Professional Documents
Culture Documents
กลุ่มที่ 21 (เลขที่ 2 16 20)
กลุ่มที่ 21 (เลขที่ 2 16 20)
ที่อุณหภูมิแตกต่างกันของกะเพราขาว
จัดทาโดย
1. นายจิรายุ นภาลัย เลขที่ 2 ชั้น ม.4/2
2. นายชินโชติ ปัจฉิม เลขที่ 16 ชั้น ม.4/2
3. นางสาวพิมพ์ลภัส พุม่ เมือง เลขที่ 20 ชั้น ม.4/2
ครูที่ปรึกษา
นางสาวนภารัตน์ สุกใส
นางสาวปิยธิดา พยัฆฑา
คานา
คณะผู้จัดทา
ข
ชื่อเรื่อง การเปรียบเทียบผลการเก็บรักษาความสดอุณหภูมิแตกต่างกันของกะเพราขาว
ผู้จัดทา 1. นายจิรายุ นภาลัย เลขที่ 2 ชั้น ม.4/2
2. นายชินโชติ ปัจฉิม เลขที่ 16 ชั้น ม.4/2
3. นางสาวพิมพ์ลภัส พุ่มเมือง เลขที่ 20 ชั้น ม.4/2
ครูที่ปรึกษา 1. นางสาวนภารัตน์ สุกใส
2. นางสาวปิยธิดา พยัฆฑา
โรงเรียน เบ็ญจะมะมหาราช
ปีการศึกษา 2564
บทคัดย่อ
การเปรียบเทียบผลการเก็บรักษาความสดอุณหภูมิแตกต่างกันของกะเพราขาวจุดประสงค์
เพื่อเปรียบเทียบและค้นหาอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดในการเก็บรักษาความสดของกะเพราขาว และ
เพื่อลดปริมาณการเน่าเสียของกะเพราขาว ทาการทดลองโดยการนากะเพราขาว 80 กรัมบรรจุลง
ถุงพลาสติกซิปใส (PE) ขนาด 23 x15 ซม. เจาะรูจานวน 8 รู เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5 ซม. และเก็บ
รักษาอุณหภูมิในตู้เย็น 4 7 10 และ 13 ° C จากนั้นนาไปวิเคราะห์การสูญเสียน้าหนัก การร่วงของใบ
การสะท้านหนาวและคุณภาพด้านกายภาพทุก ๆ 2 วันเป็นเป็น 15 วัน ผลการทดลองพบว่า การเก็บ
รักษากะเพราขาวไว้ที่อุณหภูมิ 4 ° C – 7 ° C นั้นมีผลทาให้มีอัตราการสูญเสียน้าหนักสดเพิ่มขึ้นตาม
ระยะเวลาการเก็บรักษา และการเก็บกะเพราไว้ในอุณหภูมิ 13 ° C มีการสูญเสียน้าหนักสดน้อยที่สุด
คือ 3.02 มีการร่วงของใบกะเพราน้อยที่สุดคือ 2.09 % มีคะแนนลักษณะปรากฏของการสะท้าน
หนาวน้อยที่สุดคือ 1.19 คะแนน จากการทดลองสรุปผลได้ว่า การเก็บรักษากะเพราขาวในอุณหภูมิ
13 ° C เก็บรักษาความสดของกะเพราได้ดีกว่าการเก็บรักษาในอุณหภูมิ 4 ° C 7 ° C และ 10 ° C
ค
กิตติกรรมประกาศ
โครงงานเรื่ อง “การเปรียบเทียบผลการเก็บรักษาความสดอุณหภูมิแตกต่างกันของกะเพราขาว”
ส าเร็ จ ได้ ด้ ว ยดี เนื่ อ งจากได้ รั บ ความกรุ ณ าจากอาจารย์ น ภารั ต น์ สุ ก ใสและอาจารย์ ปิ ย ธิ ด า พยั ฆ ฑา
อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานที่ได้ให้คาปรึกษา ชี้แนะแนวในการทาโครงงาน และตรวจทานแก้ไขข้อบกพร่อง
ต่างๆด้วยความใส่ใจ ทางผู้จัดทาโครงงานจึงขอขอบพระคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างสูง
ขอขอบพระคุณผู้ปกครองของนายจิรายุ นภาลัยที่ให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือ ให้กาลังใจและอานวย
สถานทีใ่ นการปฏิบัติการทดลอง
ท้ายที่สุดนี้ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงงานนี้จะเป็นประโยชน์ต่อนักเรียน นักศึกษาหรือผู้ที่สนใจ
เรื่อง “การเปรียบเทียบผลการเก็บรักษาความสดอุณหภูมิแตกต่างกันของกะเพราขาว” ต่อไป
คณะผู้จัดทา
ง
สารบัญ
หน้า
คานา............................................................................................................................. ................ ก
บทคัดย่อ....................................................................................................................................... ข
กิตติกรรมประกาศ........................................................................................................................ ค
สารบัญ.......................................................................................................................................... ง
สารบัญภาพ.................................................................................................................................. จ
สารบัญตาราง............................................................................................................................... ฌ
บทที่ 1 บทนา 1
1.1 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน.......................................................................... 1
1.2 วัตถุประสงค์.......................................................................................................... 1
1.3 ประโยชน์ที่ได้รับ................................................................................................... 1
1.4 สมมุติฐานของการศึกษาค้นคว้า............................................................................
2
1.5 ตัวแปร...................................................................................................................
2
1.6 ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า...............................................................................
2
1.7 นิยามศัพท์เฉพาะ..................................................................................................
2
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง....................................................................................
4
2.1 กะเพราขาว............................................................................................................
2.2 ปัจจัยที่ก่อให้เกิดการสูญเสียของผลผลิต................................................................ 15
2.3 อุณหภูมทิ ี่เหมาะสมในการแช่เย็นผักและผลไม้...................................................... 15
2.4 การเปรียบเทียบวิธีการเก็บรักษาผักในสภาวะอุณหภูมิต่า...................................... 18
2.5 คุณสมบัติของเนื้อถุงพลาสติก................................................................................. 22
2.6 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง................................................................................................. 22
บทที่ 3 วิธีการดาเนินงาน.......................................................................................................... 23
3.1 วัสดุอุปกรณ์............................................................................................................ 24
3.2 วิธีการดาเนินงาน....................................................................................................
บทที่ 4 ผลการจัดทาและอภิปรายผล................................................................................
บทที่ 5 สรุปผลการดาเนินงาน.................................................................................................
5.1 อภิปรายผลการดาเนินงาน...................................................................................
5.2 ข้อเสนอแนะ........................................................................................................
บรรณานุกรม...........................................................................................................................
ภาคผนวก............................................................................................................................. ...
จ
สารบัญภาพ
หน้า
ภาพที่ 2.1 แสดงประเภทของกะเพรา 4
ภาพที่ 2.2 สภาพการเน่าเสียของผักชี 6
ภาพที่ 2.3 อุณหภูมิภายในตู้เย็น 8
ภาพที่ 2.4 ลักษณะยอดผักที่ได้รับอุณหภูมิ 5 ± 2 องศาเซลเซียส นาน 12 วัน 9
ภาพที่ 2.5 ถุงพลาสติกใส ชนิด PE 10
ภาพที่ 2.6 ภาพเปรียบเทียบใบผักที่ไม่มีอาการสะท้านหนาวและใบผักที่มีอาการ 12
สะท้านหนาวระยะเวลา 9 วัน
ภาพที่ 2.7 คะแนนจากการประเมินอาการสะท้านหนาวของโหระพาที่ถูกกาหนด 14
ในระดับ 0–5 หรือ a-b
ภาพที่ 1 อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลอง 24
ภาพที่ 2 ตู้เย็นที่ใช้ในการทดลอง 24
ภาพที่ 3 การจัดวางกะเพราชุดการทดลองที่ 4 ° C a b และ c ลงในตะกร้า 25
ภาพที่ 4 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 4 ° C a ในวันที่ 0 2 4 25
และ 6
ภาพที่ 5 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 4 ° C a ในวันที่ 8 10 26
12 และ 14
26
ภาพที่ 6 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 4 ° C b ในวันที่ 0 2 4
และ 6
27
ภาพที่ 7 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 4 ° C b ในวันที่ 8 10
12 และ 14
27
ภาพที่ 8 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 4 ° C c ในวันที่ 0 2 4
และ 6
28
ภาพที่ 9 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 4 ° C c ในวันที่ 8 10
12 และ 14 29
ภาพที่ 10 ลักษณะใบกะเพราขาวชุดการทดลอง 4 ° C ในวันที่ 0 2 4 และ 6 29
ภาพที่ 11 ลักษณะใบกะเพราขาวชุดการทดลอง 4 ° C ในวันที่ 8 10 12 และ 14
ฉ
สารบัญภาพ (ต่อ)
หน้า
ภาพที่ 12 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 7 ° C a ในวันที่ 0 2 4 30
และ 6
ภาพที่ 13 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 7 ° C a ในวันที่ 8 10 30
12 และ 14
ภาพที่ 14 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 7 ° C b ในวันที่ 0 2 4 31
และ 6
ภาพที่ 15 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 7 ° C b ในวันที่ 8 10 31
12 และ 14
ภาพที่ 16 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 7 ° C c ในวันที่ 0 2 4
31
และ 6
ภาพที่ 17 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 7 ° C c ในวันที่ 8 10
32
12 และ 14
ภาพที่ 18 ลักษณะใบกะเพราขาวชุดการทดลอง 7 ° C ในวันที่ 0 2 4 และ 6
ภาพที่ 19 ลักษณะใบกะเพราขาวชุดการทดลอง 7 ° C ในวันที่ 8 10 12 และ 32
14 33
ภาพที่ 20 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 10 ° C a ในวันที่ 0 2 4
และ 6 33
ภาพที่ 21 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 10 ° C a ในวันที่ 8 10
12 และ 14 34
ภาพที่ 22 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 10 ° C b ในวันที่ 0 2 4
และ 6 34
ภาพที่ 23 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 10 ° C b ในวันที่ 8 10
12 และ 14
35
ภาพที่ 24 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 10 ° C c ในวันที่ 0 2 4
และ 6
ภาพที่ 25 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 10 ° C c ในวันที่ 8 10 35
12 และ 14
36
ช
สารบัญภาพ (ต่อ)
หน้า
ภาพที่ 26 ลักษณะใบกะเพราขาวชุดการทดลอง 10 ° C ในวันที่ 0 2 4 และ 6 36
ภาพที่ 27 ลักษณะใบกะเพราขาวชุดการทดลอง 10 ° C ในวันที่ 8 10 12 และ 14 37
ภาพที่ 28 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 13 ° C a ในวันที่ 0 2 4
และ 6 37
ภาพที่ 29 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 13 ° C a ในวันที่ 8 10
12 และ 14 38
ภาพที่ 30 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 13 ° C b ในวันที่ 0 2 4
38
และ 6
ภาพที่ 31 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 13 ° C b ในวันที่ 8 10
39
12 และ 14
ภาพที่ 32 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 13 ° C c ในวันที่ 0 2 4
39
และ 6
ภาพที่ 33 การชั่งน้าหนักกะเพราขาวชุดการทดลองที่ 13 ° C c ในวันที่ 8 10 40
12 และ 14
ภาพที่ 34 ลักษณะใบกะเพราขาวชุดการทดลอง 13 ° C ในวันที่ 0 2 4 และ 6 40
ภาพที่ 35 ลักษณะใบกะเพราขาวชุดการทดลอง 13 ° C ในวันที่ 8 10 12 แล 14 41
ภาพที่ 36 ตารางบันทึกผลน้าหนักกะเพราขาวตั้งแต่วันที่ 0 ถึง 14 อย่างละเอียด
ภาพที่ 37 ตารางบันทึกผลร้อยละการสูญเสียน้าหนักของกะเพราขาวตั้งแต่ 41
วันที่ 0 ถึง 14 อย่างละเอียด 42
ภาพที่ 38 ตารางบันทึกผลร้อยละของน้าหนักใบกะเพราขาวที่ร่วงต่อน้าหนัก
กะเพราขาวทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 0 ถึง 14 อย่างละเอียด 42
ภาพที่ 39 ตารางบันทึกผลแสดงคะแนนและจานวนใบที่เกิดการสะท้านหนาว
43
ตั้งแต่วันที่ 0 ถึง 6 อย่างละเอียด
ภาพที่ 40 ตารางบันทึกผลแสดงคะแนนและจานวนใบที่เกิดการสะท้านหนาวตั้งแต่
43
วันที่ 8 ถึง 14 อย่างละเอียด
ซ
สารบัญภาพ (ต่อ)
หน้า
ภาพที่ 41 การคัดแยกกะเพราขาวก่อนการทดลอง 44
ภาพที่ 42 การชั่งน้าหนักเริ่มต้นของกะพราขาว 44
ภาพที่ 43 การปรับอุณหภูมิตู้เย็น 45
ภาพที่ 44 การนากะเพราขาวมาจัดเรียงในตู้เย็น 45
ภาพที่ 45 การนากะเพราขาว 46
ภาพที่ 46 การนากะเพราขาวมาคัดแยกอีกครั้งเพื่อวิเคราะห์การร่วงของใบ 46
และการเกิดการสะท้านหนาว
ฌ
สารบัญตาราง
หน้า
1.1 ที่มำและควำมสำคัญ
เนื่องจากในปัจจุบันการผลิตสินค้าการเกษตรเป็นภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ทาให้มีการปลูกพืชผัก
ออกขายสู่ท้องตลาดเป็นจานวนมาก รวมถึงกะเพราขาวซึ่งเป็น ผักที่เป็นที่นิยม สามารถนามาแปรรูปเป็น
อาหาร ยา และสมุนไพรในการไล่แมลงได้ แต่เนื่องจากมีการผลิตออกมาเป็นจานวนมากและมีการเก็บรักษาใน
สถานที่ที่มีอุณหภูมิไม่เหมาะสมจึงทาให้กะเพราขาวเกิดการเน่าเสียเป็นจานวนมากในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งเป็น
การสิ้นเปลืองทรัพยากรโดยไม่เกิดประโยชน์สูงสุดและทาให้ปริมาณขยะเพิ่มสูงขึ้น
จากการศึกษาสาเหตุการเน่าเสียของผักพบว่า สาเหตุทางด้านชีวภาพ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงทางด้าน
เมแทบอลิซึม การสูญเสียความชื้น การเจริญเติบโตของผัก และการเข้าทาลายของจุนลินทรีย์ สาเหตุทางด้าน
สิ่งแวดล้อม ได้แก่ อุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ ซึ่งอุณหภูมิเป็นหนึ่งในสาเหตุด้านสิ่งแวดล้อมที่ทาให้กะเพรา
เกิดการเน่าเสีย หากเก็บรักษาในอุณหภูมิที่ต่าเกินไปจะทาให้เกิดอาการสะท้านหนาวคือการมีสีน้าตาลกระจาย
อยู่ตามใบและมีรอยช้าจากการฉ่าน้า หรือหากเก็บในอุณหภูมิที่สูงเกินไปจะทาให้เกิด การสูญเสียน้า มีลักษณะ
ใบซีดเหลืองและสูญเสียน้าหนัก
ดังนั้น คณะผู้จัดทาจึงได้เล็งเห็นปัญหานี้และจัดทาโครงงานขึ้น เพื่อศึกษาเปรียบเทียบและค้นหา
อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดในการเก็บรักษาความสดของกะเพรา โดยนากิ่งกะเพราขาวที่มีใบมาแบ่งบรรจุใส่
ถุงพลาสติก แบ่งเป็น 4 ชุดการทดลองซึ่งเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิแตกต่างกันคือ 4° C 7° C 10° C และ 13°
C โดยแบ่งเกณฑ์ช่วงอุณหภูมิที่ได้สืบค้นข้อมูลช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเก็บรักษากะเพราขาว เป็นเวลา
15 วัน จากนั้นนามาวิเคราะห์การสูญเสียน้า การร่วงของใบและการสะท้านหนาว เพื่ อให้สามารถเก็บรักษา
กะเพราขาวหลังเก็บเกี่ยวได้นานขึ้น ทาให้สามารถส่งออกกะเพราขาวทั้งภายในและภายนอกประเทศได้มาก
ขึ้น เป็นการเพิ่มช่องทางทางการตลาดของเกษตรกร และทาให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น
1.2 วัตถุประสงค์
1.2.1 เพื่อเปรียบเทียบและค้นหาอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดในการเก็บรักษาความสดของกะเพราขาว
1.2.2 เพื่อลดปริมาณการเน่าเสียของกะเพราขาว
1.3 ประโยชน์ที่ได้รับ
1.3.1 ช่วยเพิ่มระยะเวลาการเก็บรักษากะเพราขาว
1.3.2 ช่วยให้สามารถนากะเพราขาวมาใช้ได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด
2
1.3.3 ช่วยลดปริมาณการเน่าเสียของกะเพราขาว
1.3.4 ช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดและทาให้เกษตรกรมีรายได้ให้แก่เกษตรกร
1.4 สมมติฐำน
ถ้านากิ่งกะเพราขาวเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 13 °C เป็นระยะเวลา 15 วัน แล้วใบกระเพราขาวจะไม่เหี่ยว
ลักษณะใบเป็นสีเขียวอ่อน ไม่มีจุดสีน้าตาลกระจายอยู่ทั่วใบ
1.5 ตัวแปร
1.6 ขอบเขตกำรศึกษำ
1.7 นิยำมศัพท์เฉพำะ
2.1 กะเพราขาว
2.2 ปัจจัยที่ก่อให้เกิดการสูญเสียของผลผลิต
2.3 อุณหภูมิที่เหมาะสมในการแช่เย็นผักและผลไม้
2.4 การเปรียบเทียบวิธีการเก็บรักษาผักในสภาวะอุณหภูมิต่า
2.5 คุณสมบัติของเนื้อถุงพลาสติกแต่ละชนิด
2.6 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
2.6.1 ผลของอุณหภูมิต่าต่ออาการสะท้านหนาว ปริมาณวิตามินซีและกิจกรรมการต้านอนุมูล
อิสระของผัก
2.6.2 การใช้กรดแอบไซซิ กก่ อนการเก็บเกี่ยวเพื่ อบรรเทาอาการสะท้านหนาวของโหระพา
(Ocimum basilicum L.) ระหว่างการเก็บรักษาในห้องเย็น
2.1 กะเพราขาว
2.1.1 ข้อมูลทั่วไปของกะเพรา
กะเพรา มีชื่อสามัญว่า Holy basil หรือ Sacred basil มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า O. sanctum Linn. มีถิ่น
กาเนิดอยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็กที่อยู่ในตระกูล Labiatae กะเพรามีทรงพุ่ม
คล้ายกับแมงลักและโหระพา ใบมีขอบใบหยักเล็กน้อย
5
2.1.2 ลักษณะของกะเพรา ฉ
2.2 ปัจจัยที่ก่อให้เกิดการสูญเสียของผลผลิต
2.3 อุณหภูมิที่เหมาะสมในการแช่เย็นผักและผลไม้
2.4 การเปรียบเทียบวิธีการเก็บรักษาผักในสภาวะอุณหภูมิต่า
2.5 บรรจุภัณฑ์พลาสติก
2.6 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
2.6.1 ผลของอุณหภูมิต่าต่ออาการสะท้านหนาว ปริมาณวิตามินซีและกิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระ
ของผัก
นิภาดา ราญมีชัย และทรงศิลป์ พจน์ชนะชัย (2555) ได้ศึกษาและวิจัยผลของอุณหภูมิต่าต่ออาการ
สะท้านหนาว จากการศึกษาและวิจัยทาให้ได้ผลดังนี้ อาการสะท้านหนาว (chilling injury) หมายถึงอาการ
ผิดปกติของผักและผลไม้ เนื่องจากการเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่า แต่สูงกว่าจุดเยือกแข็ง (freezing point) ของ
ผักและผลไม้ชนิดนั้น อาการผิดปกติที่ทาให้เกิดความเสียหายมีหลายลักษณะ เช่น เกิดรอยแผล ฉ่าน้า เปลือก
หรือเนื้อเปลี่ยนเป็นสีน้าตาลหรือสีดา ผักและผลไม้แต่ละชนิดจะเกิดอาการสะท้านหนาวที่อุณหภูมิแตกต่างกัน
มักเกิดกับผักและผลไม้เขตร้อน (tropical fruit) และ subtropical fruit
การศึ ก ษาผลของอุ ณ หภู มิ ต่ าต่ อ อาการสะท้ า นหนาว (chilling injury; CI) ปริ ม าณวิ ต ามิ น ซีและ
กิ จ กรรมในการต้ า นอนุ มู ล อิ ส ระของผั ก โดยบรรจุ ผั ก 300 กรั ม ในกล่ อ งพลาสติ ก ปิ ด ฝาขนาด
15 × 25 × 6.5 ลูกบาศก์เซนติเมตร เก็บรักษาที่อุณหภูมิ 0 ° C 4 ° C และ 10 ° C เมื่อตรวจอาการสะท้าน
หนาวจากการเกิดสีน้าตาล ปริมาณวิตามินซี กิจกรรมในการต้านอนุมูลอิสระ และทดสอบคุณภาพทางประสาท
สัมผัสด้านกลิ่นผิดปกติและความชอบโดยรวมให้คะแนนโดยผู้ที่ได้รับการฝึกฝนจานวน 3 คน พบว่า ผักเก็บ
รักษาที่อุณหภูมิ 0 ° C เกิดอาการสะท้านหนาว มีกลิ่นผิดปกติสูง และความชอบโดยรวมต่าที่สุดในวันที่ 4
ขณะที่ผักที่อุณหภูมิ 4 ° C และ 10 ° C พบอาการสะท้านหนาวต่ากว่า 10 % และผู้บริโภคยังคงให้ การ
ยอมรับจนกระทั่งในวันที่ 6 การเก็บรักษาผักที่อุณหภูมิ 4 ° C มีปริมาณวิตามินซีลดลงน้อยที่สุด อย่างมี
นัยสาคัญ แต่ผักที่อุณหภูมิ 10 ° C ยังคงมีกลิ่น กิจกรรมในการต้านอนุมูลอิสระและคะแนนความชอบโดยรวม
ดีกว่าผักที่อุณหภูมิ 4 ° C
ดังนั้น การเก็บรักษาผักในกล่องพลาสติกปิดฝาจึงควรเก็บรักษาที่อุณหภูมิสูงกว่า 4 ° C
ภาพที่ 2.6 ภาพเปรียบเทียบใบผักที่ไม่มีอาการสะท้านหนาวและใบผักที่มีอาการสะท้านหนาว
ระยะเวลา 9 วัน 13
2.6.2 การใช้ ก รดแอบไซซิ ก ก่ อ นการเก็ บ เกี่ ย วเพื่ อ บรรเทาอาการสะท้ า นหนาวของโหระพา
(Ocimum basilicum L.) ระหว่างการเก็บรักษาในห้องเย็น
Aditi Satpute และ Bryce Meyering (2562) ได้ศึกษาและวิจัยผลการใช้กรดแอบไซซิกก่อนการเก็บ
เกี่ยวเพื่อบรรเทาอาการสะท้านหนาวของโหระพา (Ocimum basilicum L.) ระหว่างการเก็บรักษาในห้องเย็น
จากการศึกษาและวิจัยทาให้ได้ผลดังนี้ ใบโหระพาสด ( Ocimum basilicum L.) มีความไวต่ออุณหภูมิต่ามาก
ระหว่างการเก็บรักษาหลังการเก็บเกี่ยวซึ่งการใช้กรดแอบไซซิกที่มีความเข้มข้นต่างกันก่อนการเก็บ
เกี่ยวสามารถเพิ่มความทนต่อการสะท้านหนาวของโหระพาพันธุ์ Di Genova และ Nufar ได้ระหว่างการเก็บ
รักษาหลังการเก็บเกี่ยวที่ 3.5 ° C และ 7 ° C การทดลองดาเนินการภายใต้สภาวะเรือนกระจกและสภาพเปิด
โล่งในฟลอริดาตะวันตกเฉียงใต้ในช่วงฤดูปลูกปี 2017 - 2018 และตรวจสอบคุณภาพได้แก่ อาการสะท้าน
หนาว การรั่วไหลของสารอิเล็กโทรไลต์ การสูญเสียน้าหนักสด ปริมาณสารฟินอลิกและวิเคราะห์ความพึงพอใจ
จากการตรวจสอบคุณภาพอาการสะท้านหนาว มีหลักเกณฑ์ดังนี้ การให้คะแนนอาการสะท้านหนาว
จาก 0 ถึง 5 คะแนน มีเกณฑ์การให้คะแนนตามขนาดและการเพิ่มจานวนเซลล์ที่ตายบนผิวใบ โดยหากคะแนน
เป็ น 0 หมายถึง ไม่มีเซลล์ ที่ตายปรากฏให้ เห็ น คะแนน 1 หมายถึง มีเซลล์ ตายเพียงเล็กน้อย คะแนน 2
หมายถึง มีกลุ่มเซลล์ ตายขนาดเล็กกระจายอยู่ทั่วผิวใบเป็นจานวนมาก คะแนน 3 หมายถึง มีกลุ่มเซลล์ตาย
ขยายเป็นวงกว้าง แต่ไม่กว้างมาก (ความยาวประมาณ 1.5 - 2.0 เซนติเมตร) ปกคลุมพื้นที่ผิวใบน้อยกว่า 50%
คะแนน 4 หมายถึง มีกลุ่มเซลล์ตายขนาดใหญ่ (ความยาวมากกว่า 2.0 เซนติเมตร) ปกคลุมพื้นที่ ผิวใบ 50%
ถึง 70% และคะแนน 5 หมายถึง ผิวใบมีความเสียหายอย่างรุนแรงเนื่องจากพื้นที่ผิวใบส่วนมาก (มากกว่า
คะแนน การเปลี่ยนแปลง ลักษณะ
(%)
0 0% ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงที่มองเห็นได้
1 < 10% มีรอยสีน้าตาลเล็กน้อย
2 10-25% มีรอยสีน้าตาลขนาดเล็กกระจายเป็นจานวนมาก
3 25-50% มีรอยแยกขนาดใหญ่ ยาว 1.5-2.0 ซม.
4 50-70% มีรอยสีน้าตาล ยาว >2.0 ซม.
5 > 70% เกิดรอยสีน้าตาลทั่วทั้งใบ
70% ของพื้นที่ผิวใบ) ถูกปกคลุมไปด้วยเซลล์ที่ตายแล้ว ในการจดบันทึกคะแนน จาเป็นต้องมีการบันทึก
คะแนนทุกวันที่ 3 6 และ 9 ของการเก็บรักษาความสดหลังจากการเก็บเกี่ยว
จากข้อมูล สรุปผลเป็นตารางได้ดังนี้
ตารางที่ 2.7 แสดงคะแนนจากการประเมินอาการสะท้านหนาวของโหระพาที่ถูกกาหนดในระดับ 0 – 5
จากการศึกษาของ Aditi Satpute และ Bryce Meyering
14
3.1 วัสดุอุปกรณ์
จานวนใบกะเพราขาวที่หลุดร่วง x 100
การหลุดร่วงของใบ (%) = ________________________
จานวนใบกะเพราขาวทั้งหมด
การสูญเสียน้าหนักสด (%)
อุณหภูมิการเก็บรักษา (° C) จานวนวันที่เก็บรักษา
0 2 4 6 8 10 12 14
4 0 0.94 0.94 1.23 3.45 3.45 4.72 7.37
7 0 0.31 0.61 1.51 0.8 2.13 3.34 3.65
10 0 0.50 0.90 0.90 2.13 2.13 3.05 4.86
13 0 0.91 0.91 0.91 1.60 1.49 2.30 3.02
17
บทที่ 4
ผลการดาเนินงาน
โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง การเปรียบเทียบผลการเก็บรักษาความสดที่อุณหภูมิแตกต่างกัน
ของกะเพราขาวมีวิธีดาเนินงานดังนี้ดังนี้
แผนภูมิแสดงผลการสูญเสียน้าหนักสดของใบกะเพราเป็นระยะเวลาเวลา 15 วัน
การร่วงของใบกะเพรา (%)
อุณหภูมิการเก็บรักษา (° C) จานวนวันที่เก็บรักษา
0 2 4 6 8 10 12 14
4 0 0 0 0.56 2.00 2.87 2.57 3.52
7 0 0 0 0.06 0.80 1.53 2.07 2.67
10 0 0.34 0.97 2.05 3.61 4.34 5.29 6.68
13 0 0 0 0.60 0.44 0.97 1.40 2.09
8
7
การสูญเสียนา้ หนัก (%)
6
5
4
3
2
1
0
0 2 4 6 8 10 12 14
วันที่
4℃ 7℃ 10℃ 13℃
จากตารางแสดงการสูญเสียน้าหนักกะเพราขาว พบว่าการเก็บรักษากะเพราขาวไว้ที่อุณหภูมิ
4° C – 7° C นั้นมีผลทาให้มีอัตราการสูญเสียน้าหนักสดเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาการเก็บรักษา โดยใน
วันที่ 14 ของการทดลอง การเก็บกะเพราไว้ในอุณหภูมิ 4° C มีการสูญเสียน้าหนักสดมากที่สุดคือ
7.37 %และการเก็บกะเพราไว้ในอุณหภูมิ 13° C มีการสูญเสียน้าหนักสดน้อยที่สุด คือ 3.02
แผนภูมิแสดงผลการร่วงของใบกะเพราเป็นระยะเวลา 15 วัน
ลักษณะปรากฏของการสะท้านหนาว (คะแนน)
อุณหภูมิการเก็บรักษา (° C) จานวนวันที่เก็บรักษา
0 2 4 6 8 10 12 14
4 1.00 1.02 1.16 1.2 1.41 1.75 2.02 2.28
7 1.00 1.01 1.05 1.18 1.31 1.38 1.71 2.09
10 1.00 1.01 1.17 1.32 1.70 1.88 1.92 2.15
13 1.02 10.3 1.13 1.14 1.08 1.16 1.18 1.19
8
7
6
การร่วงของใบ (%)
5
4
3
2
1
0
0 2 4 6 8 10 12 14
วันที่
4℃ 7℃ 10℃ 13℃
20
ตารางที่ 4.3 ตารางแสดงลักษณะปรากฏของการสะท้านหนาว
อุณหภูมกิ าร ลักษณะที่ปรากฏ สี
เก็บรักษา จานวนวันที่เก็บรักษา จานวนวันที่เก็บรักษา
(° C ) 0 2 4 6 8 10 12 14 0 2 4 6 8 10 12 14
4 9.00 6.33 6.00 5.00 5.33 3.33 1.67 1.00 9.00 9.00 9.00 7.33 5.67 4.33 3.33 2.00
7 9.00 6.67 6.00 5.67 5.00 3.00 1.33 1.30 9.00 9.00 9.00 8.33 7.67 6.33 5.33 4.00
10 9.00 5.67 5.00 5.00 5.00 5.00 3.00 1.00 9.00 9.00 8.67 8.00 8.00 6.00 5.00 4.33
13 9.00 9.00 9.00 9.00 8.00 7.33 6.00 5.37 9.00 9.00 9.00 9.00 8.67 8.33 7677 7.00
บทที่ 5
สรุปผลการดาเนินงาน
โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องการเปรียบเทียบผลการเก็บรักษาความสดที่อุณหภูมิแตกต่างกันของ
กะเพราขาว มีสรุปผลการดาเนินงานดังนี้
5.1 อภิปรายผลการดาเนินงาน
จากการทดลองเปรียบเทียบผลการเก็บรักษาความสดที่อุณหภูมิแตกต่างกันของกะเพราขาวพบกว่า
การเก็บรักษากะเพราขาวในอุณหภูมิ 13 ° C สามารถเก็บรักษาความสดของกะเพราได้ดีกว่าการเก็บรักษา
ในอุณหภูมิ 4 ° C 7 ° C และ 10 ° C ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานทดสอบโดยการทดลองนากะเพราขาวเก็บรักษา
ในอุณหภูมิที่แตกต่างกันได้แก่ 4 ° C 7 ° C และ 10 ° C เป็นเวลา 15 วัน และบันทึกผลการทดลองและวัด
รวมถึ งวัดคุณภาพด้านกายภาพ 4 อย่ าง ได้แก่การสู ญเสี ยน้าหนัก การร่ว งของใบ การสะท้านหนาวและ
ประเมิน คะแนนคุณ ภาพ จึ งทาให้ ได้ ข้ อสรุ ปว่ า การเก็บรัก ษากะเพราขาวในอุณ หภู มิ 13 ° C สามารถ
เก็บรักษาความสดของกะเพราได้ดีกว่าการเก็บรักษาในอุณหภูมิ 4 ° C 7 ° C และ 10 ° C
5.2 ข้อเสนอแนะ
5.2.1 ควรศึกษาการเก็บรักษาในอุณหภูมิหลากหลายและแตกต่างกันมากขึ้น
5.2.2 ควรปรับปรุงกระบวนการในการบันทึกผลขณะนาออกมาจากตู้เย็นเพื่อควบคุมอุณหภูมิและลด
การคลาดเคลื่อน
บรรณานุกรม
กนกพร บุญญะอติชาติ. 2560. ผลของการเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่าและระยะเวลาการเก็บรักษาต่ออายุวาง
จาหน่ายใบผักเหลียงแบบพร้อมปรุง. วารสารพืชศาสตร์สงขลานครินทร์, 4(4), 55-59.
จริงแท้ ศิริพานิช. 2538. สรีรวิทยาและเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวผักและผลไม้ . พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์ส่งเสริมและฝึกอบรมการเกษตรแห่งชาติ.
จารุ ณี จู ง กลาง และ จ านงค์ อุ ทั ย บุ ต ร. 2557. การเปรี ย บเที ย บวิ ธี ก ารเก็ บ รั ก ษายอดผั ก หวานป่ า
(Melientha suavis Pierre) ในสภาวะอุณหภูมิต่า. วารสารวิทยาศาสตร์ มข, 42(1), 159-168.
เบญจมาส รัตนชินกรและคณะ. 2554. การเก็บรักษาผลไม้แ ละผัก. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์
การเกษตรแห่งประเทศไทย.
พิมพ์เพ็ญ พรเฉลิมพงศ์ และนิธิยา รัตนาปนนท์. ม.ป.ป. การแบ่งกลุ่มผักผลไม้ตามอุณหภูมิแ ช่เย็น และ
ความชื้นสัมพัทธ์. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : http://www.foodnetworksolution.com สืบค้น 4
ธันวาคม 2564
วราภรณ์ ตันรัตนกุล และนันทยา จันทร์สุข. 2558. การพัฒนาฟิล์มพลาสติกสาหรับการใช้งานรองรับสิ่ง
ขับถ่ายจากทวารเทียม. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก http://kb.psu.ac.th สืบค้น 4 ธันวาคม 2564
ศิริพร นามแก้ว. 2557. อิทธิพลของอุณหภูมิการเก็ บรักษาต่อการเปลี่ยนแปลงหลังการเก็บเกี่ยวและการ
เกิ ด การสะท้ า นหนาวในผั ก พื้ น บ้ า นบางชนิ ด . วิ ท ยานิ พ นธ์ วิ ท ยาศาสตร์ มหาบั ณ ฑิ ต
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ภาคผนวก
ภาพที่ 1 อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลอง
ภาพที่ 2 ตู้เย็นที่ใช้ในการทดลอง
ภาพที่ 41 การคัดแยกกะเพราขาวก่อนการทดลอง
ภาพที่ 42 การชั่งน้าหนักเริ่มต้นของกะพราขาว
ภาพที่ 43 การปรับอุณหภูมิตู้เย็น
ภาพที่ 44 การนากะเพราขาวมาจัดเรียงในตู้เย็น
ภาพที่ 45 การนากะเพราขาว
ภาพที่ 46 การนากะเพราขาวมาคัดแยกอีกครั้งเพื่อวิเคราะห์การร่วงของใบและการเกิดการสะท้านหนาว