You are on page 1of 8

โรคป่วง

ป่วง เป็ นชื่อโรคตั้งแต่สมัยโบราณ หรื อหมอโบราณตั้งชื่อโรคไว้เมื่อสมัยก่อน อาการของ


ป่ วง เป็ นโรคที่น่ากลัวอยูไ่ ม่ใช่ นอ้ ย โรคนี้ถึงแม้จะไม่ติดต่อกัน แต่ก็ทาให้คนที่เป็ นโรคนี้ตายได้
เพราะมีอาการถ่ายอย่างแรงมากและอาเจียน คนไข้อาจตายได้เพราะเสี ยน้ าในร่ างกาย
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ เป็ นตาราที่สังเคราะห์ข้ นึ จากเนื้อหาอันหลากหลายที่มีอยูใ่ นคัมภีร์เวช
กรรมและเภสัชกรรมโบราณ โดยองค์รวมของคัมภีร์ จัดว่าเป็ นคัมภีร์ที่รวมสาระของหนังสื อแพทย์
ศาสตร์สงเคราะห์ของทุกคัมภีร์มารวมไว้ที่คมั ภีร์แรกนี้ ในหนังสื อเวชสตร์วณ ั ณา ได้กล่าวถึงโรค
ป่ วงไว้วา่ เกิดจากธาตุท้ งั ๔ สาแดง ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุน้ า ธาตุลม ธาตุไฟ แต่ละธาตุแบ่งออกเป็ น
สองทาง คือสังขารและวัย จึงนับได้วา่ มี ๘ ประการ ได้แก่ ป่ วงงู ป่ วงลิง ป่ วงลม ป่ วงศิลา ป่ วงนก
หรื อลูกนก ป่ วงโลหิ ต หรื อป่ วงเลือด ป่ วงน้ า และป่ วงโกฐ ในคัมภีร์จะบอกถึงอาการของโรคและ
ตารับยาแก้โรคป่ วงแต่ละประการ โดยมีลกั ษณะคาประพันธ์เป็ นร่ าย อ่านต่อเนื่องคล้องจองกันไป
จนจบ ตัวอักษรหนาคือชื่อโรค ข้อความที่ขีดเส้นใต้ไว้คือ วิธีการแก้หรื อรักษาโรคป่ วงชนิดนั้นๆ
เนื้อความในตอนนี้ได้สอบทานกับคัมภีร์ฉันทศาสตร์ในหนังสื อแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ อีกครั้ง
หนึ่งเพื่อความสมบูรณ์
ตาราป่ วงประการแปด บอกให้แพทย์พึงรู ้ พิจารณาดูโดยกิริยา ไข้มีมาต่างๆ กัน อย่าสาคัญว่า
ปี ศาจ เหตุเพราะธาตุตอ้ งสาแดง ท่านให้แบ่งเป็ นสี่ ตามคัมภีร์พระอภิธรรม คือดินน้ าลมไฟ แยก
ออกไปเป็ นสอง กระแสคลองธรรมดา สังขาราขัยแลวัย จึงนับได้แปดประการ ชื่อของท่านจงรู ้ คือ
ป่ วงงูมกั กฏา ลมศิลานกโลหิ ต น้ าโกฐคิดเข้าเป็ นแปด แม้นผูแ้ พทย์จะรักษา ดูกิริยาอาการ
ป่ วงงูท่านให้เร่ งกลัว มักบิดตัวตาปรอยๆ รากลงบ่อยไม่หยุด สี่ ยามทรุ ดโทรมไป ม้วยบรรลัย
เป็ นแม่นมัน่ มิฉะนั้นกรรมสนอง เป็ นสองคลองสันนิบาต แปดยามขาดคงตาย แก้ยกั ย้ายดูลอง ให้
เอากล้องปื นไฟ น้ าร้อน(ใส่ )ไว้สักครู่ เทออกดูได้ไอดิน มาให้กินดูสักหน เดชะกุศลก็พลันหาย
ป่ วงลิงย้ายให้ยงิ ฟัน หาวคางสัน่ แน่นหน้าอก รากลงปรกไปอย่างเดียว ฝี ปากเขียวขอบตาซี ด
ทาจริ ตดังวานร เอามือซ่ อนกอดอก สี่ ยามตกสันนิบาต ในอานาจมรณา เมล็ดมะกอกผ่าสี่ ซีก เปลือก
ผลส้มโอฉี กเท่ากัน สุ พรรณถัน บาทหนึ่ง ต้มเคี่ยวกึ่งวารี กินสองทีหายแล
ป่ วงลมแปรหลายอย่าง เสี ยดสี ขา้ งลงไม่มาก จุกอกรากออกน้ าลาย กระวนกระวายร้อนร้อง สี่
ยามต้องตามตาแหน่ง ข่าตาแดง ฝนไว้ น้ าปูนใสเป็ นกระสาย ถ้วยเดียวหายเหมือนว่า
ป่ วงศิลารักษายาก ให้ลงรากเป็ นเดิม แล้วมันเพิ่มอาการแรง เมื่อยข้อแทงเสี ยดยอดอก มือเท้า
ฟกกดหนังบู ้ นิ่งสักครู่ แล้วกลับเหี ยน มักอาเจียนลมเปล่า พูดเสี ยงเบากลอกหน้าตา ทั้งข้าวปลาไม่รู้
รส ลิ้นไก่หดพูดล่อแล่ ท่วงทีแท้ปีศาจสิ ง แล้วกลับนิ่งนอนแน่ ลองให้แก้ถึงสามวัน สุ พรรณถันบาท
หนึ่งดี รากขิงชี่เอาห้าอัน ต้มด้วยกันเคี่ยว(กึ่ง)น้ า ให้กินซ้ าสักสองถ้วย ถ้าบุญช่วยหายหก
ป่ วงลูกนกลงเหมือนกัน โลมาชันกายสั่นสยอง ให้ปวดท้องๆ ลัน่ โครก หาวเรอโยกดูลาบาก
หงายอ้าปากรากครางไป หอบหายใจคล่อแคล่ อาการแส่ เช่นลูกนก สี่ ยามตกสันนิบาต เอาสวาดเจ็ด
เมล็ด เผาไฟเสร็ จเป็ นถ่านดา ละลายน้ าปูนแดงใส กินเข้าไปถ้วยเดียวเหื อด
ป่ วงเลือดลงไหลเจื้อย หาวหอบเหนื่อยบ่นเพ้อพึม นัยน์ตาซึ มผิวกายเหลือง ทาหงอยเงื่องให้
วางใจ เหมือนเป็ นไข้สันนิ บาตคลัง่ เป็ นที่ต้ งั เจ็ดวันตาย เร่ งขวนขวาย(แต่)แรกเป็ น เอาฝางเสนแก่น
ไม้สัก ไม่เอาหนักสิ่ งละกามือ เมล็ดมะกอกจาไว้ห้าเมล็ด เผาไฟเสร็ จวางไว้ แล้วเอาไส้ขนุนละมุด
อย่าไปขุดเอาที่ตน้ เอาไส้ผลที่สุกแล้ว สารส้มแก้วหนักกึ่งบาท ห้าสิ่ งขาดอย่าเฉลียว ต้มเคี่ยวสามเอา
หนึ่ง กินบ่หึง ก็พลันหาย
ป่ วงน้าชายจะทาฤทธิ์ ลงแล้วติดข้างคลื่นเหี ยน ให้อาเจียนไม่หายเหื อด ผิวกายเผือดพึงยล
หนาวสกลกายอุ่นดี กาฬสิ งคลี เป็ นเจ้าของ ล่วงเข้าสองยามตาย สี่ ยามกลายเป็ นสันนิบาต อย่า
ประมาทเร่ งแก้ทา เปลือกกุ่มน้ ากุ่มบกนั้น อีกหญ้าพันงูแดง สามสิ่ งแรงเสมอภาค เปลือกมะกอกถาก
เอากึ่งยา ต้มแล้วหากาบหมาก หงายอ้าปากพอละจัน่ ยังไม่ทนั จะหลุดหล่น เผาไฟป่ นเป็ นถ่านดา ใส่
ในน้ ายาต้ม กินสองอมรากลง หยุด
ป่ วงที่(สุ ด)ชื่อป่ วงโกฐ เกิดเพราะโทษลมกระษัยกล่อน ลงรากร้อนทั้งลาคอ มือเท้าฝ่ อซี ดเหี่ ยว
เสโทเหนียวกายเป็ นเหน็บ ดูตน้ เล็บโลหิ ตคล้ า โรครัน ทาเร่ งรักษา จะวางยาให้ติดร้อน พริ กไทย
ล่อนข่ากระชาย บดละลายน้ าลูกยอ ต้มแต่พอได้รส อาการงดพอสบาย สี่ ยามคลายจับหัวเหน่า ปิ ด
หนักเบาร้อนภายใน สาคัญว่าไข้หลงแก้ เตโชแปรระส่ าระสาย สาแดงฝ่ ายเทวทูต มรณญาณสู ตร
กาหนดแน่ หมอเร่ งแก้อย่าช้า ใบขี้เหล็กมาประมาณกา อีกฟองน้ าปูนผง ใส่ หม้อลงต้มเคี่ยว กินถ้วย
เดียวหนักเบาคลาย ถ้าไม่หายย้ายเหน็บล่าง จึงจะวางยาต่อไป นี้บอกไว้ตามสถาน ป่ วงแปดประการ
ดังนี้
ตารางสรุ ปอาการและยาแก้ของโรคป่ วงทั้ง ๘ ประการ จากคัมภีร์ฉันทศาสตร์ ในหนังสื อเวช
สตร์วณ
ั ณาและแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ได้ดงั นี้

ชื่อ อาการ ตารับยาแก้

ป่ วงงู มีอาการลงท้อง ปวดท้องมากจนถึงบิดตัว ให้เอาน้ าร้อนหยอดใส่ ลากล้องของปื นไฟ


อาเจียนไม่หยุด บริ โภคอาหารไม่ได้ สักครู่ จึงลองเทน้ าออกลงดินให้ได้กลิ่นไอ
ร่ างกายซี ดเหลือง อ่อนเพลีย นัยน์ตาปรอย ดินขึ้นมา แล้วจึงนาน้ าในลากล้องปื นไฟ
เป็ นต้น นั้นมากิน

ป่ วงลิง มีอาการเป็ นลม หาวเรอ แน่ นในอก จุก เม็ดมะกอกผ่าสี่ ซีก เปลือกส้มโอฉี ก อย่าง
เสี ยด ลงท้อง และอาเจียน ปากเขียว กิริยา ละเท่าๆกัน กามะถัน(เหลือง) ๑ บาท นามา
อาการคล้ายลิง มักยิงฟัน งอตัว นัง่ กอดเข่า ต้มและเคีย่ วน้ า ๒ ส่ วน ให้เหลือ ๑ ส่ วน
เป็ นต้น

ป่ วงลม มีอาการปวดเสี ยดท้อง และลงท้องมาก มี ข่าตาแดงฝน ใช้น้ าปูนใสเป็ นกระสายยา


ลมแน่น จุกอก อาเจียนเป็ นน้ า นัยน์ตาแดง
กระวนกระวาย เป็ นต้น
ชื่อ อาการ ตารับยาแก้

ป่ วง มีอาการลงท้อง อาเจียนเป็ นลมเปล่า เมื่อ กามะถัน(เหลือง) ๑ บาท รากชิงชี่ ๕ อัน


ศิลา ตัว บริ โภคอาหารไม่ได้ ลิ้นไก่หด พูด ต้มและเคี่ยวน้ า ๒ ส่ วน ให้เหลือ ๑ ส่ วน
อ้อแอ้ เป็ นต้น

ป่ วงลูก มีอาการลงท้อง อาเจียน ปวดท้อง หาวเรอ สวาดเจ็ดเมล็ดเผาไฟให้เป็ นถ่านดา นามา


นก และหนาวสั่น ละลายน้ าปูนแดงใส

ป่ วง มีอาการลงท้องมาก กับหอบเหนื่อย ซี ด ฝาง เสน แก่นไม้สัก อย่างละ ๑ กามือ เม็ด


เลือด เหลือง อ่อนเพลีย และเซื่ องซึ ม มะกอกเผาไฟ ๕ เม็ด ไส้ขนุนละมุดที่ตก
จากต้นแล้ว สารส้มแก้ว ๒ สลึง ต้มและ
เคี่ยวน้ า ๓ ส่ วน ให้เหลือ ๑ ส่ วน

ป่ วงน้ า มีอาการอาเจียนรุ นแรง รู ้สึกหนาว แต่ตวั เปลือกกุ่มทั้ง ๒ หญ้าพันงูแดง เอาเสมอ


ร้อน ซี ดเหลือง เป็ นต้น ภาคกัน เปลือกมะกอกครึ่ งยา ต้มแล้วเอา
ดอกหมากอ่อนที่ยงั มีกาบหุ ้มมาเผาไฟป่ น
เป็ นถ่านดามาใส่ ในยาต้ม

ป่ วง เกิดเพราะธาตุลมในร่ างกายผิดปกติ อัน พริ กไทยล่อน ข่า กระชาย นามาบดละลาย


โกฐ เนื่องมาจากกระษัยกล่อน ทาให้มีอาการลง ด้วยน้ าลูกยอ แล้วต้ม ถ้าธาตุไฟแปร ให้เอา
ราก ให้ร้อนทั้งลาคอ มือเท้าซี ดเหี่ ยว เหงื่อ ใบขี้เหล็ก ๑ กา ฟองน้ าปูนผง นามาต้ม
แตก ตัวชา กับมีอาการลงท้อง ปวดท้อง และเคี่ยว
ด้วย เป็ นต้น
ในเรื่ องข้าบดินทร์ ตอนที่เหมกับพี่สมิงไปตรวจดูอาการของคนในพระมหานครที่เป็ นโรคป่ วง เห็น
สภาพผูค้ นที่ทรมานจากโรคป่ วง ปวดท้องปวดไส้ บิดตัวไปมา เหมจึงได้จดตัวยาสมุนไพรให้พี่สมิง
ไปหามาเพื่อรักษาบรรเทาอาการจากโรคป่ วงนั้น ได้แก่ กามะถันเหลือง ผิวส้มโอ รากต่อไส้ ราก
หวายลิง นมจาก ตัวยาทั้งห้าเหล่านี้น้ าหนักเท่ากัน แล้วนามาต้มกิน
๑. กามะถันเหลือง หรื อสุ พรรณถันเหลือง เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ สี เหลืองอ่อนนวล ถูกความร้อน
เพียงเล็กน้อยก็สลายตัว รสเบื่อเมาร้อนมัน ขับลมในกระดูก ฆ่าแม่พยาธิท้ งั ภายในและภายนอก แก้
จุกเสี ยดในโรคป่ วง แก้โรคผิวหนังผุพอง น้ าเหลืองเสี ย ใช้หุงน้ ามันทาแก้หิด ขับลมในกระดูก
๒. ผิวส้มโอ สรรพคุณแก้ลม(ระบบไหลเวียนโลหิ ต) แก้เสมหะ และใช้ปรุ งเป็ นยาหอม ช่วยแก้
อาการแน่นหน้าอก ช่วยขับลมในลาไส้และกระเพาะอาหาร
๓. รากต่อไส้ รสจืด แก้ปัสสาวะ และแก้ไตพิการ รสจืดเอียน ใช้แก้ปวดท้อง เป็ นยาขับปัสสาวะ
รักษาเส้นเอ็นที่ชารุ ดให้สมบูรณ์
๔. รากหวายลิง นามาต้มกับน้ าดื่มเป็ นยาแก้ไข้ดีซ่าน
๕. นมจาก ได้มาจากส่ วนที่อยูข่ า้ งใต้ใบจาก สรรพคุณ สมานแผล คุมธาตุ แก้ลมจร แก้ลมป่ วง แก้ไข้
ท้องเสี ย แก้ซางลิ้นเป็ นขุม มีรสฝาด
ตารับยาแพทย์แผนไทยแล้วจะประกอบไปด้วยสมุนไพรหลายๆ ชนิด ซึ่ งแต่ละชนิดก็มี
สรรพคุณแก้ไขอาการต่างๆ ที่เกิดจากโรคนั้นๆ สมุนไพรเพียงตัวเดียวไม่สามารถแก้ไข หรื อรักษา
โรคได้ ต้องอาศัยสรรพคุณยาที่เกื้อหนุนกัน แต่บางครั้งสรรพคุณยาสมุนไพรแต่ละชนิด ก็มีฤทธิ์ฆ่า
กันเองหรื อทาให้ฤทธิ์ของสมุนไพรบางตัวลดลง เพื่อป้องกันไม่ให้คนไข้รับฤทธิ์ยาจากสมุนไพร
ชนิดนั้นๆ มากเกิดไป ซึ่ งจะก่อให้เกิดอันตรายได้
เมื่อพิจารณาจากสรรพคุณของตัวยาสมุนไพรทั้ง ๕ ที่ใช้รักษาโรคป่ วงจะเห็นได้วา่ สมุนไพร
ส่ วนใหญ่มีสรรพคุณแก้ลม หรื ออาการอันเกิดจากธาตุลมในร่ างกายเสี ยสมดุลจนทาให้เกิดความ
ผิดปกติของการหมุนเวียนเลือด เช่น อาการจุกเสี ยดท้อง แน่นหน้าอก เป็ นต้น สมุนไพรที่แก้อาการนี้
คือ กามะถันเหลือง ผิวส้มโอ และนมจาก ส่ วนรากต่อไส้ มีสรรพคุณแก้อาการปวดท้อง และขับ
ปัสสาวะ และรากหวายลิง มีสรรพคุณแก้ไข้ดีซ่าน คือตัวซี ดเหลือง สมุนไพรทั้ง ๕ ชนิดต่างมีฤทธิ์
ทางยาที่เกื้อหนุ นและใช้รักษาอาการต่างๆ ที่เกิดจากโรคป่ วง
ยังมีคมั ภีร์แพทย์ไทยอีกหลายคัมภีร์ที่กล่าวถึงโรคป่ วง ได้แก่ คัมภีร์โรคนิ ทาน คัมภีร์ปฐม
จินดา คัมภีร์อติสาร กล่าวถึงโรคป่ วง ๑๒ ประการ บ้าง ป่ วง ๗ ประการ และป่ วง ๕ ประการบ้าง
ทั้งนี้ โรคป่ วงแต่ละชนิดในคัมภีร์อื่นๆ ก็มีที่เหมือนและแตกต่างกันไปบ้าง บางชนิดก็เกิดขึ้นกับเด็ก
เป็ นต้น จึงมีความน่าสนใจที่ศึกษาเปรี ยบเทียบกับคัมภีร์อื่นๆ เหล่านี้ต่อไป
เมื่อลองเปรี ยบเทียบกับโรคป่ วง ๕ ประการ กับโรคป่ วง ๘ ประการในคัมภีร์ฉันทศาสตร์
แล้วพบว่ามีชื่อป่ วงที่ตรงกัน ๔ ชนิ ด ได้แก่ ป่ วงลม ป่ วงลิง ป่ วงหิ น ป่ วงน้ า และต่างกันคือ ป่ วงสุ นขั

ป่ วง ๘ อาการ ป่ วง ๕ อาการ

ป่ วงงู มีอาการลงท้อง ปวดท้องมากจนถึง – –


บิดตัว อาเจียนไม่หยุด บริ โภคอาหาร
ไม่ได้ ร่ างกายซี ดเหลือง อ่อนเพลีย
นัยน์ตาปรอย เป็ นต้น

ป่ วงลิง มีอาการเป็ นลม หาวเรอ แน่ นในอก ป่ วงลิง มีอาการท้องเสี ย ๘ ครั้ง ๙ ครั้ง แต่ไม่
จุกเสี ยด ลงท้อง และอาเจียน ปาก อาเจียนมีตุ่มผุดขึ้น ปวดแสบปวด
เขียว กิริยาอาการคล้ายลิง มักยิงฟัน ร้อนในท้องมาก ผุดลุกกระโจนไป
งอตัว นัง่ กอดเข่า เป็ นต้น เหมือนลิง ถ้ารักษาดีก็หาย ถ้ารักษา
ไม่ดีก็ตาย

ป่ วงลม มีอาการปวดเสี ยดท้อง และลงท้อง ป่ วงลม มีอาการหาว ท้องเสี ย ท้องขึ้น แต่ไม่


มาก มีลมแน่น จุกอก อาเจียนเป็ นน้ า อาเจียน จะรักษากินยาเท่าไรก็ไม่
นัยน์ตาแดง กระวนกระวาย เป็ นต้น บรรเทา
ป่ วง ๘ อาการ ป่ วง ๕ อาการ

ป่ วง มีอาการลงท้อง อาเจียนเป็ นลมเปล่า ป่ วง มีอาการท้องเสี ย อาเจียน ตัวเย็น เป็ น


ศิลา เมื่อตัว บริ โภคอาหารไม่ได้ ลิ้นไก่หด หิ น เหน็บ แต่เหงื่อออกตลอดเวลา
พูดอ้อแอ้ เป็ นต้น สวิงสวาย อาจตายได้ ถ้ารักษาไม่ทนั

ป่ วงลูก มีอาการลงท้อง อาเจียน ปวดท้อง – –


นก หาวเรอ และหนาวสั่น

ป่ วง มีอาการลงท้องมาก กับหอบเหนื่อย – –
เลือด ซี ดเหลือง อ่อนเพลีย และเซื่ องซึ ม

ป่ วงน้ า มีอาการอาเจียนรุ นแรง รู ้สึกหนาว แต่ ป่ วงน้ า ให้เอาน้ าร้อนหยอดใส่ ลากล้องของ


ตัวร้อน ซี ดเหลือง เป็ นต้น ปื นไฟ สักครู่ จึงลองเทน้ าออกลงดิน
ให้ได้กลิ่นไอดินขึ้นมา แล้วจึงนาน้ า
ในลากล้องปื นไฟนั้นมากิน

ป่ วง เกิดเพราะธาตุลมในร่ างกายผิดปกติ – –
โกฐ อันเนื่องมาจากกระษัยกล่อน ทาให้มี
อาการลงราก ให้ร้อนทั้งลาคอ มือเท้า
ซี ดเหี่ ยว เหงื่อแตก ตัวชา กับมีอาการ
ลงท้อง ปวดท้องด้วย เป็ นต้น

– – ป่ วง มีอาการอาเจียน จุกขึ้นลาคอ หอบ


สุ นขั หนัก เหมือนหมาหอบแดด ถ้ารักษาดี
หาย รักษาไม่ดีตาย
ในตอนท้ายของคัมภีร์อติสารได้กล่าวถึงตารับยาสมุนไพรที่ใช้รักษาอาการอันเกิดจากอติสาร
ต่างๆ ดังกล่าวไว้หลายตารับหลายขนาน เช่น ยาแก้อติสารทั้งปวง ยาแก้มูตรอติสาร ยาปิ ดมหาสมุทร
น้อย ยาชื่อพรหมพักตร์ ยาชื่อสมุทรเกลื่อน 
ยาแก้รัตนธาตุอติสาร ยาชื่อประทานชี วติ เป็ นต้น ดัง
ตัวอย่างตารับยาแก้อติสารทั้งปวง และยาแก้รัตนธาตุอติสารดังนี้

You might also like