Professional Documents
Culture Documents
: LupangHinirang
" "
MENU
0:00
จากวิกพ
ิ ีเดีย สารานุกรมเสรี
บทความนี้อาจต้องเขียนใหม่ทง้ ั หมดเพือ่ ให้เป็ นไปตามมา
ตรฐานคุณภาพของวิกพ ิ ีเดีย หรือกาลังดาเนินการอยู่ คุณ
ช่วยเราได้ หน้าอภิปรายอาจมีขอ ้ เสนอแนะ
ธงชาติ ตราแผ่นดิน
MENU
0:00
ยุคก่อนประวัตศ
ิ าสตร์[แก้]
ส่วนนี้รอเพิม
่ เติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิม
่ เติมข้อมูลในส่วนนี้ ได้
Ferdinand Magellan
หลักฐานทางโบราณคดีและโบราณชีววิทยาบ่งบอกว่ามีมนุษย์ โฮโมเซเปี ย
นส์ เคยอาศัยอยูใ่ นเกาะปาลาวันตัง้ แต่ประมาณ 50,000 ปี ก่อน
ชนเผ่าทีพ ่ ูดภาษาในตระกูลออสโตรนีเซียนซึง่ มีถน ิ่ กาเนิดอยูบ
่ นเกาะฟอร์โมซ
า (Formasa)
หรือไต้หวันในปัจจุบน ั ได้อพยพโดยทางเรือเข้ามาตัง้ รกรากในหมูเ่ กาะฟิ ลิปปิ
นส์
และจัดตัง้ เส้นทางเครือข่ายการค้ากับเอเชียอาคเนย์สว่ นทีเ่ หลือทัง้ หมดตัง้ แต่
5,000 ปี ก่อนคริสตกาล สภาพดั่งเดิมของฟิ ลิปปิ นส์
อยูใ่ นสภาพของยุคหินใหม่ ยังไม่ได้รบ ั อิทธิพลของอารยธรรมอินเดียและจีน
ดังเช่นประเทศอืน ่ ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้
ชนชาวพื้นเมืองดัง้ เดิมเป็ นชนเชื้อสายอินโดนีเซีย –
มลายูซงึ่ อพยพเข้ามาตั่งถิน ่ ฐานบริเวณเกาะต่าง ๆ ของฟิ ลิปปิ นส์
การมาตัง้ ถิน ่ ฐานนัน ้ มาโดยเรือเป็ นกลุม ่ ๆ
แต่ละกลุม ่ แยกย้ายไปตัง้ หมูบ ่ า้ นเรีนกว่า บารังไก (Barangay)
ตามชือ ่ เรือทีใ่ ช้อพยพมา มีหวั หน้าหมูบ ่ า้ นเรียกว่า ดาดู (Datu)
ซึง่ เคยเป็ นกัปตันเรือ การตัง้ หมูบ ่ า้ นจะกระจายไปตามเกาะ
ทาให้การติดต่อระหว่างกันไม่คอ ่ ยมี
ส่วนในด้านการปกครองนัน ้ เป็ นแบบพ่อปกครองลูก
โครงสร้างทางการปกครองเป็ นแบบง่าย ๆ มี 4 ชนชัน ้ คือ ดาตู แลครอบครัว
ขุนนาง อิสระชน ทาส
ในส่วนของกฎหมายและกฎระเบียบการปกครองนัน ้ ยังไม่มี สถาบันทีส่ าคัญคือ
ศาสนา ซึง่ มีพอ ่ มดหมอผีเป็ นผูม ้ ีอทิ ธิพลในสังคม
จากการนับถือศาสนาเป็ นแบบ นับถือภูตผี บูชาธรรมชาติ
พวกเขาเชือ ่ ว่ามีพระผูส้ ร้างโลกสูงสุด คือ บาฮารา (Bathala)
และบาอารามีสาวก ฝ่ ายดีและฝ่ ายชั่ว เรียกว่า ดิวาทาส (Diwatas)
เป็ นผูก้ าหนดการประกอบพิธีบวงสรวง เทพฝ่ ายดีและฝ่ ายชั่วคือ พ่อมด หมอผี
ว่าจะประกอบพิธีเมือ ่ ไหร่ ทีใ่ ด สถานทีป ่ ระกอบพิธีนน ้ ั ไม่มีเฉพาะ พ่อมด
หมอผีจะเป็ นผูก ้ าหนด ทีเ่ ป็ นดังนี้เพราะสภาพภูมศ ิ าสตร์
และสภาพธรรมชาติของหมูเ่ กาะ ซึง่ ฟิ ลิปปิ นส์นน ้ ั มีภยั ธรรมชาติอยูเ่ นือง ๆ
จึงทาให้พอ ่ มด หมอผีมีอท ิ ธิพลต่อประชาชนมาก และมากกว่าหรือเท่ากับดาตู
อีกทัง้ ยังได้รบ ั ค่าประกอบพิธี เครือ ่ งเซ่นสังเวยจากประชาชนเป็ นจานวนมาก
ทางด้านเศรษฐกิจนัน ้ ประชาชนทาการเกษตรและการประมง ไม่มีการค้าขาย
มีแต่การแลกเปลีย่ นสินค้า และไม่มีการใช้เงินตรา นาน ๆ
ครัง้ จะมีพอ ่ ค้าต่างชาติแวะมาจอดเรือแลกเปลีย่ นสินค้า
ยุคอิสลาม[แก้]
ส่วนนี้รอเพิม
่ เติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิม
่ เติมข้อมูลในส่วนนี้ ได้
นับแต่คริสต์ศตวรรษที่ 9
ศาสนาอิสลามได้แผ่เข้าสูห ่ มูเ่ กาะทางตอนใต้ของฟิ ลิปปิ นส์หรือมานบูลาส
แล้วครัน ้ ถึงปี ค.ศ. 1380
ชาวมุสลิมก็สามารถสถาปนารัฐอิสลามขึน ้ ในหมูเ่ กาะซูลู โดยมีนกั เผยแผ่ศาสน
าทีช่ ือ
่ ชันค์ ชะรีฟ กะรีม มัคดุม เข้ามาเผยแผ่อส ิ ลามในหมูเ่ กาะต่างๆ ของซูลู
ก่อนหน้านัน ้ เป็ นเวลานาน จนกระทั่ง ซัยยิด อบูบกั ร อิบนุ ชะรีฟ มุฮาหมัด
อิบนิ อะลี อิบนี ซัยบิลอาบีดน ี ได้เดินทางจากรัฐสุลต่านแห่งยะโฮร์ (Johor)
มายังหมูเ่ กาะซูลูในราวปี ค.ศ. 1450 ซัยยิด อบูบกั รได้มาถึงซูลูหลังจากรายา
บะกินดา จากมินงั กะเบา สุมาตรา ได้ลงพานัก
และเผยแผ่ศาสนาอิสลามในหมูเ่ กาะซูลูเป็ นเวลาหลายปี มาแล้ว ซัยยิด
อบูบกั รได้สมรสกับบุตรีของรายาบะกินดา ทีม ่ ีนามว่า ประไหมสุหรี
เมือ
่ รายาบะกินดา สิน ้ ชีวต
ิ ซัยยิด อบูบกั ร
ก็กลายเป็ นผูส ้ ืบทอดอานาจและได้รบ ั การขนานนามว่า สุลต่านแห่งซูลู
ยุคอาณานิคมสเปน[แก้]
เฟอร์ดน ิ านด์ มาเจลลัน มาถึงหมูเ่ กาะฟิ ลิปปิ นส์ในปี ค.ศ. 1521 (พ.ศ.
2064) มีเกล โลเปซ เด เลกัซปี มาถึงฟิ ลิปปิ นส์ในปี ค.ศ. 1565 (พ.ศ. 2108)
และตัง้ ชุมชนชาวสเปนขึน ้ ซึง่ นาไปสูก
่ ารตัง้ อาณานิคมในเวลาต่อมา
หลังจากนัน ้
นักบวชศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกได้แปรศาสนาของชาวเกาะทัง้ หมดใ
ห้หน
ั มานับถือศาสนาคริสต์ ในช่วง 300 ปี นับจากนัน ้
กองทัพสเปนได้ตอ ่ สูก
้ บ
ั เหตุการณ์ กบฏต่าง ๆ มากมาย
ทัง้ จากชนพื้นเมืองและจากชาติอืน ่ ทีพ
่ ยายามเข้ามาครอบครองอาณานิคม
ซึง่ ได้แก่ อังกฤษ จีน ฮอลันดา ฝรั่งเศส ญีป ่ ุ่ น และโปรตุเกส สเปนสูญเสียไปม
ากทีส ่ ุดในช่วงทีอ่ งั กฤษเข้าครอบครองเมืองหลวงเป็ นการชั่วคราวในช่วงสงคร
ามเจ็ดปี (Seven Years' War)
หมูเ่ กาะฟิ ลิปปิ นส์อยูใ่ ต้การปกครองของสเปนในฐานะอาณานิคมของสเปนให
ม่ (New Spain) นับตัง้ แต่ปี ค.ศ. 1565 (พ.ศ. 2108) ถึงปี ค.ศ. 1821
(พ.ศ. 2364)
และนับจากนัน ้ ฟิ ลิปปิ นส์ก็อยูใ่ ต้การปกครองของสเปนโดยตรง การเดินเรือมะ
นิลาแกลเลียน (Manila Galleon)
จากฟิ ลิปปิ นส์ไปเม็กซิโก เริม ่ ต้นขึน้ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 16
และหมูเ่ กาะฟิ ลิปปิ นส์เปิ ดตัวเองเข้าสู่การค้าโลกในปี ค.ศ. 1834
รัฐอารักขาของสหรัฐอเมริกา[แก้]
ส่วนนี้รอเพิม
่ เติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิม
่ เติมข้อมูลในส่วนนี้ ได้
การเมืองการปกครอง[แก้]
บริหารงานและการปกครอง[แก้]
ดูบทความหลักที:่ รัฐบาลฟิ ลิปปิ นส์
นิตบ
ิ ญ
ั ญัต[ิ แก้]
ดูบทความหลักที:่ รัฐสภาแห่งฟิ ลิปปิ นส์
ตุลาการ[แก้]
ดูบทความหลักที:่ กฎหมายฟิ ลิปปิ นส์
สิทธิมนุษยชน[แก้]
ส่วนนี้รอเพิม
่ เติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิม
่ เติมข้อมูลในส่วนนี้ ได้
การแบ่งเขตการปกครอง[แก้]
ฟิ ลิปปิ นส์แบ่งเป็ นหน่ วยรัฐบาลท้องถิน ่ (local government units,
LGUs) โดยทีม ่ ีจงั หวัดเป็ นหน่ วยหลัก ปัจจุบน
ั มี 81 จังหวัด
(provinces) แบ่งออกเป็ น นคร (cities) และ เทศบาล
(municipalities) ซึง่ หน่ วยการปกครองทัง้ สองยังประกอบไปด้วย บารังไกย์
(barangay) อีกทอดหนึ่ง ถือเป็ นหน่ วยรัฐบาลท้องถิน ่ ทีเ่ ล็กทีส
่ ุด
ฟิ ลิปปิ นส์แบ่งออกเป็ น 17 เขต (regions) ซึง่ ทุกจังหวัดได้ถูกจัดอยูใ่ น
16 เขตเพือ่ ความสะดวกในการปกครอง ยกเว้นเขตนครหลวง (National
Capital Region) ทีแ ่ บ่งออกเป็ นเขตพิเศษ 4 แห่ง
หน่ วยงานของรัฐบาลส่วนใหญ่จะตัง้ สานักงานในแต่ละภูมภ
ิ าค
เพือ
่ รับใช้ประชาชนในจังหวัดทีอ
่ ยูใ่ นภูมภ
ิ าคนัน
้ ๆ
ภูมภ
ิ าคไม่มีรฐั บาลท้องถิน ่ แยกต่างหาก
ยกเว้นเขตปกครองตนเองในมินดาเนามุสลิมและเขตบริหารคอร์ดลิ เลราซึง่ ปก
ครองตนเอง ไม่ได้ให้ผอ ู ้ ืน่ ปกครอง
เขตและจังหวัด[แก้]
ดูบทความหลักที:่ เขตของประเทศฟิ ลิปปิ นส์ และ จังหวัดของประเทศฟิ ลิปปิ น
ส์
ภูมศ
ิ าสตร์[แก้]
แผนทีภ
่ ูมป
ิ ระเทศของกลุม
่ เกาะฟิ ลิปปิ นส์
ฟิ ลิปปิ นส์เป็ นกลุม ่ เกาะทีป ่ ระกอบด้วยเกาะ 7,641
เกาะ[15] มีเนื้อทีท
่ ง้ ั หมด (รวมพื้นผิวแหล่งน้าภายในแผ่นดิน) ประมาณ
300,000 ตารางกิโลเมตร (115,831 ตารางไมล์)[16] ชายฝั่งทะเลยาว
36,289 กิโลเมตร (22,549 ไมล์)
ทาให้ฟิลิปปิ นส์เป็ นประเทศทีม ่ ีชายฝั่งยาวทีส ่ ุดเป็ นอันดับที่ 5
ของโลก [17][18] ฟิ ลิปปิ นส์มีทตี่ ง้ ั ซึง่ กาหนดโดยพิกดั ภูมศ ิ าสตร์คอื
ระหว่างลองจิจูด 116° 40' ตะวันออก ถึง 126° 34' ตะวันออก กับละติจูด 4°
40' เหนือ ถึง 21° 10' เหนือ
มีอาณาเขตจรดทะเลฟิ ลิปปิ นทางทิศตะวันออก[19] จรดทะเลจีนใต้ทางทิศตะวัน
ตก[20] และจรดทะเลเซเลบีสทางทิศใต้[21] เกาะบอร์เนียว[22] ตัง้ อยูห ่ า่ งออกไปไ
ม่กีร่ อ้ ยกิโลเมตรทางทิศตะวันตกเฉี ยงใต้และไต้หวันตัง้ อยูท ่ างทิศเหนือโดยตร
ง หมูเ่ กาะโมลุกกะและเกาะซูลาเวซีตง้ ั อยูท ่ างทิศใต้-ตะวันตกเฉี ยงใต้
และปาเลาตัง้ อยูท ่ างทิศตะวันออกของหมูเ่ กาะ[17]
เกาะต่าง ๆ
ซึง่ เต็มไปด้วยภูเขาส่วนใหญ่มีตน ้ กาเนิดจากภูเขาไฟและถูกปกคลุมด้วยป่ าดิบ
ชื้น ภูเขาทีส ่ ูงทีส
่ ุดคือภูเขาอาโป มีความสูงถึง 2,954 เมตร (9,692 ฟุต)
จากระดับน้าทะเลและตัง้ อยูท ่ เี่ กาะมินดาเนา[23][24] ร่องลึกแกละทีอาในร่องลึก
ฟิ ลิปปิ นเป็ นจุดทีล่ กึ ทีส
่ ุดของประเทศและลึกทีส ่ ุดเป็ นอันดับที่ 3 ของโลก
ร่องลึกดังกล่าวตัง้ อยูใ่ นทะเลฟิ ลิปปิ น[25]
่ ุดคือแม่น้าคากายันในภาคเหนือของเกาะลูซอน[26] อ่าวมะ
แม่น้าทีย่ าวทีส
นิลา (ชายฝั่งของอ่าวเป็ นทีต ่ ง้ ั ของกรุงมะนิลาเมืองหลวง)
เชือ่ มต่อกับลากูนาเดบาอี (ทะเลสาบทีใ่ หญ่ทส ี่ ุดในฟิ ลิปปิ นส์)
ผ่านแม่น้าปาซิก อ่าวซูบก ิ อ่าวดาเบา และอ่าวโมโรเป็ นอ่าวอืน ่ ๆ
ทีส
่ าคัญ ช่องแคบซันฮัวนีโคแยกเกาะซามาร์และเกาะเลเตออกจากกัน
แต่ก็มีสะพานซันฮัวนีโคข้ามเหนือช่องแคบ[27]
เนื่องจากตัง้ อยูบ
่ นขอบตะวันตกของวงแหวนไฟแปซิฟิก
ฟิ ลิปปิ นส์จงึ ต้องเผชิญกับกิจกรรมแผ่นดินไหวและภูเขาไฟบ่อยครัง้ เนินใต้ส
มุทรเบ็นนัมในทะเลฟิ ลิปปิ น (ทางทิศตะวันออกของกลุม ่ เกาะ)
เป็ นภูมภ ่ นไหวอยูใ่ นเขตมุดตัวของเปลือกโลก[28] มีกา
ิ าคใต้สมุทรทีย่ งั คงเคลือ
รตรวจพบแผ่นดินไหวประมาณ 20 ครัง้ ต่อวัน
แต่การสั่นสะเทือนส่วนใหญ่เบาเกินกว่าทีม ่ นุษย์จะรูส้ ก
ึ ได้
แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ครัง้ ล่าสุดเกิดขึน ้ ทีเ่ กาะลูซอนเมือ ่ ปี ค.ศ. 1990[29]
ในฟิ ลิปปิ นส์มีภูเขาไฟทีม ่ ีพลังอยูห
่ ลายลูก
เช่น ภูเขาไฟมาโยน ภูเขาปี นาตูโบ ภูเขาไฟตาอัล เป็ นต้น
การปะทุของภูเขาปี นาตูโบในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1991
ถือเป็ นการปะทุทรี่ ุนแรงทีส ่ ุดเป็ นอันดับที่ 2 ของโลกในคริสต์ศตวรรษที่
[30]
20 อย่างไรก็ตาม
ไม่ใช่วา่ ภูมลิ กั ษณ์ ทโี่ ดดเด่นทุกแห่งจะมีความรุนแรงหรือมีอานาจทาลายล้างเ
สมอไป
มรดกทีส ่ งบเงียบแห่งหนึ่งจากความปั่นป่ วนทางธรณี วท ิ ยาคือแม่น้าใต้ดน ิ ปูเวร์
โตปรินเซซาซึง่ เป็ นถิน ่ ทีอ
่ ยูส
่ าหรับการอนุรกั ษ์ ความหลากหลายทางชีวภาพ น
อกจากนี้
แหล่งมรดกโลกแห่งนี้ยงั มีระบบนิเวศจากภูเขาสูท ่ ะเลทีส่ มบูรณ์ และมีป่าไม้ที่
สาคัญทีส ่ ุดแห่งหนึ่งในเอเชียอีกด้วย[31]
เนื่องจากธรรมชาติของเกาะต่าง ๆ เป็ นภูเขาไฟ
ฟิ ลิปปิ นส์จงึ มีทรัพยากรแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์
มีผป ู้ ระมาณว่าประเทศนี้ มีแหล่งแร่ทองคาใหญ่ทส ี่ ุดเป็ นอันดับที่ 2
รองจากแอฟริกาใต้ และเป็ นแหล่งแร่ทองแดงทีใ่ หญ่ทส ี่ ุดแห่งหนึ่งในโลก[32]
นอกจากนี้ยงั อุดมไปด้วยนิกเกิล โครไมต์ และสังกะสี อย่างไรก็ตาม
การจัดการทีไ่ ม่ดี ความหนาแน่ นสูงของประชากร
และความตระหนักด้านสิง่ แวดล้อมทาให้ยงั ไม่มีการนาทรัพยากรส่วนใหญ่ขน ึ้
[32]
มาใช้ พลังงานความร้อนใต้พภ ิ พเป็ นผลผลิตจากกิจกรรมภูเขาไฟทีฟ ่ ิ ลิปปิ น
ส์สามารถควบคุมจัดการจนได้ผลสาเร็จมากกว่า โดยในปัจจุบน ั
ประเทศนี้เป็ นผูผ ้ ลิตพลังงานความร้อนใต้พภ ิ พทีใ่ หญ่ทส ี่ ุดเป็ นอันดับที่ 2
ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา และพลังงานความร้อนใต้พภ ิ พสามารถตอบสน
องความต้องการใช้ไฟฟ้ าได้ถงึ ร้อยละ 18 ของประเทศ [33]
ภูมลิ กั ษณ์ ฟิลิปปิ นส์
ความหลากหลายทางชีวภาพ[แก้]
่ นกอินทรีฟิลิปปิ น (Pithecophaga
นกประจาชาติทีร่ จู ้ กั กันในชือ
jefferyi) มีลาตัวยาวทีส่ ุดในบรรดานกอินทรีชนิดใด ๆ[42][43]
พืดหินปะการังนอกชายฝั่งเกาะเซบู
น่ านน้าอาณาเขตของฟิ ลิปปิ นส์ครอบคลุมเนื้อทีก ่ ว้างขวางถึง
2,200,000 ตารางกิโลเมตร (849,425 ตารางไมล์)
เป็ นแหล่งกาเนิดชีวต ิ ในท้องทะเลทีม่ ีลกั ษณะเฉพาะและมีความหลากหลายอันเ
ป็ นส่วนสาคัญของสามเหลีย่ มปะการัง[44] ประมาณกันว่ามีชนิดปะการังและปล
าทะเลทัง้ สิน ้ 500 และ 2,400
ชนิดตามลาดับ[34][38] สถิตใิ หม่[45][46] และการค้นพบสิง่ มีชีวต ิ ชนิดใหม่[47][48][4
9] ได้เพิม ่ ตัวเลขเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง
แสดงให้เห็นลักษณะเฉพาะของทรัพยากรทางทะเลในฟิ ลิปปิ นส์ได้อย่างชัดเจ
น พืดหินปะการังตุบบาตาฮาในทะเลซูลไู ด้รบ ั การประกาศให้เป็ นแหล่งมรดกโ
ลกเมือ ่ ปี ค.ศ. 1993 นอกจากนี้
น่ านน้าฟิ ลิปปิ นส์ยงั เอื้อต่อการเจริญเติบโตของปู หอยมุก
และสาหร่ายทะเล[34][50]
ด้วยชนิดพืชประมาณ 13,500 ชนิด ซึง่ 3,200
ชนิดในจานวนนี้พบเฉพาะในกลุม ่ เกาะนี้เท่านัน้ [38] ป่ าดิบชื้นของฟิ ลิปปิ นส์จงึ
มีพรรณพืชหลากหลายซึง่ รวมถึงกล้วยไม้และบัวผุดหายากหลายพันธุ์[51][52] ก
ารทาลายป่ าซึง่ มักเป็ นผลจากการทาไม้ผด ิ กฎหมายถือเป็ นปัญหาร้ายแรงของ
ฟิ ลิปปิ นส์ พื้นทีป
่ ่ าลดลงจากร้อยละ 70
ของพื้นทีบ ่ นบกทัง้ หมดของประเทศในปี ค.ศ. 1900
เหลือเพียงประมาณร้อยละ 18.3 ในปี ค.ศ.
1999[53] สิง่ มีชีวต ิ จานวนมากตกอยูใ่ นภาวะใกล้สูญพันธุ์
และมีนกั วิทยาศาสตร์กล่าวว่า เอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้ (รวมทัง้ ฟิ ลิปปิ นส์)
ต้องเผชิญกับอัตราการสูญพันธุ์ทรี่ ุนแรงถึงร้อยละ 20
เมือ ้ สุดคริสต์ศตวรรษที่ 21[54]
่ สิน
ภูมอ
ิ ากาศ[แก้]
ไต้ฝุ่นไห่เยีย่ น (ในฟิ ลิปปิ นส์เรียกว่า โยลันดา) ขณะมีกาลังแรงสูงสุด
ฟิ ลิปปิ นส์อยูใ่ นเขตภูมอ ิ ากาศภาคพื้นสมุทรเขตร้อนซึง่ โดยปกติจะมีอากา
ศร้อนและชื้น มีฤดูกาล 3 ฤดูกาล ได้แก่ ตักอีนิต (tag-init)
หรือ ตักอาเรา (tag-araw)
ซึง่ เป็ นฤดูรอ้ นหรือฤดูทม ี่ ีอากาศแห้งร้อนตัง้ แต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาค
ม, ตักอูลน ั (tag-ulan) หรือฤดูฝนตัง้ แต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายน
และ ตักลามิก(taglamig)
หรือฤดูทม ี่ ีอากาศแห้งเย็นตัง้ แต่เดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ มรสุมตะวัน
ตกเฉี ยงใต้ (ตัง้ แต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม)
มีชือ ่ เป็ นภาษาท้องถิน ่ ว่า ฮากาบัต (habagat)
และลมแห้งของมรสุมตะวันออกเฉี ยงเหนือ
(ตัง้ แต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน)
มีชือ ่ เป็ นภาษาท้องถิน ่ ว่า อามีฮน ั (amihan)[55] อุณหภูมโิ ดยทั่วไปอยูใ่ นพิสยั
ตัง้ แต่ 21 องศาเซลเซียส (70 องศาฟาเรนไฮต์) ถึง 32 องศาเซลเซียส (90
องศาฟาเรนไฮต์) แต่อาจเย็นหรือร้อนกว่านี้ขน ึ้ อยูก
่ บ
ั ฤดูกาล
เดือนทีม ่ ีอากาศเย็นทีส ่ ุดคือเดือนมกราคม
ส่วนเดือนทีม ่ ีอากาศอบอุน ่ ุดคือเดือนพฤษภาคม[17][56]
่ ทีส
อุณหภูมเิ ฉลีย่ รายปี อยูท ่ ป
ี่ ระมาณ 26.6 องศาเซลเซียส (79.9
องศาฟาเรนไฮต์) ทัง้ นี้[55]
ทาเลทีต
่ ง้ ั ในแง่ละติจูดและลองจิจูดไม่ใช่ปจั จัยสาคัญในการพิจารณาอุณหภูมิ
เพราะไม่วา่ จะอยูเ่ หนือสุด ใต้สุด ตะวันออกสุด หรือตะวันตกสุดของประเทศ
อุณหภูมท ิ รี่ ะดับน้าทะเลก็มีแนวโน้มทีจ่ ะอยูใ่ นพิสยั เดียวกัน
ระดับความสูงของพื้นทีม ่ กั จะส่งผลต่ออุณหภูมม ิ ากกว่า
อุณหภูมเิ ฉลีย่ รายปี ของเมืองบากีโยทีร่ ะดับความสูง 1,500 เมตร (4,900
ฟุต) จากระดับน้าทะเลคือ 18.3 องศาเซลเซียส (64.9 องศาฟาเรนไฮต์)
ทาให้เมืองนี้เป็ นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในฤดูรอ้ น[55]
เนื่องจากตัง้ อยูใ่ นแดนไต้ฝุ่น
เกาะส่วนใหญ่ของฟิ ลิปปิ นส์จงึ มีฝนตกกระหน่าและพายุฟ้าคะนองตัง้ แต่เดือน
กรกฎาคมถึงเดือนตุลาคมของทุกปี [57] ในแต่ละปี จะมีไต้ฝุ่นประมาณ 19
ลูกเข้าสูเ่ ขตความรับผิดชอบของสานักงานบริหารบรรยากาศ ธรณีฟิสิกส์
และดาราศาสตร์ฟิลิปปิ นส์ โดยมี 8-9
ลูกในจานวนนี้เคลือ ่ นตัวขึน ้ ฝั่ง[58][59][60] ปริมาณน้าฝนรายปี ตรวจวัดได้สูงถึง
5,000 มิลลิเมตร (200 นิ้ว) ในเขตชายฝั่งตะวันออกซึง่ มีสภาพเป็ นภูเขา
แต่น้อยกว่า 1,000 มิลลิเมตร (39 นิ้ว)
ในหุบเขาบางแห่งทีม ี่ าบัง[57] พายุหมุนเขตร้อนทีท
่ ีทก ่ าให้ฝนตกมากทีส่ ุดในฟิ
ลิปปิ นส์เท่าทีท
่ ราบกันคือพายุหมุนในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1911
ซึง่ ส่งอิทธิพลให้เกิดฝนตกหนักปริมาณถึง 1,168 มิลลิเมตร (46 นิ้ว)
ภายในเวลา 24 ชั่วโมงทีเ่ มืองบากีโย[61] อนึ่ง บักโย (bagyo)
เป็ นคาในภาษาฟิ ลิปปิ นส์ทใี่ ช้เรียกพายุหมุนเขตร้อน
เศรษฐกิจ[แก้]
การเก็บเกีย่ วสับปะรดในจังหวัดตีโมกโคตาบาโต
โรงงานน้าตาลแห่งหนึ่งในจังหวัดคันลูรงั เนโกรส
เศรษฐกิจฟิ ลิปปิ นส์มีขนาดใหญ่ทส ี่ ุดเป็ นอันดับที่ 34 ของโลก โดยในปี
ค.ศ. 2017 มีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (ราคาตลาด) โดยประมาณอยูท ่ ี่
348,593 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[62] สินค้าส่งออกหลักได้แก่
ผลิตภัณฑ์สารกึง่ ตัวนาและผลิตภัณฑ์อเิ ล็กทรอนิกส์ บริภณ ั ฑ์ขนส่ง เสื้อผ้า
ผลิตภัณฑ์ทองแดง ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม น้ามันมะพร้าว และผลไม้[63] คูค ่ า้ รา
ยใหญ่ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญีป ่ ุ่ น จีน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ เนเธอร์แลนด์ ฮ่องกง
เยอรมนี ไต้หวัน และไทย[63] หน่ วยเงินตราของประเทศคือเปโซฟิ ลิปปิ นส์
ในฐานะประเทศอุตสาหกรรมใหม่ ระบบเศรษฐกิจของฟิ ลิปปิ นส์ได้เปลีย่
นผ่านจากระบบทีพ ่ ง่ึ พิงเกษตรกรรมไปสูร่ ะบบทีเ่ น้นการบริการและการผลิตม
ากขึน้ จากจานวนผูอ ้ ยูใ่ นกาลังแรงงานทัง้ หมดประมาณ 40.813
ล้านคนของประเทศ[63] ภาคเกษตรกรรมมีสดั ส่วนการจ้างงานคิดเป็ นร้อยละ
30และสร้างมูลค่าคิดเป็ นร้อยละ 14 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
ภาคอุตสาหกรรมมีสดั ส่วนการจ้างงานร้อยละ 14 และสร้างมูลค่าร้อยละ 30
ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ในขณะทีร่ อ้ ยละ 47
เป็ นแรงงานในภาคบริการซึง่ สร้างมูลค่าร้อยละ 56
ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ[64][65]
อัตราการว่างงานของฟิ ลิปปิ นส์ ณ วันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2014
อยูท่ รี่ อ้ ยละ 6.0[66][67] ในขณะเดียวกัน
เนื่องจากสิง่ จาเป็ นขัน ้ พื้นฐานมีราคาถูกลง
อัตราเงินเฟ้ อจึงขยายตัวลดลงเหลือร้อยละ 3.7 ในเดือนพฤศจิกายน
ปี เดียวกัน[68] ทุนสารองเงินตราระหว่างประเทศ ณ เดือนตุลาคม ค.ศ. 2013
มีมูลค่า 83,201
ล้านดอลลาร์สหรัฐ[69] อัตราส่วนหนี้สน ิ ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศลดลง
อย่างต่อเนื่อง จากสถิตส ิ ูงสุดทีร่ อ้ ยละ 78 ในปี ค.ศ. 2004[70] มาอยูท ่ รี่ อ้ ยละ
38.1 ณ เดือนมีนาคม ค.ศ.
2014[71][72] ฟิ ลิปปิ นส์เป็ นประเทศผูน ้ าเข้าสุทธิ[65] แต่ก็เป็ นประเทศเจ้าหนี้เช่
นกัน[73]
หลังสงครามโลกครัง้ ที่
2 ฟิ ลิปปิ นส์ได้รบ ั การจัดให้เป็ นประเทศทีม ่ ่งั คั่งทีส
่ ุดเป็ นอันดับที่ 2
ในภูมภ ิ าคเอเชียตะวันออก
เป็ นรองเพียงญีป ้ [74][75][76] จนกระทั่งในคริสต์ทศวรรษ 1960
่ ุ่ นเท่านัน
สมรรถนะทางเศรษฐกิจของประเทศจึงเริม ่ ถูกแซง
เศรษฐกิจเข้าสูภ ่ าวะชะงักงันภายใต้การปกครองแบบเผด็จการของประธานาธิ
บดีเฟร์ดน ี น
ั ด์
มาร์โคส เนื่องจากระบอบมาร์โคสได้บม ่ เพาะปัญหาการจัดการเศรษฐกิจทีไ่ ม่ดี
และความผันผวนทางการเมืองเอาไว้ [74][76] ระบบเศรษฐกิจเติบโตทางอย่างเชื่
องช้าและประสบภาวะถดถอยเป็ นระยะ ๆ จนกระทั่งในคริสต์ทศวรรษ 1990
่ ฟื้ นตัวตามแผนการเปิ ดเสรีทางเศรษฐกิจ[74][76]
จึงเริม
ฟิ ลิปปิ นส์ตอ ้ งเผชิญวิกฤตการณ์ การเงินในเอเชีย ค.ศ.
1997 อย่างหลีกเลีย่ งไม่ได้
ค่าเงินเปโซลดลงอย่างต่อเนื่องและราคาหุน ้ ในตลาดหลักทรัพย์ตกลงมาหลายจุ
ดในช่วงแรกของวิกฤตการณ์
แต่ผลกระทบทีฟ ่ ิ ลิปปิ นส์ได้รบ ั นัน ้ ไม่หนักเท่าในประเทศเพือ ่ นบ้านบางประเท
ศ ส่วนใหญ่เป็ นผลมาจากนโยบายการคลังแบบอนุรกั ษนิยมของรัฐบาล
และบางส่วนเป็ นผลมาจากการเฝ้ าระวังและการควบคุมดูแลทางการเงินเป็ นเว
ลาหลายสิบปี โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ในขณะทีบ ่ รรดาประเทศเพือ่
นบ้านได้ใช้เงินมหาศาลเพือ ่ กระตุน ้ ความเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว [77]
หาดทรายขาวบนเกาะโบราไค
ภาคการเดินทางและท่องเทีย่ วมีบทบาทสาคัญต่อเศรษฐกิจฟิ ลิปปิ นส์ โดย
สร้างมูลค่าเพิม
่ แก่ระบบเศรษฐกิจคิดเป็ นสัดส่วนร้อยละ 7.1
ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศในปี ค.ศ. 2013[95] และสร้างตาแหน่ งงาน
1,226,500 ตาแหน่ ง หรือร้อยละ 3.2
ของการจ้างงานทัง้ หมด[96] ตัง้ แต่เดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม ค.ศ.
2017 ฟิ ลิปปิ นส์ได้ตอ
้ นรับผูม
้ าเยือนชาวต่างชาติทง้ ั หมด 2,882,737 คน
(เพิม ้ ร้อยละ 14.43 เมือ
่ ขึน ่ เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี ค.ศ. 2016)
ผูม
้ าเยือนจากภูมภ ิ าคเอเชียตะวันออก เอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้ และเอเชียใต้ร
วมกันคิดเป็ นสัดส่วนร้อยละ 60.72
ในขณะทีผ ่ ม
ู้ าเยือนจากทวีปอเมริกาและจากทวีปยุโรปมีสดั ส่วนอยูท ่ รี่ อ้ ยละ
18.52 และร้อยละ 11.26
ตามลาดับ[97] หน่ วยงานทีม ่ ีหน้าทีร่ บ ั ผิดชอบในการจัดการและส่งเสริมภาคกา
รท่องเทีย่ วของฟิ ลิปปิ นส์คอ ื กระทรวงการท่องเทีย่ ว
ความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศเป็ นหนึ่งในบรรดาจุดดึงดูดควา
มสนใจหลัก ๆ ของการท่องเทีย่ ว โดยมีชายหาด ภูเขา ป่ าดิบชื้น เกาะ
และจุดดาน้าอยูใ่ นบรรดาสถานทีท ่ อ
่ งเทีย่ วยอดนิยม
เนื่องจากฟิ ลิปปิ นส์มีสภาพภูมศ ิ าสตร์เป็ นกลุม ่ ของเกาะประมาณ 7,500 เกาะ
จึงมีชายหาด ถา้
และการก่อตัวของหินรูปทรงแปลกตามากมาย โบราไคซึง่ มีหาดทรายขาวสะอ
าดได้รบ ั การลงคะแนนจากผูอ ้ า่ นนิตยสารแทรเวลแอนด์เลเชอร์ให้เป็ นเกาะทีด ่ ี
ทีส [98]
่ ุดในโลกประจาปี ค.ศ. 2012 จุดเด่นด้านการท่องเทีย่ วอืน ่ ๆ
ได้แก่ นาขัน ้ บันไดบานาเวในจังหวัดอีฟูเกา นครประวัตศ ิ าสตร์วีกนั ในจังหวัด
ตีโมกอีโลโคส เนินเขาช็อกโกแลตในจังหวัดโบโฮล กางเขนของมาเจลลันในจั
งหวัดเซบู และพืดหินปะการังตุบบาตาฮาในจังหวัดปาลาวัน
โครงสร้างพื้นฐาน[แก้]
การคมนาคม และ โทรคมนาคม[แก้]
เส้นทางคมนาคม[แก้]
ดูบทความหลักที:่ การขนส่งในประเทศฟิ ลิปปิ นส์
โทรคมนาคม[แก้]
ส่วนนี้รอเพิม
่ เติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิม
่ เติมข้อมูลในส่วนนี้ ได้
การศึกษา[แก้]
ดูบทความหลักที:่ การศึกษาในฟิ ลิปปิ นส์
นโยบายทางการศึกษาในยุคทีเ่ ป็ นอาณานิคมของ
สเปน
หลังจากทีฟ ่ ิ ลิปปิ นส์ตกเป็ นอาณานิคมของสเปนอย่างเป็ นทางการในปี
ค.ศ. 1571
ระบบการศึกษาในฟิ ลิปปิ นส์ได้รบ ั อิทธิพลจากนโยบายของจักรวรรดิสเปน
สิง่ หนึ่งทีถ
่ ือเป็ นเอกลักษณ์ สาคัญในการเปลีย่ นแปลงของระบบการศึกษาในสมั
ยนัน ้ คือ ระบบการศึกษาแบบคาทอลิก
โดยศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกมีบทบาทอย่างมากในการพัฒนาระบบก
ารศึกษาทัง้ ในระดับโรงเรียนและมหาวิทยาลัยภายในฟิ ลิปปิ นส์
เพราะเป็ นยุทธศาสตร์สาคัญของสเปนในการเผยแผ่คริสต์ศาสนานิกายโรมันค
าทอลิกในฟิ ลิปปิ นส์
ปัจจัยทีส ่ ง่ ผลให้ศาสนจักรโรมันคาทอลิกประสบความสาเร็จในการปฏิรูประบบ
การศึกษาในประเทศฟิ ลิปปิ นส์คอ ื ปัจจัยด้านการถือครองทีด ่ น ิ
เหตุเพราะศาสนาโรมันคาทอลิกถือครองทีด ่ น ิ เป็ นจานวนมากภายในฟิ ลิปปิ นส์
ซึง่ ส่งผลให้นกั บวชนิกายโรมันคาทอลิกมีอท ิ ธิพลและมีอานาจมากในการปฏิรู
ประบบการศึกษา
และประสบความสาเร็จในการเผยแผ่ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกภายใน
ฟิ ลิปปิ นส์ ทัง้ นี้
ระบบการศึกษาในประเทศฟิ ลิปปิ นส์ได้ถูกเปลีย่ นแปลงอีกครัง้ ในปี ค.ศ.1863
ผ่านกฎหมายการศึกษา (Educational Decree)
ทีเ่ น้นให้ระบบการศึกษาภายในประเทศมีความเป็ นระบบ
มีหลักสูตรทีม ่ ีมาตรฐาน
และก่อตัง้ โรงเรียนเพิม ้ เพือ
่ มากยิง่ ขึน ่ รองรับประชาชนทั่วไปภายในประเทศ
อย่างไรก็ดี
ความเหลือ ่ มลา้ ในการเข้าถึงระบบการศึกษาของคนในประเทศยังคงมีอยู่
โดยเฉพาะอย่างยิง่ ความเหลือ ่ มลา้ ระหว่างผูช ้ ายและผูห ้ ญิง
และความเหลือ ่ มลา้ ระหว่างครอบครัวทีม ่ ีฐานะร่ารวยและยากจน
นอกเหนือจากศาสนาและระบบการศึกษาทีเ่ ป็ นระบบ
ภาษาสเปนเป็ นอีกสิง่ หนึ่งทีส ่ เปนได้ทงิ้ ไว้แก่ประเทศอาณานิคม
ซึง่ เห็นได้จากร่องรอยของมรดกทางภาษาสเปน
โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในภาษาตากาล็อกทีไ่ ด้รบ ั อิทธิพลอย่างมากจากภาษาสเปน
เช่นเดียวกับการตัง้ ชือ ่ คนในประเทศ ถนนหนทาง หรือสิง่ ก่อสร้างต่าง ๆ
ในฟิ ลิปปิ นส์ทยี่ งั คงถูกเรียกขานเป็ นภาษาสเปนจนถึงปัจจุบน ั
นโยบายทางการศึกษาในยุคทีเ่ ป็ นอาณานิคมของสหรัฐ
ในการปฏิรูประบบการศึกษาภายในฟิ ลิปปิ นส์ภายใต้อาณานิคมของสหรัฐ
ยุทธศาสตร์สาคัญของสหรัฐ คือ
ความพยายามทีจ่ ะทาให้ชาวฟิ ลิปปิ นส์มีความเป็ นอเมริกน ั มากขึน ้
(Americanization) ผ่านนโยบายการศึกษาทีถ ่ ูกคิดค้นขึน ้ โดยชาวอเมริกน ั
ตลอดระยะเวลาทีส ่ หรัฐปกครองฟิ ลิปปิ นส์
มีการสนับสนุนให้ใช้ภาษาอังกฤษมากขึน ้ เพือ ่ ลดบทบาทการใช้ภาษาท้องถิน ่
โดยกว่า 5 ทศวรรษของระบบการศึกษาแบบอเมริกน ั
นักเรียนฟิ ลิปปิ นส์ตอ ้ งศึกษาบทประพันธ์ของกวีตะวันตกชือ ่ ดังมากมาย อาทิ
วิลเลีย่ ม เชคสเปี ยร์ เป็ นต้น
ส่งผลทาให้ชาวฟิ ลิปปิ นส์ให้ความสนใจกับวรรณคดีทอ ้ งถิน่ น้อยลง
และใช้ภาษาอังกฤษในชัน ้ เรียนและในชีวต ิ ประจาวันมากขึน ้ ถึงแม้วา่ สหรัฐ
พยายามสอดแทรกวรรณกรรมตะวันตกในชีวต ิ ประจาวันของชาวฟิ ลิปปิ นส์
แต่เมือ ่ เทียบกับยุคทีส่ เปนปกครองฟิ ลิปปิ นส์กอ ่ นหน้านัน้
ถือได้วา่ ชาวฟิ ลิปปิ นส์มีเสรีภาพในการแสดงผลงานด้านบทประพันธ์ กลอน
และวารสารต่างๆ ในภาษาท้องถิน ่ มากกว่าในยุคทีเ่ ป็ นอาณานิคมของสเปน
อย่างไรก็ตาม
ผลงานวรรณกรรมของชาวฟิ ลิปปิ นส์กลับไม่ได้รบ ั การบรรจุในวิชาภาษาและว
รรณคดีในชัน ้ เรียนเท่าทีค่ วร
ซึง่ ส่งผลทาให้ระบบการศึกษาแบบอเมริกน ั แตกต่างจากระบบการศึกษาในยุค
ทีเ่ ป็ นอาณานิคมของสเปนโดยสิน ้ เชิง นั่นคือ
ชาวฟิ ลิปปิ นส์ในยุคทีถ ่ ูกปกครองโดยสหรัฐ
ไม่มีโอกาสได้เรียนภาษาประจาชาติของตัวเอง
เพราะภาษาท้องถิน ่ ถูกใช้เป็ นเพียงตัวช่วยในการเรียนการสอนในวิชาต่างๆ
เท่านัน ้ อีกทัง้ สหรัฐยังผูกขาดการใช้ภาษาอังกฤษในระบบการศึกษา จวบจน
ค.ศ. 1940 ภายหลังจากทีญ ่ ป
ี่ ุ่ นเข้ายึดครองฟิ ลิปปิ นส์ในสงครามโลกครัง้ ที่ 2
แต่ญป ี่ ุ่ นไม่ได้มีบทบาทในการพัฒนาการศึกษาภายในประเทศฟิ ลิปปิ นส์
นโยบายการศึกษาภายหลังยุคทีเ่ ป็ นอาณานิคมขอ
งสหรัฐจวบจนปัจจุบน
ั
ภายหลังจากทีฟ ่ ิ ลิปปิ นส์มีอส
ิ ระในการกาหนดนโยบายการศึกษาแล้ว
ฟิ ลิปปิ นส์ยงั คงให้ความสาคัญกับภาษาอังกฤษในระบบการศึกษา
พิจารณาได้จากรัฐธรรมนูญของประเทศฟิ ลิปปิ นส์ฉบับปี ค.ศ.1987
ทีร่ ะบุไว้อย่างชัดเจนว่า
ภาษาทางการทีใ่ ช้ในการเรียนการสอนในโรงเรียนคือภาษาฟิ ลิปปิ นส์และภาษ
าอังกฤษ
กระทรวงศึกษาธิการของฟิ ลิปปิ นส์ได้กาหนดให้ใช้ภาษาทัง้ สองในวิชาทีแ ่ ตกต่
างกันในการเรียนการสอน ในปัจจุบน ั
นโยบายการศึกษาของฟิ ลิปปิ นส์ยงั คงเป็ นไปในรูปแบบอเมริกน ั ทีเ่ น้นภาษาอัง
กฤษเป็ นภาษาหลักในการเรียนการสอน
ในขณะเดียวกันสถาบันทางการศึกษาหลายต่อหลายแห่งยังคงขึน ้ ตรงต่อระบบ
การศึกษาแบบคาทอลิก อาทิ มหาวิทยาลัย ดา ลา ซาน (De La Salle
University) และมหาวิทยาลัย อาเตเนโอ เด มานิลา่ (Ateneo de Manila
University) เป็ นต้น โดยสรุป
การทีน ่ โยบายทางการศึกษาของฟิ ลิปปิ นส์ถูกควบคุมโดยประเทศเจ้าอาณานิค
มอย่างสเปนและ สหรัฐ ส่งผลดีและผลเสียแตกต่างกันไป
ผลดีสาหรับฟิ ลิปปิ นส์คอ ื ระบบการศึกษาของฟิ ลิปปิ นส์มีคณุ ภาพ
มีมาตรฐานและเป็ นระบบมากยิง่ ขึน ้ ผ่านการปฏิรูปทางการศึกษาของสเปน
รวมไปถึงการทีป ่ ระชาชนภายในประเทศมีระดับความสามารถทางภาษาอังกฤ
ษทีส ้ ภายใต้ระบบการศึกษาแบบอเมริกน
่ ูงขึน ั
ผลเสียภายใต้การปกครองโดยสเปนและสหรัฐ คือ
การถูกลิดรอนอิสรภาพในการกาหนดทิศทางทางการศึกษาด้วยตัวเอง อาทิ
ประชาชนฟิ ลิปปิ นส์ได้รบ
ั อิทธิพลและกฎเกณฑ์ตา่ งๆ
ภายใต้ระบบการศึกษาแบบคาทอลิก หรือการทีเ่ อกลักษณ์ ของชาติ
โดยเฉพาะอย่างยิง่ วรรณกรรมและภาษาท้องถิน ่ ได้รบ ั การอนุรกั ษ์ และให้ควา
มสาคัญทีน่ ้อยลงภายใต้ระบบการศึกษาแบบอเมริกน ั
วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี[แก้]
ส่วนนี้รอเพิม
่ เติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิม
่ เติมข้อมูลในส่วนนี้ ได้
สาธารณสุข[แก้]
ส่วนนี้รอเพิม
่ เติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิม
่ เติมข้อมูลในส่วนนี้ ได้
สวัสดิการสังคม[แก้]
ส่วนนี้รอเพิม
่ เติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิม
่ เติมข้อมูลในส่วนนี้ ได้
ประชากรศาสตร์[แก้]
แผนทีแ
่ สดงชนกลุม
่ น้อยต่างๆ ในฟิ ลิปปิ นส์
มีปญ ่ น้อยมุสลิมในเกาะมินดาเนา ซึง่ ต้องการแยกตัวเป็ นอิสระ
ั หาชนกลุม
เรียกว่า "แนวปลดปล่อยแห่งชาติโมโร"
ภาษา[แก้]
ดูบทความหลักที:่ ภาษาในประเทศฟิ ลิปปิ นส์
มีการใช้ภาษามากกว่า 170 ภาษา
โดยส่วนมากเกือบทัง้ หมดนัน
้ เป็ นตระกูลภาษาย่อยมาลาโย-
โปลินีเซียนตะวันตก แต่ในปี พ.ศ.
2530 รัฐธรรมนูญได้ระบุให้ภาษาฟิ ลิปีโนและภาษาอังกฤษเป็ นภาษาทางการ
ส่วนภาษาต่างประเทศอืน
่ ๆ ทีใ่ ช้กน
ั มากในประเทศฟิ ลิปปิ นส์มีทง้ ั หมด 8
ภาษา
ได้แก่ ภาษาสเปน ภาษาจีนฮกเกี้ยน ภาษาจีนแต้จวิ๋ ภาษาอินโดนีเซียภาษาซิน
ด์ ภาษาปัญจาบ ภาษาเกาหลี และภาษาอาหรับ
โดยฟิ ลิปปิ นส์นน
้ ั มีภาษาประจาชาติคอ
ื ภาษา ตากาล็อก
ศาสนา[แก้]
ดูบทความหลักที:่ ศาสนาในประเทศฟิ ลิปปิ นส์
ศาสนาในประเทศฟิ ลิปปิ นส์
ศาสนา %
คริสต์ 92.9%
อิสลาม 5.6%
ฮินดู 1%
ศาสนาอืน
่
0.5%
ๆ
Wikimedia Philippines
Wikimedia Atlas of Philippines
อืน
่ ๆ