Professional Documents
Culture Documents
08สรุปปทรูปสิทธิ ตัทธิตกัณฑ์
08สรุปปทรูปสิทธิ ตัทธิตกัณฑ์
สรุปปทรูปสิทธิ ตัทธิตกัณฑ์
(บท+ปัจจัย)
ก. ความหมายของตัทธิต
ตัทธิต คือปัจจัยหมู่หนึ่งที่ใช้ประกอบหลังนามบท เพื่อแทนศัพท์ที่ถูกลบไป (Nominal derivation) มี
วิเคราะห์ว่า “ตสฺมา ติวธิ ลิงคฺ โต ปรํ หุตวฺ า หิตา สหิตาติ ตทฺธติ า, ณาทิปจฺจยา”. (ต + หิต) ปัจจัยทั้งหลายมี
ณ เป็นต้น เป็นเบื้องหลังจากลิงค์ทั้งสามนั้น เป็นไปด้วยกัน เพราะเหตุนั้น ชื่อว่าตัทธิต. หรือวิเคราะห์ว่า “เตสํ
นามิกานํ หิตา อุปการา ตทฺธิตา” ปัจจัยทั้งหลายอันเกื้อหนุน แก่บททั้งหลายอันประกอบด้วยนามวิภัตติเหล่านั้น
ชื่อว่าตัทธิต. ตามวิเคราะห์หลังนี้ ลิงค์ หรือ นาม มี ๓ อย่าง คือ
(๑) สุทธนาม ได้แก่การนํานามล้วนๆ มาทําเป็นตัทธิต เช่น โปริสํ มาจาก “ปุริส + ณ” เป็นต้น
(๒) สมาสนาม ได้แก่การนําสมาสมาทําเป็นตัทธิต เช่น ราชปุตฺตโก มาจาก “ราชปุตฺต + กณฺ” เป็นต้น
(๓) ตัทธิตนาม ได้แก่การนําตัทธิตมาทําเป็นตัทธิตอีกครั้ง เช่น ทณฺฑิตา มาจาก “ทณฺฑี + ตา” เป็นต้น
ฉะนั้น ตัทธิตนี้ จึงได้แก่ศัพท์นามใหม่ ที่เกิดจากการผสมคํานามกับปัจจัยเข้าด้วยกัน การเรียกชื่อตัทธิต
ต่างๆ เรียกตามศัพท์ที่ถูกลบไป ดังมีคํากล่าวที่ว่า “หมูตาย หมูตัทธิต, หมาตาย หมาตัทธิต” เช่นในตัวอย่างว่า
“วาสิฏฺโฐฃ” แปลว่า เหล่ากอของนายวสิฏฐะ มาจาก “วสิฏฐฃฺ + ณปัจจัย” มีรูปวิเคราะห์ว่า “วสิฏฺฐฃสฺส อปจฺจํ วา
สิฏฺโฐฃ” ในที่นี้ ลง ณปัจจัยมาแทน “อปจฺจ”ศัพท์ที่ถกู ลบไป ดังนั้น จึงเรียกตัทธิตนีว้ า่ “อปัจจตัทธิต” เป็นต้น
ข. ประเภทของนามศัพท์ที่นาํ มาทําเป็นตัทธิต
๑. สุทธนาม + ปัจจัย เช่น สมณสฺส อปจฺจํ สามเณโร. (สมณ + เณร) (อปัจจตัทธิต)
เหล่ากอ แห่งพระสมณะ ชื่อว่าสามเณร. (สามเณร)
๒. คุณนาม + ปัจจัย เช่น สพฺเพสํ อติสเยน วโร วรตโร. (วร + ตร) (วิเสสตัทธิต)
ประเสริฐ โดยยิ่ง กว่าชนทั้งปวง ชื่อว่าวรตร. (ประเสริฐกว่า)
๓. สัพพนาม + ปัจจัย เช่น เตน ปกาเรน ตถา. (ต + ถา) (อัพยยตัทธิต)
โดยประการนั้น ชื่อว่าตถา. (โดยประการนั้น)
๔. สมาสนาม + ปัจจัย เช่น สุนทฺ โร มโน ยสฺสาติ สุมโน. (สุ + มน) (พหุพพีหิสมาส)
ใจ อันดี ของบุคคลใด มีอยู่ เพราะเหตุนั้น บุคคลนั้น ชื่อว่าสุมน. (ผู้มีใจดี)
สุมนสฺส ภาโว โสมนสฺสํ. (สุมน + ณฺย) (ภาวตัทธิต)
ความเป็น แห่งผู้มีใจดี ชื่อว่าโสมนสฺส. (ความเป็นแห่งผู้มีใจดี)
2
๕. ตัทธิตนาม + ปัจจัย เช่น เมธา ยสฺส อตฺถีติ เมธาวี. (เมธา + วี) (อัสสัตถิตัทธิต)
ปัญญา ของบุคคลใด มีอยู่ เพราะเหตุนั้น บุคคลนั้น ชื่อว่าเมธาวี. (ผู้มีปัญญา)
วิเสเสน เมธาวีติ เมธิโย. (เมธาวี + อิย) (วิเสสตัทธิต)
ผู้มีปัญญา โดยพิเศษ เพราะเหตุนั้น ชื่อว่าเมธิย. (ผู้มีปัญญากว่า)
เปรียบเทียบภาษาบาลีกับภาษาอังกฤษ
(Comparison of Pali with English)
ก. บาลี เช่น - สฺยาม (สยาม) ลง ณิก ปัจจัย เป็น สฺยามิก แปลว่า ผูเ้ กิดในสยาม (ชาวสยาม)
- สหาย (เพื่อน) ลง ตา ปัจจัย เป็น สหายตา แปลว่า ความเป็นเพือ่ น
*ตัทธิตว่าโดยประเภทใหญ่ๆ มี ๓ ประเภท(โครงสร้างควรจํา)
(๑) สามัญญวุตติตทั ธิต มี ๕ =อปัจจตัทธิต/สังสัฏฐาทิอเนกัตถตัทธิต/วิเสสตัทธิต/อัสสัตถิตัทธิต/ สังขยาตัทธิต
(๒) ภาวตัทธิต
(๓) อัพยยตัทธิต
หมายเหตุ: ข้อ(๑) สามัญญวุตติตทั ธิต *ในปทรูปสิทธิ จัดไว้ ๔ ในทีน่ ี้ แยก วิเสสตัทธิต ออกมาจาก อเนกัตถตัทธิต
กลายเป็น ๕ เพื่อให้จดจําง่ายขึ้น
3
ค. ประเภทของตัทธิต
ตัทธิตว่าโดยประเภทใหญ่ๆ มี ๓ ประเภท คือ
(๑) สามัญญวุตติตทั ธิต คือตัทธิตทั่วๆ ไป แบ่งออกเป็น ๕ ประการ คือ
๑.๑ อปัจจตัทธิต ตัทธิตที่เกี่ยวข้องกับโคตร ตระกูล เหล่ากอ บุตร มีปัจจัย ๙ ตัว คือ ณ,
ณายน, ณาน, เณยฺย, ณิ, ณิก, ณฺย, ณว และ เณรปัจจัย
๑.๑.๑ ณปัจจัย เช่น วสิฏฺฐฃสฺส อปจฺจํ วาสิฏฺโฐฃ. (วสิฏฺฐฃ + ณ) เหล่าก่อของนายวสิฏฐะ
๑.๑.๒ ณายนปัจจัย เช่น กจฺจสฺส ปุตฺโต กจฺจายโน. (กจฺจ + ณายน) บุตรของนายกัจจะ
๑.๑.๓ ณานปัจจัย เช่น กจฺจสฺส ปุตฺโต กจฺจาโน. (กจฺจ + ณาน) บุตรของนายกัจจะ
๑.๑.๔ เณยฺยปัจจัย เช่น กตฺติกาย ปุตฺโต กตฺติเกยฺโย. (กตฺติกา + เณยฺย) บุตรของนางกัตติกา
๑.๑.๕ ณิปัจจัย เช่น โทณสฺส อปจฺจํ โทณิ. (โทณ + ณิ) บุตรของนายโทณะ
๑.๑.๖ ณิกปัจจัย เช่น สกฺยปุตฺตสฺส ปุตฺโต สกฺยปุตฺติโก. (สกฺยปุตฺต + ณิก) บุตรของศากยบุตร
๑.๑.๗ ณฺยปัจจัย เช่น อทิติยา ปุตฺโต อาทิจฺโจ. (อทิติ + ณฺย) บุตรของนางอทิติเทพธิดา
๑.๑.๘ ณวปัจจัย เช่น อุปคุสฺส อปจฺจํ โอปคโว. (อุปคุ + ณว) บุตรของอุปคุ
๑.๑.๙ เณรปัจจัย เช่น สมณสฺส ปุตฺโต สามเณโร. (สมณ + เณร) บุตรของพระสมณะ
๑.๒ สังสัฏฐาทิอเนกัตถตัทธิต ตัทธิตที่มีอรรถสังสัฏฐะ(ระคน)เป็นต้น มีปจั จัย ๑๖ ตัว คือ ณิก,
ณ, เณยฺย, อิม, อิย, อิก, กิย, ย, ณฺย, กณฺ, ตา, อายิตตฺต, ล, อาลุ, ก และ มยปัจจัย
๑.๒.๑ ณิกปัจจัย เช่น ติเลน สํสฏฺฐฃํ เตลิกํ. (ติล + ณิก) อันระคนด้วยงา
๑.๒.๒ ณปัจจัย เช่น กสาเวน รตฺตํ กาสาวํ. (กสาว + ณ) อันย้อมด้วยนํ้าฝาด
๑.๒.๓ เณยฺยปัจจัย เช่น พาราณสิยํ ชาโต พาราณเสยฺยโก. (พาราณสี + เณยฺย) ผู้เกิดในเมือง
พาราณสี
๑.๒.๔ อิมปัจจัย เช่น ปจฺฉา ชาโต ปจฺฉิโม. (ปจฺฉา + อิม) (ผู้เกิดในภายหลัง)
๑.๒.๕ อิยปัจจัย เช่น มนุสฺสชาติยา ชาโต มนุสฺสชาติโย.(มนุสฺสชาติ + อิย) ผู้เกิดในชาติ มนุษย์
๑.๒.๖ อิกปัจจัย เช่น อนฺเต ชาโต อนฺติโก. (อนฺต + อิก) ผู้เกิดในที่สุดท้าย
๑.๒.๗ กิยปัจจัย เช่น ชาติยา นิยุตฺโต ชาติกิโย. (ชาติ + กิย) ผู้ประกอบในชาติ
๑.๒.๘ ยปัจจัย เช่น สภายํ สาธุ สพฺภํ. (สภา + ย) ดีในสภา
๑.๒.๙ ณฺยปัจจัย เช่น สมณานํ หิตา สามญฺญา. (สมณ + ณฺย) ผู้เกื้อกูลแก่พระสมณะ
๑.๒.๑๐ กณฺปัจจัย เช่น ราชปุตฺตานํ สมูโห ราชปุตฺตโก. (ราชปุตฺต + กณฺ) หมู่แห่งราชบุตร
๑.๒.๑๑ ตาปัจจัย เช่น ชนานํ สมูโห ชนตา. (ชน + ตา) หมู่ชน
๑.๒.๑๒ อายิตตฺตปัจจัย เช่น ธูโม วิย ทิสฺสตีติ ธูมายิตตฺตํ. (ธูม + อายิตตฺต) ปรากฏเหมือนควัน
๑.๒.๑๓ ลปัจจัย เช่น ทุฏฺฐฃุ นิสฺสิตํ ทุฏฺฐฃุลฺล.ํ (ทุฏฺฐฃุ + ล) อาศัยไม่ดี
๑.๒.๑๔ อาลุปัจจัย เช่น อภิชฺฌา อสฺส ปกติ อภิชฺฌาลุ. (อภิชฺฌา + อาลุ) ผู้มีอภิชฌาเป็นปกติ
๑.๒.๑๕ กปัจจัย เช่น กุจฺฉิโต สมโณ สมณโก. (สมณ + ก) สมณะผู้น่าเกลียด
๑.๒.๑๖ มยปัจจัย เช่น สุวณฺเณน ปกตํ สุวณฺณมยํ. (สุวณฺณ + มย) ถูกกระทําด้วยทอง
4
ฆ. จุดประสงค์ในการศึกษาตัทธิต
๑. รู้จักการสร้างคําศัพท์ โดยใช้ศัพท์นามกับปัจจัย
๒. รู้จักคําประเภทของนามศัพท์ดั้งเดิม กับคํานามศัพท์ที่สร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นตัทธิตนาม
๓. รู้จักการย่อคําศัพท์ โดยใช้ปัจจัยตัทธิตเป็นตัวแทนของคําศัพท์
6
ตัวอย่างสูตรและการทําตัวรูป
๓๖๒. ธาตุลิงเฺ คหิ ปรา ปจฺจยา.
ปจฺจยา อ.วิภัตติและปัจจัย ท. โหนฺติ ย่อมลง ปรา เป็นเบื้องหลัง ธาตุลิงฺเคหิ จากธาตุและลิงค์ ท.
(ลงวิภัตติและปัจจัยหลังจากธาตุและลิงค์)
สูตรนี้มี ๓ บท. เป็น ปริภาสาสูตร.
คําว่า “ปัจจัย” หมายความว่าเป็นแดนให้ทราบเนื้อความของบทที่ถูกลบไป หรือเป็นเหตุให้ทราบ
เนื้อความ ของบทที่ถูกลบไป มีวิเคราะห์ว่า “ปฏิจจฺ เอตสฺมา อตฺโถ เอตีติ ปจฺจโย. (ปติ + อิ คติมฺหิ ในการไป
+ อ) แปลว่า อ.เนื้อความ(มีอปัจจะเป็นต้น) อาศัยแล้ว จาก ณ เป็นต้นนี้ ย่อมเป็นไป เพราะเหตุนั้น อ.ณ เป็นต้นนี้
ชื่อว่าปัจจัย. หรือวิเคราะห์ว่า “ปตียนฺติ อเนน อตฺถาติ ปจฺจโย. แปลว่า อ.เนื้อความ ท. (มีอปัจจะเป็นต้น) ย่อม
ถูกรู้ ด้วย ณ เป็นต้นนี้ เพราะเหตุนั้น อ.ณ เป็นต้นนี้ ชื่อว่าปัจจัย.
สําหรับ ปัจจัยในสูตรนี้ หมายถึง วิภัตติและปัจจัย มีวิเคราะห์ว่า “วิภตฺติ จ ปจฺจโย จ ปจฺจยา” วิภัตติ
ด้วย ปัจจัยด้วย ชื่อว่าปจฺจย, มาจาก “วิภตฺติ + ปจฺจย” เป็นทวันทสมาส รูปสําเร็จแล้ว ทําเป็นเอกเสส เหลือศัพท์
หลังเพียงศัพท์เดียว คือ ปจฺจย ได้แก่วิภัตติและปัจจัย มีปริภาสาว่า “ปกตี ลิงฺคธาเตฺวว วิภตฺตปิ จฺจยา ปน ปจฺจโย”
แปลว่า ลิงค์และธาตุ ชื่อว่าปกติ ส่วน วิภตั ติและปัจจัย ชือ่ ว่าปัจจัย ฉะนั้น ท่านจึงกําหนดว่า หลังจากธาตุ ให้ลง
วิภัตติและปัจจัย ส่วนหลังจากลิงค์หรือนาม ให้ลงวิภัตติและปัจจัยเช่นกัน
ปัจจัย ๒
๑. วาจกปัจจัย (บอก,กล่าว เช่น ตัทธิต บอกแทนศัพท์ทถี่ ูกลบไป/กิตก บอก สาธนะ / อาขยาต บอก วาจก)
เช่น วาสิฏโฺ ฐฃ = วาสิฏฺฐฃ + ณ
สามเณโร = สมณ + เณร
๒. สกัตถปัจจัย (สกตฺถ = อรรถ ความหมายของตัวเอง, มีความหมายเท่าเดิม)
มี ๔ ตัว ณิก, ตา, มย, ก
ณิกปัจจัย เช่น สสงฺขาโรเยว สสงฺขาริกํ. (สสงฺขาร + ณิก)
ตาปัจจัย เช่น เทโวเยว เทวตา (เทว + ตา) -ศัพท์ที่ลง ตาปัจจัยเป็นที่สุด เป็นอิตถีลิงค์แน่นอน.
มยปัจจัย เช่น สีลเมว สีลมยํ. (สีล+มย) ทานมย,ภาวนามย..(,ทาน+มย,ภาวนา+มย..)
กปัจจัย เช่น เทฺวเยว ทฺวิกํ. สอง ท.นั่นแหละ ชื่อว่า ทฺวิก (สอง). (ทฺวิ + ก)
7
วิ. สมณสฺส อุปชฺฌายสฺส ปุตฺโต ปุตฺตฏฺฐฃานิยตฺตาติ สามเณโร. (สมณ + เณร) (วุทธิ อ เป็น อา)
อ.บุตร ของพระอุปัชฌาย์ เพราะความที่ตนตั้งอยู่ในฐานะแห่งบุตร เพราะเหตุนั้น ชื่อว่าสามเณร.(บุตรของ
พระอุปัชฌาย์เพราะความที่ตั้งอยู่ในฐานะบุตร, สามเณร)
วิ. สมณสฺส อปจฺจํ สามเณโร. (สมณ + เณร) (วุทธิ อ เป็น อา)
อ.เหล่ากอ ของพระสมณะ ชื่อว่าสามเณร. (เหล่ากอแห่งพระสมณะ, สามเณร)
ทําตัวรูป
(๑)สมณสฺส อปจฺจํ สามเณโร ศัพท์เดิมคือ = สมณ + ปุตฺต
หลัง สมณ ลง สฉัฏฐีวิภัตติ สมณ + ส, ปุตฺต = สามิสฺมึ ฉฏฺฐฃี.
เพราะสวิภัตติ ลง สฺอาคม สมณ + สฺ-ส, ปุตฺต = สาคโม เส.
หลัง ปุตฺต ลง สิปฐมาวิภัตติ สมณสฺส, ปุตฺต + สิ = ลิงฺคตฺเถ ปฐฃมา.
หลังจากอการันต์ แปลง สิ เป็น โอ สมณสฺส, ปุตฺต + สิ > โอ = โส.
แยกพยัญชนะ ตฺ ออกจากสระ อ สมณสฺส, ปุตฺตฺ อ + โอ = ปุพฺพมโธฐฃิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย.
ลบสระหน้า เพราะสระหลังๆ เป็นปกติ สมณสฺส, ปุตฺตฺ อ/ + โอ= สรโลโปมาเทสปฺปจฺจยาทิมฺหิฯ
นําพยัญชนะ ตฺ ไปประกอบกับสระ โอ สมณสฺส, ปุตฺโต = นเย ปรํ ยุตฺเต.
(๒)อปจฺจํ อ.เหล่ากอ สมณสฺส ของพระสมณะ อิติ อตฺเถ ในอรรถนี้
ลง เณรปัจจัยในอรรถ “อปัจจะ” สมณสฺส เณร ปุตฺโต = เณร วิธวาทิโต.*
ลบวิภัตติทั้งหลาย สมณ + /ส, เณร, ปุตฺต + /สิ = เตสํ วิภตฺติโย โลปา จ.
เป็นปกติ สมณ เณร ปุตฺต = ปกติ จสฺส สรนฺตสฺส.
ลบ ปุตฺตศัพท์ สมณ เณร /ปุตตฺ = วุตฺตตฺถานมปฺปโยโค.(ปริภาสา)
แยกพยัญชนะ ณฺ ออกจากสระ เอ สมณ ณฺ เอร = ปุพฺพมโธฐฃิตมสฺสรํ สเรน วิโยชเย.
ลบ ณฺอนุพันธ์ สมณ /ณฺ เอร = เตสํ โณ โลปํ.
8
อนุพนั ธ์ (ตัทธิตอนุพันธ์)
(๓) ณานปัจจัย - วจฺฉสฺส อปจฺจํ วจฺฉาโน. (วจฺฉ + ณาน) (๓๖๖. ณายนณาน วจฺฉาทิโต)
(๔) เณยฺยปัจจัย- กตฺติกาย อปจฺจํ กตฺติเกยฺโย. (กตฺติกา + เณยฺย) (๓๖๗. เณยฺโย กตฺติกาทีหิ)
- สุจิสฺส ภาโว โสเจยฺยํ. (สุจิ + เณยฺย) (๓๘๗. ตุศัพท์ในสูตร “ณฺยตฺตตา ภาเว ตุ”)
- ติเลน สํสฏฺฐฃํ เตลิกํ, โภชนํ. (ติล + ณิก) (๓๗๓. เยน วา สํสฏฺฐฃํ ตรติ จรติ วหติ ณิโก)
(๗)ณฺยปัจจัย - อทิติยา ปุตฺโต อาทิจฺโจ. (อทิติ + ณฺย) (๓๖๘. วาศัพท์ในสูตร “อโต ณิ วา”)
กําหนดลิงค์ของศัพท์ทลี่ งปัจจัยในภาวตัทธิต
บทอันมี ณฺย, ตฺต และ ตฺตนปัจจัยเป็นทีส่ ดุ เป็นนปุงสกลิงค์ แน่นอน, ส่วนบททีล่ ง ตาปัจจัย เป็นอิตถีลงิ ค์ แน่นอน
และบททีล่ งปัจจัยที่เหลือ เป็นลิงค์ตามสมควรแก่อทุ าหรณ์
10
ปัจจัยมี มนฺตุ เป็นต้นเหล่านี้ ลงในอรรถ ๖ อย่าง คือ ปหูต (มาก), ปสํสา (การสรรเสริญ), นินฺทา (การตําหนิ,
การติเตียน), อติสายน (ยิ่ง), นิจฺจโยค (การประกอบเป็นนิจ) และ สํสคฺค (การผสมกัน, เกี่ยวข้องกัน)
(๒)ปสํสา= การสรรเสริญ เช่น คุณวา ผู้มีคุณ, กุลวา ผู้มีตระกูล, รูปี ผู้มีรูปงาม เป็นต้น.
-----------
(๒)คุณติ สงฺขยฺ า = สังขยาคูณ เช่น ติสตํ แปลว่า สามร้อย มาจากรูปวิเคราะห์ว่า “ตีหิ คุณิตํ สตํ
ติสตํ” อ.ร้อย อันถูกคูณ ด้วยสาม ท. ชื่อว่าติสต (สต x ติ) สามร้อย (๑๐๐ x ๓ = ๓๐๐) เป็นต้น
ตารางแสดงอักษรทีใ่ ช้เป็นสังเกตสังขยา
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๐
ก ข ค ฆ ง จ ฉ ช ฌ ญ
ฏ ฐฃ ฑ ฒ ณ ต ถ ท ธ น
ป ผ พ ภ ม - - - - -
ย ร ล ว ศ ษ ส ห ฬ อ-โอ
-----------
13
ตัทธิตนัยนั้นเป็นวิสัยของเหล่าพระอรหันต์ ผู้บรรลุปฏิสัมภิทาญาณแล้วเท่านั้น
ดังนั้น ขอเชิญท่านทั้งหลายน้อมรับตัทธิตนัยนั้นโดยเคารพเถิด
คาถาสรุป ตัทธิต
สามญญ
ฺ วุตตฺ ภิ าวตฺถา- พฺยยโต ตทฺธติ ํ ติธา
..พระมหาสุเทิด มหิทฺธโิ ก