You are on page 1of 2

วินิจฉัยความรับผิดทางอาญาของนายแดง

การที่นายแดงเอาลวดขึงไว้ระหว่างเสาสองต้นบนถนนที่นายดำขับมอเตอร์ไซค์ผ่านทุกวัน เพื่อจะให้
นายดำขับมาโดนลวดบาดคอนั้นนายแดงมีการเคลื่อนไหวร่างกายภายใต้อำนาจจิตใจบังคับที่ผ่านการคิดตกลง
ใจมา อันเป็ นการกระทำทางอาญา โดยรู้ข้อเท็จจริงว่าการขึงลวดลักษณะดังกล่าวเป็นการทำให้ ผู้อื่นได้รับ
อันตรายแก่กายหากมาถูกเข้า และประสงค์ต่อผลในความเสียหายทางร่างกายของนายดำอีกด้วย อีกทั้งกา ร
กระทำดังกล่าวของนายแดงนั้นเป็นการกระทำในขั้นตอนสุดท้ายที่จำต้องกระทำเพื่อให้ผลความเสียหายเกิดขึ้น
แล้ว เพราะแดงไม่ต้องทำอะไรอีกแล้วหลังจากขึงลวด เหลือแค่รอดำมาโดนลวดบาดคอเท่านั้น การกระทำของ
นายแดงจึงครบองค์ประกอบความผิดฐานพยายามทำร้ายร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295
ประกอบ มาตรา 80

ทั้งนี้แม้ที่นายแดงทำการขึงลวดนั้นจะได้กระทำไปเพื่อป้องกันสิทธิในชีวิตของตนไม่ให้นายดำมาฆ่า
ตนเองอันเป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายอาญาก็ตาม แต่ภยันตรายที่จะเกิด
จากนายดำนั้นยังคงอยู่ห่างไกลจึงไม่ใช่ภยันตรายอันใกล้จะถึงเพราะฉะนั้น นายแดงจึงไม่อาจอ้างป้องกันโดย
ชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 ได้

อย่างไรก็ตาม การป้องกันของนายแดงนั้นแม้ไม่ใช่การป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ก็เป็นการ


ป้องกันที่เกินกว่ากรณีที่จำต้องป้องกัน เนื่องจากภยันตรายยังอยู่ห่างไกล เพราะฉะนั้นจึงได้รับการลดโทษตาม
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 69

อนึ่ง เมื่อการขึงลวดของนายแดงไม่ใช่การป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว การขึงลวดของนายแดง


จึงยังคงเป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย การขึงลวดของนายแดงจึงเป็นเหตุให้
นายดำเข้ามาตัดลวด นายแดงจึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับภยันตรายที่เป็นเหตุให้นายดำจะเข้ามาทำให้เสียทรัพย์โดย
การตั ด ลวด นายแดงจึ ง กระทำการใดต่ อ นายดำเพื่ อ อ้ า งการป้ อ งกั น โดยชอบด้ ว ยกฎหมายไม่ ได้ เลย
เพราะฉะนั้น การที่นายแดงเหวี่ยงหมัดชกนายดำที่กำลังจะตัดลวดของตน ที่เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายโดยรู้
ข้อเท็จจริงว่าตนกำลังจะประทุษร้ายบุคคลอื่นและประสงค์ให้บุคคลอื่นได้รับบาดเจ็บ อันเป็นการดำเนินไปถึง
ขั้นตอนสุดท้าย จึงเป็นการลงมือทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นความผิดพยายามทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมาย
อาญา มาตรา 295 ประกอบ 80 โดยไม่อาจอ้างการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายได้
วินิจฉัยความรับผิดทางอาญาของนายดำ

การที่นายดำจะตัดลวดทิ้งนั้นนายดำมีการเคลื่อนไหวร่างกายภายใต้อำนาจจิตใจบังคับโดยรู้ข้อเท็จจริง
ว่าตนกำลังจะทำให้ลวดของนายแดงขาดลงอันประสงค์ต่อความเสียหายในทรัพย์ของนายแดง เมื่อปรากฏว่า
นายดำได้ดำเนินการไปถึงขั้นง้า งจะฟันลวดแล้วจึงเป็นการกระทำที่ดำเนินไปถึงขั้นตอนสุดท้ายอันเป็ฯการลง
มือกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ นายดำจึงมีความรับผิดทางอาญาฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวล
กฎหมายอาญา มาตรา 358 ประกอบมาตรา 80

ทั้งนี้ แม้ลวดที่ขึงโดยนายแดงนั้นจะเป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายก็
ตาม แต่เหตุที่นายแดงขึงลวดนั้นเป็นเพราะล่วงรู้ว่านายดำจะมาฆ่า นายดำจึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับภยันตรายที่
นายแดงก่อขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นการที่นายดำพยายามตัดลวดของนายแดงทิ้งจึงไม่อาจอ้างการป้องกันโดยชอบ
ด้วยกฎหมายเพื่อยกเว้นความผิดฐานพยายามทำให้เสียทรัพย์ได้ได้ ตามมาตรา 68

นอกจากนี้ การที่นายดำได้ตัดแขนนายแดงขาด นายดำมีการเคลื่อนไหวร่างกายภายใต้อำนาจจิตใจ


บังคับ ที่นายแดงแขนขาดเป็นผลโดยตรงจากการกระทำของนายดำ และเป็นผลธรรมดาที่คาดหมายได้จาก
การใช้มีดฟันแขน และครบองค์ประกอบความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสตาม
ประมวลกฎหมายอาญา 297(3) อีกทั้งนายดำยังได้กระทำไปโดยรู้ว่าตนกำลังทำให้ร่างกายผู้อื่นได้รับอันตราย
แก่ ก ายและประสงค์ ให้ น ายแดงได้ รั บ ความเสี ย หายทางร่า งกายอี ก ด้ ว ย การกระทำของนายดำจึ งครบ
องค์ป ระกอบความผิ ดฐานทำร้ายร่างกายผู้ อื่นเป็นเหตุให้ ได้รับอันตรายสาหั ส และเมื่อมีส่ วนเกี่ยวข้องกับ
ภยันตรายแต่แรกแล้วดังที่วินิจฉัยไว้ข้างต้น นายดำก็ไม่อาจอ้างการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายในกรณีการ
ตัดแขนนายแดงเพื่ อยกเว้น ความผิ ดฐานทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ ผู้ อื่นได้รับอันตรายสาหั ส ตามประมวล
กฎหมายอาญา มาตรา 297 ได้เช่นกัน

You might also like