You are on page 1of 231

เทรด Forex อย่างไร

ให้เป็นมืออาชีพ

ทรงพล เกื้อกูลสกุลกิจ
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

คานา
ตลาด Forex มีความเสี่ยงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ทาให้นักลงทุนส่วนใหญ่
ที่เข้ามาในตลาดเกิดการล้มเหลว และยอมแพ้ไปในที่สุด ส่วนมากจะเป็นเทรด
เดอร์มือใหม่ที่เข้ามาทดลองในตลาด แต่ไม่มีความรู้ในด้านใดเลย ไม่ว่าจะเป็น การ
วางแผนในการเทรด การบริหารความเสี่ยง การวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค การ
วิเคราะห์ข่าวเศรษฐกิจ และจิตวิทยาการลงทุน ความรู้ในทุกด้านล้วนสาคัญเป็น
อย่างมาก จะขาดไม่ได้แม้แต่ข้อเดียว
ผู้เขียนจึงได้รวบรวมเนื้อหาจากประสบการณ์เทรดทั้งหมด ตั้งแต่ความรู้
พื้นฐานจนถึงความรู้ขั้นสูง เหมาะสาหรับเทรดเดอร์มือใหม่จนถึงมืออาชีพ ทั้งเรื่อง
การวางแผนและบริหารความเสี่ยงเงินทุน เทคนิคการซื้อขายให้ได้เปรียบตลาด
การใช้เครื่องมือพื้นฐานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด การประยุกต์ใช้เทคนิคการเทรด
เข้าด้วยกันอย่างลงตัว การเข้าใจอารมณ์ของตัวเองและตลาดในขณะนั้นๆ เพื่อให้
เนื้อหาครอบคลุมทุกเรื่องในเล่มเดียว สามารถนากลับมาทบทวนและเตือนตัวเอง
ได้ตลอดเวลา
เมื่อผู้อ่านได้เริ่มอ่านหนังสือเล่มนี้ไปแล้ว อย่าข้ามเรื่องที่ไม่สนใจ หรือ
ข้ามไปอ่านแต่เทคนิคการเทรดเพียงอย่างเดียว เนื่องจากผู้เขียนได้สอดแทรก
ความรู้ และเทคนิคต่างๆ กระจายในทุกเรื่อง ทุกบรรทัดตลอดทั้งเล่ม เพื่อให้
ผู้อ่านได้รับความรู้มากที่สุด
ทรงพล เกื้อกูลสกุลกิจ
2
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

สารบัญ
ก้าวที่ 1 ก้าวแรกสู่การเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ 5
ก้าวที่ 2 วางแผนสู่ความสาเร็จ 9
ก้าวที่ 3 การบริหารพอร์ตให้เกิดความเสี่ยงน้อยสุด 16
ก้าวที่ 4 วัฏจักรของคลื่น ฤดูกาลที่เกิดขึ้นในตลาด 34
ก้าวที่ 5 กราฟแท่งเทียน สาคัญไฉน 38
ก้าวที่ 6 มองแนวโน้มเป็น เห็นกาไร 47
ก้าวที่ 7 ทากาไรไม่รู้จบด้วยเส้น Trend Line 52
ก้าวที่ 8 กาแพงสุดแกร่งที่ขึ้นชื่อว่า แนวรับ แนวต้าน 61
ก้าวที่ 9 รูปแบบกลับตัวที่ต้องรู้ 67
ก้าวที่ 10 รูปแบบต่อเนื่องบอกอนาคต 80
ก้าวที่ 11 Gap ช่องว่างบอกสัญญาณ 97
ก้าวที่ 12 เส้นแนวโน้มสุดฮิต Moving Average 102
ก้าวที่ 13 MACD อินดิเคเตอร์บอกแนวโน้มขั้นเทพ 122
ก้าวที่ 14 RSI สุดยอดเครื่องมือแบบ Over Over 141

3
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก้าวที่ 15 Stochastic แกว่งปัญญาหากาไร 152


ก้าวที่ 16 ทราบปริมาณการซื้อขายด้วย Volume 160
ก้าวที่ 17 Fibonacci ตัวเลขสุดอัศจรรย์ของจักรวาล 167
ก้าวที่ 18 กฎเหล็กของธรรมชาติที่ถูกขนานนามว่า Elliott Wave 177
ก้าวที่ 19 ปัจจัยสาคัญที่ขาดไม่ได้ Fundamental analysis 204
ก้าวที่ 20 หลักจิตวิทยาสู่การเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ 221
บรรณานุกรม 227

4
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก้าวที่ 1
ก้าวแรกสู่การเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ

5
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ผมเชื่อว่าทุกคนที่เข้ามาในตลาด Forex นั้น ต้องการรวย อยากทางาน


สบายๆ มีเงินใช้แบบไม่ต้องทางานประจา ผมขอบอกก่อนนะครับว่า การที่คนเรา
จะประสบความสาเร็จอย่างใดอย่างหนึ่งนั้น ล้วนแต่ต้องศึกษาหาความรู้ ลองผิด
ลองถู ก มานั บ ครั้ ง ไม่ ถ้ ว น แล้ ว ประสบการณ์ เ หล่ า นั้ น ถึ ง จะน าพาคุ ณ ไปสู่
ความสาเร็จที่ตั้งเอาไว้
การเทรด Forex ก็เช่นกัน เทรดเดอร์ทุกคนที่ประสบความสาเร็จ ไม่มี
เทรดเดอร์คนใดไม่เคยแพ้ในตลาด แต่เขามีความมุ่งมั่น ตั้งใจ เมื่อเจอปัญหาก็จะ
หาทางแก้ไขปัญหาเหล่านัน้ ได้ตลอดเวลา คุณอย่าคิดว่าจะรวยกับการเทรด Forex
ภายในชั่วข้ามคืน เพราะถ้าคุณแพ้ ก็จะหมดตัวในชั่วข้ามคืนเหมือนกัน การเทรด
อย่ า งนั้ น มั น ก็ ไ ม่ ต่ า งอะไรกั บ การเล่ น การพนั น เลย เราต้ อ งหาประสบการณ์
ในการเทรดไปเรื่ อ ยๆ ขอแค่ คุ ณ อยู่ ร อดในตลาดได้ ใ นช่ ว งแรก แล้ ว ต่ อ ไป
ประสบการณ์จะสอนคุณเองว่าต้องแก้ไขปัญหาอย่างไร ทายังไงถึงจะยืนอยู่บน
ตลาดต่อไปได้
คุณสมบัติของเทรดเดอร์ที่ดี
1. ศึกษาหาความรู้อยู่ตลอดเวลา หาอ่านหนังสือหรือบทความที่จะเสริมความรู้
ด้านการเทรดให้ดีขึ้น
2. มีวินัยในการลงทุน สามารถควบคุมอารมณ์ในการเทรดได้
3. รักการเทรดเหมือนอาชีพหรืองานอดิเรก ไม่ใช่เพราะต้องการแค่เงิน

6
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

4. มีความเพียรพยายาม อดทน และไม่ท้อถอยต่ออุปสรรคต่างๆ


5. มีทักษะ ไหวพริบ สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นได้
เทรดเดอร์มือสมัครเล่น กับ เทรดเดอร์มืออาชีพ ต่างกันอย่างไร
เทรดเดอร์มืออาชีพคืออะไร แค่เทรดทาเงินได้จานวนมากก็สามารถเป็น
เทรดเดอร์มืออาชีพได้แ ล้วหรอ มั นไม่ ใ ช่อย่างนั้นนะครับ ทุกสาขาอาชีพ ผู้ที่มี
ประสบการณ์ทางานด้านนั้นๆสูง ก็จะทางานนั้นได้ผิดพลาดน้อยและผลลัพธ์ก็จะ
ออกมามีคุณภาพอย่างสม่าเสมอ ต่างจากผู้ที่เริ่มทางานใหม่ ผลงานที่ออกมาตอน
แรกอาจจะดูดี แต่งานต่อไปคุณภาพก็น้อยลงถึงแย่เลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น
ช่างตัดผมมืออาชีพ เขาไม่ได้ตัดผมเก่งกว่าหรือดูดีกว่า ช่างตัดผมมือสมัครเล่น
แต่ ท รงผมที่ ตั ด ออกมามี คุ ณ ภาพและเหมื อ นเดิ ม ทุ ก ครั้ ง ต่ า งจากช่ า งตั ด ผม
มือสมัครเล่นที่ตัดผมออกมาแต่ละทรง เบี้ยวบ้าง แหว่งบ้าง ดีบ้าง ตามอารมณ์ใน
ขณะนั้น
การเป็นเทรดเดอร์ก็เช่นกันครับ เทรดเดอร์มืออาชีพจะทากาไรในตลาด
ได้อย่างสม่าเสมอ สามารถอยู่ในสภาวะตลาดต่างๆได้ และหาทางแก้ไขปัญหา
เฉพาะหน้ า ได้ ดี เมื่ อ ขาดทุ น ก็ Stop loss โดยที่ ไ ม่ ก ระทบต่ อ อารมณ์ ม ากนั ก
ส่ ว นเทรดเดอร์ ส มั ค รเล่ น เขาจะพยายามท าก าไรในปริ ม าณมากในที เ ดี ย ว
ประมาณว่าจะรวยในชั่วข้ามคืนแล้วนาไปคุยว่าตัวเองเก่ง สามารถทาเงินได้เท่านั้น
เท่านี้ภายในเวลาแค่ไม่นาน และจะยอมแพ้ไม่เป็นเมื่อตลาดเกิดการวิ่งผิดทาง
ซึ่งนาไปสู่ การล้างพอร์ต

7
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ออกงานประจา มาเทรด Forex ได้หรือป่าว ?


การออกงานแล้ ว มาเป็ น เทรดเดอร์ เ ลย ผมไม่ ค่ อ ยแนะน านะครั บ
เพราะแต่ละคนมีทักษะ วินัย อารมณ์ และความรู้ไม่เหมือนกัน ทาให้การที่จะ
ประสบความส าเร็ จ ในตลาด Forex นั้ น จะใช้ เ วลาไม่ เ ท่ า กั น บางคน 1-2 ปี
ก็ประสบความสาเร็จแล้ว แต่บางคนเป็น 5 ปี 10 ปี ยังทาไม่ได้เลย ผมขอแนะนา
ให้ ท าการฝึ ก เทรดไปก่ อ น และใช้ เ วลาว่ า งหลั ง จากท างานศึ ก ษาหาความรู้
และเทรดไปด้วย
บางคนบอกว่าไม่มีเวลาบ้าง ไรบ้าง แบบนี้คุณไม่สาเร็จแน่นอน คุณมีวิธี
แก้ ปั ญ หาตรงนี้ ไ ด้ ม ากมาย ถ้ า คุ ณ ท างานประจ า คุณ ก็ ป รั บ การเทรดเป็ น TF
ที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับตัวเอง หรือการออกคาสั่งซื้อขายล่วงหน้าไว้ก็ยังได้
เงินทุนเริ่มต้นที่ใช้ในการเทรด Forex
สาหรับคนที่ยังไม่มีทุนในการเทรดเลย ผมขอแนะนาให้เปิดบัญชี Demo
หรือบัญชีทดลอง ระบบจะให้เงินฟรีตามจานวนเงินที่ คุณระบุ เพื่อนามาทดลอง
เทรดก่อน แต่จะมีข้อเสียคือ คุณจะไม่ได้ใช้อารมณ์ในการเทรดเหมือนการเทรด
เงินจริง ทาให้การเทรดเงินจริงจะยากกว่ามาก แต่สาหรับคนที่มีเงินทุนแล้ว ขอให้
ใช้ ไ ม่ เ กิ น 1,000$ ก่ อ นนะครั บ เพราะการเทรดที่ ผ มจะสอนในบทต่ อ ไป
ไม่ใช่การเทรดเพื่อให้รวยภายในคืนเดียว แต่จะเป็นการสอนให้คุณได้รู้จักการทา
กาไรในตลาดอย่างยั่งยืน เมื่อคุณสามารถยืนอยู่ในตลาดได้แล้ว ค่อยเพิ่มเงินทุน
เข้าไปก็ยังได้

8
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก้าวที่ 2
การวางแผนสู่ความสาเร็จ

9
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

การวางแผนในการลงทุน เป็นสิ่งสาคัญมาก เพราะเป็นการตั้งเป้าหมาย


ความสาเร็จ ว่าคุณต้องการรายได้ ใช้ระยะเวลา และเป้าหมายสูงสุดคือเท่าไหร่
เทรดเดอร์ที่ไม่มีการวางแผนลงทุน ผมเชื่อว่าจะไม่ประสบความสาเร็จแน่นอน
จะเป็ น การเทรดแบบมั่ ว ๆ เข้ า ขนาด Lot Size ตามอารมณ์ ข องตั ว เอง ไม่ มี
การค านวณก าไร หรื อ ขาดทุ น ที่ จ ะเกิ ด ขึ้ น ทุ ก ครั้ ง ที่ เ ทรด ซึ่ ง เป็ น สิ่ ง ที่ ผิ ด มาก
ในโลกของการทาธุรกิจก็ยังต้องมีการวางแผนอย่างดีแล้ว จึงจะสามารถเริ่มต้นได้
ตอนนี้ผู้อ่านคงคิดอยู่ว่าจะเริ่มต้นวางแผนของตัวเองอย่างไรดี ตรงนี้แนวการคิด
ของแต่ ล ะคนจะไม่ เ หมื อ นกั น นะครั บ สามารถปรั บ เ ปลี่ ย นแก้ ไ ขได้ ต าม
ความเหมาะสมได้ มาเริ่มการวางแผนสู่ความสาเร็จกันเลย
อั น ดั บ แรก คุ ณ ต้ อ งก าหนดก าไรที่ คุ ณ ต้ อ งการต่ อ เดื อ น ว่ า ต้ อ งการ
กาไรกี่เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน (อาจจะนับเป็นกาไรต่อวันหรือต่อสัปดาห์ ตรงนี้ปรับ
ตามความเหมาะสมของสไตล์การเทรดของตัวเอง ว่าเป็นนักเทรดแนวไหน)
อัน ดับ ที่ส อง หาเทคนิคการเทรดเพื่อท ากาไรในตลาดให้ไ ด้ตามแผน
การเทรดที่ได้ตั้งเอาไว้ (ผมจะสอนในบทถัดไปนะครับ)
อันดับที่ส าม กาหนดแผนการเทรดในอนาคต พร้อมกับตั้งเป้าหมาย
การเทรด ว่าต้องการรายได้เท่าไหร่ จึงจะสามารถเป็น Full Time Trader ได้

10
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตารางที่ 2.1 แผนการเทรดในระยะเวลา 1 ปี กาไร 20% ต่อเดือน จาก


ทุน 1000$
เดือนที่ เงินทุน กาไร
1 1,000 200
2 1,200 240
3 1,440 288
4 1,728 346
5 2,074 415
6 2,488 498
7 2,986 597
8 3,583 717
9 4,300 860
10 5,160 1,032
11 6,192 1,238
12 7,430 1,486

จากตารางที่ 2.1 คุ ณ อาจจะคิ ด ว่ า แค่ ก าไร 20% ต่ อ เดื อ นเองหรอ


น้อยจัง ฉันต้องการกาไร 30% 50% 100% ต่อเดือน อย่างงี้ผมว่าคุณไม่ประสบ
ความสาเร็จแน่นอนครับ เพราะการที่เงินทุนไม่มาก แล้วต้องการผลตอบแทนที่สูง
โดยเพิ่มขนาด Lot Size ของพอร์ตตัวเอง จะนาไปสู่ความล้มเหลวอย่างแน่นอน

11
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

หรือบางคนที่ บอกว่าเดือนละ 20% เองหรอ วันละ 100% 200% ฉันก็เคยทา


มาแล้ว เทรดเดอร์ประเภทนี้ผมบอกเลยว่า จบด้วยการล้างพอร์ต แน่นอนครับ
การที่ คุณค่อยๆเทรด เก็บกาไรไปทีละนิด พร้อมได้ประสบการณ์ใ หม่
เข้ามา แล้วกาไรที่ได้ก็เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ แค่ 10% หรือ 20% ก็เพียงพอ
แล้ ว วิ นั ย และความอดทนจะท าให้ พ อร์ ต คุ ณ โตขึ้ น ได้ เ รื่ อ ยๆ จนคุ ณ เป็ น
เทรดเดอร์มืออาชีพ ที่มีทั้งรายได้จากการเทรด และประสบการณ์ที่จะสามารถ
ต่อสู้กับตลาดในทุกรูปแบบได้
ตารางที่ 2.2 แผนการเทรดในระยะเวลา 2 ปี ก าไร 20% ต่ อ เดื อ น
จากทุน 1000$
เดือนที่ เงินทุน กาไร
1 1,000 200
2 1,200 240
3 1,440 288
4 1,728 346
5 2,074 415
6 2,488 498
7 2,986 597
8 3,583 717
9 4,300 860
10 5,160 1,032

12
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เดือนที่ เงินทุน กาไร


11 6,192 1,238
12 7,430 1,486
13 8,916 1,783
14 10,699 2,140
15 12,839 2,568
16 15,407 3,081
17 18,488 3,698
18 22,186 4,437
19 26,623 5,325
20 31,948 6,390
21 38,338 7,668
22 46,005 9,201
23 55,206 11,041
24 66,247 13,249

จากตารางที่ 2.2 เมื่อครบ 2 ปีแล้ว คุณจะมีรายได้ถึงเดือนละ 13,249$


เลยทีเดียว ซึ่งมัน เป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่ามาก สาหรับวินัยและความอดทนใน
การเทรดแบบค่อยเป็นค่อยไป

13
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

สาหรับเทรดเดอร์บางคนที่ยอมรับความเสี่ยงของการลงทุนได้น้อย ผมขอ
แนะนาให้ทากาไรตามแผนการเทรด 10% ต่อเดือน เพราะจะทาให้การเทรดของ
คุณมีความกดดันน้อยลง และสภาพจิตใจทางด้านอารมณ์ก็จะดีขึ้นด้วย
ตารางที่ 2.3 แผนการเทรดในระยะเวลา 2 ปี ก าไร 10% ต่ อ เดื อ น
จากทุน 1000$
เดือนที่ เงินทุน กาไร
1 1,000 100
2 1,100 110
3 1,210 121
4 1331 133
5 1464 146
6 1611 161
7 1772 177
8 1949 195
9 2144 214
10 2358 236
11 2594 259
12 2853 285
13 3138 314
14 3452 345
15 3797 380

14
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เดือนที่ เงินทุน กาไร


16 4177 428
17 4595 459
18 5054 505
19 5560 556
20 6116 612
21 6727 673
22 7400 740
23 8140 814
24 8954 895

จากตารางที่ 2.3 เมื่อครบ 2 ปี คุณจะมีรายได้เดือนละ 895$ ซึ่งเพียงพอ


ต่อ การใช้ จ่ ายส่ ว นตั ว แน่ นอน ผมได้ ท าแผนการเทรดเพื่ อ ให้ ผู้ อ่ านใช้ ง านง่ า ย
สามารถปรับแก้แผนการเทรดได้ตามสถานการณ์และความต้องการของผู้อ่าน
ผู้อ่านอาจจะเห็นว่า แผนการเทรดที่ผมทาให้มันอาจจะดูง่าย ไม่มีอะไร
ยากเลย แต่การจะทาตามแผนที่วางเอาไว้ ให้ได้นั้นยากมาก เพราะถ้า คุณไม่มี
วินัยจริง หรือปล่อยให้อารมณ์เข้าครอบงาแล้วหละก้อ สิ่งที่ คุณทามาตั้งแต่แรกก็
จะล้มเหลวทั้งหมด จาไว้นะครับ ล้มเหลวทั้งหมด

15
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก้าวที่ 3
บริหารพอร์ตยังไง ให้เกิดความเสี่ยงน้อยสุด

16
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ในการลงทุน Forex นั้น จะมีแค่การซื้อ (Buy) และขาย (Sell) เท่านั้น


แต่ทาไมคนถึงยังประสบความล้มเหลวกันอยู่หละ ทั้งๆที่ดูเหมือนง่ายกว่าการเล่น
หวยด้ วยซ้ า ความน่ าจะเป็น ในการเล่ น Forex คื อ 1 ต่อ 2 ส่ วนการเล่ นหวย
2 ตัวท้าย คือ 1 ต่อ 100 ถ้าเป็น 3 ตัวท้ายก็ 1 ต่อ 1,000 เลยทีเดียว บางคน
สามารถเล่นหวยแล้วรวยได้ก็ยังมีเลย ซึ่งปัญหาตรงนี้ยังมี เทรดเดอร์บางคนที่ไม่
เข้าใจอยู่ว่าทาไมถึงเป็นเช่นนั้น ต่อไปผมจะอธิบายเกี่ยวกับหลักการบริหารความ
เสี่ ยงในการลงทุ น เพื่ อ ให้ คุ ณ สามารถบริหารพอร์ ตของตัวเองให้มี ความเสี่ย ง
น้อยลงและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

Money Management

Money Management (หรือที่เรียกติดปากกันว่า MM) คือ การบริหาร


จัดการเงินทุนของคุณสาหรับการเทรด Forex ซึ่งเป็นการบริหารจัดการเงินลงทุน
ของคุณด้วยความชาญฉลาด โดยทาให้ควบคุมอารมณ์การเทรดของตัวเองได้
และทาให้การเทรดของคุณเป็นไปตามระบบแผนที่ได้วางเอาไว้ ถ้าคุณเข้าใจ
หลักการและสามารถทาตามได้อย่างเคร่งครัด จะทาให้คุณเป็น มืออาชีพในไม่ช้า
อย่างแน่นอน

ในเรื่ อ งนี้ ผ มจะอธิ บ ายให้ คุ ณ เข้ า ใจหลั ก การของการลงทุ น โดยมี


ความเสี่ยงเป็นหลัก ซึ่งความเสี่ยงต่างๆที่เกิดขึ้น คุณสามารถควบคุมมันได้ด้วย
Money Management ผมจะแสดงให้ดูว่ายิ่งความเสี่ยงในการลงทุนมากเท่าไหร่
ยิง่ ทาให้คุณไม่ประสบความสาเร็จมากขึ้นเท่านั้น

17
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ยกตัวอย่างเช่น

ถ้าคุณมีทุน 1000$ เสียไป 100$ เหลือเงินทั้งหมด 900$ ถือว่าขาดทุน


ไป 10% หากคุณต้องการให้เงินในพอร์ตของคุณกลับมาเท่าเดิม คุณต้องทากาไร
กลับมา 11%

ถ้าคุณมีทุน 1000$ เสียไป 500$ เหลือเงินทั้งหมด 500$ ถือว่าขาดทุน


ไป 50% หากคุณต้องการให้เงินในพอร์ตของคุณกลับมาเท่าเดิม คุณต้องทากาไร
กลับมา 100%

ถ้าคุณมีทุน 1000$ เสียไป 900$ เหลือเงินทั้งหมด 100$ ถือว่าขาดทุน


ไป 90% หากคุณต้องการให้เงินในพอร์ตของคุณกลับมาเท่าเดิม คุณต้องทากาไร
กลับมา 900%

คุ ณ จะเห็ น ได้ ว่ า ยิ่ ง คุ ณ เพิ่ ม ความเสี่ ย งในการขาดทุ น ของคุ ณ มากขึ้ น


เท่าไหร่ การที่คุณจะทากาไรกลับมาให้เท่าทุนยิ่งยากขึ้นเท่านั้น และทาให้พอร์ต
ของคุณเสียหายมากเกินความจาเป็น ต่อไปเรามาดูว่าความเสี่ยงการขาดทุนที่ 2%
กับ 10% แตกต่างกันแค่ไหน

18
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตารางที่ 3.1 การขาดทุนติดต่อกัน 20 ครั้ง ที่ความเสี่ยง 2% จากทุน 1,000$


ครั้งที่เทรด ทุน ขาดทุน
1 1000 20
2 980 20
3 960 19
4 941 19
5 922 18
6 904 18
7 886 18
8 868 17
9 851 17
10 834 17
11 817 16
12 801 16
13 785 16
14 769 15
15 754 15
16 739 15
17 724 14
18 709 14
19 695 14
20 681 14
19
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

จากตารางที่ 3.1 เทรดขาดทุนครั้งแรกที่ความเสี่ยง 2% ของทุน 1000$


ขาดทุนไป 20$ ทาให้เหลือทุนคงเหลือ 980$ เทรดขาดทุนครั้งที่สองที่ความเสี่ยง
2% ของทุน 980$ ขาดทุนไปอีก 20$ ทาให้ทุนคงเหลือ 960$ โดยเทรดขาดทุน
ติดต่อกัน 20 ครั้ง จะเห็นได้ว่าเงินคงเหลือในพอร์ตของคุณ คือ 681$ ขาดทุนไป
เพียง 32% ของพอร์ตเท่านั้น ยังไม่ถึงครึ่งพอร์ตด้วยซ้า (ถ้าอ่านหนังสือเล่มนี้จบ
คงไม่มีใครเทรดขาดทุนติดต่อกันขนาดนี้หรอกนะ ฮ่าๆๆ)

ตารางที่ 3.2 การขาดทุนติดต่อกัน 20 ครั้ง ที่ความเสี่ยง 10% จากทุน 1,000$


ครั้งที่เทรด ทุน ขาดทุน
1 1000 100
2 900 90
3 810 81
4 729 73
5 656 66
6 590 59
7 531 53
8 478 48
9 430 43
10 387 39
11 349 35
12 314 31

20
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ครั้งที่เทรด ทุน ขาดทุน


13 282 28
14 254 25
15 229 23
16 206 21
17 185 19
18 167 17
19 150 15
20 135 14

จากตารางที่ 3.2 เทรดขาดทุนครั้งแรกที่ความเสี่ยง 10% ของทุน 1000$


ขาดทุ น ไป 100$ ท าให้ เ หลื อ ทุ น คงเหลื อ 900$ เทรดขาดทุ น ครั้ ง ที่ ส อง
ที่ความเสี่ยง 10% ของทุ น 900$ ขาดทุนไปอีก 90$ ทาให้ทุนคงเหลือ 810$
โดยเทรดขาดทุนติดต่อกัน 20 ครั้ง จะเห็นได้ว่าเงินคงเหลือในพอร์ตของคุณเหลือ
เพียง 135$ ขาดทุนไปถึง 87% ของพอร์ต ซึ่งเป็นความเสียหายที่หนักมากสาหรับ
เทรดเดอร์ เพราะจะท าให้ ส ภาพจิ ต ใจของเทรดเดอร์ สู ญ เสี ย ความมั่ น ใจใน
การเทรดของตั ว เอง อยากได้ ทุ น คื น ท าให้ ก ารเทรดไม่ เ ป็ น ไปตามระบบ
ส่งผลต่อการตัดสินใจทาให้การเทรดผิดพลาดมากยิง่ ขึ้น

21
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตารางที่ 3.3 เทรดได้กาไร 2% ติดต่อกัน 11 ครั้ง จากทุน 1,000$


ครั้งที่เทรด ทุน กาไร
1 1000 20
2 1020 20
3 1040 21
4 1061 21
5 1082 22
6 1104 22
7 1126 23
8 1149 23
9 1172 23
10 1195 24
11 1219 24

จากตารางที่ 3.3 การเทรดถูกต้องเพียงแค่ 11 ครั้ง ก็ทาให้ คุณได้กาไร


20% ของพอร์ตลงทุ นของเราแล้ ว ซึ่ งผมต้องการเพียงแค่ 10-20% ต่อเดือน
เท่านั้น เพื่อเป็นไปตามระบบแผนที่ได้วางไว้

การเทรดในแต่ ล ะครั้ ง อาจจะมี ทั้ ง ชนะและแพ้ ส ลั บ กั น ไป แต่ ผ ลรวม


การเทรดของคุณเมื่อครบ 1 เดือน ต้องมีผลกาไรตามเป้าหมาย ถ้าเดือนไหนไม่ถึง
ตามเป้าหรือเทรดขาดทุนก็ไม่เป็นไร คุณก็ยังคงทาตามขั้นตอนเดิมต่อไปเรื่อยๆ
อย่าพยายามออก Lot Size มากกว่าที่กาหนดเอาไว้ เพื่อจะได้กาไรตามเป้า ของ
22
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เดือนนั้นๆ เพราะนั่นถือว่าคุณผิดวินัยของแผนการเทรด การที่คุณได้เทรดชนะ


หรือแพ้วนไปมามากเท่าไหร่ ก็จะทายิ่งทาให้คุณมีความรู้และประสบการณ์ใน
การเทรดมากขึ้นเท่านั้น

การกาหนดขนาด Lot Size

ในการเทรด Forex คุณ จะต้องมีการกาหนด Lot Size ทุกครั้งที่เทรด


ห้ามเทรดตามอารมณ์ของตัวเอง ไม่ว่าจะมั่นใจขนาดไหนก็ตาม เพราะการที่ คุณ
มั่นใจในตัวเองสูงเกินไป ยิ่งทาให้เกิดความผิดพลาดมากขึ้นเท่านั้น ผมขอแนะนา
ให้ อ่ า นหนั ง สื อ The Little Book of Behavioral Investing พฤติ ก รรมและ
จิตวิทยาการลงทุน เขียนโดย James Montier โดยหนังสือเล่มนี้จะสอนเกี่ยวกับ
จิตวิทยาการลงทุน วิธีที่คุณจะไม่เป็นศัตรูตัวร้ายของตัวเอง เพื่อจะได้นามาปรับใช้
กับทัศนคติในการลงทุนของคุณให้ดยี ง่ิ ขึ้น

ก่อนคุณจะกาหนดขนาด Lot Size คุณต้องกาหนดจุดตัดขาดทุน (Stop


Loss) ของตัวเองเสียก่อน เพื่อที่จะใช้คานวนการออก Lot Size ให้เกิดความเสี่ยง
ตามที่คุณยอมรอบได้เท่านั้น คุณต้องรู้จักยอมแพ้ในการเทรดเป็น เพื่อที่ คุณจะ
สามารถยืนในตลาดต่อไปได้ คุณแพ้เพื่อที่จะชนะ ไม่ได้แพ้ตลอดไป ตราบใดที่เบี้ย
ในกระดานของคุณยังมีเหลืออยู่ คุณก็สามารถกลับมาชนะได้เสมอ ต่อไปผมจะ
สอนเรื่องความเสี่ยงในการกาหนดขนาด Lot Size เพื่อนาไปใช้และปฏิบัติตาม

23
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

มี เ งิ น ทุ น 1,000$ ซึ่ ง คุ ณ ยอมรั บ ความเสี่ ย งในการขาดทุ น ได้ 2%


นัน่ คือ ขาดทุนได้เพียง 20$ เท่านั้น

รูปที่ 3.1
จากรูปที่ 3.1 ให้คุณนับระยะห่างจากจุดเข้าออเดอร์และจุด Stop Loss
ได้ 150 Pip คุณสามารถขาดทุนได้ 20$ จะคานวณได้จากสูตร ดังต่อไปนี้

เงินที่สามารถขาดทุนได้ / ระยะห่างจุดเข้าออเดอร์กับจุด Stop Loss = ขนาด Lot Size

20 / 150 = 0.133

ดั ง นั้ น ขนาด Lot Size ที่ คุ ณ สามารถออกได้ ไ ม่ เ กิ น 0.133$ เท่ า นั้ น


ห้ามเบิ้ล Lot เด็ดขาด อย่าโลภซึ่งถ้าคุณออก Lot Size มากกว่านี้ก็จะถือว่าคุณไม่
มีวินัยในการเทรด ถ้าคุณผ่าฝืนกฏข้อนี้ก็จะทาให้แผนการเทรดไม่เป็นไปตามที่ได้
ตั้งเป้าหมายไว้ ถึงแม้การเข้าออเดอร์ที่หนักในครั้งนี้อาจจะชนะ แต่คุณจะติดเป็น
นิสัย ซึ่งนาไปสู่ความหายนะในการเทรดแน่นอน และอย่าคิดว่าการทากาไรแค่
ไม่กี่เปอร์เซ็นต์นี้น้อยเกินไป เพราะเป้าหมายของคุณต้องการเพียง 10-20% ต่อ
เดือนเท่านั้น
24
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

สาหรับคนที่ต้องการเปิดออเดอร์ที่มากกว่า 1 ออเดอร์ขึ้นไป สามารถทา


ได้แ ต่คุณ จะต้องนาขนาด Lot Size ที่ คานวณได้แ ล้ว มาหารออกตามจานวน
ออเดอร์ที่ต้องการทาการซื้อขาย เช่น ขนาด Lot Size คือ 0.133 คุณต้องการเข้า
ออเดอร์ทั้งหมด 3 ออเดอร์ คุณต้องนา 0.133 มาหาร 3 ก็จะได้ Lot Size 0.04
จานวน 3 ออเดอร์ หรือบางคนอาจจะมีเทคนิคในการออกออเดอร์โดยแบ่งเป็น
เปอร์เซ็นต์ เช่น ออเดอร์แรก 30% ออเดอร์ที่สอง 20% และเมื่อกราฟยืนยันก็จัด
เต็มเข้าไป 50% ตรงนี้แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคนนะครับ

ตารางที่ 3.4 การกาหนดขนาด Lot Size 1-3% จากทุน 1000$


ระยะห่างจุดเข้าออเดอร์ ความเสี่ยง
กับจุด Stop Loss (Pip) 1% 2% 3%
100 0.10 0.20 0.30
150 0.07 0.13 0.20
200 0.05 0.10 0.15
250 0.04 0.08 0.12
300 0.03 0.07 0.10
350 0.03 0.06 0.09
400 0.03 0.05 0.08
450 0.02 0.04 0.07
500 0.02 0.04 0.06
550 0.02 0.04 0.05
600 0.02 0.03 0.05
25
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ระยะห่างจุดเข้าออเดอร์ ความเสี่ยง
กับจุด Stop Loss (Pip) 1% 2% 3%
650 0.02 0.03 0.05
700 0.01 0.03 0.04
750 0.01 0.03 0.04
800 0.01 0.03 0.04
850 0.01 0.02 0.04
900 0.01 0.02 0.03
950 0.01 0.02 0.03
1000 0.01 0.02 0.03

จากตารางที่ 3.4 การก าหนดขนาด Lot Size โดยผมจะก าหนด


ความเสี่ยงในการขาดทุนเพียงแค่ 1-3% จากทุน 1000$ (สาหรับคนที่เงินทุนต่าง
จากนี้ก็ใช้โปรแกรม Microsoft Excel คานวณตามสูตรด้านบน ที่ให้ไว้ได้เลย)

ผมขอแนะนาให้ท่านผู้อ่านทุกคนใช้ความเสี่ยงในการขาดทุนไม่เกิน 3%
เพื่อฝึกความมีวินัยและทาตามเป้ าหมายที่วางไว้ให้สาเร็จ เทรดเดอร์ที่ประสบ
ความสาเร็จในตลาดเกือบทุกคน เขาก็ใช้กฎความเสี่ยงไม่เกินนี้ครับ

26
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

Risk & Reward


คือ ค่าตัวเลขที่ช่วยในการตัดสินใจของเทรดเดอร์ ว่าการซื้อขายครั้งนี้
มี ค วามเสี่ ย งมากน้ อ ยแค่ ไ หน และยั ง ช่ ว ยในการค านวณการออก Lot Size
ให้เหมาะสมกับการบริหารพอร์ตลงทุนของคุณอีกด้วย
Risk คือ ความเสี่ยงของการเทรดระหว่างจุดเข้าซื้อกับจุด Stop Loss
Reward คือ ผลกาไรหรือผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับระหว่างจุดเข้าซื้อ
กับจุด Take Profit
ค่าของ Reward ต้องมากกว่า Risk ในทุกครั้งที่ทาการเทรด

รูปที่ 3.2
จากรู ป ที่ 3.2 ค่ า ของ Risk > Reward ซึ่ ง การเทรดแบบนี้ ห้ า มเข้ า
ออเดอร์โดยเด็ดขาดไม่ว่าจะกรณีใดทั้งสิ้น เพราะเป็นการเทรดที่ได้รับความเสี่ยง
ในการขาดทุนมากกว่าการได้รับผลกาไร

27
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปที่ 3.3
จากรูปที่ 3.3 ค่าของ Reward > Risk ซึ่งการเทรดแบบนี้เป็นการเทรดที่
คุ้มค่าแก่การลงทุน เพราะเป็นการเทรดที่ได้รับความเสี่ยงในการได้รับผลกาไร
มากกว่าการขาดทุน
การแบ่งประเภทของผลลัพธ์ในการลงทุน

การเทรดที่ดี การเทรดที่แย่

ชนะ แพ้ ชนะ แพ้


รูปที่ 3.4
ก่อนที่คุณจะเข้าออเดอร์นั้น คุณต้องตั้งคาถามก่อนว่านั่นคือ การเทรดที่
ดีหรือการเทรดที่แย่ การเทรดที่ดี ก็คือการเทรดที่มีค่า Reward > Risk ตรงนี้ผม
ต้องการบังคับเลยว่าค่าของ Reward ต้องมากกว่า Risk เกิน 2 เท่าขึ้นไปทุกครั้ง

28
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ส่วนการเทรดที่แย่นั้น คือ การที่ค่า Risk > Reward ในกรณีนี้ ห้ามทาการซื้อขาย


โดยเด็ยขาด ไม่ว่าการวิเคราะห์จะบอกสัญญาณให้เข้าซื้อขายยังไงก็ตาม ถ้าคุณยัง
ฝ่าฝืนกฎ ก็ถือว่าคุณไม่มีวินัยในการเทรด
จากรูปที่ 3.4 จะเห็นว่าการเทรดที่ดี จะชนะหรือแพ้ก็ได้ และการเทรด
ที่แย่ จะชนะหรือแพ้ก็ได้เช่นกัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ ผลลัพธ์ที่ได้ของการเทรด
ที่ดีกับการเทรดที่แย่จะไม่เหมือนกัน และเราจะไม่เข้าซื้อขายเด็ดขาด ถ้าการเทรด
ในขณะนี้ยังไม่เป็นการเทรดที่ดีหรือยังไม่ได้เปรียบในตลาดนั่นเอง
ต่อไปผมจะเปรียบเทียบให้ดูนะครับว่า Risk & Reward มีความสาคัญ
ขนาดไหน ท าไมจึ ง เป็ น การเทรดที่ ดี ไ ด้ เพราะอะไรผมจึ ง ให้ ค วามส าคั ญ กั บ
Risk & Reward ขนาดนั้น

29
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตารางที่ 3.5 Risk : Reward คือ 1 : 1 โดย TP 100 Pip และ SL 100 Pip
ครั้งที่เทรด ชนะ แพ้
1 100
2 100
3 100
4 100
5 100
6 -100
7 -100
8 -100
9 -100
10 -100
รวม 0

จากตารางที่ 3.5 เมื่อคุณเทรดด้วย Risk : Reward ที่ 1 : 1 ก็เหมือนกับ


การโยนเหรีย ญหั ว ก้อ ยว่ าจะชนะหรื อ แพ้ นั่ นคื อ อัต ราการชนะเท่า กับ 50%
ซึ่งการเทรดที่ Risk : Reward ที่ 1 : 1 นัน้ ผมขอแนะนาว่าทาการเทรดได้ แต่ต้อง
มี ค วามรู้ แ ละประสบการณ์ ใ นการซื้ อ ขายมากพอสมควรแล้ ว เพราะถ้ า เกิ ด
สถานการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นมา คุณจะทาการปิดออเดอร์ทันที แต่สาหรับเทรดเดอร์
ที่เพิ่งเริ่มต้น อย่าพึ่งทาการซื้อขายแต่อย่างใด รอให้ได้เปรียบตลาดมากกว่านี้ก่อน

30
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตารางที่ 3.6 Risk : Reward คือ 1 : 2 โดย TP 200 Pip และ SL 100 Pip
ครั้งที่เทรด ชนะ แพ้
1 200
2 200
3 200
4 200
5 -100
6 -100
7 -100
8 -100
9 -100
10 -100
รวม 200

จากตารางที่ 3.6 เมื่อคุณเทรดด้วย Risk : Reward ที่ 1 : 2 เริ่มมีการ


ได้ เ ปรี ย บในตลาดเพิ่ ม มากขึ้ น ในการเทรดทั้ ง หมด 10 ครั้ ง คุ ณ ชนะ 4 ครั้ ง
แพ้ 6 ครั้ง ซึ่งอัตราการชนะของคุณเพียงแค่ 40% แต่ทาให้คุณได้กาไรจากตลาด
200 Pip ผมจึงได้แนะนาว่าเมื่อคุณจะทาการซื้อขายนั้น Risk : Reward ต้องมีค่า
มากกว่า 1 : 2 ขึ้นไป

31
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตารางที่ 3.7 Risk : Reward คือ 1 : 3 โดย TP 300 Pip และ SL 100 Pip
ครั้งที่เทรด ชนะ แพ้
1 300
2 300
3 300
4 -100
5 -100
6 -100
7 -100
8 -100
9 -100
10 -100
รวม 200

จากตารางที่ 3.7 เมื่ อ คุ ณ เทรดด้ ว ย Risk : Reward ที่ 1 : 3 ท าให้ มี


การได้เปรียบตลาดเพิ่มขึ้นไปอีก ในการเทรดทั้งหมด 10 ครั้ง คุณชนะ 3 ครั้ง
แพ้ 7 ครั้ง ซึ่งอัตราการชนะของคุณเพียงแค่ 30% แต่ทาให้คุณได้กาไรจากตลาด
200 pip คุ ณ จะเห็ น ได้ ว่ า ยิ่ ง Reward > Risk เท่ า ไหร่ ก็ ท าให้ คุ ณ ได้ เ ปรี ย บ
ตลาดมากขึ้นเท่านั้น

32
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

จากต้นบทที่ 3 ผมเขียนเรื่องเกี่ยวกับหวยว่าทาไมคนเล่นหวยบางคนนั้น
ยังรวยได้ เพราะหวยมีสัดส่วนของ Risk : Reward ที่มาก เช่น หวย 2 ตัวท้าย
ก็จะมี Risk : Reward ที่ 1 : 60 และหวย 3 ตัวท้ายมี Risk : Reward ที่ 1 : 500
ถึงแม้ความน่าจะเป็นในการถูกหวยจะเป็น 1 ต่อ 100 หรือ 1 ต่อ 1,000 ก็ตาม
ผมไม่ได้แนะนาให้ไปเล่นหวยนะครับ ฮ่าๆๆ เนื่องจากหวยมีความน่าจะเป็นที่
สูงมาก ทาให้โอกาสในการถูกนั้นเป็นไปได้ยาก แต่ผมเปรียบเทียบให้ผู้อ่านเห็น
ภาพได้ชัดว่า Risk : Reward สาคัญขนาดไหน

ถึ ง อย่ า งไรก็ ต าม สั ด ส่ ว นของ Risk : Reward ยิ่ ง มากขึ้ น เท่ า ไหร่


การเทรดของคุณก็ยากขึ้นตามนั้น เพราะคุณจะต้องหาระบบเทรดที่ใช้งานได้จริง
เหมาะสมกับตัวคุณ สามารถต่อสู้กับอารมณ์ในตลาดที่ตึงเครียดให้ได้ นักเทรดมือ
อาชีพที่ประสบความสาเร็จเขาจะมี Risk : Reward ที่เยอะมากในทุกครั้งที่เทรด
ถ้าไม่ได้เปรียบในตลาด เขาจะไม่ทาการซื้อขายโดยเด็ดขาด และต้องมีวินัยใน
การเทรดตลอดเวลา ซึ่งอารมณ์จะไม่สามารถไปรบกวนการเทรดของเขาได้เลย

33
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก้าวที่ 4
วัฏจักรของคลื่น ฤดูกาลที่เกิดขึ้นในตลาด

34
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตลาด Forex จะมีปัจจัยที่ส่งผลต่อการเคลือ่ นไหวของราคาอยู่ 2 ประเภท คือ


1. การวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค (Technical analysis)
2. การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental analysis)
ปัจจุบันการวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค (Technical analysis) เป็นวิธีที่
ได้รับความนิยมอย่างมากสาหรับเทรดเดอร์ทุกคน จะไม่ใช่การวิเคราะห์ด้วย
ปั จ จั ย พื้ น ฐาน (Fundamental analysis) เพี ย งอย่ า งเดี ย วเหมื อ นสมั ย ก่ อ น
ทั้งยังช่วยให้การวิเคราะห์มีความถูกต้อง แม่นยามากขึ้น สามารถเลือกเทคนิค
การเทรดให้เหมาะสมกับตัวเทรดเดอร์ได้อีกด้วย ซึ่งการวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค
(Technical analysis) จะมี เ นื้ อ หาที่ ค่ อ นข้า งละเอี ย ดและเยอะมาก บางเรื่ อ ง
สามารถเขียนเป็นหนังสือได้เป็นเล่มเลยทีเดียว
ผมได้เขียนเรื่องการวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค (Technical analysis)
ให้ครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมด เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย มีความกระทันรัดและสามารถ
นาไปปรับใช้กั บการเทรดของเราเองได้ทั นที พร้อมทั้งผมจะสอดแทรกเทคนิค
การเทรดส่วนตัวจากประสบการณ์ของผมเข้าไปอี กด้วย โดยผมจะอธิบายเป็น
เรื่องๆ ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงการวิเคราะห์ขั้นสูงเป็นลาดับไป
ตลาด Forex มีการขึ้นและลงอยู่ตลอดเวลา เกิดจากการแรงซื้อและแรง
ขายของนักลงทุนทั่วโลก เมื่อมีคนซื้อก็ต้องมีคนขาย เมื่อมีคนขายก็ต้องมีคนรับซื้อ
เอาไว้ ตลาดจะไม่เคลื่อนที่เป็นเส้นตรง ซึ่งการกระทาทั้งหมดจะทาให้เกิดคลื่น
และแนวโน้มขึ้นมา จะมีตั้งแต่คลื่นย่อย คลื่นขนาดกลาง จนไปถึงคลื่นขนาดใหญ่
35
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

แล้วจะเกิดเป็นวัฏจักรของคลื่นขึ้นมาซึ่งเป็นไปตามกฎของธรรมชาติ เปรียบเทียบ
ง่ายๆก็เหมือนการเกิดฤดูกาลของโลกเรา ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง
และฤดูหนาว สุดท้ายเมื่อโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ครบก็จะกลับมาที่ฤดูเดิมอีก
ครั้ง ในตลาด Forex ก็เช่นกัน

ตัวอย่างที่ 4.1
จากตัวอย่างที่ 4.1 จะพบว่า ไม่ว่าคู่เงินไหนก็ล้วนแต่เกิดวัฏจักรขึ้นทั้งสิ้น
ตลาดจะขึ้นตลอดไปไม่ได้ต้องมีการปรับตัวลงมาเสมอ แต่จะมีการปรับตัวลงมา
ต่าสุดแค่ไหน หรือขึ้นไปสุดแค่ไหนเท่านั้นเอง
การขึ้ น ลงของคลื่ น สามารถปรั บ มาใช้ ใ นการวิ เ คราะห์ ท างเทคนิ ค ได้
มากมาย เพื่อหาช่องโหว่และทากาไรจากตลาดนั้นๆ ผมอยากให้ท่านผู้อ่านเข้าใจ
ว่าการเคลื่อนไหวขึ้นลงของตลาด Forex นั้น บางครั้งมันอาจจะไม่มีเหตุมีผลใน
36
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

การเคลื่อนไหว แต่คุณต้องควบคุมไม่ให้เกิดความเสียหายมากจนเกินไป เมื่อตลาด


เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นมาให้ได้
อีกเรื่องที่ผมอยากเสริมให้ผู้อ่าน ซึ่งต้องเรียนรู้จากประสบการณ์ในตลาด
ด้วยตัวเองเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าใจได้คือ พฤติกรรมของค่าเงิน ซึ่งในแต่ละ
ค่าเงินจะมีนิสัยและพฤติกรรมที่ไม่เหมือนกัน เช่น บางค่าเงินจะมีการวิ่ งแบบเป็น
แนวโน้ม (Trend) ไป บางค่าเงินอาจจะมีการวิ่งแบบสวิงขึ้นลงแรงมาก เป็นต้น
ตรงนี้ผมขอผู้อ่านฝึกสังเกตพฤติกรรมของกราฟทุกๆวัน แล้วก็จะเข้าใจเองครับ

37
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก้าวที่ 5
การฟแท่งเทียน สาคัญไฉน!!

38
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ส่วนประกอบของกราฟแท่งเทียน

รูปที่ 5.1
กราฟแท่งเทียนจะมีอยู่ 2 แบบ คือ กราฟแท่งเทียนบวก หรือกราฟที่แรง
ซื้อชนะแรงขาย ส่วนมากจะตั้งค่าเป็นสีเขียว และกราฟแท่งเทียนลบ หรือกราฟที่
แรงขายชนะแรงซื้อ ซึ่งส่วนมากจะตั้งค่าให้เป็น สีแดง ตามความชอบของผู้ใช้

รูปที่ 5.2

39
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

จากรู ป ที่ 5.2 จะพบว่ า ก่ อ นจะเกิ ด เป็ น กราฟแท่ ง เที ย น 1 แท่ ง


จะมี การเคลื่ อนไหวของราคาในช่ว งระยะเวลาหนึ่ ง โดยมี ราคาเปิด ราคาปิ ด
จุดสูงสุด และจุดต่าสุด ซึ่งกราฟแท่งเทียนสามารถบอกแรงซื้อและแรงขายของ
ตลาดในช่วงนั้นได้ว่าเป็นยังไง
รูปแบบของกราฟแท่งเทียนที่พบบ่อยในการเทรด Forex

รูปที่ 5.3
รู ป แบบของกราฟแท่ ง เที ย น (Candlestick) ในการเทรด Forex นั้ น
มีเยอะมาก ผู้อ่านที่ส นใจเรื่องกราฟแท่งเทียนเป็นพิเศษผมขอแนะนาหนังสือ
Japanese Candlestick Charting Techniques หนังสือคู่มือประยุกต์การใช้งาน
เทคนิคโบราณของชาวตะวันออกด้วยกราฟแท่งเทียน และหนังสือ BEYONED
CANDLESTICKS มากกว่ า ค าว่ า กราฟแท่ ง เที ย น ซึ่ ง ทั้ ง 2 เล่ ม เขี ย นโดย
40
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

Steve Nison โดยจะเขียนเนื้อหาเกี่ยวกับกราฟแท่งเทียนทั้งหมดอย่างละเอียดให้


เราเข้าใจ เพื่อให้คุณสามารถนาเทคนิคกราฟแท่งเทียนในรูปแบบต่างๆมาใช้ปรับ
ในการวิเคราะห์ตลาด Forex ได้อย่างมีเหตุมีผลมากขึ้น
ต่ อ ไปผมจะมาอธิ บ ายว่ า รู ป แบบของกราฟแท่ ง เที ย น แต่ ล ะแบบมี
ความหมายอย่ า งไร ท าไมจึ ง สามารถน ามาวิ เ คราะห์ แ รงซื้ อ และแรงขายใน
ตลาด Forex ได้ และทาไมเทรดเดอร์หลายคนจึงนิยมใช้กราฟแท่งเทียนกัน
1. Hammer & Shooting Star

กราฟแท่งเทียนในรูปแบบของ Hammer เป็นแท่งเทียนที่มีไส้ด้านล่าง


ยาวประมาน 2/3 ของแท่งเทียนทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าหลังจากราคาเปิดของ
แท่งเทียนแล้ว มีบางช่วงเวลาที่มีแรงขายเข้ามา จนดันราคาให้ตกลงไป แต่สุดท้าย
กลับมีแรงซื้อเข้ามา ซึ่งดันราคาให้พุ่งสูงขึ้นไป และมีแรงซื้อมากพอที่ทาให้ราคา
ปิดอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงหรือสูงกว่าของราคาเปิดได้

41
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

กราฟแท่ ง เที ย นในรู ป แบบของ Shooting Star เป็ น แท่ ง เที ย นที่ มี ไ ส้
ด้านบน ยาวประมาน 2/3 ของแท่งเทียนทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าหลังจากราคา
เปิดของแท่งเทียนแล้ว มีบางช่วงเวลาที่มีแรงซื้อเข้ามา จนดันราคาให้พุ่งขึ้นสูงไป
แต่สุดท้ายกลับมีแรงขายเข้ามา ซึ่งดันราคาให้ตกลงขึ้นไป และมีแรงขายมากพอที่
ทาให้ราคาปิดอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงหรือต่ากว่าของราคาเปิดได้
2. Piercing Pattern & Dark Cloud Cover

กราฟแท่งเทียนในรูปแบบของ Piercing Pattern จะประกอบด้วยแท่ง


เทียน 2 แท่ง โดยแท่งเทียนแรกจะเป็น แท่งที่มีลาตัวยาว ราคาปิดของแท่งเทียน
แรกปิดใกล้ราคาต่าสุด อธิบายได้ว่าแท่งเทียนแรกยังมีแรงขายอยู่ ส่วนแท่งเทียนที่
สองเป็นแท่งเทียนที่มีลาตัวยาวเช่นกัน ซึ่งราคาปิดของแท่งเทียนที่สองสามารถปิด
สู งกว่าครึ่งของแท่ง เที ย นแรก ซึ่ งเป็ นสั ญ ญาณว่า มีแรงซื้ อ เข้ ามาในตลาดเป็ น
จานวนมาก

42
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

กราฟแท่งเทียนในรูปแบบของ Dark Cloud Cover จะประกอบด้วยแท่ง


เทียน 2 แท่ง โดยแท่งเทียนแรกจะเป็น แท่งที่มีลาตัวยาว ราคาปิดของแท่งเทียน
แรกปิดใกล้ราคาสูงสุด อธิบายได้ว่า แท่งเทียนแรกยังมีแรงซื้ออยู่ ส่วนแท่งเทียนที่
สองเป็นแท่งเทียนที่มีลาตัวยาวเช่นกัน ซึ่งราคาปิดของแท่งเทียนที่สองสามารถปิด
ต่ากว่าครึ่งของแท่งเทียนแรก ซึ่งเป็นสัญญาณว่า มีแรงขายเข้ ามาในตลาดเป็น
จานวนมาก
3. Bullish Engulfing @ Bearish Engulfing

กราฟแท่งเทียนในรูปแบบของ Bullish Engulfing จะประกอบด้วยแท่ง


เทียน 2 แท่ง โดยแท่งแรกจะเป็นแท่งที่มีแท่งเทียนขนาดเล็ก ลาตัวสั้น อธิบาย
ได้ว่ามีแรงขายเริ่มน้อยลง ส่วนแท่งเทียนแท่งที่สอง เป็นแท่งเทียนที่มีลาตัวยาว
ราคาปิด ใกล้ราคาสูงสุ ด และปิดสู งกว่าแท่ งเที ยนแรก กลืน กินแท่งเทียนแรก
จนหมด แสดงให้เห็นว่าแรงซื้อชนะแรงขายอย่างเห็นได้ชัด

43
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

กราฟแท่งเทียนในรูปแบบของ Bearish Engulfing จะประกอบด้วยแท่ง


เทียน 2 แท่ง โดยแท่งแรกจะเป็นแท่งที่มีแท่งเทียนขนาดเล็ก ลาตัวสั้น อธิบาย
ได้ว่ามีแรงซื้อเริ่มน้อยลง ส่วนแท่งเทียนแท่งที่สอง เป็นแท่งเทียนที่มีลาตัวยาว
ราคาปิดใกล้ราคาต่าสุด และปิดต่ากว่าแท่ งเที ยนแรก กลืนกินแท่งเทียนแรก
จนหมด แสดงให้เห็นว่าแรงขายชนะแรงซื้ออย่างเห็นได้ชัด
4. Bullish Harami & Bearish Harami

กราฟแท่งเที ยนในรูปแบบของ Bullish Harami จะประกอบด้วยแท่ง


เทียน 2 แท่ง โดยแท่งเทียนแรกจะเป็น แท่งที่มีลาตัวยาว ราคาปิดของแท่งเทียน
แรกปิดใกล้ราคาต่าสุด อธิบายได้ว่าแท่งเทียนแรกยังมีแรงขายอยู่ ส่วนแท่งที่สอง
เป็นแท่งเทียนขนาดเล็ก ลาตัวสั้น ราคาปิดอยู่สูงกว่าราคาเปิด ทาให้เห็นว่ามีแรง
ขายลดน้อยลง

44
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

กราฟแท่งเทียนในรูปแบบของ Bearish Harami จะประกอบด้วยแท่ง


เทียน 2 แท่ง โดยแท่งเทียนแรกจะเป็น แท่งที่มีลาตัวยาว ราคาปิดของแท่งเทียน
แรกปิดใกล้ราคาสูงสุด อธิบายได้ว่า แท่งเทียนแรกยังมีแรงซื้ออยู่ ส่วนแท่งที่สอง
เป็นแท่งเทียนขนาดเล็ก ลาตัวสั้น ราคาปิดอยู่ต่ากว่าราคาเปิด ทาให้เห็นว่ามีแรง
ซื้อลดน้อยลง
5. Doji

กราฟแท่งเทียนในรูปแบบของ Doji คือ ราคาเปิดและราคาปิดอยู่ในราคา


เดียวกัน ซึ่งตลาดมีความสับสนและไม่สามารถตัดสินใจได้ว่า จะวิ่งไปในทิศทาง
ไหนกันแน่ มีเทรดเดอร์หลายคนให้ความสนใจกับ Doji มาก เพราะยิ่งเกิดขึ้นใน
จุดที่สูงหรือจุดทีต่ ่ามากๆแล้ว เตรียมพร้อมการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงตามมาได้เลย

45
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ในเรื่องของกราฟแท่งเทียน (Candlestick) ผมอยากให้ผู้อ่านฝึก สังเกต


การเคลื่อนไหวของแรงซื้อและแรงขาย จากกราฟแท่งเทียนให้เป็น จะได้ไม่ต้องมา
นั่งจารูปแบบของกราฟแท่งเทียน แต่อ่านอารมณ์ ของตลาดจากกราฟแท่งเทียน
แทน ซึ่งต้องใช้เวลาฝึกฝนดูกราฟแท่งเทียนบ่อยๆ สุดท้ายแล้วประสบการณ์จะ
เป็นตัวบอกคุณเอง
คาแนะนา การซื้อขายด้วยเทคนิคกราฟแท่งเทียน ควรเข้าทาการซื้อขาย
เมื่อจบกราฟแท่งเทียนนั้นๆ เพื่อรอรูปแบบที่ชัดเจนของกราฟแท่งเทียน

46
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก้าวที่ 6
มองแนวโน้มเป็น เห็นกาไร

47
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

หลั ง จากที่ เ รารู้ ห ลั ก การเบื้ อ งต้ น ของการเกิ ด กราฟแท่ ง เที ย นไปแล้ ว


ต่ อ ไปผมจะพู ด ถึ ง เรื่ อ งของการเกิ ด แนวโน้ ม ของตลาด ซึ่ ง จะแบ่ ง ออกเป็ น
3 รู ป แบบ คื อ แนวโน้ ม ขาขึ้ น (Uptrend) แนวโน้ ม ขาลง (Downtrend) และ
แนวโน้มแกว่งตัว (Sideway) ผมจะอธิบายให้ผู้อ่านเข้าใจถึงการเกิดแนวโน้มว่า
แนวโน้มรูปแบบต่างๆหมายถึงอะไร และมีหลักการสังเกตยังไง

1. แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)

รูปที่ 6.1
การวิ่งขึ้นของกราฟแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จะมีจุดสังเกตง่ายๆ คือ
Highใหม่ สูงกว่า Highเดิม และ Lowใหม่ สูงกว่า Lowเดิม การวิ่งของแนวโน้มจะ
ไม่ วิ่ ง ขึ้ น เป็ น เส้ น ตรง แต่ จ ะขึ้ น เป็ น ในลั ก ษณะของขั้ น บั น ได นั ก ลงทุ น หรื อ
เทรดเดอร์ ส่ ว นใหญ่ จ ะเรี ย กสภาวะการเกิ ด แนวโน้ ม ขาขึ้ น (Uptrend) นี้ ว่ า
สภาวะตลาดกระทิง หรือ bullish

48
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตัวอย่างกราฟแนวโน้มขาขึน้

ตัวอย่างที่ 6.1

2. แนวโน้มขาลง (Downtrend)

รูปที่ 6.2
การวิ่งลงของกราฟแนวโน้มขาลง (Downtrend) จะมีจุดสังเกต คือ High
ใหม่ ต่ากว่า Highเดิม และ Lowใหม่ ต่ากว่า Low เดิม การวิ่งของแนวโน้มจะไม่
วิ่งลงเป็นเส้นตรง แต่จะลงเป็นในลักษณะของขั้นบันได นักลงทุนหรือเทรดเดอร์
ส่ ว นใหญ่ จ ะเรี ย กสภาวะการเกิ ด แนวโน้ ม ขาลง (Downtrend) นี้ ว่ า สภาวะ
ตลาดหมี หรือ bearish

49
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตัวอย่างกราฟแนวโน้มขาลง

ตัวอย่างที่ 6.2
3. แนวโน้มแกว่งตัว (Sideway)

รูปที่ 6.3
สภาวะที่ตลาดยังเกิดความไม่แ น่นอนหรือยังไม่เลือกทิศทางที่ชัดเจน
จะมี การแกว่งตัวออกไปด้านข้าง Highใหม่ ก็จะยังไม่ขึ้นไปสูงกว่าหรือต่ากว่า
Highเดิม มากนัก และ Lowใหม่ ก็ยังไม่ลงไปต่ากว่าหรือสูงกว่า Lowเดิม มากนัก
แต่จะมีการวิ่งในระดับเดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน

50
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตัวอย่างกราฟแนวโน้มแกว่งตัว

ตัวอย่างที่ 6.3

51
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก้าวที่ 7
ทากาไรไม่รจู้ บด้วยเส้น Trend Line

52
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

หลังจากที่ได้ทราบถึงรูปแบบเบื้องต้นในการดูแนวโน้ม (Trend) ไปแล้ว


สาหรับบางคนที่ยังไม่มีประสบการณ์เทรดอาจจะงงว่าดูยังไง ซึ่งเป็นปัญหามาก
สาหรับเทรดเดอร์มือใหม่ ต่อไปผมจะสอนให้ทราบถึงหลักการวิเคราะห์แนวโน้ม
ทั้ง 3 รูปแบบ โดยจะใช้เส้น Trend Line เป็นตัวช่วยในการวิเคราะห์ ซึ่งสามารถ
หาจุ ด ซื้ อ (Buy) จุ ด ขาย(Sell) และจุ ด ตั ด ขาดทุ น (Stop Loss) ได้ ดี เ ลยที เ ดี ย ว
การใช้ Trend Line ก็จะแบ่งตามแนวโน้ม ทั้ง 3 รูปแบบ คือ
1. เส้นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend Line)

รูปที่ 7.1
ให้ เ ราท าการลากเส้ น จาก Lowเดิ ม ไปยั ง Lowใหม่ เส้ น นี้ เ รี ย กว่ า
เส้นแนวโน้มขาขึ้น หรือ เส้น Trend Line ขาขึ้น คุณจะสามารถหาจุดซื้อ (Buy)
และจุดปิดออเดอร์จากเส้น Trend Line โดยให้คุณสังเกตว่า เมื่อกราฟวิ่งลงมาชน
เส้ น Trend Line อี ก ครั้ ง ให้ คุ ณ รอหาจั ง หวะซื้ อ (Buy) ได้ เ ลย ถ้ า หากราคา
ปรั บ ตั ว ลงใกล้ เ ส้ น นี้ อี ก คุ ณ ก็ ส ามารถใช้ เ ส้ น Trend Line เป็ น ตั ว ก าหนด
การเข้าซื้อ (Buy) ได้อีกครั้งเช่นกัน แต่ถ้าราคาตกลงมาต่ากว่าเส้น Trend Line
ให้เราทาการปิดออเดอร์ทันที
53
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เมื่อตลาดเป็นแนวโน้มขาขึ้น ห้ามขาย (Sell) เด็ดขาด

รูปที่ 7.2
หลังจากที่ผมอธิบายเรื่องการใช้เส้น Trend Line ขาขึ้นไปแล้ว ต่อไปจะ
อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เส้น Trend Line ย่อย เรียกว่า เส้น Speed Line ซึ่งจะ
ใช้เป็นจุดเข้าซื้อ (Buy) ในกรณีที่ราคาไม่ลงมาถึงเส้น Trend Line ขาขึ้น แต่สร้าง
จุ ด Lowใหม่ ที่ สู ง กว่ า เดิ ม มาก ให้ คุ ณ ใช้ เ ส้ น Speed Line ในการหาจุ ด เข้ า
ซื้ อ (Buy) ใหม่ ซึ่ ง แสดงถึ ง ความแข็ ง แกร่ ง ของแนวโน้ ม ขาขึ้ น (Uptrend)
เป็นอย่างมาก

54
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตัวอย่างเส้น Trend Line ขาขึ้น

ตัวอย่างที่ 7.1

2. เส้นแนวโน้มขาลง (Downtrend Line)

รูปที่ 7.3

ให้คุณทาการลากเส้นจาก Highเดิม ไปยัง High ใหม่ คุณจะเห็นว่ามีข้อ


แตกต่ า งจากเส้ น Trend Line ขาขึ้ น คื อ Highใหม่ ต่ ากว่ า Highเดิ ม และ
Lowใหม่ ต่ากว่า Lowเดิม หลักการวิเคราะห์หาจุดขาย (Sell) และจุดปิดออเดอร์

55
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก็จะคล้ายกับเส้น Trend Line ขาขึ้น คือปิดออเดอร์ทันทีเมื่อราคาวิ่งขึ้นไปสูงกว่า


เส้น Trend Line
เมื่อตลาดเป็นแนวโน้มขาลง ห้ามซื้อ (Buy) เด็ดขาด

รูปที่ 7.4
ในกรณีที่ราคาไม่ลงมาถึงเส้น Trend Line ขาลง แต่สร้างจุด Highใหม่
ที่ ต่ ากว่ า เดิ ม เป็ น อย่ า งมาก ให้ คุ ณ ใช้ เ ส้ น Speed Line ในการหาจุ ด ขาย
(Sell) ใหม่ ซึ่ ง แสดงถึ ง ความแข็ ง แกร่ ง ของแนวโน้ ม ขาลง (Downtrend)
เป็นอย่างมาก

56
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตัวอย่างเส้น Trend Line ขาลง

ตัวอย่างที่ 7.2

3. เส้นแนวโน้มแกว่งตัว (Sideway)

รูปที่ 7.5

เป็นการเคลื่อนแบบไร้ทิศทาง ไม่มีเป้าหมาย การขึ้นลงไม่แสดงให้เห็นถึง


การเป็นแนวโน้ม (Trend) อย่างชัดเจน มีการแกว่งตัวออกทางด้านข้าง ซึ่งจะวิ่ง
ขึ้นลงในกรอบ ให้คุณใช้หลักการตีเส้น Trend Line เป็นแนวระนาบกับพื้นตาม

57
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

การวิ่งของราคา ในสภาวะแนวโน้มแกว่งตัว (Sideway) ผมไม่แนะนาให้การเข้า


ทาการซื้อขายในตลาด เพราะตลาดยังไม่มีทิศทางที่แน่นอนของราคา

ตัวอย่างเส้น Trend Line แกว่งตัว

ตัวอย่างที่ 7.3

ผมเคยเห็นเทรดเดอร์บางคนใช้แค่เส้น Trend Line ก็สามารถทากาไรใน


ตลาดได้ เขาให้เหตุผลง่ายๆว่า เขาไม่ชอบอะไรที่ซับซ้อนยุ่งยาก จึงใช้เครื่องมือที่
ง่ายสาหรับการเทรด แค่ปล่อยให้กาไรวิ่งไปตามแนวโน้ม (Uptrend) เมื่อหลุด
แนวโน้ม (Uptrend) ก็ทาการปิดออเดอร์ อ่านแล้วอาจจะดูเหมือนง่าย แต่สิ่งที่
คุณมีไม่เหมือนเขาคือ ทักษะ ความรูค้ วามเข้าใจ และวินัยในการเทรดนั่นเอง
การดูแนวโน้ม (Trend) เป็นพื้นฐานที่จาเป็นมากสาหรับการเทรด Forex
ถ้ า คุ ณ สามารถดู อ อกว่ า ราคาคื อ แนวโน้ ม ขาขึ้ น (Uptrend) แนวโน้ ม ขาลง
(Downtrend) และแนวโน้ ม แกว่ ง ตั ว (Sideway) อย่ า งแม่ น ย าแล้ ว หละก้ อ
คุณจะสามารถยืนอยู่ในตลาดได้อย่างเป็นมืออาชีพมากขึ้นแน่นอน

58
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

วัฏจักรของคลื่นและเส้น Trend Line

รูปที่ 7.6
การใช้เส้น Trend Line สามารถนามาปรับใช้กับวัฏจักรของคลื่น เพื่อให้
ทราบถึงแนวโน้ม (Trend) ของตลาดในขณะนั้นๆ รวมถึงสัญญาณการเปลี่ยน
แนวโน้ม (Trend) ทาให้คุณสามารถทากาไรตามแนวโน้ม (Trend) ได้เป็นอย่างดี
โดยไม่ขายหมูก่อน หรือปิดกาไรก่อน แต่ปล่ อยให้กาไรวิ่งไปจนหมดแนวโน้ม
(Trend) การใช้เทคนิคข้อนี้ คุณต้องมองแนวโน้ม (Trend) ของตลาดให้ออกก่อน
ว่าเป็นแนวโน้มจริงหรือไม่ เพราะไม่สามารถใช้กับตลาดที่เป็นแนวโน้มแกว่งตัว
(Sideway)

59
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตัวอย่างการใช้เส้น Trend Line กับ วัฏจักรของคลื่น

ตัวอย่างที่ 7.4
เส้น Trend Line สามารถปรับใช้ได้หลายรูปแบบมาก ตรงนี้ผู้อ่านต้อง
ฝึกฝนและประยุกต์เพื่อให้ได้วิธีที่เหมาะสมกับตัวเอง เทรดเดอร์มืออาชีพส่วนใหญ่
จะใช้ วิ ธี ก ารเทรดแบบตามแนวโน้ ม (Trend) อาจจะใช้เ ส้ นค่ า เฉลี่ ย (Moving
Average) เข้ามาช่วย เพื่อให้สามารถทากาไรในตลาดจากแนวโน้ม (Trend) ให้มี
ประสิทธิภาพมากขึ้น

60
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก้าวที่ 8
กาแพงสุดแกร่งที่ขึ้นชื่อว่า แนวรับ แนวต้าน

61
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

แนวรับ (Support)
เมื่ อ ราคาวิ่ ง ไปถึ ง จุ ด หนึ่ ง แล้ ว เกิ ด แรงซื้ อ ขึ้ น มา ท าให้ ร าคาวิ่ ง ขึ้ น ไป
หรือในอดีตเคยมีความต้องการซื้อ ณ จุดนี้เกิดขึ้น จะเรียกจุดนี้ว่าเป็น แนวรับ
(Support)
แนวรับ (Support) มีไว้เข้าซื้อ (Buy) เป็นจุดตัดขาดทุน (Stop loss)
และเป็นจุดขาย (Sell) เมื่อเกิดการ Break Out

รูปที่ 8.1

62
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

แนวต้าน (Resistance)
เมื่ อ ราคาวิ่ ง ไปถึ ง จุ ด หนึ่ ง แล้ ว เกิ ด แรงขายขึ้ น มา ท าให้ ร าคาวิ่ ง ลงไป
หรื อ ในอดี ต เคยมี ค วามต้ อ งการขาย ณ จุ ด นี้ เ กิ ด ขึ้ น จะเรี ย กจุ ด นี้ ว่ า เป็ น
แนวต้าน (Resistance)
แนวต้าน (Resistance) มีไว้ขาย (Sell) เป็นจุดตัดขาดทุน (Stop loss)
และรอขาย (Sell) เมื่อเกิดการ Break Out

รูปที่ 8.2

63
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

แนวต้าน (Resistance) กลายเป็นแนวรับ (Support) เมื่อเกิดแรงซื้อ


ที่ ส ามารถทะลุ แ นวต้ า น (Resistance) ขึ้ น ไปได้ ท าให้ ร าคามี ก ารวิ่ ง ขึ้ น ไปต่ อ
แต่เมื่อเวลาผ่านไป การเคลื่อนไหวของราคาเริ่มอ่อนแรงลง ทาให้ราคาปรับลงมา
ทดสอบระดั บ ราคาที่ เ คยเป็ น แนวต้ า น (Resistance) เดิ ม จะท าให้ แ นวต้ า น
(Resistance) นี้กลายเป็นแนวรับ (Support) ทันที เนื่องจากราคาบริเวณนี้เป็น
ราคาที่นักลงทุนให้ความสนใจในอดีตนั่นเอง

รูปที่ 8.3

แนวรั บ (Support) กลายเป็ น แนวต้ า น (Resistance) เมื่อ เกิ ด แรง


ขายที่ ส ามารถทะลุ แ นวรั บ (Support) ลงไปได้ ท าให้ ร าคามี ก ารวิ่ ง ลงไปต่ อ
แต่เมื่อเวลาผ่านไป การเคลื่อนไหวของราคาเริ่มอ่อนแรงลง ทาให้ราคาปรับลงมา
ทดสอบระดับราคาที่เคยเป็นแนวรับ (Support) เดิม จะทาให้แนวรับ (Support)
นี้กลายเป็นแนวต้าน เนื่องจากราคาบริเวณนี้เป็นราคาที่นักลงทุนให้ความสนใจใน
อดีตนั่นเอง

64
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปที่ 8.4
การปรับใช้เส้น Trend Line กับ แนวรับ-แนวต้าน
ตัวอย่างการใช้เส้น Trend Line กับ แนวรับ-แนวต้าน แนวโน้มขาขึน้

ตัวอย่างที่ 8.1
การใช้แนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance) สามารถปรับใช้
กับเทคนิคต่างๆ ได้อีกมาก แต่ในที่นี้ผมจะยกตัวอย่างการใช้แนวรับ (Support)

65
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

และแนวต้ า น (Resistance) กั บ เส้ น Trend Line เพื่ อ ให้ ก ารหาจุ ด ซื้ อ (Buy)
จุดขาย (Sell) และจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างการใช้เส้น Trend Line กับ แนวรับ-แนวต้าน แนวโน้มขาลง

ตัวอย่างที่ 8.2

แนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance) จะมีหลักการที่ไม่ค่อย


ซับซ้อนอะไรมากนัก แต่คุณต้องเข้าใจอารมณ์ของจิตวิทยามวลชน ว่าทาไมต้อง
ซื้อ (Buy) จุดนี้ ทาไมต้องขาย (Sell) จุดนี้ ซึ่งเป็นหลักทางจิตวิทยา คนทั้งโลกเห็น
กราฟเหมือนกับคุณ แล้วแนวรับ (Support) ไหน แนวต้าน (Resistance) ไหน
ที่ ค นให้ ค วามส าคั ญ มากที่ สุ ด ตรงนี้ ผ มจะไปเพิ่ ม เติ ม ในเรื่ อ งของ ฟิ โ บนั ช ชี
(Fibonacci Retracement) เพื่ อ ให้ ผู้ อ่ า นสามารถน าไปปรั บ ใช้ กั บ เทคนิ ค
การเทรดของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น

66
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก้าวที่ 9
รูปแบบกลับตัวที่ต้องรู้

67
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รู ป แบบการกลั บ ตั ว (Reversal) คื อ รู ป แบบที่ เ ป็ น สั ญ ญาณบอกว่ า


แนวโน้ม (Trend) ในขณะนี้ กาลั งจะหมดลงไป เช่น ตอนนี้เป็นแนวโน้มขาขึ้น
(Uptrend) ก็ ห มายความว่ า ราคาก าลั ง เปลี่ ย นเป็ น แนวโน้ ม เป็ น ขาลง
(Downtrend) หรือถ้าตอนนี้เป็นแนวโน้มขาลง (Downtrend) ก็หมายความว่า
ราคากาลังจะเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) นั่นเอง
รูปแบบหัวและไหล่ (Head and Shoulders)

รูปที่ 9.1
รูปแบบการเกิดหัวและไหล่ (Head and Shoulders) เป็นรูปแบบที่ได้รับ
ความนิยมสูงสาหรับเทรดเดอร์หลายๆคน เพราะมีแม่นยาและน่าเชื่อถือมาก ใน
การเปลี่ยนแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) เป็นแนวโน้มขาลง (Downtrend) รูปแบบ
การกลับตัว (Reversal) นี้ จะมีลักษณะคล้ายกับภูเขา 3 ลูก เรียงต่อกัน แต่ลูก
กลางจะสูงที่สุดซึ่งจะอธิบายได้ว่า เมื่อเกิดจุดสูงสุดครั้งที่ 2 ขึ้นมาแล้ว แต่จุด
สูงครั้งที่ 3 ไม่สามารถทาจุดสูงสุดใหม่ได้ เป็นสัญญาณบอกได้ชัดเจนว่า แนวโน้ม

68
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ขาขึ้น (Uptrend) กาลังอ่อนแรงลง และกาลังจะเปลี่ยนเป็นแนวโน้ม ขาลง


(Downtrend) ในอนาคต
ตัวอย่างรูปแบบหัวและไหล่

ตัวอย่างที่ 9.1
เมื่อราคา Break Out เส้น Neck Line ไปแล้ว ให้เราทาการขาย (Sell)
ได้ทันที แต่จะมีข้อเสียคือ ค่า Risk & Reward จะมีค่าที่สูงมาก ซึ่งตามกฏของผม
ที่ ก ล่ า วไว้ บ ทที่ 3 ผมต้ อ งการให้ ทุ ก การเทรดเราได้ เ ปรี ย บตลาดอยู่ เ สมอ
เราสามารถแก้ไขได้ด้วยการหาจุด Stop Loss ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งผม
จะใช้หลักของ ฟิโบนัชชี (Fibonacci Retracement) เข้ามาช่วยในการหาราคา
เป้าหมายและจุด Stop loss

69
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปที่ 9.2
จากรูปที่ 9.2 การเกิดหัวและไหล่ (Head and Shoulders) ในแนวโน้ม
ขาลง (Downtrend) ก็ จ ะใช้ ห ลั ก การคล้ า ยๆกั บ แนวโน้ ม ขาขึ้ น (Uptrend)
แต่ต่างกันที่แนวโน้ม (Trend) เท่านั้น
รูปแบบสามยอด (Triple Top and Triple Bottom)

รูปที่ 9.3

70
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รู ป แบบการเกิ ด สามยอดบน (Triple Top) เป็ น จะมี ลั ก ษณะคล้ า ยๆ


รู ป แบบหั ว และไหล่ (Head and Shoulders) ในการเปลี่ ย นแนวโน้ ม ขาขึ้ น
(Uptrend) เป็นแนวโน้มขาลง (Downtrend) แต่ต่างตรงทีย่ อดทั้ง 3 มีระดับราคา
ใกล้เคียงกันหรือชนแนวต้าน (Resistance) แล้วเด้งกลับมาชนแนวรับ (Support)
แล้วก็เด้งกลับ ซึ่งอธิบายได้ว่านักลงทุนส่วนใหญ่มีความต้องการซื้อ อยู่มาก เมื่อ
ราคาลงมาชนแนวรับ (Support) จึงเกิดการซื้อขึ้นไป เพราะคิดว่ายังเป็นแนวโน้ม
ขาขึ้น (Uptrend) แต่เมื่อราคาขึ้นไปชนแนวต้านเดิม (Resistance) ก็เกิดแรงเท
ขายลงมาอีก เมื่อการชนครั้งที่ 3 เกิดขึ้น นักลงทุนเริ่มเกิดความกังวลที่จะซื้อแล้ว
เพราะ 2 ครั้งที่ผ่านมาก็ยังไม่ผ่าน เลยเกิดการเทขายออกมาเป็นจานวนมาก ทา
ให้ราคาวิ่งลงไปเรื่อยๆ จนทะลุแนวรับ (Support) เดิมลงไป
ตัวอย่างรูปแบบสามยอดบน

ตัวอย่างที่ 9.2

71
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เมื่อราคา Break Out เส้น Neck Line ไปแล้ว ก็ให้เราทาการขาย (Sell)


หลั ก การเข้ า ออกออเดอร์ ก็ จ ะเหมื อ นกั บ รู ป แบบ หั ว และไหล่ ( Head and
Shoulders) แต่ต่างกันแค่รูปแบบการกลับตัว (Reversal) แค่นั้นเอง

รูปที่ 9.4
จากรูปที่ 9.4 รูปแบบการเกิดสามยอดล่าง (Triple Bottom) ก็จะคล้าย
กับรูปแบบการเกิดสามยอดบน (Triple Top) แต่ต่างกันตรงที่เปลี่ยนจากแนวโน้ม
ขาลง (Downtrend) เป็นแนวโน้มขาขึ้น(Uptrend) เท่านั้น

72
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปแบบสองยอด (Double Tops and Double Bottoms)

รูปที่ 9.5
รูปแบบสองยอดบน (Double Tops) จะพบเห็นบ่อยมากในตลาด Forex
ในการเปลี่ยนแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) เป็นแนวโน้มขาลง (Downtrend) จะมี
ระดับราคาสูงสุด 2 จุด ที่มีระดับราคาใกล้เคียงกัน ออกมาลักษณะคล้ายรูปตัว M
ซึ่ งอธิบ ายได้ ว่า เมื่อ ราคาไปถึง จุดๆหนึ่ ง ซึ่ ง เป็นแนวต้าน (Resistance) สาคั ญ
จึงเกิด การเทขายลงมา เมื่ อเกิด แรงซื้ อ ขึ้นไปอี กครั้ง แต่ ราคาไม่ส ามารถผ่า น
แนวต้ า น (Resistance) เดิ ม ขึ้ น ไปได้ จึ ง มี แ รงเทขายออกมาเป็ น อย่ า งมาก
จนราคาทะลุเ ส้น Trend Line และทะลุ แ นวรับ (Support) เดิม ลงไป ซึ่ งเป็ น
สัญญาณการเปลี่ยนแนวโน้ม (Trend) ที่ชัดเจนมาก

73
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตัวอย่างรูปแบบสองยอดบน

ตัวอย่างที่ 9.3

หลักการเข้าออกออเดอร์ก็จะเหมือนกับรูปแบบหัวและไหล่ (Head and


Shoulders) และรูปแบบสามยอด (Triple Top and Triple Bottom) เมื่อราคา
Break Out เส้น Neck Line ไปแล้ว ก็ให้เราทาการขาย (Sell) ได้ทันที

รูปที่ 9.6
74
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

จากรู ปที่ 9.6 รูป แบบการเกิด สองยอดล่ าง (Double Bottoms) ก็ จ ะ


คล้ายกับรูปแบบการเกิดสองยอดบน (Double Tops) แต่ต่างกันตรงที่เปลี่ยนจาก
แนวโน้มขาลง (Downtrend) เป็นแนวโน้มขาขึ้น(Uptrend)
รูปแบบถ้วย (Saucer)
รู ป แบบนี้ จ ะมี ลั ก ษณะคล้ า ย จานซุ ป ถ้ า เปรี ย บเที ย บก็ เ หมื อ นจาน
ธรรมดาที่มีก้นลึกลงไปหน่อย แต่ไม่ลึกมาก โดยรูปแบบนี้จะเกิดการเคลื่อนไหว
แบบเป็น แนวโน้ม (Trend) น้อยลง และเริ่มเข้าสู่ แนวโน้มแกว่งตัว (Sideway)
Volume ในการซื้ อ ขายเริ่ ม น้ อ ยลงอย่ า งเห็ น ได้ ชั ด ซึ่ ง เป็ น สั ญ ญาณว่ า
ราคาอาจจะไม่วิ่งไปต่อแล้ว และจะมีรูปแบบการโค้งกลับ พร้อมกับวอลุ่มการซื้อ
ขายออกมาเป็นจานวนมาก
รูปแบบ Saucer คว่า

รูปที่ 9.7

75
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปแบบการเปลี่ ยนจากแนวโน้ม ขาขึ้น (Uptrend) เป็นแนวโน้มขาลง


(Downtrend) โดยราคาจะเริ่มเกิดการเคลื่อนไหวเป็น แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)
น้อ ยลง เริ่ ม เข้ า สู่ ลัก ษณะแนวโน้ม แกว่ งตั ว (Sideway) แล้ ว กลั บตั ว ลงมาเป็ น
แนวโน้มขาลง (Downtrend) พร้อมแรงเทขายลงมาเป็นจานวนมาก ดังนั้น ให้เรา
หาจังหวะขาย (Sell) เมื่อราคาเกิดการ Break Out แนวรับ (Support) สาคัญ
รูปแบบ Saucer หงาย

รูปที่ 9.8
รูปแบบการเปลี่ยนจากแนวโน้มขาลง (Downtrend) เป็นแนวโน้มขาขึ้น
(Uptrend) โดยราคาจะเริ่มเกิดการเคลื่อนไหวเป็นแนวโน้มขาลง (Downtrend)
น้อยลง เริ่มเข้าสู่ลักษณะแนวโน้ ม แกว่งตัว (Sideway) แล้วกลับตัวขึ้น มาเป็ น
แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) พร้อมซื้อขึ้นไปเป็นจานวนมาก ดังนั้น ให้เราหาจังหวะ
ซื้อ (Buy) เมื่อราคาเกิดการ Break Out แนวต้าน (Resistance) สาคัญ

76
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตัวอย่างรูปแบบถ้วย

ตัวอย่างที่ 9.4

รูปแบบเพชร (Diamond Pattern)

รูปที่ 9.9
รูปแบบเพชร (Diamond Pattern) เปลี่ยนจากแนวโน้มขาขึ้น(Uptrend)
เป็นแนวโน้มขาลง (Downtrend) เป็นรูปแบบการกลับตัว (Reversal) ที่ไม่เห็น
บ่อยนักในตลาด แต่ใช้เป็นสัญญาณการยืนยันการกลับตัวได้เ ป็นอย่างดี โดยราคา

77
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

จะแกว่ ง ตั ว ออกขยายกว้ า งขึ้ น เรื่ อ ยๆจนท าจุ ด สู ง สุ ด แล้ ว แกว่ ง วงแคบลง


และเมื่อราคาเกิดการ Break Out ให้เรารอจังหวะซื้อ (Buy) ตรงจุดนั้นได้เลย

รูปที่ 9.10
จากรู ป ที่ 9.10 รู ป แบบเพชร (Diamond Pattern) ในแนวโน้ ม ขาลง
(Downtrend) ก็ จะใช้ หลั กการเดี ยวกัน แต่เ ป็น การเปลี่ ยนจากแนวโน้ มขาลง
(Downtrend) เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)

ตัวอย่างรูปแบบเพชร

ตัวอย่างที่ 9.5
78
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

สาหรับเทรดเดอร์มือใหม่ การที่คุณจะเข้าใจแรงซื้อแรงขายของตลาดแต่
ละช่วงเวลาเป็นเรื่องที่ยากมาก ผมจึงแนะนาให้จารูปแบบของกราฟต่างๆให้ได้
แล้วนามาปรับใช้ หลังจากนั้นเมื่อคุณได้มีประสบการณ์ในการเทรดที่มากขึ้ นให้
คุณทาความเข้าใจกับแรงซื้อแรงขายในตลาด แต่ละรูปแบบให้มากขึ้น ว่าทาไมจึง
เกิ ด เป็ น รู ป แบบกราฟอย่ า งนี้ และฝึ ก วิ เ คราะห์ อ ารมณ์ ข องตลาดเพื่ อ เข้ า ใจ
นักลงทุนส่วนใหญ่เขาคิดยังไง

79
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก้าวที่ 10
รูปแบบต่อเนื่องบอกอนาคต

80
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปแบบที่เปรียบเสมือนการพักตัวของแนวโน้ม (Trend) หลังจากวิ่งมาได้


ช่วงเวลาหนึ่งแล้ว ก่อนที่จะวิ่งต่อไปตามแนวโน้ม (Trend) เดิม ซึ่งเป็นการหยุดดู
ท่าทีของนักลงทุนในตลาดว่าจะตัดสินใจให้ราคาวิ่งต่อไปตามแนวโน้ม (Trend)
เดิมหรือไม่ โดยจะมีรูปแบบที่เกิดขึ้นซ้าๆ ช่วยให้เราสามารถนาไปช่วยตัดสินใจใน
การซื้ อ ขายให้ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพและแม่ น ย ามากขึ้ น เรี ย กว่ า รู ป แบบต่ อ เนื่ อ ง
(Continuous Patterns) ซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบ ดังนี้
รูปแบบ Triangles
รูปแบบ Triangles จะเกิดจากเส้น Trend Line สองเส้นที่ลากมาตัดกัน
โดยบี บ กราฟราคาให้ แ คบลง ท าให้ เ กิ ด เป็ น รู ป สามเหลี่ ย ม ก่ อ นที่ ร าคาจะ
Break Out เส้ น Trend Line แล้ ว เคลื่ อ นที่ ไ ปต่ อ ในทิ ศ ทางเดิ ม โดยจะแบ่ ง
ออกเป็น 3 รูปแบบ คือ Symmetrical Ascending และDescending
1. Symmetrical Triangles

รูปที่ 10.1

81
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

จะมีลักษณะคล้ายกับรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า เกิดการบีบตัวของกราฟ
ราคาให้ แ คบลงในกรอบสามเหลี่ ย ม โดยเส้ น Trend Line ข้ า งบนกั บ เส้ น
Trend Line ด้านล่าง ทามุมองศาที่เท่ากัน อธิบายง่ายๆคือ ราคาวิ่งขึ้นไปชนเส้น
Trend Line ด้านบนแล้วเด้งกลับลงมา พอมาชนเส้น Trend Line ด้านล่างก็เด้ง
กลั บ ขึ้ น ไป จนบี บ ตั ว มาถึ ง มุ ม ของสามเหลี่ ย มแล้ ว Break Out ขึ้ น ไปต่ อ
ตามแนวโน้ม (Trend) เดิม
ปกติแล้วการเกิด Symmetrical Triangles อาจจะเป็นรูปแบบต่อเนื่อง
(Continuous Patterns) หรืออาจจะเกิดเป็นรูปแบบการกลับตัว (Reversal) ได้
เช่นกัน เพราะการทาองศาของเส้น Trend Line ที่เท่ากัน สามารถอธิบายได้ว่า
แรงซื้อและแรงขายพอๆกัน ให้รอการ Break Out จึงเข้าทาการซื้อขายได้ โดย
ระยะทางหลังจาก Break Out แล้ว จะเท่ากับหรือใกล้เคียงกับความสูงของคลื่น
ลูกแรกในกรอบสามเหลี่ยม ให้คุณรอการ Take Profit ตรงจุดนั้น
ตัวอย่างรูปแบบ Symmetrical Triangles

ตัวอย่างที่ 10.1
82
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

2. Ascending Triangles

รูปที่ 10.2
รู ป แบบ Ascending Triangles จะคล้ า ยๆกั บ การเกิ ด สามยอดบน
(Triple Top) คื อ ชนแนวต้ า น (Resistance) แล้ ว เด้ ง กลั บ แต่ จ ะต่ า งกั น ตรงที่
Lowใหม่ สูงกว่า Lowเดิม (ในขณะที่สามยอดบน (Triple Top) จะมี Lowใหม่
และLowเดิม ในระดับราคาที่ใกล้เคียงกัน ) โดยเส้น Trend Line ด้านบนจะมี
แนวระนาบกับพื้น ซึ่งเป็นแนวต้าน (Resistance) สาคัญ ส่วนเส้น Trend Line
ด้านล่าง จะมีการทามุมองศาเฉียงขึ้น เป็นสัญญาณบอกว่า ราคายังจะคงอยู่ใน
สภาวะแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ต่อไป
เมื่ อ เกิ ด กราฟรู ป แบบ Ascending Triangles ให้ ใ ช้ เ ป็ น สั ญ ญาณว่ า
ราคายั ง จะคงวิ่ ง ขึ้ น ไปต่ อ คุ ณ จึ ง สามารถรอการเข้ า ซื้ อ (Buy) เมื่ อ ราคาเกิ ด
การ Break Out โดยระยะทางหลั ง จาก Break Out ขึ้ น ไปแล้ ว ความยาวจะ
เท่ากับหรือใกล้เคียงกับความสูงของคลื่นลูกแรกในกรอบสามเหลี่ยม ให้ คุณรอ
การ Take Profit ตรงจุดนั้น หรือถ้าใครที่ถือออเดอร์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว อาจจะใช้

83
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เป็นสัญญาณซื้อ (Buy) เพิ่ม เมื่อราคาตกลงมาชนแนวรับ (Support) (แต่การเข้า


ออเดอร์เพิ่ม ขนาด Lot Size ที่ใช้ ต้องเหลือเพียงครึ่ง หนึ่งของขนาด Lot Size
ที่เข้าก่อนหน้านี้ เช่น ครั้งแรกคุณเข้าออเดอร์ Lot 1 การเข้าออเดอร์เพิ่มต้องห้าม
เกิน Lot 0.5 เท่านั้น)
ตัวอย่างรูปแบบ Ascending Triangles

ตัวอย่างที่ 10.2
3. Descending Triangles

รูปที่ 10.3
84
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปแบบ Descending Triangles ก็จะมีลักษณะคล้ายๆกับสามยอดล่าง


(Triple Bottoms) คือชนแนวรับ (Support) แล้ วเด้งกลับ ขึ้น ไป แต่จะต่างกั น
ตรงที่ Highใหม่ ต่ ากว่ า Highเก่ า (ในขณะที่ ส ามยอดล่ า ง (Triple Bottoms)
จะมี Highใหม่ และHighเก่า ในระดับราคาที่ใกล้เคียงกัน ) โดยเส้น Trend Line
ด้านล่างจะมีแนวระนาบกับพื้น ซึ่งเป็นแนวรับ (Support) สาคัญ ส่วนเส้น Trend
Line ด้านบน จะมีการทามุมองศาเฉียงลง เป็นสัญญาณบอกว่า ราคายังคงอยู่ใน
สภาวะแนวโน้มขาลง (Downtrend) ต่อไป
เมื่ อ เกิ ด กราฟรู ป แบบ Descending Triangles ใช้ เ ป็ น สั ญ ญาณว่ า
ราคายั ง จะคงวิ่ ง ลงไปต่ อ เราจึ ง สามารถรอจั ง หวะขาย (Sell) เมื่ อ ราคาเกิ ด
การ Break Out โดยระยะทางหลั งจาก Break Out ลงไปแล้ ว จะเท่ากั บหรื อ
ใกล้ เ คี ย งกั บ ความสู ง ของคลื่ น ลู ก แรกในกรอบสามเหลี่ ย ม ให้ คุ ณ รอการ
Take Profit ตรงจุดนั้น หรือถ้าใครที่ถือออเดอร์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว อาจจะใช้เป็น
สัญญาณขาย (Sell) เพิ่มเมื่อราคาขึ้นไปชนแนวต้าน (Resistance) ก็ยังได้
ตัวอย่างรูปแบบ Descending Triangles

ตัวอย่างที่ 10.3
85
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปแบบ Flags
มีลักษณะคล้ายกับใบธงสี่เหลี่ยมที่กางออกเต็มที่แล้ว จะเป็นการพักตัว
ปรับตัวลงในกรอบสี่เหลี่ยม ก่อนที่จะเกิดการ Break Out แล้ววิ่งไปตามแนวโน้ม
(Trend) เดิม ซึ่งเรียกการพักตัวรูปแบบนี้ว่า Flags ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
Bullish Flags และBearish Flags
1. Bullish Flags

รูปที่ 10.4
จะเกิดขึ้นในขณะที่ตลาดวิ่งในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) แล้วเกิดการพัก
ตัวในรูปแบบ Bullish Flags โดยจะปรับตัวลงในกรอบสี่เหลี่ยม ก่อนที่ราคาจะ
Break Out ขึ้นไป ถ้าเปรียบรูปแบบ Bullish Flags เป็นใบธง ระยะทางหลังจาก
Break Out จะเท่ า กั บ หรื อ ใกล้ เ คี ย งกั บ เสาธง ซึ่ ง ให้ คุ ณ รอการ Take Profit
ตรงจุดนั้น

86
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตัวอย่างรูปแบบ Bullish Flags

ตัวอย่างที่ 10.4

2. Bearish Flags

รูปที่ 10.5
จะเกิดขึ้นในขณะที่ตลาดวิ่งในแนวโน้มขาลง (Downtrend) แล้วเกิดการ
พักตัวในรูปแบบ Bearish Flags โดยจะปรับตัวขึ้นในกรอบสี่เหลี่ยม ก่อนที่ราคา
จะ Break Out ลงไป ถ้ า เปรี ย บรู ป แบบ Bearish Flags เป็ น ใบธง ระยะทาง
หลังจาก Break Out จะเท่ากับหรือใกล้เคียงกับเสาธง ซึ่งให้คุณรอ การ
Take Profit ตรงจุดนั้น

87
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตัวอย่างรูปแบบ Bearish Flags

ตัวอย่างที่ 10.5
รูปแบบ Pennants
จะมี รู ป แบบคล้ า ยกั บ Flags แต่ จ ะต่ า งกั น ตรงที่ รู ป แบบ Pennants
จะมี ใ บธงเป็ น รู ป สามเหลี่ ย ม ซึ่ ง ราคาจะวิ่ ง เป็ น แนวโน้ ม แกว่ ง ตั ว (Sideway)
ในกรอบสามเหลี่ยม ก่อนที่จะเกิดการ Break Out ไปตามแนวโน้ม (Trend) เดิม
ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ Bullish Pennants และBearish Pennants
1. Bullish Pennants

รูปที่ 10.6
88
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

จะเกิดขึ้นในขณะที่ตลาดวิ่งในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) แล้วเกิดการพัก


ตั ว ในรู ป แบบ Bullish Pennants โดยจะปรั บ ตั ว ลงในกรอบสามเหลี่ ย ม
ก่ อ นที่ ร าคาจะ Break Out ขึ้ น ไป ถ้ า เปรี ย บรู ป แบบ Bullish Pennants
เป็นใบธง ระยะทางหลังจาก Break Out จะเท่ากับหรือใกล้เคียงกับเสาธง ให้คุณ
รอการ Take Profit ตรงจุดนั้น
ตัวอย่างรูปแบบ Bullish Pennants

ตัวอย่างที่ 10.6
2. Bearish Pennants

รูปที่ 10.7
จะเกิดขึ้นในขณะที่ตลาดวิ่งในแนวโน้มขาลง (Downtrend) แล้วเกิดการ
พั ก ตั ว ในรู ป แบบ Bearish Pennants โดยจะปรั บ ตั ว ขึ้ น ในกรอบสามเหลี่ ย ม
89
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก่ อ นที่ ร าคาจะ Break Out ลงไป ถ้ า เปรี ย บรู ป แบบ Bearish Pennants
เป็นใบธง ระยะทางหลังจาก Break Out จะเท่ากับหรือใกล้เคียงกับเสาธง ให้คุณ
รอการ Take Profit ตรงจุดนั้น
ตัวอย่างรูปแบบ Bearish Pennants

ตัวอย่างที่ 10.7
รูปแบบ Wedge
รูปแบบ Wedge อาจจะมีส่วนคล้ายคลึงกับรูปแบบ Pennants แต่สิ่งที่
ไม่ เ หมื อ นกั น คื อ ระยะการพั ก ตั ว ของรู ป แบบ Wedge จะยาวกว่ า รู ป แบบ
Pennants และในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) เมื่อเกิดการพักตัวรูปแบบ Wedge
จะสั ง เกตว่ า Lowใหม่ ต่ ากว่ า Lowเดิ ม เรื่ อ ยๆ ส่ ว นในแนวโน้ ม ขาลง
(Downtrend) ในขณะพั ก ตั ว ก็ จ ะเกิ ด Highใหม่ สู ง กว่ า Highเดิ ม ซึ่ ง แบ่ ง ได้
2 ประเภท คือ Falling wedge และRising wedge

90
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

1. Falling wedge

รูปที่ 10.8
จะเกิดในสภาวะตลาดที่มีแนวโน้ม ขาขึ้น (Uptrend) แล้วเกิดการพักตัว
ในรู ป แบบ Falling wedge ในกรอบสามเหลี่ ย มแคบๆ ก่ อ นที่ จ ะเกิ ด
การ Break Out ขึ้นไปตามแนวโน้ม (Trend) เดิม
ตัวอย่างรูปแบบ Falling wedge

ตัวอย่างที่ 10.8

91
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

2. Rising wedge

รูปที่ 10.9
จะเกิดในสภาวะตลาดที่มีแนวโน้ม ขาลง (Downtrend) แล้วเกิดการพัก
ตั ว ในรู ป แบบ Rising wedge ในกรอบสามเหลี่ ย มแคบๆ ก่ อ นที่ จ ะเกิ ด
การ Break Out ลงไปตามแนวโน้ม (Trend) เดิม
ตัวอย่างรูปแบบ Rising wedge

ตัวอย่างที่ 10.9

92
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปแบบ Rectangles
มาถึงรูปแบบสุดท้ายในเรื่อง รูปแบบต่อเนื่อง (Continuous Patterns)
ที่ผมอยากให้ผู้อ่านทุกคนได้ศึกษาไว้ คือ รูปแบบ Rectangles ซึ่งมีลักษณะการวิ่ง
ขึ้นลงชนแนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance) ในระนาบที่ใกล้เคียงกัน
เอาง่ ายๆ ให้ ผู้อ่ านนึก ถึง สามยอดบน (Triple Top) และสามยอดล่ าง (Triple
Bottom) เอาไว้ ยกตั ว อย่ า งเช่ น ในแนวโน้ ม ขาขึ้ น (Uptrend) การเกิ ด สาม
ยอดบน (Triple Top) จะมี ก าร Break Out แนวรั บ (Support) ลงมา ซึ่ ง เป็ น
รู ป แบบการกลั บ ตั ว (Reversal) แต่ รู ป แบบ Rectangles เมื่ อ ราคาลงไปชน
แนวรั บ (Support) กลั บ ดี ด ตั ว ขึ้ น ไปต่ อ จนเกิ ด การ Break Out แนวต้ า น
(Resistance) ขึ้นไป กลับกลายเป็นรูปแบบต่อเนื่อง (Continuous Patterns)
หลักการง่ายๆในการสังเกตว่า รูปแบบ Rectangles แตกต่างจากรูปแบบ
สามยอดบน (Triple Top) และสามยอดล่ า ง (Triple Bottom) คื อ รู ป แบบ
Rectangles จะมีการเคลื่อนไหวค่อนข้างเป็นแนวโน้มแกว่งตัว (Sideway) และมี
ช่วงสวิงไม่กว้างเท่าไหร่ ส่วนสามยอดบน (Triple Top) และสามยอดล่าง (Triple
Bottom) จะมี ก ารสวิ ง ที่ ค่ อ นข้ างกว้ าง ซึ่ ง เกิ ด จากการเคลื่ อ นไหวของราคาที่
ค่อนข้างรุนแรง

93
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ซึ่งแบ่งได้ 2 ประเภท คือ Bullish Rectangles และBearish Rectangles


1. Bullish Rectangles

รูปที่ 10.10
จะเกิดขึ้นในสภาวะแนวโน้ม ขาขึ้น (Uptrend) โดยราคาจะวิ่งในกรอบ
แนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance) แล้วเกิดการ Break Out ขึ้นไป
ตามแนวโน้ม (Trend) เดิม
ตัวอย่างรูปแบบ Bullish Rectangles

ตัวอย่างที่ 10.10
94
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

2. Bearish Rectangles

รูปที่ 10.11
จะเกิดขึ้นในสภาวะแนวโน้มขาลง (Downtrend) โดยราคาจะวิ่งในกรอบ
แนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance) แล้วเกิดการ Break Out ลงไป
ตามแนวโน้ม (Trend) เดิม
ตัวอย่างรูปแบบ Bearish Rectangles

ตัวอย่างที่ 10.11

95
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ปกติแล้วการที่จะเข้าซื้อขายโดยรอการ Break Out ของรูปแบบต่อเนื่อง


(Continuous Patterns) จะเป็ น การซื้ อ ขายที่ ไ ม่ ไ ด้ เ ปรี ย บตลาดมากนั ก
เพราะบางรูปแบบค่า Risk & Reward จะมีค่าประมาน 1:1 เท่านั้น ซึ่งก็เปรียบ
เหมื อ นกั น การโยนเหรี ย ญหั ว ก้ อ ยดี ๆ นั่ น เอง การจะใช้ สั ญ ญาณของ
รู ป แบบต่ อ เนื่ อ ง (Continuous Patterns) ในการเข้ า ท าการซื้ อ ขายนั้ น ท าได้
แต่คุณต้องเป็นเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มากพอสมควรแล้ว
ปัจจุบันการเกิด สัญญาณหลอก (Fail Break) เกิดขึ้นได้บ่อยมาก ซึ่งเป็น
การทาให้ราคาวิ่งทะลุกรอบออกไปแล้ววกกลับมาในทิศทางเดิม ทาให้เทรดเดอร์
เกิดความไม่มั่นใจในการเทรดของตัวเองขึ้นมา ซึ่งเป็นปัญหาหลักของเทรดเดอร์ที่
รอจังหวะการ Break Out นั่นเอง
ผมมีวิธีแก้ปัญหานี้มาแนะนาเพื่อให้ผู้อ่านนาไปปรับใช้ เป็น วิธีที่ผมใช้
ในเทรดมาตลอด คือ การเข้า ออเดอร์โ ดยวิธี อื่น ก่อ น ที่ทาให้ คุณ ได้ ราคาของ
ออเดอร์ ที่ ดี ก ว่ า นี้ ด้ ว ยเทคนิ ค ต่ า งๆ ในหนั ง สื อ เล่ ม นี้ หรื อ เทคนิ ค เฉพาะของ
แต่ละบุคคล เพื่อที่จะได้มีออเดอร์ที่ได้เปรียบตลาดมาสู้กับแนวโน้ม (Trend) และ
ใช้ความรู้เรื่อง เกิดรูปแบบต่อเนื่อง (Continuous Patterns) มาประยุกต์ใช้กับ
การเทรดของ เพราะถ้าคุณรู้ว่าราคายังคงจะวิ่งขึ้นไปต่อตามแนวโน้มเดิม (Trend)
ก็ให้คุณถือออเดอร์เอาไว้ เพื่อทากาไรต่อไป

96
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก้าวที่ 11
Gap ช่องว่างบอกสัญญาณ

97
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

Gap คือ ช่องว่างหรือช่วงราคาที่ไม่ต่อเนื่องกัน ซึ่งเกิดจากความไม่สมดุล


ของแรงซื้อและแรงขายที่ไม่สามารถกาหนดได้ เราจะเห็น Gap ได้บ่อยมากใน
วันที่ตลาดเปิดทาการ เนื่องจากนักลงทุนต้องการที่จะทาการซื้อขายทันทีเมื่อ
ตลาดเปิด หรือจะพบ Gap ที่ก้าวกระโดดแรงมากในช่วงที่มีข่าวแรงๆ Gap จะใช้
เป็ น แนวรั บ (Suport) และแนวต้ า น (Resistance) ส าคั ญ ได้ เ ป็ น อย่ า งดี และ
สามารถท าให้ เ ราวิ เ คราะห์ ก ารเคลื่ อ นไหวของราคา โดยสั ง เกตจาก Gap ได้
ปกติ แ ล้ ว Gap กระโดดขึ้ น จะแสดงถึ ง แนวโน้ ม ขาขึ้ น (Uptrend) ส่ ว น Gap
กระโด ดล งจ ะ แ ส ดงถึ งแ น วโ น้ ม ข าล ง (Downtrend) ซึ่ ง Gap แ บ่ ง ได้
4 ประเภท ดังนี้
1. Common Gap

รูปที่ 11.1
จะเกิ ด ขึ้ น ในช่ ว งที่ ก ารเคลื่ อ นไหวของตลาดในขณะนั้ น เป็ น แนวโน้ ม
แกว่งตัว (Sideway) ซึ่งเกิดจากแรงซื้อและแรงขายที่เข้ามาผลักดันทาให้ราคาเกิด
Gap ขึ้นมา แต่ไม่เป็นที่สนใจของนักลงทุนมากนัก เพราะไม่สามารถทราบถึง
ทิศทางที่แน่นอนได้
98
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

2. Breakaway Gap

รูปที่ 11.2
Gap ประเภทนี้ มั ก จะเกิ ด หลั ง จากการพั ก ตั ว ของราคาหรื อ การ
เคลื่อนไหวของตลาดแนวโน้มแกว่งตัว (Sideway) มาสักช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนจะเกิด
เกิ ด Gap กระโดดข้ า มทะลุ แ นวรั บ (Support) และแนวต้ า น (Resistance)
หรือทะลุกรอบราคาของรูปแบบต่อเนื่อง (Continuous Patterns) ไปได้ ใช้เป็น
สัญญาณได้ชัดเจนว่า ราคาจะวิ่งขึ้นไปต่อตามแนวโน้ม (Trend) ที่ Break Out
ได้อย่างแข็งแกร่ง และสามารถใช้จุดนั้นเป็น แนวรับ (Support) และแนวต้าน
(Resistance) ได้อีกด้วย
เราต้องดูรูปแบบของกราฟแท่งเทียน (Candlestick) ที่ Break Out ไปมี
ลั ก ษณะอย่ า งไร เป็ น กราฟแท่ ง เที ย น (Candlestick) กลั บ ตั ว หรื อ ไม่
ถ้าเป็นก็ให้ระวังการเกิดสัญญาณหลอก (Fail Break) พร้อมดู volume ประกอบ
ไปด้วยว่ามีการซื้อขายเข้ามาในปริมาณที่มากหรือป่าว ถ้า volume มีปริมาณ
ที่น้อย อาจเกิดสัญญาณหลอก (Fail Break)

99
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

3. Runaway Gap

รูปที่ 11.4
หลั ง จากที่ เ กิ ด Breakaway Gap ไปแล้ ว Gap ที่ จ ะเกิ ด ต่ อ ไปก็ คื อ
Runaway Gap ซึ่งจะเกิดระหว่างกึ่งกลางการเคลื่อนไหวของราคา เป็นการยืนยัน
ความแข่ ง แกร่ ง ของแนวโน้ ม (Trend) นั้ น ๆ ว่ า ราคาจะยั ง คงวิ่ ง ไปต่ อ
แม้ว่า volume ที่ออกมาจะมีไม่มาก แต่ห้ามน้อยเกินไป
4. Exhaustion Gap

รูปที่ 11.4

100
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

นักลงทุนส่วนใหญ่จะใช้ความระมัดระวังกับ Gap นี้เป็นอย่างมาก เพราะ


เป็นสัญญาณเตือนของการกระโดดขึ้นหรือลงของราคาครั้งสุดท้าย เนื่องจากตลาด
เริ่มอ่อนแรงลง อาจจะมีการกลับตัวในเร็วๆนี้ ทาให้ราคาที่วิ่งขึ้นไปเกิดเป็นกลุ่ม
จนมีลักษณะเหมือน เกาะกลางทะเล หรือ Island Reversal เมื่อเราเจอ Gap
รูปแบบนี้ให้ระวังและเตรียมปิดออเดอร์ได้เลย และเพื่อให้มั่นใจว่านี่คือสัญญาณ
กลับตัวจริงๆ เราสามารถใช้เรื่องของแนวโน้ม (Trend) รูปแบบกราฟ (Pattern)
อิ น ดิ เ คเตอร์ (Indicator) และเอลเลี ย ตเวฟ (Elliott Wave) เข้ า มาช่ ว ยใน
วิเคราะห์การกลับตัวของราคาได้

รูปที่ 11.5

101
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก้าวที่ 12
เส้นแนวโน้มสุดฮิต Moving Average

102
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ในที่ สุ ด ก็ ม าถึ ง เรื่ อ งของการใช้ เ ครื่ อ งมื อ เพื่ อ ช่ ว ยในการเทรดสั ก ที


จริงๆแล้วผมอยากจะเขียนเรื่องนี้ไว้ในบทท้ายๆด้วยซ้า เพราะผมไม่อยากให้ผู้อ่าน
ยึดติดกับ Indicator มากเกินไป จนทาตามสัญญาณการเข้าออกของ Indicator
ทุ ก ครั้ ง ที่ เ ทรด ถึ ง แม้ ว่ า การมี Indicator เข้ า มาช่ ว ยในการเทรดจะท าให้
การเทรดของคุณง่ายขึ้นก็ตาม Indicator เป็นเพียงเครื่องมือทางสถิติ ที่นาข้อมูล
ในอดีตมาวิเคราะห์แล้วหาค่าพยากรณ์ออกมา ซึ่งผลที่ได้ก็คือ ค่าในอดีตที่นามา
คานวณโดยวิธีต่างๆ ไม่ใช้ค่าที่จะบอกอนาคตได้อย่างถูกต้องทุกครั้ง

Indicator วิ่งตามราคา ไม่ใช่ราคาวิ่งตาม Indicator


การมี Indicator เข้ามาช่วยในการเทรดนั้นเป็นเรื่ องที่ดี ถ้าคุณเข้าใจมัน
และใช้มันได้อย่างถูกต้อง ที่ผมจะบอกคือ ปกติคนที่เข้ามาเทรด Forex ส่วนใหญ่
ซึ่ ง ยั ง ไม่ มี ค วามรู้ จะเซาะหา Indicator ที่ จ ะช่ ว ยให้ เ ขาท าก าไรจากตลาดได้
ตลอดเวลา โดยที่ไม่เข้าใจวิธีใช้ที่ถูกต้องด้วยซ้า ซึ่งผลที่ตามมาคือการขาดทุน
แล้วโทษว่า Indicator อันนั้น อันนี้ไม่ดี ใช้ไมได้ และยังหา Indicator ที่จะช่วยทา
ให้เขาเทรดให้ได้กาไรให้ได้ สุดท้ายก็เหมือนเดิม
Indicator ทุ กตัว ถูกสร้างขึ้น มาเพื่อใช้กับการวิเ คราะห์ที่แตกต่างกั น
ไม่ใช่วิเคราะห์ได้ทุกอย่าง เพียงแค่คุณรู้จักวิธีการใช้ที่ถูกต้อง และสามารถปรับใช้
มันกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ ก็จะทาให้คุณสามารถทากาไรในตลาดได้ไม่ยาก ซึ่งใน
เรื่องนี้ ผมจะสอนการใช้ Indicator ที่ถูกต้องให้ผู้อ่านสามารถนาไปปรับใช้ในการ
เทรดของตัวเองได้อย่างเหมาะสม

103
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

คาแนะนา ให้เลือกใช้ Indicator ที่เหมาะสมกับการเทรดของตัวเองเพียง


2-3 ตัวเท่านั้น เทรดเดอร์ที่ประสบความสาเร็จเขาแทบจะไม่ใช้ Indicator เลย
ด้วยซ้า เพราะตามหลักความน่าจะเป็นแล้ว การใช้ Indicator ที่มากเกินไปก็จะ
ทาให้การตัดสินใจของคุณผิดพลาดมากขึ้นทวีคูณมากขึ้นเท่านั้น
เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) คืออะไร
เส้ น Moving Averages หรื อ เรี ย กง่ า ยๆว่ า MA จะมี อ ยู่ ห ลายแบบ
ในโปรแกรม MetaTrader 4 จะมี ใ ห้ ตั้ ง ค่ า ตามความต้ อ งการของผู้ ใ ช้ ง าน
เช่ น Simple Moving Average (SMA) , Weighted Moving Average (WMA)
และExponential Moving Average (EMA) เป็นต้น แต่ที่ผมจะนาเสนอในเรื่องนี้
คือ Exponential Moving Average หรือที่เรียกกันติดปากว่า เส้น EMA
เส้น Moving Averages เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่นิยม
ใช้ กั น เป็ น อย่ า งมาก ซึ่ ง เป็ น Indicator ที่ ใ ช้ ง านง่ า ยและมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพสู ง
โดยที่มาของค่า Moving Averages จะมาจากการนาข้อมูลย้อนหลังของราคา
ตามระยะเวลาที่เรากาหนด มาคานวณหาค่าเฉลี่ย ซึ่งจะมีสูตรทีใช้ในการคานวณ
แต่ผมจะไม่พูดถึง เพราะคุณสามารถกาหนดค่าต่างๆ ผ่านโปรแกรมได้เลย
ตัวอย่างเช่น ถ้าผมต้องการหาค่า Moving Averages ย้อนหลัง 10 วัน
ผมจะใช้ราคาย้อนหลัง 10 วัน มาจนถึงปัจจุบัน คานวณหาค่าเฉลี่ยที่เราสนใจ
(ในเรื่องนี้ผมจะใช้ Exponential Moving Average (EMA)ในการคานวน) เราจะ
เรียกค่าที่ได้นี้ว่า EMA 10

104
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ประโยชน์ของเส้น Moving Averages


การดูกราฟเปล่าอาจจะทาให้เราไม่เห็นภาพอะไรที่ชัดเจน เห็นแต่กราฟ
ขึ้นลงๆไปมาโดยไม่มีนัยสาคัญอะไรเลย การใช้เส้น Moving Averages เข้ามา
ช่วยในการเทรด จึงเป็นเรื่องที่สาคัญ เพราะทาให้เราสามารถมองเห็นแนวโน้มของ
ราคาในขณะนั้ น ว่ า เป็ น ว่ า แนวโน้ ม ขาขึ้ น (Uptrend) หรื อ แนวโน้ ม ขาลง
(Downtrend)
เมื่อราคาตัดผ่านเส้น Moving Averages ขึ้นไปได้ (ราคาจะอยู่เหนือเส้น
Moving Averages) ให้มองว่าแนวโน้ม ของตลาดในขณะนั้นเป็นแนวโน้มขาขึ้น
(Uptrend) หรือ ถ้าราคาตัดผ่านเส้น Moving Averages ลงมาได้ (ราคาจะอยู่ใต้
เส้น Moving Averages) ก็ให้มองว่าแนวโน้มของตลาดในขณะนั้นเป็นแนวโน้ม
ขาลง (Downtrend)
ราคาตัดขึน้ = แนวโน้มขาขึน้
ราคาตัดลง = แนวโน้มขาลง
งั้นเราลองมาดูว่า กราฟที่ยังไม่ได้ใส่เส้น Moving Averages กับกราฟที่
ใส่เส้น Moving Averages ทาให้การมองภาพของเรา เปลี่ยนไปแค่ไหน

105
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตัวอย่างกราฟเปล่า กับ กราฟที่เติมเส้น Moving Averages

ตัวอย่างที่ 12.1
ประโยชน์ของเส้น Moving Averages ยังมีอีกอย่าง คือ สามารถใช้เป็น
แนวรั บ (Support) แนวต้ า น (Resistance) ที่ ดี ไ ด้ อี ก ด้ ว ย ยกตั ว อย่ า งเช่ น
ในแนวโน้ ม ขาขึ้ น (Uptrend) เราจะใช้ เ ส้ น Moving Averages เป็ น แนวรั บ
(Support) เมื่ อราคาเกิ ดวิ่ ง ลงมาชน เส้ น Moving Averages ก็ จะเกิด การเด้ ง
ขึ้ น ไป เปรี ย บเที ย บง่ า ยๆ เส้ น แนวรั บ (Support) คื อ พื้ น เส้ น แนวต้ า น
(Resistance) คือ เพดาน และ ราคา คือ ลูกบอล เมื่อเราโยนลูกบอลลงพื้นก็จะ
เด้งกลับขึ้นมาข้างบนแล้วชนเพดาน แล้วราคาก็จะเด้งกลับลงมาข้างล่างอีกครั้ง
ในกรณี ข องแนวโน้ ม ขาลง (Downtrend) เส้ น Moving Averages จะเป็ น
แนวต้าน (Resistance)

106
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

แนวโน้มขาขึน้ = เส้น Moving Averages คือ แนวรับ


แนวโน้มขาลง = เส้น Moving Averages คือ แนวต้าน

ตัวอย่างที่ 12.2
ข้อควรระวัง เส้น Moving Averages ใช้เป็นเครื่องมือเพื่อช่วยวิเคราะห์
เท่านั้น ไม่สามารถกาหนดทิศทางของตลาดได้ ดังนั้น ราคาอาจจะวิ่งลงมาไม่ถึง
แนวรั บ (Support) หรื อ ขึ้ น ไปไม่ ถึ ง แนวต้ า น (Resistance) แล้ ว วิ่ ง ไปต่ อ เลย
ขึ้นอยู่กับแรงซื้อขายในตลาดขณะนั้นว่ารุนแรงแค่ไหน และบางครั้งอาจจะเกิด
สัญญาณหลอก (Fail Break) ซึ่งราคาจะวิ่งทะลุแนวรับ (Support) ลงไป หรือ
ทะลุ แ นวต้ า น (Resistance) ขึ้ นไปอย่ างรุ น แรง แล้ว วิ่ ง กลั บ มาอยู่ ใ นแนวโน้ ม
(Trend) เดิม

107
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

การใช้ Moving Averages 2 เส้นประกอบกัน (Double Moving


Averages Crossover)
เป็นวิธีที่นักลงทุนนามาปรับใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเข้าซื้อ
ขายให้มีความผิดพลาดน้อยลง หรือเพื่อให้สามารถดูรูปแบบของกราฟง่ายขึ้น
โดยจะใช้เส้น Moving Averages 2 เส้น มาประยุกต์ใช้ด้วยกัน โดยเส้นแรกจะ
เป็ น เส้ น ที่ มี จ านวนวั น มากกว่ า ใช้ เ ป็ น สั ญ ญาณการเปลี่ ย นแนวโน้ ม (Trend)
เส้ นที่สอง จะใช้แทนเส้นของราคาในขณะนั้น เป็นเส้นที่มีจานวนวันน้อยกว่า
เส้นแรก และให้สัญญาณการเปลี่ยนแนวโน้ม (Trend) เร็วกว่าเส้นแรก (เส้น EMA
ที่ มี จ านวนวั น น้ อ ย จะให้ สั ญ ญาณเร็ ว กว่ า เส้ น EMA ที่ มี จ านวนวั น มาก
เช่ น เส้ น EMA 10 ให้ สั ญ ญาณเร็ ว กว่ า เส้ น EMA 25 และเส้ น EMA 25
ให้สัญญาณเร็วกว่าเส้น EMA 50 เป็นต้น)

รูปที่ 12.1
จุดตัดกับราคาหรือ Crossovers คือ การใช้เส้น Moving Averages 2
เส้ น ตั ด กั น เพื่ อ บอกการเปลี่ ย นแนวโน้ ม (Trend) ของราคา เมื่ อ เส้ น EMA
(ระยะสั้น) ตัดเส้น EMA (ระยะยาว) ขึ้นไป นั่นคือ ราคาได้วิ่งผ่านเส้น Moving
108
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

Averages ขึ้นไปได้ แนวโน้ม (Trend) ต่อไปจะเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)


ในขณะเดี ย วกั น ถ้ า เส้ น EMA (ระยะสั้ น ) ตั ด เส้ น EMA (ระยะยาว) ลงไป
เป็นสัญญาณบอกว่า แนวโน้ม (Trend) ต่อไปจะเป็นแนวโน้มขาลง (DownTrend)

รูปที่ 12.2
การใช้เส้น Moving Averages 2 เส้นประกอบกัน มีข้อเสียอยู่ คือ จะให้
สัญญาณที่ช้า เพราะว่าเส้น Moving Averages เคลื่อนไหวช้ากว่าราคา
การใช้ Moving Averages แบบมืออาชีพ
เทรดเดอร์ที่เข้ามาในตลาดใหม่ๆ จะใช้เส้น Moving Averages เพื่อหา
จังหวะซื้อขาย โดยใช้สัญญาณการทะลุผ่านเส้น Moving Averages ของราคา
หรื อ การใช้ สั ญ ญาณการตั ด กั น ของ เส้ น EMA (ระยะสั้ น ) กั บ เส้ น EMA
(ระยะยาว) เป็นจังหวะซื้อขาย จะบอกว่าวิธีนี้เป็นการใช้เส้น Moving Averages
ที่ผิดเลยก็ไม่ได้ซะทีเดียว แต่ถ้าเราทาตามสัญญาณของเส้น Moving Averages
แล้วถูกทุกครั้ง อย่างงี้ทุกคนก็รวยกันหมดแล้วสิครับ ซึ่งต่อไปผมจะอธิบายว่า

109
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ทาไมการใช้ สัญญาณซื้อขายจากการที่ราคาทะลุผ่านหรือการตัดกันของเส้น EMA


เทรดเดอร์ส่วนใหญ่จึงขาดทุน
การเข้าออเดอร์เมื่อราคาตัดผ่านเส้น Moving Averages

รูปที่ 12.3
จากรูปที่ 12.3 จะเห็นว่า มันก็ใช้ได้ผลนี่ แล้วทาไมถึงบอกว่า มันใช้ได้ไม่
ดีหละ งัน้ ลองไปดูตัวอย่างที่ 12.3
ตัวอย่างการซือ้ ขายตามสัญญาณ Moving Averages แบบผิดวิธี

ตัวอย่างที่ 12.3
110
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เราไม่รู้ว่าอนาคตของตลาดจะมีแนวโน้มยังไง เมื่อเราใช้สัญญาณจาก
การตัดของราคากับเส้น Moving Averages ในการเข้าออเดอร์ทุกครั้ง เราจะเจอ
ปัญหาแบบนี้แน่นอน เพราะเส้น Moving Averages จะใช้การไม่ได้เมื่อเจอตลาด
แนวโน้มแกว่งตัว (Sideway)
การเข้าออเดอร์เมื่อเส้น EMA (ระยะสั้น) ตัด เส้น EMA (ระยะยาว)

รูปที่ 12.4
ผมเชื่ อ ว่ า เทรดเดอร์ มื อ ใหม่ ส่ ว นใหญ่ จ ะใช้ วิ ธี ก ารเข้ า ออเดอร์ แ บบนี้
คือการทาตามสัญญาณของ Indicator อาจจะได้กาไรบ้าง ขาดทุนบ้าง แต่ผมว่า
สุ ด ท้ า ยแล้ ว จะขาดทุ น มากกว่ า ได้ ก าไรแน่ น อน ถ้ า ยั ง เข้ า ตามสั ญ ญาณของ
Indicator ทุกครั้ง
สั ญ ญาณซื้ อ ขายจาก Indicator สามารถท าได้ ถ้ า แนวโน้ ม (Trend)
ต่อไปที่จะเกิดขึ้นให้สั ญ ญาณหลายๆอย่างชัดเจน ว่าจะเกิดแนวโน้ม (Trend)
ที่แข็งแกร่งขึ้นมา เราสามารถนาสัญญาณซื้อขายจาก Indicator เข้ามาใช้ได้

111
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตัวอย่างการซือ้ ขายตามสัญญาณ Moving Averages แบบผิดวิธี

ตัวอย่างที่ 12.4
จากตั ว อย่ า งที่ 12.4 จะเห็ น ว่ า เมื่ อ คุ ณ เจอตลาดแนวโน้ ม แกว่ ง ตั ว
(Sideway) จะท าให้ ก ารเทรดของคุ ณ ขาดทุ น แน่ น อน และสุ ด ท้ า ยเทรดเดอร์
มือใหม่ส่วนใหญ่จะลบเส้น Moving Averages ออก เพราะคิดว่ามันใช้การได้ไม่ดี
คุ ณ ได้ รู้ แ ล้ ว ว่ า การใช้ สั ญ ญาณการตั ด กั น ของราคากั บ เส้ น Moving
Averages และการตั ด กั น ของเส้ น EMA(ระยะสั้ น ) กั บ เส้ น EMA (ระยะยาว)
ในการเข้าออเดอร์เป็นวิธีที่ใช้ได้ผล แต่ประสิทธิภาพน้อยมาก ผู้อ่านคงสงสัยว่า
แล้วจะให้เข้าออเดอร์ยังไงหละ? มีวิธีที่ดีกว่านี้อีกหรอ? ผมจะไม่ได้บอกหรอกนะ
ครั บ ว่ า วิ ธี ต่ อ ไปที่ ผ มจะบอกมั น ดี แต่ ผ มจะบอกว่ า วิ ธี ก ารน าเส้ น Moving
Averages มาใช้แบบมืออาชีพนั้น เขาใช้กันยังไง โดยผมจะแบ่งออกเป็น 3 แบบ
คื อ แนวโน้ ม ขาขึ้ น (Uptrend) แนวโน้ ม ขาลง (Downtrend) และแนวโน้ ม
แกว่งตัว (Sideway)

112
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)

รูปที่ 12.5
เมื่อ ราคาตั ดเส้ น Moving Averages ขึ้น ไป หรื อเส้ น EMA (ระยะสั้น )
ตัด เส้น EMA (ระยะยาว) ขึ้นไป ให้คุณมองแนวโน้ม (Trend) ต่อไปว่าจะมีทิศทาง
เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) โดยเส้น EMA มีความชันเฉียงขึ้น ราคาจะวิ่งอยู่
เหนือ เส้น EMA และต าแหน่ งของเส้ น EMA (ระยะสั้น ) จะอยู่เ หนือเส้น EMA
(ระยะยาว)
หลังจากที่เราทราบแล้วว่า สภาวะตลาดในในตอนนี้กาลังเป็นแนวโน้ม
ขาขึ้น (Uptrend) สิ่งทีค่ ุณควรทามากที่สุดก็คือ หาจังหวะเข้าซื้อ (Buy) ซึ่งอาจจะ
ใช้ Indicator หรื อ เทคนิ ค ต่ า งๆเข้ า มาช่ ว ย บางคนอาจจะใช้ แ ค่ เ ส้ น Moving
Averages เพื่อเป็นแนวรับ (Support) แล้วรอจังหวะเข้าซื้อ (Buy) แต่กฎเหล็ก
ของเรื่องนี้คือ ห้ามขาย (Sell) เด็ดขาด ถ้าเกิดคุณฝ่าฝืนกฎข้อนี้แล้ว ไม่ว่าคุณจะ
เก่งแค่ไหน คุณจะถูกแนวโน้ม (Trend) ของตลาดกลืนกินพอร์ตของคุณจนหมด

113
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

หาจังหวะซื้อ(Buy) และห้ามขาย(Sell)
ผมเคยพูดมาตั้งแต่บทแรกๆแล้วว่า คุณ ต้องได้เปรียบตลาดก่อนเสมอถึง
จะเข้ า ซื้ อ ขายได้ ซึ่ ง ถ้ า คุ ณ ท าการขาย (Sell) ในตลาดที่ มี แ นวโน้ ม ขาขึ้ น
(Uptrend) ก็เหมือนคุณกาลังฝืนสู้กับแนวโน้ม (Trend) ของตลาดอยู่ ถึงแม้คุณ
จะขาย (Sell) แล้วได้กาไรก็จริง แต่จะเป็นกาไรเพียงน้อยนิดเท่านั้น พูดง่ายๆก็คือ
ขาย (Sell) ในขณะที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) มีโอกาสขาดทุนมากกว่ากาไร
แต่ ถ้ า ซื้ อ (Buy)ในขณะแนวโน้ ม ขาขึ้ น (Uptrend) ไม่ เ พี ย งแต่ มี โ อกาสได้ ก าไร
มากกว่าขาดทุนแล้ว ยังสามารถทากาไรอย่างมหาศาล เมื่อตลาดวิ่งอย่างรุนแรง
และบ้าคลั่ง
แนวโน้มขาลง (Downtrend)

รูปที่ 12.6
เมื่ อ ราคาตั ด เส้ น Moving Averages ลงมา หรื อ เส้ น EMA (ระยะสั้ น )
ตัด เส้น EMA (ระยะยาว) ลงมา ให้เรามองแนวโน้ม (Trend) ต่อไปว่าจะมีทิศทาง

114
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เป็นแนวโน้มขาลง (Downtrend) โดยเส้น EMA มีความชันเฉียงลง ราคาจะวิ่งอยู่


เหนื อ ใต้ EMA และต าแหน่ ง ของเส้ น EMA (ระยะสั้ น ) จะอยู่ ใ ต้ เ ส้ น EMA
(ระยะยาว)
เช่ น เดี ย วกั น สิ่ ง ที่ คุ ณ ควรท ามากที่ สุ ด ก็ คื อ หาจั ง หวะขาย (Sell)
ซึ่งอาจจะใช้ Indicator หรือเทคนิคต่างๆเข้ามาช่วยได้ บางคนอาจจะใช้แค่เส้น
Moving Averages เพื่ อ เป็ น แนวต้ า น (Resistance) แล้ ว รอจั ง หวะขาย (Sell)
แต่กฎเหล็กของเรื่องนี้คือ ห้ามซื้อ (Buy) เด็ดขาด
หาจังหวะขาย(Sell) และห้ามซื้อ(Buy)
เข้าซื้อ (Buy )ในขณะที่แนวโน้มขาลง (Downtrend) มีโอกาสขาดทุน
มากกว่ากาไร แต่ถ้าขาย (Sell) ในขณะแนวโน้มขาลง (Downtrend) ไม่เพียงแต่
มีโอกาสได้กาไรมากกว่าขาดทุนแล้ว ยังสามารถทากาไรอย่างมากมาย เมื่อตลาด
วิ่งอย่างรุนแรงและบ้าคลั่ง
แนวโน้มแกว่งตัว (Sideway)

ตัวอย่างที่ 12.7

115
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เมื่อตลาดมีแนวโน้มแกว่งตัว (Sideway) ห้ามเข้าทาการซื้อขายใดๆทั้งสิ้น


เพราะเส้น Moving Averages จะใช้การได้ไม่ดี จะเกิดการตัดขึ้น ตัดลงของราคา
กับเส้น Moving Averages ทาให้เกิดสัญญาณหลอกเข้าซื้อขายเป็นจานวนมาก
ดั ง นั้ น เมื่ อ คุ ณ เจอแนวโน้ ม แกว่ ง ตั ว (Sideway) ให้ คุ ณ รอการเกิ ด แนวโน้ ม
(Trend) ใหม่ที่ชัดเจนต่อเนื่องขึ้นมาเสียก่อน แล้วค่อยหาจังหวะเข้าทาการซื้อขาย
หรือหันไปสนใจคู่เงินอื่นๆ ที่มีแนวโน้ม (Trend) น่าสนใจแทน
จากที่ผมได้กล่าวมาข้างต้น คือ แค่ให้ คุณรู้จักรอจังหวะการซื้อขายเมื่อ
ตลาดให้สัญญาณแนวโน้ม (Trend) ที่ชัดเจนแล้ว ไม่ใช้เข้าตามสัญญาณของเส้น
Moving Averages ทุกครั้ง การที่คุณจะเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพได้นั้น คุณต้อง
รู้จักการประยุกต์ใช้เครื่องมือต่างๆให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดนั้นๆ ให้ได้
ระยะเวลาและจานวนวันของการใช้ Moving Averages
การใช้เส้น EMA ต้องใช้ตามความเหมาะสมกับคู่เงิน และ Time Frame
ที่คุณต้องการเทรด สาหรับเทรดเดอร์มือใหม่ที่ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองจะใช้เส้น EMA
ค่าไหน? ต้องเริ่มที่จานวนวันเท่าไหร่? ผมมีเส้น EMA ที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ใช้กัน
และได้รับความนิยมมากมาแนะนา ได้แก่ 5 วัน , 10 วัน , 20 วัน , 25 วัน ,
40 วั น , 50 วั น , 75 วั น และ200 วั น เพื่ อ ให้ ผู้ อ่ า นสามารถน าไปปรั บ ใช้ ไ ด้
อย่างถูกต้อง

116
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เส้น EMA 5 วัน คือ การคิดค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 วันทาการ หรือ 1 สัปดาห์


เส้น EMA 10 วัน คือ การคิดค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 วันทาการ หรือ 2
สัปดาห์ หรือ ประมาณครึ่งเดือน
เส้ น EMA 25 วั น คื อ การคิ ด ค่ า เฉลี่ ย ย้ อ นหลั ง 25 วั น ท าการ หรื อ
ประมาณ 1 เดือน
เส้ น EMA 50 วั น คื อ การคิ ด ค่ า เฉลี่ ย ย้ อ นหลั ง 50 วั น ท าการ หรื อ
ประมาณ 2 เดือน
เส้ น EMA 75 วั น คื อ การคิ ด ค่ า เฉลี่ ย ย้ อ นหลั ง 75 วั น ท าการ หรื อ
ประมาณ 3 เดือน หรือ 1 ไตรมาส
เส้น EMA 200 วัน คือ การคิดค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 200 วันทาการ หรือ
ประมาณ 3 ไตรมาส
การใช้เส้น EMA ไม่มีกฎตายตัวว่าจะใช้เส้น EMA กี่วัน เพราะที่ผมใช้
อยู่นั้น จะปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามสภาวะของตลาด เมื่อเส้น EMA เดิมใช้ไม่
ได้ผลแล้ว และคู่เงินแต่ละคู่ ก็จะมีการใช้เส้น EMA ไม่เหมือนกัน ตรงนี้คือเรื่องที่
ยากที่สุด ที่ผมต้องการให้ผู้อ่านไปฝึกใช้เส้น EMA ให้คล่อง โดยทดลองใช้และ
สังเกตว่าเส้น EMA ที่ใช้อยู่นั้นเหมาะสมกับคู่เงิน และTime Frame ที่คุณใช้อยู่
หรือป่าว แล้วประสบการณ์จะสอนคุณเอง

117
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เทคนิคการใช้ Moving Averages ส่วนตัวในการเทรดสั้น


จริงๆผมไม่อยากบอกเทคนิคการใช้เส้น Moving Averages ส่วนตัวให้
ใครรู้หรอกนะครับ เพราะถ้าเกิดผู้อ่านนาไปใช้ในการเทรดของตัวเองแล้ว ใช้ไม่
ได้ผล หรือขาดทุนขึ้นมา ก็จะมากล่าวหาว่า เทคนิคที่ให้ไปนั้นมั่วมาก ไม่เก่งจริง
นี่ ห ว่ า เหมื อ นกั บ เทรดเดอร์ มื อ ใหม่ ส่ ว นใหญ่ ที่ จ ะโทษว่ า Indicator นั้ น ไม่ ดี
ใช้ไปแล้ว ขาดทุนรั วๆ อย่า ไปใช้มั น อะไรประมานนี้ ผมบอกก่ อนเลยนะครั บ
จริงๆแล้ว Indicator เขาสร้างมาสมบูรณ์อยู่แล้ว แต่คุณไม่เข้าใจวิธีใช้ของมัน
อย่างแท้จริง คุณใช้มันในการวิเคราะห์รูปแบบเดียวคือ สัญญาณซื้อ (Buy Signal)
สัญญาณขาย (Sell Signal) ซึ่งทาไปแล้วขาดทุนแน่นอนครับ
เทคนิ ค ที่ ผ มจะบอกต่ อ ไปนี้ ไม่ ใ ช่ ใ ห้ คุ ณ ท าตามผม เพราะถ้ า คุ ณ ไม่
เข้ า ใจจริ ง คุ ณ ก็ จ ะใช้ ไ ด้ ไ ม่ ดี เ ท่ า ผมแน่ น อน แต่ ผ มอยากให้ ผู้ อ่ า นเข้ า ใจ และ
นาไปประยุกต์ใช้กับการเทรดของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น

118
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตัวอย่างเทคนิคการใช้เส้น Moving Averages แนวโน้มขาขึ้น

ตัวอย่างที่ 12.5
มาเริ่มกันเลย สาหรับคนที่เทรดสั้น หรือสาย Day Trade คงชอบเทคนิค
นี้แน่นอน ซึ่งผมจะใช้เส้น EMA ทั้งหมด 3 เส้น คือ เส้น EMA 5 เส้น EMA 15
และเส้น EMA 35 เมื่อ ราคาสามารถวิ่งผ่านเส้น EMA 5 ขึ้นไปได้ หรือเส้น EMA
5 ตัด EMA 15 ขึ้นไป ให้ใช้เป็นสัญญาณว่ากาลังจะเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)
ให้เราหาจังหวะเข้าซื้อ (Buy) (อาจจะใช้เทคนิคการวิเคราะห์อื่นๆเข้ามาช่วยได้)
โดยเส้น EMA 5 จะให้เป็นแนวรับ (Suport) ที่ 1 เส้น EMA 15 จะให้เป็นแนวรับ
(Suport) ที่ 2 และเส้น EMA 35 จะให้เป็นแนวรับ (Suport) ที่ 3 เราจะใช้เส้น
EMA ทั้ง 3 เป็นแนวรับเพื่อหาจังหวะซื้อ (Buy) เมื่อราคาวิ่งลงมาชน และจะปิด
ออเดอร์เมื่อเส้น EMA 5 ตัด เส้น EMA 15 ลงมา ถือเป็นการปิดทากาไร

119
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตัวอย่างเทคนิคการใช้เส้น Moving Averages แนวโน้มขาลง

ตัวอย่างที่ 12.6
ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) ก็เช่นกัน ถ้าราคาสามารถวิ่งผ่านเส้น
EMA 5 ลงไปได้ หรือเส้น EMA 5 ตัด EMA 15 ลงไป ให้ใช้เป็นสัญญาณว่ากาลัง
จะเป็นแนวโน้มขาลง (Downtrend) ให้เราหาจังหวะขาย (Sell) โดยเส้น EMA 5
จะให้ เ ป็ น แนวต้ า น (Resistance) ที่ 1 เส้ น EMA 15 จะให้ เ ป็ น แนวต้ า น
(Resistance) ที่ 2 และเส้ น EMA 35 จะให้ เ ป็ น แนวต้ า น (Resistance) ที่ 3
เราจะใช้เส้น EMA ทั้ง 3 เป็นแนวต้าน (Resistance) เพื่อหาจังหวะขาย (Sell)
เมื่อราคาวิ่งลงมาชน และจะปิดออเดอร์เมื่อเส้น EMA 5 ตัด เส้น EMA 15 ขึ้นไป
ข้อควรรู้ เส้น EMA 35 คือแนวรับ(Suport) และแนวต้าน (Resistance)
ที่แข็งแกร่งที่สุดสาหรับเทคนิคนี้ ถ้าราคาหลุดเส้น EMA 35 ลงมาได้ ให้ทาการ
Stop Loss ทันที ห้ามถือออเดอร์ต่อไปเด็ดขาด

120
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

การวิเคราะห์การซื้อขายในแต่ละครั้งนั้น ต้องใช้ปัจจัยในหลายๆเรื่องเข้า
มาประกอบด้วยกัน ซึ่งเมื่อคุณอ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้ว คุณจะสามารถนาความรู้
ต่างๆไปประยุกต์ใช้ด้วยกันได้ ตามเทคนิคและแนวคิดของคุ ณเอง เพราะผมอยาก
ให้คุณรู้จักคิดและตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ว่าเห็นคนนั้นเก่ง คนนี้เก่ง แล้วทา
ตามเขาไปทั่ว ไม่รู้เลยด้วยซ้าว่า ทาไมเขาถึงซื้อ (Buy) ทาไมเขาถึงขาย (Sell)
ดังนั้น ผมอยากให้คุณนาความรู้ที่ได้ไปปรับใช้เป็นเทคนิคของตัวเอง แล้วสักวัน
คุณจะประสบความสาเร็จ และเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพอย่างแน่นอนครับ

121
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก้าวที่ 13
MACD อินดิเคเตอร์บอกแนวโน้มขั้นเทพ

122
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

มาถึง Indicator ตัวโปรดของผมสักที เป็น Indicator ที่ผมใช้มาตั้งแต่


เริ่มเทรด Forex ใหม่ๆ จนถึงปัจจุบัน และผมเชื่อว่าไม่มีเทรดเดอร์ คนไหนไม่รู้จัก
MACD แน่ น อน โดยที่ เ กิ ด จากการน าเส้ น Moving Averages 2 เส้ น มา
ประยุกต์ใช้ ด้วยเทคนิคและหลักการที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ทาให้สามารถ
วิ เ คราะห์ แ นวโน้ ม ของตลาด(Trend) และแรงส่ ง ของตลาด(Momentum) ไป
พร้อมๆกัน
มาทาความรู้จกั กับ MACD
ผู้สร้าง MACD ขึ้นมาคือ Mr.Gerald Apple ในปีคริสต์ศักราช 1979
โดยใช้เส้น Moving Averages 2 เส้น คือ เส้น EMA 12 กับ เส้น EMA 26 มาใช้
ประกอบกัน เพื่อดูความแตกต่างของเส้น EMA ทั้ง 2 เส้น คานวณจากสูตร
MACD = EMA(12) – EMA(26)
หรือ MACD = ผลต่างหรือระยะห่างของเส้น EMA(12) และ EMA(26)
ถ้าเส้น EMA(12) – EMA(26) มีค่าเป็น + แสดงว่า MACD มีแนวโน้มขาขึ้น
ถ้าเส้น EMA(12) – EMA(26) มีค่าเป็น - แสดงว่า MACD มีแนวโน้มขาลง
ผมไม่อยากให้ผู้อ่านได้จาทฤษฏีอะไรที่ซับซ้อนมากหรอกนะครับ เดี๋ยวจะ
เกิดความสับสนในการใช้ขึ้นมา แต่สิ่งที่ต้องรู้เอาไว้ คือ MACD นั้นมีประโยชน์
อย่ า งไร มี เ ทคนิ ค อะไรบ้ า งที่ ส ามารถน าไปปรั บ ใช้ ใ นการวิ เ คราะห์ ต ลาด
และมีประสิทธิภาพมากเพียงไหน

123
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ใช้ MACD ในการบอกแนวโน้ม (Trend)

รูปที่ 13.1
เมื่ อ ค่ า MACD มี ค่ า เป็ น + เส้ น EMA 12 จะอยู่ เ หนื อ เส้ น EMA 26
แสดงว่า แนวโน้ม (Trend) ในตลาดขณะนั้น เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)

รูปที่ 13.2
เมื่อค่า MACD มีค่าเป็น - เส้น EMA 12 จะอยู่ใต้เส้น EMA 26 แสดงว่า
แนวโน้ม (Trend) ในตลาดขณะนั้น เป็นแนวโน้มขาลง (Downtrend)

124
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ใช้ MACD ในการบอก Momentum


Momentum คือ แรงส่งของราคาในตลาด หรือแรงซื้อแรงขายนั่นเอง
ถ้า MACD มีค่าเป็น + เส้น EMA 12 อยู่เหนือเส้น EMA 26 แสดง แรงซื้อเป็นฝั่ง
ควบคุ ม ตลาดในขณะนั้ น แต่ ถ้ า MACD มี ค่ า เป็ น - เส้ น EMA 12 อยู่ ใ ต้ เ ส้ น
EMA 26 แสดงว่ า แรงขายเป็ น ฝ่ า ยควบคุ ม ตลาดในขณะนั้ น โดยจะแบ่ ง เป็ น
แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) และแนวโน้มขาลง (Downtrend) ดังนี้
แนวโน้มขาขึน้ (Uptrend)

รูปที่ 13.3
การดูว่า Momentum ของตลาดว่าในขณะนั้น ว่ามีแรงส่งมากแค่ไหน
ให้คุณสังเกตจาก ระยะห่างของเส้น EMA 12 กับเส้น EMA 26 ถ้าเส้น EMA 12
กับเส้น EMA 26 มีระยะห่างกันมากขึ้น แสดงว่ามี Momentum ในฝั่งซื้อเพิ่ม
มากขึ้น แต่ถ้าเส้น EMA 12 กับเส้น EMA 26 มีระยะห่างกันเริ่มน้อยลง แสดงว่า
Momentum ในฝั่งซื้อกาลังลดน้อยลง

125
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

แนวโน้มขาลง (Downtrend)

รูปที่ 13.4
ในขณะเดี ย วกั น แนวโน้ ม ขาลง (Downtrend) การดู ;jk Momentum
ของตลาดว่าในขณะนั้น ว่ามีแรงส่งมากแค่ไหน ให้ คุณสังเกตจากระยะห่างของ
เส้น EMA 12 กับเส้น EMA 26 ถ้าเส้น EMA 12 กับเส้น EMA 26 มีระยะห่างกัน
มากขึ้น แสดงว่ามี Momentum ในฝั่งขายเพิ่มมากขึ้น แต่ถ้าเส้น EMA 12 กับ
เส้น EMA 26 มีระยะห่างกันเริ่มน้อยลง แสดงว่า Momentum ในฝั่งขายกาลังลด
น้อยลง
เส้น Center Line คืออะไร
ผู้อ่านบางคนอาจจะยังสงสัยว่า เส้น Center Line หรือเส้นศูนย์ คืออะไร
ทาไมค่าตัดเส้น Center Line ขึ้นไปแล้วจึงมาว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)
ตั ด เส้ น Center Line ลงมาท าไมจึ ง มองว่ า เป็ น แนวโน้ ม ขาลง (Downtrend)
จากที่ผมได้อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ว่า ถ้าเส้ น EMA(12) – EMA(26) มีค่าเป็น +

126
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

แสดงว่า MACD มีแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) และเส้น EMA(12) – EMA(26) มีค่า


เป็น - แสดงว่า MACD มีแนวโน้มขาลง (Downtrend) ดังนั้นเส้น Center Line
คือ เส้น EMA(12) – EMA(26) แล้วมีค่าเป็น 0

รูปที่ 13.5
เส้น Center Line จึงเป็นจุดศูนย์กลางของแนวโน้ม (Trend) เพื่อทาให้
การวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด ง่ายและชัดเจนยิ่งขึ้น ทาให้นักลงทุนส่วนใหญ่ ให้
ความสนใจกับ MACD เป็นอย่างมาก
การใช้ MACD แบบมืออาชีพ
ผมได้เคยอธิบายให้ผู้อ่านฟังแล้วว่าการใช้สัญญาณซื้อขายจาก Indicator
ทุกครั้งนั้น เป็นเรื่องที่จะเกิดความผิดพลาดสูงมาก ในการใช้ MACD ก็เช่นกัน
ยังมีเทรดเดอร์มือใหม่ที่ใช้สัญญาณการซื้อขายจาก MACD เข้าออเดอร์ทุกครั้งอยู่
เหมือนกัน ในช่วงแรกอาจจะได้กาไรอยู่ แต่ถ้าใช้การไปในระยะยาว จากกาไร
อาจจะกลายเป็นขาดทุนไปเลยก็ได้

127
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

การเข้าออเดอร์ที่ใช้สัญญาณจาก MACD ที่พบบ่อยมีอยู่ 2 แบบ คือ


เข้าซื้อขายทันที เมื่อเส้น MACD ตัด Center Line

รูปที่ 13.6
การลงมือซื้อขายด้วยวิธีแบบนี้ อาจจะได้กาไรบ้าง ขาดทุนบ้าง ผมจะ
ยกตั ว อย่ า งเช่ น ถ้ า เกิ ด ตลาดในช่ ว งนั้ น เป็ น แนวโน้ ม ขาขึ้ น (Uptrend)
อย่ า งแข็ งแกร่ง แล้ ว MACD ตั ด ผ่ า น Center Line ลงมา คุณ ก็ จะท าการขาย
(Sell) ทั น ที แต่ สุ ด ท้ า ยแล้ ว ราคาก็ วิ่ ง ขึ้ น ไปต่ อ แล้ ว MACD ก็ จ ะเกิ ด การตั ด
Center Line ขึ้นไปอีกครั้ง ทาให้คุณขาดทุนแน่นอน สาหรับใครที่เคยใช้วิธีนี้ใน
การเข้าซื้อขาย คงรู้แล้วใช่ไหมครับว่าผลลัพธ์เป็นยังไง
ตัวอย่างการใช้สัญญาณจาก MACD แบบผิดวิธี

ตัวอย่างที่ 13.1
128
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เข้าซื้อขายทันที เมื่อ MACD ตัดเส้น Signal Line

รูปที่ 13.7
วิธีนี้ก็จะใช้ไม่ได้ผลทุกครั้งเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าตลาดมีแนวโน้ม
ขาขึ้น (Uptrend) อย่างแข็งแกร่ง แล้วคุณจะขาย (Sell) เมื่อ MACD ตัด Signal
Line ลงมา แต่แล้วราคาก็ยังวิ่งขึ้นไปต่อ และสุดท้าย MACD ก็ตัด Signal Line
ขึ้นไปอีกครั้ง ทาให้ คุณขาดทุน และคิดว่า Indicator ตัวนี้ไม่ดีไปเลย แต่ในบาง
กรณีคุณสามารถซื้อขายตามสัญญาณของ MACD ได้ แต่คุณต้องทราบแน่นอน
แล้วว่า แนวโน้ม (Trend) ต่อไปที่จะเกิดขึ้น เป็นแนวโน้ม (Trend) ที่แข็งแกร่ง
ตอนนี้ ผู้ อ่ า นคงสงสั ย แล้ ว ว่ า แล้ ว MACD เขายั ง ใช้ ยั ง ไงกั น แน่ มั น ใช้
แบบอื่นได้อีกหรอ จริงๆแล้ว การใช้ MACD นั้น มันไม่ได้ยากอะไรเลย แต่เทรด
เดอร์มือใหม่ อาจจะยังมองข้ามไป แล้วยึดติดกับการใช้สัญญาณจาก Indicator
มากเกินไปนั้นเอง ทาให้มองข้ามการใช้ Indicator ในการวิเคราะห์จริงๆ แต่มอง
หา Indicator ที่จะบอกสัญญาณที่ตรงเปะ 100% เพียงอย่างเดียว

129
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก่อนที่ผมจะเริ่มอธิบายต่อไป ผมอยากให้ผู้อ่านเพิ่มเส้น EMA 3 ลงไปใน


MACD ก่อนนะครับ เป็นเทคนิคส่วนตัวที่ผมใช้มาตั้งแต่สมัยเริ่มเทรดใหม่ๆ เพราะ
จะช่วยให้เราดู MACD ง่ายขึ้น สามารถตรวจจับสัญญาณต่างๆ ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ตัวอย่างการใช้สัญญาณจาก MACD แบบผิดวิธี

ตัวอย่างที่ 13.2
หลังจากที่เพิ่มเส้น EMA 3 ลงไปใน MACD แล้ว จะเห็นว่า เราได้รูปแบบ
MACD ที่มีเส้น EMA 3 เข้ามาช่วยในการดูการปรับตัวของ MACD ให้เรียบ และดู
สบายตาขึ้น
การใช้ MACD ให้มีประสิทธิภาพสูงนั้น มีเทคนิคง่ายมาก โดยผมจะแบ่ง
ออกเป็น 3 แบบ คือ การใช้ MACD ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) การใช้ MACD
ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) และสัญญาณขัดแย้ง (Divergence)

130
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)
อย่างที่เราได้รู้กันแล้วว่า เส้น EMA(12) – EMA(26) มีค่าเป็น + แสดงว่า
MACD มีแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) นั่นคือ ถ้า MACD อยู่บนเส้น Center Line
แสดงว่าสภาวะตลาดในตอนนี้มีแนวโน้มเป็นขาขึ้น (Uptrend) และแรงซื้อเป็น
ฝ่ายควบคุมตลาด ให้เราหาจังหวะเข้าซื้อ (Buy) และห้ามขาย(Sell) เด็ดขาด
MACD อยู่บนเส้น Center Line ให้หาจังหวะซื้อ (Buy) และห้ามขาย (Sell)
ท าไมผมถึ ง บอกว่ า ให้ ห าจั ง หวะซื้ อ (Buy) เข้ า ซื้ อ (Buy) ทั น ที เ ลย
ไม่ ไ ด้ ห รอ แล้ ว กว่ า จะหาจั ง หวะซื้ อ (Buy) ได้ ก็ เ สี ย โอกาสท าก าไรหมด
ผมเคยบอกไปแล้วนะครั บว่า ถ้าอยากอยู่บนตลาดต่อไปได้ให้รู้จักรอและมีวินัย
และเดี๋ยวผมจะอธิบายไปเป็นลาดับไปว่า MACD มันไม่ใช่ Indicator ที่ใช้บอก
สัญญาณซื้อขายธรรมดาเท่านั้น แต่มันจะบอกถึงแรงซื้อขายทั้งหมดอีกด้วย

รูปที่ 13.8

131
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เมื่อ MACD ตัดเส้น Center Line ขึ้นไปแล้ว แสดงถึงแรงซื้อเข้ามาใน


ตลาดเป็นจานวนมาก ยิ่ง MACD ทาคลื่นลูกใหญ่มากแค่ไหน แสดงถึงแนวโน้ม
(Trend) ของตลาดมีความแข็งแกร่งมากแค่นั้น และราคาก็จะวิ่งขึ้นต่อไปเรื่อยๆ
ที่ผมบอกให้รอจังหวะซื้อ(Buy) เพราะว่า ตราบใดที่ MACD ยังอยู่บนเส้น Center
Line ตลาดก็ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ต่อไป ให้เรารอหาจังหวะใน
การเข้าซื้อ (Buy) เพื่อทากาไรได้เลย
ตัวอย่างการใช้สัญญาณจาก MACD แบบถูกวิธี แนวโน้มขาขึน้

ตัวอย่างที่ 13.3
แนวโน้มขาลง (Downtrend)
เมื่อเส้น EMA(12) – EMA(26) มีค่าเป็น - แสดงว่า MACD มีแนวโน้ม
ขาลง (Downtrend) นั่นคือ ถ้า MACD อยู่ใต้เส้น Center Line แสดงว่าสภาวะ
ตลาดในตอนนี้มีแนวโน้มเป็นขาลง (Downtrend) และแรงขายเป็นฝ่ายควบคุม
ตลาด ให้เราหาจังหวะเข้าขาย (Sell) และห้ามซื้อ (Buy) เด็ดขาด
132
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

MACD อยู่ใต้เส้น Center Line ให้หาจังหวะขาย (Sell) และห้ามซื้อ (Buy)

รูปที่ 13.9
เมื่อ MACD ตัดเส้น Center Line ลงมาแล้ว แสดงถึงแรงขายเข้ามาใน
ตลาดเป็นจานวนมาก ยิ่ง MACD ทาคลื่นลูกใหญ่มากแค่ไหน แสดงถึงแนวโน้ม
(Trend) ของตลาดมีแข็งแกร่งมากแค่นั้น ราคาก็จะวิ่งลงต่อไปเรื่อยๆ ตราบใดที่
MACD ยังอยู่ใต้เส้น Center Line ตลาดก็ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend)
ต่อไป ให้เรารอหาจังหวะขาย (Sell) เพื่อทากาไรได้เลย

133
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตัวอย่างการใช้สัญญาณจาก MACD แบบถูกวิธี แนวโน้มขาลง

ตัวอย่างที่ 13.4
สัญญาณขัดแย้ง (Divergence)
Divergence คือ การเคลื่อนไหวของราคาไม่สอดคล้องกับ Indicators
โดยจุ ด สู ง สุ ด ราคาไม่ ส อดคล้ อ งกั บ Indicators และจุ ด ต่ าสุ ด ของกราฟราคา
ไม่ ส อดคล้ อ งกั บ Indicators นั ก ลงทุ น ส่ ว นใหญ่ จ ะนิ ย มใช้ MACD เป็ น ตั ว
บอกสั ญ ญาณ เพราะเป็ น Indicator ที่ บ อกทั้ ง Momentum และแนวโน้ ม
(Trend) ของราคา

134
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปที่ 13.10
จากรู ป ที่ 13.10 จะพบว่ า เมื่ อ ราคาสามารถท าจุ ด สู ง สุ ด ใหม่ ไ ด้
แต่ MACD ไม่สามารถทาจุดสูงสุดใหม่ตาม หรือราคาสามารถทาจุดสูงต่าใหม่ได้
แต่ MACD ไม่สามารถทาจุดต่าสุดใหม่ตาม อธิบายได้ว่า Momentum ของตลาด
มี ก ารอ่ อ นแรงลง และก าลั ง จะหมดลงไป ซึ่ ง สั ญ ญาณขั ด แย้ ง (Divergence)
จึงใช้เป็นตัวบอกสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม (Trend) ได้เป็นอย่างดี
ตัวอย่างการเกิดสัญญาณ Bearish Divergence

ตัวอย่างที่ 13.5
135
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

การเกิ ด สัญ ญาณขั ด แย้ ง (Divergence) ในแนวโน้ม ขาขึ้ น (Uptrend)


จะเรี ย กสั ญ ญาณนี้ ว่า Bearish Divergence ซึ่ ง เป็ น สั ญ ญาณบอกว่ า แนวโน้ ม
ขาขึ้ น (Uptrend) ก าลั ง จะหมดลง และจะเปลี่ ย นเป็ น แนวโน้ ม ขาลง
(Downtrend) ในอนาคต
ตัวอย่างการเกิดสัญญาณ Bullish Divergence

ตัวอย่างที่ 13.6
การเกิดสัญญาณขัดแย้ง (Divergence) ในแนวโน้มขาลง (Downtrend)
จะเรียกสัญญาณนี้ว่า Bullish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณที่จะบอกว่า แนวโน้ม
ขาลง (Downtrend) ก าลั ง จะหมดไป และจะเปลี่ ย นเป็ น แนวโน้ ม ขาขึ้ น
(Uptrend) ในอนาคต
สัญญาณขัดแย้ง (Divergence) จะเป็นสัญญาณที่ค่อนข้างแม่น แต่ไม่ได้
ถู ก ต้ อ งเสมอไป ผมเคยบอกมาตลอดว่ า ไม่ แ นะน าให้ คุ ณ ใช้ สั ญ ญาณจาก
Indicator เข้าทาการซื้อขาย เพราะถ้าทาแล้วได้ผลทุกครั้ง ทุกคนก็ได้กาไรจาก
ตลาดหมดแล้วนะสิ อย่าลืมนะครับว่า คนทั้งโลกเห็นกราฟเหมือนอย่างที่ คุณเห็น
136
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ในขณะนี้ ดั ง นั้ น คุ ณ ต้ อ งรู้ จั ก วิ เ คราะห์ ใ ห้ เ ป็ น โดยใช้ ค วามรู้ เทคนิ ค และ


ประสบการณ์หลายๆอย่างมากประกอบการตัดสินใจ
ตัวอย่างการเกิด Divergence หลอก

ตัวอย่างที่ 13.7
จากตัวอย่างที่ 13.7 จะเห็นว่า เกิดสัญญาณ Bearish Divergence ขึ้นมา
แต่แล้วกลับมีแรงซื้อเข้ามาเพิ่มปริมาณมากทาให้ราคาวิ่งขึ้นไปต่อ สิ่งที่ตามมาคือ
การขาดทุนและไม่มั่นใจในการใช้สัญญาณขัดแย้ง (Divergence) อีกต่อไป
ผมขอแนะนาว่า ถ้าเกิดสัญญาณขัดแย้ง (Divergence) ขึ้นมา สิ่งแรกที่
คุณควรทา คือ ให้เฝ้าติดตามกราฟราคาอย่างใกล้ชิดเพราะในอนาคตแนวโน้ม
(Trend) อาจจะมี ก ารเปลี่ ย นทิ ศ ทาง แล้ ว ให้ คุ ณ ใช้ เ ทคนิ ค อื่ น ที่ เ กี่ ย วกั บ
การเปลี่ยนแนวโน้ม (Trend) เข้ามาช่วยในการตัดสินใจซื้อขาย

137
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เทคนิคการประยุกต์ใช้ MACD
การนา MACD ไปประยุกต์กับเทคนิคอื่นๆ สามารถทาได้หลายรูปแบบ
ไร้ข้อจากัด แล้วแต่ทักษะของแต่ละบุคคลว่า จะสามารถนาไปปรับใช้ในรูปแบบ
ไหนอย่างไร เพราะความรู้ ความคิด และอารมณ์ ของคนแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน
จึงทาให้การวิเคราะห์ และตัดสินใจไม่เหมือนกันตามไปด้วย
ผมจะลองยกตัวอย่าง การประยุกต์ใช้ MACD กับ Indicator และความรู้
พื้นฐานแบบง่ายๆ เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพ และสามารถนา MACD ไปประยุกต์ใช้
กับเทคนิคของตัวเองดียิ่งขึ้น
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ MACD

ตัวอย่างที่ 13.8
จากตัวอย่างที่ 13.8 จะเห็นว่าเมื่อ MACD อยู่เหนือเส้น Center Line
ผมได้ น าเส้ น Moving Averages โดยใช้ ค่ า EMA 50 เพื่ อ ดู แ นวโน้ ม (Trend)
138
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

พร้อมกับใช้แนวรับ (Support) เพื่อใช้เป็นสั ญญาณซื้ อ (Buy) และใช้สัญญาณ


กราฟแท่งเทียน (Candlestick) รูปแบบ Bullish Engulfing ในการดูรูปแบบแท่ง
เทียนกลับตัว แล้วจึงทาการตัดสินใจเข้าซื้อ (Buy)
การใช้แค่ Indicator และความรู้พื้นฐานเพียงไม่กี่อย่าง ก็สามารถทาให้
คุณสร้างระบบเทรดที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ดีกว่าใช้ สัญญาณจาก Indicator
เข้ามั่วๆ ตรงนี้ผมขอให้ผู้อ่านนาความรู้ที่ได้ ไปประยุกต์ใช้เองตามความเหมาะสม
ของสไตล์การเทรดของตัวเองนะครับ ถ้าคุณมีประสบการณ์และความชานาญมาก
ขึ้นแล้ว คุณจะรู้เหตุผลเองว่าทาไมต้องทาการเข้าซื้อขาย และทาไมเราต้องตัด
ขาดทุน (Stoploss)
ผมขอฝากอีกเรื่องนะครับ ซึ่งผมเคยบอกไปแล้ว ว่าการใช้ Indicator
มากเกิ น ไป จะท าให้ คุ ณ เกิ ด ความสั บ สนและตั ด สิ น ใจผิ ด พลาดมากยิ่ ง ขึ้ น
ขอให้ผู้อ่านใช้แต่ Indicator หลักๆ ที่จาเป็นต่อการวิเคราะห์เท่านั้น
เทคนิคการเลือกคู่เงิน และ Time Frame
การใช้ MACD ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด จะขึ้นอยู่กับการเลือกใช้กับ
คู่ เ งิ น และTime Frame ด้ ว ย ซึ่ ง หลั ก การเลื อ กให้ คุ ณ เลื อ กคู่ เ งิ น และ
Time Frame ที่มีการแกว่งตัวขึ้นลงของ MACD น้อย หรือเกิดการสร้างแนวโน้ม
(Trend) ที่แข็งแกร่งและชัดเจนอยู่บ่อยครั้ง ไม่แนะนาให้เลือกใช้กับคู่เงินที่ราคา
วิ่งเป็นแนวโน้มแกว่งตัว (Sideway) บ่อยเกินไป

139
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตัวอย่างการเปรียบเทียบ MACD แต่ละคู่เงิน และ Time Frame

ตัวอย่างที่ 13.9

140
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก้าวที่ 14
สุดยอดเครื่องมือแบบ Over Over

141
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เป็ น Indicator ที่ ถู ก พั ฒ นาขึ้ น โดย J. Welles Wilder โดยใช้ พื้ น ฐาน
เรื่องของ Momentum มาพัฒนา Indicator ตัวนี้ขึ้นมา โดยสามารถคานวณได้
จากสูตร
RS = ราคาปิดบวกเฉลี่ย x วัน / ราคาปิดลบเฉลี่ย x วัน
RSI = 100 – (100/(1+RS))
ค่า RSI จะมีค่าอยู่ระหว่าง 0-100 และจานวนวันที่นิยมใช้ คือ 4 , 9 และ14 วัน
ผมจะไม่เข้าลึกถึงเรื่องทฤษฏีของสูตร RSI มากนัก เพราะมีโปรแกรม
สาเร็จรูปในการช่วยคานวณให้เราอยู่แล้ว แต่ผมจะบอกประโยชน์และวิธีใช้ RSI
ในการเทรดให้ถูกต้อง ไม่ใช้การใช้สัญญาณซื้อขายจาก Indicator เพียงอย่างเดียว
อย่างที่ คุณรู้มาว่า Momentum จะมีเส้น Center Line ในการบอกว่า
Momentum นั้ น เป็ น ฝั่ ง ที่ มี แ รงซื้ อ หรื อ แรงขายมากกว่ า กั น แต่ ไ ม่ ไ ด้ บ อกว่ า
Momentum ขึ้นไปสูงเท่าใด ซึ่งนี่คือจุดเด่นของ RSI เลยทีเดียว เพราะ RSI จะใช้
บอกว่ า จุ ด ไหนซื้ อ มากเกิ น ไป (Overbought) และจุ ด ไหนขายมากเกิ น ไป
(Oversold) อีกทั้งยังใช้วิเคราะห์การสัญญาณขัดแย้ง (Divergence) ได้อีกด้วย
ปกติแล้ว ค่า RSI ที่โปรแกรมตั้งค่ามาให้ จะมีเส้น 70 และเส้น 30 ให้
อยูแ่ ล้ว ซึ่งหมายความว่าถ้าเส้น RSI > 70 คือสัญญาณบอกว่าขณะนี้มีการซื้อมาก
เกินไป (Overbought) และในขณะเดียวกันถ้าเส้น RSI < 30 คือสัญญาณบอกว่า
ขณะนี้มีการขายมากเกินไป (Oversold)

142
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ค่า RSI > 70 คือ ซื้อมากเกินไป (Overbought)


ค่า RSI < 30 คือ ขายมากเกินไป (Oversold)

รูปที่ 14.1
การใช้ RSI แบบมืออาชีพ
เรามาเริ่มกันเลย ปกติแล้วเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ที่ยังไม่เข้าใจการใช้ RSI
อย่างถูกต้อง จะใช้ RSI ยังไง แล้ วทาไมเมื่อใช้ไปแล้วจึงเกิดการขาดทุนขึ้น มา
ปัญหาหลักส่วนใหญ่ที่เจอก็คือ เข้าตามสัญญาณของ Indicators นั่นเอง
ซื้อขายทันทีเมือ่ RSI เกิดการซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมาก
เกินไป (Oversold)
เป็นปัญหาที่ผมจะเจอบ่อยมาก สาหรับเทรดเดอร์มือใหม่ เพราะจะใช้
สัญญาณจากการเกิดการซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือการขายมากเกินไป
(Oversold) ในการเข้าซื้อขายทันที ทาให้เกิดการขาดทุนขึ้นมา และเกิดความไม่
เชื่อมั่นในการใช้ RSI คิดว่าเป็น Indicators ที่ไม่ดี แล้วลบทิ้งออกจากการ
วิเคราะห์ของตัวเอง

143
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปที่ 14.2
เราต้องเข้าใจว่า ถึงแม้จะมี Momentum เข้ามามากจนทาให้เกิดการซื้อ
ที่มากเกินไป (Overbought) หรือการขายที่มากเกินไป (Oversold) ไม่ได้แปลว่า
ราคาจะต้องขึ้นหรือลง เพราะถ้าแนวโน้มนั้นแข็งแกร่งจริงๆ ก็จะมีการซื้อขายเข้า
มาเพิ่มเรื่อยๆ ทาให้ราคาวิ่งไปตามแนวโน้ม (Trend) เดิมต่อไป
ตัวอย่างการใช้สัญญาณจาก RSI แบบผิดวิธี

ตัวอย่างที่ 14.1

144
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

การใช้สัญญาณขัดแย้ง (Divergence) เข้าซื้อขายทันที

รูปที่ 14.3
จากรูปที่ 14.3 จะเห็นว่าเมื่อ RSI เกิดสัญ ญาณขัดแย้ง (Divergence)
ซึ่งทาให้เทรดเดอร์มือใหม่ส่วนมากจะเข้าทาการซื้อขายทันทีเมื่อเกิดสัญญาณ
ตัวอย่างการใช้สัญญาณจาก RSI แบบผิดวิธี

ตัวอย่างที่ 14.2

145
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

จากตั วอย่า งที่ 14.2 จะพบว่า เมื่ อเกิดสั ญ ญาณ Bearish Divergence
แล้วคุณ เข้าทาการซื้อ (Buy) ทันที แต่แล้วราคายังคงวิ่งขึ้นไปต่อตามแนวโน้ม
(Trend) เดิมอย่างแข็งแกร่ง ทาให้เกิดการขาดทุนเป็นอย่างมาก
ไม่มี Indicator ตัวไหนบอกสัญญาณได้ถูกต้องและชัดเจน 100%
ผมย้าเรื่องของการใช้สั ญ ญาณจาก Indicator ตลอด เพื่อให้ผู้อ่านจา
และนาไปปฏิ บัติ ตาม ว่า การใช้สั ญ ญาณจาก Indicator ในการเข้า ซื้ อ ขายนั้ น
เป็นเรื่องที่ไม่ควรทา ถ้ายังไม่มีสัญญาณการเกิดแนวโน้ม (Trend) อย่างชัดเจน
ขึ้นมาเสียก่อน ต่อไปเรามาดูกันว่า การใช้ RSI ในการวิเคราะห์ให้มีประสิทธิภาพ
กว่ า การเข้ า ตามสั ญ ญาณเป็ น ยั ง ไง โดยผมจะแบ่ ง ออกเป็ น 3 แบบ คื อ
ซื้อมากเกินไป (Overbought) ขายมากเกินไป (Oversold) และสัญญาณขัดแย้ง
(Divergence)
ซื้อมากเกินไป (Overbought)

รูปที่ 14.4
146
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เมื่อเกิดการซื้อมากเกินไป (Overbought) สิ่งที่คุณควรจะทามากที่สุด


คือ ให้ คุณ เฝ้ าติ ดตามการเคลื่ อนไหวของราคาอย่า งใกล้ ชิด เพราะในอนาคต
อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของราคาจากแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) เป็นแนวโน้ม
ขาลง (Downtrend) แล้ ว ใช้ เ ทคนิ ค อื่ น มาประยุ ก ต์ ใ ช้ กั บ RSI เพื่ อ ให้ เ กิ ด
ประสิทธิภาพสูงสุด
ตัวอย่างการใช้สัญญาณจาก RSI แบบถูกวิธี แนวโน้มขาขึ้น

ตัวอย่างที่ 14.3

147
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ขายมากเกินไป(Oversold)

รูปที่ 14.5
เมื่ อ เกิ ด การขายมากเกิ น ไป (Oversold) ก็ เ ช่ น กั น ให้ คุ ณ เฝ้ า ติ ด ตาม
การเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิด เพราะในอนาคตอาจเกิดการเปลี่ยนแปลง
ของราคาจากแนวโน้ ม ขาลง (Downtrend) เป็ น แนวโน้ ม ขาขึ้ น (Uptrend)
แล้วปรับใช้ RSI กับเทคนิคอื่นๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ตัวอย่างการใช้สัญญาณจาก RSI แบบถูกวิธี แนวโน้มขาลง

ตัวอย่างที่ 14.4
148
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

สัญญาณขัดแย้ง(Divergence)
อย่างที่รู้กันแล้วว่า การเกิดสัญญาณขัดแย้ง (Divergence) เกิดจากราคา
สามารถทาจุดสูงสุดใหม่ได้ แต่ RSI ไม่สามารถทาจุดสูงสุดใหม่ตาม หรือราคา
สามารถทาจุดสูงต่าใหม่ ได้ แต่ RSI ไม่ สามารถทาจุดต่าสุดใหม่ตาม ทาให้ คุณ
สามารถวิเคราะห์ได้ว่า Momentum ของตลาดมีการอ่อนแรงลง และกาลังจะ
หมดลงไป

รูปที่ 14.6
เมื่อเกิดสัญญาณขัดแย้ง (Divergence) ให้คุณเฝ้าติดตามการเคลื่อนไหว
ของราคาอย่างใกล้ชิด เพราะในอนาคตอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของราคาจาก
แนวโน้ ม ขาขึ้ น (Uptrend) เป็ น แนวโน้ ม ขาลง (Downtrend) ที่ เ รี ย กกั น ว่ า
Bearish Divergence หรือจากแนวโน้มขาลง (Downtrend) เป็นแนวโน้มขาขึ้น
(Uptrend) ที่เรียกกันว่า Bullish Divergence พร้อมทั้งใช้เทคนิคการเทรดอื่น
มาช่วยในการประกอบการตัดสินใจเข้าซื้อขาย

149
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตัวอย่างการเกิดสัญญาณ Bearish Divergence

ตัวอย่างที่ 14.4
การเกิ ด สั ญ ญาณในแนวโน้ ม ขาขึ้ น (Uptrend) จะเรี ย กสั ญ ญาณนี้ ว่ า
Bearish Divergence ซึ่ ง เป็ น สั ญ ญาณที่ จ ะบอกว่ า แนวโน้ ม ขาขึ้ น (Uptrend)
กาลังจะหมดลง และจะเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาลง (Downtrend) ในอนาคต
ตัวอย่างการเกิดสัญญาณ Bullish Divergence

ตัวอย่างที่ 14.5
150
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

การเกิดสัญญาณในแนวโน้มขาลง (Downtrend) จะเรียกสัญญาณนี้ว่า


Bullish Divergence ซึ่ ง เป็ น สั ญ ญาณที่ บ อกว่ า แนวโน้ ม ขาลง (Downtrend)
กาลังจะหมดไป และจะเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้น(Uptrend) ในอนาคต
เคล็ดลับในการใช้ RSI

รูปที่ 14.7
MACD จะใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อการเคลื่อนไหวของราคาในตลาด
มีแนวโน้ม (Trend) ที่แข็งแกร่ง แต่มีจุดด้อย คือ เมื่อราคาเกิดสภาวะแนวโน้ม
แกว่งตัว (Sideway) จะทาให้การใช้งาน MACD ไม่มีประสิทธิภาพเลย ซึ่งตรงข้าม
กับ RSI เพราะสามารถใช้การได้มีประสิทธิภาพมาก ในการเกิดแนวโน้มแกว่งตัว
(Sideway) และจะใช้ได้ไม่มีประสิทธิภาพเลย ถ้าการเคลื่อนไหวของราคาในตลาด
มีแนวโน้ม (Trend) ที่แข็งแกร่ง เพราะถ้าแนวโน้ม (Trend) ของตลาดแข็งแกร่ง
เกินไป RSI จะส่งสัญ ญาณการซื้ อมากเกินไป(Overbought) หรือการขายมาก
เกินไป (Oversold) อย่างต่อเนื่อง จะทาให้คุณสับสนกับการซื้อขายในครั้งนี้เป็น
อย่างมาก

151
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก้าวที่ 15
Stochastic แกว่งปัญญาหากาไร

152
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

Indicator ตั ว นี้ ถู ก คิ ด ค้ น ขึ้ น มาตั้ ง แต่ ปี 1960 โดยนามของบริ ษั ท


Investor Educators แต่มาทาให้คนรู้จักกัน อย่างแพร่หลายโดย George Lane
ซึ่งเป็น Indicators ที่ให้สัญญาณเร็ว และเหมาะสาหรับแนวโน้มตลาดแกว่งตัว
(Sideway) ทาให้นักเทรดระยะสั้นหลายๆคน นาเอา Stochastic ไปปรับใช้กับ
การเทรดของตัวเอง ส่วนมากจะเป็น เทรดเดอร์ สไตล์เก็งกาไร และเทรดเดอร์
รายวัน (Day Trade)
Stochastic จะใช้ ห ลั ก การค านวณ คื อ เมื่ อ ราคามี แ นวโน้ ม (Trend)
สูงขึ้น ราคาปิดจะอยู่ใกล้กับ High แต่ถ้าราคามีแนวโน้ม (Trend) ต่าลง ราคาปิด
จะอยู่ใกล้กับ Low นั่นคือ Indicator ตัวนี้ จะใช้วัดสัดส่วนของราคาปิดที่ขึ้นมา
สูงกว่า Low ต่อช่วงทั้งหมดของ High กับ Low ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
%K = 100 [(C – L5close) / (H5 – L5)]
C = ราคาปิดล่าสุด
L5 = ราคาต่าสุดในช่วง 5 วันที่ผ่านมา
H5 = ราคาสูงสุดในช่วง 5 วันที่ผ่านมา
%D = 100 (H3 / L3)
H3 = ราคาสูงสุดในช่วง 3 วันที่ผ่านมา
L3 = ราคาต่าสุดในช่วง 3 วันที่ผ่านมา

153
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ดังนั้น เส้น %K คือ เส้นของ Stochastic (ปกติจะเป็น 5 วัน)


เส้น %D คือ เส้นค่าเฉลี่ยจานวนวัน ของเส้น %K (ปกติจะใช้ 3 วัน)

รูปที่ 15.1
Stochastic จะมีค่าอยู่ระหว่าง 0-100 ซึ่งหลักการที่ใช้ก็คือ ถ้าค่าของ
Stochastic > 80 เป็ น สั ญ ญาณซื้ อ มากเกิ น ไป (Overbought) ถ้ า ค่ า ของ
Stochastic < 80 เป็ น สั ญ ญาณขายมากเกิ น ไป (Oversold) และยั ง สามารถ
ตรวจจับสัญญาณขัดแย้ง (Divergence) ได้อีกด้วย
Stochastic > 80 คือ ซื้อมากเกินไป (Overbought)
Stochastic < 80 คือ ขายมากเกินไป (Oversold)
การใช้ Stochastic ตรวจจั บ สั ญ ญาณขั ด แย้ ง (Divergence) ก็ จ ะใช้
หลักการเหมือนกับ MACD และ RSI ถ้าราคาทาจุดสูงสุดใหม่ได้ แต่ Stochastic
ไม่สามารถทาจุดสูงสุดได้ตาม เรียกกันว่า Bearish Divergence หรือถ้าราคาทา
จุ ด ต่ าสุ ด ใหม่ ไ ด้ แต่ Stochastic ไม่ ส ามารถท าจุ ด ต่ าสุ ด ได้ ต าม เรี ย กกั น ว่ า

154
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

Bullish Divergence ซึ่ ง เป็ น สั ญ ญาณให้ คุ ณ ติ ด ตามกราฟราคาอย่ า งใกล้ ชิ ด


เพราะอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม (Trend) ในอนาคต
การใช้ Stochastic แบบมืออาชีพ
ในเรื่องของการใช้ Stochastic ผมจะบอกถึงปัญหาหลักในการใช้ก่อนว่า
ปกติ แ ล้ ว เทรดเดอร์ มื อ ใหม่ จ ะใช้ Stochastic โดยใช้ สั ญ ญาณซื้ อ ขายจาก
Indicator ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ได้นะครับ แต่ถ้าไม่ระวังอาจจะเกิดความผิดพลาดครั้ง
ใหญ่เลยก็เป็นได้
ซื้อขายทันทีเมื่อ Stochastic เกิดการซื้อมากเกินไป (Overbought)
หรือขายมากเกินไป (Oversold)

รูปที่ 15.2
จากรูปที่ 13.3 ทาการเข้าซื้อ (Buy) เมื่อ Stochastic เกิดสัญญาณขาย
มากเกินไป (Oversold) และทาการขาย (Sell) เมื่อ Stochastic เกิดสัญญาณซื้อ
มากเกินไป (Overbought) วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลอย่างแน่นอนครับ เพราะ Stochastic
เป็น Indicators ที่ให้สัญญาณค่อนข้างเร็วและถี่มาก ทาให้คุณจะสับสนในการ
155
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เคลื่ อ นไหวของ Stochastic และจะเกิ ด ความไม่ มั่ น ใจในการใช้ Stochastic


ในที่สุด
ตัวอย่างการใช้สัญญาณจาก Stochastic แบบผิดวิธี

ตัวอย่างที่ 15.1
ซื้อขายทันทีเมื่อเส้น %K ตัดเส้น %D

รูปที่ 15.3
การใช้สัญญาณการตัดกันของเส้น %K กับเส้น %D ก็เช่นกัน ถ้าเราทา
ตามสัญญาณของการตัดกันทุกครั้ง ก็หมายถึงเราทาตามสัญญาณของ Indicator

156
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ซึ่งผมย้ามาตลอดว่า ถ้ายังไม่มีสัญญาณอื่นๆเป็นตัวช่วยในการยืนยันที่ชัดเจน
พอร์ตของคุณจะเกิดการขาดทุนมากกว่ากาไรแน่นอน
ตัวอย่างการใช้สัญญาณจาก Stochastic แบบผิดวิธี

ตัวอย่างที่ 15.2
การใช้ Stochastic จะใช้ ได้ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพมากเมื่ อ ตลาดเป็ น สภาวะ
แนวโน้ ม แกว่ ง ตั ว (Sideway) และจะใช้ ไ ด้ ไ ม่ ดี เ ลย ในตลาดที่ เ ป็ น แนวโน้ ม
(Trend) แข็งแกร่ง ซึ่งปกติแล้ว ถ้าใครซื้อขายเมื่อเกิดสัญญาณการซื้อมากเกินไป
(Overbought) หรื อ ขายมากเกิ น ไป(Oversold) ทั น ที จะขาดทุ น เพราะว่ า
ในขณะที่ราคาเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ยิ่งราคาปิดสูงติดต่อกันหลายวัน
มากเท่าไหร่ ก็จะทาให้ค่า Stochastic เข้าใกล้ค่า 100 มากขึ้นเท่านั้น นั่นแสดง
ถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) เป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกัน
ถ้าราคาเป็นแนวโน้มขาลง (Downtrend) ยิ่งราคาปิดต่าติดต่อกันหลายวันมาก

157
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เท่ า ไหร่ ก็ จ ะท าให้ ค่ า Stochastic เข้ า ใกล้ ค่ า 0 มากขึ้ น เท่ า นั้ น นั่ น แสดงถึ ง
ความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาลง (Downtrend) เป็นอย่างมาก

รูปที่ 15.4
เทคนิคส่วนตัวในการใช้ Stochastic
ผมได้ มี เ ทคนิ ค ในการใช้ Stochastic ในตลาดที่ มี แ นวโน้ ม (Trend)
มาแนะนาให้ผู้อ่าน โดยจะใช้การแกว่งตัวของ Stochastic ทาให้เกิดประโยชน์
เพื่อหาจังหวะเข้าซื้อขายสูงสุด ทาให้คุณสามารถประยุกต์ใช้กับเทคนิคส่วนตัว
หรือเทคนิคอื่นๆได้ ตามความเหมาะสม
อย่ า งที่ เ รารู้ กั น ว่ า Stochastic เป็ น Indicator ที่ ใ ห้ สั ญ ญาณเร็ ว
การประยุกต์ใช้ก็ต้องหา Indicator ที่ให้สัญญาณเร็วใกล้เคียงกัน เพราะถ้านา
Indicator ที่ให้สัญญาณเร็วมาผสมกับ Indicator ที่ให้สัญญาณช้า อาจจะทาให้
เกิดการบอกสัญญาณที่ขัดแย้งกันขึ้นมา

158
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตัวอย่างการใช้สัญญาณจาก Stochastic หาจังหวะซือ้ ขาย

ตัวอย่างที่ 15.3
จากตั ว อย่ า งที่ 13.3 จะเห็ น ว่ า ผมน าแค่ เ รื่ อ งเส้ น Trend Line กั บ
สัญญาณกราฟแท่งเทียน (Candlestick) กลับตัว มาประยุกต์ใช้กับ Stochastic
ในการหาจังหวะการซื้อขาย อธิบายง่ายๆว่า เมื่อเรามองสภาวะตลาดเป็นแนวโน้ม
ขาขึ้น (Uptrend) เราจะใช้ Stochastic ในการหาจังหวะซื้อ (Buy) โดยดูจากการ
ขายมากเกินไป (Oversold) พร้อมทั้งใช้สั ญญาณของแนวรับ (Support) และ
สั ญ ญาณกราฟแท่ ง เที ย น (Candlestick) กลั บ ตั ว มาเป็ น ปั จ จั ย ประกอบการ
ตัดสินใจเพิ่มเติม
ผมขอให้ ผู้ อ่ า นแยกแยะนะครั บ ว่ า แนวโน้ ม ขาขึ้ น (Uptrend) และ
แนวโน้มขาลง (Downtrend) ในแต่ละเรื่องนั้นมีวิธีใช้และเทคนิคที่แตกต่างกัน
ซึ่งผู้อ่านอาจจะเกิดความสับสนอยู่บ้าง ดังนั้น ถ้าผู้อ่านเกิดความสับสนขึ้นมา
เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้จบ ผมขอให้ผู้อ่านพักและผ่อนคลาย แล้วกลับมาอ่าน

159
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก้าวที่ 16
ทราบปริมาณการซื้อขายด้วย Volume

160
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เป็น Indicators ที่ใช้วัดปริมาณการซื้อขายของตลาด ซึ่งจะสามารถใช้


ตรวจสอบความแข็ ง แกร่ ง ของแนวโน้ ม (Trend) การเกิ ด สั ญ ญาณหลอก
(Fail Break) และสั ญ ญาณขั ด แย้ ง (Divergence) (คุ ณ สามารถใช้ MACD RSI
และ Stochastic ตรวจสอบสัญญาณ Divergence แทนได้) และเป็น Indicator
ที่มีประโยชน์มากมายสาหรับการใช้วิเคราะห์แรงซื้อขายในเชิงจิตวิทยา เทรดเดอร์
มือใหม่อาจจะยังไม่เข้าใจเรื่องของแรงซื้อแรงขายมากนัก ซึ่งผมจะอธิบายให้เข้าใจ
ง่ายที่สุด เพื่อให้ผู้อ่านนา Volume ไปใช้สาหรับการวิเคราะห์การซื้อขายให้ดี
ยิ่งขึ้น
การใช้ Volume ในการวิเคราะห์ความแข็งแกร่งของแนวโน้มในตลาดกับ
กราฟแท่งเทียน ผมจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 แบบ คือ
1. แท่งราคายาว Volume ยาว

รูปที่ 16.1
เมื่อมีปริมาณการซื้อขายเข้ามาในตลาดเป็นจานวนมาก (ทาให้ Volume
มีปริมาณมาก) สิ่งที่จะตามมาก็คือแนวโน้ม (Trend) แสดงให้เห็นว่าการซื้อขายนี้

161
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

มีนัยสาคัญมากขึ้น ยิ่ง Volume มีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แสดงว่านักลงทุนส่วน


ใหญ่สนใจเข้ามาซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็นจานวนมากด้วยเช่นกัน และทาให้คุณ ทราบว่า
แนวโน้ม (Trend) ของตลาดในตอนนี้มีความแข็งแกร่งมาก
2. แท่งราคายาว Volume สั้น

รูปที่ 16.2
การที่แท่งเทียนยาวแต่มีปริมาณการซื้อขายที่น้อยมาก (ทาให้ Volume
มีปริมาณน้อย) ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับความเป็นจริง เมื่อเราเจอสัญญาณแบบนี้
ให้คุณระวังตัวไว้เลยว่า จะเกิดสัญญาณหลอก (Fail Break) แน่นอน
3. แท่งราคาสั้น Volume ยาว

รูปที่ 16.3
162
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ถ้าตลาดมีปริ ม าณการซื้ อขายเข้ามาเป็นจานวนมาก (ทาให้ Volume


มี ป ริ ม าณมาก) แต่ แ ท่ ง เที ย นกลั บ สั้ น ไม่ เ กิ ด แนวโน้ ม (Trend) หรื อ วิ่ ง ไปไหน
เป็ น สั ญ ญาณเตื อ นว่ า อี ก ไม่ น านราคาจะวิ่ ง ไปทิ ศ ทางใดทิ ศ ทางหนึ่ ง แน่ น อน
เพราะแรงซื้อขายเข้ามาสะสมเป็นจานวนมากแล้ว
4. แท่งเทียนสั้น Volume สั้น

รูปที่ 16.4
เมื่ อ แท่ งเที ย นสั้ น แล้ ว Volume น้ อยตาม ก็ใ ห้ คุ ณ วิ เคราะห์ ได้ เ ลยว่ า
สภาวะตลาดในตอนนี้เกิดการพักตัวหรือแนวโน้มแกว่งตัว (Sideway) ซึ่งนักลงทุน
ยังไม่สนใจที่เข้ามาซื้อขายในขณะนี้ ทาให้ปริมาณการซื้อขายมีจานวนน้อย
การดูกราฟแท่งเทียน (Candlestick) ประกอบกับการใช้ Volume ทาให้
เราสามารถหาจังหวะการซื้อขายอย่างมีนัยสาคัญมากขึ้น ไม่ใช้การเข้าซื้อขายมั่วๆ
และช่ว ยให้เ ราระวั งตัวว่ าต่อไปอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่มีค วามเสี่ยงรุน แรงต่ อ
การซื้อขายอีกด้วย

163
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

การใช้รูปแบบกราฟแท่งเทียนกับ Volume ทั้ง 4 แบบ

รูปที่ 16.5
คุณ ต้องเข้าใจหลั กการซื้ อขายของตลาดก่อนว่า ถ้ามีคนต้องการขาย
ต้องมีคนเข้ามารับซื้อเอาไว้ และถ้ามีคนต้องการซื้อก็ต้องมีคนขายให้ จึงจะทาให้
เกิดราคาขึ้นมาได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคนทั้งโลกต้องการจะซื้ออย่างเดียว แต่กลับ
ไม่มีคนขายให้จะเป็นยังไง? คาตอบก็คือ จะไม่เกิดราคาขึ้นมา ดังนั้น เมื่อ คุณทา
การซื้อหรือขาย ไม่ว่าจะเป็นขนาด Lot Size ที่ใหญ่แค่ไหน ก็จะมีคนรับการซื้อ
ขายของคุณทุกครั้ง

164
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ผู้อ่านอาจจะยังสงสัยว่า ทาไมผมถึงพูดเรื่องนี้ จริง ๆแล้วมันเป็นสิ่งสาคัญ


มากที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องรู้ สมมุติว่า ตลาดมีการขายออกมาอย่างถล่มทลาย
ทาให้ราคาลงมาอย่างต่อเนื่องจนถึงจุดๆหนึ่ง ซึ่งแรงขายได้หมดลง สุดท้ายแล้ว
ต้องมีคนเข้ามารับซื้อไว้เพื่อให้ตลาดเกิดความสมดุล ดังนั้น Volume ยังสามารถ
ช่ว ยบอกถึง ความต้ อ งการซื้ อ และความต้อ งการขายของนัก ลงทุ น ในแต่ ล ะ
ช่วงเวลาได้อีกด้วย
ตัวอย่างการสังเกตปริมาณการซื้อขายจาก Volume

ตัวอย่างที่ 16.1
จากตัวอย่างที่ 16.1 การนา Volume มาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ว่า
เกิดปริมาณการซื้อขายในตลาดมากเกินไปหรือป่าว จะเห็นว่า Volume แท่งนั้น
เกิดการพุ่งขึ้นไปอย่างรุนแรงหรือว่าซื้อมากเกินไป ทาให้คุณวิเคราะห์ได้ว่า จะต้อง
มีการขายออกมารับการซื้อครั้งนี้เสียก่อนราคาถึงจะวิ่งไปต่อได้ ดังนั้น Volume
จึงสามารถใช้บอกสัญญาณการกลับตัวของราคาได้เช่นกัน

165
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

อีกเรื่องหนึ่งที่สาคัญสาหรับการใช้ Volume ให้ผู้อ่านลองสังเกตปริมาณ


การซื้อขายบริเวณแนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance) ว่ามีปริมาณ
มากหรือป่าว เพราะเป็นจุดที่น่าสนใจในการหาจังหวะซื้อขายที่ดีมากเลยทีเดียว
Indicator ในโลกนี้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ทุกวัน เพื่อที่จะสามารถนาไปต่อสู้
กับสภาวะตลาดในแต่ละรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ก่อนจบเรื่องนี้ ผมอยาก
แนะนาว่า ในโลกนี้ ไม่มี Indicator ที่สมบูรณ์แบบ 100% อย่ายึดติดกับมันมาก
จนเกินไป แต่จงใช้มันเพื่อประกอบการตัดสินใจ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด แล้วสัก
วันผมจะรอดูการเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพที่ประสบความสาเร็จของคุณ

166
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก้าวที่17
Fibonacci ตัวเลขสุดอัศจรรย์ของจักรวาล

167
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เทรดเดอร์มือใหม่ที่เข้ามาในตลาดอาจจะยังงงๆว่า Fibonacci คืออะไร


แค่ชื่อก็ยังไม่ค่อยคุ้นหูเลย หลังจากที่ผ มได้อธิบายหลักการ และเทคนิคต่างๆ
ในการเทรดไปมากมาย ต่อไปจะเป็นเครื่องมือที่สาคัญ ที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องรู้จัก
เพราะเป็นการใช้ตัวเลขทางคณิตศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริงตามธรรมชาติ มาประยุกต์ใช้
กับการวิเคราะห์สัดส่วนของตลาด เพื่อหาราคาเป้าหมาย และทาให้ ทราบถึง
อารมณ์ในตลาดขณะนั้นอีกด้วย
Fibonacci คืออะไร

รูปที่ 17.1
ผู้ ค นพบ Fibonacci คื อ Leonardo Fibonacci นั ก คณิ ต ศาสตร์ ช าว
อิตาเลียน ซึ่งเป็นคนที่ทาให้โลกเรารู้จักรหัสลับของธรรมชาติ โดยเขาได้เริ่มศึกษา
และสังเกตพฤติกรรมและสัดส่วนของธรรมชาติ เช่น รูปแบบของการเกิดฟ้าแลบ
รู ป แบบการจั ด เรี ย งทางกายภาพของพื ช และสั ต ว์ เป็ น ต้ น ท าให้ Leonardo
Fibonacci พบว่ า ธรรมชาติ ข องเรามี รู ป แบบที่ ค่ อ นข้ า งเสถี ย ร ซึ่ ง เป็ น ไป
ตามลาดับของตัวเลขฟิโบนัชชี่ (Fibonacci Number)

168
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปที่ 17.2
ตั ว เลขฟิ โ บนั ช ชี่ (Fibonacci Number) คื อ เลขจ านวนเต็ ม ที่ ผ ลบวก
ถัดไปจะเท่ากับผลบวกของจานวนสองจานวน ก่อนหน้านี้ และตัวเลขสองจานวน
แรกคือ 0 กับ 1 ตามลาดับ เช่น 0+1=1 , 1+1=2 , 1+2 =3 , 3+2= 5 เป็นต้น
ดังนั้น ตัวเลขฟิโบนัชชี่ (Fibonacci Number) ที่ได้จากการคานวน คือ
1 , 1 , 2 , 3 , 5 , 8 , 13 , 21 , 34 , 55 , 89 , 144 , 233 , ...........
ตอนนี้ผู้อ่านอาจจะยังงงว่า มันเป็นตัวเลขที่มีความพิเศษยังไง เพราะจาก
ที่เห็นก็เป็นการนาตัวเลขมาบวกกันเรื่อยๆ ทั่วไป ผมอยากให้ผู้อ่านลองคานวณ
โดยนาตัวเลขลาดับหลังหารตัวเลขลาดับหน้า ยกตัวอย่างเช่น 5 หารด้วย 3 , 8
หารด้วย 5 , 13 หารด้วย 8 เป็นต้น จะเห็นว่าผลลัพธ์ที่ได้ คือ ประมาณ 1.618
ซึ่งตัวเลขจะใกล้เคียง 1.618 มากยิ่งขึ้น เมื่อตัวเลขที่นามาหารมีจานวนเพิ่มขึ้น
เรื่อยๆตามลาดับ

169
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปที่ 17.3
ชาวกรี ก โบราณจะเรี ย กค่ า 1.618 ว่ า ฟี (Phi) หรื อ สั ด ส่ ว นทองค า
ซึ่งเป็นสัดส่วนที่จะเชื่อมโยงตัวเลขทางคณิตศาสตร์เข้ากับเอกภพหรือจักรวาลทั้ง
มวลเลยก็ว่าได้ เอาง่ายๆคือก็ ทุกอย่างบนโลกเราหรือจักรวาลเราเป็นไปตาม
สัดส่ วนของ Fibonacci ทั้งสิ้น ยกตัวอย่างเช่น ดอกทานตะวัน ตระบองเพชร
เปลือกหอย ลูกสน วังวนของกระแสน้า การหมุนของพายุ หรือแม้แต่การขยายตัว
ของเอกภพ ก็เป็นไปตามสัดส่วนของ Fibonacci ทั้งหมด
ตัวอย่างการนา Fibonacci มาปรับใช้กับตลาด Forex

ตัวอย่างที่ 17.1
170
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

หลั ง จากนั้ น ได้ มี ก ารน า Fibonacci มาสร้ า งเป็ น เครื่ อ งมื อ ที่ ช่ ว ยใน
การเทรด Forex เพื่อใช้ในการหาจุดที่มีนัยสาคัญในการซื้อขาย โดย Fibonacci
ในโปรแกรม Metatrader 4 จะมีทั้งหมด 5 แบบ คือ Fibonacci Retracement
, Fibonacci Time Zones , Fibonacci Fan , Fibonacci Arcs และFibonacci
Expansion ในเรื่ อ งนี้ ผ มจะขอพู ด แต่ Fibonacci Retracement เพราะเป็ น
เครื่องมือ Fibonacci ที่นักลงทุนนิยมใช้กันมากที่สุด
การใช้ Fibonacci Retracement กับ ตลาด Forex
ผมเคยอธิบายเรื่อง วัฏจักรของคลื่น ให้ทราบกันไปแล้ว ซึ่ งตรงนี้ คุณ
สามารถนา Fibonacci Retracement มาหาจุดของราคาที่มีนัยสาคัญต่างๆได้
เทรดเดอร์มืออาชีพส่วนใหญ่จะใช้ Fibonacci Retracement ได้หลากหลายวิธี
เพื่ อ จะหาจุ ด ที่ มี นั ย ส าคั ญ ที่ สุ ด โดยส่ ว นมากแล้ ว Fibonacci Retracement
จะใช้การหาแนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance) ซึ่งสามารถใช้เป็นจุด
เข้าซื้อขาย จุดปิดทากาไร (Take Profit) จุดตัดขาดทุน (Stop Loss) และหาราคา
เป้าหมายได้ทั้งหมด
เมื่ อ คุ ณ กาง Fibonacci Retracement ออก จะมี เ ส้ น 0% , 23.6% ,
38.2% , 50.0% , 61.8% และ100% ค่ า เหล่ า นี้ คื อ แนวรั บ (Support) และ
แนวต้าน (Resistance) ที่สาคัญของราคาในตลาด ผมจะค่อยๆอธิบายหลักการใช้
Fibonacci Retracement ไปที ล ะล าดั บ ขั้ น เพราะ Fibonacci Retracement
คื อ เครื่ อ งมื อ ที่ ส าคั ญ ในการวิ เ คราะห์ คลื่ น เอลเลี ย ต (Elliott Wave) ทฤษฏี

171
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

การวิ เ คราะห์ ขั้ น สู ง ที่ ผ มจะอธิ บ ายในบทถั ด ไป แต่ ต อนนี้ ก ลั บ มาเรื่ อ งของ
Fibonacci Retracement ก่อนนะครับ

รูปที่ 17.4

เราสามารถเพิ่ ม ราคาหลั ง ระดั บ % ได้ โดยดั บ เบิ้ ล คลิ ก Fibonacci


Retracement ที่เรากางไว้ คลิกขวาแล้วเลือกที่ Fibo Properties จากนั้นให้คลิก
ที่ Fibo Levels แล้วเติม =%$ ลงท้ายตัวเลขที่ช่อง Descriptions ทุกตัว
ต่ อ ไปมาดู กั น ว่ า เส้ น 0% , 23.6% , 38.2% , 50.0% , 61.8% และ
100% มี ค วามส าคั ญ ต่ อ กราฟราคายั ง ไง ท าไมเทรดเดอร์ ส่ ว นใหญ่ จึ ง นิ ย มใช้
Fibonacci Retracement กัน

172
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตัวอย่างการใช้ Fibonacci Retracement กับตลาด Forex

ตัวอย่างที่ 17.2
จากตัวอย่างที่ 17.2 จะเห็นว่า Fibonacci Retracement ใช้เป็นแนวรับ
(Support) และแนวต้าน (Resistance) ของราคาได้อย่างมีนัยสาคัญ เพราะเมื่อ
ราคาวิ่งไปชนเส้นต่างๆ จะเกิดการดีดกลับทุกครั้ง ทาให้ คุณสามารถนาประโยชน์
จาก Fibonacci Retracement มาประยุกต์ใช้กับการเทรดคุณให้มีประสิทธิภาพ
มากยิ่งขึ้น
ตอนนี้ผู้อ่านคงมีคาถามในใจแล้วว่า มันมีแนวรับ (Support) แนวต้าน
(Resistance) ตั้งหลายเส้น แล้วจะรู้ได้ไงว่ามันจะวิ่งไปถึงเส้นไหน? ตรงนี้ผมบอก
ไม่ได้หรอกนะครับว่ามันจะวิ่งไปถึงเส้น ไหน เพราะถ้ารู้ขนาดนั้น คนทั้งโลกก็คง
รวยกั น ไปหมดแล้ ว แต่ Fibonacci Retracement จะมี แ นวรั บ (Support)
แนวต้าน (Resistance) ที่แข็งแกร่งมากที่สุดอยู่ คือ 61.8% ซึ่งถ้าราคาสามารถวิ่ง

173
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ผ่ า นจุ ด นี้ ไ ปได้ ให้ เ ราระวั ง ไว้ ว่ า ราคาอาจจะวิ่ ง ไปต่ อ อี ก ไกล เพราะแนวรั บ
(Support) แนวต้าน (Resistance) ที่สาคัญที่สุดได้พังลงไปแล้ว
แนวรับ แนวต้าน ที่แข็งแกร่งที่สุด คือ 61.8%
การใช้ Fibonacci Retracement ในการวิเคราะห์ราคาเป้าหมายนั้นมี
ประโยชน์เป็นอย่างมาก ถ้าคุณใช้ได้อย่างถูกต้องและเชี่ยวชาญ เพราะสามารถทา
ให้คุณหาจุดซื้อขายบริเวณแนวรับ (Support) แนวต้าน (Resistance) ที่สาคัญ
เพื่อให้ได้ราคาในการเข้าซื้อขายที่ดี และทาให้คุณได้เปรียบตลาดเป็นอย่างมาก
การใช้ Fibonacci Retracement หาราคาเป้าหมาย
ประโยชน์ ข อง Fibonacci Retracement อี ก อย่ า งหนึ่ ง ก็ คื อ ใช้ ใ น
การหาราคาเป้ า หมายของราคาได้ ซึ่ ง จะใช้ เ ป็ น จุ ด ตั ด ท าก าไร (Take Profit)
เพื่อให้คุณสามารถกาหนดการปิดทากาไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่การเทรด
แบบได้ ก าไรนิ ด ก าไรหน่ อ ยแล้ ว ก็ ปิ ด เหมื อ นที่ เ คยท ากั น มา ต่ อ ไปมาดู กั น ว่ า
Fibonacci Retracement สามารถใช้หาราคาเป้าหมายได้อย่างไร

174
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปที่ 17.5
จากรู ป ที่ 17.5 ผมอยากให้ ผู้ อ่ า นเพิ่ ม เส้ น 161.8% , 261.8% และ
423.6% เข้ า ไปใน Fibonacci Retracement ของตั ว เองก่ อ น โดยมี วิ ธี ก าร
คือ โดยดับเบิ้ลคลิก Fibonacci Retracement ที่เรากางไว้ คลิกขวาแล้วเลือกที่
Fibo Properties กดปุ่ ม Add จากนั้ น ให้ ใ ส่ 1.618 ในช่ อ ง Level และใส่
161.8=%$ ในช่ อ ง Descriptions ต่ อ ไปให้ เ รา Add ค่ า ของ 261.8% และ
423.6% เข้าไปด้วย
ตัวอย่างการใช้ Fibonacci Retracement หาราคาเป้าหมาย

ตัวอย่างที่ 17.3
175
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

จากตัวอย่างที่ 17.3 ค่าของ 161.8% , 261.8% และ423.6% จะเป็น


ค่าทีใ่ ช้กาหนดราคาเป้าหมายเมื่อราคาเกิดการ Break Out ขึ้นไป เป้าหมายแรกที่
ราคาจะวิ่งไปคือ 161.8% ซึ่งเป็นแนวต้าน (Resistance) แรก ที่คุณสามารถปิด
ท าก าไรออกไปส่ ว นหนึ่ ง ก่ อ น และปล่ อ ยให้ อ อเดอร์ ที่ เ หลื อ วิ่ ง ท าก าไรต่ อ ไป
เมื่อราคาวิ่งไปชน 261.8% คุณสามารถปิดทากาไรทั้งหมดได้ แต่ถ้าตลาดในช่วง
นัน้ เกิดแนวโน้ม (Trend) อย่างรุนแรง คุณสามารถเหลือออเดอร์ไว้ เพื่อให้ราคาวิ่ง
ทากาไรต่อไปจนถึง 423.6% ได้
เทคนิคการล๊อคกาไร จะเป็นเทคนิคที่เทรดเดอร์มืออาชีพส่วนใหญ่ใช้กัน
คือ การรักษาต้นทุนของเราเอาไว้ ซึ่งเมื่อราคาวิ่ งไปถึงแนวรับ (Support) หรือ
แนวต้าน (Resistance) แรก ให้ทาการปิดทากาไรไปก่อนครึ่งหนึ่ง แล้วปล่อยให้
ส่วนที่เหลือวิ่งทากาไรต่อไป
ในแนวโน้ ม ขาลง (Downtrend) ก็ เ ช่ น กั น คุ ณ สามารถใช้ Fibonacci
Retracement เพื่อกาหนดแนวรับ (Support) ที่ราคาจะวิ่งต่อไป โดยแนวรับที่
1 คือ 161.8% แนวรับที่ 2 คือ 261.8% และแนวรับที่ 3 คือ 423.6% ตามลาดับ
การใช้ Fibonacci Retracement สามารถประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์
เป้าหมายของราคาได้หลากหลายวิธีมาก ตรงนี้จะขึ้นอยู่กับประสบการณ์และ
เทคนิ ค ส่ ว นตั ว ของผู้ ใ ช้ แ ต่ ล ะคน เพราะการทราบถึ ง เป้ า หมายของราคาที่
มีนัยสาคัญ จะทาให้คุณตัดสินใจเข้าซื้อขายได้อย่างมีเหตุมีผล ไม่ใช่การเข้าซื้อขาย
ตามความคิดและอารมณ์ส่วนตัวอีกต่อไป

176
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก้าวที่ 18
กฎเหล็กของธรรมชาติที่ถูกขนานนามว่า Elliott Wave

177
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

มาถึงเรื่องสุดท้ายของการวิเคราะห์ทางเทคนิคกันแล้ว หวังว่าผู้อ่านยังคง
ไม่เหนื่อยกันนะครับ ตอนนี้ผมอยากให้ผู้อ่านนึกถึงความรู้ทั้งหมด ที่ได้อ่านมาจาก
หนังสือเล่มนี้ทั้งหมด เพราะการใช้คลื่นเอลเลียต (Elliott Wave) จะเป็นการนา
ความรู้ทั้งหมดมาประยุกต์ใช้เข้าด้วยกัน ซึ่งทฤษฏีคลื่นเอลเลียต (Elliott Wave)
อาจจะถือว่าเป็นทฤษฏีขึ้นสูงเลยก็ว่าได้
คลื่ น เอลเลี ย ต (Elliott Wave) ถู ก คิ ด ค้ น โดย Ralph Nelson Elliott
นักบัญชีชาวสหรัฐอเมริกา เขาได้พบว่า การเคลื่อนไหวขึ้นลงเป็นรู ปแบบเฉพาะ
ซึ่งเป็นไปตามกฎของธรรมชาติและจิตวิทยามวลชน ราคาจะมีการขึ้นลงแบบซ้าๆ
แต่ต่างกันตรงที่ระยะทางและเวลาเท่านั้น
รูปแบบพื้นฐานของคลืน่ เอลเลียต

รูปที่ 18.1

178
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

คลื่นเอลเลียต (Elliott Wave) จะมีทั้งหมด 8 คลื่น โดยจะแบ่งออกเป็น


2 ส่วน คือ คลื่นส่ง (Impulse wave) ประกอบด้วย 5 คลื่น จะกาหนดด้วยตัวเลข
คื อ 1 , 2 , 3 , 4 และ5 คลื่ น ปรั บ (Corrective Wave) ประกอบด้ ว ย 3 คลื่ น
จะกาหนดด้วยตัวอักษร คือ A , B และC

รูปที่ 18.2
ผมจะอธิ บ ายก่ อ นว่ า คลื่ น เอลเลี ย ต (Elliott Wave) ในแนวโน้ ม ขาลง
(Downtrend) ไม่ ไ ด้ มี แ ค่ 3 คลื่ น นะครั บ เพราะยั ง มี เ ทรดเดอร์ ห ลายคน
เข้าใจแบบผิดๆอยู่ แต่ในรูปแบบพื้นฐานที่เราเห็นทั่วไป เขาต้องการทาให้เห็นว่า
คลื่ น ส่ ง (Impulse wave) และคลื่ น ปรั บ (Corrective Wave) แตกต่ า งกั น เท่ า
นั้นเอง

179
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปที่ 18.3
ในหนึ่งรอบของคลื่นเอลเลียต (Elliott Wave) จะแบ่งออกเป็นคลื่นย่อย
34 คลื่ น คื อ คลื่ น ส่ ง (Impulse wave) จ านวน 21 คลื่ น และคลื่ น ปรั บ
(Corrective Wave) จานวน 13 คลื่น

รูปที่ 18.4

180
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

จุดที่ยากสาหรับคลื่นเอลเลียต (Elliott Wave) ก็คือ ในหนึ่งรอบของคลื่น


เอลเลี ย ต (Elliott Wave) จะแบ่ ง ออกเป็ น คลื่ น ย่ อ ยลงไปอี ก ซึ่ ง มี ทั้ ง หมด
144 คลื่ น คื อ คลื่ น ส่ ง (Impulse wave) จ านวน 89 คลื่ น และคลื่ น ปรั บ
(Corrective Wave) จานวน 55 คลื่น ซึ่งจะทาให้การนับคลื่นที่ถูกต้องเป็นไปได้
ยากมาก และรูปแบบของกราฟในตลาดจะไม่ได้สวยหรูเหมือนรูปแบบตามทฤษฏี
หรอกนะครับ
ถ้าผู้อ่านลองสั งเกตคลื่ นเอลเลี ยต (Elliott Wave) จะมีรูปร่างหน้าตา
คล้ายกับทฤษฎีดาว (Dow Theory) หรือวัฏจักรของคลื่น ซึ่งจริงแล้วคลื่นเอล
เลี ย ต (Elliott Wave) อาจจะเกิ ด จากการใช้ ท ฤษฎี ด าว (Dow Theory)
เป็นต้นแบบในการเขียนก็ว่าได้
ตารางที่ 18.1 จานวนคลื่นในแต่ละรอบของคลื่นเอลเลียต
จานวนคลื่นในแต่ละรอบ
คลื่นส่ง คลื่นปรับ รอบ
คลื่นใหญ่สุด 1 1 2
คลื่นย่อยของ 5 3 8
คลื่นใหญ่สุด
คลื่นย่อยลงมา 21 13 34
คลื่นย่อยสุด 89 55 144

181
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ข้อควรจา คลื่นเอลเลียต (Elliott Wave) จะมีความสัมพันธ์กับตัวเลข


ฟิโบนัชชี (Fibonacci) ความยาวและเวลาจะมีความสัมพันธ์กับสัดส่วนฟิโบนัชชี
(Fibonacci Ratio) ซึ่ ง สั ด ส่ ว นฟิ โ บนั ช ชี (Fibonacci Ratio) จะสามารถใช้
Fibonacci Retracement มาใช้ในการวัดได้
กฎของคลืน่ เอลเลียต (Elliott Wave)
1) คลื่นที่ 3 ไม่จาเป็นต้องยาวที่สุด แต่ต้องไม่สั้นที่สุด เพราะนักลงทุน
ส่วนใหญ่จะเข้ามาทาการซื้อขายในคลื่นที่ 3 มากที่สุด
2) คลื่นที่ 4 กับคลื่นที่ 1 ต้องไม่ทับซ้อนกัน ยกเว้นได้ในบางกรณี
ตัวอย่างการใช้ Zigzag ช่วยในการนับคลืน่ เอลเลียต

ตัวอย่างที่ 18.1

182
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ต่ อ ไปผมอยากให้ ผู้ อ่ า นเพิ่ ม Zigzag Indicator เข้ า มาในกราฟของ


คุณก่อน สาหรับมือใหม่ที่หัดนับคลื่น อาจจะยังงงและนับได้ไม่ถูกต้อง ซึ่ง Zigzag
จะช่วยให้คุณสามารถมองรูปแบบของคลื่นได้ง่ายขึ้น และเมื่อฝึกไปจนชานาญแล้ว
ก็สามารถนา Zigzag ออกได้ แล้วใช้เทคนิคการนับคลื่นจากประสบการณ์โดยตรง
ของคุณเอง
คลืน่ ส่ง (Impulse wave)
คลื่ นส่ ง (Impulse wave) จะแบ่ งออกเป็น 4 รูป แบบ คื อ คลื่น ทั่ว ไป
(Normal) คลื่นยืดตัว (Extension) คลื่นรูปแบบสามเหลี่ยม (Diagonal triangle)
และคลื่ น หด (Truncation) ต่ อ ไปมาดู กั น ว่ า คลื่ น ส่ ง (Impulse wave) แต่ ล ะ
รูปแบบมีลักษณะและพฤติกรรมเป็นอย่างไร
1. คลื่นปกติ (Normal)

รูปที่ 18.5
คลื่นทั่วไป (Normal) เป็นรูปแบบที่สังเกตง่ายที่สุด เพราะจะไม่เกิดความ
ส ลั บ ซั บ ซ้ อ น ใ น รู ป แ บ บ ข อ ง ก ร า ฟ จ ะ มี ห ลั ก ก า ร นั บ ค ลื่ น ต า ม ป ก ติ

183
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เป็นรูปแบบที่คุณสามารถนับคลื่นได้ง่าย และทาให้การวิเคราะห์ของคุณถูกต้อง
แม่นยาสูง
2. คลื่นยืดตัว (Extension)

รูปที่ 18.6
ในคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่นที่ 1 , 3 และ5 จะมีเพียงคลื่นเดียวที่
เป็นคลื่นยืด ส่วนมากจะเกิดในคลื่นที่ 3 เพราะเป็นคลื่นที่นักลงทุนส่วนใหญ่เข้ามา
ซื้อขายเป็นจานวนมาก สามารถใช้สัญญาณจาก MACD ดูว่าราคาสร้างจุดสูงสุด
ใหม่หรือจุดต่าสุดใหม่ เพื่อช่วยในการตัดสินใจเพิ่มเติมได้
ในกรณีที่คลื่นที่ 5 เป็นคลื่นยืด คลื่น ที่ 1 และคลื่นที่ 3 จะมีความยาว
ใกล้เคียงกัน แต่คลื่นที่ 3 ต้องไม่สั้นที่สุด เพราะคลื่นที่ 3 เป็นคลื่นที่นักลงทุนส่วน
ใหญ่เข้ามาซื้อขาย และจะเกิดสัญญาณขัดแย้ง Bearish Divergence ในปลาย
ตลาดขาขึ้น

184
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปที่ 18.7
คลื่ น ยื ด ตั ว (Extension) อาจจะเกิ ด ขึ้ น ในคลื่ น ที่ 1 , 3 หรื อ 5 ก็ ไ ด้
ส่ ว นการเกิด คลื่ น ยืด แบบ 9 คลื่ น จะมี การเคลื่ อ นไหวแบบ 5-4-4-4-4-4-....
และแต่ละคลื่นจะมีความยาวที่ใกล้เคียงกัน
3. คลื่นรูปแบบสามเหลี่ยม (Diagonal Triangle)
คลื่นรูปแบบสามเหลี่ยม(Diagonal Triangle) จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ
คือรูปแบบสามเหลี่ยมปลายตลาด (Ending Diagonal) และรูปแบบสามเหลี่ยม
ต้นตลาด(Leading Diagonal)

185
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปแบบสามเหลี่ยมปลายตลาด (Ending Diagonal)

รูปที่ 18.8
จะเกิ ด ขึ้ น ในรู ป แบบคลื่ น ส่ ง (Impulse wave) แต่ ลั ก ษณะของกราฟ
จะคล้ายกับคลื่นปรับ (Corrective Wave) เกิดการแกว่งตัวแบบ 3-3-3-3-3-3
โดยคลื่นที่ 4 อาจจะซ้อนทับกับคลื่นที่ 1 ได้ โดยมักจะปรากฏในคลื่นที่ 5 และเมื่อ
เกิ ด การ Break Out ราคาจะวิ่ ง ลงมาอย่ า งรุ น แรง ซึ่ ง อาจใช้ เ ป็ น สั ญ ญาณ
การกลับตัว (Reversal) ของตลาดได้

รูปที่ 18.9

186
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ในกรณี ก ารเกิ ด รู ป แบบสามเหลี่ ย มปลายตลาด (Ending Diagonal)


ในคลื่น C ก็คล้ายๆกัน จะเกิดขึ้นในรูปแบบคลื่นส่ง (Impulse wave) แต่ลักษณะ
ของกราฟจะคล้ า ยกั บ คลื่ น ปรั บ (Corrective Wave) เกิ ด การแกว่ ง ตั ว แบบ
3-3-3-3-3-3 โดยคลื่ น ที่ 4 อาจจะซ้ อ นทั บ กั บ คลื่ น ที่ 1 ได้ และเมื่ อ เกิ ด
การ Break Out ราคาจะวิ่งขึ้นไปอย่างรุนแรง ซึ่งอาจใช้เป็นสัญญาณการกลับตัว
(Reversal) ได้เช่นกัน

รูปที่ 18.10
ในบางครั้งอาจจะเกิดเป็นรูปแบบสามเหลี่ยมปลายกว้าง (Expanding
Diagonal Triangle) โดยปกติแล้ว กราฟจะมีการบีบตัวเข้าหากัน แต่ในรูปแบบนี้
กราฟจะขยายออกเรื่อยๆ ทาให้มีช่วงปลายที่กว้าง มีลักษณะคล้ายกับ Reverse
Triangle

187
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปแบบสามเหลี่ยมทแยงต้นตลาด (Leading Diagonal)

รูปที่ 18.11
ในบางกรณี อ าจจะเกิ ด คลื่ น รู ป แบบสามเหลี่ ย ม (Diagonal Triangle)
ในคลื่นที่ 1 ซึ่งมีการปรับตัวแบบฟันปลา (Zigzag) โดยคลื่นที่ 1 และคลื่นที่ 4
จะมี ก ารซ้ อนทั บ กั น และแกว่ ง ตั วขึ้ น ลงในกรอบสามเหลี่ ย มแบบ 5-3-5-3-5
สามารถสังเกตได้ว่านี่คือจุดเริ่มต้นของแนวโน้ม (Trend) ได้จากสัญญาณขัดแย้ง
Bullish Divergence
4. คลื่นหด (Truncation)

รูปที่ 18.12
188
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

คลื่นหด (Truncation) ในตลาดขาขึ้น (Uptrend) จะเกิดขึ้นในคลื่นที่ 5


โดยคลื่นที่ 5 ไม่สามารถทาจุดสูงสุดใหม่เหนือคลื่น ที่ 3 ได้ ทาให้เกิดเป็นรูปแบบ
สองยอดบน (Double Top) และจะเกิดสัญญาณขัดแย้ง Bearish Divergence
ส่ ว นการเกิ ด คลื่ น หด (Truncation) ในตลาดขาลง (Downtrend) คลื่ น ที่ 5
จะไม่สามารถทาจุดต่าสุดใหม่ใต้คลื่น ที่ 3 ได้ ทาให้เกิดเป็นรูปแบบสองยอดล่าง
(Double Bottom) และจะเกิดสัญญาณขัดแย้ง Bullish Divergence
คลืน่ ปรับ (Corrective Wave)
คลื่ น ปรั บ (Corrective Wave) จะแบ่ ง ออกเป็ น 4 รู ป แบบ คื อ คลื่ น
ฟันปลา (Zigzag) คลื่นราบ (Flat) คลื่นสามเหลี่ยม (Triangle) และคลื่นแบบผสม
(Combinations) ตอนนี้ข อให้ ผู้ อ่ านนึกถึ งเรื่อ งรูป แบบต่ อเนื่ อง (Continuous
Patterns) เพราะผมจะอธิบายถึงความซับซ้อนของรูปแบบให้ลึกลงไป
1. คลื่นฟันปลา (Zigzag)

รูปที่ 18.13

189
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

การปรั บ ตั ว ของคลื่ น ฟั น ปลา (Zigzag) จะมี ก ารเคลื่ อ นที่ แ บบ A-B-C


และมีการปรับตัวแบบ 5-3-5 โดยในตลาดแนวโน้มขาลง (Downtrend) คลื่น B
จะปรับตัวไม่ถึงจุดเริ่มต้นของคลื่น A และคลื่น C จะปรับตัวเลยคลื่น A

รูปที่ 18.14
ในการปรั บ ตั ว ของคลื่ น ฟั น ปลา (Zigzag) ในตลาดแนวโน้ ม ขาขึ้ น
(Uptrend) ก็เช่นกัน จะมีการเคลื่อนไหวแบบ A-B-C และจะมีการปรับตัวแบบ
5-3-5

รูปที่ 18.15

190
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

อาจจะมีการเกิดคลื่นปรับแบบฟันปลา (Zigzag) สองชั้นหรือสามชั้นก็ได้


ซึ่ ง จะท าให้ ค ลื่ น ซั บ ซ้ อ นมากยิ่ ง ขึ้ น จะมี ก ารเคลื่ อ นไหวแบบ A-B-C-X-A-B-C
โดยให้ คุณมองคลื่น W-X-Y เป็นคลื่นปรับฟันปลา (Zigzag) แบบธรรมดา และ
ให้มองคลื่นปรับแบบฟันปลา (Zigzag) สองชั้น คือ คลื่นย่อยของคลื่นปรับฟันปลา
(Zigzag) แบบธรรมดา
2. คลื่นราบ (Flat)
เป็นคลื่นที่มีการเคลื่อนไหวแบบ A-B-C และมีการปรับตัวแบบ 3-3-5
ส่ ว นมากจะเกิ ด ในคลื่ น ที่ 4 บ่ อ ยกว่ า คลื่ น ที่ 2 ซึ่ ง จะแบ่ ง ออกเป็ น 3 แบบ
คื อ คลื่ น ราบปกติ (Regular Flat) คลื่ น กาง (Expanded Flats) และคลื่ น ไหล
(Running Flat) โดยทั้ง 3 แบบมีลักษณะต่างกันเพียงเล็กน้อย
คลื่นราบปกติ (Regular Flat)

รูปที่ 18.16

191
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เป็นคลื่นที่มีการเคลื่อนไหวแบบ A-B-C และมีการปรับตัวแบบ 3-3-5


โดยในตลาดแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) คลื่น B จะมีการดีดกลับไปถึงจุดเริ่มต้น
ของคลื่น A และคลื่น C จะปรับเลยปลายของคลื่น A ลงมาเล็กน้อย ส่วนในตลาด
แนวโน้มขาลง (Downtrend) ก็จะมีลักษณะคล้ายกัน แค่วิ่งในทิศทางที่สวนกัน
เท่านั้น
คลื่นกาง (Expanded Flats)

รูปที่ 18.17
จะมี ก ารปรั บ ตั ว แบบ 3-3-5 โดยในตลาดแนวโน้ ม ขาขึ้ น (Uptrend)
คลื่น B จะมีการปรับเลยจุดเริ่มต้นของคลื่น A และคลื่น C จะปรับเลยปลายของ
คลื่น A ลงมาพอสมควร ส่วนในตลาดแนวโน้มขาลง (Downtrend) ก็จะมีลักษณะ
คล้ายกัน แค่วิ่งในทิศทางสวนกันเท่านั้น

192
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

คลื่นไหล (Running Flat)

รูปที่ 18.18
มีการปรับตัวแบบ 3-3-5 จะเกิดขึ้นไม่ บ่อยนัก โดยในตลาดแนวโน้ ม
ขาขึ้น (Uptrend) คลื่ น B จะมี การปรับเลยจุดเริ่มต้นของคลื่น A และคลื่น C
จะปรับไม่ถึงปลายของคลื่น A ส่วนในตลาดแนวโน้มขาลง (Downtrend) ก็จะมี
ลักษณะคล้ายกัน แค่วิ่งในทิศทางที่สวนกัน
ข้อสังเกต จะเห็นได้ว่า การปรับตัวของคลื่นราบ (Flat) มีการปรับตัวขึ้น
หรือลงไม่มากนัก แล้วจะวิ่งต่อไปในแนวโน้ม (Trend) เดิม ซึ่งแสดงให้เห็นว่า
แนวโน้ม (Trend) ของตลาดมีความแข็งแกร่งมาก

193
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

3. คลื่นสามเหลี่ยม (Triangle)

รูปที่ 18.19
ในการปรับตัวของคลื่นสามเหลี่ยม (Triangle) จะมีลักษณะเป็นแนวโน้ม
แกว่ ง ตั ว (Sideway) ซึ่ ง จะวิ่ ง อยู่ ใ นกรอบสามเหลี่ ย ม มี ก ารเคลื่ อ นไหวแบบ
A-B-C-D-E โดยคลื่นย่อยปรับตัวแบบซ้อนทับกันในรูปแบบ 3-3-3-3-3 ก่อนที่
ราคาจะ Break Out แล้ววิ่งไปตามแนวโน้ม (Trend) เดิม

194
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

การเคลื่อนไหวแบบ A-B-C-D-E จะเกิดการวิ่งอยู่ในกรอบสามเหลี่ยม


และมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่ Symmetrical Triangle , Ascending
Triangle และDescending Triangle ซึ่งผมเคยอธิบายรูปแบบพื้นฐานไปในเรื่อง
รูปแบบต่อเนื่อง (Continuous Patterns) ไปแล้ว
4. คลื่นแบบผสม (Combinations)

รูปที่ 18.20
จะเป็ น คลื่ น ที่ ผ สมกั น ระหว่ า งคลื่ น ฟั น ปลา (Zigzag) คลื่ น ราบ (Flat)
และคลื่นสามเหลี่ยม (Triangle) จะกาหนดให้เป็นคลื่น W , Y และZ โดยให้ X
เป็นตัวกาหนดคลื่นแต่ละช่วง อาจจะมีการปรับตัวแบบคลื่นสาม 2 ทบ หรือคลื่น
สาม 3 ทบก็ได้ แต่ส่วนมากจะเกิดคลื่นสาม 2 ทบมากกว่าคลื่นสาม 3 ทบ

195
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปที่ 18.21
รู ป แบบการเกิ ด คลื่ น แบบผสม (Combinations) อาจจะมี รู ป แบบที่
แตกต่างกัน แล้วแต่สภาวะตลาดในขณะนั้นๆ
กฎการสลับ (Alternation)
เป็ น หลั ก การง่ า ยๆที่ นั ก ลงทุ น ส่ ว นใหญ่ ใช้ ใ นเข้ า มาเป็ น ปั จ จั ย เสริ ม
เพื่อช่วยในการวิเคราะห์รูปแบบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่ งจะแบ่งเป็น 2 แบบ
คื อ กฎการสลั บ ในคลื่ น ส่ ง (Impulse wave) และกฎการสลั บ ในคลื่ น ปรั บ
(Corrective Wave)

196
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

กฎการสลับในคลื่นส่ง (Impulse wave)

รูปที่ 18.22
จากรู ปที่ 18.22 จะอธิบ ายได้ว่า เมื่ อคลื่ น ที่ 2 เกิดการปรั บตัวลงแรง
ท าให้ คุ ณ คาดการณ์ ไ ด้ ว่ า คลื่ น ที่ 4 จะปรั บ ตั ว แบบแกว่ ง ตั ว ออกด้ า นข้ า ง
และเมื่อคลื่นที่ 2 เกิดการปรับตัวแบบแกว่งตัวออกด้านข้าง ทาให้รู้ว่ าคลื่นที่ 4
จะปรับตัวลงแรง
อี ก รู ป แบบที่ ใ ช้ ใ นการคาดการณ์ คื อ เมื่ อ คลื่ น ที่ 2 เกิ ด การปรั บ ตั ว
แบบ Simple (เป็ น การพั ก ตั ว ใช้ เ วลาสั้ น ๆไม่ ซั บ ซ้ อ น เช่ น คลื่ น ราบ (Flat)
เป็นต้น) ทาให้คุณคาดการณ์ได้ว่า คลื่นที่ 4 จะปรับตัวแบบ Complex (เป็นการ
พั ก ตั ว แบบใช้ เ วลานาน เช่ น การพั ก ตั ว แบบฟั น ปลา (Zigzag) เป็ น ต้ น ) และ
เมื่ อ คลื่ น ที่ 2 เกิ ด การปรั บ ตั ว แบบ Complex ท าให้ รู้ ว่ า คลื่ น ที่ 4 จะปรั บ ตั ว
แบบ Simple

197
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

กฎการสลับในคลื่นปรับ (Corrective Wave)

รูปที่ 18.23
จากรูปที่ 18.23 จะอธิบายได้ว่าถ้าคลื่น A การปรับตัวแบบไม่ซับซ้อน
คลื่น B จะมีการปรับตัวแบบซับซ้อน และถ้าคลื่น A มีการปรับตัวแบบซับซ้อน
คลื่น B จะมีการปรับตัวแบบไม่ซับซ้อน
การใช้ Fibonacci Retracement ในการวิเคราะห์คลืน่ เอลเลียต
มาถึงเรื่องสาคัญของคลื่นเอลเลียต (Elliott Wave) กันแล้ว คือการใช้
Fibonacci Retracement ในการวิ เ คราะห์ ค ลื่ น เอลเลี ย ต (Elliott Wave)
เพื่อสามารถหาจุดซื้อขาย จุดตัดขาดทุน (Stop Loss) และจุดปิดทากาไร (Take
Profit) ผู้อ่านหลายคน คงอยากทราบถึงเทคนิคตรงนี้เป็นอย่างมาก เพราะการใช้
Fibonacci Retracement ประกอบกับคลื่นเอลเลียต (Elliott Wave) จะทาให้
การวิเคราะห์มีความแม่นยาสูงอย่างมีนัยสาคัญ
อย่างที่เราทราบกันอยู่แล้วว่าคลื่นเอลเลียต (Elliott Wave) มีทั้งหมด
8 คลื่น โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ คลื่นส่ง (Impulse wave ประกอบด้วย 5
คลื่น คือ คลื่น 1 , 2 , 3 , 4 และ5 คลื่นปรับ (Corrective Wave) ประกอบด้วย
198
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

3 คลื่น คือ คลื่น A , B และC ตามลาดับ ต่อไปผมจะอธิบายความหมายของแต่ละ


คลื่น พร้อมกับบอกอารมณ์ของตลาดจากจิตวิทยามวลชลในขณะนั้นว่า นักลงทุน
ส่วนใหญ่คิดยังไง
คลื่นที่ 1
เป็นคลื่นที่ยังไม่สามารถทราบได้ว่านี่คือคลื่น ที่ 1 จริงหรือป่าว แล้วราคา
จะไปถึ ง จุ ด ไหน เพราะเป็ น การเริ่ ม ต้ น ใหม่ ข องแนวโน้ ม (Trend) แต่ จ ะมี
ข้อสั งเกต คือ คลื่น 1 อย่างน้อยต้องมี 5 คลื่ น ไม่ใช่ 3 คลื่น และสามารถใช้
MACD หรือ RSI ตรวจจับสัญญาณ Bullish Divergence เพื่อให้ทราบว่าแนวโน้ม
ขาลง (Downtrend) ได้เริ่มอ่อนแรงลงแล้ว นักลงทุนส่วนใหญ่ยังไม่ให้ความสาคัญ
กับคลื่นนี้มากนัก
คลื่นที่ 2
หลังจากที่เกิดคลื่นที่ 1 ขึ้นมาแล้ว นักลงทุนส่วนใหญ่จะเริ่มเฝ้าติดตาม
กราฟมากขึ้น สาหรับเทรดเดอร์มืออาชีพแล้ว เขาสามารถหาจังหวะการเข้าซื้อ
ขายจากคลื่นนี้ได้ด้วยเช่นกัน ถ้าวัดจาก Fibonacci Retracement ราคาจะวิ่งลง
ไปประมาน 61.8% หรือ78.6% ซึ่งเป็นแนวรับ (Support) สามารถใช้เป็นจุดเข้า
ซื้อ (Buy) ได้เป็นอย่างดี เหตุผลที่ราคาลงต่าไปถึง 61.8% และ78.6% เพราะว่า
นักลงทุนส่วนใหญ่จะยังคงมองว่าเป็นแนวโน้มขาลง (Downtrend) อยู่ สาหรับ
เทรดเดอร์ มื อ ใหม่ ที่ ยั ง ไม่ มี ป ระสบการณ์ ม ากพอ ผมไม่ แ นะน าวิ ธี นี้ น ะครั บ
เนื่องจากคุณจะยังไม่ทราบว่านี่คือ คลื่นที่ 2 จริงหรือป่าว เพราะถ้าราคาวิ่งลงต่า

199
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

กว่าจุดเริ่มต้นของคลื่นที่ 1 ไป มันจะเป็นแนวโน้มขาลง (Downtrend) ทันที และ


อาจจะวิ่งไปไกลจนคุณคาดไม่ถึงก็ได้
คลื่นที่ 3
เมื่อราคาสามารถวิ่งทะลุผ่านจุดยอดของคลื่นที่ 1 ขึ้นไปได้ เป็นสัญญาณ
บอกได้ เ ลยว่ า คลื่ น ก่ อ นหน้ า นี้ คื อ คลื่ น 2 และก าลั ง จะขึ้ น ต่ อ ไปด้ ว ยแนวโน้ ม
(Trend) ที่แข็งแกร่ง คลื่นที่ 3 จะเป็นคลื่นที่มีความยาว สามารถทากาไรได้เป็น
อย่างดี อีกทั้งยังมีความเสี่ยงต่า เพราะเป็นคลื่นที่นักลงทุ นส่วนใหญ่เข้ามาซื้อขาย
เป็ น จ านวนมากและมองไปในทิ ศ ทางเดี ย วกั น เมื่ อ ราคาเกิ ด การ Break Out
จุดยอดของคลื่นที่ 1 ขึ้นไปแล้ว ให้คุณหาจังหวะเข้าซื้อ (Buy) โดยมีเป้าหมายแรก
อยู่ที่ 161.8% เป้าหมายสองอยู่ที่ 261.8% และเป้าหมายสุดท้ายอยู่ที่ 423.6%
(ใช้ Fibonacci Retracement ลากจากจุดยอดของคลื่นที่ 1 ไปยังจุดเริ่มต้นของ
คลื่น 1) ตามความรุนแรงของสภาวะตลาด และให้ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop loss)
ไว้ ใ ต้ จุ ด ยอดของคลื่ น ที่ 2 การเข้ า ซื้ อ ขายในคลื่ น ที่ 3 จะท าให้ คุ ณ ได้ เ ปรี ย บ
ตลาดมาก ถึ ง แม้ คุ ณ จะเข้ า ซื้ อ ขายช้ า ไปหน่ อ ย แต่ คุ ณ ก็ ยั ง มี ค ลื่ น ที่ 5 รออยู่
สุดท้ายแล้วคุณจะได้กาไรมากกว่าขาดทุนแน่นอนครับ
คลื่นที่ 4
เป็นคลื่นที่จะทาการปรับตัวลงมาก่อนที่จะวิ่งขึ้นไปเป็นคลื่น ที่ 5 ซึ่งเป็น
คลื่นที่ไม่สมควรเข้าไปทาการซื้อขายมากเท่าไหร่ เพราะคุณจะได้ราคาที่ค่อนสูง
หรื อ แพงเกิ น ไป ถ้ า เกิ ด ราคาปรั บ ตั ว ลงมาแล้ ว เปลี่ ย นเป็ น แนวโน้ ม ขาลง

200
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

(Downtrend) คุณจะติดอยู่บนดอยทันที ตามกฎแล้วคลื่นที่ 4 จะไม่ปรับตัวลงมา


ซ้อนทับคลื่นที่ 1 แต่ในกรณีที่คลื่นที่ 3 มีแรงส่งน้อย คลื่นที่ 4 อาจจะปรับตัวลง
มาซ้อนทับคลื่นที่ 1 ได้ โดยปกติแล้วคลื่น ที่ 4 จะปรับตัวลงมาประมาณ 38.2%
ของความยาวคลื่ น ที่ 3 แต่ ถ้ า คลื่ น ที่ 3 เป็ น แนวโน้ ม ขาขึ้ น (Uptrend)
อย่างแข็งแกร่ง อาจจะปรับตัวลงมาเพียง 23.6% เท่านั้น
คลื่นที่ 5
เมื่ อ ราคาปรั บ ตั ว ขึ้ น ไปต่ อ เป็ น คลื่ น ที่ 5 จะมี จุ ด สั ง เกตที่ ชั ด เจน คื อ
เมื่ อ ราคาปรั บ ตั ว ขึ้ น ไปท าจุ ด สู ง สุ ด ใหม่ ไ ด้ แต่ ป ริ มาณการซื้ อ ขายของตลาดมี
ปริมาณลดลง คุณสามารถใช้ MACD หรือ RSI เพื่อตรวจจับสัญญาณ Bearish
Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณบอกให้เราเฝ้าติดตามกราฟอย่างใกล้ชิด เพราะอีกไม่
นานอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม (Trend) ครั้งใหญ่ การเข้าซื้อขายใน
คลื่นที่ 5 มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง แต่ถ้าคุณต้องการทากาไรในจุดนี้ ผมแนะนาให้
เข้าทาการซื้อขายตั้งแต่คลื่น 3 จากนั้นให้ คุณล็อคกาไรไว้ส่วนหนึ่ง แล้วปล่อยให้
ออเดอร์ที่เหลือวิ่งขึ้นไปทากาไรในคลื่นที่ 5 ต่อไป
คลื่น A
ส่วนมากจะเกิดการปรับตัวลงมาอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นสัญญาณของการ
เปลี่ ยนแนวโน้ม ขาขึ้ น (Uptrend) เป็ นแนวโน้ม ขาลง (Downtrend) ท าให้นั ก
ลงทุนที่เข้าซื้อขายค้างไว้ในคลื่น ที่ 5 พากันสะดุ้งกันแน่นอน แต่ถ้าใครเข้าซื้อ

201
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

(Buy) แล้วเจอสัญญาณนี้ขึ้นมา ให้คุณเตรียมใจแล้วตัดขาดทุน (Stop loss) ซะ


เพราะราคาอาจจะไม่วิ่งกลับมาหาคุณแล้วก็ได้
คลื่น B
หลังจากที่คลื่น A วิ่งลงมาอย่างรุนแรงแล้ว ราคาจะดีดกลับขึ้นไป ถ้าวัด
จาก Fibonacci Retracement ราคาอาจจะวิ่ ง ขึ้ น ไปประมาณ 50.0% หรื อ
61.8% เลยก็ได้ เพราะว่านักลงทุนบางคนยังคิดว่า เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)
หรือบางคนทั้งที่รู้ว่านี่คือคลื่น B แต่ก็ยังเข้าไปทาการซื้อ (Buy) เป็นกฎที่ห้ามทา
เด็ ด ขาด ซึ่ ง ผมเคยสอนไปแล้ ว ว่ า อย่ า สวนแนวโน้ ม (Trend) ของตลาด
เพราะถ้าคุณยังฝ่าฝืนกฎอยู่หละก้อ คุณจะเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพไม่ได้แน่นอน
และคุณกาลังเดินทางเข้าสู่วันแห่งหายนะของตัวเอง
คลื่น C
ถ้าให้เปรียบเทียบแล้ว คลื่น C ก็จะคล้ายกับคลื่น 3 นั่นเอง หลังจากราคา
Break Out จุดยอดของคลื่น A ลงมาแล้ว นักลงทุนส่วนใหญ่จะมองตลาดเป็น
แนวโน้ ม ขาลง (Downtrend) ให้ คุ ณ รอจั ง หวะขาย (Sell) โดยการหาราคา
เป้ า หมายจะมี เ ทคนิ ค การวั ด Fibonacci Retracement ที่ ผ มใช้ ม าตลอด
และมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพเป็ น อย่ า งมากอยู่ 2 วิ ธี คื อ วิ ธี แ รก ให้ ล าก Fibonacci
Retracement จากจุดยอดของคลื่น A ไปยังจุดเริ่มต้นของคลื่น A ราคาเป้าหมาย
อยู่ที่ 161.8% วิธีที่สอง ให้ลาก Fibonacci Retracement จากจุดยอดของคลื่น

202
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

5 ลงมายังจุดเริ่มต้นของคลื่น 1 ซึ่งราคาเป้าหมายอยู่ที่ 61.8% หรือ 78.6% และ


มีจุดตัดขาดทุน (Stop loss) อยู่เหนือจุดยอดของคลื่น B
สรุป การวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค (Technical analysis) คือการนา
เทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลในอดีต หรือปัจจุบัน มาช่วยในการพยากรณ์ราคา
ของตลาดในอนาคตว่ า จะไปยั ง ไงต่ อ ไป ซึ่ ง ผมได้ ส อนเทคนิ ค การวิ เ คราะห์ ที่
จาเป็นต้องรู้ไปหมดแล้ว ต่อไปผู้อ่านต้องนาความรู้ต่างๆที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ให้
เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยประสบการณ์ในตลาดจะบอกคุณเองว่า สภาวะตลาดใน
ขณะนั้ น ๆ คุ ณ จะต้ อ งใช้ ค วามรู้ ห รื อ ทั ก ษะใดเข้ า มาช่ ว ยในการวิ เ คราะห์ บ้ า ง
และอย่าลืมหาความรู้เพิ่มเติมเรื่อยๆนะครับ เพราะความรู้ไม่มีวันสิ้นสุด บางทีคุณ
อาจจะเป็นเทรดเดอร์ที่เข้าใจถึงหัวใจหลักของตลาด และสามารถทาสิ่งที่คนอื่นทา
ไม่ได้ขึ้นมาก็ได้

203
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก้าวที่ 19
ปัจจัยสาคัญที่ขาดไม่ได้ Fundamental analysis

204
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

หลังจากเราได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการวิเคราะห์กราฟทาง
เทคนิค (Technical analysis) ไปแล้ว ปัจจัยต่อไปที่สาคัญไม่แพ้การวิเคราะห์
กราฟทางเทคนิค (Technical analysis) ก็คือ การวิเคราะห์ข่าว(Fundamental
analysis) ซึ่ ง มี ผ ลมากจากปั จ จั ย ทางด้ า นเศรษฐกิ จ สั ง คม และการเมื อ ง
ของประเทศนั้นๆ ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่ออุปสงค์ และอุปทาน ทาให้ค่าเงินมีผลดีขึ้น
หรือแย่ลงตามเศรษฐกิจของประเทศ
ช่วงเวลาทาการของตลาด Forex
ก่ อ นอื่ น คุ ณ ต้ อ งทราบเวลาการเปิ ด ท าการของตลาด Forex กั น ก่ อ น
เพื่อจะได้วางแผนการเทรดในขณะที่มีนักลงทุนเข้ามาซื้อขายในตลาดได้ถูกต้อง
ไม่งั้นอาจจะงงว่าทาไมคู่เงินนี้กราฟวิ่ง แล้วอีกคู่เงินกราฟไม่วิ่ง ซึ่งอาจจะทาให้คุณ
เข้ า ซื้ อ ขายในช่ ว งที่ ไ ม่ มี นั ก ลงทุ น เข้ า มาซื้ อ ขายในตลาด ท าให้ คุ ณ เสี ย โอกาส
ตรงนี้ไป
ตลาด Forex เป็ น ตลาดระดั บ สากล เปิ ด ท าการตลอด 24 ชั่ ว โมง
ซึ่งจะเปิดทาการวันจันทร์ถึงศุกร์ และปิดทาการในช่วงวันเสาร์กบั อาทิตย์
เปิ ด ท าการเวลา 0:00 CET (GMT + 2) หรื อ เวลาตี 4 เช้ า วั น จั น ทร์
ของเวลาประเทศไทย
เปิ ด ท าการเวลา 22:00 CET (GMT + 2) หรื อ เวลาตี 4 เช้ า วั น เสาร์
ของเวลาประเทศไทย

205
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ตารางที่ 19.1 แสดงช่วงเวลาทาการแต่ละค่าเงินตามเวลาประเทศไทย


ช่วงเวลาทาการแต่ละค่าเงินตามเวลาประเทศไทย
ประเทศ Symbol เวลาเปิดทาการ เวลาปิดทาการ
ออสเตรเลีย AUD 04.00 12.00
ญี่ปุ่น JPY 07.00 15.00
สหภาพยุโรป EUR 13.00 21.00
สวิสเซอร์แลนด์ CHF 13.00 21.00
อังกฤษ GBP 14.00 22.00
สหรัฐอเมริกา USD 19.00 03.00
แคนาดา CAD 19.00 03.00

หมายเหตุ ในช่ ว งหน้ า หนาวการเปิ ด ท าการของตลาด Forex แต่ ล ะ


ประเทศจะเลื่อนออกไป 1 ชั่วโมง ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนมีนาคม
หลังจากนั้นจะกลับมาเปิดทาการตามปกติ เช่น ค่าเงิน USD ปกติจะเปิดทาการ
เวลา 19.00 น. แต่ในช่วงหน้าหนาว จะเลื่อนเป็น 20.00 น. เป็นต้น

เว็บไซด์ข่าวยอดนิยม Forex Factory

เว็ บ ไซด์ ข่ า วที่ เ ทรดเดอร์ ทุ ก คนต้ อ งรู้ จั ก ก็ คื อ forexfactory.com


เนื่ อ งจากเป็ น เว็ บ ไซด์ ที่ ใ ช้ เ ช็ ค ผลของข่ า วทางเศรษฐกิ จ ต่ า งๆ ซึ่ ง มี ผ ลต่ อ การ
เคลื่ อ นไหวของราคาทั้ ง ในระยะสั้ น จนถึ ง ระยะยาว เพื่ อ ให้ คุ ณ ใช้ ป ระกอบ
การตัดสินใจในการเข้าซื้อขายของคุณ จากที่ผมพบเห็นยังมีเทรดเดอร์ที่ยังใช้งาน

206
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เว็บไซด์นี้ไม่เป็นกัน หรือบางคนอาจจะรู้วิธีใช้อยู่บ้างแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าข่าวแต่


ตัวหมายถึงอะไร และมีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคามากน้อยแค่ไหน
การตั้งค่าเวลาของเว็บไซด์ Forex Factory

รูปที่ 19.1

จากรูปที่ 19.1 การใช้งานอันดับแรก คุณจะต้องตั้งเวลาของเว็บให้ตรง


กับเวลาในประเทศของเราก่อน ให้คุณดูตรงมุมขวาบน จะเห็นช่องเวลาอยู่ ให้คุณ
กดคลิกเข้าไป

207
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปที่ 19.2
จากรูปที่ 19.2 คุณจะเห็นช่อง Time Zone , DST และTime Format
โดยให้คุณตั้งค่าทั้ง 3 ช่องใหม่ ดังนี้
1. ช่อง Time Zone ให้เปลี่ยนเป็น (GMT +7:00) Bangkok , Hanoi ,
Jakarta ซึ่งเป็นเวลาของประเทศไทย
2. ช่ อ ง DST ให้ ใ ช้ ค่ า DST On ถ้ า ระบบมั น ปรั บ ให้ อ ยู่ แ ล้ ว ก็ ไ ม่ ต้ อ ง
เปลี่ยนแปลงอะไร
3. ช่อง Time Format จะมีแบบ am/pm และแบบ 24 Hour ให้คุณใช้
ตามทีค่ ุณชอบ แต่ส่วนตัวแล้วผมชอบแบบ 24 Hour มากกว่า

208
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

การอ่านข่าวเว็บไซด์ Forex Factory

รูปที่ 19.3
ให้ คุ ณ ดู แ ถบข้ า งบนแล้ ว คลิ ก ช่ อ งเมนู Calenda หรื อ ช่ อ งปฏิ ทิ น
จะปรากฏไปยังหน้าต่างข่าวทั้งหมดของอาทิตย์นี้

209
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปที่ 19.4

จากนั้นให้คุณดูทางซ้ายมือใต้ป้ายโฆษณา จะเห็นคาอธิบายความหมาย
ของสัญลักษณ์ คาศัพท์ และอักษรย่อต่างๆ ซึ่งมีความหมายดังต่อไปนี้
กล่องสีแดง หมายถึง ข่าวที่มีความสาคัญมาก ส่งผลกระทบต่อราคา
และการเคลื่อนไหวของตลาดเป็นอย่างมาก
กล่องสีส้ม หมายถึง ข่าวที่มีความสาคัญปานกลาง ส่งผลต่อราคา
และการเคลื่อนไหวของตลาดพอสมควร
กล่องสีเหลือง หมายถึง ข่าวที่มีความสาคัญน้อย ส่งผลกระทบต่อ
ราคาและการเคลื่อนไหวของตลาดค่อนข้างน้อยหรืออาจไม่ส่งผลกระทบเลย

210
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

กล่ อ งสี เ ทา หมายถึ ง ไม่ มี ก ารเคลื่ อ นไหว ใช้ เ ป็ น สั ญ ลั ก ษณ์ เ มื่ อ


ธนาคารของประเทศนั้นปิดทาการ
คือ สัญลักษณ์ที่จะปรากฏออกมาก่อนที่จะมีการประกาศข่าว ซึ่งเมื่อ
ถึงเวลาข่าวออกให้คุณคลิกสัญลักษณ์เรื่อยๆ แล้วข้อมูลข่าวจะปรากฏออกมาเอง
สัญลักษณ์นี้จะพบในช่อง Detail ซึ่งจะแสดงข้อมูลของข่าวในครั้ง
ก่อนๆ ว่าเคยมีการประกาศตัวเลขออกมายังไงบ้าง
สัญลักษณ์นี้จะพบในช่อง Detail ซึ่งจะแสดงให้คุณทราบว่า ข้อมูลนี้
มีหมายเหตุอะไรอยู่บ้าง
หมายถึง ถ้าตัวเลขออกมาเป็นสีเขียว แสดงว่าตัวเลขปัจจุบัน
(Actual) ออกมาดีกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ (Forecast) เอาไว้
หมายถึง ถ้าตัวเลขออกมาเป็นสีแดง แสดงว่าตัวเลขปัจจุบัน
(Actual) ออกมาแย่กว่าตัวเลขที่คาดการณ์ (Forecast) เอาไว้

211
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

รูปที่ 19.5
จากรูปที่ 19.5 ค่าที่ใช้ในการอ่านข่าว ได้แก่ ตัวเลขปัจจุบัน (Actual)
ตัวเลขที่คาดการณ์ (Forecast) และตัวเลขในอดีต (Previous) ซึ่งจะมีหลักการ
อ่านแบบง่ายๆดังนี้
ถ้าตัวเลขปัจจุบัน (Actual) ออกมาดีกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ (Forecast)
จะเป็นสีเขียว อธิบายได้ว่าข่าวที่ ออกมามี ผ ลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ
ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินนั้นแข็งค่าขึ้น และทาให้ราคาวิ่งขึ้นไป
ถ้าตัวเลขปัจจุบัน (Actual) ออกมาแย่กว่าตัวเลขที่คาดการณ์ (Forecast)
จะเป็นสีแดง อธิบายได้ว่าข่าวที่ออกมามีผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ
ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินนั้นอ่อนค่าลง และทาให้ราคาวิ่งลงไป

212
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ถ้าตัวเลขปัจจุบัน (Actual) ออกมาเท่ากับตัวเลขที่คาดการณ์ (Forecast)


จะเป็ น สี ด า อธิ บ ายได้ ว่ า ข่ า วที่ อ อกมาไม่ มี ผ ลต่ อ เศรษฐกิ จ ของประเทศนั้ น ๆ
ไม่ทาให้ค่าเงินแข็งขึ้นหรืออ่อนค่าลง และราคาจะไม่วิ่งไปทางใด
ความหมายข่าวเว็บไซด์ Forex Factory
ในที่ นี้ ผ มจะอธิ บ ายเฉพาะข่ า วที่ มี ค วามส าคั ญ มากต่ อ ราคาและ
การเคลื่ อ นไหวของตลาด เนื่ อ งจากเป็ น ข่ า วที่ เ ทรดเดอร์ ทุ ก คนต้ อ งรู้ เ อาไว้
และเป็นข่าวที่ใช้ในการเก็งกาไรสาหรับนักลงทุน ต่อไปมาดูกันสิว่าข่าวแต่ละตัว
หมายความว่าอย่างไร และจะประกาศตัวเลขออกมาทุกวันไหนกันบ้าง
1. ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร หรือ Non-farm Payrolls
เป็นข่าวยอดฮิตประจาเดือนเลยทีเดียว เพราะเป็นการประกาศตัวเลข
การจ้างงานทั้งหมดของคนงานสหรัฐอเมริกาในธุรกิจต่างๆ ซึ่งมีผลต่อราคาใน
ตลาดเป็ น อย่ า งมาก ถ้ า ตั ว เลขปั จ จุ บั น (Actual) ออกมามากกว่ า ที่ ค าดการณ์
(Forecast) แสดงว่าเศรษฐกิจดีขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น แต่ถ้าตัวเลขปัจจุบัน
(Actual) ออกมาน้ อ ยกว่ า ที่ ค าดการณ์ (Forecast) แสดงว่ า เศรษฐกิ จ แย่ ล ง
ส่งผลให้ค่าเงินอ่อนค่าลง มักจะกระชากขึ้นหรือลงอย่างรุนแรงเมื่อมีการประกาศ
ตัวเลขออกมา จะมีการประกาศตัวเลขทุกวันศุกร์แรกของเดือน

213
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

2. อัตราการว่างงาน หรือ Unemployment Rate


อัตราการว่างงานของคนงานสหรัฐอเมริกาในเดือนที่ผ่านมา ตัวเลขนี้
จะแสดงให้เห็นภาพลักษณ์ของเศรษฐกิจโดยตรง ถ้าอัตราการว่างงานสูง แสดงว่า
เศรษฐกิจเริ่มอ่อนแอลง ส่ งผลให้ค่าเงินอ่อนค่าลง แต่ถ้าอัตราการว่างงานต่า
แสดงว่าเศรษฐกิจกาลังขยายตัว ทาให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้ นไปด้วย จะมีการประกาศ
ตัวเลขช่วงต้นเดือนในวันเดียวกับ Non-Farm Employment Change
3. การประชุ ม ของธนาคารกลาง หรื อ Federal Open Market
Committee (FOMC)
เป็นข่าวที่นักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างมากอีกข่าวหนึ่ง ซึ่งเป็นการ
ประชุมของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา โดยการประชุมจะพูดถึงภาพรวมและ
ผลลัพธ์ต่างๆ แต่จะมีเรื่องที่นักลงทุนส่วนใหญ่สนใจกันมาก คือ อัตราดอกเบี้ย
ถ้ามีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น แต่ถ้ามีการปรับ
อั ต ราดอกเบี้ ย ลดลง จะส่ ง ผลให้ ค่ า เงิ น อ่ อ นค่ า ลง การนั ด ประชุ ม จะไม่ มี ก าร
กาหนดตายตัว แล้วแต่การนัดหมายตกลงกันอีกที
4. ดัชนีราคาผู้ผลิต หรือ Producer Price Index (PPI)
เป็นตัววัดราคาของสินค้าในมุมมองของการค้าส่ง ซึ่งเป็นข้อมูลของเดือน
ที่ ผ่ า นมา ส่ ว น Core PPI จะไม่ ร วมพวกอาหารและพลั ง งาน ค่ า PPI จะมี
ความสั ม พั น ธ์ กั บ ค่ า CPI ถ้ า ค่ า PPI ออกมาสู ง ก็ จ ะส่ ง ผลท าให้ ค่ า CPI สู ง ตาม
ไปด้วย แต่ถ้าค่า PPI ออกมาต่าก็จะส่งผลทาให้ค่า CPI ต่าตามไปด้วย จึงอธิบาย
214
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ได้ว่า ถ้าค่า PPI ออกมาสู ง จะท าให้ค่าเงินอ่อนค่าลง แต่ถ้าค่า PPI ออกมาต่า


จะทาให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น จะมีการประกาศตัวเลขทุกวันที่ 11 ของเดือน
5. ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ Consumer Price Index (CPI)
เป็นตัววัดระดับราคาของสินค้าและบริการที่ซื้อโดยผู้บริโภค ถ้าตัวเลข
CPI ออกมาสูงขึ้นจะเป็นตัววัดอัตราเงินเฟ้อที่สู งขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินอ่อนค่าลง
แต่ถ้าตัวเลข CPI ออกมาต่าลงจะเป็นตัววัดอัตราเงินเฟ้อที่ต่าลง ส่งผลให้ค่าเงิน
แข็ ง ค่ า ขึ้ น ให้ คุ ณ สั ง เกตด้ ว ยว่ า CPI กั บ Core CPI มี ค วามแตกต่ า งกั น
โดย CPI จะเป็นตัวที่บ่งบอกถึงอัตราเงินเฟ้อ แต่ Core CPI จะไม่รวมภาคอาหาร
และภาคพลังงาน โดยปกติจะประกาศตัวเลขทุกวันที่ 13 ของเดือน
6. ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ม วลรวมภายในประเทศ หรื อ Gross Domestic
Product (GDP)
GDP คือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ เป็นตัววัดการเคลื่อนไหว
ของเศรษฐกิจที่กว้างที่สุด การที่ตัวเลข GDP เปลี่ยนไป จะทาให้อัตราการเติบโต
ของเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย ซึ่งมีความสัมพันธ์กับอัตราเงินเฟ้อของ
ประเทศ ถ้าตัวเลข GDP ออกมามากขึ้น เศรษฐกิจจะดีขึ้นตามไปด้ วย ส่งผลให้
ค่าเงินแข็งค่าขึ้น แต่ถ้าตัวเลข GDP ออกมาแย่ลง เศรษฐกิจก็จะแย่ลง ส่งผลให้
ค่ า เงิ น อ่ อ นค่ า ลง จะมี ก ารประกาศตั ว เลขทุ ก สั ป ดาห์ ที่ 3 หรื อ สั ป ดาห์ ที่ 4
ของเดือน

215
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

7. ดัชนีค้าปลีก หรือ Retail Sales


จะมีการวัดดัชนีค้าปลีก จากใบเสร็จของการค้าปลีกโดยไม่สนใจเรื่องของ
บริ ก ารและอื่ น ๆ ซึ่ ง จะเป็ น การน าข้ อ มู ล ของเดื อ นที่ แ ล้ ว มาวิ เ คราะห์
ส่วน Core Retail Sales จะไม่รวมเรื่องการซื้อรถ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงตัวเลขนี้
ไม่ได้มีผลทาให้ความต้องการซื้อลดลง แต่เป็นการวัดการตัวเลขการขายเท่านั้น
ถ้ า ตั ว เลข Retail Sales มี ค่ า ที่ สู ง หมายถึ ง เศรษฐกิ จ ที่ ดี แ ละแข็ ง แกร่ ง
แต่ถ้าตัวเลข Retail Sales มีค่าที่ต่า หมายถึงเศรษฐกิจที่แย่ลง จะมีการประกาศ
ตัวเลขทุกวันที่ 13 ของเดือน
8. ตัวเลขดุลการค้า หรือ Trade Balance
แสดงถึ ง ความแตกต่ า งของการน าเข้ า และส่ ง ออกสิ น ค้ า และบริ ก าร
ซึ่งจะเป็นข้อมูลของ 2 เดือนก่อนหน้านี้ ถ้าตัวเลขออกมาเป็นบวก แสดงว่ามี
การส่งออกมากกว่านาเข้า (เกินดุล) ทาให้เศรษฐกิจดีขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น
แต่ ถ้ า ตั ว เลขออกมาเป็ น ลบ แสดงว่ า มี ก ารน าเข้ า มากกว่ า ส่ ง ออก (ขาดดุ ล )
จะทาให้เศรษฐกิจแย่ลง ส่งผลให้ค่าเงินอ่อนค่าลง โดยปกติจะประกาศตัวเลข
ทุกวันที่ 20 ของเดือน
9. ดัชนีค่าใช้จ่ายของผู้อุปโภคบริโภคภาคครัวเรือน หรือ Personal
Consumption Expenditure (PCE)
จะบอกถึงการใช้จ่ายในการอุปโภคและบริโภคภาคครัว เรือน ถ้าตัวเลข
ออกมาสูง แสดงว่าครัวเรือนมีความสามารถในการใช้จ่ายมากขึ้น ทาให้เศรษฐกิจ
216
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เติ บ โต ส่ ง ผลให้ ค่ า เงิ น แข็ ง ค่ า ขึ้ น แต่ ถ้ า ตั ว เลขออกมาต่ า แสดงว่ า ครั ว เรื อ น
มี ค วามสามารถในการใช้ จ่ า ยน้ อ ยลง ท าให้ เ ศรษฐกิ จ ทรุ ด ลง ส่ ง ผลให้ ค่ า เงิ น
อ่อนค่าลง จะประกาศตัวเลขทุกวันแรกในการทางานของเดือน
10. ระดั บ การลงทุ น ในประเทศ หรื อ Treasury International
Capital System (TICS)
จะเป็นการรวบรวมข้อมูลของสหรัฐอเมริกา เพื่อดูว่าการลงทุนของคน
ในประเทศสหรัฐอเมริกาและคนต่างชาติว่าเป็นอย่างไร ถ้า TICS มีตัวเลขที่สูง
แสดงว่ า เศรษฐกิ จ ของสหรั ฐ อเมริ ก าแข็ ง แกร่ ง ขึ้ น ส่ ง ผลให้ ค่ า เงิ น แข็ ง ค่ า ขึ้ น
แต่ถ้า TICS มีตัวเลขที่ต่า แสดงว่าเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาอ่อนแอลง ส่งผลให้
ค่าเงินแข็งอ่อนค่าลง โดยจะประกาศตัวเลขทุกวันที่ 5 ในการทางานของเดือน
11. การส ารวจความเชื่ อ มั่ น ของผู้ บ ริ โ ภค หรื อ University of
Michigan Consumer Sentiment Index
การสารวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ทาโดยมหาวิทยาลัย Michigan ซึ่ง
จะเปรียบเทียบตัวเลขที่คาดหวังไว้กับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ถ้าสิ่งที่คาดหวังไว้กับสิ่งที่
เกิดขึ้นจริงมีค่าใกล้เคียงกัน แสดงว่าเศรษฐกิจเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่งผลให้
ค่าเงินแข็งค่าขึ้น แต่ถ้าสิ่งที่คาดหวังไว้และสิ่งที่เกิดขึ้นจริงมีค่าต่างกัน แสดงว่า
เศรษฐกิจไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่งผลให้ค่าเงินอ่อนค่าลง จะประกาศตัวเลข
ทุกวันศุกร์ที่ 2 ของเดือน

217
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เทคนิคการเทรดข่าวแบบมืออาชีพ
การเทรดข่าวเป็นเรื่องที่ยากมากเหมือนกัน เพราะข่าวที่ออกมาแต่ละครั้ง
เกิ ด จากสภาวะเศรษฐกิ จ ของประเทศนั้ น ๆ การคาดการณ์ (Forecast)
จึงไม่ถูกต้องเสมอไป ซึ่งอาจจะเกิดข่าวลวงขึ้นมาได้เป็นบางครั้ง ทาให้เทรดเดอร์
บางคนพยายามหลบเลี่ยงข่าวที่จะเกิดขึ้น เพราะถ้าข่าวออกมาผิดทาง จะทาให้
ระบบการเทรดของเขาเสียทันที
อันที่จริงแล้ว ข่าวสามารถเป็นตัวช่วยในการทากาไรให้ คุณได้เป็นอย่างดี
เพราะยิ่งแรงเท่าไหร่ คุณก็จะได้ผลตอบแทนดีเท่านั้น ถึงแม้ คุณอาจจะไม่ได้จบ
การเงิน หรือเศรษฐศาสตร์มาก็ตาม แต่ถ้าคุณรู้จักการประยุกต์ใช้ และพลิกแพลง
สถานการณ์ต่างๆได้ คุณก็จะได้รับผลตอบแทนจากข่าวนั้นดีมากเลยทีเดียว

เป็นชาวไล่ ดีกว่าเป็นชาวสวน
จงจาประโยคนี้ให้ขึ้นใจนะครับ อาจจะเป็นคาพูดสั้นๆ แต่ทรงพลังมาก
ต่ อ ไปผมจะสอนเทคนิ ค การประยุ ก ต์ ใ ช้ ก ารวิ เ คราะห์ ก ราฟทางเทคนิ ค กั บ
การวิเคราะห์ข่าวให้ได้ประสิทธิภาพดีที่สุด ผมไม่ได้บอกว่ามันจะได้ผลทุกครั้ง
แค่จะทาให้มันมีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่านั้นเอง
สาหรับนักเทรดรายวัน (Day Trade) จะมีความเสี่ยงค่อนข้างสูงเมื่อเจอ
ข่าวแรงๆ เพราะถ้าถูกทางคุณก็จะได้กาไรเป็นกอบเป็นกา แต่ถ้าผิดทางก็ขาดทุน
ย่อยยับเหมือนกัน ผมจึงมี เทคนิคส่ วนตัวในการเทรดข่าวมาแนะนา ซึ่งผู้อ่าน
สามารถน าไปปรั บ ใช้ ใ ห้ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพที่ สู ง กว่ า นี้ ไ ด้ หลั ก การก็ คื อ ให้ คุ ณ
218
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เรียงลาดับความสาคัญของข่าวประจาวันก่อน ว่าข่าวไหนมีผลกระทบต่อราคา
มากที่สุด ให้ยึดข่าวนั้นเป็นข่าวหลัก รองมาก็จะเป็นข่าวรอง ซึ่งมีความสาคัญ
น้ อ ยลงไปจากข่ า วหลั ก ถ้ า ข่ า วหลั ก และข่ า วรองมี ก ารคาดการณ์ (Forecast)
ไปคนละทิศทางกัน ให้ คุณ ยึดข่าวหลั กเป็ นตัวในการเทรด แต่ถ้ายัง ไม่แน่ใจก็
อย่าเข้าทาการซื้อขายเป็นอันขาด ยกตัวอย่างเช่น คุณวิเคราะห์ด้วยการกราฟทาง
เทคนิค (Technical analysis) ไว้แล้วว่าราคาวันนี้น่าจะขึ้นต่อไป ให้ คุณมาดูข่าว
ต่อว่าการคาดการณ์ (Forecast) มีทิศทางไปในทางที่ดีหรือไม่ ถ้าการวิเคราะห์
กราฟทางเทคนิ ค (Technical analysis) กั บ ข่ า วมี ทิ ศ ทางไปในทางเดี ย วกั น
ให้คุณหาจังหวะเข้าซื้อ (Buy) ได้ และถ้าคุณวิเคราะห์ด้วยการกราฟทางเทคนิค
(Technical analysis) ไว้ ว่ า ราคาวั น นี้ น่ า จะลงไปต่ อ แล้ ว การคาดการณ์
(Forecast) ออกมาเป็ น ข่ า วร้ า ย ก็ ใ ห้ คุ ณ หาจั ง หวะเข้ า ขาย (Sell) ได้ แต่ ถ้ า
การวิ เ คราะห์ ก ราฟทางเทคนิ ค (Technical analysis) กั บ ข่ า วมี ทิ ศ ทางไปคน
ละทางกัน นั่นคือ วันนีห้ ้ามเข้าซื้อขายเป็นอันขาด
สาหรับนักเทรดรายสัปดาห์ขึ้นไป จะทาการวิเคราะห์ข่าวเป็นรายวันไม่ได้
ต้ อ งวิ เ คราะห์ ข่ า วโดยรวม และดู ภ าพรวมของเศรษฐกิ จ ทั้ ง หมด เพื่ อ น ามา
วิเ คราะห์ ก ารเคลื่ อ นไหวของราคา ผมเชื่ อ ว่ า ข่ า วจะวิ่ ง ตามแนวโน้ ม (Trend)
ยิ่งแนวโน้ม (Trend) ใหญ่มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทาให้ข่าวรายวันแทบไม่มีผลต่อราคา
เลยด้ ว ยซ้ า การเทรดใน Time Frame ใหญ่ จึ ง มี นั ย ส าคั ญ กว่ า การเทรด
Time Frame เล็ ก สรุ ป คื อ การเทรดใน Time Frame ใหญ่ เ ทรดได้ ง่ า ยกว่ า
เพราะไม่ต้องกังวลต่อข่าวรายวัน แต่ให้คุณมองภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

219
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข่าวเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การออกนโยบายต่างๆ


เป็นต้น แล้วนามาวิเคราะห์รวมให้เป็นรูปธรรม เมื่อภาพรวมของเศรษฐกิ จกับ
การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical analysis) ไปในทิศทางเดียวกัน ให้ คุณหา
จังหวะเข้าซื้อขายได้ แต่ถ้าภาพรวมของเศรษฐกิจกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค
(Technical analysis) ไปในทิศทางตรงข้ามกัน นั่นคือ ห้ามเข้าซื้อขายเด็ดขาด
เว็บไซด์ข่าวทีแ่ นะนา
www.ryt9.com
(เป็นเว็บไซด์ของไทย เกี่ยวกับการวิเคราะห์ข่าวทางเศรษฐกิจ)
www.investing.com
(เว็บไซด์ข่าวและการวิเคราะห์ข่าวชื่อดังไม่แพ้ Forex Factory เลยทีเดียว)
www.forexlive.com
(เว็บไซด์ข่าวยอดนิยม ที่ใช้ในการดูผลข่าวและการวิเคราะห์ข่าว)
www.dailyfx.com
(เช็คข่าวได้ง่ายและมีนักวิเคราะห์มาช่วยอธิบาย หรือ Live สดให้ฟังด้วย)
www.finviz.com
(ใช้เช็คผลว่าค่าเงินไหนแข็งค่าหรืออ่อนค่าในรอบวัน ในรูปแบบตระกร้าคู่เงิน)

220
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ก้าวที่ 20
หลักจิตวิทยาสู่การเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ

221
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

จิตวิทยาการลงทุนเป็นสิ่งสาคัญมากสาหรับเทรดเดอร์ทุกคน ถ้าคุณไม่
สามารถควบคุมอารมณ์ วินัย และการบริหารจัดการเงินทุน ของคุณได้แล้ว ไม่ว่า
คุณจะแก่งแค่ไหน ก็ไม่มีทางประสบความสาเร็จได้แน่นอน นี่คือสิ่งที่เทรดเดอร์
มืออาชีพกับเทรดเดอร์มือสมัครเล่นแตกต่างกัน เพราะเทรดเดอร์มืออาชีพเขา
สามารถควบคุ ม การเทรดของเขาให้ เ ป็ น ไปตามแผนที่ ไ ด้ ว างเอาไว้ โดยไร้ ซึ่ ง
ความโลภ ความกลัว และมีการบริหารเงินลงทุ นได้เป็นอย่างดี แต่เทรดเดอร์
มือสมัครเล่นหลังจากเข้าไปในตลาดสักระยะแล้ว เขาจะเสพติดการเทรดเหมือน
นั ก พนั น ดี ๆ นี่ เ อง เขาเลื อ กที่ จ ะแพ้ ทั้ ง ที่ รู้ ว่ า การเทรดนี้ เ ป็ น การเทรดที่ เ สี ย
เปรียบตลาด แต่เขาไม่สามารถรอได้ และต้องการเข้า เทรดทุกสถานการณ์ อีกทั้ง
ยังไม่มีการบริหารจัดการเงินลงทุนของตัวเองให้ดี แค่จังหวะไหนมั่นใจก็จะใส่ Lot
ที่ใหญ่กว่าเดิม (เหมือนเล่นเอามันส์)
กฎ 3 ข้อสาหรับการก้าวไปสู่เทรดเดอร์มอื อาชีพ
1. ควบคุมอารมณ์
เคยเป็นบ้างไหม เวลาคุณเล่นพอร์ต Demo จะได้กาไรตลอด แต่พอมา
เล่นพอร์ตเงินจริง กลับขาดทุนอย่างย่อยยับ บางที คุณอาจจะรู้ตัวด้วยซ้าว่าทาไม
ถึงเป็นอย่างนั้น แต่ก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ซึ่ง คุณจะเกิดความ
กลัวเมื่อราคาวิ่งผิดทาง หรือคุณอาจจะเคยเจอเหตุการณ์แบบว่า เมื่อ คุณทาการ
ตั ด ขาดทุ น (Stop loss) ไปแล้ ว แต่ ร าคากลั บ วิ่ ง ไปในทิ ศ ทางที่ คุ ณ เทรดไว้
ก่อนหน้านี้ ทาให้คุณเกิดความสับสน แล้วบอกกับตัวเองว่าไม่น่าปิดออเดอร์เลย

222
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

คุ ณ คิ ด ถู ก อยู่ แ ล้ ว ซึ่ ง อาจจะเป็ น ผลที่ ท าให้ คุ ณ ไม่ ก ล้ า ตั ด ขาดทุ น (Stop loss)


ในการเทรดครั้งต่อไป
เมื่อคุณเทรดถูกทางสิ่งที่จะตามมาคือการความมั่นใจในการเทรดของ
ตัวเอง ยิ่งคุณเทรดได้กาไรติดต่อกันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทาให้คุณมั่นใจในตัวเองมาก
ขึ้นเท่านั้น สิ่งที่ตามมาคือการเพิ่มขนาด Lot ให้ใหญ่ขึ้น เพราะคิดว่าตัวเองเก่ง
และหวังจะรวยให้เร็วที่สุ ด อย่างที่ เรารู้กันอยู่แ ล้ ว ไม่ว่าจะเป็นเทรดเดอร์เก่ง
ขนาดไหน ก็ย่อมมีการขาดทุนอยู่เสมอ ลองคิดดูนะครับ ไม่ว่า คุณจะเทรดถูกทาง
กี่ครั้งก็ตาม สิ่งที่คุณทามาทั้งหมดก็จะมาจบลงภายในครั้งเดียว เพราะถ้าวันหนึ่ง
ราคาวิ่งผิดทางขึ้นมา คุณจะไม่กล้าตัดขาดทุน (Stop loss) เนื่องจากกลัวจะเสีย
สิ่ ง ที่ ท ามาทั้ ง หมด หรื อ อาจจะต้ อ งการเอาเงิ น ของตั ว เองคื น มา โดยการเบิ้ ล
Lot เข้าไป สุดท้ายผลลัพธ์เป็นยังไงก็คงรู้ดีนะครับ
จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าคุณจะเทรดชนะหรือแพ้ จะมีผลเสียกับอารมณ์ของ
ตัวเองทั้ง สิ้น เป็นเหตุผลว่าทาไมคุณจึงยังขาดทุ นอยู่ การควบคุมอารมณ์ของ
ตัวเองให้ได้นั้น เราต้องนาเรื่องวินัย และการบริหารจัดการเงินทุนเข้ามาช่วย
เนื่องจากจะเป็นตัวควบคุมระบบการเทรดของคุณให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยไม่
น าอารมณ์ ข องตั ว เองเข้ า มาเกี่ ย วข้ อ ง ส าหรั บ ใครที่ เ ทรดเสี ย ติ ด ต่ อ กั น เป็ น
เวลานาน ให้ออกมาจากตลาดก่อน หยุดเทรดจนกว่าสภาพจิตใจของคุณจะดีขึ้น
และทาการประเมินตัวเองว่าทาไมคุณจึงขาดทุนแบบนั้น ระบบเทรดของคุณไม่ดี
หรือคุณไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ของตัวเอง

223
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ผมอยากให้ทุกคนฝึกฝนเรื่องการเข้าซื้อขายแล้วปล่อยให้มันวิ่งไปตาม
ระบบของมัน อย่าเข้าไปยุ่งกับการเทรดของตัวเองมากเกินไป เพราะคุณจะรู้สึก
โลภและกลั ว เมื่ อ เห็ น ราคาวิ่ ง ไปในทิ ศ ทางต่ า งๆ เมื่ อ คุ ณ ท าการซื้ อ ขายแล้ ว
ให้คุณไปหางานอื่นทา แทนที่จะมานั่งเฝ้ากราฟ เพราะถ้าคุณยังจิตใจไม่นิ่งพอ
มันจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี ทาให้เสียทั้งเวลาเสียทั้งเงิน ให้ คุณคิดเสียว่าคุณได้
นาเงินไปซื้อทองแท่งเก็บไว้ แล้วรอเวลาที่จะนาไปขายเมื่อราคาสูงขึ้น แต่สาหรับ
เทรดเดอร์รายวัน (Day Trade) คุณต้องมี เทคนิคการเทรดที่หลากหลาย และ
สามารถควบคุมอารมณ์ในการเทรดของตัวเองได้สูงกว่าเทรดเดอร์สไตล์อื่นๆ ใน
การเทรดแต่ละครั้ง ให้คุณจดบันทึกเอาไว้ด้วยว่าทาไมถึงเข้าเทรด ได้เปรียบตลาด
มากแค่ไหน และอารมณ์ในการเข้าเทรดตอนนั้นเป็นอย่างไร เพื่อ คุณจะได้นากลับ
มาทบทวนว่าประสิทธิภาพในการเทรดของคุณบกพร่องตรงไหน ดีขึ้นหรือแย่ลง
มากน้อยเพียงใด
2. ควบคุมวินัย
การควบคุม วินัยในแบบของผม คือ การควบคุมวินัยทั้งเรื่องการเทรด
การจัดสรรเวลา และการหาความรู้ให้กับตัวเองอยู่เสมอ สาหรับการควบคุมวินัย
เรื่องการเทรดของตัวเอง คุณต้องปฏิบัติตามระบบของตัวเองอย่างเคร่ง ห้ามฝืน
ระบบของตั ว เอง ที่ ผ มเห็ น อยู่ บ่ อ ยๆคื อ การเลื่ อ นจุ ด ตั ด ขาดทุ น (Stop loss)
หนีไปเรื่อยๆ เพราะคิดว่ าเป็นการขึ้นเพื่อลง หรือลงเพื่อ ขึ้นเท่านั้น ซึ่งเกิดจาก
ความมั่นใจในระบบการเทรดของตัวเองมากเกินไป การตั้งค่าจุดตัดขาดทุน (Stop
loss) คุณไม่จาเป็นตั้งไว้ในโปรแกรมก็ได้ แต่ คุณต้องมีจุดตัดขาดทุน (Stop loss)

224
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

ไว้ในใจของคุณ และที่ผมเห็นอยู่บ่อยมากก็คือ การเข้าซื้อขายในทุกสถานการณ์


โดยไม่คานึงถึงว่า เป็นการเทรดที่ได้เปรียบตลาดหรือเสียเปรียบตลาดอยู่หรือไม่
ประมาณว่า ถ้าวันไหนไม่ ได้เข้าเทรดจะไม่มี ความสุข พูดง่ายๆก็คือ คุณ เทรด
Forex เหมือนการพนันดีๆนั่นเอง ถ้าใครเป็นอยู่ ผมอยากให้ปรับแก้ตรงจุดนี้
นะครับ พยายามหักห้ามใจของตัวเองหน่อย เพื่อคุณจะได้เป็นเทรดเดอร์ที่ประสบ
ความสาเร็จอย่างแท้จริง
สาหรับวินัยเรื่องการจัดสรรเวลา ให้ คุณจดตารางการทางานของคุณไว้
โดยคิดว่าการเทรด Forex เป็นงานอดิเรกก็ได้ แล้วนาเวลาที่เหลือไปทาอย่าง
อื่นแทน ผมเห็นเทรดเดอร์ ที่ประสบความสาเร็จหลายๆคนจะมีการจัดสรรเวลา
ของตัวเองไว้เป็ นอย่ างดี จะไม่ ไ ด้ม านั่ง เฝ้ า กราฟตลอดทั้ งวัน ทั้งคื น เมื่อเทรด
ได้ตามเป้า เขาก็จะหยุดเทรดไปก่อนแล้วรอจังหวะในการเข้าซื้อขายใหม่ จะไม่ใช่
การเข้าซื้อขายทันปิดเมื่อปิดออเดอร์อันเก่าเสร็จแล้ว ซึ่งถ้า คุณสามารถบริหาร
เวลาของคุณได้เป็นอย่างดีแล้ว คุณจะไม่เพียงประสบความสาเร็จในเรื่องการเทรด
Forex เท่านั้น แต่เราจะประสบความสาเร็จในด้านอื่นๆ อีกด้วย
ส่วนการมีวินัยในเรื่องการหาความรู้เพิ่มเติมก็สาคัญมากเช่นกัน คุณต้อง
รู้จั กหาความรู้เ พิ่ มเติม ให้กั บตั ว เองอยู่ ทุ ก วัน โดยต้ องจั ดสรรเวลาในการอ่ า น
หนังสือ หรือหาความรู้จากอินเตอร์เน็ตให้กับตัวเองไว้ด้วย คุณจะต้องเป็นเหมือน
น้าไม่เต็มแก้ว นั่นคือ คุณต้องทาให้วันนี้ของคุณดีกว่าเมื่อวาน ทาให้พรุ่งนี้ของคุณ
ดีกว่าวันนี้ และทาให้เดือนหน้า ปีหน้า ของคุณดีกว่าวันนี้ให้ได้มากที่สุด สุดท้าย
แล้วคุณจะประสบความสาเร็จในไม่ช้าแน่นอน เพราะหนังสือ 1 เล่ม ที่เขียนขึ้นมา

225
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

เขาจะบอกในสิ่งที่เขาใช้เวลาในการศึกษาค้นคว้ามาหลายปี เพื่อให้คุณทราบ
ทั้งหมดภายในเล่มเดียว ดังนั้น การเทรดเป็นเทรดเดอร์ที่ดีได้นั้น คุณก็ต้องเป็นนัก
อ่านที่ดีด้วยเช่นกัน
3. ควบคุมการบริหารจัดการเงินทุน
การบริ ห ารเงิ น ทุ น ของตั ว เองก็ ต้ อ งมี วิ นั ย ในการจั ด การด้ ว ยเช่ น กั น
เนื่องจากยั งมีเทรดเดอร์หลายคนฝ่ าฝื นกฎการบริหารเงินของตัวเองอยู่เสมอ
อาจเนื่องจากอารมณ์ หรือมีความมั่นใจในระบบของตัวเองมากเกินไป ซึ่งทาให้
แผนการของเราเกิดการเปลี่ย นแปลง และไม่เป็นไปตามที่เป้าหมายที่วางเอาไว้
พอได้กาไรก็จะเอาให้มากขึ้น พอขาดทุนก็อยากจะเอาคืน ซึ่งไม่มีวินัยเอาเสียเลย
ผมอยากให้ทุกคนฝึกฝนความมีวินัยและตัดเรื่องอารมณ์ของตัวเองออก โดยใช้
เรื่องของการบริหารเงินทุนมาเป็นตัวกาหนดระบบของเราให้มีประสิทธิภาพ
สุดท้ายนี้ การจะเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพให้ได้นั้น คุณจะต้องมีการฝึกฝน
ทักษะต่างๆ ทั้งด้านการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental analysis) การ
วิเคราะห์กราฟทางเทคนิค (Technical analysis) การวิเคราะห์อารมณ์ของตลาด
การบริหารความเสี่ยง การควบคุม อารมณ์ของตัวเอง และสิ่งที่สาคัญ ที่สุดคือ
ประสบการณ์ในตลาดของคุณ ซึ่งจะเป็นตัวบ่งบอกความสามารถของคุณในทุก
ครั้งที่ทาการเทรด ว่าตอนนี้คุณยืนอยู่ระดับไหนแล้ว ยังห่างไกลจากความเป็น
เทรดเดอร์มืออาชีพมากแค่ไหน เพื่อจะได้เป็นแรงผลักดันให้ตัวเองก้าวเดินต่อไป
อย่างไม่ย่อท้อ และประสบความสาเร็จในที่สุด

226
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

บรรณานุกรม
กา ร ตั้ ง ค่ าแล ะ ใช้ ง าน fibonacci. ๒๕๖๐. (ออนไลน์ ). แหล่ ง ที่ ม า :
https://www.forexinthai.com/1578/. ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๐.
ข่ า ว แ ล ะ ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง ข่ า ว . ๒ ๕ ๕ ๖ . (อ อ น ไ ล น์ ). แ ห ล่ ง ที่ ม า :
http://www.thaiforexschool.com/viewfulldetial.php?id=178.
๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๐.

ตลาด Forex เปิ ด ปิ ด กี่ โ มง 2016-2017. ๒๕๖๐. (ออนไลน์ ). แหล่ ง ที่ ม า :


http://www.ระบบเทรด.com/ตลาด-forex-เปิดกี่โมง/. ๑๕ มิถุนายน
๒๕๖๐.
เทรดเดอร์พ่อลูกอ่อน (นามแฝง). ๒๕๖๐. บทความทางเทคนิค. (ออนไลน์ ).
แ ห ล่ ง ที่ ม า : http://aommoney.com/stories/บ ท ค ว า ม ท า ง
เทคนิค#j4qn8sj596. ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๐.
ป.ดัชนี (ประจบ วงษ์นิ่ม). พิชิตหุ้นและฟิวเจอร์สด้วยคลื่นเอลเลียต. พิมพ์ครั้งที่
1. กรุงเทพมหานคร : บริษัทอินเตอร์เนชั่นแนลเอ็ดดูเทนเมนท์จากัด
(มหาชน), (๒๕๕๗).
มารู้จักกับจานวนฟีโบนัชชี (Fibonacci) ว่ามันคืออะไร. ๒๕๕๖. (ออนไลน์). แหล่งที่มา :
http://www.doesystem.com/e70e2052b44913006e20d966c802c8a9/%E0%

227
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%9F
%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%
B8%8A%E0%B8%8A%E0%B8%B5(fibonacci).htm. ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐.
รู ป แ บ บ แ ล ะ ก า ร เ ท ร ด Gap. ๒ ๕ ๔ ๖ . (อ อ น ไ ล น์ ) . แ ห ล่ ง ที ่ ม า :
http://www.thaiforexschool.com/viewfulldetial.php?id=210&&
name=%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B9%81%
E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%
B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%
B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%94%20Gap. ๒ มิถุนายน ๒๕๖๐.

วิ ธี ดู ข่ า ว forex. ๒๕๖๐. (ออนไลน์ ). แหล่ ง ที่ ม า : http://www.ระบบเทรด.


com/วิธีดูข่าว-forex/. ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๐.
เวลาท าการของตลาดหลั ก ทรั พ ย์ ทั่ ว โลก. ๒๕๖๐. (ออนไลน์ ). แหล่ ง ที่ ม า :
http://www.studymargin.com/time.php . ๑ ๖ ม ิถ ุน า ย น
๒๕๖๐.
สุรชัย ไชยรังสินันท์. ๒๕๕๔. การวิเคราะห์ทางเทคนิค. (ออนไลน์). แหล่งที่มา :
http://www.ebooks.in.th/ebook.aspx?bid=655. ๑ ๙ เ ม ษ า ย น
๒๕๖๐.
228
ทรงพล เกื ้อกูลสกุลกิจ เทรด Forex อย่างไร ให้ เป็ นมืออาชีพ

Wave Riders Pui (นามแฝง). ๒๕๖๐. แค่ ดู Volumeได้ก็มันส์ แล้ ว. (ออนไลน์). แหล่งที่มา :
http://waveridersclub.blogspot.com/2011/05/volume.html. ๑๑ มิ ถุ นายน
๒๕๖๐.

229

You might also like