Professional Documents
Culture Documents
โวหาร
โวหาร
แบบฝึ ก
1. ผมตื่นแต่เช้า ล้างหน้าแปรงฟั น แล้วจึงไปโรงเรียนกับน้อง
ตอบ.............บรรยาย.................................................................................
..........................................................
2. เรือลำน้อยค่อย ๆ แล่นกลางแม่น้ำใหญ่ ผ่านลำแสงของอาทิตย์อุทัย
สะท้อน เป็ นภาพที่น่ามองยิ่งนัก
ตอบ.....พรรณนา........................................................................................
..........................................................
3. ความโกรธนั้นเหมือนทะเลบ้า คลื่นซัดซ่าสาดโครมโหมถลา
ตอบ..........อุปมา........................................................................................
..........................................................
4. ดวงเอ๋ยดวงตะวัน หนึ่งเท่านั้นเยี่ยมฟ้ าน่าพิศวง
ทำหน้าที่ไม่ลำเอียงแสนเที่ยงตรง เด่นดำรงเป็ นหลักจักรวาล
แยกทิวาราตรีให้มีอยู่ อีกฤดูวนเวียนเปลี่ยนผันผ่าน
ยุติธรรมสุจริตนิจกาล ใครนึกคร้านดูตะวันเร่งหมั่นเอย
ตอบ..........สาธก.........................................................................................
.........................................................
5. อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ ประเสริฐสุดซ่อนใส่เสียในฝั ก
สงวนคมสมนึกใครฮึกฮัก จึงค่อยชักเชือดฟั นให้บรรลัย
จับให้มั่นคั้นหมายให้วายวอด ช่วยให้รอดรักให้ชิดพิสมัย
ตัดให้ขาดปรารถนาหาสิ่งใด เพียรจงได้ดังประสงค์ที่ตรงดี
ตอบ..........เทศนา.......................................................................................
.........................................................
6. ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน
ไม่ยินและไม่ยล อุปสรรคใดใด
ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผิขังไว้
ก็โลดจากคอกไป บ่ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
ตอบ............อุปมา......................................................................................
........................................................
7. เกิดเป็ นหญิงให้เห็นว่าเป็ นหญิง อย่าทอดทิ้งกิริยาอัชฌาสัย
เป็ นหญิงครึ่งชายครึ่งอย่าพึงใจ คนเขาไม่สรรเสริญเพลิน
อารมณ์
ตอบ.....................เทศนา............................................................................
.........................................................
8. หากคนไทยแตกแยกไม่สามัคคีกัน ดังเช่น คราวเสียกรุงครั้งที่ ๒
ประเทศจะต้องตกเป็ น เมืองขึ้นของชาติอื่นอย่างไม่มีทางเลือก
ตอบ.............เทศนา....................................................................................
.........................................................
9. หาดทรายที่นี่ขาวสะอาด ทรายละเอียดราวกับ ผงแป้ ง น้ำทะเลใส
ราวกับกระจก พระอาทิตย์ส่อง แสงจับขอบฟ้ า ดุจดังแสงเงินแสงทอง
จับขอบฟ้ า
ตอบ.......อุปมา...........................................................................................
..........................................................
10. ในยามค่ำคืนพระจันทร์ก็ส่องแสงสุกสว่าง คืนนั้น พระจันทร์
ทรงกลดท้องฟ้ ากระจ่างใส เห็นดวงดาวส่อง แสงระยิบระยับงามจับตา
เป็ นภาพที่สวยงาม ติดตา ตรึงใจพวกเราทุกคน
ตอบ.............พรรณนา................................................................................
.........................................................
11. เมื่อสามนาฬิกาของวันใหม่ ฝนยังตกต่อเนื่อง ทหาร เดินข้ามทุ่ง
หญ้าของภูเขาและผ่านป่ ามายังแนวหน้า ทหารสองฝ่ ายต่างยิงต่อสู้กัน
ในความมืด ท่ามกลางสาย ฝนที่โปรยปราย
ตอบ.............บรรยาย.................................................................................
.........................................................
12. คนเราเกิดมาทั้งทีควรทำความดีให้มากที่สุด ถึงแม้การทำดีจะ
ต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล เราก็ต้องอดทน สักวันความดีจะสนอง
ให้ได้ดี คนดีย่อมตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้
ตอบ................เทศนา.................................................................................
.........................................................
13. โชเฟอร์ผิวคล้ำปากหนา หน้ามันเยิ้ม นั่งเอียงหน้า จับพวงมาลัย
พารถวิ่งส่ายหาทางแซงรถคันหน้า ดวงตาเหลือบมองกระจกข้างลุกลน
เหมือนกับมีกองทัพ กำลังกวดไล่ตามพิฆาต
ตอบ.....อุปมา.............................................................................................
.........................................................
14. ท้องฟ้ าสีคราม มืดครึ้ม เมฆลอยรวมตัวกัน เป็ นกลุ่มก้อน เป็ น
เหตุให้ฝนจะตกในไม่ช้านี้
ตอบ........บรรยาย......................................................................................
.........................................................
15. คนเราเมื่อมีลาภก็เสื่อมลาภ เมื่อมียศก็ เสื่อมยศ เมื่อมีสุขก็มี
ทุกข์ เมื่อมีสรรเสริญก็มี นินทา เป็ นของคู่กันมาเช่นนี้
ตอบ...............เทศนา..................................................................................
.........................................................
16. โวหารประเภท
.............พรรณนา.................................................................. ...
รับประทานกันไปพลางปรึกษากันพลาง ถึงกระนั้นวิชัยก็มีเวลาพินิจดู
หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าโดยละเอียดลออ สิ่งแรกที่เห็นได้โดยง่ายและ
สะดวกเพราะดูได้เต็มตา คือลำแขนซ้ายที่ตึงรับน้ำหนักตัวอยู่นั้นขาวผ่อง
ทั้งกลมและเรียวอ่อน มือขวาจับช้อนตักอาหารมีผิวละเอียดขาวเช่นกัน
กับแขนประกอบด้วยหลังมืออวบนูน นิ้วเล็กเรียว หลังเล็บมีสีดังกลีบบัว
หลวง เมื่อแรกบาน ปลายเล็บขาวสะอาดเป็ นมัน...
17. โวหารประเภท
.............พรรณนา..................................................................
ฉันยืนต้นอยู่ในป่ าลึก ฉันมีลำต้นสูงใหญ่ กิ่งก้านใบแน่นหนาและแผ่
กว้าง แสงอาทิตย์ไม่อาจส่องลอดได้ เบื้องล่างจึงร่มรื่น ลำธารน้อย ๆ ไหล
ผ่าน ใกล้ลำต้นฉันไป น้ำในลำธารใสจน เห็นกรวดทราย ท้องธารและปลา
ว่ายเวียน ทุกวันจะมีสัตว์ป่ านานาชนิดมากินน้ำ ที่ลำธารสายนี้ บางตัวจะ
อาศัยใต้ร่มใบ ของฉันนอนหลับอย่างเป็ นสุข
18. โวหารประเภท
..........บรรยาย.....................................................................
ศิลปิ นหรือผู้สร้างศิลปะก็คือหน่วยหนึ่งของสังคมที่สำคัญ ได้แก่ กลไก
ทางการเมือง และทางเศรษฐกิจ การต่อสู้กับอิทธิพลดังกล่าวเป็ นเรื่องซับ
ซ้อน ใหญ่ ่โต เป็ นต้น ศิลปิ นและนักเขียนมีขอบข่ายแห่งเสรีภาพได้แค่
ไหน เมื่อผู้ผลิตงานศิลปะจำเป็ นต้องยังชีพจากผลงานของเขาด้วย เขาจะ
มีทาง แก้ปั ญหาปากท้องของตัวเองอย่างไร โดยเฉพาะในสังคมแบบ
ทุนนิยม
19. โวหารประเภท
.............อุปมา..................................................................
รูปร่างงามหาตำหนิมิได้ ผมดำราวกับแมลงผึ้งหน้าเปล่งปลั่งดั่ง ดวง
จันทร์เนตรประหนึ่งตากวาง จมูกแม้น ดอกงา ฟั นเทียบไข่มุก ริมฝี ปาก
เพียงผลตำลึงสุก เสียงหวานปานนกโกกิลา ขาคือลำกล้วย เอวเหมาะ
เจาะ ไม่อ้วนเกิน เวลาย่างเดินแคล่วคล่องมีสง่าเสมอช้างทรง เพราะ
ฉะนั้นเจ้าจะหาทางตำหนิขัดข้องมิได้เลย
20. โวหารประเภท
..............สาธก.................................................................
ถ้าเธอไม่อยากอยู่กับฉันจริงจริง ยินยอมทุกสิ่ง ให้เธอทิ้งไป ฉันขอแค่
เพียง ให้เวลาหน่อยได้ไหม อยากเล่านิทานให้ฟั ง ชาวนาคนหนึ่งมีชีวิต
ลำพัง ไปเจอ งูเห่ากำลังใกล้ตายสงสาร จึงเก็บเอามาเลี้ยงโดยไม่รู้สุดท้าย
จะเป็ นอย่างไร คอย ดูแลด้วยความจริงใจ ห่วงใยและคอยให้ความรักเป็ น
กังวลว่ามันจะตาย เฝ้ าคอย เอาใจทุกอย่าง แต่สุดท้ายชาวนาผู้ใจดี ด้วย
ความที่เขาไว้ใจ น่าเสียดายกลับต้อง ตายด้วยพิษงู นิทานมันบอกให้
ยอมรับความจริงว่ามีบางสิ่งไม่ควรไว้ใจอะไร บางอย่างที่ทำดีซักแค่ไหน
ก็ไม่เชื่อง ไม่รัก ไม่จริง
21. โวหารประเภท
.............เทศนา.................................................................. …
เราโชคดีที่มีภาษาของตนเองแต่โบราณกาล จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะ
รักษาไว้ ปั ญหาเฉพาะในด้านการรักษาภาษานี้ก็มีหลายประการ อย่าง
หนึ่งต้องรักษาให้ บริสุทธิ์ในทางการออกเสียง คือ ให้ออกเสียงให้ถูกต้อง
ชัดเจน อีกอย่างหนึ่งต้อง รักษาให้บริสุทธิ์ในวิธีการใช้หมายความว่าวิธีใช้
คำมาประกอบเป็ นประโยค นับเป็ นปั ญหาที่สำคัญ ปั ญหาที่สาม คือ
ความร่ำรวยในคำของภาษาไทย ซึ่งพวก เรานึกว่าไม่ร่ำรวยพอ จึงต้องมี
การบัญญัติศัพท์ใหม่มาใช้…