You are on page 1of 306

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พระราชบัญญัติ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๑
แห่งประมวลกฎหมายแพ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งและพาณิสํชาย์นัทกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี่ได้ตรวจชําระใหม่ กา
พ.ศ. ๒๕๓๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ไว้สําณนักวังานคณะกรรมการกฤษฎี
นที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ก๒๕๓๕
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นปีที่ ๔๗ ในรัชกาลปัจจุบัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรด
เกล้าฯ ให้ประกาศว่ากา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานัโดยที ่เป็นการสมควรปรักบาปรุงบทบัญญัสํตานัิบกรรพ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ๑ แห่งประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งและ
พาณิชย์ และบทบัญญัติลักษณะ ๒๓ สมาคม ของบรรพ ๓ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จึง ทรงพระกรุ ณ าโปรดเกล้ า ฯ ให้ ต ราพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ญ ญั ติขึ้ น ไว้ โดยคํา แนะนํ า และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทําหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๑ แห่ง
ประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ที่ได้ตรวจชํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าระใหม่ พ.ศ.
สํานั๒๕๓๕”
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๑ พระราชบั
มาตรา ญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อกพ้านกําหนดหกสิสําบนัวักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นับแต่วันถัดจาก กา
วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓ ให้แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ ๑ และบรรพ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓ ดังต่อไปนี้
สํานั(๑) ให้ยกเลิกบทบัญญัตกิบา รรพ ๑ แห่งสํประมวลกฎหมายแพ่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี งและพาณิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ชย์ ซึ่งได้ใช้
บังคับโดยพระราชกฤษฎีกาให้ใช้บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ ๑ และ
บรรพ ๒ ที่ได้ตรวจชํกาาระใหม่ พ.ศ. ๒๔๖๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ให้ยกเลิกลักษณะ ๒๓ สมาคม ของบรรพ ๓ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและ
พาณิชย์ ซึ่งได้สํใาช้นับกังงานคณะกรรมการกฤษฎี
คับโดยพระราชกฤษฎีกกาาให้ใช้บทบัญสํญัานัตกิแงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห่งประมวลกฎหมายแพ่ กา งและพาณิชย์
บรรพ ๓ ที่ได้ตรวจชําระใหม่ พ.ศ. ๒๔๗๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๓)กาให้ใช้บทบัญญัสําตนัิทก้างานคณะกรรมการกฤษฎี
ยพระราชบัญญัตินี้เป็กนาบรรพ ๑ แห่งสํประมวลกฎหมายแพ่ ง กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
และพาณิชย์ที่ได้ตรวจชําระใหม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา



ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๖๙/ตอนที่ ๔๒/หน้า ๑/๘ เมษายน ๒๕๓๕
-๒- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๔ เอกสารที่มีการใช้ตราประทับแทนการลงลายมือชื่อตามมาตรา ๙ วรรค


สํานักสอง แห่งประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งและพาณิ สํานัชกย์งานคณะกรรมการกฤษฎี
ก่อนการแก้ไขเพิ่มเติกมาโดยพระราชบัสํญานัญักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ินี้ซึ่งได้กระทํา กา
ขึ้นก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้มีผลสมบูรณ์เสมือนกับลงลายมือชื่อต่อไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕ บทบัญญัติบรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ได้ตรวจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ชําระใหม่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ไม่กระทบกระเทือนถึงความสมบูรณ์ของการให้กู้ยืมเงินที่ผู้เสมือนไร้
ความสามารถได้กสํระทํ
านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ขึ้นก่อนวันที่พระราชบักญา ญัตินี้ใช้บังคัสํบานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๖ ผู้จัดการทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําพนัย์กสงานคณะกรรมการกฤษฎี
ินของผู้ไม่อยู่ที่ศาลได้กตาั้งขึ้นก่อนวันทีสํ่พาระราชบั ญญัตินี้ใช้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บังคับ หากยังมิได้จัดทําบัญชีทรัพย์สินของผู้ไม่อยู่หรือจัดทํายังไม่แล้วเสร็จ ให้จัดทําให้แล้วเสร็จ
ภายในสามเดือนนั สําบนัแต่ วันที่พระราชบัญญัติกนาี้ใช้บังคับ และให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ํามาตรา ๕๒ และมาตรากา ๕๓ แห่ง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ได้ตรวจชําระใหม่ท้ายพระราชบัญญัตินี้มาใช้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗ ให้องค์กรหรือหน่วยงานที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นทบวงการเมืองตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความหมายของมาตรา ๗๒ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิ ชย์ ซึ่งถูกยกเลิกโดยมาตรา ๓ (๑)
แห่งพระราชบัญญัตินี้ คงมีฐานะเป็นนิตสําิบนัุคกคลต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อไป
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๘ ให้บรรดาสมาคมที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ได้จดทะเบียสํนตามประมวลกฎหมายแพ่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกงและพาณิ
า ชย์
ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เป็นสมาคมตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานักทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ได้ตรวจชําระใหม่ท้ายพระราชบั
กา ญญัตสํินานัี้ กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาคมใดที่ ไ ด้ จ ดทะเบี ย นตามประมวลกฎหมายแพ่ ง และพาณิ ช ย์ ก่ อ นวั น ที่
พระราชบัญญัตินสํี้ใาช้นับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ังคับ มิได้ใช้ชื่อซึ่งมีคํากว่า า “สมาคม”สําประกอบกั บชื่อของสมาคมให้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยื่นคําขอ
แก้ไขข้อบังคับของสมาคมให้ถูกต้องตามมาตรา ๘๐ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ได้ตรวจ
สํานักชํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าระใหม่ท้ายพระราชบักญา ญัตินี้ ภายในสองปี นับแต่วันที่พระราชบัญกาญัตินี้ใช้บังคับสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙ สมาคมตามมาตรา ๘ วรรคหนึ่ ง สมาคมใด มี วิ ธี จั ด การโดยไม่ มี
สํานักคณะกรรมการเป็ นผู้ดํากเนิา นกิจการของสมาคมตามมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๗๙ (๖) กา แห่งประมวลกฎหมายแพ่ งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์ที่ได้ตรวจชําระใหม่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ถ้าสมาคมนั้นไม่ดําเนินการยื่นคําขอแก้ไขข้อบังคับ
ของสมาคมและจัสําดนัให้ มี ค ณะกรรมการเป็ นกผูา ้ ดํ า เนิ น กิ จ การของสมาคมภายในสองปี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกานั บ แต่ วั น ที่
พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้นายทะเบียนถอนชื่อสมาคมนั้นออกจากทะเบียน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐ สมาคมตามมาตรา ๘ วรรคหนึ่ง สมาคมใด มีสมาชิกไม่ถึงสิบคน หาก
สมาคมนั้นไม่ได้จสํัดานัให้กมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีจํานวนสมาชิกตามมาตรากา ๘๑ แห่สํงาประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ชย์ที่ได้
ตรวจชําระใหม่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ภายในสองปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้นาย
สํานักทะเบี ยนถอนชื่อสมาคมนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นออกจากทะเบี
สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
นตามมาตรา ๑๐๒ (๕)กา แห่งประมวลกฎหมายแพ่ งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์ที่ได้ตรวจชํ าระใหม่ท้ายพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๑ ให้บรรดามู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัลกนิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธิที่ได้จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่
กา งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
-๓- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เป็นมูลนิธิตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานักทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ได้ตรวจชําระใหม่ท้ายพระราชบั
กา ญญัสํตาินนัี้ กและให้ ถือว่าตราสารก่อกตัา้งมูลนิธิดังกล่สําาวเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี นข้อบังคับของ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มูลนิธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ได้ตรวจชําระใหม่ท้ายพระราชบัญญัตินี้
สํมูานัลกนิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธิ ใ ดที่ ไ ด้ จ ดทะเบี ย นตามประมวลกฎหมายแพ่
กา ง และพาณิ ชกาย์ ก่ อ นวั น ที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ มิได้ใช้ชื่อซึ่งมีคําว่า “มูลนิธิ” ประกอบกับชื่อของมูลนิธิ ให้ยื่นคําขอแก้ไข
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อบังคับของมูลนิธิให้ถูกต้องตามมาตรา ๑๑๓ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ได้ตรวจ
ชําระใหม่ท้ายพระราชบั ญญัตินี้ ภายในสองปีนกาับแต่วันที่พระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ญญัตินี้ใช้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๑๒ บรรดามูสํลานันิกธงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ิที่มีอยู่ก่อนวันที่พระราชบั
กา ญญัตินี้ใช้บังสํคัานับกและมิ ได้เป็นนิติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บุคคลถ้าประสงค์จะจัดตั้งเป็นนิติบุคคลและใช้คําว่า “มูลนิธิ” ประกอบชื่อของตนต่อไป ต้องยื่นคําขอ
จดทะเบี ย นตามมาตรา ๑๑๔ แห่ ง ประมวลกฎหมายแพ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํงานัและพาณิ ช ย์ ที่ ไ ด้ ต รวจชํกาาระใหม่ ท้ า ย
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
พระราชบัญญัตินี้ ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓ มูลนิธิตามมาตรา ๑๑ วรรคหนึ่ง มูลนิธิใด มีข้อบังคับที่กําหนดให้มี
ผู้จัดการของมูลนิธิไม่ถึงสามคนในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บสําังนัคักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ามูลนิธินั้นไม่ดําเนินกการยืา
่นคําขอ
แก้ไขข้อบังคับของมูลนิธิเพื่อให้มีคณะกรรมการซึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่งประกอบด้วยบุคคลไม่น้อยกว่าสํสามคนเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นผู้ดําเนิน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กิจการของมูลนิธิภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับให้นายทะเบียน
ดํ า เนิ น การตามมาตรา ๑๒๘ แห่ ง ประมวลกฎหมายแพ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํงาและพาณิ ช ย์ ที่ ไ ด้ ต รวจชํกาาระใหม่ ท้ า ย
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พระราชบัญญัตินี้เพื่อสั่งการให้แก้ไขข้อบังคับของมูลนิธิให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไปถ้าปรากฏว่า
สํานักมูงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลนิธิใดไม่สามารถดําเนิกนา กิจการต่อไปได้
สํานักก็งานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้นายทะเบียนร้องขอต่กา อศาลให้มีคําสํสัา่งนัให้ เลิกมูลนิธิตาม
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ๑๓๑ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ได้ตรวจชําระใหม่ท้ายพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔ บรรดาระยะเวลาที่บัญญัติไว้ในบรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมายแพ่ง
สํานักและพาณิ ชย์และที่บัญญักาติไว้ในลักษณะ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั๒๓ สมาคม ของบรรพ ก๓า แห่งประมวลกฎหมายแพ่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์ ซึ่งใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หากระยะเวลาดังกล่าวยังไม่สิ้นสุดลงใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และระยะเวลาที่กําหนดขึ้นตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่ง
สํานักและพาณิ ชย์ที่ได้ตรวจชํกาาระใหม่ท้ายพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ญญัตินี้ แตกต่างกักบา ระยะเวลาทีสํ่กาํานัหนดไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เดิมให้นํา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ระยะเวลาที่ยาวกว่ามาใช้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕ ให้แก้เลขมาตราตามที่มีอยู่ในมาตราต่าง ๆ แห่งประมวลกฎหมายแพ่ง
สํานักและพาณิ ชย์เป็นเลขมาตราตามบรรพ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํ๑านัแห่ งประมวลกฎหมายแพ่กางและพาณิชย์สํทาี่ไนัด้กตงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี รวจชําระใหม่ กา
ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ดังต่อไปนี้
สํ(๑) “มาตรา ๙ วรรคสองและวรรคสาม”
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํในมาตรา ๑๖๖๖ ให้แก้เป็กนา “มาตรา ๙
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
วรรคสอง”
(๒) “มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๙” ในมาตรา ๑๔๖๔ และมาตรากา๑๕๑๙ ให้แก้เสํป็านันก“มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๒๘”
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๓) “มาตรา ๓๔” ในมาตรา ๑๖๑๐ และมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๖๑๑ ให้แก้เป็น “มาตรา ๓๒”
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) “มาตรา ๖๐ มาตรา ๖๑ มาตรา ๖๓” ในมาตรา ๑๕๗๗ ให้แก้เป็น “มาตรา
สํานัก๕๖ มาตรา ๕๗ มาตรา ก๖๐”
งานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-๔- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๕) “มาตรา ๖๕” ในมาตรา ๑๖๐๒ ให้แก้เป็น “มาตรา ๖๒”


(๖) “มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๖๖” ในมาตรา ๑๖๐๒ ให้แก้เป็น ก“มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ๖๓” สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) “มาตรา ๘๑” ในมาตรา ๑๖๗๖ ให้แก้เป็น “มาตรา ๑๑๐”
สํ(๘) “มาตรา ๘๕” ในมาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๖๗๗ ให้แสํก้าเป็นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
“มาตรา ๑๑๔” กา
(๙) “มาตรา ๑๓๐ วรรคสอง” ในมาตรา ๓๖๐ ให้แก้เป็น “มาตรา ๑๖๙ วรรค
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สอง”
สํ(๑๐) “มาตรา ๑๘๙” ในมาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๔๘ สํและมาตรา ๑๗๕๔ ให้แก้เกป็าน “มาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๙๓/๒๗”
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖ บทบัญญัติแห่งกฎหมายอื่นที่อ้างถึงบทบัญญัติในบรรพ ๑ หรือลักษณะ
๒๓ ในบรรพ ๓ แห่ สํานังกประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎีงและพาณิ
กา ชย์ ให้สํถานัือกว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าบทบัญญัติแห่งกฎหมายนั
กา ้นอ้างถึง
บทบัญญัติที่มีนัยเช่นเดียวกันในบรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ได้ตรวจชําระใหม่
สํานักท้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ายพระราชบัญญัตินี้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗ บรรดากฎกระทรวงที่ออกตามความในมาตรา ๙๗ และมาตรา ๑๒๙๗
แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชสํย์าซนัึ่งกใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บังคับอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินสําี้ในัช้กบงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ังคับ ให้ยังคง กา
ใช้ได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ได้ตรวจชําระ
ใหม่ท้ายพระราชบัสําญนัญักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตินี้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๘ ให้นายกรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กษาการให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้รับสนองพระบรมราชโองการ
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อานันท์ ปันยารชุน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นายกรัฐมนตรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


-๕- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ข้อกความเบื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้องต้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑ กฎหมายนี้ให้เรียกว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒ ให้ใช้ประมวลกฎหมายนี้ตั้งแต่วันที่ ๑ เดือนมกราคม พระพุทธศักราช
สํานัก๒๔๖๘ เป็นต้นไป กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓ ตั้งแต่วันที่ใช้ประมวลกฎหมายนี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานั้สกืบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไป ให้ยกเลิกบรรดากฎหมาย
กา กฎ
และข้อบังคับอื่น ๆ ในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้วในประมวลกฎหมายนี้หรือซึ่งแย้งกับบทแห่งประมวล
สํานักกฎหมายนี ้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บรรพ ๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หลักทั่วไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานับทเบ็ ดเสร็จทัว่ ไป
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔ กฎหมายนั้ น ต้ องใช้ใ นบรรดากรณี ซึ่ งต้ อ งด้ว ยบทบัญ ญัติ ใ ด ๆ แห่ ง
สํานักกฎหมายตามตั วอักษร หรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อตามความมุสํ่งาหมายของบทบั ญญัตินั้น ๆกา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อไม่มีบทกฎหมายที่จะยกมาปรับคดีได้ ให้วินิจฉัยคดีนั้นตามจารีตประเพณีแห่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ท้องถิ่น ถ้าไม่มีจารีตประเพณีเช่นว่านั้น ให้วินิจฉัยคดีอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง และ
สํานักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าบทกฎหมายเช่นนั้นก็กไาม่มีด้วย ให้วินสํิจาฉันัยกตามหลั กกฎหมายทั่วไปกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕ ในการใช้สิทธิแห่กงาตนก็ดี ในการชํ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัาระหนี ้ก็ดี บุคคลทุกคนต้กอางกระทําโดย
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สุจริต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า บุคคลทุกคนกระทําการโดยสุจริต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗ ถ้าจะต้องเสียดอกเบี้ยแก่กันและมิได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยไว้โดยนิติ
สํานักกรรมหรื อโดยบทกฎหมายอั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นชัดแจ้ง ให้
สําในัช้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
ัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘ คําว่า “เหตุสุดวิสัย” หมายความว่า เหตุใด ๆ อันจะเกิดขึ้นก็ดี จะให้ผล
สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
บัติก็ดี เป็นเหตุที่ไม่อกาจป้
า องกันได้แสํม้านัทกั้งงานคณะกรรมการกฤษฎี
บุคคลผู้ต้องประสบหรืกอา ใกล้จะต้องประสบเหตุ นั้นจะได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
-๖- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

จัดการระมัดระวังตามสมควรอันพึงคาดหมายได้จากบุคคลในฐานะและภาวะเช่นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙ เมื่อมีกิจการอันใดซึ่งกฎหมายบังคับให้ทําเป็นหนังสือ บุคคลผู้จะต้องทํา
หนังสือไม่จําเป็นต้สํอานังเขี ยนเอง แต่หนังสือนั้นกต้าองลงลายมือชืสํ่อานัของบุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี คคลนั้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ลายพิมพ์นิ้วมือ แกงได ตราประทับ หรือเครื่องหมายอื่นทํานองเช่นว่านั้นที่ทําลงใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เอกสารแทนการลงลายมือชื่อ หากมีพยานลงลายมือชื่อรับรองไว้ด้วยสองคนแล้วให้ถือเสมอกับลง
ลายมือชื่อ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความในวรรคสองไม่ใช้บังคับแก่การลงลายพิม พ์นิ้วมือ แกงได ตราประทับหรือ
สํานักเครื ่องหมายอื่นทํานองเช่กานว่านั้น ซึ่งทํสําาลงในเอกสารที
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่ทําต่อหน้าพนั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กากงานเจ้าหน้าสํทีา่ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐ เมื่อความข้อใดข้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาอหนึ่งในเอกสารอาจตี ความได้สองนัย นัยกไหนจะทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าให้
เป็นผลบังคับได้ ให้ถือเอาตามนัยนั้นดีกว่าที่จะถือเอานัยที่ไร้ผล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑ ในกรณีที่มีข้อสงสัย ให้ตีความไปในทางที่เป็นคุณแก่คู่กรณีฝ่ายซึ่งจะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นผู้ต้องเสียในมูลหนี้นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒ ในกรณีที่จํานวนเงินหรือปริมาณในเอกสารแสดงไว้ทั้งตัวอักษรและ
ตัวเลข ถ้าตัวอักษรกั
สํานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตัวเลขไม่ตรงกัน และมิกอา าจหยั่งทราบเจตนาอั นแท้จริงได้ ให้ถือเอาจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา านวนเงิน
หรือปริมาณที่เป็นตัวอักษรเป็นประมาณ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓ ถ้าจํานวนเงินหรือปริมาณในเอกสารแสดงไว้เป็นตัวอักษรหลายแห่ง
หรือเป็นตัวเลขหลายแห่ ง แต่ที่แสดงไว้หลายแห่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งนั้นไม่ตรงกั
สํานนักและมิ อาจหยั่งทราบเจตนาอั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นแท้จริง
ได้ ให้ถือเอาจํานวนเงินหรือปริมาณน้อยที่สุดเป็นประมาณ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔ ในกรณีที่เอกสารทําขึ้นไว้หลายภาษา ไม่ว่าจะเป็นฉบับเดียวกันหรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หลายฉบับก็ตามโดยมีภาษาไทยด้วย ถ้าข้อความในหลายภาษานั้นแตกต่างกัน และมิอาจหยั่งทราบ
สํานักเจตนาของคู ่กรณีได้ว่าจะใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ภาษาใดบังสํคัาบนัให้ ถือตามภาษาไทย กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกลัากษณะ ๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บุคคล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บุคคลธรรมดา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สภาพบุคคล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-๗- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๕ สภาพบุคคลย่อมเริ่มแต่เมื่อคลอดแล้วอยู่รอดเป็นทารกและสิ้นสุดลง
เมื่อตาย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทารกในครรภ์มารดาก็สามารถมีสิทธิต่าง ๆ ได้ หากว่าภายหลังคลอดแล้วอยู่รอด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นทารก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖ การนับอายุของบุคคล ให้เริ่มนับแต่วันเกิด ในกรณีที่รู้ว่าเกิดในเดือนใด
สํานักแต่ ไม่รู้วันเกิด ให้นับวันกทีา่หนึ่งแห่งเดือสํนนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี านัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นวันเกิด แต่ถ้าพ้นวิกสาัยที่จะหยั่งรู้เดืสํอานันและวั นเกิดของ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บุคคลใด ให้นับอายุบุคคลนั้นตั้งแต่วันต้นปีปฏิทิน ซึ่งเป็นปีที่บุคคลนั้นเกิด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗ ในกรณีบุคคลหลายคนตายในเหตุภยันตรายร่วมกัน ถ้าเป็นการพ้นวิสัย
สํานักทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่จะกําหนดได้ว่าคนไหนตายก่
กา อนหลัง สํให้
านัถกืองานคณะกรรมการกฤษฎี
ว่าตายพร้อมกัน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๘ สิทธิของบุคคลในการที่จะใช้สํนานัามอั กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นชอบที่จะใช้ได้นั้นถ้ามีบุคคลอื่น
โต้แย้งก็ดี หรือบุคคลผู้เป็นเจ้าของนามนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้นต้องเสื่อมเสียประโยชน์เพราะการที่มีผู้อสํื่นามาใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นามเดียวกัน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยมิได้รับอํานาจให้ใช้ได้ก็ดีบุคคลผู้เป็นเจ้าของนามจะเรียกให้บุคคลนั้นระงับความเสียหายก็ได้ ถ้า
และเป็นที่พึงวิตกว่สําานัจะต้ องเสียหายอยู่สืบไป จะร้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา องขอต่อศาลให้
สํานักสงานคณะกรรมการกฤษฎี
ั่งห้ามก็ได้ กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่วนที่ ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความสามารถ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๙ บุคคลย่สําอนัมพ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นจากภาวะผู้ เยาว์ และบรรลุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นิ ติภาวะเมื ่อมี อายุยี่สิบปี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บริบูรณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๒๐ ผู้เยาว์ยสํ่อามบรรลุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นิติภาวะเมื่อทําการสมรส
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา หากการสมรสนั ้นได้ทําตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บทบัญญัติมาตรา ๑๔๔๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๑ ผู้เยาว์จะทํานิติกรรมใด ๆ ต้องได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบ
สํานักธรรมก่ อน การใด ๆ ที่ผกู้เยาว์
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ได้ทําลงปราศจากความยิ นยอมเช่นว่ากนัา้นเป็นโมฆียะสํเว้านันกแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี จะบัญญัติไว้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๒ ผู้เยาว์อาจทําการใด ๆ ได้ทั้งสิ้น หากเป็นเพียงเพื่อจะได้ไปซึ่งสิทธิอันใด
สํานักอังานคณะกรรมการกฤษฎี
นหนึ่ง หรือเป็นการเพืก่อาให้หลุดพ้นจากหน้
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่อันใดอันหนึ่ง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๓ ผู้เยาว์อาจทําการใด ๆ ได้ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นการต้องทําเองเฉพาะตัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-๘- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๒๔ ผู้เยาว์อาจทําการใด ๆ ได้ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นการสมแก่ฐานานุรูปแห่งตน


สํานักและเป็ นการอันจําเป็นในการดํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ารงชีพตามสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๕ ผู้เยาว์อาจทําพิกนาัยกรรมได้เมื่อสํอายุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักสงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิบห้าปีบริบูรณ์ กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๒๖ ถ้าผู้แทนโดยชอบธรรมอนุญาตให้ผู้เยาว์จําหน่ายทรัพย์สินเพื่อการอัน
ใดอันหนึ่งอันได้ระบุ
สํานัไกว้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้เยาว์จะจําหน่ายทรัพกย์าสินนั้นเป็นประการใดภายในขอบของการที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา่ระบุไว้นั้นก็
ทําได้ตามใจสมัคร อนึ่ง ถ้าได้รับอนุญาตให้จําหน่ายทรัพย์สินโดยมิได้ระบุว่าเพื่อการอันใดผู้เยาว์ก็
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหน่ายได้ตามใจสมัครกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๗ ผู้แทนโดยชอบธรรมอาจให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ความยิ
สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยอมแก่ผู้เยาว์ในการประกอบธุ
กา รกิจ
ทางการค้าหรือธุรกิจอื่น หรือในการทําสัญญาเป็นลูกจ้างในสัญญาจ้างแรงงานได้ ในกรณีที่ผู้แทนโดย
สํานักชอบธรรมไม่ ให้ความยินกยอมโดยไม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า มีเหตุ
สําอนัันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สมควร ผู้เยาว์อาจร้องขอต่
กา อศาลให้สั่งสํอนุ
านัญกงานคณะกรรมการกฤษฎี
าตได้ กา
ในความเกี่ยวพันกับการประกอบธุรกิจหรือการจ้างแรงงานตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้เยาว์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มีฐานะเสมือนดังบุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว
ถ้าการประกอบธุรกิสํจาหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อการทํางานที่ได้รับความยินยอมหรือสํทีา่ไนัด้กรงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ับอนุญาตตาม กา
วรรคหนึ่ง ก่อให้เกิดความเสียหายถึงขนาดหรือเสื่อมเสียแก่ผู้เยาว์ ผู้แทนโดยชอบธรรมอาจบอกเลิก
ความยินยอมที่ได้สํใาห้นัแกก่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้เยาว์เสียได้ หรือในกรณี
กา ที่ศาลอนุญสําาต ผู้แทนโดยชอบธรรมอาจร้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา องขอต่อ
ศาลให้เพิกถอนการอนุญาตที่ได้ให้แก่ผู้เยาว์นั้นเสียได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณี กาที่ผู้แทนโดยชอบธรรมบอกเลิ กความยินกยอมโดยไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า มีเหตุ
สําอนัันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สมควร ผู้เยาว์ กา
อาจร้องขอต่อศาลให้เพิกถอนการบอกเลิกความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรมได้
สํการบอกเลิ กความยินยอมโดยผู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้แทนโดยชอบธรรมหรื อการเพิกถอนการอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาตโดย
ศาล ย่อมทําให้ฐานะเสมือนดังบุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้วของผู้เยาว์สิ้นสุดลง แต่ไม่กระทบกระเทือน
สํานักการใด ๆ ที่ผู้เยาว์ได้กระทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าไปแล้วก่อนมีสํากนัารบอกเลิ กความยินยอมหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อเพิกถอนการอนุ
สํานักญ าต
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๘ บุคคลวิกลจริตผู้ใด ถ้าคู่สมรสก็ดี ผู้บุพการีกล่าวคือ บิดา มารดา ปู่ย่า
สํานักตายาย ทวดก็ดี ผู้สืบสันกดานกล่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า าวคือ ลูสํกานัหลาน เหลน ลื่อก็ดี ผู้ปกครองหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อผู้พิทสํักาษ์นักก็ดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี ผู้ซึ่งปกครอง กา
ดูแลบุคคลนั้นอยู่ก็ดี หรือพนักงานอัยการก็ดี ร้องขอต่อศาลให้สั่งให้บุคคลวิกลจริตผู้นั้นเป็นคนไร้
ความสามารถ ศาลจะสั ่งให้บุคคลวิกลจริตผู้นกั้นาเป็นคนไร้ความสามารถก็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บุคคลซึ่งศาลได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถตามวรรคหนึ่ง ต้องจัดให้อยู่ในความ
สํานักอนุ บาล การแต่งตั้งผู้อกนุาบาล อํานาจหน้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ของผู้อนุบาลและการสิ กา ้นสุดของความเป็ นผู้อนุบาล ให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เป็นไปตามบทบัญญัติบรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมายนี้
สํคําานัสัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของศาลตามมาตรานี้ กให้า ประกาศในราชกิ สํานักจงานคณะกรรมการกฤษฎี
จานุเบกษา กา

มาตรากา๒๙ การใด ๆสําอันันกบุงานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี คคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นคนไร้
กา ความสามารถได้ กระทําลงการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นั้นเป็นโมฆียะ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๓๐ การใด ๆสํานัอักนงานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บุคคลวิกลจริตซึ่งศาลยักงามิได้สั่งให้เป็นสํคนไร้ ความสามารถ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
-๙- สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ได้กระทําลง การนั้นจะเป็นโมฆียะต่อเมื่อได้กระทําในขณะที่บุคคลนั้นจริตวิกลอยู่ และคู่กรณีอีกฝ่าย


สํานักหนึ ่งได้รู้แล้วด้วยว่าผู้กระทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าเป็นคนวิกลจริ
สํานักตงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๑ ถ้าเหตุที่ทําให้กเป็า นคนไร้ความสามารถได้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สิ้นสุดไปแล้วและเมื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อบุคคลผู้
นั้นเองหรือบุคคลใด ๆ ดังกล่าวมาในมาตรา ๒๘ ร้องขอต่อศาลก็ให้ศาลสั่งเพิกถอนคําสั่งที่ให้เป็นคน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไร้ความสามารถนั้น
สํคําานัสัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของศาลตามมาตรานี้ กให้า ประกาศในราชกิ
สํานักจงานคณะกรรมการกฤษฎี
จานุเบกษา กา

มาตรากา๓๒ บุคคลใดมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ายพิการหรือมีจิตฟั่นเฟื
กาอนไม่สมประกอบหรื อประพฤติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สุรุ่ยสุร่ายเสเพลเป็นอาจิณ หรือติดสุรายาเมา หรือมีเหตุอื่นใดทํานองเดียวกันนั้น จนไม่สามารถจะ
จัดทําการงานโดยตนเองได้ หรือจัดกิจการไปในทางที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อาจจะเสื ่อมเสียแก่ทรัพย์สินของตนเองหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ
ครอบครัว เมื่อบุคคลตามที่ระบุไว้ในมาตรา ๒๘ ร้องขอต่อศาล ศาลจะสั่งให้บุคคลนั้นเป็นคนเสมือน
สํานักไร้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ความสามารถก็ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บุคคลซึ่งศาลได้สั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถตามวรรคหนึ่ง ต้องจัดให้อยู่ใน
ความพิทักษ์ การแต่งตั้งผู้พิทักษ์ ให้เป็นไปตามบทบัญญัติบสํรรพ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕ แห่งประมวลกฎหมายนี้
ให้นําบทบัญญัติว่าด้สํวายการสิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้นสุดของความเป็นผู้ปกครองในบรรพ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕ แห่งประมวล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎหมายนี้ มาใช้บังคับแก่การสิ้นสุดของการเป็นผู้พิทักษ์โดยอนุโลม
สํคําานัสัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของศาลตามมาตรานี้ กให้า ประกาศในราชกิ
สํานักจงานคณะกรรมการกฤษฎี
จานุเบกษา กา

มาตรากา๓๓ ในคดีที่มสํีกานัารร้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี องขอให้ศาลสั่งให้บุคคลใดเป็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นคนไร้คสํวามสามารถเพราะ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วิกลจริต ถ้าทางพิจารณาได้ความว่าบุคคลนั้นไม่วิกลจริตแต่มีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบเมื่อศาล
เห็นสมควรหรือเมืสํ่อานัมีกคงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําขอของคู่ความหรือของบุ
กา คคลตามทีสํ่ระบุ
านักไงานคณะกรรมการกฤษฎี
ว้ในมาตรา ๒๘ ศาลอาจสั กา ่งให้บุคคล
นั้นเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถก็ได้ หรือในคดีที่มีการร้องขอให้ศาลสั่งให้บุคคลใดเป็นคนเสมือนไร้
สํานักความสามารถเพราะมี
งานคณะกรรมการกฤษฎีจิตกาฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ ถ้าทางพิจารณาได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ความว่าบุคคลนั
สํานั้นกวิงานคณะกรรมการกฤษฎี
กลจริต เมื่อมี กา
คํ า ขอของคู่ ค วามหรื อ ของบุ ค คลตามที่ ร ะบุ ไ ว้ ใ นมาตรา ๒๘ ศาลอาจสั่ ง ให้ บุ ค คลนั้ น เป็ น คนไร้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความสามารถก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๔ คนเสมือนไร้ความสามารถนั้น ต้องได้รับความยินยอมของผู้พิทักษ์ก่อน
แล้วจึงจะทําการอย่
สํานัางหนึ ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ไกด้า
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) นําทรัพย์สินไปลงทุน
(๒) รักบาคืนทรัพย์สินทีสํา่ไนัปลงทุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี น ต้นเงินหรือทุนอย่กาางอื่น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) กู้ยืมหรือให้กู้ยืมเงิน ยืมหรือให้ยืมสังหาริมทรัพย์อันมีค่า
สํ(๔) รับประกันโดยประการใด
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๆ อันมีผลให้สําตนันต้ องถูกบังคับชําระหนี้ กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๕) เช่ า หรื อ ให้ เ ช่ า สั ง หาริ ม ทรั พ ย์ มี กํ า หนดระยะเวลาเกิ น กว่ า หกเดื อ นหรื อ
สํานักอสั งหาริมทรัพย์มีกําหนดระยะเวลาเกิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นสํกว่
านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
สามปี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) ให้โดยเสน่หา เว้นแต่การให้ที่พอควรแก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ฐานานุรูป เพื่อการกุศล การสังคม หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามหน้าที่ธรรมจรรยา
(๗) รักบาการให้โดยเสน่สําหนัาที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่มีเงื่อนไขหรือค่าภาระติกาดพัน หรือไม่รสํับาการให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี โดยเสน่หา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๘) ทําการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจะได้มาหรือปล่อยไปซึ่งสิทธิในอสังหาริมทรัพย์
สํานักหรื อในสังหาริมทรัพย์อันกมีา ค่า
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๙) ก่อสร้างหรือดัดแปลงโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น หรือซ่อมแซมอย่าง
ใหญ่ สํ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑๐) เสนอคดีต่อศาลหรือดําเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ เว้นแต่การร้องขอตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๕ หรือการร้องขอถอนผู้พิทักษ์
สํ(๑๑) ประนีประนอมยอมความหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อมอบข้สํอาพินัพกงานคณะกรรมการกฤษฎี
าทให้อนุญาโตตุลาการวิกานิจฉัย
ถ้ ามี กรณี อื่น ใดนอกจากที่ก ล่า วในวรรคหนึ่ง ซึ่ง คนเสมือ นไร้ ค วามสามารถอาจ
สํานักจังานคณะกรรมการกฤษฎี
ดการไปในทางเสื่อมเสีกยาแก่ทรัพย์สินของตนเองหรื อครอบครัว ในการสั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งให้บุคคลใดเป็ นคนเสมือนไร้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ความสามารถ หรือเมื่อผู้พิทักษ์ร้องขอในภายหลัง ศาลมีอํานาจสั่งให้คนเสมือนไร้ความสามารถนั้น
ต้องได้รับความยินสํยอมของผู ้พิทักษ์ก่อนจึงจะทํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาาการนั้นได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่คนเสมือนไร้ความสามารถไม่สามารถจะทําการอย่างหนึ่งอย่างใดที่กล่าวมา
สํานักในวรรคหนึ ่งหรือวรรคสองได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ด้วยตนเอง สํานัเพราะเหตุ มีกายพิการหรืกอามีจิตฟั่นเฟือนไม่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัสกมประกอบ ศาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จะสั่งให้ผู้พิทักษ์เป็นผู้มีอํานาจกระทําการนั้นแทนคนเสมือนไร้ความสามารถก็ได้ ในกรณีเช่นนี้ ให้นํา
บทบัญญัติที่เกี่ยวกัสําบนัผูก้องานคณะกรรมการกฤษฎี
นุบาลมาใช้บังคับแก่ผกู้พาิทักษ์โดยอนุโสํลม
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําสั่งของศาลตามมาตรานี ้ ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การใดกระทําลงโดยฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตรานี้ การนั้นเป็นโมฆียะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๕ ในกรณีที่ผู้พิทักษ์ไม่ยินยอมให้คนเสมือนไร้ความสามารถกระทําการ
สํานักอย่ างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๓๔ โดยปราศจากเหตุ ผลอันสมควรกเมืา ่อคนเสมือนไร้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําคนัวามสามารถร้ อง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ขอ ศาลจะมีคําสั่งอนุญาตให้กระทําการนั้นโดยไม่ต้องรับความยินยอมจากผู้พิทักษ์ก็ได้ ถ้าการนั้นจะ
เป็นคุณประโยชน์สํแาก่นัคกนเสมื อนไร้ความสามารถ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๓๖ ถ้าเหตุทสํี่ศานัาลได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สั่งให้เป็นคนเสมือนไร้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ความสามารถได้
สํานักสงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิ้นสุดไปแล้วให้ กา
นําบทบัญญัติมาตรา ๓๑ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่วนที่ ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภูมิลําเนา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๓๗ ภูมิลําเนาของบุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี คคลธรรมดา ได้แกก่าถิ่นอันบุคคลนัสํา้นนัมีกสงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถานที่อยู่เป็น กา
แหล่งสําคัญ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๘ ถ้าบุคคลธรรมดามีถิ่นที่อยู่หลายแห่งซึ่งอยู่สับเปลี่ยนกันไปหรือมีหลัก
สํานักแหล่ งที่ทําการงานเป็นปกติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา หลายแห่ง สํให้านัถกืองานคณะกรรมการกฤษฎี
เอาแห่งใดแห่งหนึ่งเป็นกภูา มิลําเนาของบุสํคานัคลนั ้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๙ ถ้าภูมิลําเนาไม่ปรากฏ ให้ถือว่าถิ่นที่อยู่เป็นภูมิลําเนา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๔๐ บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นผู้ไม่มีที่อยู่ปกติเป็นหลักแหล่ง หรือเป็นผู้ครองชีพ


สํานักในการเดิ นทางไปมาปราศจากหลั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กแหล่
สํางนัทีก่ทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําการงาน พบตัวในถิก่นาไหนให้ถือว่าถิสํ่นานันัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นภูมิลําเนา กา
ของบุคคลนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๑ ภูมิลําเนาย่อมเปลี่ยนไปด้วยการย้ายถิ่นที่อยู่ พร้อมด้วยเจตนาปรากฏ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ชัดแจ้งว่าจะเปลี่ยนภูมิลําเนา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๒ ถ้าบุคคลใดได้เลือกเอาถิ่นใด โดยมีเจตนาปรากฏชัดแจ้งว่าจะให้เป็น
สํานักภูงานคณะกรรมการกฤษฎี
มิลําเนาเฉพาะการเพื่อกทํา าการใด ให้ถสํือาว่นัากถิงานคณะกรรมการกฤษฎี
่นนั้นเป็นภูมิลําเนาเฉพาะการสํ
กา าหรับการนั
สํานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๔๓ ภูมิ ลําเนาของสามี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา แ ละภริ ยสําานักได้งานคณะกรรมการกฤษฎี
แ ก่ถิ่นที่อยู่ที่สามีและภริ
กา ย าอยู่ กิ น
ด้วยกันฉันสามีภริยา เว้นแต่สามีหรือภริยาได้แสดงเจตนาให้ปรากฏว่ามีภูมิลําเนาแยกต่างหากจากกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๔ ภูมิลําเนาของผู้เยาว์ ได้แก่ภูมิลําเนาของผู้แทนโดยชอบธรรมซึ่งเป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ใช้อํานาจปกครองหรือผู้ปกครอง
ในกรณีที่ผู้เยาว์อยู่ใต้สํอาํานันาจปกครองของบิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดามารดา ถ้าบิดาและมารดามี
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภูมิลําเนา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แยกต่างหากจากกัน ภูมิลําเนาของผู้เยาว์ได้แก่ภูมิลําเนาของบิดาหรือมารดาซึ่งตนอยู่ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๕ ภูมิลําเนาของคนไร้ความสามารถ ได้แก่ภูมิลําเนาของผู้อนุบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๖ ภูมิลําเนาของข้าราชการ ได้แก่ถิ่นอันเป็นที่ทําการตามตําแหน่งหน้าที่
หากมิใช่เป็นตําแหน่
สํานักงหน้ าที่ชั่วคราวชั่วระยะเวลาหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อเป็นสํเพีานัยกงแต่ งตั้งไปเฉพาะการครักา้งเดียวคราว
งานคณะกรรมการกฤษฎี
เดียว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๗ ภูมิลําเนาของผู้ที่ถูกจําคุกตามคําพิพากษาถึงที่สุดของศาลหรือตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําสั่งโดยชอบด้วยกฎหมาย ได้แก่เรือนจําหรือทัณฑสถานที่ถูกจําคุกอยู่ จนกว่าจะได้รับการปล่อยตัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาสาบสูญ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๔๘ ถ้าบุคคลใดไปเสียจากภูมิลําเนาหรือถิ่นที่อยู่โดยมิได้ตั้งตัวแทนผู้รับ
มอบอํานาจทั่วไปไว้สํานักและไม่ มีใครรู้แน่ว่าบุคคลนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นยังมีชีวิตอยู
สํา่หนักรืองานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่ เมื่อผู้มีส่วนได้เสียกหรืา อพนักงาน
อัยการร้องขอ ศาลจะสั่งให้ทําการอย่างหนึ่งอย่างใดไปพลางก่อนตามที่จําเป็นเพื่อจัดการทรัพย์สิน
สํานักของบุ คคลผู้ไม่อยู่นั้นก็ได้กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อเวลาได้ล่วงเลยไปหนึ่งปีนับแต่วันที่ผู้ไสํม่าอนัยูก่นงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ั้นไปเสียจากภูมิลําเนาหรื กา
อถิ่นที่อยู่
และไม่มีผู้ใดได้รับข่าวเกี่ยวกับบุคคลนั้นประการใดเลยก็ดี หรือหนึ่งปีนับแต่วันมีผู้ได้พบเห็นหรือได้
สํานักทราบข่ าวมาเป็นครั้งหลักงาสุดก็ดี เมื่อบุสํคาคลตามวรรคหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่งร้องขอ ศาลจะตั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้งผู้จัดการทรั พย์สินของผู้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

อยู่ขึ้นก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๙ ในกรณีที่ ผู้ ไม่ อ ยู่ ได้ ตั้ งตั ว แทนผู้ รั บ มอบอํ า นาจทั่ ว ไปไว้ แ ละสั ญ ญา
ตัวแทนระงับสิ้นไป
สํานัหรื อปรากฏว่าตัวแทนผู้รกับา มอบอํานาจทัสํา่วนัไปได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี จัดการทรัพย์สินนั้นกในลั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า กษณะที่
อาจเสียหายแก่บุคคลดังกล่าว ให้นํามาตรา ๔๘ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๐ เมื่อผู้มีส่วนได้เกสีายหรือพนักงานอั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัยกการร้ องขอ ศาลจะสั่งให้กาตัวแทนผู้รับ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
มอบอํานาจทั่วไปจัดทําบัญชีทรัพย์สินของผู้ไม่อยู่ขึ้นตามที่ศาลจะมีคําสั่งก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๑ ภายใต้บังคับมาตรา ๘๐๒ ถ้าตัวแทนผู้รับมอบอํานาจทั่วไปเห็นเป็น
การจําเป็นจะต้องทํ
สํานัากการอั นใดอันหนึ่งเกินขอบอํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา านาจที่ได้รสํับาไว้ ต้องขออนุญาตต่อศาลกและเมื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่อศาล
สั่งอนุญาตแล้วจึงจะกระทําการนั้นได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๒ ผู้จัดการทรัพย์สินที่ศาลได้ตั้งขึ้น ต้องทําบัญชีทรัพย์สินของผู้ไม่อยู่ให้
เสร็จภายในสามเดือนนับแต่วันทราบคําสั่งตั้งของศาล แต่ผู้จสํัดานัการทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พย์สินจะร้องขอต่อศาลให้ขยาย
เวลาก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๓ บัญชีทรัพย์สินกตามมาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ๕๐สํานัและมาตรา ๕๒ ต้องมีพยานลงลายมื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ
ชื่อรับรองความถูกต้องอย่างน้อยสองคน พยานสองคนนั้นต้องเป็นคู่สมรสหรือญาติของผู้ไม่อยู่ซึ่ง
สํานักบรรลุ นิติภาวะแล้ว แต่ถก้าาไม่มีคู่สมรสหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกหาญาติ ไม่ได้ หรือคู่สมรสและญาติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ไม่ยสํอมเป็ นพยาน จะให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้อื่นซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้วเป็นพยานก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๔ ผู้จัดการทรัพย์สินมีอํานาจหน้าที่อย่างเดียวกับตัวแทนผู้รับมอบอํานาจ
สํานักทังานคณะกรรมการกฤษฎี
่วไปตามมาตรา ๘๐๑ กและมาตรา
า ๘๐๒
สํานัถ้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้จัดการทรัพย์สินเห็นกเป็า นการจําเป็นสํจะต้
านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งทําการอันใด กา
อันหนึ่งเกินขอบอํานาจ ต้องขออนุญาตต่อศาล และเมื่อศาลสั่งอนุญาตแล้วจึงจะกระทําการนั้นได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๕๕ ถ้าผู้ไม่สํอายูนั่ไกด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ตั้งตัวแทนผู้รับมอบอํกาานาจเฉพาะการอั
สํานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใดไว้ ผู้จัดการ กา
ทรัพย์สินจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการอันเป็นอํานาจเฉพาะการนั้นไม่ได้ แต่ถ้าปรากฏว่าการที่ตัวแทน
จัดทําอยู่นั้นอาจจะเสี
สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
หายแก่ผู้ไม่อยู่ ผู้จัดการทรั
กา พย์สินจะร้สํอางขอให้ ศาลถอดถอนตัวแทนนั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นเสียก็ได้

มาตรากา๕๖ เมื่อผู้มีสสํ่วานันได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เสียหรือพนักงานอัยการร้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา องขอ หรือสํเมืานั่อกศาลเห็ นสมควร
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ศาลอาจสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้
สํ(๑) ให้ผู้จัดการทรัพย์สินหาประกั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นอันสมควรในการจั ดการทรัพย์สกินาของผู้ไม่อยู่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตลอดจนการมอบคืนทรัพย์สินนั้น
(๒) ให้กาผู้จัดการทรัพสํย์าสนัินกแถลงถึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งความเป็นอยู่แห่กงาทรัพย์สินของผูสํา้ไนัม่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ยู่ กา
(๓) ถอดถอนผู้จัดการทรัพย์สิน และตั้งผู้อสํื่นาให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นผู้จัดการทรัพย์สินแทนต่อไป
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๕๗ ในคําสัสํ่งาตันั้งกผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้จัดการทรัพย์สิน ศาลจะกํ
กา าหนดบําเหน็
สํานักจงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้แก่ผู้จัดการ กา
- ๑๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ทรัพย์สินโดยจ่ายจากทรัพย์สินของผู้ไม่อยู่นั้นก็ได้ ถ้าศาลมิได้กําหนด ผู้จัดการทรัพย์สินจะร้องขอต่อ


สํานักศาลให้ กําหนดบําเหน็จในภายหลั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งก็ได้สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าผู้จัดการทรัพย์สิน หรือผู้มีส่วนได้เสีย หรือพนักงานอัยการร้องขอ หรือเมื่อมีกรณี
ปรากฏแก่ศาลว่าานัพฤติ
สํ การณ์เกี่ยวกับการจักาดการทรัพย์สสํินานัได้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี เปลี่ยนแปลงไป ศาลจะสั
กา ่ งกํ า หนด
บําเหน็จ งด ลด เพิ่ม หรือกลับให้บําเหน็จแก่ผู้จัดการทรัพย์สินอีกก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๘ ความเป็นผู้จัดการทรั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พย์สินย่อสํมสิ
านัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
สุดลงในกรณีดังต่อไปนีก้ า
(๑) ผู้ไม่อยู่นั้นกลับมา
(๒) ผูก้ไาม่อยู่นั้นมิได้กสํลัาบนัมาแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ได้จัดการทรัพย์สินกหรืา อตั้งตัวแทนเพื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํา่อนัจักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดการทรัพย์สิน กา
ของตนแล้ว
สํ(๓) ผู้ไม่อยู่ถึงแก่ความตายหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อศาลมีคําสั่งสํให้
านัเกป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นคนสาบสูญ กา
(๔) ผู้จัดการทรัพย์สินลาออกหรือถึงแก่ความตาย
(๕) ผูก้จาัดการทรัพย์สสํินาเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
คนไร้ความสามารถหรืกอาคนเสมือนไร้คสํวามสามารถ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) ผู้จัดการทรัพย์สินเป็นบุคคลล้มละลาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) ศาลถอดถอนผู้จัดการทรัพย์สิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๙ ในกรณีที่ความเป็นผู้จัดการทรัพย์สินสิ้นสุดลงเพราะเหตุตามมาตรา
๕๘ (๔) (๕) หรือสํ(๖) ผู้จัดการทรัพย์สินหรือทายาทของผู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้จัดสํการทรั พย์สิน ผู้จัดการมรดก
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ผู้อนุบาลผู้
พิทักษ์ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ หรือผู้มีหน้าที่ดูแลทรัพย์สินของผู้จัดการทรัพย์สิน แล้วแต่กรณี
สํานักจะต้ อ งแถลงให้ ศ าลทราบถึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง ความสิสํ้ นาสุนัดกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้ น โดยไม่ ชั ก ช้ า เพื่ อ ศาลจะได้
กา มี คํ า สัสํ่ งาเกี
นัก่ ยงานคณะกรรมการกฤษฎี
วกั บ ผู้ จั ด การ กา
ทรัพย์สินต่อไปตามที่เห็นสมควร ในระหว่างเวลาดังกล่าวนั้น บุคคลดังกล่าวจะต้องจัดการตามควรแก่
พฤติการณ์เพื่อรักสํษาประโยชน์ ของผู้ไม่อยู่ จนกว่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าจะได้ส่งมอบทรั พย์สินของผู้ไม่อยู่ให้แกาก่บุคคลหนึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
บุคคลใดตามที่ศาลจะได้มีคําสั่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๐ ให้นําบทบัญญัติว่าด้วยตัวแทนแห่งประมวลกฎหมายนี้ มาใช้บังคับแก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การจัดการทรัพย์สินของผู้ไม่อยู่โดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๑ ถ้าบุคคลใดได้ไปจากภูมิลําเนาหรือถิ่นที่อยู่ และไม่มีใครรู้แน่ว่าบุคคล
นั้นยังมีชีวิตอยู่หรืสํอานัไม่กตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลอดระยะเวลาห้าปี เมื กา่อผู้มีส่วนได้เสีสํายนัหรื อพนักงานอัยการร้องขอ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ศาลจะสั่ง
ให้บุคคลนั้นเป็นคนสาบสูญก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ระยะเวลาตามวรรคหนึ
กา สํานั่งกให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ลดเหลือสองปี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) นับแต่วันที่การรบหรือสงครามสิ้นสุดลง ถ้าบุคคลนั้นอยู่ในการรบหรือสงคราม
และหายไปในการรบหรื อสงครามดังกล่าว กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) นับแต่วันที่ยานพาหนะที่บุคคลนั้นเดินทาง อับปาง ถูกทําลายหรือสูญหายไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๓) นักบา แต่วันที่เหตุอสํันานัตรายแก่ ชีวิตนอกจากที่ระบุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ไว้ใน (๑) หรืสํอานั(๒) ได้ผ่านพ้นไป
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ถ้าบุคคลนั้นตกอยูสํ่ใานอั นตรายเช่นว่านั้น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๖๒ บุคคลซึสํ่งาศาลได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มีคําสั่งให้เป็นคนสาบสู
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญ ให้ถือว่าสํถึางนัแก่ ความตายเมื่อ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ครบกําหนดระยะเวลาดังที่ระบุไว้ในมาตรา ๖๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๓ เมื่อบุคคลผู้ถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญนั้นเองหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือ
พนักงานอัยการร้สํอางขอต่ อศาล และพิสูจน์ได้กวา่าบุคคลผู้ถูกศาลสั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้เป็นคนสาบสูญนั้นยักงาคงมีชีวิตอยู่
ก็ดี หรือว่าตายในเวลาอื่นผิดไปจากเวลาดังระบุไว้ในมาตรา ๖๒ ก็ดี ให้ศาลสั่งถอนคําสั่งให้เป็นคน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาบสูญนั้น แต่การถอนคําสั่งนี้ย่อมไม่กระทบกระเทือนถึงความสมบูรณ์แห่งการทั้งหลายอันได้ทําไป
โดยสุจริตในระหว่สําางเวลาตั ้งแต่ศาลมีคําสั่งให้เกป็านคนสาบสูญสํจนถึ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
เวลาถอนคําสั่งนั้น กา
บุคคลผู้ได้ทรัพย์สินมาเนื่องแต่การที่ศาลสั่งให้บุคคลใดเป็นคนสาบสูญ แต่ต้องเสีย
สํานักสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทธิของตนไปเพราะศาลสั กา ่งถอนคําสั่งให้
สําบนักุคงานคณะกรรมการกฤษฎี
คลนั้นเป็นคนสาบสูญ ให้ กา นําบทบัญญัตสํิวา่านัด้กวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยลาภมิควรได้ กา
แห่งประมวลกฎหมายนี้มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๔ คําสั่งศาลให้เป็นคนสาบสูญหรือคําสั่งถอนคําสั่งให้เป็นคนสาบสูญให้
สํานักประกาศในราชกิ จจานุเบกษา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นิติบุคคล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานับทเบ็ ดเสร็จทัว่ ไป
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๕ นิติบุคคลจะมีขึ้นได้ก็แต่ด้วยอาศัยอํานาจแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือ
สํานักกฎหมายอื ่น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๖ นิติบุคคลย่อมมีสิทธิและหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้
สํานักหรื อ กฎหมายอื่ น ภายในขอบแห่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง อํ าสํนาจหน้ า ที่ห รื อ วั ต ถุ ป ระสงค์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดั ง ได้ บั ญ ญัสํตาิ หนัรืกองานคณะกรรมการกฤษฎี
กํา หนดไว้ ใ น กา
กฎหมาย ข้อบังคับ หรือตราสารจัดตั้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๗ ภายใต้บังคับมาตรา ๖๖ นิติบุคคลย่อมมีสิทธิและหน้าที่เช่นเดียวกับ
สํานักบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
คคลธรรมดา เว้นแต่สกิทาธิและหน้าที่ซสํึ่งาโดยสภาพจะพึ งมีพึงเป็นได้กเฉพาะแก่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า บุคคลธรรมดาเท่ านั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๖๘ ภูมิลําเนาของนิกาติบุคคลได้แก่สํถาิ่นนัอักงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นเป็นที่ตั้งสํานักงานใหญ่
กา หรือถิ่นอัน
เป็นที่ตั้งที่ทําการ หรือถิ่นที่ได้เลือกเอาเป็นภูมิลําเนาเฉพาะการตามข้อบังคับหรือตราสารจัดตั้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๙ ในกรณีที่นิติบุคคลมีที่ตั้งทําการหลายแห่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งหรือมีสํานักงานสาขา ให้ถือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ว่าถิ่นอันเป็นที่ตั้งของที่ทําการหรือของสํานักงานสาขาเป็นภูมิลําเนาในส่วนกิจการอันได้กระทํา ณ ที่
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นด้วย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๗๐ นิ ติ บุ คสํคลต้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อ งมี ผู้ แ ทนคนหนึ่ ง หรืกอา หลายคน ทัสํ้ งานีนั้ ตกงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ามที่ ก ฎหมาย กา
ข้อบังคับ หรือตราสารจัดตั้งจะได้กําหนดไว้
สํความประสงค์ ของนิติบุคคลย่กาอมแสดงออกโดยผู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้แทนของนิติบุคคล กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๗๑ ในกรณีที่นิติบุคคลมีผู้แทนหลายคน การดําเนินกิจการของนิติบุคคลให้
เป็นไปตามเสียงข้สําานังมากของผู ้แทนของนิติบกุคาคลนั้น เว้นแต่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สําจนัะได้ มีข้อกําหนดไว้เป็นประการอื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่นใน
กฎหมาย ข้อบังคับ หรือตราสารจัดตั้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๒ การเปลี่ ย นตั ว ผู้ แ ทนของนิ ติ บุ ค คล หรื อ การจํ า กั ด หรื อ แก้ ไ ข
เปลี่ยนแปลงอํานาจของผู ้แทนของนิติบุคคล กให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า มีผลต่อเมื่อสํได้านัปกฏิงานคณะกรรมการกฤษฎี
บัติตามกฎหมาย ข้อบักงาคับหรือตรา
สารจัดตั้งแล้ว แต่จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้กระทําการโดยสุจริตมิได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๓ ถ้ามีตําแหน่งว่างลงในจํานวนผู้แทนของนิติบุคคล และมีเหตุอันควรเชื่อ
ว่าการปล่อยตําแหน่งว่างไว้น่าจะเกิดความเสียหายขึ้นได้ เมืสํ่อานัผูก้มงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กา
ีส่วนได้เสียหรือพนักงานอั ยการร้อง
ขอ ศาลจะแต่งตั้งผู้แทนชั่วคราวขึ้นก็ได้สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๗๔ ถ้าประโยชน์ได้กเาสียของนิติบุคสํคลขั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดกับประโยชน์ได้เสียของผู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้แทนของ
นิติบุคคลในการอันใด ผู้แทนของนิติบุคคลนั้นจะเป็นผู้แทนในการอันนั้นไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๕ ถ้ากรณีตามมาตรา ๗๔ เป็นเหตุให้ไม่มีผู้แทนของนิติบุคคลเหลืออยู่
หรือผู้แทนของนิตสํิบานัุคกคลที ่เหลืออยู่มีจํานวนไม่กพา อจะเป็นองค์สํปาระชุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ม หรือไม่พอจะกระทํากการอั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นนั้นได้
หากกฎหมาย ข้อบังคับ หรือตราสารจัดตั้งของนิติบุคคลนั้น มิได้มีข้อกําหนดในเรื่องนี้ไว้เป็นอย่างอื่น
สํานักให้ นําความในมาตรา ๗๓กามาใช้บังคับเพืสํา่อนัตัก้งงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ผู้แทนเฉพาะการโดยอนุกาโลม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๖ ถ้าการกระทําตามหน้าที่ของผู้แทนของนิติบุคคลหรือผู้มีอํานาจทําการ
สํานักแทนนิ ติบุคคล เป็นเหตุกาให้เกิดความเสี
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํายนัหายแก่ บุคคลอื่น นิติบุคกคลนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้ นต้องรั บสํผิาดนัชดใช้ ค่าสินไหม
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น แต่ไม่สูญเสียสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอาแก่ผู้ก่อความเสียหาย
สํถ้าานัความเสี ยหายแก่บุคคลอืก่นา เกิดจากการกระทํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี าที่ไม่อยู่ในขอบวัตถุกปาระสงค์หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อํานาจหน้าที่ของนิติบุคคล บรรดาบุคคลดังกล่าวตามวรรคหนึ่งที่ได้เห็นชอบให้กระทําการนั้นหรือได้
สํานักเป็ นผู้กระทําการดังกล่ากวาต้องร่วมกันรัสํบาผินัดกชดใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี ค่าสินไหมทดแทนแก่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ผู้ที่ได้รับความเสี
สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
หายนั้น กา

สํมาตรา ๗๗ ให้นําบทบัญญักตาิว่าด้วยตัวแทนแห่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี งประมวลกฎหมายนี้ มาใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บังคับแก่
ความเกี่ยวพันระหว่างนิติบุคคลกับผู้แทนของนิติบุคคล และระหว่างนิติบุคคล หรือผู้แทนของนิติ
สํานักบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
คคลกับบุคคลภายนอกกาโดยอนุโลม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมาคม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๗๘ การก่อตั้งสมาคมเพื่อกระทําการใด ๆ อันมีลักษณะต่อเนื่องร่วมกันและ
มิใช่เป็นการหาผลกํ
สํานัากไรหรื อรายได้มาแบ่งปันกกัาน ต้องมีข้อบัสํงาคันับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี และจดทะเบียนตามบทบักา ญญัติแห่ง
ประมวลกฎหมายนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๗๙ ข้อบังคับของสมาคมอย่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา างน้อยต้
สํานัอกงมี รายการดังต่อไปนี้ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(๑) ชื่อสมาคม
(๒) วักตาถุประสงค์ของสมาคม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ที่ตั้งสํานักงานใหญ่ และที่ตั้งสํานักงานสาขาทั้งปวง
สํ(๔) วิธีรับสมาชิก และการขาดจากสมาชิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กสํภาพ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) อัตราค่าบํารุง
(๖) ข้กอากําหนดเกี่ยวกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําบนักคณะกรรมการของสมาคม
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้แก่ จํานวนกรรมการ การตั้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กรรมการ วาระการดํารงตําแหน่งของกรรมการ การพ้นจากตําแหน่งของกรรมการ และการประชุม
ของคณะกรรมการสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) ข้อกําหนดเกี่ยวกัสําบนัการจั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดการสมาคม การบัญชี และทรัพย์สสําินนัของสมาคม
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๘) ข้อกําหนดเกี่ยวกับการประชุมใหญ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๐ สมาคมต้องใช้ชื่อซึ่งมีคําว่า “สมาคม” ประกอบกับชื่อของสมาคม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๑ การขอจดทะเบียนสมาคมนั้น ให้ผู้จะเป็นสมาชิกของสมาคมจํานวนไม่
น้อยกว่าสามคน สํร่าวนัมกั นยื่นคําขอเป็นหนังสือกต่า อนายทะเบียสํนแห่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี งท้องที่ที่สํานักงานใหญ่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาของสมาคม
จะตั้งขึ้น พร้อมกับแนบข้อบังคับของสมาคม รายชื่อ ที่อยู่ และอาชีพของผู้จะเป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า
สํานักสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
บคน และรายชื่อ ที่อยูก่แาละอาชีพของผูสํา้จนัะเป็ นกรรมการของสมาคมมากั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บคําขอด้สํวายนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๒ เมื่อนายทะเบียนได้รับคําขอจดทะเบียนพร้อมทั้งข้อบังคับแล้วเห็นว่า
สํานักคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าขอนั้นถูกต้องตามมาตรา กา ๘๑ และข้สํอาบันังกคังานคณะกรรมการกฤษฎี
บถูกต้องตามมาตรา ๗๙ กา และวัตถุประสงค์ ของสมาคมไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ขัดต่อกฎหมายหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือไม่เป็นภยันตรายต่อความสงบสุขของประชาชน
หรือความมั่นคงของรั
สํานักฐงานคณะกรรมการกฤษฎี
และรายการซึ่งจดแจ้กงาในคําขอหรือสํข้านัอกบังานคณะกรรมการกฤษฎี
งคับสอดคล้องกับวัตถุกปาระสงค์ของ
สมาคม และผู้จะเป็นกรรมการของสมาคมนั้นมีฐานะและความประพฤติเหมาะสมในการดําเนินการ
สํานักตามวั ตถุประสงค์ของสมาคม
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ให้นายทะเบี สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
นรับจดทะเบียนและออกใบสํ กา าคัญแสดงการจดทะเบี ยน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ให้แก่สมาคมนั้น และประกาศการจัดตั้งสมาคมในราชกิจจานุเบกษา
สํถ้าานันายทะเบี ยนเห็นว่าคําขอหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อข้อบังคับไม่
สําถนัูกกต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องตามมาตรา ๘๑ หรืกอา มาตรา ๗๙
หรือรายการซึ่งจดแจ้งในคําขอหรือข้อบังคับไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของสมาคม หรือผู้จะเป็น
สํานักกรรมการของสมาคมมี
งานคณะกรรมการกฤษฎีกฐาานะหรือความประพฤติ ไม่เหมาะสมในการดํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าเนินการตามวั
สํานักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถุประสงค์ของ กา
สมาคม ให้ มี คํ าสํสัา่ งนัให้ ผู้ ยื่ น คํ า ขอจดทะเบี ย นแก้ ไ ขหรื อ เปลี
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ ย นแปลงให้ ถู ก ต้ อ ง เมื่ อ แก้ ไ ขหรื อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เปลี่ยนแปลงถูกต้องแล้ว ให้รับจดทะเบียนและออกใบสําคัญแสดงการจดทะเบียนให้แก่สมาคมนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีถ้านายทะเบี กา ยนเห็นว่สําาไม่ นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
าจรับจดทะเบียนได้เนืก่อางจากวัตถุประสงค์ ของสมาคมขัด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ต่อกฎหมายหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรืออาจเป็นภยันตรายต่อความสงบสุขของประชาชน
สํานักหรื อความมั่นคงของรัฐ กหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า อผู้ยื่นคําขอจดทะเบี ยนไม่แก้ไขหรือเปลีกา่ยนแปลงให้ถูกสํต้านัอกงภายในสามสิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งานคณะกรรมการกฤษฎี บ กา
วันนับแต่วันที่ทราบคําสั่งของนายทะเบียน ให้นายทะเบียนมีคําสั่งไม่รับจดทะเบียนและแจ้งคําสั่ง
พร้อมด้วยเหตุผลทีสํา่ไนัม่กรงานคณะกรรมการกฤษฎี
ับจดทะเบียนไปยังผู้ยื่นกคํา าขอจดทะเบีสํยานโดยมิ ชักช้า
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้ยื่นคําขอจดทะเบียนมีสิทธิอุทธรณ์คําสั่งไม่รับจดทะเบียนนั้นต่อรัฐมนตรีว่าการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กระทรวงมหาดไทย โดยทําเป็นหนังสือยื่นต่อนายทะเบียนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคําสั่ง
ไม่รับการจดทะเบีสํยานันกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ รั ฐ มนตรี ว่ า การกระทรวงมหาดไทยวิ นิ จ ฉั ย อุ ท ธรณ์ และแจ้ ง คํ า วิ นิ จ ฉั ย ให้ ผู้
สํานักอุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ท ธรณ์ ท ราบภายในเก้ กา า สิ บ วั น นั บ แต่
สํานัวกั นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ น ายทะเบี ย นได้ รั บกหนั
า ง สื อ อุ ท ธรณ์
สํานักคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
า วิ นิ จ ฉั ย ของ กา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้เป็นที่สุด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๓ สมาคมที่ได้จดทะเบียนแล้วเป็นนิติบุคคล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๔ การแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคมจะกระทําได้ก็แต่โดยมติของที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประชุมใหญ่ และสมาคมต้องนําข้อบังคับที่ได้แก้ไขเพิ่มเติมไปจดทะเบี ยนต่อนายทะเบียนแห่งท้องที่ที่
สํานักงานใหญ่ของสมาคมตั้งอยู่ภายในสิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บสี่วันนับแต่วันที่ได้ลงมติและให้นําความในมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๒ มาใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บังคับโดยอนุโลม เมื่อนายทะเบียนได้จดทะเบียนแล้วให้มีผลใช้บังคับได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๕ การแต่งตั้งกรรมการของสมาคมขึ้นใหม่ทั้งชุดหรือการเปลี่ยนแปลง
สํานักกรรมการของสมาคม
งานคณะกรรมการกฤษฎีให้ กากระทําตามข้สํอาบันักงคังานคณะกรรมการกฤษฎี
บของสมาคม และสมาคมต้ กา องนําไปจดทะเบี ยนต่อนาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทะเบียนแห่งท้องที่ที่สํานักงานใหญ่ของสมาคมตั้งอยู่ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีการแต่งตั้งหรือ
เปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้านายทะเบียนเห็นว่ากรรมการของสมาคมตามวรรคหนึ่งผู้ใด มีฐานะหรือความ
สํานักประพฤติ ไม่เหมาะสมในการดํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าเนินการตามวั ตถุประสงค์ของสมาคมกานายทะเบียนจะไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี รับจดทะเบียน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กรรมการของสมาคมผู้นั้นก็ได้ ในกรณีที่นายทะเบียนไม่รับจดทะเบียนกรรมการของสมาคม นาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทะเบียนต้องแจ้งเหตุผลที่ไม่รับจดทะเบียนให้สมาคมทราบภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ยื่นคําขอจด
สํานักทะเบี ยน และให้นําความในมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๘๒สําวรรคสี ่และวรรคห้า มาใช้บกังาคับโดยอนุโลมสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ในระหว่างที่ยังไม่มีการจดทะเบียนกรรมการของสมาคมชุดใหม่ถ้าข้อบังคับของ
สมาคมมิได้กําหนดไว้
สํานักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
ป็นอย่างอื่น ให้กรรมการของสมาคมชุ
กา สําดนัเดิกงานคณะกรรมการกฤษฎี
มปฏิบัติหน้าที่กรรมการของสมาคม
กา
ต่อไปจนกว่าจะได้มีการจดทะเบียนกรรมการของสมาคมชุดใหม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๖ คณะกรรมการของสมาคมเป็นผู้ดําเนินกิจการของสมาคมตามกฎหมาย
และข้อบังคับ ภายใต้
สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารควบคุมดูแลของที่ประชุ
กา มใหญ่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๘๗ คณะกรรมการของสมาคมเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นผู้แทนของสมาคมในกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัจกการอั นเกี่ยวกับ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บุคคลภายนอก สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๘๘ บรรดากิสําจนัการที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่คณะกรรมการของสมาคมได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กระทํสําาไป แม้จะปรากฏ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ในภายหลังว่ามีข้อบกพร่องเกี่ยวกับการตั้งหรือคุณสมบัติของกรรมการของสมาคม กิจการนั้นย่อมมี
สํานักผลสมบู รณ์
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๘๙ สมาชิ ก ของสมาคมมี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สิ ท ธิ ทสํี่ จานัะตรวจตรากิ จ การและทรั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พ ย์ สิ น ของ
สมาคมในระหว่างเวลาทําการของสมาคมได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๐ สมาชิกของสมาคมต้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา องชําระค่
สําานับํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
รุงเต็มจํานวนในวันที่สกามัครเข้าเป็น
สมาชิกหรือในวันเริ่มต้นของระยะเวลาชําระค่าบํารุง แล้วแต่กรณี เว้นแต่ข้อบังคับของสมาคมจะ
สํานักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดไว้เป็นอย่างอื่น กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๑ สมาชิกของสมาคมจะลาออกจากสมาคมเมื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อใดก็ได้ เว้นกาแต่ข้อบังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของสมาคมจะกําหนดไว้เป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๒ สมาชิกแต่ละคนมีความรับผิดชอบในหนี้ของสมาคมไม่เกินจํานวนค่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บํารุงที่สมาชิกนั้นค้างชําระอยู่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๓ คณะกรรมการของสมาคมต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญอย่างน้อย
ปีละครั้ง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๙๔ คณะกรรมการของสมาคมจะเรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยกประชุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มใหญ่วิสามัสํญ
านัเมื ่อใดก็สุดแต่จะ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เห็นสมควร
สํสมาชิ กจํานวนไม่น้อยกว่าหนึกา่งในห้าของจําสํนวนสมาชิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กทั้งหมดหรือสมาชิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กากจํานวนไม่
น้อยกว่าหนึ่งร้อยคนหรือสมาชิกจํานวนไม่น้อยกว่าที่กําหนดไว้ในข้อบังคับจะทําหนังสือร้องขอต่อ
สํานักคณะกรรมการของสมาคมให้
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ประชุมใหญ่ สํานัวกิสงานคณะกรรมการกฤษฎี
ามัญก็ได้ ในหนังสือร้อกงขอนั
า ้นต้องระบุสํวานั่ากประสงค์ ให้เรียก
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ประชุมเพื่อการใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อคณะกรรมการของสมาคมได้รับหนังสือร้องขอให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญตาม
สํานักวรรคสอง ให้คณะกรรมการของสมาคมเรี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยกประชุมใหญ่วิสามัญกโดยจั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ดให้มีการประชุ มขึ้นภายใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคําร้องขอ
สํถ้าานัคณะกรรมการของสมาคมไม่
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เรียกประชุสํมาภายในระยะเวลาตามวรรคสาม
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมาชิก
ที่เป็นผู้ร้องขอให้เรียกประชุมหรือสมาชิกอื่นรวมกันมีจํานวนไม่น้อยกว่าจํานวนสมาชิกที่กําหนดตาม
สํานักวรรคสองจะเรี ยกประชุมกเองก็
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๕ ในการเรียกประชุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มใหญ่ คณะกรรมการของสมาคมต้ องส่กางหนังสือนัด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประชุมไปยังสมาชิกทุกคนซึ่งมีชื่อในทะเบียนของสมาคมก่อนวันนัดประชุมไม่น้อยกว่าเจ็ดวันหรือลง
สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
มพ์โฆษณาอย่างน้อยสองคราวในหนั
กา สํงานัสืกองานคณะกรรมการกฤษฎี
พิมพ์ที่แพร่หลายในท้อกางที่ฉบับหนึ่งก่สํอานวั
นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
นัดประชุมไม่ กา
น้อยกว่าเจ็ดวันก็ไสํด้านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การเรียกประชุมใหญ่ต้องระบุสถานที่ วัน เวลา และระเบียบวาระการประชุมและ
สํานักจังานคณะกรรมการกฤษฎี
ดส่งรายละเอียดและเอกสารที
กา ่เกี่ยวข้สํอานังตามควรไปพร้ อมกันด้วยกาสําหรับการเรีสํยากประชุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี มใหญ่โดย
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

การพิมพ์โฆษณา รายละเอียดและเอกสารดังกล่าวต้องจัดไว้และพร้อมที่จะมอบให้แก่สมาชิกที่ร้องขอ
สํานักณงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานที่ที่ผู้เรียกประชุกมา กําหนด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๖ การประชุมใหญ่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาของสมาคมต้สํอานังมีกสงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาชิกมาประชุมไม่น้อกยกว่
า ากึ่งหนึ่ง
ของจํานวนสมาชิกทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม เว้นแต่ข้อบังคับของสมาคมจะกําหนดองค์ประชุมไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นอย่างอื่น
สํในการประชุ มใหญ่ครั้งใด ถ้กาาไม่ได้องค์ประชุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัมกตามที ่กําหนดไว้และการประชุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา มใหญ่
นั้นได้เรียกตามคําร้องขอของสมาชิก ก็ให้งดการประชุม แต่ถ้าเป็นการประชุมใหญ่ที่สมาชิกมิได้เป็นผู้
สํานักร้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องขอ ให้คณะกรรมการของสมาคมเรี
กา สํยากประชุ มใหญ่อีกครั้งหนึ่งโดยจั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดให้มีการประชุ มขึ้นภายในสิบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สี่วันนับแต่วันที่นัดประชุมครั้งแรก การประชุมครั้งหลังนี้ไม่บังคับว่าจําต้องครบองค์ประชุม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๗ มติของที่ประชุม ให้ถือเอาเสียงข้างมากเป็นประมาณ เว้นแต่กรณีที่
สํานักข้งานคณะกรรมการกฤษฎี
อบังคับของสมาคมกําหนดเสี
กา ยงข้างมากไว้ เป็นพิเศษโดยเฉพาะ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาชิกคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นได้อีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๘ สมาชิ ก จะมอบอํ า นาจให้ ส มาชิ ก ผู้ ใ ดมาเข้ า ประชุ ม และออกเสี ย ง
ลงคะแนนแทนตนก็
สํานัได้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เว้นแต่ข้อบังคับของสมาคมจะกํ
กา าหนดไว้
สํานักเป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นอย่างอื่น กา

มาตรากา๙๙ ในกรณีสํทานัี่จกะมีงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มติในเรื่องใด ถ้าส่วกนได้
า เสียของกรรมการหรื อสมาชิก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ของสมาคมผู้ใดขัดกับประโยชน์ได้เสียของสมาคม กรรมการหรือสมาชิกของสมาคมผู้นั้นจะออกเสียง
ลงคะแนนในเรื่องนั
สํา้นนักไม่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๐๐ ในการประชุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มใหญ่ครั้งใด ถ้าได้มีกการนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ดประชุมหรื
สําอนัการลงมติ โดยไม่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ปฏิบัติตาม หรือฝ่าฝืนข้อบังคับของสมาคมหรือบทบัญญัติในส่วนนี้ สมาชิก หรือพนักงานอัยการอาจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนมติในการประชุมใหญ่ครั้งนั้นได้ แต่ต้องร้องขอต่อศาลภายในหนึ่งเดือนนับ
สํานักแต่ วันที่ที่ประชุมใหญ่ลงมติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐๑ สมาคมย่อมเลิกากด้วยเหตุหนึ่งสํเหตุ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดดังต่อไปนี้ กา
(๑) เมื่อมีเหตุตามที่กําหนดในข้อบังคับ
(๒) ถ้กาาสมาคมตั้งขึ้นสํไว้านัเฉพาะระยะเวลาใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เมื่อสิก้นาระยะเวลานั้นสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๓) ถ้าสมาคมตั้งขึ้นเพื่อกระทํากิจการใด เมื่อกิจการนั้นสําเร็จแล้ว
สํ(๔) เมื่อที่ประชุมใหญ่มีมติใกห้าเลิก
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) เมื่อสมาคมล้มละลาย
(๖) เมืกา่อนายทะเบียนถอนชื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่อสมาคมออกจากทะเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนตามมาตราสํานั๑๐๒ กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) เมื่อศาลสั่งให้เลิกตามมาตรา ๑๐๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๐๒ ให้นายทะเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยนมีอํานาจสั่งถอนชื่อกสมาคมออกจากทะเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ยนได้ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๒๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ดังต่อไปนี้
(๑) เมื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่ อ ปรากฏในภายหลั ง การจดทะเบี ย นว่กาาวั ตถุ ป ระสงค์สํขานัองสมาคมขั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ด ต่ อ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กฎหมายหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรืออาจเป็นภยันตรายต่อความสงบสุขของประชาชนหรือ
ความมั่นคงของรัสํฐานัและนายทะเบี ยนได้สั่งให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาแก้ไขแล้วแต่สํสามาคมไม่ ปฏิบัติตามภายในระยะเวลาที
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่
นายทะเบียนกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เมื่อปรากฏว่าการดําเนินกิจการของสมาคมขัดต่อกฎหมายหรือศีลธรรมอันดี
ของประชาชน หรืสํอานัอาจเป็ นภยันตรายต่อความสงบสุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ขของประชาชนหรื อความมั่นคงของรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาฐ
(๓) เมื่อสมาคมหยุดดําเนินกิจการติดต่อกันตั้งแต่สองปีขึ้นไป
(๔) เมืกา่อปรากฏว่าสมาคมให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หรือปล่อยให้บุคคลอืกา่นซึ่งมิใช่กรรมการของสมาคมเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้ดําเนินกิจการของสมาคม
สํ(๕) เมื่อสมาคมมีสมาชิกเหลืกาอน้อยกว่าสิบสํคนมาเป็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นเวลาติดต่อกันกว่ากสองปี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า

มาตรากา๑๐๓ เมื่อนายทะเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยนมีคําสั่งให้ถอนชืก่อาสมาคมใดออกจากทะเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยนตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ๑๐๒ แล้ ว ให้ น ายทะเบีย นแจ้ งคําสั่งพร้อมด้วยเหตุ ผ ลไปยั งสมาคมนั้ นโดยมิ ชักช้า และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกาศการเลิกสมาคมในราชกิ จจานุเบกษา
กรรมการคนหนึ่งคนใดหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อสมาชิกของสมาคมจํานวนไม่น้อยกว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าสามคน มีสิทธิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อุทธรณ์คําสั่งของนายทะเบียนตามวรรคหนึ่งต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ โดยทําเป็น
หนังสือยื่นต่อนายทะเบี ยนภายในสามสิบวันนักาบแต่วันที่ได้รับสําแจ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
คําสั่ง และให้นําความในมาตรา
กา ๘๒
วรรคห้า มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๔ เมื่ อ มี ก รณี ต ามมาตรา ๑๐๒ ผู้ มี ส่ ว นได้ เ สี ย อาจร้ อ งขอให้ น าย
ทะเบียนถอนชื่อสมาคมออกจากทะเบี ยนได้ กถ้าานายทะเบียนไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัปกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฏิบัติตามคําร้องขอโดยไม่
กา แจ้งเหตุผล
ให้ผู้ร้องขอทราบภายในเวลาอันสมควร หรือนายทะเบียนได้แจ้งเหตุผลให้ทราบแล้วแต่ผู้ร้องขอไม่
สํานักพอใจในเหตุ ผลดังกล่าวกาผู้ร้องขอนั้นจะร้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกงขอต่ อศาลให้สั่งเลิกสมาคมนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นเสียก็ได้สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๕ เมื่อสมาคมมีเหตุต้องเลิกตามมาตรา ๑๐๑ (๑) (๒) (๓) หรือ (๔) ให้
สํานักคณะกรรมการของสมาคมที
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ่อยู่ในตําแหน่ สํานังกขณะมี การเลิกสมาคมแจ้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กางการเลิกสมาคมต่ อนายทะเบียน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่มีการเลิกสมาคม
สํในกรณี ที่ศาลมีคําพิพากษาหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อคําสั่งถึงทีสํ่สาุดนัให้ สมาคมล้มละลายตามมาตรา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๐๑
(๕) หรือมีคําสั่งถึงที่สุดให้เลิกสมาคมตามมาตรา ๑๐๔ ให้ศาลแจ้งคําพิพากษาหรือคําสั่งดังกล่าวให้
สํานักนายทะเบี ยนทราบด้วย กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้นายทะเบียนประกาศการเลิกสมาคมในราชกิจจานุเบกษา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๖ ในกรณีที่มี การเลิก สมาคม ให้ มีก ารชํ าระบั ญ ชี ส มาคมและให้นํ า
สํานักบทบั ญญัติในบรรพ ๓ ลักกา ษณะ ๒๒ ว่สําด้านัวกยการชํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี าระบัญชีห้างหุ้นกส่าวนจดทะเบียนสํานัห้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี งหุ้นส่วนจํากัด กา
และบริษัทจํากัด สํมาใช้ บังคับแก่การชําระบัญชีสมาคมโดยอนุสํโาลม
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๐๗ เมื่อได้สําชนัํากระบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ญชีแล้ว ถ้ามีทรัพกย์าสินเหลืออยู่เท่สําานัใดกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี จะแบ่งให้แก่ กา
- ๒๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สมาชิกของสมาคมนั้นไม่ได้ ทรัพย์สินที่เหลือนั้นจะต้องโอนให้แก่สมาคมหรือมูลนิธิ หรือนิติบุคคลที่มี


สํานักวังานคณะกรรมการกฤษฎี
ตถุประสงค์เกี่ยวกับการสาธารณกุ
กา ศสํลานัตามที ่ได้ระบุชื่อไว้ในข้อบักงาคับของสมาคม
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัหรื อถ้าข้อบังคับ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไม่ได้ระบุชื่อไว้ก็ให้เป็นไปตามมติของที่ประชุมใหญ่ แต่ถ้าข้อบังคับของสมาคมหรือที่ประชุมใหญ่มิได้
ระบุผู้รับโอนทรัพสํย์าสนัินกดังานคณะกรรมการกฤษฎี
งกล่าวไว้ หรือระบุไว้แกต่า ไม่สามารถปฏิ สํานับกัตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิได้ ให้ทรัพย์สินที่เหลือกอยูา ่นั้นตกเป็น
ของแผ่นดิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐๘ ผู้ใดประสงค์กจาะขอตรวจเอกสารเกี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ยวกับสมาคมที่นายทะเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนเก็บ
รักษาไว้ หรือจะขอให้นายทะเบียนคัดสําเนาเอกสารดังกล่าว พร้อมด้วยคํารับรองว่าถูกต้อง ให้ยื่นคํา
สํานักขอต่ อนายทะเบียน และเมื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อได้เสียค่าสํธรรมเนี ยมตามที่กําหนดในกฎกระทรวงแล้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัวกให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
นายทะเบียน กา
ปฏิบัติตามคําขอนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๙ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามบทบัญญัติในส่วน
สํานักนีงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ และให้มีอํานาจแต่งตัก้งานายทะเบียนกัสํบานัออกกฎกระทรวงเกี ่ยวกับกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) การยื่นคําขอจดทะเบียนและการรับจดทะเบียน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การขอตรวจเอกสาร การคัดสําเนาเอกสารและ
ค่าธรรมเนียมการขอให้นายทะเบียนดําสํเนิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นการใด ๆ เกี่ยวกับสมาคม รวมทั้งการยกเว้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นค่าธรรมเนียม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดังกล่าว
สํ(๓) การดําเนินกิจการของสมาคมและการทะเบี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนสมาคม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๔) การอื่นใดเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามบทบัญญัติในส่วนนี้
กฎกระทรวงนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้น เมื่อสํประกาศในราชกิ จจานุเบกษาแล้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วให้ใช้บังคัสํบาได้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่วนที่ ๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มูลนิธิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๐ มูลนิธิได้แก่ทรัพย์สินที่จัดสรรไว้โดยเฉพาะสําหรับวัตถุประสงค์เพื่อ
สํานักการกุ ศล สาธารณะ การศาสนา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ศิลปะสําวินัทกยาศาสตร์ วรรณคดี การศึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กษา หรือเพืสํ่อาสาธารณประโยชน์
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อย่างอื่น โดยมิได้มุ่งหาผลประโยชน์มาแบ่งปันกัน และได้จดทะเบียนตามบทบัญญัติแห่งประมวล
กฎหมายนี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การจั ด การทรั พ ย์ สิ น ของมู ล นิ ธิ ต้ อ งมิ ใ ช่ เ ป็ น การหาผลประโยชน์ เ พื่ อ บุ ค คลใด
สํานักนอกจากเพื ่อดําเนินการตามวั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ตถุประสงค์ สํานัขกองมู ลนิธินั้นเอง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๑ มู ล นิ ธิ ต้ อกงมี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ข้ อ บั ง คั บ สํและต้ อ งมี ค ณะกรรมการของมู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ล นิ ธิ
ประกอบด้วยบุคคลอย่างน้อยสามคน เป็นผู้ดําเนินกิจการของมูลนิธิตามกฎหมายและข้อบังคับของ
สํานักมูงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลนิธิ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๒ ข้อบังคับของมูลนิธิอย่างน้อยต้องมีรายการดังต่อไปนี้
(๑) ชืก่อามูลนิธิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๒) วัตถุประสงค์ของมูลนิธิ
(๓) ทีก่ตาั้งสํานักงานใหญ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัแกละที ่ตั้งสํานักงานสาขาทัก้งาปวง
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ทรัพย์สินของมูลนิธิขณะจัดตั้ง
สํ(๕) ข้อกําหนดเกี่ยวกับคณะกรรมการของมู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักลงานคณะกรรมการกฤษฎี
นิธิ ได้แก่ จํานวนกรรมการ
กา การตั้ง
กรรมการ วาระการดํารงตําแหน่งของกรรมการ การพ้นจากตําแหน่งของกรรมการ และการประชุม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ของคณะกรรมการ
สํ(๖) ข้อกําหนดเกี่ยวกับการจักาดการมูลนิธิ การจั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
การทรัพย์สินและบัญชีกาของมูลนิธิ

มาตรากา๑๑๓ มูลนิธสํิตา้อนังใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ชื่อซึ่งมีคําว่า “มูลนิธิ”กาประกอบกับชืสํ่อาของมู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ลนิธิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๑๑๔ การขอจดทะเบี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนมูลนิธินั้นสําให้
นักผงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้ขอจัดตั้งมูลนิธิยื่นคําขอเป็
กา นหนังสือ
ต่อนายทะเบียนแห่งท้องที่ที่สํานักงานใหญ่ของมูลนิธิจะตั้งขึ้น ในคําขออย่างน้อยต้องระบุเจ้าของ
สํานักทรั พ ย์ สิ น และรายการทรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา พ ย์ สิ น ที่ จ ะจั
สํานัดกสรรสํ า หรั บ มู ล นิ ธิ รายชื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา่ อ ที่ อ ยู่ แ ละอาชี
สํานักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของผู้ จ ะเป็ น กา
กรรมการของมูลนิธิทุกคน พร้อมกับแนบข้อบังคับของมูลนิธิมากับคําขอด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๕ เมื่อนายทะเบี ยนได้รับคําขอแล้วเห็นว่า คําขอนั้นสําถูนักกต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
องตามมาตรา กา
๑๑๔ และข้อบังคับถูกต้องตามมาตรา ๑๑๒ และวัตถุประสงค์เป็นไปตามมาตรา ๑๑๐ และไม่ขัดต่อ
กฎหมายหรือศีลสํธรรมอั นดีของประชาชน หรืกาอไม่เป็นภยันสํตรายต่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี อความสงบสุขของประชาชนหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ
ความมั่นคงของรัฐ และรายการซึ่งจดแจ้งในคําขอหรือข้อบังคับสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ
สํานักและผู ้ จ ะเป็ น กรรมการของมู
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ล นิ ธิ นั้ นสํมีานัฐ านะและความประพฤติ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกเาหมาะสมในการดํ าเนิ น การตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
วัตถุประสงค์ของมูลนิธิ ให้นายทะเบียนรับจดทะเบียนและออกใบสําคัญแสดงการจดทะเบียนให้แก่
มูลนิธินั้น และประกาศการจั ดตั้งมูลนิธิในราชกิกาจจานุเบกษา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถ้านายทะเบียนเห็นว่าคําขอหรือข้อบังคับไม่ถูกต้องตามมาตรา ๑๑๔ หรือมาตรา
สํานัก๑๑๒ หรือรายการซึ่งจดแจ้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งในคําขอหรื สํานัอกข้งานคณะกรรมการกฤษฎี
อบังคับไม่สอดคล้องกักบาวัตถุประสงค์ขสําองมู ลนิธิ หรือผู้จะ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เป็นกรรมการของมูลนิธิมีฐานะหรือความประพฤติไม่เหมาะสมในการดําเนินการตามวัตถุประสงค์ของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มูลนิธิ ให้มีคําสั่งให้ผู้ขอจดทะเบียนแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้อง เมื่อแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง
สํานักถูงานคณะกรรมการกฤษฎี
กต้องแล้ว ให้รับจดทะเบี กา ยนและออกใบสํ สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
คัญแสดงการจดทะเบียกนให้ า แก่มูลนิธินสํั้นานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้านายทะเบียนเห็นว่าไม่อาจรับจดทะเบียนได้เนื่องจากวัตถุประสงค์ของมูลนิธิไม่
เป็นไปตามมาตราสํา๑๑๐ หรือขัดต่อกฎหมายหรื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อศีลธรรมอัสํนาดีนัขกองประชาชนหรื ออาจเป็กานภยันตราย
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ต่อความสงบสุขของประชาชนหรือความมั่นคงของรัฐ หรือผู้ขอจดทะเบียนไม่แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง
สํานักให้ ถูกต้องภายในสามสิบกาวันนับแต่วันทีสํ่ทานัราบคํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี าสั่งของนายทะเบียกนา ให้นายทะเบีสํยานันมี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี คําสั่งไม่รับจด
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทะเบียน และแจ้งคําสั่งพร้อมด้วยเหตุผลที่ไม่รับจดทะเบียนให้ผู้ขอจดทะเบียนทราบโดยมิชักช้า
สํผูา้ ขนักอจดทะเบี ย นมี สิ ท ธิ อุ ทกาธรณ์ คํ า สั่ ง ไม่สํราันับกจดทะเบี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ย นนั้ น ต่ อ รั ฐ มนตรี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ว่ า การ
กระทรวงมหาดไทย โดยทําเป็นหนังสือยื่นต่อนายทะเบียนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคําสั่ง
สํานักไม่ รับจดทะเบียน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยวินิจฉัสํายนัอุกทงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ธรณ์และแจ้งคําวินิจฉักยาให้ผู้อุทธรณ์
ทราบภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่นายทะเบียนได้รับหนังสืออุทธรณ์ คําวินิจฉัยของรัฐมนตรีว่าการ
สํานักกระทรวงมหาดไทยให้
งานคณะกรรมการกฤษฎีเป็กานที่สุด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๑๖ ก่อนทีสํ่นานัายทะเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยนรับจดทะเบียกนมู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ลนิธิ ผู้ขอจัสํดาตันั้งกมูงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลนิธิมีสิทธิขอ กา
ถอนการจัดตั้งมูลนิธิได้โดยทําเป็นหนังสือยื่นต่อนายทะเบียน สิทธิที่จะขอถอนการจัดตั้งมูลนิธินี้ไม่ตก
ทอดไปยังทายาทสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่มีผู้ขอจัดตั้งมูลนิธิหลายคน ถ้าผู้ขอจัดตั้งมูลนิธิคนหนึ่งคนใดใช้สิทธิถอน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การจัดตั้งมูลนิธิ ให้คําขอจัดตั้งมูลนิธินั้นเป็นอันระงับไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๗ ในกรณีที่ผู้ขอจัดตั้งมูลนิธิถึงแก่ความตายก่อนนายทะเบียนรับจด
สํานักทะเบี ยนมูลนิธิ ถ้าผู้ตายมิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ได้ทําพินัยกรรมยกเลิ กการจัดตั้งมูลนิธิทกี่าขอจัดตั้งไว้ ให้สํคานัําขอจั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดตั้งมูลนิธิที่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้ตายได้ยื่นไว้ต่อนายทะเบียนยังคงใช้ ได้ต่อไป และให้ท ายาทหรื อผู้จัดการมรดกหรือผู้ ซึ่ งผู้ต าย
มอบหมาย ดําเนิสํนาการในฐานะเป็ นผู้ขอจัดตั้งกมูาลนิธิต่อไป ถ้สําาบุนัคกคลดั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี งกล่าวไม่ดําเนินการภายในหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ง
ร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่ผู้ขอจัดตั้งมูลนิธิถึงแก่ความตาย บุคคลผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงานอัยการจะ
สํานักดํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าเนินการในฐานะเป็นผูก้ขา อจัดตั้งมูลนิธสํินานัั้นกต่งานคณะกรรมการกฤษฎี
อไปก็ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ไม่สามารถจัดตั้งมูลนิธิขึ้นได้ตามวัตถุประสงค์ที่ผู้ตายกําหนดไว้ ถ้าหากไม่มี
พินัยกรรมของผู้ตายสั่งการในเรื่องนี้ไว้เป็นอย่างอื่น ให้นํสําความในมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๖๗๙ วรรคสองมาใช้
บังคับโดยอนุโลม ถ้าไม่สามารถดําเนินสํการตามมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๖๗๙ วรรคสอง หรือมูลนิสํธาิจนััดกตังานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้งขึ้นไม่ได้ตาม กา
มาตรา ๑๑๕ ให้ทรัพย์สินที่จัดสรรไว้ตกเป็นมรดกของผู้ตาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๘ ในกรณีที่มีข้อกําหนดพินัยกรรมให้ก่อตั้งมูลนิธิตามมาตรา ๑๖๗๖ ให้
สํานักบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
คคลซึ่งมีหน้าที่ที่จะต้อกงจั า ดตั้งมูลนิธิตสํามมาตรา ๑๖๗๗ วรรคหนึ่งกาดําเนินการตามมาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๑๑๔ และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตามบทบัญญัติแห่งมาตรานี้
สํถ้าานับุกคงานคณะกรรมการกฤษฎี
คลซึ่งมีหน้าที่ที่จะต้อกงจั
า ดตั้งมูลนิธิสํตาามวรรคหนึ ่ง มิได้ขอจดทะเบี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนก่อตั้ ง
มูลนิธิภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่บุคคลดังกล่าวได้รู้หรือควรรู้ข้อกําหนดพินัยกรรมให้ก่อตั้ง
สํานักมูงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลนิธิ บุคคลผู้มีส่วนได้เกสีายคนหนึ่งคนใดหรื สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
พนักงานอัยการจะเป็นกผูา ้ขอจดทะเบียสํนมู านัลกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นิธิก็ได้ กา
ถ้าผู้ยื่นคําขอจดทะเบียนมูลนิธิไม่ดําเนินการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําสั่งของนายทะเบียนตามมาตรา ๑๑๕ จนเป็นเหตุให้นายทะเบียนไม่รับจดทะเบียนมูลนิธิเพราะเหตุ
สํานักดังานคณะกรรมการกฤษฎี
งกล่าว บุคคลผู้มีส่วนได้ กาเสียคนหนึ่งคนใดหรื อพนักงานอัยการจะเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นผู้ขอจดทะเบี สํานัยกนมู ลนิธินั้นอีกก็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ได้
สํผูา้ ยนัื่ นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
คําขอจดทะเบี ยนก่อตัก้งา มูล นิธิตามมาตรานี ้ จะขอถอนการก่ อตักา้ งมูล นิ ธิตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา ๑๑๖ ไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณีกาที่มีผู้คัดค้านต่สํอานันายทะเบี ยนว่าพินัยกรรมนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นมิได้กําหนดให้
สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อตั้งเป็นมูลนิธิ กา
ให้นายทะเบียนแจ้งให้ผู้คัดค้านไปร้องต่อศาลภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากนายทะเบียน
และให้นายทะเบีสํยานรอการพิ จารณาการจดทะเบี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนไว้ก่อน สํเพืานั่อกดํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าเนินการตามคําพิพากษาหรื กา อคําสั่ง
ของศาล ถ้ าผู้คั ดค้านไม่ยื่นคํ าร้ องต่อศาลภายในเวลาที่กําหนด ให้นายทะเบียนพิจารณาการจด
สํานักทะเบี ยนมูลนิธินั้นต่อไปกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๙ ในกรณีที่มีข้อกําหนดพินัยกรรมให้จัดตั้งมูลนิธิ ถ้าพินัยกรรมที่ทําไว้
สํานักมิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้มีข้อกําหนดเกี่ยวกักบารายการตามมาตรา ๑๑๒ (๑) (๓) (๕) กหรืา อ (๖) ให้ผู้ยสํื่นานัคํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ขอตามมาตรา กา
- ๒๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๑๑๘ กําหนดรายการดังกล่าวได้ ถ้าผู้มีส่วนได้เสียคนหนึ่งคนใดคัดค้าน ให้นายทะเบียนมีคําสั่งตามที่


สํานักเห็ นสมควร แล้วแจ้งให้ผกู้ยา ื่นคําขอและผูสํ้คานััดกค้งานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี านทราบพร้อมทั้งแจ้งด้กวายว่า หากผู้ยื่นสํคํานัาขอหรื อผู้คัดค้าน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไม่พอใจในคําสั่งดังกล่าว ก็ให้ไปร้องคัดค้านต่อศาลภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากนาย
ทะเบียน และให้สํนาายทะเบี ยนรอการพิจารณาจดทะเบี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนไว้สํกานั่อกนเพื ่อดําเนินการตามคํากพิาพากษาหรือ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
คําสั่งของศาล แต่ถ้าไม่มีการร้องคัดค้านต่อศาลภายในเวลาที่กําหนด ให้นายทะเบียนพิจารณาจด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทะเบียนมูลนิธิตามที่ได้มีคําสั่งไว้นั้นต่อไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๐ ในกรณีที่มีบุคคลหลายรายยื่นคําขอจดทะเบียนมูลนิธิตามพินัยกรรม
สํานักของเจ้ ามรดกรายเดียวกักาน ถ้าคําขอนัสํ้นามีนัขก้งานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี อขัดแย้งกัน ให้นายทะเบี
กา ยนเรียกผู้ยสํื่นาคํนัากขอมาตกลงกั น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และถ้าผู้ยื่นคําขอไม่มาตกลงกัน หรือตกลงกันไม่ได้ภายในระยะเวลาที่นายทะเบียนกําหนด ให้นาย
ทะเบียนมีคําสั่งตามที
สํานัก่เงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห็นสมควร และให้นําความในมาตรา
กา ๑๑๙ มาใช้บังคับโดยอนุโลมกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา ๑๒๑ เมื่ อสํได้านัจกดทะเบี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ย นมู ล นิ ธิ แ ล้ ว กถ้า า ผู้ ข อจั ด ตั้ งสํมูาลนันิกธงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ิ มี ชี วิ ต อยู่ ให้ กา
ทรัพย์สินที่จัดสรรไว้เพื่อการนั้นตกเป็นของมูลนิธิตั้งแต่วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนมูลนิธิเป็นต้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไป
ในกรณีที่ผู้ขอจัดตั้งมูสํลานินัธกิถงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ึงแก่ความตายก่อนนายทะเบี
กา
ยนรับจดทะเบี ยนมูลนิธิ เมื่อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ได้จดทะเบียนมูลนิธิแล้ว ให้ทรัพย์สินที่จัดสรรไว้เพื่อการนั้นตกเป็นของมูลนิธิตั้งแต่เวลาที่ผู้ขอจัดตั้ง
มูลนิธินั้นถึงแก่ความตาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๒๒ มูลนิธสํิทาี่ไนัด้กจงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดทะเบียนแล้วเป็นนิติบกุคา คล สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๓ คณะกรรมการของมู


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ลนิธิเป็สํานนัผูก้แงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทนของมูลนิธิในกิจการอั
กา นเกี่ยวกับ
บุคคลภายนอก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๔ บรรดากิจการที่คณะกรรมการของมูลนิธิได้กระทําไป แม้จะปรากฏใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภายหลังว่ามีข้อบกพร่องเกี่ยวกับการแต่งตั้งหรือคุณสมบัติของกรรมการของมูลนิธิ กิจการนั้นย่อมมี
สํานักผลสมบู รณ์
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๕ การแต่งตั้งกรรมการของมู


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํลานันิกธงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิขึ้นใหม่ทั้งชุดหรือการเปลี
กา ่ยนแปลง
กรรมการของมูล นิธิ ให้ กระทํ าตามข้ อบังคับของมูล นิธิ และมูลนิธิต้องนําไปจดทะเบี ยนภายใน
สํานักสามสิ บวันนับแต่วันที่มีกการแต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า งตั้งหรือสํเปลี
านัก่ยงานคณะกรรมการกฤษฎี
นแปลงกรรมการของมูกลานิธิ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้านายทะเบียนเห็นว่ากรรมการของมูลนิธิตามวรรคหนึ่งผู้ใด มีฐานะหรือความ
ประพฤติไม่เหมาะสมในการดํ าเนินการตามวักตาถุประสงค์ของมู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัลกนิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธิ นายทะเบียนจะไม่รกับาจดทะเบียน
กรรมการของมูล นิธิผู้ นั้นก็ ได้ ในกรณีที่นายทะเบียนไม่รับจดทะเบียนกรรมการของมูล นิธิ นาย
สํานักทะเบี ยนต้องแจ้งเหตุผกลที
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ่ไม่รับจดทะเบี
สํานัยกนให้ มูลนิธิทราบภายในหกสิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บวันนับแต่ สํานัวกันงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ยื่นคําขอจด กา
ทะเบียน และให้นสํําาความในมาตรา ๑๑๕ วรรคสี่และวรรคห้าสํมาใช้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บังคับโดยอนุโลม
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่กรรมการของมูลนิธิพ้นจากตําแหน่งและไม่มีกรรมการของมูลนิธิเหลืออยู่
สํานักหรื อกรรมการของมูลนิกธาิที่เหลืออยู่ไม่สํสาามารถดํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี าเนินการตามหน้กาาที่ได้ ถ้าข้อบัสํงาคันับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ของมูลนิธิมิได้ กา
- ๒๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

กํ า หนดการปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ ไ ว้ เ ป็ น อย่ า งอื่ น ให้ ก รรมการของมู ล นิ ธิ ที่ พ้ น จากตํ า แหน่ ง ปฏิ บั ติ ห น้ า ที่
สํานักกรรมการของมู ลนิธิต่อกไปจนกว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า านายทะเบี ยนจะได้แจ้งการรับจดทะเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนกรรมการของมู ลนิธิที่ตั้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ใหม่
สํกรรมการของมู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ลนิธิที่พ้นจากตํ
กา าแหน่งเพราะถู
สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถอดถอนโดยคําสั่งศาลตามมาตรากา
๑๒๙ จะปฏิบัติหน้าที่ตามวรรคสามไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๖ ภายใต้บังคับกมาตรา


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ๑๒๗ ให้
สําคนัณะกรรมการของมู ลนิธิเกป็านผู้มีอํานาจ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิ แต่ถ้าข้อบังคับของมูลนิธิได้กําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไข
สํานักเพิ ่มเติมไว้ การแก้ไขเพิกา่มเติมต้องเป็นสําไปตามที
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่ข้อบังคับกําหนดกและให้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า มูลนิธิสํนาํานัข้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
บังคับที่แก้ไข กา
เพิ่มเติมนั้นไปจดทะเบียนต่อนายทะเบียนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่คณะกรรมการของมูลนิธิได้
แก้ไขเพิ่มเติมข้อบัสํงาคันับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของมูลนิธิและให้นําความในมาตรา
กา ๑๑๕
สํานักมาใช้ บังคับโดยอนุโลม กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๑๒๗ การแก้สํไาขเพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่มเติมรายการในข้อบังกคัาบของมูลนิธิตสํามมาตรา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๑๑๒ (๒)
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จะกระทําได้แต่เฉพาะในกรณีดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) เพื่อให้สามารถดําเนินการตามวัตถุประสงค์ ของมูลนิธิ หรือ
(๒) พฤติการณ์เปลีสํ่ยานแปลงไปเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นเหตุให้วัตถุประสงค์ของมูสํลานินัธกินงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ั้นมีประโยชน์ กา
น้อย หรือไม่อาจดําเนินการให้สมประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธินั้นได้ และวัตถุประสงค์ของ
มูลนิธิที่แก้ไขเพิ่มสํเติานัมกนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นใกล้ชิดกับวัตถุประสงค์
กาเดิมของมูลนิสํธาิ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๒๘ ให้นายทะเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยนมีอํานาจตรวจตราและควบคุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มดูแสํลการดํ าเนินกิจการ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ของมูลนิธิให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับของมูลนิธิ เพื่อการนี้ให้นายทะเบียนหรือพนักงาน
เจ้าหน้าที่ซึ่งนายทะเบี
สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
นมอบหมายเป็นหนังสืกอา มีอํานาจ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) มีคําสั่งเป็นหนังสือให้กรรมการ พนักงาน ลูกจ้างหรือตัวแทนของมูลนิธิ ชี้แจง
สํานักแสดงข้ อเท็จจริงเกี่ยวกับกกิา จการของมูลสํนิานัธิกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี หรือเรียกบุคคลดังกล่ากวมาสอบถาม
า สํหรื
านัอกให้ ส่งหรือแสดง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สมุดบัญชีและเอกสารต่าง ๆ ของมูลนิธิเพื่อตรวจสอบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เข้าไปในสํานักงานของมูลนิธิในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์
สํานักตกเพื ่อตรวจสอบกิจการของมู
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ลนิธิ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการปฏิบัติการตามวรรคหนึ่ง ถ้าเป็นนายทะเบียนให้แสดงบัตรประจําตัวและถ้า
เป็นพนักงานเจ้าสํหน้ านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ซึ่งได้รับมอบหมาย ให้ กา แสดงบัตรประจํ
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ตัวและหนังสือมอบหมายของนาย
กา
ทะเบียนต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๙ ในกรณีที่กรรมการของมูลนิธิผู้ใดดําเนินกิจการของมูลนิธิผิดพลาด
เสื่อมเสียต่อมูลนิสํธาิ นัหรืกงานคณะกรรมการกฤษฎี
อดําเนินกิจการฝ่าฝืนกฎหมายหรื
กา อข้อสํบัานังกคังานคณะกรรมการกฤษฎี
บของมูลนิธิ หรือกลายเป็ กา นผู้มีฐานะ
หรือความประพฤติไม่เหมาะสมในการดําเนินการตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ นายทะเบียน พนักงาน
สํานักอังานคณะกรรมการกฤษฎี
ยการ หรือผู้มีส่วนได้เสีกยา คนหนึ่งคนใดอาจร้ องขอต่อศาลให้มีคําสัก่งาถอดถอนกรรมการของมู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ลนิธิผู้นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่การกระทําตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทําของคณะกรรมการของมูลนิธิหรือ
สํานักปรากฏว่ าคณะกรรมการของมู
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ลนิธิไม่สํดาํานัเนิ นการตามวัตถุประสงค์กาของมูลนิธิโดยไม่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัมกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีเหตุอันสมควร กา
- ๒๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

นายทะเบียน พนักงานอัยการ หรือผู้มีส่วนได้เสียคนหนึ่งคนใดอาจร้องขอต่อศาลให้มีคําสั่งถอดถอน


สํานักกรรมการของมู ลนิธิทั้งคณะได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ศาลมีคําสั่งถอดถอนกรรมการของมูลนิธิหรือคณะกรรมการของมูลนิธิตาม
วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง
สํ ศาลจะแต่งตั้งบุคคลอื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่นเป็นกรรมการของมู ลนิธิ หรือคณะกรรมการของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มูลนิธิแทนกรรมการของมูลนิธิ หรือคณะกรรมการของมูลนิธิที่ศาลถอดถอนก็ได้ เมื่อศาลมีคําสั่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่งตั้งบุคคลใดเป็นกรรมการของมูลนิธิแล้ว ให้นายทะเบียนดําเนินการจดทะเบียนไปตามนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๐ มูลนิธิย่อมเลิกด้วยเหตุหนึ่งเหตุใด ดังต่อไปนี้
(๑) เมืกา่อมีเหตุตามที่กสํําานัหนดในข้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อบังคับ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ถ้ามูลนิธิตั้งขึ้นไว้เฉพาะระยะเวลาใด เมื่อสิ้นระยะเวลานั้น
สํ(๓) ถ้ามูลนิธิตั้งขึ้นเพื่อวัตกถุาประสงค์อย่าสํงใด
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี และได้ดําเนินการตามวักาตถุประสงค์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สําเร็จบริบูรณ์แล้ว หรือวัตถุประสงค์นั้นกลายเป็นพ้นวิสัย
(๔) เมืกา่อมูลนิธินั้นล้มสํละลาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) เมื่อศาลมีคําสั่งให้เลิกมูลนิธิตามมาตรา ๑๓๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๑ นายทะเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยน พนักงานอัยการ หรือผู้มีส่วนได้เสีสํยาคนหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่งคนใดอาจ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ร้องขอต่อศาลให้มีคําสั่งให้เลิกมูลนิธิได้ในกรณีหนึ่งกรณีใด ดังต่อไปนี้
สํ(๑) เมื่อปรากฏว่าวัตถุประสงค์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ของมูลนิธิขสํัดานัต่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
กฎหมาย กา
(๒) เมื่อปรากฏว่ามูลนิธิกระทําการขัดต่อกฎหมายหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
สํานักหรื ออาจเป็นภยันตรายต่กอา ความสงบสุขสํของประชาชนหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี อความมั่นกคงของรั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ฐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) เมื่อปรากฏว่ามูลนิธิไม่สามารถดําเนินกิจการต่อไปได้ไม่ว่าเพราะเหตุใด ๆ หรือ
หยุดดําเนินกิจการตั
สํานั้งกแต่ สองปีขึ้นไป
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๓๒ เมื่อมูสํลานินัธกิมงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ีเหตุต้องเลิกตามมาตรา
กา ๑๓๐ (๑) (๒)สํานัหรืกงานคณะกรรมการกฤษฎี
อ (๓) แล้ว ให้ กา
คณะกรรมการของมูลนิธิที่อยู่ในตําแหน่งขณะมีการเลิกมูลนิธิแจ้งการเลิกมูลนิธิต่อนายทะเบียน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่มีการเลิกมูลนิธิ
ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาที่ศาลมีคําพิพสําากษาหรื อคําสั่งถึงที่สุดให้กมาูลนิธิล้มละลายตามมาตรา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๑๓๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๔) หรือมีคําสั่งถึงที่สุดให้เลิกมูลนิธิตามมาตรา ๑๓๑ ให้ศาลแจ้งคําพิพากษาหรือคําสั่งดังกล่าวให้
นายทะเบียนทราบด้ สํานัวกยงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้นายทะเบียนประกาศการเลิกมูลนิธิในราชกิจจานุเบกษา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๓ ในกรณี ที่ มี ก ารเลิ ก มู ล นิ ธิ ให้ มี ก ารชํ า ระบั ญ ชี มู ล นิ ธิ แ ละให้ นํ า
บทบัญญัติในบรรพ สํานั๓กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลักษณะ ๒๒ ว่าด้วยการชํ
กา าระบัญชีหสํ้าางหุ
นัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ส่วนจดทะเบียน ห้างหุกา้นส่วนจํากัด
และบริษัทจํากัด มาใช้บังคับแก่การชําระบัญชีมูลนิธิโดยอนุโลม ทั้งนี้ ให้ผู้ชําระบัญชีเสนอรายงาน
สํานักการชํ าระบัญชีต่อนายทะเบี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยน และให้สํนาายทะเบี ยนเป็นผู้อนุมัติรายงานนั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๔ เมื่อได้ชําระบัญชีแล้ว ให้โอนทรัพย์สินของมูลนิธิให้แก่มูลนิธิหรือนิติ
สํานักบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
คคลที่มีวัตถุประสงค์ตกามมาตรา
า ๑๑๐สํานัซึก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ระบุชื่อไว้ในข้อบังคับกของมู
า ลนิธิ ถ้าสํข้านัอกบังานคณะกรรมการกฤษฎี
งคับของมูลนิธิ กา
- ๒๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มิได้ระบุชื่อมูลนิธิหรือนิติบุคคลดังกล่าวไว้ พนักงานอัยการ ผู้ชําระบัญชี หรือผู้มีส่วนได้เสียคนหนึ่ง


สํานักคนใด อาจร้องขอต่อศาลให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา จัดสรรทรัสํพาย์นัสกินงานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้นแก่มูลนิธิหรือนิติบกุคา คลอื่นที่ปรากฏว่
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
มีวัตถุประสงค์ กา
ใกล้ชิดที่สุดกับวัตถุประสงค์ของมูลนิธินั้นได้
สํถ้าานัมูกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ล นิ ธิ นั้ น ถู ก ศาลสั่ ง ให้ เกลิาก ตามมาตราสํานั๑๓๑ (๑) หรื อ (๒) หรืกอาการจั ด สรร
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรัพย์สินตามวรรคหนึ่งไม่อาจกระทําได้ ให้ทรัพย์สินของมูลนิธิตกเป็นของแผ่นดิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๕ ผู้ใดประสงค์กาจะขอตรวจเอกสารเกี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ยวกับมูลนิธิที่นายทะเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนเก็บ
รักษาไว้ หรือจะขอให้นายทะเบียนคัดสําเนาเอกสารดังกล่าวพร้อมด้วยคํารับรองว่าถูกต้อง ให้ยื่นคํา
สํานักขอต่ อนายทะเบียน และเมื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อได้เสียค่าสํธรรมเนี ยมตามที่กําหนดในกฎกระทรวงแล้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สําวนักให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
นายทะเบียน กา
ปฏิบัติตามคําขอนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามบทบัญญัติในส่วน
สํานักนีงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ และให้มีอํานาจแต่งตัก้งานายทะเบียนกัสํบานัออกกฎกระทรวงเกี ่ยวกับกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) การยื่นคําขอจดทะเบียนและการรับจดทะเบียน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การขอตรวจเอกสาร การคัดสําเนาเอกสารและ
ค่าธรรมเนียมการขอให้นายทะเบียนดํสําาเนิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นการใด ๆ เกี่ยวกับมูลนิธิรวมทั้งการยกเว้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นค่าธรรมเนียม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดังกล่าว
สํ(๓) แบบบัตรประจําตัวของนายทะเบี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนและพนั กงานเจ้าหน้าที่ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๔) การดําเนินกิจการของมูลนิธิและการทะเบียนมูลนิธิ
(๕) การอื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่นใดเพื่อปฏิสําบนััตกิใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห้เป็นไปตามบทบัญญัตกิใานส่วนนี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎกระทรวงนั้น เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ทรัพย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๑๓๗ ทรัพย์สํหมายความว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า วัตถุมีรูปร่างกา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๘ ทรัพย์สิน หมายความรวมทั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํ้งทรั
านักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์และวัตถุไม่มีรูปร่าง กซึา่งอาจมีราคา
และอาจถือเอาได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๙ อสังหาริมทรัพย์ หมายความว่า ที่ดินและทรัพย์อันติดอยู่กับที่ดินมี
ลักษณะเป็นการถาวรหรื อประกอบเป็นอันเดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กายวกับที่ดินนัสํ้นานัและหมายความรวมถึ งทรั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พยสิทธิอัน
เกี่ยวกับที่ดิน หรือทรัพย์อันติดอยู่กับที่ดินหรือประกอบเป็นอันเดียวกับที่ดินนั้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๐ สังหาริมทรัพย์ หมายความว่สําานัทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พย์สินอื่นนอกจากอสังหาริมทรัพย์
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และหมายความรวมถึงสิทธิอันเกี่ยวกับทรัพย์สินนั้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๔๑ ทรัพย์แบ่งได้ หมายความว่า ทรัพย์อันอาจแยกออกจากกันเป็นส่วน


สํานักๆงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้จริงถนัดชัดแจ้ง แต่กลาะส่วนได้รูปบริสําบนัูรกณ์งานคณะกรรมการกฤษฎี
ลําพังตัว กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๔๒ ทรัพย์แบ่งไม่กาได้ หมายความว่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรัพย์อันจะแยกออกจากกั
กา นไม่ได้
นอกจากเปลี่ยนแปลงภาวะของทรัพย์ และหมายความรวมถึงทรัพย์ที่มีกฎหมายบัญญัติว่าแบ่งไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๓ ทรัพย์นอกพาณิชย์ หมายความว่า ทรัพย์ที่ไม่สามารถถือเอาได้ และ
สํานักทรั พย์ที่โอนแก่กันมิได้โดยชอบด้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา วยกฎหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๔๔ ส่วนควบของทรั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พย์ หมายความว่ า ส่วนซึ่งโดยสภาพแห่กางทรัพย์หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
โดยจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นเป็นสาระสําคัญในความเป็นอยู่ของทรัพย์นั้น และไม่อาจแยกจากกันได้
สํานักนอกจากจะทํ าลาย ทําให้กาบุบสลาย หรือสํทํานัากให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ทรัพย์นั้นเปลี่ยนแปลงรู
กา ปทรงหรือสภาพไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เจ้าของทรัพย์ย่อมมีกรรมสิทธิ์ในส่วนควบของทรัพย์นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๕ ไม้ยืนต้สํนานัเป็กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นส่วนควบกับที่ดินที่ไม้กนาั้นขึ้นอยู่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม้ล้มลุกหรือธัญชาติอันจะเก็บเกี่ยวรวงผลได้คราวหนึ่งหรือหลายคราวต่อปีไม่เป็น
ส่วนควบกับที่ดินสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๔๖ ทรัพย์ซสํึ่งาตินักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กับที่ดินหรือติดกับโรงเรืกาอนเพียงชั่วคราวไม่ ถือว่าเป็นส่วน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ควบกับที่ดินหรือโรงเรือนนั้น ความข้อนี้ให้ใช้บังคับแก่โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ซึ่งผู้มีสิทธิ
ในที่ดินของผู้อื่นใช้สําสนัิทกธิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้นปลูกสร้างไว้ในที่ดินกนัา ้นด้วย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๔๗ อุปกรณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัหมายความว่ า สังหาริมทรักาพย์ซึ่งโดยปกติสํนานัิยกมเฉพาะถิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ่นหรือ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โดยเจตนาชัดแจ้งของเจ้าของทรัพย์ที่เป็นประธาน เป็นของใช้ประจําอยู่กับทรัพย์ที่เป็นประธานเป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อาจิณเพื่อประโยชน์แก่การจัดดูแล ใช้สอย หรือรักษาทรัพย์ที่เป็นประธาน และเจ้าของทรัพย์ได้
สํานักนํงานคณะกรรมการกฤษฎี
ามาสู่ทรัพย์ที่เป็นประธานโดยการนํ
กา าสํมาติ
านักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ต่อหรือปรับเข้าไว้ หรืกอาทําโดยประการอื
สํานั่นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใดในฐานะเป็น กา
ของใช้ประกอบกับทรัพย์ที่เป็นประธานนั้น
สํอุาปนักรณ์ ที่แยกออกจากทรัพกย์าที่เป็นประธานเป็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
การชั่วคราวก็ยังไม่ขาดจากการเป็
กา น
อุปกรณ์ของทรัพย์ที่เป็นประธานนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อุปกรณ์ กาย่อมตกติดไปกั
สําบนักทรังานคณะกรรมการกฤษฎี
พย์ที่เป็นประธาน เว้นกแต่
า จะมีการกําสํหนดไว้ เป็นอย่างอื่น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๑๔๘ ดอกผลของทรักาพย์ ได้แก่ ดอกผลธรรมดาและดอกผลนิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีตกินาัย
ดอกผลธรรมดา หมายความว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของทรัพย์ ซึ่งได้มาจากตัว
สํานักทรั พย์ โดยการมีหรือใช้กทารัพย์นั้นตามปกติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิยม และสามารถถือเอาได้
กา เมื่อขาดจากทรั
สํานัพกย์งานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้น กา
ดอกผลนิตินัย หมายความว่า ทรัพย์หรือประโยชน์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อย่างอื่นที่ได้มาเป็นครั้งคราวแก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เจ้าของทรัพย์จากผู้อื่นเพื่อการที่ได้ใช้ทรัพย์นั้น และสามารถคํานวณและถือเอาได้เป็นรายวันหรือตาม
สํานักระยะเวลาที ่กําหนดไว้ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ลักษณะ ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นิติกรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


หมวด ๑
บทเบ็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดเสร็จทัว่ ไปสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๔๙ นิติกรรม หมายความว่า การใด ๆ อันทําลงโดยชอบด้วยกฎหมาย
และด้วยใจสมัครสํามุนั่งกโดยตรงต่ อการผูกนิติสกัมาพันธ์ขึ้นระหว่สําานังบุกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี คคล เพื่อจะก่อ เปลี่ยกนแปลง
า โอน
สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๐ การใดมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายเป็นการพ้น
วิสัยหรือเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีสํขาองประชาชน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การนั้นเป็นโมฆะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๑ การใดเป็นการแตกต่างกับบทบัญญัติของกฎหมาย ถ้ามิใช่กฎหมาย
อันเกี่ยวกับความสงบเรี ยบร้อยหรือศีลธรรมอักนาดีของประชาชน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัการนั ้นไม่เป็นโมฆะ กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๑๕๒ การใดมิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําไนัด้กทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําให้ถูกต้องตามแบบทีก่กาฎหมายบังคับสํไว้านัการนั ้นเป็นโมฆะ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๑๕๓ การใดมิได้เป็กานไปตามบทบัสํญานัญักตงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ิของกฎหมายว่าด้วยความสามารถ
กา
ของบุคคล การนั้นเป็นโมฆียะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การแสดงเจตนา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๔ การแสดงเจตนาใดแม้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ในใจจริ
สํานังกผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้แสดงจะมิได้เจตนาให้ตกานต้องผูกพัน
ตามที่ได้แสดงออกมาก็ตาม หาเป็นมูลเหตุให้การแสดงเจตนานั้นเป็นโมฆะไม่ เว้นแต่คู่กรณีอีกฝ่าย
สํานักหนึ ่งจะได้รู้ถึงเจตนาอันกซ่าอนอยู่ในใจของผู
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้แกสดงนั ้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๕ การแสดงเจตนาลวงโดยสมรู


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานั้กกับงานคณะกรรมการกฤษฎี
คู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งเป็นกโมฆะ
า แต่จะ
ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้กระทําการโดยสุจริต และต้องเสียหายจากการแสดงเจตนาลวงนั้น
สํานักมิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ า การแสดงเจตนาลวงตามวรรคหนึ่ งสํทําานัขึก้ งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
น เพื่ อ อํ า พรางนิ ติ ก รรมอื
กา
่ น ให้ นํ า
บทบัญญัติของกฎหมายอันเกี่ยวกับนิติกรรมที่ถูกอําพรางมาใช้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๕๖ การแสดงเจตนาโดยสําคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสําคัญแห่งนิติกรรม


สํานักเป็ นโมฆะ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความสํ า คั ญ ผิ ด ในสิ่ ง ซึ่ ง เป็ น สาระสํ า คั ญ แห่ ง นิ ติ ก รรมตามวรรคหนึ่ ง ได้ แ ก่
ความสําคัญผิดในลั
สํานักกษณะของนิ ติกรรม ความสํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าคัญผิดในตั
สําวนับุกคงานคณะกรรมการกฤษฎี
คลซึ่งเป็นคู่กรณีแห่งกนิาติกรรมและ
ความสําคัญผิดในทรัพย์สินซึ่งเป็นวัตถุแห่งนิติกรรม เป็นต้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๗ การแสดงเจตนาโดยสํ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าคัญสํผิาดนัในคุ ณสมบัติของบุคคลหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อทรัพย์สิน
เป็นโมฆียะ
ความสํกาา คัญผิดตามวรรคหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ง ต้องเป็นความสําคักญา ผิดในคุณสมบัสําตนัิซกึ่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ตามปกติถือว่า กา
เป็นสาระสําคัญ ซึ่งหากมิได้มีความสําคัญผิดดังกล่าวการอันเป็นโมฆียะนั้นคงจะมิได้กระทําขึ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๘ ความสําคัญผิดตามมาตรา ๑๕๖ หรือมาตรา ๑๕๗ ซึ่งเกิดขึ้นโดย
สํานักความประมาทเลิ นเล่ออย่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาางร้ายแรงของบุ
สํานัคกคลผู ้แสดงเจตนา บุคคลนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นจะถือเอาความสํ าคัญผิดนั้นมา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ใช้เป็นประโยชน์แก่ตนไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙ การแสดงเจตนาเพราะถู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กกลฉ้อฉลเป็นโมฆียะ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การถูกกลฉ้อฉลที่จะเป็นโมฆียะตามวรรคหนึ่ง จะต้องถึงขนาดซึ่งถ้ามิได้มีกลฉ้อฉล
ดังกล่าว การอันเป็สํานนัโมฆี ยะนั้นคงจะมิได้กระทํกาาขึ้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าคู่กรณีฝ่ายหนึ่ งแสดงเจตนาเพราะถูกกลฉ้อฉลโดยบุคคลภายนอก การแสดง
สํานักเจตนานั ้นจะเป็นโมฆียะต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาอเมื่อคู่กรณีอสํีกาฝ่นัากยหนึ ่งได้รู้หรือควรจะได้กราู้ถึงกลฉ้อฉลนั้นสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี

สํมาตรา ๑๖๐ การบอกล้างโมฆี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยะกรรมเพราะถู กกลฉ้อฉลตามมาตรากา๑๕๙ ห้ามมิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ยกเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้กระทําการโดยสุจริต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๑ ถ้ากลฉ้อฉลเป็นแต่เพียงเหตุจูงใจให้คู่กรณีฝ่ายหนึ่งยอมรับข้อกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อันหนักยิ่งกว่าที่คู่กรณีฝ่ายนั้นจะยอมรับโดยปกติ คู่กรณีฝ่ายนั้นจะบอกล้างการนั้นหาได้ไม่ แต่ชอบที่
สํานักจะเรี ยกเอาค่าสินไหมทดแทนเพื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อความเสี
สํานัยกหายอั นเกิดจากกลฉ้อฉลนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๒ ในนิติกรรมสองฝ่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าย การที่คสํู่กานัรณี ฝ่ายหนึ่งจงใจนิ่งเสียไม่กแาจ้งข้อความ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
จริงหรือคุณสมบัติอันคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งมิได้รู้ การนั้นจะเป็นกลฉ้อฉล หากพิสูจน์ได้ว่าถ้ามิได้นิ่งเสีย
สํานักเช่งานคณะกรรมการกฤษฎี
นนั้น นิติกรรมนั้นก็คงจะมิ
กา ได้กระทําสํขึา้นนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๓ ถ้าคู่กรณีต่างได้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กระทําการโดยกลฉ้ อฉลด้วยกันทั้งสองฝ่กาาย ฝ่ายหนึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฝ่ายใดจะกล่าวอ้างกลฉ้อฉลของอีกฝ่ายหนึ่ง เพื่อบอกล้างการนั้นหรือเรียกค่าสินไหมทดแทนมิได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๔ การแสดงเจตนาเพราะถูกข่มสํขูานั่เป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โมฆียะ กา
การข่มขู่ที่จะทําให้การใดตกเป็นโมฆียะนั้น จะต้องเป็นการข่มขู่ที่จะให้เกิดภัยอัน
สํานักใกล้ จะถึง และร้ายแรงถึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กางขนาดที่จะจูสํงาใจให้ ผู้ถูกข่มขู่มีมูลต้องกลักวา ซึ่งถ้ามิได้มีกสํารข่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขู่เช่นนั้น การ กา
- ๓๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

นั้นก็คงจะมิได้กระทําขึ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๕ การขู่ว่าจะใช้สิทธิตามปกตินิยม ไม่ถือว่าเป็นการข่มขู่
สํการใดที ่กระทําไปเพราะนับกถืาอยําเกรง ไม่ถสํือาว่นัากการนั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้นได้กระทําเพราะถูกากข่มขู่
งานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๖๖ การข่มขู่ย่อมทําให้การแสดงเจตนาเป็นโมฆียะแม้บุคคลภายนอกจะ
เป็นผู้ข่มขู่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๖๗ ในการวิ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิ จ ฉั ย กรณี ค วามสํ า คักญา ผิ ด กลฉ้ อ ฉลสํานัหรื อ การข่ ม ขู่ ใ ห้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พิเคราะห์ถึง เพศ อายุ ฐานะ สุขภาพอนามัย และภาวะแห่งจิตของผู้แสดงเจตนาตลอดจนพฤติการณ์
และสภาพแวดล้อสํมอื
านัก่นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ๆ อันเกี่ยวกับการนั้นด้กวาย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๖๘ การแสดงเจตนาที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่กระทําต่อบุคคลซึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งอยู่เฉพาะหน้
สํานัาให้ ถือว่ามีผลนับ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แต่ผู้รับการแสดงเจตนาได้ทราบการแสดงเจตนานั้น ความข้อนี้ให้ใช้ตลอดถึงการที่บุคคลหนึ่งแสดง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เจตนาไปยังบุคคลอี กคนหนึ่งโดยทางโทรศัพท์ หรือโดยเครืสํ่อานังมืกงานคณะกรรมการกฤษฎี
อสื่อสารอย่างอื่น หรือกโดยวิ

ธีอื่นซึ่ง
สามารถติดต่อถึงกันได้ทํานองเดียวกันสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๙ การแสดงเจตนาที


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่กระทําต่อสํบุานัคกคลซึ ่งมิได้อยู่เฉพาะหน้ากให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ถือว่ามีผล
นับแต่เวลาที่การแสดงเจตนานั้นไปถึงผู้รับการแสดงเจตนา แต่ถ้าได้บอกถอนไปถึงผู้รับการแสดง
สํานักเจตนานั ้น ก่อนหรือพร้อกามกันกับที่การแสดงเจตนานั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้นไปถึงผู้รับการแสดงเจตนา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํการแสดงเจตนานั ้น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตกเป็นอันไร้ผล
สํการแสดงเจตนาที ่ได้ส่งออกไปแล้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วย่อมไม่สํเสืานั่อกมเสี ยไป แม้ภายหลังการแสดงเจตนา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นั้นผู้แสดงเจตนาจะถึงแก่ค วามตาย หรือถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถหรื อคนเสมื อนไร้
สํานักความสามารถ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๐ การแสดงเจตนาซึ่ ง กระทํ า ต่ อ ผู้ เ ยาว์ ห รื อ ผู้ ที่ ศ าลสั่ ง ให้ เ ป็ น คนไร้
สํานักความสามารถหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี อคนเสมืกา อนไร้ความสามารถ จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสูก้าผู้รับการแสดงเจตนาไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ได้ เว้นแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ แล้วแต่กรณี ของผู้รับการแสดงเจตนานั้นได้รู้ด้วย หรือได้
ให้ความยินยอมไว้สํกานั่อกนแล้ ว
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความในวรรคหนึ่ ง มิ ใ ห้ ใ ช้ บั ง คับ ถ้ า การแสดงเจตนานั้ น เกี่ ย วกั บ การที่ ก ฎหมาย
สํานักบังานคณะกรรมการกฤษฎี
ญญัติให้ผู้เยาว์หรือคนเสมื
กา อนไร้ความสามารถกระทํ าได้เองโดยลํากพัาง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๗๑ ในการตีความการแสดงเจตนานั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้น ให้เพ่งเล็งถึงเจตนาอั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กานแท้จริงยิ่ง
กว่าถ้อยคําสํานวนหรือตัวอักษร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โมฆะกรรมและโมฆียะกรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๗๒ โมฆะกรรมนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้นไม่อาจให้สัตยาบันแก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กันได้ และผูสํ้มาีสนั่วกนได้ เสียคนหนึ่ง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
คนใดจะยกความเสียเปล่าแห่งโมฆะกรรมขึ้นกล่าวอ้างก็ได้
สํถ้าานัจะต้ องคืนทรัพย์สินอันเกิกดา จากโมฆะกรรม
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ให้นําบทบัญญัติว่าด้วยลาภมิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ควรได้
แห่งประมวลกฎหมายนี้มาใช้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๗๓ ถ้าส่วนหนึ่งกส่าวนใดของนิตสํิการรมเป็


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นโมฆะ นิติกรรมนั้กนาย่อมตกเป็น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
โมฆะทั้งสิ้น เว้นแต่จะพึงสันนิษฐานได้โดยพฤติการณ์แห่งกรณีว่า คู่กรณีเจตนาจะให้ส่วนที่ไม่เป็น
สํานักโมฆะนั ้นแยกออกจากส่กวนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ่เป็นโมฆะได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๗๔ การใดเป็นโมฆะแต่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เข้าลักษณะเป็ นนิติกรรมอย่างอื่นซึก่งาไม่เป็นโมฆะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ถือตามนิติกรรมซึ่งไม่เป็นโมฆะ ถ้าสันนิษฐานได้โดยพฤติการณ์แห่งกรณีว่า หากคู่กรณีได้รู้ว่าการ
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นเป็นโมฆะแล้ว ก็คงจะได้
กา ตั้งใจมาตั้งสํแต่
านัแกรกที ่จะทํานิติกรรมอย่ากงอืา ่นซึ่งไม่เป็นโมฆะนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๕ โมฆียะกรรมนั้น บุคคลต่อไปนี ้จะบอกล้างเสียก็ได้
(๑) ผู้แทนโดยชอบธรรมหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อผู้เยาว์ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว แต่สําผนัู้เกยาว์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จะบอกล้าง
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ก่อนที่ตนบรรลุนิติภาวะก็ได้ถ้าได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรม
สํ(๒) บุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นกคนไร้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ความสามารถหรื อคนเสมือนไร้ความสามารถ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เมื่อ
บุคคลนั้นพ้นจากการเป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถแล้ว หรือผู้อนุบาลหรือผู้
สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทักษ์ แล้วแต่กรณี แต่กคานเสมือนไร้คสํวามสามารถจะบอกล้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีางก่อนที กา ่ตนจะพ้นจากการเป็ นคนเสมือน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไร้ความสามารถก็ได้ถ้าได้รับความยินยอมของผู้พิทักษ์
สํ(๓) บุคคลผู้แสดงเจตนาเพราะสํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าคัญผิด หรื สํานัอกถูงานคณะกรรมการกฤษฎี
กกลฉ้อฉล หรือถูกข่มขูก่ า
(๔) บุคคลวิกลจริตผู้กระทํานิติกรรมอันเป็นโมฆียะตามมาตรา ๓๐ ในขณะที่จริต
สํานักของบุ คคลนั้นไม่วิกลแล้กวา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าบุคคลผู้ทํานิติกรรมอันเป็นโมฆียะถึงแก่ความตายก่อนมีการบอกล้างโมฆียะกรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทายาทของบุคคลดังกล่าวอาจบอกล้างโมฆียะกรรมนั้นได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๖ โมฆียะกรรมเมื่อบอกล้างแล้ว ให้ถือว่าเป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรก และ
ให้ผู้เป็นคู่กรณีกลัสําบนัคืกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สู่ฐานะเดิม ถ้าเป็นการพ้กา นวิสัยจะให้สํกานัลักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
คืนเช่นนั้นได้ ก็ให้ได้รกับา ค่าเสียหาย
ชดใช้ให้แทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้าบุคกคลใดได้
า รู้หรือควรจะได้ รู้ว่าการใดเป็นโมฆียกะา เมื่อบอกล้างแล้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัวกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ถือว่าบุคคล กา
นั้นได้รู้ว่าการนั้นเป็นโมฆะ นับแต่วันที่ได้รู้หรือควรจะได้รู้ว่าเป็นโมฆียะ
สํห้าานัมมิ ให้ใช้สิทธิเรียกร้องอักนาเกิดแต่การกลัสําบนัคืกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สู่ฐานะเดิมตามวรรคหนึ กา ่ง เมื่อพ้น
หนึ่งปีนับแต่วันบอกล้างโมฆียะกรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๗ ถ้าบุคคลผู้มีสิทธิบอกล้างโมฆี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยะกรรมตามมาตรา ๑๗๕ ผู้หนึ่งผู้ใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ได้ ใ ห้ สั ต ยาบั น แก่ โ มฆี ย ะกรรม ให้ ถื อ ว่ า การนั้ น เป็ น อั น สมบู ร ณ์ ม าแต่ เ ริ่ ม แรก แต่ ทั้ ง นี้ ย่ อ มไม่
สํานักกระทบกระเทื
งานคณะกรรมการกฤษฎีอนถึงสิทธิกขา องบุคคลภายนอก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๗๘ การบอกล้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
งหรือให้สัตยาบันแก่โกมฆีา ยะกรรม ย่อสํมกระทํ าได้โดยการ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แสดงเจตนาแก่คู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นบุคคลที่มีตัวกําหนดได้แน่นอน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๙ การให้ สัต ยาบัน แก่โ มฆีย ะกรรมนั้น จะสมบูร ณ์ต่อ เมื่อได้ กระทํ า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภายหลังเวลาที่มูลเหตุให้เป็นโมฆียะกรรมนั้นหมดสิ้นไปแล้ว
สํบุาคนัคลซึ ่งศาลได้สั่งให้เป็นคนไร้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ความสามารถ สํานักคนเสมื อนไร้ความสามารถหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อบุคคล
วิกลจริต ผู้กระทํานิติกรรมอันเป็นโมฆียะตามมาตรา ๓๐ จะให้สัตยาบันแก่โมฆียะกรรมได้ต่อเมื่อได้
สํานักรูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ เ ห็ น ซึ่ ง โมฆี ย ะกรรมนัก้ นา ภายหลั ง ที่ บสํุาคนัคลนั ้ น พ้ น จากการเป็ น คนไร้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ค วามสามารถ คนเสมื อ นไร้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ความสามารถ หรือในขณะที่จริตของบุคคลนั้นไม่วิกล แล้วแต่กรณี
สํทายาทของบุ คคลผู้ทํานิติกกรรมอั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นเป็นโมฆีสํยานัะกจะให้ สัตยาบันแก่โมฆียกะกรรมได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า นั บ
แต่เวลาที่ผู้ทํานิติกรรมนั้นถึงแก่ความตาย เว้นแต่สิทธิที่จะบอกล้างโมฆียะกรรมของผู้ตายนั้นได้สิ้นสุด
สํานักลงแล้ ว
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทบัญญัติวรรคหนึ่งและวรรคสองมิให้ใช้บังคับ ถ้าการให้สัตยาบันแก่โมฆียะกรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กระทําโดยผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๘๐ ภายหลังเวลาอันพึงให้สัตยาบันได้ตามมาตรา ๑๗๙ ถ้ามีพฤติการณ์
อย่างหนึ่งอย่างใดดั
สํานังต่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
อไปนี้เกิดขึ้นเกี่ยวด้วยโมฆี
กา ยะกรรมโดยการกระทํ าของบุคคลซึ่งมีกสาิทธิบอกล้าง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
โมฆียะกรรมตามมาตรา ๑๗๕ ถ้ามิได้สงวนสิทธิไว้แจ้งชัดประการใดให้ถือว่าเป็นการให้สัตยาบัน
(๑) ได้กาปฏิบัติการชําสํระหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้แล้วทั้งหมดหรือแต่บางส่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ได้มีการเรียกให้ชําระหนี้นั้นแล้ว
สํ(๓) ได้มีการแปลงหนี้ใหม่ กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ได้มีการให้ประกันเพื่อหนี้นั้น
(๕) ได้กามีการโอนสิทธิสํหานัรืกองานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ความรับผิดทั้งหมดหรือกแต่
า บางส่วน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) ได้มีการกระทําอย่างอื่นอันแสดงได้ว่าเป็นการให้สัตยาบัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๑๘๑ โมฆียะกรรมนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้นจะบอกล้างมิได้เมื่อกพ้า นเวลาหนึ่งปีสํนาับนัแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เวลาที่อาจให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สัตยาบันได้ หรือเมื่อพ้นเวลาสิบปีนับแต่ได้ทํานิติกรรมอันเป็นโมฆียะนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สําเงืนั่อกนไขและเงื ่อนเวลา กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๘๒ ข้ อ ความใดอั น บั ง คั บ ไว้ ใ ห้ นิ ติ ก รรมเป็ น ผลหรื อ สิ้ น ผลต่ อ เมื่ อ มี
สํานักเหตุ การณ์อันไม่แน่นอนว่กาาจะเกิดขึ้นหรืสํอาไม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี นักใงานคณะกรรมการกฤษฎี
นอนาคต ข้อความนั้นเรีกายกว่าเงื่อนไข สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๘๓ นิ ติ ก รรมใดมี เงื่ อ นไขบั งคั บก่ อน นิ ติ ก รรมนั้น ย่อ มเป็ น ผลต่ อ เมื่ อ
สํานักเงืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อนไขนั้นสําเร็จแล้ว กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

นิติกรรมใดมีเงื่อนไขบังคับหลัง นิติกรรมนั้นย่อมสิ้นผลในเมื่อเงื่อนไขนั้นสําเร็จแล้ว
ถ้าคู่กกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า แห่งนิติกรรมได้
สํานักแงานคณะกรรมการกฤษฎี
สดงเจตนาไว้ด้วยกันว่กาา ความสําเร็จสํแห่
านังกเงืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อนไขนั้นให้มี กา
ผลย้อนหลังไปถึงเวลาใดเวลาหนึ่งก่อนสําเร็จ ก็ให้เป็นไปตามเจตนาเช่นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๘๔ ในระหว่างที่เงื่อนไขยังไม่สําเร็จ คู่กรณีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดแห่งนิติกรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อันอยู่ในบังคับเงื่อนไขจะต้องงดเว้นไม่กระทําการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เป็นที่เสื่อมเสียประโยชน์แก่
คู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งสําซึนั่งกจะพึ งได้จากความสําเร็จกแห่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า งเงื่อนไขนั้นสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๘๕ ในระหว่


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
งที่เงื่อนไขยังมิได้สําเร็กจา นั้น สิทธิและหน้
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ ต่าง ๆ ของ กา
คู่กรณีมีอย่างไร จะจําหน่าย จะรับมรดก จะจัดการป้องกันรักษา หรือจะทําประกันไว้ประการใดตาม
กฎหมายก็ย่อมทําสํได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๘๖ ถ้าความสํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักาเร็ จแห่งเงื่อนไขจะเป็นทางให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา คู่กรณีฝ่าสํยใดเสี ยเปรียบ และ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
คู่กรณีฝ่ายนั้นกระทําการโดยไม่สุจริตจนเป็นเหตุให้เงื่อนไขนั้นไม่สําเร็จให้ถือว่าเงื่อนไขนั้นสําเร็จแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าความสําเร็จแห่งเงื่อนไขจะเป็นทางให้คสํู่การณีนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ฝ่ายใดได้เปรียบ และคู่กรณีฝ่ายนั้น
กระทําการโดยไม่สุจริตจนเป็นเหตุให้เงืสํ่อานไขนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้นสําเร็จ ให้ถือว่าเงื่อนไขนั้นมิได้สําเร็สําจนัเลย
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๘๗ ถ้าเงื่อนไขสํากเร็า จแล้วในเวลาทํ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากนิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ติกรรม หากเป็นเงื่อนไขบั
กา งคับก่อน
ให้ถือว่านิติกรรมนั้นไม่มีเงื่อนไข หากเป็นเงื่อนไขบังคับหลังให้ถือว่านิติกรรมนั้นเป็นโมฆะ
ถ้าเป็นกาอันแน่นอนในเวลาทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านิติกรรมว่าเงื่อนไขไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อาจสําเร็จได้
สํานัหากเป็ นเงื่อนไข
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บังคับก่อนให้ถือว่านิติกรรมนั้นเป็นโมฆะ หากเป็นเงื่อนไขบังคับหลังให้ถือว่านิติกรรมนั้นไม่มีเงื่อนไข
สํตราบใดที ่คู่กรณียังไม่รู้ว่าเงืก่อา นไขได้สําเร็จสํแล้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตามวรรคหนึ่ง หรือไม่กอาาจสําเร็จได้
ตามวรรคสอง ตราบนั้นคู่กรณียังมีสิทธิและหน้าที่ตามมาตรา ๑๘๔ และมาตรา ๑๘๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๘๘ นิติกรรมใดมีเงื่อนไขอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือขัดต่อความสงบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน นิติกรรมนั้นเป็นโมฆะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๘๙ นิติกรรมใดมีเงื่อนไขบังคับก่อนและเงื่อนไขนั้นเป็นการพ้นวิสัย นิติ
กรรมนั้นเป็นโมฆะสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นิติกรรมใดมีเงื่อนไขบังคับหลังและเงื่อนไขนั้นเป็นการพ้นวิสัย ให้ถือว่านิติกรรมนั้น
สํานักไม่ มีเงื่อนไข
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๙๐ นิติกรรมใดมีกเงืา่อนไขบังคับก่สํอานและเป็


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นเงื่อนไขอันจะสํากเร็า จได้หรือไม่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สุดแล้วแต่ใจของฝ่ายลูกหนี้ นิติกรรมนั้นเป็นโมฆะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๑ นิ ติ ก รรมใดมี เ งื่ อ นเวลาเริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ ม ต้ น กํ า หนดไว้ ห้ า มมิ ใ ห้ ท วงถามให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ปฏิบัติการตามนิติกรรมนั้นก่อนถึงเวลาที่กําหนด
นิติกรรมใดมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เงื่อนเวลาสิ
สํานั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สุดกําหนดไว้ นิติกรรมนักา้นย่อมสิ้นผลเมืสํ่อานัถึกงเวลาที ่กําหนด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๓๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๙๒ เงื่อนเวลาเริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่มต้นหรือเงื่อนเวลาสิกา้นสุดนั้น ให้สสํันานินักษงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ฐานไว้ก่อนว่า กา
กําหนดไว้เพื่อประโยชน์แก่ฝ่ายลูกหนี้ เว้นแต่จะปรากฏโดยเนื้อความแห่งตราสารหรือโดยพฤติการณ์
แห่งกรณีว่าได้ตั้งใจจะให้ เป็นประโยชน์แก่ฝ่ายเจ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าหนี้หรือแก่สํคาู่กนัรณี ทั้งสองฝ่ายด้วยกัน กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถ้าเงื่อนเวลาเป็นประโยชน์แก่ฝ่ายใด ฝ่ายนั้นจะสละประโยชน์นั้นเสียก็ได้ หากไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กระทบกระเทือนถึงประโยชน์อันคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งจะพึงได้รับจากเงื่อนเวลานั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๓ ในกรณีดังต่อไปนี้ ฝ่ายลูกหนี้จะถือเอาประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาเริ่มต้น
สํานักหรื อเงื่อนเวลาสิ้นสุดมิได้กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ลูกหนี้ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย
สํ(๒) ลูกหนี้ไม่ให้ประกันในเมืกา่อจําต้องให้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๓) ลูกหนี้ได้ทําลาย หรือทําให้ลดน้อยถอยลงซึ่งประกันอันได้ให้ไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๔) ลูกกาหนี้นําทรัพย์สํสาินนัของบุ คคลอื่นมาให้เป็นประกั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นโดยเจ้าของทรั พย์สินนั้นมิได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ยินยอมด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ระยะเวลา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๙๓/๑ การนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานับกระยะเวลาทั ้งปวง ให้บกังาคับตามบทบัญสําญันักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ิแห่งลักษณะนี้ กา
เว้นแต่จะมีกฎหมาย คําสั่งศาล ระเบียบข้อบังคับ หรือนิติกรรมกําหนดเป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๓/๒ การคํานวณระยะเวลา ให้คํานวณเป็นวัน แต่ถ้ากําหนดเป็นหน่วย
สํานักเวลาที ่สั้นกว่าวัน ก็ให้คํากนวณตามหน่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า วสํยเวลาที ่กําหนดนั้น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๓/๓ ถ้ากําหนดระยะเวลาเป็นหน่วยเวลาที่สั้นกว่าวันให้เริ่มต้นนับใน
สํานักขณะที ่เริ่มการนั้น กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ากําหนดระยะเวลาเป็นวัน สัปดาห์ เดือนหรือปี มิให้นับวันแรกแห่งระยะเวลานั้น
รวมเข้าด้วยกัน เว้สํานนัแต่ จะเริ่มการในวันนั้นเองตั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้งแต่เวลาที่ถสํือาได้
นักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
่าเป็นเวลาเริ่มต้นทําการงานกั
กา นตาม
ประเพณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๓/๔ ในทางคดี ค วาม ในทางราชการ หรื อ ทางธุ ร กิ จ การค้ า และ
อุตสาหกรรม วัน สํหมายความว่ า เวลาทําการตามที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ได้กําหนดขึ
สํานั้นกโดยกฎหมาย คําสั่งศาลกหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า อระเบียบ
ข้อบังคับ หรือเวลาทําการตามปกติของกิจการนั้น แล้วแต่กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๓/๕ ถ้ากําหนดระยะเวลาเป็สํนานัสักปงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดาห์ เดือนหรือปี ให้คกําานวณตามปี
ปฏิทิน
ถ้าระยะเวลามิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ได้กําหนดนั บแต่วันต้นแห่งสัปดาห์กาวันต้นแห่งเดือสํนหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อปี ระยะเวลา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๓๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ย่ อ มสิ้ น สุ ด ลงในวั น ก่ อ นหน้ า จะถึ ง วั น แห่ ง สั ป ดาห์ เดื อ นหรื อ ปี สุ ด ท้ า ยอั น เป็ น วั น ตรงกั บ วั น เริ่ ม
สํานักระยะเวลานั ้น ถ้าในระยะเวลานั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บเป็สํนานัเดืกองานคณะกรรมการกฤษฎี
นหรือปีนั้นไม่มีวันตรงกั
กา นในเดือนสุสํดาท้นัากยงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ถือเอาวัน กา
สุดท้ายแห่งเดือนนั้นเป็นวันสิ้นสุดระยะเวลา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๓/๖ ถ้าระยะเวลากําหนดเป็นเดือนและวัน หรือกําหนดเป็นเดือนและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนของเดือน ให้นับจํานวนเดือนเต็มก่อน แล้วจึงนับจํานวนวันหรือส่วนของเดือนเป็นวัน
สํถ้าานัระยะเวลากํ าหนดเป็นส่วกนของปี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ให้คําสํนวณส่ วนของปีเป็นเดือนก่กอานหากมีส่วน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของเดือน ให้นับส่วนของเดือนเป็นวัน
การคํากนวณส่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า วนของเดื
สํานัอกนตามวรรคหนึ ่งและวรรคสอง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ให้ถือว่าสํเดืานัอกนหนึ ่งมีสามสิบ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
วัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๓/๗ ถ้ามีการขยายระยะเวลาออกไปโดยมิได้มีการกําหนดวันเริ่มต้น
สํานักแห่ งระยะเวลาที่ขยายออกไป
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ให้นับวันสํทีานั่ตก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
จากวันสุดท้ายของระยะเวลาเดิ
กา มเป็นวัสํนาเริ
นัก่มงานคณะกรรมการกฤษฎี
ต้น กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๓/๘ ถ้าวันสุดท้ายของระยะเวลาเป็ นวันหยุดทําการตามประกาศเป็น
ทางการหรือตามประเพณี ให้นับวันทีสํ่เารินั่มกทํงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าการใหม่ต่อจากวันทีก่หายุดทําการนั้นสํเป็ นวันสุดท้ายของ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ระยะเวลา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อายุความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานับทเบ็ ดเสร็จทัว่ ไป
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๑๙๓/๙ สิทสํธิานัเรีกยงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กร้องใด ๆ ถ้ามิได้ใช้บกาังคับภายในระยะเวลาที ่กฎหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กําหนด สิทธิเรียกร้องนั้นเป็นอันขาดอายุความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๓/๑๐ สิทธิเรียกร้องที่ขาดอายุความ ลูกหนี้มีสิทธิที่จะปฏิเสธการชําระ
สํานักหนี ้ตามสิทธิเรียกร้องนั้นกได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๙๓/๑๑ อายุความที


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่กฎหมายกํสําานัหนดไว้ นั้น คู่กรณีจะตกลงกั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นให้งดใช้
หรือขยายออกหรือย่นเข้าไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๓/๑๒ อายุความให้เริ่มนับแต่สํขาณะที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไปถ้าเป็นสิทธิเรียกร้องให้งดเว้นกระทําการอย่างใดให้เริ่มนับแต่เวลาแรกที่ฝ่าฝืนกระทําการนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๙๓/๑๓ สิทธิเรียกร้องที่เจ้าหนี้ยังไม่อาจบังคับได้จนกว่าจะได้ทวงถามให้


สํานักลูงานคณะกรรมการกฤษฎี
กหนี้ชําระหนี้ก่อน ให้กเาริ่มนับอายุความตั
สํานัก้งงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่เวลาแรกที่อาจทวงถามได้
กา เป็นต้นไปสํานัแต่ ถ้าลูกหนี้ยังไม่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ต้องชําระหนี้จนกว่าระยะเวลาหนึ่งจะได้ล่วงพ้นไปแล้วนับแต่เวลาที่ได้ทวงถามนั้น ให้เริ่มนับอายุ
ความตั้งแต่ระยะเวลานั ้นได้สิ้นสุดไปแล้ว กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๙๓/๑๔ อายุความย่อมสะดุดหยุดลงในกรณีดังต่อไปนี้
สํ(๑) ลูกหนี้รับสภาพหนี้ต่อกเจ้าาหนี้ตามสิทธิสํเารีนัยกกร้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี องโดยทําเป็นหนังสือกรัา บสภาพหนี้
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ ชําระหนี้ให้บางส่วน ชําระดอกเบี้ย ให้ประกัน หรือกระทําการใด ๆ อันปราศจากข้อสงสัยแสดงให้
สํานักเห็ นเป็นปริยายว่ายอมรักบาสภาพหนี้ตามสิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัทกธิงานคณะกรรมการกฤษฎี
เรียกร้อง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เจ้าหนี้ได้ฟ้องคดีเพื่อตั้งหลักฐานสิทธิเรียกร้องหรือเพื่อให้ชําระหนี้
สํ(๓) เจ้าหนี้ได้ยื่นคําขอรับชํกาาระหนี้ในคดีล้มสํละลาย
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) เจ้าหนี้ได้มอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการพิจารณา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี(๕) เจ้กาาหนี้ได้กระทําสํการอื ่นใดอันมีผลเป็นอย่างเดีกายวกันกับการฟ้สําอนังคดี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๓/๑๕ เมื่ออายุความสะดุดหยุดสําลงแล้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ว ระยะเวลาที่ล่วงไปก่อนนั้นไม่นับ
เข้าในอายุความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อเหตุที่ทําให้อายุความสะดุดหยุดลงสิ้นสุดเวลาใด ให้เริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่
เวลานั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๙๓/๑๖ หนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํา้นัใดซึ ่งตามมูลแห่งหนี้นั้น เจ้กาาหนี้จะได้รับชํสําาระหนี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ้เป็นคราว ๆ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เจ้าหนี้มีสิทธิเรียกให้ลูกหนี้ทําหนังสือรับสภาพหนี้ให้ในเวลาใดเวลาหนึ่งก่อนอายุความครบบริบูรณ์
เพื่อเป็นหลักฐานว่สําานัอายุ ความสะดุดหยุดลง กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๙๓/๑๗ ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ที่อายุความสะดุดหยุดกลงเพราะเหตุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ตามมาตรา ๑๙๓/๑๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๒) หากคดีนั้นได้มีคําพิพากษาถึงที่สุดให้ยกคําฟ้อง หรือคดีเสร็จไปโดยการจําหน่ายคดีเพราะเหตุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถอนฟ้อง หรือทิ้งฟ้อง ให้ถือว่าอายุความไม่เคยสะดุดหยุดลง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณีกาที่คดีนั้นศาลไม่
สํารนัับกหรื อคืนหรือให้ยกคําฟ้อกงเพราะเหตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า คดีสํไาม่นัอกยูงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ในอํานาจศาล กา
หรือศาลให้ยกคําฟ้องโดยไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องใหม่ และปรากฏว่าอายุความครบกําหนดไปแล้วใน
ระหว่างการพิจารณา สํานักหรื อจะครบกําหนดภายในหกสิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บวันนับสํแต่
านักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ันที่คําพิพากษาหรือคํากสัา่งนั้นถึงที่สุด
ให้เจ้าหนี้มีสิทธิฟ้องคดีเพื่อตั้งหลักฐานสิทธิเรียกร้องหรือเพื่อให้ชําระหนี้ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่
สํานักคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าพิพากษาหรือคําสั่งนัก้นาถึงที่สุด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๙๓/๑๘ ให้นํามาตรา


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๙๓/๑๗
สํานัมาใช้ บังคับแก่กรณีที่อายุกาความสะดุด
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
หยุดลงเพราะเหตุตามมาตรา ๑๙๓/๑๔ (๓) (๔) และ (๕) โดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๓/๑๙ ในขณะที่อายุความจะครบกํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าหนดนั้น ถ้ามีเหตุสุดวิสัยมาขัดขวาง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มิให้เจ้าหนี้กระทําการตามมาตรา ๑๙๓/๑๔ ให้อายุความนั้นยังไม่ครบกําหนดจนกว่าจะพ้นสามสิบวัน
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
บแต่วันที่เหตุสุดวิสัยนัก้นาได้สิ้นสุดลง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๙๓/๒๐ อายุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัคกวามสิ ทธิเรียกร้องของผู้เกยาว์
งานคณะกรรมการกฤษฎี า หรือของบุคสํคลวิ กลจริตอันศาล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จะสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถหรือไม่ก็ตาม ถ้าจะครบกําหนดลงในขณะที่บุคคลดังกล่าวยังไม่ลุถึง
ความสามารถเต็มสํภูานัมกิ งานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือในระหว่างหนึ่งปีนกับา แต่วันที่บุคคลดั
สํานังกกล่ าวไม่มีผู้แทนโดยชอบธรรมหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อผู้
อนุบาล อายุความนั้นยังไม่ครบกําหนดจนกว่าจะครบหนึ่งปีนับแต่วันที่บุคคลนั้นได้ลุถึงความสามารถ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เต็มภูมิหรือได้มีผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้อนุบาล แล้วแต่กรณี แต่ถ้าอายุความสิทธิเรียกร้องนั้นมี
ระยะเวลาน้อยกว่สําานัหนึ ่งปีก็ให้นํากําหนดระยะเวลาที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่สั้นกว่สําานันัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาใช้แทนกําหนดระยะเวลาหนึ
กา ่งปี
ดังกล่าว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๓/๒๑ อายุความสิทธิเรียกร้องของผู้เยาว์หรือของคนไร้ความสามารถ
หรือของคนเสมือสํนไร้ านักคงานคณะกรรมการกฤษฎี
วามสามารถ ที่จะฟ้องร้ กาองผู้แทนโดยชอบธรรมหรื อผู้อนุบาลหรือกผูา ้พิทักษ์ของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตนนั้น ถ้าจะครบกําหนดลงในขณะที่บุคคลดังกล่าวยังไม่ลุถึงความสามารถเต็มภูมิ หรือในระหว่าง
สํานักหนึ ่งปีนับแต่วันที่บุคคลดักางกล่าวไม่มีผู้แสํทนโดยชอบธรรมหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี อผู้อนุบกาลหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อผู้พิทักษ์สําอายุ ความนั้นยังไม่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ครบกําหนดจนกว่าจะครบหนึ่งปีนับแต่วันที่บุคคลนั้นได้ลุถึงความสามารถเต็มภูมิหรือได้มีผู้แทนโดย
ชอบธรรมหรือผู้อสํนุานับกาลหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อผู้พิทักษ์ แล้วแต่กรณี แต่ถ้าอายุ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความสิทธิเรียกร้องนั้นมีระยะเวลาน้อย
กว่าหนึ่งปี ก็ให้นํากําหนดระยะเวลาที่สสํั้นานักว่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
านั้นมาใช้แทนกําหนดระยะเวลาหนึ
กา
่งปีสํดานัังกล่ าว
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๙๓/๒๒ อายุความสิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ทธิเรียกร้องระหว่ างสามีภริยา ถ้าจะครบกํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าหนดก่อน
หรือภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่การสมรสสิ้นสุดลง อายุความนั้นยังไม่ครบกําหนดจนกว่าจะครบหนึ่งปี
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
บแต่วันที่การสมรสสิ้นกสุาดลง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๙๓/๒๓ อายุความสิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ทธิเรียกร้อสํงอั
านันกเป็ นคุณหรือเป็นโทษแก่กาผู้ตาย ถ้าจะ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ครบกําหนดภายในหนึ่งปีนับแต่วันตาย อายุความนั้นยังไม่ครบกําหนดจนกว่าจะครบหนึ่งปีนับแต่วัน
สํานักตาย
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๓/๒๔ เมื่ออายุความครบกําหนดแล้ว ลูกหนี้จะสละประโยชน์แห่งอายุ
สํานักความนั ้นเสียก็ได้ แต่การสละประโยชน์
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํเาช่นันกว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านี้ไม่มีผลกระทบกระเทื
กาอนสิทธิของบุสํคาคลภายนอกหรื อผู้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ค้ําประกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๓/๒๕ เมื่ออายุความครบกําหนดแล้ว ให้มีผลย้อนหลังขึ้นไปถึงวันที่เริ่ม
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
บอายุความ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๙๓/๒๖ เมื่ อ สิ ทกาธิ เ รี ย กร้ อ งส่ วสํนที


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัก่ เงานคณะกรรมการกฤษฎี
ป็ น ประธานขาดอายุ คกาวามให้ สิ ท ธิ
เรียกร้องส่ วนที่เป็ นอุปกรณ์นั้ นขาดอายุความด้วย แม้ว่าอายุความของสิ ท ธิ เรี ยกร้องส่วนที่เป็ น
สํานักอุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ปกรณ์นั้นจะยังไม่ครบกํกาาหนดก็ตาม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๓/๒๗ ผู้รับจํานอง ผู้รับจํานํา ผู้ทรงสิทธิยึดหน่วง หรือผู้ทรงบุริมสิทธิ
สํานักเหนื อทรัพย์สินของลูกหนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้อันตนได้ยึดสํถืาอนัไว้ ยังคงมีสิทธิบังคับชําระหนี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้จากทรัพย์สําสนัินกทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่จํานอง จํานํา กา
- ๓๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

หรือที่ได้ยึดถือไว้ แม้ว่าสิทธิเรียกร้องส่วนที่เป็นประธานจะขาดอายุความแล้วก็ตาม แต่จะใช้สิทธินั้น


สํานักบังานคณะกรรมการกฤษฎี
งคับให้ชําระดอกเบี้ยทีก่คา้างย้อนหลังเกิสํนานัห้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
ปีขึ้นไปไม่ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๙๓/๒๘ การชําระหนี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ตามสิทธิเรีสํยากร้
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งซึ่งขาดอายุความแล้วกนัา ้นไม่ว่ามาก
น้อยเพียงใดจะเรียกคืนไม่ได้ แม้ว่าผู้ชําระหนี้จะไม่รู้ว่าสิทธิเรียกร้องขาดอายุความแล้วก็ตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทบั ญ ญั ติ ใ นวรรคหนึ่ ง ให้ ใ ช้ บั ง คั บ แก่ ก ารที่ ลู ก หนี้ รั บ สภาพความรั บ ผิ ด โดยมี
หลักฐานเป็นหนังสํสืาอนักหรื อโดยการให้ประกันด้กวาย แต่จะอ้างความข้
งานคณะกรรมการกฤษฎี อนี้ขึ้นเป็นโทษแก่ผู้คก้ําาประกันเดิม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๓/๒๙ เมื่อไม่ได้ยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ศาลจะอ้างเอาอายุความมา
เป็นเหตุยกฟ้องไม่สํไาด้นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กําหนดอายุความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๙๓/๓๐ อายุ ค วามนั้ น ถ้ าประมวลกฎหมายนี้ห รื อ กฎหมายอื่ น มิ ไ ด้
บัญญัติไว้โดยเฉพาะ
สํานักให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
มีกําหนดสิบปี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๙๓/๓๑ สิสํทานัธิกเรีงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยกร้องของรัฐที่จะเรียกกเอาค่
า าภาษีอากรให้ มีกําหนดอายุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ความสิบปี ส่วนสิทธิเรียกร้องของรัฐที่จะเรียกเอาหนี้อย่างอื่นให้บังคับตามบทบัญญัติในลักษณะนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๓/๓๒ สิทธิเรียกร้องที่เกิดขึ้นโดยคําพิพากษาของศาลที่ถึงที่สุด หรือโดย
สํานักสังานคณะกรรมการกฤษฎี
ญญาประนีประนอมยอมความ
กา ให้มีกสํําาหนดอายุ ความสิบปี ทั้งนี้ กไม่า ว่าสิทธิเรียกร้สําอนังเดิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี มจะมีกําหนด
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อายุความเท่าใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๑๙๓/๓๓ สิสํทาธินัเกรียงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กร้องดังต่อไปนี้ให้มีกํากหนดอายุ
า ความห้
สําานัปีกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ดอกเบี้ยค้างชําระ
สํ(๒) เงินที่ต้องชําระเพื่อผ่อนทุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นคืนเป็นงวดสําๆนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ค่าเช่าทรัพย์สินค้างชําระ เว้นแต่ค่าเช่าสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา ๑๙๓/๓๔
สํานัก(๖)
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) เงินค้างจ่าย คือ เงินเดือน เงินปี เงินบํานาญ ค่าอุปการะเลี้ยงดูและเงินอื่น ๆ
ในลักษณะทํานองเดี
สํานัยกวกั บที่มีการกําหนดจ่ายเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นระยะเวลาสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) สิทธิเรียกร้องตามมาตรา ๑๙๓/๓๔ (๑) (๒) และ (๕) ที่ไม่อยู่ในบังคับอายุ
สํานักความสองปี
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๓/๓๔ สิทธิเรียกร้องดังต่อไปนี้ ให้มีกําหนดอายุความสองปี
(๑) ผูก้าประกอบการค้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําานัหรื ออุต สาหกรรม ผู้ประกอบหั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ตถกรรม
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ประกอบศิล ป กา
- ๔๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

อุตสาหกรรมหรือช่างฝีมือ เรียกเอาค่าของที่ได้ส่งมอบ ค่าการงานที่ได้ทํา หรือค่าดูแลกิจการของผู้อื่น


สํานักรวมทั ้งเงินที่ได้ออกทดรองไป
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา เว้นแต่เป็สํนานัการที ่ได้ทําเพื่อกิจการของฝ่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาายลูกหนี้นั้นเองสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ผู้ ประกอบเกษตรกรรมหรือการป่าไม้ เรียกเอาค่าของที่ได้ส่งมอบอันเป็น
ผลิตผลทางเกษตรหรื สํ านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ป่าไม้ เฉพาะที่ใช้สอยในบ้ กา านเรือนของฝ่ สํานัายลู กหนี้นั้นเอง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๓) ผู้ขนส่งคนโดยสารหรือสิ่งของหรือผู้รับส่งข่าวสาร เรียกเอาค่าโดยสาร ค่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ระวาง ค่าเช่า ค่าธรรมเนียม รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป
สํ(๔) ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อหอพัก ผูสํ้ปาระกอบธุ รกิจในการจําหน่ากยอาหารและ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า
เครื่องดื่ม หรือผู้ประกอบธุรกิจสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการเรียกเอาค่าที่พัก อาหาร
สํานักหรื อเครื่องดื่ม ค่าบริการหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อค่าการงานที สํานั่ไกด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ทําให้แก่ผู้มาพักหรือใช้กบา ริการ รวมทั้งสํเงิานันกทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ได้ออกทดรอง กา
ไป
สํ(๕) ผู้ขายสลากกินแบ่ง สลากกิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นรวบ หรืสําอนัสลากที ่คล้ายคลึงกัน เรียกกเอาค่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า าขาย
สลาก เว้นแต่เป็นการขายเพื่อการขายต่อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๖) ผูก้ปาระกอบธุรกิจสํในการให้ เช่าสังหาริมทรัพย์ กเรีา ยกเอาค่าเช่าสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๗) บุคคลซึ่งมิได้เข้าอยู่ในประเภทที่ระบุไว้ใน (๑) แต่เป็นผู้ประกอบธุรกิจในการ
ดูแลกิจการของผู้อื่นหรือรับทํางานการต่าง ๆ เรียกเอาสินจ้าสํงอัานันกจะพึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งได้รับในการนั้น รวมทั้งเงินที่ได้
ออกทดรองไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๘) ลูกจ้างซึ่งรับใช้การงานส่วนบุคคล เรียกเอาค่าจ้างหรือสินจ้างอย่างอื่นเพื่อการ
งานที่ทํา รวมทั้งเงิสํานนัทีก่ไงานคณะกรรมการกฤษฎี
ด้ออกทดรองไป หรือกนายจ้ า างเรียกเอาคื สํานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ซึ่งเงินเช่นว่านั้นที่ตนได้กจา ่ายล่วงหน้า
ไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๙) ลูกกาจ้างไม่ว่าจะเป็ สํานนัลูกงานคณะกรรมการกฤษฎี
กจ้างประจํา ลูกจ้างชั่วกคราว า หรือลูกจ้สําานังรายวั น รวมทั้งผู้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ฝึกหัดงาน เรียกเอาค่าจ้างหรือสินจ้างอย่างอื่น รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป หรือนายจ้างเรียกเอา
คืนซึ่งเงินเช่นว่านัสํ้นาทีนั่ตกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นได้จ่ายล่วงหน้าไป กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑๐) ครูสอนผู้ฝึกหัดงาน เรียกเอาค่าฝึกสอนและค่าใช้จ่ายอย่างอื่นตามที่ได้ตกลง
สํานักกังานคณะกรรมการกฤษฎี
นไว้ รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑๑) เจ้าของสถานศึกษาหรือสถานพยาบาล เรียกเอาค่าธรรมเนียมการเรียนและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ หรือค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอย่างอื่น รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑๒) กผูา ้รับคนไว้เพื่อสํการบํ ารุงเลี้ยงดูหรือฝึกสอนกาเรียกเอาค่าการงานที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ทําให้รวมทั้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เงินที่ได้ออกทดรองไป
สํ(๑๓) ผู้รับเลี้ยงหรือฝึกสอนสั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาตว์ เรียกเอาค่สําานัการงานที ่ทําให้ รวมทั้งเงิกนาที่ได้ออกทด
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
รองไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑๔) กครู า หรืออาจารย์สําเรี นักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
กเอาค่าสอน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑๕) ผู้ ป ระกอบวิ ช าชี พ เวชกรรม ทั น ตกรรม การพยาบาล การผดุ ง ครรภ์
ผู้ประกอบการบําสํบัาดนัโรคสั ตว์ หรือผู้ประกอบโรคศิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ลปะสาขาอืสํา่นนักเรีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยกเอาค่าการงานที่ทํากให้า รวมทั้งเงิน
ที่ได้ออกทดรองไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑๖) กาทนายความหรื สําอนัผูกงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ประกอบวิชาชีพทางกฎหมาย กา รวมทัสํ้งาพยานผู ้เชี่ยวชาญ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เรียกเอาค่าการงานที ่ทําให้ รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป หรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อคู่ความเรียกเอาคืนซึ่งเงินเช่นว่านั้นที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตนได้จ่ายล่วงหน้าไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑๗) กาผู้ประกอบวิชสําชี านักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
วิ ศวกรรม สถาปัตยกรรม กา ผู้ ส อบบั ญสําชีนักหรื อผู้ประกอบ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๔๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

วิ ช าชี พ อิ ส ระอื่ น เรี ย กเอาค่ า การงานที่ ทํ า ให้ รวมทั้ ง เงิ น ที่ ไ ด้ อ อกทดรองไป หรื อ ผู้ ว่ า จ้ า งให้
สํานักประกอบการงานดั
งานคณะกรรมการกฤษฎี งกล่ากวเรี
า ยกเอาคืนซึสํ่งาเงินันกเช่ นว่านั้นที่ตนได้จ่ายล่วกงหน้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า าไป สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๙๓/๓๕ ภายใต้บกังาคับมาตรา ๑๙๓/๒๗


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สิทธิเรียกร้องที่เกิดกขึา้นจากการที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลูกหนี้รับสภาพความรับผิดโดยมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือโดยการให้ประกันตามมาตรา ๑๙๓/๒๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วรรคสอง ให้มีกําหนดอายุความสองปีนับแต่วันที่ได้รับสภาพความรับผิดหรือให้ประกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บรรพ ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานับทเบ็ ดเสร็จทัว่ ไป
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วัตถุแห่งหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๙๔ ด้วยอํสําานาจแห่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งมูลหนี้ เจ้าหนี้ย่อมมี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สิทธิจะเรียกให้
สํานัลกูกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หนี้ชําระหนี้ได้ กา
อนึ่งการชําระหนี้ด้วยงดเว้นการอันใดอันหนึ่งก็ย่อมมีได้
สํมาตรา ๑๙๕ เมื่อทรัพย์ซึ่งกเป็า นวัตถุแห่งหนี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้นกั้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ระบุไว้แต่เพียงเป็นประเภท
กา และ
ถ้าตามสภาพแห่งนิติกรรม หรือตามเจตนาของคู่กรณีไม่อาจจะกําหนดได้ว่าทรัพย์นั้นจะพึงเป็นชนิด
สํานักอย่ างไรไซร้ ท่านว่าลูกหนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา้จะต้องส่งมอบทรั
สํานักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์ชนิดปานกลาง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าลูกหนี้ได้กระทําการอันตนจะพึงต้องทําเพื่อส่งมอบทรัพย์สิ่งนั้นทุกประการแล้วก็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดี หรือถ้าลูกหนี้ได้เลือกกําหนดทรัพย์ที่จะส่งมอบแล้วด้วยความยินยอมของเจ้าหนี้ก็ดี ท่านว่าทรัพย์
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นจึงเป็นวัตถุแห่งหนี้จํากเดิ
า มแต่เวลานั้นสําไปนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๙๖ ถ้าหนี้เงินได้แกสดงไว้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า เป็นเงินสํต่าานังประเทศ ท่านว่าจะส่งใช้กเป็า นเงินไทยก็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้
การเปลี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่ยนเงินนี้ ให้คสํิดาตามอั ตราแลกเปลี่ยนเงิน กณา สถานที่และในเวลาที
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ใช้เงิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๑๙๗ ถ้าหนี้เงินจะพึ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กางส่งใช้ด้วยเงิสํนาตราชนิ ดหนึ่งชนิดใดโดยเฉพาะ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อันเป็น
ชนิดที่ยกเลิกไม่ใช้กันแล้วในเวลาที่จะต้องส่งเงินใช้หนี้นั้นไซร้ การส่งใช้เงินท่านให้ถือเสมือนหนึ่งว่า
สํานักมิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ระบุไว้ให้ใช้เป็นเงินกตราชนิ
า ดนั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๘ ถ้าการอันมีกําหนดพึงกระทําเพื่อชําระหนี้นั้นมีหลายอย่าง แต่จะต้อง
สํานักกระทํ าเพียงการใดการหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งแต่อย่างเดีสํยานัวไซร้ ท่านว่าสิทธิที่จะเลือกากทําการอย่างใดนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตกอยู่แก่ฝ่าย กา
- ๔๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ลูกหนี้ เว้นแต่จะได้ตกลงกันกําหนดไว้เป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙๙ การเลือกนั้นท่านให้ทําด้วยแสดงเจตนาแก่คู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่ง
สํการชํ าระหนี้ได้เลือกทําเป็นกอย่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า างใดแล้ว ท่สําานันให้ ถือว่าอย่างนั้นอย่างเดีกายว เป็นการ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชําระหนี้อันกําหนดให้กระทําแต่ต้นมา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๐๐ ถ้าจะต้องเลืกอา กภายในระยะเวลาอั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นมีกําหนด และฝ่ากยที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่มีสิทธิจะ
เลือกมิได้เลือกภายในระยะเวลานั้นไซร้ ท่านว่าสิทธิที่จะเลือกนั้นย่อมตกไปอยู่แก่อีกฝ่ายหนึ่ง
ถ้ามิได้กกา ําหนดระยะเวลาให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เลือกไซร้ เมื่อหนี้ถึงกํกาาหนดชําระฝ่าสํยทีานั่ไกม่งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มีสิทธิจะเลือก กา
อาจกําหนดเวลาพอสมควรแก่เหตุ แล้วบอกกล่าวให้ฝ่ายโน้นใช้สิทธิเลือกภายในเวลาอันนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๐๑ ถ้าบุคคลภายนอกจะพึงเป็นผู้เลือก ท่านให้กระทําด้วยแสดงเจตนา
สํานักแก่ ลูกหนี้ และลูกหนี้จะต้กาองแจ้งความนัสํ้นานัแก่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี เจ้าหนี้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าบุคคลภายนอกนั้นไม่อาจจะเลือกได้ก็ดี หรือไม่เต็มใจจะเลือกก็ดี ท่านว่าสิทธิที่จะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เลือกตกไปอยู่แก่ฝ่ายลูกหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๐๒ ถ้าการอันจะพึงต้องทําเพื่อชําระหนี้นั้นมีหลายอย่าง และอย่างใด
อย่างหนึ่งตกเป็นสํอัานนัพ้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
นวิสัยจะทําได้มาแต่ต้นกก็า ดี หรือกลายเป็สํานันกพ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
นวิสัยในภายหลังก็ดี กท่าานให้จํากัด
หนี้นั้นไว้เพียงการชําระหนี้อย่างอื่นที่ไม่พ้นวิสัย อนึ่งการจํากัดอันนี้ย่อมไม่เกิดมีขึ้น หากว่าการชําระ
สํานักหนี ้กลายเป็นพ้นวิสัยเพราะพฤติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา การณ์อสําันนัใดอั นหนึ่งซึ่งฝ่ายที่ไม่มีสิทกธิาจะเลือกนั้นต้สํอางรันักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ผิดชอบ กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผลแห่งหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักการไม่ ชําระหนี้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๐๓ ถ้าเวลาอันจะพึงชําระหนี้นั้นมิได้กําหนดลงไว้ หรือจะอนุมานจาก
สํานักพฤติ การณ์ทั้งปวงก็ไม่ไกด้า ไซร้ ท่านว่าสํเจ้านัากหนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้ย่อมจะเรียกให้ชําระหนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ได้โดยพลัสํนานัและฝ่ ายลูกหนี้ก็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ย่อมจะชําระหนี้ของตนได้โดยพลันดุจกัน
สํถ้าานัได้ กําหนดเวลาไว้ แต่หากกรณี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เป็นที่สงสัสํายนักท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่
กา าเจ้าหนี้จะ
เรียกให้ชําระหนี้ก่อนถึงเวลานั้นหาได้ไม่ แต่ฝ่ายลูกหนี้จะชําระหนี้ก่อนกําหนดนั้นก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๐๔ ถ้าหนี้ถึงกําหนดชําระแล้วสํและภายหลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งแต่นั้นเจ้าหนี้ได้ให้คําเตือน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลูกหนี้แล้ว ลูกหนี้ยังไม่ชําระหนี้ไซร้ ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดเพราะเขาเตือนแล้ว
ถ้าได้กกําาหนดเวลาชําสํระหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ไว้ตามวันแห่งปฏิทิน และลู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กหนี้มิได้ชสํําาระหนี ้ตามกําหนด
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๔๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ไซร้ ท่านว่าลูกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดโดยมิพักต้องเตือนเลย วิธีเดียวกันนี้ท่านให้ใช้บังคับแก่กรณีที่ต้อง


สํานักบอกกล่ าวล่วงหน้าก่อนการชํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าระหนี้ ซึสํ่งาได้นักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําหนดเวลาลงไว้อาจคํากนวณนั
า บได้โดยปฏิ
สํานัทกินงานคณะกรรมการกฤษฎี
นับแต่วันที่ได้ กา
บอกกล่าว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๐๕ ตราบใดการชําระหนี้นั้นยังมิได้กระทําลงเพราะพฤติการณ์อันใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อันหนึ่งซึ่งลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบ ตราบนั้นลูกหนี้ยังหาได้ชื่อว่าผิดนัดไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๐๖ ในกรณีหนี้อันเกิดแต่มูลละเมิด ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดมาแต่เวลาที่ทํา
สํานักละเมิ ด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๐๗ ถ้าลูกหนี้ขอปฏิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บัติการชําสํระหนี ้ และเจ้าหนี้ไม่รับชํากระหนี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้นั้นโดย
ปราศจากมูลเหตุอันจะอ้างกฎหมายได้ไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๐๘ การชําระหนี้จะให้สําเร็จผลเป็นอย่างใด ลูกหนี้จะต้องขอปฏิบัติการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ชําระหนี้ต่อเจ้าหนี้เป็นอย่างนั้นโดยตรง
แต่ถ้าเจ้าหนี้ได้แสดงแก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลูกหนี้ว่า จะไม่รับชําระหนี้ก็ดี หรือเพื่อทีสํา่จนัะชํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าระหนี้จําเป็น
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่เจ้าหนี้จะต้องกระทําการอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนก็ดี ลูกหนี้จะบอกกล่าวแก่เจ้าหนี้ว่าได้เตรียมการที่
จะชําระหนี้ไว้พร้สํอามเสร็ จแล้ว ให้เจ้าหนี้รับชํกาาระหนี้นั้น เท่สําานีนั้กก็นงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ับว่าเป็นการเพียงพอแล้
กา ว ในกรณี
เช่นนี้ท่านว่าคําบอกกล่าวของลูกหนี้นั้นก็เสมอกับคําขอปฏิบัติการชําระหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๐๙ ถ้าได้กําหนดเวลาไว้เป็นแน่นอนเพื่อให้เจ้าหนี้กระทําการอันใดท่านว่า
ที่จะขอปฏิบัติการชํ
สํานัาระหนี ้นั้นจะต้องทําก็แต่เกมืา่อเจ้าหนี้ทําการอั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้นภายในเวลากําหนดกา

มาตรากา๒๑๐ ถ้าลูกสํหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านั้จกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
ต้องชําระหนี้ส่วนของตนต่
กา อเมื่อเจ้าหนี
สํา้ชนัํากระหนี ้ตอบแทน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ด้วยไซร้ แม้ถึงว่าเจ้าหนี้จะได้เตรียมพร้อมที่จะรับชําระหนี้ตามที่ลูกหนี้ขอปฏิบัตินั้นแล้วก็ดี หากไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เสนอที่จะทําการชําระหนี้ตอบแทนตามที่จะพึงต้องทํา เจ้าหนี้ก็เป็นอันได้ชื่อว่าผิดนัด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๑๑ ในเวลาที่ลูกหนี้ขอปฏิบัติการชําระหนี้นั้นก็ดี หรือในเวลาที่กําหนดไว้
ให้เจ้าหนี้ทําการอย่
สํานัากงใดอย่ างหนึ่ง โดยกรณีกทาี่บัญญัติไว้ในมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี ๒๐๙ นั้นก็ดี ถ้าลูกกหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้มิได้อยู่ใน
ฐานะที่จะสามารถชําระหนี้ได้ไซร้ท่านว่าเจ้าหนี้ยังหาผิดนัดไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๑๒ ถ้ามิได้กําหนดเวลาชําระหนี้ไว้ก็ดี หรือถ้าลูกหนี้มีสิทธิที่จะชําระหนี้ได้
ก่อนเวลากําหนดก็ สําดนัี กการที ่เจ้าหนี้มีเหตุขัดข้อกงชั
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ่วคราวไม่อาจรั
สํานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชําระหนี้ที่เขาขอปฏิบกัตาิแก่ตนได้นั้น
หาทําให้เจ้าหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดไม่ เว้นแต่ลูกหนี้จะได้บอกกล่าวการชําระหนี้ไว้ล่วงหน้าโดยเวลาอัน
สํานักสมควร
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๑๓ ถ้าลูกหนี้ละเลยเสียไม่ชําระหนี้ของตน เจ้าหนี้จะร้องขอต่อศาลให้สั่ง
สํานักบังานคณะกรรมการกฤษฎี
งคับชําระหนี้ก็ได้ เว้นแต่
กา สภาพแห่งหนี
สํา้จนัะไม่ เปิดช่องให้ทําเช่นนั้นกได้า
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

เมื่อสภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้บังคับชําระหนี้ได้ ถ้าวัตถุแห่งหนี้เป็นอันให้กระทํา
สํานักการอั นหนึ่งอันใด เจ้าหนีกา้จะร้องขอต่อศาลให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สั่งบังคับให้บุคคลภายนอกกระทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าการอั
สํานันกนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นโดยให้ลูกหนี้ กา
เสียค่าใช้จ่ายให้ก็ได้ แต่ถ้าวัตถุแห่งหนี้เป็นอันให้กระทํานิติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งไซร้ ศาลจะสั่งให้
ถือเอาตามคําพิพสํากษาแทนการแสดงเจตนาของลู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กหนี้ก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนหนี้ซึ่งมีวัตถุเป็นอันจะให้งดเว้นการอันใด เจ้าหนี้จะเรียกร้องให้รื้อถอนการที่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กระทําลงแล้วนั้นโดยให้ลูกหนี้เสียค่าใช้จ่าย และให้จัดการอันควรเพื่อกาลภายหน้าด้วยก็ได้
สํอนึ
านั่งกบทบั ญญัติในวรรคทั้งหลายที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่กล่าวมาก่สําอนันนี ้ หากระทบกระทั่งถึงสิกทา ธิที่จะเรียก
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เอาค่าเสียหายไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๒๑๔ ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งมาตรา ๗๓๓ เจ้าหนี้มีสิทธิที่จะให้ชําระ
หนี้ของตนจากทรัสําพนัย์กสงานคณะกรรมการกฤษฎี
ินของลูกหนี้จนสิ้นเชิงการวมทั้งเงินและทรั พย์สินอื่น ๆ ซึ่งบุคคลภายนอกค้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าง
ชําระแก่ลูกหนี้ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๑๕ เมื่อลูกหนี้ไม่ชําระหนี้ให้ต้องตามความประสงค์อันแท้จริงแห่งมูลหนี้
ไซร้ เจ้าหนี้จะเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอัสํนาเกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดแต่การนั้นก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๑๖ ถ้าโดยเหตุผิดนัด การชําระหนี้กลายเป็นอันไร้ประโยชน์แก่เจ้าหนี้
เจ้าหนี้จะบอกปัดสํไม่านัรกับงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชําระหนี้ และจะเรียกเอาค่
กา าสินไหมทดแทนเพื ่อการไม่ชําระหนี้ก็ไกด้า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา ๒๑๗ ลู ก หนี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้ จกะต้ อ งรั บ ผิ ด ชอบในความเสี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ย หายบรรดาที ่ เ กิ ด แต่ ค วาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ประมาทเลินเล่อในระหว่างเวลาที่ตนผิดนัด ทั้งจะต้องรับผิดชอบในการที่การชําระหนี้กลายเป็นพ้น
วิสัยเพราะอุบัติเหตุ
สํานัอกันงานคณะกรรมการกฤษฎี
เกิดขึ้นในระหว่างเวลาที
กา ่ผิดนัดนั้นด้วสํยานัเว้กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่ความเสียหายนั้นถึกงาแม้ว่าตนจะ
ได้ชําระหนี้ทันเวลากําหนดก็คงจะต้องเกิดมีอยู่นั่นเอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๑๘ ถ้าการชําระหนี้กลายเป็นพ้นวิสัยจะทําได้เพราะพฤติการณ์อันใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อั น หนึ่ ง ซึ่ ง ลู ก หนี้ ต้อ งรั บ ผิ ด ชอบไซร้ ท่ า นว่ าลู ก หนี้ จ ะต้ อ งใช้ ค่ า สิน ไหมทดแทนให้ แ ก่ เ จ้า หนี้ เ พื่ อ
สํานักค่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าเสียหายอย่างใดๆ อันกเกิา ดแต่การไม่ชสํําาระหนี ้นั้น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่การชําระหนี้กลายเป็นพ้นวิสัยแต่เพียงบางส่วน ถ้าหากว่าส่วนที่ยังเป็นวิสัย
จะทําได้นั้นจะเป็สํนาอันันกไร้ ประโยชน์แก่เจ้าหนี้แกล้าว เจ้าหนี้จะไม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํายนัอมรั บชําระหนี้ส่วนที่ยังเป็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กานวิสัยจะทํา
ได้นั้นแล้ว และเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อการไม่ชําระหนี้เสียทั้งหมดทีเดียวก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๑๙ ถ้าการชําระหนี้กลายเป็นพ้นวิสัยเพราะพฤติการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่ง
เกิดขึ้นภายหลังทีสํ่ไาด้นักก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
หนี้ และซึ่งลูกหนี้ไม่ตก้อางรับผิดชอบนัสํา้นนัไซร้ ท่านว่าลูกหนี้เป็นอันกหลุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ดพ้นจาก
การชําระหนี้นั้น
ถ้าภายหลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งที่ได้ก่อหนี
สํา้ขนัึ้นกแล้ วนั้น ลูกหนี้กลายเป็กนา คนไม่สามารถจะชํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี าระหนี้ได้ไซร้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ท่านให้ถือเสมือนว่สําานัเป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
พฤติการณ์ที่ทําให้การชํ กา
าระหนี้ตกเป็สํนาอันันกพ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
นวิสัยฉะนั้น กา

มาตรา ๒๑๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ พุทธศักราช ๒๔๗๘กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๒๒๐ ลูกหนีสํ้ตา้อนังรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บผิดชอบในความผิดของตั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วแทนแห่งสํตนกั
านักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทั้งของบุคคล กา
ที่ตนใช้ในการชําระหนี้นั้นโดยขนาดเสมอกับว่าเป็นความผิดของตนเองฉะนั้น แต่บทบัญญัติแห่ง
มาตรา ๓๗๓ หาใช้สําบนัังกคังานคณะกรรมการกฤษฎี
บแก่กรณีเช่นนี้ด้วยไม่กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๒๒๑ หนี้เงินอันต้องเสียดอกเบี้ยนั้น ท่านว่าจะคิดดอกเบี้ยในระหว่างที่
เจ้าหนี้ผิดนัดหาได้สํไาม่นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๒๒๒ การเรีสํยานักเอาค่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าเสียหายนั้น ได้แก่กเารียกค่าสินไหมทดแทนเพื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ่อความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นแต่การไม่ชําระหนี้นั้น
สํเจ้านัากหนี ้ จ ะเรี ย กค่ า สิ น ไหมทดแทนได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา แม้
สํานักกระทั ่ ง เพื่ อ ความเสี ย หายอั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา น เกิ ด แต่
พฤติ ก ารณ์ พิ เ ศษ หากว่ า คู่ ก รณี ที่ เ กี่ ย วข้ อ งได้ ค าดเห็ น หรื อ ควรจะได้ ค าดเห็ น พฤติ ก ารณ์ เ ช่ น นั้ น
สํานักล่งานคณะกรรมการกฤษฎี
วงหน้าก่อนแล้ว กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๒๓ ถ้าฝ่ายผู้เสียหายได้มีส่วนทํ าความผิดอย่างใดอย่างหนึ่งก่อให้เกิด
ความเสียหายด้วยไซร้ ท่านว่าหนี้อันจะต้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
องใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ฝ่ายผู้เสียหายมากน้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อยเพียงใดนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ต้องอาศัยพฤติการณ์เป็นประมาณ ข้อสําคัญก็คือว่าความเสียหายนั้นได้เกิดขึ้นเพราะฝ่ายไหนเป็นผู้ก่อ
ยิ่งหย่อนกว่ากันเพีสํายนังไร
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วิธีเดียวกันนี้ ท่านให้ใช้แม้ทั้งที่ความผิดของฝ่ายผู้ที่เสียหายจะมีแต่เพียงละเลยไม่
สํานักเตืงานคณะกรรมการกฤษฎี
อนลูกหนี้ให้รู้สึกถึงอักนา ตรายแห่งการเสี
สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
หายอันเป็นอย่างร้ายแรงผิ
กา ดปกติ ซึสํ่ งาลูนักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หนี้ไม่รู้หรือไม่ กา
อาจจะรู้ได้ หรือเพียงแต่ละเลยไม่บําบัดปัดป้อง หรือบรรเทาความเสียหายนั้นด้วย อนึ่งบทบัญญัติ
แห่งมาตรา ๒๒๐สํนัานั้นกท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านให้นํามาใช้บังคับด้วกยโดยอนุ
า โลม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๒๒๔ หนี้เงินสํนัานั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ท่านให้คิดดอกเบี้ยในระหว่
กา างเวลาผิดสํนัาดนัร้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
ยละเจ็ดกึ่งต่อ กา
ปี ถ้าเจ้าหนี้อาจจะเรียกดอกเบี้ยได้สูงกว่านั้นโดยอาศัยเหตุอย่างอื่นอันชอบด้วยกฎหมาย ก็ให้คงส่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดอกเบี้ยต่อไปตามนั้น
ท่านห้กาามมิให้คิดดอกเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้ยกซ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
อนดอกเบี้ยในระหว่างผิกาดนัด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การพิสูจน์ค่าเสียหายอย่างอื่นนอกกว่านั้น ท่านอนุญาตให้พิสูจน์ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๒๕ ถ้าลูกหนี้จําต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อราคาวัตถุอันได้เสื่อมเสียไป
สํานักระหว่ างผิดนัดก็ดี หรือกวัตา ถุอันไม่อาจส่สํงามอบได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี เพราะเหตุอย่างใดอย่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา างหนึ่งอันเกิดสํขึานั้นกระหว่ างผิดนัดก็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ดี ท่านว่าเจ้าหนี้จะเรียกดอกเบี้ยในจํานวนที่จะต้องใช้เป็นค่าสินไหมทดแทน คิดตั้งแต่เวลาอันเป็น
ฐานที่ตั้งแห่งการกะประมาณราคานั ้นก็ได้ วิกธาีเดียวกันนี้ท่าสํนให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ช้ตลอดถึงการที่ลูกหนีก้จา ําต้องใช้ค่า
สินไหมทดแทนเพื่อการที่ราคาวัตถุตกต่ําเพราะวัตถุนั้นเสื่อมเสียลงในระหว่างเวลาที่ผิดนัดนั้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รับช่วงสิทธิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๒๒๖ บุคคลผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้รกับงานคณะกรรมการกฤษฎี
ช่วงสิทธิของเจ้าหนี้ กชอบที
า ่ จะใช้สิทสํธิาทนัั้งกหลายบรรดาที ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เจ้าหนี้มีอยู่โดยมูลหนี้ รวมทั้งประกันแห่งหนี้นั้นได้ในนามของตนเอง
สํช่าวนังทรั พย์ ได้แก่เอาทรัพย์สกินา อันหนึ่งเข้าแทนที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ทรัพย์สินอีกอันหนึ่ง ในฐานะนิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ตินัย
อย่างเดียวกันกับทรัพย์สินอันก่อน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๒๗ เมื่อเจ้าหนี้ได้กราับค่าสินไหมทดแทนความเสี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยหายเต็มตามราคาทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พย์
หรือสิทธิซึ่งเป็นวัตถุแห่งหนี้นั้นแล้ว ท่านว่าลูกหนี้ย่อมเข้าสู่ฐานะเป็นผู้รับช่วงสิทธิของเจ้าหนี้อัน
สํานักเกีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ยวกับทรัพย์หรือสิทธินกาั้น ๆ ด้วยอํานาจกฎหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๒๘ ถ้าพฤติการณ์


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ซึ่ ง ทํ า ให้ ก ารชํ
สํานัากระหนี ้เป็นอั นพ้นวิสัยนัก้นา เป็นผลให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ลูกหนี้ได้มาซึ่งของแทนก็ดี หรือได้สิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพื่อทรัพย์อันจะพึงได้แก่ตนนั้นก็ดี
สํานักท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านว่าเจ้าหนี้จะเรียกให้กสา่งมอบของแทนที
สํานัก่ได้งานคณะกรรมการกฤษฎี
รับไว้หรือจะเข้าเรียกเอาค่
กา าสินไหมทดแทนเสี ยเองก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ถ้าเจ้าหนี้มีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพราะการไม่ชําระหนี้ และถ้าใช้สิทธินั้น
ดังได้ระบุไว้ในวรรคต้นไซร้ ค่าสินไหมทดแทนอันจะพึงใช้แสํก่านัเจ้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กา
หนี้นั้นย่อมลดจํานวนลงเพี ยงเสมอ
ราคาแห่งของแทนซึ่งลูกหนี้ได้รับไว้ หรืสํอาเสมอจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
านวนค่าสินไหมทดแทนที่ลูกหนี้จะเรี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยกร้องได้นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๒๙ การรับช่วงสิกทา ธิย่อมมีขึ้นด้สํวายอํ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านาจกฎหมาย และย่อกมสํ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าเร็จเป็น
ประโยชน์แก่บุคคลดังจะกล่าวต่อไปนี้ คือ
(๑) บุกคาคลซึ่งเป็นเจ้าสํหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัก้องานคณะกรรมการกฤษฎี
ยู่เอง และมาใช้หนี้ให้แกก่าเจ้าหนี้อีกคนหนึ สํานั่งกผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้มีสิทธิจะได้รับ กา
ใช้หนี้ก่อนตน เพราะเขามีบุริมสิทธิ หรือมีสิทธิจํานําจํานอง
สํ(๒) บุคคลผู้ได้ไปซึ่งอสังหาริ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กามทรัพย์ใด และเอาเงิ นราคาค่าซื้อใช้ให้แกก่าผู้รับจํานอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรัพย์นั้นเสร็จไป
(๓) บุกคาคลผู้มีความผูสํกานัพักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ร่วมกับผู้อื่น หรือเพื่อผูก้อา ื่นในอันจะต้อสํงใช้
านักหงานคณะกรรมการกฤษฎี
นี้มีส่วนได้เสีย กา
ด้วยในการใช้หนี้นั้น และเข้าใช้หนี้นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๒๓๐ ถ้าในการที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก่เงานคณะกรรมการกฤษฎี
จ้าหนี้นําบังคับยึดทรัพกย์าอันหนึ่งอันใดของลู กหนี้นั้นบุคคล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้ใดจะต้องเสี่ยงภัยเสียสิทธิในทรัพย์อันนั้นเพราะการบังคับยึดทรัพย์ไซร้ ท่านว่าบุคคลผู้นั้นมีสิทธิจะ
เข้าใช้หนี้เสียแทนได้ อนึ่งผู้ครองทรัพย์อันหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งอันใด ถ้าจะต้
สํานัอกงเสี ่ยงภัยเสียสิทธิครองทรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา พย์นั้นไป
เพราะการบังคับยึดทรัพย์ ก็ย่อมมีสิทธิจะทําได้เช่นเดียวกับที่ว่ามานั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีถ้าบุคกคลภายนอกผู
า ้ใสํดมาใช้ หนี้แทนจนเป็นที่พอใจของเจ้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าหนี้แสํล้านัวกบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
คคลผู้นั้นย่อม กา
เข้ารับช่วงสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้ แต่สิทธิเรียกร้องอันนี้จะบังคับให้เป็นที่เสื่อมเสียแก่เจ้าหนี้หาได้
ไม่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๒๓๑ ถ้าทรัสํพาย์นัสกินงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ที่จํานอง จํานํา หรืออยู
กา่ในบังคับบุริมสํสิาทนักธิปงานคณะกรรมการกฤษฎี
ระการอื่นนั้น กา
เป็นทรัพย์อันได้เอาประกั นภัยไว้ไซร้ ท่านว่าสิทธิจํานอง จํานํสําานัหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อบุริมสิทธิอย่างอื่นนั้นย่อมครอบไป
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถึงสิทธิที่จะเรียกร้องเอาแก่ผู้รับประกันภัยด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีในกรณีกาที่เป็นอสั งหาริ
สํานัมกทรั พย์ ถ้าผู้รับประกันภักยา ได้รู้ หรือควรจะได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี รู้ว่ามีจํานอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๔๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

หรือบุริมสิทธิอย่างอื่น ท่านยังมิให้ผู้รับประกันภัยใช้เงินให้แก่ผู้เอาประกันภัย จนกว่าจะได้บอกกล่าว


สํานักเจตนาเช่ นนั้นไปยังผู้รับกจําานองหรือเจ้าสํหนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี านัก้มงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีบุริมสิทธิคนอื่นแล้ว และมิ กา ได้รับคําคัดสํค้านัานการที ่จะใช้เงิน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นั้นมาภายในเดือนหนึ่งนับแต่วันบอกกล่าว แต่สิทธิอย่างใด ๆ ที่ได้ไปจดทะเบียน ณ หอทะเบียนที่ดิน
นั้น ท่านให้ถือว่าสํเป็านันกอังานคณะกรรมการกฤษฎี
นรู้ถึงผู้รับประกันภัย วิกธาีเดียวกันนี้ท่าสํนให้
านักใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ช้ตลอดถึงการจํานองสักงาหาริมทรัพย์
ที่กฎหมายอนุญาตให้ทําได้นั้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่เป็นสังหาริมทรัพย์ ผู้รับประกันภัยจะใช้เงินให้แก่ผู้เอาประกันภัยโดยตรงก็
ได้ เว้นแต่ตนจะได้สํารนัู้หกรืงานคณะกรรมการกฤษฎี
อควรจะได้รู้ว่าทรัพย์นกั้นาตกอยู่ในบังคัสํบาจํนัากนํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหรือบุริมสิทธิอย่างอื่นกา
ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้ ถ้าทรัพย์สินอันได้เอาประกันภัยไว้นั้นได้คืน
สํานักมา หรือได้จัดของแทนให้กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วิธีเดียวกันนี้ท่านให้อนุโลมใช้บังคับแก่กรณีบังคับซื้อ กับทั้งกรณีที่ต้องใช้ค่าเสียหาย
อันควรจะได้แก่เจ้สําาของทรั พย์สิน เพราะเหตุทกรัาพย์สินทําลายหรื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
บสลายนั้นด้วย กา

มาตรากา๒๓๒ ถ้าตามความในมาตราก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อนนี้เป็นอักนา ว่าจะเอาเงินสํจําานันวนหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่งให้แทน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทรัพย์สินที่ทําลายหรือบุบสลายไซร้ เงินจํานวนนี้ท่านยังมิให้ส่งมอบแก่ผู้รับจํานอง ผู้รับจํานํา หรือ
เจ้าหนี้มีบุริมสิทธิสํคานันอืกงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
่น ก่อนที่หนี้ซึ่งได้เอาทรั สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พย์นี้เป็นประกั นไว้นั้นจะถึงกําหนด และถ้าคู่กรณีไม่
สามารถจะตกลงกับลูกหนี้ได้ไซร้ท่านว่สําาต่นัากงฝ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ายต่างมีสิทธิที่จะเรียกร้องให้นําเงินสํจําานันวนนั
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้นไปวางไว้
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ณ สํานักงานวางทรัพย์เพื่อประโยชน์อันร่วมกัน เว้นแต่ลูกหนี้จะหาประกันให้ไว้ตามสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา การใช้
สํานัสกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๓๓ ถ้าลูกหนี้ขัดขืนไม่ยอมใช้สิทธิเรียกร้อง หรือเพิกเฉยเสียไม่ใช้สิทธิ
สํานักเรีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยกร้อง เป็นเหตุให้เจ้กาาหนี้ต้องเสียประโยชน์ ไซร้ ท่านว่าเจ้าหนีก้จาะใช้สิทธิเรียกร้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกงนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นในนามของ กา
ตนเอง แทนลูกหนี้เพื่อป้องกันสิทธิของตนในมูลหนี้นั้นก็ได้ เว้นแต่ในข้อที่เป็นการของลูกหนี้ส่วนตัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยแท้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๓๔ เจ้าหนี้ผู้ใช้สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้นั้นจะต้องขอหมายเรียกลูกหนี้มา
ในคดีนั้นด้วย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๒๓๕ เจ้าหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํา้จนักะใช้ สิทธิเรียกร้องของลูกกาหนี้เรียกเงินเต็
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํามนัจํกงานคณะกรรมการกฤษฎี
านวนที่ยังค้าง กา
ชําระแก่ลูกหนี้ โดยไม่ต้องคํานึงถึงจํานวนที่ค้างชําระแก่ตนก็ได้ ถ้าจําเลยยอมใช้เงินเพียงเท่าจํานวนที่
ลูกหนี้เดิมค้างชําสํระแก่ เจ้าหนี้นั้น คดีก็เป็นเสร็กาจกันไป แต่ถ้สําลูานักกหนี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้เดิมได้เข้าชื่อเป็นโจทก์
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ด้วยลูกหนี้
เดิมจะขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาต่อไปในส่วนจํานวนเงินที่ยังเหลือติดค้างอยู่ก็ได้
แต่อย่กาางไรก็ดี ท่านมิสํให้านัเจ้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หนี้ได้รับมากไปกว่าจํากนวนที
า ่ค้างชําระแก่ สํานักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
นนั้นเลย กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๓๖ จําเลยมีข้อต่อสู้ลูกหนี้เดิมอยู่อย่างใด ๆ ท่านว่าจะยกขึ้นต่อสู้เจ้าหนี้
สํานักได้ ทั้งนั้น เว้นแต่ข้อต่อสูก้ซาึ่งเกิดขึ้นเมื่อยืสํ่นาฟ้นัอกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี งแล้ว กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่วนที่ ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เพิกถอนการฉ้อฉล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๒๓๗ เจ้าหนี้ชอบที่จะร้องขอให้ศาลเพิกถอนเสียได้ซึ่งนิติกรรมใด ๆ อัน
ลูกหนี้ได้กระทําลงทั
สํานั้งกรูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้อยู่ว่าจะเป็นทางให้เจ้ากหนี
า ้เสียเปรียบ สํแต่
านัคกวามข้ อนี้ท่านมิให้ใช้บังคักบา ถ้าปรากฏ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ว่าในขณะที่ทํานิติกรรมนั้น บุคคลซึ่งเป็นผู้ได้ลาภงอกแต่การนั้นมิได้รู้เท่าถึงข้อความจริงอันเป็นทาง
สํานักให้ เจ้าหนี้ต้องเสียเปรียบนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นด้วย แต่หสํากกรณี เป็นการทําให้โดยเสน่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาหา ท่านว่าเพีสํยานังแต่ ลูกหนี้เป็นผู้รู้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ฝ่ายเดียวเท่านั้นก็พอแล้วที่จะขอเพิกถอนได้
สํบทบั ญญัติดังกล่าวมาในวรรคก่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อนนี้ ท่านมิ สําในัห้กใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ช้บังคับแก่นิติกรรมใดอักานมิได้มีวัตถุ
เป็นสิทธิในทรัพย์สิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๓๘ การเพิกถอนดังกล่าวมาในบทมาตราก่อนนั้นไม่อาจกระทบกระทั่งถึง
สิทธิของบุคคลภายนอก อันได้มาโดยสุจริตก่อนเริ่มฟ้องคดีขสํอเพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กถอน
อนึ่งความที่กล่าวมาในวรรคก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนนี้ ท่านมิให้ใช้บังคับ ถ้าสิทธินั้นได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาโดยเสน่หา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๓๙ การเพิกถอนนักา้นย่อมได้เป็นประโยชน์


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี แก่เจ้าหนี้หมดทุกคน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๒๔๐ การเรีสํยากร้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งขอเพิกถอนนั้น ท่านห้
กา ามมิให้ฟ้องร้สํอางเมื ่อพ้นปีหนึ่งนับ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แต่เวลาที่เจ้าหนี้ได้รู้ต้นเหตุอันเป็นมูลให้เพิกถอน หรือพ้นสิบปีนับแต่ได้ทํานิติกรรมนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สิทธิยึดหน่วง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๒๔๑ ผู้ใดเป็สํนานัผูก้คงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี รองทรัพย์สินของผู้อื่นกาและมีหนี้อันเป็สํานนัคุกณงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประโยชน์แก่ กา
ตนเกี่ยวด้วยทรัพย์สินซึ่งครองนั้นไซร้ ท่านว่าผู้นั้นจะยึดหน่วงทรัพย์สินนั้นไว้จนกว่าจะได้ชําระหนี้ก็
ได้ แต่ความที่กล่สําาวนี
นัก้ทงานคณะกรรมการกฤษฎี
่านมิให้ใช้บังคับ เมื่อหนี
กา้นั้นยังไม่ถึงกําสํหนด
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่งบทบัญญัติในวรรคก่อนนี้ ท่านมิให้ใช้บังคับ ถ้าการที่เข้าครอบครองนั้นเริ่มมา
สํานักแต่ ทําการอันใดอันหนึ่งซึก่งาไม่ชอบด้วยกฎหมาย
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๔๒ สิทธิยึดหน่วงอั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กานใด ถ้าไม่สมกั
สํานับกลังานคณะกรรมการกฤษฎี
กษณะที่เจ้าหนี้รับภาระในมู
กา ลหนี้ก็ดี
ไม่สมกับคําสั่งอันลูกหนี้ได้ให้ไว้ก่อน หรือให้ในเวลาที่ส่งมอบทรัพย์สินนั้นก็ดี หรือเป็นการขัดกับความ
สํานักสงบเรี ยบร้อยของประชาชนก็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดี สิทธิยึดสํหน่
านักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
งเช่นนั้นท่านให้ถือว่าหามี
กา ไม่เลย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๔๓ ในกรณีที่ลูกหนี้เป็นคนสินล้นพ้นตัวไม่สามารถใช้หนี้ เจ้าหนี้มีสิทธิจะ
สํานักยึงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดหน่วงทรัพย์สินไว้ได้ กแม้า ทั้งที่ยังไม่ถึงสํกําานัหนดเรี ยกร้อง ถ้าการที่ลกูกาหนี้ไม่สามารถใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัหกนีงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นั้นได้เกิดเป็น กา
- ๔๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ขึ้นหรือรู้ถึงเจ้าหนี้ต่อภายหลังเวลาที่ได้ส่งมอบทรัพย์สินไซร้ ถึงแม้ว่าจะไม่สมกับลักษณะที่เจ้าหนี้
สํานักรังานคณะกรรมการกฤษฎี
บภาระในมูลหนี้ไว้เดิมกหรื
า อไม่สมกับคํสําาสันั่งกอังานคณะกรรมการกฤษฎี
นลูกหนี้ได้ให้ไว้ก็ดี เจ้ากหนี
า ้ก็อาจจะใช้สํสาิทนัธิกยงานคณะกรรมการกฤษฎี
ึดหน่วงได้ กา

สํมาตรา ๒๔๔ ผู้ทรงสิทธิยึดกหน่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า วงจะใช้สิทสํธิาขนัองตนแก่ ทรัพย์สินทั้งหมดที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ยึดหน่วงไว้
นั้นจนกว่าจะชําระหนี้สิ้นเชิงก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๔๕ ผู้ทรงสิทธิยกึดาหน่วงจะเก็บสํดอกผลแห่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี งทรัพย์สินที่ยึดหน่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วงไว้ และ
จัดสรรเอาไว้เพื่อการชําระหนี้แก่ตนก่อนเจ้าหนี้คนอื่นก็ได้
ดอกผลเช่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นว่านี้จะต้สํอางจั
นักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
สรรเอาชําระดอกเบี้ยกแห่
า งหนี้นั้นก่อนสําถ้นัากยังานคณะกรรมการกฤษฎี
งมีเหลือจึงให้ กา
จัดสรรใช้ต้นเงิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๔๖ ผู้ทรงสิทธิยึดหน่วงจําต้องจัดการดูแลรักษาทรัพย์สินที่ยึดหน่วงไว้นั้น
สํานักตามสมควร เช่นจะพึงคาดหมายได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา จากบุ
สํานัคกคลในฐานะเช่ นนั้น กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่งทรัพย์สินซึ่งยึดหน่วงไว้นั้น ถ้ามิได้รับความยินยอมของลูกหนี้ ท่านว่าผู้ทรงสิทธิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยึดหน่วงหาอาจจะใช้สอยหรือให้เช่า หรือเอาไปทําเป็นหลักประกั นได้ไม่ แต่ความที่กล่าวนี้ท่านมิให้ใช้
บังคับไปถึงการใช้สอยเช่นที่จําเป็นเพื่อสํจะรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กษาทรัพย์สินนั้นเอง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าผู้ทรงสิทธิยึดหน่วงกระทําการฝ่าฝืนบทบัญญัติใดที่กล่าวมานี้ ท่านว่าลูกหนี้จะ
เรียกร้องให้ระงับสํสิาทนัธิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ั้นเสียก็ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๒๔๗ ถ้าผู้ทสํารงสิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ทธิยึดหน่วงต้องเสียค่กาาใช้จ่ายไปตามที
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่ จกํ างานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นเกี่ยวด้วย กา
ทรัพย์สินอันตนยึดหน่วงไว้นั้นเพียงใด จะเรียกให้เจ้าทรัพย์ชดใช้ให้ก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๔๘๓ ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติมาตรา ๑๙๓/๒๗ การใช้สิทธิยึดหน่วง
สํานักหาทํ าให้อายุความแห่งหนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้สะดุดหยุดลงไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๔๙ ลูกหนี้จะเรียกร้ องให้ระงับสิทธิยึดหน่วงด้วยหาประกันให้ไว้ตาม
สํานักสมควรก็ ได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๕๐ การครองทรักพา ย์สินสูญสิ้นไป


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัสิกทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธิยึดหน่วงก็เป็นอันระงักาบสิ้นไปด้วย
แต่ความที่กล่าวนี้ท่านมิให้ใช้บังคับแก่กรณีที่ทรัพย์สินอันยึดหน่วงไว้นั้นได้ให้เช่าไปหรือจํานําไว้ด้วย
สํานักความยิ นยอมของลูกหนีก้ า
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่วนที่ ๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บุริมสิทธิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๒๔๘ แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม โดย พระราชบั ญ ญั ติ ใ ห้ ใ ช้ บ ทบั ญ ญั ติ บ รรพ ๑ แห่ ง ประมวล
สํานักกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี
งและพาณิชย์ทกี่ไาด้ตรวจชําระใหม่สําพ.ศ.
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๕๓๕ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๕๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๒๕๑ ผู้ทรงบุริมสิทธิย่อมทรงไว้ซึ่งสิทธิเหนือทรัพย์สินของลูกหนี้ในการที่จะ


สํานักได้ รับชําระหนี้อันค้างชํากระแก่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ตน จากทรั
สํานัพกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์สินนั้นก่อนเจ้าหนี้อื่นกาๆ โดยนัยดังบัสํญานัญักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิไว้ในประมวล กา
กฎหมายนี้ หรือบทกฎหมายอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๕๒ บทบัญญัติแห่งมาตรา ๒๔๔ นั้น ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงบุริมสิทธิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ด้วยตามแต่กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑. บุริมสิทธิสามัญ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๒๕๓ ถ้าหนี้มีอยู่เป็นคุณแก่บุคคลผู้ใดในมูลอย่างหนึ่งอย่างใดดังจะกล่าว
ต่อไปนี้ บุคคลผู้นสํั้นาย่นัอกมมี บุริมสิทธิเหนือทรัพย์กสา ินทั้งหมดของลู
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักกหนี ้ คือ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๑) ค่าใช้จ่ายเพื่อประโยชน์อันร่วมกัน
(๒) ค่กาาปลงศพ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ค่าภาษีอากร และเงินที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเพื่อการงานที่ได้ทําให้แก่ลูกหนี้ซึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นนายจ้าง
(๔) ค่าเครื่องอุปโภคบริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โภคอันจําเป็นประจําวัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๕๔ บุริมสิทธิในมู


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาลค่าใช้จ่ายเพืสํ่าอนัประโยชน์ อันร่วมกันนั้นใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาสําหรับเอา
ค่าใช้จ่ายอันได้เสียไปเพื่อประโยชน์ของเจ้าหนี้หมดทุกคนร่วมกัน เกี่ยวด้วยการรักษา การชําระบัญชี
สํานักหรื อการเฉลี่ยทรัพย์สินของลู
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กหนี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าค่าใช้จ่ายนั้นมิได้เสียไป เพื่อประโยชน์ของเจ้าหนี้หมดทุกคนไซร้บุริมสิทธิย่อมจะ
ใช้ได้แต่เฉพาะต่อสํเจ้านัากหนี ้ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๒๕๕ บุริมสิสํทานัธิกในมู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ลค่าปลงศพนั้น ใช้สกําาหรับเอาค่าใช้สํจานั่ากยในการปลงศพ
งานคณะกรรมการกฤษฎี งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามควรแก่ฐานานุรูปของลูกหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๒๕๖ บุริมสิสํทาธินัใกนมู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ลค่าภาษีอากรนั้น ใช้กาสําหรับเอาบรรดาค่
งานคณะกรรมการกฤษฎี าภาษีอากรใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ที่ดิน ทรัพย์สิน หรือค่าภาษีอากรอย่างอื่นที่ลูกหนี้ยังค้างชําระอยู่ในปีปัจจุบันและก่อนนั้นขึ้นไปอีกปี
หนึ่ง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๒๕๗ บุริมสํสิาทนัธิกใงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นเงินที่ลูกจ้างมีสิทธิได้กราับเพื่อการงานที
สํานั่ได้กทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําให้แก่ลูกหนี้ กา
ซึ่งเป็ นนายจ้างนั้น ให้ ใช้ สํ าหรั บค่ าจ้ าง ค่ าล่วงเวลา ค่ าทํางานในวันหยุด ค่าล่ วงเวลาในวั นหยุด
ค่าชดเชย ค่าชดเชยพิ
สํานักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
ศษ และเงินอื่นใดที่ลูกกจ้าางมีสิทธิได้รับสํเพื
านั่อกการงานที ่ได้ทําให้ นับถอยหลั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งขึ้นไป
สี่เดือน แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกินหนึ่งแสนบาทต่อลูกจ้างคนหนึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๒๕๓ แก้ไ ขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไ ขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๔๑

มาตรา ๒๕๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไ ขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ.ก๒๕๔๑
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๕๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๒๕๘ บุริมสํสิาทนัธิกใงานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นมูลค่าเครื่องอุปโภคบริ
กา โภคอั นจํ าเป็
สํานนัประจํ าวันนั้นใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สําหรับเอาค่าเครื่องอุ ปโภคบริโภค ซึ่งยังค้ างชําระอยู่นับถอยหลังขึ้นไปหกเดือน เช่น ค่าอาหาร
เครื่องดื่ม โคมไฟสํฟืานันกถ่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าน อันจําเป็นเพื่อการทรงชี
กา พของลูกหนี
สํานั้ กและบุ คคลในสกุลซึ่งอยู่กกัาบลูกหนี้และ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ซึ่งลูกหนี้จําต้องอุปการะกับทั้งคนใช้ของลูกหนี้ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒. กบุาริมสิทธิพิเศษสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(ก) บุริมสิทธิเหนือสังหาริมทรัพย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๕๙ ถ้าหนี้มีอยู่เป็นคุณแก่บุคคลผู้ใดในมูลอย่างหนึ่งอย่างใดดังจะกล่าว
ต่อไปนี้ บุคคลผู้นสํั้นาย่นัอกมมี บุริมสิทธิเหนือสังหาริกามทรัพย์เฉพาะอย่
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
งของลูกหนี้ คือ กา
(๑) เช่าอสังหาริมทรัพย์
(๒) พักกาอาศัยในโรงแรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) รับขนคนโดยสาร หรือของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) รักษาสังหาริมทรัพย์
(๕) ซื้อขายสังหาริมทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) ค่าเมล็ดพันธุ์ ไม้พันธุ์ หรือปุ๋ย
สํ(๗) ค่าแรงงานกสิกรรม หรืกอาอุตสาหกรรมสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา ๒๖๐ บุ ริ มสําสินัทกธิงานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ใ นมู ล เช่ า อสั ง หาริ มกทรั
า พ ย์ นั้ น ใช้สํสาํ านัหรั บ เอาค่ า เช่ า
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ แ ละหนี้ อ ย่ า งอื่ น ของผู้ เ ช่ า อั น เกิ ด จากความเกี่ ย วพั น ในเรื่ อ งเช่ า และมี อ ยู่ เ หนื อ
สังหาริมทรัพย์ของผู สํานั้เกช่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าซึ่งอยู่ในหรือบนอสังหาริ กา มทรัพย์นั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๒๖๑ บุริมสิสํทานัธิขกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี องผู้ให้เช่าที่ดินนั้นมีอยูก่เาหนือสังหาริมสํทรัานัพกย์งานคณะกรรมการกฤษฎี
ทั้งหลายอันผู้ กา
เช่าได้นําเข้ามาไว้บนที่ดินที่ให้เช่า หรือนําเข้ามาไว้ในเรือนโรงอันใช้ประกอบกับที่ดินนั้น และมีอยู่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เหนื อ สั ง หาริ ม ทรั พ ย์ เ ช่ น สํ า หรั บ ที่ ใ ช้ ใ นที่ ดิ น นั้ น กั บ ทั้ ง เหนื อ ดอกผลอั น เกิ ด จากที่ ดิ น ซึ่ ง อยู่ ใ น
สํานักครอบครองของผู
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้เช่านั้นกด้าวย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บุริมสิทธิของผู้ให้เช่าเรือนโรงย่อมมีอยู่เหนือสังหาริมทรัพย์ซึ่งผู้เช่านําเข้ามาไว้ใน
เรือนโรงนั้นด้วย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๒๖๒ ถ้าการเช่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากอสั งหาริมทรัพย์ได้โอนไปก็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดี หรือได้ให้เสํช่าานัช่กวงานคณะกรรมการกฤษฎี
งก็ดี บุริมสิทธิ กา
ของผู้ให้เช่าเดิมย่อมครอบไปถึงสังหาริมทรัพย์ซึ่งผู้รับโอน หรือผู้เช่าช่วงได้นําเข้ามาไว้ในทรัพย์สินนั้น
ด้วย ความที่กล่าสํวนีานั้ทก่างานคณะกรรมการกฤษฎี
นให้ใช้ได้ตลอดถึงเงินกอัานผู้โอน หรือผูสํ้ใาห้นัเกช่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าช่วงจะพึงได้รับจากผูก้ราับโอนหรือผู้
เช่าช่วงนั้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๖๓ ในกรณีที่ผู้เช่าต้องชําระบัญสําชีนัเกฉลีงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ยทรัพย์สินทั่วไปนั้น กบุาริมสิทธิของ
ผู้ให้เช่าย่อมมีอยู่แต่เฉพาะสําหรับเอาใช้ค่าเช่า และหนี้อย่างอื่นเท่าที่มีในระยะกําหนดส่งค่าเช่าเพียง
สํานักสามระยะ คือปัจจุบันระยะหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ง ก่อนนัสํ้นานัขึก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไประยะหนึ่ง และต่อไปภายหน้
กา าอีกระยะหนึ ่งเท่านั้นและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๕๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ใช้สําหรับเอาค่าเสียหายซึ่งเกิดขึ้นในระยะกําหนดส่งค่าเช่าปัจจุบัน และก่อนนั้นขึ้นไปอีกระยะหนึ่ง
สํานักด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
วย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๖๔ ในการเรียกร้กาองของผู้ให้เช่สําานัถ้กางานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ผู้ให้เช่าได้รับเงินประกักนา ไว้ ผู้ให้เช่า
ย่อมมีบุริมสิทธิแต่เพียงในส่วนที่ไม่มีเงินประกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๖๕ บุริมสิทธิในมูกลา พักอาศัยในโรงแรมนั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้น ใช้สําหรับเอาเงินกบรรดาที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่ ค้ า ง
ชําระแก่เจ้าสํานักเพื่อการพักอาศัยและการอื่น ๆ อันได้จัดให้สําเร็จความปรารถนาแก่คนเดินทางหรือ
สํานักแขกอาศั ย รวมทั้งการชดใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา เงินทั้งหลายที
สํานัก่ได้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ออกแทนไปและมีอยูก่เหนื
า อเครื่องเดินสํทาง หรือทรัพย์สิน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อย่างอื่นของคนเดินทาง หรือแขกอาศัยอันเอาไว้ในโรงแรม โฮเต็ล หรือสถานที่เช่นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๖๖ ผู้ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ หรือเจ้าสํานักโรงแรม โฮเต็ล หรือสถานที่
สํานักเช่งานคณะกรรมการกฤษฎี
นนั้น จะใช้บุริมสิทธิขกองตนบั
า งคับทํสําานองเดี ยวกับผู้รับจํานําก็ได้กาบทบัญญัติทั้งสํหลายแห่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี งประมวล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กฎหมายนี้ว่าด้วยการบังคับจํานํานั้น ท่านให้นํามาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๖๗ บุริมสิสํทาธินัใกนมู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลรับขนนั้น ใช้สําหรับเอาค่าระวางพาหนะในการรั
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บขน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คนโดยสารหรื อของ กับทั้งค่าใช้จ่ายอันเป็นอุปกรณ์ และเป็นบุริมสิ ทธิมี อยู่เหนือของและเครื่อง
เดินทางทั้งหมดอัสํนาอยู
นัก่ใงานคณะกรรมการกฤษฎี
นมือของผู้ขนส่ง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๒๖๘ ในกรณี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ั ง ได้ ป รารภไว้ ใ นความแปดมาตราก่
กา สําอนันนี ้ นั้ น ผู้ ใ ห้ เ ช่ า
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อสังหาริมทรัพย์ก็ดี เจ้าสํานักโรงแรมก็ดี หรือผู้ขนส่งก็ดี จะใช้บุริมสิทธิของตนเหนือสังหาริมทรัพย์
อันเป็นของบุคคลภายนอกก็ ได้ เว้นแต่ตนจะได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา รู้ใ นเวลาอัสํนานัควรรู ้ได้ว่าทรัพย์สินเหล่กาานั้นเป็นของ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
บุคคลภายนอก
ถ้าสังหาริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มทรัพย์นั้นสํถูากนักลังานคณะกรรมการกฤษฎี
กหรือสูญหาย ท่านให้กบาังคับตามบทกฎหมายว่ าด้วยการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แสวงคืนครองทรัพย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๒๖๙ บุริมสิสํทานัธิกในมู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ลรักษาสังหาริมทรัพกาย์นั้น ใช้สําหรัสํบานัเอาค่
งานคณะกรรมการกฤษฎี าใช้จ่ายเพื่อ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รักษาสังหาริมทรัพย์ และมีอยู่เหนือสังหาริมทรัพย์อันนั้น
สํอนึ
านั่งกบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ริมสิทธินี้ยังใช้สําหรับเอาค่
กา าใช้จ่ายที่จสํําานัเป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
อันได้เสียไปเพื่อที่จะสงวนสิ
กา ทธิหรือ
รับสภาพสิทธิ หรือบังคับสิทธิ อันเกี่ยวด้วยสังหาริมทรัพย์นั้นอีกด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๗๐ บุริมสิทธิในมูลซื้อขายสังหาริมทรัพย์นั้น ใช้สําหรับเอาราคาซื้อขาย
และดอกเบี้ยในราคานั ้น และมีอยู่เหนือสังหาริกมา ทรัพย์อันนั้นสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๒๗๑ บุริมสิสํทานัธิใกนมู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ลค่าเมล็ดพันธุ์ ไม้พกันาธุ์ หรือปุ๋ยนั้นสํใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี านัสกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
หรับเอาราคา กา
ค่าเมล็ดพันธุ์ ไม้สํพาันนัธุก์ งานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือปุ๋ย และดอกเบี้ยกในราคานั

้น และมี อยู่เหนือดอกผลอันเกิดงอกในที่ดิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เพราะใช้สิ่งเหล่านั้นภายในปีหนึ่งนับแต่เวลาที่ใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๕๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๒๗๒ บุริมสิทธิในมูลค่าแรงงานเพื่อกสิกรรมและอุตสาหกรรมนั้น ในส่วน


สํานักบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
คคลที่ได้ทําการงานกสิกกา รรม ใช้สําหรัสํบานัเอาค่ าจ้างนับถอยหลังขึ้นกไปปี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า หนึ่ง และในส่
สํานัวกนบุ คคลที่ได้ทํา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การงานอุตสาหกรรม ใช้สําหรับเอาค่าจ้างนับถอยหลังขึ้นไปสามเดือน และเป็นบุริมสิทธิมีอยู่เหนือ
ดอกผลหรือสิ่งของทีสํานั่ปกระดิ ษฐ์ขึ้นอันเกิดแต่แรงงานของบุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา คคลนั
สํานั้นกๆงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


(ข) บุรมิ สิทธิเหนืออสังหาริมทรัพย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๗๓ ถ้าหนี้มีอยู่เป็นคุณแก่บุคคลผู้ใดในมูลอย่างหนึ่งอย่างใดดังจะกล่าว
สํานักต่งานคณะกรรมการกฤษฎี
อไปนี้ บุคคลผู้นั้นย่อมมีกาบุริมสิทธิเหนืสํอาอสั
นักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
หาริมทรัพย์เฉพาะอย่ากงของลู
า กหนี้ คือสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) รักษาอสังหาริมทรัพย์
สํ(๒) จ้างทําของเป็นการงานทํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาาขึ้นบนอสังหาริ
สํานัมกทรั พย์
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๓) ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๗๔ บุริมสิทธิในมูลรักษาอสังหาริมทรัพย์นั้นใช้สําหรับเอาค่าใช้จ่ายเพื่อ
รักษาอสังหาริมทรัพย์ และมีอยู่เหนืออสังหาริมทรัพย์อันนั้นสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่งบทบัญญัติแห่งมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๖๙ วรรคสองนั้น ท่านให้นํามาใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บังคับแก่กรณีที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กล่าวมาในวรรคก่อนนี้ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๗๕ บุริมสิทธิในมูลจ้างทําของเป็นการงานทําขึ้นบนอสังหาริมทรัพย์นั้น
สํานักใช้ สํ า หรั บ เอาสิ น จ้ า ง กค่าา ทํ า ของเป็ นสํการงานอั
งานคณะกรรมการกฤษฎี น ผู้ ก่ อ สร้ า ง สถาปนิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ก หรื อ ผู้สํราั บนัจ้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
งได้ ทํ า ลงบน กา
อสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้ และมีอยู่เหนืออสังหาริมทรัพย์อันนั้น
สํอนึ
านั่กง งานคณะกรรมการกฤษฎี
บุริมสิทธินี้ย่อมเกิดมีขกึ้านต่อเมื่ออสังสํหาริานักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรัพย์นั้นมีราคาเพิ่มขึก้นา ในปัจจุบัน
เพราะการที่ได้ทําขึ้นนั้น และมีอยู่เพียงเหนือราคาที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๗๖ บุ ริ ม สิ ท ธิ ใ นมู ล ซื้ อ ขายอสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ นั้ น ใช้ สํ า หรั บ เอาราคา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อสังหาริมทรัพย์และดอกเบี้ยในราคานั้น และมีอยู่เหนืออสังหาริมทรัพย์อันนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓. ลําดับแห่งบุริมสิทธิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๗๗ เมื่อมีบุริมสิทธิสามัญหลายรายแย้งกัน ท่านให้ถือว่าบุริมสิทธิทั้งหลาย
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นมีลําดับที่จะให้ผลก่อกนหลั
า ง ดังที่ได้เสํรีายนังลํกงานคณะกรรมการกฤษฎี
าดับไว้ในมาตรา ๒๕๓กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อมีบุริมสิทธิสามัญแย้งกับบุริมสิทธิพิเศษ ท่านว่าบุริมสิทธิพิเศษย่อมอยู่ในลําดับ
ก่อน แต่บุริมสิทสํธิาในันมูกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลค่าใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ กา ร่วมกันนั้นย่สํอามอยู ่ในลําดับก่อนในฐานทีก่จาะใช้สิทธินั้น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ต่อเจ้าหนี้ผู้ได้รับประโยชน์จากการนั้นหมดทุกคนด้วยกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๗๘ เมื่ อ มี บุริ ม สิ ท ธิ แ ย้ ง กั น หลายรายเหนื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อ สัง หาริ ม ทรั พ ย์ อัน หนึ่ ง อั น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เดียวกัน ท่านให้ถือลําดับก่อนหลังดังที่เรียงไว้ต่อไปนี้ คือ
(๑) บุกราิมสิทธิในมูลเช่สําานัอสักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งหาริมทรัพย์ พักอาศัยกในโรงแรมและรั
า สํบานัขน
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๕๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๒) บุริมสิทธิในมูลรักษาสังหาริมทรัพย์ แต่ถ้ามีบุคคลหลายคนเป็นผู้รักษา ท่านว่า


สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ที่รักษาภายหลังอยู่ในลํกาาดับก่อนผู้ที่ได้สํรานัักกษามาก่ อน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) บุ ริ ม สิ ท ธิ ใ นมู ล ซื้ อ ขายสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ ค่า เมล็ ด พั น ธุ์ ไม้ พั น ธุ์ หรื อ ปุ๋ ย และ
ค่าแรงงานกสิกรรมและอุ
สํ ตสาหกรรม
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าบุคคลผู้ใดมีบุริมสิทธิอยู่ในลําดับเป็นที่หนึ่ง และรู้อยู่ในขณะที่ตนได้ประโยชน์แห่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หนี้มานั้น ว่ายังมีบุคคลอื่นซึ่งมีบุริมสิทธิอยู่ในลําดับที่สองหรือที่สามไซร้ ท่านห้ามมิให้บุคคลผู้นั้นใช้
สิทธิในการที่ตนอยู สํา่ในันลํ าดับก่อนนั้นต่อบุคคลอื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่นเช่นว่ามา สํและท่ านห้ามมิให้ใช้สิทธินี้ตก่อาผู้ที่ได้รักษา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรัพย์ไว้ เพื่อประโยชน์แก่บุคคลผู้มีบุริมสิทธิในลําดับที่หนึ่งนั้นเองด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในส่วนดอกผล
กา ท่านให้
สํานับกุคงานคณะกรรมการกฤษฎี
คลผู้ได้ทําการงานกสิกการรมอยู่ในลําดัสํบานัทีก่หงานคณะกรรมการกฤษฎี
นึ่ง ผู้ส่งเมล็ด กา
พันธุ์ ไม้พันธุ์ หรือปุ๋ย อยู่ในลําดับที่สอง และให้ผู้เช่าที่ดินอยู่ในลําดับที่สาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๗๙ เมื่อมีบุริมสิทธิพิเศษแย้งกันหลายรายเหนืออสังหาริมทรัพย์อันหนึ่ง
สํานักอังานคณะกรรมการกฤษฎี
นเดียวกัน ท่านให้ถือลํกาาดับก่อนหลังดัสํงาทีนั่ไกด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
เรียงลําดับไว้ในมาตราก๒๗๓
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าได้ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์นั้นสืบต่อกันไปอีกไซร้ ลําดับก่อนหลังในระหว่างผู้ขาย
ด้วยกันนั้น ท่านให้เป็นไปตามลําดับที่ได้ซื้อขายก่อนและหลังสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๒๘๐ เมื่อบุคคลหลายคนมีบุริมสิทธิในลําดับเสมอกันเหนือทรัพย์อันหนึ่งอัน
เดียวกัน ท่านให้สํตา่านังคนต่ างได้รับชําระหนี้เฉลีก่ยาตามส่วนมากน้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกยแห่ งจํานวนที่ตนเป็นเจ้กาาหนี้
งานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานั๔.กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผลแห่งบุริมสิทธิ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๘๑ บุ ริ ม สิ ท ธิ อกั นามี อ ยู่ เ หนื อ สัสํงาหาริ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ม ทรั พ ย์ นั้ น ท่ า นห้ า มมิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ใ ห้ ใ ช้ เมื่ อ
บุคคลภายนอกได้ทรัพย์นั้นจากลูกหนี้และได้ส่งมอบทรัพย์ให้กันไปเสร็จแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๘๒ เมื่อมีบุริมสิทธิแย้งกับสิทธิจํานําสังหาริมทรัพย์ ท่านว่าผู้รับจํานําย่อม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มีสิทธิเป็นอย่างเดียวกันกับผู้ทรงบุริมสิทธิในลําดับที่หนึ่งดังที่เรียงไว้ในมาตรา ๒๗๘ นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๘๓ บุคคลผู้มีบุริมสิทธิสามัญต้องรับชําระหนี้เอาจากสังหาริมทรัพย์ของ
ลูกหนี้ก่อน ต่อเมืสํ่อายันังกไม่งานคณะกรรมการกฤษฎี
พอจึงให้เอาชําระหนี้จกากอสั
า งหาริมทรั สําพนัย์กไงานคณะกรรมการกฤษฎี
ด้ กา
ในส่วนอสังหาริมทรัพย์นั้น ก็ต้องรับชําระหนี้เอาจากอสังหาริมทรัพย์ อันมิได้ตกอยู่
สํานักในฐานเป็ นหลักประกันพิกาเศษเสียก่อน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าบุคคลใดมีบุริมสิทธิสามัญและละเลยด้วยความประมาทเลินเล่อไม่สอดเข้าแย้งขัด
ในการแบ่งเฉลี่ยทรั
สํานัพกย์งานคณะกรรมการกฤษฎี
ตามความที่กล่าวมาในวรรคทั
กา ้งสองข้สําานังบนนี ้ไซร้ อันบุคคลนั้นจะใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บุริมสิทธิ
ของตนต่อบุคคลภายนอกผู้ได้จดทะเบียนสิทธิไว้แล้วเพื่อจะเอาใช้จนถึงขนาดเช่นที่ตนจะหากได้รับ
สํานักเพราะได้ สอดเข้าแย้งขัดกนัา้น ท่านว่าหาอาจจะใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี ได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง บทบัญญัติที่กล่าวมาในวรรคทั้งสามข้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
างต้นนี้ท่านมิให้ใช้บังคับ หากว่าเงินที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขายอสังหาริมทรัพย์ได้นั้น จะพึงต้องเอามาแบ่งเฉลี่ยก่อนเงินที่ขายทรัพย์สินอย่างอื่นก็ดี หรือหากว่า
สํานักเงิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นที่ขายอสังหาริมทรัพกาย์อันตกอยู่ในฐานเป็ นหลักประกันพิเศษนัก้นา จะพึงต้องเอามาแบ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งเฉลี่ยก่อน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๕๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

เงินที่ขายอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นก็ดุจกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๘๔ บุ ริ ม สิ ท ธิ ส ามั ญ นั้ น ถึ ง แม้ จ ะมิ ไ ด้ ไ ปลงทะเบี ย นเกี่ ย วด้ ว ย
อสังหาริมทรัพย์กสํ็ดานัี ย่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
มจะยกขึ้นเป็นข้อต่อกสูา้เจ้าหนี้ใด ๆ ทีสํา่ไนัม่กมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีหลักประกันพิเศษนั้นได้
กา แต่ความที่
กล่าวนี้ท่านมิให้ใช้ไปถึงการต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ได้ไปลงทะเบียนสิทธิไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๘๕ บุริมสิทธิในมูกาลรักษาอสังหาริ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัมกทรั พย์นั้น ถ้าหากว่าเมืก่อาทําการเพื่อ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บํารุงรักษานั้นสําเร็จแล้ว ไปบอกลงทะเบียนไว้โดยพลันไซร้ บุริมสิทธิก็คงให้ผลต่อไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๘๖ บุริมสิทธิในมูลจ้างทําของเป็นการงานทําขึ้นบนอสังหาริมทรัพย์นั้น
หากทํารายการประมาณราคาชั ่วคราวไปบอกลงทะเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนไว้สํกานั่อกนเริ ่มลงมือการทําไซร้ กบุาริมสิทธิก็คง
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ผลต่อไป แต่ถ้าราคาที่ทําจริงนั้นล้ําราคาที่ได้ประมาณไว้ชั่วคราว ท่านว่าบุริมสิทธิในส่วนจํานวนที่
สํานักล้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ําอยู่นั้นหามีไม่ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนการที่จะวินิจฉัยว่าอสังหาริมทรัพย์นั้นมีราคาเพิ่มขึ้นเพราะการอันได้ทําขึ้นบน
อสังหาริมทรัพย์มากน้อยเพียงใดนั้น ท่านให้ศาลตั้งแต่งผู้เชีสํ่ยาวชาญขึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้นเป็นผู้กะประมาณ ในเวลาที่มี
แย้งขัดในการแบ่งเฉลี่ย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๘๗ บุริมสิทธิใดได้กาไปจดลงทะเบีสํยานแล้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี วตามบทบัญญัติแห่งมาตราทั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้งสอง
ข้างบนนี้ บุริมสิทธินั้นท่านว่าอาจจะใช้ได้ก่อนสิทธิจํานอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๘๘ บุริมสิทธิในมูลซื้อขายอสังหาริมทรัพย์นั้น หากว่าเมื่อไปลงทะเบียน
สัญญาซื้อขายนั้นสํบอกลงทะเบี ยนไว้ด้วยว่าราคาหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อดอกเบีสํ้ยาในราคานั ้นยังมิได้ชําระไซร้กาบุริมสิทธินั้น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ก็คงให้ผลต่อไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๘๙ ว่าถึงผลแห่งบุริมสิทธิ นอกจากที่ได้บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๘๑ ถึง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๘๘ นี้แล้ว ท่านให้นําบทบัญญัติทั้งหลายแห่งลักษณะจํานองมาใช้บังคับด้วยตามแต่กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๓
ลูกหนี้แกละเจ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าหนี้หลายคน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๒๙๐ ถ้าการชําระหนี้เป็นการอันจะแบ่งกันชําระได้และมีบุคคลหลายคน
เป็นลูกหนี้ก็ดี มีบสํุคานัคลหลายคนเป็ นเจ้าหนี้ก็ดกี าเมื่อกรณีเป็นสํทีา่สนังสั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ย ท่านว่าลูกหนี้แต่ละคนจะต้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา องรับ
ผิดเพียงเป็นส่วนเท่า ๆ กันและเจ้าหนี้แต่ละคนก็ชอบที่จะได้รับแต่เพียงเป็นส่วนเท่า ๆ กัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๙๑ ถ้าบุ คคลหลายคนจะต้องทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าการชํ าระหนี้โดยทํานองซึ่ งแต่ละคน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จํ า ต้ อ งชํ า ระหนี้ สิ้ น เชิ ง ไซร้ แม้ ถึ ง ว่ า เจ้ า หนี้ ช อบที่ จ ะได้ รั บ ชํ า ระหนี้ สิ้ น เชิ ง ได้ แ ต่ เ พี ย งครั้ ง เดี ย ว
สํานัก(กล่ าวคือลูกหนี้ร่วมกันก)าก็ดี เจ้าหนี้จสํะเรี
งานคณะกรรมการกฤษฎี านัยกงานคณะกรรมการกฤษฎี
กชําระหนี้จากลูกหนี้แกต่าคนใดคนหนึ่งสํสิา้นนักเชิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ง หรือแต่โดย กา
- ๕๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ส่วนก็ได้ตามแต่จะเลือก แต่ลูกหนี้ทั้งปวงก็ยังคงต้องผูกพันอยู่ทั่วทุกคนจนกว่าหนี้นั้นจะได้ชําระเสร็จ
สํานักสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นเชิง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๙๒ การที่ลูกหนีก้รา ่วมกันคนหนึสํ่งานัชํกางานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ระหนี้นั้น ย่อมได้เป็นกประโยชน์
า แก่
ลู ก หนี้ ค นอื่ น ๆ ด้ ว ย วิ ธี เ ดี ย วกั น นี้ ท่ า นให้ ใ ช้ บั ง คั บ แก่ ก ารใด ๆ อั น พึ ง กระทํ า แทนชํ า ระหนี้ ว าง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทรัพย์สินแทนชําระหนี้ และหักกลบลบหนี้ด้วย
สํลูากนัหนี ้ร่วมกันคนหนึ่งมีสิทธิกเรีายกร้องอย่างไร
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัลูกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หนี้คนอื่น ๆ จะเอาสิทกธิาอันนั้นไปใช้
หักกลบลบหนี้หาได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๙๓ การปลดหนี้ให้แก่ลูกหนี้ร่วมกันคนหนึ่งนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์
แก่ลูกหนี้คนอื่น ๆสําเพี
นักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
งเท่าส่วนของลูกหนี้ที่ไกด้าปลดให้ เว้นแต่
สําจนัะได้ ตกลงกันเป็นอย่างอื่นกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา ๒๙๔ การที


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่ เกจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
า หนี้ ผิ ด นั ด ต่ อ ลู ก หนีก้ รา่ ว มกั น คนหนึสํ่ างนันัก้ นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย่ อ มได้ เ ป็ น กา
คุณประโยชน์แก่ลูกหนี้คนอื่น ๆ ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๙๕ ข้อความจริ งอื่นใด นอกจากที่ระบุไว้ในมาตรา สํ๒๙๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถึง ๒๙๔ นั้น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อเป็นเรื่องเท้าถึงตัวลูกหนี้ร่วมกันคนใดก็ย่อมเป็นไปเพื่อคุณและโทษแต่เฉพาะแก่ลูกหนี้คนนั้น เว้น
แต่จะปรากฏว่าขัสํดากันับกสภาพแห่ งหนี้นั้นเอง กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความที่ว่ามานี้ เมื่อจะกล่าวโดยเฉพาะก็คือว่าให้ใช้แก่การให้คําบอกกล่าวการผิดนัด
สํานักการที ่หยิบยกอ้างความผิกดา การชําระหนีสํา้อนัันกเป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี นพ้นวิสัยแก่ฝ่ายลูกหนีกา้ร่วมกันคนหนึสํ่งานักํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
หนดอายุความ กา
หรือการที่อายุความสะดุดหยุดลง และการที่สิทธิเรียกร้องเกลื่อนกลืนกันไปกับหนี้สิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๙๖ ในระหว่างลูกหนี้ร่วมกันทั้งหลายนั้น ท่านว่าต่างคนต่างต้องรับผิด
สํานักเป็ นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นกแต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า จะได้กําหนดไว้ เป็นอย่างอื่น ถ้าส่วนทีก่ลา ูกหนี้ร่วมกันสํคนใดคนหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่งจะพึง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ชําระนั้น เป็นอันจะเรียกเอาจากคนนั้นไม่ได้ไซร้ ยังขาดจํานวนอยู่เท่าไรลูกหนี้คนอื่น ๆ ซึ่งจําต้องออก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนด้วยนั้นก็ต้องรับใช้ แต่ถ้าลูกหนี้ร่วมกันคนใดเจ้าหนี้ได้ปลดให้หลุดพ้นจากหนี้อันร่วมกันนั้นแล้ว
สํานักส่งานคณะกรรมการกฤษฎี
วนที่ลูกหนี้คนนั้นจะพึกงต้า องชําระหนี้กสํ็ตากเป็ นพับแก่เจ้าหนี้ไป กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๙๗ ถ้าในสัญญาอักานหนึ่งอันใดมีสํบาุคนัคลหลายคนร่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี วมกันผูกพักนาตนในอันจะ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทําการชําระหนี้ไซร้ หากกรณีเป็นที่สงสัย ท่านว่าบุคคลเหล่านั้นจะต้องรับผิดเช่นอย่างเป็นลูกหนี้
สํานักร่งานคณะกรรมการกฤษฎี
วมกัน แม้ถึงว่าเป็นการอั
กา นจะแบ่งกันชํสําานัระหนี ้ได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๙๘ ถ้าบุคคลหลายคนมี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สิทธิเรีสํยากร้
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งการชําระหนี้ โดยทํากนองซึ
า ่งแต่ละ
คนอาจจะเรี ยกให้ชําระหนี้สิ้นเชิงได้ไซร้ แม้ถึงว่าลูกหนี้ จําต้องชําระหนี้สิ้นเชิ งแต่ เพียงครั้งเดี ยว
สํานัก(กล่ าวคือเจ้าหนี้ร่วมกันก)า ก็ดี ท่านว่าลูสํกานัหนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้จะชําระหนี้ให้แก่เจ้ากหนี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้แต่คนใดคนหนึ
สํานัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ก็ได้ตามแต่จะ กา
เลือก ความข้อนี้ใสํห้าในัช้กบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ังคับได้ แม้ทั้งที่เจ้าหนีก้คานหนึ่งจะได้ยื่นสําฟ้นัอกงเรี ยกชําระหนี้ไว้แล้ว
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๒๙๙ การที่เสํจ้าานัหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ร่วมกันคนหนึ่งผิดนัดนักา้น ย่อมเป็นโทษแก่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
จ้าหนี้คนอื่น ๆ กา
- ๕๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ด้วย
ถ้าสิทกธิาเรียกร้องและหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก้สงานคณะกรรมการกฤษฎี
ินนั้นเป็นอันเกลื่อนกลืกานกันไปในเจ้าสํหนี
านัก้รงานคณะกรรมการกฤษฎี
่วมกันคนหนึ่ง กา
สิทธิของเจ้าหนี้คนอื่น ๆ อันมีต่อลูกหนี้ก็ย่อมเป็นอันระงับสิ้นไป
สํนอกจากนี ้ ท่านให้นําบทบัญกญัา ติแห่งมาตราสํา๒๙๒,
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๒๙๓ และ ๒๙๕ มาใช้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บังคับด้วย
โดยอนุโลม กล่าวโดยเฉพาะก็คือ แม้เจ้าหนี้ร่วมกันคนหนึ่งจะโอนสิทธิเรียกร้องให้แก่บุคคลอื่นไปก็หา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กระทบกระทั่งถึงสิทธิของเจ้าหนี้คนอื่น ๆ ด้วยไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๐๐ ในระหว่างเจ้าหนี้ร่วมกันนั้น ท่านว่าต่างคนชอบที่จะได้รับชําระหนี้
สํานักเป็ นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา จะได้กําหนดไว้
สํานัเกป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นอย่างอื่น กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๐๑ ถ้ า บุ ค คลหลายคนเป็


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา น หนีสํา้ อนัั นกจะแบ่ งกั น ชํา ระมิ ไ ด้ ท่กาา นว่ าบุ ค คล
งานคณะกรรมการกฤษฎี
เหล่านั้นต้องรับผิดเช่นอย่างลูกหนี้ร่วมกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๐๒ ถ้าการชําระหนี้เป็นการอันจะแบ่งกันชําระมิได้ และมีบุคคลหลายคน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นเจ้าหนี้ ถ้าบุคคลเหล่านั้นมิได้เป็นเจ้าหนี้ร่วมกันไซร้ ท่านว่ าลูกหนี้ได้แต่จะชําระหนี้ให้ได้ประโยชน์
แก่บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดด้วยกัน และเจ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าหนี้แต่ละคนจะเรียกชําระหนี้ได้ก็แต่เพื่อสํได้านัปกระโยชน์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ด้วยกัน
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมดทุกคนเท่านั้น อนึ่งเจ้าหนี้แต่ละคนจะเรียกให้ลูกหนี้วางทรัพย์ที่เป็นหนี้นั้นไว้เพื่อประโยชน์แห่ง
เจ้าหนี้หมดทุกคนด้ สํานัวกยกั นก็ได้ หรือถ้าทรัพย์นกั้นาไม่ควรแก่การจะวางไว้
งานคณะกรรมการกฤษฎี ก็ให้ส่งแก่ผู้พิทักษ์กทารัพย์ซึ่งศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จะได้ตั้งแต่งขึ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีนอกจากนี กา ้ ข้อความจริ สํานังใดที ่เท้าถึงเจ้าหนี้คนหนึก่งาเท่านั้นหาเป็นสํไปเพื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ่อคุณหรือโทษ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แก่เจ้าหนี้คนอื่น ๆ ด้วยไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานัโอนสิ ทธิเรียกร้อง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๓๐๓ สิทธิเสํรีายนักร้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี องนั้นท่านว่าจะพึงโอนกั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นได้ เว้นไว้สํแานัต่กสงานคณะกรรมการกฤษฎี
ภาพแห่งสิทธิ กา
นั้นเองจะไม่เปิดช่องให้โอนกันได้
สํความที ่กล่าวมานี้ย่อมไม่ใช้กบาังคับ หากคู่กสํรณี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัไกด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
แสดงเจตนาเป็นอย่างอื
กา่นการแสดง
เจตนาเช่นว่านี้ ท่านห้ามมิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้กระทําการโดยสุจริต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๐๔ สิทธิเรียกร้องเช่นใด ตามกฎหมายศาลจะสั่งยึดไม่ได้ สิทธิเรียกร้อง
เช่นนั้น ท่านว่าจะโอนกั นหาได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๓๐๕ เมื่อโอนสิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัทกธิงานคณะกรรมการกฤษฎี
เรียกร้องไป สิทธิจํานองหรื
กา อจํานําที่มสํีอานัยูก่เกีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ยวพันกับสิทธิ กา
เรียกร้องนั้นก็ดี สิสํทานัธิกองานคณะกรรมการกฤษฎี
ันเกิดขึ้นแต่การค้ําประกั กา
นที่ให้ไว้เพื่อสํสิาทนัธิกเงานคณะกรรมการกฤษฎี
รียกร้องนั้นก็ดี ย่อมตกไปได้
กา
แก่ผู้รับ
โอนด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อนึ่งผูก้ราับโอนจะใช้บุรสํิมานัสิกทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธิใด ๆ ที่ตนมีอยู่เกี่ยวด้กาวยสิทธิเรียกร้สํอางในกรณี บังคับยึด
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๕๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ทรัพย์หรือล้มละลายนั้นก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๐๖ การโอนหนี้อันจะพึงต้องชําระแก่เจ้าหนี้คนหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจงนั้น
ถ้าไม่ทําเป็นหนังสํสืาอนักท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านว่าไม่สมบูรณ์ อนึ่งกการโอนหนี
า ้นั้นสําท่นัากนว่ าจะยกขึ้นเป็นข้อต่อกสูา ้ลูกหนี้หรือ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บุคคลภายนอกได้แต่เมื่อได้บอกกล่าวการโอนไปยังลูกหนี้หรือลูกหนี้จะได้ยินยอมด้วยในการโอนนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําบอกกล่าวหรือความยินยอมเช่นว่านี้ท่านว่าต้องทําเป็นหนังสือ
สํถ้าานัลูกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หนี้ทําให้พอแก่ใจผู้โอนด้
กา วยการใช้เงิสํนานัหรื อด้วยประการอื่นเสียกแต่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ก่อนได้รับ
บอกกล่าว หรือก่อนได้ตกลงให้โอนไซร้ ลูกหนี้นั้นก็เป็นอันหลุดพ้นจากหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๐๗ ถ้าพิพาทอ้างสิทธิในการโอนต่างราย โอนรายใดได้บอกกล่าวหรือตก
ลงกันก่อน โอนรายนั
สํานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
มีสิทธิดีกว่าโอนรายอื่นกๆา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๓๐๘ ถ้าลูกสํหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัก้ได้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ความยินยอมดังกล่กาา วมาในมาตราสํานั๓๐๖ โดยมิได้อิด
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เอื้อน ท่านว่าจะยกข้อต่อสู้ที่มีต่อผู้โอนขึ้นต่อสู้ผู้รับโอนนั้นหาได้ไม่ แต่ถ้าเพื่อจะระงับหนี้นั้นลูกหนี้ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใช้เงินให้แก่ผู้โอนไปไซร้ ลูกหนี้จะเรียกคืนเงินนั้นก็ได้ หรือถ้สําาเพื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่อการเช่นกล่าวมานั้น ลูกหนี้รับภาระ
เป็นหนี้อย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นใหม่ต่อผู้โอน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จะถือเสมือนหนึ่งว่าหนี้นั้นมิได้ก่อขึ้นเลยก็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าลูกหนี้เป็นแต่ได้รับคําบอกกล่าวการโอน ท่านว่าลูกหนี้มีข้อต่อสู้ผู้โอนก่อนเวลาที่
ได้รับคําบอกกล่าสํวนัานั้นกฉังานคณะกรรมการกฤษฎี
นใด ก็จะยกขึ้นเป็นข้อกต่าอสู้แก่ผู้รับโอนได้
สํานักฉงานคณะกรรมการกฤษฎี
ันนั้น ถ้าลูกหนี้มีสิทธิเรีกยา กร้องจากผู้
โอน แต่สิทธินั้นยังไม่ถึงกําหนดในเวลาบอกกล่าวไซร้ ท่านว่าจะเอาสิทธิเรียกร้องนั้นมาหักกลบลบกัน
สํานักก็งานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ หากว่าสิทธินั้นจะได้กาถึงกําหนดไม่ชสํ้าากว่
นักางานคณะกรรมการกฤษฎี
เวลาถึงกําหนดแห่งสิทกธิาเรียกร้องอันได้สําโนัอนไปนั ้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๓๐๙ การโอนหนีก้อาันพึงต้องชําระตามเขาสั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่งนั้น ท่านว่าจะยกขึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นเป็นข้อ
ต่อสู้ลูกหนี้ หรือบุคคลภายนอกคนอื่นได้แต่เฉพาะเมื่อการโอนนั้นได้สลักหลังไว้ในตราสาร และตัวตรา
สํานักสารนั ้นได้ส่งมอบให้แก่ผกู้ราับโอนไปด้วยสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๑๐ ในมูลหนี้อันพึงต้องชําระตามเขาสั่งนั้น ลูกหนี้มีสิทธิที่จะสอบสวนถึง
สํานักตังานคณะกรรมการกฤษฎี
วผู้ทรงตราสาร หรือสอบสวนความถู
กา สํกาต้นัอกงแท้ จริงแห่งลายมือชื่อกหรืา อดวงตราของผู
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้ทกรงได้ แต่ก็หามี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ความผูกพันที่จะต้องทําถึงเพียงนั้นไม่ แต่ถ้าลูกหนี้ทําการโดยทุจริตหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง
ไซร้ การชําระหนีสํ้นาั้นนัก็กไงานคณะกรรมการกฤษฎี
ม่เป็นอันสมบูรณ์ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๓๑๑ บทบัญสํญัานัตกิแงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ห่งมาตราก่อนนี้ ท่านให้
กาใช้บังคับตลอดถึ
สํานังกกรณี ที่มีกําหนด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตัวเจ้าหนี้ระบุไว้ในตราสาร ซึ่งมีข้อความจดไว้ด้วยว่าให้ชําระหนี้แก่ผู้ทรงตราสาร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๑๒ ในมูลหนี้อันพึงต้องชําระตามเขาสั่งนั้น ลูกหนี้จะยกข้อต่อสู้ซึ่งมีต่อ
สํานักเจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนี้เดิมขึ้นเป็นข้อต่อกสูา้ผู้รับโอนโดยสุสําจนัริกตงานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้นหาได้ไม่ เว้นแต่ที่ปกรากฏในตั
า วตราสารนั ้นเอง หรือที่มี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ขึ้นเป็นธรรมดาสืบสําจากลั กษณะแห่งตราสารนั้น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๓๑๓ บทบัญสําญันักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ิแห่งมาตราก่อนนี้ ท่านให้
กา ใช้บังคับตลอดถึ
สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
หนี้อันพึงต้อง กา
- ๕๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ชําระแก่ผู้ถือนั้นด้วย แล้วแต่กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีความระงั
กา บหนี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่วนที่ ๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การชําระหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๑๔ อันการชําระหนี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นั้น ท่านว่าสํบุาคนัคลภายนอกจะเป็ นผู้ชําระก็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ได้ เว้นแต่
สภาพแห่งหนี้จะไม่เปิดช่องให้บุคคลภายนอกชําระ หรือจะขัดกับเจตนาอันคู่กรณีได้แสดงไว้
บุคคลผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา้ไม่มีส่วนได้เสีสํยาด้นักวยในการชํ าระหนี้นั้น จะเข้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าชําระหนี้โดยขื
สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใจลูกหนี้หาได้ กา
ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๑๕ อันการชํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าระหนี้นั้น ต้องทําให้แก่ตัวเจ้าหนี้หรือแก่สํบานัุคกคลผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้มีอํานาจรับ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ชําระหนี้แทนเจ้าหนี้ การชําระหนี้ให้แก่บุคคลผู้ไม่มีอํานาจรับชําระหนี้นั้น ถ้าเจ้าหนี้ให้สัตยาบันก็
นับว่าสมบูรณ์ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๓๑๖ ถ้าการชํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากระหนี ้นั้นได้ทําให้แก่ผู้คกรองตามปรากฏแห่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
สิทธิในมูลหนี้ กา
ท่านว่าการชําระหนี้นั้นจะสมบูรณ์ก็แต่เมื่อบุคคลผู้ชําระหนี้ได้กระทําการโดยสุจริต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๑๗ นอกจากกรณีที่กล่าวไว้ในมาตราก่อน การชําระหนี้แก่บุคคลผู้ไม่มี
สํานักสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทธิจะได้รับนั้น ท่านว่ากย่าอมสมบูรณ์เพีสํยานังเท่ าที่ตัวเจ้าหนี้ได้ลาภงอกขึ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นแต่การนั้นสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๑๘ บุคคลผู้ถือใบเสร็จเป็นสําคัญ ท่านนับว่าเป็นผู้มีสิทธิจะได้รับชําระหนี้
สํานักแต่ ความที่กล่าวนี้ท่านมิกให้า ใช้ ถ้าบุคคลผูสํา้ชนัํากระหนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้รู้ว่าสิทธิเช่นนั้นหามี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ไม่ หรือไม่รู้เสํท่าานัถึกงงานคณะกรรมการกฤษฎี
สิทธินั้นเพราะ กา
ความประมาทเลินเล่อของตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๑๙ ถ้าศาลสั่งให้ลูกหนี้คนที่สามงดเว้นทําการชําระหนี้แล้ว ยังขืนชําระหนี้
สํานักให้ แก่เจ้าหนี้ของตนเองไซร้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ท่านว่าเจ้าสํหนี
านัก้ผงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้ที่ร้องขอให้ยึดทรัพย์จกะเรี
า ยกให้ลูกหนีสํ้คานที ่สามนั้นทําการ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ชําระหนี้อีกให้คุ้มกับความเสียหายอันตนได้รับก็ได้
สํอนึ
านั่งกข้งานคณะกรรมการกฤษฎี
อความซึ่งกล่าวมาในวรรคข้ กา างต้นนี้หสําเป็
านักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ข้อขัดขวางในการที่ลูกกหนี า ้คนที่สาม
จะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่เจ้าหนี้ของตนเองนั้นไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๒๐ อันจะบังคับให้เจ้าหนี้รับชําระหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้แต่เพียงบางส่วน หรือให้รับชําระหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นอย่างอื่นผิดไปจากที่จะต้องชําระแก่เจ้าหนี้นั้น ท่านว่าหาอาจจะบังคับได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๖๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๓๒๑ ถ้าเจ้าหนี้ยอมรับการชําระหนี้อย่างอื่นแทนการชําระหนี้ที่ได้ตกลงกัน


สํานักไว้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ท่านว่าหนี้นั้นก็เป็นอักนาระงับสิ้นไป สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าเพื่อที่จะทําให้พอแก่ใจเจ้าหนี้นั้น ลูกหนี้รับภาระเป็นหนี้อย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นใหม่
ต่อเจ้าหนี้ไซร้ เมื่อกรณี
สํ เป็นที่สงสัย ท่านมิให้สกันานิษฐานว่าลูกสํหนี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัก้ได้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ก่อหนี้นั้นขึ้นแทนการชํกาาระหนี้
ถ้าชําระหนี้ด้วยออก-ด้วยโอน-หรือด้วยสลักหลังตั๋วเงินหรือประทวนสินค้า ท่านว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หนี้นั้นจะระงับสิ้นไปต่อเมื่อตั๋วเงินหรือประทวนสินค้านั้นได้ใช้เงินแล้ว
สํมาตรา ๓๒๒ ถ้าเอาทรัพย์กกา็ดี สิทธิเรียกร้สํอางจากบุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี คคลภายนอกก็ดี หรื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาอสิทธิอย่าง
อื่นก็ดี ให้แทนการชําระหนี้ ท่านว่าลูกหนี้จะต้องรับผิดเพื่อชํารุดบกพร่องและเพื่อการรอนสิทธิทํานอง
สํานักเดีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยวกับผู้ขาย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๒๓ ถ้าวัตถุแห่งหนี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา้เป็นอันให้ส่งสํมอบทรั พย์เฉพาะสิ่ง ท่านว่ากบุาคคลผู้ชําระ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หนี้จะต้องส่งมอบทรัพย์ตามสภาพที่เป็นอยู่ในเวลาที่จะพึงส่งมอบ
ลูกหนีก้จาําต้องรักษาทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําพนักย์งานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้นไว้ด้วยความระมัดระวั
กา งเช่นอย่างวิสํญ
านัญูกชงานคณะกรรมการกฤษฎี
นจะพึงสงวน กา
ทรัพย์สินของตนเอง จนกว่าจะได้ส่งมอบทรัพย์นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๒๔ เมื่ อ มิสําไนัด้กมงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ี แ สดงเจตนาไว้โ ดยเฉพาะเจาะจงว่
กา
า จะพึ ง ชํ า ระหนี้ ณ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สถานที่ใดไซร้ หากจะต้องส่งมอบทรัพย์เฉพาะสิ่ง ท่านว่าต้องส่งมอบกัน ณ สถานที่ซึ่งทรัพย์นั้นได้อยู่
ในเวลาเมื่อก่อให้สํเากินัดกหนี ้นั้น ส่วนการชําระหนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้โดยประการอื
สํานั่นกท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านว่าต้องชําระ ณ สถานที
กา ่ซึ่งเป็น
ภูมิลําเนาปัจจุบันของเจ้าหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๒๕ เมื่อมิได้มีแสดงเจตนาไว้ในข้อค่าใช้จ่ายในการชําระหนี้ ท่านว่าฝ่าย
ลูกหนี้พึงเป็นผู้ออกค่
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ใช้จ่าย แต่ถ้าค่าใช้จ่ายนั
กา้นมีจํานวนเพิสํ่มานัขึก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
เพราะเจ้าหนี้ย้ายภูมิลกําาเนาก็ดี หรือ
เพราะการอื่นใดอันเจ้าหนี้ได้กระทําก็ดี ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเท่าใดเจ้าหนี้ต้องเป็นผู้ออก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๒๖ บุคคลผู้ชําระหนี้ชอบที่จะได้รับใบเสร็จเป็นสําคัญจากผู้รับชําระหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นั้น และถ้าหนี้นั้นได้ชําระสิ้นเชิงแล้ว ผู้ชําระหนี้ชอบที่จะได้รับเวนคืนเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งหนี้
สํานักหรื อให้ขีดฆ่าเอกสารนั้นกเสี
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ย ถ้าและเอกสารนั ้นสูญหาย บุคคลผู้ชกําระหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้ชอบที่จสํะให้ านักจงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดแจ้งความข้อ กา
ระงับหนี้ลงไว้ในใบเสร็จหรือในเอกสารอีกฉบับหนึ่งต่างหากก็ได้
สํถ้าานัหนี ้นั้นได้ชําระแต่บางส่วกนก็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ดี หรือถ้าเอกสารนั ้นยังให้สิทธิอย่างอื่นกใดแก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า เจ้าหนี้
อยู่ก็ดี ท่านว่ าลูกหนี้ ชอบแต่ ที่ จะได้ รั บใบเสร็จไว้เป็นคู่มือและให้จดแจ้งการชําระหนี้ นั้ นลงไว้ ใ น
สํานักเอกสาร
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๒๗ ในกรณีชําระดอกเบี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ย หรือสํชํานัากระหนี ้อย่างอื่นอันมีกําหนดชํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าระเป็น
ระยะเวลานั้น ถ้าเจ้าหนี้ออกใบเสร็จให้เพื่อระยะหนึ่งแล้วโดยมิได้อิดเอื้อน ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อน
สํานักว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าเจ้าหนี้ได้รับชําระหนีก้เพืา ่อระยะก่อน สํๆานันัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ด้วยแล้ว กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าเจ้าหนี้ออกใบเสร็จให้เพื่อการชําระต้นสํเงิานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ท่านให้สันนิษฐานไว้กก่อานว่าเจ้าหนี้
ได้รับดอกเบี้ยแล้ว
ถ้าเอกสารอั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นเป็นหลัสํกาฐานแห่ งหนี้ได้เวนคืนแล้วไซร้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ท่านให้สันนิสํษานัฐานไว้ ก่อนว่าหนี้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๖๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

นั้นเป็นอันระงับสิ้นไปแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๒๘ ถ้าลูกหนี้ต้องผูกพันต่อเจ้าหนี้ในอันจะกระทําการเพื่อชําระหนี้เป็น
การอย่างเดียวกันสํโดยมู ลหนี้หลายราย และถ้กาาการที่ลูกหนี้ชสํําาระหนี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้นั้นไม่เพียงพอจะเปลื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา้องหนี้สินได้
หมดทุกรายไซร้ เมื่อทําการชําระหนี้ ลูกหนี้ระบุว่าชําระหนี้สินรายใด ก็ให้หนี้สินรายนั้นเป็นอันได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เปลื้องไป
สํถ้าานัลูกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หนี้ไม่ระบุ ท่านว่าหนีก้สา ินรายไหนถึงสํกํานัากหนด ก็ให้รายนั้นเป็นอันกาได้เปลื้องไป
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ก่อน ในระหว่างหนี้สินหลายรายที่ถึงกําหนดนั้น รายใดเจ้าหนี้มีประกันน้อยที่สุด ก็ให้รายนั้นเป็นอัน
สํานักได้ เปลื้องไปก่อน ในระหว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาางหนี้สินหลายรายที ่มีประกันเท่า ๆ กัน กให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า รายที่ตกหนัสํกาทีนั่สกุดงานคณะกรรมการกฤษฎี
แก่ลูกหนี้เป็น กา
อันได้เปลื้องไปก่อน ในระหว่างหนี้สินหลายรายที่ตกหนักแก่ลูกหนี้เท่า ๆ กัน ให้หนี้สินรายเก่าที่สุด
เป็นอันได้เปลื้องไปก่
สํานัอกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
และถ้ามีหนี้สินหลายรายเก่
กา าเท่า ๆ สํกัานนักก็งานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้หนี้สินทุกรายเป็นอักนาได้เปลื้องไป
ตามส่วนมากและน้อย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๒๙ ถ้ า นอกจากการชํ า ระหนี้อั น เป็ น ประธาน ลู ก หนี้ ยั ง จะต้ อ งชํ า ระ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดอกเบี้ยและเสียค่าฤชาธรรมเนียมอีกด้วยไซร้ หากการชําระหนี ้ในครั้งหนึ่ง ๆ ไม่ได้ราคาเพียงพอจะ
เปลื้องหนี้สินได้ทั้งหมด ท่านให้เอาจัดใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นค่าฤชาธรรมเนียมเสียก่อนแล้วจึงใช้ดสํอกเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้ย และในที่สุด
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จึงให้ใช้ในการชําระหนี้อันเป็นประธาน
สํถ้าานัลูกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หนี้ระบุให้จัดใช้เป็นประการอื
กา ่น ท่านว่
สําานัเจ้ าหนี้จะบอกปัดไม่ยอมรักาบชําระหนี้ก็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๓๐ เมื่อขอปฏิบัติการชําระหนี้โดยชอบแล้ว บรรดาความรับผิดชอบอัน
เกิดแต่การไม่ชําระหนี
สํานัก้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
็เป็นอันปลดเปลื้องไป กนัาบแต่เวลาที่ขสํอปฏิ
านักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัติการชําระหนี้นั้น กา

มาตรากา๓๓๑ ถ้าเจ้าสํหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัก้บงานคณะกรรมการกฤษฎี
อกปัดไม่ยอมรับชําระหนี
กา ้ก็ดี หรือไม่สํสาามารถจะรั บชําระ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หนี้ได้ก็ดี หากบุคคลผู้ชําระหนี้วางทรัพย์อันเป็นวัตถุแห่งหนี้ไว้เพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้แล้ว ก็ย่อมจะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นอันหลุดพ้นจากหนี้ได้ ความข้อนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึงกรณีที่บุคคลผู้ชําระหนี้ไม่สามารถจะหยั่งรู้ถึง
สํานักสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทธิ หรือไม่รู้ตัวเจ้าหนี้ไกด้าแน่นอนโดยมิสํใาช่นัเกป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นความผิดของตน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๓๒ ถ้าลูกหนี้จําต้กอา งชําระหนี้ต่อสํเมืานั่อกเจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี าหนี้จะต้องชําระหนี้ตกาอบแทนด้วย
ไซร้ ท่านว่าลูกหนี้จะกําหนดว่าต่อเมื่อเจ้าหนี้ชําระหนี้ตอบแทนจึงให้มีสิทธิรับเอาทรัพย์ที่วางไว้นั้นก็
สํานักได้
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๓๓ การวางทรักพาย์นั้ นต้ องวางสําณนักสํงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักงานวางทรัพย์ปกระจํ
า าตํ า บลที่
จะต้องชําระหนี้
ถ้าไม่มกีาบทบัญญัติแห่สํงากฎหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หรือกฎข้อบังคักบาเฉพาะการในเรื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่อกงสํ านักงานวาง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทรัพย์ เมื่อบุคคลผูสํา้ชนัํากระหนี ้ร้องขอ ศาลจะต้องกําหนดสํานักสํงานวางทรั
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พย์ และตั้งแต่งผู้พิทักษ์ทรัพย์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่วางนั้นขึ้น
ผู้วางต้กอางบอกกล่าวให้สําเนัจ้ากหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ทราบการที่ได้วางทรักพา ย์นั้นโดยพลันสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
- ๖๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๓๓๔ ลูกหนีสํ้มาีสนัิทกธิงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี จะถอนทรัพย์ที่วางนั้นกได้า ถ้าลูกหนี้ถอนทรั พย์นั้น ท่านให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ถือเสมือนว่ามิได้วางทรัพย์ไว้เลย
สํสิาทนัธิกถงานคณะกรรมการกฤษฎี
อนทรัพย์นี้เป็นอันขาดในกรณี
กา ต่อไปนีสํ้ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ถ้าลูกหนี้แสดงต่อสํานักงานวางทรัพย์ว่าตนยอมละสิทธิที่จะถอน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ถ้าเจ้าหนี้แสดงต่อสํานักงานวางทรัพย์ว่าจะรับเอาทรัพย์นั้น
สํ(๓) ถ้าการวางทรัพย์นั้นได้กาเป็นไปโดยคําสํสัานั่งหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ออนุมัติของศาลและได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บอกกล่าว
ความนั้นแก่สํานักงานวางทรัพย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๓๕ สิทธิถอนทรัพย์นั้น ตามกฎหมายศาลจะสั่งยึดหาได้ไม่
สํเมืานั่อกได้ ฟ้องคดีล้มละลายเกี่ยกวกั
งานคณะกรรมการกฤษฎี า บทรัพย์สินสํของลู กหนี้แล้ว ท่านห้ามมิใกห้าใช้สิทธิถอน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรัพย์ในระหว่างพิจารณาคดีล้มละลาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๓๖ ถ้าทรัพย์อันเป็นวัตถุแห่งการชําระหนี้ไม่ควรแก่การจะวางไว้ก็ดี หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นที่พึงวิตกว่าทรัพย์นั้นเกลือกจะเสื่อมเสีย หรือทําลาย หรื อบุบสลายได้ก็ดี เมื่อได้รับอนุญาตจาก
ศาล บุคคลผู้ชําระหนี้จะเอาทรัพย์นั้นสํออกขายทอดตลาด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แล้วเอาเงินที่ได้แต่การขายวางแทนทรั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นั้นก็ได้ ความข้อนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึงกรณีที่ค่ารักษาทรัพย์จะแพงเกินควรนั้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๓๗ ท่านไม่อนุญาตให้เอาทรัพย์ออกขายทอดตลาดจนกว่าจะได้บอกให้
สํานักเจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนี้รู้ตัวก่อน การบอกนีกา ้จะงดเสียก็ไสํด้านัถก้าทรั พย์นั้นอาจเสื่อมทรามลง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา หรือภัยมีสํอายูนั่ใกนการที ่จะหน่วง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การขายทอดตลาดไว้
สํในการที ่จะขายทอดตลาดนักา้น ท่านให้ลูกสํหนี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านั้กบงานคณะกรรมการกฤษฎี
อกกล่าวแก่เจ้าหนี้โดยไม่ กา ชักช้า ถ้า
ละเลยเสียไม่บอกกล่าว ลูกหนี้จะต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี การบอกให้
กา รู้ตัวและบอกกล่ าวนี้ ถ้าไม่เป็นอันจะทํกาาได้ จะงดเสียก็สํไาด้นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เวลาและสถานที่ที่จะขายทอดตลาด กับทั้งคําพรรณนาลักษณะแห่งทรัพย์นั้น ท่าน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ประกาศโฆษณาให้ประชาชนทราบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๓๘ ค่าฤชาธรรมเนียมในการวางทรัพย์หรือขายทอดตลาดนั้น ให้ฝ่าย
เจ้าหนี้เป็นผู้ออกสํเว้านันกแต่ ลูกหนี้จะได้ถอนทรัพกย์าที่วาง
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๓๓๙ สิทธิขสํองเจ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
หนี้เหนือทรัพย์ที่วางไว้กนา ั้นเป็นอันระงัสํบาสินั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไปเมื่อพ้นเวลา กา
สิบปี นับแต่ได้รับคําบอกกล่าวการวางทรัพย์
สํอนึ
านั่งกงานคณะกรรมการกฤษฎี
เมื่อสิทธิของเจ้าหนี้ระงั
กาบสิ้นไปแล้ว สํถึางนัแม้ ลูกหนี้จะได้ละสิทธิถอนทรั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พย์ก็ยัง
ชอบที่จะถอนทรัพย์นั้นได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ปลดหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๖๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๓๔๐ ถ้าเจ้าสํหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัก้แงานคณะกรรมการกฤษฎี
สดงเจตนาต่อลูกหนี้ว่ากจะปลดหนี
า ้ให้ สํท่าานันว่ าหนี้นั้นก็เป็น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อันระงับสิ้นไป
สํถ้าานัหนี ้มีหนังสือเป็นหลักฐานกาการปลดหนี้กสํา็ตนั้อกงทํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี าเป็นหนังสือด้วย หรืกอาต้องเวนคืน
งานคณะกรรมการกฤษฎี
เอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งหนี้ให้แก่ลูกหนี้ หรือขีดฆ่าเอกสารนั้นเสีย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่วนที่ ๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หักกลบลบหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๔๑ ถ้าบุคคลสองคนต่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา างมีความผู
สํานักกพังานคณะกรรมการกฤษฎี
นซึ่งกันและกันโดยมูลกหนี
า ้อันมีวัตถุ
เป็นอย่างเดียวกัน และหนี้ทั้งสองรายนั้นถึงกําหนดจะชําระไซร้ ท่านว่าลูกหนี้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งย่อมจะ
สํานักหลุ ดพ้นจากหนี้ของตนด้กาวยหักกลบลบกั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานนัได้ เพียงเท่าจํานวนที่ตรงกั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กานในมูลหนี้ทั้งสํสองฝ่ ายนั้น เว้นแต่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สภาพแห่งหนี้ฝ่ายหนึ่งจะไม่เปิดช่องให้หักกลบลบกันได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทบัญญัติดังกล่าวมาในวรรคก่อนนี้ท่านมิสํใาห้นัใกช้งานคณะกรรมการกฤษฎี
บังคับ หากเป็นการขัดกกัาบเจตนาอัน
คู่กรณีได้แสดงไว้ แต่เจตนาเช่นนี้ท่านห้สําามมิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้กสํระทํ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าการโดยสุจริต
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๔๒ หักกลบลบหนี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นั้น ทําได้ด้วสํยคู
านัก่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
รณีฝ่ายหนึ่งแสดงเจตนาแก่
กา อีกฝ่าย
หนึ่ง การแสดงเจตนาเช่นนี้ท่านว่าจะมีเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาเริ่มต้นหรือเวลาสิ้นสุดอีกด้วยหาได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีการแสดงเจตนาดั
กา งกล่สําานัวมาในวรรคก่ อนนี้ ท่านว่กาามีผลย้อนหลังสํขึา้นันกไปจนถึ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี งเวลาซึ่ง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หนี้ทั้งสองฝ่ายนั้นจะอาจหักกลบลบกันได้เป็นครั้งแรก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๔๓ การหักกลบลบหนี้นั้น ถึงแม้ว่าสถานที่ซึ่งจะต้องชําระหนี้ทั้งสองจะ
สํานักต่งานคณะกรรมการกฤษฎี
างกัน ก็หักกันได้ แต่ฝก่าายผู้ขอหักหนีสํ้จาะต้
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งใช้ค่าเสียหายให้แก่อกีกาฝ่ายหนึ่ง เพื่อสํความเสี ยหายอย่าง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หนึ่งอย่างใดอันเกิดแต่การนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๓๔๔ สิทธิเรีสํยากร้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งใดยังมีข้อต่อสู้อยู่ สิทกธิาเรียกร้องนั้นท่สําานันว่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหาอาจจะเอา กา
มาหักกลบลบหนี้ได้ไม่ อนึ่งอายุความย่อมไม่ตัดรอนการหักกลบลบหนี้ แม้สิทธิเรียกร้องขาดอายุความ
แล้ว แต่ว่าในเวลาที
สํานั่อกาจจะหั กกลบลบกับสิทธิกเรีา ยกร้องฝ่ายอืสํ่นาได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ั้น สิทธิยังไม่ขาด กา

มาตรากา๓๔๕ หนี้รายใดเกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดแต่การอันมิชอบด้กวายกฎหมายเป็สํนามูนัลกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ท่านห้ามมิให้ กา
ลูกหนี้ถือเอาประโยชน์แห่งหนี้รายนั้น เพื่อหักกลบลบหนี้กับเจ้าหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๔๖ สิทธิเรียกร้องรายใดตามกฎหมายศาลจะสั่งยึดมิได้ สิทธิเรียกร้องราย
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นหาอาจจะเอาไปหักกลบลบหนี
กา ้ได้ไม่สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๔๗ ลูกหนี้คนที่สามหากได้รับคําสั่งศาลห้ามมิให้ใช้เงินแล้ว จะยกเอาหนี้
สํานักซึงานคณะกรรมการกฤษฎี
่งตนได้มาภายหลังแต่นกั้นา ขึ้นเป็นข้อต่อสํสูานั้เจ้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
หนี้ผู้ที่ขอให้ยึดทรัพย์นกั้นา ท่านว่าหาอาจจะยกได้ ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๖๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๓๔๘ ถ้าคู่กสํรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัตกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่างฝ่ายต่างมีสิทธิเรียกร้กอางหลายรายอัสํนาควรแก่ การที่จะใช้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หักกลบลบหนี้ได้ไซร้ ฝ่ายผู้ที่ขอหักหนี้จะระบุก็ได้ว่าพึงเอาสิทธิเรียกร้องรายใดบ้างเข้าหักกลบลบกัน
ถ้าการหักกลบลบหนี สํานัก้ไงานคณะกรรมการกฤษฎี
ด้แสดงโดยมิได้ระบุเช่กนานั้นก็ดี หรือถ้สําานัระบุ แต่อีกฝ่ายหนึ่งท้วงขักดา ข้องโดยไม่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชักช้าก็ดี ท่านให้นําบทบัญญัติแห่งมาตรา ๓๒๘ วรรค ๒ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าฝ่ายที่ขอหักกลบลบหนี้ยังเป็นหนี้ค่าดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียมแก่อีกฝ่าย
หนึ่งอยู่ นอกจากการชํ าระหนี้อันเป็นประธานนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นด้วยไซร้ ท่สําานให้ นําบทบัญญัติแห่งมาตรา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๓๒๙ มา
ใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีแปลงหนี
กา ้ใหม่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๔๙ เมื่อคู่กรณีที่เกี่ยวข้องได้ทําสัญญาเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสาระสําคัญแห่งหนี้
ไซร้ ท่านว่าหนี้นั้นเป็นอันระงับสิ้นไปด้วยแปลงหนี้ใหม่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าทําหนี้มีเงื่อนไขให้สํกาลายเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นหนี้ปราศจากเงื่อนไขก็ดี เพิ่มเติมเงืสํา่อนันไขเข้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าในหนี้อัน
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ปราศจากเงื่อนไขก็ดี เปลี่ยนเงื่อนไขก็ดี ท่านถือว่าเป็นอันเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสาระสําคัญแห่งหนี้นั้น
สํถ้าานัแปลงหนี ้ใหม่ด้วยเปลี่ยกนตั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า วเจ้ าหนี้ ท่สํานให้ บังคับด้วยบทบัญญัตกิทาั้งหลายแห่ง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยโอนสิทธิเรียกร้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๕๐ แปลงหนี้ ใ หม่ด้ ว ยเปลี่ ย นตัว ลู ก หนี้ นั้ น จะทํ า เป็ น สั ญ ญาระหว่ า ง
เจ้าหนี้กับลูกหนี้คสํนใหม่ ก็ได้ แต่จะทําโดยขืนใจลู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กหนี้เดิมหาได้
สํานัไม่กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๓๕๑ ถ้าหนีสํา้อนัันกจะพึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งเกิดขึ้นเพราะแปลงหนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ใ หม่ นั้ นสํมิาไนัด้กเกิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดมีขึ้นก็ดี ได้ กา
ยกเลิกเสียเพราะมูลแห่งหนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งอันมิรู้ถึงคู่กรณีก็ดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ท่านว่าหนี้เดิมนั้นก็ยังหาระงับสิ้นไปไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๕๒ คู่กรณีในการแปลงหนี้ใหม่อาจโอนสิทธิจํานําหรือจํานองที่ได้ให้ไว้เป็น
ประกันหนี้เดิมนั้นสํไปเป็ นประกันหนี้รายใหม่ได้กาเพียงเท่าที่เป็สํนาประกั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นวัตถุแห่งหนี้เดิม แต่กาหลักประกัน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เช่นว่านี้ ถ้าบุคคลภายนอกเป็นผู้ให้ไว้ไซร้ ท่านว่าจําต้องได้รับความยินยอมของบุคคลภายนอกนั้น
สํานักด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
วยจึงโอนได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่วนที่ ๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หนี้เกลื่อนกลืนกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๕๓ ถ้าสิทธิและความรับผิดในหนี้รายใดตกอยู่แก่บุคคลคนเดียวกัน ท่านว่า
สํานักหนี ้รายนั้นเป็นอันระงับกสิา้นไป เว้นแต่เสํมืา่นัอกหนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้นั้นตกไปอยู่ในบังคับกแห่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า งสิทธิของบุสํคาคลภายนอก หรือ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๖๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

เมื่อสลักหลังตั๋วเงินกลับคืนตามความในมาตรา ๙๑๗ วรรค ๓


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาสัญญา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ก่อให้เกิดสัญญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๕๔ คําเสนอจะทํกาาสัญญาอันบ่สํงาระยะเวลาให้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ทําคําสนองนัก้นา ท่านว่าไม่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อาจจะถอนได้ภายในระยะเวลาที่บ่งไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๕๕ บุคคลทําคําเสนอไปยังผู้อื่นซึ่งอยู่ห่างกันโดยระยะทาง และมิได้บ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ระยะเวลาให้ทําคําสนอง จะถอนคําเสนอของตนเสียภายในเวลาอั นควรคาดหมายว่าจะได้รับคําบอก
กล่าวสนองนั้น ท่านว่าหาอาจจะถอนได้สําไนัม่กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๕๖ คําเสนอทําแก่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บุคคลผู้อยู่เฉพาะหน้ า โดยมิได้บ่งระยะเวลาให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ทําคํา
สนองนั้น เสนอ ณ ที่ใดเวลาใดก็ย่อมจะสนองรับได้แต่ ณ ที่นั้นเวลานั้น ความข้อนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึง
สํานักการที ่บุคคลคนหนึ่งทําคํกาาเสนอไปยังบุคสํคลอี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กคนหนึ่งทางโทรศัพท์ดก้วาย
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๕๗ คําเสนอใดเขาบอกปั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดไปยัสํงผูานั้เสนอแล้ วก็ดี หรือมิได้สนองรั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บภายใน
เวลากําหนดดังกล่าวมาในมาตราทั้งสามก่อนนี้ก็ดี คําเสนอนั้นท่านว่าเป็นอันสิ้นความผูกพันแต่นั้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๕๘ ถ้าคําบอกกล่าวสนองมาถึงล่วงเวลา แต่เป็นที่เห็นประจักษ์ว่าคําบอก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กล่าวนั้นได้ส่งโดยทางการ ซึ่งตามปกติควรจะมาถึงภายในกําหนดไซร้ ผู้เสนอต้องบอกกล่าวแก่คู่กรณี
สํานักอีงานคณะกรรมการกฤษฎี
กฝ่ายหนึ่งโดยพลันว่าคํกาาสนองนั้นมาถึสํงาเนิ
นัก่นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ช้า เว้นแต่จะได้บอกกล่กาาวเช่นนั้นก่อนแล้
สํานัวกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าผู้เสนอละเลยไม่บอกกล่าวดังว่ามาในวรรคต้น ท่านให้ถือว่าคําบอกกล่าวสนอง
นั้นมิได้ล่วงเวลา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๓๕๙ ถ้าคําสนองมาถึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งล่วงเวลา ท่านให้ถกือา ว่าคําสนองนัสํ้นากลายเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นคําเสนอ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ขึ้นใหม่
สํคําานัสนองอั นมีข้อความเพิ่มเติกาม มีข้อจํากัดสํหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
มีข้อแก้ไขอย่างอื่นประกอบด้
กา วยนั้น
ท่านให้ถือว่าเป็นคําบอกปัดไม่รับ ทั้งเป็นคําเสนอขึ้นใหม่ด้วยในตัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๓๖๐ บทบัญญัติแห่งมาตรา ๑๖๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วรรคสอง นั้น ท่านมิให้ใช้บังคับ ถ้า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๓๖๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติให้ใช้บรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ที่ได้ตรวจชําระใหม่กพ.ศ.
า ๒๕๓๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๖๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

หากว่าขัดกับเจตนาอันผู้เสนอได้แสดง หรือหากว่าก่อนจะสนองรับนั้น คู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้รู้อยู่แล้ว


สํานักว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าผู้เสนอตายหรือตกเป็กนาผู้ไร้ความสามารถ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๖๑ อันสัญญาระหว่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา างบุคคลซึ่งสํอยู
านั่หก่างานคณะกรรมการกฤษฎี
งกันโดยระยะทางนั้นกย่า อมเกิดเป็น
สัญญาขึ้นแต่เวลาเมื่อคําบอกกล่าวสนองไปถึงผู้เสนอ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าตามเจตนาอันผู้เสนอได้แสดง หรือตามปกติประเพณีไม่จําเป็นจะต้องมีคําบอก
กล่าวสนองไซร้ สํท่าานันว่ าสั ญ ญานั้นเกิดเป็นสักญา ญาขึ้นในเวลาเมื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ อมี การอันใดอันหนึ่ งกขึา้น อั นจะพึ ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สันนิษฐานได้ว่าเป็นการแสดงเจตนาสนองรับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๖๒ บุคคลออกโฆษณาให้คํามั่นว่าจะให้รางวัลแก่ผู้ซึ่งกระทําการอันใด
ท่านว่าจําต้องให้รสํางวั
านักลงานคณะกรรมการกฤษฎี
แก่บุคคลใด ๆ ผู้ได้กระทํ
กา าการอันนั้นสําแม้
นักถงานคณะกรรมการกฤษฎี
ึงมิใช่ว่าผู้นั้นจะได้กระทํ
กาาเพราะเห็น
แก่รางวัล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๖๓ ในกรณีที่กล่าวมาในมาตราก่อนนี้ เมื่อยังไม่มีใครทําการสําเร็จดังบ่ง
ไว้นั้นอยู่ตราบใด ผู้ให้คํามั่นจะถอนคํามั่นของตนเสียโดยวิสํธาีเนัดีกยงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วกับที่โฆษณานั้นก็ได้กเว้

นแต่จะได้
แสดงไว้ในโฆษณานั้นว่าจะไม่ถอน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ า คํ า มั่ น นั้น ไม่ อ าจจะถอนโดยวิ ธี ดั ง กล่ า วมาก่ อ น จะถอนโดยวิ ธี อื่ น ก็ไ ด้ แต่ ถ้ า
เช่นนั้นการถอนจะเป็ สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
อันสมบูรณ์ใช้ได้เพียงเฉพาะต่ กา อบุคคลที สํา่รนัู้ กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าผู้ให้คํามั่นได้กําหนดระยะเวลาให้ด้วยเพื่อทําการอันบ่งนั้นไซร้ ท่านให้สันนิษฐาน
สํานักไว้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ก่อนว่าผู้ให้คํามั่นได้สกละสิ
า ทธิที่จะถอนคํ สํานัากมังานคณะกรรมการกฤษฎี
่นนั้นเสียแล้ว กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๖๔ ถ้าบุคคลหลายคนกระทํ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าการอั
สํานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
บ่งไว้ในโฆษณา ท่านว่ากเฉพาะแต่
า คน
ที่ทําได้ก่อนใครหมดเท่านั้น มีสิทธิจะได้รับรางวัล
ถ้าบุคกคลหลายคนกระทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
การอันนั้นได้พร้อมกักนา ท่านว่าแต่ลสํะคนมี สิทธิจะได้รับ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รางวัลเป็นส่วนแบ่งเท่า ๆ กัน แต่ถ้ารางวัลนั้นมีสภาพแบ่งไม่ได้ก็ดี หรือถ้าตามข้อความแห่งคํามั่นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บุคคลแต่คนเดียวจะพึงรับรางวัลก็ดี ท่านให้วินิจฉัยด้วยวิธีจับสลาก
บทบัญกาญัติดังกล่าวมาในวรรคทั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้งสองข้างต้นนั้นกท่า านมิให้ใช้บังสํคัาบนัถ้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในโฆษณานั้น กา
แสดงเจตนาไว้เป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๖๕ คํามั่นจะให้รางวัลอันมีความประสงค์เป็นการประกวดชิงรางวัลนั้น
สํานักจะสมบู รณ์ก็ต่อเมื่อได้กกําหนดระยะเวลาไว้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานัใกนคํ าโฆษณาด้วย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การที่จะตัดสินว่าผู้ประกวดคนไหนได้กระทําสําเร็จตามเงื่อนไขในคํามั่นภายในเวลา
กําหนดหรือไม่ก็ดสํี าหรื
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ตัดสินในระหว่างผู้ประกวดหลายคนนั
กา สํานั้นกว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าคนไหนดีกว่ากันอย่ากงไรก็ า ดี ให้ผู้ชี้
ขาดซึ่งได้ระบุชื่อไว้ในโฆษณานั้นเป็นผู้ตัดสิน หรือถ้ามิได้ระบุชื่อผู้ชี้ขาดไว้ ก็ให้ผู้ให้คํามั่นเป็นผู้ตัดสิน
สํานักคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าตัดสินอันนี้ย่อมผูกพันกผูา ้ที่เกี่ยวข้องด้สํวายทุ
นักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฝ่าย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าได้คะแนนทําดีเสมอกัน ท่านให้นําบทบัสําญนักญังานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ติแห่งมาตรา ๓๖๔ วรรค กา
๒ มาใช้
บังคับ แล้วแต่กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี การโอนกรรมสิ
กา ทธิ์ในทรั
สํานักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์ที่ทําขึ้นประกวดนั้น กผูา้ให้คํามั่นจะเรีสํยานักให้ โอนแก่ตนได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๖๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ต่อเมื่อได้ระบุไว้ในโฆษณาว่าจะพึงโอนเช่นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๖๖ ข้อความใด ๆ แห่งสัญญาอันคู่สัญญาแม้เพียงฝ่ายเดียวได้แสดงไว้ว่า
เป็นสาระสําคัญอัสํนาจะต้ องตกลงกันหมดทุกข้อกนัา้น หากคู่สัญญายั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่ตกลงกันได้หมดทุกข้กอา อยู่ตราบใด
เมื่อกรณีเป็นที่สงสัย ท่านนับว่ายังมิได้มีสัญญาต่อกัน การที่ได้ทําความเข้าใจกันไว้เฉพาะบางสิ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บางอย่าง ถึงแม้ว่าจะได้จดลงไว้ก็หาเป็นการผูกพันไม่
สํถ้าานัได้ ตกลงกันว่าสัญญาอันกมุา่งจะทํานั้นจะต้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกงทํ าเป็นหนังสือไซร้ เมืก่อา กรณีเป็นที่
งานคณะกรรมการกฤษฎี
สงสัย ท่านนับว่ายังมิได้มีสัญญาต่อกันจนกว่าจะได้ทําขึ้นเป็นหนังสือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๖๗ สัญญาใดคู่สัญญาได้ถือว่าเป็นอันได้ทํากันขึ้นแล้ว แต่แท้จริงยังมิได้
ตกลงกันในข้อหนึสํ่งาข้นัอกใดอั นจะต้องทําความตกลงให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สําเร็จ ถ้สําาจะพึ งอนุมานได้ว่า ถึงหากจะไม่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ทําความ
ตกลงกันในข้อนี้ได้ สัญญานั้นก็จะได้ทําขึ้นไซร้ ท่านว่าข้อความส่วนที่ได้ตกลงกันแล้วก็ย่อมเป็นอัน
สํานักสมบู รณ์
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๖๘ สัญ ญานั้น ท่านให้ตีค วามไปตามความประสงค์ ใ นทางสุ จริ ต โดย
พิเคราะห์ถึงปกติประเพณีด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผลแห่งสัญญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๖๙ ในสั ญ ญาต่กาางตอบแทนนัสํ้ นานัคูก่ สงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ั ญ ญาฝ่า ยหนึ่ ง จะไม่ ยกอมชํ
า า ระหนี้
จนกว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะชําระหนี้ หรือขอปฏิบัติการชําระหนี้ก็ได้ แต่ความข้อนี้ท่านมิให้ใช้บังคับ ถ้าหนี้
สํานักของคู ่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งกยัางไม่ถึงกําหนดสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๗๐ ถ้าสัญญาต่างตอบแทนมีวัตถุที่ประสงค์เป็นการก่อให้เกิดหรือโอน
สํานักทรั พยสิทธิในทรัพย์เฉพาะสิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ง และทรัพสําย์นันกั้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
สูญหรือเสียหายไปด้วกยเหตุ า อย่างใดอย่
สํานัางหนึ ่งอันจะโทษ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ลูกหนี้มิได้ไซร้ ท่านว่าการสูญหรือเสียหายนั้นตกเป็นพับแก่เจ้าหนี้
สํถ้าานัไม่ ใช่ทรัพย์เฉพาะสิ่ง ท่ากนให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ใช้บทบัญญัสําตนัิทกี่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ล่าวมาในวรรคก่อนนี้บกาังคับแต่เวลา
ที่ทรัพย์นั้นกลายเป็นทรัพย์เฉพาะสิ่งตามบทบัญญัติแห่งมาตรา ๑๙๕ วรรค ๒ นั้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๗๑ บทบัญญัติที่กล่าวมาในมาตราก่อนนี้ ท่านมิให้ใช้บังคับ ถ้าเป็นสัญญา
ต่างตอบแทนมีเงืสํ่อานไขบั งคับก่อน และทรัพย์กอาันเป็นวัตถุแห่สํงสัานัญกญานั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้นสูญหรือทําลายลงในระหว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา างที่
เงื่อนไขยังไม่สําเร็จ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้าทรักพาย์นั้นเสียหายเพราะเหตุ อย่างใดอย่างหนึกา่งอันจะโทษเจ้สําานัหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้มิได้ และเมื่อ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เงื่อนไขนั้นสําเร็จสํแล้ ว เจ้าหนี้จะเรียกให้ชําระหนี้โดยลดส่วสํนอั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นตนจะต้องชําระหนี้ตอบแทนนั้นลง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือเลิกสัญญานั้นเสียก็ได้แล้วแต่จะเลือก แต่ในกรณีที่ต้นเหตุเสียหายเกิดเพราะฝ่ายลูกหนี้นั้น ท่าน
สํานักว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าหากระทบกระทั่งถึงสิกทาธิของเจ้าหนี้ทสําี่จนัะเรี ยกค่าสินไหมทดแทนไม่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๖๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๓๗๒ นอกจากกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ที่กล่าวไว้ในสองมาตราก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อน ถ้าการชํ
สําานัระหนี ้ตกเป็นพ้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
วิสัย เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งอันจะโทษฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดก็ไม่ได้ไซร้ ท่านว่าลูกหนี้หามีสิทธิจะรับ
ชําระหนี้ตอบแทนไม่สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าการชําระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัย เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งอันจะโทษเจ้าหนี้ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลูกหนี้ก็หาเสียสิทธิที่จะรับชําระหนี้ตอบแทนไม่ แต่ว่าลูกหนี้ได้อะไรไว้เพราะการปลดหนี้ก็ดี หรือใช้
คุณวุฒิความสามารถของตนเป็ นประการอื่นกเป็า นเหตุให้ได้อสํะไรมา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หรือแกล้งละเลยเสียกไม่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ขวนขวาย
เอาอะไรที่สามารถจะทําได้ก็ดี มากน้อยเท่าไร จะต้องเอามาหักกับจํานวนอันตนจะได้รับชําระหนี้ตอบ
สํานักแทน วิธีเดียวกันนี้ท่านให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาใช้ตลอดถึงกรณี
สํานัทกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี่การชําระหนี้อันฝ่ายหนึก่งายังค้างชําระอยู
สํา่นนัั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตกเป็นพ้นวิสัย กา
เพราะพฤติการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งฝ่ายนั้นมิต้องรับผิดชอบ ในเวลาเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งผิดนัดไม่รับชําระหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๗๓ ความตกลงทําไว้ล่วงหน้าเป็นข้อความยกเว้นมิให้ลูกหนี้ต้องรับผิดเพื่อ
สํานักกลฉ้ อฉล หรือความประมาทเลิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นเล่ออย่สําานังร้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
ยแรงของตนนั้น ท่านว่กาาเป็นโมฆะ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๗๔ ถ้าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งทําสัญญาตกลงว่ าจะชําระหนี้แก่บุคคลภายนอก
ไซร้ ท่านว่าบุคคลภายนอกมีสิทธิจะเรียสํกชํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าระหนี้จากลูกหนี้โดยตรงได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีดังกล่าวมาในวรรคต้นนั้น สิทธิของบุคคลภายนอกย่อมเกิดมีขึ้นตั้งแต่เวลาที่
แสดงเจตนาแก่ลูกสํหนี
านัก้วงานคณะกรรมการกฤษฎี
่าจะถือเอาประโยชน์จากสั
กา ญญานั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๓๗๕ เมื่อสิสํทานัธิขกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี องบุคคลภายนอกได้เกิกาดมีขึ้นตามบทบั
สํานัญกญังานคณะกรรมการกฤษฎี
ติแห่งมาตรา กา
ก่อนแล้ว คู่สัญญาหาอาจจะเปลี่ยนแปลงหรือระงับสิทธินั้นในภายหลังได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๗๖ ข้อต่อสู้อันเกิดแต่มูลสัญญาดังกล่าวมาในมาตรา ๓๗๔ นั้น ลูกหนี้
สํานักอาจจะยกขึ ้นต่อสู้บุคคลภายนอกผู
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้จะได้สํารนัับกประโยชน์ จากสัญญานั้นกได้า
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มัสํดานัจํกาและกํ าหนดเบี้ยปรับ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๗๗ เมื่อเข้าทําสัญญา ถ้าได้ให้สิ่งใดไว้เป็นมัดจํา ท่านให้ถือว่าการที่ให้มัด
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านั้นย่อมเป็นพยานหลักากฐานว่าสัญญานั
สํานัก้ นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ทํากันขึ้นแล้ว อนึก่งมัา ดจํานี้ย่อมเป็สํานนัประกั นการที่จะ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ปฏิบัติตามสัญญานั้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๗๘ มัดจํานั้น ถ้ามิได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น ท่านให้เป็นไปดังจะกล่าว
สํานักต่งานคณะกรรมการกฤษฎี
อไปนี้ คือ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ให้ส่งคืน หรือจัดเอาเป็นการใช้เงินบางส่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วนในเมื่อชําระหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ให้ริบ ถ้าฝ่ายที่วางมัดจําละเลยไม่ชําระหนี้ หรือการชําระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัย
สํานักเพราะพฤติ การณ์อันใดอักานหนึ่งซึ่งฝ่ายนัสํา้นนัต้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี งรับผิดชอบ หรือถ้ามีกกาารเลิกสัญญาเพราะความผิ ดของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๖๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ฝ่ายนั้น
(๓) ให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาส่งคืน ถ้าฝ่ายที
สํานั่รกับงานคณะกรรมการกฤษฎี
มัดจําละเลยไม่ชําระหนี
กา้ หรือการชําระหนี
สํานัก้ตงานคณะกรรมการกฤษฎี
กเป็นพ้นวิสัย กา
เพราะพฤติการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งฝ่ายนี้ต้องรับผิดชอบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๗๙ ถ้าลูกหนี้สัญญาแก่เจ้าหนี้ว่าจะใช้เงินจํานวนหนึ่งเป็นเบี้ยปรับเมื่อตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่ชําระหนี้ก็ดี หรือไม่ชําระหนี้ให้ถูกต้องสมควรก็ดี เมื่อลูกหนี้ผิดนัดก็ให้ริบเบี้ยปรับ ถ้าการชําระหนี้
อันจะพึงทํานั้นได้สํแานัก่กงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดเว้นการอันใดอันหนึ่งกาหากทําการอัสํนานันั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฝ่าฝืนมูลหนี้เมื่อใด ก็ใกห้าริบเบี้ยปรับ
เมื่อนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๘๐ ถ้าลูกหนี้ได้สัญญาไว้ว่าจะให้เบี้ยปรับเมื่อตนไม่ชําระหนี้ เจ้าหนี้จะ
เรียกเอาเบี้ยปรับสํอัานนัจะพึ งริบนั้นแทนการชําระหนี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ก็ได้ แต่ถสํ้าาเจ้นัากหนี ้แสดงต่อลูกหนี้ว่าจะเรี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยกเอาเบี้ย
ปรับฉะนั้นแล้ว ก็เป็นอันขาดสิทธิเรียกร้องชําระหนี้อีกต่อไป
ถ้าเจ้ากหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้มีสิทธิเรียกร้สําอนังค่ าสินไหมทดแทนเพื่อการไม่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ชําระหนี้ สํจะเรี
านักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
กเอาเบี้ยปรับ กา
อันจะพึงริบนั้นในฐานเป็นจํานวนน้อยที่สุดแห่งค่าเสียหายก็ได้ การพิสูจน์ค่าเสียหายยิ่งกว่านั้น ท่านก็
อนุญาตให้พิสูจน์ไสํด้านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๓๘๑ ถ้าลูกหนี้ได้สัญญาไว้ว่าจะให้เบี้ยปรับเมื่อตนไม่ชําระหนี้ให้ถูกต้อง
สมควร เช่นว่าไม่สํชาํานัระหนี ้ตรงตามเวลาที่กําหนดไว้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เป็นต้น สํนอกจากเรี ยกให้ชําระหนี้ เจ้กาาหนี้จะเรียก
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เอาเบี้ยปรับอันจะพึงริบนั้นอีกด้วยก็ได้
ถ้าเจ้ากหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้มีสิทธิเรียกร้
สําอนังค่ าสินไหมทดแทนในมูลกชําาระหนี้ไม่ถูกสํต้าอนังสมควร
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ท่านให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บังคับตามบทบัญญัติแห่งมาตรา ๓๘๐ วรรค ๒
สํถ้าานัเจ้ าหนี้ยอมรับชําระหนี้แกล้า ว จะเรียกเอาเบี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก้ยงานคณะกรรมการกฤษฎี
ปรับได้ต่อเมื่อได้บอกสงวนสิ
กา ทธิไว้
เช่นนั้นในเวลารับชําระหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๘๒ ถ้าสัญญาว่าจะทําการชําระหนี้อย่างอื่นให้เป็นเบี้ยปรับ ไม่ใช่ใช้เป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จํานวนเงินไซร้ ท่านให้นําบทบัญญัติแห่งมาตรา ๓๗๙ ถึง ๓๘๑ มาใช้บังคับ แต่ถ้าเจ้าหนี้เรียกเอาเบี้ย
สํานักปรั บแล้ว สิทธิเรียกร้องค่กาา สินไหมทดแทนก็
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
ป็นอันขาดไป กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๘๓ ถ้าเบี้ยปรับทีก่ราิบนั้นสูงเกินส่สํวานนักศาลจะลดลงเป็


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นจํานวนพอสมควรก็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ได้ ในการที่จะวินิจฉัยว่าสมควรเพียงใดนั้น ท่านให้พิเคราะห์ถึงทางได้เสียของเจ้าหนี้ทุกอย่างอันชอบ
สํานักด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
วยกฎหมาย ไม่ใช่แต่เพีกายงทางได้เสียในเชิ
สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรัพย์สิน เมื่อได้ใช้เงินกตามเบี
า ้ยปรับแล้สําวนัสิกทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธิเรียกร้องขอ กา
ลดก็เป็นอันขาดไป
สํนอกจากกรณี ที่กล่าวไว้ในมาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๓๗๙ และ สํานั๓๘๒ ท่านให้ใช้วิธีเดียวกักนา นี้บังคับ ใน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เมื่อบุคคลสัญญาว่าจะให้เบี้ยปรับเมื่อตนกระทําหรืองดเว้นกระทําการอันหนึ่งอันใดนั้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๘๔ ถ้าการชําระหนี้ตามที่สัญญาไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นั้นไม่สมบูรณ์ การที่ตกลงกันด้วยข้อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เบี้ยปรับในการไม่ปฏิบัติตามสัญญานั้นก็ย่อมไม่สมบูรณ์ดุจกัน แม้ถึงคู่กรณีจะได้รู้ว่าข้อสัญญานั้นไม่
สํานักสมบู รณ์
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๗๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๓๘๕ ถ้าลูกสํหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านั้โกต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
แย้งการริบเบี้ยปรับโดยอ้
กา างเหตุว่าตนได้
สํานัชกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
ระหนี้แล้วไซร้ กา
ท่านว่าลูกหนี้จะต้องพิสูจน์การชําระหนี้ เว้นแต่การชําระหนี้อันตนจะต้องทํานั้นเป็นการให้งดเว้นการ
อันใดอันหนึ่ง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


หมวด ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกเลิา กสัญญา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๓๘๖ ถ้าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งมีสิทธิเลิกสัญญาโดยข้อสัญญาหรือโดบทบัญญัติ
แห่งกฎหมาย การเลิ
สํานักกสังานคณะกรรมการกฤษฎี
ญญาเช่นนั้นย่อมทําด้กวายแสดงเจตนาแก่
สํานัอกีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฝ่ายหนึ่ง กา
แสดงเจตนาดังกล่าวมาในวรรคก่อนนั้น ท่านว่าหาอาจจะถอนได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๘๗ ถ้าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งไม่ชําระหนี้ อีกฝ่ายหนึ่งจะกําหนดระยะเวลา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พอสมควร แล้วบอกกล่าวให้ฝ่ายนั้นชําระหนี้ภายในระยะเวลานั ้นก็ได้ ถ้าและฝ่ายนั้นไม่ชําระหนี้
ภายในระยะเวลาที่กําหนดให้ไซร้ อีกฝ่สํายหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่งจะเลิกสัญญาเสียก็ได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๘๘ ถ้ า วั ต ถุ ที่ ปกระสงค์


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า แ ห่ ง สั ญสําญานั ้ น ว่ า โดยสภาพหรื อกโดยเจตนาที
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่
คู่ สั ญ ญาได้ แ สดงไว้ จะเป็ น ผลสํ า เร็ จ ได้ ก็ แ ต่ ด้ ว ยการชํ า ระหนี้ ณ เวลามี กํ า หนดก็ ดี หรื อ ภายใน
สํานักระยะเวลาอั นใดอันหนึ่งกซึา ่งกําหนดไว้กสํ็ดาีนัและกํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี าหนดเวลาหรือระยะเวลานั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นได้ลสํ่วางพ้
นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไปโดยฝ่ายใด กา
ฝ่ายหนึ่งมิได้ชําระหนี้ไซร้ ท่านว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะเลิกสัญญานั้นเสียก็ได้ มิพักต้องบอกกล่าวดังว่าไว้ใน
มาตราก่อนนั้นเลยสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๓๘๙ ถ้าการชํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากระหนี ้ทั้งหมดหรือแต่บางส่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา วนกลายเป็นสําพ้นันกวิงานคณะกรรมการกฤษฎี
สัยเพราะเหตุ กา
อย่างใดอย่างหนึ่งอันจะโทษลูกหนี้ได้ไซร้ เจ้าหนี้จะเลิกสัญญานั้นเสียก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๓๙๐ ถ้าในสัสํญานัญาใดคู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่สัญญาเป็นบุคคลหลายคนด้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วยกันสํอยู
านัก่ขงานคณะกรรมการกฤษฎี
้างหนึ่งหรืออีก กา
ข้างหนึ่ง ท่านว่าจะใช้สิทธิเลิกสัญญาได้ก็แต่เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดรวมกันใช้ ทั้งใช้ต่อบุคคล
เหล่านั้นรวมหมดทุสํานักกคนด้ วย ถ้าสิทธิเลิกสัญกญาอั
งานคณะกรรมการกฤษฎี า นมีแก่บุคสํคลคนหนึ ่งในจําพวกที่มีสิทกาธินั้นเป็นอัน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ระงับสิ้นไปแล้ว สิทธิเลิกสัญญาอันมีแก่คนอื่น ๆ ก็ย่อมระงับสิ้นไปด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๙๑ เมื่อคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้ว คู่สัญญาแต่ละฝ่าย
จําต้องให้อีกฝ่ายหนึ
สํานัก่ งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้กลับคืนสู่ฐ านะดั งทีก่เาป็นอยู่ เดิม แต่
สํานัทกั้ งงานคณะกรรมการกฤษฎี
นี้จะให้เป็นที่เสื่อมเสียกาแก่ สิท ธิของ
บุคคลภายนอกหาได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ส่วนเงิกนา อันจะต้องใช้สํคาืนนักในกรณี ดังกล่าวมาในวรรคต้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นนั้น ท่านให้สํานับกวกดอกเบี ้ยเข้า
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ด้วย คิดตั้งแต่เวลาที ่ได้รับไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่เป็นการงานอันได้กระทําให้และเป็นการยอมให้ใช้ทรัพย์นั้น การที่จะชดใช้คืน
สํานักท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านให้ทําได้ด้วยใช้เงินตามควรค่
กา าแห่งสํการนั ้น ๆ หรือถ้าในสัญญามีกากําหนดว่าให้ใสํช้าเนังิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ตอบแทน ก็ให้ กา
- ๗๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ใช้ตามนั้น
การใช้กสาิทธิเลิกสัญญานั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้นกหากระทบกระทั ่งถึงสิทธิกเารียกร้องค่าเสียสํหายไม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๙๒ การชําระหนีก้ขาองคู่สัญญาอัสํนาเกินักดงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี แต่การเลิกสัญญานั้น ให้
กา เป็นไปตาม
บทบัญญัติแห่งมาตรา ๓๖๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๙๓ ถ้ามิได้กําหนดระยะเวลาไว้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํให้านัใช้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สิทธิเลิกสัญญา คู่สัญญาอี
กา กฝ่ายหนึ่ง
จะกําหนดระยะเวลาพอสมควร แล้วบอกกล่าวให้ฝ่ายที่มีสิทธิเลิกสัญญานั้นแถลงให้ทราบภายใน
สํานักระยะเวลานั ้นก็ได้ ว่าจะเลิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กสัญญาหรืสํอาหาไม่ ถ้ามิได้รับคําบอกกล่กาาวเลิกสัญญาภายในระยะเวลานั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สิทธิเลิกสัญญาก็เป็นอันระงับสิ้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๙๔ ถ้าทรัพย์อันเป็นวัตถุแห่งสัญญานั้นบุบสลายไปในส่วนสําคัญเพราะ
สํานักการกระทํ าหรือเพราะความผิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดของบุคสํคลผู ้มีสิทธิเลิกสัญญาก็ดี หรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาอบุคคลนั้นได้สํทานัําให้ การคืนทรัพย์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กลายเป็นพ้นวิสัยก็ดี เปลี่ยนแปลงทรัพย์นั้นให้ผิดแผกไปเป็นอย่างอื่นด้วยประกอบขึ้นหรือดัดแปลงก็
ดี ท่านว่าสิทธิเลิกสํสัาญนักญานั
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้นก็เป็นอันระงับสิ้นไป สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่ถ้าทรัพย์อันเป็นวัสํตานัถุกแงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ห่งสัญญาได้สูญหายหรื กา
อบุบสลายไปโดยปราศจากการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กระทําหรือความผิดของบุคคลผู้มีสิทธิเลิกสัญญาไซร้ สิทธิเลิกสัญญานั้นก็หาระงับสิ้นไปไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานัจักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
การงานนอกสั่ง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๙๕ บุคคลใดเข้าทํากิจการแทนผู้อื่นโดยเขามิได้ว่าขานวานใช้ให้ทําก็ดี
สํานักหรื อโดยมิได้มีสิทธิที่จะทํกาาการงานนั้นแทนผู
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้อื่นด้วยประการใดก็ดี กท่าานว่าบุคคลนัสํ้นาจะต้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี องจัดการงาน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไปในทางที่จะให้สมประโยชน์ของตัวการ ตามความประสงค์อันแท้จริงของตัวการ หรือตามที่จะพึง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สันนิษฐานได้ว่าเป็นความประสงค์ของตัวการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๙๖ ถ้าการที่เข้าจัดการงานนั้นเป็นการขัดกับความประสงค์อันแท้จริงของ
ตัวการก็ดี หรือขัดสํากันับกความประสงค์ ตามที่จะพึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กางสันนิษฐานได้
สํากนั็ดกี งานคณะกรรมการกฤษฎี
และผู้จัดการก็ควรจะได้การู้สึกเช่นนั้น
แล้วด้วยไซร้ ท่านว่าผู้จัดการจําต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ตัวการเพื่อความเสียหายอย่างใด ๆ อัน
สํานักเกิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดแต่ที่ได้เข้าจัดการนั้นกาแม้ทั้งผู้จัดการจะมิ ได้มีความผิดประการอืก่นา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๙๗ ถ้ า ผู้ จั ด การทํ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา า กิ จ อั น ใดซึ
สํานั่ งกเป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
น หน้ า ที่ บั ง คั บ ให้ ตั วกการทํ
า า เพื่ อ
สาธารณประโยชน์ก็ดี หรือเป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่จะบํารุงรักษาผู้อื่นก็ดี และหากผู้จัดการมิได้เข้า
สํานักทํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าแล้วกิจอันนั้นจะไม่สกําเร็
า จภายในเวลาอั
สํานันกควรไซร้ การที่ได้ทําขัดกักบา ความประสงค์สําขนัองตั
งานคณะกรรมการกฤษฎี วการเช่นนั้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ท่านมิให้ยกขึ้นเป็สํนาข้นัอกวิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นิจฉัย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๓๙๘ ถ้าผู้จสํัดาการทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ากิจอันใดเพื่อประสงค์
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จะปัดป้องอัสํนานัตรายอั นมีมาใกล้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๗๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ตัวการ จะเป็นภัยแก่ตัวก็ดี แก่ชื่อเสียงก็ดี หรือแก่ทรัพย์สินก็ดี ท่านว่าผู้จัดการต้องรับผิดชอบแต่เพียง


สํานักทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่จงใจทําผิด หรือที่เป็นกความประมาทเลิ
า สํานนักเล่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ออย่างร้ายแรงเท่านั้นกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๓๙๙ ผู้จัดการต้องบอกกล่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าวแก่ตสําัวนัการโดยเร็ วที่สุดที่จะทําได้กาว่าตนได้เข้า
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
จัดการงานแทน และต้องรอฟังคําวินิจฉั ยของตัวการ เว้นแต่ภัยจะมี ขึ้นเพราะการที่หน่วงเนิ่นไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นอกจากนี้ท่านให้นําบทบัญญัติแห่งมาตรา ๘๐๙ ถึง ๘๑๑ อันบังคับแก่ตัวแทนนั้นมาใช้บังคับแก่
หน้าที่ของผู้จัดการด้
สํานัวกยโดยอนุ โลม
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๔๐๐ ถ้าผู้จสํัดาการเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นผู้ไร้ความสามารถกาท่านว่าจะต้องรั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําบนักผิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดชอบแต่เพียง กา
ตามบทบัญญัติว่าด้วยค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิด และว่าด้วยการคืนลาภมิควรได้เท่านั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๐๑ ถ้าการที่เข้าจัดการงานนั้นเป็นการสมประโยชน์ของตัวการ และต้อง
สํานักตามความประสงค์ อันแท้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาจริงของตัวการ
สํานัหรื อความประสงค์ตามทีก่จา ะพึงสันนิษฐานได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นั้นไซร้ท่านว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้จัดการจะเรียกให้ชดใช้เงินอันตนได้ออกไปคืนแก่ตนเช่นอย่างตัวแทนก็ได้ และบทบัญญัติมาตรา
๘๑๖ วรรค ๒ นั้นสําท่นัากนก็
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้นํามาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง ในกรณีที่กล่าวมาในมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๙๗ นั้น แม้ถึงว่าที่เข้าจัดการงานนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้นจะเป็นการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขัดกับความประสงค์ของตัวการก็ดี ผู้จัดการก็ยังคงมีสิทธิเรียกร้องเช่นนั้นอยู่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๐๒ ถ้าเงื่อนไขดังว่ามาในมาตราก่อนนั้นมิได้มี ท่านว่าตัวการจําต้องคืนสิ่ง
สํานักทังานคณะกรรมการกฤษฎี
้งหลายบรรดาที่ได้มาเพราะเขาเข้
กา าจัดสําการงานนั ้นให้แก่ผู้จัดการ กตามบทบั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ญญัติสํว่าานัด้กวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยการคืนลาภมิ กา
ควรได้
สํถ้าานัตักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
การให้สัตยาบันแก่การที กา ่จัดทํานั้น ท่สําานให้ นําบทบัญญัติทั้งหลายแห่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งประมวล
กฎหมายนี้ว่าด้วยตัวแทนมาใช้บังคับ แล้วแต่กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๐๓ ถ้าผู้จัดการมิได้มีบุรพเจตนาจะเรียกให้ตัวการชดใช้คืน ผู้จัดการก็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ย่อมไม่มีสิทธิเรียกร้องเช่นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีการทีก่บาิดามารดา ปูสํ่ยา่านักตายาย บํารุงรักษาผู้สืบกสัานดานเป็นทางอุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักปงานคณะกรรมการกฤษฎี
การะก็ดี หรือ กา
กลับกันเป็นทางปฏิการะก็ดี เมื่อกรณีเป็นที่สงสัยท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าไม่มีเจตนาจะเรียกให้
ผู้รับประโยชน์ชดใช้
สํานัคกืนงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๔๐๔ ถ้าผู้จสํัดานัการทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าแทนผู้หนึ่งโดยสํากคัาญว่าทําแทนผูสํา้อนัื่นกอีงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กคนหนึ่งไซร้ กา
ท่านว่าผู้เป็นตัวการคนก่อนผู้เดียวมีสิทธิและหน้าที่อันเกิดแต่การที่ได้จัดทําไปนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๐๕ บทบัญญัติทั้งหลายที่กล่าวมาในสิบมาตราก่อนนั้น ท่านมิให้ใช้บังคับ
สํานักแก่ กรณีที่บุคคลหนึ่งเข้ากทําาการงานของผู
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํา้อนัื่นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
โดยสําคัญว่าเป็นการงานของตนเอง
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าบุคคลใดถือเอากิจการของผู้อื่นว่าเป็นของตนเอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทั้งที่รู้แล้วว่าตนไม่มีสิทธิจะทํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เช่นนั้นไซร้ ท่านว่าตัวการจะใช้สิทธิเรียกร้องบังคับโดยมูลดังบัญญัติไว้ในมาตรา ๓๙๕, ๓๙๖, ๓๙๙
สํานักและ ๔๐๐ นั้นก็ได้ แต่กเมืา ่อได้ใช้สิทธิดสํังาว่นัากมานี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้แล้ว ตัวการจะต้อกงรัา บผิดต่อผู้จัดสํการดั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่งบัญญัติไว้ใน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๗๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๔๐๒ วรรค ๑


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีลาภมิ
กา ควรได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๔๐๖ บุคคลใดได้มกาซึา ่งทรัพย์สิ่งใดสํเพราะการที


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่บุคคลอีกคนหนึกา่งกระทําเพื่อ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชําระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วยประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และเป็นทางให้
สํานักบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
คคลอีกคนหนึ่งนั้นเสีกยาเปรียบไซร้ ท่สําานันว่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
าบุคคลนั้นจําต้องคืนทรั กา พย์ใ ห้แก่เขาสําอนึ
นัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
การรับสภาพ กา
หนี้สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทําเพื่อชําระหนี้ด้วย
สํบทบั ญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังกคัา บตลอดถึงกรณี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัทกี่ไงานคณะกรรมการกฤษฎี
ด้ทรัพย์มา เพราะเหตุกอาย่างใดอย่าง
หนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๐๗ บุคคลใดได้กระทําการอันใดตามอําเภอใจเหมือนหนึ่งว่าเพื่อชําระหนี้
โดยรู้อยู่ว่าตนไม่มีความผูกพันที่จะต้องชําระ ท่านว่าบุคคลผูสํ้นาั้นนัหามี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิทธิจะได้รับคืนทรัพย์ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๐๘ บุคคลดังจะกล่าวต่อไปนี้ไม่มีสิทธิจะได้รับคืนทรัพย์ คือ
สํ(๑) บุคคลผู้ชําระหนี้อันมีเงืก่อานเวลาบังคับเมื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํา่อนัก่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
อนถึงกําหนดเวลานั้น กา
(๒) บุคคลผู้ชําระหนี้ซึ่งขาดอายุความแล้ว
(๓) บุกคาคลผู้ชําระหนีสํ้ตาามหน้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าที่ศีลธรรม หรือตามควรแก่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อัธยาศัสํยาในสมาคม
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๔๐๙ เมื่อบุคคลผู้หกนึา่งผู้ใดซึ่งมิได้เสํป็านนัลูกกงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี หนี้ได้ชําระหนี้ไปโดยสํกาาคัญผิด เป็น
เหตุให้เจ้าหนี้ผู้ทําการโดยสุจริตได้ทําลาย หรือลบล้างเสียซึ่งเอกสารอันเป็นพยานหลักฐานแห่งหนี้ก็ดี
สํานักยกเลิ กหลักประกันเสียก็กดาี สิ้นสิทธิไปเพราะขาดอายุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ความก็ดี ท่านว่กาาเจ้าหนี้ไม่จําต้สํอางคื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรัพย์ กา
บทบัญญัติที่กล่าวมาในวรรคก่อนนี้ ไม่ขัดขวางต่อการที่บุคคลผู้ได้ชําระหนี้นั้นจะใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ลูกหนี้และผู้ค้ําประกัน ถ้าจะพึงมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๑๐ บุคคลผู้ใดได้ทําการชําระหนี้โดยมุ่งต่อผลอย่างหนึ่ง แต่มิได้เกิดผลขึ้น
เช่นนั้น ถ้าและบุคสํคลนั ้นได้รู้มาแต่แรกว่าการทีกา่จะเกิดผลนั้นเป็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานนักพ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
นวิสัยก็ดี หรือได้เข้าป้อกงปั
า ดขัดขวาง
เสียมิให้เกิดผลเช่นนั้นโดยอาการอันฝ่าฝืนความสุจริตก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นไม่มีสิทธิจะได้รับคืนทรัพย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๑๑ บุคคลใดได้กระทําการเพื่อชําระหนี้เป็นการอันฝ่าฝืนข้อห้ามตาม
กฎหมายหรือศีลธรรมอั นดี ท่านว่าบุคคลนั้นหาอาจจะเรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยกร้สํอางคื
นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรัพย์ได้ไม่ กา

มาตรากา๔๑๒ ถ้าทรัพสํย์านัสกินงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ซึ่งได้รับไว้เป็นลาภมิคกวรได้
า นั้นเป็นเงินสํจํานัานวนหนึ ่งท่านว่า
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ต้องคืนเต็มจํานวนนั ้น เว้นแต่เมื่อบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต จึสํงาต้นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งคืนลาภมิควรได้เพียงส่กาวนที่ยังมีอยู่
ในขณะเมื่อเรียกคืน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๗๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๔๑๓ เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่างอื่นนอกจากจํานวนเงิน และ


สํานักบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
คคลได้รับไว้โดยสุจริตกาท่านว่าบุคคลเช่ สํานันกนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นจําต้องคืนทรัพย์สินเพี กายงตามสภาพที
สํา่เนัป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
อยู่ และมิต้อง กา
รับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบสลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการสูญ
หายหรือบุบสลายเช่สํานันกนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นก็ต้องให้ไปด้วย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่านว่าจะต้องรับผิดชอบในการสูญหายหรือบุบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สลายนั้นเต็มภูมิ แม้กระทั่งการสูญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึง
อย่างไร ทรัพย์สินสํนัา้นนักก็งานคณะกรรมการกฤษฎี
คงต้องสูญหายหรือบุบกสลายอยู า ่นั่นเองสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๔๑๔ ถ้าการคื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกทรั พย์ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะสภาพแห่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งสํทรั
านักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์สินที่ได้รับไว้ กา
นั้นเองก็ดี หรือเพราะเหตุอย่างอื่นก็ดี และบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยสุจริต ท่านว่าบุคคลเช่นนั้น
จําต้องคืนลาภมิคสํวรได้ เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ในขณะเมื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อเรียกคืนสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าบุคคลได้รับทรัพย์สินนั้นไว้โดยทุจริต ท่านว่าต้องใช้ราคาทรัพย์สินนั้นเต็มจํานวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๑๕ บุ ค คลผู้ ได้ รั บทรัพ ย์ สิ น ไว้ โดยสุ จริ ต ย่อมจะได้ ด อกผลอั น เกิ ดแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทรัพย์สินนั้นตลอดเวลาที่ยังคงสุจริตอยู่
ถ้าผู้ที่ได้รับไว้จะต้องคืสํานนัทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พย์สินนั้นเมื่อใด ให้ถือว่าผู้นั้นตกอยู่ใสํนฐานะทุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จริตจําเดิม
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่เวลาที่เรียกคืนนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๑๖ ค่ า ใช้ จ่ า ยทั้ ง หลายอั น ควรแก่ ก ารเพื่ อ รั ก ษาบํ า รุ ง หรื อ ซ่ อ มแซม
สํานักทรั พย์สินนั้น ท่านว่าต้อกงชดใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า แก่บุคคลผู สํานั้คกืนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรัพย์สินนั้นเต็มจํานวนกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่ บุคคลเช่ นว่ านี้จะเรียกร้ องให้ชดใช้ค่าใช้จ่ายตามธรรมดาเพื่อบํารุงซ่ อ มแซม
ทรัพย์สินนั้น หรือสํค่านัาภาระติ ดพันที่ต้องเสียไปในระหว่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา างที่ตนคงเก็ บดอกผลอยู่นั้นหาได้ไม่กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๔๑๗ ในส่วสํนค่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัากใช้ จ่ายอย่างอื่นนอกจากที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่กล่าวมาในวรรคต้ นแห่งมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ก่อนนั้น บุคคลผู้คืนทรัพย์สินจะเรียกให้ชดใช้ได้แต่เฉพาะที่เสียไปในระหว่างที่ตนทําการโดยสุจริต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และเมื่อทรัพย์สินนั้นได้มีราคาเพิ่มสูงขึ้นเพราะค่าใช้จ่ายนั้นในเวลาที่คืน และจะเรียกได้ก็แต่เพียงเท่า
สํานักราคาที ่เพิ่มขึ้นเท่านั้น กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง บทบัญญัติแห่งมาตรา ๔๑๕ วรรค ๒ นั้น ท่านให้นํามาใช้บังคับด้วย แล้วแต่
กรณี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๔๑๘ ถ้าบุคสํคลรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรัพย์สินอันมิควรได้ไกว้าโดยทุจริต และได้
สํานักทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําการดัดแปลง กา
หรือต่อเติมขึ้นในทรัพย์สินนั้น ท่านว่าบุคคลเช่นนั้นต้องจัดทําทรัพย์สินนั้นให้คืนคงสภาพเดิมด้วย
ค่าใช้จ่ายของตนเองแล้ วจึงส่งคืน เว้นแต่เจ้าของทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พย์สินจะเลื
สํานัอกกให้ ส่งคืนตามสภาพที่เป็กนาอยู่ ในกรณี
งานคณะกรรมการกฤษฎี
เช่นนี้เจ้าของจะใช้ราคาค่าทําดัดแปลงหรือต่อเติม หรือใช้เงินจํานวนหนึ่งเป็นราคาทรัพย์สินเท่าที่
สํานักเพิ ่มขึ้นนั้นก็ได้ แล้วแต่จกะเลื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า อก สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าในเวลาที่จะต้องคืนทรัพย์นั้นเป็นพ้นวิสํสาัยนัจะทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าให้ทรัพย์สินคืนคงสภาพเดิมได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือถ้าทําไปทรัพย์สินนั้นจะบุบสลายไซร้ ท่านว่าบุคคลผู้ได้รับไว้จะต้องส่งคืนทรัพย์สินตามสภาพที่
สํานักเป็ นอยู่ และไม่มีสิทธิเรีกยากค่าสินไหมทดแทนเพื
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่อราคาทรัพย์สินทีก่เพิา ่มขึ้นเพราะการดั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
แปลงหรือต่อ กา
- ๗๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

เติมนั้นได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๑๙ ในเรื่องลาภมิควรได้นั้น ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นกําหนดปีหนึ่งนับ
แต่เวลาที่ฝ่ายผู้เสีสํยาหายรู ้ว่าตนมีสิทธิเรียกคืน กหรื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อเมื่อพ้นสิบสํปีานนัับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่เวลาที่สิทธินั้นได้มีขกึ้นา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาละเมิด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


หมวด ๑
ความรักาบผิดเพื่อละเมิสํดานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทําต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขา
เสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดสํี าทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี
ท่านว่าผู้นั้นทําละเมิดจําต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่อการนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๔๒๑ การใช้สิทธิซกึ่งามีแต่จะให้เกิดสํเสี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัยกหายแก่ บุคคลอื่นนั้น ท่กานว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า าเป็นการ
อันมิชอบด้วยกฎหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๒๒ ถ้าความเสียหายเกิดแต่การฝ่าฝืนบทบังคับแห่งกฎหมายใดอันมีที่
ประสงค์เพื่อจะปกป้
สํานัอกงบุ คคลอื่น ๆ ผู้ใดทําการฝ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าฝืนเช่นนั้น สํท่าานันให้ สันนิษฐานไว้ก่อนว่ากผูา้นั้นเป็นผู้ผิด
กงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๔๒๓ ผู้ใดกล่สําานัวหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้กาอความอันฝ่าฝืสํนานัต่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ความจริง เป็น กา
ที่เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทํามาหาได้ หรือทาง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสียหาย
สํานักอย่ างใดๆ อันเกิดแต่การนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้น แม้ทั้งเมื่อตนมิ
สํานักไงานคณะกรรมการกฤษฎี
ด้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริกงาแต่หากควรจะรู
สํานั้ได้กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ใดส่งข่าวสารอันตนมิได้รู้ว่าเป็นความไม่จริง หากว่าตนเองหรือผู้รับข่าวสารนั้นมี
ทางได้เสียโดยชอบในการนั ้นด้วยแล้ว ท่านว่กาาเพียงที่ส่งข่าวสารเช่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นนั้นหาทําให้ผู้นั้นต้อกงรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า บผิดใช้ค่า
สินไหมทดแทนไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๒๔ ในการพิพากษาคดีข้อความรับผิดเพื่อละเมิดและกําหนดค่าสินไหม
ทดแทนนั้น ท่านว่สําาศาลไม่ จําต้องดําเนินตามตามบทบั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัติแสํห่านังกกฎหมายลั กษณะอาญาอักนา ว่าด้วยการ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่จะต้องรับโทษ และไม่จําต้องพิเคราะห์ถึงการที่ผู้กระทําผิดต้องคําพิพากษาลงโทษทางอาญาหรือไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๒๕ นายจ้างต้องร่วมกันรับผิดสํกัาบนัลูกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จ้างในผลแห่งละเมิดกซึา ่งลูกจ้างได้
กระทําไปในทางการที่จ้างนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๗๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๔๒๖ นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอัน


สํานักลูงานคณะกรรมการกฤษฎี
กจ้างได้ทํานั้น ชอบที่จกะได้
า ชดใช้จากลูสํกานัจ้กางนั ้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๔๒๗ บทบัญญัติใกนมาตราทั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้งสองก่
สํานัอกนนั ้น ท่านให้ใช้บังคับแก่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาตัวการและ
ตัวแทนด้วยโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๔๒๘ ผู้ว่าจ้างทําของไม่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ต้องรับผิดสํเพืานั่อกความเสี ยหายอันผู้รับจ้ากงได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ก่อให้เกิด
ขึ้นแก่บุคคลภายนอกในระหว่างทําการงานที่ว่าจ้าง เว้นแต่ผู้ว่าจ้างจะเป็นผู้ผิดในส่วนการงานที่สั่งให้
สํานักทํงานคณะกรรมการกฤษฎี
า หรือในคําสั่งที่ตนให้กไว้า หรือในการเลื
สําอนักหาผู ้รับจ้าง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๔๒๙ บุคคลใดแม้กไร้า ความสามารถเพราะเหตุ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี เป็นผู้เยาว์หรือกวิากลจริตก็ยัง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ต้องรับผิดในผลที่ตนทําละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาลของบุคคลเช่นว่านี้ย่อมต้องรับผิดร่วมกับเขา
สํานักด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้กวา่าตนได้ใช้ความระมั ดระวังตามสมควรแก่หกน้าาที่ดูแลซึ่งทําสํอยูานั่นกั้นงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๓๐ ครู บ าอาจารย์ นายจ้ าสํงานัหรื กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อ บุ ค คลอื่ น ซึ่ ง รั บ ดู แ ลบุ ค คลผู้ ไ ร้
ความสามารถอยู่เป็นนิตย์ก็ดี ชั่วครั้งคราวก็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดี จําต้องรับผิดร่วมกับผู้ไร้ความสามารถในการละเมิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ด ซึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เขาได้กระทําลงในระหว่างที่อยู่ในความดูแลของตน ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่าบุคคลนั้น ๆ มิได้ใช้ความ
ระมัดระวังตามสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๔๓๑ ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัทกี่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ล่าวมาในสองมาตราก่กาอนนั้น ท่านให้สํานนัํากบทบั ญญัติแห่ง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ๔๒๖ มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๓๒ ถ้าบุคคลหลายคนก่อให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่นโดยร่วมกันทําละเมิด
สํานักท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านว่าบุคคลเหล่านั้นจะต้ กา องร่วมกันรัสํบาผินัดกใช้ ค่าสินไหมทดแทนเพืก่อาความเสียหายนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้นกความข้ อนี้ท่าน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ให้ ใ ช้ ต ลอดถึ ง กรณี ที่ ไ ม่ ส ามารถสื บ รู้ ตั ว ได้ แ น่ ว่ า ในจํ า พวกที่ ทํ า ละเมิ ด ร่ ว มกั น นั้ น คนไหนเป็ น ผู้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ก่อให้เกิดเสียหายนั้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อนึ่ง บุกคา คลผู้ยุยงส่งเสริ
สํานัมกหรื อช่วยเหลือในการทํากละเมิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ด ท่านก็ใสํห้าถนัือกว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าเป็นผู้กระทํา กา
ละเมิดร่วมกันด้วย
สํในระหว่ างบุคคลทั้งหลายซึก่งาต้องรับผิดร่วสํมกัานันกใช้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ค่าสินไหมทดแทนนั้นกา ท่านว่าต่าง
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่โดยพฤติการณ์ ศาลจะวินิจฉัยเป็นประการอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๓๓ ถ้าความเสียหายเกิดขึ้นเพราะสัตว์ ท่านว่าเจ้าของสัตว์หรือบุคคล
ผู้รับเลี้ ยงรับรักษาไว้
สํานักแงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทนเจ้าของ จําต้องใช้กคา ่าสินไหมทดแทนให้ แ ก่ฝ่ายที่ต้องเสียหายเพื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ อ ความ
เสียหายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่สัตว์นั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังอันสมควรแก่การ
สํานักเลีงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ยงการรักษาตามชนิดกและวิ า สัยของสัสํตาว์นักหรืงานคณะกรรมการกฤษฎี
อตามพฤติการณ์อย่ากงอืา ่น หรือพิสูจน์สํไาด้นัวก่างานคณะกรรมการกฤษฎี
ความเสียหาย กา
นั้นย่อมจะต้องเกิสํดามีนัขกึ้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทั้งที่ได้ใช้ความระมัดระวั
กา
งถึงเพียงนั้นสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง บุคคลผู้ต้องรับผิดชอบดังกล่าวมาในวรรคต้นนั้น จะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่บุคคล
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ที่เร้าหรือยั่วสัตว์นั้นโดยละเมิ
กา ด หรือเอาแก่ เจ้าของสัตว์อื่นอันมาเร้กาาหรือยั่วสัตว์นสํั้นานัๆกก็งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ได้ กา
- ๗๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๔๓๔ ถ้าความเสี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยหายเกิดขึ้นเพราะเหตุกาที่โรงเรือนหรืสํอาสินั่งกปลู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กสร้างอย่าง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อื่นก่อสร้างไว้ชํารุดบกพร่องก็ดี หรือบํารุงรักษาไม่เพียงพอก็ดี ท่านว่าผู้ครองโรงเรือนหรือสิ่งปลูก
สร้างนั้น ๆ จําต้อสํงใช้
านักคงานคณะกรรมการกฤษฎี
่าสินไหมทดแทน แต่ถ้ากผูา้ครองได้ใช้ความระมั ดระวังตามสมควรเพืก่อาปัดป้องมิให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เกิดเสียหายฉะนั้นแล้ว ท่านว่าผู้เป็นเจ้าของจําต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทบัญญัติที่กล่าวมาในวรรคก่อนนั้น ให้ใช้บังคับได้ตลอดถึงความบกพร่องในการ
ปลูกหรือค้ําจุนต้นสํไม้
านัหกงานคณะกรรมการกฤษฎี
รือกอไผ่ด้วย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่กล่าวมาในสองวรรคข้างต้นนั้น ถ้ายังมีผู้อื่นอีกที่ต้องรับผิดชอบในการ
สํานักก่งานคณะกรรมการกฤษฎี
อให้เกิดเสียหายนั้นด้วกยไซร้
า ท่านว่าผูสํ้คารองหรื อเจ้าของจะใช้สิทธิไกล่าเบี้ยเอาแก่ผู้นสํั้นาก็นัไกด้งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํมาตรา ๔๓๕ บุคคลใดจะประสบความเสี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํยาหายอั นพึงเกิดจากโรงเรือกนหรื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อสิ่งปลูก
สร้างอย่างอื่นของผู้อื่น บุคคลผู้นั้นชอบที่จะเรียกให้จัดการตามที่จําเป็นเพื่อบําบัดปัดป้องภยันตราย
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นเสียได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๓๖ บุคคลผู้อยู่ในโรงเรือนต้องรัสํบานัผิกดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชอบในความเสียหายอักานเกิดเพราะ
ของตกหล่นจากโรงเรือนนั้น หรือเพราะทิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้งขว้างของไปตกในที่อันมิควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๔๓๗ บุคคลใดครอบครองหรื


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อควบคุ
สํานักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดูแลยานพาหนะอย่างใด
กา ๆ อันเดิน
ด้วยกําลังเครื่องจักรกล บุคคลนั้นจะต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายอันเกิดแต่ยานพาหนะนั้น เว้นแต่
สํานักจะพิ สูจน์ได้ว่าการเสียหายนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นเกิดแต่เหตุ
สําสนัุดกวิงานคณะกรรมการกฤษฎี
สัย หรือเกิดเพราะความผิ
กา ดของผู้ต้องเสี
สํานัยกหายนั ้นเอง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ความข้อนี้ให้ใช้บังคับได้ตลอดถึงผู้มีไว้ในครอบครองของตน ซึ่งทรัพย์อันเป็นของ
เกิดอันตรายได้โดยสภาพ หรือโดยความมุ่งหมายที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่จะใช้ หรือสํโดยอาการกลไกของทรั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีพย์นกั้นา ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๔๓๘ ค่าสินไหมทดแทนจะพึงใช้โดยสถานใดเพียงใดนั้น ให้ศาลวินิจฉัยตาม
ควรแก่พฤติการณ์สํแานัละความร้ ายแรงแห่งละเมิกดา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง ค่าสินไหมทดแทนนั้น ได้แก่การคืนทรัพย์สินอันผู้เสียหายต้องเสียไปเพราะ
สํานักละเมิ ด หรือใช้ราคาทรัพกาย์สินนั้น รวมทัสํา้งนัค่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี เสียหายอันจะพึงบังคับกาให้ใช้เพื่อความเสี
สํานัยกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หายอย่างใด ๆ กา
อันได้ก่อขึ้นนั้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๓๙ บุคคลผู้จําต้องคืนทรัพย์อันผู้อื่นต้องเสียไปเพราะละเมิดแห่งตนนั้น
สํานักยังานคณะกรรมการกฤษฎี
งต้องรับผิดชอบตลอดถึ
กา งการที่ทรัพย์สํานนัั้นกทํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าลายลงโดยอุบัติเหตุกาหรือการคืนทรัสําพนัย์กตงานคณะกรรมการกฤษฎี
กเป็นพ้นวิสัย กา
เพราะเหตุอย่างอืสํ่านนัโดยอุ บัติเหตุ หรือทรัพย์นั้นเสื่อมเสียลงโดยอุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บัติเหตุนั้นด้วย เว้นแต่เมื่อการที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทรัพย์สินทําลาย หรือตกเป็นพ้นวิสัยจะคืน หรือเสื่อมเสียนั้น ถึงแม้ว่าจะมิได้มีการทําละเมิด ก็คง
สํานักจะต้ องตกไปเป็นอย่างนัก้นาอยู่เอง
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๗๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๔๔๐ ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัทกี่ตงานคณะกรรมการกฤษฎี
้องใช้ราคาทรัพย์อันได้กเาอาของเขาไปก็สําดนัี กในกรณี ที่ต้องใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ราคาทรัพย์อันลดน้อยลงเพราะบุบสลายก็ดี ฝ่ายผู้ต้องเสียหายจะเรียกดอกเบี้ยในจํานวนเงินที่จะต้อง
ใช้ คิดตั้งแต่เวลาอัสํนานัเป็กงานคณะกรรมการกฤษฎี
นฐานที่ตั้งแห่งการประมาณราคานั
กา ้นก็สํไาด้นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๔๑ ถ้าบุคคลจําต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอย่างใด ๆ
เพราะเอาสังหาริสํมาทรั
นักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์ของเขาไปก็ดี หรือเพราะทํ กา าของเขาให้ สํานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ุบสลายก็ดี เมื่อใช้ค่าสินกาไหมทดแทน
ให้แก่บุคคลซึ่งเป็นผู้ครองทรัพย์นั้นอยู่ในขณะที่เอาไป หรือขณะที่ทําให้บุบสลายนั้นแล้ว ท่านว่าเป็น
สํานักอังานคณะกรรมการกฤษฎี
นหลุดพ้นไปเพราะการที กา ่ได้ใช้ให้เช่นสํนัา้นนักแม้ กระทั่งบุคคลภายนอกจะเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นเจ้าของทรั พย์หรือมีสิทธิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อย่างอื่นเหนือทรัพย์นั้น เว้นแต่สิทธิของบุคคลภายนอกเช่นนั้นจะเป็นที่รู้อยู่แก่ตนหรือมิได้รู้เพราะ
ความประมาทเลินสําเล่นัอกอย่ างร้ายแรงของตน กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๔๔๒ ถ้าความเสี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
หายได้เกิดขึ้นเพราะความผิ
กา ดอย่างหนึสํ่งานัอย่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
างใดของผู้ต้อง กา
เสียหายประกอบด้วยไซร้ ท่านให้นําบทบัญญัติแห่งมาตรา ๒๒๓ มาใช้บังคับ โดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๔๓ ในกรณีสําทนัํากให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เขาถึงตายนั้น ค่าสินไหมทดแทนได้แสํก่านัคก่างานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ปลงศพรวมทั้ง กา
ค่าใช้จ่ายอันจําเป็นอย่างอื่น ๆ อีกด้วย
สํถ้าานัมิกไงานคณะกรรมการกฤษฎี
ด้ตายในทันที ค่าสินไหมทดแทนได้
กา แสําก่นัคก่างานคณะกรรมการกฤษฎี
รักษาพยาบาลรวมทั้งกค่าาเสียหายที่
ต้องขาดประโยชน์ทํามาหาได้เพราะไม่สามารถประกอบการงานนั้นด้วย
ถ้าว่าเหตุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ที่ตายลงนั้นสํทํานัากให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
บุคคลหนึ่งคนใดต้องขาดไร้ กา อุปการะตามกฎหมายไปด้ วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไซร้ ท่านว่าบุคคลคนนั้นชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๔๔ ในกรณีทําให้เสียหายแก่ร่างกายหรืออนามัยนั้น ผู้ต้องเสียหายชอบที่
สํานักจะได้ ชดใช้ค่าใช้จ่ายอันกตนต้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า องเสียไปสํและค่ าเสียหายเพื่อการที่เกสีายความสามารถประกอบการงาน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิ้นเชิงหรือแต่บางส่วน ทั้งในเวลาปัจจุบันนั้นและในเวลาอนาคตด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าในเวลาที่พิพากษาคดี เป็นพ้นวิสัยจะหยั่งรู้ได้แน่ว่าความเสียหายนั้นได้มีแท้จริง
สํานักเพี ยงใด ศาลจะกล่าวในคํกาาพิพากษาว่าสํยัางนัสงวนไว้
งานคณะกรรมการกฤษฎี ซึ่งสิทธิที่จะแก้ไขคํกาาพิพากษานั้นอีสํกานัภายในระยะเวลา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่เกินสองปีก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๔๕ ในกรณีทําให้เขาถึงตาย หรือให้เสียหายแก่ร่างกายหรืออนามัยก็ดี ใน
สํานักกรณี ทําให้เขาเสียเสรีภกาพก็
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ดี ถ้าผู้ต้องเสี
สํานัยกหายมี ความผูกพันตามกฎหมาย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา จะต้อสํงทํ
านัากการงานให้ เป็น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
คุณแก่บุคคลภายนอกในครัวเรือน หรืออุตสาหกรรมของบุคคลภายนอกนั้นไซร้ ท่านว่าบุคคลผู้จําต้อง
ใช้ค่าสินไหมทดแทนนั
สํานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
จะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้
กา แก่บุคสํคลภายนอกเพื ่อที่เขาต้องขาดแรงงานอั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา น
นั้นไปด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๔๖ ในกรณีทําให้เขาเสียหายแก่สํรา่านังกายหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ออนามัยก็ดี ในกรณีทําให้เขา
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เสียเสรีภาพก็ดี ผู้ต้องเสียหายจะเรียกร้องเอาค่าสินไหมทดแทนเพื่อความที่เสียหายอย่างอื่นอันมิใช่ตัว
สํานักเงิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นด้วยอีกก็ได้ สิทธิเรีกยากร้องอันนี้ไม่สํโอนกั นได้ และไม่ตกสืบไปถึกางทายาท เว้นสํแต่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัสกิทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธินั้นจะได้รับ กา
- ๗๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สภาพกันไว้โดยสัญญาหรือได้เริ่มฟ้องคดีตามสิทธินั้นแล้ว
อนึ่ง หญิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งที่ต้องเสียสํหายเพราะผู ้ใดทําผิดอาญาเป็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นทุรศีลธรรมแก่
สํานักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
นก็ย่อมมีสิทธิ กา
เรียกร้องทํานองเดียวกันนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๔๗ บุคคลใดทําให้เขาต้องเสียหายแก่ชื่อเสียง เมื่อผู้ต้องเสียหายร้องขอ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ศาลจะสั่งให้บุคคลนั้นจัดการตามควรเพื่อทําให้ชื่อเสียงของผู้นั้นกลับคืนดีแทนให้ใช้ค่าเสียหาย หรือ
ทั้งให้ใช้ค่าเสียหายด้
สํานัวกยก็ ได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๔๔๘ สิทธิเสํรีายนักร้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี องค่าเสียหายอันเกิดกแต่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า มู ลละเมิ ดนัสํ้นานัท่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
านว่าขาดอายุ กา
ความเมื่อพ้นปีหนึ่งนับแต่วันที่ผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน
หรือเมื่อพ้นสิบปีนสํับานัแต่ วันทําละเมิด
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่ถ้าเรียกร้องค่าเสียหายในมูลอันเป็นความผิดมีโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา
สํานักและมี กําหนดอายุความทางอาญายาวกว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่กล่าวมานั้นไซร้ ท่ากนให้
า เอาอายุความที
สํานัก่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ยาวกว่านั้นมา กา
บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นิรโทษกรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๔๔๙ บุคคลใดเมื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่อกระทําการป้องกันโดยชอบด้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วยกฎหมายก็ ดี กระทําตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
คําสั่งอันชอบด้วยกฎหมายก็ดี หากก่อให้เกิดเสียหายแก่ผู้อื่นไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้นหาต้องรับผิดใช้ค่า
สินไหมทดแทนไม่สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ต้องเสียหายอาจเรียกค่าสินไหมทดแทนจากผู้เป็นต้นเหตุให้ต้องป้องกันโดยชอบ
สํานักด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
วยกฎหมาย หรือจากบุกคา คลผู้ให้คําสั่งสํโดยละเมิ ดนั้นก็ได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๕๐ ถ้าบุคคลทําบุบสลาย หรือทําลายทรัพย์สิ่งหนึ่งสิ่งใด เพื่อจะบําบัดปัด
สํานักป้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องภยันตรายซึ่งมีมาเป็ กานสาธารณะโดยฉุ กเฉิน ท่านว่าไม่จําต้อกงใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ค่าสินไหมทดแทน หากความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เสียหายนั้นไม่เกินสมควรแก่เหตุภยันตราย
สํถ้าานับุกคงานคณะกรรมการกฤษฎี
คลทําบุบสลาย หรือทํกาาลายทรัพย์สิ่งสํหนึ
านั่งกสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
่งใด เพื่อจะบําบัดปัดป้กอางภยันตราย
อันมีแก่เอกชนโดยฉุกเฉิน ผู้นั้นจะต้องใช้คืนทรัพย์นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีถ้าบุคกคลทํ า าบุบสลายสํหรื
านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ทําลายทรัพย์สิ่งหนึ่งสิ่กงใด า เพื่อจะป้องกั
สํานนัสิกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทธิของตนหรือ กา
ของบุคคลภายนอกจากภยันตรายอันมีมาโดยฉุกเฉิน เพราะตัวทรัพย์นั้นเองเป็นเหตุ บุคคลเช่นว่านี้หา
ต้องรับผิดใช้ค่าสิสํนาไหมทดแทนไม่ หากว่าความเสี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยหายนั้นไม่ สํานัเกิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สมควรแก่เหตุ แต่ถ้ากภยัา นตรายนั้น
เกิดขึ้นเพราะความผิดของบุคคลนั้นเองแล้ว ท่านว่าจําต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๕๑ บุคคลใช้กําลังเพื่อป้องกันสิทสํธิานัขกองตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าตามพฤติการณ์จะขอให้ศาล
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือให้ทันท่วงทีไม่ได้ และถ้ามิได้ทําในทันใด ภัยมีอยู่ด้วยการที่ตนจะได้สมดังสิทธิ
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นจะต้องประวิงไปมากหรื
กา อถึงแก่สาบสูสํานัญกได้ ไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้นกหาต้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า องรับผิดใช้
สําคนั่ากสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นไหมทดแทน กา
- ๘๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ไม่
การใช้กกาําลังดังกล่าวมาในวรรคก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อนนั้น ท่านว่าต้อกงจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ากัดครัดเคร่สํงาแต่
นักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฉพาะที่จําเป็น กา
เพื่อจะบําบัดปัดป้องภยันตรายเท่านั้น
สํถ้าานับุกคงานคณะกรรมการกฤษฎี
คลผู้ใดกระทําการดังกกล่า าวมาในวรรคต้
สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
เพราะหลงสันนิษฐานพลาดไปว่
กา ามี
เหตุอันจําเป็นที่จะทําได้โดยชอบด้วยกฎหมายไซร้ ท่านว่าผู้นั้นจะต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บุคคลอื่น แม้ทั้งการที่หลงพลาดไปนั้นจะมิใช่เป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๕๒ ผู้ครองอสังหาริมทรัพย์ชอบที่จะจับสัตว์ของผู้อื่นอันเข้ามาทําความ
สํานักเสีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยหายในอสังหาริมทรักพาย์นั้น และยึดสํไว้านัเป็กงานคณะกรรมการกฤษฎี
นประกันค่าสินไหมทดแทน กา อันจะพึงต้สํอานังใช้ แก่ตนได้ และ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ถ้าเป็นการจําเป็นโดยพฤติการณ์แม้จะฆ่าสัตว์นั้นเสียก็ชอบที่จะทําได้
สํแต่
านัวก่างานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้นั้นต้องบอกกล่าวแก่กเจ้า าของสัตว์โดยไม่
สํานักชงานคณะกรรมการกฤษฎี
ักช้า ถ้าและหาตัวเจ้าของสั
กา ตว์ไม่พบ
ผู้ที่จับสัตว์ไว้ต้องจัดการตามสมควรเพื่อสืบหาตัวเจ้าของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บรรพ ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เอกเทศสัญญา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกลัากษณะ ๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ซื้อขาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สภาพและหลักสําคัญของสัญญาซื้อขาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานับทเบ็ ดเสร็จทัว่ ไป
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๕๓ อันว่าซื้อขายนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลฝ่ายหนึ่ง เรียกว่าผู้ข าย โอน
สํานักกรรมสิ ทธิ์แห่งทรัพย์สินกให้า แก่บุคคลอีกสํฝ่าานัยหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่ง เรียกว่าผู้ซื้อ และผูก้ซาื้อตกลงว่าจะใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํารนัาคาทรั พย์สินนั้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ให้แก่ผู้ขาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๕๔ การที่คู่กรณีฝ่ายหนึ่งให้คํามั่นไว้ก่อนว่าจะซื้อหรือขายนั้น จะมีผลเป็น
สํานักการซื ้อขายต่อเมื่ออีกฝ่ากยหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ่งได้บอกกล่
สําานัวความจํ านงว่าจะทําการซืกา้อขายนั้นให้สําสํเร็านัจกตลอดไปและคํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บอกกล่าวเช่นนั้นสํได้านัไปถึ งบุคคลผู้ให้คํามั่นแล้ว
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าในคํามั่นมิได้กําหนดเวลาไว้เพื่อการบอกกล่าวเช่นนั้นไซร้ ท่านว่าบุคคลผู้ให้คํามั่น
สํานักจะกํ าหนดเวลาพอสมควร
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา และบอกกล่สําานัวไปยั งคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งกให้า ตอบมาเป็นแน่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกอนภายในเวลา
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๘๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

กําหนดนั้นก็ได้ ว่าจะทํ าการซื้อ ขายให้สําเร็จตลอดไปหรือไม่ ถ้าและไม่ ตอบเป็ น แน่ นอนภายใน


สํานักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดเวลานั้นไซร้ คํามัก่นา ซึ่งได้ให้ไว้ก่อสํนนั
านัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ก็เป็นอันไร้ผล กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๔๕๕ เมื่อกล่าวต่อกไปเบื


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้องหน้าถึสํงาเวลาซื ้อขาย ท่านหมายความว่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าเวลาซึ่ง
ทําสัญญาซื้อขายสําเร็จบริบูรณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๔๕๖ การซื้อขายอสั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งหาริมทรัพสํย์านัถ้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
มิได้ทําเป็นหนังสือและจดทะเบี
กา ยน
ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นโมฆะ วิธีนี้ให้ใช้ถึงซื้อขายเรือมีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป ทั้งซื้อขายแพและ
สํานักสังานคณะกรรมการกฤษฎี
ตว์พาหนะด้วย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สัญญาจะขายหรือจะซื้อ หรือคํามั่นในการซื้อขายทรัพย์สินตามที่ระบุไว้ในวรรคหนึ่ง
ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็
สํานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมื
กา อชืสํ่อานัฝ่กายผู ้ต้องรับผิดเป็นสําคัญกา หรือได้วาง
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ประจําไว้หรือได้ชําระหนี้บางส่วนแล้ว จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่
บทบัญกญั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ติที่กล่าวมาในวรรคก่ อนนี้ ให้ใช้บังคับถึงกสัาญญาซื้อขายสัสํงานัหาริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มทรัพย์ซึ่งตก
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ลงกันเป็นราคาสองหมื่นบาท หรือกว่านั้นขึ้นไปด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๕๗ ค่าฤชาธรรมเนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยมทําสัญญาซื้อขายนั้น ผู้ซื้อผู้ขายพึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งออกใช้เท่ากันทั้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สองฝ่าย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานัการโอนกรรมสิ ทธิ์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๕๘ กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ขายนั้น ย่อมโอนไปยังผู้ซื้อตั้งแต่ขณะเมื่อได้
สํานักทํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าสัญญาซื้อขายกัน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๕๙ ถ้าสัญญาซื้อขายมีเงื่อนไข หรือเงื่อนเวลาบังคับไว้ท่านว่ากรรมสิทธิ์ใน
สํานักทรั พย์สินยังไม่โอนไปจนกว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าการจะได้เสํป็านนัไปตามเงื ่อนไขหรือถึงกําหนดเงื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อนเวลานัสํ้นานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๔๖๐ ในการซื้ อ ขายทรั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พ ย์ สิ นสํซึา่ งนัมิกไงานคณะกรรมการกฤษฎี
ด้ กํ า หนดลงไว้ แ น่ น อนนั
กา ้ น ท่ า นว่ า
กรรมสิทธิ์ยังไม่โอนไปจนกว่าจะได้หมาย หรือนับ ชั่ง ตวง วัด หรือคัดเลือก หรือทําโดยวิธีอื่นเพื่อให้
สํานักบ่งานคณะกรรมการกฤษฎี
งตัวทรัพย์สินนั้นออกเป็กานแน่นอนแล้วสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการซื้อขายทรัพย์สินเฉพาะสิ่ง ถ้าผู้ขายยังจะต้องนับ ชั่ง ตวง วัด หรือทําการ
อย่างอื่น หรือทําสํสิา่งนัหนึ ่งสิ่งใดอันเกี่ยวแก่ทรัพกย์า สินเพื่อให้รู้กสํําาหนดราคาทรั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี พย์สินนั้นแน่กนาอน ท่านว่า
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กรรมสิทธิ์ยังไม่โอนไปยังผู้ซื้อจนกว่าการหรือสิ่งนั้นได้ทําแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๔๕๖ แก้ ไ ขเพิ่ม เติมโดยพระราชบัญ ญั ติแ ก้ไ ขเพิ่มเติ ม ประมวลกฎหมายแพ่ ง และ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ.ก๒๕๔๘
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๘๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

หน้าที่และความรับผิดของผู้ขาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่วนที่ ๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การส่งมอบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๖๑ ผู้ขายจําต้องส่งมอบทรัพย์สินซึ่งขายนั้นให้แก่ผู้ซื้อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๖๒ การส่ ง มอบนั้ น จะทํ า อย่ า งหนึ่ ง อย่ า งใดก็ ไ ด้ สุ ด แต่ ว่ า เป็ น ผลให้
ทรัพย์สินนั้นไปอยูสํ่ใานเงื ้อมมือของผู้ซื้อ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๔๖๓ ถ้าในสัสําญนัญากํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าหนดว่าให้ส่งทรัพย์กสา ินซึ่งขายนั้นจากที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ่แห่งหนึ่งไปถึง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อีกแห่งหนึ่งไซร้ ท่านว่าการส่งมอบย่อมสําเร็จเมื่อได้ส่งมอบทรัพย์สินนั้นให้แก่ผู้ขนส่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๖๔ ค่าขนส่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งทรัพย์สินซึ่งได้ซื้อขายกันไปยังที่แห่งอื่นสํนอกจากสถานที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่อัน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พึงชําระหนี้นั้น ผู้ซื้อพึงออกใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๖๕ ในการซื้อขายสังหาริมทรัพย์นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑) หากว่
กา าผู้ขายส่งมอบทรั พย์สินน้อยกว่าที่ได้สัญกาญาไว้ ท่านว่าสํผูา้ซนัื้อกจะปั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดเสียไม่รับ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เอาเลยก็ได้ แต่ถ้าผู้ซื้อรับเอาทรัพย์สินนั้นไว้ ผู้ซื้อก็ต้องใช้ราคาตามส่วน
สํ(๒)
านักหากว่ า ผู้ ข ายส่ ง มอบทรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาพ ย์ สิ น มากกว่
สําานัทีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ ไ ด้ สั ญ ญาไว้ ท่ า นว่ า ผูก้ ซาื้ อ จะรั บ เอา
ทรัพย์สินนั้นไว้แต่เพียงตามสัญญาและนอกกว่านั้นปัดเสียก็ได้ หรือจะปัดเสียทั้งหมดไม่รับเอาไว้เลยก็
สํานักได้ ถ้าผู้ซื้อรับเอาทรัพย์สกินา อันเขาส่งมอบเช่
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้นไว้ทั้งหมด ผู้ซื้อก็ต้อกงใช้
า ราคาตามส่สํวานนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) หากว่าผู้ขายส่งมอบทรัพย์สินตามที่ได้สัญญาไว้ระคนกับทรัพย์สินอย่างอื่นอัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มิได้รวมอยู่ในข้อสัญญาไซร้ ท่านว่าผู้ซื้อจะรับเอาทรัพย์สินไว้แต่ตามสัญญา และนอกกว่านั้นปัดเสียก็
สํานักได้ หรือจะปัดเสียทั้งหมดก็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๔๖๖ ในการซื้อขายอสั


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งหาริมทรัพย์สํนานัั้นกหากว่ าได้ระบุจํานวนเนืก้อาที่ทั้งหมดไว้
งานคณะกรรมการกฤษฎี
และผู้ขายส่งมอบทรัพย์สินน้อยหรือมากไปกว่าที่ได้สัญญาไซร้ ท่านว่าผู้ซื้อจะปัดเสีย หรือจะรับเอาไว้
สํานักและใช้ ราคาตามส่วนก็ได้กาตามแต่จะเลือสํกานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง ถ้าขาดตกบกพร่องหรือล้ําจํานวนไม่เกินกว่าร้อยละห้าแห่งเนื้อที่ทั้งหมดอันได้
ระบุไว้นั้นไซร้ ท่าสํนว่
านัากผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ซื้อจําต้องรับเอาและใช้การาคาตามส่วนแต่
สํานักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
่าผู้ซื้ออาจจะเลิกสัญญาเสี กา ยได้ในเมื่อ
ขาดตกบกพร่องหรือล้ําจํานวนถึงขนาดซึ่งหากผู้ซื้อได้ทราบก่อนแล้วคงจะมิได้เข้าทําสัญญานั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๖๗ ในข้อรับผิดเพื่อการที่ทรัพย์สํขานัาดตกบกพร่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
องหรือล้ําจํานวนนั้น ท่าน
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นกําหนดปีหนึ่งนับแต่เวลาส่งมอบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๘๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๔๖๘ ถ้าในสัญญาไม่มีกําหนดเงื่อนเวลาให้ใช้ราคาไซร้ ผู้ขายชอบที่จะยึด


สํานักหน่ วงทรัพย์สินที่ขายไว้ไกด้าจนกว่าจะใช้รสําคา
งานคณะกรรมการกฤษฎี านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๔๖๙ ถ้าผู้ซื้อล้มละลายก่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อนส่งมอบทรั
สํานักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์สินก็ดี หรือผู้ซื้อเป็นกคนล้
า มละลาย
แล้วในเวลาซื้อขายโดยผู้ขายไม่รู้ก็ดี หรือผู้ซื้อกระทําให้หลักทรัพย์ที่ให้ไว้เพื่อประกันการใช้เงินนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เสื่อมเสียหรือลดน้อยลงก็ดี ถึงแม้ในสัญญาจะมีกําหนดเงื่อนเวลาให้ใช้ราคา ผู้ขายก็ชอบที่จะยึดหน่วง
ทรัพย์สินซึ่งขายไว้สําได้นักเว้งานคณะกรรมการกฤษฎี
นแต่ผู้ซื้อจะหาประกันกทีา ่สมควรให้ได้สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๔๗๐ ถ้าผู้ซสํื้อาผินัดกนังานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ด ผู้ขายซึ่งได้ยึดหน่วกงทรั
า พย์สินไว้ตามมาตราทั ้งหลายที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กล่าวมา อาจจะใช้ทางแก้ต่อไปนี้แทนทางแก้สามัญในการไม่ชําระหนี้ได้ คือมีจดหมายบอกกล่าวไปยัง
ผู้ซื้อให้ใช้ราคากับสํทัานั้งกค่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าจับจ่ายเกี่ยวกับการภายในเวลาอั
กา นควรซึ
สํานัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ต้องกําหนดลงไว้ในคํากบอกกล่ า าวนั้น
ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้ า ผู้ ซกื้ อาละเลยเสี ย ไม่สําทนัํ กางานคณะกรรมการกฤษฎี
ตามคํ า บอกกล่ า ว ผู้ ขกายอาจนํ
า า ทรัสํพาย์นัสกิ งานคณะกรรมการกฤษฎี
น นั้ น ออกขาย กา
ทอดตลาดได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๗๑ เมื่ อ ขายทอดตลาดได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เงิ นเป็นจํ านวนสุ ท ธิเท่ าสํใดานักให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ข ายหัก เอา กา
จํานวนที่ค้างชําระแก่ตนเพื่อราคาและค่าจับจ่ายเกี่ยวการนั้นไว้ ถ้าและยังมีเงินเหลือ ก็ให้ส่งมอบแก่ผู้
ซื้อโดยพลัน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่วนที่ ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความรับผิดเพื่อชํารุดบกพร่อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๔๗๒ ในกรณีสําทนัี่ทกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี รัพย์สินซึ่งขายนั้นชํารุดกบกพร่
า องอย่างหนึ
สํานั่งกอย่ างใดอันเป็น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เหตุให้เสื่อมราคาหรือเสื่อมความเหมาะสมแก่ประโยชน์อันมุ่งจะใช้เป็นปกติก็ดี ประโยชน์ที่มุ่งหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยสัญญาก็ดี ท่านว่าผู้ขายต้องรับผิด
ความที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่ ก ล่ าวมาในมาตรานี ้ย่อ มใช้ได้ ทั้งที่ผู้ขายรู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ อยู่ แ ล้ วหรื อสําไม่นักรงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้ว่าความชํารุด กา
บกพร่องมีอยู่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๗๓ ผู้ขายย่อมไม่ต้องรับผิดในกรณีดังจะกล่าวต่อไปนี้ คือ
(๑) ถ้กาาผู้ซื้อได้รู้อยู่แสํล้าวนัแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในเวลาซื้อขายว่ามีความชํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ารุดบกพร่สําอนังหรื อควรจะได้รู้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เช่นนั้นหากได้ใช้ความระมัดระวังอันจะพึงคาดหมายได้แต่วิญญูชน
สํ(๒)
านักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าความชํารุดบกพร่องนักา้นเป็นอันเห็นสํประจั กษ์แล้วในเวลาส่งมอบกาและผู้ซื้อรับ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เอาทรัพย์สินนั้นไว้โดยมิได้อิดเอื้อน
(๓) ถ้ากทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า พย์สินนั้นได้สํขานัายทอดตลาด
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๗๔ ในข้อรับผิดเพื่อชํารุดบกพร่องนั้น ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นเวลาปี
สํานักหนึ ่งนับแต่เวลาที่ได้พบเห็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กานความชํารุดสํบกพร่ อง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๘๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่วนที่ ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความรับผิดในการรอนสิทธิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๔๗๕ หากว่ามีบุคคลผู้ใดมาก่อการรบกวนขัดสิทธิของผู้ซื้อในอันจะครอง
ทรัพย์สินโดยปกติสําสนัุขกงานคณะกรรมการกฤษฎี
เพราะบุคคลผู้นั้นมีสิทกธิาเหนือทรัพย์สสํินาทีนัก่ได้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ซื้อขายกันนั้นอยู่ในเวลาซื
กา ้อขายก็ดี
เพราะความผิดของผู้ขายก็ดี ท่านว่าผู้ขายจะต้องรับผิดในผลอันนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๗๖ ถ้าสิทธิของผู้ก่อการรบกวนนั้นผู้ซื้อรู้อยู่แล้วในเวลาซื้อขาย ท่านว่า
ผู้ขายไม่ต้องรับผิดสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๔๗๗ เมื่ อสํใดการรบกวนขั


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ด สิ ท ธิ นั้ นกเกิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ด เป็ น คดี ขสํึ้ นานัระหว่ า งผู้ ซื้ อ กั บ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บุคคลภายนอก ผู้ซื้อชอบที่จะขอให้ศาลเรียกผู้ขายเข้าเป็นจําเลยร่วมหรือเป็นโจทก์ร่วมกับผู้ซื้อในคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นั้นได้ เพื่อศาลจะได้ วินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทระหว่างผู้เป็นคู่กรณี ทั้งหลายรวมไปเป็นคดีเดียวกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๗๘ ถ้าผู้ ขายเห็นเป็ นการสมควร จะสอดเข้าไปในคดีเพื่ อปฏิเสธการ
เรียกร้องของบุคคลภายนอก ก็ชอบที่จะทําได้กดา้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๔๗๙ ถ้าทรัสํพานัย์กสงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ินซึ่งซื้อขายกันหลุดไปจากผู
กา ้ซื้อทั้งหมดหรื อแต่บางส่วน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เพราะเหตุการรอนสิทธิก็ดี หรือว่าทรัพย์สินนั้นตกอยู่ในบังคับแห่งสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งเป็นเหตุให้
เสื่อมราคา หรือเสืสํา่อนัมความเหมาะสมแก่ การทีกา่จะใช้ หรือเสืสํ่อามความสะดวกในการใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นักงานคณะกรรมการกฤษฎีสอยกา หรือเสื่อม
ประโยชน์อันจะพึงได้แต่ทรัพย์สินนั้น และซึ่งผู้ซื้อหาได้รู้ในเวลาซื้อขายไม่ก็ดี ท่านว่าผู้ขายต้องรับผิด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๘๐ ถ้าอสังหาริมทรัพย์ต้องศาลแสดงว่าตกอยู่ในบังคับแห่งภาระจํายอม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยกฎหมายไซร้ ท่านว่าผู้ขายไม่ต้องรับผิด เว้นไว้แต่ผู้ขายจะได้รับรองไว้ในสัญญาว่าทรัพย์สินนั้น
สํานักปลอดจากภาระจํ ายอมอย่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา างใด ๆ ทั้งสิสํ้นานัหรื อปลอดจากภาระจํายอมอั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นนั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๔๘๑ ถ้าผู้ขายไม่ได้กเาป็นคู่ความในคดี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัเดิกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ม หรือถ้าผู้ซื้อได้ประนีกปาระนอมยอม
ความกับบุคคลภายนอก หรือยอมตามที่บุคคลภายนอกเรียกร้องไซร้ ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีในข้อรับผิด
สํานักเพื ่อการรอนสิท ธิเมื่อพ้กนา กําหนดสามเดื
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกนนั บ แต่วันคํ าพิพากษาในคดี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา เดิม ถึ งทีสํ่าสนัุ ดกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรื อนับ แต่วัน กา
ประนีประนอมยอมความ หรือวันที่ยอมตามบุคคลภายนอกเรียกร้องนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๘๒ ผู้ขายไม่ต้องรับผิดในการรอนสิทธิเมื่อกรณีเป็นดั่งกล่าวต่อไปนี้ คือ
(๑) ถ้ากไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า มีการฟ้องคดี
สํานัและผู ้ขายพิสูจน์ได้ว่าสิทธิกขา องผู้ซื้อได้สูญสํไปโดยความผิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ดของ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้ซื้อเอง หรือ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ถ้าผู้ซื้อไม่ได้เรียกผู้ขายเข้ามาในคดี และผู้ขายพิสูจน์ได้ว่า ถ้าได้เรียกเข้ามาคดี
สํานักฝ่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ายผู้ซื้อจะชนะ หรือ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๘๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

(๓) ถ้าผู้ขายได้เข้ามาในคดี แต่ศาลได้ยกคําเรียกร้องของผู้ซื้อเสียเพราะความผิด


สํานักของผู ้ซื้อเอง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่ถึงกรณีจะเป็นอย่างไรก็ดี ถ้าผู้ขายถูกศาลหมายเรียกให้เข้ามาในคดีและไม่ยอม
เข้าว่าคดีร่วมเป็นสํจําานัเลยหรื อร่วมเป็นโจทก์กับกผูา้ซื้อไซร้ ท่านว่สําาผูนั้ขกายคงต้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี องรับผิด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


ส่วนที่ ๔
ข้อสัญญาว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าจะไม่ต้องรัสํบาผินัดกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๔๘๓ คู่สัญญาซื้อขายจะตกลงกันว่าผู้ขายจะไม่ต้องรับผิดเพื่อความชํารุด
บกพร่องหรือเพื่อสํการรอนสิ ทธิก็ได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๔๘๔ ข้อสัญสํญาว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
จะไม่ต้องรับผิดนั้น ย่อกมไม่
า คุ้มผู้ขายให้สําพนั้นกจากการต้ องส่ง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เงินคืนตามราคา เว้นแต่จะได้ระบุไว้เป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๘๕ ข้อสัญสํญาว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าจะไม่ต้องรับผิดนั้น ไม่อาจคุ้มความรับสําผินัดกของผู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้ขายในผล
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ของการอันผู้ขายได้กระทําไปเอง หรือผลแห่งข้อความจริงอันผู้ขายได้รู้อยู่แล้วและปกปิดเสีย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักหน้ าที่ของผู้ซื้อ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๘๖ ผู้ซื้อจําต้องรับมอบทรัพย์สินที่ตนได้รับซื้อและใช้ราคาตามข้อสัญญา
สํานักซืงานคณะกรรมการกฤษฎี
้อขาย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๘๗ อันราคาทรัพย์สินที่ขายนั้นจะกําหนดลงไว้ในสัญญาก็ได้ หรือจะ
สํานักปล่ อยไปให้กําหนดกันด้กวายวิธีอย่างใดอย่
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากงหนึ ่งดั่งได้ตกลงกันไว้ในสั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญานั้นก็ได้สําหรื
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
จะถือเอาตาม กา
ทางการที่คู่สัญญาประพฤติต่อกันอยู่นั้นก็ได้
สํถ้าานัราคามิ ได้มีกําหนดเด็ดขาดอย่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา างใดดั่งว่าสํมานั
านัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไซร้ ท่านว่าผู้ซื้อจะต้อกงใช้
า ราคาตาม
สมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๘๘ ถ้าผู้ซื้อพบเห็นความชํารุดบกพร่องในทรัพย์สินซึ่งตนได้รับซื้อ ผู้ซื้อ
ชอบที่จะยึ ดหน่วสํงราคาที ่ยังไม่ ได้ชําระไว้ได้กทา ั้งหมดหรือแต่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานับกางส่ วน เว้นแต่ ผู้ขายจะหาประกั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นที่
สมควรให้ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๘๙ ถ้าผู้ซื้อถูกผู้รับจํานองหรือบุสํคาคลผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้เรียกร้องเอาทรัพย์สินที่ขายนั้นขู่ว่า
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จะฟ้องเป็นคดีขึ้นก็ดี หรือมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะถูกขู่เช่นนั้นก็ดี ผู้ซื้อก็ชอบที่จะยึดหน่วงราคาไว้
สํานักทังานคณะกรรมการกฤษฎี
้งหมดหรือบางส่วนได้กดาุจกัน จนกว่าสํผูานั้ขกายจะได้ บําบัดภัยอันนั้นกให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า สิ้นไป หรือสํจนกว่ าผู้ขายจะหา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๘๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ประกันที่สมควรให้ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๙๐ ถ้าได้กําหนดกันไว้ว่าให้ส่งมอบทรัพย์สินซึ่งขายนั้นเวลาใด ท่านให้
สันนิษฐานไว้ก่อนว่สําานัเวลาอั นเดียวกันนั้นเองเป็กนาเวลากําหนดใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํารนัาคา
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


หมวด ๔
การซื้อขายเฉพาะบางอย่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สําานังกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


ส่วนที่ ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาขายฝาก สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๔๙๑ อันว่าขายฝากนั้น คือสัญญาซื้อขายซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตกไปยัง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ซื้อ โดยมีข้อตกลงกันว่าผู้ขายอาจไถ่ทรัพย์นั้นคืนได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๙๒๘ ในกรณีที่มีการไถ่ทรัพย์สินซึ่งขายฝากภายในเวลาที่กําหนดไว้ใน
สัญญาหรือภายในเวลาที ่กฎหมายกําหนด หรืกาอผู้ไถ่ได้วางทรัสําพนัย์กองานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ันเป็นสินไถ่ต่อสํานักงานวางทรั
กา พย์
ภายในกําหนดเวลาไถ่โดยสละสิทธิถอนทรัพย์ที่ได้วางไว้ ให้ทรัพย์สินซึ่งขายฝากตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ไถ่ตั้งแต่เวลาที่ผู้ไถ่ได้ชกําาระสินไถ่หรือวางทรั พย์อันเป็นสินไถ่ แล้วแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กรณี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ได้วางทรัพย์ตามวรรคหนึ่ง ให้เจ้าพนักงานของสํานักงานวางทรัพย์แจ้งให้
ผู้รับไถ่ทราบถึงการวางทรั พย์โดยพลัน โดยผู้ไกถ่าไม่ต้องปฏิบัตสํิตาามมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๓๓๓ วรรคสามกา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรา ก๔๙๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ในการขายฝาก คู่สัญญาจะตกลงกันกไม่า ให้ผู้ซื้อจําหน่สําานัยทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี พย์สินซึ่งขาย
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ฝากก็ได้ ถ้าและผู้ซื้อจําหน่ายทรัพย์สินนั้นฝ่าฝืนสัญญาไซร้ ก็ต้องรับผิดต่อผู้ขายในความเสียหายใด ๆ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อันเกิดแต่การนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๙๔ ท่านห้ามมิให้ใช้สิทธิไถ่ทรัพย์สินซึ่งขายฝากเมื่อพ้นเวลาดั่งจะกล่าว
ต่อไปนี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ กําหนดสิบปีนับแต่เวลาซื้อขาย
(๒) ถ้ากเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นสังหาริมทรัสําพนัย์กงานคณะกรรมการกฤษฎี
กําหนดสามปีนับแต่เวลาซื
กา ้อขาย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๔๙๕ ถ้าในสัญญามีกากําหนดเวลาไถ่สําเนักิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ไปกว่านั้น ท่านให้ลดลงมาเป็
กา นสิบปี
และสามปีตามประเภททรัพย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๔๙๒ แก้ไ ขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไ ขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ.ก๒๕๔๑
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๘๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๔๙๖ ๙ กํ า หนดเวลาไถ่ นั้ น อาจทํ า สั ญ ญาขยายกํ า หนดเวลาไถ่ ไ ด้ แต่


สํานักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดเวลาไถ่รวมกันทัก้งาหมด ถ้าเกินกํสําานัหนดเวลาตามมาตรา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ๔๙๔ กา ให้ลดลงมาเป็สํานนักํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
หนดเวลาตาม กา
มาตรา ๔๙๔
สํการขยายกํ าหนดเวลาไถ่ตกามวรรคหนึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่งอย่
สํานัากงน้ อยต้องมี หลักฐานเป็กนา หนั งสือลง
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ลายมือชื่อผู้รับไถ่ ถ้าเป็นทรัพย์สินซึ่งการซื้อขายกันจะต้องทําเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เจ้าหน้าที่ ห้ามมิให้ยกการขยายเวลาขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทน
และโดยสุจริต และได้
สํานักจงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดทะเบียนสิทธิโดยสุจกริาตแล้ว เว้นแต่สํจาะได้ นําหนังสือหรือหลักฐานเป็
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นหนังสือ
ดังกล่าวไปจดทะเบียนหรือจดแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๙๗ สิทธิในการไถ่ทรัพย์สินนั้น จะพึงใช้ได้แต่บุคคลเหล่านี้ คือ
สํ(๑)
านักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ขายเดิม หรือทายาทของผู
กา ้ขายเดิม หรืสําอนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ผู้รับโอนสิทธินั้น หรือ
(๓) บุกคาคลซึ่งในสัญญายอมไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี โดยเฉพาะว่าให้เป็นกผูา้ไถ่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๙๘ สิทธิในการไถ่ทรัพย์สินนั้น จะพึ งใช้ได้เฉพาะต่อบุคคลเหล่านี้ คือ
(๑) ผู้ซื้อเดิม หรือทายาทของผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้ซื้อเดิม หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ผู้ รั บ โอนทรั พ ย์ สิ น หรื อ รั บ โอนสิ ท ธิ เ หนื อ ทรั พ ย์ สิ น นั้ น แต่ ใ นข้ อ นี้ ถ้ า เป็ น
สังหาริมทรัพย์จะใช้
สํานัสกิทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธิได้ต่อเมื่อผู้รับโอนได้รกู้ใานเวลาโอน ว่าสํทรัานักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์สินตกอยู่ในบังคับแห่กงาสิทธิไถ่คืน

มาตรากา๔๙๙ สินไถ่นสํั้นานัถ้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าไม่ได้กําหนดกันไว้ว่าเท่กาาใดไซร้ ท่านให้
สําไนัถ่กตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ามราคาที่ขาย กา
ฝาก
สํถ้าานัปรากฏในเวลาไถ่ ว่าสินไถ่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาหรือราคาขายฝากที ่กําหนดไว้สูงกว่าราคาขายฝากที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่
แท้จริงเกินอัตราร้อยละสิบห้าต่อปี ให้ไถ่ได้ตามราคาขายฝากที่แท้จริงรวมประโยชน์ตอบแทนร้อยละ
บห้าต่อปี๑๐
สํานักสิงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๐๐ ค่าฤชาธรรมเนียมการขายฝากซึ่งผู้ซื้อได้ออกไปนั้นผู้ไถ่ต้องใช้ให้แก่ผู้
สํานักซืงานคณะกรรมการกฤษฎี
้อพร้อมกับสินไถ่ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมการไถ่ทรัพย์นั้น ผู้ไถ่พึงออกใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๐๑ ทรัพย์สินซึ่งไถ่นั้น ท่านว่าต้องส่งคืนตามสภาพที่เป็นอยู่ในเวลาไถ่แต่
สํานักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าหากว่าทรัพย์สินนั้นถูกกาทําลายหรือทํสําาให้นักเสืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อมเสียไปเพราะความผิกาดของผู้ซื้อไซร้สําท่นัากนว่ าผู้ซื้อจะต้อง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ใช้ค่าสินไหมทดแทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๐๒ ทรัพย์สินซึ่งไถ่นั้น ท่านว่าบุคคลผู้ไถ่ย่อมได้รับคืนไปโดยปลอดจาก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๔๙๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไ ขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๒)พ.ศ. ๒๕๔๑
๑๐
มาตรา ๔๙๙ วรรคสอง เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ.ก๒๕๔๑
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๘๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สิทธิใด ๆ ซึ่งผู้ซื้อเดิม หรือทายาท หรือผู้รับโอนจากผู้ซื้อเดิมก่อให้เกิดขึ้นก่อนเวลาไถ่


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้ า ว่ ากเช่า า ทรั พ ย์ สิ น ทีสํา่ อนัยูก่ ใงานคณะกรรมการกฤษฎี
นระหว่ า งขายฝากอักนาได้ จ ดทะเบี ยสํนเช่ า ต่ อ พนั ก งาน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เจ้าหน้าที่แล้วไซร้ ท่านว่าการเช่านั้นหากมิได้ทําขึ้นเพื่อจะให้เสียหายแก่ผู้ขาย กําหนดเวลาเช่ายังคงมี
เหลืออยู่อีกเพียงใด สํานัก็กใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห้คงเป็นอันสมบูรณ์อยูก่เพีา ยงนั้น แต่มิใสํห้าเนักิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
กว่าปีหนึ่ง กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


ส่วนที่ ๒
ขายตามตัวอย่าง ขายตามคํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าพรรณนา
สํานักขายเผื ่อชอบ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๕๐๓ ในการขายตามตัวอย่างนั้น ผู้ขายต้องส่งมอบทรัพย์สินให้ตรงตาม
ตัวอย่าง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการขายตามคําพรรณนา ผู้ขายจําต้องส่งมอบทรัพย์สินให้ตรงตามคําพรรณนา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๐๔ ในข้อรับผิดเพื่อการส่งของไม่ตรงตามตัวอย่าง หรือไม่ตรงตามคํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พรรณนานั้น ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นกําหนดปีหนึ่งนับแต่ เวลาส่งมอบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๐๕ อันว่าขายเผื่อชอบนั้น คือการซื้อขายกันโดยมีเงื่อนไขว่าให้ผู้ซื้อได้มี
โอกาสตรวจดูทรัพสําย์นัสกินงานคณะกรรมการกฤษฎี
ก่อนรับซื้อ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๕๐๖ การตรวจดู


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ท รั พ ย์ สิ น นั้ น ถ้ า ไม่กาไ ด้ กํ า หนดเวลากั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไว้ ผู้ ข ายอาจ กา
กําหนดเวลาอันสมควร และบอกกล่าวแก่ผู้ซื้อให้ตอบภายในกําหนดนั้นได้ว่าจะรับซื้อหรือไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๐๗ ทรัพย์สินอันผู้ซื้อจะพึงตรวจดูก่อนที่จะส่งมอบแก่กันนั้น ถ้าผู้ซื้อไม่
สํานักตรวจรั บภายในเวลาที่กกําาหนดไว้โดยสัญสําญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี หรือโดยประเพณี หรือกโดยคํ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าบอกกล่สําาวของผู ้ขายท่านว่า
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้ขายย่อมไม่มีความผูกพันต่อไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๕๐๘ เมื่อทรัสําพนัย์กสงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ินนั้นได้ส่งมอบแก่ผู้ซื้อกเพื
า ่อให้ตรวจดูแสําล้นัวกการซื ้อขายย่อม
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เป็นอันบริบูรณ์ในกรณีต่อไปนี้ คือ
สํ(๑)
านักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าผู้ซื้อมิได้บอกกล่าวว่กาาไม่ยอมรับซื้อสํภายในเวลาที ่กําหนดไว้โดยสั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญา หรือ
โดยประเพณี หรือโดยคําบอกกล่าว หรือ
(๒) ถ้ากผูา ้ซื้อไม่ส่งทรัพสํย์าสนัินกคืงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นภายในกําหนดเวลาดักา่งกล่าวมานั้น หรื
สํานัอกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ถ้าผู้ซื้อใช้ราคาทรัพย์สินนั้นสิ้นเชิง หรือแต่บางส่วน หรือ
สํ(๔)
านักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าผู้ซื้อจําหน่ายทรัพย์สกินานั้น หรือทําประการอื ่นอย่างใดอันเป็นปริกยา ายว่ารับซื้อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขายทอดตลาด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๘๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ก๕๐๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า การขายทอดตลาดย่ อมบริบูรณ์ เมืก่อาผู้ทอดตลาดแสดงความตกลงด้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เคาะไม้ หรือด้วยกิริยาอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งตามจารีตประเพณีในการขายทอดตลาด ถ้ายังมิได้แสดง
เช่นนั้นอยู่ตราบใดสําท่นักานว่ าผู้สู้ราคาจะถอนคําสูก้รา าคาของตนเสีสํายนัก็กยงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ังถอนได้ กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๕๑๐ ผู้ซื้อในการขายทอดตลาดจะต้องทําตามคําโฆษณาบอกขาย และตาม
ความข้ออื่น ๆ ซึ่งสํผูา้ทนักอดตลาดได้ แถลงก่อนประเดิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา มการสู้ราคาทรั
สํานักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์สินเฉพาะรายไป กา

มาตรา ก๕๑๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ท่านห้าสํมมิ
านักให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้ทอดตลาดเข้าสู้ราคากาหรือใช้ให้ผู้หสํนึา่งนัผูก้ใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดเข้าสู้ราคาใน กา
การทอดตลาดซึ่งตนเป็นผู้อํานวยการเอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๑๒ ท่านห้ามมิให้ผู้ขายเข้าสู้ราคาเอง หรือใช้ให้ผู้หนึ่งผู้ใดเข้าสู้ราคาเว้นแต่
สํานักจะได้ แถลงไว้โดยเฉพาะในคํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าโฆษณาบอกการทอดตลาดนั ้น ว่าผู้ขายถื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อสิทธิที่จะเข้สําานัสูก้ราคาด้ วย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๑๓ เมื่ อ ใดผู้ ท อดตลาดเห็ น ว่สําาราคาซึ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ ง มี ผู้ สู้ สู ง สุ ด นั้ น ยั ง ไม่ เ พี ย งพอผู้
ทอดตลาดอาจถอนทรัพย์สินจากการทอดตลาดได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๑๔ ผู้สู้ราคาย่อมพ้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กานความผูกพันสํในราคาซึ ่งตนสู้แต่ขณะเมื่อกมีาผู้อื่นสู้ราคา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สู งขึ้นไป ไม่ ว่า การที่ผู้ อื่นสู้นั้ น จะสมบู ร ณ์หรือมิ ส มบู ร ณ์ป ระการใด อีกประการหนึ่ งเมื่อ ใดถอน
สํานักทรั พย์สินรายนั้นจากการทอดตลาด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ผู้สสํู้ราาคาก็ พ้นความผูกพันแต่ขณะที
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ถอนนั้นดุจสํกัานนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๑๕ ผู้สู้ราคาสูงสุกดา ต้องใช้ราคาเป็


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกเงิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นสด เมื่อการซื้อขายบริ
กา บูรณ์ หรือ
ตามเวลาที่กําหนดไว้ในคําโฆษณาบอกขาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๑๖ ถ้าผู้สู้ราคาสูงสุดละเลยเสียไม่ใช้ราคาไซร้ ท่านให้ผู้ทอดตลาดเอา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทรัพย์สินนั้นออกขายอีกซ้ําหนึ่ง ถ้าและได้เงินเป็นจํานวนสุทธิไม่คุ้มราคาและค่าขายทอดตลาดชั้นเดิม
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้สู้ราคาเดิมคนนั้นต้องรักบาผิดในส่วนที่ขสําด
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๑๗ ถ้าเงินรายได้กในการทอดตลาดส่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานัวกนหนึ ่งส่วนใดค้างชําระอยู
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ เพราะเหตุ
ผู้ทอดตลาดละเลยไม่บังคับตามบทในมาตรา ๕๑๕ หรือมาตรา ๕๑๖ ไซร้ ท่านว่าผู้ทอดตลาดจะต้อง
สํานักรังานคณะกรรมการกฤษฎี
บผิด กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกลัากษณะ ๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แลกเปลี่ยน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๑๘ อั นว่ า แลกเปลี่ย นนั้น คื อสั ญ ญาซึ่ ง คู่ ก รณี ต่า งโอนกรรมสิ ท ธิ์ แ ห่ ง
สํานักทรั พย์สินให้กันและกัน กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๙๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๕๑๙ บทบัญสํญัานัตกิทงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ั้งหลายในลักษณะซื้อขายนั
กา ้น ท่านให้ใสํช้าถนัึงกการแลกเปลี
ย่ น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ด้วย โดยให้ถือว่าผู้เป็นคู่สัญญาแลกเปลี่ยนเป็นผู้ขายในส่วนทรัพย์สินซึ่งตนได้ส่งมอบและเป็นผู้ซื้อใน
ส่วนทรัพย์สินซึ่งตนได้
สํานักรงานคณะกรรมการกฤษฎี
ับในการแลกเปลี่ยนนั้นกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๕๒๐ ถ้าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งในสัญญาแลกเปลี่ยนตกลงจะโอนเงินเพิ่มเข้ากับ
ทรัพย์สินสิ่งอื่นให้สําแนัก่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
ีกฝ่ายหนึ่งไซร้ บททั้งหลายอั
กา นว่าด้วสํยราคาในลั กษณะซื้อขายนั้นกาให้ใช้ถึงเงิน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เช่นว่านั้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๕๒๑ อันว่าให้นั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่า ผู้ให้ โอนทรัพย์สิน
ของตนให้โดยเสน่หาแก่บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่า ผู้รับ และผูสํ้ราับนัยอมรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บเอาทรัพย์สินนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๒๒ การให้นั้นจะทําด้วยปลดหนี้ให้แก่ผู้รับ หรือด้วยชําระหนี้ซึ่งผู้รับค้าง
ชําระอยู่ก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๕๒๓ การให้สํนาั้นนักท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านว่าย่อมสมบูรณ์ต่อเมื
กา่อส่งมอบทรัพสํย์าสนัินกทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ให้ กา

สํมาตรา ๕๒๔ การให้สิทธิอกันามีหนังสือตราสารเป็


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นสําคัญนั้น ถ้ามิได้ส่งกมอบตราสาร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า
ให้แก่ผู้รับ และมิได้มีหนังสือบอกกล่าวแก่ลูกหนี้แห่งสิทธินั้น ท่านว่าการให้ย่อมไม่สมบูรณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๒๕ การให้ ทรัพย์ สินซึ่งถ้าจะซื้ อขายกันจะต้องทําเป็นหนังสือและจด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่นั้น ท่านว่าย่อมสมบูรณ์ต่อเมื่อได้ทําเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อ
สํานักพนั กงานเจ้าหน้าที่ ในกรณี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา เช่นนี้ การให้
สํายนั่อกมเป็ นอันสมบูรณ์โดยมิพกักา ต้องส่งมอบ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี

สํมาตรา ๕๒๖ ถ้าการให้ทรัพกย์า สินหรือให้คําสํมัานั่นกว่งานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี าจะให้ทรัพย์สินนั้นได้ทกําาเป็นหนังสือ
และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว และผู้ให้ไม่ส่งมอบทรัพย์สินนั้นแก่ผู้รับไซร้ท่านว่าผู้รับชอบ
สํานักทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่จะเรียกให้ส่งมอบตัวทรั
กาพย์สินหรือราคาแทนทรั พย์สินนั้นได้ แต่กไม่า ชอบที่จะเรียสํกค่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัากสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นไหมทดแทน กา
อย่างหนึ่งอย่างใดด้วยอีกได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๒๗ ถ้าผู้ให้ผูกตนไว้ว่าจะชําระหนี้เป็นคราว ๆ ท่านว่าหนี้นั้นเป็นอันระงับ
สํานักสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นไปเมื่อผู้ให้หรือผู้รับตาย
กา เว้นแต่จะขัสํดากันับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
เจตนาอันปรากฏแต่มูลกหนี
า ้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๒๘ ถ้าทรัพย์สินซึ่งให้นั้นมีค่าภาระติดพัน และผู้รับละเลยเสียไม่ชําระค่า
สํานักภาระติ ดพันนั้นไซร้ ท่ากนว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า าโดยเงื่อนไขอั
สํานันกระบุ ไว้ในกรณีสิทธิเลิกกสัาญญาต่างตอบแทนกั
งานคณะกรรมการกฤษฎี นนั้นผู้ให้จะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๙๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

เรียกให้ส่งทรัพย์สินที่ให้นั้นคืนตามบทบัญญัติว่าด้วยคืนลาภมิควรได้นั้นก็ได้ เพียงเท่าที่ควรจะเอา
สํานักทรั พย์นั้นไปใช้ชําระค่าภาระติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดพันนั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่สิทธิเรียกคืนอันนี้ย่อมเป็นอันขาดไป ถ้าบุคคลภายนอกเป็นผู้มีสิทธิจะเรียกให้
ชําระค่าภาระติดพัานนันัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๕๒๙ ถ้าทรัพย์สินที่ให้มีราคาไม่พอกับการที่จะชําระค่าภาระติดพันไซร้ท่าน
ว่าผู้รับจะต้องชําระแต่ เพียงเท่าราคาทรัพย์สินกเท่า านั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๕๓๐ ถ้าการให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกั้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
มีค่าภาระติดพัน ท่านว่กาาผู้ให้จะต้องรัสํบาผินัดกเพื ่อความชํารุด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บกพร่องหรือเพื่อการรอนสิทธิเช่นเดียวกันกับผู้ขาย แต่ท่านจํากัดไว้ว่าไม่เกินจํานวนค่าภาระติดพัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๓๑ อันผู้ให้จะเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณนั้นท่าน
สํานักว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าอาจจะเรียกได้แต่เพียกงในกรณี
า ดังจะกล่
สํานัากวต่ อไปนี้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ถ้าผู้รับได้ประทุษร้ายต่อผู้ให้เป็นความผิดฐานอาญาอย่างร้ายแรงตามประมวล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎหมายลักษณะอาญา หรือ
(๒) ถ้าผู้รับได้ทําให้ผสํู้ให้านัเสีกยงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ชื่อเสียง หรือหมิ่นประมาทผู
กา
้ให้อย่างร้สําายแรง หรือ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ถ้าผู้รับได้บอกปัดไม่ยอมให้สิ่งของจําเป็นเลี้ยงชีวิตแก่ผู้ให้ ในเวลาที่ผู้ให้ยากไร้
และผู้รับยังสามารถจะให้ ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๕๓๒ ทายาทของผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ให้อาจเรียกให้ถอนคืนกการให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ได้แต่เฉพาะในเหตุ ที่ผู้รับได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ฆ่าผู้ให้ตายโดยเจตนาและไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือได้กีดกันผู้ให้ไว้มิให้ถอนคืนการให้
สํแต่
านัวก่างานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้ให้ได้ฟ้องคดีไว้แล้วอย่กาางใดโดยชอบสํทายาทของผู ้ให้จะว่าคดีอันกนัา้นต่อไปก็ได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๕๓๓ เมื่อผู้ใสํห้านัได้กใงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ห้อภัยแก่ผู้รับในเหตุปกระพฤติ
า เนรคุณสํนัา้นนัแล้ วก็ดี หรือเมื่อ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เวลาได้ล่วงไปแล้วหกเดือนนับแต่เหตุเช่นนั้นได้ทราบถึงบุคคลผู้ชอบที่จะเรียกถอนคืนการให้ได้นั้นก็ดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ท่านว่าหาอาจจะถอนคืนการให้ได้ไม่
อนึ่ง ท่กาานห้ามมิให้ฟ้อสํงคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เมื่อพ้นเวลาสิบปีภายหลักางเหตุการณ์เช่สํนาว่นัากนังานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้น กา

สํมาตรา ๕๓๔ เมื่ อ ถอนคืกนาการให้ ท่ า นให้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักสงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ ง คื น ทรั พ ย์ สิ น ตามบทบั
กา ญ ญั ติ แ ห่ ง
ประมวลกฎหมายนี้ ว่าด้วยลาภมิควรได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๓๕ การให้อันจะกล่าวต่อไปนี้ ท่านว่าจะถอนคืนเพราะเหตุเนรคุณไม่ได้
คือ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ให้เป็นบําเหน็จสินจ้างโดยแท้
(๒) ให้กสาิ่งที่มีค่าภาระติสําดนัพักนงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ให้โดยหน้าที่ธรรมจรรยา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ให้ในการสมรส
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๙๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๕๓๖ การให้อั น จะให้ เป็ น ผลต่อ เมื่ อผู้ ใ ห้ ต ายนั้น ท่า นให้ บั งคับ ด้ว ยบท
สํานักกฎหมายว่ าด้วยมรดกและพิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นัยกรรม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกลัากษณะ ๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เช่าทรัพย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานับทเบ็ ดเสร็จทัว่ ไป
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๓๗ อันว่าเช่าทรัพย์สินนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าผู้ให้เช่าตก
สํานักลงให้ บุ ค คลอี ก คนหนึ่ งกเรีา ย กว่ า ผู้ เ ช่ าสํได้านัใกช้งานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ห รื อ ได้ รั บ ประโยชน์ ใกนทรั
า พ ย์ สิ น อย่สําานังใดอย่ า งหนึ่ ง ชั่ ว
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ระยะเวลาอันมีจํากัด และผู้เช่าตกลงจะให้ค่าเช่าเพื่อการนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๓๘ เช่าอสัสํงาหาริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มทรัพย์นั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนัสํงาสืนัอกอย่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
างหนึ่งอย่าง
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใดลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสําคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่ ถ้าเช่ามีกําหนดกว่า
สามปีขึ้นไป หรือสํกําานัหนดตลอดอายุ ของผู้เช่าหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อผู้ให้เช่าไซร้สําหากมิ ได้ทําเป็นหนังสือและจดทะเบี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยน
ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ท่านว่าการเช่านั้นจะฟ้องร้องให้บังคับคดีได้แต่เพียงสามปี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๓๙ ค่าฤชาธรรมเนียมทําสัญญาเช่านั้น คู่สัญญาพึงออกใช้เสมอกันทั้งสอง
ฝ่าย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๕๔๐ อันอสัสํางนัหาริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มทรัพย์ ท่านห้ามมิใกห้าเช่ากันเป็นกํสําาหนดเวลาเกิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นกว่า
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สามสิบปี ถ้าได้ทําสัญญากันไว้เป็นกําหนดเวลานานกว่านั้นท่านก็ให้ลดลงมาเป็นสามสิบปี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง กําหนดเวลาเช่าดังกล่าวมานี้ เมื่อสิ้นลงแล้วจะต่อสัญญาอีกก็ได้ แต่ต้องอย่าให้
สํานักเกิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นสามสิบปีนับแต่วันต่กอาสัญญา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๔๑ สัญญาเช่านั้นกจะทํ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ากันเป็นกํสําาหนดว่ าตลอดอายุของผู้ให้กเช่าาหรือของผู้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เช่าก็ให้ทําได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๔๒ บุคคลหลายคนเรียกเอาสังหาริมทรัพย์อันเดียวกันอาศัยมูลสัญญาเช่า
ต่างราย ท่านว่าทรั
สําพนัย์กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตกไปอยู่ในครอบครองผูกา้เช่าคนใดก่อนด้
สํานัวกยสั ญญาเช่าทรัพย์นั้น คนนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นมีสิทธิยิ่ง
กว่าคนอื่น ๆ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๔๓ บุคคลหลายคนเรียกร้องเอาอสั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งหาริมทรัพย์อันเดียวกัน อาศัยมูล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สัญญาเช่าต่างราย ท่านให้วินิจฉัยดังต่อไปนี้
(๑) ถ้ากการเช่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า านั้นเป็นสํประเภทซึ ่งมิได้บังคับไว้โดยกฎหมายว่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าต้อสํงจดทะเบี ยนท่านให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๙๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ถือว่าผู้เช่าซึ่งได้ทรัพย์สินไปไว้ในครอบครองก่อนด้วยสัญญาเช่าของตนนั้นมีสิทธิยิ่งกว่าคนอื่น ๆ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒) ถ้กาาการเช่าทุก ๆสํารายเป็ นประเภทซึ่งบังคับกไว้าโดยกฎหมายว่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัาต้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
องจดทะเบียน กา
ท่านให้ถือว่าผู้เช่าซึ่งได้จดทะเบียนการเช่าของตนก่อนนั้นมีสิทธิยิ่งกว่าคนอื่น ๆ
สํ(๓)
านักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าการเช่ามีทั้งประเภทซึก่งา ต้องจดทะเบีสํยานและประเภทซึ ่งไม่ต้องจดทะเบี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนตาม
กฎหมายยันกันอยู่ไซร้ ท่านว่าผู้เช่าคนที่ได้จดทะเบียนการเช่าของตนนั้นมีสิทธิยิ่งกว่า เว้นแต่ผู้เช่าคน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อื่นจะได้ทรัพย์สินนั้นไปไว้ในครอบครองด้วยการเช่าของตนเสียก่อนวันจดทะเบียนนั้นแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๔๔ ทรัพย์สินซึ่งเช่านั้น ผู้เช่าจะให้เช่าช่วงหรือโอนสิทธิของตนอันมีใน
สํานักทรั พย์สินนั้นไม่ว่าทั้งหมดหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อแต่บางส่สํวานให้ แก่บุคคลภายนอก ท่านว่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าหาอาจทําได้สําไนัม่กเว้ นแต่จะได้ตก
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ลงกันไว้เป็นอย่างอื่นในสัญญาเช่า
สํถ้าานัผูก้เงานคณะกรรมการกฤษฎี
ช่าประพฤติฝ่าฝืนบทบักญาญัติอันนี้ ผู้ให้สํเาช่นัากจะบอกเลิ กสัญญาเสียก็ไกด้า
งานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๕๔๕ ถ้าผู้เช่สําาเอาทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี พย์สินซึ่งตนเช่าไปให้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาผู้อื่นเช่าช่วงอีสํกาทอดหนึ ่งโดยชอบ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ท่านว่าผู้เช่าช่วงย่อมต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่าเดิมโดยตรง ในกรณีเช่นว่านี้หากผู้เช่าช่วงจะได้ใช้ค่าเช่า
ให้แก่ผู้เช่าไปก่อนสําท่นัากนว่
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าผู้เช่าช่วงหาอาจจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสํสูานั้ผกู้ให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
เช่าได้ไม่ กา
อนึ่ง บทบัญญัติอันนีสํ้ไม่านัหก้างานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มการที่ผู้ให้เช่าจะใช้สิทกธิาของตนต่อผู้เช่สําานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หน้าที่และความรับผิดของผู้ให้เช่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๔๖ ผู้ให้เช่าจําต้กอางส่งมอบทรัพสํย์านัสกินงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ซึ่งให้เช่านั้นในสภาพอักนา ซ่อมแซมดี
แล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๔๗ ผู้ เช่ าต้องเสียค่ า ใช้จ่ายไปโดยความจํา เป็น และสมควรเพื่ อรั ก ษา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทรัพย์สินซึ่งเช่านั้นเท่าใด ผู้ให้เช่าจําต้องชดใช้ให้แก่ผู้เช่า เว้นแต่ค่าใช้จ่ายเพื่อบํารุงรักษาตามปกติ
สํานักและเพื ่อซ่อมแซมเพียงเล็กากน้อย
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๔๘ ถ้าผู้ให้เช่าส่งกมอบทรั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า พย์สินสํซึา่งนัเช่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
านั้นโดยสภาพไม่เหมาะแก่
กา การที่จะ
ใช้เพื่อประโยชน์ที่เช่ามา ผู้เช่าจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๔๙ การส่งมอบทรัพย์สินซึ่งเช่าก็ดี ความรับผิดของผู้ให้เช่าในกรณีชํารุด
บกพร่องและรอนสิสําทนัธิกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
็ดี ผลแห่งข้อสัญญาว่ากจะไม่
า ต้องรับผิสํดาก็นัดกี งานคณะกรรมการกฤษฎี
เหล่านี้ ท่านให้บังคับด้กวายบทบัญญัติ
ทั้งหลายแห่งประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยการซื้อขายอนุโลมความตามควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๕๐ ผู้ให้เช่าย่อมต้องรับผิดในความชํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ารุดบกพร่องอันเกิดขึ้นในระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เวลาเช่า และผู้ให้เช่าต้องจัดการซ่อมแซมทุกอย่างบรรดาซึ่งเป็นการจําเป็นขึ้น เว้นแต่การซ่อมแซม
สํานักชนิ ดซึ่งมีกฎหมายหรือจารี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ตประเพณีวสํ่าผูานั้เช่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
จะพึงต้องทําเอง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๙๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๕๕๑ ถ้าความชํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
รุดบกพร่องแห่งทรัพย์กสา ินที่เช่านั้นไม่สํเาป็นันกเหตุ ถึงแก่ผู้เช่า
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จะต้องปราศจากการใช้และประโยชน์ และผู้ให้เช่ายังแก้ไขได้ไซร้ ผู้เช่าต้องบอกกล่าวแก่ผู้ให้เช่าให้
จัดการแก้ไขความชํ
สํานัากรุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดบกพร่องนั้นก่อน ถ้ากและผู
า ้ให้เช่าไม่สํจาัดนัทํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้คืนดีภายในเวลาอันกสมควรผู
า ้เช่า
จะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้ หากว่าความชํารุดบกพร่องนั้นร้ายแรงถึงสมควรจะทําเช่นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หน้าที่และความรับผิดของผู้เช่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๕๒ อันผู้เช่าจะใช้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาทรัพย์สินที่เช่สําานัเพืกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อการอย่างอื่นนอกจากที
กา ่ใช้กันตาม
ประเพณีนิยมปกติ หรือการดังกําหนดไว้ในสัญญานั้น ท่านว่าหาอาจจะทําได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๕๓ ผู้เช่าจําต้องสงวนทรัพย์สินที่เช่านั้นเสมอกับที่วิญญูชนจะพึงสงวน
ทรัพย์สินของตนเอง และต้องบํารุงรักษาทั้งทําการซ่อมแซมเล็สํากนัน้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยด้วย กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๕๕๔ ถ้าผู้เช่ากระทําการฝ่าฝืนบทบัญญัติในมาตรา ๕๕๒ มาตรา ๕๕๓
หรือฝ่าฝืนข้อสัญสํญาานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ให้เช่าจะบอกกล่าวให้กผาู้เช่าปฏิบัติให้ถสํูกานัต้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
งตามบทกฎหมายหรือกข้าอสัญญานั้น
ๆ ก็ได้ ถ้าและผู้เช่าละเลยเสียไม่ปฏิบัติตาม ท่านว่าผู้ให้เช่าจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๕๕ ผู้ เ ช่ า จํ า ต้ อ งยอมให้ ผู้ ใ ห้ เ ช่ า หรื อ ตั ว แทนของผู้ ใ ห้ เ ช่ า เข้ า ตรวจดู
ทรัพย์สินที่เช่าเป็นสําครั
นัก้งงานคณะกรรมการกฤษฎี
คราว ในเวลาและระยะอั กา นสมควร สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๕๕๖ ถ้าในระหว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี างเวลาเช่ามีเหตุจะต้อกงซ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อมแซมทรัพสําย์นัสกินงานคณะกรรมการกฤษฎี
ซึ่งเช่านั้นเป็น กา
การเร่งร้อน และผู้ให้เช่าประสงค์จะทําการอันจําเป็นเพื่อที่จะซ่อมแซมเช่นว่านั้นไซร้ ท่านว่าผู้เช่าจะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่ยอมให้ทํานั้นไม่ได้ แม้ถึงว่าการนั้นจะเป็นความไม่สะดวกแก่ตน ถ้าการซ่อมแซมเป็นสภาพซึ่งต้อง
สํานักกิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นเวลานานเกินสมควรกาจนเป็นเหตุให้สําทนัรักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์สินนั้นไม่เหมาะแก่กการที
า ่จะใช้เพื่อประโยชน์ ที่เช่ามา ผู้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เช่าจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๕๗ ในกรณีอย่างใด ๆ ดั่งจะกล่าวต่อไปนี้ คือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑) ถ้ากทรัา พย์สินที่เช่าสํนัานั้นกชํงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารุดควรที่ผู้ให้เช่าจะต้อกงซ่
า อมแซมก็ดี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ถ้าจะต้องจัดการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อปัดป้องภยันตรายแก่ทรัพย์สินนั้นก็ดี
สํ(๓)
านักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าบุคคลภายนอกรุกล้ํากเข้า ามาในทรัพสํย์าสนัินกทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่เช่าหรือเรียกอ้างสิทธิกอาย่างใดอย่าง
หนึ่งเหนือทรัพย์สินนั้นก็ดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในเหตุกดาั่งกล่าวนั้นให้สํผาู้เนัช่กาแจ้ งเหตุแก่ผู้ให้เช่าโดยพลั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา น เว้นแต่ผู้ให้สําเช่นัากจะได้ ทราบเหตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นั้นอยู่ก่อนแล้ว สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าผู้เช่าละเลยเสียไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัตินี้ไซร้ ท่านว่าผู้เช่าจะต้องรับผิดต่อผู้ให้
สํานักเช่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าในเมื่อผู้ให้เช่าต้องเสีกยาหายอย่างใด สํๆานัเพราะความละเลยชั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กช้าของผู
กา ้เช่านั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๙๕ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๕๕๘ อันทรัสํพานัย์กสงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ินที่เช่านั้น ถ้ามิได้รับอนุกาญาตของผู้ให้สํเช่านัาก่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
น ผู้เช่าจะทํา กา
การดัดแปลงหรือต่อเติมอย่างหนึ่งอย่างใดหาได้ไม่ ถ้าและผู้เช่าทําไปโดยมิได้รับอนุญาตของผู้ให้เช่า
เช่นนั้นไซร้ เมื่อผูสํ้ใาห้นัเกช่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าเรียกร้องผู้เช่าจะต้องทํ
กาาให้ทรัพย์สินสํนัานั้นกกลั บคืนคงสภาพเดิมทั้งกจะต้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า องรับผิด
ต่อผู้ให้เช่าในความสูญหายหรือบุบสลายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การดัดแปลงต่อเติมนั้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๕๙ ถ้าไม่มีกําหนดโดยสั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญาหรืสํอานัโดยจารี ตประเพณีว่าจะพึกงาชําระค่าเช่า
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ณ เวลาใด ท่านให้ชําระเมื่อสิ้นระยะเวลาอันได้ตกลงกําหนดกันไว้ทุกคราวไป กล่าวคือว่าถ้าเช่ากัน
สํานักเป็ นรายปีก็พึงชําระค่าเช่กาาเมื่อสิ้นปี ถ้าเช่
งานคณะกรรมการกฤษฎี สําานักักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นรายเดือนก็พึงชําระค่
กา าเช่าเมื่อสิ้นสํเดืาอนันกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๖๐ ถ้าผู้เช่าไม่ชํากระค่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าเช่า ผู้ให้เสํช่าานัจะบอกเลิ กสัญญาเสียก็ได้กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่ถ้าค่าเช่านั้นจะพึงส่งเป็นรายเดือน หรือส่งเป็นระยะเวลายาวกว่ารายเดือนขึ้นไป
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ให้เช่าต้องบอกกล่าวแก่กาผู้เช่าก่อนว่าให้สําชนัํากระค่ าเช่าภายในเวลาใด กซึา่งพึงกําหนดอย่สําานัให้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี น้อยกว่าสิบห้า กา
วัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๖๑ ถ้ามิได้สํทานัํากหนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งสือลงลายมือชื่อของคู่สัญญาแสดงไว้
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ต่อกันว่าทรัพย์สิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่ให้เช่ามีสภาพเป็นอยู่อย่างไร ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้เช่าได้รับทรัพย์สินที่เช่านั้นไปโดยสภาพ
อันซ่อมแซมดีแล้สํวาและเมื ่อสัญญาได้เลิกหรือกระงั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า บลง ผู้เช่าก็สําตนั้อกงส่ งคืนทรัพย์สินในสภาพเช่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นนั้น เว้น
แต่จะพิสูจน์ได้ว่าทรัพย์สินนั้นมิได้ซ่อมแซมไว้ดีในขณะที่ส่งมอบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๖๒ ผู้เช่าจะต้องรับผิดในความสูญหายหรือบุบสลายอย่างใด ๆ อันเกิดขึ้น
แก่ทรัพย์สินที่เช่าสํเพราะความผิ ดของผู้เช่าเองกาหรือของบุคคลซึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่งกอยู ่กับผู้เช่า หรือของผู้เช่กาาช่วง
งานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่ผู้เช่าไม่ต้องรับผิดในความสูญหายหรือบุบสลายอันเกิดแต่การใช้ทรัพย์สินนั้นโดย
สํานักชอบ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๖๓ คดีอันผู้ให้เช่าจะฟ้องผู้เช่าเกี่ยวแก่สัญญาเช่านั้นท่านห้ามมิให้ฟ้องเมื่อ
สํานักพ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
นกําหนดหกเดือนนับแต่
กา วันส่งคืนทรัพสํย์านัสกินงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่เช่า กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความระงับแห่งสัญญาเช่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๖๔ อันสัญญาเช่กาานั้น ท่านว่าย่สํอามระงั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี บไปเมื่อสิ้นกําหนดเวลาที
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ได้ตกลง
กันไว้ มิพักต้องบอกกล่าวก่อน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๖๕ การเช่าถือสวนนั้น ท่านให้สสํันานินัษกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ฐานไว้ก่อนว่าเช่ากันปีหกนึา ่ง
การเช่านาก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเช่ากันตลอดฤดูทํานาปีหนึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๙๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๕๖๖ ถ้ากําหนดเวลาเช่าไม่ปรากฏในความที่ตกลงกันหรือไม่พึงสันนิษฐาน


สํานักได้ ไซร้ ท่านว่าคู่สัญญาฝ่กาา ยใดจะบอกเลิสํากนัสักญงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ญาเช่าในขณะเมื่อสุดกระยะเวลาอั
า นเป็
สํานันกกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดชําระค่า กา
เช่าก็ได้ทุกระยะ แต่ต้องบอกกล่าวแก่อีกฝ่ายหนึ่งให้รู้ตัวก่อนชั่วกําหนดเวลาชําระค่าเช่าระยะหนึ่ง
เป็นอย่างน้อยแต่สํไม่านัจกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
ต้องบอกกล่าวล่วงหน้ากกว่า าสองเดือน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๖๗ ถ้าทรัพย์สินซึ่งให้เช่าสูญหายไปทั้งหมดไซร้ ท่านว่าสัญญาเช่าก็ย่อม
ระงับไปด้วย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๕๖๘ ถ้าทรัสํพาย์นัสกินงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ซึ่งให้เช่าสูญหายไปแต่กาเพียงบางส่วนและมิ ได้เป็นเพราะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ความผิดของผู้เช่า ท่านว่าผู้เช่าจะเรียกให้ลดค่าเช่าลงตามส่วนที่สูญหายก็ได้
สํในกรณี เช่นนี้ ถ้าผู้เช่าไม่สกามารถใช้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สอยทรั
สํานัพกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์สินส่วนที่ยังคงเหลือกอยู
า ่ นั้ นสํ า เร็ จ
ประโยชน์ได้ดั่งที่ได้มุ่งหมายเข้าทําสัญญาเช่าไซร้ ท่านว่าผู้เช่าจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๖๙ อั นสั ญ ญาเช่า อสั ง หาริม ทรั พ ย์นั้ น ย่อ มไม่ ร ะงั บ ไปเพราะเหตุโ อน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กรรมสิทธิ์ทรัพย์สินซึ่งให้เช่า
ผู้รับโอนย่อมรับไปทั้งสํสิาทนักธิงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และหน้าที่ของผู้โอนซึ่งกมีาต่อผู้เช่านั้นด้วสํยานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๗๐ ในเมื่อสิ้นกํกาาหนดเวลาเช่าสํซึานั่งกได้งานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ตกลงกันไว้นั้นถ้าผู้เช่กาายังคงครอง
ทรัพย์สินอยู่ และผู้ให้เช่ารู้ความนั้นแล้วไม่ทักท้วงไซร้ ท่านให้ถือว่าคู่สัญญาเป็นอันได้ทําสัญญาใหม่
สํานักต่งานคณะกรรมการกฤษฎี
อไปไม่มีกําหนดเวลา กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๗๑ ถ้าสัญญาเช่กาาที่นาได้เลิกหรืสําอนัระงั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี บลง เมื่อผู้เช่าได้เพาะปลู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กข้าวลง
แล้วไซร้ ท่านว่าผู้เช่าย่อมมีสิทธิที่จะครองนานั้นต่อไปจนกว่าจะเสร็จการเกี่ยวเก็บ แต่ต้องเสียค่าเช่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เช่าซื้อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๗๒ อันว่าเช่าซื้อกนัา้น คือสัญญาซึสํ่งาเจ้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ของเอาทรัพย์สินออกให้
กาเช่า และให้
คํามั่นว่าจะขายทรัพย์สินนั้นหรือว่าจะให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นสิทธิแก่ผู้เช่า โดยเงื่อนไขที่ผู้เช่าได้ใช้เงิน
สํานักเป็ นจํานวนเท่านั้นเท่านีก้คาราว
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สัญญาเช่าซื้อนั้นถ้าไม่ทําเป็นหนังสือ ท่านว่าเป็นโมฆะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๗๓ ผู้เช่าจะบอกเลิกสัญญาในเวลาใดเวลาหนึ่งก็ได้ด้วยส่งมอบทรัพย์สิน
สํานักกลั บคืนให้แก่เจ้าของโดยเสี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยค่าใช้จ่ายของตนเอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๗๔ ในกรณีผิดนัดไม่ใช้เงินสองคราวติด ๆ กัน หรือกระทําผิดสัญญาในข้อ
สํานักทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่เป็นส่วนสําคัญ เจ้าของทรั
กา พย์สินจะบอกเลิ กสัญญาเสียก็ได้ ถ้าเช่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กานนั้นบรรดาเงิสํนานัทีก่ไงานคณะกรรมการกฤษฎี
ด้ใช้มาแล้วแต่ กา
- ๙๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ก่อน ให้ริบเป็นของเจ้าของทรัพย์สินและเจ้าของทรัพย์สินชอบที่จะกลับเข้าครองทรัพย์สินนั้นได้ด้วย
อนึ่ง ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กระทําสํผิาดนัสักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญญาเพราะผิดนัดไม่ใกช้าเงินซึ่งเป็นคราวที
สํานัก่ สงานคณะกรรมการกฤษฎี
ุดนั้น ท่านว่า กา
เจ้าของทรัพย์สินชอบที่จะริบบรรดาเงินที่ได้ใช้มาแล้วแต่ก่อนและกลับเข้าครองทรัพย์สินได้ต่อเมื่อ
ระยะเวลาใช้เงินได้สําพนั้นกกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดไปอีกงวดหนึ่ง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


ลักษณะ ๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีจ้กาางแรงงาน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๕๗๕ อันว่าจ้างแรงงานนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าลูกจ้างตกลง
จะทํางานให้แก่บสํุคาคลอี กคนหนึ่ง เรียกว่านายจ้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาาง และนายจ้สําานังตกลงจะให้ สินจ้างตลอดเวลาที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ทํางาน
ให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๗๖ ถ้าตามพฤติการณ์ไม่อาจจะคาดหมายได้ว่างานนั้นจะพึงทําให้เปล่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไซร้ ท่านย่อมถือเอาโดยปริยายว่ามีคํามั่นจะให้สินจ้าง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๗๗ นายจ้ า งจะโอนสิท ธิ ข องตนให้แ ก่ บุค คลภายนอกก็ ได้ เ มื่อ ลู กจ้ า ง
ยินยอมพร้อมใจด้สํวายนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลูกจ้างจะให้บุคคลภายนอกทํางานแทนตนก็ได้เมื่อนายจ้างยินยอมพร้อมใจด้วย
ถ้าคู่สกัญาญาฝ่ายใดทําสํการฝ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าฝืนบทบัญญัตินี้ คู่สัญกาญาอีกฝ่ายหนึสํ่งาจะบอกเลิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กสัญญา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เสียก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๗๘ ถ้าลูกจ้างรับรองโดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยายว่าตนเป็นผู้มีฝีมือ
สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
เศษ หากมาปรากฏว่ากไร้า ฝีมือเช่นนั้นไซร้
สํานักท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านว่านายจ้างชอบที่จะบอกเลิ
กา กสัญญาเสี
สํานัยกได้
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๗๙ การที่ลูกจ้างขาดงานไปโดยเหตุอันสมควรและชั่วระยะเวลาน้อย
สํานักพอสมควรนั ้น ท่านว่าไม่กทาําให้นายจ้างมีสํสานัิทกธิงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี บอกเลิกสัญญาได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๘๐ ถ้าไม่ มีกําหนดโดยสั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญาหรื
สํานัอกงานคณะกรรมการกฤษฎี
จารีตประเพณีว่าจะพึกงาจ่ายสินจ้าง
เมื่อไร ท่านว่าพึงจ่ายเมื่องานได้ทําแล้วเสร็จ ถ้าการจ่ายสินจ้างนั้นได้กําหนดกันไว้เป็นระยะเวลาก็ให้
สํานักพึงานคณะกรรมการกฤษฎี
งจ่ายเมื่อสุดระยะเวลาเช่
กา นนั้นทุกคราวไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๘๑ ถ้าระยะเวลาที


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ได้ตกลงว่าจ้สําางกั
นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้นสุดสิ้นลงแล้วลูกจ้ากงยัา งคงทํางาน
อยู่ต่อไปอีก และนายจ้างรู้ดังนั้นก็ไม่ทักท้วงไซร้ ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าคู่สัญญาเป็นอันได้ทํา
สํานักสังานคณะกรรมการกฤษฎี
ญญาจ้างกันใหม่โดยความอย่
กา างเดียวกัสํานนักักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
สัญญาเดิม แต่คู่สัญญาฝ่
กา ายใดฝ่ายหนึสํ่งานัอาจจะเลิ กสัญญา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เสียได้ด้วยการบอกกล่ าวตามความในมาตราต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๕๘๒ ถ้าคู่สัญสําญาไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ได้กําหนดลงไว้ในสัญกญาว่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าจะจ้างกันสํานานเท่ าไร ท่านว่า
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๙๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเลิกสัญญาด้วยการบอกกล่าวล่วงหน้าในเมื่อถึงหรือก่อนจะถึงกําหนดจ่ายสินจ้าง
สํานักคราวใดคราวหนึ ่ง เพื่อให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาเป็นผลเลิกสัสํญานัญากั นเมื่อถึงกําหนดจ่ายสิกนา จ้างคราวถัดสํไปข้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
งหน้าก็อาจทํา กา
ได้ แต่ไม่จําต้องบอกกล่าวล่วงหน้ากว่าสามเดือน
สํอนึ
านั่งกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ในเมื่อบอกกล่าวดั่งว่ากนีา้ นายจ้างจะจ่สําานัยสิ นจ้างแก่ลูกจ้างเสียให้กคารบจํานวนที่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
จะต้องจ่ายจนถึงเวลาเลิกสัญญาตามกําหนดที่บอกกล่าวนั้นทีเดียว แล้วปล่อยลูกจ้างจากงานเสีย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในทันทีก็อาจทําได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๘๓ ถ้าลูกจ้างจงใจขัดคําสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายก็ดี หรือ
สํานักละเลยไม่ นําพาต่อคําสั่งกเช่า นว่านั้นเป็นอาจิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัณ ก็ดี ละทิ้งการงานไปเสีกยาก็ดี กระทําความผิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ดอย่างร้ายแรง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ก็ดี หรือทําประการอื่นอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตก็ดี ท่านว่า
นายจ้างจะไล่ออกโดยมิ พักต้องบอกกล่าวล่วงหน้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าหรือให้สินสํไหมทดแทนก็ ได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๕๘๔ ถ้าจ้าสํงแรงงานรายใดมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สาระสําคัญกาอยู่ที่ตัวบุคคลผู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํา้เนัป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
นายจ้าง ท่าน กา
ว่าสัญญาจ้างเช่นนั้นย่อมระงับไปด้วยมรณะแห่งนายจ้าง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๘๕ เมื่อการจ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
างแรงงานสุดสิ้นลงแล้ว ลูกจ้างชอบที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่จะได้รับใบสําคัญ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แสดงว่าลูกจ้างนั้นได้ทํางานมานานเท่าไร่และงานที่ทํานั้นเป็นงานอย่างไร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๘๖ ถ้าลูกจ้างเป็นผู้ซึ่งนายจ้างได้จ้างเอามาแต่ต่างถิ่นโดยนายจ้างออกเงิน
สํานักค่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าเดินทางให้ไซร้ เมื่อการจ้
กา างแรงงานสุสํานัดกสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นลง และถ้ามิได้กําหนดกั
กา นไว้เป็นอย่สําางอื
นัก่นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ในสัญญาแล้ว กา
ท่านว่านายจ้างจําต้องใช้เงินค่าเดินทางขากลับให้ แต่จะต้องเป็นดังต่อไปนี้ คือ
สํ(๑)
านักสังานคณะกรรมการกฤษฎี
ญญามิได้เลิกหรือระงับกเพราะการกระทํ
า สํานัากหรื อความผิดของลูกจ้างกและ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า
(๒) ลูกจ้างกลับไปยังถิ่นที่ได้จ้างเอามาภายในเวลาอันสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จ้างทําของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๘๗ อันว่าจ้างทํากของนั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้น คือสัญสํญาซึ ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่กาาผู้รับจ้าง ตก
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลงจะทําการงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสําเร็จให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างตกลงจะให้
สํานักสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นจ้างเพื่อผลสําเร็จแห่กงการที
า ่ทํานั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๘๘ เครื่องมือต่างกาๆ สําหรับใช้ทสํําาการงานให้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําเร็จนั้นผู้รับจ้ากงเป็
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นผู้จัดหา

มาตรากา๕๘๙ ถ้าสัมสํภาระสํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าหรับทําการงานที่กล่กาา วนั้นผู้รับจ้างเป็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้จัดหา ท่านว่า กา
ต้องจัดหาชนิดที่ดสํี านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๕๙๐ ถ้าสัมสํภาระนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้นผู้ว่าจ้างเป็นผู้จัดหามาส่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง ท่านให้สํผาู้รนัับกจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
างใช้สัมภาระ กา
- ๙๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ด้วยความระมัดระวังและประหยัดอย่าให้เปลืองเสียเปล่ า เมื่อทํ าการงานสําเร็จแล้ ว มี สัมภาระ


สํานักเหลื ออยู่ก็ให้คืนแก่ผู้ว่าจ้กาาง
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๙๑ ถ้าความชํารุกดาบกพร่องหรือสํความชั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กช้าในการที่ทํานั้นกเกิาดขึ้นเพราะ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สภาพแห่งสัมภาระซึ่งผู้ว่าจ้างส่งให้ก็ดี เพราะคําสั่งของผู้ว่าจ้างก็ดี ท่านว่าผู้รับจ้างไม่ต้องรับผิดเว้นแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จะได้รู้อยู่แล้วว่าสัมภาระนั้นไม่เหมาะหรือว่าคําสั่งนั้นไม่ถูกต้องและมิได้บอกกล่าวตักเตือน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๙๒ ผู้รับจ้างจําต้องยอมให้ผู้ว่าจ้างหรือตัวแทนของผู้ว่าจ้างตรวจตราการ
สํานักงานได้ ตลอดเวลาที่ทําอยูกา่นั้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๙๓ ถ้ าผู้ รับ จ้า งไม่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เ ริ่ ม ทํ า การในเวลาอั นควร หรื อ ทํ า การชั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ก ช้ า ฝ่ า ฝื น
ข้อกําหนดแห่งสัญญาก็ดี หรือทําการชักช้าโดยปราศจากความผิดของผู้ว่าจ้าง จนอาจคาดหมาย
สํานักล่งานคณะกรรมการกฤษฎี
วงหน้าได้ว่าการนั้นจะไม่
กา สําเร็จภายในกํ
สํานักาหนดเวลาที ่ได้ตกลงกันกไว้า ก็ดี ผู้ว่าจ้างชอบที
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่จะเลิกสัญญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เสียได้ มิพักต้องรอคอยให้ถึงเวลากําหนดส่งมอบของนั้นเลย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๙๔ ถ้าในระหว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
างเวลาที่ทําการอยู่นั้นเป็นวิสัยจะคาดหมายล่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วงหน้าได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แน่นอนว่า การที่ทํานั้นจะสําเร็จอย่างบกพร่องหรือจะเป็นไปในทางอันฝ่าฝืนข้อสัญญาเพราะความผิด
ของผู้รับจ้างไซร้ สํผูา้วนั่ากจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
างจะบอกกล่าวให้ผู้รับกจ้าางแก้ไขสิ่งที่บสํกพร่ องให้คืนดี หรือทําการให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เป็นไปตาม
สัญญาภายในเวลาอันสมควรซึ่งกําหนดให้ในคําบอกกล่าวนั้นก็ได้ ถ้าและคลาดกําหนดนั้นไป ท่านว่า
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ว่าจ้างชอบที่จะเอาการนั กา ้นให้บุคคลภายนอกซ่ อมแซมหรือทําต่อกไปได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ซึ่งผู้รับจ้าสํงจะต้ องเสี่ยงความ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เสียหายและออกค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๙๕ ถ้าผู้รับจ้างเป็นผู้จัดหาสัมภาระไซร้ ความรับผิดของผู้รับจ้างในการ
สํานักบกพร่ องนั้น ท่านให้บังคักบา ด้วยบทแห่งประมวลกฎหมายนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้ ลักษณะซื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา้อขาย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๙๖ ถ้าผู้รับจ้างส่งมอบการที่ทําไม่ทันเวลาที่ได้กําหนดไว้ในสัญญาก็ดีหรือ
สํานักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าไม่ได้กําหนดเวลาไว้ในสั
กา ญญาเมื่อล่วสํงพ้
านันกเวลาอั นควรแก่เหตุก็ดี กผูา้ว่าจ้างชอบที่จสํะลดสิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี นจ้างลง หรือ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ถ้าสาระสําคัญแห่งสัญญาอยู่ที่เวลา ก็ชอบที่จะเลิกสัญญาได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๙๗ ถ้าผู้ว่าจ้างยอมรับมอบการที่ทํานั้นแล้วโดยมิได้อิดเอื้อน ผู้รับจ้างก็ไม่
สํานักต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องรับผิดเพื่อการที่ส่งมอบเนิ
กา ่นช้า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๕๙๘ ถ้าผู้ว่าจ้างยอมรั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บมอบการทีสํ่ทานัํากนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นแล้วทั้งชํารุดบกพร่อกงมิา ได้อิดเอื้อน
โดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยาย ผู้รับจ้างก็ไม่ต้องรับผิด เว้นแต่ความชํารุดบกพร่องนั้นเป็นเช่นจะไม่
สํานักพึงานคณะกรรมการกฤษฎี
งพบได้ในขณะเมื่อรับมอบหรื
กา อผู้รับจ้สํางได้
านักปงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิดบังความนั้นเสีย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๙๙ ในกรณีที่ส่งมอบเนิ่นช้าไปก็ดี หรือส่งมอบการที่ทําชํารุดบกพร่องก็ดี
สํานักท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านว่าผู้ว่าจ้างชอบที่จะยึ
กาดหน่วงสินจ้าสํงไว้
านักได้งานคณะกรรมการกฤษฎี
เว้นแต่ผู้รับจ้างจะให้ปการะกันตามสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๐๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา๖๐๐ ถ้ามิได้สํกานัํากหนดไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เป็นอย่างอื่นในสักญา ญาไซร้ท่านว่สําาผูนั้รกับงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี จ้างจะต้องรับ กา
ผิดเพื่อการที่ทําชํารุดบกพร่อง เพียงแต่ที่ปรากฏขึ้นภายในปีหนึ่งนับแต่วันส่งมอบ หรือที่ปรากฏขึ้น
ภายในห้าปี ถ้าการที
สํานั่ทกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ํานั้นเป็นสิ่งปลูกสร้างกักบาพื้นดิน นอกจากเรื อนโรงทําด้วยเครื่องไม้ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่ข้อจํากัดนี้ท่านมิให้ใช้บังคับเมื่อปรากฏว่าผู้รับจ้างได้ปิดบังความชํารุดบกพร่อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๐๑ ท่านห้ามมิให้ฟ้องผู้รับจ้างเมื่อพ้นปีหนึ่ง นับแต่วันการชํารุดบกพร่อง
สํานักได้ ปรากฏขึ้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๐๒ อันสินจ้างนั้นกพึางใช้ให้เมื่อรับสํมอบการที


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ทํา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ถ้าการที่ทํานั้นมีกําหนดว่าจะส่งรับกันเป็นส่วน ๆ และได้ระบุจํานวนสินจ้างไว้เป็น
สํานักส่งานคณะกรรมการกฤษฎี
วน ๆ ไซร้ ท่านว่าพึงใช้กสา ินจ้างเพื่อการแต่
สํานักลงานคณะกรรมการกฤษฎี
ะส่วนในเวลารับเอาส่วกนนั
า ้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๐๓ ถ้าผู้รับจ้างเป็นผู้จัดหาสัมภาระ และการที่จ้างทํานั้นพังทลายหรือบุบ
สลายลงก่อนได้ส่งมอบกันถูกต้องไซร้ ท่สําานันว่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าความวินาศอันนั้นตกเป็ กา
นพับแก่ผู้รับจ้สําางนักหากความวิ นาศ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นั้นมิได้เป็นเพราะการกระทําของผู้ว่าจ้าง
สํในกรณี เช่นว่านี้ สินจ้างก็เป็กนาอันไม่ต้องใช้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๖๐๔ ถ้าผู้ว่าสํจ้านัางเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นผู้จัดหาสัมภาระ และการที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่จ้างทําสํนัา้นนัพักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทลายหรือบุบ กา
สลายลงก่อนได้ส่งมอบกันถูกต้องไซร้ ท่านว่าความวินาศนั้นตกเป็นพับแก่ผู้ว่าจ้าง หากความวินาศนั้น
มิได้เป็นเพราะการกระทํ าของผู้รับจ้าง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีเช่นว่านี้ สินจ้างก็เป็นอันไม่ต้องใช้ เว้นแต่ความวินาศนั้นเป็นเพราะการ
สํานักกระทํ าของผู้ว่าจ้าง กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๐๕ ถ้าการที่จ้างยังทําไม่แล้วเสร็จอยู่ตราบใด ผู้ว่าจ้างอาจบอกเลิกสัญญา
สํานักได้ เมื่อเสียค่าสินไหมทดแทนให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา แก่ผู้รับสํจ้านัางเพื ่อความเสียหายอย่างใด
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๆ อันเกิดแต่สํกาารเลิ กสัญญานั้น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๖๐๖ ถ้าสาระสําคักญา แห่งสัญญาอยู


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่ทกี่คงานคณะกรรมการกฤษฎี
วามรู้ความสามารถของตั
กา วผู้รับจ้าง
และผู้รับจ้างตายก็ดี หรือตกเป็นผู้ไม่สามารถทําการที่รับจ้างนั้นต่อไปได้ด้วยมิใช่เพราะความผิดของ
สํานักตนก็ ดี ท่านว่าสัญญานั้นกย่าอมเป็นอันสิ้นสํลง
งานคณะกรรมการกฤษฎี านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าและการส่วนที่ได้ทําขึ้นแล้วนั้นเป็นประโยชน์แก่ผู้ว่าจ้างไซร้ท่านว่าผู้ว่าจ้างจําต้อง
รับเอาไว้และใช้สินสําจ้นัากงตามสมควรแก่ ส่วนนั้น กๆา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๖๐๗ ผู้รับจ้สําางจะเอาการที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่รับจ้างทั้งหมดหรื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อแบ่งการแต่
สํานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
างส่วนไปให้ผู้ กา
รับจ้างช่วงทําอีกทอดหนึ ่งก็ได้ เว้นแต่สาระสําคัญแห่งสัญญานั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้นจะอยู่ที่ความรู้ความสามารถของตัวผู้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รับจ้าง แต่ผู้รับจ้างคงต้องรับผิดเพื่อความประพฤติหรือความผิดอย่างใด ๆ ของผู้รับจ้างช่วง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๐๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ลักษณะ ๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รับขน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๐๘ อันว่าผู้ขนส่งภายในความหมายแห่งกฎหมายลักษณะนี้คือบุคคลผู้รับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขนส่งของหรือคนโดยสารเพื่อบําเหน็จเป็นทางค้าปกติของตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๐๙ การรับขนของหรือคนโดยสารในหน้าที่ของกรมรถไฟหลวงแห่งกรุง
สํานักสยาม และการขนไปรษณี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กายภัณฑ์ในหน้สําาทีนั่กกรมไปรษณี ย์โทรเลขนั้นกท่า านให้บังคับตามกฎหมายและกฎ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อบังคับสําหรับทบวงการนั้น ๆ
สํรัาบนัขนของทางทะเล ท่านให้กบาังคับตามกฎหมายและกฎข้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี อบังคับว่าด้วยการนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้น

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รับขนของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๖๑๐ อันบุคคลผู้ทําความตกลงกับผู้ขนส่งเพื่อให้ขนของส่งไปนั้น เรียกว่าผู้
ส่ง หรือผู้ตราส่ง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บุคคลผู้ซึ่งเขาส่งของไปถึงนั้น เรียกว่าผู้รับตราส่ง
บําเหน็กจา อันจะต้องจ่าสํยให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
พื่อการขนส่งของนั้น เรีกยากว่าค่าระวางพาหนะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๑๑ อันว่าอุปกรณ์กแา ห่งค่าระวางพาหนะนั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้น ได้แก่ค่าใช้จ่ายอย่กาางใด ๆ ตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จารีตประเพณีอันผู้ขนส่งได้เสียไปโดยควรในระหว่างขนส่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๑๒ ถ้าผู้ขนส่งเรียกเอาใบกํากับของ ผู้ส่งต้องทําให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใบกํากับของนั้นต้องแสดงรายการต่อไปนี้ คือ
(๑) สภาพและน้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ําหนัสํกานัหรื อขนาดแห่งของที่ส่ง กักบา สภาพ จํานวน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัและเครื ่องหมาย
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แห่งหีบห่อ
สํ(๒)
านักตํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าบลที่กําหนดให้ส่ง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ชื่อหรือยี่ห้อ และสํานักของผู้รับตราส่ง
(๔) ตํากบลและวั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นที่ออกใบกํ ากับของนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่งใบกํากับของนั้นต้องลงลายมือชื่อผู้ส่งเป็นสําคัญ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๑๓ ถ้าผู้ส่งเรียกเอาใบตราส่ง ผู้ขนส่งก็ต้องทําให้
ใบตราส่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กางนั้นต้องแสดงรายการต่ อไปนี้ คือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) รายการดังกล่าวไว้ในมาตรา ๖๑๒ อนุมสําาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑,๒ และ ๓
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ชื่อหรือยี่ห้อของผู้ส่ง
(๓) จํากนวนค่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าระวางพาหนะสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๐๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
(๔) ตําบลและวันที่ออกใบตราส่ง
อนึ่งใบตราส่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งนั้นต้องลงลายมื อชื่อผู้ขนส่งเป็นสําคักญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๑๔ แม้ว่าใบตราส่กางจะได้ออกให้สํแานัก่กบงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ุคคลผู้ใดโดยนามก็ตามกาท่านว่าย่อม
สลักหลังโอนให้กันได้ เว้นแต่จะมีข้อห้ามการสลักหลังไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๑๕ ถ้าได้ทําใบตราส่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งให้แก่กัน สํท่าานันว่ าของนั้นจะรับมอบเอาไปได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ต่อเมื่อ
เวนคืนใบตราส่ง หรือเมื่อผู้รับตราส่งให้ประกันตามควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๑๖ ผู้ขนส่งจะต้องรับผิดในการที่ของอันเขาได้มอบหมายแก่ตนนั้นสูญ
หายหรือบุบสลายหรืสํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ส่งมอบชักช้า เว้นแต่จกะพิ
า สูจน์ได้ว่าการสู
สํานักญงานคณะกรรมการกฤษฎี
หายหรือบุบสลายหรือกชัากช้านั้นเกิด
แต่เหตุสุดวิสัย หรือเกิดแต่สภาพแห่งของนั้นเอง หรือเกิดเพราะความผิดของผู้ส่งหรือผู้รับตราส่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๑๗ ผู้ขนส่งจะต้องรับผิดในการที่ของสูญหายหรือบุบสลายหรือส่งชักช้า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อันเกิดแต่ความผิดของผู้ขนส่งคนอื่น หรือบุคคลอื่นซึ่งตนหากได้ มอบหมายของนั้นไปอีกทอดหนึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๑๘ ถ้าของนั้นได้ส่งไปโดยมีผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดท่านว่าผู้ขนส่ง
ทั้งนั้นจะต้องรับผิสํดาร่นัวกมกั นในการสูญหาย บุบกสลาย
งานคณะกรรมการกฤษฎี า หรือส่งชัสํกาช้นัากงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๖๑๙ ถ้าของเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกสภาพอั นจะก่อให้เกิดอักนาตรายได้ หรือสํเป็านันกสภาพเกลื
งานคณะกรรมการกฤษฎี อกจะ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ก่อให้เกิดเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินไซร้ ผู้ส่งต้องแสดงสภาพแห่งของนั้นไว้ก่อนทําสัญญาถ้ามิได้
ทําเช่นนั้นผู้ส่งจะต้สําอนังรักงานคณะกรรมการกฤษฎี
บผิดในการเสียหายไม่วก่าาอย่างใด ๆ อันสําเกินัดกงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่ของนั้น กา

มาตรากา๖๒๐ ผู้ขนส่สํางนัไม่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ต้องรับผิดในเงินทองตรา
กา ธนบั ตร ธนาคารบั ตร ตั๋วเงิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พันธบัตร ใบหุ้น ใบหุ้นกู้ ประทวนสินค้า อัญมณี และของมีค่าอย่างอื่น ๆ หากมิได้รับบอกราคาหรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สภาพแห่งของไว้ในขณะที่ส่งมอบแก่ตน
แต่ถ้ากของนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้นได้บอกราคา ท่านว่าความรับผิดของผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ขนส่งก็ย่อสํมจํ
านัากกังานคณะกรรมการกฤษฎี
ดเพียงไม่เกิน กา
ราคาที่บอก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๒๑ ค่าสินไหมทดแทนในการส่งมอบของชักช้านั้นท่านห้ามมิให้คิดเกิน
สํานักกว่ าจํานวนเช่นจะพึงกํากหนดให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ในเหตุขสํองสู
านักญ หายสิ้นเชิง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๒๒ ของถึงเมื่อใดกผูา ้ขนส่งต้องบอกกล่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี าวแก่ผู้รับตราส่ง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๖๒๓ ความรัสํบานัผิกดงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ของผู้ขนส่งย่อมสุดสิ้นลงในเมื
กา ่อผู้รับตราส่
สํานังกได้ รับเอาของไว้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แล้วโดยไม่อิดเอื้อสํนานัและได้ ใช้ค่าระวางพาหนะกับทั้งอุปกรณ์สํเสร็
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จแล้ว
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่ความที่กล่าวนี้ท่านมิให้ใช้บังคับในกรณีที่ของสูญหายหรือบุบสลายเห็นไม่ได้แต่
สํานักสภาพภายนอกแห่
งานคณะกรรมการกฤษฎี งของนักา้น หากว่าได้บสําอกกล่ าวความสูญหายหรือกบุาบสลายแก่ผู้ขสํนส่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ภายในแปดวัน กา
- ๑๐๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
นับแต่วันส่งมอบ
อนึ่ ง บทบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญ ญั ติ ทั้ ง หลายนี ้ ท่ า นมิ ใ ห้ ใ ช้ บั ง คั บ ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ที่ มี ก ารทุสํจานัริกตงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรื อ ประมาท กา
เลินเล่ออย่างร้ายแรงอันจะปรับเอาเป็นความผิดของผู้ขนส่งได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๒๔ ในข้อความรับผิดของผู้ขนส่งในการที่ของสูญหายหรือบุบสลายหรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่งชักช้านั้น ท่านห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นกําหนดปีหนึ่งนับแต่ส่งมอบ หรือปีหนึ่งนับแต่วันที่ควรจะได้ส่ง
มอบ เว้นแต่ในกรณี สํานัทกี่มงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีการทุจริต กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๖๒๕ ใบรับ สํใบตราส่


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ง หรือเอกสารอื่น ๆกาทํานองนั้นก็ดีซสําึ่งนัผูก้ขงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นส่งออกให้แก่ กา
ผู้ส่งนั้น ถ้ามีข้อความยกเว้นหรือจํากัดความรับผิดของผู้ขนส่งประการใด ท่านว่าความนั้นเป็นโมฆะ
เว้นแต่ผู้ส่งจะได้แสํสดงความตกลงด้ วยชัดแจ้งในการยกเว้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นหรืสํอานัจํกากังานคณะกรรมการกฤษฎี
ดความรับผิดเช่นว่านัก้นา

มาตรากา๖๒๖ ตราบใดของยั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งอยู่ในมือผู้ขนส่ง ตราบนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นผู้ส่ง หรือสํถ้านัากได้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ทําใบตราส่งผู้ กา
ทรงใบตราส่งนั้น อาจจะให้ผู้ขนส่งงดการส่งของนั้นไป หรือให้ส่งกลับคืน หรือให้จัดการแก่ของนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นอย่างอื่นประการใดก็ ได้
ในเหตุเช่นนี้ ผู้ขนส่งสํชอบที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่จะได้รับเงินค่าระวางพาหนะตามส่วสํนแห่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งระยะทางที่ได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จัดการขนส่งไปแล้ว กับทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องเสียไปเพราะเหตุที่บอกงดหรือเพราะส่งของกลับคืน
หรือเพราะจัดการเป็
สํานันกประการอื ่นนั้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๖๒๗ เมื่อของถึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานังกตํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าบลที่กําหนดให้ส่งและผู
กา ้รับตราส่งได้สํเารีนัยกกให้ ส่งมอบแล้ว
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ท่านว่าแต่นั้นไปสิทธิทั้งหลายของผู้ส่งอันเกิดแต่สัญญารับขนนั้นย่อมตกไปได้แก่ผู้รับตราส่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๒๘ ถ้าว่าของสูญหายไปเพราะเหตุสุดวิสัย ท่านว่าผู้ขนส่งไม่มีสิทธิจะได้
สํานักเงิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นค่าระวางพาหนะ ถ้ากและได้
า รับไปไว้สํกา่อนันแล้ วเท่าใดต้องส่งคืนจงสิกา้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๒๙ ถ้าผู้ขนส่งคนใดส่งมอบของเสียแต่ก่อนได้รับค่าระวางพาหนะและ
สํานักอุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ปกรณ์ไซร้ ท่านว่าผู้ขกนส่
า งคนนั้นยังสํคงต้
านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งรับผิดต่อผู้ขนส่งก่อกนา ๆ ตนเพื่อค่าสํระวางพาหนะและ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อุปกรณ์ซึ่งยังค้างชําระแก่เขา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๓๐ ผู้ขนส่งชอบที่จะยึดหน่วงเอาของไว้ก่อนได้ตามที่จําเป็นเพื่อประกัน
สํานักการใช้ เงินค่าระวางพาหนะและอุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ปกรณ์สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๓๑ ถ้าหาตัวผู้รับกาตราส่งไม่พบก็สําดนัี กหรืงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี อถ้าผู้รับตราส่งบอกปักาดไม่ยอมรับ
มอบของก็ดี ผู้ขนส่งต้องบอกกล่าวไปยังผู้ส่งทันที และถามเอาคําสั่งของผู้ส่ง
ถ้าหากว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าพฤติการณ์สํขาัดนัขวางไม่ สามารถจะทําได้ดกาังนี้ก็ดี หรือถ้าสํผูา้สนั่งกละเลยเสี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ยไม่ส่ง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
คําสั่งมาในเวลาอัสํนาควรก็ ดี หรือส่งมาเป็นคําสั่งอันไม่อาจปฏิบสํัตานัิให้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นไปได้ก็ดี ท่านว่าผู้ขกนส่

งมีอํานาจ
ที่จะเอาของไปฝากไว้ ณ สํานักงานฝากทรัพย์ได้
ถ้าของนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นเป็นลหุภัณสําฑ์นัขกองสดเสี ยได้ และการหน่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา วงช้าไว้ย่อมเป็
สํานันกการเสี ่ยงความ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๐๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
เสียหายก็ดี หรือถ้าราคาของนั้นดูไม่น่าจะคุ้มค่าระวางพาหนะและอุปกรณ์ก็ดี ผู้ขนส่งจะเอาของนั้น
สํานักออกขายทอดตลาดเสี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ยก็กไาด้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง การเอาของไปฝากหรือเอาออกขายทอดตลาดเช่นว่านั้นผู้ขนส่งต้องบอกกล่าว
แก่ผู้ส่งหรือผู้รับตราส่
สํ านักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
มิให้ชักช้า เว้นแต่ไม่สามารถจะทํ
กา าได้ สํถ้าานัและผู ้ขนส่งละเลยเสียไม่บกาอกกล่าวไซร้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ท่านว่าจะต้องรับผิดใช้ค่าเสียหาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๓๒ เมื่อเอาของออกขายทอดตลาดแล้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วได้เงินจํานวนสุทกธิาเท่าใด ให้ผู้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขนส่งหักเอาไว้เป็นเงินค่าระวางพาหนะและค่าอุปกรณ์ ถ้าและยังมีเงินเหลืออยู่อีกเท่าใดต้องส่งมอบ
สํานักให้ แก่บุคคลผู้ควรที่จะได้กเางินนั้นโดยพลัสํนานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๓๓ ถ้าของนั้นได้กขานส่งไปโดยมีผสํู้ขานันส่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี งหลายคนหลายทอดท่กาานว่าผู้ขนส่ง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทอดหลังที่สุดอาจใช้สิทธิดังกล่าวไว้ในมาตรา ๖๓๐, ๖๓๑, ๖๓๒ นั้น ในการเรียกค่าระวางพาหนะ
สํานักและอุ ปกรณ์อันค้างชําระแก่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ผู้ขนส่งทั่วทุสํากนัคนได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รับขนคนโดยสาร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๓๔ ผู้ขนส่งจะต้องรับผิดต่อคนโดยสารในความเสียหายอันเกิดแก่ตัวเขา
สํานักหรื อในความเสื่อมเสี ยกอย่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า า งใด ๆ อั นสํเป็
านันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผลโดยตรงแต่ การที่ตก้อางชักช้าในการขนส่ ง เว้น แต่การ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เสียหายหรือชักช้านั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือเกิดแต่ความผิดของคนโดยสารนั้นเอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๓๕ เครื่องเดินทางหากได้มอบหมายแก่ผู้ขนส่งทันเวลา ท่านว่าต้องส่ง
สํานักมอบในขณะคนโดยสารถึ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกาง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๓๖ ถ้าคนโดยสารไม่รับมอบเครื่องเดินทางของตนภายในเวลาเดือนหนึ่ง
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
บแต่วันเครื่องเดินทางนักา้นถึงไซร้ ผู้ขนส่
สํางนัอาจเอาออกขายทอดตลาดเสี
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ยได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ า เครื่ อ งเดิ น ทางนั้ น มี ส ภาพเป็ น ของสดของเสี ย ได้ ผู้ ข นส่ ง อาจเอาออกขาย
ทอดตลาดได้ เมื่อสํของนั ้นถึงแล้วรออยู่ล่วงเวลากว่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ายี่สิบสี่ชั่วโมง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทบัญญัติในมาตรา ๖๓๒ นั้น ท่านให้ใช้บังคับแก่คดีดั่งว่านี้ด้วยอนุโลมตามควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๓๗ สิทธิและความรับผิดของผู้ขนส่งเพื่อเครื่องเดินทางอันได้มอบหมาย
แก่ผู้ขนส่งนั้น แม้สํผาู้ขนันส่ งจะมิได้คิดเอาค่าขนส่กงาต่างหากก็ตามสําท่นัากนให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี บังคับตามความในหมวด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑

มาตรากา๖๓๘ ผู้ขนส่สํงาไม่นักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้องรับผิดในเครื่องเดินทางซึ
กา ่งตนมิได้รับสํามอบหมาย เว้นแต่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เมื่อเครื่องเดินทางนั ้นสูญหายหรือบุบสลายไปเพราะความผิดสํของผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้ขนส่งหรือลูกจ้างของผู้ขนส่ง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๖๓๙ ตั๋ว ใบรั


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําบนักหรื อเอกสารอื่นทํานองเช่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กานว่านี้อันผู้ขนส่
สํานังได้ ส่งมอบแก่คน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๐๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
โดยสารนั้น หากมีข้อความยกเว้นหรือจํากัดความรับผิดของผู้ขนส่งอย่างใด ๆ ท่านว่าข้อความนั้นเป็น
สํานักโมฆะ เว้นแต่คนโดยสารจะได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ตกลงด้วยชั
สํานัดกแจ้ งในการยกเว้นหรือจํากกัาดความรับผิดสํเช่านันกนังานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้น กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกลัากษณะ ๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยืม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยืมใช้คงรูป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๔๐ อันว่ายืมใช้กคางรูปนั้น คือสัสํญานัญาซึ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาาผู้ให้ยืมให้
บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้ยืม ใช้สอยทรัพย์สินสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เปล่า และผู้ยืมตกลงว่าจะคืนทรัพย์สิน
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้น เมื่อได้ใช้สอยเสร็จแล้
กาว สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๔๑ การให้ยืมใช้คงรูปนั้น ท่านว่สําาย่นัอกงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มบริบูรณ์ต่อเมื่อส่งมอบทรั พย์สินซึ่ง
ให้ยืม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๔๒ ค่ า ฤชาธรรมเนี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ย มในการทํ
สํานัากสังานคณะกรรมการกฤษฎี
ญ ญาก็ ดี ค่ า ส่ ง มอบและค่
กา า ส่ ง คื น
ทรัพย์สินซึ่งยืมก็ดี ย่อมตกแก่ผู้ยืมเป็นผู้เสีย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๔๓ ทรัพย์สินซึ่งยืมนั้น ถ้าผู้ยืมเอาไปใช้การอย่างอื่นนอกจากการอันเป็น
ปกติแก่ทรัพย์สินสํนัา้นนักหรืงานคณะกรรมการกฤษฎี
อนอกจากการอันปรากฏในสั
กา ญญาก็สํดาี นัเอาไปให้ บุคคลภายนอกใช้กาสอยก็ดี เอา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไปไว้นานกว่าที่ควรจะเอาไว้ก็ดี ท่านว่าผู้ยืมจะต้องรับผิดในเหตุทรัพย์สินนั้นสูญหายหรือบุบสลายไป
สํานักอย่ างหนึ่งอย่างใด แม้ถึงกจะเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี า นเพราะเหตุ
สํานัสกุดงานคณะกรรมการกฤษฎี
วิสัย เว้นแต่จะพิสูจน์ไกด้าว่าถึงอย่างไรสํๆานัทรั พย์สินนั้นก็คง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จะต้องสูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๖๔๔ ผู้ยืมจํสําานัต้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งสงวนทรัพย์สินซึ่งยืมกไปเหมื
า อนเช่นวิสํญานัญูกชงานคณะกรรมการกฤษฎี
นจะพึงสงวน กา
ทรัพย์สินของตนเอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๔๕ ในกรณี ทั้ ง หลายดั ง กล่ า วไว้ ใ นมาตรา ๖๔๓ นั้ น ก็ ดี หรื อ ถ้ า ผู้ ยื ม
สํานักประพฤติ ฝ่าฝืนต่อความในมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๖๔๔สําก็นัดกี งานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้ให้ยืมจะบอกเลิกสัญญาเสี
กา ยก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๔๖ ถ้ามิได้กําหนดเวลากั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นไว้ ท่สํานให้ คืนทรัพย์สินที่ยืม เมื่อผูก้ยา ืมได้ใช้สอย
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรัพย์สินนั้นเสร็จแล้วตามการอันปรากฏในสัญญา แต่ผู้ให้ยืมจะเรียกคืนก่อนนั้นก็ได้เมื่อเวลาได้ล่วง
สํานักไปพอแก่ การที่ผู้ยืมจะได้กใาช้สอยทรัพย์สสํินานันัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี เสร็จแล้ว กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าเวลาก็มิได้กําหนดกันไว้ ทั้งในสัญญาก็ไม่สํปานัรากฏว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ายืมไปใช้เพื่อการใดไซร้ ท่านว่า
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ให้ยืมจะเรียกของคืนเมื่อไรก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๐๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๖๔๗ ค่าใช้จ่ายอันเป็นปกติแก่การบํารุงรักษาทรัพย์สินซึ่งยืมนั้น ผู้ยืมต้อง
สํานักเป็ นผู้เสีย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๔๘ อันการยืมใช้คกางรูป ย่อมระงับสําสินั้นกไปด้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี วยมรณะแห่งผู้ยืม กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๖๔๙ ในข้อความรับผิดเพื่อเสียค่าทดแทนอันเกี่ยวกับการยืมใช้คงรูปนั้น
ท่านห้ามมิให้ฟ้องเมื
สํานั่อกพ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
นเวลาหกเดือนนับแต่วกันา สิ้นสัญญา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยืมใช้สิ้นเปลือง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๖๕๐ อั น ว่ าสํยืานัมกใช้งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สิ้ น เปลื อ งนั้ น คื อ สั ญกาญาซึ่ ง ผู้ ใ ห้ ยื มสําโอนกรรมสิ ท ธิ์ ใ น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทรัพย์สินชนิดใช้ไปสิ้นไปนั้นเป็นปริมาณมีกําหนดให้ไปแก่ผู้ยืม และผู้ยืมตกลงว่าจะคืนทรัพย์สินเป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประเภท ชนิด และปริ มาณเช่นเดียวกันให้แทนทรัพย์สินซึ่งให้สํายนัืมกนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้น กา
สัญญานี้ย่อมบริบูรณ์ตสํ่อาเมื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่อส่งมอบทรัพย์สินที่ยืม
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๖๕๑ ค่าฤชาธรรมเนีกยามในการทําสัญ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําญาก็ ดี ค่าส่งมอบและส่งคืกนาทรัพย์สินซึ่ง
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยืมก็ดี ย่อมตกแก่ผู้ยืมเป็นผู้เสีย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๕๒ ถ้าในสัญญาไม่มีกําหนดเวลาให้คืนทรัพย์สินซึ่งยืมไป ผู้ให้ยืมจะบอก
กล่าวแก่ผู้ยืมให้คสํืนาทรั
นักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์สินภายในเวลาอันควร
กา ซึ่งกําหนดให้สํใานคํ าบอกกล่าวนั้นก็ได้ กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ๑๑ การกูสํ้ยาืมนัเงิกงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา ก๖๕๓ นกว่าสองพันบาทขึ้นไปนั
กา ้น ถ้ามิได้มีหสํลัากนัฐานแห่ งการกู้ยืม
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสําคัญ จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการกู้ ยื ม เงิ น มี ห ลั ก ฐานเป็ น หนั ง สื อ นั้ น ท่ า นว่ า จะนํ า สื บ การใช้ เ งิ น ได้ ต่ อ เมื่ อ มี
สํานักหลั กฐานเป็นหนังสืออย่กาางใดอย่างหนึ่งสํลงลายมื
งานคณะกรรมการกฤษฎี อชื่อผู้ให้ยืมมาแสดงหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อเอกสารอัสํนานัเป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
หลักฐานแห่ง กา
การกู้ยืมนั้นได้เวนคืนแล้ว หรือได้แทงเพิกถอนลงในเอกสารนั้นแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๕๔ ท่านห้ามมิให้คิดดอกเบี้ยเกินร้อยละสิบห้าต่อปี ถ้าในสัญญากําหนด
สํานักดอกเบี ้ยเกินกว่านั้น ก็ให้กาลดลงมาเป็นร้สํอายละสิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี บห้าต่อปี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๖๕๕ ท่านห้ามมิให้กคาิดดอกเบี้ยในดอกเบี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ยที่ค้างชําระ แต่ทว่ากเมื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่อดอกเบี้ย
ค้างชําระไม่น้อยกว่าปีหนึ่ง คู่สัญญากู้ยืมจะตกลงกันให้เอาดอกเบี้ยนั้นทบเข้ากับต้นเงินแล้วให้คิด
สํานักดอกเบี ้ยในจํานวนเงินทีก่ทาบเข้ากันนั้นก็สํได้านัแต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี การตกลงเช่นนั้นต้องทํกาาเป็นหนังสือ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ส่สํวานประเพณี การค้าขายที่คํานวณดอกทบต้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นในบัญชีเดินสะพัดก็ดี ในการค้าขาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑
มาตรา ๖๕๓ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา พ.ศ. ๒๕๔๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๔) สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๐๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
อย่างอื่นทํานองเช่นว่านี้ก็ดี หาอยู่ในบังคับแห่งบทบัญญัติซึ่งกล่าวมาในวรรคก่อนนั้นไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๕๖ ถ้าทําสัญญากู้ยืมเงินกัน และผู้กู้ยืมยอมรับเอาสิ่งของหรือทรัพย์สิน
อย่างอื่นแทนจํานวนเงิ นนั้นไซร้ ท่านให้คิดเป็กนาหนี้เงินค้างชําสํระโดยจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านวนเท่ากับราคาท้กอา งตลาดแห่ง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สิ่งของหรือทรัพย์สินนั้นในเวลาและ ณ สถานที่ส่งมอบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าทําสัญญากู้ยืมเงินกัน และผู้ให้กู้ยืมยอมรับเอาสิ่งของหรือทรัพย์สินอย่างอื่นเป็น
การชําระหนี้แทนเงิ
สํานันกทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่กู้ยืมไซร้ หนี้อันระงับกไปเพราะการชํ
า สําาระเช่ นนั้น ท่านให้คิดเป็นจํกาานวนเท่ากับ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ราคาท้องตลาดแห่งสิ่งของหรือทรัพย์สินนั้นในเวลาและ ณ สถานที่ส่งมอบ
ความตกลงกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นอย่างใดสํๆานัขักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
กับข้อความดั่งกล่าวมานีกา ้ ท่านว่าเป็นสํโมฆะ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีลักกา ษณะ ๑๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


ฝากทรัพย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทเบ็ดเสร็จทัว่ ไปสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๕๗ อันว่าฝากทรักพาย์นั้น คือสัญญาซึ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก่งบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
คคลคนหนึ่ง เรียกว่าผูก้ฝา าก ส่งมอบ
ทรัพย์สินให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้รับฝาก และผู้รับฝากตกลงว่าจะเก็บรักษาทรัพย์สินนั้นไว้ใน
สํานักอารั กขาแห่งตน แล้วจะคืกานให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๕๘ ถ้าโดยพฤติกการณ์


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า พึงคาดหมายได้ ว่าเขารับฝากทรัพย์กก็เาพื่อจะได้รับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
บําเหน็จค่าฝากทรัพย์เท่านั้นไซร้ ท่านให้ถือว่าเป็นอันได้ตกลงกันแล้วโดยปริยายว่ามีบําเหน็จเช่นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๕๙ ถ้าการรับฝากทรัพย์เป็นการทําให้เปล่าไม่มีบําเหน็จไซร้ ท่านว่าผู้รับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ฝากจําต้องใช้ความระมัดระวังสงวนทรัพย์สินซึ่งฝากนั้นเหมือนเช่นเคยประพฤติในกิจการของตนเอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีถ้าการรั กาบฝากทรัพย์นสําั้นนัมีกบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําเหน็จค่าฝาก ท่านว่ากผูา้รับฝากจําต้องใช้
สํานัคกวามระมั ดระวัง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และใช้ฝีมือเพื่อสงวนทรัพย์สินนั้นเหมือนเช่นวิญญูชนจะพึงประพฤติโดยพฤติการณ์ดั่งนั้น ทั้งนี้ย่อม
รวมทั้งการใช้ฝีมือสํอัานันกพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
เศษเฉพาะการในที่จะพึกางใช้ฝีมือเช่นนัสํ้นาด้นัวกยงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าและผู้รับฝากเป็นผู้มีวิชาชีพเฉพาะกิจการค้าขายหรืออาชีวะอย่างหนึ่งอย่างใดก็
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าต้องใช้ความระมัดระวั กา งและใช้ ฝี มืสํอาเท่
นักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่เป็นธรรมดาจะต้องใช้ กา และสมควรจะต้สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งใช้ในกิจการ กา
ค้าขายหรืออาชีวะอย่างนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๖๐ ถ้าผู้ฝากมิได้อนุญาต และผู้รับฝากเอาทรัพย์สินซึ่งฝากนั้นออกใช้สอย
สํานักเอง หรือเอาไปให้บุคคลภายนอกใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สอย
สํานัหรื อให้บุคคลภายนอกเก็กบารักษาไซร้ ท่าสํนว่านัากผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ้รับฝากจะต้อง กา
รับผิดเมื่อทรัพย์สสํินานัซึก่งฝากนั ้นสูญหายหรือบุบสลายอย่างหนึสํ่งาอย่
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
างใด แม้ถึงจะเป็นเพราะเหตุสุดวิสัย
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ๆ ทรัพย์สินนั้นก็คงจะต้องสูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๐๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๖๖๑ ถ้าบุคคลภายนอกอ้างว่ามีสิทธิเหนือทรัพย์สินซึ่งฝากและยื่นฟ้องผู้รับ
สํานักฝากก็ ดี หรือยึดทรัพย์สินกานั้นก็ดี ผู้รับฝากต้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งรีบบอกกล่าวแก่ผู้ฝากโดยพลั
กา น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํมาตรา ๖๖๒ ถ้าได้กําหนดเวลากั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นไว้ว่าจะพึ
สํานังกคืงานคณะกรรมการกฤษฎี
นทรัพย์สินซึ่งฝากนั้นเมื
กา่อไร ท่านว่า
ผู้รับฝากไม่มีสิทธิจะคืนทรัพย์สินก่อนถึงเวลากําหนด เว้นแต่ในเหตุจําเป็นอันมิอาจจะก้าวล่วงเสียได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๖๓ ถึงแม้ว่าคู่สัญกญาจะได้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า กําหนดเวลาไว้ ว่าจะพึงคืนทรัพย์กสาินซึ่งฝากนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เมื่อไรก็ตาม ถ้าว่าผู้ฝากจะเรียกคืนในเวลาใด ๆ ผู้รับฝากก็ต้องคืนให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๖๔ ถ้าคู่สัญญาไม่ได้กําหนดเวลาไว้ว่าจะพึงคืนทรัพย์สินซึ่งฝากนั้นเมื่อไร
ไซร้ ผู้รับฝากอาจคืสํานนัทรั พย์สินนั้นได้ทุกเมื่อ กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๖๖๕ ผู้รับฝากจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ต้องคืนทรัพย์สินซึ่งรับฝากไว้
กา นั้นให้แก่ผสําู้ฝนัาก หรือทรัพย์สนิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นั้นฝากในนามของผู้ใด คืนให้แก่ผู้นั้น หรือผู้รับฝากได้รับคําสั่งโดยชอบให้คืนทรัพย์สินนั้นไปแก่ผู้ใด
คืนให้แก่ผู้นั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่หากผู้ฝากทรัพย์ตสํายานัท่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
านให้คืนทรัพย์สินนั้นให้กาแก่ทายาท สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๖๖ เมื่อคืนทรัพย์กาถ้ามีดอกผลเกิสําดนัแต่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ทรัพย์สินซึ่งฝากนั้นเท่กาาใด ผู้รับฝาก
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
จําต้องส่งมอบพร้อมไปกับทรัพย์สินนั้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๖๗ ค่าคืนทรัพย์สินซึ่งฝากนั้น ย่อมตกแก่ผู้ฝากเป็นผู้เสีย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๖๘ ค่าใช้จ่ายใดอันควรแก่การบํารุงรักษาทรัพย์สิ นซึ่งฝากนั้น ผู้ฝาก
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าต้องชดใช้ให้แก่ผู้รับฝาก
กา เว้นแต่จะได้
สํานัตกกลงกั นไว้โดยสัญญาฝากทรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา พย์ว่าผู้รับสํฝากจะต้ องออกเงิน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ค่าใช้จ่ายนั้นเอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๖๖๙ ถ้าไม่ไสํด้านักกําหนดเวลาไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในสัญญา กหรืา อไม่มีกําหนดโดยจารี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ตประเพณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ว่ า บํ า เหน็ จ ค่ า ฝากทรั พ ย์ นั้ น จะพึ ง ชํ า ระเมื่ อ ไรไซร้ ท่ า นให้ ชํ า ระเมื่ อ คื น ทรั พ ย์ สิ น ซึ่ ง ฝาก ถ้ า ได้
กําหนดเวลากันไว้สํเาป็นันกระยะอย่ างไร ก็พึงชําระเมื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อสิ้นระยะเวลานั
สํานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทุกคราวไป กา

มาตรากา๖๗๐ ผู้รับฝากชอบที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่จะยึดหน่วงเอาทรักาพย์สินซึ่งฝากนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํา้นนักไว้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ จนกว่าจะ กา
ได้รับเงินบรรดาที่ค้างชําระแก่ตนเกี่ยวด้วยการฝากทรัพย์นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๗๑ ในข้ อ ความรั บ ผิ ด เพื่ อ ใช้ เ งิ น บํ า เหน็ จ ค่ า ฝากทรั พ ย์ ก็ ดี ชดใช้ เ งิ น
สํานักค่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าใช้จ่ายก็ดี ใช้ค่าสินไหมทดแทนเกี
กา ่ยสํวแก่
านักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารฝากทรัพย์ก็ดี ท่านห้
กาามมิให้ฟ้องเมืสํ่อานัพ้กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
เวลาหกเดือน กา
นับแต่วันสิ้นสัญญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๐๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
วิธีเฉพาะการฝากเงิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๗๒ ถ้าฝากเงิน ท่กาานให้สันนิษฐานไว้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อนว่า ผู้รับฝากไม่พึงต้กอา งส่งคืนเป็น
เงินทองตราอันเดียวกันกับที่ฝาก แต่จะต้องคืนเงินให้ครบจํานวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง ผู้รับฝากจะเอาเงินซึ่งฝากนั้นออกใช้ก็ได้ แต่หากจําต้องคืนเงินให้ครบ
จํานวนเท่านั้น แม้สํวานั่ากเงิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นซึ่งฝากนั้นจะได้สูญหายไปด้
กา วยเหตุสสํุดานัวิสกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัยก็ตาม ผู้รับฝากก็จําต้กอางคืนเงินเป็น
จํานวนดั่งว่านั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๗๓ เมื่อใดผู้รับฝากจําต้องคืนเงินแต่เพียงเท่าจํานวนที่ฝาก ผู้ฝากจะเรียก
ถอนเงินคืนก่อนถึสํงาเวลาที ่ได้ตกลงกันไว้ไม่ได้กหรื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อฝ่ายผู้รับฝากจะส่ งคืนเงินก่อนถึงเวลานั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา้นก็ไม่ได้ดุจ
กัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วิธีเฉพาะสําหรับเจ้าสํานักสํโรงแรม
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๗๔ เจ้าสํานักโรงแรมหรื


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อโฮเต็ลสําหรื
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานที่อื่นทํานองเช่นกว่าา นั้น จะต้อง
รับผิดเพื่อความสูญหายหรือบุบสลายอย่างใด ๆ อันเกิดแก่ทรัพย์สินซึ่งคนเดินทางหรือแขกอาศัยหาก
สํานักได้ พามา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๗๕ เจ้าสํานักต้อกงรัา บผิดในการทีสํา่ทนัรักพงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ย์สินของคนเดินทางหรืกาอแขกอาศัย
สูญหายหรือบุบสลายไปอย่างใด ๆ แม้ถึงว่าความสูญหายหรือบุบสลายนั้นจะเกิดขึ้นเพราะผู้คนไปมา
สํานักเข้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าออก ณ โรงแรม โฮเต็กาล หรือสถานทีสํ่เาช่นันกนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้น ก็คงต้องรับผิด กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความรับผิดนี้ ถ้าเกี่ยวด้วยเงินทองตรา ธนบัตร ตั๋วเงิน พันธบัตร ใบหุ้น ใบหุ้นกู้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประทวนสินค้าอัญมณี หรือของมีค่าอื่น ๆ ให้จํากัดไว้เพียงห้าพันบาท เว้นแต่จะได้ฝากของมีค่าเช่นนี้
สํานักไว้งานคณะกรรมการกฤษฎี
แก่เจ้าสํานักและได้บอกราคาแห่
กา งของนั ดแจ้ง๑๒
สํานั้นกชังานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่เจ้าสํานักไม่ต้องรับผิดเพื่อความสูญหายหรือบุบสลายอันเกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือ
แต่สภาพแห่งทรัพสํย์านัสกินงานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้น หรือแต่ความผิดของคนเดิ
กา นทางหรืสําอนัแขกอาศั ยผู้นั้นเอง หรือบริ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาวารของเขา
หรือบุคคลซึ่งเขาได้ต้อนรับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๗๖ ทรัพย์สินซึ่งมิได้นําฝากบอกราคาชัดแจ้งนั้น เมื่อพบเห็นว่าสูญหาย
หรือบุบสลายขึ้น สํคนเดิ นทางหรือแขกอาศัยต้กอางแจ้งความนั้นสําต่นัอกเจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี าสํานักโรงแรม โฮเต็ลกาหรือสถานที่
เช่นนั้นทันที มิฉะนั้นท่านว่าเจ้าสํานักย่อมพ้นจากความรับผิดดั่งบัญญัติไว้ในมาตรา ๖๗๔และ ๖๗๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๗๗ ถ้ามีคําแจ้งความปิดไว้ในโรงแรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โฮเต็ล หรือสถานที่อื่นทํานองเช่นว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๒
มาตรา ๖๗๕ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง
สํานักและพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๔๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ชย์ (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๑๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
นี้ เป็นข้อความยกเว้นหรือจํากัดความรับผิดของเจ้าสํานักไซร้ ท่านว่าความนั้นเป็นโมฆะ เว้นแต่คน
สํานักเดิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นทางหรือแขกอาศัยจะได้
กา ตกลงด้วยชัสํดานัแจ้ งในการยกเว้นหรือจํากักดาความรับผิดดัสํ่งาว่นัากนังานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ้น กา

สํมาตรา ๖๗๘ ในข้อความรักบา ผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่อทรัพย์สินของคนเดิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นทาง
หรือของแขกอาศัยสูญหายหรือบุบสลายนั้น ท่านห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นเวลาหกเดือนนับแต่วันที่คน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เดินทางหรือแขกอาศัยออกไปจากสถานที่นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๗๙ เจ้าสํานักชอบที่จะยึดหน่วงเครื่องเดินทางหรือทรัพย์สินอย่างอื่นของ
สํานักคนเดิ นทางหรือแขกอาศั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กายอันเอาไว้ในโรงแรม โฮเต็ล หรือสถานที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่เช่นนั้นได้จนกว่
สํานัากจะได้ รับใช้เงิน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บรรดาที่ค้างชําระแก่ตน เพื่อการพักอาศัยและการอื่น ๆ อันได้ทําให้แก่คนเดินทางหรือแขกอาศัย
ตามที่เขาพึงต้องการนั
สํานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
รวมทั้งการชดใช้เงินทักา้งหลายที่ได้ออกแทนไปด้ วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เจ้าสํานักจะเอาทรัพย์สินที่ได้ยึดหน่วงไว้เช่นว่านั้นออกขายทอดตลาดแล้วหักเอาเงิน
สํานักใช้ จํานวนที่ค้างชําระแก่กตานรวมทั้งค่าฤชาธรรมเนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ยมและค่าใช้จ่ายในการขายทอดตลาดนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นจากเงินที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ขายทรัพย์สินนั้นก็ได้ แต่ท่านมิให้เจ้าสํานักใช้สิทธิดั่งว่านี้ จนเมื่อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ทรัพย์สินนั้นตกอยู่แก่ตนเป็นเวลานานถึสํางนัหกสั กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ปดาห์ยังมิได้รับชําระหนี้สินและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) อย่ า งน้ อ ยเดื อสํนหนึ ่ ง ก่ อ นวั น ขายทอดตลาด ตนได้ ปสํระกาศโฆษณาใน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หนังสือพิมพ์ประจําท้องถิ่นฉบับหนึ่งแจ้งความจํานงที่จะขายทรัพย์สิน บอกลักษณะแห่งทรัพย์สินที่จะ
ขายโดยย่อ กับถ้าสํรูา้ชนัื่อกเจ้ าของ ก็บอกด้วย กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่ อ ขายทอดตลาดหั ก ใช้ ห นี้ ดั่ ง กล่ า วแล้ ว มี เ งิ น เหลื อ อยู่ อี ก เท่ า ใดต้ อ งคื น ให้ แ ก่
สํานักเจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าของ หรือฝากไว้ ณ สํกาา นักงานฝากทรั สําพนัย์กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตามบทบัญญัติในมาตรากา ๓๓๑ และ ๓๓๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีลักกา ษณะ ๑๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


ค้ําประกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทเบ็ดเสร็จทัว่ ไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๘๐ อันว่าค้ําประกักานนั้น คือสัญญาซึ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก่งบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
คคลภายนอกคนหนึ่งกเรีา ยกว่า ผู้ค้ํา
ประกัน ผูกพันตนต่อเจ้าหนี้คนหนึ่ง เพื่อชําระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชําระหนี้นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อนึ่ง สักญา ญาค้ําประกัสํนานันั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนั
กา งสืออย่างใดอย่
สํานัากงหนึ ่งลงลายมือ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ชื่อผู้ค้ําประกันเป็นสําคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๘๑ อันค้ําประกันนั้นจะมีได้แต่เฉพาะเพื่อหนี้อันสมบูรณ์
หนี้ในอนาคตหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อหนีสํ้มานัีเงืก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
นไข จะประกันไว้เพื่อกเหตุ
า การณ์ซึ่งหนี
สํานั้นกั้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
อาจเป็นผลได้ กา
จริง ก็ประกันได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หนี้อันเกิดแต่สัญญาซึ่งไม่ผูกพันลูกหนี้เพราะทําด้วยความสําคัญผิดหรือเพราะเป็นผู้
สํานักไร้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ความสามารถนั้น ก็อกาจจะมี
า ประกันสํอย่
านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
งสมบูรณ์ได้ ถ้าหากว่ากผูา ้ค้ําประกันรู้เสํหตุ
านัสกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
คัญผิดหรือไร้ กา
- ๑๑๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ความสามารถนั้นในขณะที่เข้าทําสัญญาผูกพันตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๘๒ ท่ า นว่ า บุ ค คลจะยอมเข้ า เป็ น ผู้ รั บ เรื อ น คื อ เป็ น ประกั น ของผู้ ค้ํ า
ประกันอีกชั้นหนึ่งสําก็นัเกป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าบุคคลหลายคนยอมตนเข้าเป็นผู้ค้ําประกันในหนี้รายเดียวกันไซร้ท่านว่าผู้ค้ํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกันเหล่านั้นมีความรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมกัน แม้ถึงว่าจะมิได้เข้ารับค้ําประกันรวมกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๘๓ อันค้ําประกันอย่างไม่มีจํากัดนั้นย่อมคุ้มถึงดอกเบี้ยและค่าสินไหม
สํานักทดแทนซึ ่งลูกหนี้ค้างชํากระา ตลอดจนค่าสํภาระติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ดพันอันเป็นอุปกรณ์กแาห่งหนี้รายนั้นด้สําวนัยกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํมาตรา ๖๘๔ ผู้ค้ําประกันย่กอามรับผิดเพื่อค่สําาฤชาธรรมเนี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยมความซึ่งลูกกหนี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้จะต้องใช้
ให้แก่เจ้าหนี้ แต่ถ้าโจทก์ฟ้องคดีโดยมิได้เรียกให้ผู้ค้ําประกันชําระหนี้นั้นก่อนไซร้ ท่านว่าผู้ค้ําประกัน
สํานักหาต้ องรับผิดเพื่อใช้ค่าฤชาธรรมเนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยมเช่สํานนันัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๘๕ ถ้าเมื่อบังคับตามสัญญาค้ําประกั นนั้น ผู้ค้ําประกันไม่ชําระหนี้ทั้งหมด
ของลูกหนี้ รวมทั้งดอกเบี้ย ค่าสินไหมทดแทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และอุปกรณ์ด้วยไซร้ หนี้ยังเหลืสํอาอยู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่เท่าใด ท่านว่า
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลูกหนี้ยังคงรับผิดต่อเจ้าหนี้ในส่วนที่เหลือนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักผลก่ อนชําระหนี้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๘๖ ลูกหนี้ผิดนัดลงเมื่อใด ท่านว่าเจ้าหนี้ชอบที่จะเรียกให้ผู้ค้ําประกัน
สํานักชํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าระหนี้ได้แต่นั้น กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๘๗ ผู้ค้ําประกันไม่จําต้องชําระหนี้ก่อนถึงเวลากําหนดที่จะชําระ แม้ถึงว่า
สํานักลูงานคณะกรรมการกฤษฎี
กหนี้จะไม่อาจถือเอาซึก่งาประโยชน์แห่งสํเงืานั่อกนเวลาเริ ่มต้นหรือเวลาสุกดาสิ้นได้ต่อไปแล้สํวานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี

สํมาตรา ๖๘๘ เมื่อเจ้าหนี้ทกวงให้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ผู้ค้ําประกั
สํานันกชํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าระหนี้ ผู้ค้ําประกันจะขอให้
กา เรียก
ลูกหนี้ชําระก่อนก็ได้ เว้นแต่ลูกหนี้จะถูกศาลพิพากษาให้เป็นคนล้มละลายเสียแล้ว หรือไม่ปรากฏว่า
สํานักลูงานคณะกรรมการกฤษฎี
กหนี้ไปอยู่แห่งใดในพระราชอาณาเขต
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๘๙ ถึงแม้จะได้เรีกยากให้ลูกหนี้ชําสํระหนี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ดั่งกล่าวมาในมาตราก่กาอนนั้นแล้วก็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตาม ถ้าผู้ค้ําประกันพิสูจน์ได้ว่าลูกหนี้นั้นมีทางที่จะชําระหนี้ได้ และการที่จะบังคับให้ลูกหนี้ชําระหนี้
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นจะไม่เป็นการยากไซร้กา ท่านว่าเจ้าหนีสํา้จนัะต้ องบังคับการชําระหนีก้ราายนั้นเอาจากทรั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัพกย์งานคณะกรรมการกฤษฎี
สินของลูกหนี้ กา
ก่อน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๖๙๐ ถ้าเจ้าสํหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัก้มงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีทรัพย์ของลูกหนี้ยึดถือกไว้า เป็นประกันไซร้
สํานักเมืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อผู้ค้ําประกัน กา
- ๑๑๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ร้องขอ ท่านว่าเจ้าหนี้จะต้องให้ชําระหนี้เอาจากทรัพย์ซึ่งเป็นประกันนั้นก่อน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๙๑ ถ้าผู้ค้ําประกันต้องรับผิดร่วมกันกับลูกหนี้ ท่านว่าผู้ค้ําประกันย่อมไม่
มีสิทธิดั่งกล่าวไว้ใสํนมาตรา ๖๘๘,๖๘๙ และ ๖๙๐
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๖๙๒ อายุความสะดุดหยุดลงเป็นโทษแก่ลูกหนี้นั้น ย่อมเป็นโทษแก่ผู้ค้ํา
ประกันด้วย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผลภายหลังชําระหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๖๙๓ ผู้ค้ําประกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ซึ่งได้ชําระหนี้แล้ว ย่กอามมีสิทธิที่จะไล่สําเนับีก้ยงานคณะกรรมการกฤษฎี
เอาจากลูกหนี้ กา
เพื่อต้นเงินกับดอกเบี้ยและเพื่อการที่ต้องสูญหายหรือเสียหายไปอย่างใด ๆ เพราะการค้ําประกันนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง ผู้ค้ําประกันย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของเจ้สําาหนี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้บรรดามีเหนือลูกหนี้ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๙๔ นอกจากข้อต่อสู้ซึ่งผู้ค้ําประกันมีต่อเจ้าหนี้นั้น ท่านว่าผู้ค้ําประกันยัง
อาจยกข้อต่อสู้ทั้งสํหลายซึ ่งลูกหนี้มีต่อเจ้าหนี้ขกึ้นาต่อสู้ได้ด้วย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๖๙๕ ผู้ค้ําประกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ซึ่งละเลยไม่ยกข้อต่อกสูา้ของลูกหนี้ขึ้นสํต่าอนัสูก้เงานคณะกรรมการกฤษฎี
จ้าหนี้นั้นท่าน กา
ว่าย่อมสิ้นสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอาแก่ลูกหนี้เพียงเท่าที่ไม่ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้รู้
ว่ามีข้อต่อสู้เช่นนัสํ้นานัและที ่ไม่รู้นั้นมิได้เป็นเพราะความผิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดของตนด้
สํานักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย กา

มาตรากา๖๙๖ ผู้ค้ําประกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นไม่มีสิทธิจะไล่เบี้ยเอาแก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ลูกหนี้ได้ ถ้สําานัว่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
ตนได้ชําระหนี้ กา
แทนไปโดยมิได้บอกลูกหนี้ และลูกหนี้ยังมิรู้ความมาชําระหนี้ซ้ําอีก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีเช่นว่านี้ ผู้ค้ําประกันก็ได้แต่เพียงจะฟ้องเจ้าหนี้เพื่อคืนลาภมิควรได้เท่านั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๙๗ ถ้าเพราะการกระทําอย่างใดอย่างหนึ่งของเจ้าหนี้เอง เป็นเหตุให้ผู้ค้ํา
ประกันไม่อาจเข้าสํรัาบนัช่กวงานคณะกรรมการกฤษฎี
งได้ทั้งหมดหรือแต่บางส่ กา วนในสิทธิก็ดสํี าจํนัากนองก็ ดี จํานําก็ดี และบุกราิมสิทธิอันได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ไว้แก่เจ้าหนี้แต่ก่อนหรือในขณะทําสัญญาค้ําประกันเพื่อชําระหนี้นั้น ท่านว่าผู้ค้ําประกันย่อมหลุด
สํานักพ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
นจากความรับผิดเพียงเท่ กา าที่ตนต้องเสีสํยานัหายเพราะการนั ้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความระงับสิ้นไปแห่งการค้ําประกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๙๘ อันผู้ค้ําประกันย่อมหลุดพ้นจากความรับผิดในขณะเมื่อหนี้ของลูกหนี้
สํานักระงั บสิ้นไปไม่ว่าเพราะเหตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ก า ใด ๆ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๑๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา๖๙๙ การค้สํําาประกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นเพื่อกิจการเนื่องกันกาไปหลายคราวไม่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัมกีจงานคณะกรรมการกฤษฎี
ํากัดเวลาเป็น กา
คุณแก่เจ้าหนี้นั้น ท่านว่าผู้ค้ําประกันอาจเลิกเสียเพื่อคราวอันเป็นอนาคตได้ โดยบอกกล่าวความ
ประสงค์นั้นแก่เจ้สําหนี
านัก้ งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีเช่นนี้ ท่านว่าผู้ค้ําประกันไม่ต้องรับผิดในกิจการที่ลูกหนี้กระทําลงภายหลัง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําบอกกล่าวนั้นได้ไปถึงเจ้าหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๐๐ ถ้ าค้ํ า ประกันหนี้อั นจะต้ องชําระ ณ เวลามี กํา หนดแน่ น อน และ
สํานักเจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนี้ยอมผ่อนเวลาให้กแาก่ลูกหนี้ไซร้ ท่สําานว่
นักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้ค้ําประกันย่อมหลุดพ้กนา จากความรับสํผิาดนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่ถ้าผู้ค้ําประกันได้ตกลงด้วยในการผ่อนเวลา ท่านว่าผู้ค้ําประกันหาหลุดพ้นจาก
ความรับผิดไม่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๗๐๑ ผู้ค้ําประกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
จะขอชําระหนี้แก่เจ้าหนี
กา้ตั้งแต่เมื่อถึงกํสําาหนดชํ าระก็ได้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ถ้าเจ้าหนี้ไม่ยอมรับชําระหนี้ ผู้ค้ําประกันก็เป็นอันหลุดพ้นจากความรับผิด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๑๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จํานอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานับทเบ็ ดเสร็จทัว่ ไป
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๐๒ อันว่าจํานองนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่าผู้จํานองเอา
สํานักทรั พย์สินตราไว้แก่บุคคลอี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กคนหนึ่ ง สํเรีานัยกกว่ าผู้รับจํานอง เป็นประกั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นการชําระหนี
สํานัก้ งานคณะกรรมการกฤษฎี
โดยไม่ส่งมอบ กา
ทรัพย์สินนั้นให้แก่ผู้รับจํานอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้รับจํานองชอบที่จะได้รับชําระหนี้จากทรัพย์สินที่จํานองก่อนเจ้าหนี้สามัญมิพักต้อง
สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
เคราะห์ว่ากรรมสิทธิ์ในทรั
กา พย์สินจะได้สํโาอนไปยั งบุคคลภายนอกแล้กวาหรือหาไม่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํมาตรา ๗๐๓ อันอสังหาริมกทรัา พย์นั้นอาจจํสําานองได้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ไม่ว่าประเภทใด ๆ กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สังหาริมทรัพย์อันจะกล่าวต่อไปนี้ก็อาจจํานองได้ดุจกัน หากว่าได้จดทะเบียนไว้แล้ว
สํานักตามกฎหมาย คือ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓
(๑) เรือมีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป
สํ(๒)
านักแพ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) สัตว์พาหนะ
(๔) สังกหาริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า มทรัพย์อื่นสําๆนักซึงานคณะกรรมการกฤษฎี
่งกฎหมายหากบัญญัตกิไว้าให้จดทะเบียนเฉพาะการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓
มาตรา ๗๐๓ (๑) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ.ก๒๕๔๘
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๑๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๗๐๔ สัญญาจํานองต้องระบุทรัพย์สินซึ่งจํานอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๐๕ การจํานองทรัพย์สินนั้น นอกจากผู้เป็นเจ้าของในขณะนั้นแล้ว ท่าน
ว่าใครอื่นจะจํานองหาได้ ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๗๐๖ บุ ค คลมี ก รรมสิ ท ธิ์ใ นทรั พ ย์สิ นแต่ภ ายในบัง คั บ เงื่ อนไขเช่ น ใดจะ
จํานองทรัพย์สินนัสํ้นานัได้กแงานคณะกรรมการกฤษฎี
ต่ภายในบังคับเงื่อนไขเช่
กา นนั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๗๐๗ บทบัสํญานัญักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ิมาตรา ๖๘๑ ว่าด้วยค้กาําประกันนั้น สํท่าานันให้ ใช้ได้ในการ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จํานอง อนุโลมตามควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๐๘ สัญญาจํานองนั้นต้องมีจํานวนเงินระบุไว้เป็นเรือนเงินไทยเป็นจํานวน
สํานักแน่ ตรงตัว หรือจํานวนขัก้นาสูงสุดที่ได้เอาทรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัพกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์สินจํานองนั้นตราไว้เป็กนา ประกัน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๐๙ บุคคลคนหนึ่งจะจํานองทรัสํพาย์นัสกิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นของตนไว้เพื่อประกันกหนี

้อันบุคคล
อื่นจะต้องชําระ ก็ให้ทําได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๗๑๐ ทรั พ ย์ สิ น หลายสิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ ง มี เ จ้ า ของคนเดี ย วหรือ หลายคนจะจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา า นองเพื่ อ
ประกันการชําระหนี้แต่รายหนึ่งรายเดียว ท่านก็ให้ทําได้
และในการนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้คู่สัญญาจะตกลงกั นดั่งต่อไปนี้ก็ได้ คืกอาว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ให้ผู้รับจํานองใช้สิทธิบังคับเอาแก่ทรัพย์สินซึ่งจํานองตามลําดับอันระบุไว้
สํ(๒)
านักให้ ถือเอาทรัพย์สินแต่ละสิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งเป็นประกันสํหนี
านั้เกฉพาะแต่ ส่วนหนึ่งส่วนใดที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ระบุไว้

มาตรากา๗๑๑ การทีสํ่จาะตกลงกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นไว้เสียแต่ก่อนเวลาหนี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ถึงกําหนดชํ
สํานัากระเป็ นข้อความ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อย่างใดอย่างหนึ่งว่า ถ้าไม่ชําระหนี้ ให้ผู้รับจํานองเข้าเป็นเจ้าของทรัพย์สินซึ่งจํานอง หรือว่าให้จัดการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แก่ทรัพย์สินนั้นเป็นประการอื่นอย่างใดนอกจากตามบทบัญญัติทั้งหลายว่าด้วยการบังคับจํานองนั้น
สํานักไซร้ ข้อตกลงเช่นนั้นท่ากนว่า าไม่สมบูรณ์สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๗๑๒ แม้ถึงว่ามีข้อกสัาญญาเป็นอย่าสํงอืานั่นกก็งานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ตาม ทรัพย์สินซึ่งจํานองไว้
กา แก่บุคคล
คนหนึ่งนั้น ท่านว่าจะเอาไปจํานองแก่บุคคลอีกคนหนึ่งในระหว่างเวลาที่สัญญาก่อนยังมีอายุอยู่ก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๑๓ ถ้ามิได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่นในสัญญาจํานอง ท่านว่าผู้จํานองจะ
ชําระหนี้ล้างจํานองเป็
สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
งวด ๆ ก็ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๗๑๔ อันสัญสําญาจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านองนั้น ท่านว่าต้องทํ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาาเป็นหนังสือสํและจดทะเบี ยนต่อ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พนักงานเจ้าหน้าทีสํา่ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๑๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
สิทธิจํานองครอบเพียงใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๗๑๕ ทรั พ ย์ สิ นกซึา่ ง จํ า นองย่ อ มเป็


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประกั น เพื่ อ การชํ า ระหนี
กา ้ กั บ ทั้ ง ค่ า
อุปกรณ์ต่อไปนี้ด้วย คือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ดอกเบี้ย
สํ(๒)
านักค่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าสินไหมทดแทนในการไม่
กา ชําระหนี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับจํานอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๑๖ จํานองย่อมครอบไปถึงบรรดาทรัพย์สินซึ่งจํานองหมดทุกสิ่ง แม้จะได้
ชําระหนี้แล้วบางส่สําวนันกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๗๑๗ แม้ว่าสํทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์สินซึ่งจํานองจะแบ่งกออกเป็
า นหลายส่
สํานัวกนก็ ตาม ท่านว่า
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จํานองก็ยังคงครอบไปถึงส่วนเหล่านั้นหมดทุกส่วนด้วยกันอยู่นั่นเอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถึงกระนั้นก็ดี ถ้าผู้รับจํานองยินยอมด้วย ท่สําานว่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าจะโอนทรัพย์สินส่วนหนึ่งส่วนใดไป
ปลอดจากจํานองก็ให้ทําได้ แต่ความยิสํนานัยอมดั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่งว่านี้หากมิได้จดทะเบียน ท่านว่าสํจะยกเอาขึ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้นเป็นข้อ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ต่อสู้แก่บุคคลภายนอกหาได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๑๘ จํานองย่อมครอบไปถึงทรัพย์ทั้งปวงอันติ ดพันอยู่กับทรัพย์สินซึ่ง
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านอง แต่ต้องอยู่ภายในบั
กา งคับซึ่งท่านจํสําานักักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไว้ในสามมาตราต่อไปนีก้ า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๗๑๙ จํานองที่ดินกไม่า ครอบไปถึงเรื


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําอนันโรงอั นผู้จํานองปลูกสร้กาางลงในที่ดิน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ภายหลังวันจํานอง เว้นแต่จะมีข้อความกล่าวไว้โดยเฉพาะในสัญญาว่าให้ครอบไปถึง
แต่กระนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นก็ ดี ผู้ รับจํสําานองจะให้ ขายเรือนโรงนัก้นารวมไปกับที่ดสํินานัด้กวงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยก็ได้ แต่ผู้รับ กา
จํานองอาจใช้บุริมสิทธิของตนได้เพียงแก่ราคาที่ดินเท่านั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๗๒๐ จํานองเรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกนโรงหรื อสิ่งปลูกสร้างอย่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาางอื่นซึ่งได้ทําสํขึานั้นกไว้งานคณะกรรมการกฤษฎี
บนดินหรือใต้ กา
ดิน ในที่ดินอันเป็นของคนอื่นเขานั้นย่อมไม่ครอบไปถึงที่ดินนั้นด้วย ฉันใดกลับกันก็ฉันนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๒๑ จํานองไม่ครอบไปถึงดอกผลแห่งทรัพย์สินซึ่งจํานอง เว้นแต่ในเมื่อ
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้รับจํานองได้บอกกล่าวแก่
กา ผู้จํานองหรืสํอาผูนั้รกับงานคณะกรรมการกฤษฎี
โอนแล้วว่าตนจํานงจะบั
กางคับจํานอง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิทธิและหน้าที่ของผู้รับจํานองและผู้จํานอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๒๒ ถ้าทรัพย์สินได้จํานองแล้ว และภายหลังที่จดทะเบียนจํานองมีจด
สํานักทะเบี ยนภาระจํายอมหรืกอา ทรัพยสิทธิอสํย่าานังอืกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่น โดยผู้รับจํานองมิได้ยกาินยอมด้วยไซร้สําท่นัากนว่ าสิทธิจํานอง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๑๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ย่อมเป็นใหญ่กว่าภาระจํายอมหรือทรัพยสิทธิอย่างอื่นนั้น หากว่าเป็นที่เสื่อมเสียแก่สิทธิของผู้รับ
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านองในเวลาบังคับจํานองก็
กา ให้ลบสิทธิสํทานัี่กกล่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าวหลังนั้นเสียจากทะเบีกายน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๗๒๓ ถ้าทรัพย์สินซึก่งาจํานองบุบสลาย


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักหรื อถ้าทรัพย์สินซึ่งจํานองแต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สิ่งใดสิ่ง
หนึ่งสูญหายหรือบุบสลาย เป็นเหตุให้ไม่เพียงพอแก่การประกันไซร้ ท่านว่าผู้รับจํานองจะบังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จํานองเสียในทันทีก็ได้ เว้นแต่เมื่อเหตุนั้นมิได้เป็นเพราะความผิดของผู้จํานอง และผู้จํานองก็เสนอจะ
จํานองทรัพย์สินอืสํา่นนัแทนให้ มีราคาเพียงพอหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาอเสนอจะรับสํซ่าอนัมแซมแก้ ไขความบุบสลายนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นภายใน
เวลาอันสมควรแก่เหตุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๒๔ ผู้จํานองใดได้จํานองทรัพย์สินของตนไว้เพื่อประกันหนี้อันบุคคลอื่น
จะต้องชําระแล้วสํและเข้ าชําระหนี้เสียเองแทนลู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กหนี้เพื่อจะปั
สํานัดกป้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องมิให้ต้องบังคับจํานอง กา ท่านว่าผู้
จํานองนั้นชอบที่จะได้รับเงินใช้คืนจากลูกหนี้ตามจํานวนที่ตนได้ชําระไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีถ้าว่ าต้กาอ งบั งคับจํ านอง
สํานักท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านว่ าผู้จํ านองชอบทีก่ จาะได้ รั บเงิ นใช้สํคานัื นกจากลู กหนี้ ต าม
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จํานวนซึ่งผู้รับจํานองจะได้รับใช้หนี้จากการบังคับจํานองนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๒๕ เมื่อบุสํคานัคลสองคนหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อกว่านั้นต่างได้ จํานองทรัสํพานัย์กสงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ินแห่งตนเพื่อ กา
ประกันหนี้แต่รายหนึ่งรายเดียวอันบุคคลอื่นจะต้องชําระและมิได้ระบุลําดับไว้ไซร้ ท่านว่าผู้จํานองซึ่ง
ได้เป็นผู้ชําระหนีสํ้ หรื
านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นเจ้าของทรัพย์สินซึก่งาต้องบังคับจําสํนองนั ้นหามีสิทธิจะไล่เบี้ยเอาแก่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ผู้จํานอง
อื่น ๆ ต่อไปได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๒๖ เมื่อบุคคลหลายคนต่างได้จํานองทรัพย์สินแห่งตนเพื่อประกันหนี้แต่
รายหนึ่งรายเดียวอัสํานันกบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
คคลอื่นจะต้องชําระและได้
กา ระบุลําดับสํไว้
านัดก้วงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยไซร้ ท่านว่าการที่ผู้รกับาจํานองยอม
ปลดหนี้ให้แก่ผู้จํานองคนหนึ่งนั้น ย่อมทําให้ผู้จํานองคนหลัง ๆ ได้หลุดพ้นด้วยเพียงขนาดที่เขาต้องรับ
สํานักความเสี ยหายแต่การนั้นกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๒๗ ถ้าบุคคลคนเดียวจํานองทรัพย์สินแห่งตนเพื่อประกันหนี้อันบุคคลอื่น
สํานักจะต้ องชําระ ท่านให้ใช้กบาทบัญญัติมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก๖๙๗, ๗๐๐ และ ๗๐๑กว่าาด้วยค้ําประกัสํานนันัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี บังคับอนุโลม กา
ตามควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักการบั งคับจํานอง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๒๘ เมื่อจะบังคับจํานองนั้น ผู้รับจํานองต้องมีจดหมายบอกกล่าวไปยัง
สํานักลูงานคณะกรรมการกฤษฎี
กหนี้ก่อนว่าให้ชําระหนีกา้ภายในเวลาอัสํนานัสมควรซึ ่งกําหนดให้ในคํากบอกกล่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า าวนั้น ถ้สําานัและลู กหนี้ละเลย
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เสียไม่ปฏิบัติตามคํ าบอกกล่าว ผู้รับจํานองจะฟ้องคดีต่อศาลเพื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่อให้พิพากษาสั่งให้ยึดทรัพย์สินซึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จํานองและให้ขายทอดตลาดก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๑๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๗๒๙ นอกจากทางแก้ดั่งบัญญัติไว้ในมาตราก่อนนั้น ผู้รับจํานองยังชอบที่
สํานักจะเรี ยกเอาทรัพย์จํานองหลุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดได้ภายในบั
สํางนัคักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
แห่งเงื่อนไขดั่งจะกล่ากวต่า อไปนี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ลูกหนี้ได้ขาดส่งดอกเบี้ยมาแล้วเป็นเวลาถึงห้าปี
สํ(๒)
านักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้จํานองมิได้แสดงให้เป็กนาที่พอใจแก่ศาลว่ สํานัากราคาทรั พย์สินนั้นท่วมจํกาานวนเงินอัน
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ค้างชําระ และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ไม่มี การจํานองรายอื่ น หรือบุริมสิทธิอื่นได้จดทะเบียนไว้เหนือทรัพย์สินอัน
เดียวกันนี้เอง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๗๓๐ เมื่ อ ทรั


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัพกย์งานคณะกรรมการกฤษฎี
สิ น อั น หนึ่ ง อั น เดี ย วได้
กาจํ า นองแก่ ผู้ รสํั บานัจํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
นองหลายคน กา
ด้วยกัน ท่านให้ถือลําดับผู้รับจํานองเรียงตามวันและเวลาจดทะเบียน และผู้รับจํานองคนก่อนจักได้รับ
ใช้หนี้ก่อนผู้รับจําสํนองคนหลั ง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๗๓๑ อันผู้รสํับานัจํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นองคนหลังจะบังคับตามสิ
กา ทธิของตนให้
สํานักเสีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยหายแก่ผู้รับ กา
จํานองคนก่อนนั้น ท่านว่าหาอาจทําได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๓๒ ทรัพย์สํสาินนัซึก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จํานองขายทอดตลาดได้กา
เงินเป็นจํานวนสุ ทธิเท่าใดท่านให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จัดใช้แก่ผู้รับจํานองเรียงตามลําดับ และถ้ายังมีเงินเหลืออยู่อีก ก็ให้ส่งมอบแก่ผู้จํานอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๔
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๓๓ ถ้าเอาทรัพย์จํานองหลุดและราคาทรัพย์สินนั้นมีประมาณต่ํากว่า
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านวนเงินที่ค้างชําระกักนาอยู่ก็ดี หรือถ้าสํเอาทรั พย์สินซึ่งจํานองออกขายทอดตลาดใช้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัหกนีงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ ได้เงินจํานวน กา
สุทธิน้อยกว่าจํานวนเงินที่ค้างชําระกันอยู่นั้นก็ดี เงินยังขาดจํานวนอยู่เท่าใดลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดในเงิน
นั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๗๓๔ ถ้าจําสํนองทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี พย์สินหลายสิ่งเพื่อประกั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นหนี้แต่รายหนึ ่งรายเดียวและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มิได้ระบุลําดับไว้ไซร้ ท่านว่าผู้รับจํานองจะใช้สิทธิของตนบังคับแก่ทรัพย์สินนั้น ๆ ทั้งหมด หรือแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เพียงบางสิ่งก็ได้ แต่ท่านห้ามมิให้ทําเช่นนั้นแก่ทรัพย์สินมากสิ่งกว่าที่จําเป็นเพื่อใช้หนี้ตามสิทธิแห่งตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้าผู้รับกาจํานองใช้สิทธิสํขานัองตนบั งคับแก่ทรัพย์สินทัก้งา หมดพร้อมกัสํนานัท่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นให้แบ่งภาระ กา
แห่งหนี้นั้นกระจายไปตามส่วนราคาแห่งทรัพย์สินนั้น ๆ เว้นแต่ในกรณีที่ได้ระบุจํานวนเงินจํานองไว้
เฉพาะทรัพย์สินแต่ สํานัลกะสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ง ๆ เป็นจํานวนเท่าใดกาท่านให้แบ่งกระจายไปตามจํ านวนเงินจํากนองที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่ระบุไว้
เฉพาะทรัพย์สิ่งนั้น ๆ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี แต่ถ้ากผูา้รับจํานองใช้สสํิทานัธิขกงานคณะกรรมการกฤษฎี
องตนบังคับแก่ทรัพย์สกินาอันใดอันหนึ่งสํแต่
านัเกพีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยงสิ่งเดียวไซร้ กา
ผู้รับจํานองจะให้ชําระหนี้อันเป็นส่วนของตนทั้งหมดจากทรัพย์สินอันนั้นก็ได้ ในกรณีเช่นนั้นท่านให้
ถือว่าผู้รับจํานองคนถั ดไปโดยลําดับย่อมเข้กาารับช่วงสิทธิขสํองผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัก้ รงานคณะกรรมการกฤษฎี
ับจํานองคนก่อนและจะเข้ กา าบังคั บ
จํานองแทนที่คนก่อนก็ได้แต่เพียงเท่าจํานวนซึ่งผู้รับจํานองคนก่อนจะพึงได้รับจากทรัพย์สินอื่น ๆ
สํานักตามบทบั ญญัติดั่งกล่าวมาในวรรคก่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อนนั
สํา้นนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔
มาตรา ๗๓๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ พุทธศักราช ๒๔๗๘กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๑๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๗๓๕ เมื่อผู้รับจํานองคนใดจํานงจะบังคับจํานองเอาแก่ผู้รับโอนทรัพย์สินซึ่ง
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านอง ท่านว่าต้องมีจดหมายบอกกล่
กา าสํวแก่
านักผงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้รับโอนล่วงหน้าเดือนหนึ
กา่งก่อนแล้วจึ่งจะบั
สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
คับจํานองได้ กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิทธิและหน้าที่ของผู้รับโอนทรัพย์สินซึ่งจํานอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๓๖ ผู้รับโอนทรัพย์สินซึ่งจํานองจะไถ่ถอนจํานองก็ได้ ถ้าหากมิได้เป็นตัว
สํานักลูงานคณะกรรมการกฤษฎี
กหนี้หรือผู้ค้ําประกัน กหรืา อเป็นทายาทของลู กหนี้หรือผู้ค้ําประกัน กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๗๓๗ ผู้รับโอนจะไถ่กถา อนจํานองเมืสํ่อาใดก็


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ได้ แต่ถ้าผู้รับจํานองได้กบา อกกล่าวว่า
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มีจํานงจะบังคับจํานองไซร้ ผู้รับโอนต้องไถ่ถอนจํานองภายในเดือนหนึ่งนับแต่วันรับคําบอกกล่าว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๓๘ ผู้รับโอนซึ่งประสงค์จะไถ่ถอนจํานองต้องบอกกล่าวความประสงค์นั้น
แก่ผู้เป็นลูกหนี้ชั้นต้น และต้องส่งคําเสนอไปยังบรรดาเจ้าหนีสํา้ทนัี่ไกด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กา
จดทะเบียน ไม่ว่าในทางจํ านองหรือ
ประการอื่น ว่าจะรับใช้เงินให้เป็นจํานวนอั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นสมควรกับราคาทรัพย์สินนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําเสนอนั้นให้แจ้งข้อความทั้งหลายต่อไปนี้ คือ
สํ(๑)
านักตํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าแหน่งแหล่งที่และลักกษณะแห่
า งทรัพย์สํสานัินกซึงานคณะกรรมการกฤษฎี
่งจํานอง กา
(๒) วันซึ่งโอนกรรมสิทธิ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๓) ชื่อกเจ้
า าของเดิม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ชื่อและภูมิลําเนาของผู้รับโอน
สํ(๕)
านักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านวนเงินที่เสนอว่าจะใช้
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) คํานวณยอดจํานวนเงินที่ค้างชําระแก่เจ้าหนี้คนหนึ่ง ๆ รวมทั้งอุปกรณ์และ
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านวนเงินที่จะจัดเป็นส่กวานใช้แก่บรรดาเจ้ สํานัากหนี ้ตามลําดับกัน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่งให้คัดสําเนารายงานจดทะเบียนของเจ้าพนักงานในเรื่องทรัพย์สินซึ่งจํานองนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อันเจ้าพนักงานรับรองว่าเป็นสําเนาถูกถ้วนสอดส่งไปด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๓๙ ถ้าเจ้าหนี้คนหนึ่งคนใดไม่ยอมรับคําเสนอ เจ้าหนี้คนนั้นต้องฟ้องคดี
ต่อศาลภายในเดือสํานหนึ ่งนับแต่วันมีคําเสนอเพืกา่อให้ศาลพิพากษาสั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่งขายทอดตลาดทรัพย์กสาินซึ่งจํานอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้น แต่ว่าเจ้าหนี้นั้นจะต้องปฏิบัติการดั่งจะกล่าวต่อไปนี้ด้วย คือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑) ออกเงิ
กา นทดรองค่สําาฤชาธรรมเนี ยมการขายทอดตลาด
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ต้องเข้าสู้ราคาเอง หรือแต่งคนเข้าสู้ราคาเป็นจํานวนเงินสูงกว่าที่ผู้รับโอนเสนอ
จะใช้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) บอกกล่าวการที่ตนไม่ ยอมนั้นให้ผู้รั บโอนและเจ้าหนี้คนอื่น ๆ บรรดาได้ จด
สํานักทะเบี ยน กับทั้งเจ้าของทรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา พย์คนก่อนและลู
สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หนี้ชั้นต้นทราบด้วย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๔๐ ถ้าขายทอดตลาดได้เงินจํานวนสุทธิล้ําจํานวนเงินที่ผู้รับโอนเสนอว่า
สํานักจะใช้ ท่านให้ผู้รับโอนเป็กานผู้ออกใช้ค่าฤชาธรรมเนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ยมในการขายทอดตลาด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ถ้าได้สํไม่านัถกึงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ล้ําจํานวนท่าน กา
- ๑๑๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ให้เจ้าหนี้ผู้ร้องขอให้ขายทอดตลาดเป็นผู้ออก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๔๑ เมื่อเจ้าหนี้ทั้งหลายได้สนองรับคําเสนอทั่วทุกคนแล้วโดยแสดงออก
ชัดหรือโดยปริยายก็
สํานัดกี งานคณะกรรมการกฤษฎี
ท่านว่าจํานองหรือบุริมกสิา ทธิก็เป็นอันสํไถ่านัถกอนได้ ด้วยผู้รับโอนใช้เงินกาหรือวางเงิน
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ตามจํานวนที่เสนอจะใช้แทนการชําระหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๗๔๒ ถ้าการบังคับกจําานองก็ดี ถอนจํ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําานันองก็ ดี เป็นเหตุให้ทรัพย์กสาินซึ่งจํานอง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
หลุดมือไปจากบุคคลผู้ได้ทรัพย์สินนั้นไว้แต่ก่อนไซร้ ท่านว่าการที่ทรัพย์สินหลุดมือไปเช่นนั้นหามีผล
สํานักย้งานคณะกรรมการกฤษฎี
อนหลังไม่ และบุริมสิทกาธิทั้งหลายของเจ้สํานัากหนี ้แห่งผู้ที่ทรัพย์หลุดมืกอาไปอันมีอยู่เหนื
งานคณะกรรมการกฤษฎี สําอนัทรั พย์สินและได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จดทะเบียนไว้นั้น ก็ย่อมเข้าอยู่ในลําดับหลังบุริมสิทธิอันเจ้าหนี้ของผู้จํานอง หรือเจ้าของคนก่อนได้จด
ทะเบียนไว้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีเช่นนี้ ถ้าสิทธิใด ๆ อันมีอยู่เหนือทรัพย์สินซึ่งจํานองเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่
สํานักบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
คคลผู้ได้ทรัพย์สินซึ่งจํกาานองไว้แต่ก่อนได้
สํานักระงั บไปแล้วด้วยเกลื่อนกลื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นกันในขณะที สํา่ไนัด้กทงานคณะกรรมการกฤษฎี
รัพย์สินนั้นมา กา
ไซร้ สิทธินั้นท่านให้กลับคืนมาเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลผู้นั้นได้อีก ในเมื่อทรัพย์สินซึ่งจํานองกลับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หลุดมือไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๔๓ ถ้าผู้รับโอนได้ทําให้ทรัพย์สินซึ่งจํานองเสื่อมราคาลงเพราะการกระทํา
หรือความประมาทเลิ นเล่อแห่งตน เป็นเหตุกใาห้เจ้าหนี้ทั้งหลายผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้มีสิทธิจํานองหรือบุกริามสิทธิเหนื อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรัพย์สินนั้นต้องเสียหายไซร้ ท่านว่าผู้รับโอนจะต้องรับผิดเพื่อความเสียหายนั้น อย่างไรก็ดีอันผู้รับ
สํานักโอนจะเรี ยกเอาเงินจํานวนใด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๆ ซึ่งตนได้ สํานัอกอกไป หรือเรียกให้ชดใช้กาค่าใช้จ่ายที่ตนได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัทกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ทรัพย์สินดี กา
ขึ้นนั้น ท่านว่าหาอาจจะเรียกได้ไม่ เว้นแต่ที่เป็นการทําให้ทรัพย์สินนั้นงอกราคาขึ้น และจะเรียกได้
เพียงเท่าจํานวนราคาที ่งอกขึ้นเมื่อขายทอดตลาดเท่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา านั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความระงับสิ้นไปแห่งสัญญาจํานอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๗๔๔ อันจํานองย่อมระงับสิ้นไป
สํ(๑)
านักเมื ่อหนี้ที่ประกันระงับสิก้นาไปด้วยเหตุประการอื
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่นใดมิใช่เหตุอายุความกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๒) เมื่อปลดจํานองให้แก่ผู้จํานองด้วยหนังสือเป็นสําคัญ
(๓) เมืก่อาผู้จํานองหลุดสํพ้านนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) เมื่อถอนจํานอง
สํ(๕)
านักเมื ่อขายทอดตลาดทรัพกาย์สินซึ่งจํานองตามคํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี าสั่งศาลอันเนื่องมาแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา การบังคับ
จํานองหรือถอนจํานอง
(๖) เมืก่อาเอาทรัพย์สินสํซึา่งนัจํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นองนั้นหลุด กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๔๕ ผู้รับจํานองจะบังคับจํานองแม้เมื่อหนี้ที่ประกันนั้นขาดอายุความแล้ว
สํานักก็งานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ แต่จะบังคับเอาดอกเบี
กา ้ยที่ค้างชําระในการจํ านองเกินกว่าห้าปีไกม่าได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๒๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา๗๔๖ การชํสําาระหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ไม่ว่าครั้งใด ๆ สิ้นเชิกงาหรือแต่บางส่สํวานก็
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี การระงับหนี้ กา
อย่างใด ๆ ก็ดี การตกลงกันแก้ไขเปลี่ยนแปลงจํานองหรือหนี้อันจํานองเป็นประกันนั้นเป็นประการใด
ก็ดี ท่านว่าต้องนํสําาความไปจดทะเบี ยนต่อพนั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กากงานเจ้ าหน้สําาทีนั่ ใกนเมื ่อมีคําขอร้องของผูก้มาีส่วนได้เสีย
งานคณะกรรมการกฤษฎี
มิฉะนั้นท่านห้ามมิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีลักกา ษณะ ๑๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


จํานํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑
บทเบ็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดเสร็จทัว่ ไปสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๗๔๗ อันว่าจํานํานั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่าผู้จํานําส่งมอบ
สังหาริมทรัพย์สิ่งหนึ่งให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้รับจํานํสําานัเพื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่อเป็นประกันการชําระหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๔๘ การจํ านํ า นั้ น ย่ อมเป็ น ประกั น เพื่ อ การชํา ระหนี้ กั บ ทั้ง ค่า อุ ป กรณ์
ต่อไปนี้ด้วย คือ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ดอกเบี้ย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒) ค่ากสิา นไหมทดแทนในการไม่ ชําระหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับจํานํา
สํ(๔)
านักค่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าใช้จ่ายเพื่อรักษาทรัพกย์าสินซึ่งจํานํา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่ความชํารุดบกพร่องแห่งทรัพย์สิน
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านําซึ่งไม่เห็นประจักษ์กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๔๙ คู่สัญญาจํานําจะตกลงกันให้บุคคลภายนอกเป็นผู้เก็บรักษาทรัพย์สิน
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านําไว้ก็ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๗๕๐ ถ้าทรัพย์สินทีกา่จํานําเป็นสิทธิสํซานัึ่งมีกงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ตราสาร และมิได้ส่งมอบตราสารนั
กา ้น
ให้แก่ผู้รับจํานํา ทั้งมิได้บอกกล่าวเป็นหนังสือแจ้งการจํานําแก่ลูกหนี้แห่งสิทธินั้นด้วยไซร้ ท่านว่าการ
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านําย่อมเป็นโมฆะ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๗๕๑ ถ้าจํานําตราสารชนิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดออกให้สําแนัก่กบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ุคคลเพื่อเขาสั่ง ท่านห้กาามมิให้ยกขึ้น
เป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอก เว้นแต่จะได้สลักหลังไว้ที่ตราสารให้ปรากฏการจํานําเช่นนั้น
อนึ่ง ในการนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ไม่จําเป็สํนาต้นัอกงบอกกล่ าวแก่ลูกหนี้แห่กงาตราสาร
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๕๒ ถ้าจํานําตราสารชนิดออกให้แก่บุคคลโดยนามและจะโอนกันด้วยสลัก
สํานักหลั งไม่ได้ ท่านว่าต้องจดข้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อความแสดงการจํ านําไว้ให้ปรากฏในตราสารนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นเองสําและท่ านห้ามมิให้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๒๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ลูกหนี้แห่งตราสารหรือบุคคลภายนอก เว้นแต่จะได้บอกกล่าวการจํานํานั้นให้ทราบ
สํานักถึงานคณะกรรมการกฤษฎี
งลูกหนี้แห่งตราสาร กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๗๕๓ ถ้าจํานําใบหุก้นา หรือใบหุ้นกูสํ้ชานันิกดงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ระบุชื่อ ท่านห้ามมิให้กยากขึ้นเป็นข้อ
ต่อสู้บริษัทหรือบุคคลภายนอก เว้นแต่จะได้จดลงทะเบียนการจํานํานั้นไว้ในสมุดของบริษัทตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทบัญญัติทั้งหลายในลักษณะ ๒๒ ว่าด้วยการโอนหุ้นหรือหุ้นกู้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๕๔ ถ้าสิทธิซึ่งจํานํานั้นถึงกําหนดชําระก่อนหนี้ซึ่งประกันไว้นั้นไซร้ท่านว่า
สํานักลูงานคณะกรรมการกฤษฎี
กหนี้แห่งสิทธิต้องส่งมอบทรั กา พย์สินอันสํเป็ านันกวังานคณะกรรมการกฤษฎี
ตถุแห่งสิทธิให้แก่ผู้รับกจําานํา และทรัพสํย์าสนัินกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้นก็กลายเป็น กา
ของจํานําแทนสิทธิซึ่งจํานํา
สํถ้าานัสิกทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธิซึ่งจํานํานั้นเป็นมูลหนี กา ้ซึ่งต้องชําระเป็
สํานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
เงิน และถึงกําหนดชํากระก่ า อนหนี้ซึ่ง
ประกั นไว้นั้ น ไซร้ ท่า นว่าต้อ งใช้เ งิน ให้ แ ก่ผู้รั บจํ านํ า และผู้จํ านํ าร่วมกัน ถ้ าและเขาทั้ งสองนั้น ไม่
สํานักปรองดองตกลงกั
งานคณะกรรมการกฤษฎีนได้ ท่กาานว่าแต่ละคนชอบที ่จะเรียกให้วางเงินจํากนวนนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้นไว้ ณ สํสําานันักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานฝากทรัพย์ กา
ได้เพื่อประโยชน์อันร่วมกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๕๕ ถ้าจําสํนําานัสิกทงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ธิ ท่านห้ามมิให้ทําสิทกธิานั้นให้สิ้นไปหรื อแก้ไขสิทธินั้นให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เสียหายแก่ผู้รับจํานําโดยผู้รับจํานํามิได้ยินยอมด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๕๖ การที่จะตกลงกันไว้เสียแต่ก่อนเวลาหนี้ถึงกําหนดชําระเป็นข้อความ
สํานักอย่ างใดอย่างหนึ่งว่า ถ้กาาไม่ชําระหนี้ ให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัผกู้รังานคณะกรรมการกฤษฎี
บจํานําเข้าเป็นเจ้าของทรั
กา พย์สินจํานํสําานัหรืกงานคณะกรรมการกฤษฎี
อให้จัดการแก่ กา
ทรัพย์สินนั้นเป็นประการอื่นนอกจากตามบทบัญญัติทั้งหลายว่าด้วยการบังคับจํานํานั้นไซร้ ข้อตกลง
เช่นนั้นท่านว่าไม่สสํมบู
านักรงานคณะกรรมการกฤษฎี
ณ์ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๗๕๗ บทบัญสํญัานัตกิทงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ั้งหลายในลักษณะ ๑๓กานี้ ท่านให้ใช้บสํังาคันับกแก่ สัญญาจํานํา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ที่ทํากับผู้ตั้งโรงรับจํานําโดยอนุญาตรัฐบาลแต่เพียงที่ไม่ขัดกับกฎหมาย หรือกฎข้อบังคับว่าด้วยโรง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จํานํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒
สิทธิและหน้าทีก่ขาองผู้จํานําและผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้รกับงานคณะกรรมการกฤษฎี
จํานํา กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๗๕๘ ผู้รับจํานําชอบที่จะยึดของจํานําไว้ได้ทั้งหมดจนกว่าจะได้รับชําระหนี้
และค่าอุปกรณ์ครบถ้
สํานักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
น กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๗๕๙ ผู้รับจํสําานํนัากจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าต้องรักษาทรัพย์สินจํกาานําไว้ให้ปลอดภั
สํานัยกงานคณะกรรมการกฤษฎี
และต้องสงวน กา
ทรัพย์สินจํานํานั้นสํเช่ นอย่างวิญญูชนจะพึงสงวนทรัพย์สินของตนเอง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๗๖๐ ถ้ า ผูสํ้ รานัั บกจํงานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นํ า เอาทรั พ ย์ สิ น ซึ่ งกจําา นํ า ออกใช้ สํเ อง
านักหรื อ เอาไปให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๒๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
บุคคลภายนอกใช้สอยหรือเก็บรักษาโดยผู้จํานํามิได้ยินยอมด้วยไซร้ ท่านว่าผู้รับจํานําจะต้องรับผิด
สํานักเพื ่อที่ทรัพย์สินจํานํานั้นกสูา ญหาย หรือสํบุาบนัสลายไปอย่
งานคณะกรรมการกฤษฎี างใด ๆ แม้ทกั้งาเป็นเพราะเหตุสําสนัุดกวิงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สัย เว้นแต่จะ กา
พิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร ๆ ก็คงจะต้องสูญหาย หรือบุบสลายอยู่นั่นเอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๖๑ ถ้ามิได้กําหนดไว้เป็นอย่างอื่นในสัญญา หากมีดอกผลนิตินัยงอกจาก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทรัพย์สิ นนั้น อย่ างไร ท่า นให้ ผู้รั บจํานํา จั ด สรรใช้ เป็ นค่าดอกเบี้ ยอันค้ า งชํ าระแก่ ตน และถ้ าไม่ มี
ดอกเบี้ยค้างชําระสําท่นัากนให้ จัดสรรใช้ต้นเงินแห่กงหนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ้อันได้จํานําสํทรั
านักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์สินเป็นประกันนั้น กา

มาตรากา๗๖๒ ค่าใช้สํจา่านัยใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๆ อันควรแก่การบํากรุางรักษาทรัพย์สสํินานัจํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นํานั้น ผู้จํานํา กา
จําต้องชดใช้ให้แก่ผู้รับจํานํา เว้นแต่จะได้กําหนดไว้เป็นอย่างอื่นในสัญญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๖๓ ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีดั่งจะกล่าวต่อไปนี้ เมื่อพ้นหกเดือนนับแต่วัน
สํานักส่งานคณะกรรมการกฤษฎี
งคืน หรือขายทอดตลาดทรั
กา พย์สินจํานํสําานัคืกองานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ฟ้ อ งเรี ย กค่ า สิ น ไหมทดแทนเพื่ อ ความบุ บ สลายอั น ผู้ รั บ จํ า นํ า ก่ อ ให้ เ กิ ด แก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทรัพย์สินจํานํา
(๒) ฟ้องเรียกให้ชดใช้สํคานั่าใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จ่ายเพื่อการบํารุงรักษาทรัพย์สินจํานําสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแก่ผู้รับจํานํา เพราะความ
ชํารุดบกพร่องในทรั
สํานัพกย์งานคณะกรรมการกฤษฎี
สินจํานําซึ่งไม่เห็นประจักากษ์ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การบังคับจํานํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๗๖๔ เมื่อจะบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานังกคังานคณะกรรมการกฤษฎี
บจํานํา ผู้รับจํานําต้องบอกกล่
กา าวเป็นสํหนั
านักงสืงานคณะกรรมการกฤษฎี
อไปยังลูกหนี้ กา
ก่อนว่า ให้ชําระหนี้และอุปกรณ์ภายในเวลาอันควรซึ่งกําหนดให้ในคําบอกกล่าวนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าลูกหนี้ละเลยไม่ปฏิบัติตามคําบอกกล่าว ผู้รับจํานําชอบที่จะเอาทรัพย์สินซึ่งจํานํา
สํานักออกขายได้ แต่ต้องขายทอดตลาด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง ผู้รับจํานําต้องมีจดหมายบอกกล่าวไปยังผู้จํานําบอกเวลาและสถานที่ซึ่งจะขาย
ทอดตลาดด้วย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๗๖๕ ถ้าไม่สํสาามารถจะบอกกล่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าวก่อนได้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ผู้รับจํานําจะเอาทรั พย์สินจํานํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ออกขายทอดตลาดเสียในเมื่อหนี้ค้างชําระมาล่วงเวลาเดือนหนึ่งแล้วก็ให้ทําได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๖๖ ถ้าจํานําตั๋วเงิน ท่านให้ผู้รับจํานําเก็บเรียกเงินตามตั๋วเงินนั้นในวันถึง
สํานักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนด ไม่จําเป็นต้องบอกกล่
กา าวก่อน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๖๗ เมื่อบังคับจํานําได้เงินจํานวนสุทธิเท่าใด ท่านว่าผู้รับจํานําต้องจัดสรร
สํานักชํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าระหนี้และอุปกรณ์เพืก่อาให้เสร็จสิ้นไปสําและถ้ ายังมีเงินเหลือก็ต้องส่กางคืนให้แก่ผู้จําสํนํานัากหรื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี อแก่บุคคลผู้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๒๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ควรจะได้เงินนั้น
ถ้าได้เกงินา น้อยกว่าจํานวนค้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี างชําระ ท่านว่าลูกหนี้กก็ยา ังคงต้องรับใช้สํใานส่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
นที่ขาดอยู่นั้น กา

สํมาตรา ๗๖๘ ถ้าจํานําทรัพกย์า สินหลายสิ่งเพื


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่อกประกั นหนี้แต่รายหนึ่งรายเดี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยว ท่าน
ว่าผู้รับจํานําจะเลือกเอาทรัพย์สินสิ่งหนึ่งสิ่งใดออกขายก็ได้ แต่จะขายจนเกินกว่าที่จําเป็นเพื่อใช้เงิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามสิทธิแห่งตนนั้นหาได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ความระงั บสิ้นไปแห่งการจํานํากา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๖๙ อันจํานําย่อมระงับสิ้นไป
(๑) เมืก่อา หนี้ซึ่งจํานําเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานนักประกั นอยู่นั้นระงับสิ้นไปเพราะเหตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ประการอื ่นมิใช่เพราะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อายุความ หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เมื่อผู้รับจํานํายอมให้ทรัพย์สินจํานํากลัสํบานัคืกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไปสู่ครอบครองของผู้จกําานํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๑๔
เก็บของในคลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งสินค้สําานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทเบ็ดเสร็จทัว่ ไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๗๗๐ อันว่าสํนายคลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งสินค้านั้น คือบุคคลผู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้รับทําการเก็
สําบนัรักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ษาสินค้าเพื่อ กา
บําเหน็จเป็นทางค้าปกติของตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๗๗๑ บทบัสํญาญั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิทั้งหลายในประมวลกฎหมายนี
กา ้อันว่สําาด้นัวกยฝากทรั พย์นั้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ท่านให้นํามาใช้บังคับแก่การเก็บของในคลังสินค้าด้วยเพียงเท่าที่ไม่ขัดกับบทบัญญัติในลักษณะนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๗๒ บทบัญญัติมาตรา ๖๑๖, ๖๑๙, ๖๒๓, ๖๒๕, ๖๓๐, ๖๓๑ และ ๖๓๒
สํานักอังานคณะกรรมการกฤษฎี
นว่าด้วยการรับขนนั้นกท่าานให้นํามาใช้สํบานัังกคังานคณะกรรมการกฤษฎี
บแก่การเก็บของในคลักงสิา นค้า อนุโลมตามควรแก่ บท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๗๗๓ นายคลังสินกค้าาจําต้องยอมให้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัผกู้ทงานคณะกรรมการกฤษฎี
รงใบรับของคลังสินค้กาา หรือผู้ทรง
ประทวนสินค้าตรวจสินค้าและเอาตัวอย่างไปได้ในเวลาอันควรระหว่างเวลาทํางานทุกเมื่อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๗๔ นายคลังสินค้าจะเรียกให้ผสํู้ฝาากถอนสิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นค้าไปก่อนสิ้นระยะเวลาที่ตก
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลงกันไว้นั้น ท่านว่าหาอาจทําได้ไม่ ถ้าไม่มีกําหนดเวลาส่งคืนสินค้า นายคลังสินค้าจะส่งคืนได้ต่อเมื่อ
สํานักบอกกล่ าวให้ผู้ฝากทราบล่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา วงหน้าเดือนหนึ
สํานัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่ท่านมิให้ผู้ฝากต้องถู
กากบังคับให้ถอนสิ
สํานันกค้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าไปก่อนเวลา กา
- ๑๒๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ล่วงแล้วสองเดือน นับแต่วันที่ได้ส่งมอบฝากไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒
ใบรับของคลังกสิานค้าและประทวนสิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นค้า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๗๗๕ ถ้าผู้ฝากต้องการไซร้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นายคลั
สํานังกสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นค้าต้องส่งมอบเอกสารซึ
กา ่งเอาออก
จากทะเบียนมีต้นขั้วเฉพาะการอันมีใบรับของคลังสินค้าฉบับหนึ่ง และประทวนสินค้าฉบับหนึ่งให้แก่ผู้
สํานักฝาก
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๗๗๖ อันใบรับของคลั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งสินค้านั้นสําย่นัอกมให้ สิทธิแก่ผู้ฝากที่จะสลั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กหลังโอน
กรรมสิทธิ์ในสินค้าไปเป็นของผู้อื่นได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๗๗ อันประทวนสินค้านั้น ย่อมให้สิทธิแก่ผู้ฝากที่จะสลักหลังจํานําสินค้า
ซึ่งจดแจ้งไว้ในประทวนได้ โดยไม่ต้องส่งมอบสินค้านั้นแก่ผู้รสํับาสลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กหลัง
แต่ว่าเมื่อผู้ฝากประสงค์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จะจํานําสินค้า ต้องแยกประทวนออกเสี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยจากใบรับของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คลังสินค้า และส่งมอบประทวนนั้นให้แก่ผู้รับสลักหลัง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๗๘ ใบรับของคลังสินค้าและประทวนสินค้า ต้องมีเลขลําดับตรงกันกับ
สํานักเลขในต้ นขั้ว และลงลายมื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อชื่อของนายคลั
สํานังกสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นค้า กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง ใบรับ ของคลั งสิ นค้ าและประทวนสินค้ านั้ น ท่ า นให้ มี ร ายละเอียดดั่ งกล่า ว
ต่อไปนี้ คือ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ชื่อหรือยี่ห้อ และสํานักของผู้ฝาก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี(๒) ทีก่ตาั้งคลังสินค้า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ค่าบําเหน็จสําหรับเก็บรักษา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) สภาพของสินค้าที่เก็บรักษา และน้ําหนักหรือขนาดแห่งสินค้านั้น กับทั้งสภาพ
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านวน และเครื่องหมายหี กา บห่อ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) สถานที่และวันออกใบรับของคลังสินค้าและประทวนสินค้านั้น
สํ(๖)
านักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าได้กําหนดกันไว้ว่าให้กเก็าบสินค้าไว้ชั่วสํเวลาเท่ าใดให้แจ้งกําหนดนั้นกด้าวย
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๗) ถ้าของที่เก็บรักษามีประกันภัย ให้แสดงจํานวนเงินที่ประกันภัยกําหนดเวลาที่
สํานักประกั นภัย และชื่อหรือยีก่หา ้อของผู้รับประกั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ภัยด้วย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง นายคลังสินค้าต้องจดรายละเอียดทั้งนี้ลงไว้ในต้นขั้วด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๗๙ อันใบรับของคลังสินค้าก็ดี ประทวนสินค้าก็ดี ท่านว่าหาอาจออกให้
สํานักหรื อสลักหลังให้แก่ผู้ถือกได้าไม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๘๐ เมื่อใดผู้ฝากสลักหลังประทวนสินค้าให้แก่ผู้รับจํานําคู่สัญญาต้องจด
สํานักแจ้ งการที่สลักหลังนั้นลงไว้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ในใบรับของคลั
สํานักงสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นค้าด้วย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๒๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ถ้ามิได้จดแจ้งไว้ดั่งนั้น ท่านว่าการจํานํานั้นหาอาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ผู้ซื้อสินค้าสืบไป
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นได้ไม่ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๗๘๑ เมื่อประทวนสิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กานค้าได้สลักหลั
สํางนัและส่ งมอบแก่ผู้รับจํานํากแล้า ว ให้ผู้ฝาก
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
กับผู้รับจํานําจดลงไว้ในประทวนสินค้าเป็นสําคัญ ว่าได้จดข้อความตามที่บัญญัติในมาตราก่อนไว้ในใบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รับของคลังสินค้าแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๘๒ เมื่อใดผู้ฝากจํานําสินค้าและส่งมอบประทวนสินค้าแก่ผู้รับสลักหลัง
สํานักแล้ ว ผู้รับสลักหลังเช่นนัก้นาต้องมีจดหมายบอกกล่
งานคณะกรรมการกฤษฎี าวแก่นายคลังสินค้กาาให้ทราบจํานวนหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ซึ่งจํานําสินค้า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นั้นเป็นประกัน ทั้งจํานวนดอกเบี้ยและวันอันหนี้นั้นจะถึงกําหนดชําระ เมื่อนายคลังสินค้าได้รับคํา
บอกกล่าวเช่นนั้นสํแล้านัวกต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องจดรายการทั้งนั้นลงในต้
กา นขั้ว สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าและมิได้จดในต้นขั้วเช่นนั้น ท่านว่าการจํานํานั้นหาอาจจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้
สํานักเจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนี้ทั้งหลายของผู้ฝากได้กา ไม่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๘๓ ผู้ทรงเอกสารอันมีทั้งใบรับของคลั งสินค้าและประทวนสินค้านั้นจะให้
นายคลังสินค้าแยกสินค้าที่เก็บรักษาไว้สํอานัอกเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นหลายส่วนและให้ส่งมอบเอกสารแก่
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตนส่วนละใบก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีเช่นนี้ผู้ทรงเอกสารต้องคืนเอกสารเดิมแก่นายคลังสินค้า
สํอนึ
านั่งกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ค่าใช้จ่ายในการแยกสินกค้า าและการส่งสํมอบเอกสารใหม่ นั้น ผู้ทรงเอกสารต้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา องรับ
ใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๘๔ กรรมสิทธิ์ในสินค้าที่เก็บรักษาไว้นั้น ท่านว่าอาจโอนได้แต่ด้วยสลัก
หลังใบรับของคลัสํงสิานันกค้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าเท่านั้น กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๗๘๕ สินค้าสํซึา่งนัเก็กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บรักษาไว้นั้นอาจจํานํากได้
า แต่ด้วยสลักสํหลั
านังกประทวนสิ นค้า
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เมื่อ ประทวนสิ นค้ า ได้ ส ลั ก หลั งแล้ ว สิ นค้ านั้ นจะจํ า นําแก่ ผู้อื่นอี กชั้น หนึ่งด้ว ยสลัก หลั ง ใบรั บ ของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คลังสินค้าอย่างเดียวกับสลักหลังประทวนสินค้านั้นก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๘๖ ตราบใดสินค้าที่เก็บรักษาไว้ไม่ได้ จํานํา ท่านว่ าจะโอนใบรับของ
คลังสินค้าและประทวนสิ นค้าไปต่างหากจากกักนา ไม่ได้อยู่ตราบนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๗๘๗ ในการสลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หลังลงในประทวนสินกค้าาครั้งแรกนั้นสํต้านัอกงจดแจ้ งจํานวน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หนี้ที่จํานําสินค้าเป็นประกัน ทั้งจํานวนดอกเบี้ยที่จะต้องชําระและวันที่หนี้จะถึงกําหนดชําระด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๘๘ อันสินค้าที่เก็บรักษาไว้ในคลังนั้น จะรับเอาไปได้แต่เมื่อเวนคืนใบรับ
สํานักของคลั งสินค้า
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๘๙ ถ้าได้แยกประทวนสินค้าออกสลักหลังจํานําแล้วจะรับเอาสินค้าได้แต่
สํานักเมืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อเวนคืนทั้งใบรับของคลั
กา งสินค้าและประทวนสิ นค้า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๒๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
แต่ว่าผู้ทรงใบรับของคลังสินค้าอาจให้คืนสินค้าแก่ตนได้ในเวลาใด ๆ เมื่อวางเงินแก่
สํานักนายคลั งสินค้าเต็มจํานวนหนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ซึ่งลงไว้ใสํนประทวนสิ นค้า กับทั้งดอกเบี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ยจนถึงวันกํสําานัหนดชํ าระหนี้นั้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ด้วย
สํอนึ
านั่งกงานคณะกรรมการกฤษฎี
จํานวนเงินที่วางเช่นนีก้นาายคลังสินค้าสํต้านัอกงชํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าระแก่ผู้ทรงประทวนสิ กา นค้าในเมื่อ
เขาเวนคืนประทวนนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๗๙๐ ถ้าหนี้ซึ่งสินค้กาาจํานําเป็นประกั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกมิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ชําระเมื่อวันถึงกําหนดไซร้
กา ผู้ทรง
ประทวนสินค้าเมื่อได้ยื่นคําคัดค้านตามระเบียบแล้วชอบที่จะให้นายคลังสินค้าขายทอดตลาดสินค้า
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นได้ แต่ท่านห้ามมิให้ขกายทอดตลาดก่
า สํอานันแปดวั นนับแต่วันคัดค้านกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๗๙๑ ผู้ทรงประทวนสิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นค้าต้องมีจสํดหมายบอกกล่ าวให้ผู้ฝากทราบเวลาและ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สถานที่จะขายทอดตลาด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๙๒ นายคลังสินค้าต้องหักเงินที่ค้างชําระแก่ตนเนื่องด้วยการเก็บรักษา
สินค้านั้นจากจํานวนเงินสุทธิที่ขายทอดตลาดได้ และเมื่อผูสํ้ทารงประทวนสิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นค้านําประทวนมาเวนคืน
ต้องเอาเงินที่เหลือนั้นให้ตามจํานวนที่คสํ้าางชํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าระแก่เขา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ามีเงินเหลือเท่าใด ต้องใช้แก่ผู้รับจํานําคนหลังเมื่อเขาเวนคืนใบรับของคลังสินค้า
หรือถ้าไม่มีผู้รับจํสําานํนัากคนหลั ง หรือผู้รับจํานําคนหลั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งได้รับชําสํระหนี ้แล้ว ก็ให้ชําระเงินที่เหลื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ออยู่นั้นแก่
ผู้ทรงใบรับของคลังสินค้า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๙๓ ถ้าจํานวนเงินสุทธิที่ขายทอดตลาดได้ไม่พอชําระหนี้แก่ผู้ทรงประทวน
สิน ค้า ไซร้ นายคลั
สํานัง สิกงานคณะกรรมการกฤษฎี
น ค้ าต้ อ งคื น ประทวนสิกาน ค้า แก่เ ขา กัสํบานัจดบอกจํ า นวนเงิ นที่ ไ ด้ ชกําา ระลงไว้ ใ น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประทวนสินค้านั้น แล้วจดลงไว้ในสมุดบัญชีของตนด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๙๔ ผู้ทรงประทวนสินค้าจะมีสิทธิไล่เบี้ยเอาจํานวนเงินที่ยังค้างชําระนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แก่ผู้สลักหลังคนก่อน ๆ ทั้งหมด หรือแต่คนใดคนหนึ่งได้ แต่ต้องได้ขายทอดตลาดภายในเดือนหนึ่งนับ
สํานักแต่ วันคัดค้าน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง ท่านห้ามมิให้ฟ้องไล่เบี้ยเมื่อพ้นเวลาปีหนึ่งนับแต่วันขายทอดตลาด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๙๕ บทบัญญัติทั้งหลายในประมวลกฎหมายนี้อันว่าด้วยตั๋วเงินนั้นท่านให้
สํานักใช้ ได้ถึงประทวนสินค้าและใบรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บของคลั
สํานังสิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ค้าซึ่งได้สลักหลังอย่ากงประทวนสิ
า นค้สําานันั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ด้วย เพียงที่ไม่ กา
ขัดกับบทบัญญัติทั้งหลายในลักษณะนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๙๖ ถ้าเอกสารมีทั้งใบรับของคลังสินค้าและประทวนสินค้าหรือแต่อย่าง
สํานักหนึ ่งอย่างใดสูญหายไป กเมืา ่อผู้ทรงเอกสารนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ๆ ให้ประกันตามสมควรแล้
กา วจะให้นสํายคลั งสินค้าออกให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ใหม่ก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีเช่นนี้นายคลังสินค้าต้องจดหมายลงไว้ในต้นขั้วเป็นสําคัญ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๒๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ลักษณะ ๑๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตัวแทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทเบ็ดเสร็จทัว่ ไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๗๙๗ อันว่าสัสําญนัญาตั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี วแทนนั้น คือสัญญาซึ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่งให้บุคคลคนหนึ
สํานั่งกเรีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยกว่าตัวแทน กา
มีอํานาจทําการแทนบุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าตัวการ และตกลงจะทําการดั่งนั้น
สํอัานนัความเป็ นตัวแทนนั้นจะเป็กานโดยตั้งแต่งแสดงออกชั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ดหรือโดยปริยายก็กาย่อมได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรก๗๙๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า กิจการอั
สํานนักใดท่ านบังคับไว้โดยกฎหมายว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าต้องทําสํเป็านันกหนั งสือ การตั้ง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตัวแทนเพื่อกิจการอันนั้นก็ต้องทําเป็นหนังสือด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กิจการอันใดท่านบังคับไว้ว่าต้องมีหลักฐานเป็ นหนังสือ การตั้งตัวแทนเพื่อกิจการอัน
นั้นก็ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๗๙๙ ตัวการคนใดใช้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาบุคคลผู้ไร้ความสามารถเป็ นตัวแทน ท่านว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าตัวการคน
นั้นย่อมต้องผูกพันในกิจการที่ตัวแทนกระทํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๐๐ ถ้าตัวแทนได้รับมอบอํานาจแต่เฉพาะการ ท่านว่าจะทําการแทน
ตัวการได้แต่เพียงในสิ
สํานัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่จําเป็น เพื่อให้กิจอันเขาได้
กา มอบหมายแก่
สํานักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
นนั้นสําเร็จลุล่วงไป กา

มาตรากา๘๐๑ ถ้าตัวแทนได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี รับมอบอํานาจทั่วไป กท่าานว่าจะทํากิจสํใดานักๆงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในทางจัดการ กา
แทนตัวการก็ย่อมทําได้ทุกอย่าง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่การเช่นอย่างจะกล่าวต่อไปนี้ ท่านว่าหาอาจจะทําได้ไม่ คือ
(๑) ขายหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อจํานองอสั
สํางนัหาริ มทรัพย์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์กว่าสามปีขึ้นไป
สํ(๓)
านักให้
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ประนีประนอมยอมความ
(๕) ยื่นกาฟ้องต่อศาล สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) มอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการพิจารณา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๐๒ ในเหตุ ฉุ ก เฉิ น เพื่ อ จะป้ อ งกั น มิ ใ ห้ ตั ว การต้ อ งเสี ย หาย ท่ า นให้
สํานักสังานคณะกรรมการกฤษฎี
นนิษฐานไว้ก่อนว่าตัวกแทนจะทํ
า าการใด
สํานักๆงานคณะกรรมการกฤษฎี
เช่นอย่างวิญญูชนจะพึ
กางกระทํา ก็ย่อสํมมี
านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ํานาจจะทําได้ กา
ทั้งสิ้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๘๐๓ ตัวแทนไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มีสิทธิจะได้รับบําเหน็กจา เว้นแต่จะได้สํมานัีขก้องานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ตกลงกันไว้ใน กา
- ๑๒๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
สัญญาว่ามีบําเหน็จ หรือทางการที่คู่สัญญาประพฤติต่อกันนั้นเป็นปริยายว่ามีบําเหน็จ หรือเคยเป็น
สํานักธรรมเนี ยมมีบําเหน็จ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๘๐๔ ถ้าในสัญญาอักนา เดียวตัวการคนเดี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
วตั้งตัวแทนหลายคนเพื
กา่อแก่การอัน
เดียวกันไซร้ ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าตัวแทนจะต่างคนต่างทําการนั้น ๆ แยกกันไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๘๐๕ ตัวแทนนั้น เมืกา่อไม่ได้รับความยิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกยอมของตั วการจะเข้าทํกาานิติกรรมอัน
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ใดในนามของตัวการทํากับตนเองในนามของตนเองหรือในฐานเป็นตัวแทนของบุคคลภายนอกหาได้ไม่
สํานักเว้งานคณะกรรมการกฤษฎี
นแต่นิติกรรมนั้นมีเฉพาะแต่
กา การชําระหนี
สํานัก้ งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๘๐๖ ตัวการซึ่งมิไกด้าเปิดเผยชื่อจะกลั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
แสดงตนให้ปรากฏและเข้
กา ารับเอา
สัญญาใด ๆ ซึ่งตัวแทนได้ทําไว้แทนตนก็ได้ แต่ถ้าตัวการผู้ใดได้ยอมให้ตัวแทนของตนทําการออกหน้า
สํานักเป็ นตัวการไซร้ ท่านว่ากตัาวการผู้นั้นหาอาจจะทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี าให้เสื่อมเสียถึงสิกทาธิของบุคคลภายนอกอั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นเขามีต่อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตัวแทน และเขาขวนขวายได้มาแต่ก่อนที่รู้ว่าเป็นตัวแทนนั้นได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หน้าที่และความรับผิดของตัวแทนต่อตัวการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๘๐๗ ตัวแทนต้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกงทํ าการตามคําสั่งแสดงออกชั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดหรือโดยปริ
สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
ายของตัวการ กา
เมื่อไม่มีคําสั่งเช่นนั้น ก็ต้องดําเนินตามทางที่เคยทํากันมาในกิจการค้าขายอันเขาให้ตนทําอยู่นั้น
สํอนึ
านั่กง งานคณะกรรมการกฤษฎี
บทบัญญัติมาตรา ๖๕๙กา ว่ าด้ วยการฝากทรั พย์นั้น ท่านให้นํามาใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ด้วยโดย
อนุโลมตามควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๐๘ ตัวแทนต้องทําการด้วยตนเอง เว้นแต่จะมีอํานาจใช้ตัวแทนช่วงทํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๐๙ เมื่อตัวการมีประสงค์จะทราบความเป็นไปของการที่ได้มอบหมายแก่
ตัวแทนนั้นในเวลาใดสํานักๆงานคณะกรรมการกฤษฎี
ซึ่งสมควรแก่เหตุ ตัวกแทนก็
า ต้องแจ้งสํให้
านัตกัวงานคณะกรรมการกฤษฎี
การทราบ อนึ่งเมื่อการเป็
กา นตัวแทน
นั้นสิ้นสุดลงแล้ว ตัวแทนต้องแถลงบัญชีด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๑๐ เงินและทรัพย์สินอย่างอื่นบรรดาที่ตัวแทนได้รับไว้เกี่ยวด้วยการเป็น
ตัวแทนนั้น ท่านว่สําาตันัวกแทนต้ องส่งให้แก่ตัวการจงสิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง สิทธิทั้งหลายซึ่งตัวแทนขวนขวายได้มาในนามของตนเอง แต่โดยฐานที่ทําการ
สํานักแทนตั วการนั้น ตัวแทนก็กาต้องโอนให้แก่สํตาัวนัการจงสิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๑๑ ถ้าตัวแทนเอาเงินซึ่งควรจะได้ส่งแก่ตัวการ หรือซึ่งควรจะใช้ในกิจของ
สํานักตังานคณะกรรมการกฤษฎี
วการนั้นไปใช้สอยเป็นกประโยชน์
า ตนเสีสํายนักท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านว่าตัวแทนต้องเสียดอกเบี
กา ้ยในเงินนัสํ้นานันักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่วันที่ได้เอา กา
- ๑๒๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ไปใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๑๒ ถ้ามีความเสียหายเกิดขึ้นอย่างใด ๆ เพราะความประมาทเลินเล่อของ
ตัวแทนก็ดี เพราะไม่
สํานักทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําการเป็นตัวแทนก็ดี กหรื
า อเพราะทําสํการโดยปราศจากอํ านาจหรืกาอนอกเหนือ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อํานาจก็ดี ท่านว่าตัวแทนจะต้องรับผิด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๘๑๓ ตัวแทนผู้ใดตัก้งาตัวแทนช่วงตามที


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก่ตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัวการระบุตัวให้ตั้ง ท่ากนว่
า าตัวแทนผู้
นั้นจะต้องรับผิดแต่เพียงในกรณีที่ตนได้รู้ว่าตัวแทนช่วงนั้นเป็นผู้ที่ไม่เหมาะแก่การ หรือเป็นผู้ที่ไม่
สํานักสมควรไว้ วางใจแล้วและมิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาได้แจ้งความนัสํา้นนัให้ ตัวการทราบหรือมิได้เลิกกา ถอนตัวแทนช่สํวานังนักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ้นเสียเอง กา

สํมาตรา ๘๑๔ ตัวแทนช่วงย่กอามรับผิดโดยตรงต่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ตัวการฉันใดกลับกันก็ฉกันานั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หน้าที่และความรับผิดของตัวการต่อตัวแทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๘๑๕ ถ้าตัวแทนมีประสงค์ไซร้ ตัวการต้องจ่ายเงินทดรองให้แก่ตัวแทนตาม
จํานวนที่จําเป็น เพื
สํา่อนัทํกงานคณะกรรมการกฤษฎี
าการอันมอบหมายแก่ตกัวาแทนนั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๘๑๖ ถ้าในการจั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดทํากิจการอันเขามอบหมายแก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ตนนั้นสําตันัวกแทนได้ ออกเงิน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทดรองหรือออกเงินค่าใช้จ่ายไป ซึ่งพิเคราะห์ตามเหตุควรนับว่าเป็นการจําเป็นได้ไซร้ ท่านว่าตัวแทน
จะเรียกเอาเงินชดใช้
สํานัจกากตั วการ รวมทั้งดอกเบีก้ยา นับแต่วันที่ได้สําอนัอกเงิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี นไปนั้นด้วยก็ได้ กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถ้าในการจัดทํากิจการอันเขามอบหมายแก่ตนนั้น ตัวแทนต้องรับภาระเป็นหนี้ขึ้น
สํานักอย่ างหนึ่งอย่างใด ซึ่งพิกเาคราะห์ตามเหตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัคกวรนั บว่าเป็นการจําเป็นกาได้ไซร้ ท่านว่าสํตัานัวกแทนจะเรี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ยกให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตัวการชําระหนี้แทนตนก็ได้ หรือถ้ายังไม่ถึงเวลากําหนดชําระหนี้ จะให้ตัวการให้ประกันอันสมควรก็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ได้
ถ้าในการจั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดทํากิจการอัสํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
เขามอบหมายแก่ตนนัก้นา เป็นเหตุให้ตสํัวานัแทนต้ องเสียหาย
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อย่างหนึ่งอย่างใด มิใช่เป็นเพราะความผิดของตนเองไซร้ ท่านว่าตัวแทนจะเรียกเอาค่าสินไหมทดแทน
จากตัวการก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๘๑๗ ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําทนัี่กมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีบําเหน็จตัวแทนถ้าไม่มกีขา ้อสัญญาตกลงกั
สํานันกไว้ เป็นอย่างอื่น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ท่านว่าบําเหน็จนั้นพึงจ่ายให้ต่อเมื่อการเป็นตัวแทนได้สุดสิ้นลงแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๑๘ การในหน้าที่ตัวแทนส่วนใดตัวแทนได้ทํามิชอบในส่วนนั้น ท่านว่า
สํานักตังานคณะกรรมการกฤษฎี
วแทนไม่มีสิทธิจะได้บํากเหน็
า จ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๑๙ ตัวแทนชอบที่จะยึดหน่วงทรัพย์สินอย่างใด ๆ ของตัวการอันตกอยู่
สํานักในความครอบครองของตนเพราะเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา นสํตัาวนัแทนนั ้นเอาไว้ได้ จนกว่ากจะได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า รับเงินบรรดาค้ างชําระแก่ตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๓๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
เพราะการเป็นตัวแทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๔
ความรับผิดของตัวการและตั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วแทนต่สํอาบุนัคกงานคณะกรรมการกฤษฎี
คลภายนอก กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๘๒๐ ตัวการย่อมมีกาความผูกพันต่สําอนับุกคงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี คลภายนอกในกิจการทักา ้งหลายอัน
ตัวแทนหรือตัวแทนช่วงได้ทําไปภายในขอบอํานาจแห่งฐานตัวแทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๒๑ บุคคลผู้ใดเชิดบุคคลอีกคนหนึ่งออกแสดงเป็นตัวแทนของตนก็ดีรู้แล้ว
ยอมให้บุคคลอีกคนหนึ ่งเชิดตัวเขาเองออกแสดงเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นตัวแทนของตนก็ ดี ท่านว่าบุคคลผูก้นาั้นจะต้องรับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผิดต่อบุคคลภายนอกผู้สุจริตเสมือนว่าบุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเป็นตัวแทนของตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๒๒ ถ้าตัวแทนทําการอันใดเกินอํานาจตัวแทน แต่ทางปฏิบัติของตัวการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทําให้บุคคลภายนอกมีมูลเหตุอันสมควรจะเชื่อว่าการอันนั้นอยู ่ภายในขอบอํานาจของตัวแทนไซร้ท่าน
ให้ใช้บทบัญญัติมาตราก่อนนี้เป็นบทบังสํคัานับกแล้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วแต่กรณี
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๘๒๓ ถ้าตัวแทนกระทํ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าการอันใดอั
สํานันกหนึ ่งโดยปราศจากอํานาจก็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดี หรือทํา
นอกทําเหนือขอบอํานาจก็ดี ท่านว่าย่อมไม่ผูกพันตัวการ เว้นแต่ตัวการจะให้สัตยาบันแก่การนั้น
ถ้าตัวการไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ให้สัตยาบั สํานนักท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านว่าตัวแทนย่อมต้องรั
กาบผิดต่อบุคคลภายนอกโดยลํ าพัง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตนเอง เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าบุคคลภายนอกนั้นได้รู้อยู่ว่าตนทําการโดยปราศจากอํานาจ หรือทํา
นอกเหนือขอบอําสํนาจ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๘๒๔ ตัวแทนคนใดทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าสัญญาแทนตัวการซึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งอยู่ต่างประเทศและมี ภูมิลําเนา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ในต่างประเทศ ท่านว่าตัวแทนคนนั้นจะต้องรับผิดตามสัญญานั้นแต่ลําพังตนเอง แม้ทั้งชื่อของตัวการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จะได้เปิดเผยแล้ว เว้นแต่ข้อความแห่งสัญญาจะแย้งกันกับความรับผิดของตัวแทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๒๕ ถ้าตัวแทนเข้าทําสัญญากับบุคคลภายนอกโดยเห็นแก่อามิสสินจ้าง
เป็นทรัพย์สินอย่าสํงใด ๆ หรือประโยชน์อย่างอื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่นอันบุคคลภายนอกได้ ให้เป็นลาภส่วนตักวาก็ดี หรือให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
คํามั่นว่าจะให้ก็ดี ท่านว่าตัวการหาต้องผูกพันในสัญญาซึ่งตัวแทนของตนได้ทํานั้นไม่ เว้นแต่ตัวการจะ
สํานักได้ ยินยอมด้วย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความระงับสิ้นไปแห่งสัญญาตัวแทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๒๖ อันสัญญาตัวแทนย่อมระงับสิ้นไปด้วยตัวการถอนตัวแทน หรือด้วย
สํานักตังานคณะกรรมการกฤษฎี
วแทนบอกเลิกเป็นตัวแทน
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๓๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
อนึ่ง สัญญาตัวแทนย่อมระงับสิ้นไป เมื่อคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตาย หรือตกเป็นผู้
สํานักไร้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ความสามารถ หรือล้มกละลาย
า เว้นแต่สํจานัะปรากฏว่ าขัดกับข้อสัญญาหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อสภาพแห่สํงากินัจกการนั ้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๘๒๗ ตัวการจะถอนตั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วแทน และตัสํวานัแทนจะบอกเลิ กเป็นตัวแทนเสี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยในเวลา
ใด ๆ ก็ได้ทุกเมื่อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คู่สัญญาฝ่ายซึ่งถอนตัวแทนหรือบอกเลิกเป็นตัวแทนในเวลาที่ไม่สะดวกแก่อีกฝ่าย
หนึ่ง จะต้องรับผิสํดาต่นัอกคูงานคณะกรรมการกฤษฎี
่สัญญาฝ่ายนั้นในความเสี
กา ยหายอย่างใด
สํานักๆงานคณะกรรมการกฤษฎี
อันเกิดแต่การนั้น เว้นกาแต่ในกรณีที่
เป็นความจําเป็นอันมิอาจจะก้าวล่วงเสียได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๒๘ เมื่อสัญญาตัวแทนระงับสิ้นไปเพราะตัวการตายก็ดี ตัวการตกเป็นผู้ไร้
ความสามารถหรืสํอานัล้กมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ละลายก็ดี ท่านว่าตัวแทนต้
กา องจัดการอั
สํานันกสมควรทุ กอย่างเพื่อจะปกปั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กรักษา
ประโยชน์อันเขาได้มอบหมายแก่ตนไปจนกว่าทายาทหรือผู้แทนของตัวการจะอาจเข้าปกปักรักษา
สํานักประโยชน์ นั้น ๆ ได้ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๒๙ เมื่อสัญญาตัวแทนระงับสิ้นสํไปเพราะตั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วแทนตายก็ดี ตัวแทนตกเป็นผู้
ไร้ความสามารถหรือล้มละลายก็ดี ท่าสํนว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าทายาทหรือบุคคลผู้รับหน้าที่ดูแลทรัพสํย์ามนัรดกของตั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วแทน
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยชอบด้วยกฎหมายต้องบอกกล่าวแก่ตัวการและจัดการเพื่อปกปักรักษาประโยชน์ของตัวการไป
ตามสมควรแก่พฤติ
สํากนัารณ์ จนกว่าตัวการอาจเข้กาาปกปักรักษาประโยชน์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นั้น ๆ ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๘๓๐ อันเหตุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัทกี่ ทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําให้สัญญาตัวแทนระงักาบสิ้นไปนั้นจะเกิ
สํานัดกแต่ ตัวการหรือ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตัวแทนก็ตาม ท่านห้ามมิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง จนกว่าจะได้บอกกล่าวเหตุนั้น ๆ
ไปยังคู่สัญญาฝ่ายนั
สํานั้นกแล้ ว หรือจนกว่าคู่สัญญาฝ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ายนั้นจะได้ทสํราบเหตุ แล้ว
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๘๓๑ อันความระงั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บสิ้นไปแห่งสัญญาตักวาแทนนั้น ท่านห้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัามมิ ให้ยกขึ้นเป็น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ทําการโดยสุจริต เว้นแต่บุคคลภายนอกหากไม่ทราบความนั้นเพราะความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประมาทเลินเล่อของตนเอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๓๒ ในเมื่อสัญญาตัวแทนระงับสิ้นไป ตัวการชอบที่จะเรียกให้เวนคืน
หนังสือมอบอํานาจอย่
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
งใด ๆ อันได้ให้ไว้แก่ตกัวาแทนนั้นได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตัวแทนค้าต่าง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๘๓๓ อันว่าตัสําวนัแทนค้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าต่าง คือบุคคลซึ่งในทางค้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าขายของเขาย่ อมทําการซื้อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หรือขายทรัพย์สินสําหรื อรับจัดทํากิจการค้าขายอย่างอื่นในนามของตนเองต่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
างตัวการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๘๓๔ ถ้ามิได้สําตนักลงกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นไว้เป็นอย่างอื่น ท่กาานว่าตัวแทนค้สําาต่นัากงชอบที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ่จะได้รับ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๓๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
บําเหน็จโดยอัตราตามธรรมเนียมเพื่อกิจการค้าขายอันตนได้จัดการให้ตกลงไปนั้นทุกรายไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๓๕ บทบัญญัติทั้งหลายแห่งประมวลกฎหมายนี้อันว่าด้วยตัวแทนนั้นท่าน
ให้ใช้บังคับถึงตัวแทนค้ าต่างด้วยเพียงที่ไม่ขัดกักบา บทบัญญัติในหมวดนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๘๓๖ บุคคลผู้ไร้ความสามารถหาอาจจะทําการเป็นตัวแทนค้าต่างได้ไม่เว้น
แต่จะได้รับอํานาจโดยชอบให้ ทําได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๘๓๗ ในการที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่ตกัวงานคณะกรรมการกฤษฎี
แทนค้าต่างทําการขายหรื
กา อซื้อหรือจัสํดานัทํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
กิจการค้าขาย กา
อย่างอื่นต่างตัวการนั้น ท่านว่าตัวแทนค้าต่างย่อมได้ซึ่งสิทธิอันมีต่อคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งในกิจการ
เช่นนั้น และตัวแทนค้
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ต่างย่อมเป็นผู้ต้องผูกพักนา ต่อคู่สัญญาฝ่สําายนั
นัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ด้วย กา

มาตรากา๘๓๘ ถ้าคู่สสํัญานัญาอี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กฝ่ายหนึ่งไม่ชําระหนีกา้ไซร้ ท่านว่าตัวสํแทนค้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี าต่างหาต้อง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รับผิดต่อตัวการเพื่อชําระหนี้นั้นเองไม่ เว้นแต่จะได้มีข้อกําหนดในสัญญาหรือมีปริยายแต่ทางการที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตัวการกับตัวแทนประพฤติ ต่อกัน หรือมีธรรมเนียมในท้องถิ่นสํว่าานัจะต้
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
องรับผิดถึงเพียงนั้น
อนึ่ง ตัวแทนค้าต่างคนใดเข้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ารับประกันการปฏิบัติตามสัญญาโดยนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยดังกล่าวมาใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วรรคก่อนนั้นไซร้ ท่านว่าตัวแทนคนนั้นชื่อว่าเป็นตัวแทนฐานประกัน ชอบที่จะได้รับบําเหน็จพิเศษ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๓๙ ถ้าตัวแทนค้าต่างได้ทําการขายเป็นราคาต่ําไปกว่าที่ตัวการกําหนด
สํานักหรื อทําการซื้อเป็นราคาสู
งานคณะกรรมการกฤษฎี กางไปกว่าที่ตัวสํการกํ าหนดไซร้ หากว่าตัวแทนรั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บใช้เศษที่ขสําดเกิ นนั้นแล้วท่าน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ว่าการขายหรือการซื้ออันนั้นตัวการก็ต้องรับขายรับซื้อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๔๐ ถ้าตัวแทนค้าต่างได้ทําการขายได้ราคาสูงกว่าที่ตัวการกําหนด หรือ
สํานักทํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าการซื้อได้ราคาต่ํากว่กาาที่ตัวการกําหนดไซร้ ท่านว่าตัวแทนหาอาจจะถื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อเอาเป็นสํประโยชน์ ของตนได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไม่ ต้องคิดให้แก่ตัวการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๘๔๑ ตัวแทนค้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักาต่งานคณะกรรมการกฤษฎี
างทําการไปอย่างไรบ้กาาง ท่านให้แถลงรายงานแก่ ตัวการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และเมื่อได้ทําการค้าต่างเสร็จลงแล้ว ก็ให้แจ้งแก่ตัวการทราบมิให้ชักช้า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๔๒ เมื่ อ ใดเขามอบหมายทรั พ ย์ สิ น ไว้ แ ก่ ตั ว แทนค้ า ต่ า งท่ า นให้ นํ า
สํานักบทบั ญญัติทั้งหลายแห่งกประมวลกฎหมายนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานัก้ งานคณะกรรมการกฤษฎี
ลักษณะฝากทรัพย์มาใช้กาบังคับ อนุโลมตามควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง ในกรณีที่เป็นความจําเป็นอันมิก้าวล่วงเสียได้ ท่านว่าตัวแทนค้าต่างจะจัดการ
แก่ทรัพย์สินนั้นตามวิ
สํานักธงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีการดั่งบัญญัติไว้ในมาตรา กา ๖๓๑ ว่าด้วสํยรั
านับกขนนั ้นก็ได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๘๔๓ ตัวแทนค้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักาต่งานคณะกรรมการกฤษฎี
างคนใดได้รับคําสั่งให้กขาายหรือซื้อทรัสํพานัย์กสงานคณะกรรมการกฤษฎี
ินอันมีรายการ กา
ขานราคาของสถานแลกเปลี ่ยน ท่านว่าตัวแทนคนนั้นจะเป็สํานนัผูก้ซงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ื้อหรือผู้ขายเองก็ได้ เว้กนา แต่จะมีข้อ
ห้ามไว้ชัดแจ้งโดยสัญญา ในกรณีเช่นนั้น ราคาอันจะพึงใช้เงินแก่กันก็พึงกําหนดตามรายการขานราคา
สํานักทรั พย์สินนั้น ณ สถานแลกเปลี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ยนในเวลาเมื ่อตัวแทนค้าต่างให้คกําาบอกกล่าวว่าสํตนจะเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นผู้ซื้อหรือ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๓๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ผู้ขาย
เมื่อตัวกการรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า บคําบอกกล่
สํานัากวเช่ นนั้น ถ้าไม่บอกปัดเสีกายในทันที ท่านให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัถกืองานคณะกรรมการกฤษฎี
ว่าตัวการเป็น กา
อันได้สนองรับการนั้นแล้ว
สํอนึ
านั่งกงานคณะกรรมการกฤษฎี
แม้ในกรณีเช่นนั้น ตัวแทนค้
กา าต่างจะคิสํดาเอาบํ าเหน็จก็ย่อมคิดได้ กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๘๔๔ ในระหว่างตัวการกับตัวแทนค้าต่าง ท่านให้ถือว่ากิจการอันตัวแทนได้
ทําให้ตกลงไปนั้นสํย่านัอกมมีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผลเสมือนดั่งว่าได้ทําให้
กาตกลงไปในนามของตั วการโดยตรง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ลักษณะ ๑๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นายหน้า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๘๔๕ บุคคลผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํา้ในัดตกลงจะให้ ค่าบําเหน็จแก่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นายหน้าเพื่อสํทีานั่ชกี้ชงานคณะกรรมการกฤษฎี
่องให้ได้เข้าทํา กา
สัญญาก็ดี จัดการให้ได้ทําสัญญากันก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นจะต้องรับผิดใช้ค่าบําเหน็จก็ต่อเมื่อสัญญา
นั้นได้ทํากันสําเร็สํจาเนืนัก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
งแต่ผลแห่งการที่นายหน้ กา
าได้ชี้ช่องหรืสํอานัจักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
การนั้น ถ้าสัญญาที่ได้กทาํากันไว้นั้นมี
เงื่อนไขเป็นเงื่อนบังคับก่อนไซร้ ท่านว่สําาจะเรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยกร้องบําเหน็จค่านายหน้ายังหาได้ไสํม่าจนันกว่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าเงื่อนไขนั้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สําเร็จแล้ว
สํนายหน้ ามีสิทธิจะได้รับชดได้กคา ่าใช้จ่ายที่ได้สํเสีานัยกไปก็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ต่อเมื่อได้ตกลงกันไว้กเาช่นนั้นความ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ข้อนี้ท่านให้ใช้บังคับแม้ถึงว่าสัญญาจะมิได้ทํากันสําเร็จ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๔๖ ถ้ ากิ จ การอั น ได้ม อบหมายแก่ น ายหน้ านั้ น โดยพฤติก ารณ์ เป็ น ที่
คาดหมายได้ว่าย่สํอามทํ าให้แต่เพื่อจะเอาค่าบํกาาเหน็จไซร้ท่าสํนให้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักถงานคณะกรรมการกฤษฎี
ือว่าได้ตกลงกันโดยปริ กายายว่ามีค่า
บําเหน็จนายหน้า
ค่าบํากเหน็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า จนั้นถ้ามิได้สํกานัํากหนดจํ านวนกันไว้ ท่านให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาถือว่าได้ตกลงกั
สํานันกเป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นจํานวนตาม กา
ธรรมเนียม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๘๔๗ ถ้านายหน้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าทําการให้แก่บุคคลภายนอกด้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วยก็ดี สํหรื
านัอกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้รับคํามั่นแต่ กา
บุคคลภายนอกเช่นนั้นว่าจะให้ค่าบําเหน็จอันไม่ควรแก่นายหน้าผู้กระทําการโดยสุจริตก็ดีเป็นการฝ่า
ฝื น ต่ อ การที่ ต นเข้สําานัรักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทํ า หน้ า ที่ ไ ซร้ ท่ า นว่กาานายหน้ า หามีสําสนัิ ทกธิงานคณะกรรมการกฤษฎี
จ ะได้ รั บ ค่ า บํ า เหน็ จ หรื
กา อ รั บ ชดใช้
ค่าใช้จ่ายที่ได้เสียไปไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๔๘ ตัวนายหน้าไม่ต้องรับผิดไปถึงการชําระหนี้ตามสัญญาซึ่งได้ทําต่อกัน
เพราะตนเป็นสื่อ สํเว้านันกแต่ จะมิได้บอกชื่อของฝ่ากยหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ่งให้รู้ถึงอีกสําฝ่นัากยหนึ ่ง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา ๘๔๙ การรัสํบานัเงิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หรื อรับชําระหนี้อันจะพึ
กา งชํ า ระตามสั
สํานัญกญานั ้ น ท่านให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สันนิษฐานไว้ก่อนว่สําานันายหน้ าย่อมไม่มีอํานาจที่จะรับแทนผู้เป็สํนานัคูก่สงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ัญญา กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ลักษณะ ๑๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๓๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ประนีประนอมยอมความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๘๕๐ อันว่าประนีปกระนอมยอมความนั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้น คือสัญญาซึ่งผู้เป็นคู่สกาัญญาทั้งสอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฝ่ายระงับข้อพิพาทอันใดอันหนึ่งซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นนั้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๘๕๑ อันสัญญาประนี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ประนอมยอมความนั ้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นหนังสือ
อย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิด หรือลายมือชื่อตัวแทนของฝ่ายนั้นเป็นสําคัญ ท่านว่า
สํานักจะฟ้ องร้องให้บังคับคดีหกาได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ไม่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๘๕๒ ผลของสัญญาประนี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ประนอมยอมความนั ้น ย่อมทําให้การเรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยกร้องซึ่ง
แต่ละฝ่ายได้ยอมสละนั้นระงับสิ้นไป และทําให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิตามที่แสดงในสัญญานั้นว่าเป็นของ
สํานักตน
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๑๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การพนันและขันต่อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๕๓ อันการพนันหรือขันต่อ ท่านว่าหาก่อให้เกิดหนี้ไม่ สิ่งที่ได้ให้กันไปใน
สํานักการพนั นหรือขันต่อก็จะทวงคื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นไม่ได้ เพราะเหตุ หามูลหนี้อย่างหนึ่งกอย่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า างใดมิได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อบัญญัติที่กล่าวนี้ ท่านให้ใช้ตลอดถึงข้อตกลงเป็นมูลหนี้อย่างหนึ่งอย่างใดอันฝ่าย
ข้างเสียพนันขันต่สํอาหากทํ าให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งเพืก่อา จะใช้หนี้เงินพนั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกหรื อขันต่อนั้นด้วย กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๘๕๔ อันการออกสลากกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นแบ่งก็ดี ออกสลากกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นรวบก็ดสํี าท่นัากนว่ าเป็นสัญญา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อันจะผูกพันต่อเมื่อรัฐบาลได้ให้อํานาจหรือให้สัตยาบันแก่การนั้นเฉพาะราย นอกนั้นท่านให้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามบทบัญญัติมาตรา ๘๕๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๕๕ ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติมาตรา ๓๑๒ และ ๙๑๖ ตั๋วเงินหรือ
เอกสารอย่างอื่นทุสํากนัฉบั บซึ่งออกให้เต็มจํานวนกา หรือแต่โดยส่สํวานันเพื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ่อแทนเงินใด ๆ อันได้กแา ต่ชนะพนัน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือขันต่อก็ดี ออกให้เพื่อใช้เงินที่ยืมมาใช้ในการพนันหรือขันต่อเช่นว่านั้นก็ดี ท่านว่าไม่สมบูรณ์
เพื่อประโยชน์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา แห่งบทบั
สํานัญกญั ตินี้ เงินรายใดให้ยืมแก่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บุคคลกําลังเล่สํานนัการพนั นหรือขัน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ต่อ ในเวลาหรือ ณ สถานที่เล่นเช่นนั้น ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเงินนั้นได้ให้ยืมไปเพื่อเล่นการพนัน
หรือขันต่อ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ลักษณะ ๑๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บัญชีเดินสะพัด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


- ๑๓๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๘๕๖ อันว่าสัญญาบัญชีเดินสะพัดนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลสองคนตกลงกัน
สํานักว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าสืบแต่นั้นไป หรือในชักา่วเวลากําหนดอั
สํานันกใดอั นหนึ่ง ให้ตัดทอนบักญา ชีหนี้ทั้งหมดหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกแต่ บางส่วนอัน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เกิดขึ้นแต่กิจการในระหว่างเขาทั้งสองนั้นหักกลบลบกัน และคงชําระแต่ส่วนที่เป็นจํานวนคงเหลือโดย
ดุลภาค สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๘๕๗ การนําตั๋วเงินลงเป็นรายการในบัญชีเดินสะพัดนั้น ท่านให้สันนิษฐาน
ไว้ก่อนว่าได้ลงด้วสํยเงื
านัก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
นไขว่าจะมีผู้ชําระเงินกตามตั
า ๋วนั้นถ้าสํและตั ๋วนั้นมิได้ชําระเงินไซร้กาจะเพิกถอน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
รายการอันนั้นเสียก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๕๘ ถ้าคู่สัญญามิได้กําหนดกันไว้ว่าให้หักทอนบัญชีโดยระยะเวลาอย่างไร
ไซร้ ท่านให้ถือเอาเป็
สํานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
กําหนดหกเดือน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๘๕๙ คู่สัญญาฝ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักายใดจะบอกเลิ กสัญญาบักญา ชีเดินสะพัดและให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี หักทอนบัญชี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กันเสียในเวลาใด ๆ ก็ได้ ถ้าไม่มีอะไรปรากฏเป็นข้อขัดกับที่กล่าวมานี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๖๐ เงินส่วสํนที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ผิดกันอยู่นั้นถ้ายังมิได้ชําระ ท่านให้คิดสํดอกเบี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้ยนับแต่วันที่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หักทอนบัญชีเสร็จเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๒๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ประกันภัย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทเบ็ดเสร็จทัว่ ไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๖๑ อันว่าสัญญาประกันภัยนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งตกลงจะใช้ค่า
สํานักสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นไหมทดแทน หรือใช้กเงิานจํานวนหนึ่งสํให้
านัใกนกรณี วินาศภัยหากมีขึ้กนา หรือในเหตุอสํย่าานังอืกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่นในอนาคตดั่ง กา
ได้ระบุไว้ในสัญญา และในการนี้บุคคลอีกคนหนึ่งตกลงจะส่งเงินซึ่งเรียกว่า เบี้ยประกันภัย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๖๒ ตามข้อความในลักษณะนี้
คําว่า ก“ผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้รับประกันภัสํายนั”กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ท่านหมายความว่า คู่สกัญา ญาฝ่ายซึ่งตกลงจะใช้ ค่าสินไหม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทดแทน หรือใช้เงินจํานวนหนึ่งให้
สํคําานัว่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
“ผู้ เ อาประกั น ภั ย ”กท่า า นหมายความว่ า คู่ สั ญ ญาฝ่ า ยซึ่ ง ตกลงจะส่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง เบี้ ย
ประกันภัย
คําว่า ก“ผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้รับประโยชน์
สํา”นักท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านหมายความว่า บุคกคลผูา ้จะพึงได้รับสําค่นัากสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นไหมทดแทน กา
หรือรับจํานวนเงินสํใช้ ให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง ผู้เอาประกันภัยและผู้รับประโยชน์นั้น จะเป็นบุคคลคนหนึ่งคนเดียวกันก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๓๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๘๖๓ อันสัญญาประกันภัยนั้น ถ้าผู้เอาประกันภัยมิได้มีส่วนได้เสียในเหตุที่
สํานักประกั นภัยไว้นั้นไซร้ ท่ากนว่า าย่อมไม่ผูกพัสํานนัคูก่สงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ัญญาแต่อย่างหนึ่งอย่ากงใด
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๘๖๔ เมื่อคู่สัญญาประกั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นภัยยกเอาภั
สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใดโดยเฉพาะขึ้นเป็นข้กอาพิจารณาใน
การวางกําหนดจํานวนเบี้ยประกันภัย และภัยเช่นนั้นสิ้นไปหามีไม่แล้ว ท่านว่าภายหน้าแต่นั้นไปผู้เอา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกันภัยชอบที่จะได้ลดเบี้ยประกันภัยตามส่วน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๖๕ ถ้ า ในเวลาทํ า สั ญ ญาประกั น ภั ย ผู้ เ อาประกั น ภั ย ก็ ดี ห รื อ ในกรณี
สํานักประกั นชีวิต บุคคลอันการใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา เงินย่อมอาศั สํานัยกความทรงชี พหรือมรณะของเขานั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นก็ดสํี รูา้อนัยูกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่แล้วละเว้นเสีย กา
ไม่เปิดเผยข้อความจริงซึ่งอาจจะได้จูงใจผู้รับประกันภัยให้เรียกเบี้ยประกันภัยสูงขึ้นอีกหรือให้บอกปัด
ไม่ยอมทําสัญญา สํหรื
านัอกว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ารู้อยู่แล้วแถลงข้อความนั
กา ้นเป็นความเท็
สํานัจกไซร้ ท่านว่าสัญญานั้นเป็กนา โมฆียะ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ถ้ามิได้ใช้สิทธิบอกล้างภายในกําหนดเดือนหนึ่งนับแต่วันที่ผู้รับประกันภัยทราบมูล
สํานักอังานคณะกรรมการกฤษฎี
นจะบอกล้างได้ก็ดี หรืกอามิได้ใช้สิทธินสํั้นาภายในกํ าหนดห้าปีนับแต่วกันาทําสัญญาก็ดสํี ท่านัากนว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี าสิทธินั้นเป็น กา
อันระงับสิ้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๖๖ ถ้าผู้รสํับานัประกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นภัยได้รู้ข้อความจริงดั่งกล่าวในมาตรา
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๖๕ นั้นก็ดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือรู้ว่าข้อแถลงความเป็นความเท็จก็ดี หรือควรจะได้รู้เช่นนั้นหากใช้ความระมัดระวังดั่งจะพึง
คาดหมายได้แต่วสํิญาญูนักชงานคณะกรรมการกฤษฎี
นก็ดี ท่านให้ฟังว่าสัญญานั
กา ้นเป็นอันสมบูสํานัรกณ์งานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๘๖๗ อันสัญสําญาประกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นภัยนั้น ถ้ามิได้มกีหาลักฐานเป็นหนั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํางนัสืกองานคณะกรรมการกฤษฎี
อย่างใดอย่าง กา
หนึ่งลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดหรือลายมือชื่อตัวแทนของฝ่ายนั้นเป็นสําคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้
บังคับคดีหาได้ไม่สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัยอันมีเนื้อความต้องตามสัญญานั้นแก่ผู้เอาประกันภัย
สํานักฉบั บหนึ่ง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กรมธรรม์ประกันภัย ต้องลงลายมือชื่อของผู้รับประกันภัยและมีรายการดั่งต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) วัตถุที่เอาประกันภัย
(๒) ภัยกาใดซึ่งผู้รับประกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานนัภักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยรับเสี่ยง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ราคาแห่งมูลประกันภัย ถ้าหากได้กําหนดกันไว้
สํ(๔)
านักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านวนเงินซึ่งเอาประกันกภัา ย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) จํานวนเบี้ยประกันภัย และวิธีส่งเบี้ยประกันภัย
(๖) ถ้ากหากสั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ญญาประกั สํานันกภังานคณะกรรมการกฤษฎี
ยมีกําหนดเวลา ต้องลงเวลาเริ
กา ่มต้นและเวลาสิ ้นสุดไว้ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๗) ชื่อหรือยี่ห้อของผู้รับประกันภัย
สํ(๘)
านักชืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อหรือยี่ห้อของผู้เอาประกั
กา นภัย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๙) ชื่อของผู้รับประโยชน์ ถ้าจะพึงมี
(๑๐) กวัานทําสัญญาประกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ภัย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑๑) สถานที่และวันที่ได้ทํากรมธรรม์ประกัสํนานัภักยงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๘๖๘ อันสัญสํญาประกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นภัยทะเล ท่านให้กบาังคับตามบทบัสํญานัญักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ิแห่งกฎหมาย กา
- ๑๓๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ทะเล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒
ประกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นวินาศภัย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่วนที่ ๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทเบ็ดเสร็จทัว่ ไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๘๖๙ อันคําว่า “วิกนา าศภัย” ในหมวดนี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ ท่านหมายรวมเอาความเสี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยหาย
อย่างใด ๆ บรรดาซึ่งจะพึงประมาณเป็นเงินได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๗๐ ถ้าได้ทําสัญญาประกันภัยเป็นสองรายหรือกว่านั้นพร้อมกันเพื่อความ
วินาศภัยอันเดียวกัน และจํานวนเงินซึ่งเอาประกันภัยรวมกัสํนานัทัก้งงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมดนั้นท่วมจํานวนทีก่วาินาศจริงไซร้
ท่ า นว่ า ผู้ รั บ ประโยชน์ ช อบที่ จ ะได้ รั บสํค่านัากสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
น ไหมทดแทนเพี ย งเสมอจํ
กา
า นวนวิ นสําศจริ ง เท่ า นั้ น ผู้ รั บ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกันภัยแต่ละคนต้องใช้เงินจํานวนวินาศจริงแบ่งตามส่วนมากน้อยที่ตนได้รับประกันภัยไว้
สํอัานนัสักญ ญาประกันภัยทั้งหลายกา ถ้าลงวันเดียสํวกัานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ท่านให้ถือว่าได้ทําพร้อกมกัา น
ถ้าได้ทําสัญญาประกันภัยเป็นสองรายหรือกว่านั้นสืบเนื่องเป็นลําดับกัน ท่านว่าผู้รับ
สํานักประกั นภัยคนแรกจะต้อกงรัา บผิดเพื่อความวิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
าศภัยก่อน ถ้าและจํานวนเงิ
กา นซึ่งผู้รับประกั นภัยคนแรกได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ใช้นั้นยังไม่คุ้มจํานวนวินาศภัยไซร้ ผู้รับประกันภัยคนถัดไปก็ต้องรับผิดในส่วนที่ยังขาดอยู่นั้นต่อ ๆ กัน
ไปจนกว่าจะคุ้มวินสําาศ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๘๗๑ ถ้าได้ทสําํานัสักญงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ญาประกันภัยเป็นสองรายหรื
กา อกว่านัสํ้นาพร้ อมกันก็ดี หรือ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สื บ เนื่ อ งเป็ น ลํ า ดั บ กั น ก็ ดี ท่ า นว่ า การที่ ย อมสละสิ ท ธิ อั น มี ต่ อ ผู้ รั บ ประกั น ภั ย รายหนึ่ ง นั้ น ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กระทบกระทั่งถึงสิทธิและหน้าที่ของผู้รับประกันภัยรายอื่น ๆ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๗๒ ก่อนเริ่มเสี่ยงภัย ผู้เอาประกันภัยจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้ แต่ผู้รับ
ประกันภัยชอบที่จสําะได้
นักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
บี้ยประกันภัยกึ่งจํานวนกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๘๗๓ ถ้าในระหว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี างอายุสัญญาประกันภักยานั้น มูลประกัสํนาภันัยกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ได้ลดน้อยถอย กา
ลงไปหนักไซร้ ท่านว่าผู้เอาประกันภัยชอบที่จะได้ลดจํานวนเงินซึ่งเอาประกันภัยไว้ และลดจํานวนเงิน
เบี้ยประกันภัย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การลดจํานวนเบี้ยประกันภัยนั้น ให้เป็นผลต่อในอนาคต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๗๔ ถ้าคู่สัญญาได้กําหนดราคาแห่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งมูลประกันภัยไว้ ผู้รับประกันภัยชอบที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จะได้ลดจํานวนค่าสินไหมทดแทน ก็แต่เมื่อพิสูจน์ได้ว่าราคาแห่งมูลประกันภัยตามที่ได้ตกลงกันไว้นั้น
สํานักเป็ นจํานวนสูงเกินไปหนักกา และคืนจํานวนเบี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้ยประกันภัยให้ตามส่วนกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาบทั้งดอกเบี้ยสํด้าวนัยกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๓๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา๘๗๕ ถ้าวัตสํถุาอนัันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ได้เอาประกันภัยไว้นั้นกาเปลี่ยนมือไปจากผู ้เอาประกันภัย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โดยพินัยกรรมก็ดี หรือโดยบัญญัติกฎหมายก็ดี ท่านว่าสิทธิอันมีอยู่ในสัญญาประกันภัยก็ย่อมโอนตาม
ไปด้วย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าในสัญญามิได้กําหนดไว้เป็นอย่างอื่น เมื่อผู้เอาประกันภัยโอนวัตถุที่เอาประกันภัย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และบอกกล่าวการโอนไปยังผู้รับประกันภัยไซร้ ท่านว่าสิทธิอันมีอยู่ในสัญญาประกันภัยนั้นย่อมโอน
ตามไปด้วย อนึ่งสํถ้าานัในการโอนเช่ นนี้ช่องแห่กงภัา ยเปลี่ยนแปลงไปหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี อเพิ่มขึ้นหนักไซร้ทก่าานว่าสัญญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประกันภัยนั้นกลายเป็นโมฆะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๗๖ ถ้ า ผู้ รั บ ประกั น ภั ย ต้ อ งคํ า พิ พ ากษาให้ เ ป็ น คนล้ ม ละลาย ผู้ เ อา
ประกันภัยจะเรียกให้
สํานักหงานคณะกรรมการกฤษฎี
าประกันอันสมควรให้แกก่าตนก็ได้ หรือสํจะบอกเลิ กสัญญาเสียก็ได้ กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถ้าผู้เอาประกันภัยต้องคําพิพากษาให้เป็นคนล้มละลาย ท่านให้ใช้วิธีเดียวกันนี้บังคับ
สํานักตามควรแก่ เ รื่ อ ง แต่ กกระนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ้ น ก็ ดี ถ้ า เบีสํา้ ยนัประกั น ภั ย ได้ ส่ ง แล้ ว เต็กมาจํ า นวนเพื่ อ อายุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักปงานคณะกรรมการกฤษฎี
ระกั น ภั ย เป็ น กา
ระยะเวลามากน้อยเท่าใดไซร้ ท่านห้ามมิให้ผู้รับประกันภัยบอกเลิกสัญญาก่อนระยะเวลานั้นสุดลง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๗๗ ผู้รับประกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นภัยจําต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนดังจะกล่สําานัวต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อไปนี้ คือ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) เพื่อจํานวนวินาศภัยอันแท้จริง
สํ(๒)
านักเพื ่อความบุบสลายอันเกิกดาแก่ทรัพย์สินซึสํา่งนัได้กเงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี อาประกันภัยไว้เพราะได้ กาจัดการตาม
สมควรเพื่อป้องปัดความวินาศภัย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี(๓) เพืก่อา บรรดาค่าใช้สํจา่านัยอั นสมควรซึ่งได้เสียไปเพืกา่อรักษาทรัพย์สสําินนัซึก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี เอาประกันภัย กา
ไว้นั้นมิให้วินาศ
สํอัานนัจํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
นวนวินาศจริงนั้น ท่ากนให้
า ตีราคา ณ สํสถานที ่และในเวลาซึ่งเหตุวกินาาศภัยนั้นได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เกิดขึ้น อนึ่งจํานวนเงินซึ่งได้เอาประกันภัยไว้นั้น ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นหลักประมาณอัน
สํานักถูงานคณะกรรมการกฤษฎี
กต้องในการตีราคาเช่นกว่าานั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ท่านห้ามมิให้คิดค่าสินไหมทดแทนเกินไปกว่าจํานวนเงินซึ่งเอาประกันภัยไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๘๗๘ ค่าใช้จสํ่าานัยในการตี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ราคาวินาศภัยนัก้นา ท่านว่าผู้รับประกั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นภัยต้องเป็นผู้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ออกใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๗๙ ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดในเมื่อความวินาศภัยหรือเหตุอื่นซึ่งได้
สํานักระบุ ไว้ในสัญญานั้นได้เกกิาดขึ้นเพราะความทุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี จริต หรือความประมาทเลิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นเล่ออย่าสํงร้
านัากยแรงของผู ้เอา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์
สํผูา้ รนัั บกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประกั น ภั ย ไม่ ต้ อ งรั บ ผิกดา ในความวิ นสําศภั
านักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
อั น เป็ น ผลโดยตรงมาแต่
กา ค วามไม่
สมประกอบในเนื้อแห่งวัตถุที่เอาประกันภัย เว้นแต่จะได้ตกลงกันเป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๘๐ ถ้าความวินาศภัยนั้นได้เกิดสํขึา้นนัเพราะการกระทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าของบุคคลภายนอก
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไซร้ ผู้รับประกันภัยได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนไปเป็นจํานวนเพียงใด ผู้รับประกันภัยย่อมเข้ารับช่วงสิทธิ
สํานักของผู ้เอาประกันภัยและของผู
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้รับประโยชน์
สํานักซงานคณะกรรมการกฤษฎี
ึ่งมีต่อบุคคลภายนอกเพีกายงนั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๓๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ถ้าผู้รับประกันภัยได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนไปแต่เพียงบางส่วนไซร้ ท่านห้ามมิให้ผู้รับ
สํานักประกั นภัยนั้นใช้สิทธิของตนให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา เสื่อมเสีสํายนัสิกทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธิของผู้เอาประกันภัยกหรื
า อผู้รับประโยชน์
สํานักใงานคณะกรรมการกฤษฎี
นการที่เขาจะ กา
เรียกร้องเอาค่าสินไหมทดแทนจากบุคคลภายนอกเพื่อเศษแห่งจํานวนวินาศนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๘๑ ถ้ า ความวิ น าศเกิ ด ขึ้ น เพราะภั ย มี ขึ้ น ดั่ ง ผู้ รั บ ประกั น ภั ย ตกลง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกันภัยไว้ไซร้ เมื่อผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์ทราบความวินาศนั้นแล้ว ต้องบอกกล่าวแก่
ผู้รับประกันภัยโดยไม่
สํานักชงานคณะกรรมการกฤษฎี
ักช้า กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ามิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติที่กล่าวมาในวรรคก่อน ผู้รับประกันภัยอาจเรียกร้องค่า
สํานักสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นไหมทดแทนเพื่อความเสี กา ยหายอย่างใด
สํานักๆงานคณะกรรมการกฤษฎี
อันเกิดแต่การนั้นได้ เว้กานแต่อีกฝ่ายหนึ สํา่งนัจะพิ สูจน์ได้ว่าไม่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สามารถที่จะปฏิบัติได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๘๒ ในการเรียกให้ใช้ค่าสินไหมทดแทน ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้น
สํานักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดเวลาสองปีนับแต่กวาันวินาศภัย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการเรียกให้ใช้หรือให้คืนเบี้ยประกันภัย ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นเวลาสองปี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นับแต่วันซึ่งสิทธิจะเรียกให้ใช้หรือคืนเบี้ยประกันภัยถึงกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๒
วิธีเฉพาะการประกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นภัยในการรั
สํานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขน กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๘๘๓ อันสัญญาประกันภัยในการรับขนนั้น ย่อมคุ้มถึงความวินาศภัยทุก
อย่างซึ่งอาจเกิดแก่
สําขนัองที ่ขนส่งในระหว่างเวลาตั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้งแต่ผู้ขนส่งสํได้านัรกับงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของไป จนได้ส่งมอบของนั
กา ้นแก่ผู้รับ
ตราส่ง และจํานวนค่าสินไหมทดแทนนั้น ย่อมกําหนดตามที่ของซึ่งขนส่งนั้นจะได้มีราคาเมื่อถึงตําบล
สํานักอังานคณะกรรมการกฤษฎี
นกําหนดให้ส่ง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๘๔ ถ้าของซึ่งขนส่งนั้นได้เอาประกันภัยเมื่ออยู่ในระหว่างส่งเดินทางไป
สํานักท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านให้คิดมูลประกันภัยกในของนั
า ้นนับรวมทั ้งราคาของ ณ สถานทีก่แาละในเวลาที่ผสํู้ขานส่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้รับของและ กา
ให้เพิ่มค่าระวางส่งของไปยังสถานที่ส่งมอบแก่ผู้รับตราส่ง กับทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เนื่องด้วยการส่งของ
ไปนั้นเข้าด้วย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กําไรอันจะพึงได้ในเวลาเมื่อส่งมอบของนั้น ย่อมจะคิดรวมเข้าเป็นมูลประกันภัยได้
สํานักต่งานคณะกรรมการกฤษฎี
อเมื่อได้มีข้อตกลงกันไว้กาเช่นนั้นชัดแจ้งสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๘๘๕ อันสัญญาประกั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นภัยในการรั
สํานับกขนนั ้น ถึงแม้การขนส่งกจะต้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า องสะดุด
หยุดลงชั่วขณะหรือจะต้องเปลี่ยนทางหรือเปลี่ยนวิธีขนส่งอย่างหนึ่งอย่างใดโดยเหตุจําเป็นในระหว่าง
สํานักส่งานคณะกรรมการกฤษฎี
งเดินทางก็ดี ท่านว่าสัญกาญานั้นก็ย่อมคงเป็
สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
อันสมบูรณ์อยู่ เว้นแต่กจาะได้ระบุไว้ในสัสํญานัญาเป็ นอย่างอื่น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๘๖ อันกรมธรรม์ประกันภัยในการรับขนนั้น นอกจากที่ได้ระบุไว้แล้วใน
สํานักมาตรา ๘๖๗ ต้องมีรายการเพิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่มขึ้นอีกดัสํ่งาจะกล่ าวต่อไปนี้ คือ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๔๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
(๑) ระบุทางและวิธีขนส่ง
(๒) ชื่อกหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อยี่ห้อของผูสํ้ขานันส่ ง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) สถานที่ซึ่งกําหนดให้รับและส่งมอบของ
สํ(๔)
านักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดระยะเวลาขนส่งกตามแต่ า มี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๓
ประกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นภัยค้ําจุน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๘๘๗ อันว่าประกันภัยค้ําจุนนั้น คือสัญญาประกันภัยซึ่งผู้รับประกันภัยตก
ลงว่าจะใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้เอาประกั
กา นภัยเพื่อสํความวิ นาศภัยอันเกิดขึ้นแก่กบา ุคคลอีกคน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หนึ่ง และซึ่งผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีบุคคลผู กา้ต้องเสียหายชอบที ่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนตามที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ตนควรจะได้ นั้นจากผู้รับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ประกันภัยโดยตรง แต่ค่าสินไหมทดแทนเช่นว่านี้หาอาจจะคิดเกินไปกว่าจํานวนอันผู้รับประกันภัยจะ
พึงต้องใช้ตามสัญสํญานั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้นได้ไม่ ในคดีระหว่างบุคคลผู้ต้องเสียสํหายกั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บผู้รับประกันภัยนั้น ท่านให้ผู้ต้อง
เสียหายเรียกตัวผู้เอาประกันภัยเข้ามาในคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง ผู้รับประกันภัยนั้นแม้จะได้ส่งค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยแล้วก็ยัง
หาหลุดพ้นจากความรั สํานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผิดต่อบุคคลผู้ต้องเสียกหายนั
า ้นไม่ เว้นสํแต่
านักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
นจะพิสูจน์ได้ว่าสินไหมทดแทนนั
กา ้นผู้
เอาประกันภัยได้ใช้ให้แก่ผู้ต้องเสียหายแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๘๘ ถ้าค่าสินไหมทดแทนอันผู้รับประกันภัยได้ใช้ไปโดยคําพิพากษานั้นยัง
ไม่คุ้มค่าวินาศภัยสํเต็านัมกจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านวนไซร้ ท่านว่าผู้เอาประกั
กา นภัยก็ยสํังานัคงต้ องรับใช้จํานวนที่ยังขาด
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เว้นไว้แต่
บุคคลผู้ต้องเสียหายจะได้ละเลยเสียไม่เรียกตัวผู้เอาประกันภัยเข้ามาสู่คดีด้วยดังกล่าวไว้ในมาตรา
สํานักก่งานคณะกรรมการกฤษฎี
อน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ประกันชีวิต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๘๙ ในสัญญาประกันชีวิตนั้น การใช้จํานวนเงินย่อมอาศัยความทรงชีพ
สํานักหรื อมรณะของบุคคลคนหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๘๙๐ จํานวนเงินอักนาจะพึงใช้นั้น จะชํ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ระเป็นเงินจํานวนเดียวกาหรือเป็นเงิน
รายปีก็ได้ สุดแล้วแต่จะตกลงกันระหว่างคู่สัญญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๙๑ แม้ ใ นกรณีที่ ผู้ เอาประกันสํภัานัยกมิงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ได้เป็ นผู้ รับ ประโยชน์กเองก็

ดี ผู้เ อา
ประกันภัยย่อมมีสิทธิที่จะโอนประโยชน์แห่งสัญญานั้นให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งได้ เว้นแต่จะได้ส่งมอบ
สํานักกรมธรรม์ ประกันภัยให้แกก่า ผู้รับประโยชน์
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัไปแล้ ว และผู้รับประโยชน์กไาด้บอกกล่าวเป็สํนานัหนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี งสือไปยังผู้รับ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๔๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ประกันภัยแล้วว่าตนจํานงจะถือเอาประโยชน์แห่งสัญญานั้น
ถ้ากรมธรรม์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ประกันสํภัายนัได้ ทําเป็นรูปให้ใช้เงินตามเขาสั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งแล้ว ท่สําานให้ นําบทบัญญัติ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ๓๐๙ มาใช้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๙๒ ในกรณีบอกล้างสัญญาตามความในมาตรา ๘๖๕ ผู้รับประกันภัยต้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คืนค่าไถ่ถอนกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัยหรือทายาทของผู้นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๙๓ การใช้เงินอาศัยเหตุความทรงชีพ หรือมรณะของบุคคลผู้ใด แม้ได้
สํานักแถลงอายุ ของบุคคลผู้นกั้นาไว้คลาดเคลื่อสํานไม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี ถูกต้อง เป็นเหตุให้ได้กกาําหนดจํานวนเบี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้ยกประกั นภัยไว้ต่ํา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไซร้ ท่านให้ลดจํานวนเงินอันผู้รับประกันภัยจะพึงต้องใช้นั้นลงตามส่วน
สํแต่
านัถก้างานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้รับประกันภัยพิสูจน์กได้า ว่า ในขณะทีสํ่ทาํานัสักญงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญานั้นอายุที่ถูกต้องแท้ กาจริงอยู่นอก
จํากัดอัตราตามทางค้าปกติของเขาแล้ว ท่านว่าสัญญานั้นเป็นโมฆียะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๙๔ ผู้เอาประกันภัยชอบที่จะบอกเลิกสัญญาประกันภัยเสียในเวลาใด ๆ ก็
ได้ด้วยการงดไม่ส่งเบี้ยประกันภัยต่อไป ถ้าและได้ส่งเบี้ยประกัสํานนัภักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาแล้วอย่างน้อยสามปี กา
ไซร้ ท่านว่า
ผู้เอาประกันภัยชอบที่จะได้รับเงินค่าเวนคื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นกรมธรรม์ประกันภัย หรือรับกรมธรรม์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใช้เงินสําเร็จจาก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้รับประกันภัย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๙๕ เมื่อใดจะต้องใช้จํานวนเงินในเหตุมรณะของบุคคลคนหนึ่งคนใดท่าน
สํานักว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าผู้รับประกันภัยจําต้องใช้
กา เงินนั้นในเมืสํ่อามรณภั ยอันนั้นเกิดขึ้น เว้นกแต่า
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) บุคคลผู้นั้นได้กระทําอัตวินิบาตด้วยใจสมัครภายในปีหนึ่งนับแต่วันทําสัญญา
หรือ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) บุคคลผู้นั้นถูกผู้รับประโยชน์ฆ่าตายโดยเจตนา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณี กาที่ ๒ นี้ท่านว่สําาผูนั้รกับงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประกันภัยจําต้องใช้เกงิานค่าไถ่ถอนกรมธรรม์ ให้แก่ผู้เอา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ประกันภัย หรือให้แก่ทายาทของผู้นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๘๙๖ ถ้ามรณภั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัยกเกิ ดขึ้นเพราะความผิดของบุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา คคลภายนอก
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้รับประกันภัย กา
หาอาจจะเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนจากบุคคลภายนอกนั้นได้ไม่ แต่สิทธิของฝ่ายทายาทแห่งผู้มรณะ
ในอันจะได้ค่าสินสํไหมทดแทนจากบุ คคลภายนอกนั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นหาสูญสิสํ้นานัไปด้ วยไม่ แม้ทั้งจํานวนเงิกนาอันจะพึงใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตามสัญญาประกันชีวิตนั้นจะหวนกลับมาได้แก่ตนด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๙๗ ถ้าผู้เอาประกันภัยได้เอาประกันภัยไว้โดยกําหนดว่าเมื่อตนถึงซึ่งความ
มรณะให้ใช้เงินแก่สํทานัายาททั ้งหลายของตนโดยมิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาได้เจาะจงระบุ
สําชนัื่อกผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้หนึ่งผู้ใดไว้ไซร้ จํานวนเงิ
กา นอันจะพึง
ใช้นั้น ท่านให้ฟังเอาเป็นสินทรัพย์ส่วนหนึ่งแห่งกองมรดกของผู้เอาประกันภัย ซึ่งเจ้าหนี้จะเอาใช้หนี้ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีถ้ า ได้กเาอาประกั น ภัสํยานัไว้กโงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดยกํ า หนดว่ า ให้ ใ ช้ กเ งิา น แก่ บุ ค คลคนใดคนหนึ ่ ง โดย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เฉพาะเจาะจง ท่สําานว่ าเฉพาะแต่จํานวนเงินเบี้ยประกันภัยซึสํ่งาผูนั้เกอาประกั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นภัยได้ส่งไปแล้วเท่านั้น จัก
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นสินทรัพย์ส่วนหนึ่งแห่งกองมรดกของผู้เอาประกันภัยอันเจ้าหนี้จะเอาใช้หนี้ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๔๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ลักษณะ ๒๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตั๋วเงิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทเบ็ดเสร็จทัว่ ไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๘๙๘ อันตั๋วสํเงิานันกตามความหมายแห่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งประมวลกฎหมายนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานั้มกีสงานคณะกรรมการกฤษฎี
ามประเภท ๆ กา
หนึ่งคือ ตั๋วแลกเงิน ประเภทหนึ่งคือ ตั๋วสัญญาใช้เงิน ประเภทหนึ่ง คือ เช็ค
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๙๙ ข้อความอันใดซึ่งมิได้มีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายลักษณะนี้ ถ้า
สํานักเขีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยนลงในตั๋วเงิน ท่านว่กาาข้อความอันนัสํ้นาหาเป็ นผลอย่างหนึ่งอย่างใดแก่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ตั๋วเงินนั้นไม่สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๐๐ บุคคลผู้ลงลายมือชื่อของตนในตั ๋วเงินย่อม จะต้องรับผิดตามเนื้อความ
ในตั๋วเงินนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าลงเพียงแต่เครื่องหมายอย่างหนึ่งอย่างใด เช่น แกงไดหรือลายพิมพ์นิ้วมืออ้างเอา
เป็นลายมือชื่อในตัสํา๋วนัเงิกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นนั้นไซร้ แม้ถึงว่าจะมีกพายานลงชื่อรับสํรองก็ ตาม ท่านว่าหาให้ผลเป็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กานลงลายมือ
ชื่อในตั๋วเงินนั้นไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๐๑ ถ้าบุคคลคนใดลงลายมือชื่อของตนในตั๋วเงิน และมิได้เขียนแถลงว่า
กระทําการแทนบุสํคาคลอี กคนหนึ่งไซร้ ท่านว่าบุกคา คลคนนั้นย่อสํมเป็
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้รับผิดตามความในตั๋วกเงิา นนั้น

มาตรากา๙๐๒ ถ้าตั๋วเงิสํานนัลงลายมื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อชื่อของบุคคลหลายคน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มีทั้งบุคสํคลซึ ่งไม่อาจจะเป็น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
คู่สัญญาแห่งตั๋วเงินนั้นได้เลย หรือเป็นได้แต่ไม่เต็มผลไซร้ ท่านว่าการนี้ย่อมไม่กระทบกระทั่งถึงความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รับผิดของบุคคลอื่น ๆ นอกนั้นซึ่งคงต้องรับผิดตามตั๋วเงิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๐๓ ในการใช้เงินตามตั๋วเงิน ท่านมิให้ให้วันผ่อน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๐๔ อันผู้ทรงนั้น หมายความว่า บุคคลผู้มีตั๋วเงินไว้ในครอบครอง โดยฐาน
สํานักเป็ นผู้รับเงิน หรือเป็นผู้รกับา สลักหลัง ถ้าสํและเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี นตั๋วเงินสั่งจ่ายให้แก่ผกู้ถาือ ๆ ก็นับว่าเป็สํานนัผูก้ทงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี รงเหมือนกัน กา

สํมาตรา ๙๐๕ ภายในบังคักบาแห่งบทบัญญัสํตานัิมกาตรา


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๑๐๐๘ บุคคลผู้ไกด้าตั๋วเงินไว้ใน
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ครอบครอง ถ้าแสดงให้ปรากฏสิทธิด้วยการสลักหลังไม่ขาดสาย แม้ถึงว่าการสลักหลังรายที่สุดจะเป็น
สํานักสลั กหลังลอยก็ตาม ท่ากนให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ถือว่าเป็นผูสํ้ทานัรงโดยชอบด้ วยกฎหมายกเมืา ่อใดรายการสลั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักกหลั งลอยมีสลัก
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หลังรายอื่นตามหลั งไปอีก ท่านให้ถือว่าบุคคลผู้ที่ลงลายมือชืสํ่อานัในการสลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กหลังรายที่สุดนั้น เป็นผู้ได้ไป
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ซึ่งตั๋วเงินด้วยการสลักหลังลอย อนึ่งคําสลักหลังเมื่อขีดฆ่าเสียแล้วท่านให้ถือเสมือนว่ามิได้มีเลย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีถ้าบุคกคลผู
า ้หนึ่งผู้ใดต้สํอางปราศจากตั ๋วเงินไปจากครอบครอง
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ท่านว่
สําานัผูก้ทงานคณะกรรมการกฤษฎี
รงซึ่งแสดงให้ กา
- ๑๔๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ปรากฏสิทธิของตนในตั๋วตามวิธีการดังกล่าวมาในวรรคก่อนนั้น หาจําต้องสละตั๋วเงินไม่ เว้นแต่จะ
สํานักได้ มาโดยทุจริต หรือได้มกาด้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า วยความประมาทเลิ นเล่ออย่างร้ายแรง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง ข้อความในวรรคก่อนนี้ ให้ใช้บังคับตลอดถึงผู้ทรงตั๋วเงินสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๐๖ คําว่าคู่สัญญาคนก่อน ๆ นั้น รวมทั้งผู้สั่งจ่าย หรือผู้ออกตั๋วเงินและผู้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สลักหลังคนก่อน ๆ ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๐๗ เมื่อใดไม่มีที่ในตั๋วเงินซึ่งจะสลักหลังได้ต่อไปไซร้ท่านอนุญาตให้เอา
สํานักกระดาษแผ่ นหนึ่งผนึกต่กอาเข้ากับตั๋วเงินสํเรีานัยกว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี าใบประจําต่อ นับเป็นกส่าวนหนึ่งแห่งตัสํ๋วาเงินันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นั้น กา
การสลักหลังในใบประจําต่อครั้งแรกต้องเขียนคาบบนตั๋วเงินเดิมบ้างบนใบประจํา
ต่อบ้าง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตั๋วแลกเงิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


ส่วนที่ ๑
การออกและสลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กหลังตั๋วแลกเงิ น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๙๐๘ อันว่าตั๋วแลกเงินนั้น คือหนังสือตราสารซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าผู้สั่ง
จ่าย สั่งบุคคลอีกคนหนึ ่ง เรียกว่าผู้จ่าย ให้ใช้เกงิานจํานวนหนึ่งสํแก่านับกุคงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี คลคนหนึ่ง หรือให้ใช้ตกาามคําสั่งของ
บุคคลคนหนึ่งซึ่งเรียกว่าผู้รับเงิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๐๙ อันตั๋วแลกเงินนั้น ต้องมีรายการดั่งกล่าวต่อไปนี้ คือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) คําบอกชื่อว่าเป็นตั๋วแลกเงิน
(๒) คํากสัา ่งอันปราศจากเงื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
นไขให้จ่ายเงินเป็นจํานวนแน่
กา นอน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ชื่อ หรือยี่ห้อผู้จ่าย
สํ(๔)
านักวังานคณะกรรมการกฤษฎี
นถึงกําหนดใช้เงิน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) สถานที่ใช้เงิน
(๖) ชื่อกาหรือยี่ห้อผู้รับสํเงิานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หรือคําจดแจ้งว่าให้ใช้เกงินา แก่ผู้ถือ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) วันและสถานที่ออกตั๋วเงิน
สํ(๘)
านักลายมื อชื่อผู้สั่งจ่าย กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๙๑๐ ตราสารอั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
มีรายการขาดตกบกพร่กา องไปจากที่ทสํ่าานันระบุ บังคับไว้ใน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตราก่อนนี้ ย่อมไม่ สมบูรณ์เป็นตั๋วแลกเงิน เว้นแต่ในกรณีดสํั่งาจะกล่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าวต่อไปนี้ คือ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตั๋วแลกเงินซึ่งไม่ระบุเวลาใช้เงิน ท่านให้ถือว่าพึงใช้เงินเมื่อได้เห็น
ถ้าสถานที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ใช้เงินมิได้สํแาถลงไว้ ในตั๋วแลกเงิน ท่านให้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ถือเอาภูมิลสํําาเนาของผู ้จ่ายเป็น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๔๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
สถานที่ใช้เงิน
ถ้าตั๋วกแลกเงิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นไม่แสดงให้
สํานักปงานคณะกรรมการกฤษฎี
รากฏสถานที่ออกตั๋วกาท่านให้ถือว่าตัสํ๋วานัเงิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้นได้ออก ณ กา
ภูมิลําเนาของผู้สั่งจ่าย
สํถ้าานัมิกไงานคณะกรรมการกฤษฎี
ด้ลงวันออกตั๋ว ท่านว่กาาผู้ทรงโดยชอบด้
สํานัวกยกฎหมายคนหนึ ่งคนใดทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าการโดย
สุจริตจะจดวันตามที่ถูกต้องแท้จริงลงก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๑๑ ผู้สั่งจ่ายจะเขีกยา นข้อความกําสํหนดลงไว้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ว่าจํานวนเงินอันจะพึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งใช้นั้นให้
คิดดอกเบี้ยด้วยก็ได้ และในกรณีเช่นนั้น ถ้ามิได้กล่าวลงไว้เป็นอย่างอื่น ท่านว่าดอกเบี้ยย่อมคิดแต่
สํานักวังานคณะกรรมการกฤษฎี
นที่ลงในตั๋วเงิน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๑๒ อันตั๋วแลกเงินกนัา ้นจะออกสั่งให้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัใช้กเงานคณะกรรมการกฤษฎี
งินตามคําสั่งของผู้สั่งจ่กายก็
า ได้
อนึ่ง จะสั่งจ่ายเอาจากตัวผู้สั่งจ่ายเอง หรือสั่งจ่ายเพื่อบุคคลภายนอกก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๑๓ อันวันถึงกําหนดของตั๋วแลกเงินนั้น ท่านว่าย่อมเป็นอย่างใดอย่าง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หนึ่งดั่งกล่าวต่อไปนี้ คือ
(๑) ในวันใดวันหนึ่งทีสํ่กาํานัหนดไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เมื่อสิ้นระยะเวลาอันกําหนดไว้นับแต่วันที่ลงในตั๋วนั้น หรือ
สํ(๓)
านักเมื ่อทวงถาม หรือเมื่อได้กเาห็น หรือ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(๔) เมื่อสิ้นระยะเวลาอันกําหนดไว้นับแต่ได้เห็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๑๔ บุคคลผู้สั่งจ่ายหรือสลักหลังตั๋วแลกเงินย่อมเป็นอันสัญญาว่า เมื่อตั๋ว
นั้นได้นํายื่นโดยชอบแล้ วจะมีผู้รับรองและใช้กเางินตามเนื้อความแห่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งตั๋ว ถ้าและตั๋วแลกเงิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กานนั้นเขาไม่
เชื่อถือโดยไม่ยอมรับรองก็ดี หรือไม่ยอมจ่ายเงินก็ดี ผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังก็จะใช้เงินแก่ผู้ทรง หรือ
สํานักแก่ ผู้สลักหลังคนหลังซึ่งกต้าองถูกบังคับให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัใช้กเงานคณะกรรมการกฤษฎี
งินตามตั๋วนั้น ถ้าหากว่กาา ได้ทําถูกต้องตามวิ ธีการในข้อไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รับรองหรือไม่จ่ายเงินนั้นแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๙๑๕ ผู้สั่งจ่าสํยตั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัก๋วงานคณะกรรมการกฤษฎี
แลกเงินและผู้สลักหลังกคนใด
า ๆ ก็ดี จะจดข้ อกําหนดซึ่งจะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กล่าวต่อไปนี้ลงไว้ชัดแจ้งในตั๋วนั้นก็ได้ คือ
สํ(๑)
านักข้งานคณะกรรมการกฤษฎี
อกําหนดลบล้างหรือจํกาากัดความรับผิดสํของตนเองต่ อผู้ทรงตั๋วเงิน กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๒) ข้อกําหนดยอมลดละให้แก่ผู้ทรงตั๋วเงินซึ่งหน้าที่ทั้งหลายอันผู้ทรงจะพึงต้องมีแก่
สํานักตนบางอย่ างหรือทั้งหมดกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๑๖ บุคคลทั้งหลายผู


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ถูกฟ้องในมูสํลานัตัก๋วงานคณะกรรมการกฤษฎี
แลกเงินหาอาจจะต่อสูก้ผาู้ทรงด้วยข้อ
ต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างตนกับผู้สั่งจ่ายหรือกับผู้ทรงคนก่อน ๆ นั้นได้ไม่
สํานักเว้งานคณะกรรมการกฤษฎี
นแต่การโอนจะได้มีขึ้นกาด้วยคบคิดกันสํฉ้าอนัฉล
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๑๗ อันตั๋วแลกเงินทุกฉบับ ถึงแม้ว่าจะมิใช่สั่งจ่ายให้แก่บุคคลเพื่อเขาสั่งก็
สํานักตาม ท่านว่าย่อมโอนให้กกาันได้ด้วยสลักหลั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานังกและส่ งมอบ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๔๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
เมื่อผู้สั่งจ่ายเขียนลงในด้านหน้าแห่งตั๋วแลกเงินว่า “เปลี่ยนมือไม่ได้” ดั่งนี้ก็ดี หรือ
สํานักเขีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยนคําอื่นอันได้ความเป็ กา นทํานองเช่นสําเดีนักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
วกันนั้นก็ดี ท่านว่าตั๋วกเงิานนั้นย่อมจะโอนให้ กันได้แต่โดย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รูปการและด้วยผลอย่างการโอนสามัญ
สํอนึ
านั่งกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตั๋วเงินจะสลักหลังให้แก่กาผู้จ่ายก็ได้ ไม่วสํ่าานัผู้กจงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ายจะได้รับรองตั๋วนั้นหรืกาอไม่ หรือจะ
สลักหลังให้แก่ผู้สั่งจ่าย หรือให้แก่คู่สัญญาฝ่ายอื่นใดแห่งตั๋วเงินนั้นก็ได้ ส่วนบุคคลทั้งหลายเหล่านี้ก็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ย่อมจะสลักหลังตั๋วเงินนั้นต่อไปอีกได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๑๘ ตั๋วแลกเงินอันสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือนั้น ท่านว่าย่อมโอนไปเพียงด้วยส่ง
สํานักมอบให้ กัน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๑๙ คําสลักหลังนัก้นา ต้องเขียนลงในตั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก๋วงานคณะกรรมการกฤษฎี
แลกเงินหรือใบประจํากต่า อ และต้อง
ลงลายมือชื่อผู้สลักหลัง
การสลักกา หลังย่อมสมบูสํารนัณ์กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี แม้ทั้งมิได้ระบุชื่อผู้รับประโยชน์
กา ไว้ด้วยสําหรื
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
แม้ผู้สลักหลัง กา
จะมิได้กระทําอะไรยิ่งไปกว่าลงลายมือชื่อของตนที่ด้านหลังตั๋วแลกเงินหรือที่ใบประจําต่อก็ย่อมฟัง
เป็นสมบูรณ์ดุจกันสําการสลั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กหลังเช่นนี้ท่านเรียกว่า “สลักหลังสํลอย”
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๙๒๐ อันการสลักหลังย่อมโอนไปซึ่งบรรดาสิทธิอันเกิดแต่ตั๋วแลกเงิน
สํถ้าานัสลั กหลังลอย ผู้ทรงจะปฏิกบา ัติดั่งกล่าวต่อสํไปนี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี านัก้ปงานคณะกรรมการกฤษฎี
ระการหนึ่งประการใดก็ กาได้ คือ
(๑) กรอกความลงในที่ว่างด้วยเขียนชื่อของตนเองหรือชื่อบุคคลอื่นผู้ใดผู้หนึ่ง
(๒) สลักากหลังตั๋วเงินต่สําอนัไปอี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กเป็นสลักหลังลอย กหรืา อสลักหลังให้สําแนัก่กบงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ุคคลอื่นผู้ใดผู้ กา
หนึ่ง
สํ(๓)
านักโอนตั ๋วเงินนั้นให้ไปแก่บกุคา คลภายนอกโดยไม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กรอกความลงในที่ว่ากงาและไม่สลัก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หลังอย่างหนึ่งอย่างใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๒๑ การสลักหลังตั๋วแลกเงินซึ่ งสั่งให้ใ ช้เงินแก่ผู้ถือนั้น ย่อมเป็นเพียง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกัน (อาวัล) สําหรับผู้สั่งจ่าย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๒๒ การสลักหลังนั้นต้องให้เป็นข้อความอันปราศจากเงื่อนไข ถ้าและวาง
เงื่อนไขบังคับลงไว้สําอนัย่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
งใด ท่านให้ถือเสมือนว่กาาข้อเงื่อนไขนั้นสํมิานัได้กเงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขียนลงไว้เลย กา
อนึ่ง การสลักหลังโอนแต่บางส่วน ท่านว่าเป็นโมฆะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๒๓ ผู้สลักหลังคนใดระบุข้อความห้ามสลักหลังสืบไปลงไว้แล้ว ผู้สลักหลัง
คนนั้นย่อมไม่ต้องรัสําบนัผิกดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ต่อบุคคลอันเขาสลักหลั
กางตั๋วแลกเงินนัสํ้นานัให้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไปในภายหลัง กา

มาตรากา๙๒๔ ถ้าตั๋วสํแลกเงิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นสลักหลังต่อเมื่อสิ้นกเวลาเพื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่อคัดค้าสํนการไม่ รับรองหรือ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การไม่ใช้เงินนั้นแล้ วไซร้ ท่านว่าผู้รับสลักหลังย่อมได้ไปซึ่งสิสําทนัธิกแงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ห่งการรับรองตามแต่กมาีต่อผู้จ่ายกับ
สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่บรรดาผู้ซึ่งสลักหลังตั๋วเงินนั้นภายหลังที่สิ้นเวลาเช่นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีแต่ถ้ากตัา๋วเงินนั้นได้มีคสํัดานัค้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
นการไม่รับรองหรือการไม่
กา ใช้เงินมาแต่
สํากนั่อกนสลั กหลังแล้ว
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๔๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ไซร้ ท่านว่าผู้รับสลักหลังย่อมได้ไปแต่เพียงสิทธิของผู้ซึ่งสลักหลังให้แก่ตนอันมีต่อผู้รับรองต่อผู้สั่งจ่าย
สํานักและต่ อบรรดาผู้ที่สลักหลักางตั๋วเงินนั้นมาก่
งานคณะกรรมการกฤษฎี สําอนันย้ อนขึ้นไปจนถึงเวลาคัดกาค้านเท่านั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํมาตรา ๙๒๕ เมื่อใดความทีก่สาลักหลังมีข้อกํสําาหนดว่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า “ราคาอยู่ที่เรียกเก็กบา ” ก็ดี“เพื่อ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เรียกเก็บ” ก็ดี “ในฐานจัดการแทน” ก็ดี หรือความสํานวนอื่นใดอันเป็นปริยายว่าตัวแทนไซร้ ท่านว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ทรงตั๋วแลกเงินจะใช้สิทธิทั้งปวงอันเกิดแต่ตั๋วนั้นก็ย่อมได้ทั้งสิ้น แต่ว่าจะสลักหลังได้เพียงในฐานเป็น
ตัวแทน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีเช่นนี้ คู่สัญญาทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดอาจจะต่อสู้ผู้ทรงได้แต่เพียงด้วยข้อต่อสู้
สํานักอังานคณะกรรมการกฤษฎี
นจะพึงใช้ได้ต่อผู้สลักหลั
กา งเท่านั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๒๖ เมื่อใดความทีก่สา ลักหลังมีข้อสํกําานัหนดว่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า”ราคาเป็นประกันก”า ก็ดี “ราคา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นจํานํา” ก็ดี หรือข้อกําหนดอย่างอื่นใดอันเป็นปริยายว่าจํานําไซร้ ท่านว่าผู้ทรงตั๋วแลกเงินจะใช้
สํานักสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทธิทั้งปวงอันเกิดแต่ตกั๋วานั้นก็ย่อมได้ทสํั้งาสินั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่ถ้าผู้ทรงสลักหลังตั๋วกนัา ้น ท่านว่าการสลั
สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หลังย่อมใช้ได้ กา
เพียงในฐานเป็นคําสลักหลังของตัวแทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คู่สั ญ ญาทั้ ง หลายซึ่ ง ต้ อ งรั บ ผิ ด หาอาจจะต่ อ สู้ ผู้ ท รงด้ ว ยข้ อ ต่ อ สู้ อั น อาศั ย ความ
เกี่ยวพันเฉพาะบุคคลระหว่างตนกับผู้สสํลัากนัหลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งนั้นได้ไม่ เว้นแต่การสลักหลังจะได้มสํีขาึ้นนัด้กวงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยคบคิดกันฉ้อ กา
ฉล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา การรับรอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๒๗ อันตั๋วแลกเงินนั้ นจะนําไปยื่นแก่ผู้จ่าย ณ ที่ อยู่ ของผู้จ่าย เพื่อ ให้
สํานักรังานคณะกรรมการกฤษฎี
บรองเมื่อไร ๆ ก็ได้ จนกว่ กา าจะถึงเวลากํ
สําานัหนดใช้ เงินและผู้ทรงจะเป็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กานผู้ยื่นหรือเพีสํยางแต่ ผู้ที่ได้ตั๋วนั้นไว้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ในครอบครองจะเป็นผู้นําไปยื่นก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในตั๋วแลกเงินนั้น ผู้สั่งจ่ายจะลงข้อกําหนดไว้ว่าให้นํายื่นเพื่อรับรองโดยกําหนดเวลา
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
ากัดไว้ให้ยื่น หรือไม่กํากหนดเวลาก็
า ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้สั่งจ่ายจะห้ามการนําตั๋วแลกเงินยื่นเพื่อรับรองก็ได้ เว้นแต่ในกรณีที่เป็นตั๋วเงินอัน
ได้ออกสั่งให้ใช้เงินสําเฉพาะ ณ สถานที่อื่นใดอันกมิา ใช่ภูมิลําเนาของผู
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้จ่าย หรือได้ออกสั่งให้กใช้า เงินในเวลา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใดเวลาหนึ่งนับแต่ได้เห็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อนึ่ง ผูก้สาั่งจ่ายจะลงข้อสํกํานัากหนดไว้ ว่ายังมิให้นําตั๋วยื่นกาเพื่อให้รับรองก่สํอานันถึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี งกําหนดวันใด
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
วันหนึ่งก็ได้
สํผูา้สนัลักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หลังทุกคนจะลงข้อกํกาหนดไว้า ว่า ให้สํนาํานัตัก๋วงานคณะกรรมการกฤษฎี
เงินยื่นเพื่อรับรอง โดยกํ กา าหนดเวลา
จํากัดไว้ให้ยื่น หรือไม่กําหนดเวลาก็ได้ เว้นแต่ผู้สั่งจ่ายจะได้ห้ามการรับรอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๒๘ ผู้ทรงตั๋วแลกเงินอันสั่งให้ใช้เสํงิานนัเมืกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่อสิ้นระยะเวลากําหนดอย่
กา
างใดอย่าง
หนึ่งนับแต่ได้เห็นนั้น ต้องนําตั๋วเงินยื่นเพื่อให้รับรองภายในหกเดือนนับแต่วันที่ลงในตั๋วเงินหรือภายใน
สํานักเวลาช้ าเร็วกว่านั้นตามแต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาผู้สั่งจ่ายจะได้สํราะบุ ไว้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา๙๒๙ ภายในบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานังกคังานคณะกรรมการกฤษฎี
บบทบัญญัติมาตรา ๙๒๗
กา ผู้ทรงตั๋วแลกเงิ
สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
มีสิทธิที่จะยื่น กา
ตั๋วเงินแก่ผู้จ่ายได้ในทันใดเพื่อให้รับรอง ถ้าและเขาไม่รับรองภายในเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงไซร้ ผู้ทรงก็มี
สิทธิที่จะคัดค้าน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๙๓๐ ในการยื่นตั๋วแลกเงินเพื่อให้เขารับรองนั้น ผู้ทรงไม่จําต้องปล่อยตั๋วนั้น
ให้ไว้ในมือผู้จ่าย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง ผู้จ่ายจะเรียกให้ยื่นตั๋วแลกเงินแก่ตนอีกเป็นครั้งที่สองในวันรุ่งขึ้นแต่วันที่ยื่น
สํานักครั ้งแรกนั้นก็ได้ ท่านห้ากมมิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ให้คู่กรณีทสํี่มาีสนั่วกนได้ เสียยกเอาการที่มิไกด้าอนุวัตตามคําเรีสํายนักอั
งานคณะกรรมการกฤษฎี นนี้ขึ้นเป็นข้อ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ต่อสู้ เว้นแต่การเรียกนั้นได้ระบุไว้ในคําคัดค้าน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๓๑ การรับรองนั้นพึงกระทําด้วยเขียนลงไว้ในด้านหน้าแห่งตั๋วแลกเงิน
สํานักเป็ นถ้อยคําสํานวนว่า “รักาบรองแล้ว” หรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี สําอนัความอย่ างอื่นทํานองเช่นกเดี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ยวกันนั้น และลงลายมื อชื่อของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้จ่าย อนึ่งแต่เพียงลายมือชื่อของผู้จ่ายลงไว้ในด้านหน้าแห่งตั๋วแลกเงิน ท่านก็จัดว่าเป็นคํารับรองแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๓๒ ตั๋วแลกเงิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นฉบับใดเขียนสั่งให้ใช้เงินในกําหนดระยะเวลาอย่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
างใดอย่าง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หนึ่งนับแต่วันที่ล งในตั๋ วเงิ นนั้น แต่ หากมิได้ ลงวั นไว้ ก็ดี หรือตั๋วเงิ นฉบับใดสั่งให้ใ ช้เงินในกํ าหนด
ระยะเวลาอย่างใดอย่ สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
งหนึ่งนับแต่ได้เห็น แต่กหาากคํารับรองตัสํา๋วนันัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
มิได้ลงวันไว้ก็ดีตั๋วแลกเงิ
กา นเช่นว่ามา
นี้ ท่านว่าผู้ทรงจะจดวันออกตั๋วหรือวันรับรองลงตามที่แท้จริงก็ได้ แล้วพึงให้ใช้เงินตามนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อนึ่ง ท่กาานบัญญัติไว้วสํ่าานัในกรณี ที่ผู้ทรงทําการโดยสุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาจริตแต่ลงวันสํคลาดเคลื ่อนไปด้วย
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สําคัญผิด และในกรณีลงวันผิดทุกสถาน หากว่าในภายหลังตั๋วเงินนั้นตกไปยังมือผู้ทรงโดยชอบด้วย
กฎหมายแล้ว ตั๋วสํเงิานันกจะเสี ยไปเพราะเหตุนั้นกก็า หาไม่ ท่านให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัคกงเป็ นตั๋วเงินที่ใช้ได้ และพึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งใช้เงินกัน
เสมือนดั่งว่าวันที่ได้จดลงนั้นเป็นวันที่ถูกต้องแท้จริง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๓๓ ถ้าการรับรองมิได้ลงวัน ท่านให้ถือเอาวันสุดท้ายแห่งระยะเวลาอัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กําหนดไว้เพื่อรับรองนั้นเป็นวันรับรอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๓๔ ถ้า ผู้ จ่า ยเขี ยนคํ ารับ รองลงในตั๋ว แลกเงิน แล้ว แต่ ห ากกลับ ขีดฆ่ า
เสียก่อนตั๋วเงินนั้สํนาหลุ
นักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
พ้นไปจากมือตนไซร้ กท่าานให้ถือเป็นสํอัานนัว่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้บอกปัดไม่รับรอง แต่กา ถ้าผู้จ่ายได้
แจ้งความเป็นหนังสือไปยังผู้ทรง หรือคู่สัญญาฝ่ายอื่นซึ่งได้ลงนามในตั๋วเงินว่าตนรับรองตั๋วเงินนั้นก่อน
สํานักแล้ ว จึงมาขีดฆ่าคํารับรองต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อภายหลังสํไซร้
านักท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านว่าผู้จ่ายก็คงต้องผูกกาพันอยู่ตามเนื้อสําความที ่ตนได้เขียน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รับรองนั้นเอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๓๕ อันการรับรองนั้นย่อมมีได้สองสถาน คือรับรองตลอดไป หรือรับรอง
สํานักเบี ่ยงบ่าย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การรับรองตลอดไป คือยอมตกลงโดยไม่แก้สํแานัย้กงงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําสั่งของผู้สั่งจ่ายแต่อกย่าางหนึ่งอย่าง
ใดเลย
ส่วนการรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บรองเบี่ยงบ่
สํานัายนั ้น กล่าวเป็นเนื้อความทํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าผลแห่งตั๋วสํเงิานนักให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
แผกไปจากที่ กา
- ๑๔๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
เขียนสั่งไว้
กล่าวโดยเฉพาะก็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา คือสํว่านัา กถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าคํารับรองมีเงื่อนไขก็กดาี หรือรับรองแต่
สํานัเพีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยงบางส่วนก็ดี กา
ท่านว่าเป็นรับรองเบี่ยงบ่าย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๓๖ คํารับรองเบี่ยงบ่ายนั้น ผู้ทรงตั๋วแลกเงินจะบอกปัดเสียก็ได้ และถ้า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่ได้คํารับรองอันไม่เบี่ยงบ่าย จะถือเอาว่าตั๋วเงินนั้นเป็นอันขาดความเชื่อถือรับรองก็ได้
สํถ้าานัผูก้ทงานคณะกรรมการกฤษฎี
รงรับเอาคํารับรองเบีก่ยางบ่าย และผูสํ้สาั่งนัจ่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
ยหรือผู้สลักหลังมิได้ใกห้าอํานาจแก่ผู้
ทรงโดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยายให้รับเอาคํารับรองเบี่ยงบ่ายเช่นนั้นก็ดี หรือไม่ยินยอมด้วยใน
สํานักภายหลั งก็ดี ท่านว่าผู้สกั่งาจ่ายหรื อผู้สลัสํากนัหลั
งานคณะกรรมการกฤษฎี งนั้น ๆ ย่อมหลุดพ้นกจากความรั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า บผิสํดาตามตั ๋วเงินนั้นแต่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บทบัญญัติทั้งนี้ท่านมิให้ใช้ไปถึงการรับรองแต่บางส่วนซึ่งได้บอกกล่าวก่อนแล้วโดยชอบ
สํถ้าานัผูก้สงานคณะกรรมการกฤษฎี
ั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังตัก๋วาเงินรับคําบอกกล่
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
วการรับรองเบี่ยงบ่ายแล้กา วไม่โต้แย้ง
ไปยังผู้ทรงภายในเวลาอันสมควร ท่านให้ถือว่าผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังนั้นเป็นอันได้ยินยอมด้วยกับ
สํานักการนั ้นแล้ว
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๓๗ ผู้จ่ายได้ทําการรับรองตั๋วแลกเงิ นแล้วย่อมต้องผูกพันในอันจะจ่ายเงิน
จํานวนที่รับรองตามเนื้อความแห่งคํารับสํารองของตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่วนที่ ๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อาวัล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๓๘ ตั๋วแลกเงินจะมี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ผู้ค้ําประกัสํนารันับกประกั นการใช้เงินทั้งจํกานวนหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า อแต่
บางส่วนก็ได้ ซึ่งท่านเรียกว่า “อาวัล”
อันอาวักาลนั้นบุคคลภายนอกคนใดคนหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่งจะเป็นผูก้รา ับ หรือแม้คู่สสํัญานัญาแห่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งตั๋วเงินนั้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเป็นผู้รับก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๙๓๙ อันการรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานับกอาวั ลย่อมทําให้กันด้วยเขี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนลงในตั๋วเงิสํานนันัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
เอง หรือที่ใบ กา
ประจําต่อ
สํในการนี ้พึงใช้ถ้อยคําสํานวนว่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา า “ใช้ได้เป็นสํอาวั
านักลงานคณะกรรมการกฤษฎี
” หรือสํานวนอื่นใดทํากนองเดี
า ยวกัน
นั้น และลงลายมือชื่อผู้รับอาวัล
อนึ่ง เพี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กายงแต่ลงลายมืสําอนัชืก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
ของผู้รับอาวัลในด้านหน้
กา าแห่งตั๋วเงินสําท่นัากนก็ จัดว่าเป็นคํา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รับอาวัลแล้ว เว้นแต่ในกรณีที่เป็นลายมือชื่อของผู้จ่ายหรือผู้สั่งจ่าย
สํในคํ
านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
รับอาวัลต้องระบุว่ารับกาประกันผู้ใด หากมิ ได้ระบุ ท่านให้ถือว่ารักบาประกันผู้สั่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จ่าย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๔๐ ผู้รับอาวัลย่อมต้องผูกพันเป็สํนาอย่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
างเดียวกันกับบุคคลซึ่งตนประกัน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แม้ถึงว่าความรับผิดใช้เงินอันผู้รับอาวัลได้ประกันอยู่นั้นจะตกเป็นใช้ไม่ได้ด้วยเหตุใด
สํานักๆงานคณะกรรมการกฤษฎี
นอกจากเพราะทําผิดกแบบระเบี
า ยบ ท่สําานว่
นักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ข้อที่สัญญารับอาวัลนัก้นาก็ยังคงสมบูรณ์สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๔๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
เมื่อผู้รับอาวัลได้ใช้เงินไปตามตั๋วแลกเงินแล้ว ย่อมได้สิทธิในอันจะไล่เบี้ยเอาแก่
สํานักบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
คคลซึ่งตนได้ประกันไว้กากับทั้งบุคคลทัสํ้งาหลายผู ้รับผิดแทนตัวผู้นั้นกา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่วนที่ ๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การใช้เงิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๔๑ อันตั๋วแลกเงินนั้น ย่อมจะพึงใช้เงินในวันถึงกําหนดและถึงกําหนดวัน
สํานักใด ผู้ทรงต้องนําตั๋วเงินไปยื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่นเพื่อให้ใช้เงิสํนานัในวั นนั้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๔๒ อันจะบังคับให้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาผู้ทรงตั๋วแลกเงิ
สํานนัรักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
เงินใช้ก่อนตั๋วเงินถึงกํากหนดนั
า ้นท่าน
ว่าหาอาจจะทําได้ไม่
อนึ่ง ผูก้จา ่ายคนใดใช้เงิสํนานัไปแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ก่อนเวลาตั๋วเงินถึงกํกาา หนด ท่านว่าสํย่าอนัมทํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี าเช่นนั้นด้วย
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เสี่ยงเคราะห์ของตนเอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๔๓ อันการถึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งกําหนดแห่งตั๋วแลกเงินซึ่งสั่งให้ใช้เงินเมืสํา่อนัสิก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ระยะเวลาอัน กา
ใดอันหนึ่งนับแต่วันได้เห็นนั้น ท่านให้กําหนดนับแต่วันรับรองหรือวันคัดค้าน
สํถ้าานัไม่ มีคําคัดค้าน และคํารับการองมิได้ลงวันสําท่นัากนให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ถือว่าผู้รับรองได้ให้กคาํารับรองนั้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ในวันท้ายแห่งกําหนดเวลาซึ่งจํากัดไว้ตามกฎหมาย หรือตามสัญญาเพื่อการยื่นตั๋วนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๔๔ อันตั๋วแลกเงินซึ่งให้ใช้เงินเมื่อได้เห็นนั้น ท่านว่าย่อมจะพึงใช้เงินในวัน
เมื่อยื่นตั๋ว ทั้งนี้ตสํ้อางยืนัก่นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ใช้เงินภายในกําหนดเวลา
กา ซึ่งบังคัสํบาไว้นักเพืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อการยื่นให้รับรองตั๋วกเงิานชนิดให้ใช้
เงินในเวลาใดเวลาหนึ่งภายหลังได้เห็นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๔๕ การใช้เงินจะเรียกเอาได้ต่อเมื่อได้เวนตั๋วแลกเงินให้ผู้ใช้เงินจะให้ผู้ทรง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลงลายมือชื่อรับรองในตั๋วเงินนั้นก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๔๖ อันตั๋วแลกเงินนั้น ถ้าเขาจะใช้เงินให้แต่เพียงบางส่วน ท่านว่าผู้ทรงจะ
บอกปัดเสียไม่ยอมรั
สํานับกเอาก็ ได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าและรับเอาเงินที่เขาใช้แต่เพียงบางส่วน ผู้ทรงต้องบันทึกข้อความนั้นลงไว้ในตั๋ว
สํานักเงิงานคณะกรรมการกฤษฎี
น และส่งมอบใบรับให้กแาก่ผู้ใช้เงิน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๔๗ ถ้าตั๋วแลกเงินกมิาได้ยื่นเพื่อให้ใสํช้านัเงิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในวันถึงกําหนดไซร้ ท่กานว่
า าผู้รับรอง
จะเปลื้องตนให้พ้นจากความรับผิดโดยวางจํานวนเงินที่ค้างชําระตามตั๋วนั้นไว้ก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๔๘ ถ้าผู้ทรงตั๋วแลกเงินยอมผ่อสํานเวลาให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แก่ผู้จ่ายไซร้ ท่านว่าผู้ทรงสิ้น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิทธิที่จะไล่เบี้ยเอาแก่ผู้เป็นคู่สัญญาคนก่อน ๆ ซึ่งมิได้ตกลงในการผ่อนเวลานั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๕๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๙๔๙ ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติมาตรา ๑๐๐๙ บุคคลผู้ใช้เงินในเวลาถึง
สํานักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดย่อมเป็นอันหลุดกพ้า นจากความรัสํบานัผิกดงานคณะกรรมการกฤษฎี
เว้นแต่ตนจะได้ทําการฉ้ กาอฉลหรือมีความประมาทเลิ นเล่อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อย่างร้ายแรง อนึ่งบุคคลซึ่งกล่าวนี้จําต้องพิสูจน์ให้เห็นจริงว่าได้มีการสลักหลังติดต่อกันเรียบร้อยไม่
ขาดสาย แต่ไม่จําสํต้าอนังพิ สูจน์ลายมือชื่อของเหล่กาาผู้สลักหลัง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


ส่วนที่ ๕
การสอดเข้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าแก้หน้าสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๙๕๐ ผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังจะระบุบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดไว้ก็ได้ว่าเป็นผู้จะ
รับรอง หรือใช้เงินสํยามประสงค์ ณ สถานที่ใช้เกงิาน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภายในเงื่อนบังคับดั่งจะกล่าวต่อไปข้างหน้า บุคคลผู้หนึ่งผู้ใดจะรับรองหรือใช้เงิน
สํานักตามตั ๋วแลกเงินในฐานเป็กนา ผู้สอดเข้าแก้สํหาน้นัากบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี คคลใดผู้ลงลายมือชื่อกในตั
า ๋วนั้นก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้สอดเข้าแก้หน้านั้นจะเป็นบุคคลภายนอกก็ได้ แม้จะเป็นผู้จ่ายหรือบุคคลซึ่งต้องรับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผิดโดยตั๋วเงินนั้นอยู่แล้วก็ได้ ห้ามแต่ผู้รับรองเท่านั้น
ผู้สอดเข้าแก้หน้าจําต้สําอนังให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําบอกกล่าวโดยไม่ชักช้า เพื่อให้คู่สสํัญานัญาฝ่
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ายซึ่งตนเข้า
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แก้หน้านั้นทราบการที่ตนเข้าแก้หน้า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) การรับรองเพื่อแก้หน้า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๕๑ การรับรองด้วยสอดเข้าแก้หน้า ย่อมมีได้ในบรรดากรณีซึ่งผู้ทรงมีสิทธิ
ไล่เบี้ยได้ก่อนถึงกํสําาหนดตามตั ๋วเงินอันเป็นตั๋วสามารถจะรั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บรองได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การรับรองด้วยสอดเข้าแก้หน้านั้น ผู้ทรงจะบอกปัดเสียก็ได้ แม้ถึงว่าบุคคลผู้ซึ่งบ่งไว้
สํานักว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าจะเป็นผู้รับรอง หรือใช้ กาเงินยามประสงค์สํานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ั้นจะเป็นผู้เสนอเข้ารับรองก็
กา บอกปัดได้สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าผู้ ท รงยอมให้ เ ข้ า รั บ รองแล้ ว ผู้ท รงย่ อมเสี ย สิท ธิไ ล่เ บี้ยก่ อ นถึ ง กํ าหนดเอาแก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คู่สัญญาทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดต่อตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๕๒ อันการรับรองด้วยสอดเข้าแก้หน้านั้น ย่อมทําด้วยเขียนระบุความลง
บนตั๋วแลกเงิน และลงลายมื อชื่อของผู้สอดเข้กาาแก้หน้าเป็นสํสําาคันัญกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อนึ่งต้องระบุลงไว้ว่าการรั
กา บรองนั้น
ทําให้เพื่อผู้ใด ถ้ามิได้ระบุไว้เช่นนั้นท่านให้ถือว่าทําให้เพื่อผู้สั่งจ่าย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๕๓ ผู้รับรองด้วยสอดเข้าแก้หน้าย่อมต้องรับผิดต่อผู้ทรงตั๋วเงินนั้น และ
รับผิดต่อผู้สลักหลัสํงานัทัก้งงานคณะกรรมการกฤษฎี
หลายภายหลังคู่สัญญาฝ่
กาายซึ่งตนเข้าแก้
สํานัหกน้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าอย่างเดียวกันกับที่คู่สกัญา ญาฝ่ายนั้น
ต้องรับผิดอยู่เอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) การใช้เงินเพื่อแก้หสํน้านัากงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๙๕๔ อันการใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัเกงิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นเพื่อแก้หน้าย่อมมีได้ใกนบรรดากรณี
า ซสํึ่งาผูนั้ทกรงมี สิทธิไล่เบี้ย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
เมื่อตั๋วเงินถึงกําหนดหรือก่อนถึงกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี การใช้กเางินนั้น ท่านว่าสํอย่
านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
งช้าที่สุดต้องทําในวันรุก่งขึา ้น แต่วันท้ายแห่
สํานังกกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดเวลาซึ่ง กา
จํากัดอนุญาตไว้ให้ทําคําคัดค้านการไม่ใช้เงิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๕๕ ถ้าตั๋วแลกเงินได้รับรองเพื่อแก้หน้าแล้วก็ดี หรือได้มีตัวบุคคลระบุว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นผู้จะใช้เงินยามประสงค์แล้วก็ดี ผู้ทรงต้องยื่นตั๋วเงินนั้นต่อบุคคลนั้น ๆ ณ สถานที่ใช้เงิน และถ้า
จําเป็นก็ต้องจัดการทํ
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
คําคัดค้านการไม่ใช้เงินกอย่
า างช้าที่สุดในวั
สํานันกรุงานคณะกรรมการกฤษฎี
่งขึ้นแต่วันท้ายแห่งกํากหนดเวลาอั
า น
จํากัดไว้เพื่อทําคําคัดค้าน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้าไม่คกัาดค้านภายในกํสําานัหนดเวลานั ้น ท่านว่าคู่สกัญา ญาฝ่ายที่ได้สํราะบุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัวผู้ใช้เงินยาม กา
ประสงค์ หรือคู่สัญญาฝ่ายซึ่งได้มีผู้รับรองตั๋วเงินให้แล้วนั้น กับทั้งบรรดาผู้สลักหลังในภายหลังย่อม
เป็นอันหลุดพ้นจากความรั บผิด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๙๕๖ การใช้สํเางินันกเพืงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่อแก้หน้านั้น ใช้เพื่อคูก่สาัญญาฝ่ายใดต้สํอานังใช้ จงเต็มจํานวน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อันคู่สัญญาฝ่ายนั้นจะต้องใช้ เว้นแต่ค่าชักส่วนลดดั่งบัญญัติไว้ในมาตรา ๙๖๘ (๔)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ทรงคนใดบอกปัดไม่ยอมรับเงินอันเขาใช้สํให้านัท่กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
านว่าผู้ทรงคนนั้นย่อมเสี ยสิทธิในอัน
จะไล่เบี้ยเอาแก่บุคคลทั้งหลายเหล่านั้นสํซึานั่งพอที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่จะได้หลุดพ้นจากความรับผิดเพราะการใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เงินนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๕๗ การใช้เงินเพืก่อาแก้หน้าต้องทํสําาให้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
ป็นหลักฐานด้วยใบรับกเขีายนลงในตั๋ว
แลกเงิน ระบุความว่าได้ใช้เงินเพื่อบุคคลผู้ใด ถ้ามิได้ระบุตัวไว้ดั่งนั้น ท่านให้ถือว่าการใช้เงินนั้นได้ทํา
สํานักไปเพื ่อผู้สั่งจ่าย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตั๋วแลกเงินกับทั้งคําคัดค้านหากว่าได้ทําคัดค้าน ต้องส่งให้แก่บุคคลผู้ใช้เงินเพื่อแก้
หน้า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๙๕๘ บุคคลผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้ใช้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เงินเพื่อแก้หน้าย่อมรับกช่า วงสิทธิทั้งปวงของผู ้ทรงอันมีต่อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
คู่สัญญาฝ่ายซึ่งตนได้ใช้เงินแทนไป และต่อคู่สัญญาทั้งหลายผู้ต้องรับผิดต่อคู่สัญญาฝ่ายนั้น แต่หา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อาจจะสลักหลังตั๋วแลกเงินนั้นอีกต่อไปได้ไม่
อนึ่ง บรรดาผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ซึ่งสลักสํหลั
านักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ภายหลังคู่สัญญาฝ่ายซึก่งาเขาได้ใช้เงินแทนไปนั ้นย่อมหลุด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พ้นจากความรับผิด
สํในกรณี แข่งกันเข้าใช้เงินเพืก่อาแก้หน้า ท่านว่สําานัการใช้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี เงินรายใดจะให้ผลปลดหนี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้มาก
รายที่สุด พึงนิยมเอารายนั้นเป็นดียิ่ง
ถ้าไม่ดกําาเนินตามวิธีดสํั่งากล่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักางานคณะกรรมการกฤษฎี
วนี้ ท่านว่าผู้ใช้เงินทั้งกทีา่รู้เช่นนั้นย่อมเสี
สํานัยกสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทธิในอันจะไล่ กา
เบี้ยเอาแก่บุคคลทั้งหลายซึ่งพอที่จะได้หลุดพ้นจากความรับผิด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สิทธิไล่เบีสํ้ยาเพราะเขาไม่ รับรองหรือไม่กใช้า เงิน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๙๕๙ ผู้ทรงตั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํา๋วนัแลกเงิ นจะใช้สิทธิไล่เบี้ยกเอาแก่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า บรรดาผูสํา้สนัลักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หลัง ผู้สั่งจ่าย กา
- ๑๕๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
และบุคคลอื่น ๆ ซึ่งต้องรับผิดตามตั๋วเงินนั้นก็ได้ คือ
ก) ไล่เกบีา้ยได้เมื่อตั๋วเงิสํนาถึนังกกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าหนดในกรณีไม่ใช้เงินกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข) ไล่เบี้ยได้แม้ทั้งตั๋วเงินยังไม่ถึงกําหนดในกรณีดั่งจะกล่าวต่อไปนี้ คือ
สํ(๑)
านักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าเขาบอกปัดไม่รับรองตักา๋วเงิน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ถ้าผู้จ่ายหากจะได้รับรองหรือไม่ก็ตาม ตกเป็นคนล้มละลาย หรือได้งดเว้นการใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หนี้ แม้การงดเว้นใช้หนี้นั้นจะมิได้มีคําพิพากษาเป็นหลักฐานก็ตาม หรือถ้าผู้จ่ายถูกยึดทรัพย์และการ
ยึดทรัพย์นั้นไร้ผลสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ถ้าผู้สั่งจ่ายตั๋วเงินชนิดไม่จําเป็นต้องให้ผู้ใดรับรองนั้นตกเป็นคนล้มละลาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๖๐ การที่ตั๋วแลกเงินขาดรับรองหรือขาดใช้เงินนั้น ต้องทําให้เป็นหลักฐาน
ตามแบบระเบียบด้สําวนัยเอกสารฉบั บหนึ่ง เรียกว่กาาคําคัดค้าน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
คําคัดค้านการไม่ใช้เงินต้องทําในวันซึ่งจะพึงใช้เงินตามตั๋วนั้น หรือวันใดวันหนึ่ง
สํานักภายในสามวั นต่อแต่นั้นกไปา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําคัดค้านการไม่รับรองต้องทําภายในจํากัดเวลาซึ่งกําหนดไว้ เพื่อการยื่นตั๋วเงินให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เขารับรอง หรือภายในสามวันต่อแต่นั้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อมีคําคัดค้านการไม่ รับรองขึ้นแล้วก็เป็นอันไม่ต้องยื่นเพื่อให้ใสํช้าเงินันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และไม่ต้องทํา กา
คําคัดค้านการไม่ใช้เงิน
สํในกรณี ทั้งหลายซึ่งกล่าวไว้ใกนมาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ๙๕๙สํา(ข) (๒) นั้น ท่านว่าผู้ทรงยักงหาอาจจะใช้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า
สิทธิไล่เบี้ยได้ไม่ จนกว่าจะได้ยื่นตั๋วเงินให้ผู้จ่ายใช้เงินและได้ทําคําคัดค้านขึ้นแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณีกาทั้งหลายดั่งกล่สําานัวไว้ ในมาตรา ๙๕๙ (ข) (๓)
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นั้น ท่านว่าถ้สําาเอาคํ าพิพากษาซึ่ง
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สั่งให้ผู้สั่งจ่ายเป็นคนล้มละลายออกแสดง ก็เป็นการเพียงพอที่จะทําให้ผู้ทรงสามารถใช้สิทธิไล่เบี้ยได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๖๑ คํ า คั ด ค้ า นนั้ น ให้ น ายอํ า เภอ หรื อ ผู้ ทํ า การแทนนายอํ า เภอ หรื อ
สํานักทนายความผู ้ได้รับอนุญกาตเพื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ่อการนี้เป็สํนาผูนั้ทกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ํา กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมมีอํานาจออกกฎข้อบังคับเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ อันว่าด้วยการออกใบอนุญาตและการทําคําคัดค้าน รวมทั้งกําหนด
สํานักอังานคณะกรรมการกฤษฎี
ตราค่าฤชาธรรมเนียมอักานเกี่ยวกับการนั
สํา้นนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๖๒ ในคําคัดค้านนั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา้นนอกจากชื่อสําตํนัากแหน่ ง และลายมือชื่อของผู
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ทํา ต้องมี
สําเนาตั๋วเงินกับรายการสลักหลังทั้งหมดตรงถ้อยตรงคํากับระบุความดั่งจะกล่าวต่อไปนี้ คือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑) ชื่อกาหรือยี่ห้อของบุ สําคนัคลผู ้คัดค้านและผู้ถูกคัดค้กาา น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) มูล หรือเหตุที่ต้องทําคําคัดค้านตั๋วเงิน การทวงถามและคําตอบถ้ามี หรือข้อที่ว่า
หาตัวผู้จ่ายหรือผูสํ้ราับนัรองไม่ พบ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ถ้ามีการรับรอง หรือใช้เงินเพื่อแก้หน้า ให้แถลงลักษณะแห่งการเข้าแก้หน้าทั้ง
สํานักชืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อหรือยี่ห้อของผู้รับรองหรืกา อผู้ใช้เงินเพืสํ่อานัแก้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
หน้าและชื่อบุคคลซึ่งเขาเข้
กา าแก้หน้านั้นสํด้านัวยกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) สถานที่และวันทําคําคัดค้าน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ผู้ทําคําคัดค้านส่งมอบคําคัดค้านแก่ผู้ร้องขอให้ทํา และให้ผู้ทําคําคัดค้านรีบส่งคํา
สํานักบอกกล่ าวการคัดค้านนัก้นาไปยังผู้ถูกคัดค้สําานันกถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี าทราบภูมิลําเนาก็ให้สก่งาโดยจดหมายลงทะเบี ยนไปรษณีย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๕๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
หรือส่งมอบไว้ ณ ภูมิลําเนาของผู้นั้นก็ได้ ถ้าไม่ทราบภูมิลําเนาก็ให้ปิดสําเนาคําคัดค้านไว้ยังที่ซึ่งเห็น
สํานักได้ ง่าย ณ ที่ว่าการอําเภอประจํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าท้องที่อสําันนัผูก้ถงานคณะกรรมการกฤษฎี
ูกคัดค้านมีถิ่นที่อยู่ครั้งกหลั
า งที่สุด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๖๓ ผู้ทรงต้องให้กคาําบอกกล่าวการที


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก่เขาไม่ รับรองตั๋วแลกเงินกหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า อไม่ใช้เงิน
นั้นไปยังผู้สลักหลังถัดตนขึ้นไปกับทั้งผู้สั่งจ่ายด้วยภายในเวลาสี่วันต่อจากวันคัดค้าน หรือต่อจากวัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยื่นตั๋วในกรณีที่มีข้อกําหนดว่า “ไม่จําต้องมีคําคัดค้าน”
สํผูา้สนัลักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หลังทุก ๆ คนต้องให้กคาําบอกกล่าวไปยั สํานังกผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้สลักหลังถัดตนขึ้นไปภายในสองวักา น
ให้ทราบคําบอกกล่าวอันตนได้รับ จดแจ้งให้ทราบชื่อและสํานักของผู้ที่ได้ให้คําบอกกล่าวมาก่อน ๆ
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นด้วย ทําเช่นนี้ติดต่อกักนา ไปโดยลําดับสํจนกระทั ่งถึงผู้สั่งจ่าย อนึ่งจํกากัา ดเวลาซึ่งกล่าสํวมานั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้น ท่านนับแต่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เมื่อคนหนึ่ง ๆ ได้รับคําบอกกล่าวแต่คนก่อน
สํถ้าานัผูก้สงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลักหลังคนหนึ่งคนใดมิกไาด้ระบุสํานักของตนไว้ ก็ดี หรือได้ระบุแต่อก่าานไม่ได้ความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ก็ดี ท่านว่าสุดแต่คําบอกกล่าวได้ส่งไปยังผู้สลักหลังคนก่อนก็เป็นอันพอแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บุคคลผู กา้ จ ะต้ อ งให้ คํ าสํบอกกล่ าว จะทําคําบอกกล่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา า วเป็ นรู ป อย่สําานังใดก็ ได้ทั้ งสิ้น แม้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เพียงแต่ด้วยส่งตั๋วแลกเงินคืนก็ใช้ได้ อนึ่งต้องพิสูจน์ได้ว่าได้ส่งคําบอกกล่าวภายในเวลากําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าส่งคําบอกกล่าวเป็นหนังสือจดทะเบียนไปรษณี ย์ หากว่าหนังสือนั้นได้ส่งไปรษณีย์
ภายในเวลากําหนดดั่งกล่าวมานั้นไซร้ สํท่านัากนให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถือว่าคําบอกกล่าวเป็นอันได้ส่งภายในจํ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ากัดเวลาบังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แล้ว
สํบุาคนัคลซึ ่งมิได้ให้คําบอกกล่ากวภายในจํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ากัดเวลาดั ่งได้ว่ามานั้นหาเสียสิทกธิาไล่เบี้ยไม่แต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จะต้องรับผิดเพื่อความเสียหายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่ความประมาทเลินเล่อของตน แต่ท่านมิให้คิดค่า
สํานักสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นไหมทดแทนเกินกว่าจํกาานวนในตั๋วแลกเงิ สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๖๔ ด้วยข้อกําหนดเขี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ย นลงไว้สํวา่ านัก“ไม่ จําต้องมี คําคั ดค้ าน”
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ก็ ดี “ไม่ มี
คัดค้าน” ก็ดี หรือสํานวนอื่นใดทํานองนั้นก็ดี ผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังจะยอมปลดเปลื้องผู้ทรงจากการ
สํานักทํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าคําคัดค้านการไม่รับรองหรื กา อการไม่ใสํช้าเนังินกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ก็ได้ เพื่อตนจะได้ใช้สิทกธิาไล่เบี้ย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อกําหนดอันนี้ ย่อมไม่ปลดผู้ทรงให้พ้นจากหน้าที่นําตั๋วเงินยื่นภายในเวลากําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือจากหน้าที่ให้คําบอกกล่าวตั๋วเงินขาดความเชื่อถือแก่ผู้สลักหลังคนก่อนหรือผู้สั่งจ่ายอนึ่งหน้าที่นํา
สํานักสืงานคณะกรรมการกฤษฎี
บว่าไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกํ กา าหนดเวลาจํ ากัดนั้น ย่อมตกอยู่แก่กบาุคคลผู้แสวงจะใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัคกงานคณะกรรมการกฤษฎี
วามข้อนั้นเป็น กา
ข้อต่อสู้ผู้ทรงตั๋วแลกเงิน
สํข้าอนักํกงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดอันนี้ ถ้าผู้สั่งจ่ายเป็
กา นผู้เขียนลงไปแล้ ว ย่อมเป็นผลตลอดถึกงาคู่สัญญาทั้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ปวงบรรดาที่ได้ลงลายมือชื่อในตั๋วเงินนั้น ถ้าและทั้งมีข้อกําหนดดังนี้แล้ว ผู้ทรงยังขืนทําคําคัดค้าน
สํานักไซร้ ท่านว่าผู้ทรงต้องเป็กานผู้ออกค่าใช้สํจา่านัยเพื
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่อการนั้น หากว่าข้อกํกาาหนดนั้นผู้สลัสํกาหลั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นผู้เขียนลง กา
และถ้ามีคําคัดค้านทําขึ้นไซร้ ท่านว่าค่าใช้จ่ายในการคัดค้านนั้นอาจจะเรียกเอาใช้ได้จากคู่สัญญาอื่น
ๆ บรรดาที่ได้ลงลายมืสํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ชื่อในตั๋วเงินนั้น กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๙๖๕ ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําตนัั๋วกเงิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นภายในประเทศ ถ้ากผูา้จ่ายบันทึกลงไว้
สําในันตั ๋วแลกเงินเป็น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ข้อความบอกปัดสํไม่านัรกับงานคณะกรรมการกฤษฎี
รองหรือไม่ยอมใช้เงินกาทั้งลงวันที่บอกปั ดลงลายมือชื่อไว้ด้วยแล้วท่านว่าคํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คัดค้านนั้นก็เป็นอันไม่จําเป็นต้องทําและผู้ทรงต้องส่งคําบอกกล่าวขาดความเชื่อถือไปยังบุคคลซึ่งตน
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านงจะไล่เบี้ยภายในสี่วกันา ต่อจากวันเขาบอกปั ดไม่รับรองนั้น กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๕๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา๙๖๖ คําบอกกล่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
วขาดความเชื่อถือในกรณี
กา ไม่รับรองหรืสํอานัไม่กใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ช้เงินนั้นต้องมี กา
รายการคือ วันที่ลงในตั๋วแลกเงิน ชื่อหรือยี่ห้อของผู้สั่งจ่ายและของผู้จ่าย จํานวนเงินในตั๋วเงินวันถึง
กําหนดใช้เงิน ชื่อสํหรื
านัอกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยี่ห้อและสํานักของผู้ทกรงตั
า ๋วเงิน วันทีสํ่คาัดนัค้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
นหรือวันที่บอกปัดไม่รกับา รองหรือไม่
ใช้เงิน กับข้อความว่าเขาไม่รับรองหรือไม่ใช้เงินตามตั๋วเงินนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๖๗ ในเรื่องตั๋วแลกเงิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นนั้น บรรดาบุ
สํานักคงานคณะกรรมการกฤษฎี
คลผู้สั่งจ่ายก็ดีรับรองก็กดาี สลักหลังก็
ดี หรือรับประกันด้วยอาวัลก็ดี ย่อมต้องร่วมกันรับผิดต่อผู้ทรง
ผู้ทรงย่กอา มมีสิทธิว่ากล่สําานัวเอาความแก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บรรดาบุคคลเหล่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา านี้เรียงตัวสํหรื
านัอกรวมกั นก็ได้โดย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มิพักต้องดําเนินตามลําดับที่คนเหล่านั้นมาต้องผูกพัน
สํสิาทนัธิกเงานคณะกรรมการกฤษฎี
ช่นเดียวกันนี้ ย่อมมีแก่กาบุคคลทุกคนซึสํ่งาได้
นักลงานคณะกรรมการกฤษฎี
งลายมือชื่อในตั๋วเงินและเข้
กา าถือเอา
ตั๋วเงินนั้น ในการที่จะใช้บังคับเอาแก่ผู้ที่มีความผูกพันอยู่แล้วก่อนตน
การว่ากกล่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าวเอาความแก่ คู่สัญญาคนหนึ่ง ซึ่งต้กอางรับผิดย่อมไม่สําตนััดกหนทางที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่จะว่า
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กล่าวเอาความแก่คู่สัญญาคนอื่น ๆ แม้ทั้งจะเป็นฝ่ายอยู่ในลําดับภายหลังบุคคลที่ได้ว่ากล่าวเอาความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาก่อน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๖๘ ผู้ทรงจะเรียกร้องเอาเงินใช้จากบุคคลซึ่งตนใช้สิทธิไล่เบี้ยนั้นก็ได้ คือ
สํ(๑)
านักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านวนเงินในตั๋วแลกเงิกนาซึ่งเขาไม่รับรองหรื อไม่ใช้กับทั้งดอกเบี้ยด้กาวย หากว่ามี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ข้อกําหนดไว้ว่าให้คิดดอกเบี้ย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี(๒) ดอกเบีกา ้ยอัตราร้อสํยละห้ าต่อปีนับแต่วันถึงกําหนด
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ค่าใช้จ่ายในการคัดค้าน และในการส่งคําบอกกล่าวของผู้ทรงไปยังผู้สลักหลัง
ถัดจากตนขึ้นไปและผู
สํานัก้สงานคณะกรรมการกฤษฎี
ั่งจ่าย กับทั้งค่าใช้จ่ายอืกา่น ๆ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ค่าชักส่วนลดซึ่งถ้าไม่มีข้อตกลงกันไว้ ท่านให้คิดร้อยละ ๑/๖ ในต้นเงินอันจะพึง
สํานักใช้ ตามตั๋วเงิน และไม่ว่ากกรณี
งานคณะกรรมการกฤษฎี า จะเป็นอย่สํางไร ท่านมิให้คิดสูงกว่าอัตรานี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าใช้สิทธิไล่เบี้ยก่อนถึงกําหนด ท่านให้หักลดจํานวนเงินในตั๋วเงินลงให้ร้อยละห้า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๙๖๙ คู่สัญญาฝ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ยซึ่งเข้าถือเอาและใช้เกงิานตามตั๋วแลกเงิ
สํานันกอาจจะเรี ยกเอา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เงินใช้จากคู่สัญญาทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดต่อตนได้ คือ
สํ(๑)
านักเงิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นเต็มจํานวนซึ่งตนได้ใกช้าไป สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ดอกเบี้ยในจํานวนเงินนั้น คิดอัตราร้อยละห้าต่อปีนับแต่วันที่ได้ใช้เงินไป
(๓) ค่ากใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า จ่ายต่าง ๆ สํอัานนัตนต้ องออกไป
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ค่าชักส่วนลดจากต้นเงินจํานวนในตั๋วแลกเงินตามที่กําหนดไว้ในมาตรา ๙๖๘
อนุมาตรา (๔) สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๙๗๐ คู่สัญญาทุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฝ่ายซึ่งต้องรับผิดและถู
กากไล่เบี้ยหรือสํอยู
านั่ใกนฐานะจะถู กไล่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เบี้ยได้นั้น อาจจะใช้ เงินแล้วเรียกให้เขาสละตั๋วเงินให้แก่ตนได้สํรานัวมทั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้งคําคัดค้านและบัญชีรับเงินด้วย
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้สลักหลังทุกคนซึ่งเข้าถือเอาและใช้เงินตามตั๋วแลกเงินแล้ว จะขีดฆ่าคําสลักหลัง
สํานักของตนเองและของเหล่
งานคณะกรรมการกฤษฎีากผูา ้สลักหลังภายหลัสํานักงตนนั ้นเสียก็ได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๕๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา๙๗๑ ผู้สั่งจ่สําายก็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี ผู้รับรองก็ดี ผู้สลักหลักางคนก่อนก็ดี สํซึา่งนัเขาสลั กหลังหรือ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โอนตั๋วแลกเงินให้อีกทอดหนึ่งนั้น หามีสิทธิจะไล่เบี้ยเอาแก่คู่สัญญาฝ่ายซึ่งตนย่อมต้องรับผิดต่อเขาอยู่
ก่อนแล้วตามตั๋วเงิสํนานันัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ไม่ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๙๗๒ ในกรณีใช้สิทธิไล่เบี้ยภายหลังการรับรองแต่บางส่วน ท่านว่าคู่สัญญา
ฝ่ายซึ่งใช้เงินอันเป็สํานนัจํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
นวนเขาไม่รับรองนั้น กอาจจะเรี
า ยกให้สํจาดระบุ ความที่ใช้เงินนี้ลงไว้กในตั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ๋วเงินและ
เรียกให้ทําใบรับให้แก่ตนได้ อนึ่งผู้ทรงตั๋วเงินต้องให้สําเนาตั๋วเงินอันรับรองว่าถูกต้องแก่คู่สัญญาฝ่าย
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นพร้อมทั้งคําคัดค้านด้กวาย เพื่อให้เขาสามารถใช้ สิทธิไล่เบี้ยในภายหลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งได้สืบไป สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๗๓ เมื่อกําหนดเวลาจํ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ากัดซึ่งจะกล่
สํานัากวต่ อไปนี้ได้ล่วงพ้นไปแล้กวาคือ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(๑) กําหนดเวลาสําหรับยื่นตั๋วแลกเงินชนิดให้ใช้เงินเมื่อได้เห็น หรือในระยะเวลา
สํานักอย่ างใดอย่างหนึ่งภายหลักางได้เห็น
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) กําหนดเวลาสําหรับทําคําคัดค้านการไม่รับรองหรือการไม่ใช้เงิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) กําหนดเวลาสําหรับยื่นตั๋วเพื่อให้ใช้เงินสําในกรณี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่มีข้อกําหนดว่า “ไม่จําต้องมีคํา
คัดค้าน”
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ท่านว่าผู้ทรงย่อมสิ้นสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอาแก่เหล่าผู้สลักหลัง ผู้สั่งจ่าย และคู่สัญญาอื่น
ๆ ผู้ต้องรับผิด เว้นสําแต่นักผงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้รับรอง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง ถ้าไม่ยื่นตั๋วแลกเงินเพื่อให้เขารับรองภายในเวลาจํากัดดั่งผู้สั่งจ่ายได้กําหนดไว้
สํานักท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านว่าผู้ทรงย่อมเสียสิกทาธิที่จะไล่เบี้ยทัสํ้างนัเพืก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
การที่เขาไม่ใช้เงินและเพื กา ่อการที่เขาไม่
สํานัรกับงานคณะกรรมการกฤษฎี
รองเว้นแต่จะ กา
ปรากฏจากข้อกําหนดว่า ผู้สั่งจ่ายหมายเพียงแต่จะปลดตนเองให้พ้นจากประกันการรับรอง
สํถ้าานัข้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
กําหนดจํากัดเวลายื่นกตัา๋วแลกเงินนั้นมีสํอานัยูก่ทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี่คําสลักหลัง ท่านว่าเฉพาะแต่
กา ผู้สลัก
หลังเท่านั้นจะอาจเอาประโยชน์ในข้อกําหนดนั้นได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๗๔ การยื่นตั๋วแลกเงินก็ดี การทําคําคัดค้านก็ดี ถ้ามีเหตุจําเป็นอันมิอาจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ก้ า วล่ ว งเสี ย ได้ ม าขั ด ขวางมิ ใ ห้ ทํ า ได้ ภ ายในกํ า หนดเวลาจํ า กั ด สํ า หรั บ การนั้ น ไซร้ ท่ า นให้ ยื ด
สํานักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดเวลาออกไปอีกได้กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เหตุจําเป็นอันมิอาจก้าวล่วงเสียได้ดั่งว่ามานั้น ผู้ทรงต้องบอกกล่าวแก่ผู้สลักหลังคน
ถัดตนขึ้นไปโดยไม่สําชนัักกช้งานคณะกรรมการกฤษฎี
า และคําบอกกล่าวนัก้นาต้องเขียนระบุสํลานังในตั ๋วเงิน หรือใบประจํากต่าอต้องลงวัน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
และลงลายมือชื่อของผู้ทรง การอื่น ๆ นอกจากที่กล่าวนี้ ท่านให้บังคับตามบทบัญญัติ มาตรา ๙๖๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เมื่อเหตุ กาจําเป็นอันมิอสําจก้ าวล่วงเสียได้นั้นสุดสิ้นกลงแล้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ว ผู้ทรงต้สํอานังยืกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่นตั๋วเงินให้เขา กา
รับรองหรือใช้เงินโดยไม่ชักช้า และถ้าจําเป็นก็ทําคําคัดค้านขึ้น
สํถ้าานัเหตุ จําเป็นอันมิอาจก้าวล่กวางเสียได้นั้น ยัสํงาคงมี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี อยู่ต่อไปจนเป็นเวลากว่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาาสามสิบวัน
ภายหลังตั๋วเงินถึงกําหนดไซร้ ท่านว่าจะใช้สิทธิไล่เบี้ยก็ได้ และถ้าเช่นนั้นการยื่นตั๋วเงินก็ดี การทําคํา
สํานักคังานคณะกรรมการกฤษฎี
ดค้านก็ดี เป็นอันไม่จํากเป็า นต้องทํา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในส่วนตั๋วเงินชนิดที่ให้ใช้เงินเมื่อได้เห็น หรืสํอาให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใช้เงินในระยะเวลาอย่างหนึ่งอย่างใด
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภายหลังได้เห็นนั้น กําหนดสามสิบวันเช่นว่ามานี้ ท่านให้นับแต่วันที่ผู้ทรงได้ให้คําบอกกล่าวเหตุ
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
า เป็ น อั น มิ อ าจก้ า วล่กวางเสี ย ได้ นั้ น แก่สําผนัู้ สกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลั ก หลั ง ถั ด ตนขึ้ น ไป และถึ
กา ง แม้ ว่ า จะเป็
สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
การก่ อ นล่ ว ง กา
- ๑๕๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
กําหนดเวลายื่นตั๋วเงิน ก็ให้นับเช่นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๗
ตั๋วแลกเงิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นเป็นสํารับสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๗๕ อันตั๋วแลกเงิกนานั้น นอกจากชนิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัดกทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่สั่งจ่ายแก่ผู้ถือแล้ว จะออกไปเป็
กา นคู่
ฉีกความต้องกันสองฉบับหรือกว่านั้นก็อาจจะออกได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีคู่ฉีกเหล่ กา านี้ต้องมีหมายลํ
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ดับลงไว้ในตัวตราสารนัก้นา เอง มิฉะนั้นสํคูา่ฉนัีกกแต่ ละฉบับย่อม
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ใช้ได้เป็นตั๋วแลกเงินฉบับหนึ่ง ๆ แยกเป็นตั๋วเงินต่างฉบับกัน
สํบุาคนักคลทุ กคนซึ่งเป็นผู้ทรงตัก๋วาเงินอันมิได้ระบุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สําวนั่ากได้ ออกเป็นตั๋วเดี่ยวนั้นกจะเรี
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ยกให้ส่ง
มอบคู่ฉีกสองฉบับหรือกว่านั้นแก่ตนก็ได้ โดยยอมให้คิดค่าใช้จ่ายเอาแก่ตน ในการนี้ผู้ทรงต้องว่ากล่าว
สํานักไปยั งผู้สลักหลังคนถัดตนขึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นไป และผูสํ้สานัลักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หลังคนนั้นก็จําต้องช่วกยผู า ้ทรงว่ากล่าสํวไปยั งผู้ที่สลักหลัง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ให้แก่ตนต่อไปอีกสืบเนื่องกันไปเช่นนี้ตลอดสายจนกระทั่งถึงผู้สั่งจ่าย อนึ่งผู้สลักหลังทั้งหลายจําต้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เขียนคําสลักหลังของตนเป็ นความเดียวกันลงในฉบับคู่ฉีกใหม่สํแานัห่กงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตั๋วสํารับนั้นอีกด้วย กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๗๖ ถ้าผู้ทรงตั๋วแลกเงินสํารับหนึ่งสลักหลังคู่ฉีกสองฉบับหรือกว่านั้นให้แก่
บุคคลต่างคนกัน สํท่าานันว่ าผู้ทรงย่อมต้องรับผิดกตามคู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่ฉีกเช่นว่าสํนัานั้นกทุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ก ๆ ฉบับ และผู้สลักหลั
กางภายหลังผู้
ทรงทุก ๆ คนก็ต้องรับผิดตามคู่ฉีกอันตนเองได้สลักลงไปนั้น เสมือนดั่งว่าคู่ฉีกที่ว่านั้นแยกเป็นตั๋วเงิน
สํานักต่งานคณะกรรมการกฤษฎี
างฉบับกัน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๗๗ ถ้าคู่ฉีกสองฉบั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาบหรือกว่านั้นสํในสํ ารับหนึ่งได้เปลี่ยนมือไปยั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งผู้ทรงโดย
ชอบด้วยกฎหมายต่างคนกันไซร้ ในระหว่างผู้ทรงเหล่านั้นด้วยกัน คนใดได้เป็นสิทธิก่อน ท่านให้ถือว่า
สํานักคนนั ้นเป็นเจ้าของอันแท้กาจริงแห่งตั๋วเงินสํนัานั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี แต่ความใด ๆ ในบทมาตรานี
กา ้ไม่กระทบกระทั ่งถึงสิทธิของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บุคคลผู้ทําการโดยชอบด้วยกฎหมายรับรองหรือใช้เงินไปตามคู่ฉีกฉบับซึ่งเขายื่นแก่ตนก่อน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๙๗๘ คํารับสํรองนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้นจะเขียนลงในคู่ฉีกฉบักาบใดก็ได้ และจะต้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งเขียนลงในคู่ กา
ฉีกเพียงฉบับเดียวเท่านั้น
สํถ้าานัผูก้จงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ายรับรองลงไปกว่าฉบักบา หนึ่ง และคู่ฉสํีากนัซึก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
รับรองเช่นนั้นตกไปถึงกมืาอผู้ทรงโดย
ชอบด้วยกฎหมายต่างคนกันไซร้ ท่านว่าผู้จ่ายจะต้องรับผิดตามคู่ฉีกนั้น ๆ ทุกฉบับ เสมือนดังว่าแยก
สํานักเป็ นตั๋วเงินต่างฉบับกัน กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๗๙ ถ้าผู้รับรองตัก๋วาเงินซึ่งออกเป็สํนาสํนัากรังานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี บใช้เงินไปโดยมิได้เรียกกให้
า ส่งมอบคู่
ฉีกฉบับซึ่งมีคํารับรองของตนนั้นให้แก่ตนและในเวลาตั๋วเงินถึงกําหนด คู่ฉีกฉบับนั้นไปตกอยู่ในมือผู้
สํานักทรงโดยชอบด้ วยกฎหมายคนใดคนหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํ่งไซร้ ท่านว่าผู้รับรองจะต้องรักาบผิดต่อผู้ทรงคูสํ่ฉานัีกกฉบั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี บนั้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๘๐ ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติทั้งหลายซึ่งกล่าวมาก่อนนั้น ถ้าคู่ฉีกฉบับ
สํานักใดแห่ งตั๋วเงินออกเป็นสํกาารับได้หลุดพ้นสํไปด้
งานคณะกรรมการกฤษฎี านักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยการใช้เงินหรือประการอื
กา ่นฉบับหนึ่งสํแล้
านักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ท่านว่าตั๋วเงิน กา
- ๑๕๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ทั้งสํารับก็ย่อมหลุดพ้นไปตามกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๘๑ คู่สัญญาซึ่งส่งคู่ฉีกฉบับหนึ่งไปให้เขารับรอง ต้องเขียนแถลงลงในคู่ฉีก
ฉบับอื่นว่าคู่ฉีกฉบัสําบนัโน้ นอยู่ในมือบุคคลชื่อไรกาส่วนบุคคลคนนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้นกก็งานคณะกรรมการกฤษฎี
จําต้องสละตั๋วให้แก่ผกู้ทารงโดยชอบ
ด้วยกฎหมายแห่งคู่ฉีกฉบับอื่นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าบุคคลคนนั้นบอกปัดไม่ยอมให้ ท่านว่าผู้ทรงยังจะใช้สิทธิไล่เบี้ยไม่ได้จนกว่าจะได้
ทําคัดค้านระบุความดั
สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ต่อไปนี้ คือ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ว่าคู่ฉีกฉบับซึ่งได้ส่งไปเพื่อรับรองนั้น เขาไม่สละให้แก่ตนเมื่อทวงถาม
(๒) ว่ากไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สามารถจะให้สําเนัขารั บรองหรือใช้เงินด้วยคูก่ฉา ีกฉบับอื่นได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตั๋วสัญญาใช้เงิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๘๒ อันว่าตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น คืสํอาหนั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งสือตราสารซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่า
ผู้ออกตั๋ว ให้คํามั่นสัญญาว่าจะใช้เงินจําสํนวนหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่งให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง หรือใช้ให้ตสําามคํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าสั่งของบุคคล
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้รับเงิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๘๓ ตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น ต้องมีรายการดั่งจะกล่าวต่อไปนี้ คือ
(๑) คํากบอกชื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่อว่าเป็นสํตัา๋วนัสักญ ญาใช้เงิน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) คํามั่นสัญญาอันปราศจากเงื่อนไขว่าจะใช้เงินเป็นจํานวนแน่นอน
สํ(๓)
านักวังานคณะกรรมการกฤษฎี
นถึงกําหนดใช้เงิน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) สถานที่ใช้เงิน
(๕) ชื่อกาหรือยี่ห้อของผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํา้รนัับกเงิ น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) วันและสถานที่ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) ลายมือชื่อผู้ออกตั๋ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๘๔ ตราสารอันมีรายการขาดตกบกพร่องไปจากที่ท่านระบุบังคับไว้ใน
มาตราก่อนนี้ ย่อมไม่
สํานักสงานคณะกรรมการกฤษฎี
มบูรณ์เป็นตั๋วสัญญาใช้กเงิาน เว้นแต่ในกรณี
สํานักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ังจะกล่าวต่อไปนี้ คือ กา
ตั๋วสัญญาใช้เงินซึ่งไม่ระบุเวลาใช้เงิน ท่านให้ถือว่า พึงใช้เงินเมื่อได้เห็น
ถ้าสถานที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ใช้เงินมิได้สํแาถลงไว้ ในตั๋วสัญญาใช้เงิน กท่า านให้ถือเอาภูสํามนัิลกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี เนาของผู้ออก กา
ตราสารนั้นเป็นสถานที่ใช้เงิน
สํถ้าานัตัก๋วงานคณะกรรมการกฤษฎี
สัญญาใช้เงินไม่ระบุสกถานทีา ่ออกตั๋ว สํท่าานันให้ ถือว่า ตั๋วนั้นได้ออกกณา ภูมิลําเนา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของผู้ออกตั๋ว
ถ้ามิได้กาลงวันออกตั๋วสํท่านัากนว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายคนหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํา่งนัคนใดทํ าการโดย
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สุจริตจะจดวันตามที ่ถูกต้องแท้จริงลงก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๙๘๕ บทบัญสําญันัตกิทงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ั้งหลายในหมวด ๒ ว่ากด้า วยตั๋วแลกเงินสําดันั่งกจะกล่ าวต่อไปนี้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๕๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ท่านให้ยกมาบังคับในเรื่องตั๋วสัญญาใช้เงินเพียงเท่าที่ไม่ขัดกับสภาพแห่งตราสารชนิดนี้ คือบทมาตรา
สํานัก๙๑๑, ๙๑๓, ๙๑๖, ๙๑๗,
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๙๑๙, ๙๒๐, สํานัก๙๒๒ ถึง ๙๒๖, ๙๓๘กถึาง ๙๔๗, ๙๔๙,
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั๙๕๐, ๙๕๔ ถึง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
๙๕๙, ๙๖๗ ถึง ๙๗๑
สํถ้าานัเป็ นตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกมาแต่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ต่างประเทศ ท่านให้นําบทบัญญัตกิตา่อไปนี้มาใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
บังคับด้วย คือบทมาตรา ๙๖๐ ถึง ๙๖๔, ๙๗๓, ๙๗๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๘๖ ผู้ออกตั๋วสัญญาใช้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เงินย่อมต้สํอางผู
นักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
พันเป็นอย่างเดียวกันกักบา ผู้รับรองตั๋ว
แลกเงิน
ตั๋วสัญกญาใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า เงินซึ่งให้สํใช้านัเงิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ในเวลาใดเวลาหนึ่งภายหลั
กา งได้เห็นนั้นสํต้านัอกงนํ ายื่นให้ผู้ออก
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตั๋วจดรับรู้ภายในจํากัดเวลาดั่งกําหนดไว้ในมาตรา ๙๒๘ กําหนดเวลานี้ให้นับแต่วันจดรับรู้ซึ่งลง
ลายมือชื่อผู้ออกตัสํา๋วนัถ้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้ออกตั๋วบอกปัดไม่ยกอมจดรั
า บรู้และลงวั
สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไซร้ การที่เขาบอกปัดกเช่า นนี้ท่านว่า
ต้องทําให้เป็นหลักฐานขึ้นด้วยคําคัดค้าน และวันคัดค้านนั้นให้ถือเป็นวันเริ่มต้นในการนับกําหนดเวลา
สํานักแต่ ได้เห็น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เช็ค
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๘๗ อันว่าเช็คนั้น คือหนังสือตราสารซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่า ผู้สั่งจ่ายสั่ง
สํานักธนาคารให้ ใช้เงินจํานวนหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งเมื่อทวงถามให้ แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง หรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาอให้ใช้ตามคําสํสัา่งนัของบุ คคลอีกคน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หนึ่ง อันเรียกว่าผู้รับเงิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๘๘ อันเช็คนั้น ต้องมีรายการดั่งกล่าวต่อไปนี้ คือ
(๑) คํากบอกชื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่อว่าเป็นสํเช็านัคกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) คําสั่งอันปราศจากเงื่อนไขให้ใช้เงินเป็นจํานวนแน่นอน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ชื่อ หรือยี่ห้อและสํานักงานของธนาคาร
(๔) ชื่อกาหรือยี่ห้อของผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํา้รนัับกเงิ น หรือคําจดแจ้งว่าให้กใาช้เงินแก่ผู้ถือ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(๕) สถานที่ใช้เงิน
สํ(๖)
านักวังานคณะกรรมการกฤษฎี
นและสถานที่ออกเช็คกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) ลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๘๙ บทบัญ ญัติทั้งหลายในหมวด ๒ อั นว่าด้วยตั๋วแลกเงินดังจะกล่าว
ต่อไปนี้ ท่านให้ยสํกมาบั งคับในเรื่องเช็คเพียงเท่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าที่ไม่ขัดกับสํสภาพแห่ งตราสารชนิดนี้ กคืาอบทมาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๙๑๐, ๙๑๔ ถึง ๙๒๓, ๙๒๕, ๙๒๖, ๙๓๘ ถึง ๙๔๐, ๙๔๕, ๙๔๖, ๙๕๙, ๙๖๗, ๙๗๑
ถ้าเป็นกเช็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า คที่ออกมาแต่
สํานัตก่างานคณะกรรมการกฤษฎี
งประเทศ ท่านให้นําบทบั กา ญญัติดังต่อไปนี
สํานัก้มงานคณะกรรมการกฤษฎี
าใช้บังคับด้วย กา
คือบทมาตรา ๙๒๔, ๙๖๐ ถึง ๙๖๔, ๙๗๓ ถึง ๙๗๗, ๙๘๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๙๙๐ ผู้ทรงเช็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัคกต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องยื่นเช็คแก่ธนาคารเพื
กา่อให้ใช้เงิน คือสําว่นัากถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าเป็นเช็คให้ใช้ กา
- ๑๕๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
เงินในเมืองเดียวกันกับที่ออกเช็คต้องยื่นภายในเดือนหนึ่งนับแต่วันออกเช็คนั้น ถ้าเป็นเช็คให้ใช้เงินที่
สํานักอืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่นต้องยื่นภายในสามเดืกอาน ถ้ามิฉะนั้นสํท่าานันว่ าผู้ทรงสิ้นสิทธิที่จะไล่เกบีา้ยเอาแก่ผู้สลักสํหลั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี านักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทั้งปวง ทั้งเสีย กา
สิทธิอันมีต่อผู้สั่งจ่ายด้วยเพียงเท่าที่จะเกิดความเสียหายอย่างหนึ่งอย่างใดแก่ผู้สั่งจ่ายเพราะการที่
ละเลยเสียไม่ยื่นเช็สํคานันัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง ผู้ทรงเช็คซึ่งผู้สั่งจ่ายหลุดพ้นจากความรับผิดไปแล้วนั้น ท่านให้รับช่วงสิทธิของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้สั่งจ่ายคนนั้นอันมีต่อธนาคาร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๙๑ ธนาคารจําต้องใช้เงินตามเช็คซึ่งผู้เคยค้ากับธนาคารให้ออกเบิกเงินแก่
สํานักตน เว้นแต่ในกรณีดั่งกล่กาาวต่อไปนี้ คือ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ไม่มีเงินในบัญชีของผู้เคยค้าคนนั้นเป็นเจ้าหนี้พอจะจ่ายตามเช็คนั้น หรือ
สํ(๒)
านักเช็งานคณะกรรมการกฤษฎี
คนั้นยื่นเพื่อให้ใช้เงินเมื
กา่อพ้นเวลาหกเดื
สํานัอกนนั บแต่วันออกเช็ค หรือกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(๓) ได้มีคําบอกกล่าวว่าเช็คนั้นหายหรือถูกลักไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๙๒ หน้าที่และอํานาจของธนาคารซึ่งจะใช้เงินตามเช็คอันเบิกแก่ตนนั้น
ท่านว่าเป็นอันสุดสิ้นไปเมื่อกรณีเป็นดั่งจะกล่าวต่อไปนี้ คือ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) มีคําบอกห้ามการใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เงิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) รู้ว่าผู้สั่งจ่ายตาย
สํ(๓)
านักรูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ว่าศาลได้มีคําสั่งรักษาทรั
กา พย์ชั่วคราวสําหรื
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
คําสั่งให้ผู้สั่งจ่ายเป็นกคนล้
า มละลาย
หรือได้มีประกาศโฆษณาคําสั่งเช่นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๙๓ ถ้าธนาคารเขียนข้อความลงลายมือชื่อบนเช็ค เช่นคําว่า “ใช้ได้” หรือ
“ใช้เงินได้” หรือคํสําานัใดกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ๆ อันแสดงผลอย่างเดียกวกั า น ท่านว่าธนาคารต้ องผูกพันในฐานเป็นกลูา กหนี้ชั้นต้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ในอันจะต้องใช้เงินแก่ผู้ทรงตามเช็คนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้าผู้ทกรงเช็
า คเป็นผู้จัดสํการให้ ธนาคารลงข้อความรักบารองดั่งว่านั้น สํท่าานันว่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี าผู้สั่งจ่ายและ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้สลักหลังทั้งปวงเป็นอันหลุดพ้นจากความรับผิดตามเช็คนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าธนาคารลงข้อความรับรองดั่งนั้นโดยคําขอร้องของผู้สั่งจ่าย ท่านว่าผู้สั่งจ่ายและ
สํานักปวงผู ้สลักหลังก็หาหลุดกพ้านไปไม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๙๔ ถ้าในเช็คมีเกส้านขนานคู่ขีดขวางไว้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ข้างด้านหน้า กับมีหกรืาอไม่มีคําว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
“และบริษัท” หรือคําย่ออย่างใด ๆ แห่งข้อความนี้อยู่ในระหว่างเส้นทั้งสองนั้นไซร้ เช็คนั้นชื่อว่าเป็น
สํานักเช็งานคณะกรรมการกฤษฎี
คขีดคร่อมทั่วไป และจะใช้ กา เงินตามเช็สํคานันัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้แต่เฉพาะให้แก่ธนาคารเท่
กา านั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ า ในระหว่ า งเส้น ทั้ง สองนั้ น กรอกชื่อ ธนาคารอั น หนึ่ ง อั น ใดลงไว้ โ ดยเฉพาะเช็ ค
เช่นนั้นชื่อว่าเป็นเช็
สําคนัขีกดงานคณะกรรมการกฤษฎี
คร่อมเฉพาะ และจะใช้กาเงินตามเช็คนัสํ้นาได้
นักเฉพาะให้ แก่ธนาคารอันกนัา้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๙๙๕ (๑) เช็สํคาไม่


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีขีดคร่อม ผู้สั่งจ่ายหรือกผูา้ทรงคนใดคนหนึ
สํานั่งกจะขี ดคร่อมเสีย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ก็ได้ และจะทําเป็สํนาขีนัดกคร่ อมทั่วไปหรือขีดคร่อมเฉพาะก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เช็คขีดคร่อมทั่วไป ผู้ทรงจะทําให้เป็นขีดคร่อมเฉพาะเสียก็ได้
(๓) เช็กคาขีดคร่อมทั่วไปก็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี ขีดคร่อมเฉพาะก็ดี กผูา้ทรงจะเติมคําสํลงว่
านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
“ห้ามเปลี่ยน กา
- ๑๖๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มือ” ก็ได้
(๔) เช็กคาขีดคร่อมเฉพาะให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี แก่ธนาคารใด ธนาคารนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นจะซ้ําขีดคร่
สําอนัมเฉพาะให้ ไปแก่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ธนาคารอื่นเพื่อเรียกเก็บเงินก็ได้
สํ(๕)
านักเช็ คไม่มีขีดคร่อมก็ดี เช็กคาขีดคร่อมทั่วไปก็
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี ส่งไปยังธนาคารใดเพืก่อาให้เรียกเก็บ
เงิน ธนาคารนั้นจะลงขีดคร่อมเฉพาะให้แก่ตนเองก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๙๙๖ การขีดคร่อมเช็


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา คตามที่อนุสํญาาตไว้ ในมาตราก่อนนั้นท่ากนว่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าเป็นส่วน
สําคัญอันหนึ่งของเช็ค ใครจะลบล้างย่อมไม่เป็นการชอบด้วยกฎหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๙๗ เช็คขีดคร่อมเฉพาะให้แก่ธนาคารกว่าธนาคารหนึ่งขึ้นไป เมื่อนําเบิก
เอาแก่ธนาคารใดสําท่นัากนให้ ธนาคารนั้นบอกปัดกเสีา ยอย่าใช้เงินให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัเว้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
นแต่ที่ขีดคร่อมให้แก่ธกนาคารในฐาน

เป็นตัวแทนเรียกเก็บเงิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ธนาคารใดซึ
กา ่งเขานําเช็ สําคนัเบิ กขืนใช้เงินไปตามเช็คกทีา่ขีดคร่อมอย่าสํงว่านัากมานั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ้นก็ดีใช้เงิน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตามเช็คอันเขาขีดคร่อมทั่วไปเป็นประการอื่นนอกจากใช้ให้แก่ธนาคารอันใดอันหนึ่งก็ดีใช้เงินตามเช็ค
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อันเขาขีดคร่อมเฉพาะเป็ นประการอื่นนอกจากใช้ให้แก่ธนาคารซึ ่งเขาเจาะจงขีดคร่อมให้โดยเฉพาะ
หรือแก่ธนาคารตัวแทนเรียกเก็บเงินของธนาคารนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้นก็ดี ท่านว่าธนาคารซึ่งใช้เงินสํไปดั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งกล่าวนี้จะต้อง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รับผิดต่อผู้เป็นเจ้าของอันแท้จริงแห่งเช็คนั้น ในการที่เขาจะต้องเสียหายอย่างใด ๆ เพราะการที่ตนใช้
เงินไปตามเช็คนั้นสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่หากเช็คใดเขานํายื่นเพื่อให้ใช้เงิน และเมื่อยื่นไม่ปรากฏว่าเป็นเช็คขีดคร่อมก็ดี
สํานักหรื อไม่ปรากฏว่ามีรอยขีกดาคร่อมอันได้ลสํบล้
งานคณะกรรมการกฤษฎี านัากงหรื อแก้ไขเปลี่ยนแปลงเพิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่มเติมเป็นประการอื ่นนอกจากที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อนุญาตไว้โดยกฎหมายก็ดี เช็คเช่นนี้ถ้าธนาคารใดใช้เงินไปโดยสุจริตและปราศจากประมาทเลินเล่อ
ท่านว่าธนาคารนั้นสําไม่นักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
้องรับผิดหรือต้องมีหน้ากทีา ่รับใช้เงินอย่าสํงใด ๆ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๙๙๘ ธนาคารใดซึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่งเขานําเช็คขีดคร่อมเบิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กเงิน ใช้เงินสําไปตามเช็ คนั้นโดย
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สุจริตและปราศจากประมาทเลินเล่อ กล่าวคือว่าถ้าเป็นเช็คขีดคร่อมทั่วไปก็ใช้เงินให้แก่ธนาคารอันใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อันหนึ่ง ถ้าเป็นเช็คขีดคร่อมเฉพาะก็ใช้ให้แก่ธนาคารซึ่งเขาเจาะจงขีดคร่อมให้โดยเฉพาะ หรือใช้ให้แก่
สํานักธนาคารตั วแทนเรียกเก็กบาเงินของธนาคารนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไซร้ ท่านว่าธนาคารซึก่งาใช้เงินไปตามเช็
สํานัคกนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นฝ่ายหนึ่ง กับ กา
ถ้าเช็คตกไปถึงมือผู้รับเงินแล้ว ผู้สั่งจ่ายอีกฝ่ายหนึ่งต่างมีสิทธิเป็นอย่างเดียวกัน และเข้าอยู่ในฐานะ
อันเดียวกันเสมือนดั
สํานั่งกว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าเช็คนั้นได้ใช้เงินให้แก่ผกู้เาป็นเจ้าของอันสําแท้
นักจงานคณะกรรมการกฤษฎี
ริงแล้ว กา

มาตรากา๙๙๙ บุคคลใดได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เช็คขีดคร่อมของเขามาซึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งมีคําว่า “ห้สํามเปลี ่ยนมือ” ท่าน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ว่าบุคคลนั้นไม่มีสิทธิในเช็คนั้นยิ่งไปกว่า และไม่สามารถให้สิทธิในเช็คนั้นต่อไปได้ดีกว่าสิทธิของบุคคล
อันตนได้เช็คของเขามา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๐๐๐ ธนาคารใดได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี รับเงินไว้เพื่อผู้เคยค้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาาของตนโดยสุสํจานัริกตงานคณะกรรมการกฤษฎี
และปราศจาก กา
ประมาทเลินเล่อสํอัานันกเป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นเงินเขาใช้ให้ตามเช็กคาขีดคร่อมทั่วไปก็ ดี ขีดคร่อมเฉพาะให้แก่ตนก็ดี หาก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ปรากฏว่าผู้เคยค้านั้นไม่มีสิทธิหรือมีสิทธิเพียงอย่างบกพร่องในเช็คนั้นไซร้ ท่านว่าเพียงแต่เหตุที่ได้รับ
สํานักเงิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นไว้หาทําให้ธนาคารนัก้นาต้องรับผิดต่อสํผูา้เนัป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
เจ้าของอันแท้จริงแห่งกเช็า คนั้นแต่อย่างหนึ
สํานัก่งอย่ างใดไม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๖๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อายุความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๐๐๑ ในคดีฟ้องผู้รับรองตั๋วแลกเงินก็ดี ผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินก็ดี ท่าน
ห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้สํานนัเวลาสามปี นับแต่วันตั๋วนั้นกาๆ ถึงกําหนดใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัเงิกนงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๐๐๒ ในคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําทนัี่กผงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้ทรงตั๋วเงินฟ้องผู้สลักหลั
กางและผู้สั่งจ่ายสําท่นักานห้ ามมิให้ฟ้อง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เมื่อพ้นเวลาปีหนึ่งนับแต่วันที่ได้ลงในคําคัดค้านซึ่งได้ทําขึ้นภายในเวลาอันถูกต้องตามกําหนด หรือนับ
แต่วันตั๋วเงินถึงกําสํหนด ในกรณีที่มีข้อกําหนดไว้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาว่า “ไม่จําต้อสํงมีานัคกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
คัดค้าน” กา

มาตรากา๑๐๐๓ ในคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัผกู้สงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลักหลังทั้งหลายฟ้องไล่กาเบี้ยกันเองและไล่
สํานักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
บี้ยเอาแก่ผู้สั่ง กา
จ่ายแห่งตั๋วเงิน ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นเวลาหกเดือนนับแต่วันที่ผู้สลักหลังเข้าถือเอาตั๋วเงินและ
ใช้เงิน หรือนับแต่สํวาันนัทีก่ผงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้สลักหลังนั้นเองถูกฟ้อกงา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๐๐๔ เมื่ออายุความสะดุดหยุดลงเพราะการอันหนึ่งอันใดซึ่งกระทําแก่
คู่สัญญาแห่งตั๋วเงิสํนาฝ่นัากยใดฝ่ ายหนึ่ง ท่านว่าย่อกมมี
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ผลสะดุดหยุสํดาลงเพี ยงแต่แก่คู่สัญญาฝ่ายนั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา้น

มาตรากา๑๐๐๕ ถ้าตัสํ๋วาเงินักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ได้ทําขึ้นหรือได้โอนหรืกอาสลักหลังไปแล้สําวนัในมู ลหนี้อันหนึ่ง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อันใด และสิทธิตามตั๋วเงินนั้นมาสูญสิ้นไปเพราะอายุความก็ดี หรือเพราะละเว้นไม่ดําเนินการให้ต้อง
ตามวิธีใด ๆ อันจะพึ สํานักงต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องทําก็ดี ท่านว่าหนี้เกดิามนั้นก็ยังคงมีสํอายูนั่ตกามหลั กกฎหมายอันแพร่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาหลายทั่วไป
เท่าที่ลูกหนี้มิได้ต้องเสียหายแต่การนั้น เว้นแต่จะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตั๋วเงินปลอม ตั๋วเงินถูกลัก และตั๋วเงินหาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐๐๖ การที่ ล ายมื


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ ชื่ อ อั น หนึ
สํา่ งนัในตั ๋ ว เงิ น เป็ น ลายมื อ ปลอมย่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ มไม่
กระทบกระทั่งถึงความสมบูรณ์แห่งลายมือชื่ออื่น ๆ ในตั๋วเงินนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๐๗ ถ้าข้อความในตั๋วเงินใด หรือในคํารับรองตั๋วเงินรายใด มีผู้แก้ไข
เปลี่ยนแปลงในข้สํอาสํนัากคังานคณะกรรมการกฤษฎี
ญโดยที่คู่สัญญาทั้งปวงผู กา ้ต้องรับผิดตามตั
สํานัก๋วงานคณะกรรมการกฤษฎี
เงินมิได้ยินยอมด้วยหมดทุ
กา กคนไซร้
ท่านว่าตั๋วเงินนั้นก็เป็นอันเสีย เว้นแต่ยังคงใช้ได้ต่อคู่สัญญาซึ่งเป็นผู้ทําการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนั้น หรือ
สํานักได้ ยินยอมด้วยกับการแก้กไาขเปลี่ยนแปลงนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
กับทั้งผู้สลักหลังในภายหลักา ง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่หากตั๋วเงินใดได้มีผู้แก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อสําคัญ แต่ความเปลี่ยนแปลงนั้นไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประจั ก ษ์ และตั๋ ว เงิ นนั้ น ตกอยู่ ใ นมื อ ผู้ ท รงโดยชอบด้ ว ยกฎหมายไซร้ ท่ า นว่ า ผู้ ท รงคนนั้น จะเอา
สํานักประโยชน์ จากตั๋วเงินนั้นกก็าได้เสมือนดังว่สําามินักได้งานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเลย กา และจะบัสํงานัคักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
การใช้เงินตาม กา
- ๑๖๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
เนื้อความแห่งตั๋วนั้นก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกล่าวโดยเฉพาะ
กา การแก้
สํานัไกขเปลี ่ยนแปลงเช่นจะกล่กาาวต่อไปนี้ ท่านถื
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าเป็นการแก้ไข กา
เปลี่ยนแปลงในข้อสําคัญ คือการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างใด ๆ แก่วันที่ลง จํานวนเงินอันจะพึงใช้ เวลา
ใช้เงิน สถานที่ใช้สํเางินันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
กับทั้งเมื่อตั๋วเงินเขารับกรองไว้
า ทั่วไปไม่สําเนัจาะจงสถานที ่ใช้เงิน ไปเติกามความระบุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานที่ใช้เงินเข้าโดยที่ผู้รับรองมิได้ยินยอมด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐๐๘ ภายในบังคักบา แห่งบทบัญญัสําตนัิทกั้งงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี หลายในประมวลกฎหมายนี
กา ้ เมื่อใด
ลายมือชื่อในตั๋วเงินเป็นลายมือปลอมก็ดี เป็นลายมือชื่อลงไว้โดยที่บุคคลซึ่งอ้างเอาเป็นเจ้าของลายมือ
สํานักชืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อนั้นมิได้มอบอํานาจให้กาลงก็ดี ท่านว่าสํลายมื อชื่อปลอมหรือลงปราศจากอํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา านาจเช่สํนานันั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นอันใช้ไม่ได้ กา
เลย ใครจะอ้างอิงอาศัยแสวงสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อยึดหน่วงตั๋วเงินไว้ก็ดี เพื่อทําให้ตั๋วนั้นหลุดพ้น
ก็ดี หรือเพื่อบังคับสําการใช้ เงินเอาแก่คู่สัญญาแห่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กางตั๋วนั้นคนใดคนหนึ ่งก็ดี ท่านว่าไม่อาจจะทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าได้เป็นอัน
ขาด เว้นแต่คู่สัญญาฝ่ายซึ่งจะพึงถูกยึดหน่วงหรือถูกบังคับใช้เงินนั้นจะอยู่ในฐานเป็นผู้ต้องตัดบทมิให้
สํานักยกข้ อลายมือชื่อปลอม หรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อข้อลงลายมืสํอานัชืก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
ปราศจากอํานาจนั้นขึ้นกเป็ า นข้อต่อสู้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่ข้อความใด ๆ อันกล่าวมาในมาตรานี้ ท่านมิให้กระทบกระทั่งถึงการให้สัตยาบัน
แก่ลายมือชื่อซึ่งลงไว้โดยปราศจากอํานาจแต่หากไม่ถึงแก่เป็นสําลายมื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อปลอม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๐๙ ถ้ามีผู้นําตั๋วเงินชนิดจะพึงใช้เงินตามเขาสั่งเมื่อทวงถามมาเบิกต่อ
ธนาคารใด และธนาคารนั ้นได้ใช้เงินให้ไปตามทางค้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าปกติโดยสุ สํานัจกริงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตและปราศจากประมาทเลิ กา นเล่อไซร้
ท่านว่าธนาคารไม่มีหน้าที่จะต้องนําสืบว่าการสลักหลังของผู้รับเงิน หรือการสลักหลังในภายหลังราย
สํานักใด ๆ ได้ทําไปด้วยอาศักยารับมอบอํานาจแต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี บุคคลซึ่งอ้างเอาเป็นเจ้กาาของคําสลักหลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานังนักงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นและถึงแม้ว่า กา
รายการสลักหลังนั้นจะเป็นสลักหลังปลอมหรือปราศจากอํานาจก็ตาม ท่านให้ถือว่าธนาคารได้ใช้เงิน
ไปถูกระเบียบ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๐๑๐ เมื่อสํผูา้นัทกรงตั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๋วเงินซึ่งหายหรือถูกกลัากทราบเหตุแสํล้าวนัในทั
งานคณะกรรมการกฤษฎี นใดนั้นต้อง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บอกกล่าวเป็นหนังสือไปยังผู้ออกตั๋วเงิน ผู้จ่าย ผู้สมอ้างยามประสงค์ ผู้รับรองเพื่อแก้หน้าและผู้รับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อาวัล ตามแต่มี เพื่อให้บอกปัดไม่ใช้เงินตามตั๋วเงินนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๑๑ ถ้าตั๋วเงินหายไปแต่ก่อนเวลาล่วงเลยกําหนดใช้เงินท่านว่าบุคคลซึ่ง
ได้เป็นผู้ทรงตั๋วเงิสํนานันัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
จะร้องขอไปยังผู้สั่งจ่ากยให้ า ๆ ตั๋วเงินสํเป็านันกเนืงานคณะกรรมการกฤษฎี
้อความเดียวกันแก่ตนใหม่
กา อีกฉบับ
หนึ่งก็ได้ และในการนี้ถ้าเขาประสงค์ก็วางประกันให้ไว้แก่ผู้สั่งจ่าย เพื่อไว้ทดแทนที่เขาหากจะต้อง
สํานักเสีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดในกรณี กา ที่ตั๋วเงินซึ่งสํว่านัาหายนั ้นจะกลับหาได้ กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง ผู้ สั่ ง จ่ า ยรับ คํา ขอร้อ งดั่ง ว่ า มานั้น แล้ว หากบอกปั ด ไม่ ย อมให้ตั๋ว เงิ นคู่ ฉ บั บ
เช่นนั้น อาจจะถูกสํบัานังคักงานคณะกรรมการกฤษฎี
บให้ออกให้ก็ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ลักษณะ ๒๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หุ้นส่วนและบริษัทสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


- ๑๖๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานับทเบ็ ดเสร็จทัว่ ไป
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๑๒ อันว่าสัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตั้งแต่สองคนขึ้นไปตกลงเข้ากันเพื่อกระทํากิจการร่วมกัน ด้วยประสงค์จะแบ่งปันกําไรอันจะพึงได้แต่
กิจการที่ทํานั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๐๑๓ อันห้สําานังหุกงานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้นส่วนหรือบริษัทนั้น ท่กาานกําหนดเป็นสามประเภท คือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๑) ห้างหุ้นส่วนสามัญ
สํ(๒) ห้างหุ้นส่วนจํากัด กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) บริษัทจํากัด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๑๔ บรรดาสํ า นั ก งานสํ า หรั บ จดทะเบี ย นห้ า งหุ้ น ส่ ว นและบริ ษั ท
ทั้งหลายนั้น ให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงซึ่งบัญชาการจดทะเบีสํายนันห้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
างหุ้นส่วนและบริษัทเป็นผู้ออกกฎ
ข้อบังคับจัดตั้งขึ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐๑๕ ห้างหุ้นส่วนหรื


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อบริษัทเมืสํ่อาได้นักจงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดทะเบียนตามบัญญัติแกห่า งลักษณะนี้
แล้ว ท่านจัดว่าเป็นนิติบุคคลต่างหากจากผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นทั้งหลายซึ่งรวมเข้ากันเป็นหุ้นส่วน
สํานักหรื อบริษัทนั้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐๑๖ การจดทะเบี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กายนนั้น ห้างหุสํ้นาส่นัวกนหรื อบริษัทตั้งสํานักงานแห่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งใหญ่ทํา
กิจการอยู่ ณ ตําบลใดในพระราชอาณาจักร ท่านให้จดทะเบียน ณ หอทะเบียนสําหรับตําบลนั้น
การแก้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาไขข้อความทีสํ่ไาด้นัจกดทะเบี ยนประการหนึก่งาประการใดในภายหลั
งานคณะกรรมการกฤษฎี งก็ดี กับทั้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แก้ไขการอื่นอย่างหนึ่งอย่างใดอันบทบัญญัติแผนกนี้บังคับหรืออนุญาตให้จดทะเบียนก็ดี ก็ต้องจด ณ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หอทะเบียนแห่งเดียวกันนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๑๗ ถ้ า ข้ อ ความที่ จ ะจดทะเบี ย น หรื อ ประกาศโฆษณาเกิ ด ขึ้ น ใน
ต่างประเทศไซร้ ท่สําานันให้ นับกําหนดเวลาสําหรักบาการจดทะเบีสํยานหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี อประกาศโฆษณาข้อความนั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นตั้งแต่
เวลาเมื่อคําบอกกล่าวการนั้นมาถึงตําบลที่จะจดทะเบียนหรือตําบลที่จะประกาศโฆษณานั้นเป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๑๘ ในการจดทะเบียน ท่านให้เสียค่าธรรมเนียมตามกฎข้อบังคับซึ่ง
รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงตั ้งไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๐๑๙ ถ้าสํคําานัขอจดทะเบี ยนหรือเอกสารซึ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งต้องจดทะเบี
สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
นไม่มีรายการ กา
บริบูรณ์ตามที่บังสํคัาบนัไว้ ในลักษณะนี้ ว่าให้จดแจ้งก็ดี หรือถ้สําารายการอั
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นใดซึ่งจะแจ้งในคําขอหรือใน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เอกสารนั้นขัดกับกฎหมายก็ดี หรือถ้าเอกสารใดซึ่งกําหนดไว้ว่าให้ส่งด้วยกันกับคําขอจดทะเบียนยัง
สํานักขาดอยู ่มิได้ส่งให้ครบก็ดกี าหรือถ้าไม่ปฏิบสําัตนัิตกามเงื
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่อนไขข้ออื่นซึ่งกฎหมายบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งคับไว้ก็ดสํี านายทะเบี ยนจะไม่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๖๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ยอมรับจดทะเบียนก็ได้ จนกว่าคําขอจดทะเบียนหรือเอกสารนั้นจะได้ทําให้บริบูรณ์หรือแก้ไขให้
สํานักถูงานคณะกรรมการกฤษฎี
กต้อง หรือได้ส่งเอกสารซึ
กา ่งกําหนดไว้นสําั้นนัครบทุ กสิ่งอันหรือได้ปฏิบกัตาิตามเงื่อนไขข้สํอานันั้นกแล้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ว
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๑๐๒๐ ๑๕ บุ ค คลทุ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ก คนเมื่ อ ได้
สํานัเ สีกยงานคณะกรรมการกฤษฎี
ค่ า ธรรมเนี ย มตามที
กา่ กํ า หนดใน
กฎกระทรวงแล้ว ชอบที่จะตรวจเอกสารซึ่งนายทะเบียนเก็บรักษาไว้ได้ หรือจะขอให้คัดสําเนาหรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เนื้อความในเอกสารฉบับใด ๆ พร้อมด้วยคํารับรองว่าถูกต้องมอบให้ก็ได้
สํผูานั้ มกี สงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ ว นได้ เ สี ย ของห้ า งหุ้ นกส่า ว นหรื อ บริ ษสํั ทานัใดกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ๆ เมื่ อ ได้ เ สี ย ค่ า ธรรมเนี
กา ย มตามที่
กําหนดในกฎกระทรวงแล้ว ชอบที่จะขอให้นายทะเบียนทําใบสําคัญแสดงการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน
สํานักหรื อบริษัทนั้นให้ก็ได้ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐๒๑ นายทะเบียกานทุกคนจะต้อสํงแต่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย่อรายการซึ่งได้ลงทะเบี
กา ยนส่งไปลง
พิ ม พ์ โ ฆษณาในหนั ง สื อ ราชกิ จ จานุ เ บกษาเป็ น คราว ๆ ตามแบบซึ่ ง รั ฐ มนตรี เ จ้ า กระทรวงจะได้
สํานักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดให้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๒๒ เมื่อได้พิมพ์โฆษณาดั่งนัสํ้นานัแล้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ว ท่านให้ถือว่าบรรดาเอกสารและกา
ข้ อ ความซึ่ ง ลงทะเบี ย นอั น ได้ ก ล่ า วถึสํงาในย่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อ รายการนั้ น เป็ นอั น รู้แ ก่บุ ค คลทั้ งสํปวงไม่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เ ลือ กว่ า เป็ น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้เกี่ยวข้องด้วยห้างหุ้นส่วนหรือด้วยบริษัทนั้นหรือที่ไม่เกี่ยวข้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๖
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๒๓ ผู้ เ ป็ น หุ้ น ส่ ว นก็ ดี ห้ า งหุ้ น ส่ ว นก็ ดี หรื อ บริ ษั ท ก็ ดื จะถื อ เอา
สํานักประโยชน์ แก่บุคคลภายนอกเพราะเหตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สําทนัี่มกีสงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัญญาหรือเอกสาร หรืกอาข้อความอันบัสํงาคันับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้จดทะเบียน กา
ตามลักษณะนี้ยังไม่ได้ จนกว่าจะได้จดทะเบียนแล้ว แต่ฝ่ายบุคคลภายนอกจะถือเอาประโยชน์เช่นว่า
นั้นได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่ถึงกระนั้นก็ดี ผู้เป็นหุ้นส่วน ผู้ถือหุ้น ห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทซึ่งได้รับชําระหนี้
สํานักก่งานคณะกรรมการกฤษฎี
อนจดทะเบียนนั้นย่อมไม่
กา จําต้องคืน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๑๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๒๓/๑ ห้ า งหุ้ น ส่ ว นหรื อ บริ ษั ท จะยกมาตรา ๑๐๒๓ ขึ้ น ต่ อ สู้
สํานักบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
คคลภายนอกผู้สุจริตเพื
กา่อไม่ให้ต้องรับสําผินัดกโดยอ้ างว่าผู้เป็นหุ้นส่วนกาห้างหุ้นส่วน บริ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัษกัทงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือกรรมการ กา
ไม่มีอํานาจกระทําการมิได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๒๔ ในระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนด้วยกันก็ดี หรือในระหว่างผู้ถือหุ้นด้วยกัน
สํานักก็งานคณะกรรมการกฤษฎี
ดี ในระหว่างผู้เป็นหุ้นกส่าวนกับห้างหุ้นสํส่านัวกนก็ ดี ในระหว่างผู้ถือหุ้นกกัาบบริษัทก็ดี ท่สําานันให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สันนิษฐานไว้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ก่อนว่าบรรดาสมุดบัญชีเอกสารของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท หรือของผู้ชําระบัญชีห้างหุ้นส่วนหรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๐๒๐ แก้ไขเพิ
สํานั่มกเติ มโดย พระราชบัญญัติแกก้าไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๑๖
มาตรา ๑๐๒๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๑๗
มาตรา ๑๐๒๓/๑ เพิ่มโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานัก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๖๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
บริษัทใด ๆ นั้น ย่อมเป็นพยานหลักฐานอันถูกต้องตามข้อความที่ได้บันทึกไว้ในนั้นทุกประการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒
ห้างหุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา้นส่วนสามัญสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่วนที่ ๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทวิเคราะห์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐๒๕ อั น ว่ า ห้ ากงหุ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้ น ส่ ว นสามัสํญานันัก้ นงานคณะกรรมการกฤษฎี
คื อ ห้ า งหุ้ น ส่ ว นประเภทซึ
กา ่ ง ผู้ เ ป็ น
หุ้นส่วนหมดทุกคนต้องรับผิดร่วมกันเพื่อหนี้ทั้งปวงของหุ้นส่วนโดยไม่มีจํากัด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความเกี่ยวพันระหว่างผู้เป็นหุ้นส่สํวานด้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วยกันเอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐๒๖ ผู้เป็นหุ้นส่กวานทุกคนต้องมีสํสาิ่งนัหนึ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่งสิ่งใดมาลงหุ้นด้วยในห้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาางหุ้นส่วน
สิ่งที่นํามาลงด้วยนั้น จะเป็นเงินหรือทรัพย์สินสิ่งอื่นหรือลงแรงงานก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๒๗ ในเมื่อมีกรณีเป็นข้อสงสัย ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าสิ่งซึ่งนํามา
ลงหุ้นด้วยกันนั้นมีสํคานั่ากเท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ากัน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๐๒๘ ถ้าผูสํา้เป็นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
หุ้นส่วนคนใดได้ลงแต่กแารงงานของตนเข้
สํานัากเป็ นหุ้น และใน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สัญญาเข้าหุ้นส่วนมิได้ตีราคาค่าแรงไว้ ท่านให้คํานวณส่วนกําไรของผู้ที่เป็นหุ้นส่วนด้วยลงแรงงาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เช่นนั้น เสมอด้วยส่วนถัวเฉลี่ยของผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งได้ลงเงินหรือลงทรัพย์สินเข้าหุ้นในการนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๒๙ ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งเอาทรัพย์สินมาให้ใช้เป็นการลงหุ้นด้วยไซร้
ความเกี่ยวพันระหว่
สํานัากงผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้เป็นหุ้นส่วนคนนั้นกับกห้าางหุ้นส่วนในเรื
สํา่อนังส่ งมอบและซ่อมแซมก็ดกีาความรับผิด
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เพื่อชํารุดบกพร่องก็ดี ความรับผิดเพื่อการรอนสิทธิก็ดี ข้อยกเว้นความรับผิดก็ดีท่านให้บังคับตาม
สํานักบทบั ญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ ว่าด้สํวานัยเช่ าทรัพย์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐๓๐ ถ้าผู้เป็นหุก้นาส่วนคนหนึ่งให้สํากนัรรมสิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ทธิ์ในทรัพย์สินอันใดอั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นหนึ่งเป็น
การลงหุ้นด้วยไซร้ ความเกี่ยวพันระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนคนนั้นกับห้างหุ้นส่วนในเรื่องส่งมอบและ
สํานักซ่งานคณะกรรมการกฤษฎี
อมแซมก็ดี ความรับผิดกเพื
า ่อชํารุดบกพร่
สํานัอกงก็งานคณะกรรมการกฤษฎี
ดี ความรับผิดเพื่อการรอนสิ
กา ทธิก็ดี ข้สํอายกเว้ นความรับผิด
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ก็ดี ท่านให้บังคับสํตามบทบั ญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ ว่าสํด้าวนัยซื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้อขาย
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๐๓๑ ถ้าสํผูา้เนัป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
หุ้นส่วนคนใดละเลยไม่กาส่งมอบส่วนลงหุ
สํานั้นกของตนเสี ยเลย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๖๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ท่านว่าต้องส่งคําบอกกล่าวเป็นจดหมายจดทะเบียนไปรษณีย์ไปยังผู้เป็นหุ้นส่วนคนนั้น ให้ส่งมอบส่วน
สํานักลงหุ ้นของตนมาภายในเวลาอั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นสมควรสํานัมิกฉงานคณะกรรมการกฤษฎี
ะนั้นผู้เป็นหุ้นส่วนคนอืก่นา ๆ จะลงเนื้อสํเห็
านันกพร้ อมกัน หรือ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โดยเสียงข้างมากด้วยกันสุดแต่ข้อสัญญา ให้เอาผู้เป็นหุ้นส่วนคนนั้นออกเสียได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๓๒ ห้ามมิให้เปลี่ยนแปลงข้อสัญญาเดิมแห่งห้างหุ้นส่วนหรือประเภท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แห่งกิจการ นอกจากด้วยความยินยอมของผู้เป็นหุ้นส่วนหมดด้วยกันทุกคน เว้นแต่จะมีข้อตกลงกันไว้
เป็นอย่างอื่น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๐๓๓ ถ้าผูสํ้เาป็นันกงานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หุ้นส่วนมิได้ตกลงกันไว้กใานกระบวนจัดสํการห้ างหุ้นส่วนไซร้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ท่านว่าผู้เป็นหุ้นส่วนย่อมจัดการห้างหุ้นส่วนนั้นได้ทุกคน แต่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดจะเข้าทํา
สัญญาอันใดซึ่งผู้เสํป็านนัหุกงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นส่วนอีกคนหนึ่งทักท้วกงนัา ้นไม่ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีเช่นนี้ ท่านให้ถือว่าผู้เป็นหุ้นส่วนย่อมเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการทุกคน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๓๔ ถ้าได้ตกลงกันไว้ว่าการงานของห้างหุ้นส่วนนั้นจักให้เป็นไปตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เสียงข้างมากแห่งผู้เป็นหุ้นส่วนไซร้ ท่านให้ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ ่งมีเสียงเป็นคะแนนหนึ่ง โดยไม่ต้อง
คํานึงถึงจํานวนที่ลงหุ้นด้วยมากหรือน้อสํยานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐๓๕ ถ้าได้ตกลงกั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นไว้ว่าจะให้ผสําู้เป็นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
หุ้นส่วนหลายคนจัดการห้
กา างหุ้นส่วน
ไซร้ หุ้นส่วนผู้จัดการแต่ละคนจะจัดการห้างหุ้นส่วนนั้นก็ได้ แต่หุ้นส่วนผู้จัดการคนหนึ่งคนใดจะทํา
สํานักการอั นใดซึ่งหุ้นส่วนผู้จัดกการอี
งานคณะกรรมการกฤษฎี า กคนหนึ่งสํทัานักกท้งานคณะกรรมการกฤษฎี
วงนั้นไม่ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐๓๖ อันหุ้นส่วกนผู


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้จัดการนั้น สํจะเอาออกจากตํ าแหน่งได้กตา่อเมื่อผู้เป็น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หุ้นส่วนทั้งหลายอื่นยินยอมพร้อมกัน เว้นแต่จะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๓๗ ถึงแม้ว่าผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายได้ตกลงให้ผู้เป็นหุ้นส่วนคนเดียว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือหลายคนเป็นผู้จัดการห้างหุ้นส่วนก็ดี ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคน นอกจากผู้จัดการย่อมมีสิทธิที่จะไต่ถาม
สํานักถึงานคณะกรรมการกฤษฎี
งการงานของห้างหุ้นส่กวา นที่จัดอยู่นั้นสํได้
านัทกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ุกเมื่อ และมีสิทธิที่จะตรวจและคั
กา ดสําสํเนาสมุ ดบัญชี และ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เอกสารใด ๆ ของหุ้นส่วนได้ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๓๘ ห้ามมิให้ผู้เป็นหุ้นส่วนประกอบกิจการอย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งมีสภาพ
สํานักดุงานคณะกรรมการกฤษฎี
จเดียวกัน และเป็นการแข่ กา งขันกับกิจสํการของห้ างหุ้นส่วนนั้นไม่ว่ากทําาเพื่อประโยชน์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัตกนหรื อประโยชน์
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้อื่น โดยมิได้รับความยินยอมของผู้เป็นหุ้นส่วนคนอื่น ๆ
สํถ้านัากผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้เป็นหุ้นส่วนคนใดทําการฝ่ กา าฝืนต่อบทบั สําญ
นักญังานคณะกรรมการกฤษฎี
ติมาตรานี้ไซร้ ผู้เป็นหุก้นา ส่วนคนอื่น
ๆ ชอบที่จะเรียกเอาผลกําไรซึ่งผู้นั้นหาได้ทั้งหมด หรือเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนเพื่อการที่ห้าง
สํานักหุงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นส่วนได้รับความเสียกหายเพราะเหตุ
า สํนานัั้นกแต่ ท่านห้ามมิให้ฟ้องเรีกยากเมื่อพ้นเวลาปี
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัหกนึงานคณะกรรมการกฤษฎี
่งนับแต่วันทํา กา
การฝ่าฝืน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๐๓๙ ผูสํ้ เาป็นันกหุงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ น ส่ ว นจํ า ต้ อ งจั ด การงานของห้
กา า งหุ
สํา้ นนักส่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ว นด้ ว ยความ กา
- ๑๖๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ระมัดระวังให้มากเสมือนกับจัดการงานของตนเองฉะนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๔๐ ห้ามมิให้ชักนําเอาบุคคลผู้อื่นเข้ามาเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนโดย
มิได้รับความยินยอมของผู ้เป็นหุ้นส่วนหมดด้วกยกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นทุกคน เว้นสํแต่
านักจงานคณะกรรมการกฤษฎี
ะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่ากงอื
า ่น

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๐๔๑ ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งโอนส่วนกําไรของตนในห้างหุ้นส่วน
ทั้ ง หมดก็ ดี หรื อสํแต่
านับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
างส่ ว นก็ ดี ใ ห้ แ ก่ บุ ค คลภายนอกโดยมิ
กา สําไนัด้กรงานคณะกรรมการกฤษฎี
ั บ ความยิ น ยอมของผูก้ เาป็ น หุ้ น ส่ ว น
ทั้งหลายอื่นไซร้ ท่านว่าบุคคลภายนอกนั้นจะกลายเป็นเข้าหุ้นส่วนด้วยก็หามิได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๔๒ ความเกี่ยวพันระหว่างหุ้นส่วนผู้จัดการกับผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายอื่น
นั้น ท่านให้บังคับสํด้าวนัยบทบั ญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ว่าด้สํวายตั
นักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
แทน กา

มาตรากา ๑๐๔๓ ถ้าผูสํ้เาป็นันกหุงานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้นส่วนอันมิได้เป็นผู้จัดกการเอื
า ้อมเข้ามาจั
สํานัดกการงานของห้ าง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หุ้นส่วนก็ดี หรือผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งเป็นผู้จัดการกระทําล่วงขอบอํานาจของตนก็ดี ท่านให้บังคับด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี ้ ว่าด้วยจัดการงานนอกสั่งสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๔๔ อันส่วนกําไรก็ดี ส่วนขาดทุนก็ดี ของผู้เป็นหุ้นส่วนทุก ๆ คนนั้น
ย่อมเป็นไปตามส่สํวานที
นัก่ลงานคณะกรรมการกฤษฎี
งหุ้น กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๐๔๕ ถ้าหุสํ้นานัส่กวงานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นของผู้ใดได้กําหนดไว้กแาต่เพียงข้างฝ่าสํยกํานัากไรว่ าจะแบ่งเอา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เท่าไร หรือกําหนดแต่เพียงข้างขาดทุนว่าจะยอมขาดเท่าไรฉะนี้ไซร้ ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า
หุ้นส่วนของผู้นั้นมีสํสานั่วกนกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าไรและส่วนขาดทุนเป็กานอย่างเดียวกัสํนานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๐๔๖ ผู้เป็สํนานัหุก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ส่วนไม่ว่าคนหนึ่งคนใดหามี
กา สิทธิจะได้สํราับนับํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
เหน็จเพื่อที่ได้ กา
จัดการงานของห้างหุ้นส่วนนั้นไม่ เว้นแต่จะได้มีความตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา ๑๐๔๗ ถ้าชืสํ่อาของผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้เป็นหุ้นส่วนซึ่งออกจากหุ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นส่วนไปแล้สําวนัยักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
คงใช้เรียกขาน กา
ติดเป็นชื่อห้างหุ้นส่วนอยู่ ท่านว่าผู้เป็นหุ้นส่วนนั้นชอบที่จะเรียกให้งดใช้ชื่อของตนเสียได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๔๘ ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งจะเรียกเอาส่วนของตนจากหุ้นส่วนอื่น ๆ แม้
สํานักในกิ จการค้าขายอันใดซึก่งาไม่ปรากฏชื่อของตนก็
งานคณะกรรมการกฤษฎี ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่วนที่ ๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความเกี่ยวพันระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนกับบุคคลภายนอก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๔๙ ผู้ เป็นหุ้ นส่วนจะถือเอาสิท ธิใด ๆ แก่บุคคลภายนอกในกิจการ
สํานักค้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าขายซึ่งไม่ปรากฏชื่อของตนนั
กา ้นหาได้สํไม่านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๖๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๐๕๐ การใด
สํานักๆงานคณะกรรมการกฤษฎี
อันผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ
กา ่งได้จัดสําทํนัากไปในทางที ่เป็น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ธรรมดาการค้าขายของห้างหุ้นส่วนนั้น ท่านว่าผู้เป็นหุ้นส่วนหมดทุกคนย่อมมีความผูกพันในการนั้น ๆ
ด้วย และจะต้องรัสํบานัผิกดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ร่วมกันโดยไม่จํากัดจํากนวนในการชํ
า าระหนี ้ อันได้ก่อให้เกิดขึ้นเพราะจั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดการไป
เช่นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐๕๑ ผู้เป็นหุ้นส่กวา นซึ่งออกจากหุ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้นกส่งานคณะกรรมการกฤษฎี
วนไปแล้วยังคงต้องรักบาผิดในหนี้ซึ่ง
ห้างหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นที่ตนได้ออกจากหุ้นส่วนไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๕๒ บุคคลผู้เข้าเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนย่อมต้องรับผิดในหนี้ใด ๆ ซึ่ง
ห้างหุ้นส่วนได้ก่อสํให้านัเกิกดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขึ้นก่อนที่ตนเข้ามาเป็กนาหุ้นส่วนด้วย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๐๕๓ ห้าสํงหุานั้นกส่งานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี วนซึ่งมิได้จดทะเบียนนักา้น ถึงแม้จะมีขสํ้อานัจํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
กัดอํานาจของ กา
หุ้ น ส่ ว นคนหนึ่ ง ในการที่ จ ะผู ก พั น ผู้ เ ป็ น หุ้ น ส่ ว นคนอื่ น ๆ ท่ า นว่ า ข้ อ จํ า กั ด เช่ น นั้ น ก็ ห ามี ผ ลถึ ง
บุคคลภายนอกไม่สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๐๕๔ บุคคลใดแสดงตนว่าเป็นหุ้นส่วนด้วยวาจาก็ดี ด้วยลายลักษณ์อักษร
ก็ดี ด้วยกิริยาก็ดสํี ด้านัวยยิ นยอมให้เขาใช้ชื่อตนเป็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นชื่อห้างหุ้นสํส่าวนันก็ ดี หรือรู้แล้วไม่คัดค้านปล่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อยให้เขา
แสดงว่าตนเป็นหุ้นส่วนก็ดี ท่านว่าบุคคลนั้นย่อมต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกในบรรดาหนี้ของห้าง
สํานักหุงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นส่วนเสมือนเป็นหุ้นส่กวาน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดตายไปแล้ว และห้างหุ้นส่วนนั้นยังคงค้าต่อไปในชื่อ
เดิมของห้าง ท่านว่สําานัเหตุ เพียงที่คงใช้ชื่อเดิมนั้นกาก็ดี หรือใช้ชื่อสํของหุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ้นส่วนผู้ตายควบอยู่ด้วกยก็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ดีหาทําให้
ความรับผิดมีแก่กองทรัพย์มรดกของผู้ตายเพื่อหนี้ใด ๆ อันห้างหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นภายหลังมรณะ
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นไม่ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา การเลิกและชํ าระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๕๕ ห้างหุ้นส่วนสามัญย่อมเลิกกันด้วยเหตุดั่งกล่าวต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑) ถ้กาา ในสัญญาทําสํไว้านัมกีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําหนดกรณีอันใดเป็นเหตุ กาที่จะเลิกกัน เมื
สํา่อนัมีกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
รณีนั้น กา
(๒) ถ้าสัญญาทําไว้เฉพาะกําหนดกาลใด เมื่อสิ้นกําหนดกาลนั้น
สํ(๓) ถ้าสัญญาทําไว้เฉพาะเพื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่อทํากิจการอย่สํานัางหนึ ่งอย่างใดแต่อย่างเดีกยาว เมื่อเสร็จ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
การนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๔) เมืกา่อผู้เป็นหุ้นส่วสํนคนใดคนหนึ ่งให้คําบอกกล่กาาวแก่ผู้เป็นหุ้นสํส่านัวกนคนอื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่น ๆ ตาม
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กําหนดดั่งบัญญัตสํิไาว้นัในมาตรา ๑๐๕๖
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) เมื่ อ ผู้ เ ป็ น หุ้ น ส่ ว นคนใดคนหนึ่ ง ตาย หรื อ ล้ ม ละลาย หรื อ ตกเป็ น ผู้ ไ ร้
สํานักความสามารถ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๖๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๐๕๖ ถ้าสํห้าานังหุ ้นส่วนได้ตั้งขึ้นไม่มีกํากหนดกาลอย่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า างหนึ
สํานั่งกอย่ างใดเป็นยุติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ท่านว่าจะเลิกได้ต่อเมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งบอกเลิกเมื่อสิ้นรอบปีในทางบัญชีเงินของห้าง
หุ้นส่วนนั้น และผูสํ้เาป็นันกหุงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นส่วนนั้นต้องบอกกล่ากวความจํ
า านงจะเลิ
สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ล่วงหน้าไม่น้อยกว่าหกเดื
กา อน

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๐๕๗ ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดร้องขอเมื่อมีกรณีอย่างใดอย่างหนึ่งดั่งจะ
กล่าวต่อไปนี้ ศาลอาจสั ่งให้ห้างหุ้นส่วนสามัญกเลิา กกันเสียก็ได้สําคืนัอกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๑) เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งนอกจากผู้ร้องฟ้องนั้น ล่วงละเมิดบทบังคับใด ๆ
สํานักอังานคณะกรรมการกฤษฎี
นเป็นข้อสาระสําคัญซึก่งสัา ญญาหุ้นส่วนกํ
สํานัาหนดไว้ แก่ตน โดยจงใจหรืกาอเลินเล่ออย่าสํงร้านัายแรง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เมื่อกิจการของห้างหุ้นส่วนนั้นจะทําไปก็มีแต่ขาดทุนอย่างเดียวและไม่มีหวังจะ
กลับฟื้นตัวได้อีก สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) เมื่อมีเหตุอื่นใด ๆ ทําให้ห้างหุ้นส่วนนั้นเหลือวิสัยที่จะดํารงคงอยู่ต่อไปได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๕๘ เมื่อเหตุอันใดอันหนึ่งเกิดขึ้นเกี่ยวด้วยผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่ง ซึ่งตาม
ความในมาตรา ๑๐๕๗ หรือมาตรา ๑๐๖๗ เป็นเหตุให้ผู้เป็นสํหุา้นนัส่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วนทั้งหลายนอกนั้นมีสกิทาธิจะเรียกให้
เลิกห้างหุ้นส่วนได้ไซร้ ในเมื่อผู้เป็นหุสํ้นาส่นัวกนเหล่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
านั้นยื่นคําร้อง ท่านว่าศาลจะสัสํ่งาให้
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กําจัดหุ้นส่วนผู้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ต้นเหตุคนนั้นออกเสียจากห้างหุ้นส่วนแทนสั่งให้เลิกห้างหุ้นส่วนก็ได้
สํในการแบ่ งทรัพย์สินระหว่กางห้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า างหุ้นส่วนกัสําบนัผูก้เงานคณะกรรมการกฤษฎี
ป็นหุ้นส่วนซึ่งถูกกําจัดกนัา้น ท่านให้ตี
ราคาทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนตามราคาที่เป็นอยู่ในเวลาแรกยื่นคําร้องขอให้กําจัด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๕๙ ถ้าเมื่อสิ้นกําหนดกาลซึ่งได้ตกลงกันไว้ และผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลาย
หรือผู้เป็นหุ้นส่วนซึ
สํานั่งกเคยได้ จัดการอยู่ในระหว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาางกําหนดนั้นสํายันังกคงดํ าเนินการค้าของห้กาางหุ้นส่วนอยู่
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ต่อไปโดยมิได้ชําระบัญชีหรือชําระเงินกันให้เสร็จไปไซร้ ท่านให้ถือว่าผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งปวงได้ตกลงคง
สํานักทํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าการเป็นหุ้นส่วนกันสืกบาไปโดยไม่มีกําสํหนดกาล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๖๐ ในกรณีอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งกล่าวไว้ในมาตรา ๑๐๕๕ อนุมาตรา ๔
สํานักหรื ออนุมาตรา ๕ นั้น ถ้กาาผู้เป็นหุ้นส่วนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่ยกังอยู ่รับซื้อหุ้นของผู้ที่ออกจากหุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นส่วนไปไซร้ ท่านว่าสัญญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หุ้นส่วนนั้นก็ยังคงใช้ได้ต่อไปในระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนที่ยังอยู่ด้วยกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๖๑ เมื่อห้างหุ้นส่วนเลิกกันแล้วก็ให้จัดการชําระบัญชีเว้นแต่จะได้ตกลง
สํานักกังานคณะกรรมการกฤษฎี
น ให้ จั ด การทรั พ ย์ สิ นกโดยวิ
า ธี อื่ น ในระหว่ า งผู้ เ ป็ น หุ้ น ส่ ว นด้ ว ยกักนา หรื อ ว่ า ห้ า งหุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้ นกส่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ว นนั้ น ศาลได้ กา
พิพากษาให้ล้มละลาย
สํถ้านัากการเลิ กห้างหุ้นส่วนนั้นได้กาเป็นไปโดยที่เจ้สําานัหนีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้เฉพาะตัวของผู้เป็นหุ้นกส่าวนคนใดคน
หนึ่งได้ให้คําบอกกล่าวก็ดี หรือโดยที่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งล้มละลายก็ดี ท่านว่าจะงดการชําระ
สํานักบังานคณะกรรมการกฤษฎี
ญชีเสียได้ต่อเมื่อเจ้าหนีกา้คนนั้น หรือเจ้สําาพนั กงานรักษาทรัพย์ยินยอมด้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การชําระบัญชีนั้น ให้ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดด้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วยกันจัดทําหรือให้บุคคลอื่นซึ่งผู้เป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หุ้นส่วนได้ตั้งแต่งขึ้นนั้นเป็นผู้จัดทํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี การแต่กางตั้งผู้ชําระบัญสําชีนัให้ วินิจฉัยชี้ขาดโดยคะแนนเสี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยงข้างมากของผู ้เป็นหุ้นส่วน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๗๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา ๑๐๖๒ การชํ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําานัระบั ญชี ให้ทําโดยลําดับดักงานี้ คือ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ให้ชําระหนี้ทั้งหลายซึ่งค้างชําระแก่บุคคลภายนอก
สํ(๒) ให้ช ดใช้เ งิ นทดรองและค่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา า ใช้ จ่ า ยซึสํ่ งาผูนั้ เกป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นหุ้ นส่ วนได้ อ อกของตนไปเพื
กา ่ อจั ด
การค้าของห้าง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ให้คืนทุนทรัพย์ซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ละคนได้ลงเป็นหุ้น
สํถ้านัากยังานคณะกรรมการกฤษฎี
งมีทรัพย์เหลืออยู่อีกเท่กาาไร ก็ให้เฉลี่ยแจกเป็ นกําไรในระหว่างผู้เป็นกหุา ้นส่วน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา ๑๐๖๓ ถ้าเมื


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํา่อนัได้ ชําระหนี้ซึ่งค้างชําระแก่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บุคคลภายนอกและชดใช้ เงินทด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รองและค่าใช้จ่ายแล้ว สินทรัพย์ที่ยังอยู่ไม่พอจะคืนแก่ผู้เป็นหุ้นส่วนให้ครบจํานวนที่ลงหุ้นไซร้ส่วนที่
ขาดนี้คือขาดทุน สํซึา่งนัต้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
งคิดเฉลี่ยช่วยกันขาด กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่วนที่ ๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนสามัญ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๐๖๔ อันห้างหุ้นส่วนสามัญนั้น จะจดทะเบียนก็ได้
สํการลงทะเบี ยนนั้น ท่านบังกคัาบให้มีรายการดั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํา่งนันีก้ งานคณะกรรมการกฤษฎี
คือ กา
(๑) ชื่อห้างหุ้นส่วน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒) วักตาถุที่ประสงค์ขสํองห้
านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
งหุ้นส่วน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ที่ตั้งสํานักงานแห่งใหญ่และสาขาทั้งปวง
สํ(๔) ชื่อและที่สํานักกับทั้งอาชี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วะของผู้เป็นสํหุา้นนัส่กวงานคณะกรรมการกฤษฎี
นทุก ๆ คน ถ้าผู้เป็นหุก้นาส่วนคนใดมี
ชื่อยี่ห้อ ก็ให้ลงทะเบียนทั้งชื่อและยี่ห้อด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๕) ชืก่อาหุ้นส่วนผู้จัดการ
สํานักในเมื ่อได้ตั้งแต่งให้เป็นผูก้จาัดการแต่เพียงบางคน
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) ถ้ามีข้อจํากัดอํานาจของหุ้นส่วนผู้จัดการประการใดให้ลงไว้ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) ตราซึ่งใช้เป็นสําคัญของห้างหุ้นส่วน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ข้อความซึ
กา ่ งลงทะเบีสํยานันนั ้น จะลงรายการอื่น ๆกาอีกอันคู่สัญญาเห็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สมควรจะให้ กา
ประชาชนทราบด้วยก็ได้
สํการลงทะเบี ยนนั้น ต้องลงลายมื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อชื่อของผูสํา้เนัป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
หุ้นส่วนทุกคน และต้อกงประทัา บตรา
ของห้างหุ้นส่วนนั้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ให้พนักกา งานทะเบียนทํ สํานัาใบสํ าคัญแสดงการจดทะเบี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนส่งมอบให้สําแนัก่กหงานคณะกรรมการกฤษฎี
้างหุ้นส่วนนั้น กา
ฉบับหนึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๘
มาตรา ๑๐๖๔/๑ หุ้นส่วนผู้จัดการคนใดในห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนจะลาออกจาก
สํานักตํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าแหน่ง ให้ยื่นใบลาออกต่
กา อหุ้นส่วนผู้จสํัดาการอื ่นคนหนึ่งคนใด การลาออกมี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ผลนับแต่
สํานัวกันงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ใบลาออกไป กา
ถึงหุ้นส่วนผู้จัดการอื ่นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๘
มาตรา ๑๐๖๔/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานัก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๔๙ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๗๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ในกรณีที่ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนมีหุ้นส่วนผู้จัดการคนเดียว ให้หุ้นส่วนผู้จัดการที่จะ
สํานักลาออกจากตํ าแหน่งแจ้กงาเป็นหนังสือให้สํผานัู้เป็กงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดทราบเพื
กา ่อนัดประชุ
สํานักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
และพิจารณา กา
ตั้งผู้จัดการคนใหม่ พร้อมกับแนบใบลาออกไปด้วย การลาออกมีผลนับแต่วันที่ใบลาออกไปถึงหุ้นส่วน
ผู้นั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หุ้นส่วนผู้จัดการซึ่งลาออกตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง จะแจ้งการลาออกของตนให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นายทะเบียนทราบด้วยก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๙
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๖๔/๒ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงหุ้นส่วนผู้จัดการ ให้ ห้างหุ้นส่วนจด
สํานักทะเบี ยนนําความไปจดทะเบี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนภายในสิสําบนัสีก่วงานคณะกรรมการกฤษฎี
ันนับแต่วันที่มีการเปลีก่ยานแปลง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐๖๕ ผู้เป็นหุ้นส่กวานอาจถือเอาประโยชน์


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี แก่บุคคลภายนอกในบรรดาสิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ทธิ
อันห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนนั้นได้มา แม้ในกิจการซึ่งไม่ปรากฏชื่อของตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๖๖ ห้ามมิให้ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดในห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน
ประกอบกิจการอย่างหนึ่งอย่างใดอันมีสภาพเป็นอย่างเดียวกัสํนานัและเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นการแข่งขันกับกิจการของห้าง
หุ้นส่วนนั้น ไม่ว่าทําเพื่อประโยชน์ตนหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อเพื่อประโยชน์ผู้อื่น หรือไปเข้าเป็นหุ้นส่สํวานไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จํากัดความรับ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผิดในห้างหุ้นส่วนอื่น ซึ่งประกอบกิจการอันมีสภาพเป็นอย่างเดียวกัน และแข่งขันกับกิจการของห้าง
หุ้นส่วนจดทะเบียสํนนัานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
เว้นไว้แต่จะได้รับคํายิกนายอมของผู้เป็นสํหุานั้นกส่งานคณะกรรมการกฤษฎี
วนอื่นทั้งหมด กา
แต่ข้อห้ามเช่นว่ามานี้ ท่านว่าจะไม่พึงใช้ได้ ถ้าหากผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายได้รู้อยู่
สํานักแล้ วในเวลาเมื่อลงทะเบีกยานห้างหุ้นส่วนนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้นกว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
า ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึก่งาได้ทํากิจการ สํหรืานัอกเข้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าเป็นหุ้นส่วน กา
อยู่ในห้างหุ้นส่วนอื่นอันมีวัตถุที่ประสงค์อย่างเดียวกัน และในสัญญาเข้าหุ้นส่วนที่ทําไว้ต่อกันนั้นก็
ไม่ได้บังคับให้ถอนตั
สํานัวกออก
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๐๖๗ ถ้าผูสํ้เาป็นันกหุงานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้นส่วนคนใดกระทําการฝ่
กา าฝืนต่อบทบัสํญานัญักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิในมาตราก่อน กา
นี้ไซร้ ท่านว่าห้างหุ้นส่วนซึ่งจดทะเบียนนั้นชอบที่จะเรียกเอาผลกําไรอันผู้นั้นหาได้ทั้งหมดหรือเรียก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เอาค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายซึ่งห้างหุ้นส่วนได้รับเพราะเหตุนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี แต่ทั้งกนีา้ท่านห้ามมิให้สํฟานั้อกงเรี ยกเมื่อพ้นเวลาปีหนึ่งกนัาบแต่วันทําการฝ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากฝืงานคณะกรรมการกฤษฎี
น กา
อนึ่ง บทบัญญัติมาตรานี้ไม่ลบล้างสิทธิของผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายนอกนั้นในอันจะ
เรียกให้เลิกห้างหุสํ้นาส่นัวกนงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๐๖๘ ความรั


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานับกผิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดของผู้เป็นหุ้นส่วนในห้
กาางหุ้นส่วนจดทะเบี ยนอันเกี่ยวแก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หนี้ซึ่งห้างหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่ตนออกจากหุ้นส่วนนั้น ย่อมมีจํากัดเพียงสองปีนับแต่เมื่อออก
จากหุ้นส่วน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๐๖๙ นอกจากในกรณี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ทั้งหลายที่บัญญักาติไว้ในมาตราสํ๑๐๕๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ท่านว่าห้าง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หุ้นส่วนจดทะเบียสํนย่ อมเลิกกันเมื่อห้างหุ้นส่วนนั้นล้มละลายสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๙
มาตรา ๑๐๖๔/๒ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานัก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๔๙ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๗๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา ๑๐๗๐ เมื่อสํใดห้


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
งหุ้นส่วนซึ่งจดทะเบียนผิ
กา ดนัดชําระหนีสํ้ าเมื
นัก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้นเจ้าหนี้ของ กา
ห้างหุ้นส่วนนั้นชอบที่จะเรียกให้ชําระหนี้เอาแต่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๗๑ ในกรณีที่กล่าวไว้ในมาตรา ๑๐๗๐ นั้น ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนนําพิสูจน์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ได้ว่า
สํ(๑) สินทรัพย์ของห้างหุ้นส่วกนยั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า งมีพอที่จะชํสําานัระหนี ้ได้ทั้งหมดหรือบางส่กวาน และ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๒) การที่จะบังคับเอาแก่ห้างหุ้นส่วนนั้นไม่เป็นการยากฉะนี้ไซร้
ศาลจะบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งคับให้เอาสิ
สํานนัทรั พย์ของห้างหุ้นส่วนนัก้นา ชําระหนี้ก่อนก็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัไกด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
สุดแต่ศาลจะ กา
เห็นสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๗๒ ถ้าห้างหุ้นส่วนซึ่งจดทะเบียนยังมิได้เลิกกันตราบใด เจ้าหนี้ของผู้
สํานักเป็ นหุ้นส่วนเฉพาะตั วย่กอา มใช้สิทธิได้แสําต่นัเกพีงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ยงในผลกําไรหรือเงินกซึา่งห้างหุ้นส่วนค้
สํานัากงชํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าระแก่ ผู้เป็น กา
หุ้นส่วนคนนั้นเท่านั้น ถ้าห้างหุ้นส่วนนั้นเลิกกันแล้วเจ้าหนี้ย่อมใช้สิทธิได้ตลอดจนถึงหุ้นของผู้เป็น
หุ้นส่วนคนนั้นอันสํมีาในันสิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นทรัพย์ของห้างหุ้นส่วน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


ส่วนที่ ๖
การควบห้างหุก้นาส่วนจดทะเบีสํยานเข้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ากัน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๐๗๓ ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนห้างหนึ่งจะควบเข้าเป็นอันเดียวกับห้าง
หุ้นส่วนจดทะเบียสํนอี
านักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห้างหนึ่งก็ได้ โดยความยิ
กา นยอมของผูสํ้เป็านันกหุงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นส่วนทั้งหมด เว้นแต่จกะได้
า ตกลงกัน
ไว้เป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๗๔ เมื่อห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนห้างใดปลงใจจะควบเข้ากันกับห้างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ห้างหุ้นส่วนนั้นต้องโฆษณาในหนังสือพิมพ์แห่งท้องที่นั้นสองครั้งเป็นอย่างน้อย และส่งคําบอกกล่าว
สํานักความประสงค์ ที่จะควบเข้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ากันนั้นแก่บสํรรดาผู ้ซึ่งห้างหุ้นส่วนรู้ว่าเป็กานเจ้าหนี้ และขอให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี เจ้าหนี้ผู้มีข้อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
คัดค้านอย่างหนึ่งอย่างใด ในการที่จะทํานั้นส่งคําคัดค้านไปภายในสามเดือนนับแต่วันบอกกล่าว
สํถ้านัากไม่งานคณะกรรมการกฤษฎี
มีใครคัดค้านภายในกํากหนดเวลาเช่
า นว่สําานันัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ก็ให้พึงถือว่าไม่มีคัดค้ากนา
ถ้ า มี คั ด ค้ า นไซร้ ท่ า นมิ ใ ห้ ห้ า งหุ้ น ส่ ว นจั ด การควบเข้ า กั น เว้ น แต่ จ ะได้ ใ ช้ ห นี้ ที่
สํานักเรีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยกร้องหรือให้ประกันกเพืา ่อหนี้นั้นแล้วสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐๗๕ เมื่อห้างได้กคาวบเข้ากันแล้วสําต่นัากงห้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี างก็ต่างมีหน้าที่จะต้อกงนํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า าความนั้น
จดลงทะเบียน ว่าได้ควบเข้ากันเป็นห้างหุ้นส่วนขึ้นใหม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๗๖ ห้างหุ้นส่วนใหม่นี้ย่อมได้สํไาปทั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้งสิทธิ ทั้งต้องอยู่ในความรับผิดของ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ห้างหุ้นส่วนเดิมที่ได้ควบเข้ากันนั้นทั้งสิ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๗๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
หมวด ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานัหุกงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นส่วนส่วนจํากัด กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๗๗ อันห้างหุ้นส่วนจํากัดนั้น คือห้างหุ้นส่วนประเภทหนึ่ง ซึ่งมีผู้เป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หุ้นส่วนสองจําพวก ดั่งจะกล่าวต่อไปนี้ คือ
สํ(๑) ผู้เป็นหุ้นส่วนคนเดียวหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาอหลายคนซึ่งสํมีาจนัํากกังานคณะกรรมการกฤษฎี
ดความรับผิดเพียงไม่เกิกานจํานวนเงิน
ที่ตนรับจะลงหุ้นในห้างหุ้นส่วนนั้นจําพวกหนึ่ง และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒) ผูก้เาป็นหุ้นส่วนคนเดี
สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
วหรือหลายคนซึ่งต้องรักบา ผิดร่วมกันในบรรดาหนี ้ของห้าง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หุ้นส่วนไม่มีจํากัดจํานวนอีกจําพวกหนึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๗๘ อันห้างหุ้นส่วนจํากัดนั้น ท่านบังคับว่าต้องจดทะเบียน
การลงทะเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนนั้น ต้สํอานังมีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
รายการดั่งต่อไปนี้ คือ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ชื่อห้างหุ้นส่วน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ข้อแถลงความว่าเป็นห้างหุ้นส่วนจํากัดสําและวั นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตถุที่ประสงค์ของห้างหุ้นส่วนนั้น
(๓) ที่ตั้งสํานักงานแห่สํางนัใหญ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสํานักงานสาขาทั้งปวง
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ชื่อ ยี่ห้อ สํานัก และอาชีวะของผู้เป็นหุ้นส่วนจําพวกจํากัดความรับผิด และ
จํานวนเงินซึ่งเขาเหล่
สํานักานังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นได้ลงหุ้นด้วยในห้างหุกา้นส่วน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) ชื่อ ยี่ห้อ สํานัก และอาชีวะของผู้เป็นหุ้นส่วนจําพวกไม่จํากัดความรับผิด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๖) ชืก่อาหุ้นส่วนผู้จัดการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) ถ้ามีข้อจํากัดอํานาจหุ้นส่วนผู้จัดการอันจะผูกพันห้างหุ้นส่วนนั้นประการใดให้
ลงไว้ด้วย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อความซึ่งลงทะเบียนนั้น จะลงรายการอื่น ๆ อีกอันคู่สัญญาเห็นสมควรจะให้
สํานักประชาชนทราบด้
งานคณะกรรมการกฤษฎีวยก็ได้กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การลงทะเบียนนั้น ต้องลงลายมือชื่อของผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนและต้องประทับตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ของห้างหุ้นส่วนนั้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ให้พนักกา งานทะเบียนทํ สํานัาใบสํ าคัญแสดงการจดทะเบี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนส่งมอบให้ สําแนัก่กหงานคณะกรรมการกฤษฎี
้างหุ้นส่วนนั้น กา
ฉบับหนึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๐
มาตรา ๑๐๗๘/๑ หุ้นส่วนผู้จัดการคนใดจะลาออกจากตําแหน่ง ให้ยื่นใบลาออก
สํานักต่งานคณะกรรมการกฤษฎี
อหุ้นส่วนผู้จัดการคนหนึ กา่งคนใด การลาออกมี ผลนับแต่วันที่ใบลาออกไปถึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งหุ้นส่วสํนผู
านั้จกัดงานคณะกรรมการกฤษฎี
การอื่นนั้น กา
ในกรณี ที่ ห้ า งหุ้ น ส่ ว นจํ า กั ด มี หุ้ น ส่ ว นผู้ จั ด การคนเดี ย ว ให้ หุ้ น ส่ ว นผู้ จั ด การที่ จ ะ
ลาออกจากตําแหน่ สํานังแจ้ งเป็นหนังสือให้ผู้เป็นกหุา้นส่วนคนหนึสํ่งคนใดทราบเพื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ่อนัดประชุมกและพิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า จารณา
ตั้งหุ้นส่วนผู้จัดการคนใหม่ พร้อมกับแนบใบลาออกไปด้วย การลาออกมีผลนับแต่วันที่ใบลาออกไปถึง
สํานักหุงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นส่วนผู้นั้น กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๐
มาตรา ๑๐๗๘/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานัก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๔๙ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๗๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
หุ้นส่วนผู้จัดการซึ่งลาออกตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง จะแจ้งการลาออกของตนให้
สํานักนายทะเบี ยนทราบด้วยก็กไาด้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐๗๘/๒๒๑ เมื่อมีกกา ารเปลี่ยนแปลงหุ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก้งานคณะกรรมการกฤษฎี
นส่วนผู้จัดการ ให้ห้างหุกา้นส่วนจํากัด
นําความไปจดทะเบียนภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐๗๙ อันห้างหุ้นกส่าวนจํากัดนั้น สํถ้าานัยักงงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี มิได้จดทะเบียนอยู่ตราบใด
กา ท่านให้
ถือว่าเป็ นห้างหุ้ นส่ วนสามั ญซึ่งผู้เป็นหุ้นส่ วนทั้งหมดย่อมต้องรับผิ ดร่วมกันในบรรดาหนี้ของห้ าง
สํานักหุงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นส่วนโดยไม่มีจํากัดจํากนวนจนกว่
า าจะได้
สํานัจกดทะเบี ยน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐๘๐ บทบัญญัตกิวา ่าด้วยห้างหุ้นสํส่านัวกนสามั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ญข้อใด ๆ หากมิไกด้ายกเว้นหรือ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
แก้ไขเปลี่ยนแปลงไปโดยบทบัญญัติแห่งหมวด ๓ นี้ ท่านให้นํามาใช้บังคับแก่ห้างหุ้นส่วนจํากัดด้วย
ถ้าผู้เกป็านหุ้นส่วนจําพวกไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี จํากัดความรับผิดนั้นกมีา อยู่หลายคนด้สําวนัยกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี น ท่านให้ใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บทบัญญัติสําหรับห้างหุ้นส่วนสามัญเป็นวิธีบังคับในความเกี่ยวพันระหว่างคนเหล่านั้นเอง และความ
เกี่ยวพันระหว่างผูสํ้เาป็นันกหุงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
้นส่วนเหล่านั้นกับห้างหุ ้นส่วน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๐๘๑ ห้ามมิให้เอาชื่อของผู้เป็นหุ้นส่วนจําพวกจํากัดความรับผิดมาเรียก
ขานระคนเป็นชื่อสํห้าานังกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๐๘๒ ถ้สําาผูนั้ เกป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
น หุ้ น ส่ ว นจํ า พวกจํ า กักาด ความรั บ ผิ ดสํคนใดยิ น ยอมโดย
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แสดงออกชัดหรือโดยปริยายให้ใช้ชื่อของตนระคนเป็นชื่อห้างไซร้ ท่านว่าผู้เป็นหุ้นส่วนคนนั้นจะต้อง
รับผิดต่อบุคคลภายนอกเสมื อนดังว่าเป็นหุ้นส่กวานจําพวกไม่จําสํกัานัดกความรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บผิดฉะนั้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แต่ในระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนกันเองนั้น ความรับผิดของผู้เป็นหุ้นส่วนเช่นนี้ ท่านให้คง
สํานักบังานคณะกรรมการกฤษฎี
งคับตามสัญญาหุ้นส่วนกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๘๓ การลงหุ้นของผู้เป็นหุ้นส่วนจําพวกจํากัดความรับผิดนั้น ท่านว่า
สํานักต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องให้ลงเป็นเงินหรือทรักพา ย์สินอย่างอื่นสําๆนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐๘๔ ห้ามมิให้กแาบ่งเงินปันผลหรื


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกดอกเบี ้ยให้แก่ผู้เป็นหุ้นกาส่วนจําพวก
งานคณะกรรมการกฤษฎี
จํากัดความรับผิด นอกจากผลกําไรซึ่งห้างหุ้นส่วนทํามาค้าได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีถ้าทุนกของห้
า างหุ้นส่วสํนลดน้ อยลงไปเพราะค้าขายขาดทุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา น ท่านห้ สําานัมมิ ให้แบ่งเงินปัน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผลหรือดอกเบี้ยให้แก่ผู้เป็นหุ้นส่วนจําพวกจํากัดความรับผิดจนกว่าทุนซึ่งขาดไปนั้นจะได้คืนมาเต็ม
จํานวนเดิม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนจําพวกจํากัดความรับผิดคนใดได้รับเงินปันผลหรือดอกเบี้ยไป
สํานักแล้ วโดยสุจริต ท่านว่าหาอาจจะบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งคับให้
สําเนัขาคื นเงินนั้นได้ไม่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๑
มาตรา ๑๐๗๘/๒ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานัก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๔๙ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๗๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๐๘๕ ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนจําพวกจํากัดความรับผิดได้แสดงด้วยจดหมายหรือ
สํานักใบแจ้ งความหรือด้วยวิกธาีอย่างอื่นให้บสํุคาคลภายนอกทราบว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี าตนได้กาลงหุ้นไว้มากกว่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านวนซึ่งได้จด กา
ทะเบียนเพียงใด ท่านว่าผู้นั้นจะต้องรับผิดเท่าถึงจํานวนเพียงนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๘๖ ข้ อ ซึ่ ง ตกลงกั น ในระหว่ า งผู้ เ ป็ น หุ้ น ส่ ว นทั้ ง หลาย เพื่ อ จะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เปลี่ยนแปลงประเภททรัพย์สินที่ลงหุ้น หรือเพื่อจะลดจํานวนลงหุ้นแห่งผู้เป็นหุ้นส่วนจําพวกจํากัด
ความรับผิดคนหนึสํ่งาคนใดนั ้น ท่านว่ายังไม่เป็นกผลแก่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า บุคคลภายนอกจนกว่ าจะได้จดทะเบียกาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เมื่อได้จดทะเบียนแล้วไซร้ ข้อตกลงนั้น ๆ ก็ย่อมมีผลแต่เพียงเฉพาะแก่หนี้อันห้าง
สํานักหุงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นภายหลั
กา งเวลาที่ไสํด้าจนัดทะเบี ยนแล้วเท่านั้น กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐๘๗ อันห้างหุก้นาส่วนจํากัดนั้นสํานัท่กางานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นว่าต้องให้แต่เฉพาะผูก้เาป็นหุ้นส่วน
จําพวกไม่จํากัดความรับผิดเท่านั้นเป็นผู้จัดการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๘๘ ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนจําพวกจํากัดความรับผิดผู้ใดสอดเข้าไปเกี่ยวข้อง
จัดการงานของห้างหุ้นส่วน ท่านว่าผู้นั้นจะต้องรับผิดร่วมกันสํในบรรดาหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้ทั้งหลายของห้างหุ้นส่วนนั้น
โดยไม่จํากัดจํานวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่การออกความเห็นและแนะนําก็ดี ออกเสียงเป็นคะแนนนับในการตั้งและถอด
ถอนผู้จัดการตามกรณี ที่มีบังคับไว้ในสัญญาหุก้นา ส่วนนั้นก็ดี ท่สําานันหานั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บว่าเป็นการสอดเข้กาาไปเกี่ยวข้อง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
จัดการงานของห้างหุ้นส่วนนั้นไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๘๙ ผู้เป็นหุ้นส่วนจําพวกจํากัดความรับผิดนั้น จะตั้งให้เป็นผู้ชําระบัญชี
ของห้างหุ้นส่วนก็สํไาด้นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๐๙๐ ผู้เป็สํนาหุนัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ส่วนจําพวกจํากัดความรั
กาบผิดจะประกอบการค้ าขายอย่าง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ใด ๆ เพื่อประโยชน์ตนหรือเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอกก็ได้ แม้ว่าการงานเช่นนั้นจะมีสภาพเป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อย่างเดียวกันกับการค้าขายของห้างหุ้นส่วนก็ไม่ห้าม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๙๑ ผู้เป็นหุ้นส่วนจําพวกจํากัดความรับผิดจะโอนหุ้นของตนปราศจาก
ความยินยอมของผูสํา้เนัป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
หุ้นส่วนอื่น ๆ ก็โอนได้กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๐๙๒ การที


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํา่ผนัู้เกป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นหุ้นส่วนจําพวกจํากัดกความรั
า บผิดตายก็
สํานัดกี งานคณะกรรมการกฤษฎี
ล้มละลายหรือ กา
ตกเป็นคนไร้ความสามารถก็ดี หาเป็นเหตุให้ห้างหุ้นส่วนจํากัดต้องเลิกกันไม่ เว้นแต่จะได้มีข้อสัญญา
กันไว้เป็นอย่างอื่นสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๐๙๓ ถ้าผูสํา้เป็นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หุ้นส่วนจําพวกจํากัดความรั
กา บผิดผู้ใดตาย ท่านว่าทายาท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ของผู้นั้นย่อมเข้าเป็ นหุ้นส่วนแทนที่ผู้ตาย เว้นแต่จะได้มีข้อสัสํญาญากั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นไว้เป็นอย่างอื่น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๐๙๔ ถ้าสํผูา้เนัป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
หุ้นส่วนจําพวกจํากัดกความรั
า บผิดผู้ใดล้
สํานัมกละลาย ท่านว่า
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๗๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ต้องเอาหุ้นของผู้นั้นในห้างหุ้นส่วนออกขายเป็นสินทรัพย์ในกองล้มละลาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๙๕ ตราบใดห้างหุ้นส่วนจํากัดยังมิได้เลิกกัน ตราบนั้นเจ้าหนี้ของห้าง
ย่อมไม่มีสิทธิจะฟ้สํอางร้
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งผู้เป็นหุ้นส่วนจําพวกจํกาา กัดความรับผิสํดานัได้กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่เมื่อห้างหุ้นส่วนนั้นได้เลิกกันแล้ว เจ้าหนี้ของห้างมีสิทธิฟ้องร้องผู้เป็นหุ้นส่วน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จําพวกจํากัดความรับผิดได้เพียงจํานวนดั่งนี้ คือ
สํ(๑) จํานวนลงหุ้นของผู้เป็นกหุา้นส่วนเท่าที่ยสํังาค้นัากงส่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี งแก่ห้างหุ้นส่วน กา
(๒) จํานวนลงหุ้นเท่าที่ผู้เป็นหุ้นส่วนได้ถอนไปจากสินทรัพย์ของห้างหุ้นส่วน
(๓) จํกาานวนเงินปันผลและดอกเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ยซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วกนได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า รับไปแล้วโดยทุ จริตและฝ่าฝืน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ต่อบทมาตรา ๑๐๘๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา บริษัทจํากัด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สภาพและการตั้งบริษัทจํากัด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๒
มาตรากา ๑๐๙๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อัสํนาว่นัากบริ ษัทจํากัดนั้น คือบริษกัทาประเภทซึ่งตั้งสํขึานั้นกด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี วยแบ่งทุนเป็น กา
หุ้นมีมูลค่าเท่า ๆ กัน โดยมีผู้ถือหุ้นต่างรับผิดจํากัดเพียงไม่เกินจํานวนเงินที่ตนยังส่งใช้ไม่ครบมูลค่า
ของหุ้นที่ตนถือ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๐๙๖ ทวิ๒๓สํานั(ยกเลิ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ก)
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๒๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๙๗ บุคคลใด ๆ ตั้งแต่สามคนขึ้นไปจะเริ่มก่อการและตั้งเป็นบริษัท
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
ากัดก็ได้ โดยเข้าชื่อกันกทํา าหนังสือบริคสําณห์ สนธิ และกระทําการอย่กาางอื่นตามบทบัสําญนัญักงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ติแห่งประมวล กา
กฎหมายนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๙๘ หนังสือบริคณห์สนธินั้น ต้องมีรายการดั่งต่อไปนี้ คือ
(๑) ชืก่อาบริษัทอันคิดจะตั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก้งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขึ้น ซึ่งต้องมีคําว่า “จํากกัาด” ไว้ปลายชื่อสํนัานั้นกด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
วยเสมอไป กา
(๒) ที่สํานักงานของบริษัทซึ่งบอกทะเบียนนั้นจะตั้งอยู่ ณ ที่ใดในพระราช
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๐๙๖ แก้ไขเพิ
สํานั่มกเติ มโดย พระราชบัญญัติแกก้าไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๓๕
๒๓
มาตรา ๑๐๙๖ ทวิ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๓๕
๒๔
มาตรา ๑๐๙๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ.ก๒๕๕๑
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๗๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
อาณาเขต
(๓) วักตาถุที่ประสงค์ทสํั้งาหลายของบริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ษัท
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ถ้อยคําสําแดงว่า ความรับผิดของผู้ถือหุ้นจะมีจํากัด
สํ(๕) จํานวนทุนเรือนหุ้นซึ่งกบริา ษัทคิดกําหนดจะจดทะเบี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยนแบ่งออกเป็กนา หุ้นมีมูลค่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กําหนดหุ้นละเท่าไร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) ชื่อ สํานัก อาชีวะ และลายมือชื่อของบรรดาผู้เริ่มก่อการ ทั้งจํานวนหุ้นซึ่งต่าง
คนต่างเข้าชื่อซื้อไว้สําคนันละเท่ าใด
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๐๙๙ หนัสํงาสืนัอกบริ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี คณห์สนธินั้น ท่านให้กาทําเป็นต้นฉบัสํบาไว้
งานคณะกรรมการกฤษฎี นักไงานคณะกรรมการกฤษฎี
ม่น้อยกว่าสอง กา
ฉบับ และให้ลงลายมือชื่อของบรรดาผู้เริ่มก่อการ และลายมือชื่อทั้งปวงนั้นให้มีพยานลงชื่อรับรอง
ด้วยสองคน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หนังสือบริคณห์สนธิซึ่งได้ทํานั้น ท่านบังคับให้นําฉบับหนึ่งไปจดทะเบียนและมอบ
สํานักไว้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ณ หอทะเบียนในส่วนพระราชอาณาเขตซึ
กา ่งบ่งไว้ว่าจะบอกทะเบีกยานตั้งสํานักงานของบริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ษัทนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๐๐ ผู้เริ่มก่อการทุกคนต้องลงชืสํา่อนัซืก้องานคณะกรรมการกฤษฎี
หุ้น ๆ หนึ่งเป็นอย่างน้กอาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๐๑ บุคคลซึ่งเป็นกรรมการของบริษัทจํากัดจะรับผิดโดยไม่จํากัดก็ได้
ถ้ากรณีเป็นเช่นนัสํ้นาไซร้ ท่านว่าต้องจดแถลงความรั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บผิดเช่นนัสํ้นานัลงไว้ ในหนังสือบริคณห์สนธิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาด้วย
อันความรับผิดโดยไม่จํากัดของผู้เป็นกรรมการนั้น ย่อมถึงที่สุดเมื่อล่วงเวลาสองปี
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
บแต่วันที่ตัวเขาออกจากตํกา าแหน่งกรรมการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๐๒๒๕ ห้ามมิให้กชาี้ชวนประชาชนให้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักซงานคณะกรรมการกฤษฎี
ื้อหุ้น กา

มาตรากา ๑๑๐๓๒๖ (ยกเลิ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
) กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๐๔ จํานวนหุ้นทัง้ หมดซึ่งบริษัทคิดจะจดทะเบียนนั้น ต้องมีผู้เข้าชื่อซื้อ
สํานักหรื อออกให้กันเสร็จก่อนการจดทะเบี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยสํนของบริ ษัท
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๐๕ อันหุ้นนั้นกท่า านห้ามมิให้อสําอกโดยราคาต่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ําไปกว่ามูลค่กาาของหุ้นที่ตั้ง
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไว้
การออกหุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นโดยราคาสู
สํานังกกว่ ามูลค่าของหุ้นที่ตั้งไว้กนาั้น หากว่าหนัสํงาสืนัอกบริ
งานคณะกรรมการกฤษฎี คณห์สนธิให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อํานาจไว้ ก็ให้ออกได้ และในกรณีเช่นนั้น ต้องส่งใช้จํานวนที่ล้ํามูลค่าพร้อมกันไปกับการส่งใช้เงิน
คราวแรก สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง เงินส่งใช้ค่าหุ้นคราวแรกนั้น ต้องมิให้น้อยกว่าร้อยละยี่สิบห้าแห่งมูลค่าของหุ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๕
มาตรา ๑๑๐๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑
๒๖
มาตรา ๑๑๐๓ ยกเลิกโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานัก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๗๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ที่ตั้งไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๐๖ การที่เข้าชื่อซื้อหุ้นนั้นย่อมผูกพันผู้เข้าชื่อโดยเงื่อนไขว่า ถ้าบริษัท
ตั้งขึ้นแล้วจะใช้จําสํนวนเงิ นค่าหุ้นนั้น ๆ ให้แก่บกริาษัทตามหนังสืสํอานัชีก้ชงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี วนและข้อบังคับของบริกษา ัท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๐๗ เมื่อหุ้นชนิดซึ่งจะต้องลงเงินนั้นได้มีผู้เข้าชื่อซื้อหมดแล้ว ผู้เริ่มก่อ
การต้องนัดบรรดาผู สํานั้เข้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
ชื่อซื้อหุ้นมาประชุมกันกเป็า นการประชุสํมาใหญ่ โดยไม่ชักช้า ประชุมอักนานี้ให้เรียกว่า
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประชุมตั้งบริษัท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อนึ่ง กให้า ผู้เริ่มก่อการส่
สํานังกรายงานการตั ้งบริษัทมีกคาํารับรองของตนว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ถูกต้อง และมี กา
ข้อความที่เกี่ยวแก่กิจการอันจะพึงกระทําในที่ประชุมตั้งบริษัททุก ๆ ข้อตามความในมาตราต่อไปนี้ไป
ยังผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นทุสํากนัคนอย่ างน้อยเจ็ดวันก่อนวักนา นัดประชุม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เมื่อได้ส่ งรายงานตั้ งบริษัท แก่ผู้เข้าชื่ อซื้ อหุ้ น แล้ ว ผู้เริ่ม ก่อการต้องจัดส่ งสํา เนา
สํานักรายงานอั นมีคํารับรองว่กาาถูกต้องตามที่บสําังนัคักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ไว้ในมาตรานี้ไปยังนายทะเบี
กา ยนบริษัทสํโดยพลั น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อนึ่ง ให้ผู้เริ่มก่อการจัดให้มีบัญชีแถลงรายชื่อ ฐานะ และสํานักของผู้เข้าชื่อซื้อหุ้น
กับจํานวนหุ้นซึ่งต่างคนได้ลงชื่อซื้อไว้เพื่อเสนอต่อที่ประชุมนัสํ้นาด้นัวกยงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทบัญญัติทั้งหลายแห่ งมาตรา ๑๑๗๖, ๑๑๘๗, ๑๑๘๘, ๑๑๘๙,
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๙๑, ๑๑๙๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และ ๑๑๙๕ นั้น ท่านให้นํามาใช้บังคับแก่การประชุมตั้งบริษัทด้วยโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๐๘ กิจการอันจะพึงทําในที่ประชุมตั้งบริษัทนั้น คือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑) ทํกาาความตกลงตั้งสํข้านัอกบังานคณะกรรมการกฤษฎี
งคับต่าง ๆ ของบริษัทกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ให้สัตยาบันแก่บรรดาสัญญาซึ่งผู้เริ่มก่อการได้ทําไว้ และค่าใช้จ่ายอย่างหนึ่ง
อย่างใดซึ่งเขาต้อสํงออกไปในการเริ ่มก่อบริษัทกา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) วางกําหนดจํานวนเงินซึ่งจะให้แก่ผู้เริ่มก่อการ ถ้าหากมีเจตนาว่าจะให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๔) วางกํ
กา าหนดจํานวนหุ สํานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
บุริมสิทธิ ทั้งกําหนดสภาพและบุ
กา ริมสิสํทาธินัแกห่งานคณะกรรมการกฤษฎี
งหุ้นนั้น ๆ ว่า กา
เป็นสถานใดเพียงใด ถ้าหากจะมีหุ้นเช่นนั้นในบริษัท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) วางกําหนดจํานวนหุ้นสามัญ หรือหุ้นบุริมสิทธิซึ่งออกให้เหมือนหนึ่งว่าได้ใช้
สํานักเต็งานคณะกรรมการกฤษฎี
มค่าแล้วหรือได้ใช้แต่กบาางส่วนแล้ว เพราะใช้ ให้ด้วยอย่างอื่นนอกจากตั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วเงิน และกํสํานัากหนดว่ าเพียงใด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ซึ่งจะถือเอาเป็นว่าได้ใช้เงินแล้ว ถ้าหากจะมีหุ้นเช่นนั้นในบริษัท
สํให้
านักแงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถลงในที่ประชุมโดยเฉพาะว่ กา า ซึ่งจะออกหุ ้นสามัญหรือหุ้นบุริมสิกทาธิให้เหมือน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หนึ่งว่าได้ใช้เงินแล้วเช่นนั้น เพื่อแทนคุณแรงงานหรือตอบแทนทรัพย์สินอย่างใดให้พรรณนาจงชัดเจน
สํานักทุงานคณะกรรมการกฤษฎี
กประการ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) เลือกตั้งกรรมการและพนักงานสอบบัญชีอันเป็นชุดแรกของบริษัท และวาง
กําหนดอํานาจของคนเหล่ านี้ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๑๐๙ ผู้เริสํ่มาก่นัอกการหรื


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นจะออกเสี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยงลงคะแนนไม่ ได้ ถ้าตนมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ส่วนได้เสียโดยพิเสํศษในปั ญหาที่ยกขึ้นวินิจฉัยนั้น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง มติของที่ประชุมตั้งบริษัทย่อมไม่สมบูรณ์ เว้นแต่ที่ประชุมจะได้ลงมติโดยเสียง
สํานักข้งานคณะกรรมการกฤษฎี
างมาก อันมีคะแนนของผู กา ้เข้าชื่อซื้อหุสํ้นานัรวมกั นไม่น้อยกว่ากึ่งจํานวนผู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้เข้าชื่อซื้อสํหุา้นนัทัก้งานคณะกรรมการกฤษฎี
งหมดซึ่งมีสิทธิ กา
- ๑๗๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ลงคะแนนได้ และคิ ดตามจํ านวนหุ้นรวมกั นไม่น้อยกว่ากึ่ งจํานวนหุ้นของผู้ถือหุ้ นนั้น ๆ ทั้งหมด
สํานักด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
วยกัน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๑๐ เมื่อได้ประชุ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มตั้งบริษัทแล้
สําวนักให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้เริ่มก่อการบริษัทมอบการทั
กา ้งปวง
ให้แก่กรรมการของบริษัท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อกรรมการได้รับการแล้ว ก็ให้ลงมือจัดการเรียกให้ผู้เริ่มก่อการและผู้เข้าชื่อซื้อ
หุ้นทั้งหลายใช้เงิสํนาในหุ ้นซึ่งจะต้องใช้เป็นตัวกเงิา น เรียกหุ้นหนึ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่งกไม่ น้อยกว่าร้อยละยี่สิบกห้า า ตามที่ได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี
กําหนดไว้ในหนังสือชี้ชวนบอกกล่าวป่าวร้องหรือหนังสือชวนให้ซื้อหุ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๑๑ เมื่อจํานวนเงินซึ่งว่าไว้ในมาตรา ๑๑๑๐ ได้ใช้เสร็จแล้ว กรรมการ
ต้องไปขอจดทะเบีสํยานันบริ ษัทนั้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําขอและข้อความที่ลงในทะเบียนนั้น ให้ระบุรายการตามที่ได้ตกลงกันในที่ประชุม
สํานักตังานคณะกรรมการกฤษฎี
้งบริษัท ดั่งต่อไปนี้ คือกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) จํานวนหุ้นทั้งสิ้นซึ่งได้มีผู้เข้าชื่อซื้อ หรือได้จัดออกให้แล้วแยกให้ปรากฏว่าเป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ชนิดหุ้นสามัญเท่าใด หุ้นบุริมสิทธิเท่าใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) จํานวนหุ้นสามัญสํหรื อหุ้นบุริมสิทธิ ซึ่งออกให้เหมือนหนึ่งว่าได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใช้เต็มค่าแล้วหรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ได้ใช้แต่บางส่วนแล้ว นอกจากที่ใช้เป็นตัวเงิน และหุ้นที่ได้ใช้แต่บางส่วนนั้น ให้บอกว่าได้ใช้แล้ว
เพียงใด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) จํานวนเงินที่ได้ใช้แล้วหุ้นละเท่าใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๔) จํกาานวนเงินที่ได้รสํับาไว้
นักเป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นค่าหุ้นรวมทั้งสิ้นเท่ากใดา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) ชื่อ อาชีวะ และที่สํานักของกรรมการทุกคน
สํ(๖) ถ้าให้กรรมการต่างมีอกําานาจจัดการของบริ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ษัทได้โดยลําพังตัวให้กแาสดงอํานาจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของกรรมการนั้น ๆ ว่าคนใดมีเพียงใด และบอกจํานวนหรือชื่อกรรมการซึ่งจะลงชื่อเป็นสําคัญผูกพัน
สํานักบริ ษัทได้นั้นด้วย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) ถ้าตั้งบริษัทขึ้นชั่วกาลกําหนดอันหนึ่ง ให้บอกกาลกําหนดอันนั้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๘) ที่ตั้งสํานักงานแห่งใหญ่และสาขาทั้งปวง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี การลงทะเบี
กา ย นจะมี
สํารนัายการอย่ า งอื่ น ซึ่ ง กรรมการเห็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา น สมควรจะให้ ท ราบแก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ประชาชนก็ลงได้
สํในการขอจดทะเบี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎียนนั้ น กถ้าาได้ทําข้อบังสํคัานับกของบริ ษั ท ไว้ ประการใดบ้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา า งต้ อ งส่ ง
สําเนาข้อบังคับนั้น ๆ ไปด้วย กับทั้งสําเนารายงานการประชุมตั้งบริษัทหนังสือทั้งสองนี้ กรรมการต้อง
สํานักลงลายมื อชื่อรับรองคนหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งเป็นอย่างน้สํอายนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๗
(ยกเลิก)
สํให้
านักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานทะเบียนทําใบสํกาาคัญแสดงการจดทะเบี ยนส่งมอบให้แก่บริษกาัทฉบับหนึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา ๑๑๑๑/๑๒๘สําในการจั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดตั้งบริษัท ถ้าได้ดกําาเนินการครบทุสํกาขันั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ตอนดังต่อไปนี้ กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๗
มาตรา ๑๑๑๑ วรรคห้า ยกเลิกโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ.ก๒๕๕๑
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๘๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ภายในวันเดียวกับวันที่ผู้เริ่มก่อการจัดทําหนังสือบริคณห์สนธิ กรรมการจะขอจดทะเบียนหนังสือ
สํานักบริ คณห์สนธิ และจดทะเบี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนบริษัทไปพร้ สํานัอกมกั นภายในวันเดียวกันก็กไาด้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) จัดให้มีผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นครบตามจํานวนหุ้นทั้งหมดที่บริษัทจะจดทะเบียน
สํ(๒) ประชุมจัดตั้งบริษัทเพืก่อาพิจารณากิจการต่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ง ๆ ตามมาตรา ๑๑๐๘ กา โดยมีผู้เริ่ม
ก่อการและผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นทุกคนเข้าร่วมประชุม และผู้เริ่มก่อการและผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นทุกคนให้ความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เห็นชอบในกิจการที่ได้ประชุมกันนั้น
สํ(๓) ผู้เริ่มก่อการได้มอบกิจการทั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้งปวงให้แสํก่ากนัรรมการ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) กรรมการได้เรียกให้ผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นใช้เงินค่าหุ้นตามมาตรา ๑๑๑๐ วรรคสอง
สํานักและเงิ นค่าหุ้นดังกล่าวได้กใาช้เสร็จแล้ว สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๑๒ ถ้าการจดทะเบี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนมิได้ทสํําาภายในสามเดื อนนับแต่ประชุ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มตั้งบริษัท
ไซร้ ท่านว่าบริษัทนั้นเป็นอันไม่ได้ตั้งขึ้น และบรรดาเงินที่ได้รับไว้จากผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นนั้นต้องใช้คืนเต็ม
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านวนมิให้ลดเลย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ามีจํานวนเงินเช่นว่านั้นค้างอยู่มิได้คืนในสามเดือนภายหลังการประชุมตั้งบริษัท
ไซร้ ท่านว่ากรรมการของบริษัทต้องรับผิดร่วมกันที่จะใช้สํทาั้งนัต้กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เงินและดอกเบี้ยคิดตัก้งาแต่เวลาสิ้น
กําหนดสามเดือนนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่ถ้ากรรมการคนใดพิสูจน์ได้ว่า การที่เงินขาดหรือที่ใช้คืนช้าไปมิได้เป็นเพราะ
ความผิดของตนไซร้
สํานักกรรมการคนนั ้นก็ไม่ต้องรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาบผิดในการใช้สํตานั้นกเงิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นหรือดอกเบี้ย กา

มาตรากา ๑๑๑๓ ผู้เริสํ่มาก่นัอกการบริ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ษัทต้องรับผิดร่วกมกั
งานคณะกรรมการกฤษฎี า นและโดยไม่สํจานัํากกังานคณะกรรมการกฤษฎี
ดในบรรดาหนี้ กา
และการจ่ายเงินซึ่งที่ประชุมตั้งบริษัทมิได้อนุมัติ และแม้จะได้มีอนุมัติก็ยังคงต้องรับผิดอยู่เช่นนั้นไป
จนกว่าจะได้จดทะเบี
สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
นบริษัท กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๑๑๔ เมื่อสํบริ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักษงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัทได้จดทะเบียนแล้ว ผูก้เาข้าชื่อซื้อหุ้นจะร้
สํานัอกงฟ้ องขอให้ศาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เพิกถอนการที่ตนได้เข้าชื่อซื้อ โดยยกเหตุว่าสําคัญผิดหรือต้องข่มขู่ หรือถูกลวงล่อฉ้อฉลนั้นท่านว่าหา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อาจทําได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๑๕ ถ้าหากว่าชื่อบริษัทซึ่งตั้งไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิพ้องกับชื่อบริษัท
อื่นซึ่งได้จดทะเบีสํยานแล้ วก็ดี หรือพ้องกับชื่อซึก่งาตั้งไว้ในหนังสืสํอานับริกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี คณห์สนธิฉบับอื่นอันได้กาจดทะเบียน
แล้วก็ดี หรือคล้ายคลึงกับชื่อเช่นกล่าวนั้นจนน่าจะลวงให้มหาชนหลงไปได้ก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้ที่มีส่วน
สํานักได้ เสียคนหนึ่งคนใดจะฟ้กอา งเรียกเอาค่าสํสิานนัไหมทดแทนแก่
งานคณะกรรมการกฤษฎี ผู้เริ่มก่อการบริ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ษัทก็ได้แสํละจะร้ องขอให้ศาล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สั่งบังคับให้เปลี่ยนชื่อนั้นเสียใหม่ก็ได้
สํเมื
านั่อกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ศาลมีคําสั่งเช่นนั้นแล้วกาก็ต้องบอกชื่อสํซึานั่งเปลี ่ยนใหม่นั้นจดลงทะเบี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนแทนชื่อ
เก่า และต้องแก้ใบสําคัญการจดทะเบียนด้วยตามกันไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๘
มาตรา ๑๑๑๑/๑ เพิ่มโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานัก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๘๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
๒๙
มาตรา ๑๑๑๖ บุคคลผู้มีส่วนได้เสียคนใดคนหนึ่งประสงค์จะได้สําเนาหนังสือ
สํานักบริ คณห์สนธิและข้อบังกคัาบบรรดามีในบริ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัษกัทงานคณะกรรมการกฤษฎี
หนึ่งบริษัทใด ก็ชอบทีก่จา ะเรียกได้จากบริ
สํานักษงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัทนั้น ในการนี้ กา
บริษัทจะเรียกเอาเงินไม่เกินฉบับละสิบบาทก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หุ้นและผู้ถือหุน้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๐
มาตรากา ๑๑๑๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อัสํนามูนัลกค่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าของหุ้น ๆ หนึ่งนั้น มิกใาห้ต่ํากว่าห้าบาท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๑๘ อันหุ้นนั้น กท่าานว่าจะแบ่งแยกหาได้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ถ้าบุคคลมีจํานวนแต่สองคนขึ้นไปถือหุ้น ๆ เดียวร่วมกัน ท่านว่าต้องตั้งให้คนใดคน
สํานักหนึ ่งในจํานวนนั้นแต่คนเดี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยวเป็นผู้ใช้สสํิทาธินัใกนฐานเป็ นผู้ถือหุ้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง บุคคลทั้งหลายซึ่งถือหุ้น ๆ เดียวร่วมกัน ต้องร่วมกันรับผิดต่อบริษัทในการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่งใช้มูลค่าของหุ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๑๙ หุ้นทุก ๆ หุ้นจําต้องให้ใช้เป็นเงินจนเต็มค่า เว้นแต่หุ้นซึ่งออกตาม
บทบัญญัติมาตราสํ๑๑๐๘ อนุมาตรา (๕) หรือกมาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ๑๒๒๑สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการใช้เงินเป็นค่าหุ้นนั้น ผู้ถือหุ้นจะหักหนี้กับบริษัทหาได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๒๐ บรรดาเงินค่าหุ้นซึ่งยังจะต้องส่งอีกนั้น กรรมการจะเรียกให้ผู้ถือหุ้น
ส่งใช้เสียเมื่อใดก็ไสํด้านัเว้กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่ที่ประชุมใหญ่จะได้กวาินิจฉัยเป็นอย่สําางอื
นัก่นงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๑๒๑ การเรี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัยกกเงิ นค่าหุ้นแต่ละคราวนัก้นา ท่านบังคับว่สําาให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี นักสงานคณะกรรมการกฤษฎี
่งคําบอกกล่าว กา
ล่วงหน้าไม่ต่ํากว่ายี่สิบเอ็ดวันด้วยจดหมายส่งลงทะเบียนไปรษณีย์ และผู้ถือหุ้นทุกคนจะต้องใช้เงิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามจํานวนที่เรียกนั้น สุดแต่กรรมการจะได้กําหนดไปว่าให้ส่งไปยังผู้ใด ณ ที่ใดและเวลาใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๒๒ ถ้าและเงินอันจะพึงส่งใช้เป็นค่าหุ้นตามเรียกนั้นผู้ถือหุ้นคนใดมิได้
ส่งใช้ตามวันกําหนดไซร้ ผู้นั้นจะต้องเสียดอกเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา้ยนับแต่วันที่กสํําานัหนดให้ ส่งใช้จนถึงวันที่ได้สกา่งเสร็จ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๑๒๓ ถ้ าสํผูา้ ถนัือกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หุ้นคนใดละเลยไม่ส่งใช้
กาเงินที่ เรี ยกค่ าสํหุานั้ นกตามวั นกําหนด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กรรมการจะส่งคําบอกกล่าวด้วยจดหมายส่งลงทะเบียนไปรษณีย์ไปยังผู้นั้นให้ส่งใช้เงินที่เรียกกับทั้ง
ดอกเบี้ยด้วยก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในคํ า บอกกล่ า วอั น นี้ ให้ กํ า หนดเวลาไปพอสมควรเพื่ อ ให้ ใ ช้ เ งิ น ที่ เ รี ย กกั บ ทั้ ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๙
มาตรา ๑๑๑๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ. ๒๕๔๘
๓๐
มาตรา ๑๑๑๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ พุทธศักราช ๒๔๗๗กา(ฉบับที่ ๒) สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๘๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ดอกเบี้ย และต้องบอกไปด้วยว่าให้ส่งใช้ ณ สถานที่ใด อนึ่งในคําบอกกล่าวนั้นจะแจ้งไปด้วยก็ได้ว่า
สํานักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าไม่ใช้เงินตามเรียก หุ้นกานั้นอาจจะถูกริสํบานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๒๔ ถ้าในคําบอกกล่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าวมีข้อแถลงความถึ งการริบหุ้นด้วยแล้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ว หากเงิน
ค่าหุ้นที่เรียกกับทั้งดอกเบี้ยยังคงค้างชําระอยู่ตราบใด กรรมการจะบอกริบหุ้นนั้น ๆ เมื่อใดก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๒๕ หุ้นซึ่งริบแล้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาวนั้นให้เอาออกขายทอดตลาดโดยไม่ ชักกช้าา ได้จํานวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เงินเท่าใดให้เอาหักใช้ค่าหุ้นที่เรียกกับดอกเบี้ยค้างชําระ ถ้ายังมีเงินเหลือเท่าใดต้องส่งคืนให้แก่ผู้ถือ
สํานักหุงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นนั้น กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๒๖ แม้ว่าวิธีกการริ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า บหุ้นขายหุสํ้นาจะไม่ ถูกต้องด้วยระเบียบก็กดา ี ท่านว่าหา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นเหตุให้สิทธิของผู้ซื้อหุ้นซึ่งริบนั้นเสื่อมเสียไปอย่างไรไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๒๗ ให้บริษัททําใบหุ้น คือใบสําคัญสําหรับหุ้นใบหนึ่งหรือหลายใบมอบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้เป็นคู่มือแก่ผู้ถือหุ้นจงทุก ๆ คน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เมื่อมอบใบหุ
กา
้นนั้น จะเรี ยกค่าธรรมเนียมก็ได้ สุดแต่กรรมการจะกํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าหนด แต่มิให้เกิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๑
สิบบาท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๒๘ ในใบหุ้นทุก ๆ ใบ ท่านให้กรรมการลงลายมือชื่อเองคนหนึ่งเป็น
สํานักอย่ างน้อย และประทับตราของบริ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ษัทเป็สํานนัสํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
คัญ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในใบหุ้นนั้นต้องมีข้อความต่อไปนี้ คือ
สํ(๑) ชื่อบริษัท
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เลขหมายหุ้นที่กล่าวถึงในใบหุ้นนั้น
(๓) มูกลาค่าหุ้นหนึ่งเป็สํนาเงินักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เท่าใด กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ถ้าและเป็นหุ้นที่ยังไม่ได้ใช้เงินเสร็จ ให้จดลงว่าได้ใช้เงินค่าหุ้นแล้วหุ้นละเท่าใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) ชื่อผู้ถือหุ้น หรือคําแถลงว่าได้ออกใบหุ้นนั้นให้แก่ผู้ถือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๒๙ อันว่าหุ้นนั้นย่อมโอนกันได้โดยมิต้องได้รับความยินยอมของบริษัท
เว้นแต่เมื่อเป็นหุ้นสํชนิ
านักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ระบุชื่อลงในใบหุ้น ซึ่งมีกขา ้อบังคับของบริ สํานัษกัทงานคณะกรรมการกฤษฎี
กําหนดไว้เป็นอย่างอื่นกา
การโอนหุ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ้นนั้น ถ้ามิได้ทําเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อของ
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้โอนกับผู้รับโอน มีพยานคนหนึ
กา ่งเป็นสํอย่านัากงน้ อยลงชื่อรับรองลายมืกอานั้น ๆ ด้วยแล้สํวานัท่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี นว่าเป็นโมฆะ กา
อนึ่งตราสารอันนั้นต้องแถลงเลขหมายของหุ้นซึ่งโอนกันนั้นด้วย
สํการโอนเช่ นนี้จะนํามาใช้แกก่าบริษัท หรือบุสํคานัคลภายนอกไม่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ได้ จนกว่ากจะได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า จดแจ้ง
การโอนทั้งชื่อและสํานักของผู้รับโอนนั้นลงในทะเบียนผู้ถือหุ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๓๐ หุ้นใดเงินที่เรียกค่าหุ้นยังค้สําานังชํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ระอยู่ หุ้นนั้นบริษัทจะไม่
กา
ยอมรับ
๓๑
มาตรา ๑๑๒๗ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา พ.ศ. ๒๕๔๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๔) สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๘๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
จดทะเบียนให้โอนก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๓๑ ในระหว่างสิบสี่วันก่อนการประชุมใหญ่สามัญ บริษัทจะปิดสมุด
ทะเบียนพักการโอนหุ
สํานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
เสียก็ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๑๓๒ ในเหตุบางอย่างเช่นผู้ถือหุ้นตายก็ดี หรือล้มละลายก็ดี อันเป็นเหตุ
ให้บุคคลอื่นเป็นผูสํ้มานัีสกิทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธิจะได้หุ้นขึ้นนั้น หากว่กาาบุคคลนั้นนําสํใบหุ
านัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาเวนคืน เมื่อเป็นวิสกัยาจะทําได้ ทั้ง
ได้นําหลักฐานอันสมควรมาแสดงด้วยแล้ว ก็ให้บริษัทรับบุคคลนั้นลงทะเบียนเป็นผู้ถือหุ้นสืบไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๓๓ หุ้นซึ่งโอนกันนั้น ถ้าเป็นหุ้นอันยังมิได้ส่งเงินใช้เต็มจํานวนค่าหุ้น
ท่านว่าผู้โอนยังคงต้
สํานัอกงรังานคณะกรรมการกฤษฎี
บผิดในจํานวนเงินที่ยังกมิาได้ส่งใช้ให้ครบถ้
สํานัวกนนั ้น แต่ว่า
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๑) ผู้โอนไม่ต้องรับผิดในหนี้อันหนึ่งอันใดของบริษัทซึ่งได้ก่อให้เกิดขึ้นภายหลังโอน
(๒) ผูก้โาอนไม่ต้องรับสํผิาดนัออกส่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี วนใช้หนี้ เว้นแต่ความปรากฏขึ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นแก่
สํานัศกาลว่ าบรรดาผู้ที่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ยังถือหุ้นของบริษัทอยู่นั้นไม่สามารถออกส่วนใช้หนี้ อันเขาจะพึงต้องออกใช้นั้นได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อความรับผิดเช่นว่ามานั้น ท่านห้ามมิให้สําฟนั้อกงผู งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้โอนเมื่อพ้นสองปีนับแต่ได้จดแจ้ง
การโอนนั้นลงในทะเบียนผู้ถือหุ้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๓๔ ใบหุ้นออกให้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา แก่ผู้ถือนั้นสํจะออกได้ ก็แต่เมื่อมีข้อบังคักบา ของบริษัท
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อนุญาตไว้ และจะออกให้ได้แต่เฉพาะเพื่อหุ้นซึ่งได้ใช้เต็มค่าแล้ว ในกรณีเช่นว่านี้ ผู้ทรงใบหุ้นชนิดระบุ
สํานักชืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อย่อมมีสิทธิจะได้รับใบหุ
กา ้นชนิดออกให้สําแนัก่กผงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้ถือ เมื่อเวนคืนใบหุ้นชนิกาดระบุชื่อนั้นให้สํขานัีดกฆ่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าเสีย กา

สํมาตรา ๑๑๓๕ หุ้นชนิดทีก่มาีใบหุ้นออกให้สําแนัก่กผงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ู้ถือนั้น ย่อมโอนกันได้กเาพียงด้วยส่ง
มอบใบหุ้นแก่กัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๓๖ ผู้ทรงใบหุ้นชนิดออกให้แก่ผู้ถือย่อมมีสิทธิจะมาขอเปลี่ยนเอาใบหุ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ชนิดระบุชื่อได้ เมื่อเวนคืนใบหุ้นฉบับออกให้แก่ผู้ถือนั้นให้ขีดฆ่าเสีย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๓๗ ถ้าข้อบังคับของบริษัทมีกําหนดไว้เป็นองค์คุณอันหนึ่งสําหรับผู้จะ
เป็นกรรมการ ว่าสํจําานัจะต้ องเป็นผู้ถือหุ้นเป็นจํากนวนเท่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า าหนึ่งเท่สําาใดไซร้ หุ้นเช่นนี้ท่านว่าต้อกงเป็
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นหุ้นชนิด
ระบุชื่อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๓๘ บริษัทจํากัดต้องมีสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น มีรายการดั่งต่อไปนี้ คือ
สํ(๑) ชื่อและสํานัก กับอาชีวกะา ถ้าว่ามี ของผู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํา้ถนัือกหุงานคณะกรรมการกฤษฎี
้น ข้อแถลงเรื่องหุ้นของผู
กา ้ถือหุ้นคน
หนึ่ง ๆ แยกหุ้นออกตามเลขหมายและจํานวนเงินที่ได้ใช้แล้ว หรือที่ได้ตกลงกันให้ถือว่าเป็นอันได้ใช้
สํานักแล้ วในหุ้นของผู้ถือหุ้นคนหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ง ๆ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) วันเดือนปีซึ่งได้ลงทะเบียนบุคคลผู้หนึสํ่งาๆนักเป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นผู้ถือหุ้น กา
(๓) วันเดือนปีซึ่งบุคคลคนใดคนหนึ่งขาดจากเป็นผู้ถือหุ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๔) เลขหมายใบหุ
กา ้นสํและวั นที่ลงในใบหุ้นชนิดออกให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา แก่ผู้ถือ และเลขหมายของหุ ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๘๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ซึ่งได้ลงไว้ในใบหุ้นนั้น ๆ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๕) วักนาที่ได้ขีดฆ่าใบหุสํา้นนัชนิ ดระบุชื่อ หรือชนิดออกให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา แก่ผู้ถือ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๓๙ สมุดทะเบีกยานผู้ถือหุ้นเริ่มสํแต่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัวกันงานคณะกรรมการกฤษฎี
จดทะเบียนบริษัทนั้นกให้า รักษาไว้ ณ
สํานักงานของบริษัท แห่ ง ที่ ได้ จ ดทะเบียนไว้ สมุ ดทะเบียนนี้ ใ ห้ เปิ ดให้ แ ก่ ผู้ ถื อหุ้ นทั้ง หลายดู ได้ใ น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ระหว่างเวลาทําการโดยไม่ เรียกค่าธรรมเนียมอย่างหนึ่งอย่างใด แต่กรรมการจะจํ ากัดเวลาลงไว้
อย่างไรพอสมควรก็ สํานัได้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
หากไม่น้อยกว่าวันละสองชักา ่วโมง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ เ ป็ น หน้ า ที่ ข องกรรมการที่ จ ะส่ ง สํ า เนาบั ญ ชี ร ายชื่ อ ผู้ ที่ ยั ง คงเป็ น ผู้ ถื อ หุ้ น อยู่
สํานักทังานคณะกรรมการกฤษฎี
้งหมดในเวลาที่ประชุมกาและรายชื่อผูสํ้ทานัี่ขกาดจากเป็ นผู้ถือหุ้นจําเดิกมาแต่วันประชุมสํสามั
งานคณะกรรมการกฤษฎี านักญ ครั้งที่แล้วมา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นั้น ไปยังนายทะเบียนอย่างน้อยปีละครั้ง และมิให้ช้ากว่าวันที่สิบสี่นับแต่การประชุมสามัญบัญชี
รายชื่อนี้ให้มีรายการบรรดาที ่ระบุไว้ในมาตราก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาอนนั้นทุกประการสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๑๔๐๓๒ ผูสํ้ถาอื นัหุก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ชอบที่จะเรียกให้ส่งมอบสํ
กา าเนาทะเบียสํนเช่
านักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ว่านั้นหรือแต่ กา
ตอนหนึ่งตอนใดแก่ตนได้ เมื่อเสียค่าสําเนาแต่ไม่เกินหน้าละห้าบาท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๔๑ สมุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ด ทะเบี ย นผู้ ถื อ หุ้ น นั้ น ท่ า นให้ สั น นิ ษ สํฐานไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ก่ อ นว่ า เป็ น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พยานหลั ก ฐานอันถู ก ต้ อ งในข้ อกระทงความบรรดาที่ก ฎหมายบังคั บ หรื อ ให้ อํา นาจให้เอาลงใน
ทะเบียนนั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๑๔๒ ถ้าบริ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัษกัทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ออกหุ้นบุริมสิทธิไปแล้
กา ว ได้กําหนดไว้
สํานัวก่างานคณะกรรมการกฤษฎี
บุริมสิทธิจะมี กา
แก่หุ้นนั้น ๆ เป็นอย่างไร ท่านห้ามมิให้แก้ไขอีกเลย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๔๓ ห้ามมิให้บริษัทจํากัดเป็นเจ้าของถือหุ้นของตนเองหรือรับจํานําหุ้น
สํานักของตนเอง
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สําวินัธกีจงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัดการบริษัทจํากัด กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑) บทเบ็ดเสร็จทั่วไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๔๔ บรรดาบริษัทจํากัด ให้มีกรรมการคนหนึ่งหรือหลายคนด้วยกัน
จัดการตามข้อบังสํคัาบนัของบริ ษัท และอยู่ในความครอบงํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าของทีสํา่ปนัระชุ มใหญ่แห่งผู้ถือหุ้นทั้งกปวง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๑๔๕ จําสํเดิานัมกแต่ ได้จดทะเบียนบริษัทกแล้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ว ท่านห้ามมิ
สําในัห้กตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ั้งข้อบังคับขึ้น กา
ใหม่หรือเพิ่มเติมสํเปลี ่ยนแปลงข้อบังคับหรือข้อความในหนังสํสืาอนับริ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คณห์สนธิแต่อย่างหนึ่งอย่างใดเว้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๒
มาตรา ๑๑๔๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ.ก๒๕๔๘
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๘๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
แต่จะได้มีการลงมติพิเศษ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๔๖ บรรดาข้อบังคับอันได้ตั้งขึ้นใหม่ หรือได้เพิ่มเติมเปลี่ยนแปลงนั้น
เป็นหน้าที่ของบริสํษาัทนัทีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่จะจัดให้ไปจดทะเบียนภายในกํ
กา าหนดสิสําบนัสีก่วงานคณะกรรมการกฤษฎี
ันนับแต่วันที่ได้มีการลงมติ
กา พิเศษ

มาตรา ๑๑๔๗๓๓ (ยกเลิก)


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๔๘ บรรดาบริษัทจํากัด ต้องมีสํานักงานบอกทะเบียนไว้แห่งหนึ่งซึ่ง
สํานักธุงานคณะกรรมการกฤษฎี
รการติดต่อและคําบอกกล่ กา าวทั้งปวงจะส่
สํานังกถึงานคณะกรรมการกฤษฎี
งบริษัทได้ ณ ที่นั้น กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คํ า บอกกล่ า วสถานที่ตั้ งแห่ งสํา นักงานที่ ได้ บ อกทะเบี ย นไว้ก็ดี หรื อ เปลี่ย นย้า ย
สถานที่ก็ดี ให้ส่งแก่
สํานันกายทะเบี ยนบริษัท และให้กานายทะเบียนจดข้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ความนั้นลงในทะเบียนกา

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๑๔๙ ตราบใดหุ ้นทั้งหลายยังมิได้ชําระเงิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นเต็มจํานวน
สํานัท่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
านว่าตราบนั้น กา
บริษัทจะลงพิมพ์หรือแสดงจํานวนต้นทุนของบริษัทในหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดเช่นในคําบอกกล่าว
ป่าวร้องก็ดี ในตั๋วสํเงิานันกและบั
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ญชีสิ่งของก็ดี ในจดหมายก็ดี ต้สํอางแสดงไว้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ชัดเจนด้วยในที่เดียวกันว่า
จํานวนเงินต้นทุนได้ชําระแล้วเพียงกี่ส่วสํนานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี๒)
กา กรรมการ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๑๕๐ ผู้เป็สํนานักรรมการจะพึ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งมีจํานวนมากน้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อยเท่าใดและจะพึ งได้บําเหน็จ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เท่าใด ให้สุดแล้วแต่ที่ประชุมใหญ่จะกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๕๑ อันผู้เป็นกรรมการนั้น เฉพาะแต่ที่ประชุมใหญ่เท่านั้นอาจจะตั้ง
สํานักหรื อถอนได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๕๒ ในเมื่อมีการประชุมสามัญครั้งแรกภายหลังแต่จดทะเบียนบริษัทก็ดี
สํานักและในเมื ่อมีการประชุมกาสามัญครั้งแรกในปี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ทุก ๆ ปีต่อไปก็ดี ผู้เป็กนา กรรมการต้อสํงออกจากตํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าแหน่ง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โดยจํานวนหนึ่งในสามเป็นอัตราถ้าและจํานวนกรรมการจะแบ่งออกให้ตรงเป็นส่วนสามไม่ได้ ก็ให้
ออกโดยจํานวนใกล้สํานัทกี่สงานคณะกรรมการกฤษฎี
ุดกับส่วนหนึ่งในสาม กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๑๕๓ ตั วสํกรรมการที ่ จ ะต้ อ งออกจากตํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา า แหน่ ง ในปีสําแนัรก และปี ที่ ส อง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ภายหลังจดทะเบียนบริษัทนั้น ถ้ากรรมการมิได้ตกลงกันไว้เองเป็นวิธีอื่นไซร้ ก็ให้จับสลากกันส่วนปี
หลัง ๆ ต่อไปให้กสํรรมการคนที ่ได้อยู่ในตําแหน่กงานานที่สุดนั้นเป็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานนักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ต้องออก กา
กรรมการผู้ออกไปนั้นจะเลือกเข้ารับตําแหน่งอีกก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๓
มาตรา ๑๑๔๗ ยกเลิกโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานัก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๘๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
๓๔
มาตรา ๑๑๕๓/๑ กรรมการคนใดจะลาออกจากตําแหน่ง ให้ยื่นใบลาออกต่อ
สํานักบริ ษัท การลาออกมีผลนักบา แต่วันที่ใบลาออกไปถึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี งบริษัท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กรรมการซึ่งลาออกตามวรรคหนึ่ง จะแจ้งการลาออกของตนให้นายทะเบียนทราบ
ด้วยก็ได้ สํ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๑๕๔ ถ้ากรรมการคนใดล้มละลาย หรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถไซร้
ท่านว่ากรรมการคนนั
สํานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นอันขาดจากตําแหน่กาง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๑๕๕ ถ้าตํสําานัแหน่


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งว่างลงในสภากรรมการเพราะเหตุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อสํื่านนันอกจากถึ งคราว
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ออกตามเวรไซร้ ท่านว่ากรรมการจะเลือกผู้อื่นตั้งขึ้นใหม่ให้เต็มที่ว่างก็ได้ แต่บุคคลที่ได้เป็นกรรมการ
ใหม่เช่นนั้น ให้มีเสํวลาอยู ่ในตําแหน่งได้เพียงเท่กาากําหนดเวลาทีสํ่กานัรรมการผู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ออกไปนั้นชอบทีก่จา ะอยู่ได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา ๑๑๕๖ ถ้าทีสํ่ปานัระชุ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มใหญ่ถอนกรรมการผูก้หา นึ่งออกก่อนครบกาลกํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี าหนดของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เขา และตั้งคนอื่นขึ้นไว้แทนที่ไซร้ ท่านว่าบุคคลที่เป็นกรรมการใหม่นั้นให้อยู่ในตําแหน่งได้เพียงเท่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กําหนดเวลาที่กรรมการผู ้ถูกถอนนั้นชอบที่จะอยู่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๕๗๓๕ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการ ให้บริษัทนําความไปจดทะเบียน
ภายในสิบสี่วันนับสํแต่
านักวันงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่มีการเปลี่ยนแปลง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๑๕๘ นอกจากจะมี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ข้อบังคับของบริษกัทาไว้เป็นอย่างอืสํ่นาท่นัากนว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ากรรมการมี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อํานาจดังพรรณนาไว้ในหกมาตราต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๕๙ ในจํานวนกรรมการนั้น แม้ตําแหน่งจะว่างไปบ้างกรรมการที่มีตัว
สํานักอยู ่ก็ย่อมทํากิจการได้ แต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ถ้าในเวลาใดจํ
สําานันวนกรรมการลดน้ อยลงกว่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าจํานวนอันสํจําานัเป็กงานคณะกรรมการกฤษฎี
นที่จะเป็นองค์ กา
ประชุมได้ตลอดเวลาเช่นนั้น กรรมการที่มีตัวอยู่ย่อมทํากิจการได้เฉพาะแต่ในเรื่องที่จะเพิ่มกรรมการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขึ้น ให้ครบจํานวนหรือนัดเรียกประชุมใหญ่ของบริษัทเท่านั้น จะกระทําการอย่างอื่นไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๖๐ กรรมการจะวางกําหนดไว้ก็ได้ว่า จํานวนกรรมการเข้าประชุมกี่คน
จึงจะเป็นองค์ประชุ
สํานัมกทํงานคณะกรรมการกฤษฎี
ากิจการได้ ถ้าและมิได้กกา ําหนดไว้ดั่งนัสํ้นานัไซร้ (เมื่อจํานวนกรรมการเกิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นกว่าสาม
คน) ท่านว่าต้องมีกรรมการเข้าประชุมสามคนจึงจะเป็นองค์ประชุมได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๖๑ ข้อปรึกษาซึ่งเกิดเป็นปัญหาในที่ประชุมกรรมการนั้นให้ชี้ขาดตัดสิน
เอาเสียงข้างมากเป็
สํานนัใหญ่ ถ้าและคะแนนเสียงเท่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ากันให้ผู้เป็นสํประธานเป็ นผู้ออกเสียงชี้ขาด
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


๓๔
มาตรา ๑๑๕๓/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๔๙
๓๕
มาตรา ๑๑๕๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๕) พ.ศ.ก๒๕๔๙
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๘๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๑๖๒ กรรมการคนหนึ่งคนใดจะนัดเรียกให้ประชุมกรรมการเมื่อใดก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๖๓ กรรมการจะเลือกกรรมการคนหนึ่งขึ้นเป็นประธานที่ประชุม และ
จะกําหนดเวลาว่าสํให้
านัอกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยู่ในตําแหน่งเพียงใดก็ไกด้า แต่ถ้าหากมิสํไาด้นัเกลืงานคณะกรรมการกฤษฎี
อกกันไว้เช่นนั้น หรือผูก้เาป็นประธาน
ไม่มาประชุมตามเวลาที่ได้นัดหมายไซร้ กรรมการที่มาประชุมนั้นจะเลือกกันคนหนึ่งขึ้นเป็นประธาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการประชุมเช่นนั้นก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๖๔ กรรมการจะมอบอํานาจอย่างหนึ่งอย่างใดของตนให้แก่ผู้จัดการ
สํานักหรื อให้แก่อนุกรรมการซึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา่งตั้งขึ้นจากผูสํ้ทาี่นัเป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
กรรมการด้วยกันก็ได้กาในการใช้อํานาจซึ
สํานัก่งานคณะกรรมการกฤษฎี
งได้มอบหมาย กา
เช่นนั้น ผู้จัดการทุกคนหรืออนุกรรมการทุกคนต้องทําตามคําสั่งหรือข้อบังคับซึ่งกรรมการทั้งหลายได้
กําหนดให้ทุกอย่าสํงทุ
านักกประการ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๑๖๕ ถ้าการมอบอํ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านาจมิได้กําหนดไว้กเาป็นอย่างอื่นไซร้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัข้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
ปรึกษาซึ่งเกิด กา
เป็นปัญหาขึ้นในที่ประชุมอนุกรรมการทั้งหลายให้ตัดสินเอาเสียงข้างมากเป็นใหญ่ ถ้าและคะแนน
เสียงเท่ากัน ให้ผู้เสํป็านนัประธานชี
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้ขาด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๑๖๖ บรรดาการซึ่งกรรมการคนหนึ่งได้ทําไปแม้ในภายหลังความปรากฏ
ว่าการตั้งแต่งกรรมการคนนั ้นมีข้อบกพร่องอยูก่บา ้างก็ดี หรือเป็สํานนัผูก้บงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กพร่องด้วยองค์คุณควรแก่
กา ตําแหน่ง
กรรมการก็ดี ท่านว่าการที่ได้ทํานั้นย่อมสมบูรณ์เสมือนดั่งว่าบุคคลผู้นั้นได้รับการแต่งตั้งโดยถูกต้อง
สํานักและบริ บูรณ์ด้วยองค์คุณกของกรรมการ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๖๗ ความเกี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่ ย วพั น กั น ในระหว่ า งกรรมการและบริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ษั ท และ
บุคคลภายนอกนั้น ท่านให้บังคับตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ ว่าด้วยตัวแทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๖๘ ในอันที่จะประกอบกิจการของบริษัทนั้น กรรมการต้องใช้ความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เอื้อเฟื้อสอดส่องอย่างบุคคลค้าขายผู้ประกอบด้วยความระมัดระวัง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ว่าโดยเฉพาะกา กรรมการต้ องรับผิดชอบร่วมกันในประการต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าง ๆสําดันั่งกจะกล่ าวต่อไปนี้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
คือ
สํ(๑) การใช้เงินค่าหุ้นนั้น ได้กใช้า กันจริง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๒) จัดให้มีและรักษาไว้ให้เรียบร้อย ซึ่งบรรดาสมุดบัญชีและเอกสารที่กฎหมาย
สํานักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดไว้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) การแจกเงินปันผลหรือดอกเบี้ยให้เป็นไปโดยถูกต้องตามที่กฎหมายกําหนดไว้
สํ(๔) บังคับการให้เป็นไปโดยถู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กากต้องตามมติสํขาองที ่ประชุมใหญ่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อนึ่ง ท่านห้ามมิให้ผู้เป็นกรรมการประกอบการค้าขายใด ๆ อันมีสภาพเป็นอย่าง
สํานักเดีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยวกัน และเป็นการแข่กงาขันกับการค้าสํขายของบริ ษัทนั้น ไม่ว่าทําเพื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่อประโยชน์ตสํนหรื
านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
เพื่อประโยชน์ กา
ผู้อื่น หรือไปเข้าสํหุา้นนัส่กวงานคณะกรรมการกฤษฎี
นไม่จํากัดความรับผิดกในห้ า
างค้าขายอื ่นซึ่งประกอบกิจการมีสภาพเป็นอย่าง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เดียวกัน และแข่งขันกับกิจการของบริษัท โดยมิได้รับความยินยอมของที่ประชุมใหญ่ของผู้ถือหุ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บทบักญาญัติที่กล่าวมาข้ สํานัางบนนี ้ให้ใช้บังคับตลอดถึกงาบุคคลซึ่งเป็นผูสํา้แนัทนของกรรมการ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๘๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๖๙ ถ้ากรรมการทําให้เกิดเสียหายแก่บริษัท บริษัทจะฟ้องร้องเรียกเอา
สินไหมทดแทนแก่สํากนัรรมการก็ ได้ หรือในกรณีกทาี่บริษัทไม่ยอมฟ้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกงร้ อง ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งคนใดจะเอาคดี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นั้นขึ้นว่าก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง การเรียกร้องเช่นนี้ เจ้าหนี้ของบริษัทจะเป็นผู้เรียกบังคับก็ได้เท่าที่เจ้าหนี้ยังคง
มีสิทธิเรียกร้องแก่สํบานัริกษงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัทอยู่ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๑๗๐ เมื่อสํการซึ ่งกรรมการคนใดได้ทกําาไปได้รับอนุมสํัตาิขนัองที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ประชุมใหญ่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แล้ว ท่านว่ากรรมการคนนั้นไม่ต้องรับผิดในการนั้นต่อผู้ถือหุ้นซึ่งได้ให้อนุมัติหรือต่อบริษัทอีกต่อไป
สํท่านัากนห้ ามมิให้ผู้ถือหุ้นซึ่งมิกได้า ให้อนุมัติด้วสํยนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี านั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฟ้องคดีเมื่อพ้นเวลาหกเดื
กา อนนับแต่
วันที่ประชุมใหญ่ให้อนุมัติแก่การเช่นว่านั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓) ประชุมใหญ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๗๑ ให้มสําีกนัารประชุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มผู้ถือหุ้นทั่วไปเป็นประชุมใหญ่สํภานัายในหกเดื
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนนับ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่วันที่ได้จดทะเบียนบริษัท และต่อนั้นไปก็ให้มีการประชุมเช่นนี้ครั้งหนึ่งเป็นอย่างน้อยทุกระยะเวลา
สิบสองเดือน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การประชุมเช่นนี้ เรียกว่าประชุมสามัญ
การประชุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มใหญ่คราวอื สํานั่นกบรรดามี นอกจากนี้ เรียกกว่า าประชุมวิสามั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สําญนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๗๒ กรรมการจะเรี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยกประชุมวิสํสานัามักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญเมื่อใดก็ได้สุดแต่จะเห็กนา สมควร
ถ้าบริษัทขาดทุนลงถึงกึ่งจํานวนต้นทุน กรรมการต้องเรียกประชุมวิสามัญทันที เพื่อ
สํานักแจ้ งให้ผู้ถือหุ้นทราบการที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ขาดทุนนั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๗๓ การประชุมวิสามัญจะต้องนัดเรียกให้มีขึ้นในเมื่อผู้ถือหุ้นมีจํานวน
สํานักหุงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นรวมกั นไม่ น้ อยกว่ากหนึ
า ่ ง ในห้ า แห่ งสํจําานันวนหุ ้นของบริษัท ได้ เข้กาาชื่อกันทําหนัสํงสืานัอกร้งานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี องขอให้เรี ยก กา
ประชุมเช่นนั้น ในหนังสือร้องขอนั้นต้องระบุว่าประสงค์ให้เรียกประชุมเพื่อการใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๗๔ เมื่อผู้ถือหุ้นยื่นคําร้องขอให้เรียกประชุมวิสามัญดั่งได้กล่าวมาใน
สํานักมาตราก่ อนนี้แล้ว ให้กรรมการเรี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยกประชุ
สํานัมกโดยพลั น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าและกรรมการมิได้เรียกประชุมภายในสามสิบวันนับแต่วันยื่นคําร้องไซร้ ผู้ถือหุ้น
ทั้งหลายซึ่งเป็นผู้รสํ้อานังกหรื อผู้ถือหุ้นคนอื่น ๆ รวมกั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นได้จํานวนดั
สํานั่งบักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
คับไว้นั้นจะเรียกประชุกมาเองก็ได้

มาตรากา ๑๑๗๕๓๖ คํสําาบอกกล่


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าวเรียกประชุมใหญ่กาให้ลงพิมพ์โฆษณาในหนั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี งสือพิมพ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แห่งท้องที่อย่างน้สํอายหนึ ่งคราวก่อนวันนัดประชุมไม่น้อยกว่าสํเจ็านัดกวังานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
น และส่งทางไปรษณียก์ตาอบรับไปยัง
๓๖
มาตรา ๑๑๗๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ.ก๒๕๕๑
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๘๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ผู้ถือหุ้นทุกคนที่มีชื่อในทะเบียนของบริษัทก่อนวันนัดประชุมไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน เว้นแต่เป็นคําบอก
สํานักกล่ าวเรียกประชุมใหญ่เกพืา่อลงมติพิเศษสํให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี านักกระทํ าการดังว่านั้นก่อนวักนา นัดประชุมไม่สํนา้อนัยกว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี าสิบสี่วัน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
คําบอกกล่าวเรียกประชุมใหญ่นั้น ให้ระบุสถานที่ วัน เวลา และสภาพแห่งกิจการที่
จะได้ประชุมปรึกาษากั
สํ น และในกรณีที่เป็นกคําาบอกกล่าวเรีสํายนักประชุ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี มใหญ่เพื่ อลงมติกพาิ เศษให้ระบุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ข้อความที่จะนําเสนอให้ลงมติด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๗๖ ผู้ถือหุ้นทั่วกทุากคนมีสิทธิจะเข้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากประชุ มในที่ประชุมใหญ่กไาด้เสมอไม่ว่า
งานคณะกรรมการกฤษฎี
จะเป็นประชุมชนิดใดคราวใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๗๗ วิธีดั่งบัญญัติไว้ในมาตราต่อ ๆ ไปนี้ ท่านให้ใช้บังคับแก่การประชุม
ใหญ่ เว้นแต่จะมีขสํ้อานับักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
คับของบริษัทกําหนดไว้กเาป็นข้อความขัสํดากันันกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๑๗๘ ในการประชุ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มใหญ่ ถ้าไม่มีผู้ถือกหุา้นมาเข้าประชุสํมารวมกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นแทนหุ้นได้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ถึงจํานวนหนึ่งในสี่แห่งทุนของบริษัทเป็นอย่างน้อยแล้ว ท่านว่าที่ประชุมอันนั้นจะปรึกษากิจการอันใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หาได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๗๙ การประชุมใหญ่เรียกนัดเวลาใด เมื่ อล่วงเวลานัดนั้นไปแล้วถึง
ชั่วโมงหนึ่ ง จํานวนผู
สํานัก้ ถงานคณะกรรมการกฤษฎี
ือหุ้ นซึ่งมาเข้าประชุมกายังไม่ครบถ้ วสํนเป็
านักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
องค์ประชุมดั่ งบัญ ญัตกิไาว้ ในมาตรา
๑๑๗๘ นั้นไซร้ หากว่าการประชุมใหญ่นั้นได้เรียกนัดเพราะผู้ถือหุ้นร้องขอ ท่านให้เลิกประชุม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีถ้าการประชุ
กา มใหญ่นสํั้นามินัใกช่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชนิดซึ่งเรียกนัดเพราะผูกา้ถือหุ้นร้องขอไซร้
สํานักท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านให้เรียกนัด กา
ใหม่อีกคราวหนึ่งภายในสิบสี่วัน และการประชุมใหญ่ครั้งหลังนี้ท่านไม่บังคับว่าจําต้องครบองค์ประชุม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๘๐ ในการประชุมผู้ถือหุ้นทั่วไปเป็นประชุมใหญ่ทุก ๆ ครั้งให้ผู้เป็น
สํานักประธานในสภากรรมการนั
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ่งเป็นประธาน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าประธานกรรมการเช่นว่านี้ไม่มีตัวก็ดี หรือไม่มาเข้าประชุมจนล่วงเวลานัดไปแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิบห้านาทีก็ดี ให้ผู้ถือหุ้นทั้งหลายซึ่งอยู่ในที่นั้นเลือกผู้ถือหุ้นคนหนึ่งในจํานวนซึ่งมาประชุมขึ้นนั่งเป็น
สํานักประธาน
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๘๑ ผู้นั่งเป็นประธานจะเลื


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อสํนการประชุ มใหญ่ใด ๆ ไปเวลาอื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่นโดย
ความยินยอมของที่ประชุมก็ได้ แต่ในที่ประชุมซึ่งได้เลื่อนมานั้นท่านมิให้ปรึกษากิจการอันใดนอกไป
สํานักจากที ่ค้างมาแต่วันประชุกมา ก่อน
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๘๒ ในการลงคะแนนโดยวิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ธีชสําูมนัือกนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้น ท่านให้นับว่าผู้ถือหุก้นา ทุกคนที่มา
ประชุมเองหรือมอบฉันทะให้ผู้อื่นมาประชุมแทนมีเสียงหนึ่งเป็นคะแนน แต่ในการลงคะแนนลับ ท่าน
สํานักให้ นับว่าผู้ถือหุ้นทุกคนมีกคาะแนนเสียง เสีสํายนังหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่งต่อหุ้นหนึ่งที่ตนถือ กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๘๓ ถ้ามีข้อบังคับของบริษัทวางเป็นกําหนดไว้ว่า ต่อเมื่อผู้ถือหุ้นแต่
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านวนเท่าใดขึ้นไปจึงให้
กาออกเสียงเป็สํนาคะแนนได้ ไซร้ ท่านว่าผู้ถกือาหุ้นทั้งหลายซึสํ่งาไม่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีหุ้นถึงจํานวน กา
- ๑๙๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
เท่านั้น ย่อมมีสิทธิที่จะเข้ารวมกันให้ได้จํานวนหุ้นดังกล่าว แล้วตั้งคนหนึ่งในพวกของตนให้เป็นผู้รับ
สํานักฉังานคณะกรรมการกฤษฎี
นทะออกเสียงแทนในการประชุ
กา มใหญ่สํใาดนักๆงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๘๔ ผู้ถือหุ้นคนใดยั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งมิได้ชําระเงิ
สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ค่าหุ้นซึ่งบริษัทได้เรียกเอาแต่
กา ตนให้
เสร็จสิ้น ท่านว่าผู้ถือหุ้นคนนั้นไม่มีสิทธิออกเสียงเป็นคะแนน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๘๕ ผู้ถือหุ้นคนใดมี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ส่วนได้เสีสํยาเป็
นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
พิเศษในข้ออันใดซึ่งทีก่ปาระชุมจะลง
มติ ท่านห้ามมิให้ผู้ถือหุ้นคนนั้นออกเสียงลงคะแนนด้วยในข้อนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๘๖ ผู้ทรงใบหุ้นชนิดออกให้แก่ผู้ถือหาอาจออกเสียงเป็นคะแนนได้ไม่
เว้นแต่จะได้นําใบหุ
สํา้นนัของตนนั ้นมาวางไว้แก่บริกษา ัทแต่ก่อนเวลาประชุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา ๑๑๘๗ ผู้ถสํือาหุนั้นกทุงานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กคนจะมอบฉันทะให้กผาู้อื่นออกเสียงแทนตนก็ ได้ แต่การ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มอบฉันทะเช่นนี้ต้องทําเป็นหนังสือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๘๘ หนังสํสืานัอกตังานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้งผู้รับฉันทะนั้น ให้ลงวักนาและลงลายมือสํชืา่อนัผูกงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ถือหุ้นและให้มี กา
รายการดั่งต่อไปนี้ คือ
สํ(๑) จํานวนหุ้นซึ่งผู้มอบฉันกทะนั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้นถืออยู่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ชื่อผู้รับฉันทะ
(๓) ตัก้งาผู้รับฉันทะนั้นสํเพื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านั่อกการประชุ มครั้งคราวใดกหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า อตั้งไว้ชั่วระยะเวลาเพี ยงใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๑๑๘๙ อันหนังสือกตัา้งผู้รับฉันทะนัสํ้นานัถ้กางานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ผู้มีชื่อรับฉันทะประสงค์กาจะออกเสียง
ในการประชุมครั้งใด ต้องนําไปวางต่อผู้เป็นประธานแต่เมื่อเริ่ม หรือก่อนเริ่มประชุมครั้งนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๙๐ ในการประชุมใหญ่ใด ๆ ข้อมติอันเสนอให้ลงคะแนนท่านให้ตัดสิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ด้วยวิธีชูมือ เว้นแต่เมื่อก่อนหรือในเวลาที่แสดงผลแห่งการชูมือนั้น จะได้มีผู้ถือหุ้นสองคนเป็นอย่าง
สํานักน้งานคณะกรรมการกฤษฎี
อยติดใจร้องขอให้ลงคะแนนลั
กา บ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๙๑ ในการประชุ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มใหญ่ใด ๆสําเมืนัก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้เป็นประธานแสดงว่ากมติ
า อันใดนับ
คะแนนชูมือเป็นอันว่าได้หรือตกก็ดี และได้จดลงไว้ในสมุดรายงานประชุมของบริษัทดั่งนั้นแล้วท่านให้
สํานักถืงานคณะกรรมการกฤษฎี
อเป็นหลักฐานเพียงพอที
กา ่จะฟังได้ตามนั
สํา้นนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ามีผู้ติดใจร้องขอให้ลงคะแนนลับไซร้ ท่านให้ถือว่าผลแห่งคะแนนลับนั้นเป็นมติ
ของที่ประชุม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๑๙๒ ถ้ามีสํผานัู้ตกิดงานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ใจร้องขอโดยชอบให้ลกงคะแนนลั
า บ การลงคะแนนเช่ นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จะทําด้วยวิธีใดสุดสํแล้ วแต่ผู้เป็นประธานจะสั่ง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๑๙๓ ถ้าคะแนนเสี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยงเท่ากัน จะเป็นในการชู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มือก็ดี หรืสําอนัในการลงคะแนน
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๙๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ลับก็ดี ให้ผู้เป็นประธานในที่ประชุมมีคะแนนอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๗
มาตรา ๑๑๙๔ การใดที่กฎหมายกําหนดให้ต้องทําโดยมติพิเศษ ที่ประชุมใหญ่
ต้องลงมติในเรื่องนั
สํา้นันกโดยคะแนนเสี ยงข้างมากไม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ต่ํากว่าสามในสี
สํานัก่ขงานคณะกรรมการกฤษฎี
องจํานวนเสียงทั้งหมดของผู
กา ้ถือหุ้น
ที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๑๙๕ การประชุมกใหญ่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นั้นถ้าได้นสํัดานัเรีกยงานคณะกรรมการกฤษฎี
กหรือได้ประชุมกัน หรืกอา ได้ลงมติฝ่า
ฝืนบทบัญญัติในลักษณะนี้ก็ดี หรือฝ่าฝืนข้อบังคับของบริษัทก็ดี เมื่อกรรมการหรือผู้ถือหุ้นคนหนึ่งคน
สํานักใดร้ องขึ้ นแล้ว ให้ศาลเพิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ก ถอนมติ ของที
สํานั่กปงานคณะกรรมการกฤษฎี
ระชุมใหญ่ อันผิดระเบีกยา บนั้นเสีย แต่สํตานั้อกงร้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องขอภายใน กา
กําหนดเดือนหนึ่งนับแต่วันลงมตินั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔) บัญชีงบดุล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๙๖ อันบัญชีงบดุลนั้น ท่านว่าต้องทําอย่างน้อยครั้งหนึ่งทุกรอบสิบสอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เดือน คือเมื่อเวลาสุดรอบสิบสองเดือนอันจัดว่าเป็นขวบปีในทางบั ญชีเงินของบริษัทนั้น
อนึ่ง งบดุลต้องมีรายการย่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อแสดงจํานวนสินทรัพย์และหนี้สินของบริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ษัทกับทั้งบัญชี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กําไรและขาดทุน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๙๗ งบดุลนั้นต้องจัดให้มีผู้สอบบัญชีคนหนึ่งหรือหลายคนตรวจสอบ
สํานักแล้ วนําเสนอเพื่ออนุมัติใกนที
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ่ประชุมใหญ่สํภานัายในสี ่เดือนนับแต่วันที่ลงในงบดุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ลนั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง ให้ส่งสําเนางบดุลไปยังบุคคลทุกคนบรรดามีชื่อในทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัท
แต่ก่อนวันนัดประชุ สํานัมกใหญ่ ล่วงหน้าไม่น้อยกว่ากสามวั
งานคณะกรรมการกฤษฎี า น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นอกจากนั้นให้มีสําเนางบดุลเปิดเผยไว้ในสํานักงานของบริษัทในระหว่างเวลาเช่น
สํานักว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านั้น เพื่อให้ผู้ทรงใบหุ้นกาชนิดออกให้แก่สําผนัู้ถกืองานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้นตรวจดูได้ด้วย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๙๘ ในเมื่อเสนองบดุล กรรมการต้องเสนอรายงานต่อที่ประชุมใหญ่
สํานักแสดงว่ าภายในรอบปีซึ่งกพิาจารณากันอยูสํ่นานัั้นกการงานของบริ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ษัทได้จัดกทําาไปเป็นประการใด
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๘
สํมาตรา ๑๑๙๙ บุคคลใดประสงค์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จะได้สสําํานัเนางบดุ ลฉบับหลังที่สุดจากบริ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ษัทใด ๆ
ก็ชอบที่จะซื้อเอาได้โดยราคาไม่เกินฉบับละยี่สิบบาท
ให้เป็นกหน้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าที่ของกรรมการที ่จะส่งสําเนางบดุลทุกกาฉบับไปยังนายทะเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยนไม่ช้ากว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เดือนหนึ่งนับแต่วันซึ่งงบดุลนั้นได้รับอนุมัติในที่ประชุมใหญ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕) เงินปันผลและเงินสํารอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๗
มาตรา ๑๑๙๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๓๘
มาตรา ๑๑๙๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ.ก๒๕๔๘
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๙๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา ๑๒๐๐ การแจกเงิ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นปันผลนั้น ต้องคิดตามส่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วนจํานวนซึ
สํา่งนัผูก้ถงานคณะกรรมการกฤษฎี
ือหุ้นได้ส่งเงิน กา
แล้วในหุ้นหนึ่ง ๆ เว้นแต่จะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่นในเรื่องหุ้นบุริมสิทธิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๐๑ ห้ามมิให้ประกาศอนุญาตเงินปันผล นอกจากโดยมติของที่ประชุม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใหญ่
สํกรรมการอาจจ่ ายเงินปันผลระหว่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา างกาลให้
สํานัแกก่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้ถือหุ้นได้เป็นครั้งเป็นกคราว
า ในเมื่อ
ปรากฏแก่กรรมการว่าบริษัทมีกําไรสมควรพอที่จะทําเช่นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีห้ามมิกใาห้จ่ายเงินปันสํผลจากเงิ นประเภทอื่นนอกจากเงิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นกําไร ถ้สําาหากบริ ษัทขาดทุน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ห้ามมิให้จ่ายเงินปันผลจนกว่าจะได้แก้ไขให้หายขาดทุนเช่นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๐๒ ทุกคราวที่แจกเงินปันผล บริษัทต้องจัดสรรเงินไว้เป็นทุนสํารอง
สํานักอย่ างน้อยหนึ่งในยี่สิบส่กวานของจํานวนผลกํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ไรซึ่งบริษัททํามาหาได้กาจากกิจการของบริ
สํานักษงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัท จนกว่าทุน กา
สํารองนั้นจะมีจํานวนถึงหนึ่งในสิบของจํานวนทุนของบริษัทหรือมากกว่านั้น แล้วแต่จะได้ตกลง
กําหนดไว้ในข้อบัสํงคัานับกของบริ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ษัท สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าได้ออกหุ้นโดยคิดสํเอาราคาเกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นกว่าที่ปรากฏในใบหุ้นเท่าใดสําจํนัากนวนที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่คิดเกินนี้
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ท่านให้บวกทบเข้าในทุนสํารองจนกว่าทุนสํารองจะมีจํานวนเท่าถึงที่กําหนดไว้ในวรรคก่อน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๐๓ ถ้าจ่ายเงินปันผลไปโดยฝ่าฝืนความในมาตราทั้งสองซึ่งกล่าวมาไซร้
สํานักเจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนี้ทั้งหลายของบริษกัทา ชอบที่จะเรียสํกเอาเงิ นจํานวนซึ่งได้แจกไปคื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กานมายังบริษัทสํได้
านักแต่ ว่าถ้าผู้ถือหุ้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
คนใดได้รับเงินปันผลไปแล้วโดยสุจริต ท่านว่าจะกลับบังคับให้เขาจําคืนนั้นหาได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๐๔๓๙ การบอกกล่าวว่าจะปันผลอย่างใด ๆ อันได้อนุญาตให้จ่ายนั้น ให้
สํานักบริ ษัทมีจดหมายบอกกล่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาาวไปยังตัวผูสํ้ถาือนัหุกงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นที่ปรากฏชื่ออยู่ในทะเบี
กา ยนผู้ถือหุ้นทุสํากนัคน แต่ในกรณีที่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บริษัทมีหุ้นชนิดที่มีใบหุ้นออกให้แก่ผู้ถือ ให้โฆษณาในหนังสือพิมพ์แห่งท้องที่อย่างน้อยหนึ่งคราวด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๒๐๕ เงินสํปัานันกผลนั ้น แม้จะค้างจ่ายอยูก่ าท่านว่าหาอาจจะคิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ดเอาดอกเบี้ย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แก่บริษัทได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖) สมุดและบัญชี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๐๖ กรรมการต้องจัดให้ถือบัญชีซึ่งกล่าวต่อไปนี้ไว้ให้ถูกถ้วนจริง ๆ คือ
สํ(๑) จํานวนเงินที่บริษัทได้รกับา และได้จ่าย สํทัานั้งรายการอั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นเป็นเหตุให้รับกาหรือจ่ายเงิน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทุกรายไป
(๒) สิกนาทรัพย์และหนีสํ้สานัินกของบริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ษัท
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๙
มาตรา ๑๒๐๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ.ก๒๕๕๑
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๙๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๒๐๗ กรรมการต้องจัดให้จดบันทึกรายงานการประชุมและข้อมติทั้งหมด
สํานักของที ่ประชุมผู้ถือหุ้นและของที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ประชุสํมานักรรมการลงไว้ ในสมุดโดยถู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กต้อง สมุดนีสํา้ในัห้กเงานคณะกรรมการกฤษฎี
ก็บรักษาไว้ ณ กา
สํานักงานที่ได้จดทะเบียนของบริษัทบันทึกเช่นนั้นอย่างหนึ่งอย่างใด เมื่อได้ลงลายมือชื่อของผู้เป็น
ประธานแห่งการประชุ มซึ่งได้ลงมติหรือซึ่งได้กดาําเนินการงานประชุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มก็ดี หรือได้ลงลายมือกชืา่อของผู้เป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประธานแห่งการประชุมถัดจากครั้งนั้นมาก็ดี ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นหลักฐานอันถูกต้องแห่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อความที่ได้จดบันทึกลงในสมุดนั้น ๆ และให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าการลงมติและการดําเนินของที่
ประชุมอันได้จดบัสํนาทึนักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไว้นั้นได้เป็นไปโดยชอบกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ถือหุ้นคนใดจะขอตรวจเอกสารดั่งกล่าวมาข้างต้นในเวลาใดเวลาหนึ่งระหว่าง
สํานักเวลาทํ าการงานก็ได้ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่วนที่ ๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การสอบบัญชี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๐๘ ผู้สอบบัญชีนั้น จะเป็นผู้ถสําือนัหุก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของบริษัทก็ได้ แต่บุคกคลผู

้มีส่วนได้
เสียในการงานที่บริษัททําโดยสถานอื่นสํอย่านัากงหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่งอย่างใด นอกจากเป็นแต่ผู้ถือหุ้นในบริ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ษัทเท่านั้นแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ท่านว่าจะเลือกเอามาเป็นตําแหน่งผู้สอบบัญชีหาได้ไม่ กรรมการก็ดี หรือผู้อื่นซึ่งเป็นตัวแทนหรือเป็น
ลูกจ้างของบริษัทสํก็าดนัี กเวลาอยู ่ในตําแหน่งนั้น กๆาก็จะเลือกเอามาเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี นตําแหน่งผู้สอบบัญชีกขาองบริษัทหา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๐๙ ผู้สอบบัญชีนั้น ให้ที่ประชุมสามัญเลือกตั้งทุกปี
สํผูานั้สกอบบั ญชีคนซึ่งออกไปนั้นกจะเลื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า อกกลับเข้สําานัรับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตําแหน่งอีกก็ได้ กา

มาตรากา ๑๒๑๐ ผู้สอบบั


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักญงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชีควรจะได้สินจ้างเท่ากใดา ให้ที่ประชุมใหญ่
สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําหนด กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๑๑ ถ้ ามีตําแหน่งว่างลงในจํานวนผู้ส อบบัญชีให้กรรมการนัดเรียก
สํานักประชุ มวิสามัญ เพื่อให้เลืกาอกตั้งขึ้นใหม่ใสํห้าคนัรบจํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี านวน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๑๒ ถ้ามิได้เลืกอากตั้งผู้สอบบัญสําชีนัโกดยวิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ธีดั่งกล่าวมา เมื่อผู้ถกาือหุ้นไม่น้อย
งานคณะกรรมการกฤษฎี
กว่าห้าคนร้องขอ ก็ให้ศาลตั้งผู้สอบบัญชีประจําปีนั้น และกําหนดสินจ้างให้ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๑๓ ให้ผู้สอบบัญชีทุกคนเข้าตรวจสอบสรรพสมุดและบัญชีของบริษัท
ในเวลาอันสมควรได้ สํานัทกุกงานคณะกรรมการกฤษฎี
เมื่อ และในการอันเกี่ยกวด้
า วยสมุดและบั
สํานัญกชีงานคณะกรรมการกฤษฎี
เช่นนั้นให้ไต่ถามสอบสวนกรรมการ
กา
หรือผู้อื่น ๆ ซึ่งเป็นตัวแทน หรือเป็นลูกจ้างของบริษัทได้ไม่ว่าคนหนึ่งคนใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๑๔ ผู้สอบบัญชีต้องทํารายงานว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าด้วยงบดุลและบัญชียื่นต่อที่ประชุม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สามัญ
ผู้สอบบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญชีต้องแถลงในรายงานเช่ นนั้นด้วยว่าตนเห็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นว่างบดุลได้สําทนัํากโดยถู กถ้วนควร
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๙๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ฟังว่าสําแดงให้เห็นการงานของบริษัทที่เป็นอยู่ตามจริงและถูกต้องหรือไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกการตรวจ
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๑๕ เมื่อผู้ถือหุก้ นา ในบริษัท มีจสํําานวนรวมกั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นไม่น้อยกว่าหนึ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่ งในห้ า ของ
จํานวนหุ้นทั้งหมด ทําเรื่องราวร้องขอไซร้ ให้รัฐมนตรีเจ้าหน้าที่ตั้งผู้ตรวจอันทรงความสามารถจะเป็น
สํานักคนเดี ยวหรือหลายคนก็ตกาามไปตรวจการงานของบริ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ษัทจํากัดนั้นและทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ารายงานยื่นสํให้านัทกราบ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ก่อนที่จะตั้งผู้ตรวจเช่นนั้น รัฐมนตรีจะบังคับให้คนทั้งหลายผู้ยื่นเรื่องราววางประกัน
เพื่อรับออกเงินค่าสํใช้านัสกอยในการตรวจนั ้นก็ได้ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๒๑๖ กรรมการก็


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดี ลูกจ้างและตัวแทนของบริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ษัทก็ดี สํจําานัต้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
งส่งสรรพสมุด กา
เอกสารทั้งปวงซึ่งตนเก็บรักษาหรืออยู่ในอํานาจแห่งตนนั้นให้แก่ผู้ตรวจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ตรวจคนหนึ่งคนใดจะให้กรรมการ ลูกจ้สําางนัและตั
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วแทนของบริษัทสาบานตัวแล้ว
สอบถามคําให้การในเรื่องอันเนื่องด้วยการงานของบริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ษัทนั้นก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๑๗ ผู้ตรวจต้กอางทํารายงานยืสํา่นนักและรายงานนั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้นจะเขียกนหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า อตี พิม พ์
สุดแต่รัฐมนตรีเจ้าหน้าที่จะบัญชา สําเนารายงานนั้นให้รัฐมนตรีส่งไปยังสํานักงานบริษัทซึ่งได้จด
สํานักทะเบี ยนไว้ กับทั้งส่งแก่กผาู้ถือหุ้น ซึ่งยื่นเรืสํา่อนังราวขอให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี ตรวจนั้นด้วย กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๑๘ ค่าใช้สอยในการตรวจเช่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นสํานีนั้ กผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ยื่นเรื่องราวขอให้ตรวจต้
กา องใช้ทั้งสิ้น
เว้นแต่ถ้าบริษัทในคราวประชุมใหญ่ครั้งแรก เมื่อตรวจสําเร็จลงแล้วได้ยินยอมว่าจะจ่ายจากสินทรัพย์
สํานักของบริ ษัทนั้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๑๙ รัฐมนตรีเจ้าหน้าที่โดยลําพังตนเอง จะตั้งผู้ตรวจคนเดียวหรือหลาย
สํานักคนให้ ไปตรวจการของบริ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาษัทเพื่อทํารายงานยื ่นต่อรัฐบาลก็ได้ การตั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา้งผู้ตรวจเช่นว่สําามานี ้จะพึงมีเมื่อใด
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สุดแล้วแต่รัฐมนตรีจะเห็นสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สําการเพิ ่มทุนและลดทุน กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๒๐ บริษัทจํากัดอาจเพิ่มทุนของบริษัทขึ้นได้ด้วยออกหุ้นใหม่โดยมติ
สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
เศษของประชุมผู้ถือหุก้นา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๒๑ บริษัทจํากัดจะออกหุ้นใหม่ให้เหมือนหนึ่งว่าได้ใช้เต็มค่าแล้ว หรือ
สํานักได้ ใช้แต่บางส่วนแล้วด้วกยอย่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า างอื่นนอกจากให้ ใช้เป็นตัวเงินนั้นไม่กไาด้ เว้นแต่จะทํสําาตามมติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี พิเศษของ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๑๙๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ประชุมผู้ถือหุ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๐
มาตรา ๑๒๒๒ บรรดาหุ้นที่ออกใหม่นั้น ต้องเสนอให้แก่ผู้ถือหุ้นทั้งหลายตาม
ส่วนจํานวนหุ้นซึ่งสํเขาถื ออยู่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําเสนอเช่นนี้ ต้องทําเป็นหนังสือบอกกล่าวไปยังผู้ถือหุ้นทุก ๆ คนระบุจํานวนหุ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ทราบว่าผู้นั้นชอบที่จะซื้อได้กี่หุ้น และให้กําหนดวันว่าถ้าพ้นวันนั้นไปมิได้มีคําสนองมาแล้วจะถือว่า
เป็นอันไม่รับซื้อ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่ อ วั น ที่ กํ า หนดล่ ว งไปแล้ ว ก็ ดี หรื อ ผู้ ถื อ หุ้ น ได้ บ อกมาว่ า ไม่ รั บ ซื้ อ หุ้ น นั้ น ก็ ดี
สํานักกรรมการจะเอาหุ ้นเช่นนักา้นขายให้แก่ผู้ถสํือานัหุก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี คนอื่นหรือจะรับซื้อไว้เกองก็า ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๒๓๔๑ หนังสือกบอกกล่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าวที่เสนอให้ ผู้ถือหุ้นซื้อหุ้นใหม่นกั้นา ต้องลงวัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เดือนปีและลายมือชื่อของกรรมการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๒๔ บริษัทจํากัดจะลดทุนของบริษัทลงด้วยลดมูลค่าแต่ละหุ้นให้ต่ําลง
หรือลดจํานวนหุ้นให้น้อยลงโดยมติพิเศษของประชุมผู้ถือหุ้นสํก็าไนัด้กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๒๒๕ อันทุนของบริษัทนั้นจะลดลงไปให้ถึงต่ํากว่าจํานวนหนึ่งในสี่ของทุน
ทั้งหมดหาได้ไม่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๒
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๒๒๖ เมื
สํา่อนับริ ษัทประสงค์จะลดทุนกาต้องโฆษณาความประสงค์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นั้นใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หนังสือพิมพ์แห่งท้องที่อย่างน้อยหนึ่งคราว และต้องมีหนังสือบอกกล่าวไปยังบรรดาผู้ซึ่งบริษัทรู้ว่า
เป็นเจ้าหนี้ของบริสําษนััทกงานคณะกรรมการกฤษฎี
บอกให้ทราบรายการซึ กา่งประสงค์จะลดทุ นลงและขอให้เจ้าหนี้ผกู้มา ีข้อคัดค้าน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อย่างหนึ่งอย่างใดในการลดทุนนั้น ส่งคําคัดค้านไปภายในสามสิบวันนับแต่วันที่บอกกล่าวนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีถ้าไม่กมาีผู้ใดคัดค้านภายในกํ าหนดเวลาสามสิบวันกก็า ให้พึงถือว่าไม่สํมานัีกการคั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดค้าน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ถ้าหากมีเจ้าหนี้คัดค้าน บริษัทจะจัดการลดทุนลงไม่ได้ จนกว่าจะได้ใช้หนี้หรือให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกันเพื่อหนี้รายนั้นแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๒๗ ถ้ามีเจ้าหนี้คนหนึ่งคนใดละเลยเสียมิได้คัดค้านในการที่บริษัทจะลด
ทุนลง เพราะเหตุสํวา่านัตนไม่ ทราบความ และเหตุกาที่ไม่ทราบนั้นสํมิาไนัด้กเงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ป็นเพราะความผิดของเจ้ กา าหนี้คนนั้น
แต่อย่างใดไซร้ ท่านว่าผู้ถือหุ้นทั้งหลายบรรดาที่ได้รับเงินคืนไปตามส่วนที่ลดหุ้นลงนั้นยังคงจะต้องรับ
สํานักผิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดต่อเจ้าหนี้เช่นนั้นเพียกางจํานวนที่ได้รสํับานัทุกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
คืนไปชั่วเวลาสองปี นักบาแต่วันที่ได้จดทะเบี ยนการลดทุน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๒๒๒ แก้ไสํขเพิ
านัก่มงานคณะกรรมการกฤษฎี
เติมโดยพระราชบัญญัติแกก้าไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑
๔๑
มาตรา ๑๒๒๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑
๔๒
มาตรา ๑๒๒๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ.ก๒๕๕๑
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๙๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา ๑๒๒๘ มติพสําิเศษซึ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่งอนุญาตให้เพิ่มทุนหรืกอา ลดทุนนั้น บริสํษานััทกต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี องจดทะเบียน กา
ภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ได้ลงมตินั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หุ้นกู้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๓
มาตรา ก๑๒๒๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า บริษสํัทานัจะออกหุ ้นกู้ไม่ได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๒๓๐๔๔ (ยกเลิก) กา


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ๔๕ (ยกเลิ
มาตรา ก๑๒๓๑ สํานักก) งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๒๓๒๔๖ (ยกเลิก) กา


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๒๓๓๔๗ (ยกเลิก)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๓๔๔๘ (ยกเลิก)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๙
มาตรา ๑๒๓๕ (ยกเลิก)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักเลิงานคณะกรรมการกฤษฎี
กบริษัทจํากัด กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๒๒๙ แก้ไสํขเพิ
านัก่มงานคณะกรรมการกฤษฎี
เติมโดยพระราชบัญญัติแกก้าไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑
๔๔
สํานัมาตรา ๑๒๓๐ ยกเลิกโดยพระราชบั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัติแก้สํไาขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่กางและพาณิชย์
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑
๔๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๒๓๑ ยกเลิสํกาโดยพระราชบั ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติา มประมวลกฎหมายแพ่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑
๔๖
สํานัมาตรา ๑๓๓๒ ยกเลิกโดยพระราชบั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัติแก้สํไาขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่กางและพาณิชย์
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑
๔๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๒๓๓ ยกเลิสํกาโดยพระราชบั ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติา มประมวลกฎหมายแพ่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑
๔๘
มาตรา ๑๒๓๔ ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑
๔๙
มาตรา ๑๒๓๕ ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานัก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๙๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา ๑๒๓๖ อันบริสําษนััทกจํงานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ากัดย่อมเลิกกันด้วยเหตุ
กา ดั่งจะกล่าวต่สํอาไปนี ้ คือ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๑) ถ้าในข้อบังคับของบริษัทมีกําหนดกรณีอันใดเป็นเหตุที่จะเลิกกัน เมื่อมีกรณีนั้น
สํ(๒) ถ้าบริษัทได้ตั้งขึ้นไว้เฉพาะกํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าหนดกาลใด
สํานักเมืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อสิ้นกําหนดกาลนั้น กา
(๓) ถ้าบริษัทได้ตั้งขึ้นเฉพาะเพื่อทํากิจการอย่างหนึ่งอย่างใดแต่อย่างเดียว เมื่อเสร็จ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การนั้น
สํ(๔) เมื่อมีมติพิเศษให้เลิก กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) เมื่อบริษัทล้มละลาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๓๗ นอกจากนี้ศาลอาจสั่งให้เลิกบริษัทจํากัดด้วยเหตุต่อไปนี้ คือ
สํ(๑) ถ้าทําผิดในการยื่นรายงานประชุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มตั้งบริ
สําษนััทกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือทําผิดในการประชุกมา ตั้งบริษัท
(๒) ถ้าบริษัทไม่เริ่มทําการภายในปีหนึ่งนับแต่วันจดทะเบียนหรือหยุดทําการถึงปี
สํานักหนึ ่งเต็ม
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ถ้าการค้าของบริษัททําไปก็มีแต่ขาดทุนอย่างเดียว และไม่มีทางหวังว่าจะกลับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ฟื้นตัวได้
๕๐
(๔)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าจํานวนผู้ถือสํหุานั้นกลดน้ อยลงจนเหลือไม่ถึงสามคน
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่อย่างไรก็ดี ในกรณีทําผิดในการยื่นรายงานประชุมตั้งบริษัท หรือทําผิดในการ
ประชุมตั้งบริษัท สํศาลจะสั ่งให้ยื่นรายงานประชุกามตั้งบริษัท หรืสําอนัให้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี มีการประชุมตั้งบริษัทแทนสั
กา ่งให้เลิก
บริษัทก็ได้ แล้วแต่จะเห็นควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๙
การควบบริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ษัทจํากัดเข้สําากันันกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๒๓๘ อันบริษัทจํากัดนั้นจะเข้ากันมิได้เว้นแต่จะเป็นไปโดยมติพิเศษ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา ๑๒๓๙ มติสํพาิเนัศษซึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่งวินิจฉัยให้ควบบริษกัทาจํากัดเข้ากันนัสํ้นานักบริงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ษัทต้องนําไป กา
จดทะเบียนภายในสิบสี่วันนับตั้งแต่วันลงมติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕๑
มาตรา ๑๒๔๐ บริษัทต้องโฆษณาในหนังสือพิมพ์แห่งท้องที่อย่างน้อยหนึ่งคราว
สํานักและส่ งคําบอกกล่าวไปยักงาบรรดาผู้ซึ่งบริสําษนััทกรูงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้ว่าเป็นเจ้าหนี้ของบริษกัทา บอกให้ทราบรายการที ่ประสงค์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จะควบบริษัทเข้ากัน และขอให้เจ้าหนี้ผู้มีข้อคัดค้านอย่างหนึ่งอย่างใดในการควบบริษัทเข้ากันนั้นส่ง
คําคัดค้านไปภายในหกสิ บวันนับแต่วันที่บอกกล่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าว สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าไม่มีใครคัดค้านภายในกําหนดเวลาเช่นว่านั้น ก็ให้พึงถือว่าไม่มีคัดค้าน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕๐
มาตรา ๑๒๓๗ (๔) แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๕๑
มาตรา ๑๒๔๐ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา พ.ศ. ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๘) สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๙๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ถ้าหากมีเจ้าหนี้คัดค้าน บริษัทจะจัดการควบเข้ากันมิได้ จนกว่าจะได้ใช้หนี้หรือได้
สํานักให้ ประกันเพื่อหนี้รายนั้นกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๔๑ บริ ษั ท ได้กคา วบเข้ ากั นแล้สําวนัเมืกงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่อ ใด ต่ างบริ ษั ท ต้ อ งนํกาาความไปจด
ทะเบียนภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ควบเข้ากัน และบริษัทจํากัดอันได้ตั้งขึ้นใหม่ด้วยควบเข้ากันนั้น ก็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ต้องจดทะเบียนเป็นบริษัทใหม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๔๒ จํานวนทุนเรือนหุ้นของบริษัทใหม่นั้น ต้องเท่ากับยอดรวมจํานวน
สํานักทุงานคณะกรรมการกฤษฎี
นเรือนหุ้นของบริษัทเดิกมา อันมาควบเข้สําากันันกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๔๓ บริษัทใหม่กนาี้ย่อมได้ไปทั้งสํสิาทนัธิกแงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ละความรับผิดบรรดามีกาอยู่แก่บริษัท
เดิมอันได้มาควบเข้ากันนั้นทั้งสิ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๑๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หนังสือบอกกล่าวสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๔๔ อันหนังสืกอาบอกกล่าวซึ่งสํบริ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัษกัทงานคณะกรรมการกฤษฎี
จะพึงส่งถึงผู้ถือหุ้นนัก้นา ถ้าว่าได้ส่ง
มอบให้แล้วถึงตัวก็ดี หรือส่งไปโดยทางไปรษณีย์สลักหลังถึงสํานักอาศัยของผู้ถือหุ้นดั่งที่ปรากฏใน
สํานักทะเบี ยนของบริษัทแล้วกก็าดี ท่านให้ถือว่สําาเป็นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี อันได้ส่งชอบแล้ว กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๔๕ หนังสือบอกกล่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าวใด ๆ เมืสํา่อนัได้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ส่งโดยทางไปรษณีย์สลักกาหลังถูกต้อง
แล้ว ท่านให้ถือว่าเป็นอันได้ส่งถึงมือผู้รับในเวลาที่หนังสือเช่นนั้นจะควรไปถึงได้ตามทางการปกติแห่ง
สํานักไปรษณี ย์
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๑๑
การถอนทะเบียนบริษัทร้าง๕๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๔๖ (ยกเลิก) กา


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


ส่วนที่ ๑๒
การแปรสภาพห้ างหุ้นส่วนจดทะเบีกายนและห้างหุ้นสําส่นัวกนจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ากัดเป็นบริษัทจํากัด๕๓
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


๕๒
ส่วนที่ ๑๑ การถอนทะเบียนบริษัทร้าง ยกเลิกโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๕๓
ส่วนที่ ๑๒ การแปรสภาพห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนและห้างหุ้นส่วนจํากัดเป็นบริษัทจํากัด เพิ่ม
สํานักโดย
งานคณะกรรมการกฤษฎี
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิกา่มเติมประมวลกฎหมายแพ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
งและพาณิชย์ (ฉบับทีก่ า๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๙๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา๑๒๔๖/๑๕๔ สํห้านัางหุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้นส่วนจดทะเบียนหรือกห้า างหุ้นส่วนจําสํกัาดนัทีก่มงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ีผู้เป็นหุ้นส่วน กา
ตั้งแต่สามคนขึ้นไปอาจแปรสภาพเป็นบริษัทจํากัดได้ โดยความยินยอมของผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนและ
ดําเนินการ ดังต่อสํไปนี
านัก้ งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) แจ้งความยินยอมของผู้เป็นหุ้นส่วนที่จะให้แปรสภาพห้างหุ้นส่วนเป็นบริษัท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จํากัดเป็นหนังสือต่อนายทะเบียนภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนให้ความยินยอม
สํ(๒)
านักประกาศโฆษณาในหนั
งานคณะกรรมการกฤษฎีกงาสือพิมพ์แห่งท้สําอนังที ่อย่างน้อยหนึ่งคราว และมี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา หนังสือ
บอกกล่าวไปยังบรรดาผู้ซึ่งรู้ว่าเป็นเจ้าหนี้ของห้างหุ้นส่วนบอกให้ทราบรายการที่ประสงค์จะแปร
สํานักสภาพห้ างหุ้นส่วนเป็นบริ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาษัท และขอให้ สําเนัจ้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
หนี้ผู้มีข้อคัดค้านอย่างหนึ
กา ่งอย่างใดในการแปรสภาพเป็ น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บริษัทจํากัดนั้น ส่งคําคัดค้านไปภายในสามสิบวันนับแต่วันที่บอกกล่าวนั้น
สํถ้าานัมีกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารคั ดค้ าน ห้ า งหุ้ น ส่กวานนั้ น จะแปรสภาพมิ ไ ด้ จ นกว่า จะได้ ชํา ระหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ ห รื อ ให้
ประกันเพื่อหนี้นั้นแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๔๖/๒๕๕ ในกรณีไม่มีการคัดค้านหรือมีการคัดค้านแต่ห้างหุ้นส่วนได้
ชําระหนี้หรือให้ปสําระกั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นเพื่อหนี้นั้นแล้ว ผู้เป็นหุ้ นส่วนทุกคนต้ องประชุม เพื่อให้ความยินยอมและ
ดําเนินการในเรื่องดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) จัดทําหนังสือบริคณห์สนธิและข้อบังคับของบริษัท (ถ้ามี)
สํ(๒)
านักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดจํานวนทุนเรือนหุกา้นของบริษัท ซึสํา่งนัต้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
งเท่ากับส่วนลงหุ้นของผูกา้เป็นหุ้นส่วน
ทุกคนในห้างหุ้นส่วน และกําหนดจํานวนหุ้นของบริษัทที่จะตกได้แก่หุ้นส่วนแต่ละคน
(๓) กํากหนดจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า านวนเงิสํนาทีนัก่ได้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ใช้แล้วในแต่ละหุ้น ซึ่งกต้าองไม่น้อยกว่าสํร้านัอกยละยี ่สิบห้าแห่ง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มูลค่าของหุ้นแต่ละหุ้นที่ตั้งไว้
สํ(๔)
านักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดจํานวนหุ้นสามักญา หรือหุ้นบุริมสํสิาทนักธิงานคณะกรรมการกฤษฎี
รวมทั้งกําหนดสภาพและบุ กา ริมสิทธิ
ของหุ้นซึ่งจะออกและจัดสรรหุ้นให้แก่ผู้เป็นหุ้นส่วน
(๕) แต่กงาตั้งกรรมการและกํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าหนดอํานาจของกรรมการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) แต่งตั้งผู้สอบบัญชี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) ดําเนินการในเรื่องอื่น ๆ ที่จําเป็นในการแปรสภาพ
ในการดํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาาเนินการตามวรรคหนึ ่ง ให้นําบทบัญญัตกิเากี่ยวกับบริษัทสํจําานักักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ว่าด้วยการนั้น กา
ๆ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕๖
มาตรา ๑๒๔๖/๓ หุ้ น ส่ ว นผู้ จั ด การเดิ ม ต้ อ งส่ ง มอบกิ จ การ ทรั พ ย์ สิ น บั ญ ชี
สํานักเอกสารและหลั กฐานต่ากงา ๆ ของห้างหุสํ้นานัส่กวงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี นให้แก่คณะกรรมการบริ
กา ษัท ภายในสิสํบานัสีก่วงานคณะกรรมการกฤษฎี
ันนับแต่วันที่ผู้ กา
เป็นหุ้นส่วนได้ให้ความยินยอมและดําเนินการในเรื่องต่าง ๆ ตามมาตรา ๑๒๔๖/๒ เสร็จสิ้นแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๒๔๖/๑ เพิสํ่มาโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มกเติ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า มประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๕๕
มาตรา ๑๒๔๖/๒ เพิ่มโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๕๖
มาตรา ๑๒๔๖/๓ เพิ่มโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานัก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๐๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ในกรณีที่ผู้เป็นหุ้นส่วนยังไม่ได้ชําระเงินค่าหุ้นหรือชําระเงินค่าหุ้นไม่ครบร้อยละยี่สิบ
สํานักห้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าของมูลค่าหุ้น หรือยังกไม่า ได้โอนกรรมสิ สําทนัธิก์ทงานคณะกรรมการกฤษฎี
รัพย์สิน หรือทําเอกสารหลั
กา กฐานการใช้สํานัสกิทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธิต่าง ๆ ให้แก่ กา
คณะกรรมการ ให้คณะกรรมการบริษัทมีหนังสือแจ้งให้ผู้เป็นหุ้นส่วนชําระเงินค่าหุ้น โอนกรรมสิทธิ์
หรือทําเอกสารหลัสํากนัฐานการใช้ สิทธิต่าง ๆ แล้กวา แต่กรณี ให้แสํก่านัคกณะกรรมการภายในสามสิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี งานคณะกรรมการกฤษฎีกา บวันนับแต่
วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕๗
สํมาตรา ๑๒๔๖/๔ คณะกรรมการบริ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ษสํัทานัต้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
งขอจดทะเบียนการแปรสภาพเป็
กา น
บริษัทจํากัดต่อนายทะเบียน ภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ได้ดําเนินการตามมาตรา ๑๒๔๖/๓ ครบถ้วน
สํานักแล้ ว
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการขอจดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทจํากัด คณะกรรมการต้องยื่นรายงานการ
ประชุมที่ผู้เป็นหุ้นสําส่นัวกนได้ ร่วมกันพิจารณาให้กคาวามยินยอมและดํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
เนินการแปรสภาพห้ากงหุ
า ้นส่วนเป็น
บริษัทจํากัดตามมาตรา ๑๒๔๖/๒ หนังสือบริคณห์สนธิ ข้อบังคับ และบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น พร้อมกับ
สํานักการขอจดทะเบี ยนด้วย กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๕๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา ๑๒๔๖/๕ เมื่อนายทะเบียนได้รสํับานัจดทะเบี
กา กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยนการแปรสภาพห้างหุ้นส่วน
จดทะเบียนหรือห้างหุ้นส่วนจํากัดเป็นสํบริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ษัทจํากัดแล้ว ให้ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียสํนานัหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อห้างหุ้นส่วน
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จํากัดเดิมหมดสภาพการเป็นห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนหรือห้างหุ้นส่วนจํากัดตามประมวลกฎหมายแพ่ง
และพาณิชย์และให้
สํานันกายทะเบี ยนหมายเหตุไว้ใกนทะเบี
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ยน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕๙
มาตรากา ๑๒๔๖/๖ สํานัเมืกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ อ ห้ า งหุ้ น ส่ ว นจดทะเบีกาย นหรื อ ห้ า งหุสํ้ านนัส่กวงานคณะกรรมการกฤษฎี
นจํ า กั ด ได้ จ ด กา
ทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทจํากัดแล้ว บริษัทย่อมได้ไปทั้งทรัพย์สิน หนี้ สิทธิ และความรับผิดของ
ห้างหุ้นส่วนจดทะเบี
สํานัยกนหรื อห้างหุ้นส่วนจํากัดกเดิา มทั้งหมด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๑๒๔๖/๗๖๐ สําเมืนั่อกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี จดทะเบียนแปรสภาพเป็กา นบริษัทจํากัดสําแล้
นักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
หากบริษัทไม่ กา
สามารถชําระหนี้ที่รับมาจากห้างหุ้นส่วนที่แปรสภาพได้ ให้เจ้าหนี้บังคับชําระหนี้เอาจากผู้เป็นหุ้นส่วน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในห้างหุ้นส่วนที่แปรสภาพได้ตามที่ผู้เป็นหุ้นส่วนจะต้องรับผิดในหนี้ของห้างหุ้นส่วน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๕
การชํ
สํานัาระบั ญชีห้างหุ้นส่วนจดทะเบี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยน ห้างหุ้นสํส่าวนันจํ ากัด และบริษัทจํากัดกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


๕๗
สํานัมาตรา ๑๒๔๖/๔ เพิ่มโดย พระราชบั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัติแสํก้าไนัขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กางและพาณิชย์
(ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๕๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๒๔๖/๕ เพิสํ่มาโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มกเติ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า มประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๕๙
มาตรา ๑๒๔๖/๖ เพิ่มโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๖๐
มาตรา ๑๒๔๖/๗ เพิ่มโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานัก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๐๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา ๑๒๔๗๖๑ สําการชํ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าระบัญชีห้างหุ้นส่วนจดทะเบี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยน หรืสํอานัห้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
งหุ้นส่วนจํากัด กา
หรือบริษัทจํากัดซึ่งล้มละลายนั้น ให้จัดทําไปตามบทกฎหมายลักษณะล้มละลายทีค่ งใช้อยู่ตามแต่จะ
ทําได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รัฐมนตรีเจ้าหน้าที่จะออกกฎกระทรวงว่าด้วยการชําระบัญชีห้างหุ้นส่วนและบริษัท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และกําหนดอัตราค่าฤชาธรรมเนียมก็ออกได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๔๘ เมื่อกล่าวถึงประชุมใหญ่ในหมวดนี้ ท่านหมายความดั่งต่อไปนี้ คือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑) ถ้กาา เกี่ ย วกั บ ห้ า งหุ
สํานั้ นกส่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ว นจดทะเบี ย นและห้กาางหุ้ นส่ ว นจํ า กัสําดนัก็กคงานคณะกรรมการกฤษฎี
ือ การประชุ ม กา
หุ้นส่วนทั้งปวงซึ่งอาศัยคะแนนเสียงข้างมากเป็นใหญ่ในการวินิจฉัย
สํ(๒) ถ้ า เกี่ ย วกั บ บริ ษั ท จํ า กักาด ก็ คื อ การประชุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใหญ่ ต ามที่ ไ ด้ บั ญ ญั ตกิ ไาว้ ใ นมาตรา
๑๑๗๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๔๙ ห้างหุ้นส่วนก็ดี บริษัทก็ดี แม้จะได้เลิกกันแล้วก็ให้พึงถือว่ายังคง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตั้งอยู่ตราบเท่าเวลาที่จําเป็นเพื่อการชําระบัญชี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๕๐ หน้าที่ของผู้ชําระบัญชี คือชําระสะสางการงานของห้างหุ้นส่วน
หรือบริษัทนั้นให้เสํสร็านัจกไป กับจัดการใช้หนี้เงินและแจกจํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าหน่าสํยสิ
านักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรัพย์ของห้างหุ้นส่วนหรื
กา อบริษัทนั้น

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๒๕๑ ห้าสํงหุ
านั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ส่วนก็ดี บริษัทก็ดี ในเมื
กา ่อเลิกกันเพราะเหตุ อื่นนอกจาก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ล้มละลาย หุ้นส่วนผู้จัดการห้าง หรือกรรมการของบริษัทย่อมเข้าเป็นผู้ชําระบัญชี เว้นไว้แต่ข้อสัญญา
ของห้าง หรือข้อบัสํงาคันับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของบริษัทจะมีกําหนดไว้ กาเป็นสถานอื่นสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าไม่มีผู้ชําระบัญชีดั่งว่ามานี้ และเมื่อพนักงานอัยการหรือบุคคลอื่นผู้มีส่วนได้เสีย
สํานักในการนี ้ร้องขอ ท่านให้ศกาลตั
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ้งผู้ชําระบัสํญานัชีกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๕๒ หุ้นส่วนผู้จัดการ หรือกรรมการบริษัทมีอํานาจโดยตําแหน่งเดิมฉัน
สํานักใด เมื่อเป็นผู้ชําระบัญชีกกา็ยังคงมีอํานาจอยู
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่ฉกันงานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้น กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๕๓ ภายในสิบกสีา่วันนับแต่ได้เลิสํกานัห้กางานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี งเลิกบริษัท หรือถ้าศาลได้
กา ตั้งผู้ชําระ
บัญชีนับแต่วันที่ศาลตั้ง ผู้ชําระบัญชีต้องกระทําดั่งจะกล่าวต่อไปนี้ คือ
(๑)๖๒กาบอกกล่าวแก่สํปาระชาชนโดยประกาศโฆษณาในหนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา งสือพิสํมาพ์นักแงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห่งท้องที่อย่าง กา
น้อยหนึ่งคราวว่าห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นได้เลิกกันแล้วและให้ผู้เป็นเจ้าหนี้ทั้งหลายยื่นคําทวงหนี้แก่
ผู้ชําระบัญชี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ส่งคําบอกกล่าวอย่างเดียวกันเป็นจดหมายลงทะเบียนไปรษณีย์ ไปยังเจ้าหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖๑
มาตรา ๑๒๔๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ พุทธศักราช ๒๔๗๙
๖๒
มาตรา ๑๒๕๓ (๑) แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง
สํานักและพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๐๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ทั้งหลายทุก ๆ คน บรรดามีชื่อปรากฏในสมุด บัญชีหรือเอกสารของห้างหรือบริษัทนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๕๔ การเลิ ก หุ้ น ส่ ว นหรื อ บริ ษั ท นั้ น ผู้ ชํ า ระบั ญ ชี ต้ อ งนํ า บอกให้ จ ด
ทะเบียนภายในสิสําบนัสีก่ วงานคณะกรรมการกฤษฎี
ันนับ แต่วันที่เลิ กกัน กและในการนี
า ้ ตสํ้อานังระบุ ชื่อผู้ชําระบั ญ ชีทุก กๆา คน ให้ จด
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลงทะเบียนไว้ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๕๕ ผู้ชําระบัญกชีา ต้องทํางบดุลสํขึานั้นกโดยเร็


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี วที่สุดที่เป็นวิสัยจะทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าได้ ส่งให้
ผู้สอบบัญชีตรวจสอบลงสําคัญว่าถูกต้อง แล้วต้องเรียกประชุมใหญ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๕๖ ธุรการอันที่ประชุมใหญ่จะพึงทํานั้น คือ
สํ(๑) รับรองให้หุ้นส่วนผู้จัดกการหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อกรรมการบริ ษัทคงเป็นผู้ชําระบัญกาชีต่อไปหรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เลือกตั้งผู้ชําระบัญชีใหม่ขึ้นแทนที่ และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒) อนุ
กามัติบัญชีงบดุสํลานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนึ่ง ที่ประชุมใหญ่จะสั่งให้ผู้ชําระบัญชีทําบัญชีตีราคาทรัพย์สินหรือให้ทําการใด ๆ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ก็ได้สุดแต่ที่ประชุมจะเห็นสมควร เพื่อชําระสะสางกิจการของห้ างหุ้นส่วนหรือบริษัทให้เสร็จไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๕๗ ผู้ชําระบัญชีซึ่งมิใช่เป็นขึ้นเพราะศาลตั้งนั้น ท่านว่าจะถอนเสียจาก
ตําแหน่งและตั้งผูสํ้อาื่นันกแทนที ่ก็ได้ ในเมื่อผู้เป็นกหุา้นส่วนทั้งหลายออกเสี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ยงเป็นน้ําหนึ่งใจเดีกายวกันหรือที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประชุมใหญ่ของผู้ถือหุ้นได้ลงมติดั่งนั้น แต่ศาลย่อมสั่งถอนผู้ชําระบัญชีจากตําแหน่งและตั้งผู้อื่นแทนที่
สํานักได้ ไม่เลือกว่าจะเป็นผู้ชกําาระบัญชีซึ่งศาลตั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้งกหรื อมิใช่ศาลตั้ง ในเมื่อมีกคา ําร้องขอของผูสํา้เป็นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี หุ้นส่วนในห้าง กา
คนใดคนหนึ่งหรือของผู้ถือหุ้นในบริษัทมีหุ้นรวมกันนับได้ถึงหนึ่งในยี่สิบแห่งทุนของบริษัท โดยจํานวน
ที่ส่งใช้เงินเข้าทุนสํแล้านัวกนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้น กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๒๕๘ เมืสํ่อามีนักการเปลี ่ยนตัวผู้ชําระบัญกาชีใหม่ครั้งใด สํผูา้ชนัํากระบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ญชีต้องนํา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ความจดทะเบียนภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ได้เปลี่ยนตัวกันนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา ๑๒๕๙ ผู้ชําสํระบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักญ ชีทั้งหลายย่อมมีอํานาจดั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งจะกล่าวต่อสําไปนี ้ คือ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๑) แก้ต่างว่าต่างในนามของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทในอรรถคดีพิพาทอันเป็นแพ่ง
หรืออาญาทั้งปวงสํและทํ าประนีประนอมยอมความ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ดําเนินกิจการของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทตามแต่จําเป็น เพื่อการชําระสะสาง
สํานักกิงานคณะกรรมการกฤษฎี
จการให้เสร็จไปด้วยดี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ขายทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท
สํ(๔) ทําการอย่างอื่น ๆ ตามแต่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จําเป็นเพื่อชํสําาระบั ญชีให้เสร็จไปด้วยดี กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา ๑๒๖๐ ข้อจํสําานักักดงานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อํานาจของผู้ชําระบัญกชีาอย่างใด ๆ จะอ้
สําานังเป็ นสมบูรณ์ต่อ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บุคคลภายนอกหาได้ ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๒๖๑ ถ้ามีสําผนัู้ชกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
ระบัญชีหลายคน การใด
กา ๆ ที่ผู้ชําระบั
สําญนักชีงานคณะกรรมการกฤษฎี
กระทําย่อมไม่ กา
- ๒๐๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
เป็นอันสมบูรณ์นอกจากผู้ชําระบัญชีทั้งหลายจะได้ทําร่วมกัน เว้นแต่ที่ประชุมใหญ่หรือศาลจะได้
สํานักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดอํานาจไว้เป็นอย่กาางอื่นในเวลาตัสํ้งาผูนั้ชกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
ระบัญชี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๖๒ ถ้ามีมติของที


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ประชุมใหญ่
สําหนัรืกองานคณะกรรมการกฤษฎี
คําบังคับของศาลให้อกําานาจผู้ชําระ
บัญชีให้ทําการแยกกันได้ ท่านว่าต้องนําความจดทะเบียนภายในสิบสี่วันนับแต่วันลงมติหรือออกคํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บังคับนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๖๓ ค่าธรรมเนียม ค่าภาระติดพัน และค่าใช้จ่ายซึ่งต้องเสียโดยควรใน
สํานักการชํ าระบัญชีนั้น ท่านว่กาาผู้ชําระบัญชีตสํ้อานังจักงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ดการใช้ก่อนหนี้เงินรายอื
กา่น ๆ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๖๔ ถ้าเจ้าหนีก้คานใดมิได้มาทวงถามให้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ใช้หนี้ ผู้ชําระบัญกชีาต้องวางเงิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เท่าจํานวนหนี้นั้น ตามบทแห่งประมวลกฎหมายนี้ ว่าด้วยวางทรัพย์สินแทนชําระหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๖๕ ผู้ชําระบัญชีจะเรียกให้ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นส่งใช้เงินลงหุ้นอัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นส่วนยังค้างชําระอยู่นั้นก็ได้ และเงินที่ค้างชําระนี้ถึงแม้จะได้ ตกลงกันไว้ก่อนโดยสัญญาเข้าหุ้นส่วน
หรือโดยข้อบังคับของบริษัทว่าจะได้เรียสํกต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อภายหลังก็ตาม เมื่อเรียกเช่นนี้แล้ว ท่าสํนว่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าต้องส่งใช้ทันที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๖๖ ถ้าผู้ชําระบักญา ชีมาพิจารณาเห็


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ว่า เมื่อเงินลงทุนหรือเงิกนา ค่าหุ้นได้ใช้
เสร็จหมดแล้ว สินทรัพย์ก็ยังไม่พอกับหนี้สินไซร้ ผู้ชําระบัญชีต้องร้องขอต่อศาลทันที เพื่อให้ออกคําสั่ง
สํานักว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าห้างหุ้นส่วนหรือบริษกัทานั้นล้มละลายสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๖๗ ผู้ชําระบัญกชีาต้องทํารายงานยื


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่นกไว้ ณ หอทะเบียนทุกระยะสามเดื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อน
ครั้งหนึ่งว่าได้จัดการไปอย่างใดบ้าง แสดงให้เห็นความเป็นไปของบัญชีที่ชําระอยู่นั้น และรายงานนี้ให้
สํานักเปิ ดเผยแก่ผู้เป็นหุ้นส่วนและผู
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ถือหุ้น และเจ้ าหนี้ทั้งหลายตรวจดูได้กโดยไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ต้องเสียค่สําานัธรรมเนี ยม
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๖๘ ถ้าการชําระบัญชีนั้นยังคงทําอยู่โดยกาลกว่าปีหนึ่งขึ้นไป ผู้ชําระ
สํานักบังานคณะกรรมการกฤษฎี
ญชีต้องเรียกประชุมใหญ่
กา ในเวลาสิ้นสํปีานัทกุกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ปีนับแต่เริ่มทําการชํากระบั
า ญชี และต้สํอานังทํกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารายงานยื่นที่ กา
ประชุมว่าได้จัดการไปอย่างไรบ้าง ทั้งแถลงให้ทราบความเป็นไปแห่งบัญชีโดยละเอียด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๖๙ อันทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนหรือของบริษัทนั้นจะแบ่งคืนให้แก่ผู้
สํานักเป็ นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุก้นาได้แต่เพียงเท่สําาทีนั่ไกม่งานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ต้องเอาไว้ใช้ในการชํการะหนี
า ้ของห้างหุ
สํานั้นกส่งานคณะกรรมการกฤษฎี
วนหรือบริษัท กา
เท่านั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๗๐ เมื่อการชําระบัญชีกิจการของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทสําเร็จลงผู้
สํานักชํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าระบัญชีต้องทํารายงานการชํ
กา าระบัสํญานัชีกแงานคณะกรรมการกฤษฎี
สดงว่า การชําระบัญกชีานั้นได้ดําเนินสํไปอย่ างใด และได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จัดการทรั พย์สิ นสํของห้ างหุ้ นส่วนหรือบริษัทนั้นไปประการใด
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แล้วให้ เรี ยกประชุมใหญ่ เพื่อเสนอ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รายงานนั้น และชี้แจงกิจการต่อที่ประชุม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีเมื่ อทีก่ปา ระชุ มใหญ่ไสํด้าในัห้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
นุมัติรายงานนั้ นแล้วกผูา ้ชําระบัญ ชีตสํ้อางนํ
นักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ข้ อความที่ ได้ กา
- ๒๐๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ประชุมกันนั้นไปจดทะเบียนภายในสิบสี่วันนับแต่วันประชุมเมื่อได้จดทะเบียนแล้วดั่งนี้ ให้ถือว่าเป็น
สํานักทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่สุดแห่งการชําระบัญชีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๗๑ เมื่อเสร็จการชํ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าระบัญชีแล้สําวนัท่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
นให้มอบบรรดาสมุดและบั
กา ญชี และ
เอกสารทั้งหลายของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทซึ่งได้ชําระบัญชีนั้นไว้แก่นายทะเบียนภายในกําหนดสิบสี่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วันดั่งกล่าวไว้ในมาตราก่อน และให้นายทะเบียนรักษาสมุดและบัญชีและเอกสารเหล่านั้นไว้สิบปีนับ
แต่วันถึงที่สุดแห่งสํการชํ าระบัญชี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมุดและบัญชีและเอกสารเหล่านี้ ให้เปิดให้แก่บรรดาบุคคลผู้มีส่วนได้เสียตรวจดูได้
สํานักโดยไม่ เรียกค่าธรรมเนียกมอย่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า างหนึ่งอย่าสํงใด
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๗๒ ในคดีฟ้องเรี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยกหนี้สินซึ่งสํห้าานังหุ ้นส่วนหรือบริษัทหรือกผูา้เป็นหุ้นส่วน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือผู้ถือหุ้น หรือผู้ชําระบัญชีเป็นลูกหนี้อยู่ในฐานเช่นนั้น ท่านห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นกําหนดสองปีนับ
สํานักแต่ วันถึงที่สุดแห่งการชํากระบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ญชี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๗๓ บทบัญญัติแห่งมาตรา ๑๑๗๒ ถึงมาตรา ๑๑๙๓ กับมาตรา ๑๑๙๕
มาตรา ๑๒๐๗ เหล่านี้ ท่านให้ใช้บังสํคัาบนัแก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การประชุมใหญ่ซึ่งมี ขึ้นในระหว่างชํสําานัระบั
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ญชีด้วยโดย
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การถอนทะเบียนห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน
ากัด และบริษัทจํากัดร้กาาง๖๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ห้างหุ้นส่สํวานันจํกงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๗๓/๑ ๖๔ เมื่ อใดนายทะเบียนมีมู ล เหตุอันควรเชื่อว่ าห้างหุ้นส่วนจด
สํานักทะเบี ยนห้างหุ้นส่วนจํากกัาด หรือบริษัทสํจําานักักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ใด มิได้ทําการค้าขายหรื กา อประกอบการงานแล้ ว ให้นาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทะเบียนมีหนังสือส่งทางไปรษณีย์ตอบรับไปยังห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท เพื่อสอบถามว่ายังทําการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ค้าขายหรือประกอบการงานอยู่หรือไม่ และแจ้งว่าหากมิได้รับคําตอบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ส่ง
สํานักหนั งสือจะได้โฆษณาในหนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งสือพิมพ์เพื่อสําขีนัดกชืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อห้างหุ้นส่วนหรือบริษกัทานั้นออกเสียจากทะเบี ยน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ถ้านายทะเบี ยนได้ รับคําตอบจากห้างหุ้นส่ วนหรื อบริษั ทนั้นว่า ห้างหุ้นส่วนหรื อ
บริษัทมิได้ทําการค้
สําานัขายหรื อประกอบการงานแล้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วหรือมิได้รสํับานัคํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
ตอบภายในสามสิบวันกนัาบแต่วันที่ส่ง
หนังสือ ให้นายทะเบียนโฆษณาในหนังสือพิมพ์แห่งท้องที่อย่างน้อยหนึ่งคราวและส่งหนังสือบอกกล่าว
สํานักทางไปรษณี ย์ตอบรับไปยั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กางห้างหุ้นส่วนหรื
สํานัอกบริ ษัทว่า เมื่อพ้นเวลาเก้กาาสิบวันนับแต่สํวาันนัทีก่สงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่งหนังสือบอก กา
กล่าวห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นจะถูกขีดชื่อออกจากทะเบียน เว้นแต่จะแสดงเหตุให้เห็นเป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๖๓ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


หมวด ๖ การถอนทะเบียนห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจํากัด และบริษัทจํากัดร้าง ใน
ลักษณะ ๒๒ หุ้นส่วนและบริษัท เพิ่มโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๖๔
มาตรา ๑๒๗๓/๑ เพิ่มโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานัก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๐๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
๖๕
มาตรา ๑๒๗๓/๒ ในกรณีที่ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทเลิกกันแล้วและอยู่ระหว่างการ
สํานักชํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าระบัญชี หากนายทะเบี กายนมีมูลเหตุอสํันานัควรเชื ่อว่าไม่มีตัวผู้ชําระบักญาชีทําการอยู่ หรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกการงานของห้ าง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หุ้นส่วนหรือบริษัทได้ชําระสะสางตลอดแล้ว แต่ผู้ชําระบัญชีมิได้ทํารายงานการชําระบัญชี หรือมิได้ยื่น
จดทะเบียนเสร็จการชํ สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ระบัญชีต่อนายทะเบียกนา ให้นายทะเบีสํยานมี หนังสือส่งทางไปรษณียก์ตาอบรับไปยัง
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท และผู้ชําระบัญชี ณ สถานที่อันปรากฏเป็นสํานักงานสุดท้าย แจ้งให้ดําเนินการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เพื่อให้มีตัวผู้ชําระบัญชี หรือยื่นรายงานการชําระบัญชี หรือจดทะเบียนเสร็จการชําระบัญชี แล้วแต่
กรณี และแจ้งว่าสํหากมิ ได้ดําเนิ นการดังกล่ ากวภายในระยะเวลาหนึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่งร้อยแปดสิบวันนักบา แต่วันที่ส่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หนังสือนั้นแล้ว จะได้โฆษณาในหนังสือพิมพ์เพื่อขีดชื่อห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นออกเสียจากทะเบียน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้าห้ากงหุา ้นส่วนหรือบริ
สําษนััทกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือผู้ชําระบัญชีมิได้ดกําา เนินการภายในกํ สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
หนดเวลาตาม กา
วรรคหนึ่ง ให้นายทะเบียนโฆษณาในหนังสือพิมพ์แห่งท้องที่อย่างน้อยหนึ่งคราว และส่งหนังสือบอก
กล่าวทางไปรษณีสํยา์ตนัอบรั บไปยังห้างหุ้นส่วนหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาอบริษัทและผูสํา้ชนัํากระบั ญชีว่าเมื่อพ้นกําหนดเวลาเก้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าสิบ
วันนับแต่วันที่ส่งหนังสือบอกกล่าว ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นจะถูกขีดชื่อออกจากทะเบียน เว้นแต่จะ
สํานักแสดงเหตุ ให้เห็นเป็นอย่กางอื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ่น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๖๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๗๓/๓ เมื่อสิ้นกําหนดเวลาตามที ่แจ้งในหนังสือบอกกล่าวตามมาตรา
๑๒๗๓/๑ หรือมาตรา ๑๒๗๓/๒ แล้วสําและห้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
างหุ้นส่วนหรือบริษัท หรือผู้ชําระบัญ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ชีมิได้แสดงเหตุให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เห็นเป็นอย่างอื่น นายทะเบียนจะขีดชื่อห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นออกเสียจากทะเบียนก็ได้ ในการนี้
ให้ห้างหุ้นส่วนหรืสํอานับริกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ษัทนั้นสิ้นสภาพนิติบุคกคลตั า ้งแต่เมื่อนายทะเบี ยนขีดชื่อห้างหุ้นส่วกนหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อบริษัท
ออกเสียจากทะเบียน แต่ความรับผิดของหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้เป็นหุ้นส่วน กรรมการ ผู้จัดการ และผู้ถือ
สํานักหุงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นมีอยู่เท่าไรก็ให้คงมีอกายู่อย่างนั้นและพึ
สํานังกเรีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยกบังคับได้เสมือนห้กางหุ
า ้นส่วนหรือสํบริ
านัษกัทงานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้นยังมิได้สิ้น กา
สภาพนิติบุคคล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๗๓/๔๖๗ ถ้าห้างหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วน บริษัท ผู้ถือหุ้น หรือเจ้าหนี้ใด ๆ
สํานักของห้ างหุ้นส่วนหรือบริกษาัทนั้นรู้สึกว่าต้สํอางเสี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ยหายโดยไม่เป็นธรรมเพราะการที
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ห้าสํงหุานั้นกส่งานคณะกรรมการกฤษฎี
วนหรือบริษัท กา
ถูกขีดชื่อออกจากทะเบียน เมื่อห้างหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วน บริษัท ผู้ถือหุ้นหรือเจ้าหนี้ยื่นคําร้องต่อศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และศาลพิจารณาได้ความเป็นที่พอใจว่าในขณะที่ขีดชื่อห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทออกจากทะเบียนห้าง
สํานักหุงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นส่วนหรือบริษัทยังทํากการค้
า าขายหรืสํอายันังกประกอบการงานอยู
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่ หรืกาอเห็นเป็นการยุสําตนัิธกรรมในการที ่จ ะ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ให้ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทได้กลับคืนสู่ทะเบียนก็ดี ศาลจะสั่งให้จดชื่อห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทกลับคืน
เข้าสู่ทะเบียนก็ได้สําและให้ ถือว่าห้างหุ้นส่วนหรืกอาบริษัทนั้นยังคงอยู
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ตลอดมาเสมือนมิได้มีกการขี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ดชื่อออก
เลย โดยศาลจะสั่งและวางข้อกําหนดไว้เป็นประการใด ๆ ตามที่เห็นเป็นการยุติธรรมด้วยก็ได้เพื่อให้
สํานักห้งานคณะกรรมการกฤษฎี
างหุ้นส่วนหรือบริษัทกและบรรดาบุ
า คสํคลอื ่น ๆ กลับคืนสู่ฐานะอันกาใกล้ที่สุดกับฐานะเดิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี มเสมือนห้าง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นมิได้ถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนเลย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๒๗๓/๒ เพิสํ่มาโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มกเติ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า มประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๖๖
มาตรา ๑๒๗๓/๓ เพิ่มโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๖๗
มาตรา ๑๒๗๓/๔ เพิ่มโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานัก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๐๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
การร้ องขอให้ ห้ างหุ้นส่วนหรือบริษัท กลับคืนสู่ทะเบียน ห้ามมิ ใ ห้ ร้องขอเมื่อพ้ น
สํานักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดสิบปีนับแต่วันทีก่นาายทะเบียนขีดสํชืานั่อกห้งานคณะกรรมการกฤษฎี
างหุ้นส่วนหรือบริษัทออกจากทะเบี
กา ยนสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีลักกา ษณะ ๒๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาคม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๖๘
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๗๔ - ๑๒๙๗ (ยกเลิก)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บรรพ ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกทรั
า พย์สิน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


ลักษณะ ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทเบ็ดเสร็จทัว่ ไปสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒๙๘ ทรัพยสิทธิทกาั้งหลายนั้น ท่าสํนว่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัากจะก่ อตั้งขึ้นได้แต่ด้วยอาศั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยอํานาจใน
ประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๙๙ ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติในประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น
ท่านว่าการได้มาโดยนิ ติกรรมซึ่งอสังหาริมทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาพย์หรือทรัพสํยสิ
านัทกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมกทรั า พย์นั้นไม่
บริบูรณ์ เว้นแต่นิติกรรมจะได้ทําเป็นหนังสือและได้จดทะเบียนการได้มากับพนักงานเจ้าหน้าที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีถ้ามีผกู้ได้ามาซึ่งอสังหาริสํามนัทรั พย์หรือทรัพยสิทธิอันเกี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่ยวกับอสังหาริสํมานัทรั พย์โดยทางอื่น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นอกจากนิติกรรม สิทธิของผู้ได้มานั้น ถ้ายังมิได้จดทะเบียนไซร้ ท่านว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทาง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทะเบียนไม่ได้ และสิทธิอันยังมิได้จดทะเบียนนั้น มิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดย
สํานักเสีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยค่าตอบแทนและโดยสุ กาจริต และได้จสํดทะเบี ยนสิทธิโดยสุจริตแล้กวา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๐๐ ถ้าได้จดทะเบี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนการโอนอสั
สํางนัหาริ มทรัพย์หรือทรัพยสิทกธิาอันเกี่ยวกับ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
อสังหาริมทรัพย์เป็นทางเสียเปรียบแก่บุคคลผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อน
สํานักไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้นอาจเรี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยกให้เพิกถอนการจดทะเบี ยนนั้นได้ แต่กาการโอนอันมีคสํ่าานัตอบแทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ซึ่งผู้รับ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โอนกระทําการโดยสุจริตนั้น ไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใด ท่านว่าจะเรียกให้เพิกถอนทะเบียนไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๐๑ บทบั ญ ญั ติ แ ห่ ง สองมาตราก่ อ นนี้ ท่ า นให้ ใ ช้ บั ง คั บ ถึ ง การ
สํานักเปลี ่ยนแปลง ระงับ และกลั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บคืนมาแห่สํงทรั
านักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริ
กา มทรัพย์นั้นด้สํวายโดยอนุ โลม
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖๘
มาตรา ๑๒๗๔ - ๑๒๙๗ ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๑ แห่งประมวล
สํานักกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี
งและพาณิชย์ทกี่ไาด้ตรวจชําระใหม่สําพ.ศ.
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๕๓๕ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๐๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
๖๙
มาตรา ๑๓๐๒ บทบัญญัติแห่งสามมาตราก่อนนี้ ให้ใช้บังคับถึงเรือมีระวางตั้งแต่
สํานักห้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าตันขึ้นไป ทั้งแพและสักตา ว์พาหนะด้วยโดยอนุ โลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๐๓ ถ้าบุคคลหลายคนเรี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยกเอาสั
สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
หาริมทรัพย์เดียวกันโดยอาศั
กา ยหลัก
กรรมสิทธิ์ต่างกันไซร้ ท่านว่าทรัพย์สินตกอยู่ในครอบครองของบุคคลใด บุคคลนั้นมีสิทธิยิ่งกว่าบุคคล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อื่น ๆ แต่ต้องได้ทรัพย์นั้นมาโดยมีค่าตอบแทนและได้การครอบครองโดยสุจริต
สํท่านัา นมิ ให้ ใช้ มาตรานี้บังคับกถึางสังหาริมทรัสํพานัย์กซงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ึ่งระบุไว้ในมาตราก่อนและในเรื
กา ่อง
ทรัพย์สินหาย กับทรัพย์สินที่ได้มาโดยการกระทําผิด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๐๔ สาธารณสมบัติของแผ่นดินนั้น รวมทรัพย์สินทุกชนิดของแผ่นดินซึ่ง
ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ร่วมกัน เช่
สํานนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ที่ดินรกร้างว่างเปล่า และที่ดินซึ่งมีผู้เวนคืนหรือทอดทิ้งหรือกลับมาเป็นของ
สํานักแผ่ นดินโดยประการอื่น กตามกฎหมายที
งานคณะกรรมการกฤษฎี า สํ่ดานัินกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ทรัพย์สินสําหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน เป็นต้นว่าที่ชายตลิ่ง ทางน้ํา ทางหลวง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทะเลสาบ
(๓) ทรัพย์สินใช้เพื่อสํประโยชน์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ของแผ่นดินโดยเฉพาะ เป็นต้นว่าสํป้านัอกมงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และโรงทหาร กา
สํานักราชการบ้านเมือง เรือรบ อาวุธยุทธภัณฑ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๐๕ ทรัพย์สินซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินนั้นจะโอนแก่กันมิได้เว้น
สํานักแต่ อาศัยอํานาจแห่งบทกฎหมายเฉพาะหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
พระราชกฤษฎีกา กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๐๖ ท่ า นห้ า มมิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ใ ห้ ย กอายุ คสํวามขึ ้ น เป็ น ข้ อ ต่ อ สู้ กั บ แผ่กนาดิ น ในเรื่ อ ง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๐๗ ท่านห้ามมิให้ยึดทรัพย์สินของแผ่นดินไม่ว่าทรัพย์สินนั้นจะเป็นสา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ธารณสมบัติของแผ่นดินหรือไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกกรรมสิ
า ทธิ์ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


หมวด ๑
การได้กมา าซึ่งกรรมสิทสํธิา์ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖๙
มาตรา ๑๓๐๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ.ก๒๕๔๘
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๐๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๓๐๘ ที่ดินแปลงใดเกิดที่งอกริมตลิ่ง ที่งอกย่อมเป็นทรัพย์สินของเจ้าของ
สํานักทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ดินแปลงนั้น กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๐๙ เกาะที่ เ กิกดาในทะเลสาบสําหรื


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ในทางน้ํ า หรื อ ในเขตน่
กา า นน้ํ า ของ
ประเทศก็ดี และท้องทางน้ําที่เขินขึ้นก็ดี เป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๑๐ บุ ค คลใดสร้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา า งโรงเรื อ นในที
สํานัก่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ดิ น ของผู้ อื่ น โดยสุ จ ริ ตกไซร้
า ท่ า นว่ า
เจ้าของที่ดินเป็นเจ้าของโรงเรือนนั้น ๆ แต่ต้องใช้ค่าแห่งที่ดินเพียงที่เพิ่มขึ้นเพราะสร้างโรงเรือนนั้น
สํานักให้ แก่ผู้สร้าง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่ถ้าเจ้าของที่ดินสามารถแสดงได้ว่า มิได้มีความประมาทเลินเล่อจะบอกปัดไม่
ยอมรับโรงเรือนนัสํ้นาและเรี ยกให้ผู้สร้างรื้อถอนไป
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา และทําที่ดินสําให้นักเป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นตามเดิมก็ได้ เว้นไว้แกต่า ถ้าการนี้จะ
ทําไม่ได้โดยใช้เงินพอสมควรไซร้ ท่านว่าเจ้าของที่ดินจะเรียกให้ผู้สร้างซื้อที่ดินทั้งหมดหรือแต่บางส่วน
สํานักตามราคาตลาดก็ ได้ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๑๑ บุคคลใดสร้างโรงเรือนในที ่ดินของผู้อื่นโดยไม่สุจริตไซร้ ท่านว่า
บุคคลนั้นต้องทําที่ดินให้เป็นตามเดิมแล้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วส่งคืนเจ้าของ เว้นแต่เจ้าของจะเลือกให้สํสานั่งคืกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามที่เป็นอยู่ กา
ในกรณีเช่นนี้เจ้าของที่ดินต้องใช้ราคาโรงเรือนหรือใช้ค่าแห่งที่ดินเพียงที่เพิ่มขึ้นเพราะสร้างโรงเรือน
นั้นแล้วแต่จะเลือสํกานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๓๑๒ บุคคลใดสร้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี างโรงเรือนรุกล้ําเข้กาาไปในที่ดินของผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้อกื่นงานคณะกรรมการกฤษฎี
โดยสุจริตไซร้ กา
ท่านว่าบุคคลนั้นเป็นเจ้าของโรงเรือนที่สร้างขึ้น แต่ต้องเสียเงินให้แก่เจ้าของที่ดินเป็นค่าใช้ที่ดินนั้น
และจดทะเบียนสิสํทาธินัเกป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นภาระจํายอมต่อภายหลั กา งถ้าโรงเรือนนั
สํานั้นกสลายไปทั ้งหมด เจ้าของที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ดินจะเรียก
ให้เพิกถอนการจดทะเบียนเสียก็ได้
ถ้าบุคคลผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้สร้างโรงเรืสํอานนั ้นกระทําการโดยไม่สุจกริาต ท่านว่าเจ้าสํของที
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ดินจะเรียกให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้สร้างรื้อถอนไป และทําที่ดินให้เป็นตามเดิมโดยผู้สร้างเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๑๓๑๓ ถ้าผูสํ้เาป็นันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เจ้าของที่ดินโดยมีเงื่อกนไขสร้
า างโรงเรืสํอานในที ่ดินนั้น และ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ภายหลังที่ดินตกเป็นของบุคคลอื่นตามเงื่อนไขไซร้ ท่านให้นําบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ว่า
ด้วยลาภมิควรได้มสําาใช้
นักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ังคับ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๓๑๔ ท่านให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักใช้งานคณะกรรมการกฤษฎี
บทบัญญัติมาตรา ๑๓๑๐,
กา ๑๓๑๑ สํและ ๑๓๑๓ บังคับ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตลอดถึงการก่อสร้างใด ๆ ซึ่งติดที่ดินและการเพาะปลูกต้นไม้หรือธัญชาติด้วยโดยอนุโลม
สํแต่
านัขก้างานคณะกรรมการกฤษฎี
วหรือธัญชาติอย่างอื่นกอัานจะเก็บเกี่ยวรวงผลได้ คราวหนึ่งหรือหลายคราวต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อปี
เจ้ าของที่ ดินต้องยอมให้ บุคคลผู้ กระทํ าการโดยสุจริต หรือผู้เป็นเจ้าของที่ดินโดยมีเงื่อนไขซึ่ งได้
สํานักเพาะปลู กลงไว้นั้นคงครองที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ดินจนกว่าสํจะเสร็ จการเก็บเกี่ยวโดยใช้กเางินคํานวณตามเกณฑ์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ค่าเช่าที่ดิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นั้น หรือเจ้าของทีสํ่ดานัินกจะเข้ าครอบครองในทันทีโดยใช้ค่าทดแทนให้
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แก่อีกฝ่ายหนึ่งก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


- ๒๐๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๓๑๕ บุคคลใดสร้างโรงเรือน หรือทําการก่อสร้างอย่างอื่นซึ่งติดที่ดิน หรือ
สํานักเพาะปลู ก ต้ น ไม้ ห รื อ ธั ญกาชาติ ใ นที่ ดิ น ของตนด้
งานคณะกรรมการกฤษฎี ว ยสั ม ภาระของผูก้ อาื่ น ท่ า นว่า บุ คสํคลนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ น เป็ น เจ้ า ของ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สัมภาระแต่ต้องใช้ค่าสัมภาระ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๑๖ ถ้าเอาสังหาริมทรัพย์ของบุคคลหลายคนมารวมเข้ากันจนเป็นส่วน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ควบหรือแบ่งแยกไม่ได้ไซร้ ท่านว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นเจ้าของรวมแห่งทรัพย์ที่รวมเข้ากันแต่ละคนมี
ส่วนตามค่าแห่งทรัสําพนัย์กขงานคณะกรรมการกฤษฎี
องตนในเวลาที่รวมเข้ากกัา บทรัพย์อื่น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าทรัพย์อันหนึ่งอาจถือได้ว่าเป็นทรัพย์ประธานไซร้ ท่านว่าเจ้าของทรัพย์นั้นเป็น
สํานักเจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าของทรัพย์ที่รวมเข้ากักนา แต่ผู้เดียว แต่สําตนั้อกงใช้ ค่าแห่งทรัพย์อื่น ๆ ให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาแก่เจ้าของทรัสํพานัย์กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ั้น ๆ กา

สํมาตรา ๑๓๑๗ บุคคลใดใช้สกัมา ภาระของบุคสํคลอื


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่นทําสิ่งใดขึ้นใหม่ไซร้ ท่กาานว่าเจ้าของ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สัมภาระเป็ นเจ้าของสิ่ งนั้นโดยมิต้องคํ านึงว่ าสัมภาระนั้นจะกลับคืนตามเดิม ได้ หรือไม่แ ต่ต้องใช้
สํานักค่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าแรงงาน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่ถ้าค่าแรงงานเกินกว่าค่าสัมภาระที่ใช้นั้นมากไซร้ ท่านว่าผู้ทําเป็นเจ้าของทรัพย์ที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทําขึ้น แต่ต้องใช้ค่าสัมภาระ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๑๘ บุคคลอาจได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์แห่งสังหาริมทรัพย์อันไม่มีเจ้าของโดย
เข้าถือเอา เว้นแต่สํกานัารเข้ าถือเอานั้นต้องห้ามตามกฎหมายหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํอานัฝ่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
ฝืนสิทธิของบุคคลอื่นทีก่จาะเข้าถือเอา
สังหาริมทรัพย์นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๑๙ ถ้ าเจ้ าของสังหาริม ทรัพย์ เลิกครอบครองทรั พย์ ด้วยเจตนาสละ
กรรมสิทธิ์ไซร้ ท่าสํนว่
านัากสังานคณะกรรมการกฤษฎี
งหาริมทรัพย์นั้นไม่มีเจ้กาาของ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๓๒๐ ภายในบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
คับแห่งกฎหมายเฉพาะและกฎข้
กา อบังคัสํบานัในเรื ่องนั้นท่านว่า
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สัตว์ป่าไม่มีเจ้าของตราบเท่าที่ยังอยู่อิสระ สัตว์ป่าในสวนสัตว์และปลาในบ่อ หรือในที่น้ําซึ่งเจ้าของกั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไว้นั้น ท่านว่าไม่ใช่สัตว์ไม่มีเจ้าของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีสัตว์ปก่าาที่คนจับได้นั้นสําถ้นัากมังานคณะกรรมการกฤษฎี
นกลับคืนอิสระและเจ้กาาของไม่ติดตามโดยพลั นหรือเลิก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ติดตามเสียแล้ว ฉะนี้ท่านว่าไม่มีเจ้าของ
สํสัาตนัว์กซงานคณะกรรมการกฤษฎี
ึ่งเลี้ยงเชื่องแล้ว ถ้ามันกทิา้งที่ไปเลย ท่าสํนว่
านัากไม่ มีเจ้าของ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๑๓๒๑ ภายในบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
คับแห่งกฎหมายเฉพาะและกฎข้
กา อบังสํคัานับกในเรื ่องนั้น ผู้ใด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จับสัตว์ป่าได้ในที่รกร้างว่างเปล่าหรือในที่น้ําสาธารณะก็ดี หรือจับได้ในที่ดิน หรือที่น้ํามีเจ้าของโดย
เจ้าของมิได้แสดงความหวงห้ ามก็ดี ท่านว่าผู้นกั้นาเป็นเจ้าของสัสํตาว์นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๑๓๒๒ บุคคลใดทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าให้สัตว์ป่าบาดเจ็บแล้กาวติดตามไปและบุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักคงานคณะกรรมการกฤษฎี
คลอื่นจับสัตว์ กา
นั้นได้ก็ดี หรือสัตสํว์านนัั้นกตายลงในที ่ดินของบุคคลอื่นก็ดีท่านว่าบุสําคนัคลแรกเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นเจ้าของสัตว์
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๓๒๓ บุคคลเก็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ซึ่งทรัพย์สินหาย ต้อกงทํา าอย่างหนึ่งอย่
สําานังใดดั ่งต่อไปนี้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๒๑๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
(๑) ส่ ง มอบทรั พ ย์ สิ น นั้ น แก่ ผู้ ข องหายหรื อ เจ้ า ของ หรื อ บุ ค คลอื่ น ผู้ มี สิ ท ธิ จ ะรั บ
สํานักทรั พย์สินนั้น หรือ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) แจ้งแก่ผู้ของหายหรือเจ้าของ หรือบุคคลอื่นผู้มีสิทธิจะรับทรัพย์สินนั้นโดยมิ
ชักช้า หรือ สํ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓)๗๐ ส่งมอบทรัพย์สินนั้นแก่เจ้าพนักงานตํารวจ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่อื่นภายใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สามวันและแจ้งพฤติการณ์ตามที่ทราบอันอาจเป็นเครื่องช่วยในการสืบหาตัวบุคคลผู้มีสิทธิจะรับ
ทรัพย์สินนั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่ถ้าไม่ทราบตัวผู้ของหาย เจ้าของ หรือบุคคลอื่นผู้มีสิทธิจะรับทรัพย์สินก็ดี หรือ
สํานักบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
คคลดั่งระบุนั้นไม่รับมอบทรั
กา พย์สินก็ดสํี าท่นัากนให้ ดําเนินการตามวิธีอกันาบัญญัติไว้ในอนุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํามนัาตรา (๓)
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทั้งนี้ ท่านว่าผู้เก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหายต้องรักษาทรัพย์สินนั้นไว้ด้วยความระมัดระวัง
อันสมควรจนกว่าสํจะส่านักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
มอบ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๓๒๔๗๑ ผูสํ้เก็านับกได้งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ซึ่งทรัพย์สินหาย อาจเรี
กา ยกร้องเอารางวั
สํานักลงานคณะกรรมการกฤษฎี
จากบุคคลผู้มี กา
สิทธิจะรับทรัพย์สินนั้นเป็นจํานวนร้อยละสิบแห่งค่าทรัพย์สินภายในราคาสามหมื่นบาทและถ้าราคา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สูงกว่านั้นขึ้นไปให้ คิดให้อีกร้อยละห้าในจํานวนที่เพิ่มขึ้น แต่ ถ้าผู้เก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหายได้ส่งมอบ
ทรั พย์ สิ น แก่เจ้ าพนั กงานตํ ารวจหรือสํพนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กงานเจ้ าหน้ าที่อื่น ให้เสียเงิ นอีกร้อยละสองครึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ งแห่งค่ า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทรัพย์สินเป็นค่าธรรมเนียมแก่ทบวงการนั้น ๆ เพิ่มขึ้นเป็นส่วนหนึ่งต่างหากจากรางวัลซึ่งให้แก่ผู้เก็บ
ได้แต่ค่าธรรมเนียสํมนี านั้ใกห้งานคณะกรรมการกฤษฎี
จํากัดไว้ไม่เกินหนึ่งพันกบาท
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าผู้เก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหายมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติในมาตราก่อนไซร้ท่านว่า
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นั้นไม่มีสิทธิจะรับรางวักลา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๒๕ ถ้าผู้เก็บได้กซาึ่งทรัพย์สินหายได้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักปงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฏิบัติตามบทบัญญัติมกาตรา
า ๑๓๒๓
แล้ว และผู้มีสิทธิจะรับทรัพย์สินนั้นมิได้เรียกเอาภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่เก็บได้ไซร้ ท่านว่ากรรมสิทธิ์
สํานักตกแก่ ผู้เก็บได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่ถ้าทรัพย์สินซึ่งไม่มีผู้เรียกเอานั้นเป็นโบราณวัตถุไซร้ กรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สินนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตกแก่แผ่นดิน แต่ผู้เก็บได้มีสิทธิจะได้รับรางวัลร้อยละสิบแห่งค่าทรัพย์สินนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๒๖ การเก็บได้ซึ่งทรัพย์สินอันตกหรือทิ้งทะเล หรือทางน้ํา หรือน้ําซัดขึ้น
ฝั่งนั้น ท่านให้บังคัสํบานัตามกฎหมายและกฎข้ อบักงาคับว่าด้วยการนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๓๒๗ ภายในบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
คับแห่งกฎหมายอาญากากรรมสิทธิ์แห่สํงสิานั่งกใดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ๆ ซึ่งได้ใช้ใน กา
การกระทําผิด หรือได้มาโดยการกระทําผิด หรือเกี่ยวกับการกระทําผิดโดยประการอื่น และได้ส่งไว้ใน
ความรักษาของกรมในรั ฐบาลนั้น ท่านว่าตกเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กานของแผ่นดินสําถ้นัากเจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าของมิได้เรียกเอาภายในหนึ
กา ่งปีนับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๐
มาตรา ๑๓๒๓ (๓) วรรคหนึ่ง แก้ไ ขเพิ่ มเติ ม โดยพระราชบัญ ญั ติแ ก้ ไขเพิ่ มเติ ม ประมวล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ. ๒๕๔๘
๗๑
มาตรา ๑๓๒๔ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา พ.ศ. ๒๕๔๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๔) สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๑๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
แต่วันส่ง หรือถ้าได้ฟ้องคดีอาญาต่อศาลแล้วนับแต่วันที่คําพิพากษาถึงที่สุด แต่ถ้าไม่ทราบตัวเจ้าของ
สํานักท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านให้ผ่อนเวลาออกไปเป็ กา นห้าปี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าทรัพย์สินเป็นของเสียง่าย หรือถ้าหน่วงช้าไว้จะเป็นการเสี่ยงความเสียหายหรือ
ค่าใช้จ่ายจะเกินส่วานกั
สํ บค่าของทรัพย์สินนั้นไซร้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ท่านว่ากรมในรั
สํานักฐงานคณะกรรมการกฤษฎี
บาลจะจัดให้เอาออกขายทอดตลาด
กา
ก่อนถึงกําหนดก็ได้ แต่ก่อนที่จะขายให้จัดการตามควรเพื่อบันทึกรายการอันเป็นเครื่องให้บุคคลผู้มี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิทธิจะรับทรัพย์สินนั้นอาจทราบว่าเป็นทรัพย์สินของตนและพิสูจน์สิทธิได้ เมื่อขายแล้วได้เงินเป็น
จํานวนสุทธิเท่าใดให้
สํานัถกืองานคณะกรรมการกฤษฎี
ไว้แทนตัวทรัพย์สิน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๒
มาตรากา ๑๓๒๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํสัางนัหาริ ม ทรั พ ย์ มี ค่ า ซึ่ ง ซ่ อ นหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ ฝั ง ไว้ นั้ นสําถ้นัากมีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้ เ ก็ บ ได้ โ ดย กา
พฤติการณ์ซึ่งไม่มีผู้ใดสามารถอ้างว่าเป็นเจ้าของได้ ให้กรรมสิทธิ์ตกเป็นของแผ่นดิน ผู้เก็บได้ต้องส่ง
มอบทรัพย์นั้นแก่สํเจ้านัากพนั กงานตํารวจหรือพนักกางานเจ้าหน้าทีสํ่อาื่นนักแล้
งานคณะกรรมการกฤษฎี วมีสิทธิจะได้รับรางวักลาหนึ่งในสาม
งานคณะกรรมการกฤษฎี
แห่งค่าทรัพย์นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๒๙ สิทธิของบุคคลผู้ได้มาซึ่งทรัพย์สินโดยมีค่าตอบแทนและโดยสุจริต
นั้น ท่านว่ามิเสียไป ถึงแม้ว่าผู้โอนทรัพย์สินให้จะได้ทรัพย์สินสํนัานั้นกมาโดยนิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ติกรรมอันเป็นโมฆียะและนิติ
กรรมนั้นได้ถูกบอกล้างภายหลัง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๓๐ สิทธิของบุกคาคลผู้ซื้อทรัพย์สําสนัินกโดยสุ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี จริตในการขายทอดตลาดตาม
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
คําสั่งศาล หรือคําสั่งเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์ในคดีล้มละลายนั้น ท่านว่ามิเสียไป ถึงแม้ภายหลังจะ
สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
สูจน์ได้ว่าทรัพย์สินนั้นกมิาใช่ของจําเลยสํหรื
านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ลูกหนี้โดยคําพิพากษากหรื
า อผู้ล้มละลายสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๓๑ สิทธิของบุกคาคลผู้ได้เงินตรามาโดยสุ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี จริตนั้น ท่านว่ามิกเสีา ยไป ถึงแม้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ภายหลังจะพิสูจน์ได้ว่าเงินนั้นมิใช่ของบุคคลซึ่งได้โอนให้มา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๓๒ บุ ค คลผู้ ซื้ อ ทรั พ ย์ สิ น มาโดยสุ จ ริ ต ในการขายทอดตลาดหรื อ ใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ท้องตลาด หรือจากพ่อค้าซึ่งขายของชนิดนั้น ไม่จําต้องคืนให้แก่เจ้าของแท้จริง เว้นแต่เจ้าของจะ
สํานักชดใช้ ราคาที่ซื้อมา กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๓๓ ท่านว่ากรรมสิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ทธิ์ นั้ น อาจได้
สํานักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
าโดยอายุความตามทีก่บา ัญญัติไว้ใน
ลักษณะ ๓ แห่งบรรพนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๓๔ ที่ดินรกร้างว่างเปล่า และที่ดินซึ่งมีผู้เวนคืนหรือทอดทิ้งหรือกลับมา
เป็นของแผ่นดินโดยประการอื ่นตามกฎหมายทีกา่ดินนั้น ท่านว่าสํบุานัคกคลอาจได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตามกฎหมายที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ดิน

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แดนแห่งกรรมสิทธิ์ และการใช้สํกานัรรมสิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทธิ์
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๒
มาตรา ๑๓๒๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ.ก๒๕๔๘
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๑๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๓๓๕ ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติในประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น
ท่านว่าแดนแห่งกรรมสิ ทธิ์ที่ดินนั้นกินทั้งเหนือกพืา ้นดินและใต้พสํื้นานัดิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ด้วย กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๓๓๖ ภายในบังคับ แห่งกฎหมาย เจ้ า ของทรั พย์ สิ นมีสิท ธิ ใ ช้ส อยและ
จํา หน่ า ยทรั พ ย์ สสํิ นานัของตนและได้ ซึ่ ง ดอกผลแห่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง ทรั พ ย์ สิ นสํนัานั้ นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
กั บทั้ ง มี สิ ท ธิ ติ ด ตามและเอาคื
กา น ซึ่ ง
ทรัพย์สินของตนจากบุคคลผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ และมีสิทธิขัดขวางมิให้ผู้อื่นสอดเข้าเกี่ยวข้องกับ
สํานักทรั พย์สินนั้นโดยมิชอบด้กวายกฎหมาย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๓๗ บุคคลใดใช้กาสิทธิของตนเป็สํานนัเหตุ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ให้เจ้าของอสังหาริมกาทรัพย์ได้รับ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ความเสียหาย หรือเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติและเหตุอันควรใน
สํานักเมืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อเอาสภาพและตําแหน่
กางที่อยู่แห่งทรัสํพาย์นัสกินงานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้นมาคํานึงประกอบไซร้
กา ท่านว่าเจ้าของอสั งหาริมทรัพย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มีสิทธิจะปฏิบัติการเพื่อยังความเสียหายหรือเดือดร้อนนั้นให้สิ้นไป ทั้งนี้ไม่ลบล้างสิทธิที่จะเรียกเอาค่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทดแทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๓๘ ข้อจํากัดสิทธิแห่งเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ซึ่งกฎหมายกําหนดไว้นั้น
ท่านว่าไม่จําต้องจดทะเบี ยน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อจํากัดเช่นนี้ ท่านว่าจะถอนหรือแก้ให้หย่อนลงโดยนิติกรรมไม่ได้นอกจากจะได้ทํา
สํานักนิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ติกรรมเป็นหนังสือและจดทะเบี
กา ยนกับสํพนั
านักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานเจ้าหน้าที่ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อจํากัดซึ่งกําหนดไว้เพื่อสาธารณประโยชน์นั้น ท่านว่าจะถอนหรือแก้ให้หย่อนลง
มิได้เลย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๓๓๙ เจ้าของที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ดินจําต้องรับน้ําซึ่งไหลตามธรรมดาจากที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัก่ดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ินสูงมาในที่ดิน กา
ของตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
น้ําไหลตามธรรมดามายังที่ดินต่ํา และจําเป็นแก่ที่ดินนั้นไซร้ ท่านว่าเจ้าของที่ดินซึ่ง
สํานักอยู ่สูงกว่าจะกันเอาไว้ได้กเพีา ยงที่จําเป็นแก่
งานคณะกรรมการกฤษฎี สําทนักี่ดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ินของตน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๔๐ เจ้าของที่ดินกาจําต้องรับน้ําซึสํ่งาไหลเพราะระบายจากที


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ดินกสูางมาในที่ดิน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของตน ถ้าก่อนที่ระบายนั้นน้ําได้ไหลเข้ามาในที่ดินของตนตามธรรมดาอยู่แล้ว
ถ้าได้รกับา ความเสียหายเพราะการระบายน้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ํา ท่านว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาาเจ้าของที่ดินสํต่านัํากอาจเรี ยกร้องให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เจ้าของที่ดินสูงทําทางระบายน้ําและออกค่าใช้จ่ายในการนั้น เพื่อระบายน้ําไปให้ตลอดที่ดินต่ําจนถึง
ทางน้ํา หรือท่อน้สํําสาธารณะ ทั้งนี้ไม่ลบล้างสิทกาธิแห่งเจ้าของทีสํา่ดนัินกต่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ําในอันจะเรียกเอาค่าทดแทน กา

มาตรากา๑๓๔๑ ท่านมิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัให้กเงานคณะกรรมการกฤษฎี
จ้าของอสังหาริมทรัพย์กทา ําหลังคาหรือสํการปลู กสร้างอย่าง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อื่น ซึ่งทําให้น้ําฝนตกลงยั งทรัพย์สินซึ่งอยู่ติดต่อกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


- ๒๑๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๓๔๒ บ่อ สระ หลุมรับน้ําโสโครก หรือหลุมรับปุ๋ย หรือขยะมูลฝอยนั้น
สํานักท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านว่าจะขุดในระยะสองเมตรจากแนวเขตที
กา ่ดินไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คูหรือการขุดร่องเพื่อวางท่อน้ําใต้ดินหรือสิ่งอื่นซึ่งคล้ายกันนั้น ท่านว่าจะทําใกล้แนว
เขตที่ดินกว่าครึ่งหนึ
สํ านั่งกแห่ งส่วนลึกของคูหรือร่กอางนั้นไม่ได้ แต่สํถานั้ากทํงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี าห่างแนวเขตหนึ่งเมตรหรื กา อกว่านั้น
ท่านว่าทําได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ า กระทําการดั่งกล่ าวไว้ใ นสองวรรคก่ อนใกล้ แ นวเขตไซร้ ท่านว่ าต้ องใช้ ค วาม
ระมัดระวังตามควร สํานัเพื ่อป้องกันมิให้ดินหรือทรายพั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งลง หรือสํมิาในัห้กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ําหรือสิ่งโสโครกซึมเข้ากไปา

มาตรากา๑๓๔๓ ห้ามมิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําในัห้กขงานคณะกรรมการกฤษฎี
ุดดินหรือบรรทุกน้ําหนักากบนที่ดินเกินสํควรจนอาจเป็ นเหตุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อันตรายแก่ความอยู่มั่นแห่งที่ดินติดต่อ เว้นแต่จะจัดการเพียงพอเพื่อป้องกันความเสียหาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๔๔ รั้ว กําแพง รั้วต้นไม้ คู ซึ่งหมายเขตที่ดินนั้น ท่านให้สันนิษฐานไว้
สํานักก่งานคณะกรรมการกฤษฎี
อนว่าเจ้าของที่ดินทั้งสองข้
กา างเป็นเจ้าของรวมกั น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๔๕ เมื่อรั้วต้นไม้ หรือคูซึ่งมิได้สํใช้านัเป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทางระบายน้ําเป็นของเจ้ าของที่ดิน
ทั้งสองข้างรวมกัน ท่านว่าเจ้าของข้าสํงใดข้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
างหนึ่งมีสิทธิที่จะตัดรั้วต้นไม้ หรือถมคู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นั้นได้ถึงแนวเขต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่ดินของตน แต่ต้องก่อกําแพง หรือทํารั้วตามแนวเขตนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๔๖ ถ้ามีต้นไม้อยู่บนแนวเขตที่ดิน ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเจ้าของ
สํานักทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ดินทั้งสองข้างเป็นเจ้ากของต้
า นไม้รวมกัสํานนักดอกผลเป็ นของเจ้าของทีกา่ดินคนละส่วนเสมอกั
งานคณะกรรมการกฤษฎี น และถ้าตัด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ต้นลงไซร้ ไม้นั้นเป็นของเจ้าของที่ดินคนละส่วนดุจกัน
สํเจ้านัาของแต่ ละฝ่ายจะต้องการให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ขุดหรือตัสํดาต้นันกไม้ ก็ได้ ค่าใช้จ่ายในการนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นต้องเสีย
เท่ากันทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าเจ้าของอีกฝ่ายหนึ่งสละสิทธิในต้นไม้ไซร้ ฝ่ายที่ต้องการขุดหรือตัดต้องเสีย
สํานักค่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าใช้จ่ายฝ่ายเดียว ถ้าต้กนา ไม้นั้นเป็นหลัสํากนัเขตและจะหาหลั กเขตอื่นกาไม่เหมาะเหมือสํานนักท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี านว่าฝ่ายหนึ่ง กา
ฝ่ายใดจะต้องการให้ขุดหรือตัดไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๑๓๔๗ เจ้าของที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก่ดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ินอาจตัดรากไม้ซึ่งรุกเข้
กาามาจากที่ดินติสําดนัต่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
และเอาไว้เสีย กา
ถ้ากิ่งไม้ยื่นล้ําเข้ามา เมื่อเจ้าของที่ดินได้บอกผู้ครอบครองที่ดินติดต่อให้ตัดภายในเวลาอันสมควรแล้ว
แต่ผู้นั้นไม่ตัด ท่าสํนว่านัากเจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าของที่ดินตัดเอาเสียได้กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๓๔๘ ดอกผลแห่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งต้นไม้ที่หล่นตามธรรมดาลงในที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ดินสํติาดนัต่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
แปลงใด ท่าน กา
ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นดอกผลของที่ดินแปลงนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๔๙ ที่ ดิ น แปลงใดมี ที่ ดิ น แปลงอื่ น ล้ อ มอยู่ จ นไม่ มี ท างออกถึ ง ทาง
สํานักสาธารณะได้ ไซร้ ท่านว่ากเจ้า าของที่ดินแปลงนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้นจะผ่านที่ดินซึ่งล้อมอยูกา่ไปสู่ทางสาธารณะได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่ดินแปลงใดมีทางออกได้แต่เมื่อต้องข้ามสระ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บึง หรือทะเล หรือมีที่ชันอันระดับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่ดินกับทางสาธารณะสูงกว่ากันมากไซร้ ท่านว่าให้ใช้ความในวรรคต้นบังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๑๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ที่และวิธีทําทางผ่านนั้นต้องเลือกให้พอควรแก่ความจําเป็นของผู้มีสิทธิจะผ่านกับทั้ง
สํานักให้ คํานึงถึงที่ดินที่ล้อมอยูกา่ให้เสียหายแต่สํนา้อนัยที
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่สุดที่จะเป็นได้ ถ้าจําเป็กานผู้มีสิทธิจะผ่สําานจะสร้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี างถนนเป็น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทางผ่านก็ได้
สํผูา้มนัีสกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิทธิจะผ่านต้องใช้ค่าทดแทนให้
กา แก่เจ้าสํของที ่ดินที่ล้อมอยู่เพื่อความเสี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยหายอัน
เกิดแต่เหตุที่มีทางผ่านนั้น ค่าทดแทนนั้นนอกจากค่าเสียหายเพราะสร้างถนน ท่านว่าจะกําหนดเป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เงินรายปีก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๕๐ ถ้าที่ดินแบ่งแยกหรือแบ่งโอนกันเป็นเหตุให้แปลงหนึ่งไม่มีทางออก
สํานักไปสู ่ทางสาธารณะไซร้ กท่าานว่าเจ้าของที
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่ดกินงานคณะกรรมการกฤษฎี
แปลงนั้นมีสิทธิเรียกร้กอา งเอาทางเดินสํตามมาตราก่ อนได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เฉพาะบนที่ดินแปลงที่ได้แบ่งแยกหรือแบ่งโอนกันและไม่ต้องเสียค่าทดแทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๕๑ เจ้าของที่ดิน เมื่อบอกล่วงหน้าตามสมควรแล้ว อาจใช้ที่ดินติดต่อ
สํานักเพี ยงที่จําเป็นในการปลูกกาสร้างหรือซ่อมแซมรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้ว กําแพง หรือโรงเรือกาน ตรงหรือใกล้สําแนันวเขตของตนแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จะเข้าไปในเรือนที่อยู่ของเพื่อนบ้านข้างเคียงไม่ได้ เว้นแต่ได้รับความยินยอม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ า ได้ ก่ อ ความเสี ย หายให้ เ กิ ด ขึ้ น ไซร้ ท่ าสํนว่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
า เพื่ อ นบ้ า นข้ า งเคี ย งจะเรี ย กเอาค่ า
ทดแทนก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๕๒ ท่านว่าถ้าเจ้กาาของที่ดินได้สํรับานัค่กางานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ทดแทนตามสมควรแล้กวาต้องยอมให้
ผู้อื่นวางท่อน้ํา ท่อระบายน้ํา สายไฟฟ้า หรือสิ่งอื่นซึ่งคล้ายกันผ่านที่ดินของตน เพื่อประโยชน์แก่ที่ดิน
สํานักติงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดต่อ ซึ่งถ้าไม่ยอมให้ผก่าา นก็ไม่มีทางจะวางได้ หรือถ้าจะวางได้กก็เาปลืองเงินมากเกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกควรแต่ เจ้าของ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ที่ดินอาจให้ยกเอาประโยชน์ของตนขึ้นพิจารณาด้วย
สํเมืานั่อกมีงานคณะกรรมการกฤษฎี
เหตุผลพิเศษ ถ้าจะต้อกงวางเหนื
า อพื้นดิสํนานัไซร้ ท่านว่าเจ้าของที่ดินอาจเรี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยกให้ซื้อ
ที่ดินของตนบางส่วนตามควรที่จะใช้ในการนั้น โดยราคาคุ้มค่าที่ดินและค่าทดแทนความเสียหาย ซึ่ง
สํานักอาจมี เพราะการขายนั้นกด้าวย
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าพฤติการณ์เปลี่ยนไป เจ้าของที่ดินอาจเรียกให้ย้ายถอนสิ่งที่วางนั้นไปไว้ ณ ส่วน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อื่นแห่งที่ดินของตนตามแต่จะเหมาะแก่ประโยชน์แห่งเจ้าของที่ดิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ค่าย้ายถอนนั กา ้น เจ้าของที
สํานัก่ดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ินติดต่อเป็นผู้เสีย แต่ถก้าามีพฤติการณ์พสําิเศษไซร้ ท่านว่าจะ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ให้เจ้าของที่ดินอีกฝ่ายหนึ่งช่วยเสียค่าย้ายถอนตามส่วนอันควรก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๕๓ บุคคลอาจพาปศุสัตว์ของตนผ่านหรือเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นซึ่งมิได้
สํานักกังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นเพื่อไปเลี้ยง และอาจเข้
กา าไปเอาน้ําในบ่
สํานัอกหรื อสระในที่เช่นว่านั้นมาใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ได้ เว้นแต่ทสํี่ดานัินกเป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นที่เพาะปลูก กา
หรือเตรียมเพื่อเพาะปลูก หว่านหรือมีธัญชาติขึ้นอยู่แล้ว แต่ท่านว่าเจ้าของที่ดินย่อมห้ามได้เสมอ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๕๔ ถ้ามีจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นให้ทําได้และถ้าเจ้าของไม่ห้าม บุคคล
สํานักอาจเข้ าไปในที่ป่า ที่ดงกหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า อในที่มีหญ้สําาเลี
นัก้ยงานคณะกรรมการกฤษฎี
งสัตว์ซึ่งเป็นที่ดินของผูก้อา ื่น เพื่อเก็บฟืสํนานัหรื อผลไม้ป่า ผัก
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เห็ด และสิ่งเช่นกัสํนานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


- ๒๑๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๓๕๕ เจ้าของที่ดินริมทางน้ํา หรือมีทางน้ําผ่าน ไม่มีสิทธิจะชักเอาน้ําไว้
สํานักเกิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นกว่าที่จําเป็นแก่ประโยชน์
กา ของตนตามควร ให้เป็นเหตุเสื่อมเสียกแก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ที่ดินแปลงอืสํ่านนัซึก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
อยู่ตามทางน้ํา กา
นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กรรมสิทธิ์รวม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๓๕๖ ถ้าทรัสําพนัย์กสงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ินเป็นของบุคคลหลายคนรวมกั
กา น ท่าสํนให้
านักใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ช้บทบัญญัติใน กา
หมวดนี้บังคับ เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๕๗ ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้เป็นเจ้าของรวมกันมีส่วนเท่ากัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๕๘ ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเจ้าของรวมมีสิท ธิ จัดการทรัพย์สิ น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รวมกัน
ในเรื่องจัดการตามธรรมดา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ท่านว่าพึงตกลงโดยคะแนนข้างมากแห่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งเจ้าของรวมแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ อาจทําสิ่งใดสิ่งหนึ่งในทางจัดการตามธรรมดาได้ เว้นแต่ฝ่ายข้างมากได้ตกลงไว้
เป็นอย่างอื่น แต่เสํจ้าานัของรวมคนหนึ ่ง ๆ อาจทํกาการเพื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่อรักษาทรั
สํานัพกย์งานคณะกรรมการกฤษฎี
สินได้เสมอ กา
ในเรื่องจัดการอันเป็นสาระสําคัญ ท่านว่าต้องตกลงกันโดยคะแนนข้างมากแห่ง
สํานักเจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าของรวม และคะแนนข้ กา างมากนั้นต้อสํงมี
านัสก่วงานคณะกรรมการกฤษฎี
นไม่ต่ํากว่าครึ่งหนึ่งแห่กงาค่าทรัพย์สิน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การเปลี่ ย นแปลงวั ต ถุ ที่ ป ระสงค์ นั้ น ท่ า นว่ า จะตกลงกั น ได้ ก็ แ ต่ เมื่ อ เจ้ า ของรวม
เห็นชอบทุกคน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๓๕๙ เจ้าของรวมคนหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ง ๆ อาจใช้สกิทาธิอันเกิดแต่กรรมสิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ทธิ์ครอบไปถึง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อต่อสู้บุคคลภายนอก แต่ในการเรียกร้องเอาทรัพย์สินคืนนั้น ท่านว่าต้องอยู่ใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บังคับแห่งเงื่อนไขที่ระบุไว้ในมาตรา ๓๐๒ แห่งประมวลกฎหมายนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๖๐ เจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ มีสิทธิใช้ทรัพย์สินได้ แต่การใช้นั้นต้องไม่ขัด
ต่อสิทธิแห่งเจ้าของรวมคนอื ่น ๆ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ มีสิทธิได้ดอกผลตามส่วนของตนที่
สํานักมีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ในทรัพย์สินนั้น กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๖๑ เจ้าของรวมคนหนึ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ง ๆ จะจํ
สํานัากหน่ ายส่วนของตน หรือกจํา านอง หรือ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ก่อให้เกิดภาระติดพันก็ได้
แต่ตัวกทรัา พย์สินนั้นจะจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัาหน่ าย จํานํา จํานอง หรืกอาก่อให้เกิดภาระติ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัดกงานคณะกรรมการกฤษฎี
พันได้ก็แต่ด้วย กา
ความยินยอมแห่งสํเจ้านัากของรวมทุ กคน
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


- ๒๑๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ถ้าเจ้าของรวมคนใดจําหน่าย จํานํา จํานอง หรือก่อให้เกิดภาระติดพันทรัพย์สินโดย
สํานักมิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้รับความยินยอมแห่กงเจ้
า าของรวมทุกสํคน แต่ภายหลังเจ้าของรวมคนนั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นได้เป็นเจ้สําาของทรั พย์สินแต่ผู้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เดียวไซร้ ท่านว่านิติกรรมนั้นเป็นอันสมบูรณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๖๒ เจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ จําต้องช่วยเจ้าของรวมคนอื่น ๆ ตามส่วน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ของตนในการออกค่าจัดการ ค่าภาษีอากร และค่ารักษา กับทั้งค่าใช้ทรัพย์สินรวมกันด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๖๓ เจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ มีสิทธิเรียกให้แบ่งทรัพย์สินได้ เว้นแต่จะมี
สํานักนิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ติกรรมขัดอยู่ หรือถ้ากวัตา ถุที่ประสงค์สํทาี่เนัป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
เจ้าของรวมกันนั้นมีลักกาษณะเป็นการถาวร ก็เรียกให้แบ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไม่ได้
สํสิาทนัธิกเงานคณะกรรมการกฤษฎี
รียกให้แบ่งทรัพย์สินนัก้นา ท่านว่าจะตัดสํโดยนิ ติกรรมเกินคราวละสิบกปีาไม่ได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ท่านว่าเจ้าของรวมจะเรียกให้แบ่งทรัพย์สินในเวลาที่ไม่เป็นโอกาสอันควรไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๖๔ การแบ่งทรัพย์สินพึงกระทําโดยแบ่งทรัพย์สินนั้นเองระหว่างเจ้าของ
รวม หรือโดยขายทรัพย์สินแล้วเอาเงินที่ขายได้แบ่งกัน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าเจ้าของรวมไม่ตกลงกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นว่าจะแบ่งทรัพย์สินอย่างไรไซร้ เมื่อเจ้าสํของรวมคนหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่งคน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใดขอ ศาลอาจสั่งให้เอาทรัพย์สินนั้นออกแบ่ง ถ้าส่วนที่แบ่งให้ไม่เท่ากันไซร้ จะสั่งให้ทดแทนกันเป็น
เงินก็ได้ ถ้าการแบ่สํางนัเช่กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ว่านี้ไม่อาจทําได้หรือกจะเสี
า ยหายมากนัสํานักกก็งานคณะกรรมการกฤษฎี
ดี ศาลจะสั่งให้ขายโดยประมู
กา ลราคา
กันระหว่างเจ้าของรวมหรือขายทอดตลาดก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๖๕ ถ้าเจ้าของรวมต้องรับผิดชอบร่วมกันต่อบุคคลภายนอกในหนี้อัน
เกี่ยวกับทรัพย์สินสํรวม หรือในหนี้ซึ่งได้ก่อขึ้นใหม่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เพื่อชําระหนีสํา้เนัดิกมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดั่งว่านั้นก็ดี ในเวลาแบ่กงาเจ้าของรวม
คนหนึ่ง ๆ จะเรียกให้เอาทรัพย์สินรวมนั้นชําระหนี้เสียก่อน หรือให้เอาเป็นประกันก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีถ้าเจ้ากของรวมคนหนึ
า สํา่งนัต้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
งรับผิดต่อเจ้าของรวมคนอื กา ่นในหนี้ สํซึา่ งนัเกิกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดจากการเป็น กา
เจ้าของรวม หรือในหนี้ซึ่งได้ก่อขึ้นใหม่เพื่อชําระหนี้เดิมดั่งว่านั้นก็ดี ในเวลาแบ่ง เจ้าของรวมผู้เป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เจ้าหนี้จะเรียกให้เอาส่วนซึ่งจะได้แก่ลูกหนี้ของตนในทรัพย์สินรวมนั้นชําระหนี้เสียก่อน หรือให้เอา
สํานักเป็ นประกันก็ได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิทธิที่กล่าวมาข้างต้นนี้อาจใช้แก่ผู้รับโอน หรือผู้สืบกรรมสิทธิ์ในส่วนของเจ้าของ
รวมนั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าจําเป็นจะต้องขายทรัพย์สินรวมไซร้ ท่านให้นําบทบัญญัติมาตราก่อนมาใช้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๖๖ เจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ ต้องรับผิดตามส่วนของตนเช่นเดียวกับผู้ขาย
ในทรัพย์สินซึ่งเจ้าสํของรวมคนอื ่น ๆ ได้รับไปในการแบ่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ลักษณะ ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ครอบครอง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


- ๒๑๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๓๖๗ บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตน ท่านว่าบุคคล
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นได้ซึ่งสิทธิครอบครองกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๖๘ บุคคลอาจได้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กามาซึ่งสิทธิครอบครองโดยผู ้อื่นยึดถือไว้ให้กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๓๖๙ บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินไว้ ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า บุคคลนั้น
ยึดถือเพื่อตน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๓๗๐ ผู้ครอบครองนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้น ท่านให้สันนิษฐานไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ก่อนว่าครอบครองโดยสุ จริต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โดยความสงบและโดยเปิดเผย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๗๑ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าบุคคลใดครอบครองทรัพย์สินเดียวกันสองคราวท่าน
สํานักให้ สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุกคา คลนั้นได้ครอบครองติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ดต่อกันตลอดเวลากา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๗๒ สิ ท ธิ ซึ่ ง ผู้ ค รอบครองใช้สําในันทรั
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พ ย์ สิ น ที่ ค รอบครองนั้ น ท่ า นให้
สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นสิทธิซึ่งผู้ครอบครองมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามกฎหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๗๓ ถ้าทรัพย์สกินาเป็นอสังหาริมสํทรั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์ที่ได้จดไว้ในทะเบียนที
กา่ดิน ท่านให้
สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลผู้มีชื่อในทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๗๔ ถ้าผู้ครอบครองถูกรบกวนในการครอบครองทรัพย์สิน เพราะมีผู้
สอดเข้าเกี่ยวข้องโดยมิ ชอบด้วยกฎหมายไซร้กท่า านว่าผู้ครอบครองมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สิทธิจะให้ปลดเปลื้อกงการรบกวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า
นั้นได้ ถ้าเป็นที่น่าวิตกว่าจะยังมีการรบกวนอีก ผู้ครอบครองจะขอต่อศาลให้สั่งห้ามก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี การฟ้กอางคดีเพื่อปลดเปลื
สํานัก้องานคณะกรรมการกฤษฎี
งการรบกวนนั้น ท่านว่กาาต้องฟ้องภายในปี
สํานักหงานคณะกรรมการกฤษฎี
นึ่งนับแต่เวลา กา
ถูกรบกวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๑๓๗๕ ถ้าผูสํ้คารอบครองถู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กแย่งการครอบครองโดยมิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ชอบด้
สํานักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยกฎหมายไซร้ กา
ท่านว่าผู้ครอบครองมีสิทธิจะได้คืนซึ่งการครอบครอง เว้นแต่อีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิเหนือทรัพย์สินดีกว่าซึ่ง
จะเป็นเหตุให้เรียสํกคืานันกจากผู ้ครอบครองได้ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองนั้น ท่านว่าต้องฟ้องภายในปีหนึ่งนับแต่
สํานักเวลาถู กแย่งการครอบครอง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๗๖ ถ้าจะต้องส่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กางทรัพย์ สิ นคืสํนาแก่
นักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ุคคลผู้มีสิทธิเอาคืนไซร้
กา ท่ านให้ นํ า
บทบัญญัติมาตรา ๔๑๒ ถึง ๔๑๘ แห่งประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยลาภมิควรได้มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๗๗ ถ้าผู้ครอบครองสละเจตนาครอบครอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือไม่ยึดถือทรัพย์สินต่อไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไซร้ การครอบครองย่อมสุดสิ้นลง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๑๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ถ้าเหตุอันมีสภาพเป็นเหตุชั่วคราวมีมาขัดขวางมิให้ผู้ครอบครองยึดถือทรัพย์สินไซร้
สํานักท่งานคณะกรรมการกฤษฎี
านว่าการครอบครองไม่กาสุดสิ้นลง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๗๘ การโอนไปซึ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่งการครอบครองนั ้นย่อมทําได้โดยส่งมอบทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พย์สินที่
ครอบครอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๗๙ ถ้าผู้รับโอนหรื


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อผู้แทนยึดสํถืาอนัทรั พย์สินอยู่แล้ว ท่านว่ากการโอนไปซึ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่ง
การครอบครองจะทําเพียงแสดงเจตนาก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๘๐ การโอนไปซึ่ ง การครอบครองย่ อ มเป็ น ผล แม้ ผู้ โ อนยั ง ยึ ด ถื อ
ทรัพย์สินอยู่ ถ้าผูสํ้โอนแสดงเจตนาว่ าต่อไปจะยึกดา ถือทรัพย์สินสํนัา้นนัแทนผู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้รับโอน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ถ้าทรัพย์สินนั้นผู้แทนของผู้โอนยึดถืออยู่ การโอนไปซึ่งการครอบครองจะทําโดยผู้
สํานักโอนสั ่งผู้แทนว่า ต่อไปให้กยา ึดถือทรัพย์สสํินาไว้นักแงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ทนผู้รับโอนก็ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๘๑ บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินอยู ่ในฐานะเป็นผู้แทนผู้ครอบครองบุคคล
นั้นจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือได้สํานัก็กแงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ต่โดยบอกกล่าวไปยังกผูา้ครอบครองว่สําาไม่นักเจตนาจะยึ ดถือ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทรัพย์สินแทนผู้ครอบครองต่อไป หรือตนเองเป็นผู้ครอบครองโดยสุจริต อาศัยอํานาจใหม่อันได้จาก
บุคคลภายนอก สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๓๘๒ บุคสํคลใดครอบครองทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี พย์สินกของผู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้อื่นไว้โดยความสงบและโดย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี ถ้าเป็น
สังหาริมทรัพย์ได้คสํารอบครองติ ดต่อกันเป็นเวลาห้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าปีไซร้ ท่านว่
สําานับุกคงานคณะกรรมการกฤษฎี
คลนั้นได้กรรมสิทธิ์ กา

มาตรากา๑๓๘๓ ทรัพสํย์าสนัินกอังานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นได้มาโดยการกระทํากผิาดนั้น ท่านว่าผูสํ้กานัระทํ าผิดหรือผู้รับ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โอนไม่สุจริตจะได้กรรมสิทธิ์โดยอายุความก็แต่เมื่อพ้นกําหนดอายุความอาญา หรือพ้นเวลาที่กําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไว้ในมาตราก่อน ถ้ากําหนดไหนยาวกว่า ท่านให้ใช้กําหนดนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๘๔ ถ้าผู้ครอบครองขาดยึดถือทรัพย์สินโดยไม่สมัครและได้คืนภายใน
เวลาปีหนึ่งนับตั้งสํแต่
านักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ันขาดยึดถือหรือได้คืนกโดยฟ้
า องคดีภสํายในกํ าหนดนั้นไซร้ ท่านมิกใาห้ถือว่าการ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ครอบครองสะดุดหยุดลง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๘๕ ถ้ า โอนการครอบครองแก่ กั น ผู้ รั บ โอนจะนั บ เวลาซึ่ ง ผู้ โ อน
ครอบครองอยู่ก่อสํนนั
านัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
รวมเข้ากับเวลาครอบครองของตนก็
กา สํไาด้นักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าผู้รับโอนนับรวมเช่นกนัา้น และถ้ามี
ข้อบกพร่องในระหว่างครอบครองของผู้โอนไซร้ ท่านว่าข้อบกพร่องนั้นอาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ผู้รับโอน
สํานักได้
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๘๖ บทบัญญัติว่าด้วยอายุความในประมวลกฎหมายนี้ท่านให้ใช้บังคับ
สํานักในเรื ่องอายุความได้สิทธิกอาันกล่าวไว้ในลัสํกานัษณะนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้โดยอนุโลม
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๑๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ลักษณะ ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภาระจํายอม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๓๘๗ อสังหาริมทรัพย์อาจต้องตกอยู่ในภาระจํายอมอันเป็นเหตุให้เจ้าของ
ต้องยอมรับกรรมบางอย่ างซึ่งกระทบถึงทรัพย์กาสินของตน หรืสํอานัต้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งงดเว้นการใช้สิทธิบางอย่
กา างอันมีอยู่
ในกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินนั้น เพื่อประโยชน์แก่อสังหาริมทรัพย์อื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๘๘ เจ้าของสามยทรัพย์ไม่มีสิทธิทําการเปลี่ยนแปลงในภารยทรัพย์หรือ
ในสามยทรัพย์ซึ่งสํทําานัให้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรั
กา พย์ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๓๘๙ ถ้าความต้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี องการแห่งเจ้าของสามยทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พย์เปลี่ยสํานแปลงไป ท่านว่า
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ความเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ให้สิทธิแก่เจ้าของสามยทรัพย์ที่จะทําให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๙๐ ท่านมิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้เจ้าของภารยทรัพย์ประกอบกรรมใด สํๆานัอักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จะเป็นเหตุให้ กา
ประโยชน์แห่งภาระจํายอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๙๑ เจ้าของสามยทรัพย์มีสิทธิทําการทุกอย่างอันจําเป็นเพื่อรักษาและ
สํานักใช้ ภาระจํ ายอม แต่ต้อกงเสี
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ยค่ า ใช้ จ่ า ยของตนเอง ในการนี้เจ้ าของสามยทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พย์สํจานัะก่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
อ ให้เกิดความ กา
เสียหายแก่ภารยทรัพย์ได้ก็แต่น้อยที่สุดตามพฤติการณ์
สํเจ้านัากของสามยทรั พย์ต้องเสียกค่าาใช้จ่ายของตนเองรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กษาซ่อมแซมการที่ได้กทา ําไปแล้วให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นไปด้วยดี แต่ถ้าเจ้าของภารยทรัพย์ได้รับประโยชน์ด้วยไซร้ ท่านว่าต้องออกค่าใช้จ่ายตามส่วนแห่ง
สํานักประโยชน์ ที่ได้รับ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๙๒ ถ้าภาระจํายอมแตะต้องเพียงส่วนหนึ่งแห่งภารยทรัพย์ เจ้าของ
สํานักทรั พย์นั้นอาจเรียกให้ย้ากยไปยั
งานคณะกรรมการกฤษฎี า งส่วนอื่นสํก็าไนัด้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่ต้องแสดงได้ว่าการย้กาายนั้นเป็นประโยชน์ แก่ตนและรับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ต้องไม่ทําให้ความสะดวกของเจ้าของสามยทรัพย์ลดน้อยลง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๙๓ ถ้ามิได้กําหนดไว้เป็นอย่างอื่นในนิติกรรมอันก่อให้เกิดภาระจํายอม
สํานักไซร้ ท่านว่าภาระจํายอมย่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อมติดไปกับสามยทรั พย์ซึ่งได้จําหน่าย หรืกอา ตกไปในบังคัสํบาแห่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
สิทธิอื่น กา
ท่านว่าจะจําหน่าย หรือทําให้ภาระจํายอมตกไปในบังคับแห่งสิทธิอื่นต่างหากจาก
สามยทรัพย์ไม่ได้สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๓๙๔ ถ้ามีสํกาารแบ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งแยกภารยทรัพย์ ท่ากนว่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าภาระจํายอมยั
สํานักงคงมี อยู่ทุกส่วน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ที่แยกออก แต่ถ้าสํในส่ วนใดภาระจํายอมนั้นไม่ใช้และใช้ไม่สํได้านัตกามรู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ปการ ท่านว่าเจ้าของส่วนนั้นจะ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เรียกให้พ้นจากภาระจํายอมก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๒๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๓๙๕ ถ้ามีการแบ่งแยกสามยทรัพย์ ท่านว่าภาระจํายอมยังคงมีอยู่เพื่อ
สํานักประโยชน์ แก่ทุกส่วนที่แกยกออกนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ้น แต่สํถานั้าภาระจํ ายอมนั้นไม่ใช้และใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ไม่ได้ตามรูสํปาการเพื ่อประโยชน์
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แก่ส่วนใดไซร้ ท่านว่าเจ้าของภารยทรัพย์จะเรียกให้พ้นจากภาระจํายอมอันเกี่ยวกับทรัพย์ส่วนนั้นก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๙๖ ภาระจํายอมซึ่งเจ้าของรวมแห่งสามยทรัพย์คนหนึ่งได้มา หรือใช้อยู่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นั้น ท่านให้ถือว่าเจ้าของรวมได้มาหรือใช้อยู่ด้วยกันทุกคน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๙๗ ถ้าภารยทรัพย์หรือสามยทรัพย์สลายไปทั้งหมดท่านว่าภาระจํายอม
สํานักสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นไป กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๓๙๘ ถ้าภารยทรักพาย์และสามยทรั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัพกย์งานคณะกรรมการกฤษฎี
ตกเป็นของเจ้าของคนเดี
กายวกัน ท่าน
ว่าเจ้าของจะให้เพิกถอนการจดทะเบียนภาระจํายอมก็ได้ แต่ถ้ายังมิได้เพิกถอนทะเบียนไซร้ ภาระจํา
สํานักยอมยั งคงมีอยู่ในส่วนบุคกคลภายนอก
งานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๙๙ ภาระจํายอมนั้น ถ้ามิได้ใช้สํสาิบนัปีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ท่านว่าย่อมสิ้นไป กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๐๐ ถ้าภาระจํายอมหมดประโยชน์แก่สามยทรัพย์ไซร้ ท่านว่าภาระจํา
ยอมนั้นสิ้นไป แต่สํถา้านัความเป็ นไปมีทางให้กลับกใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ภาระจํายอมได้
สํานักไซร้ ท่านว่าภาระจํายอมนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นกลับมีขึ้น
อีกแต่ต้องยังไม่พ้นอายุความที่ระบุไว้ในมาตราก่อน
ถ้าภาระจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ายอมยังเป็สํนาประโยชน์ แก่สามยทรัพย์อกยูา่บ้าง แต่เมื่อเทีสํายนับกั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี บภาระอันตก
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อยู่แก่ภารยทรัพย์แล้ว ประโยชน์นั้นน้อยนักไซร้ ท่านว่าเจ้าของภารยทรัพย์จะขอให้พ้นจากภาระจํา
ยอมทั้งหมด หรือสํแต่านับกางส่ วนก็ได้ แต่ต้องใช้คก่าทดแทน
งานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๔๐๑ ภาระจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากยอมอาจได้ มาโดยอายุกคาวาม ท่านให้นสํําาบทบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ญญัติว่าด้วย
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อายุความได้สิทธิอันกล่าวไว้ในลักษณะ ๓ แห่งบรรพนี้ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ลักษณะ ๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อาศัย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๔๐๒ บุคสํคลใดได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี รับสิทธิอาศัยในโรงเรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อน บุค คลนัสํ้นานัย่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
มมีสิทธิอยู่ใน กา
โรงเรือนนั้นโดยไม่ต้องเสียค่าเช่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๐๓ สิทธิอาศัยนั้น ท่านว่าจะก่อให้เกิดโดยมีกําหนดเวลาหรือตลอดชีวิต
สํานักของผู ้อาศัยก็ได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าไม่มีกําหนดเวลา ท่านว่าสิทธินั้นจะเลิกเสี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยในเวลาใด ๆ ก็ได้แต่ต้องบอกล่วงหน้า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แก่ผู้อาศัยตามสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๒๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ถ้าให้สิทธิอาศัยโดยมีกําหนดเวลา กําหนดนั้นท่านมิให้เกินสามสิบปีถ้ากําหนดไว้
สํานักนานกว่ านั้น ให้ลดลงมาเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นสามสิบปีสําการให้ สิทธิอาศัยจะต่ออายุ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ก็ได้ แต่ต้องกํ
สําานัหนดเวลาไม่ เกิน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สามสิบปีนับแต่วันทําต่อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๐๔ สิทธิอาศัยนั้นจะโอนกันไม่ได้แม้โดยทางมรดก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๔๐๕ สิทธิอาศัยกนัา้นถ้ามิได้จํากัสํดาไว้นักชงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ัดแจ้งว่าให้เพื่อประโยชน์
กา แก่ผู้อาศัย
เฉพาะตัวไซร้ บุคคลในครอบครัวและในครัวเรือนของผู้อาศัยจะอยู่ด้วยก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๐๖ ถ้าผู้ให้อาศัยมิได้ห้ามไว้ชัดแจ้ง ผู้อาศัยจะเก็บเอาดอกผลธรรมดา
หรือผลแห่งที่ดิน สํมาใช้ เพียงที่จําเป็นแก่ความต้กาองการของครัสํวาเรืนัอกนก็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๑๔๐๗ ผู้ให้อสําศั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัยกไม่ จําต้องบํารุงรักษาทรักพาย์สินให้อยู่ในความซ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี อมแซมอันดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้อาศัยจะเรียกให้ชดใช้ค่าใช้จ่าย ซึ่งได้ออกไปในการทําให้ทรัพย์สินดีขึ้นหาได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๐๘ เมื่อสิสํทาธินัอกาศั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยสิ้นลง ผู้อาศัยต้องส่งทรัพย์สินคืนแก่
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ให้อาศัย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๔๐๙ ท่านให้นําบทบั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี ้ว่าด้วยหน้กาาที่และความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
รับผิดของผู้เช่าอันกล่าวไว้ในมาตรา ๕๕๒ ถึง ๕๕๕ มาตรา ๕๕๘, ๕๖๒ และ ๕๖๓ มาใช้บังคับโดย
สํานักอนุ โลม
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกลัากษณะ ๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิทธิเหนือพื้นดิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๑๐ เจ้าของที่ดินอาจก่อให้เกิดสิทธิเหนือพื้นดินเป็นคุณแก่บุคคลอื่นโดย
สํานักให้ บุคคลนั้นมีสิทธิเป็นเจ้กาาของโรงเรือนสํสิานั่งปลู
งานคณะกรรมการกฤษฎี กสร้าง หรือสิ่งเพาะปลูกาก บนดินหรือสํใต้านัดกินงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นั้น กา

สํมาตรา ๑๔๑๑ ถ้ามิได้กํากหนดไว้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า เป็นอย่สําางอื
นัก่นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ในนิติกรรมอันก่อให้เกกิาดสิทธิเหนือ
พื้นดินไซร้ ท่านว่าสิทธินั้นอาจโอนได้และรับมรดกกันได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๑๒ สิทธิเหนือพื้นดินนั้นจะก่อให้เกิดโดยมีกําหนดเวลาหรือตลอดชีวิต
เจ้าของที่ดิน หรือสํตลอดชี วิตผู้ทรงสิทธิเหนือพืก้นาดินนั้นก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถ้าก่อให้เกิดสิทธิพื้นดินโดยมีกําหนดเวลาไซร้ ท่านให้นําบทบัญญัติมาตรา ๑๔๐๓
สํานักวรรค ๓ มาใช้บังคับโดยอนุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา โลม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


- ๒๒๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๔๑๓ ถ้าสิทธิเหนือพื้นดินนั้นไม่มีกําหนดเวลาไซร้ ท่านว่าคู่กรณีฝ่ายใดจะ
สํานักบอกเลิ กเสียในเวลาใดก็กไาด้ แต่ต้องบอกล่
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัวกงหน้ าแก่อีกฝ่ายหนึ่งตามสมควร
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ถ้ามีคสํ่าาเช่นัากซึงานคณะกรรมการกฤษฎี
่งจําต้องให้แก่ กา
กันไซร้ ท่านว่าต้องบอกล่วงหน้าปีหนึ่ง หรือให้ค่าเช่าปีหนึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๑๔ ถ้ า ผู้ ท รงสิ ท ธิ เ หนื อ พื้ น ดิ น ละเลยไม่ ป ฏิ บั ติ ต ามเงื่ อ นไขอั น เป็ น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาระสําคัญซึ่งระบุไว้ในนิติกรรมก่อตั้งสิทธินั้นก็ดี หรือถ้ามีค่าเช่าซึ่งจะต้องให้แก่กัน แต่ผู้ทรงสิทธิ
เหนือพื้นดินละเลยไม่ ชําระถึงสองปีติด ๆ กักนา ก็ดี ท่านว่าคูสํ่ากนัรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อีกฝ่ายหนึ่งจะบอกเลิกากสิทธิเหนือ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
พื้นดินก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๑๕ สิทธิเหนือพื้นดินไม่สิ้นไปโดยเหตุที่โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างหรือสิ่ง
เพาะปลูกสลายไปสําแม้
นักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารสลายนั้นจะเป็นเพราะเหตุ
กา สุดวิสัยสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๔๑๖ เมื่อสํสิานัทกธิงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เหนือพื้นดินสิ้นไป ผู้ทกรงสิ
า ทธิจะรื้อถอนโรงเรื อนสิ่งปลูก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สร้าง สิ่งเพาะปลูกของตนไปก็ได้ แต่ต้องทําให้ที่ดินเป็นตามเดิม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่ถ้าเจ้าของที่ดินจะไม่ยอมให้รื้อถอนไป สํและบอกเจตนาจะซื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้อตามราคาท้องตลาด
ไซร้ ท่านว่าผู้ทรงสิทธิเหนือพื้นดินจะไม่สํยานัอมขายไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ได้เว้นแต่จะมีเหตุอันสมควร สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกลัากษณะ ๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิทธิเก็บกิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๔๑๗ อสังหาริมทรั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาพย์อาจต้องตกอยู ่ในบังคับสิทธิเก็บกินอันกาเป็นเหตุให้ผู้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรงสิทธินั้นมีสิทธิครอบครอง ใช้ และถือเอาซึ่งประโยชน์แห่งทรัพย์สินนั้น
ผู้ทรงสิกทา ธิเก็บกินมีอําสํนาจจั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดการทรัพย์สิน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ทรงสิทธิเก็บกินในป่าไม้ เหมืองแร่ หรือที่ขุดหิน มีสิทธิทําการแสวงประโยชน์จาก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ป่าไม้ เหมืองแร่ หรือที่ขุดหินนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๑๘ สิทธิเก็บกินนั้น จะก่อให้เกิดโดยมีกําหนดเวลาหรือตลอดชีวิตแห่งผู้
ทรงสิทธิก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าไม่มีกําหนดเวลา ท่านในสันนิษฐานไว้ก่อนว่าสิทธิเก็บกินมีอยู่ตลอดชีวิตผู้ทรง
สํานักสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทธิ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ามีกําหนดเวลา ท่านให้นําบทบัญญัติมาตรา ๑๔๐๓ วรรค ๓ มาใช้บังคับโดย
อนุโลม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าผู้ทรงสิทธิเก็บกินถึงแก่ความตาย ท่านว่าสิทธินั้นย่อมสิ้นไปเสมอ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๑๙ ถ้าทรัพย์สินสลายไปโดยไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ได้ค่าทดแทนไซร้ ท่านว่าเจ้าของไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จําต้องทําให้คืนดี แต่ถ้าเจ้าของทําให้ทรัพย์สินคืนดีขึ้นเพียงใด ท่านว่าสิทธิเก็บกินก็กลับมีขึ้นเพียงนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๒๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ถ้าได้ค่าทดแทนไซร้ ท่านว่าเจ้าของหรือผู้ทรงสิทธิเก็บกิน ต้องทําให้ทรัพย์สินคืนดี
สํานักเพี ยงที่สามารถทําได้ตกามจํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า านวนเงิ นสํค่าานัทดแทนที ่ได้รับและสิทธิกเาก็บกินกลับมีขสํึ้านนัเพีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ยงที่ทรัพย์สิน กา
กลับคืนดี แต่ถ้าพ้นวิสัยที่จะทําให้กลับคืนดีได้ สิทธิเก็บกินก็เป็นอันสิ้นไป และค่าทดแทนนั้นต้องแบ่ง
กันระหว่างเจ้าของทรั
สํานักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์สิน และผู้ทรงสิทธิเก็กบากินตามส่วนแห่สํานังความเสี ยหายของตน กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
วิธีนี้ให้ใช้บังคับโดยอนุโลมถึงกรณีซึ่งทรัพย์สินถูกบังคับซื้อ และกรณีซึ่งทรัพย์สิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สลายไปแต่บางส่วน หรือการทําให้คืนดีนั้นพ้นวิสัยในบางส่วน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๒๐ เมื่อสิทธิเก็บกินสิ้นลง ผู้ทรงสิทธิต้องส่งทรัพย์สินคืนแก่เจ้าของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้าทรัพกาย์สินสลายไป สํหรื านัอกเสื ่อมราคาลง ผู้ทรงสิทกธิเาก็บกินต้องรับสํผิาดนักเว้งานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี นแต่จะพิสูจน์ กา
ได้ว่าความเสียหายนั้นมิได้เกิดขึ้นเพราะความผิดของตน
สํถ้าานัผูก้ทงานคณะกรรมการกฤษฎี
รงสิทธิเก็บกินใช้ทรัพย์กสา ินสิ้นเปลืองไปโดยมิ ชอบ ท่านว่าต้องทําให้กามีมาแทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถ้ า ทรั พ ย์ สิ น เสื่ อ มราคาเพราะการใช้ ต ามควรไซร้ ท่ า นว่ า ผู้ ท รงสิ ท ธิ เ ก็ บ กิ น ไม่
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าเป็นต้องให้ค่าทดแทนกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๒๑ ในการใช้สิทธิเก็บกินนั้น สํผูา้ทนักรงสิ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทธิต้องรักษาทรัพย์สินเสมอกับที่
วิญญูชนพึงรักษาทรัพย์สินของตนเอง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๔๒๒ ถ้ามิได้กําหนดไว้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เป็นอย่าสํงอื
านั่นกในนิ ติกรรมอันก่อให้เกิกดาสิทธิเก็บกิน
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ไซร้ ท่านว่าผู้ทรงสิทธินั้นจะโอนการใช้สิทธิของตนให้บุคคลภายนอกก็ได้ ในกรณีเช่นนั้นเจ้าของ
สํานักทรั พย์สินอาจฟ้องร้องผู้รกับา โอนโดยตรงสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๔๒๓ เจ้าของทรักพา ย์สินจะคัดค้สําานมิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ให้ใช้ทรัพย์สินในทางอักนา มิชอบด้วย
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กฎหมาย หรือมิสมควรก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้าเจ้ากของพิ
า สูจน์ได้วสํ่าาสินัทกธิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของตนตกอยู่ในภยันกตราย า ท่านว่าจะเรีสํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
กให้ผู้ทรงสิทธิ กา
เก็บกินหาประกันให้ก็ได้ เว้นแต่ในกรณีซึ่งผู้ให้ทรัพย์สินสงวนสิทธิเก็บกินในทรัพย์สินนั้นไว้เพื่อตนเอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าผู้ทรงสิทธิเก็บกินละเลยไม่หาประกันมาให้ภายในเวลาอันสมควรซึ่งกําหนดให้เพื่อ
สํานักการนั ้น หรือถ้าผู้ทรงสิทกธิาเก็บกินมินําพาต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าคัดค้านแห่งเจ้าของยักงาคงใช้ทรัพย์สินสํนัานั้นกในทางอั นมิชอบ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ด้วยกฎหมาย หรือมิสมควรไซร้ ท่านว่าศาลจะตั้งผู้รักษาทรัพย์เพื่อจัดการทรัพย์สินแทนผู้ทรงสิทธิเก็บ
กินก็ได้ แต่เมื่อหาประกั นมาให้แล้ว ศาลจะถอนผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้รักษาทรัพย์สํทานัี่ตกั้งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขึ้นไว้นั้นก็ได้ กา

มาตรากา๑๔๒๔ ผู้ทรงสิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัทกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธิเก็บกินจําต้องสงวนภาวะแห่
กา งทรัพย์สํสาินนัมิกใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห้เปลี่ยนไปใน กา
สาระสําคัญ กับต้องบํารุงรักษาปกติและซ่อมแซมเล็กน้อยด้วย
สํถ้าานัจํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นต้องซ่อมแซมใหญ่กาหรือมีการสําคัสําญนัอักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ต้องทําเพื่อรักษาทรัพกย์าสินไซร้ท่าน
ว่าผู้ทรงสิ ทธิเก็ บกินต้องแจ้ งแก่เจ้าของทรัพย์สินโดยพลันและต้ องยอมให้จัดทําการนั้น ๆ ไปถ้า
สํานักเจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าของทรัพย์สินละเลยเสี กา ยท่านว่าผู้ทสํรงสิ
านักทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธิเก็บกินจะจัดทําการนักา้นไปโดยให้เจ้สําาของทรั พย์สินออก
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ค่าใช้จ่ายก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


- ๒๒๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๔๒๕ ค่าใช้จ่ายอันเป็นการจรนั้น ท่านว่าเจ้าของต้องเป็นผู้ออก แต่เพื่อจะ
สํานักออกค่ าใช้จ่ายเช่นว่านี้ กหรืา อค่าใช้จ่ายตามความในมาตราก่
งานคณะกรรมการกฤษฎี อนเจ้าของจะจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าหน่ายทรั
สํานัพกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์สินบางส่วนก็ กา
ได้ เว้นแต่ผู้ทรงสิทธิเก็บกินจะเต็มใจทดรองเงินตามที่จําเป็นโดยไม่คิดดอกเบี้ย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๒๖ ในระหว่างที่สิทธิเก็บกินยังมีอยู่ ผู้ทรงสิทธิต้องออกค่าใช้จ่ายในการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จัดการทรัพย์สินตลอดจนเสียภาษีอากร กับทั้งต้องใช้ดอกเบี้ยหนี้สินซึ่งติดพันทรัพย์สินนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๒๗ ถ้าเจ้าของทรัพย์สินต้องการ ผู้ทรงสิทธิเก็บกินจําต้องเอาทรัพย์สิน
สํานักประกั นวินาศภัยเพื่อประโยชน์
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา แก่เจ้าของทรั พย์สิน และถ้าทรัพย์สกินา นั้นได้เอาประกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกภังานคณะกรรมการกฤษฎี
ยไว้แล้วผู้ทรง กา
สิทธิเก็บกินต้องต่อสัญญาประกันนั้นเมื่อถึงคราวต่อ
สํผูา้ทนัรงสิ ทธิเก็บกินต้องเสียเบีก้ยาประกันระหว่สํางที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี านัก่สงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิทธิของตนยังมีอยู่ กา

มาตรากา๑๔๒๘ คดีอสํันาเกี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นัก่ยงานคณะกรรมการกฤษฎี
วกับสิทธิเก็บกินในระหว่
กา างเจ้าของทรัสํพาย์นัสกินงานคณะกรรมการกฤษฎี
กับผู้ทรงสิทธิ กา
เก็บกิน หรือผู้รับโอนนั้น ท่านห้ามมิให้ฟ้องเมื่อเกินปีหนึ่งนับแต่วันสิทธิเก็บกินสุดสิ้นลง แต่ในคดีที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เจ้าของทรัพย์สินเป็ นโจทก์นั้น ถ้าเจ้าของไม่อาจรู้ว่าสิทธิเก็บสํกิานนัสุกดงานคณะกรรมการกฤษฎี
สิ้นลงเมื่อใด ท่านให้นกับาอายุความปี
หนึ่งนั้นตั้งแต่เวลาที่เจ้าของทรัพย์สินได้สํรานัู้ หรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อควรรู้ว่าสิทธิเก็บกินสุดสิ้นลง
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกลัากษณะ ๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภาระติดพันในอสังหาริมทรัพย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๔๒๙ อสังหาริมกทรัา พย์อาจต้องตกอยู


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ในภาระติดพัน อันเป็กนาเหตุให้ผู้รับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประโยชน์มีสิทธิได้รับการชําระหนี้เป็นคราว ๆ จากทรัพย์สินนั้น หรือได้ใช้และถือเอาซึ่งประโยชน์แห่ง
สํานักทรั พย์สินตามที่ระบุไว้ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๓๐ ภาระติดพันในอสังหาริมทรัพย์นั้น จะก่อให้เกิดโดยมีกําหนดเวลา
สํานักหรื อตลอดชีวิตแห่งผู้รับกประโยชน์
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าไม่มีกําหนดเวลา ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าภาระติดพันในอสังหาริมทรัพย์มีอยู่
ตลอดชีวิตผู้รับประโยชน์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ามีกําหนดเวลา ท่านให้ นําบทบัญ ญั ติมาตรา ๑๔๐๓ วรรค ๓ มาใช้บังคับโดย
สํานักอนุ โลม
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๔๓๑ ถ้ามิได้กําหนดไว้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เป็นอย่าสํงอื
านั่นกในนิ ติกรรมอันก่อให้เกิกดาภาระติดพัน
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ไซร้ ท่านว่าภาระติดพันในอสังหาริมทรัพย์นั้นจะโอนกันไม่ได้แม้โดยทางมรดก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๓๒ ถ้าผู้รับประโยชน์ละเลยไม่สํปานัฏิกบงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ัติตามเงื่อนไขอันเป็นสาระสํ
กา
าคัญซึ่ง
ระบุ ไ ว้ ใ นนิ ติ ก รรมก่ อ ตั้ ง ภาระติ ด พั น นั้ น ไซร้ ท่ า นว่ า คู่ ก รณี อี ก ฝ่ า ยหนึ่ ง จะบอกเลิ ก สิ ท ธิ ข องผู้ รั บ
สํานักประโยชน์ เสียก็ได้ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๒๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา ๑๔๓๓ ถ้ าสํเจ้านัากของทรั


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี พ ย์ สิ น มิ ไ ด้ ชํ า ระหนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ ต ามภาระติ
สําดนัพั น ไซร้ ท่ า นว่ า
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นอกจากทางแก้สําหรับการไม่ชําระหนี้ ผู้รับประโยชน์อาจขอให้ศาลตั้งผู้รักษาทรัพย์เพื่อจัดการ
ทรัพย์สินและชําระหนี ้แทนเจ้าของ หรือสั่งให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาเอาทรัพย์สินสํออกขายทอดตลาด และเอาเงิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นที่ขายได้
จ่ายให้ผู้รับประโยชน์ตามจํานวนที่ควรได้ เพราะเจ้าของทรัพย์สินไม่ชําระหนี้กับทั้งค่าแห่งภาระติดพัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ด้วย
สํถ้าานัเจ้ าของทรัพย์สินหาประกักานมาให้แล้ว ศาลจะไม่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ออกคําสั่งตั้งผู้รักษาทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พย์ หรือ
คําสั่งขายทอดตลาด หรือจะถอนผู้รักษาทรัพย์ที่ตั้งขึ้นไว้นั้น ก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๓๔ ท่านให้นํามาตรา ๑๓๘๘ ถึง ๑๓๙๕ และมาตรา ๑๓๙๗ ถึง ๑๔๐๐
มาใช้บังคับถึงภาระติ
สํานักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
พันในอสังหาริมทรัพย์โกดยอนุ
า โลม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา บรรพ ๕๗๓


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ครอบครัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


ลักษณะ ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกการสมรส
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาการหมั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๔๓๕ การหมั้นจะทําได้ต่อเมื่อชายและหญิงมีอายุสิบเจ็ดปีบริบูรณ์แล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การหมั้นที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติวรรคหนึ่งเป็นโมฆะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๓๖ ๗๔ ผู้ เ ยาว์ จ ะทํ า การหมั้ น ได้ ต้ อ งได้ รั บ ความยิ น ยอมของบุ ค คล
ดังต่อไปนี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) บิดาและมารดา ในกรณีที่มีทั้งบิดามารดา
(๒) บิกดา าหรือมารดาสํานัในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ที่มารดาหรือบิดาตายหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อถูกถอนอํ
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
นาจปกครอง กา
หรือไม่อยู่ในสภาพหรือฐานะที่อาจให้ความยินยอม หรือโดยพฤติการณ์ผู้เยาว์ไม่อาจขอความยินยอม
จากมารดาหรือบิสํดาาได้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ผู้รับบุตรบุญธรรม ในกรณีที่ผู้เยาว์เป็นบุตรบุญธรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๓
บรรพ ๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติให้ใช้บรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ ที่ได้ตรวจชําระใหม่ พ.ศ. ๒๕๑๙
๗๔
มาตรา ๑๔๓๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๒๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
(๔) ผู้ปกครอง ในกรณีที่ไม่มีบุคคลซึ่งอาจให้ความยินยอมตาม (๑) (๒) และ (๓)
สํานักหรื อมีแต่บุคคลดังกล่าวถูกากถอนอํานาจปกครอง
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การหมั้นที่ผู้เยาว์ทําโดยปราศจากความยินยอมดังกล่าวเป็นโมฆียะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๓๗๗๕ การหมั้นจะสมบูรณ์เมื่อฝ่ายชายได้ส่งมอบหรือโอนทรัพย์สินอัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นของหมั้นให้แก่หญิงเพื่อเป็นหลักฐานว่าจะสมรสกับหญิงนั้น
สํเมื
านั่อกหมั ้นแล้วให้ของหมั้นตกเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นสิทธิแก่หญิสํางนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สินสอด เป็นทรัพย์สินซึ่งฝ่ายชายให้แก่บิดามารดา ผู้รับบุตรบุญธรรมหรือผู้ปกครอง
สํานักฝ่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ายหญิง แล้วแต่กรณี เพืกา่อตอบแทนการที สํานัก่หงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญิงยอมสมรส ถ้าไม่มีกการสมรสโดยมี
า เสํหตุ
านัสกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําคัญอันเกิดแก่ กา
หญิงหรือโดยมีพฤติการณ์ซึ่งฝ่ายหญิงต้องรับผิดชอบ ทําให้ชายไม่สมควรหรือไม่อาจสมรสกับหญิงนั้น
ฝ่ายชายเรียกสินสอดคื นได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าจะต้องคืนของหมั้นหรือสินสอดตามหมวดนี้ ให้นําบทบัญญัติมาตรา ๔๑๒ ถึง
สํานักมาตรา ๔๑๘ แห่งประมวลกฎหมายนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้วสํ่าาด้นัวกยลาภมิ ควรได้มาใช้บังคักบาโดยอนุโลม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๓๘ การหมั้ นไม่เป็น เหตุที่จ ะร้สําอนังขอให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ศ าลบั งคับ ให้ ส มรสได้ ถ้าได้ มี
ข้อตกลงกันไว้ว่าจะให้เบี้ยปรับในเมื่อผิสํดาสันัญกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ญาหมั้น ข้อตกลงนั้นเป็กนา โมฆะ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๔๓๙๗๖ เมื่อมีการหมั


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา้นแล้ว ถ้าฝ่ายใดผิ ดสัญญาหมั้นอีกฝ่ายหนึกา่งมีสิทธิเรียก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้รับผิดใช้ค่าทดแทน ในกรณีที่ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายผิดสัญญาหมั้นให้คืนของหมั้นแก่ฝ่ายชายด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๔๐ ค่าทดแทนนั้นอาจเรียกได้ ดังต่อไปนี้
สํ(๑) ทดแทนความเสียหายต่กอากายหรือชื่อเสีสํายนังแห่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี งชายหรือหญิงนั้น กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๒) ทดแทนความเสียหายเนื่องจากการที่คู่หมั้น บิดามารดา หรือบุคคลผู้กระทํา
สํานักการในฐานะเช่ นบิดามารดาได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ใช้จ่ายหรืสําอนัต้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
งตกเป็นลูกหนี้เนื่องในการเตรี
กา ยมการสมรสโดยสุ จริตและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตามสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ทดแทนความเสียหายเนื่องจากการที่คู่หมั้นได้จัดการทรัพย์สินหรือการอื่นอัน
สํานักเกีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ยวแก่อาชีพหรือทางทํกาามาหาได้ของตนไปโดยสมควรด้ วยการคาดหมายว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าจะได้มสํีกานัารสมรส
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่หญิงเป็นผู้มีสิทธิได้ค่าทดแทน ศาลอาจชี้ขาดว่า ของหมั้นที่ตกเป็นสิทธิแก่
หญิงนั้นเป็นค่าทดแทนทั ้งหมดหรือเป็นส่วนหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งของค่าทดแทนที ่หญิงพึงได้รับ หรือศาลอาจให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ค่ า
ทดแทนโดยไม่คํานึงถึงของหมั้นที่ตกเป็นสิทธิแก่หญิงนั้นก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๗
มาตรา ๑๔๔๑ ถ้าคู่หมั้นฝ่ายหนึ่งตายก่อนสมรส อีกฝ่ายหนึ่งจะเรียกร้องค่า
ทดแทนมิได้ ส่วนของหมั ้นหรือสินสอดนั้นไม่กวา่าชายหรือหญิสํงาตาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หญิงหรือฝ่ายหญิงไม่กตา้องคืนให้แก่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฝ่ายชาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๕
มาตรา ๑๔๓๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๗๖
มาตรา ๑๔๓๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๒๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา ๑๔๔๒ ในกรณี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีเหตุสําคัญอันเกิดแก่หกญิางคู่หมั้นทําให้สํชาายไม่ สมควรสมรส
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กับหญิงนั้น ชายมีสิทธิบอกเลิกสัญญาหมั้นได้และให้หญิงคืนของหมั้นแก่ชาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๔๓ ในกรณีมีเหตุสําคัญอันเกิดแก่ชายคู่หมั้นทําให้หญิงไม่สมควรสมรส
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กับชายนั้น หญิงมีสิทธิบอกเลิกสัญญาหมั้นได้โดยมิต้องคืนของหมั้นแก่ชาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๔๔ ถ้าเหตุอันทําให้คู่หมั้นบอกเลิกสัญญาหมั้นเป็นเพราะการกระทําชั่ว
สํานักอย่ างร้ายแรงของคู่หมั้นกอีากฝ่ายหนึ่งซึ่งสํได้านักกระทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี าภายหลังการหมั้นกคูา่หมั้นผู้กระทําสํชัา่วนัอย่
งานคณะกรรมการกฤษฎี างร้ายแรงนั้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ต้องรับผิดใช้ค่าทดแทนแก่คู่หมั้นผู้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาหมั้นเสมือนเป็นผู้ผิดสัญญาหมั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๘
มาตรา ๑๔๔๕ ชายหรือหญิงคู่หมั้นอาจเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งได้ร่วมประเวณี
สํานักกังานคณะกรรมการกฤษฎี
บคู่หมั้นของตนโดยรู้หกรืาอควรจะรู้ถึงการหมั ้นนั้น เมื่อได้บอกเลิกกสัาญญาหมั้นแล้วสํตามมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๑๔๔๒
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หรือมาตรา ๑๔๔๓ แล้วแต่กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๙
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๔๖ ชายหรื อหญิงคู่หมั้นอาจเรียกค่าทดแทนจากผูสํา้ซนัึ่งกได้งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข่มขืนกระทํา กา
ชําเราหรือพยายามข่มขืนกระทําชําเราคู่หมั้นของตนโดยรู้หรือควรจะรู้ถึงการหมั้นนั้นได้โดยไม่จําต้อง
บอกเลิกสัญญาหมัสํา้นนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๐
มาตรากา ๑๔๔๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ค่สําาทดแทนอั นจะพึงชดใช้แก่กกาันตามหมวดนีสํ้ใาห้นัศกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี าลวินิจฉัยตาม กา
ควรแก่พฤติการณ์
สํสิานัทกธิงานคณะกรรมการกฤษฎี
เรียกร้องค่าทดแทนตามหมวดนี
กา ้ นอกจากค่ าทดแทนตามมาตรา ๑๔๔๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา (๒) ไม่
อาจโอนกั น ได้ แ ละไม่ ต กทอดไปถึ ง ทายาท เว้ น แต่ สิ ท ธิ นั้ น จะได้ รั บ สภาพกั น ไว้ เ ป็ น หนั ง สื อ หรื อ
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้เสียหายได้เริ่มฟ้องคดีตกามสิ
า ทธินั้นแล้สํวานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๘๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๔๗/๑ สิทธิเรียกร้องค่าทดแทนตามมาตรา ๑๔๓๙ ให้มีอายุความหก
สํานักเดืงานคณะกรรมการกฤษฎี
อนนับแต่วันที่ผิดสัญญาหมั
กา ้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๔๔๑ แก้ไสํขเพิ
านั่มกเติ มโดยพระราชบัญญัติแกก้าไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๗๘
สํานัมาตรา ๑๔๔๕ แก้ไขเพิ่มเติกมาโดย พระราชบัสํญาญั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี นักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่
กา งและ
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๖) พ.ศ. ๒๕๕๐
๗๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๔๔๖ แก้ไขเพิ
สํานั่มกเติ มโดย พระราชบัญญัติแกก้าไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๖) พ.ศ. ๒๕๕๐
๘๐
มาตรา ๑๔๔๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๘๑
มาตรา ๑๔๔๗/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานัก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๒๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
สิทธิเรียกร้องค่าทดแทนตามมาตรา ๑๔๔๔ ให้มีอายุความหกเดือนนับแต่วันรู้หรือ
สํานักควรรู ้ถึงการกระทําชั่วอย่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา างร้ายแรงอัสํนาเป็
นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
เหตุให้บอกเลิกสัญญาหมั กา ้น แต่ต้องไม่ สําเนักิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห้าปีนับแต่วัน กา
กระทําการดังกล่าว
สํสิานัทกธิงานคณะกรรมการกฤษฎี
เรียกร้องค่าทดแทนตามมาตรา กา ๑๔๔๕ สํานัและมาตรา ๑๔๔๖ ให้มกีอาายุความหก
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เดือน นับแต่วันที่ชายหรือหญิงคู่หมั้นรู้หรือควรรู้ถึงการกระทําของผู้อื่นอันจะเป็นเหตุให้เรียกค่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทดแทน และรู้ ตั ว ผู้ จ ะพึ ง ใช้ ค่ า ทดแทนนั้ น แต่ ต้ อ งไม่ เ กิ น ห้ า ปี นั บ แต่ วั น ที่ ผู้ อื่ น นั้ น ได้ ก ระทํ า การ
ดังกล่าว๘๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๓
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๔๔๗/๒ สํานัสิกทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธิเรียกคืนของหมั้นตามมาตรา
กา ๑๔๓๙สํานัให้กมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีอายุความหก กา
เดือนนับแต่วันที่ผิดสัญญาหมั้น
สํสิานัทกธิงานคณะกรรมการกฤษฎี
เรียกคืนของหมั้นตามมาตรา
กา ๑๔๔๒ สํให้
านัมกีองานคณะกรรมการกฤษฎี
ายุความหกเดือนนับแต่กาวันที่ได้บอก
เลิกสัญญาหมั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เงื่อนไขแห่งการสมรสสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๔๔๘ การสมรสจะทํ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าได้ต่อเมื่อสํชายและหญิ งมีอายุสิบเจ็ดปีกบา ริบูรณ์แล้ว
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่ในกรณีที่มีเหตุอันสมควร ศาลอาจอนุญาตให้ทําการสมรสก่อนนั้นได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๔๙ การสมรสจะกระทํามิได้ถ้าชายหรือหญิงเป็นบุคคลวิกลจริตหรือ
เป็นบุคคลซึ่งศาลสัสํา่งนัให้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นคนไร้ความสามารถกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๔๕๐ ชายหญิ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ซึ่งเป็นญาติสืบสายโลหิกตาโดยตรงขึ้นไปหรื
สํานัอกลงมาก็ ดี เป็นพี่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
น้องร่วมบิดามารดาหรือร่วมแต่บิดาหรือมารดาก็ดี จะทําการสมรสกันไม่ได้ ความเป็นญาติดังกล่าวมา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นี้ให้ถือตามสายโลหิต โดยไม่คํานึงว่าจะเป็นญาติโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๕๑ ผู้รับบุตรบุญธรรมและบุตรบุญธรรมจะสมรสกันไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๕๒ ชายหรือหญิงจะทําการสมรสในขณะที่ตนมีคู่สมรสอยู่ไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๕๓ หญิงที่สามีตายหรือที่การสมรสสิ้นสุดลงด้วยประการอื่นจะทําการ
สมรสใหม่ได้ต่อเมืสํ่อานัการสิ ้นสุดแห่งการสมรสได้กผา ่านพ้นไปแล้วสํไม่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี านันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
้อยกว่าสามร้อยสิบวัน เว้
กานแต่
(๑) คลอดบุตรแล้วในระหว่างนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๒
มาตรา ๑๔๔๗/๑ วรรคสาม แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม โดย พระราชบั ญ ญั ติ แ ก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม ประมวล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๖) พ.ศ. ๒๕๕๐
๘๓
มาตรา ๑๔๔๗/๒ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานัก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๒๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
(๒) สมรสกับคู่สมรสเดิม
(๓) มีกใาบรับรองแพทย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําปนักระกาศนี ยบัตรหรือปริญกญาซึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ่งเป็นผู้ประกอบการรั กษาโรค
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ในสาขาเวชกรรมได้ตามกฎหมายว่ามิได้มีครรภ์ หรือ
สํ(๔) มีคําสั่งของศาลให้สมรสได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๔๕๔ ผู้เยาว์จะทําการสมรสให้นาํ ความในมาตรา ๑๔๓๖ มาใช้บังคับโดย
อนุโลม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๔๕๕ การให้


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัคกวามยิ นยอมให้ทําการสมรสจะกระทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าได้สํแานัต่กโดย
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ลงลายมือชื่อในทะเบียนขณะจดทะเบียนสมรส
สํ(๒) ทําเป็นหนังสือแสดงความยิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นยอมโดยระบุ
สํานักชงานคณะกรรมการกฤษฎี
ื่อผู้จะสมรสทั้งสองฝ่ายและลง
กา
ลายมือชื่อของผู้ให้ความยินยอม
(๓) ถ้กาามีเหตุจาํ เป็น สํจะให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ความยินยอมด้วยวาจาต่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาอหน้าพยานอย่ สําานังน้ อยสองคนก็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความยินยอมนั้น เมื่อให้แล้วถอนไม่ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๕๖ ถ้าไม่มีผู้ที่มีอํานาจให้ความยินยอมตามมาตรา ๑๔๕๔ หรือมีแต่
ไม่ให้ความยินยอมหรื
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่อยู่ในสภาพที่อาจให้กคา วามยินยอม สํหรื
านัอกโดยพฤติ การณ์ผู้เยาว์ไม่กอาาจขอความ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ยินยอมได้ ผู้เยาว์อาจร้องขอต่อศาลเพื่ออนุญาตให้ทําการสมรส
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๕๗ การสมรสตามประมวลกฎหมายนี้จะมีได้เฉพาะเมื่อได้จดทะเบียน
แล้วเท่านั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๔๕๘ การสมรสจะทํ าได้ต่อเมื่อชายหญิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งยินยอมเป็สํนาสามี ภริยากันและ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ต้องแสดงการยินยอมนั้นให้ปรากฏโดยเปิดเผยต่อหน้านายทะเบียนและให้นายทะเบียนบันทึกความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยินยอมนั้นไว้ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๕๙ การสมรสในต่างประเทศระหว่างคนที่มีสัญชาติไทยด้วยกัน หรือ
ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสํสาัญนัชาติ ไทย จะทําตามแบบที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่กําหนดไว้ตามกฎหมายไทยหรื อกฎหมายแห่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งประเทศ
นั้นก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณี กาที่คู่สมรสประสงค์
สํานักจงานคณะกรรมการกฤษฎี
ะจดทะเบียนตามกฎหมายไทย
กา ให้พนัสํกานังานทู ตหรือกงสุล
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไทยเป็นผู้รับจดทะเบียน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๖๐ เมื่อมีพฤติการณ์พิเศษซึ่งไม่อาจทําการจดทะเบียนสมรสต่อนาย
สํานักทะเบี ยนได้เพราะชายหรืกอา หญิงฝ่ายใดฝ่สําายหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่งหรือทั้งสองฝ่ายตกอยูกา่ในอันตรายใกล้สําคนัวามตาย
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี หรืออยู่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ในภาวะการรบหรืสํอานัสงคราม ถ้าชายและหญิงนั้นได้แสดงเจตนาจะสมรสกั
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นต่อหน้าบุคคลซึ่งบรรลุนิติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภาวะที่อยู่ ณ ที่นั้น แล้วให้บุคคลดังกล่าวจดแจ้งการแสดงเจตนาขอทําการสมรสของชายและหญิงนั้น
สํานักไว้งานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นหลักฐาน และต่อกมาชายหญิ
า งได้สํจาดทะเบี ยนสมรสกันภายในเก้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าสิบวันนับแต่สํวานัันกทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อาจทําการจด กา
- ๒๓๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ทะเบียนต่อนายทะเบียนได้ โดยแสดงหลักฐานต่อนายทะเบียนและให้นายทะเบียนจดแจ้งวัน เดือน ปี
สํานักสถานที ่ที่แสดงเจตนาขอทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าการสมรส สํและพฤติ การณ์พิเศษนั้นไว้กในทะเบี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ยนสมรส
สํานัให้ ถือว่าวันแสดง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เจตนาขอทําการสมรสต่อบุคคลดังกล่าวเป็นวันจดทะเบียนสมรสต่อนายทะเบียนแล้ว
สํความในมาตรานี ้มิให้ใช้บังกคัา บถ้าหากจะมีสํากนัารสมรสในวั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นแสดงเจตนาขอทํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าการ
สมรส การสมรสนั้นจะตกเป็นโมฆะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๔๖๑ สามีภริยาต้กอา งอยู่กินด้วยกัสํนานัฉักนงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สามีภริยา กา
สามีภริยาต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูกันตามความสามารถและฐานะของตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๖๒๘๔ ในกรณีที่สามีภริยาไม่สามารถที่จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา
โดยปกติสุขได้ หรืสําอนัถ้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
การอยู่ร่วมกันจะเป็นกอัานตรายแก่กายหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อจิตใจหรือทําลายความผาสุกอย่าง
มาก สามีหรือภริยาฝ่ายที่ไม่สามารถทีสํ่จาะอยู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่กินด้วยกันฉันสามีภริยาโดยปกติสุขได้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือฝ่ายที่จะต้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รับอันตรายหรือถูกทําลายความผาสุก อาจร้องต่อศาลเพื่อให้มีคําสั่งอนุญาตให้ตนอยู่ต่างหากใน
ระหว่างที่เหตุนั้นสํๆานัยักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
มีอยู่ก็ได้ ในกรณีเช่นนีก้ศาาลจะกําหนดจํ
สําานันวนค่ าอุปการะเลี้ยงดูให้กฝา่ายหนึ่งจ่าย
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งตามควรแก่พฤติการณ์ก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๖๓ ในกรณีที่ศาลสั่ งให้ส ามีหรือภริยาเป็นคนไร้ความสามารถหรื อ
เสมือนไร้ความสามารถ ภริยาหรือสามีย่อมเป็กนาผู้อนุบาลหรือสํผูา้พนักิทงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ักษ์ แต่เมื่อผู้มีส่วนได้เสีกยาหรืออัยการ
ร้องขอ และถ้ามีเหตุสําคัญ ศาลจะตั้งผู้อื่นเป็นผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๖๔๘๕ ในกรณีที่คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนวิกลจริต ไม่ว่าศาลจะได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถหรือไม่ ถ้าคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งไม่อุปการะเลี้ยงดูฝ่ายที่วิกลจริตตามมาตรา
สํานัก๑๔๖๑ วรรคสอง หรือกระทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าการหรือสํไม่ านักกระทํ าการอย่างใด อันเป็กนา เหตุให้ฝ่ายทีสํ่วาิกนัลจริ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ตอยู่ในภาวะ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อันน่าจะเกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ หรือตกอยู่ในภาวะอันน่าจะเกิดความเสียหายทางทรัพย์สินถึง
ขนาด บุคคลตามที สํานั่รกะบุ ไว้ในมาตรา ๒๘ หรือกาผู้อนุบาลอาจฟ้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สําอนังคู ่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งเรียกกค่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า าอุปการะ
เลี้ยงดูให้แก่ฝ่ายที่วิกลจริต หรือขอให้ศาลมีคําสั่งใด ๆ เพื่อคุ้มครองฝ่ายที่วิกลจริตนั้นได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณี กา ฟ้องเรียกค่าสํอุานัปกการะเลี ้ยงดูตามวรรคหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ง ถ้ายังมิได้มสํีคานัํากสังานคณะกรรมการกฤษฎี
่งของศาลว่าคู่ กา
สมรสซึ่งวิกลจริตเป็นคนไร้ความสามารถก็ให้ขอต่อศาลในคดีเดียวกันให้ศาลมีคําสั่งว่าคู่สมรสซึ่ง
วิกลจริตนั้นเป็นคนไร้
สํานักคงานคณะกรรมการกฤษฎี
วามสามารถ โดยขอให้กาตั้งตนเองหรือสํผูา้อนัื่นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ศาลเห็นสมควรเป็นผูก้อานุบาล หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๔
มาตรา ๑๔๖๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ. ๒๕๕๑
๘๕
มาตรา ๑๔๖๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๓๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ถ้าได้มีคําสั่งของศาลแสดงว่าคู่สมรสซึ่งวิกลจริตเป็นคนไร้ความสามารถอยู่แล้ว จะขอให้ถอดถอนผู้
สํานักอนุ บาลคนเดิม และแต่งกตัา้งผู้อนุบาลคนใหม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
็ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการขอให้ศาลมีคําสั่งใด ๆ เพื่อคุ้มครองคู่สมรสฝ่ายที่วิกลจริตโดยมิได้เรียกค่า
อุปการะเลี้ยงดูด้วายนั
สํ นัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
จะไม่ขอให้ศาลมีคํากสัา่งให้คู่สมรสฝ่สําายทีนัก่วงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิกลจริตนั้นเป็นคนไร้คกวามสามารถ

หรือจะไม่ขอเปลี่ยนผู้อนุบาลก็ได้ แต่ถ้าศาลเห็นว่าวิธีการคุ้มครองที่ขอนั้นจําต้องมีผู้อนุบาลหรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เปลี่ ย นผู้อ นุ บ าล ให้ ศ าลมี คํ า สั่ ง ให้จั ด การทํา นองเดีย วกั บ ที่ บัญ ญั ติ ไ ว้ ใ นวรรคสองแล้ ว จึ ง มี คํ า สั่ ง
คุ้มครองตามที่เห็สํนาสมควร
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๖
มาตรากา ๑๔๖๔/๑ สําในระหว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี างการพิจารณาคดีกตาามมาตรา ๑๔๖๔
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้ามีคําขอศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อาจกําหนดวิธีการชั่วคราวเกี่ยวกับการอุปการะเลี้ยงดูหรือการคุ้มครองคู่สมรสฝ่ายที่วิกลจริตได้ตามที่
เห็นสมควร และหากเป็ นกรณีฉุกเฉินให้นําบทบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัติเรื่องคํสําาขอในเหตุ ฉุกเฉินตามประมวลกฎหมาย
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
วิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทรัพย์สินระหว่างสามีภสํริายนัากงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๔๖๕ ถ้าสามีภริกยา ามิได้ทําสัญสํญากั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไว้ในเรื่องทรัพย์สินเป็กนา พิเศษก่อน
สมรส ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยาในเรื่องทรัพย์สินนั้น ให้บังคับตามบทบัญญัติในหมวดนี้
ถ้าข้อกความใดในสั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ญสํญาก่ อนสมรสขัดต่อความสงบเรี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยบร้อยหรืสํอานัศีกลงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธรรมอันดีของ กา
ประชาชน หรือระบุให้ใช้กฎหมายประเทศอื่นบังคับเรื่องทรัพย์สินนั้น ข้อความนั้น ๆ เป็นโมฆะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๖๖ สัญญาก่อนสมรสเป็นโมฆะ ถ้ามิได้จดแจ้งข้อตกลงกันเป็นสัญญา
สํานักก่งานคณะกรรมการกฤษฎี
อนสมรสนั้นไว้ในทะเบีกยานสมรสพร้อมกั
สํานับกการจดทะเบี ยนสมรส หรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาอมิได้ทําเป็นหนั
สํานังกสืงานคณะกรรมการกฤษฎี
อลงลายมือชื่อ กา
คู่สมรสและพยานอย่างน้อยสองคนแนบไว้ท้ายทะเบียนสมรสและได้จดไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การจดทะเบียนสมรสว่าได้มีสัญญานั้นแนบไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๖๗ เมื่อสมรสแล้วจะเปลี่ยนแปลงเพิกถอนสัญญาก่อนสมรสนั้นไม่ได้
นอกจากจะได้รับสํอนุานัญกาตจากศาล
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อได้มีคําสั่งของศาลถึงที่สุดให้เปลี่ยนแปลงเพิกถอนสัญญาก่อนสมรสแล้ว ให้ศาล
สํานักแจ้ งไปยังนายทะเบียนสมรสเพื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อจดแจ้งสํไว้
านัใกนทะเบี ยนสมรส
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๔๖๘ ข้อความในสั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญาก่อนสมรสไม่ มีผลกระทบกระเทือกนถึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า งสิทธิของ
บุคคลภายนอกผู้ทําการโดยสุจริตไม่ว่าจะได้เปลี่ยนแปลงเพิกถอนโดยคําสั่งของศาลหรือไม่ก็ตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๖
มาตรา ๑๔๖๔/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานัก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๓๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๔๖๙ สัญญาที่เกี่ยวกับทรัพย์สินใดที่สามีภริยาได้ทําไว้ต่อกันในระหว่าง
สํานักเป็ นสามีภริยากันนั้น ฝ่กาายใดฝ่ายหนึ่งสํจะบอกล้
งานคณะกรรมการกฤษฎี างเสียในเวลาใดทีกา่เป็นสามีภริยสํากัานันกอยู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่หรือภายใน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กํา หนดหนึ่ งปี นั บ แต่ วั นที่ ข าดจากการเป็ น สามี ภ ริ ย ากัน ก็ ไ ด้ แต่ไ ม่ ก ระทบกระเทื อ นถึ ง สิ ท ธิ ข อง
บุคคลภายนอกผู้ทสําํานัการโดยสุ จริต
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๔๗๐ ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา นอกจากที่ได้แยกไว้เป็นสินส่วนตัว
ย่อมเป็นสินสมรสสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๔๗๑ สินส่สํวานันตักงานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี วได้แก่ทรัพย์สิน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีอยู่ก่อนสมรส
สํ(๒) ที่เป็นเครื่องใช้สอยส่วกนตั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ว เครื่องแต่สํงากาย หรือเครื่องประดับกายตามควรแก่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ฐานะ หรือเครื่องมือเครื่องใช้ที่จําเป็นในการประกอบอาชีพหรือวิชาชีพของคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
(๓) ทีก่ฝา่ายใดฝ่ายหนึสํ่งได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัมกงานคณะกรรมการกฤษฎี
าระหว่างสมรสโดยการรักาบมรดกหรือโดยการให้ โดยเสน่หา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๔) ที่เป็นของหมั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๗๒ สินสํส่าวนันตั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วนั้น ถ้าได้แลกเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินสํอืา่นนัก็กดงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ี ซื้อทรัพย์สิน กา
อื่นมาก็ดี หรือขายได้เป็นเงินมาก็ดี ทรัพย์สินอื่นหรือเงินที่ได้มานั้นเป็นสินส่วนตัว
สํสิานันกส่งานคณะกรรมการกฤษฎี
วนตัวที่ถูกทําลายไปทักา้งหมดหรือแต่สํบานัางส่ วน แต่ได้ทรัพย์สินอืก่นาหรือเงินมา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทดแทน ทรัพย์สินอื่นหรือเงินที่ได้มานั้นเป็นสินส่วนตัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๗๓ สินส่วนตัวของคู่สมรสฝ่ายใดให้ฝ่ายนั้นเป็นผู้จัดการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๗๔ สินสมรสได้แก่ทรัพย์สิน
(๑) ทีก่คาู่สมรสได้มาระหว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
งสมรส กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้มาระหว่างสมรสโดยพินัยกรรมหรือโดยการให้เป็นหนังสือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อพินัยกรรมหรือหนังสือยกให้ระบุว่าเป็นสินสมรส
(๓) ทีก่เาป็นดอกผลของสิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกส่งานคณะกรรมการกฤษฎี
วนตัว กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ากรณีเป็นที่สงสัยว่าทรัพย์สินอย่างหนึ่งเป็นสินสมรสหรือมิใช่ ให้สันนิษฐานไว้
ก่อนว่าเป็นสินสมรส
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๔๗๕ ถ้าสํสิานนัสมรสใดเป็ นจําพวกที่ระบุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาไว้ในมาตรา สํ๔๕๖ แห่งประมวล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กฎหมายนี้ หรือที่มีเอกสารเป็นสําคัญ สามีหรือภริยาจะร้องขอให้ลงชื่อตนเป็นเจ้าของรวมกันใน
เอกสารนั้นก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๔๗๖ ๘๗ สํสามี แ ละภริ ย าต้ อ งจั ด การสิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาน สมรสร่ ว มกัสํานนัหรื อ ได้ รั บ ความ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ยินยอมจากอีกฝ่าสํยหนึ ่งในกรณีดังต่อไปนี้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๗
มาตรา ๑๔๗๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๓๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
(๑) ขาย แลกเปลี่ยน ขายฝาก ให้เช่าซื้อ จํานอง ปลดจํานอง หรือโอนสิทธิจํานอง
สํานักซึงานคณะกรรมการกฤษฎี
่งอสังหาริมทรัพย์หรือสักงาหาริมทรัพย์ทสํี่อานัาจจํ านองได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ก่อตั้งหรือกระทําให้สุดสิ้นลงทั้งหมดหรือบางส่วนซึ่งภาระจํายอม สิทธิอาศัย
สิทธิเหนือพื้นดิน สิาทนัธิกเงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ ก็บกิน หรือภาระติดพันกาในอสังหาริมทรั สําพนัย์กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์เกินสามปี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ให้กู้ยืมเงิน
สํ(๕) ให้โดยเสน่หา เว้นแต่กการให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ที่พอควรแก่
สํานัฐกานานุ รูปของครอบครัวกเพื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ่อการกุศล
เพื่อการสังคม หรือตามหน้าที่ธรรมจรรยา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๖) ประนี กา ประนอมยอมความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) มอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย
สํ(๘) นําทรัพย์สินไปเป็นประกั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กานหรือหลักประกั
สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ต่อเจ้าพนักงานหรือศาลกา
การจัดการสินสมรสนอกจากกรณีที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง สามีหรือภริยาจัดการได้
สํานักโดยมิ ต้องได้รับความยินกยอมจากอี
งานคณะกรรมการกฤษฎี า กฝ่าสํยหนึ
านัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๘๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา ๑๔๗๖/๑ สามีและภริยาจะจัดสํการสิ
กา านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นสมรสให้แตกต่างไปจากที่บัญญัติ
ไว้ในมาตรา ๑๔๗๖ ทั้งหมดหรือบางส่สํวานได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ก็ต่อเมื่อได้ทําสัญญาก่อนสมรสไว้ตามที
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่บัญญัติในมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๖๕ และมาตรา ๑๔๖๖ ในกรณีดังกล่าวนี้ การจัดการสินสมรสให้เป็นไปตามที่ระบุไว้ในสัญญา
ก่อนสมรส สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่สัญญาก่อนสมรสระบุการจัดการสินสมรสไว้แต่เพียงบางส่วนของมาตรา
สํานัก๑๔๗๖ การจัดการสินสมรสนอกจากที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํ่ราะบุ
นักไงานคณะกรรมการกฤษฎี
ว้ในสัญญาก่อนสมรสให้กเาป็นไปตามมาตรา สํานัก๑๔๗๖
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๔๗๗ ๘๙ สามี ภกริาย าฝ่ า ยใดฝ่ าสํยหนึ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ ง มี สิ ท ธิ ฟ้ อ ง ต่ อ สู้ หรืกอา ดํ า เนิ น คดี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เกี่ยวกับการสงวนบํารุงรักษาสินสมรส หรือเพื่อประโยชน์แก่สินสมรส หนี้อันเกิดแต่การฟ้อง ต่อสู้
สํานักหรื อดําเนินคดีดังกล่าว กให้า ถือว่าเป็นหนีสํ้ทานัี่สกามีงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ภริยาเป็นลูกหนี้ร่วมกักนา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๗๘ เมื่อฝ่ายใดต้องให้ความยินยอมหรือลงชื่อกับอีกฝ่ายหนึ่งในเรื่อง
สํานักจังานคณะกรรมการกฤษฎี
ดการทรัพย์สินแต่ไม่ให้กคา วามยินยอมหรื
สํานัอกไม่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ยอมลงชื่อโดยปราศจากเหตุ
กา ผล หรือไม่
สํานัอกยูงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ในสภาพที่อาจ กา
ให้ความยินยอมได้ อีกฝ่ายหนึ่งอาจร้องขอต่อศาลให้สั่งอนุญาตแทนได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๗๙ การใดที่สามีหรือภริยากระทํา ซึ่งต้องรับความยินยอมร่วมกันและ
สํานักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าการนั้นมีกฎหมายบัญกาญัติให้ทําเป็นสํหนั
านังกสืงานคณะกรรมการกฤษฎี
อหรือให้จดทะเบียนต่กอาพนักงานเจ้าหน้
สํานัากทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ ความยินยอม กา
นั้นต้องทําเป็นหนังสือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


๘๘
มาตรา ๑๔๗๖/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๘๙
มาตรา ๑๔๗๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๓๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
๙๐
มาตรา ๑๔๘๐ การจัดการสินสมรสซึ่งต้องจัดการร่วมกันหรือต้องได้รับความ
สํานักยิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นยอมจากอีกฝ่ายหนึ่งกตามมาตรา า ๑๔๗๖ ถ้าคู่สมรสฝ่ายหนึ่งได้ทกําานิติกรรมไปแต่สํเาพีนัยกงฝ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ายเดียวหรือ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โดยปราศจากความยินยอมของคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งอาจฟ้องให้ศาลเพิกถอนนิติ
กรรมนั้นได้ เว้นแต่สําคนัู่สกมรสอี กฝ่ายหนึ่งได้ให้สัตกยาบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี า นแก่นิติกสํรรมนั ้นแล้ว หรือในขณะที่ทกําานิติกรรมนั้น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
บุคคลภายนอกได้กระทําโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การฟ้องให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมตามวรรคหนึ่งห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นหนึ่งปี นับแต่
วันที่ได้รู้เหตุอันเป็สํนานัมูกลงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้เพิกถอน หรือเมื่อพ้นกาสิบปีนับแต่วันสํทีานั่ได้กทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ํานิติกรรมนั้น กา

มาตรากา ๑๔๘๑ สามีสํหานัรืกองานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ภริยาไม่มีอํานาจทําพินกาัยกรรมยกสินสมรสที ่เกินกว่าส่วน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ของตนให้แก่บุคคลใดได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๙๑
มาตรา ๑๔๘๒ ในกรณีที่สามีหรือภริยามีอํานาจจัดการสินสมรสแต่ฝ่ายเดียว คู่
สํานักสมรสอี กฝ่ายหนึ่งก็ยังมีกอาํานาจจัดการบ้สําานันเรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี อนและจัดหาสิ่งจําเป็กนา สําหรับครอบครั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตามสมควรแก่ กา
อัตภาพได้ ค่าใช้จ่ายในการนี้ย่อมผูกพันสินสมรสและสินส่วนตัวของทั้งสองฝ่าย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ าสามี ห รื อ ภริ ย าจั ด การบ้า นเรื อ นหรื อสํจัาดนัหาสิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่งจํ าเป็ นสํา หรั บครอบครัว เป็น ที่
เสียหายถึงขนาด อีกฝ่ายหนึ่งอาจร้องขอให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ศาลสั่งห้ามหรือจํากัดอํานาจนี้เสียได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๙๒
สํมาตรา ๑๔๘๓ ในกรณีทกี่สา ามีหรือภริยามี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
นาจจัดการสินสมรสแต่กฝา่ายเดียว ถ้า
สามีหรือภริยาจะกระทํา หรือกําลังกระทําการอย่างใดอย่างหนึ่งในการจัดการสินสมรสอันพึงเห็นได้ว่า
สํานักจะเกิ ดความเสียหายถึงขนาด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อีกฝ่ายหนึสํา่งนัอาจร้ องขอให้ศาลสั่งห้ามมิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาให้กระทําการนั
สํา้นนัได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๔๘๔๙๓ ถ้าสามีหกรืาอภริยาฝ่ายซึสํ่งมีานัอกํางานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นาจจัดการสินสมรส กา
(๑) จัดการสินสมรสเป็นที่เสียหายถึงขนาด
(๒) ไม่กาอุปการะเลี้ยงดูสําอนัีกกฝ่งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ายหนึ่ง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) มีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือทําหนี้เกินกึ่งหนึ่งของสินสมรส
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ขัดขวางการจัดการสินสมรสของอีกฝ่ายหนึ่งโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
(๕) มีกพาฤติการณ์ปรากฏว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าจะทําความหายนะให้กแาก่สินสมรส สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อีกฝ่ายหนึ่งอาจร้องขอให้ศาลสั่งอนุญาตให้ตนเป็นผู้จัดการสินสมรสแต่ผู้เดียวหรือ
สั่งให้แยกสินสมรสได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


๙๐
สํานัมาตรา ๑๔๘๐ แก้ไขเพิ่มเติกมาโดยพระราชบัสํญาญันัตกิแงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่
กา งและ
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๙๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๔๘๒ แก้ไสํขเพิ
านั่มกเติ มโดยพระราชบัญญัติแกก้าไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๙๒
มาตรา ๑๔๘๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๙๓
มาตรา ๑๔๘๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๓๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ในกรณีตามวรรคหนึ่ง ถ้ามีคําขอ ศาลอาจกําหนดวิธีคุ้มครองชั่วคราวเพื่อจัดการ
สํานักสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นสมรสได้ตามที่เห็นสมควร
กา และหากเป็
สํานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
กรณีฉุกเฉินให้นําบทบักญา ญัติเรื่องคําขอในเหตุ ฉุกเฉินตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๘๔/๑๙๔ ในกรณีที่ศาลได้มีคําสั่งห้ามหรือจํากัดอํานาจในการจัดการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สินสมรสของสามีหรือภริยาตามมาตรา ๑๔๘๒ มาตรา ๑๔๘๓ หรือมาตรา ๑๔๘๔ ถ้าต่อมาเหตุแห่ง
การนั้นหรือพฤติกสํารณ์ ได้เปลี่ยนแปลงไป สามีกหา รือภริยาอาจร้สําอนังขอต่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี อศาลให้ยกเลิกหรือกเปลี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่ยนแปลง
คําสั่งที่ห้ามหรือจํากัดอํานาจจัดการสินสมรสนั้นได้ ในการนี้ศาลจะมีคําสั่งใด ๆ ตามที่เห็นสมควรก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๘๕ สามี หรื อ ภริ ย าอาจร้ อ งขอต่ อ ศาลให้ ต นเป็ น ผู้ จัด การสิ นสมรส
โดยเฉพาะอย่างใดอย่
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
งหนึ่งหรือเข้าร่วมจัดการในการนั
กา ้นได้สํถ้าานัการที ่จะทําเช่นนั้นจะเป็นกประโยชน์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ยิ่ง
กว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๘๖๙๕ เมื่อศาลได้มีคําพิพากษาหรือคําสั่งถึงที่สุดตามความในมาตรา
๑๔๘๒ วรรคสองสํามาตรา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๘๓ มาตรา ๑๔๘๔ มาตรา ๑๔๘๔/๑ หรือมาตรา ๑๔๘๕ อันเป็นคุณ
แก่ผู้ร้องขอหรือตามมาตรา ๑๔๙๑ มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๙๒/๑ หรือมาตรา ๑๕๙๘/๑๗ หรืสํอาเมืนัก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สามีหรือภริยา กา
พ้นจากการเป็นบุคคลล้มละลาย ให้ศาลแจ้งไปยังนายทะเบียนเพื่อจดแจ้งไว้ในทะเบียนสมรส
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๙๖
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๘๗ ในระหว่างที่เป็นสามีภริยากัน ฝ่ายใดจะยึดหรืออายัดทรัพย์สิน
สํานักของอี กฝ่ายหนึ่งไม่ได้ เว้กนาแต่เป็นการยึสํดาหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
อายัดทรัพย์สินในคดีทกี่ฟา ้องร้องเพื่อการปฏิ บัติหน้าที่หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รักษาสิทธิระหว่างสามีภริยาตามที่บัญญัติไว้โดยเฉพาะในประมวลกฎหมายนี้หรือที่ประมวลกฎหมาย
นี้บัญญัติไว้โดยเฉพาะให้ สามีภริยาฟ้องร้องกักนาเองได้ หรือเป็สํานนัการยึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ด หรืออายัดทรัพย์กสาินสําหรับค่า
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
อุปการะเลี้ยงดูและค่าฤชาธรรมเนียมที่ยังมิได้ชําระตามคําพิพากษาของศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๘๘ ถ้าสามีหรือภริยาต้องรับผิดเป็นส่วนตัวเพื่อชําระหนี้ที่ก่อไว้ก่อน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือระหว่างสมรส ให้ชําระหนี้นั้นด้วยสินส่วนตัวของฝ่ายนั้นก่อน เมื่อไม่พอจึงให้ชําระด้วยสินสมรสที่
สํานักเป็ นส่วนของฝ่ายนั้น กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๔๘๙ ถ้าสามีภริยกาเป็


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นลูกหนี้ร่วสํมกั
านันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ชําระหนี้นั้นจากสินกสมรสและสิ
า น
ส่วนตัวของทั้งสองฝ่าย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๙๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๔๘๔/๑ เพิสํ่มานัโดยพระราชบั ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติา มประมวลกฎหมายแพ่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๙๕
มาตรา ๑๔๘๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๙๖
มาตรา ๑๔๘๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๓๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๔๙๐ หนี้ที่สามีภริยาเป็นลูกหนี้ร่วมกันนั้นให้รวมถึงหนี้ที่สามีหรือภริยา
สํานักก่งานคณะกรรมการกฤษฎี
อให้เกิดขึ้นในระหว่างสมรสดั
กา งต่อไปนีสํ้ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๙๗
(๑) หนี้เกี่ยวแก่การจัดการบ้านเรือนและจัดหาสิ่งจําเป็นสําหรับครอบครัว การ
อุปการะเลี้ยงดูตลอดถึ
สํ งการรักษาพยาบาลบุกคาคลในครอบครัสําวนัและการศึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กษาของบุตรตามสมควรแก่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อัตภาพ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) หนี้ที่เกี่ยวข้องกับสินสมรส
สํ(๓) หนี้ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการงานซึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งสามีภสํริายนัาทํ าด้วยกัน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๔) หนี้ ที่ ส ามี ห รื อ ภริ ย าก่ อ ขึ้ น เพื่ อ ประโยชน์ ต นฝ่ า ยเดี ย วแต่ อี ก ฝ่ า ยหนึ่ ง ได้ ใ ห้
สํานักสังานคณะกรรมการกฤษฎี
ตยาบัน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๔๙๑ ถ้าสามีหรืกอาภริยาต้องคําสํพิาพนัากษาให้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ล้มละลาย สินสมรสย่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อมแยก
จากกันโดยอํานาจกฎหมายนับแต่วันที่ศาลพิพากษาให้ล้มละลายนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๙๒ ๙๘ เมื่ อ ได้ แ ยกสิ น สมรสตามมาตรา ๑๔๘๔ วรรคสอง มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๙๑ หรือมาตรา ๑๕๙๘/๑๗ วรรคสองแล้ว ให้ส่วนที่แยกออกตกเป็ นสินส่วนตัวของสามีหรือภริยา
และบรรดาทรัพย์สินที่ฝ่ายใดได้มาในภายหลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งไม่ให้ถือเป็นสินสมรส แต่ให้เป็นสินสํส่านัวนตั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วของฝ่ายนั้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสินสมรสที่คู่สมรสได้มาโดยพินัยกรรมหรือโดยการให้เป็นหนังสือตามมาตรา ๑๔๗๔ (๒) ใน
ภายหลัง ให้ตกเป็สํนาสินันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ส่วนตัวของสามีและภริกยาาฝ่ายละครึ่ง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดอกผลของสินส่วนตัวที่ได้มาหลังจากที่ได้แยกสินสมรสแล้วให้เป็นสินส่วนตัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๙๙
มาตรา ๑๔๙๒/๑ ในกรณีที่มีการแยกสินสมรสโดยคําสั่งศาล การยกเลิกการ
แยกสินสมรสให้กสํระทํ าได้เมื่อสามีหรือภริยาร้กาองขอต่อศาลสํและศาลได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี มีคําสั่งให้ยกเลิกกาแต่ถ้าภริยา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือสามีคัดค้านศาลจะสั่งยกเลิกการแยกสินสมรสได้ต่อเมื่อเหตุแห่งการแยกสินสมรสได้สิ้นสุดลงแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เมื่อมีกกาารยกเลิกการแยกสิ นสมรสตามวรรคหนึก่งา หรือการแยกสิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกสมรสสิ ้นสุดลง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เพราะสามีหรือภริยาพ้นจากการเป็นบุคคลล้มละลาย ให้ทรัพย์สินที่เป็นสินส่วนตัวอยู่ในวันที่ศาลมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําสั่งหรือในวันที่พ้นจากการเป็นบุคคลล้มละลาย ยังคงเป็นสินส่วนตัวต่อไปตามเดิม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๙๓ ในกรณีที่ไม่มีสินสมรสแล้ว สามีและภริยาต้องช่วยกันออกค่าใช้
สอยสําหรับการบ้สําานเรื อนตามส่วนมากและน้อกยแห่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า งสินส่วนตัสํวานัของตน
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความเป็นโมฆะของการสมรส
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๙๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๔๙๐ (๑) แก้
สําไนัขเพิ ่มเติมโดยพระราชบัญญัตกิแาก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๙๘
มาตรา ๑๔๙๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๙๙
มาตรา ๑๔๙๒/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานัก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๓๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๔๙๔ การสมรสจะเป็นโมฆะก็แต่เฉพาะที่บัญญัติไว้ในหมวดนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๙๕๑๐๐ การสมรสที่ฝ่าฝืนมาตรา ๑๔๔๙ มาตรา ๑๔๕๐ มาตรา ๑๔๕๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และมาตรา ๑๔๕๘ เป็นโมฆะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๐๑
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๙๖ คําพิพากษาของศาลเท่านั้นที่จะแสดงว่า การสมรสที่ฝ่าฝืน
สํานักมาตรา ๑๔๔๙ มาตรา ๑๔๕๐
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา และมาตรา
สํานัก๑๔๕๘ เป็นโมฆะ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คู่สมรส บิดามารดา หรือผู้สืบสันดานของคู่สมรสอาจร้องขอให้ศาลพิพากษาว่าการ
สมรสเป็นโมฆะได้สําถ้นัากไม่งานคณะกรรมการกฤษฎี
มีบุคคลดังกล่าว ผู้มีสก่วานได้เสียจะร้อสํงขอให้ อัยการเป็นผู้ร้องขอต่กอาศาลก็ได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๔๙๗๑๐๒ สํการสมรสที ่เป็นโมฆะ เพราะฝ่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าฝืนมาตราสํา๑๔๕๒ บุคคลผู้มี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ส่วนได้เสียคนใดคนหนึ่งจะกล่าวอ้างขึ้น หรือจะร้องขอให้ศาลพิพากษาว่าการสมรสเป็นโมฆะก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๐๓
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๙๗/๑ ในกรณีที่ศาลมีคําพิพากษาถึงที่สุดว่าการสมรสใดเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นโมฆะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ศาลแจ้งไปยังนายทะเบียนเพื่อบันทึกความเป็นโมฆะไว้ในทะเบียนสมรส
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๐๔
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๙๘ การสมรสที่เป็นโมฆะ ไม่ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ทางทรัพย์สิน
สํานักระหว่ างสามีภริยา กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่การสมรสเป็นโมฆะ ทรัพย์สินที่ฝ่ายใดมีหรือได้มาไม่ว่าก่อนหรือหลังการ
สมรสรวมทั้งดอกผลคงเป็ นของฝ่ายนั้น ส่วนบรรดาทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พย์สสําินนัทีก่ทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ํามาหาได้ร่วมกันให้แกบ่างคนละครึ่ง
เว้นแต่ศาลจะเห็นสมควรสั่งเป็นประการอื่น เมื่อได้พิเคราะห์ถึงภาระในครอบครัว ภาระในการหา
สํานักเลีงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ยงชีพ และฐานะของคูก่กา รณีทั้งสองฝ่าสํยานัตลอดจนพฤติ การณ์อื่นทัก้งาปวงแล้ว สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี

๑๐๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔๙๙ การสมรสที่ เ ป็ น โมฆะ เพราะฝ่ า ฝื น มาตรา ๑๔๔๙ มาตรา
สํานัก๑๔๕๐ หรือมาตรา ๑๔๕๘
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ไม่ทําให้ชสํายหรื อหญิงผู้สมรสโดยสุจริกตาเสื่อมสิทธิที่ได้สํมานัาเพราะการสมรส
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ก่อนมีคําพิพากษาถึงที่สุดให้เป็นโมฆะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๐๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๔๙๕ แก้ไสํขเพิ
านัก่มงานคณะกรรมการกฤษฎี
เติมโดยพระราชบัญญัติแกก้าไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๐๑
สํานักมาตรา ๑๔๙๖ แก้ไขเพิ่มเติกมา โดยพระราชบัสํญานัญักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ิแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่
กา งและ
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๐๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๔๙๗ แก้ไสํขเพิ
านัก่มงานคณะกรรมการกฤษฎี
เติมโดยพระราชบัญญัติแกก้าไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๐๓
มาตรา ๑๔๙๗/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๐๔
มาตรา ๑๔๙๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๓๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
การสมรสที่เป็นโมฆะเพราะฝ่าฝืนมาตรา ๑๔๕๒ ไม่ทําให้ชายหรือหญิงผู้สมรสโดย
สํานักสุงานคณะกรรมการกฤษฎี
จริตเสื่อมสิทธิที่ได้มา กเพราะการสมรสก่
า สํานัอกนที ่ชายหรือหญิงนั้นรู้ถึงกเหตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ที่ทําให้การสมรสเป็ นโมฆะ แต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การสมรสที่เป็นโมฆะดังกล่าว ไม่ทําให้คู่สมรสเกิดสิทธิรับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรมของคู่สมรส
อีกฝ่ายหนึ่ง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การสมรสที่ เ ป็ น โมฆะเพราะฝ่ า ฝื น มาตรา ๑๔๔๙ มาตรา ๑๔๕๐ หรื อ มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๕๘ หรือฝ่าฝืนมาตรา ๑๔๕๒ ถ้าคู่สมรสฝ่ายใดได้สมรสโดยสุจริตฝ่ายนั้นมีสิทธิเรียกค่าทดแทนได้
และถ้าการสมรสทีสํา่เนัป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
โมฆะนั้นทําให้ฝ่ายที่ได้กาสมรสโดยสุจริสํตานัต้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
งยากจนลงเพราะไม่มีรกายได้ า พอจาก
ทรัพย์สิน หรือจากการงานที่เคยทําอยู่ก่อนมีคําพิพากษาถึงที่สุด หรือก่อนที่จะได้รู้ว่าการสมรสของ
สํานักตนเป็ นโมฆะแล้วแต่กรณี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ฝ่ายนั้นมีสิทสํธิาเนัรีกยงานคณะกรรมการกฤษฎี
กค่าเลี้ยงชีพได้ด้วย สิกทาธิเรียกค่าเลี้ยงชี
สํานัพกในกรณี นี้ ให้นํา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ๑๕๒๖ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๑๕๒๘ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํสิานัทกธิงานคณะกรรมการกฤษฎี
เรียกร้องค่าทดแทน หรื กาอค่าเลี้ยงชีพสํตามวรรคสาม มีกําหนดอายุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาความสองปี
นับแต่วันที่มีคําพิพากษาถึงที่สุด สําหรับกรณีการสมรสเป็นโมฆะเพราะฝ่าฝืนมาตรา ๑๔๔๙ มาตรา
สํานัก๑๔๕๐ หรือมาตรา ๑๔๕๘
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา หรือนับแต่สํวาันนัทีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่รู้ถึงเหตุที่ทําให้การสมรสเป็
กา นโมฆะ สําสํหรัานับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
กรณีการสมรส กา
เป็นโมฆะเพราะฝ่าฝืนมาตรา ๑๔๕๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๐๖
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๙๙/๑ ในกรณีที่การสมรสเป็นโมฆะ ข้อตกลงระหว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
างคู่สมรสว่าฝ่าย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใดจะเป็นผู้ใช้อํานาจปกครองบุตรคนใดหรือฝ่ายใดหรือทั้งสองฝ่ายจะเป็นผู้ออกเงินค่าอุปการะเลี้ยงดู
บุตรเป็นจํานวนเท่สําานัใดกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ทําเป็นหนังสือ หากตกลงกั
กา นไม่ได้สํใาห้นัศกาลเป็ นผู้ชี้ขาด ในการพิกจาารณาชี้ขาด
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ถ้าศาลเห็นว่ามีเหตุที่ถอนอํานาจปกครองของคู่สมรสนั้นได้ตามมาตรา ๑๕๘๒ ศาลจะถอนอํานาจ
สํานักปกครองของคู ่สมรสและสั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งให้บุคคลภายนอกเป็ นผู้ปกครองก็ได้ ทัก้งานี้ ให้ศาลคํานึสํงาถึนังกความผาสุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กและ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ประโยชน์ของบุตรนั้นเป็นสําคัญ และให้นําความในมาตรา ๑๕๒๑ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๐๐๑๐๗ การสมรสที่เป็นโมฆะไม่กระทบถึงสิทธิของบุคคลภายนอก
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ ก ระทํ า การโดยสุ จ ริ ตกซึา ่ ง ได้ ม าก่ อ นมีสํากนัารบั น ทึ ก ความเป็ น โมฆะไว้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ใ นทะเบี ย นสมรสตามมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๙๗/๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การสิ้นสุดแห่งการสมรส
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๕๐๑ การสมรสย่


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อมสิ้นสุดลงด้วยความตาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา การหย่าสําหรื
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ศาลพิพากษา กา
ให้เพิกถอน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๐๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๔๙๙ แก้ไสํขเพิ
านัก่มงานคณะกรรมการกฤษฎี
เติมโดยพระราชบัญญัติแกก้าไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๐๖
มาตรา ๑๔๙๙/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๐๗
มาตรา ๑๕๐๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๓๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา ๑๕๐๒ การสมรสที


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่เป็นโมฆียะสิ้นสุดลงเมื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่อศาลพิพากษาให้
สํานักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
พิกถอน กา

สํมาตรา ๑๕๐๓ เหตุที่จะขอให้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ศาลพิพากษาเพิ กถอนการสมรส เพราะเหตุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ว่าเป็น
โมฆียะ มีเฉพาะในกรณีที่คู่สมรสทําการฝ่าฝืนมาตรา ๑๔๔๘ มาตรา ๑๕๐๕ มาตรา ๑๕๐๖ มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๕๐๗ และมาตรา ๑๕๐๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๐๔ การสมรสที่เป็นโมฆียะเพราะฝ่าฝืนมาตรา ๑๔๔๘ ผู้มีส่วนได้เสีย
สํานักขอให้ เพิกถอนการสมรสได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา แต่บิดามารดาหรื อผู้ปกครองที่ให้ความยิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นยอมแล้วจะขอให้ เพิกถอนการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สมรสไม่ได้
สํถ้านัากศาลมิ ได้สั่งให้เพิกถอนการสมรสจนชายหญิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งมีอายุครบตามมาตราก๑๔๔๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า หรือ
เมื่อหญิงมีครรภ์ก่อนอายุครบตามมาตรา ๑๔๔๘ ให้ถือว่าการสมรสสมบูรณ์มาตั้งแต่เวลาสมรส
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๐๕ การสมรสที่ได้กระทําไปโดยคู่สมรสฝ่ายหนึ่งสําคัญผิดตัวคู่สมรส
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การสมรสนั้นเป็นโมฆียะ
สิทธิขอเพิกถอนการสมรสเพราะสํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าคัญผิดตัวคู่สมรสเป็นอันระงั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บเมื่อเวลาได้ผ่าน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พ้นไปแล้วเก้าสิบวันนับแต่วันสมรส
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๐๖ ถ้าคู่สมรสได้ทําการสมรสโดยถูกกลฉ้อฉลอันถึงขนาดซึ่งถ้ามิได้มีกล
สํานักฉ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
อฉลนั้นจะไม่ทําการสมรส กา การสมรสนัสํา้นนัเป็ นโมฆียะ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความในวรรคหนึ่ง ไม่ใช้บังคับในกรณีที่กลฉ้อฉลนั้นเกิดขึ้นโดยบุคคลที่สาม
โดยคู่สมรสอีกฝ่าสํยหนึ
านัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
มิได้รู้เห็นด้วย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิทธิขอเพิกถอนการสมรสเพราะถูกกลฉ้อฉลเป็นอันระงับเมื่อเวลาได้ผ่านพ้นไปแล้ว
สํานักเก้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าสิบวันนับแต่วันที่รู้หกรืาอควรได้รู้ถึงกลฉ้
สํานัอกฉล หรือเมื่อเวลาได้ผ่านพ้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กานไปแล้วหนึ่งสํปีานันักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่วันสมรส กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๐๗ ถ้าคู่สมรสได้ทําการสมรสโดยถูกข่มขู่อันถึงขนาดซึ่งถ้ามิได้มีการ
สํานักข่งานคณะกรรมการกฤษฎี
มขู่นั้นจะไม่ทําการสมรส กา การสมรสนัสํ้นาเป็
นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
โมฆียะ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิทธิขอเพิกถอนการสมรสเพราะถูกข่มขู่เป็นอันระงับ เมื่อเวลาได้ผ่านพ้นไปแล้ว
หนึ่งปีนับแต่วันทีสํ่พา้นนัจากการข่ มขู่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๕๐๘ การสมรสที


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่เป็นโมฆียะเพราะคูก่สามรสสําคัญผิดสํตัาวนัหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อถูกกลฉ้อฉล
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หรือถูกข่มขู่ เฉพาะแต่คู่สมรสที่สําคัญผิดตัวหรือถูกกลฉ้อฉล หรือถูกข่มขู่เท่านั้นขอเพิกถอนการสมรส
ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณี ที่ ผู้ มี สิ ท ธิ ข อเพิ ก ถอนการสมรสเป็ น บุ ค คลที่ ถู ก ศาลสั่ ง ให้ เ ป็ น คนไร้
สํานักความสามารถ ให้บุคคลซึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งอาจร้องขอต่ สํานัอกศาลให้ สั่งให้บุคคลวิกลจริ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ตเป็นคนไร้สํคาวามสามารถ ตาม
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ๒๘ ขอเพิสํกาถอนการสมรสได้ ด้วย แต่ถ้าผู้มีสิทธิขอเพิสํกานัถอนการสมรสเป็
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นคนวิกลจริตที่ศาลยัง
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่ได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ บุคคลดังกล่าวจะร้องขอเพิกถอนการสมรสก็ได้ แต่ต้องขอให้ศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๔๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
สั่งให้คนวิกลจริตเป็นคนไร้ความสามารถพร้อมกันด้วย ในกรณีที่ศาลมีคําสั่งให้ยกคําขอให้ศาลสั่งเป็น
สํานักคนไร้ ความสามารถ ก็ให้กศาาลมีคําสั่งยกคํสําานัขอเพิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กถอนการสมรสของบุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา คคลดังกล่าวนั
สํา้นนัเสี ยด้วย
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
คํ า สั่ ง ศาลให้ ย กคํ า ขอเพิ ก ถอนการสมรสของบุ ค คลตามวรรคสอง ไม่
กระทบกระเทือนสิานัทกธิงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ การขอเพิกถอนการสมรสของคู
กา ่สมรส
สํานักแต่ คู่ สมรสจะต้ องใช้สิ ทกาธินั้ นภายใน
งานคณะกรรมการกฤษฎี
กําหนดระยะเวลาที่คู่สมรสมีอยู่ ถ้าระยะเวลาดังกล่าวเหลืออยู่ไม่ถึงหกเดือนนับแต่วันที่ศาลมีคําสั่งให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยกคําขอเพิกถอนการสมรสของบุคคลดังกล่าวหรือไม่มีเหลืออยู่เลย ก็ให้ขยายระยะเวลานั้นออกไปได้
ให้ ครบหกเดือนหรืสํานัอกอีงานคณะกรรมการกฤษฎี
กหกเดื อนนับแต่วันทีก่ศา าลมีคําสั่งให้สํยานักคํ าขอเพิกถอนการสมรสของบุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ค คล
ดังกล่าว แล้วแต่กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๐๙ การสมรสที่ มิ ไ ด้ รั บ ความยิ น ยอมของบุ ค คลดั ง กล่ า วในมาตรา
๑๔๕๔ การสมรสนั
สํา้นนักเป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นโมฆียะ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๕๑๐ การสมรสที ่ เ ป็ น โมฆี ย ะเพราะมิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ไ ด้ รั บ ความยิ
สํานนักยอมของบุ ค คล
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ดังกล่าวในมาตรา ๑๔๕๔ เฉพาะบุคคลที่อาจให้ความยินยอมตามมาตรา ๑๔๕๔ เท่านั้น ขอให้เพิก
ถอนการสมรสได้สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิทธิขอเพิกถอนการสมรสตามมาตรานี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้เป็นอันระงับเมื่อคู่สมรสนัสํา้นนัมีกองานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ายุครบยี่สิบปี กา
บริบูรณ์หรือเมื่อหญิงมีครรภ์
สํการฟ้ องขอเพิกถอนการสมรสตามมาตรานี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํา้ในัห้กมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีอายุความหนึ่งปีนับแต่กวาันทราบการ
สมรส
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๑๑ การสมรสที่ได้มีคําพิพากษาให้เพิกถอนนั้น ให้ถือว่าสิ้นสุดลงใน
วันที่คําพิพากษาถึสํางนัทีก่สงานคณะกรรมการกฤษฎี
ุด แต่จะอ้างเป็นเหตุเสืก่อามสิทธิของบุคสํคลภายนอกผู ้ทําการโดยสุจกริาตไม่ได้ เว้น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่จะได้จดทะเบียนการเพิกถอนการสมรสนั้นแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๑๒ ให้นําบทบัญญัติว่าด้วยผลของการหย่าโดยคําพิพากษามาใช้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แก่ผลของการเพิกถอนการสมรสโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๑๓ ถ้าปรากฏว่าคู่สมรสที่ถูกฟ้องเพิกถอนการสมรสได้รู้เห็นเป็นใจใน
เหตุแห่งโมฆียะกรรม
สํานักคูงานคณะกรรมการกฤษฎี
่สมรสนั้นจะต้องรับผิดกใช้
า ค่าทดแทนความเสี ยหายซึ่งคู่สมรสอีกฝ่กาายหนึ่งได้รับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ต่อกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน เนื่องจากการสมรสนั้น และให้นํามาตรา ๑๕๒๕ มาใช้บังคับโดย
สํานักอนุ โลม
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าหากการเพิกถอนการสมรสตามวรรคหนึ่งทําให้อีกฝ่ายหนึ่งยากจนลง และไม่มี
รายได้พอจากทรัสํพาย์นัสกินงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือจากการงานตามทีกา่เคยทําอยู่ระหว่
สํานัางสมรส คู่สมรสที่ถูกฟ้องนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา้นจะต้องรับ
ผิดในค่าเลี้ยงชีพดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๕๒๖ ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๑๔ การหย่านั้นจะทําได้แต่โดยความยิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นยอมของทั้งสองฝ่ายหรือโดยคํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พิพากษาของศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๔๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
การหย่าโดยความยินยอมต้องทําเป็นหนังสือและมีพยานลงลายมือชื่ออย่างน้อย
สํานักสองคน
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๑๕ เมื่อได้จดทะเบี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนสมรสตามประมวลกฎหมายนี ้ การหย่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าโดยความ
ยินยอมจะสมบูรณ์ต่อเมื่อสามีและภริยาได้จดทะเบียนการหย่านั้นแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา
านัก๑๐๘ ๑๕๑๖ เหตุฟ้องหย่กาา มีดังต่อไปนี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(๑) สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมี
สํานักชูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ หรือร่วมประเวณีกับผูก้อาื่นเป็นอาจิณ สํอีากนัฝ่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
ยหนึ่งฟ้องหย่าได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) สามีหรือภริยาประพฤติชั่ว ไม่ว่าความประพฤติชั่วนั้นจะเป็นความผิดอาญา
หรือไม่ ถ้าเป็นเหตุสําในัห้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
ีกฝ่ายหนึ่ง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ก) ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี(ข) กา ได้ รั บ ความดู
สํานัถกู กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เกลีย ดชั ง เพราะเหตุ ทกาี่ค งเป็น สามี หสํรืาอนัภริ ย าของฝ่า ยที่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ประพฤติชั่วอยู่ต่อไป หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ค) ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้สํอานเกิ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นควร ในเมื่อเอาสภาพ ฐานะและ
ความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคําสํนึางนัประกอบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
สํ(๓) สามีหรือภริยาทําร้ายกหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อทรมานร่าสํงกายหรื อจิตใจ หรือหมิ่นกประมาทหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อ
เหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ ถ้าเป็นการร้ายแรง อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้อง
สํานักหย่ าได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปี อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่า
ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔/๑)๑๐๙ สามีหรือภริยาต้องคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุก และได้ถูกจําคุกเกินหนึ่งปี
สํานักในความผิ ดที่อีกฝ่ายหนึก่งามิได้มีส่วนก่อสํให้านัเกกิงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ดการกระทําความผิดหรื กา อยินยอมหรือสํรูานั้เห็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นใจในการ กา
กระทําความผิดนั้นด้วย และการเป็นสามีภริยากันต่อไปจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือเดือนร้อนเกินควร อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๔/๒)ก๑๑๐ า สามีและภริ สํานัยกาสมั ครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ที่ไม่อาจอยู
สํานัก่รงานคณะกรรมการกฤษฎี
่วมกันฉันสามี กา
ภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปี หรือแยกกันอยู่ตามคําสั่งของศาลเป็นเวลาเกินสามปี ฝ่ายใด
ฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าสํได้านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๑
(๕) สามีหรือภริยาถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ หรือไปจากภูมิลําเนาหรือถิ่นที่
สํานักอยู ่เป็นเวลาเกินสามปีโดยไม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา มีใครทราบแน่สํานักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรกอีา กฝ่ายหนึ่งฟ้อสํงหย่ าได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๐๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๕๑๖ (๑)สํแก้
านัไกขเพิ ่มเติมโดย พระราชบัญกญัาติแก้ไขเพิ่มเติมสํประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี ง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๖) พ.ศ. ๒๕๕๐
๑๐๙
มาตรา ๑๕๑๖ (๔/๑) เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๑๐
มาตรา ๑๕๑๖ (๔/๒) เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๔๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
(๖) สามีหรือภริยาไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตามสมควรหรือ
สํานักทํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที กา ่เป็นสามีหสํรืาอนัภริ ยากันอย่างร้ายแรง ทัก้งานี้ ถ้าการกระทํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สําานันัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถึงขนาดที่อีก กา
ฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอาสภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคํานึง
ประกอบ อีกฝ่ายหนึ สํานั่งกนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้นฟ้องหย่าได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) สามีหรือภริยาวิกลจริตตลอดมาเกินสามปี และความวิกลจริตนั้นมีลักษณะยาก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จะหายได้ กับทั้งความวิกลจริตถึงขนาดที่จะทนอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาต่อไปไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้อง
หย่าได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๘) สามีหรือภริยาผิดทัณฑ์บนที่ทําให้ไว้เป็นหนังสือในเรื่องความประพฤติ อีกฝ่าย
สํานักหนึ ่งฟ้องหย่าได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๙) สามีหรือภริยาเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงอันอาจเป็นภัยแก่อีกฝ่ายหนึ่งและโรค
มีลักษณะเรื้อรังไม่สํมานัีทกางที ่จะหายได้ อีกฝ่ายหนึกา่งนั้นฟ้องหย่าสํได้านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
(๑๐) สามีหรือภริยามีสภาพแห่งกาย ทําให้สามีหรือภริยานั้นไม่อาจร่วมประเวณีได้
สํานักตลอดกาล อีกฝ่ายหนึ่งฟ้กอา งหย่าได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๑๗ เหตุฟ้องหย่าตามมาตราสํ๑๕๑๖ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) และ (๒) ถ้าสามีหรือภริยา
แล้วแต่กรณี ได้ยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าที่เป็นเหตุหย่านั้น ฝ่ายที่ยินยอมหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อรู้เห็นเป็นใจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นั้นจะยกเป็นเหตุฟ้องหย่าไม่ได้
สํเหตุ ฟ้องหย่าตามมาตรา ๑๕๑๖
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา (๑๐) ถ้าสํเกิานัดกเพราะการกระทํ าของอีกกาฝ่ายหนึ่งอีก
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ฝ่ายหนึ่งนั้นจะยกเป็นเหตุฟ้องหย่าไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณีกา ฟ้องหย่าโดยอาศั
สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
เหตุแห่งการผิดทัณฑ์กบานตามมาตราสํ๑๕๑๖ (๘) นั้น ถ้า
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ศาลเห็นว่าความประพฤติของสามีหรือภริยาอันเป็นเหตุให้ทําทัณฑ์บนเป็นเหตุเล็กน้อยหรือไม่สําคัญ
เกี่ยวแก่การอยู่ร่วสํมกั
านันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฉันสามีภริยาโดยปกติสกุขา ศาลจะไม่พิพสํากษาให้ หย่าก็ได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา ๑๕๑๘ สิทธิสํฟานั้อกงหย่


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าย่อมหมดไปในเมื่อกฝ่าายที่มีสิทธิฟ้อสํงหย่
งานคณะกรรมการกฤษฎี าได้กระทําการ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อันแสดงให้เห็นว่าได้ให้อภัยในการกระทําของอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นเหตุให้เกิดสิทธิฟ้องหย่านั้นแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๒
มาตรากา ๑๕๑๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํในกรณี ที่คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งเป็นคนวิกลจริ
สํานักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
และมีเหตุหย่า กา
เกิดขึ้นไม่ว่าเหตุนั้นจะได้เกิดขึ้นก่อนหรือภายหลังการเป็นคนวิกลจริต ให้บุคคลซึ่งอาจร้องขอต่อศาล
ให้สั่งให้บุคคลวิกสํลจริ
านักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นคนไร้ความสามารถตามมาตรา
กา ๒๘
สํานัมีกองานคณะกรรมการกฤษฎี
ํานาจฟ้องคู่สมรสอีกฝ่กาายหนึ่งขอให้
ศาลพิพากษาให้หย่าขาดจากกันและแบ่งทรัพย์สินได้ ในกรณีเช่นว่านี้ ถ้ายังมิได้มีคําสั่งของศาลแสดง
สํานักว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าคู่สมรสซึ่งวิกลจริตเป็กนาคนไร้ความสามารถก็ ให้บุคคลดังกล่าวขอร้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาองขอต่อศาลในคดี เดียวกันนั้นให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ศาลมีคําสั่งว่าคู่สมรสซึ่งวิกลจริตนั้นเป็นคนไร้ความสามารถ
สํเมื
านั่อกบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
คคลดังกล่าวเห็นสมควร
กา จะร้องขอต่สํอานัศาลให้ มีคําสั่งตามมาตราก๑๕๒๖
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า หรือ
มาตรา ๑๕๓๐ ด้วยก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๑
มาตรา ๑๕๑๖ (๕) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๑๒
มาตรา ๑๕๑๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๑ แห่งประมวล
สํานักกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี
งและพาณิชย์ทกี่ไาด้ตรวจชําระใหม่สําพ.ศ.
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๕๓๕ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๔๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ในกรณี ที่ คู่ ส มรสซึ่ ง ถู ก อ้ า งว่ า เป็ น คนวิ ก ลจริ ต ยั ง ไม่ ไ ด้ ถู ก สั่ ง ให้ เ ป็ น คนไร้
สํานักความสามารถ หากศาลเห็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นว่าคู่สมรสนั
สํา้นนัยักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่เป็นคนที่ควรสั่งให้เกป็านคนไร้ความสามารถก็ ให้ยกฟ้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
คดีนั้นเสีย ถ้าเห็นว่าเป็นบุคคลที่ควรสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ แต่ยังไม่สมควรจะให้มีการหย่า ก็
ให้ศาลสั่งให้คู่สมรสนั
สํานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นคนไร้ความสามารถโดยไม่ กา จะสั่งเรืสํา่อนังผู ้อนุบาลหรือจะตั้งผู้อื่นกเป็า นผู้อนุบาล
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตามมาตรา ๑๔๖๓ ก็ได้ คงพิพากษายกแต่เฉพาะข้อหย่า ในกรณีเช่นนี้ศาลจะสั่งกําหนดค่าเลี้ยงชีพ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ด้วยก็ได้ ในกรณีที่ศาลเห็นว่าคู่สมรสนั้นวิกลจริตอันควรสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถและทั้งมีเหตุควร
ให้หย่าด้วย ก็ให้ศสําลสั
านัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ในคําพิพากษาให้คู่สมรสนั กา ้นเป็นคนไร้สํคาวามสามารถตั ้งผู้อนุบาลและให้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา หย่า
ในกรณีนี้ ถ้าศาลเห็นว่าเหตุหย่าที่ยกขึ้นอ้างในการฟ้องร้องนั้นไม่เหมาะสมแก่สภาพ
สํานักของคู ่สมรสซึ่งเป็นคนไร้กคาวามสามารถทีสํา่จนัะหย่
งานคณะกรรมการกฤษฎี าจากคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งก็ดี ตามพฤติ สํานักการณ์ ไม่สมควรที่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จะให้มีการหย่าขาดจากกันก็ดี ศาลจะพิพากษาไม่ให้หย่าก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๓
มาตรา ๑๕๒๐ ในกรณีหย่าโดยความยินยอม ให้สามีภริยาทําความตกลงเป็น
สํานักหนั งสือว่าฝ่ายใดจะเป็นกผูา้ใช้อํานาจปกครองบุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ตรคนใด ถ้ามิได้ตกลงกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กานหรือตกลงกัสํนาไม่
นักไงานคณะกรรมการกฤษฎี
ด้ ให้ศาลเป็นผู้ กา
ชี้ขาด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีหย่าโดยคําพิพากษาของศาล ให้ศสําลซึ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่งพิจารณาคดีฟ้องหย่านั้นชี้ขาดด้วย
ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ใช้อํานาจปกครองบุสํตานัรคนใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการพิจารณาชี้ขาดถ้าศาลเห็สํนาว่นัากมีงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เหตุที่จะถอน กา
อํานาจปกครองของคู่สมรสนั้นได้ตามมาตรา ๑๕๘๒ ศาลจะถอนอํานาจปกครองของคู่สมรสและสั่งให้
บุคคลภายนอกเป็สํานนัผูก้ปงานคณะกรรมการกฤษฎี
กครองก็ได้ ทั้งนี้ ให้ศกาลคํ
า านึงถึงความผาสุ กและประโยชน์ของบุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ตรนั้นเป็น
สําคัญ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๔
มาตรา ๑๕๒๑ ถ้ าปรากฏว่าผู้ใช้อํานาจปกครองหรือผู้ ปกครองตามมาตรา
๑๕๒๐ ประพฤติสํตานไม่ สมควร หรือภายหลังกพฤติ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า การณ์ได้เปลี
สํานั่ยกนแปลงไป ศาลมีอํานาจสั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งเปลี่ยนตัว
ผู้ใช้อํานาจปกครองหรือผู้ปกครองโดยคํานึงถึงความผาสุกและประโยชน์ของบุตรเป็นสําคัญ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๒๒ ถ้าสามีภริยาหย่าโดยความยินยอม ให้ทําความตกลงกันไว้ในสัญญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หย่าว่าสามีภริยาทั้งสองฝ่าย หรือสามีหรือภริยาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะออกเงินค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรเป็น
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านวนเงินเท่าใด กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ า หย่ า โดยคํ า พิ พ ากษาของศาลหรื อ ในกรณี ที่ สั ญ ญาหย่ า มิ ไ ด้ กํ า หนดเรื่ อ งค่ า
อุปการะเลี้ยงดูบุตสํรไว้ ให้ศาลเป็นผู้กําหนด กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๕
มาตรากา ๑๕๒๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํเมืานั่อกศาลพิ พากษาให้หย่ากันกเพราะเหตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ตามมาตรา ๑๕๑๖ (๑)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ภริยาหรือสามีมีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากสามีหรือภริยาและจากผู้ซึ่งได้รับการอุปการะเลี้ยงดูหรือยก
ย่อง หรือผู้ซึ่งเป็นสํเหตุ
านักแงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห่งการหย่านั้น กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


๑๑๓
มาตรา ๑๕๒๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๑๔
มาตรา ๑๕๒๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๔๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทํานองชู้สาวก็ได้ และภริยาจะ
สํานักเรีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยกค่าทดแทนจากหญิกงาอื่นที่แสดงตนโดยเปิ ดเผยเพื่อแสดงว่าตนมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ความสัมพันธ์สํกานัับกสามี ในทํานองชู้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สาวก็ได้
สํถ้านัากสามี หรื อภริยายินยอมหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อรู้ เห็ นเป็ นสํใจให้ อีกฝ่ายหนึ่งกระทําการตามมาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
๑๕๑๖ (๑) หรือให้ผู้อื่นกระทําการตามวรรคสอง สามีหรือภริยานั้นจะเรียกค่าทดแทนไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๒๔ ถ้าเหตุแห่กงาการหย่าตามมาตรา


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๑๕๑๖ (๓) (๔) หรือกา(๖) เกิดขึ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เพราะฝ่ายผู้ต้องรับผิดชอบก่อให้เกิดขึ้นโดยมุ่งประสงค์ให้อีกฝ่ายหนึ่งไม่อาจทนได้ จึงต้องฟ้องหย่าอีก
สํานักฝ่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ายหนึ่งมีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากฝ่
กา ายที
สํานั่ตก้องานคณะกรรมการกฤษฎี
งรับผิด กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๒๕ ค่าทดแทนตามมาตรา


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํ๑๕๒๓ และมาตรา ๑๕๒๔กานั้น ให้ศาล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
วินิจฉัยตามควรแก่พฤติการณ์ โดยศาลจะสั่งให้ชําระครั้งเดียวหรือแบ่งชําระเป็นงวด ๆ มีกําหนดเวลา
สํานักตามที ่ศาลจะเห็นสมควรก็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ผู้ จะต้ องชํ าระค่าทดแทนเป็นคู่ สมรสของอีกฝ่ายหนึ่ง ให้ศ าลคํานึงถึง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จํานวนทรัพย์สินที่คู่สมรสนั้นได้รับไปจากการแบ่งสินสมรสเพราะการหย่ านั้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๒๖ ในคดีหย่า ถ้าเหตุแห่งการหย่าเป็นความผิดของคู่สมรสฝ่ายใดฝ่าย
หนึ่งแต่ฝ่ายเดียวสํและการหย่ านั้นจะทําให้อกีกาฝ่ายหนึ่งยากจนลง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี เพราะไม่มีรายได้พอจากทรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พย์สิน
หรือจากการงานตามที่เคยทําอยู่ระหว่างสมรส อีกฝ่ายหนึ่งนั้นจะขอให้ฝ่ายที่ต้องรับผิดจ่ายค่าเลี้ยงชีพ
สํานักให้ ได้ ค่าเลี้ยงชีพนี้ศาลอาจให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา เพียงใดหรื สํานัอกไม่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ก็ได้ โดยคํานึงถึงความสามารถของผู
กา สํานั้ใกห้งานคณะกรรมการกฤษฎี
และฐานะของ กา
ผู้รับและให้นําบทบัญญัติมาตรา ๑๕๙๘/๓๙ มาตรา ๑๕๙๘/๔๐ และมาตรา ๑๕๙๘/๔๑ มาใช้บังคับ
โดยอนุโลม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิทธิเรียกร้องค่าเลี้ยงชีพเป็นอันสิ้นสุด ถ้ามิได้ฟ้องหรือฟ้องแย้งในคดีหย่านั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๒๗ ถ้าหย่าขาดจากกันเพราะเหตุวิกลจริตตามมาตรา ๑๕๑๖ (๗) หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เพราะเหตุเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงตามมาตรา ๑๕๑๖ (๙) คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งต้องออกค่าเลี้ยงชีพ
สํานักให้ แก่ฝ่ายที่วิกลจริตหรือกฝ่า ายที่เป็นโรคติสําดนัต่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี นั้นโดยคํานวณค่าเลี้ยงชี
กาพอนุโลมตามมาตรา ๑๕๒๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๑๕๒๘ ถ้าฝ่ายที่รับกค่า าเลี้ยงชีพสมรสใหม่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สิทธิรับค่าเลี้ยงชีพย่กอามหมดไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา ๑๕๒๙ สิทสํธิฟานั้อกงร้งานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี องโดยอาศัยเหตุในมาตรา
กา ๑๕๑๖ (๑)
สํานั(๒) (๓) หรือ (๖)
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หรือมาตรา ๑๕๒๓ ย่อมระงับไปเมื่อพ้นกําหนดหนึ่งปีนับแต่วันผู้กล่าวอ้างรู้หรือควรรู้ความจริงซึ่งตน
อาจยกขึ้นกล่าวอ้สําางนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เหตุอันจะยกขึ้นฟ้องหย่าไม่ได้แล้วนั้น อาจนําสืบสนับสนุนคดีฟ้องหย่าซึ่งอาศัยเหตุ
สํานักอย่ างอื่น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๕
มาตรา ๑๕๒๓ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา พ.ศ. ๒๕๕๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๖) สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๔๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๕๓๐ ขณะคดีฟ้องหย่าอยู่ในระหว่างพิจารณา ถ้าฝ่ายใดร้องขอ ศาลอาจ
สํานักสังานคณะกรรมการกฤษฎี
่งชั่วคราวให้จัดการตามที
กา ่เห็นสมควร สํเช่านันกในเรื ่องสินสมรส ที่พักอาศั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ย การอุปการะเลี ้ยงดูสามีภริยา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และการพิทักษ์อุปการะเลี้ยงดูบุตร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๓๑ การสมรสที่จดทะเบียนตามกฎหมายนั้น การหย่าโดยความยินยอม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ของคู่สมรสทั้งสองฝ่ายมีผลนับแต่เวลาจดทะเบียนการหย่าเป็นต้นไป
สํการหย่ าโดยคําพิพากษามีผกลแต่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า เวลาที่คําสํพิาพนักากษาถึ งที่สุด แต่จะอ้างเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นเหตุเสื่อม
สิทธิของบุคคลภายนอกผู้ทําการโดยสุจริตไม่ได้ เว้นแต่จะได้จดทะเบียนการหย่านั้นแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๓๒ เมื่อหย่ากันแล้วให้จัดการแบ่งทรัพย์สินของสามีภริยา
สํแต่
านักในระหว่ างสามีภริยา กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ก) ถ้าเป็นการหย่าโดยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย ให้จัดการแบ่งทรัพย์สินของ
สํานักสามี ภริยาตามที่มีอยู่ในเวลาจดทะเบี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนการหย่ า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ข) ถ้าเป็นการหย่าโดยคําพิพากษาของศาล คําพิ พากษาส่วนที่บังคับทรัพย์สิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ระหว่างสามีภริยานั้น มีผลย้อนหลังไปถึงวันฟ้องหย่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๓๓ เมื่อหย่ากันให้แบ่งสินสมรสให้ชายและหญิงได้ส่วนเท่ากัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๓๔ สินสมรสที่คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจําหน่ายไปเพื่อประโยชน์ตนฝ่าย
สํานักเดีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยวก็ดี จําหน่ายไปโดยเจตนาทํ
กา าให้สํคาู่สนักมรสอี กฝ่ายหนึ่งเสียหายก็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดี จํ าหน่ ายไปโดยมิ ได้รับความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ยินยอมของคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งในกรณีที่กฎหมายบังคับว่าการจําหน่ายนั้นจะต้องได้รับความยินยอม
ของอีกฝ่ายหนึ่งด้สําวนัยก็ ดี จงใจทําลายให้สูญกหายไปก็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ดี ให้สํถาือนัเสมื อนว่าทรัพย์สินนั้นยักงาคงมีอยู่เพื่อ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
จัดแบ่งสินสมรสตามมาตรา ๑๕๓๓ และถ้าคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งได้รับส่วนแบ่งสินสมรสไม่ครบตาม
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านวนที่ควรจะได้ ให้คกู่สามรสฝ่ายที่ได้สํจาํานัหน่ ายหรือจงใจทําลายสิกนาสมรสนั้นชดใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สําจนัากสิ นสมรสส่วน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ของตนหรือสินส่วนตัว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๕๓๕ เมื่สํอาการสมรสสิ ้นสุดลง ให้แบ่กงาความรับผิดในหนี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก้ทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี่จะต้องรับผิด กา
ด้วยกันตามส่วนเท่ากัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานับิกดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ามารดากับบุตร กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา บิดามารดา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


- ๒๔๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๕๓๖ เด็กเกิดแต่หญิงขณะเป็นภริยาชายหรือภายในสามร้อยสิบวัน นับ
สํานักแต่ วันที่การสมรสสิ้นสุดกลงา ให้สันนิษฐานไว้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อนว่าเป็นบุตรชอบด้วกยกฎหมายของชายผู
า ้เป็นสามี หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เคยเป็นสามี แล้วแต่กรณี
สํให้
านักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําความในวรรคหนึ่งมาใช้ กา บังคับแก่บุตสํรที
านั่เกกิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดจากหญิงก่อนที่ได้มีคกําาพิพากษาถึง
ที่สุดของศาลแสดงว่าการสมรสเป็นโมฆะ หรือภายในระยะเวลาสามร้อยสิบวันนับแต่วันนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๓๗ ในกรณีทกี่หาญิงทําการสมรสใหม่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นั้นเป็นการฝ่าฝืนมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๔๕๓
และคลอดบุตรภายในสามร้อยสิบวันนับแต่วันที่การสมรสสิ้นสุดลง ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเด็กที่เกิด
สํานักแต่ หญิงนั้นเป็นบุตรชอบด้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา วยกฎหมายของชายผู ้เป็นสามีคนใหม่กาและห้ามมิให้สํนาํานัข้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สันนิษฐานใน กา
มาตรา ๑๕๓๖ ที่ว่าเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของสามีเดิมมาใช้บังคับ ทั้งนี้ เว้นแต่มีคําพิพากษา
ของศาลแสดงว่าเด็สํากนัมิกใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ช่บุตรชอบด้วยกฎหมายของชายผู
กา ้เป็นสํสามี คนใหม่นั้น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา ๑๕๓๘๑๑๖ สํในกรณี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ที่ชายหรือหญิงสมรสฝ่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าฝืนมาตรา สํ๑๔๕๒ เด็กที่เกิดใน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ระหว่างการสมรสที่ฝ่าฝืนนั้น ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชายผู้เป็นสามีซึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ได้จดทะเบียนสมรสครั ้งหลัง
ในกรณีที่หญิงสมรสฝ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าฝืนมาตรา ๑๔๕๒ ถ้ามีคําพิพากษาถึงทีสํ่สาุดนัแสดงว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าเด็กมิใช่
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บุตรชอบด้วยกฎหมายของชายผู้เป็นสามีซึ่งได้จดทะเบียนสมรสครั้งหลัง ให้นําข้อสันนิษฐานในมาตรา
๑๕๓๖ มาใช้บังคัสํบานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้นําความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับแก่เด็กที่เกิดภายในสามร้อยสิบวันนับแต่วันที่
สํานักศาลมี คําพิพากษาถึงที่สกุดาให้การสมรสเป็สํานนัโมฆะเพราะฝ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี าฝืนมาตราก๑๔๕๒
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ด้วย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๓๙๑๑๗ ในกรณีกทาี่สันนิษฐานว่าสํเด็


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักกเป็ นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชายผู
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้
เป็นหรือเคยเป็นสามีตามมาตรา ๑๕๓๖ มาตรา ๑๕๓๗ หรือมาตรา ๑๕๓๘ ชายผู้เป็นหรือเคยเป็น
สํานักสามี จะไม่รับเด็กเป็นบุตกรของตนก็
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ได้ โดยฟ้ องเด็กกับมารดาเด็กร่วกมกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นเป็นจําเลยและพิ สูจน์ได้ว่าตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไม่ได้อยู่ร่วมกับมารดาเด็กในระยะเวลาตั้งครรภ์คือระหว่างหนึ่งร้อยแปดสิบวันถึงสามร้อยสิบวันก่อน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เด็กเกิด หรือตนไม่สามารถเป็นบิดาของเด็กได้เพราะเหตุอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี แต่ถ้ากในขณะยื
า ่นฟ้อสํงมารดาเด็ กไม่มีชีวิตอยู่ จะฟ้กาองเด็กแต่ผู้เดียสํวเป็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
จําเลยก็ได้ถ้า กา
เด็กไม่มีชีวิตอยู่ไม่ว่ามารดาของเด็กจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ จะยื่นคําร้องขอให้ศาลแสดงว่าเด็กนั้นไม่เป็น
บุตรก็ได้ ในกรณีสํทาี่มนัารดาของเด็ กหรือทายาทของเด็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กยังมีชสํีวาิตนัอยู ่ ให้ศาลส่งสําเนาคําร้อกงนี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้ไปให้ด้วย
และถ้าศาลเห็นสมควรจะส่งสําเนาคําร้องไปให้อัยการพิจารณาเพื่อดําเนินคดีแทนเด็กด้วยก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๘
มาตรา ๑๕๔๐ (ยกเลิก)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๕๓๘ แก้ไสํขเพิ
านัก่มงานคณะกรรมการกฤษฎี
เติมโดยพระราชบัญญัติแกก้าไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๑๗
มาตรา ๑๕๓๙ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๑๘
มาตรา ๑๕๔๐ ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานัก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา ๑๕๔๑ ชายผู


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้เป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือเคยเป็นสามีจะฟ้กอางคดีไม่รับเด็กสํเป็านันกบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตรตามมาตรา กา
๑๕๓๙ ไม่ได้ ถ้าปรากฏว่าตนเป็นผู้แจ้งการเกิดของเด็กในทะเบียนคนเกิดเองว่าเป็นบุตรของตน หรือ
จัดหรือยอมให้มีกสํารแจ้ งดังกล่าว
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๕๔๒๑๑๙ การฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตร ชายผู้เป็นหรือเคยเป็นสามีต้อง


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ฟ้องภายในหนึ่งปีสํนาับนัแต่ วันรู้ถึงการเกิดของเด็กกาแต่ห้ามมิให้ฟสํ้อานังเมื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ่อพ้นสิบปีนับแต่วันเกิดกของเด็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ก
ในกรณีที่มีคําพิพากษาของศาลแสดงว่าเด็กมิใช่บุตรชอบด้วยกฎหมายของชายผู้
สํานักเป็ นสามีคนใหม่ตามมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๕๓๗ หรื สําอนัชายผู ้เป็นสามีในการสมรสครั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้งหลังตามมาตรา ๑๕๓๘ ถ้า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ชายผู้เป็นหรือเคยเป็นสามีซึ่งต้องด้วยบทสันนิษฐานว่าเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของตนตาม
มาตรา ๑๕๓๖ ประสงค์ จะฟ้องคดีไม่รับเด็กกาเป็นบุตร ให้ฟสํา้อนังคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ภายในหนึ่งปีนับแต่กวาันที่รู้ว่ามีคํา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
พิพากษาถึงที่สุด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๔๓๑๒๐ ในกรณีที่ชายผู้เป็นหรือเคยเป็นสามีได้ฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บุตรแล้ว และตายก่ อนคดีนั้นถึงที่สุด ผู้มีสิทธิได้รับมรดกร่วสํมกัานับกเด็
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กหรือผู้จะเสียสิทธิรับมรดกเพราะ
การเกิดของเด็กนั้นจะขอเข้าเป็นคู่ความแทนที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่หรืออาจถูกเรียกให้เข้ามาเป็นคู่ความแทนที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ชายผู้เป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือเคยเป็นสามีก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๒๑
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๔๔ การฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตร ผู้มีสิทธิได้รับมรดกร่วมกับเด็ก
สํานักหรื อผู้จะเสียสิทธิรับมรดกเพราะการเกิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํดาของเด็ กอาจฟ้องได้ในกรณีกดาังต่อไปนี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๑) ชายผู้เป็นหรือเคยเป็นสามีตายก่อนพ้นระยะเวลาที่ชายผู้เป็นหรือเคยเป็นสามี
จะพึงฟ้องได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เด็กเกิดภายหลังการตายของชายผู้เป็นหรือเคยเป็นสามี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี การฟ้กอางคดีไม่รับเด็กสําเป็นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
บุตรในกรณี (๑) ต้องฟ้กาองภายในหกเดืสําอนันนั บแต่วันที่รู้ถึง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การตายของชายผู้เป็นหรือเคยเป็นสามี การฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตรในกรณี (๒) ต้องฟ้องภายในหก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เดือนนับแต่วันที่รู้ถึงการเกิดของเด็ก แต่ไม่ว่าเป็นกรณีใด ห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นสิบปีนับแต่วันเกิดของ
สํานักเด็งานคณะกรรมการกฤษฎี
ก กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้นํามาตรา ๑๕๓๙ มาใช้บังคับแก่การฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตรตามวรรคหนึ่งโดย
อนุโลม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๑๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๕๔๒ แก้ไสํขเพิ
านัก่มงานคณะกรรมการกฤษฎี
เติมโดยพระราชบัญญัติแกก้าไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๒๐
มาตรา ๑๕๔๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๒๑
มาตรา ๑๕๔๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๔๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
๑๒๒
มาตรา ๑๕๔๕ เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงต่อเด็กว่าตนมิได้เป็นบุตรสืบสายโลหิต
สํานักของชายผู ้เป็นสามีของมารดาตน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา เด็กสํจะร้
านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งขอต่ออัยการให้ฟ้องคดี กา ปฏิเสธความเป็
สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
บุตรชอบด้วย กา
กฎหมายของชายนั้นก็ได้
สํการฟ้ องคดีตามวรรคหนึ่ง กถ้าาเด็กได้รู้ข้อเท็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําจนัจริ งก่อนบรรลุนิติภาวะว่กาาตนมิได้เป็น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
บุตรของชายผู้เป็นสามีของมารดา ห้ามอัยการฟ้องคดีเมื่อพ้นหนึ่งปีนับแต่วันที่เด็กบรรลุนิติภาวะ แต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าเด็กรู้ข้อเท็จจริงดังกล่าวหลังจากบรรลุนิติภาวะแล้ว ห้ามอัยการฟ้องคดีเมื่อพ้นหนึ่งปีนับแต่วันที่
เด็กรู้เหตุนั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่ว่ากรณีใด ๆ ห้ามมิให้ฟ้องคดีปฏิเสธความเป็นบุตรเมื่อพ้นสิบปีนับแต่วันที่เด็ก
สํานักบรรลุ นิติภาวะ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๔๖๑๒๓ เด็กเกิกดาจากหญิงที่มสํิไาด้นัมกีกงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ารสมรสกับชาย ให้ถกือาว่าเป็นบุตร
ชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้น เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๔๗ เด็ ก เกิ ด จากบิ ด ามารดาที่ มิ ไ ด้ ส มรสกั น จะเป็ น บุ ต รชอบด้ ว ย
กฎหมายต่ อ เมื่ อ บิ ด ามารดาได้ ส มรสกั น ในภายหลั ง หรื อ บิสําดนัาได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จ ดทะเบี ย นว่ า เป็ น บุ ต รหรื อ ศาล
พิพากษาว่าเป็นบุตร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๒๔
สํมาตรา ๑๕๔๘ บิดาจะจดทะเบี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนเด็
สํากนัเป็ นบุตรชอบด้วยกฎหมายได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ต่อเมื่ อ
ได้รับความยินยอมของเด็กและมารดาเด็ก
ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ที่เด็กและมารดาเด็ กไม่ได้มาให้ความยินกยอมต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อหน้านายทะเบี ยน ให้นาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทะเบียนแจ้งการขอจดทะเบียนของบิดาไปยังเด็กและมารดาเด็ก ถ้าเด็กหรือมารดาเด็กไม่คัดค้านหรือ
ไม่ให้ความยินยอมภายในหกสิ บวันนับแต่การแจ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งนั้นถึงเด็กสํหรื
านัอกมารดาเด็ ก ให้สันนิษฐานว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าเด็กหรือ
มารดาเด็กไม่ให้ความยินยอม ถ้าเด็กหรือมารดาเด็กอยู่นอกประเทศไทยให้ขยายเวลานั้นเป็นหนึ่งร้อย
สํานักแปดสิ บวัน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่เด็กหรือมารดาเด็กคัดค้านว่าผู้ขอจดทะเบียนไม่ใช่บิดา หรือไม่ให้ความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยินยอม หรือไม่อาจให้ความยินยอมได้ การจดทะเบียนเด็กเป็นบุตรต้องมีคําพิพากษาของศาล
เมื่อศาลได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พิพากษาให้ สํานับกิดงานคณะกรรมการกฤษฎี
าจดทะเบียนเด็กเป็นบุกตารได้ และบิดาได้ สํานันกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
คําพิพากษาไป กา
ขอจดทะเบียนต่อนายทะเบียน ให้นายทะเบียนดําเนินการจดทะเบียนให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๔๙ เมื่อนายทะเบียนได้แจ้งการขอจดทะเบียนขอรับเด็กเป็นบุตรชอบ
สํานักด้งานคณะกรรมการกฤษฎี
วยกฎหมายไปยังเด็กและมารดาเด็
กา กตามมาตรา ๑๕๔๘ แล้ว ไม่วก่าาเด็กหรือมารดาเด็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
จะคัดค้านการ กา
จดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรตามมาตรา ๑๕๔๘ หรือไม่ ภายในกําหนดเวลาไม่เกินเก้าสิบวันนับแต่วัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๒๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๕๔๕ แก้ไสํขเพิ
านัก่มงานคณะกรรมการกฤษฎี
เติมโดยพระราชบัญญัติแกก้าไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๒๓
มาตรา ๑๕๔๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ. ๒๕๕๑
๑๒๔
มาตรา ๑๕๔๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๔๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
แจ้งการขอจดทะเบียนถึงเด็กหรือมารดาเด็ก เด็กหรือมารดาเด็กอาจแจ้งให้นายทะเบียนจดบันทึกไว้
สํานักได้ ว่าผู้ขอจดทะเบียนไม่กสามควรเป็นผู้ใช้สํอาํานันาจปกครองบางส่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กงานคณะกรรมการกฤษฎี วนหรือกาทั้งหมด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อได้มีคําแจ้งของเด็กหรือมารดาเด็กดังกล่าวในวรรคหนึ่งแล้ว แม้จะได้มีการจด
ทะเบียนรับเด็กเป็นานับุกตงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ รตามมาตรา ๑๕๔๘ กบิาดาของเด็กก็ยสํังาใช้ นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ํานาจปกครองบางส่วนหรื กา อทั้งหมด
ตามที่ เ ด็ ก หรื อ มารดาเด็ ก แจ้ ง ว่ า บิ ด าไม่ ส มควรเป็ น ผู้ ใ ช้ อํ า นาจปกครองนั้ น ไม่ ไ ด้ จนกว่ า ศาลจะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พิพากษาให้บิดาของเด็กใช้อํานาจปกครองบางส่วนหรือทั้งหมด หรือกําหนดเวลาเก้าสิบวันนับแต่วันที่
เด็กหรือมารดาเด็สํกาแจ้ นักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ต่อนายทะเบียนว่าผู้ขอจดทะเบีกา ยนรับสํเด็ านักกเป็ นบุตรไม่สมควรใช้อํากนาจปกครอง
งานคณะกรรมการกฤษฎี า
บางส่วนหรือทั้งหมดนั้นได้ล่วงพ้นไปโดยเด็กหรือมารดาเด็กมิได้ร้องขอต่อศาลให้พิพากษาว่าผู้ขอจด
สํานักทะเบี ยนรับเด็กเป็นบุตรไม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา เป็นผู้สมควรใช้
สํานัอกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
นาจปกครองบางส่วนหรื กา อทั้งหมด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในคดีที่ศาลพิพากษาว่าผู้ขอจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรเป็นผู้ไม่สมควรใช้อํานาจ
ปกครองบางส่วนหรื สํานัอกทังานคณะกรรมการกฤษฎี
้งหมด ศาลจะพิพากษาในคดี กา เดียวกัสํนานันัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ผู้ใดเป็นผู้ใช้อํานาจปกครองหรื
กา อ
เป็นผู้ปกครองเพื่อการปกครองบางส่วนหรือทั้งหมดก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๕๐๑๒๕ (ยกเลิก)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๕๑ ในกรณี ที่มีการคัดค้านว่าผู้ซึ่งขอจดทะเบียนรัสํบานัเด็กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กเป็นบุตรมิใช่ กา
บิดาของเด็ก เมื่อผู้ซึ่งขอจดทะเบี ยนรับเด็กเป็นบุตรนําคดีไปสู่ศาลขอให้ศาลพิพากษาว่าผู้ขอจด
ทะเบียนรับเด็กเป็สํนานับุกตงานคณะกรรมการกฤษฎี
รเป็นบิดาของเด็ก เด็กกหรืา อมารดาเด็กสํจะขอให้ ศาลพิพากษาในคดีกเาดียวกันนั้นก็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ว่าผู้ขอจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรแม้จะเป็นบิดาของเด็ก ก็เป็นผู้ไม่สมควรใช้อํานาจปกครอง
สํานักบางส่ วนหรือทั้งหมด ในกรณี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา เช่ นว่านีสํ้ใาห้นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําความในวรรคสามของมาตรา กา ๑๕๔๙
สํานักมาใช้ บังคับโดย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๕๒๑๒๖ ในกรณีที่เด็กไม่มีมารดาหรือมีมารดาแต่มารดาถูกถอนอํานาจ
สํานักปกครองบางส่ วนหรือทัก้งาหมดและศาลได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัตกั้งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้อื่นเป็นผู้ปกครองบางส่กา วนหรือทั้งหมดไว้ ก่อนมีการจด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทะเบียนรับเด็กเป็นบุตร บิดาซึ่งจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายแล้วจะร้องขอต่อศาลให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มีคําสั่ง ถอนความเป็ นผู้ปกครองบางส่ วน หรื อทั้ งหมดของผู้ปกครองและให้ บิดาเป็ นผู้ใ ช้ อํา นาจ
สํานักปกครองก็ ได้ ถ้าศาลเห็กนาว่าบิดาอาจใช้สําอนัํากนาจปกครองเพื
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่อความผาสุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กและประโยชน์
สํานักขงานคณะกรรมการกฤษฎี
องเด็กได้ดียิ่ง กา
กว่าผู้ปกครอง ศาลจะมีคําสั่งถอนความเป็นผู้ปกครองบางส่วนหรือทั้งหมดของผู้ปกครองและให้บิดา
เป็นผู้ใช้อํานาจปกครองก็ ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๒๗
มาตรากา ๑๕๕๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํ(ยกเลิ ก)
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๒๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๕๕๐ ยกเลิสํากนัโดยพระราชบั ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า มประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๒๖
มาตรา ๑๕๕๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๒๗
มาตรา ๑๕๕๓ ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานัก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๕๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๕๕๔ ผู้มีส่วนได้เสียจะขอให้ศาลถอนการจดทะเบียนเด็กรับเป็นบุตร
สํานักเพราะเหตุ ว่าผู้ขอให้จดทะเบี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนนั้นมิสํใาช่นับกิดงานคณะกรรมการกฤษฎี
าก็ได้ แต่ต้องฟ้องภายในสามเดื
กา อนนัสําบนัแต่ วันที่รู้การจด
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทะเบียนนั้น อนึ่ง ห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นสิบปีนับแต่วันจดทะเบียน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๕๕๑๒๘ ในคดีฟ้องขอให้รับเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย ให้สันนิษฐาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไว้ก่อนว่าเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชายเมื่อปรากฏข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้
สํ(๑) เมื่อมีการข่มขืนกระทํากชําาเรา ฉุดคร่าสํหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
หน่วงเหนี่ยวกักขังหญิกงมารดาโดยมิ

ชอบด้วยกฎหมายในระยะเวลาซึ่งหญิงนั้นอาจตั้งครรภ์ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒) เมืกา่อมีการลักพาหญิ
สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
มารดาไปในทางชู้สาวหรื กา อมีการล่อลวงร่
สํานักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
มประเวณีกับ กา
หญิงมารดาในระยะเวลาซึ่งหญิงนั้นอาจตั้งครรภ์ได้
สํ(๓) เมื่อมีเอกสารของบิดาแสดงว่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าเด็กนั้นเป็ สํานนับุกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตรของตน กา
(๔) เมื่อปรากฏในทะเบียนคนเกิดว่าเด็กเป็นบุตรโดยมีหลักฐานว่าบิดาเป็นผู้แจ้ง
สํานักการเกิ ดหรือรู้เห็นยินยอมในการแจ้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งนั้นสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) เมื่อบิดามารดาได้อยู่กินด้วยกันอย่างเปิดเผยในระยะเวลาซึ่งหญิงมารดาอาจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตั้งครรภ์ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) เมื่อได้มีการร่วมประเวณี กับหญิงมารดาในระยะเวลาซึ่งหญิสํงานันั้นกอาจตั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้งครรภ์ได้
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเด็กนั้นมิได้เป็นบุตรของชายอื่น
สํ(๗) เมื่อมีพฤติการณ์ที่รู้กันทักา่วไปตลอดมาว่สําาเป็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
บุตร กา
พฤติการณ์ที่รู้กันทั่วไปตลอดมาว่าเป็นบุตรนั้น ให้พิจารณาข้อเท็จจริงที่แสดง
สํานักความเกี ่ยวข้องฉันบิดากักบา บุตรซึ่งปรากฏในระหว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี างตัวเด็กกับครอบครั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วที่เด็กอ้าสํงว่านัากตนสั งกัดอยู่เช่น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บิดาให้การศึกษา ให้ความอุปการะเลี้ยงดูหรือยอมให้เด็กนั้นใช้ชื่อสกุลของตนหรือโดยเหตุประการอื่น
สํในกรณี ใดกรณีหนึ่งดังกล่ากวข้า างต้น ถ้าปรากฏว่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี าชายไม่อาจเป็นบิดาของเด็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กนั้นได้
ให้ยกฟ้องเสีย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๕๖ การฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรในระหว่างที่เด็กเป็นผู้เยาว์ ถ้าเด็ก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มีอายุยังไม่ครบสิบห้าปีบริบูรณ์ ผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กเป็นผู้ฟ้องแทน ในกรณีที่เด็กไม่มีผู้แทน
สํานักโดยชอบธรรม หรือมีแต่กผาู้แทนโดยชอบธรรมไม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี สามารถทําหน้าที่ได้กาญาติสนิทของเด็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักกหรื ออัยการอาจ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ร้องขอต่อศาลให้ตั้งผู้แทนเฉพาะคดีเพื่อทําหน้าที่ฟ้องคดีแทนเด็กก็ได้
สํเมื
านั่ กองานคณะกรรมการกฤษฎี
เด็ ก มี อ ายุ สิ บ ห้ า ปี บ ริ บกาู ร ณ์ เด็ ก ต้ อ งฟ้
สําอนักงเอง ทั้ ง นี้ โ ดยไม่ จํ า ต้ อกงได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า รั บ ความ
ยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณี กา ที่ เด็ กบรรลุสํนาิ ตนัิภกาวะแล้ ว จะต้องฟ้องคดี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาภายในหนึ่ งปีสํนานัั บกแต่ วันบรรลุนิติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ภาวะ
สํในกรณี ที่เด็ ก ตายในระหว่กาางที่เ ด็ กนั้ นยั งสํมีานัสกิทงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ธิ ฟ้อ งคดี ข อให้ รับ เด็กกาเป็น บุต รอยู่
ผู้สืบสันดานของเด็กจะฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรก็ได้ ถ้าผู้สืบสันดานของเด็กได้รู้เหตุที่อาจขอให้รับ
สํานักเด็งานคณะกรรมการกฤษฎี
กเป็นบุตรมาก่อนวันทีกา่เด็กนั้นตาย ผูสํ้สาืบนักสังานคณะกรรมการกฤษฎี
นดานของเด็กจะต้องฟ้กอางภายในหนึ่งสํปีานนัับกแต่ วันที่เด็กนั้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๒๘
มาตรา ๑๕๕๕ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา พ.ศ. ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๙) สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ตาย ถ้าผู้สืบสันดานของเด็กได้รู้เหตุที่อาจขอให้รับเด็กเป็นบุตรภายหลังที่เด็กนั้นตาย ผู้สืบสันดานของ
สํานักเด็งานคณะกรรมการกฤษฎี
กจะต้องฟ้องภายในหนึ กา่งปีนับแต่วันทีสํ่ราู้เนัหตุ ดังกล่าว แต่ทั้งนี้ ต้องไม่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พ้นสิบปีนับแต่
สําวนัันกทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่เด็กนั้นตาย กา
การฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรในระหว่างที่ผู้สืบสันดานของเด็กเป็นผู้เยาว์ ให้นํา
ความในวรรคหนึ่งและวรรคสองมาใช้
สํ บังคับโดยอนุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา โลม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๕๕๗๑๒๙ การเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา ๑๕๔๗ ให้มีผลนับ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่วันที่เด็กเกิด แต่
สําทนัั้งกนีงานคณะกรรมการกฤษฎี
้จะอ้างเป็นเหตุเสื่อมสิกทาธิของบุคคลภายนอกผู ้ทําการโดยสุจริตในระหว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา างเวลา
ตั้งแต่เด็กเกิดจนถึงเวลาที่บิดามารดาได้สมรสกันหรือบิดาได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตรหรือศาลพิพากษา
สํานักถึงานคณะกรรมการกฤษฎี
งที่สุดว่าเป็นบุตรไม่ได้กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๕๘ การฟ้องคดีกาขอให้รับเด็กเป็


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานนับุกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตรของผู้ตายที่ได้ฟ้องภายในกํ
กา าหนด
อายุความมรดก ถ้าศาลได้พิพากษาว่าเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย เด็กนั้นมีสิทธิรับมรดก
สํานักในฐานะทายาทโดยธรรม
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ได้มีการแบ่งมรดกไปแล้ว ให้นําบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เรื่องลาภมิควรได้มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๕๙ เมื่อได้จดทะเบียนเด็กเป็นบุตรแล้วจะถอนมิได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๖๐ บุตรเกิดระหว่างสมรสซึ่งศาลพิพากษาให้เพิกถอนภายหลังนั้น ให้
สํานักถืงานคณะกรรมการกฤษฎี
อว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิทธิและหน้าที่ของบิดามารดาและบุตร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๖๑ บุตรมีสิทธิใช้ชื่อสกุลของบิดา
ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาที่บิดาไม่ปรากฏ
สํานักบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตรมีสิทธิใช้ชื่อสกุลของมารดา
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๖๒ ผู้ใดจะฟ้อกงบุ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า พการีของตนเป็
สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
คดีแพ่งหรือคดีอาญามิกาได้ แต่เมื่อผู้
นั้นหรือญาติสนิทของผู้นั้นร้องขอ อัยการจะยกคดีขึ้นว่ากล่าวก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๖๓ บุตรจําต้องอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๖๔ บิดามารดาจําต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามสมควรแก่
สํานักบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตรในระหว่างที่เป็นผู้เยาว์
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๒๙
มาตรา ๑๕๕๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ.ก๒๕๕๑
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๕๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
บิดามารดาจําต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้วแต่เฉพาะผู้ทุพพลภาพ
สํานักและหาเลี ้ยงตนเองมิได้ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๖๕ การร้องขอค่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าอุปการะเลีสํ้ยางดู
นักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ุตรหรือขอให้บุตรได้รับกการอุ
า ปการะ
เลี้ยงดูโดยประการอื่น นอกจากอัยการจะยกคดีขึ้นว่ากล่าวตามมาตรา ๑๕๖๒ แล้ว บิดาหรือมารดา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จะนําคดีขึ้นว่ากล่าวก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๓๐
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๖๖ บุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องอยู่ใต้อํานาจปกครองของบิดา
สํานักมารดา
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อํานาจปกครองอยู่กับบิดาหรือมารดาในกรณีดังต่อไปนี้
สํ(๑) มารดาหรือบิดาตาย กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ไม่แน่นอนว่ามารดาหรือบิดามีชีวิตอยู่หรือตาย
(๓) กมารดาหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อ บิสํดานัาถูกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ก ศาลสั่ ง ให้ เ ป็ น คนไร้
กา ค วามสามารถหรื อ เสมื อ นไร้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ความสามารถ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) มารดาหรือบิดาต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะจิ ตฟั่นเฟือน
(๕) ศาลสั่งให้อํานาจปกครองอยู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่กับบิดาหรือมารดา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) บิดาและมารดาตกลงกันตามที่มีกฎหมายบัญญัติไว้ให้ตกลงกันได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๖๗ ผู้ใช้อํานาจปกครองมีสิทธิ
(๑) กํกาาหนดที่อยู่ของบุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําตนัรกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ทําโทษบุตรตามสมควรเพื่อว่ากล่าวสั่งสอน
สํ(๓) ให้บุตรทําการงานตามสมควรแก่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ความสามารถและฐานานุ รูป กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๔) เรียกบุตรคืนจากบุคคลอื่นซึ่งกักบุตรไว้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๖๘ เมื่อบุคคลใดมีบุตรติดมาได้สมรสกับบุคคลอื่น อํานาจปกครองที่มี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ต่อบุตรอยู่กับผู้ที่บุตรนั้นติดมา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๖๙ ผู้ใช้อํานาจปกครองเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตร ในกรณีที่
บุตรถูกศาลสั่งให้สํเป็านันกคนไร้ ความสามารถหรือกเสมื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า อนไร้ความสามารถ ผู้ใช้อํานาจปกครองย่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อมเป็นผู้
อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ แล้วแต่กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๑
มาตรา ๑๕๖๙/๑ ในกรณีที่ผู้เยาว์ถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถและศาล
มีคําสั่งตั้งบุคคลอืสํ่นานัซึก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
มิใช่ผู้ใช้อํานาจปกครองหรื
กา อผู้ปกครองเป็ นผู้อนุบาลให้คําสั่งนั้นกมีาผลเป็นการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถอนผู้ใช้อํานาจปกครอง หรือผู้ปกครองที่เป็นอยู่ในขณะนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๐
มาตรา ๑๕๖๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๓๑
มาตรา ๑๕๖๙/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานัก(ฉบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
บที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๕๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ในกรณี ที่ บุ ค คลซึ่ ง บรรลุ นิ ติ ภ าวะและไม่ มี คู่ ส มรสถู ก ศาลสั่ ง ให้ เ ป็ น คนไร้
สํานักความสามารถหรื อเสมืกอานไร้ความสามารถ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ให้บิดามารดา หรือบิกดาาหรือมารดาเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้อนุบาลหรือผู้ กา
พิทักษ์แล้วแต่กรณี เว้นแต่ศาลจะสั่งเป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๗๐ คําบอกกล่าวที่ผู้ใช้อํานาจปกครองตามมาตรา ๑๕๖๖ หรือมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๕๖๘ แจ้งไปหรือรับแจ้งมา ให้ถือว่าเป็นคําบอกกล่าวที่บุตรได้แจ้งไปหรือรับแจ้งมา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๗๑ อํานาจปกครองนั้น รวมทั้งการจัดการทรัพย์สินของบุตรด้วย และ
สํานักให้ จัดการทรัพย์สินนั้นด้กวายความระมัดระวั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานังกเช่ นวิญญูชนจะพึงกระทํกาา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๗๒ ผู้ใช้อํานาจปกครองจะทํ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สําาหนี
นัก้ทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี่บุตรจะต้องทําเองโดยมิ
กา ได้รับความ
ยินยอมของบุตรไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๗๓ ถ้าบุตรมีเงินได้ ให้ใช้เงินนั้นเป็นค่าอุปการะเลี้ยงดูและการศึกษา
ก่อน ส่วนที่เหลือผู้ใช้อํานาจปกครองต้องเก็บรักษาไว้เพื่อส่งสํมอบแก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บุตร แต่ถ้าผู้ใช้อํานาจปกครองไม่
มีเงินได้เพียงพอแก่การครองชีพตามสมควรแก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ฐานะ ผู้ใช้อํานาจปกครองจะใช้เงินสํนัานั้นกตามสมควรก็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ได้
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เว้นแต่จะเป็นเงินได้ที่เกิดจากทรัพย์สินโดยการให้โดยเสน่หาหรือพินัยกรรมซึ่งมีเงื่อนไขว่ามิให้ผู้ใช้
อํานาจปกครองได้สํปานัระโยชน์ จากทรัพย์สินนั้น กๆา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๒
มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๕๗๔ สํานินัตกิ กงานคณะกรรมการกฤษฎี
รรมใดอันเกี่ย วกั บทรักพา ย์สิน ของผู้เยาว์
สํานักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัง ต่ อไปนี้ ผู้ใ ช้ กา
อํานาจปกครองจะกระทํามิได้ เว้นแต่ศาลจะอนุญาต
สํ(๑) ขาย แลกเปลี่ยน ขายฝาก
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ให้เช่าซื้อ สํจําานันอง ปลดจํานอง หรือโอนสิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ทธิจํานอง
ซึ่งอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ที่อาจจํานองได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒) กระทํ กา าให้สุดสิ้นสํลงทั ้งหมดหรือบางส่วน ซึก่งทรั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า พยสิทธิของผูสํานั้เกยาว์ อันเกี่ยวกับ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อสังหาริมทรัพย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ก่อตั้งภาระจํายอม สิทธิอาศัย สิทธิเหนือพื้นดิน สิทธิเก็บกิน ภาระติดพันใน
สํานักอสั งหาริมทรัพย์ หรือทรักพา ยสิทธิอื่นใดในอสั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
หาริมทรัพย์ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) จําหน่ายไปทั้งหมดหรือบางส่วนซึ่งสิทธิเรียกร้องที่จะให้ได้มาซึ่งทรัพยสิทธิใน
อสังหาริมทรัพย์ สํหรืานัอกสังานคณะกรรมการกฤษฎี
งหาริมทรัพย์ที่อาจจํากนองได้
า หรือสิทสํธิาเนัรีกยงานคณะกรรมการกฤษฎี
กร้องที่จะให้ทรัพย์สินเช่ กานว่านั้นของ
ผู้เยาว์ปลอดจากทรัพยสิทธิที่มีอยู่เหนือทรัพย์สินนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๕) ให้กาเช่าอสังหาริมสํทรัานัพกย์งานคณะกรรมการกฤษฎี
เกินสามปี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) ก่อข้อผูกพันใด ๆ ที่มุ่งให้เกิดผลตาม (๑) (๒) หรือ (๓)
สํ(๗) ให้กู้ยืมเงิน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๘) ให้ โ ดยเสน่ ห า เว้ น แต่ จ ะเอาเงิ น ได้ ข องผู้ เ ยาว์ ใ ห้ แ ทนผู้ เ ยาว์ เ พื่ อ การกุ ศ ล
สํานักสาธารณะ เพื่อการสังคมกาหรือตามหน้าสํทีานั่ธรรมจรรยา
งานคณะกรรมการกฤษฎี ทั้งนี้ พอสมควรแก่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ฐานานุรูปสํของผู ้เยาว์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๙) รับการให้โดยเสน่หาที่มีเงื่อนไขหรือค่าสํภาระติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดพัน หรือไม่รับการให้โดยเสน่หา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๒
มาตรา ๑๕๗๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๕๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
(๑๐) ประกันโดยประการใด ๆ อันอาจมีผลให้ผู้เยาว์ต้องถูกบังคับชําระหนี้หรือทํา
สํานักนิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ติกรรมอื่นที่มีผลให้ผู้เยาว์
กา ต้องรับเป็นสํผูา้รนัับกชํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าระหนี้ของบุคคลอื่นหรืกาอแทนบุคคลอืสํ่นานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑๑) นําทรัพย์สินไปแสวงหาผลประโยชน์นอกจากในกรณีที่บัญญัติไว้ในมาตรา
๑๕๙๘/๔ (๑) (๒) าหรืสํ นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
(๓) กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑๒) ประนีประนอมยอมความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑๓) มอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๗๕ ถ้าในกิจการใด ประโยชน์ของผู้ใช้อํานาจปกครองหรือประโยชน์
สํานักของคู ่สมรสหรือบุตรของผู
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ใช้อํานาจปกครองขั ดกับประโยชน์ของผูก้เยาว์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ผู้ใช้อํานาจปกครองต้ องได้รับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อนุญาตจากศาลก่อนจึงทํากิจการนั้นได้ มิฉะนั้นเป็นโมฆะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๗๖ ประโยชน์ของผู้ใช้อํานาจปกครอง หรือของคู่สมรสหรือบุตรของ
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ใช้อํานาจปกครองตามมาตรา
กา ๑๕๗๕สํให้
านักหงานคณะกรรมการกฤษฎี
มายความรวมถึงประโยชน์
กา ในกิจการดัสํงต่านัอกไปนี ้ด้วย คือ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๑) ประโยชน์ใ นกิจการที่กระทํากับห้างหุ้ นส่วนสามัญ ที่ บุค คลดังกล่าวนั้นเป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หุ้นส่วน
(๒) ประโยชน์ ใ นกิ จสําการที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ ก ระทํ ากั บ ห้า งหุ้น ส่ ว นจํ ากั ด ที่บุ คสํคลดั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งกล่ า วนั้ น เป็ น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หุ้นส่วนจําพวกไม่จํากัดความรับผิด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๓๓
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๗๗ บุคคลใดจะโอนทรัพย์สินให้ผู้เยาว์โดยพินัยกรรมหรือโดยการให้
สํานักโดยเสน่ หาซึ่งมีเงื่อนไขให้กาบุคคลอื่นนอกจากผู
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้ใช้อํานาจปกครองเป็นกาผู้จัดการจนกว่สําาผูนั้เกยาว์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี จะบรรลุนิติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ภาวะก็ ได้ ผู้ จัด การนั้นต้ องเป็ นผู้ ซึ่งผู้ โอนระบุชื่อ ไว้ หรื อถ้า มิ ได้ ร ะบุ ไว้ ก็ ใ ห้ ศ าลสั่งแต่ ก ารจัด การ
ทรัพย์สินนั้นต้องอยูสํานั่ภกายใต้ บังคับมาตรา ๕๖ มาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๕๗ มาตรา สํานัก๖๐
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๕๗๘ ในกรณี ที่อํานาจปกครองสิ้นไปเพราะผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้เยาว์สํบารรลุ นิติภาวะ ผู้ใช้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อํานาจปกครองต้องรีบส่งมอบทรัพย์สินที่จัดการและบัญชีในการนั้นให้ผู้บรรลุนิติภาวะเพื่อรับรอง ถ้า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มีเอกสารเกี่ยวกับเรื่องจัดการทรัพย์สินนั้น ก็ให้ส่งมอบพร้อมกับบัญชี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีในกรณี
กา ที่อํานาจปกครองสิ ้นไปเพราะเหตุอื่นนอกจากที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่กล่าวในวรรคหนึ ่ง ให้มอบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทรัพย์สิน บัญชี และเอกสารที่เกี่ยวกับเรื่องจัดการทรัพย์สินให้แก่ผู้ใช้อํานาจปกครอง ถ้ามี หรือ
ผู้ปกครองแล้วแต่สํการณี เพื่อรับรอง
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๕๗๙ ในกรณี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี่คู่สมรสฝ่ายหนึ่งถึงแก่กคา วามตายและมี
สําบนักุตงานคณะกรรมการกฤษฎี
รที่เกิดด้วยกัน กา
และคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งจะสมรสใหม่ ถ้าคู่สมรสนั้นได้ครอบครองทรัพย์สินอันเป็นสัดส่วนของบุตรไว้
อย่างถูกต้องแล้ว สํจะส่
านักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
มอบทรัพย์สินให้แก่บุตกรในเมื า ่อสามารถจั
สํานักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
การก็ได้ หรือมิฉะนั้นจะเก็ กา บรักษาไว้
เพื่อมอบให้บุตรเมื่อถึงเวลาอันสมควรก็ได้ แต่ถ้าทรัพย์สินใดเป็นจําพวกที่ระบุไว้ในมาตรา ๔๕๖ หรือ
สํานักทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่มีเอกสารเป็นสําคัญ ให้กาลงชื่อบุตรเป็นสําเจ้นัากของรวมในเอกสารนั ้น กก่าอนที่จะจัดการดั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานังกกล่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าวคู่สมรสนั้น กา
จะทําการสมรสมิสํได้านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๓
มาตรา ๑๕๗๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๑ แห่งประมวล
สํานักกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี
งและพาณิชย์ทกี่ไาด้ตรวจชําระใหม่สําพ.ศ.
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๕๓๕ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๕๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ในกรณีที่มีเหตุอันสมควร ศาลจะมีคําสั่งให้คู่สมรสดังกล่าวทําการสมรสไปก่อนก็ได้
สํานักคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าสั่งศาลเช่นว่านี้ ให้ระบุ
กา ไว้ด้วยว่าให้คสํู่สานัมรสปฏิ บัติการแบ่งแยกทรักาพย์สินและทําสํบัาญนักชีงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ทรัพย์สิน ตาม กา
ความในวรรคหนึ่งภายในกําหนดเวลาเท่าใด ภายหลังการสมรสนั้นด้วย
สํในกรณี ที่การสมรสได้กระทํกาาไปโดยมิได้ปสํฏิาบนััตกิตงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ามวรรคหนึ่ง หรือในกรณี กา ที่คู่สมรส
ไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของศาลดังกล่าวในวรรคสอง เมื่อความปรากฏแก่ศาลเอง หรือเมื่อญาติของผู้เยาว์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรืออัยการร้องขอ ศาลมีอํานาจสั่งให้ถอนอํานาจปกครองจากคู่สมรสนั้น หรือจะมอบให้บุคคลหนึ่ง
บุคคลใดทําบัญชีสํแาละลงชื ่อบุตรเป็นเจ้าของรวมในเอกสารดั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํงากล่
นักางานคณะกรรมการกฤษฎี
วแทนโดยให้คู่สมรสเสีกยา ค่าใช้จ่ายก็
ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เพื่อประโยชน์
กา แห่งมาตรานี ้ ให้ถือว่าบุตรบุญธรรมของคู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่สมรสทีสํ่ตานัายไปและที ่มีชีวิต
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อยู่ทั้งสองฝ่ายเป็นบุตรที่เกิดจากคู่สมรส
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๔
มาตรา ๑๕๘๐ ผู้เยาว์ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว ผู้ใช้อํานาจปกครองหรือผู้ปกครองจะ
สํานักให้ การรับรองการจัดการทรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา พย์ สิ นของผู
สํานัก้ เยาว์ ได้ต่อเมื่อได้รับมอบทรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา พย์ สิ นบั ญสํชีานัแกละเอกสารตาม
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๗๘ แล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๘๑ สํคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เกี่ยวกับการจัดการทรัพย์สินในระหว่างผูสํ้เายาว์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กับผู้ใช้อํานาจ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ปกครองนั้น ห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นหนึ่งปีนับแต่เวลาที่อํานาจปกครองสิ้นไป
ถ้สําาอํนัากนาจปกครองสิ ้นไปขณะบุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ตรยังเป็นผู้เสํยาว์
านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ยู่ ให้เริ่มนับอายุความในวรรคหนึ
กา ่ง
ตั้งแต่เวลาที่ผู้เยาว์บรรลุนิติภาวะ หรือเมื่อมีผู้แทนโดยชอบธรรมขึ้นใหม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๘๒ ถ้ า ผู้ ใ ช้ อํ า นาจปกครองเป็ น คนไร้ ค วามสามารถหรื อ เสมื อ นไร้
ความสามารถโดยคํ สํานัาสัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของศาลก็ดี ใช้อํานาจปกครองเกี
กา ่ยวแก่
สํานัตกัวผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้เยาว์โดยมิชอบก็ดี ประพฤติ
กา ชั่วร้าย
ก็ดี ในกรณีเหล่านี้ ศาลจะสั่ งเอง หรือจะสั่งเมื่อญาติ ของผู้เยาว์หรืออัยการร้องขอให้ถอนอํานาจ
สํานักปกครองเสี ยบางส่วนหรืกอาทั้งหมดก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าผู้ใช้อํานาจปกครองล้มละลายก็ดี หรือจัดการทรัพย์สินของผู้เยาว์ในทางที่ผิดจน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อาจเป็นภัยก็ดี ศาลจะสั่งตามวิธีในวรรคหนึ่งให้ถอนอํานาจจัดการทรัพย์สินเสียก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๘๓ ผู้ถูกถอนอํานาจปกครองบางส่วนหรือทั้งหมดนั้น ถ้าเหตุดังกล่าวไว้
ในมาตราก่อนสิ้นสํไปแล้ ว และเมื่อตนเองหรือกาญาติของผู้เยาว์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัรก้องานคณะกรรมการกฤษฎี
งขอ ศาลจะสั่งให้มีอํากนาจปกครอง

ดังเดิมก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๘๔ การที่ ผู้ ใ ช้ อํ า นาจปกครองถู ก ถอนอํ า นาจปกครองบางส่ ว นหรื อ
ทั้งหมด ไม่เป็นเหตุ
สําในัห้กผงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้นั้นพ้นจากหน้าที่อุปการะเลี
กา ้ยงดูผู้เยาว์
สําตนัามกฎหมาย
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๑๓๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ก๑๕๘๔/๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า บิดาหรือมารดาย่อมมีสิทธิที่จะติดต่อกับบุตสํรของตนได้ ตามควร
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แก่พฤติการณ์ ไม่สํวา่านับุกคงานคณะกรรมการกฤษฎี
คลใดจะเป็นผู้ใช้อํานาจปกครองหรื
กา
อผูสํ้ปานักครองก็ ตาม
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๔
มาตรา ๑๕๘๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๕๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความปกครอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๕๘๕ บุคคลที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะและไม่มีบิดามารดาหรือบิดามารดาถูก
ถอนอํานาจปกครองเสี ยแล้วนั้น จะจัดให้มีผู้ปกกครองขึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้นในระหว่
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
งที่เป็นผู้เยาว์ก็ได้ กา
ในกรณีที่ผู้ใช้อํานาจปกครองถูกถอนอํานาจปกครองบางส่วนตามมาตรา ๑๕๘๒
สํานักวรรคหนึ ่ง ศาลจะตั้งผู้ปกกครองในส่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า วนที
สํานั่ผกู้ใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ช้อํานาจปกครองถูกถอนอํกา านาจปกครองนั ้นก็ได้ หรือใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กรณีที่ผู้ใช้อํานาจปกครองถูกถอนอํานาจจัดการทรัพย์สินตามมาตรา ๑๕๘๒ วรรคสอง ศาลจะตั้ง
ผู้ปกครองเพื่อจัดสํการทรั พย์สินก็ได้๑๓๖
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๕๘๖๑๓๗ สํผูา้ปนักครองตามมาตรา


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๑๕๘๕กา นั้น ให้ตั้งโดยคํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัาสัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
ศาลเมื่อมีการ กา
ร้องขอของญาติของผู้เยาว์ อัยการ หรือผู้ซึ่งบิดาหรือมารดาที่ตายทีหลังได้ระบุชื่อไว้ในพินัยกรรมให้
เป็นผู้ปกครอง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภายใต้บังคับมาตราสํ๑๕๙๐ การตั้งผู้ปกครองนั้นถ้ามีข้อกําหนดพิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นัยกรรมก็ให้ศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตั้งตามข้อกําหนดพินัยกรรม เว้นแต่พินัยกรรมนั้นไม่มีผลบังคับหรือบุคคลที่ระบุชื่อไว้ในพินัยกรรมนั้น
เป็นบุคคลที่ต้องห้สําามมิ
นักใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห้เป็นผู้ปกครองตามมาตรา
กา ๑๕๘๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๕๘๗ บุคคลที


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก่บงานคณะกรรมการกฤษฎี
รรลุนิติภาวะแล้วอาจถูกกาตั้งเป็นผู้ปกครองได้ เว้นแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๑) ผู้ซึ่งศาลสั่งว่าเป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
สํ(๒) ผู้ซึ่งเป็นบุคคลล้มละลาย
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ผู้ซึ่งไม่เหมาะสมที่จะปกครองผู้เยาว์หรือทรัพย์สินของผู้เยาว์
(๔) ผูก้ซาึ่งมีหรือเคยมีคสํดีานัในศาลกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บผู้เยาว์ ผู้บุพการีกหา รือพี่น้องร่วมบิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สําดนัามารดาหรื อร่วม
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แต่บิดาหรือมารดากับผู้เยาว์
สํานัก๑๓๘
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) ผู้ซึ่งบิดาหรือมารดาที่ตายได้ทําหนังสือระบุชื่อห้ามไว้มิให้เป็นผู้ปกครอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๘๘๑๓๙ หากปรากฏว่าบุคคลที่ศาลตั้งให้เป็นผู้ปกครองเป็นผู้ต้องห้ามมิ
ให้เป็นผู้ปกครองตามมาตรา ๑๕๘๗ อยู่ในขณะที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ศาลตั้งให้เสํป็านนัผูก้ปงานคณะกรรมการกฤษฎี
กครองโดยปรากฏแก่กศาาลเองหรือผู้
๑๓๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๕๘๔/๑ เพิ
สํา่มนัโดยพระราชบั ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า มประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๓๖
สํานักมาตรา ๑๕๘๕ วรรคสอง แก้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาไขเพิ่มเติมโดยพระราชบั ญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๓๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๕๘๖ แก้ไสํขเพิ
านัก่มงานคณะกรรมการกฤษฎี
เติมโดยพระราชบัญญัติแกก้าไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๓๘
มาตรา ๑๕๘๗ (๕) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๓๙
มาตรา ๑๕๘๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๕๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มีส่วนได้เสี ยหรืออัยการร้องขอ ให้ศาลสั่งเพิกถอนคําสั่งตั้งผู้ปกครองนั้นเสี ยและมีคําสั่งเกี่ยวกับ
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ปกครองต่อไปตามที่เห็กนา สมควร สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การเพิ ก ถอนคํ า สั่ ง ตั้ ง ผู้ ป กครองตามวรรคหนึ่ ง ไม่ ก ระทบกระเทื อ นสิ ท ธิ ข อง
บุคคลภายนอกผู้การะทํ
สํ าการโดยสุจริต เว้นแต่กาในกรณีการเพิสํากนัถอนคํ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี าสั่งตั้งผู้ปกครองทีก่ตา้องห้ามตาม
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา ๑๕๘๗ (๑) หรือ (๒) การกระทําของผู้ปกครองไม่ผูกพันผู้เยาว์ไม่ว่าบุคคลภายนอกจะได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กระทําการโดยสุจริตหรือไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๔๐
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๘๙ (ยกเลิก)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๑
มาตรา ๑๕๙๐ ผู้ปกครองมีได้คราวหนึ่งเพียงคนเดียว แต่ในกรณีมีข้อกําหนด
พินัยกรรมให้ตั้งผูสํ้าปนักครองหลายคนหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี อเมื่อกมีา ผู้ร้องขอโดยมี
สํานัเหตุ ผลอันสมควร ให้ศาลมี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อํานาจตั้ ง
ผู้ ป กครองได้ ต ามจํ า นวนที่ ศ าลเห็ น ว่ า จํ า เป็ น ในกรณี ที่ ตั้ ง ผู้ ป กครองหลายคนศาลจะกํ า หนดให้
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ปกครองเหล่านั้นกระทํกาาการร่วมกันหรืสําอนักํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
หนดอํานาจเฉพาะสําหรั กาบคนหนึ่ง ๆ ก็สํไาด้นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๑๔๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา ๑๕๙๑ ความเป็นผู้ปกครองนัสํ้นาเรินั่มกแต่
กา งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วันทราบคําสั่งตั้งของศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙๒๑๔๓ ให้ผู้ปกครองรีบทําบัญชีทรัพย์สินของผู้อยู่ในปกครองให้เสร็จ
ภายในสามเดือนนัสําบนัแต่ วันที่ทราบคําสั่งตั้งของศาล
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา แต่ผู้ปกครองจะร้ องต่อศาลก่อนสิ้นกกําาหนดขอให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยืดเวลาก็ได้
บัญชีกนาั้นต้องมีพยานรัสําบนัรองความถู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กต้องอย่างน้อกยสองคน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า พยานสองคนนั ้นต้องเป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้บรรลุนิติภาวะและเป็นญาติของผู้อยู่ในปกครอง แต่ถ้าหาญาติไม่ได้จะให้ผู้อื่นเป็นพยานก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙๓ ให้ผู้ปกครองยื่นสําเนาบัญชีทรัพย์สินที่ตนรับรองว่าถูกต้องต่อศาล
สํานักฉบั บหนึ่งภายในสิบวันนักบา แต่วันที่ได้ทสํําาบันัญกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ชีทรัพย์สินแล้ว และศาลจะสั
กา ่งให้ผู้ปกครองชี ้แจงเพิ่มเติม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หรือให้นําเอกสารมาประกอบเพื่อแสดงให้เห็นว่าบัญชีนั้นถูกต้องแล้วก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าศาลมิได้มีคําสั่งเป็นอย่างอื่นภายในสิบห้าวันนับแต่วันยื่นบัญชี หรือวันชี้แจง
๑๔๔
สํานักเพิ ่มเติม หรือวันนําเอกสารยื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่นประกอบแล้ สํานัวกแต่ กรณี ให้ถือว่าศาลยอมรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บบัญชีนั้นแล้
สําวนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๕๘๙ ยกเลิสํากนัโดยพระราชบั ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า มประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๔๑
สํานักมาตรา ๑๕๙๐ แก้ไขเพิ่มเติกมา โดยพระราชบัสํญานัญักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ิแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่
กา งและ
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๔๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๕๙๑ แก้ไสํขเพิ
านัก่มงานคณะกรรมการกฤษฎี
เติมโดยพระราชบัญญัติแกก้าไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๔๓
มาตรา ๑๕๙๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๔๔
มาตรา ๑๕๙๓ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา พ.ศ. ๒๕๓๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๕๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๕๙๔ ถ้าผู้ปกครองไม่ปฏิบัติเกี่ยวแก่การทําบัญชีทรัพย์สินหรือการยื่น
สํานักบังานคณะกรรมการกฤษฎี
ญชีทรัพย์สินให้ถูกต้อกงครบถ้
า วนตามทีสํา่บนััญกญั ติไว้ในมาตรา ๑๕๙๒กาหรือมาตรา ๑๕๙๓
งานคณะกรรมการกฤษฎี หรือไม่ปฏิบัติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตามคําสั่งศาลซึ่งสั่งตามมาตรา ๑๕๙๓ หรือศาลไม่พอใจในบัญชีทรัพย์สินเพราะทําขึ้นด้วยความ
เลินเล่ออย่างร้ายแรงหรื อไม่สุจริต หรือเห็นกได้า ชัดว่าผู้ปกครองหย่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อนความสามารถ ศาลจะสั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งถอน
ผู้ปกครองนั้นเสียก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๙๕ ก่อนที่ศาลยอมรั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บบัญชีนสํั้นานัห้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
มมิให้ผู้ปกครองทํากิจการใด
กา เว้นแต่
เป็นการเร่งร้อนและจําเป็น แต่จะยกข้อห้ามดังกล่าวขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้กระทําการโดย
สํานักสุงานคณะกรรมการกฤษฎี
จริตและเสียค่าตอบแทนไม่
กา ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๙๖ ถ้ามีหนี้เป็กนา คุณแก่ผู้ปกครองแต่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี เป็นโทษต่อผู้อยู่ในปกครองหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ
เป็นคุณแก่ผู้อยู่ในปกครองแต่เป็นโทษต่อผู้ปกครอง ให้ผู้ปกครองแจ้งข้อความเหล่านั้นต่อศาลก่อนลง
สํานักมืงานคณะกรรมการกฤษฎี
อทําบัญชีทรัพย์สิน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าผู้ปกครองรู้ว่ามีหนี้เป็นคุณแก่ตนแต่เป็นโทษต่อผู้อยู่ในปกครอง และมิได้แจ้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อความนั้นต่อศาล หนี้ของผู้ปกครองนั้นย่อมสูญไป
ถ้าผู้ปกครองรู้ว่ามีหสํนีานั้เป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โทษต่อตน แต่เป็นคุณ
กา
แก่ผู้อยู่ในปกครอง และมิได้แจ้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อความนั้นต่อศาล ศาลจะสั่งถอนผู้ปกครองก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙๗ เมื่อศาลเห็นสมควรโดยลําพัง หรือเมื่อผู้มีส่วนได้เสียหรืออัยการ
สํานักร้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องขอ ศาลอาจสั่งให้ผู้ปกกครอง
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) หาประกันอันสมควรในการจัดการทรัพย์สินของผู้อยู่ในปกครอง ตลอดจนการ
มอบคืนทรัพย์สินสํนัา้นนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) แถลงถึงความเป็นอยู่แห่งทรัพย์สินของผู้อยู่ในปกครอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙๘ ในระหว่างปกครอง ถ้าผู้อยู่ในปกครองได้ทรัพย์สินอันมีค่ามาโดย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทางมรดกหรือการให้โดยเสน่หา ให้นํามาตรา ๑๕๙๒ ถึงมาตรา ๑๕๙๗ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙๘/๑ ให้ผู้ปกครองทําบัญชีทรัพย์สินส่งต่อศาลปีละครั้งนับแต่วันเป็น
ผู้ปกครอง แต่เมื่อสํศาลได้ รับบัญชีปีแรกแล้วจะสั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่งให้ส่งบัญชีเช่สํานนัว่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้นในระยะเวลาเกินหนึก่งาปีก็ได้

มาตรากา ๑๕๙๘/๒ ผูสํ้ปานักครองมี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สิทธิและหน้าที่เช่กนา เดียวกับผู้ใช้อสําํานันาจปกครองตาม
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๖๔ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๑๕๖๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙๘/๓ ผู้ปกครองเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้อยู่ในปกครอง
ให้นํากมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ๑๕๗๐สํมาตรา ๑๕๗๑ มาตรา ๑๕๗๒
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มาตรา ๑๕๗๔ มาตรา ๑๕๗๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ๑๕๗๖ และมาตรา ๑๕๗๗ มาใช้บังคับแก่ผู้ปกครองและผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้อยู่ในปกครองโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


- ๒๕๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๕๙๘/๔ เงินได้ของผู้อยู่ในปกครองนั้น ผู้ปกครองย่อมใช้ได้ตามสมควร
สํานักเพื ่อการอุปการะเลี้ยงดูกแาละการศึกษาของผู
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้อยู่ในปกครอง ถ้ามีเหลื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อให้ใช้เพื่อแสวงหาผลประโยชน์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เฉพาะในเรื่องต่อไปนี้
สํ(๑) ซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทยหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อพันธบัตรทีสํ่รานััฐบาลไทยค้ ําประกัน กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๒) รับขายฝากหรือรับจํานองอสังหาริมทรัพย์ในลําดับแรก แต่จํานวนเงินที่รับขาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ฝากหรือรับจํานองต้องไม่เกินกึ่งราคาตลาดของอสังหาริมทรัพย์นั้น
สํ(๓) ฝากประจําในธนาคารที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่ได้ตั้งขึ้นโดยกฎหมายหรื อที่ได้รับอนุญาตให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ประกอบ
กิจการในราชอาณาจักร
(๔) ลงทุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นอย่างอื่นซึสํ่งศาลอนุ ญาตเป็นพิเศษ กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๙๘/๕ ถ้า ผู้ อกยูา่ ใ นปกครองรูสํ้จาันักกผิงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ด ชอบและมีอ ายุ ไม่ ต่ํากกว่
า า สิ บ ห้ า ปี
บริบูรณ์เมื่อผู้ปกครองจะทํากิจการใดที่สําคัญ ให้ปรึกษาหารือผู้อยู่ในปกครองก่อนเท่าที่จะทําได้
การทีก่ผาู้อยู่ในปกครองได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
ินยอมด้วยนั้นหาคุ้มผู้ปกกครองให้
า พ้นจากความรั บผิดไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

๑๔๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา ๑๕๙๘/๖ กา
ความปกครองสิ้นสุสํดาลงเมื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่อผู้อยู่ในปกครองตายหรือบรรลุนิติ
ภาวะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๖
สํมาตรา ๑๕๙๘/๗ ความเป็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นผู้ปกครองสิ
สํานั้นกสุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดลงเมื่อผู้ปกครอง กา
(๑) ตาย
(๒) ลาออกโดยได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา รับสํอนุ
านักญงานคณะกรรมการกฤษฎี
าตจากศาล กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) เป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ
สํ(๔) เป็นบุคคลล้มละลาย กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) ถูกถอนโดยคําสั่งศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙๘/๘๑๔๗ ให้ศาลสั่งถอนผู้ปกครองในกรณีดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ผู้ปกครองละเลยไม่กระทําการตามหน้าที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี(๒) ผูก้ปากครองประมาทเลิ นเล่ออย่างร้ายแรงในหน้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาาที่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ผู้ปกครองใช้อํานาจหน้าที่โดยมิชอบ
สํ(๔) ผู้ปกครองประพฤติมิชอบซึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งไม่สมควรแก่
สํานัหกน้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าที่ กา
(๕) ผู้ปกครองหย่อนความสามารถในหน้าที่จนน่าจะเป็นอันตรายแก่ประโยชน์ของ
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้อยู่ในปกครอง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) มีกรณีดังบัญญัติไว้ในมาตรา ๑๕๘๗ (๓) (๔) หรือ (๕)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๕๙๘/๖ แก้
สําไนัขเพิ ่มเติมโดยพระราชบัญญัตกิแาก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๔๖
มาตรา ๑๕๙๘/๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๔๗
มาตรา ๑๕๙๘/๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๖๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา ๑๕๙๘/๙ การร้


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งขอให้ถอนผู้ปกครองตามมาตรา
กา ๑๕๙๘/๘ นั้น ผู้อยู่ใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ปกครองซึ่งมีอายุไม่ต่ํากว่าสิบห้าปีบริบูรณ์ หรือญาติของผู้อยู่ในปกครองหรืออัยการจะเป็นผู้ร้องขอก็
ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๕๙๘/๑๐ ในระหว่างพิจารณาคําร้องขอให้ถอนผู้ปกครอง ศาลจะตั้ง
ผู้จัดการชั่วคราวให้
สําจนััดกการทรั พย์สินของผู้อยู่ใกนปกครองแทนผู
งานคณะกรรมการกฤษฎี า สํา้ปนักครองก็ ได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๕๙๘/๑๑สํานัถ้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
ความปกครองหรื อ ความเป็
กา น ผู้ ป กครองสิ ้ น สุ ด ลง ให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้ปกครองหรือทายาทรีบส่งมอบทรัพย์สินที่จัดการแก่ผู้อยู่ในปกครอง หรือทายาทหรือผู้ปกครองคน
ใหม่ และให้ทําบัญสําชีนัใกนการจั ดการทรัพย์สินส่งกมอบภายในเวลาหกเดื
งานคณะกรรมการกฤษฎี า อน และถ้ามีเอกสารเกี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ยวกับเรื่อง
จัดการทรัพย์สินนั้นก็ใ ห้ ส่งมอบพร้อมกับบัญ ชี แต่เมื่อผู้ปกครองหรือทายาทร้องขอศาลจะสั่งให้
สํานักยืงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดเวลาก็ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้นํามาตรา ๑๕๘๐ และมาตรา ๑๕๘๑ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙๘/๑๒สํานันักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่วันส่งมอบบัญชี ให้กาเริ่มคิดดอกเบีสํ้ายนัในจํ านวนเงินซึ่ง
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ปกครองหรือผู้อยู่ในปกครองจะต้องคืนให้แก่กัน
สํถ้านัากผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ปกครองใช้เงินของผู้อกยูา่ในปกครองนอกจากเพื ่อประโยชน์ของผู้อกยูา่ในปกครอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
แล้ว ให้เสียดอกเบี้ยร้อยละสิบห้าต่อปีในจํานวนเงินนั้นตั้งแต่วันใช้เป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙๘/๑๓ ผู้ อ ยู่ ใ นปกครองมี บุ ริ ม สิ ท ธิ เ หนื อ ทรั พ ย์ สิ น ทั้ ง หมดของ
ผู้ปกครองเพื่อชําระหนี ้ซึ่งค้างอยู่แก่ตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บุริมสิทธินี้ให้อยู่ในลําดับที่หกถัดจากบุริมสิทธิสามัญอย่างอื่นตามมาตรา ๒๕๓ แห่ง
สํานักประมวลกฎหมายนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙๘/๑๔ ผู้ปกครองไม่มีสิทธิได้รับบําเหน็จ เว้นแต่ในกรณีต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี(๑) มีกขา ้อกําหนดไว้ใสํนพิ
านักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัยกรรมให้ผู้ปกครองได้ การับบําเหน็จ ในกรณี เช่นว่านี้ ให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้ปกครองได้รับบําเหน็จเท่าที่กําหนดในพินัยกรรม
สํ(๒) ในกรณีที่พินัยกรรมไม่ไกด้ากําหนดบําเหน็สําจนัไว้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี แต่ไม่มีข้อกําหนดห้ามผู กา้ปกครองรับ
บําเหน็จ ผู้ปกครองจะร้องขอต่อศาลให้กําหนดบําเหน็จในภายหลังก็ได้ ศาลจะกําหนดให้หรือไม่
สํานักเพี ยงใดก็ได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ในกรณี ที่ ไ ม่ มี คํ า สั่ ง ตั้ ง ผู้ ป กครองไว้ ใ นพิ นั ย กรรม และไม่ มี ข้ อ กํ า หนดห้ า ม
ผู้ปกครองรับบําเหน็
สํานัจกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ศาลจะกําหนดบําเหน็กจาให้แก่ผู้ปกครองในคํ าสั่งตั้งผู้ปกครองก็ได้กาหรือถ้าศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มิได้กําหนด ผู้ปกครองจะร้องขอต่อศาลให้กําหนดบําเหน็จในภายหลังก็ได้ ศาลจะกําหนดให้หรือไม่
สํานักเพี ยงใดก็ได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการพิจารณากําหนดบําเหน็จ ให้ศาลพิสําเคราะห์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถึงพฤติการณ์ รายได้และฐานะ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความเป็นอยู่ของผู้ปกครองและผู้อยู่ในปกครอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๖๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ถ้าผู้ปกครองหรือผู้อยู่ในปกครองแสดงได้ว่า พฤติการณ์ รายได้หรือฐานะความ
สํานักเป็ นอยู่ของผู้ปกครองหรืกอา ผู้อยู่ในปกครองได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี เปลี่ยนแปลงไปภายหลักางที่ได้เข้ารับหน้สําานัทีก่ผงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ู้ปกครอง ศาล กา
จะสั่งให้บําเหน็จ งด ลด เพิ่ม หรือกลับให้บําเหน็จแก่ผู้ปกครองอีกก็ได้ แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ให้ใช้บังคับ
แก่กรณีที่มีข้อกําหนดห้ ามไว้ในพินัยกรรมมิให้กผาู้ปกครองได้รับสําบํนัากเหน็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี จด้วย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรา ๑๕๙๘/๑๕๑๔๘ ในกรณีที่ศาลสั่งให้สามีหรือภริยาเป็นคนไร้ความสามารถ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และภริยาหรือสามี
สําเนัป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้อนุบาล ให้นําบทบัญกญัา ติว่าด้วยสิทสํธิาแนัละหน้ าที่ของผู้ใช้อํานาจปกครองมาใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บังคับโดยอนุโลม เว้นแต่สิทธิตามมาตรา ๑๕๖๗ (๒) และ (๓)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๙
มาตรา ๑๕๙๘/๑๖ คู่สมรสซึ่งเป็นผู้อนุบาลของคู่สมรสที่ถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้
ความสามารถ มีสํอาํานันาจจั ดการสินส่วนตัวของคู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่สมรสอีกฝ่าสํยหนึ ่งและมีอํานาจจัดการสิกานสมรสแต่ผู้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เดียว แต่การจัดการสินส่วนตัวและสินสมรสตามกรณีที่ระบุไว้ในมาตรา ๑๔๗๖ วรรคหนึ่ง คู่สมรสนั้น
สํานักจะจั ดการไม่ได้ เว้นแต่จกะได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า รับอนุญาตจากศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙๘/๑๗ ในกรณีที่ศาลสั่งให้สสํามีานัหกรืงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อภริยาเป็นคนไร้ความสามารถและ
ศาลเห็นไม่สมควรให้คู่สมรสเป็นผู้อนุบสําลานักและตั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้งบิดาหรือมารดาหรือบุคคลภายนอกเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นผู้อนุบาล ใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กรณีเช่นว่านี้ ให้ผู้อนุบาลเป็นผู้จัดการสินสมรสร่วมกันกับคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง เว้นแต่ถ้ามีเหตุสําคัญ
อันจะเกิดความเสีสํยาหายแก่ คนไร้ความสามารถกาศาลจะสั่งเป็นสํอย่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัากงอื ่นก็ได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีกรณีดังกล่าวตามวรรคหนึ่ง คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิร้องขอต่อ
สํานักศาลให้ สั่งแยกสินสมรสได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๙๘/๑๘๑๕๐ ในกรณี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ที่บิดามารดาเป็ นผู้อนุบาลบุตร ถ้ากบุาตรนั้นยังไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
บรรลุนิติภาวะ ให้นําบทบัญญัติว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของผู้ใช้อํานาจปกครองมาใช้บังคับโดยอนุโลม
สํานักแต่ ถ้าบุตรนั้นบรรลุนิติภกาวะแล้
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ว ให้นําสํบทบั ญญัติว่าด้วยสิทธิและหน้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าที่ของผู้ปกครองมาใช้ บังคับโดย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อนุโลม เว้นแต่สิทธิตามมาตรา ๑๕๖๗ (๒) และ (๓)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่บุคคลอื่นซึ่งมิใช่บิดามารดาหรือมิใช่คู่สมรสเป็นผู้อนุบาล ให้นําบทบัญญัติ
สํานักว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าด้วยสิทธิและหน้าที่ขกองผู
า ้ปกครองมาใช้ สํานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ังคับโดยอนุโลม แต่ถ้ากผูา้อยู่ในความอนุสํบานัาลบรรลุ นิติภาวะ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แล้วจะใช้สิทธิตามมาตรา ๑๕๖๗ (๒) และ (๓)ไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา บุตรบุญธรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๕๙๘/๑๕สําแก้นักไขเพิ ่มเติมโดยพระราชบัญกญัาติแก้ไขเพิ่มเติมสํประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี ง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๔๙
มาตรา ๑๕๙๘/๑๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๕๐
มาตรา ๑๕๙๘/๑๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง
สํานักและพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๓๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๖๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๕๙๘/๑๙สํ๑๕๑ บุคคลที่มีอายุไม่ต่ํากว่กายีา ่สิบห้าปีจะรับสําบุนัคกคลอื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่นเป็นบุตร
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บุญธรรมก็ได้ แต่ผู้นั้นต้องมีอายุแก่กว่าผู้ที่จะเป็นบุตรบุญธรรมอย่างน้อยสิบห้าปี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙๘/๒๐ การรับบุตรบุญธรรม ถ้าผู้ที่จะเป็นบุตรบุญธรรมมีอายุไม่ต่ํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กว่าสิบห้าปี ผู้นั้นต้องให้ความยินยอมด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๕๒
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙๘/๒๑ การรับผู้เยาว์เป็นบุตรบุญธรรมจะกระทําได้ต่อเมื่อได้รับ
สํานักความยิ นยอมของบิดาและมารดาของผู
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํา้จนัะเป็ นบุตรบุญธรรม ในกรณี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ที่บิดาหรือมารดาคนใดคนหนึ ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตายหรือถูกถอนอํานาจปกครองต้องได้รับความยินยอมของมารดาหรือบิดาซึ่งยังมีอํานาจปกครอง
สํถ้านัากไม่งานคณะกรรมการกฤษฎี
มีผู้มีอํานาจให้ความยิกนายอมดังกล่าวในวรรคหนึ ่ง หรือมีแต่บิดาหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาอมารดาคน
ใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคนไม่สามารถแสดงเจตนาให้ความยินยอมได้หรือไม่ให้ความยินยอมและการ
สํานักไม่ ให้ความยินยอมนั้นปราศจากเหตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ผสํลอัานันกสมควรและเป็ นปฏิปักษ์กาต่อสุขภาพ ความเจริ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ญหรือสวัสดิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ภาพของผู้เยาว์ มารดาหรือบิดาหรือผู้ประสงค์จะขอรับบุตรบุญธรรมหรืออัยการจะร้องขอต่อศาลให้มี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําสั่งอนุญาตแทนการให้ ความยินยอมตามวรรคหนึ่งก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙๘/๒๒ ๑๕๓ ในการรั บ ผู้ เ ยาว์เ ป็ น บุ ต รบุ ญ ธรรม ถ้ า ผู้ เ ยาว์ เ ป็ น ผู้ ถู ก
ทอดทิ้งและอยู่ในความดู แลของสถานสงเคราะห์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เด็กตามกฎหมายว่ าด้วยการสงเคราะห์กแาละคุ้มครอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เด็ก ให้สถานสงเคราะห์เด็กเป็นผู้ให้ความยินยอมแทนบิดาและมารดา ถ้าสถานสงเคราะห์เด็กไม่ให้
สํานักความยิ นยอม ให้นําความในมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๕๙๘/๒๑ วรรคสอง มาใช้บังกคัาบโดยอนุโลม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํมาตรา ๑๕๙๘/๒๓๑๕๔ ในกรณี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ที่ผู้เยาว์มสํิได้านัถกูกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทอดทิ้ง แต่อยู่ในความอุกาปการะเลี้ยง
ดูของสถานสงเคราะห์เด็กตามกฎหมายว่าด้วยการสงเคราะห์และคุ้มครองเด็กบิดาและมารดา หรือ
สํานักบิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดาหรือมารดาในกรณีกทาี่มารดาหรือบิสํดาาคนใดคนหนึ ่งตายหรือถูกกถอนอํ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า านาจปกครอง จะทําหนังสือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มอบอํานาจให้สถานสงเคราะห์เด็กดังกล่าวเป็นผู้มีอํานาจให้ความยินยอมในการรับผู้เยาว์เป็นบุตรบุญ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ธรรมแทนตนก็ได้ ในกรณีเช่นนั้นให้นําความในมาตรา ๑๕๙๘/๒๒ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
หนังสืกอา มอบอํานาจตามวรรคหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่งจะถอนเสียมิกได้า ตราบเท่าที่ผสํู้เายาว์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ยังอยู่ในความ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อุปการะเลี้ยงดูของสถานสงเคราะห์เด็กนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


๑๕๑
สํานักมาตรา ๑๕๙๘/๑๙ แก้ไขเพิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา่มเติมโดยพระราชบั
สํานักญงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่
กา ง
และพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๕๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๕๙๘/๒๑สําแก้นักไขเพิ ่มเติมโดยพระราชบัญกญัาติแก้ไขเพิ่มเติมสํประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี ง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๕๓
มาตรา ๑๕๙๘/๒๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๕๔
มาตรา ๑๕๙๘/๒๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง
สํานักและพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๓๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๖๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
๑๕๕
มาตรา ๑๕๙๘/๒๔ ผู้มีอํานาจให้ความยินยอมแทนสถานสงเคราะห์เด็กในการ
สํานักรังานคณะกรรมการกฤษฎี
บบุตรบุญธรรมตามมาตรา กา ๑๕๙๘/๒๒ สํานัหรื อมาตรา ๑๕๙๘/๒๓ กจะรั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า บผู้เยาว์ซึ่งอยู
สํานั่ในความดู แลหรือ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของสถานสงเคราะห์เด็กนั้นเป็นบุตรบุญธรรมของตนเองได้ต่อเมื่อศาลได้มี
คําสั่งอนุญาตตามคํ
สําานัขอของผู ้นั้นแทนการให้คกวามยิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า นยอมของสถานสงเคราะห์ เด็ก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรา ๑๕๙๘/๒๕๑๕๖ ผู้จะรับบุตรบุญธรรมหรือผู้จะเป็นบุตรบุญธรรม ถ้ามีคู่


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมรสอยู่ต้องได้รับสําความยิ นยอมจากคู่สมรสก่อกนา ในกรณีที่คู่สสํมรสไม่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี อาจให้ความยินยอมได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา หรือไปเสีย
จากภูมิลําเนาหรือถิ่นที่อยู่และหาตัวไม่พบเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี ต้องร้องขอต่อศาลให้มีคําสั่ง
สํานักอนุ ญาตแทนการให้ความยิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นยอมของคูสํ่สามรสนั ้น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๙๘/๒๖ ผู้เยาว์กทาี่เป็นบุตรบุญธรรมของบุ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี คคลใดอยู่จะเป็นกบุาตรบุญธรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของบุคคลอื่นอีกในขณะเดียวกันไม่ได้ เว้นแต่เป็นบุตรบุญธรรมของคู่สมรสของผู้รับบุตรบุญธรรม
ถ้าคู่สกมรสฝ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ายหนึ่งจะจดทะเบี ยนรับผู้เยาว์ซึ่งเป็กนาบุตรบุญธรรมของคู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่สมรสอีกฝ่าย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หนึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของตนด้วยจะต้องได้รับความยินยอมของคู่สมรสซึ่งเป็นผู้รับบุตรบุญธรรมอยู่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา๑๕๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แล้วและมิให้นํามาตรา ๑๕๙๘/๒๑ มาใช้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙๘/๒๗๑๕๘ การรับบุตรบุญธรรมจะสมบูรณ์ต่อเมื่อได้จดทะเบียนตาม
กฎหมาย แต่ถ้าผูสํ้จานัะเป็ นบุตรบุญธรรมนั้นเป็กนาผู้เยาว์ต้องปฏิสําบนััตกิตงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ามกฎหมายว่าด้วยการรั
กา บเด็กเป็น
บุตรบุญธรรมก่อน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙๘/๒๘ บุตรบุญธรรมย่อมมีฐานะอย่างเดียวกับบุตรชอบด้วยกฎหมาย
ของผู้รับบุตรบุญสํธรรมนั ้น แต่ไม่สูญสิทธิและหน้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าที่ในครอบครั
สํานัวกทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ได้กําเนิดมา ในกรณีกเช่านนี้ ให้บิดา
มารดาโดยกําเนิดหมดอํานาจปกครองนับแต่วันเวลาที่เด็กเป็นบุตรบุญธรรมแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีให้นํากบทบั
า ญญัติในลัสํกาษณะ ๒ หมวด ๒ แห่งบรรพนี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้มาใช้บังคับสํโดยอนุ โลม
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙๘/๒๙ การรับบุตรบุญธรรมไม่ก่อให้เกิดสิทธิรับมรดกของบุตรบุญ
สํานักธรรมในฐานะทายาทโดยธรรมเพราะเหตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักการณ์ รับบุตรบุญธรรมนั้นกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๙๘/๓๐ ถ้าบุตกรบุ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ญธรรมซึ่งไม่
สํามนัีคกู่สงานคณะกรรมการกฤษฎี
มรสหรือผู้สืบสันดานตายก่
กา อนผู้รับ
บุตรบุญธรรม ผู้รับบุตรบุญธรรมมีสิทธิเรียกร้องเอาทรัพย์สินที่ตนได้ให้แก่บุตรบุญธรรมคืนจากกอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๕๕
สํานักมาตรา ๑๕๙๘/๒๔ แก้ไขเพิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา่มเติมโดยพระราชบั
สํานักญงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่
กา ง
และพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๕๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๕๙๘/๒๕สําแก้นักไขเพิ ่มเติมโดยพระราชบัญกญัาติแก้ไขเพิ่มเติมสํประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี ง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๕๗
มาตรา ๑๕๙๘/๒๖ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๕๘
มาตรา ๑๕๙๘/๒๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง
สํานักและพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๓๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๖๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มรดกของบุตรบุญธรรมเพียงเท่าที่ทรัพย์สินนั้นยังคงเหลืออยู่ภายหลังที่ชําระหนี้ของกองมรดกเสร็จ
สํานักสิงานคณะกรรมการกฤษฎี
้นแล้ว กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ห้ามมิให้ฟ้องคดีเรียกร้องสิทธิตามวรรคหนึ่ง เมื่อพ้นกําหนดหนึ่งปีนับแต่เวลาที่ผู้รับ
บุตรบุญธรรมได้รู้หานัรือกควรได้
สํ รู้ถึงความตายของบุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ตรบุญธรรมหรื
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
เมื่อพ้นกําหนดสิบปีนับกาแต่วันที่บุตร
บุญธรรมตาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๙๘/๓๑ การเลิกกา รับบุตรบุญธรรม


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้าบุตรบุญธรรมบรรลุกนาิติภาวะแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จะเลิกโดยความตกลงกันในระหว่างผู้รับบุตรบุญธรรมกับบุตรบุญธรรมเมื่อใดก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้าบุตกรบุ
า ญธรรมยังไม่ สําบนัรรลุ นิติภาวะ การเลิกรับกบุาตรบุญธรรมจะทํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักาได้ ต่อเมื่อได้รับ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ความยินยอมของบิดาและมารดา และให้นํามาตรา ๑๕๙๘/๒๐ และมาตรา ๑๕๙๘/๒๑ มาใช้บังคับ
โดยอนุโลม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ได้รับผู้เยาว์เป็นบุตรบุญธรรมตามมาตรา ๑๕๙๘/๒๑ วรรคสอง มาตรา
สํานัก๑๕๙๘/๒๒ มาตรา ๑๕๙๘/๒๓
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา มาตรา สํานั๑๕๙๘/๒๔ หรือมาตรา ก๑๕๙๘/๒๖
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า วรรคสอง ถ้าบุตรบุญ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ธรรมยังไม่บรรลุนิติภาวะ การเลิกรับบุตรบุญธรรมให้กระทําได้ต่อเมื่อมีคําสั่งศาลโดยคําร้องขอของผู้มี
านัก๑๕๙
ส่วนได้เสียหรืออัยสํการ งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การเลิกรับบุตรบุญธรรมจะสมบู รณ์ต่อเมื่อได้จดทะเบียนตามกฎหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๙๘/๓๒ การรักบาบุตรบุญธรรมย่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกมเป็ นอันยกเลิกเมื่อมีการสมรสฝ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าฝืน
มาตรา ๑๔๕๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙๘/๓๓ คดีฟ้องเลิกการรับบุตรบุญธรรมนั้นเมื่อ
านัก๑๖๐
สํ(๑) ฝ่ายหนึ่งทําการชั่วร้กาายไม่ว่าจะเป็นสํความผิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ดอาญาหรือไม่ เป็นเหตุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ให้อีกฝ่าย
หนึ่งอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง หรือถูกเกลียดชัง หรือได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร
สํานักอีงานคณะกรรมการกฤษฎี
กฝ่ายหนึ่งฟ้องเลิกได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒)๑๖๑ ฝ่ายหนึ่งหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่าย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หนึ่งอันเป็นการร้ายแรง อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องเลิกได้ ถ้าบุตรบุญธรรมกระทําการดังกล่าวต่อคู่สมรสของ
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้รับบุตรบุญธรรม ให้ผู้รกับา บุตรบุญธรรมฟ้
๑๖๒ สํานัอกงเลิ กได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ฝ่ายหนึ่งกระทําการประทุษร้ายอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีหรือคู่สมรสของอีก
ฝ่ายหนึ่งเป็นเหตุใสํห้านัเกิกดงานคณะกรรมการกฤษฎี
อันตรายแก่กายหรือจิกตาใจอย่างร้ายแรงและการกระทํ านั้นเป็นความผิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดที่มีโทษ
อาญา อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องเลิกได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๕๙
สํานักมาตรา ๑๕๙๘/๓๑ วรรคสาม
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา แก้ไขเพิ่มเติสํามนัโดยพระราชบั ญญัติแก้ไขเพิก่มาเติมประมวล
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๖๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๕๙๘/๓๓สํา(๑)นักแก้ ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาญญัติแก้ไขเพิ่มสํเติานัมกประมวลกฎหมาย
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๖๑
มาตรา ๑๕๙๘/๓๓ (๒)แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๖๒
มาตรา ๑๕๙๘/๓๓ (๓)แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา พ.ศ. ๒๕๓๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๖๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
(๔) ฝ่ายหนึ่งไม่อุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องเลิกได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๕) ฝ่กาายหนึ่งจงใจละทิ
สํานั้งอีกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปีกอีากฝ่ายหนึ่งนั้นสํฟ้านัอกงเลิ กได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๖) ฝ่ายหนึ่งต้องคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุกเกินสามปี เว้นแต่ความผิดที่กระทํา
โดยประมาท อีกฝ่าายหนึ
สํ ่งฟ้องเลิกได้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) ผู้รับบุตรบุญธรรมทําผิดหน้าที่บิดามารดา และการกระทํานั้นเป็นการละเมิด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๕๖๔ มาตรา ๑๕๗๑ มาตรา ๑๕๗๓ มาตรา ๑๕๗๔ หรือมาตรา ๑๕๗๕
เป็นเหตุให้เกิดหรืสํอาอาจเกิ
นัก๑๖๓ ดความเสียหายอย่ากงร้าายแรงต่อบุตสํรบุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี านัญกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธรรม บุตรบุญธรรมฟ้อกงเลิ า กได้
(๘) ผู้รับบุตรบุญธรรมผู้ใดถูกถอนอํานาจปกครองบางส่วนหรือทั้งหมดและเหตุ
สํานักทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ถูกถอนอํานาจปกครองนั กา ้นมีพฤติการณ์
สํานัแกสดงให้ เห็นว่า ผู้นั้นไม่สกมควรเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี า นผู้รับสํบุาตนัรบุ ญธรรมต่อไป
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บุตรบุญธรรมฟ้องเลิกได้
านัก๑๖๔
สํ(๙) (ยกเลิก)
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๕๙๘/๓๔ สํห้านัากมมิ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ให้ฟ้องขอเลิกการรับกบุาตรบุญธรรมเมืสํา่อนัพ้กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กําหนดหนึ่งปี กา
นับแต่วันที่ผู้ขอเลิกการรับบุตรบุญธรรมรู้หรือควรได้รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุให้เลิกการนั้นหรือเมื่อพ้น
กําหนดสิบปีนับแต่สําเนัหตุกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้นเกิดขึ้น กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๕๙๘/๓๕๑๖๕ การฟ้องเลิกการรับบุตรบุญธรรม ถ้าบุตรบุญธรรมมีอายุไม่
ครบสิบห้าปีบริบูสํรณ์
านัใกห้งานคณะกรรมการกฤษฎี
บิดามารดาโดยกําเนิดกเป็า นผู้มีอํานาจฟ้สําอนังแทน แต่ถ้าบุตรบุญธรรมมี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อายุสิบห้า
ปีบริบูรณ์แล้วบุตรบุญธรรมฟ้องได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีในกรณี กาตามวรรคหนึสํ่งานัอักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
การจะฟ้องคดีแทนบุตกรบุา ญธรรมก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๕๙๘/๓๖ การเลิกการับบุตรบุญธรรมโดยคํ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี าพิพากษาของศาลกาย่อมมีผลแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เวลาที่คําพิพากษาถึงที่สุด แต่จะอ้างเป็นเหตุเสื่อมสิทธิของบุคคลภายนอกผู้ทําการโดยสุจริตไม่ได้ เว้น
สํานักแต่ ได้จดทะเบียนแล้ว กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๑๖๖ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙๘/๓๗ เมื่อผู้รับบุตรบุญธรรมตายหรือมีการเลิกรับบุตรบุญธรรม
สํานักถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าบุตรบุญธรรมยังไม่บรรลุกา นิติภาวะ ให้สําบนัิดกามารดาโดยกํ าเนิดกลับกมีาอํานาจปกครองนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่เวลาที่ผู้รับ กา
บุตรบุญธรรมตาย หรือนับแต่เวลาที่จดทะเบียนเลิกการรับบุตรบุญธรรมตามมาตรา ๑๕๙๘/๓๑ หรือ
นับแต่เวลาที่ศาลมี
สํานัคกํ างานคณะกรรมการกฤษฎี
พิพากษาถึงที่สุดให้เลิกกา การรับบุตรบุสําญนักธรรม เว้นแต่ศาลเห็นสมควรสั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งเป็น
ประการอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๖๓
สํานักมาตรา ๑๕๙๘/๓๓ (๘)แก้กไาขเพิ่มเติมโดยพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๖๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มาตรา
กา ๑๕๙๘/๓๓สํ(๙)
านักยกเลิ กโดยพระราชบัญญัตกิแก้า ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๖๕
มาตรา ๑๕๙๘/๓๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๖๖
มาตรา ๑๕๙๘/๓๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง
สํานักและพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ชย์ (ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ. สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๖๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ในกรณีที่มีการตั้งผู้ปกครองของผู้เป็นบุตรบุญธรรมไว้ก่อนผู้รับบุตรบุญธรรมตาย
สํานักหรื อก่อนการเลิกรับบุตกรบุา ญธรรม ให้ผสํู้ปานักครองยั
งานคณะกรรมการกฤษฎี งคงมีอํานาจหน้ากทีา่เช่นเดิมต่อไปสําเว้นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี แต่บิดามารดา กา
โดยกําเนิดจะร้องขอ และศาลมีคําสั่งให้ผู้ร้องขอเป็นผู้มีอํานาจปกครอง
สํการเปลี ่ยนผู้ใช้อํานาจปกครองตามวรรคหนึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือผู้ปกครองตามวรรคสองไม่
กา เป็น
เหตุเสื่อมสิทธิที่บุคคลภายนอกได้มาโดยสุจริตก่อนผู้รับบุตรบุญธรรมตายหรือก่อนจดทะเบียนเลิกการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รับบุตรบุญธรรม
สํให้
านักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานอัยการเป็นผู้มีอกําานาจร้องขอเพืสํ่อาให้
นักศงานคณะกรรมการกฤษฎี
าลมีคําสั่งเป็นประการอื กา่นตามวรรค
หนึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๓
ค่าอุกปา การะเลี้ยงดูสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๕๙๘/๓๘ ค่าอุปการะเลี้ยงดูระหว่างสามีภริยา หรือระหว่างบิดามารดา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กับบุตรนั้นย่อมเรียกจากกันได้ในเมื่อฝ่ายที่ควรได้รับอุปการะเลี ้ยงดูไม่ได้รับการอุปการะเลี้ยงดูหรือ
ได้รับการอุปการะเลี้ยงดูไม่เพียงพอแก่สํอานััตกภาพ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ค่าอุปการะเลี้ยงดูนี้ศาลอาจให้เพีสํยานังใดหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อไม่ให้ก็ได้
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยคํานึงถึงความสามารถของผู้มีหน้าที่ต้องให้ ฐานะของผู้รับและพฤติการณ์แห่งกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙๘/๓๙ เมื่อผู้มีส่วนได้เสียแสดงว่าพฤติการณ์ รายได้ หรือฐานะของ
สํานักคูงานคณะกรรมการกฤษฎี
่กรณีได้เปลี่ยนแปลงไปกาศาลจะสั่งแก้สํไาขในเรื ่องค่าอุปการะเลี้ยงดูกโาดยให้เพิกถอนสําลด
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี เพิ่ม หรือกลับ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ให้ค่าอุปการะเลี้ยงดูอีกก็ได้
สํในกรณี ที่ศาลไม่พิพากษาให้กาค่าอุปการะเลีสํ้ยางดู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี เพราะเหตุแต่เพียงอีกฝ่กาายหนึ่งไม่อยู่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ในฐานะที่จะให้ค่าอุปการะเลี้ยงดูได้ในขณะนั้น หากพฤติการณ์ รายได้ หรือฐานะของอีกฝ่ายหนึ่งนั้น
สํานักได้ เปลี่ยนแปลงไป และพฤติ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา การณ์รายได้สํานัหกรืงานคณะกรรมการกฤษฎี
อฐานะของผู้เรียกร้องอยู
กา ่ในสภาพที่คสํวรได้ รับค่าอุปการะ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เลี้ยงดู ผู้เรียกร้องอาจร้องขอให้ศาลเปลี่ยนแปลงคําสั่งในคดีนั้นใหม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา ๑๕๙๘/๔๐ สํค่าานัอุกปงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี การะเลี้ยงดูนั้นให้ชําระเป็
กา นเงินโดยวิธสํีชานัํากระเป็ นครั้งคราว
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตามกําหนด เว้นแต่คู่กรณีจะตกลงกันให้ชําระเป็นอย่างอื่นหรือโดยวิธีอื่น ถ้าไม่มีการตกลงกันและมี
เหตุพิเศษ เมื่อฝ่าสํยใดฝ่ ายหนึ่งร้องขอและศาลเห็
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นสมควร จะกํ สําานัหนดให้ ค่าอุปการะเลี้ยงดูกเาป็นอย่างอื่น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือโดยวิธีอื่น โดยจะให้ชําระเป็นเงินด้วยหรือไม่ก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณี กา ขอค่าอุปการะเลี
สํานัก้ยงานคณะกรรมการกฤษฎี
งดูบุตร เมื่อมีเหตุพิเศษและศาลเห็
กา นสํเป็านันกการสมควรเพื ่อ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ประโยชน์แก่บุตร จะกําหนดให้บุตรได้รับการอุปการะเลี้ยงดูโดยประการใด ๆ นอกจากที่คู่กรณีตกลง
กัน หรือนอกจากที สํา่ฝนั่ากยใดฝ่ ายหนึ่งร้องขอก็ได้กาเช่นให้ไปอยู่ใสํนสถานการศึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กษาหรือวิชาชีพกาโดยให้ผู้ที่มี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หน้าที่ต้องชําระค่าอุปการะเลี้ยงดูออกค่าใช้จ่ายในการนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕๙๘/๔๑ สิทธิที่จะได้ค่าอุปการะเลี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้ยงดูนั้น จะสละหรือโอนมิได้และไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อยู่ในข่ายแห่งการบังคับคดี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๖๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
บรรพ ๖๑๖๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มรดก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
_________
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทเบ็ดเสร็จทัว่ ไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การตกทอดแห่งทรัพย์มรดก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๕๙๙ เมื่อบุสําคนัคลใดตาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี มรดกของบุคคลนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นตกทอดแก่สํทานัายาท
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทายาทอาจเสียไปซึ่งสิทธิในมรดกได้แต่โดยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎหมายอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๐๐ ภายใต้บังคับของบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ กองมรดกของ
ผู้ตายได้ แ ก่ ท รั พสํย์าสนัินกทุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ก ชนิ ดของผู้ ตาย ตลอดทั
กา ้ ง สิ ท ธิ ห น้สําาทีนั่ แกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ละความรับ ผิ ดต่าง ๆกเว้า น แต่ ตาม
กฎหมายหรือว่าโดยสภาพแล้ว เป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๐๑ ทายาทไม่จําต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตกทอดได้แก่ตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๐๒๑๖๘ เมื่อบุคคลใดต้องถือว่าถึงแก่ความตายตามความในมาตรา ๖๒
สํานักแห่ งประมวลกฎหมายนีก้ มรดกของบุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า คคลนั
สํานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตกทอดแก่ทายาท กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าพิสูจน์ได้ว่าบุคคลนั้นยังคงมีชีวิตอยู่ หรือตายในเวลาอื่นผิดไปจากเวลาดั่งระบุไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในคําสั่งที่สั่งให้เป็นคนสาบสูญ ให้ใช้บทบัญญัติมาตรา ๖๓ แห่งประมวลกฎหมายนี้บังคับแก่ทายาท
สํานักของบุ คคลนั้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๐๓ กองมรดกย่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาอมตกทอดแก่
สําทนักายาทโดยสิ ทธิตามกฎหมายหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อโดย
พินัยกรรม
ทายาทที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่มีสิทธิตามกฎหมาย เรียกว่า “ทายาทโดยธรรม”
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทายาทที่มีสิทธิตามพินัยกรรม เรียกว่า “ผู้รับพินัยกรรม”
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๖๗
บรรพ ๖ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติให้ใช้บรรพ ๖ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พุทธศักราช ๒๔๗๗
๑๖๘
มาตรา ๑๖๐๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๑ แห่งประมวล
สํานักกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี
งและพาณิชย์ กทีา่ได้ตรวจชําระใหม่
สํานัพ.ศ.
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๕๓๕ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๖๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
การเป็นทายาท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๐๔ บุคคลธรรมดาจะเป็


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นทายาทได้ ก็ต่อเมื่อมีสภาพบุคคลหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อสามารถ
มีสิทธิได้ตามมาตรา ๑๕ แห่งประมวลกฎหมายนี้ ในเวลาที่เจ้ามรดกถึงแก่ความตาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้ ให้ถือว่าเด็กที่เกิดมารอดอยู่ภายในสามร้อยสิบวันนับแต่
เวลาที่เจ้ามรดกถึสํงาแก่
นักคงานคณะกรรมการกฤษฎี
วามตายนั้น เป็นทารกในครรภ์
กา มารดาอยู
สํานั่ใกนเวลาที ่เจ้ามรดกถึงแก่คกวามตาย
งานคณะกรรมการกฤษฎี า

มาตรากา๑๖๐๕ ทายาทคนใดยั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กย้าย หรือปิดบังกทรัา พย์มรดกเท่าสํส่านัวนที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ตนจะได้หรือ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มากกว่านั้นโดยฉ้อฉลหรือรู้อยู่ว่า ตนทําให้เสื่อมประโยชน์ของทายาทคนอื่น ทายาทคนนั้นต้องถูก
กําจัดมิให้ได้มรดกเลย แต่ถ้าได้ยักย้ายหรือปิกดาบังทรัพย์มรดกน้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ยกว่าส่วนที่ตนจะได้ ทายาทคนนั
กา ้น
ต้องถูกกําจัดมิให้ได้มรดกเฉพาะส่วนที่ได้ยักย้ายหรือปิดบังไว้นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีมาตรานี
กา ้มิให้ ใช้บังคัสํบาแก่
นักผงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้รับพินัยกรรม ซึ่งผู้ตายได้
กา ทําพินัยกรรมยกทรั พย์สินให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เฉพาะสิ่งเฉพาะอย่าง ในอันที่จะได้รับทรัพย์สินนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๐๖ บุคคลดั ่งต่อไปนี้ต้องถูกกําจัดมิให้รับมรดกฐานเป็สํานนัผูก้ไงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ม่สมควร คือ กา
(๑) ผู้ที่ต้องคําพิพากษาถึงที่สุดว่าได้เจตนากระทํา หรือพยายามกระทําให้เจ้ามรดก
หรือผู้มีสิทธิได้รับสํมรดกก่ อนตนถึงแก่ความตายโดยมิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ชอบด้วยกฎหมายสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ผู้ที่ได้ฟ้องเจ้ามรดกหาว่าทําความผิดโทษประหารชีวิตและตนเองกลับต้องคํา
สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
พากษาถึงที่สุดว่า มีความผิ
กา ดฐานฟ้องเท็ สํานัจกหรื อทําพยานเท็จ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ผู้ที่รู้แล้วว่า เจ้ามรดกถูกฆ่าโดยเจตนา แต่มิได้นําข้อความนั้นขึ้นร้องเรียนเพื่อ
เป็นทางที่จะเอาตัสําวนัผูก้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ระทําผิดมาลงโทษ แต่กาข้อนี้มิให้ใช้บสํังคัานับกถ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าบุคคลนั้นมีอายุยังไม่กคา รบสิบหกปี
บริบูรณ์ หรือเป็นคนวิกลจริตไม่สามารถรู้ผิดชอบ หรือถ้าผู้ที่ฆ่านั้นเป็นสามีภริยาหรือผู้บุพการีหรือ
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้สืบสันดานของตนโดยตรง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ผู้ที่ฉ้อฉลหรือข่มขู่ให้เจ้ามรดกทํา หรือเพิกถอน หรือเปลี่ยนแปลงพินัยกรรมแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บางส่วนหรือทั้งหมดซึ่งเกี่ยวกับทรัพย์มรดก หรือไม่ให้กระทําการดังกล่าวนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๕) ผู้ทกาี่ปลอม ทําลายสําหรื
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ปิดบังพินัยกรรมแต่บางส่ กา วนหรือทั้งหมด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เจ้ามรดกอาจถอนข้อกําจัดฐานเป็นผู้ไม่สมควรเสียก็ได้โดยให้อภัยไว้เป็นลายลักษณ์
อักษร สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๖๐๗ การถู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักกกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าจัดมิให้รับมรดกนั้นเป็กานการเฉพาะตัสํวานัผูก้สงานคณะกรรมการกฤษฎี
ืบสันดานของ กา
ทายาทที่ถูกกําจัดสืบมรดกต่อไปเหมือนหนึ่งว่าทายาทนั้นตายแล้ว แต่ในส่วนทรัพย์สินซึ่งผู้สืบสันดาน
ได้รับมรดกมาเช่สํนานีนั้ กทายาทที ่ว่านั้นไม่มีสิทกธิาที่จะจัดการและใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี ดั่งที่ระบุไว้ในบรรพ ๕กาลักษณะ ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หมวด ๓ แห่งประมวลกฎหมายนี้ ในกรณีเช่นนั้นให้ใช้มาตรา ๑๕๔๘ บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การตัดมิให้รับมรดก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๖๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา๑๖๐๘ เจ้าสํมรดกจะตั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดทายาทโดยธรรมของตนคนใดมิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํใาห้นักรังานคณะกรรมการกฤษฎี
บมรดกก็ได้แต่ กา
ด้วยแสดงเจตนาชัดแจ้ง
สํ(๑) โดยพินัยกรรม
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) โดยทําเป็นหนังสือมอบไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตัวทายาทผู้ถูกตัดมิให้รับมรดกนั้นต้องระบุไว้ให้ชัดเจน
สํแต่
านัเกมืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อบุคคลใดได้ทําพินัยกรรมจํ
กา าหน่ายทรัสํพานัย์กมงานคณะกรรมการกฤษฎี
รดกเสียทั้งหมดแล้ว ให้กถา ือว่าบรรดา
ทายาทโดยธรรมผู้ที่มิได้รับประโยชน์จากพินัยกรรม เป็นผู้ถูกตัดมิให้รับมรดก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๐๙ การแสดงเจตนาตัดมิให้รับมรดกนั้นจะถอนเสียก็ได้
สํถ้าานัการตั ดมิให้รับมรดกนั้นกได้า ทําโดยพินัยสํกรรม
กงานคณะกรรมการกฤษฎี จะถอนเสียได้ก็แต่โดยพิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นัยกรรม
เท่านั้น แต่ถ้าการตัดมิให้รับมรดกได้ทําเป็นหนังสือมอบไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ การถอนจะทําตาม
สํานักแบบใดแบบหนึ ่งดั่งบัญญักาติไว้ในมาตราสํ๑๖๐๘
งานคณะกรรมการกฤษฎี (๑) หรือ (๒) ก็ได้ กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การสละมรดกและอื่น ๆ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๖๙
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๑๐ ถ้ามรดกตกทอดแก่ผู้เยาว์ หรือบุคคลวิกลจริต หรือบุคคลผู้ไม่
สํานักสามารถจะจั ดทําการงานของตนเองได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํตานัามความหมายแห่ งมาตรากา๓๒ แห่งประมวลกฎหมายนี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ้และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บุคคลนั้นยังไม่มีผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ เมื่อผู้มีส่วนได้เสีย หรือพนักงาน
อัยการร้องขอ ก็ใสํห้าศนัาลตั ้งผู้ปกครอง ผู้อนุบาลกาหรือผู้พิทักษ์แสํล้านัวแต่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กรณี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๑๖๑๑๑๗๐ ทายาทซึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่งเป็นผู้เยาว์ บุคคลวิกากลจริตหรือบุสํคาคลผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ไม่สามารถจะ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จัดทําการงานของตนเองได้ตามความหมายแห่งมาตรา ๓๒ แห่งประมวลกฎหมายนี้ จะทําการดั่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ต่อไปนี้ไม่ได้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมของบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์แล้วแต่
สํานักกรณี และได้รับอนุมัติจากศาลแล้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา วคือ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) สละมรดก
สํ(๒) รับมรดกอันมีค่าภาระติกดา พันหรือเงื่อนไข
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๖๑๒ การสละมรดกนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้น ต้องแสดงเจตนาชั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดแจ้งเป็สํนาหนั งสือมอบไว้แก่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือทําเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๑๓ การสละมรดกนั้น จะทําแต่เพียงบางส่วน หรือทําโดยมีเงื่อนไข หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๖๙
มาตรา ๑๖๑๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๑ แห่งประมวล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ได้ตรวจชําระใหม่ พ.ศ. ๒๕๓๕
๑๗๐
มาตรา ๑๖๑๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๑ แห่ง ประมวล
สํานักกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี
งและพาณิชย์ กทีา่ได้ตรวจชําระใหม่
สํานัพ.ศ.
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๕๓๕ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๗๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
เงื่อนเวลาไม่ได้
การสละมรดกนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้น จะถอนเสี ยมิได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๑๔ ถ้าทายาทสละมรดกด้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วยวิสํธาีในัดโดยที ่รู้อยู่ว่าการที่ทําเช่กนานั้นจะทําให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เจ้าหนี้ของตนเสียเปรียบ เจ้าหนี้มีสิทธิที่จะร้องขอให้เพิกถอนการสละมรดกนั้นเสียได้ แต่ความข้อนี้มิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ใช้บังคับ ถ้าปรากฏว่าในขณะที่สละมรดกนั้น บุคคลซึ่งเป็นผู้ได้ลาภงอกแต่การนั้นมิได้รู้เท่าถึง
ข้อความจริงอันเป็สํานนัทางให้ เจ้าหนี้ต้องเสียเปรีกายบนั้นด้วย แต่สําหนัากกรณี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี เป็นการสละมรดกโดยเสน่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา หา
เพียงแต่ทายาทผู้สละมรดกเป็นผู้รู้ฝ่ายเดียวเท่านั้นก็พอแล้ว ที่จะขอเพิกถอนได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีเมื่อได้กเาพิกถอนการสละมรดกแล้ ว เจ้าหนี้จะร้อกงขอให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ศาลสั่ง สํเพื
านั่อกให้ ตนรับมรดก
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แทนที่ทายาทและในสิทธิของทายาทนั้นก็ได้
สํในกรณี เช่นนี้ เมื่อได้ชําระหนีกา้ของทายาทนัสํ้นาให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักแงานคณะกรรมการกฤษฎี
ก่เจ้าหนี้แล้ว ถ้าส่วนของทายาทนั
กา ้น
ยังมีเหลืออยู่อีก ก็ให้ได้แก่ผู้สืบสันดานของทายาทนั้น หรือทายาทอื่นของเจ้ามรดกแล้วแต่กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๑๕ การที่ทายาทสละมรดกนั้น มีผลย้อนหลังไปถึงเวลาที่เจ้ามรดกตาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อทายาทโดยธรรมคนใดสละมรดก ผู้สืบสํสัานนัดานของทายาทคนนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้นสืบมรดกได้ตาม
สิทธิของตน และชอบที่จะได้รับส่วนแบ่สํางนัเท่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กับส่วนแบ่งที่ผู้สละมรดกนั
กา
้นจะได้รับสําแต่ ผู้สืบสันดานนั้น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ต้องไม่ใช่ผู้ที่บิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้อนุบาลแล้วแต่กรณี ได้บอกสละมรดกโดยสมบูรณ์ในนาม
ของผู้สืบสันดานนัสํ้นานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๖๑๖ ถ้าผูสํ้สานัืบกสังานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นดานของผู้สละมรดกได้
กา มรดกมาดั่งสํกล่
านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
วไว้ใน มาตรา กา
๑๖๑๕ แล้ว ผู้ที่ได้สละมรดกนั้นไม่มีสิทธิในส่วนทรัพย์สินอันผู้สืบสันดานของตนได้รับมรดกมา ในอัน
ที่จะจัดการและใช้สําดนัั่งกทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ระบุไว้ในบรรพ ๕ ลักกาษณะ ๒ หมวด
สํานั๓กงานคณะกรรมการกฤษฎี
แห่งประมวลกฎหมายนีกา ้ และให้ใช้
มาตรา ๑๕๔๘ บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๑๗ ผู้รับพินัยกรรมคนใดสละมรดก ผู้นั้นรวมตลอดทั้งผู้สืบสันดานไม่มี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิทธิจะรับมรดกที่ได้สละแล้วนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๑๘ ถ้าทายาทโดยธรรมผู้ที่ได้สละมรดกไม่มีผู้สืบสันดานที่จะรับมรดกได้
หรือผู้รับพินัยกรรมได้
สํานักสงานคณะกรรมการกฤษฎี
ละมรดก ให้ปันส่วนแบ่กางของผู้ที่ได้สละมรดกนั ้น ๆ แก่ทายาทอื่นกของเจ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ามรดก
ต่อไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๑๙ ผู้ใดจะสละหรือจําหน่ายจ่ายโอนโดยประการใด ซึ่งสิทธิอันหากจะมี
ในภายหน้าในการสื
สํานับกมรดกผู ้ที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นกไม่า ได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ลักษณะ ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิทธิโดยธรรมในการรับมรดก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


- ๒๗๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานับทเบ็ ดเสร็จทัว่ ไป
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๒๐ ถ้าผู้ใดตายโดยไม่ได้ทําพินัยกรรมไว้หรือทําพินัยกรรมไว้แต่ไม่มีผล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บังคับได้ ให้ปันทรัพย์มรดกทั้งหมดแก่ทายาทโดยธรรมของผู้ตายนั้นตามกฎหมาย
สํถ้าานัผูก้ใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดตายโดยได้ทําพินัยกรรมไว้
กา แต่พินัยสํกรรมนั ้นจําหน่ายทรัพย์หรือกมีาผลบังคับได้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่เพียงบางส่วนแห่งทรัพย์มรดก ให้ปันส่วนที่มิได้จําหน่ายโดยพินัยกรรม หรือส่วนที่พินัยกรรมไม่มี
สํานักผลบั งคับให้แก่ทายาทโดยธรรมตามกฎหมาย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๒๑ เว้นแต่ผู้ทํากพิานัยกรรมจะได้สําแนัสดงเจตนากํ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี าหนดไว้ในพิกนาัยกรรมเป็น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
อย่างอื่น แม้ทายาทโดยธรรมคนใดจะได้รับทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใดตามพินัยกรรม ทายาทคนนั้นก็
สํานักยังานคณะกรรมการกฤษฎี
งมีสิทธิที่จะเรียกเอาส่กวานโดยธรรมของตนจากทรั พย์มรดกส่วนทีก่ยาังไม่ได้จําหน่าสํยโดยพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นัยกรรมจน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เต็มอีกก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๒๒ พระภิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กษุนั้น จะเรียกร้องเอาทรัพย์มรดกในฐานะที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่เป็นทายาทโดย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ธรรมไม่ได้ เว้นแต่จะได้สึกจากสมณเพศมาเรียกร้องภายในกําหนดอายุความตามมาตรา ๑๗๕๔
สํแต่
านัพกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ระภิกษุนั้น อาจเป็นผู้รกับาพินัยกรรมได้สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๖๒๓ ทรัพสํย์านัสกินงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ของพระภิกษุที่ได้มาในระหว่
กา างเวลาทีสํา่อนัยูก่ใงานคณะกรรมการกฤษฎี
นสมณเพศนั้น กา
เมื่อพระภิกษุนั้นถึงแก่มรณภาพให้ตกเป็นสมบัติของวัดที่เป็นภูมิลําเนาของพระภิกษุนั้น เว้นไว้แต่
พระภิกษุนั้นจะได้สํจาํานัหน่ ายไปในระหว่างชีวิตหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาอโดยพินัยกรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๖๒๔ ทรัพสํย์าสนัินกใดเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นของบุคคลก่อนอุกปาสมบทเป็นพระภิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักกษุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรัพย์สินนั้น กา
หาตกเป็นสมบัติของวัดไม่ และให้เป็นมรดกตกทอดแก่ทายาทโดยธรรมของบุคคลนั้น หรือบุคคลนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จะจําหน่ายโดยประการใดตามกฎหมายก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๒๕ ถ้าผู้ตายเป็นผู้สมรสแล้ว การคิดส่วนแบ่งและการปันทรัพย์สิน
ระหว่างผู้ตายกับคูสํา่สนัมรสที ่ยังมีชีวิตอยู่นั้นให้เป็กนาไปดั่งนี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๑) ในเรื่องส่วนแบ่งในทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาให้อยู่ในบังคับของบทบัญญัติ
สํานักแห่ งประมวลกฎหมายนีก้วา่าด้วยการหย่สําาโดยยิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี นยอมทั้งสองฝ่าย อันกมีา บทบัญญัติเพิสํ่มานัเติกมงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ให้บริบูรณ์ใน กา
มาตรา ๑๖๓๗ และ ๑๖๓๘ และโดยเฉพาะต้องอยู่ในบังคับแห่งมาตรา ๑๕๑๓ ถึง ๑๕๑๗ แห่ง
ประมวลกฎหมายนี สํานั้ แต่ การคิดส่วนแบ่งนั้นมีผกลตั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้งแต่วันที่การสมรสได้ สิ้นไปด้วยเหตุความตายนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้น
(๒) ในเรื่องส่วนแบ่งในทรัพย์มรดกของผู้ตาย ให้อยู่ในบังคับของบทบัญญัติแห่ง
สํานักบรรพนี ้ นอกจากมาตรากา๑๖๓๗ และ ๑๖๓๘
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๒๖ เมื่อได้ปฏิบัติตามมาตรา ๑๖๒๕ (๑) แล้ว ให้คิดส่วนแบ่งทรัพย์
สํานักมรดกระหว่ างทายาทโดยธรรม
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดั่งต่อไปนี
สํานั้ กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๗๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
(๑) ทรัพย์มรดกนั้นให้แบ่งแก่ทายาทตามลําดับและชั้นต่าง ๆ ดั่งที่บัญญัติไว้ใน
สํานักหมวด ๒ แห่งลักษณะนีก้ า
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ส่ วนแบ่งอันจะได้แ ก่ ทายาทในลําดับและชั้นต่าง ๆ นั้ น ให้ แ บ่ งในระหว่ า ง
บรรดาทายาทในลําานัดักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ และชั้นนั้น ๆ ดั่งที่บัญญั
กาติไว้ในหมวด สํ๓านัแห่ งลักษณะนี้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๖๒๗ บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้รับรองแล้วและบุตรบุญธรรมนั้นให้ถือว่า
เป็นผู้สืบสันดาน สํเหมื
านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
นกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย
กา ตามความหมายแห่ งประมวลกฎหมายนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้

มาตรากา๑๖๒๘ สามีสํภานัริยกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าที่ร้างกัน หรือแยกกันกอยู
า ่โดยยังมิได้หสํย่านัากขาดจากกั นตาม
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กฎหมาย มิได้สิ้นไปซึ่งสิทธิโดยธรรมในการสืบมรดกซึ่งกันและกัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา การแบ่สํางนัทรั พย์มรดกระหว่างทายาท
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยธรรมในลําดับและชั้นต่าง ๆ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๖๒๙ ทายาทโดยธรรมมีหกลําดับเท่านั้น และภายใต้บังคับแห่งมาตรา
๑๖๓๐ วรรค ๒ แต่
สํานัลกะลํ าดับมีสิทธิได้รับมรดกก่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาอนหลังดั่งต่อสํไปนี
านัก้ งานคณะกรรมการกฤษฎี
คือ กา
(๑) ผู้สืบสันดาน
(๒) บิกดาามารดา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน
สํ(๔) พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยวกันสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) ปู่ ย่า ตา ยาย
(๖) ลุกงา ป้า น้า อา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นก็เป็นทายาทโดยธรรม ภายใต้บังคับของบทบัญญัติพิเศษ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แห่งมาตรา ๑๖๓๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๓๐ ตราบใดที่มีทายาทซึ่งยังมีชีวิตอยู่ หรือมีผู้รับมรดกแทนที่ยังไม่ขาด
สายแล้วแต่กรณีใสํนลํ
านัากดังานคณะกรรมการกฤษฎี
บหนึ่ง ๆ ที่ระบุไว้ในมาตรา
กา ๑๖๒๙ ทายาทผู ้ที่อยู่ในลําดับถัดลงไปไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มีสิทธิใน
ทรัพย์มรดกของผู้ตายเลย
แต่ความในวรรคก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อนนี
สํานั้มกิใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห้ใช้บังคับในกรณีเฉพาะที
กา ่มีผู้สืบสันดานคนใดยั งมีชีวิตอยู่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หรือมีผู้รับมรดกแทนที่กัน แล้วแต่กรณี และมีบิดามารดายังมีชีวิตอยู่ ในกรณีเช่นนั้นให้บิดามารดาได้
ส่วนแบ่งเสมือนหนึ
สํา่งนัว่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นทายาทชั้นบุตร กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๖๓๑ ในระหว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
งผู้สืบสันดานต่างชั้นกันกนัา ้น บุตรของเจ้สําานัมรดกอั นอยู่ในชั้น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สนิทที่สุดเท่านั้นสํมีาสนัิทกธิงานคณะกรรมการกฤษฎี
รับมรดก ผู้สืบสันดานที
กา
่อยู่ในชั้นถัดลงไปจะรั บมรดกได้ก็แต่โดยอาศัยสิทธิใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การรับมรดกแทนที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๗๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
หมวด ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา การแบ่สํงส่านัวกนมรดกของทายาทโดยธรรม
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในลําดับและชัน้ ต่าง ๆ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


ส่วนที่ ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ญาติ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๖๓๒ ภายใต้บังคับแห่งมาตรา ๑๖๒๙ วรรคสุดท้าย การแบ่งส่วนมรดก
ของทายาทโดยธรรมในลํ าดับญาติให้เป็นไปตามบทบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัติในส่
สํานัวกนที ่ ๑ แห่งหมวดนี้ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา ๑๖๓๓ ทายาทโดยธรรมในลํ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าดับเดียกวกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า น ในลํ าดั บสํหนึ
านั่ งกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ๆ ที่ระบุไว้ใ น กา
มาตรา ๑๖๒๙ นั้น ชอบที่จะได้รับส่วนแบ่งเท่ากัน ถ้าในลําดับหนึ่งมีทายาทโดยธรรมคนเดียวทายาท
โดยธรรมคนนั้นมีสํสาิทนัธิกไงานคณะกรรมการกฤษฎี
ด้รับส่วนแบ่งทั้งหมด กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๖๓๔ ระหว่างผู้สืบสันดานที่รับมรดกแทนที่กันในส่วนแบ่งของสายหนึ่ง ๆ
ตามบทบัญญัติในลั สํากนัษณะ ๒ หมวด ๔ นั้น ให้กไาด้รับส่วนแบ่งมรดกดั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ่งนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๑) ถ้ามีผู้สืบสันดานต่างชั้นกัน บุตรของผู้ตายซึ่งอยู่ในชั้นสนิทที่สุดเท่านั้นมีสิทธิรับ
สํานักมรดก ผู้สืบสันดานในชั้นกถัา ดลงไปจะรับสํมรดกได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี ก็แต่โดยอาศัยสิทธิใกนการรั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า บมรดกแทนที ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๒) ผู้สืบสันดานในชั้นเดียวกันได้รับส่วนแบ่งเท่ากัน
สํ(๓) ถ้าในชั้นหนึ่งมีผู้สืบสันกาดานคนเดียวสํผูานั้สกืบงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สันดานคนนั้นมีสิทธิไกด้ารับส่วนแบ่ง
ทั้งหมด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส่วนที่ ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คู่สมรส
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๓๕ ลําดับและส่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาวนแบ่งของคูสํ่สานัมรสที ่ยังมีชีวิตอยู่ในการรักาบมรดกของ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้ตายนั้น ให้เป็นไปดั่งต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑) ถ้กาามีทายาทตามมาตรา ๑๖๒๙ (๑) ซึ่งยักงามีชีวิตอยู่หรื อสํมีาผนัู้กรังานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บมรดกแทนที่ กา
แล้วแต่กรณี คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น มีสิทธิได้ส่วนแบ่งเสมือนหนึ่งว่าตนเป็นทายาทชั้นบุตร
สํ(๒) ถ้ามีทายาทตามมาตราก๑๖๒๙
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า (๓) และทายาทนั ้นยังมีชีวิตอยู่หรืกอามีผู้รับมรดก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
แทนที่ หรือถ้าไม่มีทายาทตามมาตรา ๑๖๒๙ (๑) แต่มีทายาทตามมาตรา ๑๖๒๙ (๒) แล้วแต่กรณี คู่
สํานักสมรสที ่ยังมีชีวิตอยู่นั้นมีกสาิทธิได้รับมรดกกึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่งกหนึ ่ง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ถ้ามีทายาทตามมาตรา ๑๖๒๙ (๔) หรืสําอนัก(๖)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และทายาทนั้นยังมีชีวิตอยู่ หรือมี
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้รับมรดกแทนที่ หรือมีทายาทตามมาตรา ๑๖๒๙ (๕) แล้วแต่กรณี คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่ มีสิทธิได้
สํานักมรดกสองส่ วนในสาม กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๗๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
(๔) ถ้าไม่มีทายาทดั่งที่ระบุไว้ในมาตรา ๑๖๒๙ คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นมีสิทธิได้รับ
สํานักมรดกทั ้งหมด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๓๖ ถ้าเจ้ามรดกมี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ภริยาที่ชอบด้
สํานัวกยกฎหมายก่ อนใช้ประมวลกฎหมาย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แพ่งและพาณิ ชย์บรรพ ๕ หลายคนยั งมีชีวิ ตอยู่ ภริย าเหล่านั้น ทั้ ง หมดรวมกั นมี สิ ท ธิ ได้รับ มรดก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามลําดับชั้นและส่วนแบ่งดั่งระบุไว้ในมาตรา ๑๖๓๕ แต่ในระหว่างกันเองให้ภริยาน้อยแต่ละคนมี
สิทธิได้รับมรดกกึสํ่งาส่นัวกนที ่ภริยาหลวงจะพึงได้รกับา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๖๓๗ ถ้าคูสํ่สามรสฝ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ายใดที่ยังมีชีวิตอยู่เป็กนาผู้รับประโยชน์สําตนัามสั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ญญาประกัน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ชีวิต คู่สมรสฝ่ายนั้นมีสิทธิรับจํานวนเงินทั้งหมดที่ได้ตกลงไว้กับผู้รับประกันภัย แต่จําต้องเอาจํานวน
เบี้ยประกันภัย เพีสํยานังเท่ าที่พิสูจน์ได้ว่าสูงกว่ากจําานวนเงินที่ผู้ตสํายจะพึ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี งส่งใช้เป็นเบี้ยประกักนา ภัยได้ ตาม
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
รายได้หรือฐานะของตนโดยปกติไปชดใช้สินเดิมของคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง หรือสินสมรสแล้วแต่กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีถึงอย่กาางไรก็ดี จํานวนเงิ สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
เบี้ยประกันภัยซึ่งจะพึกงา ส่งคืนตามบทบั สํานัญกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญัติข้างต้นนั้น กา
รวมทั้งสิ้นต้องไม่เกินจํานวนเงินที่ผู้รับประกันภัยได้ชําระให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๓๘ เมื่อสํคูา่สนัมรสทั ้งสองฝ่ายได้ลงทุนออกเงินในการทํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าสัญญา และตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สัญญานั้นทั้งสองฝ่ายจะต้องได้รับเงินปีในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ร่วมกัน และเมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดตาย ฝ่าย
ที่ยังมีชีวิตอยู่ยังจะต้
สํานัอกงได้ รับเงินปีต่อไปตลอดอายุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ฝ่ายที่ยังสํมีาชนัีวกิตงานคณะกรรมการกฤษฎี
อยู่ จําต้องชดใช้สินเดิกมาของอีกฝ่าย
หนึ่ง หรือสินสมรสแล้วแต่กรณี สุดแต่ว่าได้เอาเงินสินเดิม หรือสินสมรสไปใช้ในการลงทุนนั้น เงินที่
สํานักจะต้ องชดใช้สินเดิมหรือกสิานสมรสดั่งว่านีสํา้ นัให้กชงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ดใช้เท่าจํานวนเงินซึ่งกผูา้จ่ายเงินรายปีจสํะเรี
านักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
กให้ใช้เพิ่มขึ้น กา
เป็นพิเศษ เพื่อผู้จ่ายจะได้จ่ายเงินรายปีให้แก่คู่สมรสฝ่ายที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นต่อไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สําการรั บมรดกแทนที่กัน กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๑๖๓๙ ถ้าบุสํคานัคลใดซึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่งจะเป็นทายาทตามมาตรา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๖๒๙
สํานั(๑) (๓) (๔) หรือ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๖) ถึงแก่ความตาย หรือถูกกําจัดมิให้รับมรดกก่อนเจ้ามรดกตาย ถ้าบุคคลนั้นมีผู้สืบสันดานก็ให้
ผู้สืบสันดานรับมรดกแทนที ่ ถ้าผู้สืบสันดานคนใดของบุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา คคลนั
สํานั้นกถึงานคณะกรรมการกฤษฎี
งแก่ความตายหรือถูกกกําาจัดมิให้รับ
มรดกเช่นเดียวกัน ก็ให้ผู้สืบสันดานของผู้สืบสันดานนั้นรับมรดกแทนที่ และให้มีการรับมรดกแทนที่
สํานักกังานคณะกรรมการกฤษฎี
นเฉพาะส่วนแบ่งของบุกคา คลเป็นราย ๆสําสืนับกต่งานคณะกรรมการกฤษฎี
อกันเช่นนี้ไปจนหมดสาย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๔๐๑๗๑ เมื่อบุคกคลใดต้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า องถือว่สําถึานังกแก่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ความตายตามความในมาตรา
กา ๖๒
แห่งประมวลกฎหมายนี้ ให้มีการรับมรดกแทนที่กันได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๔๑ ถ้าบุคคลใดซึ่งจะเป็นทายาทตามมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๖๒๙ (๒) หรือ (๕) ถึงแก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๗๑
มาตรา ๑๖๔๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติให้ใช้บรรพ ๑ ที่ได้ตรวจชําระใหม่ พ.ศ.
สํานัก๒๕๓๕
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๗๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ความตาย หรือถูกกําจัดมิให้รับมรดกก่อนเจ้ามรดกตาย ถ้ามีทายาทในลําดับเดียวกันยังมีชีวิตอยู่ ก็ให้
สํานักส่งานคณะกรรมการกฤษฎี
วนแบ่งทั้งหมดตกได้แก่กาทายาทนั้นเท่าสํนัานั้นกห้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ามมิให้มีการรับมรดกแทนที
กา ่กันต่อไปสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๔๒ การรับมรดกแทนที


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่กันนัสํ้นานัให้ ใช้บังคับแต่ในระหว่ากงทายาทโดย
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า
ธรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๔๓ สิทธิที่จะรักบามรดกแทนทีสํ่กาันนันัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ได้เฉพาะแก่ผู้สืบสันดานโดยตรงผู
กา ้
บุพการีหามีสิทธิดั่งนั้นไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๔๔ ผู้สืบสันดานจะรับมรดกแทนที่ได้ต่อเมื่อมีสิทธิบริบูรณ์ในการรับ
มรดก สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๖๔๕ การที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํา่บนัุคกงานคณะกรรมการกฤษฎี
คลใดสละมรดกของบุคกคลอี
า กคนหนึ่งนัสํา้นนักไม่งานคณะกรรมการกฤษฎี
ตัดสิทธิของผู้ กา
สละที่จะรับมรดกแทนที่บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นในการสืบมรดกบุคคลอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พินัยกรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทเบ็ดเสร็จทัว่ ไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๖๔๖ บุคคลใดจะแสดงเจตนาโดยพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีนกัยากรรมกําหนดการเผื ่อตายในเรื่อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทรัพย์สินของตนเอง หรือในการต่าง ๆ อันจะให้เกิดเป็นผลบังคับได้ตามกฎหมายเมื่อตนตายก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๑๖๔๗ การแสดงเจตนากํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าหนดการเผืก่อา ตายนั้นย่อมทํสําานัได้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ด้วยคําสั่งครั้ง กา
สุดท้ายกําหนดไว้ในพินัยกรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๔๘ พินัยกรรมนั้นต้องทําตามแบบซึ่งระบุไว้ในหมวด ๒ แห่งลักษณะนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๔๙ ผู้จัดการมรดกซึ่งผู้ ตายตั้งไว้ย่อมมีอํานาจและหน้าที่ใ นอันที่จะ
จัดการทําศพของผูสํา้ตนัาย เว้นแต่ผู้ตายจะได้ตั้งบุกคา คลอื่นไว้โดยเฉพาะให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี จัดการดั่งว่านั้น กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถ้าผู้ตายมิได้ตั้งผู้จัดการมรดกหรือบุคคลใดไว้ให้เป็นผู้จัดการทําศพ หรือทายาทมิได้
สํานักมอบหมายตั ้งให้บุคคลใดเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นผู้จัดการทํสําาศพ บุคคลผู้ได้รับทรัพย์มรดกโดยพิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นัยกรรมหรื อโดยสิทธิโดย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ธรรมเป็นจํานวนมากที ่สุด เป็นผู้มีอํานาจและตกอยู่ในหน้าทีสํ่ตานั้อกงจังานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดการทําศพ เว้นแต่ศาลจะเห็
กา
นเป็น
การสมควรตั้งบุคคลอื่นให้จัดการเช่นนั้น ในเมื่อบุคคลผู้มีส่วนได้เสียคนใดคนหนึ่งร้องขอขึ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๗๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๖๕๐ ค่าใช้จ่ายเกิดมีหนี้เป็นคุณแก่บุคคลใดในการจัดการทําศพนั้น ให้
สํานักเรีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยกเอาได้ตามบุริมสิทธิกทา ี่ระบุไว้ในมาตรา
สํานัก๒๕๓ (๒) แห่งประมวลกฎหมายนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าการจัดการทําศพ ต้องชักช้าไปด้วยประการใด ๆ ให้บุคคลผู้มีอํานาจตามความใน
มาตราก่อนกันเงินาเป็นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ จํานวนอันสมควรจากสิกานทรัพย์แห่งกองมรดกเพื ่อใช้ในการนี้ โดยให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บุคคลผู้มี
ส่วนได้เสียคนใดคนหนึ่งร้องต่อศาลได้ในกรณีที่ไม่ตกลงหรือคัดค้านการกันเงินจํานวนนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กรณีจะเป็นอย่างไรก็ตาม เงินค่าใช้จ่าย หรือเงินที่กันไว้อันเกี่ยวกับการจัดการทําศพ
นั้น ให้กันไว้ได้แต่สํเาพีนัยกงจํ านวนตามสมควรแก่ฐกานะในสมาคมของผู
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ้ตาย แต่จะต้องไม่เป็นกการเสื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่อมเสีย
ต่อสิทธิของเจ้าหนี้ของผู้ตาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๕๑ ภายใต้บังคับบทบัญญัติลักษณะ ๔
สํ(๑) เมื่อตามข้อกําหนดพินัยกกรรม
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า บุคคลใดมี
สํานัสกิทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธิที่จะได้รับทรัพย์มรดกทั กา ้งหมดของ
เจ้ามรดก หรือตามเศษส่วน หรือตามส่วนที่เหลือแห่งทรัพย์มรดก ซึ่งมิได้แยกไว้ต่างหากเป็นพิเศษ
สํานักจากกองมรดก บุคคลนั้นกาเรียกว่าผู้รับพิสํนาัยนักรรมลั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กษณะทั่วไป และมี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาสิทธิและความรัสํานับกผิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดเช่นเดียวกับ กา
ทายาทโดยธรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เมื่อตามข้อกําหนดพินัยกรรม บุคคลใดมี สิทธิที่จะได้รับทรัพย์สินเฉพาะสิ่ง
เฉพาะอย่าง ซึ่งเจาะจงไว้โดยเฉพาะ หรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อแยกไว้ต่างหากเป็นพิเศษจากกองมรดกสํานับุกคงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คลนั้นเรียกว่า กา
ผู้รับพินัยกรรมลักษณะเฉพาะ และมีสิทธิและความรับผิดที่เกี่ยวกับทรัพย์สินเท่านั้น
สํในกรณี ที่มี ข้อสงสัย ให้ สั นกนิาษฐานไว้ก่อนว่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผู้รับพินัยกรรมเป็ นผู้รกับา พิ นั ยกรรม
ลักษณะเฉพาะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๕๒ บุคคลผู้อยู่ในความปกครองนั้น จะทําพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกของ
ตนให้ แ ก่ผู้ ปกครองหรื อคู่สมรส บุพการี หรืกอา ผู้สืบสันดานสําหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
พี่น้ องของผู้ปกครองไม่
กา ได้ จ นกว่ า
ผู้ปกครองจะได้ทําคําแถลงการณ์ปกครองตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๕๗๗ และมาตราต่อ ๆ ไป แห่ง
สํานักประมวลกฎหมายนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้เสร็จกสิา ้นแล้ว สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๕๓ ผู้เขียน หรือพยานในพินัยกรรมจะเป็นผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมนั้น
สํานักไม่ ได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ใช้บทบัญญัติในวรรคก่อนบังคับแก่คู่สมรสของผู้เขียนหรือพยานในพินัยกรรมด้วย
สํพนั
านักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานเจ้าหน้าที่ซึ่งได้จดข้
กาอความแห่งพิสํานนััยกกรรมที ่พยานนํามาแจ้กงตาม
งานคณะกรรมการกฤษฎี า มาตรา
๑๖๖๓ ให้ถือว่าเป็นผู้เขียนพินัยกรรมตามความหมายแห่งมาตรานี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๕๔ ความสามารถของผู้ทําพินัยกรรมนั้นให้พิจารณาแต่ในเวลาที่ทํา
พินัยกรรมเท่านั้นสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความสามารถของผู้รับพินัยกรรมนั้น ให้พิจารณาแต่ในเวลาที่ผู้ทําพินัยกรรมตาย
สํานักเท่ านั้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักแบบพิ นัยกรรม
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๗๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๖๕๕ พินัยกรรมนั้น จะทําได้ก็แต่ตามแบบใดแบบหนึ่งดั่งที่บัญญัติไว้ใน
หมวดนี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๖๕๖ พินัยกรรมนั้น จะทําตามแบบดั่งนี้ก็ได้ กล่าวคือต้องทําเป็นหนังสือ
ลงวัน เดือน ปี ในขณะที ่ทําขึ้น และผู้ทําพินัยกกรรมต้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า องลงลายมืสํานัอกชืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อไว้ต่อหน้าพยานอย่ากงน้ า อยสองคน
พร้อมกัน ซึ่งพยานสองคนนั้นต้องลงลายมือชื่อรับรองลายมือชื่อของผู้ทําพินัยกรรมไว้ในขณะนั้น
การขูกดาลบ ตก เติม สํหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านัอกงานคณะกรรมการกฤษฎี
การแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่ กา างอื่ นซึ่ งพิ นสําั ยนักรรมนั ้นย่อมไม่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สมบูรณ์ เว้นแต่จะได้ปฏิบัติตามแบบอย่างเดียวกับการทําพินัยกรรมตามมาตรานี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๕๗ พินัยกรรมนั้น จะทําเป็นเอกสารเขียนเองทั้งฉบับก็ได้ กล่าวคือผู้ทํา
สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นัยกรรมต้องเขียนด้วยมื
กา อตนเองซึ่งข้อสําความทั ้งหมด วัน เดือน ปี กและลายมื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อชื่อของตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การขูดลบ ตก เติม หรือการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นซึ่งพินัยกรรมนั้นย่อมไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมบูรณ์ เว้นแต่ผู้ทําพินัยกรรมจะได้ทําด้วยมือตนเอง และลงลายมื อชื่อกํากับไว้
บทบัญญัติมาตรา ๙ สํแห่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งประมวลกฎหมายนี้ มิให้ใช้บังคับแก่พินสํัยานักรรมที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ทําขึ้นตาม
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรานี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๕๘ พินัยกรรมนั้น จะทําเป็นเอกสารฝ่ายเมืองก็ได้ กล่าวคือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑) ผูก้ทาําพินัยกรรมต้สํอางไปแจ้ งข้อความที่ตนประสงค์
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จะให้ใส่ไว้ใสํนพิ
านักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัยกรรมของตน กา
แก่กรมการอําเภอต่อหน้าพยานอีกอย่างน้อยสองคนพร้อมกัน
สํ(๒) กรมการอําเภอต้องจดข้กาอความที่ผู้ทําสํพิานนััยกงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กรรมแจ้งให้ทราบนั้นลงไว้ กา และอ่าน
ข้อความนั้นให้ผู้ทําพินัยกรรมและพยานฟัง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๓) เมืกา่อผู้ทําพินัยกรรมและพยานทราบแน่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ชัดว่กาา ข้อความที่กรมการอํ าเภอจดนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เป็นการถูกต้องตรงกันกับที่ผู้ทําพินัยกรรมแจ้งไว้แล้ว ให้ผู้ทําพินัยกรรมและพยานลงลายมือชื่อไว้เป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สําคัญ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๔) ข้กอาความที่กรมการอํ าเภอจดไว้นั้น ให้กรมการอํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าเภอลงลายมื สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ชื่อและลง วัน กา
เดือน ปี ทั้งจดลงไว้ด้วยตนเองเป็นสําคัญว่า พินัยกรรมนั้นได้ทําขึ้นถูกต้องตามบทบัญญัติอนุมาตรา ๑
ถึง ๓ ข้างต้น แล้วสํประทั บตราตําแหน่งไว้เป็นกสําาคัญ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การขูดลบ ตก เติม หรือการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นซึ่งพินัยกรรมนั้นย่อมไม่
สํานักสมบู รณ์ เว้นแต่ผู้ทําพินกัยากรรม พยาน สํและกรมการอํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี าเภอจะได้ลงลายมื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อชื่อกํากับสํไว้านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๕๙ การทําพินกัยา กรรมแบบเอกสารฝ่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ายเมืองนั้น จะทํากนอกที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่ ว่าการ
อําเภอก็ได้ เมื่อมีการร้องขอเช่นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๖๐ พินัยกรรมนั้น จะทําเป็นเอกสารลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บก็ได้ กล่าวคือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ผู้ทําพินัยกรรมต้องลงลายมือชื่อในพินัยกรรม
(๒) ผูก้ทาําพินัยกรรมต้สํอางผนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กพินัยกรรมนั้น แล้วลงลายมื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อชื่อคาบรอยผนึ กนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๒๗๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
(๓) ผู้ทําพินัยกรรมต้องนําพินัยกรรมที่ผนึกนั้นไปแสดงต่อกรมการอําเภอ และ
สํานักพยานอี กอย่างน้อยสองคน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา และให้ ถสํ้ อายคํ นักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ต่อบุคคลทั้งหมดเหล่กาานั้นว่าเป็นพินสํัยานักรรมของตน ถ้ า
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พิ นั ย กรรมนั้ น ผู้ ทํ า พิ นั ย กรรมมิ ไ ด้ เ ป็ น ผู้ เ ขี ย นเองโดยตลอด ผู้ ทํ า พิ นั ย กรรมจะต้ อ งแจ้ ง นามและ
ภูมิลําเนาของผู้เขีสํยานให้ ทราบด้วย
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) เมื่ อ กรมการอํ า เภอจดถ้ อ ยคํ า ของผู้ ทํ า พิ นั ย กรรมและวั น เดื อ น ปี ที่ ทํ า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พินัยกรรมมาแสดงไว้บนซองนั้นและประทับตราตําแหน่งแล้ว ให้กรมการอําเภอผู้ทําพินัยกรรมและ
พยานลงลายมือชืสํ่อาบนซองนั ้น
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การขูดลบ ตก เติม หรือการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นซึ่งพินัยกรรมนั้นย่อมไม่
สํานักสมบู รณ์ เว้นแต่ผู้ทําพินกัยากรรมจะได้ลงลายมื
งานคณะกรรมการกฤษฎี อชื่อกํากับไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๖๑ ถ้าบุคคลผู้เกป็านทั้งใบ้และหูสํหานวกหรื


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี อผู้ที่พูดไม่ได้ มีความประสงค์
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จะ
ทําพินัยกรรมเป็นแบบเอกสารลับ ให้ผู้นั้นเขียนด้วยตนเองบนซองพินัยกรรมต่อหน้ากรมการอําเภอ
สํานักและพยานซึ ่งข้อความว่กาาพินัยกรรมที่ผสํนึานักกนังานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้นเป็นของตนแทนการให้
กา ถ้อยคําดั่งทีสํ่กาํานัหนดไว้ ในมาตรา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
๑๖๖๐ (๓) และถ้าหากมีผู้เขียนก็ให้เขียนชื่อกับภูมิลําเนาของผู้เขียนพินัยกรรมนั้นไว้ด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้กรมการอําเภอจดลงไว้บนซองเป็นสําคัญสํว่านัากผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ทําพินัยกรรมได้ปฏิบัตกิตาามข้อความ
ในวรรคก่อนแล้ว แทนการจดถ้อยคําของผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้ทําพินัยกรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๖๒ พินัยกรรมซึ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งได้ทําเป็นแบบเอกสารฝ่ ายเมืองหรือเอกสารลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บนั้น
กรมการอํ าเภอจะเปิ ด เผยแก่ บุค คลอื่ นใดไม่ ได้ในระหว่างที่ผู้ทําพินัยกรรมยังมี ชีวิตอยู่ และผู้ ทํ า
สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นัยกรรมจะเรียกให้กรมการอํ กา าเภอส่งสํมอบพิ นัยกรรมนั้นแก่ตนในเวลาใด
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๆ กรมการอํ าเภอจําต้องส่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มอบให้
สํถ้าานัพิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัยกรรมนั้นทําเป็นแบบเอกสารฝ่
กา ายเมื
สําอนักง งานคณะกรรมการกฤษฎี
ก่อนส่งมอบพินัยกรรมกาให้กรมการ
อําเภอคัดสําเนาพินัยกรรมไว้แล้วลงลายมือชื่อประทับตราตําแหน่งเป็นสําคัญ สําเนาพินัยกรรมนั้นจะ
สํานักเปิ ดเผยแก่บุคคลอื่นใดไม่กาได้ ในระหว่างที
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่ผกู้ทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําพินัยกรรมยังมีชีวิตอยูก่ า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๖๓ เมื่อมีพฤติการณ์พิเศษซึ่งบุคคลใดไม่สามารถจะทําพินัยกรรมตาม
สํานักแบบอื ่นที่กําหนดไว้ได้กเช่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า น ตกอยู่ ใ นอั สํานนักตรายใกล้ ความตาย หรืกอาเวลามีโรคระบาด
งานคณะกรรมการกฤษฎี หรือสงคราม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บุคคลนั้นจะทําพินัยกรรมด้วยวาจาก็ได้
สํเพื
านั่อกการนี ้ ผู้ทําพินัยกรรมต้กอางแสดงเจตนากํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สําานัหนดข้ อพินัยกรรมต่อหน้กาาพยานอย่าง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
น้อยสองคนซึ่งอยู่พร้อมกัน ณ ที่นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี พยานสองคนนั
กา ้นต้อสํงไปแสดงตนต่ อกรมการอํากเภอโดยมิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ชักช้าสํและแจ้ งข้อความที่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้ทําพินัยกรรมได้สั่งไว้ด้วยวาจานั้น ทั้งต้องแจ้งวัน เดือน ปี สถานที่ที่ทําพินัยกรรมและพฤติการณ์
พิเศษนั้นไว้ด้วย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้กรมการอําเภอจดข้อความที่พยานแจ้งนั้นไว้ และพยานสองคนนั้นต้องลงลายมือ
สํานักชืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อไว้ หรือมิฉะนั้น จะให้กเาสมอกับการลงลายมื อชื่อได้ก็แต่ด้วยลงลายพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มพ์นิ้วมือโดยมี
สํานักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยานลงลายมือ กา
ชื่อรับรองสองคนสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๖๖๔ ความสมบู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี รณ์แห่งพินัยกรรมซึ่งทํกาา ขึ้นตามมาตราก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกนนั ้นย่อมสิ้นไป
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๒๗๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
เมื่อพ้นกําหนดหนึ่งเดือนนับแต่เวลาผู้ทําพินัยกรรมกลับมาสู่ฐานะที่จะทําพินัยกรรมตามแบบอื่นที่
สํานักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดไว้ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๖๕ เมื่อผู้ทําพินกัยากรรมจะต้องลงลายมื


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี อชื่อตามมาตรา ๑๖๕๖,
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๖๕๘,
๑๖๖๐ จะให้เสมอกับลงลายมือชื่อได้ ก็แต่ด้วยลงลายพิมพ์นิ้วมือโดยมีพยานลงลายมือชื่อรับรองไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ด้วยสองคนในขณะนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๗๒
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๖๖ บทบัญญัติมาตรา ๙ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายนี้ มิให้ใช้
สํานักบังานคณะกรรมการกฤษฎี
งคับแก่พยานผู้ที่จะต้อกงลงลายมื
า อชื่อสํตามมาตรา ๑๖๕๖, ๑๖๕๘,ก๑๖๖๐
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๖๗ เมื่อคนในบักงาคับไทยจะทําสํพิานันกัยงานคณะกรรมการกฤษฎี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กรรมในต่างประเทศ พิกานัยกรรมนั้น
อาจทําตามแบบซึ่ งกฎหมายของประเทศที่ทําพินัยกรรมบัญญั ติไว้ หรือตามแบบที่กฎหมายไทย
สํานักบังานคณะกรรมการกฤษฎี
ญญัติไว้ก็ได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อทําพินัยกรรมตามแบบที่กฎหมายไทยบัญญัติไว้ อํานาจและหน้าที่ของกรมการ
อําเภอตามมาตรา ๑๖๕๘, ๑๖๖๐, ๑๖๖๑, ๑๖๖๒, ๑๖๖๓สํให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตกแก่บุคคลดั่งต่อไปนี้ คือ
(๑) พนักงานทูต หรืสํอากงสุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลฝ่ายไทย กระทําการตามขอบอํานาจของตน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) พนักงานใด ๆ ซึ่งมีอํานาจตามกฎหมายของต่างประเทศนั้น ๆ ที่จะรับบันทึก
ข้อแจ้งความไว้เป็สํนาหลั
นักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฐานได้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๖๖๘ ผู้ทําสํพิานันกัยงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กรรมไม่จําเป็นต้องเปิกดา เผยข้อความในพิ
สํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัยกรรมนั้นให้ กา
พยานทราบ เว้นแต่กฎหมายจะได้ระบุไว้เป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๖๙๑๗๓ ในระหว่างเวลาที่ประเทศตกอยู่ในภาวะการรบหรือการสงคราม
สํานักบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
คคลที่รับราชการทหารหรืกา อทําการเกีสํ่ยาวข้
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งอยู่กับราชการทหาร กจะทํ า าพินัยกรรมตามแบบที ่บัญญัติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไว้ในมาตรา ๑๖๕๘ มาตรา ๑๖๖๐ หรือมาตรา ๑๖๖๓ ก็ได้ ในกรณีเช่นว่านั้น ให้นายทหารหรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้าราชการฝ่ายทหารชั้นสัญญาบัตรมีอํานาจและหน้าที่เช่นเดียวกับกรมการอําเภอ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีบทบัญกญั า ติวรรคก่อนให้
สํานันกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
มาใช้บังคับแก่กรณีที่บกุคาคลที่รับราชการทหารหรื อทําการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เกี่ยวข้องอยู่กับราชการทหารทําพินัยกรรมในต่างประเทศในระหว่างที่ปฏิบัติการเพื่อประเทศใน
ภาวะการรบหรือสํการสงครามในต่ างประเทศโดยอนุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา โลม สํและในกรณี เช่นว่านี้ ให้นายทหารหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ
ข้าราชการฝ่ายทหารชั้นสัญญาบัตรมีอํานาจและหน้าที่เช่นเดียวกับพนักงานทูตหรือกงสุลฝ่ายไทย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีถ้าผู้ทกําพิา นัยกรรมตามความในสองวรรคก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีอนนั้นป่กวายเจ็บหรือต้องบาดเจ็ บ และอยู่ใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โรงพยาบาล ให้ แ พทย์ แ ห่ ง โรงพยาบาลนั้ น มี อํ า นาจและหน้ า ที่ เ ช่ น เดี ย วกั บ กรมการอํ า เภอหรื อ
พนักงานทูต หรือสํกงสุ
านักลงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฝ่ายไทย แล้วแต่กรณีดก้วาย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


๑๗๒
มาตรา ๑๖๖๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๑ แห่งประมวล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ได้ตรวจชําระใหม่ พ.ศ. ๒๕๓๕
๑๗๓
มาตรา ๑๖๖๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ชย์ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๔๙๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๘๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๖๗๐ บุคคลต่อไปนี้จะเป็นพยานในการทําพินัยกรรมไม่ได้
(๑) ผูก้ซาึ่งยังไม่บรรลุนสํิตานัิภกาวะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) บุคคลวิกลจริตหรือบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ
สํ(๓) บุคคลที่หูหนวก เป็นใบ้กาหรือจักษุบอดทั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้งสองข้ าง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๖๗๑ เมื่ อ บุ ค คลใดนอกจากผู้ ทํ า พิ นั ย กรรมเป็ น ผู้ เ ขี ย นข้ อ ความแห่ ง
พินัยกรรม บุคคลนัสํา้นนัต้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
องลงลายมือชื่อของตนทั
กา้งระบุว่าเป็นผูสํ้เาขีนัยกนงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าบุคคลนั้นเป็นพยานด้วย ให้เขียนข้อความระบุว่าตนเป็นพยานไว้ต่อท้ายลายมือ
สํานักชืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อของตนเช่นเดียวกับพยานอืกา ่น ๆ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๗๒ ๑๗๔ ให้ รักฐามนตรี ว่ า การกระทรวงมหาดไทย


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กลาโหม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา และ
ต่างประเทศ มีอํานาจและหน้าที่เท่าที่เกี่ยวกับกระทรวงนั้น ๆ ที่จะออกกฎกระทรวง เพื่อให้การ
สํานักเป็ นไปตามประมวลกฎหมายบรรพนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ รวมทั
สํานัก้งงานคณะกรรมการกฤษฎี
กําหนดอัตราค่าฤชาธรรมเนี
กา ยมอันเกี่ยสํวกั
านับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
การนั้น กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผลและการตี ความแห่งพินัยกรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๗๓ สิ ท ธิ แ ละหน้ า ที่ ใ ด ๆ อั น เกิ ด ขึ้ น ตามพิ นั ย กรรม ให้ มี ผ ลบั ง คั บ
สํานักเรีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยกร้องกันได้ตั้งแต่ผู้ทกําา พินัยกรรมตายเป็ นต้นไป เว้นแต่ผู้ทําพิกนาัยกรรมจะได้กสํําานัหนดเงื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่อนไขหรือ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เงื่อนเวลาให้มีผลบังคับเรียกร้องกันได้ภายหลัง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๗๔ ถ้าข้อกําหนดพินัยกรรมมีเงื่อนไข และเงื่อนไขนั้นสําเร็จเสียก่อน
สํานักเวลาที ่ผู้ทํ าพินัยกรรมตาย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา หากว่ า เป็สํนานัเงืก่ องานคณะกรรมการกฤษฎี
นไขบังคับก่ อ น ข้อกํกาาหนดพินัย กรรมนั
สํานัก้ นงานคณะกรรมการกฤษฎี
มี ผ ลเมื่อผู้ทํ า กา
พินัยกรรมตาย หากว่าเป็นเงื่อนไขบังคับหลัง ข้อกําหนดพินัยกรรมนั้นเป็นอันไร้ผล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าเงื่อนไขบังคับก่อนสําเร็จภายหลังที่ผู้ทําพินัยกรรมตาย ข้อกําหนดพินัยกรรมมีผล
สํานักตังานคณะกรรมการกฤษฎี
้งแต่เวลาเงื่อนไขสําเร็จกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าเงื่อนไขบังคับหลังสําเร็จภายหลังที่ผู้ทําพินัยกรรมตาย ข้อกําหนดพินัยกรรมมีผล
ตั้งแต่เวลาที่ผู้ทําพิสํนานััยกกรรมตาย แต่ตกเป็นอันกไร้า ผลในเมื่อเงื่อสํนไขนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้นสําเร็จ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แต่ถ้าผู้ทําพินัยกรรมได้กําหนดไว้ในพินัยกรรมว่า ในกรณีที่กล่าวมาในสองวรรคก่อน
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้น ให้ความสําเร็จแห่งกเงืา ่อนไขมีผลย้อสํานหลั งไปถึงเวลาที่ผู้ทําพินกัยากรรมตาย ก็ใสํห้าเนัป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ไปตามเจตนา กา
ของผู้ทําพินัยกรรมนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๗๕ เมื่อพินัยกรรมมีเงื่อนไขบังคับก่อน ผู้รับประโยชน์ตามข้อความแห่ง
สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นัยกรรมนั้นจะร้องต่อกศาลขอให้
า ตั้งผูสํ้จาัดนักการทรั พย์สินที่ยกให้โดยพิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นัยกรรมนั้นสํจนกว่ าจะถึงเวลาที่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เงื่อนไขสําเร็จ หรืสํอาจนกว่ าความสําเร็จแห่งเงื่อนไขตกเป็นอันสํพ้านนัวิกสงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ัยก็ได้ กา
๑๗๔
มาตรา ๑๖๗๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ พุทธศักราช ๒๔๗๙กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๘๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ถ้าศาลเห็นเป็นการสมควร จะตั้งผู้ร้องนั้นเป็นผู้จัดการทรัพย์สินเสียเอง และเรียกให้
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ร้องนั้นวางประกันตามที
กา ่สมควรก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๗๖๑๗๕ พินัยกรรมจะทํ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าขึ้นโดยให้
สํานับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ุคคลใดตกอยู่ในภาระติกดาพันที่จะต้อง
ก่อตั้งมูลนิธิ หรือจะสั่งจัดสรรทรัพย์สินไว้โดยตรง เพื่อประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งตามบทบัญญัติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๐ แห่งประมวลกฎหมายนี้ก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๗๖
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๗๗ เมื่อมีพินัยกรรมก่อตั้งมูลนิธิขึ้นตามมาตราก่อน ให้เป็นหน้าที่
สํานักของทายาทหรื อผู้จัดการมรดกแล้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา วแต่กสํรณี ที่จะต้องร้องขอให้รัฐบาลให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อํานาจจัดสํตัา้งนัขึก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นนิติบุคคล กา
ตามมาตรา ๑๑๘ แห่งประมวลกฎหมายนี้ เว้นแต่จะได้มีข้อกําหนดไว้ในพินัยกรรมเป็นอย่างอื่น
สํถ้าานับุกคงานคณะกรรมการกฤษฎี
คลดั่งกล่าวแล้วมิได้ร้อกงขอให้
า รัฐบาลให้
สํานัอกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
นาจ บุคคลผู้มีส่วนได้เสีกายคนหนึ่งคน
ใดหรือพนักงานอัยการจะเป็นผู้ร้องขอก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๗๘ เมื่อมูลนิธิใดซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยพินัยกรรมได้ตั้งขึ้นเป็นนิติบุคคลแล้ว
ให้ถื อว่ า ทรัพ ย์สิ นซึ่ง ผู้ ทํา พิ นั ย กรรมจั ด สรรไว้ เพื่ อ การนั้ นสําตกเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
น ของนิ ติบุค คลนั้ นตั้ งแต่ เวลาซึ่ ง
พินัยกรรมมีผล เว้นแต่จะมีข้อกําหนดไว้สําในันพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นัยกรรมเป็นอย่างอื่น
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๗๙ ถ้าจัดตั้งมูกลานิธิขึ้นไม่ได้ตามวั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถุที่ประสงค์ ให้ทรัพย์สกาินตกทอดไป
ตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีถ้าพินกัยากรรมไม่ได้ระบุ สํานัไว้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เมื่อทายาทหรือผู้จัดการมรดก
กา หรือพนั
สํานักกงานอั ยการหรือ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บุคคลผู้มีส่วนได้เสียคนใดคนหนึ่งร้องขอ ให้ศาลจัดสรรทรัพย์สินนั้นให้แก่นิติบุคคลอื่นซึ่งปรากฏว่ามี
วัตถุที่ประสงค์ใกล้สําชนัิดกทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่สุดกับความประสงค์ขกองผู า ้ทําพินัยกรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าหากว่าจัดสรรทรัพย์สินอย่างนี้ไม่ได้ก็ดี หรือว่ามูลนิธินั้นตั้งขึ้นไม่ได้ เพราะเป็น
สํานักการขั ดต่อกฎหมาย หรืกอา ขัดต่อความสงบเรี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ยบร้อยหรือศีลธรรมอั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กานดี ของประชาชนก็ ดีข้อกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พินัยกรรมในการจัดตั้งมูลนิธินั้นเป็นอันไร้ผล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๑๖๘๐ เจ้าหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้ขกองผู ้ทําพินัยกรรมมีสิทธิกทา ี่จะร้องขอให้สํเพิานักกถอนข้
งานคณะกรรมการกฤษฎี อกําหนด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พินัยกรรมซึ่งก่อตั้งมูลนิธินั้นได้เพียงเท่าที่ตนต้องเสียประโยชน์เนื่องแต่การนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๘๑ ถ้าทรัพย์สินซึ่งเป็นวัตถุแห่งพินัยกรรมนั้น ได้สูญหาย ทําลายหรือ
สํานักบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
บสลายไป และพฤติกการณ์ า ทั้งนี้เป็นผลให้
สํานักไงานคณะกรรมการกฤษฎี
ด้ทรัพย์สินอื่นมาแทน กหรื
า อได้สิทธิเรียสํกร้
านัอกงเอาค่ าสินไหม
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทดแทนทรัพย์สินนั้น ผู้รับพินัยกรรมจะเรียกให้ส่งมอบของแทนซึ่งได้รับมานั้น หรือจะเรียกร้องเอาค่า
สินไหมทดแทนเสีสํยาเองก็ ได้แล้วแต่กรณี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


๑๗๕
มาตรา ๑๖๗๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๑ แห่ง ประมวล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ได้ตรวจชําระใหม่ พ.ศ. ๒๕๓๕
๑๗๖
มาตรา ๑๖๗๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๑ แห่งประมวล
สํานักกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี
งและพาณิชย์ กทีา่ได้ตรวจชําระใหม่
สํานัพ.ศ.
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๕๓๕ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๘๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๖๘๒ เมื่ อ พิ นั ย กรรมทํ า ขึ้ น เป็ น การปลดหนี้ ห รื อ โอนสิ ท ธิ เ รี ย กร้ อ ง
สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นัยกรรมนั้นมีผลเพียงจํ กาานวนซึ่งคงค้สําางชํ
นักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ระอยู่ในเวลาที่ผู้ทําพินกัยากรรมตาย เว้สํนาแต่
นักผงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้ทําพินัยกรรม กา
จะได้กําหนดไว้เป็นอย่างอื่น
สํถ้าานัมีกเงานคณะกรรมการกฤษฎี
อกสารอันเป็นหลักฐานแห่ กา งหนี้ที่ปลดให้
สํานักหงานคณะกรรมการกฤษฎี
รือสิทธิเรียกร้องที่โอนไปนั
กา ้นก็ให้ส่ง
มอบแก่ผู้รับพินัยกรรมและให้ใช้มาตรา ๓๐๓ ถึง ๓๑๓, ๓๔๐ แห่งประมวลกฎหมายนี้บังคับโดย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนุโลม แต่ถ้าผู้ทําพินัยกรรมจะต้องกระทําการหรือดําเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรานั้น ๆ
แล้ว บุคคลผู้ต้องจั
สําดนัการตามพิ นัยกรรมหรือผูก้ราับพินัยกรรมจะกระทํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี าการหรือดําเนินการนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้น ๆ แทน
ผู้ทําพินัยกรรมก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๘๓ พินัยกรรมที่บุคคลทําให้แก่เจ้าหนี้คนใดของตนนั้น ให้สันนิษฐานไว้
ก่อนว่า มิได้ทําขึ้นสํเพื
านั่อกชํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าระหนี้อันค้างชําระแก่กเาจ้าหนี้คนนั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๖๘๔ เมื่อสํความข้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อใดข้อหนึ่งในพินัยกรรมอาจตี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ความได้
สํานักเป็งานคณะกรรมการกฤษฎี
นหลายนัยให้ กา
ถือเอาตามนัยที่จะสําเร็จผลตามความประสงค์ของผู้ทําพินัยกรรมนั้นได้ดีที่สุด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๘๕ ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่ผู้ทําพินัยกรรมได้กําหนดผู้รับพินัยกรรมไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยคุณสมบัติที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทราบตั ว แน่ น อนได้ ถ้ า มี บุ ค คลหลายคนทรงไว้ ซึ่ ง คุ ณ สมบั ติ ที่ จ ะเป็ น ผู้ รั บ พิ นั ย กรรมตามที่ ผู้ ทํ า
พินัยกรรมกําหนดไว้
สํานัดกั่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้นได้ ในกรณีที่มีข้อสงสักา ย ให้ถือว่าทุกสําคนมี สิทธิที่จะได้รับส่วนปันกเท่า า ๆ กัน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พินัยกรรมที่ตั้งผู้ปกครองทรัพย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา ๑๖๘๖ ๑๗๗ สํอัานันกว่งานคณะกรรมการกฤษฎี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ทรั ส ต์ นั้ น จะก่ อ ตั้ ง ขึกา้ น โดยตรงหรืสํอาโดยทางอ้ อ มด้ ว ย
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พินัยกรรมหรือด้วยนิติกรรมใด ๆ ที่มีผลในระหว่างชีวิตก็ดีหรือเมื่อตายแล้วก็ดี หามีผลไม่ เว้นแต่โดย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายเพื่อการก่อตั้งทรัสต์เท่านั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๘๗ ถ้าผู้ทําพินัยกรรมประสงค์จะยกทรัพย์สินให้แก่ผู้เยาว์ หรือผู้ซึ่งศาล
ได้ สั่ ง ให้ เ ป็ น คนไร้
สํานัคกวามสามารถ หรื อ เสมืกอานไร้ ค วามสามารถ
งานคณะกรรมการกฤษฎี หรื อ แก่ ผู้ ซึ่ ง ต้ อ งรั กกษาตั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ว อยู่ ใ น
โรงพยาบาลเพราะเหตุวิกลจริต แต่ต้องการมอบการเก็บรักษาและจัดการทรัพย์สินนั้นแก่บุคคลอื่น
สํานักนอกจากบิ ดามารดา ผูก้ปา กครอง ผู้อนุสํบานัาลกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี หรือผู้พิทักษ์ของบุคกคลเช่า นนั้ น ผู้ ทสํํ าาพินันกังานคณะกรรมการกฤษฎี
ยกรรมต้องตั้ง กา
ผู้ปกครองทรัพย์ขึ้น
สํการตั ้งผู้ปกครองทรัพย์นี้ ห้กามมิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ให้ตั้งขึ้นเป็สํนาเวลาเกิ นกว่ากําหนดแห่งการเป็
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นผู้เยาว์
หรือกําหนดที่ศาลได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ หรือกําหนดที่ต้อง
สํานักรังานคณะกรรมการกฤษฎี
กษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล กา แล้วแต่กรณีสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๗๗
มาตรา ๑๖๘๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ
สํานักพาณิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ.ก๒๕๕๐
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๘๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๖๘๘ การตั้งผู้ปกครองทรัพย์นั้น ในส่วนที่เกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์หรือ
สํานักทรั พยสิทธิใดๆ อันเกี่ยกวกั
งานคณะกรรมการกฤษฎี า บอสั งหาริมสํทรั
านักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์ ย่อมไม่บริบูรณ์ เว้นกาแต่จะได้จดทะเบี สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
นต่อพนักงาน กา
เจ้าหน้าที่
สํบทบั ญญัติที่กล่าวมาในวรรคก่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อนนี้ ให้ใช้บสํังาคันับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
แก่เรือมีระวางตั้งแต่ห้ากตัา นขึ้นไป ทั้ง
แพและสัตว์พาหนะด้วย๑๗๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๘๙ นอกจากบุกคาคลที่ระบุไว้ในมาตรา


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๑๕๕๗ แห่งประมวลกฎหมายนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้
นิติบุคคล หรือบุคคลธรรมดาที่มีความสามารถบริบูรณ์ จะรับตั้งเป็นผู้ปกครองทรัพย์ก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๙๐ ผู้ปกครองทรัพย์นั้น ย่อมตั้งขึ้นได้โดย
สํ(๑)
านักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ทําพินัยกรรม กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) บุคคลซึ่งระบุไว้ในพินัยกรรมให้เป็นผู้ตั้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๙๑ เว้นแต่ผู้ทําพินัยกรรมจะได้กําหนดไว้เป็นอย่างอื่นในพินัยกรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ปกครองทรัพย์จะทําพินัยกรรมตั้งบุคคลอื่นให้ทําการสืบแทนตนก็ ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๙๒ เว้นแต่ผู้ทําพินัยกรรมจะได้กําหนดไว้ในพินัยกรรมเป็นอย่างอื่นใน
ส่วนที่เกี่ยวด้วยทรัสําพนัย์กสงานคณะกรรมการกฤษฎี
ินที่ได้รับมอบไว้ ผู้ปกครองทรั
กา พย์มีสสํิทานัธิแกละหน้ าที่เช่นเดียวกับผูก้ปากครองตาม
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ความหมายในบรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมายนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๕
การเพิกถอนและการตกไปแห่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํงพิานันกัยงานคณะกรรมการกฤษฎี
กรรม กา
หรือข้อกําหนดพินัยกรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๙๓ ผู้ทําพินัยกรรมจะเพิกถอนพินัยกรรมของตนเสียทั้งหมด หรือแต่
สํานักบางส่ วนในเวลาใดก็ได้ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๙๔ ถ้าจะเพิกถอนพิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นัยกรรมฉบั
สํานับกก่งานคณะกรรมการกฤษฎี
อนเสียทั้งหมด หรือแต่กบา างส่วนด้วย
พินัยกรรมฉบับหลัง การเพิกถอนจะสมบูรณ์ต่อเมื่อพินัยกรรมฉบับหลังนั้นได้ทําตามแบบใดแบบหนึ่ง
สํานักทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่กฎหมายบัญญัติไว้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๖๙๕ ถ้าพินัยกรรมได้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ทําเป็นต้สํนาฉบั บแต่ฉบับเดียว ผู้ทําพิกนาัยกรรมอาจ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เพิกถอนพินัยกรรมนั้นทั้งหมดหรือบางส่วนได้ โดยทําลายหรือขีดฆ่าเสียด้วยความตั้งใจ
ถ้าพินกัยากรรมได้ทําเป็สํนานัต้กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ฉบับหลายฉบับ การเพิกากถอนนั้นไม่บสํริาบนัูรกณ์งานคณะกรรมการกฤษฎี
เว้นแต่จะได้ กา
กระทําแก่ต้นฉบับสํเหล่ านั้นทุกฉบับ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๗๘
มาตรา ๑๖๘๘ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา พ.ศ. ๒๕๔๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๔) สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๘๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา๑๖๙๖ ถ้าผูสํ้ทาํานัพิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ัยกรรมได้โอนไปโดยสมบู
กา รณ์ซึ่งทรัพย์สํสานัินกอังานคณะกรรมการกฤษฎี
นเป็นวัตถุแห่ง กา
ข้อกําหนดพินัยกรรมใดด้วยความตั้งใจ ข้อกําหนดพินัยกรรมนั้นเป็นอันเพิกถอนไป
สํวิาธนัีเกดีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยวกันนี้ให้ใช้บังคับ เมื่อกผูา้ทําพินัยกรรมได้
สํานัทกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
ลายทรัพย์สินนั้นด้วยความตั
กา ้งใจ

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๖๙๗ ถ้าผู้ทําพินัยกรรมมิได้แสดงเจตนาไว้ในพินัยกรรมเป็นอย่างอื่น และ
ปรากฏว่าพินัยกรรมฉบั บก่อนกับฉบับหลังขักดากัน ให้ถือว่าสํพิานนััยกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กรรมฉบับก่อนเป็นอันกเพิา กถอนโดย
พินัยกรรมฉบับหลัง เฉพาะในส่วนที่มีข้อความขัดกันนั้นเท่านั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖๙๘ ข้อกําหนดพินัยกรรมนั้น ย่อมตกไป
สํ(๑) เมื่อผู้รับพินัยกรรมตายก่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาอนผู้ทําพินัยกรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เมื่อข้อกําหนดพินัยกรรมเป็นผลใช้ได้ต่อเมื่อเงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่งสําเร็จลง
สํานักและผู ้รับพินัยกรรมตายเสี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยก่ อนเงื่อนไขสํ าเร็จ หรือปรากฏเป็นกทีา่แน่นอนอยู่แสํล้าวนัว่กางานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เงื่อนไขนั้นไม่ กา
อาจจะสําเร็จได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) เมื่อผู้รับพินัยกรรมบอกสละพินัยกรรมสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) เมื่อทรัพย์สินทัสํ้งาหมดที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ยกให้สูญหาย หรือถูกทําลายโดยผูสํา้ทนัํากพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นัยกรรมมิได้ กา
ตั้งใจในระหว่างที่ผู้ทําพินัยกรรมยังมีชีวิตอยู่ และผู้ทําพินัยกรรมมิได้ได้มาซึ่งของแทน หรือซึ่งสิทธิที่
จะเรียกค่าทดแทนในการที ่ทรัพย์สินนั้นสูญหายไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๖๙๙ ถ้าพิสํนาัยนักรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หรือข้อกําหนดในพิกานัยกรรม เกี่ยวกั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานับกทรั พย์สินรายใด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เป็นอันไร้ผลด้วยประการใด ๆ ทรัพย์สินรายนั้นตกทอดแก่ทายาทโดยธรรมหรือได้แก่แผ่นดินแล้วแต่
กรณี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความเสียเปล่าแห่งพินัยกรรมหรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อกําหนดพินัยกรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๗๐๐ ภายใต้บังคักบา แห่งบทบัญญัสําตนัิใกนหมวดนี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้บุคคลจะจําหน่กาายทรัพย์สิน
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ใด ๆ โดยนิติกรรมที่มีผลในระหว่างชีวิต หรือเมื่อตายแล้ว โดยมีข้อกําหนดห้ามมิให้ผู้รับประโยชน์โอน
สํานักทรั พย์สินนั้นก็ได้ แต่ต้อกงมีา บุคคลใดบุคสํคลหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ่งนอกจากผู้รับประโยชน์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กําหนดไว้ สํสําาหรั
นักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นผู้จะได้รับ กา
ทรัพย์สินนั้นเป็นสิทธิเด็ดขาด ในเมื่อมีการละเมิดข้อกําหนดห้ามโอน
สํผูา้ซนัึ่งกกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดขึ้นดั่งกล่าวนั้นกต้าองเป็นผู้สามารถจะมี สิทธิต่าง ๆ ได้อยู่ใกนขณะที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่การ
จําหน่ายทรัพย์สินนั้นมีผลบังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถ้ามิได้กกาําหนดบุคคลทีสํา่จนัะเป็ นผู้รับทรัพย์สินในเมื่อกมีา การละเมิดข้สํอากํนัากหนดห้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ามโอนไว้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ให้ถือว่าข้อกําหนดห้ ามโอนนั้นเป็นอันไม่มีเลย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๗๐๑ ข้อสํกําานัหนดห้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ามโอนตามมาตราก่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อนนั้น จะให้สํมาีกนัํกาหนดเวลาหรื อ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๒๘๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ตลอดชีวิตของผู้รับประโยชน์ก็ได้
ถ้าไม่ไกด้ากําหนดเวลาห้สําานัมโอนไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในกรณีที่ผู้รับประโยชน์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เป็นบุคคลธรรมดา ให้ถือว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ข้อกําหนดห้ามโอนมีระยะเวลาอยู่ตลอดชีวิตของผู้รับประโยชน์ แต่ในกรณีที่ผู้รับประโยชน์เป็นนิติ
บุคคล ให้มีระยะเวลาเพี ยงสามสิบปี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าได้กําหนดเวลาห้ามโอนไว้ กําหนดนั้นมิให้เกินสามสิบปี ถ้ากําหนดไว้นานกว่านั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ก็ให้ลดลงมาเป็นสามสิบปี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๐๒ ข้อกําหนดห้ามโอนอันเกี่ยวกับสังหาริมทรัพย์ซึ่งไม่อาจจดทะเบียน
สํานักกรรมสิ ทธิ์ได้นั้น ให้ถือว่กาาเป็นอันไม่มีเลยสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้ อ กํ า หนดห้ า มโอนเกี่ ย วกั บ อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ ห รื อ ทรั พ ยสิ ท ธิ อั น เกี่ ย วกั บ
อสังหาริมทรัพย์นสํั้นานัไม่ บริบูรณ์ เว้นแต่จะได้กทาําเป็นหนังสือสํและจดทะเบี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ยนการห้ามโอนต่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อพนักงาน
เจ้าหน้าที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บทบัญกาญัติในวรรคก่สํอานนี ้ ให้ใช้บังคับแก่เรือมีระวางตั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้งแต่ห้าตัสํนานัขึก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไป ทั้งแพและ กา
สัตว์พาหนะด้วย๑๗๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๐๓ พินัยสํกรรมซึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่งบุคคลที่มีอายุยังไม่ครบสิบห้าปีบสํริาบนัูรกณ์งานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทําขึ้นนั้นเป็น กา
โมฆะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๐๔ พินัยกรรมซึ่งบุคคลผู้ถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถทําขึ้นนั้น
สํานักเป็ นโมฆะ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พิ นั ย กรรมซึ่ ง บุ ค คลผู้ ถู ก อ้ า งว่ า เป็ น คนวิ ก ลจริ ต แต่ ศ าลยั ง ไม่ ไ ด้ สั่ ง ให้ เ ป็ น คนไร้
ความสามารถทําสํขึา้นนันักงานคณะกรรมการกฤษฎี
้น จะเป็นอันเสียเปล่ากก็าแต่เมื่อพิสูจน์สํไาด้นัวก่างานคณะกรรมการกฤษฎี
ในเวลาที่ทําพินัยกรรมนั กา ้นผู้ทําจริต
วิกลอยู่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๐๕ พิ นั ย กรรมหรื อ ข้ อ กํ า หนดพิ นั ย กรรมนั้ น ถ้ า ได้ ทํ า ขึ้ น ขั ด ต่ อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทบัญญัติแห่งมาตรา ๑๖๕๒, ๑๖๕๓, ๑๖๕๖, ๑๖๕๗, ๑๖๕๘, ๑๖๖๐, ๑๖๖๑ หรือ ๑๖๖๓ ย่อม
สํานักเป็ นโมฆะ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๗๐๖ ข้อกําหนดพิกานัยกรรมเป็นโมฆะ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ถ้าตั้งผู้รับพินัยกรรมไว้โดยมีเงื่อนไขว่า ให้ผู้รับพินัยกรรมจําหน่ายทรัพย์สินของ
สํานักเขาเองโดยพิ นัยกรรมให้กแาก่ผู้ทําพินัยกรรม
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักหรื อแก่บุคคลภายนอก กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ถ้ากําหนดบุคคลซึ่งไม่อาจที่จะทราบตัวแน่นอนได้เป็นผู้รับพินัยกรรม แต่ผู้รับ
พินัยกรรมตามพิสํนาัยนักรรมลั กษณะเฉพาะนั้นกอาจกํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า าหนดโดยให้ บุคคลใดคนหนึ่งเป็นผูก้ราะบุเลือกเอา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จากบุคคลอื่นหลายคน หรือจากบุคคลอื่นหมู่ใดหมู่หนึ่ง ซึ่งผู้ทําพินัยกรรมระบุไว้ก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี(๓) ถ้กาทรั
า พย์สินที่ยกให้
สํานัโกดยพิ นัยกรรมระบุไว้ไม่ชกัดา แจ้งจนไม่อาจที
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่จกะทราบแน่ นอน
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ได้ หรือถ้าให้บุคคลใดคนหนึ ่งกําหนดให้มากน้อยเท่าใดตามแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๗๙
มาตรา ๑๗๐๒ วรรคสาม แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา พ.ศ. ๒๕๔๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๔) สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๘๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา๑๗๐๗ ถ้าข้สํอานักํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หนดพินัยกรรมตั้งผู้รับกพิา นัยกรรมโดยมี
สํานัเงืก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
นไขว่าให้ผู้รับ กา
พินัยกรรมจําหน่ายทรัพย์สินที่ยกให้โดยพินัยกรรมนั้นแก่บุคคลอื่น ให้ถือว่าเงื่อนไขนั้นเป็นอันไม่มีเลย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๐๘ เมื่อผู้ทําพินัยกรรมตายแล้ว บุคคลผู้มีส่วนได้เสียคนใดคนหนึ่งจะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนพินัยกรรมซึ่งได้ทําขึ้นเพราะเหตุข่มขู่ก็ได้ แต่หากผู้ทําพินัยกรรมยังมีชีวิตอยู่
ต่อมาเกินหนึ่งปีนสํับาแต่
นักผงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้ทําพินัยกรรมพ้นจากการข่
กา มขู่แล้ว จะมี
สํานักการร้ องขอเช่นว่านั้นไม่ได้กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๑๗๐๙ เมื่อสํผูา้ทนัํกาพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นัยกรรมตายแล้ว บุคกคลผู
า ้มีส่วนได้เสํสีายนัคนใดคนหนึ ่งจะ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนพินัยกรรมซึ่งได้ทําขึ้นเพราะสําคัญผิดหรือกลฉ้อฉลได้ ก็ต่อเมื่อความสําคัญ
ผิดหรือกลฉ้อฉลนัสํ้นานัถึกงงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขนาด ซึ่งถ้ามิได้มีความสํ กา าคัญผิดหรือสํกลฉ้ านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ฉลเช่นนั้นพินัยกรรมนัก้นาก็จะมิได้ทํา
ขึ้น
ความในวรรคก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ นนีสํา้ นัให้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใ ช้ บั ง คั บ แม้ ถึ ง ว่ า กลฉ้
กาอ ฉลนั้ น บุ คสํคลซึ
านัก่ งงานคณะกรรมการกฤษฎี
มิ ใ ช่ เ ป็ น ผู้ รั บ กา
ประโยชน์ตามพินัยกรรมได้ก่อขึ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่ พินั ยกรรมซึ่ งได้ ทําขึ้นโดยสําคัญ ผิดหรืสําอนักลฉ้ กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อฉลย่อมมีผลบังคั บได้ เมื่ อผู้ ทํ า
พินัยกรรมมิได้เพิกถอนพินัยกรรมนั้นภายในหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่งปีนับแต่ที่ได้รู้ถึงการสําคัญผิดหรือสํกลฉ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อฉลนั้น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๗๑๐ คดีฟ้องขอให้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เพิกถอนข้อสํากํนัากหนดพิ นัยกรรมนั้น มิให้กาฟ้องเมื่อพ้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี
กําหนดดั่งนี้
(๑) สามเดื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อนภายหลัสํางนัทีก่ผงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้ทําพินัยกรรมตาย ในกรณี
กา ที่โจทก์รู้เหตุสําแนัห่กงงานคณะกรรมการกฤษฎี
การที่จะขอให้ กา
เพิกถอนได้ ในระหว่างที่ผู้ทําพินัยกรรมมีชีวิตอยู่ หรือ
สํ(๒) สามเดือนภายหลังที่โจทก์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ได้รู้เหตุเช่นสํนัา้นนัในกรณี อื่นใด
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แต่ถ้าโจทก์ไม่รู้ว่ามีข้อกําหนดพินัยกรรมอันกระทบกระทั่งถึงส่วนได้เสียของตน
สํานักแม้ ว่าโจทก์จะได้รู้เหตุแห่กางการที่จะขอให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี สําเนัพิกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถอนได้ก็ดี อายุความสามเดื กา อนให้เริ่มสํนัาบนัแต่ ขณะที่โจทก์รู้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หรือควรจะได้รู้ว่ามีข้อกําหนดพินัยกรรมนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่อย่างไรก็ดี ห้ามมิให้ฟ้องคดีเช่นนี้เมื่อพ้นสิบปีนับแต่ผู้ทําพินัยกรรมตาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๔
วิธีจัดการและปั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นทรัพย์มสํารดก
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีผูก้จาัดการมรดก สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๑๗๑๑ ผู้จัดการมรดกนั้นรวมตลอดทั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้งบุคคลที่ตั้งขึ้นโดยพินัยกรรมหรือโดย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําสั่งศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๘๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๗๑๒ ผู้จัดการมรดกโดยพินัยกรรมอาจตั้งขึ้นได้
(๑) โดยผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ทําพินัยกรรมเอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) โดยบุคคลซึ่งระบุไว้ในพินัยกรรม ให้เป็นผู้ตั้ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๑๓ ทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงานอัยการจะร้องต่อศาลขอให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตั้งผู้จัดการมรดกก็ได้ ในกรณีดั่งต่อไปนี้
สํ(๑) เมื่อเจ้ามรดกตาย ทายาทโดยธรรมหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัอกผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้รับพินัยกรรมได้สูญหายไป กา หรืออยู่
นอกราชอาณาเขต หรือเป็นผู้เยาว์
(๒) เมื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่ อผู้ จั ดการมรดกหรื อทายาทไม่สามารถกาหรือไม่เต็มใจที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั่จกะจังานคณะกรรมการกฤษฎี
ดการ หรือมี กา
เหตุขัดข้องในการจัดการ หรือในการแบ่งปันมรดก
สํ(๓) เมื่อข้อกําหนดพินัยกรรมซึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งตั้งผู้จัดการมรดกไว้ ไม่มีผลบังคับได้ดก้วายประการใด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

การตัก้ งาผู้ จั ด การมรดกนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก้ นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถ้ า มี ข้ อ กํ า หนดพิ นั ยกกรรมก็
า ใ ห้ ศ าลตั
สํานั้ งกตามข้ อ กํ า หนด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พินัยกรรม และถ้าไม่มีข้อกําหนดพินัยกรรม ก็ให้ศาลตั้งเพื่อประโยชน์แก่กองมรดกตามพฤติการณ์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และโดยคํานึงถึงเจตนาของเจ้ ามรดก แล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๑๔ เมื่อศาลตั้งให้ผู้ใดเป็นผู้จัดการมรดกเพื่อการใดโดยเฉพาะ ผู้นั้นไม่
จําต้องทําบัญชีทรัสํพานัย์กมงานคณะกรรมการกฤษฎี
รดก เว้นแต่จะจําเป็นเพืกา่อการนั้น หรือสํศาลสั ่งให้ทํา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๑๗๑๕ ผู้ทํสําพิานันกัยงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กรรมจะตั้งบุคคลคนเดี
กายวหรือหลายคนให้ เป็นผู้จัดการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มรดกก็ได้
สํเว้านันกแต่ จะมีข้อกําหนดไว้ในพิกานัยกรรมเป็นสํอย่
งานคณะกรรมการกฤษฎี านัากงอื ่น ถ้ามีผู้จัดการมรดกหลายคนแต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้จัดการเหล่านั้นบางคนไม่สามารถ หรือไม่เต็มใจที่จะจัดการ และยังมีผู้จัดการมรดกเหลืออยู่แต่คน
สํานักเดีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยว ผู้นั้นมีสิทธิที่จะจัดกาการมรดกได้โสํดยลํ
านักางานคณะกรรมการกฤษฎี
พัง แต่ถ้ามีผู้จัดการมรดกเหลื
กา ออยู่หลายคนให้ สันนิษฐาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไว้ก่อนว่า ผู้จัดการเหล่านั้นแต่ละคนจะจัดการโดยลําพังไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๑๗๑๖ หน้าสํทีานั่ผกู้จงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ัดการมรดกที่ศาลตั้ง ให้
กาเริ่มนับแต่วันสํทีา่ไนัด้กฟงานคณะกรรมการกฤษฎี
ังหรือถือว่าได้ กา
ฟังคําสั่งศาลแล้ว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๑๗ ในเวลาใด ๆ ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่เจ้ามรดกตาย แต่ต้องเป็น
สํานักเวลาภายหลั งที่เจ้ามรดกตายแล้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา วสิบห้สําาวันันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทายาทหรือผู้มีส่วนได้เกสีายคนใดคนหนึสํ่งานัจะแจ้ งความถาม
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไปยังผู้ที่ถูกตั้งเป็นผู้จัดการมรดกโดยพินัยกรรมว่าจะรับเป็นผู้จัดการมรดกหรือไม่ก็ได้
สํถ้าานัผูก้ทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี่ได้รับแจ้งความมิได้ตกอบรั า บเป็นผู้จัดสํการมรดกภายในหนึ ่งเดือนนั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บแต่วันรับ
แจ้งความนั้น ให้ถือว่าผู้นั้นปฏิเสธ แต่การรับเป็นผู้จัดการมรดกนั้น จะทําภายหลังหนึ่งปีนับแต่วันที่
สํานักเจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ามรดกตายไม่ได้ เว้นแต่ กา ศาลจะอนุญสําตานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๑๘ บุคคลต่อไปนี้จะเป็นผู้จัดการมรดกไม่ได้
(๑) ผู้ซกึ่งายังไม่บรรลุนสํิตาิภนัาวะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๘๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
(๒) บุคคลวิกลจริต หรือบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ
(๓) บุกคาคลซึ่งศาลสั่งให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําเนัป็กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
คนล้มละลาย กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๗๑๙ ผู้จัดการมรดกมี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สิทธิและหน้
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ที่จะทําการอันจําเป็กนา เพื่อให้การ
เป็นไปตามคํ าสั่งแจ้งชัดหรือโดยปริยายแห่งพิ นัยกรรม และเพื่อจัดการมรดกโดยทั่วไปหรื อเพื่ อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แบ่งปันทรัพย์มรดก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๒๐ ผู้จัดการมรดกต้องรับผิดต่อทายาทตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๘๐๙
สํานักถึงานคณะกรรมการกฤษฎี
ง ๘๑๒, ๘๑๙, ๘๒๓กแห่
า งประมวลกฎหมายนี ้โดยอนุโลม และเมื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อเกี่ยวกับบุคสําคลภายนอก ให้ใช้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ๘๓๑ บังคับโดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๒๑ ผู้จัดการมรดกไม่มีสิทธิที่จะได้รับบําเหน็จจากกองมรดก เว้นแต่
สํานักพิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นัยกรรม หรือทายาทโดยจํ
กา านวนข้างมากจะได้ กําหนดให้ไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๒๒ ผู้จัดการมรดกจะทํานิติกสํรรมใด านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ๆ ซึ่งตนมีส่วนได้เสียเป็นปฏิปักษ์
ต่อกองมรดกหาได้ไม่ เว้นแต่พินัยกรรมจะได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนุญาตไว้ หรือได้รับอนุญาตจากศาลสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๗๒๓ ผู้จัดการมรดกต้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา องจัดการโดยตนเอง เว้นแต่จะทําการโดยตั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วแทนได้
ตามอํานาจที่ให้ไว้ชัดแจ้งหรือโดยปริยายในพินัยกรรม หรือโดยคําสั่งศาล หรือในพฤติการณ์เพื่อ
สํานักประโยชน์ แก่กองมรดก กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๗๒๔ ทายาทย่อกมมี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ความผูกพันสํต่านัอกบุงานคณะกรรมการกฤษฎี
คคลภายนอกในกิจการทั
กา ้งหลายอัน
ผู้จัดการมรดกได้ทําไปภายในขอบอํานาจในฐานะที่เป็นผู้จัดการมรดก
ถ้าผู้จักดาการมรดกเข้าสํทําานันิกตงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ิกรรมกับบุคคลภายนอก กา โดยเห็นแก่สํทารันัพกย์งานคณะกรรมการกฤษฎี
สินอย่างใด ๆ กา
หรือประโยชน์อย่างอื่นใด อันบุคคลภายนอกได้ให้ หรือได้ให้คํามั่นว่าจะให้เป็นลาภส่วนตัวทายาทหา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ต้องผูกพันไม่ เว้นแต่ทายาทจะได้ยินยอมด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๒๕ ผู้จัดการมรดกต้องสืบหาโดยสมควรซึ่งตัวผู้มีส่วนได้เสียและแจ้งไป
ให้ทราบถึงข้อกําหนดพิ นัยกรรมที่เกี่ยวกับผู้มกีสา่วนได้เสียนั้นภายในเวลาอั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นสมควร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรากา๑๗๒๖ ถ้าผูสํ้าจนััดกการมรดกมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หลายคน การทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าการตามหน้
สํานัากทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ของผู้จัดการ กา
มรดกนั้นต้องถือเอาเสียงข้างมาก เว้นแต่จะมีข้อกําหนดพินัยกรรมเป็นอย่างอื่น ถ้าเสียงเท่ากัน เมื่อผู้
มีส่วนได้เสียร้องขอ
สํานัก็กใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห้ศาลเป็นผู้ชี้ขาด กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๗๒๗ ผู้มีสสํ่วานได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เสียคนหนึ่งคนใดจะร้กอางขอให้ศาลสั่งสํถอนผู
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้จัดการมรดก
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เพราะเหตุผู้จัดการมรดกละเลยไม่ ทําการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อย่างอื่นที่สมควรก็ได้ แต่ต้องร้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอเสียก่อนที่การปันมรดกเสร็จสิ้นลง
แม้ถึงว่กาาจะได้เข้ารับตํสําาแหน่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งแล้วก็ดี ผู้จัดการมรดกจะลาออกจากตํ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัากแหน่ งโดยมีเหตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๒๘๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
อันสมควรก็ได้ แต่ต้องได้รับอนุญาตจากศาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๒๘ ผู้จัดการมรดกต้องลงมือจัดทําบัญชีทรัพย์มรดกภายในสิบห้าวัน
สํ(๑) นั บ แต่ เ จ้ า มรดกตายกาถ้ า ในขณะนั้สํนาผูนั้ จกั ดงานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี การมรดกได้ รู้ ถึ ง การตั
กา ้ ง แต่ ง ตาม
พินัยกรรมที่มอบหมายไว้แก่ตน หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) นับแต่วันที่เริ่มหน้าที่ผู้จัดการมรดกตามมาตรา ๑๗๒๖ ในกรณีที่ศาลตั้งเป็น
ผู้จัดการมรดก หรืสํอานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) นับแต่วันที่ผู้จัดการมรดกรับเป็นผู้จัดการมรดกในกรณีอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๒๙ ผู้จัดการมรดกต้องจัดทําบัญชีทรัพย์มรดกให้แล้วเสร็จภายในหนึ่ง
เดือนนับ แต่ เวลาที
สํานั่ รกะบุ ไว้ ใ นมาตรา ๑๗๒๘กาแต่กําหนดเวลานี
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก้งานคณะกรรมการกฤษฎี
เมื่อผู้ จัดการมรดกร้ อกงขอก่
า อ นสิ้ น
กําหนดเวลาหนึ่งเดือน ศาลจะอนุญาตให้ขยายต่อไปอีกก็ได้
บัญชีนกั้านต้องทําต่อหน้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากพยานอย่ างน้อยสองคนกาซึ่งต้องเป็นผู้สํมาีสนั่วกนได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี เสียในกอง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มรดกนั้นด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บุคคลซึ่งจะเป็นพยานในการทําพินัยกรรมไม่ ได้ตามมาตรา ๑๖๗๐ จะเป็นพยานใน
การทําบัญชีใด ๆ ที่ต้องทําขึ้นตามบทบัสํญานัญักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ิแห่งประมวลกฎหมายนี กา
้ไม่ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๗๓๐ ให้นํามาตรา


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๕๖๓, ๑๕๖๔ วรรค ๑ และ ๒ และก๑๕๖๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า แห่ง
ประมวลกฎหมายนี้มาใช้บังคับโดยอนุโลม ในระหว่างทายาทกับผู้จัดการมรดกโดยพินัยกรรมและใน
สํานักระหว่ างศาลกับผู้จัดการมรดกที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ศาลตั้งสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๗๓๑ ถ้าผู้จัดการมรดกมิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ได้จัดทํสําาบันัญกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชีภายในเวลาและตามแบบที
กา ่กําหนด
ไว้ หรือถ้าบัญชีนั้นไม่เป็นที่พอใจแก่ศาล เพราะความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง หรือการทุจริต
สํานักหรื อความไม่สามารถอันกเห็า นประจักษ์ขสํองผู
งานคณะกรรมการกฤษฎี านัก้จงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัดการมรดก ศาลจะถอนผู
กา ้จัดการมรดกเสี
สํานัยกก็งานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๓๒ ผู้จัดการมรดกต้องจัดการตามหน้าที่และทํารายงานแสดงบัญชีการ
สํานักจังานคณะกรรมการกฤษฎี
ด การและแบ่ ง ปั น มรดกให้
กา เ สร็ จ ภายในหนึ ่ ง ปี นั บ แต่ วั น ที่ ร ะบุกไาว้ ใ นมาตรา ๑๗๒๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี เว้ น แต่ ผู้ ทํ า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พินัยกรรม ทายาทโดยจํานวนข้างมาก หรือศาลจะได้กําหนดเวลาให้ไว้เป็นอย่างอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๓๓ การให้อนุมัติ การปลดเปลื้องความรับผิด หรือข้อตกลงอื่น ๆ อัน
สํานักเกีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ยวกับรายงานแสดงบักญา ชีการจัดการมรดกดั ่งที่บัญญัติไว้ในมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๑๗๓๒ นั้นสําจะสมบู รณ์ต่อเมื่อ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รายงานแสดงบัญชีนั้นได้ส่งมอบล่วงหน้าแก่ทายาทพร้อมด้วยเอกสารอันเกี่ยวกับการนั้นไม่น้อยกว่า
สิบวันก่อนแล้ว สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คดีเกี่ยวกับการจัดการมรดกนั้น มิใ ห้ทายาทฟ้ องเกินกว่าห้าปีนับแต่ การจัดการ
สํานักมรดกสิ ้นสุดลง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา การรวบรวมจํ
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
หน่ายทรัพย์มรดกเป็นกตัาวเงิน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๙๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
และการชําระหนี้กับแบ่งปันทรัพย์มรดก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๗๓๔ เจ้าหนี้กองมรดกชอบแต่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จสํะได้
านักรงานคณะกรรมการกฤษฎี
ับการชําระหนี้จากทรักพาย์สินในกอง
มรดกเท่านั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๗๓๕ ทายาทจํากต้า องบอกทรัพสํย์ามนักรดกและหนี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้สินของผู้ตายตามที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ตนรู้
ทั้งหมดแก่ผู้จัดการมรดก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๓๖ ตราบใดที่เจ้าหนี้กองมรดก หรือผู้รับพินัยกรรมที่ปรากฏตัว ยังไม่ได้
รับชําระหนี้ หรือส่สําวนันได้ ตามพินัยกรรมแล้วทุกกคน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ให้ถือว่าทรัสําพนัย์กมงานคณะกรรมการกฤษฎี
รดกยังคงอยู่ในระหว่ากงจัา ดการ
ในระหว่างเวลาเช่นว่านั้น ผู้จัดการมรดกชอบที่จะทําการใด ๆ ในทางจัดการตามที่
สํานักจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าเป็นได้ เช่นฟ้องคดีหกรืา อแก้ฟ้องในศาลและอื ่น ๆ อนึ่งผู้จัดการมรดกต้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา องทําสํการทุ กอย่างตามที่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จําเป็น เพื่อเรียกเก็บหนี้สินซึ่งค้างชําระอยู่แก่กองมรดกภายในเวลาอันเร็วที่สุดที่จะทําได้ และเมื่อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เจ้าหนี้กองมรดกได้ รับชําระหนี้แล้ว ผู้จัดการมรดกต้องทําการแบ่ งปันมรดก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๓๗ เจ้าหนี้กองมรดกจะบังคับสิทธิเรียกร้องต่อทายาทคนใดก็ได้ แต่ถ้ามี
ผู้จัดการมรดก ให้สํเาจ้นัากหนี ้เรียกเข้ามาในคดีด้วยกา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๗๓๘ ก่อนแบ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
มรดก เจ้าหนี้กองมรดกจะบั
กา งคับชําระหนี
สํานัก้เงานคณะกรรมการกฤษฎี
ต็มจํานวนจาก กา
กองมรดกก็ได้ ในกรณีเช่นนี้ทายาทคนหนึ่งๆ อาจเรียกให้ชําระหนี้จากทรัพย์มรดกของเจ้ามรดก หรือ
ให้เอาเป็นประกันสํก็าไนัด้กจงานคณะกรรมการกฤษฎี
นถึงเวลาแบ่งมรดก กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อแบ่งมรดกแล้ว เจ้าหนี้อาจเรียกให้ทายาทคนใดคนหนึ่งชําระหนี้ได้เพียงไม่เกิน
สํานักทรั พย์มรดกที่ทายาทคนนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา้นได้รับไป ในกรณี เช่นนี้ ทายาทคนใดซึ่งกได้า ชําระหนี้แก่เสํจ้าานัหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้กองมรดกเกิน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กว่าส่วนที่ตนจะต้องเฉลี่ยใช้หนี้ ทายาทคนนั้นมีสิทธิไล่เบี้ยจากทายาทคนอื่นได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา ๑๗๓๙ ให้สํชาํ านัระหนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ ที่ ก องมรดกค้ า งชํกาา ระตามลํ า ดั บสําต่นัอกไปนี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ และตาม
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยบุริมสิทธิ โดยต้องไม่เป็นที่เสื่อมเสียแก่บรรดาเจ้าหนี้ผู้มี
บุริมสิทธิพิเศษตามประมวลกฎหมายนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้หรือกฎหมายอื
กา ่น และบรรดาเจ้ าหนี้ที่มีประกันโดยการจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา านํา
หรือการจํานอง
(๑) ค่กาาใช้จ่ายเพื่อประโยชน์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อันร่วมกันของกองมรดก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ค่าใช้จ่ายในการทําศพเจ้ามรดก
สํ(๓) ค่าภาษีอากรซึ่งกองมรดกค้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา างชําระอยูสํ่ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ค่าจ้างซึ่งเจ้ามรดกค้างชําระแก่เสมียน คนใช้และคนงาน
(๕) ค่กาาเครื่องอุปโภคบริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัโกภคอั นจําเป็นประจําวันซึก่งาส่งให้แก่เจ้ามรดก
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) หนี้สินสามัญของเจ้ามรดก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) บําเหน็จของผู้จัดการมรดก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๙๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๑๗๔๐ เว้ น แต่ เจ้ ามรดกหรื อ กฎหมายจะได้กํา หนดไว้ เป็ น อย่า งอื่ น ให้
สํานักจังานคณะกรรมการกฤษฎี
ดสรรทรัพย์สินของเจ้ากมรดกเพื
า ่อชําระหนี
สํานัก้ตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ามลําดับต่อไปนี้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ทรัพย์สินนอกจากอสังหาริมทรัพย์
สํ(๒) อสังหาริมทรัพย์ซึ่งจัดสรรไว้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ชัดแจ้งในพิ สํานันกัยงานคณะกรรมการกฤษฎี
กรรมว่าสําหรับชําระหนี กา้ถ้าหากว่ามี
ทรัพย์สินเช่นนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) อสังหาริมทรัพย์ซึ่งทายาทโดยธรรมชอบที่จะได้รับในฐานะเช่นนั้น
สํ(๔) อสังหาริมทรัพย์ซึ่งเจ้ากมรดกทํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าพินัยกรรมให้ แก่ผู้ใดผู้หนึ่งโดยมีเงืก่อานไขว่าผู้นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ต้องชําระหนี้ของเจ้ามรดก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี(๕) อสั กางหาริมทรัพย์สํซานัึ่งเจ้ ามรดกทําพินัยกรรมให้กาโดยลักษณะทัสํ่วานัไปดั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ่งบัญญัติไว้ใน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ๑๖๕๑
สํ(๖) ทรัพย์สินเฉพาะอย่างซึก่งาเจ้ามรดกทําพิสํนานััยกกรรมให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี โดยลักษณะเฉพาะดั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งบัญญัติ
ไว้ในมาตรา ๑๖๕๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีทรัพย์กสาินอย่างใดอย่าสํงหนึ ่งซึ่งได้จัดสรรไว้ตามความที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่กล่าวมาแล้สําวนัข้กางานคณะกรรมการกฤษฎี
งต้นนั้น ให้เอา กา
ออกขายทอดตลาด แต่ทายาทคนใดคนหนึ่งอาจมิให้มีการขายเช่นว่านั้นได้ โดยชําระราคาทรัพย์สิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นั้นทั้งหมด หรือแต่ บางส่วนตามที่ผู้ตีราคาซึ่งศาลตั้งขึ้นได้กสํําาหนดให้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จนพอแก่จํานวนที่จะชําระหนี้
ให้แก่เจ้าหนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๗๔๑ เจ้าหนี้กองมรดกคนใดคนหนึ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
จะคัดค้านการขายทอดตลาดหรื
กา อ
การตีราคาทรัพย์สินดั่งระบุไว้ในมาตราก่อน โดยเสียค่าใช้จ่ายของตนเองก็ได้ ถ้าเจ้าหนี้ได้ร้องคัดค้าน
สํานักแล้ ว ยังได้กระทําการขายทอดตลาด
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา หรื
สําอนัตีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ราคาไป จะยกการขายทอดตลาดหรื
กา อสํตีารนัาคานั ้นขึ้นยันต่อ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เจ้าหนี้ผู้ร้องคัดค้านแล้วนั้นหาได้ไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๔๒ ถ้าในการชําระหนี้ซึ่งค้างชําระอยู่แก่ตน เจ้าหนี้คนใดคนหนึ่งได้รับ
สํานักตังานคณะกรรมการกฤษฎี
้งในระหว่างที่ผู้ตายมีชกีวาิตอยู่ ให้เป็นสํผูา้รนัับกประโยชน์ ในการประกันกาชีวิต เจ้าหนี้คสํนนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี านั้นกชอบที ่จะได้รับ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เงินทั้งหมด ซึ่งได้ตกลงไว้กับผู้รับประกัน อนึ่ง เจ้าหนี้เช่นว่านั้น จําต้องส่งเบี้ยประกันภัยคืนเข้ากอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มรดกก็ต่อเมื่อเจ้าหนี้คนอื่น ๆ พิสูจน์ได้ว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑) การที
กา ่ผู้ตายชําระหนี
สํานัก้ใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห้แก่เจ้าหนี้โดยวิธีดั่งกล่กาาวมานั้นเป็นการขั
สํานักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ต่อบทบัญญัติ กา
มาตรา ๒๓๗ แห่งประมวลกฎหมายนี้ และ
สํ(๒) เบี้ยประกันภัยเช่นว่านัก้นา เป็นจํานวนสู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํางนัเกิกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นส่วนเมื่อเทียบกับรายได้ กา หรือฐานะ
ของผู้ตาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ถึงอย่ากงไรก็
า ดี เบี้ยประกัสํานักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ภัยซึ่งจะพึงส่งคืนเข้ากองมรดกนั
กา ้นต้อสํงไม่
านักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
กินกว่าจํานวน กา
เงินที่ผู้รับประกันชําระให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๔๓ ทายาทโดยธรรม หรือผู้รับพินัยกรรมโดยลักษณะทั่วไป ไม่จําต้อง
สํานักปฏิ บัติตามข้อกําหนดในพิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กานัยกรรมลักษณะเฉพาะเกิ นกว่าจํานวนทรักาพย์มรดกที่ตนได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัรกับงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๔๔ ผู้จัดการมรดกไม่จําต้องส่งมอบทรัพย์มรดกหรือส่วนใดส่วนหนึ่ง
สํานักแห่ งทรัพย์มรดกให้แก่ทกายาทก่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า อนปีหนึสํ่งานันักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่วันที่เจ้ามรดกถึงแก่กคาวามตาย เว้นสํแต่านัเกจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนี้กองมรดก กา
- ๒๙๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
และผู้รับพินัยกรรมที่ปรากฏตัวได้รับชําระหนี้และส่วนได้ตามพินัยกรรมแล้วทุกคน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีการแบ่
กา งมรดก สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๗๔๕ ถ้ามีทายาทหลายคน


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ทายาทเหล่ านั้นมีสิทธิและหน้กาาที่เกี่ยวกับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทรัพย์มรดกร่วมกันจนกว่าจะได้แบ่งมรดกกันเสร็จแล้ว และให้ใช้มาตรา ๑๓๕๖ ถึงมาตรา ๑๓๖๖
สํานักแห่ งประมวลกฎหมายนีก้บาังคับ เพียงเท่สําทีานั่ไกม่งานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ขัดกับบทบัญญัติแห่งบรรพนี
กา ้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๗๔๖ ภายใต้บังคักบา แห่งกฎหมาย


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัหรื อข้อความในพินัยกรรมถ้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าหากมีให้
สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้เป็นทายาทด้วยกันมีส่วนเท่ากันในกองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๔๗ การที่ทายาทคนใดได้รับทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใด หรือประโยชน์
อย่างอื่นใดจากเจ้ามรดกโดยการให้ หรือโดยการอย่างอื่นใดสําซึนั่งกทํงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าให้โดยเสน่หาในระหว่กาา งเวลาที่เจ้า
มรดกยังมีชีวิตอยู่นั้น หาทําให้สิทธิในการแบ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งปันทรัพย์มรดกของทายาทคนนั้น สํต้าอนังเสื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่อมเสียไปแต่
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยประการใดไม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตร ๑๗๔๘ ทายาทคนใดครอบครองทรัพย์มรดกซึ่งยังมิได้แบ่งกัน ทายาทคนนั้น
สํานักมีงานคณะกรรมการกฤษฎี
สิทธิที่จะเรียกร้องให้แกบ่า งทรัพย์มรดกนั สํานั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ แม้ว่าจะล่วงพ้นกํากหนดอายุ
า ความตามมาตรา ๑๗๕๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แล้วก็ดี
สํสิาทนัธิกทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี่จะเรียกให้แบ่งทรัพย์มกรดกตามวรรคก่
า สําอนันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
จะตัดโดยนิติกรรมเกินกคราวละสิ
า บปี
ไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๔๙ ถ้ามีคดีฟ้องเรียกทรัพย์มรดก ผู้ซึ่งอ้างว่าตนเป็นทายาทมีสิทธิใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทรัพย์มรดกนั้น จะร้องสอดเข้ามาในคดีก็ได้
แต่ศาลจะเรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยกทายาทอื สํานั่นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นอกจากคู่ความ หรือผูก้รา้องสอด ให้เข้าสํมารั
านักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ส่วนแบ่งหรือ กา
กันส่วนแห่งทรัพย์มรดกไว้เพื่อทายาทอื่นนั้นไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๕๐ การแบ่งปันทรัพย์มรดกนั้น อาจทําได้โดยทายาทต่างเข้าครอบครอง
สํานักทรั พย์สินเป็นส่วนสัด หรืกอา โดยการขายทรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัพกย์งานคณะกรรมการกฤษฎี
มรดกแล้วเอาเงินที่ขายได้
กา มาแบ่งปันกัสํนาระหว่ างทายาท
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ถ้าการแบ่งปันมิได้เป็นไปตามวรรคก่อน แต่ได้ทําโดยสัญญา จะฟ้องร้องให้บังคับคดี
หาได้ไม่ เว้นแต่จสํะมีานัหกลังานคณะกรรมการกฤษฎี
กฐานเป็นหนังสืออย่ากงหนึ า ่งอย่างใด สํลงลายมื อชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิกดาหรือตัวแทน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของฝ่ า ยนั้ น เป็ น สํ า คั ญ ในกรณี เ ช่ น นี้ ใ ห้ นํ า มาตรา ๘๕๐, ๘๕๒ แห่ ง ประมวลกฎหมายนี้ ว่ า ด้ ว ย
สํานักประนี ประนอมยอมความมาใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บังคับโดยอนุ โลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๕๑ ภายหลังที่ได้แบ่งมรดกกันแล้ว ถ้าทรัพย์สินทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่ง
สํานักทายาทคนใดคนหนึ ่งได้กราับตามส่วนแบ่สํางนัปักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี นั้น หลุดมือไปจากทายาทคนนั
กา ้นเนื่อสํงจากการรอนสิ ทธิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๒๙๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ทายาทคนอื่น ๆ จําต้องใช้ค่าทดแทน
หนี้เช่นกาว่านั้น เป็นอันสํระงั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
เมื่อมีการตกลงกันไว้เกป็านอย่างอื่น หรืสําอนัการรอนสิ ทธิเป็น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผลเนื่องมาจากความผิดของทายาทผู้ถูกรอนสิทธิ หรือเนื่องมาจากเหตุซึ่งเกิดขึ้นภายหลังการแบ่งปัน
สํทายาทคนอื ่น ๆ ต้องใช้ค่าทดแทนให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา แก่ทสํายาทผู ้ถูกรอนสิทธิตามส่วนแห่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งส่วนแบ่ง
ของตน แต่ให้หักจํานวนที่เป็นส่วนเฉลี่ย ซึ่งทายาทผู้ถูกรอนสิทธิจะต้องออกกับเขาด้วยนั้นออกเสีย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่ถ้าทายาทคนใดคนหนึ่งเป็นคนหนี้สินล้นพ้นตัว ทายาทคนอื่น ๆ ต้องรับผิดในส่วนของทายาทคน
นั้นตามส่วนเฉลี่ยสํเช่านันกเดีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยวกัน แต่ให้หักจํานวนทีกา ่เป็นส่วนเฉลีสํ่ยาซึนั่งกทายาทผู ้ที่จะได้รับค่าทดแทนจะต้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อง
ออกแทนทายาทผู้ที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวนั้นออกเสีย
บทบัญกญั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ติในวรรคก่อสํนานัๆกงานคณะกรรมการกฤษฎี
มิให้ใช้บังคับแก่ผู้รับพินกาัยกรรมลักษณะเฉพาะ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๗๕๒ คดีฟ้องให้รกับา ผิดเนื่องจากการรอนสิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ทธิตามมาตรา ๑๗๕๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นั้นมิให้
ฟ้องเมื่อพ้นกําหนดสามเดือนนับแต่เมื่อถูกรอนสิทธิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มรดกที่ไม่มผี ู้รบั สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๗๕๓ ภายใต้บังคักบาแห่งสิทธิของเจ้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําานัหนี ้กองมรดก เมื่อบุคคลใดถึ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งแก่ความ
ตายโดยไม่มีทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรม หรือการตั้งมูลนิธิตามพินัยกรรม มรดกของบุคคลนั้น
สํานักตกทอดแก่ แผ่นดิน กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกลัากษณะ ๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อายุความ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๑๘๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๕๔ ห้ามมิให้ฟ้องคดีมรดกเมื่อพ้นกําหนดหนึ่งปี นับแต่เมื่อเจ้ามรดก
สํานักตายหรื อนับแต่เมื่อทายาทโดยธรรมได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา รสํู้ าหรื
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ควรได้รู้ถึงความตายของเจ้
กา ามรดก สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คดีฟ้องเรียกตามข้อกําหนดพินัยกรรม มิให้ฟ้องเมื่อพ้นกําหนดหนึ่งปีนับแต่เมื่อผู้รับ
พินัยกรรมได้รู้หรืสํอาควรได้ รู้ถึงสิทธิซึ่งตนมีอยู่ตกามพิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า นัยกรรม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภายใต้บังคับแห่งมาตรา ๑๙๓/๒๗ แห่งประมวลกฎหมายนี้ ถ้าสิทธิเรียกร้องของ
สํานักเจ้งานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนี้อันมีต่อเจ้ามรดกมี กากําหนดอายุคสํวามยาวกว่ าหนึ่งปี มิให้เจ้าหนี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้นั้นฟ้องร้องเมืสํา่อนัพ้กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
กําหนดหนึ่งปี กา
นับแต่เมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ หรือควรได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดก
สํถึางนัอย่ างไรก็ดี สิทธิเรียกร้อกงตามที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่ว่ามาในวรรคก่ อน ๆ นั้น มิให้ฟ้อกงร้า องเมื่อพ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กําหนดสิบปีนับแต่เมื่อเจ้ามรดกตาย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๗๕๕ อายุความหนึ่งปีนั้น จะยกขึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้นต่อสู้ได้ก็แต่โดยบุคคลซึ่งเป็นทายาท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๘๐
มาตรา ๑๗๕๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๑ แห่งประมวล
สํานักกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี
งและพาณิชย์ กทีา่ได้ตรวจชําระใหม่
สํานัพ.ศ.
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๕๓๕ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๙๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
หรือบุคคลซึ่งชอบที่จะใช้สิทธิของทายาท หรือโดยผู้จัดการมรดก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


- ๒๙๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
พระราชกฤษฎีกาให้ใช้บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ ๑ และ ๒ ที่ได้ตรวจ
าระใหม่๑๘๑
สํานักชํงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พระราชกฤษฎีกสําให้
านักใช้งานคณะกรรมการกฤษฎี
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่
กา สํางนัและพาณิ ชย์บรรพ ๓ ที่ไกด้าตรวจชําระ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใหม่๑๘๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พระราชกฤษฎีกาให้
สํานัใกช้งานคณะกรรมการกฤษฎี
บทบัญญัติบรรพ ๔ แห่กงาประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์๑๘๓ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๘๔
สํานักพระราชบั ญญัติแก้ไขเพิก่มาเติมประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี งและพาณิชย์ พุกทาธศักราช ๒๔๗๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พระราชบัญญัติแสํก้าไนัขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ทธศักราช ๒๔๗๗ (ฉบักบา ที่ ๒)๑๘๕
กา งและพาณิสํชานัย์กพุงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักพระราชบั ญญัติแก้ไขเพิก่มาเติมประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี งและพาณิชย์ พุกทาธศักราช ๒๔๗๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั(ฉบั บที่ ๓)๑๘๖
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

พระราชบั ญ ญั ตสํิ ใ ห้านัใกช้งานคณะกรรมการกฤษฎี กา


บ ทบั ญ ญั ติ บ รรพ ๕ แห่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ง ประมวลกฎหมายแพ่ ง และพาณิ ช ย์ พุ ท ธศั ก ราช
๑๘๗
๒๔๗๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓ ให้เพิ่มบทบัญญัติบรรพ ๕ ตั้งแต่มาตรา ๑๔๓๕ ถึงมาตรา ๑๕๙๘ ตามที่
ได้ตราไว้ต่อท้ายพระราชบั ญญัตินี้เข้าเป็นส่วกนหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่งแห่งประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิกชาย์ และให้ใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
บทบัญญัติแห่งบรรพนี้ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๗๘ เป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔ บทบัญญัติแห่งบรรพนี้ไม่กระทบกระเทือนถึง
สํ(๑)
านักการสมรส ซึ่งได้มีอยู่กก่อานวันใช้ประมวลกฎหมายบรรพนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ้ และทักา้งสัมพันธ์ใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ครอบครัว อันเกิดแต่การสมรสนั้น ๆ
(๒) การใช้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อํานาจปกครอง ความปกครอง การอนุกบา าล การรับบุสํตารบุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักญงานคณะกรรมการกฤษฎี
ธรรม ซึ่งมีอยู่ กา
ก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายบรรพนี้ หรือสิทธิและหนี้อันเกิดแต่การนั้น ๆ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๕ ฐานะของภริ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัยกาก่ อนใช้ประมวลกฎหมายบรรพนี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ อาจพิ
สํานัสกูจงานคณะกรรมการกฤษฎี
น์ได้โดยบันทึก กา
ในทะเบียนตามแบบที่กฎหมายกําหนดไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖ บทบั ญ ญั ติ แ ห่ ง บรรพนี้ ไ ม่ ก ระทบกระเทื อ นถึ ง กฎข้ อ บั ง คั บ สํ า หรั บ
สํานักปกครองบริ เวณเจ็ดหัวเมืกาอง ร.ศ. ๑๒๐สํในส่
งานคณะกรรมการกฤษฎี วนที่เกี่ยวด้วยครอบครักวา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํ๑๘๑
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม /-/๑/๑๑ พฤศจิกายน ๒๔๖๘
๑๘๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี รก.๒๔๗๑/-/๑/๑ มกราคม ๒๔๗๑
๑๘๓ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รก.๒๔๗๓/-/๔๔๒/๑๘ มีนาคม ๒๔๗๓
๑๘๔
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๑/-/หน้า ๔๔๑/๒ กันยายน ๒๔๗๗
สํ๑๘๕
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๒/-/หน้า ๗๑/๒๑ เมษายน ๒๔๗๘
๑๘๖
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๒/-/หน้า ๓๓๗/๕ พฤษภาคม ๒๔๗๘
๑๘๗ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํามนั๕๒/-/หน้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๔๗๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิจจานุเบกษา เล่ า ๔๗๔/๒๙ พฤษภาคม
- ๒๙๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

สํานักพระราชบั ญ ญั ติ ใ ห้ ใ ช้ บกทบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ญ ญั ติ บ รรพ
สํานั๖กงานคณะกรรมการกฤษฎี
แห่ ง ประมวลกฎหมายแพ่
กา ง และพาณิ
สํานัชกย์งานคณะกรรมการกฤษฎี
พุ ท ธศั ก ราช กา
๒๔๗๗๑๘๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓ ให้ เพิ่มบทบัญ ญัติ บรรพ ๖ ตั้งแต่มาตรา ๑๕๙๙ ถึ งมาตรา ๑๗๕๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามที่ได้ตราไว้ท้ายพระราชบัญญัตินี้ เข้าเป็นส่วนหนึ่งของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และให้
ใช้บทบัญญัติแห่งสํบรรพนี ้ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคมกาพุทธศักราช ๒๔๗๘
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี เป็นต้นไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๔ บทบั ญสํญัานัตกิ แงานคณะกรรมการกฤษฎี
ห่ ง บรรพนี้ ไ ม่ ก ระทบกระเทื
กา อ นถึ ง กฎข้
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
บั ง คั บ สํ า หรั บ กา
ปกครองบริเวณเจ็ดหัวเมือง ร.ศ. ๑๒๐ ในส่วนที่เกี่ยวด้วยมรดก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พุทธศักราช ๒๔๗๘๑๘๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒ ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้เพื่อพ้นกําหนดเก้าสิบวัน นับแต่วันประกาศใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิจจานุเบกษา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเฉพาะสัญญาจํานองที่ได้ทําตั้งแต่วันให้ใช้
พระราชบัญญัติเป็สํนานัต้กนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไป กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๙๐
สํานักพระราชบั ญญัติแก้ไขเพิก่มาเติมประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี งและพาณิชย์ พุกทาธศักราช ๒๔๗๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พระราชกําหนดแก้สําไนัขเพิ ่มเติมพระราชบัญญัตกิให้า ใช้บทบัญญัตสํิบานัรรพ


กงานคณะกรรมการกฤษฎี ๖ แห่งประมวลกฎหมายแพ่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งและ
๑๙๑
พาณิชย์ พุทธศักราช ๒๔๗๗ พุทธศักราช ๒๔๘๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชกําหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและ
พาณิชย์ พุทธศักราช ๒๔๗๗ พุทธศักราช ๒๔๘๖๑๙๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๓ ให้ยกเลิกมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๕ แห่ง
ประมวลกฎหมายแพ่ สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
และพาณิชย์ พุทธศักราช
กา ๒๔๗๗ แต่สํไาม่นักให้งานคณะกรรมการกฤษฎี
กระทบกระเทือนถึงการสมรสของ
กา
บุคคลซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งได้มีอยู่ก่อนวันใช้พระราชกําหนดนี้ และทั้งสัมพันธ์ในครอบครัวอัน
สํานักเกิงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดแต่การสมรสนั้น ๆ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พระราชบัญญัติแสํก้าไนัขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งและพาณิสํชานัย์ก(ฉบั บที่ ๖) พ.ศ. ๒๔๙๕ก๑๙๓
งานคณะกรรมการกฤษฎี า

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๘๘ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๒/-/หน้า ๕๒๙/๗ มิถุนายน ๒๔๗๘
๑๘๙
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๒/-/หน้า ๑๓๒๐/๒๙ กันยายน ๒๔๗๘
สํ๑๙๐
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๓/-/หน้า ๖๓๔/๒๒ พฤศจิกายน ๒๔๗๙
๑๙๑
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๖๐/ตอนที่ ๓๒/หน้า ๑๐๙๒/๑๙ มิถุนายน ๒๔๘๖
๑๙๒ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํามนั๖๐/ตอนที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มิถุนายน ๒๔๘๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิจจานุเบกษา เล่ ่ ๓๒/หน้า ๑๐๘๙/๑๙
- ๒๙๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา๒ พระราชบัสํญานัญักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันกทีา่ ๑ ตุลาคม พ.ศ.
สํานัก๒๔๙๓ เป็นต้น
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๔๙๖๑๙๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พระราชบัญญัติแสํก้าไนัขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งและพาณิสํชานัย์ก(ฉบั บที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๑๙ก๑๙๕
งานคณะกรรมการกฤษฎี า

สํานักหมายเหตุ : - เหตุ ผ ลในการประกาศใช้


งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
ระราชบั ญ ญั ติ ฉ บั บ นีก้ าคื อ เนื่ อ งจากรั
สํานัฐกธรรมนู ญ แห่ ง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ราชอาณาจักรไทย มาตรา ๒๘ วรรคสอง บัญญัติว่า ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน จําต้องแก้ไข
บทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิกาชย์เพื่อให้สอดคล้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งกับบทบัญญัติของรัฐกธรรมนู า ญโดย
แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิ ชย์ ม าตรา ๒๐ เพื่ อ ให้ส อดคล้ องกับ การแก้ ไขเพิ่ ม
สํานักบทบั ญญัติมาตรา ๑๔๔๕
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ซึ่งให้ศาลมีอสํําานันาจอนุ ญาตให้ชายและหญิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กางที่มีอายุต่ํากว่สําานัสิกบงานคณะกรรมการกฤษฎี
แปดปีบริบูรณ์ กา
ทําการสมรสได้โดยบัญญัติให้ชายหญิงซึ่งได้รับอนุญาตจากศาลทําการสมรสได้ก่อนอายุครบสิบแปดปี
บริบูรณ์บรรลุนิตสํิภาาวะโดยการสมรส
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นอกจากนี้ได้พิจารณาเห็ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นว่า มาตรา ๓๗ มาตรา ๓๘ มาตรา
๓๙ มาตรา ๔๐ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒สํานัมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๓ มาตรา ๕๐ และวรรคสองของมาตรา
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๓๗ เป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทบัญญัติที่จําจัดสิทธิสตรี สมควรยกเลิกเสีย จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ได้ตรวจชําระใหม่
สํานักพ.ศ. ๒๕๑๙๑๙๖
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๔ บทบัญญัติบรรพกา๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี งและพาณิชกย์า ที่ได้ตรวจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชําระใหม่ ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ไม่กระทบกระเทือนถึงบทบัญญัติมาตรา ๔ และมาตรา ๕ แห่ง
สํานักพระราชบั ญญัติให้ใช้บทบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาญญัติบรรพ ๕
สํานัแห่ งประมวลกฎหมายแพ่กงและพาณิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ชย์ พุสํทานัธศักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กราช ๒๔๗๗ กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕ บทบัญญัติบรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ได้ตรวจ
สํานักชํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าระใหม่ ท้ายพระราชบักาญญัตินี้ ไม่กระทบกระเทื อนถึงความสมบูกราณ์ของการหมัสํ้นานัการสมรส
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สัญญา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ก่อนสมรส การเป็นบิดามารดากับบุตร การเป็นผู้ปกครอง การเป็นผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ และการรับ
บุตรบุญธรรมที่ได้สํมานัีอกยูงานคณะกรรมการกฤษฎี
่แล้วในวันใช้บังคับบทบักาญญัติบรรพ ๕สําแห่ งประมวลกฎหมายแพ่กงและพาณิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ชย์
ที่ได้ตรวจชําระใหม่ ท้ายพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖ การเปลี่ยนแปลงเพิกถอนสัญญาก่อนสมรส ซึ่งสัญญาก่อนสมรสนั้นได้ทํา
ขึ้นไว้ก่อนวันใช้บสํังาคันับกบทบั ญญัติบรรพ ๕ แห่กงประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า งและพาณิชย์ ที่ได้ตกรวจชํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า าระใหม่
ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ให้กระทําได้โดยคู่สมรสนําหนังสือสัญญาก่อนสมรสพร้อมด้วยข้อตกลงการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๙๓
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๖๙/ตอนที่ ๑๒/หน้า ๑๘๙/๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๕
สํ๑๙๔
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๗๐/ตอนที่ ๘/หน้า ๑๗๖/๒๗ มกราคม ๒๔๙๖
๑๙๕
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๙๓/ตอนที่ ๑๒๙/ฉบับพิเศษ หน้า ๑/๑๕ ตุลาคม ๒๕๑๙
๑๙๖ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํามนั๙๓/ตอนที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ราชกิจจานุเบกษา เล่ ่ ๑๒๙/ฉบับพิเศษกาหน้า ๔/๑๕ ตุลสําคม
านัก๒๕๑๙
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๙๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
เปลี่ยนแปลงเพิกถอนไปยื่นต่อนายทะเบียนสมรส ณ ท้องที่ที่ตนทําการสมรส และให้นายทะเบียน
สํานักสมรสจดการเปลี ่ยนแปลงเพิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา กถอนสัญสํญาก่
านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
นสมรสไว้ในทะเบียนสมรส
กา และแนบหนั สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
สือสัญญาก่อน กา
สมรส พร้อมด้วยข้อตกลงเปลี่ยนแปลงเพิกถอนไว้ท้ายทะเบียนสมรสด้วย
สํการเปลี ่ยนแปลงเพิกถอนสักญา ญาก่อนสมรสจะกระทํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี าได้ต่อเมื่อได้รับกอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ญาตจาก
ศาลตามเงื่อนไขและกรณีที่ระบุไว้ในมาตรา ๑๔๖๗ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ได้ตรวจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ชําระใหม่ท้ายพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗ บทบัญญัติบรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ได้ตรวจ
สํานักชํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าระใหม่ท้ายพระราชบักญา ญัตินี้ ไม่กระทบกระเทื อนถึงอํานาจการจั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาดการสินบริคสํณห์
านักทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี่คู่สมรสฝ่ายใด กา
ฝ่ายหนึ่งได้มีอยู่แล้วในวันใช้บังคับบทบัญญัติบรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ได้
ตรวจชํ าระใหม่ สํท้าานัยพระราชบั ญ ญัตินี้ แต่ใกห้า ถือว่าสินเดิมสําตามบทบั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ญ ญัติบรรพ ๕ แห่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง ประมวล
กฎหมายแพ่ ง และพาณิ ช ย์ เ ดิ ม ของฝ่ า ยใดเป็ น สิ น ส่ ว นตั ว ตามบทบั ญ ญั ติ บ รรพ ๕ แห่ ง ประมวล
สํานักกฎหมายแพ่ งและพาณิชกย์า ที่ได้ตรวจชําสํระใหม่
งานคณะกรรมการกฤษฎี ท้ายพระราชบัญญัตินกาี้ของฝ่ายนั้น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้ ถ้าคู่สมรสฝ่ายใดเป็นผู้จัดการสินบริคณห์แต่ฝ่ายเดียว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ถือว่าคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งได้ยินยอมให้คู่สมรสฝ่ายนั้นจัดการสิ นสมรสและสินส่วนตัวตามวรรคหนึ่ง
ของตนด้วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่คู่สมรสฝ่ายใดประสงค์จะใช้อํานาจจัดการสินส่วนตัวตามวรรคหนึ่งที่เป็น
ส่วนของตน ถ้าคูสํ่สามรสนั ้นมิได้เป็นผู้จัดการสิกนา บริคณห์ให้แสํจ้างนัให้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งทราบ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา และให้คู่
สมรสทั้งสองฝ่ายร่วมกันจัดการแบ่งสินส่วนตัวดังกล่าวที่อยู่ในสภาพที่แบ่งได้ให้แก่ฝ่ายที่ประสงค์จะ
สํานักจังานคณะกรรมการกฤษฎี
ดการ แต่ถ้าสินส่วนตัวกนัา้นไม่อยู่ในสภาพที
สํานัก่แงานคณะกรรมการกฤษฎี
บ่งได้ให้ทั้งสองฝ่ายจัดกการร่
า วมกัน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๘ บทบัญญัติบรรพกา ๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี งและพาณิกชาย์ที่ได้ตรวจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชําระใหม่ ท้ายพระราชบัญญัตินี้ไม่กระทบกระเทือนถึงการจัดการสินเดิมที่เปลี่ยนเป็นสินส่วนตัวตาม
สํานักมาตรา ๗ ซึ่งได้กระทําไปแล้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา วก่อนวันทีสํ่พาระราชบั ญญัตินี้ใช้บังคับ กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙ บรรดาอายุความหรือระยะเวลาที่บทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่ง
สํานักและพาณิ ชย์ได้กําหนดไว้กาก่อนวันใช้บังคัสํบานับทบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ญญัติบรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
และพาณิชย์ที่ กา
ได้ตรวจชําระใหม่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ถ้าหากยังไม่สุดสิ้นลงในวันที่ใช้บังคับบทบัญญัติบรรพ ๕ แห่ง
ประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ที่ได้ตรวจชํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าระใหม่ท้ าสํยพระราชบั ญญัตินี้ และอายุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ความหรื อ
ระยะเวลาที่กําหนดขึ้นใหม่นั้น แตกต่างกับอายุความหรือระยะเวลาที่กําหนดไว้แต่เดิมก็ให้นําอายุ
สํานักความหรื อระยะเวลาที่ยกาวกว่
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ามาบังคับสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๐ คําว่า “ค่าอุปการะเลี


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ยงดู” ในบรรดาบทกฎหมายซึ ่งมีความหมายถึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งค่า
อุปการะเลี้ยงดูตามนัยของบทบัญญัติมาตรา ๑๕๐๖ และมาตรา ๑๕๐๗ แห่งประมวลกฎหมายแพ่ง
สํานักและพาณิ ชย์เดิมนั้น ให้ใกช้าคําว่า “ค่าเลีสํ้ยางชีนักพงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ” แทน กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑ บทบัญญัติแห่งกฎหมายใดอ้างถึงบรรพ ๕ หรือบทบัญญัติในบรรพ ๕
สํานักแห่ งประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กางและพาณิชสํย์าเดินักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ถือว่าบทบัญญัติแห่กงากฎหมายนั้นอ้สําางถึ
นักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
บรรพ ๕ หรือ กา
- ๒๙๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
บทบั ญ ญั ติ ใ นบรรพ ๕ แห่ ง ประมวลกฎหมายแพ่ ง และพาณิ ช ย์ ที่ ไ ด้ ต รวจชํ า ระใหม่ ท้ า ย
สํานักพระราชบั ญญัตินี้ ในบทมาตราที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่มีนัยเช่สํานนัเดีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยวกัน แล้วแต่กรณี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๑๒ ให้นายกรัฐมนตรี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา รักษาการตามพระราชบั ญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


หมายเหตุ : - เหตุ ผ ลในการประกาศใช้ พ ระราชบั ญ ญั ติ ฉ บั บ นี้ คื อ เนื่ อ งจากรั ฐ ธรรมนู ญ แห่ ง
ราชอาณาจักรไทยมาตรา ๒๘ วรรคสอง บักญาญัติว่าชายและหญิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งมีสิทธิเท่าเทียมกัน กจําาต้องแก้ไข
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
บทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่ง
สํานักราชอาณาจั กรไทย จึงจํกาาเป็นต้องตราพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ญญัตินี้ขึ้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พระราชบัญญัติแสํก้าไนัขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งและพาณิสํชานัย์ก(ฉบั บที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑ก๑๙๗
งานคณะกรรมการกฤษฎี า

มาตรากา๑๑ การเสนอขายหุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้นและหุ้นกู้ต่อประชาชนที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ได้มีการจดทะเบี ยนหนังสือชี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ชวน หนังสือบอกกล่าวป่าวร้อง หรือหนังสืออย่างอื่นในการชี้ชวนให้ซื้อหุ้นหรือหุ้นกู้โดยถูกต้องตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎหมายในวันประกาศพระราชบั ญญัตินี้ในราชกิจจานุเบกษาแล้ ว ให้คงดําเนินการต่อไปได้อีกไม่เกิน
เก้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตสํินาี้ในัช้กบงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ังคับ และให้นํามาตรา กา
๑๒๓๐ มาตรา ๑๒๓๑ มาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๒๓๒ มาตรา ๑๒๓๓ มาตรา ๑๒๓๔ และมาตรา ๑๒๓๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มา
ใช้บังคับจนกว่าจะพ้
สํานันกกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าหนดเวลาดังกล่าว กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๑๒ บริษัทใดจั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัดกตังานคณะกรรมการกฤษฎี
้งขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่
กา งและพาณิ
สํานักชงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์อยู่ก่อนวันที่ กา
พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับและมีผู้ถือหุ้นตั้งแต่หนึ่งร้อยคนอยู่แล้ว หรือมีผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งร้อยคน
ขึ้นไปภายหลังที่พสํระราชบั ญญัตินี้ใช้บังคับ ให้กยา ังคงเป็นบริษสํัทาตามประมวลกฎหมายแพ่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกงและพาณิ
า ชย์
ต่อไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักหมายเหตุ : - เหตุ ผ ลในการประกาศใช้


งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัพกระราชบั ญ ญั ติ ฉ บั บ นี้ คืกาอ เนื่ อ งจากได้สํามนัี กกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ารประกาศใช้ กา
พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจํากัด พ.ศ. ๒๕๒๑ ซึ่งกําหนดให้บริษัทมหาชนจํากัดต้องมีผู้ถือหุ้นตั้งแต่
หนึ่ ง ร้ อ ยคน และมี
สํานับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทบั ญ ญั ติ ค วบคุ ม การเสนอขายหุ
กา ้ น และหุ ้ น กู้ เพื่ อ ป้ อ งกั น มิ ใ ห้ ปการะชาชนถู ก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หลอกลวงแล้ว สมควรกําหนดห้ามมิให้บริษัทจํากัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มีผู้ถือหุ้น
สํานักถึงานคณะกรรมการกฤษฎี
งหนึ่งร้อยคนและเสนอขายหุ กา ้น หรือหุสํ้นากูนั้ตกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อประชาชน ซึ่งจําเป็นต้กอา งแก้ไขเพิ่มเติสํมาประมวลกฎหมาย
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๓ ลักษณะ ๒๒ หมวด ๔ เฉพาะมาตราที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับหลักการ
ดังกล่าว จึงจําเป็สํนาต้นัอกงานคณะกรรมการกฤษฎี
งตราพระราชบัญญัตินี้ขกึ้นา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักพระราชบั ๑๙๘
ญญัติแก้ไขเพิก่มาเติมประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี งและพาณิชย์ (ฉบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาบที่ ๑๐) พ.ศ.สํา๒๕๓๓
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๙๗
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๙๕/ตอนที่ ๑๔๙/ฉบับพิเศษ หน้า ๙๘/๒๕ ธันวาคม ๒๕๒๑
๑๙๘ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํามนั๑๐๗/ตอนที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา หน้า ๑/๒๖ กัสํนายายน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ราชกิจจานุเบกษา เล่ ่ ๑๘๗/ฉบับพิเศษ ๒๕๓๓
- ๓๐๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๖๒ ในกรณีที่มีการให้ของหมั้นกันไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้
สํานักของหมั ้นดังกล่าวตกเป็นกสิาทธิแก่หญิงเมืสํ่อานัได้กทงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ําการสมรสแล้ว กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๓ นิติกรรมที่คู่สกมรสฝ่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า า ยหนึ่ งสํได้านักกระทํ าไปในการจัดการสิกานสมรสโดย
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ปราศจากความยินยอมของคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ การให้สัตยาบัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือการขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมนั้น ให้เป็นไปตามมาตรา ๑๔๘๐ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและ
พาณิชย์ก่อนการแก้
สํานัไขเพิ ่มเติมโดยพระราชบัญกญัา ตินี้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๖๔ ถ้ามีคดีสํฟา้อนังขอให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ศาลแสดงว่าการสมรสเป็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นโมฆะเพราะเหตุ สมรสฝ่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ฝืนบทบัญญัติมาตรา ๑๔๕๒ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ค้างพิจารณาอยู่ในศาลใดในวันที่
พระราชบัญญัตินสํี้ใช้านับกังงานคณะกรรมการกฤษฎี
คับ ให้ศาลนั้นพิจารณาพิ
กา พากษาคดีต่อสําไปได้ จนกว่าคดีจะถึงที่สุด กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๖๕ ในกรณีสํทาี่มนัีกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ารสมรสฝ่าฝืนมาตรา ก๑๔๕๒
า แห่งประมวลกฎหมายแพ่ ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และพาณิชย์ สิทธิเรียกค่าเลี้ยงชีพหรือสิทธิในมรดกของคู่สมรสที่ตายซึ่งคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งที่สมรส
โดยสุจริตมีอยู่แล้สํวานัก่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
นวันที่พระราชบัญญัตกินาี้ใช้บังคับ ให้สํเป็านันกไปตามมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔๙๙ แห่งประมวล
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ก่อนการแก้ไสํขเพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๖๖ ในการจดทะเบี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กายนเด็กเป็นบุสํตารชอบด้ วยกฎหมาย ถ้าเจ้กาาหน้าที่ได้ส่ง
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
แจ้ ง ความการขอจดทะเบี ย นไปยั ง เด็ ก หรื อ มารดาเด็ ก แล้ ว แต่ ยั ง ไม่ มี ก ารจดทะเบี ย นก่ อ นวั น ที่
สํานักพระราชบั ญญัตินี้ใช้บังคักบา การจดทะเบีสํยานันเด็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บังคับสํตามบทบั ญญัติแห่ง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๗ บิ ด าซึ่ ง ได้ จ ดทะเบี ย นรั บ เด็ ก เป็ น บุ ต รชอบด้ ว ยกฎหมายก่ อ นวั น ที่
สํานักพระราชบั ญญัตินี้ใช้บังคักบา ย่อมมีสิทธิรสํ้อางขอต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี อศาลให้ถอนความเป็กนา ผู้ปกครองได้สํตาามมาตรา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๑๕๕๒
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ไม่ว่าบิดาจะได้เคยร้อง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอต่อศาลให้มีคําสั่งถอนความเป็นผู้ปกครองมาก่อนแล้วหรือไม่ก็ตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๘ ในกรณีที่มีการตั้งผู้ปกครองโดยพินัยกรรม ถ้าผู้ที่ทําพินัยกรรมตายก่อน
วันที่พระราชบัญญัสําตนัินกี้ใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ช้บังคับ การตั้งผู้ปกครองให้
กา เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ชย์ก่อน
การแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๙ บทบัญญัติมาตรา ๑๕๙๘/๒๒ และมาตรา ๑๕๙๘/๒๓ แห่งประมวล
กฎหมายแพ่งและพาณิ ชย์ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัสําตนัินกี้ไงานคณะกรรมการกฤษฎี
ม่กระทบกระเทือนถึงความสมบู
กา รณ์
ของการให้ความยินยอมในการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมที่ได้กระทําไปแล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้
สํานักใช้ บังคับ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๐ บทบัญญัติบรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งแก้ไข
สํานักเพิ ่มเติมโดยพระราชบัญกญัา ตินี้ไม่กระทบกระเทื
งานคณะกรรมการกฤษฎี อนถึงความสมบูรณ์ขกองการหมั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้น การสมรส สัญญาก่อน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
- ๓๐๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
สมรส การเป็นบิดามารดากับบุตร การเป็นผู้ปกครอง และการรับบุตรบุญธรรมที่ได้มีอยู่แล้วในวันที่
สํานักพระราชบั ญญัตินี้ใช้บังคักบา เว้นแต่ในกรณี
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัทกี่พงานคณะกรรมการกฤษฎี
ระราชบัญญัตินี้บัญญัตกิไาว้เป็นอย่างอื่นสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํมาตรา ๗๑ บรรดาอายุความหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อระยะเวลาที ่บทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง
และพาณิ ช ย์ ไ ด้ กํ า หนดไว้ ก่ อ นวั น ที่ พ ระราชบั ญ ญั ติ นี้ ใ ช้ บั ง คั บ หากยั ง ไม่ สิ้ น สุ ด ลงในวั น ที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และอายุความหรือระยะเวลาที่กําหนดขึ้นใหม่นั้นแตกต่างกับอายุความหรือ
ระยะเวลาที่กําหนดไว้
สํานักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดิม ก็ให้นําอายุความหรืกาอระยะเวลาทีสํ่ยาาวกว่ ามาบังคับ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักหมายเหตุ :- เหตุ ผลในการประกาศใช้


งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัพกระราชบั ญญัติฉบับนี้ คืกอา โดยที่บทบั ญสําญันักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
งานคณะกรรมการกฤษฎี ิ บรรพ ๕ แห่ง กา
ประมวลกฎหมายแพ่ ง และพาณิ ชย์ ว่ าด้ ว ยความสมบู ร ณ์ ข องการหมั้ น และผลของการหมั้ น การ
คุ้มครองคู่สมรสทีสํ่วาิกนักลจริ ต การจัดการสินสมรส
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา การแยกสินสํสมรสและรวมสิ นสมรส การสมรสที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่เป็น
โมฆะ เหตุหย่า ผู้ใช้อํานาจปกครองบุตรในกรณีมีการหย่า บทสันนิษฐานความเป็นบุตรชอบด้วย
สํานักกฎหมาย การฟ้องคดีไม่กรา ับเด็กเป็นบุตสํรานัการฟ้
งานคณะกรรมการกฤษฎี องปฏิเสธความเป็นกบุา ตร การจดทะเบี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
นเด็กเป็นบุตร กา
การฟ้องให้รับเด็กเป็นบุตร อํานาจปกครอง การเป็นผู้อนุบาลและผู้พิทักษ์ การจัดการทรัพย์สินของ
ผู้เยาว์ สิทธิหน้าทีสํ่ขานัองบิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดามารดาและบุตร ผู้ปกครอง และบุสําตนัรบุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ญธรรม นั้น ยังไม่สอดคล้องและไม่
เอื้ ออํานวยต่ อ สภาพความเป็นอยู่ใ นสัสํางนัคมปั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จจุ บั น สมควรปรับ ปรุงแก้ ไ ขให้ เ หมาะสมยิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ งขึ้ น จึ ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ได้ตรวจ
าระใหม่ พ.ศ. ๒๕๓๕๑๙๙
สํานักชํงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

หมายเหตุ :- เหตุสํผาลในการประกาศใช้ พระราชบั


นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัติฉบับสํนีา้ นัคืกองานคณะกรรมการกฤษฎี
เนื่องจากบทบัญญัติบการรพ ๑ แห่ง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งได้ใช้บังคับโดยพระราชกฤษฎีกาให้ใช้บทบัญญัติแห่งประมวล
สํานักกฎหมายแพ่ งและพาณิชกย์า บรรพ ๑ และบรรพ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ๒ ที่ได้ตรวจชําระใหม่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พ.ศ. ๒๔๖๘สําได้
นักใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ช้บังคับมาเป็น กา
เวลานานและบทบัญญัติหลายประการล้าสมัย ไม่เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพสังคมปัจจุบัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมควรปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมยิ่งขึ้น จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๓๕๒๐๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นหกสิบวันนับแต่วันประกาศในราช
สํานักกิงานคณะกรรมการกฤษฎี
จจานุเบกษาเป็นต้นไปกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

หมายเหตุ :- เหตุสํผานัลในการประกาศใช้ พระราชบั


กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัติฉบับสํนีานั้ กคืงานคณะกรรมการกฤษฎี
อ โดยที่มีการแก้ไขพระราชบั
กา ญญัติ
บริษัทมหาชนจํากัด พ.ศ. ๒๕๒๑ ให้ยกเลิกการกําหนดอัตราส่วนการถือหุ้น และจํานวนผู้ถือหุ้นของ
สํานักบริ ษัทมหาชนจํากัด และเพื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อให้การแปรสภาพบริ ษัทจํากัดเป็นบริกษาัทมหาชนจํากัสํดานัเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นไปโดยความ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๙๙
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๐๙/ตอนที่ ๔๒/หน้า ๑/๘ เมษายน ๒๕๓๕
๒๐๐ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํามนั๑๐๙/ตอนที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เมษายน ๒๕๓๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิจจานุเบกษา เล่ ่ ๔๓/หน้า ๕๖/๘
- ๓๐๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
สมั ค รใจ ในกรณี ที่ บ ริ ษั ท จํ า กั ด ประสงค์ จ ะชี้ ช วนให้ ป ระชาชนร่ ว มลงทุ น จึ ง จํ า เป็ น ต้ อ งตรา
สํานักพระราชบั ญญัตินี้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พระราชบัญญัติแสํก้าไนัขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งและพาณิสํชานัย์ก(ฉบั กา ๒๐๑
บที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๔๑
งานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


มาตรา ๖ บทบั ญ ญั ติ ม าตรา ๔๙๙ วรรคสอง แห่ ง ประมวลกฎหมายแพ่ ง และ
พาณิชย์ซึ่งแก้ไขเพิ
สํานั่มกเติงานคณะกรรมการกฤษฎี
มโดยพระราชบัญญัตกิานี้ มิให้ใช้บังคัสํบานัแก่ สัญญาขายฝากที่ได้ทกําาไว้ก่อนวันที่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากประมวลกฎหมายแพ่งและ
พาณิชย์ในเรื่องขายฝากมี บทบัญญัติยังไม่เหมาะสม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เป็นเหตุ
สํานัให้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
มีการเอาเปรียบผู้ขายฝาก กา โดยการ
กําหนดสินไถ่ที่สูงเกินควร เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา รวมทั้งในกรณีที่ถึง
สํานักกํงานคณะกรรมการกฤษฎี
า หนดเวลาไถ่ ผู้ ซื้ อ ฝากมั
กา ก จะหลี ก เลี
สํา่ ยนังไม่ ย อมให้ มี ก ารไถ่ จ นเป็
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา น เหตุ ใ ห้ ผู้ ขสํายฝากต้ อ งสู ญ เสี ย
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินไปโดยไม่ชอบธรรม นอกจากนี้ เห็นควรปรับปรุงระยะเวลาในการใช้สิทธิไถ่ใน
สัญญาขายฝากให้สํเาหมาะสมยิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่งขึ้น จึงจําเป็นต้องตราพระราชบั สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๔๑๒๐๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ เป็น
สํานักต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
นไป กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

หมายเหตุ :- เหตุสําผนัลในการประกาศใช้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี พระราชบั
กา ญ ญั ติฉ บัสํบานันีก้ งานคณะกรรมการกฤษฎี
คือ โดยที่พระราชบั ญกญัา ติคุ้มครอง
แรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ได้บัญญัติให้หนี้ที่เกิดจากการไม่ชําระค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทํางานในวันหยุด
สํานักค่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าล่วงเวลาในวันหยุด กค่าาชดเชย ค่าชดเชยพิ เศษ เงินสะสม เงินสมทบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา หรือเงินสํเพิ านั่มกให้ ลูกจ้าง หรือ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน แล้วแต่กรณี มีบุริมสิทธิเหนือทรัพย์สินทั้งหมดของนายจ้างซึ่งเป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลูกหนี้ในลําดับเดียวกับบุริมสิทธิในค่าภาษีอากรตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนั้น จึง
สํานักสมควรแก้ ไขเพิ่มเติมมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๓ แห่งสํประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ชย์ให้สอดคล้ สํานัอกงกังานคณะกรรมการกฤษฎี
บกฎหมายว่า กา
ด้วยการคุ้มครองแรงงานในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของลูกจ้าง โดยให้รวมความถึง สิทธิของเสมียน คนใช้
และคนงาน ตามทีสํา่บนััญกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญัติไว้ในมาตรา ๒๕๓ เดิ กามด้วย โดยกําสํหนดลํ าดับบุริมสิทธิในเงินทีก่ลาูกจ้างมีสิทธิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้ รั บ อยู่ ใ นลํ า ดั บ เดี ย วกั บ บุ ริ ม สิ ท ธิ ใ นค่ า ภาษี อ ากร ประกอบกั บ สภาวะเศรษฐกิ จ และสั ง คมได้
สํานักเปลี ่ยนแปลงไป สมควรแก้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ไ ขเพิ่ ม เติ มสํามาตรา ๒๕๗ แห่งประมวลกฎหมายแพ่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํงาและพาณิ ชย์ เพื่อ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กําหนดหลักเกณฑ์และจํานวนเงินสูงสุดของบุริมสิทธิในเงินที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับให้เหมาะสมกับสภาวะ
เศรษฐกิจและสังคมของประเทศในปั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี จจุบันด้วกยา จึงจําเป็นต้อสํงตราพระราชบั ญญัตินี้ กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักพระราชบั ๒๐๓
ญญัติแก้ไขเพิก่มาเติมประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี งและพาณิชย์ (ฉบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาบที่ ๑๔) พ.ศ.สํา๒๕๔๘
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํ๒๐๑
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๕/ตอนที่ ๑๘ก/หน้า ๑/๙ เมษายน ๒๕๔๑
๒๐๒
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๕/ตอนที่ ๔๘ ก/หน้า ๑/๑๗ สิงหาคม ๒๕๔๑
๒๐๓ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํามนั๑๒๒/ตอนที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ราชกิจจานุเบกษา เล่ ่ ๑๑๐ ก/หน้า ก๑/๒๓
า พฤศจิกายนสํานั๒๕๔๘
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓๐๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

มาตรากา๑๗ พระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัญกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญัตินี้ไม่กระทบถึงนิติกกรรม
า สิทธิ หน้าสํทีานั่ หรื อความรับผิด
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ตามกฎหมายอันได้กระทําลงหรือมีขึ้นก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในส่วนที่เกี่ยวกับสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์และ
สังหาริมทรัพย์ ประเภทของสั งหาริมทรัพย์ที่ตกา้องจดทะเบียนต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกพนั กงานเจ้าหน้าที่ จํานวนเงิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นในการ
กู้ยืมเงินที่ต้องมีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือ จํานวนเงินที่เจ้าสํานักโรงแรมต้องรับผิดในการที่
สํานักทรั พย์สินของคนเดินทางหรื
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อแขกอาศัสํยานัสูกญงานคณะกรรมการกฤษฎี
หาย อัตราค่าธรรมเนีกยามและค่าคัดสํสําาเนาเอกสารตามที ่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ปรากฏในบทบัญญัติที่ว่าด้วยบริษัทจํากัด รวมถึงจํานวนเงินรางวัลหรือค่าธรรมเนียมที่บุคคลผู้มีสิทธิ
จะรับทรัพย์สินหายต้สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งชําระให้แก่ผู้เก็บได้กหารือแก่ส่วนราชการที ่รับผิดชอบ เพื่อให้สกอดคล้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า องกับ
สภาพการณ์ทางเศรษฐกิจและสภาวการณ์ในปัจจุบัน จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๔๙๒๐๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้สํพานัระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรแก้
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไขเพิ่มเติม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทบัญญัติในลักษณะ ๒๒ หุ้นส่วนและบริษัทของบรรพ ๓ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
กรณีการลาออกของหุ
สํานัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ส่วนผู้จัดการในห้างหุ้นกาส่วนจดทะเบียสํานและห้ างหุ้นส่วนจํากัด และการลาออก
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ของกรรมการบริษัทจํากัด กําหนดเวลาที่การลาออกมีผล ตลอดจนการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงต่อ
สํานักนายทะเบี ยนภายในกํากหนดเวลา
งานคณะกรรมการกฤษฎี า เพืสํ่อาให้
นักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
กิดความชัดเจนในผลทางกฎหมาย
กา สํและการนํ าผลทาง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กฎหมายและข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวไปใช้อ้างอิง จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๖) พ.ศ. ๒๕๕๐๒๐๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗ พระราชบัญญัตินี้ไม่กระทบถึงนิติกรรม สิทธิ หน้าที่ หรือความรับผิดตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎหมายอันได้กระทําลงหรือมีขึ้นก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๓ ของรัฐธรรมนูญแห่ง
สํานักราชอาณาจั กรไทย (ฉบักบาชั่วคราว) พุทสํธศัานักกราช
งานคณะกรรมการกฤษฎี ๒๕๔๙ ให้ความคุ้มกาครองศักดิ์ศรีคสํวามเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี นมนุษย์สิทธิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เสรีภาพ และความเสมอภาค บรรดาที่ชนชาวไทยเคยได้รับความคุ้มครองตามประเพณีการปกครอง
ประเทศไทยในระบอบประชาธิ ปไตยอันมีพกระมหากษั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ตริสํยา์ทนักรงเป็ นประมุข แต่บทบักญา ญัติมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๔๔๕ มาตรา ๑๔๔๖ มาตรา ๑๔๔๗/๑ วรรคสาม มาตรา ๑๕๑๖ (๑) และมาตรา ๑๕๒๓ วรรค
สํานักหนึ ่ง แห่งประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา งและพาณิ
สํานักชงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย์ เป็นบทบัญญัติที่เลือกกปฏิา บัติโดยไม่สํเาป็นันกธรรมต่ อบุคคล
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เพราะเหตุแห่งความแตกต่ างในเรื่องเพศ สมควรแก้ไขบทบัสํญานัญักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ิดังกล่าวให้สอดคล้องกักาบหลักการมี
๒๐๔
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๓/ตอนที่ ๑๗ ก/หน้า ๑/๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙
๒๐๕ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํามนั๑๒๔/ตอนที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กันยายน ๒๕๕๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิจจานุเบกษา เล่ ่ ๕๓ ก/หน้า ๑๔/๑๒
- ๓๐๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
สิทธิเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง และหลักการห้ามมิให้เลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล
สํานักเพราะเหตุ แห่งความแตกต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา างในเรื่องเพศที
สํานัก่เงานคณะกรรมการกฤษฎี
คยได้รับความคุ้มครองตามประเพณี
กา กสํารปกครองประเทศ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไทย ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัติ
นี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๐๒๐๖


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากได้มีกฎหมายว่าด้วยทรัสต์
สํานักเพื ่อธุรกรรมในตลาดทุนกซึา่งกําหนดให้สสํามารถก่
งานคณะกรรมการกฤษฎี อตั้งทรัสต์เพื่อเป็นเครื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่องมืออีกประการหนึ ่งที่จะทําให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ธุรกรรมในตลาดทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถแก้ไขข้อติดขัดบางประการในการระดม
ทุ น และในการประกอบธุ ร กิ จ ในตลาดทุ น ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดั ง นั้ น เพื่ อสํให้
านัสกอดคล้ อ งกั บ กฎหมายดักาง กล่ า ว จึ ง
งานคณะกรรมการกฤษฎี
จําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑๒๐๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้สําพนัระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ประมวลกฎหมายแพ่
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พาณิชย์บรรพ ๓ ลักษณะ ๒๒ ว่าด้วยหุ้นส่วนและบริษัทใช้บังคับมาเป็นเวลานาน บทบัญญัติบาง
มาตราสร้างภาระโดยไม่ จําเป็นแก่ประชาชนและก่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อให้เกิดสํความยุ ่งยาก ซ้ําซ้อน และความล่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าช้าต่อ
การปฏิบัติหน้าที่ของส่วนราชการ นอกจากนี้ ยังเป็นอุปสรรคต่อการเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขัน
สํานักของประเทศอี กด้วย ดังกนัา้น เพื่อขจัดปัสํญานัหาและอุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ปสรรคดังกล่าวและเพื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อให้การดํ สําานัเนิ นกิจการค้าใน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รูปแบบของห้างหุ้นส่วนและบริษัทมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักพระราชบั ๒๐๘
ญญัติแก้ไขเพิก่มาเติมประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎี งและพาณิชย์ (ฉบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาบที่ ๑๙) พ.ศ.สํา๒๕๕๑
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมายเหตุ :- เหตุ ผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คื อ โดยที่บทบัญญัติบรรพ ๕ แห่ง
สํานักประมวลกฎหมายแพ่
งานคณะกรรมการกฤษฎีงและพาณิ
กา ชย์ว่าสํด้านัวยการร้ องต่อศาลขอให้สกั่งาอนุญาตให้สามี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัภกริงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยาอยู่ต่างหาก กา
การเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของหญิง การเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชาย การนับวันที่เป็นบุตร
ชอบด้วยกฎหมายของบิ ดา และการกลับมีอํากนาจปกครองบุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สํตานัรทีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเมื่อกมีา การเลิกรับ
บุตรบุญธรรม นั้น ยังไม่สอดคล้องและไม่เอื้ออํานวยต่อสภาพความเป็นอยู่ในสังคมปัจจุบัน สมควร
สํานักปรั บปรุงแก้ไขให้เหมาะสมยิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งขึ้นจึง จําสํเป็
านันกต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องตราพระราชบัญญัตกินา ี้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ปณตภร/ปรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บปรุง
๒๑ มีนาคม ๒๕๕๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํ๒๐๖
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๙ ก/หน้า ๔๒/๑๔ มกราคม ๒๕๕๑
๒๐๗
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๔๑ ก/หน้า ๑๒/๓ มีนาคม ๒๕๕๑
๒๐๘ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํามนั๑๒๕/ตอนที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มีนาคม ๒๕๕๑สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิจจานุเบกษา เล่ ่ ๔๕ ก/หน้า ๕/๗
- ๓๐๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


- ๓๐๖ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

You might also like