You are on page 1of 4

หนา้ ๑

เลม่ ๑๓๘ ตอนที่ ๒๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๐ เมษายน ๒๕๖๔

พระราชกาหนด
แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
พ.ศ. ๒๕๖๔

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
ให้ไว้ ณ วันที่ ๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๔
เป็นปีที่ ๖ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
พระราชก าหนดนี้ มีบ ทบัญญั ติบางประการเกี่ย วกั บการจ ากั ด สิ ท ธิและเสรีภ าพของบุคคล
ซึ่งมาตรา ๒๖ ประกอบกับมาตรา ๓๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทาได้
โดยอาศัยอานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
เหตุ ผ ลและความจ าเป็ น ในการจ ากั ด สิ ท ธิ แ ละเสรี ภ าพของบุ ค คลตามพระราชก าหนดนี้
เพื่อป้องกันมิให้เจ้าหนี้เรียกดอกเบี้ยจากลูกหนี้ในอัตราหรือวิธีการที่ก่อให้เกิดภาระแก่ลูกหนี้สูงเกินสมควร
ซึ่ ง การตราพระราชก าหนดนี้ ส อดคล้ อ งกั บ เงื่ อ นไขที่ บั ญ ญั ติ ไ ว้ ใ นมาตรา ๒๖ ของรั ฐ ธรรมนู ญ
แห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว
อาศั ย อ านาจตามความในมาตรา ๑๗๒ ของรั ฐ ธรรมนู ญ แห่ ง ราชอาณาจั ก รไทย
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกาหนดขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
หนา้ ๒
เลม่ ๑๓๘ ตอนที่ ๒๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๐ เมษายน ๒๕๖๔

มาตรา ๑ พระราชกาหนดนี้เรียกว่า “พระราชกาหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง


และพาณิชย์ พ.ศ. ๒๕๖๔”
มาตรา ๒ พระราชกาหนดนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ ย กเลิ ก ความในมาตรา ๗ แห่ ง ประมวลกฎหมายแพ่ ง และพาณิ ช ย์
และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา ๗ ถ้าจะต้องเสียดอกเบี้ยแก่กันและมิได้กาหนดอัตราดอกเบี้ยไว้โดยนิติกรรมหรือ
โดยบทกฎหมายอันชัดแจ้ง ให้ใช้อัตราร้อยละสามต่อปี
อัตราตามวรรคหนึ่งอาจปรับเปลี่ยนให้ลดลงหรือเพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ
ของประเทศได้โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา โดยปกติให้กระทรวงการคลังพิจารณาทบทวนทุกสามปี
ให้ใกล้เคียงกับอัตราเฉลี่ยระหว่างอัตราดอกเบี้ยเงินฝากกับอัตราดอกเบีย้ เงินให้กู้ยืมของธนาคารพาณิชย์”
มาตรา ๔ ให้ ย กเลิ ก ความในมาตรา ๒๒๔ แห่ ง ประมวลกฎหมายแพ่ ง และพาณิ ช ย์
และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา ๒๒๔ หนี้เงินนั้น ให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดในอัตราที่กาหนดตามมาตรา ๗
บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละสองต่อปี ถ้าเจ้าหนี้อาจจะเรียกดอกเบี้ยได้สูงกว่ านั้นโดยอาศัยเหตุอย่างอื่น
อันชอบด้วยกฎหมาย ก็ให้คงส่งดอกเบี้ยต่อไปตามนั้น
ห้ามมิให้คิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัด
การพิสูจน์ค่าเสียหายอย่างอื่นนอกจากนั้น ให้พิสูจน์ได้”
มาตรา ๕ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๒๒๔/๑ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
“มาตรา ๒๒๔/๑ ถ้าลูกหนี้มีหน้าที่ผ่อนชาระหนี้เงินเป็นงวด และลูกหนี้ผิดนัดไม่ชาระหนี้
ในงวดใด เจ้าหนี้อาจเรียกดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดได้เฉพาะจากต้นเงินของงวดที่ลูกหนี้ผิดนัดนั้น
ข้อตกลงใดขัดกับความในวรรคหนึ่ง ข้อตกลงนั้นเป็นโมฆะ”
มาตรา ๖ บทบัญญัติตามมาตรา ๗ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระราชกาหนดนี้ ให้ ใช้แ ก่การคิด ดอกเบี้ยที่ถึงกาหนดเวลาชาระตั้งแต่วันที่พระราชกาหนดนี้
ใช้บังคับ แต่ไม่กระทบกระเทือนถึงการคิดดอกเบี้ยในระหว่างช่วงเวลาก่อนที่พระราชกาหนดนี้ใช้บังคับ
หนา้ ๓
เลม่ ๑๓๘ ตอนที่ ๒๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๐ เมษายน ๒๕๖๔

มาตรา ๗ บทบั ญ ญั ติ ต ามมาตรา ๒๒๔ แห่ ง ประมวลกฎหมายแพ่ ง และพาณิ ช ย์


ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกาหนดนี้ ให้ใช้แก่การคิดดอกเบี้ยผิดนัดที่ถึงกาหนดเวลาชาระตั้งแต่วันที่
พระราชกาหนดนี้ใช้บังคับ แต่ไม่กระทบกระเทือนถึงการคิดดอกเบี้ยผิดนัดในระหว่างช่วงเวลาก่อนที่
พระราชกาหนดนี้ใช้บังคับ
มาตรา ๘ บทบั ญ ญั ติ ต ามมาตรา ๒๒๔/๑ แห่ ง ประมวลกฎหมายแพ่ ง และพาณิ ช ย์
ซึ่งเพิ่มโดยพระราชกาหนดนี้ ให้ใช้แก่การคิดดอกเบี้ยผิดนัดในงวดที่ถึงกาหนดเวลาชาระตั้งแต่วันที่
พระราชกาหนดนี้ใช้บังคับ
มาตรา ๙ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกาหนดนี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
หนา้ ๔
เลม่ ๑๓๘ ตอนที่ ๒๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๐ เมษายน ๒๕๖๔

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกาหนดฉบับนี้ คือ โดยที่อัตราดอกเบี้ยที่มิได้กาหนด


โดยนิติกรรมหรือโดยบทกฎหมายอันชัดแจ้งและอัตราดอกเบี้ยผิดนัดที่กาหนดไว้ในประมวลกฎหมายแพ่ง
และพาณิชย์ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ได้ใช้บังคับมาเป็นระยะเวลานานโดยมิได้มีการแก้ไขปรับปรุง
ให้สอดคล้องกับสภาพการณ์และสภาพเศรษฐกิจ ทาให้ลูกหนี้ได้รับความเดือดร้อนจากภาระดอกเบี้ย
เกินสมควร สมควรปรับปรุงอัตราดอกเบี้ยและกาหนดวิธีการในการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว
ให้สอดคล้องกับสภาพการณ์และสภาพเศรษฐกิจ พร้อมทั้งกาหนดวิธีการคานวณดอกเบี้ยผิดนัดชาระหนี้
ให้เหมาะสม ประกอบกับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ได้ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ
ของประเทศอย่ า งกว้ า งขวาง ท าให้ ป ระชาชนจ านวนมากมี ภ าระหนี้ สิ น เพิ่ ม ขึ้ น อั ต ราดอกเบี้ ย
ตามที่ ก าหนดในประมวลกฎหมายแพ่ ง และพาณิ ช ย์ ซึ่ ง ไม่ ส อดคล้ อ งกั บ สภาพเศรษฐกิ จ ในปั จ จุ บั น
จึงเป็นภาระอย่างมากต่อลูกหนี้ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมรวมทั้งประชาชนทั่วไป
และก่อให้เกิดความเสี่ยงสูงที่จะทาให้ลูกหนี้ไม่สามารถชาระหนี้ได้ สมควรที่รฐั จะต้องดาเนินการปรับปรุงแก้ไข
กฎหมายเพื่อเป็น การช่ว ยเหลือประชาชนจากสถานการณ์ดังกล่าวโดยเร่งด่วน จึงเป็นกรณีฉุกเฉิน
ที่มีความจาเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้เพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความมั่นคงในทางเศรษฐกิจ
ของประเทศ จึงจาเป็นต้องตราพระราชกาหนดนี้

You might also like