You are on page 1of 7

วัชรเฉทิกปรัชญาปารมิตาสูตร ตอนที่ 1

การประชุมของคณะสงฆ์

วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2553


เรียบเรียงโดย ชยธมฺโม ภิกขุ
ข้าพเจ้าได้สดับมาดังนี้ ว่า......สมัยหนึ่ งพระผู้
มีพระภาคเจ้าทรงประทับอยู่ เชตวนารม
วรวิหาร อุทยานของ อาถบิณฑกะเศรษฐี
ใกล้กรุง สาวัตถี พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์
จำานวน 1, 250 รูป วันหนึ่ งเมื่อได้เวลาออก
บิณฑบาตร พระพุทธองค์ก็ทรงครองผ้าไตร
จีวร ทรงบาตร เสด็จออกภิกขาจารในนคร
สาวัตถี ทรง -บิณฑบาตรไปตามลำาดับบ้าน
ตามหลักพระธรรมวินัยอันดีงาม เมื่อเสร็จ
กิจทรงเสด็จกลับที่ประทับ เพื่อฉัน
ภัตตาหาร เมื่อฉันเสร็จทรงปลดผ้าไตรจีวร
เก็บบาตร ชำาระพระบาท จัดเตรียม อาสนะ
แล้วเสด็จประทับนัง่ อย่.ู ...............
ตอบข้อถามของพระเถระ.....สุภูติ
ท่ามกลางหมู่สงฆ์ ท่าน สุภูติมหาเถระได้
ลุกขึ้นทรงจีวรเฉวียนบ่าคุกเข่าพนมมือด้วย
ความเคารพแล้วทูลถามพระพุทธองค์
ว่า......ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้านับเป็ นพระ
มหากรุณาที่คุณอย่างสูงสุดที่พระองค์ได้ทรง
ติดตามสัง่ สอนแนะนำาและเฝ้ าเอาใจใส่ใน
เหล่าโพธิสัตว์ท้ ังหลายอย่างดียิ่งมา
ตลอด......ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญหากกุลบุตร
- กุลธิดาปรารถณาจะทำาที่สุดแห่งกองทุกข์
บรรลุซึ่งวิมุตติภาวะ อันยิ่งเขาเหล่านั้นควร
ปฏิบต
ั ิตนเช่นไร? และเขาควรจะควบคุม
ความคิดปรุงแต่งของเขาอย่างไร
พระพุทธเจ้าข้า ? พระพุทธองค์ทรงตรัส
ตอบว่า.......ดีมากท่านสุภูติ.......ดังที่ท่าน
กล่าว ตถาคต ได้ติดตามสัง่ สอนแนะนำาและ
เฝ้ าเอาใจใส่ในเหล่าโพธิสัตว์ท้ ังหลายอย่างดี
ยิ่งมาตลอด เธอจงใส่ใจฟั งคำาของเรา เราจัก
แสดงแก่เธอสิ่งที่กุลบุตร - กุลธิดาผู้ปรารถ
ณาจะทำาที่สุดแห่งกองทุกข์บรรลุถึง วิมุตติ
ภาวะ อันยิ่งพึงปฏิบต
ั ิตนและเขาควรจะ
ควบคุมความคิดความปรุงแต่งของเขา
อย่างไร ? ท่านสุภูติทูลตอบ....ข้าแต่พระผู้มี
พระภาคเจ้าข้าพระองค์มีความปลาบปลื้ ม
ยินดีจะเฝ้ ารับฟั งอย่พ
ู ระพุทธเจ้าข้า............
คำาสอนที่แท้จริงของทางอันยิ่งใหญ่
พระพุทธองค์ทรงรับสัง่ ว่า....ท่านสุภูตติ
เหล่าปวงโพธิสัตว์ มหาสัตว์ท้ ังหลายควร
ฝึ กฝนจิตของตนดังนี้ ....สรรพสัตว์ท้ ังหลาย
ไม่ว่าจะเป็ นภูมิใด เกิดจากไข่ เกิดจากครรภ์
เกิดจากความชื้ นหรือแปลงรูปขึ้นมาเองก็ดี
มีรูปหรือไม่มีรูปก็ดี พวกที่ยังอยู่ในสถานะที่
ต้องใช้ความคิด(กามภพ)หรือไม่ต้องใช้ความ
คิด(รูปภพ)ก็ดี หรือพวกที่อยู่นอกเหนื อ
ความคิดโดยสิ้นเชิงแล้ว(อรูปภพ)ก็ดี เราจัก
แสดงธรรมอันเป็ นไปเพื่อความวิมุตติหลุด
พ้น เป็ นไปเพื่อนิ พพานอันยิ่ง แก่สรรพสัตว์
เหล่านั้นและเมื่อสรรพสัตว์ท้ ังหลายเหล่านั้น
อันไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ ได้บรรลุหลุดพ้น
แล้ว แต่โดยแท้จริงแล้ว หามีสัตว์เหล่าใด
บรรลุหลุดพ้นไม่
ทำาไม่ถึงเป็ นเช่นนั้น.....ท่านสุภูติ.....เพราะว่า
โพธิสัตว์ที่แท้จริงย่อมไม่ยึดติดอยู่กับความ
คิดเห็นเรื่องอัตตา ตัวตน บุคคล สัตว์ หรือ
ภพภูมิใด ๆ........
แม้บำาเพ็ญบุญกุศลการปฏิบัติก็ต้องมี
สัมพันธ์ด้วย
สุภูติ.....นอกจากนี้ การบำาเพ็ญทาน โพธิสัตว์
ก็มิควรยึดมัน
่ ถือมัน
่ กล่าวคือ.........เขาเหล่า
นั้นควรบำาเพ็ญทานโดยไม่ใส่ใจต่อ
ปรากฏการณ์ใด ๆ คือไม่ใส่ใจต่อ รูป รส
กลิ่น เสียง รส สัมผัสและธรรมมารมณ์ใด
ๆ ..สุภูติ..นี่ คือการบำาเพ็ญทานแบบไม่ยึด
มัน
่ ถือมัน
่ ที่โพธิสัตว์ท้ ังหลายควร
ดำาเนิ น......เพื่ออะไรเล่า ? เพราะการปฏิบัติ
แบบนี้ ผลบุญที่เกิดจะมากมายมหาศาลอย่าง
หาประมาณมิได้....สุภูติ...เธอคิดว่าอย่างไร ?
เธอสามารถวัดพื้ นที่ว่างทางด้านทิศตะวัน
ออกได้หรือไม่ ?....ไม่สามารถพระเจ้า
ข้า....ท่านสุภูติทูลตอบ.......สุภูติแล้วเธอ
สามารถวัดพื้ นที่ทางทิศเหนื อ ทิศใต้ ทิศ
ตะวันตกและทิศอื่น ๆ ทุกทิศทุกทางได้หรือ
ไม่ ?....ไม่สามารถพระเจ้าข้า....ท่านสุ
ภูต.ิ ..ทูลตอบ....นัน
่ แหละ....สุภูต.ิ ...บุญอัน
บังเกิดแก่โพธิสัตว์ผู้บำาเพ็ญทานโดยไม่ยึด
มัน
่ ถือมัน
่ ดังกล่าวมานั้นย่อมมีผลมากจนมี
อาจคณานับเช่นกัน....สุภูติ....โพธิสัตว์ท้ ัง
หลายพึงเพียรปฏิบัติ จิต ดังนี้ แล.........
หลักแห่งสัจจะสูงสุด
สุภูติ.....เธอคิดอย่างไร ? การร้จ
ู ัก ตถาคต
สามารถรู้โดยเห็นรูปลักษณ์ภายนอกได้หรือ
ไม่ ?...ไม่พระเจ้าข้า....ตถาคตไม่สามารถ
ร้จ
ู ักได้ด้วยการเห็นรูปลักษณ์ภายนอกได้
เพราะเหตุใด ?เพราะพระองค์เคยตรัสไว้ว่า
รูปลักษณ์ภายนอกโดยความจริงแล้ว หาใช่
รูปร่างที่แท้จริงไม่ .....พระพุทธองค์ทรงตรัส
ต่อไปว่า.....สุภูติ รูปลักษณ์ภายนอกทั้งหลาย
ล้วนเป็ นมายาบุคคลใดรู้แจ้งชัดว่า รูปลักษณ์
ทั้งปวงโดยความจริงแล้ว ไร้รูปลักษณ์
บุคคลนั้นได้ช่ ือว่าเห็นตถาคต...........จบตอน
ที่ 1.....วัชรเฉทิกปรัชญาปารมิตาสูตร

You might also like