Professional Documents
Culture Documents
จากวิกพ
ิ ีเดีย สารานุกรมเสรี
สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
ธงชาติ ตราแผ่นดิน
เพลงชาติ: มาร์ชทหารเวียดนาม
(Tiến Quân Ca)[N 1]
MENU
0:00
ทีต
่ ง้ ั ของ ประเทศเวียดนาม (เขียว)
ในอาเซียน (เทาเข้ม) — [คาอธิบายสัญลักษณ์ ]
เมืองหลวง ฮานอย
21°2′N 105°51′E
เมืองใหญ่สุด นครโฮจิมน
ิ ห์
ภาษาราชการ ภาษาเวียดนาม
การปกครอง คอมมิวนิสต์
- ประธานาธิบดี เจิน
่ ดั่ย กวาง
- นายกรัฐมนตรี เหงียน ซวน ฟุก
- ประธานสมัชชาแห่งชาติเวียดนาม เหงียน ถิ กีม เงิน
เอกราช จาก ฝรั่งเศส
- ประกาศ 2 กันยายน พ.ศ. 2488[1]
- เป็ นทีย่ อมรับ พ.ศ. 2497
พื้นที่
- รวม 331,689 ตร.กม. (65)
128,065 ตร.ไมล์
- แหล่งน้า (%) 1.3 [2]
ประชากร
- 1 กรกฎาคม 2560 (ประเมิน) 93,700,000 [3] (13)
- ความหนาแน่ น 272 คน/ตร.กม. (46)
703 คน/ตร.ไมล์
จีดพ
ี ี (อานาจซื้อ) 2560 (ประมาณ)
- รวม $ 648.243 พันล้าน
- ต่อหัว $ 6,925
จีดพ
ี ี (ราคาตลาด) 2560 (ประมาณ)
- รวม $ 215.829 พันล้าน
- ต่อหัว $ 2,305
HDI (2558) 0.683 (ปานกลาง) (115th)
สกุลเงิน ด่อง (₫)[4] ( VND )
เขตเวลา (UTC+7)
• ฤดูรอ้ น (DST) (UTC+7)
ขับรถด้าน ขวามือ
โดเมนบนสุด .vn
รหัสโทรศัพท์ 84
เวียดนาม (เวียดนาม: Việt Nam [viət˨ nam˧] เหฺวียดนาม)
มีชือ
่ อย่างเป็ นทางการคือ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (เวียดนาม: Cộng
hòa xã hội chủ nghĩa Việt Nam, ก่ง ฮหว่า สา โห่ย จู๋ เหงีย เหวียต นาม)
เป็ นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้ ตัง้ อยูท่ างด้านตะวันออกสุดของคาบส
มุทรอินโดจีน มีพรมแดนติดกับประเทศจีน ทางทิศเหนือ ประเทศลาว และปร
ะเทศกัมพูชา ทางทิศตะวันตก
และอ่าวตังเกีย๋ ทะเลจีนใต้ ทางทิศตะวันออกและใต้
หรือในภาษาเวียดนามเรียกเฉพาะทะเลทางทิศตะวันออกว่า ทะเลตะวันออก
(เวียดนาม: Biển Đông, เบีย๋ น ดง) เวียดนามมีประชากรมากกว่า 89
ล้านคน ถือเป็ นประเทศทีม ่ ีประชากรมากทีส ่ ุดเป็ นอันดับ 13 ของโลก
百越; พินอิน: Bǎiyuè; แปลว่า "ร้อยเวียด")
ซึง่ เป็ นคาทีใ่ ช้เรียกกลุม
่ ชนทีเ่ คยอาศัยอยูบ
่ ริเวณทางใต้ของจีนและทางเหนือข
องเวียดนาม [6]
ประวัตศ
ิ าสตร์[แก้]
ดูบทความหลักที:่ ประวัตศ
ิ าสตร์เวียดนาม
สมัยก่อนประวัตศ
ิ าสตร์[แก้]
ดูบทความหลักที:่ วัฒนธรรมดงเซิน
กลองมโหระทึกสาริด
เป็ นอารยธรรมก่อนประวัตศ ิ าสตร์ในเวียดนามมีชือ
่ เสียงมากโดยเฉพาะอ
ารยธรรมยุคหินใหม่ ทีม่ ีหลักฐานคือกลองมโหระทึกสาริด
และชุมชนโบราณทีด ่ งเซินเขตเมืองแทงหวา ทางใต้ของปากแม่น้าแดง สันนิษ
ฐานว่าบรรพบุรุษของชาวเวียดนามโบราณผสมผสานระหว่างชนเผ่ามองโกลอ
ยด์เหนือจากจีนและใต้ ซึง่ เป็ นชาวทะเล
ดารงชีพด้วยการปลูกข้าวแบบนาดาและจับปลา และอยูก ่ น
ั เป็ นเผ่า
บันทึกประวัตศ ิ าสตร์ยุคหลังของเวียดนามเรียกยุคนี้วา่ อาณาจักรวันลาง มีผน
ู้ า
ปกครองสืบต่อกันหลายร้อยปี เรียกว่า กษัตริย์หุง่
แต่ถือเป็ นยุคก่อนประวัตศิ าสตร์
สมัยประวัตศ
ิ าสตร์[แก้]
เวียดนามเริม ่ เข้าสูย่ ุคประวัตศ
ิ าสตร์หลังจากตอนใต้ของจีนเข้ารุกรานแล
ะยึดครองดินแดนแถบลุม ่ แม่น้าแดง จากนัน้ ไม่นานจักรพรรดิจน ิ๋ ซีซงึ่ เริม
่ รวม
ดินแดนจีนสร้างจักรวรรดิให้เป็ นหนึ่งเดียว
โดยได้ยกทัพลงมาและทาลายอาณาจักรของพวกถุกได้
ก่อนผนวกดินแดนลุม ่ แม่น้าแดงทัง้ หมด
ให้ขน ึ้ ตรงต่อศูนย์กลางการปกครองหนานไห่ ทีเ่ มืองพานอวีห ่ รือกว่างโจวในม
ณฑลกวางตุง้ ปัจจุบน ั
หลังสิน ้ สุดราชวงศ์ฉิน ข้าหลวงหนานไห่คอ ื จ้าวถัว ประกาศตัง้ หนานไห่เป็ นอา
ณาจักรอิสระ
่ ว่า หนานเยว่ หรือ นามเหวียต ในสาเนียงเวียดนามซึง่ เป็ นทีม
ชือ ่ าของชือ ่ เวียด
นามในปัจจุบน ั ก่อนกองทัพฮั่นเข้ายึดอาณาจักรนามเหวียด ได้ในปี พ.ศ.
585 และผนวกเป็ นส่วนหนึ่งของจีน
ใช้ชือ
่ ว่า เจียวจื้อ ขยายอาณาเขตลงใต้ถงึ บริเวณเมืองดานังในปัจจุบน ั
และส่งข้าหลวงปกครองระดับสูงมาประจา
เป็ นช่วงเวลาทีช ่ าวจีนนาวัฒนธรรมจีนทางด้านต่างๆ
ไปเผยแพร่ทด ี่ นิ แดนแห่งนี้
พร้อมเก็บเกีย่ วผลประโยชน์ทรัพยากรจากชาวพื้นเมืองหรือชาวเวียดนามจน
นาไปสูก ่ ารต่อต้านอย่างรุนแรงหลายครัง้ เช่น:
พ.ศ. 1524-
1552 ราชวงศ์เตีย่ นเลหรือเลยุคแรก--
มเหสีของจักรพรรดิดงิ ห์โบะหลิง
ได้ขบั ไล่รชั ทายาทราชวงศ์ดงิ ห์
สถาปนาพระสวามีใหม่คอ ื ขุนศึกเลหว่านเป็ นจักร
พรรดิเลด่ายแห่ง
โดยพยายามสร้างความมั่นคงด้วยการฟื้ นฟูความ
สัมพันธ์กบ ั ราชวงศ์ซ่งของจีนและปราบปรามกบฏ
ภายใน แต่ก็ไม่รอดพ้นการรัฐประหาร
สมัยนี้พุทธศาสนาและลัทธิเต๋ารุง่ เรืองมากและได้ร ั
บความเลือ ่ มใสศรัทธาในหมูช ่ นชัน
้ สูงมาก
ราชวงศ์ยุคใหม่[แก้]
แผนทีอ
่ น
ิ โดจีน ค.ศ. 1913.
ฝรั่งเศสแสวงหาผลประโยชน์จากการปกครองเวียดนามทางด้านเศรษฐกิ
จ เวียดนามเป็ นแหล่งปลูกข้าวและพืชเศรษฐกิจใหม่ ๆ
เช่นกาแฟ และยางพารา ส่งออกไปยังฝรั่งเศสและเป็ นวัตถุดบ ิ แก่โรงงานในฝรั่
งเศส
ทีด
่ น
ิ ในเวียดนามถูกยึดและตกเป็ นของชาวฝรั่งเศส และเริม
่ อพยพเข้ามาตัง้ ถิน
่
ฐานในเวียดนาม
ขณะเดียวกันก็สง่ เสริมการศึกษาและวัฒนธรรมฝรั่งเศสให้แพร่หลายในเวียด
นาม
ชาวเวียดนามส่วนหนึ่งได้รบ ั การศึกษาแบบใหม่และเริม ่ ต้องการอิสระในการ
ทางานและมีสว่ นร่วมในการปกครองประเทศ
นาไปสูก ่ ารก่อตัวของกลุม
่ ชาตินิยมต่าง ๆ
ทีเ่ ข้มแข็งทีส
่ ุดคือพรรคคอมมิวนิสต์อน ิ โดจีนทีต ้ โดยโฮจิมน
่ ง้ ั ขึน ิ ห์ ในปี พ.ศ.
2473และต่อมาปรับเปลีย่ นเป็ น กลุม ่ เวียดมินห์ ได้นาชาวนาก่อการต่อต้านฝรั่
งเศสในชนบท
ยุคเอกราช[แก้]
ดูบทความหลักที:่ เวียดนามเหนือ และ เวียดนามใต้
พ.ศ. 2488
โฮจิมนิ ห์รบ
ั มอบอานาจจากจักรพรรดิบา๋ วได่และรับตาแหน่ งประธานาธิบดีค
นแรกหลังประกาศเอกราช
แต่หลังจากนัน ้ ฝรั่งเศสได้กลับเข้ามาขับไล่รฐั บาลของโฮจิมน ิ ห์และไม่ยอมรับเ
อกราชของเวียดนาม
นาไปสูส ่ งครามจนในทีส ่ ุดฝรั่งเศสพ่ายแพ้แก่กองกาลังเวียดมินห์ที่คา่ ยเดียนเบี
ยนฟู ในปี พ.ศ.
2497และมีการทาสนธิสญ ั ญาเจนีวา ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ยอมรับเอก
ราชของเวียดนาม
แต่สหรัฐอเมริกาและชาวเวียดนามในภาคใต้บางส่วนไม่ตอ ้ งการรวมตัวกับรัฐ
บาลของโฮจิมน ิ ห์ ต่อมาได้กอ่ ตัง้ ดินแดนเวียดนามภาคใต้เป็ นอีกประเทศหนึ่ง
คือ สาธารณรัฐเวียดนาม
(เวียดนามใต้) มีเมืองหลวงคือ ไซ่งอ ่ น ใช้เส้นละติจูดที่ 17
องศาเหนือแบ่งแยกกับเวียดนามส่วนเหนื อใต้การปกครองของโฮจิมน ิ ห์
(เวียดนามเหนือ)
สงครามเวียดนาม[แก้]
สงครามเวียดนาม
ดูบทความหลักที:่ สงครามเวียดนาม
เวียดนามเหนือไม่ยอมรับสถานภาพของเวียดนามใต้ ขณะทีส ่ หรัฐอเมริก
าได้ให้การช่วยเหลือทางทหารแก่เวียดนามใต้อย่างต่อเนื่อง
รวมถึงการส่งทหารมาประจาในเวียดนามใต้เพิม ้ เรือ
่ ขึน ่ ยๆ
เวียดนามเหนือประกาศทาสงครามเพือ ่ ขับไล่และ ปลดปล่อย เวียดนามใต้จาก
สหรัฐอเมริกาและรวมเข้าเป็ นประเทศเดียวกัน
พร้อมให้การสนับสนุนกลุม
่ ชาวเวียดนามใต้ทตี่ อ
่ ต้านสหรัฐอเมริกา (เวียดกง)
ในการทาสงคราม
การรบส่วนใหญ่กลายเป็ นการรบระหว่างทหารสหรัฐอเมริกาและพันธมิต
รจากต่างประเทศ
กับกองกาลังเวียดกงและเวียดนามเหนือ ทัง้ ในชนบทและการโจมตีในเมือง
แม้สหรัฐอเมริกาได้ทม ุ่ เทแสนยานุภาพอย่างเต็มทีแ
่ ต่ก็ไม่อาจทาให้สงครามยุติ
ลงได้ หลังการรุกโจมตีครัง้ ใหญ่ของเวียดนามเหนือและเวียดกงในปี พ.ศ.
2511 ทีเ่ มืองเว้และเมืองหลักอืน
่ ๆ
ในเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกาเริม ่ เตรียมการถอนกาลังจากเวียดนามใต้และให้เ
วียดนามใต้ทาสงครามโดยลาพัง
สหรัฐอเมริกาถอนทหารจากเวียดนามใต้อย่างเป็ นทางการในปี พ.ศ.
2516 กองกาลังเวียดนามเหนือและเวียดกงจึงสามารถรุกเข้ายึดไซ่งอ ่ นและเวี
ยดนามใต้ได้ทง้ ั หมดในปี พ.ศ.
้ ในวันที่ 2
2518 การรวมเวียดนามทัง้ สองส่วนเข้าด้วยกันเกิดขึน
กรกฎาคม พ.ศ.
2519 และเปลีย่ นชือ่ ประเทศเป็ น สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นับแต่นน
้ั
หน่ วยงานราชการและการเมือง[แก้]
1.การเมืองของเวียดนามมีเสถียรภาพ
เนื่องจากมีพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เป็ นองค์กรทีม
่ ีอานาจ
สูงสุดเพียงพรรคการเมืองเดียว ผูกขาดการชี้นาภายใต้ระบบผูน ้ าร่วม
(collective leadership) ทีค่ านอานาจระหว่างกลุม
่ ผูน้ า ได้แก่
ทีส
่ ูงตอนกลาง ชายฝั่งตอนกล ตะวันออกเฉี ยง ดินดอนสามเหลีย่
างใต้ ใต้ มปากแม่น้าโขง
ดัก
๊ ลัก
ดัก๊ นง บิญ ่ ดิญ่ บ่าเสียะ- อานซาง
ซาลาย นิญถ่วน หวุงเต่า บักเลียว
กอนตูม คัญ ้ ฮหว่า บิญ
่ เซือง เบ๊นแจ
เลิมด่ง บิญ ่ ถ่วน บิญ่ เฟื้ อก ก่าเมา
ฟู้ เอียน ด่งนาย ด่งท้าป
กว๋างนา เต็ยนิญ เหิว่ ซาง
ม โฮจิมน ิ ห์ ( เกียนซาง
กว๋างหงา เทศบาลน ล็องอาน
ย คร) ซ้อกจัง
ดานัง (เ เตีย่ นซาง
ทศบาลน จ่าวิญ
คร) หวิญล็อง
เกิน
่ เทอ (เท
ศบาลนคร)
ภูมศ
ิ าสตร์[แก้]
อ่าวหะล็อง
ชาวเวียดนามนิยมปลูกข้าวแบบขัน
้ บันได
เวียดนามเป็ นประเทศทีม ่ ีลกั ษณะเป็ นแนวยาว และ
มีภูมป
ิ ระเทศเป็ นภูเขาสูงกัน ้ ระหว่างทีร่ าบลุม
่ แม่น้าทีอ
่ ุดมสมบูรณ์ ทางตอนเหนื
อและใต้ แต่มีภูเขาทีม ่ ีป่าหนาทึบแค่ 20% โดยมีพน ั ธุ์ไม้ 13,000 ชนิด
และพันธุ์สตั ว์กว่า 15,000 สายพันธุ์
ลักษณะภูมป
ิ ระเทศ[แก้]
มีทรี่ าบลุม
่ แม่น้าขนาดใหญ่ 2 ตอน คือ
ตอนเหนือเป็ นทีร่ าบลุม ่ แม่น้าแดง และตอนใต้เป็ น
ทีร่ าบลุม
่ แม่น้าโขง
มีทรี่ าบสูงตอนเหนือของประเทศ
และยังเป็ นภูมภ ่ ีเขา ซึง่ เป็ นภูเขาทีส
ิ าคทีม ่ ูง 3,143
เมตร (10,312 ฟุต)
ลักษณะภูมอ
ิ ากาศ[แก้]
เป็ นแบบมรสุมเขตร้อน
ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกเปิ ดโล่งรับลมมรสุมตะ
วันออกเฉี ยงเหนือทีพ่ ดั ผ่านทะเลจีนใต้ ทาให้มีโอ
กาสรับลมมรสุมและพายุหมุนเขตร้อน จึงมีฝนตก
ชุกในฤดูหนาว สามารถปลูกข้าวได้ปีละ 2 ครัง้
(ฝนตกตลอดปี
ได้รบั อิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉี ยงเหนือ)
เป็ นประเทศทีม่ ีความชื้นประมาณร้อยละ 84
ตลอดปี มีอุณหภูมเิ ฉลีย่ ตัง้ แต่ 5 องศาเซลเซียส
ชายแดน[แก้]
ทัง้ หมด 4,638 กิโลเมตร (2,883 ไมล์)
โดยติดกับประเทศกัมพูชา 1,228 กิโลเมตร (763 ไมล์) ประเทศจีน 1,281
กิโลเมตร (796 ไมล์) และประเทศลาว 2,130 กิโลเมตร (1,324 ไมล์)
เศรษฐกิจ[แก้]
ฮานอยมีเคียงนัมฮานอยแลนด์มาร์กทาวเวอร์ตก
ึ ทีส
่ ูงทีส
่ ุดในเวียดนาม
เกษตรกรรม[แก้]
มีผลผลิตได้แก่ ข้าวเจ้า ยางพารา ชา กาแฟ ยาสูบ พริกไทย (ในปี พ.ศ.
2549 ส่งออกกว่า 116,000 ตัน) [7] การประมง
เวียดนามจับปลาได้เป็ นอันดับ 4 ของสินค้าส่งออก
เช่น ปลาหมึก กุง้ ตลาดทีส
่ าคัญ คือ ญีป
่ ุ่ น ไต้หวัน และสิงคโปร์
อุตสาหกรรม[แก้]
อุตสาหกรรมทีส ่ าคัญ คือ อุตสาหกรรมทอผ้า
ศูนย์กลางอยูท ่ ีโ่ ฮจิมน
ิ ห์ซต ี ละมีนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตเี้ บียนโฮ[8] การทาเ
ิ แ
หมืองแร่ทสี่ าคัญ
คือ ถ่านหิน น้ามันปิ โตรเลียม และแก๊สธรรมชาติ เวียดนามเป็ นประเทศส่งออ
กน้ามันดิบรายใหญ่อน ั ดับ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้
รองจากอินโดนีเซียและมาเลเซีย [9]
สถานการณ์ เศรษฐกิจ[แก้]
ท่าเรือไซ่งอ
่ น
เวียดนามมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
และเผชิญภาวะขาดแคลนพลังงานไฟฟ้ า
จึงมีการซื้อพลังงานไฟฟ้ าจากมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ตัง้ แต่กน
ั ยายนปี
2004 [10] แม้วา่ เหตุผลทางเศรษฐกิจจะเป็ นเหตุผลทีม ่ ีความสาคัญรองจากเหตุ
ผลทางการเมืองและยุทธศาสตร์ในการทีอ ่ าเซียนรับเวียดนามเข้าเป็ นสมาชิก
แต่ก็ยงั คงความสาคัญในระดับหนึ่งทีจ่ ะมองข้ามไปไม่ได้ความสัมพันธ์ทวิภาคี
ทางเศรษฐกิจระหว่างเวียดนามและประกาศถอนทหารออกจากกัมพูชา และเมื่
อเวียดนามได้ลงนามในข้อตกลงสันติภาพทีก ่ รุงปารีสในปี 1991
เหตุผลการเข้าเป็ นสมาชิกอาเซียน[แก้]
1. การสนับสนุนและความช่วยเหลือในการพัฒนาทา
งเศรษฐกิจของเวียดนาม
ทัง้ โดยทางตรงและทางอ้อมจากประเทศสมาชิกอา
เซียนซึง่ เวียดนามมองว่าเป็ นสิง่ ทีม ่ าพร้อมกับการ
ปรับสภาพแวดล้อมทางยุทธศาสตร์และการปรับน
โยบายต่างประเทศ
การเข้ารวมกลุม ่ อาเซียนจะทาให้เวียดนามมีโอกา
สได้เรียนรูป ้ ระสบการณ์ ในการพัฒนาประเทศจา
กสมาชิกต่างๆ
อันจะมีสว่ นเอื้ออานวยและเร่งการพัฒนาของตนไ
ปสูร่ ะบบเศรษฐกิจการตลาดซึง่ ตัง้ อยูบ ่ นหลักการข
องการแข่งขันได้ในทีส ่ ุด
2. เวียดนามให้ความสาคัญสูงสุดต่อการเข้าร่วมในร
ะบบเศรษฐกิจของภูมภ ิ าคเอเชีย-
แปซิฟิกและระบบเศรษฐกิจของโลก
การเป็ นสมาชิกของอาเซียนจะนาไปสูก ่ ารมีสว่ นร่
วมในเขตการค้าเสรีอาเซียน
และนาเวียดนามไปสูค ่ วามคุน ้ เคยกับแนวทางปฏิ
บัตใิ นการรวมกลุม ่ ทางเศรษฐกิจในระดับโลก
อันจะมีผลดีและเป็ นปัจจัยประการหนึ่งทีจ่ ะผลักดั
นเวียดนามให้กา้ วไปสูก ้ ารเป็ นสมาชิกของ APE
C และ WTO ได้ในทีส ่ ุด
3. ในฐานะของสมาชิกอาเซียน
เวียดนามหวังทีจ่ ะได้รบ ั ประโยชน์ จากการเพิม ้
่ ขึน
ของการค้าและการลงทุนกับประเทศอาเซียนทัง้ ห
ลาย
ขณะเดียวกันในขณะทีก ่ ารค้าภายในกลุม ่ อาเซียน
กาลังขยายตัว
เวียดนามก็ได้ตระเตรียมและปรับทิศทางการส่งอ
อกของตนทีจ่ ะไปสูต ่ ลาดอาเซียนนี้อย่างจริงจังมา
กขึน ้
การนาเข้าของเวียดนามจากอาเซียนในขณะนี้เป็ น
ครึง่ หนึ่งของการนาเข้าทัง้ หมดของทัง้ หมดของเวี
ยดนาม และประมาณร้อยละ 30
ของการค้าทัง้ หมดของเวียดนามทีม ่ ีกบ ั อาเซียนนอ
กจากนี้
เวียดนามยังหวังว่าตนจะได้รบ ั สิทธิพเิ ศษ GSPอ
้ ไป
ย่างน้อย 10 ปี ขึน
และเวียดนามยังจะเป็ นจุดส่งออกทีส ่ าคัญสาหรับป
ระเทศสมาชิกอาเซียนอืน ่ ๆ
ในด้านการลงทุน
ทัง้ เวียดนามและประเทศในกลุม ่ อาเซียนจะได้รบ ั ผลประโยชน์ รว่ มกันจากการ
ทีป ่ ระเทศในกลุม ่ อาเซียนเข้าไปลงทุนในเวียดนามโดยเวียดนามจะสามารถดูด
ซึมเทคนิค วิทยาการและเทคโนโลยีทผ ี่ า่ นมากับการลงทุนต่างชาติ
โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในรูปแบบของการร่วมทุน
ซึง่ จะนาไปสูก ่ ารพัฒนาการผลิตของเวียดนาม และขณะเดียวกัน
นับตัง้ แต่เวียดนามเปิ ดประเทศและประกาศกฎหมายว่าด้วยการลงทุนต่างชาติ
ประเทศสมาชิกอาเซียนต่างก็ให้ความสนใจลพยายามแสวงหาโอกาสเข้าไปลง
ทุนในเวียดนาม
ทัง้ นี้เพราะอาเซียนก็สนใจในผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจด้วยเช่นกันทัง้ ด้านกา
รค้าและการลงทุน เนื่องจากเวียดนามเป็ นตลาดใหญ่มีประชากรถึง 73
ล้านคน มีความสมบูรณ์ ทางทรัพยาธรรมชาติ
มีแรงงานทีม ่ ีศกั ยภาพและมีราคาถูก
การมีเวียดนามเป็ นสมาชิกเพิม ้ จะทาให้อาเซียนมีประชากรเพิม
่ ขึน ่ เป็ น 420
ล้านคน และจะมีผลผลิตมวลรวมภายในถึง 500 พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐ
อันจะทาให้อาเซียนมีศกั ยภาพในการขยายตัวกางเศรษฐกิจได้มากขึน ้ ไปอีก
ในปัจจุบนั
ประเทศทีไ่ ด้รบ ั การอนุมตั ด
ิ ว้ ยมูลค่าลงทุนมากทีส ่ ุดได้แก่สงิ คโปร์
ซึง่ มีโครงการการลงทุนทีไ่ ด้รบ ั การอนุมตั จิ านวนโครงการ ด้วยมูลค่า 5.3
พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
มูลค่าการลงทุนของประเทศสมาชิกอาเซียนในเวียดนามคิดได้เป็ นร้อยละ
27.69 ของมูลค่าของการลงทุนต่างชาติทง้ ั สิน ้ ในเวียดนาม กล่าวคือในมูลค่า
8.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากมูลค่าของการลงทุนต่างชาติทง้ ั สิน 29.4
พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีโครงการทัง้ สิน ้ 337 โครงการ
โดยมาเลเซียลงทุนเป็ นอันดับ 2 รองจากสิงคโปร์ ไทยลงทุนเป็ นอันดับ 3
ประเภทของการลงทุนทีส ่ มาชิกอาเซียนดาเนินการในเวียดนาม ได้แก่
อุตสาหกรรมการผลิต การก่อสร้างสานักงาน ทีอ ่ ยูอ่ าศัย
การผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคและการแปรรูปอาหาร
เวียดนามหวังว่าการลงทุนจากประเทศสมาชิกอาเซียนนี้จะมีสว่ นช่วยถ่วงดุลกา
รลงทุนจากเกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง และญีป
่ ุ่ น
ในขณะเดียวกันในส่วนของอาเซียน
เหตุผลประการหนึ่งทีท ่ าให้อาเซียนยินดีรบั เวียดนามเข้าเป็ นสมาชิกก็คอื
การเข้ารวมกลุม ่ อาเซียนของเวียดนามนัน ้ จะมีผลไปเพิม ่ ความสามารถในการ
แข่งขันทางเศรษฐกิจอีกทัง้ อานาจในการต่อรองทางการเมืองทัง้ หลายต่างก็มีผ
ลประโยชน์ทส ี่ อดคล้องกัน
ทัง้ ทางการเมืองและทางเศรษฐกิจร่วมกันอันนาไปสูก ่ ารยอมรับในทีส่ ุด
วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี[แก้]
ส่วนนี้รอเพิม
่ เติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิม
่ เติมข้อมูลในส่วนนี้ได้
การขนส่ง[แก้]
อากาศ[แก้]
เครือ
่ งบินของสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์
เวียดนามมีทา่ อากาศยานขนาดใหญ่ 6 แห่ง
คือ ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ ยบ่าย (Noi Bai)
ในกรุงฮานอย, ท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิต้ (Tan Son Nhat)
ในนครโฮจิมน ิ ห์, โครงการท่าอากาศยานนานาชาติล็องถั่ญ (Long Thanh)
ในจังหวัดด่งนาย, ท่าอากาศยานจูลาย (Chu Lai)
ในจังหวัดกว๋างนามและท่าอากาศยานนานาชาติดานัง (Danang)
ในนครดานัง[11]
ถนน[แก้]
ด•พ•ก
เมืองใหญ่ทสี่ ุดในเวียดนาม
2015 estimate
ที่ เมือง จังหวัด
1 นครโฮจิมน ิ ห์ เทศบาลในประเทศเวียดนาม
2 ฮานอย เทศบาลในประเทศเวียดนาม
3 ไฮฟอง เทศบาลในประเทศเวียดนาม
4 เกิน่ เทอ เทศบาลในประเทศเวียดนาม
นครโฮจิมน
ิ ห์ 5 เบียนฮหว่า ด่งนาย
6 ดานัง เทศบาลในประเทศเวียดนาม
7 หวุงเต่า จังหวัดบ่าเสียะ-หวุงเต่า
8 บวนมาถ็วต ดัก
๊ ลัก
ฮานอย
9 ญาจาง คัญ้ ฮหว่า
10 เว้ เถือ่ เทียน-เว้
ภาษา[แก้]
ดูบทความหลักที:่ ภาษาเวียดนาม
่ สารใช้ภาษาเวียดนาม ซึง่ เมือ
การสือ ่ ปี พ.ศ. 2463
วงการวิชาการเวียดนามได้ลงประชามติทจี่ ะใช้ตวั อักษรโรมัน (Quốc ngữ)
แทนตัวอักษรจีน (Chữ Nôm) ในการเขียนภาษาเวียดนาม [15]
ศาสนา[แก้]
ดูบทความหลักที:่ ศาสนาในประเทศเวียดนาม
ศาสนาในประเทศเวียดนาม
ศาสนา ร้อยละ
พื้นบ้านและไม่มีศาสนา 73.2%
พุทธ 12.2%
คริสต์ 8.3%
อืน
่ ๆ 6.3%
เจดีย์เสาเดียว แสดงให้เห็นถึงศาสนาพื้นบ้านเวียดนาม
จากการสารวจในปี พ.ศ.
2557[16] ประเทศเวียดนามมีประชากรนับถือศาสนา 90 ล้านคน
แบ่งได้ดงั นี้ ศาสนาพื้นบ้านเวียดนามและไม่มีศาสนา 24 ล้านคน
(73.2%) ศาสนาพุทธ 11 ล้านคน (12.2%) ศาสนาคริสต์ 7.6 ล้านคน
(8.3%) ลัทธิเฉาได 4.4 ล้านคน (4.8%) ลัทธิฮหว่าหาว 1.3 ล้านคน
(1.4%) และศาสนาอืน ่ ๆ (0.1%) เช่น ศาสนาอิสลาม 75,000
คน ศาสนาบาไฮ 7,000 คน ศาสนาฮินดู 1,500 คน[17][18][19][20][21][22][23]
การศึกษา[แก้]
ประวัตก
ิ ารศึกษาของเวียดนาม[แก้]
ประเทศเวียดนามได้มีการพัฒนาการศึกษาควบคูไ่ ปกับพัฒนาของประเท
ศ ซึง่ สามารถแบ่งออกได้เป็ นระยะ ๆ ย่อ ๆ ในเชิงประวัตศ
ิ าสตร์ดงั นี้ (Pham
Minh Hac,1995, 42-61)
1. ระยะทีอ
่ ยูภ
่ ายใต้การปกครองของราชวงศ์จีน (Period of Chinese
Imperial Domination) : 200 ปี ก่อน ค.ศ. - ค.ศ. 938
ในระยะนี้ประเทศเวียดนามอยูภ ่ ายใต้การปกครองของราชวงศ์จีน
ดังนัน ้ ผูบ
้ ริหารของประเทศจีน
จึงเป็ นผูก ้ อ
่ ตัง้ ระบบการศึกษาในประเทศเวียดนามทัง้ ในแบบของรัฐและเอกช
น
ซึง่ ในสมัยก่อนเน้นเฉพาะการศึกษาของบุตรชายและการฝึ กอบรมบุคคลเพือ ่ เ
ข้าไปรับราชการและบริหารประเทศ มีนโยบาย "Feudal Intelligentsia"
ซึง่ จะคัดเลือกเฉพาะบุตรชายจากครอบครัวขุนนางไปรับราชการกับราชวงศ์จี
น ระบบการศึกษาต่อเนื่องของชาวเวียดนามในบางศตวรรษพบว่า
บุคคลชาวเวียดนามทีม ่ ีฐานะทางสังคมดีและมีสติปญ ั ญาดีจะได้รบั อนุญาตให้เ
ข้าไปศึกษาต่อในประเทศจีน
โดยมีการสอบแข่งขันหลายขัน ้ ตอนและครัง้ สุดท้ายจะสอบทีก่ รุงปักกิง่
เมือ ่ สอบผ่านจะได้วุฒเิ ทียบเท่า Doctor’s Degree
ระบบการศึกษาดังกล่าวสืบทอดมาจนถึง ราชวงศ์ถงั (ค.ศ. 618 - ค.ศ. 907)
ระบบการศึกษาทีเ่ ลียนแบบมาจากประเทศจีนประกอบด้วย การศึกษาเบื้องต้น
(Primary Education) ทีม ่ ีระยะเวลาการศึกษาน้อยกว่า 15 ปี
และการศึกษาระดับอุดมศึกษา (Higher Education)
ทีม ่ ีระยะเวลาการศึกษามากกว่า 15 ปี ขึน ้ ไป
2. ระยะทีป
่ ระเทศมีอส
ิ รภาพ (Period of National Independence) :
ค.ศ. 938 -ค.ศ. 1859
ในปี ค.ศ. 938 Ngo Dinh ได้รบชนะจีนและก่อตัง้ ราชวงศ์ Ngo Dinh
และราชวงศ์ Le ตอนต้น (ค.ศ. 939 - ค.ศ. 1009)
การศึกษาส่วนใหญ่เป็ นการดาเนินการโดยเอกชนและโรงเรียนพุทธศาสนา
จนกระทั่งราชวงศ์ Le (ค.ศ.1009 - ค.ศ. 1225)
เริม
่ ให้ความสาคัญกับการศึกษาเพิม ่ มากขึน้ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ๆ เช่น
เมืองหลวง Thang Long หรือ Ha Noi ในปัจจุบน ั
มีการก่อตัง้ สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาในประเทศเวียดนามเป็ นแห่งแร
ก ใน ค.ศ. 1076 ทีม ่ ีชือ
่ เรียกว่า "Quoc Tu Gian หรือ Royal College"
เพือ่ เป็ นแหล่งการศึกษาของบุตรชายของครอบครัวทีม ่ ีฐานะดี
ในยุคนี้มีการสร้างโรงเรียนของรัฐขึน ้ อีกทัง้ ในส่วนกลางและจังหวัดต่างๆ
เพือ ่ ให้บุตรชายของสามัญชนเข้ารับการศึกษา
ทาให้ระบบการศึกษาในประเทศเวียดนามในยุคนี้แบ่งออกเป็ น 3 แบบ คือ
ระดับประถมศึกษาเป็ นการศึกษาภาคบังคับ 5 ปี
ชัน
้ 1-5
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น คือชัน
้ 6-9
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย คือชัน้ 10-12
3. การศึกษาด้านเทคนิคและอาชีพ
มีเทียบเคียงทัง้ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย
4. การศึกษาระดับอุดมศึกษา แบ่งเป็ นระดับอนุปริญญา (Associate
degree) และระดับปริญญา
5. การศึกษาต่อเนื่อง
เป็ นการศึกษาสาหรับประชาชนทีพ
่ ลาดโอกาสการศึกษาในระบบสายสามัญแล
ะสายอาชีพ
การศึกษาสามัญ 12 ปี (General Education)
ของเวียดนามนัน ้ เวียดนามมีวตั ถุประสงค์ทจี่ ะ
ให้ประชาชนได้มีวญ ิ ญาณในความเป็ นสังคมนิยม มีเอกลักษณ์ ประจาชาติ
และมีความสามารถในด้านอาชีพ ในอดีตการศึกษาสามัญของเวียดนามมีเพียง
10 ปี เท่านัน
้ และไม่มีอนุบาลศึกษามาก่อนจนถึงปี การศึกษา 2532 - 2533
จึงมีการศึกษาถึงชัน ้ ปี ที่ 9 ทัง้ ประเทศ ซึ่งได้เรียกการศึกษาสามัญ 9 ปี
ดังกล่าวนี้วา่ การศึกษาขัน ้ พื้นฐาน (Basic Education)
และเมือ่ ได้ขยายไปถึงปี ที่ 12 แล้วจึงได้เรียกการศึกษาสามัญ 3 ปี สุดท้ายว่า
มัธยมชัน ้ สูง (Upper Secondary School) ปี 2535-2536
ระบบการศึกษาสามัญในเวียดนามจึงกลายเป็ นระบบ 12 ชัน ้ เรียนทัง้ ประเทศ
โดยเด็กทีเ่ ข้าเรียนในชัน ้ ปี ที่ 1 จะมีอายุยา่ งเข้าปี ที่ 6
เมือ
่ เวียดนามได้ใช้ระบบการศึกษาเป็ น 12 ปี แล้ว
จานวนนักเรียนในทุกระดับชัน ้ ยังมีน้อย ดังนัน
้ ปี 2534
สภาแห่งชาติของเวียดนามจึงได้ออกกฎหมายการกระจายการศึกษาระดับประ
ถมศึกษา (Law of Universal Primary Education)
ซึง่ ถือเป็ นกฎหมายฉบับแรกว่าด้วยการศึกษาของเวียดนาม
วัฒนธรรม[แก้]
ดูบทความหลักที:่ วัฒนธรรมเวียดนาม
สือ
่ สารมวลชน[แก้]
ดูบทความหลักที:่ สือ่ สารมวลชนในประเทศเวียดนาม
สือ
่ ของเวียดนามได้รบ ั การควบคุม โดยรัฐบาลตามกฎหมายปี 2004
ในการเผยแพร่ [24] โดยทั่วไปจะมองเห็นว่า ภาคสือ่ ของเวียดนามถูกควบคุม
โดยรัฐบาลไปตามเส้นทางของพรรคคอมมิวนิสต์
แม้วา่ หนังสือพิมพ์บางฉบับจะค่อนข้างตรงไปตรงมา [25] เสียงของเวียดนามเป็
นบริการกระจายเสียงทางวิทยุแห่งชาติทรี่ ฐั
ออกอากาศผ่านทางเอฟเอ็มโดยใช้เครือ ่ งส่งสัญญาณให้เช่าในประเทศอืน ่ ๆ
และการให้การออกอากาศจากเว็บไซต์ของ สถานีวท ิ ยุโทรทัศน์ แห่งประเทศเวี
ยดนาม เป็ นบริษท ั วิทยุโทรทัศน์แห่งชาติ
ตัง้ แต่ปี 1997
เวียดนามมีการควบคุมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตสาธารณะอย่างกว้างขวาง
โดยใช้วธิ ีการทางกฎหมายและทางเทคนิค
เพือ
่ ล็อกผลจะเรียกกันอย่างแพร่หลายว่า
"แบมบู ไฟร์วอลล์"[26]โครงการความร่วมมือโอเพ่นเน็ตริเริม ่ จัดระดับของเวีย
ดนามการเซ็นเซอร์ทางการเมืองจะเป็ นการ
"แพร่หลาย"[27] ในขณะทีผ ่ ส ่ ข่าวไร้พรมแดนเวียดนามพิจารณาให้เป็ นหนึ่งใ
ู ้ ือ
น 15 ของโลก
"ศัตรูของอินเทอร์เน็ ต"[28] แม้วา่ รัฐบาลของเวียดนามอ้างว่าเพือ ่ ป้ องกันประเท
ศกับเนื้อหาลามกอนาจารหรือไม่เหมาะสมทางเพศผ่านความพยายามสกัดกัน ้
ของหลายทางการเมืองและศาสนาเว็บไซต์ทม ี่ ีความสาคัญเป็ นสิง่ ต้องห้ามยัง[29
]
ดนตรี[แก้]
เพลงเวียดนามแบบดัง้ เดิมแตกต่างระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ของประ
เทศ
ดนตรีคลาสสิกเหนือเป็ นรูปแบบดนตรีทเี่ ก่าแก่ทสี่ ุดของเวียดนามและเป็ นประ
เพณี ทเี่ ป็ นทางการมากขึน้
ต้นกาเนิดของดนตรีเวียดนามสามารถโยงไปถึงการรุกรานของมองโกลในศต
วรรษที่ 13 เมือ ่ เวียดนามจับกุมคณะงิว้ [30]
วรรณกรรม[แก้]
ส่วนนี้รอเพิม
่ เติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิม
่ เติมข้อมูลในส่วนนี้ ได้
เทศกาล[แก้]
เฝอ หนึ่งในอาหารเวียดนามยอดนิยม
เฝอ เป็ นอาหารยอดนิยมในเวียดนาม
ส่วนนี้รอเพิม
่ เติมข้อมูล
คุณสามารถช่วยเพิม ่ เติมข้อมูลในส่วนนี้ ได้
การแต่งกาย[แก้]
การแต่งกายอ่าวหญ่าย (Ao dai)
เป็ นชุดประจาชาติของประเทศเวียดนามทีป ่ ร
ะกอบไปด้วยชุดผ้าไหมทีพ ่ อดีตวั
สวมทับกางเกงขายาวซึง่ เป็ นชุดทีม ่ กั สวมใส่ใ
นงานแต่งงาน และพิธีการสาคัญของประเทศ
ชุดผูห
้ ญิงคล้ายชุดกีเ่ พ้าของจีน
ในปัจจุบน ั เป็ นชุดทีไ่ ด้รบ
ั ความนิยมมากจาก
ผูห
้ ญิงเวียดนามทั่วทัง้ ประเทศ
ส่วนผูช้ ายจะสวมใส่ชุดอ่าวหญ่ายในพิธีแต่งง
านหรือพิธีศพ
ดูเพิม
่ [แก้]
ภาษาเวียดนาม
ฟุตบอลทีมชาติเวียดนาม
วีลีก
หมายเหตุ[แก้]
สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดย
กระทรวงการต่างประเทศ