You are on page 1of 16

น.ส.

ช พร
ชื่อ-นามสกุล………………………..…………….……………………เลขประจ ศร ว บ าตัว………………………………หน้
61070507011 าที่ 1 จาก 15
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
การสอบปลายภาคเรี ยนที่ 1/2564
วิชา PRE 484 การบริ หารอุตสาหกรรม นักศึกษาวิศวกรรมอุตสาหการ ปี ที่ 4
สอบวันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 9:00 – 12:00 น.

คำสั่ ง

1. ข้อสอบวิชานี้มีท้ งั หมด 6 ข้อ คะแนนเต็ม 75 คะแนน เวลาสอบ 3 ชัว่ โมง (9:00 – 12.00 น.)
2. การสอบครั้งนี้เป็ นแบบ closed book
3. การตอบคาถาม นักศึกษาสามารถทาลงในข้อสอบ หรื อในกระดาษ หรื อในไฟล์ โดยพิมพ์ หรื อเขียนด้วยลายมือ (ใช้
ปำกกำเท่ ำนั้น) โดยเขียนชื่อ นามสกุล และเลขประจาตัวของนักศึกษาในหน้าแรกของหน้าคาตอบ
4. การส่ งกระดาษคาตอบ เป็ น pdf หรื อ word หรื อ ถ่ายรู ป อย่างใดอย่างหนึ่ง และ upload ในระบบ LEB2 : Assessment

อ.วาสนา เสียงดัง
ผูอ้ อกข้อสอบ
พั
ต์
รั
รี
ชื่อ-นามสกุล………………………..…………….……………………เลขประจาตัว………………………………หน้าที่ 2 จาก 15
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. ลักษณะของผูน้ าที่ดีในทัศนคติของนักศึกษาเป็ นอย่างไร และใครคือผูน้ าต้นแบบของนักศึกษา จงอธิบายโดยใช้ทฤษฎี


ว่าด้วยคุณลักษณะเฉพาะของผูน้ า (8 คะแนน)
………………………………………………………………………………………………………………………………
สามารถ ป บ ว เ อ เจอสถานการ าง ไ เ อ สถานะ การ เป ยนแปลงไป
………………………………………………………….…………………………………………………………………… สามารถ แ ญหา และ ป บ ว

เ า บ ง แวด อม และ เ น
ใ…………………………………………………………………………………………………………………….…………
สามารถ ป บ ค กราวใ พ กงาน ยอม บ สามารถ ป บ วใ เ า บ กษณะ

หาก งาน องใ ความ ดส างสรร ควร ลด นาจ ลง แ า องการ


……………………………………………………………………………………………………………………………… ด และ วาง ควร งาน ความ การ แผน

ใ นาจ ห อเ า บทบาท มาก น


……………………………………………….………………………………………………………………………………
มา

………………………………………………………………………………………………………….……………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
ควร เ นไป ตาม สถานการ อ ไ เ น อง ค ก ตาย ว แ สามารถป บ ว
ทฤษ า ตาย
………………………………….…………………………………………………………………………………………… ตาม

ใ เ า บสถานการไ สามารถ แ ญหา ห วไ อ าง เหมาะสม


…………………………………………………………………………………………….…………………………………
และ ป บ ขวาน

………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………….………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………….……………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
…………….…………………………………………………………………………………………………………………
….……………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………….…………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….
2. เรื่ องที่ 1 เรื่ องการจูงใจ (15 คะแนน)
สมเดชเป็ นผูจ้ ดั การแผนกงานของโรงงานแห่งหนึ่ง เขาหลบเข้าไปข้างประตูเพื่อจะหาโทรศัพท์มือถือ ในขณะนั้นเอง
ลูกน้องของเขา 2 คน เดินผ่านมาและไม่ได้สงั เกตเห็นตัวเขา ทั้งสองพูดกันดังนี้ “วันนี้คุณสมเดชพูดกับคุณว่าอย่างไรบ้าง”
“เขากระซิบบอกผมเมื่อบ่ายนี้ว่า ผมมีความสาคัญต่อโรงงานมาก ผมเป็ นคนงานที่ทางานดีที่สุด”
“เขาบอกคุณอย่างนั้นด้วยหรื อ? ในกรณี ของคุณอาจจะจริ งก็ได้ แต่สาหรับผม ผมไม่สนใจคาพูดของเขาอีกต่อไปแล้ว
ผมรู ้ว่าเขาพูดเช่นนี้กบั ทุกๆคน แม้ว่าผมจะทางานเสีย และคิดว่าจะได้รับคาตาหนิ แต่เขาก็ไม่เคยทาเช่นนั้น”
“ผมคิดว่าเป็ นการดีนะที่เรามีหัวหน้าที่พูดจากับเราดี ผมกลัวแต่เพียงว่า เขาชมผมแต่แอบไปตาหนิผมให้คนอื่นฟัง คุณ
ก็รู้เรื่ องของสมปองทีแ่ ผนกขัดเงาใช่ไหม คุณสมเดชไปดูผลงานของสมปองเมือ่ วันก่อน เขามีทีท่าตกใจมาก มีวงแหวนที่
ผู้นำที่
ตั
ต่
ผู้นำ
ดี
ปั
ตั
สิ่
กั
ผู้นำที่
บุ
รั
ตั
ที่ต้
ลั
กั
คิ
อำ
ผู้นำ
ผู้นำ
คิ
ที่ต้
ถ้
อำ
ขึ้
มี
ผู้นำ
ว่
ผู้นำ
คื
จำ
มีบุ
ต้
ตั
กั
ปั
ตั
มื่
ข้
ข้
ข้
มื่
ป็
ข้
ป็
ม่
ด้
ก้
ด้
รั
รั
รื
ก้
ร้
นี
ช่
ด้
ต่
รั
ต่
ย่
รั
ช้
ห้
นั
รั
ห้
ห้
รั
ห้
ลี่
ลิ
ป็
ลิ
ตั
ล้
ฎี
ค์
ณ์
ณ์
ชื่อ-นามสกุล………………………..…………….……………………เลขประจาตัว………………………………หน้าที่ 3 จาก 15
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สมปองขัดจนไหม้อยู่ 2-3 อันเป็ นอย่างน้อยในล็อตนั้น เมื่อสมปองถามว่ามีอะไรผิดพลาดบ้าง หัวหน้าพูดอย่างไรรู ไ้ หม เขา


บอกว่าไม่มีอะไรหรอก ผมดีใจที่คุณทางานเสร็ จทันเวลา แต่คาตอบของเขาตอบไปงั้นๆ เอง คุณสมเดชได้มาหาผมและ
บอกว่า เขาไม่ไว้ใจให้สมปองทางานขัดวงแหวนต่อไปแล้ว เขาจะให้สมปองมาทางานกับผม ผมไม่เข้าใจว่าทาไมหัวหน้า
ไม่บอกสมปองด้วยตัวเองเลยในวันนั้น”
“นัน่ แหละ ทาให้ผมคิดว่าเขาต้องการทาให้ทุกคนมีความสบายใจมากกว่าอย่างอื่น”
“ผมกลัวอยูอ่ ย่างเดียวว่า หัวหน้าจะไปบอกคนอื่นๆ เกี่ยวกับผมแบบเดียวกันนี้น่ะสิ ”
เมื่อคนงาน 2 คนนั้นเดินผ่านไป สมเดชได้กลับไปยังห้องทางาน และนัง่ คิดเกี่ยวกับเรื่ องทีไ่ ด้รับฟังมาเมื่อสักครู่

คำถำม (ข้อละ 2 คะแนน)


2.1 นักศึกษาคิดว่า วิธีการทีส่ มเดชสื่อสารกับลูกน้องของเขาเป็ นอย่างไร ผิดหรื อไม่ในการพูดกับลูกน้องทุกคนแบบนั้น
เพราะอะไร
การ สมเดช อสาร เ อ ก อง ใ ก า ห า การ ว ก อง น า ญ แ # เ น การ
………………………………………………….…………………………………………………………………………… ด ด
ใน แรง การ ของ

ด เพราะ สมเดชไ ควรชมใคร า ด และ ควร ด วย ความ จ ง จ บ ก อง ก คนไ ใ เ ยง แ ใ ก อง


…………………………………………………………………………………………………………….………………… พรม
ใ ไ เ ดความ า อ อ
ดความ สบาย
เ ………………………………………………………………………………………………………………………………

ด และไ ควร เป ยบ ยม
ทวง งานของ
ก อง า เขา
ข การ ด งาน

……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
2.2 จากทฤษฎีผนู ้ าที่ได้เรี ยนมา นักศึกษาคิดว่า สมเดชเป็ นผูน้ าแบบไหน
ทฤษ ความ องการ มฤท ผล เพราะ สมเดช ดเ อใ ก องเ ด
………………………………………………….…………………………………………………………………………… ใจ นชม ก อง เ อ ใ เ ด ตรไมต
ความ ยาย

ห อ
ม ษ ม น บ ก อง อเ น การ ตอบสนอง
…………………………………………………………………………………………………………….………………… องการ ความ
ความ
ก น และ การ ทอด นชม ใ ก อง ก
ญน ห า การ งานของ ตนเอง เ น พก ส าง แรง งใจใ แ ก อง ง เ น ด เ อ ตอบสนอง องการ
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
ความ การ การ ความ จะ

ใ งานออกมาไ และ ประสบ ผล าน จ


………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
2.3 ในกรณี น้ ี นักศึกษาคิดว่า สมเดชควรจะแก้ไขตัวเองหรื อไม่ อย่างไร
ควร แ ไข นาย สมเดช ควร วย ความ จ งใจ แ
………………………………………………….……………………………………………………………………………
ด ก อง ไ ดแ เ อใ ก อง เ ด ความสบายใจ แ ควร มา
ความ ก นา จ ง แ ก อง และ ก า จะ กเ อน ก อง เ อ ก วง ง ดพลาด ไ ใ กระ บห ง และ ด บห ง
…………………………………………………………………………………………………………….………………… มา

ก อง ง ใ นาย สมเดช ความ า เ อใน


………………………………………………………………………………………………………………………………
หมด เอง ตน

……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
2.4 ดูเหมือนว่าคนงานทั้งสองคนกาลังประเมินผลการทางานและสิ่งที่เขาได้รับจากหัวหน้างาน ด้วยทฤษฎีความเสมอ
ภาค (Equity theory) จากปัญหาทีเ่ กิดขึ้นนี้ สิ่ งที่คาดว่าการแสดงออกของคนงานในอนาคตจะเป็ นอย่างไร และจะส่ งผลถึง
ประสิ ทธิภาพของแผนกงานนี้อย่างไร
วิ
สื่
ที่
ห้ลู
ทำ
จู
มี
รู้
ว่
สํ
นั้
น้
ลู
ตั
ทำ
ผิ
ที่ผิ
พู
ดีที่
ว่
ด้
พู
ลู
กั
ทุ
ลู
ทำ
คำพู
ถื
ฬื่
น่
ลู
ทำ
ที่
ดีที่
ทำ
ว่
สั
ต้
พู
ลู
ลู
ชื่
จำ
ทำ
มิ
สั
ลู
ที่ดีกั
ถื
ผู
ต้
ทำ
ชื่
ลู
รู้
สำ
มี
ทำ
ที่
จู
ลู
พู
ซึ่
ทำ
ที่
ต้
ล้
ดี
ด้
พู
ลู
พู
ลู
รู้
ที่
ที่
ลู
ตั
ที่
ลู
ผิ
ทำสิ่
นี่
ลู
ลั
ลั
พู
ลู
ทำ
ซึ่
น่
ป็
พื่
พื่
กิ
กิ
มื่
พื่
ป็
กิ
พี
พื่
ป็
กิ
พื่
ป็
กิ
ชื่
ม่
ม่
ม่
ริ
ล้
สึ
ม่
ค่
ก่
สึ
ม่
ช่
ร้
ริ
ด้
ช่
ห้
สึ
ห้
ห้
ห้
ก่
ต่
ห้
ห้
ก่
ห้
ธี
ห้
น้
ห้
รื
ห้
สุ
ม่
ค่
ริ
นุ
น้
ต่
ก้
สุ
รี
น้
น้
น้
น้
น้
น้
น้
น้
น้
น้
น้
พั
น้
คั
น้
น้
พั
ทำ
คั
ตื
ที่
ลั
ลั
ที่
ฎี
ย์
ธ์
ธิ
รี
ชื่อ-นามสกุล………………………..…………….……………………เลขประจาตัว………………………………หน้าที่ 4 จาก 15
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พ กงาน เ ด ความ ดแ ง ง นและ น
………………………………………………….…………………………………………………………………………… าย ไ ไ บ นชม จะ ใ ๚ ก งานอาจ จะ
หมด งใจใน การ งาน ไ อยาก งาน อ ไ ท ม บทใ บอง กร และ อาจ ใ เ ดความ จฉา
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
เ อน วมงาน ก ห า การ งาน ของตนเองไ
…………………………………………………………………………………………………………….………………… ญเ า บ เ อน วม งาน ใ แผนกไ เ ด ความสา ค
ง ผใ มาไ ประ ท ภาพ
………………………………………………………………………………………………………………………………
งาน ออก

……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
2.5 สมเดชควรจูงใจลูกน้องของเขาอย่างไร ให้นกั ศึกษาอธิบายถึงการนาทฤษฎีที่นามาใช้พร้อมเหตุผลประกอบ
ควรใ
ทฤษ ความเสมอภาค ใคร ามาก งานมาก ควรไ บ ผล ตอบแทน จากอง กรมากเ น จ
………………………………………………………………………………………………….……………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………

3. ในฐานะวิศวกรอุตสาหการ ถ้านักศึกษาเป็ นผูจ้ ดั การด้านคุณภาพ นักศึกษาจะสามารถใช้เครื่ องมือหรื อวิธีการใดในการ


ควบคุมคุณภาพได้บา้ ง และมีขอ้ พิจารณาในการควบคุมคุณภาพตามมิติต่างๆ อย่างไรบ้าง (5 คะแนน)
อง หนดขอบเขต ง อง
………………………………………………….…………………………………………………………………………… ไร หนด มาตรฐาน เ น หมวย เ อใ งาน
ควบ ม า องควบ ม ไหนควบ มอ า
2. ตน

ออก ตาม
มาตรฐาน ควร ง เ าหมายใ ดเจน 4. ดผล
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
มา เป ยบเ ยบ บ
มาตรฐาน ไ
ไ เ นไป
3 ะ
มาตรฐาน
ผล แ ไข วาง หาก ตาม หา การ

แ ตรง ตาม
หาก ผล ออก มา
มาตรฐาน สามารถ ไปใ
………………………………………………………………………………………………………………………………
ฒนา อไ และ

……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
ขั
กั
ซึ่
ที่
ฝ่
ทำ
คำชื่
รั
กำ
นั
ทำ
ต่
ทำ
ร่
กั
ทำ
อิ
รู้
ร่
ทำ
สำ
กั
ทำ
ร่
ส่
ที่
มี
ก็
ทำ
ที่ซ่
รั
ที่ต้
สิ่
กำ
มิต้
กิ
ต้
ดูว่
กำ
ตั้
วั
ชั
ที่
กั
วิ
ก็
นำ
ก็
ต่
พั
ป้
ป็
ท่
ป็
กิ
พื่
ม่
กิ
กิ
พื่
ด้
ว้
ต่
พื่
ช่
ธี
ช่
ย่
ม่
ก้
ม่
ม่
ม่
สึ
ม่
ด้
ด้
ห้
ห้
ห้
น้
ม่
ห้
ห้
ห้
รี
ห้
นั
ช้
ค์
คั
ค์
มั
คุ
คุ
ลั
คุ
ที่
สิ
ที
ย้
ฎี
คี
ธิ
กั
ชื่อ-นามสกุล………………………..…………….……………………เลขประจาตัว………………………………หน้าที่ 5 จาก 15
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4. เรื่ องที่ 2 –เจาะธุรกิจ ‘รับทาวิทยานิพนธ์’ : ช่องโหว่การศึกษา ปริ ญญาแกมโกง ? (12 คะแนน)
หากจุดประสงค์ของการศึกษา คือการเพิ่มพูนปัญญาความรู ้ คนที่สมาทานตนเป็ น ‘นักศึกษา’ ไม่ว่าในระดับใดก็แล้วแต่
ย่อมต้องขวนขวายร่ าเรี ยนเพื่อให้ได้มาซึ่งความรู ้ต่างๆ นานา เพื่อนาความรู น้ ้ นั ไปใช้ในการหาเลี้ยงชีพต่อไป

ทว่าเมื่อโลกของการศึกษา ถูกนามาหลอมรวมเข้ากับคาว่าธุรกิจ จุดประสงค์ด้งั เดิมของมันจึงเบี้ยวบิด และเปิ ดโอกาสให้คน


กระทาการทุจริ ตเพือ่ ให้ได้มาซึ่ง ‘ผลการศึกษา’ (ไม่ว่าจะอยู่ในรู ปของเกรด ใบปริ ญญา หรื อคานาหน้าทางวิชาการ) ที่
สามารถนาไป ‘ใช้ประโยชน์’ ต่อได้
หนึ่งในธุรกิจที่เฟื่ องฟูก็คือธุรกิจ ‘รับทาวิทยานิพนธ์’ ซึ่งหลายคนคงเคยเห็น หรื ออาจเคยใช้บริ การกันมาบ้าง
หลายคนมองว่านี่คอื ‘รอยด่าง’ ทางการศึกษา แต่บางคนกลับมองมันในฐานะของ ‘ตัวช่วย’ ที่น่าแปลกคือในหลายประเทศ
ธุรกิจประเภทนี้กลับถูกกฎหมายซะด้วย!
ทั้งนี้ คาถามที่น่าคิดก็คือ ธุรกิจที่ว่านี้ควรเป็ นสิ่ งที่ ‘ยอมรับได้’ หรื อไม่ ?

สาหรับประเทศไทยเราก็มีบริ ษทั หรื อคนที่รับงานประเภทนี้เช่นกัน แต่อาจไม่โจ่งแจ้งหรื อแพร่ หลายอย่างในอเมริ กา


ยิ่งในช่วงหลายปี มานี้ มีข่าวคนดังในแวดวงวิชาการหลายคน ถูกขุดค้นประวัติการทุจริ ตทางการศึกษา นาผลงานของคนอืน่
มาดัดแปลง ลอกเลียน ชนิดที่เรี ยกว่า ‘เหมือน’ จะน่าตกใจ ส่งผลให้ถูกลงโทษ ถอดถอนปริ ญญา ยิ่งกว่านั้นคือการเสื่ อมเสี ย
ชื่อเสียง ทาให้การรับจ้างเขียนงานในลักษณะนี้มีความเสี่ยงมากขึ้น

อย่างไรก็ดี จากการสื บเสาะข้อมูลเกีย่ วกับคนทีเ่ คยทาและเคยใช้บริ การประเภทนี้ เราพบว่ามีรายละเอียดที่น่าสนใจอยูไ่ ม่


น้อย เริ่ มจาก ‘ประเภท’ ของงาน งานส่ วนใหญ่ที่บริ ษทั หรื อผูร้ บั ทาวิทยานิพนธ์ทานั้น จะเน้นไปที่งาน ‘ภาษาอังกฤษ’ ของ
นักศึกษาระดับปริ ญญาโท และปริ ญญาเอก โดยเหตุผลหลักๆ ก็มาจากการที่ลูกค้า หรื อนักศึกษาที่มาจ้างนั้น ไม่มีความ
เชี่ยวชาญในการเขียนภาษาอังกฤษให้ถกู หลักวิชาการ พูดง่ายๆ ว่า ถ้าอยาก ‘ผ่าน’ ก็ตอ้ งจ้างให้คนช่วย ตั้งแต่การเขียนเป็ น
ภาษาไทยแล้วเอามาให้ช่วยแปล ไปจนถึงช่วยเขียน และบางครั้งก็ตอ้ งมีการ ‘ติว’ เพือ่ ให้สามารถนาเสนอและตอบคาถาม
อาจารย์ได้อย่างราบรื่ น

ค่าใช้จ่ายนั้นเริ่ มตั้งแต่หลักหมื่นต้นๆ ไปจนถึงหลักแสน ขึ้นอยู่กบั ความยากง่าย และรายละเอียดของงาน ส่ วนกลุ่มลูกค้าที่


ใช้บริ การกันเยอะ (และแทบจะเป็ นเรื่ องปกติ) คือกลุ่มของนักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนที่มีฐานะดี และใช้ภาษาอังกฤษใน
การเรี ยนการสอนเป็ นหลัก

นักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ถึงกับระบายความในใจลงในบล็อคส่ วนตัวว่าเพือ่ นๆ ในมหาลัยจานวนไม่


น้อย มองว่านี่เป็ นเรื่ องปกติที่ ‘ใครๆ ก็ทากัน’ ส่ วนคนที่ไม่ทา หลายครั้งก็มกั ถูกเหน็บแนมทานองว่า ‘ไม่ไฮโซ’ เสียอย่าง
นั้น…
อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือการนาเสนอจุดขายของบริ ษทั ต่างๆ ซึ่งมักการันตีความเสี่ยงว่าจะไม่โดนจับ ไม่ว่ าเป็ นการช่วยติว
เข้มก่อนนาเสนอ การใช้โปรแกรมตรวจสอบคาซ้ า หรื อกระทัง่ การย้าว่าเป็ นงานที่เขียนใหม่ท้ งั หมด

บริ ษทั หนึ่งทีร่ ับทาเฉพาะงานวิทยานิพนธ์ปริ ญญาเอก มีการรับประกันอย่างชัดเจนว่าจะไม่มีเนื้อหาที่ลอกเลียนแบบ หรื อ


‘Plagiarized content’ 100% เพราะงานจะได้รับการสแกนโดย ‘Turn it in’ โปรแกรมที่มหาวิทยาลัยชั้นนาของโลกใช้ใน
การตรวจหาข้อความซ้ าในวิทยานิพนธ์และงานวิจยั ต่างๆ
ชื่อ-นามสกุล………………………..…………….……………………เลขประจาตัว………………………………หน้าที่ 6 จาก 15
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ในขณะที่การตรวจสอบการลอกเลียนวิทยานิพนธ์ ยังปรากฏให้เห็นอยูเ่ ป็ นระยะ และถูกมองในฐานะของการกระทา
ความผิดเชิงวิชาการ แต่กบั การตรวจสอบ ‘การรับทาวิทยานิพนธ์’ ดูเหมือนจะเป็ นเรื่ องที่คนในแวดวงการศึกษาไทยยัง
ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก ซึ่งถ้ามองในแง่ของผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา หรื อกระทัง่ ใบปริ ญญา ที่คนๆ นั้นสามารถ
นาไปใช้ประโยชน์หรื อ ‘อ้างเครดิต’ ในหน้าที่การงานได้ ผลเสี ยหายที่เกิดขึ้นนั้นย่อมไม่ต่างกัน และอาจร้ายแรงยิ่งขึ้น–
หากคนเหล่านั้นได้เข้ามามีบทบาทเป็ นผูบ้ ริ หารองค์กรใหญ่ๆ หรื อทาหน้าทีส่ าคัญในระดับประเทศ

จากข้อมูลข้างต้น
4.1 ใครบ้างที่มีส่วนต่อการรับผิดชอบต่อสังคม (Social Responsibility) และคนเหล่านั้นควรแสดงความรับผิดชอบต่อ
สังคมในระดับต่างๆ อย่างไร จงอธิบาย (7 คะแนน)
วน อง บ ดชอบ อ
………………………………………………….……………………………………………………………………………
คน

ท แสดง ง
พวก เขา
ห น
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
I. บ
ก คล บ าง การ กษา ควร บ ดชอบ ทาง เค
ของ ระบบ การ
ฐ จ เ อง จาก

คลากร จมออกมา จะไ


………………………………………………………………………………………………………………………………
ณภาพ
ก กษา า าง ใ เ น เ อ เอา วรอด เ น การ ส าง า ยม ไ ทาง งคม
……………………………………….………………………………………………………………………………………
2 บ ดชอบ ระ บ ควร

จ ยธรรม ควรตระห กไ าอะไร ไ ควร การ กระ เ น อใ เ น ว


………………………………………………………………………………………………….…………………………… ควร ไ ญ ใบ ป ญญา สามารถ อไ
ผลงาน และ

ง เ นการ กระ
………………………………………………….……………………………………………………………………………
ขาด จ ยธรรม

ฐ และ ควบ ม ควร บ ดชอบ อ กฎหมาย ออก กฎ ระเ ยบ กระ เ น เ น เห อม การ กษา
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
3. ภาค การ การ ทาง

เ น จะไ บโทษ
………………………………………………………………………………………………………………………………
จาก

……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
รั
ต้
ที่มีส่
คื
ดู
ถึ
จ้
ที่รั
ลู
รั
ศึ
รั
ที่
บุ
ผู้ว่
ศึ
นั
มีคุ
มี
ที่
นิ
ค่
รั
สั
ดี
ว่
นี้สื่
วิ
สำ
ซื้
ซึ่
ที่
ผู้
รั
รั
ต่
นี้
ทำ
ศึ
นี้
รั
ห็
งิ
ช่
ป็
ช่
ม่
ช่
นื่
ด้
พื่
ป็
ป็
ด้
ด้
ม่
ห้
ริ
ม่
ม่
ริ
ร้
ริ
ริ
ลื่
บี
คั
ผิ
ดั
ษั
จ้
ผิ
ทำ
ผิ
ผิ
มิ่
ทำ
ตั
กิ
ทำ
คุ
นั
ล้ำ
ชื่อ-นามสกุล………………………..…………….……………………เลขประจาตัว………………………………หน้าที่ 7 จาก 15
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

4.2 ในปัจจุบนั มีกลุ่มคนจานวนมาก (อาจเป็ นตัวบุคคล หรื อบริ ษทั ) ที่ทาธุรกิจทานองนี้ ซึ่งรวมไปถึงการรับจ้างทา
โครงงาน (Senior Project) ของนักศึกษาระดับปริ ญญาตรี เพื่อสาเร็ จการศึกษา ถ้าพิจารณากันในเรื่ องจริ ยธรรมและ
จรรยาบรรณ นักศึกษามีความคิดเห็นอย่างไร และถ้าโครงงานนั้นเป็ นงานที่อาจทาให้นกั ศึกษาต้องใช้ทรัพยากรต่างๆ ทั้ง
ด้านกาลังกาย กาลังสมอง กาลังทรัพย์ และเวลา นักศึกษาจะใช้บริ การของบริ ษทั เหล่านั้นหรื อไม่ เพราะเหตุใด (5 คะแนน)
-

ไ ใ เ อง น ด า เ น การ กระ
………………………………………………….……………………………………………………………………………
จาก ไ

ง โครง เ น งาน ไ บ มอบหมายแรงงาน ควร
เรา วย เอง เรา ตน

โดย ความ สามารถ เรา อ าง เ ม เ อ ความ อ ต จ ต


…………………………………………………………………………………………………………….…………………
โครง งาน ไ ง เ ยร ยศ และ มา วย เรา ควร ตน
เอง

จรรยาบรรณ อ ง
………………………………………………….……………………………………………………………………………
กษา งเส ม เ ยร ณ
และ ไ วางใจ จาก งคม
และความ าง น เป ยบ เส อน คน ไ
หาก เรา คน เรา

…………………………………………………………………………………………………………….…………………
โคลง ไ ไ ใ ด แ าง อ าเ น ด าเ า น ดเ อน จ ง งไ ควรไ บ อเ ยง
"

จรรยาบรรณ เพราะ มน มา ความ ของ เรา เรา คน บ เรา ความ

งคม แ หาก เรา โครง เอง เรา ควร ไ ม อเ ยง ความไ วางใจ


เ ยร ณ และ ความไ วางใจ
………………………………………………………………………………………………………………………………
จาก
ฐาน วยตน
จาก งคม ความ ในตน เอง และสามารถ นจใน อ ล ของ แรงงาน และ ก บ จะ แ
……………………………………….……………………………………………………………………………………… ความ ไ ของ ตน

………………………………………………………………………………………………….……………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………

5. เรื่ องที่ 3 ให้นกั ศึกษาใช้ขอ้ มูลต่อไปนี้ ตอบคาถามเรื่ องการตลาด (15 คะแนน)

ช่วงวัยหรื อเจเนอเรชัน่ ของคนที่แตกต่างกัน เป็ นส่ วนหนึ่งที่ทาให้คนมีมุมมอง ความคิด และความชอบแตกต่างกัน รวมถึง


ส่ งผลให้คนแต่ละช่วงวัยมีพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยที่แตกต่างกันไปด้วย ซึ่งแบรนด์หรื อบริ ษทั ต่าง ๆ ต้องเรี ยนรู ้และ
เข้าใจพฤติกรรมของผูบ้ ริ โภคแต่ละกลุ่ม เพื่อให้สามารถปรับกลยุทธ์การตลาดได้อย่างเท่าทัน และสร้างการเติบโตให้กบั
แบรนด์ได้

เจเนอเรชัน่ Z หรื อ Gen Z หรื อผูท้ ี่เกิดระหว่างปี 2540 – 2555 และมีอายุระหว่าง 9 – 24 ปี ซึ่งในปี 2564 นี้ พวกเขากาลังจะ
กลายเป็ นประชากรกลุ่มค่อนข้างใหญ่ในภูมิภาคอาเซียน โดยปัจจุบนั จานวนประชากรกลุ่มนี้คิดเป็ นประมาณ 24% ของ
จานวนประชากรทั้งหมด และจะกลายมาเป็ นผูบ้ ริ โภคหลักต่อไป

ดังนั้นคนในกลุ่ม Gen Z จึงเป็ นเจเนอเรชัน่ ที่มีความสาคัญและมีอิทธิพลต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศเป็ นอย่างมาก


(สาหรับประเทศไทยที่ถึงแม้จะเข้าสู่ สงั คมผูส้ ู งอายุ แต่ Gen Z ก็จะมีบทบาทและช่วยชี้นาการเลือกซื้อสิ นค้าให้กบั
ผูส้ ู งอายุ)

สถาบันวิจยั ความเป็ นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน หรื อ ฮิลล์ อาเซียน (Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN: HILL
ASEAN) เอเจนซีโฆษณารายใหญ่จากญี่ปนุ่ ได้ทาการศึกษาพฤติกรรมผูบ้ ริ โภคกลุ่มดังกล่าวใน 6 ประเทศอาเซียน โดย
พบว่าชาว Gen Z ซึ่งส่ วนใหญ่มีพ่อแม่เป็ นชาว Gen X เป็ นเจเนอเรชัน่ ที่เกิดมายุคโซเชียลมีเดียและอินเตอร์เน็ต พวกเขารับ
ข้อมูลข่าวสารมากมายจากอินเตอร์เน็ต พวกเขาพิจารณาคาพูดและการกระทาของคนในเจเนอเรชัน่ ก่อน ๆ อย่างเป็ นกลาง
ในมุมมองที่กว้าง พวกเขาต้องการแก้ปัญหาทางสังคมที่อาจเกิดจากคนในเจเนอเรชัน่ ก่อน ๆ โดยการให้ความสาคัญกับ
ตนเอง ครอบครัว และคนรอบตัวอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมร่ วมมือกันแก้ปัญหาถึงแม้ว่าจะมีความแตกต่างระหว่างกัน
ดิ
ว่
คิ
ที่
นี้
ตั้
ถู
ที่
มีทำ
ที่
มี
ทำด้
รั
ซื่
ซึ่
ส่
ที่รั
สิ่
คื
ทำด้
ฌู
ก็
ทำ
อื่
จ้
สั
ที่
ที่
มี
คิ
ว่
ชื่
อ้
ทํ
จั
บิ
นั้
กั
ซึ่
ชื่
รั
สั
ด้
ทำ
ชื่
อี้
ข้
มั่
ภู
สั
ตี
ที่
รู้
พื่
ท่
นื่
กี
ป็
กี
กี
ต็
ป็
ป็
ว้
ด้
ด้
ม่
ม่
ม่
ริ
ด้
ว้
ว้
ด้
ม่
ช่
ต่
ด้
ย่
ม่
ด้
ลี
ฉั
ช้
ต่
รี
มื
สั
บื
ทำ
สี
มู
ที่
สี
ผ่
ติ
ริ
ติ
ติ
ย์
คุ
สุ
ริ
ชื่อ-นามสกุล………………………..…………….……………………เลขประจาตัว………………………………หน้าที่ 8 จาก 15
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

การให้คุณค่ากับความปรองดองและการทางานร่ วมกันของ Gen Z นี้เอง จึงทาให้ฮิลล์ อาเซียน ขนานนามพวกเขาว่า ซิน


เนอร์ไจเซอร์ (SynergiZers) โดยวิเคราะห์ความสัมพันธ์ส่วนตัว คุณค่าของชีวิต ทัศนคติและพฤติกรรมต่อสื่ อของกลุ่ม
Gen Z ดังนี้

ควำมสั มพันธ์ ส่วนตัว


o คน Gen Z 48% มีความสัมพันธ์กบ ั พ่อแม่ที่ไม่ค่อยเป็ นทางการนัก คือเป็ นเหมือนเพื่อน สามารถพูดกันได้อย่าง
ตรงไปตรงมา จึงไม่แปลกที่คนเจนฯนี้จะได้รับการสนับสนุนให้มีอิสระ มีความคิดเห็นเป็ นของตัวเอง และรู ้จกั ตั้ง
คาถาม
o ขณะที่คนเจเนอเรชัน ่ อื่นมองว่า Gen Z ไม่ค่อยแคร์สื่อและนึกถึงตัวเองก่อน แต่จากการศึกษาพบว่า 63% ของคน
Gen Z ได้รับการสนับสนุนให้ปฏิบตั ิตามธรรมเนียมปฏิบตั ิและมาตรฐานของสังคม พวกเขาเน้นว่า การปฏิบตั ิ
ตามธรรมเนียมปฏิบตั ิเป็ นไปเพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกบั สังคมและสิ่ งอื่น ๆ รอบตัว
o นอกจากนี้ 67% ของผูต ้ อบแบบสอบถามเห็นด้วยว่าคือการทาให้ครอบครัวและเพื่อนฝูงภาคภูมิใจ แสดงให้
เห็นชัดว่าพวกเขาให้ความสาคัญกับการรักษาความสัมพันธ์กบั คนรอบข้าง

สิ่ งสำคัญในชีวิต

o หลายคนอาจเคยได้ยินว่าคน Gen Z สุ ดโต่ง นึกถึงแต่เรื่ องของตัวเอง แต่จากผลสารวจพบว่าชาว Gen Z อาเซียน


นั้นให้ความสาคัญกับความมัน่ คง ความสุ ขทางใจ และครอบครัว โดยพวกเขามองว่าความสาเร็ จในชีวิตเกิดจาก
ความสุ ขของตนเองและคนรอบข้าง
o ผูต้ อบแบบสอบถาม 86% เห็นด้วยกับข้อความที่ว่า “ชีวิตเป็ นการเติมเต็มความรับผิดชอบ” และ “ชีวิตเป็ นเรื่ อง
ของการรักตัวเอง” พวกเขาให้คุณค่าทั้งกับตัวเองและครอบครัว
o คน Gen Z ยังให้ความสาคัญกับสุ ขภาพจิตใจ เนื่องจากพวกเขาโตมากับอินเตอร์เน็ต และได้รับข้อมูลข่าวสาร
มากมาย จนทาให้มีความเครี ยดมากกว่าคนเจเนอเรชัน่ อื่น
o คน Gen Z ยังมองว่าอาชีพที่ดีคืออาชีพที่ให้ความมัน่ คง และมองว่าความสาเร็ จในชีวิตก็มาจากความพึงพอใจของ
ตัวเองด้วย
o โดยรวมแล้วคน Gen Z เป็ นเจเนอเรชัน่ ที่มีเหตุมีผล เวลาตัดสินใจจะมีการเปรี ยบเทียบในสิ่ งต่าง ๆ ค่อนข้างมาก
o คน Gen Z ยังเลือกซื้อสิ นค้าโดยมองในแง่ของฟังก์ชนั่ มากกว่า นอกจากนี้ยงั ให้ความสาคัญกับจุดประสงค์และ
การแสดงออกของแบรนด์ต่อประเด็นเชิงสังคมต่าง ๆ โดย 85% เห็นด้วยว่า พวกเขาเต็มใจจ่ายมากขึ้นอีก 10% ถ้า
แบรนด์มีส่วนในการแก้ปัญหาทางสังคม พวกเขามีความคาดหวังอย่างมากต่อแบรนด์ต่างๆ และมองว่าแบรนด์
ควรเติมเต็มในหลากหลายบทบาท

กำรใช้ โซเชียลมีเดีย

o หลายคนอาจคิดว่าคน Gen Z ใช้เวลาไปกับโซเชียลมีเดียค่อนข้างมาก แต่ในความเป็ นจริ งแล้ว คนกลุ่มนี้ใช้


โซเชียลมีเดียแต่ละแพลตฟอร์มเพื่อประโยชน์ที่แตกต่างกัน
o โดยพวกเขาใช้เฟซบุ๊กเพื่อรับข้อมูลข่าวสารมากกว่าจะแชร์เรื่ องราวของตัวเองออกไป
o ใช้อินสตาแกรมเพื่อแชร์เรื่ องราวในชีวิตประจาวันผ่านฟี เจอร์ Story และติดตามเทรนด์และไลฟ์ สไตล์ที่น่าสนใจ
o ใช้ทวิตเตอร์ในการคลายเหงา แสดงความคิดเห็น รวมถึงในประเทศไทยยังใช้ผลักดันเทรนด์ต่าง ๆ
ชื่อ-นามสกุล………………………..…………….……………………เลขประจาตัว………………………………หน้าที่ 9 จาก 15
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

o และใช้ Tiktok ในการผ่อนคลายและสร้างแรงบันดาลใจ


o นอกจากนี้ ในแต่ละแพลตฟอร์ม คน Gen Z อาจมีบญั ชีผใู ้ ช้หลายบัญชี ซึ่งในแต่ละแพลตฟอร์ม รวมถึงในแต่ละ
บัญชี ก็จะมีคาแร็ กเตอร์ที่แตกต่างกันออกไป แต่พวกเขาไม่ได้สร้างตัวตนปลอมขึ้นมา ทั้งนี้ 82% ของพวกเขา
เห็นด้วยกับข้อความที่ว่า “เมื่อฉันโพสต์ในโซเชียลมีเดีย ฉันตระหนักมากในเรื่ องคาแร็ กเตอร์ของฉัน” และ 68%
เห็นด้วยกับ “ฉันต้องการแสดงตัวตนที่เป็ นธรรมชาติของฉันในโซเชียลมีเดีย”

ควำมสนใจในประเด็นเชิงสั งคม

o ในการสัมภาษณ์และการสารวจเชิงปริ มาณ Gen Z บางคนกล่าวว่า พวกเขากังวลเกี่ยวกับอนาคต ในขณะที่ Gen Z


หลายคนบอกว่า พวกเขาต้องการแก้ปัญหาสังคม
o กลุ่ม Gen Z อยู่ในสังคมที่มีปัญหามากมายซึ่งอาจเกิดจากเจเนอเรชัน่ ก่อนหน้า รวมถึงความกังวลด้านเศรษฐกิจ
การเมืองและสังคม ความไม่เท่าเทียม ประเด็นเรื่ องสิ ทธิมนุษยชนและโควิด-19 แต่พบว่า พวกเขามีความ
กระตือรื อร้นทีอ่ ยากจะแก้ไขปัญหาสังคมร่ วมกับคนในกลุ่มเดียวกัน

กลยุทธ์ มัดใจคน Gen Z

1. Be Inclusive คือการที่แบรนด์ตอ้ งสร้างความมัน่ ใจให้กบั ชาว Gen Z ว่าทุกคนได้รับการให้คุณค่าอย่างเท่าเทียม


นอกจากนี้ ยังต้องไม่แสดงจุดยืนทางสังคมที่ชดั เจนเกินไปนัก โดยเฉพาะในเรื่ องของการเมืองและเชื้อชาติ เพราะคนกลุ่ม
นี้มองว่าการซื้อสิ นค้าของแบรนด์ทสี่ ุ ดโต่ง จะกลายเป็ นว่าพวกเขาสนับสนุนความคิดนี้
2. Be Brave คือกล้าที่จะสื่ อสารกับพวกเขาผ่านช่องทางต่าง ๆ และกล้าที่จะลองใช้วิธีการสื่ อสารใหม่ ๆ แต่ตอ้ งมีทิศ
ทางการสื่ อสารที่ตรงกันในโซเชียลมีเดียแต่ละช่องทาง
3. Co-Create คือการที่แบรนด์ตอ้ งทาตัวเองให้เป็ นเหมือนพันธมิตรกับคน Gen Z โดยร่ วมกับคน Gen Z ในการ
สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ร่ วมกัน ไม่ว่าจะเป็ นการสร้างบทสนทนา ร่ วมกันจุดกระแส ให้พวกเขาได้แสดงตัวตนออกมาโดยไม่
ทิ้งจุดประสงค์ของแบรนด์
4. Be Direct คือแบรนด์ตอ้ งสื่ อสารอย่างซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา ใช้คาง่าย ๆ ชัดเจน

ที่มา: https://workpointtoday.com/gen-z-behavior/
คาถาม
สมมุติว่านักศึกษาตั้งเป้าหมายในการทาธุรกิจในอนาคต และนักศึกษายังเป็ นนักการตลาดที่มสี ่ วนในความสาเร็ จและอยู่
รอดของธุรกิจในยุค New Normal นี้ โดยมีลูกค้าเป้าหมายคือ คน Gen Z จากนั้นดาเนินการตามกระบวนการทางการตลาด
ต่อไปนี้
5.1 ให้กาหนดส่ วนตลาด (Market Segment) และเกณฑ์การแบ่งส่ วนตลาด (3 คะแนน)
แ ง ตาม Behaviowrat โดย เกณ
………………………………………………….……………………………………………………………………………
า ประโยช จะไผลบ ผ ต ณ หอ ง น ใ จาก ตอน จทผ์ การ งาน

ตรา การใ ง รวมไป ง อเ ยง แบรน


…………………………………………………………………………………………………………….…………………
ผล .
ของผ ต ณ แบรน ของ
ณภาพ
………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
มี
ที่ว่
ที่
รั
ฟั
อั
ที่
ชื่
ถึ
ที่ส่
ที่มีคุ
ด้
ช้
รื
ช้
ลิ
ม่
ลิ
ก์
ชั
สี
ภั
ฑ์
ภั
ด์
ด์
น์
ฑ์
ฑ์
ชื่อ-นามสกุล………………………..…………….……………………เลขประจาตัว………………………………หน้าที่ 10 จาก 15
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

5.2 อะไรคือชนิดของสิ นค้าหรื อบริ การที่ตอ้ งการทาธุรกิจ พร้อมอธิบายคุณลักษณะเบื้องต้น (2 คะแนน)


ผ ต ณ ตอบโจท บ ก ม อ ง นการใ งาน คน Gen 2 องการ
………………………………………………….……………………………………………………………………………
คน

…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
5.3 กลยุทธ์ทางการตลาด (Marketing Strategy) ที่นามาใช้คือกลยุทธ์ใด เพราะเหตุใด (2 คะแนน)

คน
กล ท ตลาด วนเ ย เพราะ ไ งเ นใน พฤ กรรม แบบใด ห ง เ อ จะไ ตอโจท ใน ง ง นไ อ าง ก
………………………………………………….……………………………………………………………………………
จะ แบบ

…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
5.4 จะใช้ส่วนประสมทางการตลาด (Marketing Mix: 4Ps หรื อ 7Ps) ในการทาแผนการตลาดอย่างไร จงอธิบาย
(8 คะแนน)
ผ ต องการ
………………………………………………….……………………………………………………………………………
อ สเปค และ ความ ขา น าง น า รวม ง การ บประ น น า
ณภาพ ตรง ความ
และ ตรง ของ

2 การ บไ
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
หนดราคา อราคา ด
ยอม วน เ อ ง ด ก า เ น
ลด จะ เ อ ง ด สน กา% แ ความ จ ของ

3. การ ด ห าย อ องทาง ไล เ อ สะดวกใน


………………………………………………………………………………………………………………………………
ห าย พวง 0 ด อ เหมาะสม บ Genz อรวดเ ว สะดวก
การ และ คน และ

4 การ งเส ม ตลาด อ พ กงาน สามารถ อ บาย และ แนะ น าไ อ าง ครบ วน


……………………………………….………………………………………………………………………………………
การ -

พ ม โฆษณา าน
………………………………………………………………………………………………….……………………………
-

ษณ องทาง ไล เ น เฟซ ค นส แกรม


ทาง ออ ตรง
,

การ ด โ ไ- น ด
………………………………………………….…………………………………………………………………………… ปอง วนลด 15%-50 % กเ อน
ของ

…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………….…………………
ที่
กั
มีฟั
นี้คื
ต้
ที่
ส่
มุ่
นั้
สิ่
สิ่
จู
ถู
ภิ
สิ
ต่
ต้
มี
ต้
ต่
มีคุ
รั
มี
ถึ
สิ
รั
ที่
คื
กำ
จั
ส่
ดึ
ลู
ดึ
ลู
จำ
จั
จำ
คื
ช่
จั
คื
กั
ส่
คื
สิ
ช่
ผ่
จั
อิ
บุ๊
จั
ชิ
ทุ
ส่
คู
พื่
พื่
สี
พื่
ช่
พื่
ช่
ดื
ม่
ด้
ย่
ด้
ด้
ด้
ย่
ธิ
ด้
ม่
ช้
ลุ่
ลิ
ริ
นั
นึ่
ลิ
ณ์
ดู
ทำ
ทำ
ซื้
น์
ค้
ยุ
ดู
ทำ
ค้
ก์
น์
ติ
ค้
ค้
น่
ร็
น่
นำ
น้
ถ้
ริ
ชั
ค้
ย์
ย์
ธ์
ภั
กั
ฑ์
ชื่อ-นามสกุล………………………..…………….……………………เลขประจาตัว………………………………หน้าที่ 11 จาก 15
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

……………………………………….………………………………………………………………………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
6. ข้อมูลต่อไปนี้เป็ นงบการเงินของบริ ษทั บางมดอุตสาหกรรม จากัด ณ งวดประจาปี พ.ศ. 2563 และอัตราส่ วนทางการ
เงินโดยเฉลีย่ ของอุตสาหกรรมประเภทเดียวกัน โดยตอบคาถามให้สมบูรณ์ (20 คะแนน)

บริษัทบำงมดอุตสำหกรรมจำกัด
งบดุล ณ วันที่ 31 ธันวำคม 2563
หน่ วยเป็ นบำท
สิ นทรัพย์ หนี้สินและส่ วนของทุน
สิ นทรัพย์ หมุนเวียน หนี้สินหมุนเวียน
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 75,000 เจ้าหนี้การค้า 42,550
ลูกหนี้การค้า 45,000 ตัว๋ สัญญาใช้เงิน 28,500
วัตถุดิบ 12,300 ภาษีคา้ งจ่าย 65,400
งานระหว่างผลิต 27,500 เงินปันผลค้างจ่าย 78,900
สิ นค้าสาเร็ จรู ป 42,450
เงินปันผลค้างรับ 55,000
สิ นทรัพย์ ถำวร หนี้สินระยะยำว
ที่ดิน อาคาร และเครื่ องจักร 1,258,000 เงินกูร้ ะยะยาว 750,000

สิ นทรัพย์ อื่นๆ รวมหนี้สิน 965,350


เงินลงทุนในหลักทรัพย์ 556,000
ค่าเครื่ องหมายการค้า 50,000 ส่ วนของทุน
ทุนจดทะเบียน 600,000
(6000 หุ้นๆ ละ 100 บาท)
ส่ วนเกินมูลค่าหุน้ 120,000
กาไรสะสม 435,900

รวมส่ วนของทุน 1,155,900


รวมสิ นทรัพย์ 2,121,250 รวมหนี้สินและส่ วนของทุน 2,121,250

บริษัทบำงมดอุตสำหกรรมจำกัด
ชื่อ-นามสกุล………………………..…………….……………………เลขประจาตัว………………………………หน้าที่ 12 จาก 15
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

งบกำไรขำดทุน ณ วันที่ 31 ธันวำคม 2563


หน่ วยเป็ นบำท
รำยได้
รายได้จากการขายสิ นค้า 678,340
รายได้อนื่ ๆ 16,800
รำยได้ รวม 696,140
ค่ ำใช้ จ่ำย
ต้นทุนสิ นค้าขาย 279,440
ต้นทุนในการจัดจาหน่าย 40,000
ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริ หาร 63,040
ค่ ำใช้ จ่ำยรวม 382,480
กาไรจากการดาเนินงาน 313,660
ดอกเบี้ยจ่าย 23100
กาไรก่อนหักภาษีเงินได้ 290,560
ภาษีเงินได้ 72,640
กำไรสุ ทธิ 217,920

และถ้าอัตราส่ วนเฉลี่ยของอุตสาหกรรมประเภทเดียวกันมีค่าเป็ น
อัตราส่ วนสภาพคล่อง (Current ratio) = 2.25
อัตราส่ วนทุนหมุนเวียนเร็ ว (Acid-Test ratio) = 1.75
อัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้การค้า (Account Receivable turnover ratio) = 1.75
อัตราผลตอบแทนจากส่ วนของผูเ้ ป็ นเจ้าของ (Return on Equity ratio : ROE) = 0.30
ระยะเวลาเก็บหนี้ (Days Receive) = 30 วัน
อัตราการหมุนเวียนของสิ นทรัพย์ท้ งั หมด (Total asset turnover ratio) = 0.5
ความสามารถในการชาระดอกเบี้ย (Time interest earned) = 12.5
กาไรสุ ทธิตอ่ ยอดขาย (Net Profit margin) = 0.25

6.1 ผูบ้ ริ หารมีความจาเป็ นต้องรู แ้ ละเข้าใจงบการเงินหรื อไม่ เพราะเหตุใด


เ น เพราะ สามารถใ ประโยช บ ง ใน อง กรไ อ าง เ ม
…………………………………………………………………………………………………………….………………… ไ อ าง ม
สามารถวาง แผนภา งานใ สอด ค บ ฐ
ม และ วาง แผน อากร บ หมาย

………………………………………………….……………………………………………………………………………
งบ ประมาณ วงห าไ งรวม า
ทราบ เ น ไ อ างปก ไหม
จ การ การ

…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………
6.2 ถ้าอัตรากาไรขั้นต้น (Gross profit margin) มีอตั ราร้อยละทีต่ ่าเมื่อเทียบกับยอดขาย จะสะท้อนถึงปัญหาอะไรของ
ธุรกิจโดยทัว่ ไป
จำ
ดีมี
สิ่
กั
ญุ
ริ
ล่
ทำ
กั
ดำ
กิ
ว่
ถึ
ต็
ด้
ด้
ด้
ด้
ย่
ย่
ห้
ลิ๊
ย่
ช้
ษี
ค์
ติ
นิ
ที่
ป็
น้
น์
ชื่อ-นามสกุล………………………..…………….……………………เลขประจาตัว………………………………หน้าที่ 13 จาก 15
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ไร ลด ลง จน ง ขาด
………………………………………………….……………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
6.3 ความสามารถในการชาระหนี้สินระยะสั้นของธุรกิจนี้เป็ นอย่างไร
ตรา วน สภาพ ค อง 1. 19 45
………………………………………………………………………………………………………………………………
ะ ง อย ก า ตสาหกรรม ประเภท เ ยว น แปล า บ ท
ความสามาก ในการ ระ ห ไ
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
6.4 ถ้านักศึกษาเป็ นพนักงานฝ่ ายสินเชื่อของธนาคารแห่งหนึ่ง และบริ ษทั นี้มีความประสงค์จะกูเ้ งินเพื่อการลงทุน
เพิ่มเติม นักศึกษามีความเห็นอย่างไร เพราะเหตุใด
ตรา วน สภาพ ห น
………………………………………………….……………………………………………………………………………
35
ะ อ . น

บ บท ห
อ ไ สามารถ เ นการ อไปไ
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
6.5 ความสามารถในการระบายสินค้าของธุรกิจ เป็ นอย่างไร
น น น า ขาย
………………………………………………….……………………………………………………………………………

ก ค งน
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
คง

………………………………………………………………………………………………………………………………
0

……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
6.6 ความสามารถในการชาระหนี้ที่แน่นอนของกิจการนี้เป็ นอย่างไร
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
ส่
อั
ทุ
ถึ
กำ
น้
ซึ่
อุ
ว่
กั
ชำ
มี
ส่
ดีอั
มี
ดำ
ต่
ต้
สิ
คำ
ดี
ด้
ม่
ริ
ม่
ลั
ว่
ล่
ยู่
ริ
ษั
นี้
นี้
นี้
ลื
ค้
นิ
สิ
ทุ
ชื่อ-นามสกุล………………………..…………….……………………เลขประจาตัว………………………………หน้าที่ 14 จาก 15
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

6.7 ฝ่ ายบริ หารจัดการของบริ ษทั นี้ใช้ประโยชน์จากสิ นทรัพย์ทมี่ ีอยู่ได้อย่างมีประสิ ทธิภาพเพียงใด


………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
6.8 ประสิ ทธิภาพของการตรวจสอบและยืนยันนโยบายการเก็บหนี้ของบริ ษทั นี้เป็ นอย่างไร
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
6.9 ในสถานการณ์โรคระบาดใน 1-2 ปี ที่ผ่านมา ทาให้ธุรกิจประสบปัญหาเรื่ องผลกาไรลดลง ทีมบริ หารมีแผนการ
ลงทุนเพือ่ ขยายธุรกิจ ถ้านักศึกษาเป็ นหนึ่งในผูถ้ อื หุ้นของบริ ษทั นี้จะตัดสิ นใจอย่างไร
าน เพราะ อาจ ใ
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
6.10 ถ้านักศึกษาเป็ นผูถ้ ือหุ้นรายหนึ่งของบริ ษทั นี้ นักศึกษาพอใจในผลประกอบการหรื อไม่ เพราะเหตุใด
พอล เพราะไ ไร
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………….………………………………………………………………………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….…………………
ทํ
ค้
กำ
ด้
ห้
ชื่อ-นามสกุล………………………..…………….……………………เลขประจาตัว………………………………หน้าที่ 15 จาก 15
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อัตราส่ วนทางการเงิน

สิ นทรัพย์หมุนเวียน
อัตราส่ วนสภาพคล่อง (Current ratio) =
หนี้สินหมุนเวียน
สิ นทรัพย์หมุนเวียน - พัสดุคงคลัง - ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า
อัตราส่ วนทุนหมุนเวียนเร็ว (Quick ratio) =
หนี้สินหมุนเวียน
ขาย(เชื่อ)สุทธิ
อัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้การค้า (Account receivable turnover ratio) =
ลูกหนี้การค้า
365
ระยะเวลาเก็บหนี้ (Days receive) =
อัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้
ต้นทุนสิ นค้าขาย
อัตราการหมุนเวียนของสิ นค้าคงคลัง (Inventory turnover ratio) =
สิ นค้าคงคลัง
365
อายุของสิ นค้าคงคลัง =
อัตราหมุนเวียนของสิ นค้าคงคลัง
ยอดขายสุ ทธิ
อัตราการหมุนเวียนของสิ นทรัพย์ท้ งั หมด (Total Assets Turnover ratio) =
สิ นทรัพย์ท้ งั หมด
หนี้สินทั้งหมด
อัตราส่ วนหนี้สินต่อส่ วนของทุน (Total Liabilities to Net worth) =
ส่ วนของทุน

กาไรก่อนหักภาษีและดอกเบี้ย
ความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ย (Time interest earned) =
ดอกเบี้ยจ่าย
กาไรสุ ทธิ
อัตราผลตอบแทนจากสิ นทรัพย์ ( (Return on Assets ratio) =
สิ นทรัพย์รวม
กาไรสุทธิ
อัตราผลตอบแทนจากส่ วนของทุน (𝑅𝑒𝑡𝑢𝑟𝑛 𝑜𝑛 𝐸𝑞𝑢𝑖𝑡𝑦 𝑟𝑎𝑡𝑖𝑜) =
ส่ วนของทุน
ชื่อ-นามสกุล………………………..…………….……………………เลขประจาตัว………………………………หน้าที่ 15 จาก 15
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อัตราส่ วนทางการเงิน

สิ นทรัพย์หมุนเวียน
อัตราส่ วนสภาพคล่อง (Current ratio) =
หนี้สินหมุนเวียน
สิ นทรัพย์หมุนเวียน - พัสดุคงคลัง - ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า
อัตราส่ วนทุนหมุนเวียนเร็ว (Quick ratio) =
หนี้สินหมุนเวียน
ขาย(เชื่อ)สุทธิ
อัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้การค้า (Account receivable turnover ratio) =
ลูกหนี้การค้า
365
ระยะเวลาเก็บหนี้ (Days receive) =
อัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้
ต้นทุนสิ นค้าขาย
อัตราการหมุนเวียนของสิ นค้าคงคลัง (Inventory turnover ratio) =
สิ นค้าคงคลัง
365
อายุของสิ นค้าคงคลัง =
อัตราหมุนเวียนของสิ นค้าคงคลัง
ยอดขายสุ ทธิ
อัตราการหมุนเวียนของสิ นทรัพย์ท้ งั หมด (Total Assets Turnover ratio) =
สิ นทรัพย์ท้ งั หมด
หนี้สินทั้งหมด
อัตราส่ วนหนี้สินต่อส่ วนของทุน (Total Liabilities to Net worth) =
ส่ วนของทุน

กาไรก่อนหักภาษีและดอกเบี้ย
ความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ย (Time interest earned) =
ดอกเบี้ยจ่าย
กาไรสุ ทธิ
อัตราผลตอบแทนจากสิ นทรัพย์ ( (Return on Assets ratio) =
สิ นทรัพย์รวม
กาไรสุทธิ
อัตราผลตอบแทนจากส่ วนของทุน (𝑅𝑒𝑡𝑢𝑟𝑛 𝑜𝑛 𝐸𝑞𝑢𝑖𝑡𝑦 𝑟𝑎𝑡𝑖𝑜) =
ส่ วนของทุน

You might also like