Professional Documents
Culture Documents
บนรากฐานข้อมูลทางวิชาการ
มีประสิทธิผลตามสรรพคุณที่ระบุ
มีขอ้ มูลความปลอดภัยและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แสดงถึงความปลอดภัย
และพิษของตัวยาที่เป็ นองค์ประกอบ
การคัดเลือกสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ
ยาพัฒนาจากยาสมุนไพร
สมุนไพรที่มีประสิทธิผลตามสรรพคุณที่ระบุในตารายาหรือเภสัชตารับทั้งไทยและ
ต่างประเทศ
มีหลักฐานทางวิชาการสนับสนุ นอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ความปลอดภัย
ในมนุ ษย์
้ ่ วยชาวไทยไม่ตา่ กว่า 1,000 ราย
มีขอ้ มูลการใช้ในผูป
ปั ญหาและอุปสรรคของการใช้ยาจากสมุนไพร
ในโรงพยาบาล,2554
แพทย์ไม่คอ่ ยเห็นความสาคัญเท่ายาแผนปั จจุบนั และไม่นิยมสัง่ ใช้ยาจาก
สมุนไพร
ผูร้ บั บริการขาดความรูค้ วามเข้าใจ เรื่องความปลอดภัย วิธีการใช้ที่ถกู ต้อง และ
ประโยชน์ของการใช้ยาจากสมุนไพร
ไม่มีความมัน่ ใจในผลการรักษาและคุณภาพของยา ไม่มีขอ้ มูลผลการวิจยั ที่
เพียงพอ ไม่มีการติดตามผลการใช้ดา้ นคุณภาพหรือผลข้างเคียงจากการใช้
ยาสมุนไพรมีราคาแพงเมื่อเทียบกับยาแผนปั จจุบนั
ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ดี
ลักษณะของยาไม่สะดวกต่อการใช้ ต้องรับประทานเป็ นเวลานาน อายุของยา
สั้น
ขมิ้นชัน Curcuma longa L.
สารสาคัญ
curcuminoids ไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 5 โดย w/w
้ ยกว่าร้อยละ 6 โดย v/w
น้ ามันระเหยง่ายไม่นอ
ข้อบ่งใช้
บรรเทาอาการแน่ นจุกเสียด ท้องอืด ท้องเฟ้อ
ขนาดและวิธีใช้
รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม - 1 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อน
นอน
ขมิ้ นชัน Curcuma longa L.
ข้อห้ามใช้:
ห้ามใช้ในผูท้ ี่ท่อน้ าดีอุดตัน หรือผูท้ ี่ไวต่อยานี้
ข้อควรระวัง:
- ควรระวังการใช้กบั ผูป้ ่ วยโรคนิ่ วในถุงน้ าดี ยกเว้นภายใต้การดูแลของแพทย์
- ควรระวังการใช้กบั หญิงตั้งครรภ์ ยกเว้นภายใต้การดูแลของแพทย์
- ควรระวังการใช้กบั เด็ก เนื่ องจากยังไม่มีขอ้ มูลด้านประสิทธิผลและความปลอดภัย
- ควรระวังการใช้ยานี้ ร่วมกับสารกันเลือดเป็ นลิ่ม (anticoagulants) และยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด
(antiplatelets)
- ควรระวังการใช้ยานี้ ร่วมกับยาที่กระบวนการเมแทบอลิซึม ผ่านเอนไซม์ Cytochrome P450 (CYP 450)
เนื่ องจากสาร curcumin ยับยัง้ CYP 3A4, CYP 1A2 แต่กระตุน้ เอนไซม์ CYP 2A6
- ควรระวังการใช้ร่วมกับยารักษาโรคมะเร็งบางชนิ ด เช่น doxorubicin, chlormethine,
cyclophosphamide และ camptothecin เนื่ องจาก curcumin อาจมีผลต้านฤทธิ์ยาดังกล่าว
อาการไม่พึงประสงค์:
ผิวหนังอักเสบจากการแพ้
ขมิ้ นชัน Curcuma longa L.
Herb-drug interaction
ขมิ้ นชัน
มีฤทธิ์ยบั ยัง้ เกล็ดเลือด
อาจเพิ่มความเสี่ยง Bleeding
นาน 12 สัปดาห์
เทียบกับยาน้ าลดกรดชนิ ดน้ า
อัตราแผลหายสนิ ท
71 %
ขมิ้ นชัน
ยาลดกรด 94 %
ขมิ้ นชัน Curcuma longa L.
รักษาแผลในกระเพาะ( gastric ulcer) และ duodenal ulcer
ผูป 25 คน
้ ่ วย
รับยาแคปซูลขมิ้ นชัน ขนาด 600 มิลลิกรัม วันละ 5 ครั้ง
ระยะเวลา 12 สัปดาห์
การใช้ขมิ้นชันรักษากลาก เกลื้อน
ผสมผงขมิ้ นชันกับน้ า แล้วทาบริเวณที่เป็ นกลากเกลื้ อน 2 ครั้งต่อวัน
ฟ้ าทะลายโจร Andrographis paniculata
สารสาคัญ
total lactone คานวณเป็ น andrographolide ไม่น้อยกว่าร้อยละ 6 โดยw/w
ข้อบ่งใช้
บรรเทาอาการท้องเสียชนิ ดที่ไม่เกิดจากการติดเชื้ อ เช่น อุจจาระไม่เป็ นมูก หรือมีเลือดปน
บรรเทาอาการเจ็บคอ/บรรเทาอาการของโรคหวัด (common cold) เช่น เจ็บคอ ปวดเมื่อย
กล้ามเนื้ อ
ขนาดและวิธีใช้
บรรเทาอาการท้องเสีย
รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม–2 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน
บรรเทาอาการหวัด เจ็บคอ
รับประทานครั้งละ 1 3 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน
ฟ้ าทะลายโจร Andrographis paniculata
ข้อห้ามใช้
ห้ามใช้ ในผูท
้ ี่มีอาการแพ้ฟ้าทะลายโจร
ห้ามใช้ ในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
เนื่ องจากอาจทาให้เกิดทารกวิรปู ได้
ห้ามใช้ฟ้าทะลายโจรสาหรับแก้เจ็บคอในกรณีต่าง ๆ ต่อไปนี้
ผูป
้ ่ วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่ องจากติดเชื้ อ Streptococcus group A
ผูป้ ่ วยที่มีประวัติเป็ นโรคไตอักเสบ เนื่ องจากเคยติดเชื้ อ Streptococcus group A
ผูป
้ ่ วยที่มีประวัติเป็ นโรคหัวใจรูหม์ าติค
ผูป ้ ่ วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่ องจากมีการติดเชื้ อแบคทีเรียและมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่ม
หนองในคอ มีไข้สงู และหนาวสัน่
ฟ้ าทะลายโจร Andrographis paniculata
ข้อควรระวัง
หากใช้ยานี้ ติดต่อกันเป็ นเวลานาน อาจทาให้แขนขามีอาการชาหรืออ่อนแรง
หากใช้ฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน 3 วัน แล้วไม่หาย หรือ มีอาการรุนแรงขึ้ นระหว่างใช้ยาควรหยุดใช้และพบแพทย์
ควรระวังการใช้ยานี้ ร่วมกับสารกันเลือดเป็ นลิ่ม (anticoagulants) และยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด
(antiplatelets)
ควรระวังการใช้ยานี้ ร่วมกับยาลดความดันเลือดเพราะอาจเสริมฤทธิ์กนั ได้
ควรระวังการใช้ยานี้ ร่วมกับยาที่กระบวนการเมแทบอลิซึม ผ่านเอนไซม์ Cytochrome P450 (CYP
450) เนื่ องจากฟ้ าทะลายโจรมีฤทธิ์ยบั ยั้งเอนไซม์ CYP 1A2, CYP 2C9 และ CYP 3A4
อาการไม่พึงประสงค์
อาจทาให้เกิดอาการผิดปกติของทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ เบื่ออาหาร วิงเวียนศีรษะ ใจสัน่
และอาจเกิดลมพิษได้
ฟ้ าทะลายโจร Andrographis paniculata
ผลิตภัณฑ์ยาที่มีใน รพ. ป่ าซาง
ชนิ ดแคปซูล 450 mg
ฟ้ าทะลายโจร Andrographis paniculata
การศึกษาทางคลินิก
บรรเทาอาการไข้และเจ็บคอ
Randomized double-blind controlled study (n=152)
เปรียบเทียบผลการรักษาของฟ้าทะลายโจร( )
และพาราเซตามอล( )
วันที่ 3 พบว่ากลุ่มที่ได้รบ
ั ฟ้ าทะลายโจร ขนาด 6 กรัม/วัน มีอาการไข้ และการ
เจ็บคอลดลง ดีกว่ากลุ่มที่ได้รบั ฟ้ าทะลายโจร 3 กรัม/วัน หรือได้รบั พาราเซตา
มอล
แต่หลังการรักษา 7 วัน ให้ผลไม่แตกต่างกัน
ฟ้ าทะลายโจร Andrographis paniculata
การรักษาอาการท้องเสียแบบไม่ติดเชื้ อ
double-blind controlled trial
เปรียบเทียบยาระหว่างฟ้าทะลายโจร 2 กรัม วันละ3 ครั้ง
และไม่ต่างจากกลุ่มที่ได้ Loperamide
ฟ้ าทะลายโจร Andrographis paniculata
ฟ้าทะลายโจรกับไข้หวัดใหญ่
การรักษาอาการเนื่ องจากไข้หวัดใหญ่ Influenza
Multi-center, randomized controlled open-label study
้ ่ วย 25 คน มีไข้มากกว่าหรือเท่ากับ 38 ͦC
ผูป
ฤทธิ์ลดการอักเสบ
ฤทธิ์เพิ่มภูมิตา้ นทาน
กระตุน
้ ภูมิคุม้ กัน ทาให้ร่างกายสามารถต้านเชื้ อแบคทีเรียได้
ฤทธิ์ลดการบีบตัวของกล้ามเนื้ อเรียบ
ลดการปวดเกร็งท้อง แก้ทอ้ งเสีย
ฤทธิ์เพิ่มการหลัง่ สารในลาคอ
ฟ้ าทะลายโจร Andrographis paniculata
การใช้ประโยชน์
แก้หวัด common cold
WHO,2002: ผงทั้งต้นเหนื อดิน 1.5-3 กรัม 4 ครั้งต่อวัน
บรรเทาไข้และเจ็บคอ
ผงใบ1.5-3 กรัม 4 ครั้งต่อวัน
บรรเทาอาการท้องเสียไม่ติดเชื้ อ
ผงส่วนเหนื อดิน 0.5-2 กรัม 4 ครั้งต่อวัน
ขิง Zingiber officinale Roscoe
สารสาคัญ
น้ ามันหอมระเหย(menthol, cineole) ไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 2 โดย v/w
Gingerols, shogaols
ข้อบ่งใช้/ขนาดและวิธีใช้
บรรเทาอาการท้องอืด ขับลม แน่ นจุกเสียดรับประทานวันละ 2-4 กรัม
ขับลมgingerol, shogaol
ฤทธิ์ป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียนเพิ่มการคลื่นไหวของกระเพาะอาหาร
ฤทธิ์ลดการบีบตัวของลาไส้
ฤทธิ์ตา้ นการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
ฤทธิ์ลดการอักเสบ
ฤทธิ์แก้ ไอ
ฤทธิ์ขบั น้ าดี
ขิง Zingiber officinale Roscoe
การใช้ประโยชน์
การใช้ขิงรักษาอาการอาเจียนและรักษาอาการแน่นจุ กเสียด
ใช้เหง้าสดขนาดเท่าหัวแม่มือ ทุบให้แตก ต้มเอาน้ าดื่ม
การใช้ขิงรักษาอาการไอ
ใช้ขิงฝนกับน้ ามะนาว แทรกเกลือใช้กวาดคอหรือจิบบ่อย
ชุมเห็ดเทศ Senna alata (L.) Roxb., Cassia alata L.
สารสาคัญ
hydroxyanthracene derivatives โดยคาานวณเป็ น rhein-8-
glucoside ไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 1.0 โดย w/w
ข้อบ่งใช้
บรรเทาอาการท้องผูก
ขนาดและวิธีใช้
ชนิดชง
รับประทานครั้งละ 3 – 6 กรัม ชงน้ าร้อนประมาณ 120 - 200 มิลลิลิตร นาน 10
นาที วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน
ชนิ ดแคปซูล
รับประทานครั้งละ 3 – 6 กรัม วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน
ชุมเห็ดเทศ Senna alata (L.) Roxb., Cassia alata L.
ข้อห้ามใช้:
ผูป้ ่ วยที่มีภาวะทางเดินอาหารอุดตัน (gastrointestinal obstruction) หรือปวดท้องโดย
ไม่ทราบสาเหตุ
ข้อควรระวัง:
- ควรระวังการใช้ในเด็กอายุตา่ กว่า 12 ปี หรือในผูป้ ่ วย inflammatory bowel
disease
- การรับประทานยาในขนาดสูงอาจทาให้เกิดไตอักเสบ (nephritis)
อาการไม่พึงประสงค์:
อาจทาให้เกิดอาการปวดมวนท้อง เนื่ องจากการบีบตัวของลาไส้ใหญ่
ชุมเห็ดเทศ Senna alata (L.) Roxb., Cassia alata L.
การศึกษาทางคลินิก
บรรเทาอาการท้องผูก
ศึกษาผลของใบชุมเห็ดเทศ โดยนายาชงถุงละ 3-4 กรัม มาชงน้ าเดือด 120 มิลลิลิตร ทิ้ ง
ไว้นาน 10 นาที
เปรียบเทียบผลระหว่าง
กลุ่มที่ได้รบ
ั ยาหลอก จานวน 23 ราย
กลุ่มที่ได้รบ ั ยามิสต์แอลบา (Mist. Alba) จานวน 7 ราย
กลุ่มที่ได้รบั ยาชงชุมเห็ดเทศ จานวน12 ราย
พบว่าชุมเห็ดเทศให้ผลดีกว่ายาหลอก และให้ผลเท่ากับยามิสต์แอลบา
ซึ่งการใช้ยาชงชุมเห็ดเทศอาจมีทอ้ งเสียร่วมด้วย
แต่ผปู้ ่ วยพอใจชุมเห็ดเทศมากกว่ายามิสต์แอลบา
ชุมเห็ดเทศ Senna alata (L.) Roxb., Cassia alata L.
รักษาโรคกลากเกลื้อน
การศึกษาในอาสาสมัครที่เป็ นโรคเกลื้ อน พบว่าการทาสารสกัดน้ าใบชุมเห็ดเทศ
ที่ความเข้มข้น 100% ทาบริเวณแขน ขา
ที่ความเข้มข้น 90% ทาบริเวณคอ มือ
ที่ความเข้มข้น 80% ทาบริเวณหน้า
การทดสอบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
บรรเทาอาการท้องผูกกระตุน้ กล้ามเนื้ อเรียบของลาไส้ใหญ่ให้มีการบีบ
ตัว ทาให้ขบั ถ่าย
ฤทธิ์ตา้ นเชื้ อแบคทีเรียที่ทาให้เกิดอาการท้องเสีย
ฤทธิ์ตา้ นเชื้ อราและยีสต์ โดยเฉพาะเชื้ อราที่เป็ นสาเหตุของโรคกลากเกลื้ อน
ชุมเห็ดเทศ Senna alata (L.) Roxb., Cassia alata L.
การใช้ประโยชน์
การใช้ชุมเห็ดเทศรักษาอาการท้องผูก
ใช้ใบสดหรือแห้งประมาณ 12 ใบ ต้มกับน้ าดื่มครั้งละแก้ว
การใช้ชุมเห็ดเทศรักษากลาก เกลื้ อน
นาใบสดมาตาให้ละเอียดใช้ทาบริเวณที่เป็ นกลากหรือผื่ นคัน
พญายอ Clinacanthus nutans
ตัวยาสาคัญ
สารสกัดเอทิลแอลกอฮอล์ของใบพญายอแห้ง
(เสลดพังพอนตัวเมีย)
รูปแบบยา
1. ยาครีม สารสกัดพญายอร้อยละ 4 - 5 โดยน้ าหนัก (w/w)
2. สารละลาย (สาหรับป้ายปาก) สารสกัดพญายอในกลีเซอรีนร้อยละ 2.5 - 4
โดยน้ าหนัก (w/w)
3. ยาโลชัน ่ สารสกัดพญายอร้อยละ 1.25 โดยน้ าหนัก (w/w)
4. ยาขี้ ผึ้ ง สารสกัดพญายอ ร้อยละ 4 - 5 โดยน้ าหนัก (w/w)
5. ยาทิงเจอร์ สารสกัดพญายอสด ร้อยละ 10 โดยน้ าหนักต่อปริมาตร (w/v)
พญายอ Clinacanthus nutans
ข้อบ่งใช้
ยาครีม
บรรเทาอาการของโรคเริม และงูสวัด
สารละลาย (สาหรับป้ายปาก)
รักษาแผลในปาก (aphthous ulcer) แผลจากการฉายรังสีและเคมีบาบัด
โลชัน่
บรรเทาอาการ ผดผื่นคัน ลมพิษ ตุ่มคัน
ยาขี้ ผึ้ ง
บรรเทาอาการอักเสบ ปวด บวมจากแมลงกัดต่อย
ทิงเจอร์พญายอ
บรรเทาอาการของเริม และงูสวัด
ขนาดและวิธีใช้
ทาบริเวณที่มีอาการ วันละ 5 ครั้ง
พญายอ Clinacanthus nutans
ยาที่มีใน รพ. ป่ าซาง
ทิงเจอร์เสลดพังพอน 20 ml
พญายอ Clinacanthus nutans
การศึกษาทางคลินิก
การบรรเทาอาการโรคเริม งู สวัด และแผลในปาก
การติดเชื้ อไวรัส Herpes simplex virus type-2 (HSV-2)
Randomized controlled trial (n=72)
ยาเตรียมจากสารสกัดใบพญายอ โดยเปรียบเทียบกับยา acyclovir และ ยา
หลอก
พบว่ายาเตรียมสารสกัดใบพญายอมีประสิทธิผลในการรักษาได้ดีเทียบเท่ากับยา
acyclovir และดีกว่ายาหลอกอย่างเห็นได้ชดั
ไม่ทาให้ผใู ้ ช้มีอาการแสบ และระคายเคืองขณะที่ใช้ยา
พญายอ Clinacanthus nutans
การบรรเทาอาการโรคเริม งู สวัด และแผลในปาก
การรักษาผูป้ ่ วยโรคงูสวัด(Varicella zoster virus)
Randomized placebo controlled trial (n=51)
ยาเตรียมจากสารสกัดจากใบพญายอ เปรียบเทียบกับยาหลอก
มีฤทธิ์ตา้ นฮิสตามีนซึ่งช่วยในการรักษาโรคหอบหืด
ไพล Zingiber montanum
การใช้ประโยชน์
การใช้ไพลรักษาอาการบวม ฟกชา้ อักเสบ
นาไพลมาฝานเป็ นชิ้ นบางๆ ใช้ถูนวดในบริเวณที่อกั เสบ
เตรียมน้ ามันไพลด้วยการจี่ ในกระทะ (คัว่ ในกระทะ) จนได้น้ ามันสีเหลือง นามา
ทา ถูนวด
เถาวัลย์เปรียง Derris scandens (Roxb.) Benth.
ตัวยาสาคัญ
ผงจากเถาของเถาวัลย์เปรียง : สารกลุ่มฟลาโวนอยด์
ข้อบ่งใช้
บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้ อ ลดการอักเสบของกล้ามเนื้ อ
ขนาดและวิธีใช้
รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม – 1 กรัม วันละ 3 ครั้ง หลังอาหารทันที
เถาวัลย์เปรียง Derris scandens (Roxb.) Benth.
ข้อห้ามใช้:
ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์
ข้อควรระวัง:
- ควรระวังการใช้ในผูป้ ่ วยโรคแผลเปื่ อยเพปติก เนื่ องจากเถาวัลย์เปรียงออกฤทธิ์
คล้ายยาแก้ปวดกลุ่มยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Nonsteroidal
Anti-Inflammatory Drugs: NSAIDs)
อาจทาให้เกิดการระคายเคืองระบบทางเดินอาหาร
อาการไม่พึงประสงค์:
ปวดท้อง ท้องผูก ปั สสาวะบ่อย คอแห้ง ใจสัน่
เถาวัลย์เปรียง Derris scandens (Roxb.) Benth.
การศึกษาทางคลินิก
บรรเทาอาการปวดเมื่อย
สถาบันวิจย ั สมุนไพร
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ร่วมกับโรงพยาบาลวังน้ า
เย็น จังหวัดสระแก้ว
เถาวัลย์เปรียง Derris scandens (Roxb.) Benth.
การศึกษาประสิทธิผลและผลข้างเคียงของยาจากสารสกัด
เถาวัลย์เปรียง vs. Diclofenac ในการบรรเทาอาการปวดหลัง
ส่วนล่าง
กลุ่มเถาวัลย์เปรียง 37 ราย
ได้รบั แคปซูลสารสกัดของเถาวัลย์เปรียงขนาด 200 มิลลิกรัม วันละ
3 ครั้ง ครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหาร เป็ นเวลา 7 วัน
กลุ่มควบคุม 33 ราย ได้รบ ั
ยาไดโคลฟี แนค ขนาด 25 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 เม็ด
หลังอาหาร เป็ นเวลา7 วัน
เถาวัลย์เปรียง Derris scandens (Roxb.) Benth.
การศึกษาประสิทธิผลและผลข้างเคียงของยาจากสารสกัดเถาวัลย์เปรียง vs.
Diclofenac ในการบรรเทาอาการปวดหลังส่วนล่าง (ต่อ)
ค่าทางโลหิตวิทยา
กลุ่มที่ได้รบั ยาสารสกัดเถาวัลย์เปรียง
มีจานวนเม็ดเลือดขาวลดลงอย่างมีนัยสาคัญในวันที่ 7ของการรักษา
ค่ายังที่ตรวจได้อยู่ในระดับปกติ ไม่พบการเปลี่ยนแปลงของค่าทางชีวเคมีและ
ผลข้างเคียง
กลุ่มผูท้ ี่ได้รบั ยา Diclofenac
ไม่พบการเปลี่ยนแปลงของค่าโลหิตวิทยา ค่าทางชีวเคมีที่แสดงถึงความผิดปกติ และ
ผลข้างเคียงใด
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์ตา้ นอักเสบ สารในกลุ่มไอโซฟลาโวน (Isoflavone) และไอโซฟลา
โวน , กลัยโคไซด์ (Isoflavone glycoside)
กระตุน้ ภูมิคุม้ กัน
ฤทธิ์ยบั ยัง้ การสร้างแอนติเจนชนิ ดผิวของไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)
รางจืด Thunbergia laurifolia Lindl.
ตัวยาสาคัญ
ผงของใบรางจืดโตเต็มที่ องค์ประกอบทางเคมี
ขนาดและวิธีใช้:
รับประทานครั้งละ 2 – 3 กรัม ชงน้ าร้อนประมาณ 120 - 200 มิลลิลิตร วันละ 3
ครั้ง ก่อนอาหาร หรือเมื่อมีอาการ
ข้อควรระวัง:
ควรระวังการใช้ในผูป้ ่ วยเบาหวาน เพราะอาจเกิดภาวะน้ าตาลในเลือดตา่
ควรระวังการใช้ในผูป ้ ่ วยที่ตอ้ งใช้ยาอื่นอย่างต่อเนื่ องเพราะยารางจืด อาจเร่งการขับยา
เหล่านั้นออกจากร่างกาย ทาให้ประสิทธิผลของยาลดลง
รางจืด Thunbergia laurifolia Lindl.
ยาที่มีใน รพ.ป่ าซาง
ชาชงรางจืด 2 กรัม/10 ซอง
รางจืด Thunbergia laurifolia Lindl.
การศึกษาทางคลินิก
โรงพยาบาลบางกระทุม่ พิษณุโลก
ศึกษาประสิทธิผลของสมุนไพรรางจืดโดยวิเคราะห์การเพิ่มขึ้ นของระดับเอนไซม์โคลีน
เอสเทอเรสในซีรมั ่ ของเกษตรกรที่พบพิษสารกาจัดศัตรูพืชในร่างกาย
โดยแบ่งกลุ่มประชากร 270 คน ออกเป็ น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 90คน
ให้ผป
ู ้ ่ วยดื่มหรือให้ทางสายให้อาหารครั้งละ 200 มิลลิลิตร ทุก 2 ชัว่ โมง
ตลอดเวลาที่อยูโ่ รงพยาบาล
รางจืด Thunbergia laurifolia Lindl.
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
ลดระดับน้ าตาลในเลือด
ลดความดันโลหิต
ป้องกันการเสื่อมของระบบประสาทจากพิษตะกัว่
รางจืด Thunbergia laurifolia Lindl.
การใช้ประโยชน์
ในทางการแพทย์แผนไทย จะใช้ใบหรือราก ตาและคั้นน้ าซาวข้าว รับประทานแก้
พิษผิดสาแดง
หญ้าดอกขาว Vernonia cinerea (L.) Less.
ตัวยาสาคัญ
ผงหญ้าดอกขาว มีสารในกลุ่ม sterols,
triterpenoid, flavonoids และ saponin
ข้อบ่งใช้:
ลดความอยากบุหรี่
ขนาดและวิธีใช้:
รับประทานครั้งละ 2 กรัม ชงน้ าร้อนประมาณ 120 - 200 มิลลิลิตร หลังอาหาร วัน
ละ 3 - 4 ครั้ง
ข้อควรระวัง
ควรระวังการใช้ในผูป
้ ่ วยโรคหัวใจ และโรคไต เนื่ องจากยาหญ้าดอกขาวมีโพแทสเซียมสูง
อาการไม่พึงประสงค์:
ปากแห้ง คอแห้ง
หญ้าดอกขาว Vernonia cinerea (L.) Less.
ข้อมูลการศึกษาวิจยั
ศูนย์วิจย
ั และจัดการความรูเ้ พื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.)
มหาวิทยาลัยมหิดล
การใช้สมุนไพรหญ้าดอกขาวติดต่อกันนาน 2 เดือน สามารถช่วยลดอัตราการสูบ
บุหรี่ได้ถึง 60%
หากใช้ร่วมกับการออกกาลังกาย จะสามารถช่วยลดอัตราการสูบบุหรี่ลงถึง 62%
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
Potassium choride ใบ ลาต้น ราก
K supplement
GI irritate, ระวังการใช้ในผูป
้ ่ วย โรคหัวใจ ไต
Potassium nitrate ลาต้น ราก
Osmotic dieresis, reduce pain of hypertensive teeth
GI irritate, vertigo, headache, flushing, cyanosis
ในสารสกัดหยาบจากใบและดอกที่ได้จากการเคี่ยวมีสารสาคัญคือ
นิโคติน (nicotine) ในปริมาณต ่า
หญ้าหนวดแมว Orthosiphon aristatus
ตัวยาสาคัญ
ผงจากใบและส่วนยอดของหญ้าหนวดแมว
้ ่ วยหายจากปวดนิ่ ว ร้อยละ 20
ผูป
หญ้าหนวดแมว Orthosiphon aristatus
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์ขบั ปั สสาวะ
สาร orthosiphonin glucoside, ซาโปนิ น, phytosterol และแทนนิ น
ประมาณร้อยละ 0.65 มีฤทธิ์ขบั ปั สสาวะ
โดยเพิ่มการขับออกของโซเดียมและคลอไรด์
ฤทธิ์ในการรักษานิ่ว
สารฟลาโวนอยด์ เช่น kaempferol จากหญ้าหนวดแมว
สามารถยับยัง้ การเพิ่มขนาดของผลึกแคลเซียมออกซาเลทในก้อนนิ่ วในทางเดิน
ปั สสาวะได้
หญ้าหนวดแมว Orthosiphon aristatus
การใช้หญ้าหนวดแมวรักษาอาการปั สสาวะขัดตามคาแนะนาของ
กระทรวงสาธารณสุข (สาธารณสุขมูลฐาน)
นาใบและกิ่งแห้ง 4 กรัม มาชงด้วยน้ าร้อน 750 มิลลิลิตร ดื่มน้ าชงต่าง
น้ า ติดต่อกันนาน 1-6 เดือน
ควรใช้ยอดอ่อนและทาให้แห้งก่อน
เอกสารอ้างอิง
เอกสารประกอบการบรรยาย ยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ: มุมมอง
จากทฤษฎีการแพทย์แผนไทยและข้อมูลเอกสารทางวิชาการ, 2554
คูม่ ือการใช้สมุนไพรสาหรับประชาชน, 2555
บัญชียาหลักแห่งชาติ
(http://drug.fda.moph.go.th:81/nlem.in.th/)
สานักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
(http://www.medplant.mahidol.ac.th/new/index.asp)
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่…
http://drug.fda.moph.go.th:81/nlem.in.th/
http://www.medplant.mahidol.ac.th/new/index.asp
รายการยาสมุนไพร รพ.ป่ าซาง
ยาผง
รายการยาสมุนไพร รพ.ป่ าซาง
ชาชง
รายการยาสมุนไพร รพ.ป่ าซาง
ยาแคปซูล
รายการยาสมุนไพร รพ.ป่ าซาง
ขอบพระคุณ
สวัสดี