You are on page 1of 1

ก�ำหนดการให้วัคซีนตามแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค

ของกระทรวงสาธารณสุข ปี 2561

อายุ วัคซีนที่ให้ ข้อแนะน�ำ


BCG (วัคซีนป้องกันวัณโรค) ฉีดให้เด็กก่อนออกจากโรงพยาบาล
แรกเกิด
HB1 (วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี) ควรให้เร็วที่สุดภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด
1 เดือน HB2 (วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี) เฉพาะรายที่คลอดจากมารดาที่เป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบบี
DTP-HB1 (วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี)
2 เดือน
OPV1 (วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน)
DTP-HB2 (วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี)
ให้วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดฉีด 1 เข็ม พร้อมกับวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิด
4 เดือน OPV2 (วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน) รับประทาน 1 ครั้ง
IPV1 (วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดฉีด)
DTP-HB3 (วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี)
6 เดือน
OPV3 (วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน)
9 เดือน MMR1 (วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน) หากไม่ได้ฉีดเมื่ออายุ 9 เดือน ให้รีบติดตามฉีดโดยเร็วที่สุด
1 ปี LAJE1 (วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์)
DTP4 (วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน)
10 0 5 10
20 C 20
30 30
40 40
50 50

1 ปี 6 เดือน bOPV
OPV4 (วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน)
LAJE2 (วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์)
2 ปี 6 เดือน
MMR2 (วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน)
DTP5 (วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน)
10 0 5 10
20 C 20
30 30
40 40
50 50

4 ปี DTP DTP-HB HB HPV


OPV5 (วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน) ªÑé¹·Õè 3

MMR (วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน) dT JE
(เชื้อตาย) IPV Flu Rabies

HB (วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี)
LAJE (วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์)
เฉพาะรายที่ได้รับไม่ครบตามเกณฑ์
IPV (วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดฉีด)
ประถมศึกษาปีที่ 1
dT (วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก) หมายเหตุ : 1. น้ำยาทำละลายวัคซ�น หามแชแข็ง ใหเก็บในตูเย็นที่อุณภูมิ +2 oC ถึง + 8 oC
โดยวางคูกับวัคซ�นชนิดนั้นๆ
OPV (วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน) 2. หามเก็บวัคซ�นไวในถาดรองใตชองแชแข็ง, ฝาประตูตูเย็น และชองแชผัก

1. ให้ในกรณีที่ไม่มีหลักฐานว่าเคยได้รับเมื่อแรกเกิดและไม่มีแผลเป็น
BCG (วัคซีนป้องกันวัณโรค) 2. ไม่ให้ในเด็กติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการของโรคเอดส์
ระยะห่างระหว่างเข็ม ห่างกันอย่างน้อย 6 เดือน แผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของ
ประถมศึกษาปีที่ 5 HPV1 และ HPV2 (วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกจากเชื้อเอชพีวี) ประเทศไทย ก�ำหนดให้ฉีดเด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.5
ประถมศึกษาปีที่ 6 dT (วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก) แผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของประเทศไทย ก�ำหนดให้ฉีดเด็กนักเรียนชั้น ป.6
หมายเหตุ
1. วัคซีนทุกชนิดถ้าไม่สามารถเริ่มให้ตามก�ำหนดได้ ก็เริ่มให้ทันทีที่พบครั้งแรก
2. วัคซีนที่ต้องให้มากกว่า 1 ครั้ง หากเด็กเคยได้รับวัคซีนมาบ้างแล้ว และไม่มารับครั้งต่อไปตามก�ำหนดนัด ให้วัคซีนครั้งต่อไปนั้นได้ทันทีเมื่อพบเด็ก โดยไม่ต้องเริ่มต้นครั้งที่ 1 ใหม่

ก�ำหนดการให้วัคซีนแก่เด็กที่มารับวัคซีนล่าช้า
ช่วงอายุ 1-6 ปี ตั้งแต่อายุ 7 ปีขึ้นไป
ครั้งที่ ข้อแนะน�ำ
เดือนที่ วัคซีน เดือนที่ วัคซีน
DTP-HB1 dT1
OPV1 OPV1
0 IPV 0 IPV ให้วัคซีน IPV เก็บตกเฉพาะเด็กอายุต�่ำกว่า 7 ปี และเด็กนักเรียนชั้น ป.1
1 (เมื่อพบเด็ก (เมื่อพบเด็ก
ครั้งแรก) MMR1 ครั้งแรก) MMR/ MR
BCG BCG 1. ให้ในกรณีที่ไม่มีหลักฐานว่าเคยได้รับเมื่อแรกเกิดและไม่มีแผลเป็น
2. ไม่ให้ในเด็กติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการของโรคเอดส์
DTP-HB2
HB1
2 1 OPV2 1
LAJE1 LAJE1
dT2
3 2 MMR2 2 OPV2
HB2
DTP-HB3
4 4 7 HB3
OPV3
DTP4 dT3
5 12 OPV4 12 OPV3
LAJE 2 LAJE 2
หมายเหตุ
1. กรณีการให้วัคซีนแก่ผู้ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบถ้วนหรือล่าช้า เด็กจะได้รับวัคซีนตามก�ำหนดครบภายในระยะเวลา 1 ปี จากนั้นให้วัคซีนต่อเนื่องตามที่ก�ำหนดในก�ำหนดการให้วัคซีนปกติ
2. กรณีมีเหตุจ�ำเป็น เหตุอันสมควร หรือเพื่อประโยชน์ต่อผู้รับวัคซีน แพทย์หรือผู้ให้บริการอาจพิจารณาก�ำหนดการให้วัคซีนตามความเหมาะสม
ที่มา : แผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค กองโรคป้องกันด้วยวัคซีน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

You might also like