You are on page 1of 11

เอก ารประกอบการเรียนปรับพื้นฐาน

คณิต า ตร์

 การ าอนุพันธ์ของฟังก์ชัน
แคลคูลั เบื้องต้น (1)

นักเรียนชั้นมัธยม ึก าปีที่ 4

โครงการ ม . โรงเรียน าธิต “พิบูลบำเพ็ญ” ม า ิทยาลัยบูรพา


1
เนื้อ าราย ิชาคณิต า ตร์

ม. 4
คณิต า ตร์พื้นฐาน 1 (3 น่ ยกิต) คณิต า ตร์พื้นฐาน 2 (3 น่ ยกิต)
- เซต - ค าม ัมพันธ์และฟังก์ชัน
- ระบบจำน นจริง - เรขาคณิต ิเคราะ ์และภาคตัดกร ย
- ตรรก า ตร์และการใ ้เ ตุผล - เมทริกซ์และระบบ มการเชิงเ ้น
- ถิติเบื้องต้นและค าม ัมพันธ์เชิง
ฟังก์ชัน
ม.5
คณิต า ตร์ 1 (3 น่ ยกิต) คณิต า ตร์ 2 (3 น่ ยกิต)
- ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทึม - จำน นเชิงซ้อน
- ลำดับและอนุกรมอนันต์ - แคลคูลั เบื้องต้น
- ฟังก์ชันตรีโกณมิติ - กำ นดการเชิงเ ้น
- เ กเตอร์ใน ามมิติ - ค ามน่าจะเป็น
ม.6
ราย ิชาเพิ่มเติมกลุ่ม 2
- แคลคูลั 1
- ลักการพิ ูจน์เบื้องต้น
- ทฤ ฎีจำน น
- พีชคณิตและเรขาคณิตเบื้องต้น
- คณิต า ตร์เชิงการจัด

2
วาย นาย
เอก
th
ฟ diff 2
¥
yglg
→ จง m
| ,
y
'
f 4 ×>
1)
diff
, '
การหาอนุพันธ์ของฟังก์ชันพีชคณิตโดยใช้สูตร ๊
2) จง my

3) gm
การหาอนุพันธ์เป็นการศึกษาอัตราการเปลี่ยนแปลงของตัวแปรหนึ่งเทียบกับตัวแปรอื่นๆ

ถ้าให้ 𝑦 = 𝑓(𝑥) เป็นฟังก์ชัน และใหม่ 𝑓 ′ เป็นฟังก์ชันใหม่ เรียก 𝑓 ′ (𝑥) ว่าอนุพันธ์ของฟังก์ชัน 𝑓 ที่


2
𝑥 และเรียก 𝑓 ′ ว่าการหาอนุพันธ์ของฟังก์ชัน 𝑓 โจท
.sn
y
= ×

dc โจท
𝑑𝑦
สัญลักษณ์ของอนุพันธ์ 𝑓 ′ (𝑥), 𝑦 ′ , 𝑑𝑥
)

I ว แปรในโจท )
2

การหาอนุพันธ์ของฟังก์ชันโดยใช้สูตร มีดังนี้ เ น ± ×
,
𝑑𝑦 dx
สูตรที่ 1 ถ้า 𝑦 = 𝑐 เมื่อ 𝑐 เป็นค่าคงตัวแล้ว 𝑑𝑥
=0
1
ฟ ว เลข = 0
2) y
ตัวอย่างที่ 1 ถ้า 𝑦 = 10 จงหาค่าอนุพันธ์ของ 𝑦
°

10 ✗
> y
=
า o
y = =
วิธีทำ 𝑦 = 10

จะได้ 𝑑𝑦
=
𝑑10
= 0
yh 10.0 ✗
𝑑𝑥 𝑑𝑥 '
= 0
𝑑𝑦 y
ตัวอย่างที่ 2 กำหนดให้ 𝑦 = −5 จงหา 𝑑𝑥
°

-5 ✗
y
=

j = 0
*

𝑑𝑦
ตัวอย่างที่ 3 กำหนดให้ 𝑦 = 18 จงหา 𝑑𝑥
°

y =
18 ✗
'
dg =
y
= 0
*
Ix
ด้
ดี
ฅื่
ดิ
ตั

ตั
ดิ
ร้
ย์
ย์
ซ์
ย์
y
= I " °
3
M j
1
=
= 1. × *
= 1. ✗

𝑑𝑦
สูตรที่ 2 ถ้า 𝑦=𝑥 แล้ว 𝑑𝑥
=1

𝑑(𝑐𝑥) 𝑑(𝑥)
สูตรที่ 3 ถ้า 𝑦 = 𝑐𝑥 เมื่อ 𝑐 เป็นค่าคงตัวแล้ว 𝑑𝑥
=𝑐 𝑑𝑥
1
𝑑𝑦
ตัวอย่างที่ 4 ถ้า 𝑦 = −2𝑥 จงหา 𝑑𝑥 y
= -2 ✗

วิธีทำ 𝑑𝑦
𝑑𝑥
=
𝑑(−2𝑥)
𝑑𝑥
= −2
𝑑(𝑥)
𝑑𝑥
= −2 ¥ =
-

%}
1 𝑑𝑦
ตัวอย่างที่ 5 ถ้า 𝑦 = 10𝑥 จงหา 𝑑𝑥 2

เ น 1)
' "
= ✗
y = 10 (1) × y
-

"
ะ เอ ×
°

n -

y
'
= 2× L
j = 10
yl = ท✗
y
'
= 2✗
*
*
𝑦 =m
𝑑𝑦
สูตรที่ 4 ถ้า 𝑥𝑛 เมื่อ 𝑛 เป็นจำนวนจริงแล้ว 𝑑𝑥
= 𝑛𝑥 𝑛−1 3

2) 2✗
y
=
6 3- 1
ตัวอย่างที่ 6 ถ้า 𝑓(𝑥) = 𝑥 จงหา ′
𝑓 (𝑥)
'
= 2.3 ✗
𝑑(𝑥 6 ) 𝑑𝑥 6−1
y
วิธีทำ 𝑓 ′ (𝑥) = 𝑑𝑥
=6 𝑑𝑥
= 6𝑥 5
j =
6×2 *

ใneeyไไไ
1 𝑑𝑦
ตัวอย่างที่ 7 กำหนดให้ 𝑦= จงหา ¥
𝑥4 𝑑𝑥 *

4
ด y =

- 4- า
=
#
j =
dJ = -4 ✗

I -5
-4 ✗ ☒
=

45mn

ยอ
-
=

*
×

ตัวอย่างที่ 8 กำหนดให้ 𝑦 = √𝑥
3
จงหา 𝑑𝑦 ÷
𝑑𝑥
×
}
ด ป y =

} -1
j =
}✗
}

} }
-

- =

_
2
J
} × ☒
}
-
= =
รู
จั
ภุ๋
ทื
หุ้
รู
จั
ช่
4

𝑑𝑦 𝑑𝑓(𝑥) 𝑑𝑔(𝑥)
สูตรที่ 5 ถ้า 𝑦 = 𝑓(𝑥) ± 𝑔(𝑥) แล้ว 𝑑𝑥
=
𝑑𝑥
±
𝑑𝑥

ตัวอย่างที่ 9 ถ้า 𝑦 = 4x 3 − 5x 2 + 7x − 10 จงหา 𝑑𝑦


𝑑𝑥

5NTTR.ly
โขน
ใน

 𝑑𝑥 𝑑𝑦
=
𝑑
𝑑𝑥
(4𝑥 3 − 5𝑥 2 + 7𝑥 − 10)

𝑑(4𝑥 3 ) 𝑑(5𝑥 2 ) 𝑑7𝑥 𝑑10


= − + −
𝑑𝑥 𝑑𝑥 𝑑𝑥 𝑑𝑥

𝑑𝑥 3 𝑑𝑥 2
= 4 −5 +7−0
𝑑𝑥 𝑑𝑥

= 4(3𝑥 3−1 ) − 5(2𝑥 2−1 ) + 7

𝑑𝑦
 𝑑𝑥 = 12𝑥 2 − 10𝑥 + 7

ตัวอย่างที่ 10 ถ้า 𝑦 = 𝑥 5 + 5𝑥 4 − 10𝑥 2 + 6 จงหา 𝑦 ′ "


5" "
+ 0
10 (2) ✗
'
= 5✗ + 5 (4) ✗ _

/ 3-
y = 5×4+ 20✗ 20 ✗

ตัวอย่างที่ 11 กำหนดให้ 𝑦 = 𝑥6 + 8 จงหา 𝑦 ′


j = 6× 0

' 5
= 6✗ *
y

ตัวอย่างที่ 12 ถ้า 𝑦 = 5𝑥 2 − 3𝑥 จงหา 𝑦′

j = 10 ✗ -3

น ละ น + ล
ฟ ผล
.

ณ 5
ล น + ล
น .

𝑑𝑦 𝑑 𝑑
สูตรที่ 6 ถ้า 𝑦 = 𝑓(𝑥) ∙ 𝑔(𝑥) แล้ว 𝑑𝑥
= 𝑓(𝑥)
𝑑𝑥
𝑔(𝑥) + 𝑔(𝑥)
𝑑𝑥
𝑓(𝑥)

หรือ 𝑓(𝑥)𝑔′ (𝑥) + 𝑔(𝑥)𝑓 ′ (𝑥)

𝑑𝑦
ตัวอย่างที่ 13 กำหนดให้ 𝑦 = (𝑥 2 − 2𝑥 + 3)(2𝑥 + 5) จงหา 𝑑𝑥
_
_
𝑑𝑦 𝑑
= [(𝑥 2 − 2𝑥 + 3)(2𝑥 + 5)]
𝑑𝑥 𝑑𝑥
𝑑 𝑑
= (𝑥 2 − 2𝑥 + 3) 𝑑𝑥 (2𝑥 + 5) + (2𝑥 + 5) 𝑑𝑥 (𝑥 2 − 2𝑥 + 3)

= (𝑥 2 − 2𝑥 + 3)(2 + 0) + (2𝑥 + 5)(2𝑥 − 2 + 0)

= (𝑥 2 − 2𝑥 + 3)(2) + (2𝑥 + 5)(2𝑥 − 2)


2✗ -
2 +0
2+0
= (2𝑥 2 − 4𝑥 + 6) + (4𝑥 2 + 6𝑥 − 10)
2- 2 × + 3)


= 6𝑥 + 2𝑥 − 4 j

2 = ( ✗22✗+ 3) d (2×+5)+(2×+5)
Ix
↳ 1✗

ตัวอย่างที่ 14 ให้ 𝑦 = 𝑥 3 (2𝑥 − 1) จงหา 𝑦 ′


(25+5512×-2) ∅
ยณ ก 2- o 3 = (✗ 2 ✗+ 3) (2) t
ler
3 d
1) + C 2 × →
j
×
µ 2✗
(4×2+6×-10) ป
}
-

×
(2×24×+6)
=
Ix = + ด

2+2 ×
(2×-1) (3×2)
3
✓ = 6✗ -4

+
=
× (2) 3
ลา
2
3- 3 ✗ ✗ (2×-1)
2×3 + 6 ✗ y =
= " 3

3-3×2 * ด ป y
= 2×
-
×

yl = 8 ✗
' 3- 3
2

= 8✗ ✗
y

± ±

ตัวอย่างที่ 15 ให้ จงหา 𝑑𝑦 ± =
- -

𝑦 = √𝑥(𝑥 2 − 2) n
𝑑𝑥
ป ✗% ×
ด 2-
± {
=
2)
-

J =

' ± 2- 2) T 2- 2) d ✗
( ✗
y
=
× dc ✗
Tx
#
± c×
2-2
± × 1) ✓
±ย
2✗)
+
= ✗ ( " _
2+1÷ ) ะ 3

± +1 2.
_
× × × ×
± × =
+
=
2 ✗

3- ¥
= zxi -

± × ×


= × _
×
*
ล่
คู
ดิ
วํ่
รู
จั
รู
จั
รู
จั
คุ

น่
ล้
น่
ง' บ
ล =

บน _e
รอ
ฟ ผลหา 6

𝑑 𝑑
𝑓(𝑥) 𝑑𝑦 𝑔(𝑥) 𝑓(𝑥)−𝑓(𝑥) 𝑔(𝑥)
สูตรที่ 7 ถ้า 𝑦 = 𝑔(𝑥) แล้ว 𝑑𝑥
= 𝑑𝑥
[𝑔(𝑥)]2
𝑑𝑥

2 to

𝑔(𝑥)𝑓′ (𝑥)−𝑓(𝑥)𝑔′ (𝑥) 2- 0


หรือ 𝑦 =′
[𝑔(𝑥)]2 1 2ND
(2×-1)
j (2×+1) d (2×-1)
-

=
2𝑥−1
ตัวอย่าวที่ 16 กำหนดให้ 𝑦 = 2𝑥+1 จงหา 𝑦 ′ ไ

2

𝑑𝑦 𝑑 2𝑥−1 ( 2✗ + 1)
วิธีทำ = 𝑑𝑥 [2𝑥+1]
กอรป
𝑑𝑥
"" "

%น
ะแ × +"
𝑑 𝑑
(2𝑥+1) (2𝑥−1)−(2𝑥−1) (2𝑥+1)
𝑑𝑥 𝑑𝑥
= (2𝑥+1)2 "
ะ (4 × +
-5
(2𝑥 + 1)(2 − 0) − (2𝑥 − 1)(2 + 0) +
=
(2𝑥 + 1)2

น tL
-4 ×
-
+
4𝑥 + 2 − 4𝑥 + 2
=
(2𝑥 + 1)2
yl

=
4 *
= 5,2
µ
(2𝑥 + 1)2
°
2K 1 t 0

2
ตัวอย่างที่ 17 จงหาอนุพันธ์ชองฟังก์ชัน 𝑓(𝑥) = (𝑥(𝑥+2)
−1)

¥ " ""
¥ ""

5.
L

×" "
" ✓
น {
(
ะ ( × + 2)
-

:I
"
=
มา

tm = ×
'
*
5 -
ฏื่
ล้
ดิ
ศุ์
หื้
ยุ์
หุ้
หํ๋

ม้
ล่

ภํ๋
หู๋
หื๋
หํ๋
หื๋
ภํ๋
หิ้
8- 8- 97 × 2)

%
'
= 6✗
y -_
𝑥 6 −3 𝑑𝑦
ตัวอย่างที่ 18 กำหนดให้ 𝑦= 𝑥3
จงหา 𝑑𝑥
3

3,8+9×2
3 " ʰ
j =
✗ dcx -
3) - 1✗ 3) ×
=
6×8 _

" _

2- ×

☒ 9×2 ✓

5.gl#j=3'- ¥
ʰ 3
"
=3✗ เอน *

) (✗

;
= ×

"

2𝑥 𝑑𝑦
ตัวอย่างที่ 19 กำหนดให้ 𝑦 = 3𝑥+1 จงหา '
2+9 *
𝑑𝑥 = 3 ✗
y

vi. ( 3× +

า! ะ -

.
*
☐×+

"zt" "


"
= 13 ×
<

y= ✗ 2- 1

↳ ¥ yt
= 6✗ 2✗
.net

ฟ7

สูตรที่ 8 กฎลูกโซ่ (Chain rule) ถ้า 𝑦 = [𝑓(𝑥)]𝑛 แล้ว 𝑑𝑦
𝑑𝑥
𝑑
= 𝑛[𝑓(𝑥)]𝑛−1 𝑑𝑥 𝑓(𝑥)
nnn

𝑑𝑦
หรือ 𝑑𝑥
= 𝑛[𝑓(𝑥)]𝑛−1 𝑓 ′ (𝑥)
6-1
ไʰ d Ct 5×)
j 611-5 ✗ )
°

ตัวอย่างที่ 20 ถ้า 𝑦 = (1 − 5𝑥)0


6
จงหา y =
nmm
Ix
วิธีทำ จาก 𝑦 = (1 − 5𝑥)6

𝑑𝑦 𝑑
=
✗ _
เอา -5
-
5)
5
จะได้ 𝑑𝑥
= 𝑑𝑥 (1 − 5𝑥)6 = -30 C 1- 5 ✗ ) *

𝑑
= 6(1 − 5𝑥)6−1 𝑑𝑥 (1 − 5𝑥)

𝑑(1) 𝑑𝑥
= 6(1 − 5𝑥)5 [ 𝑑𝑥 − 5 𝑑𝑥]
ว่
ญื่

ภุ๋หุ้

ว่
ดิ
ลั้
ทั้
หุ๋
ภั้
หํ๋
ว่
ภํ๋

หุ๋
8

= 6(1 − 5𝑥)5 (0 − 5(1))

= 6(−5)(1 − 5𝑥)5
𝑑𝑦
∴ 𝑑𝑥 = −30(1 − 5𝑥)5 r

ตัวอย่างที่ 21 ถ้า 𝑦 = √3 + 4𝑥 − 𝑥 2 จงหา 𝑦 ′


±
บ y =
( 3+4 ✗
-

✗ 2) 0+4-2 ✗
_

2)
% ม ( 3+4 ✗ -
× 5
Jk { CEEEI Ix
± 4- 2✗ )
'
C 3+4✗
× 2) • ( ☒
{
-

=
y

°
ตัวอย่างที่ 22 ถ้า 𝑦 = (2𝑥 − 1)5 จงหา 𝑦 ′

j = 5 ( 2✗ -
า ! d (2×-1)
มา
I
= 5 (2×-1)
% 2)
4
j = 10 (2×-1) *
กํ้
จั
งํ๋
9

การหาอนุพันธ์อันดับสูง

จากการหาอนุพันธ์ของฟังก์ชันที่ผ่านมา จะพบว่า เมื่อเราหาอนุพันธ์ของฟังก์ชัน 𝑓 ที่ 𝑥 ใดๆ ได้ เป็น


𝑓 ′ (𝑥) ซึง่ 𝑓 ′ (𝑥) เป็นฟังก์ชันอีกฟังก์ชันหนึ่ง และอาจพิจารณาอนุพันธ์ของฟังก์ชัน 𝑓 ′ ที่ 𝑥 ได้อีก

ถ้าให้ 𝑓(𝑥) = 𝑥 5 + 2𝑥 4 + 3𝑥 3 − 2𝑥 + 3

จะได้ 𝑓 ง (𝑥) = 5𝑥 4 + 8𝑥 3 + 9𝑥 2 − 2

เรียก 𝑓 ′ (𝑥) ว่า อนุพันธ์อันดับหนึ่งของ 𝑓(𝑥)

ถ้านำ 𝑓 ′ (𝑥) มาหาอนุพันธ์อันดับหนึ่งของ 𝑓(𝑥) ใหม่ว่าเป็นอนุพันธ์อันดับสองของ 𝑓(𝑥)

นั่นคือ 𝑓 ′′ (𝑥) = 20𝑥 3 + 24𝑥 2 + 18𝑥

ในทำนองเดียวกัน ถ้านำ 𝑓 ′′ (𝑥) มาหาอนุพันธ์ต่อไปเรื่อย ๆ เราก็จะได้อนุพันธ์อันดับสาม อันดับสี่ต่อไปเรื่อย


ๆ และเพื่อสรุปเป็นหมวดหมู่ เรานิยมใช้สัญลักษณ์ต่อไปนี้แทนอนุพันธ์อันดับต่าง ๆ ดังนี้

𝑓 ′ (𝑥) = 𝑦 ′ = 𝑑𝑥
𝑑𝑦
แทน อนุพันธ์อันดับหนึ่ง
𝑑2 𝑦
𝑓 ′′ (𝑥) = 𝑦 ′′ =
𝑑𝑥 2
แทน อนุพันธ์อันดับสอง
𝑑3 𝑦
→ 𝑓 ′′ ′(𝑥) = 𝑦 ′′′ =
𝑑𝑥 3
แทน อนุพันธ์อันดับสาม


𝑑𝑛𝑦
𝑓 (𝑛) (𝑥) = 𝑦 𝑛 = 𝑑𝑥 𝑛 แทน อนุพันธ์อันดับ 𝑛
น อน บ 3
หา อ

ตัวอย่างที่ 23 ให้ 𝑓(𝑥) = 3𝑥 3 + 6𝑥 2 + 2𝑥 – 10 จงหา 𝑓 ′′ ′(𝑥)
↳ 2+12 ✗ t 2- 0
วิธีทำ จาก 3
𝑓(𝑥) = 3𝑥 + 6𝑥 + 2𝑥 – 10 2 flc ✗7 = 9✗

" t 0
18 ✗ +12
f (✗ ) =

ดังนั้น 𝑓 ′ (𝑥) = 9𝑥 2 + 12𝑥 + 2


18
"" +0
= *
f (✗ ) = 18
𝑓 ′′ = 18𝑥 + 12
(4)
𝑓 ′′′ (𝑥) = 18 f 1×ๆ
= 0
ดั
ร้
พ้
นุ
10

ตัวอย่างที่ 24 ให้ 𝑦 = 5𝑥 4 + 2𝑥 2 − 𝑥 + 2 จงหาอนุพันธ์อันดับที่ 4 ของ 𝑦


-

x + 4x -
-

j= 20 1+ 0 *

" = 60x + 4

"
120 x
3 =

y" = 1 20

ตัวอย่างที่ 25 จงหาอนุพันธ์อันดับสามของ 𝑓(𝑥) = 𝑥 −5 + 𝑥 5

f'( x) = - 556 + 5x
4

="(x) = 30x++ 20x

↑" ( X) = - 2 10 x 8 + 60x" #
2

3𝑥−2
ตัวอย่างที่ 26 จงหาอนุพันธ์อันดับสองของ 𝑓(𝑥) = 5𝑥

274
13x-
fx =

2) ( 5)
=(3x-
(5x)
10 =

=x +
#

-2

↑'x = = = -3

=***

You might also like