Professional Documents
Culture Documents
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริง
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริง
¤ÇÒÁÃÙàº×éͧµ¹à¡ÕèÂǡѺ¨íҹǹ¨ÃÔ§
โครงสร้ างของระบบจํานวนจริง
จํานวนจริ ง
h
จํานวนตรรกยะ จํานวนอตรรกยะ
บวก ศูนย์ ลบ
3
ตัวอย่างของจํานวนตรรกยะ เช่น , 5, 0.73, 0.6 เป็ นต้ น
11
h
at
จากตัวอย่างที 1 การเขียนเศษส่วนให้ เป็ นทศนิยมสามารถเขียนได้ ทงทศนิ
ั ยมทีรู้จบและทศนิยมไม่ร้ ูจบแบบ
m
ซํา เพราะฉะนันทศนิยมจึงแบ่งออกได้ เป็ น 2 ชนิด คือ
1. ทศนิยมแบบรู้ จบ คือ ทศนิยมทีจํานวนตัวเลขหลังจุดทศนิยมเป็ นจํานวนรู้จบหรื อมีศน ู ย์ซํา เช่น
0.2, 1.54, 0.38 0 เป็ นต้ น
TR
0.333… = 0.3
2.181818… = 2.18
เป็ นต้ น
–1.125125125… = 1.12 5
2.2 ทศนิยมไม่ ซาแบบไม่
ํ ร้ ูจบ คือ ทศนิยมทีมีตวั เลขหลังจุดทศนิยมมากมายแบบไม่เป็ น
ระบบไม่ซํากันเลย เช่น 1.4142135…, 1.7320508…, 2.6457513… เป็ นต้ น
h
0.a1a2 … ak a k 1 a k 2 ...a m
at
การเขียนทศนิยมไม่ร้ ูจบแบบซําให้ เป็ นเศษส่วนนัน สามารถทําได้ โดยวิธีลดั มีหลักดังนี
=
(a1a 2 ...am ) (a1a 2 ...ak )
m
999...900...0
k ตําแหน่ง m – k ตําแหน่ง
m – k ตัว k ตัว
TR
ตัวอย่ าง 3 จงเขียนทศนิยมต่อไปนีในรูปเศษส่วน
(1) 0. 3 7
G
(2) 0.125 8
(3) 5.314 5
(4) 2.26 7
(5) 3.4 5 3
พิจารณาจํานวนต่อไปนี
4.23133113111…
0.4656556555…
= 3.142857143…
2 = 1.414213562…
จะเห็นว่า จํานวนทีกล่าวข้ องต้ นไม่สามารถเขียนแทนได้ ด้วยเศษส่วนหรื อทศนิยมซํา จํานวนดังกล่าว
h
จึงเป็ นจํานวนอตรรกยะ
ในการคํานวณเรานิยมใช้ จํานวนตรรกยะเป็ นค่าประมาณของจํานวนอตรรกยะ เช่น ใช้
22
7
หรื อ 3.14 เป็ นค่าประมาณของ
ใช้ 1.414 เป็ นค่าประมาณของ 2 เป็ นต้ น
at
m
เราสามารถแทนจํานวนตรรกยะทุกจํานวนได้ ด้วยจุดบนเส้ นจํานวน ในทํานองเดียวกันเราก็สามารถ
แทนจํานวนอตรรกยะได้ ด้วยจุดบนเส้ นจํานวนเช่นเดียวกัน เช่น
จะหาจุดบนเส้ นจํานวนทีแทน ได้ โดยกลิงรูปวงกลมทีมีเส้ นผ่านศูนย์กลาง 1 หน่วย ไปบนเส้ น
TR
0 1 2 3 4
C
2
1 2 1
A
E B D
–2 –1 0 1 2
จุด D แทน 2
เช่น 3+ 2 = 3. 414213562…
เช่น 2 + (– 2 ) = 0
h
2 + 3 = 3.14626…
3.
เช่น 0 2 = 0
at
จํานวนตรรกยะศูนย์ คูณกับจํานวนอตรรกยะ ผลคูณทีได้ จะเป็ นจํานวนตรรกยะศูนย์
m
4.จํานวนตรรกยะทีไม่ เป็ นศูนย์ คูณกับจํานวนอตรรกยะผลคูณทีได้ จะเป็ นจํานวน
อตรรกยะ
TR
เช่น 2 2 = 2.828427…
เช่น 2 2 = 2
2 3 = 6 = 2.4494…
h
1. รากทีสองของ 0 คือ ………………………………………………….
2.
3.
4.
at
รากทีสองของ 1 คือ ………………………………………………….
รากทีสองของ 2 คือ ………………………………………………….
รากทีสองของ 3 คือ ………………………………………………….
m
5. รากทีสองของ 4 คือ ………………………………………………….
TR
ตัวอย่ าง 2
รากทีสองของ 100 คือ ………………………………………………….
G
1.
ตัวอย่ าง 3
1
1. รากทีสองของ คือ ………………………………………………….
4
1
2. รากทีสองของ คือ ………………………………………………….
9
4
3. รากทีสองของ คือ ………………………………………………….
25
169
4. รากทีสองของ คือ ………………………………………………….
729
5. รากทีสองของ 0.01 คือ ………………………………………………….
6. รากทีสองของ 0.16 คือ ………………………………………………….
h
7. รากทีสองของ 1.21 คือ ………………………………………………….
8. รากทีสองของ 0.000144 คือ ……………………………………………
ตัวอย่ าง 4
1. 25 = ……………..
atและ – 25 = …………………
m
2. 625 = ……………. และ – 625 = …………………
a เมือ a>0
–a เมือ a<0
ตัวอย่ าง 5
1. 1.252 = ……………………………………………………
2. 1.252 =……………………………………………………
3. 1225 =……………………………………………………
4. – 1296 =……………………………………………………
5. x4 =……………………………………………………
6. 9y 6 =……………………………………………………
7. 25a 4b 4 =……………………………………………………
h
หมายเหตุ ในกรณีทีเรามันใจว่าจํานวนทีปรากฏในเครื องหมายค่าสัมบูรณ์ไม่เป็ นจํานวนลบแล้ ว
สัญลักษณ์ของค่าสัมบูรณ์ก็ไม่จําเป็ น ทังนีเพราะ
ดังนัน
แต่
|a|
|a2b2| =
|xy5| =
=
ata เมือ a 0
a2b2 เพราะ a2b2 0
|xy5| เพราะ xy5 อาจเป็ นจํานวนลบก็ได้
m
สมบัติของรากทีสอง เมือ a 0
กําหนดให้ a 0 , b 0 และ c 0 จะได้
TR
(1) a b b a áÅÐ a b b a
(2) ( a b) c a ( b c) áÅÐ ( a b) c a ( b c)
(3) a ( b c) a b a c
(4) ( a)2 a
G
(5) ab a b
(6) a a
b b
1
2
(7) a a
ตัวอย่ าง 6 จงหาค่าต่อไปนีในรูปอย่างง่าย
(1) 8 (2) 27
8 75
(3) (4)
3 125
h
(7) 864
at (8) 1800
m
(9) 75 (10) 98
TR
4 121
6 5 y9
(11) a b (12)
G
x2
(13) 32a
4
(14) 27x7
ตัวอย่ าง 7 จงหาค่าต่อไปนีในรูปอย่างง่าย
(1) 2( 2 32) (2) ( 3 27) 3
h
(5) 6 12 24
at (6) 20x 5xy
m
TR
6 3 5 3 5 6
(7) 10a b 2a b (8) 6a 5a 10a
G
(9)
6
(10 ab ) (4 8 ) (10) 2 28 3 12 4 125
2 75 45 63
ab
¡ÒôíÒà¹Ô¹¡Òâͧ¨íҹǹ¨ÃÔ§à¡ÕÂè ǡѺÃÒ¡·ÕÊè ͧ
¡íÒ˹´ãË ¡íÒ˹´¨íҹǹ¨ÃÔ§ a, b, x áÅÐ y â´Â·Õè a 0, b 0 áÅÐ ¨Ðä´
¡Òúǡ x a y a (x y) a
¡Òäٳ (x a )(y b) xy ab
¡ÒÃËÒÃ 1 1 a a
a a a a
1 1 a b a b
a b a b a b ab
1 1 a b a b
a b a b a b ab
ตัวอย่ าง 8 จงหาค่าต่อไปนีในรูปอย่างง่าย
h
1. ¨§ËÒ¤íҵͺáµÅТ͵Í仹Õéã¹ÃÙ»ÍÂÒ§§ÒÂ
(1) 18 50 72
at
m
(2) 112 343 448
TR
G
(3) 2 18 7 12 3 75
2. ¨§ËÒ¤íҵͺáµÅТ͵Í仹Õéã¹ÃÙ»ÍÂÒ§§ÒÂ
(1) (2 3 5)(3 3 2 5)
(2) ( 2 2 3)(2 3 2)
h
(3) (2 5 5 2)2 (5 2 2 5)2
at
m
TR
3. ¨§ËÒ¤íҵͺáµÅТ͵Í仹Õéã¹ÃÙ»ÍÂÒ§§ÒÂ
(1) 2 5 3
5
(2) 5 6 3 21
3
(3) 4 15 6 25 8 75
20
h
(4) 27 50 4 6
9 3 2 12
at
m
TR
(5) 1
3 2
G
(6) 1 1
5 2 5 2
4. ¨§ËÒ¤íҵͺáµÅТ͵Í仹Õéã¹ÃÙ»ÍÂÒ§§ÒÂ
(1) (5 2 20)( 50 2 5) (3 2 3)( 18 3)
h
at
m
(3) (3 2)2 ( 2 3)2
TR
G
(4) 3 3 4 2
3 2 3 2
2
2 3 2 3
(5)
2 3 2 3
(6) 5 2 5 2
5 2 5 2
h
at
m
TR
(7) 1 1 1 ... 1
1 2 2 3 3 4 8 9
G
การหารากทีสอง
(1) การหารากทีสองโดยวิธีการแยกตัวประกอบ
1. แยกตัวประกอบของ a
3. หารากทีสองของ a
h
1) 900 = 223355
=
22 32 52
(2 3 5)2 at
m
= 302
2) 2,700 = 2233355
= 22 33 52
G
= (2 3 5)2 3
= 302 3
(2) การหารากทีสองโดยวิธีการเฉลีย
การหารากทีสองโดยวิธีการเฉลีย มีวิธีการตามตัวอย่างต่อไปนี
h
(3) การหารากทีสองโดยวิธีการตังหาร
มีวิธีการ ดังนี at
ขันที 1 นําจํานวนทีต้ องการหารากทีสองมาแบ่งออกเป็ นชุด ชุดละ 2 ตัว โดยจํานวนเต็มเริ มจากหลัก
m
หน่วยไปทางซ้ าย ส่วนทศนิยมเริ มนับจากตําแหน่งที 1 ไปทางขวา
ขันที 2 นําจํานวนทีต้ องการหารากทีสองมาตังหารยาว หาจํานวน 2 จํานวนทีเท่ากันมาคูณกัน ได้
ผลลัพธ์เท่ากับจํานวนชุดแรกหรื อน้ อยกว่าแต่เกือบเท่ากัน แล้ วใส่เป็ นตัวหารและผลลัพธ์ดําเนินตามวิธีการหาร
TR
ยาว
ขันที 3 ยกจํานวนชุดต่อไปลงมาเป็ นตัวตังชุดใหม่ตอ่ ไป ถ้ าตัวตังหมดหรื อตัวตังถึงจุดทศนิยม ให้ ใส่
จุดทศนิยมทีผลลัพธ์ แล้ วเติม 0 ทีตัวตัง ชุดละ 2 ตัว หรื อยกเลขหลังจุดทศนิยมคูต่ อ่ ไปลงมา
ขันที 4 นํา 2 ไปคูณกับผลลัพธ์ แล้ วนํามาใส่ไว้ เป็ นตัวหารตัวใหม่ จากนันหาจํานวนทีเหมือนกันมา
G
5 รากทีสาม (Cuberoot)
บทนิยาม ให้ a เป็ นจํานวนจริ งใด ๆ รากทีสามของ a หมายถึง จํานวนจริงทียกกําลังสาม แล้ วได้ a
เขียนแทนด้ วยสัญลักษณ์ 3 a นันคือ
( 3 a )3 =a
2. รากทีสามของ a มีเพียงรากเดียวเท่านัน
h
4. เนืองจาก a3 = a3 จะได้ วา่ a เป็ นรากทีสมของ a3
นันคือ 3
a3 =
at
การหารากทีสามของ a โดยวิธีการแยกตัวประกอบ
a เมือ a เป็ นจํานวนจริ งใด ๆ
m
ตัวอย่ าง 1 จงหารากทีสามของจํานวนต่อไปนี โดยวิธีการแยกตัวประกอบ
1) 1,728
TR
G
2) –9,621
แบบฝึ กหัดชุดที 1
h
9) 10)
25 99
7 359
11)
13)
12
3064
4995
at 12)
14)
495
204
495
m
359 24851
15) 16)
495 99900
TR
2. จงเขียนทศนิยมซําให้ อยู่ในรูปเศษส่วนอย่างตํา
1) 0.14 2) 0.2 8
3) 0.7 3 4) 0.5 9
G
5) 0.2 4 3 6) 0.4 6 2
7) 1. 4 8 8) 3.5 6
9) 5.9 10) 7.9
11) 16.413 7 12) 18. 4 0 3
13) 43.641 14) 63.49 5
15) 4.0 4 5 16) 1.719 4
แบบฝึ กหัดชุดที 2
1
A
–2 –1 0 1 2 3
2)
1
A
–2 –1 0 1 2 3
h
3)
–3
2
–2 –1 0
at 1 2
m
4)
2
A C D
TR
0 1 2 3 4
B
5)
G
A
C D
0 1 2 3
6) B
D C A
–2 –1 0
2. จงหาจุดบนเส้ นจํานวนต่อไปนี
1) 5
–3 –2 –1 0 1 2 3
2) 7, 7
–3 –2 –1 0 1 2 3
h
3) 10, 10
at
m
–3 –2 –1 0 1 2 3
4) 2, 3, 4, 5
TR
G
–3 –2 –1 0 1 2 3
5) 2, 3, 4, 5
–3 –2 –1 0 1 2 3
h
7.
8. 9
9.
10.
11.
81
3 2
5 5
5
at
m
12. 4
3
13. 3
27
14. 25 5
TR
15. 2.5000…
16. 2. 4
17. 0 3 5
18. 27 3
G
3
19. 6 2
5 3
20. 2 2 2 2
1
21. ( 9)3
22. 2. 4 3.5
23. 5.2 2.5
24. 5 5 5 2
( ) 10
5 2
4. จงพิจารณาว่าข้ อความต่อไปนีจริ งหรื อเท็จ ถ้ าจริ งให้ เขียนเครื องหมาย “” หน้ าข้ อความ แต่ถ้าเป็ นเท็จ
ให้ ใส่เครื องหมาย “” หน้ าข้ อความพร้ อมทังยกตัวอย่างค้ าน
………. 1) 0.414141414… เป็ นจํานวนตรรกยะ
………. 2) 2.2354235468… เป็ นจํานวนตรรกยะ
………. 3) –9.21745217452… เป็ นจํานวนอตรรกยะ
………. 4) 4.544544455… เป็ นจํานวนอตรรกยะ
………. 5) 0 เป็ นจํานวนอตรรกยะ
a
………. 6) จํานวนตรรกยะคือ จํานวนทีเขียนอยูใ่ นรูป เมือ a > 0 และ b 0
b
………. 7) ทศนิยมทุกชนิดเป็ นจํานวนตรรกยะ
………. 8) มีจํานวนตรรกยะบางจํานวนเป็ นจํานวนอตรรกยะ
h
………. 9) เศษส่วนทุกชนิดสามารถเปลียนเป็ นทศนิยมได้
………. 10) ค่า มีคา่ ประมาณ 22
………. 11)
………. 12)
………. 13)
4, 5, 7
7
at
ทุกจํานวนเป็ นจํานวนอตรรกยะ
จํานวนอตรรกยะบางจํานวนไม่สามารถหาค่าบนเส้ นจํานวนได้
ผลบวกของจํานวนอตรรกยะกับจํานวนอตรรกยะเป็ นจํานวนอตรรกยะ
m
………. 14) ผลคูณของจํานวนอตรรกยะกับจํานวนอตรรกยะเป็ นจํานวนอตรรกยะ
………. 15) ผลบวกของจํานวนตรรกยะกับจํานวนอตรรกยะเป็ นจํานวนอตรรกยะ
TR
G
แบบฝึ กหัดชุดที 3
3) 256 4) 529
5) 1,156 6) 1,521
h
7) 2,209 8) 3,364
9) 0.04
at 10) 10.24
m
TR
1) 961 2) 441
3) – 2116 4) – 841
5) 2.89 6) – 1156
h
7) – (0.11)2 8) (45)2
at
m
9) x 4y 2 10) x 6y 8
TR
13) – x 2y 4z 2 14) p 8q 4
1) x2 = 36 2) x =5
3) 2 x = 10 4) x2 = 31.36
h
5) x 1 = 3
at 6) x2 – 67 = –3
m
TR
7) x 1 – 6 = 4 8) x 1 = 2 2
G
4. จงหาค่าของจํานวนต่อไปนี
1) 2 2 2 2) 3 27
3) 5 125 4) 4 2 3 3
h
5) 18 24 6) 21 35
7) 3
1
4
1
at 8) 3 3 4
1
m
2 8 3
TR
1 1
9) (–7 7 ) 5 10) (–12 3 ) 2
7 3
G
11) 7 6 + 4 6 12) 3 (5 3 + 24 )
13) 5 (3 5 – 2) 14) 18 – 8 – 2
5 6 3 21
15) 5 + 3 5 – 20 + 5 16)
3
h
at
m
2(2 7 28) 3 2 5 6
17) 18) + –
4 2 3 6
TR
G
11 1 1
19) 54 – 24 + 20 – 180 20) 35 3 – –7
3 3 27
แบบฝึ กหัดชุดที 4
1. จงหารากทีสองของจํานวนต่อไปนี โดยวิธีการแยกตัวประกอบ
1) 1,764
2) 4,356
h
3) 15,625
at
m
4) 19,600
TR
5) 34,596
G
6) 43,264
7) – 32, 041
1) 5
2) 70
h
3) 141
at
m
TR
4) 10.48
G
5) 212
3. จงหารากทีสองทีของจํานวนต่อไปนี โดยวิธีตงหาร
ั
1) 784
2) 56.38
h
at
m
3) 1,296
TR
G
4) 552.5
5) 685.9
6) 2,304
h
7) 9,623.61
at
m
TR
G
แบบฝึ กหัด 5
1. จงหารากทีสามของจํานวนต่อไปนี โดยวิธีการแยกตัวประกอบ
1) 8
2) –27
3) 64
h
4) –343
5) 1,331
at
m
6) –1,728
TR
7) 13,824
G
8) –19,683
9) –39,304
64
10)
343
125
11) –
27
1331
12)
729
13) 0.027
14) 4.913
h
15) 0.000027
at
m
2. จงทําให้ อยู่ในรูปอย่างง่าย
TR
1) 3 (7)9
2) 3
512
G
3) 9 3 27
13
4) 5253
5
5) 3
64 5 3 25
1) 3
27a 9
2) 3
8x 6
3) 3
8x 6y 6
4) 3
27a 3b 6
5) 3
0.216a 12
125a 3
6) 3
343b 3
h
8a 9
7) 3
8)
3
125b 6c 3
216a 3b 6c 9
6ab 2c 3
at
m
3
81x 2y 4
9)
3
3x 2y
TR
3
125x 4y
10)
3
x 2y 2
11) 3
x 6y 12
3
4x 3 8x 6
G
12)
4. จงทําให้ อยู่ในรูปอย่างง่าย
1) 3 8, 000 + 3 2,197
2) 3
64a 3 + 121a 6
3) 3 1, 728 – 3 1, 000 + 3
512