Professional Documents
Culture Documents
x
P P
y
L buckling
y
L
P
Buckling , Column Strength Curve Boundary conditions
พิจารณาจากสมดุลและสมการเส้นโค้งอิลาสติคจะได้ จากสภาพเงื่อนไขของจุดรองรับคือ
P
d2y
EI 2 Py
(4.1) 1.) y = 0 ที่ x = 0 จะได้ B = 0
dx
M
2.) y = 0 ที่ x = L จะได้ Asin(kL) = 0 ซึ่งสามารถพิจารณาได้ดงั นี้
d y Py
2
2 0
L
y
dx EI
2.1) A = 0 หมายความว่า เมื่อเสารับนํ้าหนัก เสานี้ไม่มีการโก่งเดาะเลย
x
d2y 2 P 2.2) kL = 0 หมายความว่า P = 0
2 k y 0; k
y 2
P
dx EI
2.3) kL = n ซึ่ งเป็ นกรณี ที่เสาเกิดการโก่งเดาะและ n = 1,2,3,…
จะได้ P n 2
2 2
ซึ่งจะมีคาํ ตอบอยูใ่ นรู ปทัว่ ไปคือ แทนค่า k = n /L ลงใน k2
P
EI ซึ่ งจะพบว่า P มีค่าตํ่าสุ ดเมื่อ
EI L
y = Asin(kx) + Bcos(kx) (4.2) n = 1 ซึ่ งเป็ นกรณี ที่เสาเกิดการโก่งเดาะแบบความโค้งเดี่ยว (Single Curve) นัน่ คือ นํ้าหนัก
2 EI
วิกฤต หรื อ นํ้าหนักบรรทุกออยเลอร์ Pe
L2
Euler’s curve
0
L/r
Buckling of Columns Buckling of Columns (Design Values)
สําหรับเสาที่มีสภาพการยึดปลายที่แตกต่างกันจะมีผลต่อกําลังรับนํ้าหนักของเสา (ก.)เมื่อปลายเป็ นแบบยึดหมุนทั้งสองข้างสามารถหานํ้าหนักวิกฤตได้ตามสมการของออยเลอร์
(ข.) เมื่อปลายเป็ นแบบยึดแน่นทั้งสองข้างจุดดัดกลับ A และ C จะห่ างจากปลายทั้งสองข้าง
เป็ นระยะ 0.25L ดังนั้นส่ วนของเสา ABC จะเหมือนกับเสาในส่ วนของ (ก.) แต่มีความยาวเสา
4 2 EI
เป็ น 0.5L หรื อ Pe นัน่ คือ กําลังรับนํ้าหนักของเสาแบบยึดแน่นทั้งสองข้างจะเป็ น
L2
สี่ เ ท่ า ของกํา ลัง รั บ นํ้า หนัก เสาแบบยึด หมุ น ทั้ง สองข้า ง กํา ลัง รั บ นํ้า หนัก องเสานี้ สามารถ
นําไปใช้กบั รู ป (จ.) ได้ดว้ ยซึ่ งเป็ นปลายยึดหมุนทั้งสองข้างและมีการคํ้ายันด้านข้างที่ก่ ึงกลาง
ของเสา
สองเท่าของเสาแบบ (ก.)
SSRC Parabolic Equation Nominal Strength
ในความเป็ นจริ งองค์อาคารหลังจากผ่านการผลิ ตต่ างๆจนได้เป็ นชิ้ นส่ วนขององค์ นอกจากนี้ SSRC ยังกําหนดให้พฤติกรรมการโก่งเดาะของเสาเปลี่ยนจากช่วงอิลาสติคเป็ น
อาคารนั้นมีหน่ วยแรงคงค้าง เนื่ องมาจากการเย็นอย่างไม่สมํ่าเสมอของเหล็กรี ดร้อนซึ่ ง SSRC ช่วงอินอิลาสติค เมื่อ Fcr = Fy / 2 จะได้ c 2 แต่อย่างไรก็ตามมาตรฐาน AISC
(Structural Stability Research Council) ได้เสนอสมการหน่วยแรงอัดวิกฤต เลือกใช้ c = 1.5 เป็ นค่ากําหนดการเปลี่ยนพฤติกรรมของการโก่งเดาะของเสาดังกล่าว
F ( KL / r ) 2
Fcr Fy 1 y 2 (4.4) แทน คือเมื่อ c > 1.5 เสาจะมีพฤติกรรมการโก่งเดาะในช่วงอิลาสติค ซึ่งหน่วยแรงอัด
4 E 2E
วิกฤตคือ Fe แต่มาตรฐาน AISC กําหนดให้ใช้
(kL / r ) 2
Fy kL Fy E2
โดยที่ c ; Fe (4.5) (4.7)
Fe r E ( kL / r ) 2 Fcr 0.877 Fe
พิจารณาค่าเมื่อ c > 1.5 จากสมการ (4.5) จะได้
2 F
จะได้ Fcr Fy 1 c Fy 1 y (4.6)
4 4 Fe kL E Fy
c
kL Fy
Fy
1.5 จะได้ 4.71 ; 2.25 (4.8)
r E Fe r Fy Fe
Sway Non-Sway
Unbraced frame Braced frame
คํานวณหากําลังรับแรงอัดตามแนวแกนที่สามารถรับได้
เสา W 250x255x14x14 มีพ้นื ที่หน้าตัด A = 104.7 ตร.ซม. rx = 10.5 ซม. ry = 6.09 ซม. 5 เมตร 5 เมตร
L = 10 เมตร , kx = 1.0 , ky = 0.5
(kxL/rx) = , (kyL/ry) =
P(DL) = 50 ตัน P(DL) = 50 ตัน
ดังนั้นจึงเกิดการโก่งเดาะเนื่องจากการดัดรอบแกน x P(LL) = 50 ตัน P(LL) = 50 ตัน
Example cont’d Example
ตัวอย่างที่ 4.2 ให้ใช้ Alignment Chart คํานวณหาค่าสัมประสิ ทธิ์ความยาวประสิ ทธิผล k
Fex กก./ตร.ซม.
ในช่วงอิลาสติคของเสาต่างๆในโครงอาคาร
เนื่องจาก Fy / Fex
ดังนั้น เสาเกิดการโก่งเดาะในช่วงอินอิลาสติค จะได้
Fcr กก./ตร.ซม.
กําลังรับแรงอัดตามแนวแกนระบุ Pn =
กําลังรับแรงอัดตามแนวแกนที่สามารถรับได้ และความสามารถในการรับแรง
ASD : Pn / c =
LRFD : cPn =
คํานวณหาค่า I / L ของคานต่างๆดังนี้
คาน BD = ซม.3
DG = GJ = ซม.3
EH = ซม.3
Example cont’d Example cont’d
E E W350x41.4 kg/m.
W350x41.4 kg/m.
เสา CD : GC = , GD = จะได้ k =
เสา FG : GF = , GG = จะได้ k =
W200x49.9 kg/m.
W200x49.9 kg/m.
4 เมตร k x= 1.15
พิ จ ารณาโครงชั้น บน (DEGH)พบว่า เป็ นโครงที่ มีก ารเคลื่ อ นที่ ท างด้า นข้าง ดัง นั้น ค่ า k
สามารถหาได้ดงั นี้
W450x76 kg/m.
เสา DE : GD = , GE = D D W450x76 kg/m.
จะได้ k
W200x49.9 kg/m.
W200x49.9 kg/m.
เสา GH : GG = , GH = 5 เมตร kx = 0.76
จะได้ k
C C