Professional Documents
Culture Documents
คณิตศาสตร์ ป 6
คณิตศาสตร์ ป 6
……………
จํานวนและการบวก
การลบ การคูณ การหาร
จํานวนและตัวเลข
จํานวน คือ ปริมาณ สามารถบอกค่ามากน้ อย เปรียบเทียบกันได้ และเขียนแทนด้ วย
สัญลักษณ์ที เรียกว่า ตัวเลข
เลขโดด ได้ แก่ 0,1,2,3,4,5,6,7,8,9
ค่ าประจําหลักของจํานวนในฐานสิบ
ค่าประจําหลักของตัวเลขในระบบฐานสิบ เป็ นดังนี
ค่ าประจําหลัก
หลัก ค่ าประจําหลัก ในรู ปเลขยกกําลัง
หน่ วย
สิบ
ร้ อย
พัน
หมืน
แสน
ล้ าน
สิบล้ าน
ร้ อยล้ าน
พันล้ าน
หมืนล้ าน
เพิมเติมเกียวกับเลขยกกําลัง
an = a a a . . . a (n ครั ง)
เช่น 54 = 5 5 5 5 = 625
25 = 2 2 2 2 2 = 32
35 36 = (3 3 3 3 3) (3 3 3 3 3 3) = 311
710 74 = (7 7 7 7 7 7 7 7 7 7 7) (7 7 7 7) = 76
จากการหาค่าของเลขโดดตามค่าประจําหลัก ข้ างต้นจงตอบคําถามต่อไปนี
1. ในจํานวนดังกล่าว เลข 8 ทังสองตัวในจํานวนดังกล่าวมีคา่ เท่ากันหรื อไม่
ตอบ………………………………….………………………………….………
2. ในจํานวนดังกล่าวเลข 0 ทังสองตัวในจํานวนดังกล่าวมีคา่ เท่ากันหรื อไม่
ตอบ………………………………….………………………………….………
3. ในจํานวนดังกล่าว ค่าของเลข 4 เป็ นกีเท่าของเลข 2
ตอบ………………………………….………………………………….………
4. ในจํานวนดังกล่าว ค่าของเลข 5 ต่างจากค่าของเลข 9 ในจํานวนดังกล่าวอยู่เท่าใด
ตอบ………………………………….………………………………….………
ในจํานวนดังกล่าว ผลบวกของค่าเลข 8 ทังสองตัว ในจํานวนดังกล่าวเป็ นเท่าใด
ตอบ………………………………….………………………………….………
5. ในจํานวนดังกล่าว ค่าประจําหลักของ 5 เป็ นกีเท่าของค่าประหลักของ 2
ตอบ………………………………….………………………………….………
การเขียนจํานวนในรูปการกระจาย
การเขียนจํานวนอยู่ในรูปการกระจาย เป็ นการเขียนจํานวนนันอยูใ่ นรูปการบวกของค่า
ตัวเลขในหลักต่าง ๆ
การเรียงลําดับจํานวน
การเปรียบเทียบจํานวนทีมีหลักไม่ เท่ ากัน : ใช้ หลักการว่า “จํานวนทีมีหลักมากกว่าจะ
มีคา่ มากกว่าจํานวนทีหลักน้ อยกว่า”
เช่น 54,042 > 9,999 เพราะ 54,042 มี 5 หลัก แต่ 9,999 มี 4 หลัก
การเปรียบจํานวนทีมีหลักเท่ ากัน : ใช้ หลักการเปรียบเทียบตัวเลขทีละหลัก จากด้ าน
ซ้ ายมือไปขวามือ ถ้ าเจอหลักแรกจากซ้ ายมือของจํานวนใดมีคา่ มากกว่าจํานวนนันจะมีคา่ มากกว่าอีก
จํานวนหนึงทันที
เช่น 54,042 > 54,024 เพราะ ในหลักสิบ 4 > 2
การประมาณค่ า
การประมาณค่าของจํานวนให้ ใกล้ เคียงจํานวนเต็มจํานวนหนึง มีหลักการดังนี
ถ้ าต้ องการประมาณค่าใกล้เคียงจํานวนเต็มหลักใดๆ ให้ พิจารณาตัวเลขทีอยู่ติดด้ านขวาว่าเป็ น
ตัวเลขใด
– ถ้ าเป็ นตัวเลข 0, 1, 2, 3, 4 ไม่ต้องเพิมค่าตัวเลขในหลักทีต้ องการประมาณค่า
และเปลียนตัวเลขด้ านขวาของตัวเลขนันให้ เป็ นศูนย์ทงมดั
– ถ้ าเป็ นตัวเลข 5, 6, 7, 8, 9 ต้ องเพิมค่าตัวเลขในหลักทีต้ องการประมาณค่าอีก
หนึง(บวกหนึง)และเปลียนตัวเลขด้ านขวาของตัวเลขนันให้ เป็ นศูนย์ทงมดั
ค่าประมาณใกล้ จํานวนเต็ม
จํานวน หลักสิบ หลักร้ อย หลักพัน หลักหมืน
23
495
671
2,457
5,197
12,457
1,234,453
25,479,999
จํานวน หลักแสน หลักล้ าน หลักสิบล้ าน หลักร้ อยล้ าน
54,145,123
123,475,914
12,123,478
98,102,478
65,108,028
123,456,789
ตัวอย่ าง 5 จงตอบคําถามต่อไปนี
1. จํานวน 32,456 ค่าประมาณใกล้เคียงจํานวนเต็มสิบน้ อยกว่าค่าประมาณใกล้เคียง
จํานวนเต็มพันอยู่เท่าใด
ตัวอย่ าง 6 จงหาคําตอบต่อไปนี
1. คุณแม่ต้องการซือเนือหมู 2 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 87 บาท และปลา 3 กิโลกรัม กิโลกรัม
ละ 43 บาท คุณแม่ต้องเตรียมเงินเป็ นจํานวนเต็มสิบ เป็ นจํานวนกีบาท
2. ความสัมพันธ์ระหว่างการคูณและการหาร
ถ้ า a b = c แล้ ว a = cb และ b = ca
ถ้ า a b = c แล้ ว a = cb และ b = ac
อนุกรมของจํานวน
สูตร 1 : ผลบวกจํานวนตังแต่ 1 ถึง n
n(n 1)
1+2+3+...+n =
2
สูตร 2 : ผลบวกของจํานวนคู่ n ตัวแรก (เริม ตังแต่ 2 ถึง m)
2 + 4 + 6 + . . . + m = n2 + n เมือ n = m 2
สูตร 3 : ผลบวกของจํานวนคี n ตัวแรก (เริม ตังแต่ 1 ถึง m)
1 + 3 + 5 + . . . + m = n2 เมือ n = (m+1) 2
สูตร 4 : ผลบวก m จํานวนของการบวกเพิมครังละ a เท่าๆกัน เท่ากับ
n
(ต้ น + ปลาย) เมือ n = [ (ปลาย – ต้ น) a ] + 1
2
ตัวอย่ าง 11 จงหาผลบวกต่อไปนี
(1) 1 + 2 + 3 + ... + 100 (2) 1 + 3 + 5 + ... + 113
(5) การหาค่าเฉลีย
ค่ าเฉลีย = (จํานวนที 1 + จํานวนที 2 + … + จํานวนที n) n
ตัวอย่ าง 12 จงเขียนประโยคสัญลักษณ์และหาคําตอบ
(1) เดือนพฤษภาคม แนน จ่ายเงินค่าอาหาร 1,650 บาท ค่าอุปกรณ์การเรียน 425 บาท
จ่ายค่าอืนๆอีก 536 บาท เดือนนีแนนมีคา่ ใช้ จ่ายรวมกีบาท
ประโยคสัญลักษณ์ ……………….………………………… ตอบ ……………
(2) สุพจน์มี 1,236 บาท ซึงมากกว่านิสาอยู่ 384 บาท ทังสองคนมีเงินรวมกันเท่าไร
ประโยคสัญลักษณ์ ……………….………………………… ตอบ ……………
(3) ในฟาร์ มแห่งหนึง เลียงไก่ 225 ตัว เลียงเป็ ดมากกว่าไก่ 78 ตัว และเลียงนกน้ อยกว่าไก่
108 ตัว ในฟาร์ มแห่งนีเลียงสัตว์ทงหมดกี
ั ตัว
ประโยคสัญลักษณ์ ……………….………………………… ตอบ ……………
(4) ครูพรมีรายได้ เดือนละ 12,500 บาท แบ่งเป็ นค่าใช้ จ่ายส่วนตัว 6,750 บาท ให้ ลกู
2,400 บาท ในแต่ละเดือนครูพรจะเหลือเงินเก็บเท่าไร
ประโยคสัญลักษณ์ ……………….………………………… ตอบ ……………
(5) แม่นําเงินไปตลาดเพือซือของ 1,500 บาท โดยซือเนือหมู 3 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ
120 บาท ไข่ไก่ 4 โหล ราคาโหลละ 28 บาท และส้ ม 3 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 25
บาท คุณแม่จะได้ เหลือเงินกลับบ้ านกีบาท
ประโยคสัญลักษณ์ ……………….………………………… ตอบ ……………
(6) คุณพ่อมีเงินเดือนๆละ 29,000 บาท และใช้ จ่ายภายในบ้ าน 10,850 บาท/เดือน ใช่จ่าย
ส่วนตัว 5,460 บาท/เดือน ทีเหลือเป็ นเงินเก็บ ถ้ าคุณพ่อใช้ จ่ายเป็ นเช่นนีตลอดทังปี จะ
มีเงินเหลือเก็บกีบาท
ประโยคสัญลักษณ์ ……………….………………………… ตอบ ……………
(7) แดงและดํามีอายุมากกว่าเขียวอยู่ 4 และ 5 ปี ตามลําดับ ถ้ าทังสามคนมีอายุรวมกัน
ได้ 49 ปี แล้ วอายุของ ดํา แดง และเขียวกีปี
ประโยคสัญลักษณ์ ……………….………………………… ตอบ ……………
(8) แม่ค้าซือส้ มมา 54 กิโลกรัม เป็ นเงิน 1,350 บาท เมือขายไปทังหมดได้ กําไร 270 บาท
แม่ค้าขายส้ มไปในราคากิโลกรัมละเท่าไร
ประโยคสัญลักษณ์ ……………….………………………… ตอบ ……………
(9) แม่ค้าขายก๋วยเตียวชามละ 25 บาท วันหนึงขายได้ 112 ชาม และได้ กําไร 784 บาท
ลงทุนทําก๋วยเตียวต่อชามกีบาท
ประโยคสัญลักษณ์ ……………….………………………… ตอบ ……………
(10) ต้ องการปั กเสาล้ อมรัวหน้ าบ้ านตามแนวถนนเป็ นระยะทาง 168 เมตร ห่างกันต้นละ 7
เมตร จะต้ องใช้ เสาทังหมดกีต้น
ประโยคสัญลักษณ์ ……………….………………………… ตอบ ……………
(11) ต้ องการล้ อมรัวทีดินรูปสีเหลียมผืนผ้ า ขนาด 185 240 ตารางเมตร โดยปักเสารัวทัง
สีมุมของพืนทีและห่างกันต้นละ 5 เมตร จะต้ องใช้ เสาทังหมดกีต้ น
ประโยคสัญลักษณ์ ……………….………………………… ตอบ ……………
(12) วารินสูงกว่าสาธิต 3 เซนติเมตร แต่เตียกว่านิสา 12 เซนติเมตร ถ้ าวารินสูง 145
เซนติเมตร เฉลียแล้ วเด็กแต่ละคนสูงคนละกีเซนติเมตร
ประโยคสัญลักษณ์ ……………….………………………… ตอบ ……………
(13) ถังนําดืมมีนําอยู่เต็มถัง ใช้ ไปครังแรก 12 ลิตร แล้ วใช้ ไปอีกครังทีสอง 7 ลิตร ปรากฏว่า
เหลือนําอยูใ่ นถัง 11 ลิตร ถ้ าซือนํามาลิตรละ 2 บาทจะต้องจ่ายเงินซือนําถังนีกีบาท
ประโยคสัญลักษณ์ ……………….………………………… ตอบ ……………
(14) มีธนบัตรใบละ 500 บาท อยู่ 1,000 ใบ ธนบัตรใบละ 100 บาท อยู่ 120 ใบ และธนบัตร
ใบละ 10 บาท อยู่ 8 ใบ รวมเป็ นเงินกีบาท
ประโยคสัญลักษณ์ ……………….………………………… ตอบ ……………
(15) ชังส้ ม 2 เข่งพร้ อมกับเข่ง เข่งแรกหนัก 124 กิโลกรัม เข่งทีสองหนัก 147 กิโลกรัม ถ้ า
เข่งเปล่าๆหนักใบละ 3 กิโลกรัม จงหาว่าซือส้ มมากีกิโลกรัม
ประโยคสัญลักษณ์ ……………….………………………… ตอบ ……………
(16) แยมสับปะรดโหลหนึงหนัก 2,170 กรัม ถ้ ามีแยมสับปะรดอยู่ครึงโหลจะหนัก 950 กรัม
ขวดโหลเปล่าทีใส่แยมนันหนักกีกรัม และแยมอย่างเดียวหนักกีกรัม
ประโยคสัญลักษณ์ ……………….………………………… ตอบ ……………
(17) ขายรถจักรยานราคาคันละ 2,850 บาท ไปจํานวนหนึง แล้ วขายไปอีก 10 คัน ราคาคัน
ละ 2,300 บาท ต่อมาขายไปอีก 5 คัน ราคาคันละ 2,500 บาท ขายได้ เงินทังหมดรวม
64,000 บาท ขายจักรยานครังแรกได้ ทงหมดกี ั คัน
ประโยคสัญลักษณ์ ……………….………………………… ตอบ ……………
(18) ซือลําไยมา 6 เข่ง ในราคาเข่งละ 450 บาท เมือนํามาชังและหักนําหนักเข่งออกไปแล้ ว
ปรากฏว่าลําไย 4 เข่ง หนักเข่งละ 12 กิโลกรัม ส่วนอีก 2 เข่ง หนักเข่งละ 13 กิโลกรัม
ถ้ าต้ องการขายให้ ได้กําไร 1,000 บาท จะต้ องขายไปในราคากิโลกรัมละกีบาท
ประโยคสัญลักษณ์ ……………….………………………… ตอบ ……………
แบบทดสอบ
จํานวนและการบวก ลบ คูณและหาร
31.
2 3, 5 A 9
จงหาผลลัพธ์จากการบวกและลบต่อไปนี
3 7, B 5 4 เมือ A, B และ C เป็ นตัวเลขทีแตกต่างกัน
C 1, 2 8 3 ก. 27,600 ข. 36,013
3 7, A B C ค. 34,013 ง. 24,007
.
32. จงหาค่าของ A + B + C + D
1 6 5 6
ก. 1,987 ข. 1,897
12 A B C D 4
…….
ค. 25 ง. 30
7 C
……
6 D
……
D 4
……
2
62. โสภามีเงิน 1,000 บาท ซือห่านได้ 4 ตัว แต่ห่าน 1 ตัวมีราคาเท่ากับเป็ ด 2 ตัว และเป็ ด 3
ตัวมีราคาเท่ากับไก่ 5 ตัว ไก่ราคาตัวละกีบาท
ก. 65 ข. 70 ค. 75 ง. 80
63. เชียงใหม่ห่างจากรุงเทพฯ 720 กิโลเมตร พ่อขับรถจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ด้วยความเร็ว
60 กิโลเมตรต่อชัวโมง ขากลับขับรถด้ วยความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชัวโมง โดยเฉลียแล้ วพ่อขับ
รถด้ วยความเร็วกีกิโลเมตรต่อชัวโมง
ก. 72 ข. 74 ค. 75 ง. 80
64. ร้ านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าแห่งหนึง ติดราคาสินค้ าต่างๆ ไว้ ดงั นี
วิทยุ 2,390 บาท กล้ องถ่ายรูป 1,490 บาท
หม้ ออเนกประสงค์ 1,350 บาท กระติกนําไฟฟ้า 889 บาท
กระทะไฟฟ้า 799 บาท กล้ องส่องทางไกล 750 บาท
ถ้ ามานีมีเงิน 5,000 บาท และต้ องการซือสินค้ าให้ ได้ มากชนิด และเหลือเงินทอนน้ อยทีสุด
มานีจะเลือกซือสินค้ าใดได้ บ้าง
ก. หม้ ออเนกประสงค์ กระติกนําไฟฟ้า กล้ องถ่ายรูป กล้ องส่องทางไกล กระทะไฟฟ้า
ข. วิทยุ หม้ ออเนกประสงค์ กระทะไฟฟ้า กระติกนําไฟฟ้า
ค. กล้ องถ่ายรูป หม้ ออเนกประสงค์ กระทะไฟฟ้า กระติกนําไฟฟ้า
ง. วิทยุ กล้ องส่องทางไกล กระทะไฟฟ้า กระติกนําไฟฟ้า
65. พิทยาใช้ เวลาเดินทางจากบ้ านไปตลาดเพือซือสิงของทีต้ องการ โดยใช้ เวลาเดินทางไปกลับ
ทังหมด 1 ชัวโมง 15 นาที และซือสิงของทังหมดเป็ นเวลาครึงชัวโมง ถ้ าพิทยาเดินทางกลับ
มาถึงบ้ านเวลา 8.00 น. อยากทราบว่าพิทยาเริมเดินทางออกจากบ้ านเสลาเท่าไร
ก. 6.15 น. ข. 7.15 น. ค. 7.45 น. ง. 8.45 น.
66. ชมรมหนึงมีสมาชิก 354 คน กําหนดหมายเลขสมาชิกเป็ นหมายเลข 1 – 354 ชมรมนีแบ่ง
สมาชิกออกเป็ น 4 กลุม่ โดยจัดกลุม่ เรียงตามหมายเลขดังนี
กลุม่ ที 1 กลุม่ ที 2 กลุม่ ที 3 กลุม่ ที 4
หมายเลข 1 2 3 4
หมายเลข 5 6 7 8
หมายเลข …..… …….. …….. ………
ถ้ าสมาชิกเพิมขึนจนถึงทีหมายเลข 354 ควรจะจัดคนนีไว้ ในกลุม่ ใด
ก. กลุม่ ที 1 ข. กลุม่ ที 2 ค. กลุม่ ที 3 ง. กลุม่ ที 4
67. ผลบวกของเลขโดดจากผลคูณ 999,999,999 999,999,999 เป็ นเท่าใด
ก. 81 ข. 72 ค. 70 ง. 56
สมบัตขิ องจํานวนนับ
จํานวนนับและการหารลง
จํานวนนับ คือ จํานวนเต็มทีมากกว่าศูนย์ได้ แก่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, …
การหารลงตัว คือ การหารทีมีเศษเหลือเป็ นศูนย์หรือเรียกว่าไม่มีเศษ เช่น
24 8 = 3 ไม่มีเศษ กล่าวได้ วา่ 8 หาร 24 ลงตัวเขียนแทนด้ วยสัญลักษณ์ 824
30 4 = 7 เศษ 2 กล่าวได้ วา่ 4 หาร 35 ไม่ลงตัวเขียนแทนด้ วยสัญลักษณ์ 4 | 30
ตัวอย่ าง 1 จงตอบคําถามต่อไปนี
1) จงหาจํานวนนับเรียงต่อกันทีหารด้ วย 3 ลงตัวมา 5 จํานวน
………………………………………………………………………………….
2) จงหาจํานวนนับเรียงต่อกันทีหารด้ วย 4 ลงตัวมา 5 จํานวน
………………………………………………………………………………….
3) จงหาจํานวนนับเรียงต่อกันทีหารด้ วย 6 ลงตัวมา 5 จํานวน
………………………………………………………………………………….
4) จงหาจํานวนนับเรียงต่อกันทีหารด้ วย 2 และ 3 ลงตัวมา 5 จํานวน
………………………………………………………………………………….
5) จงหาจํานวนนับเรียงต่อกันทีหารด้ วย 2 และ 3 ลงตัวแต่หารด้ วย 4 ไม่ลงตัวมา 5จํานวน
………………………………………………………………………………….
ตัวประกอบของจํานวนนับ
ตัวประกอบ คือ จํานวนนับทีสามารถหารจํานวนนันได้ ลงตัว เราเรียกว่าเป็ นตัวประกอบของ
จํานวนนัน เช่น 2 เป็ นตัวประกอบของ 4 และจํานวนคูท่ กุ จํานวนมี 2 เป็ นตัวประกอบ , 5 เป็ นตัว
ประกอบของ 65 เป็ นต้น
ตัวอย่ าง 3 จงหาตัวประกอบทังหมดของจํานวนนับต่อไปนี
(1) ตัวประกอบของ 10 ได้ แก่ ………………………………………………..
(2) ตัวประกอบของ 24 ได้ แก่ ……………..…………………………………
(3) ตัวประกอบของ 21 ได้ แก่ …………….…………….……………………
(4) ตัวประกอบของ 13 ได้ แก่ …………….…………….……………………
(5) ตัวประกอบของ 36 ได้ แก่ ………………….………..……………………
(6) ตัวประกอบของ 48 ได้ แก่ ………………….……………………………..
(7) ตัวประกอบของ 64 ได้ แก่ ………………………..…….…………………
(8) ตัวประกอบของ 81 ได้ แก่ …………………..……….…...………………
(9) ตัวประกอบของ 97 ได้ แก่ ………………….……..………………………
(10) ตัวประกอบของ 100 ได้ แก่ …….……………………..……………………
ตัวอย่ าง 4 จงหาจํานวนนับจากเงือนไขต่อไปนี
(1) จํานวนนับทีน้ อยทีสุด ซึงมี 1, 2, 4 เป็ นตัวประกอบ คือ……………………………
(2) จํานวนนับทีน้ อยทีสุด ซึงมี 1, 2, 3 เป็ นตัวประกอบ คือ……………………………
(3) จํานวนนับทีน้ อยทีสุด ซึงมี 1, 3, 4 เป็ นตัวประกอบ คือ………..………………….
(4) จํานวนนับทีน้ อยทีสุด ซึงมี 2, 3, 5 เป็ นตัวประกอบ คือ……………………………
(5) จํานวนนับทีน้ อยทีสุด ซึงมี 1, 3, 4, 6, 8 เป็ นตัวประกอบ คือ ….………………….
(6) จํานวนนับทีน้ อยทีสุด ซึงมีเป็ นตัวประกอบต่างกัน 2 ตัว คือ…...…………………….
(7) จํานวนนับทีน้ อยทีสุด ซึงมีเป็ นตัวประกอบต่างกัน 3 ตัว คือ…...……….……………
(8) จํานวนนับทีน้ อยทีสุด ซึงมีเป็ นตัวประกอบต่างกัน 4 ตัว คือ…...……………………
(9) จํานวนนับทีน้ อยทีสุด ซึงมีเป็ นตัวประกอบต่างกัน 5 ตัว คือ…...……………………
(10) จํานวนนับทีน้ อยทีสุด ซึงมีเป็ นตัวประกอบต่างกัน 6 ตัว คือ…..………..………….
จํานวนเฉพาะและจํานวนประกอบ
จํานวนประกอบ คือ จํานวนทีมีตวั ประกอบมากกว่า 2 ตัว
เช่น 25 เป็ นจํานวนประกอบเพราะว่า 25 มีตวั ประกอบมากกว่า 2 ตัวได้ แก่ 1, 5, 25
8 เป็ นจํานวนประกอบเพราะว่า 8 มีตวั ประกอบมากกว่า 2 ตัวได้ แก่ 1, 2, 4, 8
จํานวนเฉพาะ คือ จํานวนทีมีตวั ประกอบเพียงสองตัวคือ1 และตัวมันเอง
เช่น 2 เป็ นจํานวนเฉพาะ เพราะว่า 2 มีตวั ประกอบ 2 ตัวได้ แก่ 1 และ 2
11 เป็ นจํานวนเฉพาะ เพราะว่า 11 มีตวั ประกอบ 2 ตัวได้ แก่ 1 และ 11
การหาจํานวนเฉพาะและตัวประกอบเฉพาะ
การหาจํานวนเฉพาะ นัน วิธีหนึงเราสามารถใช้ วิธีของ เอราโตสเตเนส (Eratoshenes) ซึง
วิธีดงั กล่าวเรียกว่า ตระแกรงเอราโตสเตเนส (The Sieve of Eratosthenes) ดังนี
ตัวอย่ าง 6 จงหาจํานวนเฉพาะทุกจํานวนระหว่าง 1 ถึง 100
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27 28 29 30
31 32 33 34 35 36 37 38 39 40
41 42 43 44 45 46 47 48 49 50
51 52 53 54 55 56 57 58 59 60
61 62 63 64 65 66 67 68 69 70
71 72 73 74 75 76 77 78 79 80
81 82 83 84 85 86 87 88 89 90
91 92 93 94 95 96 97 98 99 100
จากวิธีการหาจํานวนเฉพาะในตัวอย่าง 5 จงหาตอบคําถามต่อไปนี
(1) ดังนันจํานวนเฉพาะระหว่าง 1 ถึง 100 ได้ แก่ ……………………………………
………………………………………………………………………………….
(2) จํานวนเฉพาะตังแต่ 1 ถึง 100 มีทงหมด
ั ………………………….……….. จํานวน
(3) จํานวนเฉพาะทีน้ อยทีสุดคือ ……………………………...………….……………
(4) จํานวนเฉพาะตังแต่ 1 ถึง 100 ทีมีคา่ มากทีสุดคือ …………………………………..
(5) จํานวนเฉาะทีเป็ นเลขคูค่ ือ ………………………………………………….……..
(6) จํานวนเฉพาะตังแต่ 1 ถึง 100 ทีลงท้ ายด้ วย 1 ได้ แก่ ……………………………….
(7) จํานวนเฉพาะสองหลักทีน้ อยทีสุดคือ ………………………………………………
(8) จํานวนเฉพาะทีลงท้ ายด้ วย 5 มี ……….. จํานวน ได้ แก่ …………………………..
(9) อาจจะมีจํานวนคูท่ ีมากกว่า 100 ซึงเป็ นจํานวนเฉพาะได้หรือไม่ ……………………..
(10) จงหาจํานวนเฉพาะสามหลักทีมีคา่ น้ อยทีสุด ……………………………………….
(11) จํานวนเฉพาะสองจํานวนทีมีผลบวกเป็ นจํานวนเฉพาะ เช่น ………………………….
(12) จํานวนเฉพาะสองจํานวนทีมีผลต่างเป็ นจํานวนเฉพาะ เช่น ………………………….
(13) จํานวนเฉพาะสองจํานวนทีมีผลคูณเป็ นจํานวนเฉพาะ เช่น …………….…………….
(14) จํานวนเฉพาะทีมีคา่ มากทีสุดและทีมีคา่ น้ อยทีสุดต่างกันเท่ากับ ……………………...
(15) ผลบวกของจํานวนเฉพาะตังแต่ 1 ถึง 50 เท่ากับ ……………………………………
วิธีตรวจสอบการเป็ นจํานวนเฉพาะของจํานวนนับ
วิธีการตรวจสอบใช้ หลักการดังนี
ถ้ าเราต้ องการตรวจสอบว่า จํานวนนับ n เป็ นจํานวนเฉพาะหรือไม่ เรามีวิธีการดังนี
1) รวบรวมจํานวนเฉพาะ p ซึง p p < n
2) นําจํานวนเฉพาะทีรวบรวมได้ ไปหาร n
ถ้ าไม่มีจํานวนเฉพาะตัวใดหาร n ลงตัว แล้ ว n จะเป็ นจํานวนเฉพาะ
ถ้ ามีจํานวนเฉพาะตัวใดตัวหนึงหาร n ลงตัว แล้ ว n จะเป็ นจํานวนไม่ใช่เฉพาะ
การแยกตัวประกอบของจํานวนนับ
การแยกตัวประกอบ หมายถึง การเขียนจํานวนนันอยูใ่ นรูปผลคูณของตัวประกอบเฉพาะ
ตัวอย่ าง 9 จงแยกตัวประกอบของจํานวนนับต่อไปนี
12 = …………………………………………………………………..………..…
18 = ……………………………………….………………………………………
24 = ……………………………………….………………………………………
39 = …………………………………………..…………………………………..
30 = ………………………………………..……………………………………..
120 = ……………………………………..………………………………………..
108 = ……………………………….……..……………………………………….
1,000 = …………..………………………...…..…………………………………….
1,800 = ……….……….………………...…………………………………………..
ตัวอย่ าง 10 จงหาตัวหารร่วมมากของจํานวนต่อไปนี
(1) จงหาตัวหารร่วมมากของ 36 และ 48
ตัวหารหรือตัวประกอบของ 36 ได้ แก่ ……………………………….……………..
ตัวหารหรือตัวประกอบของ 48 ได้ แก่ ……………………………….……………..
ตัวหารร่วมของ 36 และ 48 ได้ แก่ ………………………………………………..
ตัวหารร่วมมากของ 45 และ 40 ได้ แก่ …………………………..………………..
(2) จงหาตัวหารร่วมมากของ 20 และ 21
ตัวหารหรือตัวประกอบของ 20 ได้ แก่ ……………………………………………..
ตัวหารหรือตัวประกอบของ 21 ได้ แก่ ……………………………………………..
ตัวหารร่วมของ 20 และ 21 ได้ แก่ ………………………………………………..
ตัวหารร่วมมากของ 20 และ 21 ได้ แก่ ……………………………………………
ดังนัน ห.ร.ม.ของ 170 และ 385 คือ …...… ดังนัน ห.ร.ม. 156 และ 288 คือ ….…
วิธีการหาตัวคูณร่ วมน้ อย
(1) ด้ วยวิธีการแยกตัวประกอบ
ตัวอย่ าง 15 จงหา ค.ร.น.ของจํานวนต่อไปนี
(1) 6 และ 8 (2) 18 และ 20
6 = …………………………………. 18 = ………………………...…….
8 = …………………………………. 20 = ………………………...…….
ค.ร.น. = ……………………………. ค.ร.น. = ……………………………
ตอบ …………………………………………………………………………….
(2) นักเรียน ป.6/1 , ป. 6/2 และ ป.6/3 มี 35 คน 49 คน และ 42 คน ตามลําดับ ถ้ า
ต้ องการแบ่งเป็ นนักเรียนเป็ นกลุม่ ๆให้ แต่ละกลุม่ เท่าๆกันและอยู่ในห้ องเดียวกัน จะแบ่ง
ได้ มากทีสุดกลุ่มละกีคน และได้ กีกลุ่ม
ตอบ …………………………………………………………………………….
(3) มีดินสอ 56 แท่ง ยางลบ 28 ก้ อน และปากกา 84 แท่ง แบ่งใส่ถงุ ๆละเท่าๆกันไม่ให้
เหลือและไม่ปนกันเลย จะแบ่งได้ มากทีสุดถุงละเท่าไรและได้ อย่างละกีถุง
ตอบ …………………………………………………………………………….
(4) กระดาษขนาด 30 36 ตารางเซนติเมตร ตัดเป็ นรูปสีเหลียมจัตรุ ัสเล็กๆให้ ได้ ขนาด
ใหญ่ ทสุี ดและไม่เหลือกระดาษทิงเลย จะได้ กีกระดาษรูปสีเหลียมจัตรุ ัสเล็กๆกีรูปและ
มีพืนทีเท่าไร
ตอบ …………………………………………………………………………….
(5) ต้ องการล้ อมรัวบริเวณบ้ านเป็ นรูปสีเหลียมผืนผ้ าขนาดกว้าง 90 เมตร และยาว 98 เมตร
ต้ องปั กเสาให้ ห่างกันต้นละเท่าไรจึงจะประหยัด และใช้ เสาทังหมดกีต้ น
ตอบ …………………………………………………………………………….
(6) ถ้ าต้ องการแบ่งแท่งไม้ ทรงสีเหลียมมุมฉากขนาด 24 12 30 ลูกบาศก์เซนติเมตร
ให้ เป็ นแท่งไม่ทรงลูกบาศก์ให้ ได้ ขนาดใหญ่ ทสุี ดโดยไม่มีเศษไม้ เหลืออยูเ่ ลย
จะแบ่งได้ กีลูก และมีขนาดกีลูกบาศก์เซนติเมตร
ตอบ …………………………………………………………………………….
(7) จงหาจํานวนทีมากทีสุดทีหาร 44, 50 และ 62 แล้ วเหลือเศษ 2 เท่ากัน
ตอบ …………………………………………………………………………….
ตอบ …………………………………………………………………………….
(9)* จงหาจํานวนทีมากทีสุดทีหาร 74, 98 และ 114 แล้ วจะเหลือเศษเท่ากันและจงหา
เศษทีเหลือเท่ากันนัน
ตอบ …………………………………………………………………………….
(10) ชายคนหนึงเลียงไก่ 38 ตัว เลียงเป็ ด 86 ตัว และเลียงห่าน 122 ตัว เขาต้ องการแบ่ง
ไก่ เป็ ด และห่าน เป็ นกลุม่ เล็กๆ แต่ละกลุม่ มีจํานวนตัวเท่าๆกัน และมีจํานวนตัวมาก
ทีสุดเท่าทีจะทําได้ โดยทีเมือแบ่งแล้ วให้ มีสตั ว์สํารองชนิดละ 2 ตัว เขาจะแบ่งสัตว์ได้
ทังหมดกีกลุม่ กลุม่ ละกีตัว
ตอบ …………………………………………………………………………….
(11)* ถ้ า 35 เป็ น ห.ร.ม. ของ 175 และ 385 แล้ ว จงหาตัวประกอบร่วมทังหมดของ 175
และ 385 [หลักการ : ตัวประกอบร่วมของจํานวนนับ คือ ตัวประกอบของ ห.ร.ม. ของ
จํานวนนับเหล่านัน]
ตอบ …………………………………………………………………………….
(12)* ถ้ า 24 เป็ น ห.ร.ม. ของ A , B และ C แล้ ว จงหาผลบวกของตัวประกอบร่วมทังหมด
ของ A, B และ C
ตอบ …………………………………………………………………………….
(13)* ถ้ า A = 2 2 3 a
B=b335
C=2c57
และ ห.ร.ม. ของ A, B และ C เท่ากับ 30 จงหาจํานวน A, B และ C
ตอบ …………………………………………………………………………….
(14)* ถ้ า ห.ร.ม. ของ A และ B เท่ากับ 72 และ ห.ร.ม. ของ B และ C เท่ากับ 60 จงหา ห.ร.
ม. ของ A, B และ C [หลักการ : ห.ร.ม. A, B, C = ห.ร.ม. ของ ห.ร.ม. A, B และ
ห.ร.ม. B, C ]
ตอบ …………………………………………………………………………….
(15) จงหา ห.ร.ม. ของแต่ละข้ อต่อไปนี
(15.1) ห.ร.ม. ของ 1 ถึง 100 = ……………………………………………….
(15.2) ห.ร.ม. ของจํานวน 2, 4, 6, 8, … , 2548 = …………………………...
(15.3) ห.ร.ม. ของจํานวน 3, 5, 7, 9, . . . , 2005 = …………………………
ตอบ …………………………………………………………………………….
(17) ฉันตังนาฬิกาปลุก 4 เรือน เรือนทีหนึงปลุกทุกๆ 3 นาที เรือนทีสองปลุกทุกๆ 4 นาที
เรือนทีสามปลุกทุกๆ 5 นาที และ เรือนทีสีปลุกทุกๆ 6 นาที ถ้ าให้ นาฬิกาทุกเรือนปลุก
ครังแรกพร้ อมกัน เมือเวลา 12.25 น. จงหาว่านาฬิกาทังสีเรือนจะปลุกพร้ อมกันเป็ น
ครังทีสามเมือเวลาใด
ตอบ …………………………………………………………………………….
(18) จากการทดสอบความสินเปลืองนํามันของรถยนต์สามคัน พบว่า คันทีหนึงนํามัน 1 ลิตร
วิงได้ ระยะทาง 6 กิโลเมตร คันทีสองนํามัน 1 ลิตร วิงได้ ระยะทาง 8 กิโลเมตร คันที
สามนํามัน 1 ลิตร วิงได้ ระยะทาง 9 กิโลเมตร จงหาระยะทางทีน้ อยทีสุดซึงรถยนต์ทกุ
คัน ต้ องใช้ นํามันเชือเพลิงเป็ นจํานวนเต็มลิตรพอดีและรถยนต์ แต่ละคันใช้ นํามันกีลิตร
ตอบ …………………………………………………………………………….
(19) แจกดินสอ ยางลบ และไม้ บรรทัดให้ เพือนๆ ในห้ อง ได้ คนละ 5 แท่ง 12 ก้ อน และ 10
อัน ตามลําดับโดยไม่มีของเหลือเลย นักเรียนในห้ องจะมีอย่ างน้ อยกีคน
ตอบ …………………………………………………………………………….
ตอบ …………………………………………………………………………….
(21)* จงหาจํานวนทีน้ อยทีสุดที 6, 8 และ 15 หารจํานวนนันแล้ วเหลือเศษ 4, 6 และ 13
ตามลําดับ [ หลักการ : หา ค.ร.น. ของ 6, 8, 15 แล้ วลบกับจํานวนทีต้ องเพิมให้ เศษ
4, 6, 13 เท่ากับ 6, 8, 15 ตามลําดับ]
ตอบ …………………………………………………………………………….
(22) ถ้ าเริมตีระฆัง 3 ใบพร้ อมกัน โดยทีใบทีหนึง ใบทีสอง และใบทีสาม ตีทกุ ๆ 10 นาที 8
นาที และ 16 นาที ตามลําดับ จงหาว่าเมือทัง 3 ใบตีพร้ อมกันเป็ นครังแรกแล้ วใบที
หนึง ใบทีสอง และใบทีสามตีไปใบละกีครังแล้ ว
ตอบ …………………………………………………………………………….
(23) ถ้ าจํานวนสองจํานวนมี ห.ร.ม. เป็ น 15 มี ค.ร.น.เป็ น 105 ถ้ าจํานวนหนึงเป็ น 15
อีกจํานวนหนึงเป็ นเท่าใด
ตอบ …………………………………………………………………………….
(24) ถ้ าจํานวนสองจํานวนมีผลคูณเป็ น 2,112 และมี ค.ร.น. เป็ น 264 จงหา ห.ร.ม.
ตอบ …………………………………………………………………………….
(25)* ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของจํานวนสองจํานวนเป็ น 14 และ 490 จงหาจํานวนทังสอง
ตอบ …………………………………………………………………………….
แบบทดสอบ
สมบัติของจํานวนนับ
21. ห.ร.ม. ของ 20, 80, 125 เป็ นกีเท่าของ ห.ร.ม. ของ 27, 64, 121
ก. 5 เท่า ข. 10 เท่า ค. 12 เท่า ง. 15 เท่า
22. 12 เป็ น ค.ร.น. ของ 4 กับ 6 หมายความว่าอย่างไร
ก. 12 เป็ นจํานวนทีมากทีสุดที 4 และ 6 หารลงตัว
ข. 12 เป็ นจํานวนทีน้ อยทีสุดที 4 และ 6 หารลงตัว
ค. 12 เป็ นจํานวนที 4 และ 6 หารลงตัว
ง. 12 เป็ นผลคูณของ 4 และ 6
23. ค.ร.น. ของ 14, 20, 25 คือจํานวนใด
ก. 100 ข. 125 ค. 280 ง. 700
24. ค.ร.น. ของ 23 32 5 และ 22 33 72 คือจํานวนใด
ก. 23 32 ข. 22 32 ค. 22 32 5 7 ง. 23 33 5 7
25. จํานวน 48 และ 60 มี ค.ร.น. เป็ นกีเท่าของ ห.ร.ม.
ก. 4 เท่า ข. 5 เท่า ค. 18 เท่า ง. 20 เท่า
26. ผลบวกของ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของ 15, 25, 40 คือข้ อใด
ก. 45 ข. 605 ค. 90 ง. 615
27. ผลต่างของ ค.ร.น. กับ ห.ร.ม. ของ 36, 81 และ 99 คือข้ อใด
ก. 3,555 ข. 3,556 ค. 3,564 ง. ไม่มีคําตอบทีถูกต้ อง
28. จงหา ห.ร.ม. ของ 4,515 และ 2,838 คือจํานวนใด
ก. 1 ข. 4 ค. 129 ง. 516
จงใช้ วิธีตงหารต่
ั อไปนีตอบคําถามข้ อ 29 และ 30
29. ห.ร.ม.ของ 12, 18, 24 คือข้ อใด
2 12, 18, 24 ก. 6 ข. 12
3 6, 9, 12 ค. 4 ง. 9
2 2, 3, 4 30. ค.ร.น.ของ 12, 18, 24 คือข้ อใด
1, 3, 2 ก. 12 ข. 36
ค. 72 ง. 24
a M, N, Oข้ อใดถูกต้ อง 31.
b P,
Q, R
ก. ห.ร.ม. เท่ากับ a b c
ข. ค.ร.น. เท่ากับ a b c
c S,
T, U
ค. ห.ร.ม. เท่ากับ a b
X, T, Y
ง. ค.ร.น. เท่ากับ a b c X Y
………………………..…………………………………………………………………… อ. รังสรรค์ (อ.ปิ ง)
คณิตศาสตร์ ช่วงชันที 2 ……………………………...... 19 ...…………………………………………………
43. มีสมุดวาดเขียน 231 เล่ม สมุดปกแข็ง 308 เล่ม และสมุดปกอ่อน 396 เล่ม จัดเป็ นกอง
กองละเท่าๆกัน โดยไม่ให้ ปนกัน จะได้ กีกอง กองละกีเล่ม
ก. 85 กอง กองละ 11 เล่ม ข. 85 กอง กองละ 13 เล่ม
ค. 86 กอง กองละ 11 เล่ม ง. 86 กอง กองละ 13 เล่ม
44. มีเหรียญ 10 บาท 25 เหรียญ เหรียญ 5 บาท 10 เหรียญ เหรียญ 1 บาท 20 เหรียญ
ต้ องการหยอดกระปุกออมสินอย่างละเท่าๆกันและไม่ปนกัน ในกระปุกออมสินชนิดเหรียญ
5 บาท จะคิดเป็ นเงินกีบาท
ก. 10 บาท ข. 15 บาท ค. 20 บาท ง. 25 บาท
45. ก้ อยมีเงิน 28 บาท สมศรีมีเงิน 35 บาท และอํานาจมีเงิน 105 บาท ทัง 3 คนต้ องการใช้
เงินวันละเท่ากัน ข้ อใดต่อไปนีถูกต้ อง
ก. ทังสามคนใช้ เงินหมดพร้ อมกันพอดี
ข. วันทีทังสามคนใช้ เงินรวมกันมากทีสุดใช้ วนั ละ 24 บาท
ค. ทังสามคนใช้ เงินวันละ 4 บาท 5 บาท และ 15 บาท ตามลําดับ
ง. จํานวนวันทีใช้ เงินจนหมดของแต่ละคนรวมกันเป็ น 24 วัน
46. A เป็ นจํานวนมากทีสุดทีหาร 49, 73 และ 85 แล้ วเหลือเศษ 1 ทุกจํานวน แล้ วข้ อใด
ต่อไปนีถูกต้ อง
ก. A + 5 = 17 ข. A A = 36 ค. A + A = 12 ง. A 5 = 35
47. จํานวนนับทีน้ อยสุดทีหารด้ วย 12, 18 และ 48 แล้ วเหลือเศษ 11 เท่ากัน จํานวนนันคือข้ อใด
ก. 144 ข. 155 ค. 166 ง. 177
48. กาวนําขวดละ 30 บาท เทปกาวม้ วนละ 45 บาท ต้ องซืออย่างน้ อยอย่างละกีชินจึงจะ
จ่ายเงินซืออย่างละเท่าๆกัน
ก. กาวนํา 2 ขวด เทปกาว 2 ม้ วน ข. กาวนํา 2 ขวด เทปกาว 3 ม้ วน
ค. กาวนํา 3 ขวด เทปกาว 2 ม้ วน ง. กาวนํา 3 ขวด เทปกาว 3 ม้ วน
49. วันหนึงชาวสวนผลไม้ เก็บเงาะได้จํานวนหนึง เมือจัดใส่เข่งๆละ 144 กิโลกรัม ได้ หมดพอดี
และถ้ าจัดใส่เข่งๆละ 252 กิโลกรัมได้ หมดพอดีเช่นเดียวกัน จงหาว่าชาวสวนเก็บเงาะในวันนัน
ได้ อย่างน้ อยกีกิโลกรัม
ก. 1,000 ข. 1,008 ค. 1,116 ง. 1,258
50. นักกีฬา 3 คน ออกตัวเริมวิงรอบสนามแห่งหนึงพร้ อมกัน แต่ละคนวิงรอบสนามใช้ เวลา 16
นาที 24 นาที และ 40 นาที ตามลําดับ นักกีฬา 3 คน จะวิงมาทันกันเป็ นครังแรกทีจุดออก
ตัวอีกครัง ต้ องใช้ เวลาเท่าใด
ก. 3 ชัวโมง ข. 4 ชัวโมง ค. 6 ชัวโมง ง. 8 ชัวโมง
สมการ
คําตอบของสมการ
คําตอบของสมการ คือ จํานวนทีแทนค่าตัวแปรในสมการแล้ วทําให้ สมการเป็ นสมการทีเป็ นจริง
เช่น 2y + 5 = 15 จะได้ วา่ y = 5 เป็ นคําตอบของสมการ เพราะ (2 5) + 5 = 15
x – 8 = 25 จะได้ วา่ x = 10 ไม่ เป็ นคําตอบของสมการ เพราะ 10 – 8 = 2
การแก้ สมการ
การแก้ สมการ คือ กระบวนการหรือขันตอนในการหาคําตอบของสมการ ซึงในการแก้ สมการ
หนึงสมการอาจจะหาคําตอบได้เพียงคําตอบเดียว หรือหาคําตอบได้ มากมายหลายคําตอบ หรือหา
คําตอบไม่ได้ เช่น
2x + 6 = 24 เป็ นสมการทีมีคําตอบของสมการเพียงคําตอบเดียวคือ x = 9
(x – 1)(x – 2) = 0 เป็ นสมการทีมีคําตอบของสมการ 2 คําตอบ คือ x = 1 และ x = 2
2x + 5 = 2x + 5 เป็ นสมการทีมีคําตอบของสมการมากมาย เช่น x = 1 หรื อ 6 เป็ นต้ น
x = 18 + x เป็ นสมการทีหาคําตอบของสมการไม่ได้
ตัวอย่ าง 7 จงหาคําตอบของสมการต่อไปนี
(1) x + 5 = 30 (2) x – 5 = 12
x
(3) 4x = 56 (4) =2
7
(5) 8x + 6 = 30 (6) 3x – 9 = 12
x x
(7) + 12 = 15 (8) – 25 = 3
3 7
3x 5x
(9) = 3 (10) –8 = 2
4 6
x 6
(11) 9(x + 5) = 81 (12) = 12
2
x 7
(13) 7(6 + x) – 5 = 21 (14) + 11 = 42
3
2x x
(19) x 24 (20) 3x 2 2x 10
3 5
ตัวอย่ าง 10 จงเขียนสมการและแสดงวิธีหาหาคําตอบของสมการโดยละเอียด
(1) แปดเท่าของจํานวนจํานวนหนึง ลบด้ วย 13 จะได้ ผลลัพธ์เท่ากับ 11 จงหาเลขจํานวนนัน
ให้ x แทน ………………...…………………………………………………….
สมการคือ…………..…..……………………………………..…………………
จํานวนนันคือ ……………………………………………………………………
(2) ผลบวกของสองจํานวนเรียงกัน มีผลลัพธ์เท่ากับ 89 จงหาเลขจํานวนน้ อยและเลข
จํานวนมาก
ให้ x แทน ………………...…………………………………………………….
สมการคือ…………..…..……………………………………..…………………
3x + 20
2x 30o
สมการคือ…………..…..……………………………………..…………………
(6) จงหาค่า x ต่อไปนี
3x +10
20o 2x
สมการคือ…………..…..……………………………………..…………………
(7) จงหาค่า x ต่อไปนี
5x 3x+2
60o 2x + 15
สมการคือ…………..…..……………………………………..…………………
แบบทดสอบเรื องสมการ
18. ระวี มีเงิน 540 บาท แหวนมีเงินอยูจ่ ํานวนหนึง เมือนับเงินทังสองรวมกันได้ 1,024 บาท
สมการเพือหาเงินของแหวนคือข้ อใด
ก. 540 + y = 1,024 ข. 540 y = 1,024
ค. 1,024 = y – 540 ง. 540 – y = 1,024
19. ถ้ าต้ องการแก้ สมการ x – 25 = 12 จะต้ องใช้ สมบัติใดต่อไปนี
ก. สมบัติการบวก ข. สมบัติการลบ ค. สมบัติการคูณ ง. สมบัติการหาร
20. ถ้ าต้ องการแก้ สมการ 7x – 6 = 12 จะต้ องใช้ สมบัติใดเป็ นอันดับแรก
ก. สมบัติการบวก ข. สมบัติการลบ ค. สมบัติการคูณ ง. สมบัติการหาร
1 A
21. ถ้ า แล้ ว A มีคา่ เท่าไร
6 24
ก. 3 ข. 4 ค. 5 ง. 6
3x 3
30. ถ้ า 3 แล้ ว x+1 เท่ากับข้ อใด
3
ก. 3 ข. 4 ค. 5 ง. 6
31. คําตอบของสมการ 45 – 2p = 21 คือข้ อใด
ก. 12 ข. 6 ค. 24 ง. 16
45
32. ถ้ า 3 แล้ วข้ อใดต่อไปนีถูกต้ อง
3x
ก. x > 15 ข.
ค. 6x = 30
x+x=6 ง. x–5>0
33. คําตอบของสมการ 4x – 5 = 2x +11 คือข้ อใด
ก. 6 ข. 8 ค. 5 ง. 7
34. ถ้ า X + X = 24
Y – X = 10
และ Z – Y = X
แล้ ว X + Y + Z ตรงกับข้ อใด
ก. 56 ข. 58 ค. 66 ง. 68
35. เมือผมอายุ 4 ปี คุณพ่ออายุ 40 ปี เมือคุณพ่อมีอายุเป็ น 4 เท่าของอายุผม ผมจะมรอายุกีปี
ก. 8 ปี ข. 10 ปี ค. 12 ปี ง. 14 ปี
36. ปั จจุบน
ั แม่มีอายุมากกว่าลูก 25 ปี แต่อีก 5 ปี ข้ างหน้ าแม่จะมีอายุ 45 ปี ปั จจุบนั ลูกมีอายุกีปี
ก. 10 ปี ข. 15 ปี ค. 20 ปี ง. 25 ปี
37. ครึงหนึงของผลต่างของจํานวนหนึงกับ 50 เป็ น 65 จงหาค่าของจํานวนนัน
ก. 160 ข. 170 ค. 180 ง. 190
38. ฉันมีเงิน 61 บาท แบ่งให้ ดาว แดง และแดน โดยให้ ดาวมากกว่าแดง 12 บาท แดงได้
มากกว่าแดน 8 บาท แดนได้ รับเงินกีบาท
ก. 41 บาท ข. 27 บาท ค. 21 บาท ง. 11 บาท
39. ราคาค่าทํารัวบ้ านเมตรละ 500 บาทและประตูรวเมตรละ
ั 1,000 บาท ความยาวของรัวกับประตู
รวมกันเท่ากับ 32 เมตร ถ้ าจ่ายค่าทํารัวและประตูรวทั ั งหมด 18,000 บาท ประตูรวยาวกี ั เมตร
ก. 4 เมตร ข. 6 เมตร ค. 8 เมตร ง. 10 เมตร
40. ครูปิง มีเงินเหรี ยญ 1 บาท เหรียญ 5 บาท และเหรี ยญ 10 บาท รวมเป็ นเงิน 100 บาทพอดี
เมือครูปิงนับจํานวนเหรียญพบว่า จํานวนเหรียญ 1 บาท เท่ากับจํานวนเหรียญ 10 บาท และ
จํานวนเหรียญ 5 บาท น้ อยกว่าจํานวนเหรียญ 1 บาท รวมกับจํานวนเหรียญ 10 บาทอยู่ 1
เหรียญ มีจํานวนเหรียญทังหมดกีเหรียญ
ก. 27 เหรียญ ข. 23 เหรียญ ค. 19 เหรียญ ง. 15 เหรียญ
41. จากรูปจงแสดงวิธีหาขนาดมุมภายในรูปสามเหลียมทังสามมุม
3x + 5
x + 25 6x
42. ถ้ า A = 20 +
B = 149
AB = 2,980 + 298
ดังนัน มีคา่ เท่ากับ .............................................................................
44. จากภาพต่อไปนี A B B
A D C
D E A
แบบทดสอบเรื องสมการ
ก. 1 ข. 33 ค. 11 ง. 7
7 3
8. 12W – 5 + W – 2W = 0 ; W = ?
ก. 5 ข. 11 ค. 1 ง. 5
11 5 2 13
x x 1
9. 3 x;?
5 6 2
ก. 3 1 ข. 33 1 ค. 100 ง. 300
3 3
10. ให้ k = 4 ดังนัน 2k – 1 = จงหาค่า
ก. 10 ข. 9 ค. 8 ง. 7
33. D
2x x – 10 C
จากรูป ABCD จงหาค่า x
ก. 64 ข. 80
A x x+5 B ค. 60 ง. 75
34. B
3x
จากรูป ABC จงหาค่า x
ก. 80 ข. 60
A
60o x
C ค. 40 ง. 30
ความคิดรวบยอดเกียวกับมุม
(1) มีสว่ นประกอบ 2 ส่วนคือ
– แขนของมุม มี 2 แขน อาจจะเป็ นรังสีหรื อส่วนของเส้ นตรง
– จุดยอดมุม มี 1 จุด
(2) มุมเกิดจากเส้ นตรง รังสี หรือ ส่วนของเส้ นตรงสองเส้ นมาตัดกัน มาบรรจบกัน หรือมีจดุ ร่วมกัน
(3) สัญลักษณ์แทนการเขียนมุม
B จากรูป คือมุม BAC
เขียนแทนด้ วย BAC
หรื อ A
หรื อ BAC หรื อ A
แขนของมุม ของ BAC คือ AB, AC
A C
จุดยอดมุม ของ BAC คือ จุด A
(4) การวัดมุมจะได้ เป็ นจํานวนเรียกว่า ขนาดของมุม มีหน่วยเป็ นองศา ลิปดา และ ฟิ ลิปดา โดยที
60 ฟิ ลิปดา = 1 ลิปดา
60 ลิปดา = 1 องศา
ชนิดของมุม
(1) มุมแหลม คือ มุมทีมีขนาดมากกว่า 0 องศา แต่น้อยกว่า 90 องศา
(2) มุมฉาก คือ มุมทีมีขนาดเท่ากับ 90 องศา
(3) มุมป้าน คือ มุมทีมีขนาดมากกว่า 90 องศา แต่น้อยกว่า 180 องศา
(4) มุมตรง คือ มุมทีมีขนาดเท่ากับ 180 องศา
(5) มุมกลับ คือ มุมทีมีขนาดมากกว่า 180 องศา แต่น้อยกว่า 360 องศา
(6) มุมกลมหรือมุมรอบจุดศูนย์กลาง คือ มุมทีมีขนาดเท่ากับ 360 องศา
1
2
จากรูปจะได้
1 เป็ นมุมประกอบ
1 มุมฉากกับ
2
2
1
(4) มุมประกอบ 2 มุมฉาก คือ มุมประชิดทีรวมกันแล้ วได้ 180 องศา หรือ 2 มุมฉาก
จากรูปจะได้
1 เป็ นมุมประกอบ 2 มุมฉากกับ
2
2 1
Note :
(5) มุมภายในรูปสามเหลียมรวมกันได้ 180 องศา
ผลบวกของมุมภายในรูป n เหลียม
1
เท่ากับ (n – 2) 180
2 เช่น ผลบวกของมุมภายในรูป 10 เหลียม
3
เท่ากับ (10 – 2) 180
(6) มุมภายในรูปสีเหลียมรวมกันได้ 360 องศา ขนาดของมุมภายในรู ป n เหลียมด้ านเท่า
1 2 มีขนาดมุมละ (n 2)n 180
3
เช่น ขนาดของมุมภายในรูป 10 เหลียมด้ านเท่า
(10 2)180
4 มีขนาดมุมละ 10
162o
ตัวอย่ าง 1 จงตอบคําถามต่อไปนี
1. ให้ นกั เรียนเติมคําตอบลงในช่องว่างให้ ถกู ต้ อง
(1)
K จุดยอดมุมคือ ...........................................................
แขนของมุมได้ แก่ ...................... และ ........................
มุมนีเรียกชือว่า .....................เขียนแทนด้ วย................
F C มุมนีเป็ นมุม ..............................................................
(2)
P จุดยอดมุมคือ ...........................................................
Q แขนของมุมได้ แก่ ...................... และ ........................
มุมนีเรียกชือว่า .....................เขียนแทนด้ วย................
มุมนีเป็ นมุม ..............................................................
R
(3)
ก จุดยอดมุมคือ ...........................................................
ข แขนของมุมได้ แก่ ...................... และ ........................
มุมนีเรียกชือว่า .....................เขียนแทนด้ วย................
ค มุมนีเป็ นมุม ..............................................................
(4) T
จุดยอดมุมคือ ...........................................................
O แขนของมุมได้ แก่ ...................... และ ........................
มุมนีเรียกชือว่า .....................เขียนแทนด้ วย................
F มุมนีเป็ นมุม ..............................................................
(5)
A C จุดยอดมุมคือ ...........................................................
แขนของมุมได้ แก่ ...................... และ ........................
มุมนีเรียกชือว่า .....................เขียนแทนด้ วย................
M มุมนีเป็ นมุม ..............................................................
(6)
จุดยอดมุมคือ ...........................................................
A แขนของมุมได้ แก่ ...................... และ ........................
B O มุมนีเรียกชือว่า .....................เขียนแทนด้ วย................
มุมนีเป็ นมุม ..............................................................
2. จงพิจารณาว่าข้ อใดต่อไปนีถูกหรือผิด
………… (1) มุมมีแขนของมุมเป็ นรังสี 2 เส้ น มีจด ุ ยอดมุม 1 จุด
………… (2) มุมทีเกิดจากการตัดกันของ รังสี ส่วนของเส้ นตรง หรื อเส้ นตรง
3. จงเติมให้ ทีถูกต้ อง
(1)
AOM เป็ นมุมประชิดกับ .................... และ .....................
M
N O
BOM เป็ นมุมประชิดกับ .................... และ .....................
B
AOM เป็ นมุมตรงข้ ามกับ .....................
BOM เป็ นมุมตรงข้ ามกับ .....................
P
(2) A
AMQ เป็ นมุมประชิดกับ .................... และ .....................
S
Q M
BNT เป็ นมุมประชิดกับ .................... และ .....................
N
SNB เป็ นมุมตรงข้ ามกับ .....................
B
QMN เป็ นมุมตรงข้ ามกับ .....................
T
4. จงหาคําตอบต่อไปนี
(1)
(2) ................
AOM
A
ถ้ า 35
AON แล้ ว ................
MOB
M ................
N MON
O
W
(3) ถ้ า 78
XAU และ 118
UBZ จงหา
X Y .....................
WAY
A
.....................
XAW
Z ......................
BAY
B
V ......................
VBU
U ......................
VBA
.......................
ABZ
(4) A
B
จงหา
.................
AOC
.................
BOC
O
50
O C
…………………………………………………………………………............…… อ. รังสรรค์ (อ.ปิ ง)
คณิ ตศาสตร์ช่วงชันที 2 …………………………………… 6 …………………………………………….
34o
84 o
1
1 = …………………….. 1 = ……………………..
(7) (8)
A
1
24o
36o
1 C
O
1 = …………………….. 1 = ……………………..
(9) (10)
210o
54o 2
1 1
2
1 = …………………….. 1 = ……………………..
2 = …………………….. 2 = ……………………..
(11) (12)
43o 126o
x x
y z y
z
x = …………….………….. x = …………….…………..
y = …………….………….. y = …………….…………..
z = …………….………….. z = …………….…………..
x = …………….………….. x = …………….…………..
(15) (16)
D B M P
C
25o N
O
65o
E
Q
A
(17) A (18)
B C
E 55o
73o A D
F 25o
F B
107o E
D
C
BFC = ………………… BFC = ……………………….
AFC = ………………... CFD = ……………………….
AFD = ………………… AFE = ……………………….
BFC = …………………(มุมกลับ) CFE = ………………………. (มุมกลับ)
(19) (20)
46o 30o
43o
x
y
(21) (22)
90o
80o 87o
2x
x
y
2x 100 134o
y
x = …………………….. x = ……………………..
y = …………………….. y = ……………………..
การสร้ างทางเรขาคณิต
(2)
เศษส่ วน
ความหมายของเศษส่ วน
เศษส่ วน หมายถึง
a
– จํานวนทีเขียนแทนด้ วยตัวเลขทีอยู่ในรูป โดยที b ไม่เท่ากับศูนย์
b
a
– จํานวนทีเขียนอยู่ในรูปการหาร นันคือเศษส่วน หมายถึง ab
b
– ส่วนหนึงจากจํานวนทังหมดทีแบ่งออกเป็ นส่วนเท่าๆกัน
ตัวอย่ าง 1 จงตอบคําถามต่อไปนี
3 4
1. จงวาดรูปทีเขียนด้ วยเศษส่วน 2. จงวาดรูปทีเขียนด้ วยเศษส่วน
4 6
5 9
3. จงวาดรูปทีเขียนด้ วยเศษส่วน 4. จงวาดรูปทีเขียนด้ วยเศษส่วน
7 12
3 3
5. จงวาดรูปทีเขียนแทนด้ วยเศษส่วน 1 6. จงวาดรูปทีเขียนแทนด้ วยเศษส่วน 2
4 5
7. จงเขียนจํานวนลงในช่องว่างให้ ถกู ต้ อง
0 1 2 3
ชนิดของเศษส่ วน
1 2 15
1. เศษส่ วนแท้ คือ เศษส่วนทีมีตวั เศษน้ อยกว่าตัวส่วน เช่น , , เป็ นต้น
3 8 16
2. เศษเกิน คือ เศษส่วนทีมีตวั เศษมากกว่าหรือเท่ากับตัวส่วน เช่น 7, 5 , 4 , 5 , 24 เป็ นต้น
5 1 3 8
3. จํานวนคละ คือ เศษส่วนทีประกอบด้ วยจํานวนเต็มกับเศษส่วนแท้ เช่น 1 2 , 5 7 เป็ นต้ น
3 9
2 2 7 7
ซึง 1 หมายถึง 1 , 5 หมายถึง 5
3 3 9 9
4. เศษส่ วนอย่ างตํา คือ เศษส่วนทีมี ห.ร.ม. ของตัวเศษและตัวส่วนเท่ากับ 1 เช่น 1 , 4 เป็ นต้น
8 7
5. เศษส่ วนไม่ อย่างตํา คือ เศษส่วนทีมี ห.ร.ม. ของตัวเศษและตัวส่วนไม่ เท่ากับ 1 เช่น 4 , 3
8 15
เป็ นต้น
ตัวอย่ าง 2 จงตอบคําถามต่อไปนี
1. ให้ นกั เรียนเขียนเศษส่วนลงในตารางให้ ถก
ู ต้ อง
ชนิดเศษส่ วน ตัวอย่ างเศษส่ วน 10 จํานวน
เศษส่ วนแท้
เศษเกิน
จํานวนคละ
เศษส่ วนอย่างตํา
ตัวอย่ าง 3 จงตอบคําถามต่อไปนี
1. จงเติมตัวเลขลงในช่องว่างให้ ถก
ู ต้ อง
2 2 4 4 4 12
(1) (2)
3 3 6 5 5 15
5 5 25 11 11 33
(3) (4)
7 7 35 13 13 39
10 3 30 12 2 24
(5) (6)
15 3 45 17 2 34
2. จงเติมตัวเลขลงในช่องว่างให้ ถกู ต้ อง
8 8 1 9 9 3
(1) (2)
16 16 2 12 12 4
15 15 3 18 18 9
(3) (4)
25 25 5 40 40 20
50 5 10 20 4 5
(5) (6)
75 5 15 36 4 9
3. จงหาเศษส่วนทีเท่ากับเศษส่วนทีกําหนดให้ มา 4 จํานวน
2
(1) = …………… = ………………= ……………… = ………………
3
7
(2) = …………… = ………………= ……………… = ………………
9
56
(3) = …………… = ………………= ……………… = ………………
72
100
(4) = …………… = ………………= ……………… = ………………
150
a
(5) = …………… = ………………= ……………… = ………………
b
4. จงเติมจํานวนลงในช่องว่างให้ ถกู ต้ อง
2 4 3 21 7 8
(1) (2) (3) (4)
5 4 8 64 9 36
12 4 30 2 72 28
(5) (6) (7) (8)
15 45 81 9 36 9
การเปรียบเทียบเศษส่ วน
1. กรณีทเศษส่
ี วนมีตัวส่ วนเท่ ากัน ให้ พิจารณาตัวเศษโดย
“ถ้ าเศษของเศษส่ วนใดมากกว่ า จะทําให้ เศษส่ วนนันมีค่ามากกว่ าด้ วย”
5 7
เช่น เพราะว่า 5<7
9 9
2. กรณีทเศษส่
ี วนมีตัวเศษเท่ากัน ให้ พิจารณาตัวส่วนโดย
“ถ้ าส่ วนของเศษส่ วนใดมากกว่ า จะทําให้ เศษส่ วนนันมีค่าน้ อยกว่ า”
5 5
เช่น เพราะว่า 8 < 13
8 13
3. กรณีทเศษส่
ี วนไม่ มีตัวเศษหรือตัวส่ วนเท่ากัน ให้ ใช้ หลักการคูณไขว้ ดังนี
a c
(1) ก็ตอ่ เมือ ad = bc
b d
a c
(2) ก็ตอ่ เมือ ad < bc
b d
a c
(3) ก็ตอ่ เมือ ad > bc
b d
4. การเปรียบเทียบโดยใช้ เกณฑ์ตดั สิน เช่น
(1) เศษส่วนทีมีเศษไม่ถึงครึงของตัวส่วน น้ อยกว่ า เศษส่วนทีมีเศษเท่ากับครึงของตัวส่วน
น้ อยกว่ า เศษส่วนทีมีเศษเกินครึงของตัวส่วน
(2) ถ้ าเศษส่วนมีเศษน้ อยกว่าส่วนอยู่เท่ากัน เศษส่วนทีมีเศษมากกว่าจะมีคา่ มากกว่า
(3) ถ้ าเศษส่วนมีเศษมากกว่าส่วนอยูเ่ ท่ากัน เศษส่วนทีมีเศษมากกว่าจะมีคา่ น้ อยกว่า
ตัวอย่ าง 4 จงตอบคําถามต่อไปนี
1. จงเติมเครื องหมาย > , < หรือ = ลงในช่องว่างให้ ถกู ต้ อง
1 2 4 7
(1) (2)
3 3 9 9
11 14 5 5
(3) (4)
13 13 7 3
10 10 1 1
(5) (6)
15 18 21 12
25 5 12 8
(7) (8)
30 6 13 9
9 6 11 13
(9) (10)
7 4 13 11
9 3 1 2
(11) (12) 2 2
45 15 5 6
2. จงเรียงลําดับเศษส่วนต่อไปนีจากมากไปหาน้ อย
7 3 4 9
(1) , , , …………………………………………………...
10 10 10 10
3 3 3 3
(2) , , , …………………………………………………...
4 6 5 2
2 1 19 7
(3) , , , …………………………………………………...
9 3 21 9
11 1 102 49
(4) , 5 , , …………………………………………………...
2 3 21 9
3. จงเรียงลําดับเศษส่วนต่อไปนีจากน้ อยไปหามาก
3 8 11
(1) 1, 1 , , …………………………………………………...
10 9 8
5 1 3 4
(2) , , , …………………………………………………...
12 8 6 7
13 14 5 4
(3) , , 2 , 2 …………………………………………………...
8 5 6 7
12 17 47 5
(4) , , , 2 …………………………………………………...
6 8 23 9
การบวกและการลบเศษส่ วน
การบวกและการลบเศษส่วน มีหลักการพืนฐานคือ
“ ต้ องทําให้ ตัวส่ วนเท่ ากันก่ อนแล้ วจึงนําเศษมาบวกหรื อมาลบกัน ”
ตัวอย่ าง 5 จงตอบคําถามต่อไปนี
1. จงหาคําตอบต่อไปนี
1 1 5 2
(1) (2)
2 4 6 3
1 2 3 3
(3) (4)
3 5 5 7
5 15 12 10
(5) (6)
2 13 6 8
1 3 12 16
(7) 1 (8) 5 4
5 15 24 18
11 19 11 19
(9) 11 10 (10) 11 10
20 36 20 36
9 7
(11) 8 1 (12) 42
13 23
8 3 11 5 3 12 9
(3) (4) 2 1
3 8 14 10 8 5 10
2 4 8 7
(5) 3 1 (6) 10 3
3 5 5 8
12 8 4 13 1 1 1 1 1
(7) 3 (8)
6 5 15 5 2 3 4 5 6
3. จงหาคําตอบต่อไปนี
1
(1) ถังใบหนึงมีนําอยู่ครึงถัง ใช้ ไป ของถัง ขณะนีมีนําเหลืออยู่คิดเป็ นเศษส่วนเท่าไร
4
ของถัง
ตอบ …………………………………………………………………………………
2 1 1
(2) ซือส้ ม กิโลกรัม ซือเงาะ กิโลกรัม ซือมังคุด กิโลกรัม จะต้ องหิวผลไม้ หนักกี
7 2 3
กิโลกรัม
ตอบ …………………………………………………………………………………
7
(3) ถนนสายหนึงลาดยางไปแล้ ว ของความยาวถนนทังหมด เหลือทียังไม่ลาดยางคิด
13
เป็ นเท่าไรของความยาวถนนทังหมด
ตอบ …………………………………………………………………………………
2 7
(4) พ่อค้ ามีส้ม 37 กิโลกรัม ขายไปครังแรก 2 กิโลกรัม ขายไปอีก ครังทีสอง 5
3 8
กิโลกรัม ตอนนีแม่ค้าเหลือส้ มอยูก่ ีกิโลกรัม
ตอบ …………………………………………………………………………………
2
(5) มีลวดยาว 50 เมตร ตัดออกเป็ น 3 เส้ น โดยเส้นแรกยาว 17 เมตร เส้นทีสองยาว
5
3
15 เมตร ลวดเส้นทีสามยาวหรือสันกว่าเส้ นแรกกีเมตร
4
ตอบ …………………………………………………………………………………
2 1 2
4. จงหาคําตอบของสมการ x 2
3 2 6
7 9
5. จงหาคําตอบของสมการ 5x 2 3
12 14
การคูณและการหารเศษส่ วน
“ ผลคูณของเศษส่ วนสองจํานวน เท่ากับ เศษส่ วนซึงมีตัวเศษเท่ากับผลคูณของตัวเศษทุกตัว
และตัวส่ วนเท่ ากับผลคูณของตัวส่ วนทุกตัว ”
“ ผลหารของเศษส่ วนสองจํานวน เท่ ากับ ผลคูณของเศษส่ วนตัวตังและส่ วนกลับของตัวหาร”
ตัวอย่ าง 6 จงตอบคําถามต่อไปนี
1. จงหาผลลัพธ์ตอ ่ ไปนี
2 5
(1) 6 (2) 12
9 8
11 12
(3) 16 (4) 100
24 25
8 3 24 25
(5) (6)
9 4 30 48
48 60 36 33
(7) (8)
120 24 44 60
2 15 3 4
(9) 2 (10) 3
5 21 7 15
1 3 1 3
(11) 3 2 (12) 11 3
5 4 7 13
2. จงหาผลลัพธ์ตอ่ ไปนี
3 8
(1) 6 (2) 12
7 15
12 12
(3) 16 (4) 68
23 25
9 3 11 11
(5) (6)
8 4 13 13
15 45 36 33
(7) (8)
20 60 44 60
2 6 6 3
(9) 2 (10) 3
5 25 7 11
1 3 3 1
(11) 3 2 (12) 3 3
5 4 12 4
3. จงหาผลลัพธ์ตอ่ ไปนี
3 45 25 42 1
(1) 3 (2)
12 78 60 105 3
1 1 1 3 7
(3) 1 (4)
5 3 4 5 9
1 4 3 1 1
(5) 1 (6)
2 5 5 2 3
1 1 1 1 2
(7) 3 (8) 1 3
3 4 5
5 10
7 16 2 1 7
(9) 4 1 (10) 3 1
8 15 13 2 26
1 1 3 1 1 1 1 1
(11) 2
3 5
(12) 1
2
4 5
2 3 4 5 6
7 5x 2 3
(2) 1 1
12 9 3 4
เศษส่ วนซ้ อน
“ เศษส่ วนซ้ อน คือ เศษส่ วนทีมีตัวเศษหรือตัวส่ วนเป็ นเศษส่ วน หรืออาจกล่ าวได้ ว่า
เศษส่ วนซ้ อน คือ เศษส่ วนทีเขียนแทนการหารกันของเศษส่ วนสองเศษส่ วน ” เช่น
5 5 3
2
12 5 3 17 4 5 3 3
3
หมายถึง
3
หมายถึง 2 25
17
12 5 25 4 7
5 7
5 7
(3) 9 (4) 12
20 1 1
27 3 4
1 1 4 9
(5) 3 5 (6) 6 48
4 3 2
2
15 4 3
1
2
3 2
(7) (8) 2
2 1 2
2
3 6 2
2
1
2
2
1 1
(10) ฉันอ่านหนังสือเล่มหนึง วันแรกอ่านได้ ของจํานวนหน้ าทังหมด วันทีสองอ่านได้ ของ
3 2
จํานวนหน้ าทังหมด ปรากฏว่ายยังเหลือหน้ าทีฉันยังไม่ได้ อา่ นอีก 50 หน้ า จงหาว่า หนังสือเล่ม
นีมีทงหมดกี
ั หน้ า
ตอบ ...................................................................................................................................
1
(11) ถังใบหนึงมีความจุ 40 ลูกบาศก์เมตร มีนําอยูใ่ นถัง ของถัง ถ้ ามีท่อสูบนําเข้ าถังได้ นาทีละ
8
1
2 ลูกบาศก์เมตร จงหาว่าจะต้ องใช้ เวลาสูบนานเท่าไรจึงจะเต็มถัง
3
ตอบ ...................................................................................................................................
3
(12) ครูพรแบ่งเงินเดือนทีเขาได้ ออกเป็ น 3 ส่วน ดังนี ค่าใช้ จ่ายภายในบ้ าน ของเงินเดือน
8
2
ทังหมด ค่าใช้ จ่ายภายนอกบ้ าน ของเงินส่วนทีเหลือ และทีเหลือทังหมดนําไปฝากธนาคาร
3
ปรากฏว่าเขามีเงินฝากธนาคารเดือนละ 12,000 บาท จงหา
1. เงินเดือนของครูพร ตอบ ............................................................................................
2. ค่าใช้ จ่ายภายในบ้ าน ตอบ ............................................................................................
3. ค่าใช้ จ่ายภายนอกบ้ าน ตอบ ...........................................................................................
1 1
(13) พ่อค้ าประกาศลดราคาตู้เย็นลง ชองราคาทีปิ ดไว้ ถ้ าผู้ซือเงินสดพ่อค่าจะลดลงให้ อีก
5 20
ของราคาทีลดแล้ วครังแรก ถ้ าฉันซือตู้เย็นด้ วยราคาเงินสด 5,700 บาท จงหาราคาทีพ่อค้ าติด
ไว้ ครังแรก
ตอบ ...................................................................................................................................
1 4
(14) ฉันมีอายุเป็ น ของอายุพ่อ น้ องฉันมีอายุเป็ น ของอายุฉนั ถ้ าผลรวมของอายุฉนั และน้ อง
4 5
เป็ น 18 ปี จงหา
1. อายุของพ่อ ตอบ .....................................................................................................
2. อายุของฉัน ตอบ .....................................................................................................
3. อายุของน้ องฉัน ตอบ ..............................................................................................
2
15. วันแรกฉันเดินไปได้ 12 กิโลเมตร ซึงคิดเป็ น ของระยะทางทังหมด วันทีสองฉันเดินทางไปได้
7
2
ของระยะทางทีเหลือวันจากแรก จงหาระยะทางทีเหลือทีต้ องเดินในวันทีสาม
5
ตอบ ...................................................................................................................................
แบบฝึ กหัดทบทวน
9 16 4 5 4 2
(3) (4) 4 3 2
10 20 5 6 5 3
2 3 1 7 5 3 1
(5) 4 1 (6) 6 5 1 1
9 4
3 12 6
4 6
7 3 1 5 5 5 2 3
(7) 9
2 1
(8) 3 4 2 3
18
11 2 6
22
9 3 4
3 13 11 5 1 3 4 19
(9) 8 4 2 3 (10) 5 6 4
7
14 21
6 5 10 15 30
…………………………………………………………………...…… อ. รังสรรค์ (อ. ปิ ง)
คณิ ตศาสตร์ ช่วงชันที 2 ………………………… 16 ……………………………………………
3 7 7 4 7 13
(11) 8 3 3 2 4 (12) 7 2 3 6
4 8
12
5 10 20
4 10 22 8 4 10
(13) (14)
5 11 25 9 11 9
1 6 9 4 5
(15) 5 (16) 8
4 7 14 9 18
2 3 1 2 1 1
(17) 2 3 3 (18) 3 2 7
7 4 5 3 2 2
2 22
(19) 3 ของ 7 1 (20)
3 1 2 3
1
3 35 2 2 2 9 4
3 7 3 1 4 3 5
(21) 9 (22) 5 2 6
16 8 4 3 3 4 8
7 3 4 3 3 16 1 3 3 7
(23) 2 4 3 (24) 4 3 5 4
8
4 5
4
8 5 2 4 4 16
4 1 2 1 7 2 1 3 3 3 7
(25) 2 4 4 4 (26) 4 3 4 3
5 7 3 2 18 3 2 4 8 4 16
1 9 3 17 7 1 1 2 3 12 7 13
(27) 3 4 3 2 (28) 8 7 6 8 5
2
10 4
20
10 2 2 3 4 11 11 22
1 1 2
(29) 3 3 (30) 3
15 3 1
4 2
1 1 1
4 6 2
ของ 34
(31) (32)
1 1 9
4 6 16
2 1 1 1 1
3
ของ
2 4
2
15
1
3
(33) (34) 1 1
2 1 1
2 3
3 2 4 4 5
5 3
(35) 4 2
(36) 3
1
3 2
5 1
3 1
2
7
5 10
(37) 55 (38)
1 1
7 12
5 5
1
5
1 4 1 1 1 1
7 1 4
6 3 3
(39) 2 5 2 (40) 4 6 5 8
7 3 1 1 1 1
3 1 6 4 3 3
8 4 4 6 5 8
5. จงหาคําตอบของแต่ละข้ อต่อไปนี
1
(1) แม่ค้าขายส้ ม 35 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 28 บาท
2
ตอบ……………………………………………………………………………………….
(2) ข้ าวสารหนัก 15 3 กิโลกรัม แบ่งใส่ถงุ 3 ถุง โดยถุงแรกหนัก 4 1 กิโลกรัม ถุงทีสองหนัก 5 1
4 2 4
กิโลกรัม ถุงทีสามหนักกีกิโลกรัม
ตอบ……………………………………………………………………………………….
(3) พ่อค้ ามีนําตาลอยู่ 17 2 กิโลกรัม ซือมาเพิมอีก 11 1 กิโลกรัม แล้ วขายไปในราคากิโลกรัมละ
5 2
12 บาท พ่อค้ าจะได้ เงินทังสินกีบาท
ตอบ……………………………………………………………………………………….
(4) ลุงปิ งมีทีดิน 14 1 ไร่ ซือมาเพิมอีก 7 3 ไร่ แล้ วแบ่งให้ ลกู 2 คน คนละ 5 3 ไร่ ลุงปิ งเหลือ
2 5 4
ทีดินไว้ ทํากินกีไร่
ตอบ……………………………………………………………………………………….
(5) คุณพ่อมีทีดิน 20 ไร่ แบ่งเป็ นแปลงเท่าๆ กัน แปลงละ 2 1 ไร่ จะแบ่งได้ กีแปลง
2
ตอบ……………………………………………………………………………………….
(6) ขาวมีเงิน 300 บาท ใช้ ไป 4 ของเงินทีมี ขาวจะเหลือเงินกีบาท
5
ตอบ……………………………………………………………………………………….
2
(7) เท่าของเงินจํานวนหนึง คิดเป็ น 180 บาท เงินจํานวนนันมีทงหมดกี
ั บาท
5
ตอบ……………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………...…… อ. รังสรรค์ (อ. ปิ ง)
คณิ ตศาสตร์ ช่วงชันที 2 ………………………… 18 ……………………………………………
1 1
(8) เก๋มีเงินอยู่ 60 บาท แบ่งให้ น้อง ของเงินทีมีอยู่ ใช้ ไปอีก ของเงินทีมีอยู่ เก๋เหลือเงินกีบาท
5 3
ตอบ……………………………………………………………………………………….
(9) นิดมีเงิน 240 บาท ให้ เพือนยืมไป 2 ของเงินทีมีอยู่ และใช้ ไป 1 ของทีเหลือ นิดใช้ เงินไปกีบาท
5 2
ตอบ……………………………………………………………………………………….
(10) พ่อค้ าขายปลาเป็ น 3 เท่าของเนือหมู ขายเนือหมูเป็ น 1 เท่าของผลไม้ ถ้ าขายผลไม้ 80
4 2
กิโลกรัม พ่อค้ าขายปลาได้ กีกิโลกรัม
ตอบ……………………………………………………………………………………….
(11) ถังใบหนึงมีนําอยู่ในถัง 3 ของถัง หลังจากใช้ นําไป 45 ลิตร จะเหลือนําอยู่ 3 ของถัง ถังใบนีจุ
4 8
นําได้ กีลิตร
ตอบ……………………………………………………………………………………….
(12) ถ้ า 3 ของเงินของแดง คิดเป็ น 180 บาท และ 2 ของเงินของดํา คิดเป็ น 150 บาท จงหา
5 3
ผลบวกของเงินของแดงและดํา
ตอบ……………………………………………………………………………………….
(13) ถังใบหนึงมีนําอยู่ 5 ของถัง หลังจากทีใช้ นําไป 2 ของนําทีมีอยู่ ปรากฏว่าเหลือนําในถัง
6 5
100 ลิตร จงหาว่าถังใบนีจุนําได้กีลิตร
ตอบ……………………………………………………………………………………….
(13) ชายคนหนึงปลูกบ้ านบนทีดินแปลงหนึง โดยที 1 ของทีดินทังหมดใช้ ปลูกบ้ าน 1 ของทีดินทีเหลือ
4 6
จากปลูกบ้ านขุดเป็ นสระนํา ทีแหลือนอกนันทําเป็ นสวนดอกไม้ จงหาว่าพืนทีสวนดอกไม้ คิดเป็ น
เศษส่วนเท่าใดของทังหมด
ตอบ……………………………………………………………………………………….
(14) ฉันมีเงิน 2,500 บาท วันแรกฉันซือหนังสือและสมุดไป 1 ของเงินทังหมด วันทีสองซือเสือผ้ า 3
5 8
2
ของเงินทีเหลือจากวันแรก วันทีสามซือของใช้ สว่ นตัวอีก ของเงินทีเหลือจากวันทีสอง จะพบว่า
5
ในทีสุดฉันจะเหลือเงินกีบาท
ตอบ……………………………………………………………………………………….
(15) ถังใบหนึงบรรจุนํามันเต็มถัง วันแรกใช้ นํามันไป 1 ของถัง วันทีสองใช้ นํามันไป 25 ลิตร พบว่า
3
1
นํามันเหลือ ของถัง จงหาว่าถังใบนีจุนํามันกีลิตร
4
ตอบ……………………………………………………………………………………….
3 1
(16) บริษัทแห่งหนึงมีพนักงานหญิง ของจํานวนพนักงานทังหมด ในจํานวนนีปรากฏว่า ของ
8 6
2
จํานวนพนักงานหญิง และ ของจํานวนพนักงานชาย ยังไม่ได้ แต่งงาน ซึงรวมพนักงานทียัง
15
ไม่ได้ แต่งงานมี 21 คน จงหาจํานวนพนักงานทังหมด จํานวนพนักงานหญิง และพนักงานชาย
ตอบ……………………………………………………………………………………….
(17) วันแรกฉันเดินทางไปได้ 12 กิโลเมตร ซึงคิดเป็ น 2 ของระยะทางทังหมด วันทีสองฉันเดินทางไป
7
2
ได้ ของระยะทางทีเหลือจากวันแรก จงหาระยะทางทีเหลือทีต้ องเดินต่อในวันทีสาม
5
ตอบ……………………………………………………………………………………….
(18) แม่ค้าซือส้ มมาขายจํานวนหนึง พบว่ามีส้มเน่า 1 ของจํานวนส้ มทังหมด ต่อมาขายได้ 15 ของ
20 19
จํานวนส้ มทีเหลือจากเน่า ต่อมาแม่ค้าซือมาเพิมอีก 100 ผล ซึงทําให้ จํานวนส้ มทีมีขณะนีเท่ากับ
จํานวนส้ มทีซือมาครังแรก จงหาจํานวนส้ มทีซือมาในครังแรก
ตอบ……………………………………………………………………………………….
(19) ชายคนหนึงขับรถจากจังหวัดหนึงไปยังอีกจังหวัดหนึง ชัวโมงแรกเขาขับได้ ระยะทาง 2 ของ
7
4
ระยะทางทังหมด ชังโมงทีสองเขาขับได้ ระยะทาง ของระยะทางทีเหลือ และชัวโมงทีสามเขาขับ
5
ได้ ระยะทาง 100 กิโลเมตร ซึงถึงทีหมายพอดี จงหาระยะทางระหว่างสองจังหวัดดังกล่าว
ตอบ……………………………………………………………………………………….
(20) ในการเลือกตังประธานนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึง มีผ้ สู มัคร 2 คน ผู้ออกเสียงคือนักเรียนทุก
1
คน ปรากฏว่าในวันลงคะแนนเสียงมีนกั เรียนไม่มาโรงเรียน ของนักเรียนทังหมด นักเรียน
100
5
ทีมาโรงเรียนออกเสียงทุกคน ผู้ชนะการเลือกตังได้ คะแนนเสียง ของผู้ลงคะแนนทังหมด และได้
9
คะแนนมากกว่าอีกคนหนึงอยู่ 121 คะแนน จงหาจํานวนนักเรียนในโรงเรียนแห่งนี
ตอบ……………………………………………………………………………………….
(21) พ่อค้ าประกาศลดราคาตู้เย็นลง 1 ของราคาทีปิ ดไว้ ถ้ าผู้ซือเงินสด พ่อค้ าจะลดให้ อีก 1 ของ
5 20
ราคาทีลดแล้ วในครังแรก ถ้ าฉันซือตู้เย็นด้ วยเงินสดราคา 5,700 บาท จงหาราคาทีปิ ดแต่แรก
ตอบ……………………………………………………………………………………….
(22) ฉันมีอายุเป็ น 1 ของอายุของพ่อ น้ องฉันมีอายุเป็ น 4 ของอายุของฉัน ถ้ าผลรวมของอายุฉนั
4 5
และน้ องเป็ น 18 ปี จงหาอายุของพ่อ ของฉัน และของน้ องฉัน
ตอบ……………………………………………………………………………………….
1 1 4
(23) ถังนํารูปทรงสีเหลียมมุมฉาก กว้ าง 2 เมตร ยาวเป็ น 1 ของความกว้ าง และสูง ของ
2 2 5
4
ความยาว ถ้ าถังใบนีบรรจุนําเพียง ของถัง และต้ องการแบ่งนําทังหมดให้ กบั ครอบครัว 15
5
ครอบครัวๆละเท่ากัน แต่ละครอบครัวจะได้นํากีลูกบาศก์เมตร
ตอบ……………………………………………………………………………………….
(24) กําหนดให้ 30 a 1 1 จงหา ค.ร.น. ของ a, b และ c
7 b
c
ตอบ……………………………………………………………………………………….
(25) จากข้ อสังเกตเราพบว่า 1 1 1 , 1 1 1 , 1
1
1
เป็ นต้ น
23 2 3 4 5 4 5 25 26 25 26
1 1 1 1 1 1
จงหาค่าของ
2 3 3 4 4 5 5 6 6 7 99 100
ตอบ……………………………………………………………………………………….
สําหรับทดเลข
ทศนิยม
ทศนิยม
เป็ นการเขียนแทนจํานวนประเภทหนึงทีไม่สมั พันธ์กบั การเขียนแทนด้ วยเศษส่วน แบ่งเป็ น
ทศนิยมรู้จบ เป็ นทศนิยมทีสามารถบอกจํานวนตําแหน่งได้
ทศนิยมไม่ ร้ ูจบ เป็ นทศนิยมทีไม่สามารถบอกจํานวนตําแหน่งได้ แบ่งเป็ น
ทศนิยมไม่ ร้ ูจบแบบไม่ ซาํ เช่น 3.12112111211112111112…
ทศนิยมไม่ ร้ ูจบแบบซํา เป็ นทศนิยมทีตัวเลขหลังจุดทศนิยมซํากันเป็ นรอบๆ เช่น
0.444444 … เขียนแทนด้ วย 0. 4 หรือ
8.12121212 … เขียนแทนด้ วย 8.12
ค่ าประจําตําแหน่ งของทศนิยม
ทศนิยมเป็ นการเขียนสัญลักษณ์ตวั เลขแทนจํานวน โดยทิศนิยมค่าประจําตําแหน่งดังนี
ค่าประจําตําแหน่ง
ทศนิยมตําแหน่งที เป็ นเศษส่วน เป็ นทศนิยม ชือเรียก
1 1
1 1 0.1 ส่วนสิบ
10 10
1 1
2 2 0.01 ส่วนร้ อย
100 10
1 1
3 3
1, 000 10
0.001 ส่วนพัน
1 1
4 4
10, 000 10
0.0001 ส่วนหมืน
1 1
5 5
100, 000 10
0.00001 ส่วนแสน
8.1024 8
1
0
2
4
–45.0297 4
5
0
2
9
7
ตอบ ……………………………………………………………………………………
(2) จากจํานวน 108.4507 ตัวเลข 0 ทังสองตัวมีคา่ ต่างกันเท่าใด
ตอบ ……………………………………………………………………………………
(3) จากจํานวน 4.789 ตัวเลข 7 มีคา่ ประจําหลักเป็ นกีเท่าของค่าประจําลักของตัวเลข 9
ตอบ ……………………………………………………………………………………
(4) จากจํานวน 71.47 ตัวเลข 7 ทังสองมีคา่ ประจําหลักต่างกันเท่าใด
ตอบ ……………………………………………………………………………………
(5) จากจํานวน 24.452 ตัวเลข 2 ตัวหน้ าสุดมีคา่ เป็ นกีเท่าของเลขสองตัวหลังสุด
ตอบ ……………………………………………………………………………………
การเปรียบเทียบทศนิยม
หลักการเปรียบเทียบทศนิยมให้ เปรียบจํานวนทีอยู่หน้ าจุดทศนิยมก่อน ถ้ าจํานวนใดมีจํานวน
หน้ าจุดทศนิยมมากกว่า จํานวนนันก็จะมากกว่าอีกจํานวน (เหมือนบทที 1 จํานวนและตัวเลข) แต่ถ้า
หน้ าจุดทศนิยมเท่ากันให้ เปรียบเทียบจํานวนทีอยู่หลังจุดทศนิยมโดยเริมจากตําแหน่งทีหนึง เช่น
12.004 > 9.999 เพราะ 12 > 9
45.478 < 45.512 เพราะ 4 < 5
ความสัมพันธ์ ของทศนิยมและเศษส่ วน
ทศนิยมทุกจํานวนทีเป็ นทศนิยมแบบรู้จบหรือทีบอกจํานวนตําแหน่งได้ และทศนิยมซําทังหลาย
เราสามารถเปลียนให้ อยู่ในรูปเศษส่วนได้ และทํานองเดียวกันเราสามารถเปลียนจากเศษส่วนให้ เป้นท
ศนิยมได้ เช่นกัน ดังตัวอย่างต่อไปนี
(5) =
0.45 ………………….. (6) =
0.125 …………………….
(7) =
0.704 ………………….. (8) 5.6 = …………………….
การบวกและการลบทศนิยม
การบวกและลบทศนิยมทําเช่นเดียวกับการบวกลบจํานวนเต็ม เพียงแต่ต้องตังจุดทศนิยมให้
ตรงกันระหว่างตัวตังและตัวบวกหรือตัวลบ ดังนี
การคูณทศนิยม
การหารทศนิยม
(1) การหารทศนิยมด้ วยจํานวนเต็ม ทําเช่นคล้ ายๆกับจํานวนเต็มแต่ต้องเติมจุดทีผลลัพธ์ให้
ตรงกับจุดของตัวตัง
(2) การหารทศนิยมด้ วยจํานวนทีเป็ นทศนิยม ให้ ทําตัวหารเป็ นจํานวนเต็มโดยการเอา 10
หรือ 100 หรือ 1,000 เป็ นต้ น มาคูณกับตัวหารนันก่อนซึงขึนอยู่กบั จํานวนตําแหน่งของตัวหารนัน
ถ้ าหารแล้ วยังเหลือเศษทีไม่ใช่ศนู ย์สามารถหารต่อได้ โดยการเติมศูนย์ทีเศษนันแล้ วหารตามปกติ
โจทย์ ปัญหาทศนิยม
(1) เดือนกันยายน โรงเรียนบ้ านวิชากรใช้ นําประปาไป 30.75 หน่วย ในเดือนตุลาคมใช้ ไป
27.80 หน่วย โรงเรียนบ้ านวิชากรใช้ นําประปาน้ อยลงไปกีหน่วย
ตอบ ……………………………………………………………………………………
(2) น้ องเก็บเงินค่าขนมวันละ 42.25 บาท เป็ นเวลา 6 วัน น้ องเก็บเงินได้ ทงหมดกี
ั บาท
ตอบ ……………………………………………………………………………………
(3) ภูกระดึงสูง 2.14 กิโลเมตร เขาใหญ่สงู 1.759 กิโลเมตร ภูกระดึงสูงกว่าเขาใหญ่เท่ใด
ตอบ ……………………………………………………………………………………
(4) สุพจน์มเี งิน 302.25 บาท คุณพ่อให้ มาอีก 28.50 บาท ใช้ ไป 130.75 บาท เขาเหลือ
เงินอยูเ่ ท่าไร
ตอบ ……………………………………………………………………………………
(5) มีเชือกยาวเส้ นละ 5.45 เมตร จํานวน 8 เส้ น นํามาวางต่อกันจะได้ ความยาวเท่าไร
ตอบ ……………………………………………………………………………………
(6) ซือยาสีฟัน 2 กล่องๆละ 16.25 บาท ซือสบู่ 6 ก้ อนๆ ละ 8.50 บาท ให้ ธนบัตรฉบับ
ละ 500 บาท จะได้ เงินทอนกีบาท
ตอบ ……………………………………………………………………………………
(7) ขนมราคาชินละ 6.25 บาท แดงมีเงิน 75 บาท จะซือขนมได้ กีชิน
ตอบ ……………………………………………………………………………………
(8) ไข่ไก่ 12 ฟอง ราคา 39 บาท ไข่เป็ ด 6 ฟอง ราคา 21 บาท ถ้ าซืออย่างละ 10
ฟอง จะต้ องจ่ายเงินกีบาท
ตอบ ……………………………………………………………………………………
(9) มีนําปลา 16.5 ลิตร แบ่งใส่ขวดๆละ 1.5 ลิตร และขายไปขวดละ 20.50 บาท จะได้
เงินทังหมดกีบาท
ตอบ ……………………………………………………………………………………
(9) สมพล วิงได้ ไกลชัวโมงละ 1.24 กิโลเมตร ถ้ าเขาวิงนาน 1 ชัวโมงครึง จะได้ ระยะทาง
เท่าไร
ตอบ ……………………………………………………………………………………
(10) วินยั ซือสมุด 4 เล่ม ราคาเล่มละ 11.25 บาท และซือปากกา 3 ด้ าม ราคาด้ ามละ
8.75 บาท ให้ ธนบัตรฉบับละร้ อยบาท 1 ฉบับ จะได้ รับเงินทอนกีบาท
ตอบ ……………………………………………………………………………………
(11) คุณพ่อขับรถจากกรุงเทพฯไปโคราชเป็ นระยะทาง 350 กิโลเมตร และคุณพ่อเคย
คํานวณดูวา่ นํามัน 1 ลิตร จะแล่นไปได้ ไกล 12.5 กิโลเมตร คุณพ่อจะต้ องเสียค่านํามัน
กีบาท ถ้ านํามันราคาลิจรละ 26.15 บาท
ตอบ ……………………………………………………………………………………
(12) กระดาษรูปสีเหลียมผืนผ้ า กว้ าง 45.5 เซนติเมตร และ ยาว 60.75 เซนติเมตร ถ้ าตัด
กระดาษทีมุมทังสีออกเป็ นรูปสีเหลียมจัตรุ ัส ยาว 5.25 เซนติเมตร จงหาพืนทีของ
กระดาษทีเหลือจากการตัดมุม
ตอบ ……………………………………………………………………………………
(13) นายแก้ ว ขับรถเดินทางเป็ นระยะทาง 1390 กิโลเมตร ในการเดินทางครังนีต้ องเติม
นํามัน 3 ครัง จํานวน 35.5 ลิตร 41.7 ลิตร และ 30.3 ลิตร เมือถึงทีหมาย นํามัน
หมดพอดี จงหาว่าโดยเฉลียแล้ วนํามัน 1 ลิตร จะเดินทางได้ กีกิโลเมตร
(คิดเป็ นทศนิยม 2 ตําแหน่ง)
ตอบ ……………………………………………………………………………………
(14) แจ็บ ขับรถได้ ระยะทาง 320 กิโลเมตร ในเวลา 3 ชัวโมง 30 นาที
(1) ถ้ า แจ็บ ขับได้ ระยะทาง 450 กิโลเมตร เขาจะต้ องใช้ เวลาขับนานเท่าไร
ตอบ ……………………………………………………………………………………
(2) ถ้ านาย แจ็บ ขับนาน 2 ชัวโมง 18 นาที เขาขับได้ ระยะทางกีกิโลเมตร
ตอบ ……………………………………………………………………………………
(3) จงหาความเร็วเฉลียของการขับรถของนาย แจ็บ
ตอบ ……………………………………………………………………………………
จงหาวัตถุนีมีนําหนักเท่าไรดาวพฤหัสบดีและบนโลกต่างกันกีกิโลกรัม
(ตอบเป็ นจํานวนเต็มกิโลกรัม)
ตอบ ……………………………………………………………………………………
(3) นําหนักบนดาวพฤหัสบดีหนักเป็ นกีเท่าของนําหนักบนพืนโลก
ตอบ ……………………………………………………………………………………
สามเหลียม
1. ชนิดของสามเหลียม
สามเหลียม เป็ นรูปปิ ดทีมีด้านสามด้ าน มุมสามมุม แต่ละมุมเรียกว่า มุมภายในของรูป
สามเหลียม ชนิดของสามเหลียมจะแบ่งตามลักษณะของด้ านและลักษณะของมุมได้ ดงั นี
ชนิดสามเหลียมแบ่งตามลักษณะของด้ าน ชนิดสามเหลียมแบ่งตามลักษณะของมุม
1. รูปสามเหลียมด้ านเท่า 1. รูปสามเหลียมมุมแหลม
คุณสมบัติ คุณสมบัติ
1) มีด้านเท่ากันทุกด้ าน 1) มุมทุกมุมเป็ นมุมแหลม
2) มุมภายในแต่ละมุมเท่ากับ 60 องศา
3) มีแกนสมมาตร 3 แกน
2. รูปสามเหลียมหน้ าจัว 2. รูปสามเหลียมมุมฉาก
a c
คุณสมบัติ b
1) มีด้านเท่ากัน 2 ด้ าน คุณสมบัติ
2) มีมมุ เท่ากัน 2 มุม (มุมทีฐาน) 1) มีมม
ุ 1 มุมเป็ นมุมฉาก
3) มีแกนสมมาตร 1 แกน 2) c2 = a2 + b2
คุณสมบัติ คุณสมบัติ
1) ไม่มีด้านเท่ากัน 1) มีมมุ 1 มุมเป็ นมุมป้าน
2) ไม่มีมมุ เท่ากัน
3) ไม่มีแกนสมมาตร
2. ส่ วนประกอบของสามเหลียม
B
A D C
3.สมบัติรูปสามเหลียม
1. มุมภายในรูปสามเหลียมทัง 3 มุมรวมกันได้ 180 องศา
2. ผลบวกของด้ านสองด้ านจะมากกว่าอีกด้ านทีเหลืออยู่
3. มุมภายนอกทีเกิดจากการต่อด้ านใดด้ านหนึงออกไปจะเท่ากับผลบวกของมุมภายในทีไม่ใช่มมุ
ประชิด
4. ผลบวกของมุมภายนอกทีเกิดจากการต่อด้ านทังสามออกไปในทิศทางตามเข็มนาฬิกาเท่ากับ
360 องศา
2x
60o 45o
2
70o
x 3x
3
80o
120o
4x
4. ความยาวรอบรูปสามเหลียม
B
กําหนรูปสามเหลียม ABC
ความยาวรอบรูป เท่ากับ AB BC CA
A C
6 นิว
60o
ความยาวรอบรูป = …………………………
4.
6 นิว
5.
60o
5 ซม.
30o
60o
ความยาวรอบรูป = …………………………
10 ซม.
7. 3
120o
8 9
ความยาวรอบรูป = …………………………
8.
13 ซม.
15 ซม.
10 ซม.
ความยาวรอบรูป = …………………………
5. พืนทีรู ปสามเหลียม
….………..……………………………………………………… อ. รังสรรค์ (GTRping)
Entrance M.1 ……………………………………………………………………..…
6
A C
b
ตัวอย่ าง 7 จงหาพืนทีของรูปสามเหลียมต่อไปนี
1.
6 ซม.
พืนที = …………………………
10 ซม.
2.
13 ซม.
5 ซม.
พืนที = …………………………
3.
16
พืนที = …………………………
8
4.
4
5
พืนที = …………………………
7
5.
4
3
4
พืนที = …………………………
….………..……………………………………………………… อ. รังสรรค์ (GTRping)
Entrance M.1 ……………………………………………………………………..…
8
ตัวอย่ าง 8 จงหาพืนทีส่วนทีแรเงา
5 ซม.
12 ซม.
18 ซม.
ตัวอย่ าง 9 จงหาพืนทีส่วนทีแรเงา
4 ซม.
10 ซม.
16 ซม.
4 ซม. A
3 ซม.
B
7 ซม.
C
10 ซม.
….………..……………………………………………………… อ. รังสรรค์ (GTRping)
Entrance M.1 ……………………………………………………………………..…
9
A B E 65o F
ตัวอย่ าง 12 มีสามเหลียม ABC และสามเหลียม DEF ดังรูป พืนทีสามเหลียม DEF เท่ากับ 6.4
ตารางเซนติเมตร จงหาพืนทีสามเหลียม ABC
D
4 ซม. 4 ซม.
ตัวอย่ าง 13 ABCD เป็ นรูปสีเหลียมจัตรุ ัส ซึงมีด้านยาวด้ านละ 30 ซม. จุด P และ Q เป็ นจุดทีอยู่
บนด้ าน BC และ CD ตามลําดับ ถ้ าจุด P อยู่กึงกลางของด้ าน BC และด้ าน QD ยาว
12 ซม. จงหาพืนที APQ
A D
B P C
ตัวอย่ าง 14 จงหาพืนทีส่วนทีแรเงา
4
0
2 4
ตัวอย่ าง 16 จงหาพืนทีส่วนทีแรเงา
10 ซม.
8 ซม.
20 ซม.
6 ซม.
12 ซม. 10 ซม. 24 ซม.
8 ซม.
O
A B
12.4 ซม.
….………..……………………………………………………… อ. รังสรรค์ (GTRping)
Entrance M.1 ……………………………………………………………………..…
11
สมบัติรูปสามเหลียม(เพิมเติม)
1. สมบัติเกียวกับความยาวด้ านและพืนที
C
A D B
2. สมบัติเกียวกับรูปสามเหลียมคล้ าย
รูปสามเหลียม 2 รูปจะคล้ ายกัน ก็ตอ่ เมือ มีมมุ ทังสามคูเ่ ท่ากันคูต่ อ่ คู่
B
A C P R
C
B
D
C D E B
20
b 5
2.5
a
12
2.
24
b
a
18
3.
10
6 a
P
O R
D
C
A B
E F G H
ตัวอย่ าง 25 จากรูปจงหาค่าของ y
40o
ตัวอย่ าง 26 ABCD เป็ นรูปสีเหลียมจัตรุ ัส EF เป็ นเส้นแบ่งครึง ABCD ถ้ าพับมุม A และ B ของ
สีเหลียมจัตรุ ัสนีให้ จดุ ทังสองไปพบกันบนเส้ น EF ทีจุด G ดังรูป จงหาค่าของมุม x
A D
E F
G
B C
20 ซม. 25 ซม.
30 ซม.
ตัวอย่ าง 28 ให้ ABC เป็ นสามเหลียมใดๆ และจุด D , E และ F คือจุดทีเกิดจากการต่อด้ าน AB ,
B C
D E
สีเหลียม
1. ชนิดของสีเหลียม
สีเหลียม เป็ นรูปปิ ดทีมีด้านสีด้ าน มุมสีมุม แต่ละมุม เรียกว่า มุมภายในของรูปสีเหลียม ซึงมุม
ภายในรูปสีเหลียมรวมกันเท่ากับ 360 องศา รูปสีเหลียมแบ่งเป็ นชนิดต่างๆได้ ดงั นี
ชนิดของสีเหลียม สมบัติของสีเหลียม
1. รูปสีเหลียมจัตรุ ัส (1) มีด้านทังสียาวเท่ากัน
(2) ด้ านตรงทังสองคูข่ ้ ามขนานกัน
(3) มุมทังสีเป็ นมุมฉาก
(4) เส้ นทแยงมุมทังสองเส้ นมีความยาวเท่ากัน
(5) เส้ นทแยงมุมทังสองเส้ นตัดกันเป็ นมุมฉาก
(6) เส้ นทแยงมุมทังสองเส้ นตัดแบ่งครึงซึงกันและกัน
(7) มีแกนสมมาตร 4 แกน
(ต่ อ)
ชนิดของสีเหลียม สมบัติของสีเหลียม
4. รูปสีเหลียมขนมเปี ยกปูน (1) มีด้านทังสียาวเท่ากัน
(2) ด้ านตรงข้ ามทังสองคูข่ นานกัน
(3) มุมตรงข้ ามมีขนาดเท่ากัน แต่ไม่เป็ นมุมฉาก
(4) เส้ นทแยงมุมทังสองเส้ นมีความยาวไม่เท่ากัน
(5) เส้ นทแยงมุมทังสองเส้ นตัดกันเป็ นมุมฉาก
(6) เส้ นทแยงมุมทังสองเส้ นตัดแบ่งครึงซึงกันและกัน
(7) ไม่มีแกนสมมาตร
5. รูปสีเหลียมคางหมู
มีด้านขนานกันเพียง 1 คู่
7. รูปสีเหลียมด้ านไม่เท่า
เป็ นรูปสีเหลียมทีมีด้านทังสียาวไม่เท่ากัน
ตัวอย่ าง 1. จงเติมคําตอบลงในช่องว่าง
1) รูปสีเหลียมทีมีด้านตรงข้ ามยาวเท่ากัน แต่ด้านทีอยู่ตด
ิ กันยาวไม่เท่ากัน
เรียกว่า………………………………………………………………………………
2) รูปสีเหลียมทีมีเส้ นทแยงมุมแบ่งครึงซึงกันและกันได้ แก่ ………………………………..
………………………………………………………………………………………
3) รูปสีเหลียมทีด้ านขนานกัน 2 คู่
ได้ แก่…………………………………………………………………………………
4) รูปสีเหลียมทีมีเส้ นทแยงมุมยาวเท่ากันได้ แก่ ……………………………………………
5) รูปสีเหลียมทีมีเส้ นทแยงมุมตัดกันเป็ นมุมฉากได้ แก่ ……………………………………..
………………………………………………………………………………………
6) รูปสีเหลียมทีมีเส้ นทแยงมุมตัดแบ่งครึงซึงกันและกัน ได้ แก่ ………………………………
………………………………………………………………………………………
7) รูปสีเหลียมทีเส้ นทแยงมุมแบ่งออกเป็ นสามเหลียม 2 รูปทีมีพืนทีเท่ากัน ได้ แก่
………………………………………………………………………………………
ตัวอย่ าง 2. จากรูป จงตอบคําถามต่อไปนี
จากรูปด้ านซ้ ายมีรูปสีเหลียมชนิดใดบ้ าง
…………………………………………………
รูปสีเหลียมผืนผ้ ามี………………………...รูป
รูปสีเหลียมคางหมูมี ………………………รูป
รูปสีเหลียมขนมเปี ยกปูนมี……………….รูป
รูปสีเหลียมคางหมูมี ………………………รูป
2. ความยาวรอบรูปสีเหลียม
ตัวอย่ าง 1. จงหาความยาวรอบรูปของสีเหลียมแต่ละรูปต่อไปนี
1. 5 ซม.
ความยาวรอบรูป =……………...
2. 14 ซม.
10 ซม.
ความยาวรอบรูป =……………...
3.
4.5 ซม.
ความยาวรอบรูป =……………...
4.
6 นิว 60o
ความยาวรอบรูป =……………...
5.
4 ซม.
3 ซม.
ตัวอย่ าง 5. จงหาความยาวรอบรูปต่อไปนี
10
1.
2 6
10 ความยาวรอบรูป =……………...
2.
12
ความยาวรอบรูป =……………...
3.
15 ความยาวรอบรูป =……………...
20
4.
10
ความยาวรอบรูป =……………...
16
5.
15
ความยาวรอบรูป =……………...
15
6.
19
ความยาวรอบรูป =……………...
21
7.
10
ความยาวรอบรูป =……………...
8
ตัวอย่ าง 7. จงหาคําตอบต่อไปนี
1) รูปสีเหลียมจัตรุ ัสทีมีความยาวรอบรูป 48 เซนติเมตร จะมีความยาวด้ านละ
………………………เซนติเมตร
2) รูปสีเหลียมผืนผ้ าทีมีความยาวรอบรูป 35 เซนติเมตร และกว้ าง 7 เซนติเมตรจะมี
ด้ านยาว ……………………………….เซนติเมตร
3) รูปสีเหลียมรูปว่าวมีเส้ นรอบรูป 42 นิว และมีด้านสันกว่ายาว 6 นิว จะมีด้านยาว
สุดเท่ากับ …………………… นิว
4) รูปสีเหลียมด้ านขนานมีเส้ นรอบรูป 44.4 นิว และมีด้านยาวกว่ายาว 12.2 นิวจะมี
ด้ านสันกว่ายาวเท่ากับ …………………… นิว
5) นําเชือกมาขดเป็ นรูปสีเหลียมจัตรุ ัส จะมีความยาวด้ านละ 10.5 เซนติเมตร แต่ถ้า
นํามาขดใหม่เป็ นรูปสีเหลียมรูปว่าว โดยให้ ด้านสันกว่ามีความยาวด้ านละ 8 เซนติเมตร
แล้ วด้ านทียาวกว่าจะมีความยาวด้ านละ …………………… เซนติเมตร
6) เชือกเส้ นหนึงขดเป็ นรูปสีเหลียมผืนผ้ า มีด้านกว้ าง 7 นิว ด้ ายยาว 10 นิว ถ้ านํา
เชือกเส้ นนีมาขดเป็ นรูปสามเหลียมด้ านเท่าจะมีความยาวด้ านละ………………นิว
6 ซม.
มาตราส่วน 1 ซม. : 10 ม.
ตัวอย่ าง 9 ทีดินแปลงมีแผนทีแสดงดังข้ างล่าง จงหาว่าถ้ าต้ องการปลูกต้นไม้ โดยรอบทีดินยกเว้ นด้ าน
ทีติดกับถนน และแต่ละต้ นห่างเท่าๆกัน จะใช้ ต้นไม้ น้อยทีสุดกีต้ น
24 ซม.
12 ซม.
มาตราส่วน 1 : 1000
ตัวอย่ าง 10. เชือกเส้นหนึงยาว 16 เมตร นํามาสร้ างเป็ นรูปสีเหลียมมุมฉากได้ กีแบบทีความ
ยาวด้ านเป็ นจํานวนเต็ม จะสามารถสร้ างได้ กีรูป
3. พืนทีรู ปสีเหลียม
การหาพืนทีรูปสีเหลียมสามรถหาโดยใช้ สตู รต่อไปนี
ชนิดของสีเหลียม สูตรพืนที
1. รูปสีเหลียมจัตรุ ัส พืนที = ด้ าน ด ด้ าน
1
= ด ผลคูณเส้นทแยงมุม
2
2. รูปสีเหลียมผืนผ้ า ยาว
กว้ าง พืนที = กว้ าง ด ยาว
3. รูปสีเหลียมด้ านขนาน
สูง พืนที = ฐาน ด สูง
ฐาน
4. รูปสีเหลียมขนมเปี ยกปูน
พืนที = ฐาน ด สูง
สูง
1
= ด ผลคูณเส้นทแยงมุม
ฐาน 2
5. รูปสีเหลียมคางหมู
สูง สูง 1
พืนที = ด ผลบวกด้ านคูข่ นาน ด สูง
2
6. รูปสีเหลียมรูปว่าว
1
พืนที = ด ผลคูณเส้ นทแยงมุม
2
7. รูปสีเหลียมด้ านไม่เท่า
เส้ นกิง
พืนที= 1 ดผลบวกเส้ นกิงดเส้ นทแยงมุม
เส้ นกิง 2
4 ซม.
7 ซม.
2 ซม.
8 ซม.
13 ซม.
พืนที =…………………….... พืนที =……………………....
8 นิว.
3. 4.
9 นิว 5 นิว
5 นิว
4 ซม.
12 นิว
10 ซม.
10 นิว
พืนที =…………………….... พืนที =……………………....
5. 6.
5 1.5
3 3.2
2.5
7. 8. 14
12
19 5
12.5
5
20
9. 10.
13
12
30
3 4
40
12 6 18
3 3
6
6
2
20
20
พืนที =…………………….... พืนที =……………………....
3. 4 4. 8
6 8
6
10
4 4
6
4 6
14 10
52 นิว 10 ซม.
10 ซม.
นิว 40
8 ซม.
พืนที =…………………….... พืนที =……………………....
7. 8.
6 ซม.
10 ซม.
18 ซม.
13 ซม.
พืนที =…………………….... พืนที =……………………....
9. 10.
10 วา 24 ม.
20 วา
15 วา
30 วา
25 วา
25 วา
30 ม.
ตัวอย่ าง 15. มีกระดาษสีเหลียมจัตรุ ัสดังรูป ถ้ าลากเส้ นจากแต่ละด้ านเป็ นมุม 45 องศา จากจุดที
ห่างจากมุมแต่ละมุม 5 ซม. จะทําให้ เกิดสีเหลียมจัตรุ ัสขึนภายใน ดังรูป
จงหาพืนทีส่วนทีแรเงา
5 ซม.
420 ม.
100 ม.
ตัวอย่ าง 17. ทีดินแปลงหนึงเป็ นรูปสีเหลียมผืนผ้ าดังรูป ขุดบ่อตามด้ านทังสีด้ านให้ บ่อกว้ าง 4 เมตร
จะเหลือทีดินสําหรับเพาะปลูกเท่าไรนี
420 ม.
100 ม.
H C
G D
F E
วงกลม
ทบทวนเรืองรูปวงกลม
วงกลม เป็ นรูปปิ ดทีมีสว่ นโค้ งล้ อมรอบ โดยจุดทุกจุดทีอยู่บนส่วนโค้ งจะอยูห่ ่างจากจุดคงทีจุด
หนึงเป็ นระยะทางเท่ากัน เราเรียกจุดคงทีนันว่า จุดศูนย์กลาง ของรูปวงกลม และเรียกส่วนโค้ งนันว่า
เส้ นรอบวงของวงกลม
C
O B
A
E F
2. วงกลมสัมผัสกันภายใน
3. วงกลมตัดกัน
C
เมือสร้ างวงกลม 2 วง ให้ มีจดุ ศูนย์กลาง
A B ห่างกันมากกว่าผลต่างของความยาวรัศมีแต่ต้อง
น้ อยกว่าผลลบวกของความยาวรัศมีของวงกลมทัง
D
สอง
เราเรียกจุด C และจุด D ว่า จุดตัด และ
เรียก CD ว่า คอร์ ดร่ วม
สมบัตเิ กียวกับวงกลม
2. มุมภายในครึงวงกลมมีขนาดของมุมเท่ากับ 90 องศา
4. ระยะทางจากจุดสัมผัสทังสองจุดไปยังจุดภายนอกเท่ากัน
Q
O P
เส้ นรอบวงกลมและพืนทีวงกลม
พืนทีวงแหวน
2
R
พืนทีวงแหวน = R – r2
2
r = (R – r2)
= (R + r)(R – r)
สามเหลียมฐานโค้ ง
r พืนทีสามเหลียมฐานโค้ ง r2
360
1
a r
2
พืนทีวงรี
a
b
พืนทีวงรี = ab
Problem 1. จงหาพืนทีและเส้นรอบวงของวงกลมต่อไปนี
1.
2.
3.
4.
5.
6.
Problem 2. จงหาพืนทีส่วนทีแรเงา
1.
8.4
พืนทีแรเงา = …………………….
18.9
2.
35 20
พืนทีแรเงา = …………………….
3.
14
พืนทีแรเงา = …………………….
6
4.
5.
Problem 3. จงหาพืนทีของแต่ละรูปต่อไปนี
1.
300
7
พืนทีแรเงา = …………………….
2.
3.5
พืนทีแรเงา = …………………….
10
3.
20
12
พืนทีวงรี = …………………….
4.
24
10
พืนทีวงรี = …………………….
Problem 4. จงตอบคําถามต่อไปนี
1) ในวงกลมหนึงวงจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางได้…………………………………...เส้ น
2) คอร์ดทียาวทีสุดคือ……………………………………………………………
3) วงกลม 2 วงจะสัมพันธ์กนั …………………ประเภท คือ
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………
4) วงกลม O มีรัศมียาว 5 เซนติเมตร และวงกลม Q มีรัศมียาว 7 เซนติเมตร ถ้ าจุด
ศูนย์กลางของวงกลมทังสองห่างกัน 8 เซนติเมตร วงกลมทังสองจะมีความสัมพันธ์กนั แบบ
……………………………………………………………….
5) วงกลม O มีรัศมียาว 4 เซนติเมตร และวงกลม Q มีรัศมียาว 6 เซนติเมตร ถ้ าจุด
ศูนย์กลางของวงกลมทังสองห่างกัน 2 เซนติเมตร วงกลมทังสองจะมีความสัมพันธ์กนั แบบ
……………………………………………………………….
6) วงกลม O มีรัศมียาว 19 เซนติเมตร และวงกลม Q มีรัศมียาว 14 เซนติเมตร ถ้ าจุด
ศูนย์กลางของวงกลมทังสองห่างกัน 9 เซนติเมตร วงกลมทังสองจะมีความสัมพันธ์กนั แบบ
……………………………………………………………….
7) วงกลม O มีรัศมียาว 11 เซนติเมตร และวงกลม Q มีรัศมียาว 3 เซนติเมตร ถ้ าจุด
ศูนย์กลางของวงกลมทังสองห่างกัน 15 เซนติเมตร วงกลมทังสองจะมีความสัมพันธ์กนั แบบ
……………………………………………………………….
8) วงกลม 2 วงทีมีพืนทีเท่ากัน แล้ วเส้ นรอบวงทัง 2 วงนัน จะ…………………..
9) วงกลม 2 วงทีมีเส้ นรอบวงเท่ากัน แล้ วพืนทีทัง 2 วงนัน จะ…………………..
10) วงกลม O มีรัศมียาว 10 เซนติเมตร ถ้ าจุดศูนย์กลางของวงกลมทังสองห่างกัน 6
เซนติเมตร และวงกลมทังสองสัมผัสกันภายใน แล้ ววงกลม Q จะต้ องรัศมีเท่าใด
………………………………………………………………………………
11) วงกลม O มีรัศมียาว 10 เซนติเมตร ถ้ าจุดศูนย์กลางของวงกลมทังสองห่างกัน 6
เซนติเมตร และวงกลมทังสองสัมผัสกันภายนอก แล้ ววงกลม Q จะต้ องรัศมีเท่าใด
………………………………………………………………………………
12) วงกลม O มีรัศมียาว 10 เซนติเมตร ถ้ าจุดศูนย์กลางของวงกลมทังสองห่างกัน
6 เซนติเมตร และวงกลมทังสองสัมผัสกันตัดกัน แล้ ววงกลม Q จะต้ องรัศมีเท่าใด
………………………………………………………………………………
13) วงกลม 2 วงทีมีจดุ ศูนย์กลางร่วมกันจะทําให้ เกิด………………………………
32 a
60
a
a = ……………... a = ……………...
3. 4.
a
a
58o
a = ……………... a = ……………...
5. 6.
a
25o 34o
a
a = ……………... a = ……………...
5. 6. a
4
65o
a = ……………... a = ……………...
7. 8.
21
12
a
60o
a
5
a = ……………... a = ……………...
……………………………………………………………………….…… อ. รังสรรค์ (อ.ปิ ง)
10
Entrance M.1 …………………………………………………………………..…..…
Problem 6. จงหาพืนทีส่วนทีแรเงา
1.
14
พืนทีแรเงา = …………………….
2.
14
พืนทีแรเงา = …………………….
3.
10
พืนทีแรเงา = …………………….
4.
12
7 พืนทีแรเงา = …………………….
12
5.
16
14
21
1
พืนทีแรเงา = …………………….
6.
20
พืนทีแรเงา = …………………….
7.
4.2
พืนทีแรเงา = …………………….
8.
5
พืนทีแรเงา = …………………….
9. 28
28
พืนทีแรเงา = …………………….
10.
พืนทีแรเงา = …………………….
11.
56
พืนทีแรเงา = …………………….
12.
พืนทีแรเงา = …………………….
13.
2.1 0.3
120o
พืนทีแรเงา = …………………….
14. 5
12
10
พืนทีแรเงา = …………………….
15.
14
พืนทีแรเงา = …………………….
16.
พืนทีแรเงา = …………………….
18. 4
พืนทีแรเงา = …………………….
19.
10
พืนทีแรเงา = …………………….
20.
5
พืนทีแรเงา = …………………….
2
21.
r = 21
พืนทีแรเงา = …………………….
22.
r = 21
พืนทีแรเงา = …………………….
23.
r = 21
พืนทีแรเงา = …………………….
24.
10
พืนทีแรเงา = …………………….
25.
35
พืนทีแรเงา = …………………….
26.
5
พืนทีแรเงา = …………………….
14 ซม
14 ซม
14 ซม
A D
6 AC = …………………….
พืนที สีเหลียม ABCD = …………………….
B C
1
Problem 9. รูปวงกลมแต่ละรูปมีพืนที 40 ตารางเซนติเมตร ถ้ าส่วนทีแรเงามีพืนทีเป็ น ของพืนที
5
รูปวงกลมแต่ละรูป ส่วนทีไม่แรเงาทังหมดมีพืนทีเท่าไร
3 cm
60o
3 cm
100 m.
40 m.
10 m.
Problem 13. จากรูป กําหนดให้ DABC เป็ นสามเหลียมมุมฉาก และเส้นโค้ งเป็ นส่วนของเส้ นรอ
บวงของวงกลม จงหาพืนทีแรเงา
8 cm
A 10 cm C
1.รู ปเรขาคณิตสามมิติ
รู ปเรขาคณิตสามมิติ หรือ รู ปทรงสามมิติ หรือทรงตัน (Solid) หมายถึง วัตถุทีมีความยาว
ความสูง และความหนา เช่น ก้ อนหิน อิฐ ต้นไม้ กล่อง เป็ นต้ น รูปเรขาคณิตสามมิติ ทีควรทราบ ได้ แก่
หน่ วยการวัดปริมาตร
1000 ลบ.มม. = 1 ลบ.ซม. 1,000,000 ลบ.ซม. (1 cc.) = 1 ลบ.ม.
1000 มิลลิลิตร = 1 ลิตร 1000 ลิตร = 1 กิโลลิตร
1 ลบ.ซม. = 1 มิลลิลิตร 1000 ลบ.ซม. = 1 ลิตร 1000 ลิตร = 1 ลบ.ม.
20 ลิตร = 1 ถัง 100 ถัง = 1 เกวียน
1 เกวียน = 2 ลบ.ม. 1 เกวียน = 2,000 ลิตร
3 ช้ อนชา = 1 ช้ อนโต๊ ะ 16 ช้ อนโต๊ ะ = 1 ถ้ วยตวง 1 ถ้ วยตวง = 8 ออนซ์
ปริมาตรของรูปเรขาคณิตสามมิติ
ปริ มาตรของปริ ซมึ ใดๆ = พืนทีฐาน สูง ปริ มาตรของทรงกระบอก = พืนทีฐาน สูง =
2
r h
ตัวอย่ าง
1. กําหนดแทนความยาวของด้ าน จงหาปริมาตรของรูปทรงต่อไปนี
(1) (2)
4
2
6
8 6
6
(3) 3 (4)
2
4
4
2
5
5
10 2
2
5
2
2
(5) (6) 4
2
2
6 4 2
5 2
1 4 8 6 2
7 3
5 10 8
21 10
(7) (8) 6
6
3 7 4
15
4
3
5
3 5
4 4
5
12
4
9.5
4 5
15
7 12
3
(3) 50 (4) 8
20 2
2.4
15
5
(5) (6) 10
13
7
16
5 12
3 14 30
7
6
5
5
5
(3) (4)
14
2
12
(5) (6)
3 12
18
15
10
(7) (8)
20 3
บทประยุกต์
1. การเทียบบัญญัติไตรยางค์
การเทียบบัญญัติไตรยางค์มี 2 แบบ คือ บัญญัติไตรยางค์แบบโดยตรง และ บัญญัติไตรยางค์
แบบผกผัน(ส่วนกลับ)
ตัวอย่ าง 1 : ปากการ 5 ด้ ามราคา 35 บาท ถ้ าซือปากกา 8 ด้ าม จะต้ องจ่ายเงินกีบาท
(บัญญัติไตรยางค์แบบโดยตรง)
ตัวอย่ าง 3 : ถ้ าซือแก้ วหนึงโหลราคา 120 บาท ถ้ ามีเงิน 350 บาท จะซือแก้ วได้ กีใบ
(บัญญัติไตรยางค์แบบโดยตรง)
แบบฝึ กหัดที 1
1. จงตอบคําถามต่อไปนี
(1) ไข่ 12 ฟอง ราคา 24 บาท ถ้ าซือไข่ 5 ฟองจะต้ องจ่ายเงินเท่าใด
..................................................................................................................................
(2) กระเป๋ า 25 ใบ ราคา 325 บาท ถ้ าซือกระเป๋ า 3 ใบ จะต้ องจ่ายเงินกีบาท
..................................................................................................................................
(3) ริ บบิน 6 ม้ วน ยาว 180 เมตร ริ บบิน 13 ม้ วนจะยาวกีเมตร
..................................................................................................................................
(4) ผ้ า 100 เมตร ราคา 4,500 บาท ถ้ ามีเงิน 2,565 บาท จะซือผ้ าได้ กีเมตร
..................................................................................................................................
(5) รถยนต์คน ั หนึงแล่นได้ ระยะทาง 152 กิโลเมตร ใช้ เวลา 2 ชัวโมง ถ้ าแล่นระยะทาง 9.5 กิโลเมตร
จะใช้ เวลากีชัวโมง
..................................................................................................................................
(6) ถ้ าสบู่ 6 ก่อนราคา 31.50 บาท ถ้ าซือสบู่ 2 ก่อนจะต้ องจ่ายเงินเท่าไร
..................................................................................................................................
(7) ถ้ ายาสีฟัน 16 หลอด ราคา 400 บาท มีเงิน 950 บาท จะซือได้ ทงหมดกี ั หลอด
..................................................................................................................................
(8) ถ้ าข้ าวสาร 7 กระสอบ ตวงเป็ นถังได้ 40 ถัง ข้ าวสาร 21 กระสอบ จะตวงได้ กีถัง
..................................................................................................................................
(9) รถยนต์คน ั หนึงวิงระยะทาง 140 กิโลเมตร ใช้ นํามัน 10 ลิตร ถ้ าในถังนํามัน มีนํามันเหลืออยู่
33 ลิตร จะวิงได้ ระยะทางกีกิโลเมตร
..................................................................................................................................
(10) ทีนา 100 ไร่ คนงาน 8 คน เกียวข้ าวเสร็จภายในเวลา 6 วัน ถ้ าคนงานมี 12 คน จะเกียว
ข้ างเสร็จในเวลากีวัน
..................................................................................................................................
(11) คนงาน 5 คน ทํางานอย่างหนึงเสร็จภายในเวลา 2 วัน ถ้ ามีคนงาน 10 คน ทํางานอย่างเดิม
จะเสร็จภายในเวลากีวัน
..................................................................................................................................
(12) ไก่ 20 กินข้ าวเปลือก 1 กระสอบ หมดในเวลา 8 วัน ถ้ าเลียงไก่ 100 ตัว จะกินข้ าวเปลือก
1 กระสอบหมดในเวลากีวัน
..................................................................................................................................
2. ร้ อยละ
ตัวอย่ าง 9 : ร้ านค้ าได้ ประกาศลดราคา 15 % ของราคาทีปิ ดไว้ ถ้ าทีปิ ดราคาไว้ 400 บาท ถ้ าผู้ซือ
จะต้ องจ่ายเงินกีบาท
ทุนจริง 100
ขาย ลดราคา% ลดราคา 100
= =
ขาย % ราคาทีติด
(4) ซือลูกสุนขั มา 5 ตัว ขายไปตัวละ 1,125 บาท ทําให้ ได้กําไร 12.5% จงหาราคาทุน
(7) ซือโต๊ ะมาราคา 720 บาท ขายไป 450 บาท ขาดทุนไปร้ อยละเท่าใด
(8) ติดราคาหม้ อหุงข้ าวไฟฟ้า 1,250 บาท ขายจริง 1,125 บาท ลดราคากีเปอร์เซ็นต์
(9) ซือเสือมาขายราคาตัวละ 120 บาท และต้ องการขายให้ ได้ กําไรตัวละ 10% ถ้ าซือมาขาย
ทังหมด 50 ตัวเราจะขายได้ เงินกีบาท
2
(14) ซือของ 6,721 บาท ขายไปได้ กําไร 3 % ขายของไปเท่าใด
5
(15) ขายกระเป๋ าเดินทาง 1,450 บาท ได้ กําไร 16% ซือกระเป๋ ามาราเท่าใด
3
(16) ขายทีดินราคา 365,000 บาท ขาดทุน 8 % ซือทีดินมาราคาเท่าใด
4
(18) ขายบ้ านพร้ อมทีดินราคา 1,807,500 บาท ได้ กําไร 20.5% จงหาราคาทุน
(21) พ่อค้ าขายโทรทัศน์ 4,400 บาท หลังจากทีได้ ลดราคาให้ ผ้ ซู ือแล้ ว 12% จงหาว่าเดิมพ่อค้ า
ติดราคาไว้ กีบาท
(2) ขายกล้ องถ่ายรูปไปได้ เงิน 3,325 บาท ขาดทุนอยู่ 5% ถ้ าอยากได้ กําไร 5% จะต้ องขาย
กล้ องถ่ายรูปในราคาเท่าใด
(5) ขายวัวตัวหนึงราคา 10,260 บาท ได้ กําไร 8% ถ้ าต้ องการกําไร 15% ต้ องขายวันตัวนัน
ราคาเท่าใด
(6) สมบัติขายเครืองซักผ้ า 6,480 บาท ขาดทุน 10% ถ้ าเขาต้ องการกําไร 20% จะต้ องบอก
ขายราคาเท่าใด
(7) ราคาต้ นทุนของรองเท้ า 800 บาท ผู้ผลิตขายให้ พ่อค้ าคนกลางได้ กําไร 5% พ่อค้ าคนกลาง
นําไปขายต่อโดยติดราคาเอากําไร 15% พ่อค้ าคนกลางขายรองเท่าราคาเท่าใด
(10) พ่อค้ าต้ องการขายโทรทัศน์ให้ ได้ กําไร 20% จึงติดราคาไว้ 19,200 บาท แต่ลดราคาให้ ผ้ซู ือ
ทีซือด้ วยเงินสด 10% เขาจะยังคงได้ กําไรอยู่กีเปอร์เซ็นต์
4. ดอกเบีย
ความหมายของศัพท์ทีเกียวกับการคิดดอกเบีย
(1) เงินต้ น หมายถึง จํานวนเงินทีนําไปฝากธนาคาร
(2) ดอกเบีย หมายถึง ผลประโยชน์ตอบแทนทีผู้ฝากได้ รบ ั เมือนําเงินไปฝากครบระยะเวลาหนึง
(3) อัตราดอกเบีย หมายถึง การคิดดอกเบียจากเงินต้ น 100 บาท ในเวลา 1 ปี
(4) เงินรวม หมายถึง เงินต้ น + ดอกเบีย
(5) การฝากสะสมทรัพย์ หรื อฝากออมทรัพย์ ธนาคารจะคิดดอกเบียให้ ตามจํานวนวันทีฝาก
โดยคิดจากเงินทีเหลือคงทีอยู่ในสมุดฝาก (คิดดอกเบียแบบทบต้น)
(6) การฝากประจํา ธนาคารจะคิดดอกเบียให้ ตามอัตราและระยะเวลาของแต่ละประเภท เช่น
ฝากประจํา 3 เดือน ฝากประจํา 6 เดือน ฝากประจํา 1 ปี เป็ นต้น
(3) วิทยานําเงิน 4,000 บาทไปฝากธนาคาร เป็ นเวลา 150 วัน ในอัตราดอกเบียร้ อยละ 10 ต่อ
ปี วิทยาถอนเงินทังหมด เขาจะได้ เงินรวมเท่าใด
1. 20,000 6% 1 ปี
2. 60,000 9% 1 ปี
3. 36,000 8% 6 เดือน
(7) ฝากเงิน 2,400 บาท อัตราดอกเบียร้ อยละ 5 ต่อปี เมือครบปี จะได้ เงินดอกเบียเท่าใด
(11) ฝากเงิน 36,500 บาท อัตราดอกเบีย 8% ต่อปี เมือฝากครบ 180 วัน จึงไปถอนธนาคาร
คิดดอกเบียให้ เท่าใด
(13) ฝากเงิน 219,000 บาท เป็ นเวลา 240 วัน อัตราดอกเบีย 8.5% ต่อปี จะได้ เงินรวมเท่าใด
(14) ฝากเงิน 40,000 บาท เป็ นเวลา 2 ปี ธนาคารคิดอัตราดอกเบียร้ อยละ 10 ต่อปี เมือครบ
กําหนดจะได้ เงินรวมเท่าใด