Professional Documents
Culture Documents
งานมวลชน ๗ ขั้น
งานมวลชน ๗ ขั้น
้ ตอน
ช่วงเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม
ของทุกปี จะเป็ นวงรอบของการตรวจกิจกรรมต่าง ๆ
ในระดับสถานีตารวจ เพือ ่ จัดอันดับ ให้คะแนน ในระดับ บก. จนถึง
บช. ใครทีไ่ ด้คะแนนอันดับ 1 ก็จะได้รบั โล่
หรือใบประกาศฯ ถ่ายรูปกันไป ส่วนเรือ่ งแต่งตัง้
และเรือ
่ งขัน
้ นัน
้ ไม่เกีย่ ว 555
ชมส. หรือ
ชุมชนและมวลชนสัมพันธ์ เป็ นอีกหนึ่งกิจกรรมหลักทีท ่ ก
ุ สถานีตารวจ
จะต้องทาโดยมีงบประมาณจาก ตร.
ลงมาทีห ่ น่ วยในแต่ละปี ไม่น้อย ทัง้ เบี้ยเลี้ยงและน้ามัน เพือ ่ ให้เจ้าหน้
าทีต่ ารวจได้ใกล้ชด ิ กับชุมชน ประชาชนมากขึน ้ สามารถเข้าใจปัญหา
ความต้องการของพีน ่ ้องประชาชนในเรือ ่ งทีต
่ ารวจสามารถเข้าไปดาเ
นินการแก้ไขให้ได้อย่างเป็ นรูปธรรม โดยในยุค
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เป็ น ผบ.ตร. ได้ทาวีดที ศั น์
อธิบายถึงการดาเนินโครงการ ชมส. 7
ขัน
้ ตอน เพือ ่ ให้มค
ี วามเข้าใจและการปฏิบตั ท ิ เี่ ป็ นแนวทางเดียวกันทั่ว
ประเทศ โดยได้ดารานักแสดงชือ ่ ดังมาร่วมงานมากมาย
ขัน
้ ตอนที่ 1 ค้นหาแกนนา
ขัน
้ ตอนที่ 2 จุดประกายความคิด
ในขัน้ ตอนของการจุดประกายความคิด
เจ้าหน้าทีต
่ ารวจต้องเชือ่ ถือในศักยภาพของแกนนา
ว่าหากกระตุน ้ ให้แต่ละคนมีโอกาสใช้ภูมปิ ญ
ั ญา
ความรู ้ ความสามารถ อย่างเต็มทีแ
่ ล้ว
ก็เท่ากับเป็ นการสร้างความเข้มแข็งของชุมชน
ขัน
้ ตอนที่ 3 ศึกษาพื้นฐานชุมชน
ขัน
้ ตอนที่ 4 สนทนา และวิเคราะห์ปญ
ั หา
ขัน
้ ตอนนี้เป็ นการใช้เวทีประชาคม
ให้ชุมชนร่วมกันเสนอปัญหาทีเ่ กิดขึน ้ ในชุมชน อาทิ
การทะเลาะวิวาทของกลุม ่ เด็กวัยรุน
่ ปัญหายาเสพติด ปัญหา เศรษฐกิจ
และร่วมกันจัดลาดับความสาคัญ
ความจาเป็ นเร่งด่วนของปญหาทีต ่ อ้ งดาเนินการแก้ไขก่อน - หลัง
นอกจากนี้ใช้เวทีประชาคมค้นหาสาเหตุและแนวทางในการแก้ไขปัญ
หา
ขัน
้ ตอนที่ 5 การตัดสินใจ และกาหนดโครงการ
ขัน
้ ตอนการยกร่างกิจกรรม/โครงการ
เป็ นขัน้ ของการแก้ปญ ั หาอย่างเป็ นรูปแบบ มีการกาหนด
กิจกรรมทีส่ ามารถปฏิบตั แ ิ ล้วเกิดผลเป็ นรูปธรรมได้เช่น
มาตรการทางสังคมของชุมชน
อาสาสมัครตารวจบ้านโครงการพัฒนาผูน ้ าหมูบ
่ า้ นชุมชน
เพือ่ เพิม่ ศักยภาพในการป้ องกันอาชญากรรมและยาเสพติด
โครงการค่ายผูน ้ าเยาวชนป้ องกันอาชญากรรมและปัญหายาเสพติด เ
พือ
่ ให้เยาวชนได้ทราบถึงโทษของยาเสพติด เป็ นต้น
นอกจากนี้ชุมชนต้องสามารถจัดลาดับความสาคัญ
และร่วมพิจารณาว่า
แผน/โครงการใดชุมชนสามารถดาเนินการได้เอง
หรือต้องขอรับการสนับสนุนจาก
อบต.หรือต้องขอรับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าทีต ่ ารวจ
ซึง่ จะทาให้ทก
ุ คนในชุมชนได้รบั รู ้ ร่วมคิด ร่วมทา ร่วมเป็ นเจ้าของ
ร่วมรับผลประโยชน์ จากแผนงาน/โครงการทีก ่ าหนดขึน้ อย่างแท้จริง
ขัน
้ ตอนที่ 6 นากิจกรรมไปสูก
่ ารปฏิบตั ิ
ขัน
้ ตอนในการดาเนินกิจกรรม
จนเกิดเป็ นลักษณะของหมูบ ่ า้ น/ชุมชนเข้มแข็ง
สมาชิกมีความสัมพันธ์กน ั อย่างแน่ นแฟ้ น เข้าใจกัน มีความสามัคคี
เกิดการมีสว่ นร่วม
รูส้ ก ึ ว่าตนเองเป็ นส่วนหนึ่งของชุมชนทีม ่ ีศกั ยภาพสามารถพึง่ ตนเองไ
ด้
มีความสามารถทีจ่ ะสนองตอบต่อความต้องการในการใช้ชีวต ิ ประจาวั
น
ทัง้ ยังสามารถทีจ่ ะร่วมกันใช้กติกาทีเ่ ป็ นบรรทัดฐานของสังคมในการตั
ดสินใจ
โดยมีอานาจการจัดการตามข้อกาหนดและมาตรการทีไ่ ด้รว่ มกันจัดท
าขึน ้ เพือ
่ แก้ไขปัญหาของชุมชนได้ดว้ ยตนเองตามกรอบกฎหมาย
มีบทลงโทษเมือ ่ มีผฝู้ ่ าฝื น
โดยจะมีเจ้าหน้าทีฝ ่ ่ ายรัฐเป็ นทีป ่ รึกษาในระหว่างดาเนินโครงการเช่น
มาตรการตัดความช่วยเหลือของชุมชนต่อครอบครัวและตัวผูเ้ สพ
ผูค ้ า้ ยาเสพติดในชุมชน
ขัน
้ ตอนที่ 7 ติดตามประเมินผล
การติดตามประเมินผล
ถือได้วา่ เป็ นขัน
้ ตอนสุดท้ายในการเข้าดาเนินโครงการ
เจ้าหน้าทีต่ ารวจ และชุมชน
ร่วมกันประเมินผลโดยใช้แบบสารวจความคิดเห็น (โพล)
หรือการสัมภาษณ์บุคคลว่า ภายหลังจากทีด
่ าเนินโครงการไปแล้ว
ชุมชนเกิดความปลอดภัยในชีวต ิ ทรัพย์สน
ิ
ลดความหวาดระแวงอาชญากรรมลงได้เพียงใด