Professional Documents
Culture Documents
หลักภาษาไทย ม.ปลาย
ม.4 - ม.6
/ajgolf
ajarngolf
หลักภาษาไทย ม.ปลาย (1)
ความรู้เกี่ยวกับภาษา
ความหมายของภาษา
ความหมายอย่างกว้าง คือ การแสดงออกเพื่อสื่อความหมายโดยมีระบบมีเกณฑ์ที่เข้าใจกันได้
ระหว่าง 2 ฝ่าย ผู้ใช้ภาษาอาจจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ สิ่งที่ใช้สื่อความหมาย อาจจะเป็นเสียง ท่าทาง
สัญลักษณ์ หรือสัญญาณ
ความหมายอย่างแคบ คือ ถ้อยคําที่มนุษย์ใช้พูดเพื่อสื่อความหมายกัน
ผู้ใช้ภาษา คือ _________________ สิ่งที่ใช้สื่อความหมาย คือ ________________
***นักภาษาศาสตร์สนใจศึกษาภาษา
***ภาษาในโลกนี้มีภาษาพูดประมาณ 3000 ภาษา
***ภาษาไทยมีลักษณะทางภาษาที่คล้ายภาษาจีน คือ มีเสียง ____________
กําเนิดของภาษา ภาษาคู่กับมนุษย์มานานและยังไม่มีใครตอบได้ว่าภาษาเกิดขึ้นได้อย่างไรหรือเกิด
ในเวลาใด แต่จากการศึกษาเรื่องกําเนิดของภาษาพอสรุปได้ดังนี้
1. แนวคิดจากศาสนาและความเชื่อโบราณ
ศาสนาคริสต์ - พระเจ้าประทานอํานาจแก่อาดัมให้ตั้งชื่อสิ่งต่าง ๆ
ชาวอียิปต์ - เทพชื่อธอท
ชาวบาบิโลเนียน - เทพชื่อนาบู
ชาวฮินดู - พระนางสุรัสวดี เป็นมเหสีของพระพรหม
2. ภาษาเป็นสิ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น โดยพิจารณาจากเสียง วัตถุ หรือการกระทํา
3. ภาษาเกิดมาจากการแสดงออกทางดนตรีและการแสดงออกทางอารมณ์
4. ภาษาเกิดจากวิวัฒนาการของระบบร่างกายและสมองของมนุษย์ ซึ่งมีความซับซ้อน
และพิเศษต่างไปกับระบบร่างกายและสมองของสัตว์
5. นักปราชญ์ทางนิรุกติศาสตร์สันนิษฐานว่า
ประเภทของภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร
1. วัจนภาษา คือ ภาษาถ้อยคํา ได้แก่
- เสียงพูด หรือ ............................... - ตัวหนังสือ หรือ ..........................
2. อวัจนภาษา คือ ภาษาที่ไม่ใช้ถ้อยคํา ได้แก่
- การแสดงออกทางดวงตา - ท่ายืน ท่านั่ง และการทรงตัว
- การแต่งกาย - การเคลื่อนไหว
- การใช้มือและแขน - การใช้นัยน์ตา
- การใช้น้ําเสียง
องค์ประกอบของภาษา
1. เสียง 2. ความหมาย 3. ไวยากรณ์
ลักษณะสําคัญของภาษาไทย
1. ภาษาไทยมีตัวอักษรเป็นของตนเอง
2. ภาษาไทยมีรปู สระวางไว้หลายตําแหน่ง
- ข้างหน้าพยัญชนะ เช่น ไว้ - ข้างล่าง พยัญชนะ เช่น ปู
- ข้างหลังพยัญชนะ เช่น นะ - ข้างหน้าและข้างหลัง เช่น เด๋อ
- ข้างบนพยัญชนะ เช่น พี่ - ข้างหน้าและข้าง
3. ภาษาไทยเป็น ภาษาคําโดด ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปคําเพื่อบอกหน้าที่ เพศ พจน์ กาล
4. ภาษาไทยแท้เป็นภาษาที่มีพยางค์เดียว เช่น
พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา กิน นั่ง นอน พูด หมู หมา กา ไก่ ถ้วย ชาม ไร่ นา
5. ภาษาไทยแท้มตี ัวสะกดตรงตามมาตรา มาตราตัวสะกดของไทย มี 8 มาตรา คือ
แม่ กบ ใช้ ก สะกด เช่น นก แม่ กง ใช้ ง สะกด เช่น งง
แม่ กบ ใช้ บ สะกด เช่น กบ แม่ กม ใช้ ม สะกด เช่น นม
แม่ กด ใช้ ด สะกด เช่น มด แม่ เกย ใช้ ย สะกด เช่น ยาย
แม่ กน ใช้ น สะกด เช่น ฉัน แม่ เกอว ใช้ ว สะกด เช่น ยาว
6. ภาษาไทยมีคําคําเดียวที่มีความหมายหลายอย่าง เช่น
“กัน1เห็นเขาสนุกสนานกัน2ในห้อง แต่พอกัน3จะเข้าไปเขากลับกัน4กัน5”
7. ภาษาไทยเป็นภาษาเรียงคํา
7.1 การเรียงคําในภาษาไทยมีความสําคัญต่อความหมาย ถ้าเรียงคําสลับที่ความหมายจะเปลี่ยนไป
เช่น แม่ไก่ไข่วันละ 1 ฟอง ฉันเลี้ยงไก่ไข่ไว้ 10 ตัว จึงเก็บไข่ไก่ได้วันละ 10 ฟอง
หลักภาษาไทย ม.ปลาย (3)
7.2 การเรียงคําในภาษาไทยจะบอกหน้าที่ของคํา
เช่น โบราณกล่าวว่า ปลาหมอตายเพราะปาก แต่ฉันไม่กลัวเพราะฉันว่าฉันพูดเพราะ
จงพิจารณาบทสนทนาต่อไปนี้ แล้วตอบคําถามข้อ 6 – 7
ลูก : แม่ขา ! สีน้ําตาลเป็นสียังไงคะ
แม่ : สีเหมือนกระเป๋าของแม่
(ชี้ให้ดูกระเป๋าสีน้ําตาล)
ลูก : ไม่ใช่ค่ะ ! สีน้ําตาลเป็นสีขาว
แม่ : !
6. การที่ลูกเข้าใจว่า “สีน้ําตาลหมายถึงสีขาว” แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางความหมายของภาษาที่
เนื่องมาจากสาเหตุใด
1. ความเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม 2. การพูดจากันในชีวิตประจําวัน
3. อิทธิพลของภาษาอื่น 4. การเรียนภาษาของเด็ก
7. เสียงพยางค์หลังในคํา “ยังไง” เปลี่ยนแปลงมาจาก “อย่างไร” ตามลักษณะการเปลี่ยนแปลงเสียงข้อใด
1. กร่อนเสียง ร 2. กร่อนเสียง ง
3. กลมกลืนเสียง ร ตามเสียง ง 4. กลมกลืนเสียง ง ตามเสียง ร
8. ประโยคใดผิดหลักการใช้ภาษาไทยที่ดี
1. คุณสมศรีเป็นอะไรไปหรือเปล่า 2. มันเป็นอะไรที่สวยงามจนผมนึกไม่ถึง
3. เขาเห็นฉันเป็นอะไรถึงได้ทําหมางเมินอย่างนี้ 4. เวลาก็ล่วงมาจนป่านนี้จะเป็นอะไรก็เป็นไป
9. ข้อใดมีสํานวนต่างประเทศ
1. เขาสนใจวิชาคณิตศาสตร์และสถิติ 2. เธอโดยสารรถไฟจากรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่
3. ฉันได้ยินข่าวว่าเขาจะไปอังกฤษในอนาคตอันใกล้นี้
หลักภาษาไทย ม.ปลาย (5)
4. อาจารย์นํานักเรียนและเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนไปเยี่ยมทหารที่บาดเจ็บ
10. ข้อใดไม่ใช่สํานวนต่างประเทศ
1. เขาถูกจับไปเรียกค่าไถ่
2. เธอพบว่าตัวเองกําลังร้องไห้อยู่คนเดียวในห้อง
3. เขาเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับหนังสือหอบใหญ่
4. เราควรรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศ และความรับผิดชอบ
เรื่องลักษณะสังเกตของภาษาไทย (2)
1. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะทั่วไปของภาษา
1. มีเสียงวรรณยุกต์ 2. มีจํานวนเสียงจํากัด
3. แปรและเปลี่ยนได้ 4. มีคําเกิดใหม่ ดํารงอยู่ และตายไป
2. ข้อใดไม่ถูกต้อง
1. ภาษาเป็นมรดกทางสังคม 2. ภาษาเป็นเครื่องจรรโลงวัฒนธรรม
3. ภาษาเป็นเอกลักษณ์ที่แสดงความเป็นชาติ
4. ทุกชาติย่อมมีภาษาพูดและภาษาเขียนของตน
3. ข้อความในข้อใดไม่ถูกต้อง
1. ภาษาไทยมาตรฐานคือภาษาราชการ 2. ภาษาไทยมีการออกเสียงหนักเสียงเบา
3. ภาษาไทยรับคําจากภาษาอื่นในรูปศัพท์เดิมเป็นส่วนใหญ่
4. คนไทยบางคนออกเสียงพยัญชนะบางเสียงตามเสียงภาษาอังกฤษ
4. ความในข้อใดไม่ถูกต้อง
1. สระประสมเกิดจากการประสมของสระเดี่ยว 2 เสียง
2. ภาษาไทยจัดเป็นภาษาคําโดด เพราะคําในภาษาเป็นคําพยางค์เดียวทั้งหมด
3. การเขียนที่รักษารูปคําเดิมช่วยให้แยกความหมายของคําพ้องเสียงได้
4. การออกเสียงของผู้พูดเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทําให้ภาษาเปลี่ยนแปลงได้
5. ข้อใดกล่าวถึงธรรมชาติของภาษาอย่างไม่ถูกต้อง
1. เสียงในภาษาใดๆ อาจเพิ่มจํานวนขึ้นได้ถ้ายืมคําภาษาอื่นมาใช้ โดยมิได้ดัดแปลงเสียงให้ใกล้เคียงกับ
เสียงในภาษาของตน
2. เมื่อสภาพสังคมเปลี่ยนไป หรือความคิดของคนในสังคมเปลี่ยนไป ย่อมมีผลทําให้ภาษาเปลี่ยนแปลง
ไปได้เสมอ
3. เสียงในภาษามีจํานวนจํากัด แต่มนุษย์สามารถสร้างประโยคได้ต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่จํากัดจํานวน
4. คนต่างชาติกันใช้คําคล้ายคลึงกันเพราะเสียงสัมพันธ์กับความหมาย
6. ข้อใดไม่ใช่ธรรมชาติของภาษา
1. ภาษาของสังคมหนึ่งอาจถูกสังคมอื่นยืมไปใช้และสร้างความเจริญให้สังคมใหม่นั้นได้
2. ผู้ใช้ภาษาสามารถแต่งประโยคใหม่ๆ ขึ้นมาได้ทุกวัน แม้จะไม่ใช้ประโยคที่เคยเรียนจากพ่อแม่
3. ภาษาประกอบขึ้นด้วยเสียงและความหมายการศึกษาภาษาพูดจําทําให้รู้ลักษณะแท้จริงของภาษา
4. ผู้ใช้ภาษาจากสังคมหนึ่งจะสามารถเข้าใจภาษาของสังคมอื่นได้ถ้าภาษานั้นมีระบบการเขียนที่
แน่นอน
1. พยัญชนะต้น
พยัญชนะต้น คือ เสียงพยัญชนะที่อยู่ต้นพยางค์ / นําหน้าเสียงสระ แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
! เสียงพยัญชนะต้นเดี่ยว : ออกเสียงพยัญชนะต้นเสียงเดียว เช่น _________________________
! เสียงพยัญชนะต้นประสม : ออกเสียงพยัญชนะต้น 2 เสียง (ควบกล้ํา) เช่น _________________
เสียงพยัญชนะต้นเดี่ยว มี 21 เสียง ได้แก่
1. เสียง /ก/ ใช้รูป _______________ 12. เสียง /ป/ ใช้รูป _______________
2. เสียง /ค/ ใช้รูป _______________ 13. เสียง /พ/ ใช้รูป _______________
3. เสียง /ง/ ใช้รูป _______________ 14. เสียง /ฟ/ ใช้รูป _______________
4. เสียง /จ/ ใช้รูป _______________ 15. เสียง /ม/ ใช้รูป _______________
5. เสียง /ช/ ใช้รูป _______________ 16. เสียง /ร/ ใช้รูป _______________
6. เสียง /ย/ ใช้รูป _______________ 17. เสียง /ล/ ใช้รูป _______________
7. เสียง /ด/ ใช้รูป _______________ 18. เสียง /ว/ ใช้รูป _______________
8. เสียง /ต/ ใช้รูป _______________ 19. เสียง /ซ/ ใช้รูป _______________
9. เสียง /ท/ ใช้รูป _______________ 20. เสียง /ฮ/ ใช้รูป _______________
10. เสียง /น/ ใช้รูป _______________ 21. เสียง /อ/ ใช้รูป _______________
11. เสียง /บ/ ใช้รูป _______________
ตรงนี้สําคัญ
1. เสียง /ร/ ออกเสียงต่างกับ /ล/ 2. เสียง /ฤ/ ออกเสียง /ร/ ส่วน /ฦ/ ออกเสียง /ล/
3. /ฑ/ ออกเสียงได้ 2 อย่าง คือ
3.1 /ด/ ได้แก่ บัณฑิต มณฑป
3.2 /ท/ ได้แก่ มณฑา มณฑก
หลักภาษาไทย ม.ปลาย (10)
เสียงพยัญชนะต้นประสม (ควบกล้ํา)
อักษรควบกล้ํา แบ่งเป็น
1. อักษรควบแท้ คือ คําที่ออกเสียงรูปพยัญชนะทั้ง 2 รูปที่ปรากฏ ตัวหลังเป็น .........................
เช่น กราด พลิก คว้า เปรียบ ผลีผลาม ปรักปรํา
2. อักษรควบไม่แท้ แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ
1. ออกเสียงพยัญชนะตัวหน้า เช่น จริง สร้าง เสริม เศร้า
2. เปลี่ยนเสียงพยัญชนะต้นทั้ง 2 รูป เป็นเสียงพยัญชนะต้นตัวอื่น (เปลี่ยน /ทร/ เป็น /ซ/)
เช่น ทรง ทรัพย์ ทราบ ไทร ทรุดโทรม
หมายเหตุ /ทร/ ที่ใช้เป็นอักษรควบในภาษาไทยมักเป็นอักษรควบไม่แท้
ส่วนคําที่ออกเสียงเป็นเสียงควบแท้มักมาจากภาษาสันสกฤต อาทิ อินทรา จันทรา จันทรุปราคา นิทรา
เราท่องว่า _____________________________________________________________________
2. พยัญชนะท้าย (ตัวสะกด)
พยัญชนะท้าย คือพยัญชนะที่ตามหลังสระ มีทั้งหมด 37 รูป 8 เสียง (มาตรา)
บางพยางค์ไม่จําเป็นต้องมีเสียงพยัญชนะท้ายก็ได้ (พยางค์ที่ไม่มีพยัญชนะท้าย : ___________ )
1. เสียง /ก/ สะกด (แม่กด) ใช้ตัวอักษรสะกด : _______________________________________
2. เสียง /ป/ สะกด (แม่กบ) ใช้ตัวอักษรสะกด : _______________________________________
3. เสียง /ต/ สะกด (แม่กด) ใช้ตัวอักษรสะกด : _______________________________________
4. เสียง /ม/ สะกด (แม่กม) ใช้ตัวอักษรสะกด : _______________________________________
5. เสียง /น/ สะกด (แม่กน) ใช้ตัวอักษรสะกด : _______________________________________
6. เสียง /ง/ สะกด (แม่กง) ใช้ตัวอักษรสะกด : _______________________________________
7. เสียง /ย/ สะกด (แม่เกย) ใช้ตัวอักษรสะกด : _______________________________________
8. เสียง /ว/ สะกด (แม่เกอว) ใช้ตัวอักษรสะกด : _______________________________________
ระวัง !!!
1. สระ อํา – ไอ – ใอ – เอา มีเสียงตัวสะกดเสมอ
1. ข้อใดมีคําที่มีเสียงพยัญชนะสะกดเสียงเดียวกันมากที่สุด
1. พยัคฆ์ใหญ่ครุฑยักษ์สมัครสมาน ยอยศมารมนุษย์เหนือพุทธะ
2. เมื่อพบลาภภาพนั้นพลันกลับหาย สรรพสิ่งวอดวายวับไปกับตา
3. นุชนาฏพลาดพลัดกษัตรา มิอาจมาทรงราชรถบุษบางาม
4. ไทยล้วนรุ่มรวยด้วยผลไม้ จิตใจก็สวยใสงดงามจริง
2. ข้อใดเป็นพยางค์ปิดทั้งหมด
1. ลงเขื่อนมั่นลั่นดาลทันใด 2. เร่งรัดจัดพลอาสา
3. ขึ้นประจําเสมาทุกด้าน 4. ประตูเมืองสี่ทิศให้ปิดบาน
3. ข้อใดมีคําที่มีตัวสะกดมากที่สุด
1. อันบ่วงกรรมทําไว้ในปางหลัง เป็นพืชยังปางนี้ให้มีผล
2. หว่านพืชดีผลดีมีแก่ตน หว่านพืชชั่วกลั้วผลที่คับแค้น
3. อันความจริงข้อนี้มีมาแล้ว ไม่คลาดแคล้วเป็นอื่นทุกข์หมื่นแสน
4. จะเปลี่ยนชั่วให้ดีมีมาแทน ถึงแม้นแมนแม่นไม่เปลี่ยนได้เอง
ภาษาไทยเรามีรูปพยัญชนะบางรูปที่ไม่ออกเสียง
เช่น องค์ พงศ์ วิทย์ พรหม ปรารถนา สามารถ พุทธ จักร ทศกัณฐ์ ศีรษะ หลาย
หลาก หมอน หมา อยาก อยู่ หนอน ไหว สรวล สระ เสร็จ ไซร้ สงฆ์ สุภัทร จริง เสาร์
นัยน์ จันทร์ ลักษณ์ ลักษมณ์ ฯลฯ
ให้นักเรียนลองถอดรูปสระของคําต่อไปนี้
1. 2. 3. 4. 5.
ประเภทของรูปสระ
การลดรูป การเปลี่ยนรูป การคงรูป
ณ ธ พณ กัน มัน ตัน ดัน ปัน จะ คะ นะ
เด็ก เป็ด เข็ด เสร็จ เตะ เละ
แข็ง แท็งก์ แกะ แคะ แตะ
กง คน ขน โปะ โละ โต๊ะ
กร จร บ่ ธร จอ รอ ขอ
วอกแวก ล่อกแล่ก น็อก ล็อก ช็อก ก็ เกาะ เฉาะ เลาะ
เขย เสย เฮย เชย เกิน เขิน เดิน เชิญ เธอ เทอญ เจอ
เลิ่กลั่ก เปิ่น เงิน เถอะ เลอะ เขรอะ
พวก ปลวก จวก สวบ ผัวะ
กวน ทวน ชวน สวย กลัว บัว มัว
จุดสําคัญที่นักเรียนทํากันไม่ค่อยได้ก็คือ นักเรียนไม่สามารถผันหาเสียงวรรณยุกต์ของคํานั้นๆได้
ให้นักเรียนลองเขียนเสียงวรรรยุกต์ของข้อความต่อไปนี้
1) ใครอยากสอบติดบ้าง _______ _______ _______ _______ _______
2) อยากเรียนคณะอะไร _______ _______ _______ _______ _______ _______
3) พรหมลิขิตบันดาลชักพา _______ _______ _______ _______ ______ _______ _____
4) นั่นแน่จับตัวได้แล้วหรือสมศรี _____ _____ _____ _____ _____ _____ _____ _____ ______
5) เหตุใดสุรศักดิ์จึงเสียใจนัก _____ _____ _____ _____ _____ _____ _____ _____ ______
โครงสร้างพยางค์ / องค์ประกอบของพยางค์
พยัญชนะท้าย " พยัญชนะต้น " วรรณยุกต์ " สระ
เราท่องว่า ( ____________________________ )
6. คําเป็น - คําตาย
1. ข้อใดมีคําตายมากที่สุด
1. ริมโบสถ์ระเบียงเคียงฐานบาตร ดื่นดาษผู้คนอยู่จนสาย
1. เห็นน้ํารักพร่ําออกทั้งดอกผล ไม่มีคนรักรักมาหักสอย
2. ถือขันตีทีนั้นจะขันแตก ทั้งศีลแทรกสูดออกกระบอกหู
3. ถึงมาดแม้นตกยากต้องถากหญ้า จะอาสาแทนน้องอย่าหมองศรี
เสียงในภาษาไทย (2)
1. ข้อใดประกอบด้วยคําหรือพยางค์ที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะเดี่ยวทั้งหมด
1. ผูกงูด้วยมนตรา 2. วิทยาอาคมหมาย
3. ผูกสารบ่เคลื่อนคลาย 4. ด้วยเชือกบาศกระสันพัน
2. ข้อใดมีเสียงพยัญชนะต้นเดี่ยวมากที่สุด (ไม่นับเสียงซ้ํา)
1. วันพฤหัสเดือนอ้ายขึ้นหกค่ํา 2. กําหนดนําเฝ้าอนงค์อันทรงศักดิ์
3. สองอังกฤษคิดภักดีเป็นที่รัก 4. มาชวนชักให้สนานสําราญกาย
3. ข้อใดมีเสียงพยัญชนะต้นเดี่ยวซ้ํากันมากที่สุด
1. นุ่งยกนอกดอกวิเศษเกล็ดพิมเสน 2. โจงกระเบนประคดคาดไม่หวาดไหว
3. บ้างใส่เสื้อผ้าระบับเข้มขาบใน 4. ข้างนอกใส่ครุยกรองทองสํารด
4. ข้อใดมีเสียงพยัญชนะต้นเสียงเดียวกันมากที่สุด
1. เรือชัยไวว่องวิ่ง รวดเร็วจริงยิ่งอย่างลม
2. เรือสิงห์วงิ่ เผ่นโผนโจนตามคลื่นฝืนฝ่าฟอง
3. หวีเกล้าเจ้าสระสาง เส้นเกศสลวยรวยกลิ่นหอม
4. ชะแวงแฝงฝั่งแนบ ชะวาดแอบแปบปนปลอม
5. คําในข้อใดออกเสียงควบกล้ําทุกคํา
1. กลวง แปรก ควาย ตรอง หลั่น 2. แขวน กลัว แตร กริช ครุย
3. สรวล ครบ กล้า ปรัก ปลาต 4. เกล็ด คลาด หวาด ปลาย กราบ
6. ข้อใดมีเสียงพยัญชนะควบกล้ํามากที่สุด
1. อย่าเล่นสนุกสนานครื้นเครงบนซากปรักหักพัง
2. ครอบครัวนี้รวมพลังสู้กับผีพรายในนิทานปรัมปรา
หลักภาษาไทย ม.ปลาย (26)
3. เหล่าวัวควายเดินกินน้ําบนหาดทรายใกล้บ่อสร้าง
4. นกปรอดตัวเล็กขาวปลอดบินปร๋อไวยังกะปรอท
7. เสียงควบกล้ําในข้อใดไม่ปรากฏในระบบเสียงภาษาไทย
1. บรั่นดี 2. นิวเคลียส 3. อิเควเตอร์ 4. เพนกวิน
8. ข้อใดพยางค์แรกไม่มเี สียงพยัญชนะสะกด
1. โฆษณา 2. กรรมาธิการ 3. วาตภัย 4. ทิฐิ
9. ข้อใดมีคําที่มีตัวสะกดมากที่สุด
1. อันบ่วงกรรมทําไว้ในปางหลัง เป็นพืชยังปานนี้ให้มีผล
2. หว่านพืชดีผลดีมีแก่ตน หว่านพืชชั่วกลั้วผลที่คับแค้น
3. อันความจริงข้อนี้มีมาแล้ว ไม่คลาดแคล้วเป็นอื่นทุกข์หมื่นแสน
4. จะเปลี่ยนชั่วให้ดีมีมาแทน ถึงแม้นแมนแม่นไม่เปลี่ยนได้เอง
10. คําขวัญต่อไปนี้มีเสียงพยัญชนะสะกดกี่เสียง (ไม่นับเสียงซ้ํา)
“รักในหลวง ห่วงลูกหลาน ช่วยกันต้านยาเสพติด”
1. 5 เสียง 2. 6 เสียง 3. 7 เสียง 4. 8 เสียง
11. ข้อใดมีเสียงพยัญชนะสะกดน้อยที่สุด (นับทุกเสียง)
1. ฉันชอบนั่งดูดาวพราวรังสี 2. อันเป็นที่ชื่นชมอารมณ์ฉัน
3. รัศมีสีแสงแข่งตะวัน 4. ในสวรรค์สงสัยว่าไม่มี
12. ข้อความต่อไปนี้มีพยางค์ที่ปรากฏเสียงพยัญชนะท้ายกี่พยางค์
“มัวแต่พูดว่า ‘จะ จะ’ อยู่นั่นเอง ทําไมไม่ลงมือเสียที”
1. 7 พยางค์ 2. 8 พยางค์ 3. 9 พยางค์ 4. 10 พยางค์
13. ข้อใดมีเสียงพยัญชนะสะกดมากที่สุด (ไม่นับเสียงซ้ํา)
1. จงรู้จักรักษาคุณค่าหญิง 2. อย่าทอดทิ้งทางงามทุกความหมาย
3. แม้นราคีมีหมองต้องเสียดาย 4. จะอับอายออกนามคนหยามเรา
1. ข้อ 1 2. ข้อ 2 3. ข้อ 3 4. ข้อ 4
14. ข้อใดมีคําที่มีเสียงพยัญชนะสะกดเสียงเดียวกันมากที่สุด
1. พยัคฆ์ใหญ่ครุฑยักษ์สมัครสมาน ยอยศมารมนุษย์เหนือพุทธะ
2. เมื่อพบลาภภาพนั้นพลันกลับหาย สรรพสิ่งวอดวายวับไปกับตา
3. นุชนาฏพลาดพลัดกษัตรา มิอาจมาทรงราชรถบุษบางาม
4. ไทยล้วนรุ่มรวยด้วยผลไม้ จิตใจก็สวยใสงดงามจริง
15. ข้อใดมีคําที่มีเสียงสระต่างกับข้ออื่น
1. กะทันหัน ซักไซ้ อะไหล่ 2. เยาว์วัย ไผท เผ่าพันธุ์
3. มักกะสัน บรรเทา ลําไย 4. บรรลัย ย่อมเยา สําปะหลัง
16. ข้อใดมีคําที่ประกอบด้วยเสียงสระเดี่ยวทุกคํา
1. สิ่งแวดล้อมกําลังเสื่อมลงอย่างมาก 2. อันเนื่องมาจากการกระทําของมนุษย์เอง
3. โลกจะสวยงามได้ด้วยสองมือของคน 4. จงมาพิทักษ์ธรรมชาติ ลําธาร และป่าไม้
17. ข้อใดมีคําที่ประสมสระเดี่ยวสั้นมากที่สุด (ไม่นับเสียงซ้ํา)
1. ยิ้มกันวันละนิดจิตแจ่มใส 2. ครอบครัวคือกําแพงแห่งชีวิต
3. ขับรถถูกกฎช่วยลดอุบัติเหตุ 4. อย่ารักเหากว่าผม อย่ารักลมกว่าน้ํา
ข้อควรระวัง
1. คําไทยแท้อาจมีมากกว่า 1 พยางค์ ซึ่งเกิดจาก
1.1 การเพิ่มเสียงหน้าศัพท์ เช่น
ชิด กบ เดี๋ยว
คบ จวบ ท้วง
ทํา โดด แอม
ไขว่ ครื้น อุ่ม
นกยาง ลูกดุม โงก
คําบางคําที่สะกดตรงตามมาตราอาจไม่ใช่คําไทยแท้
โลก กาย พน ชน ราม ธน มน กนก วัย ชัย อภัย อาลัย จมูก เดิน
ตะบันหมาก ละออง บายศรี เลอโฉม โง่เขลา โปรด กราบ ทาย ปรุง ติ แข็ง
2. บาลีใช้ “ส” เช่น สาสนา สิสสะ สันติ วิสาสะ 2. สันสกฤตใช้ ศ,ษ เช่น ศาสนา ศิษย์
สาลา สิริ สีสะ สุกกะ สูญ ศานติ พิศวาส ศาลา ศรี ศีรษะ ศุกร์ ศูนย์
3. บาลีใช้ “ฬ” เช่น จุฬา กีฬา ครุฬ เวฬุริยะ 3. สันสกฤตใช้ “ฑ” เช่น จุฑา กรีฑา บีฑา
ครุฑ ไพฑูรย์
6. บาลีมีหลักตัวสะกดตัวตามที่แน่นอน
พยัญชนะวรรค (เราสังเกต......................)
การนําภาษาบาลีและสันสกฤตมาใช้ บางครั้งเราก็ใช้ทั้งสองคําในความหมายเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน
คําที่มาจากภาษาบาลี คําที่มาจากภาษาสันสกฤต ความหมายว่า
อิทธิ ฤทธิ์ อํานาจศักดิ์สิทธิ์
สิงคาร ศฤงคาร ความรัก ความโอ่โถง
ติณ ตฤณ หญ้า
อิสริยะ ไอศวรรย์ ความเป็นใหญ่
เวชช แพทย์ แพทย์
วุฒิ พฤฒิ ภูมิรู้ ความเจริญ
อุตุ ฤดู เวลาตามกําหนด
รุกข์ พฤกษ์ ต้นไม้
อัคค อัคร เลิศ ยอด
สัจจะ สัตย์ ความซื่อ ความจริง
อัคคี อัคนี ไฟ
วิชา วิทยา ความรู้
บางครั้งภาษาไทยรับมาใช้ทั้งสองภาษา แต่ใช้ในความหมายที่ต่างกัน
บาลี ความหมาย สันสกฤต ความหมาย
อัจฉริยะ เก่งกาจ น่าพิศวง อัศจรรย์ น่าพิศวง
กีฬา การแข่งขัน การออกกําลังกาย กรีฑา การแข่งขันประเภทลู่
การแข่งขันประเภทลาน
เขต กําหนดแดน ขอบ เกษตร การเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์
ฐาน ที่ตั้ง ที่รองรับ สถาน ที่ตั้ง ประการ
สถานะ ความเป็นไป ความเป็นอยู่
กิริยา อาการ มารยาท ความประพฤติ กริยา คําที่แสดงกิริยาอาการ
รัฐ แว่นแคว้น ราษฎร ประชาชน พลเมือง
คําไทยแท้และคําที่มาจากภาษาต่างประเทศ
1. ข้อใดเป็นคําประสมที่ประกอบด้วยคําไทยกับคํายืมทุกคํา
1. โรงพัก ตู้โชว์ 2. กินเจ ข้าวสาร
3. ชาวโลก น้ําพุ 4. ฝูงชน ลําแข้ง
2. ข้อใดมีคํามาจากภาษาบาลีทุกคํา
1. พิสดาร วิทยุ มัจฉา 2. ทิฐิ ลักขณา วุฒิ
3. บุญ บารมี เชษฐา 4. องค์ ครรภ์ สังข์
3. ข้อใดมีคําที่มาจากภาษาบาลีทุกคํา
1. อมตะ กีฬา วัตถุ 2. ถาวร นิพพาน นิตยสาร
3. ภักดี นิมิต มัธยม 4. พิสดาร ปัจฉิม ธัญบุรี
4. ข้อใดมีคําสันสกฤตทุกคํา
1. จักร มรรค ปัญจวัคคีย์ 2. ปูชนีย์ สัพพัญญู โอฬาร
3. วรรณะ พยัคฆ์ อัธยาศัย 4. สังสรรค์ สุวรรณ พัสดุ
5. ข้อใดไม่มคี ําที่มาจากภาษาสันสกฤต
1. ร้านศรีวิชัย สินทรัพย์ธานี 2. หอศิลป์เจ้าฟ้า องค์การเภสัชกรรม
3. หมู่บ้านกฤษฎา เมืองทองนิเวศน์ 4. ศึกยุทธหัตถี หมู่บ้านโอฬาร
6. ข้อใดมีคําที่มาจากภาษาต่างประเทศมากที่สุด
1. จงเจริญชเยศด้วย เดชะ 2. ปราชญ์แสดงดําริด้วย ไตรยางค์
3. อ้าจอมจักรพรรดิผู้ เพ็ญยศ 4. บัญฑิตวินิจเลิศ แถลงสาร
คําไทยแท้และคําที่มาจากภาษาต่างประเทศ
1. ข้อใดเป็นคํายืมทุกคํา
1. จงกรม จงอาง จรณะ 2. ดรุณ ตรุษ ตฤณ
3. ทําเล ทําลาย ทําเนา 4. ไต่คู้ ไต้ฝุ่น ไตรเพท
2. ข้อใดมีคําภาษาต่างประเทศ
1. จากจวนชวนกันลงบันได 2. ผีซ้ําด้ําพลอยให้ผวา
3. ท่านผู้ชายผู้หญิงก็ตามมา 4. แวะหาม้าสีหมอกบอกคดี
3. ข้อใดมีคําภาษาต่างประเทศมากที่สุด
1. ใครมีลูกว่าง่ายกายปราศไข้ มีใจเสาะหาวิชาขลัง
2. มีเพื่อนฉลาดเฉลียวเที่ยวเหนี่ยวรั้ง มีเมียฟังถ้อยคําประจําใจ
3. ผู้นั้นดีมีบุญอาจจุนค้ํา โลกให้จําเริญสุขปลดทุกข์ได้
4. ชนทั้งหลายคลายร้อนหย่อนแยงภัย เพราะเขาได้ความสุขปราศทุกข์เจียว
2. คําประสม
คําประสมคือคําที่เกิดจากคํามูล 2 คําขึ้นไปมารวมกัน แล้วเกิดความหมายใหม่โดยคงเค้าความหมาย
เดิมเพื่อใช้เรียกสิ่งใหม่ คํามูลเหล่านั้น ห้าม ความหมาย เหมือน คล้ายหรือตรงข้ามกัน มิฉะนั้นจะกลาย
เป็น คําซ้อนเพื่อความหมาย คําประสมเป็นคํานาม คํากริยา หรือคําวิเศษณ์ก็ได้
โครงสร้างของคําประสม __________________________________________________
1. คํานาม + คํานาม
แม่ยาย พ่อบ้าน รถไฟ คนกรุง สวนครัว กระถางธูป
แผนภูมิ ลูกน้อง แบบเสื้อ ดอกไม้ หางเสือ
เกษตรจังหวัด ขันหมาก ปากน้ํา ไม้เท้า ดินปืน น้ําซุป
ฟองน้ํา น้ําฝน น้ําผึ้ง น้ําทะเล น้ําปลา สวนสัตว์
ตีนแมว หัวหน้างาน หัวคะแนน ทางเท้า เจ้ามือ เจ้าบ้าน
ปากฉลาม คนสวน เจ้ามือ เจ้าบ้าน นายท่า นายทุน
ลูกเสือ ลูกเรือ ลูกมือ เครื่องเงิน ลายมือ แสงอาทิตย์
คําประสมที่ใช้เรียกสิ่งต่างๆ
อาหาร : ไข่หวาน ไข่ยัดไส้ ไข่ดาว น้ําผลไม้ น้ําอัดลม ลูกอม
อมยิ้ม ทองหยอด แกงส้ม แกงเหลือง แกงจืด อาหารเช้า
อาหารเย็น น้ําพริก ต้มยํา ฝอยทอง ถ้วยฟู น้ําส้มคั้น
วิเคราะห์โครงสร้างคําประสมของคําเหล่านี้
1) การศึกษาทางไกล 2) จดหมายลงทะเบียน 3) ทางคู่ขนาน
4) แปรงทาสี 5) ผ้าขนหนู 6) เครื่องกรองแสง
7) โทรศัพท์มือถือ 8) รถลอยฟ้า 9) รถไฟเหาะตีลังกา
10) เครื่องถ่ายเอกสาร
3. คําซ้อน
1. คําซ้อนเพื่อความหมาย คือ การนําคํามูลที่มีความหมายใกล้เคียงหรือเหมือนกันมาซ้อนกัน
คําซ้อนเพื่อความหมาย : คํามูล 2 คําที่มีความหมาย เหมือน / คล้าย / ตรงข้าม มาซ้อนกัน
ซ้อนแล้วความหมายเหมือนเดิม หรือชัดเจนมากยิ่งขึ้น เช่น
จิตใจ ซื่อสัตย์ รูปร่าง ข้าทาส ว่างเปล่า
มากหลาย ข่มเหง พัดวี เสื้อแสง เสื่อสาด
ก่อสร้าง เปลี่ยนแปลง พลัดพราก เลวทราม เลือกเฟ้น
หยอกล้อ เศร้าโศก ศึกสงคราม เลือกสรร ร่างกาย
ซ้อนแล้วความหมายแคบหรือเฉพาะเจาะจงมากกว่าคําเดิม เช่น
ขัดถู ใจคอ ปากคอ หน้าตา ดื้อดึง หัวหู เนื้อตัว
หูตา หยิบยืม หลับนอน เชื่อมต่อ ญาติโยม
หลักภาษาไทย ม.ปลาย (44)
ซ้อนแล้วความหมายกว้างกว่าเดิม เช่น
ถ้วยชาม ข้าวปลา ทุบตี พี่น้อง ทรัพย์สิน
หลักฐาน รากฐาน คัดเลือก
ซ้อนแล้วความหมายเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น
หนักแน่น ดูดดื่ม อ่อนหวาน คับแคบ เดือดร้อน
ยุ่งยาก อบรม มัวหมอง เด็ดขาด กดขี่
ทิ่มตํา วิ่งเต้น บากบั่น ค้ําจุน ขวากหนาม
บีบคั้น แง่มุม ลู่ทาง ช่องทาง ดูแล
อบรม ตัดสิน ตัดขาด เสียดสี บกพร่อง
ซ้อนแล้วความหมายไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การใช้
ความหมายตรงกันข้ามมาซ้อนกัน เช่น
ชั่วดี ผิดถูก เป็นตาย ร้ายดี จนมี
ดีเลว แพ้ชนะ ได้เสีย ขาดเหลือ ยากง่าย
วิธีการสร้างคําซ้อน
1. สร้างจากคําไทยกับคําไทย เช่น ใหญ่โต อ้วนพี งูเงี้ยว ตัดสิน พัดวี คอยท่า ข่มเหง ผีสาง
บ้านช่อง เสื่อสาด เจ้านาย ภูเขา บ้านเรือน บกพร่อง รู้จัก
2. สร้างจากคําไทยกับคําภาษาต่างประเทศ เช่น
+ ภาษาบาลี : รูปร่าง ร่างกาย ข้าทาส แก่นสาร ช้างสาร สูญหาย สาปแช่ง เขตแดน จิตใจ
จิตใจ หยิ่งยโส เค้ามูล ทุกข์ยาก ถิ่นฐาน สูญเสีย รากฐาน เชื้อชาติ รูปโฉม
+ ภาษาสันสกฤต: ซากศพ ซื่อสัตย์ นัยน์ตา โคตรเหง้า ทรัพย์สิน สร้างสรรค์ ศูนย์กลาง ผิวพรรณ
กงจักร เนืองนิตย์ สรวงสวรรค์ ชั่วช้าสามานย์ พรรคพวก โกรธแค้น โศกเศร้า
+ ภาษาเขมร : ทรวงอก แสวงหา เด็ดขาด เงียบสงบ แบบฉบับ ยกเลิก โง่เขลา แมกไม้ ด่าทอ
เมิลมอง เมียงมอง เงียบสงัด ถนนหนทาง เขียวขจี สรรหา เลือกสรร สดับตรับฟัง
เชี่ยวชาญ พงไพร ตริตรอง ตรวจตรา ติเตียน
+ ภาษาจีน : หุ้นส่วน ห้างร้าน ชื่อแซ่ กักตุน ต้มตุ๋น เก๊กท่า ถัวเฉลี่ย
+ ภาษาอังกฤษ : แบบแปลน เสื้อเชิ้ต แบบฟอร์ม ท่อแป๊บ รุมสกรัม
3. สร้างจากคําภาษาต่างประเทศทั้งหมด เช่น
ภาษาบาลี + ภาษาบาลี : รูปภาพ กิจธุระ ภัยอันตราย สบถสาบาน กฎเกณฑ์ มารยาสาไถย
รสชาติ กาลเวลา เภทภัย พิกลพิการ
ภาษาบาลี + สันสกฤต : อุดมสมบูรณ์ เหตุการณ์ อิทธิฤทธิ์ ญาติมิตร เวทมนตร์ เวรกรรม
ยานพาหนะ บาปกรรม สมณพราหมณ์
สันสกฤต + บาลี : ฤกษ์ยาม ฤทธิ์เดช ภิกษุสงฆ์ ยักษ์มาร พระสงฆ์ มิตรสหาย ฤดูกาล
ประชาชน
สันสกฤต + สันสกฤต : วิพากษ์วิจารณ์ ศักดิ์ศรี ทรัพย์สมบัติ ประสิทธิ์ประสาท ประชาราษฎร์
วิจิตรพิสดาร เคราะห์กรรม มิตรไมตรี
หลักภาษาไทย ม.ปลาย (45)
ภาษาเขมร + ภาษาสันสกฤต : สรงสนาน เสบียงอาหาร ขนบประเพณี
ภาษาเขมร + ภาษาบาลี : ไพรสณฑ์ โขลนทวาร
ภาษาบาลี + ภาษาเขมร : รูปทรง สุขสงบ พละกําลัง ภูมิลําเนา วิตกกังวล
ภาษาเขมร + ภาษาเขมร : สนุกสนาน สงบเสงี่ยม เลอเลิศ เฉลิมฉลอง สนียดจัญไร เดินเหิน เหาะเหิน
ภาษาจีน + ภาษาจีน : เฮงซวย
คําที่ทําหน้าที่ต่างกันในประโยค ไม่ใช่คําซ้ํา
1. สถานที่ทฉี่ ันชอบมากที่สุดคือห้างสรรพสินค้า ( “ที่” คําแรกเป็น _______ คําหลัง เป็น _______ )
2. ของของใคร ทิ้งไว้เกะกะ ( “ของ” คําแรกเป็น ____________ คําหลัง เป็น ___________ )
3. ฉันชอบเพลงเพลง นี้มากมาก ( “เพลง” คําแรกเป็น ____________ คําหลัง เป็น ___________ )
วิเคราะห์คําซ้ําต่อไปนี้ว่าใช้ถูกหรือผิด
1. บ้านพี่แดงอยู่ซอยนา ๆ ถนนสุขุมวิท 6. คน ๆ นี้เป็นคนดี
2. ฉันเห็นพี่ชายเธอกับพี่ชายของฉัน จะ ๆ เข้าไปกัน 2 คน 7. เขามีที่ ๆ เชียงใหม่
3. เรียกตุ๊ก ๆ มาแล้วเธอ 8. นายดํา ๆ ลงไปลึกมาก
4. อาแป๊ะเอา ไวๆ 2 ห่อคะ 9. หล่อนใช้แปรง ๆ ผมที่ยาวสลวย
5. เรื่อย ๆ มารอน ๆ ทิพากรจะตกต่ํา 10. ฉันมีที่ที่คุณตายกให้ 2 ไร่แถวสุขุมวิท
คําที่ลงท้ายด้วยคําต่อไปนี้มักจะเป็นคําสมาส
กิจ การ กรรม กร ศึกษา ภัย สถาน
ภาพ วิทยา ศิลป์ ธรรม ศาสตร์
สํ + นิบาต ____________ (ต ถ ท ธ น)
สํ + นิวาส ____________
การสร้างคําในภาษาไทย (2)
1. ข้อใดมีคําประสม
1. เห็นกิ่งกีดมีดพร้าเข้าราราน 2. หลังคาใหญ่พื้นเล็กเป็นโลงผี
3. ดูเหย้าเรือนหาเหมือนอย่างไทยไม่ 4. ถึงหนามกรานก็ไม่เจ็บเหมือนเหน็บแนม
2. คําประสมทุกคําในข้อใดมีส่วนประกอบเหมือนคําว่า “คนพิมพ์ดีด”
1. เครื่องตัดหญ้า รถลอยฟ้า 2. คนเก็บขยะ นักการเมือง
3. หัวก้าวหน้า ผู้ใจบุญ 4. ห้องนั่งเล่น ผ้ากันเปื้อน
3. ข้อใดมีกริยาเป็นคําประสมทั้งหมด
1. คุณปู่นั่งเล่านิทาน หลานๆ ยิ้มแป้น 2. เวลาแดดร้อนจัดต้องเดินกางร่ม
3. เขาชอบออกตัวเพราะเพรงใจเพื่อนๆ 4. พ่อถ่ายรูปน้องขณะนอนหลับ
4. ข้อใดเป็นคําประสมทุกคํา
1. จานเด็ด จานร้อน จานแบน จานเปล 2. คิดถึง คิดอ่าน คิดค้น คิดดู
3. เตะจมูก เตะตา เตะก้น เตะฉาก 4. คําขวัญ คําคม คําตั้ง คําตาย
5. ข้อใดเป็นคําประสมทุกคํา
1. กรรมเก่า น้ําเน่า สาดโคลน สั่นคลอน 2. แกะดํา นั่งร้าน วางมวย ผุยผง
3. เล่นตัว วางมือ หมกเม็ด แพแตก 4. จุดจบ สับหลีก เลวทราม ลายคราม
6. ข้อใดเป็นคําประสมทุกคํา
1. ของขลัง ชุมนุม เรือด่วน สามขุม 2. เรียงเบอร์ ข้าวสวย มูมมาม เหล็กดัด
3. มือถือ เครื่องบิน ต้มเค็ม รูปภาพ 4. แม่พิมพ์ เครื่องคิดเลข แกงไก่ ขายหน้า
7. คําในข้อใดเป็นคําประสมทุกคํา
1. แผงลอย โอดครวญ เสื้อนอน ผักดอง 2. เรือนแพ เผ็ดร้อน ไขมัน โหยหวน
3. มืออาชีพ หอบหิ้ว กล่องข้าว ป่าวร้อง 4. เดินหน้า ข้องใจ ร่างทรง อ่อนโยน
8. ข้อใดมีคําทีไ่ ม่ใช่คําประสม
1. ขั้วโลก ข้าวหลาม เข้ารอบ 2. จนมุม จวนตัว ใจเพชร
3. ชูชีพ เชิดหุ่น เชิงกราน 4. ดินดาน เดิมพัน เดินสาย
(5) อนิยมสรรพนาม ใช้แทนนามทั่วๆไป ไม่ชี้เฉพาะเจาะจง ใคร อะไร ไหน ผู้ใด ใครๆ อะไรๆ ไหนๆ
ใครจะไปเที่ยวเชียงใหม่ก็ได้ ฉันไม่ทราบว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว
อะไรๆก็ไม่สําคัญเท่าความดี ผู้ใดพากเพียรวันนีผ้ ู้นั้นสบายวันหลัง
ไหนๆฉันก็ไปได้ ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง ฉันกินอะไรก็ได้
(6 ) อนิยมวิเศษณ์ คือวิเศษณ์ที่ประกอบเพื่อบอกความไม่ชี้เฉพาะหรือไม่จํากัดลงไปว่าเป็นเช่นนั้นเช่นนี้
หรือสิ่งนั้นสิ่งนี้ เช่น ใด ไหน กี่ อะไร ทําไม เช่นไร
คนใดไปก่อนก็ได้ ครูอนุญาตให้นักเรียนไปสมัครชมรมไหนก็ได้
เธอจะเป็นเช่นไรฉันก็ไม่รังเกียจ เธอจะกระฟัดกระเฟียดอย่างไรฉันก็ไม่สนใจ
ใช้ข้อความต่อไปนี้ตอบคําถามข้อ 9 – 10
ก. เธอจงถักทอฝันที่เธอหวัง
ข. หนึ่งชีวิตหนึ่งใจมอบให้เพียงเธอ
ค. อุปสรรคขวากหนามทิ่มแทงอย่างโหดร้าย
ง. เกิดคําถามขึ้นในใจว่าทําไมผู้ใหญ่ถูกเสมอ
9. คําที่ขีดเส้นใต้ในข้อใดทําหน้าที่กริยาหลัก
1. ข้อ ก. 2. ข้อ ข. 3. ข้อ ค. 4. ข้อ ง.
ใช้ข้อความต่อไปนี้ตอบคําถามข้อ 21 – 22
ก. ทุกวันนี้ชาวต่างประเทศชื่นชมกับอาหารไทย ยิ่งมีอุปกรณ์ตกแต่งร้านอาหารเป็นศิลปะไทยๆ ก็
ยิ่งจะเป็นที่นิยมมากขึ้น
ข. คนไทยควรเชิญชวนให้ชาวต่างประเทศหันมาสนใจรับประทานอาหารไทยซึ่งมีคุณค่าต่อ
ร่างกายไม่แพ้อาหารของชาติอื่นๆ
ค. ร้านอาหารของคนไทยในต่างประเทศดําเนินการอยู่ได้เพราะชาวต่างประเทศนิยมอาหารที่มี
รสชาติแบบไทยๆ
ง. ตลาดต่างประเทศเกี่ยวกับธุรกิจร้านอาหารเป็นตลาดที่ใหญ่โตมาก แต่ผู้บริโภคมีกําลังซื้อสูง
21. ข้อใดใช้คําบุพบทไม่ถูกต้อง
1. ข้อ ก. 2. ข้อ ข. 3. ข้อ ค. 4. ข้อ ง.
22. ข้อใดใช้คําสันธานไม่ถูกต้อง
1. ข้อ ก. 2. ข้อ ข. 3. ข้อ ค. 4. ข้อ ง.
ใช้ข้อความต่อไปนี้ตอบคําถามข้อ 23 - 24
(1) สิงคโปร์เป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่ในชัยภูมิอันเหมาะสมจึงได้เป็นศูนย์กลางของสายการบิน
นานาชาติ (2) เมื่อสิงคโปร์เริ่มพัฒนาอุตสาหกรรมจนมีผู้อุปถัมภ์มากมาย โดยเฉพาะอเมริกากับอังกฤษ
เปิดรับสินค้าจากสิงคโปร์อย่างเต็มที่ (3) ประเทศไทยและประเทศกลุ่มอาเซียนอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้
เป็นผู้อุปถัมภ์สิงคโปร์แต่ก็เหมือนเป็น (4) เพราะประเทศไทยเป็นแหล่งรองรับสินค้าจากสิงคโปร์และ
เป็นผู้ส่งแรงงานราคาถูกให้กับสิงคโปร์ด้วย
23. ข้อความตอนใดใช้คําบุพบทผิด
1. ตอนที่ (1) 2. ตอนที่ (2) 3. ตอนที่ (3) 4. ตอนที่ (4)
ชนิดคําในภาษาไทย (3)
1. ข้อความต่อไปนี้มีคํานามและคํากริยาหลักอย่างละกี่คํา (ไม่นับคําซ้ํา)
กิจกรรมนั้นเป็นของดี แต่สถาบันอุดมศึกษาไม่ได้ตั้งขึ้นสําหรับรับนักศึกษาเพื่อทํา
กิจกรรม กิจกรรมมีไว้ให้นักศึกษาใช้เวลาว่างทําประโยชน์และเปลี่ยนบรรยากาศ
1. นาม 7 คํา กริยา 8 คํา 2. นาม 6 คํา กริยา 8 คํา
3. นาม 7 คํา กริยา 7 คํา 4. นาม 6 คํา กริยา 6 คํา
2. ข้อความต่อไปนี้มีคํานามและคํากริยาหลักอย่างละกี่คํา (ไม่นับคําซ้ํา)
การกู้ยืมจะมีประโยชน์ต่อเมื่อที่กู้มานั้นใช้อย่างมีคุณภาพและสร้างรายได้เพื่อเพิ่มต้นทุน
ของเงินจํานวนนั้น
1. นาม 4 คํา กริยา 3 คํา 2. นาม 5 คํา กริยา 4 คํา
3. นาม 6 คํา กริยา 5 คํา 4. นาม 7 คํา กริยา 6 คํา
3. ใช้ข้อความต่อไปนี้ตอบคําถามข้อ ก. และ ข้อ ข.
วัตถุดิบที่จะผลิตเครื่องปั้นดินเผามีหลายอย่างเพื่อให้ได้คุณภาพตามความต้องการที่จะใช้ประโยชน์
ก. ข้อความข้างต้นมีคํานามกี่คํา
1. 4 คํา 2. 5 คํา
3. 6 คํา 4. 7 คํา
ข. ข้อความข้างต้นมีคํากริยาหลักกี่คํา
1. 3 คํา 2. 4 คํา
3. 5 คํา 4. 6 คํา
4. ใช้ข้อความต่อไปนี้ตอบคําถาม ข้อ ก. และข้อ ข.
นอกจากการดูนก นักท่องเที่ยวบางคนอาจสนใจผีเสื้อซึ่งอยู่ในป่าบางแห่งมีรูปร่างและสีสันต่างๆ
ก. ข้อความข้างต้นมีคํานามกี่คํา
1. 3 คํา 2. 4 คํา 3. 5 คํา 4. 6 คํา 5. 7 คํา
ข. ข้อความข้างต้นมีคํากริยาหลักกี่คํา
1. 2 คํา 2. 3 คํา 3. 4 คํา 4. 5 คํา 5. 6 คํา
5. ใช้ข้อความต่อไปนี้ตอบคําถาม ข้อ ก. และ ข้อ ข.
เกาะเกร็ดมีร้านที่จําหน่ายเครื่องปั้นดินเผาเรียงรายอยู่บนเกาะ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทําขึ้นในท้องถิ่น
ก. ข้อความข้างต้นมีคํานามกี่คํา
1. 3 คํา 2. 4 คํา
3. 5 คํา 4. 6 คํา 5. 7 คํา
ข. ข้อความข้างต้นมีคํากริยาหลักกี่คํา
1. 2 คํา 2. 3 คํา
3. 4 คํา 4. 5 คํา 5. 6 คํา
หลักภาษาไทย ม.ปลาย (80)
6. ข้อความต่อไปนี้มีบุพบทและสันธานกี่คํา
คนไทยสมัยโลกาภิวัตน์ได้เปรียบคนไทยรุ่นก่อนในด้านที่มีความรู้กว้างขวางเพราะ
สามารถแสวงหาความรู้ได้จากแหล่งต่าง ๆทั้งหนังสือ วิทยุ โทรทัศน์ และคอมพิวเตอร์
1. บุพบท 1 คํา สันธาน 3 คํา 2. บุพบท 2 คํา สันธาน 3 คํา
3. บุพบท 1 คํา สันธาน 4 คํา 4. บุพบท 2 คํา สันธาน 4 คํา
7. ข้อความต่อไปนี้มีคําสันธานและคําบุพบทกี่คํา (นับคําซ้ํา)
น้ําเป็นองค์ประกอบสําคัญต่อร่างกายของมนุษย์ และทําให้เราสามารถดําเนินชีวิตอยู่
ได้ ถ้าร่างกายขาดน้ําเราจะไม่สามารถดํารงชีวิตอยู่ได้เลย
1. สันธาน 2 คํา บุพบท 1 คํา 2. สันธาน 2 คํา บุพบท 2 คํา
3 สันธาน 1 คํา บุพบท 2 คํา 4. สันธาน 1 คํา บุพบท 1 คํา
8. ข้อความต่อไปนี้มีคําสันธานและคําบุพบทกี่คํา
ทุกวันนี้โลกแคบลงจนสื่อสารกันได้ทันใจและเราก้าวทันโลกได้ตามวิถีโลกาภิวัตน์
วิทยาการ ต่าง ๆ น่าจะสัมพันธ์กันได้มากขึ้น โลกของนักวิชาการมิใช่มีเพียงซีกตะวันออกกับ
ซีกตะวันตกเท่านั้น
1. สันธาน 2 คํา บุพบท 3 คํา 2. สันธาน 2 คํา บุพบท 2 คํา
3. สันธาน 3 คํา บุพบท 3 คํา 4. สันธาน 3 คํา บุพบท 2 คํา
9. ใช้ข้อความต่อไปนี้ตอบคําถามข้อ ก. และ ข้อ ข.
เนื่องจากวิถีดําเนินชีวิตของคนไทยเปลี่ยนไป ทั้งพ่อบ้านและแม่บ้านต้องทํางานหารายได้
ให้เพียงพอจึงไม่มีเวลามากในการปรุงอาหาร
ก. ข้อความข้างต้นมีคําบุพบทกี่คํา
1. 2 คํา 2. 3 คํา
3. 4 คํา 4. 5 คํา
ข. ข้อความข้างต้นมีคําสันธานกี่คํา
1. 2 คํา 2. 3 คํา
3. 4 คํา 4. 5 คํา
10. ใช้ข้อความต่อไปนี้ตอบคําถาม ข้อ ก. และข้อ ข.
เชื้องูสวัดที่เป็นไม่ได้ติดมาจากใคร แต่เป็นเชื้อตัวเดียวกับอีสุกอีใสที่เราเคยเป็นเมื่อยัง
เป็นเด็ก และเก็บซ่อนไว้ในปมประสาทแล้วถูกกระตุ้นปลุกขึ้นมาใหม่
ก. ข้อความข้างต้นมีคําบุพบทกี่คํา
1. 1 คํา 2. 2 คํา 3. 3 คํา 4. 4 คํา 5. 5 คํา
ข. ข้อความข้างต้นมีคําสันธานกี่คํา
1. 1 คํา 2. 2 คํา 3. 3 คํา 4. 4 คํา 5. 5 คํา
รูปแบบประโยค
1. ประโยคประธาน
2. ประโยคกริยา
3. ประโยคกรรม
ชนิดของประโยค
ประโยคความเดียว
1. เครื่องหมายถูกลบไปเสียแล้ว
ประโยคความรวม
1. อ้อยทําสวนครัวและร้องเพลงเบาๆ
ประโยค (2)
1. ข้อใดใช้ประโยคแสดงเจตนาแตกต่างจากข้ออื่น
1. คุณปิดวิทยุเดี๋ยวนี้ 2. คุณควรปิดวิทยุนะ
2. คุณช่วยปิดวิทยุด้วย 4. คุณปิดวิทยุหน่อยได้ไหม
2. ข้อใดไม่ต้องการคําตอบ
1. ใครบ้างที่ไม่อยากทํางานนี้ 2. ทําไมมากันตั้งมากมายอย่างนี้นะ
3. ทุกคนเตรียมพร้อมแล้วใช่ไหม 4. เขาไม่อยากเรียนวิชานี้จริงนะ
3. ข้อใดแสดงเจตนาในการส่งสารต่างกับข้ออื่น
ก. บ้านเมืองสะอาด ประชาชาติปลอดโรค
ข. ทิ้งขยะไม่เลือกที่ หมดราศรีไปทั้งเมือง
ค. คัดขยะแยกใส่ถุง วางข้างถังตั้งรอเก็บ
ง. สะอาดกายเจริญวัย สะอาดใจเจริญสุข
1. ข้อ ก 2. ข้อ ข 3. ข้อ ค 4. ข้อ ง
4. ข้อใดผู้พูดมีเจตนาเช่นเดียวกับประโยคต่อไปนี้
“เขาเป็นคนง่ายๆ อยู่ที่ไหน กินอะไรก็ได้”
1. “เธอจะอยู่กับฉันหรือจะไปกับเขาให้เลือกเอา”
2. “นิดชอบแต่งตัวมาก ซื้อเสื้อผ้าสวยๆ ทุกเดือน”
3. “สวัสดีจ้ะน้อย ไม่ได้เจอกันตั้งนาน อยู่ที่ไหนตอนนี”้
4. “คุณแม่ครับ ถ้าผมสอบเสร็จแล้ว ผมขอไปเที่ยวกับเพื่อน”
5. ข้อใดแสดงเจตนาของประโยคต่างจากข้ออื่น
1. การออกกําลังกายทําให้ร่างกายแข็งแรงและมีสุขภาพดี เราจึงต้องหมั่นออกกําลังกายทุกวัน
2. เธอควรเชื่อฟังบิดามารดาในการเลือกคู่ครอง เพราะผู้ใหญ่ย่อมเห็นการณ์ไกล
3. ในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ เราน่าจะรู้จักใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและคุ้มค่า
4. ปัจจุบันคนที่เรียนรู้การใช้คอมพิวเตอร์มีโอกาสก้าวหน้าในการงานอย่างรวดเร็ว
ใช้คําประพันธ์ต่อไปนี้ตอบคําถามข้อ 6 – 7
ก. สืบราชย์ลุรัชปัจจุบัน ทุกพระองค์ทรงสรร ประสิทธิประสาทสวัสดี
ข. ทรงธรรมนําชาติเกษมศรี รัฐจักรรูจี พระพุทธจักรชัชวาล
ค. ทวยราษฎร์อยู่สุขเกษมศานต์ สืบลูกสืบหลาน และวงศ์กุลสถาพร
ง. ใจตระหนักภักดิ์พึ่งตรึงตรา ในพระราชา ระลึกพระคุณจอมไทย
6. ข้อใดแสดงเจตนาในการส่งสารต่างกับข้ออื่น
1. ก 2. ข 3. ค 4. ง
7. พระมาหากรุณาธิคุณแห่งพระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรีปรากฏเด่นชัดที่สดุ ในคําประพันธ์ข้อใด
1. ก 2. ข 3. ค 4. ง