เฉลย แบบทดสอบ

ความรู้เบือ้ งต้ นทางกายวิภาคศาสตร์ และสรีระวิทยา

จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียวเท่านั้น
1. วิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้าง ทั้งหมดของร่ างกาย รวมทั้งรู ปร่ างลักษณะตำแหน่งที่ต้ งั ของอวัยวะแต่ละ
ส่ วนของมนุษย์ เรี ยกวิชานี้วา่ อย่างไร
1. สรี ระวิทยา 2. กายวิภาคศาสตร์ 3. พยาธิวิทยา 4. จุลชีววิทยา
2. “วิชาที่ศึกษาถึงเซลล์ และเนื้ อเยือ่ ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ต้องศึกษาด้วยกล้องจุลทรรศน์ โดยทำการ
ศึกษาถึงรู ปร่ างลักษณะส่ วนประกอบ รวมทั้งการทำงาน และการดำรงชีวิตของเซลล์” เรี ยกวิชานี้วา่ อะไร
1. พยาธิวิทยา 2. จุลกายวิภาคศาสตร์
3. ประสาทกายวิภาคศาสตร์ 4. มหกายวิภาคศาสตร์
3. ข้อใดกล่าวถึงท่ามาตรฐานทางกายวิภาคศาสตร์ (Anatomical Position) ได้ถูกต้อง
1. ยืนตรงส้นเท้า 2 ข้างชิดกัน 2. ยืนตรงปลายเท้าชิดกัน 2 ข้าง
3. แบมือพอประมาณ และหันฝ่ ามือไปด้านหลัง
4. ยืนแขนชิดข้างลำตัว ปลายนิ้วก้อยอยูด่ า้ นนอกลำตัว
4. การแบ่งระนาบของร่ างกาย ที่แบ่งร่ างกายออกเป็ นซีกซ้าย และซีกขวา เรี ยกระนาบการแบ่งนี้วา่ อย่างไร
1. Sagital Plane 2. Frontal Plane 3. Coronal Plane 4. Transverse Plane
5. ช่องว่างในร่ างกาย ช่องว่างใดที่อยูท่ างด้านหลังของร่ างกาย
1. ช่องท้อง 2. ช่องอก 3. ช่องกระโหลกศีรษะ 4. ช่องเชิงกราน
6. หลอดอาหาร (Esophagus) บรรจุอยูใ่ นช่องใดของร่ างกาย
1. ช่องอก 2. ช่องท้อง 3. ช่องเชิงกราน 4. ช่องไขสันหลัง
7. กลไกในข้อใดไม่ใช่กลไก ของการอยูร่ อดของชีวิต (Maintainance of life)
1. กลไกการรักษาขอบเขต 2. กลไกการตอบสนอง
3. กลไกการขับถ่าย 4. กลไกสร้างความสัมพันธ์
8. “เมื่อเดินเหยียบตะปู เราจะชักขาออกจากตะปูทนั ที” เรี ยกกลไกนี้ วา่ อะไร
1. กลไกการเคลื่อนไหว 2. กลไกการรักษาขอบเขต
3. กลไกทางเมตาบอริ ซึม 4. กลไกการตอบสนอง
9. “ปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นในเซลล์ร่างกาย” หมายถึงกลไกอะไร
1. กลไกเมตาบอริ ซึม 2. กลไกการสื บพันธุ์
3. กลไกการย่อย 4. กลไกการขับถ่าย

10. ข้อใดหมายถึงไม่ใช่ปัจจัยที่จำเป็ นสำหรับควบคุมการทำงานของร่ างกาย

1. ศูนย์กลางการควบคุม (Control center) 2. รี เซบเตอร์ (Receptor)
3. อวัยวะสำแดงผล (Effector) 4. ตัวประสานงาน (Coordinator)
11. “หน่วยของสิ่ งมีชีวิตที่เล็กที่สุด ที่สามารถมีชีวิตอยูร่ อดได้” คืออะไร
1. เซลล์ 2. เนื้อเยือ่ 3. อวัยวะ 4. ระบบ
12. ข้อใดหมายถึงองค์ประกอบของเซลล์สตั ว์ พื้นฐานที่ทุกเซลล์ตอ้ งมี
1. เยือ่ หุม้ เซลล์ (Cell menbrane) 2. ซัยโตพลาสม (Cyto plasm)
3. นิวเคลียส (Nucleus) 4. ถูกทุกข้อ
13. ข้อใดหมายถึงประโยชน์ของเยือ่ หุม้ เซลล์
1. สะสมพลังงาน 2. สร้างโปรตีน 3. ช่วยดูดซึมสารเข้าสู่เซลล์ 4. สื บพันธุ์
14. ซัยโตพลาสม (Cytoplasm) มีอะไรเป็ นส่ วนประกอบเป็ นส่ วนใหญ่
1. สารคาร์โบไฮเดรต 2. โปรตีน 3. น้ำ 4. เกลือแร่
15. ออแกเนล (Organells) ใด ที่อยูใ่ นซัยโตพลาสม ที่ทำหน้าที่สร้างพลังงานให้แก่เซลล์
1. ไมโตครอนเดรี ย (Mytochondria) 2. ไรโบโซม (Ribosome)
3. กอลไล แอปพาราตัส (Golqi apparatus) 4. นิวเคลียส (Nucleus)
16. ออแกแนล (Organells) ชนิดใดที่ทำหน้าที่สร้างโปรตีน
1. ไมโตคอนเดรี ย 2. ไรโบโซม 3. ไลโซโซม 4. กอลจิบอดี้
17. ออแกแนล (Organells) ชนิดใดที่ทำหน้าที่ยอ่ ยทำลายสิ่ งแปลกปลอม
1. ไลโซโซม (Lysosome) 2. ไรโบโซม (Ribosome)
3. ไมโตครอนเดรี ย (Mytochondria) 4. นิวเคลียส (Nucleus)
18. DNA ซึ่งเป็ นสายพันธุกรรม ประกอบอยูใ่ นส่ วน ใดของเซลล์
1. กอลไจแอพพาราตัส 2. ไลโซโซม 3. นิวเคลียส 4. ไมโตคอนเดรี ย
19. โครโมโซม ในเซลล์ร่างกายมนุษย์มีท้ งั หมดกี่คู่
1. 21 คู่ 2. 22 คู่ 3. 23 คู่ 4. 24 คู่
20. โครโมโซมเพศ ในเซลล์ร่างกายมนุษย์มีกี่คู่
1. 1 คู่ 2. 2 คู่ 3. 3 คู่ 4. 4 คู่
21. โครโมโซม ร่ างกาย ของเซลล์ร่างกายมนุษย์มีท้งั หมดกี่คู่
1. 20 คู่ 2. 22 คู่ 3. 24 คู่ 4. 26 คู่
22. ของเสี ย (Waste) ที่เกิดจากกระบวน เมตาบอลิซึม ที่ถูกขับถ่ายออกจากร่ างกายคือข้อใด
1. ยูริก แอซิด 2. ยูเรี ย 3. ทั้งยูริก แอซิด และยูเรี ย 4. ไม่มีขอ้ ใดถูกต้อง
23. เซลล์สืบพันธุ์ของเพศชายเรี ยกว่าอะไร
1. สเปิ ร์ม (Sperm) 2. โอวุม (Ovum) 3. โอวารี่ (Ovary) 4. อัณฑะ (Testis)
24. อวัยวะส่ วนใดของร่ างกายที่อยูน่ อกสุ ด และสัมผัสกับสิ่ งแวดล้อมภายนอกอันดับแรก
1. ผิวหนัง 2. กล้ามเนื้อ 3. กระดูก 4. เส้นเอ็น
25. “ขี้ไคล” เป็ นส่ วนของผิวหนังชั้นอะไร
1. ชั้นหนังกำพร้า 2. ชั้นหนังแท้ 3. ชั้นไขมัน 4. ชั้นกล้ามเนื้อ
26. ข้อใดไม่ใช่อวัยวะที่อยูใ่ นชั้นหนังแท้
1. ต่อมเหงื่อ 2. ต่อมไขมัน 3. ปลายประสาท 4. เส้นเอ็น
27. กล้ามเนื้อยึดขน (Arecfor pili muscle) ถูกควบคุมโดยระบบประสาทชนิดใด
 1. ระบบประสาทรับความรู ้สึก 2. ระบบประสาทสัง่ การแบบอัตโนมัติ
3. ระบบประสาทอัตโนมัติ 4. ถูกทุกข้อ
28. ข้อใดไม่ใช่ตวั รับประสาทความรู ้สึกที่ผวิ หนัง
1. ตัวรับความเจ็บปวด 2. ตัวรับความรู ้สึกสัมผัส
3. ตัวรับความรู ้สึกตำแหน่งในข้อ 4. ตัวรับความรู ้เย็น
29. ผิวสี ดำ หรื อสี น ้ำตาลเกิดจากเม็ดสี ผวิ (Pigment) อะไร
1. เมลานิน 2. แคโรทีน 3. ฮีโมโคลบิน 4. เมลาโทนิน
30. ผมหรื อขนมีหน้าที่อะไร
1. รับความรู ้สึกสัมผัส 2. เพิ่มการระบายความร้อน
3. ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่ างกาย 4. รับความรู ้สึก เจ็บปวด
31. ส่ วนประกอบของผิวหนังส่ วนใดที่ทำหน้าที่ช่วยให้ผมหรื อขนอ่อนนุ่ม
1. กล้ามเนื้อยึดขน 2. ต่อมเหงื่อ 3. ต่อมไขมัน 4. เม็ดสี ผวิ
32. ข้อใดเป็ นหน้าที่ของผิวหนัง
1. ป้ องกันเชื้อโรค 2. รักษาสมดุลย์ของอุณภูมิในร่ างกาย
3. ระบายความร้อน 4. ถูกทุกข้อ
33. เม็ดสี ผวิ แคโรทีน ทำให้ผวิ หนังเป็ นสี อะไร
1. สี น ้ำตาล 2. สี ดำ 3. ผิวขาว 4. ผิวเหลือง
34. เม็ดสี ฮีโมโกบิน ทำให้ผวิ หนังเป็ นสี อะไร
1. สี ชมพู 2. สี ขาว 3. สี ดำ 4. สี น ้ำตาล

35. เล็บมีประโยชน์อะไร
1. ทำให้สวยงาม 2. ช่วยในการรับความรู ้สึก
3. ช่วยในการหยิบจับ 4. ช่วยรักษาสมดุลอุณหภูมิที่ผวิ หนัง
36. เส้นใย (Filament) ที่อยูใ่ นเซลล์มีหน้าที่อะไร
1. เป็ นพลังงานให้แก่เซลล์ 2. สร้างโปรตีน
3. จับกินสิ่ งแปลกปลอม 4. รักษารู ปร่ างของเซลล์
37. ออแกแนลใดในเซลล์ที่ทำหน้าที่ ช่วยในการแบ่งเซลล์
1. ไรโบโซม 2. เซนโตรโซม
3. ไลโซโซม 4. ไมโตรคอนเดรี ย
38. คำว่า “Proximal” หมายถึงอะไร
1. ใกล้ลำตัว 2. ไกลลำตัว
3. ด้านท้อง 4. ด้านหลัง
39. คำว่า “Rotation” (โรเตชัน่ ) หมายความว่าอย่างไร
1. การหมุน 2. การงอ
 3. การเยียด 4. การหุบ
40. คำว่า “Anterior” (แอนทีเรี ย) หมายความว่าอย่างไร
1. ด้านหน้า 2. ด้านหลัง
3. ด้านข้าง 4. ด้านบน