60

วิทยาลัยการอาชีพนครนายก
แนวข้อสอบวิชาเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น รหัสวิชา 2201 – 1016
หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ ( ปวช.) เทียบโอนประสบการณ์
ประเภทวิชาพาณิชยกรรม สาขาวิชาพณิชยการ สาขางานคอมพิวเตอร์ธุรกิจ

วิชาเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นข้อ 1-50 ค. จอห์น ล็อค-ทษฎีการจ้างงาน

1. ข้อใดคือความหมายของวิชาเศรษฐศาสตร์ ง. อดัม สมิธ-ความมั่นคั่งของชาติ
ก. การศึกษาถึงวิธีใช้ทรัพยากรให้เกิด 6. หนังสือเศรษฐศาสตร์เล่มแรกของไทยชื่ออะไร
ประโยชน์ ก. ทรัพยศาสตร์
สูงสุด ข. ตลาดการเงิน
ข. การศึกษาเกี่ยวกับการผลิตสินค้าและบริการ ค. เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น
ค. การศึกษาเรื่องการเงิน การธนาคาร การ ง. เศรษฐศาสตร์การค้า
ลงทุน 7. ข้อใดผิด
ง. ถูกทุกข้อ ก. เศรษฐศาสตร์จุลภาคคือทฤษฎีราคา
2. เป้าหมายสูงสุดของเศรษฐศาสตร์คืออะไร ข. ทฤษฎีว่าด้วยการจ้างงานเป็นที่เป้ามาของ
ก. ความเป็นมหาอานาจทางเศรษฐกิจ เศรษฐศาสตร์มหภาค
ข. ความได้เปรียบดุลการค้ากับต่างประเทศ ค. ลัทธิพาณิชย์นิยมสนับสนุนการลงทุนจาก
ค. ความกินดีอยู่ดีของประชาชน ต่างประเทศ
ง. ความมั่นคงทางการเมือง ง. การดาเนินกิจกรรมของหน่วยเศรษฐกิจ
3. ข้อใดเป็นลักษณะของลัทธิพาณิชย์นิยม ย่อมมีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ
ก. การได้เปรียบดุลการค้าประเทศอื่น 8. ข้อใดคือเศรษฐศาสตร์จุลภาค
ข. การควบคุมกิจการต่างๆ โดยรัฐ ก. ภาษี
ค. การให้เอกชนดาเนินการด้วยตนเอง ข. การจ้างงาน
ง. ถูกทุกข้อ ค. รายได้ประชาชาติ
4. ใครคือบิดาทางเศรษฐศาสตร์ ง. ปัญหาราคาข้าวตกต่า
ก. อัลเฟรด มาร์แชล 9. การค้าระหว่างประเทศเป็นเนื้อหาของวิชาใด
ข. จอห์น เมนารด เคนส์ ก. เศรษฐศาสตร์จุลภาค
ค. จอห์น ล็อค ข. เศรษฐศาสตร์มหภาค
ง. อดัม สมิธ ค. เศรษฐศาสตร์การค้า
5. ข้อใดสัมพันธ์กัน ง. เศรษฐศาสตร์
ก. อัลเฟรด มาร์แชล-ลัทธิพาณิชย์นิยม
ข. จอห์น เมนาร์ด เคนส์-เศรษฐศาสตร์จุลภาค
วิชาเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น (อ.จงจิต บูรณศรี)
 61

10. การวิจัยตลาดของบริษัทสหพัฒนพิบูลย์เพื่อ 17. ข้อใดไม่ใช่ปัญหาพื้นฐานของการพัฒนา

ปรับปรุงสินค้าจัดอยู่ในวิชาใด เศรษฐกิจของประเทศไทย
ก. เศรษฐศาสตร์จุลภาค ก. การว่างงาน
ข. เศรษฐศาสตร์มหภาค ข. การกระจายรายได้
ค. เศรษฐศาสตร์การค้า ค. รายได้ต่อหัวต่า
ง. เศรษฐศาสตร์ การพาณิชย์ ง. การตลาด
11. กาไรเป็นผลตอบแทนของปัจจัยการผลิตในข้อใด 18. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์โดยตรงของการศึกษาวิชา
ก. ที่ดิน เศรษฐศาสตร์
ข. แรงงาน ก. เป็นความรู้พื้นฐานในการประกอบอาชีพ
ค. ทุน อิสระ
ง. ผู้ประกอบการ ข. ไม่มีปัญหามลพิษในสังคม
12. Interest คือผลประโยชน์ที่เกิดจากข้อใด ค. ทาให้การตัดสินใจบริโภคสินค้ามี
ก. ที่ดิน ข. แรงงาน หลักเกณฑ์และเหตุผลมากขึ้น
ค. ทุน ง. ผู้ประกอบการ ง. เข้าใจพฤติกรรมมนุษย์ทางด้านเศรษฐกิจ
13. ข้อใดคือความต้องการสูงสุดของหน่วยธุรกิจ 19. ความแตกต่างของเศรษฐศาสตร์กับบริหารธุรกิจ
ก. ค่าเช่า ข. ค่าจ้าง ได้แก่อะไร
ค. ดอกเบี้ย ง. กาไร ก. ตีมูลค่าผลตอบแทน-ค่าใช้จ่ายโครงการ
14. รัฐบาลเป็นหน่วยธุรกิจประเภทหนึ่งที่มี ต่างกัน
วัตถุประสงค์อย่างไรในการดาเนินการ ข. ผู้บริหารโครงการธุรกิจเป็นเอกชน
ก. เพื่อต้องการกาไรและค่าเช่า เท่านั้น
ข. เพื่อต้องการได้เปรียบดุลการค้า ค. โครงการทางเศรษฐศาสตร์ไม่สนใจ
ค. เพื่อความมั่นคงทางการเมือง ผลตอบแทน
ง. เพื่อความกินดีอยู่ดีของประชาชน ง. โครงการเอกชนคิดต้นทุนทางสังคมด้วย
15. ข้อใดคือปัญหาทางเศรษฐกิจอันดับแรกที่ผู้ผลิต 20. ผลกระทบจากภายนอก ( Externality ) ได้แก่
จะต้องพิจารณา อะไร
ก. ผลิตอะไร ก. สร้างโรงงานแล้วมีการจ้างงานในท้องถิ่น
ข. ผลิตอย่างไร ข. สร้างโรงงานแล้วมีน้าเสียที่ต้องบาบัด
ค. ผลิตเพื่อใคร ค. สร้างโรงงานแล้วเกิดร้านค้ารอบๆ
ง. ผลิตทาไม โรงงาน
16. ผู้ที่มีหน้าที่แก้ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจคือใคร ง. สร้างโรงงานแล้วต้องซื้อเครื่องจักร
ก. รัฐบาล ข. ผู้บริโภค อุปกรณ์
ค. ผู้ผลิต ง. ประชาชนทุกคน

วิชาเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น (อ.จงจิต บูรณศรี)


21. ฟังก์ชันการผลิตใช้อธิบายทางเลือกในการใช้
ปัจจัยการผลิตหลายๆ อย่างร่วมกันเพื่อให้เกิดอะไร
ก. ประสิทธิภาพทางด้านการผลิต
ข. ประสิทธิภาพทางด้านเศรษฐกิจ
ค. การพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี
ง. ปริมาณผลผลิตที่แตกต่างกัน
22. ฟังก์ชันการผลิตแสดงความสัมพันธ์ของอะไร
ก. ทุนกับผลผลิต
ข. ทุนกับปัจจัยการผลิต
ค. ปัจจัยการผลิตกับผลผลิต
ง. ปัจจัยการผลิตกับปัจจัยการผลิต
23. คาว่า “ระยะสั้น” และ “ระยะยาว” ในทาง
เศรษฐศาสตร์หมายถึงข้อใด
ก. ระยะเวลาที่ใช้ในการผลิตสินค้าและ
บริการ
ชนิดหนึ่ง
ข. ระยะเวลาที่ กาหนดเป็นวัน เดือน ปี
ค. ระยะเวลาที่คานึงถึงความยากง่ายในการ
เปลี่ยนแปลงปัจจัยคงที่
ง. ระยะเวลาที่คานึงถึงความยากง่ายในการ
เปลี่ยนแปลงปัจจัยแปรผัน
24. ในการผลิตระยะสั้นถ้าต้องการผลผลิตเพิ่มขึ้น
ต้องเพิ่มปัจจัยการผลิตชนิดใด
ก. ปัจจัยคงที่
ข. ปัจจัยแปรผัน
ค. ทั้งปัจจัยคงที่และปัจจัยแปรผัน
ง. ไม่จาเป็นต้องใช้ปัจจัยการผลิตเพิ่ม
25. กฎว่าด้วยการใช้ปัจจัยการผลิตที่มีสัดส่วนไม่คงที่
อธิบายไว้ว่าอย่างไร
ก. การเปลี่ยนแปลงของผลผลิตรวมเกิดขึ้น
จาก การใช้ปัจจัยคงที่เพิ่มขึ้นทีละหนึ่งหน่วย
ข. การเปลี่ยนแปลงของผลผลิตรวมเกิดขึ้น
จาก การใช้ปัจจัยแปรผันเพิ่มขึ้นทีละหนึ่งหน่วย
62
ค. การเพิ่มขึ้นของผลผลิตส่วนเพิ่มเกิดขึ้นจาก
การใช้ปัจจัยคงที่ร่วมกับปัจจัยแปรผัน
ง. การลดน้อยถอยลงของผลผลิตส่วนเพิ่มเกิด
จากการใช้ปัจจัยคงที่ร่วมกับปัจจัยแปรผัน
26. ข้อใดกล่าวถึงอรรถประโยชน์ได้ถูกต้อง
ก. อรรถประโยชน์ไม่สามารถวัดออกมาเป็น
ตัวเลขได้
ข. หน่วยวัดอรรถประโยชน์เรียกว่า ยูนิค
ค. สินค้าชนิดเดียวกัน จานวนเท่ากัน มี
อรรถประโยชน์เท่ากันสาหรับผู้บริโภคแต่
ละคน
ง. อรรถประโยชน์มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับ
ความต้องการของผู้บริโภค
27. ข้อใดถูกต้อง
ก. ผู้บริโภคจะได้รับอรรถประโยชน์รวม
เพิ่มขึ้น
เรื่อยๆ ไม่สิ้นสุดเมื่อบริโภคสินค้าเพิ่มขึ้น
เรื่อยๆ
ข. ผู้บริโภคจะได้รับอรรถประโยชน์เพิ่ม
(MU) เพิ่มขึ้นในอัตราที่เพิ่มขึ้น ในอัตรา
ลดลงจนเป็นศูนย์และติดลบ
ค. อรรถประโยชน์เพิ่ม (MU) คือผลรวมของ
อรรถประโยชน์รวม (TU)
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
28. ข้อใดไม่ใช่คุณสมบัติของเส้นความพอใจเท่ากัน
ก. เป็นเส้นโค้งหรือเส้นตรงที่ทอดลงจากซ้าย
ไป ขวา
ข. เป็นเส้นโค้งเว้าออกจากจุดเริ่มต้น
ค. เส้นความพอใจเท่ากันจะตัดกันไม่ได้
ง. เส้นความพอใจเท่ากันเป็นเส้นติดต่อกัน
โดยไม่ขาดช่วง
วิชาเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น (อ.จงจิต บูรณศรี)
 63

29. ข้อความใดที่ไม่ถูกต้อง ข. มีสถานที่จัดไว้เพื่อให้ผู้ซื้อและผู้ขาย

ก. เส้นความพอใจเท่ากัน เป็นเส้นที่แสดง พบปะ
จานวนต่างๆ ของสินค้า 2 ชนิด ซึ่งจะทาให้ ตกลงซื้อขายแลกเปลี่ยนกันโดยไม่ต้อง
ผู้บริโภคได้รับความพอใจเท่ากัน เห็น
ข. เส้นความพอใจเท่ากัน เป็นเส้นที่แสดงการ สินค้าก่อนตกลงใจซื้อขายกัน
เลือกบริโภคสินค้า 2 ชนิด ณ อัตราส่วน ค. ไม่จาเป็นต้องมีสถานที่ทาการซื้อขาย แต่
แตกต่างกันโดยได้รับความพอใจเท่ากัน ต้องเห็นสินค้ากันก่อนทาการซื้อขาย
ค. เส้นความพอใจเท่ากัน แสดงให้เห็นว่า ง. ไม่จาเป็นต้องมีสถานที่ทาการซื้อขาย และ
สินค้า ไม่จาเป็นต้องเห็นสินค้ากันก่อนทาการซื้อ
ทั้ง 2 ชนิด ใช้ทดแทนกันไม่ได้เลยแต่ ขาย
จาเป็นต้องใช้ควบคู่กัน 32. คนกลางทางการตลาด ประกอบด้วย
ง. เส้นความพอใจเท่ากันของผู้บริโภคคน ก. คน
หนึ่งๆ มีหลายเส้น แต่จะเป็นไปได้แค่ ข. สถาบันต่างๆ
ไหนขึ้นอยู่กับรายได้เป็นสาคัญ ค. สื่อและเครื่องอานวยความสะดวก
30. Marginal Rate of Substitution : MRS หมายถึง ง. ถูกทุกข้อ
อะไร 33. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของตลาด
ก. การลดลงของสินค้าชนิดหนึ่ง เมื่อบริโภค ก. ผลิตภัณฑ์
สินค้าอีกชนิดหนึ่งเพิ่มขึ้น 1 หน่วย โดย ข. การประกันภัย
ต้องการให้ได้รับความพอใจให้คงเดิม ค. สถานที่
ข. การลดลงของสินค้าชนิดหนึ่ง เมื่อได้ ง. การส่งเสริมการขาย
บริโภคสินค้าอีกชนิดหนึ่งเพิ่มขึ้น 1 หน่วย 34. ตลาดตามลักษณะการดาเนินงานของผู้ชาย
โดยรักษาระดับความพอใจให้คงเดิม ได้แก่ตลาดประเภทใด
ค. ความพอใจที่ผู้บริโภคได้รับเพิ่มขึ้น อัน ก. ตลาดขายส่ง
เนื่องมาจาดบริโภคสินค้าเพิ่มขึ้นทีละ 1 ข. ตลาดสินค้าเกษตรกรรม
หน่วย ค. ตลาดสินค้าสาหรับผู้บริโภค
ง. ความพอใจที่ผู้บริโภคได้รับลดลง อัน ง. ตลาดสินค้าสาหรับผู้ผลิต
เนื่องมาจาดบริโภคสินค้าเพิ่มขึ้นทีละ 1 35. ปัจจัยที่เป็นตัวกาหนดขนาดของตลาด คือข้อใด
หน่วย ก. การคมนาคม
31. ตลาดในความหมายทางเศรษฐศาสตร์แตกต่างกับ ข. ลักษณะของสินค้า
ตลาดในความหมายของคนทั่วไปอย่างไร ค. นโยบายของรัฐบาล
ก. มีสถานที่จัดไว้เพื่อให้ผู้ซื้อและผู้ขายพบปะ ง. ถูกทุกข้อ
ตกลงซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากัน

วิชาเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น (อ.จงจิต บูรณศรี)

 64

36. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของการตลาด 40. ในตลาดแข่งขันสมบูรณ์ ถ้าผู้ผลิตรายหนึ่งขึ้น

ก. การเงิน ราคาสินค้า ผลที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร
ข. การคลัง ก. ผู้ซื้อจะซื้อสินค้าของผู้ขายที่ขึ้นราคามาก
ค. การป้องกันการเสี่ยงภัย ขึ้น เนื่องจากเห็นว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพดี
ง. การขนส่ง ข. ผู้ซื้อจะไม่ซื้อสินค้าของผู้ขายที่ขึ้นราคา
37. นักเศรษฐศาสตร์ได้แบ่งตลาดออกเป็นกี่ประเภท และไปซื้อสินค้าของผู้ขายรายอื่นแทน
อะไรบ้าง ค. ไม่มีผลกระทบต่อปริมาณขายของผู้ขายราย
ก. 2 ประเภท คือตลาดแข่งขันสมบูรณ์ และ ใดทั้งสิ้น
ตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ ง. ผู้ขายในตลาดจะออกจากตลาดมากขึ้น
ข. 2 ประเภท คือตลาดแข่งขันสมบูรณ์ และ
ตลาดผูกขาด 41. ถ้าเปรียบเทียบตลาดแข่งขันสมบูรณ์กับตลาดผู้
ค. 3 ประเภท ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ ตลาด ขาดแท้จริง ตลาดแข่งขันสมบูรณ์มีข้อดีกว่าที่ใด
แข่งขันไม่สมบูรณ์และตลาดผูกขาด ก. ผู้ผลิตได้รับกาไรสูงสุดมากกว่า
ง. 3 ประเภท ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ ตลาด ข. ใช้หลักทรัพยากรประหยัดกว่า
แข่งขันไม่สมบูรณ์และตลาดกึ่งแข่งขันกึ่ง ค. จัดสรรทรัพยากรได้มีประสิทธิภาพมากกว่า
ผูกขาด ง. ไม่ทาให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการโฆษณา
38. ข้อใดคือลักษณะของตลาดแข่งขันสมบูรณ์ 42. ข้อใดเป็นผลเสียของการแข่งขัน
ก. สินค้ามีลักษณะและคุณภาพใกล้เคียงกัน ก. ผู้ผลิตไม่สนใจปรับปรุงวิธีการผลิตและมุ่ง
มาก กาไรสูงสุดโดยการตั้งราคาขายให้สูง
ข. สินค้ามีลักษณะและคุณภาพแตกต่างกัน ข. ทาให้การผลิตมิได้กระทาอย่างเต็มที่ อีกทั้ง
ค. มีการกีดกันไม่ให้ผู้ผลิตรายอื่นเข้ามาทาการ การลงทุนใหม่ๆ ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น
ผลิตแข่งขัน ค. ทาให้ในตลาดมีสินค้าที่มีคุณภาพ และ
ง. ผู้ผลิตและผู้บริโภคไม่จาเป็นต้องมีความ ราคาจะเป็นไปตามกลไกราคา
รอบ ง. มีการใช้ทรัพยากรจานวนมากไปทางด้าน
รู้ในสภาพการณ์ของตลาด การผลิตสินค้าฟุ่มเฟือย
39. ตัวอย่างตลาดในข้อใดที่อาจจัดได้ว่าเป็นตลาด 43. อานาจการผูกขาดของผู้ผลิตเกิดขึ้นในกรณีใด
แข่งขันสมบูรณ์ ก. มีผู้ผลิตเพียง 2-3 รายในตลาด
ก. ตลาดนัดแรงงาน ข. ขนาดของกิจการใช้เงินลงทุนไม่สูงนัก
ข. ตลาดหลักทรัพย์ ค. เป็นธุรกิจที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ
ค. ตลาดรถยนต์ ง. รัฐบาลออกกฎหมายให้ทาการผูกขาด
ง. ตลาดผลผลิตทางการเกษตร

วิชาเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น (อ.จงจิต บูรณศรี)

 65

44. โดยทั่วไปการผูกขาดในระบบเศรษฐกิจ 48. ข้อใดเป็นตัวอย่างสินค้าในตลาดผู้ขายน้อยราย

ก่อให้เกิดผลเสียหายหลายประการ ยกเว้นข้อใด ก. รถยนต์ เหล็กกล้า
ก. การผูกขาดทาให้มีสินค้าพื้นฐานทาง ข. น้ามันรถยนต์ ผงซักฟอก
เศรษฐกิจอย่างเพียงพอ ค. ข้างโพด อ้อย
ข. ผู้บริโภคไม่ได้รับการคุ้มครองจากการขาย ง. ไฟฟ้า ประปา
สินค้าในราคาที่สูงจากผู้ผูกขาด 49. ข้อใดเป็นตัวอย่างในตลาดในกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด
ค. การผูกขาดก่อให้เกิดการจัดสรรทรัพยากร ก. รถยนต์ เหล็กกล้า
การผลิตที่ขาดประสิทธิภาพ ข. น้ามันรถยนต์ ผงซักฟอก
ง. ผู้ผูกขาดเป็นผู้ครองตลาดแต่เพียงผู้เดียว ทา ค. ข้างโพด อ้อย
ให้ขายสิ้นค้าได้เสมอ ง. ไฟฟ้า ประปา
45. ในตลาดผู้ขายน้อยราย ถ้าผู้ผลิตรายหนึ่งลดราคา 50. เมื่อเปรียบเทียบตลาดประเภทต่างๆ ของผู้ผลิตที่
สินค้า จะเกิดอะไรขึ้นในตลาด อยู่ในตลาดประเภทใดที่ประหยัดค่าใช้จ่าย หรือไม่
ก. ผู้ผลิตรายอื่นจะขึ้นราคาสินค้า จาเป็นต้องโฆษณาส่งเสริมการขายสินค้าของตนเอง
ข. ผู้ผลิตรายอื่นจะลดราคาสินค้าตาม เลย
ค. ผู้ผลิตรายอื่นจะไม้เปลี่ยนแปลงราคาสินค้า ก. ตลาดแข่งขันสมบูรณ์
ง. ผู้ผลิตที่ลดราคาสินค้าจะขายสินค้าได้มากขึ้น ข. ตลาดผูกขาดแท้จริง
46. ลักษณะที่เห็นเด่นชัดของตลาดกึ่งแข่งขันกึ่ง ค. ตลาดผู้ขายน้อยราย
ผูกขาดตรงกับข้อใด ง. ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด
ก. มีผู้ขายมากกว่า 1 ราย แต่ไม่เกิน 2-3 ราย
ข. มีผู้ขายจานวนมาก และสามารถเข้าออกจาก
กิจการได้อย่างเสรี
ค. สินค้าของผู้ขายแต่ละรายมาสามารถใช้
ทดแทนกันได้
ง. สินค้าของผู้ขายแต่ละรายแตกต่างกันใน
ความรู้สึกของผู้บริโภค
47. ข้อใดเป็นตัวอย่างสินค้าในตลาดผูกขาดแท้จริง
ก. รถยนต์ เหล็กกล้า
ข. น้ามันรถยนต์ ผงซักฟอก
ค. ข้างโพด อ้อย
ง. ไฟฟ้า ประปา

วิชาเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น (อ.จงจิต บูรณศรี)

 66

1 ง 21 ก 41 ข
2 ค 22 ค 42 ค
3 ก 23 ค 43 ง
4 ง 24 ข 44 ก
5 ง 25 ง 45 ค
6 ก 26 ง 46 ง
7 ค 27 ข 47 ก
8 ง 28 ข 48 ค
9 ข 29 ค 49 ข
10 ก 30 ข 50 ค
11 ง 31 ข
12 ค 32 ง
13 ง 33 ข
14 ง 34 ค
15 ก 35 ง
16 ก 36 ข
17 ง 37 ก
18 ข 38 ก
19 ก 39 ข
20 ค 40 ก

วิชาเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น (อ.จงจิต บูรณศรี)