You are on page 1of 22

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พระราชบัญญัติ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ป่าสงวนแห่งชาติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. ๒๕๐๗สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํเป็านันกปีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ ๑๙ ในรัชกาลปัจจุบกันา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานัพระบาทสมเด็ จพระปรมินกาทรมหาภูมิพลอดุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัลกยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าฯ
ให้ประกาศว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองและสงวนป่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคําแนะนําและยินยอม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ของสภาร่างรัฐธรรมนูญในฐานะรัฐสภา ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑ พระราชบั ญ ญั ติ นี้ เ รี ย กว่ า “พระราชบั ญ ญั ติ ป่ า สงวนแห่ ง ชาติ พ.ศ.
๒๕๐๗”
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานัมาตรา ๒ พระราชบัญกญัา ตินี้ให้ใช้บังสํคัาบนัตัก้งงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี แต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิ
กา จจา
นุเบกษาเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓ ให้ยกเลิก
สํานั(๑) พระราชบัญญัติคุ้มครองและสงวนป่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สําานัพุกทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธศักราช ๒๔๘๑ กา
(๒) พระราชบัญญัติคุ้มครองและสงวนป่า (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) พระราชบัญญัติคุ้มครองและสงวนป่า (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๙๗
สํานับรรดากฎหมาย กฎ และข้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อบังคับอื่น ในส่
สํานักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
นที่มีบัญญัติไว้แล้วในพระราชบั
กา ญญัตินี้
หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้แทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
สํานั“ป่ า” หมายความว่า ที่กดาิน รวมตลอดถึสํางนัภูกงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี เขา ห้วย หนอง คลองกาบึง บาง ลําน้ํา
ทะเลสาบ เกาะ และที่ชายทะเลที่ยังมิได้มีบุคคลได้มาตามกฎหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี “ป่กาาสงวนแห่งชาติ
สํา”นักหมายความว่ า ป่าที่ได้กกาําหนดให้เป็นสํป่าานัสงวนแห่
งานคณะกรรมการกฤษฎี งชาติตาม กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
พระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา



ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๘๑/ตอนที่ ๓๘/หน้า ๒๖๓/๒๘ เมษายน ๒๕๐๗
-๒- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

“ไม้” หมายความว่า ไม้ทุกชนิดทั้งที่เป็นต้น กอ หรือเถา ไม่ว่ายังยืนต้นหรือล้มลง


สํานักแล้ ว และหมายความรวมตลอดถึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง รากสําปุนั่มกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตอ หน่อ กิ่ง ตา หัว เหง้
กาา เศษ ปลายหรื สํานัอกส่งานคณะกรรมการกฤษฎี
วนหนึ่งส่วนใด กา
ของไม้ ไม่ว่าจะถูกตัด ฟัน เลื่อย ผ่า ถาก ทอน ขุด หรือกระทําโดยวิธีการอื่นใด
สํ“ของป่ า” หมายความว่า สิ่งกต่า าง ๆ ที่เกิดขึสํ้นาหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
มีอยู่ในป่า เป็นต้นว่า กา
(๑) ไม้ฟืน ถ่าน เปลือกไม้ ใบไม้ ดอกไม้ เมล็ด ผลไม้ หน่อไม้ ชันไม้ และยางไม้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) หญ้า อ้อ พง แขม ปรือ คา กก กระจูด กล้วยไม้ กูด เห็ดและพืชอื่น
สํ(๓)
านักซากสั ตว์ ไข่ หนัง เขา กนอา งา กราม ขนาย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กระดูก ขน รังนก ครัก่ง ารังผึ้ง น้ําผึ้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขี้ผึ้ง และมูลค้างคาว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๔) ดินกาหิน กรวด ทราย สํานักแร่ และน้ํามัน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“สัตว์เลี้ยง” หมายความว่า ช้าง ม้า ลา ล่อ โค กระบือ แพะ แกะ และสุกร ที่มี
เจ้าของ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“ทําไม้” หมายความว่า ตัด ฟัน กาน โค่น ลิด เลื่อย ผ่า ถาก ทอน ขุด หรือชักลาก
สํานักไม้ ที่มีอยู่ในป่า หรือนําไม้กาที่มีอยู่ในป่าออกจากป่
งานคณะกรรมการกฤษฎี าด้วยประการใด ๆ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“พนั ก งานเจ้ า หน้ า ที่ ” หมายความว่ า ผู้ ซึ่ ง รั ฐ มนตรี แ ต่ ง ตั้ ง ให้ ป ฏิ บั ติ ก ารตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“อธิบดี” หมายความว่ า อธิบดีกรมป่าไม้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และ
สํานักให้ มีอํานาจแต่งตั้งพนักงานเจ้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าหน้าที่แสํละออกกฎกระทรวงกํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี าหนดค่กาาธรรมเนียม สํค่าานัภาคหลวงและค่ า
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บํ า รุ ง ป่ า ไม่ เ กิ น อั ต ราตามบั ญ ชี ท้ า ยพระราชบั ญ ญั ติ นี้ และกํ า หนดกิ จ การอื่ น เพื่ อ ปฏิ บั ติ ก ารตาม
พระราชบัญญัตินสํี้ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การกําหนดป่าสงวนแห่งชาติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖ บรรดาป่าที่เป็นกป่า าสงวนอยู่แล้สํวานัตามกฎหมายว่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี าด้วยการคุกา้มครองและ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สงวนป่าก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติตามพระราชบัญญัตินี้
เมื่อรัฐกมนตรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า เห็นสมควรกํสํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
หนดป่าอื่นใดเป็นป่าสงวนแห่
กา งชาติ เพืสํ่อานัรักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ษาสภาพป่าไม้ กา
ของป่าหรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น ให้กระทําได้โดยออกกฎกระทรวงซึ่งต้องมีแผนที่แสดงแนวเขตป่า
ที่กําหนดเป็นป่าสงวนแห่ งชาตินั้นแนบท้ายกฎกระทรวงด้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วยสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๗ การเปลีสํ่ ยานแปลงเขตหรื


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อการเพิ กถอนป่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา า สงวนแห่
สํางนัชาติ ป่าใด ไม่ว่ า
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทั้งหมดหรือบางส่สํวานนักให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
กระทําได้โดยออกกฎกระทรวง
กา
และเฉพาะกรณี ที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือเพิก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถอนบางส่วนให้มีแผนที่แสดงแนวเขตที่เปลี่ยนแปลง หรือเพิกถอนนั้นแนบท้ายกฎกระทรวงด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-๓- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๘ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดให้มีหลักเขตและป้ายหรือเครื่องหมายอื่นแสดง
สํานักแนวเขตป่ าสงวนแห่งชาติกาไว้ตามสมควรเพื
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่อกให้ ประชาชนเห็นได้ว่าเป็กนา เขตป่าสงวนแห่
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานังกชาติ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การจัดให้มีหลักเขตและป้ายหรือเครื่องหมายอื่นตามวรรคหนึ่ง ให้รวมถึงการจัดการ
ซ่อมแซมหลักเขตและป้
สํ ายหรือเครื่องหมายอื่นกาที่ชํารุดเสียหายหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
สูญหายด้วย และในการดํ กา าเนินการ
ของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้มีหนังสือแจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กํานัน และผู้ใหญ่บ้านในท้องที่
ที่เขตป่าสงวนแห่งชาตินั้นตั้งอยู่เพื่อทราบแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติด้วย๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙ ให้ ปิดประกาศสํ าเนากฎกระทรวงและแผนที่ท้ายกฎกระทรวง ตาม
สํานักมาตรา ๖ วรรคสอง หรืกอา มาตรา ๗ ไว้สําณนักทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่ทําการอําเภอหรือกิ่งกอําาเภอท้องที่ทสํี่ทาํานัการกํ านันท้องที่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และที่เปิดเผยเห็นได้ง่ายในหมู่บ้านท้องที่นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๐ ในจั ง หวั ด ใดที่ มี ป่ า สงวนแห่ ง ชาติ ให้ มี ค ณะกรรมการคณะหนึ่ ง
สํานักเรีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยกว่า “คณะกรรมการควบคุ
กา ม และรั
สํานักกษาป่ าสงวนแห่งชาติประจํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา า จั ง หวั ด ” สํประกอบด้ วย ผู้ ว่ า
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ราชการจังหวัด เป็นประธานกรรมการ อัยการจังหวัด ผู้อํานวยการสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อมจังหวัสํดานัเกษตรและสหกรณ์
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จังหวัด เจ้าพนักงานที ่ดินจังหวัด ปฏิรูปที่ดินจังหวัด ปลัด
จังหวัด ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดสํานายกองค์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การบริหารส่วนจังหวัด ผู้แทนเทศบาลแห่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งท้องที่ที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ป่าสงวนแห่งชาติตั้งอยู่จํานวนหนึ่งคน และผู้แทนองค์การบริหารส่วนตําบลแห่งท้องที่ที่ป่าสงวน
แห่งชาติตั้งอยู่จํานวนสามคน เป็นกรรมการ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในจังหวัดใดที่มีพื้นที่ซึ่งอยู่ในอํานาจหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ
สํานักพังานคณะกรรมการกฤษฎี
นธุ์พืช ให้มีผู้แทนกรมอุ กา ทยานแห่งชาติ
สํานักสังานคณะกรรมการกฤษฎี
ตว์ป่า และพันธุ์พืชเป็นกากรรมการเพิ่มสํขึา้นนัอีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
กหนึ่งคน และ กา
จังหวัดใดที่มีพื้นที่ซึ่งอยู่ ในอํานาจหน้าที่ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้มีผู้แทนกรม
ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั ่งเป็นกรรมการเพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่มขึ้นอีกหนึ่งคน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ผู้อํานวยการสํานักจัดการทรัพยากรป่าไม้แห่งท้องที่ที่ป่าสงวนแห่งชาติตั้งอยู่ หรือ
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ที่อธิบดีมอบหมาย เป็นกากรรมการและเลขานุ การ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกผู้แทนเทศบาลและผู้แทนองค์การบริหารส่วนตําบล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๔ คณะกรรมการควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติประจําจังหวัดมี
อํานาจหน้าที่ ดังต่สํอานัไปนี ้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) กําหนดมาตรการในการควบคุมดูแล และการส่งเสริมการปลูกป่า รวมทั้งการ
สํานักฟืงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นฟูสภาพป่าสงวนแห่กงาชาติ ให้สอดคล้ สํานัอกงกั บแนวทางที่อธิบดีกกําาหนด ทั้งนี้ แนวทางดั
งานคณะกรรมการกฤษฎี งกล่าวต้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กําหนดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมชนในพื้นที่ด้วย
สํ(๒)านักควบคุ มการปฏิบัติให้เป็กนาไปตามมาตราสํา๘นักและมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี ๙
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๓) ดําเนินการสอบสวนและวินิจฉัยคําร้องตามมาตรา ๑๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํ๒านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘ วรรคสอง เพิ่มโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙

มาตรา ๑๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๑ แก้ไขเพิ่มเติ
สํามนัโดยพระราชบั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งชาติ (ฉบับที่ สํ๔)านัพ.ศ.
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ญญัติป่าสงวนแห่ ๒๕๕๙
-๔- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๔) มีหนังสือเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคําหรือให้ส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องในการสอบสวน
สํานักตามมาตรา ๑๓
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) มีหนังสือเรียกเจ้าพนักงานปกครองแห่งท้องที่หรือเจ้าพนักงานอื่นที่เกี่ยวข้องมา
ให้ข้อมูลเพื่อประกอบการพิ จารณาในการกําหนดมาตรการตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัก(๑)
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มอบหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑/๑ ให้ นํ า บทบั ญ ญั ติ ว่ า ด้ ว ยคณะกรรมการที่ มี อํ า นาจดํ า เนิ น การ
สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
จารณาทางปกครองตามกฎหมายว่
กา าสํด้านัวกยวิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธีปฏิบัติราชการทางปกครองมาใช้
กา บสํังาคันับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
แก่การประชุม กา
ของคณะกรรมการควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติประจําจังหวัดโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๒ บุคคลใดอ้างว่ามีสิทธิหรือได้ทําประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติใดอยู่
สํานักก่งานคณะกรรมการกฤษฎี
อนวันที่กฎกระทรวงกํกาาหนดป่าสงวนแห่
สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชาตินั้นใช้บังคับ ให้ยื่กนาคําร้องเป็นหนัสํงานัสืกองานคณะกรรมการกฤษฎี
ต่อนายอําเภอ กา
แห่งท้องที่ภายในกําหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่กฎกระทรวงนั้นใช้บังคับ ถ้าไม่ยื่นคําร้องภายใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กําหนดดังกล่าว ให้ ถือว่าสละสิทธิหรือประโยชน์นั้น
คําร้องดังกล่าวในวรรคหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ง ให้ นายอําเภอแห่งท้องที่ส่งต่อไปยั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งคณะกรรมการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติประจําจังหวัดที่ป่าสงวนแห่งชาตินั้นตั้งอยู่โดยไม่ชักช้า
สํความในวรรคหนึ ่ ง มิ ใ ห้ ใ ช้กบาั ง คั บ แก่ ก รณีสํสาิ ทนักธิงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ใ นที่ ดิ น ที่ บุ ค คลมี อ ยู่ ตกามประมวล

กฎหมายที่ดิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๓ เมื่อคณะกรรมการควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติประจําจังหวัดได้
รับคําร้องตามมาตรา ๑๒ แล้ว ให้สอบสวนตามคํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าร้องนั้นสํถ้านัากปรากฏว่ าผู้ร้องได้เสียสิกทาธิหรือเสื่อม
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ประโยชน์ ให้คณะกรรมการควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติประจําจังหวัดพิจารณากําหนดค่า
สํานักทดแทนให้ ทั้งนี้ ตามระเบี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยบที่กรมป่าสํไม้
านักกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
หนดโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลั
กา ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ถ้าผู้ร้องไม่พอใจในค่าทดแทนที่คณะกรรมการควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประจําจังหวัดกําหนด ผู้ร้องมีสิทธิอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีภายในกําหนดหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคํา
สํานักวิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นิจฉัยของคณะกรรมการควบคุ กา มและรัสํกานัษาป่ าสงวนแห่งชาติประจํกาาจังหวัด คําวินสํิจาฉันัยกของรั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ฐมนตรีให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เป็นที่สุด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๓/๑ ในกรณีที่ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐมีความประสงค์จะใช้
สํานักพืงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นที่บางแห่งภายในเขตป่กา าสงวนแห่งชาติ
สํานัเกป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นสถานที่ปฏิบัติงานหรืกอาเพื่อประโยชน์สํขานัองรั ฐอย่างอื่น ให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อธิบดีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติมีอํานาจ
ประกาศกําหนดบริ สํานัเวณดั งกล่าวเป็นบริเวณทีก่ทาางราชการใช้สํปานัระโยชน์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ภายในเขตป่าสงวนแห่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งชาติได้
และในบริเวณดังกล่าวมิให้นํามาตรา ๑๔ และมาตรา ๑๖ มาใช้บังคับแก่การที่ส่วนราชการหรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๑/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
สํ๖านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙

มาตรา ๑๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๓/๑ แก้ไขเพิสํ่มานัเติกมงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งชาติ (ฉบับสํทีา่ นั๔)กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา โดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่ พ.ศ. ๒๕๕๙
-๕- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

หน่วยงานของรัฐนั้น ๆ จําเป็นต้องกระทําเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติงานเพื่อใช้ประโยชน์
สํานักในพื ้นที่นั้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การใช้พื้นที่ตามวรรคหนึ่ง ถ้าที่ดินในบริเวณที่ทางราชการใช้ประโยชน์มีแนวเขตทับ
ที่ดินซึ่งบุคคลได้รับานัประโยชน์
สํ ตามมาตรา ๑๔กาอยู่แล้ว ให้การรั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานับกประโยชน์ ในที่ดินส่วนทีก่เาป็นบริเวณที่
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ทางราชการใช้ประโยชน์นั้นสิ้นสุดลง เมื่อพ้นกําหนดสามร้อยหกสิบวันนับแต่วันที่ประกาศกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณที่ทางราชการใช้ประโยชน์
สํการใช้ พื้ น ที่ ต ามวรรคหนึก่ งา ให้ เ ป็ น ไปตามหลั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ก เกณฑ์ วิ ธี ก าร และเงื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ อ นไขที่
คณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติกําหนดโดยประกาศในราชกิจจา
สํานักนุงานคณะกรรมการกฤษฎี
เบกษา กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกหมวด
า ๑/๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๑๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓/๒ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ ่งเรียกว่า “คณะกรรมการพิจารณา
การใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งสํชาติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
” ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิ่งแวดล้อม เป็นประธานกรรมการ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อธิบดีกรมทรัพยากร
ธรณี อธิบดีกรมอุสําทนัยานแห่ งชาติ สัตว์ป่า และพั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นธุ์ พืช ผู้ แสํทนกระทรวงกลาโหม
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ผู้แกทนกระทรวง

เกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ซึ่งมี
สํานักความรู ้ ความสามารถกาความเชี่ ย วชาญ
งานคณะกรรมการกฤษฎี และประสบการณ์ เ ป็กนา ที่ ป ระจั ก ษ์ ใสํนด้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
นการอนุ รั ก ษ์ กา
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จํานวนสี่คน เป็นกรรมการ
สํให้
านัอกธิงานคณะกรรมการกฤษฎี
บดีเป็นกรรมการและเลขานุ
กา การ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๓/๓๑๑ กรรมการผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ทรงคุณวุฒิต้องมีคกุณา สมบัติและไม่สํมานัีลกักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ษณะต้องห้าม กา
ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) มีสัญชาติไทย
(๒) มีอกาายุไม่ต่ํากว่าสามสิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห้าปีบริบูรณ์ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
สํ(๔)
านักไม่ เคยได้รับโทษจําคุกโดยคํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าพิพากษาถึ สํานังกทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่สุดให้จําคุก เว้นแต่เป็กนาโทษสําหรับ
ความผิดที่ได้กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(๕) ไม่กเาป็นผู้ดํารงตําสํแหน่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งทางการเมือง สมาชิกกาสภาท้องถิ่นหรืสําอนัผูก้บงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ริหารท้องถิ่น กา
กรรมการหรือผู้ดํารงตําแหน่งซึ่งรับผิดชอบในการบริหารพรรคการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมือง หรือ
เจ้าหน้าที่พรรคการเมื
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา



หมวด ๑/๑ คณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มาตรา ๑๓/๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถึงมาตรา ๑๓/๙ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
๑๐
มาตรา ๑๓/๒ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
๑๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๓/๓ เพิ่มโดยพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.
สํานั๒๕๕๙
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ญญัติป่าสงวนแห่งชาติ
-๖- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๓/๔๑๒ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในกิจการหรือใน


สํานักธุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ร กิจเกี่ย วกั บทรั พยากรธรรมชาติ
กา แ ละสิ
สํานัก่ งงานคณะกรรมการกฤษฎี
แวดล้ อมซึ่งอาจขั ดหรืกาอแย้งต่ อประโยชน์ ส่ว นรวมหรื อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ประโยชน์ของทางราชการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓/๕๑๓ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดํารงตําแหน่งคราวละสองปี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตําแหน่งก่อนวาระ ให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทน
ตําแหน่งที่ว่างอยูสํ่ในตํ
านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
แหน่งเท่ากับวาระที่เหลืกาออยู่ของกรรมการผู ้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตัก้างไว้แล้ว เว้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่วาระที่เหลืออยู่ไม่ถึงเก้าสิบวันจะไม่แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนก็ได้
เมื่ อ ครบกํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา า หนดตามวาระในวรรคหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ ง หากยักา ง มิ ไ ด้ มี ก ารแต่
สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตั้ ง กรรมการ กา
ผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นใหม่ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตําแหน่งตามวาระนั้นอยู่ในตําแหน่งเพื่อ
ดําเนินงานต่อไปจนกว่ ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒกิซาึ่งได้รับแต่งตั้งสํใหม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
ข้ารับหน้าที่ กา

มาตรากา ๑๓/๖๑๔ กรรมการผู


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นกจากตํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า า แหน่ ง ตามวาระอาจได้ รั บ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แต่งตั้งอีกได้ แต่จะดํารงตําแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระมิได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณี ที่ ก รรมการผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ พ้ น จากตํ า แหน่ ง ก่ อ นวาระ ให้ ค ณะกรรมการ
พิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งชาติประกอบด้วยกรรมการทั้งหมดเท่สําาทีนัก่มงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ีอยู่จนกว่าจะมี กา
การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๑๓/๕ วรรคสอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๕
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓/๗ นอกจากการพ้นจากตําแหน่งตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้น
สํานักจากตํ าแหน่ง เมื่อ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ตาย
สํ(๒)
านักลาออก
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) รัฐมนตรีให้ออกเพราะบกพร่องต่อหน้าที่ มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือหย่อน
สํานักความสามารถ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา ๑๓/๓ หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มีส่วนได้เสียตามมาตรา ๑๓/๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓/๘๑๖ คณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติมี
อํานาจหน้าที่ ดังต่สํอานัไปนี ้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) เสนอแนะมาตรการและแนวทางในการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติต่อ
สํานักรังานคณะกรรมการกฤษฎี
ฐมนตรี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) พิจารณาให้ความเห็นชอบให้ใช้พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติตามมาตรา ๑๓/๑
มาตรา ๑๖ และมาตรา ๒๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๒ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓/๔ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
๑๓
มาตรา ๑๓/๕ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
สํ๑๔านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓/๖ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
๑๕
มาตรา ๑๓/๗ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
๑๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๓/๘ เพิ่มโดยพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.
สํานั๒๕๕๙
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ญญัติป่าสงวนแห่งชาติ
-๗- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๓) กําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการใช้พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ


สํานักของส่ วนราชการหรือหน่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาวยงานของรัสํฐานัการขออนุ ญาตและการอนุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาตให้เข้าทํสําาประโยชน์ หรืออยู่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และการบํารุงป่าหรือปลูกสร้างสวนป่าหรือไม้ยืนต้นในเขตป่าเสื่อม
โทรม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) เสนอแนะการกําหนดค่าตอบแทนการอนุญาตตามมาตรา ๒๐ ต่อรัฐมนตรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่
มอบหมาย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ หรือดําเนินการอื่นตามที่
สํานักคณะรั ฐมนตรีหรือนายกรักาฐมนตรีมอบหมาย
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓/๙๑๗ ให้นําบทบั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญ ญัติมาตราสํานั๑๑/๑ มาใช้บังคับแก่การประชุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มของ
คณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่ งชาติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๘
สํมาตรา ๑๔ ในเขตป่า สงวนแห่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง ชาติ สํห้านัากมมิ ใ ห้ บุค คลใดยึ ด ถือ ครอบครองทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา า
ประโยชน์ หรืออยู่อ าศัยในที่ดิน ก่ อสร้ าง แผ้วถาง เผาป่า ทําไม้ เก็บหาของป่า หรื อกระทําด้ว ย
สํานักประการใด ๆ อันเป็นการเสื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อมเสียแก่สสํภาพป่ าสงวนแห่งชาติ เว้นแต่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ทําไม้หรือเก็ บหาของป่าตามมาตรา ๑๕ เข้าทําประโยชน์หรืออยู่ อาศัยตาม
มาตรา ๑๖ มาตรา สํานั๑๖ ทวิ หรือมาตรา ๑๖ กตรี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า กระทําการตามมาตรา ๑๗ ใช้ประโยชน์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาตามมาตรา
๑๘ หรือกระทําการตามมาตรา ๑๙ หรือมาตรา ๒๐
(๒) ทํกาไม้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า หวงห้ามหรืสํอาเก็
นักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
หาของป่าหวงห้ามตามกฎหมายว่
กา าด้วสํยป่
านัากไม้
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕ การทําไม้หรือการเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติให้กระทําได้
สํานักเมืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อได้รับใบอนุญาตจากพนักา กงานเจ้าหน้สําานัทีก่ งานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือเมื่อพนักงานเจ้าหน้กาาที่ได้ประกาศอนุ
สํานัญ าตไว้เป็นคราว
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ๆ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติแห่งหนึ่งแห่งใดโดยเฉพาะ
สํการอนุ ญาตให้เป็นไปตามแบบ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ระเบียบและวิ
สํานัธกีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารที่กําหนดในกฎกระทรวงกา
๑๙
มาตรากา๑๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อธิบดีสํโาดยความเห็ นชอบของคณะกรรมการพิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จารณาการใช้ ประโยชน์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ในเขตป่าสงวนแห่งชาติมีอํานาจอนุญาตให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดเข้าทําประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่า
สงวนแห่งชาติได้ สํในกรณี ดังต่อไปนี้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํ๑๗านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓/๙ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
๑๘
มาตรา ๑๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๘
๑๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๖ แก้ไขเพิ่มสํเติานัมกโดยพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งชาติ (ฉบับทีสํ่ ๔)
านักพ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ญญัติป่าสงวนแห่ ๒๕๕๙
-๘- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๑) การเข้าทําประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติคราวละไม่น้อยกว่าห้า
สํานักปีงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่ไม่เกินสามสิบปี ในกรณี
กา ที่ผู้รับอนุสํญานัาตเป็ นส่วนราชการหรือหน่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วยงานของรัสํฐานัจะอนุ ญาตโดยให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ยกเว้นค่าธรรมเนียมทั้งหมดหรือบางส่วนตามที่เห็นสมควรก็ได้
สํ(๒)
านักการเข้ าทําประโยชน์เกี่ยกวกั
งานคณะกรรมการกฤษฎี า บการทําเหมื
สําอนังแร่ ตามกฎหมายว่าด้วยแร่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา คราวละไม่
เกินสิบปีโดยให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอรับใบอนุญาตเก็บหาของป่า และไม่ต้องเสียค่าภาคหลวงของป่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามพระราชบัญญัตินี้ สําหรับแร่ ดินขาว หรือหิน แล้วแต่กรณี
สํการขออนุ ญาตและการอนุญกาตตามวรรคหนึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สํา่งนักให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นไปตามหลักเกณฑ์กาวิธีการ และ
เงื่อนไขที่คณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติกําหนดโดยประกาศในราช
สํานักกิงานคณะกรรมการกฤษฎี
จจานุเบกษา กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖ ทวิ๒๐ ในกรณีทกี่ปา ่าสงวนแห่งชาติ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัทกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ั้งหมดหรือบางส่วนมีสภาพเป็
กา นป่าไร่
ร้างเก่า หรือทุ่งหญ้า หรือเป็นป่าที่ไม่มีไม้มีค่าขึ้นอยู่เลย หรือมีไม้มีค่าที่มีลักษณะสมบูรณ์เหลืออยู่เป็น
สํานักส่งานคณะกรรมการกฤษฎี
วนน้ อย และป่านั้ นยากที
กา ่ จ ะกลั บ ฟืสํ้ นาคืนันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดีตามธรรมชาติ ทั้ งนีก้ าโดยมีสภาพตามหลั กเกณฑ์แ ละ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เงื่อนไขที่รัฐมนตรีกําหนด โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี ให้ถือว่าป่าสงวนแห่งชาติในบริเวณดังกล่าวเป็นป่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เสื่อมโทรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าทางราชการมีความจํ าเป็นต้องปรับปรุงฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้รัฐมนตรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกาศกําหนดเขตป่าเสื่อมโทรมทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นเขตปรับปรุงป่าสงวนแห่งชาติ
สํในเขตปรั บปรุงป่าสงวนแห่งกชาติ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ถ้าบุคคลใดได้ เข้าทําประโยชน์หรืออยูกา่อาศัยในเขต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดังกล่าวอยู่แล้วจนถึงวันที่ประกาศกําหนดตามวรรคสอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑) เมืก่อาบุคคลดังกล่าสํวร้
านัอกงขอ และอธิบดีหรือผู้ซกึ่งาอธิบดีมอบหมายเห็
งานคณะกรรมการกฤษฎี นว่าบุคคลนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ยังมีความจําเป็นเพื่อการครองชีพ อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายมีอํานาจอนุญาตเป็นหนังสือให้
บุคคลดังกล่าวทําสํประโยชน์ และอยู่อาศัยต่อไปในที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ที่ได้ทําประโยชน์ หรืออยู่อาศัยอยู่แล้วนักา้นได้ แต่ต้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่เกินยี่สิบไร่ต่อหนึ่งครอบครัว และมีกําหนดเวลาคราวละไม่น้อยกว่าห้าปี แต่ไม่เกินสามสิบปี ทั้งนี้
สํานักโดยได้ รับการยกเว้นค่าธรรมเนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยมสําหรัสํบานัคราวแรก คราวต่อ ๆ ไปต้กอา งเสียค่าธรรมเนี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัยกมงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) บุคคลซึ่งได้รับอนุญาตตาม (๑) อาจขออนุญาตปลูกป่าหรือไม้ยืนต้นในที่ที่ตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เคยทําประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตปรับปรุงป่าสงวนแห่งชาติเพิ่มเติมจากที่ได้รับอนุญาตแล้ว โดย
สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
สูจน์ให้เห็นว่าตนมีความสามารถ
กา และมี
สํานักเครื ่องมือหรืออุปกรณ์ทกี่จาะปลูกป่า หรืสํอาไม้
งานคณะกรรมการกฤษฎี นักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
ืนต้นตามที่ขอ กา
เพิ่มนั้นได้ อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายมีอํานาจอนุญาตเป็นหนังสือให้ปลูกป่าหรือไม้ยืนต้นได้แต่
ต้องไม่เกิ นสามสิสํบานัห้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
ไร่ต่อหนึ่งครอบครัว และมี
กา กํา หนดเวลาคราวละไม่ น้อยกว่าห้ากปีา แต่ไม่เกิ น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สามสิบปี และต้องเสียค่าธรรมเนียมตามที่กฎหมายกําหนดไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี การได้กราับอนุญาตตามวรรคสาม มิให้ถือว่าเป็นการได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มาซึ่งสิทธิใสํนที
านั่ดกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ินตามประมวล กา
กฎหมายที่ดิน
สํให้
านับกุคงานคณะกรรมการกฤษฎี
คลซึ่งได้รับอนุญาตตามวรรคสาม
กา (๑)สํานัและ (๒) ได้รับยกเว้นค่าภาคหลวงและ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ค่าบํารุงป่า สําหรับไม้ที่ได้ปลูกขึ้นภายในที่ดินที่ได้รับอนุญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๒๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๖ ทวิ เพิ่มโดยพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.
สํานัก๒๕๒๘
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ญญัติป่าสงวนแห่งชาติ
-๙- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

บุ ค คลซึ่ ง ได้ รั บ อนุ ญ าตต้ อ งใช้ ป ระโยชน์ ใ นที่ ดิ น ตามหลั ก เกณฑ์ แ ละเงื่ อ นไขใน
สํานักระเบี ยบที่อธิบดีกําหนดกา และจะให้บสํุคาคลอื
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่นนอกจากบุคคลในครอบครั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วเข้าทํสําาประโยชน์ ในที่ดิน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ดังกล่าวมิได้
สํในกรณี ที่บุคคลซึ่งได้รับอนุญกาาตละทิ้งไม่ทําสํประโยชน์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี หรือไม่อยู่อาศัยในที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ดินที่ได้รับ
อนุญาตติดต่อกันเกินระยะเวลาสองปี หรือยินยอมให้บุคคลอื่นนอกจากบุคคลในครอบครัวเข้าทํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประโยชน์ หรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในระเบียบที่อธิบดีกําหนด ให้อธิบดีหรือผู้ซึ่ง
อธิบดีมอบหมายมีสํอานัํากนาจเพิ กถอนการอนุญาตนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๑
มาตรากา๑๖ ตรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณี ที่บุคคลซึ่งได้รับอนุญกาตตามมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สํ๑๖
านักทวิ ถึงแก่ความ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตาย ให้บุคคลในครอบครัวซึ่งอาศัยอยู่กับผู้ได้รับอนุญาตมีสิทธิอยู่อาศัยหรือทําประโยชน์ในที่ดินนั้น
ต่อไปได้ แต่ไม่เกินสําหนึ
นัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ร้อยแปดสิบวันนับแต่วกันาที่ผู้ได้รับอนุญสําตถึ งแก่ความตาย
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ถ้าสามี ภรรยา บุตรคนหนึ่งคนใดหรือบุคคลในครอบครัวซึ่งอาศัยอยู่กับผู้ได้รั บ
สํานักอนุ ญาตและผู้ได้รับอนุญกาาตได้ระบุไว้เป็สํานนัหนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี งสือตามแบบที่อธิบดีกกาําหนดให้เป็นผูสํา้สนัืบกสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ทธิและหน้าที่ กา
ของตนประสงค์จะอยู่อาศัยหรือทําประโยชน์ในที่ดินนั้นต่อไป ให้ยื่นคําขออนุญาตต่ออธิบดีหรือผู้ซึ่ง
อธิบดีมอบหมาย สํภายในหนึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่ผู้ได้รสํับาอนุ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ญาตถึงแก่ความตาย
เมื่อได้ยื่นคําขออนุญสําตตามวรรคสองแล้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ว ให้บุคคลตามวรรคหนึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่งอยู่อาศัยหรือทํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประโยชน์ต่อไปได้ตามที่อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายอนุญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗ เพื่อประโยชน์ในการศึกษาหรือวิจัยทางวิชาการ อธิบดีมีอํานาจอนุญาต
สํานักเป็ นหนังสือแก่กระทรวงกาทบวง กรมหรืสําอนับุกคงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี คลอื่นใดให้กระทําการอย่
กา างหนึ่งอย่าสํงใดในเขตป่ าสงวน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แห่งชาติได้ ตามระเบียบที่อธิบดีกําหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี และเมื่อรัฐมนตรีเห็นสมควรจะสั่งยกเว้น
ค่าธรรมเนียม ค่าสํภาคหลวงและค่ าบํารุงป่าก็ไกด้า
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๘๒๒ อธิบดีสํมานัีอกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นาจออกระเบียบการใช้กาประโยชน์ในเขตป่
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
สงวนแห่งชาติ กา
โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในเรื่องดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) การเข้าไป การผ่านหรือการใช้ทาง
(๒) การนํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าหรือปล่อยสัสํานัตกว์งานคณะกรรมการกฤษฎี
เลี้ยงเข้าไป กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ระเบียบตามวรรคหนึ่ง จะใช้บังคับในเขตป่าสงวนแห่งชาติแห่งใดให้ประกาศ ณ
ที่ว่าการอําเภอ ทีสํ่ทาํานัการกํ านัน และที่ทําการผูก้ใาหญ่บ้านในท้อสํงที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี านั่ทกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี่ป่าสงวนแห่งชาติแห่งนัก้นาตั้งอยู่

มาตรากา๑๙ เพื่อประโยชน์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในการควบคุม ดูแลกรัา กษาหรือบํารุสํงานัป่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สงวนแห่งชาติ กา
อธิบดีมีอํานาจสั่งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ กระทําการอย่างหนึ่ง
อย่างใดในเขตป่าสํสงวนแห่ งชาติได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๑
มาตรา ๑๖ ตรี เพิ่มโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๘
๒๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๘ แก้ไขเพิ่มสํเติานัมกโดยพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งชาติ (ฉบับทีสํ่ ๓)
านักพ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ญญัติป่าสงวนแห่ ๒๕๒๘
- ๑๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๙/๑๒๓ ให้อธิบดีโดยอนุมัติรัฐมนตรีมีอํานาจกําหนดอัตราและวางระเบียบ


สํานักเกีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ยวกับการเก็บค่าบริกการหรืา อค่าตอบแทนสํ าหรับการที่พนักงานเจ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาาหน้าที่ได้ให้สํบารินักการหรื อให้ความ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สะดวกต่าง ๆ แก่ประชาชนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ
สํค่าานับริ ก ารหรือค่ าตอบแทนที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ เ ก็ บ ได้ ต ามวรรคหนึ ่ง ให้ เก็บรัก ษาไว้ใกช้าจ่ า ยในการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
บํารุงรักษาป่าสงวนแห่งชาติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีกําหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๔
สํมาตรา ๒๐ ในกรณีที่ป่ากสงวนแห่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า งชาติสํใาดมี
นักสงานคณะกรรมการกฤษฎี
ภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมตามมาตรา
กา
๑๖ ทวิ ให้อธิบดีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการพิ จารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวน
สํานักแห่ งชาติมีอํานาจอนุญาตเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นหนังสือให้
สําบนัุคกคลหนึ ่งบุคคลใดทําการบํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาารุงป่าหรือปลูสํากนัสร้ างสวนป่าหรือ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไม้ยืนต้นในเขตป่าเสื่อมโทรมได้ภายในระยะเวลาและตามเงื่อนไขที่กําหนดในหนังสืออนุญาต โดยเสีย
ค่าตอบแทนตามทีสํ่รานััฐกมนตรี ประกาศกําหนด แต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาในกรณีที่จะอนุ
สํานัญกาตให้ เกินหนึ่งพันไร่ต่อราย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ต้องได้รับ
ความเห็นชอบจากคณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และได้รับอนุมัติ
สํานักจากคณะรั ฐมนตรี กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การขออนุญาตและการอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ
เงื่อนไขที่คณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสํสงวนแห่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งชาติกําหนดโดยประกาศในราช
กิจจานุเบกษา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๑ ใบอนุญาตทําไม้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาหรือเก็บหาของป่
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ
กา ตามมาตรา
๑๕ ให้ใช้ได้ภายในระยะเวลาที่ระบุไว้ในใบอนุญาต ตามระเบียบที่อธิบดีกําหนด ซึ่งต้องไม่เกินหนึ่งปี
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
บแต่วันออกใบอนุญาตกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การต่ อ อายุ ใ บอนุ ญ าตให้ เ ป็ น ไปตามแบบ ระเบี ย บและวิ ธี ก ารที่ กํ า หนดใน
กฎกระทรวง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๒๒ ในกรณีใสํบอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ญาตสูญหายหรือถูกทํากลาย
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ให้ยื่นคําขอใบแทนใบอนุ ญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การออกใบแทนใบอนุญ าต ให้ เป็นไปตามแบบ ระเบียบและวิธีการที่กําหนดใน
สํานักกฎกระทรวง
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๓ ใบอนุญาตที่อกอกให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ตามมาตรา
สํานั๑๕ จะโอนกันได้ต่อเมื่อกได้า รับอนุญาต
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
จากพนักงานเจ้าหน้าที่
การโอนใบอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาตให้สํเาป็นันกไปตามระเบี ยบและวิธีกการที
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ่กําหนดในกฎกระทรวง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๔ ผู้รับใบอนุญาตหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อหนังสืออนุ
สํานัญกาตตามพระราชบั ญญัตกินา ี้ ต้องจัดให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี
คนงาน ผู้รับจ้างหรือผู้แทนของผู้รับใบอนุญาตหรือหนังสืออนุญาตมีใบคู่มือสําหรับทําการตามที่ได้รับ
สํานักอนุ ญาต ตามแบบ ระเบีกยาบและวิธีการทีสํา่กนัํากหนดในกฎกระทรวง
งานคณะกรรมการกฤษฎี งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๓
มาตรา ๑๙/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
๒๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๐ แก้ไขเพิ่มสํเติานัมกโดยพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งชาติ (ฉบับทีสํ่ ๔)
านักพ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ญญัติป่าสงวนแห่ ๒๕๕๙
- ๑๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๒๕ เมื่ อ ได้ กํ า หนดป่ า ใดเป็ น ป่ า สงวนแห่ ง ชาติ แ ละรั ฐ มนตรี ไ ด้ แ ต่ ง ตั้ ง
สํานักพนั ก งานเจ้ า หน้ า ที่ ผู้ คกวบคุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ม และรั ก ษาป่สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
สงวนแห่ ง ชาติ นั้ น แล้กวา ให้ พ นั ก งานเจ้
สํานัากหน้ า ที่ มี อํ า นาจ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ดังต่อไปนี้
สํ(๑)
านักสังานคณะกรรมการกฤษฎี
่งให้ผู้หนึ่งผู้ใดออกจากป่ กา าสงวนแห่งชาติ
สํานักหรื อให้งดเว้นการกระทํกาาใด ๆ ในเขต
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ป่ า สงวนแห่ ง ชาติ ในกรณี ที่ มี ข้ อ เท็ จ จริ ง ปรากฏหรื อ เหตุ อั น ควรสงสั ย ว่ า มี ก ารกระทํ า ผิ ด ตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัตินี้
สํ(๒)
านักสังานคณะกรรมการกฤษฎี
่งเป็นหนังสือให้ผู้กระทํกาาผิดต่อพระราชบั สํานักญงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญัตินี้ รื้อถอน แก้ไขหรืกอาทําประการ
อื่นใดแก่สิ่งที่เป็นอันตราย หรือสิ่งที่ทําให้เสื่อมสภาพในเขตป่าสงวนแห่งชาติภายในเวลาที่กําหนดให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๓) ยึดกาทําลาย รื้อถอน สํานักแก้ ไขหรือทําประการอื่นกาเมื่อผู้กระทําผิสํดานัไม่กปงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ฏิบัติตาม (๒) กา
ไม่ปรากฏตัวผู้กระทําผิดหรือรู้ตัวผู้กระทําผิดแต่หาตัวไม่พบ
สํถ้าานัพนั กงานเจ้าหน้าที่ได้ปฏิกบาัติการอย่างหนึ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํา่นังอย่ างใดดังกล่าว และได้กเสีา ยค่าใช้จ่าย
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เพื่อการนั้น ให้ผู้กระทําผิดชดใช้หรือออกค่าใช้จ่ายนั้นทั้งหมด หรือให้พนักงานเจ้าหน้าที่นําทรัพย์สินที่
สํานักยึงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดไว้ได้ออกขายทอดตลาดหรื กา อขายโดยวิสํานักธงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีอื่นตามที่เห็นสมควร กเพื า ่อชดใช้ค่าใช้สํจานั่ากยนั ้น และให้นํา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ความในมาตรา ๑๓๒๗ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับแก่เงินที่ได้จากการขาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทรัพย์สินนั้นโดยอนุ โลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ดําเนินการอย่างหนึ ่งอย่างใดที่เห็นสมควร ทั้งนี้ เพื่อป้องกัสํนาหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อบรรเทาความ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เสียหายแก่ป่าสงวนแห่งชาติในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๖ การจับกุม ปราบปรามผู้กระทําผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงาน
สํานักเจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าหน้าที่เป็นพนักงานฝ่กาายปกครองหรืสํอาตํนัากรวจ ตามประมวลกฎหมายวิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๖/๑๒๕ ให้พนักงานเจ้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าหน้ าที่ มสําี อนัํ ากนาจยึ ดหรืออายัดบรรดาไม้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ของป่ า
อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ สัตว์พาหนะ ยานพาหนะ หรือเครื่องจักรกลใด ๆ ที่บุคคลได้มาหรือได้ใช้
สํานักในการกระทํ าความผิดหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาอมีเหตุอันควรสงสั ยว่าได้ใช้ในการกระทํากความผิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ด หรือเป็
สํานนักอุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ปกรณ์ให้ได้รับ กา
ผลในการกระทําความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการพิจารณาคดีได้จนกว่าจะมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีหรือจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ทั้งนี้ ไม่ว่าทรัพย์สินนั้นจะเป็นของผู้กระทําความผิด
สํานักหรื อของผู้มีเหตุอันควรสงสั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยว่าเป็นผู้กสําระทํ าความผิดหรือไม่ และเมื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อได้มีการฟ้สํอางคดี ให้นําความใน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ๓๕ วรรคสองและวรรคสามมาใช้บังคับ
สํในกรณี ที่ มี คํ า สั่ ง เด็ ด ขาดไม่กาฟ้ อ งคดี ถ้ า เจ้สําานัของหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี อ ผู้ ค รอบครองมิกไาด้ ร้ อ งขอรั บ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรัพย์สินคืนภายในกําหนดหกเดือนนับแต่วันทราบหรือถือว่าได้ทราบคําสั่งให้คืนทรัพย์สินแก่ผู้มีสิทธิ
สํานักขอรั บทรัพย์สินคืนนั้นจากเจ้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าพนักงานที สํา่มนัีอกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
นาจยึดไว้ ให้ทรัพย์สินกนัา้นตกเป็นของแผ่ สํานันกดิงานคณะกรรมการกฤษฎี
น กา
ในกรณีที่มีคําสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี และไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีบุคคลผู้เป็นเจ้าของ
ทรัพย์สินดังกล่าวสํให้
านักเริงานคณะกรรมการกฤษฎี
่มนับระยะเวลาตามวรรคสองตั กา ้งแต่วันสํทีานั่มกีคงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี กา

มาตรากา๒๖/๒๒๖ ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ทรัพย์สินที่ยึดหรืออายักาดไว้ตามมาตราสํานั๒๖/๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี วรรคหนึ่ง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มิได้เป็ นของผู้กระทํ าความผิดหรื อของผู้มีเหตุอันควรสงสัสํยานัว่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นผู้กระทําความผิดกาให้พนักงาน
๒๕
มาตรา ๒๖/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
๒๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๖/๒ เพิ่มโดยพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.
สํานั๒๕๕๙
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ญญัติป่าสงวนแห่งชาติ
- ๑๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

เจ้าหน้าที่โดยอนุมัติรัฐมนตรีคืนทรัพย์สินหรือเงิน แล้วแต่กรณี ให้แก่เจ้าของก่อนถึงกําหนดตาม


สํานักมาตรา ๒๖/๑ วรรคหนึก่งได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ในกรณีดังสํต่าอนัไปนี ้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) เมื่อทรัพย์สินนั้นไม่จําเป็นต้องใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีที่เป็น
เหตุให้ทรัพย์สินนั้นาถูนักกยึงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ ดหรืออายัด หรือ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เมื่ อ ผู้ ก ระทํ า ความผิ ด หรื อ ผู้ มี เ หตุ อั น ควรสงสั ย ว่ า เป็ น ผู้ ก ระทํ า ความผิ ด ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทรัพย์สินนั้นมาจากผู้เป็นเจ้าของโดยการกระทําความผิดทางอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๗
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๖/๓ ถ้าทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัดไว้ตามมาตรา ๒๖/๑ วรรคหนึ่ง จะ
สํานักเป็ นการเสี่ยงต่อความเสี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กายหาย หรื อค่สําานัใช้กจงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ายในการเก็บรักษาจะเกิ
กา นค่ าของทรัสําพนัย์กสงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิน อธิบดีอาจ กา
ดําเนินการ ดังต่อไปนี้
สํ(๑)
านักจังานคณะกรรมการกฤษฎี
ดการขายหรือจําหน่ายทรั กา พย์สินก่อนครบกํ าหนดเวลาตามมาตราก๒๖/๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า วรรค
สอง เมื่อได้เงินเป็นสุทธิเท่าใดให้ยึดไว้แทนทรัพย์สินนั้น หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒) ถ้กาาการนําทรัพย์สํสาินนัทีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ยึดหรืออายัดไว้ไปใช้ปกระโยชน์
า จะเป็สํนาการบรรเทาความ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เสียหายหรือค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาก็ให้นําทรัพย์สินนั้นไปใช้เพื่อประโยชน์ของทางราชการได้ตาม
ระเบียบที่อธิบดีกสํําาหนด
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๒๖/๔๒๘ ผู้ใดกระทําหรือละเว้นการกระทําด้วยประการใดโดยมิชอบด้วย
กฎหมายอั น เป็ นสํการทํ า ลายหรื อ เป็ น เหตุ ใกห้าเ กิ ด การทํ า ลาย
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักหรื อ ทํ า ให้ สู ญ หายหรืกอาเสี ย หายแก่
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรัพยากรธรรมชาติในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ผู้นั้นมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าทั้งหมด
สํานักของทรั พยากรธรรมชาติกทาี่ถูกทําลาย สูญสําหาย
งานคณะกรรมการกฤษฎี หรือเสียหายไปนั้น กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๖/๕๒๙ ในการดํากเนิา นคดีอาญาแก่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัผกู้ฝงานคณะกรรมการกฤษฎี
่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ กเมืา ่อพนักงาน
อัยการยื่นฟ้องคดีอาญา ให้เรียกค่าเสียหายตามมาตรา ๒๖/๔ ไปในคราวเดียวกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๗ เมื่อปรากฏว่าผู้รับใบอนุญาตหรือหนังสืออนุญาต คนงาน ผู้รับจ้าง หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้แทนของผู้รับใบอนุญาตหรือหนังสืออนุญาตกระทําผิดต่อพระราชบัญญัตินี้หรือกฎกระทรวง หรือ
สํานักเงืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อนไขในใบอนุญาตหรืกอาหนังสืออนุญสําตานักซึงานคณะกรรมการกฤษฎี
่งออกตามพระราชบัญญั กาตินี้ อันอาจเป็สํนานัการเสี ยหายอย่าง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ร้ายแรง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอํานาจสั่งเป็นหนังสือให้พักใช้ใบอนุญาตหรือหนังสืออนุญาตได้ มี
กําหนดไม่เกินหกสิสําบนัวักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
นับแต่วันที่ออกคําสั่ง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือหนังสืออนุญาตตามวรรคหนึ่ง อธิบดีมีอํานาจสั่งเพิกถอน
สํานักคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าสั่งหรือเพิ่มหรือลดระยะเวลาที
กา ่สั่งพัสํกานัใช้กใงานคณะกรรมการกฤษฎี
บอนุญาตหรือหนังสือกอนุ
า ญาตได้ตามที สํา่เนัห็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สมควร แต่ใน กา
กรณีที่มีคําสั่งเพิ่มระยะเวลาดังกล่าวนั้น จะเพิ่มได้ไม่เกินหนึ่งร้อยยี่สิบวัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํ๒๗านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๖/๓ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
๒๘
มาตรา ๒๖/๔ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
๒๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๖/๕ เพิ่มโดยพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.
สํานั๒๕๕๙
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ญญัติป่าสงวนแห่งชาติ
- ๑๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๒๘ คําสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือหนังสืออนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือ


สํานักคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าสั่งของอธิบดีตามมาตรา กา ๒๗ ผู้รับใบอนุ
สํานักญงานคณะกรรมการกฤษฎี
าตหรือหนังสืออนุญาตมี
กา สิทธิอุทธรณ์สํตานั่อกรังานคณะกรรมการกฤษฎี
ฐมนตรีโดยยื่น กา
อุทธรณ์ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในกําหนดสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบคําสั่ง
สํคําานัวิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็กนาที่สุด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๒๙ ในกรณีที่มีการสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือหนังสืออนุญาตแล้ว ถ้ารัฐมนตรี
เห็นสมควรก็ให้มีอสําํานันาจสั ่งเพิกถอนใบอนุญาตหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อหนังสืออนุสํญ
านัาตนั ้นได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๓๐ ในกรณีสํมาีคนัวามจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าเป็นเพื่อประโยชน์กแาก่ราชการหรือสําสาธารณประโยชน์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือเมื่อปรากฏว่าได้มีการอนุญาตไปโดยมิชอบ รัฐมนตรีมีอํานาจสั่งเพิกถอนการอนุญาตรายหนึ่งราย
ใดทั้งหมดหรือบางส่
สํานัวกนได้
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีมิใ ช่เป็นความผิดของผู้ถูกสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้จ่ ายค่ าทดแทนด้ วย
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านวนเงินอันเป็นธรรมแก่ กา ผู้ถูกสั่งเพิกถอนการอนุ ญาตนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทกําหนดโทษ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๓๐
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๑ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๑๔ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และ
สํานักปรั บตั้งแต่สองหมื่นบาทถึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กางสองแสนบาท สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีความผิดตามมาตรานี้ ถ้าได้กระทําเป็นเนื้อที่เกินยี่สิบห้าไร่ หรือก่อให้เกิด
ความเสียหายแก่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ไม้สัก ไม้ยาง ไม้สนเขา หรือไม้หวงห้ามประเภท ข. ตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้
สํานักหรื อ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ไม้อื่นที่เป็นต้นหรือเป็นท่อนอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างรวมกันเกินยี่สิบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ต้นหรือท่อน หรือรวมปริมาตรไม้เกินสี่ลูกบาศก์เมตร หรือ
(๓) ต้นกาน้ําลําธาร หรือสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) พื้นที่ชายฝั่ง
สํผูา้กนัระทํ าความผิดต้องระวางโทษจํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าคุกตั้งสํแต่
านัสกี่ปงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีถึงยี่สิบปี และปรับตัก้งาแต่สองแสน
บาทถึงสองล้านบาท
ในกรณีกาที่มีคําพิพากษาชี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก้ขงานคณะกรรมการกฤษฎี
าดว่าบุคคลใดกระทําความผิ กา ดตามมาตรานี ้ ถ้าปรากฏว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บุคคลนั้นยึดถือหรือครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ศาลมีอํานาจสั่งให้ผู้กระทําความผิด
คนงาน ผู้รับจ้าง สํผูา้แนัทน และบริวารของผู้กระทํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าความผิดออกจากเขตป่ าสงวนแห่งชาติกาตลอดจนสั่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ผู้กระทําความผิดรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง หรือนําสิ่งใด ๆ อันก่อให้เกิดการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวน
สํานักแห่ งชาติออกจากป่าสงวนแห่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งชาติภายในระยะเวลาที ่กําหนด กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๓๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๓๑ แก้ไขเพิ่มสํเติานัมกโดยพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งชาติ (ฉบับทีสํ่ ๔)
านักพ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ญญัติป่าสงวนแห่ ๒๕๕๙
- ๑๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๓๒ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๔ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๑
มาตรา ๓๓ ผู้ใดทําให้เสียหาย ทําลาย ซึ่งหลักเขต ป้าย หรือเครื่องหมายอื่นใดที่
จัดให้มีขึ้นตามพระราชบั ญญัตินี้ ต้องระวางโทษจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าคุกไม่เกินสํสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่นบาท หรือ
ทั้งจําทั้งปรับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๒
สํมาตรา ๓๓/๑ ผู้ใดไม่ปฏิกบา ัติตามระเบียสํบที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
ธิบดีกําหนดตามมาตรากา๑๘ หรือฝ่า
ฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคําสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งสั่งตามมาตรา ๒๕ (๑) หรือ (๒) ต้องระวางโทษจําคุก
สํานักไม่ เกินหกเดือน หรือปรับกาไม่เกินหนึ่งหมืสํ่นานับาท
งานคณะกรรมการกฤษฎี หรือทั้งจําทั้งปรับ กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นอกจากต้องระวางโทษตามวรรคหนึ่งแล้ว ผู้ไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกําหนด
ตามมาตรา ๑๘ หรื สํานัอกฝ่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคํ กาาสั่งพนักงานเจ้สํานัากหน้ าที่ซึ่งสั่งตามมาตรา ก๒๕
งานคณะกรรมการกฤษฎี า (๑) หรือ
(๒) ยังต้องระวางโทษปรับอีกวันละไม่เกินห้าพันบาท จนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๓/๒๓๓ ผู้รับใบอนุญาตหรือหนังสืออนุญาตผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม
เงื่อนไขในใบอนุญสําาตหรื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อหนังสืออนุญาต ต้องระวางโทษจํสําาคุนักกไม่งานคณะกรรมการกฤษฎี
เกินหกเดือน หรือปรักบา ไม่เกินหนึ่ง
หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณี ที่ มี ก ารฝ่ า ฝื น หรื อ ไม่ ป ฏิ บั ติ ต ามเงื่ อ นไขตามวรรคหนึ่ ง และก่ อ ให้ เ กิ ด
ผลกระทบต่อวิถีชสํีวาิตนัหรื อสุขภาพอนามัยของประชาชนอย่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา างร้สําานัยแรง ต้องระวางโทษจําคุกกาตั้งแต่หนึ่งปี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๔
มาตรา ๓๓/๓ ผู้รับใบอนุญาตหรือหนังสืออนุญาตผู้ใดปล่อยปละละเลยให้บุคคล
อื่นบุกรุก ยึดถือ ครอบครอง หรือกระทําการฝ่กาาฝืนมาตรา ๑๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัในพื ้นที่ที่ได้รับอนุญาต ต้กอางระวางโทษ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
จําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๔ ผู้ใดรับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จําหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสีย ซึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม้หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่า เป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทําผิดตามพระราชบัญญัตินี้
สํานักต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องระวางโทษเสมือนเป็กนา ตัวการในการกระทํ าผิดนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๕
สํมาตรา ๓๕ บรรดาไม้ ของป่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา า อุปกรณ์สําเครื ่องมือ เครื่องใช้ อาวุธกาสัตว์พาหนะ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยานพาหนะ หรือเครื่องจักรกลใด ๆ ที่บุคคลได้มาหรือได้ใช้ในการกระทําความผิด หรือมีไว้เพื่อใช้
สํานักกระทํ าความผิด หรือได้กใาช้เป็นอุปกรณ์สํใาห้นัไกด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี รับผลในการกระทําความผิ
กา ดตามพระราชบั ญญัตินี้ ให้ริบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เสียทั้งสิ้น ไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคําพิพากษาของศาลหรือไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๓๑ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
๓๒
มาตรา ๓๓/๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
สํ๓๓านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๓/๒ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
๓๔
มาตรา ๓๓/๓ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
๓๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๓๕ แก้ไขเพิ่มสํเติานัมกโดยพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งชาติ (ฉบับทีสํ่ ๔)
านักพ.ศ.
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ญญัติป่าสงวนแห่ ๒๕๕๙
- ๑๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ให้พนักงานอัยการร้องขอให้ศาลสั่งริบทรัพย์สินตามวรรคหนึ่ง และเมื่อพนักงาน
สํานักอังานคณะกรรมการกฤษฎี
ยการได้ร้องขอต่อศาลแล้ กา ว ให้พนักงานเจ้ าหน้าที่ปิดประกาศ ณกาที่ว่าการอําเภอสํานัทีก่ทงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ําการกํานัน ที่ กา
ทําการผู้ใหญ่บ้าน และที่ทําการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ ไม่ว่าในคดีดังกล่าวจะ
ปรากฏตัวบุคคลซึ สํา่ งนัอาจเชื ่อว่าเป็นเจ้าของหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อไม่ ก็ตาม ในกรณี ที่ปรากฏหลักฐานว่ากมีา บุคคลเป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เจ้าของทรัพย์สินตามวรรคหนึ่ง ให้ส่งประกาศดังกล่าวทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยังภูมิลําเนา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ของเจ้าของทรัพย์สินนั้น เพื่อให้บุคคลซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของมายื่นคําขอเข้ามาในคดีก่อนมีคําพิพากษา
ของศาลชั้นต้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ไม่มีผู้ใดอ้างตัวเป็นเจ้าของก่อนมีคําพิพากษาของศาลชั้นต้น หรือมีเจ้าของ
สํานักแต่ เจ้าของไม่สามารถพิกสาูจน์ให้ศาลเชื่อสํได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี านัวก่างานคณะกรรมการกฤษฎี
ตนไม่มีโอกาสทราบหรืกอา ไม่มีเหตุอันควรสงสั ยว่าจะมีการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กระทําความผิดดังกล่าว อีกทั้งตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้วที่จะป้องกันมิให้มีการกระทํา
ความผิดเช่นนั้นเกิสํดานัขึก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือไม่สามารถพิสูจน์กให้า ศาลเชื่อได้ว่าสํตนไม่ มีโอกาสทราบ หรือไม่กมาีเหตุอันควร
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สงสัยว่าจะมีการนําทรัพย์สินดังกล่าวไปใช้ในการกระทําความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ศาลสั่งริบ
สํานักทรั พย์สินดังกล่าวได้เมืก่อาพ้นกําหนดสามสิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
วันนับแต่วันแรกของวักนา ที่ปิดประกาศ สํานัในกรณี ที่ปรากฏ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หลักฐานว่ามีบุคคลเป็นเจ้าของทรัพย์สินให้นับแต่วันที่เจ้าของทรัพย์สินได้รับหรือถือว่าได้รับไปรษณีย์
ลงทะเบียนตอบรัสํบานัดักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
กล่าวตามวรรคสอง และในกรณีกา
นี้มสํิให้านันกํางานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ๓๖ แห่งประมวลกฎหมาย
อาญามาใช้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีบทเฉพาะกาล
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๓๖ บรรดาป่าที่เป็นป่าคุ้มครองอยู่แล้วตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครอง
และสงวนป่าก่อนวัสํานนัทีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังกคัาบ ให้ถือว่าเป็สํนานัป่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
สงวนแห่งชาติตามพระราชบั
กา ญญัตินี้
จนกว่าจะมีกฎกระทรวงออกตามมาตรา ๖ วรรคสอง หรือมาตรา ๗ ซึ่งต้องออกภายในห้าปี นับแต่
สํานักวังานคณะกรรมการกฤษฎี
นที่พระราชบัญญัตินี้ใช้กบา ังคับ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๗ ใบอนุญาตที่ออกให้แก่บุคคลกระทําการใด ๆ ตามกฎหมายว่าด้วยการ
สํานักคุงานคณะกรรมการกฤษฎี
้มครองและสงวนป่าก่กอานวันที่พระราชบั
สํานักญงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญัตินี้ใช้บังคับ ให้ใช้ไกด้าต่อไปจนสิ้นอายุ
สํานักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ามที่ระบุไว้ใน กา
ใบอนุญาตนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๘ ภายในระยะเวลาหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ บรรดา
สํานักกฎกระทรวง ประกาศ กข้าอกําหนด และระเบี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ยบการต่าง ๆ ที่ได้ออกตามกฎหมายว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สําานัด้กวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยการคุ้มครอง กา
และสงวนป่าและใช้อยู่ในวันประกาศพระราชบัญญัตินี้ในราชกิจจานุเบกษา ให้คงใช้บังคับต่อไปเท่าที่
ไม่ขัดหรือแย้งกับสํพระราชบั ญญัตินี้ ทั้งนี้ จนกว่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าจะมีกฎกระทรวง ประกาศ ข้อกําหนดกหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อระเบียบ
การต่าง ๆ ยกเลิก หรือมีความอย่างเดียวกัน หรือขัด หรือแย้งกัน หรือกล่าวไว้เป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
จอมพล ถนอม กิตกติา ขจร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

นายกรัฐมนตรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


- ๑๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

บัญชีอัตราค่าธรรมเนียม ค่าภาคหลวง และค่าบํารุงป่า๓๖


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ใบอนุ
สําญนักาตทํ าไม้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ฉบับละ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ก๒๐๐
า บาท
ใบอนุญาตเก็บหาของป่า ฉบับละ ๕๐ บาท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใบคู่มือคนงาน ผู้รับจ้างหรือผู้แทนของผู้รับใบอนุญาต
หรือสํหนั
านักงสืงานคณะกรรมการกฤษฎี
ออนุญาต กา ฉบับละ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา๕๐ บาท
ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ ๕๐ บาท
การโอนใบอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาต สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ฉบับละสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๐๐ บาท กา
หนังสืออนุญาตให้บุคคลเข้าทําประโยชน์
หรือสํอยู
านั่อกาศั ย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ไร่ละ ๕,๐๐๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บาท
ค่าภาคหลวงไม้ ลูกบาศก์เมตรละ ๔๐๐ บาท
ค่าภาคหลวงของป่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ก า สํ านั กงานคณะกรรมการกฤษฎี ลูกบาศก์เมตรละ
ก า สํ านั ก ๔๐ บาท
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ในกรณีค่าภาคหลวงของป่าที่ไม่อาจคํานวณเป็นลูกบาศก์เมตรได้
หรือสํนิายนัมซื
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้อขายกันตามมาตรฐาน นอกจากเป็นลูสํกาบาศก์
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมตร ร้อยละสิบของราคาตลาด
ค่าบํารุงป่า สองเท่าค่าภาคหลวงไม้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือค่าภาคหลวงของป่าที่ผู้รสํับาอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ญาตต้องชําระ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เนื่องจากการทําไม้และเก็บหาของป่าจากป่าสงวนแห่งชาติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๖
บัญชีอัตราค่าธรรมเนียม ค่าภาคหลวง และค่าบํารุงป่า แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่า
สํานักสงวนแห่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

หมายเหตุ :- เหตุ ผ ลในการประกาศใช้ พ ระราชบั ญ ญั ติ ฉ บั บ นี้ คื อ เนื่ อ งจากป่ า ไม้ เ ป็ น


สํานักทรั พยากรธรรมชาติที่สกําคัา ญยิ่งของชาติสําและรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ฐบาลได้กําหนดจุดหมายไว้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ในแผนพัสําฒนันาการเศรษฐกิ จ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แห่งชาติว่า จะสงวนป่าไม้ไว้เป็นเนื้อที่ประมาณร้อยละ ๕๐ แห่งเนื้อที่ประเทศไทย คือ เป็นเนื้อที่ป่า
สงวนรวมประมาณสํานั๒๕๐,๐๐๐ ตารางกิโลเมตร
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา หรือ ๑๕๖ ล้สําานันไร่
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บัดนี้ ปรากฏว่าป่าไม้ที่สงวน คุ้มครองไว้แล้ว และที่ยังมิได้สงวนคุ้มครองได้ถูกบุกรุก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และถูกทําลายไปเป็นจํานวนมาก แม้ป่าไม้ในบริเวณต้นน้ําลําธารก็ถูกแผ้วถางเผาทําลายไปเป็นอัน
มาก ซึ่งอาจเป็นเหตุ
สํานักให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
เกิดความแห้งแล้ง พืก้นาดินพังทลาย สํลําานัน้กํางานคณะกรรมการกฤษฎี
ตื้นเขิน หรือเกิดอุทกภักายอันเป็นผล
เสียหายแก่การเกษตรและเศรษฐกิจของประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เนื่องจากกฎหมายว่าด้วยการ
สํานักคุงานคณะกรรมการกฤษฎี
้มครองและสงวนป่าทีก่ใช้า บังคับอยู่ มีวสํิธานัีกการไม่ รัดกุมเหมาะสมต้อกงเสี
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ยเวลาดําเนิสํนาการเป็ นเวลานาน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จึงจะประกาศกําหนดเป็นป่าสงวนหรือเป็นป่าคุ้มครองได้ เป็นเหตุให้บุคคลบางจําพวกฉวยโอกาส
ทําลายป่าได้กว้างขวางยิ ่งขึ้น นอกจากนั้น ได้กกาําหนดโทษผู้ฝสํ่าาฝืนันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ไว้ไม่เหมาะสมกับกาลสมั กา ย ผู้กระทํา
ผิดไม่เข็ดหลาบเป็นช่องทางให้มีการบุกรุกทําลายป่ามากขึ้น รัฐบาลจึงเห็นเป็นการจําเป็นอันรีบด่วนที่
สํานักจะต้ องดําเนินการปรับกปรุา งกฎหมายเรืสํ่อานังนีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้เสียใหม่ เพื่อให้สามารถดํ
กา าเนินการคุสํ้มาครองป้ องกัน เพื่อ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รักษาไว้ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่าของชาติ และเพื่อมิให้อาชีพเกษตรกรรมของประชาชนส่วน
ใหญ่และเศรษฐกิสํจาของประเทศถู
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กกระทบกระเทือนจากผลของการทํ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าลายป่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๒๓๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่บทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับ
สํานักการกํ าหนดโทษตามกฎหมายว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าด้วยป่สําานัสงวนแห่ งชาติไม่เหมาะสมกั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บสภาวการณ์สํานัปกังานคณะกรรมการกฤษฎี
จจุบัน สมควร กา
แก้ไขเพิ่มเติมอัตราโทษให้สูงขึ้น และโดยที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมอัตราโทษตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้
ให้สูงขึ้นด้วย สมควรแก้ ไขเพิ่มเติมอัตราโทษให้กาสอดคล้องกันสําจึนังกจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าเป็นต้องตราพระราชบักาญญัตินี้ขึ้น
สํานักพระราชบั ญญัติป่าสงวนแห่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งชาติ (ฉบับสํทีานั่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๘๓๘
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐ บทบัญญัติมาตรา ๑๖ และมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวน
สํานักแห่ งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ ซึก่งาแก้ไขเพิ่มเติมสํโดยพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ญญัตินี้ ไม่กระทบกระเทื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อนการอนุ ญาตที่บุคคล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ใดได้รับก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่รัฐบาลมีนโยบายที่จะช่วยเหลือ
สํานักราษฎรที ่มีความจําเป็นกในการครองชี
งานคณะกรรมการกฤษฎี า พสํสามารถเข้ าทํากินในเขตป่กาาสงวนแห่งชาติสํไาด้นัโกดยไม่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี เดือดร้อน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และโดยมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งจึงได้แก้ไขกฎหมายให้ทางราชการมีอํานาจอนุญาตให้บุคคลเข้าทํา
ประโยชน์หรืออยูสํา่อนัาศั ยในเขตป่าสงวนแห่ งกชาติ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ไ ด้ เป็ น คราว
สํานักๆงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
กา โดย
กําหนดว่าในระยะสั้นอันเป็นการช่วยเหลือชั่วคราวตามความจําเป็น อนุญาตได้คราวละไม่เกินห้าปี
สํานักนอกจากนั ้นได้แก้ไขบทบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญ ญั ติอื่น ๆสําทีนั่ ยกังงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่เหมาะสมกับสภาพความเป็ กา นจริงสํและสะดวกแก่ การ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๗
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๙๖/ตอนที่ ๖๔/ฉบับพิเศษ หน้า ๑๔/๒๘ เมษายน ๒๕๒๒
๓๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาจจานุเบกษา เล่สํมานั๑๐๒/ตอนที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ราชกิ ่ ๑๒๔/ฉบับพิเศษกาหน้า ๑/๑๑ กันสํยายน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๕๒๘ กา
- ๑๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ปฏิบัติราชการ เช่น อนุญาตให้ทางราชการและองค์การของรัฐใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ


สํานักเป็ นการชั่วคราวได้โดยคล่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาองตัวยิ่งขึ้น สํจึางนัจํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นต้องตราพระราชบักญาญัตินี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

*พระราชกฤษฎีสํกานัาโอนกรมป่ า ไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์


กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ไปเป็ น กรมป่ า ไม้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กระทรวง
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และปรับปรุงอํานาจหน้าที่และกิจการของกรมทรัพยากรทาง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทะเลและชายฝั่ ง กรมป่ า ไม้ และกรมอุ ท ยานแห่ ง ชาติ สั ต ว์ ป่ า และพั น ธุ์ พื ช กระทรวง
๓๙
ทรัพยากรธรรมชาติ
สํานัแกละสิ ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๔๖
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๐ โดยผลของบทบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ญญัติแห่งมาตรา ๒๓๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วรรคห้า ของรั
สํานักฐงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธรรมนูญแห่ง กา
ราชอาณาจักรไทย พระราชกฤษฎีกานี้มีผลเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกบทบัญญัติในกฎหมาย
ดังนี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) ในพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ ซึ่งถูกแก้ไขเพิ่มเติมโดยผลของ
สํานักพระราชกฤษฎี กาแก้ไขบทบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัติให้สอดคล้ องกับการโอนอํานาจหน้กาาที่ของส่วนราชการให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เป็นไปตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๕ ให้แก้ไขคําว่า “กรมอุทยาน
แห่งชาติ สัตว์ป่าสําและพั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นธุ์พืช” เป็น “กรมป่าไม้” และคําสํว่าานัก“อธิ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า
และพันธุ์พืช” เป็น “อธิบดีกรมป่าไม้”สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

หมายเหตุ :- เหตุสํผาลในการประกาศใช้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีพระราชกฤษฎี กา กาฉบับสํนีานั้ คืกงานคณะกรรมการกฤษฎี
อ เนื่องจากพระราชบัญกาญัติปรับปรุง
กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ และพระราชกฤษฎีกาโอนกิจการบริหารและอํานาจหน้าที่ของ
สํานักส่งานคณะกรรมการกฤษฎี
วนราชการให้เป็นไปตามพระราชบั
กา ญสํญัานัตกิปงานคณะกรรมการกฤษฎี
รับปรุงกระทรวง ทบวง กา กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ได้กําหนดให้กรมป่าไม้เป็นส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และให้กรมอุทยาน
แห่งชาติ สัตว์ป่า สํและพั นธุ์พืชเป็นส่วนราชการในสั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งกัดกระทรวงทรั พยากรธรรมชาติและสิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งแวดล้อม
ทําให้เกิดปัญหาการบริหาร ทั้งในด้านนโยบาย วิชาการ บุคลากร และการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้ง
สํานักเป็ นเหตุให้ระบบการบริกาหารงานและการบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี งคับใช้กฎหมายขาดประสิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ท ธิ ภาพ สําดันังกนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้น เพื่อให้การ กา
บริ ห ารจั ด การทรั พ ยากรป่ า ไม้ เ ป็ น ไปตามวั ต ถุ ป ระสงค์ ใ นการบู ร ณาการตามกลุ่ ม ภารกิ จ ด้ า น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทรัพยากรธรรมชาติและนโยบายของรัฐบาล สมควรโอนกรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สํานักพร้ อมทั้งบรรดากิจการ กอําานาจหน้าที่ ทรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัพกย์งานคณะกรรมการกฤษฎี
สิน งบประมาณ หนี้ สิกทาธิ ภาระผูกพันสําข้นัากราชการ ลูกจ้าง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตําแหน่งและอัตรากําลัง ไปเป็นกรมป่าไม้ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ
สมควรที่จะได้ปรัสํบาปรุนักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
อํานาจหน้าที่และกิจการของกรมป่
กา าไม้
สํานัและกรมอุ ทยานแห่งชาติกสัา ตว์ป่า และ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
พันธุ์พืช รวมทั้งโอนอํานาจหน้าที่และกิจการของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับ
สํานักอุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่ กา างทอง ไปเป็ สํานนัของกรมอุ ทยานแห่งชาติกาสัตว์ป่า และพัสํานนัธุก์พงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ืช เพื่อให้การ กา
บริ หารจัดการทรั พยากรป่าไม้ สั ตว์ ป่าและพันธุ์พืชเป็ นไปอย่างมีประสิท ธิภาพ และมีขอบเขตที่
รับผิดชอบอย่างชัสํดานัเจน นอกจากนี้ สมควรแก้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาไขการใช้อํานาจของรั ฐมนตรีและการใช้กอาํานาจหน้าที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตามกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมป่าไม้ และกรม
สํานักอุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทยานแห่งชาติ สัตว์ป่ากาและพันธุ์พืช สํให้านัสกอดคล้ องกับการดําเนินการดั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งกล่าวด้วยสํานัจึกงจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าเป็นต้องตรา กา
พระราชกฤษฎีกานี ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๓๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาจจานุเบกษา เล่สํมานั๑๒๐/ตอนที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กันยายน ๒๕๔๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิ ่ ๙๓ ก/หน้า ๖/๓๐
- ๒๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙๔๐


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นุเบกษาเป็นต้นไปสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๙ การประกาศกําหนดบริเวณให้ใช้พื้นที่ตามมาตรา ๑๓ ทวิ การอนุญาต
ตามมาตรา ๑๖ และมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาญญัติป่าสงวนแห่
สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ ซึ่งได้กาออกให้ก่อน
วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ใช้ได้ต่อไปโดยให้ถือว่าเป็นการประกาศกําหนดบริเวณให้ใช้พื้นที่
สํานักและการอนุ ญ าตตามพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญ ญัสําตนัิ ปกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ า สงวนแห่ ง ชาติ พ.ศ.กา ๒๕๐๗ ซึ่ งสํแก้
านัไกขเพิ ่ ม เติ ม โดย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๐ ให้คณะกรรมการสําหรับป่าสงวนแห่งชาติตามพระราชบัญญัติป่าสงวน
สํานักแห่ งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ ซึกา่งดํารงตําแหน่สํงาอยู
งานคณะกรรมการกฤษฎี นัก่ใงานคณะกรรมการกฤษฎี
นวันก่อนวันที่พระราชบั
กา ญญัตินี้ใช้บังสํคัาบนักปฏิ บัติหน้าที่ไป
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พลางก่อนจนกว่าจะได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติประจําจังหวัด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามพระราชบัญญั ติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ ซึ่งแก้ไสํขเพิ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ให้
ดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวันสํนัานับกแต่งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วันที่พระราชบัญญัตินกี้ใาช้บังคับ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๑ ในวาระเริ่มแรกให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา คณะกรรมการพิ จารณาการใช้ประโยชน์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ในเขตป่า
สงวนแห่งชาติ ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อธิบดีกรมทรัพยากร
สํานักทางทะเลและชายฝั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่ง อธิกาบดีกรมทรัพยากรธรณี อธิบดีกรมป่าไม้ อธิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บดีกรมอุทยานแห่ งชาติ สัตว์ป่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และพั น ธุ์ พื ช ผู้ แ ทนกระทรวงกลาโหม ผู้ แ ทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้ แ ทน
กระทรวงมหาดไทย สํานักปฏิ บัติหน้าที่ไปพลางก่กอา นจนกว่าจะมีสํากนัารแต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี งตั้งกรรมการผู้ทรงคุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ณ วุฒิตาม
มาตรา ๑๓/๒ แห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ ป่ า สงวนแห่ ง ชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ ซึ่ ง แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม โดย
สํานักพระราชบั ญญัตินี้ ทั้งนีก้ าให้ดําเนินการให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักแงานคณะกรรมการกฤษฎี
ล้วเสร็จภายในหกสิบกวัานนับแต่วันที่พสําระราชบั ญญัตินี้ใช้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา ๒๒ บรรดาคํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากขอใช้ พื้นที่ในเขตป่ าสงวนแห่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง ชาติ ข องส่
สํานัวกนราชการหรื อ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
องค์การของรัฐ คําขออนุญาตเข้าทําประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และคําขออนุญาต
ทํ า การปลู ก สร้ าสํงสวนป่ า หรื อ ปลู ก ไม้ ยื น ต้กนา ภายในเขตป่สําานัสงวนแห่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ง ชาติ ที่ ไ ด้ ยื่ นกไว้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ก่ อ นวั น ที่
พระราชบั ญ ญั ติ นี้ ใ ช้ บั ง คั บ และยั ง อยู่ ใ นระหว่ า งการพิ จ ารณา ให้ ถื อ ว่ า เป็ น คํ า ขออนุ ญ าตตาม
สํานักพระราชบั ญญัติป่าสงวนแห่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งชาติ พ.ศ.สํา๒๕๐๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัสํตานัินกี้ และกรณี คําขอ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ดังกล่าวมีข้อแตกต่างในสาระสําคัญไปจากคําขออนุญาตตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.
๒๕๐๗ ซึ่งแก้ไขเพิ สํา่นัมกเติงานคณะกรรมการกฤษฎี
มโดยพระราชบัญญัตกินาี้ ให้พนักงานเจ้ สํานัากหน้ าที่ผู้รับคําขอมีอํานาจสั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งให้แก้ไข
เพิ่มเติม หรือสั่งเรียกหลักฐานประกอบการพิจารณาเพิ่มเติมได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๔๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาจจานุเบกษา เล่สํมานั๑๓๓/ตอนที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พฤษภาคม สํ๒๕๕๙
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิ ่ ๔๖ ก/หน้า ๑๒/๒๔
- ๒๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๒๓ บรรดากฎกระทรวง ประกาศ ข้อกํ าหนด หรือระเบียบที่ ออกตาม


สํานักพระราชบั ญญัติป่าสงวนแห่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งชาติ พ.ศ.สํ๒๕๐๗ ที่ใช้บังคับอยู่ในวันกก่าอนวันที่พระราชบั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักญงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญัตินี้ใช้บังคับ กา
ให้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.
๒๕๐๗ ซึ่งแก้ไขเพิ สํานั่มกเติงานคณะกรรมการกฤษฎี
มโดยพระราชบัญญัตกินาี้ จนกว่าจะมีสํกานัฎกระทรวง ประกาศ ข้อกกําาหนด หรือ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ระเบียบที่ออกตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นี้ใช้บังคับ
สํการดํ าเนินการออกกฎกระทรวง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ประกาศสําข้นัอกกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนด หรือระเบียบตามวรรคหนึ
กา ่ง
ให้ดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.
สํานัก๒๕๐๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติกมาโดยพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สําญ
นักญังานคณะกรรมการกฤษฎี
ตินี้ใช้บังคับ หากไม่สกามารถดํ
า าเนินสํการได้ ให้รัฐมนตรี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รายงานเหตุผลที่ไม่อาจดําเนินการได้ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๔ ให้ รั ฐ มนตรี ว่ า การกระทรวงทรั พ ยากรธรรมชาติ แ ละสิ่ ง แวดล้ อ ม
สํานักรังานคณะกรรมการกฤษฎี
กษาการตามพระราชบักญา ญัตินี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

หมายเหตุ :- เหตุสําผนัลในการประกาศใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญั ติฉ บัสํบานันีก้ งานคณะกรรมการกฤษฎี
คือ โดยที่พระราชบัญกญัา ติป่าสงวน
แห่ ง ชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ ได้ ใ ช้ บั ง คั บ มาเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
น เวลานาน ทํ า ให้ ไ ม่ เ หมาะสมกั บ สภาพการณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ท างด้ า น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งในปัจจุบันมีการทําลายหรือเป็นเหตุให้เกิดการทําลาย
หรือทําให้สูญหายหรื สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
เสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติกา ในเขตป่
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
สงวนแห่งชาติเพิ่มมากขึ กา ้น ดังนั้น
สมควรกําหนดมาตรการในการคุ้มครอง ป้องกัน และบํ ารุงรักษาไว้ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติ และ
สํานักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดให้มีการบริหารจักาดการทรัพยากรธรรมชาติ อย่างเป็นระบบและเกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดประโยชน์ สํานัตก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
ส่วนรวม โดย กา
กําหนดให้มีคณะกรรมการควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติประจําจังหวัด เพื่อกําหนดมาตรการที่
จํ า เป็ น ในการควบคุสํานักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดู แ ล การส่ ง เสริ ม การปลู
กา ก ป่ า และการฟื ้ น ฟู ส ภาพป่ า สงวนแห่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาง ชาติ และ
กําหนดให้มีคณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อเสนอแนะมาตรการ
สํานักและแนวทางในการใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎีปกระโยชน์ า ในเขตป่สํานัากสงวนแห่ งชาติ ในการนีก้าเพื่อให้การบังสํคัานับกใช้งานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กฎหมายเกิด กา
ประสิทธิภาพสูงสุด ได้กําหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอํานาจยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่ได้มาหรือได้ใช้ใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การกระทําความผิดหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าได้ใช้ในการกระทําความผิด และปรับปรุงบทบัญญัติ
สํานักเกี ่ ย วกั บ บทกํ า หนดโทษ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อั ต ราค่ า ธรรมเนี ย ม ค่ า ภาคหลวง และค่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา า บํ า รุ ง ป่ สําานัให้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ส อดคล้ อ งกั บ กา
สภาพการณ์ในปัจจุบัน จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


- ๒๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พรพิมล/แก้ไข


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกปัาญญา/แก้ไข
๒๙ มิถนุ ายน ๒๕๕๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อุดมการณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา /ปรับปรุง
๑๗ มกราคม ๒๕๕๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วิชพงษ์/ตรวจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๑๘ มกราคม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๖

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา วิศนี/เพิ่มเติม


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

You might also like