You are on page 1of 17

เอก ารประกอบการเรียน

ราย ิชา เคมี ร ั ิชา 30225


ภาคเรียนที่ 2 ชั้นมัธยม ึก าปีที่ 6

ฒ ค าย ห อ
ชื่อ - กุล........................................................................................
นาย นานมา

ชั้น.............................เลขที
ม 6115
.

่ ……........
5
วั
ล่
ล้
น์
บน -
าง
มวล Pttn

"

โครง ร้างอะตอมและ มบัติธาตุตามตารางธาตุ i


1. ข้อใดกล่า ไม่ถูกต้องเกี่ย กับธาตุที่เป็นไอโซโทปกัน (o-net’59) เลย อะตอม

Pt + i

1. เลขอะตอมเท่ากัน 2. จำน นโปรตอนเท่ากัน โอโซ โทปะ ธา เ ยว น

ไอ ไช โท นะ Ex
×

3. ธาตุต่างชนิดกัน 4. เลขม ลต่างกัน


.

×
ไอโชยเ เ า น Ex ฑํ๊ก ฏํ๊ะ มวล .
.
3

5. จำน นนิ ตรอนต่างกัน ไอ โบ เ กตรอน น A i pt >

2. J เป็นธาตุ มมติชนิด นึ่ง มีประจุนิ เคลีย เป็น 3 เท่าของ 21H และมีเลขม ลเป็น 5 เท่าของ 21H เมื่อเกิดเป็นไอออน
!

J2+ จะมีจำน นอนุภาคมูลฐานตามข้อใด (o-net’59) Pt P 5 = 6 ๋ะ

ข้อ โปรตอน นิ ตรอน อิเล็กตรอน 10J


2+ e- 6 [ = = 6

3
1. 3 10 1
✗2. 3 7 1 3 = 7 hะ

3. 3 7 3 = 1

4. 6 10 4
5. 6 10 6
-
3. ธาตุ มมติ X, Y, Z มีเลขอะตอม 17, 18, 20 ตามลำดับ ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง (o-net’59)
t 8 า2

1. ธาตุ Y อยู่ใน มู่ VIIIA ของตารางธาตุ


y
2. ธาตุ X, Y และ Z อยู่ในคาบที ×่ 3 ของตารางธาตุ
3. ธาตุ Z มี 10X อิเล็กตรอนในระดับพลังงาน n เท่ากับ 3
4. ธาตุ X เป็นโล ะ II
5. ธาตุ Z เป็นอโล ะ I E -

1 7

4. ธาตุ มมติ A B C D E F G เป็นธาตุที่อยู่ในคาบเดีย กันของตารางธาตุ เรียงตามลำดับตั้งแต่ มู่ IA ถึง มู่ VIIA


ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง (o-net’59) ห
1. ค ามเป็นโล ะของ A < B < C X2. ค าม ่องไ ในการเกิดปฏิกิริยากับน้ำของ C < B < A
คาบ

3. ค ามเป็นอโล ะของ G < F < E < D 4. B มีจำน นระดับพลังงานของอิเล็กตรอนมากก ่า F


อย ก า
5. A มีจำน นเ เลนซ์อิเล็กตรอนมากก ่า G
5. ข้อค ามใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง (o-net’59)
o
mg + Al
1. ล้อแม็กทำจากโล ะผ มแมกนีเซียม
2. ลอดไฟโซเดียมใ ้แ ง ่าง ีเ ลืองเข้ม warm light
3. โพแท เซียมซัลเฟตเป็น ารทึบแ งใช้ในการถ่ายภาพระบบทางเดินอา าร
X
4. แก๊ ฮีเลียมผ มกับออกซิเจนใ ้เป็นอากา ำ รับการ ายใจของนักประดาน้ำ
5. ลิเทียมใช้เป็นขั้ ไฟฟ้าในแบตเตอรี่ซึ่งใช้ในอุปกรณ์ไฟฟ้า
ล่
ญู๋
หํ๋
กั
อิ
กั
ฏุ๋
ยั
กุ๋
น้
ท่
ดี
ร่
ว่
ล็
มู่
วั
ตุ
6. R X และ Z เป็น ัญลัก ณ์ มมติของธาตุ 3 ชนิด R มี ัญลัก ณ์นิ เคลียร์ 115R อะตอม X 10 อิเล็กตรอน
และ 10 นิ ตรอน ่ น Z มีเลขอะตอมมากก ่า X อยู่ 1 และมีนิ ตรอนเป็น 2 เท่าของ R ข้อใดถูกต้อง (o-net’60)
" 1. Z มีเลขม ล 22 2. R มี 11 นิ ตรอน
×
3. X มี ัญลัก ณ์นิ เคลียร์ 20
-

× 10X 4. เลขม ลของ Z เท่ากับเลขอะตอมของ R


10

CS
5. จำน นโปรตอนในอะตอมของ 3 ธาตุนี้ร มกันเท่ากับ 28
2 8 1

7. ซีเซียมมีเลขอะตอม 55 และเป็นธาตุ มู่เดีย กับโซเดียมซึ่งมีเลขอะตอม 11 พิจารณาข้อ รุปเกี่ย กับซีเซียมต่อไปนี้


ก. มีการจัดเรียงอิเล็กตรอนเป็น 2 8 18 18 8 1
ข. ทำปฏิกิริยากับน้ำได้รุนแรงก ่าโซเดียม
ค. มี 55 นิ ตรอน
ข้อ รุปใดถูกต้อง (o-net’60)
1. ก 2. ข 3. ค ✗4. ก และ ข 5. ข และ ค
"

8. ถ้าธาตุ D มีลัก ณะเป็นแผ่นมัน า เมื่อตัดออกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้ แบ่งไปทด อบเบื้องต้นได้ผลดังนี้


การทด อบ ผลการทด อบ #$
1. การนำไฟฟ้า นำได้ดี 1- 4

2. ปฏิกิริยากับน้ำร้อน 1- 2 ไม่เกิดปฏิกิริยา 3- 4

3. ใช้ค้อนทุบ ไม่แตก ัก
4. เผาในอากา ชิ้นตั อย่าง มองลง
ข้อใดเป็นการจัดเรียงอิเล็กตรอนของธาตุ D ที่เป็นไปได้ (o-net’60)
1. 2 1 2. 2 8 2 3.
X 2 8 3
4. 2 8 6 5. 2 8 18 7
9. กำ นด มู่และคาบของธาตุ A D E และ X ดังนี้
ธาตุ A D E X
มู่ VIA E IA I IIIA I IVA E

คาบ 2 3 3 6
การระบุ มบัติของธาตุในข้อใดถูกต้อง (o-net’60)
1. ทุกธาตุนำไฟฟ้าได้ A
2. D มีค ามเป็นโล ะมากก ่า E
X
3. X เป็นธาตุกึ่งโล ะจึงนำไฟฟ้าได้น้อย ×
(A)
4. อะตอม × X เ เลนซ์อิเล็กตรอนมากที่ ุด ่ นอะตอม A มีม ลน้อยที่ ุด
5. A มีเ เลนซ์อิเล็กตรอนจำน นมาก จึงมีแน โน้มจะใx ้อิเล็กตรอนได้ง่ายเมื่อเกิด ารประกอบ ×
บ ×
รั
หุ๊
ฑุ๋
10. พิจารณาข้อมูลบาง ่ นของจำน นอนุภาคมูลฐานและเลขม ลของธาตุ L M และ Q ดังนี้ (o-net’61)
จำน นอนุภาคมูลฐาน
ธาตุ เลขม ล
โปรตอน นิ ตรอน
L 9 10 19

M 10 12 22
Q 12 12 24
จากข้อมูล ข้อค ามใดต่อไปนี้ถูกต้อง
1. M และ Q เป็นไอโซโทปกัน 2. เลขอะตอมของธาตุ M เท่ากับ 12
3. ัญลัก ณ์นิ เคลียร์ของธาตุ M คือ 22
12M 4. Q+ ไอออนมีจำน นอิเล็กตรอนเท่ากับนิ ตรอน
5. L- ไอออนกับธาตุ M มีจำน นอิเล็กตรอนเท่ากัน
X
11. การระบุ มู่และคาบของธาตุที่มีเลขอะตอมต่อไปนี้ ข้อใดไม่ถูกต้อง (o-net’61)
%

เลขอะตอม มู่ คาบ


1. 11 IA 3
2. 10 VIIIA 3 &
'

3. 7 VA 2
4. 5 IIIA 2
5. 8 VIA 2
12. กำ นดตำแ น่งของธาตุ 7 ชนิด ในคาบที่ 1-4 ของตารางธาตุ ดังนี้

โลหะ อ โลหะ I -
I โลหะ

[ -
E 0 โลหะ

จากข้อมูล ข้อ รุปใดต่อไปนี้ถูกต้อง (o-net’61)



1. ธาตุ A B C และ E เป็นธาตุโล ะ X

2. ธาตุ F และ G มี มบัติทางเคมีแตกต่างกัน ✗

3. ธาตุ A C D และ G มีเ เลนซ์อิเล็กตรอนเท่ากับ 3 ระ บ พ งงาน คาบ ]

4. ค ามเป็นอโล ะของธาตุ G มากก ่า F


5. ค าม ่องไ ในการเกิดปฏิกิริยาของธาตุกับน้ำเรียงจากมากไปน้อย คือ B A C

กึ่
ลั
ดั
13. พิจารณาข้อมูลจำน นอนุภาคมูลฐานและเลขม ลของธาตุ M X และ Y ดังนี้
จำน นอนุภาคมูลฐาน
ธาตุ เลขม ล
โปรตอน นิ ตรอน อิเล็กตรอน
M 18 40
X 23 43
Y 18 15
จากข้อมูล ข้อ รุปใดต่อไปนี้ถูกต้อง (o-net’62)
1. ัญลัก ณ์นิ เคลียร์ของธาตุ X คือ 43 23X
2. ธาตุ M มีเลขอะตอมมากก ่าธาตุ Y 4 น่ ย
x3. ธาตุ X มีจำน นนิ ตรอนมากก ่าธาตุ M 1 อนุภาค
4. ธาตุ Y มีจำน นโปรตอนน้อยก ่าธาตุ X 10 อนุภาค
5. ธาตุ M มีจำน นอนุภาคในนิ เคลีย น้อยก ่าธาตุ X 2 อนุภาค
14. ข้อมูลธาตุ 4 ชนิด เป็นดังนี้
ธาตุ G มีการจัดเรียงอิเล็กตรอน 2 8 1 และมีจำน นอนุภาคในนิ เคลีย 23 อนุภาค
ธาตุ Q อยู่ในคาบเดีย กับธาตุ G ตี่จำน นเ เลนซ์อิเล็กตรอนมากก ่าธาตุ G 5 อนุภาค
ธาตุ R มี มบัติเ มือนธาตุ G แต่มีจำน นระดับพลังงานมากก ่าธาตุ G 1 ระดับพลังงาน
ธาตุ T มีจำน นเ เลนซ์อิเล็กตรอนเท่ากับธาตุ Q แต่มีจำน นระดับพลังงานน้อยก ่าธาตุ Q 1 ระดับพลังงาน
จากข้อมูล ข้อใดต่อไปนี้กล่า ถูกต้อง (o-net’62)
1. ธาตุ Q มีค ามเป็นโล ะมากก ่าธาตุ G
2. ธาตุ T มีค ามเป็นอโล ะมากก ่าธาตุ Q
3. ธาตุ R มีเลขอะตอมมากก ่าธาตุ Q 5 น่ ย
4. ธาตุ G เกิดปฏิกิริยากับน้ำได้ ่องไ ก ่าธาตุ R
5. ธาตุ T มีจำน นระดับพลังงานมากก ่าธาตุ R
15. ธาตุ A B C D และ E มีเลขอะตอมเป็นเลขคี่ที่เรียงลำดับจากน้อยไป ามากอย่างต่อเนื่องโดยอะตอมของธาตุ A B C
และ D มีจำน นโปรตอนน้อยก ่านิ ตรอน 1 อนุภาคและธาตุ E มี ัญลัก ณ์นิ เคลียร์ 40 19E
จากข้อมูล จำน นอนุภาคในนิ เคลีย ของธาตุในข้อใดถูกต้อง (o-net’63)
1. ธาตุ A มีจำน นอนุภาคในนิ เคลีย 22 อนุภาค 2. ธาตุ B มีจำน นอนุภาคในนิ เคลีย 13 อนุภาค
3. ธาตุ C มีจำน นอนุภาคในนิ เคลีย 16 อนุภาค 4. ธาตุ D มีจำน นอนุภาคในนิ เคลีย 35 อนุภาค
5. ธาตุ E มีจำน นอนุภาคในนิ เคลีย 59 อนุภาค
16. ธาตุ A B C และ D มี มบัติดังนี้
ธาตุ A มีค ามเ ถียร ไม่ ร้างพันธะเคมีกับธาตุใด และมีเ เลนซ์อิเล็กตรอนอยู่ในระดับพลังงานที่ 3 I กาย 3

ธาตุ B มีจำน นโปรตอนน้อยก ่าธาตุ A 5 อนุภาค B 2 8,3 =


,

ธาตุ C อยู่ มู่เดีย กันกับธาตุ B แต่มีขนาดเล็กก ่า 2,3C =

ธาตุ D มีเลขอะตอมมากก ่าธาตุ B 1 น่ ย D แ 8,4 =

จากข้อมูล ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง (o-net’63)


1. ธาตุ C มีเ เลนซ์อิเล็กตรอนอยู่ในระดับพลังงานที่ 3 ✗ 2

2. ธาตุ A มีจำน นอิเล็กตรอนในระดับพลังงานที่ 1 เท่ากับ 8 I คาบ × 2

3. ธาตุ B มีจำน นอิเล็กตรอนในระดับพลังงานที่ 2 เท่ากับ 3 ✗ I คาบ 3

4. ธาตุ D มีจำน นอิเล็กตรอนในระดับพลังงานที่ 3 เท่ากับ 4


X อย ก า
5. ธาตุ C มีจำน นเ เลนซ์อิเล็กตรอนมากก ่าธาตุ D 1 อนุภาค
17. ข้อมูลแ ดงเลขอะตอมและเลขม ลของธาตุ 4 ชนิด เป็นดังนี้
ธาตุ เลขอะตอม เลขม ล
A 13 2 3 8 27
B 15 28 5 31
C 20 2 8 8 2 40
D 35 2 8 1 87 80
จากข้อมูล ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง (o-net’63)
1. A3+ และ C2+ มีการจัดเรียงอิเล็กตรอนเ มือนกัน ×
2. ธาตุ A มีค าม ่องไ ในการเกิดปฏิกิริยามากก ่าธาตุ C C เ ยก า A

3. ธาตุ A และ C เป็นโล ะ ่ นธาตุ B และ D เป็นอโล ะ


4. ธาตุ C มี ถานะเป็นแก๊ ่องไ ต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมี
5. ธาตุ B มีจำน นอิเล็กตรอนในระดับพลังงานที่ 3 มากก ่าธาตุ D x

พันธะเคมี
1. ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง (o-net’59)
1. ารประกอบไอออนิกทุกชนิดละลายน้ำ ⑧
2. ซิงค์ซัลไฟด์เป็น ารประกอบโค าเลนต์
3. ารประกอบโค าเลนต์ทุกชนิดมี ถานะเป็นของเ ล
4. เอทานอลเป็น ารประกอบไอออนิก
5. ารประกอบไอออนิกทุกชนิดมี ถานะเป็นของแข็ง
น้
ว่
รี
ว่
HCI
2. ารประกอบ X เกิดจากธาตุ มู่ IIA คาบ 3 กับ มู่ VIA คาบ 2 และ ารประกอบ Y เกิดจากธาตุ มู่ VIIA คาบ 3 กับ
ไฮโดรเจน ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง (o-net’59)

()
1. ารประกอบ X มีจุดเดือดต่ำก ่า ารประกอบ Y
2. ารประกอบ Y ละลายน้ำเกิดการนำไฟฟ้า
3. ารประกอบ X เป็น ารประกอบโค าเลนต์
4. ารประกอบ Y มีจุด ลอดเ ล ูงก ่า ารประกอบ X
5. ารประกอบ X มี ถนะเป็นแก๊ ที่อุณ ภูมิ ้อง
3. ารในข้อใดทำใ ้เกิดปฏิกิริยาเคมีที่ ังเกตได้จากการเปลี่ยน ีของ ารละลาย (o-net’59)
1. ารละลายโพแท เซียมเปอร์แมงกาเนต และ ารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ *

2. ารละลายโซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต และ ารละลายกรดไฮโดรคลอริก


3. ารละลายกรดไฮโดรคลอริก และ ารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์
4. แมกนีเซียม และ ารละลายกรดไฮโดรคลอริก
5. ารละลายโซเดียมไทโอซัลเฟต และ ารละลายกรดไฮโดรคลอดริก
4. กำ นดเลขอะตอมของธาตุดังนี้
ธาตุ L M R ออกซิเจน(O) ฟลูออรีน(F)
เลขอะตอม 16 19 31 8 9
เมื่อธาตุ 2 ชนิด ร้างพันธะกันแล้ ทำใ ้แต่ละอะตอม รือไอออนของธาตุที่ ร้างพันธะกันมีจำน นอิเล็กตรอน
เ มือนแก๊ เฉื่อย ดังนั้น จำน นอิเล็กตรอนของแต่ละธาตุที่เกี่ย ข้องในการ ร้างพันธะแล้ เกิด ารประกอบ 1 โมเลกุล
รือ 1 น่ ย ูตร และชนิดของพันธะใน ารประกอบนั้น ข้อใดถูกต้อง (o-net’60)
ข้อ ธาตุที่ ร้างพันธะกัน จำน นอิเล็กตรอน (e) ที่เกี่ย ข้องใน ชนิดของพันธะใน
การ ร้างพันธะ ารประกอบ
1. L และ F L ใช้ 2 e และ F ใช้ 2 e โคเ เลนต์
2. M และ O M ใ ้ 2 e และ O รับ 2 e ไอออนิก
3. R และ F R ใช้ 3 e และ F ใช้ 1 e โคเ เลนต์
4. L และ M L รับ 2 e และ M ใ ้ 1 e ไอออนิก
5. O และ F O ใช้ 1 e และ F ใช้ 1 e โคเ เลนต์
+

5. ถ้า ารประกอบที่เกิดพันธะเกิดจากธาตุ มมติ M T X และ Z มี มบัติดังนี้


ารประกอบ ,

มบัติ
XZ2 เป็นแก๊ ที่อุณ ภูมิ ้อง และ Z อยู่ มู่ VIA -

XT4 เป็นของเ ล ที่อุณ ภูมิ ้อง


MT เป็นของแข็งที่อุณ ภูมิ ้อง ละลายน้ำได้ดี
ข้อ รุปใดไม่ถูกต้อง (o-net’60)
1. M เป็นธาตุ มู่ IA
2. MT เป็น ารประกอบไอออนิก
3. XZ2 เป็น ารประกอบโคเ เลนต์
4. จำน นเ เลนซ์อิเล็กตรอนของ X เท่ากับ 4
5. จำน นเ เลนซ์อิเล็กตรอนทั้ง มดที่ X ใช้ ร้างพันธะโคเ เลนต์กับ Z เท่ากับ 2 แต่ T เท่ากับ 4
6. พิจารณา มบัติทางกายภาพของ าร A B C และ D ต่อไปนี้
าร จุด ลอมเ ล (๐C) จุด ลอมเ ล (๐C) การนำไฟฟ้าที่อุณ ภูมิ ้อง
A✓ 714 1,412 ไม่นำ สาร ประกอบ โค แลน

B - 95 69 ไม่นำ ↓

ไ ไฟ า
C โลหะ 420 907 นำ
D 318 1,388 ไม่นำ
การจัดประเภท ารข้อใดถูกต้อง (o-net’60)
ข้อ ารประกอบไอออนิก โมเลกุลโคเ เลนต์ โล ะ
1.
× A และ D B C
2. C B A และ D
3. B A และ D C
4. A C และ D - B
5. A B และ D - C
นำ
ม่
ฟ้
ด์
7. กำ นดใ ้ X Y และ Z เป็น ารบริ ุทธิ์ที่มี มบัติดังนี้
X เป็นของแข็ง นำไฟฟ้าและนำค ามร้อนได้ดี โลหะ
Y เป็นของแข็งไม่นำไฟฟ้า ประกอบด้ ยธาตุ 3 ชนิด ร้างพันธะกัน โดยมีธาตุชนิด นึ่งอยู่ใน มู่ IA
Z เป็นของเ ล ที่ระเ ยง่าย ประกอบด้ ยธาตุ 3 ชนิด ร้างพันธะกัน
จากข้อมูล ูตร รือ ัญลัก ณ์เคมีของ X Y และ Z อดคล้องกับ ารในข้อใด (o-net’61)
าร X าร Y าร Z
1. Na CaCO3 C2H5OH
2. K CaCO3 C6H12O6
3. Si C6H12O6 C2H5OH
4.
X K Na2CO3 C2H5OH
5. Si Na2CO3 C6H12O6 - ตาล
8. ธาตุ D E และ M อยู่คาบที่ 3 ในตารางธาตุ เมื่อเกิด ารประกอบ DE2 และ ME
เขียนแผนภาพแ ดงการเกิดพันธะ ได้ดังนี้
cov ionic

E
ะ I

E
=
[

ใ วม น
จากข้อมูล มบัติของธาตุและ ารประกอบข้อใดถูกต้อง (o-net’62)
1. ารประกอบ ME เป็นของแข็งที่นำไฟฟ้าและนำค ามร้อนได้ดี
โลหะ
2. ธาตุ E มีเ เลนซ์อิเล็กตรอนเคลื่อนที่อย่างอิ ระทำใ ้นำไฟฟ้าได้ดี Ionic
3. ธาตุ D ามารถ ร้างพันธะโคเ เลนต์ พันธะไอออนิก และพันธะโล ะ
4. ารประกอบ DE2 มีจุด ลอมเ ล และจุดเดือด ูงก ่า ารประกอบ ME
✗5. ธาตุ E เมื่อเกิด ารประกอบทั้ง 2 ชนิดจะมีการจัดเรียงอิเล็กตรอนเป็น 2 8 8
9. ข้อมูลแ ดง มบัติบางประการของ าร 4 ชนิด เป็นดังนี้
าร จุด ลอมเ ล (๐C) การละลายน้ำและการนำไฟฟ้า
ก 801 ละลายน้ำได้และ ารละลายที่ได้นำไฟฟ้า
ข 660 ไม่ละลายน้ำ แต่นำไฟฟ้า
ค 119 ไม่ละลายน้ำและไม่นำไฟฟ้า
ง 186 ละลายน้ำได้ แต่ ารละลายที่ได้ไม่นำไฟฟ้า
น้ำ
กั
อ้ร่
ช้
จากข้อมูล าร ก ข ค และ ง มีแรงยึดเ นี่ย ระ า่ งอนุภาคเช่นเดีย กับ ารในข้อใด (o-net’62)
#$ &
.

าร ก าร ข าร ค าร ง
1. NaCl C11H22O11 Al S8
2. NaCl Al S8 C11H22O11
3. Al NaCl
"
S8 C11H22O11
4. C11H22O11 Al S8 NaCl
5. Al ( S8 C11H22O11 NaCl

10. กำ นดใ ้ A B C และ D เป็น ารบริ ุทธิ์ที่มี มบัติบางประการดังนี้


าร A เป็นธาตุที่มี ถานะเป็นของแข็ง มีจุดเดือด ูง ทำปฏิกิริยารุนแรงกับน้ำ นำค ามร้อนและนำไฟฟ้าได้ดี
าร B เกิดจากการทำปฏิกิริยาระ ่างธาตุ 2 ชนิด มีลัก ณะเป็นผลึก ีขา จุดเดือดและจุด ลอมเ ล ูงมาก
บดเป็นผงละเอียดได้ง่าย ละลายน้ำดี
าร C เป็นธาตุที่มี ถานะเป็นแก๊ มี ี และ ่องไ ปฏิกิริยาเคมี เมื่อทำปฏิกิริยากับโล ะเกิดเป็น ารประกอบ
ไอออนิก
าร D เป็นธาตุที่มี ถานะเป็นของแข็ง ระเ ิดง่ายกลายเป็นไอ ีม่ ง
จากข้อมูล ข้อ รุปใดต่อไปนี้ถูกต้อง (o-net’63)
1. ธาตุ C มีแรงยึดเ นี่ย ระ ่างโมเลกุล คือ พันธะโคเ เลนต์
2. ธาตุ C ร้างพีนธะไอออนิกกับโล ะโซเดียม มี ูตรเคมีคือ NaC2
3. ธาตุ A ร้างพันธะกับธาตุ D โดยการใช้เ เลนซ์อิเล็กตรอนร่ มกัน
4. ธาตุ B ร้างพันธะกับธาตุ A อะตอม B จะรับอิเล็กตรอนกลายเป็น B-
X5. ธาตุ A ร้างพันธะกับคลอรีน อะตอม A จะใ ้อิเล็กตรอนกลายเป็น A+
11. าร ก ข และ ค มี ูตรเคมีและชนิดของพันธะซึ่งเป็นไปตามกฎออกเตต ดังนี้
ูตรเคมี ชนิดของพันธะ
ก XY2 ไอออนิก
ข JW2 ไอออนิก
ค ZQ4 โคเ เลนต์
จากข้อมูล การระบุ มู่ของธาตุในข้อใดที่เป็นไปไม่ได้ (o-net’63)
ธาตุ มู่
1. X IIA
2. Y VIIA
3. J VA
4. W VIIA
×5. Z IVA
1. พิจารณาปฏิกิริยาเคมี ตามที่กำ นดใ ้ต่อไปนี้
ปฏิกิริยาเคมี

ก. 2H2O2(s) → 2H2O(l) + าร X
,
ข. 2H2S(g) +3 O2(g) → 2H2O(l) + าร X
ค. Fe(s) + 2HCl → FeCl2(aq) + าร X
ง. 2KOH(aq) + H2SO4(aq) → าร X + 2H2O(l)
จ. C6H12O6 (aq) + C6H12O6 (aq) → าร X + H2O(l)
ฉ. C3H8(g) + 4O2(g) → 4H2O(l) + CO2(g) + าร X
กำ นดใ ้ าร X ที่เกิดขึ้นในแต่ละปฏิกิริยาเคมีเป็น ารต่างชนิดกัน จากข้อมูล าร X ในปฏิกิริยาใดก่อใ ้เกิด
,

มลพิ ทางอากา (o-net’61)


1. ปฏิกิริยา ก และ ค 2. ปฏิกิริยา ข และ ฉ
3. ปฏิกิริยา ค และ จ 4. ปฏิกิริยา ก และ ข
5. ปฏิกิริยา ง และ ฉ
2. พิจารณา มการเคมีต่อไปนี้
2 H 20 t 02
2H2O2(l) → 2a + b
5 02 → 3C02+4 H20

C3H8(g) + 5b → 3c + 4a
Cs Hnt 802 → 5 Cyt 61h0
d + 8b → 5c + 6a
2 Na HCO → H20
coz
2e → Na2CO3(s) + a + c
จาก มการเคมี ูตรเคมีของ ารในข้อใดถูกต้อง (o-net’62)
1. าร a คือ ✗ O2 Hi 2. าร b คือ \ H/2 ำ ✗3. าร c คือ CO2
4. าร d คือ C✗ 5H10 Cs Hn 5. าร e คือ Na2C2/ O4
3. พิจารณา มการเคมีของปฏิกิริยา ตามกำ นดต่อไปนี้
ว น
02 ไ จาก นวน ของสาร
+ 0
ปฏิกิริยาที่ 1 KClO4(s) → KCl(S) + 2x(g)
q 502
ปฏิกิริยาที่ 2 4FeS 02(s) + 11x(g) → 2Fe2O3(s) + 8z(g)
H
20
ปฏิกิริยาที่ 3 NH4OH(aq) → y(l) + r(g) NH 3

NG 0Hะ
ปฏิกิริยาที่ 4 Cu(s) + 4HNO 0 3(aq)
4
→ Cu(NO3)2(aq) + 2w(g) + 2y(l)
I
จากข้อมูล ารผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปฏิ2 กิริยาเคมีใดเป็น าเ ตุท}ี่ทำใ ้เกิดฝนกรด
า } (o-net’63)
1. ปฏิกิริยาที่ 1 และ 2 2. ปฏิกิริยาที่ 2 และ 3
3. ปฏิกิริยาที่ 3 และ 4 ✗4. ปฏิกิริยาที่ 2 และ 4
5. ปฏิกิริยาที่ 1 และ 4
ต้
ถั่
จำ
ด้
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
1. ินปูนทำปฏิกิริยากับ ารละลายกรดไฮโดรคลอริกเกิดแก๊ คาร์บอนไดออกไซด์ ารละลายแคลเซียมคลอไรด์ และน้ำ
โดยข้อมูลที่ได้จากการทดลองเป็นดังตาราง
ปริมาณแก๊ CO2 (cm3) เ ลา ( ินาที)

1 22 rate
= 3-2 =
1


2 54 แ

{
3 120 rate=
5- 4
=
1

4 230 2
20
{
220

5 450
ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง (o-net’59)
1. เ ลาที่ใช้ในการเกิดแก๊ CO2 ในทุก ๆ 1 cm3 มีค่าไม่เท่ากัน
2. อัตราการเกิดแก๊ CO2 ในช่ ง 2-3 cm3 มีค่ามากก ่าในช่ ง 4-5 cm3
×3. อัตราการเกิดแก๊ CO2 ในทุก ๆ 1 cm3 มีค่าเพิ่มขึ้น
4. เ ลาที่ใช้ในการเกิดแก๊ CO2 ในช่ ง 1-2 cm3 มีค่าน้อยก ่าในช่ ง 2-3 cm3
5. อัตราการเกิดแก๊ CO2 เฉลี่ยเท่ากับ 0.011 cm3s-1
,
5

2. การเพิ่มขึ้นของปัจจัยใด ทำใ ้อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีช้าลง (o-net’59) 450-22


1. อุณ ภูมิ ✗2. ตั น่ งปฏิกิริยา
3. พื้นที่ผิ ของ ารตั้งต้น 4. ค ามเข้มข้นของ ารตั้งต้น
5. ตั เร่งปฏิกิริยา
3. พิจารณาการทดลอง A B และ C เพื่อ ึก าอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีระ ่างโล ะกับกรดไฮโดรคลอริก ต่อไปนี้
การทดลอง กิจกรรม
Cu HCI
A ใ ่ก้อนทองแดงม ล 1.00 กรัม ลงใน ารละลายกรดไฮโดรคลอริก
เข้มข้นร้อยละ 20 โดยม ลต่อปริมาตร
HCI
Mg
B ใ ่ก้อนแมกนีเซียมม ล 1.00 กรัม ลงใน ารละลายกรดไฮโดรคลอริก

I C
เข้มข้นร้อยละ 10 โดยม ลต่อปริมาตร
Mg
ใ ่ก้อนแมกนีเซียมม ล 0.10 กรัม จำน น 10 ก้อน ลงใน ารละลาย
กรดไฮโดรคลอริกเข้มข้นร้อยละ 10 โดยม ลต่อปริมาตร
การเปรียบเทียบอัตราการเกิดปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจากการทดลองข้างต้น ข้อใดถูกต้อง (o-net’60)
1. A > B A) 13
2. B > C
3. C > B

B
c >
4. A = B
5. B = C
4. พิจารณากราฟที่แ ดงค าม ัมพันธ์ของค ามเข้มข้นของ ารตั้งต้นและ ารผลิตภัณฑ์กับเ ลาการเกิดปฏิกิริยาเคมี
ดังนี้
อ"
(เ ด
±
A µ →
ค ามเข้มข้น
c
น มาก


ะ B
1

1
C
A
1

i

1

0 2 เ ลา
ข้อค ามใดถูกต้อง (o-net’60)
1. ทุกช่ งเ ลา อัตราการลดลงของ าร A เท่ากัน ✗

2. มการเคมีของปฏิกิริยานี้คือ B + C → A ×
3. อัตราการเกิด าร B มากก ่าอัตราการเกิด าร C
x
4. อัตราการเกิดปฏิกิริยาเป็นค่าเฉลี่ยของอัตราการเกิด าร B และ าร C '

5. ในช่ งเ ลาเดีย กันอัตราการลดลงของ าร A เท่ากับอัตราการเพิ่มขึ้นของ าร B ,

5. นำแผ่นโล ะแมกนีเซียม(Mg) ขนาด 1 x 10 ตารางเซนติเมตร ทำปฏิกิริยากับ ารละลายกรดไฮโดรคลอริก (HCl)


ที่มีค ามเข้มข้นร้อยละ 0.75 โดยม ลต่อปริมาตร จำน น 20 ลูกบา ก์เซนติเมตร ที่อุณ ภูมิ ้อง เกิด ารละลาย
แมกนีเซียมคลอไรด์(MgCl2) และแก๊ ไฮโดรเจน(H2) ดัง มการ
Mg(s) + 2HCl(aq) → MgCl2 + H2(g)
เมื่อเขียนกราฟแ ดงค าม มั พันธ์ระ ่างปริมาตรแก๊ ไฮโดรเจนที่เกิดขึ้นกับเ ลา ได้ดังกราฟ A

จากข้อมูล ถ้าต้องการใ ้การเกิดแก๊ ไฮโดรเจนในระบบเปลี่ยนจากกราฟ A และ B ค รปรับการทดลองอย่างไร


(o-net’61)
1. ตัดโล ะแมกนีเซียมใ ้เป็นชิ้นที่มีขนาดเล็กลง
2. เปลี่ยนภาชนะใ ่ ารละลายกรด จาก ลอดทดลองเป็นบีกเกอร์
3. เพิ่มอุณ ภูมิ ารละลายกรดไฮโดรคลอริก จากอุณ ภูมิ ้องเป็น 60 อง าเซลเซีย
4. เติมน้ำลงใน ารละลายกรดไฮโดรคลอริกจนมีปริมาตรเป็น 30 ลูกบา ก์เซนติเมตร
5. เพิ่มปริมาตร ารละลายกรดไฮโดรคลอริกจาก 20 ลูกบา ก์เซนติเมตร เป็น 30 ลูกบา ก์เซนติเมตร
!
ชั
ดีก่
กิ
6. เมื่อนำโล ะทำปฏิกิริยากับ ารละลายกรด ได้แก๊ ไฮโดรเจน ดัง มการ
โล ะ + กรด → เกลือ + แก๊ ไฮโดรเจน
ถ้าทำการทดลองเพื่อ าอัตราการเกิดแก๊ ไฮโดรเจนโดยใช้โล ะ X และโล ะ Y ที่มีม ลเท่ากันทำปฏิกิริยากับ
ารละลายกรด A และ ารละลายกรด B ที่อุณ ภูมิ 80 ๐C โดยกำ นด ่าโล ะ Y ่องไ ต่อการเกิดปฏิกิริยามากก ่า
โล ะ X และ ารละลายกรด B ่องไ ต่อการเกิดปฏิกิริยามากก ่า ารละลายกรด A ได้ผลการทดลอง ดังนี้
การ โล ะ ารละลายกรด อัตราการเกิด
ทดลอง ชนิด ขนาด จำน น ชนิด ค ามเข้มข้น แก๊ ไฮโดรเจน
ที่ (แผ่น) (ร้อยละโดยปริมาตร) (cm3/s)
1 X 1 cm x 5 cm 1 A 2 R1
2 X 1 cm x 5 cm 1 A 4 R2
3 X 0.5 cm x 1 cm 10 B 4 R3
4 Y 1 cm x 5 cm 1 B 2 R4
5 Y 0.5 cm x 1 cm 10 B 4 R5
จากผลการทดลอง การเปรียบเทียบอัตราการเกิดแก๊ ไฮโดรเจนข้อใดไม่ถูกต้อง (o-net’62)
1. R2 > R1 2. R3 > R1
3. R1 > R4 4. R5 > R3
5. R5 > R4

1. ข้อมูลของพอลิเมอร์ 2 ชนิดแ ดงดังตาราง


พอลิเมอร์

ชนิดของพอลิเมอร์ โครง ร้าง
A แบบกิ่ง
B แบบเ ้น
ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง (o-net’59)
1. A มีค าม นาแน่นมากก ่า B
2. B มีค ามเ นีย มากก ่า A
3. A มีจุด ลอมเ ล ูงก ่า B
4. B มีค ามยืด ยุ่นมากก ่า A
5. พลา ติกที่เป็นผลิตภัณฑ์จากพอลิเมอร์ A และ B เป็นพลา ติกเทอร์มอเซต
2. ข้อใดไม่ถูกต้อง (o-net’59) PET
1. ข ดน้ำดื่มพลา ติกแบบใ จัดอยู่ในพลา ติกรีไซเคิลกลุ่ม PETE
✗2. ถุงบรรจุอา ารเย็น จัดอยู่ในพลา ติกรีไซเคิลกลุ่ม HDPE Hight Density PE

3. ท่อน้ำประปา จัดอยู่ในพลา ติกรีไซเคิลกลุ่ม PVC CH=


2
CHCI

4. กล่องโฟมใ ่อา าร จัดอยู่ในพลา ติกรีไซเคิลกลุ่ม PS


5. ถุงร้อนชนิดใ จัดอยู่ในพลา ติกรีไซเคิลกลุ่ม PP
3. พิจารณาปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ไรเซชันแบบ A B และ C ดังแผนภาพในตาราง

การระบุชนิดของมอนอเมอร์และแบบปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ไรเซชันของพอลิเมอร์
ข้อใดถูกต้อง (o-net’60)
ข้อ พอลิเมอร์ มอนอเมอร์ แบบปฏิกิริยา
1. โปรตีน กรดอะมิโน B
2. เซลลูโล กลูโค A
3. ยางพารา พาราฟิน C
×4. พอลิเอทิลีน เอทิลีน A
5. PVC ไ นิลคลอไรด์ B
(
4. การระบุประเภทและการใช้ประโยชน์ของพอลิเมอร์ ข้อใดถูกต้อง (o-net’60)
ข้อ พอลิเมอร์ ประเภท การใช้ประโยชน์
1. พอลิเอทิลีน เทอร์มอพลา ติก ทำแผ่นกระเบื้องยาง
2. เบกาไลต์ พลา ติกเทอร์มอเซต ใช้เคลือบกระทะป้องกันอา ารติด
3. พอลิยูรีเทน เทอร์มอพลา ติก ทำฉน นกันค ามร้อน
4. พอลิ ไตรีน PS พลา ติกเทอร์มอเซต ทำกล่องน้ำแข็ง น กนิรภัย
x5. พอลิไ นิลคลอไรด์ เทอร์มอพลา ติก ทำท่อน้ำประปา ายยางใ
5. โรงงานพลา ติกแ ่ง นึ่งใช้พอลิเมอร์ 3 ชนิด ที่มี มบัติแตกต่างกันเป็น ัตถุดิบในการทำผลิตภัณฑ์พลา ติก ดังนี้
พอลิเมอร์ มบัติ ผลิตภัณฑ์พลา ติก
A เ นีย ค าม นาแน่นและจุด ลอมเ ล ูง ถุงร้อน ✗ เ น

B แข็ง ไม่ยืด ยุ่น และทนต่อค ามร้อน ูงได้ดี ชามเมลามีน าง แห

(
C ยืด ยุ่น ค าม นาแน่นและจุด ลอมเ ล ต่ำ แผ่นฟิล์ม ่ออา าร ง
จากข้อมูล พอลิเมอร์ A B และ C ค รมีโครง ร้างแบบใด ตามลำดับ (o-net’61)
1. แบบเ ้น แบบกิ่ง แบบร่างแ 2. แบบร่างแ แบบกิ่ง แบบเ ้น
3. แบบกิ่ง แบบเ ้น แบบร่างแ ×4. แบบเ ้น แบบร่างแ แบบกิง่
5. แบบกิ่ง แบบร่างแ แบบเ ้น
6. พิจารณาปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ 2 ชนิด ดังภาพ
ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ชนิดที่ 1
ง น

แบบ ควบ แ น

ผ ต ณ
+

ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ชนิดที่ 2


เ ม
นธะ

จากข้อมูล ข้อ รุปใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง (o-net’62)


1. ปฏิกริ ิยาการเกิดพอลิเมอร์ชนิดที่ 2 เป็นแบบเติม
2. พอลิเมอร์ชนิดที่ 1 มี มบัติทางเคมีแตกต่างจากมอนอเมอร์
×3. พอลิเมอร์ชนิดที่ 1 มีม ลร มเท่ากับม ลร มของมอนอเมอร์
4. พอลิแซ็กคาร์ไรด์เกิดจากปฏิกิริยาแบบเดีย กับการเกิดพอลิเมอร์ชนิดที่ 1
5. พอลิไ นิลคลอไรด์เกิดจากปฏิกิริยาแบบเดีย กับการเกิดพอลิเมอร์ชนิดที่ 2
,
ต้
ตั้
กึ่
ร่
คู่
พั
ดิ
ส้
น่
ลิ
ภั
ฑ์
7. การทด อบพลา ติก 2 ชนิด เมื่อได้รับค ามร้อน พบ ่า
พลา ติกชนิดที่ 1 ไม่อ่อนตั เมื่อเพิ่มอุณ ภูมิ ูงขึ้นจะแตกและไ ม้กลายเป็นเถ้า Thermoset e าง แหง

พลา ติกชนิดที่ 2 ติดไฟง่าย ลอม และอ่อนตั Thermoplastic ( ง เ น1


,

จากข้อมูล พลา ติกชนิดที่ 1 และ 2 ค รนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดใด (o-net’62)


ผลิตภัณฑ์จากพลา ติกชนิดที่ 1 ผลิตภัณฑ์จากพลา ติกชนิดที่ 2
1. ข ดแชมพู แผ่นฟิล์ม ่ออา าร
2. กล่องโฟมใ ่อา าร ข ดแชมพู
3. แผ่นฟิล์ม ่ออา าร ถ้ ยเมลามีน
4. ถ้ ยเมลามีน ูกระทะ
5.
✗ ูกระทะ กล่องโฟมใ ่อา าร
8. ข้อมูลแ ดง มบัติของพอลิเมอร์ 4 ชนิดดังตาราง
พอลิเมอร์ มบัติ
W เ นีย ไม่แตกง่าย ค าม นาแน่น ูง ทนต่อ ารเคมี 6 น
X ยืด ยุ่นได้ ค ามเ นีย ต่ำ ทนต่อการกรอบแตก ง
Y แข็ง เปราะง่าย เป็นฉน นค ามร้อน าง แห

Z แข็งแรงทนทานและเ นีย ป้องกันการผ่านของแก๊ ได้ดี เ น


จากข้อมูล ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง (o-net’63)
1. พอลิเมอร์ X และ Y มีโครง ร้างแบบกิ่ง
2. พอลิเมอร์ W มีจุด ลอมเ ล ูงก ่าพอลิเมอร์ X

3. พอลิเมอร์ X และ Z จัดเป็นพลา ติกเทอร์มอเซต
4. พอลิเมอร์ W นำมาผลิตเป็นตะกร้า ูกระทะ ข ดบรรจุยา
5. ผลิตภัณฑ์พลา ติกจากพอลิเมอร์ Y และ W ามารถนำกลับมา ลอมขึ้นรูปใ ม่ได้

ไฟฟ้ า
กึ่
ร่
ร่
กิ่
สั
ส้
ส้

You might also like