Professional Documents
Culture Documents
์ มุฏฐานวินจ
ิ ฉั ย”
จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว
1. คัมภีร์สมุฏฐานวินิจฉัย กล่าวถึงเรื่ องใด
1. การค้นหาสาเหตุแห่งไข้, การวินิจฉัยโรค 2. การพยากรณ์โรค และไข้ต่างๆ
3. กองพิกดั สมุฏฐาน 4 ประการ 4. ถูกทุกข้อ
2. กองพิกดั สมุฏฐาน 4 ประการ คืออะไร
1. ธาตุสมุฏฐาน, อายุสมุฏฐาน, ฤดูสมุฏฐาน, กาลสมุฏฐาน
2. ธาตุสมุฏฐาน, ปิ ตตะสมุฏฐาน, วาตะสมุฏฐาน, เสมหะสมุฏฐาน
3. ธาตุสมุฏฐาน, อายุสมุฏฐาน, อุตุสมุฏฐาน, ประเทศสมุฏฐาน
4. เตโชธาตุสมุฏฐาน, วาโยธาตุสมุฏฐาน, อาโปธาตุสมุฏฐาน, ปถวีธาตุสมุฏฐาน
3. แพทย์ผเู้ รี ยนรู้สมุฏฐานทั้ง 4 ประการ ไว้อย่างรู้แจ้ง เรี ยกแพทย์ผนู้ ้ ี วา่ อย่างไร
1. มิจฉาญาณแพทย์ 2. เสฏฐญาณแพทย์
3. ทิฏฐิญาณแพทย์ 4. อายุรแพทย์
4. ธาตุสมุฏฐานทั้ง 4 กอง คือข้อใด
1. เตโชธาตุ, ปถวีธาตุ, ชิรนัคคีธาตุ, วาโยธาตุ 2. ธาตุดิน, ธาตุน ้ำ, ธาตุลม, ธาตุ
ไฟ
3. ธาตุดิน, เตโชธาตุ, ธาตุน ้ำ, อาโปธาตุ 4. อาโปธาตุ, ปถวีธาตุ, ธาตุดิน, ธาตุ
ลม
5. ในวสันตฤดู ในฤดู 3 เริ่ มนับตั้งแต่เมื่อไร ถึงเมื่อไร
1. แรม ๑ ค่ำ เดือน ๔ ถึง ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘
2. แรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ถึง ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒
3. แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๒ ถึง ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔
4. แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๐ ถึง ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๒
6. แรม ๑ ค่ำ เดือน ๖ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน๘ คือฤดูใดในฤดู ๖
1. คิมหันตฤดู 2. วสันตฤดู 3. วัสสานฤดู 4. สะระทะ
ฤดู
7. แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๐ ถึง ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ คือฤดูอะไร ในฤดู ๖
1. สะระทะฤดู 2. วัสสานฤดู 3. เหมันฤดู 4. ศิศิระฤดู
โรงเรียนสริ ภ
ิ จ
ั จ์การแพทย์แผนไทย หน ้า 1
แบบทดสอบ “พระคัมภีรส
์ มุฏฐานวินจ
ิ ฉั ย”
โรงเรียนสริ ภ
ิ จ
ั จ์การแพทย์แผนไทย หน ้า 2
แบบทดสอบ “พระคัมภีรส
์ มุฏฐานวินจ
ิ ฉั ย”
18. ในฤดู ๖ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๔ จนถึง ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ มีพิกดั สมุฏฐานอะไร เป็ นเหตุหลัก
และระคน
1. ปิ ตตะสมุฏฐาน มีเสมหะสมุฏฐานระคนให้เป็ นเหตุ
2. ปิ ตตะสมุฏฐาน มีวาตะสมุฏฐานระคนให้เป็ นเหตุ
3. วาตะสมุฏฐาน มีปิตตะสมุฏฐานระคนให้เป็ นเหตุ
4. วาตะสมุฏฐาน มีเสมหะสมุฏฐานระคนให้เป็ นเหตุ
19. ตั้งแต่แรกเกิดถึงอายุ ๑๖ ปี มีเสมหะเป็ นเจ้าเรื อน สมุฏฐานเสมหะมีกำลังโรคกี่องศา
1. ๑๒ องศา 2. ๑๐ องศา 3. ๗ องศา 4. ๙ องศา
20. กำลังโรค ๗ องศา เป็ นสมุฏฐานของอะไร
1. ปิ ตตะ 2. เสมหะ 3. วาตะ 4. ถูกทุกข้อ
21. ในวัยพาลปานกลาง นับตั้งแต่อายุเท่าไร ถึง เท่าไร
1. อายุแรกเกิดถึง ๑๖ ปี 2. อายุ ๑๖ ปี ถึง ๓๐ ปี
3. อายุ ๑๖ ปี ถึง ๓๒ ปี 4. อายุ ๓๐ ปี ถึง ๖๐ ปี
22. ในวัยพาลปานกลาง มีปิตตะสมุฏฐานเป็ นเจ้าเรื อน ถ้าเป็ นไข้ การดำเนินโรคจะเป็ นอย่างไร
1. มีเสมหะเป็ นต้นไข้ มีวาตะเป็ นที่สุด
2. มีปิตตะเป็ นต้นไข้ และเสมหะเป็ นที่สุด
3. มีวาตะเป็ นต้นไข้ มีปิตตะเป็ นที่สุด
4. มีวาตตะเป็ นต้นไข้ และเสมหะเป็ นที่สุด
23. ถ้าเป็ นไข้มีวาตะเป็ นต้นไข้ มีปิตตะเป็ นที่สุด มักเกิดในวัยใด
1. พาลทารก 2. พาลปานกลาง 3. พาลผูเ้ ฒ่า 4. อายุ ๑๖ – ๓๐ ปี
24. เสมหะกำเริ บในเวลาใด
1. เมื่อบริ โภคอาหารแล้ว และในเวลาพลบค่ำ
2. เมื่อตะวันเที่ยง และในเวลาอาหารยังไม่ยอ่ ย
3. เมื่อกาลบ่าย และเมื่ออาหารย่อยแล้ว
4. เมื่อบริ โภคอาหารแล้ว และเมื่อนอนหลับ
25. ในกาลเมื่อบ่ายก็ดี เมื่ออาหารย่อยแล้ว เมื่อนอนหลับ มีกระทรวงกาลสมุฏฐานอะไรกระทำ
1. ปิ ตตะ 2. วาตะ 3. เสมหะ 4. ถูกทุกข้อ
26. เมื่อตะวันเที่ยงก็ดี เมื่ออาหารยังไม่ยอ่ ย เมื่อเที่ยง เป็ นช่วงที่สมุฏฐานอะไรกระทำ และ
กำเริ บ
โรงเรียนสริ ภ
ิ จ
ั จ์การแพทย์แผนไทย หน ้า 3
แบบทดสอบ “พระคัมภีรส
์ มุฏฐานวินจ
ิ ฉั ย”
โรงเรียนสริ ภ
ิ จ
ั จ์การแพทย์แผนไทย หน ้า 4
แบบทดสอบ “พระคัมภีรส
์ มุฏฐานวินจ
ิ ฉั ย”
34. ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๕ ถึงแรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๕ (๒๐ วัน) เป็ นพิกดั อพัทธปิ ตตะ มีสมุฏฐานอะไร
ระคน
อย่างละกี่ส่วน
1. เสมหะสมุฏฐานกลางระคน ๑ ส่ วน / กำเดา กล้าระคน ๒ ส่ วน
2. เสมหะสมุฏฐานกลางระคน ๒ ส่ วน / กำเดา กล้าระคน ๑ ส่วน
3. พัทธปิ ตตะสมุฏฐานระคน ๑ ส่ วน / เสมหะสมุฏฐานระคน ๒ ส่ วน
4. พัทธปิ ตตะสมุฏฐานระคน ๒ ส่ วน / เสมหะสมุฏฐานระคน ๑ ส่ วน
35. แรม ๑ ค่ำ เดือน ๖ ไปจนถึงขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๘ เป็ นพิกดั ปิ ตตะสมุฏฐานอะไรระคน
1. วาตะ 2. เสมหะ 3. ศอเสมหะ 4. กำเดา
36. แรม ๑ ค่ำ เดือน๖ ไปจนถึงขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๗ (๒๐ วัน) มีสมุฏฐานอะไร กระทำเป็ นหลัก
และมีสมุฏฐานระคนอย่างละกี่ส่วน
1. พัทธปิ ตตะสมุฏฐาน / วาตะระคน ๒ ส่ วน / อพัทธปิ ตตะระคน ๑ ส่ วน
2. พัทธปิ ตตะสมุฏฐาน / วาตะระคน ๑ ส่ วน / อพัทธปิ ตตะระคน ๒ ส่ วน
3. อพัทธปิ ตตะสมุฏฐาน / เสมหะระคน ๒ ส่ วน / กำเดาระคน ๑ ส่ วน
4. อพัทธปิ ตตะสมุฏฐาน / เสมหะระคน ๑ ส่ วน / กำเดาระคน ๒ ส่ วน
37. แรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ไปจนถึงขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๙ (๒๐ วัน) เป็ นพิกดั อะไรกระทำเป็ นหลัก
และมีสมุฏฐานอะไรระคน อย่างละกี่ส่วน
1. หทัยวาตะสมุฏฐาน / ปิ ตตะระคน ๑ ส่ วน / สุ มนาวาตะระคน ๒ ส่ วน
2. หทัยวาตะสมุฏฐาน / ปิ ตตะระคน ๑ ส่ วน / สัตถกะวาตะระคน ๒ ส่ วน
3. สัตถกะวาตะสมุฏฐาน / ปิ ตตะระคน ๑ ส่ วน / หทัยวาตะระคน ๒ ส่ วน
4. สุ มนาวาตะสมุฏฐาน / ปิ ตตะระคน ๒ ส่ วน / สัตถกะวาตะระคน ๑ ส่ วน
38. แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๐ ไปจนถึงขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๑ (๒๐ วัน) เป็ นพิกดั อะไร เป็ นหลัก และมี
สมุฏฐานอะไร ระคน อย่างละกี่ส่วน
1. หทัยวาตะสมุฏฐาน / เสมหะระคน ๒ ส่ วน / สัตถกะวาตะระคน ๑ ส่ วน
2. หทัยวาตะสมุฏฐาน / เสมหะระคน ๑ ส่ วน / สัตถกะวาตะระคน ๒ ส่ วน
3. สุ มนาวาตะสมุฏฐาน / ปิ ตตะระคน ๒ ส่ วน / สัตถกะวาตะระคน ๑ ส่ วน
4. สุ มนาวาตะสมุฏฐาน / ปิ ตตะระคน ๑ ส่ วน / สัตถกะวาตะระคน ๒ ส่ วน
39. สันนิบาต มีกำหนดที่ กี่องศา
1. ๒๘ องศา 2. ๒๙ องศา 3. ๓๐ องศา 4. ๓๑ องศา
โรงเรียนสริ ภ
ิ จ
ั จ์การแพทย์แผนไทย หน ้า 5
แบบทดสอบ “พระคัมภีรส
์ มุฏฐานวินจ
ิ ฉั ย”
48. ตรี โทษปิ ตตะ ตั้งแต่เวลา ๔ โมงเช้า ถึง ๕ โมงเช้า มีสมุฏฐานอะไร กระทำอย่างละกี่ส่วน
1. ปิ ตตะ ๑ ส่ วน / เสมหะ ๔ ส่ วน / วาตะ ๑ ส่ วน
2. ปิ ตตะ ๒ ส่ วน / เสมหะ ๓ ส่ วน / วาตะ ๒ ส่ วน
3. ปิ ตตะ ๒ ส่ วน / เสมหะ ๒ ส่ วน / วาตะ ๓ ส่ วน
4. ปิ ตตะ ๑ ส่ วน / เสมหะ ๑ ส่ วน / วาตะ ๔ ส่ วน
49. ตรี โทษวาตะ ตั้งแต่บ่าย ๕ โมง ถึงย่ำค่ำ มีสมุฐานอะไร กระทำ อย่างละกี่ส่วน
1. วาตะ ๑ ส่ วน / ปิ ตตะ ๔ ส่วน / เสมหะ ๑ ส่ วน
2. วาตะ ๒ ส่ วน / ปิ ตตะ ๓ ส่ วน / เสมหะ ๒ ส่ วน
3. วาตะ ๒ ส่ วน / ปิ ตตะ ๒ ส่ วน / เสมหะ ๓ ส่ วน
4. วาตะ ๑ ส่ วน / ปิ ตตะ ๑ ส่ วน / เสมหะ ๔ ส่ วน
50. แรม ๑ ค่ำ เดือน ๔ จนถึง ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๕ พระอาทิตย์สถิตในราศีเมษ. มีสมุฏฐานอะไร
กำเริ บ
และสมุฏฐานอะไร ระคนให้เป็ นเหตุ
1. เตโชธาตุกำเริ บ พัทธะปิ ตตะระคนให้เป็ นเหตุ
2. วาโยธาตุกำเริ บ หทัยวาตะระคนให้เป็ นเหตุ
3. อาโปธาตุกำเริ บ ศอเสมหะระคนให้เป็ นเหตุ
4. ปถวีธาตุกำเริ บ หทัยวัตถุระคนให้เป็ นเหตุ
51. วาโยธาตุหย่อน ตั้งแต่ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๐ จนถึง ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ พระอาทิตย์สถิตใน
ราศีอะไร
1. เมถุน 2. ตุลย์ 3. กุมภ์ 4. มีน
โรงเรียนสริ ภ
ิ จ
ั จ์การแพทย์แผนไทย หน ้า 7