You are on page 1of 14

ใบความรู้และใบงานรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ครูผู้สอน นางสาวพรชนิตว์ ปุญจุบัน (ครูแพร)

Noun
(คำนาม)
Noun is word used to name a person, animal, thing and place
คำนาม คือ คำที่ใช้เรียกชื่อเป็นคน สัตว์ สิ่งของ และสถานที่
คำนามภาษาอังกฤษมีหลายประเภท ในบทเรียนนี้ขอแบ่งคำนามออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

ประเภทที่ 1 คือ คำนามทั่วไป (Common Noun) และคำนามเฉพาะเจาะจง (Proper Noun)


- คำนามทั่วไป (Common Noun) คือ คำที่ใช้เรียกชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ทั่วๆ ไป
ไม่เป็นการเจาะจง เช่น
Person : คน Animal : สัตว์ Thing : สิ่งของ Place : สถานที่
boy (เด็กผู้ชาย) cat (แมว) pencil (ดินสอ) school (โรงเรียน)
girl (เด็กผู้หญิง) dog (สุนัข) car (รถยนต์) house (บ้าน)

- คำนามเฉพาะเจาะจง (Proper Noun) คือ ชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ เช่น


Person : คน Animal : สัตว์ Thing : สิ่งของ Place : สถานที่
Mary (แมรี) Tom (ทอม) Samsung (ซัมซุง) England
(ประเทศอังกฤษ)
John (จอห์น) Jerry (เจอร์รี) Toyota (โตโยตา) Thailand
(ประเทศไทย)
ประเภทที่ 2 คือ คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)
- คำนามนับได้ (Countable Noun) คือ คำนามที่เราสามารถระบุได้ว่า มีกี่ชิ้น กี่อัน กี่ตัว-----6
กี่แห่ง หรือสิ่งที่เรามองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและสามารถนับจำนวนได้
ซึ่งคำนามนับได้ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1. คำนามนับได้เอกพจน์ (Singular Noun) หมายถึง มีเพียงจำนวนเดียว (=1)
ตัวเดียว อันเดียว ชิ้นเดียว คันเดียว เป็นต้น เช่น
a book หนังสือ 1 เล่ม
a chair เก้าอี้ 1 ตัว
an orange ส้ม 1 ผล
an egg ไข่ 1 ฟอง

2. คำนามนับได้พหูพจน์ (Plural Noun) หมายถึง มีจำนวนมาก (>1)


หลายตัว หลายอัน หลายชิ้น หลายคัน เป็นต้น เช่น
five books หนังสือ 5 เล่ม
fifty giraffes ยีราฟ 50 ตัว
eight boxes กล่อง 8 กล่อง
hats หมวกหลายใบ
(ระบุจำนวนไม่ได้ว่ามีกี่ใบ)
mangoes มะม่วงหลายผล
(ระบุจำนวนไม่ได้ว่ามีกี่ผล)

- คำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) คือ คำนามที่เราไม่สามารถระบุจำนวน


หรือบอกได้ว่ามีกี่ชิ้น กี่อัน กี่ตัว กี่คัน เป็นต้น ดังนั้น คำนามนับไม่ได้จงึ เป็นเอกพจน์เสมอได้แก่
1. food (อาหาร) cheese (ชีส) / butter (เนย) / flour (แป้ง)
2. liquid (ของเหลว) water (น้ำ) / milk (นม) / tea (น้ำชา)
3. material (วัสดุ) gold (ทอง) / wood (เนื้อไม้) / paper (กระดาษ)
4. สิ่งที่จำนวนมากเกินไป sugar (น้ำตาล) / sand (ทราย) / salt (เกลือ)
จนไม่สามารถนับได้
ใบงานรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ครูผู้สอน นางสาวพรชนิตว์ ปุญจุบัน (ครูแพร)

Noun (คำนาม)
คำนาม คือ คำที่ใช้เรียกชื่อเป็นคน สัตว์ สิ่งของ และสถานที่
คำนามประเภทที่ 1 คือ คำนามทั่วไป และ คำนามเฉพาะเจาะจง
1. คำนามทั่วไป ในภาษาอังกฤษ เรียกว่า Common Noun
คือ คำที่ใช้เรียกชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ทั่ว ๆ ไป ไม่เป็นการเจาะจง
2. คำนามเฉพาะ ในภาษาอังกฤษ เรียกว่า Proper Noun
คือ ชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ซึ่งจะต้องขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ

แบบฝึกหัดที่ 1 (Exercise1)
จงยกตัวอย่างคำนามทั่วไป (Common Noun) พร้อมทั้งเขียนความหมาย ในหมวดต่างๆ
มาอย่างน้อย 5 คำ
หมวดที่ 1 คน (Person)
เช่น teacher แปลว่า คุณครู
-
-
-
-
-
หมวดที่ 2 สัตว์ (Animal)
เช่น turtle แปลว่า เต่า
-
-
-
-
-
หมวดที่ 3 สิ่งของ (Thing)
เช่น window แปลว่า หน้าต่าง
-
-
-
-
-
หมวดที่ 4 สถานที่ (Place)
เช่น School แปลว่า โรงเรียน
-
-
-
-
-

แบบฝึกหัดที่ 2 (Exercise2)
จงยกตัวอย่างคำนามเฉพาะ (Proper Noun) พร้อมทั้งเขียนความหมาย ในหมวดต่างๆ
มาอย่างน้อย 5 คำ
หมวดที่ 1 ชื่อคน (Person)
เช่น Nicky แปลว่า ผู้ชายชื่อ นิกกี้
-
-
-
-
-
หมวดที่ 2 ชื่อสัตว์ (Animal)
เช่น Bob แปลว่า สัตว์ชื่อ บ๊อบ
-
-
-
-
-
หมวดที่ 3 ชื่อสิ่งของ (Thing)
เช่น Kitkat แปลว่า ยี่ห้อชอกโกแลตชื่อ คิทแคท
-
-
-
-
-
หมวดที่ 4 ชื่อสถานที่ (Place)
เช่น Bantamailai School แปลว่า โรงเรียนบ้านท่าไม้ลาย
-
-
-
-
-
ใบงานรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ครูผู้สอน นางสาวพรชนิตว์ ปุญจุบัน (ครูแพร)

Noun (คำนาม)
คำนาม คือ คำที่ใช้เรียกชื่อเป็นคน สัตว์ สิ่งของ และสถานที่
คำนามประเภทที่ 2 คือ คำนามนับได้ และ คำนามนับไม่ได้
1. คำนามนับได้ ในภาษาอังกฤษ เรียกว่า Countable Noun
คือ คำนามที่เราสามารถระบุได้ว่า มีกี่ชิ้น กี่อัน กี่ตัว กี่แห่ง หรือสิ่งที่เรามองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
และสามารถนับจำนวนได้
2. คำนามนับไม่ได้ ในภาษาอังกฤษ เรียกว่า Uncountable Noun
คือ คำนามที่เราไม่สามารถระบุจำนวนหรือบอกได้ว่ามีกี่ชิ้น กี่อัน กี่ตัว กี่คัน เป็นต้น

แบบฝึกหัด
จงแยกประเภทของคำนามที่กำหนดให้ ว่าคำนามคำใดเป็นคำนามนับได้ (Countable Noun)
หรือคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)

bike teacher temple meat uncle


monkey water snake lion tiger
grandfather sugar phone skirt bread
chocolate hotel bank park cooker
notebook milk elephant money rice
doctor soap farmer juice school

คำนามนับได้ (Countable Noun) คำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)


Countable Noun (คำนามนับได้)
คำนามนับได้ ในภาษาอังกฤษ เรียกว่า Countable Noun
คือ คำนามที่เราสามารถระบุได้ว่า มีกี่ชิ้น กี่อัน กี่ตัว กี่แห่ง หรือสิ่งที่เรามองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
และสามารถนับจำนวนได้ ซึ่งคำนามนับได้ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1. คำนามนับได้เอกพจน์ (Singular Noun) หมายถึง มีเพียงจำนวนเดียว (=1)
เช่น ตัวเดียว อันเดียว ชิ้นเดียว คันเดียว เป็นต้น
ในภาษาอังกฤษ เราใช้ Article ในการเขียนนำหน้าคำนามที่มีเพียงจำนวนเดียว (=1)
Article ที่ว่านี้ คือ a และ an เช่น a cat แปลว่า แมวหนึ่งตัว หรือ
an apple แปลว่า แอปเปิ้ลหนึ่งผล
a และ an มีวิธีการใช้ที่แตกต่างกัน คือ
-a ใช้นำหน้าคำนามที่ขึ้นต้นด้วยเสียงพยัญชนะ เช่น a cup / a pig / a bus
- an ใช้นำหน้าคำนามที่ขึ้นต้นด้วยเสียงสระ ซึ่งสระในภาษาอังกฤษ มีทั้งหมด 5 ตัว
ได้แก่ a / e / i / o และ u เช่น an owl / an umbrella / an elephant

แบบฝึกหัดที่ 1 (Exercise1)
จงเติม a หรือ an หน้าคำนามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง
1. orange
2. frog
3. ice cream
4. octopus
5. shop
6. house
7. arm
8. sharpener
9. uncle
10. nurse
ใบงานรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ครูผู้สอน นางสาวพรชนิตว์ ปุญจุบัน (ครูแพร)

คำสั่ง เขียนเนื้อหาและแบบฝึกหัดลงในสมุด

2. คำนามนับได้พหูพจน์ (Plural Noun) หมายถึง มีจำนวนมาก (>1)


เช่น หลายตัว หลายอัน หลายชิ้น หลายคัน เป็นต้น
ในภาษาอังกฤษ เราสามารถเปลีย่ น “คำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์” นั่นคือ เราสามาถเปลี่ยน
คำนามที่มีเพียง 1 สิ่ง ให้เป็คำนามที่มีหลายๆสิ่งได้เพื่อบอกปริมาณหรือบอกจำนวนของสิ่งนั้นๆ
ที่เพิ่มขึ้นได้ โดยการเติม s หรือ es ท้ายคำนามคำนั้น
ตัวอย่างเช่น 1. A bag เปลี่ยนเป็น bags
กระเป๋าหนึ่งใบ เปลี่ยนเป็น กระเป๋าหลายใบ
2. A box เปลี่ยนเป็น boxes
กล่องหนึ่งกล่อง เปลี่ยนเป็น กล่องหลายกล่อง

หลักการเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์
การเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ แบ่งออกเป็น 5 แบบ คือ
1. เราสามารถเติม s ท้ายคำนามทั่วไปได้เลย
เช่น chicken => chickens
ไก่หนึ่งตัว => ไก่หลายตัว
board => boards
กระดานหนึ่งแผ่น => กระดานหลายแผ่น
2. คำนามที่ลงท้าย e เติม s ได้เลยเช่นกัน
เช่น house => houses
บ้านหนึ่งหลัง => บ้านหลายหลัง
apple => apples
แอปเปิ้ลหนึ่งผล => แอปเปิ้ลหลายผล
3. คำนามที่ลงท้ายด้วย s, ss, sh, ch, x, o หรือ z ให้เติม es ท้ายคำ
เช่น bus => buses
รถบัสหนึ่งคัน => รถบัสหลายคัน
dress => dresses
ชุดกระโปรงหหนึ่งชุด => ชุดกระโปรงหลายชุด
dish => dishes
จานหนึ่งใบ => จานหลายใบ
watch => watches
นาฬิกาหนึ่งเรือน => นาฬิกาหลายเรือน
fox => foxes
สุนัขจิ้งจอกหนึ่งตัว => สุนัขจิ้งจอกหลายตัว
tomato => tomatoes
มะเขือเทศหนึ่งลูก => มะเขือหลายลูก
buzz => buzzes
เสียงผึ้ง => เสียงผึ้งหลายเสียงจากผึ้งหลายตัว
4. คำนามที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe ให้เปลี่ยน f หรือ fe เป็น v แล้วค่อยเติม es
เช่น leaf => leaves
ใบไม้หนึ่งใบ => ใบไม้หลายใบ
knife => knives
มีดหนึ่งเล่ม => มีดหลายเล่ม
5. คำนามที่ลงท้ายด้วย y
กรณีที่ 1 คำนามที่ลงท้ายด้วย y ถ้าตัวอักษรหน้า y เป็นพยัญชนะ
ให้เปลี่ยน y เป็น i และ เติม es
เช่น baby => babies
เด็กทารกหนึ่งคน => เด็กทารกหลายคน
กรณีที่ 2 คำนามที่ลงท้ายด้วย y ถ้าตัวอักษรหน้า y เป็นสระ
ให้เติม s ได้เลย (สระในภาษาอังกฤษ มี 5 ตัว คือ a, e, i, o, u)
เช่น toy => toys
ของเล่นหนึ่งชิ้น => ของเล่นหลายชิ้น
6. คำนำมบำงคำจะเปลี่ยนทั้งรูปและเสียง โดยที่ไม่ได้เติม s หรือ es
เช่น man => men
ผู้ชายหนึ่งคน => ผู้ชายหลายคน
woman => women
ผู้หญิงหนึ่งคน => ผู้หญิงหลายคน
tooth => teeth
ฟันหนึง่ ซี่ => ฟันหลายซี่
foot => feet
เท้าหนึ่งข้าง => เท้าหลายข้าง
goose => geese
ห่านหนึ่งตัว => ห่านหลายตัว
mouse => mice
หนูหนึง่ ตัว => หนูหลายตัว
person => people
คนหนึ่งคน => คนหลายคน
child => children
เด็กหนึ่งคน => เด็กหลายคน
7. คำนำมบำงคำเขียนเหมือนกันทั้งในรูปเอกพจน์และพหูพจน์
เช่น deer => deer
กวางหนึ่งตัว => กวางหลายตัว
fish => fish
ปลาหนึ่งตัว => ปลาหลายตัว
แบบฝึกหัดที่ 2 (Exercise2)
จงหาความหมายของคำนามที่กำหนดให้ และเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้อยู่ในรูปของคำนามพหูพจน์

คำศัพท์เอกพจน์ ความหมาย คำนามพหูพจน์


(ของคำนามเอกพจน์)
1. boy เด็กผู้ชาย boys
2. wife
3. glass
4. elephant
5. foot
6. door
7. house
8. box
9. mango
10. nest
11. watch
12. ring
13. child
14. table
15. parrot
16. brush
17. chair
18. sheep
19. lamp
20. story
ใบงานรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ครูผู้สอน นางสาวพรชนิตว์ ปุญจุบัน (ครูแพร)
คำสั่ง เขียนเนื้อหาและแบบทดสอบลงในสมุด
แบบทดสอบ เรือ่ ง Singular and Plural Noun
หัวข้อที่ 1 เรื่อง Change singular noun to plural noun
คำสั่ง จงเขียนความหมายของคำนามกำหนดให้และเปลีย่ นคำนามเอกพจน์ให้อยูใ่ นรูปของคำนามพหูพจน์

Singular Meaning Plural


noun ความหมาย noun
1. postman
2. wolf
3. candy
4. horse
5. hotel
6. brush
7. monkey
8. bench
9. potato
10. farmer
11. watermelon
12. fly
13. pie
14. desk
15. ox
หัวข้อที่ 2 เรื่อง Change plural noun to singular noun
คำสั่ง จงเขียนความหมายของคำนามกำหนดให้และเปลีย่ นคำนามพหูพจน์ให้อยูใ่ นรูปของคำนามเอกพจน์

Plural Meaning Singular


noun ความหมาย noun
1. insects แมลง an insect
2. octopuses
3. countries
4. eyes
5. keys
6. owls
7. classes
8. umbrellas
9. heroes
10. teeth
11. envelopes
12. sandwiches
13. arms
14. children
15. airplanes
หัวข้อที่ 3 เรื่อง circle the correct word
คำสั่ง ให้นักเรียนเลือกวงกลมคำศัพท์ที่ถูกต้องให้สอดคล้องกับประโยคที่กำหนดให้
ตัวอย่างป I love a . cat cats
ฉันรักแมว

1. I have five . toy toys


= ฉันมีของเล่น 5 ชิ้น

2. I wear a . dresses dress


= ฉันสวมใส่ชุดกระโปรง

3. I eat an . orange oranges


= ฉันกินส้ม

4. I buy ten . potatoes potato


= ฉันซื้อมันฝรั่ง 10 ผล

5. I sell six . pencil pencils


= ฉันขายดินสอ 6 แท่ง

6. I read a . books book


= ฉันอ่านหนังสือ

7. I wash eight . dishes dish


= ฉันล้างจาน 8 ใบ

8. I am a . student students
= ฉันเป็นนักเรียน

You might also like