Professional Documents
Culture Documents
=> ความเห็นที่ 1
เป็นยังงี้ครับ RLS ถ้าน้องสังเกตดีๆใครชอบใช้ครับ?
…….สูติกับศัลย์ใช่ไหมละครับ ทั้งนี้เพราะ by product ของ lactate เมื่อผ่านตับจะได้องค์ประกอบ bicarb ดังนั้นจึงสามารถ correct
ภาวะ metabolic acidosis ที่เจอร่วมเสมอๆเวลามี Massive blood loss(Review pathophysio ดูเองนะครับ),Burn (Parkland formula ก็
ใช้ RLSถูกไหมครับ) และก็อย่างที่รู้ว่ามันมี E’lyte ตัวอื่น (ที่มัก disturbance ใน condition ทางศัลยกรรมบ่อย เช่น อาเจียน,ถ่ายเหลว
เป็นเลือด,etc) ที่ more physiologic ต่อร่างกายมากกว่า NSS ธรรมดา
ทีนี้มา discuss ข้อเสียมันบ้าง โดยทั่วไปเอาง่ายๆ condition ที่จะไม่นิยมใช้มันก็คือกรณีคนไข้ตับไม่ดี เพราะมันต้องพึ่งตับในการ
เปลี่ยน lactate เปลี่ยนไม่ได้ก็เกิด lactic acidosis ยิ่งdo harm คนไข้ไปกว่าเดิม เจอแบบนี้ใช้ Acetar ดีกว่าเพราะ acetate เข้า Kreb
cycleได้ง่าย
ส่วน NSSก็ตรงไปตรงมา ใช้ผสมยาบางอย่างเช่น phenytoin/ ใช้KVO / ใช้กับDM pt.
เวลาคิดง่ายๆก็คือ มีความจาเป็นต้องให้ RLS หรือ Acetar ไหม ถ้ามีแล้วไม่มี Contraindication ก็ให้ไป ถ้ามีก็ NSS ธรรมดานี่แหละ
(แม้ไม่ใช่ The best แต่ก็ไม่ผิดแน่)
ปล.ต้องรู้ด้วยนะครับว่า RLS มี calcium ร่วมอยู่ด้วย อย่าเผลอให้ในคนไข้ hypercalcemia
โดย นพ.กฤตภูมิ
=> ความเห็นที่ 2
Question
นอกจากนี้ยังมีรายงานการทดลองของPhysioออกมาในjournalเป็นระยะๆ
แสดงให้เห็นถึงภาวะshockและความสัมพันธ์ของเลือดที่ไปตามอวัยวะต่างๆบางฉบับก็พบว่าเลือดไปmuscle
เพิ่มขึ้นด้วยซ้า
Answer
สาหรับ organ perfusion ใน Sepsis ขึ้นกับระยะของ septic shock ว่าศึกษาในช่วงไหน early หรือ late phase
ส่วนใหญ่ในระยะแรกซึ่งเป็น hyperdynamic sepsis มี vasodilatation blood flow ไป organ ต่างๆอาจเพิ่มขึ้น แต่ในระดับ
microcirculation จะมี shunting ของเลือด ทาให้มี hyperlactatemia แม้ว่ามี blood flow มามากขึ้น แต่ในระยะท้ายๆของ sepsis organ
perfusion จะลดลงมากโดยเฉพาะในระดับ microcirculation มักมี multiorgan dysfunction และ multiorgan failure ตามมาซึ่งเป็น
สาเหตุการเสียชีวิต
โดย อ. ทวี
=> ความเห็นที่ 5
เรียน อ.ทวี
การ ให้ isotonic solution ที่เราให้เข้าไปใน circulation นั้น จะอยู่ใน circulation นานเท่าไร และ replace volume ได้เท่ากับปริมาณที่
เราให้เข้าไปหรือไม่ครับ
โดย กบ
=> ความเห็นที่ 6
โดยทั่วไปแล้วการให้สารน้าประเภท isotonic solution ปริมาณสารน้าที่ให้จะอยู่ใน ECF เท่านั้น โดย 3/4ของปริมาณที่ให้จะกระจาย
ไปอยู่ใน ISF มีเพียง1/4ของปริมาณที่ให้เท่านั้นที่จะเป็นIVF