Professional Documents
Culture Documents
(ฉบับสงวนเก็บรักษา)
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล วัดป่ากุดฉนวนอุดมพร
(ฉบับสงวนเก็บรักษา)
ข้อมูลสำ�นักหอสมุดแห่งชาติ:
พระธาตรี อุปฺปลวณฺโณ.
ประมวลตำ�รายา อโรคยาศาลวัดป่ากุดฉนวนอุดมพร ฉบับสงวนเก็บรักษาฯ. --
ชัยภูมิ : อโรคยาศาล วัดป่ากุดฉนวนอุดมพร, 2557.
232 หน้า.
1. ยาแผนโบราณ. 2. ยาสมุนไพร. I. ชื่อเรื่อง.
615.11593
ISBN 978-616-92106-0-3
ผู้เรียบเรียง
พระธาตรี อุปฺปลวณฺโณ
สืบค้นข้อมูล และบรรณาธิการ
ธวัชชัย นาใจคง
รูปเล่ม
ณัทพล ดำ�เนินงามสกุล
พิมพ์ที่
บริษัท ริช แอนด์ ซีมลี จำ�กัด
จัดทำ�โดย/ลิขสิทธิ์เป็นของ
อโรคยาศาล วัดป่ากุดฉนวนอุดมพร
อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
พิมพ์ครั้งที่ ๑ / พฤษภาคม ๒๕๕๗
จำ�นวน ๒๐๐๐ เล่ม
ขอขอบคุณ
อัครภูมิ สะเดา พจ.จตุพร พรมชัย
พจ.พนัชดา นวนงาม ทัศนีย์ โสวิชัย
คณะนักศึกษาแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ รุ่น ๔
คำ�นำ�
ตำ�รับยาไทยแต่ก่อนนั้น คนสมัยก่อนได้เขียนบันทึกไว้ในตำ�ราของวัด
บ้าง ของตระกูลบ้าง ซึ่งตำ�ราเหล่านั้นก็ล้วนแล้วแต่เจ้าของผู้ครอบครองตำ�รา
ยาก็หวงแหนเอาไว้ ไม่ให้เป็นการแพร่หลายจวบจนคนสมัยนั้นได้ล่วงลับดับไป
ความรู้ในตำ�รับตำ�ราเหล่านั้นก็ล่วงไปกับเจ้าของตำ�รานั้น เพราะหวงแหนเอาไว้
ไม่ได้เผยแพร่สืบทอดให้อนุชนคนรุ่นหลังดังที่กล่าวแล้ว
ข้าพเจ้ามองเห็นปัญหาตรงจุดนี้ก็เลยปรารภกับทางทีมงานผู้จัดทำ� อีก
ทั้งประจวบเหมาะกับวันงานไหว้ครูปี ๕๗ นี้ด้วยว่าจะทำ�อะไรเป็นของที่ระลึก
แก่คณะศิษย์ที่มาร่วมงาน คณะผู้จัดทำ�จึงลงความเห็นพร้อมเพรียงกันว่าควร
รวบรวมตำ�รายาที่มีอยู่ทั้งเก่าและใหม่รวบรวมเรียบเรียงจัดทำ�เป็นหนังสือ เพื่อ
แจกเป็นของที่ระลึกในงานและที่สำ�คัญอันดับต้นๆ คือดำ�รงคงไว้สืบต่อเจตนา
ของครูบาอาจารย์เจ้าของตำ�รา ไม่ให้ตำ�รับยาสูญสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
ทางคณะผู้รวบรวมจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือ ประมวลตำ�รับยา อโรค
ยาศาล วัดป่ากุดฉนวนอุดมพร ฉบับสงวนเก็บรักษานี้ จะเป็นประโยชน์ยิ่งแก่ผู้
ประกอบวิชาชีพแพทย์และผู้สนใจทั่วไปไม่มากก็น้อย
พระธาตรี อุปฺปลวณฺโณ
อโรคยาศาล ชัยภูมิ
สารบัญ
คำ�นำ�
สารบัญ
บทนำ�
แผนกยาแก้ไข้ต่างๆ
ยาแก้ไข้ออกร้อนตัว ๒๘
ยาแก้ไข้สั่น ๒๘
ยาแก้ไข้ ๒๘
ยาชื่อกรรมฐานโอสถ ๒๘
ยาแก้ไข้ ๒๘
ยาแก้ไข้ ๒๙
ยาแก้ไข้ปวดหัว ๒๙
ยาแก้ไข้ปวดหัว ๒๙
ยาแก้ทั่งพิษไข้หมากไม้ ๒๙
ยาแก้พิษหมากไม้ ๒๙
ยาแก้ไข้หมากไม้หลวง (ใหญ่) ๒๙
ยาถามหมากไม้ ๓๐
ยาแก้ไข้ ๓๐
ยาแก้ไข้กินผิด ๓๑
ยาไข้ทกทื้น ๓๑
ยาไข้ตีนมือฮ้อน ๓๑
ยาไข้ซำ�เฮื้อ ๓๒
ยาไข้หนหวยธาตุขันธ์บ่สว่าง ๓๒
ยาไข้มันเส่า ๓๒
ยาไข้แกว่งหัว ๓๒
ยาไข้แกว่งหัว ๓๒
ยาไข้ตีนดำ� มือดำ� ซางเหลือ ซางมุม ๓๓
ยาไข้ตาเหลืองขนคีงลุก ๓๓
ยาไข้หนักโต ๓๓
ยาไข้มันฮ้อนหมดตัว ๓๓
ยาไข้กึบ ๓๓
แผนกยาแก้ไข้ต่างๆ
ยาห้ามไข้ ๓๓
ยาหมากไม้ ๓๔
ยาทั่งพิษหมากไม้ ๓๔
ยาหมากไม้ออกตุ่มทั้งหลาย ๓๔
ยาไข้หมากไม้ ๓๔
ยาไข้หมากไม้กินผิด ๓๔
ยาตุ่มหมากไม้ ๓๕
ยาหมากไม้ออกปานดำ�ปานแดง ๓๕
ยาถอนพิษหมากไม้ทุกชนิด ๓๕
ยาไข้หมากไม้ลงท้อง ๓๕
ยาสะเออะหมากไม้ ๓๕
ยาตัดฮากหมากไม้ ๓๕
คาถาเป่าพิษหมากไม้ทั้งหลาย ๓๕
คาถาเป่าหมากไม้ใหญ่ออกปานดำ�ปานแดง ๓๖
ยามหานิลชาวเหนือ ๓๖
ยาต้มเทพชุมนุม ๓๖
ยาแก้ไข้หวัดใหญ่ ๓๗
ยาแรกเริ่มไข้ทุกชนิด ๓๗
ยาแก้ไข้พิษบวมพองลมแล่นไม่ตลอด ๓๗
ยาแก้ไข้พิษขึ้นหนวยแดง ภายในคืนเดียว ๓๗
ยาไข้ชนในเม็ดเลือด ๓๗
มหาครอบแก้ไข้ ๓๗
แผนกยาแก้โรคในปากในคอ
ยาแก้เจ็บอก ๔๐
ยาแก้เลือดฟันออก ๔๐
ยาแก้ไอสิบปี ๔๐
ยาแก้ไอผอมแห้ง ๔๐
ยาแก้ไอสมองแห้ง ๔๐
ยาแก้เลือดฟันออก ๔๐
ยาแก้เสียงแหบแห้งเครือ ๔๐
ยาแก้ไอ ๔๑
ยาแก้ไอ ๔๑
ยาแก้ไอหมากโหกแตก ๔๑
แผนกยาแก้โรคในปากในคอ
ยาเลือดคอออก ๔๑
ยาแก้เลือดแข่วเลือดคอออก ๔๑
ยาปิดเลือดแข่ว ๔๑
ยาแก้โรคทำ�มะลาลงคางแข็งคอตีบ ๔๒
ยาแก้ปวดแข่วมึนไปตามสันหลัง ๔๒
ยาขับเสลด ตัดรากหืด ๔๒
ยาแก้ปวดฟัน ๔๒
ยาสมานคำ� ๔๒
ยาสมานปากเปื่อย ๔๒
ยาต้มอมแก้ปากเปื่อย ๔๒
ยาดองแก้ปากเปื่อยคอเปื่อย ๔๓
ยาทาแก้ปากเปื่อย ๔๓
ยาแก้ลักกะปิดลักกะเปิด ๔๓
ยาสมานดำ� ๔๓
ยาสมานเปื่อย ๔๓
ยาแก้ทำ�มะลากักกืก ๔๓
ยาแก้ทำ�มะลาต่างๆ ๔๔
ยาแก้ทำ�มะลาปัจจุบัน ๔๔
ยาแก้คะยือ ๔๕
ยาแก้คะยือบ้องขวาน ๔๕
ยาแก้สะเออะ ๔๕
ยาแก้กางปากเปื่อยวิเศษสุด ๔๕
ยาแก้ปวดกกแข่ว ๔๕
ยาแก้กกแข้วไข่ ๔๕
แผนกยาแก้โรคแม่และเด็ก
ยาหม้อแก้อาเจียน ๔๘
ยาหม้อครรภ์รักษา ๔๘
ยาหม้อ แก้บิด มูกเลือด ๔๙
ยานึ่งแก้บิดมูกเลือด ๔๙
ยาหม้อแก้บิดหัวลูก ๔๙
ยาหอมประทุมเกษดา ๔๙
ยาหอมหทัยวาต ๔๙
ยาหอมแท่งแดง ๔๙
แผนกยาแก้โรคแม่และเด็ก
ยาสตรีหลังคลอด
ยาประจุโลหิต และบำ�รุงโลหิต ๕๐
ยาบำ�รุงโลหิต ๕๑
ยาประสะน้ำ�นม ๕๑
ยาทานมบริสุทธิ์ ๕๑
ยาวิรุฬนาภีธิคุณ ๕๑
ยาประสะนมฝาด ๕๑
ยาประสะแก้น้ำ�นมคาว ๕๑
ยาประสะแปรน้ำ�นมดี ๕๒
ยาแก้สตรีระดูขัด ๕๒
ยาแก้สตรีระดูขัด ๕๒
ยาทาแก้น้ำ�นมดิบ ๕๒
ยาแก้น้ำ�นมดิบ ๕๒
ยาชำ�ระโลหิตน้ำ�นม ๕๒
ยาน้ำ�นมแฮงสำ�หรับแม่ลูกอ่อน ๕๓
ยาแม่อยู่ไฟบ่ได้ ๕๓
ยาหลูลูกเลือดออกบ่เซา ๕๓
ยาผู้หญิงกรรมลูกแล้วออกตุ่มคันตามโยนี ๕๓
ยาผู้หญิงกรรมลูกแล้วบ่ออก ๕๓
ยาผู้หญิงเลือดออกบ่เซา ๕๓
ยาแก้เลือดขึ้นผู้หญิงอยู่กรรมกินผิด ๕๓
ยาลูกบ่ออก ๕๓
ยาผู้หญิงออกกรรมแล้วน้ำ�นมบ่มี ๕๔
ยากะบูนเลือด เลือดค้างอยู่ในท้อง ๕๔
ยาล้างลุเลือดเวลากรรมลูก ๕๔
ยากินให้มีลมเบ่ง ๕๔
ยาประสะผิวมะกรูด ๕๕
ยาสดขับเลือด ๕๕
ยาหม้อล้างผีมดลูก ๕๕
ยาดองส้ม ๕๕
ยานึ่งท้องให้ยุบ ๕๖
ยาดองเหล้าคนอยู่ไฟ ๕๖
ยาแก้เลือดแห้ง ๕๖
แผนกยาแก้โรคแม่และเด็ก
ยาสตรีหลังคลอด
ยาหม้อแก้น้ำ�นมแห้ง ๕๖
ยาพอกฝีที่นม ๕๖
ยาหม้อตัดรากฝีที่นม ๕๖
ยาประสระว่านนางคำ� ๕๗
ยาไฟประลัยกัลป์ ๑ ๕๗
ยาไฟประลัยกัลป์ ๒ ๕๗
ยาสังขแพทย์ ๕๗
ยาดองแก้ริดสีดวงลง ๕๗
ยาแก้เลือดกึบ ๕๘
ยากำ�แฮ่ ๕๘
ยาตั้งแม่อยู่กรรม ๕๘
แผนกยาแก้ทราง หละ ละออง
ยาแก้ทรางประจำ�วัน ๖๐
ยาชื่อเบญจโกฐกุมาร ๖๑
ยาทาหละและยอดทราง ๖๑
ยาน้ำ�มันทาเขม่าและทราง ๖๑
ยาแก้ทรางหล่นลงไปกระทำ�ท้อง ๖๑
ยาเหลืองน้อย ๖๒
ยาเหลืองใหญ่ ๖๒
ยาชื่อเกสรา ๖๒
ยาแก้ละอองพระบาท ๖๒
ยาชื่อมหารส ๖๒
ยาเขียวหรดาน ๖๓
ยาแดงกำ�มะถัน ๖๓
ยาขาวกะบัง ๖๓
ยาเขียวขี้ทอง ๖๓
ยาดำ�หมึกหอม ๖๓
ยาแก้ทรางออกตามร่างกาย ๖๓
ยาน้ำ�มันตาลซ่าน ๖๔
ยามหาวิเศษ ๖๔
ยาประสะดำ� ๖๔
ยาจักรนารายณ์ ๖๔
แผนกยาแก้ทราง หละ ละออง
ยามหาจักร ๖๔
ยามหานิลรากดิน ๖๕
ยาแสงพระจันทร์ ๖๕
ยาเทพมงคล ๖๕
ยามงคลระงับ ๖๖
ยามงคงมหาชัย ๖๖
ยาแก้ตาลโจรขึ้นในตา ๖๖
ยาแก้ทรางลงท้อง ๖๖
ยากวาดทรางแดง ๖๗
ยาแดงใหญ่ ๖๗
ยาแดงน้อย ๖๗
ยาแก้ทรางขุม ๖๗
ยาแก้ทรางยวงทรางขุม ๖๗
ยาครอบตาลทราง ๖๗
ยาแก้ตาลทรางทั้งปวง ๖๘
ยาเทพนิมิตร ๖๘
ยาพรหมนิรมิตร์ ๖๘
ยาอินทสักขี ๖๘
ยาทาลิ้นปัดทราง ๖๘
ยาแผ้วสว่าง ๖๘
ยาตรีใหญ่แก้ไข้พิษ ๖๙
ยาประสะกะเพราใหญ่ ๖๙
ยาประสะพิมเสนใหญ่ ๖๙
ยาจันทร์แจ่มฟ้า ๖๙
ยาชื่อปัญจคงคา ๗๐
ยาทิพโสภา ๗๐
ยาหอมจันทน์กุมาร ๗๐
ยาเด็กชื่อมหาจักร ๗๐
ยาเหลืองน้อย ๗๑
ยาเหลืองใหญ่ ๗๑
ยาสารพัดกวาดทราง ๗๑
ยาแก้ลมทราง ๗๑
ยาแก้ตานขโมย ๗๑
แผนกยาแก้ทราง หละ ละออง
ยาแก้ลมทราง ๗ จำ�พวก ๗๒
ยาเขียวหอม ๗๒
ยาเขียวน้ำ�มูตร ๗๒
ยาแก้ไข้ แก้ทราง แก้สวิงสวาย ๗๒
ยาเหลืองน้อย ๗๒
ยาเหลืองใหญ่ ๗๓
ยาเหลืองนพรัตน์ ๗๓
ยาแก้ทรางแห้ง ๗๓
ยาแก้ทราง ๑๐๘ จำ�พวก ๗๓
ยาตานขโมย ๗๔
ยาต้มแก้ตาลทราง ๗๔
ยาแก้ลมทราง ๗ จำ�พวก หรือลมทรางทั้งปวง ๗๔
ยาแก้ลมทรางทั้ง ๗ วัน ๗๔
ยาแก้ทรางขึ้นในตา ๗๔
ยาแก้ทรางชัก ๗๔
ยาทรางแก้ไอเป็นเลือด ๗๔
ยาแก้ตานขโมย ๗๕
ยาเหลืองมหาไชยพฤกษ์ ๗๕
ยาต้มแก้ตาลทรางตาลโจร ๗๕
ยาผายตาลทรางทั้งปวง ๗๕
ยาหยอดตาแก้ทราง ๗๕
ยากวาดแก้ทราง ๗๖
ยาเหลืองใหญ่ ๗๖
ยาชโลมถอนพิษทราง ๗๖
ยาเขียวรัตนคุณ ๗๖
แผนกยาเด็กเพิ่มเติม
ยาแก้เด็กเจ็บท้อง ๗๘
ยากวาดลมสะพั้น ๗๘
ยาแก้ไส้เดือน ๗๘
ยาพอกแก้ต้อขึ้นตา ๗๘
ยาแก้จับแลแก้มัว ๗๘
ยาแก้นอนมิหลับ ๗๙
ยารัสวงมหาทิคุณ ๗๙
แผนกยาเด็กเพิ่มเติม
ยาแก้ธาตุเสีย ๗๙
ยาแดงมโหสถ ๗๙
ยาเนาวหรคุณ ๘๐
ยาประจุธาตุเด็ก ๘๐
ยาจิบกินต่างน้ำ� ๘๐
ยาเหลืองมหาไชยพฤกษ์ ๘๐
ยาประสะไพล ๘๑
ยากวาดแก้ลิ้นดำ� ๘๑
ยาแก้มูกเลือด ๘๑
ยาแก้เด็กท้องขึ้นเวลาเย็น ๘๑
ยาแก้เด็กท้องขึ้นในเวลาเช้า ๘๑
ยาสมานลิ้นเปื่อยขนานหนึ่ง ๘๒
ยาสมานปากเด็กและผู้ใหญ่ ๘๒
ยาแก้หัดแก้เหือดเด็ก ๘๒
ยาประจำ�ท้องกันสำ�รอก ๘๒
ยาแก้อุจจาระพิการ ๘๓
ยาถ่ายและคุมธาตุ ๘๓
ยาแก้ไอสำ�หรับเด็ก ๘๓
ยาต้มแก้ผอมแห้ง ๘๓
ยาเหลืองใหญ่ ๘๔
ยาเหลืองกลาง ๘๔
ยาเขียวหอม ๘๔
ยากรีแก้มูกเลือด ๘๔
ยาถ่ายประจำ�ธาตุเด็ก ๘๔
ยากวามเด็กเมื่อแรกตกฟาก ๘๕
ยาแก้ท้องขึ้น ๘๕
ยาแก้ขัดหนัก ๘๕
ยาแก้ขัดเบา ๘๕
ยาแก้เด็กผอมแห้ง ๘๕
ยาทองเนื้องาม ๘๖
ยาธาตุเด็ก ๘๖
ยาต้มชักดาก ๘๖
ยาแก้พุงโรท้องโต ๘๖
แผนกยาเด็กเพิ่มเติม
ยาต้มแก้เด็กผอมแห้ง ๘๖
ยามหานิลแท่งทอง ๘๗
ยาแก้เด็กกินข้าวไม่ได้ ๘๗
ยาเขียวเหนือ ๘๗
ยามหานิลน้อย ๘๗
ยากวาดแก้คอตีบ ๘๗
ยาชื่อหมึกหอม ๘๗
ยากวาดแท่งขาว ๘๘
ยาเด็กชื่อมหาจักร ๘๘
ยาสมานลิ้นเด็ก ๘๘
ยากวาดเม็ดดำ� ๘๘
ยาทิพโสภา ๘๙
ยากวาดแก้เด็กไม่กินข้าวและนม ๘๙
ยาเหลืองกระท่อม ๘๙
ยาแก้เด็กทุ่งเป็นพรรดึก ๘๙
ยาหอมพิกุลแก้ว ๘๙
ยาเขียวหอมแก้ไข้ ๘๙
ยาตรีใหญ่แก้ไข้พิษ ๙๐
ยาชื่อหอมใหญ่ ๙๐
ยาแก้ลงท้องมิหยุด ๙๐
ยาอำ�มฤคธาราม ๙๐
ยาประสิทธิรักษา ๙๑
ยาชื่อจันทร์รัศมี ๙๑
ยาแก้เด็กน้อยพก ๙๑
แผนกยาแก้โรคโลหิตระดูสตรี
ยาแก้ระดูไม่ปกติ ๙๔
ยาบำ�รุงโลหิตสตรี ๙๔
ยาแก้ไข้ทับระดู ๙๔
ยาขับเลือดผู้หญิง ๙๕
ยาแก้เลือดตีขึ้นหรือลงเลือด ๙๕
ยาแก้เลือดค้าง ระดูบ่ล่วง เป็นหมาดขาว ๙๕
ยาแก้ลงเลือดหรือเลือดลงก็เรียก ๙๕
ยาแก้เลือดขึ้น ๙๕
แผนกยาแก้โรคโลหิตระดูสตรี
ยาแก้เลือดออกถ้ามีการจ่มปาก ๙๖
ยาต้มบำ�รุงเลือด ๙๖
ยาต้มถ่ายแก้ฤดูขัด ๙๖
ยาแก้โล่งเลือด ๙๖
ยาแก้เลือดบ่ออก ๙๖
ยาแก้ชำ�ฮั่ว ๙๖
ยากินให้มีลูก ๙๗
ยาแก้ไข้ทับระดู ๙๘
ยาโรคสตรีทุกชนิด ๙๘
ยาแก้ไข้ทับระดู ๙๙
แผนกยาแก้โรคระบบทางเดินอาหาร
ยาแก้ท้องขึ้นมาก ๑๐๒
ยาแก้ท้องเป็นก้อนเป็นดานจุกเสียดต่างๆ ๑๐๒
ยาอ้วนพี ๑๐๒
ยานันทธาตุ ๑๐๒
ยาแก้บิด ๑๐๓
ยาแก้ม้ามหย่อน ๑๐๓
ยาแก้เลือดตกทางทวารหนัก-เบา ๑๐๓
ยาแก้โรคหำ�โปงหรือดากออก ๑๐๓
ยาแก้โรคลงท้อง ๑๐๓
ยาฆ่าแม่ท้อง (พยาธิตัวตืด) ๑๐๔
ยาแก้บิดมูกเลือด ๑๐๔
ยาแก้ริดสีดวงทวาร ๑๐๔
ยาแก้โรคเส้นเอ็นและริดสีดวงทวาร ๑๐๔
ยาแก้ลงท้องถ่าย ๑๐๔
ยาต้มแก้ริดสีดวง ๑๐๔
ยาแก้เจ็บท้องแน่นหัวอก ๑๐๔
ยาท้องบิด – ท้องเจ็บ ๑๐๕
ยาเจ็บเสียบ – ยึ่งท้อง ๑๐๕
ยาเจ็บท้อง ขี้เป็นมูก เป็นเลือด ๑๐๕
ยาลงท้องทั้งเจ็บเสียบพวนท้อง ๑๐๕
ยาลงท้อง ๑๐๕
ยาเจ็บท้อง ๑๐๕
แผนกยาแก้โรคระบบทางเดินอาหาร
ยาเจ็บท้องแล้ง ๑๐๕
ยาท้องไค่ท้องพอง ๑๐๕
ยาคัดท้องไค่ คิงเหลือง ตาเหลือง กินเข้าบ่แซ่บ ๑๐๖
ยาลงดำ�ลงแดง ๑๐๖
ยาห้ามขี้ ๑๐๖
ยาห้ามฮาก ๑๐๖
ยาแก้เจ็บท้อง ทั้งขี้ทั้งฮาก ๑๐๖
ยาฆ่าแม่ท้อง ๑๐๖
ยาแก้กินผิด ๑๐๗
ยาแก้กินผิด ๑๐๗
ยาแก้กินผิด ๑๐๗
ยาแก้ผิดผักขา ๑๐๗
ยาแก้สะดวงท้อง ๑๐๗
ยาแก้สะดวงงอก ๑๐๗
ยาแก้สะดวงทวาร ๑๐๘
ยาแก้สะดวงภายใน ๑๐๘
ยาแก้สะดวงลำ�ไส้ ๑๐๘
ยาแก้กะบูนก้อน ๑๐๘
ยาแก้กะบูนลม ๑๐๘
ยากะบูนเลือด ๑๐๙
ยาแก้กะบูนเต่า ๑๐๙
ยาแก้ขี้เยี่ยวบ่ออก ๑๐๙
ยาแก้เยี่ยวบ่ออก ๑๐๙
ยาแก้รากเลือด ๑๐๙
ยาแก้เบื่อทุกอย่าง ๑๐๙
แผนกยาแก้โรคระบบทางเดินปัสสาวะและโรคระบบสืบพันธุ์
ยาแก้รากเลือด ๑๑๒
ยาแก้อุปทม ๑๑๒
ยาแก้โรคผู้หญิง ๑๑๒
ยาแก้โรคหนองใน ๑๑๒
ยาแก้นิ่ว ๑๑๓
ยาแก้โรคนิ่วไต ๑๑๓
ยานิ่ว
แผนกยาแก้โรคระบบทางเดินปัสสาวะและโรคระบบสืบพันธุ์
ยาเยี่ยวเหลือง ๑๑๓
ยาฮาน ๑๑๓
ยาเยี่ยวเป็นเลือดเป็นหนอง ๑๑๓
ยาขี้เยี่ยวบ่ออก ๑๑๓
ยาต้มแก้ฝีมุตกิจ ๑๑๓
ยาต้มแก้ขัดเบา ๑๑๓
ยาสดแก้ขัดเบา ๑๑๓
ยาต้มแก้หนองใน ๑๑๔
ยาแก้ปวดเยี่ยวหยัด ๑๑๔
ยาแก้ปวดเยี่ยวหยัด ๑๑๔
ยาแก้โรคหนองใน ๑๑๔
ยาแก้โรคบุรษเข้าข้อออกดอก ๑๑๔
ยาล้างโรคบุรุษ ๑๑๔
ยาแก้นิ่ว ๑๑๕
ยาแก้นิ่ว ๑๑๕
แผนกยาแก้โรคกษัย
ยาแก้เจ็บท้องกษัย ๑๑๘
ยากษัยวิเศษ ๑๑๘
ยาแก้กษัยผอมแห้ง ๑๑๘
ยากษัย ๑๑๙
ยาแก้โรคผอมเหลือง ๑๑๙
แผนกยาแก้โรคฝีภายใน
ยาแก้วัณโรค ๑๒๒
ยาแก้ฝีในท้อง ๑๒๒
ยาแก้ฝีลมในท้อง ๑๒๒
ยาฝีในท้อง ๑๒๒
คาถาเป่าฝีในท้อง ๑๒๒
ยาแก้ฝีในท้อง ๑๒๒
ยาแก้ฝีในท้อง และกร่อน ๑๒๓
ยาต้มแก้ฝีในท้อง ๑๒๓
แผนกยาแก้โรคผิวหนัง
ยาทาขี้กลาก ๑๒๖
น้ำ�มันผึ้ง ๑๒๖
แผนกยาแก้โรคผิวหนัง
ยาพอกเกลื่อนฝี ๑๒๖
ยาพอกแผลกลาย ๑๒๖
ยาฮมบาดแม่เฮ็ง ๑๒๗
ยาแก้กลากเกลื้อน ๑๒๗
ยาแก้ฝี ๑๒๗
ยาฝีปลาค่อ ๑๒๗
ยาแก้ฝีหัวเอี่ยน ๑๒๗
ยาฮักษาบาดแผลถืกของมีคม (แผลสด) ๑๒๗
ยาบาดเปื่อยลุกลาม ๑๒๗
ยาฆ่าแม่บาด ๑๒๗
ยาฝีหัวเอี่ยน ๑๒๗
ยาฝีเป็นอยู่นม ๑๒๘
ยาฝีหัวบาน ๑๒๘
ยาฝีในคอ ๑๒๘
ยาฝีหัวขาว ๑๒๘
ยาฝีสำ�บาย ๑๒๘
ยาฝีปลาอาก ๑๒๘
ยาฝีหัวลม ๑๒๘
ยาฝีปลาค่อ ๑๒๘
ยาพอกแผลแก้บาดพิษ ๑๒๘
ยาพอกแผลบาดยักษ์ ๑๒๙
ยาแก้ฝี ๑๒๙
ยากันฝีทุกชนิด ๑๒๙
ยาฮัดฝีให้แตก ๑๒๙
ยากัดฝี ๑๒๙
ยาดูดหนองฝี ๑๓๐
ยาแก้ฝี ๑๓๐
ยาพอกแผลแก้บาดพิษ ๑๓๐
ยาพอกฝีพกช้ำ� ๑๓๐
ยาพอกฝีดูดหนอง ๑๓๐
ยาทามะเร็งไรและหิตตะมอย ๑๓๐
ยาพ่นงูสวัด ๑๓๑
ยาพ่นดับพิษไฟ ๑๓๑
แผนกยาแก้โรคผิวหนัง
ขี้ผึ้งเหลือง ๑๓๑
ขี้ผึ้งตำ�ราหลวง ๑๓๑
ยาต้มแก้มะเร็งคุดทะราด ๑๓๑
ยาขัดเลือด ๑๓๒
ยาทาขี้หิด ๑๓๒
ยาแก้บาดเปื่อย ๑๓๒
ยาแก้บาดแผลทุกอย่าง ๑๓๒
ยาทาแผลสด ๑๓๒
ยาปิดแผลทุกชนิด ๑๓๒
ยาแก้วัด ๑๓๒
ยาแก้วัดวิเศษสุด ๑๓๒
ยาแก้ล่องแก้ว ๑๓๒
ยาแก้ล่องแก้ว ๑๓๒
ยาแก้คันทุกชนิด ๑๓๒
ยาเริม ๑๓๒
แผนกยาแก้โรคลมและเลือด
ยาเจ็ดสามเม็ด ๑๓๖
ยารุลม ๑๓๖
ยามหาสมมิทธิ์ ๑๓๖
ยาแก้สะอึก ๑๓๗
ยาต้มแก้ลมอัมพาตราธยักษ์ ๑๓๗
ยาอนันตคุณ ๑๓๗
ยาแก้ขัดเจ็บปวดต่างๆ ๑๓๘
ยายอดเขาพระสุเมรุราช ๑๓๘
ยาแก้เลือดลมต่างๆ ๑๓๘
ยาแก้ฟกตามข้อ ๑๓๘
ยาแก้เลือดลม ๑๓๘
ยาแก้สะอึก ๑๓๘
ยาแก้ขัดเจ็บปวดต่างๆ ๑๓๙
ยาแก้ชา ๑๓๙
ยาแก้เลือดคั่ง ๑๓๙
ยาแก้เลือดขึ้น ๑๓๙
ยาแก้เลือด ๑๓๙
แผนกยาแก้โรคลมและเลือด
ยาแก้พากเข้าข้อ ๑๓๙
ยาแก้พากแล่นคือปวดไม่คงที่ ๑๓๙
ยาแก้ปวดหัวดิบ ๑๓๙
ยาแก้พาก ๑๔๐
ยาแก้โรคเหน็บชา ๑๔๐
ยาแก้เป็นลม สลบ ๑๔๐
ยาทลายบาดาล ๑๔๐
ยาแก้ลมแน่นหน้าอก ๑๔๐
ยาดองแก้เลือดแก้ลม ๑๔๐
ยาแก้ความดันสูง ๑๔๑
ยากวนแก้เลือดแก้ลม ๑๔๑
ยาสุขไสยาสน์ ๑๔๑
ยาแก้เหน็บชา ๑๔๑
ยาแก้โรคเส้น ๑๔๒
ยาแก้โรคเส้นประสาท ๑๔๒
ยาแก้ลมเลือด ๑๔๒
ยาลมขึ้นตามืดมัว ๑๔๒
แผนกยาอายุวัฒนะ
ยาอายุวัฒนะเจริญอาหาร ๑๔๔
ยาอายุวัฒนะ ๑๔๔
ยาอายุวัฒนะ ๑๔๔
ยาอายุวัฒนะ ๑๔๔
ยาอายุวัฒนะ ๑๔๕
ยากำ�ลัง ๑๔๕
ยาอายุวัฒนะ ๑๔๕
แก้เมื่อย ๑๔๖
ยาอายุวัฒนะ ๑๔๖
ยาอายุวัฒนะ ๑๔๖
ยาบำ�รุงธาตุ ๑๔๖
แผนกยาแก้โรคตา หู จมูก
ยาใส่หูเน่า ๑๔๘
ยาต้มแก้เลือดออกจากจมูก (กำ�เดา) ๑๔๘
ยาริดสีดวงดัง (จมูก) ๑๔๘
แผนกยาแก้โรคตา หู จมูก
ยาแก้ตาฟาง ๑๔๘
ยาตาแดงและตามืด ๑๔๘
ยาแก้สะดวงดัง ๑๔๘
คาถาเป่าตาแดง ๑๔๙
ยาแก้เจ็บตา ๑๔๙
ยาแก้ริสสีดวงจมูก ๑๔๙
ยาแก้ตาแดง ๑๔๙
ยาแก้ไม้ทั่งตา ๑๔๙
แผนกยาแก้ประดง
ยาประดงตาทุกจำ�พวก ๑๕๒
ยาแก้ประดงแดง ๑๕๒
ยาแก้ปานดงเอ็น ๑๕๒
ยาปานดงเอ็น ๑๕๒
ยาประดงเส้น ๑๕๒
ยาประดงลม ๑๕๓
ยาประดงไต่ตามโต ๑๕๓
ยาประดงคัน ๑๕๓
ยาประดงเจ็บแล่นไปมาคือผีเข้า จ้าวสูน ๑๕๓
ยาประดงเส้นและเหน็บชา ๑๕๓
ยาประดงใช้ได้ทุกชนิด ๑๕๔
ยาประดงเลือด ๑๕๔
ยาแก้ปะดงทุกอย่าง ๑๕๔
ยาแก้ปะดงเส้น ๑๕๔
ยาแก้ปะดงไฟ ๑๕๔
ยาแก้ปะดงอำ�มะพาด ๑๕๕
ยาแก้ปะดงล่อย ๑๕๕
ยาตั้งปะดง ๑๕๕
ยาแก้ปะดงเข้าใส้ ๑๕๕
ยาแก้ประดงเส้น ๑๕๖
แผนกยาถ่าย
ยาพรหมประสิทธิ์ ๑๕๘
ยาถ่ายกระสายกล่อน ๑๕๘
ยาถ่ายปราบริดสีดวง ๑๕๘
แผนกยาแก้แมลง สัตว์ กัด ต่อย
ยาแก้แมงมุม แมงม้าง แมงลิ้นหมา ไส้เดือน ๑๖๒
ตอด ๑๖๒
ยาขี่ไก่กือตอด ๑๖๒
ยาแก้งูตอด ๑๖๒
ยาแก้หมาขบ ๑๖๒
ยาแก้หมาว้อขบ ๑๖๓
ยาแก้พิษสัตว์กัดต่อยทุกชนิด ๑๖๓
แผนกยาเกล็ด
ยาแก้สรรพโรคต่างๆ ๑๖๖
ยาแก้บ้า ๑๖๖
ยาแก้เจ็บเส้นเอ็น ๑๖๖
ยาเจ็บช้ำ�ภายใน ๑๖๖
ยาแก้มะเร็งเต้านม ๑๖๗
ยาแก้ผ้ำ�ดูก ๑๖๗
ยาแก้ผ้ำ�ดูก ๑๖๗
ยาแก้ผ้ำ� ๑๖๗
ยาตั้งเฒ่าเก่า ๑๖๗
ยาแก้โรคมะเร็ง ๑๖๗
ยาแก้โรคมะเร็งในมดลูก ๑๖๙
ยาแก้โรคเส้นท้องตึงเป็นเถาดาน ๑๖๙
ยาส้ม ๑๖๙
ยาแก้แพ้ถอนพิษผิดสำ�แดง ๑๗๒
ยามะเร็ง ๑๗๒
ยาทดลองยาสั่ง ๑๗๒
ยาแก้ยาสั่ง ๑๗๒
ยาถ่ายยาสั่ง หรือยาเบื่อ ๑๗๒
ยาปัจจุบันทันด่วน ๑๗๓
ว่าด้วยคัมภีร์อภัยสันตา ๑๗๕
ประมวลภาพสมุนไพร ๑๙๖
บรรณานุกรม ๒๑๓
ภาคผนวก ๒๑๕
บทนำ�
ตำ�รายาพื้นบ้านอีสาน
ตำ�รา : ได้แก่ แบบแผน หรือ หนังสือ หรือใบลาน ที่ว่าด้วยวิชาการ
ต่างๆ บันทึกไว้ให้ลูกหลานได้นำ�ไปใช้ประโยชน์
22
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
วันจันทร์ ยามเช้า พิษยาอยู่ราก
ยามสาย พิษยาอยู่แก่น
ยามเที่ยง พิษยาอยู่ใบ
ยามค่ำ� พิษยาอยู่เปลือก
23
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
วันเสาร์ ยามเช้า พิษยาอยู่ราก
ยามสาย พิษยาอยู่ลำ�ต้น
ยามเที่ยง พิษยาอยู่ใบ
ยามค่ำ� พิษยาอยู่แก่น
เมื่อไปถึงป่าตามฤกษ์ยามแล้ว ยังจะต้องมีกรรมวิธีในการเอายาอีก
เพราะคนโบราณถือว่า สรรพสิ่งใดๆ ในโลกล้วนมีเจ้าของ ต้นไม้ก็มีเทพารักษ์
การจะเก็บยาจึงต้องมีการขอด้วยหลากหลายกรรมวิธีเช่นกัน ดังจะยกตัวอย่าง
พอสังเขปดังนี้
มนต์ปลุกยาแบบที่ ๑
โอม “กมฺมะเกมะมะ” ว่า ๓ เทื่อแล้วให้ทืบต้น ๓ เทื่อ จึงว่ามนต์
ยามพระยาธรผู้รักษาต้นยา ว่า “โอม ทิพย์พระยาธร ขี่ม้าจรมาจอกพอกๆ
ฆ้อนกูจักตอกหัวพระยาธร ขี่ม้าจรลอดเมฆ” ว่า ๓ เทื่อ แล้วจึงกล่าวมนต์ปลุก
ยา ว่า “โอม ขะลุกๆ กูจักปลุกฮากยาก็ตื่น พญายาไปอยู่แห่งอื่นก็ให้เสด็จเข้ามา
สู่ต้นไม้อยู่ลีลา เสด็จเข้ามาอยู่ต้นยาอยู่ลีล้าย เชื้อลูกท้าวฝูงหมู่พญายา โอม สวา
หับ” ว่า ๓ เทื่อ แล้วจึงเอามือสั่นต้นยา ๓ เทื่อ
แล้ว ขุด หรือ ฟันเอาเทอญ
มนต์ปลุกยาแบบที่ ๒
“โอม ทิพมนต์ มนต์เจ้าพญายา พระฤาษีสั่งมาให้กูเอาต้นนี้ไปใส่......
(คนไข้ผู้ชื่อว่า...) ให้ซ่วง ให้เซา โอม สวาหายะ”
ว่า ๓ เทื่อ แล้วจึงขุด หรือฟันเอาเทอญ
24
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
คาถาปลุกต้นยา (อีกแบบหนึ่ง)
“คับปัง คับระงับ คูบาสิทธิกายะ ให้กูทงๆ ชินะ สวาหะ”
ว่า ๓ เทื่อ แล้วจึงขุด หรือฟันเอาเทอญ
พิษณุยา
เป็นการเรียนรู้เพื่อเป็นหมอยา จะต้องมีการแต่งขันธ์ ๕ เพื่อการบูชา ประกอบ
ด้วย พานหรือขันธ์ ๕ บรรจุ เทียนเล่มบาท ๔ เล่ม เทียนน้อย ๔ คู่ เทียนกิ่ง ๔
คู่ ซวยกลม ๔ ซวย ซวยเป ๔ ซวย (ซวย=การม้วนใบตองลักษณะเป็นกรวย)
ดอกไม้ขาว ซิ่นผืน แพรวา เหล้าก้อง ไข่หน่วย และเงิน ๒๔ บาท แต่งเครื่อง
ครบแล้วให้ใต้เทียนติดขันธ์ ๕ ยกขึ้นใส่หัว แล้วจึงว่า พิษณุยา ดังนี้
“โอมสิท โอมทง โอมสิท โอมทง โอมสิท โอมทง กูทงแล้ว
กูบ่ได้ทงอาสน์ กูทงแล้วกูบ่ได้ประมาทครู โอมสิท โอมจับ โอมสิท
โอมจับ โอม พิษณุจับกกยา โอม พิษณุจับฮากยา โอมสิทธิ โอมจับ
โอม พิษณุจับ โอม พิษณุจับ โอม พิษณุจับ”
ว่า ๓ เทื่อแล
มนต์ปลุกเศกยา
“โอม ขะลุกๆ พ่อครูกูปลุกๆ ลุกแล้วอย่านั่ง พ่อครูกูสั่นๆ ลุกแล้วอย่านอน โอม
สวหายะ” ให้ฝนยาแล้วจึงว่ามนต์ปลุกเสกยานี้ ๓ เทื่อ
จึงให้กินเทอญ
25
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
คาถาปลุกยา (แบบที่ ๑)
สักกัตวา พุทธะรัตตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง หิตัง เทวะมะนุสสานัง พุทธะ
เตเชนะ โสตถินา นัสสันตุ ปัททะวา สัพเพ ทุกขา วูปะสะเมนตุ เมฯ
สักกัตวา ธัมมะรัตตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง ปะริฬาหูปะสะมะนัง ธัมมะเต
เชนะ โสตถินา นัสสันตุ ปัททะวา สัพเพ ภะยา วูปะสะเมนตุ เมฯ
สักกัตวา สังฆะรัตตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง อาหุเนยยัง ปาหุเนยยัง สังฆะ
เตเชนะ โสตถินา นัสสันตุ ปัททะวา สัพเพ โรคา วูปะสะเมนตุ เมฯ
(ว่า ๓ ที แล)
คาถาปลุกเศกยา (แบบที่ ๒)
อัตถิ อิมัสมิง กาเย เกสา โลมา นะขา ทันตา ตะโจ มังสัง นะหารู อัฏฐี
อัฏฐิมิญชัง วักกัง หะทะยัง ยะกะนัง กิโลมะกัง ปิหะกัง ปัปผาสัง อันตัง
อันตะคุณัง อุทะริยัง กะรีสัง ปิตตัง เสมหัง ปุพโพ โลหิตัง เสโท เมโท อัสสุ
วะสา เขโฬ สิงฆาณิกา ละสิกา มุตตัง มัตถะเก มัตถะลุงคันติ ฯ
(ว่า ๓ ที แล)
26
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แผนกยาแก้ไข้ต่างๆ
แผนกยาแก้ไข้ต่างๆ
ยาแก้ไข้ออกร้อนตัว ให้เอา ผักหนอก หญ้าไทร หินแห่ข้าว แช่กินดีนักแล
29
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แก่นดูกด้าน แก่นดูกหิน แก่นสามขา แก่นเหมือดคน แก่นเหมือดแอ่ แก่น
เหมือดใหญ่ แก่นเหมือดปลาซิว แก่นเหมือดปลาหลด แก่นเหมือดเมี้ยง แก่น
ก้ามปู แก่นยางโบง แก่นตีนจำ�น้อย แก่นตีนจำ�หลวง แก่นก่อ แก่นส้าน แก่น
หนามแก้ว แก่นตาเสือ แก่นขามป้อม แก่นส้มผ่อ แก่นตูมตัง แก่นตูม แก่น
ลวงไซ แก่นมุยแดง แก่นมุยด่อน แก่นคางควาย แก่นคำ�ข้าม้า แก่นแคน
แก่นหมากแตก แก่นสัง แก่นหมากหม้อ แก่นสะแบง ฮากลิ้นแฮด ฮากเสียว
น้อย ฮากเสียวใหญ่ ฮากเหม้าคน ฮากหุ่งเทศ ฮากเปล้าน้อย ฮากเปล้าหลวง
ฮากฮักขาว ฮากพังคี ปีบปีแดง ปีปปีขาว ฮากเข็มแดง ฮากเข็มขาว ฮาก
เกล็ดลิ่นน้อย ฮากเกล็ดลิ่นใหญ่ ฮากคอมสัน ฮากพุดบ้าน ฮากพุดป่า ฮากพี
พวย ฮากตูมคาน ฮากตองหมอง ฮากเอ็นอ้าแดง ฮากเอ็นอ้าขาว ฮากเขือง
น้อย ฮากเขืองใหญ่ ฮากหวายนั่ง ยาหัว ฮากง้วนหมู ฮากโกทา ฮากน้ำ�เต้า
น้อย ฮากน้ำ�เต้าใหญ่ ฮากรกคก ฮากฮุ่นไฮ่ ฮากต้างไก่ ฮากหวดข้า ฮาก
หวดลาว ฮากพวงพี่แดง ฮากพวงพี่ขาว ฮากแลงส่อน ฮากหนามแท่ง ฮาก
เข้าจี่ ฮากปอขี้ตุ่น ฮากปอขี้ไก่ ฮากซอนถ้วยน้อย ฮากซอนถ้วยใหญ่ ฮากช้าง
น้าว ฮากเว่อ ฮากนาว ทั้งหมดนี้ฝนแก้ไข้หมากไม้ได้ทุกอย่างแล
30
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แล ผิว่า ไข้กินข้าวบ่ได้ ให้เอาหญ้าห่อมแก่ว พริก ขิง กระเทียม เอาท่อกันต้มใส่
น้ำ� ๗ บวย เอาบวย ๑ กินดีแล ผิว่า ไข้บ่มีแฮง ให้เอาผากม่วงกะสอ มาเคี้ยวใส่
น้ำ�อ้อย กินดีแล ผิว่าไข้สั่นทั้งวันทั้งคืนให้เอาต้นลับลืน ๓ ต้น ต้นหญ้าห่อมแก่ว
๓ ต้น ใบสะพันกา ๓ ใบ พริก ขิง พอสมควร ต้มเคี้ยวกิน ดีแล
31
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
บ่มนื ตา ถามบ่ปาก ให้เอาฮากทัน ฮากสัมมา ฮากถัว่ พู ฮากสะคาม ฮากม่วงกะสอ
ฝนกินดีแล ผิว่า บ่เซา ให้เอาฮากหมากเอิ๊ก หญ้าปากควาย ฮากต้นหมากล่ำ�
ฮากส้มลม ฝนให้กินดีแล ผิว่า ไข้ออก ตีนเย็น มือเย็น ชื่อว่า ออกดำ� ให้เอา ฮาก
ท่อน ไม้เข้าจี่ ฮากมอน ฝนกินดีแล อีกขนานหนึ่ง เอาแค่ไม้ยมผา ฝนกินดีแล
ผิว่า ไข้บ่อถอย บ่สว่าง คิงเย็น ให้เอา ฮากซาตรี ฮากส้มกบ ฮากเดื่อ ฮากหิ่งหาย
ฮากดอกพุทธ ฮากหญ้าโคยงู ฝนกินดีแล
32
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ไผ่ป่า ฝนกินดีแล ผิว่า บ่เซา ให้เอาแก่นเดื่อใหญ่ เดื่อป่อง เดื่อดิน ไม้ไผ่บ้าน ฝนกินดี
แล ผิวา่ บ่เซา ให้เอาฮากตากวาง ฮากตาไก้ ฮากตานกกรด ฮากตาเสือ ฝนกินดีแล
33
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
หนึ่ง ให้เอาหญ้าผากควาย หญ้าแพรก อ้อยคำ�ข้อ ๓ ปล้อง เอาเท่ากัน ต้มกินดี
แล อีกขนานหนึ่ง เอาหัวแห้วหมู เครือกอฮอ ต้นสีไค พริก ขิง เอาเท่ากัน ต้มกิน
ดีแล อีกขนานหนึ่ง เอาฮากหญ้าลับลืม ฮากเดื่อป่อง เปลือกกอก ฮากถั่วพู ฮาก
หญ้าคา ต้มกินดีแล อีกขนานหนึ่ง เอาเครือหมากแตก แก่นคัดเค้า ฝนกินดีแล
34
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
มดแดง ต้มกิน ดีแล อีกขนานหนึง่ เอาฮากย่านาง บีงเู หลือม หินส้ม ฝนให้กนิ ดีแล
35
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาตัดฮากหมากไม้ ให้เอาฮากหมากแปบ ฮากขี้อ้นน้อยแคมน้ำ� ฝนกิน ดีแล
36
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ตีนนก แฝกหอม ลูกผักชีลา เปลืองสมุลแว้ง ชะลูด อบเชย ชะเอมทั้ง ๒ โกฐทั้ง ๕
เทียนทั้ง ๕ ยาดำ� ๑ บาท เนื้อฝักราชพฤกษ์ ๓ ฝัก สรรพยา ๑๐๗ สิ่งนี้ ทำ�เป็นยา
หม้อ ต้ม ๓ เอา ๑ รับประทานแก้สรรพไข้ทง้ั ปวง ถ้าจะให้เดินแรงขึน้ ต้องเติมดีเกลือ
อาโรคฺยปรมา ลาภา
ความไม่มีโรคเป็นลาภอย่างยิ่ง
โรค คือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วทำ�ให้เกิดเวทนามากบ้างน้อยบ้าง
ตามกำ�ลังของโรคนั้นๆ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือโรคประจำ�
สังขาร คือโรคที่จะต้องเกิดกับทุกคน เช่นโรคแก่ เจ็บ ตาย
และโรคจรมา คือโรคที่เกิดประจำ�ฤดูบ้าง โรคที่เกิดขึ้นเพราะ
กรรมบันดาลบ้าง โรคเหล่านี้เกิดขึ้นแล้วย่อมจะทำ�ให้เกิดทุกข์
เวทนาอย่างแรงกล้ามากบ้างน้อยบ้างตามกำ�ลังของโรค บุคคล
ที่ไม่มีโรคจึงถือว่าเป็นลาภอย่างยิ่งที่เดียว
38
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แผนกยาแก้โรคในปากในคอ
แผนกยาแก้โรคในปากในคอ
ยาแก้เจ็บอก ให้เอาขิง กระเทียม พริกไทย ดีปลี เกลือ ใช้น้ำ�มะนาวเป็นน้ำ�
กระสาย กินดีแล
41
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
สามเวลา ส่วนยากินให้เอาดีปลี ขิง พริกไทย กระเทียม สิ่งละหนึ่งบาท ต้มผสม
กันใส่เกลือพอสมควร เอาน้ำ�มะนาวใส่กินวันละ ๓ เวลา
42
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ทั้ง ๒ กำ�มะถัน ยาเจ็ดสิ่งนี้เสมอภาคทำ�เป็นยาหม้อ ต้มเอาน้ำ�อม เป็นยาสมาน
ปากเปื่อย
43
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ออก จะตายภายในไม่กี่วินาที ปัจจุบันพยาบาลจงเอาก้านหุ่งแหย่ลงไปในลำ�
คอเพื่อให้หายใจได้เสียก่อน ต่อจากนั้นจึงใช้ยาขับเสลดจะเอายาอะไรก็ได้ ขอ
เพียงให้ขับเสลดออกได้เป็นพอ ถ้าไม่มียาขนานใด จงเอามะพริกกับมดแดง
บดเข้ากันเอาน้ำ�เหล้าเด็ดเป็นน้ำ� ถ้าอ้าปากไม่ได้ จงใช้สิ่วงัดปากแล้วเทยานี้
เข้าไปในลำ�คอ ยานี้จะไปตี่เสลดแตกออกมา เสลดที่ออกมาจะได้เต็มกระโถน
ขนาดเล็ก สีของเสลดจะขาวเหมือนเส้นวุ้น ทำ�มะลาชนิดนี้ ทำ�ให้คนตายใน
ทันทีทันใด หมอโบราณเรียกโรคนี้ว่าทำ�มะลากักกืก เป็นแล้วพูดไม่ได้หายใจไม่
ออก แต่ชาวอีสานเรียกโรคนี้ว่าโรคไหลตาย ที่เรียกว่าไหลตาย เพราะผู้เป็น
โรคนี้จะพูดอะไรไม่ได้ ถ้าเราสงสัยว่าผีเข้าเจ้าสูญ จะพากันไล่ผีปอบ ก็เท่ากับ
ว่าไล่คนป่วยให้ไปป่าช้าเร็วเข้า วิธีนี้และยานี้หมอโบราณอีสานเขารักษาแล้วและ
หมอรับรองเอาชีวิตเป็นประกัน ยาให้เอา ฮากบีคน ฝนทาทางนอก ฮากผักหวาน
บ้านฝนทาทางใน แก้ทำ�มะลาเป็นตุ่มในลำ�คอดีแล อีกชุมหนึ่งยาให้เอาไลปลา
ไหล ฮากส้มผ่อหลวง ฝนกินดีแล อีกชุมหนึ่งให้เอาฮากจำ�ปาแดง ฮากจำ�ปาขาว
ฮากหุ่นน้อย เทียนพระอินทร์ ดอกจำ�ปาขาว ฮากบอน ฮากเล็บแมว ฝนทาดีแล
ยาทาอีกชุมหนึ่ง ยาให้เอา ฮากประดงแดง ฮากประดงขาว ฮากผักอีเลิด ดีปลี
เปลือกมุยแดง ฝนทาดีแล
45
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
สุวิชาโน ภวํ โหติ
ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ
ทุกข์ คือสภาพที่บีบคั้นเบียดเบียนให้เกิดความไม่สบายกาย
ไม่สบายใจ การที่จะกำ�จัดทุกข์เหล่านั้นได้โดยราบคาบก็ด้วย
ความเพียร คือขยันทำ�กิจการงานที่ตนรับผิดชอบให้ดีที่สุด
46
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แผนกยาแก้โรคแม่และเด็ก
แผนกยาแก้โรคแม่และเด็ก
ยาสตรีขณะตั้งครรภ์
ยาหม้อแก้อาเจียน แก่นสน จันทน์เทศ เทพทาโร ขิงแห้ง แห้วหมู ลูกผักชี
มะตูมอ่อน รากชะพลู หญ้าตีนนก รากแฝกหอม หัวหอม ต้นตะไคร้ ลูกยอ
เผาไฟพอสุก สรรพยา ๑๓ สิ่งนี้ ทำ�เป็นยาหม้อรับประทานแก้คลื่นเหียน อาเจียน
ใช้ได้ทุกโรค เช่นหญิงแพ้ท้อง ใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
48
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาหม้อแก้บิดหัวลูก ฝาง แก่นขนุนละมุด แก่นแสมทะเล เปลือกสมุลแว้ง ราก
แฝกหอม ขมิ้นอ้อย ขมิ้นชัน กานพลู ปูนกินกับหมาก (ก้อนเท่าศีรษะแม่มือ)
ใบมะนาว ผลมะกรูด ข่า ขิงแห้ง เปลือกโมกมัน มะตูมอ่อน อบเชย บอระเพ็ด
สารส้ม สักขี สลัดได ๓ แว่น รากเจตพังคี สรรพยา ๒๑ สิ่งนี้ ทำ�เป็นยาหม้อ
ต้มรับประทานแก้บิดหัวลูก และแก้ลงท้องเป็นมูกเลือด
49
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ละลายน้ำ�ดอกไม้หรือน้ำ�ซาวข้าวใช้แก้พิษไข้ต่างๆ ถ้าใช้แก้จุดกาฬละลายน้ำ�ปูน
ใส ถ้าใช้แก้บิดแทรกกระเทียมพิมเสน แก้พิษโลหิตมีอาการให้แน่น ยานี้กระทำ�
ให้เลือดลมเสมหะและอาจมเป็นปกติ
ยาสตรีหลังคลอด
พระดาบสได้ประสิทธิประสาทคัมภีร์ปฐมจินดานี้ไว้เพื่อให้แพทย์ผู้ที่จะ
รักษากุมาร และกุมารีไปเบื้องหน้า ให้พิจารณาดูน้ำ�นมของมารดาหรือแม่นม
นั้นเสียก่อน ถ้าเห็นว่าน้ำ�นมนั้นยังไม่บริสุทธิ์ ท่านให้แต่งยาชำ�ระน้ำ�นมนั้นเสีย
ก่อนจึงจะวางยาต่อไป วิธีพิจารณาดูน้ำ�นม ท่านให้เอาน้ำ�อันบริสุทธิ์ใส่ลงในขัน
พอควรแล้ว ให้หล่อน้ำ�นมลงดู ถ้าสีน้ำ�นมที่หล่อนั้นขาวดังสีสังข์ และจมถึงท้อง
ขันคุมกันเข้า มีสัณฐานประดุจผลบัวเกราะ ท่านกล่าวว่า น้ำ�นมชนิดนี้เป็นน้ำ�นม
ดีอย่างเอก แต่ถ้าน้ำ�นมที่หล่อลงนั้นกระจายแต่ว่ายังข้นและจมลงถึงท้องขันด้วย
และไม่คุมกันเข้า ท่านว่าน้ำ�นมชนิดนี้จัดเป็นอย่างโทฯ ถ้าพ้นจาก ๒ ประการที่
กล่าวมานี้แล้ว แม้จะเป็นบุคคลชนิดใดๆ ก็ดีจัดเป็นน้ำ�นมโทษทั้งสิ้น
นอกจากที่กล่าวมาแล้วนั้น แพทย์พึงรู้ได้ด้วยเหตุอันน้ำ�นมไม่บริสุทธิ์
หลายประการ เช่น เปรี้ยว ขม ฝาด จืด จาง มีกลิ่นเหม็นคาว และยังมีลักษณะ
น้ำ�นมพิการอีก ๓ จำ�พวก เช่น สตรีขัดระดู ๑ สตรีนอนเพลิงมิได้และเป็นน้ำ�นม
ดิบ๑ สตรีมีครรภ์อ่อน น้ำ�นมเป็นน้ำ�เหลือง ๑ ฯลฯ
เมื่ อ แพทย์ พิ จ ารณาเห็ น ลั ก ษณะอาการแห่ ง น้ำ � นมให้ โ ทษหรื อ พิ ก าร
ดังกล่าวแล้ว ให้แต่งยาแก้เสียก่อนจึงรักษากุมารและกุมารีต่อไป ยาประจุโลหิต
และบำ�รุงโลหิต เทียนทั้ง ๕ โกฐสอ ๑ โกฐเขมา ๑ สมอไทย ๑ สมอพิเภก ๑
ลูกผักชีล้อม ๑ ลูกผักชีลา ๑ เกลือสินเธาว์ ๑ น้ำ�ประสานทอง ๑ ดอกสัตตบุษ
๑ เบี้ยผู้ ๑ สังข์ ๑ มหาหิงคุ์ ๑ พริก ๑ ขิง ๑ การบูร ยาทั้งนี้เอาส่วนเท่าๆ กัน
เอาผลสลอดประสะแล้วกึ่งยาทั้งหลาย ทำ�เป็นจุณ บดละลายน้ำ�ร้อนกินหนักครั้ง
ละ ๒ สลึง ให้ลงขับโลหิตร้ายและโลหิตพิการต่างๆ ตลอดถึงทารกด้วยดีนัก แล้ว
ประกอบยาบำ�รุงโลหิตให้งามกินต่อไปฯ
50
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาบำ�รุงโลหิต ครั่งหนัก ๒ สลึง รากเถาวัลย์เปรียง ๑ กำ�ลังวัวเถลิง ๑ ฝาง ๑
เทียนทั้ง ๕ ลูกจันทน์ ๑ ตรีกฏุก ๒ ตรีผลา ๑ โกฐสอ ๑ โกฐหัวบัว ๑ หญ้ารังกา
๑ เปลือกมูกมัน ๑ หัวแห้วหมู ๑ สะค้าน ๑ รากช้าพลู ๑ เจตมูลเพลิง ๑ ฝาง
เสน๑ จันทน์ทั้ง๒ ผลผักชีทั้ง๒ ทั้งนี้เอาหนักสิ่งละ ๑ สลึง เลือดแรด ๒ บาท ดอก
คำ�ฝอย ๑๐ สลึง ต้มก็ได้ ทำ�ผลก็ได้ กินบำ�รุงโลหิต และบำ�รุงไฟธาตุ ทั้งประสะ
น้ำ�นมด้วยดีนัก แล้วนึ่งประกอบยาประสะน้ำ�นมให้กินต่อไปฯ
52
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาน้ำ�นมแฮงสำ�หรับแม่ลูกอ่อน ฮากนมงัว ฮากนมสาว ฮากน้ำ�นมราชสีห์
ฮากท้องแล้ง ถ้ายังไม่ออกกรรมหรืออยู่ไฟให้เอาสองฮากข้างต้นฝนกิน
53
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
อีกขนานหนึ่ง ให้เอายอดผีเสื้อ ๗ ยอด ตำ�ใส่น้ำ�ธรรมดา กินแด่ ทาแด่ ดีแล อีก
ขนานหนึ่ง เอาหมากน้ำ�เต้าขมทั้งหน่วย ๑ คาบงู ๑ ใบผักกาด ๑ ตำ�ใส่น้ำ�ทาท้อง
ลูกออกแล
54
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาประสะผิวมะกรูด ใบคนทีสอ ใบหนาด ใบผักเสี้ยนผี พริก ขิง ดีปลี กระทือ
ไพล หัวหอม กระเทียม ข่า สารส้ม (สรรพยา ๑๖ สิ่งนี้เสมอภาค) ผิวมะกรูด
เท่ายาทั้งหลาย ทำ�ผงบดปั้นเม็ด ละลายน้ำ�ร้อนหรือสุรารับประทาน เป็นยาขับ
เลือดร้ายในเรือนไฟ แก้ปวดท้องเมื่อคลอดบุตร เพราะเลือดคั่ง กระทำ�ให้โลหิต
ฤดูงาม
55
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยานึ่งท้องให้ยุบ ไพล ๒ บาท ดีปลี ๑ บาท กระเทียม ๑ บาท พริกไทย ๑ บาท
สารส้ม ๑ บาท ดินประสิว ๑ บาท ใบมะกาเท่ายาทั้งหลาย สรรพยา ๗ สิ่งนี้ ทำ�ผง
เคล้ากับสุราหรือน้ำ�ส้มสายชูก็ได้แผ่ลงบนหน้าท้องตรงมดลูก แล้วเอาผ้าทำ�เป็น
วงพวงมาลัยครอบกันยาไว้ เอาหม้อเกลือตั้งไฟให้ร้อน วางทับลงบนยา นาบให้
ท้องร้อน ทำ�วันละ 2 ครั้ง มีคุณขับเลือดลม ทำ�ให้ท้องยุบแห้งดีนัก ใช้เมื่ออยู่ไฟ
ท้องไม่ยุบแห้ง
56
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาประสะว่านนางคำ� พริกไทย ขิงแห้ง ดีปลี สารส้ม ดินประสิว การะบูร
(สรรพยา ๖ สิ่ง หนักสิ่งละ ๒ สลึง) เปราะหอม ว่านน้ำ� ผิวมะกรูด แก่นแสม
ทั้งสอง เทียนดำ� ไพล (สรรพยา ๗ สิ่งนี้ หนักสิ่งละ ๑ บาท) ว่านนางคำ� หนัก
๑๐ บาท รวมสรรพยา ๑๔ สิ่ง ทำ�ผงละลายน้ำ�ร้อนหรือสุรารับประทานแก้โลหิต
ทำ�พิษในเขตเรือนไฟ เป็นยาขับโลหิตและน้ำ�คาวปลา แก้มุตกิตและแก้ขัดเบาก็ได้
57
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
รับประทานแก้ไอ แก้เสมหะเหนียว แก้ริดสีดวงลงท้อง แก้คนอยู่ไฟมิได้
อนิจฺจา วต สงฺขารา
สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ
58
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แผนกยาแก้ทราง หละ ละออง
แผนกยาแก้ทราง หละ ละออง
ยาแก้ทรางประจำ�วัน
เด็กเกิดวันอาทิตย์ (ทรางขุม) เอาชะเอมเทศ๑ ลิ้นทะเล๑ สมอไทย๑ ลูกเบญ
กานี๑ ลูกมะแว้ง๑ น้ำ�ประสานทอง๑ เอาเสมอภาค บดทำ�แท่งไว้ ละลายน้ำ�ท่ากิน
หายแลฯ
60
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
เด็กเกิดวันศุกร์ (ทรางไฟ) เอาเปลือกจำ�ปาเทศ๑ รากตาล๑ รากหญ้าคา๑ ราก
ขัดมอน๑ ขมิ้นอ้อย๑ ราชพฤกษ์ ๓ ฝัก ยาทั้งนี้เอาเสมอภาค ต้ม ๓ เอา๑ ให้กิน
หายฯ เด็กเกิดวันเสาร์ (ทรางแดง) เอาครั่ง๑ ชะเอมเทศ๑ จันทน์หอม๑ ข่า๑ สี
เสียด๑ ใบกะเพราแดง๑ ยาทั้งนี้เอาเสมอภาคบดด้วยน้ำ�มะนาวหรือน้ำ�ตาลทราย
ก็ได้ ทำ�แท่งไว้ กินด้วยน้ำ�กระทือหมกไฟเป็นกระสายกินหายแลฯ
62
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาเขียวหรดาน เอาหรดานกลีบทอง ๑ บาท ลูกจันทน์ ๑ เฟื้อง ขมิ้นอ้อย ๑
เฟื้อง พิมเสน ๑ เฟื้อง ๒ ไพ รงทองปิ้งไฟให้สุก ๑ เฟื้อง บดทำ�แท่งไว้ละลายน้ำ�
สุรากินแก้ทรางเหลือง และทรางทั้งปวงหายแลฯ
63
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาน้ำ�มันตาลซ่าน เอามะพร้าว ๓ ผล คั้นเอาแต่กะทิ๑ เอาน้ำ�มันงา ๑ ถ้วย หุง
ให้คงแต่น้ำ�มัน แล้วเอาเทียนดำ�๑ เทียนขาว๑ เทียนสัตบุต๑ ฝิ่น๑ สีเสียด๑ ชัน
ตะเคียน๑ เอาหนักสิ่งละ ๑ เฟื้อง ทำ�เป็นจุณปรุงลงในน้ำ�มัน ทาแก้ตาลและทราง
ทั้งปวงแลฯ
64
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
น้ำ�ใบกะเพรา หรือนำ�ใบกระพังโหมก็ได้ ถ้าแก้ลงละลายน้ำ�เปลือกมะเดื่อ ถ้าจะ
แก้ท้องขึ้นละลายน้ำ�กระทือให้กิน ถ้าอาเจียนละลายด้วยสมอต้มให้กิน ถ้าจะแก้
ทรางขึ้นในปาก ละลายด้วยน้ำ�ขมิ้นอ้อยกวาดทรางหล่นดีนักฯ
65
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ละลายน้ำ�หัวหอมกวาด ถ้าสีเหลืองละลายน้ำ�ขมิ้นอ้อยกวาด ศักดิ์สิทธินักแล ยา
เทพมงคลขนานนี้แก้หละทั้ง ๘ จำ�พวก คือ ถ้าหละสีเหลือง ละลายน้ำ�ขมิ้นเครือ
กวาด ถ้าสีดังควันเทียนละลายน้ำ�หมอแทรกดีงูรำ�หัดกวาด ถ้าสีดังดอกตะแบก
ช้ำ� ละลายด้วยน้ำ�ผลเถาคันสุกเอาเกลือรำ�หัดแทรกกวาดหายแลฯ
66
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยากวาดทรางแดง เอาหัวหอม๑ ขมิ้นอ้อย๑ ไพล๑ มะกรูด๑ เผาไฟให้ไหม้บด
ละเอียดทำ�แท่งไว้ ละลายน้ำ�กระสายตามควร กวาดแก้ทรางขึ้นปาก ขึ้นคอดูด
นมไม่ได้ ท่านตีค่าไว้ห้าตำ�ลึงทองฯ
69
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาชื่อปัญจคงคา เอารากข้าวสาร๑ รากสีหวด๑ รากถั่วพู๑ รากทองหลาง๑ ราก
สลอด๑ จันทน์ทั้ง๒ รากไม้เท้ายายม่อม๑ ยาสลิด๑ รากข่าหลวง๑ รากน้ำ�นอง๑
ปู่เจ้าลอยท่า๑ รากเพชรหนูกัน๑ รากย่านาง๑ รากสันพร้านางแอ๑ เอาเสมอภาค
น้ำ�ดอกไม้เป็นกระสาย ละลายน้ำ�ดอกไม้ น้ำ�ซาวข้าวก็ได้ ทั้งกินทั้งชะโลม แก้
ทรางโจรทรางไฟ กระหายน้ำ� แลแก้ร้อนเชื่อมมัวหอบพักหายแลฯ
70
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ทา ถ้ามิฟังละลายน้ำ�ชิงช้าชาลีทาหายฯ
71
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาแก้ลมทราง ๗ จำ�พวก เอาพิมเสน๑ การบูร๑ ผิวมะกรูด๑ เอาหนักสิ่งละ ๑
บาท มหาหิงคุ์ ๒ บาท ใบหนาด๑ กระเทียม๑ พริกไทย๑ ขิง๑ เอาหนักสิ่งละ ๔
บาท ตำ�ผงบดทำ�เม็ดไว้ละลายน้ำ�มะนาวเป็นกระสาย กินแก้ลม ให้ปวดท้องและ
ท้องขึ้นลงท้อง ชักเท้ากำ� มือกำ� หน้าเขียว ลมจุกเสียด เป็นยาประจำ�ทรางทั้ง ๗
จำ�พวกฯ
72
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ประสานทองสุราใส่ลงบดปั้นแท่งไว้ แก้ปวดมวนท้องน้ำ�กระทือ น้ำ�ไพล น้ำ�ขมิ้น
เผา แก้มูกเลือดคุมทางลม แก้สายพัดทราง ตาลขะโมย ละลายน้ำ�สุราดีนักแลฯ
73
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาตานขโมย เอาใบมะกา๑ รากสะแก๑ เปลือกต้นไข่เน่า๑ เปลือกต้นมะเกลือ๑
กะเพราทั้ง๕ แมงลักทั้ง๕ แห้วหมู๑ ชะพลู๑ สะค้าน๑ เจตมูลเพลิง๑ เปลือกมะตูม
อ่อน๑ เหล่านี้เอาสิ่งละ ๑ กำ�มือ ขมิ้นอ้อย ๗ แว่น บอระเพ็ด ๗ แว่น พริกไทย ๗
เม็ด ดีปลี ๑ ดอก ใบเทียน ๑ กำ�มือ ใบทับทิม ๑ กำ�มือ ต้มให้กินหายแลฯ
ยาแก้ทรางขึ้นในตา เอาดีหมีฝนกับน้ำ�หยอดในตาหายแลฯ
ยาแก้ทรางชัก เอาแววนกยูงตำ�ป่นบดกับน้ำ�มะนาวกวาดหายแลฯ
74
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาทั้ง ๔ นี้ให้ครบกำ�หนด ๓ วัน แล้วเอาน้ำ�ที่แช่นั้นกินหายฯ
75
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยากวาดแก้ทราง ผลมะกอกเผา 3 ผล ลิ้นทะเลปิ้งหนัก 1 บาท ทองคำ�เปลว 3
แผ่น สรรพยา 3 สิ่งนี้ บดด้วยน้ำ�สุก บั้นแท่งไว้ ใช้กวาดแก้หละแก้ทราง
76
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แผนกยาเด็กเพิ่มเติม
แผนกยาเด็กเพิ่มเติม
ยาแก้เด็กเจ็บท้อง ยาให้เอา ขี้สูดบนจอมปลวก ต้มกินดีแล
79
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาเนาวหรคุณ เอาขมิ้นอ้อย๑ พริกไทย๑ ขิงแห้ง๑ ดีปลี๑ กะเทียม๑ ใบทับทิม๑
ใบเทียน๑ ใบสะแก๑ ใบกระทุ่มขี้หมู๑ ฝิ่นต้น๑ ลูกจันทน์๑ ดอกจันทน์๑ กระวาน๑
กานพลู๑ เนรภูสี๑ กฤษณา๑ กะลำ�พัก๑ ขอนดอก๑ ชาดหรคุณ๑ โกฐสอ๑ โกฐ
เขมา๑ โกฐพุงปลา๑ โกฐก้านพร้าว๑ โกฐจุฬาลำ�พา๑ โกฐหัวบัว๑ โกฐน้ำ�เต้า๑
ชะมด๑ พิมเสน๑ อำ�พัน๑ ยาทั้งนี้เอาหนักสิ่งละ ๑ เฟื้อง ตำ�ผงบดด้วยน้ำ�ดอกไม้
เทศ ทำ�เม็ดไว้ใช้แก้ไอ ละลายน้ำ�ขิง น้ำ�มะนาว น้ำ�กะเทียมก็ได้ แก้กระหายน้ำ�
ละลายน้ำ�จันทน์ แก้เชื่อมมึนละลายน้ำ�เปลือกมะรุม แก้สลบละลายน้ำ�ดอกไม้เทศ
ดีงู พิมเสนรำ�หัดแทรกกิน ถ้าเด็กหอบนัก หรืออยากน้ำ�เป็นกำ�ลัง ละลายน้ำ�ส้ม
มะขามเปียก หัวหอม หรือน้ำ�ส้มสายชู กินแก้หอบ แก้เสมหะหายแลฯ
80
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาประสะไพล เอาเทียนทั้ง๕ สังกรณี๑ เนระพููสี๑ กรุงเขมา๑ ชะเอมเทศ๑ พริก
ไทย๑ ขิง๑ ดีปลี๑ กระเทียม๑ ข่า๑ กระทือ๑ กระชาย๑ ผิวมะกรูด๑ ผิวมะนาว๑
ผิวมะม่วง๑ ลูกพิลังกาสา๑ เม็ดในมะนาว๑ ลูกผักชี๑ สมอทั้ง๓ ขมิ้นทั้ง๒ เปลือก
สันพร้านางแอ๑ ยาทั้งนี้เอาเสมอภาค ไพลแห้งเท่ายาทั้งหลายตำ�ผง น้ำ�ผึ้งเป็นก
ระสาย บดละลายน้ำ�สุราแก้ทรางทั้งปวง อันเป็นพิษต่างๆ แก้ท้องขึ้นปวดมวนใน
ท้อง ตกมูกเลือดหรือแก้ลมประจำ�ทรางโจรทั้งปวง ให้ยักน้ำ�กระสายใช้ตามควร
เถิดฯ
81
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาสมานลิ้นเปื่อยขนานหนึ่ง เอาฝักสำ�โรงเผาไฟ งวงตาลเผาไฟ น้ำ�ประสาน
ทองสะตุ ตำ�ผงเอาน้ำ�ท่าเป็นกระสาย ทาปากลิ้นเด็กผู้ใหญ่หายแลฯ
82
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ร้อนให้กิน เป็นยาประจำ�ท้องกันสำ�รอก เมื่อถึงกำ�หนด ๙ เดือนฯ เอาใบคนทีสอ๑
ใบคนทีเขมา๑ ขมิ้นอ้อย๑ บดทำ�แท่งละลายน้ำ�ร้อนให้กิน เป็นยาประจำ�ท้อง
กันสำ�รอก เมื่อถึงกำ�หนด ๑๐ เดือนฯ เอาใบเสนียด๑ ใบผักคราด๑ ใบปีบ๑ ใบ
ระงับ๑ ใบขี้กาแดง๑ ใบขี้กาขาว๑ ใบโคกกระออม๑ ใบขี้เหล็ก๑ ใบสะเดา๑ ไพล๑
กระทือ๑ ตรีกฏุก๑ บดทำ�แท่งละลายน้ำ�ร้อนให้กิน เป็นยาประจำ�ท้องกันสำ�รอก
เมื่อถึงกำ�หนด ๑๑เดือนฯ เอาขมิ้นอ้อย๑ บอระเพ็ด๑ ใบเทียนย้อมมือกำ�มือ๑ ใบ
มะคำ�ไก่๑ ใบหนาด๑ ใบคนทีสอ๑ ตรีกฏุก๑ ไพล๑ ขิง๑ การบูร๑ เม็ดผักกาด๑
กะเทียม๑ หอม๑ สารส้ม๑ ดินประสิวขาว๑ บดทำ�แท่งไว้ละลายน้ำ�ร้อนให้กิน
เป็นยาประจำ�ท้องกันสำ�รอก เมื่อถึงกำ�หนด ๑๒ เดือนฯ
83
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ดอกพิกุล๑ ดอกบุนนาค๑ ยาทั้งนี้เอาสิ่งละ ๑ บาท ดอกคำ� ๖ สลึง เทียนดำ� ๒
บาท รวมต้มด้วยน้ำ�เถาวัลย์เปรียง แทรกดีเกลือตามกำ�ลัง กินดีนักแลฯ
84
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
จะใช้เถิด ถ้าจะรุเอาน้ำ�ฝักคูณ น้ำ�ลูกสมอดีเกลือแทรกเป็นกระสาย ตามธาตุหนัก
เบาทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เอายานี้คั่วให้เกรียม แล้วจึงเอามหาหิงคุ์๑ ยาดำ�๑ โกฐน้ำ�
เต้า๑ แทรงลงตำ�เป็นผง บดปั้นเป็นแท่งไว้แก้ทราง ใช้ได้ตามความประสงค์แลฯ
ยาถ่ายประจำ�ธาตุเด็ก เอาใบกะเพรา ๑ บาท ใบคนทีสอ ๑ บาท ลูกจันทน์๑ ดอก
จันทน์๑ กระวาน๑ กานพลู๑ ดีปลี๑ ขมิ้นอ้อย๑ หัวกระชาย๑ เอาสิ่งละ ๑ เฟื้อง
บดทำ�เป็นเม็ดไว้น้ำ�ร้อนเป็นกระสายแทรกสุรา ๓ หยด ให้กินเช้าเย็นแลฯ
85
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาทองเนื้องาม เอาเนื้อสมอไทย๑ เนื้อสมอพิเภก๑ มหาหิงคุ์๑ ว่านน้ำ�๑ ไพล๑
ผิวมะกรูด๑ เหล่านี้เอาหนักสิ่งละ ๑ บาท การบูร๑ เกลือสินเธาว์๑ หนักสิ่งละ ๕
สลึง ใบสมอทะเลนึ่งเสียก่อน เอาหนักเท่ายาทั้งหลาย ตำ�ผง บดทำ�เม็ดไว้ เมื่อจะ
กินละลายน้ำ�ส้มซ่า น้ำ�ส้มมะนาว น้ำ�ส้มมะกรูดก็ได้ เป็นยาประจำ�ท้องเด็ก ให้กิน
ตั้งแต่แรกออกไฟเสมอมาแก้ตาลทรางขโมย ท้องขึ้นท้องอืดเฟ้อ แก้ตับโต หรือ
ท้องโต แก้ม้ามย้อยดีนักแลฯ
86
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยามหานิลแท่งทอง เอารากมะกอก๑ ขมิ้นอ้อย๑ รากมะไฟ๑ รากกระท้อน๑ ราก
มะปรางหวาน๑ รากละหุ่งแดง๑ รากลำ�โพง๑ ไม้สัก๑ เครื่องเหล่านี้เผาไฟให้เป็น
ถ่าน ใบทองหลางใบมน๑ ลูกประคำ�ดีควายคั่วพอแต่เกรียม แทรกน้ำ�ดีต่างๆ
พรมปัน้ ก้อนปิดทอง แก้สารพัดพิษและกาฬทัง้ ปวง ยา ๔ รากต้มกินเป็นกระสายฯ
87
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
กระสับกระส่าย น้ำ�จันทน์ แก้กระหายน้ำ� น้ำ�คร่ำ� แก้สะดุ้งน้ำ�ข่าฯ
88
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาทิพโสภา เอาเนื้อสมอพิเภก๑ เนื้อสมอเทศ๑ เนื้อมะขามป้อม๑ โกฐทั้ง๕ เทียน
ทั้ง๕ กฤษณา๑ น้ำ�ประสาร๑ ตรีกฏุก๑ เอาสิ่งละ ๑ ส่วน โกฐน้ำ�เต้า๑ เนื้อสมอ
ไทย๑ สิ่งละ ๑๒ ส่วน เอาน้ำ�ดอกไม้ น้ำ�ร้อนเป็นกระสายบด เอาส้มมะขามเปียก
ขยำ�น้ำ�ปูนใสแก้ตัวร้อนกระหายน้ำ� เชื่อมมึนน้ำ�ดอกไม้ แก้ตานขโมย ซูบผอมทุ่ง
ลงท้อง ละลายน้ำ�สุราแลฯ
89
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
จันทน์แดง๑ จันทน์ขาว๑ เกสรบัวหลวง๑ เกสรบุนนาค๑ เกสรสารภี๑ ราก
ฟักข้าว๑ เอาสิ่งละ ๕ สลึง ดินประสิวขาว ๖ สลึง ใบพิมเสนเท่ายาทั้งหลายบด
ละเอียดไว้แก้ไข้ น้ำ�ดอกไม้ น้ำ�จันทน์ก็ได้ชะโลมถอนพิษแก้ตัวร้อน น้ำ�ซาวข้าว
น้ำ�เปราะก็ได้ แก้พิษต่างๆ น้ำ�มูตรได้ใช้แล้วดีนักฯ
90
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาประสิทธิรักษา ท่านให้เอาว่านเปราะ๑ พลูแก๑ ใบน้ำ�เต้า๑ ถ่านเพลิงป่าช้า๑
เอาส่วนเท่ากัน ปิดพวกหัวเหน่าแก้ขัดเบาๆ มิสะดวกหายดีนักแลฯ
92
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แผนกยาแก้โรคโลหิตระดูสตรี
แผนกยาแก้โรคโลหิตระดูสตรี
ยาแก้ระดูไม่ปกติ หญิงสาวรุ่นที่ถึงกำ�หนดควรมีระดูแล้วแต่ยังไม่มี หรือมีแล้วก
ลับแห้งไป จะรักษาให้หายต้องบำ�รุงธาตุทั้งสี่ให้ดีเสียก่อนแล้วจึงบำ�รุงเลือด ยา
บำ�รุงธาตุท่านให้เอาลูก เบญจกูลสิ่งละ ๑ บาท ผลผักชี ๑ บาท ว่านน้ำ� ๑ บาท
หัวแห้วหมู ๑ บาท พิลังกาสา ๑ บาท บอระเพ็ด ๑ บาท ผิวมะกรูด ๑ บาท ยา
ทั้ง ๗ สิ่งนี้ทำ�ให้เป็นจุณ ละลายน้ำ�ส้มซ่า กินบำ�รุงธาตุไฟให้บริบูรณ์ แล้วจึงกิน
ยาบำ�รุงโลหิตต่อไป ให้เอาเบญจกูลสิ่งละ ๑ บาท โกฐทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ สิ่งละ ๒
สลึง ผลจันทน์ ๑ สลึง ดอกจันทน์ ๑ สลึง กระวาน ๑ สลึง กานพลู ๑ สลึง ดอกคำ�
ไทย ๑บาท ฝางเสน ๒บาท เกสรดอกพิกุล ๑ เกสรดอกบุนนาค ๑ เกสรบัวหลวง
๑ ดอกมะลิ ๑ ดอกจำ�ปา ๑ ดอกกระดังงา ๑ กฤษณา ๑ กระลำ�พัก ๑ ชะลูด ๑
ขอนดอก ๑ อบเชยเทศ ๑ ชะเอมเทศ ๑ จันทน์ทั้งสอง ขมิ้นเครือ ๑ เอาส่วนเท่าๆ
กันต้มให้กินโลหิตนั้นจะงามดีอย่าสนเท่ห์เลย
95
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาแก้เลือดออกถ้ามีการจ่มปาก ให้เอาฮากเหมือดแอ ฮากซายซู่เครือ ฮาก
หวดข่า ฮากทัน ฮากช้าคราม ฮากส้มป่อย ฮากดูกน้อย ฮากอีขาก ฮากตีนจ้ำ�
แพงคำ�ฮ้อย ช้างน้าว นมงัว โมกน้อยแดง ดูกใส ฝนใส่เหล้ากิน
96
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยากินให้มีลูก
หญิงที่แต่งงานแล้ว บางคนถึงจะต้องการลูกก็ไม่ได้ลูกที่เป็นทั้งนี้อาจจะ
เกิดสาเหตุหลายอย่าง เช่นเลือดลมในร่างกายไม่สมบูรณ์บ้าง อวัยวะประสัมพันธ์
ไม่ได้สัดส่วนกันบ้าง มีไฝขี้แมงวันจับในที่ลับซึ่งถือว่าเป็นเข็ดขวางบ้าง จะเป็น
เพราะเหตุใดก็ตาม ถ้าแก้ไม่ถูกจุดจะไม่มีลูกเลย
เรื่องนี้หมอโบราณมีทางแก้ไขได้ คือมียาให้กินเพื่อให้ได้ลูก หมอยาเล่า
ให้ฟังว่ามีผัวเมียคู่หนึ่ง แต่งงานกันมาแล้วเกิน ๑๐ ปี อยากจะมีลูกมาเล่าให้หมอ
ฟัง หมอสงสารจึงหายาให้กิน ปัจจุบันนี้ผัวเมียคู่นี้กินยาที่หมอให้ ได้ลูกแล้ว ๓
คน พ่อแม่และลูกของเขา ขณะที่เรานอนเขียนตำ�รายานี้อยู่ เขายังมีชีวิตอยู่ เรา
สนใจได้ไปเรียนเอายาจากหมอคนนี้มาไว้ หมอแนะนำ�ในหลักการ ต่างว่าต้อง
ทำ�ให้ถูกวิธี คือให้ตั้งคายขัน ๕ ขัน ๘ ซิ่นผืน แพรวา เหล้าก้อง ไข่หน่วย ซวย
สี่ เงินหนึ่งบาท ถ้าตั้งคายรักษาให้เอาเงินก่อน ๕๐ สตางค์
แต่ก่อนจะไปเอายา ให้เลือกเอาวันอังคารเป็นวันไปเอายา จัดหมากคำ�
ยากอก ไปขอเอายา ก่อนจะขุดหรือตัดเอายาแต่ละต้นให้เสกคาถาผาบพระยาธร
เสียก่อน คาถาผาบพระยาธรว่า
“โอมทิพพระยาฅธร คอนถงยาหัวขาวมากกอกซอก ค้อนกูสิตอกหัว
ทิพพระยาธร”
เมื่อผาบแล้วจึงลงมือขุดหรือตัดเอายา เมื่อเอายามารวมกันแล้ว ก่อน
จะเอายาลงในหม้อ ให้ปลุกยารวมกัน คำ�ปลุกยาว่า
“โอมคะลุกๆ กูสิปลุกต้นยาก็ลุก กูสิปลุกกกยา ก้านก่ำ�ก็ลุก ต้นก่ำ�
และต้นขาว ต้นยาวและต้นเฮือก โอมสหมติด” ให้เสก ๓ จบ ยากินให้มีลูก
ยาให้เอา เปลือกส้มป่อยเครือ ใบกล้วยตายพราย ใบผักอิเลิด ใบฮูฮา ดางแหฮ้าง
ให้เอายาทั้ง ๕ นี้ มาทำ� ดังนี้ ใบผักอิเลิด ใบฮูฮา ดางแหฮ้าง ยาทั้งสามมัด
เข้าด้วยกัน เอาใบตองกล้วยตายพรายมาห่อมัดยาแล้วเอาเปลือกส้มป่อยเครือมา
ห่อข้างนอก เอามัดยานี้แช่น้ำ�ในคุ ใส่น้ำ�ให้เต็ม ล้าเอาเฮือด(ตัวเรือด) ๗ ตัว
97
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ย่องลงในน้ำ� น้ำ�นี้ใช้สำ�หรับอาบ ให้อาบวันพระทั้งข้างขึ้นข้างแรมทุกวัน ให้อาบ
วันอังคารทุกวัน ให้อาบวันเดือนดับทุกวัน ใช้อาบในเวลากลางคืนตอนดึกเวลา
สงัด ให้แก้ผ้าอาบ เริ่มอาบจากบันไดเรือนข้างบนลงมาถึงบันไดเรือนขั้นต่ำ� น้ำ�
ที่จะอาบแต่ละครั้งกะให้พอดี คืออาบให้หมดทุกครั้ง เมื่ออาบน้ำ�หมดแล้วให้โยน
ครุออกไปก่อน แต่จะอาบน้ำ�ทุกครั้ง ให้ไหว้พระ ตั้งจิตอธิฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์
สมาทานศีล ขอลูกจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
สำ�หรับคนที่เป็นไฝขี้แมงวันในทีลับ เมื่ออาบน้ำ�ได้ ๒-๓ วัน จะไม่ปรากฎ
มีอะไร แต่เมื่อล่วงเลยไปถึง ๔-๕ ครั้งแล้ว จะมีนิมิตดีมีปรากฏในเวลานอนหลับ
ต่อจากนั้นระดูที่เน่าเสียก็จะดีขึ้น ระวังอย่าได้หลงลืมวันอาบน้ำ�ให้จดจำ�ไว้ให้
ขึ้นใจ วันที่จะต้องอาบคือ ๑ วันพระทั้งข้างขึ้นข้างแรมทุกวัน 2 วันอังคารทุกวัน
๓ วันเดือนดับทุกวัน และให้แก้ผ้าอาบในเวลากลางคืน อาบจากบันไดขั้นบนลง
มาขั้นต่ำ� ถ้าทำ�ผิดกติกาของหมอ ความหวังของท่านอาจผิดพลาดไว้ ผู้ที่จะอาบ
น้ำ�ต้องเป็นผู้หญิง ผู้ชายไม่ใช่คนสำ�คัญในกรณีนี้
98
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาแก้ไข้ทับระดู (ของบ่าวตุด แซ่ผ่อง) สาวเหล้า สาวหยุด หญ้าใต้ใบ หญ้า
น้ำ�ดับไฟ ผักเป็ด พันงูแดง ๕ อย่างนี้เอาเท่ากันต้มกินจะหาย
การพูดความจริง ถูกต้องและทำ�ตามที่พูดทำ�ให้รอดพ้นจากคำ�ด่าว่า
รอดพ้นจากอันตรายรอดพ้นจากความพินาศและรอดพ้นจากความตาย
ผลของการพูดความจริงจะได้รับความไว้วางใจความเชื่อถือ ได้รับการ
ช่วยเหลือ ได้รับเกียรติ ได้รับการยกย่อง อย่างน้อยผู้พูดเองมีความ
สบายใจไม่ต้องหวาดเกรงผู้อื่นจะรู้ว่าตัวเองเป็นคนพูดปด พูดไม่จริง
99
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยันต์เกราะเพชร
100
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แผนกยาแก้โรคระบบทางเดินอาหาร
แผนกยาแก้โรคระบบทางเดินอาหาร
ยาแก้ท้องขึ้นมาก เมล็ดพริกไทย ๑บาท ดีปลี ๑ บาท ขิง ๑บาท กระเทียม
๑บาท บอระเพ็ด ๑บาท(ต้ม) เวลาลมเดินไม่สะดวกกินหายทันทีแล
102
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
จันทน์ ๑ ลูกเร่ว ๑ ลูกกะวาน ๑ กานพลู ๑โกฐทั้งห้า เทียนทั้งห้า มหาหิงคุ์ ๑
กระเทียม ๑เขม่าไฟ ๑ เกลือดิน ๑ ขิงแห้ง ๑ พิมเสน ๑ การบูร ๑ น้ำ�กระสายใช้
น้ำ�ข่า น้ำ�ขิง น้ำ�ผึ้ง น้ำ�ร้อนหรือสุราก็ได้ เหล่านี้ใช้แก้อหิวาตกโรค ใช้น้ำ�กระสาย
น้ำ�ลูกยอปนน้ำ�ขิงแก้ลมจุกแดกได้ทุกอย่าง แต่ห้ามใช้ในคนมีไข้และคนมีครรภ์
103
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
เผาไฟแล้วเอาผ้าขาวห่อแซ่น้ำ�กิน ถ้าเย็นเกิดแหล่ ชัก ให้เอาใบไผ่บ้าน ใบ่ไผ่ป่า
ใบไผ่ส่างไพร ใบไผ่เหลือง ใบไผ่บง ตำ�ใส่กันแล้วเอาผ้าดำ�ห่อหนึ่งตั้งตามโต ถ้า
ไม่ทันให้เอาน้ำ�ร้อนใส่แก้วแล้วเอาผ้าพันกอดไว้ก่อน
104
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาท้องบิด–ท้องเจ็บ ให้เอาฮากกำ�ยาน ต้มกินดีแล หรืออีกขนานหนึ่ง เอา
เปลือกหมากพร้าวห้าว ใบส้มผ่อ ต้มกินดีแล
105
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ผอง น้ำ�เผิ้งผอง ๑ ผสมกันกินดีแล
106
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาแก้กินผิด หญิงที่เป็นกะบูน จะเป็นกะบูนเลือดหรือกะบูนลมก็ตามกินอาหาร
อะไรลงไปมักแสดงต่อโรค หรือที่โบราณเรียกว่ากินผิด เกิดเลือดลมในร่างกาย
ไม่ปกติ ยาแก้กินผิดให้เอาฮากอิทก เครือตั้งตุ่น ดูกลิงลง ฮากหูดหอม จันทน์
หอม ฮากหมาน้อย ฮากยานาง ให้เอายาทั้งหมดนี้มาฝนกิน จะแก้โรคกินไม่
ได้นอนไม่หลับ แก้กะบูนเลือดกะบูนลม อีกชุมหนึ่ง ยาให้เอา ฮากน้ำ�แน แช่ให้
กินดีแล อีกชุมหนึ่ง และแก้กินผิดได้ทุกอย่างดีนักแล
107
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาแก้สะดวงทวาร คำ�ว่าทวารหมายถึง ตา หู จมูก ปาก และอื่นๆ ด้วยยาแก้
สะดวงทวาร ยาให้เอา ดอกจันทน์หนัก ๑ บาท ลูกจันทน์หนัก ๑ บาท มหาหิงคุ์
หนัก ๑ บาท ยาดำ�หนัก ๑ บาท พริกไทยหนักเท่ายาทั้งมวล บดเป็นผง ปั้นเป็น
ลูกอมก้อนขนาดเท่านิ้วก้อย กินเช้าเย็นวันละ ๒ เม็ด ถ้ากินยานี้ให้เว้นอาหารที่
แสลง ห้ามไม่ให้กินเอี่ยน (ปลาไหล) เต่า ปลาฝา กุ้ง ซิว ปลาหลด ปลาหลาด ถ้า
คะคำ�ได้ดีนักแล
108
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยากะบูนเลือด กะบูนเลือด เกิดจากเลือดเสีย เลือดที่เสียนั้นมาจับกันเป็นก้อน
แข็ง หรือเป็นแท่ง มีขนาดเท่าไข่ไก่หรือมะตูม เรียกกะบูนเลือด ยาให้เอา
แก่นแก แก่นกระจาย ทั้งสองนี้ส่วนเสมอกันต้มกินดีแล
109
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
พุทธศาสนสุภาษิต : สิ่งที่เป็นการยาก
กิจฺโฉ มนุสฺสปฏิลาโภ
ความได้เป็นมนุษย์เป็นการยาก
กิจฺฉํ สทฺธมฺมสฺสวนํ
การฟังธรรมของสัตบุรุษเป็นการยาก
กิจฺโฉ พุทฺธานมุปฺปาโท
ความเกิดขึ้นแห่งท่านผู้รู้เป็นการยาก
110
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แผนกยาแก้โรคระบบทางเดิน
ปัสสาวะและโรคระบบสืบพันธุ์
แผนกยาแก้โรคระบบทางเดิน
ปัสสาวะและโรคระบบสืบพันธุ์
ยาแก้รากเลือดหรือ ตกเลือดทางทวารเบาทวารหนัก ท่านให้เอาเปลือกยาง ๑
ขมิ้นไข่ ๑ เอามาต้มกับน้ำ�ท่า ๑ส่วนกับน้ำ�ผึ้งแท้ ๑ ส่วน รับประทานเช้า – เย็น
แก้เลือดออกจากร่างกายวิเศษนัก ได้ทดลองมามากแล้ว
112
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยานิ่ว ให้เอาฮากเดือยหิน ฮากหญ้าคา ฮากสะลิปี พริกไทย ยาหัว อ้อยดำ� เข้า
สารจ้าว ๗ เมล็ด ฮากพลู ต้มกินดีแล อีกขนานหนึ่ง เอาฮากเล็บแมว ฮากหญ้า
ขัดหลวง ฮากหญ้าแห้วหมู เอาอย่างละเท่ากันต้มกินดีแล
113
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาต้มแก้หนองใน กำ�มะถันเหลือง ๑ บาท ฝาง ๓ บาท เถาคันแดง ๓ บาท
แกแล ๓ ยาท กรัม ๓ บาท ขมิ้นอ้อย ๓ บาท ยาข้าวเย็นเหนือ ๔ บาท เกลือ ๖
บาท สรรพยา ๗ สิ่งนี้ ทำ�เป็นยาหม้อต้มรับประทานเช้าเย็น
114
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ผักหนอก กกลิ้นปี่ หมากแข้งโข ยาหัว อ้อยดำ� ต้มกินดีแล อีกชุมหนึ่ง ยา
ให้เอา ทองสมุดขาว ยาหัว อ้อยดำ� ทั้งสามนี้เอาส่วนเสมอกัน ต้มกินดีแล
115
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยันต์ฝนแสนห่า
116
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แผนกยาแก้โรคกษัย
แผนกยาแก้โรคกษัย
ยาแก้เจ็บท้องกษัย มะนาวทั้งห้า ( ราก เปลือก แก่น ใบ กิ่ง) ๑ แก่นขี้เหล็ก ๑
แก่นจำ�ปาขาว ๑ หัวข่า ๑เครือตาปลา ๑ บอระเพ็ด ๓ ท่อนประมาณท่อนละคืบ ๑
หัวขิง ๑ เกลือดิบ ๑สมอ ๑๕ ผล. เสกพระเจ้าห้าพระองค์ใส่ด้วย เวลาต้มอย่าให้
คลุกคลีในเตาไฟ คือไม่ให้ปิ้งและย่างอะไรต่ออะไรใส่เวลาต้มอยู่และไม่ให้เปลี่ยน
ดุ้นฝืนทางนี้ไปใส่ทางนั้น ต้มกินหายแล
119
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
พุทธศาสนสุภาษิต :
หว่านพืชเช่นใด ได้ผลเช่นนั้น
120
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แผนกยาแก้โรคฝีภายใน
แผนกยาแก้โรคฝีภายใน
ยาแก้วัณโรค ให้เอาต้นสาบควาย ๑ ต้นตีนจำ� ๑ ต้มกินหายแล
วนฺทโก ปฏิวนฺทนํ
ผู้ไหว้ย่อมได้รับการไหว้ตอบ
การไหว้เป็นการแสดงความเคารพ บุคคลที่ควรไหว้แบ่งออกเป็น
๓ จำ�พวก ผู้เจริญด้วยชาติกำ�เนิด ผู้เจริญด้วยวัย คืออายุมากและผู้เจริญ
ด้วยคุณ คือความดี เป็นผู้ควรไหว้และบุคคลผู้อ่อนน้อมถ่อมตนย่อมไหว้
ผู้อื่นเสมอจึงได้รับการไหว้ตอบเช่นกัน
123
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
พุทธศาสนสุภาษิต : การงาน
124
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แผนกยาแก้โรคผิวหนัง
แผนกยาแก้โรคผิวหนัง
ยาทาขี้กลาก ท่านให้เอามาส (กำ�มะถัน) ๑ ขาหย่างไฟ ๑ รากชุมเห็ด ๑ บดให้
ละเอียดแล้วเอาน้ำ�มันยาผสมทา ยาตัดรากให้เอารากชุมเห็ดดองกับน้ำ�สุรา กิน
เป็นยาตัดรากหายแล
ยาพอกเกลื่อนฝี ยาพอกเกลื่อนฝีเมื่อแรกเป็นและแก้ตะมอยที่ปวดจะให้ยุบและ
กลวงจะให้แตกพอกปิดหัว ให้เอาหัวอุตพิต ๑ เกลือ ๑ ส้มมะขามเปียก ๑ ตำ�
ยาพอกอุ่นที่แผลหมั่นเปลี่ยนเอาน้ำ�หยอดให้ยาเปียกจะไม่ปวด ยาเก่าอย่าทิ้ง
เปลี่ยนพอกกันไป
126
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาฮมบาดแม่เฮ็ง เปื่อยตามตัว ให้เอากลีบหมากบก แก่นดู่ แก่นเยา ในหมาก
ฝ้าย เอาลงในหลุมเผาฮมแล ส่วนยาทาเอาน้ำ�มันยางน้ำ�มันสะแบงทา
127
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ดีแล อีกขนานหนึ่ง เอาขิงกระชาย หัวสีไค ผักอีตู่ไท หมากพริกน้อย เอาถ่อกัน
แล้วจั่งเอาน้ำ�ขะมุกเป็นน้ำ�ต้ม กินดีแล
128
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
เกิดกลางโกน ต้นโพธิ์เกิดกลางโกน ต้นหมากใต้ ต้นหมากผู้ ฝนกินทางในดีแล
อีกขนานหนึ่ง ยาทาทางนอก ให้เอาเปลือกและฮากสารดง สารโดเด ฝนทาดีแล
ยาพอกแผลแก้บาดพิษ ให้เอา ชันแมลงโรม ขิง ๗ แว่น กระเทียม ๗ กลีบ ดีปลี
๗ ดอก พริกไทย ๗ เม็ด การบูรพอสมควร ยาทั้งหกสิ่งนี้ตำ�พอกแผล แก้บาด
เสี้ยน บาดหนาม บาดพิษ
129
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
สารหนู ฝนใส่มะนาว เอาเหล็กแทงตรงหัวฝี แล้วเอายานี้กัดฝีแตกแล อีกชุม
หนึ่ง ยาให้เอา ฮากย่านาง ฝนทาดีแล อีกชุมหนึ่ง ยาทาให้เอา ขี้เหล็กกับน้ำ�
มะพร้าวไฟทาดีแล
130
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ปูนกินกับหมาก เท่าเมล็ด ถั่วลิสง ยา ๔ สิ่งนี้ ต้มคั้นเอาน้ำ�ทา
131
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาขัดเลือด ถ้าถูกขวานสับ พร้าฟัน เลือดออกไม่หยุด ให้เอายาขัดเลือด ยา
ให้เอา ใบตองกล้วยตีบแห้ง ผมคน เผาไฟให้ไหม้ เอามาโฮยปากแผล ขัด
เลือดหายไวปานปิดทิ้ง ยานี้หมอโบราณถือว่ามีสรรพคุณมากนักแล
132
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาแก้วัดวิเศษสุด ยาให้เอา ขี้ชี(ชัน) บดให้แหลก ผสมกับเหล้า เด็ดทาแก้วัดดี
นักแล ไม่เชื่อทดลองดูได้
133
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยันต์พระอิติปิโสแปดทิศ
134
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แผนกยาแก้โรคลมและเลือด
แผนกยาแก้โรคลมและเลือด
ยาเจ็ดสามเม็ด ใบสหัดคุณไทย ๖ บาท ใบคนทีสอ ๔ บาท พริกไทย ๑ บาท
มหาหิงคุ์ ๑ บาท เทียนดำ� ๒ สลึง เม็ดเลือดในสะบ้าแดง ๒ สลึง สรรพยา ๖
สิ่งนี้ ทำ�ผงบดด้วยน้ำ�ใบคะเม็งต้ม ปั้นเม็ดไว้ใช้แก้ลมจุกเสียด น้ำ�ร้อน น้ำ�ขิง แก้
อาเจียน น้ำ�ผลยอ ผลผักชี ขิง ต้มเป็นกระสายแก้สันนิบาตสองคลอง แทรกกระ
ทือหรือไพลหมกไฟก็ได้ แก้พิษงูสุราเป็นกระสาย ยานี้รับประทานได้ครั้งละ ๓
เม็ด จึงเรียกว่าเจ้า ๓ เม็ด
136
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
อำ�พันทอง ๑ อำ�พันมูลปลา ๑หญ้าฝรั่น ๑ รวมยา ๗๗ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน ทำ�ให้
เป็นจุณ บดกับน้ำ�ดอกไม้เทศ ปั้นเป็นเม็ดเท่าเมล็ดพริกไทย ผึ่งไว้ในร่มจนแห้ง
น้ำ�กระสายยักใช้ตามควรแก่โรค แก้ลมจุกเสียด ลมแน่นในอกในท้อง ท้องยุ้งพุง
มานและไส้เลื่อน แก้หืดแก้หอบ แก้โลหิต แก้เสมหะ แก้ลมทั้ง ๑๐๘ จำ�พวก แก้
ชักสะดุ้ง แก้จักษุมืดจักษุมัวและหูหนัก แก้เสียงแห้ง ผอมเหลือง แก้กาฬในอกแล
ลมอันมีพิษ แก้มะเร็ง คุดทะราดและลมกษัยลมดาลทิคุณ ลมชักปากเบี้ยวจักษุ
แหก มือตายเท้าตายและเหน็บชา แก้ไอจามเมื่อยขากรรไกร ลิ้นกระด้างคางแข็ง
แก้ลมปัฏฆาตราธยักข์และลมกระทกทั่วสรรพางค์กาย แก้ลมอาเจียนให้บวมมือ
บวมเท้า ลมอัศวาต ลมจับหัวใจให้คลั่งเพ้อไปต่างๆยานี้อาจบำ�รุงธาตุทั้ง ๕ ให้
บริบูรณ์
137
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาแก้ขัดเจ็บปวดต่างๆ ให้เอารากไคร้หางนาคหนัก ๑๐๐ หญ้าเสี่ยวหางนาค
หนัก ๑๐๐ หญ้าเกตุลิ้นใหญ่หนัก ๑๐๐ ยาหังหนัก ๕บาท อ้อยดำ�หนัก ๕บาท
ต้มกินหายแล
ยาแก้ฟกตามข้อ ให้เอารากเล็บแมวฝนทา
138
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาแก้ขัดเจ็บปวดต่างๆ ให้เอารากไคร้หางนาคหนัก ๑๐๐, ยาหัวหนัก ๕บาท,
อ้อยดำ�หนัก ๕บาท ต้มกินหายแล
139
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาแก้พาก พากควายติดต่อ ให้เอาหัวขี้กาใหญ่ เปลือกผักอีฮุม หัวดู่ทุ่ง ฝน
ทาตามที่มันไค่มันพองขึ้นนั้น ยากินแก้โรคพากนั้นให้เอาฮากหนามพรมฝนกิน
คาถาเป่าให้ว่า สัตถา ทนู สัตถา นาสะตูง วะโร วะรัญญู วะระโท วะระหาโร อนุต
ตะโร ธัมมังวะรัง อัตถะเขาสะหายะวะ
140
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ให้ละเอียด เอาเกลือ ๑ ถ้วยตะไล น้ำ�ผึ้ง ๓ ถ้วยตะไล มาขยำ�ให้เข้ากันกับผงยา
ห่อผ้าขาวฝังไว้ในยุ้งข้าวเปลือก ๓ คืน แล้วจึงเอามาผสมน้ำ�รับประทานครั้งละ ๙
ช้อนเล็ก เช้าเย็น สำ�หรับผู้หญิงดีแล
141
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาแก้โรคเส้น เส้นตึง เส้นตาย ยาแก้เอาให้ แก่นตาไก้ แก่นตากวาง แก่นดูกใส
แก่นตานกกด ฮากเสี้ยวน้อย ยาหัว อ้อยดำ� เอาส่วนเสมอกันต้นกินเช้าเย็นดีแล
ยาแก้โรคเส้นประสาท อาการปวดเส้น ถ้าเป็นหนักจะกลายเป็นโรคเส้นประสาท
คือประสาทหู ตา จะพลอยเสียไป จนไม่รู้สึกตัว ยาให้เอา พริกไทย ๑ ส่วน ขิง
แห้ง ๒ ส่วน ปิกปีแดง ๓ ส่วน ผักอีเลิด ๔ ส่วน ดีปลี ๘ ส่วน สะค้าน ๑๖ ส่วน
ให้เอายาทัง้ หมดนี้ หรือสองหม้อก็หาย ถ้าเป็นไม่มากต้นรางจืดเพียงหม้อหรือสอง
หม้อ ก็หาย ถ้าเป็นมากกินไม่เกินสามหม้อหาย ทดลองมาแล้วได้ผลดีมากนักแล
142
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แผนกยาอายุวัฒนะ
แผนกยาอายุวัฒนะ
ยาอายุวัฒนะเจริญอาหาร ให้เอามหาหิงคุ์ ๒ บาท ยาดำ� ๒ บาท รากตองแตก
๒ บาท หัสคุณเทศ ๒ บาท ว่านน้ำ� ๑ บาท กานพลู ๑ บาท รากชะพลู ๑ บาท
เจตมูลเพลิง ๒ บาท เกลือสินเธาว์ ๒ บาท การบูร ๒ บาท หัวหญ้าแห้วหมู ๒
บาท บอระเพ็ด ๒ บาท ผลกระวาน ๒ บาท กระเทียม ๒ บาท ขมิ้นอ้อย ๒ บาท
พริกไทย ๖ บาท ดีปลี ๖ บาท ผลกระดอม ๖ บาท ใบสะเดา ๑๖ บาท โกฐพุงปลา
๒ สลึง โกฐสอ ๒ สลึง รวม ๒๑ สิ่งด้วยกัน ตำ�ผงผสมน้ำ�ผึ้งหรือน้ำ�ส้มซ่าหรือ
น้ำ�ส้มต่างๆ หรือน้ำ�ร้อนก็ได้ รับประทานเวลากลางวัน เท่าลูกสมอ ชูกำ�ลังเจริญ
อาหารอย่างเอก แก้ลมร้อยจำ�พวก แก้ลมร้อยจำ�พวก
145
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ใส่ในหมากน้ำ�เต้าขมจึงเอาไว้เทิงหิ้ง ๓ เดือน ให้แห้ง ๓ ส่วน เหลือไว้ส่วน ๓ แล้ว
เอามากินวันละ ๓ ครั้ง กิน ๓ เดือนมีกำ�ลังเท่าช้างสารแล
146
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แผนกยาแก้โรคตา หู จมูก
แผนกยาแก้โรคตา หู จมูก
148
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
คาถาเป่าตาแดง จิ ปิ เส คิ ก่อนสิเป่านั้น ให้เอากระเทียมมา ๓ เหงี่ยง แล้วห
ย่ำ� (เคี้ยว) เป่าเทอญ ดีแล
149
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
พุทธศาสนสุภาษิต : วาจา
150
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แผนกยาแก้ประดง
แผนกยาแก้ประดง
153
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาประดงใช้ได้ทุกชนิด ให้เอาต้นพญามือเหล็ก ฮากตีนตั่งเตี้ย ฮากบีคน ฮาก
ช้อนสะเพาใหญ่ ดูกม้าขาว ดูกควายด่อน ดูกช้าง ดูกนกกะลากาน้ำ� สามพันปี
ยาหัว ฮากขี้อ้นแดง ฮากฮูฮา ฮากผักอีเลิด ฮากผักอีตู่ไทย ฮากก้างของ ฮากช้าง
น้าว ฮากตากวางเครือ ฮากตากวางต้น ฮากตาไก้ ฝนกินดีแล
154
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
คางเค็ด ฮากนางแส่ง เครือลิ้นแฮด ฝนกินดีแล ยาทาให้เอา ฮากปีกไก่ ฝน
ใส่น้ำ�ข้าวจ้าวดีแล
155
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แล อีกชุมหนึ่ง ยาให้เอา เปลือกประดง เปลือกตาเสือ ฮากหมากเอิก ฮาก
หมากปราง ไลปลาฝา ฝนกินดีแล
156
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แผนกยาถ่าย
แผนกยาถ่าย
159
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
มา ปมาทมนุยุญฺเชถ
มา กามรติสนฺถวํ
อปฺปมตฺโต หิ ฌายนฺโต
ปปฺโปติ วิปุลํ สุขํ ฯ
พวกเธออย่ามัวประมาท
อย่ามัวเอาแต่สนุกยินดีในกามคุณอยู่เลย
ผู้ไม่ประมาท เพ่งพินิจตามความเป็นจริงเท่านั้น
จึงจะบรรลุถึงความสุขอันไพบูลย์ได้
160
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แผนกยาแก้แมลง สัตว์ กัด ต่อย
แผนกยาแก้แมลง สัตว์ กัด ต่อย
162
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาแก้หมาว้อขบ ยาให้เอา ฮากหัวลิง ฮากจีจ้อ ฝนกินดีแล อีกชุมหนึ่ง ยา
ให้เอา ไม้จิกพร้าว ไม้พอกพร้าว ไม้บกพร้าว ฝนทาดีแล อีกชุมหนึ่ง ยาให้
เอา ฮากหัวลิง ฮากจีจ้อ ฝนกินดีแล อีกชุมหนึ่ง ยาให้เอา ไนหมากตอด ๓
ไน ใบหมากตอด ๑ กำ�มือ สารหนู ๑ เฟื้อง ตำ�ผสมกัน เอาน้ำ�ธรรมดาเป็นน้ำ�
ทาแผลดีแล อีกชุมหนึ่ง ยาให้เอา ฮากจีจ้อ ฮากหัวลิง แขว่เสือ ฝนใส่น้ำ�
เหล้ากินดีแล
163
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
อจิรํ วตยํ กาโย
ปฐวึ อธิเสสฺสติ
ฉุฑฺโฑ อเปตวิญฺญาโณ
นิรตฺถํว กลิงฺครํ ฯ
อีกไม่นาน ร่างกายนี้
จักปราศจากวิญญาณ
ถูกทอดทิ้ง ทับถมแผ่นดิน
เหมือนท่อนไม้อันหาประโยชน์มิได้
164
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แผนกยาเกล็ด
แผนกยาเกล็ด
167
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แก่นมะเกลือ ๑ มะเดื่อปล้อง ๑ ยาทั้งหกอย่างนี้เอาอย่างละเท่าเท่ากันนำ�มา
ใส่หม้อดินต้มกับน้ำ�พอสมควรใช้น้ำ�ยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา เวลาก่อน
อาหาร วันละสามเวลา มีสรรพคุณ แก้โรคมะเร็งทุกอย่าง เป็นยาตัดรากโรคมะเร็ง
ให้หายขาด เคยใช้รักษาหายมามากแล้วได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ ขนานที่
๓ ท่านให้เอาใบต้นหนอนตายอยาก หนัก ๑ บาท เปลือกต้นกุ่ม หนัก ๑ บาท หัว
ยาข้าวเย็นเหนือ หนัก ๑ บาท หัวยาข้าวเย็นใต้ หนัก ๑ บาท ดินประสิว หนัก
๒ ตำ�ลึง สารส้ม หนัก ๑ บาท กำ�มะถัน หนัก ๑ บาท ตัวยาทั้งเจ็ดอย่างนี้นำ�
มาใส่หม้อดินต้มกับน้ำ�พอสมควรใช้น้ำ�ยารับประทานครั้งละหนึ่งถ้วยชา เวลา
เช้า กลางวัน เย็น วันละ ๓ เวลา ประมาณ ๓๐ วัน มีสรรพคุณ แก้โรคมะเร็ง
ในกระดูก ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ ขนานที่ ๔ ท่านให้เอา ต้นพลูแก่ ๆ (พลู
กินกับหมาก) ๑ ใบพลูแก่ ๆ ๑ ดอกพลู ๑ รากพลู ๑ ตัวยาทั้ง ๔ อย่างนี้เอา
อย่างละเท่าเท่ากันนำ�มาล้างน้ำ�ให้สะอาดใส่หม้อดินต้มกับน้ำ�พอสมควรใช้น้ำ�ยา
รับประทาน เวลาเช้า – เย็น วันละ๒ครั้ง มีสรรพคุณ แก้โรคมะเร็งได้ผลดีอย่าง
ชะงัดนักแลฯ ขนานที่ ๕ ท่านให้เอา ลูกลำ�โพงกาสลัก (ลูกแก่ๆ) ๑ ลูกกระเบา
(ลูกแก่ๆ เอาเฉพาะเมล็ดใน) ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ยางไม้ตะเคียน ๑ ตัวยาทั้งสี่อย่าง
นี้เอาอย่างละเท่าเท่ากันนำ �มาตากแดดให้แห้งบดเป็นผงหุ่งด้วยน้ำ �มันงาบน
เตาแกลบ (ใช้แกลบเป็นเชื้อเพลิง) ใช้ทารักษาแผลโรคมะเร็งผิวหนัง ภายนอก
หรือใช้ทารักษาแผลเชื้อราทุกชนิด มีสรรพคุณ ชะงัดนักแลฯ ขนานที่ ๖ ท่าน
ให้เอา รากต้นเตย ๑ หัวจุกสับปะรด ๑ รากต้นมะเฟือง ๑ หัวยาข้าวเย็นเหนือ
๑ หัวยา ข้าวเย็นใต้ ๑ ข้าวเปลือกข้าวเจ้า ๑ ตัวยาทั้งหกอย่างนี้เอาอย่างละ
เท่าเท่ากันนำ�มาใส่หม้อดินต้มกับน้ำ�พอสมควรใช้น้ำ�ยารับประทานครั้งละหนึ่ง
ถ้วยชา มีสรรพคุณ แก้โรคมะเร็งซึ่งผู้ป่วยมีอาการท้องอืดรับประทานอาหาร
ไม่ ไ ด้ เ ป็ น เวลานานแล้ ว เมื่ อ รั บ ประทานยานี้ แ ล้ ว จะทำ� ให้ ห ายอาการป่ ว ยนั้ น
เคยใช้รักษาได้ผลดีมามากแล้วฯ ขนานที่ ๗ ท่านให้เอา หัวยาข้าวเย็นทั้ง
สอง (คือ หัวยาข้าวเย็นเหนือ ๑ หัวยาข้าวเย็นใต้ ๑) ๑ กระดูก ควายเผือก ๑
168
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
กำ�มะถันเหลือง ๑ ขันทองพยาบาท ๑ หัวต้นหนอนตายอยาก ๑ ตัวยาทั้งหก
อย่างนี้เอาหนักอย่างละ ๒๐ บาทเท่าเท่ากัน เหง้าสับปะรด หนัก ๑๐ บาท
กระดูกม้า หนัก ๔ บาท ต้นพริกขี้หนู ๑ ต้น (เอาทั้งต้นตลอดถึงราก) ผิวไม้รวก
(ขูดเอาเฉพาะผิว) ๓ กำ�มือ ตัวยาทั้งสิบอย่างนี้นำ�มาใส่หม้อดินต้มกับน้ำ�พอ
สมควรใช้น้ำ�ยารับประทานครั้งละหนึ่งถ้วยชา เวลาหลังอาหารวันละสามเวลา
มีสรรพคุณ แก้โรคมะเร็ง แก้โรคแผลกลาย แก้โรคฝีทุกชนิด แก้โรคไอ แก้โรค
เลือดออกจากหลอดลม รักษาแผลในหลอดลม แผลในลำ�ไส้ ได้ผลดีชะงัดนักแล ฯ
169
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
เท่าใด ถ้าภาชนะที่ใช้บรรจุลงได้มากจะเอาอย่างละมากๆ ก็ได้แต่ต้องให้
มีน้ำ�หนักเท่ากัน ไม่ให้ขาดไม่ให้เกิน การต้มกลั่นต้องใช้ภาชนะที่ทนต่อความ
ร้อน ห้ามเอาภาชนะที่เป็นโลหะ เท่าที่ท่านพระอาจารย์ท่านเคยทำ�ท่านใช้ไห
กระเทียมสมัยเก่าที่มาจากเมืองจีน หม้อดินก็ใช้ไม่ได้ เมื่อได้ภาชนะที่จะกลั่นมา
แล้วก็เอาตัวยาทั้งสี่อย่างบรรจุลงไป ไม่ต้องผสมน้ำ� ใช้กลั่นแห้งๆตามสภาพของ
ตัวยาใช้ไหกระเทียมอีกลูกหนึ่งมาป็นภาชนะรองรับน้ำ�ยา ใช้หลอดแก้วใสเป็นท่อ
ต่อระหว่างปากไหทั้งสอง ถ้าไม่มีหลอดแก้วจะใช้ขวดแก้วขาวตัดก้นออก แทน
ก็ได้ เอาก้นขวดใส่ทางปากไหที่ใส่ตัวยาเอาปากขวดใส่ทางไหที่รองรับ ปิดปาก
ไหทั้งสองด้วยดินเหนียวที่นวดไว้อย่างดีให้แน่นสนิท การกลั่นต้องรักษาระดับ
ไฟในระยะแรกต้องไม่เร่งไฟให้ร้อนเกินไปอาจทำ�ให้ระเบิดได้ ส่วนไหที่รองรับ
น้ำ�ยานั้นก็ต้องใช้ความเย็นช่วยโดยเอาผ้าชุบน้ำ �คลุมไว้แล้วเอาน้ำ �เย็นรดให้
เย็นอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ไอกลายเป็นหยดน้ำ�และช่วยดูดไอมาจากไหที่กลั่น
ด้วย การกลั่นยาส้มนี้ถ้าตัวยามากก็ต้องใช้เวลามากหน่อยกว่ายาจะ”จืด”ก็ต้อง
เสียเวลาเป็นวันหรือทั้งวันทั้งคืน ถ้าจะดูว่ายาจืดหมดหรือยังให้สังเกตที่หลอด
แก้วในตอนแรกๆจะมีควันออกมาเป็นสีขาวๆ เมื่อตัวยาถูกความร้อนจัดเข้าจะ
ละลายแล้วเดือดเต็มที่ ควันในหลอดแก้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองๆ ถ้าเร่งไฟร้อน
จัดเกินไป ควันจะเป็นสีเหลืองแก่และแดง ถ้าควันในหลอดแก้วออกเป็นสีแดง
เข้มมากเกินไปให้ผ่อนไฟลงหน่อย ถ้าปล่อยนานจะเผาไหม้หมดก่อนและได้
น้ำ�ยาน้อย ขณะกำ�ลังกลั่นยากำ�ลังเดือดและไอกำ�ลังไหลออกมาตามหลอดแก้ว
นั้น ไหที่รองรับน้ำ�ยาต้องรดน้ำ�ให้เย็นตลอดเวลา ระวังอย่าให้น้ำ�ที่ทำ�ให้เย็นนั้น
กระเซ็นไปถูกหลอดแก้ว แก้วจะแตกเสียก่อน เมื่อตัวยาหมดควันในหลอดแก้ว
จะกลับขาวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อตัวยาหมดแล้วให้ให้ถอยไฟออก เพื่อให้ความร้อน
ลดลง แล้วจึงค่อยๆแกะดินเหนียวที่หุ้มปากไหออกที่ด้านไหนก็ได้แล้วแต่สะดวก
ยกไหที่รองรับน้ำ�ยาออกตั้งไว้ แล้วหาขวดมีจุกเป็นแก้วมาบรรจุตัวยาเก็บไว้ต่อ
ไป สรรพคุณยาส้ม อันยาส้มนี้ป็นยาครอบจักรวาล ใช้แก้ได้หลายอย่าง เช่นแผล
170
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
สดมีดบาดหรือตะปูตำ� ใช้สำ�ลีชุบยาส้มป้ายที่แผลแผลจะหาย (แต่ต้องทนแสบ
เอานิดหน่อย) แผลเปื่อยก็ใช้ได้แต่ไม่ใช่หิดเปื่อยพุพอง แผลเปื่อยพุพองเวลาใส่
ยาส้มจะมีอาการแสบ เมื่อหายแสบแล้วแผลจะแห้งตกสะเก็ดหายไปเอง ถ้าจะ
แก้โรคต่างๆ เกี่ยวกับเลือดเป็นต้นว่าสตรีออกลูกแล้วอยู่ไฟไม่ได้หรือคลอดบุตร
แล้วเลือดตกมากหรือเป็นมุตกิตระดูขาว,ผอมแห้งแรงน้อย,มักเป็นลมหน้ามืด
ตาลาย ให้ใช้ยาส้มผสมน้ำ�สะอาด(ถ้าได้น้ำ�ฝนยิ่งดี) พอให้มีรสเปรี้ยวเท่ากับน้ำ�
มะนาวหรืออ่อนกว่านิดหน่อย รับประทานวันละครึ่งถ้วยแก้ววันละสามเวลา
รับไปเรื่อยๆจะหายเป็นปกติ โรคเกี่ยวกับสตรีนั้นใช้ได้ผลมาก อนึ่งโรคปวดท้อง
เกี่ยวกับมดลูกแลอื่นๆ ใช้เห็นสรรพคุณมามากแล้ว ถ้าเป็นตาแดง เจ็บตา ตาแฉะ
ให้เอายาส้มผสมน้ำ�ให้มีรสพอรู้สึกเปรี้ยว หยอดตาจะหายเจ็บ,หายแฉะ,หายจาก
เป็นตาแดง ตามลำ�ดับ การใช้ยาส้มรักษาโรคภายนอก นอกจากรักษาแผลแล้ว
ยังแก้อสรพิษต่างๆได้ดีอีกด้วย เป็นต้นว่า ตะขาบกัด แมลงป่องต่อย ปลาดุกยัก
ก็เอายาส้มใส่แก้ได้ ถ้าถูกพิษตะขาบหรือแมลงป่องใช้เข็มบ่งปากแผลให้มีเลือด
ออกนิดหน่อยเสียก่อน แล้วเอายาส้มใส่ที่แผล ความเจ็บปวดและอาการพิษอื่นๆ
จะหายในทันที สำ�หรับแก้ปวดฟันแมงกินฟันรากฟันเน่า ใช้สำ�ลีชุบยาส้มแปะที่
รูของฟันหรือรากฟันที่เน่า อาการปวดจะหายเป็นปลิดทิ้ง ฟันเป็นรำ�มะนาดและ
ลิ้นเป็นซางก็ใช้ยาส้มใส่ได้ผลดี ลิ้นเปื่อยเป็นแผลก็เช่นกัน อนึ่งสำ�หรับโรคเกี่ยว
กับฟันจะใช้กากของยาส้ม(ที่เหลืออยู่ในไหที่ใช้กลั่น)ก็ได้ กากนี้นำ�มาบดใช้แทน
ยาสีฟันก็ดี การเก็บรักษา ตัวยาส้มเป็นกรดชนิดหนึ่งจะบรรจุในภาชนะที่เป็น
โลหะต่างๆไม่ได้ เช่นสังกะสี หรือ ดีบุก ถ้าเอายาส้มใส่จะทะลุภายใน ๕-๑๐ นาที
ต้องใช้ภาชนะที่เป็นแก้วด้วย อย่าใช้ฝาจุกอย่างอื่นยาจะกัดผุหมด
หมายเหตุ ถ้ายาส้มหยดถูกเสื้อผ้าให้รีบเอาไปซักน้ำ�โดยเร็ว มิฉะนั้นผ้า
จะขาด การใช้ยาส้มรักษาโรคต่างๆนั้นห้ามใช้ตัวยาล้วนๆ นอกจากใช้รักษาแผล
และแก้พิษร้ายต่างๆ ตามธรรมดาต้องเจือน้ำ�หลายเท่า เวลามีคนมาขอท่านพระ
อาจารย์มักจะให้ยาที่เจือจางไว้ก่อนแล้ว ไม่ใช่ให้ตัวยาล้วนๆเพราะเกรงว่าเอาไป
171
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ใช้ไม่ถูกจะเกิดอันตรายขึ้น โดยเฉพาะการใช้ในโรคตาต้องเจือน้ำ�ให้อ่อนที่สุด
เพียงมีรสเปรี้ยวนิดหน่อยเท่านั้น
172
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาสั่ง หรือยาเบื่อ ยาให้เอา ยอดคูณ ๗ ยอด มดแดง ๗ ตัว ตำ�ผสมกันกินให้
หมด พอยานี้ตกถึงท้อง ยาสั่งหรือยาเบื่อจะถ่ายออกมาทันที ต่อไปจึงกินยาแก้
173
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
น ปเรสํ วิโลมานิ
น ปเรสํ กตากตํ
อตฺตนาว อเวกฺเขยฺย
กตานิ อกตานิ จ ฯ
ไม่ควรแส่หาความผิดผู้อื่น
หรือธุระที่เขาทำ�แล้วหรือยังไม่ทำ�
ควรตรวจดูเฉพาะกิจ
ที่ตนทำ�หรือยังไม่ทำ�เท่านั้น
174
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ว่าด้วยคัมภีร์อภัยสันตา
ปฐมตำ�รา จักษุแพทย์แผนไทย
คัมภีร์ อภัยสันตา
176
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ตัว ที่ไหล่ท้ายสะบักข้างขวา ๕ ตัว ข้างซ้าย ๓ ตัว หางคิ้วขวา ๕ ตัว ซ้าย ๓ ตัว
ต้อน้ำ�ราก เกิดแก่ตับ ให้มือเท้าเย็น ท่านให้ปล่อยปลิงข้างซ้าย ๓ ตัว หลังตาข้าง
บน ๒ ตัว ข้างซ้าย ๑ ตัว ชายกระเบนเหน็บขวา ๕ ตัว ซ้าย ๓ ตัว ที่นิ้วเท้าใหญ่
ขวา ๓ ตัว ซ้าย ๒ ตัว ที่ปลีน่องข้างขวารายไปจนถึงข้อเข่า ๕ ตัว ปลีน่องข้าง
ซ้าย ๓ ตัว ปลายจมูก ๑ ตัว แสกหน้า ๑ ตัว
สิทธิการิยะ จะกล่าวถึงกำ�เนิดแห่งต้อหมอก อันมีประเภทต่างๆ ตาม
อาจารย์กล่าวไว้ว่า เดือนห้า เดือนหก เดือนเจ็ด เดือนแปดนั้น เกิดเพื่อโลหิต
เดือนเก้า เดือนสิบ เดือนสิบเอ็ด เดือนสิบสอง นั้น เกิดเพื่อกำ�เดา เดือนอ้าย
เดือนยี่ เดือนสาม เดือนสี่ นั้น เกิดเพื่อเสมหะระคนกัน ท่านให้วางยาขับโลหิต
ออกเสียก่อนแล้วจึงให้ยาประจุ จึงใส่ยาอันเกิดเพื่อโลหิต ๓ ประการ ต้องกันแล
ถ้าบวมจักษุข้างเดียว ให้ปล่อยปลิง ๗ หน จึงราบ ถ้าเอกโทษก็ให้ยา ถ้าทุวัณ
โทษ ก็ให้เอายอดถั่วแปบพานเสียก่อนจึงใส่ยา ถ้าตรีโทษ ให้เอามีดเชือดเสีย
ก่อนจึงใส่ยา ต้อหนึ่งเกิดหลังจักษุ เกิดที่จักษุ แล้วงอกขึ้นประดุจฟองปลา ให้น้ำ�
จักษุตกเกิดเพื่อริดสีดวง ให้พานด้วยยอดถั่วแปบเสียก่อน แล้วจึงใส่ยา ต้อหนึ่ง
ให้น้ำ�จักษุตก และขนจักษุร่วงในจักษุแดง ชื่อต้อแนะเกิดเพื่อโลหิต ให้เอาโลหิต
ออกเสียก่อนแล้วจึงใส่ยา ต้ออันหนึ่งคู่กัน แลเห็นเพลิงมิได้ ชื่อว่าต้อฝี เกิดเพื่อ
สันนิบาต ต้ออันหนึ่งแลกลางคืนจึงมืด เกิดเพื่อกำ�เดา ชื่อต้อจักษุฟาง ต้อหนึ่ง
เมื่อนอนให้เจ็บกระบอกจักษุ จักษุเป็นดุจเยื่อไม้ เกิดเพื่อวาโย ต้อหนึ่งเมื่อเดิน
ไปจึงให้เวียนศีรษะ แลออกไปเป็นพรายๆ ดุจหิ่งห้อย เกิดเพื่อนอนมาก ต้อหนึ่ง
อยู่ดีๆ ฉุกเห็นสีแดงๆ เกิดเพื่อโลหิต และริดสีดวงให้เอาโลหิตออกเสียก่อนจึง
ใส่ยา ต้อหนึ่งอยู่ดีๆ ฉุกเห็นสีขาวหลัวๆ เกิดเพื่อกำ�เดา เอากำ�เดาออกเสียก่อน
จึงใส่ยา ต้อหนึ่งในจักษุ เหลืองเหมือนรุ้งกินน้ำ� เกิดเพื่อธาตุทั้ง ๔ มิได้เสมอกัน
ให้รับประทานยาธาตุปกติเสียก่อน แล้วทำ�ยาปิดวาโยและกำ�เดาเสียแล้วจึงใส่ยา
ต้อหนึ่งให้มึนตึงหูตึง เกิดเพื่อวาโย ให้รับประทานยาภายในเสียก่อน แล้วจึงใส่
ยาต้อหนึ่ง ให้จักษุแดงและแสบ เกิดเพื่อกำ�เดาและโลหิต ให้รมยาเสียก่อนแล้ว
177
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
จึงใส่ยา ให้สำ�รอกปลิงด้วยสุรา ล้างเมือกเสียแล้วเอาน้ำ�มะพร้าวใส่ลงในปลิง
ปลิงนั้นฟื้นขึ้น จึงเอาดินกับปลิงห่อกันเข้า ปล่อยปลิงเข็มอย่าสำ�รอกเลย พระ
ฤาษีประสิทธิ์ไว้เป็นแก่นสาร ถึงโรคภัยต้อก่อเกิด ๙ ประการ แพทย์จึงพานพึง
รู้อย่าดูเบา อย่างมเงอะเซอะซมเที่ยวรักษา พระตำ�ราเรียนรู้แต่ครูเฒ่า จงเห็น
แจ้งประจักษ์ที่หนักเบา อันต้อ ๙ ประการนี้ที่มีมา หนึ่งสีนิลกระจกปรอทขาว
กระจกเขียวแดงขาวเร่งรักษา กระจกหิ่งห้อย กระจกแววมยุรา กระจกหลังเบี้ย
หนา ตำ�ราทายเจ็ดประการนี้ต้อพอรักษา สามวันยาทาก็แห้งหาย กระจกขาว
เขียวดำ�ตำ�ราทาย บังเกิดร้ายโรคลมระดมมา แต่ปลายเท้าพัดเข้าถึงลำ�สอ เห็น
ยากที่แพทย์หมอจะรักษา ถึงสองปี สามปี ดังนี้มา ท่านทายว่าปวดศีรษะแทบ
ทะลาย แล้วเกิดขึ้นถึงจักษุประสาท สามารถมือหมอเห็นเกินหมาย ว่าต้อโทษลม
ระบมกาย โลหิตร้ายเจือลงให้วงเวียน หนึ่งโสด ต้อสลัก ต้อก้นหอย ท่านกล่าว
ถ้อยไม่ผิดสถิตย์เสถียร ต้อวิง ต้อเวียน ต้อกงเกวียน ตรีโทษพิษเพี้ยนว่าเพื่อลม
หนึ่งต้อวาโย ต้อเท้าสุนัข ต้อลิ้นสุนัขมายังมีถม ต้อเนื้อ ต้อหมอก ออกซานซม
ต้อโลหิต ต้อลม ๗ ประการ ต้ออันนี้เกิดเพื่อโลหิตและกำ�เดา เอกโทษนั้นเล่าเป็น
แก่นสาร ทุวัณโทษประหนึ่งกำ�หนดการ ถึงตรีโทษบรรหารเห็นตำ�รา ซึ่งออกฝี
ออกหัด ให้ตัดราก โรคนั้นยากที่แพทย์หมอจะรักษา อยู่ประมาณเดือนหนึ่งนั้นลง
มา จับหน้าผากขอบตานั้นแดงไป ฝีอภัยสันตาเดือนห้าเดือนหก เดือนเจ็ดเดือน
แปดนั้นยกอย่าสงสัย เกิดเพื่อเลือดลมระบมไป เดือนเก้า ถึง เดือนสิบสองในเขต
กำ�เดา เดือนอ้าย เดือนยี่ สาม สี่ นั้น เพื่อเลือด ไม่หายเหือดเลือดลมระบมเข้า
แม้นจะทำ�ยานั้นให้บันเทา ให้ประจุตามเค้าฉบับมา เอกโทษ ทุวัณโทษ ตรีโทษ
อย่าเฉาโฉดใส่ยาเร่งรักษา ลูกตาวิปริตผิดตำ�รา ชื่อว่าต้อมะเกลือเหลือพิไรหนึ่ง
ลูกตาแดงดังตานก จะหยิบยกพาทีคำ�ภีร์ไสย อาจารย์กล่าวตำ�ราว่าต้อไฟ เพื่อ
ไข้สันนิบาตปลาดคน ต้อหนึ่งให้มืดและหูตึง รู้มิถึงว่าลมนั้นเป็นต้น ในจักษุแดง
ให้มืดมน กำ�เดารนร้อนใจเร่งใส่ยา ถ้าโลหิตตำ�นานอาจารย์บอก ให้หมอกอก
เสียก่อนผ่อนรักษา จะปล่อยปลิงก็ได้ในตำ�รา จึงใส่ยาหายแดงอย่าแคลงใจ ถ้า
178
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
เพื่อลมระบมระบุอยู่ ให้เร่งรู้รักษาอย่าสงสัย อันโรคต้อที่นัยตา ท่านว่าไว้เหมือน
รักษาแก้วได้สองดวงดี พระตำ�หรับกำ�เนิดจะเกิดต้อ ยากที่หมอสานุศิษย์พระฤาษี
จึงตั้งแบบฉบับตำ�หรับนี้ ดูให้ดีพินิจพิจารณา โรคจะหายฤามิหายก็ให้รู้ พิเคราะห์
ดูตำ�หรับโบราณว่า เห็นเที่ยงแท้ตามอย่างจึงวางยา อันโรคาก็จะหายสบายเอย
สิทธิการิยะ ถ้าแลจักษุของผู้ใดให้เขม่นนัก เป็นเพื่อลม ถ้าแลเป็นตาแดงดัง
หิ่งห้อยนั้น เป็นเพื่อกำ�เดา ถ้าแลจักษุผู้ใด เห็นวับๆ แวมๆ เป็นเพื่อโลหิต เพื่อ
สันนิบาต ถ้าเป็นต้อขาวๆ ชื่อว่าต้อลิ้นสุนัข ถ้าแลเป็นระลอกเป็นหลุมท่ามกลาง
นั้น ชื่อว่า ต้อก้นหอย อันนี้ว่าครอบกันคือ ต้อกระจก ต้อสลัก ต้อกงเกวียน ต้อ
แก้ว เป็นที่หัวตา ต้อมะเกลือ เป็นที่หัวตาดำ� แลดูกระจกให้ขาวทึบ ถ้าแท้แล้วจึง
ใส่ยา ถ้าชอบร้อนจึงใส่ยาร้อน ถ้าชอบเย็นใส่ยาเย็น พระฤาษีซึ่งท่านแต่งไว้ ให้
โปรดคนทั้งหลาย ถ้าแพทย์ผู้ใดจะรักษาจักษุ ก็ให้พิจารณาจงดี อย่าหักหาญ จึง
จะเจริญไปชั่วนี้และชั่วหน้า ถ้าผู้ใดทำ�โดยขึ้งโกรธและแกล้งผู้นั้นให้เสียจักษุ หรือ
รู้มิถึงกระทำ�ผิด จะเกิดโทษ
179
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ดินสอพองเผา ๑ กำ�ยาน ๑ สีเสียดเทศ ๑ ยา ๘ สิ่งนี้ เอาสิ่งละ ๑ บาท ทองคำ�เปลว
๓ แผ่น เอา แก่นประดู่ ฝางเสน ต้มเป็นน้ำ�กระสาย บดทำ�แท่งไว้ ฝนหยอดตา
180
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาสุมแก้ลมกำ�เดาขึ้น ให้เวียน จักษุ จักษุมืด จักษุฟาง และจักษุลม จักษุขาว
ให้หนักศีรษะซุนไป ให้เจ็บปวดตามกระบอก จักษุ แสกหน้า และแสกผม เหตุ
ดังนี้เป็นโดยโทษลมระคนกับกำ�เดา ถ้าจะแก้ เอาผลมะกรูด ๓ ผล ไพล ๔ บาท
นึ่งให้สุก ดินประสิวขาว ๑ บาท ตำ�เคล้าน้ำ�ส้มมะขามเปียก พอกศีรษะ หาย
ขนานหนึ่งคู่กัน เอา ใบละหุ่งแดง ๑ ใบลำ�โพงกาสลัก ๑ ผลมะกรูด ๑ หัวดองดึง ๑
พริกไทย ๑ ขิงแห้ง ๑ เอาสิ่งละ ๑ บาท ต้มกับน้ำ�ส้มมะขามเปียกแทรกดินประสิว
เคี่ยวให้งวด แล้วเอาทั้งน้ำ�ทั้งกาก มาแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน เอาหัวหอม ๑ ส่วน
ไพล ๓ ส่วน ผสมกันเข้า บดสุม
181
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาชื่อ อินทรสังหาร เอาใบปีบ ๑ ใบฝักเค็ด ๑ พริกไทย ๑ ดีปลี ๑ ดินถนำ� ๑
ขิง ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ไพล ๑ หัวกะเทียม ๑ หัวหอม ๑ เอาสิ่งละ ๑ บาท บดด้วยน้ำ�
มะนาวเป็นกระสาย
สิทธิการิยะ จะกล่าวลักษณะต้อกระจก ๗ ประการ คือ ต้อนิลกระจก ๑
ต้อกระจกนกยูง ๑ ต้อกระจกหลังเบี้ย ๑ ต้อกระจกปรอท ๑ ต้อกระจกหิ่งห้อย ๑
ต้อกระจกแดง ๑ ต้อกระจกขาว ๑ เป็น๗ ประการด้วยกัน ดังนี้ ถ้ารักษาต้องด้วย
โรคจึงจะหาย แต่ต้อกระจก และต้อเสดกระจกนั้น รักษาไม่หาย ต้อทั้ง ๗ ประการ
นี้ เกิดเพื่อลมขึ้นมาแต่ฝ่าเท้า เมื่อขึ้นมานั้นให้เมื่อยตั้งแต่เท้าขึ้นมาถึงต้นคอ แต่
เมื่อยอยู่ดังนั้นประมาณสองปี สามปี แล้วจึงปวดศีรษะดังจะแตก แล้วผุดขึ้นมา
ในจักษุ ต้อกระจกทั้ง ๙ ประการ ซึ่งกล่าวมานี้ ต้องด้วยลักษณะตรีโทษ ต้อเพกา,
ต้อเนื้อ, ต้อลิ้นสุนัข, ทั้ง ๓ อย่างนี้เกิดเพื่อเส้น ต้อลำ�ใย และต้อทั้งหลายนั้น เกิด
เพื่อโลหิต อนึ่ง เดือน ๕,๖,๗,๘, ทั้ง ๔ เดือนนี้เกิดเพื่อโลหิต เดือน ๙,๑๐,๑๑,๑๒,
ทั้ง ๔ เดือนนี้ เกิดเพื่อกำ�เดา เดือน ๑,๒,๓,๔ ทั้ง ๔ เดือนนี้ เกิดเพื่อเสมหะระคน
กัน
สิทธิการิยะ ตำ�ราแพทย์ที่จะรักษาต้อกระจกทั้ง ๗ พึงรู้โรคยาให้สิ้น
เสร็จเล่ห์กลกัลเม็ดที่จะแก้จักษุโรคนั้น ให้แต่งยาสุมทุกวัน จึงกินยานั้นชะโลม
ไว้ อย่าให้ผูกพรรดึกแข็งเข้าได้ แล้วทำ�ยาพอกนิ้วเท้าใหญ่ทุกๆวัน แล้วให้ปล่อย
ปลิงเดือนละหน ข้างแรมจึงปล่อย ถ้าจักษุนั้นค่อยเห็นขึ้นแล้ว จึงทำ�ยาทาฝ่าเท้า
ให้รมถ่านสะแกให้ร้อนแต่พอทน ยาแห้งแล้วเอาอีกให้ได้ ๕ หน ให้ได้ ๓ คราว
คราวละ ๓ วัน ครั้นตัดรากลมแล้ว จึงทำ�ยาสุมต้อที่มืดไม่เห็นใต้ไฟนั้น เอารากมะ
รุมสดๆ บดให้ละเอียดสุมไว้ ๓ วัน จึงทิ้งเสียแล้วทำ�ใหม่สุมไปกว่าจะเห็น จึงงด
เอายานี้สุมไป เอามหาหิงค์ ๑ กำ�ยาน ๑ ยาดำ� ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ไพล ๑ ใบมะขาม ๑
ใบส้มป่อย ๑ ตรีกฏฺก ๑ เอาสิ่งละ ๑ บาท บดด้วยน้ำ�มะนาว สุมไปทุกวัน ๑๐ วัน
แล้วทิ้งเสีย ทำ�ใหม่แล
182
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาพอกนิ้วเท้าใหญ่ เอาสลัดได ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ กระเทียมครึ่งหัว บดพอกไว้ทั้ง
กลางวันกลางคืน
183
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แรม ๒ ค่ำ� ๔ ค่ำ� ๗ ค่ำ� ๑๑ ค่ำ� ๑๕ ค่ำ� ข้างขึ้นห้ามอย่าปล่อยเลย จะปล่อยปลิง
ต้อโลหิต ต้อกระจก ให้ปล่อยมาข้างท้ายขวัญ ๕ ตัว เลือกเอาแต่ตัวเติบๆ ต้นคิ้ว
ข้างละ ๒ ตัว แต่ปลายคิ้วมาถึงหูข้างละ ๙ ตัว ใต้หูอ่อนข้างละ ๑ ตัว ขากรรไกร
ข้างละ ๓ ตัว ต้นเล็บนิ้วเท้าใหญ่ข้างละ ๒ ตัว จะปล่อยปลิงนี้ขึ้นเดือน ๕ เดือน ๖
และเดือน ๗ ปลิงมีลูกเมื่อปล่อยแล้วเอายาสูบปะปากแผลเสีย ปลิงคายลูกไว้มิได้
สิทธิการิยะ จะรักษา จักษุ ปวด เคือง ให้นัตถ์ุยาเสียก่อนแล้วจึง
ใส่ยา อินทรเนตรแดง ถ้ามิฟัง เอาฝิ่นแทรกเป็นกระสาย สักเวลาหนึ่งสองเวลา
ถ้าฟังแล้วให้ใส่ฝิ่นต่อไป ถ้ามิฟังจงยักน้ำ�กระสายใหม่ เอาผลแตงกวาหมกไฟให้
สุก แล้วบีบเอาน้ำ�เป็นกระสาย ถ้ายังมิฟัง ให้ทำ�ยาสุมแก้พิษต่อไป เอา ดินประสิว
ขาว ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ต้นหางจรเข้ ๑ ฆ้องสามย่าน ๑ ใบทองหลางทั้ง ๒ ตำ�ลึงทั้ง ๒
แคทั้ง ๒ ใบมูลเหล็ก ๑ ใบสมี ๑ ใบพรมมิ ๑ ดินสอพอง ๑ หญ้าน้ำ�ดับไฟ ๑ บดพอก
กระหม่อมให้ได้ ๒ เวลา ถ้ายังไม่หายปวดให้ปล่อยปลิงเอาโลหิตร้ายออกเสีย ถ้า
ต้อควายออกแล้วแต่ยังไม่บริสุทธิ์ ให้เอายอดถั่วแปบพานจักษุเอาโลหิตออกแล้ว
ใส่ยาสมานต่อไป เอายา อินทรสังหารแทรกอินทรเนตรแดง ใส่ให้กระจายโลหิต
ถ้ายังไม่ปรกติจึงเอายอดถั่วแปบพานไปอีก ๓ ครั้ง ๔ ครั้ง แล้วใส่ยาไปกว่า
จะหาย
อนึ่ง ถ้าผู้ใดจะรักษาจักษุ ถ้านัตถ์ุยา ใส่ยาและสุมยายังไม่หายปวด และ
เป็นฝ้าปิดขึ้นไปแต่ขอบตาดำ�ข้างล่าง คล้ำ�เป็นเงาขาวออกไปจากตาดำ�ดังไขเนื้อ
เป็นดังนี้เรียกว่าต้อน้ำ� ถ้าขึ้นไปจักษุผู้ใด จักษุผู้นั้นจะบอด ถ้าจะรักษาให้ปล่อย
ปลิง ที่ขอบตาข้างล่าง ข้างละ ๕ ตัว ถ้ายังปวดอยู่ให้ปล่อยต่อไปอีก ๒ ครั้ง ๓
ครั้ง กว่าจะหายปวด
สิทธิการิยะ จะกล่าวกำ�เนิดต้อทั้งปวง คือ ต้อกงเกวียน ต้อก้นหอย
ต้อสลัก ทั้ง ๓ ประการนี้ เกิดแต่เท้าขึ้นมาอยู่ในระหว่างตรีโทษ ต้อลำ�ใย
ต้อลิ้นสุนัข ต้อสายโลหิต ต้อเนื้อ ต้อหมอก ต้อแดง ต้อเกลื่อน ทั้ง ๗ ประการ
นี้ เกิดเพื่อลม เพื่อกำ�เดา และโลหิต ถ้าเป็นเดือนหนึ่ง ว่าเอกโทษ พอรักษาได้
184
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ถ้าพ้นเดือนหนึ่งเป็นทุวัณโทษ ถ้าถึง ๘ เดือน ๙ เดือน ไปจนปีหนึ่ง เป็นตรีโทษ
รักษายาก ถ้าเป็นฝีหรือเป็นหัดก็ดี และเกิดต้อขึ้นที่ลูกตาได้ ๑๐ วัน เป็นทุวัณ
โทษ ถ้าพ้น ๑๐ วันขึ้นไป เป็นตรีโทษ รักษาไม่หาย
อาจารย์เจ้ากล่าวไว้ว่า ถ้าผู้ใดป่วยจักษุได้ ๑ เดือน ๒ เดือน ๓ เดือน ๔
เดือน ก็ได้ เกิดด้วยเสมหะ และลมกระทำ�โทษ ถ้าป่วยจักษุ ถึง ๕ เดือน ๖ เดือน
๗ เดือน ๘ เดือน เกิดด้วยโลหิตและลมกระทำ�โทษ ถ้าป่วยจักษุถึง ๙ เดือน ๑๐
เดือน ๑๑ เดือน ๑๒ เดือน เกิดด้วยกำ�เดาและลมกระทำ�โทษ ระคนกันอยู่ดังนี้ ถ้า
แพทย์จะรักษาให้พิจารณา ว่าป่วยได้กี่เดือน และอันใดกระทำ�โทษให้ฟอก กรอก
และปล่อยปลิงชำ�ระโทษนั้นๆ ออกเสียก่อนจึงใส่ยา
ถ้าลูกตาดำ�เป็นดุจผิวมะกรูด ชื่อว่าต้อมะเกลือ เกิดเพื่อดีเป็นตรีโทษ
อนึ่ง ให้ลูกตาแดงดังผลมะกล่ำ� ชื่อว่าต้อไฟเป็นเอกโทษ เกิดเพื่อนอนมากเกิน
ธรรมดา ต้อหนึ่งสีดังหงสบาท ชื่อว่าต้อรัตนโชติ เกิดเพื่อเสมหะและกำ�เดา เป็น
ลักษณะโทษ ต้อหนึ่งชื่อว่า ต้อตาแมว ลูกตานั้นช้ำ� ริมตานั้นใส ต้อเกลื่อน ก็
เรียก เกิดเพื่อดีเป็นตรีโทษ ต้อหนึ่ง ลูกตานั้นขาว ชื่อต้อฝ้าย เกิดเพื่อมาตุมคาม
ต้อหนึ่ง สีเขียวดังดอกอัญชัญ เกิดเพื่อดีและโลหิตเป็นมัชฌิมโทษ รักษาหาย
แต่ลูกตานั้นจะน้อยกว่าปกติ ต้อหนึ่งเกิดที่หลังตาก็มี ที่ลูกตาก็มี เกิดขึ้นดังกะ
เพาะปลา มักให้น้ำ�ตาตก ให้คันขอบตา ตานั้นแดง ต้อนี้เกิดเพื่อโลหิต ให้ชำ�ระ
โลหิตออกเสียก่อนจึงใส่ยา ต้อหนึ่ง แดงดังไฟ ชื่อว่าต้อฝี เกิดเพื่อสันนิบาต ต้อ
หนึ่ง เกิดเพื่อกำ�เดา กลางคืนมิเห็น ชื่อว่าต้อตาฟาง เป็นเอกโทษ
ต้อหนึ่ง เมื่อนอนมักให้เจ็บกระบอกตา เกิดเพื่อโลหิต และนอนมาก ชื่อ
ว่าเอกโทษ ต้อหนึ่ง เกิดที่ลูกตา เมื่อหายแล้วทำ�ให้ลูกตาหวำ�กลางหน่อยหนึ่ง
ชื่อว่าต้อธรณี เป็นทุวัณโทษ เกิดเพื่อทำ�การหนัก ต้อหนึ่ง เกิดที่ลูกตาดำ� หรือ
ลูกตาขาว ให้แข็งดุจกระดูก และพองออกมา ชื่อว่าต้อหูด เกิดเพื่อโลหิตและลม
ทั้ง ๒ ประการนี้ต่างกัน เป็นตรีโทษ ต้อหนึ่ง ให้ลูกตาเขียวไป มืดกว่า ต้อเพ็ชร์
เกิดเพื่อลม ให้นวดเสียก่อนจึงกินยา เป็นเอกโทษ ต้อหนึ่ง อยู่ดีๆ ให้ตาแดง เกิด
185
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
เพื่อโลหิตและริดสีดวง ให้เอาโลหิตออก เสียก่อนจึงใส่ยา ต้อหนึ่งให้จักษุลด เกิด
เพื่อกำ�เดา ให้เอาโลหิต กำ�เดาออกเสียก่อน จึงใส่ยากินยาประจุ ต้อหนึ่งนั้น ให้
จักษุเหลือง ดังขมิ้น สีดุจรุ้งกินน้ำ� เกิดเพื่อธาตุทั้ง ๔ ไม่เสมอกัน ให้กินยาธาตุ
เสียก่อนจึงใส่น้ำ�มันปิดกำ�เดาแล้วจึงใส่ยา ต้อหนึ่ง ให้ตามืดหูตึง เกิดเพื่อลม ให้
กินยาภายในก่อนจึงใส่ยา ต้อหนึ่ง ให้คายจักษุ จักษุหลับๆ ลืมๆ เกิดเพื่อกำ�เดา
และโลหิต ให้รมยาก่อนจึงใส่ยา ต้อหนึ่งให้เจ็บจักษุ เกิดเพื่อสรรพเคราะห์ ให้เส
ดาะเคราะห์เสียก่อนจึงใส่ยา ต้อทั้งปวงนี้ เป็นเอกโทษ ทุวัณโทษ ตรีโทษ รักษา
ได้บ้าง ตัดบ้าง
ต้อหนึ่งให้เจ็บจักษุ จักษุมืดๆ พรายๆ เกิดเพื่อมาตุคาม ถ้าจะใส่ยาให้งด
มาตุคามเสียก่อน ถ้าล่วง ตรีโทษมิหายแล ต้อหนึ่ง มักให้เวียนจักษุ ให้มืดจักษุ
จักษุเขียวดังปีกแมลงทับ ให้กินยาเสียก่อนจึงใส่ยา และเมื่อลักษณะจักษุจะมืด
นั้น ๔ ประการ
ประการหนึ่งเป็นเพื่อโลหิตลม, เสมหะ, กำ�เดา และเมื่อจะเจ็บนั้นให้เขม่น
จักษุอยู่ริกๆ จักษุมิสู้แดงนัก ขาวนัก เป็นจักษุลม ถ้าขาวออกเป็นเพื่อโลหิต เพื่อ
ลม ให้ประจุเสียก่อนจึงใส่ยา ถ้าเจ็บจักษุตุบๆ เหมือนมดกัด ให้เสียดแทง และ
นอนมิหลับ มีแสงพราวออกไปดังหิ่งห้อย ดังไฟ แดงเป็นหย่อมๆ เป็นเพื่อกำ�เดา
ให้ชำ�ระกำ�เดาเสียก่อนจึงใส่ยา แรกเจ็บจักษุนั้นให้น้ำ�ตาหล่อ รอบขุมจักษุเป็น
เพื่อเสมหะ ให้กินยาประจุเสียก่อนแล้วจงใส่ยา ถ้าแรกเจ็บจักษุ จักษุแดง แดง
ดังโลหิต เป็นเพื่อสันนิบาต เกิดพร้อมกัน เร่งใส่ยาจงได้ แพทย์ผู้ใดจะรักษา ให้
พิจารณาจงละเอียดจึงใส่ยา และคนผู้เจ็บนั้นให้ควั้นเทียนรอบศีรษะ เอาข้าวตอก
ดอกไม้ขอสมาโทษ เทพารักษ์ทั้งหลาย แล้วจึงใส่ยา
สิทธิการิยะ อาจารย์เจ้ากล่าวถึงต้อทั้งปวง ให้จักษุมืด ฟาง แฉะ เปียก
หมอก มัว ต้อเนื้อ ต้อสายโลหิต ต้อลำ�ใย ต้อลิ้นหมู ต้อตาแมว ต้อแววนกยูง
ต้อปีกแมลงทับ ต้อแมลงวัน ต้อน้ำ�ผึ้ง ต้อเกล็ดหอย ต้อมะเกลือ ต้อลิ้นสุนัข ต้อ
ทั้งหลายต่างๆ ดังกล่าวมานี้ เกิดแก่คนทั้งหลาย ถ้าเขม่นจักษุๆ พรายๆ ดุจดัง
186
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
หิ่งห้อย เกิดเพื่อกำ�เดา เพื่อโลหิต ถ้าจักษุแดง เป็นเพื่อสันนินาต ถ้าจักษุขาว
ชื่อต้อลิ้นสุนัข ถ้าจักษุขาวนั้นกลับแปรไปดังผลผักปลัง ชื่อต้อสลัก ต้อชุมนุมอยู่
ให้แพทย์พิจารณาดูลักษณะต้อจงจะแจ้งก่อน จึงวางยา และใส่ยา ถ้าชอบยาร้อน
ให้ใช้ยาร้อน ถ้าชอบยาเย็นให้ใช้ยาเย็น
ถ้าต้อก้นหอยนั้น เกิดแต่นิ้วเท้าใหญ่ ต้อสลักเกิดแต่ปลีน่อง ต้อตาแมว
ต้อแววนกยูง เกิดแต่หัวเหน่า ต้อหนึ่ง เห็นพรายๆ เกิดแต่สะดือและเม็ดน้อยๆ
รอบตา อยู่ในที่ตาดำ� ชื่อต้อรังผึ้ง รักษายากนัก
ต้อหนึ่งเกิดมาแต่ศีรษะ ยอดดำ�ดังหมอก กระวัดรอบจักษุ ชื่อต้อมะเกลือ
รักษาไม่หาย ต้อเพกา เกิดมาแต่รากขวัญ ต้อผักตบ เกิดมาแต่ยอดอกภายใน
ต้อเนื้อ ต้อสายโลหิต ต้อลิ้นสุนัข ต้อหมอก พยาธิหมู่นี้ เกิดเพราะรับประทานข้าว
เหนียว จึงบังเกิด
187
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาชื่อ รัตนโชต เอา บัลลังก์ศิลา ๑ ศิลาย่อน ๑ ดินถนำ� ๑ เบี้ยผู้เผา ๑ ดีปลี ๑
แก่นต้นเสมอไทย ๑ แก่นกำ�จาย ๑ แก่น มูลเหล็ก ๑ แก่นซ้องแมว ๑ เอาสิ่งละ
๑ สลึง พิมเสน ๒ ไพ บดด้วยน้ำ�เย็น ทำ�แท่งไว้ ฝนใส่ต้อช้าง ต้อหมอก ก็ได้
ยาชื่อ สุวรรณไกรลาศ เอา ชาดหรคุณ ๑ บัลลังก์ศิลา ๑ เม็ดในมะฝ่อ ๑ จันทน์
แดง ๑ เปลือกเม็ดมะขาม ๑ แก่นซ้องแมว ๑ เอาสิ่งละ ๒ สลึง พิมเสน ๒ ไพ
ทองคำ�เปลว ๕ แผ่น บดด้วยน้ำ� ดอกไม้เทศ ทำ�แท่งไว้ ใส่จักษุแก้ปวด แก้เคือง
ลืมมิขึ้น
188
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
รากส้มกุ้ง ๑ รากถั่วพู ๑ ลิ้นทะเล ๑ ดินถนำ� ๑ ฝาง ๑ ครั่ง ๑ สีเสียดเทศ ๑ เอา
สิ่งละ ๑ บาท ฝิ่น ๑ เฟื้อง ดีงูเหลือม ๑ เฟื้อง บดด้วยน้ำ�แก่นประดู่เสนต้ม เป็นก
ระสาย แก้ปวด แก้เคือง ถ้ามิฟังแทรกอินทสังหาร หน่อยหนึ่ง
189
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ตาดำ� เห็นต่างๆ นาๆ ชื่อว่าริดสีดวงต้อ แล ต้ออันงอกปิดตา เห็นดังใยขาว
ดาดไป ชื่อว่าต้อสลัก ต้ออันหนึ่ง เจ็บริมตา เบื้องบนเบื้องต่ำ�รับกัน เพราะเป็น
ริดสีดวงฝี ตายังดี แลไม่เห็นหนทาง เป็นเพราะกำ�เดาอันเจ็บทั่วทั้งตัว เป็น
เพราะลมปะกัง แล ตาดีถะลนและมือ เป็นเพราะเลือดตน ตาอันแดงและน้ำ�ตา
ออกชุ่มไซร้ ชื่อว่าต้อตาเปียก และ ต้ออันอยู่หัวตาและหางตา ชื่อว่าต้อเนื้อ ต้อ
ลามเข้าไปในตาดำ� ชื่อว่าต้อลิ้นสุนัข ตาอันริมแดง ขนตาหล่นดังผุยผง เมื่อ
แรกใส่ยาตา ให้โกนผมเสียก่อน ให้ขอดกำ�ด้น ครั้นค่ำ� จึงให้เอาส้มมะขาม
เปียกคั้นกับเกลือ ใส่สุมไว้จนรุ่งเช้าจึงบน ๓๓๐๐ ผ้า เพราะหมากเมี่ยงบังสก
ตัว เหล้าไหหนึ่งพลีเอา แล้วจึงใส่เอาแต่น้ำ�ไปให้ต้องอิถีภาพไซร้ แม้นหญิง
อย่าให้ผัวสร้องเสพด้วย ผู้ใดจะเอาตัวรอดทำ�ตามที่กล่าวมานี้เกิด ต้ออันขึ้น
ตาซ้ายเป็นเพราะลม ต้ออันขึ้นตาขวาเป็นเพราะเลือด ให้กรอกเอาเลือดออก
เสียจงหนักเถิด ในเมื่อแรกเกิด ตาเห็นใยดังแมลงหวี่ ตาเป็นดอกพึ่งขุ่นในตา
ครั้นเห็นสีเขียวแล้วมันแดงและมันดำ� จึงว่าต้อมะเกลือ และมันเขียว และมันขาว
ด้วยกัน จึงว่าต้ออันมันเข้ามาในหางตาดำ� เท่าแมลงหวี่ก็ดี เท่าปีกแมลงวันก็ดี
ชื่อว่าต้อลิ้นสุนัข ท่านให้เอา พริก ๑ ขิง ๑ กระเทียม ๑ หอม ๑ เอาสิ่งละ ๑ สลึง
ดีปลี ๑ เฟื้อง ดินถนำ� ๑บาท เอาหมักให้เย็น เอาดินถนำ� ๑ บาท ๒ สลึง บดด้วย
น้ำ�มะนาว ปั้มเป็นแท่งไว้ใส่ริดสีดวง ไม้ลัดตา ตาเปียก ตาแดง ชื่อ ละลอกสมุทร
ดินถนำ� ๒ บาท ขี้วัวสด ๑ บาท ลูกมะกอกอ่อน ๒ บาท พริกไทย ๑ บาท ขิง
๑ บาท หอมแดง ๑ บาท ๒ สลึง การะบูร ๒ สลึง พิมเสน ๑ สลึง ตุกกะต่ำ� ดิน
ถนำ� ๑ บาท บดด้วยน้ำ� ทำ�เป็นแท่งไว้ ชื่อรากคันทะ ตีค่าไว้ ตำ�ลึงทอง ๑ แล
ขนานหนึ่ง เอาน้ำ�มะรุมทะนาน ๑ น้ำ�ทองหลางทะนาน ๑ น้ำ�บอนเตาทะนาน ๑
น้ำ�ขิงทะนาน ๑ น้ำ�ชะเอมทะนาน ๑ น้ำ�ข้าวทะนาน ๑ เคี่ยวให้ข้น และเอาฝิ่นหนัก
๑ บาท พริกไทย ๑ ตำ�ลึง บทเป็นแท่งไว้ ใส่ตาริดสีดวง สรรพต้อทั้งปวงดีนัก แล
ขนานหนึ่ง เอาไพล ๑ กระชาย ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ดองดึง ๑ ขิงเท่ายาทั้งหลาย บด
ด้วยน้ำ�มะนาว ใส่ต้อสลักหาย แล
190
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ขนานหนึ่ง เอาสัตบุษ ๑ สมอเทศ ๑ เทียนดำ� ๑ เทียนขาว ๑ ดีปลี ๑ ดินถนำ�
๑ ตุ๊กกะต่ำ� ๑ รากพุดซ้อน ๑ รากอัญชันทั้ง ๒ รากทองหลางใบมน ๑ รากหมาก
ไฟ ๑ เอาเสมอภาค บดละลายน้ำ�มะนาว ทำ�เป็นแท่งไว้ ใส่ตาต้อเนื้อ ต้อสาย ต้อ
หมอก คลุ้มตา ใส่ให้งาม
191
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ยาทาตาซึ่งทำ�ให้ตาฟาง เอาลูกละมุด ๑ ลูกยาง ๑ ลูกมะกล่ำ�ขาว ๑ เอาเสมอ
ภาค บดด้วยน้ำ�ท่า ทาให้หาย
192
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
พริกไทยเท่ายาทั้งหลาย บดใส่ตาต้อเนื้อ ต้อสายลมเลือดเป็นบ้าหมู ก็หายแล
ยาขนานนี้ ชื่อพระอินทร์ แก้ตาหมอก เอา ดินถนำ� ๑ ขิง ๑ หอยขม ๑ ขมิ้น
อ้อย ๑ ขมิ้นอ้อยเอาเท่าน้ำ�มะนาว แช่ไว้คืน ๑ บดแท่งไว้ ใส่ตาได้ ๗ หน
ยานี้ ชื่อ ทิพจักษุ เอา ข้าวตากหุงให้สุก ตากแดดจนแห้ง พริก ๑ ขิง ๑ ดินถนำ� ๑
เท่ากัน ขมิ้น ๒ บาท ลูกจันทน์ ๑ บาท ดอกจันทน์ ๑ บาท กระทือ ๑ บาท พิมเสน
รำ�หัด บดด้วยน้ำ�มะนาว ใส่ตาสรรพต้อ แล
193
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
๑ ดอก ตำ�ลึง ๑ ดอก พุดตาล ๑ ดอก พุดซ้อน ๑ ดอก มะลิลา ๑ ดอก มะลิซ้อน
๑ ดอก ดินถนำ� ๑ ก้อน แล้วเอาน้ำ�ด่างเป็นน้ำ�กระสายบด
194
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
สารส้ม ๑ สีเสียดเทศ ๑ เปลือกประดู่ต้ม บดเป็นน้ำ�กระสาย ปั้นเป็นแท่ง ทั้งแดง
เล็กแดงใหญ่ ฝนกับน้ำ�ท่าและน้ำ�สุราโรง น้ำ�แตงกวาเผา น้ำ�ผักบุ้ง ถ้าปวดน้ำ�ฝิ่น
น้ำ�พิมเสนตัด ถ้ากัด น้ำ�หญ้าคา น้ำ�รากหญ้าไทร น้ำ�หญ้าชันกาด ดีตัด
195
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ประมวลภาพ
สมุนไพรบางชนิดในตำ�รายา
กระดอม กระตังบาย
กระตังบายเตี้ย กระเพราแดง
197
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
กอมก้อยลอดขอน กำ�แพงเจ็ดชั้น
ขมิ้นต้น ขันทองพยาบาท
198
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ข้าวบาเล่ย์ ข้าวเย็นเหนือ
ข้าวเย็นใต้ คนทีสอ
199
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ครอบตลับ จอกบ่วาย
จันทน์แดง เจียงปืน
200
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ชะลูด ช้างน้าว
ชาฤาษี ดองดึง
201
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ดีหมีต้น ดู่ทุ่ง
โด่ไม่รู้ล้ม ตะโกนา
202
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ตะคลอง ตาลโตนด
ตีนตั่ง ท้าวยายม่อม
203
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
แทงทวย ไทสงขาว
บ๋าซาด เปราะป่า
204
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ผักแพรว ผักเสี้ยนผี
พลูช้าง พิษนาศน์
205
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
พุดผา แฟบน้ำ�
มะขามป้อม มะคังแดง
206
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
มะคำ�ไก่ มะเดื่อชุมพร
มะตูม มะแว้งเครือ
207
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
มะแว้งต้น ระย่อม
รางแดง พญาเล็บครุฑ
208
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
โลดทะนงแดง ส้มกุ้งน้อย
ส้มซ่า สมอนั่ง
209
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
สลัดได สันพร้าหอม
ส้านใหญ่ หญ้าปีกไก่ดำ�
210
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
หม่อน หุ่นไห้
อบเชยจีน อุตพิด
211
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
คำ�ฝอย หญ้าลิ้นเป็ด
ว่านน้ำ� เทพทาโร
212
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
บรรณานุกรม
ประพต เศรษฐกานนท์. ประมวลตำ�รับยาไทย.
นนทบุรี : สำ�นักพิมพ์ศรีปัญญา, ๒๕๕๔.
ส.ศ. . รวมยาเกร็ด ตำ�รายาไทยรักษาโรคสำ�หรับเด็ก.
กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์อักษรเจริญทัศน์, มปป.
พระยาแพทย์พงศาพิสุทธาธบดี. หมอประจำ�บ้าน.
กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์อักษรนิติ, ๒๔๗๑.
เคน แก้วรังศรี. บันทึกตำ�รายาอีสาน. [ม.ป.ท., ม.ป.ป.] (เอกสารลายมือ)
พระธาตรี อุปฺปลวณฺโณ (ศีรษะใบ). บันทึกตำ�รายา ๑.
[ม.ป.ท., ม.ป.ป.] (เอกสารลายมือ)
พระธาตรี อุปฺปลวณฺโณ (ศีรษะใบ). บันทึกตำ�รายา ๒.
[ม.ป.ท., ม.ป.ป.] (เอกสารลายมือ)
วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม. พจนานุกรมสมุนไพรไทย.
กรุงเทพมหานคร : รวมสาส์น, ๒๕๓๗.
เสงี่ยม พงษ์บุญรอด. ไม้เทศเมืองไทย สรรพคุณของยาเทศและยาไทย.
กรุงเทพมหานคร : เกษมบรรณกิจ, ๒๕๒๒.
วัดพระเชตุพนฯ วัดโพธิ์ ท่าเตียน พระนคร. ประมวลสรรพคุณยาไทย ภาค ๑.
กรุงเทพมหานคร : วัดพระเชตุพนฯ วัดโพธิ์ ท่าเตียน พระนคร, ๒๕๒๑.
วัดพระเชตุพนฯ วัดโพธิ์ ท่าเตียน พระนคร. ประมวลสรรพคุณยาไทย ภาค ๒.
กรุงเทพมหานคร : วัดพระเชตุพนฯ วัดโพธิ์ ท่าเตียน พระนคร, ๒๕๒๑.
วัดพระเชตุพนฯ วัดโพธิ์ ท่าเตียน พระนคร. ประมวลสรรพคุณยาไทย ภาค ๓.
กรุงเทพมหานคร : วัดพระเชตุพนฯ วัดโพธิ์ ท่าเตียน พระนคร, ๒๕๒๑.
213
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
วุฒิ วุฒิธรรมเวช. สารานุกรมสมุนไพร รวมหลักเภสัชกรรมไทย.
กรุงเทพมหานคร : สำ�นักพิมพ์โอเดียนสโตร์, ๒๕๔๐.
วัดป่าอุดมสมพร. หนังสืออนุสรณ์งานศพพระอาจารย์ฝั้น อาจารเถระ.
ม.ป.ท., ๒๕๒๑.
ปรีชา พิณทอง. ตำ�รายาโบราณอีสาน.
อุบลราชธานี : โรงพิมพ์ศิริธรรมออฟเซ็ต, ม.ป.ป.
___________.หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพพระครูอุบลเดช
คณาจารย์ (ต่วน นิทฺเทสโก). [ออนไลน์].
ที่มา http://www.isangate.com/local/ya_hak_mai.html
(เข้าถึงเมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๗)
214
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ภาคผนวก ก.
ตารางเปรียบเทียบชื่อสมุนไพร
อีสาน-กลาง
ลำ�ดับ ชื่อสมุนไพร ชื่อสมุนไพร ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์
อีสาน กลาง
1. กอกด่อน มะกอกโคก Shrebera swieteniodes Roxb. Oleaceae
2. กางของ ปีป Millingtonia hortensis L.f. Bignoniaceae
3. ก้านตง คันทรง Colubrina asiatica L. ex Brongn. Rhamnaceae
4. ก่าม กุ่มน้ำ� Crateva religiosa Ham. Capparaceae
5. กุ่ม กุ่มบก Crateva adansonii DC. subsp. Capparaceae
trifoliata (Roxb.) Jacobs
6. แก สะแก Combretum quadrangulare Kurz. Combretaceae
7. ขามแป มะขามเทศ Pithecellobium dulce (Roxb.) Fabaceae
Benth.
8. ข้าวหมิ้น ขมิ้น Curcuma longa L. Zingiberaceae
9. ข้าวหมิ้นต้น ขมิ้นต้น Mahonia siamensis Takeda Berberidaceae
10. ขี้สูด ชันโรง Trigona laeviceps Apidae
11. เขียบ น้อยหน่า Annona squamosa L. Annonaceae
12. เขื่อขื่น มะเขื่อขื่น Solanum aculeatissimum Solanaceae
Jacq.
13. เขือผ่อย มะเขือเปราะ Solanum xanthocarpum Schrad. & Solanaceae
Wendl.
14. คีไฟนกคุ้ม โด่ไม่รู้ล้ม Elephantopus scaber L. Asteraceae
215
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ลำ�ดับ ชื่อสมุนไพร ชื่อสมุนไพร ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์
อีสาน กลาง
15. เครือกอฮอ บอระเพ็ด Tinospora crispa (L.) Miers ex Menisperma-
Hook.f.& Thomson ceae
16. เครือตาปลา เถาวัลย์เปรียง Derris scandens Benth. Papilaoneae
17. แค้ง มะเขือพวง Solanum torvum Sw. Solanaceae.
18. งวงซุ่ม งวงสุ่ม Calycopteris floribunda (Roxb.) Combretaceae
Lam.
19. จางจืด รางจืด Thumbergia laurifolia Lindl Acanthaceae
20. จำ�ปาแดง ลั่นทมแดง Plumeria rubra L. Apocynaceae
21. จีนายก้อม แสยก Pedilanthus tithymaloides (L.) Euphorbiaceae
Poit.
22. ชายซู่ต้น ชิงชี่ Capparis micracantha DC. Capparidaceae
23. ซาตรี คำ�ไทย Bixa orellana L. Bixaceae
24. ดูกใส ขันทอง Suregada multiflorum (A.Juss) Euphorbiaceae
พยาบาท Baill.
25. ดูกหีน มะดูก Siphonodon celastrineus Celastraceae
26. ต้นสีไค ตะไคร้ Doragag Staph Poaceae
27. ตาไก้ กำ�แพงเจ็ดชั้น Salacia chinensis L. Celastraceae
28. ต้างไก่ กระตังใบ Leea indica (Berm.f.) Merr. Vitaceae
(Leeaceae)
29. ตาเสือ ตาเสือ Amoora culcullata Roxb. Meliacea
30. ท้องแล่ง นมแมวป่า Polyalthia evecta (Pierre) Finet Annonaceae
&Gagnep.
31. นางแซ่ง โลดทะนง Trigonostemon reidiodes (Kurz) Euphorbiaceae
32. น้ำ�นมราชสีห์ น้ำ�นมราชสีห์ Euphorbia hirta L. Euphorbiaceae
33. นูดหอม ชะลูด Alyxia reinwardtii Blume var. Apocynaceae
lucida Markgr.
216
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ลำ�ดับ ชื่อสมุนไพร ชื่อสมุนไพร ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์
อีสาน กลาง
34. บ้าลาย สะบ้าลาย Mucuna interrupta Gagnap.cape L. Fabaceae
35. บีคน ราชดัด Brucea javanica (L.) Merr. Simaroubaceae
36. บีปลาค่อ ดีปลาช่อน Tacca chantrieri Andre Taccaceae
37. ปีบปีแดง เจตมูลเพลิงแดง Plumbago indica L. Plumbagina-
ceae
38. ปีปปีขาว เจตมูลเพลิงขาว Plumbago zeylanica L. Plumbagina-
ceae
39. ผักกาดหย่า ช้าเลือด Caesalpinia mimosoides Lamk. Fabaceae
40. ผักขา ชะอม Acacia Insuavis, Lace Mimoseae
41. ผักชีช้าง รากสามสิบ Asparagus racemosus Willd. Asparagaceae
42. ผักบั่ว ต้นหอม Alliumcepa var. aggregatum Alliaceae
43. ผักอีฮุม มะรุม Moringa oleifera Lam. Moringaceae
44. นมงัว ฝีหมอบ Polyalthia cerasoides ( Roxb. ) Annonaceae
Benth. ex Bedd.ST
45. พันชาติ พันชาด Erythophleum succirubrum Leguminosae-
Gagnep. ceae
46. พิลา ทับทิม Punica granatum L. Punicaceae
47. แพงกำ�ฮ้อย ฮ่อสะพายควาย Suregada multiflorum Baill. Euphorbiaceae
48. กอสาย มะละกอตัวผู้ Carica papaya L. Caricaceae
49. มาด กำ�มะถัน Sulphur -
50. มุยด่อน มะคังขาว Tamilnadia uliginosa (Retz.) Rubiaceae
Tirveng. & Sastre
51. มุยแดง มะคังแดง Gardenia erythroclada Kurz. Rubiaceae
52. ย่านเขาขี้มิ้น ขมิ้นเครือ Arcangelisia flava (L.) Merr Menisperma-
ceae
53. ยาหัว ข้าวเย็นเหนือ Smilax corbularia Kunth. Smilaceae
217
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ลำ�ดับ ชื่อสมุนไพร ชื่อสมุนไพร ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์
อีสาน กลาง
54. เว่อ ส้มมะงั่ว Citrus ichangensis Swingle Rutaceae
55. ส้มผ่อ ข่อย Streblus asper Lour. Moraceae
56. ส่องฟ้า โปร่งฟ้า Murraya siamensis CRAIB Rutaceae
57. สะมัด หัสคุณไทย Micromelum minutum (Forst.f.) Rutaceae
58. สียายอน จุนสี Copper(II) sulfate -
59. หญ้าโคยงู พันงูแดง Cyathula prostrata (L.) Blume Amaranthaceae
60. หนามแท่ง หนามแท่ง Catunaregam tomentosa (Blume Rubiaceae
ex DC.)Triveng
61. หมอยสาวแก่ ลิเภาหนู Lygodium flexousum Sw. Schzaeaceae
62. หมากเขือบ้า ลำ�โพง Datura metel L. var. fastuosa Solanaceae
(Bernh.) Danert.
63. หมากแตก กระทงลาย Celastrus paniculatus willd. Celastraceae
64. หมากเหลื่อม มะกอกเกลื้อน Canarium sabulatum Guillaumin Burseraceae
65. หยิกบ่ถอง ปลาไหลเผือก Eurycoma longifolia Jack. Simaroubaceae
66. หวดข้า มะหวด Lepisanthes rubiginosa (Roxb.) Sapindaceae
Leenh.
67. หว้านไฟ ไพล Zingiber cassumunar Roxb. Zingiberaceae
68. หินส้ม สารส้ม Alum -
69. หูลิง แฟบน้ำ� Terminalia tripterordws Craib. Combretaceae
70. อ้อยช้าง อวดต้น Albizia myriophylla Benth. Leguminosae
71. อีเลิศ ช้าพลู Piper sarmentosum Roxb. Piperaceae
72. เอนอ่อน เถาเอ็นอ่อน Cryptolepis buchanani Roem. & Asclepiadaceae
Schult.
73. เอ็นอ้า โคลงเคลง Melastoma malabathricum Melastomata-
L.subsp. malabathricum ceae
218
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ภาคผนวก ข.
ชื่อโรคอีสานที่ปรากฏในตำ�รา
โรคคะยือ
โรคคะยือ (หืด) เป็นโรคจำ�พวกหนึ่ง เกิดเสลดขึ้นที่ปอด ปอดเป็นอวัยวะ
เกี่ยวกับการหายใจเข้าออกถ้าปอดไม่มีเสลด อาการหายใจก็สะดวก หากมีเสลด
จะหายใจฝืด หอบและเมื่อย เมื่อมีอาการหนักจะถึงแก่ชีวิต โรคคะยือมักกำ�เริบ
ในเวลาอาการเปลี่ยนแปลงจากฤดูฝนไปสู่ฤดูหนาว ในระยะนี้ผู้เป็นคะยือจะต้อง
ลำ�บากเกี่ยวกับการหายใจ คะยือโบราณว่าไว้ว่ามีเพียง ๒ อย่าง คือ คะยือบ้อง
ขวาน คะยือแมว
ที่มีชื่ออย่างนี้ คงสันนิษฐานจากอาการของโรค ที่เรียกคะยือบ้องขวาน
ยังหาหลักฐานที่แน่นอนไม่ได้ แต่เข้าใจว่าจะเกิดเพราะอาการหายใจฝืดจึงเรียก
ชื่อเช่นนั้น ส่วนที่เรียกว่าคะยือแมว น่าจะหมายเอาคนที่หายใจเสียงดังเช่นแมว
โรคเกี่ยวกับเลือด
ก่อนอื่นควรรูจักคำ�ว่าคนเสียก่อน คำ�ว่าคนหมายถึงสภาวะสองอย่างคือ
รูปกับนามมารวมกันเข้า ถ้ามีแต่รูปขาดนามจะเรียกว่าคนเต็มที่ไปไม่ได้ รูปคือ
สิ่งที่มองเห็นได้ด้วยตา ซึ่งเรียกว่ารูปธรรม อรูปคือสิ่งที่มองด้วยตาไม่ๆได้ ซึ่ง
เรียกว่า นามธรรม
รูปธรรม ได้แก่ ธาตุที้สี่ คือ ดิน น้ำ� ลม ไฟ จำ�พวกที่เข้มแข็งจัดเป็นดิน
ได้แก่ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก เป็นต้น เหล่านี้เรียก
ธาตุดิน จำ�พวกที่อ่อนไหว ไหลไปไหลมาจัดเป็นธาตุน้ำ� ได้แก่ ดี เสลด หนอง
เลือด เป็นต้น เหล่านี้เรียกว่าธาตุน้ำ� จำ�พวกที่พัดปลิวไปจัดธาตุลม ได้แก่ ลม
พัดขึ้นเบื้องบน ลมพัดลงเบื้องล่าง ลมในท้อง ลมในลำ�ไส้ ลมพัดไปมา ลมหายใจ
219
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
เหล่านี้เรียกว่าธาตุลม จำ�พวกที่ทำ�ให้อบอุ่นจัดเป็นธาตุไฟ ได้แก่ ไฟที่ให้อบอุ่น
ไฟที่ทำ�ให้ทรุดโทรม ไฟที่ทำ�ให้กระวนกระวาย ไฟที่เผาอาหารให้ย่อย เหล่านี้
เรียกว่า ธาตุไฟ รวมดินน้ำ�ลมไฟทั้งสี่นี้เป็นรูปธรรม มองเห็นได้ด้วยตา
ส่วนอรูปธรรม คือสิ่งที่มองเห็นด้ยตาไม่ได้อีก ๔ อย่าง คือ เวทนา สัญญา
สังขารและวิญญาณ เมื่อรูปธรรมคือ ธาตุสื่อละอรูปธรรมคือเวทนา สัญญา สังขาร
และวิญญาณมารวมกันเข้า จึงสมมุติให้เป็นคน
ไข้หมากไม้
หมากไม้ เป็นชื่อของโรคชนิดหนึ่ง มีทั้งชื่อหมากไม้น้อยและหมากไม้
ใหญ่ การที่จะทราบว่าเป็นไข้หมากไม้ชนิดใดต้งดูลักษณะอาการของไข้ หมาก
ไม้กินเลือด ภาคกลางเรียกไข้รากสาด หมากไม้กินลำ�ไส้ ภาคกลางเรียกไข้ไท
ฟอยท์ หมากไม้ทกทื้น ภาคกลางเรียกไข้นกนางแอ่น ลักษณะของไข้หมากไม้
ของอีสาน คนอีสานเรียกชื่อไข้ว่าดังนี้
ไข้ที่มีอาการมึน(ชา)ไปทั่วร่างกายมีน้ำ�ลายไหลออกมาไม่ขาดดุจน้ำ�ลาย
หมาว้อ (หมาบ้า) ร่างกายแข็งแกรง พลิกไปไม่ได้เรียกไข้สาระบาดจับ
ไข้ที่มีอาการร้อนในกระหายน้ำ�กินน้ำ�ลงไปเท่าไรก็ไม่พออยากกินแต่น้ำ�
เรียก ไข้ออกเหือดไฟหลวง ไข้ที่มีอาการตีนเย็นมือเย็น เย็นตั้งแต่หัวถึงตีนคลำ�
ดูที่ไหนก็มีที่เย็นไม่อบอุ่นเลยเรียกว่าไข้ออกกล่อมนางนอน
ไข้ที่มีอาการไม่ร้อนและไม่กระหายน้ำ�เท่าไร แต่ยังอยากกินข้าวกินน้ำ�
อยู่มีอาการซึมเรียกว่า
ไข้เหือดจม
ไข้ที่มีอาการตาเหลือกตาซ้น ปากปิดปากเบี้ยว ผุดลุกผุดนั่งและขบ(กัด)
แข่ว (ฟัน) ขบคางอยู่ไม่ขาดเรียกไข้ออกเห่าหรือออกจงอาง
ไข้ที่มีอาการบ่มืน (ลม) หูมืนตา นอนหลับซึมเหมือนคนนอนหลับ เรียก ไข้แฮด
นอนซำ�
220
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ไข้ที่มีอาการนอนแลบลิ้นปลิ้นตา มีอาการดุจงูแลบลิ้นเรียก ไข้ออก
จงอางสับทำ�ทาน (งูจงอาง งูทำ�ทาน)
ไข้ที่มีอาการตีนเย็นมือเย็น แต่ไม่ทุรนทุรายดิ้นรนแสดง แต่มีอาการ
เย็นเท่านั้น เรียก ไข้ออกดำ�
ไข้ที่มีอาการดิ้นรนไปมา ฝ่ามือดำ� ฝ่าตีนดำ� เรียกว่า ไข้ออกเกียวดำ�
และออกเงาสับกับ
ไข้ที่มีอาการร้อน คือ ฝ่าตีนร้อน ฝ่ามือร้อน นอกนั้นไม่ปรากฏ เรียก
ไข้ออกเงาและออกแดงสับกัน อีกอย่างหนึ่งเรียกว่า ไข้ออกจงอางและออกมึก
สับกัน
ไข้ที่มีอาการร้อนบ้าง เย็นบ้าง คือ บางแห่งร้อน บางแห่งเย็น ส่วนตีน
และมือเย็น บางคนมีปวดหัวด้วย เรียกว่า ไข้ออกเหือดจมไฟ
ไข้ที่มีอาการเหมือนคนไม่ไข้ แต่พูดจาไม่ได้ ปากค้างคางแข็ง นอนมืน
ตาอยู่ เรียก ไข้คางแข็ง
ไข้ทม่ี อี าการปวดหลังปวดเอว มีอาการร้อนตามลำ�ตัวเรียก ไข้ออกเหือดไฟ
ไข้ที่มีอาการลงท้อง (ท้องร่วง) คือ ทั้งขี้ ทั้งฮาก ร้อนใน กระหายน้ำ�
เรียก ไข้ไฟลามโกน
ไข้ที่มีอาการเพ้อ นอนไม่รู้สึกตัว นอนมืนตาอยู่ ถามอะไรก็ไม่ได้ความ
เรียก ไข้ออกเหือดจม
ไข้ที่มีอาการกระวนกระวายนอนไม่รู้สึกตัว แข้งขาวิ่งไปมาตาแดงตาไว
กลอกกลิ้งก็ดี แก้มเหลืองหน้าผากเหลือง ตีนผมเหลือง เล็บตีนเล็บมือเหลือง
กินข้าวกินน้ำ�แล้วฮากออกก็ดี ขี้เหลืองเยี่ยวแดงก็ดีเรียกว่า ไข้ออกจงอางซาง
เหลือง
ไข้ที่มีอาการเจ็บหัวร้อนในกินน้ำ�ไม่ขาด แต่เหื่อ (เหงื่อ) ไม่ออก เหื่อ
ออกเฉพาะตรงหน้าผากเวลาหัน (หายใจ) ปากเบี้ยวปากบิด ขบกัดเล็บมือเล็บ
ตีน กินข้าวกินน้ำ�แล้วฮากออกหมด ฮากมีสีเหลืองดังขมิ้น หรือเวลาขี้เลาเยี้ยว
221
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
สีของขี้แหละเยี่ยวมีสีเหลือง สีแดงแดงเรียก ไข้จงอางเงาแกมเหือดจม
ไข้ที่มีอาการเย็นแต่หัวลงมาหาตีน ส่วนท่อนแขนไม่มีอาการเรียก ไข้
ออกจงอางปิ่นหัวขึ้น
ไข้ที่มีอาการร้อนที่ปลายมือปลายตีน ตามลำ�ตัวก็ร้อนเรียกว่า ไข้ออก
เหือดซาง
ไข้ที่มีอาการร้อนเสมอกันทั่วร่างกายเรียกว่า ไข้ออกเหือด
ไข้ที่มีอาการร้อนทั่วลำ�ตัว ร่างกายสีดำ� ตอนเช้าทุรนทุรายเหมือนเป็น
บ้า นอนหลับตาเรียกว่า ไข้ออกซางเมีย
ไข้ที่มีอาการสั่นร่างกายร้อนหนาวในถิ้ม (ทิ้ง) ตีนถิ้มมือไปมาดุจเป็นคน
บ้าเรียกว่า ไข้ออกเหือดซาง
ไข้ที่มีอาการทุเลาเป็นบางเวลา เช่น ตอนเช้าอาการทุเลาลง ตอนกลาง
คืนพอเด็กนอนหลับเริ่มจับไข้ ตอนไก่ขันไข้หนัก เรียกว่า ไข้ออกปานดำ�ปาน
แดงสับกัน
ไข้ที่มีอาการคันคายออกตุ่มเรียกว่า ไข้ออกเหือดช้าง
ไข้ที่มีอาการร้อนจัด ออกตุ่มสีแดงปลายตุ่มมีลักษณะแหลมเรียกว่า ไข้
หมากแดงน้อย
ไข้ที่มีอาการขึ้นๆลงๆ เวลาใกล้เที่ยงขึ้นครั้งหนึ่ง เที่ยงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
เวลามันขึ้นไม่มีเหื่อ นอนหลับตาไม่รู้สึกตัวเรียกว่าไข้เหือดจม
ไข้ที่มีอาการชักแอนชังแงนเหมือนดังหลังจักหัก เวลาไข้ขึ้นสะอื้น ตีน
มือชักเข้าหากันเรียกว่า ไข้ออกแงน
ไข้ที่มีอาการคัดอกคัดใจ หันใจฝืดเหื่อออกตีนผมชุ่มด้วยเหงื่อ เรียกว่า
ไข้ออกแดงหลวง
ไข้ที่มีอาการออกตุ่ม ที่หน้าผากและลำ�คอ ตุ่มนั้นเป็นเหมือนมึกควาย
ด่อน (ควายเผือก)เรียกว่า ไข้ออกมึกปลาเดิด
ไข้ที่มีอาการไอ หันใจฝืดเส่า (หอบ) และคัดหน้าอกเรียกว่า ไข้ออกเห่า
ห้อม
222
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ไข้ที่มีอาการร้อนจัดเลือดออกดัง (จมูก) ออกตามไรฟันเรียกว่า ไข้ออก
ท่อมเลือด
ไข้ที่มีอาการร้อนใน เย็นนอก ร่างกายสีเหลืองแสดงอาการกระวน
กระวาย เรียกว่า ไข้ออกเสียดน้ำ�
ไข้ที่มีอาการไม่เสมอกันตั้งแต่อกขึ้นไปหัว มีอาการร้อนมากตั้งแต่แอว
ลงไปหาปลายเท้ามีอาการร้อนพอประมาณร่างกายมีสีแดงเรียกว่า ไข้เสียดไฟ
ไข้ทม่ี อี าการร้อนพอประมาณแต่ปวดตามกระดูกวิง่ ไปวิง่ มาเรียกว่า ไข้ออก
มุมหมากตาล
ไข้ที่มีอาการร้อนจัดทุรนทุรายหนักอกสองสามวันต่อมาบวมตามแข็ง
ตามขาเรียกว่า ไข้ออกไฟตามโกน
โรคทราง
ทรางเป็นโรคชนิดหนึ่ง เป็นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เด็กเล็กและคนแก่
ทรางมักจะเป็นในเด็กมากที่สุด โดยเฉพาะเด็กที่พ่อแม่จน อาหารการกินไม่
สมบูรณ์ มักจะเกิดเป็นทราง เมื่อเป็นแล้วโรคทรางเกิดแก่ผู้เป็นลักษณะต่างๆกัน
ดังนั้นโบราณจึงตั้งชื่อทรางไว้ต่างๆกัน
ทรางที่มีลักษณะขี้ กินข้าวลงไปก็ขี้ กินน้ำ�ลงไปก็ขี้ อาหารหรือน้ำ�ไม่
เหลือในท้อง เรียกทรางขี้
ทรางที่มีลักษณะเป็นขี้ตา ตื่นเช้าขึ้นขี้ตาเต็มเบ้าตา หรือมีขี้ตาไม่ขาด
เรียกทรางขี้ตา
ทางที่มีลักษณะมืนตาไม่ได้ เมื่อมืนตาน้ำ�ตาไหล มีอาการคอตก เรียก
ทรางคอหัก
ทรางที่มีลำ�คิงเหมือนขมิ้นสีเหลือง ฝ่ามือดำ� เวลาจะขึ้นตั้งแต่ตะวันตก
ดินไปถึงรุ่งขึ้น เรียกทรางเหลือง
ทรางที่มีฝ่ามือฝ่าตีนเหลือง ขี้แฮ้ (รักแร้)ทั้งสองสีดำ�ไปถึงตีนผม กิน
น้ำ�ลงไปเสียงน้ำ�จะดังตั้งแต่ฮูคอถึงท้องเวลาไข้ขึ้นมีอาการป่วง ไข้จะมีอาการ
223
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ตั้งแต่ตะวันสอดขื่อ จนถึงเวลาตีกลองเดิก เรียดไข้ทรางขาว
ทรางที่มีลักษณะมึนตีนมึนมือ ตาแดงเป็นเลือด หนหวยดิ้นไปดิ้นมาไม่
หยุด เรียกทรางเมย
ทรางที่มีลักษณะปวดแข้งปวดขา ลำ�คิงเย็น ปลายตีนปลายมือขาว เรียก
ทรางหน้าดอก
ทรางที่มีลักษณะเมื่อไข้ขึ้นจะชักแอนชักแงนทุรนทุราย เรียกทรางแอน
ทรางแงน
ทรางที่มีลักษณะลำ�แข้ง ขา จ่อย ท้องใหญ่ กินอะไรลงไปขังอยู่ เรียก
ทรางขี้โผ้
โรคปะดง
ปะดงเป็นโรคชนิดหนึ่ง มีลักษณะคล้ายโรคทรางมีหลายชนิด คนที่เป็น
โรคปะดงส่วนมากเป็นคนที่มีอายุกลางคนขึ้นไป โดยมากเป็นผู้หญิงซึ่งมีร่างกาย
อ้วนท้วนสมบูรณ์ กินยาแก้ปะดงแล้ว ๒-๓ วัน โรคปะดงหายแล้วกลับเป็นขึ้น
ใหม่ คล้ายกับโรคดื้อยา ได้เคยถามหมอรักษาโรคปะดง หมอบอกว่าโรคนี้ตั้งชื่อ
ให้มันไม่ถูก ชื่อที่ถูกน่าจะเป็นป่าดง เพราะรักษาให้หายเด็ดขาดได้ยากเหลือเกิน
ชื่อของโรคปะดง โบราณว่าไว้ดังนี้
ไข้ที่มีอาการปวดร้อนตามร่างกาย ความร้อนวิ่งไปตามเส้นเอ็น เรียกปะ
ดงไฟ
ไข้ที่มีอาการเจ็บปวดตามส่วนของร่างกายหรือเจ็บปวดวิ่งไปตามเส้น
ตามเอ็นเรียกปะดงเส้นปะดงเอ็น
ไข้ที่มีอาการมึนตึงตามข้อมือข้อเท้าแข้งขาเดินไปมาไม่สะดวกถ้าป็น
หนักนอนอยู่กับที่ไปมาไม่ได้หรือพลิกไปมาไม่ได้ต้องอาศัยลูกหลานช่วยเหลือ
เรียกปะดงล่อย
ไข้ที่มีอาการฝีขึ้นเหมือนปลาเป้าหันใจฝืดบางครั้งผอมลง บางทีเรียกปะ
ดงไค่ ปะดงฟกก็ว่า
224
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ไข้ที่มีอาการคันตามลำ�ตัวบางทีเป็นตุ่ม บางทีไม่เป็นตุ่ม อาการคันนั้น
วิ่งไปตามเส้นตามเอ็นปะดงคัน
ไข้ที่มีอาการบวมตามลำ�ตัว ตามแข้ง ตามขา ตามหู ตามตา บางครั้ง
ก็แวบลง บางทีก็นูนขึ้นเรียกปะดงลม
ไข้ที่มีอาการชักแอนชักแงน ไข้ขึ้น ถ้าเวลาไข้ลงก็เป็นปกติเรียกปะดง
ชักแอนชักแงน ไข้ที่มีอาการเมื่อเวลาเป็นโรคจะมีอาการปวดหัวมัวตาเจ็บตาม
แข้งตามขาที่หนักที่สุดคือหัวเรียกปะดงถือหัว
ไข้ที่มีอาการวิงเวียนสวิงสวอยไปไม่รู้สึกตนตัว ต้องบีบคั้นเส้นเอ็นจึงรู้
สึกตัวเรียกปะดงวิน
ไข้ที่มีอาการเมื่อยตามตนตัว ยกมือยกขาไม่ขึ้น หรือขึ้นก็อ่อนเพลีย
เรียกปะดงเมื่อย ไข้ที่มีอาการเป็นจุดหรือตุ่มเล็กๆ สีแดง ตามแข้งขา หู ตา จมูก
หรือ ที่ใดที่หนึ่งเรียกปะดงเลือด
ไข้ที่มีอาการแน่นหน้าอก กินอาหารลงไปแล้วไม่ถ่าย หรือถ่ายแต่เพียง
เล็กน้อยเรียกปะดงลำ�ไส้
โรคสะดวง
สะดวง(ริดสีดวง) เป็นโรคจำ�พวกหนึ่งมีหลายชนิดเกิดในช่องตาเรียก
สะดวงตา เกิดในช่องจมูกเรียกสะดวงดัง โรคสะดวงนี้เกิดได้ทั้งภายในและ
ภายนอกร่างกายเป็นโรคที่รักษาได้ยากบางชนิดทำ�ให้เสียโฉมไปก็มี เช่น เกิดที่
จมูกถ้าไม่รีบรักษาหรือรักษาแต่ยาไม่ถูกกับโรคทำ�ให้ดั้งจมูกยุบหรือเว้าแหว่งไป
ซึ่งเรียกว่า ดังวืกหรือวีกไปก็มีโรคสะดวงนี้โบราณเรียกชื่อต่างๆดังนี้
สะดวงดัง
สะดวงทวาร
สะดวงลำ�ไส้
สะดวงหงอก
สะดวงหนอง
225
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
สะดวงท้อง
สะดวงลิ้น
สะดวงตา
สะดวงเข้าข้อ
ถ้าเป็นสะดวงชนิดไหนจงเลือกใช้ตำ�ราแผนโบราณอีสานรักษาโรคสะดวงก็จะ
หายไปได้ตำ�ราเหล่านี้หมอยาอีสานใช้รักษาโรคสะดวงมาตั้งแต่ดึกดำ�บรรพ์
โรคสะเออะ
สะเออะ (สะอึก) เป็นโรคจำ�พวกหนึง่ คือการหายใจชะงักเนือ่ งจากกะบังลม
หดตัวช่องเสียงก็ปิดตามมาพร้อมกัน สะเออะบางชนิดถี่ บางชนิดห่าง สาเหตุ
ที่ทำ�ให้สะเออะอาจจะมีหลายอย่างบางอย่างเกิดจากวาโยกำ�เริบคือเกิดลมตีขึ้น
เบื้องบนมักปรากฏให้เห็นทั่วไปในบุคคลที่ไม่เจ็บป่วย สะเออะแบบนี้รักษาง่าย
หายทันที เมื่อเกิดสะเออะขึ้นมาให้เอาช้อนตักเอาน้ำ�ตาลทรายขาว ๑ ช้อน บีบ
มะนาวลงไปพอกลืนลงถึงท้องสะเออะจะหายทันทีไม่เชื่อทดลองดูได้
ส่วนสะเออะที่เกิดจากเจ็บป่วยเมื่อไข้ขึ้นสูงจะสะเออะทันทีอาการที่จะเอ
อะนั้นจะทำ�ให้ลำ�บากใจถ้ารักษาไม่ถูกจะสะเออะเป็นเวลาหลายวันแต่ไม่ทำ�ให้
ตายเป็นเพียงโรคแทรกซ้อนชนิดหนึ่งซึ้งทำ�ให้เกิดความตระหนกตกใจ
โรคสาระบาด
สาระบาดเป็นไข้ชนิดหนึ่ง ภาคกลางเรียกไข้สันนิบาตโรคชนิดนี้มักเป็น
ในคนแก่ไม่เลือกผู้หญิงหรือผู้ชายเวลาเป็นไข้ชนิดนี้จะมีอาการเหงื่อตกวิงเวียน
ไม่รู้สึกตัวเหมือนเป็นลมโดยมากมักจะเป็นในผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ โรคนี้ถ้ารักษา
ให้ถูกวิธีจะหายในทันทีทันใดหากรักษาไม่ถูกวิธีและวางยาไม่ถูกแก่โรคอาจจะ
ตายภายใน ๒๔ ชั่วโมง ชื่อของโรคและอาการของโรค หมอโบราณอีสานกล่าว
ไว้ดังนี้
ไข้ที่มีอาการร้อนตามร่างกายเหงื่อออกมักอาบน้ำ�เรียกสาระบาดไฟ
ไข้ทม่ี อี าการวิงเวียนปวดหัวมัวตากระดิกไปกระดิกมาเรียก สาระบาดวิน
226
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ไข้ที่มีอาการชักผลุดลุก ผลุดนั่ง หัวเราะวิงไปมา เรียกสาระบาดป่วง
ไข้ที่มีอาการนอนนิ่งไม่รู้สึกตัวใครจะทำ�อะไรก็ไม่รู้สึก เรียกสาระบาดจม
ไข้ที่มีอาการไม่พูดจาไม่ลืมตาหลับตาเหมือนคนนอนหลับเรียกสาระบาด
กุมภัณฑ์
ไข้ที่มีอาการมองดูใครจะพูดจะจากันที่ไหนใครจะทำ�อะไรมักมองไปเรียก
สาระบาดส่อง
ไข้ที่มีอาการปวดหัว การปวดหัวนั้นปวดเฉพาะหัวข้างขวาข้างซ้ายไม่ปวด
เรียก สาระบาดตัวผู้
ไข้ที่มีอาการปวดหัว การปวดหัวนั้นปวดเฉพาะหัวข้างซ้ายข้างขวาไม่ปวด
เรียก สาระบาดตัวแม่
ไข้ที่มีอาการปวดหัวหนักลุกไปมาไม่ได้ ไม่อยากข้าวอยากน้ำ� หูลายตา
ลายเห็นอะไรจำ�ไม่ได้ลักษณะเหมือนคนฝันแล้วตื่นขึ้นเรียก สาระบาดเลือด
โรคฮาน
ฮานเป็นโรคชนิดหนึ่งหมอแผนปัจจุบันเรื่องโรคกษัยโรคนี้เกิดในผู้ชาย
ที่ สู ง อายุ เ มื่ อ เกิ ด ขึ้ น แล้ ว ทำ� ให้ ผ อมแห้ ง แรงน้ อ ยกิ น ยากถ่ า ยยากโดยเฉพาะ
ปัสสาวะ เวลาถ่ายจะมีสีเหลืองขุ่นข้นและขัดลำ�กล้อง โรคฮานนี้มีหลายชนิดเช่น
ฮานน้ำ� ฮานเลือดเป็นต้น
โรคนิ่ว
นิ่วเป็นโรคภายในชนิดหนึ่งเกิดที่กระเพราะปัสสาวะ ถุงน้ำ�ดี เป็นต้น
เป็นโรคที่รักษายาก คนโบราณเป็นโรคนิ่วกันมากเนื่องจากกินน้ำ�ไม่สะอาด
ตะกอนของดินหรือหิน ไปนอนทับกันอยู่ที่กระเพาะปัสสาวะ คนโบราณใช้ยา
รักษา ถ้านิ่วโตยาก้อขับออกไม่ได้เว้นแต่นิ่วเล็กเมื่อกินยาเข้าไปยาจะขับไล่หลุด
ออกมา หมอแผนปัจจุบันใช้การผ่าตัดเอานิ่วออก นิ่วบางรายโตมากเมื่อเอามา
กองหลายๆราย นิ่วจะสูงคล้ายภูเขาเตี้ยๆ
227
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
โรคผ ำ�้
ฝีชนิดหนึ่งมักเกิดจากการทิ่มแทงด้วยเหล็กไล ขวากหนามหรือเกิดจาก
ก้าง เงี่ยงของปลา เป็นต้น มักปักอยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย เมื่อบาดแผล
หายสนิทแล้วเกิดอาการปวดขึ้น ลักษณะเช่นนี้แล โบราณเรียก ผ้ำ�
กินของผิด
การกินของผิด (แสลง) ก็เป็นโรคชนิดหนึ่ง จำ�ต้องรักษาถ้าไม่รักษา
ก็ไม่หาย คนที่กินของผิดส่วนมากเป็นคนป่วย เมื่อป่วยแล้วกินอาหารอะไร
แสลงต่อโรค โรคนั้นจะกำ�เริบขึ้น ผู้ที่กินของผิดมักจะเป็นผู้หญิงที่คลอดลูก คน
คลอดลูกจะคะลำ� (เว้น) ของกิน ถ้ากินอาหารอะไรที่มีรสลงไปมักจะไปแสลงกับ
โรค ดังนัน้ ยาแก้กนิ ของผิดของหมอโบราณจึงมีหลายขนาน ส่วนผูช้ ายทีเ่ จ็บไข้ได้
ป่วย เมื่อกินอาหารอะไรลงไปแล้ว อาหารจะไปแสลงกับโรคก็มีอยู่บ้างแต่ไม่มาก
เหมือนผู้หญิง
โรคฝี
ฝีเป็นโรคชนิดหนึ่ง เป็นทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ชนิดที่เป็น
ภายในโบราณเรียกฝีในท้อง แต่หมอแผนปัจจุบันเรียกวรรณโรค โรคฝีในท้อง
โบราณรักษาให้หายได้ยากมากส่วนโรคฝีภายนอกรักษาให้หายได้ไม่ยากนัก
ยาแผนโบราณเกี่ยวกับโรคฝีนั้นโบราณมีหลายขนาน ถ้าขนานหนึ่งรักษาไม่
หายก็เปลี่ยนไปรักษาขนานใหม่ โรคฝีโบราณมีหลายชนิดแต่ละโรคเรียกชื่อไป
ตามลักษณะของฝี ฝีนั้นโปราณเรียกชื่อต่างๆ ดังนี้
ฝีหัวเอ็น
ฝีที่นม
ฝีสำ�บาย
ฝีหัวบาน
ฝีปลาค่อ (ฝีที่เป็นแต่เอวลงมา)
228
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
ฝีในท้อง (วรรณโรค)
ฝีหัวเอี่ยน (หรือฝีที่ดูนเอี่ยน)
ฝีหัวคว่ำ�
ฝีปะอาก (ฝีที่เป็นแต่เอวขึ้นไป)
โรคฟก ไค่่
ฟก ไค่่ เป็นโรคจำ�พวกหนึ่ง มีหลายชนิด เกิดจากธาตุสี่พิการบางที
เรียกฟก บากที่เรียกไค่่ อาการที่เนื้อบวมช่้ำ�พราะถูกกระทบกระแทกอย่างแรง
เรียกฟก หรือฟกช้ำ�ดำ�เขียวก็ว่า อาการที่เนื้ออูมหรือนูนขึ้น เพราะอักเสบหรือ
ฟกช้ำ� เป็นต้น เรียกไค่บ้าง เรียกโป หรือโน ก็ว่า
โรค ตา หู จมูก
อวัยวะภายในได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ อวัยวะภายนอกได้แก่รูป
เสียง กลิ่น รส สัมผัส อารมณ์ อวัยวะภายในและภายนอกเกี่ยวถึงกันคือ ตาดูรูป
หูฟังเสียง จมูกดมกลิ่น ลิ้นชิมรส กายถูกต้อง ใจรับรู้อารมณ์ ถ้าอวัยวะภายใน
ไม่พิกลพิการจะใช้ประโยชน์ได้เต็มที่
ในอวัยวะภายใน ตาสำ�คัญที่สุด ถ้าตาพิกลพิการแล้ว จักเสียหายไปเป็น
อย่างมาก เนื่องด้วยตาเป็นอวัยวะที่สำ�คัญที่สุด ดังนั้น คนเราจึงเอาใจใส่และ
รักษาป้องกันมิให้ตาเสียหาย
โรคมะเฮ็ง
มะเฮ็ง (มะเร็ง) เป็นชื่อโรคชนิดหนึ่ง โรคที่เกิดทั้งภายในและภายนอก
ร่างกาย ที่เกิดภายในรักษายาก เพราะยาที่จะรักษาเข้าไปไม่ถึง ส่วนที่เกิด
ภายนอกรักษาง่าย เพราะมีวิธีการรักษาได้หลายอย่าง โรคมะเฮ็งเป็นโรคที่รักษา
ยากมาก เมื่อโรคนี้เกิดขึ้นแล้วจะทำ�ให้เนื้อเสียเนื้อเน่า หมอจึงจำ�เป็นต้องฆ่าเชื้อ
ของโรค เชื้อของโรคหมออีสานเรียกแม่ขี้มะเฮ็ง คือโรคชนิดนี้มีตัว จำ�เป็นต้อง
ฆ่าตัวหรือเชื้อให้ตายเสียก่อน จึงรักษาเนื้อทีหลัง ยาฆ่าเชื้อโบราณเล่าไว้ว่า ให้
229
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
เอาเขียดโม้ดิบมาฟักให้แหลกแล้วโรยที่ปากแผลนานประมาน ๓๐ นาที จึงเอาไฟ
เผา ขณะที่เผาไฟจะได้ยินเสียงแตก เสียงที่แตกนี้เรียกว่าแม่เฮ็งตายแล้ว การจะ
นำ�เอายาชนิดนีไ้ ปรักษาโรคมะเฮ็งทีเ่ กิดภายใน เป็นเรือ่ งทีท่ ำ�ไม่ได้ หมอจึงจำ�เป็น
ต้องวางยาขนานอื่นเข้าไปรักษา
โรคไอ
ไอ เป็นโรคชนิดหนึง่ เกิดขึน้ จากอาการทีล่ มพุง่ ขึน้ มาจากปอด โดยแรง
ทำ�ให้เกิดเสียงดังในลำ�คอ เรียกไอ โรคไอ นี้เกิดในบุคคลทุกจำ�พวกไม่เลือกเด็ก
หรือผูใ้ หญ่ โดยมากมักเกิดในบุคคลทุกจำ�พวกไม่เลือกเด็กหรือผูใ้ หญ่ โดยมามักเกิด
ในเวลาทีอ่ ากาศเปลีย่ นแปลงหรือในเวลาเป็นไข้ บางชนิดรักษาให้หายยาก
โรคขี้ทูด
ขี้ทูด (เรื้อน) เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง ทำ�ให้ผิวหนังเป็นผื่น ชนิดที่
ทำ�ให้ผิวหนังเป็นผื่นนี้ เรียกขี้ทูด ชนิดที่ทำ�ให้นิ้วมือนิ้วเท้ากุด เรียกกุฎฐัง โรค
ขี้ทูดและกุฎฐังนี้เป็นโรคที่รักษายาก สมัยโบราณโรคชนิดนี้ไม่ค่อยมีมาก ดังนั้น
ยารักษาโรคนี้จึงมีไม่มาก
โรคเกี่ยวกับลม
ในธาตุทั้ง ๔ คือ ดิน น้ำ� ไฟ ลม ซึ่งประชุมกันอยู่ในร่างกายของคน
เรานั้น แต่ละธาตุก็มีหน้าที่เป็นของตนเอง ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน หากธาตุหนึ่ง
ธาตุใดยิ่งหย่อนลงไป คือ ทำ�หน้าที่ของตนไม่สมบูรณ์ คือเกินไปบ้างขาดบ้าง
นั่นแสดงว่าธาตุพิการพิกลแล้ว โดยเฉพาะธาตุลมก็เป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำ�คัญ
ต่อร่างกาย ถ้ายิ่งหรือหย่อนไปเกิดความเสียหายเช่นลมหายใจ ถ้าหายใจเข้า
แล้วไม่หายใจออก ก็แปลว่า ความตายเหยียบย่างเข้ามาแล้ว ถ้าไม่รีบแก้ไข
ต้องตายอย่างแน่นอนโดยไม่ต้องสงสัย
230
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
โรคทำ�มะลา
โรคทำ�มะลา เป็นโรคชนิดหนึ่ง เป็นทั้งภายในและภายนอก ที่เป็นภายใน
เป็นในลำ�คอ ที่เป็นในลำ�คอเป็นได้สองชนิดคือ ชนิดหนึ่งเป็นตุ่มในลำ�คอ เป็นอยู่
นาน ๓-๔ วัน ตุ่มนั้นจะแตกมีหนองและเลือดไหลออกมา ชนิดที่เป็นตุ่มนี้ไม่ร้าย
แรง พอแตกแล้วก็จะหายไปเอง ชนิดที่เป็นเสลดนี้ร้ายแรงมาก ถ้ารักษาไม่ทัน
ท่วงที เสลดนั้นจะอัดรูคอตายในทันทีทันใด ทำ�มะลาชนิดอัดรูคอตายนี้ หมอแผน
โบราณเรียกทำ�มะลากักกืก ชายบ้านทั่วไปเรียกโรคไหลตาย ที่เรียกทำ�มะลากักกื
กนั้นเพราะเมื่อเป็นแล้วจะพูดไม่ได้ กายใจไม่ออก ถ้าไม่ขับเสลดในลำ�คอออก จะ
ตายในไม่กี่นาที โรคทำ�มะลาเป็นทั้งภายในและภายนอก มีชื่อเรียกต่างกันดังนี้
ทำ�มะลากักกืก
ทำ�มะลาอ้องควาย
ทำ�มะลาผ้งแก้ม
ทำ�มะลาเดือยไก่
ทำ�มะลาตัวผู้ตัวแม่
ทำ�มะลาจับลำ�คอ
ทำ�มะลาจับข้างหน้า
โรคกะบูน
กะบูนเป็นโรคจำ�พวกหนึ่ง มีหลายชนิด เป็นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
สาเหตุเกิดจากการเสียเลือดเนื้อ ผู้หญิงเวลาคลอดลูก เลือดที่เสียออกมาไม่หมด
หรือเวลาคลอดแล้วอยู่ไฟไม่ได้ กินอาหารที่แสลงต่อโรค เลือดที่เสียหมักหมม
อยู่ภายใน ถ้าไม่รุเลือดที่เสียออกมาให้หมด เลือดจะกลายเป็นพิษ อาการเช่นนี้
หมอแผนโบราณเรียกว่ากะบูนเลือด ส่วนผู้ชายก็เกิดโคกะบูนได้เหมือนกัน เช่น
ตกต้นไม้ ควายชน หรือทุบต่อยตบตีกัน เลือดที่เสียหมักหมมอยู่ภายในร่างกาย
231
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล
เรียกกะบูนเช่นกัน กะบูน นั้นมีหลายอย่างคือ
กะบูนเลือด
กะบูนลม
กะบูนท้อง
กะบูนเต่า
กะบูนเลือดได้แก่เลือดที่เสีย เลือดที่นี้ถ้ามีมากจะปรากฏเป็นก้อนเหมือนมะตูม
กะบูนลมได้แก่ลมที่เสียเป็นก้อนเช่นกัน กะบูนท้องได้แก่กะบูนเลือดหรือลมที่
เกิดในท้อง เมื่อไม่มีชื่อเรียกก็จะเรียกง่ายๆ ว่ากะบูนท้อง ส่วนกะบูนเต่าก็หมาย
ถึงกะบูนเลือดและลมนั่นเอง แต่เมื่อมันเกดขึ้นแล้วจะมีลักษณะคล้ายเต่า จึงเรียก
กะบูนเต่า
232
ประมวลตำ�รับยา อโรคยาศาล