Present Simple & Present Continuous Handouts

A: โครงสร้างประโยค Present Simple Tense

ประโยคบอกเล่า: S + V1 (s/es ; เมื่อประธานเป็นเอกพจน์ เช่น He/She/It/ A cat/ A doctor)
Ex. I like/She likes ...They go/He goes …. We eat/ It eats
ประโยคปฏิเสธ: S + do/does + not + V1 (ปฏิเสธนึกถึง not และ not อยูค่ นเดียวไม่ได้ จึง
=
ต้องการกริยาช่วย do/does มาช่วยนัน่ เอง) Ex. I do not work/ He does not work.
EXAMPLES
ประโยคค าถาม: PRESENT
Do/Does +SIMPLE:
s + V1?ปั(กริ
จจุยบ
าช่ันวอย่
ยต้อางขึงง่ายาประโยคและเขียนด้วยตัวพิมพ์
้นหน้
ใหญ่เสมอ และจะมีสองคาตอบซึ่งโครงสร้างของคาตอบได้แก่ Yes + subject + do/does และ
No, + subject + don’t/doesn’t) Ex. Do you like..?/ Does he like..?
Yes, I do/he does/ ……No, I don’t/he doesn’t.

**กฎการเติม s/es ที่กริยาเมื่อประธานเป็นเอกพจน์ (He/She/It)**

1. เติม s ตามหลังคากริยาได้เลย
เช่น eats/ talks/ speaks/ drinks/ runs, etc.

2. เติม es ตามหลังคากริยาที่ลงท้ายด้วย s/sh/ch/x/z/o เช่น

kisses/washes/teaches/goes/ quizzes/ mix, etc.

3. คากริยาที่ลงท้ายด้วย y หากหน้า y เป็นสระ (a, e, i, o, u) ให้เติม s ได้

เลย แต่หากหน้า y เป็นพยัญชนะต้องเปลี่ยน y เป็น i แล้วจึงเติม es
เช่น plays/enjoys/ stays/copies/carries/studies
B. วิธีการใช้ Present Simple Tense

1. ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นกิจวัตรหรือนิสัย (Routines/Habits)
เช่น Bobby finishes school at 4 o’ clock in the afternoon.
Teddy wakes up at 6 o’ clock in the morning.
Katy and her friends love hanging out at the café.

2. ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นกาหนดการแน่นอน (Timetables)
เช่น The train leaves at 8 o’ clock in the morning.
The first lesson starts at 8:30.

3. ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นความจริงทั่วไป (Facts)
เช่น The sun rises to the East.
The moon evolves around the earth.
1
 C: โครงสร้างประโยค Present Continuous Tense

ประโยคบอกเล่า: S + is/am/are + Ving (*is ใช้กับเอกพจน์/ are ใช้พหูพจน์/ am ใช้กับ I*)

Ex. I am going/She is going/ We are going.

ประโยคปฏิเสธ: S + is/am/are + Ving (ปฏิเสธนึกถึง not และ not อยู่คนเดียวไม่ได้ จึงต้องการ

กริยาช่วย is/am/are มาช่วยนั่นเอง)
Ex. I am not reading/ He is not reading/ They are not reading.
ประโยคคาถาม: Is/Am/Are + S+ Ving? (กริยาช่วยต้องขึ้นหน้าประโยคและเขียนด้วยตัวพิมพ์
ใหญ่เสมอ และจะมีสองคาตอบซึ่งโครงสร้างของคาตอบได้แก่ Yes + subject + is/am/are และ
No, + subject + isn’t/am not/ aren’t)
Ex. Are you eating? /Is Jack eating/ Are your children eating?
Yes, I am/She is/They are…….No, I am not/ she isn’t/they aren’t

**กฎการเติม -ing ที่กริยา**

1. กริยาทีม่ ีพยัญชนะ สระ และตัวสะกดตัวเดียวให้เติมพยัญชนะท้ายแล้วเติม ing เช่น
sitting/ putting/ sipping/ tipping/ mopping/ running
2. กริยาทีล่ งท้ายด้วย e ให้ตดั e ออกแล้วจึงเติม ing เช่น writing/typing making/
taking, หากลงท้ายด้วย ee ให้เติม ing ได้เลย เช่น seeing, หากกริยาลงท้ายด้วย ie
ให้เปลีย่ น ie เป็น y แล้วเติม ing เช่น lying (lie)
3. คากริยาทั่วไปและคากริยาที่ลงท้ายด้วย y ให้เติม ing ได้เลย เช่น playing/
staying/studying/
2
D. วิธีการใช้ Present Continuous Tense

1. ใช้กับเหตุการณ์ที่กาลังเกิดขึ้นขณะที่พูด (Actions that are happening)

เช่น I am drinking a cup of tea.

She is dancing in her room.
We are playing basketball.

E. คาที่เป็นKeywords ที่จะบอกว่าประโยคดังกล่าวคือ tense อะไร

Present Simple: เราจะเจอ Time adverbs เหล่านี้ในประโยค

every day/ every month/ every year/once a week/ twice a
2.week/
ใช้กับและ
เหตุกadverbs
ารณ์ที่กาลังof..........................ขณะที
frequency (คากริ่พยูดาวิเศษบอกความถี่บ่อย)
ได้แก่ always, usually, often/ sometimes/ never.

Present Continuous: เราจะเจอ Time adverbs เหล่านี้ในประโยค

now/ right now/ at present/ at the moment/ these days/ for
the time being ทั้งหมดนี้แปลว่า ตอนนี้ 3