You are on page 1of 9

โวหาร

สำนวนที่ใช้ในการสื่อความ ซึ่งอาจจะ ใช้ในการพูดหรือการเขียน


ประเภทของโวหาร
1. บรรยายโวหาร
2. พรรณนา โวหาร
3. เทศนาโวหาร
4. อุปมา โวหาร
5. สาธกโวหาร
บรรยายโวหาร คือ การเล่าเรื่องหรืออธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ตามลำดับ
เหตุการณ์ เขียนตรงไปตรงมา รวบรัด ได้แก่ การเขียนอธิบายประเภทต่าง ๆ
เช่น บทความ การเขียนเรื่องเล่า บันทึก ข่าว เป็ นต้น
ตัวอย่าง
“พ่อเดินเข้าไปหากอไผ่ เลือกตัดลำเท่าขามาสองปล้อง ทำเป็ นกระ
บอก คัดเห็ดดอกใหญ่ไปล้างในลำห้วยจนสะอาด บรรจุลงในกระบอกไม้ไผ่
จนแน่น ไม่ต้องเติมน้ำ เติมเกลือ และ น้ำพริกลงไปพอเหมาะ ก่อไฟเผา
กระบอกไม้ไผ่นั้น ไม่นานนัก เห็ดก็ขับน้ำออกมา เดือดปุด ๆ”
พรรณนาโวหาร คือ มุ่งให้ความแจ่มแจ้ง ละเอียดลออ เพื่อให้ผู้อ่าน เกิด
อารมณ์ซาบซึ้งเพลิดเพลินไปกับข้อความนั้น การเขียนพรรณนาโวหารจึง
ยาวกว่าบรรยายโวหารมาก มุ่งให้เห็นภาพและอารมณ์ จึงมักใช้การเล่นคำ
เล่นเสียง ใช้ภาพพจน์ อ่านได้รสชาต
ตัวอย่าง
“วันเพ็ญ พระจันทร์สีนวลจ้าส่องแสงอยู่วงรัศมีขาว น้ำขึ้นเต็มฝั่ งไม่
กระดุกกระดิก แต่เป็ นเงาแวววาว เหมือนถาดเงินใบใหญ่ที่ขัดมัน ทางฝั่ งขวา
ของแม่น้ำเจ้าพระยาตอนหนึ่งมีต้นลำพูต้นใหญ่”
เทศนาโวหาร คือ โวหารที่ผู้เขียนมุ่งสั่งสอนคุณธรรม หรือจรรโลงใจ
ปลุกใจ จูงใจ ให้ผู้อ่าน คล้อยตาม
ตัวอย่าง
“ทำอะไรก็อย่าทำด้วยความอยากมีอยากเป็ น อยากได้นั่น อยากได้นี่
แต่ควรทำไปตามหน้าที่ของเรา เรามีหน้าที่อะไรก็ทำไป ตามหน้าที่นั้นให้
สมบูรณ์เรียบร้อย ไม่ต้องมีความอยากจะได้ อยากจะเป็ น ทำเพราะสำนึกใน
หน้าที่ เช่น คำพูดที่เคยพูดบ่อย ๆ ว่า “งานคือชีวิต ชีวิตคืองานบันดาลสุข
ทำงานให้สนุก เป็ นสุข ขณะทำงาน”
สาธกโวหาร คือ โวหารที่มุ่งให้ความชัดเจน โดย การยกตัวอย่างเพื่อ
อธิบาย หรือสนับสนุน ความคิดเห็นให้หนักแน่น น่าเชื่อถือ
ตัวอย่าง
รูปรสกลิ่นเสียงไม่เที่ยงแท้ ย่อมเฒ่าแก่เกิดโรคโศกสงสาร
ความตายหนึ่งพึงให้เห็นเป็ นประธาน หวังนิพพานพ้นทุกข์สุขสบาย
ซึ่งบ้านเมืองเคืองเข็ญถึงเช่นนี้ เพราะโลกีย์ตัณหาพาฉิบหาย
อันศีลห้าว่าอย่าทำให้จำตาย จะตกอบายภูมิขุมนรก
อุปมาโวหาร คือ โวหารเปรียบเทียบ โดยยกตัวอย่าง สิ่งที่ คล้ายคลึงกัน
มาเปรียบเทียบเพื่อให้เกิดความชัดเจน ด้านความหมาย ด้านภาพ และเกิด
อารมณ์ความรู้สึก มากยิ่งขึ้น อุปมาโวหารมักจะปรากฏพร้อมกับ พรรณนา
โวหารเสมอ (เหมือน, ประดุจ, ดุจ, ดัง, ดั่ง, เฉก, เฉกเช่น, ราวกับ)
ตัวอย่าง
หาดทรายที่นี่ขาวสะอาด ทรายละเอียด ราวกับผงแป้ ง น้ำทะเลใส
ราวกับกระจก พระอาทิตย์ส่องแสงจับขอบฟ้ าดุจดังแสงเงิน แสงทองจับ
ขอบฟ้ า

แบบฝึ ก
1. ผมตื่นแต่เช้า ล้างหน้าแปรงฟั น แล้วจึงไปโรงเรียนกับน้อง
ตอบ.............บรรยาย.................................................................................
..........................................................
2. เรือลำน้อยค่อย ๆ แล่นกลางแม่น้ำใหญ่ ผ่านลำแสงของอาทิตย์อุทัย
สะท้อน เป็ นภาพที่น่ามองยิ่งนัก
ตอบ.....พรรณนา........................................................................................
..........................................................
3. ความโกรธนั้นเหมือนทะเลบ้า คลื่นซัดซ่าสาดโครมโหมถลา
ตอบ..........อุปมา........................................................................................
..........................................................
4. ดวงเอ๋ยดวงตะวัน หนึ่งเท่านั้นเยี่ยมฟ้ าน่าพิศวง
ทำหน้าที่ไม่ลำเอียงแสนเที่ยงตรง เด่นดำรงเป็ นหลักจักรวาล
แยกทิวาราตรีให้มีอยู่ อีกฤดูวนเวียนเปลี่ยนผันผ่าน
ยุติธรรมสุจริตนิจกาล ใครนึกคร้านดูตะวันเร่งหมั่นเอย
ตอบ..........สาธก.........................................................................................
.........................................................
5. อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ ประเสริฐสุดซ่อนใส่เสียในฝั ก
สงวนคมสมนึกใครฮึกฮัก จึงค่อยชักเชือดฟั นให้บรรลัย
จับให้มั่นคั้นหมายให้วายวอด ช่วยให้รอดรักให้ชิดพิสมัย
ตัดให้ขาดปรารถนาหาสิ่งใด เพียรจงได้ดังประสงค์ที่ตรงดี
ตอบ..........เทศนา.......................................................................................
.........................................................
6. ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน
ไม่ยินและไม่ยล อุปสรรคใดใด
ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผิขังไว้
ก็โลดจากคอกไป บ่ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
ตอบ............อุปมา......................................................................................
........................................................
7. เกิดเป็ นหญิงให้เห็นว่าเป็ นหญิง อย่าทอดทิ้งกิริยาอัชฌาสัย
เป็ นหญิงครึ่งชายครึ่งอย่าพึงใจ คนเขาไม่สรรเสริญเพลิน
อารมณ์
ตอบ.....................เทศนา............................................................................
.........................................................
8. หากคนไทยแตกแยกไม่สามัคคีกัน ดังเช่น คราวเสียกรุงครั้งที่ ๒
ประเทศจะต้องตกเป็ น เมืองขึ้นของชาติอื่นอย่างไม่มีทางเลือก
ตอบ.............เทศนา....................................................................................
.........................................................
9. หาดทรายที่นี่ขาวสะอาด ทรายละเอียดราวกับ ผงแป้ ง น้ำทะเลใส
ราวกับกระจก พระอาทิตย์ส่อง แสงจับขอบฟ้ า ดุจดังแสงเงินแสงทอง
จับขอบฟ้ า
ตอบ.......อุปมา...........................................................................................
..........................................................
10. ในยามค่ำคืนพระจันทร์ก็ส่องแสงสุกสว่าง คืนนั้น พระจันทร์
ทรงกลดท้องฟ้ ากระจ่างใส เห็นดวงดาวส่อง แสงระยิบระยับงามจับตา
เป็ นภาพที่สวยงาม ติดตา ตรึงใจพวกเราทุกคน
ตอบ.............พรรณนา................................................................................
.........................................................
11. เมื่อสามนาฬิกาของวันใหม่ ฝนยังตกต่อเนื่อง ทหาร เดินข้ามทุ่ง
หญ้าของภูเขาและผ่านป่ ามายังแนวหน้า ทหารสองฝ่ ายต่างยิงต่อสู้กัน
ในความมืด ท่ามกลางสาย ฝนที่โปรยปราย
ตอบ.............บรรยาย.................................................................................
.........................................................
12. คนเราเกิดมาทั้งทีควรทำความดีให้มากที่สุด ถึงแม้การทำดีจะ
ต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล เราก็ต้องอดทน สักวันความดีจะสนอง
ให้ได้ดี คนดีย่อมตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้
ตอบ................เทศนา.................................................................................
.........................................................
13. โชเฟอร์ผิวคล้ำปากหนา หน้ามันเยิ้ม นั่งเอียงหน้า จับพวงมาลัย
พารถวิ่งส่ายหาทางแซงรถคันหน้า ดวงตาเหลือบมองกระจกข้างลุกลน
เหมือนกับมีกองทัพ กำลังกวดไล่ตามพิฆาต
ตอบ.....อุปมา.............................................................................................
.........................................................
14. ท้องฟ้ าสีคราม มืดครึ้ม เมฆลอยรวมตัวกัน เป็ นกลุ่มก้อน เป็ น
เหตุให้ฝนจะตกในไม่ช้านี้
ตอบ........บรรยาย......................................................................................
.........................................................
15. คนเราเมื่อมีลาภก็เสื่อมลาภ เมื่อมียศก็ เสื่อมยศ เมื่อมีสุขก็มี
ทุกข์ เมื่อมีสรรเสริญก็มี นินทา เป็ นของคู่กันมาเช่นนี้
ตอบ...............เทศนา..................................................................................
.........................................................

16. โวหารประเภท
.............พรรณนา.................................................................. ...
รับประทานกันไปพลางปรึกษากันพลาง ถึงกระนั้นวิชัยก็มีเวลาพินิจดู
หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าโดยละเอียดลออ สิ่งแรกที่เห็นได้โดยง่ายและ
สะดวกเพราะดูได้เต็มตา คือลำแขนซ้ายที่ตึงรับน้ำหนักตัวอยู่นั้นขาวผ่อง
ทั้งกลมและเรียวอ่อน มือขวาจับช้อนตักอาหารมีผิวละเอียดขาวเช่นกัน
กับแขนประกอบด้วยหลังมืออวบนูน นิ้วเล็กเรียว หลังเล็บมีสีดังกลีบบัว
หลวง เมื่อแรกบาน ปลายเล็บขาวสะอาดเป็ นมัน...
17. โวหารประเภท
.............พรรณนา..................................................................
ฉันยืนต้นอยู่ในป่ าลึก ฉันมีลำต้นสูงใหญ่ กิ่งก้านใบแน่นหนาและแผ่
กว้าง แสงอาทิตย์ไม่อาจส่องลอดได้ เบื้องล่างจึงร่มรื่น ลำธารน้อย ๆ ไหล
ผ่าน ใกล้ลำต้นฉันไป น้ำในลำธารใสจน เห็นกรวดทราย ท้องธารและปลา
ว่ายเวียน ทุกวันจะมีสัตว์ป่ านานาชนิดมากินน้ำ ที่ลำธารสายนี้ บางตัวจะ
อาศัยใต้ร่มใบ ของฉันนอนหลับอย่างเป็ นสุข
18. โวหารประเภท
..........บรรยาย.....................................................................
ศิลปิ นหรือผู้สร้างศิลปะก็คือหน่วยหนึ่งของสังคมที่สำคัญ ได้แก่ กลไก
ทางการเมือง และทางเศรษฐกิจ การต่อสู้กับอิทธิพลดังกล่าวเป็ นเรื่องซับ
ซ้อน ใหญ่ ่โต เป็ นต้น ศิลปิ นและนักเขียนมีขอบข่ายแห่งเสรีภาพได้แค่
ไหน เมื่อผู้ผลิตงานศิลปะจำเป็ นต้องยังชีพจากผลงานของเขาด้วย เขาจะ
มีทาง แก้ปั ญหาปากท้องของตัวเองอย่างไร โดยเฉพาะในสังคมแบบ
ทุนนิยม
19. โวหารประเภท
.............อุปมา..................................................................
รูปร่างงามหาตำหนิมิได้ ผมดำราวกับแมลงผึ้งหน้าเปล่งปลั่งดั่ง ดวง
จันทร์เนตรประหนึ่งตากวาง จมูกแม้น ดอกงา ฟั นเทียบไข่มุก ริมฝี ปาก
เพียงผลตำลึงสุก เสียงหวานปานนกโกกิลา ขาคือลำกล้วย เอวเหมาะ
เจาะ ไม่อ้วนเกิน เวลาย่างเดินแคล่วคล่องมีสง่าเสมอช้างทรง เพราะ
ฉะนั้นเจ้าจะหาทางตำหนิขัดข้องมิได้เลย
20. โวหารประเภท
..............สาธก.................................................................
ถ้าเธอไม่อยากอยู่กับฉันจริงจริง ยินยอมทุกสิ่ง ให้เธอทิ้งไป ฉันขอแค่
เพียง ให้เวลาหน่อยได้ไหม อยากเล่านิทานให้ฟั ง ชาวนาคนหนึ่งมีชีวิต
ลำพัง ไปเจอ งูเห่ากำลังใกล้ตายสงสาร จึงเก็บเอามาเลี้ยงโดยไม่รู้สุดท้าย
จะเป็ นอย่างไร คอย ดูแลด้วยความจริงใจ ห่วงใยและคอยให้ความรักเป็ น
กังวลว่ามันจะตาย เฝ้ าคอย เอาใจทุกอย่าง แต่สุดท้ายชาวนาผู้ใจดี ด้วย
ความที่เขาไว้ใจ น่าเสียดายกลับต้อง ตายด้วยพิษงู นิทานมันบอกให้
ยอมรับความจริงว่ามีบางสิ่งไม่ควรไว้ใจอะไร บางอย่างที่ทำดีซักแค่ไหน
ก็ไม่เชื่อง ไม่รัก ไม่จริง
21. โวหารประเภท
.............เทศนา.................................................................. …
เราโชคดีที่มีภาษาของตนเองแต่โบราณกาล จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะ
รักษาไว้ ปั ญหาเฉพาะในด้านการรักษาภาษานี้ก็มีหลายประการ อย่าง
หนึ่งต้องรักษาให้ บริสุทธิ์ในทางการออกเสียง คือ ให้ออกเสียงให้ถูกต้อง
ชัดเจน อีกอย่างหนึ่งต้อง รักษาให้บริสุทธิ์ในวิธีการใช้หมายความว่าวิธีใช้
คำมาประกอบเป็ นประโยค นับเป็ นปั ญหาที่สำคัญ ปั ญหาที่สาม คือ
ความร่ำรวยในคำของภาษาไทย ซึ่งพวก เรานึกว่าไม่ร่ำรวยพอ จึงต้องมี
การบัญญัติศัพท์ใหม่มาใช้…

You might also like