหญ่ ข องระบอบการ
ปกครองของมนุ ษย์แล้วแต่กรณี ปั ญหาความอดอยากของผูค้ นคื อสภาวะ
ความปันป่ วน และสภาวะความไร้ระเบียบ
สภาวะความไร้ระเบียบทางสังคมในประเทศรั สเซี ยขณะที อยู่ใน
การปกครองของระบอบพระเจ้าชาร์ ก่อนทีจะถูกโค่นล้ม เมือปี ค.ศ.1917
(พ.ศ.2460) ก็ เ ป็ นตั ว อย่ า งที ดี ข องการเปลี ย นแปลงทางสั ง คมตาม
คําอธิบายของทฤษฎีไร้ระเบียบ กล่าวคื อเมือเกิ ดภาวะความอดอยากของ
ประชาชน ฝูงชนก็รวมตัวกัน เดิ นขบวนไปหาพระเจ้าชาร์ ทีพระราชวัง
เครมริ น เพือขอขนมปั งแต่ก็เกิดความเข้าใจผิดจึ งถูกทหารม้าคอสแซคที
เกรี ยงไกรของพระเจ้าชาร์ เข่นฆ่า จึ งกลายเป็ นชนวนการโค่ นล้มระบอบ
กษัตริ ยใ์ นรั สเซี ย หรื อสภาวะความอดอยากที สะท้อนความไร้ ระเบี ย บ
อย่ า งรุ นแรงของระบอบซู สี ไ ทเฮา ก่ อ นที ร าชวงศ์ชิ ง จะถู ก โค่ น ล้ม
เปลี ย นแปลงไปสู่ ร ะบอบสาธารณะรั ฐเมื อปี พ.ศ.2454 ก็ ล้ว นแต่ เป็ น
เหตุการณ์ของมนุ ษย์ทีอธิ บายด้วยทฤษฎี ความไร้ ระเบี ยบแห่ งธรรมชาติ
ทั*งสิ*น
393

สังคมไทยก็ไม่อาจจะหนี พน้ กฎเกณฑ์ทางธรรมชาติน* ีได้ หากจะ


ได้ศึกษาเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ของไทยก่อนปี 2475 ก็จะเห็นว่าเกิด
ระลอกใหญ่ทางการตืนตัวทางการเมือง 3 ระลอก เริ มจากปี รศ.103 (พ.ศ.
2427) ในสมัยรัชกาลที 5 กรณี พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ อัครราชทูตประจํา
ยุโรปได้ทาํ หนังสื อกราบบังคมทูลพร้ อมทั*งล่ารายชื อเจ้านายชั*น ผูใ้ หญ่
สนับสนุ น เพื อเรี ย กร้ องให้รั ชกาลที 5 เปลี ย นแปลงการปกครองจาก
ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชไปสู่ ระบอบกษัตริ ยภ์ ายใต้รัฐธรรมนู ญ แต่
รัชกาลที 5 ก็ไม่รับฟัง และลงโทษโดยเรี ยกตัวผูล้ งนามท้ายหนังสื อกลับ
ประเทศหมด โดยเฉพาะพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ ต้องออกจากราชการ และ
ลี*ภยั ไปบวชเป็ นพระภิกษุอยูท่ ีประเทศศรี ลงั กา ระลอก 2 ก็เกิดกบฏ รศ.
130 (พ.ศ.2454) สมัยรั ชกาลที 6 ซึ งพัฒนาการเคลือนไหวสู่ การใช้กาํ ลัง
เพือล้มอํานาจกษัตริ ยท์ ีเรี ยกว่ากบฏหมอเหล็ง คือ ร.อ.ขุนทวยหารพิทกั ษ์
(เหล็ง ศรี จัน ทร์ ) หัว หน้า คณะ แต่ ไม่ สําเร็ จ หลังจากนั*น ได้เกิ ด คลื น
ระลอกที 3 ขึ* นอี ก โดยได้ เ กิ ด วิ ก ฤตเศรษฐกิ จ โลกอัน เป็ นผลจาก
สงครามโลกครั* งที 1 และขยายตัวเข้ามาในประเทศไทย ซึ งก็ เกิ ด ภาวะ
ความปั นป่ วนทางการเมืองอยู่เป็ นทุ นเดิ มแล้วอันเป็ นผลจากชนชั*นนํา
ส่ ว นหนึ งไม่พึงพอใจต่ อระบอบสมบูร ณาญาสิ ทธิ ร าชที ไม่สามารถจะ


สุ พจน์ แจ้งเร็ ว 2524 “พระองค์เจ้าปฤษฎางค์” อักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
,อ้างใน “สายธารประชาธิปไตย”,ผศ.ดร.สุ ธาชัย ยิม* ประเสริ ฐ หน้า 14-15
394

แก้ปัญ หาทางสังคมได้ในขณะนั*น โดยเฉพาะอย่างยิงเป็ นที รู้กนั ทัว ไป


หมดว่ า ในขณะที ประชาชนกําลังทุ ก ข์ย าก แต่ รัชกาลที 6 กลับไม่ สน
พระทัย และทรงพระเกษมสําราญกับข้าราชบริ พาร ใช้จ่ายงบประมาณ
อย่างฟุ่ มเฟื อย ทุ่ มเงิ นจํานวนมากสร้ างวังให้เจ้าพระยารามราคพ พระ
สหายสนิ ทที อ*ือฉาวทางเพศเป็ นบ้านพักอาศัย ส่ ว นตัว ซึ งก็ คือทําเนี ย บ
ไทยคู่ฟ้าที ทาํ การของรั ฐบาลในขณะนี* จนเงิ น หมดพระคลัง เมื อมาถึ ง
รั ชกาลที 7 พระองค์ตอ้ งรั บภาระภาวะวิ กฤตเศรษฐกิ จทั*งจากภายนอก
และภายในทีผนวกเป็ นกระแสเดียวกันถึงขนาดต้องปลดข้าราชการออก
ครึ งหนึ งโดยไม่ จ่ ายเงิ นชดเชยใดๆ ภาวะวิ ก ฤตขนาดนั*น ส่ งผลให้เกิ ด
ภาวะธนาคารหลายแห่ งล้มละลาย แม้แต่ธนาคารสยามกัมมาจล (ธนาคาร
ไทยพาณิ ชย์ปัจจุบนั ) ของราชสํานักเองก็ทรุ ดหนัก ประคองตัวไม่อยู่จน
กลายเป็ นเชื* อมูลให้เกิ ด การปฏิ ว ตั ิ เปลี ย นแปลงการปกครองสําเร็ จเมื อ
24 มิถุนายน 2475
สภาพการณ์ ข องประเทศไทยในปั จ จุ บัน ที เห็ น ชัด ก็ เกิ ด ความ
ปั น ป่ วนทางการเมื องและทางเศรษฐกิ จ ต่ อเนื องกัน มานานกว่ า 30 ปี
นับตั*งแต่เกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เหตุการณ์ลอ้ มปราบฆ่านักศึกษา
6 ตุ ลาคม 2519 เหตุ ก ารณ์ พ ฤษภาทมิ ฬ ปี 2535 ประชาชนลุ ก ฮื อ ขึ* น
เผชิญหน้ากับรัฐบาลทหาร พล.อ.สุ จินดา คราประยูร และล่าสุ ดกรณี การ
รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ซึงกลายเป็ นไฟลามทุ่ งเผาไหม้รอบๆ ราช
395

สํานัก แต่ เหตุ การณ์ มิได้หยุด อยู่เพี ย งเท่ านั*นหากแต่ ข ยายตัว เป็ นภาวะ
อนาธิปไตยทีไม่อาจจะควบคุ มได้โดยการหนุ นหลังของราชสํานักเพียง
เพือจะโค่นล้มรัฐบาลทีมีสายสัมพันธ์กบั ทักษิ ณเท่ านั*น เช่ น กรณี การยึด
ทําเนี ย บรั ฐบาลการยึ ด สนามบิ น และปะทะกัน กรณี ปิ ดล้อ มสภาเมื อ
7 ตุ ลาคม 2551 จากวิ ก ฤตการณ์ ทางการเมื องในช่ ว งปี 2548-2552 ได้
ส่ งผลให้เกิดภาวะความไร้ระเบียบทางสังคมอย่างเด่ นชัดทีไม่เคยปรากฏ
มาก่อนอันเป็ นเหตุทีก่อให้เกิ ดวิกฤตเศรษฐกิ จในประเทศ และผนวกกับ
กระแสวิกฤตเศรษฐกิจโลกทีเริ มก่อตัวที ประเทศสหรั ฐอเมริ กา เมือต้นปี
2550 และเริ มเป็ นกระแสรุ นแรงไหลเข้าสู่ประเทศไทย
ในสภาพการณ์ ทีประชาชนแตกแยกเป็ นสองฝั กสองฝ่ าย แบ่ งสี
เป็ นเสื;อเหลืองเสื;อแดงคอยหํา; หันกันท่ ามกลางภาวะวิกฤตเช่ นนี; เป็ นผล
ให้ ประชาชนต้ องยากจนลง เกิดภาวะความอดอยาก ในขณะทีราชสํ านักก็
ป่ าวประกาศทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง เรี ย กร้ องให้ ป ระชาชนประหยัด
อดออม แต่ ราชสํ านั กไม่ เคยที จะประหยัด อดออมให้ เป็ นแบบอย่ างแก่
ประชาชนแม้ แต่ ครั;งเดียว
สถานการณ์ ข องไทยในขณะนี* จึ งเป็ นภาวะความไร้ ร ะเบี ย บที
รุ นแรงที สุ ด ที สั ง คมไทยเคยมี ม า และในอดี ต ได้ เ คยส่ ง ผลต่ อ การ
เปลียนแปลงครั*งใหญ่ เมือปี 2475 มาแล้ว ซึ งเชื อแน่ ได้ว่าไม่เกิ นปี พ.ศ.
2555 จะเกิดการเปลียนแปลงทางการเมืองครั*งสําคัญอย่างแน่ นอน หรื อ
396

อาจจะปะทุ จากความขัดแย้งในราชสํานักเมื อพระเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จ สู่


สวรรคาลัย หรื อเหตุการณ์ อนั นอกเหนื อความคาดหมายที จะเกิ ดขึ*นจาก
ความเปราะบางของสังคมทีเป็ นอยูข่ ณะนี*

8.8 เหลือง-แดง ต่ างต้องการประชาธิปไตยทีแท้ จริง


ในสภาวการณ์แห่ งวิกฤตเศรษฐกิจทีปิดล้อมประเทศได้ส่งผลให้
ประชาชนตกงาน เกิดภาวะความอดอยากเช่นทีเป็ นอยูใ่ นปั จจุบนั และจะ
หนักหน่ วงยิง ขึ*น ในขณะเดียวกันไฟความขัดแย้งทางชนชาติทีลุกไหม้อยู่
ใน 4 จังหวัดภาคใต้ก็รุนแรงและยากที จะสงบ ก็กาํ ลังดึ งดูดงบประมาณ
สร้ างความเสี ยหายให้แก่ รัฐไทยเป็ นอย่างมาก โดยไม่มีใครจะแก้ไขได้
เพราะอํานาจการแก้ปัญหาทั*งหมดทีเป็ นจริ ง รวมศูนย์อยู่ทีราชสํานัก แต่
ราชสํานักก็ไม่ดาํ เนิ นการใดๆ เพือแก้ปัญหาของประเทศชาติ มัวแต่ วิตก
กังวลต่อการดํารงอยู่ในอํานาจของตน ซึ งเกิ ดความขัดแย้งและไม่ลงตัว
ในการผลัดเปลียนรัชกาล จึงส่ งผลให้กลไกของระบอบประชาธิปไตยเน่ า
เฟะแก้ปัญหาไม่ได้ ในขณะเดี ยวกันประชาชนก็ไม่อาจจะพูดความจริ ง
ของต้น เหตุ แห่ งความวุ่น วายในโครงสร้ างอํานาจการเมื องได้ ด้วยถูก
ครอบงําทางวัฒนธรรมและบทบัญญัติแห่ งกฎหมาย ทําให้กลุ่มคนทั*งเสื* อ
เหลืองเสื* อแดงต่างงุนงงและโจมตี ซึ งกันและกันโดยเบี ยงเบนจากปั ญหา
หลัก คื อ “ระบอบสมบู ร ณาญาสิ ท ธิ ร าชใหม่ ” กลายมาเป็ นปั ญ หา
397

“ทัก ษิ ณ ” โดยมองข้ามราชสํานั ก ซึ งเป็ นศูน ย์ร วมของปั ญ หาที ทาํ ให้
ประชาชนต้องทุกข์ยาก และเป็ นผูอ้ ยูเ่ บื*องหลังความวุ่นวายทางการเมือง
มาโดยตลอด
ตามทฤษฎี ก ารเมือ งแล้ ว ปั ญหาความขั ดแย้ งของกลุ่มคนเสื; อ
เหลืองและเสื;อแดงจึงเป็ นเพียงปั ญหาทางปรากฏการณ์ มิใช่ เนื;อแท้ ของ
ปั ญหา
เป็ นกะพี*มิใช่แก่น
ปั ญหาทีเป็ นแก่ นในสั งคมนีคอื ความขัดแย้ งของราชสํ านัก
สภาพความขัดแย้งของคนเสื* อเหลือง และเสื* อแดงจึ งเป็ นภาพ
สะท้อนความขัด แย้ง และความสับสนของประชาชนในสังคมไทยใน
ขณะนี* ซึงสภาวการณ์เช่นนี*จะถูกแก้ไขได้ดว้ ยเวลา และข้อมูลข่ าวสารที
อาศัยเทคโนโลยีทีกา้ วหน้าเป็ นเครื องมือสําคัญ ในการให้การศึกษา อัน
เป็ นภาวะวิสยั แห่ งวิวฒั นาการทางสังคม ส่ วนจะช้าหรื อเร็ วขึ* นอยู่กบั การ
ขับเคลือนของสองพลังอํานาจคือ พลังอํานาจของฝ่ ายราชสํานัก กับ พลัง
อํานาจของฝ่ ายประชาธิปไตย ซึงหากราชสํานักเชื อมัน ในอํานาจของตน
อย่างผิด และใช้ค วามรุ น แรงกับประชาชนในภาวะที ร าชสํานัก เองก็ มี
ความแตกแยกก็จะยิง เร่ งสถานการณ์ความมีเอกภาพในฝ่ ายประชาธิปไตย
เร็ วยิง ขึ*น เพราะทั;งเสื; อเหลืองและเสื; อแดงก็ต่างหิวโหยประชาธิปไตยที
แท้ จริงด้ วยกัน และต่ างก็ใฝ่ ฝั นทีจะเห็นการเมืองใหม่ ทีงดงาม แต่ ยังถู ก
398

เวทมนต์ ของราชสํ านักปิ ดบังความจริงอยู่ว่าภาพทีงดงามตามทีใฝ่ ฝันนั;น


คือภาพวาดเศรษฐกิจพอเพียง และภาพวาดการเมืองแห่ งคุณธรรมของ
ศักดินาเก่ านั;น

8.9 ขบวนการประชาชนขบวนการนาโน
วิวฒั นาการทางสังคมการเมืองนั*นแยกไม่ออกจากวิวฒั นาการ
ทางวิทยาศาสตร์ ธรรมชาติ เมือชาร์ ล ดาวิน คนพบทฤษฎีวิวฒั นาการของ
สิ งมีชีวิตเมือต้นศตวรรษที 18 ว่าสัตว์ทีเข้มแข็งเท่านั*นทีจะดํารงชาติ พนั ธุ์
อยูไ่ ด้ ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน ทฤษฎีเศรษฐกิจทุนนิ ยมทีมีกระบวนการ
จัดการอย่างเป็ นระบบก็เกิดขึ*นโดยอาดัม สมิธ ผูเ้ ป็ นเจ้าทฤษฎี
ในสภาวะพัฒนาการแห่ งเทคโนโลยีปัจจุ บนั ได้เกิ ดเทคโนโลยี
ขนาดจิ‚วแต่มีประสิ ทธิภาพสู ง หรื อที รู้จกั กันในนาม “นาโนเทคโนโลยี”
(Nano Technology) ซึ งเทคโนโลยีขนาดจิ‚ว นี* จ ะเป็ นเสมื อนหุ่ น ยนต์ที
สามารถจะเข้าไปปฏิบตั ิการทางการแพทย์เพือสุ ขภาพของมนุ ษย์ทางเส้น
เลือดได้ โดยเทคโนโลยีขนาดจิ‚วนี* ไม่อาจจะมองเห็ นได้ดว้ ยตาเปล่า ซึ ง
ขณะนี* ในการเคลื อ นไหวทางการเมื องของขบวนการประชาชนที มี
เป้ าหมายเพือการปรับเปลียนระบอบการปกครองทีไม่เป็ นประชาธิ ปไตย
อยูใ่ นขณะนี* ให้พฒั นาสู่ความเป็ นประชาธิปไตยสมบูรณ์ ได้เกิ ดขึ*นอย่าง
มากมายหลากหลายวิธีการ และมีทิศทางทางการเมืองทีกา้ วหน้าโดยหลุด
399

พ้นจากการหลอกลวงด้วยความเชือทางการเมืองเก่าๆ เชิงไสยศาสตร์ ของ


ราชสํานัก อย่างไม่ เคยปรากฏมาก่ อน แพร่ ข ยายไปอย่างรวดเร็ ว และ
กว้างขวาง โดยไม่ มีองค์ก รจัด ตั*งซึ งแตกต่ างจากขบวนการประชาชน
อย่างเช่น พรรคคอมมิวนิ สต์แห่ งประเทศไทยในอดีตทีมีการจัดตั*งองค์กร
อย่างเป็ นทางการ ทั*งรู ปแบบการทหาร และรู ปการณ์ จิตสํานึ ก กล่าวคื อ
การเคลือนไหวของพรรคคอมมิวนิ สต์แห่ งประเทศไทยจะมีรูปแบบการ
จัดตั*งอย่างแน่ นอน เช่ น คณะกรรมการกลางพรรคฯ องค์ก รสันนิ บาต
เยาวชน องค์กรแนวร่ วม และมีลาํ ดับชั*นของการสังงานเป็ นแนวตั*งคล้าย
กับระบบรั ฐอี ก รั ฐหนึ ง ที ซ้อนอยู่ในรั ฐไทยที ด ํารงอยู่ทางกฎหมายใน
ขณะนั*น แต่ขบวนการประชาชนใหม่ทีก่อรู ปการเคลือนไหวต่ อต้านราช
สํานัก ที เป็ นอยู่ในขณะนี* ไม่ มี ลกั ษณะการจัด ตั*งเป็ นองค์ก รอย่า งเป็ น
ทางการ อย่างเช่ น พรรคคอมมิวนิ สต์ ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มก็เป็ น
การสังงานอย่างอิ สระที ยึดความถูก ต้องเป็ นธรรม และมี ลกั ษณะเป็ น
แนวราบอย่างเสมอภาคกัน จึ งเป็ นการประสานงานมากกว่าการสังงาน
ลักษณะงานทีสาํ คัญคืองานเผยแพร่ ความคิด ดําเนิ นการผ่านเว็บไซต์ สื อ
วิทยุ โทรทัศน์ สิงพิมพ์ อย่างง่ายๆ ซึงเมือเปรี ยบเทียบกับในอดีตเมือ50 ปี
ก่ อน เมือครั* งพรรคคอมมิวนิ สต์แห่ งประเทศไทยจัดตั*งสถานี วิทยุเสี ย ง
ประชาชนนั*นเป็ นภารกิจทียากลําบากอย่างยิง ทั*งการดําเนิ นการและการ
รักษาไว้ให้ปลอดภัย
400

ขณะนี;ระบบรั ฐ ของราชสํ านั ก ไทยกําลั ง ปั น ป่ วนทีไ ม่ อ าจจะ


ควบคุมและปราบปรามการขยายตัวทางความคิด ในหมู่ประชาชนทีทํ า
การต่ อต้ านราชสํ านักอย่ างถึงรากถึงโคน ด้ วยการเปิ ดโปงความเน่ าเฟะใน
ชีวติ ประจําวันของคนในราชสํ านัก โดยมีเอกสารหลักฐาน และภาพถ่ าย
วิดีโอคลิปทีผดิ ศีลธรรมอย่ างยิง กระจายตัวออกทางสื ออินเตอร์ เน็ตทีเ ห็น
กัน ทั วบ้ านทั วเมือ ง ซึ ง เป็ นการเปิ ดโปงการหลอกลวงของราชสํ านั ก
เกีย วกับความเป็ นผู้ทรงคุณธรรม และแบบอย่ างทีจอมปลอม รวมตลอด
ถึ ง การบริ ห ารจั ด การอํ า นาจการเมื อ งที ร าชสํ า นั ก เคยหลอกลวงมา
ตลอดเวลาอันยาวนานว่ าเป็ นผู้อยู่เหนือการเมืองนั;น ได้ พังทลายลงหมด
สิ;นแล้ ว
ความพยายามในการไล่จบั กุมสิ งที เรี ยกว่า “เว็บไซต์ หมินพระ
บรมเดชานุ ภาพ” นั*นเป็ นความยุ่งยากอย่างยิงจากหลักฐานคําแถลงของ
ทางราชการว่าขณะนี*มีเว็บไซต์หมินฯ มากกว่า 10,000 เว็บไซต์ แต่ ทีไล่
ปิ ดได้มีเพีย งแค่ 1,000 กว่ าเว็บไซต์เท่ านั*น ซึ งเป็ นการยืนยันว่ากระแส
ความไม่พอใจต่อราชสํานักขยายตัวกว้างขวางมากขึ*น
สิ งเหล่านี*ได้บ่งชี*ให้เห็นชัดเจนแล้วว่าขบวนการประชาชนทีเป็ น
กระแสตอบโต้โครงสร้ างการเมืองเก่ า แนวจารี ตนิ ยมนี* เป็ นผลจากการ
พัฒนาการทางเทคโนโลยีข* นั สูง ประชาชนจึงปรับตัวโดยนําการรั บรู้ ทาง
เทคโนโลยีสมัยใหม่มารับใช้ความคิดทางการเมืองของตน
401

ลักษณะงานลับ และงานใต้ดินของขบวนการคอมมิวนิ สต์เดิ มที


ใช้การจัดตั*งแบบปิ ดลับอย่างรัดกุม การขยายงานความคิ ดทางการเมืองก็
เป็ นไปแบบปิ ดลับ คือปากต่อปากซึงยังมีความแตกต่างจากการขยายงาน
ทางความคิ ดการเมื องแบบ “นาโน” ที มีลกั ษณะปิ ดลับทางเทคโนโลยี
และมี ก ารขยายตัว ได้อ ย่า งรวดเร็ ว มากกว่ า ลัก ษณะงานแบบเดิ ม คื อ
จากปากสู่หลายๆ ปาก
ดังนั*นการพัฒนารู ปแบบและเนื* อหาของขบวนการประชาชนที
จะผนึ ก กําลัง ผลัก ดัน ให้ก ารปกครองของไทยเกิ ด วิ ว ัฒ นาการที เ ป็ น
ประโยชน์ ต่ อประชาชนมากยิงขึ* น นี* จึ งเป็ นวิ ว ฒั นาการที ท้าทายทาง
ประวัติ ศ าสตร์ ข องประชาชนที จ ะพิ สู จ น์ ใ ห้เ ห็ น ว่ าการเปลี ยนแปลง
โครงสร้ างทางการปกครองเพื อให้สอดคล้องกับความเจริ ญ ก้าวหน้ า
ทางการผลิตและเทคโนโลยีของโลกนั*น เป็ นวิทยาศาสตร์ ทางสังคมอย่าง
แท้จริ ง
ลักษณะขบวนการประชาชนแบบนาโนนี* ไม่เพียงแต่ ลดภาระ
ค่ าใช้จ่ายซึ งเป็ นภาระของขบวนการปฏิวตั ิ ในอดี ตเท่ านั*น แต่ ยงั ช่ วยลด
ความเสี ยงภัยต่อการล้อมปราบและทําลายองค์กรเนื องจากไม่มีฐานที มนั
ในป่ าเขา และไม่มีกองกําลังอาวุธอย่างในอดีต
402

แต่อย่างไรก็ตาม ขบวนการประชาชนใหม่ทีมีลกั ษณะ “นาโน”


หรื อ “จิ‚วแต่แจ๋ ว” เช่นนี* ก็จะเกิดการปรับปรุ งยกระดับประสิ ทธิ ภาพของ
การบริ หารจัดการขึ*นด้วยปั จจัย 2 ด้าน
ด้านหนึ งคื อ แรงกระตุ ้น ที จ ะมาจากการปราบปรามของราช
สํานัก เช่น การแก้ไขกฎหมายหมินพระบรมเดชานุ ภาพให้กว้างขวางขึ*น
รุ นแรงขึ*น ในลักษณะทั*งเหวียงแห และตีอวน รวมตลอดถึงการกวาดล้าง
ผูท้ ีตอ้ งสงสัยว่าจะไม่จงรักภักดี ในอนาคตไม่ไกลนี* ก็จะยิงทําให้มวลชน
เคี ย ดแค้น เพราะหลัก ฐานปรากฏชัด เจนต่ อสาธารณะชนแล้ว ว่ า ราช
สํานักโดยเฉพาะรุ่ นลูกรุ่ นหลานมีพฤติ กรรมที เสพสุ ข ที ไม่ยึดศีลธรรม
เลวร้ายยิง กว่าสามัญชนทัว ไป และทีสาํ คัญคือเป็ นการเสพสุ ขด้วยเงินภาษี
อากรของประชาชน แต่กลับมาปิ ดปากจับกุมผูเ้ สี ยภาษีอากรเข้าคุกตะราง
เสี ยอีก และอีกทั*งเมือเกิดภาวะวิกฤตเศรษฐกิจประชาชนทุกข์ยาก และอด
อยาก ก็ จ ะยิงกลายเป็ นเชื* อไฟปลุ กเร้ าให้ประชาชนลุ กฮื อต่ อสู้โ ค่ น ล้ม
โดยเฉพาะอย่างยิง เมือสิ*นบุญของรัชกาลปั จจุบนั
อีก ด้านหนึ ง จะเกิ ด การเรี ยนรู้ เพื อยกระดับประสิ ทธิ ภ าพของ
องค์กร การสรุ ปบทเรี ย น รวมตลอดทั*งการศึก ษาแนวทางการต่ อสู้ของ
ประชาชนทั*งในประเทศและต่ างประเทศ เพื อกําหนดยุทธศาสตร์ และ
ยุทธวิธี และต่อเชือมร่ วมมือกันระหว่างขบวนการประชาชนในอดี ต และ
ขบวนการประชาชนใหม่
403

พัฒนาการความขัดแย้ งระหว่ างการหลอกลวงเรืองคุณธรรมของ


ราชสํ านักทีมากผัวมากเมีย และใช้ จ่ายอย่ างฟุ่ มเฟื อย กับความต้ องการ
อํานาจประชาธิปไตยของประชาชน เพือนํามาแก้ ปัญหาความทุ กข์ ยาก
ของประชาชน โดยการเฉลีย สุ ขในรู ปของรัฐสวัสดิการ กําลังก้ าวสู่ ยุคใหม่
ของการเปลีย นแปลงประเทศไทย
ผลประโยชน์แห่ งมหาชน คือ ความถูกต้อง และชอบธรรม
ประชาชนจงเจริญ
404

บทที 9
บทพยากรณ์ : การกําเนิดรัฐไทยใหม่

สภาวการณ์ ข องรั ฐ ไทยภายใต้ ระบอบสมบู รณาญาสิ ทธิ ราชใน


กระแสระบอบทุนนิยมโลก โดยสภาพการแห่ งภาวะวิสัยได้ ทําให้ รัฐไทย
อ่ อนแอไม่ อาจจะแข่ งขันในโลกเสรีทางการค้ า ทีมภี าวการณ์ ความขัดแย้ ง
ทางการค้ า อย่ า งรุ น แรงเสมอด้ วย “สงคราม” ได้ ด้ ว ยเพราะปรั ชญา
แนวคิดหลักของระบอบอํามาตยาธิ ปไตยทีเน้ นให้ ราชการเป็ นใหญ่ น;ั น
มุ่งตอบสนองราชสํ านั กเป็ นหลัก จึงเกิดกระบวนการสร้ างกฎระเบีย บ
ของสั งคมทีซับซ้ อนเพือ ปกป้องผลประโยชน์ ของราชสํ านัก และปิ ดกั;น
อํานาจของรัฐบาลทีมาจากความต้ องการของประชาชน
แม้รัฐบาลทีมาจากการอุม้ สมของราชสํานักก็ไม่อาจจะก้าวผ่าน
กรอบความซับซ้อนของกฎระเบี ย บราชการนั*น ได้ ด้วยเพราะเจตนาที
แท้จริ งของราชสํานักทีไม่อาจจะปิ ดบังได้ต่อไปแล้วก็คือ ไม่ตอ้ งการให้
สถาบัน พรรคการเมื อ งเข้ม แข็ ง และไม่ ต ้อ งการให้ รั ฐ บาลที ม าจาก
ประชาชนเป็ นสถาบัน ทางการเมื องหลัก ในการบริ ห ารประเทศและ
ขับเคลือนระบอบเศรษฐกิจทุนนิ ยมเสรี ด้วยเพราะราชสํานักได้มีบทสรุ ป
ทางประวัติ ศาสตร์ ชัด เจนแล้ว ว่ า ความเจริ ญ เติ บโตทางเศรษฐกิ จ ใน
แนวทางทุ น นิ ย มนี* ได้ผ ลัก ดั น ให้ เ กิ ด สั ง คมเมื อ งแห่ ง ยุ ค วัฒ นธรรม
405

อุ ต สาหกรรมที ป ระชาชนจะเรี ยกร้ องการมี สิท ธิ เสรี ภาพ และความ


เสมอภาค ไม่เฉพาะแต่ทางการเมืองเท่ านั*น แต่ ยงั เรี ยกร้ องที จะก้าวเข้าสู่
สิ ทธิแห่ งการเฉลียสุ ขในสังคมทีเรี ยกว่า “รัฐสวัสดิการ” อีกด้วย
ระบบรั ฐ สวัสดิก ารนั*น จะต้องเปิ ดเสรี ให้ผูท้ ี เข้มแข็งในสังคม
ขยายการผลิ ต และจะต้อ งเร่ งสร้ า งระบบการจัด เก็ บ ภาษี ที ก ้า วหน้ า
โดยเฉพาะภาษี ทีดิน และภาษี มรดก มากกว่าที จะหลอกลวงประชาชน
ด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
สิ ง ที ห ลี ก เลี ย งไม่ ไ ด้ก็ คื อ จะต้อ งสร้ า งระบบกฎหมายภาษี ที
เข้มแข็ ง ซึ งจําเป็ นจะต้องลิ ดรอนความสุ ข ที เกิ นปกติ ที ร าชสํานักกําลัง
เสพสุ ขกันอยูใ่ นขณะนี* ด้วยการเก็บภาษีทีดิน และเก็บภาษีมรดกของราช
สํานัก อย่างเสมอภาคกับมหาเศรษฐี ค นอื นๆ เพื อนําไปเฉลี ย สุ ข ให้แก่
ประชาชนผูท้ ุกข์ยากแทนการเรี ยกร้ องให้ทาํ บุ ญและเอาสวรรค์วิมานมา
เป็ นเครื องล่อ
การก้าวเข้าสู่ประวัติศาสตร์ หน้าใหม่ทีจะสร้างสันติสุขในการอยู่
ร่ วมกันของชาติไทยย่อมจะต้องกระทบถึงฐานอํานาจทางทรั พย์สินของ
ราชสํานักในฐานะเจ้าทีดินใหญ่ทีสุดในประเทศไทย และในฐานะกษัตริ ย ์
ที รวยที สุดในโลกในปี 2551 และที สําคัญที สุดสังคมที พฒั นาแล้ว และ
ประชาชนมี คุ ณ ภาพชี วิ ต ที ดี ท* ั งโลกนี* ล้ ว นแล้ ว แต่ ไ ม่ มี ส ถาบั น
406

พระมหากษัตริ ยด์ าํ รงอยูเ่ ลย หรื อดํารงอยูก่ ็เป็ นเพียงสถาบันเชิงสัญลักษณ์


เท่านั*น
ความเป็ นจริ งนี* เองที เตื อนใจราชสํานัก มายาวนาน ดังนั*นการ
สกัด กั*น ความเจริ ญเติ บโตทางเศรษฐกิ จ ของรั ฐ ไทย และการพัฒ นา
คุ ณ ภาพชี วิ ต ของประชาชน จึ ง ถู ก สกั ด กั*น ด้ ว ยการใช้ ว ัฒ นธรรม
หลอกลวงกล่อมเกลาว่า
“ความทุกข์ ยากของประชาชนนั;นเป็ นเรืองของกรรมเก่ าแต่ ชาติ
ปางก่ อน มิใช่ เกิดจากระบอบการเมืองและเศรษฐกิจทีไม่ เป็ นธรรม”
สิ ง สํ า คัญ สิ ง เดี ย วที รัฐ ไทยจารี ต นิ ย มจะไม่ ย อมให้ เ กิด ความ
เจริ ญ รุ่ ง เรื อ งคือ ความคิด ที เ ป็ นวิท ยาศาสตร์ และความเชื อ ในสิ ง ที มี
เหตุผลของประชาชน ซึ งจะก้ าวมากับความเจริ ญรุ่ งเรื องทางเศรษฐกิจ
และระบอบการเมืองประชาธิปไตย
กระบวนการสกัดกั*นความเจริ ญเติ บโตทางเศรษฐกิ จ การเมือง
จึงเกิดขึ*นทุกรู ปแบบ ไม่ว่าจะบี บคั*นให้ประชาชนถอยหลังเข้าบ้าน และ
เก็บตัวเองไว้ในท้องนาด้วยปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” เพือให้จาํ นนต่ อ
ชี วิ ต รวมตลอดถึ งการออกมาเคลื อนไหวทางการเมื องด้ว ยตัว เองเพื อ
ทําลายความเข้มแข็งของรัฐบาลประชาธิปไตย โดยเฉพาะอย่างยิงในสาม
ทศวรรษทีกระแสโลกาภิวตั น์ได้แสดงบทบาทเป็ นด้านหลักของระเบี ยบ
โลกใหม่
407

ภาวการณ์ทางการเมืองทีปรากฏโฉมในช่วงปี 2548-2551 ได้เปิ ด


โปงให้เห็นจึงเจตนารมณ์ ของราชสํานักอย่างชัดเจน ภายใต้ความแปลก
ประหลาดมหัศจรรย์ของการกระทําที เย้ยกฎหมาย และระเบี ยบโลกใหม่
ด้ว ยการยึ ด ทํา เนี ย บรั ฐ บาล และยึ ด สนามบิ น โดยไม่ ผิ ด กฎหมาย
ทีผกู้ ระทําผิดเรี ยกขานตัวเองอย่างไพเราะว่า “ปรากฏการณ์สนธิ”
พลเอกเปรม ติ ณ สู ล านนท์ ประธานองคมนตรี และบรรดา
องคมนตรี ท* งั หลายในฐานะคนใกล้ชิดพระเจ้าอยูห่ วั ซึงตามกฎหมายห้าม
ไม่ให้ยุ่งเกี ย วกับการเมื อง แต่ ก ลับออกมาเคลือนไหวทางการเมืองเพื อ
ทํา ลายรั ฐ บาลที ม าจากการเลื อ กตั*ง ตั*ง แต่ ก ารโหมโจมตี ด ้ว ยคํา พู ด
ประสานงานกับกองกําลังทหาร-ตํารวจ และสถาบันตุลาการ เพือใช้กาํ ลัง
และกฎหมายโค่ นล้มรั ฐบาลที ชอบด้ว ยกฎหมายในลักษณะที “โค่ นล้ ม
แล้ วโค่ นล้ มอีก” ล้ม 3 รัฐบาลประชาธิปไตยติดต่อกัน การกระทําดังกล่าว
ได้เข้าสู่เขตอันตรายอย่างยิง ด้วยการดึงสถาบันตุลาการในนาม “ตุ ลาการ
ภิ ว ฒ
ั น์ ” เข้าร่ ว มการรั ฐประหารด้ว ย ทั*งนี* เพราะสถาบัน ศาลเป็ นเพี ย ง
สถาบันเดียวใน 3 อํานาจอธิปไตยทีข* ึนตรงต่ อพระมหากษัตริ ย ์ และไม่มี
จุดยึดโยงกับประชาชนเลย
ยังจะเหลืออะไรอีกเล่ าทีจะปิ ดบังว่ าราชสํ านักไม่ เกีย วข้ องกับการ
ขัดขวางวิวฒ ั นาการของสั งคมไทย
408

ท่ามกลางการเปิ ดเผยตัวเองเช่นนี* ในกระแสวิกฤตเศรษฐกิ จโลก


ความทุกข์ยาก อดอยาก ของประชาชนทีกาํ ลังเกิดขึ*น และจะยิง รุ นแรงขึ*น
ในอนาคต จึ งไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่า ปฐมเหตุ แห่ งความทุ กข์ยากนั*นมา
จากระบอบการปกครองที เรี ยกว่า “ระบอบสมบู รณาญาสิ ทธิ ราชใหม่ ”
นี* เอง
ไม่เพียงแต่ ปัญญาชนคนเมืองเท่ านั*นที มองเห็ นปั ญหาที เป็ นต้น
ตอ แต่ ดว้ ยความเจริ ญทางเทคโนโลยีการรั บรู้ สัจ ธรรมนี* ได้ขยายตัว สู่
มวลชนคนรากหญ้าทั*งในชนบท และป่ าเขา และสิงทีไม่เคยคาดคิ ดเลย ก็
คือกระแสแห่ งสัจธรรมได้ซดั ลงลึกเข้าไปสู่ กองกําลังผูถ้ ืออาวุธของราช
สํานักเองแล้ว
ความเข้มแข็งแห่ งรัฐไทย ปั จจุ บนั จึ งเป็ นภาพลวงตาที มีเสาหลัก
เพียงเสาเดียว ทีประชาชนส่ วนหนึ งยังศรัทธาในภาพถ่ายคุณงามความดี ที
มี ต่ อประชาชนที ทาํ การโฆษณามายาวนานกว่ า 60 ปี และด้ว ยความ
ชาญฉลาดของการกระทําด้วยรู ปแบบที นิ งเฉย หรื อการกล่าวแนะนําใน
ที ส าธารณะ ซึ งผูค้ นทัว ไปไม่ สามารถจะรู้ ไ ด้ว่ า ท่ า นต้อ งการอะไร?
เห็ นด้ว ยกับใคร? แต่ สรุ ปได้อย่างเดี ยวว่าพระราชดํารั สนั*น “เป็ นภาษา
ของเทพเจ้ า” ทีตอ้ งเคารพและไม่ทว้ งติ ง ด้วยเหตุ น* ี จึงเกิ ดความปั นป่ วน
เพราะกลุ่ มผลประโยชน์ ท างสั งคม ต่ า งนํา ไปใช้โ ดยตี ค วามเข้า ข้า ง
ผลประโยชน์ของตนเอง
409

สภาวะเช่นนี*ดูเหมือนบ้านเมืองจะมัน คง แต่ หากมองด้วยสายตา


แห่ งทัศนะวิ ท ยาศาสตร์ สัง คมแล้ว สิ งเหล่ านี* เป็ นเพี ย งปรากฏการณ์
ชัว คราว แต่ แ ก่ น แท้ เ ป็ นปั ญ หาเชิ ง โครงสร้ า งที ป ฏิ เ สธอํา นาจของ
ประชาชน และเป็ นความขัดแย้งทีรอวันระเบิด
ดั ง นั; น ความคุ ก รุ่ นของการเมื อ งวั น นี; จึ ง สรุ ป ได้ ชั ด เจนว่ า
เป็ นวิก ฤตของ “การเมือ งปลายรั ช กาล” และเป็ นวิ ก ฤตของระบอบ
อํามาตยาธิปไตยทียดึ โยงอยู่กบั ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชใหม่
สัญญาณแห่ งการปรับเปลียนอันเป็ นวิทยาศาสตร์ สงั คม ได้ดงั ขึ*น
อย่างเร่ งเร้า ขบวนการประชาชน องค์กรมวลชนต่างๆ จะเริ มปรั บทิ ศทาง
ทีเห็นเป็ นความขัดแย้งในหมู่ประชาชนนั*น จะเป็ นเพียงรู ปแบบเปลือกกะ
พี*ทีไม่มีแก่นสาร แต่เนื*อหาทีเป็ นความทุกข์ยากของประชาชนที เป็ นจริ ง
คือ ความขัดแย้ งของประชาชนทีเผชิญหน้ ากับราชสํ านัก
บทพยากรณ์ น* ี จะเป็ นสัจธรรมต่ อการกําเนิ ด รั ฐไทยใหม่ อย่าง
แน่ นอนในระยะเวลาไม่เกินปี 2555 การเปลียนแปลงทางปริ มาณจะขึ*นสู่
กระแสสู ง เพื อจะก้า วสู่ คุ ณ ภาพใหม่ แต่ ก ารทํานายที ท้าทายนี* มี เพี ย ง
ประเด็นเดียวทีไม่อาจจะกําหนดได้คือ
จะเกิดขึน; ด้ วยแรงระเบิดอย่ างรุ นแรง หรือประนีประนอม
ผู้ปกครองจะเป็ นผู้สร้ างเงือนไข มิใช่ ประชาชน
ภาคผนวก 1

ประกาศคณะราษฎร ฉบับที ๑

ราษฎรทังหลาย

เมื อ กษัต ริ ย ์อ งค์น ี ได้ค รองราชย์ส มบัติ สื บ ต่ อ จากพระเชษฐานัน ในชัน ต้น


ราษฎรบางคนได้หวังกันว่ากษัตริ ยอ์ งค์ใหม่น ีจะปกครองราษฎรให้ร่มเย็น แต่การณ์
ก็หาได้เป็ นไปตามทีคิดหวังกันไม่ กษัตริ ยค์ งทรงอํานาจอยู่เหนื อกฎหมายเดิม ทรง
แต่งตังญาติวงศ์และคนสอพลอไร้ คุณความรู ้ ให้ดาํ รงตําแหน่ งทีสําคัญๆ ไม่ทรงฟั ง
เสี ยงราษฎร ปล่อยให้ขา้ ราชการใช้อาํ นาจหน้าทีในทางทุจริ ต มีการรั บสิ นบนใน
การก่อสร้างและการซื อของใช้ในราชการ หากําไรในการเปลียนเงิน ผลาญเงินของ
ประเทศ ยกพวกเจ้าขึนให้สิทธิพิเศษมากกว่าราษฎร กดขีข่มเหงราษฎร ปกครอง
โดยขาดหลักวิชา ปล่อยให้บา้ นเมืองเป็ นไปตามยถากรรม ดังทีจะเห็นได้จากความ
ตกตําในทางเศรษฐกิจและความฝื ดเคืองในการทํามาหากินซึ งพวกราษฎรได้รู้กนั อยู่
โดยทัว ไปแล้ว รัฐบาลของกษัตริ ยเ์ หนือกฎหมายมิสามารถแก้ไขให้ฟื นขึนได้
การทีแก้ไขไม่ได้กเ็ พราะรัฐบาลของกษัตริ ยม์ ิได้ปกครองประเทศเพือราษฎร
ตามที รั ฐบาลอื น ๆ ได้กระทํา กัน รั ฐ บาลของกษัต ริ ย ์ได้ถื อ เอาราษฎรเป็ นทาส
(ซึ งเรี ยกว่าไพร่ บา้ ง ข้าบ้าง) เป็ นสัตว์เดียรั จฉาน ไม่นึกว่าเป็ นมนุ ษย์ เหตุฉะนัน
แทนทีจะช่วยราษฎร กลับพากันทํานาบนหลังราษฎร จะเห็นได้ว่า ภาษีอากรที
บี บ คัน เอาจากราษฎรนัน กษัต ริ ย์ไ ด้หั ก เอาไว้ใ ช้ปี หนึ ง เป็ นจํา นวนหลายล้า น
ส่ วนราษฎรสิ กว่าจะหาได้แม้แต่เล็กน้อย เลือดตาแทบกระเด็น ถึงคราวเสี ยเงิน
2

ราชการหรื อภาษีใดๆ ถ้าไม่มีเงินรั ฐบาลก็ยึดทรั พย์หรื อใช้งานโยธา แต่พวกเจ้า


กลับนอนกินกันเป็ นสุ ข ไม่มีประเทศใดในโลกจะให้เงินเจ้ามากเช่นนี นอกจาก
พระเจ้าซาร์ และพระเจ้าไกเซอร์ เยอรมัน ซึ งชนชาติน นั ก็ได้โค่นราชบัลลังก์ลงเสี ย
แล้ว
รัฐบาลของกษัตริ ยไ์ ด้ปกครองอย่างหลอกลวงไม่ซือตรงต่อราษฎร มีเป็ น
ต้นว่าหลอกว่าจะบํารุ งการทํามาหากินอย่างโน้นอย่างนี แต่ครั นคอยๆ ก็เหลวไป
หาได้ทาํ จริ งจังไม่ มิหนําซํากล่าวหมินประมาทราษฎรผูม้ ีบุญคุณเสี ยภาษีอากรให้
พวกเจ้าได้กิน ว่าราษฎรยังมีเสี ยงทางการเมืองไม่ได้ เพราะราษฎรโง่ คําพูดของ
รัฐบาลเช่นนีใช้ไม่ได้ ถ้าราษฎรโง่ เจ้าก็โง่เพราะเป็ นคนชาติเดียวกัน ทีราษฎรรู ้ ไม่
ถึงเจ้านันเป็ นเพราะขาดการศึกษาทีพวกเจ้าปกปิ ดไว้ไม่ให้เรี ยนเต็มที เพราะเกรงว่า
เมือราษฎรได้มีการศึกษา ก็จะรู ้ความชัว ร้ายทีพวกเจ้าทําไว้ และคงจะไม่ยอมให้เจ้า
ทํานาบนหลังคนอีกต่อไป
ราษฎรทังหลายพึ งรู ้ เ ถิ ด ว่ า ประเทศเรานี เป็ นของราษฎร ไม่ ใ ช่ ข อง
กษัตริ ยต์ ามทีเขาหลอกลวง บรรพบุรุษของราษฎรเป็ นผูช้ ่วยกันกูใ้ ห้ประเทศเป็ น
อิสรภาพพ้นมือจากข้าศึก พวกเจ้ามีแต่ชุบมือเปิ บและกวาดทรั พย์สมบัติเข้าไว้ต งั
หลายร้อยล้าน เงินเหล่านี เอามาจากไหน? ก็เอามาจากราษฎรเพราะวิธีทาํ นาบน
หลังคนนันเอง บ้านเมืองกําลังอัตคัดฝื ดเคือง ชาวนาและพ่อแม่ทหารต้องทิงนา
เพราะทํา นาไม่ ได้ผล รั ฐ บาลไม่บ าํ รุ ง รั ฐบาลไล่ คนงานออกอย่างเกลือ นกลาด
นัก เรี ย นที เ รี ย นสํา เร็ จ แล้ว และทหารที ปลดกองหนุ น แล้ว ก็ไ ม่ มีงานทํา จะต้อ ง
อดอยากไปตามยถากรรม เหล่ า นี เป็ นผลของกษัต ริ ย ์เ หนื อ กฎหมาย บี บ คัน
ข้า ราชการชันผู ้น้อย นายสิ บ และเสมี ย น เมื อ ให้อ อกจากงานแล้ว ก็ไม่ ใ ห้เ บี ย
บํานาญ ความจริ งควรเอาเงินทีพวกเจ้ากวาดรวบรวมไว้มาจัดบํารุ งบ้านเมืองให้คน
3

มีงานทํา จึงจะสมควรทีสนองคุณราษฎรซึ งได้เสี ยภาษีอากรให้พวกเจ้าได้ร ํารวยมา


นาน แต่พวกเจ้าก็หาได้ทาํ อย่างใดไม่ คงสู บเลือดกันเรื อยไป เงินเหลือเท่าไหร่ ก็
เอาไปฝากต่างประเทศ คอยเตรี ยมหนีเมือบ้านเมืองทรุ ดโทรม ปล่อยให้ราษฎรอด
อยาก การเหล่านียอ่ มชัว ร้าย
เหตุฉะนัน ราษฎร ข้าราชการ ทหาร และพลเรื อน ทีรู้เท่าถึงการกระทํา
อันชัว ร้ายของรัฐบาลดังกล่าวแล้ว จึ งรวมกําลังตังเป็ นคณะราษฎรขึน และได้ยึด
อํานาจของกษัตริ ยไ์ ว้ได้แล้ว คณะราษฎรเห็นว่าการทีจะแก้ความชัว ร้ายนีได้กโ็ ดยที
จะต้องจัดการปกครองโดยมีสภา จะได้ช่วยกันปรึ กษาหารื อหลายๆ ความคิดดีกว่า
ความคิดเดียว ส่ วนผูเ้ ป็ นประมุขของประเทศนัน คณะราษฎรไม่ประสงค์ทาํ การ
แย่งชิงราชสมบัติ ฉะนัน จึงได้อญั เชิญให้กษัตริ ยอ์ งค์น ีดาํ รงตําแหน่ งกษัตริ ยต์ ่อไป
แต่จะต้องอยูใ่ ต้กฎหมายธรรมนูญการปกครองแผ่นดิน จะทําอะไรโดยลําพังไม่ได้
นอกจากด้ว ยความเห็ น ชอบของสภาผู ้แ ทนราษฎร คณะราษฎรได้แ จ้ งความ
ประสงค์น ีให้กษัตริ ยท์ ราบแล้ว เวลานียงั อยูใ่ นความรับตอบ ถ้ากษัตริ ยต์ อบปฏิเสธ
หรื อไม่ตอบภายในกําหนดโดยเห็นแก่ส่ วนตนว่าจะถูกลดอํา นาจลงมาก็จะชือว่ า
ทรยศต่ อ ชาติ และก็เ ป็ นการจํา เป็ นที ป ระเทศจะต้อ งมี ก ารปกครองแบบอย่า ง
ประชาธิ ป ไตย กล่ า วคื อ ประมุ ข ของประเทศจะเป็ นบุ ค คลสามัญ ซึ งสภา
ผูแ้ ทนราษฎรได้เลือกตังขึน อยู่ในตําแหน่ งตามกําหนดเวลา ตามวิธีน ี ราษฎรพึง
หวังเถิ ดว่ าราษฎรจะได้รั บความบํารุ งอย่างดีที สุด ทุก ๆ คนจะมีงานทํา เพราะ
ประเทศของเราเป็ นประเทศทีอุ ดมอยู่แล้วตามสภาพ เมือ เราได้ยึด เงิน ทีพวกเจ้า
รวบรวมไว้จ ากการทํา นาบนหลังคนตังหลายร้ อ ยล้า นมาบํา รุ งประเทศขึ น แล้ว
ประเทศจะต้องเฟื องฟูข ึนเป็ นแม่นมัน การปกครองซึ งคณะราษฎรจะพึงกระทําก็
4

คือ จําต้องวางโครงการอาศัยหลักวิชา ไม่ทาํ ไปเหมือนคนตาบอด เช่นรั ฐบาลทีมี


กษัตริ ยเ์ หนือกฎหมายทํามาแล้ว เป็ นหลักใหญ่ๆ ทีคณะราษฎรวางไว้ มีอยูว่ ่า
๑.จะต้องรั กษาความเป็ นเอกราชทังหลาย เช่นเอกราชในทางการเมือ ง
ในทางศาล ในทางเศรษฐกิจ ฯลฯ ของประเทศไว้ให้มนั คง
๒.จะต้องรักษาความปลอดภัยภายในประเทศ ให้การประทุษร้ ายต่อกัน
ลดน้อยลงให้มาก
๓.ต้องบํารุ งความสุ ข สมบู รณ์ ข องราษฎรในทางเศรษฐกิจ โดยรั ฐ บาล
ใหม่จะจัดหางานให้ราษฎรทุกคนทํา จะวางโครงการเศรษฐกิจแห่ งชาติ ไม่ปล่อย
ให้ราษฎรอดอยาก
๔.จะต้อ งให้ร าษฎรมี สิ ท ธิ เ สมอภาคกัน (ไม่ ใ ช่ พ วกเจ้า มี สิ ท ธิ ยิงกว่ า
ราษฎรเช่นทีเป็ นอยูใ่ นเวลานี)
๕.จะต้องให้ราษฎรได้มีเสรี ภาพ มีความเป็ นอิสระ เมือเสรี ภาพนี ไม่ขดั
ต่อหลัก ๔ ประการดังกล่าวข้างต้น
๖.จะต้องให้การศึกษาอย่างเต็มทีแก่ราษฎร
ราษฎรทังหลายจงพร้อมใจกันช่วยคณะราษฎรให้ทาํ กิจอันจะคงอยู่ชวั ดิน
ฟ้ านี ให้สํา เร็ จ คณะราษฎรขอให้ทุ ก คนที มิได้ร่ ว มมื อ เข้า ยึด อํา นาจจากรั ฐ บาล
กษัตริ ยเ์ หนือกฎหมายพึงตังตนอยูใ่ นความสงบและตังหน้าทํามาหากิน อย่าทําการ
ใดๆ อันเป็ นการขัดขวางต่อคณะราษฎร การทีราษฎรช่วยคณะราษฎรนี เท่ากับ
ราษฎรช่วยประเทศและช่วยตัวราษฎร บุตร หลาน เหลน ของตนเอง ประเทศจะมี
ความเป็ นเอกราชอย่างพร้อมบริ บูรณ์ ราษฎรจะได้รับความปลอดภัย ทุกคนจะต้อง
มีงานทําไม่ตอ้ งอดตาย ทุกคนจะมีสิทธิเสมอกัน และมีเสรี ภาพพ้นจากการเป็ นไพร่
เป็ นข้า เป็ นทาสพวกเจ้า หมดสมัย ทีเจ้า จะทํา นาบนหลังราษฎร สิ งทีทุก คนพึ ง
5

ปรารถนาคือ ความสุ ขความเจริ ญอย่างประเสริ ฐซึ งเรี ยกเป็ นศัพท์ว่า “ศรี อาริ ยะ”
นัน ก็จะพึงบังเกิดขึนแก่ราษฎรถ้วนหน้า

คณะราษฎร
๒๔ มิถนุ ายน ๒๔๗๕
6

ภาคผนวก 2

พระราชดํารัส พระราชทานแก่ ตุลาการศาลปกครองสู งสุ ดเข้ าเฝ้ าฯ


ถวายสั ตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ ารับหน้ าที
ณ พระตําหนักเปี ยมสุ ข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
วันอังคารที ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๙

ทีได้ปฏิญาณนันมีความสําคัญมาก เพราะว่ากว้างขวาง หน้าทีของผูพ้ ิพากษา หน้าที


ของผูท้ ีเกียวข้องกับการปกครอง มีหน้าทีกว้างขวางมาก ซึ งเกรงว่า ท่านอาจจะนึ ก
ว่า หน้าทีของผูท้ ีเป็ นศาลปกครอง มีขอบข่ายทีไม่กว้างขวาง ทีจริ งกว้างขวางมาก
ในเวลานี อาจจะไม่ ค วรพูด แต่ อย่า งเมือ เช้า นี เอง ได้ยิน เขาพูด เกี ย วข้องกับการ
เลื อ กตัง และโดยเฉพาะเรื องเลื อ กตังของ ผู ้ที ไ ด้ค ะแนน ได้แ ต้มไม่ ถึ ง ๒๐
เปอร์ เซ็นต์

แล้วก็เขาเลือกตังอยูค่ นเดียว ซึ งมีความสําคัญ เพราะว่าถ้าไม่ถึง ๒๐ เปอร์ เซ็นต์ แล้ว


ก็เขาคนเดียว ในทีสุดการเลือกตังไม่ครบสมบูรณ์ ไม่ทราบว่า เกียวข้องกับท่านหรื อ
เปล่ า แต่ ค วามจริ งน่ า จะเกี ย วข้อ งเหมื อ นกัน เพราะว่ า ถ้า ไม่ มีจ ํานวนผูท้ ี ไ ด้รั บ
เลือกตังพอ ก็กลายเป็ นว่า การปกครองแบบประชาธิปไตย ดําเนินการไม่ได้

แล้วถ้าดําเนินการไม่ได้ ทีท่านได้ปฏิญาณเมือตะกีน ี ก็เป็ นหมัน ถึงบอกว่าจะต้องทํา


ทุกอย่าง เพือให้การปกครองแบบประชาธิ ปไตย ต้องดําเนิ นการไปได้ ท่านก็เลย
7

ทํางานไม่ได้ และถ้าท่านทํางานไม่ได้ ก็มีทางหนึ ง ท่านอาจจะต้องลาออก เพราะ


ไม่ได้มีการแก้ไขปัญหา ไม่ได้แก้ปัญหาทีมีอยู่ ต้องหาทางแก้ไขได้ เขาอาจจะบอก
ว่า ต้องไปถามศาลรั ฐธรรมนู ญ แต่ศาลรั ฐธรรมนู ญก็บอก ไม่ใช่เรื องของตัว ศาล
รัฐธรรมนูญว่า เป็ นการร่ างรัฐธรรมนูญ ร่ างเสร็ จแล้วก็ไม่เกียวข้อง

เลยขอร้ องว่า ท่านอย่าไปทอดทิงความปกครองแบบประชาธิ ปไตย การปกครอง


แบบที จะทําให้บา้ นเมืองดําเนิ นการผ่านออกไปได้ แล้วก็อีกข้อหนึ ง การทีจะ ที
บอกว่า มีการยุบสภา และต้อง ต้องเลือกตังภายใน ๓๐ วัน ถูกต้องหรื อไม่ ไม่พูดเลย
ไม่พูดกันเลย ถ้าไม่ถูก ก็จะต้องแก้ไข แต่ก็อาจจะให้การเลือกตังนี เป็ นโมฆะหรื อ
เป็ นอะไร ซึ งท่านจะมี จะมีสิทธิ ทีจะบอกว่า อะไรทีควร ทีไม่ควร

ไม่ ได้บอกว่ ารั ฐบาลไม่ ดี แต่ ว่า เท่ าที ฟังดู มัน เป็ นไปไม่ไ ด้ คื อการเลื อกตังแบบ
ประชาธิ ปไตย เลือกตังพรรคเดียว คนเดียว ไม่ใช่ทวั ไป ทัว แต่ในแห่ งหนึ งมีคนที
สมัครเลือกตังคนเดียว มันเป็ นไปไม่ได้ ไม่ ไม่ใช่เรื องของประชาธิ ปไตย เมือไม่
เป็ นประชาธิปไตย ท่านก็พูดกันเองว่า ท่านต้องดูเกียวข้องกับเรื องของการปกครอง
ให้ดี ตรงนีขอฝาก
อย่างดีทีสุดถ้าเกิดท่านจะทําได้ ท่านลาออก ท่านเอง ไม่ใช่รัฐบาลลาออก ท่านเอง
ต้องลาออก ถ้าทําไม่ได้ รับหน้าทีไม่ได้ ตะกีทีปฏิญาณไป ดูดีๆ จะเป็ นการไม่ได้ทาํ
ตามทีปฏิ ญาณ ฉะนัน ก็ต งั แต่ฟั งวิทยุเมื อเช้านี กรณี เกิด ทีนบพิต าํ กรณี ทีจังหวัด
อําเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรี ธรรมราช อันนันไม่ใช่แห่ งเดียว ทีอืนมีอีกหลายแห่ ง
ทีจะทําให้บา้ นเมืองล่มจม บ้านเมืองไม่สามารถทีจะ ทีจะรอดพ้นจากสถานการณ์ ที
ไม่ถูกต้อง
8

ฉะนัน ก็ขอให้ท่านไปศึกษาว่า เกียวข้องอย่างไร ท่านเกียวข้องหรื อไม่ แต่ถา้ ท่านไม่


เกียวข้อง ท่านก็ลาออกดีกว่า ท่านผูท้ ีเป็ นผูท้ ีได้รับหน้าที ท่านเป็ นผูท้ ีมีความรู ้ เป็ น
ผูท้ ีตอ้ งทําให้บา้ นเมืองดําเนินได้ หรื อมิฉะนัน ก็ตอ้ งไปปรึ กษากับท่านผูพ้ ิพากษาที
จะเข้ามาต่อมา ท่านผูพ้ ิพากษาศาลฎีกา ท่านผูน้  ีกค็ งเกียวข้องเหมือนกัน ก็ปรึ กษากัน
สี คน

ก็ท่านปรึ กษากับผูพ้ ิพากษาศาลฎีกาทีจะเข้ามาใหม่ ปรึ กษากับท่าน ก็เป็ นจํานวน


หลายคน ที มีค วามรู ้ ที มีค วามซื อ สั ต ย์สุ จ ริ ต ที มีค วามและมี ห น้า ที ที จ ะทํา ให้
บ้านเมืองมีขือมีแป ฉะนันก็ขอฝาก คุณอักขราทร ก็ตอ้ งไปพูดกับสมาชิกอืนๆ ด้วย
ก็จะขอบใจมาก เดีIยวนียงุ่ เพราะถ้าไม่มีสภาผูแ้ ทนราษฎร ก็ไม่ทางจะปกครองแบบ
ประชาธิ ปไตย มีของ เรามีศาลหลายชนิ ดมากมาย แล้วมีสภาหลายแบบ และก็ทุก
แบบนีจะต้องเข้ากัน ปรองดองกัน และคิดทางทีจะแก้ไขได้
นีพูดเรื องนี ค่อนข้างจะประหลาดหน่อย ทีขอร้องอย่างนี แล้วก็ ไม่อย่างนันเดีIยวเขา
ก็บอกว่าต้องทํา มาตรา ๗ มาตรา ๗ ของ ของรั ฐธรรมนู ญ ซึ งขอยืนยัน ยืนยันว่ า
มาตรา ๗ นันไม่ได้หมายถึง ให้มอบให้พระมหากษัตริ ยม์ ีอาํ นาจ ทีจะทําอะไรตาม
ชอบใจ ไม่ใช่ มาตรา ๗ นัน พูดถึงการปกครอง แบบมีพระมหากษัตริ ยเ์ ป็ นประมุข
ไม่ได้บอกว่า ให้พระมหากษัตริ ยต์ ดั สิ นใจ ทําได้ทุกอย่าง

ถ้าทําเขาจะต้องว่าพระมหากษัตริ ย ์ ทําเกินหน้าที ซึ งข้าพเจ้าไม่เคยเกิน ไม่เคยทําเกิน


หน้าที ถ้าทําเกินหน้าที ก็ไม่ใช่ประชาธิ ปไตย เขาอ้างถึงเมือครั งก่อนนี เมือรั ฐบาล
ของอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิJ ตอนนันไม่ได้ทาํ เกินอํานาจพระมหากษัตริ ย ์ ตอนนัน
9

มีสภา สภามีอยู่ ประธานสภา รองประธานสภามี อยู่ แล้วก็ร องประธานสภาทํา


หน้าที แล้วมีนายกฯ ทีสนองพระบรมราชโองการได้ ตามรัฐธรรมนูญในครังนัน

ไม่ ไม่ได้หมายความว่า ทีทาํ ครังนันผิดรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ ตอนนันเขาไม่ใช่นายกฯ


พระราชทาน นายกฯ พระราชทานหมายความว่า ตังนายกฯ โดยไม่มีกฎเกณฑ์อะไร
เลย ตอนนันมีกฏเกณฑ์ เมือครังอาจารย์สัญญาได้รับตังเป็ นนายกฯ เป็ นนายกฯ ทีมี
ผูร้ ั บสนองพระบรมราชโองการ คื อรองประธานสภานิ ติ บญ ั ญัติ นายทวี แรงขํา
ดังนัน ไปทบทวนประวัติ ศ าสตร์ ห น่ อ ย ท่ า นก็เป็ นผู ้ใ หญ่ ท่ า นก็ท ราบว่ า มี มี
กฎเกณฑ์ทีรองรับ

แล้วก็งานอืนๆ ก็มี แม้จะเรี ยกว่าสภาสนามม้า ก็หัวเราะกัน สภาสนามม้า แต่ไม่ผิด


ไม่ ผิ ดกฎหมาย เพราะว่ า นายกรั ฐ มนตรี เป็ นผู ้รับ สนอง นายกรั ฐ มนตรี คื อ นาย
สัญญา ธรรมศักดิJ ได้รั บสนองพระบรมราชโองการ ก็สบายใจว่า ทํา อะไรแบบ
ถู ก ต้อ ง ตามครรลองของรั ฐ ธรรมนู ญ แต่ ค รั งนี ก็ เ ขาจะให้ ท ํา อะไรผิ ด ผิ ด
รั ฐธรรมนู ญ ใครเป็ นคนบอกก็ไม่ทราบนะ แต่ว่าข้าพเจ้าเองรู ้ สึกว่าผิด ฉะนัน ก็
ขอให้ช่วยปฏิบตั ิอะไร คิดอะไร ไม่ให้ผิดกฎเกณฑ์รัฐธรรมนู ญ จะทําให้บา้ นเมือง
ผ่านพ้นสิ งเป็ นอุปสรรค และมีความเจริ ญรุ่ งเรื องได้ ขอขอบใจท่าน
10

ภาคผนวก 3

พระราชดํารัส พระราชทานแก่ ผ้ ูพิพากษาประจําศาลสํ านักงานศาลยุติธรรม เข้ าเฝ้ า


ฯ ถวายสั ตย์ปฏิญาณตนก่ อนเข้ ารับหน้ าที
ณ พระตําหนักเปี ยมสุ ข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
วันอังคารที ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๙
(ฉบับไม่ เป็ นทางการ โดยสํ านักราชเลขาธิการ)

ถ้าจะปฏิบตั ิหน้าทีผูพ้ ิพากษาศาลฎีกา ด้วยความซื อสัตย์สุจริ ต เพือความปลอดภัย


ของประชาชน เมื อตะกีพู ดกับผู ้พิพากษาศาลปกครอง ก็ตอ้ งขอให้ เดีIยวไป ไป
ปรึ กษากับท่าน เพราะว่าสําคัญทีผูพ้ ิพากษาทุกฝ่ าย โดยเฉพาะฝ่ ายทีเป็ นผูพ้ ิพากษา
ในศาลฎีกา เพราะประธานศาลฎีกาเป็ นโดยเฉพาะ

ในปัจจุบนั นีมีปัญหาทางด้านกฎหมายทีสําคัญมาก คือว่าถ้าไม่ได้ปฏิบตั ิ จะปฏิบตั ิ


ตามทีท่านได้ปฏิญาณว่าจะทําให้ประเทศชาติปกครองได้โดยแบบประชาธิ ปไตย
คือ เวลานีมีการเลือกตัง เพือให้มีการปกครองแบบประชาธิ ปไตยนันเอง แต่ถา้ ไม่มี
สภาทีครบถ้วน ก็ไม่ใช่การปกครองแบบประชาธิ ปไตย ฉะนัน ก็ขอให้ไปปรึ กษา
กัน ผูท้ ีมีหน้าทีในทางศาลปกครอง ในทางศาลอย่างทีมาเมือตะกี เพือทีจะเป็ นครบ
เป็ นสิ งทีครบ

แต่ก่อนนี มี มีอย่างเดียว มีศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ ศาลอาญา ศาลแพ่ง เดีIยวนี มีศาล


หลายอย่า งอันนับไม่ ถูก ก็เ มือ มีก็ตอ้ งให้ไปดํา เนิ น การด้ว ยดี ดังนัน ก็ขอให้ไ ป
11

ปรึ กษากับศาลอืนๆ ด้วย จะทําให้บา้ นเมืองปกครองแบบประชาธิ ปไตยได้ อย่าไป


คอยทีจะให้ขอนายกฯ พระราชทาน เพราะขอนายกฯ พระราชทาน ไม่ได้เป็ นการ
ปกครองแบบประชาธิปไตย

ข้าพเจ้ามีความเดือดร้อนมาก ทีเอะอะอะไรก็ขอพระราชทานนายกฯ พระราชทาน


ซึ งไม่ใช่การปกครองแบบประชาธิปไตย ถ้าไปอ้างมาตรา ๗ ของรั ฐธรรมนู ญ เป็ น
การอ้างทีผิด มันอ้างไม่ได้ มาตรา ๗ มี ๒ บรรทัดว่า อะไรทีไม่มีในรั ฐธรรมนู ญ ก็
ให้ ป ฏิ บ ัติ ต ามประเพณี หรื อตามที เ คยทํา มา ไม่ มี เขาอยากจะได้น ายกฯ
พระราชทาน เป็ นต้น จะขอนายกฯ พระราชทาน ไม่ใช่เป็ นเรื องการปกครองแบบ
ประชาธิปไตย เป็ นการปกครองแบบ ขอโทษ พูดแบบมัว แบบไม่ ไม่ ไม่มีเหตุมีผล
สําคัญอยูท่ ี ท่านเป็ นผูพ้ ิพากษาศาลฎีกา มีสมองที ทีแจ่มใส สามารถ ควรจะสามารถ
ทีจ ะไปคิ ดวิ ธี ที จ ะปฏิบ ัติ คื อ ปกครองต้องมี ต้อ งมีส ภา สภาที ค รบถ้ว น ถ้า ไม่
ครบถ้วน เขาว่าไม่ได้ แต่กเ็ ขา แต่อาจจะหาวิธีทีจะ ทีจะตังสภาทีไม่ครบถ้วน และ
ทํางาน ทํางานได้

ก็รู้สึกว่ามัว อย่างทีว่า ต้องขอโทษอีกทีนะ ใช้คาํ ว่ามัว ไม่ถูก ไม่ทราบใครจะทํามัว


แต่ว่าปกครองประเทศมัว ไม่ได้ ทีจะคิดอะไรแบบ แบบว่าทําปั ดๆ ไปให้เสร็ จๆ ไป
ถ้า ไม่ ไ ด้ เขาก็โ ยนให้พ ระมหากษัต ริ ย ์ท าํ ซึ งยิง ร้ า ยกว่ า ทํา มัว อย่า งอื น เพราะ
พระมหากษัตริ ย ์ ไม่ ไม่ มีห น้าที ที จะไปมัว ก็เ ลยต้องขอร้ องฝ่ ายศาล ให้คิด ให้
ช่วยกันคิด เดีIยวนี ประชาชน ประชาชนทัว ไปเขาหวังในศาล โดยเฉพาะศาลฎีกา
ศาลอืนๆ
12

เขายังบอกว่าศาล ขึนชือว่าศาล ดี ยังมีความซื อสัตย์ สุ จริ ต มีเหตุมีผล และมีความรู ้


เพราะท่ า นได้เ รี ย นรู ้ กฎหมายมา และพิ จ ารณาเรื อ งกฎหมายที จ ะต้อ งศึ กษาดี ๆ
ประเทศชาติจึงจะรอดพ้นได้ ถ้าไม่ทาํ ตามหลักกฎหมาย หลักของการปกครองที
ถูกต้อง ประเทศชาติไปไม่รอด อย่างทีเป็ นอยูเ่ ดีIยวนี เพราะว่าไม่มี ไม่มีสมาชิกสภา
ถึง ๕๐๐ คน ทํางานไม่ได้

ก็ตอ้ งพิจารณาดูว่า จะทํายังไง สําหรับให้ทาํ งานได้ จะมาขอให้พระมหากษัตริ ยเ์ ป็ น


ผูต้ ดั สิ น เขาอาจจะว่ารัฐธรรมนูญนี พระมหากษัตริ ย ์ เป็ นคนลงพระปรมาภิไธย จริ ง
แต่ ล งพระปรมาภิ ไ ธย ก็ เ ดื อ ดร้ อ น แต่ ว่ า ในมาตรา ๗ นั นไม่ ไ ด้ บ อกว่ า
พระมหากษัตริ ยส์ งั ได้ ไม่มี ลองไปดูมาตรา ๗ เขาเขียนว่า ไม่มีการบทบัญญัติแบบ
ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริ ย ์ เป็ นประมุข ไม่ได้บอกว่า มีพระมหากษัตริ ยท์ ี
จะมาสังการได้

แล้วก็ขอยืนยันว่า ไม่เคยสังการอะไร ทีไม่มีกฎเกณฑ์ของบทบัญญัติในรั ฐธรรมนู ญ


หรื อกฎหมาย พระราชบัญญัติต่างๆ ทําถูกต้องตามรั ฐธรรมนู ญทุกอย่าง อย่างทีเขา
ขอ บอกว่า ขอให้มี ให้พระราชทานนายกฯ พระราชทาน ไม่เคย ไม่เคยมีขอ้ นี มี
นายกฯ แบบมีการรั บสนองพระบรมราชโองการ อย่างทีถูกต้องทุกครั ง มีคนเขาก็
อาจจะมา มาบอกว่า พระมหากษัตริ ยร์ ัชกาลที ๙ เนี ยทําตามใจชอบ ไม่เคยทําอะไร
ตามใจชอบ

ตังแต่เป็ นมา มีรัฐธรรมนูญหลายฉบับ แล้วก็ทาํ มาหลายสิ บปี ไม่เคยทําอะไรตามใจ


ชอบ ถ้าทําไปตามใจชอบ ก็เข้าใจว่า บ้านเมืองล่มจมมานานแล้ว แต่ตอนนี เขาขอให้
13

ทํา ตามใจชอบ แล้ว เวลาถ้า เขา ถ้า ทํา ตามที เ ขาขอ เขาก็ต้อ ง ต้อ งด่ า ว่ า นิ น ทา
พระมหากษัตริ ย ์ ว่าทําตามใจชอบ ซึ งไม่ใช่กลัว ถ้าต้องทําก็ตอ้ งทํา แต่ว่ามันไม่ตอ้ ง
ทํา

ต้องวันนีน่ะอยู่ทีผูพ้ ิพากษาศาลฎีกา (เป็ น) เป็ นสําคัญ ทีจะบอกได้ ศาลอืนๆ ศาล


ปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลอะไร ไม่มีขอ้ ทีจะอ้างได้มากกว่าศาลฎีกา เพราะว่าผู ้
พิพากษาศาลฎีกา ทีจะมีสิทธิ ทีจะพูด ทีจะตัดสิ น ฉะนัน ก็ขอให้ท่านได้พิจารณาดู
กลับ ไปพิ จ ารณา ไปปรึ ก ษากับ ผู ้พิ พ ากษาศาลอะไรอื น ๆ ศาลปกครอง ศาล
รัฐธรรมนูญ ว่าควรจะทําอะไร แล้วต้องรี บทํา ไม่ง นั บ้านเมืองล่มจม พอดีตะกีดู ดู
ทีวี เรื อหลายหมืนตันโดนพายุ จมลงไปสี พนั เมตรในทะเล เขายังต้องดูว่าเรื อนันลง
ไปอย่างไร

เมืองไทยจะจมลงไปลึกกว่าสี พนั เมตร แล้วก็กูไ้ ม่ได้ กูไ้ ม่ข ึน ฉะนัน ท่านเองก็จะ


เท่ากับจมลงไป ประชาชนทัว ไป ทีไม่รู้อีโหน่ อีเหน่ ก็จะ จะจมลงไปในมหาสมุทร
เดีIยวนีเป็ นเวลาทีวิกฤตทีสุด ทีสุดในโลก ฉะนันท่านก็มีหน้าที ทีจะปฏิบตั ิ ปรึ กษา
กับผูท้ ีมีความรู ้ เพือทีจะ เขาเรี ยกว่า กูช้ าติน นั แหละ เอะอะอะไรก็กูช้ าติ กูช้ าติ กูช้ าติ
นันน่ ะ เดีIยวนี ย งั ไม่ได้จม ทํา ไมคิดถึ งจะทีไ ปกูช้ าติ แต่ว่า ป้ องกัน ไม่ให้จ มลงไป
แล้วเราจะต้องกูช้ าติจริ งๆ แต่ถา้ จมแล้ว กูช้ าติไม่ได้ จมไปแล้ว

ฉะนันต้องไปพิจารณาดูดีๆ ว่าควรจะทําอะไร ถ้าทําได้ ปรึ กษาหารื อกันได้จริ งๆ


ประชาชนทังประเทศ และประชาชนทัว โลก จะอนุโมทนา อาจจะเห็นว่าผูพ้ ิพากษา
14

ศาลฎีกาในเมืองไทยยังมี เรี ยกว่ายังมีน าํ ยา และเป็ นคนทีมีความรู ้ และตังใจทีจะ ที


จะกูช้ าติจริ งๆ ถ้าถึงเวลา

ก็ขอขอบใจท่าน ทีต งั อกตังใจทีจะทําหน้าที แล้วก็ทาํ หน้าทีดีๆ อย่างนี บ้านเมืองก็


รอดพ้น ไม่ ต้อ งกลัว ขอขอบใจที ท่ า นพยายามปฏิ บ ัติ โ ดยดี แล้ว ประชาชนจะ
อนุโมทนา ขอบใจแทนประชาชนทัว ทังประเทศ ทีมีผูพ้ ิพากษาศาลฎีกา ทีเข้มแข็ง
ขอบใจ ขอให้ท่านสามารถทีจะปฏิบตั ิงานด้วยดี มีพลานามัยแข็งแรง ต่อสู ้ ต่อสู ้นะ
ต่อสู ้เพือความดี ต่อสู ้เพือความยุติธรรมในประเทศ ขอขอบใจ
15

ภาคผนวก 4

วันที 28 มีนาคม พ.ศ. 2552 ปี ที 32 ฉบับที 11340

"แม้ ว"เลือดเข้ าตาซัด"สุ รยุทธ์ " ถล่ ม"ป๋ า"ยับ ยืน# ยุบสภาแลกไม่ ลงเลือกตั&ง
เปิ ดทาง"111"-แก้รธน.อิงปี "40 ยกเลิกฟ้ องทั&งหมดนับหนึ งใหม่

"ทั ก ษิ ณ "บอมบ์ รายตั ว ซั ด "เปรม


"ผู้มีบารมีนอก รธน. กล่ าวหาแทรกแซง
การเมื อง แอบสั# ง การ ทํ าให้ เกิ ด ความ
เข้ าใจคลาดเคลื#อ นว่ าสถาบั นเกี#ยว ข้ อ ง
หนํ าซํ& ายังทํ าให้ เ กิ ดระบบความไม่ เ ป็ น
ธรรมขึ&น ฉะ"สุ ร ยุทธ์ "หนุ น พัน ธมิ ต ร
ทํา ปท.ล่ มจม จี&องคมนตรีหยุดเล่ นการเมือง ให้ ยบุ สภาเพื#อเป็ นทางออก แลกกับการ
ไม่ ลงเลือกตั&ง "อภิสิทธิ6"ชี&ม็อบเสื& อแดงชุมนุม ไม่ มี อะไรน่ าห่ วง
16

"แม้ ว "วิ ดี โ อลิ ง ก์ ปลุ ก คน พู ด จา หาท างออ กขอ ง ประเทศ เพื อ ลู ก หลาน
เสื อแดง ปั ญห า ค ว า ม ขั ด แ ย้ ง ที ไทย เรากําลัง มาตกลง
เมื อ เวลา 20.30 น. เป็ นอยูจ่ ะออกอย่างไร จะ กัน ว่ า ระบอบปกครอง
วันที 27 มี นาคม พ.ต.ท. เป็ นการเสนอฝ่ ายของผม ระบอบประชาธิ ปไตยที
ทั ก ษิ ณ ชิ น วั ต ร อ ดี ต แต่ คนอื นจะเอาหรื อไม่ ก็ แท้ จ ริ งคื อ สิ งที เ รารั ก
นายกรั ฐ มนตรี พู ด ผ่ า น ไม่ ท ราบต้อ งขอขอบคุ ณ และหวงแหน อยากได้
วิ ดี โ อลิ ง ก์ ม ายัง เวที ก าร ทุ ก ฝ่ ายที ช่ ว ย เป็ นครั( ง ไว้คู่ สั ง คมไทย อยาก
ชุมนุ มของกลุ่มเสื( อแดงที ประวั ติ ศ าสตร์ ที ทุ ก คน เห็นสั งคมไทยทีมีความ
ข้ า งทํา เนี ย บรั ฐ บาลว่ า ชุมนุมกันแล้วเสี ยสละเงิน ยุติธรรม หากไม่มีความ
วันนี(โทรม เพราะคืนเดียว คนละ เล็ ก น้ อ ยมาร่ ว ม ยุ ติ ธ รร มเ รา ก็ จ ะ เ จ อ
อยู่ 3 ประเทศ แต่กไ็ ด้ผลดี ชุมนุมกันทีนี อาจจะมีเสื( อ ปั ญ หาสิ ท ธิ ส ภาพนอก
ในเรื อ งความสั มพัน ธ์ ต่ อ แ ด ง ป ล อ ม ที ไ ป ส ร้ า ง อาณาเขตเหมือนทีเจอ ที
ประเทศไทย ผมเข้า ใจว่ า สถานการณ์ ท ํา ท่ า จะไป นั ก ลงทุ น ต่ า งประเทศ
เหนื อ ย ร้ อน ก็ บ างคน บุกสนามบิน นันเป็ นของ ก ลั ว ว่ า ม า ล ง ทุ น ใ น
อาจจะหิ ว แต่ ท่ า นก็ ย ัง ปลอมเพราะของจริ งอยู่ที ประเทศไทยแล้ว ไม่ ไ ด้
อดทนรอฟั งผมพู ด ต้อ ง ทําเนียบ รั บความเป็ นธรรม ต้อง
ขอขอบคุณพีน้องชาวเสื( อ วั ต ถุ ป ระ สงค์ ที ม า ไปขอขึ( นศาลที ฮ่ อ งกง
แดงที ไ ด้ ม ารวมตั ว กั น รวมกันที ทาํ เนี ย บรั ฐบาล หรื อ ที สิ งคโปร์ เราอย่า
ตั(งแต่เมือวันที 26 มีนาคม เพื อ เรี ยกประชาธิ ป ไตย ให้ เ กิ ด เราอยากเห็ น
เมื อ วานตั( งใจจะพู ด แต่ ค ว า ม เ ป็ น ธ ร ร ม ข อ ง อนาคตของประเทศที มี
ลํา บากเรื องการเดิ น ทาง สั ง ค มไ ท ย ก ลั บ ม า ไ ด้ อนาคต ส.ส.ได้รับ เชิ ญ
เลยพูดสั(นๆ วันนี( ต( งั ใจจะ อย่า งไร เพื อ อนาคตของ ไปญี ปุ่ น ไปคุ ย กั บ นั ก
17

ลงทุน เขาบอกว่า ไม่ เคย เท้ าคว ามซั ดผู้ มี บ ารมี ไม่เคยพูดกันชัดเจนแล้ว
เห็ น เกิ ด ขึ( นมาก่ อ นเลย นอก รธน. เราก็ลื ม ไป แต่ ว ัน นี( ถึ ง
บอ ก ว่ า ไ ม่ อย า กจ ะ มา "เราต้อ งเรี ยนรู ้ จ าก เวลามาพู ด เราต้ อ ง
ลงทุนเพิมในประเทศไทย บทเรี ยนที เ จ็ บ ชํ(า มานาน เรี ยนรู ้ จากบทเรี ยนที
เด็ด ขาด เครื อ งบิ น ของ จากการปฏิ วตั ิ จากเผด็จ ผ่านมา จะมัวเกรงใจกัน
ญี ปุ่ นเดิ ม อเมริ กาไม่ ใ ห้ ก า ร ที เ ข้ า ม า ทํ า ใ ห้ คงไม่ได้ เพราะเกรงใจก็
ผลิ ต แต่ ต อนนี( เริ มผลิ ต ประ ชาธิ ปไตยไม่ เป็ น ไ ม่ รู ้ ค ว า ม จ ริ ง แ ล ะ
แ ล้ ว โ ด ย ไ ป ตั( ง ประชาธิ ป ไตยที แ ท้จ ริ ง ประชาชนก็ไม่ มีโอกาส
โรงงานผลิต เครื อ งยนต์ที มันเกิดครั(งแล้วครั( งเล่าจน รู ้ วันนี(สิ งทีจะพูดต่อจาก
เวี ย ด นา ม เพ ร า ะ ที ไม่รู้ว่าเมือไหร่ จะจบ ก่อน นี( ไ ม่ ใช่ เ พือ ผม แต่ เ พื อ
เ วี ย ด น า ม มี เ ด็ ก จ บ นี( คิ ด ว่ า จะไม่ มี แ ล้ว แต่ ก็ ลูกหลานว่าลูกหลานใน
คณิ ต ศาสตร์ ใ หม่ ๆ เยอะ เกิดขึ(นจนได้ เพราะเราไม่ อนาคตจะอยู่ อ ย่ า งไร
เขาไม่มาเมื องไทย นี คื อ ยอมพูดความจริ ง มีการตั(ง ความสามารถในการ
ตัว อย่ า งของการสู ญเสี ย คณะกรรมการสอบความ พั ฒ นาตั ว เองจะมี แ ค่
โอกาส เพราะสิ งที เ กิ ด จริ งครึ งเดียว ในทีสุดเราก็ ไหนหากเรามีปัญหากัน
ขึ(น กับ เราวันนี( จึ งอยาก ไม่รู้ ความจริ งเหมื อนเสี ย อยู่ อ ย่ า งนี( ดัง นั( น ขอ
บ อ ก กั บ ผู ้ ใ ห ญ่ ใ น ค่า เรี ย นแล้ว ไม่ เคยได้รั บ เท้า ความว่ าอะไรคื อผู ้มี
บ้านเมือง ผูใ้ หญ่ในทีน( ี คือ ประกาศนียบัตร เรี ยนแล้ว บารมี น อกรั ฐ ธรรมนู ญ
คนที มี อ ายุ มากๆ ว่ า ถึ ง ไม่ จ บสั ก ที นี คื อ สิ งที เ รา เป็ นอย่างไร"
เ ว ล า ห รื อ ยั ง ที จ ะ มอ ง เรี ยนรู ้ ประชาธิ ปไตยของ ที ม า ข อ ง ค ว า ม
อนาคตให้ลูกหลาน ไม่ใช่ เราที ไ ม่ เ คยเรี ย นจบ ล้ม วุ่ น วาย คงจํ า ได้ ว่ า
การเอาชนะคะคานกัน แล้วพูดว่ าล้มเพราะอะไร ปลายปี 2547 ก่ อ น
18

เลื อ กตั( ง 2548 มี ก าร พรรคประชาธิ ปัตย์อาจจะ เกรงใจกันอยู่ วันนั(น ผม


ร ว ม ตั ว กั น เ ล็ ก ๆ ที ช่วยทางอ้อมหรื อตรงก็ไม่ ประชุ มข้า ราชการที ตึ ก
สนา มหล วง มี พ ว ก ทราบ แต่กไ็ ปอยูท่ ีขา้ งเวที สัน ติไ มตรี ผมบอกให้
สหภาพแรงงาน ร่ ว มกับ และขึ(นเวทีบา้ ง นันคือสิ ง ทุ ก คนทํา หน้ า ที เ ต็ ม ที
นายเอกยุทธ และคุณประ เริ มต้น ของการต่ อสู ้ น อก เพราะรู ้ว่าข้าราชการเริ ม
ชัย คือพวกทีไม่พอใจผม ระบบ แค่ น( ัน ไม่ เ ป็ นไร เกียร์ ว่าง เพราะเริ มถูกผู ้
หรื ออาจจะมีความสู ญเสี ย แต่ มี อ งคมนตรี บางท่ า น มีบารมีนอกรัฐธรรมนู ญ
แต่ไม่มีอะไรเกิด แต่ต่อมา ได้ไปบอกกับสื อ และไป แท ร กแ ซ ง ผ มก็ ต้ อ ง
หลังเลือกตั(ง 2548 พรรค แอบอ้างว่า พระเจ้า อยู่หัว กระตุ ้น ให้ท าํ งาน ผู ้มี
ไทยรั ก ไทยได้ ส.ส. 377 ไม่ เ อาผมแล้ว ผมพู ด กับ บารมี น อกรั ฐ ธรรมนู ญ
เสี ยง ก็รู้สึกว่าไทยรั กไทย สื อก็ ย อมรั บ แต่ เ ป็ น แปลว่ า ในรั ฐ ธรรมนู ญ
แข็งแรงเกินไป ฝ่ ายค้า น องคมนตรี บ างคนเท่ านั(น ไม่ ไ ด้ก ํา หนดให้ เ ขามี
อ่อนแอเกิน ไป เริ มพู ดจา หลัง จากนั( นก็ เ กิ ด ม็ อ บมี โครงสร้ า ง มี อาํ นาจใน
กัน แต่พอปลาย 2548 เกิด เส้น เอเอสทีวีได้รับความ การจั ด การ แต่ มี บ ารมี
กระบวนการรวมตัว ของ คุม้ ครองจากศาลปกครอง สามารถแอบสั งงานได้
พัน ธมิ ต ร โดยนายสนธิ เปิ ดตัวคือ"พล.อ.เปรม" แล้วข้าราชการเกรงใจก็
ลิ( ม ทองกุ ล เป็ นหั ว หน้ า คุ ้ ม ครองจนปฏิ ว ั ติ ยอมเลี ยง ยอมผิดคําสั ง
ที ม เริ ม ต้น ที ส วนลุ มพิ นี แล้วก็ไม่เลิก คุม้ ครองให้ ผูบ้ งั คับบัญชา นันคือผูม้ ี
โดยความเอื(อเฟื( อของนาย ออกอากาศล้มล้างรั ฐบาล บารมี น อกรั ฐ ธรรมนู ญ
อภิรักษ์ โกษะโยธิน ผูว้ ่าฯ รั ฐ บาลก็ ท ํา อะไรไม่ ไ ด้ คํ า ว่ า ผู ้ มี บ า ร มี น อ ก
กทม.ตอนนั(น ให้สถานที จนผมต้องพูดความจริ ง ก็ รั ฐ ธรรมนู ญ เป็ นคํ า ที
ใ ห้ ต ล อ ด ทุ ก สั ป ด า ห์ ไม่ ก ล้ า พู ด เต็ ม ที เ พราะ ฮือฮามาก และนายสนธิ
19

ลิ(มทองกุล ก็ไ ปกล่ าวหา องคมนตรี ย่ ุงการเมือ งไม่ ขอใ ห้ ร ะมั ด ร ะวั ง ใ น
ว่ า ผ ม ห ม า ย ถึ ง เหมาะ คํา พู ด นั น คื อ ว่ า ต้อ ง
พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ ผมขออั ญ เชิ ญ พระ เข้าใจว่าในบทบาทไหน
เจ้าอยู่หัว ผมมิบงั อาจ ผม ราชกระแสพระราชดํารั ส เป็ นองคมนตรี บทบาท
มีค วามจงรั กภักดี ผมไม่ ที พ ร ะ ร า ช ท า น แ ก่ ไหนเป็ นเรื องส่ วนตัว
บัง อาจเอื( อ มพู ด ถึ งขนาด องคมนตรี ในโอกาส วัน นี( สิ งสํา คัญการ
นั(น เสด็จฯไปทรงเปิ ดทําเนียบ ที อ ง ค ม น ต รี เ ข้ า ม า
แ ต่ จ ริ ง ๆ แ ล้ ว ผ ม องคมนตรี ณ อุ ท ธยาน เกี ย วข้ อ งในการเมื อ ง
หมายถึง พล.อ.เปรม ติณ สร า ญร มย์ 2547 ว่ า เป็ นสิ งทีไม่สมควรอย่าง
สู ล านนท์ แต่ ผ มไม่ ก ล้า องคมนตรี เป็ นที ป รึ กษา ยิง เพราะทําให้เกิดความ
พูดวันนั(น แล้วก็มีคนของ ข อ ง พ ร ะ ม ห า ก ษั ต ริ ย์ คล า ด เ ค ลื อ น ว่ า พ ร ะ
พล.อ.เปรม โทร.มาให้ผม ไม่ใช่ให้คาํ ปรึ กษาคนอื น เจ้ า อยู่ หั ว ทรงกี ย วข้อ ง
ช่ ว ยพู ด ให้ ชั ด ว่ า ไม่ ใ ช่ นี เ ป็ นสิ งที ค นสงสั ย ว่ า การเมืองได้อย่างไร พระ
พล.อ.เปรม ผมก็ ไ ม่ พู ด องคมนตรี มีอาํ นาจหน้าที เจ้า อยู่หัวท่ า นสถิ ตอยู่ที
เพราะหลั ง จากนั( นท่ า น อะไร แต่องคมนตรี ไม่ได้ สู ง ท่ า นเป็ นที รั ก ของ
เดิ น สาย ใส่ เ ครื องแบบ เป็ นที ป รึ กษาของคนอื น พสกนิ กร แต่คนอยู่รอบ
ทหาร ทั(งทัพ บก ทัพ เรื อ เป็ น ที ป รึ กษา ของฝ่ า ย พ ร ะ อ งค์ ท่ า น เ ข้ า ม า
ทั พ อากาศ และออก พระมหากษัตริ ย ์ ไม่ใช่ว่า เกียวข้องกับการเมืองทํา
เดินสายด่าผม มี พล.อ.สุ ร จะไปแนะนําคนอืน ถ้าไป ให้พระองค์ท่านทรงเสี ย
ยุท ธ์ มัก จะไปด้ว ยบ่ อ ยๆ แนะนํ า คนอื น เป็ นการ ดังนั(น ขอให้ทุกคนทีอยู่
นัน คือคู่หู ไปด้วยกัน แนะนําส่ วนตัว ไม่ใช่ใ น รอบพระองค์ ท่ า นอย่ า
ฐานะองคมนตรี ฉะนั( น เ ข้ า ม า ยุ่ ง ก า ร เ มื อ ง
20

เพราะว่ า พระองค์ ท่ า น เ ลื อ ก ตั( ง รั ฐ ธ ร ร มนู ญ ท่ า น บ อ ก ว่ า ไ ม่ ยุ่ ง


สถิตทีสูง ผมขอยํ(าว่าสิ งที ไม่ได้บงั คับให้เป็ น ส.ส. การเมื อ งไม่ ไ ด้ ห รอก
พ ล . อ . เ ป ร ม เ ข้ า ม า ท่านได้รับ การสนับ สนุ น เพราะท่านยุง่ จริ งๆ ตอน
เกียวข้องการเมืองนั(น อย่า จากพรรคประชาธิ ปั ต ย์ ที พ ล . อ . สุ ร ยุ ท ธ์ ไ ป
เพิ งเถี ย ง สิ งที พล.อ.สุ ร แม้ใ นปี 2539 ท่ า นเป็ น ประชุมทีมี พล.อ.พัลลภ
ยุทธ์เข้ามายุ่งกับการเมือ ง นายกฯรอบล่ า สุ ด นาย ไปด้ ว ย แต่ ที บ อกว่ า
ทํ า ให้ ส ถาบั น เ สี ยหา ย พิชยั รั ตตกุล เป็ นหัวหน้า พล.อ.สุ รยุทธ์ไม่เชิญ แต่
ฉะนั( นไม่ ค วร เพราะ พรรค ได้ ส.ส.100 คนก็ คุ ณ ปี ย์ มาลากุ ล เชิ ญ
เมื อไ หร่ ท่ าน มา ยุ่ ง กั บ ไม่ได้เป็ นนายกฯ ก็ยกมือ บอกมี 3 ท่ า นที ไ ปเข้า
การเมือง การเมืองก็จะยุ่ง ให้ท่ า นเปรมเป็ นนายกฯ เฝ้ าฯ 901 ก็ มี พล.อ.
กับท่าน ดังนั(น องค์กรทุก การที พล.อ.เปรมอาจจะมี เปรม พล.อ.สุ รยุทธ์ และ
องค์ก รห้า มเข้า มายุ่ ง ผม ความใกล้ ชิ ด กั บ พรรค มี อ งค มมน ตรี อี ก ค น
กํา ลัง พู ด เพื อ บอกว่ า เรา ประชาธิปัตย์ เลยเป็ นห่ วง หนึ ง ก็ไ ม่ รู้ว่ าจริ งหรื อ
กําลังมาหาทางออกกัน เ ป็ น ใ ย กั บ พ ร ร ค เปล่า แต่เป็ นคําบอกเล่ า
ยกไม่ จงรั ก ภั ก ดี เ หตุ ผ ล ประชาธิ ปั ต ย์เ ป็ นพิ เ ศษ ของ พล.อ.สุ รยุทธ์ว่าได้
โค่น พรรคไทยรั ก ไทยชนะ ไปเฝ้ าฯ 901 จะขอ
ถ้าจําได้ อาจจะเคยจํา เลื อ กตั(ง 2 ครั( ง พรรค ทํา งานเพราะ พ.ต.ท.
ว่ า การเมื อ งสมัย พล.อ. ประชาธิ ปัต ย์ไม่ มีโ อกาส ทั ก ษิ ณ ไ ม่ มี ค ว า ม
เปรมเป็ นอย่างไร ท่านเคย สู ้ เ ลยก็ ไ ม่ รู้ ว่ า เป็ นเพราะ จงรั กภักดี และทุกคนที
เป็ นนายก รั ฐมนตรี 8 ปี อะไร ทํ า ง า น นี( จ ะ ไ ม่ ห วั ง
แต่ ก ารเป็ นนายกฯของ ผมเป็ นห่ วง ไม่อยาก ตําแหน่ งทั(งสิ( น นี คือผม
ท่ า นนั( น ท่ า นไม่ เ คยลง ให้ท่านมายุ่งการเมืองเลย ได้รับการบอกเล่ามา แต่
21

ผมไม่ เ ชื อ ว่ า 901 คื อ ขึ( น มี ด ร . อั ก ข ร า ท ร นายกฯก็ บ อกเหมื อ น


พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ จุ ฬารั ต น นายจรั ญ ภัก ดี นายกฯวินสตัน เชอร์ ชิล
เจ้ า อ ยู่ หั ว จะทร งรั บ รู ้ ธนากุ ล นายชาญชัย ลิขิ ต ทีเป็ นนนายกฯคนดีของ
เพราะพระเจ้าอยู่หัวสถิ ต จิ ต ถะ ก็ ไ ปร่ วมประชุ ม อังกฤษคนหนึ ง ทีผมได้
อยู่ ที สู ง ไม่ ท รงยุ่ ง เกี ย ว ด้วย นี คือสิ งทีเกิดขึ(น ทํา ข่ า วก็ ไ ปดู อ นุ สาวรี ย์
การเมื อ งเลย แต่ เ มื อ ให้มีก ารเดิ น หน้า จัด การ เ ช อ ร์ ชิ ล ว่ า ยั ง อ ยู่ ที
เหตุการณ์เกิดขึ(น ก็ตามมา ผมอย่างชัดเจน และทําให้ ลอนดอนหรื อย้ายไปอยู่
ว่ า มี ใ ค ร บ้ า ง ม า ร่ ว ม ก ร ะ บ ว น ก า ร ทั( ง ห ม ด เขายายเทียงแล้ว แต่พอ
ประชุมบ้า ง ก็มีอ ยู่ 3 คน ผิดเพี(ยนหมด เพราะพระ นายอภิ สิ ทธิL ก็ บ อกว่ า
คื อ พล.อ.เปรม พล.อ. เจ้าอยูห่ วั ไม่ทรงทราบ แต่ ประเทศไทยโชคดีที ไ ด้
สุ รยุทธ์ และคุณปี ย์ มี ก ารแอบอ้า งกัน ทํา ให้ คุณ อภิ สิ ท ธิL เป็ นนายกฯ
ทีประชุม ต่ อมามีอี ก ก ร ะ บ ว น ก า ร ทํ า ง า น ท่ า น เ ป็ น ป ร ะ ธ า น
4 คนนายปราโมทย์ ทั(งหมดบิด เบี(ย วผิ ด เพี( ย น อ ง ค ม น ต รี ท่ า น ไ ป
นาครทรรพ ผู ้แ ต่ งนิ ย าย หมด เผลอไผลอย่า งนี( ไม่ ไ ด้
เรื องปฏิ ญญาฟิ นแลนด์ ก็ จี"เปรม"หยุดยุ่งการเมือง วันที 26 มีนาคม ท่านก็
ได้ยิน ข่ า วว่ า ศาลลงโทษ แล้ ว ถามว่ า พล.อ. บอกว่ า ป๋ าเชี ย ร์ อ ภิ สิ ท ธิL
พ ร้ อ ม บ ร ร ณ า ธิ ก า ร เปรมตอนปฏิ วตั ิ พานาย ท่ า น ยั ง เป็ นป ระ ธา น
ผูจ้ ัดการให้จ ําคุกคนละ 1 บั ง เ ข้ า ทํ า ไ ม ทํ า ไ ม องคมนตรี อยูน่ ะ
ปี ปรับ 1 แสน โทษจําคุก ประธานองคมนตรี ต้อ ง ที ผ มพู ด เพราะผม
ให้รอลงอาญา นี คือสิ งที ไปเข้าเฝ้ าฯด้ว ย เหมื อ น รั ก เ ค า ร พ ผ ม เ ค ย
ไ ม่ ค ว ร เ กิ ด ขึ( น ใ น เป็ นหั ว หน้ า คณะปฏิ ว ั ติ กราบป๋ า ป๋ าเป็ นผู ้ใ หญ่
สังคมไทย เลยเกิ ดปั ญหา ตอน พล.อ.สุ ร ยุ ท ธ์ เ ป็ น เราเป็ นนายกฯรุ่ นเด็กเรา
22

ก็ ใ ห้ ค วามเคารพนั บ ถื อ เป็ นระบบทีป๋ากดตรงนั(น แ ต่ เ อ า ป ร ะ เ ท ศ ทั( ง


แต่ ป๋ าลงมาเล่ น การเมื อ ง ที ตรงนี( ที กราบเรี ยนด้วย ประเทศจมเลย
ในฐานะประธาน ความเคารพป๋ าจริ งๆ ตอนทีผมเป็ นนายก
องคมนตรี ผมไม่ อ ยาก ถ ล่ ม อดี ต รอ ง น า ย ก ฯ ฯ ผมก็มีร องนายกฯคน
เห็ น ป๋ าอย่า ทํา เลย การ เพียน หนึ ง ผมก็ มองเพี( ย นๆ
ที ป๋ าลงมาเล่ น แล้ ว สั ง ส่ ว น ท่ า น สุ ร ยุ ท ธ์ ตอนหลัง มาผมไปรู ้ ว่ า
โน่ น นี ในฐานะเป็ นผู ้มี ท่ า นก็แ อคที ฟ มากลงไป มั น ไปเชิ ญ เพื อ นผมที
บารมีนอกรัฐธรรมนู ญมัน ลุยสื อ และขยันหลายเรื อง เป็ นนั ก ธุ รกิ จมาเ ป็ น
เ ป็ น สิ ง ที ทํ า ใ ห้ เรื องนี( ต้ อ งถามจ่ า ยัก ษ์ รั ฐ มน ตรี ป ร า ก ฏ ว่ า
กระบวนการของประเทศ และท่ านสนธิ ว่ าท่ านสุ ร พล.อ.สุ รยุทธ์เรี ยกไปจะ
เสี ย หายหมด ระบบสอง ยุทธ์คิดอะไร จ่ายักษ์ ตอน ให้เ ป็ นนายกฯมาตรา 7
มาตรฐาน ความไม่ เ ป็ น ทีผมโดนคาร์ บอมบ์ได้ให้ ไอ้น( ี ก็ ฟิ ต ไปชวนนั ก
ธรรมในสังคมเกิดขึ(น ป๋ า ก า ร ว่ า ถ้ า ฆ่ า ไ ม่ ต า ย ก็ ธุ ร กิ จ มาเป็ นรั ฐ มนตรี
ต้องอย่าทํา ป๋ าอาจจะไม่มี ปฏิ วั ติ ถ้ า ป ฏิ วั ติ เ ส ร็ จ ผมก็ตกใจว่ารองนายกฯ
ลู ก ห ล า น แ ต่ เ ร า มี นายกฯชือสุ รยุทธ์ ปรากฏ ผมคนนี(ทาํ ไมเพี(ยนๆ
ลู ก หลาน เขาเหล่ า นั( น ว่าเมือสนธิ ลิ(มทองกุล ไป เรื อง กกต.ก็เช่นกัน
กําลังเติบโต ต้องมีอนาคต พู ด ที เ วอร์ จิ เ นี ย กํา ลัง ไล่ ไปเรี ย ก พล.อ.จารุ ภทั ร
เขาต้องอยู่ในประเทศที มี ผม สุ ร ยุท ธ์ก็โ ทร.มาให้ เรื อ งสุ ว ร ร ณ พ ล . ต.
ระ บบ คิ ด ถู กต้ อ ง เ ป็ น กํา ลัง ใจบอกว่ า จะให้ที วี จํา ลอง ศรี เมื อ งด้ ว ย
ร ะ บ บ ที เ ป็ น ช่อ งหนึ ง เพราะเขารู ้ ว่ า บอกว่ า ให้ อ อกได้แ ล้ว
ประชาธิ ปไตย ให้ค วาม สนธิ โ กรธผมที ไ ม่ ใ ห้ที วี ถ้าไม่ออกก็ติดคุก พล.อ.
เป็ นธรรมกับสังคม ไม่ใช่ เป็ นเรื องทีดูเหมือนอีเดียต จารุ ภั ท รก็ ก ลั ว ลั ง เ ล
23

ก่ อ น ล า อ อก ผ มบุ ก ไ ป ประสงค์ ผมถวายงานมา ก็ไ ปยิงพม่ า ตายไป 300


ทํา เนี ย บองคมนตรี พบ 6 ปี ผมขอยืนยันว่าเจ้านาย กว่ าคน ผมก็เลยไม่รู้ จ ะ
พล.อ.สุ รยุทธ์ผมบอกว่าพี ทั( งส องพ ระอ งค์ ไ ม่ ยุ่ ง พู ด อ ย่ า ง ไ ร ก า ร
ทําไมมันเป็ นอย่างนี( บอก การเมือง ดังนั(น เป็ นเรื อง เคลื อ นย้า ยกํา ลัง เกิ น 1
พี ไ ม่ รู ้ เ รื อ ง พี กํ า ลั ง ตี ทีองคมมนตรี บางคนทีไป กองพล ต้ อ งขออนุ มั ติ
กอล์ฟสนุก นีพีเป็ นพลร่ ม ทํา ท่านสองคนนี( แอ๊คทีฟ จ า ก รั ฐ มน ตรี ว่ า ก า ร
นะ ไม่ ฆ่ า น้ อ ง ไม่ ฟ้ อง การเมืองมาก ท่านก็ตอ้ ง กระทรวงกลาโหม ถาม
นาย ไม่ ข ายเพื อ น ผมก็ ทํา ใจว่ า เมื อ ท่ า นมาเล่ น พี จิP ว ก็ไ ม่ ไ ด้อ นุ มัติ แต่
บ อ ก ว่ า ผ ม เ ป็ น พ ล ร่ ม การเมื อ ง ท่ า นต้อ งโดน มาสั ก พัก จากนั(น ก็ท าํ
เหมือนกัน ผมไปพูดอย่าง การเมืองเล่น เรื อ งขอ งบ ปร ะ มา ณ
นี( ท่านก็น่ารั กเดินมาส่ งที พล.อ.สุ รยุทธ์น( ี ท่าน เพราะนํา นํ(า มัน สํา รอง
รถ ฟั งแล้ว มัน เรื องอะไร อาจจะไม่ พ อใจผมที ผ ม ของกองทั พ ไปใช้ ขอ
วะ ในที สุ ด กกต.ก็ ถู ก ย้ายท่าน ผมโทร.หาท่าน 300 กว่าล้านบาท พีจิP ว
ตัดสิ นจําคุก ปลุกท่านประมาณตี 1 วัน มาอ้ อ นวอน ก็ ต้อ งให้
เบืองหลังเด้ ง"สุ รยุทธ์ " นั( น ผ ม ไ ป ส่ ง ลู ก ไ ป และในที สุ ดผมก็ ต้ อ ง
ผ ม ไ ม่ รู ้ ว่ า จ ะ ทํ า อัง กฤษ ก่ อ นเครื อ งบิ น ย้ายท่านขึ(นเป็ น ผบ.สส.
อย่ า งไรกั บ สิ งที เ กิ ด ขึ( น กํา ลัง จะออก ผมโทร.หา ผมเป็ นคนทํางานหน้าที
เพราะในเมื อ ลงมาเล่ น เลยว่ า ท่ า น ผบ.ทํา ไม เป็ นหน้ า ที ไ ม่ มี อ ะไร
การเมื อ ง ถ้า เมื อ ไหร่ มี เคลื อ นย้า ยกํา ลั ง ทหาร เป็ นส่ ว นตัว จบเป็ นจบ
เหตุ ก ารณ์ อ ย่า งนี( เกิ ด ขึ( น ท่ า นก็ บ อกว่ า ไม่ มี ค รั บ แล้วก็แล้วไป ผมเป็ นคน
เขาก็ตอ้ งฟังองคมนตรี สิ ง เป็ นการเคลื อ นย้า ยกํา ลัง อย่างนี(
ทีอ งคมนตรี เ ป็ นพระราช ธรรมดา เสร็ จแล้วไม่นาน
24

อ้ าง ชื. อ"บั ง "โ ยง ลอ บ ค า ร์ บ อ ม บ์ ไ ป ดั ก ก็ ต( ัง ตอนปฏิ ว ัติ และ


สั งหาร สนามบิ น 2 ครั( ง และมา พรรคประชาธิ ปั ตย์ ก็
ทีน( ีเมือเกิดเหตุการณ์ ดัก ที ถนนจรั ญสนิ ท วงศ์ เห็นดีเห็นงามด้วย ทีพูด
อย่างนี(กไ็ ม่รู้ทาํ ไม ถ้าท่าน ซึ งมี ก ารจับ กุ มได้ เท่ า ที วันนี( เ พือจะให้จบ และ
จะยุง่ การเมืองท่านมาเล่น ผ ม ถ า ม ม า ค น ที อ ยู่ หาทางออกว่ า วัน นี( ต้อ ง
การเมื อ งไม่ มี ปั ญ หาเลย เบื( องหลั ง และไปตาม พูดความจริ ง ต้องเรี ยนรู ้
ผลพวงแห่งการแทรกแซง เรื องบ่อยๆ ชื อนายบัง นี แล้วหลังจากนี( ก็จ ะมาดู
การประชุ มที บ ้า นคุ ณ ปี ย์ เป็ นกระบวนการถึงเป็ นที ว่าจะหาทางออกร่ วมกัน
ถ น น สุ ขุ ม วิ ท เ กิ ด วุ่นวายทุกวันนี( อย่างไร
กระบวนการหลายอย่า ง ปู ด เสื อเหลื อ งชอบอ้ าง ผมอยากเรี ยนว่ า
ผมก็ถูกลอบสังหาร อัน นี( เจ้ านาย การทีมีการเลือกทีรักมัก
ก็ ค น ค ง ไ ม่ ก ล้ า พู ด จําได้ไหมวันทีผมยุบ ที ชั ง มี ก ารสนั บ สนุ น
เนืองจากเป็ นคดีอาญา ผม สภา พรรคประชาธิ ปัต ย์ กลุ่ มนั(น แอนตี( ก ลุ่ ม นี(
ถู ก ลอบสั ง หารด้ ว ยปื น ร่ วมกับฝ่ ายค้า นบอยคอต จึ ง ทํา ให้ ป ระเทศไทย
สไนเปอร์ 2 ครั(ง แต่โชคดี การเลือกตั(ง คุณตั(งพรรค เกิดระบบทีไม่เป็ นธรรม
ผ ม เ ป ลี ย น ทิ ศ จ า ก การเมือ งมาบอยคอตการ สองมาตรฐานเต็ ม ไป
เชียงใหม่ไปลําปาง และที เลื อ กตั(ง ได้อ ย่ า งไร เกิ ด หมด ลองคิดดูว่านายกฯ
สนามหลวง เขาไปใช้ตึ ก การฟ้ องกันไปมา ในทีสุด คนหนึ ง เซ็ น ยิน ยอมให้
ค ณ ะ รั ฐ ศ า ส ต ร์ ก็ ยุ บ พรรคไทยรั ก ไทย ภรรยาไปทํา นิ ติ ก รรม
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พรรคประชาธิ ปัต ย์ท าํ ผิ ด ไปปร ะกว ดรา คาซื( อ
แต่ ผมเลือ นเวลาปราศรั ย ไ ม่ ยุ บ ตุ ล า ก า ร ทีดินอย่างถูกต้อง ทีดิ น
เร็ วขึ(น จึงรอด ครั(งที 3 คือ รั ฐ ธรรมนู ญตั(งตอนไหน นี( เป็ นหนี( เน่ า ที ก องทุ น
25

ฟื( นฟู ข ายอยู่ เ รื อยๆ ศาล ป่ าตามพระราชเสาวนี ย ์ ห ยุ ด เ พ ร า ะ ส ถ า บั น


บอก ว่า การซื( อ ชอบ คน ของสมเด็จ พระนางเจ้า ฯ ก ษั ต ริ ย์ ต้ อ ง อ ยู่ คู่ กั บ
ซื( อก็ชอบ คนขายชอบ แต่ เพราะจับมาแล้วมันอ้างว่า สังคมไทย ต้องช่วยกัน
ผมเป็ นนา ยกฯเซ็ นใ ห้ บ้า นเขายายเที ย งบนยอด ป ก ป้ อ ง แ ต่ ไ ม่ ใ ช่ ม า
ภรรยา ไปทํ า นิ ติ ก รร ม ทํา ไมยัง อยู่ ไ ด้ เขายาย แสดงความจงรักภักดีจน
และจ่ ายเงินซื( อทีไปเกือ บ เทียงยังไม่ผิดเลย เสี ยหาย เลยเ ถิ ด จ นทํ า ใ ห้ เ สี ย
800 ล้านบาท ติดคุก 2 ปี ไหม ระบบความยุติธรรม ความจงรักภักดีอยู่ทีการ
แต่ พล.อ.สุ ร ยุทธ์ มีบ ้า น ไม่ มี ตํา รวจบอกไม่ รู้ จ ะ กระทํา ไม่ตอ้ งแสดง ไม่
บนเขายายเที ย งเป็ นป่ า ทําคดีอย่างไร ต้อ งพู ด นี เ กิ ด ขึ( น จาก
สงวนฯ บนยอดเขาเลย สองมาตรฐานมีเยอะ ความเป็ นสองมาตรฐาน
แต่ คตส.บอกว่ า ไม่ มี เหลื อ เกิ น วิ ธี ป ฏิ บ ัติ ต่ อ ต้ อ งรั ก ษาสถาบั น อยู่ คู่
อํา นาจ ใครก็ไ ปทํา อะไร เสื( อ เหลือ งเสื( อ แดงก็เ ห็ น สั งคมไทย
ไม่ ไ ด้ อัน นี( ฟรี แต่ นี เ สี ย เยอะ สี เหลื อ งเหรอทํ า ต อ น ที ม็ อ บ สี
ตังค์เ กือ บ 800 ล้า นบาท อะไรก็ได้ห มด ตั(งข้อหา เหลื อ งบุ ก ยึ ด ทํา เนี ย บ
ถู ก ต้ อ งหมด แต่ เ ขายาย แล้ว ก็ถอนข้อหา ถูก จับ ก็ คุณสมัครประกาศภาวะ
เที ย ง เขาลู ก เดี ย วกั น นี( ได้ประกันตัว แถมยังบอก ฉุ ก เฉิ น มอบให้คุ ณ อนุ
ร้านอาหารตาพรอยูต่ ีนเขา ว่ า ด้ว ย 02 สั ง ทํา ให้ พงษ์ไป แต่กแ็ บะๆๆ ทํา
ศาลชั(นต้นทีสีค(ิวสังจําคุก เจ้านายเสี ยหาย ผมไม่คิ ด อะ ไ ร ไ ม่ ไ ด้ สั ก อ ย่ า ง
2 ปี และศาลอุทธรณ์ ก็ยืน ว่าเจ้านายมายุง่ เรื องพวกนี( ปลั ด มหาดไทยก็ ค ้ า น
วัน นี( ต าํ รวจบอกผมมาว่ า แต่ว่าไปอ้างเจ้า อ้างนาย คนนั( นก็ ค ้า น ทํา อะไร
ตํา รวจทํา สํ า นวนไม่ ไ ด้ หมด เจ้ า นายเสี ยหายก็ ไม่ได้ ไม่ได้ทาํ อะไรสัก
เลยในคดี ผู ้ต ้อ งหาบุ ก รุ ก เพราะพวกนี( วัน นี( ต้อ ง อ ย่ า ง แ ล้ ว พ อ ยึ ด
26

สนามบิน คุณสมชายเป็ น มาก ยุบ 3 พรรคสื บพยาน ไหนเขาก็ ต้ อ นรั บผม


นายกฯก็ ป ระกาศภาวะ วัน เดี ย ว สื บ เช้า บ่ า ยยุ บ เมือคืนเขาก็เอาตํารวจมา
ฉุ กเฉิ น ก็ไม่กล้าสังทหาร เพือให้ทนั 4 ธันวาคม ดีที นอนเฝ้ าหน้าห้อง เขาไม่
ก็ไปสังตํารวจ ก็จะไปช่วย พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ เ ชื อ สิ ง ที เ กิ ด ขึ( น ใ น
อย่า งไร เมื อ ทหารปลอม เจ้าอยู่หัวทรงไม่ออกมหา ประเทศไทย เขาไม่เชือ
เป็ นสี เหลืองอยูข่ า้ งใน เอา สมาคม เพือให้ทนั วันที 4 หรอกว่าคดีอย่างนี(ติดคุก
ปื นเอาอะไรไปด้วย แล้ว เลย ยุบ วัน ที 2 รี บยุบ 3 อายเขาไหม นี คือ สิ งที
ประเทศเจ๊ ง ไปเท่ า ไหร่ พ ร ร ค ก า ร เ มื อ ง คุ ณ มี ไ ม่ ค ว ร เ กิ ด ขึ( น ใ น
เสี ยหายไปเท่าไหร่ ทําไม ประสิ ท ธิ ภ าพขนาดนั( น ประเทศไทย ผลั ด กั น
ไม่พูดกัน ตะแบงอย่างนี( เลยเหรอ ดู คุ ณสมัครไป เป็ นรั ฐ บาลไม่ ใ ช่ เ รื อง
ชนะการเมื อ งได้แ ต่ ชนะ ทํา กับ ข้าวออกทีวี ไปรั บ ใหญ่ แต่ เ ป็ นความชํ(า
หั ว ใจประชาชนไม่ ไ ด้ ค่ า ออก 3,000 กว่ า บาท ชอกของประเทศไทย
เพราะวัน นี( ประชาชนไม่ ก ฎ ห ม า ย ไ ม่ มี ไ ป เ ปิ ด ค ว า ม เ สี ย ห า ย ข อ ง
โง่ เขารู ้ หมด ไม่เช่นนี( ไม่ พจนานุ ก รม แล้วคนเป็ น สถาบันเราต้องรั กษาให้
ยอมเสี ยเงิน กันเองขนกัน ถึ ง นายกฯปลดกัน ง่ า ยๆ อยู่คู่ ก ับ สั งคมไทย คื อ
มาชุมนุมหรอก เพราะเขา อย่างนี(เหรอ ระบบใครจะ เ ป็ น ส ถ า บั น ภ า ย ใ ต้
รั บ ไ ม่ ไ ด้ ก ั บ ค ว า ม ไ ม่ เชื อ ถื อ ประเทศไทย เขา ระบอบรั ฐ ธรรมนู ญ ที
ยุติ ธ รรม ไม่ ใ ช่ ห น้า ด้า น บอกว่า Thailand is a joke เป็ นเรื อ งสากล สุ ด ท้า ย
ตะแบงกั น ไป ในเมื อ อายเขาไหม ไม่ มี อ ะไรดี เ ลย เป็ น
ความเป็ นจริ งทุ ก สิ งทุ ก บ า ง ก อ ก โ พ ส ต์ ประโยชน์ส่วนตัว
อย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเนชัน บอกว่ า ผมฟู จิ อ ง ค์ ก ร อิ ส ร ะ
ศาล รัฐธรรมนูญยอดเยีย ม ที ฟ (คนหนี ค ดี ) ผมไป ทั(งหลาย ท่ า นทั(งหลาย
27

ต้อ งทํา หน้า ที ท่ า นต้อ ง ป ร ะ ช า ธิ ปั ต ย์ อ ยู่ ใ น ม น ต์ ดํ า ก็ มี ไ ม่ ต้ อ ง


เ ลิ ก ฟั ง แ ล ะ แ อ บ อ้ า ง ป.ป.ช. ก็ข อให้ท าํ หน้า ที ออกมาช่วยเขาตั(งรัฐบาล
เ พ ร า ะ ส ถ า บั น เ ป็ น ป.ป.ช. เถอะ ระบบศาล หรอก เลิกเถอะ อย่าเชือ
สถาบันทีศกั ดิLสิทธิL จริ งๆ เดี ยวก็เ ช่ นกัน เป็ นระบบ นํ(ามนต์คนทีเคยออกไป
ศาลส่ ว นใหญ่ เ ป็ นคนดี ศาลทียเู อ็นเขาไม่รับ ทีอืน จากผมเลย นํ(ามนต์ดี ถ้า
แ ต่ วั น นี( ศ า ล บ า ง ค น ก็ไม่รับ เขาเลิกแล้ว เขาไม่ เพือนอยากเล่นการเมือง
ยอมรั บ คํา สั ง ต่อ ไปบอก เ ชื อ ว่ า ค น ก ลุ่ ม ห นึ ง อ ย่ า เ อ า ส ถ า บั น ข อ ง
ว่า พาผมเข้า เฝ้ าฯซิ ของ ตัด สิ น ใจแล้วจะให้ค วาม เพือนไปเล่นด้วย เวลานี(
ป ล อ ม ทั( ง นั( น พ ร ะ เป็ นธรรม ระบบศาลเดียว เห็นใจว่าของบฯพันล้าน
เจ้าอยู่หัวไม่มีเรื องอย่างนี( เป็ นระบบไต่สวน ไปให้ กอ.รมน. อ้า ง
ท่ า นต้ อ งรั ก ษาสถาบั น เ รื อ ง ท ห า ร กั บ เศรษฐกิ จ พอเพี ย ง แต่
ของท่ าน ท่า นไม่ต้องไป การเมื อ ง ป๊ อกเอ๊ ย ไอ้ตุ ้ย จริ งๆ จะไปช่ ว ยล้ า ง
เชื อ ใคร ขอให้ ผ มเป็ น เอ๊ ย พาลูก น้อ งกลับที ต( ัง สมองชาวบ้า น ระวัง
เหยือ คนสุ ด ท้า ย พอแล้ว เ ถ อ ะ ถ้ า อ ย า ก เ ล่ น ชาวบ้านไม่ให้ทหารเข้า
เพือลูกหลาน เพืออนาคต การเมื อ งให้อ อกมาเถอะ หมู่บา้ น อย่าทําเลยเรื อง
ลูกหลานของเรา มี ระบบ ถ้าเพือนเอาสถาบันมาเล่น ซึ ง เ ป็ น เ รื อ ง ข อ ง
ที ดี คนนี( ดึ งที วุ่ น วายกัน การเมื อ ง สถาบัน จะถู ก ประชาชน อย่าคิ ดว่ า พี
หมด เสี ยหายหมด การเมืองเล่ นไม่คุม้ วัน นี( น้องในต่างจังหวัดเขาโง่
ประเทศไทยถู ก ลากถอย ภารกิจของเพือนยังมีเยอะ นะ เขารู ้ เ รื อ งดีก ว่ า บาง
หลัง15ปี ที ภ าคใต้ ยังไม่ จ บ มี ข่ า ว คน ปล่อยให้เขาคิดเอง
ป.ป.ช.ก็เหมือนกัน มี ทหารถูกตัดคอและยิงตาย ทํ า เ อ ง ไ ม่ ต้ อ ง ไ ป
ตั ว แ ท น พ ร ร ค บางที ตั ด ของลั บ ไปทํ า ครอบงํา เขา วัน นี( สิ งที
28

ทหารเข้า มายุ่ งการเมื อ ง ต้องส่ งเสริ มทีไหน แต่ไป เ อ งเ ถ อ ะ เ พื อ จ ะ ไ ด้


การปฏิ ว ั ติ มี ก ารเขี ย น ส่ งเสริ ม ใน ครม. ลงทุ น อธิ บาย ส่ ว นนายกฯพู ด
รั ฐ ธรรมนู ญ 2550 ลาก ตอนพรรคพลังประชาชน ไม่ ฟังหรอก เพราะเขา
ประเทศถอยหลังไป 15 ปี ถูกยุบ พรรคขนาดเอส มี ไม่ ก ล้า ตัด สิ น ถามคน
วัน นี( เ ศรษฐกิจ โลกทํา ให้ ส.ส. 5 คน จ่ ายคนละ 10 เดียว แต่ของเราต้องถาม
ช้าไปอีก 7 ปี แล้วเมือไหร่ ล้า น หัว หน้า ก๊ว นได้เ ป็ น ทั(งสภา และภาวะผู ้น ํา
ค ว า ม ทุ ก ข์ ย า ก ข อ ง รั ฐมนตรี พรรคขนาดเอ็ม ทั(ง ในประเทศไม่ มี จะ
ประชาชนจะพ้น ก็จ่าย ตอนนี( ไปตั(งพรรค แก้ทีมาขององค์กรอิสระ
จ่ าย10ล้ านแลกเก้ าอี รมต. ใหม่เป็ นขนาดแอล เอานัก ก็ปิ ดประตู ตี แ มว ส.ว.
เ รื อ ง รั ฐ ธ ร ร มนู ญ ฮั(ว มาเป็ นหั ว หน้ า พรรค ค รึ งห นึ งม า จ า ก ก า ร
2540 กับ 2550 เมือก่อนนี( ก่อ นเพื อรออีแ อบมาเป็ น แต่ ง ตั( ง ในที สุ ด ก็ มี ท( ั ง
การเมื องเราเดีPยวล้มเดีPย ว หัวหน้าพรรคคนใหม่ เ อ ส เ อ็ ม อี พั น ธ มิ ต ร
ล้ม บางพรรคมี ส.ส. 5 ผ ม ก็ เ ล ย ไ ม่ รู ้ ว่ า ดอกไม้ป ระดับ เพื อ ให้
คนก็ส ามารถข่มขู่นายกฯ ระบอบรั ฐธรรมนู ญ 2550 หน้า ตาดี ในทีสุ ด ก็เ ป็ น
ขาสัน จะเอาตําแหน่ ง เขา เป็ นประโยชน์ ป ระเทศ ประชาธิ ป ไตยตรงไหน
จึ ง ร่ า งรั ฐ ธรรมนู ญ 2540 ต ร ง ไ ห น เ ป็ น ผู ้ นํ า ขอคืนให้คนไทยเถอะ
ม า ใ ห้ น า ย ก ฯ มี ค ว า ม ประเทศไปตกลงอะไรกับ ยํา ปฏิวัติเป็ นสิ. งเลวร้ าย
เข้มแข็ง แต่ปี 2550 ไปแก้ ใครทีไหนไม่ได้ เพราะจะ ค ว า ม ขั ด แ ย้ ง
จนได้รัฐบาลอ่อนแอง ไม่ ผิ ด ม.190 ผมเคยนั ง ทั( งหมดเพราะเราไ ม่
ต้อ งมี ร ะบบพรรค ส.ส. ประชุ ม กับ รั ฐ มนตรี พ ม่ า สามารถเล่ น ตามกติ ก า
สามารถรวมกลุ่มกัน เรื อง จนต้องไปพูดกับท่านตาน กฎหมาย เพราะมี ค น
เอสเอ็มอี ท่านอภิสิทธิL ไม่ ฉ่ วย ว่าให้ท่านไปประชุม แทรกแซงให้ก ติ ก า เรา
29

เ กิ ด ส อ ง ม า ต ร ฐ า น บรรหาร ศิ ล ปอาชา อดี ต วันนี( ต้องขอร้ องว่ า


ตลอดเวลา แล้ ว ต้ อ ง หั ว หน้ า พรรคชาติ ไ ทย) ท่านทีถวายงานทั(งหลาย
ยอมรั บ ว่ า หลายระบบที มาร่ วม ยัง ถู ก ป๋ า งอน หยุดอ้างสถาบันได้แล้ว
เกิดขึ(นเป็ นของเน่ ามาจาก ไม่ ใ ห้ เ ข้า บ้า นเลย แต่ หยุด เถอะ และหยุ ด ไป
การปฏิ ว ัติ ที ผ มเรี ย กว่ า ตอนนี( คงให้เข้า บ้านแล้ว อ้า งทํา ให้ ท่ า นเสี ย หาย
ผลไม้ทีเกิดจากต้นไม้เป็ น เพราะไปร่ ว มกับ รั ฐ บาล สั ง ค ม ไ ท ย ต้ อ ง ก า ร
พิษ ดังนั(น การปฏิวตั ิเป็ น พรรคประชาธิปัตย์ สถาบันพระมหากษัตริ ย ์
สิ งเลวร้ าย เราต้องเรี ยนรู ้ เพื อนสื อมวลชนเล่ า ผมเคยกราบบั ง คมทู ล
ว่ า การปฏิ ว ั ติ ค รั( งนี( เกิ ด สู่ กนั ฟั งว่า วันนี( ไม่มีแล้ว คนไทยไม่ ฟั งกัน อย่า ง
เ พ ร า ะ ก า ร ส ร้ า ง ฟรี ดอม ก็ ห วั ง ว่ า จะใช้ น้อย ผมกราบบังคมทูล
ส ถ า น ก า ร ณ์ แ ล ะ ก า ร วิชาชีพ อย่างเต็มที วัน นี( ด้ว ยความสั ตย์จริ ง ยังมี
ปั น ป่ วน ต้องการให้เ กิ ด ถามว่ า วุ่ น วายอย่ า งนี( จะ รายละเอียดอีกเยอะ ผม
การย้า ยข้ า งเปลี ย นข้ า ง เ อ า อ ย่ า ง ไ ร ก็ ต้ อ ง มี มั ว แต่ ทํ า งานไ ม่ ไ ด้ มี
เมื อ ไม่ รู้ จ ะย้า ยอย่า งไรก็ กรรมการห้ า มมวย ท่ า น เวลาตอบโต้ แม้แ ต่ ที วี
เลยปฏิวตั ิ พล.อ.เปรมไม่มายุง่ ท่านก็ พูลยังเลือกภาพบางภาพ
ผมไม่บ อกนะว่าการ น่าจะเป็ นได้ แต่วนั นี( ท่าน ไปออก ก็ตอบไม่ได้ นี
ปฏิ ว ั ติ ท ํา ให้ เ กิ ด เศรษฐี มายุ่งจนสงสัยว่า หรื อว่ า คื อ เ ข้ า ไ ปแ ท ร ก แ ซ ง
ใหม่ มียศ พล.อ. บางฝ่ าย ท่ า นต้ อ งการตอบแทน ตั(งแต่ผ มเป็ นนายกฯอยู่
ได้รั บ ข้อ กล่ า วหายัด เยี ย พรรคประชาธิ ปัต ย์ นี คื อ แล้ ว ผมก็ ซ วยผี ซ( ํ าดํ( า
ดข้างเดีย ว ขณะที อี กฝ่ าย สิ งทีคนสงสัย ทําให้ท่าน พลอย
ทํา อะไรก็ ถู ก อี ก ข้า งผิ ด ไม่สามารถเป่ านกหวีด เรียกร้ องสี แดงรวมตัว
หมด พี บ รรหาร (นาย
30

ผมก็ เ คยบวชเรี ยนก็ แล้ววันนี( ก็ไม่ พอนะ มัง คัง ไม่ได้ แต่มนั คงใน
เข้าใจเรื องของกรรม ของ ครั บ คนทีเคยอยู่กบั ผมก็ ทีน( ีไม่ใช่เรื องมัน คงของ
บุญ ผมโดนผีซ( ําดํ(าพลอย ออกไปพู ด อี ก ว่ า ที อ ยู่ก ับ ทหาร ที มั น คงคื อ ซื( อ
หลายเรื อง ถูกปฏิวตั ิเสร็ จ ผมทนไม่ไ ด้เ พราะผมจะ อาวุธ และกุมอํานาจ แต่
ลูกน้องเก่าก็ไปเพ็ดทูลว่ า ล้มล้า ง โธ่ เอ๊ ย เอ็ง จะไป การเมื อ งมี เ สถี ย รภาพ
ผมคิ ด จะล้ ม ล้ า ง โอ้ โ ห หาตังค์เอ็งก็บ อกมาเถอะ หลั ก เกณฑ์ ที ถู ก ต้ อ งมี
ค น อ ย่ า ง ผ ม ไ ม่ เ ค ย อย่า มาอ้า งข้า บาปกรรม ความเป็ นประชาธิ ปไตย
ทะเยอทะยาน แต่ ช อบ ผมไม่เคยหวัน ไหวเพราะ นัน คือการเมืองทีเรี ยกว่า
ทํ า ง า น บ้ า ง า น ถ้ า ผ ม ทํ า ใ น สิ ง ที เ ป็ น ความมัน คง ถ้าสิ งเหล่านี(
มอบหมายให้ ก็ ท ํา เต็ ม ที ประโยชน์ต่อสังคม แต่ขอ ไม่กลับมา การแก้ปัญหา
เพราะผมทํา งาน ผมรั ก บอกว่ าผมโดนอย่า งนี( ผ ม เศรษฐกิ จ ก็ ย าก ผมขอ
ประชาชนรั กประเทศ ผม เจ็บ แต่ถ ามว่า ผมต้อ งดิ( น เ ชิ ญ ช ว น พี น้ อ ง ม า
ก็ทาํ งานถวาย นํา ศัก ดิLศ รี ขนาดไหน ผมปรั บ ตัว ช่ ว ยกั น พี น้ อ งสี แด ง
นัน คือสิ งทีผมพยายามทํา ของผมได้พ อสมควรแม้ ที ม ารวมกั น เพราะรั ก
ไม่มีเวลาแก้ตวั แต่โดนใส่ จะอยู่ต่างประเทศ แต่ผ ม ประชาธิ ป ไตยใช่ ไ หม
ความตลอดเวลา คนทีเคย ไม่ ต้อ งการให้ตัว ผมเป็ น มองว่าถูกเขาขโมยไปใช่
อยู่ ใ กล้ชิ ด ผมแท้ๆ ก็ ม า ข้อ อ้า งใดๆ ทั(ง สิ( น แต่ ไห ม เ รา ต้ อ งก า ร
เพ็ด ทูล เพราะหวังจะเป็ น ต้ อ งก า ร ใ ห้ บ ้ า น เ มื อ ง ประชาธิ ป ไตยทีแ ท้จ ริ ง
นายกฯ แต่เขาจองกฐิ นไว้ กลั บ คื น สภาพโดยเร็ ว กลับมาใช่หรื อไม่ อยาก
แล้ว คุณสุ รยุทธ์เขาจองไว้ ทีสุด เห็ น ความเป็ นธรรมใช่
แล้ว หลักบอกว่า ถ้าไม่ มี หรื อ ไม่ อยากเห็ น การ
ความมัน คงก็ส ร้ า งความ เลิกระบบสองมาตรฐาน
31

ใช่ ห รื อ ไม่ สี แ ดงจะผนึ ก ต้อ งมาเหนี ย ม เวที เ สื( อ ต้อ งเล่ น การเมื อ งด้ว ย
กําลัง ถ้าความเป็ นธรรม แดงเต็มทั(งประเทศ แล้วพี ไม่ มี ก ฎหมายข้ อ ไหน
ไม่กลับคืนมา สี แดงจะไม่ น้อ งที มี ก ํา ลัง ถ้า คิ ด ถึ ง บอกว่ า องคมนตรี เป็ น
มีทางทีจะหายไป อนาคตประเทศไทยคิดถึง ส่ ว นหนึ งของราชวงศ์
ยํา องคมนตรี-ทหารเลิกยุ่ง ลูกหลานต้อ งมารวมพลัง ไม่ ใ ช่ หลายคนก็ เ ป็ น
องคมนตรี ต้ อ งเลิ ก กันจนกว่า ประชาธิ ป ไตย ผูใ้ ต้บงั คับบัญชาเก่าของ
เล่นการเมือง ทหารก็อย่า ที แ ท้ จ ริ งจ ะ ก ลั บ คื น สู่ ผม ผมก็ยงั ยกมือไหว้เขา
ยุ่งการเมือง พีน้องเพือ น ประเทศไทย แล้วจนกว่า เมือ ผมพ้น จากตําแหน่ ง
ทหารตํารวจส่ วนใหญ่ไม่ ระบบสองมาตรฐานจะถูก แต่ ว่ า การให้เ กี ย รติ แต่
สบายใจทีเห็นลูกพีมาเล่น ยกเลิ ก และจนกว่ า ไม่ มี การให้ เ กี ย รติ ต้ อ งให้
การเมืองแต่ลูกพีบางทีมนั สถาบันใดทีเราเคารพนับ สองฝ่ าย แต่ การมาเล่ น
ก็ตอ้ งเอาตัวรอด แต่บางที ถื อ มายุ่งการเมื อ ง อย่า ง การเมื อ งอย่ า งนี( ก็ ช่ ว ย
ไม่ ใ ช่ เ พราะมัน มั น ส์ พี สถาบัน องคมนตรี ไม่ ม า ไม่ ไ ด้ที ก ารเมื อ งจะไป
น้อ ง เพื อน ส.ส.เพือ ไทย ยุง่ การเมือง เล่น
ไ ท ย รั ก ไ ท ย พ ลั ง คุ ณ อภิ สิ ทธิL บอกว่ า แล้ว จะมี ท างออก
ประชาชน ทีถู กห้า มเล่ น ไม่ ค วรไปยุ่ ง กั บ ผู ้ ใ หญ่ อย่ า งไร รั ฐ ธรรมนู ญ
การเมื อ ง อย่า เหนี ย ม ถ้า คนเป็ นอดี ตนายกฯไม่ใ ช่ 2550 ทีเกิดทําให้เกิดเอส
รั ก ประชาธิ ป ไตย ถ้า รั ก เด็ ก และองคมนตรี ผม เอ็ม อี คื อ ไปประกอบ
ความเป็ นธรรม ท่ านคื อ เ ค า ร พ ทั( ง วั ย วุ ฒิ แ ล ะ ธุรกิจการเมืองขนาดเล็ก
เหยื อ คนหนึ ง ที ถู ก ความ คุณวุฒิ แต่บางท่านมาเล่น และขนาดกลาง ผม
ไม่เ ป็ นธรรมรั งแก ขอให้ การเมื อ ง โดยเฉพาะมา ไ ด้ รั บ โ ท ร ศั ท พ์ จ า ก
ขึ(นเวทีเสื( อแดงได้แล้ว ไม่ เล่ น การเมื อ งกับ ผม ผม เพือน ส.ส.จากประเทศ
32

ในสหภาพยุโรป บอกว่ า ตอนนี( ตกงานทุกวันๆ ละ ทหารปฏิ วตั ิ เอาเด็ก อายุ


ตามกระทรวงเวลานี( กิ น หลายพันคน ปี 2552 คน 30 กว่ามาปกครอง แล้ว
กันจนไม่รู้ว่า เหมือนกับ ไทยจะตกงานไม่น้อยกว่า ไม่มีใครรั บรอง ของเรา
ว่ า จะไม่ มี ว ัน พรุ่ งนี( รี บ 1 ล้า นคน เรามี ปั ญ หา ถ้ า ต้ อ ง ก า ร ใ ห้ เ กิ ด
ตะกรุ มตระกรามกิน แต่นี กันเองจนทําให้เราเจ๊ ง ปิ ด กระบวนการที ถู ก ต้อ ง
คื อ จุ ด อ่ อ น ข อ ง สนามบินทําให้เกิดปั ญหา ต้อ งให้ป ระชาชนเป็ นผู ้
รั ฐธรรมนู ญ ทีท าํ ให้เกิ ด และปิ ดทํา ไม ไม่ ใ ช่ พ วก ตั ด สิ น ดั ง นั( น นา ย
ก๊กก๊วนต่อรอง ผมเห็นใจ พธม.ธรรมดาทํา ถ้าไม่ใช่ อ ภิ สิ ท ธิL ต้ อ ง ยุ บ ส ภ า
คุ ณ อภิ สิ ทธิL เหมื อ นคน ทหารเข้าไปยุ่ง และถ้าไม่ เ ลื อ ก ตั( ง ใ ห ม่ แ ล้ ว
ขาดภาวะผูน้ าํ ใครจะเอา มี ใ ค รแอ บอยู่ ข ้ า งหลั ง กลับ มาแก้รั ฐ ธรรมนู ญ
งบฯอะไรก็ต้อ งประเคน หากไม่มีใครแอบหรื อให้ เอาปี 2540 เป็ นตัว ตั(ง
ให้ โดนกลุ่มพัน ธมิ ตรที ยาโด๊ปไม่มีใครกล้าหรอก แล้ ว ปรั บแก้ ที จ ํ า เป็ น
เห็นแล้วว่าได้รับตําแหน่ ง แนะทางออกให้ ยุ บ สภา- แ ล ะ ใ ห้ อ ง ค์ ก ร ที
กัน ถ้ว นหน้ า คนที เ คย แก้ รธน. เกียวข้อ งทําหน้าทีอย่า ง
ต่ อ สู ้ ม านั ง กั บ เสื( อแด ง ทางออกก็คือเราต้อ ง เป็ นกลาง เป็ นธรรม
วันนี(กม็ ี เราต้องเรี ยนรู ้จาก มาเริ มต้นกันใหม่ วันนี( ที ทหารกลับกรมกอง ทุ ก
ความเป็ นจริ ง เพือ ไม่ใ ห้ ฟ้ องกัน ไปมาเพราะกลัว ฝ่ า ย ก ลั บ ที ตั( ง เ ป่ า
เกิดขึ(นอีก และหวังว่าการ การล้างแค้น ไม่มีใครยอม นกหวีดเริ มกันใหม่
ปฏิวตั ิ 19 กันยายนให้เป็ น ใคร ถ้าไม่เป่ านกหวีดหยุด เรื องที ฟ้ องกัน ไป
ปฏิ ว ัติ ค รั( งสุ ด ท้า ย มั น แล้ว เริ มต้น ใหม่ โดยนาย มาคงต้อ งยกเลิ ก แต่ พ อ
ทําลายอนาคตลูกหลาน 3 อภิสิท ธิL ซึ งมาเป็ นนายกฯ ล่อ กัน นัว เนี ย เล่ น ข้า ง
ปี ประเทศไทยไม่ มีอ ะไร เหมื อ นมาดาร์ กัส กา ที เดียวคงไม่มีใครยอมใคร
33

จึงต้องเริ มต้นใหม่เหมือน
ไม่มีอ ะไรเกิดขึ(น ให้เริ ม
เ ห มื อ น เ ลื อ ก ตั( ง ใ ห ม่
เหมื อน 2 เมษายน 2548
แล้วไปแข่งขันกัน โดยผม
ไ ม่ ล ง เ ลื อ ก ตั( ง พ ร ร ค
ประชาธิ ปั ต ย์จ ะได้ส บาย
ใจ แต่ ข อให้ ก รรมการ
พรรคไทยรั กไทยทั(ง 111
ลง เพราะนั ก การเมื อ ง
คุณภาพเริ มหายไป จากที
โดนน็อคทีละชุด คิดว่าถึง
เวลาแล้วทีต้องมีทางออก
ให้ประชาชน
34

ภาคผนวก 5

วันที 28 มีนาคม พ.ศ. 2552 ปี ที 32 ฉบับที 11340

"พัลลภ"ยัน"สุ รยุทธ์ "ร่ วมวง วางแผนล้ ม"ทักษิณ" จีลาออก"องคมนตรี

หมายเหตุ - พล.อ.พัล ลภ ปิ นมณี อดี ต รอง


ผู ้ อํ า น ว ย ก า ร รั ก ษ า ค ว า ม มั น ค ง ภ า ย ใ น
ราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ให้สัมภาษณ์ และตอบ
คําถามทีบา้ นพัก โชคชัย 4 ซอยลาดพร้าว 51 เมือ
วันที 27 มีนาคม ถึงเหตุการณ์ ที พ.ต.ท.ทักษิณ
ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินพาดพิง พล.อ.
สุ รยุ ท ธ์ จุ ลานนท์ องคมนตรี และอดี ต
นายกรั ฐมนตรี ว่าอยู่เบื=องหลังร่ วมวางแผนโค่น
ล้มระบอบทักษิณ
การวางแผนโค่นล้มระบอบทักษิณ เป็ นเรื องจริ งแต่ว่าเขา (พล.อ.สุ รยุทธ์)
ไม่เคยเชิญผมเข้าร่ วมประชุม แต่เจ้าของบ้านทีสุขุมวิทเชิญผม และประชุมร่ วมกัน
ไม่ได้ประชุมแค่ครั= งเดียว แต่ประชุมกัน 3-4 ครั= ง มีการพูดคุยปั ญหาของรั ฐบาล
พ.ต.ท.ทักษิณว่าจะให้รัฐบาลล้มไปอย่างไรโดยมี 2 แนวทางคือด้านรั ฐธรรมนู ญ
หรื อด้านกฎหมาย ถ้าไม่สาํ เร็ จก็จะทํารัฐประหาร
35

การทํ า รั ฐ ประหารมี ก าร แสดงว่ า พล.อ.สุ ร ยุ ท ธ์ ประชุมเองว่าการทํางาน


พู ด หรื อ ไม่ ว่ าใครจะเป็ น เป็ น ตั ว ตั, ง ตั ว ตี ใน การ ค รั ง นี เ ร า ทํ า เ พื& อ
นายกฯ ว า ง แ ผ น ล้ ม รั ฐ บ า ล ประเทศชาติ ทุกคนต้อง
ไม่ ไ ด้ มี ก า รพู ด ถึ ง พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ หวัง ตํา แหน่ งลาภยศ
เพี ย งแต่ พล.อ.สุ รยุ ท ธ์ จะพูดว่าตัวตังตัวตีคง ใดๆ
เสนอขึ นมาว่ าการทําครั ง ไม่ ไ ด้ ห รอก แต่ ว่ า การ ห ลั ง จ า ก ป ฏิ วั ติ
นี ทําเพื&อประเทศชาติ ทุก ประชุม พล.อ.สุ รยุทธ์ จะ รั ฐ ประหาร พล.อ.สุ ร
ค น จ ะ ต้ อ ง ไ ม่ ห วั ง มาทุกครัง ยุทธ์ ก็ไปเป็ นนายกฯ ทํา
ตํา แหน่ ง ใดๆ ซึ& งทุ ก คน พอจะบอกได้ ห รื อ ไม่ ว่ า ให้พ วกเราผิ ด หวัง มาก
ศรั ท ธาในตั ว ท่ า น การ คนที0 เ ป็ นแกนนํ า ในการ ตอนแรกก็ชื&นชม พล.อ.
หารื อเป็ นลั ก ษณะโต๊ ะ ล้ มรัฐบาลเป็ นใคร สุ ร ยุ ท ธ์ มากเกี& ย วกับ
กลม ซึ& งไม่มี พล.อ.สนธิ อัน นี ผมบอกไม่ ไ ด้ แนวความคิ ด ดั ง กล่ า ว
บุ ญ ย รั ต ก ลิ น อ ดี ต เ พ ร า ะ ว่ า ผ มไ ม่ อ ย า ก พูด ง่ า ยๆ พล.อ.สุ ร ยุท ธ์
ประธานคณะมนตรี ความ พาดพิ งถึ งคนอื& น แต่ เ มื& อ เสี ยสัจจะ กลายเป็ นคน
มัน& คงแห่งชาติ (คมช.) นั&ง พล.อ.สุ ร ยุทธ์ มาพาดพิ ง ไม่มีสัจจะและผิดมติใน
อยูด่ ว้ ย ถึ ง ผ ม ผ ม ก็ จ ะ พู ด ถึ ง ที&ป ระชุ ม ในการพู ด คุ ย
พล.อ.สุ ร ยุ ท ธ์ บ อกว่ า ไม่ พล.อ.สุ รยุท ธ์ เท่า นัน ซึ& ง กัน วัน นันมี 7 คน ซึ& ง
อยา กเ ป็ น น า ยกฯ แ ต่ การประชุม 3-4 ครั ง ก็จะ เป็ นผู ้ใ หญ่ ในบ้านเมื อ ง
คมช.เชิญให้ ไปเป็ น มีการพูด ถึงแนวทางเรื& อ ง ทังนัน หลัง จากนันผม
คงต้ อ งไปถามท่ า น การล้ ม รั ฐ บาล พ.ต.ท. ไม่ พู ด จากับ พล.อ.สุ ร
ผมเดาใจไม่ ถูก เพราะทุ ก ทัก ษิ ณ ตลอด ซึ& ง พล.อ. ยุทธ์อีกเลย เจอหน้ากันก็
คนงงหมด ผมเองก็งง สุ รยุทธ์ เป็ นคนเสนอในที& ทํา เหมื อ นคนไม่ รู้ จั ก
36

ทั ง ๆ ที& เ ค ย เ ป็ น เมื&อวันที& 2 เมษายน 2549 ตอนที&ผมไปพบ พ.ต.ท.


ผูใ้ ต้บงั คับบัญชาของผม ซึ& ง พล.อ.จารุ ภทั รรายงาน ทักษิณที&จีน
ใ น ก า ร พู ด คุ ย มี ก า ร ใ ห้ พ . ต . ท . ทั ก ษิ ณ พ.ต.ท.ทักษิณ พุ่งเป้าไป
วางแผนอย่างไร รั บทราบ จากนัน พ.ต.ท. ที0 พล.อ.สุ ร ยุท ธ์ เพื0 อ
อ ย่ า ง แ ร ก คื อ ก า ร ทัก ษิ ณ ไปหา พล.อ.สุ ร พาดพิ งถึ งสถาบั น เบื, อ ง
วางแผนด้ า นกฎหมาย ยุทธ์ ที&ทาํ เนี ยบองคมนตรี สู งใช่ หรือไม่
และการทํารั ฐประหารว่ า เพื& อ สอบถามข้อ เท็จ จริ ง ไม่ทราบ
จะทําอย่างไร ที&ผมไปพบ แต่ พล.อ.สุ รยุทธ์ปฏิเสธ พ . ต . ท . ทั ก ษิ ณ รู้
พ.ต.ท.ทักษิ ณ ท่านทราบ พล.ต.อ.วาสนา เพิ& ม ตล อ ด เ ว ล า ว่ า จ ะ ถู ก
หมดแล้ว แต่ท่านถามผม ลาภ อดีตประธาน กกต.ก็ ปฏิวัติใช่ หรือไม่
ในลัก ษณะใช่ ห รื อ ไม่ ใ ช่ เคยได้รั บ เชิ ญ ไปที& บ ้ า น ท่ า นรู ้ มาตลอดทุ ก
ยกตัวอย่า งเรื& องที& พ.ต.ท. สุ ขมุ วิท เพื&อไปพบ พล.อ. เรื& อง แม้ แ ต่ แ ผนกา ร
ทัก ษิ ณ เล่ า ให้ผ มฟั งคื อ สุ รุ ยุ ท ธ์ และล็ อ บบี ให้ ปฏิ ว ัติ เพี ย งแต่ ไ ม่ รู้ ว่ า
พล.ต.จําลอง ศรี เมือง กับ ลาออกเพื&อล้มการเลือกตัง ปฏิ ว ั ติ เ มื& อ ไร แต่ ท่ า น
พล.อ.สุ รยุทธ์ เชิญ พล.อ. ดั ง นั น เ รื& อ ง นี ไ ม่ เ ป็ น ประมาทเพราะไว้ใจคน
จารุ ภัท ร เรื องสุ ว รรณ ความลับ พ.ต.ท.ทักษิณรู ้ดี ใกล้ตวั และเพื&อน ตท.10
อดีตกรรมการการเลือกตัง ตังแต่ ต้น ว่ า จะมี ก ารล้ ม ที&คุมกําลังอยู่ในกองทัพ
( ก ก ต. ) ไ ป พ บ ที& บ้ า น รัฐบาล เพราะมีแหล่งข่าว ที&ประชุ มพู ดกันเพีย งว่ า
พล.ต.จําลอง แถวราชวัตร ที& ติ ด ต า ม พ ว ก ที& จะล้ม รั ฐ บาล ส่ ว นการ
และล็อบบี ให้ พล.อ.จาตุ เ ค ลื& อ น ไ ห ว ทั ง ห ม ด ลอบสั ง หาร พ.ต.ท.
ภั ท ร ถ อนตั ว อ อกจา ก เพียงแต่มาสอบถามผมว่า ทั ก ษิ ณ ไ ม่ มี ก า ร
กกต. เพื&อล้มการเลื อกตัง เรื& องที&รู้มาจริ งหรื อไม่ เมื&อ รั ฐประหา รโดยปก ติ
37

จะต้องล็อคตัวนายกฯซึ& ง จัดตังรั ฐบาล แต่นี&ล็อบบี ซึ0งคนมองว่ าเป็ นการมา


คนละเรื& องกั บ การลอบ กันแบบงูเห่า ยุ่งเกี0ยวกับการเมือง
สังหาร ขอยืนยันว่า ไม่มี ผมอยากฝากไปถึ ง คน เ ขา พู ดกั น อ ยู่
การลอบสั งหาร แต่ อ าจ พล.อ.สุ รยุทธ์ ว่าเพื&อรักษา แล้ว ผมไม่ตอ้ งพูด
เป็ นการเข้าชาร์ จหรื อล็อค สถาบันอันมีเกียรติแห่ งนี การกลั บ ไปครั, งนี, เ ป็ น
ตัวนายกฯ ท่ า นควรจะลาออกจาก เพราะ พล.อ.เปรม ติณสู
ประเทศชาติจะมีทางออก ตําแหน่งองคมนตรี เพราะ ลาน น ท์ ประธาน
อย่างไร องคมนตรี ต้ อ งไม่ ยุ่ ง กั บ องคมนตรี แ ละรั ฐ บุ รุ ษ
ที&ผมตัดสิ นใจไปพบ การเมือง แต่ท่านเป็ นคนที& คอยเป็ นแบ๊ คหนุ น ใช่
พ.ต.ท.ทั ก ษิ ณ คื อ เรื& อง เข้ า มา ยุ่ ง กั บ ก าร เ มื อ ง หรือไม่
ความวุ่นวายในบ้านเมือ ง ดัง นั นเพื& อ รั ก ษาสถาบัน ผมไม่ อ ยากพู ด เลย
ผมไม่อยากเห็นคนไทยฆ่า อัน สํา คัญยิ&ง ไว้ ผมคิ ด ว่ า ไปถึ งนัน ผมพู ดเฉพาะ
กัน มีผูใ้ หญ่ ในบ้านเมือ ง ท่ า นควรจะต้อ งลาออก พล.อ.สุ รยุทธ์ คนเดียวที&
ให้ สั ม ภาษณ์ ว่ า คนที& จ ะ ในฐานะที& ผ มเป็ นอดี ต พาดพิงมาถึงผม คนอื&น
แก้ไขปัญหาได้คือ พ.ต.ท. ผู ้บ ังคับ บัญชา และรุ่ นพี& ผมไม่อยากพูด
ทักษิณ ทําให้ผมอยากพบ ผมไม่มีอะไรกับท่านเลย มองอย่ างไรที0 มี ก ารพู ด
พ.ต.ท.ทั ก ษิ ณ ซึ& งวั น นี มองอย่ างไร ที0 พล.อ.สุ ร พ า ด พิ ง อ ง ค ม น ต รี
เงื& อน ไข ทา งก าร เมื อ ง ยุทธ์ เป็ นองคมนตรี และ เพราะจะทําให้ ภาพพจน์
เปลี& ย นไป คื อ รั ฐ บาล ไปรั บ ตํ า แหน่ งนายกฯ ของ สถาบั น ดั ง กล่ าว
ตั ง ขึ น ม า โ ด ย ไ ม่ มี เ มื0 อ เ ส ร็ จ ภ า ร กิ จ ก็ ยั ง เสื0 อมลง
ความชอบธรรมเพราะ กลั บมาเป็ นองคมนตรี ไ ด้ ตอนที& พล.อ.สุ ร
ต้องให้เสี ยงข้างมากเป็ นผู ้ ยุท ธ์ เดิ น หน้ า ล้มการ
38

เลือกตัง ท่านบอกว่าไม่ได้ ไม่ ค รบขอเลื& อ นไปก่ อ น เดิ นทางไปหา สาเหตุ ที&


ไ ป ป ร ะ ชุ ม แ ต่ ไ ป จึงไม่ได้ไปประชุม ผ มไ ป พ บ เ พ ร า ะ ไ ม่
ปรึ กษาหารื อ ซึ& งท่านเป็ น จุ ด ยื น ข อ ง ท่ า น ต่ อ อยากเห็นคนไทยฆ่ากัน
องคมนตรี อยู่ แ ล้ ว ท่ า น สถานการณ์ บ้ านเมื อ งใน ผมก็ถาม พ.ต.ท.ทักษิ ณ
เป็ นคนดึงสถาบันนี ลงมา ขณะนี, ว่ า จ ะ แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า
ผมจึ ง ขอฝากเรี ยนท่ า น จุ ด ยื น ผ ม รั บ ใ ช้ อย่างไร เหมือนเมื&อครั ง
วัน นี ว่ า ให้ ท่ า นลาออก ประเทศชาติ และมี ความ 2540 ที& ผ มเป็ นสมาชิ ก
เสี ย เถอะ เพื& อ ควบคุ ม จงรั ก ภัก ดี ต่ อ สถาบัน มา พ ร ร ค ป ร ะ ช า ธิ ปั ต ย์
สถาบัน อัน สํา คัญยิ&งของ โดยตลอด เมื& อหลายคน ข ณ ะ นั น ผ มเ ป็ น ฝ่ า ย
ประเทศไว้ดว้ ยความหวัง บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คน เสธฯของ ผบ.ทหา ร
ดี ทังนี ผมไม่ เ คยมี เ รื& อ ง เดี ย วที& จ ะแก้ ไ ขปั ญหา สู งสุ ด คือ พล.อ.วัฒนชัย
อะไรกั บ ท่ า น เพี ย งแต่ ประเทศชาติได้ ทําให้ผม วุ ฒิ ศิ ริ เราจึ ง มาคุ ย
ผิดหวังที&ท่านเสี ยสัจจะ ผุดไอเดี ยขึนมา พอดีนาย ปรึ กษาหารื อ กัน ว่ า วัน
มี ผู้ ใ ห ญ่ ใ น บ้ า น เ มื อ ง พิเชษฐ์ สถิรชัชวาลย์ อดีต หนึ& งพรรคประชาธิ ปัตย์
ติ ด ต่ อให้ ท่ านห ยุ ด พู ด ส.ส.พรรคไทยรั ก ไทย จะต้องเป็ นพรรครั ฐบาล
เรื0องนี,หรือไม่ และเป็ นก๊วนกอล์ฟกับตน แ ต่ ทุ ก ค น รู ้ ว่ า พ ร ร ค
ไม่ มี อย่า งวัน ที& 24 ชวนไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ ประชาธิ ปั ต ย์ก ับ ทหาร
มี น า ค ม ที& ผ่ า น ม า ที& ที& จี น จึ ง ให้ น ายพิ เ ชษฐ์ ไม่ถูก กัน เพราะฉะนัน
ประชุ ม มู ล นิ ธิ ไ ทยอาสา โทรศัพ ท์ไ ปหา พ.ต.ท. คิดกันว่าเราจะเข้าไปอยู่
ป้ องกันชาติ (ทสปช.) เขา ทัก ษิ ณ เพื& อ ให้ผมเข้า พบ พรรคประชาธิ ปั ตย์ ดี
แจ้ง มาว่ า คณะกรรมการ ซึ& ง พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า หรื อไม่ อย่า งน้อ ยก็จ ะ
ยิ น ดี ใ ห้ ผ มหารื อ จึ ง ไปเป็ นตัว ประสานให้
39

ท ห า ร กั บ พ ร ร ค เงิ น จริ งวัน นี ซื อรถเบนซ์ สามารถนิ ร โทษกรรม


ประชาธิ ปั ต ย์ไ ปด้ว ยกัน แล้ว ได้ ซึ& งแรงกว่ า กัน เยอะ
ผมจึ ง สมัค รเป็ นสมาชิ ก ใน ฐานะป ระชาชน จ ะ มาก
พรรคประชาธิปัตย์ แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า เ รื0 อ ง นี, แสดงว่ าควรจะนิ รโทษ
บางคนกล่าวหาว่าผม อย่างไร กรรม พ.ต.ท.ทักษิณ คน
ไปรั บ เงิ น จาก พ.ต.ท. ทุ ก ค น อ ย า ก ใ ห้ เดียวเพื0อให้ ประเทศชาติ
ทัก ษิณ 3-4 พันล้านบาท ประเทศชาติมีความมัน& คง กลั บ มาเกิ ด ความมั0 น คง
ผมยื น ยั น ได้ ว่ า ที& ผ มไป ประชาชนอยู่ อ ย่ า งสั น ติ อีกครั,ง
ครั งนี ได้รองเท้ากอล์ฟมา สุ ข มีค วามปรองดองใน กี&คนก็แล้วแต่ ถ้าทํา
เพี ยงคู่เ ดีย ว ซึ& งผมจะไป ชาติ ทังนีถ้านิ รโทษกรรม แล้ว ทํา ให้ป ระเทศชาติ
ซื อ ม า เ ล่ น ก อ ล์ ฟ แ ต่ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเพียง กลั บ มาส มา นฉั นท์ มี
พ.ต.ท.ทัก ษิณ บอกว่ าไม่ แค่ ไ ปเซ็ น ให้ ภ รรยาซื อ ความมั&น คงประชาชน
ต้องออกเงิน ท่านจะออก ที&ดิน ต้องจําคุก 2 ปี ซึ& งจะ อยู่ อ ย่ า งสั น ติ สุ ข ผมคิ ด
ให้ รวมทั งจ่ า ยเงิ น ค่ า ทําให้ประเทศชาติสู่ความ ว่าควรทํา และต้องรี บทํา
แคตดี แล ะค่ า ที& พ ั ก ใ ห้ มั&น คงประชาชนอยู่สั น ติ ด้ว ย เพราะวัน นี ไม่ ใ ช่
เท่านัน ตกเป็ นเงินไทยไม่ สุ ข ได้ ผมคิ ด ว่ า ควรจะ เ ฉ พ า ะ ปั ญ ห า ค ว า ม
ถึง 5,000 บาท ผมยืนยัน เลือกทางนัน สมัยปี 2524 มัน& คง แต่มนั เป็ นปั ญหา
ว่าไม่ ได้ไปรั บเงิน เพราะ สมัย ที& ผ มนํา กํา ลัง ทหาร ของเศรษฐกิจด้วย
ผมไม่ ไ ด้ไ ปคนเดี ย ว แต่ เข้ามาปฏิวตั ิ โทษของผม
ไปถึง 4 คน และเวลาคุยก็ สู งสุ ดถึงขันประหารชีวิ ต
คุยด้วยกันทังหมด หากรั บ ผมถูก ข้อหากบฏ และขัด
พระบรมราชโองการ ยัง
40

ที0 จ ป ร . 7 อ อ ก ม า และ พ.ต.ท.ทั ก ษิ ณ ได้


เคลื0 อ นไหว ทั, งตั ว ท่ าน กล่าวขอโทษที&อา้ งชื&อผม
พล.ต.จํ าลอง และ พล.ต. เมื0 อถามว่ า เป็ น ไป ไ ด้
มนู ญ ก ฤ ต มี นั ย อะ ไ ร หรื อ ไม่ ที0 พ.ต.ท.ทั ก ษิ ณ
หรือไม่ ยืม มื อ พล.อ.พั ล ลภ ฆ่ า
คงเป็ นฟ้ าลิ ขิ ต แต่ ศัตรูอีกฝั0งหนึ0ง
ยืน ยัน ว่า เพื& อ นก็คือ เพื& อ น ไม่ใ ช่หรอก ผมบอก
แต่ ป ระเทศชาติ ต้ อ งมา ว่าไปขอพบท่าน แต่หาก
ก่อน ที&ผ่านมา จปร.7 แตก ท่ า นขอพบผมอาจจะใช้
ออกเป็ น 2 พวก คือ กลุ่ม ผมเป็ นเครื& องมือ เงื&อนไข
ยั ง เ ติ ร์ ก กั บ ท ห า ร ที&เ กิ ดขึ นคือ รั ฐบาลไม่ ไ ด้
ประชาธิ ป ไตย แต่ ส่ วน ขึ น ม า ต า ม ร ะ บ อ บ
ใหญ่ เ ลิ ก กัน ไปหมดแล้ว ประชาธิ ป ไตย รั ฐ บาล
เหลือเพียง 3 คนเท่านัน พรรคประชาธิ ปัตย์ขึนมา
มีการพูด คุยทางโทรศั พ ท์ แบบฉวยโอกาส วั น นี
กับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ พรรคประชาธิ ปัต ย์ที& เป็ น
โทร.คุยเมื&อสองวันที& พรรคเก่ า แก่ 63 ปี เป็ น
ผ่ า นมา พ.ต.ท.ทั ก ษิ ณ นายกฯ 4 สมัย ไม่ถึง 7 ปี
ถามผมว่ าสบายดีห รื อ ไม่ เป็ นฝ่ ายค้าน 57 ปี แต่ละ
ผ ม ก็ บ อ ก ว่ า ส บ า ย ดี ครั งที& ขึนมาเป็ นรั ฐบาลก็
ตอนนี กําลังเล่นกอล์ฟอยู่ เป็ นแบบนี
ไม่ ไ ด้ คุ ย อ ะไรกั น มา ก
41

ภาคผนวก 6

17 มีนา:วันสาธารณรัฐอังกฤษ
โดย ใจ อึงภากรณ์

วันที 17 มีนาคม เป็ นวันครบรอบ 360ปี แห่งการประกาศสาธารณรั ฐในอังกฤษ ใน


วันนั%น ในปี 1649 ไม่ กี ว ันหลังจากที จับ กษัต ริ ย ์ชาร์ ลสที ห นึ งมาตัดหัว รั ฐ บาล
สาธารณรัฐภายใต้แกนนําของประธานาธิบดี Oliver Cromwell แถลงว่า

“ตําแหน่ ง กษั ต ริ ย์เ ป็ นสิ+ ง ไม่ จําเป็ น เป็ นภาระทางสั ง คม และเป็ นภัยต่ อ เสรี ภ าพ
ความปลอดภัย และผลประโยชน์ ของประชาชน”
42

การประกาศสาธารณรั ฐ เกิ ด ขึ% น หลัง การปฏิ ว ัติ ทุ น นิ ย มและสงครามกลางเมื อ ง


ท่ามกลางการต่อสู ้น% ีฝ่ายต้านกษัตริ ยเ์ ริ มเข้าใจว่าต้องประหารชีวิตกษัตริ ย ์ เพราะเขา
จะไม่ยอมเลิกสู ้ถา้ ปล่อยไป

นักเขียนคนสําคัญที อธิ บายเหตุผลและความชอบธรรมในการประหารกษัตริ ยค์ ื อ


John Milton ซึ งเป็ นคนที ต่อสู ้เพื อเสรี ภาพในการเขียนและการแสดงออกในยุคนั%น
และต่อมาเขาได้เป็ นรัฐมนตรี กระทรวงต่างประเทศอังกฤษในสาธารณรัฐใหม่

แต่ฝ่ายสาธารณรัฐในการปฏิวตั ิทุนนิยมอังกฤษมีสองซี ก คือซี กชนชั%นระดับกลางที


ประกอบไปด้วยนายทุนอย่าง Cromwell และซี กที เป็ นคนยากจน พวกหลังนี% จัดตั%ง
หลวมๆ ในองค์ก รชื อ Levellers ท่ามกลางการปฏิวตั ิจึงเกิดการถกเถียงว่าควรจะ
นําไปสู่ ประชาธิปไตย “หนึ+งคนหนึ+งเสี ยง” หรื อไม่ และควรแจกจ่ ายที ดินให้ทุกคน
อย่ า งเท่ า เที ย มหรื อ ไม่ ในที สุ ด ฝ่ ายคนจนแพ้ และหลัง จากที ป ระธานาธิ บ ดี
Cromwell ตาย ฝ่ ายนายทุน ก็ไ ด้นาํ กษัตริ ย ์ชาร์ ล ส์ ที ส องกลับ มา แต่ ก ลับ มาใน
รู ป แ บ บ ป ร ะ มุ ข ข อ ง น า ย ทุ น ทั% ง นี% เ พื อ ยั บ ยั% ง ก า ร ต่ อ สู ้ เ พื อ ค น จ น

ประมาณหนึ งร้ อยปี ต่อมาเกิดการปฏิวตั ิทุนนิ ยมในฝรั งเศสในปี 1789 และกษัตริ ย ์


ฝรั งเศสและราชวงศ์ถูกประหารหมด ด้านซ้ายของรั ฐสภาใหม่เป็ นที น ังของพวกที
เข้า ข้า งคนจน ส่ ว นซี ก ขวาของรั ฐ สภาเป็ นที น ั งของนายธนาคารและนายทุ น
ท่ามกลางกระแสการปฏิวตั ิ มีนักเขียนและนักเคลื อนไหวชาวอังกฤษชื อ ทอมมัส
43

เพน เขียนหนังสื อ The Rights of Man เพื อยืนยันความสําคัญของสิ ทธิ มนุ ษยชน
และวิจารณ์ระบบกษัตริ ยท์ ี ถ่ายทอดอํานาจทางสายเลือด

ทอมมัส เพน คือปัญญาชนของการปฏิวตั ิอเมริ กา 1776 และมีส่วนร่ วมในการปฏิวตั ิ


ฝรั งเศส 1789 เขาเกิดในครอบครั วคนจนที เมือง Thetford, Norfolk ในประเทศ
อังกฤษเมื อปี 1737 เมื อจบการศึกษาขณะที อายุเพียง 13 ปี เพน ต้องออกไปทํางาน
หนังสื อเล่มแรกที มีชื อเสี ยงของ เพน คือ Common Sense (“ปั ญญาสามัญ” เขียนใน
ปี 1776) ซึ งเสนอเหตุผลว่าทําไมอเมริ กาควรเป็ นประเทศอิสระจากอังกฤษ ในไม่ชา้
เล่มนี%กลายเป็ นหนังสื อสําคัญของการปฏิวตั ิอเมริ กา

หนังสื อ The Rights of Man (“สิ ทธิ มนุ ษยชน”) เพน เขียนเป็ นสองตอนระหว่างปี
1791-1792 หนังสื อเล่มนี%เป็ นการปกป้ องความก้าวหน้าดีงามของการปฏิวตั ิฝรั งเศส
1789 เพื อ โต้ตอบคําวิ พากษ์วิจ ารณ์ ข องนัก เขี ยนปฏิ กิริ ยาในอังกฤษชื อ Edmund
Burke หนังสื อเล่มนี% กลายเป็ นหนังสื อต้องห้ามในอังกฤษ การทําให้เป็ นหนังสื อ
ต้องห้า มโดยรั ฐบาลอังกฤษมีผลทํา ให้ผูร้ ั ก ความเป็ นธรรมในขบวนการแรงงาน
อังกฤษและในสังคมทัว ไปพยายามแสวงหาเล่มนี% กลุ่มผูใ้ ช้แรงงานบางคนจะแอบ
ซื% อเล่มนี%ท% งั ๆ ที อ่านหนังสื อไม่ออก แล้วจะตั%งวงเพื อให้คนอื นอ่านให้ฟัง
เพน เสนอในหนังสื อ Rights of Man ว่า ในโลกเรามักพบสองรู ปแบบของการ
ปกครองคือ หนึ ง การปกครองตามระบบเลือกตั%งและระบบผูแ้ ทน ซึ งเรี ยกว่าระบบ
สาธารณรัฐ และสอง การปกครองของผูส้ ื บทอดอํานาจทางสายเลือด ซึ งเรี ยกกันว่า
ระบบกษัตริ ยห์ รื อขุนนาง การปกครองสองรู ปแบบนี%ยนื อยูบ่ นพื%นฐานที ตรงกันข้าม
คือพื%นฐานการใช้สติปัญญากับพื%นฐานความโง่
44

เนื อ งจากการบริ หารสั ง คมต้อ งการความสามารถและฝี มื อ และเนื อ งจาก


ความสามารถและฝี มือไม่สามารถสื บทอดผ่านสายเลือดได้ง่ายๆ เราจะเห็นได้ว่า
ระบบการปกครองที อาศัยการสื บทอดสายเลือดมีความจําเป็ นที จะให้มนุ ษย์ยึดมัน
ในความเชื อที ปราศจากการใช้ส ติปัญญา คือดํารงอยู่ได้ก็ต่อ เมื อ มนุ ษ ย์จมอยู่ก ับ
ความโง่ ดังนั%นเมืองไหนประเทศไหนเต็มไปด้วยความโง่ เมืองนั%นมีความเหมาะสม
ที จะใช้ระบบสื บทอดการปกครองโดยสายเลือด แต่บรรยากาศของสาธารณรั ฐย่อม
นําไปสู่ การพัฒนาความกล้าในการนึกคิดและกระทําที ได้แต่สร้ างศักดิhศรี ของความ
เป็ นมนุษย์

สําหรับ เพน การเสนอว่า "กษัตริ ย์ย่อมกระทําผิดมิได้ " เป็ นการผลักดันให้กษัตริ ย ์


ดํา รงอยู่ใ นสถานภาพเช่น เดีย วกับ คนปั ญญาอ่ อน หรื อคนบ้า ที ไ ร้ สติ เพราะไม่
สามารถรับผิดชอบกับสิ งที ตนกระทําได้ ระบบสื บทอดตําแหน่ งทางสายเลือดเป็ น
ระบบที ลดคุณค่าของผูถ้ ือตําแหน่งเอง เพราะเป็ นการเสนอว่าใครก็ได้ ไม่ว่าจะเป็ น
เด็กหรื อคนปัญญาอ่อนสามารถทําหน้าที น% ี ได้ ถ้าเปรี ยบกับช่างซ่ อมเครื องจักรแล้ว
การเป็ นช่างย่อมใช้ความสามารถและฝี มือ แต่การเป็ นกษัตริ ยแ์ ค่อาศัยร่ างสัตว์ชนิ ด
หนึ งที เรี ยกว่ามนุษย์ (to be a King requires only the animal figure of man) ในที สุด
แนวความคิดแบบนี%ที อาศัยความงมงายน่าจะดับสู ญหายไปในยุคแห่งการใช้เหตุผล

เพน อธิบายอีกว่า ไม่มีสภาผูแ้ ทนไหน กลุ่มคนใด หรื อมนุษย์ในเมืองอะไร ที มีสิทธิ


จะกําหนดหรื อสั งการในลักษณะการบังคับมัดสังคมชัว นิรันดร์ ตลอดกาล ไม่ว่าจะ
เป็ นเรื องเกี ยวกับวิธีการปกครอง หรื อเกี ยวกับว่าใครจะเป็ นผูป้ กครอง ดังนั%นคํา
45

ประกาศใดๆ หรื อมาตรากฎหมายรัฐธรรมนูญใดๆ ย่อมไม่มีน% าํ หนักและความชอบ


ธรรมในเมื ออาศัยสิ ทธิอนั ไม่ชอบธรรมดังกล่าวในการออกคําประกาศหรื อกฎหมาย
ทุกยุค ทุกรุ่ น ต้องมีเสรี ภาพในการปฏิบตั ิในทุกเรื อง มนุษย์รุ่นหนึ งไม่มีสิทธิh ในการ
ครอบครองชีวิตของคนรุ่ นต่อไป คนที มีชีวิตอยู่คือผูท้ ี เราควรจะเคารพรั บฟั ง ไม่ใช่
ซากศพคนรุ่ นก่อน

เพน เสนอว่า การปฏิวตั ิฝรั งเศส ไม่ใช่เป็ นเพียงการกบฏต่อพระเจ้าหลุยส์ ที 14 แต่


เป็ นการปฏิวตั ิลม้ หลักการปกครองเผด็จการของกษัตริ ย ์ หลักการนี% ไม่ได้เริ มต้นที
กษัตริ ย ์คนนี% ห รอก มัน มีมานาน และพวกกาฝากทั%งหลายที ติ ดพันกับ ระบบนี% มี
หนาแน่นเกินไปที จะกําจัดออกไปโดยวิธีอื นนอกจากการปฏิวตั ิสังคมอย่างถ้วนหน้า
การที กษัตริ ยฝ์ รั งเศสปั จจุ บ ันไม่ได้ชว ั ร้ ายอะไรหนักหนาไม่สําคัญ เพราะการมี
ระบบเผด็จการของกษัตริ ยก์ เ็ ป็ นโอกาสสําหรับรัชกาลต่อไปที อาจโหดร้ายกว่า ที จะ
เถลิงอํานาจ การพึ งพาตัวบุคคลที อาจมีคุณธรรมไม่ใช่หลักประกันการปกครองที
เป็ นธรรม เพราะการละเว้นการใช้อาํ นาจอย่างป่ าเถื อนของบุคคลคนหนึ งไม่ใช่ส ิ ง
เดียวกับการยกเลิกระบบเผด็จการ

บ่อยครั%งมีคนบ่นว่าการปฏิวตั ิเป็ นเรื องป่ าเถื อนนองเลือด หรื อมีการลงโทษฝ่ ายพ่าย


แพ้อย่างรุ นแรงเป็ นต้น นอกจากเรื องนี% ไม่จริ งเสมอไปแล้ว เราต้องมาพิจารณาว่า
ทําไมมนุษย์ถึงเลือกใช้ความโหดร้ายในการลงโทษ คําตอบสั%นๆ คือเขาเรี ยนรู ้ จากผู ้
ที ป กครองเขา ดัง นั%น ถ้า การกบฏใดมี ค วามโหดร้ า ยทารุ ณ มัน เพี ย งแต่ เ ป็ นการ
สะท้อนความโหดร้ายทารุ ณของระบบที เคยปกครองเขา เราควรนําขวานมาฟั นราก
และโคนของปัญหา เราต้องสอนหลักมนุษยธรรมกับรัฐบาล ลองคิดดูสิรัฐบาลต่างๆ
46

ไม่ว่าจะเป็ นอังกฤษหรื อฝรั งเศสล้วนแต่ ใช้ความโหดร้ ายในการประหารชีวิตคน


ดังนั%น ถ้า บ้า นเมื อ งเรามี ม็อ บโหดร้ า ยป่ าเถื อ นมัน ก็เ พราะบ้า นเมื อ งมี ร ะบบการ
ปกครองที ปกพร่ องโหดร้ายป่ าเถื อน แต่อย่าลืมว่าม็อบดังกล่าวเพียงแต่เป็ นมวลชนผู ้
ตาม แต่การนํากระบวนการปฏิวตั ิส่วนใหญ่เต็มไปด้วยบุคคลที มีความคิดก้าวหน้า
เพื อเสรี ภาพและมนุษยธรรม

เพน เล่าต่อว่า ในอดีตมนุษย์มีลกั ษณะความเป็ นมนุ ษย์อย่างเดียว ไม่มียศศักดิhอะไร


สู งหรื อตํ ากว่านั%น ทุกทฤษฎีที ว่าด้วยกําเนิ ดของมนุ ษย์ ไม่ว่าจะมาจากโลกที มีการ
บันทึกด้วยลายลักษณ์ อกั ษร หรื อด้วยวาจา หรื อไม่ว่าจะเป็ นเรื องของการถูกสร้ าง
ขึ%นโดยพระเจ้าหรื อเป็ นเรื องของประวัติศาสตร์ ทุกทฤษฎีมีจุดร่ วมสําคัญอันหนึ งคือ
มีการมองว่ามนุษย์เป็ นหนึ งอันเดียวไม่แตกต่างกัน คือมนุษย์เกิดมาเท่าเทียมกัน ด้วย
สิ ทธิ ต ามธรรมชาติที เ ท่าเที ยมกัน ไม่มีมนุ ษย์ที ไหนที จะยอมอาสาเข้าไปร่ วมใน
สังคมเพื อที จะมีฐานะเลวลงหรื อมีสิทธิเสรี ภาพน้อยกว่าสิ ทธิธรรมชาติอนั นี% การเข้า
ร่ วมสังคมกระทําไปเพื อให้มีการปกป้ องสิ ทธิ เสรี ภาพธรรมชาติต่างหาก และสิ ทธิ
เสรี ภาพธรรมชาติยอ่ มเป็ นรากฐานของสิ ทธิพลเมืองในสังคม

ระบบขุนนางที สืบทอดอํานาจหรื อตําแหน่ งทางสายเลือด ไม่ว่าจะในประเทศใด


ล้วนแต่มีรากฐานมาจากการใช้กาํ ลังทางทหารทั%งนั%น คือเป็ นระบบเผด็จการทาง
ทหารชนิดหนึ งซึ งจําเป็ นต้องมีระบบสื บทอดอํานาจที ชดั เจนและตัดส่ วนแบ่งทาง
อํา นาจจากสาขาต่ า งๆ หรื อ แขนงน้อ ยๆ ของครอบครั ว เพื อ ระดมอํา นาจและ
ทรั พย์สินไว้ส่วนกลาง กฎเกณฑ์ข องระบบนี% ขดั แย้งอย่างสิ% นเชิงกับกฎธรรมชาติ
และธรรมชาติกาํ ลังเรี ยกร้องให้เรากําจัดสิ งเพี%ยนๆ นี%ออกไปเสี ยที
47

ในประเทศที อา้ งว่ามีอารยะธรรม เมื อเราเห็นคนแก่คนชราถูกทอดทิ%ง และเยาวชน


ถูกประหารชีวิต เราต้องสรุ ปว่าระบบการปกครองของประเทศนั%น มีปัญหา จาก
เปลือกภายนอกของสังคมเหล่านั%นที ดูสงบเรี ยบร้ อย เมื อเราเจาะลึกลงไปจะเห็ น
ความยากไร้ที ไม่เปิ ดโอกาสใดๆ ให้คนยากจนนอกเหนือจากการตายในสภาพแบบ
นั%นหรื อการถูกลงโทษ การปกครองที มีคุณ ธรรมไม่ใ ช่การปกครองที อาศัยโทษ
ประหาร การปกครองที มีคุณธรรมต้องบริ การเยาวชนให้มีโอกาสเต็มที ในการศึกษา
และต้องดูแลคนแก่คนชราของสังคม ทําไมผูถ้ ูกลงโทษด้วยการประหารชีวิตส่ วน
ใหญ่เป็ นคนจน? แค่ขอ้ มูลชิ%นนี%ชิ%นเดียวก็แสดงถึงความยากไร้ในสภาพชีวิตของเขา
แน่นอนเขาก็ตกเป็ นเหยือ ของอาชญากรรมและระบบกฎหมายที ป่าเถื อน ในจํานวน
เงิน ล้า นๆ ที ถูกนํามาใช้โ ดยรั ฐบาล มี มากมายเหลื อเฟื อที จะแก้ปัญหาเหล่ านี% ที
ต้นเหตุเพื อประโยชน์ของสังคม และเวลาเราพูดถึงปั ญหาความยากจนแบบนี% เรา
กําลังพูดด้วยความห่วงใยเมตตาในเพื อนมนุษย์และในเรื องสิ ทธิมนุษยชน

ในการบริ การสังคม เพน เสนอว่าเราต้องพูดถึงระบบการเก็บภาษี เวลาพูดถึงการ


เก็บภาษีคนส่ วนใหญ่ชอบเสนอว่าควรเก็บภาษีสิน ค้าฟุ่ มเฟื อย และการนิ ยามว่ า
อะไรฟุ่ มเฟื อย อะไรไม่ฟุ่มเฟื อย ไม่ค่อยมีเหตุผลหรื อระบบเท่าไรนัก แต่ส ิ งหนึ งที
น่าจะฟุ่ มเฟื อยอย่างชัดเจนคือการถือครองที ดินขนาดใหญ่ ดังนั%นควรมีการเก็บภาษี
ที ดินจากผูม้ ีที ดินมหาศาลเป็ นประการแรก หลังจากนั%นก็ตอ้ งมีการเก็บภาษีในอัตรา
ก้าวหน้า และการลดการถ่ายทอดสิ นทรัพย์ผ่านมรดก
48

แนวความคิ ด ดั ง กล่ า วและการต่ อ สู้ ของนั ก ประชาธิ ป ไตยอั ง กฤษ กลายเป็ น


หลักประกันสํ าคัญเพื+อไม่ ให้ กษัตริ ย์อังกฤษในยุคนีF ยุ่งหรื อถูกลากลงมายุ่ง ในเรื+ อง
การเมือง...

*ด้ว ยบรรณธิ การหนังสื อ นี% มีค วามเห็ น ว่ าบทความของอาจารย์ใ จ อึs งภากรณ์ ที


ตีพิ มพ์ใ นเว็บ ไซต์ Thai E-new มี เ นื% อ หาที มีคุ ณค่ า สอดคล้อ งกับ งานเขี ย นของ
หนังสื อนี% จึงขออนุญาตนํามาตีพิมพ์เป็ นภาคผนวก

You might also like