You are on page 1of 47

ประเทศฟิ ลิปปิ นส์

Republicof the Philippines( )


Republika ngPilipinas( )

: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at


Makabansa
" "

: LupangHinirang
" "

MENU
0:00

จากวิกพ
ิ ีเดีย สารานุกรมเสรี
บทความนี้อาจต้องเขียนใหม่ทง้ ั หมดเพือ่ ให้เป็ นไปตามมา
ตรฐานคุณภาพของวิกพ ิ ีเดีย หรือกาลังดาเนินการอยู่ คุณ
ช่วยเราได้ หน้าอภิปรายอาจมีขอ ้ เสนอแนะ

สาธารณรัฐฟิ ลิปปิ นส์


Republic of the Philippines(อังกฤษ)
Republika ng Pilipinas (ฟิ ลิปิโน)

ธงชาติ ตราแผ่นดิน

คาขวัญ: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at


Makabansa
"เพือ
่ พระเป็ นเจ้า ประชาชน ธรรมชาติ และประเทศ"

เพลงชาติ: Lupang Hinirang


"แผ่นดินทีถ
่ ูกเลือก"

MENU
0:00

สถานทีต ่ ง้ ั ประเทศฟิ ลิปปิ นส์ (สีเขียว)


ประเทศทีเ่ ป็ นสมาชิกในกลุม ่ อาเซียน (สีเทาเข้ม)
เมืองหลวง มะนิลา
14°35′N 121°0′E
เมืองใหญ่สุด นครเกซอน
ภาษาฟิ ลิปีโน
ภาษาราชการ
ภาษาอังกฤษ
การปกครอง สาธารณรัฐเดีย่ วระบบประธานาธิบดี
- ประธานาธิบดี โรดรีโก ดูแตร์เต
- รองประธานาธิบดี เลนี โรเบรโด
ได้รบ ั เอกราช จาก สเปน และ สหรัฐอเมริกา
- ประกาศ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2441
- เป็ นทีย่ อมรับ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2489
- รธน. ปัจจุบน ั 25 มีนาคม พ.ศ. 2529
พื้นที่
- รวม 300,000 ตร.กม. (72)
115,831 ตร.ไมล์
- แหล่งน้า (%) 0.6
ประชากร
- 4 กรกฎาคม 104,261,000 (13)
2560 (ประเมิน)
- ความหนาแน่ น 276 คน/ตร.กม. (42)
715 คน/ตร.ไมล์
จีดพ
ี ี (อานาจซื้อ) 2560 (ประมาณ)
- รวม $ 878.980 พันล้าน
- ต่อหัว $ 8,270
จีดพ
ี ี (ราคาตลาด) 2560 (ประมาณ)
- รวม $ 329.716 พันล้าน
- ต่อหัว $ 3,102
HDI (2558) 0.682 (ปานกลาง) (116th)
สกุลเงิน เปโซฟิ ลิปปิ นส์ ( PHP )
เขตเวลา PST (UTC+8)
• ฤดูรอ้ น (DST) ไม่ใช้ (UTC)
ขับรถด้าน ขวามือ
โดเมนบนสุด .ph
รหัสโทรศัพท์ 63
* ภาษาเซบัวโน ภาษาอีโลกาโน ภาษาฮิลไิ กนอน ภาษาบิโกลภาษาวาไร-
วาไร ภาษากาปัมปางัน ภาษาปางาซินน
ั ภาษากินาไรอา ภาษามาราเนา
ภาษามากินดาเนา ภาษาตากาล็อก และภาษาเตาซุก เป็ นภาษาทางการช่ว
ยในภูมภิ าคต่าง ๆ
ส่วนภาษาสเปนและภาษาอาหรับ ถือเป็ นภาษาทางเลือก
และพื้นฐานตามความสมัครใจ
ฟิ ลิปปิ นส์ (อังกฤษ: Philippines; ฟิ ลิปีโน: Pilipinas)
หรือชือ ่ ทางการว่า สาธารณรัฐฟิ ลิปปิ นส์ (อังกฤษ: Republic of the
Philippines; ฟิ ลิปีโน: Republika ng Pilipinas)
เป็ นประเทศเอกราชทีเ่ ป็ นหมูเ่ กาะในภูมภ ิ าคเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้ ตัง้ อยูใ่ น
มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ประกอบด้วยเกาะ 7,641
เกาะ[1] ซึง่ จัดอยูใ่ นเขตภูมศ ิ าสตร์ใหญ่ 3 เขตจากเหนือจรดใต้
ได้แก่ ลูซอน, วิซายัส และมินดาเนา เมืองหลวงของประเทศคือมะนิลา ส่วนเมื
องทีม ่ ีประชากรมากทีส ่ ุดคือนครเกซอน ทัง้ สองเป็ นส่วนหนึ่งของเมโทรมะนิลา
[2] ฟิ ลิปปิ นส์มีอาณาเขตติดต่อกับทะเลจีนใต้ทางทิศตะวันตก ทะเลฟิ ลิปปิ นทาง

ทิศตะวันออก และทะเลเซเลบีสทางทิศตะวันตกเฉี ยงใต้


โดยมีพรมแดนทางทะเลร่วมกับไต้หวันทางทิศเหนือ ปาเลาทางทิศตะวันออก
มาเลเซียและอินโดนีเซียทางทิศใต้ และเวียดนามทางทิศตะวันตก
ฟิ ลิปปิ นส์ตง้ ั อยูใ่ นแถบวงแหวนไฟและใกล้กบ ั เส้นศูนย์สูตร
ทาให้มีแนวโน้มสูงทีจ่ ะประสบภัยจากแผ่นดินไหวและไต้ฝุ่น
แต่ก็ทาให้มีทง้ ั ทรัพยากรธรรมชาติทอ ี่ ุดมสมบูรณ์ และความหลากหลายทางชีว
ภาพอย่างยิง่ เช่นกัน ฟิ ลิปปิ นส์มีเนื้อทีป ่ ระมาณ 300,000 ตารางกิโลเมตร
[3]
(115,831 ตารางไมล์) และมีประชากรประมาณ 100
ล้านคน[4][5] นับเป็ นประเทศทีม ่ ีประชากรมากทีส ่ ุดเป็ นอันดับที่ 8 ในเอเชีย
และเป็ นประเทศทีม ่ ีประชากรมากทีส ่ ุดเป็ นอันดับที่ 12 ของโลก นอกจากนี้ ณ
ปี พ.ศ. 2556 ยังมีชาวฟิ ลิปปิ นส์อีกประมาณ 10
ล้านคนอาศัยอยูใ่ นต่างประเทศ[6] รวมแล้วถือเป็ นกลุม ่ คนพลัดถิน ่ ทีใ่ หญ่ทส
ี่ ุดก
่ หนึ่งของโลก
ลุม
ความหลากหลายทางชาติพน ั ธุ์และวัฒนธรรมปรากฏให้เห็นตลอดทัง้ หมูเ่ กาะ
ในยุคก่อนประวัตศ ิ าสตร์
มนุษย์กลุม ่ แรกทีเ่ ข้ามาตัง้ รกรากในหมูเ่ กาะแห่งนี้คอ ื กลุม ่ ชนนิกรีโต ตามมาด้
วยกลุม่ ชนออสโตรนีเซียนทีอ [7]
่ พยพเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มีการติดต่อแลกเปลีย่
นกับชาวจีน มลายู อินเดีย และอาหรับ
จากนัน ้ มาหลายแห่งภายใต้การปกครองของดาตู, ลา
้ ก็เกิดนครรัฐทางทะเลขึน
กัน, ราชา หรือสุลต่าน
เฟอร์ดน ิ านด์
มาเจลลัน ได้มาขึน ้ ฝั่งทีเ่ กาะโฮโมนโฮน (ใกล้กบ ั เกาะซามาร์) ในปี พ.ศ.
2063 (ค.ศ. 1521)
นับเป็ นจุดเริม่ ต้นของยุคแห่งอิทธิพลและอานาจของสเปน ในปี พ.ศ. 2085
(ค.ศ. 1542) นักสารวจชาวสเปนชือ ่ รุย โลเปซ เด
บิยาโลโบส ได้ตง้ ั ชือ ่ เกาะซามาร์และเลเตรวมกันว่า "หมูเ่ กาะเฟลีเป" หรือ
"อิสลัสฟิ ลิปินัส" (Islas Filipinas)
เพือ
่ เป็ นเกียรติแด่เจ้าชายเฟลีเปแห่งอัสตูเรียส (ต่อมา
อิสลัสฟิ ลิปินัสได้กลายเป็ นชือ ่ เรียกกลุม
่ เกาะทัง้ หมด) ในปี พ.ศ. 2108 (ค.ศ.
1565) มิเกล โลเปซ เด
เลกัซปี ได้จดั ตัง้ นิคมสเปนแห่งแรกบนเกาะเซบู[8] ฟิ ลิปปิ นส์กลายเป็ นส่วนหนึ่
งของจักรวรรดิสเปนเป็ นเวลานานกว่า 300 ปี
ส่งผลให้ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกกลายเป็ นศาสนาหลักของผูค ้ นในหมู่
เกาะ ในช่วงเวลานี้
มะนิลามีฐานะเป็ นศูนย์กลางการบริหารของจักรวรรดิสเปนในเอเชีย และยังเป็
นศูนย์กลางทางทิศตะวันตกของการค้าข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก
โดยเชือ ่ มโยงเอเชียเข้ากับเมืองอากาปุลโกในอเมริกาผ่านทางเรือใบมะนิลา[9]
ในช่วงกลางพุทธศตวรรษที่ 25 (ปี ท้าย ๆ ของคริสต์ศตวรรษที่ 19)
ความพยายามต่อต้านการปกครองของสเปนได้ปะทุขน ึ้ เป็ นการปฏิวตั ฟ ิ ิ ลิปปิ น
ส์สาธารณรัฐฟิ ลิปปิ นส์ที่ 1 ได้รบ ั การสถาปนาขึน ้ แต่ก็ดารงอยูไ่ ด้ไม่นาน
เพราะสเปนได้ยกฟิ ลิปปิ นส์ให้แก่สหรัฐอเมริกาหลังจากแพ้สงครามสเปน-
สหรัฐอเมริกา ความไม่ลงรอยกันระหว่างรัฐบาลปฏิวตั ก ิ บ ั สหรัฐอเมริกาก่อให้เ
กิดสงครามฟิ ลิปปิ นส์-สหรัฐอเมริกาอันนองเลือด
โดยกองทัพสหรัฐเป็ นฝ่ ายมีชยั [10] นอกเหนือจากช่วงทีถ ่ ูกญีป
่ ุ่ นยึดครองแล้ว
สหรัฐอเมริกาสามารถรักษาอานาจอธิปไตยเหนือหมูเ่ กาะนี้ไว้ได้จนกระทั่งหลั
งสงครามโลกครัง้ ที่ 2เมือ่ ฟิ ลิปปิ นส์ได้รบ
ั การรับรองว่าเป็ นประเทศเอกราช
ตัง้ แต่นน้ ั มา
ฟิ ลิปปิ นส์ก็ประสบความวุน ่ วายทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอยูบ ่ อ
่ ยค
รัง้ ซึ่งรวมถึงการล้มล้างผูเ้ ผด็จการโดยการปฏิวตั ท ี่ ราศจากความรุนแรง[11]
ิ ป
ฟิ ลิปปิ นส์เป็ นสมาชิกจัดตัง้ องค์การสหประชาชาติ องค์การการค้าโลก สม
าคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้ การประชุมความร่วมมือทางเศร
ษฐกิจเอเชีย-
แปซิฟิก และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก นอกจากนี้ยงั เป็ นทีต ่ ง้ ั ของสา
นักงานใหญ่ธนาคารเพือ [12]
่ การพัฒนาเอเชีย ปัจจุบน ั ประเทศนี้ได้รบ
ั การพิจาร
ณาว่าเป็ นตลาดเกิดใหม่ (emerging market)
และเป็ นประเทศอุตสาหกรรมใหม่[13] ซึง่ มีระบบเศรษฐกิจทีก ่ าลังเปลีย่ นผ่านจ
ากระบบทีพ ่ งึ่ พิงภาคเกษตรกรรมเป็ นระบบทีพ
่ งึ่ พิงภาคบริการและภาคการผลิ
ตมากขึน ้ [14]

ยุคก่อนประวัตศ
ิ าสตร์[แก้]
ส่วนนี้รอเพิม
่ เติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิม
่ เติมข้อมูลในส่วนนี้ ได้

Ferdinand Magellan
หลักฐานทางโบราณคดีและโบราณชีววิทยาบ่งบอกว่ามีมนุษย์ โฮโมเซเปี ย
นส์ เคยอาศัยอยูใ่ นเกาะปาลาวันตัง้ แต่ประมาณ 50,000 ปี ก่อน
ชนเผ่าทีพ ่ ูดภาษาในตระกูลออสโตรนีเซียนซึง่ มีถน ิ่ กาเนิดอยูบ
่ นเกาะฟอร์โมซ
า (Formasa)
หรือไต้หวันในปัจจุบน ั ได้อพยพโดยทางเรือเข้ามาตัง้ รกรากในหมูเ่ กาะฟิ ลิปปิ
นส์
และจัดตัง้ เส้นทางเครือข่ายการค้ากับเอเชียอาคเนย์สว่ นทีเ่ หลือทัง้ หมดตัง้ แต่
5,000 ปี ก่อนคริสตกาล สภาพดั่งเดิมของฟิ ลิปปิ นส์
อยูใ่ นสภาพของยุคหินใหม่ ยังไม่ได้รบ ั อิทธิพลของอารยธรรมอินเดียและจีน
ดังเช่นประเทศอืน ่ ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้
ชนชาวพื้นเมืองดัง้ เดิมเป็ นชนเชื้อสายอินโดนีเซีย –
มลายูซงึ่ อพยพเข้ามาตั่งถิน ่ ฐานบริเวณเกาะต่าง ๆ ของฟิ ลิปปิ นส์
การมาตัง้ ถิน ่ ฐานนัน ้ มาโดยเรือเป็ นกลุม ่ ๆ
แต่ละกลุม ่ แยกย้ายไปตัง้ หมูบ ่ า้ นเรีนกว่า บารังไก (Barangay)
ตามชือ ่ เรือทีใ่ ช้อพยพมา มีหวั หน้าหมูบ ่ า้ นเรียกว่า ดาดู (Datu)
ซึง่ เคยเป็ นกัปตันเรือ การตัง้ หมูบ ่ า้ นจะกระจายไปตามเกาะ
ทาให้การติดต่อระหว่างกันไม่คอ ่ ยมี
ส่วนในด้านการปกครองนัน ้ เป็ นแบบพ่อปกครองลูก
โครงสร้างทางการปกครองเป็ นแบบง่าย ๆ มี 4 ชนชัน ้ คือ ดาตู แลครอบครัว
ขุนนาง อิสระชน ทาส
ในส่วนของกฎหมายและกฎระเบียบการปกครองนัน ้ ยังไม่มี สถาบันทีส่ าคัญคือ
ศาสนา ซึง่ มีพอ ่ มดหมอผีเป็ นผูม ้ ีอทิ ธิพลในสังคม
จากการนับถือศาสนาเป็ นแบบ นับถือภูตผี บูชาธรรมชาติ
พวกเขาเชือ ่ ว่ามีพระผูส้ ร้างโลกสูงสุด คือ บาฮารา (Bathala)
และบาอารามีสาวก ฝ่ ายดีและฝ่ ายชั่ว เรียกว่า ดิวาทาส (Diwatas)
เป็ นผูก้ าหนดการประกอบพิธีบวงสรวง เทพฝ่ ายดีและฝ่ ายชั่วคือ พ่อมด หมอผี
ว่าจะประกอบพิธีเมือ ่ ไหร่ ทีใ่ ด สถานทีป ่ ระกอบพิธีนน ้ ั ไม่มีเฉพาะ พ่อมด
หมอผีจะเป็ นผูก ้ าหนด ทีเ่ ป็ นดังนี้เพราะสภาพภูมศ ิ าสตร์
และสภาพธรรมชาติของหมูเ่ กาะ ซึง่ ฟิ ลิปปิ นส์นน ้ ั มีภยั ธรรมชาติอยูเ่ นือง ๆ
จึงทาให้พอ ่ มด หมอผีมีอท ิ ธิพลต่อประชาชนมาก และมากกว่าหรือเท่ากับดาตู
อีกทัง้ ยังได้รบ ั ค่าประกอบพิธี เครือ ่ งเซ่นสังเวยจากประชาชนเป็ นจานวนมาก
ทางด้านเศรษฐกิจนัน ้ ประชาชนทาการเกษตรและการประมง ไม่มีการค้าขาย
มีแต่การแลกเปลีย่ นสินค้า และไม่มีการใช้เงินตรา นาน ๆ
ครัง้ จะมีพอ ่ ค้าต่างชาติแวะมาจอดเรือแลกเปลีย่ นสินค้า
ยุคอิสลาม[แก้]
ส่วนนี้รอเพิม
่ เติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิม
่ เติมข้อมูลในส่วนนี้ ได้
นับแต่คริสต์ศตวรรษที่ 9
ศาสนาอิสลามได้แผ่เข้าสูห ่ มูเ่ กาะทางตอนใต้ของฟิ ลิปปิ นส์หรือมานบูลาส
แล้วครัน ้ ถึงปี ค.ศ. 1380
ชาวมุสลิมก็สามารถสถาปนารัฐอิสลามขึน ้ ในหมูเ่ กาะซูลู โดยมีนกั เผยแผ่ศาสน
าทีช่ ือ
่ ชันค์ ชะรีฟ กะรีม มัคดุม เข้ามาเผยแผ่อส ิ ลามในหมูเ่ กาะต่างๆ ของซูลู
ก่อนหน้านัน ้ เป็ นเวลานาน จนกระทั่ง ซัยยิด อบูบกั ร อิบนุ ชะรีฟ มุฮาหมัด
อิบนิ อะลี อิบนี ซัยบิลอาบีดน ี ได้เดินทางจากรัฐสุลต่านแห่งยะโฮร์ (Johor)
มายังหมูเ่ กาะซูลูในราวปี ค.ศ. 1450 ซัยยิด อบูบกั รได้มาถึงซูลูหลังจากรายา
บะกินดา จากมินงั กะเบา สุมาตรา ได้ลงพานัก
และเผยแผ่ศาสนาอิสลามในหมูเ่ กาะซูลูเป็ นเวลาหลายปี มาแล้ว ซัยยิด
อบูบกั รได้สมรสกับบุตรีของรายาบะกินดา ทีม ่ ีนามว่า ประไหมสุหรี
เมือ
่ รายาบะกินดา สิน ้ ชีวต
ิ ซัยยิด อบูบกั ร
ก็กลายเป็ นผูส ้ ืบทอดอานาจและได้รบ ั การขนานนามว่า สุลต่านแห่งซูลู
ยุคอาณานิคมสเปน[แก้]
เฟอร์ดน ิ านด์ มาเจลลัน มาถึงหมูเ่ กาะฟิ ลิปปิ นส์ในปี ค.ศ. 1521 (พ.ศ.
2064) มีเกล โลเปซ เด เลกัซปี มาถึงฟิ ลิปปิ นส์ในปี ค.ศ. 1565 (พ.ศ. 2108)
และตัง้ ชุมชนชาวสเปนขึน ้ ซึง่ นาไปสูก
่ ารตัง้ อาณานิคมในเวลาต่อมา
หลังจากนัน ้
นักบวชศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกได้แปรศาสนาของชาวเกาะทัง้ หมดใ
ห้หน
ั มานับถือศาสนาคริสต์ ในช่วง 300 ปี นับจากนัน ้
กองทัพสเปนได้ตอ ่ สูก
้ บ
ั เหตุการณ์ กบฏต่าง ๆ มากมาย
ทัง้ จากชนพื้นเมืองและจากชาติอืน ่ ทีพ
่ ยายามเข้ามาครอบครองอาณานิคม
ซึง่ ได้แก่ อังกฤษ จีน ฮอลันดา ฝรั่งเศส ญีป ่ ุ่ น และโปรตุเกส สเปนสูญเสียไปม
ากทีส ่ ุดในช่วงทีอ่ งั กฤษเข้าครอบครองเมืองหลวงเป็ นการชั่วคราวในช่วงสงคร
ามเจ็ดปี (Seven Years' War)
หมูเ่ กาะฟิ ลิปปิ นส์อยูใ่ ต้การปกครองของสเปนในฐานะอาณานิคมของสเปนให
ม่ (New Spain) นับตัง้ แต่ปี ค.ศ. 1565 (พ.ศ. 2108) ถึงปี ค.ศ. 1821
(พ.ศ. 2364)
และนับจากนัน ้ ฟิ ลิปปิ นส์ก็อยูใ่ ต้การปกครองของสเปนโดยตรง การเดินเรือมะ
นิลาแกลเลียน (Manila Galleon)
จากฟิ ลิปปิ นส์ไปเม็กซิโก เริม ่ ต้นขึน้ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 16
และหมูเ่ กาะฟิ ลิปปิ นส์เปิ ดตัวเองเข้าสู่การค้าโลกในปี ค.ศ. 1834
รัฐอารักขาของสหรัฐอเมริกา[แก้]
ส่วนนี้รอเพิม
่ เติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิม
่ เติมข้อมูลในส่วนนี้ ได้
การเมืองการปกครอง[แก้]
บริหารงานและการปกครอง[แก้]
ดูบทความหลักที:่ รัฐบาลฟิ ลิปปิ นส์
นิตบ
ิ ญ
ั ญัต[ิ แก้]
ดูบทความหลักที:่ รัฐสภาแห่งฟิ ลิปปิ นส์
ตุลาการ[แก้]
ดูบทความหลักที:่ กฎหมายฟิ ลิปปิ นส์
สิทธิมนุษยชน[แก้]
ส่วนนี้รอเพิม
่ เติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิม
่ เติมข้อมูลในส่วนนี้ ได้
การแบ่งเขตการปกครอง[แก้]
ฟิ ลิปปิ นส์แบ่งเป็ นหน่ วยรัฐบาลท้องถิน ่ (local government units,
LGUs) โดยทีม ่ ีจงั หวัดเป็ นหน่ วยหลัก ปัจจุบน
ั มี 81 จังหวัด
(provinces) แบ่งออกเป็ น นคร (cities) และ เทศบาล
(municipalities) ซึง่ หน่ วยการปกครองทัง้ สองยังประกอบไปด้วย บารังไกย์
(barangay) อีกทอดหนึ่ง ถือเป็ นหน่ วยรัฐบาลท้องถิน ่ ทีเ่ ล็กทีส
่ ุด
ฟิ ลิปปิ นส์แบ่งออกเป็ น 17 เขต (regions) ซึง่ ทุกจังหวัดได้ถูกจัดอยูใ่ น
16 เขตเพือ่ ความสะดวกในการปกครอง ยกเว้นเขตนครหลวง (National
Capital Region) ทีแ ่ บ่งออกเป็ นเขตพิเศษ 4 แห่ง
หน่ วยงานของรัฐบาลส่วนใหญ่จะตัง้ สานักงานในแต่ละภูมภ
ิ าค
เพือ
่ รับใช้ประชาชนในจังหวัดทีอ
่ ยูใ่ นภูมภ
ิ าคนัน
้ ๆ
ภูมภ
ิ าคไม่มีรฐั บาลท้องถิน ่ แยกต่างหาก
ยกเว้นเขตปกครองตนเองในมินดาเนามุสลิมและเขตบริหารคอร์ดลิ เลราซึง่ ปก
ครองตนเอง ไม่ได้ให้ผอ ู ้ ืน่ ปกครอง
เขตและจังหวัด[แก้]
ดูบทความหลักที:่ เขตของประเทศฟิ ลิปปิ นส์ และ จังหวัดของประเทศฟิ ลิปปิ น
ส์

เขตของประเทศฟิ ลิปปิ นส์


ปังกาซีนน

ลาอูนีโยน
ตีโมก
อีโลโคส
ฮีลากัง
อีโลโคส
เบงเก็ต
อีฟูเกา
บูลูบุนดูคน

คาลิงกา
อาบรา
อาปาเยา
นูเวบา
บิซคายา
คีรีโน
อีซาเบลา
คากายัน
บาตาเนส
ปัมปังกา
บูลาคัน
บาตาอัน
ซัมบาเลส
ตาร์ลกั
นูเวบา
เอซีฮา
เอาโรรา
เมโทร
มะนิลา
รีซลั
ลากูนา
คาบีเต
บาตังกัส
เคโซน
มารินดูเค
โรมโบลน
ซีลางัง
มินโดโร
คันลูรงั
มินโดโร
ปาลาวัน
ฮีลากัง
คามารีเนส
ตีโมก
คามารีเนส
อัลไบ
ซอร์โซโกน
คาตันดัวเนส
มัสบาเต
อักลัน
คาปิ ซ
อีโลอีโล
กีมารัส
คันลูรงั
เนโกรส
อันตีเค
เซบู
โบโฮล
ซีลางัง
เนโกรส
ซีคฮ
ี อร์
ฮีลากังซามาร์
ซีลางัง
ซามาร์
ซามาร์
บีลีรน

เลเต
ตีโมก
เลเต
ฮีลากัง
ซัมบวงกา
ตีโมก
ซัมบวงกา
ซัมบวงกา
ซีบูไก
คามีกน

บูคด
ิ โนน
ซีลางัง
มีซามิส
คันลูรงั
มีซามิส
ฮีลากัง
ลาเนา
คาปูลูองั
ดีนากัต
ฮีลากังซูรีเกา
ตีโมก
ซูรีเกา
ตีโมก
อากูซน ั
ฮีลากัง
อากูซน ั
ฮีลากัง
ดาเบา
ลัมบักนาง
โคมโปสเตลา
ซีลางัง
ดาเบา
ตีโมก
ดาเบา
คันลูรงั
ดาเบา
ตีโมก
โคตาบาโต
ซารังกานี
ซุลตันคูดารัต
โคตาบาโต
บาซีลนั
ซูลู
ตาวี-ตาวี
มากินดาเนา
ตีโมก
ลาเนา
เขตบริหาร เขตปกครองตนเอง
 อีโลโคส (เขตที่ 1)  เขตปกครองตนเองในมินดา
 ลัมบักนางคากายัน (เขตที่ 2) เนามุสลิม
 กิตนางลูโซน (เขตที่ 3)
 คาลาบาร์โซน (เขตที่ 4-เอ)
 เขตตากาล็อกตะวันตกเฉี ยงใต้ (เข
ตมีมาโรปา)
 บีโคล (เขตที่ 5)
 คันลูรงั คาบีซายาอัน (เขตที่ 6)
 กิตนางคาบีซายาอัน (เขตที่ 7)
 ซีลางังคาบีซายาอัน (เขตที่ 8)
 ตังไวนางซัมบวงกา (เขตที่ 9)
 ฮีลากังมินดาเนา (เขตที่ 10)
 ดาเบา (เขตที่ 11)
 โซกซาร์เจน (เขตที่ 12)
 เขตบริหารคารากา (เขตที่ 13)
 เขตบริหารคอร์ดลิ เยรา
 เขตนครหลวงแห่งชาติ
จังหวัด
 กีมารัส
 คันลูรงั ดาเบา
 คันลูรงั เนโกรส
 คันลูรงั มินโดโร
 คันลูรงั มีซามิส
 คากายัน
 คาตันดัวเนส
 คาบีเต
 คาปิ ซ
 คาปูลูองั ดีนากัต
 คามีกน ิ
 คาลิงกา
 คีรีโน
 เคโซน
 โคตาบาโต
 ซอร์โซโกน
 ซัมบวงกาซีบูไก
 ซัมบาเลส
 ซามาร์
 ซารังกานี
 ซีคฮ ี อร์
 ซีลางังซามาร์
 ซีลางังดาเบา
 ซีลางังเนโกรส
 ซีลางังมินโดโร
 ซีลางังมีซามิส
 ซุลตันคูดารัต
 ซูลู
 เซบู
 ตาร์ลกั
 ตาวี-ตาวี
 ตีโมกคามารีเนส
 ตีโมกโคตาบาโต
 ตีโมกซัมบวงกา
 ตีโมกซูรีเกา
 ตีโมกดาเบา
 ตีโมกลาเนา
 ตีโมกเลเต
 ตีโมกอากูซน ั
 ตีโมกอีโลโคส
 นูเวบาบิซคายา
 นูเวบาเอซีฮา
 บาซีลน ั
 บาตังกัส
 บาตาเนส
 บาตาอัน
 บีลีรน ั
 บูคด ิ โนน
 บูลาคัน
 บูลูบุนดูคน ิ
 เบงเก็ต
 โบโฮล
 ปังกาซีนน ั
 ปัมปังกา
 ปาลาวัน
 มัสบาเต
 มากินดาเนา
 มารินดูเค
 รีซลั
 โรมโบลน
 ลัมบักนางโคมโปสเตลา
 ลากูนา
 ลาอูนีโยน
 เลเต
 อักลัน
 อันตีเค
 อัลไบ
 อาบรา
 อาปาเยา
 อีซาเบลา
 อีฟูเกา
 อีโลอีโล
 เอาโรรา
 ฮีลากังคามารีเนส
 ฮีลากังซัมบวงกา
 ฮีลากังซามาร์
 ฮีลากังซูรีเกา
 ฮีลากังดาเบา
 ฮีลากังลาเนา
 ฮีลากังอากูซน ั
 ฮีลากังอีโลโคส

ภูมศ
ิ าสตร์[แก้]
แผนทีภ
่ ูมป
ิ ระเทศของกลุม
่ เกาะฟิ ลิปปิ นส์
ฟิ ลิปปิ นส์เป็ นกลุม ่ เกาะทีป ่ ระกอบด้วยเกาะ 7,641
เกาะ[15] มีเนื้อทีท
่ ง้ ั หมด (รวมพื้นผิวแหล่งน้าภายในแผ่นดิน) ประมาณ
300,000 ตารางกิโลเมตร (115,831 ตารางไมล์)[16] ชายฝั่งทะเลยาว
36,289 กิโลเมตร (22,549 ไมล์)
ทาให้ฟิลิปปิ นส์เป็ นประเทศทีม ่ ีชายฝั่งยาวทีส ่ ุดเป็ นอันดับที่ 5
ของโลก [17][18] ฟิ ลิปปิ นส์มีทตี่ ง้ ั ซึง่ กาหนดโดยพิกดั ภูมศ ิ าสตร์คอื
ระหว่างลองจิจูด 116° 40' ตะวันออก ถึง 126° 34' ตะวันออก กับละติจูด 4°
40' เหนือ ถึง 21° 10' เหนือ
มีอาณาเขตจรดทะเลฟิ ลิปปิ นทางทิศตะวันออก[19] จรดทะเลจีนใต้ทางทิศตะวัน
ตก[20] และจรดทะเลเซเลบีสทางทิศใต้[21] เกาะบอร์เนียว[22] ตัง้ อยูห ่ า่ งออกไปไ
ม่กีร่ อ้ ยกิโลเมตรทางทิศตะวันตกเฉี ยงใต้และไต้หวันตัง้ อยูท ่ างทิศเหนือโดยตร
ง หมูเ่ กาะโมลุกกะและเกาะซูลาเวซีตง้ ั อยูท ่ างทิศใต้-ตะวันตกเฉี ยงใต้
และปาเลาตัง้ อยูท ่ างทิศตะวันออกของหมูเ่ กาะ[17]
เกาะต่าง ๆ
ซึง่ เต็มไปด้วยภูเขาส่วนใหญ่มีตน ้ กาเนิดจากภูเขาไฟและถูกปกคลุมด้วยป่ าดิบ
ชื้น ภูเขาทีส ่ ูงทีส
่ ุดคือภูเขาอาโป มีความสูงถึง 2,954 เมตร (9,692 ฟุต)
จากระดับน้าทะเลและตัง้ อยูท ่ เี่ กาะมินดาเนา[23][24] ร่องลึกแกละทีอาในร่องลึก
ฟิ ลิปปิ นเป็ นจุดทีล่ กึ ทีส
่ ุดของประเทศและลึกทีส ่ ุดเป็ นอันดับที่ 3 ของโลก
ร่องลึกดังกล่าวตัง้ อยูใ่ นทะเลฟิ ลิปปิ น[25]
่ ุดคือแม่น้าคากายันในภาคเหนือของเกาะลูซอน[26] อ่าวมะ
แม่น้าทีย่ าวทีส
นิลา (ชายฝั่งของอ่าวเป็ นทีต ่ ง้ ั ของกรุงมะนิลาเมืองหลวง)
เชือ่ มต่อกับลากูนาเดบาอี (ทะเลสาบทีใ่ หญ่ทส ี่ ุดในฟิ ลิปปิ นส์)
ผ่านแม่น้าปาซิก อ่าวซูบก ิ อ่าวดาเบา และอ่าวโมโรเป็ นอ่าวอืน ่ ๆ
ทีส
่ าคัญ ช่องแคบซันฮัวนีโคแยกเกาะซามาร์และเกาะเลเตออกจากกัน
แต่ก็มีสะพานซันฮัวนีโคข้ามเหนือช่องแคบ[27]
เนื่องจากตัง้ อยูบ
่ นขอบตะวันตกของวงแหวนไฟแปซิฟิก
ฟิ ลิปปิ นส์จงึ ต้องเผชิญกับกิจกรรมแผ่นดินไหวและภูเขาไฟบ่อยครัง้ เนินใต้ส
มุทรเบ็นนัมในทะเลฟิ ลิปปิ น (ทางทิศตะวันออกของกลุม ่ เกาะ)
เป็ นภูมภ ่ นไหวอยูใ่ นเขตมุดตัวของเปลือกโลก[28] มีกา
ิ าคใต้สมุทรทีย่ งั คงเคลือ
รตรวจพบแผ่นดินไหวประมาณ 20 ครัง้ ต่อวัน
แต่การสั่นสะเทือนส่วนใหญ่เบาเกินกว่าทีม ่ นุษย์จะรูส้ ก
ึ ได้
แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ครัง้ ล่าสุดเกิดขึน ้ ทีเ่ กาะลูซอนเมือ ่ ปี ค.ศ. 1990[29]
ในฟิ ลิปปิ นส์มีภูเขาไฟทีม ่ ีพลังอยูห
่ ลายลูก
เช่น ภูเขาไฟมาโยน ภูเขาปี นาตูโบ ภูเขาไฟตาอัล เป็ นต้น
การปะทุของภูเขาปี นาตูโบในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1991
ถือเป็ นการปะทุทรี่ ุนแรงทีส ่ ุดเป็ นอันดับที่ 2 ของโลกในคริสต์ศตวรรษที่
[30]
20 อย่างไรก็ตาม
ไม่ใช่วา่ ภูมลิ กั ษณ์ ทโี่ ดดเด่นทุกแห่งจะมีความรุนแรงหรือมีอานาจทาลายล้างเ
สมอไป
มรดกทีส ่ งบเงียบแห่งหนึ่งจากความปั่นป่ วนทางธรณี วท ิ ยาคือแม่น้าใต้ดน ิ ปูเวร์
โตปรินเซซาซึง่ เป็ นถิน ่ ทีอ
่ ยูส
่ าหรับการอนุรกั ษ์ ความหลากหลายทางชีวภาพ น
อกจากนี้
แหล่งมรดกโลกแห่งนี้ยงั มีระบบนิเวศจากภูเขาสูท ่ ะเลทีส่ มบูรณ์ และมีป่าไม้ที่
สาคัญทีส ่ ุดแห่งหนึ่งในเอเชียอีกด้วย[31]
เนื่องจากธรรมชาติของเกาะต่าง ๆ เป็ นภูเขาไฟ
ฟิ ลิปปิ นส์จงึ มีทรัพยากรแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์
มีผป ู้ ระมาณว่าประเทศนี้ มีแหล่งแร่ทองคาใหญ่ทส ี่ ุดเป็ นอันดับที่ 2
รองจากแอฟริกาใต้ และเป็ นแหล่งแร่ทองแดงทีใ่ หญ่ทส ี่ ุดแห่งหนึ่งในโลก[32]
นอกจากนี้ยงั อุดมไปด้วยนิกเกิล โครไมต์ และสังกะสี อย่างไรก็ตาม
การจัดการทีไ่ ม่ดี ความหนาแน่ นสูงของประชากร
และความตระหนักด้านสิง่ แวดล้อมทาให้ยงั ไม่มีการนาทรัพยากรส่วนใหญ่ขน ึ้
[32]
มาใช้ พลังงานความร้อนใต้พภ ิ พเป็ นผลผลิตจากกิจกรรมภูเขาไฟทีฟ ่ ิ ลิปปิ น
ส์สามารถควบคุมจัดการจนได้ผลสาเร็จมากกว่า โดยในปัจจุบน ั
ประเทศนี้เป็ นผูผ ้ ลิตพลังงานความร้อนใต้พภ ิ พทีใ่ หญ่ทส ี่ ุดเป็ นอันดับที่ 2
ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา และพลังงานความร้อนใต้พภ ิ พสามารถตอบสน
องความต้องการใช้ไฟฟ้ าได้ถงึ ร้อยละ 18 ของประเทศ [33]
 ภูมลิ กั ษณ์ ฟิลิปปิ นส์


ความหลากหลายทางชีวภาพ[แก้]

ทาร์เซียร์ฟิลิปปิ น หนึ่งในไพรเมตทีเ่ ล็กทีส


่ ุด
ป่ าดิบชื้นและชายฝั่งทะเลทีก ่ ว้างขวางของฟิ ลิปปิ นส์ทาให้กลุม ่ เกาะนี้เป็ น
แหล่งรวมนก พืช สัตว์
และสิง่ มีชีวติ ในทะเลหลากชนิด[34] ฟิ ลิปปิ นส์เป็ นหนึ่งในสิบเจ็ดประเทศของโล
กทีม
่ ีความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยิง่ (megadiverse
country)[35][36][37] เราสามารถพบสัตว์บกทีม ่ ีกระดูกสันหลังได้ถงึ ประมาณ
1,100 ชนิด ซึง่ รวมถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกว่า 100 ชนิด และนกกว่า 170
ชนิดทีค ่ าดกันว่าไม่อาศัยอยูท ่ อ ่ [38] ฟิ ลิปปิ นส์เป็ นประเทศทีม
ี ่ ืน ่ ีอตั ราการค้นพบ
่ ุดประเทศหนึ่งในโลก โดยมีการค้นพบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดใหม่ 16
สูงทีส
ชนิดในช่วงสิบปี ทีผ ่ า่ นมา ด้วยเหตุนี้
อัตราสิง่ มีชีวติ เฉพาะถิน ่ ของฟิ ลิปปิ นส์จงึ เพิม ้ และมีแนวโน้มทีจ่ ะเพิม
่ สูงขึน ่ ต่อ
[39]
ไป ส่วนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมพื้นถิน ่ ฟิ ลิปปิ นส์ได้แก่ อีเห็นข้างลาย (Parado
xurus hermaphroditus), แมวดาววิซายัส (Prionailurus javanensis
rabori), พะยูน (Dugong dugon) และทาร์เซียร์ฟิลิปปิ น (Tarsius
syrichta) ซึง่ เกีย่ วข้องกับเกาะโบโฮล เป็ นต้น
แม้วา่ บนหมูเ่ กาะฟิ ลิปปิ นส์จะไม่มีผลู้ า่ เหยือ่ เป็ นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาด
ใหญ่ แต่ก็มีสตั ว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่อยูบ ่ างชนิด
เช่น งูเหลือม งูเห่า รวมทัง้ จระเข้น้าเค็มขนาดยักษ์
จระเข้น้าเค็มในทีเ่ ลี้ยงตัวใหญ่ทส ี่ ุดในโลกมีชือ ่ ว่า โลลอง ถูกจับได้ในเกาะมินด
าเนาทางตอนใต้ของประเทศ [40][41]

่ นกอินทรีฟิลิปปิ น (Pithecophaga
นกประจาชาติทีร่ จู ้ กั กันในชือ
jefferyi) มีลาตัวยาวทีส่ ุดในบรรดานกอินทรีชนิดใด ๆ[42][43]
พืดหินปะการังนอกชายฝั่งเกาะเซบู
น่ านน้าอาณาเขตของฟิ ลิปปิ นส์ครอบคลุมเนื้อทีก ่ ว้างขวางถึง
2,200,000 ตารางกิโลเมตร (849,425 ตารางไมล์)
เป็ นแหล่งกาเนิดชีวต ิ ในท้องทะเลทีม่ ีลกั ษณะเฉพาะและมีความหลากหลายอันเ
ป็ นส่วนสาคัญของสามเหลีย่ มปะการัง[44] ประมาณกันว่ามีชนิดปะการังและปล
าทะเลทัง้ สิน ้ 500 และ 2,400
ชนิดตามลาดับ[34][38] สถิตใิ หม่[45][46] และการค้นพบสิง่ มีชีวต ิ ชนิดใหม่[47][48][4
9] ได้เพิม ่ ตัวเลขเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง
แสดงให้เห็นลักษณะเฉพาะของทรัพยากรทางทะเลในฟิ ลิปปิ นส์ได้อย่างชัดเจ
น พืดหินปะการังตุบบาตาฮาในทะเลซูลไู ด้รบ ั การประกาศให้เป็ นแหล่งมรดกโ
ลกเมือ ่ ปี ค.ศ. 1993 นอกจากนี้
น่ านน้าฟิ ลิปปิ นส์ยงั เอื้อต่อการเจริญเติบโตของปู หอยมุก
และสาหร่ายทะเล[34][50]
ด้วยชนิดพืชประมาณ 13,500 ชนิด ซึง่ 3,200
ชนิดในจานวนนี้พบเฉพาะในกลุม ่ เกาะนี้เท่านัน้ [38] ป่ าดิบชื้นของฟิ ลิปปิ นส์จงึ
มีพรรณพืชหลากหลายซึง่ รวมถึงกล้วยไม้และบัวผุดหายากหลายพันธุ์[51][52] ก
ารทาลายป่ าซึง่ มักเป็ นผลจากการทาไม้ผด ิ กฎหมายถือเป็ นปัญหาร้ายแรงของ
ฟิ ลิปปิ นส์ พื้นทีป
่ ่ าลดลงจากร้อยละ 70
ของพื้นทีบ ่ นบกทัง้ หมดของประเทศในปี ค.ศ. 1900
เหลือเพียงประมาณร้อยละ 18.3 ในปี ค.ศ.
1999[53] สิง่ มีชีวต ิ จานวนมากตกอยูใ่ นภาวะใกล้สูญพันธุ์
และมีนกั วิทยาศาสตร์กล่าวว่า เอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้ (รวมทัง้ ฟิ ลิปปิ นส์)
ต้องเผชิญกับอัตราการสูญพันธุ์ทรี่ ุนแรงถึงร้อยละ 20
เมือ ้ สุดคริสต์ศตวรรษที่ 21[54]
่ สิน
ภูมอ
ิ ากาศ[แก้]
ไต้ฝุ่นไห่เยีย่ น (ในฟิ ลิปปิ นส์เรียกว่า โยลันดา) ขณะมีกาลังแรงสูงสุด
ฟิ ลิปปิ นส์อยูใ่ นเขตภูมอ ิ ากาศภาคพื้นสมุทรเขตร้อนซึง่ โดยปกติจะมีอากา
ศร้อนและชื้น มีฤดูกาล 3 ฤดูกาล ได้แก่ ตักอีนิต (tag-init)
หรือ ตักอาเรา (tag-araw)
ซึง่ เป็ นฤดูรอ้ นหรือฤดูทม ี่ ีอากาศแห้งร้อนตัง้ แต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาค
ม, ตักอูลน ั (tag-ulan) หรือฤดูฝนตัง้ แต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายน
และ ตักลามิก(taglamig)
หรือฤดูทม ี่ ีอากาศแห้งเย็นตัง้ แต่เดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ มรสุมตะวัน
ตกเฉี ยงใต้ (ตัง้ แต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม)
มีชือ ่ เป็ นภาษาท้องถิน ่ ว่า ฮากาบัต (habagat)
และลมแห้งของมรสุมตะวันออกเฉี ยงเหนือ
(ตัง้ แต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน)
มีชือ ่ เป็ นภาษาท้องถิน ่ ว่า อามีฮน ั (amihan)[55] อุณหภูมโิ ดยทั่วไปอยูใ่ นพิสยั
ตัง้ แต่ 21 องศาเซลเซียส (70 องศาฟาเรนไฮต์) ถึง 32 องศาเซลเซียส (90
องศาฟาเรนไฮต์) แต่อาจเย็นหรือร้อนกว่านี้ขน ึ้ อยูก
่ บ
ั ฤดูกาล
เดือนทีม ่ ีอากาศเย็นทีส ่ ุดคือเดือนมกราคม
ส่วนเดือนทีม ่ ีอากาศอบอุน ่ ุดคือเดือนพฤษภาคม[17][56]
่ ทีส
อุณหภูมเิ ฉลีย่ รายปี อยูท ่ ป
ี่ ระมาณ 26.6 องศาเซลเซียส (79.9
องศาฟาเรนไฮต์) ทัง้ นี้[55]

ทาเลทีต
่ ง้ ั ในแง่ละติจูดและลองจิจูดไม่ใช่ปจั จัยสาคัญในการพิจารณาอุณหภูมิ
เพราะไม่วา่ จะอยูเ่ หนือสุด ใต้สุด ตะวันออกสุด หรือตะวันตกสุดของประเทศ
อุณหภูมท ิ รี่ ะดับน้าทะเลก็มีแนวโน้มทีจ่ ะอยูใ่ นพิสยั เดียวกัน
ระดับความสูงของพื้นทีม ่ กั จะส่งผลต่ออุณหภูมม ิ ากกว่า
อุณหภูมเิ ฉลีย่ รายปี ของเมืองบากีโยทีร่ ะดับความสูง 1,500 เมตร (4,900
ฟุต) จากระดับน้าทะเลคือ 18.3 องศาเซลเซียส (64.9 องศาฟาเรนไฮต์)
ทาให้เมืองนี้เป็ นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในฤดูรอ้ น[55]
เนื่องจากตัง้ อยูใ่ นแดนไต้ฝุ่น
เกาะส่วนใหญ่ของฟิ ลิปปิ นส์จงึ มีฝนตกกระหน่าและพายุฟ้าคะนองตัง้ แต่เดือน
กรกฎาคมถึงเดือนตุลาคมของทุกปี [57] ในแต่ละปี จะมีไต้ฝุ่นประมาณ 19
ลูกเข้าสูเ่ ขตความรับผิดชอบของสานักงานบริหารบรรยากาศ ธรณีฟิสิกส์
และดาราศาสตร์ฟิลิปปิ นส์ โดยมี 8-9
ลูกในจานวนนี้เคลือ ่ นตัวขึน ้ ฝั่ง[58][59][60] ปริมาณน้าฝนรายปี ตรวจวัดได้สูงถึง
5,000 มิลลิเมตร (200 นิ้ว) ในเขตชายฝั่งตะวันออกซึง่ มีสภาพเป็ นภูเขา
แต่น้อยกว่า 1,000 มิลลิเมตร (39 นิ้ว)
ในหุบเขาบางแห่งทีม ี่ าบัง[57] พายุหมุนเขตร้อนทีท
่ ีทก ่ าให้ฝนตกมากทีส่ ุดในฟิ
ลิปปิ นส์เท่าทีท
่ ราบกันคือพายุหมุนในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1911
ซึง่ ส่งอิทธิพลให้เกิดฝนตกหนักปริมาณถึง 1,168 มิลลิเมตร (46 นิ้ว)
ภายในเวลา 24 ชั่วโมงทีเ่ มืองบากีโย[61] อนึ่ง บักโย (bagyo)
เป็ นคาในภาษาฟิ ลิปปิ นส์ทใี่ ช้เรียกพายุหมุนเขตร้อน
เศรษฐกิจ[แก้]

สัดส่วนสินค้าออกของฟิ ลิปปิ นส์ในปี ค.ศ. 2012

การเก็บเกีย่ วสับปะรดในจังหวัดตีโมกโคตาบาโต
โรงงานน้าตาลแห่งหนึ่งในจังหวัดคันลูรงั เนโกรส
เศรษฐกิจฟิ ลิปปิ นส์มีขนาดใหญ่ทส ี่ ุดเป็ นอันดับที่ 34 ของโลก โดยในปี
ค.ศ. 2017 มีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (ราคาตลาด) โดยประมาณอยูท ่ ี่
348,593 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[62] สินค้าส่งออกหลักได้แก่
ผลิตภัณฑ์สารกึง่ ตัวนาและผลิตภัณฑ์อเิ ล็กทรอนิกส์ บริภณ ั ฑ์ขนส่ง เสื้อผ้า
ผลิตภัณฑ์ทองแดง ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม น้ามันมะพร้าว และผลไม้[63] คูค ่ า้ รา
ยใหญ่ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญีป ่ ุ่ น จีน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ เนเธอร์แลนด์ ฮ่องกง
เยอรมนี ไต้หวัน และไทย[63] หน่ วยเงินตราของประเทศคือเปโซฟิ ลิปปิ นส์
ในฐานะประเทศอุตสาหกรรมใหม่ ระบบเศรษฐกิจของฟิ ลิปปิ นส์ได้เปลีย่
นผ่านจากระบบทีพ ่ ง่ึ พิงเกษตรกรรมไปสูร่ ะบบทีเ่ น้นการบริการและการผลิตม
ากขึน้ จากจานวนผูอ ้ ยูใ่ นกาลังแรงงานทัง้ หมดประมาณ 40.813
ล้านคนของประเทศ[63] ภาคเกษตรกรรมมีสดั ส่วนการจ้างงานคิดเป็ นร้อยละ
30และสร้างมูลค่าคิดเป็ นร้อยละ 14 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
ภาคอุตสาหกรรมมีสดั ส่วนการจ้างงานร้อยละ 14 และสร้างมูลค่าร้อยละ 30
ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ในขณะทีร่ อ้ ยละ 47
เป็ นแรงงานในภาคบริการซึง่ สร้างมูลค่าร้อยละ 56
ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ[64][65]
อัตราการว่างงานของฟิ ลิปปิ นส์ ณ วันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2014
อยูท่ รี่ อ้ ยละ 6.0[66][67] ในขณะเดียวกัน
เนื่องจากสิง่ จาเป็ นขัน ้ พื้นฐานมีราคาถูกลง
อัตราเงินเฟ้ อจึงขยายตัวลดลงเหลือร้อยละ 3.7 ในเดือนพฤศจิกายน
ปี เดียวกัน[68] ทุนสารองเงินตราระหว่างประเทศ ณ เดือนตุลาคม ค.ศ. 2013
มีมูลค่า 83,201
ล้านดอลลาร์สหรัฐ[69] อัตราส่วนหนี้สน ิ ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศลดลง
อย่างต่อเนื่อง จากสถิตส ิ ูงสุดทีร่ อ้ ยละ 78 ในปี ค.ศ. 2004[70] มาอยูท ่ รี่ อ้ ยละ
38.1 ณ เดือนมีนาคม ค.ศ.
2014[71][72] ฟิ ลิปปิ นส์เป็ นประเทศผูน ้ าเข้าสุทธิ[65] แต่ก็เป็ นประเทศเจ้าหนี้เช่
นกัน[73]
หลังสงครามโลกครัง้ ที่
2 ฟิ ลิปปิ นส์ได้รบ ั การจัดให้เป็ นประเทศทีม ่ ่งั คั่งทีส
่ ุดเป็ นอันดับที่ 2
ในภูมภ ิ าคเอเชียตะวันออก
เป็ นรองเพียงญีป ้ [74][75][76] จนกระทั่งในคริสต์ทศวรรษ 1960
่ ุ่ นเท่านัน
สมรรถนะทางเศรษฐกิจของประเทศจึงเริม ่ ถูกแซง
เศรษฐกิจเข้าสูภ ่ าวะชะงักงันภายใต้การปกครองแบบเผด็จการของประธานาธิ
บดีเฟร์ดน ี น
ั ด์
มาร์โคส เนื่องจากระบอบมาร์โคสได้บม ่ เพาะปัญหาการจัดการเศรษฐกิจทีไ่ ม่ดี
และความผันผวนทางการเมืองเอาไว้ [74][76] ระบบเศรษฐกิจเติบโตทางอย่างเชื่
องช้าและประสบภาวะถดถอยเป็ นระยะ ๆ จนกระทั่งในคริสต์ทศวรรษ 1990
่ ฟื้ นตัวตามแผนการเปิ ดเสรีทางเศรษฐกิจ[74][76]
จึงเริม
ฟิ ลิปปิ นส์ตอ ้ งเผชิญวิกฤตการณ์ การเงินในเอเชีย ค.ศ.
1997 อย่างหลีกเลีย่ งไม่ได้
ค่าเงินเปโซลดลงอย่างต่อเนื่องและราคาหุน ้ ในตลาดหลักทรัพย์ตกลงมาหลายจุ
ดในช่วงแรกของวิกฤตการณ์
แต่ผลกระทบทีฟ ่ ิ ลิปปิ นส์ได้รบ ั นัน ้ ไม่หนักเท่าในประเทศเพือ ่ นบ้านบางประเท
ศ ส่วนใหญ่เป็ นผลมาจากนโยบายการคลังแบบอนุรกั ษนิยมของรัฐบาล
และบางส่วนเป็ นผลมาจากการเฝ้ าระวังและการควบคุมดูแลทางการเงินเป็ นเว
ลาหลายสิบปี โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ในขณะทีบ ่ รรดาประเทศเพือ่
นบ้านได้ใช้เงินมหาศาลเพือ ่ กระตุน ้ ความเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว [77]

จากนัน ้ เป็ นต้นมาระบบเศรษฐกิจก็สง่ สัญญาณกระเตือ ้


้ งขึน
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเติบโตขึน ้ ร้อยละ 6.4 ในปี ค.ศ. 2004
และร้อยละ 7.1 ในปี ค.ศ. 2007
ซึง่ เป็ นอัตราการเติบโตทีเ่ ร็วทีส ่ ุดในรอบสามทศวรรษ[78][79] อัตราการเติบโตข
องผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศรายปี โดยเฉลีย่ ต่อหัวในช่วงปี ค.ศ. 1966–
2007 อยูท ่ รี่ อ้ ยละ 1.45 เมือ ่ เทียบกับค่าเฉลีย่ ร้อยละ 5.96
ของภูมภ ิ าคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกโดยรวม
รายได้ตอ ่ วันของประชากรฟิ ลิปปิ นส์รอ้ ยละ 45 ยังคงน้อยกว่า 2
ดอลลาร์สหรัฐ[80][81][82]
การส่งเงินกลับของแรงงานฟิ ลิปปิ นส์ในต่างประเทศเป็ นแรงขับเคลือ ่ นทา
งเศรษฐกิจทีส ่ าคัญอย่างมาก
โดยมีมูลค่าเกินกว่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในฐานะแหล่งเงินตราต่า
งประเทศ การส่งเงินกลับประเทศขึน ้ สูจ่ ุดสูงสุดในปี ค.ศ. 2010
โดยมีสดั ส่วนคิดเป็ นร้อยละ 10.4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
และอยูท ่ รี่ อ้ ยละ 8.6 ในปี ค.ศ. 2012 และในปี ค.ศ. 2014
ฟิ ลิปปิ นส์ได้รบ ั เงินส่งกลับจากแรงงานในต่างประเทศทัง้ สิน ้ 28,000
ล้านดอลลาร์สหรัฐ [83][84] อย่างไรก็ตาม
การพัฒนาในระดับภูมภ ิ าคยังไม่เท่าเทียมกัน
โดยมากความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ ยังกระจุกตัวอยูท ่ เี่ กาะลูซอน
(โดยเฉพาะเมโทรมะนิลา) จึงต้องแลกมากับโอกาสในการพัฒนาภูมภ ิ าคอืน

ๆ [85][86] แม้วา่ รัฐบาลจะดาเนินมาตรการกระจายความเจริญด้วยการส่งเสริมกา
รลงทุนในพื้นทีอ ่ ืน
่ ๆ ของประเทศแล้วก็ตาม ถึงจะมีขอ ้ จากัดต่าง ๆ
แต่อุตสาหกรรมบริการ
เช่น การท่องเทีย่ ว การจ้างคนนอกทากระบวนการธุรกิจ ก็ได้รบ ั การระบุวา่ เป็
นหนึ่งในภาคส่วนทีม ่ ีโอกาสดีทสี่ ุดสาหรับการเติบโตของประเทศ[65][87]
สถาบันการเงินโกลด์แมนซากส์ได้รวมฟิ ลิปปิ นส์อยูใ่ นรายชือ ่ "11
ประเทศถัดไป"
ทีม
่ ีศกั ยภาพสูงทีจ่ ะมีระบบเศรษฐกิจใหญ่ทส ี่ ุดในคริสต์ศตวรรษที่
21 [88][89] แต่จีนและอินเดียก็ได้กา้ วขึน ้ มาเป็ นคูแ ่ ข่งทางเศรษฐกิจทีส ่ าคัญเช่น
กัน[90] โกลด์แมนซากส์ยงั คาดการณ์ วา่ เมือ ่ ถึงปี ค.ศ. 2050
เศรษฐกิจฟิ ลิปปิ นส์จะมีขนาดใหญ่ทส ี่ ุดเป็ นอันดับที่ 20
[91]
ของโลก ส่วนธนาคารเอชเอสบีซีก็คาดการณ์ วา่ เมือ ่ ถึงปี ค.ศ. 2050
เศรษฐกิจของประเทศนี้จะมีขนาดใหญ่ทส ี่ ุดเป็ นอันดับที่ 16 ของโลก
ใหญ่ทส ี่ ุดเป็ นอันดับ 5
ของเอเชีย และทีใ่ หญ่ทส ี่ ุดในเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้[92][93][94] ฟิ ลิปปิ นส์เป็ น
ประเทศสมาชิกธนาคารโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ องค์การการค้าโล
ก ธนาคารเพือ ่ การพัฒนาเอเชีย (ซึ่งมีสานักงานใหญ่อยูท ่ เี่ มืองมันดาลูโยง) แผ
นโคลัมโบ กลุม ่ 77 และกลุม ่
24 ในบรรดากลุม ่ และสถาบันความร่วมมือระหว่างประเทศต่าง ๆ[63]
การท่องเทีย่ ว[แก้]

หาดทรายขาวบนเกาะโบราไค
ภาคการเดินทางและท่องเทีย่ วมีบทบาทสาคัญต่อเศรษฐกิจฟิ ลิปปิ นส์ โดย
สร้างมูลค่าเพิม
่ แก่ระบบเศรษฐกิจคิดเป็ นสัดส่วนร้อยละ 7.1
ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศในปี ค.ศ. 2013[95] และสร้างตาแหน่ งงาน
1,226,500 ตาแหน่ ง หรือร้อยละ 3.2
ของการจ้างงานทัง้ หมด[96] ตัง้ แต่เดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม ค.ศ.
2017 ฟิ ลิปปิ นส์ได้ตอ
้ นรับผูม
้ าเยือนชาวต่างชาติทง้ ั หมด 2,882,737 คน
(เพิม ้ ร้อยละ 14.43 เมือ
่ ขึน ่ เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี ค.ศ. 2016)
ผูม
้ าเยือนจากภูมภ ิ าคเอเชียตะวันออก เอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้ และเอเชียใต้ร
วมกันคิดเป็ นสัดส่วนร้อยละ 60.72
ในขณะทีผ ่ ม
ู้ าเยือนจากทวีปอเมริกาและจากทวีปยุโรปมีสดั ส่วนอยูท ่ รี่ อ้ ยละ
18.52 และร้อยละ 11.26
ตามลาดับ[97] หน่ วยงานทีม ่ ีหน้าทีร่ บ ั ผิดชอบในการจัดการและส่งเสริมภาคกา
รท่องเทีย่ วของฟิ ลิปปิ นส์คอ ื กระทรวงการท่องเทีย่ ว
ความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศเป็ นหนึ่งในบรรดาจุดดึงดูดควา
มสนใจหลัก ๆ ของการท่องเทีย่ ว โดยมีชายหาด ภูเขา ป่ าดิบชื้น เกาะ
และจุดดาน้าอยูใ่ นบรรดาสถานทีท ่ อ
่ งเทีย่ วยอดนิยม
เนื่องจากฟิ ลิปปิ นส์มีสภาพภูมศ ิ าสตร์เป็ นกลุม ่ ของเกาะประมาณ 7,500 เกาะ
จึงมีชายหาด ถา้
และการก่อตัวของหินรูปทรงแปลกตามากมาย โบราไคซึง่ มีหาดทรายขาวสะอ
าดได้รบ ั การลงคะแนนจากผูอ ้ า่ นนิตยสารแทรเวลแอนด์เลเชอร์ให้เป็ นเกาะทีด ่ ี
ทีส [98]
่ ุดในโลกประจาปี ค.ศ. 2012 จุดเด่นด้านการท่องเทีย่ วอืน ่ ๆ
ได้แก่ นาขัน ้ บันไดบานาเวในจังหวัดอีฟูเกา นครประวัตศ ิ าสตร์วีกนั ในจังหวัด
ตีโมกอีโลโคส เนินเขาช็อกโกแลตในจังหวัดโบโฮล กางเขนของมาเจลลันในจั
งหวัดเซบู และพืดหินปะการังตุบบาตาฮาในจังหวัดปาลาวัน
โครงสร้างพื้นฐาน[แก้]
การคมนาคม และ โทรคมนาคม[แก้]
เส้นทางคมนาคม[แก้]
ดูบทความหลักที:่ การขนส่งในประเทศฟิ ลิปปิ นส์
โทรคมนาคม[แก้]
ส่วนนี้รอเพิม
่ เติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิม
่ เติมข้อมูลในส่วนนี้ ได้
การศึกษา[แก้]
ดูบทความหลักที:่ การศึกษาในฟิ ลิปปิ นส์
 นโยบายทางการศึกษาในยุคทีเ่ ป็ นอาณานิคมของ
สเปน
หลังจากทีฟ ่ ิ ลิปปิ นส์ตกเป็ นอาณานิคมของสเปนอย่างเป็ นทางการในปี
ค.ศ. 1571
ระบบการศึกษาในฟิ ลิปปิ นส์ได้รบ ั อิทธิพลจากนโยบายของจักรวรรดิสเปน
สิง่ หนึ่งทีถ
่ ือเป็ นเอกลักษณ์ สาคัญในการเปลีย่ นแปลงของระบบการศึกษาในสมั
ยนัน ้ คือ ระบบการศึกษาแบบคาทอลิก
โดยศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกมีบทบาทอย่างมากในการพัฒนาระบบก
ารศึกษาทัง้ ในระดับโรงเรียนและมหาวิทยาลัยภายในฟิ ลิปปิ นส์
เพราะเป็ นยุทธศาสตร์สาคัญของสเปนในการเผยแผ่คริสต์ศาสนานิกายโรมันค
าทอลิกในฟิ ลิปปิ นส์
ปัจจัยทีส ่ ง่ ผลให้ศาสนจักรโรมันคาทอลิกประสบความสาเร็จในการปฏิรูประบบ
การศึกษาในประเทศฟิ ลิปปิ นส์คอ ื ปัจจัยด้านการถือครองทีด ่ น ิ
เหตุเพราะศาสนาโรมันคาทอลิกถือครองทีด ่ น ิ เป็ นจานวนมากภายในฟิ ลิปปิ นส์
ซึง่ ส่งผลให้นกั บวชนิกายโรมันคาทอลิกมีอท ิ ธิพลและมีอานาจมากในการปฏิรู
ประบบการศึกษา
และประสบความสาเร็จในการเผยแผ่ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกภายใน
ฟิ ลิปปิ นส์ ทัง้ นี้
ระบบการศึกษาในประเทศฟิ ลิปปิ นส์ได้ถูกเปลีย่ นแปลงอีกครัง้ ในปี ค.ศ.1863
ผ่านกฎหมายการศึกษา (Educational Decree)
ทีเ่ น้นให้ระบบการศึกษาภายในประเทศมีความเป็ นระบบ
มีหลักสูตรทีม ่ ีมาตรฐาน
และก่อตัง้ โรงเรียนเพิม ้ เพือ
่ มากยิง่ ขึน ่ รองรับประชาชนทั่วไปภายในประเทศ
อย่างไรก็ดี
ความเหลือ ่ มลา้ ในการเข้าถึงระบบการศึกษาของคนในประเทศยังคงมีอยู่
โดยเฉพาะอย่างยิง่ ความเหลือ ่ มลา้ ระหว่างผูช ้ ายและผูห ้ ญิง
และความเหลือ ่ มลา้ ระหว่างครอบครัวทีม ่ ีฐานะร่ารวยและยากจน
นอกเหนือจากศาสนาและระบบการศึกษาทีเ่ ป็ นระบบ
ภาษาสเปนเป็ นอีกสิง่ หนึ่งทีส ่ เปนได้ทงิ้ ไว้แก่ประเทศอาณานิคม
ซึง่ เห็นได้จากร่องรอยของมรดกทางภาษาสเปน
โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในภาษาตากาล็อกทีไ่ ด้รบ ั อิทธิพลอย่างมากจากภาษาสเปน
เช่นเดียวกับการตัง้ ชือ ่ คนในประเทศ ถนนหนทาง หรือสิง่ ก่อสร้างต่าง ๆ
ในฟิ ลิปปิ นส์ทยี่ งั คงถูกเรียกขานเป็ นภาษาสเปนจนถึงปัจจุบน ั
นโยบายทางการศึกษาในยุคทีเ่ ป็ นอาณานิคมของสหรัฐ
ในการปฏิรูประบบการศึกษาภายในฟิ ลิปปิ นส์ภายใต้อาณานิคมของสหรัฐ
ยุทธศาสตร์สาคัญของสหรัฐ คือ
ความพยายามทีจ่ ะทาให้ชาวฟิ ลิปปิ นส์มีความเป็ นอเมริกน ั มากขึน ้
(Americanization) ผ่านนโยบายการศึกษาทีถ ่ ูกคิดค้นขึน ้ โดยชาวอเมริกน ั
ตลอดระยะเวลาทีส ่ หรัฐปกครองฟิ ลิปปิ นส์
มีการสนับสนุนให้ใช้ภาษาอังกฤษมากขึน ้ เพือ ่ ลดบทบาทการใช้ภาษาท้องถิน ่
โดยกว่า 5 ทศวรรษของระบบการศึกษาแบบอเมริกน ั
นักเรียนฟิ ลิปปิ นส์ตอ ้ งศึกษาบทประพันธ์ของกวีตะวันตกชือ ่ ดังมากมาย อาทิ
วิลเลีย่ ม เชคสเปี ยร์ เป็ นต้น
ส่งผลทาให้ชาวฟิ ลิปปิ นส์ให้ความสนใจกับวรรณคดีทอ ้ งถิน่ น้อยลง
และใช้ภาษาอังกฤษในชัน ้ เรียนและในชีวต ิ ประจาวันมากขึน ้ ถึงแม้วา่ สหรัฐ
พยายามสอดแทรกวรรณกรรมตะวันตกในชีวต ิ ประจาวันของชาวฟิ ลิปปิ นส์
แต่เมือ ่ เทียบกับยุคทีส่ เปนปกครองฟิ ลิปปิ นส์กอ ่ นหน้านัน้
ถือได้วา่ ชาวฟิ ลิปปิ นส์มีเสรีภาพในการแสดงผลงานด้านบทประพันธ์ กลอน
และวารสารต่างๆ ในภาษาท้องถิน ่ มากกว่าในยุคทีเ่ ป็ นอาณานิคมของสเปน
อย่างไรก็ตาม
ผลงานวรรณกรรมของชาวฟิ ลิปปิ นส์กลับไม่ได้รบ ั การบรรจุในวิชาภาษาและว
รรณคดีในชัน ้ เรียนเท่าทีค่ วร
ซึง่ ส่งผลทาให้ระบบการศึกษาแบบอเมริกน ั แตกต่างจากระบบการศึกษาในยุค
ทีเ่ ป็ นอาณานิคมของสเปนโดยสิน ้ เชิง นั่นคือ
ชาวฟิ ลิปปิ นส์ในยุคทีถ ่ ูกปกครองโดยสหรัฐ
ไม่มีโอกาสได้เรียนภาษาประจาชาติของตัวเอง
เพราะภาษาท้องถิน ่ ถูกใช้เป็ นเพียงตัวช่วยในการเรียนการสอนในวิชาต่างๆ
เท่านัน ้ อีกทัง้ สหรัฐยังผูกขาดการใช้ภาษาอังกฤษในระบบการศึกษา จวบจน
ค.ศ. 1940 ภายหลังจากทีญ ่ ป
ี่ ุ่ นเข้ายึดครองฟิ ลิปปิ นส์ในสงครามโลกครัง้ ที่ 2
แต่ญป ี่ ุ่ นไม่ได้มีบทบาทในการพัฒนาการศึกษาภายในประเทศฟิ ลิปปิ นส์

 นโยบายการศึกษาภายหลังยุคทีเ่ ป็ นอาณานิคมขอ
งสหรัฐจวบจนปัจจุบน

ภายหลังจากทีฟ ่ ิ ลิปปิ นส์มีอส
ิ ระในการกาหนดนโยบายการศึกษาแล้ว
ฟิ ลิปปิ นส์ยงั คงให้ความสาคัญกับภาษาอังกฤษในระบบการศึกษา
พิจารณาได้จากรัฐธรรมนูญของประเทศฟิ ลิปปิ นส์ฉบับปี ค.ศ.1987
ทีร่ ะบุไว้อย่างชัดเจนว่า
ภาษาทางการทีใ่ ช้ในการเรียนการสอนในโรงเรียนคือภาษาฟิ ลิปปิ นส์และภาษ
าอังกฤษ
กระทรวงศึกษาธิการของฟิ ลิปปิ นส์ได้กาหนดให้ใช้ภาษาทัง้ สองในวิชาทีแ ่ ตกต่
างกันในการเรียนการสอน ในปัจจุบน ั
นโยบายการศึกษาของฟิ ลิปปิ นส์ยงั คงเป็ นไปในรูปแบบอเมริกน ั ทีเ่ น้นภาษาอัง
กฤษเป็ นภาษาหลักในการเรียนการสอน
ในขณะเดียวกันสถาบันทางการศึกษาหลายต่อหลายแห่งยังคงขึน ้ ตรงต่อระบบ
การศึกษาแบบคาทอลิก อาทิ มหาวิทยาลัย ดา ลา ซาน (De La Salle
University) และมหาวิทยาลัย อาเตเนโอ เด มานิลา่ (Ateneo de Manila
University) เป็ นต้น โดยสรุป
การทีน ่ โยบายทางการศึกษาของฟิ ลิปปิ นส์ถูกควบคุมโดยประเทศเจ้าอาณานิค
มอย่างสเปนและ สหรัฐ ส่งผลดีและผลเสียแตกต่างกันไป
ผลดีสาหรับฟิ ลิปปิ นส์คอ ื ระบบการศึกษาของฟิ ลิปปิ นส์มีคณุ ภาพ
มีมาตรฐานและเป็ นระบบมากยิง่ ขึน ้ ผ่านการปฏิรูปทางการศึกษาของสเปน
รวมไปถึงการทีป ่ ระชาชนภายในประเทศมีระดับความสามารถทางภาษาอังกฤ
ษทีส ้ ภายใต้ระบบการศึกษาแบบอเมริกน
่ ูงขึน ั
ผลเสียภายใต้การปกครองโดยสเปนและสหรัฐ คือ
การถูกลิดรอนอิสรภาพในการกาหนดทิศทางทางการศึกษาด้วยตัวเอง อาทิ
ประชาชนฟิ ลิปปิ นส์ได้รบ
ั อิทธิพลและกฎเกณฑ์ตา่ งๆ
ภายใต้ระบบการศึกษาแบบคาทอลิก หรือการทีเ่ อกลักษณ์ ของชาติ
โดยเฉพาะอย่างยิง่ วรรณกรรมและภาษาท้องถิน ่ ได้รบ ั การอนุรกั ษ์ และให้ควา
มสาคัญทีน่ ้อยลงภายใต้ระบบการศึกษาแบบอเมริกน ั
วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี[แก้]
ส่วนนี้รอเพิม
่ เติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิม
่ เติมข้อมูลในส่วนนี้ ได้
สาธารณสุข[แก้]
ส่วนนี้รอเพิม
่ เติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิม
่ เติมข้อมูลในส่วนนี้ ได้
สวัสดิการสังคม[แก้]
ส่วนนี้รอเพิม
่ เติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิม
่ เติมข้อมูลในส่วนนี้ ได้
ประชากรศาสตร์[แก้]

แผนทีแ
่ สดงชนกลุม
่ น้อยต่างๆ ในฟิ ลิปปิ นส์
มีปญ ่ น้อยมุสลิมในเกาะมินดาเนา ซึง่ ต้องการแยกตัวเป็ นอิสระ
ั หาชนกลุม
เรียกว่า "แนวปลดปล่อยแห่งชาติโมโร"
ภาษา[แก้]
ดูบทความหลักที:่ ภาษาในประเทศฟิ ลิปปิ นส์
มีการใช้ภาษามากกว่า 170 ภาษา
โดยส่วนมากเกือบทัง้ หมดนัน
้ เป็ นตระกูลภาษาย่อยมาลาโย-
โปลินีเซียนตะวันตก แต่ในปี พ.ศ.
2530 รัฐธรรมนูญได้ระบุให้ภาษาฟิ ลิปีโนและภาษาอังกฤษเป็ นภาษาทางการ
ส่วนภาษาต่างประเทศอืน
่ ๆ ทีใ่ ช้กน
ั มากในประเทศฟิ ลิปปิ นส์มีทง้ ั หมด 8
ภาษา
ได้แก่ ภาษาสเปน ภาษาจีนฮกเกี้ยน ภาษาจีนแต้จวิ๋ ภาษาอินโดนีเซียภาษาซิน
ด์ ภาษาปัญจาบ ภาษาเกาหลี และภาษาอาหรับ
โดยฟิ ลิปปิ นส์นน
้ ั มีภาษาประจาชาติคอ
ื ภาษา ตากาล็อก
ศาสนา[แก้]
ดูบทความหลักที:่ ศาสนาในประเทศฟิ ลิปปิ นส์
ศาสนาในประเทศฟิ ลิปปิ นส์
ศาสนา %
คริสต์   92.9%
อิสลาม   5.6%
ฮินดู   1%
ศาสนาอืน

  0.5%

สัดส่วนของศาสนาต่างๆ ในฟิ ลิปปิ นส์


สีน้าเงินคือศาสนาคริสต์ สีเขียวคือศาสนาอิสลาม
ในปี ค.ศ. 2014[99] ฟิ ลิปปิ นส์เป็ นประเทศทีม
่ ีประชากรนับถือ
แบ่งได้ดงั นี้ ศาสนาคริสต์ 92.9%
(นิกายโรมันคาทอลิก 82.9% นิกายโปรเตสแตนต์ 10%) ศาสนาอิสลาม 5.6
% ศาสนาฮินดู 1% และศาสนาอืน ่ ๆ 0.5%
วัฒนธรรม[แก้]
ดูบทความหลักที:่ วัฒนธรรมฟิ ลิปปิ นส์
ฟิ ลิปปิ นส์เป็ นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้ทอ
ี่ ยูภ
่ ายใต้อทิ ธิพล
ของตะวันตกก่อนจะได้มีโอกาสพัฒนาวัฒนธรรมของตัวเอง
วัฒนธรรมฟิ ลิปปิ นส์จะมีสว่ นคล้ายกับประเทศในละติน
อเมริกา ประชาชนแบ่งออกเป็ นชุมนุมชนทางเชื้อชาติและภาษาทีแ ่ ตกต่างกัน
อาหาร[แก้]
ดูบทความหลักที:่ อาหารฟิ ลิปปิ นส์
อาโดโบ เป็ นหนึ่งในอาหารยอดนิยมของประเทศฟิ ลิปปิ นส์
และเป็ นทีน
่ ิยมของนักเดินทางหรือนักเดินเขา
ทาจากหมูหรือไก่ทผ ี่ า่ นกรรมวิธีหมักและปรุงรสโดยจะใส่ซีอวิ๊ ขาว น้าส้มสายชู
กระเทียมสับ ใบกระวาน พริกไทยดา นาไปทาให้สุกโดยใส่ในเตาอบหรือทอด
และรับประทานกับข้าว
ศิลปะ[แก้]
ส่วนนี้รอเพิม
่ เติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิม
่ เติมข้อมูลในส่วนนี้ ได้
สือ
่ สารมวลชน[แก้]
ดูบทความหลักที:่ สือ่ สารมวลชนในประเทศฟิ ลิปปิ นส์
ส่วนนี้รอเพิม
่ เติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิม
่ เติมข้อมูลในส่วนนี้ ได้
กีฬา[แก้]
ดูบทความหลักที:่ ฟิ ลิปปิ นส์ในโอลิมปิ ก และ ฟิ ลิปปิ นส์ในเอเชียนเกมส์
ดูเพิม
่ [แก้]
อ้างอิง[แก้]

1. กระโดดขึน ้ ↑ "More islands, more fun in


PH". CNN Philippines. February 20,
2016. สืบค้นเมือ ่ February 20, 2016.
2. กระโดดขึน ้ ↑ "Metro Manila Official
Website". Metro Manila Development
Authority. สืบค้นเมือ่ December 17, 2015.
3. กระโดดขึน ้ ↑ "Geoba.se: Gazetteer – The
World – Top 100+ Countries by Area –
Top 100+ By Country ()". geoba.se.
สืบค้นเมือ
่ December 17, 2015.
4. กระโดดขึน ้ ↑ "Philippines joyous as baby
Chonalyn's arrival means population hits
100m". the Guardian.
5. กระโดดขึน ้ ↑ "Philippine population
officially hits 100 million". Rappler.
6. กระโดดขึน ้ ↑ "Stock Estimate of Filipinos
Overseas As of December 2013".
Philippine Overseas Employment
Administration. สืบค้นเมือ ่ 2015-09-19.
7. กระโดดขึน ้ ↑ Isidore Dyen (1965). "A
Lexicostatistical Classification of the
Austronesian Languages". Internationald
Journal of American Linguistics,
Memoir 19: 38–46.
8. กระโดดขึน ้ ↑ "History of Cebu". Cebu City
Tour. สืบค้นเมือ ่ February 22, 2013.
9. กระโดดขึน ้ ↑ Kane, Herb Kawainui (1996).
"The Manila Galleons". In Bob
Dye. Hawaiʻ Chronicles: Island History
from the Pages of Honolulu Magazine I.
Honolulu: University of Hawaii Press.
pp. 25–32. ISBN 0-8248-1829-6.
10. กระโดดขึน ้ ↑ อ้างอิงผิดพลาด:
ป้ ายระบุ <ref> ไม่ถก ู ต้อง
ไม่มีการกาหนดข้อความสาหรับอ้างอิงชือ ่ Cons
tantino1975
11. กระโดดขึน ้ ↑ "The Original People
Power Revolution". QUARTET p. 77.
สืบค้นเมือ
่ February 28, 2008.
12. กระโดดขึน ้ ↑ admin. "Departments and
Offices". Asian Development Bank.
Asian Development Bank. สืบค้นเมือ ่
November 26, 2015.
13. กระโดดขึน ้ ↑ "The N-11: More Than an
Acronym – Goldman Sachs". The
Goldman Sachs Group, Inc.March 28,
2007. Archived from the original on
2011-07-19.
14. กระโดดขึน ้ ↑ CIA World Factbook,
Philippines, Retrieved May 15, 2009.
15. กระโดดขึน ้ ↑ Mayuga, Jonathan
(February 10, 2016). "Namria 'discovers'
400 previously 'unknown' PHL islands
using IfSAR". BusinessMirror. สืบค้นเมือ ่
February 12, 2016.
16. กระโดดขึน ้ ↑ "General Profile of the
Philippines : Geography". Philippine
Information Agency.
17. ↑ กระโดดขึน้ ไป:17.0 17.1 17.2 "General
Information". March 9, 2009. Archived
from the original on March 9, 2009.
สืบค้นเมือ
่ September 21, 2014.. (older
version – as it existed in 2009 – during
the presidency of Gloria Macapagal
Arroyo), The Official Government Portal
of the Republic of the
Philippines Archived September 30,
2007, at the Wayback Machine..
18. กระโดดขึน้ ↑ Central Intelligence
Agency. (2009). "Field Listing ::
Coastline". Washington, D.C.: Author.
Retrieved 2009-11-07.
19. กระโดดขึน ้ ↑ Philippine
Sea, encarta.msn.com Archived October
31, 2009, at WebCite (archived from the
original Archived August 20, 2009, at
the Wayback Machine. on August 20,
2009).
20. กระโดดขึน ้ ↑ "U.S. report details rich
resources in South China
Sea." (archived from the original on
2013-02-133)
21. กระโดดขึน ้ ↑ C.Michael Hogan.
2011. Celebes Sea. Encyclopedia of
Earth. Eds. P.Saundry & C.J.Cleveland.
National Council for Science and the
Environment. Washington DC
22. กระโดดขึน้ ↑ "An Awesome
Island". Borneo: Island in the Clouds.
PBS. สืบค้นเมือ ่ November 11, 2012.
23. กระโดดขึน ้ ↑ "Philippines Mountain
Ultra-Prominence". peaklist.org. สืบค้นเมือ

June 19, 2009.
24. กระโดดขึน ้ ↑ (2011-04-06). "The World
Factbook – Philippines" Archived July 19,
2015, at the Wayback Machine.. Central
Intelligence Agency. Retrieved on March
14, 2011.
25. กระโดดขึน ้ ↑ Bruun, Anton Frederick
(1956). The Galathea Deep Sea
Expedition, 1950–1952, described by
members of the expedition. Macmillian,
New York.
26. กระโดดขึน ้ ↑ Kundel, Jim (June 7,
2007). "Water profile of Philippines".
Encyclopedia of Earth. สืบค้นเมือ ่
September 30, 2008.
27. กระโดดขึน ้ ↑ Republic of the
Philippines. Department of Tourism. [c.
2008]. Leyte is Famous for... at
the Wayback Machine (archived April
27, 2012) (archived from the original on
April 27, 2012). Retrieved March 21,
2010 from www.travelmart.net.
28. กระโดดขึน ้ ↑ "Submissions, through the
Secretary-General of the United Nations,
to the Commission on the Limits of the
Continental Shelf, pursuant to article 76,
paragraph 8, of the United Nations
Convention on the Law of the Sea of 10
December 1982". United Nations
Commission on the Limits of the
Continental Shelf. May 28, 2009.
สืบค้นเมือ
่ May 29, 2009.
29. กระโดดขึน ้ ↑ La Putt, Juny P. [c.
2003]. The 1990 Baguio City
Earthquake. Retrieved December 20,
2009 from The City of Baguio Website.
30. กระโดดขึน ้ ↑ Newhall, Chris; James W.
Hendley II & Peter H. Stauffer (February
28, 2005). "The Cataclysmic 1991
Eruption of Mount Pinatubo, Philippines
(U.S. Geological Survey Fact Sheet 113-
97)". U.S. Department of the Interior.
U.S. Geological Survey. Archived
from the original on August 25, 2013.
สืบค้นเมือ
่ April 9, 2007.
31. กระโดดขึน ้ ↑ "Puerto-Princesa
Subterranean River National Park".
UNESCO World Heritage Centre.
สืบค้นเมือ่ May 4, 2013.
32. ↑ กระโดดขึน้ ไป:32.0 32.1 Greenlees, Donald
(May 14, 2008). "Miners shun mineral
wealth of the Philippines". The New York
Times. สืบค้นเมือ่ December 11, 2009.
33. กระโดดขึน ้ ↑ Davies, Ed & Karen Lema
(June 29, 2008). "Pricey oil makes
geothermal projects more attractive for
Indonesia and the Philippines". The New
York Times. สืบค้นเมือ่ December 18,
2009.
34. ↑ กระโดดขึน้ ไป:34.0 34.1 34.2 "Natural
Resources and Environment in the
Philippines". (n.d.). eTravel Pilipinas.
Retrieved January 22, 2009.
35. กระโดดขึน ้ ↑ Chanco, Boo. (December
7, 1998). "The Philippines Environment:
A Warning". The Philippine Star.
Archived from the original on 2001-07-
11. Retrieved February 15, 2010 from
gbgm-umc.org.
้ ↑ Williams, Jann; Cassia
36. กระโดดขึน
Read; Tony Norton; Steve Dovers; Mark
Burgman; Wendy Proctor & Heather
Anderson (2001). Biodiversity Theme
Report: The Meaning, Significance and
Implications of Biodiversity (continued).
CSIRO on behalf of the Australian
Government Department of the
Environment and Heritage. ISBN 0-643-
06749-3. Archived from the original on
May 14, 2007. สืบค้นเมือ ่ November 6,
2009.
37. กระโดดขึน ้ ↑ Carpenter, Kent E. &
Victor G. Springer (April 2005). "The
center of the center of marine shore fish
biodiversity: the Philippine
Islands". Environmental Biology of
Fishes (Springer Netherlands) 74 (2):
467–480. doi:10.1007/s10641-004-3154-
4.
38. ↑ กระโดดขึน้ ไป:38.0 38.1 38.2 Rowthorn, Chris
& Greg Bloom (2006). Philippines (9th
ed.). Lonely Planet. p. 52. ISBN 1-
74104-289-5.
39. กระโดดขึน ้ ↑ "Biological diversity in the
Philippines". Eoearth.org. สืบค้นเมือ ่ May
4, 2013.
40. กระโดดขึน ้ ↑ ""Lolong" holds world
record as largest croc in the
world". Protected Areas and Wildlife
Bureau. November 17, 2011. Archived
from the original on January 26, 2012.
สืบค้นเมือ
่ June 23, 2012.
41. กระโดดขึน ้ ↑ Britton, Adam (November
12, 2011). "Accurate length
measurement for Lolong". Croc Blog.
สืบค้นเมือ่ June 23, 2012.
42. กระโดดขึน ้ ↑ Ferguson-Lees, J.;
Christie, D. (2001). Raptors of the World.
London: Christopher Helm. pp. 717–
19. ISBN 0-7136-8026-1.
43. กระโดดขึน ้ ↑ {{{assessors}}}
(2004). Pithecophaga
jefferyi. 2006 IUCN Red List of
Threatened Species. IUCN 2006.
Retrieved on January 7, 2009.
44. กระโดดขึน ้ ↑ อ้างอิงผิดพลาด:
ป้ ายระบุ <ref> ไม่ถก ู ต้อง
ไม่มีการกาหนดข้อความสาหรับอ้างอิงชือ ่ basel
ines
45. กระโดดขึน ้ ↑ Bos, A.R. & Smits, H.M.
(2013). "First Record of the dottyback
Manonichthys alleni (Teleostei:
Perciformes: Pseudochromidae) from
the Philippines". Marine Biodiversity
Records 6 (e61). doi:10.1017/s1755267
213000365. Archived from the
original on 2013-10-16.
46. กระโดดขึน ้ ↑ Bos, Arthur R. &
Gumanao, Girley S. (2013). "Seven new
records of fishes (Teleostei:
Perciformes) from coral reefs and
pelagic habitats in Southern Mindanao,
the Philippines". Marine Biodiversity
Records 6 (e95): 1–
6. doi:10.1017/s1755267213000614.
Archived from the original on 2014-09-
19.
47. กระโดดขึน ้ ↑ Bos A.R.; Gumanao, G.S.;
Salac, F.N. (2008). "A newly discovered
predator of the crown-of-thorns
starfish". Coral Reefs 27:
581. doi:10.1007/s00338-008-0364-9.
Archived from the original on 2015-07-
03.
48. กระโดดขึน้ ↑ Ocaña O., J.C.; den
Hartog; A. Brito; Bos, A.R. (2010). "On
Pseudocorynactis species and another
related genus from the Indo-Pacific
(Anthozoa: Corallimorphidae)". Revista
de la Academia Canaria de
Ciencias XXI (3–4): 9–34. Archived
from the original on 2014-09-19.
49. กระโดดขึน ้ ↑ Bos A.R.
(2014). "Upeneus nigromarginatus, a
new species of goatfish (Perciformes:
Mullidae) from the Philippines". Raffles
Bulletin of Zoology 62: 745–753.
Archived from the original on 2015-07-
03.
50. กระโดดขึน ้ ↑ "About the Philippines".
(October 17, 2009). Retrieved December
20, 2009 from the Philippine History
Website.
51. กระโดดขึน ้ ↑ "Hub of Life: Species
Diversity in the Philippines". Foundation
for the Philippine Environment. February
18, 2014. สืบค้นเมือ ่ September 21, 2014.
52. กระโดดขึน ้ ↑ Taguinod, Fioro.
(November 20, 2008). "Rare flower
species found only in northern
Philippines". GMA News. Retrieved
December 14, 2009.
53. กระโดดขึน ้ ↑ Peralta, Eleno O. (2005).
"21. Forests for poverty alleviation: the
response of academic institutions in the
Philippines". In Sim, Appanah, and
Hooda (Eds.). Proceedings of the
workshop on forests for poverty
reduction: changing role for research,
development and training
institutions (RAP Publication). Food and
Agriculture Organization (FAO).
Retrieved December 20, 2009.
54. กระโดดขึน ้ ↑ Kirby, Alex. (July 23,
2003). SE Asia faces 'catastrophic'
extinction rate. BBC News. Retrieved
December 20, 2009.
55. ↑ กระโดดขึน้ ไป:55.0 55.1 55.2 Philippine
Atmospheric, Geophysical and
Astronomical Services
Administration(n.d.). "Climate of the
Philippines". Archived from the
original on May 31, 2010. สืบค้นเมือ ่ April
24, 2010.
56. กระโดดขึน ้ ↑ Lonely Planet.
(n.d.). Philippines: When to go &
weather. Retrieved January 23, 2009.
57. ↑ กระโดดขึน้ ไป:57.0 57.1 Library of
Congress – Federal Research Division.
(March 2006). Country Profile:
Philippines. Retrieved December 17,
2009.
58. กระโดดขึน ้ ↑ Chong, Kee-Chai; Ian R.
Smith & Maura S. Lizarondo (1982). "III.
The transformation sub-system:
cultivation to market size in
fishponds". Economics of the Philippine
Milkfish Resource System. The United
Nations University. ISBN 92-808-0346-8.
Archived from the original on July 19,
2011. สืบค้นเมือ ่ May 14, 2009.
59. กระโดดขึน ้ ↑ Philippine Atmospheric,
Geophysical and Astronomical Services
Administration (PAGASA). (January
2009). Member Report to the
ESCAP/WMO Typhoon Committee, 41st
Session. สืบค้นเมือ่ December 17, 2009.
60. กระโดดขึน้ ↑ Monthly Typhoon Tracking
Charts. (2010). Retrieved April 24, 2010
from the National Institute of Informatics,
Kitamoto Laboratory, Digital Typhoon
Website.
61. กระโดดขึน ้ ↑ Balek, Jaroslav. Hydrology
and Water Resources in Tropical
Regions. (Developments in Water
Science; 18). Amsterdam: Elsevier,
1983, p. 47.
62. กระโดดขึน ้ ↑ อ้างอิงผิดพลาด:
ป้ ายระบุ <ref> ไม่ถก ู ต้อง
ไม่มีการกาหนดข้อความสาหรับอ้างอิงชือ ่ imf2
63. ↑ กระโดดขึน้ ไป:63.0 63.1 63.2 63.3 อ้างอิงผิดพลาด:
ป้ ายระบุ <ref> ไม่ถก ู ต้อง
ไม่มีการกาหนดข้อความสาหรับอ้างอิงชือ ่ CIAfa
ctbook
64. กระโดดขึน ้ ↑ Republic of the
Philippines. National Statistical
Coordination Board. "Third Quarter 2009
Gross National Product and Gross
Domestic Product by Industrial Origin".
สืบค้นเมือ่ December 11, 2009.
65. ↑ กระโดดขึ
น ้ ไป:65.0 65.1 65.2 Philippine

Statistics Authority (October


2009). "Quickstat" (PDF). Archived
from the original on July 11, 2012.
สืบค้นเมือ ่ December 11, 2009.
66. กระโดดขึน ้ ↑ "Philippines jobless rate
eases to 6% in October". MarketWatch.
December 10, 2014. สืบค้นเมือ ่ December
14, 2014.
67. กระโดดขึน ้ ↑ "Philippine Unemployment
Rate Falls In October". RTTNews.
December 10, 2014. สืบค้นเมือ ่ December
14, 2014.
68. กระโดดขึน ้ ↑ Magtulis, Prinz P. (August
28, 2014). "Philippine GDP Growth
Beats Estimate in Boost to Aquino
Goal". Bloomberg News. สืบค้นเมือ ่
September 21, 2014.
69. กระโดดขึน ้ ↑ Denis Somoso.
(September 30, 2013). "$83.201 Billion –
Philippines GIR now Rank 26th World's
highest International
Reserves". Philippines, ASIA and the
Global Economy Site. Retrieved
September 30, 2013.
70. กระโดดขึน ้ ↑ Mendoza, Ronlad U. (June
25, 2012). "Debt free?". Rappler.
สืบค้นเมือ่ December 14, 2014.
71. กระโดดขึน ้ ↑ "Debt-to-gov't ratio hits
38.1% in end-March". Rappler.
September 23, 2014. สืบค้นเมือ ่
December 14, 2014.
72. กระโดดขึน ้ ↑ Dela Peña, Zinnia B.
(September 24, 2014). "Debt-to-GDP
ratio continues to improve". The
Philippine Star. สืบค้นเมือ ่ December 14,
2014.
73. กระโดดขึน ้ ↑ "From butt of jokes in
1986, Philippines has risen to creditor
nation, says ex-finance chief".
Newsinfo.inquirer.net. February 28,
2012. สืบค้นเมือ ่ March 3, 2014.
กระโดดขึ
น ้ ไป:74.0 74.1 74.2
74. ↑ อ้างอิงผิดพลาด:
ป้ ายระบุ <ref> ไม่ถก ู ต้อง
ไม่มีการกาหนดข้อความสาหรับอ้างอิงชือ ่ PhilS
tate
75. กระโดดขึน ้ ↑ The Filipina sisterhood.
(December 20, 2001). The Economist.
Retrieved November 9, 2009.
76. ↑ กระโดดขึน้ ไป:76.0 76.1 76.2 Ure, John
(2008). Telecommunications
Development in Asia. Hong Kong
University Press. pp. 301–
302. ISBN 978-962-209-903-6.
77. กระโดดขึน ้ ↑ อ้างอิงผิดพลาด:
ป้ ายระบุ <ref> ไม่ถก ู ต้อง
ไม่มีการกาหนดข้อความสาหรับอ้างอิงชือ ่ lastla
ugh
78. กระโดดขึน ้ ↑ "Philippines". International
Monetary Fund. สืบค้นเมือ ่ April 20, 2012.
79. กระโดดขึน ้ ↑ Felix, Rocel. (January 25,
2008). 2007 GDP seen growing at
fastest rate in 30 years. The Philippine
Daily Inquirer. Retrieved May 29, 2010.
(archived from the original on February
22, 2015)
80. กระโดดขึน ้ ↑ United Nations
Development Programme (2009). Table
G: Human development and index
trends, Table I: Human and income
poverty. ISBN 978-0-230-23904-3.
81. กระโดดขึน้ ↑ Reddel, Paul (May 27,
2009). Infrastructure & Public-Private
Partnerships in East Asia and the
Philippines [PowerPoint slides].
Presentation in Manila to the American
Foreign Chambers of Commerce of the
Philippines. Retrieved February 13,
2010 from the Public-Private
Infrastructure Advisory Facility (PPIAF)
Website.
82. กระโดดขึน ้ ↑ "Report for Selected
Countries and Subjects". Imf.org.
September 14, 2006. สืบค้นเมือ ่ October
23, 2011.
83. กระโดดขึน้ ↑ Sakib Sherani. "Pakistan's
remittances". dawn.com. สืบค้นเมือ ่
December 17, 2015.
84. กระโดดขึน ้ ↑ "OFW remittances to
increase by 8.5% in 2014—Standard
Chartered". Philippine Daily Inquirer.
January 13, 2014. สืบค้นเมือ ่ September
21, 2014.
85. กระโดดขึน ้ ↑ "Why PH improves in
competitiveness ranking". Rappler. Aug
22, 2013. สืบค้นเมือ ่ September 21, 2014.
86. กระโดดขึน ้ ↑ "Poverty and regional
development imbalance". Philippine
Daily Inquirer. March 5, 2014. สืบค้นเมือ ่
September 21, 2014.
87. กระโดดขึน ้ ↑ Llorito, David (May 10,
2006). "Help wanted for Philippines
outsourcing". Asia Times. สืบค้นเมือ ่
December 11, 2009.
88. กระโดดขึน ้ ↑ "Beyond the Brics: A Look
at the 'Next 11'". April 2007. สืบค้นเมือ ่
September 21, 2014.
89. กระโดดขึน ้ ↑ Armstrong, Aristidi (April
21, 2013). "Move over BRICS, the "Next
Eleven" has emerged". Economics
Student Society of Australia. สืบค้นเมือ ่
September 21, 2014.
90. กระโดดขึน ้ ↑ Olchondra, Riza T.
(October 2, 2006). As India gets too
costly, BPOs turn to Philippines. The
Philippine Daily Inquirer. Retrieved
December 16, 2009. (archived from the
original on February 12, 2007)
91. กระโดดขึน ้ ↑ "GOLDMAN: Here's What
Global GDP Will Look Like In
2050". Business Insider. November 19,
2012. สืบค้นเมือ ่ September 21, 2014.
92. กระโดดขึน ้ ↑ Platt, Eric (January 13,
2012). "These Economies Will Dominate
The World In 2050". Business Insider.
สืบค้นเมือ
่ September 21, 2014.
93. กระโดดขึน ้ ↑ Fajardo, Fernando
(February 29, 2012). "The Philippines in
2050". Philippine Daily Inquirer. สืบค้นเมือ ่
September 21, 2014.
94. กระโดดขึน ้ ↑ Kevin Voigt (January 12,
2012). World's top economies in 2050
will be... CNN. (archived from the
original on August 14, 2012)
95. กระโดดขึน ้ ↑ "Philippines – Travel &
Tourism Total Contribution to GDP –
Travel & Tourism Total Contribution to
GDP – % share". สืบค้นเมือ ่ September 19,
2014.
96. กระโดดขึน ้ ↑ "Travel and tourism to
contribute P490B or 3.8% to 2014 PHL
output, says council". GMA News and
Current Affairs. March 19, 2014.
สืบค้นเมือ่ September 19, 2014.
97. กระโดดขึน ้ ↑ "INDUSTRY
PERFORMANCE FOR TRAVEL AND
TOURISM, MAY 2017". สืบค้นเมือ ่
September 19, 2017.
98. กระโดดขึน ้ ↑ "Boracay 2012 World's
Best Island". July 11, 2012. Archived
from the original on July 15, 2012.
99. กระโดดขึน ้ ↑ [1] Religion in the
Philippines
แหล่งข้อมูลอืน
่ [แก้]
ค้นหาเกีย่ วกับ ประเทศฟิ ลิปปิ นส์ เพิม
่ ทีโ่ ครงการพีน
่ ้องของวิกพ
ิ ีเดีย
บทนิยาม จากวิกพ ิ จนานุกรม
สือ
่ จากคอมมอนส์
ทรัพยากรการเรียน จากวิกวิ ท ิ ยาลัย
อัญพจน์ จากวิกค
ิ าคม
ข้อความต้นฉบับ จากวิกซ
ิ อร์ซ
ตารา จากวิกต
ิ ารา
รัฐบาล

 Official website of the Official Gazette of


the Philippines
 Official website of the House of
Representatives of the Philippines
 Official website of the Supreme Court of
the Philippines
 Official website of Bangko Sentral ng
Pilipinas (Central Bank of the
Philippines)
 Official website of the National
Economic and Development Authority
(NEDA)
 Official website of the Bureau of
Agricultural Statistics
 Official website of the Philippine National
Police (PNP)
 Official website of the Department of
Tourism
ข้อมูลพื้นฐาน

 Chiefs of State and Cabinet Members


 Philippines profile from the BBC News
 Philippines at UCB Libraries GovPubs
 WikiAnswers: Q&A about the Philippines
 Wikia has a wiki on this subject
at Philippines
 Philippines entry at The World Factbook
 ประเทศฟิ ลิปปิ นส์ ทีด
่ ม
ี อซ
 Philippines at Encyclopædia Britannica
 Philippine News and Current Events
 Philippines News and Press Release
Distribution
 Key Development Forecasts for the
Philippines from International Futures
หนังสือ และ หัวข้อทีน
่ าสนใจ

 History of the Philippine Islands in many


volumes, from Project
Gutenberg (indexed under Emma Helen
Blair, the general editor)
 Washington Post – How the Philippines
Sees America
สือ

 Wikimedia Philippines
 Wikimedia Atlas of Philippines
อืน
่ ๆ

 Asian Development Bank (ADB)


 Filipinana.net – Free digital library and a
research portal
 WikiSatellite view of
Philippines at WikiMapia
 ประเทศฟิ ลิปปิ นส์ ข้อมูลการท่องเทีย่ วจาก วิกท
ิ ่
องเทีย่ ว

You might also like