You are on page 1of 13

มํอจื้อ

แนวคิดบางส่วนของนักคิด นักปรัชญา นักการเมืองในสมัยชุนชิว-จ้าน-กว๋อ ที่มีนามว่า


"ม่อจื้อ"
ใครดีกว่ากัน
โครบ้า
วิจารณ์ขงจื้อ
อุปสรรคที่ขัดขวางความรักอันไพศาล
โรคขี้ขโมย
อธิษฐานต่อพระเจ้า
ทาดีต้องให้คนรู้
ไม่มีภูติผี ไยต้องศึกษาพิธีเซ่นไหว้
เล่นดนตรีเพราะอยากฟังดนตรี
บัณฑิตหยูเก่งกว่าทารกหรือไม่
คุณธรรมล้าค่าที่สุด
ปาบ 6 ประการ
อย่าทิ้งคุณธรรมเป็นอันขาด
รู้กับทา ต้องเป็นเอกภาพกัน
อยากเป็นคนดี แต่ไม่ยอมให้คนอื่นช่วยเหลือ
เลี้ยงนักรบดีกว่าเลี้ยงผู้หญิง
ศิษย์ที่เห็นแก่ลาภยศสรรเสริญ
งานที่ได้กาไรหลายร้อยเท่าตัว
ใช้งานไม่เหมาะสม
ไหว้เจ้าขอพร
ขายคุณธรรม
หลักการสอน
ทานายอนาคต
งานทุกอย่างต้องมีหลักเกณฑ์
เทคนิคในการสรรหาคนดี คนเก่ง
เหตุผลในการมอบอานาจให้คนดี
ข้อดีของการเลือกใช้คนดี

ใครดีกวํากัน
......อู๋หมําจือถามมํอจื้อวํา "แม๎วําทํานจะรักบ๎านเมืองหนักหนา
แตํบ๎านเมืองก็ไมํเห็นได๎ประโยชน์จากทําน แม๎วําข๎าพเจ๎าจะไมํ
รักบ๎านเมือง แตํบ๎านเมืองก็ไมํเคยได๎รับผลร๎ายอะไรจาก
ข๎าพเจ๎า ตํางไมํมีผลเหมือนกัน แล๎วทาไมทํานจะต๎องนึกอยูํ
เรื่อยวํา ความคิดของทํานเป็นความคิดที่ถูกต๎อง ความคิดของ
ข๎าพเจ๎าเป็นความคิดที่ผิด?"
......มํอจื้อตอบวํา "สมมติวําเวลานี้ มีคน ๆ หนึ่งมาวางเพลิง
ที่นี่ แล๎วก็มีคนอีกคนหนึ่งรีบหิ้วน้าเตรียมจะมาชํวยดับไฟ
ขณะเดียวกันก็มีคนอีกคนหนึ่งถือเชื้อเพลิงเตรียมจะมาโหมไฟ
ให๎แรงขึ้น การตั้งทําของคนสองคนนี้ตํางไมํมีผลอะไรตํอเพลิง
ที่กาลังลุกไหม๎ แตํในความรู๎สึกของทําน ทํานคิดวําคนสองคน
นี้ ใครดีกวํากัน?"
......อู๋หมําจือตอบวํา "ข๎าพเจ๎าคิดวําคนที่หิ้วน้าเตรียมจะชํวย
ดับไฟนั้นมีเจตนาที่ถูกต๎อง สํวนคนที่ถือเชื้อเพลิงเตรียม
กระพือไฟให๎ลุกแรงนั้นมีเจตนาที่ไมํถูกต๎อง"
......มํอจื้อกลําววํา "เหตุผลเดียวกัน ข๎าพเจ๎าก็รู๎สึกวําเจตนา
ของข๎าพเจ๎านั้นถูกต๎อง และเห็นวําเจตนาของทํานนั้นไมํ
ถูกต๎อง"

โรคบ๎า
......อู๋หมําจือกลําวกับมํอจื้อวํา "ทํานพิทักษ์ความถูกต๎องชอบ
ธรรม ก็ไมํเห็นวําคนอื่นเขาจะเคารพนับถืออะไรทําน ผีสาง
เทวดาก็ไมํเห็นดลบันดาลความสุขความเจริญอะไรให๎ทําน แตํ
ทํานก็ยังจะทาอีก ชํางเป็นโรคบ๎าแท๎ๆ"
......มํอจื้อกลําววํา "สมมติวําทํานมีคนรับใช๎อยูํสองคน คน
หนึ่งเห็นทํานจึงจะทางาน ไมํเห็นทํานก็ไมํทางาน สํวนอีกคน
หนึ่ง เห็นทํานเข๎าก็ทางาน ไมํเห็นทํานเขาก็ยังทางาน คนรับ
ใช๎สองคนนี้ ทํานชอบคนไหน?"
......อู๋หมําจือตอบวํา "ข๎าพเจ๎ายํอมชอบคนที่เห็นข๎าพเจ๎าก็
ทางาน ไมํเห็นข๎าพเจ๎าเขาก็ยังทางาน"
......มํอจื้อกลําววํา "ถ๎าเชํนนั้น ทํานก็ชอบคนบ๎าเหมือนกันนะ
ซี"

วิจารณ์ขงจื้อ
......เยํกงจื่อเกา มหาอามาตย์แหํงแคว๎นฉูํถามขงจื้อถึง
นโยบายทางการเมืองวํา "นักการปกครองที่สามารถ ควรจะมี
นโยบายทางการเมืองเชํนไร?"
......ขงจื้อตอบวํา "นักการปกครองที่สามารถ จะต๎องทาให๎ผู๎ที่
หํางไกลเข๎ามาชิดใกล๎ ขึ้นตํอ ทาให๎ลูกน๎องเกําปรับปรุง
เปลี่ยนแปลงตนเองเสียใหมํ"
......หลังจากได๎ยินคาสนทนาเหลํานี้แล๎ว มํอจื้อก็วิจารณ์วํา
"เยํกงจื่อเกาตั้งคาถามไมํเหมาะสม ขงจื้อก็ตอบไมํถูก ทาไมเยํ
กงจื้อเกาจะไมํทราบเลําวํา ผู๎ที่สันทัดในการปกครองจะต๎องทา
ให๎ผู๎ที่หํางไกลหันกลับมาชิดใกล๎ ขึ้นตํอ และทาให๎ลูกน๎อง
เกําๆ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตนเองเสียใหมํ ในเมื่อรู๎แล๎ว ยังจะ
ถามขงจื้อทาไมอีกเลํา? สํวนขงจื้อเลํา ก็ไมํนาความรู๎ที่คนอื่น
ยังไมํรู๎ไปบอกให๎เขารู๎ แตํดันตอบในสิ่งที่คนอื่นเขารู๎อยูํแล๎ว
แล๎วมันมีประโยชน์อันใดเลํา เพราะฉะนั้น ข๎าพเจ๎าจึงเห็นวําเยํ
กงจื่อเกาตั้งคาถามได๎ไมํเหมาะสม สํวนขงจื้อก็ตอบไมํถูก"

อุปสรรคที่ขัดขวางความรักอัน
ไพศาล
......อู๋หมําจือกลําวกับมํงจื้อวํา "ข๎าพเจ๎าไมํเหมือนทําน
ข๎าพเจ๎าไมํสามารถมีความรักอันไพศาล ข๎าพเจ๎ารักชาวโจ
วมากกวําชาวแยํ รักชาวหลูํมากกวําชาวโจว รักคนบ๎าน
เดียวกันมากกวําชาวหลูํ รักคนในบ๎านมากกวําคนนอกบ๎าน รัก
พํอแมํมากกวําญาติพี่น๎อง รักตัวเองมากกวํารักพํอแมํ เพราะวํา
คนที่ยิ่งใกล๎ชิดข๎าพเจ๎า ข๎าพเจ๎าก็ยิ่งเอาใจใสํอยํางลึกซึ้ง การ
ที่มนุษย์รักคนที่ใกล๎ชิดกับตนเองนั้น มันเป็นเรื่องธรรมดา
......"ถ๎าหากข๎าพเจ๎าถูกทุบตี ข๎าพเจ๎ายํอมรู๎สึกเจ็บปวด แตํถ๎า
คนอื่นถูกทุบตีข๎าพเจ๎ายํอมไมํรู๎สึกเจ็บปวด ในเมื่อเป็นเชํนนี้
แล๎วทาไมข๎าพเจ๎าจะไมํปกป้องตรงที่รู๎สึกเจ็บปวดแตํกลับจะ
ไปปกป้องไอ๎ตรงที่ไมํรู๎สึกเจ็บปวดเลํา?
......"ด๎วยเหตุนี้ ข๎าพเจ๎าจึงต๎องฆําคนอื่นเพื่อผลประโยชน์ของ
ตัวเอง ไมํมีทางฆําตัวเองเพื่อผลประโยชน์ของผู๎อื่นโดย
เด็ดขาด"
......มํอจื้อกลําววํา "ความคิดแบบนี้ของทําน ทํานเตรียมจะ
เก็บมันไว๎ในใจคนเดียว หรือคิดจะเผยแพรํไปสูํผู๎อื่น?"
......อู๋หมําจือตอบวํา "ทาไมข๎าพเจ๎าจะต๎องอาพรางซํอนแร๎นค
วามคิดอํานของตนเอง ข๎าพเจ๎าจะเผยแพรํให๎สาธารณชน
รับทราบ"
......มํอจื้อกลําววํา "ถ๎าเชํนนั้น สมมติวํา มีคนๆ หนึ่งเกิด
เชื่อถือหลักเหตุผลของทําน คนๆ นั้นก็จะฆําทํานเพื่อ
ผลประโยชน์ของตัวเขาเอง และถ๎าเกิดมีคนสักสิบคนเชื่อถือ
หลักเหตุผลของทําน คนทั้งสิบนี้ก็จะฆําทําน และถ๎าคนทั้ง
โลกตํางเชื่อถือหลักเหตุผลของทําน คนทั้งโลกก็จะฆําทําน
เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ถูกไหม?"
......"ในด๎านตรงกันข๎าม ถ๎าหากมีคนๆ หนึ่งไมํสนับสนุนทฤษฎี
ของทําน คนๆ นั้นก็จะฆําทําน เพราะเห็นวําทํานใช๎คาพูดที่ไมํ
เป็นสิริมงคลนี้มอมเมาชาวบ๎าน ถ๎าหากมีคนสักสิบคน ไมํเชื่อ
ทฤษฎีของทําน คนทั้งสิบนี้ก็จะฆําทําน ถ๎าหากคนทั้งโลกตําง
ไมํเชื่อทฤษฎีของทําน ทุกคนพากันเห็นวําคาพูดของทํานเป็น
คาพูดอัปมงคลฝูงชนที่บ๎าคลั่งก็จะรุมกันฆําทําน"
......"คนที่เชื่อทําน ก็คิดจะฆําทําน คนที่ไมํเชื่อทําน ก็คิดจะ
ฆําทํานเชํนกัน ถ๎าหากทํานป่าวประกาศทัศนคติของทําน
ออกไป ก็เทํากับเป็นการหาภัยมาสูํตัว"
......"ทํานพูดออกไปแล๎วมีประโยชน์อะไรหรือเปลํา ถ๎าหากไมํ
มีแตํยังดันทุรังจะพูด มิเทํากับเมื่อยปากเปลําๆ ดอกหรือ"

โรคขี้ขโมย
......มํอจื้อกลําวกับทํานอ๋องหลูํหยางเหวินวํา "เวลานี้ ที่นี่มี
คนๆ หนึ่ง เขามีอาหารอุดมสมบูรณ์ทั้งหมูเห็ดเป็ดไกํ เหล๎ายา
ปลาปิ้งมีมากมายเป็นภูเขาเลากา พํอครัวของเขาได๎ปรุง
อาหารเลิศรสให๎เขาทานทุกวัน เขากินทิ้งกินขว๎าง แตํครั้นเห็น
ขนมปังแข็งๆ ของชาวบ๎านเข๎า ก็กลับจ๎องมองด๎วยความสนใจ
ขโมยขนมปังแข็งๆ นั้นมากินเสีย ไมํทราบวําเป็นเพราะอาหาร
ดีๆ ของคนๆ นั้น มีน๎อยเกินไปหรือเป็นเพราะเขามีนิสัยขี้ขโมย
กันแนํ?"
......ทํานอ๋องตอบวํา "เขาคงจะมีนิสัยขี้ขโมยมากกวํา"
......มํอจื้อกลําวตํอไปวํา "ถ๎าเชํนนั้น ข๎าพเจ๎าใครํถามทํานวํา
ในประเทศของทํานมีที่นารกร๎างอยูํมากมาย จะบุกเบิกอยํางไร
ก็ไมํหวาดไมํไหว แล๎วยังมีเมืองร๎างอีกหลายเมือง จะอยูํ
อยํางไรก็อยูํไมํหมด แตํครั้นเห็นที่ดินของแคว๎นซํงกับแคว๎น
เจิ้งเข๎า ทํานก็คิดจะครอบครองทําเดียว พฤติกรรมของทําน
แตกตํางจากคนๆ นั้นหรือไมํ?"
......ทํานอ๋องหลูํตอบวํา "ข๎าพเจ๎าเหมือนคนๆ นั้นไมํมีผิด ตําง
มีนิสัยขี้ขโมย เหมือนๆ กัน"

อธิษฐานตํอประเจ๎า
......ซิ่วซุนเซํากับเมิ่งป๋อฉําง ตํางเป็นมหาอามาตย์บริหารการ
ปกครองในแคว๎นหลูํด๎วยกัน คนทั้งสองตํางระแวงแคลงใจซึ่ง
กันและกัน ไมํยอมเชื่อใจกัน ดังนั้น จึงเดินทางมาอธิษฐานกับ
พระเจ๎าในศาลเจ๎า
......"พระผู๎เป็นเจ๎า โปรดดลบันดาลให๎เราคืนดีกันด๎วยเถิด"
......มํอจื้อทราบเข๎า ก็วิจารณ์ "การกระทาเชํนนี้ ชํางโงํเงําเสีย
เหลือเกิน ไปศาลเจ๎าอธิษฐานวํา ...พระผู๎เป็นเจ๎า โปรดดล
บันดาลให๎เราคืนดีกันด๎วยเถิด...ไร๎สาระสิ้นดี"

ทาดีต๎องให๎คนรู๎
......กงเมิ่งจื่อกลําวกับมํอจื้อวํา "ถ๎าหากกาลังทาความดีจริงๆ
ใครเลําจะไมํร?ู๎ ทาไมต๎องโฆษณาตัวเองด๎วย เหมือนกับ
ผู๎วิเศษที่มีเวทย์มนต์ขลังมากๆ แม๎จะธุดงค์อยูํในป่าลึก ผู๎คนก็
ยังแหํกันไปหา เอาข๎าวของปัจจัยไปถวาย เรียกวํามีวัตถุปัจจัย
เหลือกินเหลือใช๎ทีเดียวแหละ หรือจะเปรียบกับสาวงามชาวป่า
ก็ได๎ แม๎เธอจะอาศัยอยูํในป่าในดอย ไมํเคยออกสังคม แตํก็มี
ชายหนุํมจานวนมากมาขอแตํงงานกับเธอ ถ๎าหากผู๎หญิงคนนี้
เที่ยวโฆษณาหาคูํไปทั่ว พวกผู๎ชายกลับไมํอยากได๎เธอเสียอีก
เวลานี้ทํานเที่ยวโฆษณาทฤษฎีของตนเอง มิใชํเป็นการ
เหนื่อยเปลําดอกหรือ?"
......มํอจื้อตอบวํา "โลกในทุกวันนี้สับสนวุํนวายมาก จริงอยูํ
คนที่อยากได๎ผู๎หญิงสวยๆ ไปเป็นเมียนั้นมีอยูํมาก ผู๎หญิงสวยๆ
ไมํจาเป็นต๎องออกไปข๎างนอก ก็มีคนจานวนมากมาสูํขอถึง
บ๎าน แตํคนที่แสวงหาความดีนั้นมีน๎อยเหลือเกิน ถ๎าหากไมํ
โฆษณาตัวเอง พยายามอบรมบํมสอนคน ผู๎คนก็ไมํรู๎จักเรา"
......"สมมติวํามีหมอดูอยูํ 2 คน ก็เกํงด๎วยกันทั้งคูํนั่นแหละ แตํ
คนหนึ่งออกไปข๎างนอกเที่ยวดูโชคชะตาราศีให๎ชาวบ๎าน สํวน
อีกคนหนึ่งเฝ่าอยูํแตํในบ๎าน ข๎าพเจ๎าขอถามทํานวํา เซ็งลี้ของ
ใครจะดีกวํากัน?"
......กงเมิ่งจื่อตอบวํา "เซ็งลี้ของคนที่ออกไปดูหมดข๎างนอก
ยํอมดีกวํา"
......มํอจื้อ กลําววํา "ภารกิจการพิทักษ์ความถูกต๎องชอบธรรม
ก็เหมือนกับหมอดูสองคนนั้นนั่นแหละ ต๎องออกไปข๎างนอก
เที่ยวพูดเที่ยวโน๎มน๎าวจูงใจคนจึงจะได๎ผลดี เพราะฉะนั้น
ทาไมข๎าพเจ๎าจึงจะไมํออกไปข๎างนอกเที่ยวพูด เที่ยวโฆษณา
ทฤษฎีของข๎าพเจ๎าตํอชาวบ๎านเลํา?"

ไมํมีภูติผี ไยต๎องศึกษาพิธีเซํนไหว๎
......กงเมิ่งจื่อกลําววํา "ผีสางเทวดา ไมํมีดอก"
......และพูดอีกวํา "บัณฑิตพึงศึกษาพิธีเซํนไหว๎"
......มํอจื้อจึงย๎อนวํา "ในเมื่อทํานไมํเชื่อวํามีผีสางเทวดา แล๎ว
ไยต๎องศึกษาพิธีเซํนไหว๎เลํา? การกระทาเชํนนี้ ไมํผิดอะไรกับ
การรู๎วําไมํมีแขก แตํยังจะศึกษามารยาทในการต๎อนรับแขก ไมํ
มีปลาให๎จับ แตํยังจะถักแห ทํานวํานําขันหรือไมํ?"

เลํนดนตรีเพราะอยากฟังดนตรี
......มํอจื้อถามบัณฑิตหยูคนหนึ่งวํา "ทํานเลํนดนตรีทาไม?"
......บัณฑิตหยูตอบวํา "ข๎าพเจ๎าเลํนดนตรีเพราะอยากฟัง
ดนตรี"
......มํอจื้อกลําววํา "ทํานไมํได๎ตอบคาถามของข๎าพเจ๎านี่นา"
......"ถ๎าหากข๎าพเจ๎าถามวําทํานสร๎างบ๎านทาไม"
......"ทํานตอบวํา หน๎าหนาวจะได๎หลบลมหนาว หน๎าร๎อยจะได๎
หลบลมร๎อน อีกทั้งเป็นการแบํงกั้นโลกสํวนตัวออกจากโลก
ภายนอก ชาญหญิงจะได๎มีเส๎นแบํงที่แตกตํางกัน"
......"อยํางนี้จึงจะเรียกได๎วําทํานได๎นาเอาเหตุผลที่วําทาไมจึง
สร๎างบ๎านมาตอบแกํข๎าพเจ๎า
......"เวลานี้ข๎าพเจ๎าถามทํานวําทาไมจึงเลํนดนตรี"
......"ทํานกลับบอกวําเพราะอยากฟังดนตรี"
......"การตอบคาถามแบบนี้ก็เหมือนกับการที่ข๎าพเจ๎าถามทําน
วํา ทาไมจึงสร๎างบ๎าน แตํทํานกลับตอบวํา สร๎างบ๎านเพราะ
อยากได๎บ๎าน ซึ่งเทํากับไมํมีคาตอบใชํหรือไมํ?"

บัณฑิตหยูเกํงกวําทารกหรือไมํ
......กงเมิ่งจื่อกลําววํา "ประเพณีที่กาหนดให๎ไว๎ทุกข์ 3 ปี
กาหนดขึ้นเพื่อให๎คนเรารู๎จักคิดถึงพํอแมํเหมือนเด็กทารก"
......มํอจื้อกลําววํา "เด็กทารกไร๎เดียงสา พวกเขาจึงติดพํอแมํ
ยามใดที่ไมํได๎รับความรักความเอาใจใสํจากพํอแมํ ก็จะร๎องไห๎
จ๎า ทั้งนี้เพราะเหตุอันใดเลํา? ก็เพราะวําทารกนั้นโงํบริสุทธิ์
นั่นเอง"
......"เวลานี้ พวกบัณฑิตหยูกลับกาหนดให๎ไว๎ทุกข์ 3 ปี เพื่อ
เรียกร๎องให๎ผู๎คนคิดถึงพํอแมํหรือติดพํอติดแมํเหมือนตอนที่ยัง
เป็นเด็กทารก ข๎าพเจ๎าใครํถามวํา สติปัญญาของบัณฑิตหยู
ดีกวําเด็กทารกหรือไมํ?"

คุณธรรมล้าคําที่สุด
......มํอจื้อกลําววํา "สรรพสิ่งในโลกนี้ ไมํมีอะไรสาคัญเกินกวํา
คุณธรรม"
......"ถ๎าหากมีคนบอกเราวํา ..ข๎าเอาหมวกและรองเท๎าให๎เจ๎า
แล๎วเจ๎าก็จงมอบแขนและขาให๎ข๎า เอาไหม?"
......"ข๎าพเจ๎าคิดวําคงจะไมํมีใครเอา เพราะอะไร ก็เพราะวํา
หมวกกับรองเท๎าไมํสาคัญเทํากับมือและเท๎า"
......"หรือถ๎ามีใครพูดวํา ข๎าจะมอบแผํนดินให๎เจ๎า แตํเจ๎าต๎อง
มอบชีวิตให๎ข๎าเจ๎าจะเอาไหม"
....."ข๎าพเจ๎าคิดวําก็คงไมํมีใครเอาเหมือนกัน เพราะอะไรหรือ
ก็เพราะวําแผํนดินไมํสาคัญเทํากับชีวิตของตัวเองนะซี"
......"แตํวํา มนุษย์กลับยอมตาย เพื่อสิ่งหนึ่ง สิ่งนั้นคือ
คุณธรรม เพราะฉะนั้น ข๎าพเจ๎าจึงกล๎าพูดได๎เต็มปากวํา
คุณธรรมสาคัญกวําชีวิต ในโลกนี้ไมํมีสิ่งใดล้าคําเกินกวํา
คุณธรรมอีกแล๎ว"

ปาบ 6 ประการ
......มํอจื้อกลําววํา "ควรละทิ้งอารมณ์ร๎าย 6 ชนิด คือ รัก โลภ
โกรธ หลง ดีใจ เสียใจ ยามวําง ควรใช๎ความคิดอยํางลึกซึ้ง
ยามพูด ควรสอนให๎ผู๎คนรักความถูกต๎องชอบธรรม ยามกระทา
ควรทางานที่เป็นประโยชน์ตํอมนุษยชาติ ถ๎าหากทาได๎เชํนนี้
......"ถ๎าหากมีคนบอกเราวํา ..ข๎าเอาหมวกและรองเท๎าให๎เจ๎า
แล๎วเจ๎าก็จงมอบแขนและขาให๎ข๎า เอาไหม?"
......"ข๎าพเจ๎าคิดวําคงจะไมํมีใครเอา เพราะอะไร ก็เพราะวํา
หมวกกับรองเท๎าไมํสาคัญเทํากับมือและเท๎า"
......"หรือถ๎ามีใครพูดวํา ข๎าจะมอบแผํนดินให๎เจ๎า แตํเจ๎าต๎อง
มอบชีวิตให๎ข๎าเจ๎าจะเอาไหม"
....."ข๎าพเจ๎าคิดวําก็คงไมํมีใครเอาเหมือนกัน เพราะอะไรหรือ
ก็เพราะวําแผํนดินไมํสาคัญเทํากับชีวิตของตัวเองนะซี"
......"แตํวํา มนุษย์กลับยอมตาย เพื่อสิ่งหนึ่ง สิ่งนั้นคือ
คุณธรรม เพราะฉะนั้น ข๎าพเจ๎าจึงกล๎าพูดได๎เต็มปากวํา
คุณธรรมสาคัญกวําชีวิต ในโลกนี้ไมํมีสิ่งใดล้าคําเกินกวํา
คุณธรรมอีกแล๎ว"

อยําทิ้งคุณธรรมเป็นอันขาด
......มํอจื้อกลําวกับลูกศิษย์วํา "ยามใดที่พวกเจ๎าไมํอาจพิทักษ์
ความเป็นธรรมก็ไมํควรบิดเบือนความเป็นธรรมให๎สอดคล๎อง
กับพวกเจ๎า อยําทิ้งคุณธรรมเด็ดขาด เรื่องนี้ก็คล๎ายกับชํางไม๎
ที่ทาเฟอร์นิเจอร์ไมํสาเร็จ พวกเขาก็ไมํเคยทิ้งเครื่องไม๎
เครื่องมือของตน"

รู๎กับทา ต๎องเป็นเอกภาพกัน
......มํอจื้อกลําววํา "สมมติวํา เวลานี้มีคนตาบอดคนหนึ่งอยูํที่นี่
และพูดวําปูนเป็นสีขาวถํานหินเป็นสีดา คนตาดีๆ ก็คงไมํกล๎า
วําเขาพูดไมํถูก"
......"แตํวํา ถ๎าเอาของสีขาวกับของสีดามาปนรวมๆ กัน แล๎ว
เรียกคนตาบอดคนนั้นมาแยกแยะวําอะไรเป็นสีขาว อะไรเป็นสี
ดา คิดวําเขาคงจะแยกไมํออกแนํนอน เพราะฉะนั้น คนตาบอด
จึงเป็นคนที่ไมํรู๎อะไรขาว อะไรดา ในที่นี้ไมํได๎ หมายความวํา
คนตาบอดไมํรู๎จักสรรพนามของสีตํางๆ แตํหมายความวําพวก
เขาไมํมีปัญญาแยกแยะสีตํางๆ ได๎จริงๆ
......"บัณฑิตในยุคปัจจุบันนี้ก็เชํนกัน พูดเกํง พูดดี โดยเฉพาะ
ในเรื่องของคุณธรรม แม๎แตํพระเจ๎าหวี่มหาราช พระเจ๎าซังทัง
มหาราช ก็ยังสู๎ไมํได๎ แตํถ๎าเอาเรื่องที่ดูคล๎ายกับ ถูกต๎องชอบ
ธรรมกับเรื่องที่ถูกต๎องตามทานองคลองธรรมมาปนเปกัน แล๎ว
ให๎บัณฑิตในยุคนี้ตัดสินแยกแยะ พวกเขาจะจนปัญญา
แยกแยะไมํถูกทันที"
......"เพราะฉะนั้น ข๎าพเจ๎าจึงกล๎าพูดวํา บัณฑิตในยุคนี้ไมํรู๎
ดอกวําอะไรคือคุณธรรม ซึ่งไมํได๎หมายความวําพวกเขาพูด
เรื่องคุณธรรมไมํเป็น แตํหมายความวําในความเป็นจริงนั้น
พวกเขาไมํได๎ทาตํางหาก"
อยากเป็นคนดี แตํไมํยอมให๎คนอื่นชํวยเหลือ
......มํอจื้อกลําววํา "บัณฑิตสมัยนี้ ตํางนึกอยากจะประสบ
ความสาเร็จในด๎านคุณธรรม แตํถ๎าบังเอิญถูกคนรอบกาย
วิพากษ์วิจารณ์ด๎วยความปรารถนาดี อยากเห็นเขาแก๎ไข
ปรับปรุงความประพฤติให๎ดีขึ้น เขากลับโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
คนแบบนี้ ก็เหมือนกับคนที่อยากสร๎างบ๎านของตัวเองให๎สาเร็จ
แตํเมื่อชาวบ๎านมาชํวยเขาสร๎างบ๎าน เขากลับไมํพอใจ ชํางไมํ
มีเหตุผลเอาเสียเลย"
เลี้ยงนักรบดีกวําเลี้ยงผู๎หญิง
......มํอจื้อกลําวกับกงเหลียงหวนจือวํา "แคว๎นเวํยเป็นแคว๎น
เล็กฟ แคว๎นหนึ่ง อีกทั้งตั้งอยูํกึ่งกลางระหวํางแคว๎นใหญํสอง
แคว๎น จะเปรียบไปก็เหมือนกับคนจนๆ คนหนึ่งที่อาศัยอยูํ
ทํามกลางหมูํคนรวย คนจนถ๎าขืนไปเอาอยํางคนรวย พิถีพิถัน
ในเรื่องการกินการอยูํ แตํงตัวสวยๆ กินทิ้งกินขว๎าง มีหวัง
ล๎มละลายทันที"
......"เวลานี้ ในพระราชวังของพระองค์ มีรถหรูๆ นับร๎อยคัน ม๎า
ที่กินถั่วกินข๎าวอยํางดีก็มีอีกหลายร๎อยตัว นางในที่แตํงตัวด๎วย
ผ๎าดํวนแพรพรรณชั้นดีมีอยูํอีกนับร๎อยนาง ถ๎าหากรู๎จักประหยัด
เงินประหยัดทองที่ใช๎ไปกับการเลํนรถ เลี้ยงม๎า บารุงบาเรอ
อิสตรี แล๎วนาเงินก๎อนนั้นมาเลี้ยงนักรบละก๎อ พระองค์จะมี
นักรบเกํงๆ ดีๆ ไมํต่ากวําพันคนขึ้นไป"
......"หากทาได๎เชํนนี้ ยามประเทศประสบวิกฤต หรือตกอยูํใน
ภาวะคับขันพระองค์ก็ไมํต๎องปวดขมองกับปัญหาขาดแคลน
นักรบ พระองค์สามารถปัญชานักรบสักสี่-ห๎าร๎อยคนไปป้องกัน
แนวหน๎าสั่งนักรบอีกสอง-สามร๎อยคน ไประวังแนวหลัง นักรบ
เหลํานี้ เมื่อเทียบกับนางสนมหลายร๎อยคน ที่ประดับอยูํทั้ง
หน๎าวังและท๎ายวังแล๎ว พระองค์คิดวําอันไหนปลอดภัยกวํากัน
สาหรับกระหมํอมแล๎วเห็นวําการเลี้ยงนักรบยํอมปลอดภัยกวํา
การเลี้ยงผู๎หญิง"
ศิษย์ที่เห็นแกํลาภยศสรรเสริญ
......มํอจื้อแนะนาศิษย์คนหนึ่งไปเป็นขุนนางที่แคว๎นเวํย ไมํ
นานนัก ศิษย์คนนั้น ก็กลับมาเยี่ยมอาจารย์
......"มํอจื้อถามเขาวํา เจ๎ากลับมาทาไมอีก"
......ศิษย์ตอบวํา "ทํานอ๋องไมํรักษาสัจจะ ทีแรกพระองค์บอก
วํา จะให๎ข๎าวสารแกํศิษย์ปีละหนึ่งพันถัง แตํครั้นเอาเข๎าจริงๆ
กลับให๎แคํห๎าร๎อยถังเทํานั้น ศิษย์จึงกลับมา"
......มํอจื้อกลําววํา "ถ๎าหากทํานอ๋องประทานข๎าวสารให๎เจ๎าปี
ละหนึ่งพันถังจริงๆ เจ๎าจะผละจากแคว๎นเวํยอีกหรือไมํ"
......ลูกศิษย์ตอบวํา "ศิษย์คงไมํไปไหนอีกแล๎ว"
......มํอจื้อกลําววํา "ถ๎าเชํนนั้น เจ๎าก็มิได๎ผละจากแคว๎นเวํย
เพราะทํานอ๋องไร๎สัจจะนะซี แตํผละจากแคว๎นเวํยเพราะเห็นวํา
ได๎ลาภ ยศ สรรเสริญน๎อยเกินไป"
งานที่ได๎กาไรหลายร๎อยเทําตัว
......มํอจื้อกลําววํา "พวกพํอค๎าเดินทางไปค๎าขายทั่วทั้งสี่ทิศ
ขอเพียงมีกาไรสักร๎อยเทํา แม๎จะต๎องข๎ามน้าข๎ามภูเขา เสี่ยง
ภัยจากโจรผู๎ร๎าย ลาบากแทบเลือดตากระเด็น พวกเขาก็ยอม
คนมีความรู๎ในสมัยนี้ แคํนั่งเฉยๆ คุยเรื่องคุณธรรม ไมํต๎อง
ลาบากลาบนถํอสังขารข๎ามน้าข๎ามภูเขาไปไหน ไมํต๎องเสี่ยง
ภัยจากโจรผู๎ร๎าย ก็ได๎กาไรตั้งหลายร๎อยเทําแล๎ว แตํพวกเขา
กลับไมํอยากทา จะเห็นได๎ชัดวําในเรื่องการคานวณผลได๎
ผลเสียนั้น พวกมีวิชาความรู๎ละเอียดละออสู๎พวกพํอค๎าไมํได๎"
ใช๎งานไมํเหมาะสม
......อามาตย์คนโปรดของทํานหลูํอ๋องเสียชีวิตไป ชาวหลูํคน
หนึ่งได๎เขียนบทสดุดีอามาตย์ผู๎นี้ หลูํอ๋องอํานแล๎วรู๎สึกพอ
พระทัยมาก จึงแตํงตั้งให๎ชายคนนั้นเป็นขุนนาง
......มํอจื้อทราบเรื่องเข๎า จึงวิพากษ์วิจารณ์วํา "บทสดุดีเป็น
บทความยกยํองสรรเสริญคุณงามความดีของผู๎ตาย แตํทําน
อ๋องกลับชอบอกชอบใจบทสดุดีบทนี้และแตํงตั้งให๎ผู๎แตํงบท
สดุดีเป็นขุนนาง เป็นการแตํงตั้งที่ไมํตรงกับความสามารถ
เหมือนกับเอาม๎าไปไถนาอยํางไรอยํางนั้น ชํางไมํเหมาะสมเอา
เสียเลย"
ไหว๎เจ๎าขอพร
......ในแคว๎นหลูํ มีพิธีกรเซํนไหว๎คนหนึ่ง นาลูกหมูไปเซํนไหว๎
เทพเจ๎า เพื่อขอพรร๎อยอยํางจากเทพเจ๎า
......มํอจื้อรู๎เรื่องเข๎าก็พูดวํา "ไมํได๎ดอก ให๎ของเขานิดๆ
หนํอยๆ ก็จะให๎เขาตอบแทนอะไรตํอมิอะไรตั้งมากมาย ถ๎าขืน
เป็นแบบนี้ วันหลังใครเขาจะกล๎ารับของจากเราอีก พิธีกรเซํน
ไหว๎คนนั้นเอาลูกหมูไปเซํนไหว๎เทพเจ๎า แล๎วอ๎อนวอนขอพรตั้ง
ร๎อยอยําง อยํางนี้เทพเจ๎าที่ไหนจะกล๎ารับของเซํนไหว๎จากเขา
อีก มหาราชยุคกํอน ทาพิธีเซํนไหว๎เทพเจ๎า ก็ด๎วยความ
เลื่อมใสศรัทธาจากใจจริง ไมํมีการวอนขออะไรทั้งสิ้น ใช๎ลูก
หมูตัวเดียว ก็จะขอพรตั้งร๎อยอยําง ถ๎าข๎าพเจ๎าเป็นเทพเจ๎าละ
ก๎อ แทนที่จะสนองความต๎องการของคนรวย ข๎าพเจ๎าสู๎
คุ๎มครองคนจนๆ ที่ไมํมีปัญญาซื้อของมาเซํนไหว๎ยังจะดีกวํา"
ขายคุณธรรม
......มํอจื้อใช๎ให๎กงซั่งกั้วศิษย์ของตนเดินทางไปพบทํานอ๋อง
เยํ เพื่อนาเสนอนโยบาย เยํอ๋องฟังนโยบายของกงซั่งกั้วจบ ก็
รู๎สึกเลื่อมใสมาก
......เยํอ๋องบอกกงซั่งกั้ววํา "ถ๎าหากทํานสามารถเชื้อ
เชิญมํอจื้อมาสอนสั่งข๎าพเจ๎ายังแคว๎นของข๎าพเจ๎าได๎ ข๎าพเจ๎า
ยินดีมอบแผํนดินห๎าร๎อยลี้ที่ยึดมาจากแคว๎นอู๋ใหญํเขา"
......กงซั่งกั้วตอบตกลงทันที
......ดังนั้น เยํอ๋องจึงจัดรถม๎า 50 คัน ให๎กงซั่งกั้วนาไป
ต๎อนรับมํอจื้อยังแคว๎นหลูํ
......เมื่อมาถึงแคว๎นหลูํ กงซั่งกั้วก็เข๎ามารายงานมํอจื้อวํา
"ศิษย์ได๎นาเอาข๎อคิดเห็นของทํานอาจารย์ไปปาฐกตํอเยํอ๋อง
เยํอ๋องพอพระทัยมาก ตรัสวํา ถ๎าหากอาจารย์ยินดีเดินทางไป
สอนสั่งพระองค์ที่แคว๎นเยํ พระองค์ก็จะพระราชทานดินแดนห๎า
ร๎อยลี้ที่ยึดครองมาจากแคว๎นอู๋แกํทําน"
......มํอจื้อได๎ยินดังนี้ ก็กลําววํา "เจ๎าคิดวําเยํอ๋องมีเจตนาอยําง
ถ๎าหากเยํอ๋องยินดีรับฟังความคิดเห็นของข๎า ยินดีปฏิบัติตาม
หลักธรรมของข๎า ข๎าก็จะเดินทางไปแคว๎นเยํ ยินดีปฏิบัติตํอ
พระองค์ดุจดังขุนนางคนอื่นๆ กินอาหารในสํวนของคนเพียงคน
เดียว สวมใสํเสื้อผ๎าเทําที่คนๆ หนึ่งพึงต๎องการก็พอแล๎ว ทาไม
จึงต๎องใช๎ลาภยศสรรเสริญมาหลอกลํอข๎า ถ๎าหากเยํอ๋องไมํ
เชื่อคาสอนของข๎า ไมํใช๎นโยบายที่ข๎าเสนอขึ้น แตํข๎ากลับถํอ
สังขารเดินทางไปไกลแสนไกลไปยังแคว๎นเยํ มิเทํากับเป็นการ
เดินเรํขาย "คุณธรรม" ดอกหรือ ถ๎าคิดจะขายคุณธรรมละก๎อ
ขายที่นี้ก็ได๎ ไมํจาเป็นต๎องวิ่งโรํไปขายถึงแคว๎นเยํดอก"
หลักการสอน
......มํอจื้ออยากให๎เวํยเยํเดินทางไปแสดงธรรมยังแคว๎นตํางๆ
......เวํยเยํถามวํา "ถ๎าหากศิษย์เดินทางถึงแคว๎นตํางๆ ได๎พบ
กับพระราชาในแคว๎นเหลํานั้นแล๎ว ศิษย์ควรพูดอะไรกับพวก
เขาเป็นเรื่องแรก"
......มํอจื้อตอบวํา "เมื่อเดินทางไปถึงแคว๎นหนึ่งแคว๎นใด ควร
จะพินิจพิเคราะห์ให๎ดีเสียกํอน ต๎องดูสิวําแคว๎นของเขากาลัง
ประสบกับปัญหาเรํงดํวนอะไรบ๎าง แล๎วจึงนาปัญหาเรํงดํวนนั้น
มาพูด
......"ถ๎าหากแคว๎นนั้นประสบกับปัญหาการเมืองการปกครอง
การเมืองภายในปั่นป่วนวุํนวาย สังคมขาดระเบียบ พระราชาโงํ
เงาไร๎ความสามารถ ก็เสนอให๎พวกเขาเคารพยกยํองคนดีคน
เกํงเฟ้นหาคนดี คนเกํงมาชํวยงาน
......"ถ๎าหากแคว๎นนั้นยากจน เศรษฐกิจซบเซา ก็เสนอให๎พวก
เขาประหยัดมัธยัสถ์ อยําใช๎จํายฟุ่มเฟือยเกินไป งานศพอยํา
จัดหรูหราเกินไป"
......"ถ๎าหากประชาชนในแคว๎นนั้นสารวยมาก ชอบร๎องราทา
เพลงเสพสุรายาเมาก็สอนให๎พวกเขาอยํางลุํมหลงในรูป รส
กลิ่น เสียง อยําเชื่อพรหมลิขิต"
......ถ๎าหากประชาชนในแคว๎นนั้นมักมากในกาม หยาบคายไร๎
มารยาท ไมํเคารพนับถือศาสนา ก็สอนให๎พวกเขารู๎จักเคารพ
นับถือเทพยดาฟ้าดิน เชื่อเรื่องผีสางเทวดา"
......"ถ๎าหากประชาชนในแคว๎นนั้นชอบทาสงครามรุกรานผู๎อื่น
ก็สอนให๎พวกเขามีเมตตาจิตแผํรักให๎ไพศาล ไมํโจมตีรุกราน
ซึ่งกันและกัน สอนให๎พวกเขาคัดค๎านสงคราม"
......"เพราะฉะนั้น จึงไมํมีกฎเกณฑ์ตายตัว เจ๎าต๎องวิเคราะห์
เสียกํอนวํา พวกเขากาลังเผชิญกับปัญหาเรํงดํวนอะไรบ๎าง
จากนั้นจึงเสนอวิธีแก๎ปัญหานั้นๆ อยําถูกจุดจึงจะประสบ
ความสาเร็จ"
ทานายอนาคต
......เผิงชิงเซินกลําวกับมํอจื้อวํา "เรื่องในอดีตเป็นเรื่องที่รู๎ได๎
แตํเรื่องในอนาคตเป็นเรื่องที่ไมํมีทางทราบลํวงหน๎า"
......มํอจื้อกลําววํา "สมมติวําตอนนี้พํอแมํของทํานประสบภัย
อยูํไกลออกไปร๎อยลี้ ถ๎าทํานสามารถไปถึงที่เกิดเหตุได๎ภายใน
วันนั้น ทํานก็สามารถชํวยพวกเขาได๎ทันการณ์ แตํถ๎าไมํ
สามารถไปให๎ถึงที่เกิดเหตุภายในวันนั้น พวกเขาก็จะต๎องตาย"
......"และถ๎าตอนนี้ที่นี่มีรถม๎า 2 คัน คันหนึ่งแข็งแรงมากทั้งรถ
ทั้งม๎า สํวนอีกคันหนึ่ง รถก็โทรม ม๎าก็แกํ อยากทราบวําทํานจะ
เลือกใช๎รถม๎าคันไหน"
......เผิงชิงเซินตอบวํา "ก็ต๎องเลือกคันที่แข็งแรงทั้งรถทั้งม๎า
นะสิ จะได๎เดินทางถึงที่เกิดเหตุเร็วขึ้น"
......มํอจื้อกลําววํา "ถ๎างั้น ทํานก็ทานายอนาคตได๎แล๎วสิ"
งานทุกอยํางต๎องมีหลักเกณฑ์
......การทางานทุกอยํางในโลกนี้ ล๎วนต๎องมีหลักเกณฑ์ ไมํมี
หลักเกณฑ์แตํอยากประสบความสาเร็จ นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไป
ไมํได๎ ไมํวําคนผู๎นั้นจะเป็นไพรํหรือผู๎ดี เป็นนายกหรือกรรมกร
ก็ต๎องทางานตามหลักเกณฑ์ทั้งสิ้น
......ชํางไม๎จะเลื่อยไม๎เป็นรูปสี่เหลี่ยมได๎ ก็ต๎องใช๎ไม๎ฉากใช๎
ไม๎บรรทัด จะเลื่อยไม๎เป็นรูปวงกลม ก็ต๎องใช๎วงเวียน ไมํวํา
นายชํางคนนั้นจะเกํงหรือไมํเกํง ตํางต๎องใช๎เครื่องไม๎เครื่องมือ
เหลํานี้เป็นหลักเกณฑ์ เพียงแตํวํานายชํางที่เกํงกาจนั้น มัก
ทางานได๎ถูกต๎องตรงกับขนาดที่วัดได๎ สํวนนายชํางที่ไมํเกํง
แม๎จะวัดขนาดไว๎แล๎ว แตํกลับทางานตามใจฉัน ไมํทาตาม
หลักเกณฑ์ที่ตั้งไว๎
......เพราะฉะนั้น ในการทางานของคนทุกวงการอาชีพ จึงต๎อง
ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์จึงจะดี
เทคนิคในการสรรหาคนดี คนเกํง
......ถ๎าเชํนนั้น จะสรรหาคนดี คนเกํง ได๎อยํางไร?
......สมมติวําเราอยากให๎ประเทศของเรามีนักรบที่ยิงธนูแมํน ขี่
ม๎าเกํง เพิ่มจานวนมากขึ้น เราก็ต๎องให๎เงินเดือนดีๆ ตาแหนํง
สูงๆ แกํคนเหลํานี้ อีกทั้งต๎องเคารพพวกเขาให๎เกียรติยกยํอง
พวกเขา พวกแมํนธนู ขี่ม๎าเกํง ก็จะแหํกันมาหาเรา
......อีกทั้งคนดีคนเกํงที่พูดถึงนี้ หมายถึงคนที่มีคุณธรรมสูงสํง
มิวิชาความรู๎สึกซึ้งกว๎างขวาง มีวาทศิลป์ดี ปกติคนที่มี
คุณสมบัติเชํนนี้ก็จัดได๎วําเป็นเพชรน้าเอกของชาติ เป็นผู๎ชํวย
ที่ดีของราชสานักอยูํแล๎ว ถ๎าคิดจะให๎คนดีๆ เชํนนี้มาชํวยงาน
ก็ยิ่งต๎องให๎เงินเดือนงามๆตาแหนํงสูงๆ แกํพวกเขา ต๎องเคารพ
นับถือพวกเขา ยกยํองให๎เกียรติพวกเขา หากทาได๎เชํนนี้ คนดี
คนเกํงในประเทศนี้ก็จะเพิ่มจานวนมากขึ้น
เหตุผลในการมอบอานาจให๎คนดี
......มหาราชยุคโบราณ มักจะแตํงตั้งคนที่มีคุณธรรมให๎อยูํใน
ตาแหนํงสูงทรงเชิดชูคนดี มีความสามารถ แม๎แตํชาวนาหรือ
กรรมกร ถ๎าหากมีความสามารถก็จะได๎รับการสํงเสริม มียศฐาน
บรรดาศักดิ์ มีเบี้ยหวัดบานาญกิน ได๎รับการเลือกเลื่อนให๎
ขึ้นมารับตาแหนํงหน๎าที่อันสาคัญ และมีอานาจยิ่งใหญํ
......ทั้งนี้เนื่องจากตาแหนํงไมํใหญํ ประชาชนจะไมํเคารพ
เงินเดือนไมํสูง ประชาชนจะไมํเชื่อถือ มีอานาจไมํมาก
ประชาชนจะไมํเกรงกลัว การมอบสามสิ่งนี้ให๎แกํคนเกํง มิใชํ
เพราะพิศวาสคนเกํง แตํเพราะอยากเห็นเขาประสบความสาเร็จ
ในการบริหารประเทศ
......เพราะฉะนั้น จึงต๎องจัดวางตาแหนํงตามคุณธรรมแบํง
หน๎าที่การงานตามตาแหนํงขุนนาง ให๎รางวัลตามผลงาน การ
แตํงตั้งตาแหนํงและเงินเดือน ล๎วนขึ้นอยูํกับความดีความชอบ
ที่ทาไว๎ ด๎วยเหตุนี้เอง คนที่เป็นขุนนางจึงไมํสูงศักดิ์ตลอดกาล
และสามัญชนก็ไมํต่าต๎อยตลอดกาลเชํนกัน ใครดีใครเกํงก็ขึ้น
สูง ใครเลวใครไมํเอาไหน ก็ลดต่าลงมา ผดุงความถูกต๎องชอบ
ธรรมให๎คงอยูํคูํสังคม ไมํให๎มีความอยุติธรรมเกิดขึ้นอยําง
เด็ดขาด
ข๎อดีของการเลือกใช๎คนดี
......คนดีสามารถเป็นผู๎ชํวยของพระราชาและเป็นขุนนางระดับ
ตํางๆ ได๎สบายมา ขอเพียงมีคนดีอยูํข๎างกาย เจ๎านายก็ไมํต๎อง
ทุกข์กายทุกข์ใจ แตํจะประสบความสาเร็จมีชื่อเสียงได๎โดยไมํ
ลาบากนัก การมีคนดีอยูํข๎างกาย เป็นการเชิดหน๎าชูตาเจ๎านาย
อีกทั้งไมํมีคาวําไมํสมหวัง
......มํอจื้อกลําววํา "ยามราบรื่น พระราชาจะต๎องเลือกคนดีไว๎
ใช๎งาน ยามไมํราบรื่น ก็ยิ่งต๎องเลือกหาคนดีไว๎ชํวยงาน การ
เลือกคนดีไว๎ใช๎งานเป็นรากฐานอันสาคัญของการเมืองการ
ปกครอง
http://www.geocities.com/sathit_ropple/Moa.htm

You might also like