Professional Documents
Culture Documents
cdn.fbsbx.com (2)
cdn.fbsbx.com (2)
ฒ ค าย ห อ
ชื่อ - กุล........................................................................................
นาย นานมา
ชั้น.............................เลขที
ม 6115
.
…
่ ……........
5
วั
ล่
ล้
น์
บน -
าง
มวล Pttn
"
Pt + i
ไอ ไช โท นะ Ex
×
×
ไอโชยเ เ า น Ex ฑํ๊ก ฏํ๊ะ มวล .
.
3
2. J เป็นธาตุ มมติชนิด นึ่ง มีประจุนิ เคลีย เป็น 3 เท่าของ 21H และมีเลขม ลเป็น 5 เท่าของ 21H เมื่อเกิดเป็นไอออน
!
3
1. 3 10 1
✗2. 3 7 1 3 = 7 hะ
3. 3 7 3 = 1
4. 6 10 4
5. 6 10 6
-
3. ธาตุ มมติ X, Y, Z มีเลขอะตอม 17, 18, 20 ตามลำดับ ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง (o-net’59)
t 8 า2
1 7
CS
5. จำน นโปรตอนในอะตอมของ 3 ธาตุนี้ร มกันเท่ากับ 28
2 8 1
2. ปฏิกิริยากับน้ำร้อน 1- 2 ไม่เกิดปฏิกิริยา 3- 4
3. ใช้ค้อนทุบ ไม่แตก ัก
4. เผาในอากา ชิ้นตั อย่าง มองลง
ข้อใดเป็นการจัดเรียงอิเล็กตรอนของธาตุ D ที่เป็นไปได้ (o-net’60)
1. 2 1 2. 2 8 2 3.
X 2 8 3
4. 2 8 6 5. 2 8 18 7
9. กำ นด มู่และคาบของธาตุ A D E และ X ดังนี้
ธาตุ A D E X
มู่ VIA E IA I IIIA I IVA E
คาบ 2 3 3 6
การระบุ มบัติของธาตุในข้อใดถูกต้อง (o-net’60)
1. ทุกธาตุนำไฟฟ้าได้ A
2. D มีค ามเป็นโล ะมากก ่า E
X
3. X เป็นธาตุกึ่งโล ะจึงนำไฟฟ้าได้น้อย ×
(A)
4. อะตอม × X เ เลนซ์อิเล็กตรอนมากที่ ุด ่ นอะตอม A มีม ลน้อยที่ ุด
5. A มีเ เลนซ์อิเล็กตรอนจำน นมาก จึงมีแน โน้มจะใx ้อิเล็กตรอนได้ง่ายเมื่อเกิด ารประกอบ ×
บ ×
รั
หุ๊
ฑุ๋
10. พิจารณาข้อมูลบาง ่ นของจำน นอนุภาคมูลฐานและเลขม ลของธาตุ L M และ Q ดังนี้ (o-net’61)
จำน นอนุภาคมูลฐาน
ธาตุ เลขม ล
โปรตอน นิ ตรอน
L 9 10 19
M 10 12 22
Q 12 12 24
จากข้อมูล ข้อค ามใดต่อไปนี้ถูกต้อง
1. M และ Q เป็นไอโซโทปกัน 2. เลขอะตอมของธาตุ M เท่ากับ 12
3. ัญลัก ณ์นิ เคลียร์ของธาตุ M คือ 22
12M 4. Q+ ไอออนมีจำน นอิเล็กตรอนเท่ากับนิ ตรอน
5. L- ไอออนกับธาตุ M มีจำน นอิเล็กตรอนเท่ากัน
X
11. การระบุ มู่และคาบของธาตุที่มีเลขอะตอมต่อไปนี้ ข้อใดไม่ถูกต้อง (o-net’61)
%
3. 7 VA 2
4. 5 IIIA 2
5. 8 VIA 2
12. กำ นดตำแ น่งของธาตุ 7 ชนิด ในคาบที่ 1-4 ของตารางธาตุ ดังนี้
โลหะ อ โลหะ I -
I โลหะ
[ -
E 0 โลหะ
พันธะเคมี
1. ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง (o-net’59)
1. ารประกอบไอออนิกทุกชนิดละลายน้ำ ⑧
2. ซิงค์ซัลไฟด์เป็น ารประกอบโค าเลนต์
3. ารประกอบโค าเลนต์ทุกชนิดมี ถานะเป็นของเ ล
4. เอทานอลเป็น ารประกอบไอออนิก
5. ารประกอบไอออนิกทุกชนิดมี ถานะเป็นของแข็ง
น้
ว่
รี
ว่
HCI
2. ารประกอบ X เกิดจากธาตุ มู่ IIA คาบ 3 กับ มู่ VIA คาบ 2 และ ารประกอบ Y เกิดจากธาตุ มู่ VIIA คาบ 3 กับ
ไฮโดรเจน ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง (o-net’59)
()
1. ารประกอบ X มีจุดเดือดต่ำก ่า ารประกอบ Y
2. ารประกอบ Y ละลายน้ำเกิดการนำไฟฟ้า
3. ารประกอบ X เป็น ารประกอบโค าเลนต์
4. ารประกอบ Y มีจุด ลอดเ ล ูงก ่า ารประกอบ X
5. ารประกอบ X มี ถนะเป็นแก๊ ที่อุณ ภูมิ ้อง
3. ารในข้อใดทำใ ้เกิดปฏิกิริยาเคมีที่ ังเกตได้จากการเปลี่ยน ีของ ารละลาย (o-net’59)
1. ารละลายโพแท เซียมเปอร์แมงกาเนต และ ารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ *
มบัติ
XZ2 เป็นแก๊ ที่อุณ ภูมิ ้อง และ Z อยู่ มู่ VIA -
B - 95 69 ไม่นำ ↓
ไ ไฟ า
C โลหะ 420 907 นำ
D 318 1,388 ไม่นำ
การจัดประเภท ารข้อใดถูกต้อง (o-net’60)
ข้อ ารประกอบไอออนิก โมเลกุลโคเ เลนต์ โล ะ
1.
× A และ D B C
2. C B A และ D
3. B A และ D C
4. A C และ D - B
5. A B และ D - C
นำ
ม่
ฟ้
ด์
7. กำ นดใ ้ X Y และ Z เป็น ารบริ ุทธิ์ที่มี มบัติดังนี้
X เป็นของแข็ง นำไฟฟ้าและนำค ามร้อนได้ดี โลหะ
Y เป็นของแข็งไม่นำไฟฟ้า ประกอบด้ ยธาตุ 3 ชนิด ร้างพันธะกัน โดยมีธาตุชนิด นึ่งอยู่ใน มู่ IA
Z เป็นของเ ล ที่ระเ ยง่าย ประกอบด้ ยธาตุ 3 ชนิด ร้างพันธะกัน
จากข้อมูล ูตร รือ ัญลัก ณ์เคมีของ X Y และ Z อดคล้องกับ ารในข้อใด (o-net’61)
าร X าร Y าร Z
1. Na CaCO3 C2H5OH
2. K CaCO3 C6H12O6
3. Si C6H12O6 C2H5OH
4.
X K Na2CO3 C2H5OH
5. Si Na2CO3 C6H12O6 - ตาล
8. ธาตุ D E และ M อยู่คาบที่ 3 ในตารางธาตุ เมื่อเกิด ารประกอบ DE2 และ ME
เขียนแผนภาพแ ดงการเกิดพันธะ ได้ดังนี้
cov ionic
E
ะ I
E
=
[
ใ วม น
จากข้อมูล มบัติของธาตุและ ารประกอบข้อใดถูกต้อง (o-net’62)
1. ารประกอบ ME เป็นของแข็งที่นำไฟฟ้าและนำค ามร้อนได้ดี
โลหะ
2. ธาตุ E มีเ เลนซ์อิเล็กตรอนเคลื่อนที่อย่างอิ ระทำใ ้นำไฟฟ้าได้ดี Ionic
3. ธาตุ D ามารถ ร้างพันธะโคเ เลนต์ พันธะไอออนิก และพันธะโล ะ
4. ารประกอบ DE2 มีจุด ลอมเ ล และจุดเดือด ูงก ่า ารประกอบ ME
✗5. ธาตุ E เมื่อเกิด ารประกอบทั้ง 2 ชนิดจะมีการจัดเรียงอิเล็กตรอนเป็น 2 8 8
9. ข้อมูลแ ดง มบัติบางประการของ าร 4 ชนิด เป็นดังนี้
าร จุด ลอมเ ล (๐C) การละลายน้ำและการนำไฟฟ้า
ก 801 ละลายน้ำได้และ ารละลายที่ได้นำไฟฟ้า
ข 660 ไม่ละลายน้ำ แต่นำไฟฟ้า
ค 119 ไม่ละลายน้ำและไม่นำไฟฟ้า
ง 186 ละลายน้ำได้ แต่ ารละลายที่ได้ไม่นำไฟฟ้า
น้ำ
กั
อ้ร่
ช้
จากข้อมูล าร ก ข ค และ ง มีแรงยึดเ นี่ย ระ า่ งอนุภาคเช่นเดีย กับ ารในข้อใด (o-net’62)
#$ &
.
าร ก าร ข าร ค าร ง
1. NaCl C11H22O11 Al S8
2. NaCl Al S8 C11H22O11
3. Al NaCl
"
S8 C11H22O11
4. C11H22O11 Al S8 NaCl
5. Al ( S8 C11H22O11 NaCl
C3H8(g) + 5b → 3c + 4a
Cs Hnt 802 → 5 Cyt 61h0
d + 8b → 5c + 6a
2 Na HCO → H20
coz
2e → Na2CO3(s) + a + c
จาก มการเคมี ูตรเคมีของ ารในข้อใดถูกต้อง (o-net’62)
1. าร a คือ ✗ O2 Hi 2. าร b คือ \ H/2 ำ ✗3. าร c คือ CO2
4. าร d คือ C✗ 5H10 Cs Hn 5. าร e คือ Na2C2/ O4
3. พิจารณา มการเคมีของปฏิกิริยา ตามกำ นดต่อไปนี้
ว น
02 ไ จาก นวน ของสาร
+ 0
ปฏิกิริยาที่ 1 KClO4(s) → KCl(S) + 2x(g)
q 502
ปฏิกิริยาที่ 2 4FeS 02(s) + 11x(g) → 2Fe2O3(s) + 8z(g)
H
20
ปฏิกิริยาที่ 3 NH4OH(aq) → y(l) + r(g) NH 3
NG 0Hะ
ปฏิกิริยาที่ 4 Cu(s) + 4HNO 0 3(aq)
4
→ Cu(NO3)2(aq) + 2w(g) + 2y(l)
I
จากข้อมูล ารผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปฏิ2 กิริยาเคมีใดเป็น าเ ตุท}ี่ทำใ ้เกิดฝนกรด
า } (o-net’63)
1. ปฏิกิริยาที่ 1 และ 2 2. ปฏิกิริยาที่ 2 และ 3
3. ปฏิกิริยาที่ 3 และ 4 ✗4. ปฏิกิริยาที่ 2 และ 4
5. ปฏิกิริยาที่ 1 และ 4
ต้
ถั่
จำ
ด้
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
1. ินปูนทำปฏิกิริยากับ ารละลายกรดไฮโดรคลอริกเกิดแก๊ คาร์บอนไดออกไซด์ ารละลายแคลเซียมคลอไรด์ และน้ำ
โดยข้อมูลที่ได้จากการทดลองเป็นดังตาราง
ปริมาณแก๊ CO2 (cm3) เ ลา ( ินาที)
③
1 22 rate
= 3-2 =
1
แ
2 54 แ
{
3 120 rate=
5- 4
=
1
4 230 2
20
{
220
5 450
ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง (o-net’59)
1. เ ลาที่ใช้ในการเกิดแก๊ CO2 ในทุก ๆ 1 cm3 มีค่าไม่เท่ากัน
2. อัตราการเกิดแก๊ CO2 ในช่ ง 2-3 cm3 มีค่ามากก ่าในช่ ง 4-5 cm3
×3. อัตราการเกิดแก๊ CO2 ในทุก ๆ 1 cm3 มีค่าเพิ่มขึ้น
4. เ ลาที่ใช้ในการเกิดแก๊ CO2 ในช่ ง 1-2 cm3 มีค่าน้อยก ่าในช่ ง 2-3 cm3
5. อัตราการเกิดแก๊ CO2 เฉลี่ยเท่ากับ 0.011 cm3s-1
,
5
I C
เข้มข้นร้อยละ 10 โดยม ลต่อปริมาตร
Mg
ใ ่ก้อนแมกนีเซียมม ล 0.10 กรัม จำน น 10 ก้อน ลงใน ารละลาย
กรดไฮโดรคลอริกเข้มข้นร้อยละ 10 โดยม ลต่อปริมาตร
การเปรียบเทียบอัตราการเกิดปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจากการทดลองข้างต้น ข้อใดถูกต้อง (o-net’60)
1. A > B A) 13
2. B > C
3. C > B
✗
B
c >
4. A = B
5. B = C
4. พิจารณากราฟที่แ ดงค าม ัมพันธ์ของค ามเข้มข้นของ ารตั้งต้นและ ารผลิตภัณฑ์กับเ ลาการเกิดปฏิกิริยาเคมี
ดังนี้
อ"
(เ ด
±
A µ →
ค ามเข้มข้น
c
น มาก
↓
ะ B
1
1
C
A
1
i
ะ
1
0 2 เ ลา
ข้อค ามใดถูกต้อง (o-net’60)
1. ทุกช่ งเ ลา อัตราการลดลงของ าร A เท่ากัน ✗
2. มการเคมีของปฏิกิริยานี้คือ B + C → A ×
3. อัตราการเกิด าร B มากก ่าอัตราการเกิด าร C
x
4. อัตราการเกิดปฏิกิริยาเป็นค่าเฉลี่ยของอัตราการเกิด าร B และ าร C '
การระบุชนิดของมอนอเมอร์และแบบปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ไรเซชันของพอลิเมอร์
ข้อใดถูกต้อง (o-net’60)
ข้อ พอลิเมอร์ มอนอเมอร์ แบบปฏิกิริยา
1. โปรตีน กรดอะมิโน B
2. เซลลูโล กลูโค A
3. ยางพารา พาราฟิน C
×4. พอลิเอทิลีน เอทิลีน A
5. PVC ไ นิลคลอไรด์ B
(
4. การระบุประเภทและการใช้ประโยชน์ของพอลิเมอร์ ข้อใดถูกต้อง (o-net’60)
ข้อ พอลิเมอร์ ประเภท การใช้ประโยชน์
1. พอลิเอทิลีน เทอร์มอพลา ติก ทำแผ่นกระเบื้องยาง
2. เบกาไลต์ พลา ติกเทอร์มอเซต ใช้เคลือบกระทะป้องกันอา ารติด
3. พอลิยูรีเทน เทอร์มอพลา ติก ทำฉน นกันค ามร้อน
4. พอลิ ไตรีน PS พลา ติกเทอร์มอเซต ทำกล่องน้ำแข็ง น กนิรภัย
x5. พอลิไ นิลคลอไรด์ เทอร์มอพลา ติก ทำท่อน้ำประปา ายยางใ
5. โรงงานพลา ติกแ ่ง นึ่งใช้พอลิเมอร์ 3 ชนิด ที่มี มบัติแตกต่างกันเป็น ัตถุดิบในการทำผลิตภัณฑ์พลา ติก ดังนี้
พอลิเมอร์ มบัติ ผลิตภัณฑ์พลา ติก
A เ นีย ค าม นาแน่นและจุด ลอมเ ล ูง ถุงร้อน ✗ เ น
(
C ยืด ยุ่น ค าม นาแน่นและจุด ลอมเ ล ต่ำ แผ่นฟิล์ม ่ออา าร ง
จากข้อมูล พอลิเมอร์ A B และ C ค รมีโครง ร้างแบบใด ตามลำดับ (o-net’61)
1. แบบเ ้น แบบกิ่ง แบบร่างแ 2. แบบร่างแ แบบกิ่ง แบบเ ้น
3. แบบกิ่ง แบบเ ้น แบบร่างแ ×4. แบบเ ้น แบบร่างแ แบบกิง่
5. แบบกิ่ง แบบร่างแ แบบเ ้น
6. พิจารณาปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ 2 ชนิด ดังภาพ
ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ชนิดที่ 1
ง น
แบบ ควบ แ น
ผ ต ณ
+
ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ชนิดที่ 2
↑
เ ม
นธะ
ไฟฟ้ า
กึ่
ร่
ร่
กิ่
สั
ส้
ส้