You are on page 1of 31

คัมภีร์ทิพย์มาลา

โรคในร่างกายแบ่งออกเป็ น 2 ประเภท
1. โรคที่เกิดเพื่อธาตุ
2. โรคที่เกิดจากเชื้อโรค มีแม่ มีตัว แบ่งออกเป็ น
2.1 มีไข้พิษ ไข้กาฬ 1-6 7-10
2.2 ไม่มีไข้ คือมะเร็ง 11-13 14-19
โรคที่รักษาง่าย
อสาทิยะโรค โรคที่รักษายาก
อติสัยโรค โรคที่รักษาไม่หาย

คัมภีร์ทิพย์มาลา กล่าวถึงลักษณะฝี (วัณโรค) ในร่างกาย


เกิดเพื่อจตุธาตุ และตรีสมุฏฐาน อันใดอันหนึง่ ซึ่งจะวิปริตเป็ น
ชาตะ จะละนะ โดยหย่อนพิการ ระคนกันเข้า แล้วตัง้ ต่อมขึน
้ มี
ประเภทต่างๆ ให้บุคคลทัง้ หลาย พึง่ เรียนรู้ไปเบื้องหน้า ซึ่งแต่ละ
อย่างมีลักษณะอาการ 19 ประการ ดังต่อไปนี ้

1. ฝี ปลวก
กระทำให้เจ็บใน
ทรวงอก
ที่ตงั ้ แห่งหัวใจ
ตลอดไปตามสันหลัง
ให้ผอมเหลือง
ให้อาเจียนออกมาเป็ นโลหิต
ไอเหม็นคาวคอ
บริโภคอาหารไม่ได้ นอนไม่หลับ

เกิดจากการอักเสบของ หัวใจ ปอด ตับ (น้ำดี) ร้าวแขนขา


ติดเชื้อที่ปอด เวลาพูดจะมีกลิ่นเหม็นมาก เสมหะเขียว เป็ นก้อน
ถุงน้ำดีอักเสบ การย่อยจะเสีย ตัวเหลือง ตาเหลือง หน้าเหลือง
ผอมลง เจ็บหน้าอก ร้าวสะบัก กินไม่ได้ นอนยาก เวลา 4 ทุม
่ ถึงตี
2 เป็ นเวลาของปิ ตตะ จะร้อนมาก

ยาแก้ฝีปลวก
ถ้าจะแก้ เอารากตะโกนา รากเป้ ง กำแพงเจ็ดชัน
้ ดอก
ลั่นทม รากกระทุงลาย รากคัดเค้า สิง่ ละ 2 บาท ขิงแห้ง ดีปลี
เจตมูลเพลิง เปลือกหอยแครง เบญจเหล็ก เบญจชุมเห็ดเทศ ราก
กำจาย สิ่งละ 1 ตำลึง ยาข้าวเย็น 5 ตำลึง ต้มกิน แก้ฝีปลวกหาย
ดีนักฯ
(คัดมาจาก ตำรายาศิลาจารึก วัดพระเชตุพนฯ ฉบับสมบูรณ์)
เอาเถาวัลย์เหล็ก เถาวัลย์เปรียง ดินแท่นปลวก รากพุมเรียง
ป่ า ยอดอ้อยแดง ยาข้าวเย็นทัง้ สอง เสมอภาค ต้มกิน แก้ฝีปลวก
หายดีนัก
เอาเถาวัลย์เหล็ก เชือกเขาหนัง รังมดลี่ รากพุมเรียงทัง้ 2
เถาวัลย์เปรียง ยาข้าวเย็น เสมอภาค ต้มกิน

2. ฝี กุตะณะราย
เมื่อบังเกิดให้ตงึ แน่นในทรวงอก
อาการกระทำพิษกลางคืน
มากกว่า กลางวัน
ให้จับสะบัดร้อนสะท้านหนาวไป
ทัง้ ตัว
บริโภคอาหารไม่ได้ นอนไม่หลับ

ถุงลมโป่ งพอง หายใจขัด แน่น


ทรวงอก อึดอัด ไม่มีเสมหะ เสลด
ไอแห้ง จะมีฝีเม็ดเล็กๆ ในหลอดลม หอบเหนื่อย หายใจขัด กลาง
คืนอากาศเย็น หลอดลมหดตัว ทำให้หายใจยากในตอนกลางคืน
เรียกฝี ในอก ถ้ามีเสมหะจะขาวไม่มีกลิ่นเหม็น
ปอดสามารถเกิดโรคได้คือ หืดเสมหะ (มีเสลดมาก) หืดลม
(เจอลมหายใจอึดอัด) และฝี กุตะณะราย เป็ นฝี ที่ก้านปอด

ยาแก้ฝีกุตะณะราย
เอาเบญจเหล็ก รากขีก
้ าทัง้ สอง รากประคำไก่ รากตองแตก
ยาดำ สิ่งละ 1 บาท ต้มตามวิธใี ห้กิน แก้ฝีกุตะณะรายหาย แลยา
ขนานนีเ้ ป็ นยาผ่าหัวฝี ให้แตก วิเศษนักฯ
(คัดมาจาก ตำรายาศิลาจารึก วัดพระเชตุพนฯ ฉบับสมบูรณ์)
เอารากทนดี รากมะนาว รากมะงั่ว รากส้มซ่า รากหิ่งหาย
ยอดลำเจียก บอระเพ็ด รากมะเขื่อขื่น รากมะแว้งทัง้ สอง ตำเอา
น้ำ สิง่ ละทะนาน น้ำมันงาทะนาน 1 หุงให้คงแต่น้ำมัน แล้วจึง
เอาเนระพูสี ดีงูเหลือม ฝิ่ นดิบ เปลือกประคำดีควาย สิ่งละ 1 สลึง
ทำเป็ นจุณ ปรุงลงในน้ำมัน ให้กินพอควรกำลัง เป็ นยาดับพิษฝี กุ
ตะณะรายดีนัก

ยารุฝีเมื่อบุพโพแตกแล้ว
เอาแก่นมะหาด แก่นปรู แก่นมะเกลือ แก่นสัก แก่น
แสมสาร เคี่ยวน้ำสิ่งละทะนาน มะพร้าวไฟ 1 ลูก หุงให้คงแต่
น้ำมัน แล้วจึงคุลีการเข้ากับน้ำยาทัง้ นัน
้ เคี่ยวไปให้เหลือแต่น้ำมัน
แล้วจึงเอาเมล็ดในสลอด 33 เมล็ด คั่วด้วยน้ำปลาร้าไหให้เหลือง
ทำเป็ นจุณ ปรุงลงในน้ำมันเอาไว้ให้เย็น ให้กินหนึ่งช้อนหอย เป็ น
ยารุ แก้ฝีกุตะณะรายนัน
้ หาย และรุสรรพฝี ทัง้ ปวงได้วิเศษนัก
เอาใบมะคำไก่ เจตมูลเพลิง ตรีกฏก
ุ กระเทียมทอก เสมอ
ภาค บดด้วยสุราทาข้างนอก เป็ นยาเกลื่อนฝี กุตะณะราย และดับ
พิษก็ได้ หายวิเศษนัก

3. ฝี มานทรวง
เมื่อบังเกิดกระทำให้ยอกเสียด
หายใจขัดในทรวงอก
เจ็บกลางวัน กลางคืน
ให้ไอเป็ นเสมหะเหนียว
ให้ซูบผอม
ให้แน่นหน้าอกเป็ นกำลัง

โรคน้ำในเนื้อเยื่อหุ้มหัวใจ ต้องเจาะ (ประจุ) น้ำออกจากเยื่อ


หัวใจ ถ้าจะแก้ ให้วางยาประจุเสียก่อน แล้วจึงกินยาประจำโรค
ต่อไป
ไม่มีเสมหะ ไม่เหม็นคาว ไม่ปวดหัว ไม่ปวดตัว

ยาแก้ฝีมานทรวง
ยาประจุฝีมานทรวง
เอาพริกไทย 7 เมล็ด ขิงสด 7 แว่น กระเทียม 7 กลีบ ข่าต้น
ทำเป็ นจุณ เคล้ายางสลัดไดสดตากแดดให้แห้งให้ได้ 7 ครัง้ เอา
หนัก 2 บาท บดทำแท่งตามวิธีเม็ดเท่าเมล็ดพริกไทย ให้กิน 3
เม็ด เป็ นยาประจุฝีมานทรวง แตกสิน
้ หายดีนัก
(คัดมาจาก ตำรายาศิลาจารึก วัดพระเชตุพนฯ ฉบับสมบูรณ์)

ยาประจำโรค
เอายาดำ 1 ส่วน เทียนดำ 4 ส่วน ยาข้าวเย็นทัง้ สอง สิ่งละ
10 ส่วน กระเทียม 11 ส่วน ต้นสาบเสือทัง้ ต้นทัง้ ราก 6 ส่วน ต้ม
กินตามสมุฏฐานธาตุ ถ้าจะถ่ายแทรกดีเกลือ กินตามธาตุหนักเบา
แล้วให้กินประจำไปทุกวัน จนกว่าจะหาย
เอาข้าวเปลือกคั่วให้ไหม้ชาม 1 ใบพลับพลึง 3 ใบ ทำเป็ น
จุณ พอกลงไว้ที่เจ็บนัน
้ แล้วจึงเอาใบบอนปิ ดบน ดับพิษฝี มาน
ทรวงหายดีนัก
เอาเปลือกทองหลางใบมน เปลือกกุ่มน้ำ เปลือกมะรุม
เปลือกโพบาย เปลือกกระทุ่ม มูลหมู เสมอภาค ต้มกิน
เอาเปลือกคาง เปลือกทองหลางใบมน ฝนเอาเท่ากัน
ละลายสุราให้กิน แก้ฝีมานทรวงทำให้ปวดนอนมิหลับ

4.ฝี ธนูธรวาต
เมื่อบังเกิดกระทำให้เจ็บ
หน้าอกตลอดสันหลัง
ให้ปวดขบเป็ นกำลัง ปวดเมื่อยไป
ทุกข้อ ทุกกระดูก
ให้วิงเวียน
บางทีทำให้ขัดอุจจาระ และ
ปั สสาวะ
ให้ท้องขึน
้ มิร้ว
ู าย
ให้ยอก จุกเสียดยอดอก
ซูบผอม บริโภคอาหารไม่ร้รู ส
ให้ตาแข็ง นอนมิหลับ
ให้ปวดกลางคืนมากกว่ากลางวัน
มีพิษต่างๆ
หัวใจ (หทัยวาตะ) น้ำดีพิการ มะเร็งลำไส้ใหญ่ ปวดหัว ปวด
กล้ามเนื้อ ปวดกระดูก จุกเสียด เกิดจากลำไส้ใหญ่ขับถ่ายไม่หมด
เมื่อเชื้อลงทำให้เกิดมะเร็ง อุจจาระ ปั สสาวะ ขัด จึงย้อนขึน
้ มาที่
กระเพาะ ปอด หัวใจ (ท้องขึน
้ จุกเสียด) น้ำดีไหลไม่ได้ กินไม่ได้
นอนไม่หลับ ปวดตอนกลางคืนมาก ให้รอ
ุ อก จะโล่งท้อง ลมทัง้ หมด
อยูท
่ ศ
่ี น
ู ย์กลาง คือสะดือ จะทำงาน อาการต่างๆ จะดีขน
ึ้
กินได้ อุจจาระได้ หายใจได้ อายุพอรักษาได้ ก็จะไม่ตาย

ยาแก้ฝีธนูธรวาต
เอาตะไคร้หางนาค ตะไคร้น้ำ รากต่อไส้ รากคา รากคนทา
รากพุมเรียงทัง้ สอง รากเท้ายายม่อม รากขีก
้ าทัง้ สอง เอาเสมอ
ภาค ต้มกิน ดับพิษฝี ธนูธรวาต อันบังเกิดภายในนัน
้ หายดีนก
ั ฯ
(คัดมาจาก ตำรายาศิลาจารึก วัดพระเชตุพนฯ ฉบับสมบูรณ์)
เอาเปลือกโพบาย รากชิงชี่ รากอัญชันขาว พริกไทย ขิงแห้ง
ดีปลี กระเทียม เอาเสมอภาค ต้มกิน เกลื่อนฝี ธนูธรวาต
เอาเปลือกเพกา สันพร้านางแอ เปลือกโพบาย เปลือกตะ
บาก ผักเป็ ดแดง เอาเสมอภาค ต้มกิน ดับพิษฝี ธนูธรวาต
เอารากยอ รากมะเขื่อขื่น รากซ้องแมว รากส้มกุ้งทัง้ สอง
แก่นกรันเกรา แก่นมะหาด แก่นแสมทะเล ยาข้าวเย็น กระดูกงู
เหลือม พริกไทย เสมอภาค ทำเป็ นจุณ ดองด้วยสุราฝั งข้าว
เปลือกไว้ 3 วันจึงกิน ดับพิษฝี ธนูธรวาต หายดีนัก
เอาใบถอบแถบ ใบพลูแก ใบมันเทศ ฆ้องสามย่าน ขมิน
้ ชัน
ยอดมะอึก ข้าวเบือ เอาเสมอภาค พอกฝี ข้างนอกให้ตรงยอดไว้
ปล่อง ดับพิษฝี ธนูธรวาต

5. ฝี รากชอน

เมื่อบังเกิดกระทำให้บวมเป็ นลำ
ขึน
้ ไปตามเกลียวปั ตคาต
ให้จับเป็ นไข้ สะท้านร้อน
สะท้านหนาว
ให้ขนลุกชันทุกขุมขน
ให้ตวั แข็งกระด้าง จะลุกนัง่ ให้ยอกเสียว ไหวตัวมิได้

ฝี ในกล้ามเนื้อ หรือเนื้อเยื่อระดับลึก ติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้


กล้ามเนื้ออักเสบ เป็ นพรรดึกประเภทหนึ่ง เกิดจากเส้นปั ตตฆาต
ทำให้ลมกุจฉิสยาวาตะ และโกษฐาสยาวาตะ ไม่ทำงาน ทำให้ถา่ ย
ไม่ได้ ให้ใช้ยารุเฉพาะเส้นปั ตตฆาตพิการ (ยาธรณีสัณธฆาต และ
ยาถ่ายธรรมดา ใช้ไม่ได้)
ลมสุนทรวาตเป็ นลมในช่องท้อง เป็ นลมพิเศษ

ยาแก้ฝีรากชอน
เอารากคัดเค้า รากผักเสีย
้ นผี รากย่านาง รากกะเพรา ราก
ก้างปลาแดง โคกกระสุน เสมอภาค ต้มด้วยสุรากิน แก้ฝีภาชร
ทอันบังเกิดภายในนัน
้ หายดีนักฯ

เอาพริกไทย ขิงแห้ง ดีปลี กระเทียม หัวเข้าค่า เกลือสมุทร


สิ่งละส่วน หัวดองดึง 6 ส่วน ทำเป็ นจุณ ทำเป็ นแท่ง ละลายน้ำ
กระสายอันควรแก่โรค กินหนัก 1 สลึง ให้กินแต่เมื่อฝี ยังมิเกิด
บุพโพ
ถ้าฝี ตัง้ บุพโพขึน
้ แล้ว และบุพโพแห้งไปก็ดี ท่านให้เอายานี ้
แทรกเข้า กระดาดทัง้ สอง อุตพิด บุกรอ สิ่งละส่วน หัวดองดึง 3
ส่วน ทำเป็ นจุณ ละลายน้ำกระเทียมให้กินหนัก 1 สลึง กินไป 4-
5 วัน แล้ว จึงกินยาประจุวันหนึ่ง

ยาประจุฝีรากชอน
เอาขิงแห้ง ดีปลี บุกรอ บอระเพ็ด เจตมูลเพลิง ผลมะตูม
อ่อน ผลสลอดสุทธิ สิ่งละ 2 ส่วน แห้วหมู สะค้าน โกฐเขมา สิ่ง
ละ 3 ส่วน ทำเป็ นจุณ ทำแท่งไว้เท่าเมล็ดข้าวโพด ให้กิน 3 เม็ด
ถ้าธาตุหนักกิน 5 เม็ด เป็ นยาประจุฝีรากชอน

6. ฝี ยอดคว่ำ
เมื่อบังเกิดกระทำให้ปวดอยู่
ที่ท้องน้อยล่วงลงไปถึงทวาร
หนัก
ให้ปวดตลอดไปหน้าตะโพก ให้เจ็บเป็ นเวลา
เป็ นไข้ สะบัดร้อน สะท้านหนาว
ให้ปวดแต่กลางคืน กลางวันคลายไปหน่อยหนึ่ง
กระทำพิษต่างๆ

Chocolate cyst เกิดที่ปลายกระดูกสันหลัง บริเวณท้อง


น้อย กระเพาะปั สสาวะ ฝี ช่องทวาร (อัคนีสันตฆาต) ฝี ที่กระเพาะ
น้อย ฝี ทรสูตร จะเป็ นตัวใดตัวหนึง่ ต้องครอบตัวอื่นไว้ อย่าให้
ลาม ต้องวางยา 3 ชุด

ยาแก้ฝียอดคว่ำ
เอารากขีก
้ าแดง รากก้างปลาแดง รากถั่วพู รากพุงดอ ราก
พุงแก เอาเสมอภาค ต้มกินแก้ฝียอดคว่ำ หายดีนักฯ
(คัดมาจาก ตำรายาศิลาจารึก วัดพระเชตุพนฯ ฉบับสมบูรณ์)
เอารากถั่วพลู ไพล กะทือ ขมิน
้ อ้อย ข่าตาแดง ข่าตานยา
รากขัดมอน หญ้าปากควาย หอมแดง กระพังโหม ตำเอาน้ำ สิ่ง
ละทะนาน น้ำมันงาทะนาน 1 หุงให้คงแต่น้ำมัน แล้วเอาไว้กิน
ตามกำลัง แก้ฝียอดคว่ำหายดีนักฯ
เอารากถอบแถบ ใบมะยม ใบส้มซ่า ใบมะขาม ฝั กมะขาม
ใบพุงดอ เอาเสมอภาค บดด้วยสุราพอกข้างนอก
7. ฝี รวงผึง้
เมื่อบังเกิดกระทำให้แน่นชาย
ตับเบื้องขวา
ให้ยอกตลอดสันหลัง
ให้ตัวเหลือง หน้าเหลือง ตา
เหลืองดุจขมิน
้ ปั สสาวะเหลืองดุจ
น้ำกรัก
ให้จับสะบัดร้อนสะท้านหนาว
ให้มึนตึง
ให้เมื่อยทุกข้อทุกกระดูก
ให้อิ่มไปด้วยลม
บริโภคอาหารมิได้

มะเร็งตับ ท้องด้านขวาจะนูนออกมาใหญ่ ปลายตับจะโดน


หัวตะฆาต แตกได้งา่ ย เกิดจากโลหิตเป็ นพิษ กลายเป็ นละออง
ลอยมาฝั งตัวที่ตับ เกิดเป็ นมะเร็งตับ (ริดสีดวงมหากาฬ (ตรี
สันนิบาต)) เมื่อมะเร็งหายต้องใช้ยาตัดราก จะไม่กลับมาเป็ นอีก
โดยใช้ปรอท สลอด 33 เมล็ด รงทอง ยางตาตุ่ม ยาดำ สตุ ฆ่าเชื้อ
ตรีฉินทลามกา ยังเป็ นยาอ่อน ไม่ได้ฆ่าเชื้อ

ยาแก้ฝีรวงผึง้
เอารากทนดี รากหนามแดง รากก้างปลาแดง รากตาไล
(ตะไล, คงคาเดือด) รากคนทา รากเปล้าใหญ่ รากย่านาง เอา
เสมอภาค ต้มกิน เมื่อจะกินเสกสัพพาสี 7 แล้วจึงกิน แก้ฝีรวงผึง้
ถ้าแก้หัวหนองแก่ ให้เพิ่มเปล้าใหญ่ขน
ึ ้ 2 ส่วน ต้มให้กินหาย ดัง
อาจารย์ท่านกล่าวไว้วิเศษดีนักฯ
(คัดมาจาก ตำรายาศิลาจารึก วัดพระเชตุพนฯ ฉบับสมบูรณ์)
เอาใบสะเดา ใบเสนียด ใบมะนาว ใบส้มป่ อย ใบขัดมอน
ไพล กระชาย ข้าวสารเหนียว เอาเสมอภาค บดด้วยน้ำมันดิบ
แล้วเอามารมควันไต้เสม็ด เคล้าให้เข้ากัน จึงเอามาพอกข้างนอก
เอาผ้าพันไว้ 3 วัน แก้ฝีรวงผึง้ หายวิเศษนักฯ

8. ฝี มะเร็งทรวง

เมื่อบังเกิดกระทำให้เป็ นมูกเลือดหลายครัง้ หลายหนดุจบิด


แล้วก็หายไป อยู่ๆ ก็กลับมาเป็ นอีก
ให้ปวดขบ ยอกเสียด จุกแดก แน่นหน้าอก เป็ นกำลัง
ให้ยอกตลอดสันหลัง วิงเวียน หอบ ไอ หิวหาแรงมิได้ ซูบ
ผอม
มักให้ครั่นตัว ให้เมื่อยทุกข้อ ทุกกระดูก
ปอด หัวใจ สมอง เกิดจากจุดต่อสลักเพชร เสียดสีแล้วขึน

สมอง ตามแนวกระดูกสันหลัง เส้นสัณฑฆาต 2 แนว ขึน
้ กระดูก
สันหลัง มาด้านหน้า ไปเส้นกาลทารี ผ่านหู ตา จมูก ปาก แขน
สองข้าง และจบที่สะดือ อิทา ปิ งคลา สุมนา (เส้นโลหิตกลับสู่
หัวใจ) ทำให้หัวใจผิดปกติทำงานหนัก จึงหอบ และวิงเวียน ถ้าไม่
รักษา จะแปรเป็ นฝี สุวรรณเศียร
คนแก่มักเป็ นโรคระบบประสาทประเภทนี ้ จึงใช้ยานีช
้ ่วยได้
การนวดแก้ได้ชั่วคราว แต่ไม่หาย สามารถผ่อนคลายได้

ยาแก้ฝีมะเร็งทรวง
เอาว่านกลีบแรด ว่านร่อนทอง รากไม้รวก จันทน์ทงั้ สอง แก่นสน
กรักขี ข่าตาแดง ยาข้าวเย็นทัง้ สอง สิ่งละ 2 ตำลึง รากชุมเห็ดไทย
เถาวัลย์เปรียงแดง สิ่งละ 5 ตำลึง สุราครึ่งหนึง่ น้ำครึ่งหนึ่ง เป็ นก
ระสายยา ต้มกิน
เอาโพกพาย เถาวัลย์เปรียงแดง โลดทะนง หัสคุณเทศ เอา
เสมอภาค ต้มกิน แก้มะเร็งทรวงหายดีนัก
เอาบอระเพ็ด เปลือกราชพฤกษ์ โพกพาย เถาวัลย์เปรียง
แดง ขมิน
้ อ้อยหัวใหญ่ เอาเสมอภาค ต้มกินแก้ฝีมะเร็งทรวง เริ่ม
ทำพิษต่างๆ แก้ฝีทัง้ 10 ประการ หายสิน
้ วิเศษดีนัก

9. ฝี ธรสูตร
เมื่อบังเกิดกระทำให้ปวดเจ็บสันหลัง
ให้เมื่อย ให้จุกแดกเป็ นกำลัง
ให้เสียดในอุทร ให้ซูบผอม บริโภคอาหารมิได้
มักกระทำพิษให้เป็ นไปต่างๆ

มะเร็งทวารหนัก ฝี ทวารหนัก ไม่ใช่ริดสีดวงทวาร เป็ นเม็ด


ไข่ปลารอบทวาร แตกทีละหัว เมื่อแตกแล้วจะกินเข้าข้างใน

ยาแก้ฝีธรสูตร
เอาใบมะตูม ใบส้มป่ อย ใบพลูแก สมอร่องแร่ง ขมิน
้ อ้อย
ข้าวสาร เอาเสมอภาค บดพอกฝี อันชื่อว่า ธรสูตร อันบังเกิด
ภายในนัน
้ หายวิเศษนักฯ
(คัดมาจาก ตำรายาศิลาจารึก วัดพระเชตุพนฯ ฉบับสมบูรณ์)
เอารากผักเสีย
้ นผี รากคนทีสอ รากคนทีเขมา เอาเสมอภาค
เอาสุราเป็ นกระสายยา ต้มกินแก้ฝีธรสูตรหายดีนัก
เอาเปลือกผลมังคุด เปลือกสะท้อน เปลือกสะตือ ยาข้าว
เย็น พุมเรียงป่ า เปลือกมะขาม สีฟันควาย รากมะกา ขีผ
้ งึ ้ แข็ง
เอาเสมอภาค ต้มกิน สมานยอดฝี ธรสูตร หายวิเศษนัก
10. ฝี ธนูทวน
เมื่อบังเกิดกระทำให้ฟกบวมขึน

ตามเส้นสันทฆาต
ให้ตึงท้องตลอดสันหลัง ให้หลัง
แข็งจะลุกนั่งมิได้
ให้ยอกจุกเสียดเป็ นกำลัง
ให้ระบมไปทัง้ ท้อง
ให้ท้องบวมใหญ่ขน
ึ้

ฝี ช่องท้อง ฝี สันหลัง ฟกบวมขึน


้ ตามแนวเส้นสันฑฆาต เป็ น
ด้านหลัง ขึน
้ ได้ทงั ้ ตัว ตัง้ แต่เอวถึงไหล่ เวลาลูบแนวกระดูกสัน
หลัง จะนูนขึน
้ ช่วงใดก็ได้ ถ้าใหญ่จะแตกเข้าภายใน ท้องจะบวม
ขึน
้ ถ้าเกิดบริเวณสบัก จะกดหัวใจ ทำให้หายใจลำบาก ต้องใช้
คาถานารายณ์พลิกแผ่นดิน พลิกหัวฝี ขึน
้ ทำให้รักษาง่ายขึน
้ จึง
ประจุออก แล้วใช้ยารักษา
คาถานารายณ์พลิกแผ่นดิน
โอม สัจจา ถึงกูมีศัตรูหมู่มารก็แพ้พ่าย
มือซ้ายกูจับพระยานาค ปากกูคาบดวงตะวัน
ตีนกูยน
ั มหาสมุทร มือขวากูจับครุตตัวแข็งกล้า
ดวงตากูดงั่ เปลวเพลิง กูเอาพระคงคามาเป็ น
น้ำลาย
กูอมเจ้าพระยาเข้าไว้ในทรวง กูจะเป่ าเขาหลวงให้ล้ม
ราบ
ก็จะปราบขุนเขาให้กลายเป็ นแผ่นดิน กูจะกินหัวใจ
พระยาสิงหราช
ทิวา ตะปะติ อาทิตโจ ดวงตากูกล้าแกร่ง
เหมือนแสงพระอาทิตย์
สิงหราช มะโน มะโย ดวงใจกูมีฤทธิเ์ หมือน
หัวใจราชสีห์
จันโทปั ณณะ ระโส สะโม ตัวกูมีสง่าราศรีเหมือน
พระจันทร์วันเพ็ญ
มะโนโชติ ระโส ขาโต ดวงจิตกูสูงเด่นเหมือน
ดวงแก้ว บนยอดเขายุฅนธร
สัพเพ ชะนา พะหู ชะนา ด้วยเดชะ พระฤาษี อุตตะ
มงค์ ผู้ทรงฤทธิ ์
ประสาทมนต์ มอบประสิทธิ ์ ตัวข้าจะคิด และหวังสิ่ง
ใด
จงสมปราถนา ณ กาลบัดนี ้ โอมประสิทธิเม

ยาแก้ฝีธนูทวน
เอากระเทียม ยาดำ สิง่ ละ 2 บาท เทียนดำ 1 ตำลึง ยาข้าวเย็น
ทัง้ สอง สิง่ ละ 1 ตำลึง 1 บาท ต้นสาบเสือ 2 ตำลึง 3 บาทต้มกิน
ทัง้ ผ่า ทัง้ เกลื่อน ฝี ธนูทวน อันบังเกิดภายในนัน
้ หายดีนักฯ
(คัดมาจาก ตำรายาศิลาจารึก วัดพระเชตุพนฯ ฉบับสมบูรณ์)
เอารากมะตูม รากมะยมตัวผู้ ยาดำ เอาเสมอภาค ต้มกิน
แก้ฝีธนูทวนหายดีนัก
เอารากคัดเค้า รากคันทรง เถาวัลย์เปรียง ผลราชดัด พริก
ไทย เอาเสมอภาค ต้มกิน ผ่ายอดฝี ธนูทวน ให้แตกดีนัก
เอารากไคร้น้ำ ผักแพรวแดง เอาเสมอภาค ต้มกิน เมื่อฝี ธนูทวน
แตกแล้ว ให้ยอดแห้งหายเร็ววิเศษนัก
เอาส้มมะขาม ใบขอบชะนางทัง้ สอง ขมิน
้ อ้อย เอาเสมอภาค
บดพอกฝี ธนูทวนหายวิเศษนัก

11. ฝี สุวรรณเศียร
เมื่อบังเกิดนัน
้ เกิดแต่สมองกระดูก
พิการ ตัง้ ขึน
้ ดุจจอกหูหนู มีสีเหลือง มี
รากหยั่งถึงหัวใจ
มีอาการให้เมื่อยต้นคอ ให้เจ็บถึง
กระหม่อม
ให้จักษุมืด
ให้โสตประสาทตึง
ให้ปวดศีรษะดังจะแตก
ให้เจ็บไปทุกเส้นขน
ให้ร้อนในกระหม่อม และกระบอกจักษุ และในช่องโสต
ประสาท
ถ้าหนองขึน
้ แล้ว กระทำพิษให้กลุ้มดวงหทัย
ให้สะบัดร้อน สะบัดหนาว
ให้คลั่งไม่ได้สติสมปดี
เมื่อหนองจะแตกนัน
้ บางทีออกทางช่องจักษุทงั ้ สอง บางทีออก
ทางช่องโสตทัง้ สอง ถ้าออกทางช่องใด ช่องนัน
้ พิการ
ถ้าผู้ใดเป็ นดังนีไ้ ด้บ้างเสียบ้าง ถ้าจะแก้ ให้แก้แต่ยงั อ่อนอยู่

มะเร็งสมอง หัวใจ จะทะลุออกมาที่จอมประสาท ปวดหัว


บ่อยๆ คนสูงอายุมักปวดหัววิงเวียน ขีล
้ ืม เหนื่อย ออกแรงไม่ได้
ยาแก้ฝีสุวรรณเศียร
เอารากกระทุงลาย รากมะกา รากย่านาง ยาข้าวเย็นทัง้ สอง
เสมอภาค ต้มตามวิธีให้กินแก้พิษฝี สุวรรณเศียร อันบังเกิดใน
สมองหายดีนักฯ
เอาใบมะยมอ่อน ใบมะเฟื องอ่อน ใบมะดันอ่อน ใบมะขาม
อ่อน ใบส้มป่ อย ยอดหวายขม เอาเสมอภาค บดพอกแก้ฝีสุวรรณ
เศียร และชูบุพโพดีนัก

12. ทันตะกุฎฐัง
บังเกิดขึน
้ ในกราม ถ้าขึน
้ ขวาชื่อ
ทันตะกุฐงั ถ้าขึน
้ ซ้ายชื่อว่า ทันตะมุ
นลัง มีประเภทดุจกัน ผิดกันแต่ช่ อ

เมื่อแรกตัง้ มีสัณฐานดัง เมล็ดข้าวโพด มีสีแดงเหลืองดังผลหว้า
บางทีแข็งดุจเม็ดหูด ร้ายนัก เมื่อแตกออกมีสัณฐานดังดอกลำโพง
แล้วเปื่ อยลามเข้าไปถึงลำคอ มีน้ำเหลืองมากกว่าบุพโพ มีพษ
ิ กล้ายิง่
นัก
กระทำให้ปวดแต่ต้นคางขึน
้ ไป กระหม่อม ฟกบวมออกมา
ภายนอก
ให้จับสะบัดร้อน สะท้านหนาว
บริโภคอาหารมิได้

แพทย์มริ ้ก
ู ว็ า่ มะเร็งรำมะนาด ย่อมตายเสียเป็ นอันมาก ถ้าจะ
แก้ให้แก้แต่ยงั มิแตก ยังอ่อนอยู่
มะเร็งกรามข้าง เม็ดแข็งๆ ขึน
้ ที่กราม ถ้าแตกรักษายาก

ยาแก้ทันตะกุฎฐัง
เอาผลกระเบียน รากกระดังงา รากคุยแดง รากคุยขาว ราก
ตะลุ่มนก รากท้าวยายม่อม รากเจตมูลเพลิงแดง รากเจตมูลเพลิง
ขาว ผลจันทน์เทศ พริกไทย ข้าวเย็นทัง้ สอง สิ่งละ 2 ส่วน ขมิน

อ้อย 5 ส่วน มะพร้าวผ่าเอาข้างศีรษะซีกหนึ่ง ต้มกินตามวิธี แก้
พิษฝี ทันตกุฏฐัง อันบังเกิดในต้นกรามนัน
้ หายวิเศษนักฯ
(คัดมาจาก ตำรายาศิลาจารึก วัดพระเชตุพนฯ ฉบับสมบูรณ์)
เอาเกลือสินเธาว์ เมล็ดพันธุ์ผักกาด สมอเทศ สมอไทย สมอ
พิเภก โกฐกระดูก ว่านน้ำ หญ้าลังกา ใบสะเดา ขิงแห้ง ดีปลี
เทียนดำ เอาเสมอภาค ทำเป็ นจุณ บดทำแท่งไว้ ละลายสุรา
เกลื่อนฝี อันบังเกิดต้นกรามหายดีนัก

13. ทันตะมูลา
บังเกิดขึน
้ ในแก้มซ้าย และแก้มขวา
เมื่อแรกเกิดนัน
้ ดูอาการ และประเภท
เหมือนปูนกัดปาก ดูสัณฐานดังฉะลุกะ
(ปลิง) เข้าเกาะจับอยู่ตามกระพุ้งแก้ม มี
พรรณแดงสีเสนอ่อนๆ อาการให้แสบร้อน
ในกระพุ้งแก้ม แล้วให้แก้มนัน
้ เป็ นเหน็บ
ชา บางทีให้ฟกบวมออกมาภายนอก มี
ยอดบานเหมือนดอกลำโพง เป็ นหนอง 1
ส่วน น้ำเหลือง 2 ส่วน ถ้าผูใ้ ดเป็ นเข้า
ถือว่าเป็ นกรรม เป็ นอสาทิยะโรค ได้ 1
ส่วน เสีย 2 ส่วน ถ้าจะแก้ควรแก้แต่ยังไม่ทะลุออกมาภายนอก
แต่ยงั อ่อนอยูน
่ น
ั้
มะเร็งแก้มซ้าย แก้มขวา (กระพุ้งแก้ม)

ยาแก้ทันตะมูลา
เอาเมล็ดพันธุ์ผักกาด ขิงแห้ง สมอเทศผลใหญ่ โกฐกระดูก
หญ้าลังกา ว่านน้ำ ใบสะเดา เอาเสมอภาค ทำเป็ นจุณ บดทำแท่ง
ไว้ ละลายน้ำท่า เกลื่อนฝี อันบังเกิดในกระพุ้งแก้มทัง้ 2 นัน
้ หายดี
นักฯ
(คัดมาจาก ตำรายาศิลาจารึก วัดพระเชตุพนฯ ฉบับสมบูรณ์)
เอาการบูร โหราเดือยไก่ ดีปลี ขมิน
้ อ้อย เกลือสินเธาว์
เทียนดำ ผลพิลังกาสา โกฐกระดูก กานพลู สมุลแว้ง พิมเสน
เสมอภาค ทำเป็ นจุล ทำแท่งไว้ละลายน้ำผึง้ ทาเกลื่อนฝี อัน
บังเกิดในกระพุ้งแก้มทัง้ สองหายดีนัก
เอายาข้าวเย็นเหนือ ยาข้าวเย็นใต้ รากช้าแป้ น รากย่านาง
รากกระทุงลาย สิง่ ละ 5 ตำลึง ต้มให้กิน ดับพิษฝี อันบังเกิดใน
กระพุ้งแก้มทัง้ สองหายดีนัก
เอากระดูกงูเห่า รากทิง้ ถ่อน รากมะเกลือ รากมะเดื่อปล้อง
ยาข้าวเย็นทัง้ สอง เอาเสมอภาค ต้มให้กินดับพิษฝี ทันตะมูลา อัน
บังเกิดในกระพุ้งแก้มทัง้ สองหายดีนัก

14. ราหูกลืนจันทร์
บังเกิดขึน
้ ในต้นลิน
้ มีสัณฐานดังดวง
พระจันทร์ ต่ออ้าปากออก เห็นครึ่งหนึ่ง
ลับเข้าไปอยู่ในลำคอ ไม่เห็นครึ่งหนึ่ง
ทำให้ฟก บวมในลำคอเป็ นกำลัง บริโภคข้าวน้ำ มักให้สำลัก
ขึน
้ ไปในนาสิกทุกที
ถ้าโรคแก่ขน
ึ ้ ให้แดงดุจผล อุทุมพรสุก ให้มีพิษเจ็บยิง่ นัก
ให้จับสะบัดร้อน สะท้านหนาว
เจรจามิได้ มีหนอง และน้ำเหลือง เท่ากัน
เป็ นอติสัยโรค (รักษาไม่ได้ ตายแน่นอน) ถ้าผู้ใดเป็ นดุจ

ประเภทนี ้ แล้วท่านว่าจะเสีย 3 ส่วน ได้ 1 ส่วน อาการตัด


ถ้าจะแก้ให้แก้แต่ยังอ่อนมิสุก
มะเร็งใต้โคนลิน

ยาแก้ราหูกลืนจันทร์
เอารากกล้วยตีบ รากกล้วยตานี เอาเสมอภาค บดละลาย
สุราทาบ้าง อมบ้าง แก้พิษฝี อันบังเกิดในโคนลิน
้ นัน
้ หายดีนักฯ
(คัดมาจาก ตำรายาศิลาจารึก วัดพระเชตุพนฯ ฉบับสมบูรณ์)
เอารากมะขามป้ อม รากมะงั่ว รากย่านาง สมอไทย สมอ
เทศ ไคร้หางนาค รำพัน ขันทศกร เอาเสมอภาค ทำเป็ นจุณ ทำ
แท่งไว้ ละลายน้ำร้อน ทัง้ กินทัง้ ทา แก้พษ
ิ ฝี อน
ั บังเกิดในต้นลิน
้ นัน

หายดีนก

เอาหญ้าซุ้มกระต่าย ผักแว่น ขมิน
้ อ้อย ข้าวเบือ ดินประสิว
โหราเท้าสุนัข เอาเสมอภาค ทำเป็ นจุณ ทำแท่งไว้ ละลายสุรา แก้
พิษฝี อันบังเกิดในต้นลิน
้ นัน
้ หายดีนัก
ผักหวานบ้าน ใบหงอนไก่ ใบย่านาง ใบคันทรง หญ้างวงช้าง
ขมิน
้ อ้อย ว่านกลีบแรด ว่านร่อนทอง เอาเสมอภาค ทำเป็ นจุณ
ทำแท่งไว้ ละลายสุรา แก้พิษฝี อันบังเกิดในต้นลิน
้ นัน
้ หายดีนัก
เอางาช้าง นอแรด กระดูกงูเหลือม ข่าแก่ ขมิน
้ อ้อย ไคร้
เครือ ระย่อม พิษนาศน์ เอาเสมอภาค ทำเป็ นจุณ ทำแท่งไว้
ละลายน้ำครำ น้ำมูตรก็ได้ แก้พิษฝี อันชื่อว่าราหูกลืนจันทร์ อัน
บังเกิดในต้นลิน
้ นัน
้ หายแล แก้พิษฝี ทัง้ 6 ประการดีนัก

15. ฝี ฟองพระสมุทร
บังเกิดเพื่อวาโย โลหิต ระคนกัน ขึน
้ ใน
คอ ต้นขากรรไกร แรกขึน
้ มีสัณฐานดังหลัง
เบีย
้ ขึน
้ ขวาตัวผู้ ขึน
้ ซ้ายตัวเมีย กระทำเจ็บ
ในลำคอเป็ นกำลัง จะกลืนข้าว กลืนน้ำมิได้
ให้เจ็บปวดดังจะขาดใจ
ถ้ายาถูกก็เคลื่อนหายไป ถ้ายาไม่ถูกก็
จำเริญขึน
้ เป็ นหนอง
ทำพิษให้สะบัดร้อน สะบัดหนาว ดุจไข้
จับ ให้เชื่อมมัว
ให้ร้อนศีรษะตลอดปลายเท้า แต่ไม่เหมือนไข้ หรือสันนิบาต
ให้ทุรนทุรายไปจนกว่าหนองจะแตก
วัณโรคฟองสมุทรนี ้ เป็ นยาปะยะโรค (รักษาได้ ไม่ตาย)

มะเร็งในคอ ขากรรไกร หญิงเป็ นด้านซ้าย รักษายาก ชายเป็ น


ด้านขวา รักษายาก

ยาแก้ฝีฟองพระสมุทร
เอาหนังแรด หนังกระเบน หางปลาแห้ง คางคกตายซาก
รากดินตายซาก กระดูกงูเหลือม กระดูกงูทับทาง กระดูกงูเห่า
กระดูกแร้ง กระดูกกา สลัดได ยาทัง้ นีเ้ ผาให้ไหม้ ลูกจันทน์ ดอก
จันทน์ กระวาน กานพลู เนระพูสี ระย่อม ไคร้เครือ พิษนาศน์
ว่านกีบแรด ว่านร่อนทอง นำประสานทองสุทธิ เอาเสมอภาค ทำ
เป็ นจุณ บดทำแท่งไว้ ละลายน้ำมะนาว น้ำท่า ก็ได้ ชุบสำลี อม
แก้พิษฝี อันบังเกิดในต้นขากรรไกร นัน
้ หายดีนักฯ
(คัดมาจาก ตำรายาศิลาจารึก วัดพระเชตุพนฯ ฉบับสมบูรณ์)
เอาใบฝ้ ายแดง ใบฝ้ ายเทศ ใบผักเป็ ดแดง ใบระงับ ขมิน
้ อ้อย
น้ำตาลทราย เอาเสมอภาค บดทาข้างนอก พอกก็ได้

ยาตัดรากสรรพฝี ทัง้ ปวง


เอาโพกพาย รากย่านาง เถาวัลย์เปรียง รากพุมเรียงทัง้ สอง
ขมิน
้ อ้อย ยาข้าวเย็นเหนือ ยาข้าวเย็นใต้ เอาเสมอภาค ต้มกิน
แก้พิษฝี ฟองสมุทรหาย เป็ นยาตัดรากสรรพฝี ทัง้ ปวง ถ้าเป็ นแผล
แทรกกำมะถันลง 1 ตำลึง 1 บาท วิเศษนัก

16. ฝี ครีบกรต
บังเกิดตามครีบชิวหา มะเร็งข้างลิน
้ ถ้าลามทะลุโพรงจมูก
หรือใต้คาง รักษายาก เมื่อแรกขึน
้ มีสณ
ั ฐานเท่าเมล็ดถัว่ เขียว และ
เมล็ดงา แข็งขึน
้ มาเหมือนเม็ดหูด แล้วเจริญขึน
้ มีสแ
ี ดงดังชาดจิม

อาการทำให้ลน
ิ ้ กระด้าง ให้เจ็บๆ คัน ๆ
ท่านให้เร่งเกลื่อนเสียแต่ยังอ่อนอยู่ อย่าให้ทันยอดแตกออก
มาได้ ถ้าเจริญแก่เข้าแล้ว ก็แตกออกเปื่ อยลามเป็ นขุมๆ มี
ประเภทเหมือนยวงสะท้อน ลามไปในชิวหา พื้นบน และพื้นล่าง
บางทีบวมทะลุลงไปใต้คาง เป็ นหนอง และโลหิต ไหลมิได้ขาด
เหม็นเหมือนซากศพ
ถ้าผู้ใดเป็ นถือว่าเป็ นกรรม เป็ นยาปะยะโรค (รักษาได้ ไม่
ตาย) ได้ 1 ส่วน เสีย 3 ส่วน

ยาแก้ฝีครีบกรต
ถ้าจะแก้ เอาเบงกานี สีเสียดเทศ กะเทาะโพบาย เปลือก
มะขามขบ เมล็ดในมะนาว น้ำประสานทองสุทธิ เอาเสมอภาค
ทำเป็ นจุณ ทำแท่งไว้ ละลายน้ำท่า ทาแก้พิษฝี อันบังเกิดตามครีบ
ชิวหา นัน
้ หายดีนักฯ
(คัดมาจาก ตำรายาศิลาจารึก วัดพระเชตุพนฯ ฉบับสมบูรณ์)
เอาใบตานหม่อน ใบตาลโตนด ขมิน
้ อ้อย ข้าวไหม้ เอาเสมอ
ภาค บดพอก หรือทา แก้พิษฝี อันบังเกิดตามครีบชิวหา
เอาโรกทัง้ สอง ยาข้าวเย็นทัง้ สอง ขันทองพยาบาท สิ่งละ 5
ตำลึง ต้มกิน แก้พิษฝี อันบังเกิดในครีบชิวหา
เมื่อลิน
้ เจ็บจึงไม่อยากกินข้าว ต้องใช้ยารสฝาดมากๆ ทำให้
ลิน
้ ชา ก็จะกินข้าวได้ ทำให้มีแรง จึงใช้ยาเฉพาะโรค ยาฝี ครีบ
กรต ยาฝี ฟองสมุทร การอักเสบก็จะลดลง แล้วก็จะหาย

17. ฝี อุระคะวาต (อุรักกะวาต)


เกิดขึน
้ ตามกระดูกสันหลังข้างใน
บางทีขน
ึ ้ ตรงกระดูก บางทีขน
ึ ้ ระหว่าง
กระดูกตัง้ แต่เบื้องบนถึงที่สุดแห่ง
กระดูกสันหลัง ข้างในเบื้องต่ำ เมื่อจะ
เกิดขึน
้ นัน
้ เป็ นเหตุด้วยลมสุนทราวาต
พัดเตโชธาตุ และอาโปธาตุ มิได้เสมอ
กันตามปกติ จึงบังเกิดวิทราธิโรคขึน

ให้เจริญไปถึงวรรณะ (ฝี เปล่งปลั่งใหญ่
โตขึน
้ ) มีประเภทกระทำพิษต่างๆ
บางทีให้จุกเสียด บางทีให้ขัดอุจจาระปั สสาวะ
บางทีทำให้ลงดุจเป็ นบิด
มีเสมหะ โลหิต ระคนกัน
ให้ปวดมวนเป็ นกำลัง แต่เป็ นดังนีถ
้ ึง 2-3 ครัง้ แล้วก็หายไป
ให้เจ็บอก และชายสะบัก
จับสะบัดร้อน สะท้านหนาว ให้นอนไม่หลับ
บริโภคอาหารมิได้
ให้ตาแดงดังเป็ นสายโลหิต
บางทีให้บวมตัง้ แต่ไหล่จนถึงเอว
ให้ร้อนเป็ นกำลัง ให้เจ็บทุกข้อทุกกระดูกสันหลังข้างนอก
ถ้ารู้มิถึง ย่อมเสียเป็ นอันมาก ให้รักษาแต่ยังอ่อน

เกิดตามกระดูกสันหลังข้างใน (กระดูกทับเส้น) อักเสบ บวม


หมด ตายแน่นนอน ใช้ยารักษาริดสีดวงกระดูกสันหลัง และยาฝี
อุระตะวาต จะทำให้การอักเสบกระดูกสันหลังคลายลง และนวด
สัณฑฆาตทัง้ สองข้าง จะหายขาด
การใช้คัมภีร์ริดสีดวงรักษาเมื่อเริ่มอาการต่างๆ จะได้ผลดี
กว่า เมื่อกลายเป็ นฝี

ยาแก้ฝีอุระคะวาต
ถ้าจะแก้ให้เอายาข้าวเย็นทัง้ สอง เบญจประคำไก่ รากมะกา
ข่าต้น รากคัดเค้า ตับเต่าทัง้ สอง โพกพาย เอาเสมอภาค สุรา
ครึ่งหนึง่ น้ำครึ่งหนึง่ ต้มให้กิน แก้วัณโรคอันชื่อว่า อุรักกะวาต
เกิดขึน
้ ตามกระดูกสันหลัง นัน
้ หายดีนักฯ
(คัดมาจาก ตำรายาศิลาจารึก วัดพระเชตุพนฯ ฉบับสมบูรณ์)
เอาเบญจประคำไก่ ใบมะขาม ใบส้มป่ อย ใบส้มเช้า เกลือ
สมุทร ดีเกลือ สิง่ ละ 5 ตำลึง ต้มให้กินถ่ายฝี อันชื่อว่า อุรักกะวาต
นัน
้ หายดีนัก
เอาจันทน์ทงั ้ สอง แก่นสน ผลกระดอม บอระเพ็ด แห้วหมู
สันพร้านางแอ ข่าอ่อน ไพลอ่อน ดอกพิกุล ดอกมะลิ เกสร
บุนนาค เกสรสารภี เกสรบัวหลวง เอาเสมอภาค ทำเป็ นจุณ ทำ
แท่งไว้ ละลายน้ำซาวข้าว ทัง้ กินทัง้ ชโลม แก้พิษฝี อันชื่อว่า อุรัก
กะวาต นัน
้ หายดีนัก

18. ฝี อัคนีสันทวาต
เกิดขึน
้ จากต้นขัว้ กระเพาะปั สสาวะข้าง
ใน เพราะแม่ซางขึน
้ ประจำอยูใ่ นกระเพาะ
เบา อันแพทย์รักษาไม่หายสนิทแต่ยงั เป็ น
กุมารอยู่ เมื่อเจริญเติบโตขึน
้ วาโยพัดขับ
ปั สสาวะไม่สะดวก จึงตัง้ เป็ นยอดขึน

บางทีเป็ นด้วยลมกระทบฟกช้ำ และบวม
ขึน
้ วัณโรคจึงบังเกิดเป็ นต้น วัณโรคนีเ้ กิด
แต่กองปถวี และวาโยระคนกัน มีประเภท
การกระทำนัน
้ ต่างกันคือ
1. บางทีฟกบวมออกมาภายนอก
แข็งเป็ นดานตามฝี เย็บ มักให้บวมเป็ น
กำลัง ให้ปัสสาวะหยดย้อย
2. บางทีเป็ นหนอง และโลหิต ไหลออกมาทางท่อปั สสาวะ
3. บางทีแดงออกมาภายนอกดุจผลมะไฟ แล้วแตกออกเป็ น
หนอง และโลหิต
4. บางทีน้ำปั สสาวะเดินทางช่องแผล
5. บางทีปัสสาวะขัด เป็ นลิ่มเป็ นก้อนก็มี เป็ นอสาทยโรค
(รักษายากนัก)

ฝี ขัว้ กระเพาะปั สสาวะ ไม่เกี่ยวกับมะเร็งต่อมลูกหมาก จะอยู่


ใกล้ฝียอดคว่ำ ฝี ทรสูตร เป็ นมากจะมีหนองออกมาทางฝี เย็บ
ทำให้ปัสสาวะรั่วออกมา

ยาแก้ฝีอัคนีสันทวาต
ถ้าจะแก้เอา ชุมเห็ดทัง้ ห้า เบญจเหล็ก บานไม่ร้โู รยทัง้ ห้า คัด
เค้าทัง้ ห้า รากลำเจียก รากหญ้าคา เถาวัลย์เปรียง ยาข้าวเย็นทัง้
สอง แก่นแสมทัง้ สอง เอาเสมอภาค ต้มกิน แก้วณ
ั โรคอันชื่อว่าอัคนี
สันทวาต
ซึ่งบังเกิดในขัว้ กระเพาะเบา นัน
้ หายดีนักฯ
ยาพอก ใบคนทา ขมิน
้ อ้อย ใบฝ้ ายแดง ข้าวสุกเผา เสมอ
ภาค บดด้วยสุราพอก

19. ฝี ดาวดาษฟ้ า (ฝี ดาษ)


เกิดขึน
้ ด้วยกองอาโปธาตุ คือ
น้ำลาย น้ำเสมหะ น้ำโลหิตทัง้ 3
พิการ ระคนกันเข้า จึงบังเกิด
เม็ดยอดขึน
้ ภายในทั่วไป ทัง้ ตับ ปอด หัวใจ ไส้นอ
้ ย ไส้ใหญ่ทงั ้
ปวง และวัณโรคอันนี ้ เกิดเป็ นอุปปาติกะ บังเกิดด้วยอาโปธาตุ
จะตัง้ ขึน
้ ที่ใด ก็ให้เจ็บที่นน
ั ้ ดุจไม้ยอกหอกปั ก ถ้ามิฉะนัน
้ ดุจ
ตะขาบ แมงป่ องขบกัด และจะให้ฟกบวมขึน
้ มา ภายนอกนัน

หามิได้
มีอาการให้จับเชื่อมมัว สะบัดร้อน สะบัดหนาว ผอมเหลือง
ถ้าแก่เข้า ให้จุกแน่นหน้าอก ให้อาเจียน น้ำลายเหนียว
ให้หอบ ให้สะอึก
ให้บวมเท้า
ให้ลงเป็ นหนอง และโลหิตเน่า
ให้ปอดบวมเป็ นกำลัง
เป็ นอสาทยโรค รักษายากนัก

ยาแก้ฝีดาวดาษฟ้ า
ถ้าจะแก้ เอาโคนไม้รวก โคนไม้เท้าฤๅษี โคนไม้ไผ่ป่า ยาข้าว
เย็นทัง้ สอง ขมิน
้ อ้อย ขมิน
้ ชัน กระเพราแดง แก่นแสมทัง้ สอง
แก่นขีเ้ หล็ก สิ่งละ 4 ตำลึง ต้มให้กินตามกำลัง แก้วัณโรคอันชื่อ
ว่า ดาวดาษฟ้ า อันบังเกิดแต่กองอาโปธาตุ นัน
้ หายดีนักฯ
เอายาข้าวเย็นทัง้ สอง สมอทัง้ สอง เปลือกตะเคียน เปลือกขี ้
อ้ายนา เปลือกฝิ่ นต้น สิ่งละ 2 ตำลึง 2 บาท ต้มให้กน
ิ แก้วณ
ั โรค
อันชื่อว่า ดาวดาษฟ้ า ซึง่ ยอดแตกออกไปแล้วนัน
้ หายดีนก
ั หายดีนก

เอาชุมเห็ดเทศทัง้ ห้า ใบมะกา ข่าหลวง ใบส้มเสีย
้ ว มูลเหล็ก
สิ่งละ 5 ตำลึง ต้มให้กินตามกำลังรุบุพโพวัณโรคอันชื่อว่า ดาว
ดาษฟ้ านัน
้ หายดีนัก

You might also like