Professional Documents
Culture Documents
เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการฝึกด้วยน้าหนัก
ความหมายของการฝึกด้วยน้้าหนัก
ชนิดของการฝึกด้วยน้้าหนัก
1. แบบไอโซโทนิค (Isotonic)
เป็นการออกก้าลังกายโดยออกแรงต้านกับน้้าหนัก โดยการยกอุปกรณ์ขึ้นลง อุปกรณ์
ที่ใช้ได้แก่ บาร์เลล์ (Barball) และดรัมเบลล์ (Drumbell) ผู้ที่พัฒนาโปรแกรมนี้จนถูกน้าไปใช้อย่าง
แพร่หลาย คือ เดอลอร์ม (Derlorme) และวัตคินส์ (Watkins) หลักส้าคัญของโปรแกรมไอโซโทนิค คือ
การก้าหนดน้้าหนักจากความสามารถในการยกได้สูงสุด (Repetition Maximum = R.M.) และการ
ก้าหนดจ้านวนครั้งในการยกก่อนหมดแรงหรือความล้าจะเกิดขึ้น (ธวัช,2538:183 – 184)
2. แบบไอโซเมตริก (Isometric)
เป็นโปรแกรมที่ท้าให้กล้ามเนื้อหดตัวหรือท้างานกับแรงต้านทานที่อยู่กับที่เหมาะ
ส้าหรับการฝึกนักกีฬาหลายประเภทที่ต้องการความแข็งแรงและความอดทนแบบเกร็งกล้ามเนื้อ เช่น
กีฬายิมนาสติก เป็นต้น (ธวัช,2538 :185)
3. แบบไอโซคิเนติก (Isokinetric)
เป็นโปรแกรมที่ท้าให้กล้ามเนื้อมีความตึงตัวตลอด ช่วงการเคลื่อนไหวในความเร็ว
คงที่โดยอาศัยเครื่องมือที่ออกแบบพิเศษ เช่น นอติลุส (Nautilus) ไซเบก (Cybex) มินิยม (Mini –
gym) เป็นผลให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรง และอดทนมากยิ่งขึ้นนอกจ่กนั้นการฝึกแบบไอโซคิเนติคมี
ความปลอดภัย เหมาะสมส้าหรับทุกเพศทุกวัย (ธวัช,2538:185 – 186)
4. แบบเอกเซนตริก (Excentric)
เป็นโปรแกรมการสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจและ
นิยมจากนักกีฬา เนื่องจากช่วยเพิ่มความแข็งแรงได้ไม่มากนัก เมื่อเทียบกับการฝึกแบบไอโซโทนิค
และยังพบอีกว่าจะเกิดอาการกล้ามเนื้อระบมประมาณ 2 – 3 วัน ถ้าใช้การฝึกแบบเอกเซนตริกมาก
เกินไป เพราะกล้ามเนื้อเหยียดออกมาก (ธวัช,2538:186)
2
ผลจากการฝึกด้วยน้้าหนัก
ผลจากการฝึกด้วยน้้าหนักที่ผ่านมาเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า การฝึกด้วยน้้าหนัก
สามารถปรับปรุง เสริมสร้าง และรักษาความสมบรูณ์ของร่างกายไว้เป็นอย่างดี (Jackson,1985 : 234 –
237 ) สามารถแยกออกเป็นด้านได้ดังนี้
1.ผลของการฝึกด้วยน้้าหนักต่อการพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
ความแข็งแรง (strength) หมายถึงความสามารถของร่างกายในการท้างานต่อต้านกับ
แรงต้านทานความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เป็นสัดส่วนกับความกว้างหน้าตัดของกล้ามเนื้อดังนั้น
เพื่อที่จะท้าให้กล้ามเนื้อแข็งแรงจ้าเป็นต้องเพิ่มขนาดขึ้น กล้ามเนื้อสามารถเพิ่มขนาดขึ้นได้โดยการ
ท้างานต่อต้านแรงต้านทาน ซึ่งเกือบเท่าน้้าหนักสูงสุด ซึ่งกล้ามเนื้อส่วนนั้นสามารถยกได้และน้้าหนัก
ต้องเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียงกับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นจากการฝึกด้วยน้้าหนักเท่านั้น ผล
ที่เกิดจากการฝึกด้วยน้้าหนักที่เห็นได้ชัดคือ ความแข็งแรงและก้าลังที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วใน
ระยะแรกของการฝึกส่วนในระยะต่อไปจะเพิ่มน้อย (วิริยาและวรรณา,2528:67)
2.ผลของการฝึกด้วยน้้าหนักต่อการพัฒนาความอดทนของกล้ามเนื้อ
ความอดทนหมายถึง ความสามารถของกล้ามเนื้อที่จะทนท้างานอย่างหนักให้
ติดต่อกันเป็นเวลานานนั้น ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อด้วยการท้าซ้้ามาก ๆ แต่แรงต้านทาน
พอประมาณจะช่วยเพิ่มพูนความอดทนของกล้ามเนื้อ (วิริยา และวรรณา,2528 : 67)
3.ผลการฝึกยกน้้าหนักต่อความอดทน ในการท้างานของระบบหายใจและระบบ
ไหลเวียน
ที่ผ่านมาคนทั่วไปเชื่อว่า การฝึกด้วยน้้าหนักไม่มีผลต่อการพัฒนาความอดทนของ
ระบบหัวใจและหลอดเลือด แต่มีนยักวิจัยหลายท่านพบว่า การฝึกด้วยน้้าหนักแบบวงจร (CWT)
มีผลต่อการสร้างความอดทนของระบบหัวใจและหลอดเลือด (Berger, 1984 : 220)
ความแตกต่างระหว่างการฝึกด้วยน้้าหนักแบบวงจรกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งเสริมความ
อดทนของระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น การวิ่งเหยาะและการว่ายน้้า คือวิธีการท้างานของ
กล้ามเนื้อส้าหรับการวิ่งนั้นกล้ามเนื้อขาและสะโพกจะท้างานซ้้าแล้วซ้้าอีก แต่การฝึกด้วยน้้าหนักแบบ
วงจนนั้น กลุ่มกล้ามเนื้อที่แตกต่างกันจะท้างานสลับกัน เช่นเริ่มจากแขน ขา ล้าตัว เป็นต้น การท้างาน
ทั้งสองแบบนี้ ปริมาณโลหิตจะส่งไปยังหัวใจมากขึ้น เพื่อให้ท้างานได้เกินกว่าปกติ ประโยชน์ที่ได้
จากการฝึกด้วยน้้าหนักแบบ วงจรที่แตกต่างไปจากการวิ่งการกระโดดเชือกหรือ
ขี่จักรยาน คือ กล้ามเนื้อกลุ่มเดียวกันผลัดกันท้างานและยังให้ประโยชน์ที่แตกต่างจากการฝึกแบบ
อื่นๆ อีก 2 ประการ คือ กล้ามเนื้อใหญ่ ๆ ท้างาน และมีการพัฒนาความแข็งแรงพร้อมกับความอดทน
ซึ่งมีกิจกรรมจ้านวนไม่มากนักที่สร้างทั้งความอดทน และความแข็งแรง (กรวี, 2539 : 35)
3
4.ผลการฝึกด้วยน้้าหนักต่อการปรับปรุงความรวดเร็ว
ความเร็วมีความส้าคัญต่อความส้าเร็จในการประกอบกิจกรรมทุกประเภทเป็นอย่าง
มาก การฝึกหัดช่วยปรับปรุงเทคนิคและการประสานงาน และมีส่วนในการเพิ่มพูนความเร็วอย่างมี
นัยส้าคัญ จากการศึกษาพบว่าการฝึกยกน้้าหนักไม่ท้าให้ความเร็วลดลง ตรงกันข้ามท้าให้ความเร็ว
เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบที่ใช้ (วิริยา, 2528 : 67) การค่อย ๆ เสริมสร้างความแข็งแรงและก้าลังให้กับ
กล้ามเนื้อทีละเล็กละน้อย นับว่ามีความส้าคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการที่จะช่วยพัฒนาขีด
ความสามารถประสิทธิภาพด้านความเร็วในการเคลื่อนไหวให้กับนักกีฬาทุกประเภท ดังนั้น
โปรแกรมการฝึกยกน้้าหนัก จึงนับเป็นโปรแกรมการฝึกที่มีบทบาทส้าคัญยิ่งต่อการพัฒนาความเร็ว
(เจริญ, 2538 : 89)
5.ผลของการฝึกยกน้้าหนักในด้านของจิตใจ
ความรู้สึกมีผลต่อความสามารถในการเล่นกีฬาและกิจกรรมประเภทต่าง ๆ เป็นอย่าง
มาก นักกีฬาที่มีสมรรถภาพทางกายที่ดีย่อมมีความมั่นใจ (feeling of confidence) ในความสามารถของ
ตนเอง ผู้ฝึกสอนต้องพยายามสร้างความมั่นใจให้กับนักกีฬา การฝึกยกน้้าหนักช่วยเสรอมสร้างความ
แข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อและสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติทักษะต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ (วิริยา
และวรรณา, 2528 : 67-67)
จะเห็นว่าการฝึกด้วยน้้าหนักมิได้เป็นเหตุให้เสียเวลาเลย แต่ท้าให้มีสมรรถภาพดีขึ้น
การฝึกด้วยน้้าหนักจะเกิดประโยชน์อย่างไรบ้างนั้นขึ้นอยู่กับการใช้ท่าฝึก (type of exercise)
วิธีการปฏิบัติ การฝึกเป็นประจ้าและตัวผู้ฝึกเอง ในด้านการกีฬาก็เช่นเดียวกัน ความส้าเร็จในการเล่น
กีฬาส่วนใหญ่ ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกายและก้าลังของกล้ามเนื้อ นักกีฬาสามารถปรับปรุง
ท่าทางและประสิทธิภาพให้ดีขึ้นได้ โดยการเพิ่มพูนความแข็งแรงและก้าลังของกล้ามเนื้อการฝึกด้วย
น้้าหนักเป็นวิธีหนึ่งที่ท้าให้เกิดผลอย่างแท้จริงและรวดเร็ว (วิริยา และวรรณา, 2528:68)
หลักการฝึกด้วยน้้าหนัก