You are on page 1of 6

 

แกะโดย...หมูยอบานผือ 9x ^+^  
 
กะ แหนมตุมจิ๋วกาฬสินธุ 8x ^^ 
 
พรูฟโดย โหนง 32 หนุมปกธงชัย  ^‐^ 
เกาะแกะ แงะงัด ขัดเกลาเครื่องอัดเสียง เรื่อง ทูเมอร อิมมูโนโลจี้ (Tumor immunology)

ขณะนี้เวลา 22.22 น. (แอบเลือกเวลาแกะอีกตะหาก) กับอากาศอันหนาวเย็นยะเยือก(สั่นๆ) กะใจดวงเหงาๆ นั่งอยูขางๆ หนาตาง มองออกไปทามกลางหมูดาว


(ที่ไมรูวาอยูไหน) พลางลดสายตาทั้งสองลงมาจับจองอยูที่หนาจอโนตบุค ทันใดนั้น ก็คิดไดวา “นัง่ ทําอะไรอยูเนี่ย เคาใชใหมาแกะเทป ไมใชมานั่งดืม่ ด่ํากับ
บรรยากาศยามค่ําคืนของกังสดาล ไรสาระ” ไปอาบนามดีกวา.......................................................................22.40 น. โอเคเริม่ ๆๆ  

อะแฮม (กระแอม 1 ที) เริม่ จาก การทีอ่ าจารยไมยอมหยุดใหไปพัก(กลามาก) แลวก็ถามวา มีใครบริจาคเลือด(ๆ)??? มีใครบริจาครางกาย??? มี
ใครบริจาคอวัยวะรึปลาว???...............ตอเลยเนาะ??? (ถามอีกละ)...วันนี้จะมีงาน presentation (อ. บอก) Immuno หนิมันตองอานบอยๆแลวก็ทบทวน
(เกี่ยวกันกะ presentation???) ละก็ยังบอกอีกวา บางคนหนิเรียนไปแลวยังไมรจู ักเลยวา complement คืออะไร....(เกิดเสียงงึมงัมๆๆ ในเทป)...(สอน
เถอะคราฟฟฟฟฟฟ)...(มาละๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ)...เรื่อง tumor เนี่ย เราก็ตองรูวา cancer มันเปนยังไง Antigen ตอ tumor  มี
อะไรบาง สวน immune response ก็เรื่องเดิมๆ พวก cytokine เนี่ย....อาวเฮยแบตเครื่องอัดหมด แลวกรุจะแกะอะไร
เนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย................................หาอันใหมก็ไดวา 

  ตอนนี้ ตี 2 คนพรูฟก็กะลังคุยกะรูมเมท รูมเมทมันอยากมี –ฟ- ใครมีจิตศรัทธา ก็บริจาคหนังสือพิชติ ใจสาวให

เริ่มอยางจริงจัง...cancer นี่พอ dissect ออกมา มองดูมันจะเหมือนปู มีขาเยอะๆๆๆๆ


(เหมือนมั้ย) โอเช ตอมามาทบทวนเรื่องคําศัพทกันเลย เริ่มๆๆ 

‐ Mutagens คือ สารใดก็ตามที่ทําใหเกิดการ mutate เกิดการ


เปลี่ยนแปลงไป อาจจะยังไมถึงขั้นเปนราเม็ง เอย มะเร็ง แตมีแนวโนมถาถูกกระตุนซ้ํา  จะทําใหเกิด
การดื้อและเปลี่ยนเปน carcinomer ได 
‐ Carcinogens มีความสามารถกระตุนเซลลแลวทําใหเกิดการเปลี่ยนแปลงกลายเปนเซลลมะเร็งได 
พวกนี้จัดเปนสารเคมี 
‐ Oncogenic  viruses ไวรัสที่สามารถกระตุนเซลลใหเปลี่ยนแปลงเปนเซลลมะเร็งได เนื่องจากมันจะฉีด
onco gene เขาไปใน genome ของ host  ทําใหเซลลสามารถแบงตัวตอไปไดเรื่อยๆ ซึ่งจริงๆในตัว
คนเราก็มีความเสี่ยงที่จะเปนมะเร็งเพราะเรามี...มี proto‐onco gene ซึ่งจริงๆ proto‐onco gene 
มันจะควบคุม homeostasis ในการแบงเซลลใหเปนไปอยางปกติ แตถามันเกิด mutate ไปอาจ
เนื่องจากสารพวก mutagen หรือ carcinogen ก็จะทําใหการควบคุมเสียไป ทําใหเกิดเปนมะเร็ง และ
ในขณะเดียวกันเราก็จะมี gene ที่คอยควบคุมใหเซลลมีการแบงตัวอยางปกติ คือ tumor 
suppressor gene ซึ่งถามันไมสามารถทํางานไดก็จะทําใหมีโอกาสเกิดมะเร็งไดเชนกันนนนน กึ๋ยยยส 

เกร็ดเล็กเกร็ดนอย  ถาอยากสูบบุหรี่ใหปลอดภัยขอใหสูบกนกรองนะ อนึ่ง ไอครีมกันแดดหนะที่มันบอกวาปองกัน


มะเร็งจากรังสียูวีอะ แตจริงๆ อาจเปนตัวมันเองนั่นแหละที่ทําใหเกิดมะเร็งได..เพื่อนๆฮือฮากันใหญ... (อ. แอบบอก) 
สไลดตอมา บอกวา cancer นี่มันเปนโรคทางพันธุกรรม(แลว อ. ก็บอกวาอาจเปนเพราะวาคนเรา อยูใน
ครอบครัว วงศตระกูลเดียวกัน อาจไดรับสิ่งแวดลอมที่เหมือนๆกันมั้งเลยทําใหอาจเกิดมะเร็งไดเหมือนๆกัน) ทําให
เกิดการเปลี่ยนแปลงของ genome ซึ่งเกี่ยวของกับการ mutate ของ DNA  
  เรามาสามารถเรียกพฤติกรรมของมะเร็งไดจากความสามารถของมัน ซึ่งถาเปนแบบออนๆ ก็จะเรียกวา
Benign tumor  ซึ่งจะเปนกอนเนื้องอก มี capsule หุม ไมกระจายตัวไปยังเนื้อเยื่ออื่นๆขางเคียง แตถาเปน
malignant tumor มันจะสามารถกระจายตัวไปยังเนื้อเยื่ออื่นที่อยูขางเคียง หรือไปเจริญเติบโตในที่อื่นๆไดโดย
อาศัยทางหลอดเลือดและหลอดน้ําเหลือง หรือไปกดเบียดอวัยวะที่สําคัญ 
 

ตารางเปรียบเทียบ เซลลปกติกะเซลลมะเร็งนะ 

เซลลปกติ เซลลมะเร็ง
‐ เลี้ยงไปซักพักมันก็ตายตามธรรมชาติของมัน (คือมัน ‐เลี้ยงไปไดเรื่อยๆ แบงตัวไดตลอด เพราะมันสามารถ
มีการ Apoptosis) เพราะมันไมมี enz. Telomerase  สราง telomerase ได และไมเกิดกระบวนการ
  Apoptosis 
‐ กระตุนใหเกิดการเจริญไดโดยใช growth factor ‐ สามารถแบงตัวไดเองโดยไมสามารถควบคุมได
‐ มีการตอบสนองตอ cell contact inhibition  ‐ไมตอบสนองตอ cell contact inhibition 
‐มีการสราง blood vessels เขาไปเลี้ยงตัวเองได
‐สามารถกระจายตัวไปยังเนื้อเยื่ออื่นๆได
 

  การเรียกชื่อมะเร็งตามเนื้อเยื่อที่เปน origin ของมัน 
‐ Carcinomas เกิดกับ epithelial cell 
‐ Leukemias เกิดกับเลือด 
‐ Lymphomas เกิดกับน้ําเหลือง หรือ lymph node 
‐ Sacromas  เกิดกับ connective tissue เชน กระดูก และ กลามเนื้อ

สาเหตุของการเกิดมะเร็ง 
‐ การเปลี่ยนแปลงไปของ proto‐oncogene  
‐ การเกิด point mutation สงผลตอการ replication ของ gene 
‐ มี translocation ของ gene 
‐ การติดเชื้อไวรัสกลุม retro‐virus 
‐ ความผิดปกติของ tumor suppressor gene ที่คอยควบคุมไมใหเกิด tumor เชน p53 ที ่ (อาจเกิด
จากการtranslocation การเกิด point mutation ) 
พูดถึง tumor ก็อาจจะคิดวาเปนกอนเนื้องอก แตเราตองดู behavior ของมันอีกทีวาเปน benign หรือ
malignant ทั้งหมดก็เรียก tumor เหมือนกัน tumor เกิดขึ้นอาจเปนของเกาที่โตขึ้น หรือเปนของใหมทั้งหมดก็
ได แลวมันก็จะมี antigen ซึ่งอาจเปน antigen ที่เกิดขึ้นใหมที่เรียกวา neo‐antigen หรือเปน antigen ที่มีเยอะ
เกินไปจนกลายเปนสิ่งผิดปกติ 
เฮอ..........เหนื่อยจังเลย......ปวดหลัง......ฟงก็ไมออก........ปวดใจ ในชีทก็มีไมครบตามที่อาจารยสอน.......พักผอนแซวคนเลนๆดีกวา เพื่อ
ความสะจายยยยย 555555+                                                                                                             ‐ แซวแรก แหลงขาวจาก น.ส.
ฮ. สาย 9x เผย นาย ป. สาย 10x ไปนอนคางแรมหอแพทย 2 (มั้ง) ตื่นมาตอนเชาพบอาการมีจ้ําแดงๆตามลําคอ ผูเชี่ยวชาญคาด
เกิดจากน้ําเหลืองของสิ่งลึกลับ 22x วอนเจาตัวชวยมาแถลงดวน  
‐ แซวสอง ดวยความเปนหวง วอนนาย บ. สาย 23x อยาโหมงลูกบอลมาก เดี๋ยวดานหนาไปหมดจะหาวาไมเตือน  
‐ แซวสาม สาวแอมเผย นองเตน loose my breath ไมแรงพอ ย้ําของจริงมาดู med35 ตองมีรูดเกาอี้ดวย...กึ๋ย...

Tumor antigens มี 2 ชนิด 

1 Tumor specific antigens (TSA)  เปน antigen ใหมที่ไมเคยเกิดขึ้นในรางกายมากอน พบเฉพาะในเซลลมะเร็ง


2 Tumor associated antigens(TAA) เปน antigen ที่เคยเปนแอนติเจนที่ปกติแตมีปริมาณมากขึ้นจนผิดปกติ
หรือเปน antigen ปกติที่ควรจะมีในปริมาณนอยๆ แตกลับพบมากผิดปกติ เชน onco‐fetal antigen ที่เคยตรวจ
 

พบในระยะ embryo หรือ fetus ซึ่งพอโตขึ้นมันจะลดปริมาณลง แตถาตรวจพบเพิ่มขึ้นในขณะเปน adult ก็จะเปน


ขอบงชี้วาอาจจะเกิดมะเร็งขึ้นได สวนพวกที่เกิดจากเชื้อไวรัสก็จะสามารถตรวจพบ antigen ของไวรัสไดโดยตรง 
‐TATA (Tumor associated transplantation antigen) เปน antigen ที่เกิดจากการปลูกถายอวัยวะแลวเกิดการ
rejection จัดเปน TAA 

‐normal antigen เดิมที่เกิดการ over expression มากเกินไปก็
จัดเปน TAA  
‐ Tumor marker เปนตัวที่เอามาใชติดตามดูวาเปนมะเร็งมั้ยโดยมีการ
เจาะเลือดออกมาตรวจและใชในการติดตามผลการรักษาวาไดผลมั้ย
มันหายไปหรือหนีไปเกิดที่ใหมหรือปลาว หวาว หวาว หวาว หวาว ซึ่ง
จริงๆแลว tumor marker มันก็คือ onco‐fetal antigen  เชน α keto 
protein ซึ่งมันจะมีความสัมพันธกับมะเร็งตับ, TGA มีความสัมพันธ
กับมะเร็งลําไส  
การตอบสนองของ immune ตอ tumor โดยปกติจะมีระบบ
ติดตามที่เรียกวา immuno surveillance เพราะวาบางคนนี่ตลอดอายุ
กวารอยป ไมเคยมี tumor เลยแสดงวาเคาตองมีระบบ immune surveillance ดีเพราะวาเมื่อไหรที่มี antigen 
แปลกปลอมเขามา มันก็จะโดนกําจัดไป แบบพวก TSA พวก TAA อะไรแบบเนี้ย แตถารางกายไมสามารถ detect 
antigen เองได ก็ตองมักเจาะเลือดออกมาตรวจ  

รางกายของเราเนี่ยก็จะเจอ tumor อยูไดเรื่อยๆ แสดงวา ระบบ tumor immune surveillance ของเรา


มันไมดี     ตัวTumor เอง ก็จะมีวิธีการของมันที่จะตองอยูรอด เอาชนะตัวเจาของที่มันอยูได มันกอตองแบงตัวให
เร็วกวา normal cell ใหมันอวน มันใหญขึ้นไปทับ tissue อืน่ แลวมันก็จะมีการเปลี่ยนแปลง antigen ของตัวเอง
เพราะมันรูตัวเองมันเองจะถูกกําจัดถามันมี MHC‐I (ทําไม??? อันนี้ อ. ถาม แลวเกิดความเงียบงัน...ฟวๆๆๆๆ
...)....คําตอบก็คือ เพราะวา MHC‐I จะถูก CTL มา recognize...แลว CTL คืออาราย...อา มันก็คือ Cytotoxic T‐cell 
นั่นเอง หรือจะเรียกวา CD‐8 ซึ่งมันจะมา recognize MHC‐I แลวมันก็จะเจอ tumor antigen ที่แปลกปลอมแลว
มันก็จะสามารถกําจัดได ในทํานองเดียวกันถามันเห็น antigen ของไวรัส CTL มันก็จะเขาไปจัดการ ซึ่งเหตุนี้เองทํา
ให tumor คิดไดวาจะตองไมปรากฏ antigen ตัวนี้ออกมา โดยมีการสราง process ออกมาเยอะๆ เพื่อลดการ
สูญเสีย หรืออาจทําการสง antigen ออกมาขัดขวาง(antigen masking) พวกimmune cell หรือพวก antibody 
ตางๆ โดยใหจัดการแตพวก antigen ที่เปนตัวเล็กตัวนอยไป สวนตัวแมมันยังอยูที่ฮองกง(แฮๆๆ) หรือมี
blocking factor มา block การทํางานของ antibody ทําใหตัว tumor มันมีความทนทาน(tolerance)มากขึ้น ละก็
ยังมีการปลอยสารมากดการตอบสนองของเราอีก สรางgrowth factor มาเองอีก ทําใหแบงตัวไดเองอีก ยังไมพอ
ยังการมีสราง vessels เหมือนเสนทางลําเลียงขุมทรัพยเขาไปเลี้ยง
พรรคพวกของตัวเอง(ถาไมเขาใจก็ใหไปติดตามหาดูในขาว เอย )  
อื้ม อธิบายตามรูปนะ (ไมรูอยุไหนหรอก) tumor cell ที่ยัง
เดียงสาอยู โชวMHC แบบเต็มตัวเลย พอ CTL เจอเขาก็โดน CTL
จัดการทําให tumor cell เหลือนอยลง มันก็เลยมาประชุมกันวามัน
ตองลด MHC ลงนะ(ไมงั้นตายแน) ทําให CTL มาจัดการบางทีก็หา 
MHC ไมเจอทําใหมันไมถูกฆา แลวมันเขาไปควบคุมการ express 
 

ของ molecule ที่เหลืออยู หรือถามันไปที่อื่นไดมันก็จะไปเติบโตที่อื่นตอไป 


แอบแซว(ตอ) 
‐ เนื่องดวยวัน presentation นอง ไดบังเกิดเสียงเสียงหนึ่งทามกลางความเงียบงัน...กั๊ก!!!!...พลันหันไปมองพบ น.ส. ค (สาย 9x)
นั่งชมการแสดงของนอง จนเกาอี้หองพื้นเอียงหักกกกก ย้ํา หักกกก โอแมเจา 
‐ จากงาน presentation อีกครั้ง เพิ่งทราบมาวา Tell me เปนชื่อยี่หอ ปากกา ย้ํา ปากกา วอน เอ็ม ไกร...อะไรไมรุ นามสกุล
บัลลลลล....ออกมาชี้แจงดวน  
‐ วันลอยกระทงเห็นคูรักใหมๆหลายคู เฮอ นาสงสารคนเดินคนเดียวเปลาเปลี่ยวหัวใจนัก............. 
 
วิธีการที่ Tumor  cell จํากัด CTL 
  ปกติ tumor cell จะอยูใกลๆแหลงอาหาร(ตอนมันเกิดมาแรกๆ)จะไดมี nutrient เพราะตอนแรกมันยังไม
มี vessels เขามาเลี้ยง แลว lymphocyte เราปกติ CTL จะทําลายเซลลอื่นๆ มันจะมี Fas ligand(FasL) เปน
กระบวนการ apoptosis อันนึง(ขยายความ : บนผิว CD8 T cell มี Fas ligand ซึ่งเปนโมเลกุลที่สามารถจับได
กับ Fas ที่อยูบ นผิว target cell แลวเกิด การกระตุนให target cell นั้นตายแบบ apoptosis) แตถา CTL มัน
ทําลาย tumor cell ที่ยังไมมี fasL ของ CTL Æ tumor cell ก็จะถูกทําลาย Æมันก็จะปรับตัว Æปรากฏ fasL
ออกมาเอง Æ ไปจับกับFas บนผิวCTLที่จะเขามาทําลายมัน ÆทําใหเกิดกระบวนการApoptosisในCTL เหมือนกับ
เปนคําสั่งวา fas L ตองตายเองÆ tumor cell ก็โตขึ้น มัน control กันโดย molecule เล็กๆแคนั้น ถาไมเจอตัวนี้
CTL ทํางานไดตามปกติ แตถาเจอตัวนี้เมื่อไหร ก็เหมือนแบบเปาบุนจิ้นสั่งหามทําอะไรทั้งนั้น ก็ถูกฆา(ฆาตัวตาย)
โดยการ apoptosis แลว tumor ก็โตขึ้นเหมือนแบบยืมมือ CTL มาฆา CTL เองโดย tumor cell มันคิดไดไงเนี่ย
ฉลาดมากกกกกก แหลมเลยยยยยยยย(อานแลวงงๆกงกง มั้ย?? ขนาดฟงยังงงอะ) 
สวนการ response ก็เหมือน Immune response อื่นๆ เราก็มีระบบ cell  ระบบ HMI  เรามีระบบทุก
อยางที่ตอบสนองตอ tumor  ได แตทําไมเราไมชนะ เพราะ มันมีการหลบหลีกไดหลายแบบ tumor  cell   ที่
มันเปนกอนเราจะเรียกวา solid tumor  แตถาเปนพวกเซลลที่มัน circulate  ได เราจะเรียกวา fluid tumor  เชน
leukemia      solid tumor  เนี่ย กอนมันจะแนนมาก เซลลภูมิคุมกันของเราก็จะเขาไปไดลําบาก พรอมกันนั้น
solid tumor ก็จะสงอะไรออกมาปองกันเซลลที่จะเขาไป attack ซึ่งจะทําใหมันโตขึ้นเรื่อยๆ แตอยางไรก็ตาม เราก็
พยายามบอกวาเรามี CMI  ครบถวน พวก helper , suppressor , cytotoxic , lymphocyte  ซึ่งถาเราตรวจ
พวกนี้ภายในรางกายเราก็จะเจอวามี lymphokine ตอบสนองตอ tumor แตเราไมชนะ ก็เพราะ tumor มันมีการ
หลบหลีกไดหลายแบบ แตถาเราตรวจเจอวามี solid tumor วิธีการรักษาคือ ก็ตองตัดกอน tumor นั้นออก เปน
การลดปริมาณ tumor cell กอนแลวคอยรักษาโดยวิธีอื่น แลวคนไขที่เปน tumor ก็จะออนเปลี้ยเพลียแรงไปเอง
เพราะ tumor จะปลอยสารออกมาในรางกายเรา ซึ่งสารนั้นก็คือ tumor  necrosis factor ทําใหเราผอมแหงแรง
นอย(ฉะนั้น ใครอยากผอมนะ ก็ลองฉีด tumor necrosis factor นะๆๆๆ อ.แนะนํามา ...ดีมั้ย??? ) แลวอื่นๆก็ตอง
ดูวาจํานวน lymphocyte ผูปวยเปนไงบาง ณ ตําแหนงที่เกิด tumor ก็ไปดูวามีเซลลที่ถูกกระตุนเพิ่มจํานวนมาก
ขึ้นมั้ย อันนี้เปนทาง CMI(cellular mediated immune response) ตรงตําแหนงที่เปน tumor ที่เราอยากรูวาคน
คนนั้นตอบสนองตอ tumor ไดดีมั้ย เคาเรียกวาเปน regional immune reactivity สมมุติมีกอน tumor ตรงนี้
ตรง draining lymph node (คือ lymph node ที่ drain อยูแถวๆนั้นตอจาก tumor) ที่อยูขางเคียง เราตองไปดู
วาหนาตาเปนไง เอาเซลลมาดูวามีเซลลอยูใน lymph node มากนอยแคไหน เอาดูเปรียบเทียบได ถามีแตเนื้อเยื่อไม
มีเซลล แสดงวาการ response ไมดี แปลผลไดวา 5 years survival(แบบจะมีอายุอยูไดอีก 5 ปปามานนี้ มั้ง) คงจะ
ดูไมคอยดีเทาไหร นี่เปนการเปรียบเทียบแค draining lymph node จริงๆคนที่เปน tumor บางที detect ไดใน
ตอนที่เปนเยอะแลว..อึ๋ย 
 
 
 

HMI response 

ก็เหมือน immune response ชนิดอื่นๆ โดยจะมีมี immunoglobulin ชนิดตางๆที่ถูกสรางขึ้นมา ที่จะ


ทํางานได รวมทั้ง cytokines ตางๆ ในผูปวยอาจจะตรวจพบ specific antibody ตอ tumor แต antibody ของ
เราอาจจะเอาชนะ tumor ไมไดเพราะ tumor อาจจะสงแค antigen ตรงผิวๆของมันเพื่อมาบล็อกแอนติบอดี้เรา
ขอแอบแซวกอนละกัน อิอิ (แบบแซวไมเลือกเวลาและสถานที่) 
‐วันนึง วันนั้น ไดขาววาหนุม ข. แอบไมสบาย แตหายเร็วมาก คาดคงเปนเพราะดอกกุหลาบสีขาวที่ไดจากพี่คนนั้นรึปลาวววววว....หอมมั้ย....อิอิ 
‐ขอแสดงความยินดีกับนาย ต. คุณสมบัติประจําตัว “อวน เลน เ‐ย” ที่ลดน้ําหนักมาเหลือเลขสองหลักแลว ยังคงแต สาว ค. และนาย ก.ต. ที่ยังคง
เหนียวแนนกับหนวยตันเชนเดิมมมมมมมม 
‐น.ส. หม. สาย 16x ขาววาไปลอยกระทงกับหนุมบอย จริงเหรอออออ???? ไมไดไปลอยกะนองชายพี่กุกไกนะ!!!! 
 

(ตอ) สมมุติวากอน tumor ใหญ แตวามี antigen ที่ matching อยู พอแอนติบอดี้เขาไปก็จะจับไดแต


antigen ที่อยูรอบนอก แตตัวมันก็จะไมถูกกําจัดไป และแอนติบอดี้ของเรายังมี half life ตางๆ แถมยังสรางใหมได
ไมมากนักเพราะ immune response ของคนที่เปนที่เปน tumor ก็จะต่ําลงดวย ถึงจะตรวจเจอบางแตไมมีความ
แรงมากพอที่จะไปทําลาย tumor  
สารอื่นที่จะพอยับยั้ง tumor ไดก็จะมี interferon ที่ใหเขาไปเพื่อกระตุนให macrophage, NK cell,CTL
ทํางานไดดีขึ้น แตสารพวกนี้มันก็จะเปน pyrogen ถาใหในคนไขก็จะมี side effect เชน มีไข ออนเพลีย เบื่ออาหาร
เปนตน ตรวจในผูปวยก็จะเจอพวกนี้บาง แตไมเพียงพอที่ตอบสนองเทาไหร เพราะฉะนั้นการรักษานอกจากเจอ
solid tumor ที่ไหน การผาตัดจะมาเปนลําดับแรกในการรักษา(ตัดออกเลย555+) ยกเวนพวกที่เปน fluid tumor 
เชน leukemia ที่ผาไมได ตองอาศัยการรักษาแบบอื่น ก็จะมีแบบ active กะ passive immunotherapy  
 

โดย active ก็คือ พยายามใหผูปวยมี


ความตานทานขึ้น แลวจะทําไงใหเคามีภูมิตานทาน
ขึ้น...คิดๆๆๆๆๆ....อา ตองฉีดวัคซีนนั่นเอง นั่นคือ
แบบ active เนี่ย คือพยายามใหผูปวยมีภูมิตานทาน
ขึ้นมาเอง แลวจะทําไง จะสกัดเอา tumor specific 
antigen ออกมาแลวฉีดใหผูปวยมั้ย? ปจจุบันเคา
(เคานะไมใชเคา)อางวามี tumor vaccine แลว เชน
HVP vaccine (วัคซีนปองกันมะเร็งปากมดลูก เข็ม
ละ 7‐8 พันนูน มั้ง วาววว) อื่นๆก็ใหสิ่งเขาไป
กระตุน ใหรางกายตอบสนองไดดีขึ้น เวลาที่เราจะ
ฉีดวัคซีน เราก็อาจจะสกัดแยกเอา tumor cell 
ออกมา แลวฉีดเขาไปในรางกาย กระตุนใหเกิดการตอบสนอง หรือแยก tumor ออกมาแลวเลือกสรรแตสิ่งที่มี
ประโยชน มาผสมกับ dendritic cellภายนอกรางกาย  ซึ่ง dendritic cell ทําหนาที่เปน professional antigen 
presenting cell   เพราะวาอยากให dendritic cell  เจอ antigen กอน แลวจะ present  antigen  แลวคอยฉีดเขา
ไปในผูปวย หรือใชวิธีหลายๆแบบแยกเอาแลวก็เลือก virus นําจีโนมมันเขาไปในรางกายก็ได หรือพยายามแยกเอา
เซลลของคนคนนี้ละ เรียกวาเปน  adoptive cell trasfer คือเอาเซลลของผูปวยเอง แยกออกมาเลี้ยงจนมัน
กลายเปน dendritic cell โดยใส growth factor differentiation factor  ลงไปกระตุน immature dendritic cell 
ใหกลายเปน mature  เพื่อใหมนั ทํางานไดดียิ่งขึ้น  
 

สวนวิธีการ passive ก็ให antibody เขาไป


หรือให reagent อื่นๆเขาไป ที่นอกเหนือจากวิธีแรก
ถาเราเห็นเปนกอน tumor เราก็ผาตัดออก แลวก็ให
monoclonal antibody ตอ tumor นั้น 

หรือให cytotoxic reagent รวมกับสาร
อื่น เปน radioisotope 10 กับ antibody เขาไปแลว
ใหมันไปแผรังสีขางๆกอน tumor หรือให toxin ให
ยาÆคือ เรามาตัดตอเอาสวนที่ไมตองการออก
สมมุติเราไมตองการ fc part เพระมันเกะกะ เรา
อยากไดแต FAT… 
1. ก็จะมีตัวที่ตัดtumor สวนfc   สมมุติเปนแอนติบอดี้ปกติ เราก็รอวาเมื่อไหรมันจะมาจับ tumor 
เมื่อไหรจะเอาเซลลอื่นมาจับ fc แลวทําลาย  
2. หรือตัดตอเอา cytotoxin ติดเขาไปตรง FAT ก็มาจับกับ tumor cellÆcytotoxin ก็ทําลาย tumor 
cell  

3. หรือเราเอา isotope ติดเขาไปก็ได ก็เปนวิธีการตัดตอแอนติบอดี้ที่เราตองการ แตเราตองชัวรนะวา


แอนติบอดี้นี้เปน specific antibody ที่มาทําลาย tumor cell เทานั้น 
.....จบ....แบบงงๆๆ งงมั้ยเพื่อนผูอา น...ขนาดฟงหลายๆรอบยังงง เลยแกะออกมาไดแคนี้แหละ...แอบบน อ. หนะชอบพูด
อะไรซ้ําไปซ้ํามา แลวก็ไมติดตอกันขนาดหนัก...T_T” 

แอบแซวสงทายอีกรอบใหญๆๆๆ 
‐ บุคคลประวัติศาสตรคณะแพทย นาย ไนท (เลว) นักมวยคนแรกของคณะที่ขึ้นชก และเกือบลืมใสกระจับขึ้นเวที วิ้ววว นายสิต
นักมวยคนแรกของคณะที่สามารถชกจนครบยก วาวววว นายมุมิ นักมวยคนแรกของคณะที่ไดรับเหรียญรางวัล แหลมมากกกก 
‐ นาย จ. (ชอบถายรูป) แอบนอนหลับใน lab neuro โดน อ.มาปลุก ถึงกับสะดุง 
‐สาว พ.พ. ชื่อเลน ผ. วันลอยกระทงทําไมรีบเดินออกจากงานจัง สงสัยจะรีบไป RAD หรอ 
‐จาก lab immuno นาย ป. คนเดียวกับแซวแรกๆ ไดขาววาใชปากกาเจาะเลือดถึง 3 ครั้ง เลือดถึงออกนิดนึง(เบอร 4 ดวย)  
‐จากแลปเดียวกัน นาย ช. อดีตพิธีกรเชียร ใช lancet เจาะเลือดไปจนครบ 5 นิ้ว!!!! ทาทางนาสนุกมากกกกก  
‐ พอละๆๆขี้เกียจแซว และทายนี้ หากมีอะไรผิดพลาด ก็ขออภัยงามๆๆๆดวย อิอิ
 

You might also like