Professional Documents
Culture Documents
บทที่ 1
บทนำ
1.1 ควำมสำคัญและที่มำของปัญหำที่ทำกำรวิจัย
ปัจจุบันโรงงานอุตสาหกรรม ได้นาเอาไม้ยางพารามาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการให้ความร้อนใน
กระบวนการต้ม บอยเลอร์ (Boiler) หรือหม้อต้มไอน้า ทาให้ได้เถ้าไม้ยางพาราจากโรงงานในปริมาณมากถึง
3000 ตันต่อเดือน โดยขี้เถ้าเหล่านี้ยังมีถ่านที่เหลือจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์อยู่ด้วย และจะถูกรวมนาไป
กาจัดหรือเก็บรอกาจัด ทาให้เกิดปัญหามลพิษเนื่องจากขี้เถ้ามีค่าความเป็นด่างสูงและต้องใช้พื้นที่ฝังกลบ
จานวนมาก หากทาการคัดแยกถ่านที่เหลือจากเผาไหม้ไม่สมบูรณ์นี้ ซึ่งมีอยู่ประมาณ ¼ ของปริมาณเถ้าไม้
ยางพาราทั้งหมดกลับมาใช้ จะช่วยลดปริมาณมลพิษและลดพื้นที่ฝังกลบได้เป็นจานวนมาก อีกทั้งพลังงาน
ทดแทนเป็ น สิ่ งที่ต้องการสู ง เมื่อพลั งงานที่ ใช้ในปั จจุบั นนั้น ลดลงอย่างต่อเนื่ อง และพลั งงานหลายชนิ ด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ามัน ถ่านหิน แก๊สธรรมชาติ รวมทั้งไม้ฟืน ต้องใช้เวลานานเพื่อที่จะกลับมาใช้ได้อีกครั้ง
จึงเกิดความคิดที่จะร่อนแยกถ่านไม้ยางพารามาผ่านกระบวนการขึ้นรูป เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ใหม่
1.2 วัตถุประสงค์ของโครงงำนวิจัย
1.2.1. ศึก ษาความเป็ น ไปได้ ของการเพิ่ มค่ าความร้อ นให้ กั บ ถ่ านที่ เผาไหม้ไม่ ส มบู รณ์ จ ากเถ้ าไม้
ยางพาราและนามาขึ้นรูปเป็นถ่านอัดแท่ง
1.4 ขอบเขตของโครงกำรวิจัย
1.4.1. ศึกษาอัตราส่วนถ่านไม้ยางพาราที่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ต่อขี้เถ้าที่ได้จากการใช้ไม้ฟืนยางพาราใน
กระบวนการต้มหม้อไอน้า
1.4.2. ศึกษาอัตราส่วนที่เหมาะสมของกากไขมั นที่ผสมในถ่านไม้ยางพาราที่เหลือจากการเผาไหม้ไม่
สมบูรณ์เพื่อเพิ่มค่าความร้อนและสัดส่วนของกากน้าตาลเพื่อเพิ่มค่าความหนาแน่นให้กับถ่าน
1.4.3. ศึ ก ษาคุ ณ สมบั ติ ข องถ่ านอั ด แท่ งที่ ท ามาจากกากไขมั น และกากน้ าตาล ผสมเข้าถ่ านไม้
ยางพารา
1.5 ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ
1.5.1. ทราบถึงประสิทธิภาพและอัตราส่วนผสมที่เหมาะสมของถ่านอัดแท่งไม้ยางพาราที่เหลือจาก
การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ผสมกากไขมันโดยมีกากน้าตาลเป็นตัวประสาน
1.5.2. เป็นแนวทางในการจัดการของเสียโดยนามาแปรรูปเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่งได้
1.5.3. เป็นแนวทางเลือกการนาถ่านไม้ยางพาราที่เหลือจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์มาสร้างคุณค่าให้
เกิดประโยชน์ได้
3
บทที่ 2
ทฤษฎีและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง
2.1 ชีวมวล
คือ สารอินทรีย์ (พืช สัตว์) ได้แก่ เศษไม้ (Wood chip) ใบไม้ ส่วนต่างๆ ของไม้ที่เหลือใช้ รากต้นยาง
วัสดุ เหลือใช้ทางการเกษตร กาก-กะลา-ทะลายปาล์ม กาบ-กะลา-ทางมะพร้าว ซังข้าวโพด กากมัน แกลบ
ชานอ้อย ส่าเหล้า ขยะ น้าเสีย พืชผลทางการเกษตร ที่ปลูกขึ้นมาเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงโดยตรง เช่น พวก ไม้โต
เร็วต่างๆ หญ้าโตเร็ว เช่น หญ้าตระกูลเนเปียร์ (Napier Grass) หญ้ายักษ์ (Giant King Grass) หญ้าจักรพรรดิ
การ
2.1.1 กำรกระจำยตัวของแหล่งชีวมวล
1. อยู่รวมเป็นกลุ่ม คือ ชีวมวลจากกระบวนการแปรรูป ณ ที่ใดที่หนึ่ง และชีวมวลที่เกิดจาก
การปลูกขึ้นมาใช้เป็นวัตถุดิบโดยตรง เช่น
1.1 โรงสีข้าว
1.2 โรงงานผลิตน้าตาลทราย
1.3 โรงงานแป้งมันสาปะหลัง
1.4 โรงงานสกัดน้ามันปาล์ม
1.5 โรงงานแปรรูปไม้ยางพารา
1.6 ฟาร์ม-ไร่ ปลูกหญ้าโตเร็วหรือพืชโตเร็วขนาดใหญ่ ที่เพียงพอกับขนาดโรงไฟฟ้า
2. อยู่กระจัดกระจาย ตามพื้นที่เพาะปลูกหรือไม่มีการรวบรวม เช่น
2.1 การสีข้าวโพดโดยอาศัยอุปกรณ์สีข้าวโพดที่เคลื่อนที่ได้
2.2 เศษไม้-ปลายไม้จากสวนป่ายางพารา
2.3 ฟาร์ม-ไร่ ปลูกหญ้าโตเร็ว หรือพืชโตเร็วขนาดเล็ก
ส่วนการนาชีวมวลที่อยู่กระจัดกระจายมาเป็นเชื้อเพลิง จะมีข้อเสียเปรียบคือเสียค่าใช้จ่ายใน
การรวบรวมเพิ่มขึ้น
4
2.1.2 ขนำดของชีวมวล
ชีวมวลที่มีขนาดใหญ่ เช่น เศษไม้, ปลายไม้, ปีกไม้ จะต้องนามาตัดให้ เป็นชิ้นเล็กๆ ขนาดประมาณ
1 cm หรือไม่เกิน 2.5 cm จะทาให้ประสิทธิภาพการเผาไหม้ดีขึ้น แต่ก็มีค่าใช้จ่ายในการย่อยเพิ่มขึ้นด้วย
เช่นกัน
ชีวมวลที่มีขนาดเล็ก สามารถนามาใช้งานได้ทันที เช่น แกลบ ซึ่งจะเป็นการช่วยลดต้นทุนในเรื่อง
ของค่าใช้จ่ายใน การตัดหรือสับเป็นชิ้นเล็กๆ
2.1.3 ควำมชื้นของชีวมวล
ความชื้นหมายถึงปริมาณน้าที่มีอยู่ ชีวมวลส่วนมากจะมีความชื้นค่อนข้างสูง เพราะเป็นผลผลิตทาง
การเกษตร ถ้าต้องการนาชีวมวลเป็นพลังงานโดยการเผาไหม้ ความชื้นไม่ควรเกิน 50 %
กากมันสาปะหลังหรือส่าเหล้า ซึ่งมีความชื้นประมาณ 80-90 % ไม่เหมาะสมที่จะนามาใช้ ต้องนามา
ลดความชื้นก่อนนาไปเป็นเชื้อเพลิง
เศษไม้หรือวัสดุเหลือทิ้งจากการเกษตร เช่น ฟางข้าว ตอซังข้าว ซังข้าวโพด มีความชื้นประมาณ 10-
60% ขึ้นอยู่กับชนิด ฤดูกาล หรือพื้นที่ โดยความชื้นสามารถลดลงได้เองโดยธรรมชาติ
พืชตระกูลหญ้าเนเปียร์ กรณีต้นสดมีความชื้นประมาณ 40-80 % ขึ้นอยู่กับพันธุ์ ฤดูกาลที่เก็บเกี่ยว
ความชื้นสามารถลดลงได้เองโดยธรรมชาติ หรือสามารถทาแห้งได้ง่ายอย่างรวดเร็ว
2.1.4 ค่ำควำมร้อนที่ได้จำกชีวมวล
ชีวมวลแต่ละชนิดเมื่อนาไปเผาไหม้จะให้ค่าความร้อนที่มากน้อยแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับค่าความชื้น
หรือปัจจัยอื่นๆ โดยสามารถใช้ค่าความร้อนนี้เป็นตัวประเมินศักยภาพของชีวมวลแต่ละชนิดได้ ค่าความร้อน
ของชีวมวลแต่ละชนิดแสดงในตารางที่ 2.1
2.1.5 ปริมำณขี้เถ้ำ
ปริมาณขี้เถ้าเป็นสิ่งที่เหลือหลังจากการเผาไหม้ โดยปริมาณขี้เถ้าในวัสดุชี วมวลมีผลต่อการเผาไหม้
ด้วยเช่ น กัน ยกตัว อย่ าง แกลบจะมี ป ริ มาณขี้เถ้า 12 % โดยน้าหนั ก ดังนั้ นในการออกแบบห้ อ งเผาไหม้
จะต้องพิจารณาถึงการรวบรวมขี้เถ้าออกจากห้องเผาไหม้อย่างมีประสิทธิภาพ ปริมาณขี้เถ้าในวัสดุชีวมวล
ประเภทต่างๆ แสดงในตารางที่ 2.1
5
2.2 ถ่ำน
ถ่าน คือไม้ที่ได้จากการเผาไหม้ภายในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศอยู่เบาบางขณะนั้น คือ ระหว่างที่ไม้
ถูกสลายตัวด้วยความร้อ น ภายในเนื้อไม้เกิดกระบวนการกาจัดน้า น้ามันดินและสารประกอบอื่นๆ ออกไป
คงเหลือถ่านที่มีคาร์บอนสูงกว่า 80 % และไม่มีความชื้นหลงเหลืออยู่ เป็นผลให้ถ่านสามารถให้พลังงานได้สูง
กว่าไม้แห้งถึงสองเท่า
6
2.2.1.หลักกำรเผำถ่ำน
การเผาถ่าน คือ กระบวนการเปลี่ ยนให้ ไม้ กลายเป็ น ถ่าน ซึ่ งจาแนกขั้น ตอนการเผาออกเป็ น 4
ขั้นตอนคือ
1. การไล่ความชื้น (Dehydration) อุณหภูมิ 20-270 ˚C โดยจะแบ่งออก 2 ช่วง คือ
ช่วงที่ 1 อุณหภูมิ 20-180 ˚C เป็นช่วงที่มีการให้ความร้อนเพื่อไล่ความชื้น ซึ่งก็คือน้าที่อยู่
ภายในเนื้อไม้
ช่วงที่ 2 อุณหภูมิ 180-270 ˚C เป็นช่วงที่มีการสลายตัวของเฮมิเซลลูโลส (Hemicellulose)
โดยจะสลายตัวจนหมดที่อุณหภูมิ 260 ˚C การจะทาให้ความร้อนใกล้เคียงกันทั่วทุกจุดของเตา ต้องพยายาม
รักษาอุณหภูมิให้อยู่ที่ 260 ˚C ให้ได้นาน ควันช่วงนี้จะมีสีเหลืองจาง
2. การเปลี่ยนจากไม้เป็นถ่าน (Carbonization) อุณหภูมิ 270-400 ˚C
3. การท าถ่ า นให้ บ ริ สุ ท ธิ์ (Refinement หรื อ Refining Technique) ถ่ า นจะสามารถใช้ เป็ น
เชื้อเพลิงได้เมื่อเผาเสร็จที่อุณหภูมิ 400 ˚C แล้ว แต่ยังมีน้ามันดิน (Tar) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งอยู่รวมทั้งค่า
คาร์บอนเสถียรยังต่าอยู่ อุณหภูมิพื้นเตาประมาณ 500 ˚C ควันจะมีสีเริ่มใสจะต้องทาการปิดช่องอากาศเข้า
ความร้อนจะมีการถ่ายเทลงมาที่พื้นอุณหภูมิก็จะใกล้เคียงกันที่ 500 ˚C
4. การทาให้เย็น (Cooling) ก่อนจะนาถ่านไม้มาใช้งานต้องปิดปล่องเตาทุกปล่อง ปล่อยให้ถ่านเย็น
จนอุณหภูมิต่ากว่า 50 ˚C
2.2.2 เตำเผำถ่ำน
ในการผลิตถ่านให้ได้คุณภาพสูง มีคุณสมบัติที่สมบูรณ์ และปลอดจาก สารก่อมะเร็ง จะต้องเป็น
เตาเผาถ่านที่สามารถ เพิ่มอุณหภูมิได้สูงเกิน 1,000 ˚C โดยที่ตัวเตาต้องออกแบบมาให้สามารถทนต่อความ
ร้อนสูงที่เกิดขึ้นได้รวมทั้งมีระบบการหมุนเวียนความร้อนภายในที่ดี ซึ่งดั้งเดิมจะเป็นเตาที่เรียกว่า เตาอิวาเตะ
(Iwatae) ที่มีต้นกาเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น โดยสามารถผลิตถ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เตาเผาถ่านแบ่งได้หลายชนิด ดังนี้
1. เตาหลุมผีกรมป่าไม้
เตาหลุมผีหรือเตาหลุมหรือเตาผีเป็นเตาเผาถ่านที่มีมาแต่ครั้งโบราณและปัจจุบันยังคงมีการเผาถ่าน
ด้วยวิธีนี้กันอย่างแพร่หลายในทั่วทุกภาคของประเทศ ทั้งนี้เนื่องจากเป็นเตาเผาถ่านที่สามารถสร้างขึ้นเองได้
ง่ายและวิธีในการเผาถ่านตลอดจนการคัดเลือกไม้ที่นามาผลิตถ่านไม่ค่อยพิถีพิถันนัก เตาหลุมผีจะแตกต่างกัน
8
2. เตาถังคู่
เป็นการนาถังน้ามัน 200 ลิตร 2 ถังมาเจาะทะลุทั้ง 2 ด้านและเชื่อมติดกันเป็นลักษณะทรงสูงใน
แนวดิ่ง ทั้งนี้เพื่อให้สามารถจุไม้เผาถ่านได้มากขึ้น
3. เตาทองก้า
เตาทองก้าเป็นเตาเผาถ่านที่มาจากต่างประเทศ สร้างจากถังน้ามัน 200 ลิตร ที่ปิดฝาทั้ง 2 ด้าน โดย
เจาะปล่ องควัน ขนาด 2.5 cm จ านวนด้านละ 3 ปล่ อง รวม 6 ปล่ อง และเจาะช่องส าหรับใส่ไม้เผาถ่าน
บริเวณกลางถังขนาดกว้าง 30 cm ยาว 73 cm
5. เตาดินเหนียวก่อ
เตาดินเหนียวก่อมีรูปลักษณะคล้ายจอมปลวก ตัวผนังเตาส่วนหนึ่งอยู่บนดิน อีกส่วนหนึ่งขุดลึกลงไป
ต่ากว่าระดับผิวดิน ทั้งนี้เพื่อลดปริมาณดินเหนียวที่ต้องนามาใช้ทาผนังเตาและเพิ่มความแข็งแรงของฐานเตา
เนื่องจากผนังฐานเตาอยู่ใต้ระดับผิวดิน เตาดินเหนียวก่อนี้สามารถพบได้ทั่วไปในชนบทของประเทศไทย ผนัง
เตาที่ใช้ก่อขึ้นมาเหนือพื้นดินนั้นก่อด้วยดินเหนียว แต่ไม่จาเป็นต้องใช้ดินเหนียวล้วน อาจใช้ดินลูกรัง หรือ
ทรายหยาบปนได้บ้างเล็กน้อย เพื่อป้องกันผนังเตาแตกร้าวในระหว่างการเผาถ่านในกรณีที่ใช้ดินเหนียวล้วนๆ
2.3 ถ่ำนอัดแท่ง
ถ่ า นอั ด แท่ ง Charcoal Briquettes ค าว่ า Charcoal หมายถึ ง ถ่ า นหรื อ คาร์ บ อน ส่ ว นค า
ว่า Briquette หมายถึง วัสดุที่สามารถให้ความร้อนที่มีลักษณะเป็นก้อนหรือแท่ง หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งถ่าน
อัดแท่งก็คือ ถ่านที่นามาขึ้นรูปเป็นแท่งหรือก้อน เพื่อนามาใช้เป็นแหล่งพลังงานความร้อน โดยมากแล้วจะใช้
สาหรับประกอบการทาอาหารปิ้ง ย่าง นั่นเอง
2.3.1 ส่วนประกอบถ่ำนอัดแท่ง
- ถ่านจากไม้ กะลา ฟางข้าว แกลบ เศษไม้ ขี้เลื่อย ถ่านหิน Biomass ฯลฯ ภาษาอังกฤษเรียกว่า
Mineral Charcoal ส่วนนี้ใช้สาหรับเป็นเชื้อเพลิง
- ผงแป้ง (Starch) ใช้เป็นตัวยึดผงถ่านให้ยึดติดกันดี
- โซเดียมไนเตรท (Sodium nitrate) ใช้เร่งให้ไฟแรง
- แวกซ์ (Wax) ใช้เป็นตัวยึดผงถ่าน เป็นตัวเร่งให้ไฟแรงขึ้น แถมยังช่วยให้ติดไฟได้ง่ายอีกด้วย
นอกจากนั้น อาจมีการเติม หินปูน (Limestone) บอแรกซ์ (Borax) หรือสารเคมีตัวอื่นๆ เพื่อ
เพิ่มประสิทธิภาพหรือคุณสมบัติของถ่านให้ดีขึ้น
1) วัสดุที่ใช้ในการผลิตถ่านอัดแท่ง
วัตถุดิบในการผลิตถ่านอัดแท่ง มีหลากหลายชนิด เช่น ซังข้าวโพด กะลามะพร้าว แกลบ ขี้
เลื่อย ฟางข้าว ชานอ้อย ต้นมันสาปะหลัง เหง้ามันสาปะหลัง หญ้าคา หญ้าขจรจบ ไมยราบ ผักตบชวา ใบ
จามจุรี กะลาปาล์ม ต้นฝ้าย ต้นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กากทานตะวัน เปลือกทุเรียน เศษถ่านหุงต้มที่เหลือใช้
ฯลฯ (ข้อมูลจาก กรมพัฒนาและการส่งเสริมพลังงาน, 2535)
ส่วนผสมของถ่านอัดแท่ง
ผงถ่าน 10 kg
แป้งมัน 0.5 kg
น้า 3 L
(ปริมาณน้าสามารถปรับได้ ขึ้นอยู่กับความชื้นของวัสดุ)
2) ตัวประสานของถ่านอัดแท่ง
วัสดุประสานเป็นวัสดุที่ใช้ติดวัตถุชนิดเดียวกัน หรือวัตถุต่างชนิดกัน เข้าด้วยกันให้แน่น โดย
ผลิ ตจากวัส ดุธ รรมชาติ เช่น กาวยางไม้ หรือวัส ดุ สั งเคราะห์ ท างวิท ยาศาสตร์ เช่น อี พ อกซี ซึ่งเป็ น วัส ดุ
ประสานที่นาไปใช้ในงานการทาเครื่องเรือน อุตสาหกรรมกระดาษ อุตสาหกรรมรถยนต์ เครื่องบิน เครื่อง
อุปกรณ์ไฟฟ้าอิเลคทรอนิกส์ ฯลฯ
12
2.1) วัสดุที่ใช้ประสานในถ่านอัดแท่ง
1.) กากไขมัน
ไขมันเป็นสารอินทรีย์ที่มีเสถียรภาพและมีโมเลกุลค่อนข้างซับซ้อนกว่าสารอินทรีย์อื่น
และย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ได้ยาก แต่ไขมันมีคุณสมบัติด้านพลังงานที่น่าสนใจโดยเฉพาะไขมันที่มาจากขยะ
ประเภทเศษอาหาร ซึ่งมีการศึกษาองค์ประกอบของไขมัน พบว่า มีค่าความร้อนอยู่ระหว่าง 7,448 – 9,148
kcal/kg มีความชื้นร้อยละ 0 – 2.00 โดยน้าหนัก เถ้าร้อยละ 0 – 0.20 โดยน้าหนัก คาร์บอนเสถียรร้อยละ
2.36 – 2.50 โดยน้าหนัก ซัลเฟอร์ร้อยละ 0 – 0.07 โดยน้าหนักและสารระเหยร้อยละ 95.30 – 97.64 โดย
น้าหนัก (สุธีรา สุนทรารักษ์, 2557)
ไขมัน 1 g ให้พลังงาน 9 kcal (ที่มา : http://devshop.tripod.com/Lesson7.htm)
2.) กากน้าตาล
กากน้าตาล (Molasses) เป็นของเหลวที่เป็นผลพลอยได้จากการผลิตน้าตาลทราย
จากอ้ อ ยในกระบวนการผลิ ต ที่ แ ยกตั ว ออกมาเป็ น กากน้ าตาล ขี้ ต ะกอนและกากอ้ อ ย ประโยชน์ ข อง
กากน้าตาลมีมากมายหลายอย่างเนื่องจากมีน้าตาลและแร่ธาตุชนิดต่างๆ เป็นองค์ประกอบ ซึ่งน้าตาลเป็น
แหล่งอาหารพลังงานที่เหมาะสมจึงมีการนามาผสมอาหารสัตว์ได้หลายชนิด ใช้ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ ยหมักและ
น้าหมักชีวภาพที่มีองค์ประกอบของธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม ซึ่งเป็นสารอาหารที่สาคัญต่อ
พืช
กากน้าตาลเป็นผลพลอยได้จากอุตสาหกรรมน้าตาล มีน้าตาลเป็นองค์ประกอบหลัก
ซึ่ งจั ด เป็ น สารประเภทคาร์ โบไฮเดรต ดั งนั้ น จะให้ พ ลั ง งานความร้อ นไม่ เกิ น 4 kcal/g , 4,000 kcal/kg
(ที่มา: http://devshop.tripod.com/Lesson7.htm)
2.2) สัดส่วนตัวประสานที่ใช้ในถ่านอัดแท่ง
ตัว ประสานที่ใช้ในการอัดผงถ่านให้ เป็น แท่ ง โดยมากมักใช้แป้งมันผสมผงถ่านในสั ดส่ ว น
ประมาณ 10 % โดยน้ าหนั ก และใช้น้ าเป็ น ตัว ท าละลายให้ แป้งเกิดความเหนี ยวอีกประมาณ 8 % โดย
น้าหนักแป้งช่วยให้ง่ายต่อการยึดเกาะตัวของผงถ่านในการขึ้นรูป
2.3.2 กำรอัดแท่ง
หลักการผลิตถ่านอัดแท่งมี 2 วิธี
- การอัดร้อน เป็นการอัดวัสดุโดยที่วัสดุไม่จาเป็นต้องเป็นถ่านมาก่อนเมื่ออัด เป็นแท่งเสร็จ
แล้ว ค่อยนาเข้าเตาให้เป็นถ่านอีกครั้งหนึ่งวัสดุที่สามารถผลิตโดยวิธีการอัดร้อนขณะนี้มี 2 ชนิด คือ แกลบ
และขี้เลื้อยเพราะวัสดุทั้ง 2 ชนิดนี้ เมื่อโดนอัดด้วยความร้อนจะมีสารในเนื้อของวัสดุยึดตัวมันเองจึงทาให้
สามารถยึดเกาะเป็นแท่งได้โดยที่ไม่ต้องใช้ตั วประสานโดยที่เครื่องอัดต้องเป็นเครื่องอัดชนิดอัดร้อนซึ่งราคา
ค่อนข้าง สูง
13
- การอัดเย็นเป็นการอัดวัสดุที่เผาถ่านมาแล้ว แล้วนามาผสมกับแป้งมันหรือวัสดุประสานอื่นๆ
โดยทั่วไปจะเป็นแป้งมัน ถ้าวัสดุใดมีขนาดใหญ่ เช่น กะลามะพร้าวเมื่อผ่านการเผาแล้วต้องมีเครื่องบดให้
ละเอียดก่อน แล้วค่อยนามาผสมกับแป้งมันและน้าในอัตราส่วนตามที่ต้องการ เพื่อให้สามารถยืด เกาะกันและ
ขึ้นรูปเป็นแท่งได้ง่าย
2.3.3 เครื่องอัดแท่ง
เครื่องอัดแท่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้
1. เครื่องอัดแท่งแบบลูกสูบ (Piston Press) ประกอบด้วยลูกลูบชัก (Reciprocating Piston)
เพื่อดันวัตถุดิบที่มาจากช่อง ป้อนเข้าไปในกระบอกอัดรูปเรียว(Tapered Die) หลักการทางานคือ ลูกสูบอัด
วัสดุเข้าไปในปลายท่อ (Barrel) หรือกระบอกอัด ซึ่งมีลักษณะเป็นตัวรีดรูปกรวย (Conical Chock) หรือรูป
เกลียวจะทาหน้ าที่ต้านการเคลื่ อนที่ของวั สดุ ผลจากการต้านนี้รวมทั้งการขัดสีวัส ดุกับผนังท่อ ทาให้เกิด
ความร้อนที่อุณหภูมิในช่วง 150-300 ˚C และได้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกอัดแท่งออกมาเป็นรูปทรงกระบอก ขนาด
เส้นผ่าศูนย์กลาง 50-100 mm เครื่องอัดแบบนี้มีความสามารถในการผลิตได้ 40-1,000 kg/hr และมีปัญหา
ที่พบโดยทั่วไปคือ การสึกกร่อนจากการขัดสีของกระบอกอัดและการแตกของลูกสูบ
2.3.4 คุณสมบัติของถ่ำนและเชื้อเพลิงอัดแท่ง
โดยทั่วไปเชื้อเพลิงอัดแท่งมีคุณลักษณะคล้ายฟืน มีค่าความร้อนต่ากว่าถ่านมากเวลาจุดมีควัน
มาก การประเมินคุณภาพและคุณสมบัติของเชื้อเพลิงชีวมวลจะใช้องค์ประกอบสาคัญของเชื้อเพลิงซึ่งเป็น
หลักในการประเมินคุณภาพ คือ
1. ปริมาณความชื้น (Moisture Content) คือ ปริมาณความชื้นต่อปริมาณของเนื้อ เชื้อเพลิง
อัดแท่งอบแห้ง โดยน าเชื้อเพลิงไปอบหาค่าความชื้นที่อุณหภูมิ 105 ˚C นาน 1 hr ความชื้นมีผลทาให้ค่า
ความร้อนของเชื้อเพลิงอัดแท่งลดลง และทาให้เชื้อเพลิง อัดแท่งแตกกร่อนได้ง่าย
2. ปริมาณเถ้า (Ash Content) คือส่วนของสารอนินทรี ย์ที่เหลือจากสภาวะสันดาปภายใน
เตาเผาที่อุณหภูมิ 950 ˚C เป็นเวลา 30 min ซึ่งประกอบด้วยซิลิกาแคลเซียมออกไซด์ แมกนีเซียมออกไซด์
เป็นต้น
3. สารที่ระเหยได้ (Volatile Matters) ปริมาณสารระเหย คือ ส่วนของเนื้อเชื้อเพลิงอัดแท่ง
แห้งที่ระเหยได้เมื่อ นาไปอบที่อุณหภูมิ 750 ˚C นาน 1 hr ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีคาร์บอนออกซิเจน และ
ไฮโดรเจน
16
ข) วิธีการทดลอง
(1) นาถ้วย (Crucible) ที่สะอาดไปอบ 30 min ที่อุณหภูมิ 105 ˚C แล้วนาไปทาให้เย็น
โดยใส่ในโถดูดความชื้น (Desiccators) 15 min จึงนาไปชั่งน้าหนัก
(2) ใส่ตัวอย่างประมาณ 1 g จากนั้นนาไปชั่งน้าหนัก (W1)
(3) น าไปอบในเตาอบที่ อุณ หภูมิ 105 ˚C นาน 1 hr แล้ ว ทาให้ เย็น ในโถดูด ความชื้ น
(Desiccators) 20 min จึงนาไปชั่งน้าหนัก (W2)
ค) สูตรการคานวณ
M = (W1 – W2) / W1 * 100 (2.1)
M = ร้อยละของปริมาณความชื้น
W1 = น้าหนักถ้วยและตัวอย่างก่อนอบ (g)
W2 = น้าหนักถ้วยและตัวอย่างหลังอบ (g)
1.2) กำรหำค่ำควำมร้อน (Heating Value) ASTM D 5865
ก) เครื่องมือ
(1) Oxygen Bomb Calorimeter
(2) บีกเกอร์
(3) บิวเรต
ข) สารเคมี
(1) Methyl Orange Indicator
(2) สารละลายโซเดียมคาร์บอเนต 0.0709 N
ค) วิธีการทดลอง
(1) ตัดลวด (Fuse wire) ยาวประมาณ 10 cm ผูกที่ปลายทั้งสองของแท่งเหล็กด้านล่าง
ของฝาบอมบ์
(2) ใส่ถ่านอัดแท่งที่ได้ประมาณ 1 g ลงไปในถ้วย
(3) วางถ้วยบนช่วงปลายเหล็กด้านฝาบอมบ์ จัดลวดให้สัมผัสตัวอย่างเติมน้ากลั่น 1 ml
ลงไปในตัวบอมบ์
(4) ประกอบฝาบอมบ์กับตัวบอมบ์ นาไปอัดออกซิเจนให้ได้ความดันประมาณ 3 bar ใส่
น้ากลั่นที่มีอุณหภูมิประมาณ 24 ˚C ปริมาณ 2L ลงในกระบอกสาหรับบอมบ์
(5) เปิ ด สวิ ต ช์ รอประมาณ 20 min อ่ า นค่ า ความร้ อ นที่ แ สดงบนโปรแกรมใน
คอมพิวเตอร์ ซึ่งค่าความร้อนที่ได้จะเป็น ค่าความร้อนสูง (High Heating Value, HHV)
(6) นาตัวบอมบ์ออก ปล่อยก๊าชออกจากตัวบอมบ์อย่างช้าๆ
(7) ล้างฝา ตัวบอมบ์และถ้วยที่บรรจุถ่านอัดแท่งด้วยน้ากลั่น
18
ง) น าออกจากเตาเผา ทิ้ งให้ เย็ น ในโถดู ด ความชื้ น ประมาณ 30 min แล้ ว น าไปชั่ ง
น้าหนัก (W6)
จากนั้นทาการคานวณตามสมการต่อไปนี้
V = (W5 - W6)/W5 x 100 – M (2.3)
V = ร้อยละของปริมาณสารระเหย
M = ร้อยละปริมาณความชื้น
W5 = น้าหนักอบแห้งของเชื้อเพลิงก่อนอบ (g)
W6 = น้าหนักอบแห้งของเชื้อเพลิงหลังอบ (g)
2) กำรหำคุณสมบัติควำมเป็นเชื้อเพลิงและควำมร้อน
เปลือกไม้ยางพาราจะให้ ถ่านร้อยละ 26.18 ของน้าหนักเปลือกไม้ยางพาราเมื่อศึกษา
ปริ มาณความร้ อนของถ่านจากเปลื อกไม้ย างพาราและถ่านที่ ซื้อจากท้องตลาด จะให้ ป ริม าณความร้อ น
2,333.33 และ 1,600 แคลอรีต่อถ่าน 5 กรัมเมื่อทดสอบระยะเวลาการเผาไหม้ พบว่าถ่านจากเปลือกไม้
ยางพาราใช้เวลาในการเผาไหม้จนหมดน้อยที่สุด คือ 32.33 min ถ่านกะลามะพร้าว 2.33 min และถ่านที่
ซื้อจากท้องตลาดใช้เวลานานที่สุด 45.67 min ถ่านจากเปลือกไม้ยางพารา ให้น้าหนักขี้เถ้า ร้อยละ 5.35 เมื่อ
ทาการทดสอบนาถ่านมาใช้ในการหุงต้ม คือต้มน้าและหุงข้าวเปรียบเทียบเวลาที่ทาให้น้าเดือด และหุงข้าวจน
สุก เปรียบเทียบกับถ่านที่ซื้อจากท้องตลาดถ่านจากเปลือกไม้ยางพารา ใช้เวลาเฉลี่ยในการต้มน้า 19.33 min
ถ่านจากท้องตลาดใช้เวลา 20.67 min และใช้เวลาในการหุงข้าวจนสุกใช้เวลาเท่ากัน คือ 26.33 min เมื่อ
ทดสอบความสิ้นเปลืองในการใช้งาน ถ่านเปลือ กไม้ยางพารา มีอัตราสิ้นเปลืองสูงกว่าถ่านจากท้องตลาดร้อย
ละ11.85 ดังนั้นถ่านจากเปลือกไม้ยางพาราจึงสามารถนามาเป็นเชื้อเพลิงทดแทนถ่านจากไม้ได้ในระดับหนึ่ง
(ที่มา : http://www.charcoal.snmcenter.com/charcoalthai/comparepara.php)
20
3) กำรหำคุณสมบัติเชิงกล
3.1) กำรทดสอบค่ำควำมหนำแน่น (Density)
จากสูตร
P = M/V
P = ความหนาแน่นของถ่านอัดแท่ง (g/cm3)
M = มวลของถ่านอัด (g)
V = ปริมาตรของถ่านอัดแท่ง (cm3)
= F/A
= การทนแรงกดของถ่านอัดแท่ง (kg/cm2)
F = แรงกดที่กระทาตัวอย่างจนกระทั่งตัวอย่างแตก (kg)
A = พื้นที่หน้าตัดของถ่านอัดแท่ง (cm2)
บทที่ 3
วิธีดำเนินกำรศึกษำ
จากการทบทวนวรรณกรรมของวัสดุประสาน จึงได้ทาการออกแบบการทดลองอัตราส่วนผสมของ
ถ่านอัดแท่ง เพิ่มค่าความร้อน จานวน 2 ชุดการทดลอง ได้แก่
ชุดการทดลองที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อหาอัตราส่วนผสมที่เหมาะสมระหว่างถ่านและกากไขมันเพื่อให้
ถ่านมีค่าความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้นและยังสามารถคงรูปเป็นถ่านอัดแท่งอยู่ได้ เนื่องจากกากไขมันมีค่าพลังงานสูง
ถึง 9,000 kcal/kg โดยทาการทดลองอัดขึ้นรูปถ่านอัดแท่งที่แปรเปลี่ยนอัตราส่วนผสมต่างๆ ระหว่างถ่าน
และกากไขมัน และทาการคัดเลือกอัตราส่วนผสมที่สามารถอัดขึ้นรูปถ่านผงให้เป็นถ่านแท่งที่คงรูปได้ค่อนข้าง
ดีถึงดีมาก มาจานวน 3 อัตราส่วนผสม ได้แก่ 6.5:5, 7.5:5 และ 10:5 เพื่อนามาทาการทดสอบคุณสมบัติของ
การคงรูปเป็นถ่านอัดแท่ง และทาการคัดเลือกส่วนผสมที่สามารถขึ้นรูปถ่านอัดแท่งที่ดีที่สุด เพื่อนามาเพิ่ม
คุณสมบัติด้านความหนาแน่นโดยยังคงสามารถเพิ่มค่าความร้อนให้สูงขึ้นได้
ชุดการทดลองที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความหนาแน่นและความสามารถในการยึดเกาะตัวของ
ถ่านอัดแท่งให้มีความคงทนมากขึ้น โดยทาการคัดเลือกส่วนผสมที่สามารถขึ้นรูปถ่านอัดแท่งที่ดีที่สุดแล้ว
นามาทดสอบใส่กากน้าตาลซึ่งเป็นวัสดุ ประสานที่มีความเหนียว โดยมีสมมติฐานว่าสามารถช่วยเพิ่มค่าความ
หนาแน่นให้แก่ถ่านอัดแท่งได้ ซึ่งต้องปรับลดปริมาณกากไขมันลงเท่ากับปริมาณของกากน้าตาลที่ใส่เพิ่มใน
ถ่านอัดแท่ง ซึ่งจากการทดสอบเบื้องต้นพบว่าอัตราส่วนผสมระหว่างถ่านและกากไขมันที่สามารถอัดขึ้นรูปได้
เป็นแท่งที่ดีที่สุดคือที่อัตราส่วน 7.5 ต่อ 5 จึงได้นาอัตราส่วนนี้มาออกแบบเพิ่มปริมาณวัสดุประสานที่เป็น
กากน้าตาลจ านวน 3 อัตราส่ วนผสม คือ 7.5:4.7:0.3, 7.5:4:1 และ 7.5:0:5 (ถ่าน:กากไขมัน :กากน้าตาล)
3.1 วัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือ
1) ถ่านขี้เถ้าไม้ยางพารา
2) เครื่องย่อย Hammer mill ขนาด 3 hp
3) เครื่องผสม ขนาด 5 hp
4) เครื่องขึ้นรูปถ่านอัดแท่งแบบสกรู ขนาด 5 hp
7) เครื่องชั่งทศนิยม 4 ตาแหน่ง
8) หม้อต้มน้า
9) เตาเผา
10) ปรอทวัดอุณหภูมิ
11) ถ้วยสาหรับเผาที่อุณหภูมิสูง
12) โถดูดความชื้น
รูปที่ 3.9 เครื่องทดสอบแรงกด Universal Testing Machine ยี่ห้อ INSTRON รุ่น 5569
(ภาควิชาวิศวกรรมเกษตร คณะวิศวกรรมศาสตร์ กาแพงแสน ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน)
3.2 กำรเตรียมวัตถุดิบ
3.2.1. การเตรี ย มกากไขมั น โดยท าการตั ก ไขมั น จากโรงอาหารนนทรี ซึ่ ง มี ป ริ ม าณมาก
ประมาณ 50-100 กิโลกรัมต่อเดือน สาหรับตัวอย่างน้ามันและไขมันที่ได้นั้นจะเป็นน้ามันและไขมันซึ่งที่เป็น
ส่วนที่ลอยแยกตัวกันน้าเสียในถังดักไขมัน (Scum) และมีลักษณะเป็นของเหลวเหนียวข้น โดยนาจานวน 10
kg
3.2.2. การเตรีย มถ่านไม้ย างพารา โดยการน าขี้เถ้าไม้ ยางพาราที่ผ่ านการเผาไหม้แบบไม่
สมบูรณ์จากโรงงานซึ่งยังมีถ่านเป็นส่วนประกอบอยู่มาร่อนจานวน 200 kg เพื่อคัดแยกถ่าน, เศษไม้, ขี้เถ้า
และวัสดุเจือปน โดยการใช้ตะแกรงขนาด คือ 2.1 cm, 1.3 cm, 0.6 cm, 0.4 cm ในการร่อนแล้วชั่งน้าหนัก
ส่วนประกอบที่คัดแยกได้
26
3.3 ขั้นตอนและวิธีดำเนินงำน
1. นาถ่านที่แยกแล้วไปเข้าเครื่องบด (Hammer mill) เพื่อลดขนาด
ถ่านไม้ยางพารา ตัวประสาน
ตัวอย่างที่ (kg) (kg)
กากไขมัน
1-Reference 7.5 -
2 7.5 3.7
3 7.5 5
4 7.5 5.7
หมายเหตุ กากไขมันเป็นกากไขมันที่ได้จากโรงอาหารนนทรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
วิทยาเขตกาแพงแสน ณ เดือนมีนาคม 2559
- ชั่งน้าหนักส่วนตามอัตราส่วนที่ออกแบบไว้
28
3. นาถ่านที่ผสมแล้วไปอัดเพื่อขึ้นรูป โดยใช้เครื่องอัดแบบสกรู
- เมื่อถ่านไหลออกมาจะทาการตัดเป็นแท่งให้มีความยาวประมาณ 8 cm
4. นาถ่านไปตากแดดเป็นเวลา 5 วันเพื่อลดความชื้น
- เมื่อต้มจนน้าเดือดจะใช้ปรอทวัดอุณหภูมิขณะน้าเดือด และจดบันทึกเวลาตั้งแต่เมื่อถ่านเริ่ม
ติดไฟ ทั้งหมดทาตัวอย่างละ 3 ครั้ง
- หาค่าคาร์บอนคงตัวจากสูตร
ร้อยละคำร์บอนคงตัว = 100 – (ร้อยละของปริมำณควำมชื้น) – (ร้อยละของปริมำณสำร
ระเหย) – (ร้อยละของปริมำณเถ้ำ)
- จดค่าน้าหนัก และวิเคราะห์ผลการทดลอง ทั้งหมดทาตัวอย่างละ 3 ครั้ง
35
- นาถ่านบดละเอียด 1 g ใส่ในถ้วย
- นาลวดขึงให้ตึงทั้งสองข้าง
- เอาเชือกผูกที่ลวดและเอามาแตะที่ตัวอย่างเพื่อเป็นชนวน
- บันทึกผลการทดลองและวิเคราะห์เพื่อเปรียบเทียบคุณสมบัติของถ่านแต่ละอัตราส่วน
- สรุปผลการทดลอง
37
3.4 ระยะเวลำทำกำรวิจัยและแผนกำรดำเนินงำนตลอดโครงกำรวิจัย
ระยะเวลาท าการวิ จั ย 1 ปี เริ่ ม วั น ที่ 1 สิ งหาคม 2558 สิ้ น สุ ด วั น ที่ 31 พฤษภาคม 2559 แบ่ ง
ระยะเวลาตามแผนงานวิจัยดังตาราง
แผนกำรดำเนินงำนตลอดโครงกำรวิจัย ปีที่ 1
เดือน
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
1.การเตรียมถ่านไม้ยางพารา
-นาถ่านที่ได้จากโรงงานไปตาก
-ร่อนเพื่อคัดแยกถ่านและขี้เถ้า
-คิด%ของถ่านและขี้เถ้า
2.การเตรียมการอัดแท่ง
-เตรียมตัวประสาน
-อัดแท่ง
3.การหาค่าคุณสมบัติต่างๆ
-หาคุณสมบัติความเป็นเชื้อเพลิงและ
ความร้อน
-หาการหาคุณสมบัติเชิงกล
-นาตัวอย่างไปหาค่าความชื้น
-นาตัวอย่างไปหาสารระเหย
-นาตัวอย่างไปหาขี้เถ้า
-นาตัวอย่างไปหาปริมาณคาร์บอนคงตัว
-นาตัวอย่างไปหาค่าความร้อน
4.สรุปผลและทาเล่มรายงาน
38
บทที่ 4
ผลกำรทดสอบและวิเครำะห์ผล
4.1 ผลกำรร่อนแยกถ่ำนและขี้เถ้ำ จำกถ่ำนขี้เถ้ำไม้ยำงพำรำ
จากการเตรียมถ่านไม้ยางพารา โดยการนาขี้เถ้าไม้ยางพาราที่ผ่านการเผาไหม้แบบไม่สมบูรณ์จาก
โรงงานซึ่งยังมีถ่านเป็นส่วนประกอบอยู่มาร่อนเพื่อคัดแยกถ่าน, เศษไม้, ขี้เถ้า และวัสดุเจือปน โดยการใช้
ตะแกรง 4 ขนาด คือ 2.1 cm, 1.3 cm, 0.6 cm และ 0.4 cm โดยทาการร่อนแล้วชั่งน้าหนักส่วนประกอบที่
คัดแยกได้จานวน 8 ครั้ง ได้ผลดังตาราง 4.1
ขนาดตระแกรง
ครั้งที่ น้าหนักขี้เถ้าไม้ยางพารา (kg)
2.1 cm. 1.3 cm. 0.6 cm. 0.4 cm. ขี้เถ้า % ถ่าน %ขี้เถ้า
1 10 0.5 0.4 0.7 0.6 7.4 22.91 77.08
2 10 0.4 0.4 0.6 0.6 7.7 20.61 79.38
3 10 0.6 0.4 0.65 0.65 6.95 24.86 75.13
4 10 0.6 0.4 0.7 0.65 7.6 23.61 76.38
5 10 0.5 0.4 0.65 0.7 7.7 22.61 77.38
6 10 0.55 0.3 0.65 0.7 7.6 22.44 77.55
7 10 0.65 0.4 0.65 0.7 7.7 23.76 76.23
8 10 0.8 0.35 0.6 0.75 7.1 26.04 73.95
เฉลี่ย 23.36 76.63
4.2 ผลกำรทดสอบหำคุณสมบัติของถ่ำนอัดแท่ง
ถ่านไม้ ตัว
สาร คาร์บอน ค่าความ
ตัวอย่าง ยางพารา ประสาน ความชื้น ปริมาณ
ระเหย คงตัว ร้อน
ที่ (kg) (kg) (%) เถ้า (%)
(%) (%) (kcal/kg)
กากไขมัน
1 7.5 - 4.73 44.64 43.62 7.01 2178
2 7.5 3.7 4.50 64.47 30.08 0.96 4383
3 7.5 5 5.29 61.14 32.16 1.41 4715
4 7.5 5.7 6.07 62.34 29.81 1.78 4837
หมายเหตุ - กากไขมันทีได้อาจมีเศษอาหารปนอยู่ ทาให้ไม่เป็นเนื้อเดียวกัน ค่าการทดสอบอาจมี
ความคลาดเคลื่อนได้
- ทาตัวอย่างละ 3 ซ้า ดูได้จากภาคผนวก ก
43
ปริมาณคาร์บอนคงตัวที่ได้มีค่าน้อยมากทาให้ถ่านติดไฟได้ไม่นาน และสารระเหยมีค่ามากเนื่องจาก
ถ่านยังมีปริมาณน้าอยู่มาก
44
รูปที่4.1 กราฟแสดงการเปรียบเทียบค่าความร้อนที่ทดสอบได้ของการทดลองที่ 1
รูปที่4.2 กราฟแสดงการเปรียบเทียบค่าความร้อนที่ทดสอบได้ของการทดลองที่ 2
45
มาตรฐาน คุณสมบัติ
ผลิตภัณฑ์ชุมชน ความชื้น (%) ค่าความร้อน เถ้า (%) สาระเหย (%)
(Kcal/Kg)
ถ่านไม้ปิ้งย่าง ≤8 ≥7,000 ≤3 ≤8
มผช.658/2547
ถ่านไม้หุงต้ม ≤10 ≥6,000 ≤8 ≤25
มผช.657/2547
ถ่านอัดแท่ง ≤8 ≥5,000 - -
มผช.638/2547
เมื่อนาถ่านที่ได้มาเปรียบเทียบกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนพบว่ามีค่าความชื้นอยู่ในเกณฑ์ตาม
มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนคือน้อยกว่า 8 % แต่ค่าความร้อนมีค่าต่ากว่าเกณฑ์มาตรฐานเล็กน้อย จาก
มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนต้องมีค่าความร้อนมากกว่า 5000 kcal/kg แต่ถ่านที่ทดสอบมีค่าความร้อนสูงสุด
อยู่ที่ 4,749 kcal/kg
46
บทที่ 5
สรุปผลกำรทดสอบและข้อเสนอแนะ
1. อัตราส่วนถ่านที่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ต่อขี้เถ้าที่ได้จากการใช้ไม้ฟืนในกระบวนการต้มหม้อไอน้า ใน 100 % มี
ถ่าน 23 % และมีขี้เถ้า 77 %
3. การใช้กากน้าตาลเป็นตัวประสานทาให้ถ่านมีความหนาแน่นสูงแต่จะไม่แข็งเมื่อเปรียบเทียบกับกากไขมัน
กากไขมันจะทาให้มีความแข็งมากกว่าแต่จะมีความหนาแน่นน้อยกว่า ส่วนอัตราส่วนที่ทนแรงกดได้มากที่สุด
คื อ 7.5 : 4 : 1 และ 7.5 : 4.7 : 0.3 เพราะมี ก ารผสมของตั ว ประสานทั้ ง สองชนิ ด คื อ กากไขมั น และ
กากน้าตาล เพราะฉะนั้นอัตราส่วนที่เหมาะสมในการขึ้นรูป ถ่านอัดแท่งคือ 7.5 : 4 : 1 และ 7.5 : 4.7 : 0.3
เพราะฉะนั้นเมื่อนากากน้าตาลซึ่งเป็นตัวประสานที่มีความหนืดสูงมาผสมลงในถ่านในสัดส่วนที่เหมาะสมจะ
ช่วยให้ค่าความหนาแน่นของถ่านเพิ่มมากขึ้นได้
4. การทดสอบหาคุณสมบัติความเป็นเชื้อเพลิงและความร้อนพบว่า ไขมันช่วยทาให้ค่าความร้อนเพิ่มขึ้นเมื่อมี
อัตราส่วนที่เหมาะสม แต่กากน้าตาลเมื่อใส่มากจะทาให้ค่าความร้อนลดลง และค่าความชื้นก็ยังมีผลต่อค่า
ความร้อนโดยจะแปรผกผันกัน ถ่านที่มีส่วนผสมของกากไขมันจะติดไฟเร็วและทาให้น้าเดือดได้เร็ว แต่ถ่านที่
มีส่วนผสมของกากน้าตาลจะทาให้ยึดเกาะกันได้ดีถ่านจะอยู่ได้นาน เพราะฉะนั้นถ่านควรมีส่วนผสมของกาก
ไขมันและกากน้าตาลรวมกัน
47
เอกสำรอ้ำงอิง
การผลิตถ่านอัดแท่งจากวัสดุทางการเกษตร
http://www.siweb.dss.go.th/bct/fulltext/report/otop13.pdf; วันที่เข้าถึงข้อมูล,12 สค.
2558
การอัดแท่ง
http://www.clinictech.most.go.th/online/pages/techlist_display.asp?tid=384;
วันที่เข้าถึงข้อมูล,20 สค. 2558
http://www.charcoal.snmcenter.com/charcoalthai/comparepara.php ;
วันที่เข้าถึงข้อมูล, 12 มค. 2559
ค่าความร้อนคาร์โบไฮเดรต
สุธีรา สุนทรารักษ์ (2557). การใช้ประโยชน์กากไขมันของระบบบ่อดักไขมันอย่างง่ายจาก
ร้านอาหาร ร่วมกับเศษกระดาษและเศษใบไม้เพื่อการผลิตเชื้อเพลิงอัดแท่ง. วารสารวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ปี ที่ 30 ฉบับที่ 1 มหาวิทยาลัยราชัฎบุรีรัมย์.
http://science.bru.ac.th/download/journal/v30_1.pdf
http://devshop.tripod.com/Lesson7.htm ; วันที่เข้าถึงข้อมูล 15 มค. 2559
ข้อมูลทั่วไปของถ่านไม้
https://poptaewall.wordpress.com ; วันที่เข้าถึงข้อมูล 15 มค. 2559
วิชิต ทองธิสาร , สมจิตร คาษาวงค์ และสรายุทธ มะโรงวัง. (2557). การทาถ่านอัดแท่งผักตบชวา.
โดย สาขาวิศวกรรมการจัดการ แขนงการจัดการสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม คณะวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม
ศิวพงษ์ กาญจนวิภาพร ,ไพโรจน์ ธนานุภาพพันุธ์ และ พงศ์คณิต พงษ์พิทักษ์. (2546). เชื้อเพลิงอัดแท่งจาก
ถ่านกะลามะพร้าว.
ลักษมี สุทธิวิไลรัตน์ ,ประภัสสร ภาคอรรถ และ ขวัญรพี สิทตรีสอาด. (2557). การเพิ่มมูลค่าเศษเหลือจาก
โรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์โดยการทาเชื้อเพลิงอัดแท่ง.
สุธีรา สุนทรารักษ์. (2557). การใช้ประโยชน์กากไขมันของระบบบ่อดักไขมันอย่างง่ายจากร้านอาหาร ร่วมกับ
เศษกระดาษและเศษใบไม้เพื่อการผลิตเชื้อเพลิงอัดแท่ง.
48
ภำคผนวก ก
ตำรำงแสดงผลกำรทดสอบหำคุณสมบัติของถ่ำน
ที่อัตรำส่วนต่ำงๆ
49
ตำรำง การหาค่าความหนาแน่น
ตำรำง ผลการทดสอบหาคุณสมบัติเชิงกล
ตำรำง ผลการทดสอบหาค่าความชื้น
หลังอบ ความชื้น
ตัวอย่าง ก่อนอบ ถ้วย หลังอบ ความชื้นเฉลี่ย (%)
รวม (%)
1.1 1.06 1.72 0.73 0.99 6.604
7.5:0:0 1.2 1.07 1.69 0.67 1.02 4.673 4.730
1.3 1.03 1.90 0.90 1.00 2.913
2.1 1.04 1.73 0.77 0.96 7.692
7.5:5.7:0 2.2 1.03 2.00 1.02 0.98 4.854 6.069
2.3 1.06 1.74 0.74 1.00 5.660
3.1 1.07 1.84 0.85 0.99 7.477
7.5:5:0 3.2 1.07 1.71 0.70 1.01 5.607 5.287
3.3 1.08 1.80 0.75 1.05 2.778
4.1 1.02 1.75 0.77 0.98 3.922
7.5:3.7:0 4.2 1.05 1.65 0.65 1.00 4.762 4.497
4.3 1.04 1.71 0.72 0.99 4.808
5.1 1.05 1.72 0.71 1.01 3.810
7.5:4:1 5.2 1.08 1.69 0.71 0.98 9.259 6.298
5.3 1.03 1.64 0.67 0.97 5.825
6.1 1.05 1.75 0.75 1.00 4.762
7.5:4.7:0.3 6.2 1.04 1.74 0.73 1.01 2.885 3.831
6.3 1.04 1.61 0.61 1.00 3.846
7.1 1.04 1.62 0.68 0.94 9.615
7.5:0:5 7.2 1.08 1.60 0.62 0.98 9.259 9.922
7.3 1.01 1.59 0.69 0.90 10.891
52
ตำรำง ผลการทดสอบหาคุณสมบัติทางเคมี
ภำคผนวก ข
มำตรฐำนผลิตภัณฑ์ชุมชนถ่ำนอัดแท่ง
54
มผช.๒๓๘/๒๕๔๗
มำตรฐำนผลิตภัณฑ์ชุมชน
ถ่ำนอัดแท่ง
๑. ขอบข่ำย
๑.๑ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนนี้ครอบคลุมเฉพาะถ่านอัดแท่งที่ทาจากถ่านผงหรือถ่านเม็ดมาอัดเป็นแท่ง
หรือ
ทาจากวัสดุธรรมชาติมาอัดเป็นแท่งแล้วเผาจนเป็นถ่าน
๒. บทนิยำม
ความหมายของคาที่ใช้ในมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนนี้ มีดังต่อไปนี้
๒.๑ ถ่านอัดแท่ง หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนาวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น กะลามะพร้าว กะลาปาล์ม ซัง
ข้าวโพด
มาเผาจนเป็นถ่าน อาจนามาบดเป็นผงหรือเม็ดแล้วอัดเป็นแท่งตามรูปทรงที่ต้องการ หรือนาวัตถุดิบ
ธรรมชาติ เช่น แกลบ ขี้เลื่อย มาอัดเป็นแท่งตามรูปทรงที่ต้องการแล้วจึงนามาเผาเป็นถ่าน
๒.๒ ค่าความร้อน หมายถึง พลังงานความร้อนที่ได้จากการเผาถ่านหนัก ๑ กรัม มีหน่วยเป็นแคลอรีต่อกรัม
๓. คุณลักษณะที่ต้องกำร
๓.๑ ลักษณะทั่วไป
ในภาชนะบรรจุเดียวกันต้องมีรูปทรงเดียวกัน ขนาดใกล้เคียงกัน มีสีดาสม่าเสมอ ไม่เปราะ อาจแตกหักได้บ้าง
๓.๒ การใช้งาน
เมื่อติดไฟต้องไม่มีสะเก็ดไฟกระเด็น ไม่มีควันและกลิ่น
๓.๓ ความชื้น
ต้องไม่เกินร้อยละ ๘ โดยน้าหนัก
๓.๔ ค่าความร้อน
ต้องไม่น้อยกว่า ๕ ๐๐๐ แคลอรีต่อกรัม
๔. กำรบรรจุ
๔.๑ หากมีการบรรจุ ให้บรรจุถ่านอัดแท่งในภาชนะบรรจุที่สะอาด แห้ง และสามารถป้องกันความเสียหาย
ที่อาจเกิดขึ้นกับถ่านอัดแท่งได้
๔.๒ น้าหนักสุทธิของถ่านอัดแท่งในแต่ละภาชนะบรรจุ ต้องไม่น้อยกว่าที่ระบุไว้ที่ฉลาก
55
มผช.๒๓๘/๒๕๔๗
๕. เครื่องหมำยและฉลำก
๕.๑ ที่ฉลากหรือภาชนะบรรจุถ่านอัดแท่งทุกหน่วย อย่างน้อยต้องมีเลข อักษร หรือเครื่องหมายแจ้ง
รายละเอียด
ต่อไปนี้ให้เห็นได้ง่าย ชัดเจน
(๑) ชื่อผลิตภัณฑ์
(๒) ชนิดของวัสดุที่ใช้ทา
(๓) น้าหนักสุทธิ
(๔) เดือน ปีที่ทา
(๕) ข้อแนะนาในการใช้
(๖) ชื่อผู้ทา หรือสถานที่ทา พร้อมสถานที่ตั้ง หรือเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียน
ในกรณีที่ใช้ภาษาต่างประเทศ ต้องมีความหมายตรงกับภาษาไทยที่กาหนดไว้ข้างต้น
๖. กำรชักตัวอย่ำงและเกณฑ์ตัดสิน
๖.๑ รุ่น ในที่นี้ หมายถึง ถ่านอัดแท่งที่ทาโดยกรรมวิธีเดียวกัน ที่ทาหรือส่งมอบหรือซื้อขายในระยะเวลา
เดียวกัน
๖.๒ การชักตัวอย่างและการยอมรับ ให้เป็นไปตามแผนการชักตัวอย่างที่กาหนดต่อไปนี้
๖.๒.๑ การชักตัวอย่างและการยอมรับ สาหรับการทดสอบลักษณะทั่วไป การบรรจุ และเครื่องหมายและ
ฉลาก
ให้ชักตัวอย่างโดยวิธีสุ่มจากรุ่นเดียวกัน จานวนไม่น้อยกว่า ๓ กิโลกรัม เมื่อตรวจสอบแล้วทุกตัวอย่าง
ต้องเป็นไปตามข้อ ๓.๑ ข้อ ๔. และข้อ ๕. จึงจะถือว่าถ่านอัดแท่งรุ่นนั้นเป็นไปตามเกณฑ์ที่กาหนด
๖.๒.๒ การชักตัวอย่างและการยอมรับ สาหรับการทดสอบการใช้งาน ความชื้น และค่าความร้อน ให้ใช้ตัว
อย่างที่ผ่านการทดสอบตามข้อ ๖.๒.๑ แล้ว จานวนไม่น้อยกว่า ๓ กิโลกรัม เมื่อตรวจสอบแล้วตัวอย่าง
ต้องเป็นไปตามข้อ ๓.๒ ถึงข้อ ๓.๔ จึงจะถือว่าถ่านอัดแท่งรุ่นนั้นเป็นไปตามเกณฑ์ที่กาหนด
๖.๓ เกณฑ์ตัดสิน
ตัวอย่างถ่านอัดแท่งต้องเป็นไปตามข้อ ๖.๒.๑ และข้อ ๖.๒.๒ ทุกข้อ จึงจะถือว่าถ่านอัดแท่งรุ่นนั้นเป็นไปตาม
มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนนี้
๗. กำรทดสอบ
๗.๑ การทดสอบลักษณะทั่วไป ภาชนะบรรจุ และเครื่องหมายและฉลาก
ให้ตรวจพินิจ
56
๗.๒ การทดสอบการใช้งาน
ให้ทดสอบโดยการจุดตัวอย่างถ่านอัดแท่ง แล้วตรวจพินิจ
๗.๓ การทดสอบความชื้น ให้ใช้วิธีทดสอบตาม ASTM D 3173
มผช.๒๓๘/๒๕๔๗
๗.๔ การทดสอบค่าความร้อน
ให้ใช้วิธีทดสอบตาม ASTM D 5865
๗.๕ การทดสอบน้าหนักสุทธิ
ให้ใช้เครื่องชั่งที่เหมาะสม