You are on page 1of 55

พรรณไม้

รอบตัว
คำนำ
E-book เล่ ม นี้ เ ป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของวิ ช าชี ว วิ ท ยา(ว 30243)
จัดทาขึ้นเพื่อ ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับพันธุ์พืชที่มีอยู่รอบตัวของเรา
โดยจัดทาอยู่ในรูปแบบของ E-book เพื่อให้พกพาสะดวก สามารถ
เปิดอ่านได้ทุก ที่ ทุกเวลา โดยใน E-book เล่มนี้ประกอบด้วย ชื่อ
ทางวิทยาศาสตร์ วงศ์ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ และประโยชน์ของ
พันธุ์พืชที่ผู้จัดทาได้ไปสารวจมา
ทั้งนี้คณะผู้จัดทาหวังว่า E-book เล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อ
ผู้ที่มาศึกษา และขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนช่วยให้ E-book เล่มนี้สาเร็จ
ลุล่วงไปด้วยดีมา ณ ที่นี
คณะผู้จัดทา
21 มกราคม 2562
1.กุยช่าย 2.มะม่วง 3.กระดังงา 4.ชวนชม 5.ตีนเป็ดน้า

6.มะม่วงหาว 7.โมก 8.ลีลาวดี 9.พลูด่าง 10.สาวน้อยปะแป้ง

11.มะพร้าว 12.หนานเฉาเหว่ย 13.ทองอุไร 14.เคราฤๅษี

15.กระบองเพชร 16.หูกวาง 17.ดาวเรือง 18.มันเทศ

19.ว่านค้างคาว 20.ลิ้นมังกร 21.วาสนา 22.ตะโก 23.ขี้เหล็ก

24.อัมพวา 25.พรมกามะหยี่ 26.ราชพฤกษ์ 27.เฟิร์นสไปนาง

28.ตะแบก 29.ชบา 30.ขนุน 31.ข่อย 32.ไทรเกาหลี 33.โพธิ์

34.โพธิ์ด่าง 35.ยางอินเดีย 36.กล้วย 37.คริสติน่า 38.เฟื่องฟ้า

39.เตยด่าง 40.เตยหอม 41.มะยม 42.หมาก 43.เฟิร์นข้าหลวง

44.เข็มมาเลย์ 45.ยอบ้าน 46.มะนาว 47.พริกขี้หนู 48.องุ่น

49.ว่านหางจระเข้ 50.ข้าวโพดฝักอ่อน
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
เป็นพืชพื้นเมืองของจีน และญี่ปุ่น สูง 20-45 ซม. ทั้งต้นมีกลิ่นฉุนพิเศษ
เฉพาะตัว รากงอกแผ่กระจายไปรอบต้น มีรากมาก ส่วนบนมีต้นที่พอง
กุยช่าย ออกเล็กน้อย เรียกว่า เหง้า ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ตัวใบเป็นมัน สี
เขียวแก่ ก้านช่อดอกออกจากโคนต้น ส่วนบนออกดอกเป็นช่อคล้ายร่มมี
กลีบหุ้มช่อดอกเป็นเยื่อสีขาว ดอกย่อยมีกลีบดอกเรียงเป็น 2 ชั้นสลับกัน
เกสรตัวผู้มี 6 อัน อับเรณูสีเหลืองมีก้านเกสรตัวเมีย 1 อัน ผลทรงกลมรีมี
3 พู ภายในมีเมล็ดสีดา ลักษณะกลมรี แบน มีขอบคล้ายรูปไต
กำรใช้ประโยชน์ :
ใบ รสร้อน ฉุน แก้พิษ ปวดแน่นหน้าอก ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาเจียน
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Allium tuberosum Rottler ex Spreng. เป็นเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด บิด ริดสีดวงทวาร ฟกช้า บวมจากการถูก
ชื่อสำมัญ : Chinese Chive กระทบกระแทก แมลงสัตว์กัดต่อย เป็นยาขับลม
ชื่ออื่น : กูไฉ่ เหง้า ทาให้ร่างกายอบอุ่น แก้เจ็บหน้าอก ท้องอืดแน่น ตกขาว
ชื่อวงศ์ : Amaryllidaceae ไอเป็นเลือด ฟกช้า กลาก
เมล็ด บารุงตับ ไต แก้ปวดเอง ปัสสาวะกะปริบกะปรอย ตกขาว
ตกเลือด หนองใน
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
เป็นพืชพื้นเมืองของจีน และญี่ปุ่น สูง 20-45 ซม. ทั้งต้นมีกลิ่นฉุนพิเศษ
เฉพาะตัว รากงอกแผ่กระจายไปรอบต้น มีรากมาก ส่วนบนมีต้นที่พอง
กุยช่าย ออกเล็กน้อย เรียกว่า เหง้า ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ตัวใบเป็นมัน สี
เขียวแก่ ก้านช่อดอกออกจากโคนต้น ส่วนบนออกดอกเป็นช่อคล้ายร่มมี
กลีบหุ้มช่อดอกเป็นเยื่อสีขาว ดอกย่อยมีกลีบดอกเรียงเป็น 2 ชั้นสลับกัน
เกสรตัวผู้มี 6 อัน อับเรณูสีเหลืองมีก้านเกสรตัวเมีย 1 อัน ผลทรงกลมรีมี
3 พู ภายในมีเมล็ดสีดา ลักษณะกลมรี แบน มีขอบคล้ายรูปไต
กำรใช้ประโยชน์ :
ใบ รสร้อน ฉุน แก้พิษ ปวดแน่นหน้าอก ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาเจียน
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Allium tuberosum Rottler ex Spreng. เป็นเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด บิด ริดสีดวงทวาร ฟกช้า บวมจากการถูก
ชื่อสำมัญ : Chinese Chive กระทบกระแทก แมลงสัตว์กัดต่อย เป็นยาขับลม
ชื่ออื่น : กูไฉ่ เหง้า ทาให้ร่างกายอบอุ่น แก้เจ็บหน้าอก ท้องอืดแน่น ตกขาว
ชื่อวงศ์ : Amaryllidaceae ไอเป็นเลือด ฟกช้า กลาก
เมล็ด บารุงตับ ไต แก้ปวดเอง ปัสสาวะกะปริบกะปรอย ตกขาว
ตกเลือด หนองใน
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ลำต้นเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ แตกกิ่งก้านสาขาออกไปรอบต้นมากมาย
จนดูหนาทึบ เปลือกของลาต้นจะมีสีน้าตาลอมดา พื้นผิวเปลือกขรุขระ เป็น
ร่องไปตามแนวยาวของลาต้น ลักษณะของใบเป็นรูปหอก มีสีเขียวเข้ม เป็นไม้

มะม่วง ใบเดี่ยวจะออกเรียงกันเป็นคู่ ๆ ไปตาม ดอกออกเป็นช่อ ช่อหนึ่งมีประมาณ


15-20 ดอก ลักษณะของดอกเป็นสีเหลืองอ่อน หรือสีนวลๆ เป็นดอกที่มีขนาด
เล็ก เมื่อดอกโรยก็จะติดผล มีลักษณะต่างกันแล้วแต่ละพรรณเช่น บางทีมีเป็น
รูปมนรี ยาวรี หรือเป็นรูปกลมป้อม ผลอ่อนมีเป็นสีเขียว เมื่อแก่หรือสุกเต็มที่
จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด ภายในผลมีเมล็ด ผลหนึ่งมีเมล็ดเดียว
กำรใช้ประโยชน์ :
เปลือกลาต้น นามาต้มเอาน้ากินเป็นยาแก้ไข้ แก้โรคคอตีบ แก้เยื่อ ปาก
อักเสบ เยื่อเมือกในจมูกอักเสบ หรือใช้สวนล้างช่องคลอดแก้อาการตกขาว
ชือ่ วิทยำศำสตร์ : Manaifera indica Linn. ใบ นามาต้มเอาน้ากิน เป็นยาแก้ลาไส้อักเสบเรื้อรัง แก้ซางตานขโมยใน
ชื่อสำมัญ : Mango, Mango tree เด็ก แก้ท้องอืดแน่น หรือใช้ใบสดตาให้ละเอียดพอกบริเวณแผลสด หรือใช้
ชื่ออื่น : หมักโม่ง ส่าเคาะส่า มะม่วง เจาะช้อก เปา สะวาย ล้างบาดแผล
00000 มั่วก้วย ผล ใช้ผลสด นามากินเป็นยาแก้คลื่นไส้ อาเจียนวิงเวียน แก้โรคเลือดออก
ตามไรฟัน ขับปัสสาวะ เป็นยาระบาย แก้อาการปวดเมื่อยเมื่อมีประจาเดือน
ชื่อวงศ์ : Anacardiaceae แก้บิดถ่ายเป็นเลือด และใช้เป็นยาบารุงกระเพาะอาหาร เป็นต้น
เมล็ด นามาต้มเอาน้ากินเป็นยาถ่ายพยาธิตัวกลม แก้ท้องร่วง แก้บิดเรื้อรัง
ริดสีดวงทวาร ตกขาว ตกเลือด ท้องอืด แก้ไส้เลื่อน และแก้ไอ
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ไม้ยืนต้นขนาดกลาง ถึงขนาดใหญ่ ไม่ผลัดใบ สูงประมาณ 15-20 เมตร ใบดก
หนาทึบ เป็นใบเดี่ยว สีเขียวอ่อนบาง นิ่ม ออกแบบเรียงสลับในลักษณะห้อย
กระดังงา ลง ดอกเป็นช่อขนาดใหญ่บนกิ่งเหนือรอยแผลใบ ช่อดอกแยกแขนง ช่อหนึ่งมี
3-6 ดอก ดอกย่อยสีเหลืองอมเขียวหรือสีเหลือง มีกลิ่นหอมมาก กลีบยาวอ่อน
มี 6 กลีบ กลีบดอกห้อยลง รังไข่จานวนมาก เกสรตัวผู้มีจานวนมากเบียดกัน
เป็นตุ้มแป้นทรงกลมตรงกึ่งกลางดอก ผลเป็นผลกลุ่ม ผลมีสีเขียวเข้ม เมื่อแก่
เปลี่ยนเป็นสีดา เมล็ดรูปไข่แบน สีน้าตาลอ่อน มี 2-12 เมล็ด ออกดอกออกผล
ตลอดปี ขยายพันธุ์โดยเมล็ดหรือกิ่งตอน
กำรใช้ประโยชน์ :
ดอก รสหอมสุขุม แก้ลมวิงเวียน ใช้ปรุงยาหอม บารุงโลหิต บารุงธาตุ
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Cananga odorata (Lam.) Hook.f. & บารุงหัวใจ แก้อ่อนเพลีย กระหายน้า แก้ไข้ ดอกแห้งผสมกับดอกไม้หอมอื่น
Thomson var. odorata. สาหรับทาบุหงา เกสร แก้ร้อนใน กระหายน้า แก้โรคตา ช่วยเจริญอาหาร
ชื่อสำมัญ : Cananga, Ylang-Ylang, Ilang-Ilang น้ามันหอม ใช้ปรุงน้าหอมชั้นสูงที่มีราคาแพง ใช้ปรุงขนม น้าอบและอาหาร
ชื่ออื่น : สะบันงา สะบันงาต้น ใบ รักษาโรคผิวหนัง กลากเกลื้อน แก้คัน ขับปัสสาวะ รำก คุมกาเนิด
ชื่อวงศ์ : Annonaceae เปลือกต้น รสฝาดเฝื่อน ขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะพิการ แก้ท้องเสีย ใช้
รักษาโรคผิวหนัง กลากเกลื้อน
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ไม้พุ่ม สูง 1-1.5 เมตร มียางใส ลาต้นและกิ่งก้านกลมเรียบ สีเขียวแกมเทา
แตกกิ่งเป็นง่าม ค่อนข้างอวบน้า มีรอยแผลใบหลุด ร่วง ใบเรียงเวียนสลับ
ชวนชม เป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง ใบเดี่ยว รูปไข่กลับหรือรูปช้อน กว้าง 3-4 ซม. ยาว
8-10 ซม. โคนใบสอบเรียว ปลายใบมนมีติ่งแหลมเล็กๆ ขอบใบเรียบ แผ่น
ใบค่อนข้างหนา เส้นกลางใบสีขาวนูน ก้านใบสั้น ดอกช่อออกที่ปลายกิ่ง
ดอกทยอยบานครั้งละ 3-4 ดอก กลีบเลี้ยง 5 กลีบ กลีบดอกติดเป็นหลอด
ปลายแยกเป็น 5 กลีบ ภายในหลอดดอกมีสีเหลืองอ่อนแกมชมพู สีชมพู
เข้มที่ขอบกลีบ แต่ละกลีบซ้อนกันเวียนเป็นวง เกสรเพศผู้ 5 อันติดอยู่บน
ท่อกลีบดอก ผลแห้งแบบ follicle เป็นฝักคู่ รูปยาวรี เมื่อแก่แตกได้
กำรใช้ประโยชน์ :
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Adenium obesum (Fosk.) Roem. & Schult.
ชื่อสำมัญ : Impala Lily, Pink Bignonia, Mock Azalea, นามาปลูกเป็นไม้ประดับ
00000000 Desert Rose
ชื่ออื่น : ลั่นทมแดง ลั่นทมยะวา
ชื่อวงศ์ : Apocynaceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ลาต้นเป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดเล็ก สูง 5-15 ม. แตกกิ่งต่า ยอดแผ่กว้าง
ทรงกลม มีน้ายางสี ข าว เปลือกเรี ยบสีเทาหรือ สีน้าตาลอ่ อน มีช่อ งระบาย
อากาศเป็นร่องยาว ใบเดี่ยว ออกเรียงเวียนรอบกิ่ง แผ่นใบรูปหอกแกมรูปไข่
กลับ กว้าง 4-8 ซม. ยาว 15-30 ซม. ผิวใบเกลี้ยงทั้งสองด้าน โคนใบสอบแคบ
ตีนเป็ดน้า ปลายใบเป็นติ่งแหลม ก้านใบยาว 2-3 ซม. ออกดอกเป็นช่อกระจุกที่ปลายกิ่ง
สีขาว ดอกย่อยมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3-5 ซม. กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็น
หลอด ปลายแยกเป็น 5 กลีบ มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ ผลสด สีเขียว ค่อนข้างกลม
ขนาด 6-10 ซม. ผิวเรียบเกลี้ยงเป็นมัน ผลแก่จัดจะเป็นสีเขียวอมม่วงถึงม่วง
เข้ม เมล็ดขนาดใหญ่ หนึ่งผลมี 1-2 เมล็ด มีลักษณะแข็ง เบา และลอยน้าได้
กำรใช้ประโยชน์ :
ราก แก้ลม ช่วยขับเสมหะ ช่วยขับผายลม
ชือ่ วิทยำศำสตร์ : Cerbera odollam Gaertn. ใบ แก้หวัด รักษาโรคผิวหนัง แก้กลากเกลื้อน แก้อาเจียนเป็นเลือด ช่วย
ชื่อสำมัญ : Suicide Tree ฆ่าพยาธิผิวหนัง
ชื่ออื่น : ตุม พะเนียงน้า สั่งลา มะตะกอ เปลือก แก้ไข้ แก้หวัด หลอดลมอักเสบ อาการบิด ช่วยสมานลาไส้ ยาถ่าย
ยาระบาย ขับพยาธิไส้เดือน ช่วยแก้นิ่ว ขับนิ่ว
ชื่อวงศ์ : Apocynaceae
ผล ช่วยฆ่าเหา รักษาโรคผิวหนังเรื้อรัง โรคกลัวน้า ระงับอาการปวด ปวด
ตามข้อ และปวดตามกล้ามเนื้อ ผลแห้งนามาเผาไฟตาผสมน้ามันพืชทาแก้ปวด
เมล็ด แก้ผมหงอก บารุงหัวใจ ยาถ่าย ยาระบาย แก้หิด ใช้เบื่อปลา และ
ทาไม้ประดับแห้ง
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
เป็นไม้พุ่ม สูง 2-3 เมตร ทรงพุ่มกลม แตกกิ่งจานวนมากทุกส่วนมียางสีขาวเหมือน
น้านม ลาต้นและกิ่งก้านมีหนามแหลมยาว 2-5 เซนติเมตร ปลายหนามมีสีแดงใบ
มะม่วงหาว เป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม โคนใบกลม ผิวใบสีเขียวเข้มเมัน ดอกเป็นดอกช่อสั้นๆ ที่
ปลายกิ่ง กลีบดอกสีขาว มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบมีขนโคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอด
มะนาวโห่ ยาวสีชมพูแกมแดง ดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ผลเป็นผลเดี่ยวออกรวมกันเป็นช่อ ผลรูป
กลมรี มนรี หรือรูปไข่ ผลอ่อนมีสีขาวอมชมพู ผลดิบมีน้ายางมาก ผลจะค่อยๆ เข้ม
ขึ้นเป็นสีแดง กระทั่งสุกจึงกลายเป็นสีดา เมล็ดติดอยู่ที่ส่วนปลายรูปไต ยาว 2.5-3
เซนติเมตร สีน้าตาลอมเทา มีเปลือกแข็งหุ้ม
กำรใช้ประโยชน์ :
ผล ฆ่าเชื้อ ขับปัสสาวะ พอกดับพิษ แก้โรคลักปิดลักเปิด
เมล็ด แก้กลากเกลื้อน แก้เนื้อหนังชาในโรคเรื้อน แก้โรคผิวหนัง แก้ตาปลา แก้
เนื้องอก บารุงไขข้อ บารุงกระดูก บารุงเส้นเอ็น บารุงกาลัง บารุงผิวหนัง
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Carissa carandas L.
เปลือก แก้บิด ขับน้าเหลืองเสีย แก้ท้องเสีย แก้กามโรค ทายาอมรักษาแผลใน
ชื่อสำมัญ : Bengal-Currants, Carandas-Plum, Karina ปาก แก้ปวดฟัน พอกดับพิษ
ชื่ออื่น : หนามขี้แฮด หนามแดง มะนาวไม่รู้โห่ มะนาวโห่
ยอดอ่อน รักษาริดสีดวงทวาร
ชื่อวงศ์ : Apocynaceae
ยาง ใช้ทาลายตาปลา กัดทาลายเนื้อที่ด้านเป็นปุ่มโต แก้เลือดออกตามไรฟัน
รักษาหูด รักษาขี้กลาก
น้ามัน ใช้ฆ่าเชื้อ ทาถูนวดให้ร้อนแดง ยาชา รักษาโรคเรื้อน กัดหูด แก้ตาปลา
แก้บาดแผลเน่าเปื่อย
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
โมกเป็นไม้พุ่มยืนต้น สูงประมาณ 1-3 เมตร ขึ้นได้ในดินเกือบทุกชนิด พบ
ขึ้นในป่าดงดิบ และป่าละเมาะชุ่มชื้นทั่วประเทศไทย ลาต้นมีเปลือกเกลี้ยง
โมก สีน้าตาลค่อนข้างดา มีจุดเล็กสีขาว แซม ใบเป็นใบเดี่ยวขนาดเล็ก รูปหอก
ขอบใบเรียบเกลี้ยง กว้างประมาณ 1 นิ้ว ยาวประมาณ 2 นิ้วครึ่ง ใบสีเขียว
เป็นมันออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน ดอกมีขนาดเล็ก สีขาว ประกอบด้วยกีบดอก
5 กลีบ ก้านดอกเล็กเรียวห้อยยาว ทาให้ดอกโมกคว่าหน้าลงดิน ดอกกว้าง
ประมาณครึ่ ง นิ้ ว มี เ กสรตั ว ผู้ ป ระมาณ 5 อั น เกสรตั ว เมี ย 2 อั น ดอก
ออกเป็นช่อสั้นๆ ตามปลายกิ่งช่อละ 5-7 ดอก ดอกจะออกตลอดปี ตั้งแต่
ช่วงเย็นจนถึงค่า ดอกจะให้กลิ่นหอมกว่าช่วงกลางวัน โมกออกผลเป็นฝักมี
จุดประเป็นสีกระดากระด่างและออกฝักคู่ แต่ละฝักจะโค้งเข้าหากัน ยาว
ชือ่ วิทยำศำสตร์ : Wrightia religiosa, Benth ฝั ก ละประมาณ 6 นิ้ ว พอแจ่ จ ะแตกเป็ น 2 ซี ก ภายในมี เ มล็ ด เป็ น รู ป
ชื่อสำมัญ : Moke กระสวยจานวนมากมาย
ชื่ออื่น : ปิดจงวา โมกซ้อน หลักป่า กำรใช้ประโยชน์ :
ชื่อวงศ์ : Apocynaceae ราก ใช้เป็นส่วนผสมแก้โรคผิวหนัง
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ลีลาวดีเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก แตกกิ่งก้านสาขามาก กิ่งเปราะ มียางสีขาว
สูงประมาณ 25 ฟุตเป็นไม้ชอบแสงแดดจัด ปลูกง่าย ขึ้นได้ในดินทุกชนิด
ลีลาวดี แต่ไม่ชอบดินแฉะมีน้าขัง มีอยู่หลายพันธุ์เช่นลีลาวดีขาว ลีลาวดีแดง ใบ
เป็นใบเดี่ยว ลักษณะใบรูปหอก ปลายใบแหลม มีเส้นใบมากเส้นใบเรียง
ขนานกันกว้างประมาณ 4 นิ้ว ยาวประมาณ 12 นิ้ว ดอกเป็นทรงรูปกรวย
บางชนิดกลีบดอกใหญ่ บางชนิดกลีบดอกเล็กยาว ลางชนิดกลีบบิด มีสี
ต่างๆกัน เช่น แดง ขาว ชมพู เหลือง แสด
กำรใช้ประโยชน์ :
ดอกและเปลือกต้น ผสมกับพลู ทาเป็นยาแก้ไข้และไข้มาลาเรีย
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Plumeria obtusa L. ราก ช่วยรักษาไข้หวัด
ชื่อสำมัญ : Frangipani, Pagoda Tree, Temple Tree
เนื้อไม้ ใช้ปรุงเป็นยาแก้ไอ
ชื่ออื่น : ลั่นทม จาปาลาว จาปาขอม
ชื่อวงศ์ : Apocynaceae ยางและแก่น ช่วยถ่ายเสมหะและโลหิต
ราก ช่วยขับเหงื่อ แก้ร้อนใน
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ไม้อิงอาศัย เนื้อไม้อ่อน เลื้อยไปตามพื้นหรือมีรากเกาะพันกับต้นไม้ใหญ่
หรือเสาหลักอื่นๆ เมื่อแก่มีเนื้อไม้ กิ่งก้านสีเขียวถึงสีเขียวอ่อนอมเหลืองมัก
พลูด่าง มีขีดตามยาวสี เหลือ งหรือ สี ขาว ใบเดี่ย ว เรีย งสลั บ รูปไข่แกมรูปหัวใจ
ปลายแหลม โคนเว้า ขอบเรียบ แผ่นใบหนาอวบน้า ผิวด้านบนด่างสีเขียว
ปนเหลือง
กำรใช้ประโยชน์ :
นิยมปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป

ชื่อวิทยำศำสตร์ : Epipremnum aureum (Linden & André)


G.S.Bunting
ชื่อสำมัญ : Devil’s ivy, Golden pothos, Hunter’s-robe
ชื่ออื่น : พลูด่างอินเดีย, พลูช้าง
ชื่อวงศ์ : Araceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :

สาวน้อย ไม้ล้มลุก อายุหลายปี สูง 50-70 เซนติเมตร ลาต้นทรงกระบอก สีเขียว ใบ


เดี่ยว เรียงสลับ ใบรูปไข่แกมรูปขอบขนาน กว้าง 12-20 เซนติเมตร ยาว
ปะแป้ง 35-75 เซนติเมตร ปลายเรียวแหลม โคนรูปลิ่ม ขอบเรียบ แผ่นใบสีเขียว
บริเวณกลางใบสีขาวหรือเขียวอ่อน กระจายไม่เป็นระเบียบ เส้นกลางใบ
ลักษณะร่อง ก้านใบเป็นกาบหุ้มลาต้น สีเขียว ดอกเป็นช่อแบบช่อเชิงลดมี
กาบ ออกตามซอกใบ ดอกสีขาว จานรองดอกสีเขียว เกสรเพศผู้อยู่ช่วงบน
เกสรเพศเมียอยู่ช่วงล่าง ผลเป็นฝัก ผลย่อยกลมหรือรูปไข่ สีส้มหรือสีแดง
ผลสดจะมีเนื้อนุ่ม ภายในมีเมล็ดจานวนมากอัดกันแน่น และมีกาบหุ้ม
กำรใช้ประโยชน์ :
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Dieffenbachia seguine (Jacq.) Schott. ปลูกประดับในอาคาร ปลูกประดับสวน เป็นพืชมีพิษ
ชื่อสำมัญ : Dumb cane
ชื่ออื่น : ช้างเผือก ว่านพญาค่าง ว่านหมื่นปี
00000 สาวน้อยประกายเพชร ไอ้ใบ้
ชื่อวงศ์ : Araceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ไม้ต้น สูง 20-30 เมตร ลาต้นกลม ตั้งตรง ไม่แตกกิ่งก้าน เปลือกต้นแข็ง สีเทา
ขรุขระ มีรอยแผลใบ ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงเวียน รูปพัดจี บ
กว้าง 3.5- ซม. ยาว 80-120 ซม. โคนใบและปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ แผ่นใบ
เรียบสีเขียวแก่ เป็นมัน โคนก้า นใบใหญ่แผ่เป็น กาบหุ้มลาต้น ดอก ออกเป็นช่ อ
มะพร้าว แขนงตามซอกใบ ดอกเล็ก กลีบดอกที่ลดรูปมี 4-6 อัน ในช่อหนึ่งมีทั้งดอกเพศผู้
และเพศเมีย ดอกเพศผู้อยู่ปลายช่อ ดอกเพศเมียอยู่บริเวณโคนช่อดอก ไม่มีก้าน
ดอก ผล รูปทรงกลมหรือรี ผิวเรียบ ผลอ่อนสีเขียวพอแก่เป็นสีน้าตาล เปลือกชั้น
กลางเป็นเส้นใยนุ่ม ชั้นในแข็งเป็นกะลา ชั้นต่อไปเป็นเนื้อผลขาวนุ่ม ข้างในมีน้าใส
กำรใช้ประโยชน์ :
เปลือกผล รสฝาดขม สุขุม ใช้ห้ามเลือด แก้ปวด เลือดกาเดาออก โรค
กระเพาะ และแก้อาเจียน
ถ่านจากกะลา รับประทานแก้ท้องเสีย และดูดสารพิษต่างๆ
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Cocos nucifera L.
เนื้อมะพร้าว รสชุ่ม สุขุม ไม่มีพิษ รับประทานบารุงกาลัง ขับพยาธิ
ชื่อสำมัญ : Coconut
น้ามันจากเนื้อมะพร้าว ใช้ทาแก้กลาก และบาดแผลที่เกิดจากความเย็นจัด
ชื่ออื่น : ดุง เฮ็ดดุง โพล คอส่า พร้าว หมากอุ๋น หรือถูกความร้อน และใช้ผสมทาแก้โรคผิวหนังต่างๆ นอกจากที่ยังใช้เป็นอาหาร
ชื่อวงศ์ : Arecaceae ทาแก้ผิวหนัง แห้ง แตกเป็นขุย และชนิดที่บริสุทธิ์มากๆ
ราก รสฝาด หวาน ใช้ขับปัสสาวะ และแก้ท้องเสีย ต้มน้าอมแก้ปากเจ็บ
เปลือกต้น เผาเป็นเถ้า ใช้ทาแก้หิด และสีฟันแก้ปวดฟัน
สารสีน้าตาล ไหลออกมาแข็งตัวที่ใต้ใบ ใช้ห้ามเลือดได้ดี
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
หนาน เป็นไม้ยืนต้นสูง 6-8 เมตร ใบออกสลับ มีรูปรี ปลายแหลม โคนป้านเกือบ
มน ใบอ่อนและใบแก่ มีรสขมจัด เมื่อเคี้ยวตอนแรก จะขมในปากมาก แต่
เฉาเหว่ย พอสักพักจะรู้สึกหวานในปากและในลาคอดอกมีสีขาว ออกตามซอกใบ
และปลายยอด มีตาสีขาวตรงข้อของลาต้น ผลมีรูปทรงกลม มีเมล็ด
กำรใช้ประโยชน์ :
ใบสด ช่วยลดความดัน ช่วยลดน้าตาลในเลือด รักษาอาการปวดข้อ
ปวดเมื่อ ยตามร่างกาย ต่อต้านโรคเก๊าต์ โรคเบาหวาน แก้ โรคไขมันสู ง
รักษาโรคไทรอยต์ต่า ไม่เหมาะกับผู้มีไทรอยต์ สูง มีรายงานจากแหล่งข่าว
จานวนมากว่ารักษาโรคมะเร็งได้ โดยรับประทานใบ 3 ครั้ง/วัน เช้า เที่ยง
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Gymnanthemum extensum. เย็น โดยรับประทานใบสด วันละ 5-7 ใบ/ครั้ง ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย
ชื่อสำมัญ : Bitterleaf tree ช่วยรักษาหูดให้หลุดออกและผิวเรียบปกติ ช่วยรักษาโรคริดสีดวงทวาร
หนัก เพิ่มสมรรถนะทางเพศ รักษาโรคใจสั่น ช่วยให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น
ชื่ออื่น : หนานเฟยเฉา หนานเฟยซู่ ป่าเฮ่วหมอง บิสมิลลาฮ์
ชื่อวงศ์ : Asteraceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ลาต้นไม้พุ่ม สูง 2-5 เมตร เปลือกสีน้าตาลอ่อนถึงสีเทา เรือนยอดทรงกลม
ถึงรูปไข่ ใบประกอบแบบขนนก ออกตรงข้าม ใบย่อย 5-13 ใบ รูปใบหอก
ทองอุไร หรือไข่แกมขอบขนาน ปลายเรียวแหลม ขอบจักฟันเลื่อย สีเขียวเข้ม เห็น
เส้นใบชัดเจน ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะ ที่ปลายกิ่ง ดอกสีเหลือง
กลีบดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดคล้ายรูปแตร ปลายแยก 5 แฉก ภาย
ในหลอดมีเส้นสีส้มทอดยาวจนถึงก้นหลอด กลีบบางผิวนุ่ม ร่วงง่าย
กำรใช้ประโยชน์ :
นิยมปลูกเป็นไม้ประดับตกแต่งสวน

ชื่อวิทยำศำสตร์ : Tecoma stans (L.) Juss. ex Kunth


ชื่อสำมัญ : Yellow bell, Yellow elder,
00000000 Yellow trumpet flower
ชื่ออื่น : เหลืองอุไร
ชื่อวงศ์ : Bignoniaceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
เป็นพืชอิงอาศัย ลาต้นขนาดเล็ก มีรากอากาศ สามารถแตกยอดต่อกันไป
เรื่อยๆ ปกคลุมด้วยขนสีขาวตลอดทั้งต้น ใบเดี่ยว ขนาดเล็ก ใบมีลักษณะ
เคราฤาษี ทรงกระบอกเป็นเส้นเรียวยาว มี 3-4 ใบ สีเขียว พบดอกได้น้อย ออกตาม
ปลายยอด ดอกสีส้ม กลีบเลี้ยงขนาดเล็ก 3 กลีบ สีเขียว เกสรเพศเมีย 1
เกสร เกสรผู้ 3 เกสร
กำรใช้ประโยชน์ :
ปลูกประดับเพื่อความสวยงาม นิยมปลูกใส่กระถาง หรือ ขอนไม้แขวน
ไว้ตามจุดต่างๆ และช่วยดักจับมลพิษในอากาศได้

ชือ่ วิทยำศำสตร์ : Tillandsia usneoides (L.) L.


ชื่อสำมัญ : Spanish moss
ชื่ออื่น : หนวดฤๅษี, หนวดตาแป๊ะ, มอสสเปน
ชื่อวงศ์ : Bromeliaceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :

กระบอง เป็นไม้พุ่มยืนต้น ลาต้นและกิ่งกลมตั้งตรงหยักลึกเป็นร่องโดยรอบ 3-7 สัน


อาจมีได้ถึง 11 สัน สูง 3-15เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 12 ซม. คอดตรง
เพชร รอยต่อ ออกดอกเดี่ยวๆ ใกล้ยอด เส้นผ่านศูนย์กลาง 15 –20ซม. โคน
กลีบรวมติดกันเป็นรูปกรวย ผลรูปไข่กว้าง 4-10 ซม. ยาว 5.5–13 ซม. ลูก
สีแดง มีขนเล็กน้อย เนื้อในสีขาว เมล็ดสีดามีเมล็ดมาก
กำรใช้ประโยชน์ :
นามาปลูกเป็นไม้ประดับ

ชื่อวิทยำศำสตร์ : Cereus hexagonus (L.) Mill.


ชื่อสำมัญ : Torch thistle
ชื่ออื่น : เขียะ หนามเขียะ กระบองเพชร ตะบองเพชร
00000 ปะทามังหลวง ตุมาซี้
ชื่อวงศ์ : Cactaceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ไม้ต้นผลัดใบ สูง 8-20 เมตร เปลือกเรียบสีดา-น้าตาล แตกกิ่งแนวนอน
เป็นชั้นๆ ใบเดี่ยวเรียงเวียนสลับถี่ตอนปลายกิ่ง แผ่นใบรูปไข่กลับ กว้าง 8-
หูกวาง 15 เซนติเมตร ยาว 12-25 เซนติเมตร ดอกเล็กสีขาวนวล ออกเป็นช่อตาม
ง่ามใบ ออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ -เมษายน ผลเป็นรูปไข่หรือรีแบน
เล็กน้อย กว้าง 2-5 เซนติเมตร ยาว 3-7 เซนติเมตร
กำรใช้ประโยชน์ :
เปลือกและผล รสฝาดมากใช้แก้อาการท้องเสีย ย้อมหนังสัตว์ ทาหมึก
เม็ด รับประทานได้ และให้น้ามันคล้ายน้ามันอัลมอนต์
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Terminaliacatappa L. ใบ ใบแห้งเป็นที่รู้จักกันดีของผู้นิยมเลี้ยงปลากัด เนื่องจากใช้ใบแห้ง
ชื่อสำมัญ : Indian almond หมักน้าที่ใช้เลี้ยงปลาได้เพราะเทนนินในใบหูกวาง จะทาให้สภาพน้ามีค่า
ความเป็นกรดสูงขึ้น เหมาะสาหรับใช้เลี้ยงปลา ที่มาจากแหล่งน้าที่มีความ
ชื่ออื่น : โคน ตัดมือ ตาปัง ตาแปห์ หลุมปัง เป็นกรดสูง และใช้รักษาอาการบาดเจ็บของปลากัดได้เป็นอย่างดี
ชื่อวงศ์ : Combretaceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ไม้ล้มลุก ไม่มีเนื้อไม้ ลาต้นสีเขียว สูง 25-60 เซนติเมตร ใบประกอบแบบ
ขนนก เรียงตรงข้ามกัน ใบย่อย 11-17 ใบ รูปรี ปลายแหลม โคนสอบ
ดาวเรือง ขอบใบจักฟันเลื่อย สีเขียวเข้ม ดอกเป็นช่อแบบช่อกระจุกเดี่ยวที่ปลาย
กิ่ง ดอกสีเหลือง เหลืองทอง หรือส้ม ดอกมี 2 ชั้น คือกลีบดอกวงนอกและ
วงใน ดอกวงนอกกลีบดอกเป็นรูปรางน้าซ้อนกันแน่น โคนกลีบดอกเป็น
หลอดเล็ก ปลายแผ่เป็นรูปไข่กลับ กลีบบางเป็นริ้ว ดอกวงในกลีบดอกเป็น
หลอดสีเหลืองปลายจัก มีกลิ่นหอมอ่อนๆ
กำรใช้ประโยชน์ :
ดอก ใช้ร้อยพวงมาลัยชนิดต่างๆ เพื่อการบูชาพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Tagetes erecta L. ตามความเชื่อ
ชื่อสำมัญ : African marigold, Aztec marigold, กลีบดอก มีสารสีเหลืองที่เรียกว่าแซนโทฟิลล์สูง จึงมีการปลูกเพื่อเก็บ
00000000 Big marigold, American marigold ดอกเพื่อเอาไปเป็นส่วนผสมของอาหารไก่ไข่เพื่อให้ไข่แดงมีสีแดงสวย
ชื่ออื่น : ดอกคาพู่จู้ คาปูจู้หลวง ดาวเรืองใหญ่ พอทู ทดแทนสารสังเคราะห์
00000 ดาวเรืองอเมริกัน ใบ สะสมสารหนูได้ 42% จึงมีประโยชน์ในการฟื้นฟูดินที่ปนเปื้อนสาร
ชื่อวงศ์ : Compositae หนู มีกลิ่นฉุนสามารถไล่แมลงหรือยุงได้
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
มันเทศ เป็นพืชอายุยืน ไม่มีเนื้อไม้ รากแตกตามข้อและมีรากที่ขยายใหญ่
เพื่อสะสมอาหาร มีรูปร่าง ขนาด จานวนและสีของหัวต่างกัน ตั้งแต่สีขาว
มันเทศ สีเหลือง สีน้าตาล สีแดง และสีม่วง ใบเดี่ยว ไม่มีหูใบ มีต่อมน้าหวานสอง
ต่อมตรงขั้วใบ ก้านใบด้านบนเป็นร่องลึก กลีบดอกรูปกรวยสีขาวหรือสี
ม่ว งแดง กลี บดอกในส่ ว นที่เ ป็ น หลอดมี สี ม่ว ง รัง ไข่ ล้ อ มรอบด้ว ยต่ อ ม
น้าหวานสีส้มเป็นพู ยอดเกสรตัวเมียมี 2 พู สีขาวหรือสีม่วงอ่อน ผลเป็น
แบบแคบซูล มันเทศที่หัวมีสีม่วงบางครั้งเรียกมันต่อเผือกด้วย
กำรใช้ประโยชน์ :
หัว ใช้เป็นยาระบาย แก้กระหายน้า แก้บิด บารุงม้าม ไต แก้แผลไฟ
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Ipomoea batatas (L.) Lam. ไหม้ รักษาเริม งูสวัด มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา
ชื่อสำมัญ : Sweet potato ราก เป็นยาระบาย แก้พิษแมลงป่อง
ชื่ออื่น : มันหลา มันแก๋วแดง หมักอ้อย แตลอ มัน ฮวงกั้ว ใบ รักษาฝี
ชื่อวงศ์ : Convolvulaceae
ยอดอ่อน ช่วยให้สตรีหลังคลอดมีน้านม
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :

ว่าน ลาต้นใต้ดินเป็นเหง้าเล็กๆ ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ รูปรีแกมรูปขอบขนาน


โคนใบมน ปลายใบแหลม สี เขียวเข้ม โคนก้านแผ่ เป็นกาบ สี เขีย วเข้ม
ค้างคาว ช่อดอกออกจากซอกใบ มากถึง 20 ดอกต่อช่อ ดอกสีม่วงคล้า ใบประดับมี
จานวนมากกว่า 4 ใบ สีเขียวคล้า คล้ายปีกค้างคาว ใบประดับย่อยเป็นเส้น
ยาวเท่ากับจานวนดอก
กำรใช้ประโยชน์ :
หัว นามาดองเหล้ากินก่อนนอนจะช่วยเพิ่มพลังทางเพศ จึงมีอีกชื่อว่า
ว่านนางครวญ หรือนามาฝานบางๆ ตากแห้ง ชงเป็นชาดื่มเป็นประจา ช่วย
บารุงกาลัง ทาให้ไม่ง่วง
ชือ่ วิทยำศำสตร์ : Tacca chantrieri André.
ชื่อสำมัญ : Bat Flower, Cat’s Whiskers, Devil Flower
ชื่ออื่น : ดีงูหว้า เนระพูสีไทย มังกรดา ว่านค้างคาวดา
00000 ว่านนางครวญ ว่านพังพอน ว่านหัวลา
ชื่อวงศ์ : Dioscoreaceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ลิ้นมังกรเป็นพรรณไม้ ที่มีลาต้นเป็นหัว หรือเหง้าอยู่ในดิน ลักษณะลาต้น
เป็นข้อ ๆ ใบเกิดจากหัวที่โผล่ออมาพ้นดินเป็นกอ ใบยาวปลายแหลม แข็ง
ลินมังกร เป็นมัน ขอบใบเรียบ โค้งงอเล็กน้อย ขอบใบมีสีเหลืองกลางใบสีเขียวอ่อน
ประด้วยเส้นสีเขียวเข้ม ขนาดของใบกว้างประมาณ 4-7 เซนติเมตร ยาว
ประมาณ 30-50 เซนติเมตร ก้านดอกประกอบด้วยกลุ่มดอกเป็นชั้น ๆ
ลักษณะดอกมีขนาดเล็ก ออเรียงกันเป็นแนวตามชั้นของก้านดอกดอกมีสี
ขาวมีกลีบประมาณ 5 กลีบ นาดดอกบานเต็มที่ 2 เซนติเมตร ลักษณะ
ขนาดใบ และสีสัน จะแตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์
กำรใช้ประโยชน์ :
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Sansevieria spp. ใบ มีรสขม มีสรรพคุณแก้อาการเจ็บคอ บารุงปอด แก้โรคติดเชื้อใน
ชื่อสำมัญ : Snake plant, Mother-in-laws Tongue บางระบบทางเดินหายใจส่วนบน ใบใช้ตาหรือขยี้แล้วนาไปทาหรือพอก
บริเวณแผลที่อักเสบช่วยให้ทุเลาอาการลงได้ ช่วยฟอกอากาศบริเวณรอบ
ชื่ออื่น : ว่านหางเสือ ว่านงาช้าง ครีบปลาวาฬ ลิ้นนาคราช
ๆ ให้มีคุณภาพมากขึ้น ช่วยดูดซับสารพิษ ไอระเหยประเภทฟอร์มาลดีไฮด์
ชื่อวงศ์ : Dracaenaceae โทลูอีน เบนซิน คลอโรฟอร์ม ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และสารพิษอื่น ๆ
ที่มาจากสีทาบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
เป็นไม้ยื นต้น สู งได้ถึง 2-7 เมตร ลาต้นรูปทรงกระบอก ขนาดกลางถึง
ค่อนข้างใหญ่ ต้นตรง มักไม่แตกกิ่ง ลาต้นเป็นข้อถี่ ผิวเปลือกลาต้นมีสี
วาสนา น้าตาล ใบเดี่ยวเรียงเวียนสลับ รูปแถบ กว้าง 5–8 เซนติเมตร ยาว 30–50
เซนติเมตร ปลายใบแหลม แผ่นใบโค้งลงสีเขียวเป็นมัน ก้านใบเป็นกาบหุ้ม
ติดกับลาต้น ออกดอกเป็นช่อแน่น ยาวถึง 60 เซนติเมตร ดอกสีขาว มี
กลิ่นหอม กลีบด้านนอกสีน้าตาลเรื่อ ด้านในสีขาว ลักษณะเป็นหลอดยาว
ขณะตูม เมื่อบานกลีบดอกจะแผ่ออกเป็น 6 กลีบ เกสรเพศผู้ 6 เกสร แผ่
ออกตามกลีบดอกล้อมรอบเกสรเพศเมียตรงกลาง
กำรใช้ประโยชน์ :
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Dracaena fragrans (L.) Ker Gawl. ใบ แก้ปวดท้อง
ชื่อสำมัญ : Corn Plant, Dracaena ราก บรรเทาอาการปวดในการคลอดบุตร
ชื่ออื่น : วาสนาอธิษฐาน สายสะพายจอมพล วาสนาเรือนนอก
111111มังกรหยก
ชือ่ วงศ์ : Dracaenaceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ไม้ยืนต้น สูงได้ถึง 15 ม. ใบเดี่ยว รูปไข่กลับหรือรูปรี กว้าง 2.5-7.0 ซม.
ยาว 5-12 ซม. โคนใบสอบ ปลายใบโค้งมน ดอกสีขาวนวล แยกเพศ ดอก
ตะโก เพศผู้ออกเป็นช่อ กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปโอ่งน้าหรือรูปคนโท มี 4
กลีบ ยาว 8-12 มม. ปลายแยกเป็นแฉกสั้น มีเกสรเพศผู้ 14-16 อัน ดอก
เพศเมียเป็นดอกเดี่ยว ลักษณะคล้ายดอกเพศผู้แต่มีขนาดใหญ่กว่า กลีบ
ดอกมี 4 กลีบ มีเกสรเพศผู้เทียม 8-10 อัน ผลสด สีส้มแดง ทรงกลม ผิว
มัน ขนาด 1.5-3.0 ซม. มีขนละเอียด และกลีบเลี้ยงติดอยู่ที่ขั้วผล 4 กลีบ
กำรใช้ประโยชน์ :
ลาต้น เนื้อไม้แข็งแรงใช้ทาเครื่องเรือนและเครื่องมือใช้ได้ดี
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Diospyros rhodocalyx Kurz. ราก นาไปต้มน้าดื่มแก้โรคเหน็บชา โรคทางเดินปัสสาวะ น้าเหลืองเสีย
ชื่อสำมัญ : Ebony แก้ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย ช่วยเจริญอาหาร และแก้ร้อนใน
ชื่ออื่น : โก นมงัว มะโก มะถ่านไฟผี เปลือก เป็นยาบารุงธาตุ บารุงกาลัง กระตุ้นร่างกายกระปรี้กระเปร่า
ชื่อวงศ์ :Ebenaceae
ผล แก้ท้องร่วง ตกเลือด แก้บวม ขับพยาธิและแก้ฝีเน่าเปื่อย ผลอ่อน
ใช้เป็นสีย้อมผ้า แห อวน ผลสุกรับประทานได้ มีรสหวานอมฝาด
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงปานกลาง ผลัดใบ สูงประมาณ 8-15 เมตร ลาต้นมัก
คดงอเป็นปุ่มเปลือกสีเทาถึงสีน้าตาลดา ยอดอ่อนสีแดงเรื่อๆ ใบประกอบ
ขีเหล็ก เป็นแบบขนนก เรียงสลับกัน มีใบย่อย 5-12 คู่ ปลายสุดมีใบเดียว ใบย่อย
รูปขอบขนานด้านบนเกลี้ยง ดอกช่อสีเหลืองอยู่ตามปลายกิ่ง ดอกจะบาน
จากโคนช่อไปยังปลายช่อ กลีบเลี้ยงมี 3-4 กลีบ กลีบดอกมี 5 กลีบ เกสร
ตัวผู้ 10 อัน ผลเป็นฝักแบนยาวมีสีคล้า เมล็ดรูปไข่ยาวแบนสีน้าตาลอ่อน
เรียงตามขวางมี 20-30 เมล็ด เนื้อไม้มีสีน้าตาลแก่เกือบดา
กำรใช้ประโยชน์ :
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Senna siamea (Lam.) H.S. Irwin & Barneby. ดอกตูมและใบอ่อน รสขมต้องคั้นน้าทิ้งหลายๆ ครั้งก่อนจึงเอามาปรุง
ชื่อสำมัญ : Cassod Tree, Thai Copper Pod, อาหารได้ นิยมนามาทาแกงกะทิ หรือทาเป็นผักจิ้มจะช่วยระบายท้องได้ดี
ทั้งดอกตูมและใบอ่อนมีสารอาหารหลายอย่างคือ วิตามิน เอ และวิตามินซี
00000000 Siamese Cassia.
ค่อนข้างสูงในดอกมีมากกว่าใบเอาใบขี้เหล็กมาบ่มรวมกับผลไม้จะช่วยทา
ชื่ออื่น : ขี้เหล็กแก่น ขี้เหล็กหลวง ผักจีล้ ี้ ยะหา ขี้เหล็กจิหรี่ ให้ผลไม้สุกเร็วขึ้น
ชื่อวงศ์ : Fabaceae (Leguminosae)
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ต้นเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กสูง 3-15 ม. มีทรงพุ่ม สวยงามค่อนข้างทึบ ใบ
เป็นใบประกอบ ใบรูปไข่ ใบย่อยออกเป็นคู่คล้ายปีกผีเสื้อ ใบจะห้อยลง ช่อ
อัมพวา ดอกจะเกิดตามปมของลาต้น กลีบเลี้ยงมีสีขาวปนชมพู กลีบดอกมีสีขาว มี
ลักษณะคล้ายไต ผลอ่อนมีสีน้าตาลแกมเขียวเมื่อเจริญขึ้นมีสีเหลือง ผลดิบ
มีรสคล้ายมะม่วงดิบ ผลมีรูปร่างแบน คล้ายมะม่วง แต่มีรอยหยักไม่น่าดู
ผลดิ บมี ร สคล้ า ยมะม่ว งดิบ ผลสุ ก ขนาด ใหญ่ ป ระมาณ 200 กรัม มี สี
เหลือง และเมล็ดสีน้าตาล เมื่อออกผลแล้วนาน 2-3 เดือนจึงสุก ห้อยลง
ตามลาต้น 1 เมล็ดต่อผล ภายในผลมี 1 เมล็ด เมล็ดแบนคล้ายไตสีน้าตาล
กำรใช้ประโยชน์ :
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Cynometra cauliflora L. เปลือกต้นและราก รักษาโรคเกี่ยวกับเลือด และรักษาโรคมะเร็ง
ชื่อสำมัญ : Namnam
ชื่ออื่น : นางอาย บูรานัม มะเปรียง
ชื่อวงศ์ : FABACEAE
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
พรม ลาต้นทุกส่วนอวบน้ามีขนปกคลุม ทอดเลื้อยในระยะ 30–60 เซนติเมตร
ใบเดี่ยว ออกตรงข้าม ใบรูปไข่แกมรูปรี แผ่นใบหยิกย่น ปลายใบแหลม
ก้ามะหยี่ โคนมน ขอบหยักมน มีสีและลวดลายแตกต่างไปตามสายพันธุ์ ก้านใบยาว
ดอกเป็นช่อกระจุก 2–4 ดอก ออกที่ซอกใบใกล้ปลายยอด ดอกสมบูรณ์
เพศ กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันปลายแยกเป็น 5 แฉก โคนกลีบดอกเชื่อมติดกัน
เป็นหลอด มีหลายสี เช่น สีแดง ส้ม เหลืองม่วง ม่วงอ่อน ขาว ชมพู ผล มี
เนื้อนุ่ม ภายในมีเมล็ดขนาดเล็กสีน้าตาลหรือสีดาจานวนมาก
กำรใช้ประโยชน์ :
ปลูกเป็นไม้กระถาง ไม้คลุมดิน
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Episcia cupreata (Hook.) Hanst.
ชื่อสำมัญ : Carpet plant, Episcia, Frame Violet
ชื่ออื่น : พรมญี่ปุ่น ใบสักหลาด
ชื่อวงศ์ : Gesneriaceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดกลาง สูง 9-15 เมตร มักแตกกิ่งต่า ลาต้นค่อนข้างเปล่า
ตรง ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ปลายคู่ เรียงสลับ หูใบขนาดเล็ก ร่วงง่าย
ราชพฤกษ์ ดอกออกเป็นช่อ กลีบเลี้ยงจะห้อยลงออกตามกิ่งยาว 20-40 เซนติเมตร กลีบ
ดอก สีเหลืองสดรูปไข่ หลังจากที่ดอกได้รับการผสมแล้ว จะมีการเจริญเติบโต
ของผล อย่างรวดเร็ว เป็นฝักกลมยาวถึง 60 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง
1.5-2.5 เซนติเมตร ฝักสดสีเขียว ฝักแห้งสีน้าตาลดาเลี้ยง เมล็ดมีจานวนมาก
เรียงขวางโดยแต่ละเมล็ดจะมีเยื่อกันเป็นห้องๆ เมล็ดรูปรีแบน สีน้าตาลเกลี้ยง
กำรใช้ประโยชน์ :
ดอก ต้านเชื้อรา ลดน้าตาลในเลือด รักษาโรคเบาหวาน
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Cassia fistula L. ราก รักษาโรคในถุงน้าดี รักษากลากเกลื้อน
ชื่อสำมัญ : Indian laburnum เปลือก เป็นยาระบายแก้ท้องผูก ท้องเสีย รักษาโรคผิวหนัง
ชื่ออื่น : คูน ลมแล้ง ชัยพฤกษ์ แก่น เป็นยาถ่ายพยาธิ
ชื่อวงศ์ : Leguminosae ใบ เป็นยาระบาย บารุงหัวใจ บารุงเลือด ลดอัตราเสี่ยงของโรคระบบหัวใจ
ฝัก เป็นยาระบาย กระตุ้นการการทางานของลาไส้
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
เฟิร์น ลาต้นเป็นเหง้าสั้นตั้งตรง สร้างไหลและรากจานวนมาก มีเกล็ดปกคลุม
บริเวณปลายยอด ใบประกอบแบบขนนก 1 ชั้น เรียงเวียนสลับ ก้านใบ
สไบนาง ยาวได้ถึง 40 เซนติเมตร มีเกล็ดปกคลุม รูปหอก กว้าง 30 เซนติเมตร ยาว
1.5 เมตร ปลายสอบเรียวทั้งสองด้าน มีใบย่อยประมาณ 70 คู่ ใบย่อย
ตอน กลางมีขนาดใหญ่ที่สุด รูปแถบแกมรูปหอกและโค้งขึ้นคล้ายเคียว
กว้างประมาณ 15 เซนติเมตร ยาวประมาณ 15 เซนติเมตร ปลายเรียว
แหลมถึงยาวคล้ายหาง โคนตัด ขอบเรียบ เนื้อใบบางแต่แข็ง
กำรใช้ประโยชน์ :
ปลูกประดับเป็นไม้กระถาง
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Nephrolepis sp.
ชื่อสำมัญ : –
ชื่ออื่น : –
ชื่อวงศ์ : Lomariopsidaceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 15-25 ม. ลาต้นเปล่าตรง ส่วนโคนต้น
เป็นพูพอน เปลือกนอกสีครีม ผิวเรียบลอกเป็นแผ่นบาง เรือนยอดกลม มีการ
ผลัดใบ ใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม ใบรูปขอบขนานและรูปใบหอก กว้าง 4-9 ซม.

ตะแบก ยาว 12-20 ซม. โคนมน ปลายใบมีติ่งแหลม ใบอ่อนมีขนปกคลุม ใบแก่เกลี้ยง


หรือมีขนประปราย ขอบใบเรียบเป็นคลื่นบ้างเล็กน้อย ดอกช่อแยกแขนง ดอก
ออกปลายกิ่ง ยาว 30-40 ซม. ก้านช่อดอกและดอกตูมมีขนสีน้าตาลทองปก
คลุม ดอกบานเต็มที่ กว้าง 3.0-3.5 ซม. กลีบเลี้ยง 5-6 อัน มีสัน 10-12 สัน มี
ขนสีน้าตาลทองปกคลุม กลีบดอกสีม่วงปนขมพูหรือสีกุหลาบ 5-6 กลีบ เป็น
แผ่นกลมและมีก้าน กลีบดอกยับย่น กลีบดอกแก่จะสีขาว เกสรเพศผู้จานวน
มากสีเหลือง รังไข่มีจนคลุมแน่น ภายในแบ่งเป็น 6 ช่อง แต่ละช้องมีไข่จานวน
มาก ผลแห้ง รูปรีแกมขอบขนาน 1.5-2.0 ซม. แตกตามยาว 6 แฉก เมล็ดเล็ก
ชือ่ วิทยำศำสตร์ : Lagerstroemia floribunda Jack.
สีน้าตาล มีปีก
ชื่อสำมัญ : Thai crape myrtle
ชื่ออื่น :กระแบก ตะแบกไข่ ตะแบกนา กำรใช้ประโยชน์ :
ชื่อวงศ์ : Lythraceae ไม้ ใช้ในการก่อสร้าง เสา กระดาน พื้น
ราก แก้ปวดกล้ามเนื้อ
เปลือก แก้บิด แก้ท้องร่วง บารุงโลหิต ขับระดูขาว
ใบ แก้ไข้ บารุงตับ บารุงปอด บารุงหัวใจ
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ชบาเป็นพุ่มไม้ขนาดย่อม สูงประมาณ 8 ฟุต ปลูกง่าย สามารถขึ้นได้ในดิน
แทบทุกชนิด ไม่ชอบดินแฉะ ชอบแสงแดดจัด ลาต้นเป็นไม้เนื้ออ่อน มี
ชบา เปลือ กค่อ นข้างเหนีย ว จึงใช้ประโยชน์แทนปอได้ ในประเทศไทยมี อ ยู่
หลายชนิด เช่น H. floccous, Mast. – ชบาดง ใบเป็นใบเดี่ยว มีฐาน
กว้าง ปลายใบแหลม ริมใบเป็นจัก ใบมีขนาดยาวประมาณ 3 นิ้ว เมื่อขยี้
ใบจะเป็นเมือกเหนียว ดอกจะมีทั้งชนืดราและชนิดซ้อน ทั้งดอกเล็กและ
ดอกใหญ่ สีก็มรอยู่มากมายหลายชนิด เช่น ชมพู แดง ขาว แสด เหลือง
ม่วง เป็นต้น เกสนตัวผู้มีมาก ส่วนก้านจะเป็นหลอดหุ้มเกสรเพศเมียเอาไว้
เกสรตัวเมียมี 5 แฉก แยกเป็นตุ่มออกมา
กำรใช้ประโยชน์ :
ชือ่ วิทยำศำสตร์ : Hibiscus spp.
ชื่อสำมัญ : Shoe Flower รากสด โขลกละเอียดใช้ฟอกแก้บวมช้า อักเสบ ใช้พอกฝี
ชื่ออื่น : .ใหม่ ใหม่แดง บา ชุมบา รากและเปลือก แก้ประจาเดือนผิดปกติ คอมดลูกอักเสบ แก้ไอ เป็น
ชื่อวงศ์ : Malvaceae ยาขับน้าย่อย
ใบและดอก แก้เลือดกาเดาออก แก้ฝีพุพอง
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
เป็นไม้ยื นต้นสู ง 8-15 เมตร มียางขาวทั้งต้น ใบออกสลับกัน ปลายใบ
แหลมสั้ น ดอกออกเป็ น ช่ อ แยกเป็ น ช่ อ ตั ว เมี ย และช่ อ ตั ว ผู้ อ ยู่ บ นต้ น
ขนุน เดียวกัน ผลเป็นผลรวม ลักษณะกลมยาว เปลือกนอกเป็นตุ่มหนามเล็กๆ
รูปหกเหลี่ยม เนื้อหุ้มเมล็ดสีเหลือง
กำรใช้ประโยชน์ :
เนื้อหุ้มเมล็ด ช่วยระบาย แก้กระหายน้า ช่วยย่อย
เมล็ด บารุงร่างกาย ขับน้านมในสตรีหลังคลอดที่มีน้านมน้อย
ใบ แก้แผลมีหนองเรื้อรัง
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Artocrapus heterophyllus Lam. แก่นและราก บารุงเลือด แก้กามโรค
ชื่อสำมัญ : Jack fruit tree
ยาง ใช้ยางสด ทาแผลบวมอักเสบ แผลมีหนองเรื้อรัง
ชื่ออื่น : ขะนู ซีคึย มะหนุน หมักหมี้ หมากลาง ปอหล่อบิค
ชื่อวงศ์ : Moraceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดกลาง สูง 5-10 เมตร เปลือกลาต้นสีเทา โคนลาต้นตรง
ส่วนบนค่อนข้างคดงอเป็นปุ่มปม และเป็นร่องเล็กน้อย เนื้อไม้เหนียว กิ่งอ่อนมี
ข่อย ขนสาก เรือนยอดเป็นพุ่ม รูปไข่ทึบ ใบเรียงสลับ ใบเดี่ยว มีขนาดเล็กสีเขียว ใบ
รูปรี่แกมรูปไข่กลับหรือรูปคล้ายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน โคนใบมนหรือแหลม
ปลายใบแหลม ขอบใบจักฟันเลื่อยไม่เป็นระเบียบ ใบหนาหยาบคล้ายกระดาษ
ทรายทั้งสองด้าน ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียอยู่ต่างช่อกัน ดอกเพศเมียสีขาว
หรือสีเหลืองอ่อน ดอกเดี่ยวแต่รวมกันเป็นกระจุกตามซอกใบและกิ่ง กลีบเลี้ยง
มี 4 กลีบ คงอยู่จนดอกกลายเป็นผล ดอกเพศผู้สีเขียวอ่อน ออกเป็นช่อกลม
เล็กๆ ตามกิ่งแต่ละช่อ เกสรเพศผู้มี 4 อัน ผลกลมหรือเป็น 2 พูมีขนาดเล็กเท่า
หัวเข็มหมุด เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.5 เซนติเมตร ผิวเรียบ เมื่อยังอ่อน
จะมีสีขาวหรือเทา เปลือกในมียางสีขาว เมื่อสุกผลสีเหลือง เมล็ดแข็งกลม
ชือ่ วิทยำศำสตร์ : Streblusasper Lour.
ชื่อสำมัญ : Siamese Rough Bush, Tooth Brush Tree กำรใช้ประโยชน์ :
ชื่ออื่น : กักไม้ฝอย ข่อย ซะโยเส่ กิ่งสด ทาให้ฟันทน ไม่ปวดฟัน ฟันแข็งแรง ไม่ผุ
ชื่อวงศ์ : Moraceae เปลือก แก้บิด แก้ท้องเสีย แก้ไข้ ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์
เปลือกต้น แก้ริดสีดวงจมูก
เมล็ด ฆ่าเชื้อในช่องปาก และทางเดินอาหาร บารุงธาตุ ขับลมในลาไส้
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :

ไทร ทุกส่วนของต้นมีน้ายางสีขาวขุ่น เมื่ออายุมากมีรากอากาศห้อยย้อยลง


มายังผิวดิน ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับรอบกิ่ง รูปรีถึงรูปขอบขนาน
เกาหลี ปลายใบแหลม โคนใบมน แผ่นใบหนาสีเขียวเข้ม ดอกเป็นช่อกระจุกบน
ฐานรองดอกเดียวกัน ออกตามซอกใบ มีดอกเล็กๆ จานวนมาก ดอกแยก
เพศอยู่ร่วมต้น ไม่มีกลีบดอก ดอกเพศผู้จานวนมากกว่าดอกเพศเมีย ดอก
เพศเมียมีรังไข่อยู่เหนือวงกลีบ ผลเป็นส่วนของฐานรองดอกที่ขยายขนาด
ภายในมีเมล็ดเล็กๆ จานวนมาก
กำรใช้ประโยชน์ :
ใบ ใช้รักษาบาดแผลได้
ชือ่ วิทยำศำสตร์ : Ficus annulata น้าเลี้ยงของกิ่ง ใช้รักษาโรคตับ
ชื่อสำมัญ : Banyan tree
กิ่งและใบ ใช้เป็นยาแก้ปวดหัว
ชื่ออื่น : -
ชื่อวงศ์ : Moraceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ต้นโพธิ์เป็นไม้ต้นใหญ่ สูง 20-30 เมตร ผลัดใบระยะสั้น เรือนยอดแผ่กว้าง
ลาต้นใหญ่ สั้นและเป็นพอน กิ่งก้านแผ่ขยาย มีรากอากาศไม่มากเปลือก
โพธิ์ เรียบสีน้าตาลปนเทา ใบเดี่ยว เรียงสลั บ ใบรูปไข่กว้างหรือสามเหลี่ย ม
ปลายใบยาวแหลม โคนใบรูป หัวใจดอกสีเขียวอ่อน ออกรวมเป็นช่อแบบ
ช่อกระจุกตามซอกใบและปลายกิ่งมี ดอกตลอดปีผลสดแบบมะเดื่อ ทรง
กลมสีม่วงดา ออกผลตลอดปี
กำรใช้ประโยชน์ :
เปลือกต้น ทายาชง แก้โรคหนองใน ใบและยอดอ่อนแก้โรคผิวหนัง
ใบและยอดอ่อน แก้โรคผิวหนังช่วยลดระดับน้าตาลในเลือด ด้วยการ
ชื่อทำงวิทยำศำสตร์ : Ficusreligiosa Linn. นาใบแก่ 1 กามือ มาต้มกับน้า 3 แก้ว ใช้แบ่งกินก่อนอาหารเช้าและเย็น
ชื่อสำมัญ : Bodhi Tree, Sacred Tree, The Peepaltree,
00000000 Bo Tree
ชื่ออื่น : โพธิ์ โพศรีมหาโพธิ์ ย่อม สลี
ชื่อวงศ์ : Moraceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงได้ถึง 20 ม. เปลือกสีเทา มีรากอากาศน้อย ไม่ผลัดใบ
หรือผลัดใบแต่น้อย ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ หูใบยาว 7-50 มม. มีขนละเอียด
ประปราย ก้านใบยาว 4-12 ซม. ใบรูปหัวใจ กว้าง 4-16 ซม. ยาว 7-19 ซม.
โคนใบเว้ารูปหัวใจหรือตัดตรง ปลายใบเรียวแหลมแคบยาว ขอบใบมักไม่เรียบ
โพธิ์ด่าง หรือเป็นคลื่นเล็กน้อย เมื่อแก่สีเขียวด่างขาว ผิวใบเกลี้ยง เส้นใบข้าง 6-9 คู่
ปลายโค้งจรดกันเกือบถึงขอบใบ ดอกออกในโครงสร้างของผลตามซอกใบเป็น
ช่อและเป็นคู่ ภายในมีดอกเพศผู้ เพศเมีย และดอกปุ่มปม ดอกเพศผู้ไม่มีก้าน
อยู่ใกล้กับรูเปิดของผล กลีบรวม 2 กลีบ รูปใบหอกแกมรูปไข่สีแดงอ่อน ดอก
เพศเมียอยู่ลึกลงไปไม่มีก้าน กลบรวม 3-4 กลีบ รังไข่สีเหลืองอ่อน ผลค่อนข้าง
กลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.2-1.5 ซม. รูเปิดมีใบประดับ กว้าง 2-3 มม. 3 ใบ
กลีบเลี้ยง 4-5 กลีบ หุ้มอยู่ด้านล่างของผลโดยรอบ คลุม 2 ใน 3 ของผล ผล
สุกสีแดงเข้มถึงดา
ชือ่ วิทยำศำสตร์ : Ficus religiosa L. (Variegata). กำรใช้ประโยชน์ :
ชื่อสำมัญ : Pipal tree variegate ลาต้น เนื้อไม้แข็งแรงใช้ทาเครื่องเรือนและเครื่องมือใช้ได้ดี
ชื่ออื่น : โพธิ์เงิน โพธิ์ขาวด่าง โพธิ์ด่างขาว ราก นาไปต้มน้าดื่มแก้โรคเหน็บชา โรคทางเดินปัสสาวะ น้าเหลืองเสียแก้
ชื่อวงศ์ : Moraceae ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย ช่วยเจริญอาหาร และแก้ร้อนใน
เปลือก เป็นยาบารุงธาตุ บารุงกาลัง กระตุ้นร่างกายกระปรี้กระเปร่า
ผล แก้ท้องร่วง ตกเลือด แก้บวม ขับพยาธิและแก้ฝีเน่าเปื่อย ผลอ่อน ใช้
เป็นสีย้อมผ้า แห อวน ผลสุกรับประทานได้ มีรสหวานอมฝาด
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :

ยาง เปลือกต้นสีน้าตาลเข้ม ทุกส่วนมีน้ายางสีขาว ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปรีหรือ


รูปไข่กลับ กว้าง 4–7.5 เซนติเมตร ยาว 10–15 เซนติเมตร ปลายใบเรียว
อินเดีย แหลม โคนใบสอบ แผ่นใบหนาแข็ง ยอดอ่อนมีกาบหุ้มเป็นปลีสีแดงสด
ดอกแยกเพศ มีขนาดเล็กจานวนมาก ติดอยู่ภายในฐานรองดอก ที่มีรูปร่าง
คล้ายผล ผลทรงกลมรี เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 8 มิลลิเมตร ยาว 0.9–
1.2 เซนติเมตร เมื่อแก่สีเหลือง
กำรใช้ประโยชน์ :
นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ
น้ายาง ใช้ทายาง ในต่างประเทศใช้ทายางลบ
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Ficus elastica Roxb. ex Hornem.
ชื่อสำมัญ : Decora tree, Indian rubber tree, ใบ ใช้เป็นส่วนประกอบในการทาพวงหรีด
00000000 Rubber plant
ชื่ออื่น : ยางลบ ลุง
ชื่อวงศ์ : Moraceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ไม้ล้มลุกอายุหลายปี มีลาต้นใต้ดิน ส่วนเหนือดินเป็นลาต้นเทียมเกิดจาก
กาบใบห่อหุ้มซ้อนกันลักษณะคล้ายลาต้น ใบเดี่ยวขนาดใหญ่ออกเรียง
เวียนสลับกัน ก้านใบยาว เป็นร่อง ดอกออกเป็นช่อ (เรียกว่า ปลี) ห้อยลง
กล้วย ก้านช่อดอกแข็ง ดอกย่อยแยกเพศอยู่บนต้นเดียวกัน ดอกเพศเมียจะอยู่
ตอนล่างของช่อดอกและบานก่อน ผลทรงกระบอกหรือมีเหลี่ยมเล็กน้อย
เปลือกหนาสีเขียว เมื่อสุกเปลือกสีเหลือง มีรสหวาน
กำรใช้ประโยชน์ :
ยาง รสฝาด สมานแผล ห้ามเลือด
ผลดิบ รสฝาด รักษาแผลในกระเพาะอาหาร แก้ท้องเสียเรื้อรัง
ผลสุก รสหวาน ระบายอุจจาระ บารุงกาลัง บารุงร่างกาย รักษาแผล
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Musa sapientum Linn., ในกระเพาะอาหาร
หัวปลี รสฝาด แก้โรคกระเพาะอาหารลาไส้ แก้โรคโลหิตจาง ลด
Paradisaca Linn. น้าตาลในเลือด รักษาโรคเบาหวาน
ชื่อสำมัญ : Banana ใบ รสเย็นจืด ปิ้งไฟปิดแผลไฟไหม้ ต้มอาบแก้เม็ดผด ผื่นคัน
ชื่ออื่น : ล้วยกะลิอ่อง เจก มะลิอ่อง ยาไข่ สะกุย ราก รสฝาดเย็นต้มดื่ม แก้ไข้ ร้อนในกระหายน้า แก้ไข้ท้องเสีย แก้บิด
ชื่อวงศ์ : Musaceae แก้ผื่นคัน สมานภายใน
หยวก รสฝาดเย็น เผาไฟรับประทาน ขับพยาธิ
เหง้า รสฝาดเย็น ปรุงยาแก้ริดสีดวงทวาร ชนิดมีเลือดออก หรือแผล
ภายในซ่องทวาร
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ไม้พุ่มขนาดกลาง สูง 2-5 ม. แตกกิ่งค่อนข้างหนาแน่น กิ่งอ่อนเป็นเหลี่ยม
ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปใบหอก ปลายเรียวแหลม โคนสอบ ขอบเรียบ
คริสติน่า ใบอ่อนสีแดงเป็นมัน ช่อดอกเป็นช่อกระจุก ออกตามปลายยอด ดอกสีขาว
เกสรเพศผู้จานวนมาก ผลแบบผลสดฉ่าน้า ผิวบาง มีเมล็ด 1-2 เมล็ด
กำรใช้ประโยชน์ :
นิยมนามาปลูกเป็นไม้ประดับตามสองข้างถนน และตกแต่งสวน

ชื่อวิทยำศำสตร์: Syzygium australe (J.C.Wendl. ex Link) B.Hyland


ชื่อสำมัญ : Australian Rose Apple, Brush Cherry, Creek Lily Pilly,
00000000 Creek Satinash
ชื่ออื่น : แดง
ชื่อวงศ์ : Myrtaceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ไม้รอเลื้อย ลาต้นรูปทรงกระบอก เนื้อแข็งและเหนียว สีน้าตาลอ่อน ใบ
เดี่ ย ว เรี ย งสลั บ รู ป กว้ า งถึ ง รู ป ไข่ กว้ า งประมาณ 7 เซนติ เ มตร ยาว
เฟื่องฟ้า ประมาณ 12 เซนติเมตร ปลายเรียวแหลม โคนมน ขอบเรียบเป็นคลื่น
เล็ กน้อย ผิ วใบค่ อนข้างหนา สี เขียว ดอกออกเป็นช่อ ตามซอกใบและ
ปลายกิ่ง ใบประดับซ้อนแน่น เป็นกระจุกหลายชั้น ชั้นนอกขนาดใหญ่กว่า
ชั้นใน สีบานเย็น ดอกสีขาวแห้งติดอยู่ที่ส่วนล่างของใบประดับหรือไม่มี
ออกดอกตลอดทั้งปี ดอกจะออกมากเมื่ออากาศแห้งและเย็น
กำรใช้ประโยชน์ :
ปลูกประดับสวนหรือริมรั้ว ทาซุ้ม
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Bougainvillea spectabilis Willd.
ชื่อสำมัญ : Paper flower,
Bougainvillea ‘Double Red’
ชื่ออื่น : ดอกกระดาษ ตรุษจีน ดอกต่างใบ แดงมะนิลา
ชื่อวงศ์ : Nyctaginaceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ไม้ล้มลุกอายุหลายปี แตกกอ มีรากออกตามข้อ ใบเดี่ยว เรียงเวียนรอบ
เป็นเกลียว ใบรูปแถบ ปลายเรียวแหลม ขอบเรียบ แผ่นใบหนา สีเขียว มี
เตยด่าง แถบด่างสีเหลืองอ่อนที่กึ่งกลางใบ ช่อดอกแบบช่อกระจุก ออกตามซอกใบ
มีดอกจานวนมาก สีขาว
กำรใช้ประโยชน์ :
ปลูกประดับสวน ริมบ่อน้า นิยมใช้เป็นไม้ตัดใบปักแจกัน

ชื่อวิทยำศำสตร์ : Pandanus tectorius Parkinson ex Du Roi.


ชื่อสำมัญ : Screw pine
ชื่ออื่น : เตยลาย
ชื่อวงศ์ : PANDANACEAE
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ไม้พุ่มขนาดเล็ก มีลาต้นเป็นเหง้าอยู่ใต้ผิวดิน ออกรากตามข้อของลาต้น
เตยหอม ส่วนล่าง ใบเดี่ยว เรียงสลับวนเป็นเกลียวขึ้นตามความสูงของลาต้น ใบ
เรียวยาวเป็นรูปแถบหรือขอบขนานแคบ ปลายแหลม สีเขียวสด เอียงแนบ
ไปกับลาต้น ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบเป็นมัน ด้านล่างมีสีจางกว่าด้านบน
เส้นกลางใบเว้าลึกเป็นแอ่ง
กำรใช้ประโยชน์ :
ใบ นิยมใช้เป็นภาชนะห่อและใส่เพื่อปรุงกลิ่น อาหาร คาวหวานให้
กลิ่นหอม และสีสันน่ารับประทาน

ชื่อวิทยำศำสตร์ : Pandanus amaryllifolius Roxb.


ชื่อสำมัญ : Pandan leaves, Fragrant pandan,
00000000 Pandomwangi
ชื่ออื่น : เตย ต้นเตย หวานข้าวไหม้ ส้มพอดี ผักเก็งเค็ง
ชื่อวงศ์ : Pandanaceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เปลือกของลาต้นขรุขระมีสีเทาปน
น้าตาล ใบมะยมเป็ น ใบประกอบ มี ย่ อ ยออกเรีย งสลั บ กั น เป็ น 2 แถว
มะยม ลักษณะของผลเมื่ออ่อนจะเป็นสีเขียว แต่ถ้าแก่แล้วจะเป็นสีเหลืองหรือ
ขาวแกมเหลื อ ง เนื้อ ฉ่าน้ามาก ในผลมีเมล็ ดกลม ๆ สี น้าตาล 1 เมล็ ด
สาหรับรสชาติจะมีรสหวานอมฝาด มะยมนั้นมีทั้งตัวผู้และตัวเมีย โดย
ลักษณะเด่นของต้นตัวผู้จะออกดอกเต็มต้นแต่ไม่ติดลูก ส่วนต้นมะยมตัว
เมียนั้นจะมีดอกน้อยกว่า ซึ่งในทางการแพทย์นั้นนิยมใช้มะยมตัวผู้เป็น
หลักทั้งใบและราก
กำรใช้ประโยชน์ :
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Phyllanthus acidus (L.) Skeels. ผล มีฤทธิ์เสมหะ เป็นยาระบาย
ชื่อสำมัญ : Star gooseberry ราก รักษาโรคผิวหนัง น้าเหลืองเสีย ผื่นคัน
ชื่ออื่น : หมากยม หมักยม ยม ใบ แก้คัน แก้ไข เหือด หิด อีสุกอีใส
ชื่อวงศ์ : Phylanthaceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
เป็นพืชยืนต้น 10-18 เมตร ไม่แตกกึ่งก้าน ใบร่วงแล้วที่ลาต้นจะมีรอยก้าน
ใบเป็นเส้นอย่างเด่นชัด ใบออกที่ส่วนบนเป็นกระจุก ใบเป็นใบประกอบ
หมาก จั ด ตั ว รู ป คล้ า ยขนนก ช่ อ ดอกออกจากโคนใบล่ า งสุ ด ช่ อ ดอกแตก
กิ่งก้านสาขามาก ดอกย่อยแยกเป็นดอกตัวผู้ ดอกตัวเมีย ดอกตัวผู้มีขนาด
เล็ ก จานวนมากไม่มีก้านดอก ดอกตัวเมีย อยู่ ส่ วนโคนก้านช่อ ดอก มี
ขนาดค่อนข้างใหญ่ ไม่มีก้านดอก ผลทรงกลมหรือกลมรี มีกลีบเลี้ยงและ
กลีบดอกเหลือติดอยู่ ผลสุกสีส้มแดง
กำรใช้ประโยชน์ :
เมล็ด รสขม ฆ่าพยาธิ ขับปัสสาวะ แก้ปวดแน่นท้อง บิด ตัวบวมน้า
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Areca catechu L. ขาแผลเน่าเปื่อย ฝีประคาร้อย
ชื่อสำมัญ : Areca Palm, Betelnut Palm เปลือกผล ขับลม ขับปัสสาวะ แก้ท้องอืดแน่น ตัวบวมน้า บิด ท้องเสีย
ชื่ออื่น : สีซะ หมากเมีย หมากมู้ ปิงน้อ ขาเป็นแผลเน่าเปื่อย
ชื่อวงศ์ : Plamae ผลอ่อน รสขมฝาด ทาให้เจริญอาหาร กล่อมประสาท ขับเสมหะ
อาเจียนอย่างแรง ไอ สมานแผล
ดอกตัวผู้ เป็นยาหอม บารุงกระเพาะอาหาร แก้กระหายน้า
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
เฟิร์น ลาต้นไม้พุ่ม สูง 2-5 เมตร เปลือกสีน้าตาลอ่อนถึงสีเทา เรือนยอดทรงกลม
ถึงรูปไข่ ใบประกอบแบบขนนก ออกตรงข้าม ใบย่อย 5-13 ใบ รูปใบหอก
ข้าหลวง หรือไข่แกมขอบขนาน ปลายเรียวแหลม ขอบจักฟันเลื่อย สีเขียวเข้ม เห็น
เส้นใบชัดเจน ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะ ที่ปลายกิ่ง ดอกสีเหลือง
กลีบดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดคล้ายรูปแตร ปลายแยก 5 แฉก ภาย
ในหลอดมีเส้นสีส้มทอดยาวจนถึงก้นหลอด กลีบบางผิวนุ่ม ร่วงง่าย
กำรใช้ประโยชน์ :
นิยมปลูกเป็นไม้ประดับตกแต่งสวน

ชื่อวิทยำศำสตร์ : Asplenium nidus L.


ชื่อสำมัญ : Bird’s nest fern
ชื่ออื่น : เฟิร์นข้าหลวงหลังลาย เฟิร์นรังนก
ชื่อวงศ์ : Polypodiaceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ไม้พุ่ม ลาต้นทรงกระบอก ผิวเรียบ สีน้าตาล กิ่งยอดมีสีเขียว แตกกิ่งตรง
ขึ้นด้านบน ใบเดี่ยวขนาดใหญ่ เรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก รูปรีแกมรูปขอบ
เข็มมาเลย์ ขนาน ยาวประมาณ 13 เซนติเมตร กว้างประมาณ 4.5 เซนติเมตร ก้านใบ
ยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร ช่อดอกแบบซี่ร่มเชิงประกอบ ออกดอกที่ปลาย
กิ่ ง ดอกรู ป เข็ ม สี แ ดงเข้ ม โคนกลี บ เชื่ อ มติ ด กั น เป็ น หลอดแคบยาว
ประมาณ 1.5 เซนติเมตร ปลายแยกเป็น 4 แฉก รูปใบหอกหรือรูปไข่
ปลายแหลม ยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร กว้างประมาณ 6 มิลลิเมตร
กำรใช้ประโยชน์ :
นิยมประดับตกแต่งสวน หรือริมทางเดิน
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Ixora spp.
ชื่อสำมัญ : Ixora, West Indian Jasmine
ชื่ออื่น : เข็มมาเลเซีย
ชื่อวงศ์ : Rubiaceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
ไม้ต้น สูง 2-6 เมตร เปลือกต้นสีน้าตาล แตกเป็นสะเก็ดแล้วหลุดออก กิ่งอ่อน
เป็นสี่เหลี่ยม ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้าม รูปรี กว้าง 8-15 ซม. ยาว 10-20
ยอบ้าน ซม. ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบ สีเขียวเข้มเป็นมัน ดอก ออกเป็นช่อกลมตาม
ซอกใบ ดอกสีขาว กลีบดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 แฉก
มีกลิ่นหอม ผล เป็นผลรวม ผิวขรุขระเป็นตุ่ม ผลสุกมีกลิ่นเหม็นเอียน เมล็ดสี
น้าตาลมีหลายเมล็ด
กำรใช้ประโยชน์ :
ใบ บารุงสายตา หัวใจ คั้นน้าทาแก้โรคเก๊าท์ ปวดตามข้อเล็กๆ ของนิ้วมือ
นิ้วเท้า หรือคั้นน้าสระผมฆ่าเหา แก้กระษัย ใช้ใบปรุงเป็นอาหาร แก้ท้องร่วง
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Morinda citrifolia L. ราก ใช้เป็นยาระบาย แก้กระษัย เป็นสีย้อมผ้าได้ โดยผสมส่วนของเกลือ
ชื่อสำมัญ : Indian mulberry ต่างๆ สามารถเปลี่ยนเป็นสีต่างๆ ได้ตามต้องการ ซึ่งสีเดิมของรากจะมีสีเหลือง
ชื่ออื่น : ยอบ้าน มะตาเสือ แยใหญ่ ผลโตเต็มที่แต่ไม่สุก เป็นยาขับลม บารุงธาตุ เจริญอาหาร ขับลมในลาไส้
กระเพาะอาหาร แก้เหงือกเปื่อยเป็นขุย บวม ขับเลือดลม ขับโลหิต
ชื่อวงศ์ : Rubiaceae ประจาเดือน
ผลดิบ ต้มน้ารับประทานกับรากผักชี แก้อาการอาเจียนของหญิงมีครรภ์
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
เป็นไม้พุ่มสูง 0.5 – 3.5 เมตร กิ่งก้านอ่อน มีหนาม ตัวใบเป็นรูปไข่ยาวยาว
2.5- 9 ซม. ดอกออกจากง่ามใบเป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อสั้นๆ ดอกมีกลีบ
มะนาว เลี้ยง กลีบดอกสีขาว มีเกสรตัวผู้ 18-20 อัน อับเรณุเป็นรูปไข่ยาว ก้าน
เกสรตัวเมียยาว 3 มม. รังไข่กลม ผลกลมสีเขียว เมื่อแก่มีสีเหลือง ผิวนอก
เรียบ ผลมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 3.5-5 ซม. เปลือกผลเรียบบาง เมล็ดกลมรี
สีเหลืองอ่อน ผลหนึ่งมีหลายเมล็ด
กำรใช้ประโยชน์ :
ผล รสเปรี้ยวจัด เป็นยาหล่อลื่น ดับร้อน แก้กระหาย เป็นยาครรภ์
รักษา ขับลม ผลดองเกลือนานๆจนเป็นสีนาตาล ้ ใช้ขับเสมหะทาให้ชุ่มคอ
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Citrus aurantifolia Swing., เปลือกผล รสเปรี้ยว ฉุน แก้ปวดท้อง จุกเสียดแน่น เบื่ออาหาร ขับลม
Citrus limon Burm. f. ขับเสมหะ บารุงกระเพาะอาหาร
ชื่อสำมัญ : Lime, Common lime ใบ รสฉุน ละลายเสมหะ แก้ไอ ทาให้เจริญอาหาร ขับลม แก้ท้องอืด
ชื่ออื่น : ส้มมะนาว หมากฟ้า ปะโหน่งกลยาน โกรยชะม้า แน่นท้อง ท้องเสีย
ชื่อวงศ์ : Rutaceae ราก แก้ปวด ขับสิ่งหมักหมม แก้ฟกช้าจากหกล้มหรือกระทบกระแทก
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :

พริก เป็นพืชปีเดียว ต้นสูง 45-75 ซม. ใบยาวรี ดอกสีขาว กลีบเลี้ยงติดกัน มี


กลีบดอก 5 กลีบ ผลกลมยาวปลายแหลม ขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกันไป
ขีหนู ตามการปลูก ผลแก่มีสีแดงหรือสีส้ม เมล็ดมีจานวนมาก เมล็ดมีลักษณะ
กลมแบนสีเหลืองอ่อน
กำรใช้ประโยชน์ :
ผล รสเผ็ดร้อน ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยย่อย
ขับลม ขับเสมหะและเหงื่อ แก้ปวดท้องอาเจียน บิด ท้องเสีย แผลเกิดจาก
ถูกความเย็นจัด กลากและหิด
ราก แก้แขนขาอ่อนเปลี้ย ไม่มีกาลัง ไตและอัณฑะบวม มดลูกมี
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Capsicum frutescens L. เลือดออก
ชื่อสำมัญ : Guinea Pepper Bird Chilli
ต้น รสฉุน ร้อน แก้เหน็บชาเกิดจากอากาศเย็นจัด เลือดคั่ง ปวดข้อ
ชื่ออื่น : ดีปลีขี้นก พริกนก หมักเพ็ด หละเจีย และแผลที่เกิดจากการถูกความเย็นจัด
ชื่อวงศ์ : Solanaceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :
องุ่นเป็นไม้เลื้อยประเภทยืนต้น มีอายุยาวนานหลายปี การปลูกจะต้องมี
ค้างรองรับ เถาองุ่นจะมีลักษณะเป็นปล้อง บริเวณข้อจะมีใบ 1 ใบอยู่เรียง
องุ่น สลับกันไปตามข้อ บริเวณโคนก้านใบจะมีกิ่งแขนงเล็ก 1 กิ่งและตา 1 ตา
เป็นตารวมประกอบด้วยตาเอก (Primary bud) 1 ตาอยู่ตรงกลางและตา
รอง (Secondary bud) 2 ตา ตาเอกมีความสาคัญมากเพราะประกอบ
ด้วยตายอดมือและกลุ่มของดอก มีมือจับซึ่งเป็นช่อดอกที่ไม่พัฒนาอยู่ตรง
ข้ามกับใบ ผลองุ่นจะมีลักษณะเป็นพวงแบบที่เรียกว่าราคีส (rachis) ผลมี
หลากหลายลักษณะ ขนาดและสี ภายในผลอาจจะมีเมล็ดหรือไม่มีก็ได้
ขึ้นอยู่กับพันธุ์ ในเขตอบอุ่นหรือเขตหนาวองุ่นจะพักตัวในฤดูหนาว เมื่อ
อากาศอบอุ่นก็จะแตกตาเกิดยอดใหม่ ซึ่งจะออกดอกและติดผลบนกิ่งใหม่
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Vitis vinifera L. กำรใช้ประโยชน์ :
ชื่อสำมัญ : Grape/ Grape vine
ผล นาไปบริโภคสดหรือนาไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้าองุ่น
ชื่ออื่น : กุ่ย เถาวัลย์ขน ส้มกุ้ง ตะเปียงจู เถาเปรี้ยว
และไวน์
ชื่อวงศ์ : Vitaceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :

ว่านหาง ทรงพุ่มแผ่เป็นรัศมี ลาต้นมีข้อและลาปล้องสั้น ใบเดี่ยวรูปหอกเรียว ออก


เวียนรอบต้น ปลายใบแหลม ขอบมีหนามเล็กๆ ผิวเรียบเป็นมัน สีเขียวเข้ม
จระเข้ สีจุดประเล็ก ๆ สีขาว ใบหนาอวบน้าเป็นวุ้นใส ๆ ภายใต้ผิวสีเขียวมีน้ายาง
สีเหลือง ดอกออกเป็นช่อเชิงลดออกจากซอกใบกลางต้น ดอกเป็นหลอด
ห้อยลง สีส้ม บานจากล่างขึ้นบน
กำรใช้ประโยชน์ :
เนื้อในแผ่นใบ นามาต้มใส่น้าตาลและใบเตยเล็กน้อย กินอร่อยคล้าย
วุ้น หรือล้างให้สะอาดนามาปั่นเป็นเครื่องดื่ม
เนื้อใบสด รักษาแผลไฟไหม้ น้าร้อนลวก แผลเรื้อรัง และแผลใน
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Aloe vera (L.) Burm.f. กระเพาะอาหารได้ดี เหมาะสาหรับบารุงต่อมไทรอยด์ ต่อมพิทูอิทารี
ชื่อสำมัญ : Star cactus, Aloe,Aloin, Jefferabad และรังไข่ ล้างพิษของตับ ทาให้เลือดดี
ชื่ออื่น : -
ชื่อวงศ์ : Xanthorrhoeceae
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ :

ข้าวโพด ข้าวโพดเป็นพืชพวกหญ้า มีลาต้นแข็งแรง และตั้งตรงคล้ายต้นอ้อย ความ


สู ง ของล าต้ น แตกต่ า งกั น ไปตามสายพั น ธุ์ อาจมี ค วามสู ง ตั้ ง แต่ 30
ฝักอ่อน เซนติเมตร ไปจนถึง 6 เมตร ลาต้นเป็นปล้องๆ ใบยาวเรียวเกาะติดกับต้น
ฝักข้าวโพดจะเกิดตรงข้ออยู่ตรงส่วนกลางของลาต้น โดยมีเปลือกเป็นกลีบ
บางๆ สี เขียว มีหลายชั้นห่อหุ้มอยู่ เปลื อกชั้นนอกมีสีเขียวแก่กว่าชั้นใน
ปลายฝักมีเส้นเล็กๆ สีเขียวอ่อนใสบางเหมือนเส้นผม เรียกว่าไหมข้าวโพด
หรือ ฝอยข้าวโพด
กำรใช้ประโยชน์ :
ไหมข้าวโพด มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ แก้อาการขัดเบา ลดอาการบวมน้า
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Zea mays Linn. รักษาอาการไตอักเสบ ทั้งยังดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ที่เป็นนิว่ ด้วย
ชื่อสำมัญ : Baby corn ทั้งต้น ใช้เป็นอาหารให้กับโคเนื้อและโคนม
ชื่ออื่น : ข่าหยวก ข่าหลวง กฏุกกโรหินี ข้าวโพดแอ้ ฝักข้าวโพดอ่อน ลดคลอเรสเตอรอลในเลือด ป้องกันเส้นเลือดแข็งตัว
ชื่อวงศ์ : Zingiberaceae ช่วยย่อยอาหาร ลดอาการบวมน้า รักษาโรคไตอักเสบเรื้อรัง โรคเบาหวาน
ความดันโลหิตสูง ปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง และจมูกอักเสบเรื้อรัง บารุงหัวใจ
รำยชื่อคณะผู้จัดทำ
นางสาวสมหญิง เพชรเด่นลาภ เลขที่ 11
นางสาวรัศมี สว่างเกียรติกุล เลขที่ 12
นางสาวพิมพิศา เตชะมวลไววิทย์ เลขที่ 36
นางสาวประภาพร มาสวน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/5
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561
เลขที่ 41
-END-
โรงเรียนศึกษานารี

You might also like