You are on page 1of 324

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ พระรำชกฤษฎีกำ กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้ใช้บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
บรรพ ๑ และ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๒ ที่ได้ตรวจช
สำนัำระใหม่ ๑
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มีพ ระบรมรำชโองกำร ในพระบำทสมเด็จพระรำมำธิบ ดีศรีสิน ทรมหำวชิร ำวุธ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระมงกุฎเกล้ำเจ้ำอยู่หัว ให้ประกำศจงทรำบทั่วกันว่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จำเดิม แต่ได้อ อกประกำศประมวลกฎหมำยแพ่ง และพำณิ ช ย์ บรรพ ๑ และ ๒
แต่วันที่ ๑๑ พฤศจิ กำยน พระพุทธศักรำชกำ๒๔๖๖ เปนต้สนำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้มีควำมเห็นแนะนำมำกหลำย
กำ เพื่อยัง
ประมวลกฎหมำยนี้ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
และเมื่อได้พิจำรณำโดยถ่องแท้แล้ว เห็นเปนกำรสมควรให้ตรวจชำระบทบัญญัติ
ในบรรพ ๑ และ
สำนั๒กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แห่งประมวลกฎหมำยแพ่
กำ งและพำณิชสย์ำนั
ที่กกล่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำวมำข้ำงต้นนั้นใหม่ กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จึ่งทรงพระกรุณำโปรดเกล้ ำฯ สั่งว่ำ บทบัญญัติเดิมในบรรพ ๑สำนัและ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒ แห่งประมวล
กฎหมำยแพ่งและพำณิ ชย์ที่ได้ประกำศไว้แต่ ณ วันที่ ๑๑สำนัพฤศจิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำยน พระพุทธศักรำช ๒๔๖๖ นั้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้ยกเลิกเสียสิ้น และใช้บทบัญญัติที่ได้ตรวจชำระใหม่ต่อท้ำยพระรำชกฤษฎีกำนี้แทนสืบไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ประกำศมำ ณ วัน ที่ ๑๑ พฤศจิกำยน พระพุทธศักรำช ๒๔๖๘ เปนปีที่ ๑๖ ใน
รัชกำลปัตยุบันสนีำนั้ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ



รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๔๒/-/หน้ำ ๑/๑๑ พฤศจิกำยน ๒๔๖๘
-๒- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

พระรำชบัญญัติ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สให้
ำนัใกช้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บทบัญญัติบรรพ ๑ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีพ.ศ.กำ ๒๕๓๕ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


ภูมิพกลอดุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ลยเดช ป.ร.สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้ไว้ ณ วันที่ ๓๑ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๓๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ เป็นสำนั
ปีทกี่ งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๔๗ ในรัชกำลปัจจุบัน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สพระบำทสมเด็ จพระปรมินทรมหำภู
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มิพลอดุสลำนัยเดช มีพระบรมรำชโองกำรโปรดเกล้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำฯ
ให้ประกำศว่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
โดยที่เป็นกำรสมควรปรับปรุงบทบัญญัติบรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ และบทบัญญัติลักษณะ ๒๓ สมำคม ของบรรพ ๓ แห่ งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จึงทรงพระกรุณำโปรดเกล้ำฯ ให้ตรำพระรำชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอม
ของสภำนิติบัญญัสตำนั
ิแห่กงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชำติ ทำหน้ำที่รัฐสภำ กดัำงต่อไปนี้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑ พระรำชบัสญำนัญักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ินี้เรียกว่ำ “พระรำชบักญำญัติให้ใช้บทบัสญำนัญักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิบรรพ ๑ แห่ง กำ
ประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ. ๒๕๓๕”
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๒ พระรำชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหกสิบวันนับแต่วันถัดจำก
สำนักวังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นประกำศในรำชกิจจำนุ
กำเบกษำเป็นต้นสไป
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓ ให้ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์บรรพ ๑ และบรรพ ๓
สำนักดังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งต่อไปนี้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ให้ยกเลิกบทบัญญัติบรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ ซึ่งได้ใช้
บังคับ โดยพระรำชกฤษฎี กำให้ ใช้บ ทบั ญญั ตกิแำห่ งประมวลกฎหมำยแพ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและพำณิชย์บกรรพ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ๑ และ
บรรพ ๒ ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ. ๒๔๖๘
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๒) ให้กยำ กเลิกลักษณะ สำนั๒๓ สมำคม ของบรรพ ก๓ำ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ ซึ่งได้ใช้บังคับโดยพระรำชกฤษฎีกำให้ใช้บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
บรรพ ๓ ที่ได้ตรวจชสำนัำระใหม่ พ.ศ. ๒๔๗๑ กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ให้ใช้บทบัญญัติท้ำยพระรำชบัญญัตินี้เป็นบรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่ง
สำนักและพำณิ ชย์ที่ได้ตรวจชกำระใหม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

รำชกิกจำจำนุเบกษำ เล่มสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๑๐๙/ตอนที กำ
่ ๔๒/หน้ำ ๑/๘ เมษำยน ๒๕๓๕ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
-๓- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๔ เอกสำรที่มีกำรใช้ตรำประทับแทนกำรลงลำยมือชื่อตำมมำตรำ ๙ วรรคสอง


สำนักแห่ งประมวลกฎหมำยแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งและพำณิชสย์ำนัก่กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นกำรแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบั
กำ ญญัสตำนั
ินี้ กซึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่งได้กระทำขึ้น กำ
ก่อนวันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้มีผลสมบูรณ์เสมือนกับลงลำยมือชื่อต่อไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕ บทบัญญัติบรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ ที่ได้ตรวจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ชำระใหม่ท้ำยพระรำชบัญญัตินี้ ไม่กระทบกระเทือนถึงควำมสมบูรณ์ของกำรให้กู้ยื มเงินที่ผู้เสมือน
ไร้ควำมสำมำรถได้ กระท
สำนั ำขึ้นก่อนวันที่พระรำชบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัตินี้ใช้บสังำนั
คับกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๖ ผู้จัดกำรทรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัพกย์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สินของผู้ไม่อยู่ที่ศำลได้กตำั้งขึ้นก่อนวันทีส่พำนั
ระรำชบั ญญัตินี้ใช้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บังคับ หำกยังมิได้จัดทำบัญ ชีทรัพย์ สินของผู้ไม่อยู่หรือจัดทำยังไม่แล้วเสร็จ ให้ จัดทำให้ แล้วเสร็จ
ภำยในสำมเดือนนั บกแต่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั วันที่พระรำชบัญญัตกินำี้ใช้บังคับ และให้
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำมำตรำ ๕๒ และมำตรำกำ ๕๓ แห่ง
ประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่ท้ำยพระรำชบัญญัตินี้มำใช้บังคับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗ ให้ องค์กรหรือหน่วยงำนที่กฎหมำยบัญ ญัติให้ เป็นทบวงกำรเมืองตำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมหมำยของมำตรำ ๗๒ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิ ชย์ ซึ่งถูกยกเลิกโดยมำตรำ ๓ (๑)
สำนักแห่ งพระรำชบัญญัตินี้ คงมี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ฐำนะเป็นนิตสำนั
ิบุคกคลต่ อไป
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๘ ให้บรรดำสมำคมที
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ได้จดทะเบียสนตำมประมวลกฎหมำยแพ่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกงและพำณิ
ำ ชย์
ก่อนวันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เป็นสมำคมตำมบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิช ย์
สำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ได้ตรวจชำระใหม่ท้ำยพระรำชบั
กำ ญญัตสินำนัี้ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำคมใดที่ ได้ จ ดทะเบี ย นตำมประมวลกฎหมำยแพ่ ง และพำณิ ช ย์ ก่ อ นวั น ที่
พระรำชบัญญัตินสี้ใช้ำนับกังงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คับ มิได้ใช้ชื่อซึ่งมีคำว่ำกำ“สมำคม” ประกอบกั บชื่อของสมำคมให้ยกื่นำ คำขอแก้ไข
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ข้อบังคับของสมำคมให้ถูกต้องตำมมำตรำ ๘๐ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจชำระ
สำนักใหม่ ท้ำยพระรำชบัญญัตกินำี้ ภำยในสองปีสนำนัับกแต่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วันที่พระรำชบัญญัตินกำี้ใช้บังคับ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙ สมำคมตำมมำตรำ ๘ วรรคหนึ่ ง สมำคมใด มี วิ ธี จั ด กำรโดยไม่ มี
สำนักคณะกรรมกำรเป็ นผู้ดำเนิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นกิจกำรของสมำคมตำมมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๗๙ (๖)กำ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่ท้ำยพระรำชบัญญัตินี้ ถ้ำสมำคมนั้นไม่ดำเนินกำรยื่นคำขอแก้ไขข้อบังคับ
ของสมำคมและจัสำนั ด ให้ มี ค ณะกรรมกำรเป็ นกผูำ้ ด ำเนิ น กิ จ กำรของสมำคมภำยในสองปี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำนั บ แต่ วั น ที่
พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้นำยทะเบียนถอนชื่อสมำคมนั้นออกจำกทะเบียน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐ สมำคมตำมมำตรำ ๘ วรรคหนึ่ง สมำคมใด มีสมำชิกไม่ถึงสิบคน หำก
สมำคมนั้นไม่ได้จสัดำนัให้กมงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ีจำนวนสมำชิกตำมมำตรำ
กำ ๘๑ แห่งสประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ชย์ที่ได้
ตรวจช ำระใหม่ท้ำยพระรำชบั ญ ญั ตินี้ ภำยในสองปีนับแต่วันที่พระรำชบัญ ญั ตินี้ใช้บังคับ ให้ นำย
สำนักทะเบี ยนถอนชื่อสมำคมนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นออกจำกทะเบี
สำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นตำมมำตรำ ๑๐๒ (๕) กำ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ที่ได้ตรวจช ำระใหม่ท้ำยพระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๑ ให้บรรดำมู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัลกนิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ธิที่ได้จดทะเบียนตำมประมวลกฎหมำยแพ่
กำ งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
-๔- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ก่อนวันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เป็นมูลนิธิตำมบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ได้ตรวจชำระใหม่ท้ำยพระรำชบั
กำ ญญัสตำนั
ินี้ กและให้ ถือว่ำตรำสำรก่อกตัำ้งมูลนิธิดังกล่ำสวเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ข้อบังคับของ กำ
มูลนิธิตำมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่ท้ำยพระรำชบัญญัตินี้
สมูำนัลกนิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ธิ ใ ดที่ ไ ด้ จ ดทะเบี ย นตำมประมวลกฎหมำยแพ่
กำ ง และพำณิ ชกำย์ ก่ อ นวั น ที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ มิได้ใช้ชื่อซึ่งมีคำว่ำ “มูลนิธิ” ประกอบกับชื่อของมูลนิธิ ให้ยื่นคำขอแก้ไข
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ข้อบังคับของมูลนิธิให้ถูกต้องตำมมำตรำ ๑๑๓ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจชำระ
ใหม่ท้ำยพระรำชบัสำนั
ญญักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตินี้ ภำยในสองปีนับแต่กวำันที่พระรำชบัสญำนัญักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ินี้ใช้บังคับ กำ

มำตรำกำ๑๒ บรรดำมู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ลนิกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ธิที่มีอยู่ก่อนวันที่พระรำชบั
กำ ญญัตินี้ใช้สบำนัังคักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
และมิได้เป็น กำ
นิติบุคคล ถ้ำประสงค์จะจัดตั้งเป็นนิติบุคคลและใช้คำว่ำ “มูลนิธิ” ประกอบชื่อของตนต่อไป ต้องยื่น
คำขอจดทะเบียนตำมมำตรำ ๑๑๔ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนังกและพำณิ ชย์ที่ได้ตรวจชกำระใหม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ท้ำย
พระรำชบัญญัตินี้ ภำยในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓ มูลนิธิตำมมำตรำ ๑๑ วรรคหนึ่ง มูลนิธิใด มีข้อบังคับที่กำหนดให้ มี
ผู้จัดกำรของมูลนิธิไม่ถึงสำมคนในวันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บสังำนัคักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำมูลนิธินั้นไม่ดำเนินกกำรยื ำ
่นคำขอ
สำนักแก้ ไขข้อบังคับของมูลนิกธิเำพื่อให้มีคณะกรรมกำรซึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งประกอบด้วยบุคกคลไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ น้อยกว่ำสสำมคนเป็ นผู้ดำเนิน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กิจกำรของมูลนิธิภำยในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้นำยทะเบียน
ด ำเนิ น กำรตำมมำตรำ ๑๒๘ แห่ ง ประมวลกฎหมำยแพ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สงำนั
และพำณิ ช ย์ ที่ ได้ ต รวจชกำระใหม่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ท้ ำ ย
พระรำชบัญญัตินี้เพื่อสั่งกำรให้แก้ไขข้อบังคับของมูลนิธิให้ถูกต้ องตำมกฎหมำยต่อไป ถ้ำปรำกฏว่ำ
สำนักมูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ลนิธิใดไม่สำมำรถดำเนิกำนกิจกำรต่อไปได้สำนักก็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้นำยทะเบียนร้องขอต่
กำ อศำลให้มีคำสัสำนั ่งให้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เลิกมูลนิธิตำม กำ
มำตรำ ๑๓๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่ท้ำยพระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔ บรรดำระยะเวลำที่บัญญัติไว้ในบรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่ง
สำนักและพำณิ ชย์และที่บัญญั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำติไว้ในลักษณะ
สำนั๒๓ สมำคม ของบรรพ ก๓ำ แห่ งประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ ซึ่งใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หำกระยะเวลำดังกล่ำวยังไม่สิ้นสุดลงใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
วันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และระยะเวลำที่กำหนดขึ้นตำมบทบัญญัติแห่ งประมวลกฎหมำยแพ่ง
สำนักและพำณิ ชย์ที่ได้ตรวจชกำระใหม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ท้ำยพระรำชบั ญญัตินี้ แตกต่ำงกักบำระยะเวลำที่กสำหนดไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เดิม ให้นำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ระยะเวลำที่ยำวกว่ำมำใช้บังคับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕ ให้แก้เลขมำตรำตำมที่มีอยู่ในมำตรำต่ำง ๆ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่ง
สำนักและพำณิ ชย์เป็นเลขมำตรำตำมบรรพ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ส๑ำนัแห่ งประมวลกฎหมำยแพ่กำงและพำณิชย์สทำนัี่ได้กตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รวจชำระใหม่ กำ
ท้ำยพระรำชบัญญัตินี้ ดังต่อไปนี้
ส(๑)
ำนัก“มำตรำ ๙ วรรคสองและวรรคสำม”
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สในมำตรำ ๑๖๖๖ ให้แก้เป็กนำ “มำตรำ ๙
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วรรคสอง”
(๒) “มำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๒๙” ในมำตรำ ๑๔๖๔ และมำตรำ ก๑๕๑๙
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ให้แก้เป็สำนั
น ก“มำตรำ ๒๘”
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๓) “มำตรำ ๓๔” ในมำตรำ ๑๖๑๐ และมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๖๑๑ ให้แก้เป็น “มำตรำ ๓๒”
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) “มำตรำ ๖๐ มำตรำ ๖๑ มำตรำ ๖๓” ในมำตรำ ๑๕๗๗ ให้แก้เป็น “มำตรำ
สำนัก๕๖ มำตรำ ๕๗ มำตรำก๖๐”
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
-๕- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๕) “มำตรำ ๖๕” ในมำตรำ ๑๖๐๒ ให้แก้เป็น “มำตรำ ๖๒”


(๖) “มำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๖๖” ในมำตรำ ๑๖๐๒ ให้แก้เป็น “มำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๖๓” สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๗) “มำตรำ ๘๑” ในมำตรำ ๑๖๗๖ ให้แก้เป็น “มำตรำ ๑๑๐”
ส(๘)
ำนัก“มำตรำ ๘๕” ในมำตรำกำ๑๖๗๗ ให้แก้สเำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ป็นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
“มำตรำ ๑๑๔” กำ
(๙) “มำตรำ ๑๓๐ วรรคสอง” ในมำตรำ ๓๖๐ ให้แก้เป็น “มำตรำ ๑๖๙ วรรคสอง”
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑๐) “มำตรำ ๑๘๙” ในมำตรำ ๒๔๘ และมำตรำ ๑๗๕๔ ให้ แก้เป็น “มำตรำ
๑๙๓/๒๗” สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๖ บทบัญญัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ติแกห่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งกฎหมำยอื่นที่อ้ำงถึงกบทบั
ำ ญญัติในบรรพ
สำนัก๑งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือลักษณะ กำ
๒๓ ในบรรพ ๓ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ ให้ถือว่ำบทบัญญัติแห่งกฎหมำยนั้นอ้ำงถึง
บทบัญญัติที่มีนัยสเช่ำนันกเดีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยวกันในบรรพ ๑ แห่กงำประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจช
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำระใหม่
ท้ำยพระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗ บรรดำกฎกระทรวงที่ออกตำมควำมในมำตรำ ๙๗ และมำตรำ ๑๒๙๗
แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ซึ่งใช้บังคับอยู่ก่อนวัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นทีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังกคัำ บ ให้ยังคง
สำนักใช้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้ต่อไปเท่ำที่ไม่ขัดหรืกอำแย้งกับบทบัญสำนั
ญักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิแห่งประมวลกฎหมำยแพ่
กำ งและพำณิชย์สทำนัี่ได้กตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รวจชำระใหม่ กำ
ท้ำยพระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๘ ให้นำยกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงมหำดไทยรักษำกำร
สำนักตำมพระรำชบั ญญัตินี้ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้รับสนองพระบรมรำชโองกำร
อำนันท์ ปันยำรชุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นำยกรัฐมนตรี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


-๖- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ข้อกควำมเบื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้องต้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑ กฎหมำยนี้ให้เรียกว่ำ ประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒ ให้ใช้ประมวลกฎหมำยนี้ตั้งแต่วันที่ ๑ เดือนมกรำคม พระพุ ทธศักรำช
สำนัก๒๔๖๘ เป็นต้นไป กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๓ ตั้งแต่วันที่ใช้ประมวลกฎหมำยนี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนั้สกืบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไป ให้ ยกเลิกบรรดำกฎหมำย
กำ กฎ
และข้อบังคับอื่น ๆ ในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้วในประมวลกฎหมำยนี้ หรือซึ่งแย้งกับบทแห่งประมวล
สำนักกฎหมำยนี ้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บรรพ ๑ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หลักทั่วไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนับทเบ็ ดเสร็จทั่วไป
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔ กฎหมำยนั้ น ต้อ งใช้ ในบรรดำกรณี ซึ่ งต้ อ งด้ ว ยบทบั ญ ญั ติ ใด ๆ แห่ ง
สำนักกฎหมำยตำมตั วอักษร หรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อตำมควำมมุส่งำนัหมำยของบทบั ญญัตินั้น ๆกำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่อไม่มีบทกฎหมำยที่จะยกมำปรับคดีได้ ให้วินิจฉัยคดีนั้นตำมจำรีตประเพณีแห่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ท้องถิ่น ถ้ำไม่มีจำรีตประเพณีเช่นว่ำนั้น ให้วินิจฉัยคดีอำศัยเทียบบทกฎหมำยที่ใกล้เคียงอย่ำงยิ่ง และ
สำนักถ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำบทกฎหมำยเช่นนั้นก็กไำม่มีด้วย ให้วินสิจำนั
ฉัยกตำมหลั กกฎหมำยทั่วไปกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๕ ในกำรใช้สิทธิแห่กงำตนก็ดี ในกำรช


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำระหนี ้ก็ดี บุคคลทุกคนต้อกำงกระทำโดย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สุจริต
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖ ให้สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำ บุคคลทุกคนกระทำกำรโดยสุจริต
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗ ถ้ำจะต้องเสียดอกเบี้ยแก่กันและมิได้กำหนดอัตรำดอกเบี้ยไว้โดยนิติกรรม
สำนักหรื อโดยบทกฎหมำยอันกชัำดแจ้ง ให้ใช้อสัตำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รำร้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อยละเจ็ดครึ่งต่อปี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘ คำว่ำ “เหตุสุดวิสัย” หมำยควำมว่ำ เหตุใด ๆ อันจะเกิดขึ้นก็ดี จะให้ผล
สำนักพิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บั ติก็ดี เป็น เหตุที่ไม่อกำจป้
ำ องกันได้แสม้ำนัทกั้งบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คคลผู้ต้องประสบหรืกอำ ใกล้จะต้องประสบเหตุ นั้นจะได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
-๗- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

จัดกำรระมัดระวังตำมสมควรอันพึงคำดหมำยได้จำกบุคคลในฐำนะและภำวะเช่นนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙ เมื่อมีกิจกำรอันใดซึ่งกฎหมำยบังคับให้ทำเป็นหนังสือ บุคคลผู้จะต้องทำ
หนังสือไม่จำเป็นต้สอำนังเขี ยนเอง แต่หนังสือนั้นต้กอำงลงลำยมือชืส่อำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ของบุ คคลนั้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ลำยพิมพ์นิ้วมือ แกงได ตรำประทับ หรือเครื่องหมำยอื่นทำนองเช่นว่ำนั้นที่ทำลงใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เอกสำรแทนกำรลงลำยมือชื่อ หำกมีพยำนลงลำยมือชื่อรับรองไว้ด้วยสองคนแล้วให้ถือเสมอกับลง
ลำยมือชื่อ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมในวรรคสองไม่ใช้บังคับแก่กำรลงลำยพิมพ์นิ้วมือ แกงได ตรำประทับ หรือ
สำนักเครื ่องหมำยอื่นทำนองเช่กำนว่ำนั้น ซึ่งทำลงในเอกสำรที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ทำต่อหน้ำพนักกำ งำนเจ้ำหน้ำทีส่ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สมำตรำ ๑๐ เมื่อควำมข้อใดข้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำอหนึ่งในเอกสำรอำจตี ควำมได้สองนัย นัยกไหนจะท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำให้
เป็นผลบังคับได้ ให้ถือเอำตำมนัยนั้นดีกว่ำที่จะถือเอำนัยที่ไร้ผล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑ ในกรณีที่มีข้อสงสัย ให้ตีควำมไปในทำงที่เป็นคุณแก่คู่ กรณีฝ่ำยซึ่งจะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เป็นผู้ต้องเสียในมูลหนี้นั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒ ในกรณีที่จำนวนเงินหรือปริมำณในเอกสำรแสดงไว้ทั้งตัวอักษรและ
ตัวเลข ถ้ำตัวอักษรกั
สำนับกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตัวเลขไม่ตรงกัน และมิกอำ ำจหยั่งทรำบเจตนำอั นแท้จริงได้ ให้ถือเอำจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำนวนเงิน
หรือปริมำณที่เป็นตัวอักษรเป็นประมำณ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓ ถ้ำจำนวนเงินหรือปริมำณในเอกสำรแสดงไว้เป็นตัวอักษรหลำยแห่ง
หรือเป็นตัวเลขหลำยแห่ ง แต่ที่แสดงไว้หลำยแห่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งนั้นไม่ตรงกัสำนั
น กและมิ อำจหยั่งทรำบเจตนำอั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นแท้จริง
ได้ ให้ถือเอำจำนวนเงินหรือปริมำณน้อยที่สุดเป็นประมำณ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔ ในกรณีที่เอกสำรทำขึ้นไว้หลำยภำษำ ไม่ว่ำจะเป็นฉบับเดี ยวกันหรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หลำยฉบับก็ตำมโดยมีภำษำไทยด้วย ถ้ำข้อควำมในหลำยภำษำนั้นแตกต่ำงกัน และมิอำจหยั่งทรำบ
สำนักเจตนำของคู ่กรณีได้ว่ำจะใช้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ภำษำใดบังสคัำนั
บ กให้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถือตำมภำษำไทย กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกลัำกษณะ ๒ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บุคคล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำหมวด ๑ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บุคคลธรรมดำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สภำพบุคคล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
-๘- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๕ สภำพบุคคลย่อมเริ่มแต่เมื่อคลอดแล้วอยู่รอดเป็นทำรกและสิ้นสุดลง
เมื่อตำย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทำรกในครรภ์มำรดำก็สำมำรถมีสิทธิต่ำง ๆ ได้ หำกว่ำภำยหลังคลอดแล้วอยู่รอด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เป็นทำรก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖ กำรนับอำยุของบุคคล ให้เริ่มนับแต่วันเกิด ในกรณีที่รู้ว่ำเกิดในเดือนใด
สำนักแต่ ไม่รู้วันเกิด ให้นับวันกทีำ่หนึ่งแห่งเดือสนนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนั้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นวันเกิด แต่ถ้ำพ้นวิกสำัยที่จะหยั่งรู้เดืสอำนันและวั นเกิดของ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บุคคลใด ให้นับอำยุบุคคลนั้นตั้งแต่วันต้นปีปฏิทิน ซึ่งเป็นปีที่บุคคลนั้นเกิด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗ ในกรณีบุคคลหลำยคนตำยในเหตุภยันตรำยร่วมกัน ถ้ำเป็นกำรพ้นวิสัย
สำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่จะกำหนดได้ว่ำคนไหนตำยก่
กำ อนหลัง สให้ำนัถกืองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ว่ำตำยพร้อมกัน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๘ สิทธิของบุคคลในกำรที่จะใช้สนำนัำมอั กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นชอบที่จะใช้ได้นั้นถ้ำมีบุคคลอื่น
สำนักโต้ แย้งก็ดี หรือบุคคลผู้เกป็ำนเจ้ำของนำมนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นต้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั องเสื่อมเสียประโยชน์เพรำะกำรที
กำ ่มีผู้อสื่นำนัมำใช้ นำมเดียวกัน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
โดยมิได้รับอำนำจให้ใช้ได้ก็ดี บุคคลผู้เป็นเจ้ำของนำมจะเรียกให้บุคคลนั้นระงับควำมเสียหำยก็ไ ด้ ถ้ำ
และเป็นที่พึงวิตกว่สำนั
ำจะต้ องเสียหำยอยู่สืบไป จะร้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องขอต่อศำลให้
สำนักสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ั่งห้ำมก็ได้ กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมสำมำรถ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๑๙ บุ คคลย่สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อมพ้ น จำกภำวะผู้ เยำว์และบรรลุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นิ ติภ ำวะเมื ่ อมีอำยุยี่สิ บ ปี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บริบูรณ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๒๐ ผู้เยำว์ยส่อำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มบรรลุ นิติภำวะเมื่อทำกำรสมรส
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ หำกกำรสมรสนั ้นได้ทำตำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บทบัญญัติมำตรำ ๑๔๔๘
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๑ ผู้เยำว์จะทำนิติกรรมใด ๆ ต้องได้รับควำมยินยอมของผู้แทนโดยชอบ
สำนักธรรมก่ อน กำรใด ๆ ที่ผกู้เำยำว์ได้ทำลงปรำศจำกควำมยิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นยอมเช่นว่ำกนัำ้นเป็นโมฆียะสเว้ำนันกแต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี จะบัญญัติไว้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เป็นอย่ำงอื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๒ ผู้เยำว์อำจทำกำรใด ๆ ได้ทั้งสิ้น หำกเป็นเพียงเพื่อจะได้ไปซึ่งสิทธิอันใด
สำนักอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นหนึ่ง หรือเป็นกำรเพืก่อำให้หลุดพ้นจำกหน้
สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ที่อันใดอันหนึ่ง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๓ ผู้เยำว์อำจทำกำรใด ๆ ได้ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นกำรต้องทำเองเฉพำะตัว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
-๙- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๒๔ ผู้เยำว์อำจทำกำรใด ๆ ได้ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นกำรสมแก่ฐำนำนุรูปแห่งตน


สำนักและเป็ นกำรอันจำเป็นในกำรด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำรงชีพตำมสมควร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๕ ผู้เยำว์อำจทำพิกนำัยกรรมได้เมื่อสอำยุ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิบห้ำปีบริบูรณ์ กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๒๖ ถ้ำผู้แทนโดยชอบธรรมอนุญำตให้ผู้เยำว์จำหน่ำยทรัพย์สินเพื่อกำรอัน
ใดอันหนึ่งอันได้ระบุ
สำนัไกว้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้เยำว์จะจำหน่ำยทรัพกย์ำสินนั้นเป็นประกำรใดภำยในขอบของกำรที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ่ระบุไว้นั้นก็
ทำได้ตำมใจสมัคร อนึ่ง ถ้ำได้รับอนุญำตให้จำหน่ำยทรัพย์สินโดยมิได้ระบุว่ำเพื่อกำรอันใด ผู้เยำว์ก็
สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหน่ำยได้ตำมใจสมัครกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๗ ผู้แทนโดยชอบธรรมอำจให้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ควำมยิ
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยอมแก่ผู้เยำว์ในกำรประกอบธุ
กำ รกิจ
ทำงกำรค้ำหรือธุรกิจอื่น หรือในกำรทำสัญญำเป็นลูกจ้ำงในสัญญำจ้ำงแรงงำนได้ ในกรณีที่ผู้แทนโดย
สำนักชอบธรรมไม่ ให้ควำมยินกยอมโดยไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ มีเหตุ อันกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั สมควร ผู้เยำว์อำจร้องขอต่
กำ อศำลให้สั่งสอนุ
ำนัญกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำตได้ กำ
ในควำมเกี่ยวพันกับกำรประกอบธุรกิจหรือกำรจ้ำงแรงงำนตำมวรรคหนึ่งให้ผู้เยำว์มี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ฐำนะเสมือนดังบุคคลซึ่งบรรลุนิติภำวะแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถ้ำกำรประกอบธุ
กำ รกิจสำนั
หรืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรทำงำนที่ได้รับควำมยิ
กำ นยอมหรือสทีำนั่ได้กรงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ับอนุญำตตำม กำ
วรรคหนึ่ง ก่อให้เกิดควำมเสียหำยถึงขนำดหรือเสื่อมเสียแก่ผู้เยำว์ ผู้แทนโดยชอบธรรมอำจบอกเลิก
ควำมยินยอมที่ได้สใำนัห้แกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก่ผู้เยำว์เสียได้ หรือในกรณี
กำ ที่ศำลอนุญ ำตกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ผู้แทนโดยชอบธรรมอำจร้ กำ องขอต่อ
ศำลให้เพิกถอนกำรอนุญำตที่ได้ให้แก่ผู้เยำว์นั้นเสียได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณีกำที่ผู้แทนโดยชอบธรรมบอกเลิ กควำมยินยอมโดยไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มีเหตุสำนั
อันกสมควร ผู้เยำว์
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อำจร้องขอต่อศำลให้เพิกถอนกำรบอกเลิกควำมยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรมได้
สกำรบอกเลิ กควำมยินยอมโดยผู
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้แทนโดยชอบธรรมหรื อกำรเพิกถอนกำรอนุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญำตโดย
ศำล ย่อมทำให้ฐำนะเสมือนดังบุคคลซึ่งบรรลุนิติภำวะแล้วของผู้เยำว์สิ้นสุดลง แต่ไม่กระทบกระเทือน
สำนักกำรใด ๆ ที่ผู้เยำว์ได้กระท
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำไปแล้วก่อนมี กำรบอกเลิ
สำนั กควำมยินยอมหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อเพิกถอนกำรอนุ
สำนักญ ำต
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๘ บุคคลวิกลจริตผู้ใด ถ้ำคู่สมรสก็ดี ผู้บุพกำรีกล่ำวคือ บิดำ มำรดำ ปู่ย่ำ
สำนักตำยำย ทวดก็ดี ผู้สืบสันกดำนกล่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำวคือ ลูสกำนัหลำน เหลน ลื่อก็ดี ผู้ปกครองหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อผู้พิทสักำนั
ษ์กก็ดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี ผู้ซึ่งปกครอง กำ
ดูแลบุ คคลนั้นอยู่ก็ดี หรือพนั กงำนอัยกำรก็ดี ร้องขอต่อศำลให้ สั่งให้บุคคลวิกลจริตผู้นั้นเป็นคนไร้
ควำมสำมำรถ ศำลจะสั ่งให้บุคคลวิกลจริตผู้นกั้นำเป็นคนไร้ควำมสำมำรถก็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บุคคลซึ่งศำลได้สั่งให้เป็นคนไร้ควำมสำมำรถตำมวรรคหนึ่ง ต้องจัดให้อยู่ในควำม
สำนักอนุ บำล กำรแต่งตั้งผู้อนุกำบำล อำนำจหน้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ของผู้อนุบำล และกำรสิ กำ ้นสุดของควำมเป็
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้อนุบำล ให้ กำ
เป็นไปตำมบทบัญญัติบรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมำยนี้
สคำนั
ำสัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของศำลตำมมำตรำนี้ กให้ำ ประกำศในรำชกิ สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำนุเบกษำ กำ

มำตรำกำ๒๙ กำรใด สๆำนัอักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บุคคลซึ่งศำลสั่ งให้เป็กนำคนไร้ควำมสำมำรถได้ กระทำลง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กำรนั้นเป็นโมฆียะสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๓๐ กำรใด ๆสำนัอันกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บุคคลวิกลจริตซึ่งศำลยักงำมิได้สั่งให้เป็นสคนไร้ ควำมสำมำรถ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ได้กระทำลง กำรนั้นจะเป็นโมฆียะต่อเมื่อได้กระทำในขณะที่บุคคลนั้นจริตวิกลอยู่ และคู่กรณีอีกฝ่ำย


สำนักหนึ ่งได้รู้แล้วด้วยว่ำผู้กระท
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำเป็นคนวิกลจริ
สำนักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๓๑ ถ้ำเหตุที่ทำให้กเป็ำ นคนไร้ควำมสำมำรถได้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ส้ินสุดไปแล้ว และเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่อบุคคล
ผู้นั้นเองหรือบุคคลใด ๆ ดังกล่ำวมำในมำตรำ ๒๘ ร้องขอต่อศำลก็ให้ศำลสั่งเพิกถอนคำสั่งที่ให้เป็นคน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ไร้ควำมสำมำรถนั้น
สคำนั
ำสัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของศำลตำมมำตรำนี้ กให้ำ ประกำศในรำชกิ
สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำนุเบกษำ กำ

มำตรำกำ๓๒ บุคคลใดมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยพิกำรหรือมีจิตฟั่นเฟืกำอนไม่สมประกอบ หรือประพฤติ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สุรุ่ยสุร่ำยเสเพลเป็นอำจิณ หรือติดสุรำยำเมำ หรือมีเหตุอื่นใดทำนองเดียวกันนั้น จนไม่สำมำรถจะ
จัดทำกำรงำนโดยตนเองได้ หรือจัดกิจกำรไปในทำงที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่อำจจะเสื ่อมเสียแก่ทรัพย์สินของตนเองหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อ
ครอบครัว เมื่อบุคคลตำมที่ระบุไว้ในมำตรำ ๒๘ ร้องขอต่อศำล ศำลจะสั่งให้บุคคลนั้นเป็นคนเสมือน
สำนักไร้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ควำมสำมำรถก็ได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บุคคลซึ่งศำลได้สั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ควำมสำมำรถตำมวรรคหนึ่ง ต้องจัดให้อยู่ใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมพิทักษ์ กำรแต่งตั้งผู้พิทักษ์ ให้เป็นไปตำมบทบัญญัติบรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมำยนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ให้นำบทบักำ ญญัติว่ำด้วสำนั
ยกำรสิ ้นสุดของควำมเป็นผูก้ปำ กครองในบรรพ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก๕งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แห่งประมวล กำ
กฎหมำยนี้ มำใช้บังคับแก่กำรสิ้นสุดของกำรเป็นผู้พิทักษ์โดยอนุโลม
สคำนั
ำสัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของศำลตำมมำตรำนี้ กให้ำ ประกำศในรำชกิ
สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำนุเบกษำ กำ

มำตรำกำ๓๓ ในคดีที่มสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ีกำรร้ องขอให้ศำลสั่งให้บุคคลใดเป็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นคนไร้คสวำมสำมำรถเพรำะ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
วิกลจริต ถ้ำทำงพิจำรณำได้ควำมว่ำบุคคลนั้นไม่วิกลจริต แต่มีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ เมื่อศำล
เห็นสมควรหรือเมืส่อำนัมีคกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำขอของคู่ควำมหรือของบุ
กำ คคลตำมที่ระบุ
สำนัไว้กใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นมำตรำ ๒๘ ศำลอำจสัก่งำให้บุคคลนั้น
เป็นคนเสมือนไร้ควำมสำมำรถก็ได้ หรือในคดีที่มีกำรร้องขอให้ศำลสั่งให้บุคคลใดเป็นคนเสมือนไร้
สำนักควำมสำมำรถเพรำะมี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีจกิตำฟั่นเฟือนไม่สสมประกอบ ถ้ำทำงพิจำรณำได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำควำมว่ำบุคคลนั
สำนั้นกวิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กลจริต เมื่อมี กำ
ค ำขอของคู่ ค วำมหรื อ ของบุ ค คลตำมที่ ระบุ ไว้ ในมำตรำ ๒๘ ศำลอำจสั่ งให้ บุ ค คลนั้ น เป็ น คนไร้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมสำมำรถก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๔ คนเสมือนไร้ควำมสำมำรถนั้น ต้องได้รับควำมยินยอมของผู้ พิทักษ์ก่อน
แล้วจึงจะทำกำรอย่สำนัำงหนึ ่งอย่ำงใดดังต่อไปนี้ไกด้ำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) นำทรัพย์สินไปลงทุน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี(๒) รับกคืำ นทรัพย์สินทีส่ไำนั
ปลงทุ น ต้นเงินหรือทุนอย่ำกงอื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) กู้ยืมหรือให้กู้ยืมเงิน ยืมหรือให้ยืมสังหำริมทรัพย์อันมีค่ำ
ส(๔)
ำนักรังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บประกันโดยประกำรใดกำ ๆ อันมีผลให้สตำนันต้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องถูกบังคับชำระหนี้ กำ
(๕) เช่ ำ หรื อ ให้ เช่ ำ สั ง หำริ ม ทรั พ ย์ มี ก ำหนดระยะเวลำเกิ น กว่ ำ หกเดื อ น หรื อ
สำนักอสั งหำริมทรัพย์มีกำหนดระยะเวลำเกิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นสกว่
ำนักำสำมปี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๖) ให้โดยเสน่หำ เว้นแต่กำรให้ที่พอควรแก่สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ฐำนำนุ รูป เพื่อกำรกุศล กำรสังคม หรือ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตำมหน้ำที่ธรรมจรรยำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี(๗) รับกกำรให้
ำ โดยเสน่สหำนัำทีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่มีเงื่อนไขหรือค่ำภำระติกดำพัน หรือไม่รับสำนั
กำรให้ โดยเสน่หำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๘) ทำกำรอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดเพื่อจะได้มำหรือปล่อยไปซึ่งสิทธิในอสังหำริมทรัพย์
สำนักหรื อในสังหำริมทรัพย์อันกมีำ ค่ำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๙) ก่อสร้ำงหรือดัดแปลงโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้ำงอย่ำงอื่น หรือซ่อมแซมอย่ำงใหญ่
ส(๑๐) เสนอคดีต่อศำลหรือกดำำเนินกระบวนพิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำรณำใด ๆ เว้นแต่กำรร้ กำ องขอตำม
มำตรำ ๓๕ หรือกำรร้องขอถอนผู้พิทักษ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑๑) ประนีประนอมยอมควำมหรือมอบข้อพิพำทให้อนุญำโตตุลำกำรวินิจฉัย
สถ้ำนั
ำมีกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รณี อื่ น ใดนอกจำกที่กกำล่ ำวในวรรคหนึ
สำนั่ งกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ซึ่ งคนเสมื อ นไร้ค วำมสำมำรถอำจ
กำ
จัดกำรไปในทำงเสื่อมเสียแก่ทรัพย์สินของตนเองหรือครอบครัว ในกำรสั่งให้บุคคลใดเป็นคนเสมือนไร้
สำนักควำมสำมำรถ หรือเมื่อกผูำ้พิทักษ์ร้องขอในภำยหลั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ง ศำลมีอำนำจสัก่งำให้คนเสมือนไร้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ควำมสำมำรถนั
สำนั ้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ต้องได้รับควำมยินยอมของผู้พิทักษ์ก่อนจึงจะทำกำรนั้นได้
สในกรณี ที่คนเสมือนไร้ควำมสำมำรถไม่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำมำรถจะท ำกำรอย่ำงหนึ่งอย่ำกงใดที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่กล่ำวมำ
ในวรรคหนึ่งหรือวรรคสองได้ด้วยตนเอง เพรำะเหตุมีกำยพิกำรหรือมีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ ศำล
สำนักจะสั ่งให้ผู้พิทักษ์เป็นผู้มกีอำำนำจกระทำกำรนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นแทนคนเสมือนไร้ควำมสำมำรถก็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ได้ สในกรณี เช่นนี้ ให้นำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บทบัญญัติที่เกี่ยวกับผู้อนุบำลมำใช้บังคับแก่ผู้พิทักษ์โดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คำสั่งของศำลตำมมำตรำนี้ ให้ประกำศในรำชกิ จจำนุเบกษำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรใดกระทกำ ำลงโดยฝ่สำำนั ฝืนกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บทบัญญัติมำตรำนี้ กำรนั กำ ้นเป็นโมฆียะสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๓๕ ในกรณีที่ผู้พิทกักำษ์ไม่ยินยอมให้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัคกนเสมื อนไร้ควำมสำมำรถกระท
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำกำร
อย่ำงหนึ่งอย่ำงใดตำมมำตรำ ๓๔ โดยปรำศจำกเหตุผลอันสมควร เมื่อคนเสมือนไร้ควำมสำมำรถร้อง
สำนักขอ ศำลจะมีคำสั่งอนุญกำตให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ กระทำกำรนั
สำนั้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โดยไม่ต้องรับควำมยินกยอมจำกผู
ำ ้พิทักสษ์ำนัก็ไกด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถ้ำกำรนั้นจะ กำ
เป็นคุณประโยชน์แก่คนเสมือนไร้ควำมสำมำรถ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๖ ถ้ำเหตุที่ศำลได้สั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ควำมสำมำรถได้สิ้นสุดไปแล้ว ให้
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำบทบัญญัติมำตรำ ๓๑กำมำใช้บังคับโดยอนุ โลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ภูมิลำเนำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๗ ภูมิล ำเนำของบุคคลธรรมดำ ได้แก่ถิ่นอันบุคคลนั้นมีสถำนที่อยู่เป็น
สำนักแหล่ งสำคัญ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๓๘ ถ้ำบุคคลธรรมดำมี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ถิ่นที่อยู่หลำยแห่ งซึ่งอยู่สับเปลี่ยนกันกไปหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อมีหลัก
แหล่งที่ทำกำรงำนเป็นปกติหลำยแห่ง ให้ถือเอำแห่งใดแห่งหนึ่งเป็นภูมิลำเนำของบุคคลนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๙ ถ้ำภูมิลำเนำไม่ปรำกฏ ให้ถือว่สำำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถิ่นกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อยู่เป็นภูมิลำเนำ กำ

มำตรำกำ๔๐ บุคคลธรรมดำซึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งเป็นผู้ไม่มีที่อยู่ปกติกเำป็นหลักแหล่งสหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นผู้ครองชีพ กำ
- ๑๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ในกำรเดินทำงไปมำปรำศจำกหลักแหล่งที่ทำกำรงำน พบตัวในถิ่นไหนให้ถือว่ำถิ่นนั้นเป็นภูมิลำเนำ
สำนักของบุ คคลนั้น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๔๑ ภูมิลำเนำย่อมเปลี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ยนไปด้วยกำรย้
สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยถิ่นที่อยู่ พร้อมด้วยเจตนำปรำกฏ
กำ
ชัดแจ้งว่ำจะเปลี่ยนภูมิลำเนำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๔๒ ถ้ำบุคคลใดได้กเลืำ อกเอำถิ่นใดสำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี โดยมี เจตนำปรำกฏชัดแจ้งกว่ำ ำจะให้เป็น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ภูมิลำเนำเฉพำะกำรเพื่อทำกำรใด ให้ถือว่ำถิ่นนั้นเป็นภูมิลำเนำเฉพำะกำรสำหรับกำรนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๓ ภู มิ ล ำเนำของสำมี และภริยำ ได้ แก่ ถิ่ น ที่ อ ยู่ ที่ ส ำมี และภริยำอยู่ กิ น
ด้วยกันฉันสำมีภริสยำนัำ กเว้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นแต่สำมีหรือภริยำได้แกำสดงเจตนำให้ปสำนั
รำกฏว่ ำมีภูมิลำเนำแยกต่ำกงหำกจำกกั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ น

มำตรำกำ๔๔ ภูมิลำเนำของผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้เยำว์ ได้แก่ภูมิลำเนำของผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้แทนโดยชอบธรรมซึ ่งเป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้ใช้อำนำจปกครองหรือผู้ปกครอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่ผู้เยำว์อยู่ใต้อำนำจปกครองของบิสดำนัำมำรดำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำบิดำและมำรดำมีภูมิลำเนำ
สำนักแยกต่ ำงหำกจำกกัน ภูมกิลำำเนำของผู้เยำว์
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แก่ภูมิลำเนำของบิดำหรืกำอมำรดำซึ่งตนอยู
สำนั่ดก้วงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย กำ

สมำตรำ ๔๕ ภูมิลำเนำของคนไร้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ควำมสำมำรถ
สำนักได้ แก่ภูมิลำเนำของผู้อนุกบำำล
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๔๖ ภูมิลำเนำของข้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำรำชกำร ได้แก่ถิ่นอักนำ เป็นที่ทำกำรตำมต
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำแหน่งหน้ำที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หำกมิใช่เป็นตำแหน่งหน้ำที่ชั่วครำวชั่วระยะเวลำหรือเป็นเพียงแต่งตั้งไปเฉพำะกำรครั้งเดียวครำวเดียว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๗ ภูมิลำเนำของผู้ที่ถูกจำคุกตำมคำพิพำกษำถึงที่สุ ดของศำลหรือตำม
สำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมำย
กำ ได้แก่เรือนจ ำหรื
สำนั อทัณฑสถำนที่ถูกจำคุกกำอยู่ จนกว่ำจะได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัรกับงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรปล่อยตัว กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำบสูญ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๘ ถ้ำบุ คคลใดไปเสียจำกภูมิลำเนำหรือถิ่นที่อยู่โดยมิได้ตั้งตัวแทนผู้รับ
สำนักมอบอ ำนำจทั่วไปไว้ และไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มีใครรู้แน่วส่ำำนั
บุคกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คลนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือกไม่ำ เมื่อผู้มีส่วนได้
สำนัเสีกยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือพนักงำน กำ
อัยกำรร้องขอ ศำลจะสั่งให้ทำกำรอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดไปพลำงก่อนตำมที่จำเป็นเพื่อจัดกำรทรัพย์สิน
ของบุคคลผู้ไม่อยูส่นำนัั้นก็กไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่อเวลำได้ล่วงเลยไปหนึ่งปีนับแต่วันที่ผู้ไม่อยู่นั้นไปเสียจำกภูมิลำเนำหรือถิ่นที่อยู่
สำนักและไม่ มีผู้ใดได้รับข่ำวเกีกำ่ยวกับบุคคลนัส้นำนัประกำรใดเลยก็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดี หรือหนึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่งปีนับแต่วันมีสผำนัู้ได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พบเห็นหรือได้ กำ
ทรำบข่ำวมำเป็นสครัำนั้งกหลั งสุดก็ดี เมื่อบุคคลตำมวรรคหนึ่งร้อสงขอ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ศำลจะตั้งผู้จัดกำรทรัพย์สินของผู้ไม่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อยู่ขึ้นก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๔๙ ในกรณี ที่ผู้ ไม่อยู่ได้ตั้งตัวแทนผู้ รับ มอบอำนำจทั่ วไปไว้ และสั ญ ญำ


สำนักตังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วแทนระงับสิ้นไป หรืกอำปรำกฏว่ำตัวสแทนผู ้รับมอบอำนำจทั่วไปได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำจัดกำรทรัพย์สสำนั
ินนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นในลักษณะที่ กำ
อำจเสียหำยแก่บุคคลดังกล่ำว ให้นำมำตรำ ๔๘ มำใช้บังคับโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๐ เมื่อผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงำนอัยกำรร้องขอ ศำลจะสั่งให้ตัวแทนผู้รับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มอบอำนำจทั่วไปจัดทำบัญชีทรัพย์สินของผู้ไม่อยู่ขึ้นตำมที่ศำลจะมีคำสั่งก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๑ ภำยใต้บังคับมำตรำ ๘๐๒ ถ้ำตัวแทนผู้รับมอบอำนำจทั่วไปเห็นเป็น
สำนักกำรจ ำเป็นจะต้องทำกำรอั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นใดอันหนึ่งสเกิำนันกขอบอ ำนำจที่ได้รับไว้ ต้กอำงขออนุญำตต่สอำนัศำล
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี และเมื่อศำล
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สั่งอนุญำตแล้วจึงจะกระทำกำรนั้นได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๒ ผู้จัดกำรทรัพย์สินที่ศำลได้ตั้ งขึ้น ต้องทำบัญชีทรัพย์สินของผู้ไม่อยู่ให้
สำนักเสร็ จภำยในสำมเดือนนักบำแต่วันทรำบคสำสั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนั่งกตังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้งของศำล แต่ผู้จัดกำรทรั
กำ พย์สินจะร้อสงขอต่ อศำลให้ขยำย
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เวลำก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๕๓ บัญชีทรัสพำนัย์กสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ินตำมมำตรำ ๕๐ และมำตรำ
กำ ๕๒ ต้อสงมี
ำนักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยำนลงลำยมือ กำ
ชื่อรับ รองควำมถูกต้องอย่ำงน้ อยสองคน พยำนสองคนนั้นต้องเป็นคู่สมรสหรือญำติของผู้ไม่อยู่ซึ่ง
บรรลุนิติภำวะแล้สวำนัแต่ ถ้ำไม่มีคู่สมรสหรือหำญำติ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ไม่ได้ หรือสคูำนั
่สมรสและญำติ ไม่ยอมเป็นกพยำน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ จะให้
ผู้อื่นซึ่งบรรลุนิติภำวะแล้วเป็นพยำนก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๔ ผู้จัดกำรทรัพย์สินมีอำนำจหน้ำที่อย่ำงเดียวกับตัวแทนผู้รับมอบอำนำจ
ทัว่ ไปตำมมำตรำ ส๘๐๑ และมำตรำ ๘๐๒ ถ้ำผูกำ้จัดกำรทรัพย์สสินำนัเห็กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นเป็นกำรจำเป็นจะต้อกงทำ ำกำรอันใด
อันหนึ่งเกินขอบอำนำจ ต้องขออนุญำตต่อศำล และเมื่อศำลสั่งอนุญำตแล้วจึงจะกระทำกำรนั้นได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๕ ถ้ำผู้ ไม่อยู่ได้ตั้งตัวแทนผู้รับมอบอำนำจเฉพำะกำรอันใดไว้ ผู้จัดกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทรัพย์สินจะเข้ำไปเกี่ยวข้องกับกำรอันเป็นอำนำจเฉพำะกำรนั้นไม่ได้ แต่ถ้ำปรำกฏว่ำกำรที่ตัวแทน
สำนักจังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดทำอยู่นั้นอำจจะเสียหำยแก่
กำ ผู้ไม่อยู่ ผูสำนั
้จัดกกำรทรั พย์สินจะร้องขอให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำศำลถอดถอนตัสำนั
วแทนนั ้นเสียก็ได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สมำตรำ ๕๖ เมื่อผู้มีส่วนได้เกสีำยหรือพนักงำนอั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรร้องขอ หรือเมื่อศำลเห็
กำ นสมควร
ศำลอำจสั่งอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดดังต่อไปนี้
(๑) ให้กผำ ู้ จัดกำรทรัพสย์ำนัสิ นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หำประกันอันสมควรในกำรจั กำ ดกำรทรัสำนั
พย์กสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิ นของผู้ ไม่อยู่ กำ
ตลอดจนกำรมอบคืนทรัพย์สินนั้น
ส(๒)
ำนักให้ ผู้จัดกำรทรัพย์สินแถลงถึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งควำมเป็นสอยู
ำนั่แกห่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งทรัพย์สินของผู้ไม่อยู่กำ
(๓) ถอดถอนผู้จัดกำรทรัพย์สิน และตั้งผู้อื่นให้เป็นผู้จัดกำรทรัพย์สินแทนต่อไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๗ ในคำสั่งตั้งผู้จัดกำรทรัพย์สินสำนัศำลจะก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำหนดบำเหน็จให้ แก่ผู้จัดกำร
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทรัพย์สินโดยจ่ำยจำกทรัพย์สินของผู้ไม่อยู่นั้นก็ได้ ถ้ำศำลมิได้กำหนด ผู้จัดกำรทรัพย์สินจะร้องขอต่อ
สำนักศำลให้ กำหนดบำเหน็จในภำยหลั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งก็ได้สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ถ้ำผู้จัดกำรทรัพย์สิน หรือผู้มีส่วนได้เสีย หรือพนักงำนอัยกำรร้องขอ หรือเมื่อมีกรณี


สำนักปรำกฏแก่ ศ ำลว่ำ พฤติกกำ ำรณ์ เกี่ ย วกัสบำนักำรจั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ด กำรทรัพ ย์สิ น ได้เปลี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ ย นแปลงไปสำนั
ศำลจะสั ่ งก ำหนด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บำเหน็จ งด ลด เพิ่ม หรือกลับให้บำเหน็จแก่ผู้จัดกำรทรัพย์สินอีกก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๘ ควำมเป็นผู้จัดกำรทรัพย์สินย่อมสิ้นสุดลงในกรณี ดังต่อไปนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ผู้ไม่อยู่นั้นกลับมำ
ส(๒)
ำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ไม่อยู่นั้นมิได้กลับมำแต่กำได้จัดกำรทรัพสำนั
ย์สกินงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือตั้งตัวแทนเพื่อจัดกกำรทรั
ำ พย์สิน
ของตนแล้ว
(๓) ผู้ไกม่ำอยู่ถึงแก่ควำมตำยหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อศำลมีคำสั่งให้เป็นกคนสำบสู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ญ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ผู้จัดกำรทรัพย์สินลำออกหรือถึงแก่ควำมตำย
ส(๕)
ำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้จัดกำรทรัพย์สินเป็นคนไร้
กำ ควำมสำมำรถหรื อคนเสมือนไร้ควำมสำมำรถ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๖) ผู้จัดกำรทรัพย์สินเป็นบุคคลล้มละลำย
(๗) ศำลถอดถอนผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้จัดสกำรทรั พย์สิน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๙ ในกรณีที่ควำมเป็นผู้จัดกำรทรั พย์สินสิ้นสุดลงเพรำะเหตุตำมมำตรำ
สำนัก๕๘ (๔) (๕) หรือ (๖) ผูก้จำัดกำรทรัพย์สสินำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หรืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทำยำทของผู้จัดกำรทรักำพย์สิน ผู้จัดกำรมรดก ผู้อนุบำล ผู้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พิทักษ์ เจ้ำพนักงำนพิทักษ์ทรัพย์ หรือผู้ มีหน้ำที่ดูแลทรัพย์สินของผู้ จัดกำรทรัพย์สิน แล้วแต่กรณี
จะต้ อ งแถลงให้ ศสำลทรำบถึ งควำมสิ้ น สุ ด นัก้ นำโดยไม่ ชั ก ช้ ำสเพื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนั่ อกศำลจะได้ มี ค ำสั่ งเกี่ ย วกั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บ ผู้ จั ด กำร
ทรัพย์สินต่อไปตำมที่เห็นสมควร ในระหว่ำงเวลำดังกล่ำวนั้น บุคคลดังกล่ำวจะต้องจัดกำรตำมควรแก่
สำนักพฤติ กำรณ์เพื่อรักษำประโยชน์
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ของผู้ไม่สอำนัยูก่ จนกว่ ำจะได้ส่งมอบทรักพำย์สินของผู้ไม่สอำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยู่ใกห้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แก่บุคคลหนึ่ง กำ
บุคคลใดตำมที่ศำลจะได้มีคำสั่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๐ ให้นำบทบัญญัติว่ำด้วยตัวแทนแห่งประมวลกฎหมำยนี้ มำใช้บังคั บแก่
สำนักกำรจั ดกำรทรัพย์สินของผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ้ไม่อยู่โดยอนุสโลม
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๑ ถ้ำบุคคลใดได้ไปจำกภูมิลำเนำหรือถิ่นที่อยู่ และไม่มีใครรู้แน่ว่ำบุคคล
สำนักนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ตกลอดระยะเวลำห้
ำ สำนัำปีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เมื่อผู้มีส่วนได้เสียหรือกพนั
ำ กงำนอัยกำรร้สำนัอกงขอ ศำลจะสั่ง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ให้บุคคลนั้นเป็นคนสำบสูญก็ได้
สระยะเวลำตำมวรรคหนึ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งให้ลกดเหลื
ำ อสองปี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) นับแต่วันที่กำรรบหรือสงครำมสิ้นสุดลง ถ้ำบุคคลนั้นอยู่ในกำรรบหรือสงครำม
สำนักและหำยไปในกำรรบหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกอำสงครำมดังกล่สำำนั ว กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) นับแต่วันที่ยำนพำหนะที่บุคคลนั้นเดินทำง อับปำง ถูกทำลำย หรือสูญหำยไป
ส(๓)
ำนักนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บแต่วันที่เหตุอันตรำยแก่กำ ชีวิตนอกจำกที สำนัก่ รงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ะบุไว้ใน (๑) หรือ (๒) กได้ำ ผ่ำนพ้นไป
ถ้ำบุคคลนั้นตกอยู่ในอันตรำยเช่นว่ำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๒ บุคคลซึ่งศำลได้มีคำสั่งให้เป็นสคนสำบสู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ญ ให้ถือว่ำถึงแก่ควำมตำยเมื่อ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ครบกำหนดระยะเวลำดังที่ระบุไว้ในมำตรำ ๖๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๖๓ เมื่อบุคคลผู้ถูกศำลสั่งให้เป็นคนสำบสูญนั้นเองหรือผู้ มีส่วนได้เสียหรือ


สำนักพนั กงำนอัยกำรร้องขอต่กอำศำล และพิสูจสน์ำนัได้กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ำบุคคลผู้ถูกศำลสั่งให้เกป็ำนคนสำบสูญนัสำนั
้นยักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คงมีชีวิตอยู่ก็ดี กำ
หรื อ ว่ำตำยในเวลำอื่น ผิ ดไปจำกเวลำดังระบุ ไว้ในมำตรำ ๖๒ ก็ดี ให้ ศำลสั่ งถอนค ำสั่ งให้ เป็ น คน
สำบสูญนั้น แต่กำรถอนค ำสั่งนี้ย่อมไม่กระทบกระเทื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อนถึงควำมสมบู รณ์แห่งกำรทั้งหลำยอั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นได้ทำไป
โดยสุจริตในระหว่ำงเวลำตั้งแต่ศำลมีคำสั่งให้เป็นคนสำบสูญจนถึงเวลำถอนคำสั่งนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บุคคลผู้ได้ทรัพย์สินมำเนื่องแต่กำรที่ศำลสั่งให้บุคคลใดเป็นคนสำบสูญ แต่ต้องเสีย
สิทธิของตนไปเพรำะศำลสั ่งถอนคำสั่งให้บุคคลนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นเป็นคนสำบสู
สำนัญกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้นำบทบัญญัติว่ำด้วยลำภมิ
กำ ควรได้
แห่งประมวลกฎหมำยนี้มำใช้บังคับโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๔ คำสั่งศำลให้เป็นคนสำบสูญหรือคำสั่งถอนคำสั่งให้เป็นคนสำบสูญ
ให้ประกำศในรำชกิ
สำนัจกจำนุ เบกษำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นิติบุคคล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


ส่วนที่ ๑
บทเบ็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดเสร็จทั่วไป สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๖๕ นิติบุคคลจะมีขึ้นได้ก็แต่ด้วยอำศัยอำนำจแห่งประมวลกฎหมำยนี้หรือ
กฎหมำยอื่น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๖๖ นิติบุคคลย่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัอกมมี สิทธิและหน้ำที่ตำมบทบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัติแห่งสประมวลกฎหมำยนี ้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หรื อกฎหมำยอื่ น ภำยในขอบแห่ งอำนำจหน้ ำที่ ห รือวั ตถุ ป ระสงค์ ดังได้ บั ญ ญั ติ ห รือ กำหนดไว้ ใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กฎหมำย ข้อบังคับ หรือตรำสำรจัดตั้ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๗ ภำยใต้บังคับมำตรำ ๖๖ นิติบุคคลย่อมมีสิทธิและหน้ำที่เช่นเดียวกับ
บุคคลธรรมดำ เว้สนำนั
แต่กสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิทธิและหน้ำที่ซึ่งโดยสภำพจะพึ
กำ งมีพึงสเป็ำนันกได้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เฉพำะแก่บุคคลธรรมดำเท่
กำ ำนั้น

มำตรำกำ๖๘ ภูมิลำเนำของนิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ติบุคคลได้แก่ถิ่นอันกเป็ำ นที่ตั้งสำนักสงำนใหญ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หรือถิ่นอัน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เป็นที่ตั้งที่ทำกำร หรือถิ่นที่ได้เลือกเอำเป็นภูมิลำเนำเฉพำะกำรตำมข้อบังคับหรือตรำสำรจัดตั้ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๙ ในกรณีที่นิติบุค คลมีที่ตั้งที่ทำกำรหลำยแห่งหรือมีสำนัก งำนสำขำ
สำนักให้ ถือว่ำถิ่นอันเป็นที่ตั้งกของที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่ทำกำรหรืสอำนัของส ำนักงำนสำขำเป็นภูกมำิลำเนำในส่วนกิสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี จกำรอั นได้กระทำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ณ ที่นั้นด้วย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๗๐ นิ ติบุ คสคลต้


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งมี ผู้ แ ทนคนหนึ่ งหรืกอำหลำยคน ทั้ งสนีำนั้ กตำมที ่ ก ฎหมำย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ข้อบังคับ หรือตรำสำรจัดตั้งจะได้กำหนดไว้
ควำมประสงค์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ของนิตสิบำนัุคกคลย่ อมแสดงออกโดยผู้แกทนของนิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ติบุคคล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๗๑ ในกรณีที่นิติบุคกคลมี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ผู้แทนหลำยคน กำรดำเนินกิจกำรของนิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ติบุคคลให้
เป็นไปตำมเสียงข้ำงมำกของผู้แทนของนิติบุคคลนั้น เว้นแต่จะได้มีข้อกำหนดไว้เป็นประกำรอื่นใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กฎหมำย ข้อบังคับ หรือตรำสำรจัดตั้ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๒ กำรเปลี่ ย นตั ว ผู้ แ ทนของนิ ติ บุ ค คล หรื อ กำรจ ำกั ด หรื อ แก้ ไ ข
สำนักเปลี ่ยนแปลงอำนำจของผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้แทนของนิตสิบำนัุคคล ให้มีผลต่อเมื่อได้ปฏิบกัตำ ิตำมกฎหมำยสำนัข้อกบังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งคับหรือตรำ กำ
สำรจัดตั้งแล้ว แต่จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภำยนอกผู้กระทำกำรโดยสุจริตมิได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๓ ถ้ำมีตำแหน่งว่ำงลงในจำนวนผู้แทนของนิติบุคคล และมีเหตุอันควรเชื่อ
สำนักว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำกำรปล่อยตำแหน่งว่ำกงไว้
ำ น่ำจะเกิดควำมเสี ยหำยขึ้นได้ เมื่อผู้มีสก่วำนได้เสียหรือพนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักกงำนอั ยกำรร้อง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ขอศำลจะแต่งตั้งผู้แทนชั่วครำวขึ้นก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๗๔ ถ้ำประโยชน์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ได้เสียของนิติบุคคลขัดกกัำบประโยชน์ได้สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เสียกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของผู้แทนของ กำ
นิติบุคคลในกำรอันใด ผู้แทนของนิติบุคคลนั้นจะเป็นผู้แทนในกำรอันนั้นไม่ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๕ ถ้ำกรณีตำมมำตรำ ๗๔ เป็นเหตุให้ไม่มีผู้แทนของนิติบุคคลเหลืออยู่
สำนักหรื อผู้แทนของนิติบุคคลที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่เหลืออยู่มีจำนวนไม่ พอจะเป็นองค์ประชุมกำหรือไม่พอจะกระท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำกำรอันนั้นได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หำกกฎหมำย ข้อบังคับ หรือตรำสำรจัดตั้งของนิติบุคคลนั้น มิได้มีข้อกำหนดในเรื่องนี้ไว้เป็นอย่ำงอื่น
ให้นำควำมในมำตรำสำนัก๗๓ มำใช้บังคับเพื่อตั้งผูก้แำทนเฉพำะกำรโดยอนุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี โลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๗๖ ถ้ำกำรกระท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักำตำมหน้ ำที่ของผู้แทนของนิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ติบุคคลหรืสำนั
อผูก้มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ีอำนำจทำกำร กำ
แทนนิ ติบุ คคล เป็ น เหตุให้ เกิดควำมเสี ยหำยแก่บุคคลอื่น นิติบุคคลนั้นต้องรับ ผิดชดใช้ค่ำสิ นไหม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทดแทนเพื่อควำมเสียหำยนั้น แต่ไม่สูญเสียสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอำแก่ผู้ก่อควำมเสียหำย
ถ้ำควำมเสี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยหำยแก่บสำนั ุ คคลอื ่นเกิดจำกกำรกระทกำที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่ ไม่ อยู่ในขอบวั
สำนัตกถุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ประสงค์หรือ กำ
อำนำจหน้ำที่ของนิติบุคคล บรรดำบุคคลดังกล่ำวตำมวรรคหนึ่งที่ได้เห็นชอบให้กระทำกำรนั้นหรือได้
เป็นผู้กระทำกำรดัสงำนักล่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำว ต้องร่วมกันรับผิดชดใช้
กำ ค่ำสินไหมทดแทนแก่ ผู้ที่ได้รับควำมเสียหำยนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้น

มำตรำกำ๗๗ ให้นำบทบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัญกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญัติว่ำด้วยตัวแทนแห่งกประมวลกฎหมำยนี
ำ สำนัก้ งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มำใช้บังคับแก่ กำ
ควำมเกี่ยวพันระหว่ำงนิติบุ คคลกับ ผู้แทนของนิติบุคคล และระหว่ำงนิติบุคคล หรือผู้แทนของนิติ
บุคคลกับบุคคลภำยนอก โดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำคม สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


- ๑๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๗๘ กำรก่อตั้งสมำคมเพื่อกระทำกำรใด ๆ อันมีลักษณะต่อเนื่องร่วมกันและ


สำนักมิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ใช่เป็นกำรหำผลกำไรหรื
กำ อรำยได้มำแบ่
สำนังกปังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นกัน ต้องมีข้อบังคับและจดทะเบี
กำ ยนตำมบทบั ญญัติแห่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประมวลกฎหมำยนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๙ ข้อบังคับของสมำคมอย่ำงน้อยต้องมีรำยกำร ดังต่อไปนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ชื่อสมำคม
ส(๒)
ำนักวังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตถุประสงค์ของสมำคมกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ที่ตั้งสำนักงำนใหญ่ และที่ตั้งสำนักงำนสำขำทั้งปวง
(๔) วิธกีรำับสมำชิก และกำรขำดจำกสมำชิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กภำพ กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) อัตรำค่ำบำรุง
ส(๖)
ำนักข้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อกำหนดเกี่ยวกับคณะกรรมกำรของสมำคม
กำ ได้แก่ จำนวนกรรมกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กำรตั้ง
กรรมกำร วำระกำรดำรงตำแหน่งของกรรมกำร กำรพ้นจำกตำแหน่งของกรรมกำร และกำรประชุม
สำนักของคณะกรรมกำร
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๗) ข้อกำหนดเกี่ยวกับกำรจัดกำรสมำคม กำรบัญชี และทรัพย์สินของสมำคม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๘) ข้อกำหนดเกี่ยวกับกำรประชุมใหญ่ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๐ สมำคมต้องใช้ชื่อซึ่งมีคำว่ำ “สมำคม” ประกอบกับชื่อของสมำคม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๑ กำรขอจดทะเบียนสมำคมนั้น ให้ผู้จะเป็นสมำชิกของสมำคมจำนวนไม่
สำนักน้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อยกว่ำสำมคน ร่วมกันกำยื่นคำขอเป็นสหนัำนังกสืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อต่อนำยทะเบียนแห่งกท้ำองที่ที่ สำนักงำนใหญ่ ของสมำคม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จะตั้งขึ้น พร้อมกับแนบข้อบังคับของสมำคม รำยชื่อ ที่อยู่ และอำชีพของผู้จะเป็นสมำชิกไม่น้อยกว่ำ
สิบคน และรำยชื่อสำนัทีก่องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยู่และอำชีพของผู้จะเป็กนำกรรมกำรของสมำคมมำกั บคำขอด้วย กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๘๒ เมื่อนำยทะเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยนได้รับคำขอจดทะเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำยนพร้อมทั้งข้สอำนับักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คับแล้วเห็ นว่ำ กำ
คำขอนั้นถูกต้องตำมมำตรำ ๘๑ และข้อบังคับถูกต้องตำมมำตรำ ๗๙ และวัตถุประสงค์ของสมำคมไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ขัดต่อกฎหมำยหรือศีลธรรมอันดีของประชำชน หรือไม่เป็นภยันตรำยต่อควำมสงบสุขของประชำชน
สำนักหรื อควำมมั่นคงของรัฐกและรำยกำรซึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ส่งำนั
จดแจ้ งในคำขอหรือข้อบังกคัำบสอดคล้องกัสบำนัวัตกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถุประสงค์ของ กำ
สมำคม และผู้จะเป็นกรรมกำรของสมำคมนั้นมีฐำนะและควำมประพฤติเหมำะสมในกำรดำเนินกำร
ตำมวัตถุประสงค์สขำนัองสมำคม ให้นำยทะเบียนรั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บจดทะเบียนและออกใบส ำคัญแสดงกำรจดทะเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยน
ให้แก่สมำคมนั้น และประกำศกำรจัดตั้งสมำคมในรำชกิจจำนุเบกษำ
ถ้ำนำยทะเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยนเห็นว่สำำนั คำขอหรื อข้อบังคับไม่ถูกต้กอำงตำมมำตรำ ส๘๑
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักหรื อมำตรำ ๗๙
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หรือรำยกำรซึ่งจดแจ้งในคำขอหรือข้อบังคับไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของสมำคม หรือผู้จะเป็น
กรรมกำรของสมำคมมี ฐำนะหรือควำมประพฤติ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ไม่เหมำะสมในกำรด ำเนินกำรตำมวัตถุกปำระสงค์ของ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สมำคม ให้ มี ค ำสั่ ง ให้ ผู้ ยื่ น ค ำขอจดทะเบี ย นแก้ ไขหรื อ เปลี่ ย นแปลงให้ ถู ก ต้ อ ง เมื่ อ แก้ ไขหรื อ
สำนักเปลี ่ยนแปลงถูกต้องแล้วกำให้รับจดทะเบีสยำนันและออกใบส
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำคัญแสดงกำรจดทะเบี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยนให้
สำนัแกก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สมำคมนั้น กำ
ถ้ำนำยทะเบียนเห็นว่ำไม่อำจรับจดทะเบียสนได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เนื่องจำกวัตถุประสงค์ของสมำคมขัด
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ต่อกฎหมำยหรือศีลธรรมอันดีของประชำชน หรืออำจเป็นภยันตรำยต่อควำมสงบสุขของประชำชน
สำนักหรื อควำมมั่นคงของรัฐ กหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อผู้ยื่นคำขอจดทะเบี ยนไม่แก้ไขหรือเปลีกำ่ยนแปลงให้ถูกสต้ำนัอกงภำยในสำมสิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

วันนับแต่วันที่ทรำบคำสั่งของนำยทะเบียน ให้นำยทะเบียนมีคำสั่งไม่รับจดทะเบียนและแจ้งคำสั่ง
สำนักพร้ อมด้วยเหตุผลที่ไม่รับกจดทะเบี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ยนไปยัสำนั
งผูก้ยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ื่นคำขอจดทะเบียนโดยมิ กำ ชักช้ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งไม่รับจดทะเบียนนั้นต่อรัฐมนตรีว่ำกำร
กระทรวงมหำดไทยำนัโดยท
ส ำเป็นหนังสือยื่นต่อกนำยทะเบี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ยนภำยในสำมสิ บวันนับแต่วันที่ได้กรำ ับแจ้งคำสั่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไม่รับกำรจดทะเบียน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้ รั ฐ มนตรี ว่ ำ กำรกระทรวงมหำดไทยวิ นิ จ ฉั ย อุ ท ธรณ์ และแจ้ งค ำวิ นิ จ ฉั ย ให้ ผู้
อุ ท ธรณ์ ท รำบภำยในเก้ ำ สิ บ วั น นั บ แต่ วั น ทีกำ่ น ำยทะเบี ย นได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักรงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ั บ หนั ง สื อ อุ ท ธรณ์ ค ำวิ
กำนิ จ ฉั ย ของ
รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงมหำดไทยให้เป็นที่สุด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๓ สมำคมที่ได้จดทะเบียนแล้วเป็นนิติบุคคล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๔ กำรแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมำคมจะกระทำได้ก็แต่โดยมติของที่
สำนักประชุ มใหญ่ และสมำคมต้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องนำข้อบังคัสบำนัทีก่ไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้แก้ไขเพิ่มเติมไปจดทะเบี
กำ ยนต่อนำยทะเบี
สำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นแห่งท้องที่ที่ กำ
สำนักงำนใหญ่ของสมำคมตั้งอยู่ภำยในสิบสี่วันนับแต่วันที่ได้ลงมติและให้นำควำมในมำตรำ ๘๒ มำใช้
บังคับโดยอนุโลมสเมืำนั่อกนำยทะเบี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ยนได้จดทะเบียนแล้วให้มีผลใช้ บังคับได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๕ กำรแต่งตั้งกรรมกำรของสมำคมขึ้นใหม่ทั้งชุดหรือกำรเปลี่ยนแปลง
กรรมกำรของสมำคม ให้กระทำตำมข้อบังคับกำของสมำคม และสมำคมต้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องนำไปจดทะเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยนต่อนำย
ทะเบียนแห่งท้องที่ที่สำนักงำนใหญ่ของสมำคมตั้งอยู่ภำยในสำมสิบวันนับแต่วันที่มีกำรแต่งตั้งหรือ
สำนักเปลี ่ยนแปลงกรรมกำรของสมำคม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำนำยทะเบี ยนเห็น ว่ ำกรรมกำรของสมำคมตำมวรรคหนึ่งผู้ใด มีฐำนะหรือควำม
ประพฤติไม่เหมำะสมในกำรด ำเนินกำรตำมวัตกถุำ ประสงค์ของสมำคม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นำยทะเบียนจะไม่รกับำจดทะเบียน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กรรมกำรของสมำคมผู้นั้นก็ได้ ในกรณีที่นำยทะเบียนไม่รับจดทะเบียนกรรมกำรของสมำคม นำย
สำนักทะเบี ยนต้องแจ้งเหตุผลที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ไม่รับจดทะเบี สำนัยกนให้ สมำคมทรำบภำยในหกสิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บวันนับแต่ สำนัวกันงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ที่ยื่นคำขอจด กำ
ทะเบียน และให้นำควำมในมำตรำ ๘๒ วรรคสี่และวรรคห้ำ มำใช้บังคับโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในระหว่ำงที่ยังไม่มีกำรจดทะเบียนกรรมกำรของสมำคมชุดใหม่ ถ้ำข้อบังคับของ
สำนักสมำคมมิ ได้กำหนดไว้เป็กนำ อย่ำงอื่น ให้กสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รรมกำรของสมำคมชุ ดเดิมกปฏิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บัติหน้ำที่กรรมกำรของสมำคม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ต่อไปจนกว่ำจะได้มีกำรจดทะเบียนกรรมกำรของสมำคมชุดใหม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๖ คณะกรรมกำรของสมำคมเป็นผู้ดำเนินกิจกำรของสมำคมตำมกฎหมำย
สำนักและข้ อบังคับ ภำยใต้กำรควบคุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มดูแลของที
สำนัก่ปงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระชุมใหญ่ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๘๗ คณะกรรมกำรของสมำคมเป็
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สนำนั
ผู้แกทนของสมำคมในกิ จกำรอั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นเกี่ยวกับ
บุคคลภำยนอก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๘ บรรดำกิจกำรที่คณะกรรมกำรของสมำคมได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กระทำไป แม้จะปรำกฏใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ภำยหลังว่ำมีข้อบกพร่องเกี่ยวกับกำรตั้งหรือคุณสมบัติของกรรมกำรของสมำคม กิจกำรนั้นย่อมมีผล
สำนักสมบู รณ์
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๘๙ สมำชิ กสำนั


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ของสมำคมมี สิ ท ธิ ที่ จ ะตรวจตรำกิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จ กำรและทรั พ ย์ สิ น ของ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สมำคมในระหว่ำงเวลำทำกำรของสมำคมได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๐ สมำชิกของสมำคมต้องชำระค่ำบำรุงเต็มจำนวนในวันที่สมัครเข้ำเป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำชิกหรือในวัน เริ่มต้น ของระยะเวลำชำระค่ำบำรุง แล้วแต่กรณี เว้นแต่ข้อบังคับของสมำคมจะ
กำหนดไว้เป็นอย่ำสงอื
ำนั่นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๙๑ สมำชิกสของสมำคมจะลำออกจำกสมำคมเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ่อใดก็สได้ำนัเว้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นแต่ข้อบังคับ กำ
ของสมำคมจะกำหนดไว้เป็นอย่ำงอื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๒ สมำชิกแต่ละคนมีควำมรับผิดในหนี้ของสมำคมไม่เกินจำนวนค่ำบำรุงที่
สำนักสมำชิ กนั้นค้ำงชำระอยู่ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๓ คณะกรรมกำรของสมำคมต้อสงจัำนัดกให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มีกำรประชุมใหญ่สำมัญอย่ำงน้อย
สำนักปีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ละครั้ง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๙๔ คณะกรรมกำรของสมำคมจะเรี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนัยกประชุ มใหญ่วิสำมัญเมื่อกใดก็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สุดแต่จะ
เห็นสมควร
สมำชิกกำจำนวนไม่น้อยกว่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักำหนึ ่งในห้ำของจำนวนสมำชิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กทั้งหมดหรืสำนั
อสมำชิ กจำนวนไม่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
น้อยกว่ำหนึ่งร้อยคนหรือสมำชิกจำนวนไม่น้อยกว่ำที่กำหนดไว้ในข้อบังคับจะทำหนังสือร้องขอต่อ
คณะกรรมกำรของสมำคมให้ ประชุมใหญ่วิสำมักำญก็ได้ ในหนังสสืำนัอกร้องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งขอนั้นต้องระบุว่ำประสงค์
กำ ให้เรียก
ประชุมเพื่อกำรใด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เมื่อคณะกรรมกำรของสมำคมได้
กำ รับหนังสือร้องขอให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เรียกประชุสำนั
มใหญ่ วิสำมัญตำม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
วรรคสอง ให้ คณะกรรมกำรของสมำคมเรียกประชุมใหญ่วิสำมัญโดยจัดให้มีกำรประชุมขึ้นภำยใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำมสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถ้ำคณะกรรมกำรของสมำคมไม่
กำ เรียกประชุมภำยในระยะเวลำตำมวรรคสำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สมำชิก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ที่เป็นผู้ร้องขอให้เรียกประชุมหรือสมำชิกอื่นรวมกันมีจำนวนไม่น้อยกว่ำจำนวนสมำชิกที่กำหนดตำม
วรรคสองจะเรียกประชุ มเองก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๙๕ ในกำรเรีสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยกประชุ มใหญ่ คณะกรรมกำรของสมำคมต้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนัอกงส่ งหนังสือนัด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประชุมไปยังสมำชิกทุกคนซึ่งมีชื่อในทะเบี ยนของสมำคมก่อนวันนัดประชุมไม่น้อยกว่ำเจ็ดวันหรือลง
พิมพ์โฆษณำอย่ำสงน้ำนัอกยสองครำวในหนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งสือพิกมำพ์ที่แพร่หลำยในท้ องที่ฉบับหนึ่งก่อนวันกนัำดประชุมไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น้อยกว่ำเจ็ดวันก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรเรีกยำกประชุมใหญ่สตำนั้อกงระบุ สถำนที่ วัน เวลำ กและระเบี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ยบวำระกำรประชุ มและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จัดส่งรำยละเอียดและเอกสำรที ่ เกี่ยวข้องตำมควรไปพร้อมกัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นด้กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย สำหรับกำรเรียกประชุกำ
มใหญ่โดย
กำรพิมพ์โฆษณำ รำยละเอียดและเอกสำรดังกล่ำวต้องจัดไว้และพร้อมที่จะมอบให้แก่สมำชิกที่ร้องขอ
สำนักณงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สถำนที่ที่ผู้เรียกประชุกมำ กำหนด สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๙๖ กำรประชุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัมกใหญ่ ของสมำคมต้องมีสกมำชิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ กมำประชุมสำนั
ไม่กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้อยกว่ำกึ่งหนึ่ง กำ
ของจำนวนสมำชิกทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม เว้นแต่ข้อบังคับของสมำคมจะกำหนดองค์ประชุมไว้
เป็นอย่ำงอื่น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกำรประชุมใหญ่ครั้งใด ถ้ำไม่ได้องค์ประชุมตำมที่กำหนดไว้และกำรประชุมใหญ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นั้นได้เรียกตำมคำร้องขอของสมำชิก ก็ให้งดกำรประชุม แต่ถ้ำเป็นกำรประชุมใหญ่ที่สมำชิกมิได้เป็ นผู้
ร้องขอ ให้คณะกรรมกำรของสมำคมเรี ยกประชุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มใหญ่อีกครั้งสหนึ
ำนัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โดยจัดให้มีกำรประชุมกขึำ้นภำยในสิบ
สี่วันนับแต่วันที่นัดประชุมครั้งแรก กำรประชุมครั้งหลังนี้ไม่บังคับว่ำจำต้องครบองค์ประชุม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๗ มติของที่ประชุม ให้ถือเอำเสียงข้ำงมำกเป็นประมำณ เว้นแต่กรณี ที่
ข้อบังคับของสมำคมก
สำนักำหนดเสี ยงข้ำงมำกไว้เป็กนำพิเศษโดยเฉพำะ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำชิกคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งในกำรลงคะแนน ถ้ำคะแนนเสียงเท่ำกันให้ประธำนในที่
สำนักประชุ มออกเสียงเพิ่มขึ้นกได้ำ อีกเสียงหนึ่งสเป็ำนันกเสีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยงชี้ขำด กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๘ สมำชิ ก จะมอบอ ำนำจให้ สสมำชิ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ก ผู้ ใดมำเข้ ำ ประชุ ม และออกเสี ย ง
สำนักลงคะแนนแทนตนก็ ได้ เว้กำนแต่ข้อบังคับสของสมำคมจะก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำหนดไว้เป็นกอย่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำงอื่น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๙๙ ในกรณีที่จะมีมกติำในเรื่องใด ถ้ำสส่ำนัวกนได้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เสียของกรรมกำรหรืกอำสมำชิกของ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สมำคมผู้ใดขัดกับ ประโยชน์ ได้เสียของสมำคม กรรมกำรหรือสมำชิกของสมำคมผู้นั้นจะออกเสียง
สำนักลงคะแนนในเรื ่องนั้นไม่กได้ำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๐ ในกำรประชุกมำใหญ่ครั้งใด ถ้สำำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ได้กมงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ีกำรนัดประชุมหรือกำรลงมติ
กำ โดยไม่
ปฏิบัติตำม หรือฝ่ำฝืนข้อบังคับของสมำคมหรือบทบัญญัติในส่วนนี้ สมำชิก หรือพนักงำนอัยกำรอำจ
สำนักร้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องขอให้ศำลสั่งเพิกถอนมติ
กำ ในกำรประชุ
สำนัมกใหญ่ ครั้งนั้นได้ แต่ต้องร้กอำ งขอต่อศำลภำยในหนึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งเดือนนับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แต่วันที่ที่ประชุมใหญ่ลงมติ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๐๑ สมำคมย่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัอกมเลิ กด้วยเหตุหนึ่งเหตุใดกำดังต่อไปนี้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
(๑) เมื่อมีเหตุตำมที่กำหนดในข้อบังคับ
ส(๒)
ำนักถ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำสมำคมตั้งขึ้นไว้เฉพำะระยะเวลำใด
กำ สเมืำนั่อกสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นระยะเวลำนั้น กำ
(๓) ถ้ำสมำคมตั้งขึ้นเพื่อกระทำกิจกำรใด เมื่อกิจกำรนั้นสำเร็จแล้ว
(๔) เมืก่อำที่ประชุมใหญ่สมำนัีมกติงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ให้เลิก กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) เมื่อสมำคมล้มละลำย
ส(๖)
ำนักเมื ่อนำยทะเบียนถอนชื่อกสมำคมออกจำกทะเบี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ยนตำมมำตรำ ๑๐๒กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
(๗) เมื่อศำลสั่งให้เลิกตำมมำตรำ ๑๐๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๒ ให้นำยทะเบียนมีอำนำจสั่งถอนชื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
่อสมำคมออกจำกทะเบียนได้ในกรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ดังต่อไปนี้
(๑) เมืก่ ำอ ปรำกฏในภำยหลั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ง กำรจดทะเบี ย นว่ ำกำวั ต ถุ ป ระสงค์สขำนัองสมำคมขั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ด ต่ อ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๒๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

กฎหมำยหรือศีลธรรมอันดีของประชำชน หรืออำจเป็นภยันตรำยต่อควำมสงบสุขของประชำชนหรือ
สำนักควำมมั ่นคงของรัฐ และนำยทะเบี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยนได้สสำนัั่งให้ แก้ไขแล้วแต่สมำคมไม่กปำ ฏิบัติตำมภำยในระยะเวลำที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่นำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทะเบียนกำหนด
ส(๒)
ำนักเมื ่อปรำกฏว่ำกำรดำเนิกนำ กิจกำรของสมำคมขั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดต่อกฎหมำยหรือศีกำลธรรมอันดี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของประชำชน หรืออำจเป็นภยันตรำยต่อควำมสงบสุขของประชำชนหรือควำมมั่นคงของรัฐ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) เมื่อสมำคมหยุดดำเนินกิจกำรติดต่อกันตั้งแต่สองปีขึ้นไป
ส(๔)
ำนักเมื ่อปรำกฏว่ำสมำคมให้กหำรือปล่อยให้บสุคำนัคลอื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่นซึ่งมิใช่กรรมกำรของสมำคมเป็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นผู้
ดำเนินกิจกำรของสมำคม
(๕) เมืก่อำสมำคมมีสมำชิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักเหลื อน้อยกว่ำสิบคนมำเป็กนำ เวลำติดต่อกัสนำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กว่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สองปี กำ

สมำตรำ ๑๐๓ เมื่อนำยทะเบี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำยนมีคำสั่งให้สถำนัอนชื ่อสมำคมใดออกจำกทะเบี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยนตำม
มำตรำ ๑๐๒ แล้ ว ให้ น ำยทะเบี ย นแจ้ งค ำสั่ งพร้อมด้ วยเหตุ ผ ลไปยังสมำคมนั้ น โดยมิชั กช้ ำ และ
สำนักประกำศกำรเลิ กสมำคมในรำชกิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จจำนุเสบกษำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กรรมกำรคนหนึ่ งคนใดหรื อสมำชิกของสมำคมจำนวนไม่น้อยกว่ำสำมคน มีสิ ทธิ
อุทธรณ์คำสั่งของนำยทะเบียนตำมวรรคหนึ่งต่อรัฐมนตรีวส่ำำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรกระทรวงมหำดไทยได้ โดยทำเป็น
สำนักหนั งสือยื่นต่อนำยทะเบีกยำนภำยในสำมสิสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บวักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคกำสั
ำ ่ง และให้นำควำมในมำตรำ ๘๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
วรรคห้ำ มำใช้บังคับโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๔ เมื่อมีกรณีตำมมำตรำ ๑๐๒ ผู้มีส่วนได้เสียอำจร้องขอให้นำยทะเบียน
สำนักถอนชื ่อสมำคมออกจำกทะเบี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยนได้ ถ้ำสนำยทะเบี ยนไม่ปฏิบัติตำมคกำร้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ องขอโดยไม่สแำนั
จ้งกเหตุ ผลให้ผู้ร้อง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ขอทรำบภำยในเวลำอันสมควร หรือนำยทะเบียนได้แจ้งเหตุผลให้ทรำบแล้วแต่ผู้ร้องขอไม่พอใจใน
เหตุผลดังกล่ำว ผูส้รำนั
้องขอนั ้นจะร้องขอต่อศำลให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำสั่งเลิกสมำคมนั
สำนั้นกเสีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยก็ได้ กำ

มำตรำกำ๑๐๕ เมื่อสมำคมมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เหตุต้องเลิกตำมมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๑๐๑ (๑) (๒)
สำนั(๓) หรือ (๔) ให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
คณะกรรมกำรของสมำคมที่อยู่ในตำแหน่งขณะมีกำรเลิกสมำคมแจ้งกำรเลิกสมำคมต่อนำยทะเบียน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ภำยในสิบสี่วันนับแต่วันที่มีกำรเลิกสมำคม
ในกรณีกำที่ศำลมีคำพิพสำกษำหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อคำสั่งถึงที่สุดให้สกมำคมล้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ มละลำยตำมมำตรำ ๑๐๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๕) หรือมีคำสั่งถึงที่สุดให้เลิกสมำคมตำมมำตรำ ๑๐๔ ให้ศำลแจ้งคำพิพำกษำหรือคำสั่งดังกล่ำวให้
นำยทะเบียนทรำบด้ สำนัวกยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้นำยทะเบียนประกำศกำรเลิกสมำคมในรำชกิจจำนุเบกษำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๖ ในกรณี ที่ มี กำรเลิ กสมำคม ให้ มี กำรช ำระบั ญ ชีส มำคมและให้ น ำ
บทบัญญัติในบรรพสำนั๓กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ลักษณะ ๒๒ ว่ำด้วยกำรช
กำ ำระบัญชีหส้ำำนั
งหุก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ส่วนจดทะเบียน ห้ำงหุกำ้นส่วนจำกัด
และบริษัทจำกัด มำใช้บังคับแก่กำรชำระบัญชีสมำคมโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๗ เมื่อได้ช ำระบัญ ชีแล้ ว ถ้ำมีสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ท รักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์สิน เหลื ออยู่เท่ำใด กจะแบ่

งให้ แก่
สมำชิกของสมำคมนั้นไม่ได้ ทรัพย์สินที่เหลือนั้นจะต้องโอนให้แก่สมำคมหรือมูลนิธิ หรือนิติบุคคลที่มี
สำนักวังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตถุประสงค์เกี่ยวกับกำรสำธำรณกุ
กำ ศสลำนัตำมที ่ได้ระบุชื่อไว้ในข้อบักงำคับของสมำคม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัหรื อถ้ำข้อบังคับ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๒๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ไม่ได้ระบุชื่อไว้ก็ให้เป็นไปตำมมติของที่ประชุมใหญ่ แต่ถ้ำข้อบังคับของสมำคมหรือ ที่ประชุมใหญ่มิได้


สำนักระบุ ผู้รับโอนทรัพย์สินดักงำกล่ำวไว้ หรือระบุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ว้แต่ไม่สำมำรถปฏิบัติไกด้ำ ให้ทรัพย์สินทีส่เำนั
หลืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อยู่นั้นตกเป็น กำ
ของแผ่นดิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๘ ผู้ใดประสงค์จะขอตรวจเอกสำรเกี่ยวกับสมำคมที่นำยทะเบียนเก็บ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รักษำไว้ หรือจะขอให้นำยทะเบียนคัดสำเนำเอกสำรดังกล่ำว พร้ อมด้วยคำรับรองว่ำถูกต้อง ให้ยื่นคำ
ขอต่อนำยทะเบียสนำนัและเมื ่อได้เสียค่ำธรรมเนี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำยมตำมที่กำหนดในกฎกระทรวงแล้ วให้กนำำยทะเบียน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ปฏิบัติตำมคำขอนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๙ ให้รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงมหำดไทยรักษำกำรตำมบทบัญญัติในส่วน
นี้ และให้มีอำนำจแต่
สำนักงตังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้งนำยทะเบียนกับออกกฎกระทรวงเกี
กำ ส่ยำนัวกักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) กำรยื่นคำขอจดทะเบียนและกำรรับจดทะเบียน
(๒) ค่กำธรรมเนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ยมกำรจดทะเบี ยน กำรขอตรวจเอกสำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กำรคัดสสำนัำเนำเอกสำรและ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ค่ำธรรมเนียมกำรขอให้นำยทะเบียนดำเนินกำรใด ๆ เกี่ยวกับสมำคม รวมทั้งกำรยกเว้นค่ำธรรมเนียม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ดังกล่ำว
(๓) กำรด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำเนินกิจกำรของสมำคมและกำรทะเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎียกนสมำคมำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) กำรอื่นใดเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตำมบทบัญญัติในส่วนนี้
สกฎกระทรวงนั ้น เมื่อประกำศในรำชกิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จจำนุสเำนั
บกษำแล้ วให้ใช้บังคับได้ กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มูลนิธิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๑๐ มูลนิธสิไำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ด้แกก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทรัพย์สินที่จัดสรรไว้โกดยเฉพำะส
ำ ำหรัสบำนัวักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถุประสงค์เพื่อ กำ
กำรกุศล สำธำรณะ กำรศำสนำ ศิลปะ วิทยำศำสตร์ วรรณคดี กำรศึกษำ หรือเพื่อสำธำรณประโยชน์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อย่ำงอื่น โดยมิได้มุ่งหำผลประโยชน์มำแบ่งปันกัน และได้จดทะเบียนตำมบทบัญญัติแห่งประมวล
สำนักกฎหมำยนี ้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรจั ด กำรทรั พ ย์ สิ น ของมู ล นิ ธิ ต้ อ งมิ ใช่ เป็ น กำรหำผลประโยชน์ เพื่ อ บุ ค คลใด
นอกจำกเพื่อดำเนิสนำนักำรตำมวั ตถุประสงค์ของมูกำลนิธินั้นเอง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๑๑๑ มู ลสนิำนัธิ กตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ อ งมี ข้ อ บั ง คั บ และต้กอำ งมี ค ณะกรรมกำรของมู ล นิ ธิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประกอบด้วยบุคคลอย่ำงน้อยสำมคน เป็นผู้ดำเนินกิจกำรของมูลนิธิตำมกฎหมำยและข้อบังคับของ
มูลนิธิ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๑๒ ข้อบังคัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บของมู ลนิธิอย่ำงน้อยต้องมีกรำำยกำร ดังต่อสไปนี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัก้ งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ชื่อมูลนิธิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) วัตถุประสงค์ของมูลนิธิ
(๓) ทีก่ตำั้งสำนักงำนใหญ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัและที ่ตั้งสำนักงำนสำขำทัก้งปวง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๔) ทรัพย์สินของมูลนิธิขณะจัดตั้ง
(๕) ข้กอำกำหนดเกี่ยวกัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บคณะกรรมกำรของมู ลนิกธำิ ได้แก่ จำนวนกรรมกำร
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรตั้ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กรรมกำร วำระกำรดำรงตำแหน่งของกรรมกำร กำรพ้นจำกตำแหน่งของกรรมกำร และกำรประชุม
ของคณะกรรมกำรสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๖) ข้อกำหนดเกี่ยวกับกำรจัดกำรมูลนิธิ กำรจัดกำรทรัพย์สินและบัญชีของมูลนิธิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๑๓ มูลนิธิต้องใช้ชกำื่อซึ่งมีคำว่ำ “มูสำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ลนิกธงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิ” ประกอบกับชื่อของมูกลำ นิธิ

มำตรำกำ๑๑๔ กำรขอจดทะเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยนมูลนิธินั้น ให้ผู้ขกอจั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ดตั้งมูลนิธิยสื่นำนัคกำขอเป็ นหนังสือ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ต่อนำยทะเบี ยนแห่งท้องที่ ที่สำนักงำนใหญ่ของมูลนิธิจะตั้งขึ้น ในคำขออย่ำงน้อยต้องระบุเจ้ำของ
ทรั พ ย์ สิ น และรำยกำรทรั พ ย์ สิ น ที่ จ ะจั ด สรรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำหรั บ มู ล นิสธำนั
ิ รำยชื ่ อ ที่ อ ยู่ แ ละอำชี พ ของผู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ จ ะเป็ น
กรรมกำรของมูลนิธิทุกคน พร้อมกับแนบข้อบังคับของมูลนิธิมำกับคำขอด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๕ เมื่อนำยทะเบียนได้รับคำขอแล้วเห็นว่ำ คำขอนั้นถูกต้องตำมมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๑๔ และข้อบังคับถูกต้องตำมมำตรำ ๑๑๒ และวัตถุประสงค์ เป็นไปตำมมำตรำ ๑๑๐ และไม่ขัดต่อ
สำนักกฎหมำยหรื อศีลธรรมอักนำ ดีของประชำชน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักหรื อไม่เป็นภยันตรำยต่กอำควำมสงบสุขสของประชำชนหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีอ กำ
ควำมมั่นคงของรัฐ และรำยกำรซึ่งจดแจ้งในคำขอหรือข้อบังคับสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ
และผู้ จ ะเป็ น กรรมกำรของมู ล นิ ธินั้ น มี ฐ ำนะและควำมประพฤติ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เหมำะสมในกำรด ำเนิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ น กำรตำม
วัตถุประสงค์ของมูลนิธิ ให้นำยทะเบียนรับจดทะเบียนและออกใบสำคัญแสดงกำรจดทะเบียนให้แก่
สำนักมูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ลนิธินั้น และประกำศกำรจั กำ ดตั้งมูลนิธสิใำนั นรำชกิ จจำนุเบกษำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำนำยทะเบียนเห็นว่ำคำขอหรือข้อบังคับไม่ถูกต้องตำมมำตรำ ๑๑๔ หรือมำตรำ
๑๑๒ หรือรำยกำรซึ สำนั่งกจดแจ้ งในคำขอหรือข้อกบัำงคับไม่สอดคล้สำนัองกั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บวัตถุประสงค์ของมูลกนิำธิ หรือผู้จะ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นกรรมกำรของมูลนิธิมีฐำนะหรือควำมประพฤติไม่เหมำะสมในกำรดำเนินกำรตำมวัตถุประสงค์ของ
สำนักมูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ล นิ ธิ ให้ มีคำสั่ งให้ ผู้ ขกอจดทะเบี
ำ ยนแก้ สำนัไขหรื อเปลี่ ยนแปลงให้ ถูกกำต้อง เมื่อแก้ไสขหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เปลี่ ยนแปลง กำ
ถูกต้องแล้ว ให้รับจดทะเบียนและออกใบสำคัญแสดงกำรจดทะเบียนให้แก่มูลนิธินั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำนำยทะเบียนเห็นว่ำไม่อำจรับจดทะเบียนได้เนื่องจำกวัตถุประสงค์ของมูลนิธิไม่
สำนักเป็ นไปตำมมำตรำ ๑๑๐กำหรือขัดต่อกฎหมำยหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อศีลธรรมอันดีของประชำชนหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อสอำจเป็ นภยันตรำย
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ต่อควำมสงบสุขของประชำชนหรือควำมมั่นคงของรัฐ หรือผู้ขอจดทะเบียนไม่แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง
ให้ถูกต้องภำยในสำมสิ บวันนับแต่วันที่ทรำบคกำำสั่งของนำยทะเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยน ให้นำยทะเบียนมีคกำสั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่งไม่รับจด
ทะเบียน และแจ้งคำสั่งพร้อมด้วยเหตุผลที่ไม่รับจดทะเบียนให้ผู้ขอจดทะเบียนทรำบโดยมิชักช้ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ผู้ ข อจดทะเบี
กำ ย นมี สสิ ทำนัธิกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ุ ท ธรณ์ ค ำสั่ ง ไม่ รั บ จดทะเบี
กำ ย นนั้ น ต่สอำนัรักฐงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มนตรี ว่ ำ กำร กำ
กระทรวงมหำดไทย โดยทำเป็นหนังสือยื่นต่อนำยทะเบียนภำยในสำมสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
ไม่รับจดทะเบียนสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงมหำดไทยวินิจฉัยอุทธรณ์และแจ้งคำวินิจฉัยให้ผู้อุทธรณ์
สำนักทรำบภำยในเก้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำสิบวันกนัำบแต่วันที่นำยทะเบี ยนได้รับหนังสืออุทธรณ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ คำวินิจฉัยของรั ฐมนตรีว่ำกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กระทรวงมหำดไทยให้ เป็นที่สุด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๑๖ ก่อนทีส่นำนัำยทะเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยนรับจดทะเบียกนมู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ลนิธิ ผู้ขอจัสดำนั
ตั้งกมูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ลนิธิมีสิทธิขอ กำ
- ๒๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ถอนกำรจัดตั้งมูลนิธิได้โดยทำเป็นหนังสือยื่นต่อนำยทะเบียน สิทธิที่จะขอถอนกำรจัดตั้งมูลนิธินี้ไม่ตก
สำนักทอดไปยั งทำยำท
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่มีผู้ขอจัดตั้งมูลนิธิหลำยคน ถ้ำผู้ขอจัดตั้งมูลนิธิคนหนึ่งคนใดใช้สิทธิถอน
กำรจัดตั้งมูลนิธิ ให้ำนัคำขอจั
ส ดตั้งมูลนิธินั้นเป็นอักนำระงับไป สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๑๗ ในกรณี ที่ผู้ ขอจัดตั้งมูลนิธิถึงแก่ควำมตำยก่อนนำยทะเบียนรับจด
ทะเบียนมูลนิธิ ถ้สำำนั ผู้ตกำยมิ ได้ทำพินัยกรรมยกเลิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กกำรจัดตั้งมูสำนั
ลนิกธงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิที่ขอจัดตั้งไว้ให้คำขอจักดำ ตั้งมูลนิธิที่
ผู้ ต ำยได้ ยื่ น ไว้ต่ อนำยทะเบี ย นยั งคงใช้ได้ ต่อ ไป และให้ ท ำยำทหรือผู้ จัด กำรมรดกหรือผู้ ซึ่งผู้ ต ำย
สำนักมอบหมำย ดำเนินกำรในฐำนะเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นผู้ขสอจัำนัดกตังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้งมูลนิธิต่อไป ถ้ำบุคคลดักำ งกล่ำวไม่ดำเนิสำนันกกำรภำยในหนึ ่ง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่ผู้ขอจัดตั้งมูลนิธิถึงแก่ควำมตำย บุคคลผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงำนอัยกำรจะ
ดำเนินกำรในฐำนะเป็ สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้ขอจัดตั้งมูลนิธินั้นต่อกไปก็ ำ ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่ไม่สำมำรถจัดตั้งมูลนิธิขึ้นได้ตำมวัตถุประสงค์ที่ผู้ตำยกำหนดไว้ ถ้ำหำกไม่มี
สำนักพิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นัยกรรมของผู้ตำยสั่งกกำรในเรื ำ ่องนี้ไสว้ำนั
เป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อย่ำงอื่น ให้นำควำมในมำตรำ
กำ ๑๖๗๙ สำนักวรรคสอง มำใช้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บังคับโดยอนุโลม ถ้ำไม่สำมำรถดำเนินกำรตำมมำตรำ ๑๖๗๙ วรรคสอง หรือมูลนิธิจัดตั้งขึ้นไม่ได้ตำม
มำตรำ ๑๑๕ ให้ทสรัำนัพกย์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สินที่จัดสรรไว้ตกเป็นมรดกของผู กำ
้ตำย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๘ ในกรณีที่มีข้อกำหนดพินัยกรรมให้ก่อตั้งมูลนิธิตำมมำตรำ ๑๖๗๖
ให้บุคคลซึ่งมีหน้สำำนัที่ทกี่จงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ะต้องจัดตั้งมูลนิธิตำมมำตรำ กำ ๑๖๗๗สำนั วรรคหนึ ่ง ดำเนินกำรตำมมำตรำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๑๑๔
และตำมบทบัญญัติแห่งมำตรำนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถ้ำบุคกคลซึ ำ ่ งมี หน้ ำที่ ทสำนั
ี่จะต้ องจัดตั้ง มูลนิธิตำมวรรคหนึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ ง มิ ได้ขสอจดทะเบี ยนก่อตั้ง
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
มูลนิธิภำยในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่บุคคลดังกล่ำวได้รู้หรือควรรู้ข้อกำหนดพินัยกรรมให้ก่อตั้ง
มูลนิธิ บุคคลผู้มีสส่วำนั
นได้ เสียคนหนึ่งคนใดหรือพนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กงำนอัยกำรจะเป็ นผู้ขอจดทะเบียนมูลนิกธำิก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถ้ำผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนมู ลนิธิไม่ดำเนินกำรแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องตำม
สำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำสั่งของนำยทะเบียนตำมมำตรำ กำ ๑๑๕สำนัจนเป็ นเหตุให้นำยทะเบียกนไม่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ รับจดทะเบีสยำนั นมูกลงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นิธิเพรำะเหตุ กำ
ดังกล่ำว บุคคลผู้มีส่วนได้เสียคนหนึ่งคนใดหรือพนักงำนอัยกำรจะเป็นผู้ขอจดทะเบียนมูลนิธินั้นอีกก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้ ยื่ น คำขอจดทะเบี ย นก่ อ ตั้งมู ล นิ ธิต ำมมำตรำนี้ จะขอถอนกำรก่ อตั้งมู ล นิ ธิตำม
สำนักมำตรำ ๑๑๖ ไม่ได้ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่มีผู้คัดค้ำนต่อนำยทะเบียนว่ำพินัยกรรมนั้นมิได้กำหนดให้ก่อตั้งเป็นมูลนิธิ
ให้นำยทะเบียนแจ้สำนั งให้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้คัดค้ำนไปร้องต่อศำลภำยในหกสิ
กำ บวัสนำนันักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แต่วันที่ได้รับแจ้งจำกนำยทะเบี
กำ ยน
และให้นำยทะเบียนรอกำรพิจำรณำกำรจดทะเบียนไว้ก่อน เพื่อดำเนินกำรตำมคำพิพำกษำหรือคำสั่ง
สำนักของศำล ถ้ำผู้ คัดค้ ำนไม่กำยื่ น คำร้อ งต่อสศำลภำยในเวลำที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ กำหนดกให้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ น ำยทะเบี ยสนพิำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำรณำกำรจด กำ
ทะเบียนมูลนิธินั้นต่อไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๙ ในกรณีที่มีข้อกำหนดพินัยกรรมให้จัดตั้งมูลนิธิ ถ้ำพินัยกรรมที่ทำไว้
สำนักมิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้มีข้อกำหนดเกี่ยวกักบำรำยกำรตำมมำตรำ ๑๑๒ (๑) (๓) (๕) กหรืำ อ (๖) ให้ ผู้ยสื่นำนัคกำขอตำมมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๑๘ กำหนดรำยกำรดั งกล่ำวได้ ถ้ำผู้มีส่วนได้เสียคนหนึ่งคนใดคั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ดค้ำน ให้นำยทะเบียนมีคำสั่งตำมที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เห็นสมควร แล้วแจ้งให้ผู้ยื่นคำขอและผู้คัดค้ำนทรำบพร้อมทั้งแจ้งด้วยว่ำ หำกผู้ยื่นคำขอหรือผู้คัดค้ำน
สำนักไม่ พอใจในคำสั่งดังกล่ำกวำ ก็ให้ ไปร้องคัสดำนัค้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นต่อศำลภำยในหกสิบกำวันนับแต่วันทีส่ไำนัด้รกับงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แจ้งจำกนำย กำ
- ๒๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ทะเบียน และให้นำยทะเบียนรอกำรพิจำรณำจดทะเบียนไว้ก่อนเพื่อดำเนินกำรตำมคำพิพำกษำหรือ
สำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำสั่งของศำล แต่ถ้ำไม่กมำีกำรร้องคัดค้สำำนั
นต่กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ศำลภำยในเวลำที่กำหนด
กำ ให้นำยทะเบี
สำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นพิจำรณำจด กำ
ทะเบียนมูลนิธิตำมที่ได้มีคำสั่งไว้นั้นต่อไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๐ ในกรณีที่มีบุคคลหลำยรำยยื่นคำขอจดทะเบียนมูลนิธิตำมพินัยกรรม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ของเจ้ำมรดกรำยเดียวกัน ถ้ำคำขอนั้นมีข้อขัดแย้งกัน ให้นำยทะเบียนเรียกผู้ยื่นคำขอมำตกลงกัน
และถ้ำผู้ยื่นคำขอไม่
สำนัมกำตกลงกั น หรือตกลงกักนำไม่ได้ภำยในระยะเวลำที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่นำยทะเบียนกำหนด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ให้นำย
ทะเบียนมีคำสั่งตำมที่เห็นสมควร และให้นำควำมในมำตรำ ๑๑๙ มำใช้บังคับโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๑ เมื่อได้จดทะเบียนมูลนิธิแล้ว ถ้ำผู้ขอจัดตั้งมูลนิธิมีชีวิตอยู่ ให้ทรัพย์สิน
ที่จัดสรรไว้เพื่อกำรนั
สำนั้นกตกเป็ นของมูลนิธิตั้งแต่กวำันที่นำยทะเบียสนรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จดทะเบียนมูลนิธิเป็นต้กนำ ไป
ในกรณีที่ผู้ขอจัดตั้งมูลนิธิถึงแก่ควำมตำยก่อนนำยทะเบียนรับจดทะเบียนมูลนิธิ เมื่อ
สำนักได้ จดทะเบียนมูลนิธิแล้กวำให้ทรัพย์สินทีสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่จัดกสรรไว้ เพื่อกำรนั้นตกเป็กนำของมูลนิธิตั้งแต่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัเวลำที ่ผู้ขอจัดตั้ง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
มูลนิธินั้นถึงแก่ควำมตำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๒๒ มูลนิธสิทำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ี่ได้กจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดทะเบียนแล้วเป็นนิติบกุคำ คล สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๒๓ คณะกรรมกำรของมู


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ลนิธิเป็สนำนัผูก้แงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทนของมูลนิธิในกิจกำรอั
กำ นเกี่ยวกับ
บุคคลภำยนอก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๔ บรรดำกิจกำรที่คณะกรรมกำรของมูลนิธิได้กระทำไป แม้จะปรำกฏใน
ภำยหลังว่ำมีข้อบกพร่ องเกี่ยวกับกำรแต่งตั้งหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อคุณสมบัติขสองกรรมกำรของมู ลนิธิ กิจกกำรนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้นย่อมมี
ผลสมบูรณ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๕ กำรแต่งตั้งกรรมกำรของมูลนิธิขึ้นใหม่ทั้งชุดหรือกำรเปลี่ยนแปลง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กรรมกำรของมูลนิธิ ให้กระทำตำมข้อบังคับของมูลนิธิ และมูลนิธิต้องนำไปจดทะเบียนภำยในสำมสิบ
สำนักวังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นนับแต่วันที่มีกำรแต่งกตัำ้งหรือเปลี่ยนแปลงกรรมกำรของมู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีลนิธิ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำนำยทะเบี ยนเห็ น ว่ำกรรมกำรของมูลนิ ธิตำมวรรคหนึ่งผู้ ใด มีฐ ำนะหรือควำม
ประพฤติไม่เหมำะสมในกำรด ำเนินกำรตำมวักตำถุประสงค์ของมู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัลกนิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ธิ นำยทะเบียนจะไม่รกับำจดทะเบียน
กรรมกำรของมู ล นิ ธิผู้ นั้ น ก็ได้ ในกรณี ที่ น ำยทะเบี ยนไม่ รับ จดทะเบี ย นกรรมกำรของมูล นิ ธิ นำย
สำนักทะเบี ยนต้องแจ้งเหตุผกลที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่ ไม่รับ จดทะเบี สำนัยกนให้ มูลนิธิทรำบภำยในหกสิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บ วันนับแต่ สำนัวกันงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ที่ยื่นคำขอจด กำ
ทะเบียน และให้นำควำมในมำตรำ ๑๑๕ วรรคสี่และวรรคห้ำมำใช้บังคับโดยอนุโลม
สในกรณี ที่กรรมกำรของมูลนิกธำิพ้นจำกตำแหน่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนังกและไม่ มีกรรมกำรของมูกลำนิธิเหลืออยู่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือกรรมกำรของมูลนิ ธิที่เหลืออยู่ไม่สำมำรถดำเนินกำรตำมหน้ำที่ได้ ถ้ำข้อบังคับของมูลนิธิมิได้
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดกำรปฏิ บั ติห น้กำำที่ ไว้ เป็ น อย่ ำงอื
สำนั่ นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้ ก รรมกำรของมู ล นิกธำิที่ พ้ น จำกต ำแหน่
สำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ปฏิ บั ติ ห น้ ำที่ กำ
กรรมกำรของมูลนิสธำนัิต่อกไปจนกว่ ำนำยทะเบียนจะได้แจ้งกำรรับสจดทะเบี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ยนกรรมกำรของมูลนิธิที่ตั้งใหม่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กรรมกำรของมูลนิธิที่พ้นจำกตำแหน่งเพรำะถูกถอดถอนโดยคำสั่งศำลตำมมำตรำ
สำนัก๑๒๙ จะปฏิบัติหน้ำที่ตำมวรรคสำมไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ไสด้ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๒๖ ภำยใต้สบำนัังกคังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บมำตรำ ๑๒๗ ให้คณะกรรมกำรของมู
กำ สลำนันิกธงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิเป็นผู้มีอำนำจ กำ
แก้ไขเพิ่มเติมข้อบั งคับ ของมูลนิ ธิ แต่ถ้ำข้อบังคับของมูล นิธิได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีกำรแก้ไ ข
เพิ่มเติมไว้ กำรแก้
สำนัไขเพิ ่ มเติมต้องเป็ น ไปตำมที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ ข้ อบั งคั บ ก ำหนด และให้ มูล นิธินำข้อบักำงคับที่แก้ไข
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เพิ่มเติมนั้นไปจดทะเบียนต่อนำยทะเบียนภำยในสำมสิบวันนับแต่วันที่คณะกรรมกำรของมูลนิธิได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิและให้นำควำมในมำตรำ ๑๑๕ มำใช้บังคับโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๗ กำรแก้ไขเพิ่มเติมรำยกำรในข้อบังคับของมูลนิธิตำมมำตรำ ๑๑๒ (๒)
สำนักจะกระท ำได้แต่เฉพำะในกรณี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดังต่อไปนีส้ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) เพื่อให้สำมำรถดำเนินกำรตำมวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ หรือ
ส(๒)
ำนักพฤติ กำรณ์เปลี่ยนแปลงไปเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นเหตุให้วสัตำนั
ถุปกระสงค์ ของมูลนิธินั้นมีปกระโยชน์
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ น้อย
หรือไม่อำจดำเนินกำรให้สมประโยชน์ตำมวัตถุประสงค์ของมูลนิธินั้นได้ และวัตถุประสงค์ของมูลนิธิที่
สำนักแก้ ไขเพิ่มเติมนั้นใกล้ชิดกกัำบวัตถุประสงค์สำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เดิมกของมู ลนิธิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๘ ให้นำยทะเบียนมีอำนำจตรวจตรำและควบคุ มดูแลกำรดำเนินกิจกำร
สำนักของมู ล นิธิให้เป็ นไปตำมกฎหมำยและข้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนัอกบังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งคับของมูลนิธิ เพื่อกำรนี
กำ ้ ให้น ำยทะเบี
สำนัยกนหรื อพนักงำน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เจ้ำหน้ำที่ซึ่งนำยทะเบียนมอบหมำยเป็นหนังสือ มีอำนำจ
ส(๑)
ำนักมีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คำสั่งเป็นหนังสือให้กกรรมกำร
ำ พนักงำน
สำนักลูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กจ้ำงหรือตัวแทนของมู กำลนิธิ ชี้แจง
แสดงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกิจกำรของมูลนิธิ หรือเรียกบุคคลดังกล่ำวมำสอบถำม หรือให้ส่งหรือแสดง
สำนักสมุ ดบัญชีและเอกสำรต่กำงำ ๆ ของมูลนิธสิเำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี พื่อกตรวจสอบ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) เข้ำไปในสำนักงำนของมูลนิธิในเวลำระหว่ำงพระอำทิตย์ขึ้น และพระอำทิตย์ตก
เพื่อตรวจสอบกิจสกำรของมู ลนิธิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกำรปฏิบัติกำรตำมวรรคหนึ่ง ถ้ำเป็นนำยทะเบียนให้แสดงบัตรประจำตัวและถ้ำ
สำนักเป็ นพนักงำนเจ้ำหน้ ำทีก่ซำึ่งได้รับ มอบหมำย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ให้แสดงบัตรประจำตักวำ และหนังสื อมอบหมำยของนำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทะเบียนต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๒๙ ในกรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัทกี่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รรมกำรของมูลนิธิผู้ใดด
กำ ำเนินกิจกำรของมู ลนิธิผิดพลำด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เสื่อมเสียต่อมูลนิธิ หรือดำเนินกิจกำรฝ่ำฝืนกฎหมำยหรือข้อบังคับของมูลนิธิ หรือกลำยเป็นผู้มีฐำนะ
หรือควำมประพฤติ สำนัไม่กเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หมำะสมในกำรดำเนินกกำรตำมวัำ ตถุปสระสงค์ ของมูลนิธิ นำยทะเบีกยำน พนักงำน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อัยกำร หรือผู้มีส่วนได้เสียคนหนึ่งคนใดอำจร้องขอต่อศำลให้มีคำสั่งถอดถอนกรรมกำรของมูลนิธิผู้นั้นได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณีกำที่กำรกระทำตำมวรรคหนึ ่งเป็นกำรกระทกำของคณะกรรมกำรของมู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ลนิธิหรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ปรำกฏว่ำคณะกรรมกำรของมูลนิ ธิไม่ดำเนินกำรตำมวัตถุประสงค์ของมูลนิธิโดยไม่มีเหตุอันสมควร
นำยทะเบียน พนัสกำนังำนอั ยกำร หรือผู้มีส่วนได้กเำสียคนหนึ่งคนใดอำจร้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องขอต่อศำลให้มีคกำสัำ ่งถอดถอน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กรรมกำรของมูลนิธิทั้งคณะได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณีกำที่ศำลมีคำสั่งสถอดถอนกรรมกำรของมู
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ลนิกธิหำ รือคณะกรรมกำรของมู ลนิธิตำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ศำลจะแต่งตั้งบุคคลอื่นเป็นกรรมกำรของมู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลนิธิ หรือคณะกรรมกำรของ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มูลนิ ธิแทนกรรมกำรของมูลนิ ธิ หรือคณะกรรมกำรของมูลนิธิที่ศำลถอดถอนก็ได้ เมื่อศำลมีคำสั่ ง
สำนักแต่ งตั้งบุคคลใดเป็นกรรมกำรของมู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ลนิธสิแำนัล้กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้นำยทะเบียนดำเนินกกำรจดทะเบี
ำ ยนไปตำมนั ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๒๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๓๐ มูลนิธสิยำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่อมเลิ กด้วยเหตุหนึ่งเหตุใด กดัำงต่อไปนี้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) เมื่อมีเหตุตำมที่กำหนดในข้อบังคับ
ส(๒)
ำนักถ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำมูลนิธิตั้งขึ้นไว้เฉพำะระยะเวลำใด
กำ เมืสำนั
่อสิก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระยะเวลำนั้น กำ
(๓) ถ้ำมูล นิ ธิตั้งขึ้น เพื่อวัตถุประสงค์อย่ำงใด และได้ดำเนินกำรตำมวัตถุประสงค์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำเร็จบริบูรณ์แล้ว หรือวัตถุประสงค์นั้นกลำยเป็นพ้นวิสัย
ส(๔)
ำนักเมื ่อมูลนิธินั้นล้มละลำยกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) เมื่อศำลมีคำสั่งให้เลิกมูลนิธิตำมมำตรำ ๑๓๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๑ นำยทะเบียน พนักงำนอัยกำร หรือผู้มีส่วนได้เสียคนหนึ่งคนใดอำจ
ร้องขอต่อศำลให้มสีคำนัำสักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่งให้เลิกมูลนิธิได้ในกรณีกหำ นึ่งกรณีใด ดัสงำนั
ต่อกไปนี ้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๑) เมื่อปรำกฏว่ำวัตถุประสงค์ของมูลนิธิขัดต่อกฎหมำย
(๒) เมืก่อำปรำกฏว่ำมูลสนิำนัธิกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ระทำกำรขัดต่อกฎหมำยหรื กำ อศีลธรรมอั นดีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ของประชำชน กำ
หรืออำจเป็นภยันตรำยต่อควำมสงบสุขของประชำชนหรือควำมมั่นคงของรัฐ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) เมื่อปรำกฏว่ำมูลนิธิไม่สำมำรถดำเนินสกิำนั กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จกำรต่ อไปได้ไม่ว่ำเพรำะเหตุใด ๆ หรือ
สำนักหยุ ดดำเนินกิจกำรตั้งแต่กสำองปีขึ้นไป สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๓๒ เมื่อมูลนิธิมีเกหตุ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ต้องเลิกตำมมำตรำ ๑๓๐ (๑) (๒) หรือกำ(๓) แล้ว ให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คณะกรรมกำรของมูล นิ ธิที่อยู่ ในตำแหน่งขณะมีกำรเลิ กมูล นิธิแจ้งกำรเลิ กมูลนิธิต่อนำยทะเบียน
สำนักภำยในสิ บสี่วันนับแต่วันกทีำ่มีกำรเลิกมูลนิสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ธิ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่ศำลมีคำพิพำกษำหรือ คำสั่งถึงที่สุดให้มูลนิธิล้มละลำยตำมมำตรำ ๑๓๐
(๔) หรือมีคำสั่งถึงสทีำนั่สกุดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้เลิกมูลนิธิตำมมำตรำกำ๑๓๑ ให้ศำลแจ้
สำนังกคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำพิพำกษำหรือคำสั่งดักงกล่
ำ ำวให้นำย
ทะเบียนทรำบด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ให้นำยทะเบีกำ ยนประกำศกำรเลิ กมูลนิธิในรำชกิจจำนุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เบกษำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๓ ในกรณี ที่ มี ก ำรเลิ ก มู ล นิ ธิ ให้ มี ก ำรช ำระบั ญ ชี มู ล นิ ธิ แ ละให้ น ำ
สำนักบทบั ญญัติในบรรพ ๓ ลักกำ ษณะ ๒๒ ว่ำสด้ำนัวกยกำรช
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำระบัญชีห้ำงหุ้นกส่ำวนจดทะเบียนสำนัห้กำงหุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นส่วนจำกัด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
และบริษัทจำกัด มำใช้บังคับแก่กำรชำระบัญชีมูลนิธิโดยอนุโลม ทั้งนี้ ให้ผู้ชำระบัญชีเสนอรำยงำน
กำรชำระบัญชีต่อสนำยทะเบี ยน และให้นำยทะเบี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยนเป็นผู้อนุสมำนั
ัติรกำยงำนนั ้น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๑๓๔ เมื่อได้สชำนัำระบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญชีแล้ว ให้โอนทรัพกย์ำสินของมูลนิธสิใำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ห้แกก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มูลนิธิหรือนิติ กำ
บุคคลที่มีวัตถุประสงค์ตำมมำตรำ ๑๑๐ ซึ่งได้ระบุชื่อไว้ในข้อบังคับของมูลนิธิ ถ้ำข้อบังคับของมูลนิธิ
มิได้ระบุชื่อมูลนิธสิหำนัรือกนิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ติบุคคลดังกล่ำวไว้ พนักกำ งำนอัยกำร ผูส้ชำนัำระบั ญชี หรือผู้มีส่วนได้เกสีำยคนหนึ่งคน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ใด อำจร้องขอต่อศำลให้ จัดสรรทรัพย์สินนั้นแก่มูลนิธิหรือนิติบุคคลอื่นที่ปรำกฏว่ำมีวัตถุประสงค์
สำนักใกล้ ชิดที่สุดกับวัตถุประสงค์
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ของมูลนิธินสั้นำนัได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ ำ มู ล นิ ธิ นั้ น ถู ก ศำลสั่ ง ให้ เลิ ก ตำมมำตรำสำนั๑๓๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) หรื อ (๒) หรื อ กำรจั ด สรร
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทรัพย์สินตำมวรรคหนึ่งไม่อำจกระทำได้ ให้ทรัพย์สินของมูลนิธิตกเป็นของแผ่นดิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๓๕ ผู้ใดประสงค์จะขอตรวจเอกสำรเกี่ยวกับมูล นิธิที่นำยทะเบียนเก็บ


สำนักรังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กษำไว้ หรือจะขอให้นกำยทะเบี
ำ ยนคัดสสำนั
ำเนำเอกสำรดั งกล่ำวพร้อมด้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วยคำรับรองว่ ำถูกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ต้อง ให้ยื่นคำ กำ
ขอต่อนำยทะเบียน และเมื่อได้เสียค่ำธรรมเนียมตำมที่กำหนดในกฎกระทรวงแล้ว ให้นำยทะเบียน
ปฏิบัติตำมคำขอนัส้นำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๓๖ ให้รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงมหำดไทยรักษำกำรตำมบทบัญญัติในส่วน
นี้ และให้มีอำนำจแต่
สำนักงตังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้งนำยทะเบียนกับออกกฎกระทรวงเกี
กำ ส่ยำนั
วกักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) กำรยื่นคำขอจดทะเบียนและกำรรับจดทะเบียน
(๒) ค่กำธรรมเนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ยมกำรจดทะเบี ยน กำรขอตรวจเอกสำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กำรคัดสสำนัำเนำเอกสำรและ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ค่ำธรรมเนียมกำรขอให้นำยทะเบียนดำเนินกำรใด ๆ เกี่ยวกับมูลนิธิรวมทั้งกำรยกเว้นค่ำธรรมเนียม
ดังกล่ำว สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) แบบบัตรประจำตัวของนำยทะเบียนและพนักงำนเจ้ำหน้ำที่
(๔) กำรด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำเนินกิจกำรของมู ลนิธิและกำรทะเบียนมู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำลนิธิ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) กำรอื่นใดเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตำมบทบัญญัติในส่วนนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กฎกระทรวงนั้น เมื่อประกำศในรำชกิจจำนุสเำนั กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บกษำแล้ วให้ใช้บังคับได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ทรัพย์ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๓๗ ทรัพย์ หมำยควำมว่ำ วัตถุมีรูปร่ำง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๘ ทรัพย์สิน หมำยควำมรวมทั้งทรัพย์และวัตถุไม่มีรูปร่ำง ซึ่งอำจมีรำคำ
สำนักและอำจถื อเอำได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๙ อสังหำริมทรัพย์ หมำยควำมว่ำ ที่ดินและทรัพย์อันติดอยู่กับที่ดิน
สำนักมีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ลัก ษณะเป็นกำรถำวรหรืกำ อประกอบเป็ สำนันกอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นเดียวกับที่ดินนั้น และหมำยควำมรวมถึ
กำ สำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทรัพยสิทธิอัน กำ
เกี่ยวกับที่ดิน หรือทรัพย์อันติดอยู่กับที่ดินหรือประกอบเป็นอันเดียวกับที่ดินนั้นด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๐ สังหำริมทรัพย์ หมำยควำมว่ำ ทรัพย์สินอื่นนอกจำกอสังหำริมทรัพย์
สำนักและหมำยควำมรวมถึ งสิกทำธิอันเกี่ยวกับสทรัำนัพกย์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สินนั้นด้วย กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๔๑ ทรัพย์แบ่งได้กหมำยควำมว่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำสทรั
ำนักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์อันอำจแยกออกจำกกักนำ เป็นส่วน ๆ
ได้จริงถนัดชัดแจ้ง แต่ละส่วนได้รูปบริบูรณ์ลำพังตัว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๒ ทรัพย์แบ่งไม่ได้ หมำยควำมว่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำ ทรัพย์อันจะแยกออกจำกกันไม่ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นอกจำกเปลี่ยนแปลงภำวะของทรัพย์ และหมำยควำมรวมถึงทรัพย์ที่มีกฎหมำยบัญญัติว่ำแบ่งไม่ได้ด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๔๓ ทรัพย์นอกพำณิชย์ หมำยควำมว่ำ ทรัพย์ที่ไม่สำมำรถถือเอำได้และ


สำนักทรั พย์ที่โอนแก่กันมิได้โดยชอบด้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วยกฎหมำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๔๔ ส่วนควบของทรั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พย์ หมำยควำมว่ ำ ส่วนซึ่งโดยสภำพแห่กำงทรัพย์หรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โดยจำรีตประเพณีแห่งท้องถิ่นเป็นสำระสำคัญในควำมเป็นอยู่ของทรัพย์นั้น และไม่อำจแยกจำกกันได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นอกจำกจะทำลำย ทำให้บุบสลำย หรือทำให้ทรัพย์นั้นเปลี่ยนแปลงรูปทรงหรือสภำพไป
สเจ้ำนัำกของทรั พย์ย่อมมีกรรมสิทกธิำ์ในส่วนควบของทรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี พย์นั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๑๔๕ ไม้ยืนต้สนำนัเป็กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นส่วนควบกับที่ดินที่ไม้กนำั้นขึ้นอยู่ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ไม้ล้มลุกหรือธัญชำติอันจะเก็บเกี่ยวรวงผลได้ครำวหนึ่งหรือหลำยครำวต่อปีไม่เป็น
ส่วนควบกับที่ดินสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๔๖ ทรัพย์สซำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ึ่งติกดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กับที่ดินหรือติดกับโรงเรื
กำอนเพียงชั่วครำวไม่ ถือว่ำเป็นส่วน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ควบกับที่ดินหรือโรงเรือนนั้น ควำมข้อนี้ให้ใช้บังคับแก่โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้ำงอย่ำงอื่น ซึ่งผู้มีสิทธิ
ในที่ดินของผู้อื่นใช้สำนั
สิทกธิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้นปลูกสร้ำงไว้ในที่ดินกนัำ ้นด้วย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๔๗ อุปกรณ์ หมำยควำมว่ำ สังหำริมทรัพย์ซึ่งโดยปกตินิยมเฉพำะถิ่นหรือ
โดยเจตนำชัดแจ้งสของเจ้ ำของทรัพย์ที่เป็นประธำน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เป็นของใช้ สำนัปกระจ ำอยู่กับทรัพย์ที่เป็นกประธำนเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ น
อำจิณเพื่อประโยชน์แก่กำรจัดดูแล ใช้สอย หรือรักษำทรัพย์ที่เป็นประธำน และเจ้ำของทรัพย์ได้นำมำ
สำนักสูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ทรัพย์ที่เป็นประธำนโดยกำรน
กำ ำมำติดสต่ำนั
อหรื อปรับเข้ำไว้ หรือทำโดยประกำรอื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่นใดในฐำนะเป็ นของใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประกอบกับทรัพย์ที่เป็นประธำนนั้น
สอุำนั
ปกรณ์ ที่แยกออกจำกทรัพกย์ำที่เป็นประธำนเป็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรชั่วครำวก็ยังไม่ขำดจำกกำรเป็
กำ น
อุปกรณ์ของทรัพย์ที่เป็นประธำนนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อุปกรณ์
กำย่อมตกติดไปกัสำนับทรั พย์ที่เป็นประธำน เว้นกแต่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ จะมีกำรกำหนดไว้ เป็นอย่ำงอื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๘ ดอกผลของทรัพย์ ได้แก่ ดอกผลธรรมดำและดอกผลนิตินัย
ดอกผลธรรมดำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ หมำยควำมว่ ำ สิ่งที่เกิดขึ้นตำมธรรมชำติ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ของทรัสพำนัย์กซึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่งได้มำจำกตัว กำ
ทรัพย์ โดยกำรมีหรือใช้ทรัพย์นั้นตำมปกตินิยม และสำมำรถถือเอำได้เมื่อขำดจำกทรัพย์นั้น
สดอกผลนิ ตินัย หมำยควำมว่กำำ ทรัพย์หรือประโยชน์
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อย่ำงอื่นที่ได้ม ำเป็นกครั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้งครำวแก่
เจ้ำของทรัพย์จำกผู้อื่นเพื่อกำรที่ได้ใช้ทรัพย์นั้น และสำมำรถคำนวณและถือเอำได้เป็นรำยวันหรือตำม
สำนักระยะเวลำที ่กำหนดไว้ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกลัำกษณะ ๔ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นิติกรรม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนับทเบ็ ดเสร็จทั่วไป
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๔๙ นิติกรรม หมำยควำมว่ำ กำรใด ๆ อันทำลงโดยชอบด้วยกฎหมำย
และด้วยใจสมัครสำนั
มุ่งกโดยตรงต่ อกำรผูกนิติสกัมำพันธ์ขึ้นระหว่สำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำงบุกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คคล เพื่อจะก่อ เปลี่ยกนแปลง
ำ โอน
สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๐ กำรใดมีวัตถุปกำระสงค์เป็นกำรต้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัอกงห้ ำมชัดแจ้งโดยกฎหมำยเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นกำรพ้น
วิสัยหรือเป็นกำรขัดต่อควำมสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชำชน กำรนั้นเป็นโมฆะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๑ กำรใดเป็นกำรแตกต่ำงกับบทบัญญัติของกฎหมำย ถ้ำมิใช่กฎหมำย
อันเกี่ยวกับควำมสงบเรี ยบร้อยหรือศีลธรรมอักนำดีของประชำชน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักำรนั ้นไม่เป็นโมฆะ กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๑๕๒ กำรใดมิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ได้กทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ำให้ถูกต้องตำมแบบทีก่กำฎหมำยบังคับสไว้ำนักำรนั ้นเป็นโมฆะ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๓ กำรใดมิได้เป็นไปตำมบทบัสญำนัญักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ิ ของกฎหมำยว่ำด้วยควำมสำมำรถ
สำนักของบุ คคล กำรนั้นเป็นโมฆี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยะ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำหมวด ๒ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรแสดงเจตนำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๔ กำรแสดงเจตนำใดแม้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ในใจจริ
สำนังกผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้แสดงจะมิได้เจตนำให้ตกนต้
ำ องผูกพัน
ตำมที่ได้แสดงออกมำก็ตำม หำเป็นมูลเหตุให้กำรแสดงเจตนำนั้นเป็นโมฆะไม่ เว้นแต่คู่กรณีอีกฝ่ำย
สำนักหนึ ่งจะได้รู้ถึงเจตนำอันกซ่ำอนอยู่ในใจของผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้แกสดงนั ้น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๕ กำรแสดงเจตนำลวงโดยสมรู้กับคู่กรณีอีกฝ่ำยหนึ่งเป็นโมฆะ แต่จะ
สำนักยกขึ ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภำยนอกผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้กระท
สำนัำกำรโดยสุ จริต และต้องเสีกำยหำยจำกกำรแสดงเจตนำลวงนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
มิได้
สถ้ำนัำ กำรแสดงเจตนำลวงตำมวรรคหนึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ่ งสทำนัำขึก้ นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เพื่ อ อ ำพรำงนิ ติ ก รรมอื
กำ ่ น ให้ น ำ
บทบัญญัติของกฎหมำยอันเกี่ยวกับนิติกรรมที่ถูกอำพรำงมำใช้บังคับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๖ กำรแสดงเจตนำโดยสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสำระสำคัญแห่งนิติกรรม
เป็นโมฆะ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมส ำคั ญ ผิ ด ในสิ่ ง ซึ่ ง เป็ น สำระส ำคั ญ แห่ ง นิ ติ ก รรมตำมวรรคหนึ่ ง ได้ แ ก่
สำนักควำมส ำคัญผิดในลักษณะของนิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ติกรรม
สำนัควำมส ำคัญผิ ดในตัวบุคกคลซึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่งเป็นคู่กรณี แห่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั งนิติกรรมและ กำ
ควำมสำคัญผิดในทรั พย์สินซึ่งเป็นวัตถุแห่งนิติกรรม เป็นต้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๕๗ กำรแสดงเจตนำโดยส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำคัญผิดในคุกำณสมบัติของบุสคำนัคลหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อทรัพย์สิน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๓๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

เป็นโมฆียะ
ควำมสกำำคัญผิดตำมวรรคหนึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ง ต้องเป็นควำมสำคักญำผิดในคุณสมบัสตำนัิซกึ่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ตำมปกติถือว่ำ กำ
เป็นสำระสำคัญ ซึ่งหำกมิได้มีควำมสำคัญผิดดังกล่ำวกำรอันเป็นโมฆียะนั้นคงจะมิได้กระทำขึ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๘ ควำมสำคัญผิดตำมมำตรำ ๑๕๖ หรือมำตรำ ๑๕๗ ซึ่งเกิดขึ้นโดย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมประมำทเลินเล่ออย่ำงร้ำยแรงของบุคคลผู้แสดงเจตนำ บุคคลนั้นจะถือเอำควำมสำคัญผิดนั้นมำ
ใช้เป็นประโยชน์แสก่ำนัตนไม่ ได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๕๙ กำรแสดงเจตนำเพรำะถู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กกลฉ้อฉลเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นโมฆียะ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรถูกกลฉ้อฉลที่จะเป็นโมฆียะตำมวรรคหนึ่ง จะต้องถึงขนำดซึ่งถ้ำมิได้มีกลฉ้อฉล
ดังกล่ำว กำรอันเป็สำนั
นโมฆี ยะนั้นคงจะมิได้กระทกำขึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำคู่กรณี ฝ่ ำยหนึ่ งแสดงเจตนำเพรำะถูกกลฉ้อฉลโดยบุคคลภำยนอก กำรแสดง
สำนักเจตนำนั ้นจะเป็นโมฆียะต่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำอเมื่อคู่กรณีอสีกำนั
ฝ่ำกยหนึ ่งได้รู้หรือควรจะได้กรำู้ถึงกลฉ้อฉลนั้นสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๐ กำรบอกล้ำงโมฆียะกรรมเพรำะถู กกลฉ้อฉลตำมมำตรำ ๑๕๙ ห้ำมมิให้
สำนักยกเป็ นข้อต่อสู้บุคคลภำยนอกผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้กระทำกำรโดยสุ จริต
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๑ ถ้ำกลฉ้อฉลเป็กำนแต่เพียงเหตุสจำนัูงใจให้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี คู่กรณีฝ่ำยหนึ่งยอมรักำบข้อกำหนด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อันหนักยิ่งกว่ำที่คู่กรณีฝ่ำยนั้นจะยอมรับโดยปกติ คู่กรณีฝ่ำยนั้นจะบอกล้ำงกำรนั้นหำได้ไม่ แต่ชอบที่
สำนักจะเรี ยกเอำค่ำสินไหมทดแทนเพื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่อควำมเสี
สำนัยกหำยอั นเกิดจำกกลฉ้อฉลนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๒ ในนิติกรรมสองฝ่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำย กำรที่คสู่กำนัรณี ฝ่ำยหนึ่งจงใจนิ่งเสียไม่กแำจ้งข้อควำม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จริงหรือคุณสมบัติอันคู่กรณีอีกฝ่ำยหนึ่งมิได้รู้ กำรนั้นจะเป็นกลฉ้อฉล หำกพิสูจน์ได้ว่ำถ้ำมิได้นิ่งเสีย
สำนักเช่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นนั้น นิติกรรมนั้นก็คงจะมิ
กำ ได้กระทำขึสำนั
้น กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๓ ถ้ำคู่กรณีต่ำงได้กระทำกำรโดยกลฉ้อฉลด้วยกันทั้งสองฝ่ำย ฝ่ำยหนึ่ง
สำนักฝ่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยใดจะกล่ำวอ้ำงกลฉ้กอำฉลของอีกฝ่ำยหนึ
สำนัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เพื่อบอกล้ำงกำรนั้นหรืกอำ เรียกค่ำสินไหมทดแทนมิ ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สมำตรำ ๑๖๔ กำรแสดงเจตนำเพรำะถู


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กข่มสขูำนั่เป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โมฆียะ กำ
กำรข่มขู่ที่จะทำให้กำรใดตกเป็นโมฆียะนั้น จะต้องเป็นกำรข่มขู่ที่จะให้เกิดภัยอัน
สำนักใกล้ จะถึง และร้ำยแรงถึกงำขนำดที่จะจูงสใจให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักผงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ู้ถูกข่มขู่มีมูลต้องกลัว กซึำ่งถ้ำมิได้มีกำรข่สำนั
มขูก่ เงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ช่นนั้น กำรนั้น กำ
ก็คงจะมิได้กระทำขึ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๕ กำรขู่ว่ำจะใช้สิทธิตำมปกตินิยม ไม่ถือว่ำเป็นกำรข่มขู่
กำรใดที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่กระทำไปเพรำะนั
สำนักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถือยำเกรง ไม่ถือว่ำกำรนั
กำ ้นได้กระทำเพรำะถู กข่มขู่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๖ กำรข่มขู่ย่อมทำให้กำรแสดงเจตนำเป็นโมฆียะแม้บุคคลภำยนอกจะ
สำนักเป็ นผู้ข่มขู่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๑๖๗ ในกำรวิ


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิ จ ฉั ย กรณี ค วำมส ำคักญำ ผิ ด กลฉ้ อ ฉลสำนัหรื อ กำรข่ ม ขู่ ใ ห้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พิเครำะห์ถึง เพศ อำยุ ฐำนะ สุขภำพอนำมัย และภำวะแห่งจิตของผู้แสดงเจตนำตลอดจนพฤติกำรณ์
และสภำพแวดล้อสมอืำนั่นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ๆ อันเกี่ยวกับกำรนั้นด้กวำย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๖๘ กำรแสดงเจตนำที่กระทำต่อบุคคลซึ่งอยู่เฉพำะหน้ำให้ ถือว่ำมีผลนับ
แต่ผู้รับกำรแสดงเจตนำได้ ทรำบกำรแสดงเจตนำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้น ควำมข้สำนั
อนีก้ใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ห้ใช้ตลอดถึงกำรที่บุคกคลหนึ
ำ ่งแสดง
เจตนำไปยังบุคคลอีกคนหนึ่งโดยทำงโทรศัพท์ หรือโดยเครื่องมือสื่อสำรอย่ำงอื่น หรือโดยวิธีอื่นซึ่ง
สำนักสำมำรถติ ดต่อถึงกันได้ทกำนองเดี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ยวกัน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๙ กำรแสดงเจตนำที


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่กระทำต่อสบุำนัคกคลซึ ่งมิได้อยู่เฉพำะหน้ำกให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ถือว่ำมีผล
นับแต่เวลำที่กำรแสดงเจตนำนั้ นไปถึงผู้รับกำรแสดงเจตนำ แต่ถ้ำได้บอกถอนไปถึงผู้รับกำรแสดง
สำนักเจตนำนั ้น ก่อนหรือพร้อกมกั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นกับที่กำรแสดงเจตนำนั ้นไปถึงผู้รับกำรแสดงเจตนำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สกำรแสดงเจตนำนั ้น
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ตกเป็นอันไร้ผล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรแสดงเจตนำที่ได้ส่งออกไปแล้วย่อมไม่สเสืำนั่อกมเสี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ยไป แม้ภำยหลังกำรแสดงเจตนำ
สำนักนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ น ผู้ แ สดงเจตนำจะถึ งกแก่
ำ ค วำมตำยสหรื
ำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถู กศำลสั่ งให้ เป็ น คนไร้กำค วำมสำมำรถหรื
สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คนเสมื อนไร้ กำ
ควำมสำมำรถ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๐ กำรแสดงเจตนำซึ่ งกระท ำต่ อ ผู้ เยำว์ห รือ ผู้ ที่ ศ ำลสั่ งให้ เป็ น คนไร้
สำนักควำมสำมำรถหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อคนเสมื
กำ อนไร้ควำมสำมำรถ จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสูก้ำผู้รับกำรแสดงเจตนำไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ได้ เว้นแต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบำล หรือผู้พิทักษ์ แล้วแต่กรณี ของผู้รับกำรแสดงเจตนำนั้นได้รู้ด้วย หรือได้
ให้ควำมยินยอมไว้สกำนั่อกนแล้ ว
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมในวรรคหนึ่ งมิ ให้ ใช้ บั งคั บ ถ้ ำกำรแสดงเจตนำนั้ น เกี่ ย วกั บ กำรที่ ก ฎหมำย
สำนักบังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญญัติให้ผู้เยำว์หรือคนเสมื
กำ อนไร้ควำมสำมำรถกระท ำได้เองโดยลำพั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๑ ในกำรตีควำมกำรแสดงเจตนำนั้น ให้เพ่งเล็งถึงเจตนำอันแท้จริงยิ่ง
สำนักกว่ ำถ้อยคำสำนวนหรือตักวำอักษร
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำหมวด ๓ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
โมฆะกรรมและโมฆียะกรรม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๗๒ โมฆะกรรมนัก้นำไม่อำจให้สัตยำบั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แก่กันได้ และผู้มีส่วนได้
กำเสี ยคนหนึ่ง
คนใดจะยกควำมเสียเปล่ำแห่งโมฆะกรรมขึ้นกล่ำวอ้ำงก็ได้
ถ้ำจะต้กำองคืนทรัพย์สสินำนัอักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เกิดจำกโมฆะกรรม ให้กนำ ำบทบัญญัติวส่ำำนัด้กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยลำภมิควรได้ กำ
แห่งประมวลกฎหมำยนี ้มำใช้บังคับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๗๓ ถ้ำส่วสนหนึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งส่วนใดของนิติกรรมเป็
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำนโมฆะ นิติกสรรมนั ้นย่อมตกเป็น
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๓๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

โมฆะทั้งสิ้น เว้นแต่จ ะพึงสันนิษฐำนได้โดยพฤติกำรณ์แห่งกรณีว่ำ คู่กรณีเจตนำจะให้ส่วนที่ไม่เป็น


สำนักโมฆะนั ้นแยกออกจำกส่กวนที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่เป็นโมฆะได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๗๔ กำรใดเป็นโมฆะแต่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เข้ำลักษณะเป็ นนิติกรรมอย่ำงอื่นซึก่งไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ เป็นโมฆะ
ให้ถือตำมนิติกรรมซึ่งไม่เป็นโมฆะ ถ้ำสันนิษฐำนได้โดยพฤติกำรณ์แห่งกรณีว่ำ หำกคู่กรณีได้รู้ว่ำกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นั้นเป็นโมฆะแล้ว ก็คงจะได้ตั้งใจมำตั้งแต่แรกที่จะทำนิติกรรมอย่ำงอื่นซึ่งไม่เป็นโมฆะนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๕ โมฆียะกรรมนั้น บุคคลต่อไปนี้จะบอกล้ำงเสียก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี(๑) ผูก้ แำทนโดยชอบธรรมหรื อผู้เยำว์ซึ่งบรรลุ นิ ตกำิภ ำวะแล้ ว แต่สผำนัู้ เยำว์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี จะบอกล้ ำง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ก่อนที่ตนบรรลุนิติภำวะก็ได้ถ้ำได้รับควำมยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรม
ส(๒)
ำนักบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คคลซึ่งศำลสั่งให้เป็นกคนไร้
ำ ควำมสำมำรถหรื อคนเสมือนไร้ควำมสำมำรถ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เมื่อ
บุคคลนั้นพ้นจำกกำรเป็นคนไร้ควำมสำมำรถหรือคนเสมือนไร้ควำมสำมำรถแล้ว หรือผู้อนุบำลหรือผู้
สำนักพิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทักษ์ แล้วแต่กรณี แต่กคำนเสมือนไร้ควำมสำมำรถจะบอกล้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำงก่อนที กำ ่ตนจะพ้นจำกกำรเป็ นคนเสมือน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ไร้ควำมสำมำรถก็ได้ถ้ำได้รับควำมยินยอมของผู้พิทักษ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) บุคคลผู้แสดงเจตนำเพรำะสำคัญผิด หรืสำนั อถูกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กลฉ้อฉล หรือถูกข่มขู่ กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี(๔) บุกคำคลวิกลจริตผูส้กำนัระท ำนิติกรรมอันเป็นโมฆีกยำ ะตำมมำตรำสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๓๐กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ในขณะที่จริต กำ
ของบุคคลนั้นไม่วิกลแล้ว
สถ้ำนั
ำบุกคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คลผู้ทำนิติกรรมอันเป็กนำโมฆียะถึงแก่สคำนั
วำมตำยก่ อนมีกำรบอกล้ำงโมฆี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยะกรรม
ทำยำทของบุคคลดังกล่ำวอำจบอกล้ำงโมฆียะกรรมนั้นได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๖ โมฆียะกรรมเมื่อบอกล้ำงแล้ว ให้ถือว่ำเป็นโมฆะมำแต่เริ่มแรก และ
ให้ผู้เป็นคู่กรณีกลัสำนั
บคืกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สู่ฐำนะเดิม ถ้ำเป็นกำรพ้
กำ นวิสัยจะให้สกำนัลักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คืนเช่นนั้นได้ ก็ให้ได้รกับำค่ำเสียหำย
ชดใช้ให้แทน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถ้ำบุคกคลใดได้
ำ รู้หรือควรจะได้ รู้ว่ำกำรใดเป็นโมฆียกะำ เมื่อบอกล้ำงแล้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัวกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้ถือว่ำบุคคล กำ
นั้นได้รู้ว่ำกำรนั้นเป็นโมฆะ นับแต่วันที่ได้รู้หรือควรจะได้รู้ว่ำเป็นโมฆียะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ห้ำมมิให้ ใช้สิทธิเรียกร้องอันเกิดแต่กำรกลับคืนสู่ฐำนะเดิ มตำมวรรคหนึ่ง เมื่อพ้น
สำนักหนึ ่งปีนับแต่วันบอกล้ำงโมฆี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยะกรรม สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๗๗ ถ้ำบุคคลผู้มกีสำิทธิบอกล้ำงโมฆี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัยกะกรรมตำมมำตรำ ๑๗๕
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ผู้หนึ่งผู้ใด
ได้ใ ห้ส ัต ยำบั น แก่ โ มฆี ย ะกรรม ให้ ถื อ ว่ ำ กำรนั้ น เป็ น อั น สมบู ร ณ์ ม ำแต่ เริ่ ม แรก แต่ ทั้ ง นี้ ย่ อ มไม่
สำนักกระทบกระเทื อนถึงสิทธิกขำองบุคคลภำยนอก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๗๘ กำรบอกล้ำงหรื


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อให้สัตยำบัสนำนัแก่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โมฆียะกรรม ย่อมกระทกำำได้โดยกำร
แสดงเจตนำแก่คู่กรณีอีกฝ่ำยหนึ่งซึ่งเป็นบุคคลที่มีตัวกำหนดได้แน่นอน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๙ กำรให้ สั ตยำบั น แก่ โมฆี ยะกรรมนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
้ น จะสมบู รณ์ ต่ อ เมื่ อได้ กระท ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ภำยหลังเวลำที่มูลเหตุให้เป็นโมฆียะกรรมนั้นหมดสิ้นไปแล้ว
บุคคลซึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่งศำลได้สั่งให้สเำนั
ป็นกคนไร้ ควำมสำมำรถ คนเสมื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อนไร้ควำมสำมำรถหรื อบุคคล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๓๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

วิกลจริต ผู้กระทำนิติกรรมอันเป็นโมฆียะตำมมำตรำ ๓๐ จะให้สัตยำบันแก่โมฆียะกรรมได้ต่อเมื่อได้รู้


สำนักเห็ น ซึ่ ง โมฆี ย ะกรรมนั้กนำภำยหลั งที่ บสุ คำนัคลนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ น พ้ น จำกกำรเป็ น คนไร้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ค วำมสำมำรถ คนเสมื อ นไร้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ควำมสำมำรถ หรือในขณะที่จริตของบุคคลนั้นไม่วิกล แล้วแต่กรณี
สทำยำทของบุ คคลผู้ทำนิติกกรรมอั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นเป็นโมฆีสยำนัะกจะให้ สัตยำบันแก่โมฆียกะกรรมได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นับ
แต่เวลำที่ผู้ทำนิติกรรมนั้นถึงแก่ควำมตำย เว้นแต่สิทธิที่จะบอกล้ำงโมฆียะกรรมของผู้ตำยนั้นได้สิ้นสุด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลงแล้ว
สบทบั ญญัติวรรคหนึ่งและวรรคสองมิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ให้ใช้บสำนั
ังคักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถ้ำกำรให้สัตยำบันแก่กโำมฆียะกรรม
กระทำโดยผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบำลหรือผู้พิทักษ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๘๐ ภำยหลังเวลำอันพึงให้สัตยำบันได้ตำมมำตรำ ๑๗๙ ถ้ำมีพฤติกำรณ์
อย่ำงหนึ่งอย่ำงใดดั
สำนังต่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อไปนี้เกิดขึ้นเกี่ยวด้วยโมฆี
กำ ยะกรรมโดยกำรกระท ำของบุคคลซึ่งมีกสำิทธิบอกล้ำง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โมฆียะกรรมตำมมำตรำ ๑๗๕ ถ้ำมิได้สงวนสิทธิไว้แจ้งชัดประกำรใดให้ถือว่ำเป็นกำรให้สัตยำบัน
(๑) ได้กปำฏิบัติกำรชำระหนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก้แงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ล้วทั้งหมดหรือแต่บำงส่
กำวน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ได้มีกำรเรียกให้ชำระหนี้นั้นแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ได้มีกำรแปลงหนี้ใหม่
(๔) ได้กมำีกำรให้ประกันสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เพืก่องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หนี้นั้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) ได้มีกำรโอนสิทธิหรือควำมรับผิดทั้งหมดหรือแต่บำงส่วน
ส(๖)
ำนักได้ มีกำรกระทำอย่ำงอื่นกอัำนแสดงได้ว่ำเป็สำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นกำรให้ สัตยำบัน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๑๘๑ โมฆียะกรรมนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นจะบอกล้ำงมิได้เมื่อกพ้ำ นเวลำหนึ่งปีสนำนัับแต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เวลำที่อำจให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สัตยำบันได้ หรือเมื่อพ้นเวลำสิบปีนับแต่ได้ทำนิติกรรมอันเป็นโมฆียะนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ เงือ่ กนไขและเงื
สำนั ่อนเวลำ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ ๑๘๒ ข้ อ ควำมใดอั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี น บั ง คั บ ไว้ ให้ นิ ติ กกำรรมเป็ น ผลหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัอ กสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ น ผลต่ อ เมื่ อ มี กำ
เหตุกำรณ์อันไม่แน่นอนว่ำจะเกิดขึ้นหรือไม่ในอนำคต ข้อควำมนั้นเรียกว่ำเงื่อนไข
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๘๓ นิ ติ ก รรมใดมี เงื่อ นไขบั งคับ ก่อ น นิ ติ ก รรมนั้ น ย่ อ มเป็ น ผลต่ อ เมื่ อ
สำนักเงืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อนไขนั้นสำเร็จแล้ว กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นิติกรรมใดมีเงื่อนไขบังคับหลัง นิติกรรมนั้นย่อมสิ้นผลในเมื่อเงื่อนไขนั้นสำเร็จแล้ว
สถ้ำนั
ำคูก่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รณีแห่งนิติกรรมได้แสดงเจตนำไว้
กำ ด้วสยกั
ำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ว่ำ ควำมสำเร็จแห่งเงืก่อำนไขนั้นให้มี
ผลย้อนหลังไปถึงเวลำใดเวลำหนึ่งก่อนสำเร็จ ก็ให้เป็นไปตำมเจตนำเช่นนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๘๔ ในระหว่ำงที่เงื่อนไขยังไม่สสำเร็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จ คู่กรณีฝ่ำยหนึ่งฝ่ำยใดแห่งนิติกรรม
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อันอยู่ในบังคับเงื่อนไขจะต้องงดเว้นไม่กระทำกำรอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดให้เป็นที่เสื่อมเสียประโยชน์แก่
สำนักคูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่กรณีอีกฝ่ำยหนึ่ง ซึ่งจะพึ
กำ งได้จำกควำมส
สำนัำเร็ จแห่งเงื่อนไขนั้น กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๑๘๕ ในระหว่


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งที่เงื่อนไขยังมิ ไ ด้ ส ำเร็กจำ นั้ น สิ ทธิและหน้
สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ที่ต่ ำง ๆ ของ กำ
คู่กรณีมีอย่ำงไร จะจำหน่ำย จะรับมรดก จะจัดกำรป้องกันรักษำ หรือจะทำประกันไว้ประกำรใดตำม
กฎหมำยก็ย่อมทำได้สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๘๖ ถ้ำควำมสำเร็จแห่งเงื่อนไขจะเป็นทำงให้คู่กรณีฝ่ำยใดเสียเปรียบ และ
คู่กรณีฝ่ำยนั้นกระท
สำนัำกำรโดยไม่ สุจริตจนเป็นเหตุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ให้เงื่อนไขนัส้นำนั
ไม่กสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเร็จให้ถือว่ำเงื่อนไขนัก้นำสำเร็จแล้ว
ถ้ำควำมสำเร็จแห่งเงื่อนไขจะเป็นทำงให้คู่กรณีฝ่ำยใดได้เปรียบ และคู่กรณีฝ่ำยนั้น
สำนักกระท ำกำรโดยไม่สุจริตจนเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นเหตุให้เงืส่อำนั
นไขนั ้นสำเร็จ ให้ถือว่ำเงื่อกนไขนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้นมิได้สำเร็สจำนัเลย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๘๗ ถ้ำเงื่อนไขสำเร็


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จแล้วในเวลำท
สำนัำนิ ติกรรม หำกเป็นเงื่อนไขบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งคับก่อน
ให้ถือว่ำนิติกรรมนั้นไม่มีเงื่อนไข หำกเป็นเงื่อนไขบังคับหลังให้ถือว่ำนิติกรรมนั้นเป็นโมฆะ
ถ้ำเป็นกำอัน แน่น อนในเวลำท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนิติกรรมว่ำเงื่อนไขไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อำจสำเร็จได้
สำนัหำกเป็ นเงื่อนไข
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บังคับก่อนให้ถือว่ำนิติกรรมนั้นเป็นโมฆะ หำกเป็นเงื่อนไขบังคับหลังให้ถือว่ำนิติกรรมนั้นไม่มีเงื่อนไข
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตรำบใดที่คู่กรณียังไม่รู้ว่ำเงื่อนไขได้สำเร็จสแล้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
วตำมวรรคหนึ่ง หรือไม่อำจสำเร็จได้
สำนักตำมวรรคสอง ตรำบนั้นกคูำ่กรณียังมีสิทธิสแำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ละหน้ ำที่ตำมมำตรำ ๑๘๔กำและมำตรำ ๑๘๕
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๘๘ นิติกรรมใดมีกำเงื่อนไขอันไม่สชำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อบด้ วยกฎหมำย หรือขัดกต่ำอควำมสงบ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชำชน นิติกรรมนั้นเป็นโมฆะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๘๙ นิติกรรมใดมีเงื่อนไขบังคับก่อนและเงื่อนไขนั้นเป็นกำรพ้นวิสัย นิติกรรม
นั้นเป็นโมฆะ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นิติกรรมใดมีเงื่อนไขบังคับหลังและเงื่อนไขนั้นเป็นกำรพ้นวิสัย ให้ถือว่ำนิติกรรมนั้น
สำนักไม่ มีเงื่อนไข
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๐ นิติกรรมใดมีเงื่อนไขบังคับก่อนและเป็นเงื่อนไขอันจะสำเร็จได้หรือไม่
สำนักสุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดแล้วแต่ใจของฝ่ำยลูกกหนี
ำ ้ นิติกรรมนัส้นำนั
เป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โมฆะ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๙๑ นิ ติ ก รรมใดมี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เงื่ อ นเวลำเริ
สำนั่ มกต้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น ก ำหนดไว้ ห้ ำ มมิ ให้กำท วงถำมให้
ปฏิบัติกำรตำมนิติกรรมนั้นก่อนถึงเวลำที่กำหนด
นิติกรรมใดมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เงื่อนเวลำสิ
สำนั้นกสุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดกำหนดไว้ นิติกรรมนักำ้นย่อมสิ้นผลเมืส่อำนัถึงกเวลำที ่กำหนด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สมำตรำ ๑๙๒ เงื่อนเวลำเริก่มำ ต้นหรือเงื่อนเวลำสิ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นสุดนั้น ให้ สั นนิษฐำนไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ก่อนว่ ำ
กำหนดไว้เพื่อประโยชน์แก่ฝ่ำยลูกหนี้ เว้นแต่จะปรำกฏโดยเนื้อควำมแห่งตรำสำรหรือโดยพฤติกำรณ์
สำนักแห่ งกรณีว่ำได้ตั้งใจจะให้กเำป็นประโยชน์สแำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ก่ฝก่ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยเจ้ำหนี้หรือแก่คู่กรณีกทำั้งสองฝ่ำยด้วยกั น กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนั
ถ้ำเงื่อนเวลำเป็นประโยชน์แก่ฝ่ำยใด ฝ่ำยนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
้นจะสละประโยชน์นั้นเสียก็ได้ หำกไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กระทบกระเทือนถึงประโยชน์อันคู่กรณีอีกฝ่ำยหนึ่งจะพึงได้รับจำกเงื่อนเวลำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๙๓ ในกรณีดังต่อไปนี้ ฝ่ำยลูกหนี้จะถือเอำประโยชน์แห่งเงื่อนเวลำเริ่มต้น


สำนักหรื อเงื่อนเวลำสิ้นสุดมิได้กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ลูกหนี้ถูกศำลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขำดตำมกฎหมำยว่ำด้วยล้มละลำย
ส(๒)
ำนักลูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กหนี้ไม่ให้ประกันในเมืก่อำจำต้องให้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ลูกหนี้ได้ทำลำย หรือทำให้ลดน้อยถอยลงซึ่งประกันอันได้ให้ไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ลูกหนี้นำทรัพย์สินของบุคคลอื่นมำให้เป็นประกันโดยเจ้ำของทรัพย์สินนั้นมิได้
ยินยอมด้วย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ลักษณะ ๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ระยะเวลำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๙๓/๑ กำรนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนับกระยะเวลำทั ้งปวง ให้บกังำคับตำมบทบัญสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญัตกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิแห่งลักษณะนี้ กำ
เว้นแต่จะมีกฎหมำย คำสั่งศำล ระเบียบข้อบังคับ หรือนิติกรรมกำหนดเป็นอย่ำงอื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๙๓/๒ กำรค
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำนวณระยะเวลำ ให้คำนวณเป็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นวัน แต่ถส้ำำนั
กำหนดเป็ นหน่วย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เวลำที่สั้นกว่ำวัน ก็ให้คำนวณตำมหน่วยเวลำที่กำหนดนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๓/๓ ถ้ำกำหนดระยะเวลำเป็นหน่วยเวลำที่สั้นกว่ำวันให้เริ่มต้นนับใน
สำนักขณะที ่เริ่มกำรนั้น กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำกำหนดระยะเวลำเป็นวัน สัปดำห์ เดือนหรือปี มิให้นับวั นแรกแห่งระยะเวลำนั้น
รวมเข้ำด้วยกัน เว้สนำนัแต่ จะเริ่มกำรในวันนั้นเองตั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้งแต่เวลำที่ถสือำนั
ได้กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ำเป็นเวลำเริ่มต้นทำกำรงำนกั
กำ นตำม
ประเพณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๓/๔ ในทำงคดี ค วำม ในทำงรำชกำร หรื อ ทำงธุ ร กิ จ กำรค้ ำ และ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อุตสำหกรรม วัน หมำยควำมว่ำ เวลำทำกำรตำมที่ได้กำหนดขึ้นโดยกฎหมำย คำสั่ง ศำล หรือระเบียบ
สำนักข้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อบังคับ หรือเวลำทำกำรตำมปกติ
กำ ของกิ
สำนัจกกำรนั ้น แล้วแต่กรณี กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๙๓/๕ ถ้ำกำหนดระยะเวลำเป็


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สนำนัสักปงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดำห์ เดือนหรือปี ให้ คกำนวณตำมปี

ปฏิทิน
ถ้ำระยะเวลำมิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ได้กำหนดนั บแต่วันต้นแห่งสัปดำห์กำวันต้นแห่งเดือสนหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อปี ระยะเวลำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ย่ อ มสิ้ น สุ ด ลงในวัน ก่ อ นหน้ ำจะถึ งวั น แห่ งสั ป ดำห์ เดื อ นหรือ ปี สุ ด ท้ ำยอั น เป็ น วั น ตรงกั บ วั น เริ่ ม
ระยะเวลำนั้ น ถ้สำในระยะเวลำนั บ เป็ น เดือนหรื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อปี นั้ น ไม่ มสีวำนั
ันตรงกั นในเดือนสุ ดท้ำย กให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ถื อเอำวั น
สุดท้ำยแห่งเดือนนั้นเป็นวันสิ้นสุดระยะเวลำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๓/๖ ถ้ำระยะเวลำกำหนดเป็นสเดื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนและวัน หรือกำหนดเป็นเดือนและ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนของเดือน ให้นับจำนวนเดือนเต็มก่อน แล้วจึงนับจำนวนวันหรือส่วนของเดือนเป็นวัน
ถ้ำระยะเวลำก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำหนดเป็
สำนันกส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วนของปี ให้คำนวณส่กวำนของปีเป็นเดืสอำนันก่ อนหำกมีส่วน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๓๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ของเดือน ให้นับส่วนของเดือนเป็นวัน
กำรคำนวณส่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วนของเดืสำนั
อนตำมวรรคหนึ ่งและวรรคสอง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ให้ถือว่ำเดือสนหนึ ่งมีสำมสิบวัน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สมำตรำ ๑๙๓/๗ ถ้ำมีกำรขยำยระยะเวลำออกไปโดยมิ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ได้มีกำรกำหนดวั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นเริ่มต้น
แห่งระยะเวลำที่ขยำยออกไป ให้นับวันที่ต่อจำกวันสุดท้ำยของระยะเวลำเดิมเป็นวันเริ่มต้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๙๓/๘ ถ้ำวันสุดท้กำำยของระยะเวลำเป็


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นวันหยุดทำกำรตำมประกำศเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ น
ทำงกำรหรือตำมประเพณี ให้นับวันที่เริ่มทำกำรใหม่ต่อจำกวันที่หยุดทำกำรนั้นเป็นวันสุดท้ำยของ
สำนักระยะเวลำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกลัำกษณะ ๖ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อำยุควำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๑ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนับทเบ็ ดเสร็จทั่วไป
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๓/๙ สิทธิเรียกร้องใด ๆ ถ้ำมิได้ใช้บังคับภำยในระยะเวลำที่กฎหมำย
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนด สิทธิเรียกร้องนัก้นำเป็นอันขำดอำยุ
สำนัคกวำม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๙๓/๑๐ สิทธิเรียกกร้ำ องที่ขำดอำยุสคำนัวำม


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ลูกหนี้มีสิทธิที่จะปฏิกเสธกำรช
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำระ
หนี้ตำมสิทธิเรียกร้องนั้นได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๓/๑๑ อำยุควำมที่กฎหมำยกำหนดไว้นั้น คู่กรณีจะตกลงกันให้ งดใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หรือขยำยออกหรือย่นเข้ำไม่ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๓/๑๒ อำยุควำมให้เริ่มนับแต่ขณะที่อำจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้น
ไปถ้ำเป็นสิทธิเรียสกร้ำนัอกงให้ งดเว้นกระทำกำรอย่กำำงใด ให้เริ่มนับสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี แต่กเวลำแรกที ่ฝ่ำฝืนกระทำกำรนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้น

มำตรำกำ๑๙๓/๑๓ สิสทำนัธิเกรีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยกร้องที่เจ้ำหนี้ยังไม่อกำจบั
ำ งคับได้จนกว่
สำนัำจะได้ ทวงถำมให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ลูกหนี้ชำระหนี้ก่อน ให้เริ่มนับอำยุควำมตั้งแต่เวลำแรกที่อำจทวงถำมได้เป็นต้นไป แต่ถ้ำลูกหนี้ยังไม่
ต้องชำระหนี้จนกว่สำนัำกระยะเวลำหนึ ่งจะได้ล่วกงพ้ำ นไปแล้วนับสแต่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักเวลำที ่ได้ทวงถำมนั้น ให้กำเริ่มนับอำยุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ควำมตั้งแต่ระยะเวลำนั้นได้สิ้นสุดไปแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๓/๑๔ อำยุควำมย่อมสะดุดหยุสดำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลงในกรณี ดังต่อไปนี้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ลูกหนี้รับสภำพหนี้ต่อเจ้ำหนี้ตำมสิทธิเรียกร้องโดยทำเป็นหนังสือรับสภำพหนี้ให้
สำนักชงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำระหนี้ให้บำงส่วน ชำระดอกเบี
กำ ้ย ให้สปำนัระกั น หรือกระทำกำรใดกำๆ อันปรำศจำกข้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สงสัยแสดงให้ กำ
- ๓๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

เห็นเป็นปริยำยว่ำยอมรับสภำพหนี้ตำมสิทธิเรียกร้อง
(๒) เจ้กำำหนี้ได้ฟ้องคดีสเพืำนั่อกตังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้งหลักฐำนสิทธิเรียกร้อกงหรื
ำ อเพื่อให้ชำระหนี ้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๓) เจ้ำหนี้ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลำย
ส(๔)
ำนักเจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนี้ได้มอบข้อพิพำทให้ กำ อนุญำโตตุลำกำรพิ จำรณำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๕) เจ้ำหนี้ได้กระทำกำรอื่นใดอันมีผลเป็นอย่ำงเดียวกันกับกำรฟ้องคดี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๙๓/๑๕ เมื่ออำยุกคำวำมสะดุดหยุดสำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ลงแล้ ว ระยะเวลำที่ล่วงไปก่กำอนนั้นไม่นับ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เข้ำในอำยุควำม
เมื่อเหตุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำที่ทำให้อำยุคสวำมสะดุ ดหยุดลงสิ้ นสุดเวลำใด
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ให้เริ่มนับอำยุ
สำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วำมใหม่ตั้งแต่ กำ
เวลำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๓/๑๖ หนี้ใดซึ่งตำมมูลแห่งหนี้นั้น เจ้ำหนี้จะได้รับชำระหนี้เป็นครำว ๆ
สำนักเจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนี้มีสิทธิเรียกให้ลูกกหนี
ำ ้ทำหนังสือสรัำนั
บสภำพหนี ้ให้ในเวลำใดเวลำหนึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งก่อนอำยุสำนั
ควำมครบบริ บูรณ์
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เพื่อเป็นหลักฐำนว่ำอำยุควำมสะดุดหยุดลง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๙๓/๑๗ ในกรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ที่อำยุควำมสะดุดหยุดกลงเพรำะเหตุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ตำมมำตรำ ๑๙๓/๑๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๒) หำกคดีนั้นได้มีคำพิพำกษำถึงที่สุดให้ยกคำฟ้อง หรือคดีเสร็จไปโดยกำรจำหน่ำยคดีเพรำะเหตุ
ถอนฟ้อง หรือทิ้งสฟ้ำนัองกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้ถือว่ำอำยุควำมไม่เคยสะดุ กำ ดหยุดลงสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่คดีนั้นศำลไม่รับหรือคืนหรือให้ยกคำฟ้องเพรำะเหตุคดีไม่อยู่ในอำนำจศำล
สำนักหรื อศำลให้ยกคำฟ้องโดยไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ตัดสิทธิโจทก์ สำนัทกี่จงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ะฟ้องใหม่ และปรำกฏว่ กำำอำยุควำมครบก
สำนักำหนดไปแล้ วใน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ระหว่ำงกำรพิจำรณำ หรือจะครบกำหนดภำยในหกสิบวันนับแต่วันที่คำพิพำกษำหรือคำสั่งนั้นถึงที่สุด
ให้เจ้ำหนี้มีสิทธิฟส้อำนังคดี เพื่อตั้งหลักฐำนสิทธิเกรียำ กร้องหรือเพืส่อำนัให้กชงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำระหนี้ภำยในหกสิบวักนำนับแต่วันที่
คำพิพำกษำหรือคำสั่งนั้นถึงที่สุด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๓/๑๘ ให้นำมำตรำ ๑๙๓/๑๗ มำใช้บังคับแก่กรณีที่อำยุควำมสะดุด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หยุดลงเพรำะเหตุตำมมำตรำ ๑๙๓/๑๔ (๓) (๔) และ (๕) โดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๓/๑๙ ในขณะที่อำยุควำมจะครบกำหนดนั้น ถ้ำมีเหตุสุดวิสัยมำขัดขวำง
มิให้เจ้ำหนี้กระทำกำรตำมมำตรำ ๑๙๓/๑๔ ให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำอำยุควำมนั้นสยัำนังไม่ ครบกำหนดจนกว่ำจะพ้กำนสำมสิบวัน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นับแต่วันที่เหตุสุดวิสัยนั้นได้สิ้นสุดลง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๓/๒๐ อำยุควำมสิทธิเรียกร้องของผู้เยำว์หรือของบุคคลวิกลจริตอันศำล
จะสั่งให้เป็นคนไร้สคำนัวำมสำมำรถหรื อไม่ก็ตำมกำถ้ำจะครบกำหนดลงในขณะที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่บุคคลดังกล่กำำวยังไม่ลุถึง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ควำมสำมำรถเต็มภูมิ หรือในระหว่ำงหนึ่งปีนับแต่วันที่บุคคลดังกล่ำวไม่มีผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้
สำนักอนุ บำล อำยุควำมนั้นยังกไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ครบกำหนดจนกว่ ำจะครบหนึ่งปีนับแต่กวำันที่บุคคลนั้นได้สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ลุถกึงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ควำมสำมำรถ กำ
เต็มภูมิหรือได้มีผสู้แำนัทนโดยชอบธรรมหรื อผู้อนุบำล แล้วแต่สกำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รณีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แต่ถ้ำอำยุควำมสิทธิเกรีำยกร้องนั้นมี
ระยะเวลำน้ อยกว่ำหนึ่ งปีก็ให้นำกำหนดระยะเวลำที่สั้นกว่ำนั้นมำใช้แทนกำหนดระยะเวลำหนึ่งปี
สำนักดังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งกล่ำว กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๙๓/๒๑ อำยุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัคกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วำมสิทธิเรียกร้องของผูกำ้เยำว์หรือของคนไร้ ควำมสำมำรถ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หรือของคนเสมือนไร้ควำมสำมำรถ ที่จะฟ้องร้องผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้อนุบำลหรือผู้พิทักษ์ของ
ตนนั้น ถ้ำจะครบก สำนัำหนดลงในขณะที ่บุคคลดักำงกล่ำวยังไม่ลสุถำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ึงควำมสำมำรถเต็ มภูมิ หรืกอำ ในระหว่ำง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หนึ่งปีนับแต่วันที่บุคคลดังกล่ำวไม่มีผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้อนุบำลหรือผู้พิทักษ์ อำยุควำมนั้นยังไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ครบกำหนดจนกว่ำจะครบหนึ่งปีนับแต่วันที่บุคคลนั้นได้ลุถึงควำมสำมำรถเต็มภูมิหรือได้มีผู้แทนโดย
ชอบธรรมหรือผู้อสนุำนับกำลหรื อผู้พิทักษ์ แล้วแต่กกำรณี แต่ถ้ำอำยุสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ควำมสิ ทธิเรียกร้องนั้นมีระยะเวลำน้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อย
กว่ำหนึ่งปี ก็ให้นำกำหนดระยะเวลำที่สั้นกว่ำนั้นมำใช้แทนกำหนดระยะเวลำหนึ่งปีดังกล่ำว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๓/๒๒ อำยุควำมสิทธิเรียกร้องระหว่ำงสำมีภริยำ ถ้ำจะครบกำหนดก่อน
หรือภำยในหนึ่งปีสนำนัับกแต่ วันที่กำรสมรสสิ้นสุดกลง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อำยุควำมนัส้นำนัยักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไม่ครบกำหนดจนกว่ำจะครบหนึ
กำ ่งปี
นับแต่วันที่กำรสมรสสิ้นสุดลง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๓/๒๓ อำยุควำมสิทธิเรียกร้องอันเป็ นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้ตำย ถ้ำจะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ครบกำหนดภำยในหนึ่งปีนับแต่วันตำย อำยุควำมนั้นยังไม่ครบก ำหนดจนกว่ำจะครบหนึ่งปีนับแต่วันตำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๓/๒๔ เมื่ออำยุควำมครบกำหนดแล้ว ลูกหนี้จะสละประโยชน์แห่งอำยุ
ควำมนั้นเสียก็ได้สำนั
แต่กกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำรสละประโยชน์เช่นกว่ำำนี้ไม่มีผลกระทบกระเทื อนสิ ทธิของบุคกคลภำยนอก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ
หรือผู้ค้ำประกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๓/๒๕ เมื่ออำยุควำมครบกำหนดแล้ว ให้มีผลย้อนหลังขึ้นไปถึงวันที่เริ่ม
นับอำยุควำม สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๑๙๓/๒๖ สเมืำนั่ อกสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ท ธิเรีย กร้ อ งส่ ว นที่ เป็กนำ ประธำนขำดอำยุ ค วำมให้ สิ ท ธิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เรียกร้องส่วนที่เป็นอุปกรณ์นั้นขำดอำยุควำมด้วย แม้ว่ำอำยุควำมของสิทธิเรียกร้องส่วนที่เป็นอุปกรณ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นั้นจะยังไม่ครบกำหนดก็ตำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๓/๒๗ ผู้รับจำนอง ผู้รับจำนำ ผู้ทรงสิทธิยึดหน่วง หรือผู้ทรงบุริมสิทธิ
เหนือทรัพย์สินของลู
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หนี้อันตนได้ยึดถือไว้ ยักงำ คงมีสิทธิบังคัสบำนัชกำระหนี ้จำกทรัพย์สินที่จกำนอง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ จำนำ
หรือที่ได้ยึดถือไว้ แม้ว่ำสิทธิเรียกร้องส่วนที่เป็นประธำนจะขำดอำยุควำมแล้วก็ตำม แต่จะใช้สิทธินั้น
สำนักบังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งคับให้ชำระดอกเบี้ยทีก่คำ้ำงย้อนหลังเกิสนำนัห้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ปีขึ้นไปไม่ได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๙๓/๒๘ กำรชำระหนี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ตำมสิทธิเรีสยำนักร้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งซึ่งขำดอำยุควำมแล้วกนัำ ้นไม่ว่ำมำก
น้อยเพียงใดจะเรียกคืนไม่ได้ แม้ว่ำผู้ชำระหนี้จะไม่รู้ว่ำสิทธิเรียกร้องขำดอำยุควำมแล้วก็ตำม
บทบั ญกำญั ติ ในวรรคหนึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่ งกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้ ใช้ บั งคั บ แก่ ก ำรที่ ลกู กำ หนี้ รั บ สภำพควำมรั บ ผิ ด โดยมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หลักฐำนเป็นหนังสสืำนัอกหรื อโดยกำรให้ประกันด้วย แต่จะอ้ำงควำมข้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนี้ขึ้นเป็นโทษแก่ผู้ค้ำประกันเดิม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ไม่ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๔๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๙๓/๒๙ เมื่อไม่ได้ยกอำยุควำมขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ศำลจะอ้ำงเอำอำยุควำมมำ


สำนักเป็ นเหตุยกฟ้องไม่ได้ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำหมวด ๒ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำหนดอำยุควำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๓/๓๐ อำยุควำมนั้น ถ้ำประมวลกฎหมำยนี้หรือกฎหมำยอื่นมิได้บัญญัติ
สำนักไว้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โดยเฉพำะ ให้มีกำหนดสิ
กำ บปี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๙๓/๓๑ สิทธิเรียกกร้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ องของรัฐทีส่จำนั
ะเรีกยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กเอำค่ำภำษีอำกรให้มกำีกำหนดอำยุ
ควำมสิบปี ส่วนสิทธิเรียกร้องของรัฐที่จะเรียกเอำหนี้อย่ำงอื่นให้บังคับตำมบทบัญญัติในลักษณะนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๓/๓๒ สิทธิเรียกร้องที่เกิดขึ้นโดยคำพิพำกษำของศำลที่ถึงที่สุด หรือโดย
สัญญำประนีประนอมยอมควำม ให้มีกำหนดอำยุควำมสิบปีสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทั้งกนีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ ไม่ว่ำสิทธิเรียกร้องเดิกมำจะมีกำหนด
สำนักอำยุ ควำมเท่ำใด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๙๓/๓๓ สิทธิเรียกร้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องดังต่อไปนีส้ให้ำนัมกีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดอำยุควำมห้ำปี กำ
(๑) ดอกเบี้ยค้ำงชำระ
(๒) เงิกนำที่ต้องชำระเพืส่อำนัผ่อกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นทุนคืนเป็นงวด ๆ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ค่ำเช่ำทรัพย์สินค้ำงชำระ เว้นแต่ค่ำเช่ำสังหำริมทรัพย์ตำมมำตรำ ๑๙๓/๓๔ (๖)
ส(๔)
ำนักเงิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นค้ำงจ่ำย คือ เงินเดือกนำ เงินปี เงินบำนำญ ค่ำอุปกำระเลี้ยงดูและเงิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นอื่น ๆ ใน
ลักษณะทำนองเดียวกับที่มีกำรกำหนดจ่ำยเป็นระยะเวลำ
(๕) สิทกำธิเรียกร้องตำมมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๑๙๓/๓๔ (๑) (๒) กและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ (๕) ที่ไม่อสยูำนั
่ในบั งคับอำยุควำม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สองปี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๙๓/๓๔ สิสทำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ธิเกรียงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กร้องดังต่อไปนี้ ให้มีกกำหนดอำยุ
ำ ควำมสองปี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ผู้ ป ระกอบกำรค้ ำ หรือ อุ ต สำหกรรม ผู้ ป ระกอบหั ต ถกรรม ผู้ ป ระกอบศิ ล ป
อุตสำหกรรมหรือสช่ำนัำงฝี มือ เรียกเอำค่ำของที่ไกด้ำส่งมอบ ค่ำกำรงำนที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ได้ทำ หรือค่ำดูแลกิจกกำรของผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้อื่น
รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป เว้นแต่เป็นกำรที่ได้ทำเพื่อกิจกำรของฝ่ำยลูกหนี้นั้นเอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๒) ผู้ปกำระกอบเกษตรกรรมหรื อกำรป่ำไม้ เรียกเอำค่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำของที่ได้ส่งสมอบอั นเป็นผลิตผล
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทำงเกษตรหรือป่ำไม้ เฉพำะที่ใช้สอยในบ้ำนเรือนของฝ่ำยลูกหนี้นั้นเอง
ส(๓)
ำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ขนส่งคนโดยสำรหรือสิก่งำของหรือผู้รับสส่ำนังข่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วสำร เรียกเอำค่ำโดยสำร กำ ค่ำระวำง
ค่ำเช่ำ ค่ำธรรมเนียม รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๔) ผู้ปกำระกอบธุรกิจโรงแรมหรื อหอพัก ผู้ประกอบธุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ รกิจในกำรจสำหน่ ำยอำหำรและ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เครื่องดื่ม หรือผู้ปสระกอบธุ รกิจสถำนบริกำรตำมกฎหมำยว่ำสด้ำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
วยสถำนบริ กำรเรียกเอำค่ำที่พัก อำหำร
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หรือเครื่องดื่ม ค่ำบริกำรหรือค่ำกำรงำนที่ได้ทำให้แก่ผู้มำพักหรือใช้บริกำร รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๕) ผูก้ขำำยสลำกกิน แบ่สำนัง กสลำกกิ นรวบ หรือสลำกที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ ค ล้ำยคลึ งกัสนำนัเรี ยกเอำค่ำขำย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๔๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สลำก เว้นแต่เป็นกำรขำยเพื่อกำรขำยต่อ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๖) ผู้ปกำระกอบธุรกิจในกำรให้ เช่ำสังหำริมทรัพย์ เรีกำยกเอำค่ำเช่ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
(๗) บุคคลซึ่งมิได้เข้ำอยู่ในประเภทที่ระบุไว้ใน (๑) แต่เป็นผู้ประกอบธุรกิจในกำร
ดูแลกิจกำรของผู้อำนั ส ื่นหรื อรับทำงำนกำรต่ำง ๆกเรีำ ยกเอำสินจ้ำสงอัำนันกจะพึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งได้รับในกำรนั้น รวมทั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้งเงินที่ได้
ออกทดรองไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๘) ลูกจ้ำงซึ่งรับใช้กำรงำนส่วนบุคคล เรียกเอำค่ำจ้ำงหรือสินจ้ำงอย่ำงอื่นเพื่อกำร
งำนที่ทำ รวมทั้งเงิสนำนัทีก่ได้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ออกทดรองไป หรือนำยจ้ กำ ำงเรียกเอำคืสนำนั
ซึ่งกเงิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นเช่นว่ำนั้นที่ตนได้จ่ำยล่
กำวงหน้ำไป
(๙) ลูกจ้ำงไม่ว่ำจะเป็นลูกจ้ำงประจำ ลูกจ้ำงชั่วครำว หรือลูกจ้ำงรำยวัน รวมทั้งผู้
สำนักฝึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กหัดงำน เรียกเอำค่ำจ้กำำงหรือสินจ้ำงอย่ สำนัำงอื ่น รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ หรือสนำยจ้ ำงเรียกเอำคืน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ซึง่ เงินเช่นว่ำนัน้ ทีต่ นได้จำ่ ยล่วงหน้ำไป
ส(๑๐) ครูสอนผู้ฝึกหัดงำน เรีกำยกเอำค่ำฝึกสอนและค่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำใช้จ่ำยอย่ำงอื่นตำมที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ได้ตกลง
กันไว้ รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๑๑) กเจ้ำ ำของสถำนศึสกำนัษำหรื อสถำนพยำบำล เรีกยำกเอำค่ำธรรมเนี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัยกมกำรเรี ยนและ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ค่ำธรรมเนียมอื่น ๆ หรือค่ำรักษำพยำบำลและค่ำใช้จ่ำยอย่ำงอื่น รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑๒) ผู้รับคนไว้เพื่อกำรบำรุงเลี้ยงดูหรือฝึสกำนั สอน กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เรียกเอำค่ำกำรงำนที่ทำให้รวมทั้ง
สำนักเงิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นที่ได้ออกทดรองไป กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑๓) ผู้รับเลี้ยงหรือฝึกสอนสัตว์ เรียกเอำค่ำกำรงำนที่ทำให้ รวมทั้งเงินที่ได้ออกทด
รองไป สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑๔) ครูหรืออำจำรย์ เรียกเอำค่ำสอน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๑๕)กผูำ ้ ป ระกอบวิ ชสำนัำชีกพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เวชกรรม ทั น ตกรรม กำ กำรพยำบำล สำนักกำรผดุ ง ครรภ์
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้ประกอบกำรบำบัดโรคสัตว์ หรือผู้ประกอบโรคศิลปะสำขำอื่น เรียกเอำค่ำกำรงำนที่ทำให้รวมทั้งเงิน
ที่ได้ออกทดรองไปสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑๖) ทนำยควำมหรือผู้ประกอบวิชำชีพทำงกฎหมำย รวมทั้งพยำนผู้เชี่ยวชำญเรียก
สำนักเอำค่ ำกำรงำนที่ทำให้ รวมทั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้งเงินที่ได้อสำนั
อกทดรองไป หรือคู่ควำมเรีกำยกเอำคืนซึ่งเงิสนำนัเช่กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ว่ำนั้นที่ตนได้ กำ
จ่ำยล่วงหน้ำไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑๗) ผู้ ป ระกอบวิ ช ำชี พ วิศ วกรรม สถำปั ต ยกรรม ผู้ ส อบบั ญ ชี หรือ ผู้ ป ระกอบ
สำนักวิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ช ำชี พ อิ ส ระอื่ น เรี ย กเอำค่
กำ ำ กำรงำนที สำนัก่ ทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำให้ รวมทั้ ง เงิ น ที่ ไ ด้กอำ อกทดรองไป สำนัหรื อ ผู้ ว่ ำ จ้ ำ งให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประกอบกำรงำนดังกล่ำวเรียกเอำคืนซึ่งเงินเช่นว่ำนั้นที่ตนได้จ่ำยล่วงหน้ำไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๓/๓๕ ภำยใต้บังคับมำตรำ ๑๙๓/๒๗ สิทธิเรียกร้องที่เกิดขึ้นจำกกำรที่
สำนักลูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กหนี้รับสภำพควำมรับกำผิดโดยมีหลักสฐำนเป็ นหนังสือหรือโดยกำรให้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ประกันตำมมำตรำ ๑๙๓/๒๘
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
วรรคสอง ให้มีกำหนดอำยุควำมสองปีนับแต่วันที่ได้รับสภำพควำมรับผิดหรือให้ประกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บรรพ ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ลักษณะ ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๔๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

บทเบ็ดเสร็จทั่วไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำหมวด ๑ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
วัตถุแห่งหนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๔ ด้วยอำนำจแห่งมูลหนี้ เจ้ำหนี้ย่อมมีสิทธิจะเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้
สำนักอนึ ่งกำรชำระหนี้ด้วยงดเว้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นกำรอันใดอัสนำนั
หนึกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่งก็ย่อมมีได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๙๕ เมื่อทรัพย์ซึ่งกเป็ำ นวัตถุแห่งหนี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้นกั้ นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้ระบุไว้แต่เพียงเป็นประเภท
กำ และ
ถ้ำตำมสภำพแห่งนิติกรรม หรือตำมเจตนำของคู่กรณีไม่อำจจะกำหนดได้ว่ำทรัพย์นั้นจะพึงเป็นชนิด
สำนักอย่ ำงไรไซร้ ท่ำนว่ำลูกหนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ้จะต้องส่งมอบทรั
สำนักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์ชนิดปำนกลำง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำลูกหนี้ได้กระทำกำรอันตนจะพึงต้องทำเพื่อส่งมอบทรัพย์สิ่งนั้นทุกประกำรแล้วก็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ดี หรือถ้ำลูกหนี้ได้เลือกกำหนดทรัพย์ที่จะส่งมอบแล้วด้วยควำมยิ นยอมของเจ้ำหนี้ก็ดี ท่ำนว่ำทรัพย์
สำนักนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นจึงเป็นวัตถุแห่งหนี้จกำเดิ
ำ มแต่เวลำนั้นสำนั
ไปกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๙๖ ถ้ำหนี้เงินได้แสดงไว้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เป็นเงินต่สำำนั
งประเทศ ท่ำนว่ำจะส่งใช้เป็กนำเงินไทยก็ได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรเปลี่ยนเงินนี้ ให้คิดตำมอัตรำแลกเปลี่ยนเงิน ณ สถำนที่และในเวลำที่ใช้เงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๗ ถ้ำหนี้เงินจะพึงส่งใช้ด้วยเงินตรำชนิดหนึ่งชนิดใดโดยเฉพำะ อันเป็น
ชนิดที่ยกเลิกไม่ใสช้ำนั
กันกแล้ วในเวลำที่จะต้องส่งกเงิำ นใช้หนี้นั้นไซร้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักำรส่ งใช้เงินท่ำนให้ถือเสมื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อนหนึ่งว่ำ
มิได้ระบุไว้ให้ใช้เป็นเงินตรำชนิดนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙๘ ถ้ำกำรอันมีกำหนดพึงกระทำเพื่อชำระหนี้นั้นมีหลำยอย่ำง แต่จะต้อง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กระทำเพียงกำรใดกำรหนึ่งแต่อย่ำงเดียวไซร้ ท่ำนว่ำสิทธิที่จะเลือกทำกำรอย่ำงใดนั้นตกอยู่แก่ฝ่ำย
สำนักลูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กหนี้ เว้นแต่จะได้ตกลงกั
กำ นกำหนดไว้เสป็ำนั
นอย่ ำงอื่น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๙๙ กำรเลือกนั้นท่กำำนให้ทำด้วยแสดงเจตนำแก่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี คู่กรณีอีกฝ่ำยหนึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ง
กำรชำระหนี้ได้เลือกทำเป็นอย่ำงใดแล้ว ท่ำนให้ถือว่ำอย่ำงนั้นอย่ำงเดียว เป็นกำร
สำนักชงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำระหนี้อันกำหนดให้กกระท
ำ ำแต่ต้นมำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๐๐ ถ้ำจะต้องเลืกอำกภำยในระยะเวลำอั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นมีกำหนด และฝ่ำกยที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่ มีสิท ธิจ ะ
เลือกมิได้เลือกภำยในระยะเวลำนั้นไซร้ ท่ำนว่ำสิทธิที่จะเลือกนั้นย่อมตกไปอยู่แก่อีกฝ่ำยหนึ่ง
ถ้ำมิได้กกำ ำหนดระยะเวลำให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เลือกไซร้ เมื่อหนี้ถึงกกำหนดช
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำระ ฝ่ำสยที
ำนั่ไกม่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มีสิทธิจะเลือก กำ
อำจกำหนดเวลำพอสมควรแก่ เหตุ แล้วบอกกล่ำวให้ฝ่ำยโน้นสใช้ำนัสกิทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ธิเลือกภำยในเวลำอันนักำ้น

มำตรำกำ๒๐๑ ถ้ำบุคสคลภำยนอกจะพึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งเป็นผู้เลือกกำ ท่ำนให้กระทสำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำด้กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยแสดงเจตนำ กำ
- ๔๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

แก่ลูกหนี้ และลูกหนี้จะต้องแจ้งควำมนั้นแก่เจ้ำหนี้
ถ้ำบุคกคลภำยนอกนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้นสไม่ำนัอกำจจะเลื อกได้ก็ดี หรือไม่กเำต็มใจจะเลือกก็สำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดี กท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำสิทธิที่จะ กำ
เลือกตกไปอยู่แก่ฝ่ำยลูกหนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๐๒ ถ้ำกำรอันจะพึงต้องทำเพื่อชำระหนี้นั้นมีห ลำยอย่ำง และอย่ำงใด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อย่ำงหนึ่งตกเป็นอันพ้นวิสัยจะทำได้มำแต่ต้นก็ดี หรือกลำยเป็นพ้นวิสัยในภำยหลังก็ดี ท่ำนให้จำกัด
หนี้นั้นไว้เพียงกำรช
สำนัำระหนี ้อย่ำงอื่นที่ไม่พ้นวิกสำัย อนึ่งกำรจำกัสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดอักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นี้ย่อมไม่เกิดมีขึ้น หำกว่
กำ ำกำรชำระ
หนี้กลำยเป็นพ้นวิสัยเพรำะพฤติกำรณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งฝ่ำยที่ไม่มีสิทธิจะเลือกนั้นต้องรับผิดชอบ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกผลแห่
ำ งหนี้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


ส่วนที่ ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรไม่ชำระหนี้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๐๓ ถ้ำเวลำอันจะพึ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งช ำระหนี้นสำนั
ั้นมิกไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้กำหนดลงไว้ หรือจะอนุ
กำ มำนจำก
พฤติกำรณ์ ทั้งปวงก็ไม่ได้ไซร้ ท่ำนว่ำเจ้ำหนี้ย่อมจะเรียกให้ ช ำระหนี้ได้โดยพลั น และฝ่ ำยลู กหนี้ ก็
สำนักย่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อมจะชำระหนี้ของตนได้ กำโดยพลันดุจกัสนำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำได้กำหนดเวลำไว้ แต่หำกกรณีเป็นที่สงสัย ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำเจ้ำหนี้จะ
เรียกให้ชำระหนี้กส่อำนันถึกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งเวลำนั้นหำได้ไม่ แต่ฝก่ำยลู
ำ กหนี้จะชำระหนี ้ก่อนกำหนดนั้นก็ได้ กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๒๐๔ ถ้ำหนีส้ถำนัึงกกำหนดช
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำระแล้ว และภำยหลั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งแต่นั้นเจ้สำนั
ำหนี ้ได้ให้คำเตือน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ลูกหนี้แล้ว ลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้ไซร้ ลูกหนี้ได้ชื่อว่ำผิดนัดเพรำะเขำเตือนแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำได้กำหนดเวลำชำระหนี้ไว้ตำมวันแห่งปฏิทิน และลูกหนี้มิได้ชำระหนี้ตำมกำหนด
สำนักไซร้ ท่ำนว่ำลูกหนี้ตกเป็กนำ ผู้ผิดนัดโดยมิสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี พักกต้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องเตือนเลย วิธีเดียวกักำนนี้ท่ำนให้ใช้บสังำนัคักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แก่กรณีที่ต้อง กำ
บอกกล่ำวล่วงหน้ำก่อนกำรชำระหนี้ ซึ่งได้กำหนดเวลำลงไว้อำจคำนวณนับได้โดยปฏิทินนับแต่วันที่ได้
บอกกล่ำว สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๒๐๕ ตรำบใดกำรช


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำระหนี้นั้ นยังมิได้กกำระท ำลงเพรำะพฤติ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรณ์ อั นใด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อันหนึ่งซึ่งลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบ ตรำบนั้นลูกหนี้ยังหำได้ชื่อว่ำผิดนัดไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๐๖ ในกรณีหนี้อันเกิดแต่มูลละเมิด ลูกหนี้ได้ชื่อว่ำผิดนัดมำแต่เวลำที่ทำ
สำนักละเมิ ด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๐๗ ถ้ำลูกหนี้ขอปฏิบัติกำรชำระหนี้ และเจ้ำหนี้ไม่รับชำระหนี้นั้นโดย
สำนักปรำศจำกมู ลเหตุอันจะอ้กำำงกฎหมำยได้สไซร้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำเจ้ำหนี้ตกเป็นผู้ผกิดำนัด สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๔๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๒๐๘ กำรชสำระหนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้จะให้สำเร็จผลเป็นอย่กำำงใด ลู กหนี้จสะต้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัอกงขอปฏิ บัติกำร
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ชำระหนี้ต่อเจ้ำหนี้เป็นอย่ำงนั้นโดยตรง
สแต่
ำนัถก้ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เจ้ำหนี้ได้แสดงแก่ลูกหนี
กำ ้ว่ำ จะไม่รับชสำนั
ำระหนี ้ก็ดี หรือเพื่อที่จะชำระหนี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้จำเป็น
ที่เจ้ำหนี้จะต้องกระทำกำรอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งก่อนก็ดี ลูกหนี้จะบอกกล่ำวแก่เจ้ำหนี้ว่ำได้เตรียมกำรที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จะชำระหนี้ไว้พร้อมเสร็จแล้ว ให้เจ้ำหนี้รับชำระหนี้นั้น เท่ำนี้ก็นับว่ำเป็นกำรเพียงพอแล้ว ในกรณี
เช่นนี้ท่ำนว่ำคำบอกกล่ ำวของลูกหนี้นั้นก็เสมอกั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บคำขอปฏิบสัตำนัิกำรช ำระหนี้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๒๐๙ ถ้ำได้กสำหนดเวลำไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เป็นแน่นอนเพืกำ่อให้เจ้ำหนี้กระท
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำกำรอั นใด ท่ำน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ว่ำที่จะขอปฏิบัติกำรชำระหนี้นั้นจะต้องทำก็แต่เมื่อเจ้ำหนี้ทำกำรอันนั้นภำยในเวลำกำหนด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๑๐ ถ้ำลูกหนี้จำต้องชำระหนี้ส่วนของตนต่อเมื่อเจ้ำหนี้ชำระหนี้ตอบแทน
สำนักด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วยไซร้ แม้ถึงว่ำเจ้ำหนีก้จำ ะได้เตรียมพร้สำนั
อมที ่จะรับชำระหนี้ตำมที่ลกำูกหนี้ขอปฏิบัตสินำนัั้นกแล้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วก็ดี หำกไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เสนอที่จะทำกำรชำระหนี้ตอบแทนตำมที่จะพึงต้องทำ เจ้ำหนี้ก็เป็นอันได้ชื่อว่ำผิดนัด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๒๑๑ ในเวลำที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่ลกูกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หนี้ขอปฏิบัติกำรชำระหนี
กำ ้นั้นก็ดี หรือสในเวลำที ่กำหนดไว้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ให้เจ้ำหนี้ทำกำรอย่ำงใดอย่ำงหนึ่ง โดยกรณีที่บัญญัติไว้ในมำตรำ ๒๐๙ นั้นก็ดี ถ้ำลูกหนี้มิได้อยู่ใน
ฐำนะที่จะสำมำรถชสำนัำระหนี ้ได้ไซร้ท่ำนว่ำเจ้ำหนี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ้ยังหำผิดนัดไม่สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๒๑๒ ถ้ำมิได้สกำนัำหนดเวลำช
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำระหนี้ไว้ก็ดี กหรืำ อถ้ำลูกหนี้มสีสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ิทธิกทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี่จะชำระหนี้ได้ กำ
ก่อนเวลำกำหนดก็ดี กำรที่เจ้ำหนี้มีเหตุขัดข้องชั่วครำวไม่อำจรับชำระหนี้ที่เขำขอปฏิบัติแก่ตนได้นั้น
หำทำให้เจ้ำหนี้ตสกเป็
ำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้ผิดนัดไม่ เว้นแต่ลูกกหนี
ำ ้จะได้บอกกล่ ำวกำรช
สำนั ำระหนี้ไว้ล่วงหน้กำโดยเวลำอั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ น
สมควร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๑๓ ถ้ำลูกหนี้ละเลยเสียไม่ชำระหนี้ของตน เจ้ำหนี้จะร้องขอต่อศำลให้สั่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บังคับชำระหนี้ก็ได้ เว้นแต่สภำพแห่งหนี้จะไม่เปิดช่องให้ทำเช่นนั้นได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีเมื่อสภำพแห่
กำ งหนี้ไม่สเปิำนัดกช่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องให้บังคับชำระหนี้ได้กำถ้ำวัต ถุแห่งหนี
สำนั้เป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อันให้กระทำ กำ
กำรอันหนึ่งอันใด เจ้ำหนี้จะร้องขอต่อศำลให้สั่งบังคับให้บุคคลภำยนอกกระทำกำรอันนั้นโดยให้ลูกหนี้
เสียค่ำใช้จ่ำยให้กส็ไำนั
ด้ กแต่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถ้ำวัตถุแห่งหนี้เป็นอักนำให้กระทำนิตสิกำนั รรมอย่ ำงใดอย่ำงหนึ่งไซร้กศำลจะสั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่งให้
ถือเอำตำมคำพิพำกษำแทนกำรแสดงเจตนำของลูกหนี้ก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีส่วนหนี กำ้ซึ่งมีวัตถุเป็นสอัำนั
นจะให้ งดเว้นกำรอันใด เจ้กำำหนี้จะเรียกร้อสงให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักรงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ื้อถอนกำรที่ได้ กำ
กระทำลงแล้วนั้นโดยให้ลูกหนี้เสียค่ำใช้จ่ำย และให้จัดกำรอันควรเพื่อกำลภำยหน้ำด้วยก็ได้
สอนึ
ำนั่งกบทบั ญญัติในวรรคทั้งหลำยที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่กล่ำวมำก่สำนั
อนนี ้ หำกระทบกระทั่งถึงสิกทำ ธิที่จะเรี ยก
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เอำค่ำเสียหำยไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๑๔๓ ภำยใต้บังคับบทบัญญัติแห่สงำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๓๓ เจ้ำหนี้มีสิทธิที่จะให้ชำระ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๒๑๔ แก้ ไขเพิ่ ม เติ มโดยพระรำชบั ญ ญั ติแ ก้ไขเพิ่ มเติ ม ประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ พุทธศักรำช ๒๔๗๘กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๔๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

หนี้ของตนจำกทรัพย์สินของลูกหนี้จนสิ้นเชิง รวมทั้งเงินและทรัพย์สินอื่น ๆ ซึ่งบุคคลภำยนอกค้ำง


สำนักชงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำระแก่ลูกหนี้ด้วย กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๑๕ เมื่อลูกหนี้ไม่กชำำระหนี้ให้ต้อสงตำมควำมประสงค์


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อันแท้จกริำงแห่งมูลหนี้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไซร้ เจ้ำหนี้จะเรียกเอำค่ำสินไหมทดแทนเพื่อควำมเสียหำยอันเกิดแต่กำรนั้นก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๑๖ ถ้ำโดยเหตุผกิดำนัด กำรชำระหนี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ลำยเป็นอันไร้ประโยชน์
กำ แก่เจ้ำหนี้
เจ้ำหนี้จะบอกปัดไม่รับชำระหนี้ และจะเรียกเอำค่ำสินไหมทดแทนเพื่อกำรไม่ชำระหนี้ก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๑๗ ลู ก หนี้ จ ะต้ อ งรับ ผิ ด ชอบในควำมเสี ย หำยบรรดำที่ เกิ ด แต่ ค วำม
ประมำทเลินเล่อในระหว่ ำงเวลำที่ตนผิดนัด กทัำ้งจะต้องรับผิดสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ชอบในกำรที ่กำรชำระหนีก้กำลำยเป็นพ้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วิสัยเพรำะอุบัติเหตุอันเกิดขึ้นในระหว่ำงเวลำที่ผิดนัดนั้นด้วย เว้นแต่ควำมเสียหำยนั้นถึงแม้ว่ำตนจะ
สำนักได้ชำระหนี้ทันเวลำกำหนดก็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ คงจะต้องเกิ ดมีกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ยู่นั่นเอง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๑๘ ถ้ำกำรช ำระหนี้กลำยเป็นสพ้ำนันกวิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สั ยจะทำได้เพรำะพฤติกกำ ำรณ์ อันใด
สำนักอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น หนึ่ งซึ่ งลู ก หนี้ ต้ อ งรักบำผิ ด ชอบไซร้ สท่ำนัำกนว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำลู ก หนี้ จะต้อ งใช้ค่ ำกสิำน ไหมทดแทนให้
สำนักแงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก่เจ้ำหนี้ เพื่ อ กำ
ค่ำเสียหำยอย่ำงใด ๆ อันเกิดแต่กำรไม่ชำระหนี้นั้น
สในกรณี ที่กำรชำระหนี้กลำยเป็
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นพ้นวิสัยแต่สเพีำนัยกงบำงส่ วน ถ้ำหำกว่ำส่วนที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ยังเป็นวิสัย
จะทำได้นั้นจะเป็นอันไร้ประโยชน์แก่เจ้ำหนี้แล้ว เจ้ำหนี้จะไม่ยอมรับชำระหนี้ส่วนที่ยังเป็นวิสัยจะทำ
สำนักได้ นั้นแล้ว และเรียกค่ำสิกนำ ไหมทดแทนเพื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่อกกำรไม่ ชำระหนี้เสียทั้งหมดที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เดียวก็ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๑๙ ถ้ำกำรชำระหนี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้กลำยเป็นพ้สนำนัวิกสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัยเพรำะพฤติกำรณ์อันกใดอั
ำ นหนึ่งซึ่ง
เกิดขึ้นภำยหลังที่ได้ก่อหนี้ และซึ่งลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบนั้นไซร้ ท่ำนว่ำลูกหนี้เป็นอันหลุดพ้นจำก
สำนักกำรช ำระหนี้นั้น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำภำยหลังที่ได้ก่อหนี้ขึ้นแล้วนั้น ลูกหนี้กลำยเป็นคนไม่สำมำรถจะชำระหนี้ได้ไซร้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ท่ำนให้ถือเสมือนว่ำเป็นพฤติกำรณ์ที่ทำให้กำรชำระหนี้ตกเป็นอันพ้นวิสัยฉะนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๒๐ ลูกหนี้ต้องรับผิดชอบในควำมผิดของตัวแทนแห่งตนกับทั้งของบุคคล
ที่ตนใช้ในกำรช ำระหนี ้ นั้ น โดยขนำดเสมอกักบำว่ำเป็นควำมผิสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดของตนเองฉะนั ้น แต่บทบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญ ญั ติ แ ห่ ง
มำตรำ ๓๗๓ หำใช้บังคับแก่กรณีเช่นนี้ด้วยไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๒๑ หนี้ เงิน อันต้องเสียดอกเบี้ยนั้น ท่ำนว่ำจะคิดดอกเบี้ยในระหว่ำงที่
เจ้ำหนี้ผิดนัดหำได้สไำนัม่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๒๒๒ กำรเรีสยำนักเอำค่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำเสียหำยนั้น ได้แก่กเำรียกค่ำสินไหมทดแทนเพื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่อควำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เสียหำยเช่นที่ตำมปกติ ย่อมเกิดขึ้นแต่กำรไม่ชำระหนี้นั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เจ้ ำ หนี้ จ ะเรี ย กค่ ำ สิ น ไหมทดแทนได้ แม้ ก ระทั่ ง เพื่ อ ควำมเสี ย หำยอั น เกิ ด แต่
สำนักพฤติ ก ำรณ์ พิ เศษ หำกว่กำำคู่ ก รณี ที่ เกี่ ยสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วข้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งได้ ค ำดเห็ น หรือ ควรจะได้
กำ ค ำดเห็ นสพฤติ ก ำรณ์ เช่ น นั้ น
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๔๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ล่วงหน้ำก่อนแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๒๓ ถ้ำฝ่ำยผู้ เสี ยหำยได้มีส่ วนท ำควำมผิ ดอย่ำงใดอย่ำงหนึ่ งก่อให้ เกิด
ควำมเสียหำยด้วยไซร้ ท่ำนว่ำหนี้อันจะต้องใช้กคำ ่ำสินไหมทดแทนแก่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ฝ่ำยผู้เสียหำยมำกน้อกยเพี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ยงใดนั้น
ต้องอำศัยพฤติกำรณ์เป็นประมำณ ข้อสำคัญก็คือว่ำควำมเสียหำยนั้นได้เกิดขึ้นเพรำะฝ่ำยไหนเป็นผู้ก่อ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ยิ่งหย่อนกว่ำกันเพียงไร
สวิำนั
ธีเกดีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยวกันนี้ ท่ำนให้ใช้แม้ทกำั้งที่ควำมผิดของฝ่
สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยผู้ที่เ สียหำยจะมีแต่เพีกำยงละเลยไม่
เตือนลูกหนี้ ให้ รู้ สึกถึงอัน ตรำยแห่ งกำรเสี ยหำยอันเป็นอย่ำงร้ำยแรงผิดปกติ ซึ่งลู กหนี้ไม่รู้ห รือไม่
สำนักอำจจะรู ้ได้ หรือเพียงแต่กำละเลยไม่บำบัสดำนัปักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ป้อง หรือบรรเทำควำมเสี กำ ยหำยนั้นด้สวำนัย กอนึ ่งบทบัญญัติ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แห่งมำตรำ ๒๒๐ นั้นท่ำนให้นำมำใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๒๔ หนี้เงินนั้น ท่ำนให้คิดดอกเบี้ยในระหว่ำงเวลำผิดนัดร้อยละเจ็ดกึ่งต่อ
สำนักปีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถ้ำเจ้ำหนี้อำจจะเรียกดอกเบี
กำ ้ยได้สูงสกว่ำนัำกนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นโดยอำศัยเหตุอย่ำงอืก่นำ อันชอบด้วยกฎหมำย ก็ให้คงส่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ดอกเบี้ยต่อไปตำมนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ท่ำนห้ำมมิให้คิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ยในระหว่ ำงผิดนัด
กำรพิกสำูจน์ค่ำเสียหำยอย่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำกงอื ่นนอกกว่ำนั้น ท่ำนอนุกำญำตให้พิสูจน์สได้ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สมำตรำ ๒๒๕ ถ้ำลูกหนี้จำต้กอำ งใช้ค่ำสินไหมทดแทนเพื


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่อรำคำวัตถุอันได้กำเสื่อมเสียไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระหว่ำงผิดนัดก็ดี หรือวัตถุอันไม่อำจส่งมอบได้เพรำะเหตุอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งอันเกิดขึ้นระหว่ำงผิดนัดก็
สำนักดีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ท่ำนว่ำเจ้ำหนี้จะเรียกกดอกเบี
ำ ้ยในจำนวนที ่จะต้องใช้เป็นค่ำสินกไหมทดแทน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ คิดสำนั
ตั้งกแต่ เวลำอันเป็น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ฐำนที่ตั้งแห่งกำรกะประมำณรำคำนั้นก็ได้ วิธีเดียวกันนี้ท่ำนให้ใช้ตลอดถึงกำรที่ลูกหนี้จำต้องใช้ค่ำ
สินไหมทดแทนเพืส่อำนักำรที ่รำคำวัตถุตกต่ำเพรำะวั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ตถุนั้นเสื่อมเสี
สำนัยลงในระหว่ ำงเวลำที่ผิดนักดำนั้นด้วย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รับช่วงสิทธิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๒๒๖ บุ คคลผู้ รับช่วงสิทธิของเจ้ำหนี้ ชอบที่จะใช้สิ ทธิทั้งหลำยบรรดำที่
เจ้ำหนี้มีอยู่โดยมูลสหนี
ำนัก้ งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รวมทั้งประกันแห่งหนี้นกั้นำ ได้ในนำมของตนเอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ช่วงทรัพย์ ได้แก่เอำทรัพย์สินอันหนึ่งเข้ำแทนที่ทรัพย์สินอีกอันหนึ่ง ในฐำนะนิตินัย
สำนักอย่ ำงเดียวกันกับทรัพย์สกินำ อันก่อน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๒๗ เมื่อเจ้ำหนี้ได้กรำับค่ำสินไหมทดแทนควำมเสี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยหำยเต็มตำมรำคำทรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พย์
หรือสิทธิซึ่งเป็ น วัตถุแห่ งหนี้ นั้น แล้ว ท่ำนว่ำลูกหนี้ย่อมเข้ำสู่ฐำนะเป็นผู้ รับช่วงสิทธิของเจ้ำหนี้อัน
สำนักเกีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ยวกับทรัพย์หรือสิทธินกำั้น ๆ ด้วยอำนำจกฎหมำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๒๘ ถ้ำพฤติ กำรณ์ ซึ่งท ำให้ กำรช ำระหนี้เป็น อันพ้ น วิสั ยนั้น เป็ น ผลให้
สำนักลูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กหนี้ได้มำซึ่งของแทนก็กำดี หรือได้สิทธิสเำนั
รียกกร้ องค่ำสินไหมทดแทนเพื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่อทรัพย์อันจะพึ
สำนังกได้ แก่ตนนั้นก็ดี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๔๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ท่ำนว่ำเจ้ำหนี้จะเรียกให้ส่งมอบของแทนที่ได้รับไว้หรือจะเข้ำเรียกเอำค่ำสินไหมทดแทนเสียเองก็ได้
ถ้ำเจ้ำกหนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้มีสิทธิเรียกร้สำนั
องค่ ำสินไหมทดแทนเพรำะกำรไม่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ชำระหนีสำนั
้ และถ้ ำใช้สิทธินั้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ดังได้ระบุไว้ในวรรคต้นไซร้ ค่ำสินไหมทดแทนอันจะพึงใช้แก่เจ้ำหนี้นั้นย่อมลดจำนวนลงเพียงเสมอ
รำคำแห่งของแทนซึ สำนั่งกลูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กหนี้ได้รับไว้ หรือเสมอจ กำำนวนค่ำสินไหมทดแทนที ่ลูกหนี้จะเรียกร้กอำงได้นั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๒๒๙ กำรรับ ช่วงสิทธิย่อมมีขึ้นด้วยอำนำจกฎหมำย และย่อมสำเร็จเป็น
ประโยชน์แก่บุคคลดั
สำนังกจะกล่ ำวต่อไปนี้ คือ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) บุคคลซึ่งเป็นเจ้ำหนี้อยู่เอง และมำใช้หนี้ให้แก่เจ้ำหนี้อีกคนหนึ่งผู้มีสิทธิจะได้รับ
สำนักใช้ หนี้ก่อนตน เพรำะเขำมี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บุริมสิทธิ หรืสอำนั
มีสกิทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ธิจำนำจำนอง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) บุคคลผู้ได้ไปซึ่งอสังหำริมทรัพย์ใด และเอำเงินรำคำค่ำซื้อใช้ให้แก่ผู้รับจำนอง
ทรัพย์นั้นเสร็จไปสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) บุคคลผู้มีควำมผูกพันร่วมกับผู้อื่น หรือเพื่อผู้อื่นในอันจะต้องใช้หนี้ มีส่วนได้เสีย
สำนักด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วยในกำรใช้หนี้นั้น และเข้
กำ ำใช้หนี้นั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๓๐ ถ้ำในกำรที่เจ้ำหนี้นำบังคับยึสดำนัทรักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์อันหนึ่งอันใดของลูกกหนี ำ
้นั้นบุคคล
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ใดจะต้องเสี่ยงภัยเสียสิกทำ ธิในทรัพย์อันสำนั
นั้นกเพรำะกำรบั งคับยึดทรัพกำย์ไซร้ ท่ำนว่ำบุสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี คคลผู ้นั้นมีสิทธิจะ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เข้ำใช้หนี้เสียแทนได้ อนึ่งผู้ครองทรัพย์อันหนึ่งอันใด ถ้ำจะต้องเสี่ยงภัยเสียสิทธิครองทรัพย์นั้นไป
เพรำะกำรบังคับยึสดำนัทรักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พย์ ก็ย่อมมีสิทธิจะทำได้กำเช่นเดียวกับทีส่วำนั่ำมำนั ้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ถ้ำบุคคลภำยนอกผู้ใดมำใช้หนี้แทนจนเป็นที่พอใจของเจ้ำหนี้แล้ว บุคคลผู้นั้นย่อม
สำนักเข้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำรับช่วงสิทธิเรียกร้องของเจ้
กำ ำหนี้ แต่สสำนั ิทธิกเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รียกร้องอันนี้จะบังคับให้
กำเป็นที่เสื่อมเสีสยำนั
แก่กเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จ้ำหนี้หำได้ไม่ กำ

สมำตรำ ๒๓๑ ถ้ำทรัพย์สินทีกำ่จำนอง จำนำสหรื


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อยู่ในบังคับบุริมสิทธิปกระกำรอื
ำ ่นนั้น
เป็นทรัพย์อันได้เอำประกันภัยไว้ไซร้ ท่ำนว่ำสิทธิจำนอง จำนำ หรือบุริมสิทธิอย่ำงอื่นนั้นย่อมครอบไป
สำนักถึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งสิทธิที่จะเรียกร้องเอำแก่กำ ผู้รับประกันสภัำนัยด้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วย กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณี ที่เป็ น อสังหำริมทรัพย์ ถ้ำผู้รับประกันภัยได้รู้ หรือควรจะได้รู้ว่ำมีจำนอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หรือบุริมสิทธิอย่ำงอื่นไซร้ ท่ำนยังมิให้ผู้รับประกันภัยใช้เงินให้แก่ผู้เอำประกันภัย จนกว่ำจะได้บอก
สำนักกล่ ำวเจตนำเช่นนั้นไปยักงำผู้รับจำนอง หรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัอเจ้ ำหนี้มีบุริมสิทธิคนอื่นแล้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ว และมิได้รับสคำนัำคักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดค้ำนกำรที่จะ กำ
ใช้ เงิน นั้ น มำภำยในเดื อ นหนึ่ งนั บ แต่ วัน บอกกล่ ำว แต่ สิ ท ธิอย่ ำงใด ๆ ที่ ได้ ไปจดทะเบี ยน ณ หอ
ทะเบียนที่ดินนั้นสท่ำนัำกนให้ ถือว่ำเป็นอันรู้ถึงผู้รกับำประกันภัย วิสธำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ีเดีกยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วกันนี้ท่ำนให้ใช้ตลอดถึกงำกำรจำนอง
สังหำริมทรัพย์ที่กฎหมำยอนุญำตให้ทำได้นั้นด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณีกำที่เป็นสังหำริมสทรั
ำนัพกย์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้รับประกันภัยจะใช้เกงิำนให้แก่ผู้เอำประกั
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ภัยโดยตรงก็ได้ กำ
เว้นแต่ตนจะได้รู้หรือควรจะได้รู้ว่ำทรัพย์นั้นตกอยู่ในบังคับจำนำ หรือบุริมสิทธิอย่ำงอื่น
สผูำนั
้รับกประกั นภัยไม่ต้องรับผิดกต่ำอเจ้ำหนี้ ถ้ำทรัสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี พย์กสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ินอันได้เอำประกันภัยไว้ กำนั้นได้คืนมำ
หรือได้จัดของแทนให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วิธีเดียกวกั
ำ นนี้ท่ำนให้ อสนุำนัโลมใช้ บังคับแก่กรณีบังคับกำซื้อกับทั้งกรณีสทำนัี่ต้อกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งใช้ค่ำเสียหำย กำ
อันควรจะได้แก่เจ้สำำนั ของทรั พย์สิน เพรำะเหตุทรัพย์สินทำลำยหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อบุบสลำยนั้นด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๒๓๒ ถ้ำตำมควำมในมำตรำก่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อนนี้เป็นอักนำ ว่ำจะเอำเงินสจำนัำนวนหนึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งให้แทน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๔๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ทรัพย์สินที่ทำลำยหรือบุบสลำยไซร้ เงินจำนวนนี้ท่ำ นยังมิให้ส่งมอบแก่ผู้รับจำนอง ผู้รับจำนำ หรือ


สำนักเจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนี้มีบุริมสิทธิคนอื่นกำก่อนที่หนี้ซึ่งสได้ำนัเอำทรั พย์นี้เป็นประกันไว้กนำั้นจะถึงกำหนด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัและถ้ ำคู่กรณีไม่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สำมำรถจะตกลงกับลูกหนี้ได้ไซร้ ท่ำนว่ำต่ำงฝ่ำยต่ำงมีสิทธิที่จะเรียกร้องให้นำเงินจำนวนนั้นไปวำงไว้
ณ สำนักงำนวำงทรั สำนัพกย์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เพื่อประโยชน์อันร่วมกักนำ เว้นแต่ลูกหนีส้จำนัะหำประกั นให้ไว้ตำมสมควร
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


ส่วนที่ ๓
กำรใช้สิทกธิำเรียกร้องของลูสกำนัหนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๒๓๓ ถ้ำลู กหนี้ขัดขืน ไม่ยอมใช้สิ ทธิเรียกร้องหรือเพิ กเฉยเสี ยไม่ ใช้สิ ท ธิ
เรียกร้อง เป็นเหตุสำนั
ให้กเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จ้ำหนี้ต้องเสียประโยชน์
กำไซร้ ท่ำนว่ำเจ้
สำนัำหนี ้ จะใช้สิทธิเรียกร้องนัก้นำในนำมของ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตนเองแทนลูกหนี้เพื่อป้องกันสิทธิของตนในมูลหนี้นั้นก็ได้ เว้นแต่ในข้อที่เป็นกำรของลูกหนี้ส่วนตัว
สำนักโดยแท้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๓๔ เจ้ำหนี้ผู้ใช้สิทธิเรียกร้องของลู กหนี้นั้นจะต้องขอหมำยเรียกลูกหนี้มำ
สำนักในคดี นั้นด้วย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๓๕ เจ้ ำหนี้ จะใช้กสำ ิ ทธิ เรียกร้องของลู


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กหนี้เรียกเงินเต็มจำนวนที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ ยั งค้ ำง
ชำระแก่ลูกหนี้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงจำนวนที่ค้ำงชำระแก่ตนก็ได้ ถ้ำจำเลยยอมใช้เงินเพียงเท่ำจำนวนที่
สำนักลูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กหนี้เดิมค้ำงชำระแก่เกจ้ำำหนี้นั้น คดีกส็เป็ำนันกเสร็ จกันไป แต่ถ้ำลูกหนีก้เำดิมได้เข้ำชื่อเป็สนำนัโจทก์
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ด้วย ลูกหนี้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เดิมจะขอให้ศำลพิจำรณำพิพำกษำต่อไปในส่วนจำนวนเงินที่ยังเหลือติดค้ำงอยู่ก็ได้
สแต่
ำนัอกย่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำงไรก็ดี ท่ำนมิให้เจ้ำหนี กำ ้ได้รับมำกไปกว่
สำนัำกจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนวนที่ค้ำงชำระแก่ตนนั กำ้นเลย

มำตรำกำ๒๓๖ จำเลยมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัขก้องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต่อสู้ลูกหนี้เดิมอยู่อย่ำกงใด
ำ ๆ ท่ำนว่ำจะยกขึ ้นต่อสู้เจ้ำหนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ได้ทั้งนั้น เว้นแต่ข้อต่อสู้ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อยื่นฟ้องแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เพิกถอนกำรฉ้อฉล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๒๓๗ เจ้ำหนีสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ชอบที ่จะร้องขอให้ศำลเพิกกำ ถอนเสียได้ซสึ่งำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นิตกิกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รรมใด ๆ อัน กำ
ลูกหนี้ได้กระทำลงทั้งรู้อยู่ว่ำจะเป็นทำงให้เจ้ำหนี้เสียเปรียบ แต่ควำมข้อนี้ท่ำนมิให้ใช้บังคับ ถ้ำปรำกฏ
ว่ำในขณะที่ทำนิตสิกำนัรรมนั ้น บุคคลซึ่งเป็นผู้ได้กลำำภงอกแต่กำรนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มิได้รู้เท่ำถึงข้อควำมจริกงำอันเป็นทำง
ให้เจ้ำหนี้ต้องเสียเปรียบนั้นด้วย แต่หำกกรณีเป็นกำรทำให้โดยเสน่หำ ท่ำนว่ำเพียงแต่ลูกหนี้เป็นผู้รู้
สำนักฝ่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยเดียวเท่ำนั้นก็พอแล้กวำที่จะขอเพิกถอนได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทบัญญัติดังกล่ำวมำในวรรคก่อนนี้ ท่ำนมิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้ ใช้บังคับแก่นิติกรรมใดอันมิได้มีวัตถุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เป็นสิทธิในทรัพย์สิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๔๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๒๓๘ กำรเพิกถอนดังกล่ำวมำในบทมำตรำก่อนนั้นไม่อำจกระทบกระทั่งถึง


สำนักสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทธิของบุคคลภำยนอกกำอันได้มำโดยสุสจำนั
ริตกก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อนเริ่มฟ้องคดีขอเพิกถอน
กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่งควำมที่กล่ำวมำในวรรคก่อนนี้ ท่ำนมิให้ใช้บังคับ ถ้ำสิทธินั้นได้มำโดยเสน่หำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๓๙ กำรเพิกถอนนั้นย่อมได้เป็นประโยชน์แก่เจ้ำหนี้หมดทุกคน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๔๐ กำรเรียกร้องขอเพิ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กถอนนั้นสำนัท่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นห้ำมมิให้ฟ้องร้องเมื่อกพ้ำนปีหนึ่งนับ
แต่เวลำที่เจ้ำหนี้ได้รู้ต้นเหตุอันเป็นมูลให้เพิกถอน หรือพ้นสิบปีนับแต่ได้ทำนิติกรรมนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีสิกทำธิยึดหน่วง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๒๔๑ ผู้ใดเป็นผู้ครองทรัพย์สินของผู้อื่น และมีหนี้อันเป็นคุณประโยชน์แก่
ตนเกี่ยวด้วยทรัพย์สินซึ่งครองนั้นไซร้ ท่ำนว่ำผู้นั้นจะยึดหน่วสงทรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พย์สินนั้นไว้จนกว่ำจะได้ชำระหนี้ก็ได้
สำนักแต่ ควำมที่กล่ำวนี้ท่ำนมิกให้ำ ใช้บังคับ เมื่อสหนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ั้นยังไม่ถึงกำหนด กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่งบทบัญญัติในวรรคก่อนนี้ ท่ำนมิให้ใช้บังคับ ถ้ำกำรที่เข้ำครอบครองนั้นเริ่มมำ
แต่ทำกำรอันใดอันสำนัหนึก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมำยกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๒๔๒ สิทธิยสึดำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หน่กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งอันใด ถ้ำไม่สมกับลักกษณะที
ำ ่เจ้ำหนี้รสับำนัภำระในมู ลหนี้ก็ดี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ไม่สมกับคำสั่งอันลูกหนี้ได้ให้ไว้ก่อนหรือให้ในเวลำที่ส่งมอบทรัพย์สินนั้นก็ดี หรือเป็นกำรขัดกับควำม
สงบเรียบร้อยของประชำชนก็ ดี สิทธิยึดหน่วงเช่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นนั้นท่ำนให้ถสือำนัว่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หำมีไม่เลย กำ

มำตรำกำ๒๔๓ ในกรณีสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ที่ลกูกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หนี้เป็นคนสินล้นพ้นตักวำไม่สำมำรถใช้สหำนั
นี้ กเจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนี้มีสิทธิจะ กำ
ยึดหน่วงทรัพย์สินไว้ได้ แม้ทั้งที่ยังไม่ถึงกำหนดเรียกร้อง ถ้ำกำรที่ลูกหนี้ไม่สำมำรถใช้หนี้นั้นได้เกิดเป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ขึ้นหรือรู้ถึงเจ้ำหนี้ต่อภำยหลังเวลำที่ได้ส่งมอบทรัพย์สินไซร้ ถึงแม้ว่ำจะไม่สมกับลักษณะที่เจ้ำหนี้
สำนักรังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บภำระในมูลหนี้ไว้เดิมกหรื
ำ อไม่สมกับคสำสัำนั่งกอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นลูกหนี้ได้ให้ไว้ก็ดี เจ้ำกหนี
ำ ้ก็อำจจะใช้สสำนั
ิทธิกยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ึดหน่วงได้ กำ

สมำตรำ ๒๔๔ ผู้ทรงสิทธิยึดกหน่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ วงจะใช้สิทสธิำนั
ของตนแก่ ทรัพย์สินทั้งหมดที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ยึดหน่วงไว้
นั้นจนกว่ำจะชำระหนี้สิ้นเชิงก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๔๕ ผู้ทรงสิทธิยึดหน่วงจะเก็บดอกผลแห่ งทรัพย์สินที่ยึดหน่วงไว้ และ
จัดสรรเอำไว้เพื่อกำรช
สำนักำระหนี ้แก่ตนก่อนเจ้ำหนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ้คนอื่นก็ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ดอกผลเช่นว่ำนี้จะต้ องจัดสรรเอำชำระดอกเบี้ยแห่งหนี้นั้นก่อน ถ้ำยังมีเหลือจึงให้
สำนักจังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดสรรใช้ต้นเงิน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๔๖ ผู้ทรงสิทธิยึดหน่วงจำต้องจัดกำรดูแลรักษำทรัพย์สินที่ยึดหน่วงไว้นั้น
สำนักตำมสมควร เช่นจะพึงคำดหมำยได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จำกบุ
สำนัคคลในฐำนะเช่ นนั้น กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๕๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

อนึ่งทรัพย์สินซึ่งยึดหน่วงไว้นั้น ถ้ำมิได้รับควำมยินยอมของลูกหนี้ ท่ำนว่ำผู้ทรงสิทธิ


สำนักยึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดหน่วงหำอำจจะใช้สอยหรื กำ อให้เช่ำ หรื อเอำไปท
สำนั ำเป็นหลักประกันกได้ำ ไม่ แต่ควำมทีสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่กล่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วนี้ท่ำนมิให้ใช้ กำ
บังคับไปถึงกำรใช้สอยเช่นที่จำเป็นเพื่อจะรักษำทรัพย์สินนั้นเอง
สถ้ำนั
ำผูก้ทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รงสิทธิยึดหน่วงกระทกำกำรฝ่
ำ ำฝืนบทบั
สำนัญกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญัติใดที่กล่ำวมำนี้ ท่ำนว่
กำ ำลูกหนี้จะ
เรียกร้องให้ระงับสิทธินั้นเสียก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๔๗ ถ้ำผู้ ทรงสิ ทกธิำยึดหน่ วงต้องเสี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัยกค่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำใช้จ่ำยไปตำมที่จำเป็กำนเกี่ยวด้ว ย
ทรัพย์สินอันตนยึดหน่วงไว้นั้นเพียงใด จะเรียกให้เจ้ำทรัพย์ชดใช้ให้ก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๔๘ ภำยในบังคับแห่งบทบัญญัติมำตรำ ๑๙๓/๒๗ กำรใช้สิทธิยึดหน่วงหำ
ทำให้อำยุควำมแห่สำนั
งหนี ้สะดุดหยุดลงไม่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
[เลขมำตรำ ๑๙๓/๒๗ แก้ ไขเพิ่ ม เติ ม โดยมำตรำ ๑๕ แห่ งพระรำชบั ญ ญั ติให้ ใช้
สำนักบทบั ญญัติบรรพ ๑ แห่งกประมวลกฎหมำยแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจช
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำระใหม่ พ.ศ.
สำนั๒๕๓๕]
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๔๙ ลู กหนี้ จะเรียกร้องให้ ระงับสำนั
สิ ทกธิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ยึดหน่ว งด้ว ยหำประกั น ให้ ไว้ ต ำม
สำนักสมควรก็ ได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๕๐ กำรครองทรักพำย์สินสูญสิ้นไปสำนัสิกทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ธิยึดหน่วงก็เป็นอันระงักำบสิ้นไปด้วย
แต่ควำมที่กล่ำวนี้ท่ำนมิให้ใช้บังคับแก่กรณีที่ทรัพย์สินอันยึดหน่วงไว้นั้นได้ให้เช่ำไปหรือจำนำไว้ด้วย
สำนักควำมยิ นยอมของลูกหนีก้ ำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำส่วนที่ ๖ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บุริมสิทธิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๕๑ ผู้ทรงบุริมสิทธิย่อมทรงไว้ซึ่งสิทธิเหนือทรัพย์สินของลูกหนี้ในกำรที่จะ
สำนักได้ รับชำระหนี้อันค้ำงชำระแก่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ตน จำกทรั
สำนัพกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์สินนั้นก่อนเจ้ำหนี้อื่นกำๆ โดยนัยดังบัสญำนัญักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิไว้ในประมวล กำ
กฎหมำยนี้ หรือบทกฎหมำยอื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๕๒ บทบัญญัติแห่งมำตรำ ๒๔๔ นั้น ท่ำนให้ใช้บังคับตลอดถึงบุริมสิทธิ
สำนักด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วยตำมแต่กรณี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

๑. บุกำริมสิทธิสำมัญสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๒๕๓๔ ถ้ำหนีสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้มีอกยูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่เป็นคุณแก่บุคคลผู้ใดในมู
กำ ลอย่ำงหนึ่งสอย่
ำนัำกงใดดั งจะกล่ำว
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ต่อไปนี้ บุคคลผู้นสั้นำนัย่อกมมี บุริมสิทธิเหนือทรัพย์สินทั้งหมดของลู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กหนี้ คือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๒๕๓ แก้ ไขเพิ่ ม เติ มโดยพระรำชบั ญ ญั ติแ ก้ไขเพิ่ มเติ ม ประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ.ก๒๕๔๑
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๕๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๑) ค่ำใช้จ่ำยเพื่อประโยชน์อันร่วมกัน
(๒) ค่ำกปลงศพ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ค่ำภำษีอำกร และเงินที่ลูกจ้ำงมีสิทธิได้รับเพื่อกำรงำนที่ได้ทำให้แก่ลูกหนี้ซึ่งเป็น
นำยจ้ำง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ค่ำเครื่องอุปโภคบริโภคอันจำเป็นประจำวัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๕๔ บุริมสิทธิในมูกำลค่ำใช้จ่ำยเพืส่อำนัประโยชน์


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อันร่วมกันนั้นใช้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำสำหรับเอำ
ค่ำใช้จ่ำยอันได้เสียไปเพื่อประโยชน์ของเจ้ำหนี้หมดทุกคนร่วมกัน เกี่ ยวด้วยกำรรักษำ กำรชำระบัญชี
สำนักหรื อกำรเฉลี่ยทรัพย์สินของลู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กหนี้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำค่ำใช้จ่ำยนั้นมิได้เสียไปเพื่อประโยชน์ของเจ้ำหนี้หมดทุกคนไซร้ บุริมสิทธิย่อมจะ
ใช้ได้แต่เฉพำะต่อสเจ้ำนัำกหนี ้ผู้ที่ได้รับประโยชน์จำกกำรนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๒๕๕ บุริมสิสทำนัธิกในมู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ลค่ำปลงศพนั้น ใช้สกำหรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บเอำค่ำใช้สจำนั่ำกยในกำรปลงศพ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตำมควรแก่ฐำนำนุรูปของลูกหนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๒๕๖ บุริมสิสทำนัธิใกนมู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ลค่ำภำษีอำกรนั้น ใช้กสำ ำหรับเอำบรรดำค่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำภำษีอำกรใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ที่ดิน ทรัพย์สิน หรือค่ำภำษีอำกรอย่ำงอื่นที่ลูกหนี้ยังค้ำงชำระอยู่ในปีปัจจุบันและก่อนนั้นขึ้นไปอีกปีหนึ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๕๗๕ บุริมสิทธิในเงินที่ลูกจ้ำงมีสิทธิได้รับเพื่อกำรงำนที่ได้ทำให้แก่ลูกหนี้
สำนักซึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่งเป็ น นำยจ้ ำงนั้ น ให้กใช้ำ ส ำหรั บ ค่ำจ้สำำนั
ง ค่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำล่ ว งเวลำ ค่ำทำงำนในวักำ น หยุ ด ค่ ำล่สวำนังเวลำในวั นหยุ ด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ค่ำชดเชย ค่ำชดเชยพิเศษ และเงินอื่นใดที่ลูกจ้ำงมีสิทธิได้รับเพื่อกำรงำนที่ได้ทำให้ นับถอยหลังขึ้นไป
สี่เดือน แต่รวมกันสแล้ ำนักวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต้องไม่เกินหนึ่งแสนบำทต่ กำ อลูกจ้ำงคนหนึ
สำนั่งกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๒๕๘ บุ ริมสิสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ทธิกใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นมูล ค่ำเครื่องอุปโภคบริ
กำ โภคอั น จ ำเป็สำนั
นประจ ำวันนั้นใช้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ส ำหรั บ เอำค่ำเครื่ องอุป โภคบริโภค ซึ่งยังค้ ำงช ำระอยู่นั บถอยหลั งขึ้น ไปหกเดื อน เช่น ค่ำอำหำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เครื่องดื่ม โคมไฟ ฟืน ถ่ำน อันจำเป็นเพื่อกำรทรงชีพของลูกหนี้ และบุคคลในสกุลซึ่งอยู่กับลูกหนี้และ
สำนักซึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่งลูกหนี้จำต้องอุปกำระกั
กำบทั้งคนใช้ของลู
สำนักกหนี ้ด้วย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

๒. กบุำริมสิทธิพิเศษสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
(ก) บุริมสิทธิเหนือสังหำริมทรัพย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๕๙ ถ้ำหนี้มีอยู่เป็นคุณแก่บุคคลผู้ใดในมูลอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดดังจะกล่ำว
ต่อไปนี้ บุคคลผู้นสั้นำนัย่อกมมี บุริมสิทธิเหนือสังหำริกำมทรัพย์เฉพำะอย่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งของลูกหนี้ คือ กำ
(๑) เช่ำอสังหำริมทรัพย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๒) พักกำอำศัยในโรงแรม สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) รับขนคนโดยสำร หรือของ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๒๕๗ แก้ ไขเพิ่ ม เติ มโดยพระรำชบั ญ ญั ติแ ก้ไขเพิ่ มเติ ม ประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ.ก๒๕๔๑
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๕๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๔) รักษำสังหำริมทรัพย์
(๕) ซื้อกขำยสั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งหำริมทรั พย์กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนั สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๖) ค่ำเมล็ดพันธุ์ ไม้พันธุ์ หรือปุ๋ย
ส(๗)
ำนักค่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำแรงงำนกสิกรรม หรือกอุำ ตสำหกรรม สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๖๐ บุ ริ ม สิ ท ธิ ใ นมู ล เช่ ำ อสั ง หำริ ม ทรั พ ย์ นั้ น ใช้ ส ำหรั บ เอำค่ ำ เช่ ำ
อสั งหำริ ม ทรั พ ย์สแำนัละหนี ้ อ ย่ ำงอื่ น ของผู้ เช่ ำกอัำน เกิ ด จำกควำมเกี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ ย วพั น ในเรื่อ งเช่ ำ และมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อ ยู่ เหนื อ
สังหำริมทรัพย์ของผู้เช่ำซึ่งอยู่ในหรือบนอสังหำริมทรัพย์นั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๖๑ บุริมสิทธิของผู้ให้เช่ำที่ดิ นนั้นมีอยู่เหนือสังหำริมทรัพย์ทั้งหลำยอันผู้
เช่ำได้นำเข้ำมำไว้สบำนันที ่ดินที่ให้เช่ำ หรือนำเข้กำำมำไว้ในเรือนโรงอั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นใช้ประกอบกับที่ดินกนัำ้น และมีอยู่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เหนื อ สั ง หำริ ม ทรั พ ย์ เช่ น ส ำหรั บ ที่ ใช้ ในที่ ดิ น นั้ น กั บ ทั้ ง เหนื อ ดอกผลอั น เกิ ด จำกที่ ดิ น ซึ่ ง อยู่ ใ น
สำนักครอบครองของผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้เช่ำนั้นกด้ำวย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บุริมสิทธิของผู้ให้เช่ำเรือนโรงย่อมมีอยู่เหนือสังหำริมทรัพย์ซึ่งผู้เช่ำนำเข้ำมำไว้ใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เรือนโรงนั้นด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๖๒ ถ้ำกำรเช่ำอสังหำริมทรัพย์ได้โอนไปก็ดี หรือได้ให้เช่ำช่วงก็ดี บุริมสิทธิ
ของผู้ให้เช่ำเดิมย่สอำนั
มครอบไปถึ งสังหำริมทรัพย์กำซึ่งผู้รับโอน หรืสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อผูก้เงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ช่ำ ช่วงได้นำเข้ำมำไว้ในทรั
กำ พย์สินนั้น
ด้วย ควำมที่กล่ำวนี้ท่ำนให้ใช้ได้ตลอดถึงเงินอันผู้โอน หรือผู้ให้เช่ำช่วงจะพึงได้รับจำกผู้รับโอนหรือผู้
สำนักเช่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำช่วงนั้นด้วย กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๖๓ ในกรณีที่ผู้เช่กำำ ต้องชำระบัญสำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ชีเฉลี ่ยทรัพย์สินทั่วไปนั้น กบุำริมสิทธิของ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้ให้เช่ำย่อมมีอยู่แต่เฉพำะสำหรับเอำใช้ค่ำเช่ำ และหนี้อย่ำงอื่นเท่ำที่มีในระยะกำหนดส่งค่ำเช่ำเพียง
สำนักสำมระยะ คือปัจจุบันระยะหนึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ง ก่อนนัส้นำนัขึ้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไประยะหนึ่ง และต่อไปภำยหน้
กำ ำอีกระยะหนึ ่งเท่ำนั้น และ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ใช้สำหรับเอำค่ำเสียหำยซึ่งเกิดขึ้นในระยะกำหนดส่งค่ำเช่ำปัจจุบัน และก่อนนั้นขึ้นไปอีกระยะหนึ่งด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๒๖๔ ในกำรเรี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัยกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กร้องของผู้ให้เช่ำ ถ้ำผูก้ใำห้เช่ำได้รับเงินสประกั นไว้ ผู้ให้เช่ำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ย่อมมีบุริมสิทธิแต่เพียงในส่วนที่ไม่มีเงินประกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๖๕ บุริมสิทธิในมูลพักอำศัยในโรงแรมนั้น ใช้สำหรับเอำเงินบรรดำที่ค้ำง
สำนักชงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำระแก่เจ้ำสำนักเพื่อกำรพั
กำ กอำศัยและกำรอื ่ น ๆ อันได้จัดให้สำเร็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จควำมปรำรถนำแก่ คนเดินทำง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หรื อแขกอำศัย รวมทั้ งกำรชดใช้เงิน ทั้งหลำยที่ ได้ออกแทนไปและมี อยู่เหนื อเครื่องเดิ นทำง หรือ
ทรัพย์สินอย่ำงอื่นสของคนเดิ นทำง หรือแขกอำศั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำยอันเอำไว้ในโรงแรม โฮเต็ล หรือสถำนที่เกช่ำนนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๒๖๖ ผู้ให้เช่สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำอสักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งหำริมทรั พย์ หรือเจ้ำกสำำนักโรงแรม สโฮเต็ ล หรือสถำนที่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เช่นนั้น จะใช้บุริมสำนั
สิทกธิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของตนบังคับทำนองเดีกำยวกับผู้รับจำนสำนั
ำก็กไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้ บทบัญญัติทั้งหลำยแห่
กำ
งประมวล
กฎหมำยนี้ว่ำด้วยกำรบังคับจำนำนั้น ท่ำนให้นำมำใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๕๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๒๖๗ บุริมสิทธิในมูลรับขนนั้น ใช้สำหรับเอำค่ำระวำงพำหนะในกำรรับขน


สำนักคนโดยสำรหรื อ ของ กักบำทั้งค่ำใช้จ่ ำยอัสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นเป็ นอุป กรณ์ และเป็ นบุกรำิมสิ ท ธิมี อยู่เหนื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัอกของและเครื ่อ ง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เดินทำงทั้งหมดอันอยู่ในมือของผู้ขนส่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๖๘ ในกรณี ดั ง ได้ ป รำรภไว้ ในควำมแปดมำตรำก่ อ นนี้ นั้ น ผู้ ให้ เช่ ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อสังหำริมทรัพย์ก็ดี เจ้ำสำนักโรงแรมก็ดี หรือผู้ขนส่งก็ดี จะใช้บุริมสิทธิของตนเหนือสังหำริมทรัพย์อัน
เป็ น ของบุ ค คลภำยนอกก็ ได้ เว้ น แต่ ต นจะได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ รู้ ในเวลำอั นสำนั
ควรรู ้ ได้ ว่ ำ ทรั พ ย์ สิ น เหล่ ำกนัำ ้ น เป็ น ของ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บุคคลภำยนอก
ถ้ำสังหำริ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มทรัพย์นั้นสถูำนักลักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กหรือสูญหำย ท่ำนให้กบำังคับตำมบทกฎหมำยว่ ำด้วยกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แสวงคืนครองทรัพย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๖๙ บุริมสิทธิในมูลรักษำสังหำริมทรัพย์นั้น ใช้สำหรับเอำค่ำใช้จ่ำยเพื่อ
สำนักรังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กษำสังหำริมทรัพย์ และมี
กำ อยู่เหนือสังหำริ
สำนักมงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทรัพย์อันนั้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่งบุ ริมสิทธินี้ ยังใช้สำหรับเอำค่ำใช้จ่ำยที่จำเป็นอันได้เสียไปเพื่อที่จะสงวนสิทธิ
หรือรับสภำพสิทธิ หรือบังคับสิทธิ อันเกี่ยวด้วยสังหำริมทรัพสย์ำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นั้นกอีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กด้วย กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๒๗๐ บุริมสิทธิในมูลซื้อขำยสังหำริมทรัพย์นั้น ใช้สำหรับเอำรำคำซื้อขำย
และดอกเบี้ยในรำคำนั
สำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
และมีอยู่เหนือสังหำริกมำ ทรัพย์อันนั้นสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๒๗๑ บุริมสิสทำนัธิใกนมู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ลค่ำเมล็ดพันธุ์ ไม้พกันำธุ์ หรือปุ๋ยนั้นสใช้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัสกำหรั บเอำรำคำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ค่ำเมล็ดพันธุ์ ไม้ พันธุ์ หรือปุ๋ ย และดอกเบี้ยในรำคำนั้น และมีอยู่เหนือดอกผลอันเกิดงอกในที่ดิน
เพรำะใช้สิ่งเหล่ำนัส้นำนัภำยในปี หนึ่งนับแต่เวลำทีก่ใำช้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๒๗๒ บุริมสิสทำนัธิใกนมู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ลค่ำแรงงำนเพื่อกสิกกำรรมและอุตสำหกรรมนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้น ในส่วน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บุคคลที่ได้ทำกำรงำนกสิกรรม ใช้สำหรับเอำค่ำจ้ำงนับถอยหลังขึ้ นไปปีหนึ่ง และในส่วนบุคคลที่ได้ทำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรงำนอุตสำหกรรม ใช้สำหรับเอำค่ำจ้ำงนับถอยหลังขึ้นไปสำมเดือน และเป็นบุริมสิทธิมีอยู่เหนือ
สำนักดอกผลหรื อสิ่งของที่ประดิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ษฐ์ขึ้นอันเกิดสแต่
ำนักแงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รงงำนของบุคคลนั้น ๆกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(ข) บุริมสิทกธิเำหนืออสังหำริสมำนัทรักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ย์ กำ

มำตรำกำ๒๗๓ ถ้ำหนีส้มำนัีอกยูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่เป็นคุณแก่บุ คคลผู้ใดในมู
กำ ลอย่ำงหนึ่งสอย่
ำนัำกงใดดั งจะกล่ำว
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ต่อไปนี้ บุคคลผู้นั้นย่อมมีบุริมสิทธิเหนืออสังหำริมทรัพย์เฉพำะอย่ำงของลูกหนี้ คือ
ส(๑)
ำนักรังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กษำอสังหำริมทรัพย์ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) จ้ำงทำของเป็นกำรงำนทำขึ้นบนอสังหำริมทรัพย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๓) ซื้อกขำยอสั
ำ งหำริมสทรั
ำนัพกย์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๗๔ บุริมสิทธิในมูลรักษำอสั งหำริมทรัพย์นั้นใช้สำหรับเอำค่ำใช้จ่ำยเพื่อ
สำนักรังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กษำอสังหำริมทรัพย์ และมี
กำ อยู่เหนืออสั งหำริ
สำนั มทรัพย์อันนั้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๕๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

อนึ่งบทบัญญัติแห่งมำตรำ ๒๖๙ วรรคสองนั้น ท่ำนให้นำมำใช้บังคับแก่กรณีที่กล่ำว


สำนักมำในวรรคก่ อนนี้ด้วย กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๗๕ บุริมสิทธิในมูกำลจ้ำงทำของเป็สำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นกำรงำนท ำขึ้นบนอสังหำริ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มทรัพย์นั้น
ใช้ ส ำหรั บ เอำสิ น จ้ ำ ง ค่ ำ ท ำของเป็ น กำรงำนอั น ผู้ ก่ อ สร้ ำ ง สถำปนิ ก หรื อ ผู้ รั บ จ้ ำ งได้ ท ำลงบน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อสังหำริมทรัพย์ของลูกหนี้ และมีอยู่เหนืออสังหำริมทรัพย์อันนั้น
สอนึ
ำนั่งกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บุริมสิทธินี้ย่อมเกิดมีขกึ้นำ ต่อเมื่ออสังหำริ
สำนักมงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทรัพย์นั้นมีรำคำเพิ่มขึก้นำ ในปัจจุบัน
เพรำะกำรทีไ่ ด้ทำขึ้นนั้น และมีอยู่เพียงเหนือรำคำที่เพิ่มขึ้นเท่ำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๗๖ บุ ริ ม สิ ท ธิ ในมู ล ซื้ อ ขำยอสั ง หำริ ม ทรั พ ย์ นั้ น ใช้ ส ำหรั บ เอำรำคำ
อสังหำริมทรัพย์แสละดอกเบี ้ยในรำคำนั้น และมีกำอยู่เหนืออสังหำริ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัมกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทรัพย์อันนั้น กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ๓. กลงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ำดับแห่งบุริมสิทธิ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๗๗ เมื่อมีบุริมสิทธิสำมัญหลำยรำยแย้ งกัน ท่ำนให้ถือว่ำบุริมสิทธิทั้งหลำย
สำนักนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นมีลำดับที่จะให้ผลก่อกนหลั
ำ ง ดังที่ได้เสรีำนั
ยงลกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำดับไว้ในมำตรำ ๒๕๓กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่อมีบุริมสิทธิสำมัญแย้งกับบุริมสิทธิพิเศษ ท่ำนว่ำบุริมสิทธิพิเศษย่อมอยู่ในลำดับ
ก่อน แต่บุริมสิทธิสใำนั
นมูกลงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ค่ำใช้จ่ำยเพื่อประโยชน์กำร่วมกันนั้นย่ สอำนั
มอยู ่ในลำดับก่อนในฐำนทีก่จำะใช้สิทธินั้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต่อเจ้ำหนี้ผู้ได้รับประโยชน์จำกกำรนั้นหมดทุกคนด้วยกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๗๘ เมื่ อมี บุ ริม สิ ท ธิแ ย้งกั น หลำยรำยเหนื อสั งหำริม ทรัพ ย์อั น หนึ่ งอั น
เดียวกัน ท่ำนให้ถสือำนัลำดั บก่อนหลังดังที่เรียงไว้กตำ่อไปนี้ คือ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
(๑) บุริมสิทธิในมูลเช่ำอสังหำริมทรัพย์ พักอำศัยในโรงแรมและรับขน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๒) บุกริมำ สิทธิในมูลรักสษำสั งหำริมทรัพย์ แต่ถ้ำมีบกุคำคลหลำยคนเป็สำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นผูก้รงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ักษำ ท่ำนว่ำผู้ กำ
ที่รักษำภำยหลังอยู่ในลำดับก่อนผู้ที่ได้รักษำมำก่อน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) บุ ริ ม สิ ท ธิ ในมู ล ซื้ อ ขำยสั ง หำริม ทรั พ ย์ ค่ ำเมล็ ด พั น ธุ์ ไม้ พั น ธุ์ หรือ ปุ๋ ย และ
สำนักค่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำแรงงำนกสิกรรมและอุกำตสำหกรรม สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำบุคคลผู้ใดมีบุริมสิทธิอยู่ในลำดับเป็นที่หนึ่ง และรู้อยู่ในขณะที่ตนได้ประโยชน์แห่ง
หนี้มำนั้น ว่ำยังมีสบำนัุคคลอื ่นซึ่งมีบุริมสิทธิอยู่ในล
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำดับที่สองหรืสำนั
อทีก่สงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำมไซร้ ท่ำนห้ำมมิให้บกำุคคลผู้นั้นใช้
สิทธิในกำรที่ตนอยู่ในลำดับก่อนนั้นต่อบุคคลอื่นเช่นว่ ำมำ และท่ำนห้ำมมิให้ใช้สิทธินี้ต่อผู้ที่ได้รักษำ
สำนักทรั พย์ไว้ เพื่อประโยชน์แกก่ำ บุคคลผู้มีบุรสิมำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สิทกธิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ในลำดับที่หนึ่งนั้นเองด้กวำย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในส่วนดอกผล ท่ำนให้บุคคลผู้ได้ทำกำรงำนกสิกรรมอยู่ในลำดับที่หนึ่ง ผู้ส่งเมล็ดพันธุ์
ไม้พันธุ์ หรือปุ๋ย อยู
สำนั่ในล ำดับที่สอง และให้ผู้เช่กำำที่ดินอยู่ในลำดัสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บทีก่สงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำม กำ

มำตรำกำ๒๗๙ เมื่อมีสบำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ุริมกสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทธิพิเศษแย้งกันหลำยรำยเหนื
กำ ออสังสหำริ
ำนักมงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทรัพย์อันหนึ่ง กำ
อันเดียวกัน ท่ำนให้ ถือลำดับก่อนหลังดังที่ได้เรียงลำดับไว้ในมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๗๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำได้ซื้อขำยอสังหำริมทรัพย์นั้นสืบต่อกันไปอีกไซร้ ลำดับก่อนหลังในระหว่ำงผู้ขำย
สำนักด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วยกันนั้น ท่ำนให้เป็นไปตำมล
กำ ำดับที่ไสด้ำนั
ซื้อกขำยก่ อนและหลัง กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๕๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๒๘๐ เมื่อบุสคำนัคลหลำยคนมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บุริมสิทธิในลกำำดับเสมอกันเหนื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทรัพย์อันหนึ่ง กำ
อันเดียวกัน ท่ำนให้ต่ำงคนต่ำงได้รับชำระหนี้เฉลี่ยตำมส่วนมำกน้อยแห่งจำนวนที่ตนเป็นเจ้ำหนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๔. ผลแห่งบุริมสิทธิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๘๑ บุ ริ ม สิ ท ธิ อกั นำมี อ ยู่ เหนื อ สัสงำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หำริ ม ทรั พ ย์ นั้ น ท่ ำนห้ ำมมิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ให้ ใช้ เมื่ อ
บุคคลภำยนอกได้ทรัพย์นั้นจำกลูกหนี้และได้ส่งมอบทรัพย์ให้กันไปเสร็จแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๘๒ เมื่อมีบุริมสิทธิแย้งกับสิทธิจำนำสังหำริมทรัพย์ ท่ำนว่ำผู้รับจำนำย่อม
มีสิทธิเป็นอย่ำงเดีสยำนัวกักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กับผู้ทรงบุริมสิทธิในลกำดั
ำ บที่หนึ่งดังทีส่เำนั
รียกงไว้ ในมำตรำ ๒๗๘ นั้น กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๒๘๓ บุคคลผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้มกีบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ุริมสิทธิสำมัญต้องรับชกำระหนี
ำ ้เอำจำกสั
สำนังหำริ มทรัพย์ของ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ลูกหนี้ก่อน ต่อเมื่อยังไม่พอจึงให้เอำชำระหนี้จำกอสังหำริมทรัพย์ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในส่วนอสังหำริมทรัพย์นั้น ก็ต้องรับชำระหนี ้เอำจำกอสังหำริมทรัพย์ อันมิได้ตกอยู่
สำนักในฐำนเป็ นหลักประกันพิกำเศษเสียก่อน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำบุคคลใดมีบุริมสิทธิสำมัญและละเลยด้วยควำมประมำทเลินเล่อไม่สอดเข้ำแย้งขัด
ในกำรแบ่งเฉลี่ยทรัสำนัพกย์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตำมควำมที่กล่ำวมำในวรรคทั
กำ ้งสองข้สำนั
ำงบนนี ้ไซร้ อันบุคคลนั้นจะใช้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บุริมสิทธิ
ของตนต่อบุคคลภำยนอกผู้ได้จดทะเบียนสิทธิไว้แล้วเพื่อจะเอำใช้จนถึงขนำดเช่นที่ตนจะหำกได้รับ
สำนักเพรำะได้ สอดเข้ำแย้งขัดกนัำ้น ท่ำนว่ำหำอำจจะใช้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่ง บทบั ญญัติที่กล่ำวมำในวรรคทั้งสำมข้ำงต้นนี้ท่ำนมิให้ใช้บังคับ หำกว่ำเงินที่
ขำยอสังหำริมทรัสพำนัย์ไกด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้น จะพึงต้องเอำมำแบ่กำงเฉลี่ยก่อนเงิสนำนั
ที่ขกำยทรั พย์สินอย่ำงอื่นก็ดกี ำหรื อหำกว่ำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เงินที่ขำยอสังหำริมทรัพย์อันตกอยู่ในฐำนเป็นหลักประกันพิเศษนั้น จะพึงต้องเอำมำแบ่งเฉลี่ยก่อน
สำนักเงิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นที่ขำยอสังหำริมทรัพกย์ำอย่ำงอื่นก็ดุจสกัำนั
น กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๘๔ บุ ริ ม สิ ท ธิ ส ำมั ญ นั้ น ถึ ง แม้ จ ะมิ ไ ด้ ไ ปลงทะเบี ย นเกี่ ย วด้ ว ย
สำนักอสั งหำริมทรัพย์ก็ดี ย่อกมจะยกขึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้นเป็นสข้ำนัอต่กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สู้เจ้ำ หนี้ใด ๆ ที่ไม่มีหกลัำ กประกันพิเศษนั
สำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้ แต่ควำมที่ กำ
กล่ำวนี้ท่ำนมิให้ใช้ไปถึงกำรต่อสู้บุคคลภำยนอกผู้ได้ไปลงทะเบียนสิทธิไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๘๕ บุริมสิทธิในมูลรักษำอสังหำริมทรัพย์นั้น ถ้ำหำกว่ำเมื่อทำกำรเพื่อ
สำนักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำรุงรักษำนั้นสำเร็จแล้กวำไปบอกลงทะเบี
สำนัยกนไว้ โดยพลันไซร้ บุริมสิทกำธิก็คงให้ผลต่อสไปำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สมำตรำ ๒๘๖ บุริมสิทธิในมูกำลจ้ำงทำของเป็สำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นกำรงำนท ำขึ้นบนอสังหำริ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำมทรัพย์นั้น
หำกทำรำยกำรประมำณรำคำชั่วครำวไปบอกลงทะเบียนไว้ก่อนเริ่มลงมือกำรทำไซร้ บุริมสิทธิก็คง
สำนักให้ ผลต่อไป แต่ถ้ำรำคำทีกำ่ทำจริงนั้นล้ำรำคำที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ได้ประมำณไว้ชั่วครำวกำ ท่ำนว่ำบุริมสิสทำนัธิกในส่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วนจำนวนที่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ล้ำอยู่นั้นหำมีไม่ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนกำรที่จะวินิจฉัยว่ำอสังหำริมทรัพย์นั้นมีรำคำเพิ่มขึ้นเพรำะกำรอันได้ทำขึ้นบน
สำนักอสั งหำริมทรัพย์มำกน้อกยเพี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ยงใดนั้น ท่สำำนันให้ ศำลตั้งแต่งผู้เชี่ยวชำญขึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นเป็นผู้กะประมำณ ในเวลำที่มี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๕๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

แย้งขัดในกำรแบ่งเฉลี่ย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๘๗ บุริมสิทธิใดได้ไปจดลงทะเบียนแล้วตำมบทบัญญัติแห่งมำตรำทั้งสอง
ข้ำงบนนี้ บุริมสิทสธิำนั
นั้นกท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำอำจจะใช้ได้ก่อนสิ
กำทธิจำนอง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๒๘๘ บุริมสิทธิในมูลซื้อขำยอสังหำริมทรัพย์นั้น หำกว่ำเมื่อไปลงทะเบียน
สัญญำซื้อขำยนั้นสบอกลงทะเบี ยนไว้ด้วยว่ำรำคำหรื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อดอกเบีส้ยำนั
ในรำคำนั ้นยังมิได้ชำระไซร้กำบุริมสิทธินั้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก็คงให้ผลต่อไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๘๙ ว่ำถึงผลแห่ งบุริมสิทธิ นอกจำกที่ได้บัญ ญั ติไว้ในมำตรำ ๒๘๑ ถึง
๒๘๘ นี้แล้ว ท่ำนให้
สำนันกำบทบั ญญัติทั้งหลำยแห่กงำลักษณะจำนองมำใช้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บังคับด้วยตำมแต่กรณีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลูกหนี้และเจ้ำหนี้หลำยคน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๒๙๐ ถ้ำกำรชำระหนี้เป็น กำรอันจะแบ่งกันชำระได้และมีบุคคลหลำยคน
เป็นลูกหนี้ก็ดี มีบสุคำนัคลหลำยคนเป็ นเจ้ำหนี้ก็ดกี ำเมื่อกรณีเป็นสทีำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่สงสั ย ท่ำนว่ำลูกหนี้แต่ละคนจะต้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องรับ
ผิดเพียงเป็นส่วนเท่ำ ๆ กันและเจ้ำหนี้แต่ละคนก็ชอบที่จะได้รับแต่เพียงเป็นส่วนเท่ำ ๆ กัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๙๑ ถ้ำบุ คคลหลำยคนจะต้องท ำกำรช ำระหนี้โดยท ำนองซึ่งแต่ล ะคน
จำต้องชำระหนี้สสิ้นำนั
เชิกงไซร้ แม้ถึงว่ำเจ้ำหนี้ชอบที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่จะได้รับชำระหนี
สำนัก้สงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิ้นเชิงได้แต่เพียงครั้งเดีกยำว (กล่ำวคือ
ลูกหนี้ ร่วมกัน ) ก็ดี เจ้ำหนี้ จะเรียกช ำระหนี้จำกลูกหนี้แต่คนใดคนหนึ่งสิ้ นเชิงหรือแต่โดยส่วนก็ได้
สำนักตำมแต่ จะเลือก แต่ลูกหนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ้ทั้งปวงก็ยังคงต้
สำนัอกงผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กพันอยู่ทั่วทุกคนจนกว่ กำำหนี้นั้นจะได้ชสำนั
ำระเสร็ จสิ้นเชิง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๙๒ กำรที่ลู กหนี้ร่วมกันคนหนึ่ งช ำระหนี้นั้ น ย่อมได้เป็ นประโยชน์แก่
สำนักลูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก หนี้คนอื่น ๆ ด้ว ย วิกธำีเดีย วกัน นี้ทส่ำำนั
นให้ ใช้บังคับ แก่ก ำรใด ๆกำอันพึง กระทำแทนช
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำระหนี้ วำง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทรัพย์สินแทนชำระหนี้ และหักกลบลบหนี้ด้วย
สลูำนั
กหนี ้ร่วมกันคนหนึ่งมีสิทธิกเรีำยกร้องอย่ำงไร
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัลูกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หนี้คนอื่น ๆ จะเอำสิทกธิำอันนั้นไปใช้
หักกลบลบหนี้หำได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๙๓ กำรปลดหนี้ให้แก่ลูกหนี้ร่วมกันคนหนึ่งนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์
แก่ลูกหนี้คนอื่น ๆสำนั
เพีกยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งเท่ำส่วนของลูกหนี้ที่ไกด้ำปลดให้ เว้นแต่สำนั
จะได้ ตกลงกันเป็นอย่ำงอื่นกำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ ๒๙๔ กำรที


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่ เ จ้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำ หนี้ ผิ ด นั ด ต่ อ ลู ก หนีก้ รำ่ ว มกั น คนหนึส่ ำนั
ง นัก้ นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย่ อ มได้ เ ป็ น กำ
คุณประโยชน์แก่ลสูกำนัหนีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้คนอื่น ๆ ด้วย กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๒๙๕ ข้อควำมจริ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งอื่นใด นอกจำกที่ระบุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำไว้ในมำตรำ ส๒๙๒ ถึง ๒๙๔ นั้น
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๕๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

เมื่อเป็นเรื่องเท้ำถึงตัวลูกหนี้ร่วมกันคนใดก็ย่อมเป็นไปเพื่อคุณและโทษแต่เฉพำะแก่ลูกหนี้คนนั้น เว้นแต่
สำนักจะปรำกฏว่ ำขัดกับสภำพแห่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งหนี้นั้นเองสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมที่ว่ำมำนี้ เมื่อจะกล่ำวโดยเฉพำะก็คือว่ำให้ใช้แก่กำรให้คำบอกกล่ำวกำรผิดนัด
กำรที่หยิบยกอ้ำงควำมผิ
ส ด กำรชำระหนี้อันเป็กนำพ้นวิสัยแก่ฝ่ำสยลู
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักกหนี ้ร่วมกันคนหนึ่ง กำหนดอำยุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ควำม
หรือกำรที่อำยุควำมสะดุดหยุดลง และกำรที่สิทธิเรียกร้องเกลื่อนกลืนกันไปกับหนี้สิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๙๖ ในระหว่ำงลูกกำหนี้ร่วมกันทัส้งำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หลำยนั ้น ท่ำนว่ำต่ำงคนต่กำำงต้องรับผิด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นส่วนเท่ำ ๆ กัน เว้นแต่จะได้กำหนดไว้เป็นอย่ำงอื่น ถ้ำส่วนที่ลูกหนี้ร่วมกันคนใดคนหนึ่งจะพึง
สำนักชงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำระนั้น เป็นอันจะเรียกเอำจำกคนนั
กำ ้นสไม่ำนัไกด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไซร้ ยังขำดจำนวนอยู่เกท่ำำไรลูกหนี้คนอืส่นำนัๆกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ซึ่งจำต้องออก กำ
ส่วนด้วยนั้นก็ต้องรับใช้ แต่ถ้ำลูกหนี้ร่วมกันคนใดเจ้ำหนี้ได้ปลดให้หลุดพ้นจำกหนี้อันร่วมกันนั้นแล้ว
ส่วนที่ลูกหนี้คนนัส้นำนั
จะพึ งต้องชำระหนี้ก็ตกเป็นกพัำ บแก่เจ้ำหนี้ไสปำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๒๙๗ ถ้ำในสัสญ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัญำอั นหนึ่งอันใดมีบุคคลหลำยคนร่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วมกันสำนั
ผูกกพังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นตนในอันจะ กำ
ทำกำรชำระหนี้ไซร้ หำกกรณีเป็ นที่สงสัย ท่ำนว่ำบุคคลเหล่ำนั้นจะต้องรับผิดเช่นอย่ำงเป็นลูกหนี้
ร่วมกัน แม้ถึงว่ำเป็สำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นกำรอั นจะแบ่งกันชำระหนี้ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๒๙๘ ถ้ำบุคคลหลำยคนมีสิทธิเรียกร้องกำรชำระหนี้ โดยทำนองซึ่งแต่ละ
คนอำจจะเรีย กให้ ช ำระหนี
สำนั ้ สิ้ น เชิ งได้ ไซร้ แม้กำถึ งว่ำลู ก หนี้จสำต้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัอกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งช ำระหนี้ สิ้ นเชิงแต่ เพีกยำ งครั้งเดีย ว
(กล่ำวคือเจ้ำหนี้ร่วมกัน ) ก็ดี ท่ำนว่ำลูกหนี้จะชำระหนี้ให้แก่เจ้ำหนี้แต่คนใดคนหนึ่งก็ได้ตำมแต่จะ
สำนักเลืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อก ควำมข้อนี้ให้ใช้บังกคัำบได้ แม้ทั้งทีส่เจ้ำนัำหนี ้คนหนึ่งจะได้ยื่นฟ้องเรีกำยกชำระหนี้ไว้สแำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ล้วกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๙๙ กำรที่เจ้ำหนี้ร่วกมกัำ นคนหนึ่งผิดนัสำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย่อมเป็นโทษแก่เจ้ำหนีก้คำนอื่น ๆ ด้วย
ถ้ำสิ ทธิเรีย กร้องและหนี้สินนั้นเป็นอันเกลื่อนกลื นกันไปในเจ้ำหนี้ร่วมกันคนหนึ่ง
สำนักสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทธิของเจ้ำหนี้คนอื่น ๆกำอันมีต่อลูกหนีส้กำนั็ย่อกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มเป็นอันระงับสิ้นไป กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นอกจำกนี้ ท่ำนให้นำบทบัญญัติแห่งมำตรำ ๒๙๒, ๒๙๓ และ ๒๙๕ มำใช้บังคับด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
โดยอนุโลม กล่ำวโดยเฉพำะก็คือ แม้เจ้ำหนี้ร่วมกันคนหนึ่งจะโอนสิทธิเรียกร้องให้แก่บุคคลอื่นไปก็หำ
สำนักกระทบกระทั ่งถึงสิทธิของเจ้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำหนี้คนอื่นสำนัๆ กด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วยไม่ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๓๐๐ ในระหว่ำงเจ้กำำหนี้ร่วมกันนัส้นำนัท่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นว่ำต่ำงคนชอบที่จะได้กำรับชำระหนี้
เป็นส่วนเท่ำ ๆ กัน เว้นแต่จะได้กำหนดไว้เป็นอย่ำงอื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๐๑ ถ้ำบุ ค คลหลำยคนเป็ น หนี้ อัน จะแบ่ งกั น ช ำระมิ ได้ ท่ ำนว่ำบุ ค คล
เหล่ำนั้นต้องรับผิสดำนั
เช่นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อย่ำงลูกหนี้ร่วมกัน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๓๐๒ ถ้ำกำรช
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำระหนี ้เป็นกำรอันจะแบ่งกกัำนชำระมิได้ และมี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ุคคลหลำยคน กำ
เป็นเจ้ำหนี้ ถ้ำบุคสคลเหล่ ำนั้นมิได้เป็นเจ้ำหนี้ร่วมกันไซร้ ท่ำนว่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำลูกหนี้ได้แต่จะชำระหนี้ให้ได้ประโยชน์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แก่บุคคลเหล่ำนั้นทั้งหมดด้วยกัน และเจ้ำหนี้แต่ละคนจะเรียกชำระหนี้ได้ก็แต่เพื่อได้ประโยชน์ด้วยกัน
สำนักหมดทุ กคนเท่ำนั้น อนึ่งกเจ้ำ ำหนี้แต่ละคนจะเรี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยกให้ลูกหนี้วำงทรัพกย์ำที่เป็นหนี้นั้นไว้สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เพืก่องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ประโยชน์แห่ง กำ
- ๕๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

เจ้ำหนี้หมดทุกคนด้วยกันก็ได้ หรือถ้ำทรัพย์นั้นไม่ควรแก่กำรจะวำงไว้ก็ให้ส่งแก่ผู้พิทักษ์ทรัพย์ซึ่งศำล
สำนักจะได้ ตั้งแต่งขึ้น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นอกจำกนี้ ข้อควำมจริงใดที่เท้ำถึงเจ้ำหนี้คนหนึ่งเท่ำนั้นหำเป็นไปเพื่อคุณหรือโทษ
แก่เจ้ำหนี้คนอื่น ๆำนัด้วกยไม่
ส งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


หมวด ๔
โอนสิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ทธิเรียกร้อง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๓๐๓ สิ ทธิเรียกร้องนั้นท่ำนว่ำจะพึงโอนกันได้ เว้นไว้แต่ส ภำพแห่ งสิ ทธิ
นั้นเองจะไม่เปิดช่สอำนั
งให้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โอนกันได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมที่กล่ำวมำนี้ย่อมไม่ใช้บังคับ หำกคู่กรณีได้แสดงเจตนำเป็นอย่ำงอื่น กำรแสดง
สำนักเจตนำเช่ นว่ำนี้ ท่ำนห้ำมมิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ให้ยกขึ้นเป็นสข้ำนัอต่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อสู้บุคคลภำยนอกผู้กระท
กำ ำกำรโดยสุจริสตำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๐๔ สิทธิเรียกร้องเช่นใด ตำมกฎหมำยศำลจะสั ่งยึดไม่ได้ สิทธิเรียกร้อง
สำนักเช่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นนั้น ท่ำนว่ำจะโอนกักนำหำได้ไม่ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๓๐๕ เมื่อโอนสิ ทกธิำเรียกร้องไป สิสำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ทธิกจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนอง จำนำ หรือหลักกำประกันทำง
ธุรกิจที่มีอยู่เกี่ยวพันกับสิทธิเรียกร้องนั้นก็ดี สิทธิอันเกิดขึ้นแต่กำรค้ำประกันที่ให้ไว้เพื่อสิทธิเรียกร้อง
สำนักนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นก็ดี ย่อมตกไปได้แก่ผกู้รำับโอนด้วย๖ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่งผู้รับโอนจะใช้บุริมสิทธิใด ๆ ที่ตนมีอยู่เกี่ยวด้วยสิทธิเรียกร้องในกรณีบังคับยึด
ทรัพย์หรือล้มละลำยนั ้นก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๓๐๖ กำรโอนหนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้อันจะพึงต้องชำระแก่เกจ้ำำหนี้คนหนึ่งโดยเฉพำะเจำะจงนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ถ้ำไม่ทำเป็นหนังสือ ท่ำนว่ำไม่สมบูรณ์ อนึ่งกำรโอนหนี้นั้นท่ำนว่ำจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ลูกหนี้หรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บุคคลภำยนอกได้แต่เมื่อได้บอกกล่ำวกำรโอนไปยังลูกหนี้หรือลูกหนี้จะได้ยินยอมด้ วยในกำรโอนนั้น
สำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำบอกกล่ำวหรือควำมยิกนำ ยอมเช่นว่ำนีส้ทำนั่ำนว่ ำต้องทำเป็นหนังสือ กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำลูกหนี้ทำให้พอแก่ใจผู้โอนด้วยกำรใช้เงิน หรือด้วยประกำรอื่นเสียแต่ก่อนได้รับ
บอกกล่ำว หรือก่อสำนั
นได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตกลงให้โอนไซร้ ลูกหนีก้นำ ั้นก็เป็นอันหลุสดำนัพ้กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำกหนี้ กำ

มำตรำกำ๓๐๗ ถ้ำพิพสำทอ้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งสิทธิในกำรโอนต่ำงรำย
กำ โอนรำยใดได้
สำนับอกกล่ ำวหรือตก
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ลงกันก่อน โอนรำยนั้นมีสิทธิดีกว่ำโอนรำยอื่น ๆ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๐๘ ถ้ำลูกหนี้ได้ให้ค วำมยินยอมดังกล่ำวมำในมำตรำ ๓๐๖ โดยมิได้
สำนักอิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดเอื้อน ท่ำนว่ำจะยกข้กอำต่อสู้ที่มีต่อผู้โสอนขึ ้นต่อสู้ผู้รับโอนนั้นหำได้กไำม่ แต่ถ้ำเพื่อจะระงั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บหนี้นั้นลูกหนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ได้ ใช้ เงิน ให้ แก่ ผู้ โสอนไปไซร้ ลู กหนี้ จ ะเรียกคืน เงินนั้ น ก็ได้ สหรื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อถ้ ำเพื่ อกำรเช่น กล่ ำวมำนั้น ลู ก หนี้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๓๐๕ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ง
สำนักและพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๒๕๕๘ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ชย์ (ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๕๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

รับภำระเป็นหนี้อย่ำงใดอย่ำงหนึ่งขึ้นใหม่ต่อผู้โอน จะถือเสมือนหนึ่งว่ำหนี้นั้นมิได้ก่อขึ้นเลยก็ได้
ถ้ำลูกกหนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้เป็นแต่ได้รับสคำนัำบอกกล่ ำวกำรโอน ท่ำนว่กำำลูกหนี้มีข้ อต่สอำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สู้ผกู้โงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อนก่อนเวลำที่ กำ
ได้รับคำบอกกล่ำวนั้น ฉัน ใด ก็จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้แก่ผู้รับโอนได้ฉันนั้น ถ้ำลูกหนี้มีสิทธิเรียกร้อง
จำกผู้โอน แต่สิทสธิำนั
นั้นกยังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งไม่ถึงกำหนดในเวลำบอกกล่ กำ ำวไซร้ สท่ำนั
ำนว่ ำจะเอำสิทธิเรียกร้องนัก้นำ มำหักกลบ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ลบกันก็ได้ หำกว่ำสิทธินั้นจะได้ถึงกำหนดไม่ช้ำกว่ำเวลำถึงกำหนดแห่งสิทธิเรียกร้องอันได้โอนไปนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๓๐๙ กำรโอนหนีก้อำันพึงต้องช ำระตำมเขำสั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งนั้น ท่ำนว่ำจะยกขึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นเป็นข้ อ
ต่อสู้ลูกหนี้ หรือบุคคลภำยนอกคนอื่นได้แต่เฉพำะเมื่อกำรโอนนั้นได้สลักหลังไว้ในตรำสำร และตัวตรำ
สำนักสำรนั ้นได้ส่งมอบให้แก่ผกู้รำับโอนไปด้วยสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๓๑๐ ในมูลหนี้อันพึกำงต้องชำระตำมเขำสั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งนั้น ลูกหนี้มีสิทธิที่จกะสอบสวนถึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ง
ตัวผู้ทรงตรำสำร หรือสอบสวนควำมถูกต้องแท้จริงแห่งลำยมือชื่อหรือดวงตรำของผู้ทรงได้ แต่ก็หำมี
สำนักควำมผู กพันที่จะต้องทำถึกำงเพียงนั้นไม่ สแต่ำนัถก้ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ลูกหนี้ทำกำรโดยทุจริตกหรื
ำ อประมำทเลิสำนั
นเล่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ออย่ ำงร้ำยแรง กำ
ไซร้ กำรชำระหนี้นั้นก็ไม่เป็นอันสมบูรณ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๓๑๑ บทบัญสญัำนัตกิแงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ห่งมำตรำก่อนนี้ ท่ำนให้
กำใช้บังคับตลอดถึ
สำนังกกรณี ที่มีกำหนด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ตัวเจ้ำหนี้ระบุไว้ในตรำสำร ซึ่งมีข้อควำมจดไว้ด้วยว่ำให้ชำระหนี้แก่ผู้ทรงตรำสำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๑๒ ในมูลหนี้อันพึงต้องชำระตำมเขำสั่งนั้น ลูก หนี้จะยกข้อต่อสู้ซึ่งมีต่อ
สำนักเจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนี้เดิมขึ้นเป็นข้อต่อกสูำ้ผู้รับโอนโดยสุสำนั
จริกตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้นหำได้ไม่ เว้นแต่ที่ปกรำกฏในตั
ำ วตรำสำรนั ้นเอง หรือที่มี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ขึ้นเป็นธรรมดำสืบจำกลักษณะแห่งตรำสำรนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๑๓ บทบัญญัติแห่งมำตรำก่อนนี้ ท่ำนให้ใช้บังคับตลอดถึงหนี้อันพึงต้อง
สำนักชงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำระแก่ผู้ถอื นั้นด้วย แล้กวำแต่กรณี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ควำมระงับหนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กำรชำระหนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๑๔ อันกำรชำระหนี้นั้น ท่ำนว่ำบุคคลภำยนอกจะเป็นผู้ชำระก็ได้ เว้นแต่
สำนักสภำพแห่ งหนี้จะไม่เปิดช่กอำ งให้บุคคลภำยนอกช
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำระ หรือจะขัดกับเจตนำอั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นคู่กรณีไสด้ำนั
แสดงไว้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บุคคลผู้ไม่มีส่วนได้เสียด้วยในกำรชำระหนี้นสั้นำนัจะเข้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำชำระหนี้โดยขืนใจลูกหนี้หำได้ไม่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๓๑๕ อันกำรช
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำระหนี ้นั้น ต้องทำให้แก่ตกัวำเจ้ำหนี้หรือแก่สบำนัุคกคลผู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้มีอำนำจรับ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๖๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ชำระหนี้แทนเจ้ำหนี้ กำรชำระหนี้ให้แก่บุคคลผู้ไม่มีอำนำจรับชำระหนี้นั้น ถ้ำเจ้ำหนี้ให้สัตยำบันก็


สำนักนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บว่ำสมบูรณ์ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๓๑๖ ถ้ำกำรชำระหนี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นั้นได้ทำให้สแำนัก่กผงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ู้ครองตำมปรำกฏแห่งสิกทำ ธิในมูลหนี้
ท่ำนว่ำกำรชำระหนี้นั้นจะสมบูรณ์ก็แต่เมื่อบุคคลผู้ชำระหนี้ได้กระทำกำรโดยสุจริต
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๓๑๗ นอกจำกกรณี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำที่กล่ำวไว้ในมำตรำก่ อน กำรชำระหนี้แก่กำบุคคลผู้ไม่มี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สิทธิจะได้รับนั้น ท่ำนว่ำย่อมสมบูรณ์เพียงเท่ำที่ตัวเจ้ำหนี้ได้ลำภงอกขึ้นแต่กำรนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๑๘ บุคคลผู้ถือใบเสร็จเป็นสำคัญ ท่ำนนับว่ำเป็นผู้มีสิทธิจะได้รับชำระหนี้
แต่ควำมที่กล่ำวนีส้ทำนั่ำนมิ ให้ใช้ ถ้ำบุคคลผู้ชำระหนี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้รู้ว่ำสิทธิเช่นสำนั
นั้นกหำมี ไม่ หรือไม่รู้เท่ำถึงสิกทำ ธินั้นเพรำะ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ควำมประมำทเลินเล่อของตน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๑๙ ถ้ำศำลสั่งให้ลูกหนี้คนที่สำมงดเว้นทำกำรชำระหนี้แล้ว ยังขืนชำระหนี้
ให้แก่เจ้ำหนี้ของตนเองไซร้ ท่ำนว่ำเจ้ำหนี้ผู้ที่ร้องขอให้ยึดทรัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พย์กจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ะเรียกให้ลูกหนี้คนที่สกำมนั

้นทำกำร
สำนักชงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำระหนี้อีกให้คุ้มกับควำมเสี
กำ ยหำยอันตนได้
สำนักรงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ับก็ได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่งข้อควำมซึ่งกล่ำวมำในวรรคข้ำงต้นนี้หำเป็นข้อขัดขวำงในกำรที่ลูกหนี้คนที่สำม
จะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอำแก่ เจ้ำหนี้ของตนเองนั้นไม่กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๓๒๐ อันจะบัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งคักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้เจ้ำหนี้รับชำระหนี้แกต่ำเพียงบำงส่วนสำนั
หรืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้รับชำระหนี้ กำ
เป็นอย่ำงอื่นผิดไปจำกที่จะต้องชำระแก่เจ้ำหนี้นั้น ท่ำนว่ำหำอำจจะบังคับได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๒๑ ถ้ำเจ้ำหนี้ยอมรับกำรชำระหนี้อย่ำงอื่นแทนกำรชำระหนี้ที่ได้ตกลงกันไว้
สำนักท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำหนี้นั้นก็เป็นอันระงั
กำ บสิ้นไป สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำเพื่อที่จะทำให้พอแก่ใจเจ้ำหนี้นั้น ลูกหนี้รับภำระเป็นหนี้อย่ำงใดอย่ำงหนึ่งขึ้นใหม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ต่อเจ้ำหนี้ไซร้ เมื่อกรณีเป็นที่สงสัย ท่ำนมิให้สันนิษฐำนว่ำลูกหนี้ได้ก่อหนี้นั้นขึ้นแทนกำรชำระหนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถ้ำชำระหนี
กำ ้ด้วยออก-ด้
สำนัวกยโอน-หรื อด้วยสลักหลังกตัำ๋วเงินหรือประทวนสิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นค้ำ ท่ำนว่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หนี้นั้นจะระงับสิ้นไปต่อเมื่อตั๋วเงินหรือประทวนสินค้ำนั้นได้ใช้เงินแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๒๒ ถ้ำเอำทรัพย์ก็ดี สิทธิเรียกร้องจำกบุคคลภำยนอกก็ดี หรือสิ ทธิอย่ำง
สำนักอืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่นก็ดี ให้แทนกำรชำระหนี
กำ ้ ท่ำนว่ำลูกหนี
สำนั้จกะต้ องรับผิดเพื่อชำรุดบกพร่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องและเพื่อกำรรอนสิ ทธิทำนอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เดียวกับผู้ขำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๒๓ ถ้ำวัตถุแห่งหนี้เป็นอันให้ส่งมอบทรัพย์เฉพำะสิ่ง ท่ำนว่ำบุคคลผู้ชำระ
สำนักหนี ้จะต้องส่งมอบทรัพย์กตำำมสภำพที่เป็สนำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อยูก่ใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นเวลำที่จะพึงส่งมอบ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลูกหนี้จำต้องรักษำทรัพย์นั้นไว้ด้วยควำมระมั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ดระวังเช่นอย่ำงวิญญูชนจะพึงสงวน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทรัพย์สินของตนเอง จนกว่ำจะได้ส่งมอบทรัพย์นั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๖๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๓๒๔ เมื่ อ มิ ได้ มี แ สดงเจตนำไว้โ ดยเฉพำะเจำะจงว่ ำจะพึ งช ำระหนี้ ณ


สำนักสถำนที ่ใดไซร้ หำกจะต้กอำงส่งมอบทรัพสย์ำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เฉพำะสิ ่ง ท่ำนว่ำต้องส่งมอบกั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ น ณ สถำนที
สำนั่ซกึ่งทรั พย์นั้นได้อยู่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ในเวลำเมื่อก่อให้เกิดหนี้นั้น ส่วนกำรชำระหนี้โดยประกำรอื่น ท่ำนว่ำต้องชำระ ณ สถำนที่ซึ่งเป็น
ภูมิลำเนำปัจจุบันสของเจ้ ำหนี้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๓๒๕ เมื่อมิได้มีแสดงเจตนำไว้ในข้อค่ำใช้จ่ำยในกำรชำระหนี้ ท่ำนว่ำฝ่ำย
ลูกหนี้พึงเป็นผู้ออกค่
สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ใช้จ่ำย แต่ถ้ำค่ำใช้จ่ำยนั
กำ้นมีจำนวนเพิส่มำนัขึ้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เพรำะเจ้ำหนี้ย้ำยภูมิลกำเนำก็
ำ ดี หรือ
เพรำะกำรอื่นใดอันเจ้ำหนี้ได้กระทำก็ดี ค่ำใช้จ่ำยเพิ่มขึ้นเท่ำใดเจ้ำหนี้ต้องเป็นผู้ออก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๒๖ บุคคลผู้ชำระหนี้ชอบที่จะได้รับใบเสร็จเป็นสำคัญจำกผู้รับชำระหนี้นั้น
และถ้ำหนี้นั้นได้ ชสำนั
ำระสิ ้น เชิงแล้ว ผู้ชำระหนีก้ชำอบที่จะได้รับสเวนคื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นเอกสำรอันเป็นหลักกฐำนแห่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งหนี้
หรือให้ขีดฆ่ำเอกสำรนั้นเสีย ถ้ำและเอกสำรนั้นสูญหำย บุคคลผู้ชำระหนี้ชอบที่จะให้จดแจ้งควำมข้อ
สำนักระงั บหนี้ลงไว้ในใบเสร็จกหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อในเอกสำรอี กฉบั
สำนั บหนึ่งต่ำงหำกก็ได้ กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำหนี้นั้นได้ชำระแต่บำงส่วนก็ดี หรือถ้ำเอกสำรนั้นยังให้สิทธิอย่ำงอื่นใดแก่เจ้ำหนี้
อยู่ ก็ดี ท่ำนว่ำลู กหนี้ ช อบแต่ที่จ ะได้รั บ ใบเสร็จไว้เป็นคู่มือสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
และให้ จดแจ้งกำรช ำระหนี้นั้น ลงไว้ใน
สำนักเอกสำร
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๓๒๗ ในกรณีชำระดอกเบี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ย หรือสชำนัำระหนี ้อย่ำงอื่นอันมีกำหนดช
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำระเป็น
ระยะเวลำนั้น ถ้ำเจ้ำหนี้ออกใบเสร็จให้เพื่อระยะหนึ่งแล้วโดยมิได้อิดเอื้อน ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้ก่อน
สำนักว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเจ้ำหนี้ได้รับชำระหนีก้เพืำ ่อระยะก่อน สๆำนันัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้วยแล้ว กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำเจ้ำหนี้ออกใบเสร็จให้เพื่อกำรชำระต้นเงิน ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำเจ้ำหนี้
ได้รับดอกเบี้ยแล้วสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำเอกสำรอันเป็นหลักฐำนแห่งหนี้ได้เวนคืนแล้วไซร้ ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำหนี้
สำนักนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นเป็นอันระงับสิ้นไปแล้กวำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๒๘ ถ้ำลูกหนี้ต้องผูกพันต่อเจ้ำหนี้ในอันจะกระทำกำรเพื่อชำระหนี้เป็น
สำนักกำรอย่ ำงเดียวกันโดยมูกลำหนี้หลำยรำยสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี และถ้ ำกำรที่ลูกหนี้ชำระหนีกำ้นั้นไม่เพียงพอจะเปลื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้องหนี้สินได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หมดทุกรำยไซร้ เมื่อทำกำรชำระหนี้ ลูกหนี้ระบุว่ำชำระหนี้สินรำยใด ก็ให้หนี้สินรำยนั้นเป็นอันได้
เปลื้องไป สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำลูกหนี้ไม่ระบุ ท่ำนว่ำหนี้สินรำยไหนถึงกำหนด ก็ให้รำยนั้นเป็นอันได้เปลื้องไป
สำนักก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อน ในระหว่ำงหนี้สินหลำยรำยที
กำ ่ถึงกสำหนดนั ้น รำยใดเจ้ำหนี้มีปกระกั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นน้อยที่สุดสก็ำนัให้กรงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยนั้นเป็นอั น กำ
ได้เปลื้องไปก่อน ในระหว่ำงหนี้สินหลำยรำยที่มีประกันเท่ำ ๆ กัน ให้รำยที่ตกหนักที่สุดแก่ลูกหนี้เป็น
อันได้เปลื้องไปก่อสำนั
น กในระหว่ ำงหนี้สินหลำยรำยที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ตกหนักแก่สำนัลูกกหนี ้เท่ำ ๆ กัน ให้หนี้สินกรำยเก่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำที่สุด
เป็นอันได้เปลื้องไปก่อน และถ้ำมีหนี้สินหลำยรำยเก่ำเท่ำ ๆ กัน ก็ ให้หนี้สินทุกรำยเป็นอันได้เปลื้องไป
สำนักตำมส่ วนมำกและน้อย กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๒๙ ถ้ำนอกจำกกำรช ำระหนี้ อั น เป็ น ประธำน ลู ก หนี้ ยั งจะต้ อ งช ำระ
สำนักดอกเบี ้ยและเสียค่ำฤชำธรรมเนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยมอีกสด้ำนั
วยไซร้ หำกกำรชำระหนี้ในครั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้งหนึ่ง ๆ ไม่สไำนั
ด้รกำคำเพี ยงพอจะ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๖๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

เปลื้องหนี้สินได้ทั้งหมด ท่ำนให้เอำจัดใช้เป็นค่ำฤชำธรรมเนียมเสียก่อนแล้วจึงใช้ดอกเบี้ย และในที่สุด


สำนักจึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งให้ใช้ในกำรชำระหนี้อกันำ เป็นประธำนสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำลูกหนี้ระบุให้จัดใช้เป็นประกำรอื่น ท่ำนว่ำเจ้ำหนี้จะบอกปัดไม่ยอมรับชำระหนี้ก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๓๐ เมื่อขอปฏิบัติกำรชำระหนี้โดยชอบแล้ว บรรดำควำมรับผิดชอบอัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เกิดแต่กำรไม่ชำระหนี้ก็เป็นอันปลดเปลื้องไป นับแต่เวลำที่ขอปฏิบัติกำรชำระหนี้นั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๓๑ ถ้ำเจ้ำหนี้บอกปัดไม่ยอมรับชำระหนี้ก็ดี หรือไม่สำมำรถจะรับชำระ
สำนักหนี ้ได้ก็ดี หำกบุคคลผู้ชกำระหนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้วำงทรัพสำนั
ย์อกันงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นวัตถุแห่งหนี้ไว้เพื่อกประโยชน์
ำ แก่เจ้สำำนัหนีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้แล้ว ก็ย่อมจะ กำ
เป็นอันหลุดพ้นจำกหนี้ได้ ควำมข้อนี้ท่ำนให้ใช้ตลอดถึงกรณีที่บุคคลผู้ชำระหนี้ไม่สำมำรถจะหยั่งรู้ถึง
สิทธิ หรือไม่รู้ตัวเจ้สำนั
ำหนี ้ได้แน่นอนโดยมิใช่เป็นกควำมผิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ดของตนสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๓๓๒ ถ้ำลูกหนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้จำต้ องชำระหนี้ต่อเมื่อเจ้ำหนี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้จะต้องชำระหนี
สำนั้ตกอบแทนด้ วยไซร้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ท่ำนว่ำลูกหนี้จะกำหนดว่ำต่อเมื่อเจ้ำหนี้ชำระหนี้ตอบแทนจึงให้มีสิทธิรับเอำทรัพย์ที่วำงไว้นั้นก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ ๓๓๓ กำรวำงทรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี พ ย์นั้น ต้องวำง ณ สกำนัำ กงำนวำงทรัสพำนัย์กปงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ระจำตำบลที่ กำ
จะต้องชำระหนี้
สถ้ำนั
ำไม่ มีบทบัญญัติแห่งกฎหมำย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ หรือกฎข้สอำนั
บักงคังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บเฉพำะกำรในเรื่องสกำนั
ำ กงำนวำง
ทรัพย์ เมื่อบุคคลผู้ชำระหนี้ร้องขอ ศำลจะต้องกำหนดสำนักงำนวำงทรัพย์ และตั้งแต่งผู้พิทักษ์ทรัพย์
สำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่วำงนั้นขึ้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้วำงต้องบอกกล่ำวให้เจ้ำหนี้ทรำบกำรที่ได้วำงทรัพย์นั้นโดยพลัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๓๔ ลูกหนี้มีสิทธิจะถอนทรัพย์ที่วำงนั้นได้ ถ้ำลูกหนี้ถอนทรัพย์นั้น ท่ำนให้
สำนักถืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อเสมือนว่ำมิได้วำงทรัพกำย์ไว้เลย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สิทธิถอนทรัพย์นี้เป็นอันขำดในกรณีต่อไปนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ถ้ำลูกหนี้แสดงต่อสำนักงำนวำงทรัพย์ว่ำตนยอมละสิทธิที่จะถอน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๒) ถ้ำกเจ้ำ ำหนี้แสดงต่สอำนั
สำนั กงำนวำงทรัพย์ว่ำจะรักบำเอำทรัพย์นั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
(๓) ถ้ำกำรวำงทรัพย์ นั้นได้เป็นไปโดยคำสั่ งหรืออนุมัติของศำลและได้บอกกล่ำว
ควำมนั้นแก่สำนักสงำนวำงทรั พย์
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๓๓๕ สิทธิถสอนทรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี พย์นั้น ตำมกฎหมำยศำลจะสั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งยึดหำได้ ไม่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนั
เมื่อได้ฟ้องคดีล้มละลำยเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้แล้ว ท่ำนห้ำมมิให้ใช้สิทธิถอน
ทรัพย์ในระหว่ำงพิสำนั
จำรณำคดี ล้มละลำย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๓๓๖ ถ้ำทรัพสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ย์อกันงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นวัตถุแห่งกำรชำระหนี
กำ ้ไม่ควรแก่กสำรจะวำงไว้ ก็ดี หรือ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เป็นที่พึงวิตกว่ำทรัสำนั
พย์กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ั้นเกลือกจะเสื่อมเสีย หรื กำ
อทำลำย หรือสบุำนับกสลำยได้ ก็ดี เมื่อได้รับอนุญำตจำกศำล
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บุคคลผู้ชำระหนี้จะเอำทรัพย์นั้นออกขำยทอดตลำด แล้วเอำเงินที่ได้แต่กำรขำยวำงแทนทรัพย์นั้นก็ได้
สำนักควำมข้ อนี้ท่ำนให้ใช้ตลอดถึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งกรณีที่ค่ำรัสกำนัษำทรั พย์จะแพงเกินควรนัก้นำด้วย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๖๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๓๓๗ ท่ำนไม่สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อนุกญ ำตให้เอำทรัพย์ออกขำยทอดตลำดจนกว่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำจะได้บอกให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เจ้ำหนี้รู้ตัวก่อน กำรบอกนี้จะงดเสียก็ได้ถ้ำทรัพย์นั้นอำจเสื่อมทรำมลง หรือภัยมีอยู่ในกำรที่จะหน่วง
กำรขำยทอดตลำดไว้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกำรที่จะขำยทอดตลำดนั้น ท่ำนให้ลูกหนี้บอกกล่ำวแก่เจ้ำหนี้โดยไม่ชักช้ำ ถ้ ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ละเลยเสียไม่บอกกล่ำว ลูกหนี้จะต้องรับผิดใช้ค่ำสินไหมทดแทน
สกำรบอกให้ รู้ตัวและบอกกล่กำวนี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้ ถ้ำไม่เป็นอัสนำนัจะท ำได้ จะงดเสียก็ได้ กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เวลำและสถำนที่ที่จะขำยทอดตลำด กับทั้งคำพรรณนำลักษณะแห่งทรัพย์นั้น ท่ำน
สำนักให้ ประกำศโฆษณำให้ประชำชนทรำบ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๓๓๘ ค่ำฤชำธรรมเนี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ย มในกำรวำงทรั พย์หรือขำยทอดตลำดนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ น ให้ฝ่ ำย
เจ้ำหนี้เป็นผู้ออก เว้นแต่ลูกหนี้จะได้ถอนทรัพย์ที่วำง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๓๙ สิทธิของเจ้ำหนี้เหนือทรัพย์ที่วำงไว้นั้นเป็นอันระงับสิ้นไปเมื่อพ้นเวลำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สิบปี นับแต่ได้รับคำบอกกล่ำวกำรวำงทรัพย์
อนึ่ง เมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่อสิทธิของเจ้สำำนั
หนีก้รงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ะงับสิ้นไปแล้ว ถึ งแม้กลำูกหนี้จะได้ละสิสำนั
ทธิกถงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อนทรัพย์ก็ยัง กำ
ชอบที่จะถอนทรัพย์นั้นได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ปลดหนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๔๐ ถ้ำเจ้ำหนี้แสดงเจตนำต่อลูกหนี้ว่ำจะปลดหนี้ให้ ท่ำนว่ำหนี้นั้นก็เป็น
สำนักอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นระงับสิ้นไป กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำหนี้มีหนังสือเป็นหลักฐำน กำรปลดหนี้ก็ต้องทำเป็นหนังสือด้วย หรือต้องเวนคืน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เอกสำรอันเป็นหลักฐำนแห่งหนี้ให้แก่ลูกหนี้ หรือขีดฆ่ำเอกสำรนั้นเสีย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีหักกำกลบลบหนี้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๓๔๑ ถ้ำบุคคลสองคนต่ำงมีควำมผูกพันซึ่งกันและกันโดยมูลหนี้อันมีวัตถุ
เป็นอย่ำงเดียวกันสำนั
และหนี ้ทั้งสองรำยนั้นถึงกกำหนดจะช
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำระไซร้
สำนักท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำลูกหนี้ฝ่ำยใดฝ่ำกยหนึ
ำ ่งย่ อมจะ
หลุดพ้นจำกหนี้ของตนด้วยหักกลบลบกันได้เพียงเท่ำจำนวนที่ตรงกันในมูลหนี้ทั้งสองฝ่ำยนั้น เว้นแต่
สำนักสภำพแห่ งหนี้ฝ่ำยหนึ่งจะไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เปิดช่องให้สหำนั
ักกลบลบกั นได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทบัญญัติดังกล่ำวมำในวรรคก่อนนี้ท่ำนมิสใำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ห้ใกช้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บังคับ หำกเป็นกำรขัดกกัำบเจตนำอัน
คู่กรณีได้แสดงไว้ แต่เจตนำเช่นนี้ท่ำนห้ำมมิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภำยนอกผู้กระทำกำรโดยสุจริต
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๖๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๓๔๒ หักกลบลบหนี้นั้น ทำได้ด้วยคู่กรณีฝ่ำยหนึ่งแสดงเจตนำแก่อีกฝ่ำยหนึ่ง


สำนักกำรแสดงเจตนำเช่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นนี้ทก่ำำนว่ำจะมีเงื่อนไขหรื อเงื่อนเวลำเริ่มต้นหรือกเวลำสิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้นสุดอีกด้สวำนั
ยหำได้ ไม่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กำรแสดงเจตนำดังกล่ำวมำในวรรคก่อนนี้ ท่ำนว่ำมีผลย้อนหลังขึ้นไปจนถึงเวลำซึ่ง
หนี้ทั้งสองฝ่ำยนั้นจะอำจหั
ส กกลบลบกันได้เป็นกครัำ ้งแรก
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๓๔๓ กำรหักกลบลบหนี้นั้น ถึงแม้ว่ำสถำนที่ซึ่งจะต้องชำระหนี้ทั้งสองจะ
ต่ำงกัน ก็หักกันได้สำนัแต่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ฝ่ำยผู้ขอหักหนี้จะต้องใช้
กำ ค่ำเสียหำยให้ แก่กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ีกฝ่ำยหนึ่ง เพื่อควำมเสี
กำยหำยอย่ำง
หนึ่งอย่ำงใดอันเกิดแต่กำรนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๔๔ สิทธิเรียกร้องใดยังมีข้อต่อสู้อยู่ สิทธิเรียกร้องนั้นท่ำนว่ำหำอำจจะเอำ
มำหักกลบลบหนีส้ไำนั
ด้ไกม่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อนึ่ง อำยุควำมย่อมไม่
กำตัดรอนกำรหัสกำนักลบลบหนี ้ แม้สิทธิเรียกร้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำองขำดอำยุ
ควำมแล้ว แต่ว่ำในเวลำที่อำจจะหักกลบลบกับสิทธิเรียกร้องฝ่ำยอื่นได้นั้น สิทธิยังไม่ขำด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๔๕ หนี้ รำยใดเกิดแต่กำรอันมิชอบด้วยกฎหมำยเป็นมูล ท่ำนห้ำมมิให้
ลูกหนี้ถือเอำประโยชน์แห่งหนี้รำยนั้น เพื่อหักกลบลบหนี้กับสเจ้ำนัำหนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๔๖ สิทธิเรียกร้องรำยใดตำมกฎหมำยศำลจะสั่งยึดมิได้ สิทธิเรียกร้อ งรำย
นั้นหำอำจจะเอำไปหั
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กลบลบหนี้ได้ไม่ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๓๔๗ ลูกหนีส้คำนันทีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่สำมหำกได้รับคำสั่งศำลห้
กำ ำมมิให้ใช้เงิสนำนั
แล้กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จะยกเอำหนี้ กำ
ซึ่งตนได้มำภำยหลังแต่นั้นขึ้นเป็นข้อต่อสู้เจ้ำหนี้ผู้ที่ขอให้ยึดทรัพย์นั้น ท่ำนว่ำหำอำจจะยกได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๔๘ ถ้ำคู่กรณีต่ำงฝ่ำยต่ำงมีสิทธิเ รียกร้องหลำยรำยอันควรแก่กำรที่จะใช้
สำนักหังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กกลบลบหนี้ได้ไซร้ ฝ่ำกยผู
ำ ้ที่ขอหักหนีส้จำนั
ะระบุ ก็ได้ว่ำพึงเอำสิทธิเรียกกร้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ องรำยใดบ้ำสงเข้
ำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หักกลบลบกัน กำ
ถ้ำกำรหักกลบลบหนี้ได้แสดงโดยมิได้ระบุเช่นนั้นก็ดี หรือถ้ำระบุ แต่อีกฝ่ำยหนึ่งท้วงขัดข้องโดยไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ชักช้ำก็ดี ท่ำนให้นำบทบัญญัติแห่งมำตรำ ๓๒๘ วรรค ๒ มำใช้บังคับโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถ้ำฝ่ำกยทีำ ่ขอหั กกลบลบหนี ้ยังเป็นหนี้ค่ำดอกเบี้ยกและค่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำฤชำธรรมเนี ยมแก่อีกฝ่ำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หนึ่งอยู่ นอกจำกกำรชำระหนี้อันเป็นประธำนนั้นด้ว ยไซร้ ท่ำนให้นำบทบัญญัติแห่งมำตรำ ๓๒๙
มำใช้บังคับโดยอนุสำนั
โลมกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แปลงหนี้ใหม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๓๔๙ เมื่อคู่กรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัทกี่เงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กี่ยวข้องได้ทำสัญญำเปลีก่ยำ นสิ่งซึ่งเป็นสำระส
สำนักำคั ญแห่งหนี้ไซร้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ท่ำนว่ำหนี้นั้นเป็นสอัำนันกระงั บสิ้นไปด้วยแปลงหนี้ใหม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำทำหนี้มีเงื่อนไขให้กลำยเป็นหนี้ปรำศจำกเงื่อนไขก็ดี เพิ่มเติมเงื่อนไขเข้ำในหนี้อัน
สำนักปรำศจำกเงื ่อนไขก็ดี เปลีกำ่ยนเงื่อนไขก็ดสี ำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ท่ำกนถื อว่ำเป็นอันเปลี่ยนสิ่งกซึำ่งเป็นสำระสำคัสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญกแห่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งหนี้นั้น กำ
- ๖๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ถ้ำแปลงหนี้ ใหม่ด้วยเปลี่ยนตัวเจ้ำหนี้ ท่ำนให้ บังคับด้วยบทบัญญั ติทั้งหลำยแห่ ง


สำนักประมวลกฎหมำยนี ้ว่ำด้กวำยโอนสิทธิเรียสกร้ำนัอกงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๓๕๐ แปลงหนี้ ใหม่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ด้ วยเปลี่ ย นตั ว ลูกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั หนี้ นั้ น จะท ำเป็ น สั ญกำญำระหว่ำง
เจ้ำหนี้กับลูกหนี้คนใหม่ก็ได้ แต่จะทำโดยขืนใจลูกหนี้เดิมหำได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๓๕๑ ถ้ำหนี้อันจะพึกงำเกิดขึ้นเพรำะแปลงหนี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ใหม่นั้นมิได้เกิดมีขึ้นกก็ำดี ได้ยกเลิก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เสียเพรำะมูลแห่งหนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมำย หรือเพรำะเหตุอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งอันมิรู้ถึงคู่กรณีก็ดี ท่ำนว่ำ
สำนักหนี ้เดิมนั้นก็ยังหำระงับสิก้นำ ไปไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๓๕๒ คู่กรณีในกำรแปลงหนี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ใหม่อสำจโอนสิ ทธิจำนำหรือจำนองที
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่ได้ให้ไว้เป็น
ประกันหนี้เดิมนั้นไปเป็นประกันหนี้รำยใหม่ได้ เพียงเท่ำที่เป็นประกันวัตถุแห่งหนี้เดิม แต่หลักประกัน
สำนักเช่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นว่ำนี้ ถ้ำบุคคลภำยนอกเป็
กำ นผู้ให้ไว้สไำนั
ซร้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ท่ำนว่ำจำต้องได้รับควำมยิ
กำ นยอมของบุ
สำนัคกคลภำยนอกนั ้น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ด้วยจึงโอนได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หนี้เกลื่อนกลืนกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ก๓๕๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ถ้ำสิทธิแสำนั
ละควำมรั บผิดในหนี้รำยใดตกอยู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่แก่บุคคลคนเดี ยวกัน ท่ำนว่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หนี้รำยนั้นเป็นอันระงับสิ้นไป เว้นแต่เมื่อหนี้นั้นตกไปอยู่ในบังคับแห่งสิทธิของบุคคลภำยนอก หรือ
เมื่อสลักหลังตั๋วเงิสนำนักลักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คืนตำมควำมในมำตรำกำ๙๑๗ วรรค ๓สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ลักษณะ ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สัญญำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


หมวด ๑
ก่อกให้ำ เกิดสัญญำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๓๕๔ คำเสนอจะทำสัญญำอันบ่งระยะเวลำให้ทำคำสนองนั้น ท่ำนว่ำไม่
อำจจะถอนได้ภำยในระยะเวลำที ่บ่งไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๓๕๕ บุคคลท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำค ำเสนอไปยังผู้อื่นซึ่งอยูก่หำ ่ำงกันโดยระยะทำง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี และมิได้บ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ระยะเวลำให้ทำคสำสนอง จะถอนคำเสนอของตนเสียภำยในเวลำอั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นควรคำดหมำยว่ำจะได้รับคำบอก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กล่ำวสนองนั้น ท่ำนว่ำหำอำจจะถอนได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๖๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๓๕๖ คำเสนอทำแก่บุคคลผู้อยู่เฉพำะหน้ำ โดยมิได้บ่งระยะเวลำให้ทำคำ


สำนักสนองนั ้น เสนอ ณ ที่ใดเวลำใดก็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ย่อมจะสนองรั บได้แต่ ณ ที่นั้นเวลำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้น ควำมข้อสนีำนั
้ท่ำกนให้ ใช้ตลอดถึง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กำรที่บุคคลคนหนึ่งทำคำเสนอไปยังบุคคลอีกคนหนึ่งทำงโทรศัพท์ด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๕๗ คำเสนอใดเขำบอกปัดไปยังผู้เสนอแล้วก็ดี หรือมิได้สนองรับภำยใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เวลำกำหนดดังกล่ำวมำในมำตรำทั้งสำมก่อนนี้ก็ดี คำเสนอนั้นท่ำนว่ำเป็นอันสิ้นควำมผูกพันแต่นั้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๕๘ ถ้ำคำบอกกล่ำวสนองมำถึงล่วงเวลำ แต่เป็นที่เห็นประจักษ์ว่ำคำบอก
สำนักกล่ ำวนั้ นได้ส่งโดยทำงกำร
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ซึ่งตำมปรกติ
สำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วรจะมำถึงภำยในกำหนดไซร้กำ ผู้เสนอต้
สำนัอกงบอกกล่ ำวแก่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
คู่กรณีอีกฝ่ำยหนึ่งโดยพลันว่ำคำสนองนั้นมำถึงเนิ่นช้ำ เว้นแต่จะได้บอกกล่ำวเช่นนั้นก่อนแล้ว
สถ้ำนั
ำผูก้เงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สนอละเลยไม่บอกกล่ำกวดัำ งว่ำมำในวรรคต้
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ท่ำนให้ถือว่ำคำบอกกล่ กำำวสนองนั้น
มิได้ล่วงเวลำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๕๙ ถ้ำคำสนองมำถึงล่วงเวลำ ท่ำนให้ถือว่ำคำสนองนั้นกลำยเป็นคำเสนอ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ขึ้นใหม่
คำสนองอั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นมีข้อควำมเพิ
สำนัก่มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เติม มีข้อจำกัด หรือมีกขำ้อแก้ไขอย่ำงอืส่นำนัประกอบด้ วยนั้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ท่ำนให้ถือว่ำเป็นคำบอกปัดไม่รับ ทั้งเป็นคำเสนอขึ้นใหม่ด้วยในตัว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๖๐ บทบัญญัติแห่งมำตรำ ๑๖๙ วรรคสอง นั้น ท่ำนมิให้ใช้บังคับ ถ้ำหำก
สำนักว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำขัดกับเจตนำอันผู้เสนอได้
กำ แสดง หรือสำนั
หำกว่ ำก่อนจะสนองรับนั้นกำคู่กรณีอีกฝ่ำยหนึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่งกได้ รู้อยู่แล้วว่ำผู้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เสนอตำยหรือตกเป็นผู้ไร้ควำมสำมำรถ
ส[เลขมำตรำ ๑๖๙ วรรคสองกำแก้ไขเพิ่มเติมสโดยมำตรำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๑๕ แห่งพระรำชบั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัติให้ใช้
บทบัญญัติบรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ. ๒๕๓๕]
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๖๑ อันสัญญำระหว่ำงบุคคลซึ่งอยู่ห่ำงกันโดยระยะทำงนั้น ย่อมเกิดเป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สัญญำขึ้นแต่เวลำเมื่อคำบอกกล่ำวสนองไปถึงผู้เสนอ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีถ้ำตำมเจตนำอั
กำ นผู้เสนอได้ แสดง หรือตำมปรกติกปำระเพณีไม่จำเป็สำนันจะต้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องมีคำบอก
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กล่ ำวสนองไซร้ ท่ ำนว่ำสั ญ ญำนั้ น เกิด เป็ น สั ญ ญำขึ้ นในเวลำเมื่ อมี กำรอั นใดอัน หนึ่งขึ้น อัน จะพึ ง
สันนิษฐำนได้ว่ำเป็สนำนักำรแสดงเจตนำสนองรั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๓๖๒ บุคคลออกโฆษณำให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี คำมั่นว่ำจะให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ รำงวัลแก่ผู้ซสึ่ำนั
งกระท ำกำรอันใด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ท่ำนว่ำจำต้องให้รำงวัลแก่บุคคลใด ๆ ผู้ได้กระทำกำรอันนั้น แม้ถึงมิใช่ว่ำผู้นั้นจะได้กระทำเพรำะเห็น
แก่รำงวัล สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๓๖๓ ในกรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ที่กกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ล่ำวมำในมำตรำก่อนนีก้ ำเมื่อยังไม่มีใครท
สำนัำกำรส ำเร็จดังบ่ง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ไว้นั้นอยู่ตรำบใดสำนั
ผู้ใกห้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คำมั่น จะถอนคำมั่นของตนเสี
กำ
ยโดยวิสธำนั
ี เดีกยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วกับที่โฆษณำนั้นก็ได้กเว้ ำ
นแต่จะได้
แสดงไว้ในโฆษณำนั้นว่ำจะไม่ถอน
ถ้ำค ำมักำ่ น นั้ น ไม่ อำจจะถอนโดยวิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ธี ดั งกล่ ำวมำก่กอำน จะถอนโดยวิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัธกี องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ื่ น ก็ ได้ แต่ ถ้ ำ กำ
- ๖๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

เช่นนั้นกำรถอนจะเป็นอันสมบูรณ์ใช้ได้เพียงเฉพำะต่อบุคคลที่รู้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีถ้ำผู้ให้กคำ ำมั่นได้กำหนดระยะเวลำให้ ด้วยเพื่อทำกำรอั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นบ่ งนั้นไซร้สำนั
ท่ำกนให้ สันนิษฐำน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ไว้ก่อนว่ำผู้ให้คำมั่นได้สละสิทธิที่จะถอนคำมั่นนั้นเสียแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๖๔ ถ้ำบุคคลหลำยคนกระทำกำรอันบ่งไว้ในโฆษณำ ท่ำนว่ำเฉพำะแต่คน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ที่ทำได้ก่อนใครหมดเท่ำนั้น มีสิทธิจะได้รับรำงวัล
สถ้ำนั
ำบุกคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คลหลำยคนกระทำกำรอั กำ น นั้ น ได้พสร้ำนั
อมกั น ท่ำนว่ำแต่ล ะคนมีกสำิ ทธิจะได้รับ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รำงวัลเป็นส่วนแบ่งเท่ำ ๆ กัน แต่ถ้ำรำงวัลนั้นมีสภำพแบ่งไม่ได้ก็ดี หรือถ้ำตำมข้อควำมแห่งคำมั่นนั้น
สำนักบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คคลแต่คนเดียวจะพึงรักบำ รำงวัลก็ดี ท่ำสนให้ วินิจฉัยด้วยวิธีจับสลำกกำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทบัญญัติดังกล่ำวมำในวรรคทั้งสองข้ำงต้นนั้น ท่ำนมิให้ใช้บังคับถ้ำในโฆษณำนั้ น
แสดงเจตนำไว้เป็นสำนั
อย่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งอื่น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๓๖๕ คำมั่นสจะให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รำงวัลอันมีควำมประสงค์
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เป็นกำรประกวดชิ งรำงวัลนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้กำหนดระยะเวลำไว้ในคำโฆษณำด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรที่จะตัดสินว่ำผู้ประกวดคนไหนได้กระทสำนั ำสกำเร็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จตำมเงื่อนไขในคำมั่นภำยในเวลำ
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดหรือไม่ก็ดี หรือตักดำสินในระหว่ำสงผูำนั้ปกระกวดหลำยคนนั ้นว่ำคนไหนดี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กว่ำกันอย่ ำงไรก็
สำนั ดี ให้ผู้ชี้ขำด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ซึ่งได้ระบุชื่อไว้ในโฆษณำนั้น เป็นผู้ตัดสิน หรือถ้ำมิได้ระบุชื่อผู้ชี้ขำดไว้ ก็ให้ผู้ให้คำมั่นเป็นผู้ตัดสิน
คำตัดสินอันนี้ย่อมผู
สำนักกพังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยทุกฝ่กำำย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำได้คะแนนทำดีเสมอกัน ท่ำนให้ นำบทบัญ ญัติแห่งมำตรำ ๓๖๔ วรรค ๒ มำใช้
สำนักบังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งคับ แล้วแต่กรณี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ทำขึ้นประกวดนั้น ผู้ให้คำมั่นจะเรียกให้โอนแก่ตนได้
ต่อเมื่อได้ระบุไว้ในโฆษณำว่ ำจะพึงโอนเช่นนั้นกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๓๖๖ ข้อควำมใด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๆ แห่งสัญญำอันคู่สัญกญำแม้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ เพียงฝ่ำสยเดี
ำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วได้แสดงไว้ว่ำ กำ
เป็นสำระสำคัญอันจะต้องตกลงกันหมดทุกข้อนั้น หำกคู่สัญญำยังไม่ตกลงกันได้หมดทุกข้ออยู่ตรำบใด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่อกรณี เป็ น ที่ส งสั ย ท่ำนนั บ ว่ำยั งมิได้มีสั ญ ญำต่อกัน กำรที่ได้ทำควำมเข้ำใจกันไว้เฉพำะบำงสิ่ ง
สำนักบำงอย่ ำง ถึงแม้ว่ำจะได้กจำดลงไว้ก็หำเป็สนำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรผู กพันไม่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำได้ตกลงกัน ว่ำสั ญ ญำอันมุ่งจะทำนั้นจะต้องทำเป็นหนังสือไซร้ เมื่อกรณี เป็นที่
สงสัย ท่ำนนับว่ำยัสงำนัมิกได้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มีสัญญำต่อกันจนกว่ำกจะได้ำ ทำขึ้นเป็นสหนั
ำนักงสืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อ กำ

มำตรำกำ๓๖๗ สัญญำใดคู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่สัญญำได้ถือว่ำเป็นอันกได้ำ ทำกันขึ้นแล้สวำนัแต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี แท้จริงยังมิได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ตกลงกันในข้อหนึ่งข้อใดอันจะต้องทำควำมตกลงให้สำเร็จ ถ้ำจะพึงอนุมำนได้ว่ำ ถึงหำกจะไม่ทำควำม
ตกลงกันในข้อนี้ไสด้ำนัสักญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญำนั้นก็จะได้ทำขึ้นไซร้
กำ ท่ำนว่ำข้อควำมส่ วนที่ได้ตกลงกันแล้วก็กำย่อมเป็นอัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สมบูรณ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๖๘ สั ญ ญำนั้ น ท่ ำนให้ ตี ควำมไปตำมควำมประสงค์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในทำงสุ จริ ต โดย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พิเครำะห์ถึงปรกติประเพณีด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๖๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

หมวด ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ผลแห่งสัญญำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๖๙ ในสั ญ ญำต่ ำงตอบแทนนั้ น คู่ สั ญ ญำฝ่ ำยหนึ่ งจะไม่ ย อมช ำระหนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จนกว่ำอีกฝ่ำยหนึ่งจะชำระหนี้ หรือขอปฏิบัติกำรชำระหนี้ก็ได้ แต่ควำมข้อนี้ท่ำนมิให้ใช้บังคับ ถ้ำหนี้
ของคู่สัญญำอีกฝ่ำสยหนึ ่งยังไม่ถึงกำหนด กำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๓๗๐ ถ้ำสัญสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญำต่ ำงตอบแทนมีวัตถุที่ปกระสงค์
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ เป็นกำรก่
สำนัอกให้ เกิดหรื อโอน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทรัพยสิทธิในทรัพย์เฉพำะสิ่ง และทรัพย์นั้นสูญหรือเสียหำยไปด้วยเหตุอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งอันจะโทษ
ลูกหนี้มิได้ไซร้ ท่ำสนว่
ำนัำกกำรสู ญหรือเสียหำยนั้นกตกเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นพับแก่เจ้สำำนัหนี ้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ถ้ำไม่ใช่ทรัพย์เฉพำะสิ่ง ท่ำนให้ใช้บทบัญญัติที่กล่ำวมำในวรรคก่อนนี้บังคับแต่เวลำ
สำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ทรัพย์นั้นกลำยเป็นทรักพำย์เฉพำะสิ่งตำมบทบั ญญัติแห่งมำตรำ ๑๙๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วรรค ๒ นั้นสไปำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๗๑ บทบัญญัติที่กล่ำวมำในมำตรำก่ อนนี้ ท่ำนมิให้ใช้บังคับ ถ้ำเป็นสัญญำ
สำนักต่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำงตอบแทนมีเงื่อนไขบักงำคับก่อน และทรั สำนัพกย์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อันเป็นวัตถุแห่งสัญญำนั
กำ ้นสูญหรือทำลำยลงในระหว่ ำงที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เงื่อนไขยังไม่สำเร็จ
สถ้ำนั
ำทรั พย์นั้ น เสีย หำยเพรำะเหตุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อย่ ำงใดอย่ ำงหนึ
สำนั ่ งอันจะโทษเจ้ำหนี้มกิำได้ และเมื่อ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เงื่อนไขนั้นสำเร็จแล้ว เจ้ำหนี้จะเรียกให้ชำระหนี้โดยลดส่วนอันตนจะต้องชำระหนี้ตอบแทนนั้นลง
สำนักหรื อเลิกสัญญำนั้นเสียก็กไำด้ แล้วแต่จะเลืสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แต่ในกรณีที่ต้นเหตุเสียกหำยเกิ
ำ ดเพรำะฝ่ ำยลู
สำนั กหนี้นั้น ท่ำ น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ว่ำหำกระทบกระทั่งถึงสิทธิของเจ้ำหนี้ที่จะเรียกค่ำสินไหมทดแทนไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๗๒ นอกจำกกรณีที่กล่ำวไว้ในสองมำตรำก่อน ถ้ำกำรชำระหนี้ตกเป็นพ้น
สำนักวิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สัย เพรำะเหตุอย่ำงใดอย่
กำ ำงหนึ่งอันจะโทษฝ่ ำยหนึ่งฝ่ำยใดก็ไม่ได้กำไซร้ ท่ำนว่ำลูกสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หนีก้หงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำมีสิทธิจะรับ กำ
ชำระหนี้ตอบแทนไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำกำรชำระหนี้ ตกเป็ นพ้นวิสัย เพรำะเหตุอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งอันจะโทษเจ้ำหนี้ได้
สำนักลูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กหนี้ก็หำเสียสิทธิที่จะรั
กำบชำระหนี้ตอบแทนไม่ แต่ว่ำลูกหนี้ได้อะไรไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เพรำะกำรปลดหนี ้ก็ดี หรือใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
คุณวุฒิควำมสำมำรถของตนเป็นประกำรอื่นเป็นเหตุให้ได้อะไรมำ หรือแกล้งละเลยเสียไม่ขวนขวำย
เอำอะไรที่สำมำรถจะท ำได้ก็ดี มำกน้อยเท่ำไรกำจะต้องเอำมำหัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กกักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำนวนอันตนจะได้รับกชำำระหนี้ตอบ
แทน วิธีเดียวกันนี้ท่ำนให้ใช้ตลอดถึงกรณีที่กำรชำระหนี้อันฝ่ำยหนึ่งยังค้ำงชำระอยู่นั้นตกเป็นพ้นวิสัย
สำนักเพรำะพฤติ กำรณ์อันใดอักนำ หนึ่งซึ่งฝ่ำยนัส้นำนัมิกตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้องรับผิดชอบ ในเวลำเมืกำ่ออีกฝ่ำยหนึ่งผิสดำนันักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไม่รับชำระหนี้ กำ

สมำตรำ ๓๗๓ ควำมตกลงทกำไว้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ล่วงหน้ำเป็สนำนั
ข้อกควำมยกเว้ นมิให้ลูกหนี้ตก้อำ งรับผิดเพื่อ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กลฉ้อฉล หรือควำมประมำทเลินเล่ออย่ำงร้ำยแรงของตนนั้น ท่ำนว่ำเป็นโมฆะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๗๔ ถ้ำคู่สัญญำฝ่ำยหนึ่งทำสัญญำตกลงว่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำจะชำระหนี้แก่บุคคลภำยนอก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ไซร้ ท่ำนว่ำบุคคลภำยนอกมีสิทธิจะเรียกชำระหนี้จำกลูกหนี้โดยตรงได้
ในกรณีกำดังกล่ำวมำในวรรคต้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นนั้น สิทธิของบุคคลภำยนอกย่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อมเกิสำนั
ดมีกขงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ึ้นตั้งแต่เวลำที่ กำ
- ๖๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

แสดงเจตนำแก่ลูกหนี้ว่ำจะถือเอำประโยชน์จำกสัญญำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๗๕ เมื่อสิทธิของบุคคลภำยนอกได้เกิดมีขึ้นตำมบทบัญญัติแห่ งมำตรำ
ก่อนแล้ว คูส่ ัญญำหำอำจจะเปลี ่ยนแปลงหรือกระงั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บสิทธินั้นในภำยหลั งได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๓๗๖ ข้อต่อสู้อันเกิดแต่มูลสัญญำดังกล่ำวมำในมำตรำ ๓๗๔ นั้น ลูกหนี้
อำจจะยกขึ้นต่อสูส้บำนัุคคลภำยนอกผู ้จะได้รับประโยชน์
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จำกสัญสญำนั
ำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้ กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มัดจำและกำหนดเบี้ยปรับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๓๗๗ เมื่อเข้สำำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ทำสั ญญำ ถ้ำได้ให้สิ่งใดไว้กเป็ำ นมัดจำ ท่ำนให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัถกืองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ว่ำกำรที่ให้มัด กำ
จำนั้นย่อมเป็น พยำนหลักฐำนว่ำสัญญำนั้นได้ทำกันขึ้นแล้ว อนึ่ง มัดจำนี้ย่อมเป็นประกันกำรที่จะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ปฏิบัติตำมสัญญำนั ้นด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๗๘ มัดจำนั้น ถ้ำมิได้ตกลงกันไว้เป็นอย่ำงอื่น ท่ำนให้เป็นไปดังจะกล่ำว
ต่อไปนี้ คือ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ให้ส่งคืน หรือจัดเอำเป็นกำรใช้เงินบำงส่วนในเมื่อชำระหนี้
(๒) ให้กรำ ิบ ถ้ำฝ่ำยที่วสำงมั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำละเลยไม่ช ำระหนีก้ ำหรือกำรชำระหนี
สำนัก้ ตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กเป็นพ้นวิสั ย กำ
เพรำะพฤติกำรณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งฝ่ำยนั้นต้องรับผิดชอบ หรือถ้ำมีกำรเลิกสัญญำเพรำะควำมผิดของ
ฝ่ำยนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ให้ส่งคืน ถ้ำฝ่ำยที่รับมัดจำละเลยไม่ชำระหนี้ หรือกำรชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัย
สำนักเพรำะพฤติ กำรณ์อันใดอักนำ หนึ่งซึ่งฝ่ำยนีส้ตำนั้องรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บผิดชอบ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๗๙ ถ้ำลูกหนี้สัญญำแก่เจ้ำหนี้ว่ำจะใช้เงินจำนวนหนึ่งเป็นเบี้ยปรับเมื่อตน
สำนักไม่ ชำระหนี้ก็ดี หรือไม่ชกำระหนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้ให้ถูกต้สอำนั
งสมควรก็ ดี เมื่อลูกหนี้ผิ ดนักำดก็ให้ริบเบี้ยปรั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บ กถ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ำกำรชำระหนี้ กำ
อันจะพึงทำนั้นได้แก่งดเว้นกำรอันใดอันหนึ่ง หำกทำกำรอันนั้นฝ่ำฝืนมูลหนี้เมื่อใด ก็ให้ริบเบี้ยปรับ
เมื่อนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๓๘๐ ถ้ำลูกสหนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัก้ได้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สัญญำไว้ว่ำจะให้เบี้ยกปรั
ำ บเมื่อตนไม่สชำนั
ำระหนี ้ เจ้ำหนี้จะ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เรียกเอำเบี้ยปรับอันจะพึงริบนั้นแทนกำรชำระหนี้ก็ได้ แต่ถ้ำเจ้ำหนี้แสดงต่อลูกหนี้ว่ำจะเรียกเอำเบี้ย
ปรับฉะนั้นแล้ว ก็สเป็ำนันกอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นขำดสิทธิเรียกร้องชำระหนี
กำ ้อีกต่อไป สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำเจ้ำหนี้มีสิทธิเรียกร้องค่ำสินไหมทดแทนเพื่อกำรไม่ชำระหนี้ จะเรียกเอำเบี้ยปรับ
สำนักอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นจะพึงริบนั้นในฐำนเป็กนำ จำนวนน้อยทีสำนั ่สุดกแห่ งค่ำเสียหำยก็ ได้ กำรพิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สูจน์ค่ำเสียหำยยิ
สำนัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กว่ำนั้น ท่ำนก็ กำ
อนุญำตให้พิสูจน์ไสด้ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๓๘๑ ถ้ำลูกสหนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัก้ไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้สัญญำไว้ว่ำจะให้เบี้ยกปรั
ำ บเมื่อตนไม่สชำนัำระหนี ้ให้ถูกต้อง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๗๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมควร เช่นว่ำไม่ชำระหนี้ตรงตำมเวลำที่กำหนดไว้เป็นต้น นอกจำกเรียกให้ชำระหนี้ เจ้ำหนี้จะเรียก


สำนักเอำเบี ้ยปรับอันจะพึงริบกนัำ้นอีกด้วยก็ได้สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำเจ้ำหนี้มีสิทธิเรียกร้องค่ำสินไหมทดแทนในมูลชำระหนี้ไม่ถูกต้องสมควร ท่ำนให้
บังคับตำมบทบัญญัำนัตกิแงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ส ห่งมำตรำ ๓๘๐ วรรค ก๒ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำเจ้ำหนี้ยอมรับ ชำระหนี้แล้ว จะเรียกเอำเบี้ยปรับได้ต่อเมื่อได้บอกสงวนสิทธิไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เช่นนั้นในเวลำรับชำระหนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๘๒ ถ้ำสัญญำว่ำจะทำกำรชำระหนี้อย่ำงอื่นให้เป็นเบี้ยปรับ ไม่ใช่ใช้เป็น
สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนวนเงินไซร้ ท่ำนให้นกำบทบั
ำ ญญัติแห่สงำนัมำตรำ ๓๗๙ ถึง ๓๘๑ มำใช้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บังคับ แต่ถ้ำสเจ้ำนัำกหนี ้เรียกเอำเบี้ย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ปรับแล้ว สิทธิเรียกร้องค่ำสินไหมทดแทนก็เป็นอันขำดไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๘๓ ถ้ำเบี้ยปรับที่ริบนั้นสูงเกินส่วน ศำลจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้
สำนักในกำรที ่จะวินิจฉัยว่ำสมควรเพี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยงใดนั้นสำนั
ท่ำกนให้ พิเครำะห์ถึงทำงได้เกสีำยของเจ้ำหนี้ทสุกำนัอย่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำงอันชอบด้วย กำ
กฎหมำย ไม่ใช่แต่เพียงทำงได้เสียในเชิงทรัพย์สิน เมื่อได้ใช้เงินตำมเบี้ยปรับแล้ว สิทธิเรียกร้องขอ
ลดก็เป็นอันขำดไปสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นอกจำกกรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ที่กล่ำสวไว้
ำนักในมำตรำ ๓๗๙ และ ๓๘๒
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ท่ำนให้ใช้สวำนั
ิธีเกดีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยวกันนี้บังคับ กำ
ในเมื่อบุคคลสัญญำว่ำจะให้เบี้ยปรับเมื่อตนกระทำหรืองดเว้นกระทำกำรอันหนึ่งอันใดนั้นด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๘๔ ถ้ำกำรชำระหนี้ตำมที่สัญญำไว้นั้นไม่สมบูรณ์ กำรที่ตกลงกันด้วยข้อ
สำนักเบี ้ยปรับในกำรไม่ปฏิบกัตำิตำมสัญญำนัส้นำนัก็กยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่อมไม่สมบูรณ์ดุจกัน แม้
กำ ถึงคู่กรณีจะได้
สำนัรู้วก่ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ข้อสัญญำนั้น กำ
ไม่สมบูรณ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๘๕ ถ้ำลูกหนี้โต้แย้งกำรริบเบี้ยปรับโดยอ้ำงเหตุว่ำตนได้ชำระหนี้แล้วไซร้
สำนักท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำลูกหนี้จะต้องพิสกูจำน์กำรชำระหนีสำนั
้ เว้กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แต่กำรชำระหนี้อันตนจะต้
กำ องทำนั้นเป็สนำนักำรให้ งดเว้นกำร
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อันใดอันหนึ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เลิกสัญญำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๓๘๖ ถ้ำคู่สัญสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญำฝ่ ำยหนึ่งมีสิทธิเลิกสัญญำโดยข้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อสัญญำหรื
สำนัอกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โดยบทบัญญัติ กำ
แห่งกฎหมำย กำรเลิกสัญญำเช่นนั้นย่อมทำด้วยแสดงเจตนำแก่อีกฝ่ำยหนึ่ง
สแสดงเจตนำดั งกล่ำวมำในวรรคก่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อนนั้น ท่ำสนว่
ำนัำกหำอำจจะถอนได้ ไม่ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๓๘๗ ถ้ำคู่สสั ญำนัญำฝ่


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำยหนึ่งไม่ชำระหนี้กอีำก ฝ่ ำยหนึ่งจะก
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำหนดระยะเวลำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พอสมควร แล้วบอกกล่ ำวให้ ฝ่ำยนั้น ชำระหนี้ภำยในระยะเวลำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
้นก็ได้ ถ้ำและฝ่ำยนั้นไม่ช ำระหนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ภำยในระยะเวลำที่กำหนดให้ไซร้ อีกฝ่ำยหนึ่งจะเลิกสัญญำเสียก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๗๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๓๘๘ ถ้ ำวั ต ถุ ที่ ป ระสงค์ แ ห่ งสั ญ ญำนั้ น ว่ ำโดยสภำพหรือ โดยเจตนำที่


สำนักคูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ สั ญ ญำได้ แ สดงไว้ จะเป็
กำ น ผลส ำเร็ จสได้
ำนักก็ แงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต่ ด้ ว ยกำรช ำระหนี้ กณำ เวลำมี ก ำหนดก็
สำนักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี หรือ ภำยใน กำ
ระยะเวลำอันใดอันหนึ่งซึ่งกำหนดไว้ก็ดี และกำหนดเวลำหรือระยะเวลำนั้นได้ล่วงพ้นไปโดยฝ่ำยใด
ฝ่ำยหนึ่งมิได้ชำระหนี
สำนัก้ไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ซร้ ท่ำนว่ำอีกฝ่ำยหนึ่งกจะเลิ
ำ กสัญญำนัส้นำนัเสีกยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก็ได้ มิพักต้องบอกกล่กำำวดังว่ำไว้ใน
มำตรำก่อนนั้นเลย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๓๘๙ ถ้ำกำรชำระหนี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ทั้งหมดหรือสแต่
ำนักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำงส่วนกลำยเป็นพ้นวิสกำัยเพรำะเหตุ
อย่ำงใดอย่ำงหนึ่งอันจะโทษลูกหนี้ได้ไซร้ เจ้ำหนี้จะเลิกสัญญำนั้นเสียก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๙๐ ถ้ำในสัญญำใดคู่สัญญำเป็นบุคคลหลำยคนด้วยกันอยู่ข้ำงหนึ่งหรืออีก
ข้ำงหนึ่ ง ท่ ำนว่ำสจะใช้ สิทธิเลิ กสั ญ ญำได้ก็แกต่ำเมื่อบุ คคลเหล่สำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทั้ งหมดรวมกัน ใช้ ทั้กงใช้
ำ ต่ อบุ ค คล
เหล่ำนั้นรวมหมดทุกคนด้วย ถ้ำสิทธิเลิกสัญญำอันมีแก่บุคคลคนหนึ่งในจำพวกที่มีสิทธินั้นเป็นอัน
สำนักระงั บสิ้นไปแล้ว สิทธิเลิกกสัำ ญญำอันมีแก่สคำนันอืกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่น ๆ ก็ย่อมระงับสิ้นไปด้กำวย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๙๑ เมื่อคู่สัญ ญำฝ่ำยหนึ่งได้ใช้สสำนัิทกธิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เลิกสั ญญำแล้ว คู่สั ญญำแต่ กำ
ละฝ่ ำย
สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำต้องให้ อีกฝ่ ำยหนึ่ งได้
กำก ลั บ คื น สู่ ฐ ำนะดั
สำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ที่ เป็ น อยู่เดิม แต่ทั้ งนีก้ จำะให้ เป็ นที่ เสืส่ อำนั
มเสี ยแก่สิ ท ธิของ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บุคคลภำยนอกหำได้ไม่
สส่ำนั
วนเงิ นอันจะต้องใช้คืนในกรณี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดังกล่ำวมำในวรรคต้ นนั้น ท่ำนให้บวกดอกเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ยเข้ำด้วย
คิดตั้งแต่เวลำที่ได้รับไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ส่วนทีก่เป็ำ นกำรงำนอันสได้ ำนักกระท ำให้และเป็นกำรยอมให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ใช้ทรัพย์นสั้นำนักำรที ่จะชดใช้คืน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ท่ำนให้ทำได้ด้วยใช้เงินตำมควรค่ำแห่งกำรนั้น ๆ หรือถ้ำในสัญญำมีกำหนดว่ำให้ใช้เงินตอบแทน ก็ให้
ใช้ตำมนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรใช้สิทธิเลิกสัญญำนั้นหำกระทบกระทั่งถึงสิทธิเรียกร้องค่ำเสียหำยไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๙๒ กำรชำระหนี้ของคู่สัญญำอันเกิดแต่กำรเลิกสัญญำนั้น ให้เป็นไปตำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทบัญญัติแห่งมำตรำ ๓๖๙
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๙๓ ถ้ำมิได้กำหนดระยะเวลำไว้ให้ใช้สิทธิเลิกสัญญำ คู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่ง
จะกำหนดระยะเวลำพอสมควร แล้วบอกกล่กำำวให้ ฝ่ำยที่มีสสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ิทธิกเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ลิกสัญ ญำนั้ นแถลงให้กทำรำบภำยใน
ระยะเวลำนั้นก็ได้ ว่ำจะเลิกสัญญำหรือหำไม่ ถ้ำมิได้รับคำบอกกล่ำวเลิกสัญญำภำยในระยะเวลำนั้น
สำนักสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทธิเลิกสัญญำก็เป็นอันกระงั
ำ บสิ้นไป สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๓๙๔ ถ้ำทรัพย์อันกเป็ำ นวัตถุแห่งสัสญำนัญำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นบุบสลำยไปในส่วนส
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำำคัญเพรำะ
กำรกระทำหรือเพรำะควำมผิดของบุคคลผู้มีสิทธิเ ลิกสัญญำก็ดี หรือบุคคลนั้นได้ทำให้กำรคืนทรัพย์
สำนักกลำยเป็ นพ้นวิสัยก็ดี เปลี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่ยนแปลงทรัพสย์ำนั
นั้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้ผิดแผกไปเป็นอย่ำงอืก่นำ ด้วยประกอบขึ ้นหรื
สำนั อดัดแปลงก็ดี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ท่ำนว่ำสิทธิเลิกสัญสำนั
ญำนั ้นก็เป็นอันระงับสิ้นไป
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แต่ถ้ำทรัพย์อัน เป็ น วัตถุแห่ งสัญ ญำได้สู ญ หำยหรือบุบสลำยไปโดยปรำศจำกกำร
สำนักกระท ำหรือควำมผิดของบุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ คคลผู้มีสิทธิเสลิำนั
กสักญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญำไซร้ สิทธิเลิกสัญญำนั
กำ ้นก็หำระงับสสิำนั
้นไปไม่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๗๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ลักษณะ ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จัดกำรงำนนอกสั่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๓๙๕ บุ คคลใดเข้ำทำกิจกำรแทนผู้อื่นโดยเขำมิได้ว่ำขำนวำนใช้ให้ทำก็ดี
หรือโดยมิได้มีสิทสธิำนั
ที่จกะท ำกำรงำนนั้นแทนผู้อกื่นำด้วยประกำรใดก็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี ท่ำนว่ำบุคคลนั้นจะต้กอำงจัดกำรงำน
ไปในทำงที่จะให้สมประโยชน์ของตัวกำร ตำมควำมประสงค์อันแท้จริงของตัวกำร หรือตำมที่จะพึง
สำนักสังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นนิษฐำนได้ว่ำเป็นควำมประสงค์
กำ ของตัสำนั
วกำร
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๓๙๖ ถ้ำกำรที่เข้ำจักดำกำรงำนนั้นเป็สนำนักำรขั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดกับควำมประสงค์อกันำ แท้จริงของ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตัวกำรก็ดี หรือขัดกับควำมประสงค์ตำมที่จะพึงสันนิษฐำนได้ก็ดี และผู้จัดกำรก็ควรจะได้รู้สึกเช่นนั้น
สำนักแล้ วด้วยไซร้ ท่ำนว่ำผู้จกัดำกำรจำต้องใช้สคำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ำสิกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไหมทดแทนให้แก่ตัวกำรเพื
กำ ่อควำมเสียสำนั
หำยอย่ ำงใด ๆ อัน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เกิดแต่ที่ได้เข้ำจัดกำรนั้น แม้ทั้งผู้จัดกำรจะมิได้มีควำมผิดประกำรอื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๓๙๗ ถ้ ำ ผูส้ จำนัั ดกกำรท ำกิ จ อั น ใดซึ่ ง เป็กนำหน้ ำ ที่ บั ง คั บสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ให้กตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ั ว กำรท ำเพื่ อ กำ
สำธำรณประโยชน์ก็ดี หรือเป็นหน้ำที่ตำมกฎหมำยที่จะบำรุงรักษำผู้อื่นก็ดี และหำกผู้จัดกำรมิได้เข้ำ
ทำแล้วกิจอันนั้นจะไม่
สำนักสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเร็จภำยในเวลำอันควรไซร้
กำ กำรที่ได้สทำนั
ำขักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กับควำมประสงค์ของตักวำ กำรเช่นนั้น
ท่ำนมิให้ยกขึ้นเป็นข้อวินิจฉัย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๙๘ ถ้ำผู้จัดกำรทำกิจอันใดเพื่อประสงค์จะปัดป้องอันตรำยอันมีมำใกล้
ตัวกำร จะเป็นภัยสแก่
ำนัตกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัวก็ดี แก่ชื่อเสียงก็ดี หรืกอำแก่ทรัพย์สินก็สดำนัี ท่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นว่ำผู้จัดกำรต้องรับผิดกชอบแต่
ำ เพียง
ที่จงใจทำผิด หรือที่เป็นควำมประมำทเลินเล่ออย่ำงร้ำยแรงเท่ำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๙๙ ผู้จัดกำรต้องบอกกล่ำวแก่ตัวกำรโดยเร็วที่สุดที่จะทำได้ว่ำตนได้เข้ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จัด กำรงำนแทน และต้องรอฟั งคำวินิ จฉัยของตัว กำร เว้น แต่ภั ยจะมีขึ้น เพรำะกำรที่ห น่ว งเนิ่ นไว้
สำนักนอกจำกนี ้ ท่ำนให้นำบทบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญ ญั ติแห่งมำตรำ ๘๐๙ ถึง ๘๑๑ อันบักงำคับแก่ตัวแทนนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้ นกมำใช้ บังคับแก่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หน้ำที่ของผู้จัดกำรด้วยโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๐๐ ถ้ำผู้จัดกำรเป็นผู้ไร้ควำมสำมำรถ ท่ำนว่ำจะต้องรับผิดชอบแต่เพียง
สำนักตำมบทบั ญญัติว่ำด้วยค่ำกสิำ นไหมทดแทนเพื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก่องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ละเมิด และว่ำด้วยกำรคื
กำนลำภมิควรได้สเำนั
ท่ำกนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้น กำ

สมำตรำ ๔๐๑ ถ้ำกำรที่เข้ำจักดำ กำรงำนนั้นเป็สำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นกำรสมประโยชน์ ของตัวกกำร
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ และต้อง
ตำมควำมประสงค์อันแท้จริงของตัวกำร หรือควำมประสงค์ตำมที่จะพึงสันนิษฐำนได้นั้นไซร้ ท่ำนว่ำ
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้จัดกำรจะเรียกให้ชดใช้
กำเงินอันตนได้สอำนั
อกไปคื นแก่ตนเช่นอย่ำงตักวำแทนก็ได้ และบทบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญญัติมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
๘๑๖ วรรค ๒ นั้นสำนัท่ำกนก็ ให้นำมำใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่ง ในกรณีที่กล่ำวมำในมำตรำ ๓๙๗ นั้น แม้ถึงว่ำที่เข้ำจัดกำรงำนนั้นจะเป็นกำร
สำนักขังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดกับควำมประสงค์ของตั กำ วกำรก็ดี ผู้จัดสำนั
กำรก็ ยังคงมีสิทธิเรียกร้องเช่กำนนั้นอยู่ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
- ๗๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๔๐๒ ถ้ำเงื่อสนไขดั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งว่ำมำในมำตรำก่อนนัก้นำมิได้มี ท่ำนว่ำสตัำนัวกำรจ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำต้องคืนสิ่ง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทั้งหลำยบรรดำที่ได้มำเพรำะเขำเข้ำจัดกำรงำนนั้นให้แก่ผู้จัดกำร ตำมบทบัญญัติว่ำด้วยกำรคืนลำภมิ
ควรได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำตัวกำรให้สัตยำบันแก่กำรที่จัดทำนั้น ท่ำนให้นำบทบัญญัติทั้งหลำยแห่งประมวล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กฎหมำยนี้ว่ำด้วยตัวแทนมำใช้บังคับ แล้วแต่กรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๐๓ ถ้ำผู้จัดกำรมิได้มีบุรพเจตนำจะเรียกให้ตัวกำรชดใช้คืน ผู้จัดกำรก็
สำนักย่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อมไม่มีสิทธิเรียกร้องเช่กนำ นั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรที่บิ ดำมำรดำ ปู่ ย่ำ ตำยำย บำรุงรักษำผู้สื บสั นดำนเป็นทำงอุปกำระก็ดี หรือ
กลับกันเป็นทำงปฏิ สำนักกำระก็ ดี เมื่อกรณีเป็นที่สกงสั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ย ท่ำนให้สสันำนั
นิษกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ฐำนไว้ก่อนว่ำไม่มีเจตนำจะเรี
กำ ยกให้
ผู้รับประโยชน์ชดใช้คืน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๐๔ ถ้ำผู้ จัดกำรทำแทนผู้ห นึ่งโดยสำคัญ ว่ำทำแทนผู้ อื่นอีกคนหนึ่งไซร้
ท่ำนว่ำผู้เป็นตัวกำรคนก่อนผู้เดียวมีสิทธิและหน้ำที่อันเกิดแต่สกำนัำรที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
่ได้จัดทำไปนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๐๕ บทบัญญัติทั้งหลำยที่กล่ำวมำในสิบมำตรำก่อนนั้น ท่ำนมิให้ใช้บังคับ
แก่กรณีที่บุคคลหนึ ่งเข้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ำทำกำรงำนของผู้อื่นโดยสกำ ำคัญว่ำเป็นสกำรงำนของตนเอง
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำบุคคลใดถือเอำกิจกำรของผู้อื่นว่ำเป็นของตนเอง ทั้งที่รู้แล้วว่ำตนไม่มีสิทธิจะทำ
สำนักเช่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นนั้นไซร้ ท่ำนว่ำตัวกำรจะใช้
กำ สิทธิเรีสยำนั
กร้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งบังคับโดยมูลดังบัญญักำติไว้ในมำตรำ ส๓๙๕, ๓๙๖, ๓๙๙
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
และ ๔๐๐ นั้นก็ได้ แต่เมื่อได้ใช้สิทธิดังว่ำมำนี้แล้ว ตัวกำรจะต้องรับผิดต่อผู้จัดกำรดังบัญญั ติไว้ใน
มำตรำ ๔๐๒ วรรค สำนั๑กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ลักษณะ ๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลำภมิควรได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๔๐๖ บุคคลใดได้มำซึ่งทรัพย์สิ่งใดเพรำะกำรที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทำเพื่อ
ชำระหนี้ ก็ดี หรือสได้ ำนัมกำด้ วยประกำรอื่นก็ดี โดยปรำศจำกมู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สลำนั
อันกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จะอ้ำงกฎหมำยได้ และเป็
กำ น ทำงให้
บุคคลอีกคนหนึ่งนั้ นเสียเปรียบไซร้ ท่ำนว่ำบุค คลนั้นจำต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขำ อนึ่ง กำรรับสภำพ
สำนักหนี ้สินว่ำมีอยู่หรือหำไม่กนำั้น ท่ำนก็ให้ถือสว่ำนัำเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นกำรกระทำเพื่อชำระหนี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ด้วย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทบัญญัติอันนี้ท่ำนให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้ทรัพย์มำ เพรำะเหตุอย่ำงใดอย่ำง
หนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็สนำนัขึ้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดกไปเสี
ำ ยก่อนแล้สวำนั
นั้นกด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วย กำ

มำตรำกำ๔๐๗ บุคคลใดได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กระทำกำรอันใดตำมอกำเภอใจเหมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อนหนึ
สำนั่งกว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเพื่อชำระหนี้ กำ
โดยรู้อยู่ว่ำตนไม่มสีคำนัวำมผู กพันที่จะต้องชำระ ท่ำนว่ำบุคคลผู้นสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ั้นหำมี สิทธิจะได้รับคืนทรัพย์ไม่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๔๐๘ บุคคลดัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งจะกล่ ำวต่อไปนี้ไม่มีสิทธิจกะได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ รับคืนทรัพสย์ำนัคืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๗๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๑) บุคคลผู้ชำระหนี้อันมีเงื่อนเวลำบังคับเมื่อก่อนถึงกำหนดเวลำนั้น
(๒) บุกคำคลผู้ชำระหนี้ซสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ึ่งขำดอำยุ ควำมแล้ว
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) บุคคลผู้ชำระหนี้ตำมหน้ำที่ศีลธรรม หรือตำมควรแก่อัธยำศัยในสมำคม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๐๙ เมื่อบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดซึ่งมิได้เป็นลูกหนี้ได้ชำระหนี้ไปโดยสำคัญผิด เป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เหตุให้เจ้ำหนี้ผู้ทำกำรโดยสุจริตได้ทำลำย หรือลบล้ำงเสียซึ่งเอกสำรอันเป็นพยำนหลักฐำนแห่งหนี้ก็ดี
ยกเลิกหลักประกัสนำนั เสีกยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก็ดี สิ้นสิทธิไปเพรำะขำดอำยุ
กำ ควำมก็ดสี ำนั
ท่ำกนว่ ำเจ้ำหนี้ไม่จำต้องคืนทรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พย์
บทบัญญัติที่กล่ำวมำในวรรคก่อนนี้ไม่ขัดขวำงต่อกำรที่บุคคลผู้ได้ชำระหนี้นั้ นจะใช้
สำนักสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทธิไล่เบี้ยเอำแก่ลูกหนีก้แำละผู้ค้ำประกันสำนัถ้กำจะพึ งมี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๔๑๐ บุคคลผู้ใดได้กทำำกำรชำระหนีส้โำนัดยมุ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งต่อผลอย่ำงหนึ่ง แต่มกิไำด้เกิดผลขึ้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เช่นนั้น ถ้ำและบุคคลนั้นได้รู้มำแต่แรกว่ำกำรที่จะเกิดผลนั้นเป็นพ้นวิสัยก็ดี หรือได้เข้ำป้องปัดขัดขวำง
สำนักเสีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยมิให้เกิดผลเช่นนั้นโดยอำกำรอั
กำ นฝ่ำสฝืำนั
นควำมสุ จริตก็ดี ท่ำนว่ำบุคกคลผู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้นั้นไม่มีสิทสธิำนั
จะได้ รับคืนทรัพย์
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๑๑ บุ คคลใดได้กระทำกำรเพื่อสำนั กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ชำระหนี ้เป็นกำรอันฝ่ ำฝืนข้อห้ ำมตำม
สำนักกฎหมำยหรื อศีลธรรมอักนำดี ท่ำนว่ำบุคคลนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หำอำจจะเรียกร้องคืนกทรัำ พย์ได้ไม่ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๔๑๒ ถ้ำทรัพย์สินกซึำ่งได้รับไว้เป็นลำภมิ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ควรได้นั้นเป็นเงินจำนวนหนึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ง ท่ำน
ว่ำต้องคืนเต็มจำนวนนั้น เว้นแต่เมื่อบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต จึงต้องคืนลำภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่
สำนักในขณะเมื ่อเรียกคืน กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๔๑๓ เมื่อทรัพย์สินกอัำ นจะต้องคืนนัสำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นเป็กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นอย่ำงอื่นนอกจำกจำนวนเงิ
กำ น และ
บุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่ำนว่ำบุคคลเช่นนั้นจำต้องคืนทรัพย์สินเพียงตำมสภำพที่เป็นอยู่ และมิต้อง
สำนักรังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บผิดชอบในกำรที่ทรัพกย์ำนั้นสูญหำยหรืสำนั
อบุกบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สลำย แต่ถ้ำได้อะไรมำเป็
กำ นค่ำสินไหมทดแทนเพื ่อกำรสูญ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หำยหรือบุบสลำยเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำบุคคลได้รับทรัพย์สินไว้โดยทุจริต ท่ำนว่ำจะต้องรับผิดชอบในกำรสูญหำยหรือบุบ
สำนักสลำยนั ้นเต็มภูมิ แม้กระทั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งกำรสูญหำยหรื
สำนัอกบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บสลำยจะเกิดเพรำะเหตุ
กำ สุดวิสัย เว้นสแต่
ำนัจกะพิ สูจน์ได้ว่ำถึง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อย่ำงไรทรัพย์สินนั้นก็คงต้องสูญหำยหรือบุบสลำยอยู่นั่นเอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๑๔ ถ้ำกำรคืนทรัพย์ตกเป็นพ้นวิสัยเพรำะสภำพแห่งทรัพย์สินที่ได้รับ ไว้
สำนักนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นเองก็ดี หรือเพรำะเหตุ กำ อย่ำงอื่น ก็ดสี ำนั
และบุ คคลได้รับทรัพย์สินกไว้ำ โดยสุจริต ท่สำำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นว่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บุคคลเช่นนั้น กำ
จำต้องคืนลำภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ในขณะเมื่อเรียกคืน
สถ้ำนั
ำบุกคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คลได้รับทรัพย์สินนั้นไว้กำโดยทุจริต ท่ำสนว่
ำนัำกต้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องใช้รำคำทรัพย์สินนั้นกเต็
ำ มจำนวน

มำตรำกำ ๔๑๕ บุ ค คลผู


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก้ ได้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รั บ ทรัพ ย์ สิ น ไว้โ ดยสุกจำริต ย่ อ มจะได้สดำนัอกผลอั น เกิ ด แต่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทรัพย์สินนั้นตลอดเวลำที ่ยังคงสุจริตอยู่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำผู้ที่ได้รับไว้จะต้องคืนทรัพย์สินนั้นเมื่อใด ให้ถือว่ำผู้นั้นตกอยู่ในฐำนะทุจริตจำเดิม
สำนักแต่ เวลำที่เรียกคืนนั้น กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๗๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๔๑๖ ค่ ำ ใช้สำนั


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี จ่ ำกยทั ้ งหลำยอั น ควรแก่ กกำรเพื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่ อ รั ก ษำบสำรุ
ำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรื อ ซ่ อ มแซม กำ
ทรัพย์สินนั้น ท่ำนว่ำต้องชดใช้แก่บุคคลผู้คืนทรัพย์สินนั้นเต็มจำนวน
สแต่
ำนับกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ุ คคลเช่น ว่ำนี้ จ ะเรียกร้กอำ งให้ ชดใช้ค่ำสใช้ำนัจก่ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยตำมธรรมดำเพื่ อบำรุกำง ซ่อมแซม
ทรัพย์สินนั้น หรือค่ำภำระติดพันที่ต้องเสียไปในระหว่ำงที่ตนคงเก็บดอกผลอยู่นั้นหำได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๔๑๗ ในส่วนค่ำใช้กจำ่ำยอย่ำงอื่นนอกจำกที


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่กล่ำวมำในวรรคต้กนำแห่งมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก่อนนั้น บุคคลผู้คืนทรัพย์สินจะเรียกให้ชดใช้ได้แต่เฉพำะที่เสียไปในระหว่ำงที่ตนทำกำรโดยสุจริต
สำนักและเมื ่อทรัพย์สินนั้นได้กมำีรำคำเพิ่มสูงขึส้นำนัเพรำะค่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำใช้จ่ำยนั้นในเวลำที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่คืน และจะเรีสยำนักได้ ก็แต่เพียงเท่ำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
รำคำที่เพิ่มขึ้นเท่ำนั้น
สอนึ
ำนั่งกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บทบัญญัติแห่งมำตรำกำ๔๑๕ วรรค ๒สำนันัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ท่ำนให้นำมำใช้บังคับกด้ำวย แล้วแต่
กรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๑๘ ถ้ำบุคคลรับทรัพย์สินอันมิควรได้ไว้โดยทุจริต และได้ทำกำรดัดแปลง
หรือต่อเติมขึ้นในทรัพย์สินนั้น ท่ำนว่ำบุคคลเช่นนั้นต้องจัดสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทำทรั พย์สินนั้นให้คืนคงสภำพเดิมด้วย
สำนักค่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำใช้จ่ำยของตนเองแล้วกจึำงส่งคืน เว้นแต่ สำนัเจ้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของทรัพย์สินจะเลือกให้ กำส่งคืนตำมสภำพที
สำนัก่เงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ป็นอยู่ ในกรณี กำ
เช่นนี้เจ้ำของจะใช้รำคำค่ำทำดัดแปลงหรือต่อเติม หรือใช้เงินจำนวนหนึ่งเป็นรำคำทรัพย์สินเท่ำที่
เพิ่มขึ้นนั้นก็ได้ แล้สวำนัแต่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จะเลือก กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำในเวลำที่จะต้องคืนทรั พย์นั้นเป็นพ้นวิสัยจะทำให้ทรัพย์สินคืนคงสภำพเดิมได้
สำนักหรื อถ้ำทำไปทรัพย์สินนัก้นำ จะบุบสลำยไซร้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำบุคคลผู้ได้รับไว้จกำะต้องส่งคืนทรัสพำนัย์กสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ินตำมสภำพที่ กำ
เป็นอยู่ และไม่มีสิทธิเรียกค่ำสินไหมทดแทนเพื่อรำคำทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นเพรำะกำรดัดแปลงหรือต่อ
เติมนั้นได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๔๑๙ ในเรื่อสงลำภมิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ควรได้นั้น ท่ำนห้ำมมิกใำห้ฟ้องคดีเมื่อพ้สำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นกกำหนดปี หนึ่งนับ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แต่เวลำที่ฝ่ำยผู้เสียหำยรู้ว่ำตนมีสิทธิเรียกคืน หรือเมื่อพ้นสิบปีนับแต่เวลำที่สิทธินั้นได้มีขึ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ลักษณะ ๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ละเมิด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมรับผิดเพื่อละเมิด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อประมำทเลินเล่อ ทำต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำอบุคคลอื่นโดยผิ
สำนัดกกฎหมำยให้ เขำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เสียหำยถึงแก่ชีวิตสำนั
ก็ดกี งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แก่ร่ำงกำยก็ดี อนำมัยกก็ำดี เสรีภำพก็ดสี ำนั
ทรักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์สินหรือสิทธิอย่ำงหนึก่งำอย่ำงใดก็ดี
ท่ำนว่ำผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่ำสินไหมทดแทนเพื่อกำรนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๗๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๔๒๑ กำรใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสียหำยแก่บุคคลอื่ นนั้น ท่ำนว่ำเป็นกำร


สำนักอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นมิชอบด้วยกฎหมำย กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๔๒๒ ถ้ำควำมเสียกหำยเกิ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ดแต่กำรฝ่
สำนัำกฝืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นบทบังคับแห่งกฎหมำยใดอั
กำ นมีที่
ประสงค์เพื่อจะปกป้องบุคคลอื่น ๆ ผู้ใดทำกำรฝ่ำฝืนเช่นนั้น ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำผู้นั้นเป็นผู้ผิด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๔๒๓ ผู้ใดกล่ำวหรืกำอไขข่ำวแพร่สหำนัลำยซึ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ง ข้อควำมอันฝ่ำฝืนกต่ำอควำมจริง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็น ที่เสียหำยแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ดี หรือเป็นที่เสียหำยแก่ทำงทำมำหำได้หรือ
สำนักทำงเจริ ญ ของเขำโดยประกำรอื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่น ก็ดี สท่ำนัำกนว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำผู้ นั้น จะต้องใช้ค่ำสิกนำไหมทดแทนให้
สำนัแกก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เขำเพื่อควำม กำ
เสียหำยอย่ำงใด ๆ อันเกิดแต่กำรนั้น แม้ทั้งเมื่อตนมิได้รู้ว่ำข้อควำมนั้นไม่จริง แต่หำกควรจะรู้ได้
สผูำนั
้ใดส่ งข่ำวสำรอันตนมิได้รู้วก่ำำเป็นควำมไม่สจำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ริงกหำกว่ ำตนเองหรือผู้รับกข่ำำวสำรนั้นมี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทำงได้เสียโดยชอบในกำรนั้นด้วยแล้ว ท่ำนว่ำเพียงที่ส่งข่ำวสำรเช่นนั้นหำทำให้ผู้นั้นต้องรับผิดใช้ค่ำ
สำนักสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นไหมทดแทนไม่ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๒๔ ในกำรพิพำกษำคดีข้อควำมรั บผิดเพื่อละเมิดและกำหนดค่ำสินไหม
สำนักทดแทนนั ้น ท่ำนว่ำศำลไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จำต้องดำเนิสนำนัตำมบทบั ญญัติแห่งกฎหมำยลั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กษณะอำญำอั นว่ำด้วยกำรที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จะต้องรับโทษ และไม่จำต้องพิเครำะห์ถึงกำรที่ผู้กระทำผิดต้องคำพิพำกษำลงโทษทำงอำญำหรือไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๒๕ นำยจ้ำงต้องร่วมกันรั บผิดกับลูกจ้ำงในผลแห่งละเมิด ซึ่งลูกจ้ำงได้
สำนักกระท ำไปในทำงกำรที่จก้ำงนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๔๒๖ นำยจ้ำงซึ่งได้กใำช้ค่ำสินไหมทดแทนให้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี แก่บุคคลภำยนอกเพื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่อละเมิดอัน
ลูกจ้ำงได้ทำนั้น ชอบที่จะได้ชดใช้จำกลูกจ้ำงนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๒๗ บทบัญญัติในมำตรำทั้งสองก่อนนั้น ท่ำนให้ใช้บังคับแก่ ตัวกำรและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตัวแทนด้วยโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๒๘ ผู้ว่ำจ้ำงทำของไม่ต้องรับผิดเพื่อควำมเสียหำยอันผู้รับจ้ำงได้ก่อให้เกิด
ขึ้นแก่บุคคลภำยนอกในระหว่ ำงทำกำรงำนที่วก่ำำจ้ำง เว้นแต่ผู้วส่ำำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี จ้ำกงจะเป็ นผู้ผิดในส่วนกำรงำนที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่สั่งให้ทำ
หรือในคำสั่งที่ตนให้ไว้ หรือในกำรเลือกหำผู้รับจ้ำง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๒๙ บุคคลใดแม้ไร้ควำมสำมำรถเพรำะเหตุเป็นผู้เยำว์หรือวิกลจริตก็ยัง
ต้องรับผิดในผลทีส่ตำนันทกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำละเมิด บิดำมำรดำหรืกอำ ผู้อนุบำลของบุ
สำนัคกคลเช่ นว่ำนี้ย่อมต้องรับผิกดำ ร่วมกับเขำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่ำตนได้ใช้ควำมระมัดระวังตำมสมควรแก่หน้ำที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๓๐ ครูบำอำจำรย์ นำยจ้ำง หรือบุสคำนัคลอื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
่นซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ควำมสำมำรถ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อยู่เป็นนิตย์ก็ดี ชั่วครั้งครำวก็ดี จำต้องรับผิดร่วมกับผู้ไร้ควำมสำมำรถในกำรละเมิด ซึ่งเขำได้กระทำ
สำนักลงในระหว่ ำงที่อยู่ในควำมดู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ แลของตนสำนั ถ้ำกหำกพิ สูจน์ได้ว่ำบุคคลนักำ้น ๆ มิได้ใช้ควำมระมั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดระวังตำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๗๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมควร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๓๑ ในกรณีที่กล่ำวมำในสองมำตรำก่อนนั้น ท่ำนให้นำบทบัญญัติแห่ ง
มำตรำ ๔๒๖ มำใช้
สำนับังกคังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บด้วยโดยอนุโลม กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๔๓๒ ถ้ำบุคคลหลำยคนก่อให้เกิดเสียหำยแก่บุคคลอื่นโดยร่วมกันทำละเมิด
ท่ำนว่ำบุคคลเหล่สำำนั
นั้นกจะต้ องร่วมกันรับผิดใช้กคำ่ำสินไหมทดแทนเพื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ อควำมเสียหำยนั้น ควำมข้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อนี้ท่ำน
ให้ ใช้ ต ลอดถึ งกรณี ที่ ไม่ ส ำมำรถสื บ รู้ ตั ว ได้ แ น่ ว่ ำในจ ำพวกที่ ท ำละเมิ ด ร่ว มกั น นั้ น คนไหนเป็ น ผู้
สำนักก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อให้เกิดเสียหำยนั้นด้วกยำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่ง บุคคลผู้ยุยงส่งเสริมหรือช่วยเหลือในกำรทำละเมิด ท่ำนก็ให้ถือว่ำเป็นผู้กระทำ
ละเมิดร่วมกันด้วยสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในระหว่ำงบุคคลทั้งหลำยซึ่งต้องรับผิดร่วมกันใช้ค่ำสินไหมทดแทนนั้น ท่ำนว่ำต่ำง
สำนักต้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องรับผิดเป็นส่วนเท่ำ ๆกำกัน เว้นแต่โดยพฤติ กำรณ์ ศำลจะวินิจฉัยกเป็ำ นประกำรอื่นสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๓๓ ถ้ำควำมเสียหำยเกิดขึ้นเพรำะสั ตว์ ท่ำนว่ำเจ้ำของสัตว์หรือบุคคลผู้รับ
สำนักเลีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ยงรับรักษำไว้แทนเจ้กำำของจำต้องใช้สคำนั่ำกสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นไหมทดแทนให้แก่ฝ่ำกยที ำ ่ต้องเสียหำยเพื
สำนัก่องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ควำมเสียหำย กำ
อย่ำงใด ๆ อันเกิดแต่สัตว์นั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่ำตนได้ใช้ควำมระมัดระวังอันสมควรแก่กำรเลี้ยงกำร
รักษำตำมชนิดและวิ สำนัสกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัยของสัตว์ หรือตำมพฤติ กำกำรณ์อย่ำงอืส่นำนัหรื อพิสูจน์ได้ว่ำควำมเสียกหำยนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้นย่อม
จะต้องเกิดมีขึ้นทั้งที่ได้ใช้ควำมระมัดระวังถึงเพียงนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อนึ่ง บุกคำ คลผู้ต้องรับผิสดำนัชอบดั งกล่ำวมำในวรรคต้กนำนั้น จะใช้สิทธิสไำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ล่เกบีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ยเอำแก่บุคคล กำ
ผู้ที่เร้ำหรือยั่วสัตว์นั้นโดยละเมิด หรือเอำแก่เจ้ำของสัตว์อื่นอันมำเร้ำหรือยั่วสัตว์นั้น ๆ ก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๓๔ ถ้ำควำมเสียหำยเกิดขึ้นเพรำะเหตุที่โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้ำงอย่ำง
สำนักอืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่น ก่อสร้ำงไว้ชำรุดบกพร่
กำ องก็ดี หรือบสำนั
ำรุกงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รักษำไม่เพียงพอก็ดี ท่กำำนว่ำผู้ครองโรงเรื สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นหรือสิ่งปลูก กำ
สร้ำงนั้น ๆ จำต้องใช้ค่ำสินไหมทดแทน แต่ถ้ำผู้ครองได้ใช้ควำมระมัดระวังตำมสมควรเพื่อปัดป้องมิให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เกิดเสียหำยฉะนั้นแล้ว ท่ำนว่ำผู้เป็นเจ้ำของจำต้องใช้ค่ำสินไหมทดแทน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บทบัญกำญัติที่กล่ำวมำในวรรคก่ อนนั้น ให้ใช้บังคักบำได้ตลอดถึงควำมบกพร่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องในกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ปลูกหรือค้ำจุนต้นไม้หรือกอไผ่ด้วย
สในกรณี ที่ กล่ ำวมำในสองวรรคข้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำงต้ น นั้ นสำนั
ถ้ำกยังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งมีผู้ อื่นอีกที่ ต้องรับ ผิกดำชอบในกำร
ก่อให้เกิดเสียหำยนั้นด้วยไซร้ ท่ำนว่ำผู้ครองหรือเจ้ำของจะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอำแก่ผู้นั้นก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๓๕ บุคคลใดจะประสบควำมเสียหำยอันพึงเกิดจำกโรงเรือนหรือสิ่งปลูก
สร้ำงอย่ำงอื่นของผู
สำนั้อกื่นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บุคคลผู้นั้นชอบที่จะเรีกำยกให้จัดกำรตำมที ่จำเป็นเพื่อบำบัดปัดป้กอำงภยันตรำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้นเสียได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๓๖ บุคคลผู้อยู่ในโรงเรือนต้องรัสบำนัผิกดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ชอบในควำมเสียหำยอักำนเกิดเพรำะ
ของตกหล่นจำกโรงเรือนนั้น หรือเพรำะทิ้งขว้ำงของไปตกในที่อันมิควร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๗๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๔๓๗ บุคคลใดครอบครองหรือควบคุมดูแลยำนพำหนะอย่ำงใด ๆ อันเดิน


สำนักด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วยกำลังเครื่องจักรกลกบุำ คคลนั้นจะต้สอำนั
งรักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผิดชอบเพื่อกำรเสียหำยอั กำ นเกิดแต่ยำนพำหนะนั ้น เว้นแต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จะพิสูจน์ได้ว่ำกำรเสียหำยนั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัย หรือเกิดเพรำะควำมผิดของผู้ต้องเสียหำยนั้นเอง
สควำมข้ อนี้ให้ใช้บังคับได้ตลอดถึ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งบุคคลผู้มสีไว้ำนัในครอบครองของตน ซึ่งทรั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พย์อันเป็น
ของเกิดอันตรำยได้โดยสภำพ หรือโดยควำมมุ่งหมำยที่จะใช้ หรือโดยอำกำรกลไกของทรัพย์นั้นด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำหมวด ๒ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ค่ำสินไหมทดแทนเพื่อละเมิด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๔๓๘ ค่ำสินไหมทดแทนจะพึ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งใช้โดยสถำนใดเพี ยงใดนั้น ให้ศำลวิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นิจฉัยตำม
ควรแก่พฤติกำรณ์และควำมร้ำยแรงแห่งละเมิด
อนึ่ ง ค่กำำ สิน ไหมทดแทนนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้น ได้แก่กำรคืนทรัพย์กสำิ นอันผู้ เสี ยหำยต้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัอกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งเสียไปเพรำะ กำ
ละเมิด หรือใช้รำคำทรัพย์สินนั้น รวมทั้งค่ำเสียหำยอันจะพึงบังคับให้ใช้เพื่อควำมเสียหำยอย่ำงใด ๆ
อันได้ก่อขึ้นนั้นด้วสยำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๔๓๙ บุคคลผู้จำต้องคืนทรัพย์อันผู้อื่นต้องเสียไปเพรำะละเมิดแห่งตนนั้น
ยังต้องรับผิดชอบตลอดถึ งกำรที่ทรัพย์นั้นทำลำยลงโดยอุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บสัตำนัิเหตุ หรือกำรคืนทรัพ ย์ตกกเป็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นพ้นวิสัย
เพรำะเหตุอย่ำงอื่น โดยอุบั ติเหตุ หรือทรัพย์นั้นเสื่ อมเสียลงโดยอุบัติเหตุนั้นด้วย เว้นแต่เมื่อกำรที่
สำนักทรั พย์สินทำลำย หรือตกเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นพ้นวิสัยสจะคืำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือเสื่อมเสียนั้น ถึงกแม้ ำ ว่ำจะมิได้มสีกำนั
ำรท ำละเมิด ก็คง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จะต้องตกไปเป็นอย่ำงนั้นอยู่เอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๔๐ ในกรณีที่ต้องใช้รำคำทรัพย์อันได้เอำของเขำไปก็ดี ในกรณีที่ต้องใช้
สำนักรำคำทรั พย์อันลดน้อยลงเพรำะบุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บสลำยก็
สำนักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี ฝ่ำยผู้ต้องเสียหำยจะเรีกำยกดอกเบี้ยในจสำนั
ำนวนเงิ นที่จะต้อง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ใช้ คิดตั้งแต่เวลำอันเป็นฐำนที่ตั้งแห่งกำรประมำณรำคำนั้นก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๔๔๑ ถ้ำบุ คสคลจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำต้องใช้ค่ำสินไหมทดแทนเพื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ อควำมเสี
สำนัยกหำยอย่ ำงใด ๆ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เพรำะเอำสังหำริมทรัพย์ของเขำไปก็ดี หรือเพรำะทำของเขำให้บุบสลำยก็ดี เมื่อใช้ค่ำสินไหมทดแทน
ให้แก่บุคคลซึ่งเป็สนำนั
ผู้คกรองทรั พย์นั้นอยู่ในขณะที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่เอำไป หรือขณะที ่ทำให้บุบสลำยนั้นแล้วกำท่ำนว่ำเป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อันหลุดพ้นไปเพรำะกำรที่ได้ใช้ให้เช่นนั้น แม้กระทั่ งบุคคลภำยนอกจะเป็นเจ้ำของทรัพย์หรือมีสิทธิ
สำนักอย่ ำงอื่นเหนือทรัพย์นั้นกำเว้นแต่สิทธิขสองบุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คลภำยนอกเช่นนั้นจะเป็
กำ นที่รู้อยู่แก่ตสำนั
นหรื อมิได้รู้เพรำะ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ควำมประมำทเลินเล่ออย่ำงร้ำยแรงของตน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๔๒ ถ้ำควำมเสียหำยได้เกิดขึ้นเพรำะควำมผิดอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดของผู้ต้อง
สำนักเสีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยหำยประกอบด้วยไซร้กำ ท่ำนให้นำบทบั
สำนัญกญังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ติแห่งมำตรำ ๒๒๓ มำใช้
กำ บังคับ โดยอนุ
สำนัโลม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๔๓ ในกรณีทำให้เขำถึงตำยนั้น ค่ำสินไหมทดแทนได้แก่ค่ำปลงศพรวมทั้ง
สำนักค่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำใช้จ่ำยอันจำเป็นอย่ำกงอืำ ่น ๆ อีกด้วยสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๗๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ถ้ำมิได้ตำยในทันที ค่ำสินไหมทดแทนได้แก่ค่ำรักษำพยำบำลรวมทั้งค่ำเสียหำยที่
สำนักต้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องขำดประโยชน์ทำมำหำได้
กำ เพรำะไม่สสำนัำมำรถประกอบกำรงำนนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี้นกด้ำวย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำว่ำเหตุที่ตำยลงนั้นทำให้บุคคลหนึ่งคนใดต้องขำดไร้อุปกำระตำมกฎหมำยไปด้วย
ไซร้ ท่ำนว่ำบุคคลคนนั
ส ้นชอบที่จะได้รับค่ำสินไหมทดแทนเพื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่อสกำรนั ้น
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๔๔๔ ในกรณีทำให้เสียหำยแก่ร่ำงกำยหรืออนำมัยนั้น ผู้ต้ องเสียหำยชอบที่
จะได้ชดใช้ค่ำใช้จส่ำำนัยอักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นตนต้องเสียไป และค่กำำเสียหำยเพื่อกำรที ่เสียควำมสำมำรถประกอบกำรงำน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สิ้นเชิงหรือแต่บำงส่วน ทั้งในเวลำปัจจุบันนั้นและในเวลำอนำคตด้วย
ถ้ำในเวลำที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่พิพำกษำคดี
สำนักเป็ นพ้นวิสัยจะหยั่งรู้ได้กแำน่ว่ำควำมเสียสหำยนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นได้มีแท้จริง
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เพียงใด ศำลจะกล่ำวในคำพิพำกษำว่ำยังสงวนไว้ซึ่งสิทธิที่จะแก้ไขคำพิพำกษำนั้นอีกภำยในระยะเวลำ
ไม่เกินสองปีก็ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๔๔๕ ในกรณีสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ทำให้ เขำถึงตำย หรือให้เสีกยำหำยแก่ร่ำงกำยหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อนำมัยก็ดี ใน กำ
กรณีทำให้เขำเสียเสรีภำพก็ดี ถ้ำผู้ต้องเสียหำยมีควำมผูกพันตำมกฎหมำยจะต้องทำกำรงำนให้ เป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คุณแก่บุคคลภำยนอกในครั วเรือน หรืออุตสำหกรรมของบุคคลภำยนอกนั ้นไซร้ ท่ำนว่ำบุคคลผู้จำต้อง
สำนักใช้ ค่ำสินไหมทดแทนนั้นกจะต้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ องใช้ค่ำสินสไหมทดแทนให้ แก่บุคคลภำยนอกเพื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่อที่เขำต้ องขำดแรงงำนอั
สำนั น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
นั้นไปด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๔๖ ในกรณีทำให้เขำเสียหำยแก่ร่ำงกำยหรืออนำมัยก็ดี ในกรณีทำให้เขำ
สำนักเสีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยเสรีภำพก็ดี ผู้ต้องเสีกยำหำยจะเรียกร้สอำนังเอำค่ ำสินไหมทดแทนเพื่อกควำมที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่เสียหำยอย่
สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งอื่นอันมิใช่ตัว กำ
เงิน ด้วยอีกก็ได้ สิทธิเรียกร้องอัน นี้ไม่โอนกันได้ และไม่ตกสืบไปถึงทำยำท เว้นแต่สิทธินั้นจะได้รับ
สภำพกันไว้โดยสัญสำนั ญำหรื อได้เริ่มฟ้องคดีตำมสิกทำ ธินั้นแล้ว สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อนึ่ง หญิงที่ต้องเสียหำยเพรำะผู้ใดทำผิดอำญำเป็นทุรศีลธรรมแก่ตนก็ย่อมมีสิทธิ
สำนักเรีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยกร้องทำนองเดียวกันกนีำ ้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๔๗ บุคคลใดทำให้เขำต้องเสียหำยแก่ชื่อเสียง เมื่อผู้ต้องเสียหำยร้องขอ
สำนักศำลจะสั ่งให้บุคคลนั้นจักดำกำรตำมควรเพื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่อกทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำให้ชื่อเสียงของผู้นั้นกลั
กำบคืนดีแทนให้สใำนั
ช้คก่ ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เสียหำย หรือ กำ
ทั้งให้ใช้ค่ำเสียหำยด้วยก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๔๘ สิ ทธิเรียกร้องค่ำเสี ยหำยอันเกิดแต่มูล ละเมิดนั้น ท่ำนว่ำขำดอำยุ
สำนักควำมเมื ่อพ้นปีหนึ่งนับแต่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วันที่ผู้ต้องเสีสยำนั
หำยรู ้ถึงกำรละเมิดและรู้ตกัวำผู้จะพึงต้องใช้สำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ค่ำกสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นไหมทดแทน กำ
หรือเมื่อพ้นสิบปีนับแต่วันทำละเมิด
สแต่
ำนัถก้ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เรียกร้องค่ำเสียหำยในมู กำ ลอันเป็นควำมผิ
สำนักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มีโทษตำมกฎหมำยลักกำษณะอำญำ
และมีกำหนดอำยุควำมทำงอำญำยำวกว่ำที่กล่ำวมำนั้นไซร้ ท่ำนให้ เอำอำยุควำมที่ยำวกว่ำนั้นมำ
สำนักบังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งคับ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ นิรโทษกรรม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๘๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๔๔๙ บุคคลใดเมื่อกระทำกำรป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมำยก็ดี กระทำตำม
คำสั่งอันชอบด้วยกฎหมำยก็ ดี หำกก่อให้เกิดกเสีำ ยหำยแก่ผู้อื่นสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ไซร้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ท่ำนว่ำบุคคลนั้นหำต้อกงรั
ำ บผิดใช้ค่ำ
สินไหมทดแทนไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้ต้องเสียหำยอำจเรียกค่ำสินไหมทดแทนจำกผู้เป็นต้นเหตุให้ต้องป้องกันโดยชอบ
ด้วยกฎหมำย หรืสอำนั
จำกบุ คคลผู้ให้คำสั่งโดยละเมิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดนั้นก็ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๔๕๐ ถ้ำบุคสคลท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักำบุ บสลำย หรือทำลำยทรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พย์สิ่งหนึ่งสิ่งสใดำนักเพืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อจะบำบัดปัด กำ
ป้องภยั น ตรำยซึ่งมีมำเป็น สำธำรณะโดยฉุกเฉิน ท่ำนว่ำไม่จำต้องใช้ค่ำสิ นไหมทดแทน หำกควำม
เสียหำยนั้นไม่เกินสสมควรแก่ เหตุภยันตรำย กำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำบุคคลทำบุบสลำย หรือทำลำยทรัพย์สิ่งหนึ่งสิ่งใด เพื่อจะบำบัดปัดป้องภยันตรำย
สำนักอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นมีแก่เอกชนโดยฉุกเฉิกนำ ผู้นั้นจะต้องใช้
สำนัคืนกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทรัพย์นั้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำบุคคลทำบุบสลำย หรือทำลำยทรัพย์สิ่งหนึ่งสิ่งใด เพื่อจะป้องกันสิทธิของตนหรือ
ของบุคคลภำยนอกจำกภยันตรำยอันมีมำโดยฉุกเฉิน เพรำะตัสวำนัทรักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กำ
พย์นั้นเองเป็นเหตุ บุคคลเช่ นว่ำนี้หำ
สำนักต้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องรับผิดใช้ค่ำสินไหมทดแทนไม่
กำ หำกว่
สำนัำควำมเสี ยหำยนั้นไม่เกินกสมควรแก่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ เหตุ สแต่
ำนัถก้ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ภยันตรำยนั้น กำ
เกิดขึ้นเพรำะควำมผิดของบุคคลนั้นเองแล้ว ท่ำนว่ำจำต้องรับผิดใช้ค่ำสินไหมทดแทนให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๕๑ บุคคลใช้กำลังเพื่อป้องกันสิทธิของตน ถ้ำตำมพฤติกำรณ์จะขอให้ศำล
สำนักหรื อเจ้ำหน้ำที่ช่วยเหลือกให้ำ ทันท่วงทีไม่สได้ำนัและถ้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำมิได้ทำในทันใด ภักยำมีอยู่ด้วยกำรทีสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ตนจะได้ สมดังสิทธิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
นั้นจะต้องประวิงไปมำกหรือถึงแก่สำบสูญได้ไซร้ ท่ำนว่ำบุคคลนั้นหำต้องรับผิดใช้ค่ำสินไหมทดแทนไม่
สกำรใช้ กำลังดังกล่ำวมำในวรรคก่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อนนั้น ท่ำสนว่
ำนัำกต้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องจำกัดครัดเคร่งแต่เฉพำะที
กำ ่จำเป็น
เพื่อจะบำบัดปัดป้องภยันตรำยเท่ำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถ้ำบุคกคลผู
ำ ้ใดกระทำกำรดั งกล่ำวมำในวรรคต้น กเพรำะหลงสั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นนิสษำนัฐำนพลำดไปว่ ำมี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เหตุอันจำเป็นที่จะทำได้โดยชอบด้วยกฎหมำยไซร้ ท่ำนว่ำผู้นั้นจะต้องรับผิดใช้ค่ำสินไหมทดแทนให้แก่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บุคคลอื่น แม้ทั้งกำรที่หลงพลำดไปนั้นจะมิใช่เป็นเพรำะควำมประมำทเลินเล่อของตน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๕๒ ผู้ครองอสังหำริมทรัพย์ชอบที่จะจับสัตว์ของผู้อื่นอันเข้ำมำทำควำม
เสียหำยในอสังหำริ สำนัมกทรังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พย์นั้น และยึดไว้เป็นกประกั
ำ นค่ำสินไหมทดแทนอั นจะพึงต้องใช้แกก่ำ ตนได้ และ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถ้ำเป็นกำรจำเป็นโดยพฤติกำรณ์แม้จะฆ่ำสัตว์นั้นเสียก็ชอบที่จะทำได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี แต่ว่ำผูก้นำ ั้นต้องบอกกล่สำนั
ำวแก่ เจ้ำของสัตว์โดยไม่ชักกช้ำำ ถ้ำและหำตัสวำนัเจ้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ของสัตว์ไม่พบ กำ
ผู้ที่จับสัตว์ไว้ต้องจัดกำรตำมสมควรเพื่อสืบหำตัวเจ้ำของ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


- ๘๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

พระรำชกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกให้ำ ใช้บทบัญญัตสิแำนัห่กงประมวลกฎหมำยแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีงและพำณิ
กำ ชย์ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บรรพ ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ที่ได้ตรวจชำระใหม่ส๗ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ก ำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมีำนัพกระบรมรำชโองกำร
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีในพระบำทสมเด็
กำ สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พระปรมิ น ทรมหำประชำธิ
กำ ปก
พระปกเกล้ำเจ้ำอยู่หัว ดำรัสเหนือเกล้ำฯ ให้ประกำศจงทรำบทั่วกันว่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จำเดิมแต่ได้ออกประกำศประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิ ชย์บรรพ ๓ แต่วันที่ ๑
มกรำคม พุทธศักสรำช
ำนัก๒๔๖๗ เป็นต้นมำ ได้มกีคำวำมเห็นแนะนสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำมำกหลำยเพื ่อยังประมวลกฎหมำยนี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ให้
สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
และเมื่ อ ได้ ต รวจพิ จ ำรณำโดยถ่ อ งแท้ แ ล้ ว เห็ น เป็ น กำรสมควรให้ ต รวจช ำระ
บทบัญญัติในบรรพ ๓ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชสย์ำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ที่กกล่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำวมำข้ำงต้นนั้นใหม่ กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จึ่ ง ทรงพระกรุ ณ ำโปรดเกล้ ำฯ สั่ งว่ ำ บทบั ญ ญั ติ เดิ ม ในบรรพ ๓ แห่ งประมวล
กฎหมำยแพ่งและพำณิ ชย์ ที่ได้ประกำศไว้แต่กำณ วันที่ ๑ มกรำคม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี พุทธศักรำช ๒๔๖๗กนัำ ้นให้ยกเลิก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เสียสิ้น และใช้บทบัญญัติที่ตรวจชำระใหม่ต่อท้ำยพระรำชกฤษฎีกำนี้แทน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้ใช้พระรำชกฤษฎีกำนี้ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษำยน พุทธศักรำช ๒๔๗๒ เป็นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ประกำศมำ ณ วันที่ ๑ มกรำคม พุทธศักรำช ๒๔๗๑ เป็นปีที่ ๔ ในรัชชกำลปัจจุบัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

รำชกิกจำจำนุเบกษำ เล่มสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๔๕/-/หน้ กำ
ำ ๑/๑ มกรำคม ๒๔๗๑ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๘๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

บรรพ ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ เอกเทศสัญญำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ซื้อขำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สภำพและหลักสำคัญของสัญญำซื้อขำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทเบ็ดเสร็จทั่วไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๔๕๓ อัน ว่ำซื้อขำยนั้น คือสั ญ ญำซึ่งบุ คคลฝ่ ำยหนึ่ง เรียกว่ำผู้ ขำย โอน
กรรมสิทธิ์แห่งทรัสพำนัย์สกินงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้แก่บุคคลอีกฝ่ำยหนึก่งำ เรียกว่ำผู้ซื้อสและผู ้ซื้อตกลงว่ำจะใช้รำคำทรั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พย์สินนั้น
ให้แก่ผู้ขำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๕๔ กำรที่คู่กรณีฝ่ำยหนึ่งให้คำมั่นไว้ก่อนว่ำจะซื้อหรือขำยนั้น จะมีผลเป็น
กำรซื้อขำยต่อเมื่อสำนั
อีกกฝ่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยหนึ่งได้บอกกล่ำวควำมจ กำ ำนงว่ำจะท ำกำรซื
สำนั ้อขำยนั้นให้สำเร็จตลอดไป
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ และ
คำบอกกล่ำวเช่นนั้นได้ไปถึงบุคคลผู้ให้คำมั่นแล้ว
ถ้ำในคำมั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่นมิได้กำหนดเวลำไว้ เพื่อกำรบอกกล่ำวเช่กำนนั้นไซร้ ท่ำนว่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำบุกคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คลผู้ให้คำมั่น กำ
จะกำหนดเวลำพอสมควร และบอกกล่ำวไปยังคู่กรณีอีกฝ่ำยหนึ่งให้ตอบมำเป็นแน่นอนภำยในเวลำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำหนดนั้ น ก็ได้ ว่ำจะท ำกำรซื้ อขำยให้ ส ำเร็จตลอดไปหรือ ไม่ ถ้ำและไม่ต อบเป็ น แน่ นอนภำยใน
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดเวลำนั้นไซร้ คำมัก่นำ ซึ่งได้ให้ไว้ก่อสนนั
ำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก็เป็นอันไร้ผล กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๔๕๕ เมื่อกล่ำวต่อกไปเบื


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้องหน้ำถึสงเวลำซื ้อขำย ท่ำนหมำยควำมว่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำเวลำซึ่ง
ทำสัญญำซื้อขำยสำเร็จบริบูรณ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๕๖ กำรซื้อขำยอสังหำริมทรัพย์ ถ้ำมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน

ต่อพนักงำนเจ้ำหน้ ำทีก่เงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ป็นโมฆะ วิธีนี้ให้ใช้ถึงกซืำ้อขำยเรือมีระวำงตั ้งแต่ห้ำตันขึ้นไป ทั้งซืก้อำขำยแพและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สัตว์พำหนะด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๔๕๖ แก้ ไขเพิ่ ม เติ มโดยพระรำชบั ญ ญั ติแ ก้ไขเพิ่ มเติ ม ประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ.ก๒๕๔๘
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๘๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สัญญำจะขำยหรือจะซื้อ หรือคำมั่นในกำรซื้อขำยทรัพย์สินตำมที่ระบุไว้ในวรรคหนึ่ง
สำนักถ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำมิได้มีหลักฐำนเป็นหนั
กำงสืออย่ำงหนึส่งำนั
อย่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งใดลงลำยมือชื่อฝ่ำยผูกำ้ต้องรับผิดเป็นสำนั
สำคั ญ หรือได้วำง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประจำไว้ หรือได้ชำระหนี้บำงส่วนแล้ว จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหำได้ไม่
สบทบั ญญัติที่กล่ำวมำในวรรคก่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อนนี้ ให้ใช้บสังำนั
คับกถึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งสัญญำซื้อขำยสังหำริกมำทรัพย์ซึ่งตก
ลงกันเป็นรำคำสองหมื่นบำท หรือกว่ำนั้นขึ้นไปด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๔๕๗ ค่ำฤชำธรรมเนี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำยมทำสัญญำซื ้อขำยนั
สำนั ้น ผู้ซื้อผู้ขำยพึงออกใช้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เท่ำกันทั้ง
สองฝ่ำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๒
กำรโอนกรรมสิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ทธิส์ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๕๘ กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ขำยนั้น ย่อมโอนไปยังผู้ซื้อตั้งแต่ขณะเมื่อได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทำสัญญำซื้อขำยกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๕๙ ถ้ำสัญญำซื้อขำยมีเงื่อนไข หรือเงื่อนเวลำบังคับไว้ ท่ำนว่ำกรรมสิทธิ์
ในทรัพย์สินยังไม่โสอนไปจนกว่ ำกำรจะได้เป็นไปตำมเงื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่อนไขหรืสำนั
อถึกงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำหนดเงื่อนเวลำนั้น กำ

มำตรำกำ ๔๖๐ ในกำรซื


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก้ องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ขำยทรัพ ย์ สิ น ซึ่ งมิ ได้กกำำหนดลงไว้ แสน่ำนันกอนนั ้ น ท่ ำ นว่ ำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กรรมสิทธิ์ยังไม่โอนไปจนกว่ำจะได้หมำย หรือนับ ชั่ง ตวง วัด หรือคัดเลือก หรือทำโดยวิธีอื่นเพื่อให้
บ่งตัวทรัพย์สินนั้นสออกเป็ นแน่นอนแล้ว
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกำรซื้อขำยทรัพย์ สินเฉพำะสิ่ง ถ้ ำผู้ ขำยยังจะต้องนับ ชั่ง ตวง วัด หรือทำกำร
สำนักอย่ ำงอื่น หรือทำสิ่งหนึ่งกสิำ ่งใดอันเกี่ยวแก่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัทกรังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พย์สินเพื่อให้รู้กำหนดรำคำทรั
กำ พย์สินสนัำนั
้นแน่ นอน ท่ำนว่ำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กรรมสิทธิ์ยังไม่โอนไปยังผู้ซื้อจนกว่ำกำรหรือสิ่งนั้นได้ทำแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หน้ำที่และควำมรับผิดของผู้ขำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรส่งมอบ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๔๖๑ ผู้ขำยจสำต้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งส่งมอบทรัพย์สินซึ่งขำยนั
กำ ้นให้แก่ผู้ซื้อสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๖๒ กำรส่ ง มอบนั้ น จะท ำอย่ ำ งหนึ่ ง อย่ ำ งใดก็ ได้ สุ ด แต่ ว่ ำ เป็ น ผลให้
สำนักทรั พย์สินนั้นไปอยู่ในเงื้อกมมื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อของผู้ซื้อ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๘๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๔๖๓ ถ้ำในสัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญญำก ำหนดว่ำให้ส่งทรัพย์กสำ ินซึ่งขำยนั้นจำกที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่แห่งหนึ่ งไปถึง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อีกแห่งหนึ่งไซร้ ท่ำนว่ำกำรส่งมอบย่อมสำเร็จเมื่อได้ส่งมอบทรัพย์สินนั้นให้แก่ผู้ขนส่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๖๔ ค่ำขนส่งทรัพย์สินซึ่งได้ซื้อขำยกันไปยังที่แห่งอื่นนอกจำกสถำนที่อัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พึงชำระหนี้นั้น ผู้ซื้อพึงออกใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๖๕ ในกำรซื้อขำยสังหำริมทรัพย์นั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๑) หำกว่
กำ ำผู้ขำยส่งมอบทรั พย์สินน้อยกว่ำที่ได้สัญกำญำไว้ ท่ำนว่ำสผูำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ซื้อกจะปั ดเสียไม่รับ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เอำเลยก็ได้ แต่ถ้ำผู้ซื้อรับเอำทรัพย์สินนั้นไว้ ผู้ซื้อก็ต้องใช้รำคำตำมส่วน
ส(๒)
ำนักหำกว่ ำผู้ ข ำยส่ งมอบทรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำพ ย์ สิ น มำกกว่ ำทีก่ งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ได้ สั ญ ญำไว้ ท่ ำ นว่ำ ผูก้ ซำื้ อ จะรับ เอำ
ทรัพย์สินนั้นไว้แต่เพียงตำมสัญญำและนอกกว่ำนั้นปัดเสียก็ได้ หรือจะปัดเสียทั้งหมดไม่รับเอำไว้เลยก็
สำนักได้ ถ้ำผู้ซื้อรับเอำทรัพย์สกินำ อันเขำส่งมอบเช่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้นไว้ทั้งหมด ผู้ซื้อก็ต้อกงใช้
ำ รำคำตำมส่สวำนั น กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) หำกว่ำผู้ขำยส่งมอบทรัพย์สินตำมที่ได้สัญญำไว้ระคนกับทรัพย์สินอย่ำงอื่นอัน
มิได้รวมอยู่ในข้อสัญญำไซร้ ท่ำนว่ำผู้ซื้อจะรับเอำทรัพย์สินไว้สแำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ต่ตกำมสังำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ญญำ และนอกกว่ำนั้นปัดเสียก็ได้
สำนักหรื อจะปัดเสียทั้งหมดก็ไกด้ำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๔๖๖ ในกำรซื้อขำยอสั


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งหำริมทรัพย์สนำนัั้นกหำกว่ ำได้ระบุจำนวนเนืก้อำที่ทั้งหมดไว้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
และผู้ขำยส่งมอบทรัพย์สินน้อยหรือมำกไปกว่ำที่ได้สัญญำไซร้ ท่ำนว่ำผู้ซื้อจะปัดเสี ย หรือจะรับเอำไว้
สำนักและใช้ รำคำตำมส่วนก็ได้กำตำมแต่จะเลือสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ก กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่ง ถ้ำขำดตกบกพร่องหรือล้ำจำนวนไม่เกินกว่ำร้อยละห้ำแห่งเนื้อที่ทั้งหมดอันได้
ระบุไว้นั้นไซร้ ท่ำสนว่
ำนัำกผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ซื้อจำต้องรับเอำและใช้กรำ ำคำตำมส่วนสแต่
ำนักวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ำผู้ซื้ออำจจะเลิกสัญญำเสี
กำ ยได้ในเมื่อ
ขำดตกบกพร่องหรือล้ำจำนวนถึงขนำดซึ่งหำกผู้ซื้อได้ทรำบก่อนแล้วคงจะมิได้เข้ำทำสัญญำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๖๗ ในข้อรับผิดเพื่อกำรที่ทรัพย์ขำดตกบกพร่องหรือล้ำจำนวนนั้น ท่ำน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ห้ำมมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนดปีหนึ่งนับแต่เวลำส่งมอบ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๖๘ ถ้ำในสัญญำไม่มีกำหนดเงื่อนเวลำให้ใช้รำคำไซร้ ผู้ขำยชอบที่ จะยึด
หน่วงทรัพย์สินที่ขสำยไว้ ได้จนกว่ำจะใช้รำคำ กำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๔๖๙ ถ้ำผู้ซื้อสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ล้มกละลำยก่ อนส่งมอบทรัพกย์ำสินก็ดี หรือผู้ซสื้อำนัเป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี คนล้มละลำย กำ
แล้วในเวลำซื้อขำยโดยผู้ขำยไม่รู้ก็ดี หรือผู้ซื้อกระทำให้หลักทรัพย์ที่ให้ไว้เพื่อประกันกำรใช้เงินนั้น
เสื่อมเสียหรือลดน้สอำนัยลงก็ ดี ถึงแม้ในสัญญำจะมี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำกำหนดเงื่อนเวลำให้ ใช้รำคำ ผู้ขำยก็ชอบที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่จะยึดหน่วง
ทรัพย์สินซึ่งขำยไว้ได้ เว้นแต่ผู้ซื้อจะหำประกันที่สมควรให้ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๗๐ ถ้ำผู้ซื้อผิดนัด ผู้ขำยซึ่งได้ยสึดำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หน่กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งทรัพย์สินไว้ตำมมำตรำทั
กำ
้งหลำยที่
กล่ำวมำ อำจจะใช้ทำงแก้ต่อไปนี้แทนทำงแก้สำมัญในกำรไม่ชำระหนี้ได้ คือมีจดหมำยบอกกล่ำวไปยัง
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ซื้อให้ใช้รำคำกับทั้งค่ำจักบำจ่ำยเกี่ยวกับกำรภำยในเวลำอั นควรซึ่งต้องกกำำหนดลงไว้ในคสำบอกกล่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำวนั้นด้วย
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๘๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ถ้ ำ ผู้ ซื้ อ ละเลยเสี ย ไม่ ท ำตำมค ำบอกกล่ ำ ว ผู้ ข ำยอำจน ำทรั พ ย์ สิ น นั้ น ออกขำย
สำนักทอดตลำดได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๔๗๑ เมื่อ ขำยทอดตลำดได้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เงินสเป็ำนันกจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนวนสุ ท ธิเท่ ำใด ให้กผำู้ ขำยหั กเอำ
จำนวนที่ค้ำงชำระแก่ตนเพื่อรำคำและค่ำจับจ่ำยเกี่ยวกำรนั้นไว้ ถ้ำและยังมีเงินเหลือ ก็ให้ส่งมอบแก่ผู้ซื้อ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
โดยพลัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ควำมรั
สำนักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผิดเพื่อชำรุดบกพร่อง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๗๒ ในกรณีที่ทรัพย์สินซึ่งขำยนั้นชำรุดบกพร่องอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดอันเป็น
สำนักเหตุ ให้เสื่อมรำคำหรือเสืก่อำ มควำมเหมำะสมแก่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ประโยชน์อันมุ่งจะใช้กำเป็นปกติก็ดี ประโยชน์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ที่มุ่งหมำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
โดยสัญญำก็ดี ท่ำนว่ำผู้ขำยต้องรับผิด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมที่ กล่ ำวมำในมำตรำนี้ ย่อมใช้ได้ ทั้ งสทีำนั่ผกู้ ขงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยรู้อยู่แล้ ว หรือไม่ รู้วก่ำำควำมช ำรุด
สำนักบกพร่ องมีอยู่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๔๗๓ ผู้ขำยย่อมไม่กตำ้องรับผิดในกรณี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัดกังงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จะกล่ำวต่อไปนี้ คือ กำ
(๑) ถ้ำผู้ ซื้อได้รู้อยู่แล้วแต่ในเวลำซื้อขำยว่ำมีควำมชำรุดบกพร่องหรือควรจะได้รู้
สำนักเช่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นนั้นหำกได้ใช้ควำมระมักำ ดระวังอันจะพึ สำนังคำดหมำยได้ แต่วิญญูชนกำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ถ้ำควำมชำรุดบกพร่องนั้นเป็นอันเห็นประจักษ์แล้วในเวลำส่งมอบ และผู้ซื้อรับ
เอำทรัพย์สินนั้นไว้สโำนัดยมิ ได้อิดเอื้อน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ถ้ำทรัพย์สินนั้นได้ขำยทอดตลำด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๗๔ ในข้อรับผิดเพื่อชำรุดบกพร่องนั้น ท่ำนห้ำมมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นเวลำปี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หนึ่งนับแต่เวลำที่ได้พบเห็นควำมชำรุดบกพร่อง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๓
ควำมรับกผิำดในกำรรอนสิสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ทธิกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๔๗๕ หำกว่ำมีบุคคลผู้ใดมำก่อกำรรบกวนขัดสิทธิของผู้ซื้อในอันจะครอง
ทรัพย์สินโดยปกติสำนั
สุขกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เพรำะบุคคลผู้นั้นมีสิทกธิำเหนือทรัพย์สสินำนัที่ไกด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ซื้อขำยกันนั้นอยู่ในเวลำซื
กำ ้อขำยก็ดี
เพรำะควำมผิดของผู้ขำยก็ดี ท่ำนว่ำผู้ขำยจะต้องรับผิดในผลอันนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๗๖ ถ้ำสิทธิของผู้ก่อกำรรบกวนนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
้นผู้ซื้ อรู้อยู่แล้วในเวลำซื้อขำย ท่ำนว่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้ขำยไม่ต้องรับผิด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๘๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๔๗๗ เมื่ อ ใดกำรรบกวนขั ด สิ ท ธิ นั้ น เกิ ด เป็ น คดี ขึ้ น ระหว่ ำ งผู้ ซื้ อ กั บ
สำนักบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คคลภำยนอก ผู้ซื้อชอบทีกำ ่จะขอให้ศำลเรี
สำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กผู้ขำยเข้ำเป็นจำเลยร่กวำมหรือเป็นโจทก์
สำนัร่วกมกั บผู้ซื้อในคดี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
นั้นได้ เพื่อศำลจะได้วินิจฉัยชี้ขำดข้อพิพำทระหว่ำงผู้เป็นคู่กรณีทั้งหลำยรวมไปเป็นคดีเดียวกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๗๘ ถ้ ำผู้ ขำยเห็ น เป็ น กำรสมควร จะสอดเข้ำไปในคดีเพื่ อปฏิ เสธกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เรียกร้องของบุคคลภำยนอก ก็ชอบที่จะทำได้ด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๗๙ ถ้ำทรัพย์สิ นซึ่งซื้อขำยกันหลุดไปจำกผู้ ซื้อทั้งหมดหรือแต่บำงส่ วน
สำนักเพรำะเหตุ กำรรอนสิทธิกกำ็ดี หรือว่ำทรัพสย์ำนัสินกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นั้นตกอยู่ในบังคับแห่งสิกทำ ธิอย่ำงหนึ่งอย่สำนั
ำงใดซึ ่งเป็นเหตุให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เสื่อมรำคำ หรือเสื่อมควำมเหมำะสมแก่กำรที่จะใช้ หรือเสื่อมควำมสะดวกในกำรใช้สอย หรือเสื่อม
ประโยชน์อันจะพึสงำนั
ได้กแงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต่ทรัพย์สินนั้น และซึ่งผูก้ซำ ื้อหำได้รู้ในเวลำซื
สำนัก้องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ขำยไม่ก็ดี ท่ำนว่ำผู้ขำยต้
กำ องรับผิด

มำตรำกำ๔๘๐ ถ้ำอสัสงำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หำริกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มทรัพย์ต้องศำลแสดงว่กำำตกอยู่ในบังคัสบำนัแห่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งภำระจำยอม กำ
โดยกฎหมำยไซร้ ท่ำนว่ำผู้ขำยไม่ต้องรับผิด เว้นไว้แต่ผู้ขำยจะได้รับรองไว้ในสัญญำว่ำทรัพย์สินนั้น
ปลอดจำกภำระจสำยอมอย่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำงใด ๆ ทั้งสิ้น หรือปลอดจำกภำระจ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำยอมอันนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๘๑ ถ้ำผู้ขำยไม่ได้เป็นคู่ควำมในคดีเดิม หรือถ้ำผู้ซื้อได้ประนีประนอมยอม
ควำมกับบุคคลภำยนอก หรือยอมตำมที่บุคคลภำยนอกเรี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยกร้ องไซร้
สำนั ท่ำนห้ำมมิให้ฟ้องคดี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำในข้อรับผิด
เพื่ อกำรรอนสิ ทธิเมื่ อพ้ น กำหนดสำมเดือนนับ แต่วัน คำพิ พ ำกษำในคดีเดิม ถึงที่ สุ ด หรือนั บแต่วัน
สำนักประนี ประนอมยอมควำมกำ หรือวันที่ยอมตำมบุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี คคลภำยนอกเรียกร้อกงนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๔๘๒ ผู้ขำยไม่ต้องรักบำ ผิดในกำรรอนสิ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัทกธิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เมื่อกรณีเป็นดังกล่ำวต่กอำไปนี้ คือ
(๑) ถ้ำไม่มีกำรฟ้องคดี และผู้ขำยพิสูจน์ได้ว่ำสิทธิของผู้ซื้อได้สูญไปโดยควำมผิดของ
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ซื้อเอง หรือ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ถ้ำผู้ซื้อไม่ได้เรียกผู้ ขำยเข้ำมำในคดี และผู้ขำยพิสูจน์ได้ว่ำ ถ้ำได้เรียกเข้ำมำคดี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ฝ่ำยผู้ซื้อจะชนะ หรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี(๓) ถ้ำกผูำ ้ขำยได้เข้ำมำในคดี แต่ศำลได้ยกคำเรียกร้กอำ งของผู้ซื้อเสียสเพรำะควำมผิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดของ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้ซื้อเอง
สแต่
ำนัถกึงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กรณีจะเป็นอย่ำงไรก็ดกำี ถ้ำผู้ขำยถูกศำลหมำยเรี ยกให้เข้ำมำในคดีกำและไม่ยอม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เข้ำว่ำคดีร่วมเป็นจำเลยหรือร่วมเป็นโจทก์กับผู้ซื้อไซร้ ท่ำนว่ำผู้ขำยคงต้องรับผิด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๔
ข้อสัญญำว่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำจะไม่ต้องรัสบำนั
ผิดกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๘๓ คู่สัญญำซื้อขำยจะตกลงกันสว่ำนัำผูกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
้ขำยจะไม่ต้องรับผิดเพืก่อำควำมชำรุด
บกพร่องหรือเพื่อกำรรอนสิทธิก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๘๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๔๘๔ ข้อสัญญำว่ำจะไม่ต้องรับผิดนั้น ย่อมไม่คุ้มผู้ขำยให้พ้นจำกกำรต้องส่ง


สำนักเงิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นคืนตำมรำคำ เว้นแต่กจำะได้ระบุไว้เป็สนำนั
อย่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งอื่น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๔๘๕ ข้อสัญญำว่ำจะไม่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ต้องรับผิดสนัำนั
้นกไม่ อำจคุ้มควำมรับผิดของผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ขำยในผล
ของกำรอันผู้ขำยได้กระทำไปเอง หรือผลแห่งข้อควำมจริงอันผู้ขำยได้รู้อยู่แล้วและปกปิดเสีย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำหมวด ๓ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หน้ำที่ของผู้ซื้อ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๔๘๖ ผู้ซื้อจำต้องรักบำมอบทรัพย์สินสำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ที่ตกนได้ รับซื้อและใช้รำคำตำมข้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อสัญญำ
ซื้อขำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๘๗ อัน รำคำทรัพ ย์สิ นที่ขำยนั้นจะกำหนดลงไว้ในสั ญ ญำก็ได้ หรือจะ
ปล่อยไปให้กำหนดกันด้วยวิธีอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งดังได้ตกลงกัสนำนัไว้กใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กำ
นสัญญำนั้นก็ได้ หรื อจะถื อเอำตำม
สำนักทำงกำรที ่คู่สัญญำประพฤติ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ต่อกันอยู่นั้นสก็ำนัได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำรำคำมิได้มีกำหนดเด็ดขำดอย่ำงใดดังว่ำมำนั้นไซร้ ท่ำนว่ำผู้ซื้อจะต้องใช้รำคำตำม
สมควร สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำก๔๘๘
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ถ้ำผู้ซื้อสพบเห็ นควำมชำรุดบกพร่อกงในทรั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ พย์สินซึส่งำนัตนได้ รับซื้อ ผู้ซื้อ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ชอบที่ จ ะยึ ดหน่ วงรำคำที่ ยั งไม่ได้ช ำระไว้ได้ทั้งหมดหรือแต่บำงส่ ว น เว้น แต่ผู้ ขำยจะหำประกัน ที่
สมควรให้ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๔๘๙ ถ้ำผู้ซื้อสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถูกกผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้รับจำนองหรือบุคคลผูก้เรีำยกร้องเอำทรัสพำนัย์สกินงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ที่ขำยนั้นขู่ว่ำ กำ
จะฟ้องเป็ น คดีขึ้น ก็ดี หรื อมีเหตุอัน ควรเชื่อว่ำจะถูกขู่เช่นนั้นก็ดี ผู้ซื้อก็ช อบที่จะยึดหน่วงรำคำไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทั้งหมดหรือบำงส่วนได้ดุจกัน จนกว่ำผู้ขำยจะได้บำบัดภัยอันนั้นให้สิ้นไป หรือจนกว่ำผู้ขำยจะหำ
สำนักประกั นที่สมควรให้ได้ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๔๙๐ ถ้ำได้กำหนดกั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นไว้ว่ำให้ส่งสมอบทรั พย์สินซึ่งขำยนั้นเวลำใด
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ท่ำนให้
สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำเวลำอันเดียวกันนั้นเองเป็นเวลำกำหนดใช้รำคำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๔
กำรซือ้ ขำยเฉพำะบำงอย่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำงกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนั

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๑ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ขำยฝำก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๘๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๔๙๑ อันว่ำสขำยฝำกนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้น คือสัญญำซื้อขำยซึ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งกรรมสิทธิ์ใสนทรั พย์สินตกไปยัง
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้ซื้อ โดยมีข้อตกลงกันว่ำผู้ขำยอำจไถ่ทรัพย์นั้นคืนได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๙๒ ๙ ในกรณีที่มีกำรไถ่ทรัพย์สินซึ่งขำยฝำกภำยในเวลำที่กำหนดไว้ใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สัญญำหรือภำยในเวลำที่กฎหมำยกำหนด หรือผู้ไถ่ได้วำงทรัพย์อันเป็นสินไถ่ต่อสำนักงำนวำงทรัพย์
ภำยในกำหนดเวลำไถ่ สำนักโงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดยสละสิทธิถอนทรัพย์กทำี่ได้วำงไว้ ให้ทสรัำนัพกย์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สินซึ่งขำยฝำกตกเป็นกรรมสิ
กำ ทธิ์ของ
ผู้ไถ่ตั้งแต่เวลำที่ผู้ไถ่ได้ชำระสินไถ่หรือวำงทรัพย์อันเป็นสินไถ่ แล้วแต่กรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณีกำที่ได้วำงทรัพย์สำนั
ตำมวรรคหนึ ่ง ให้เจ้ำพนักกงำนของส
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำนักงำนวำงทรั พย์แจ้งให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้รับไถ่ทรำบถึงกำรวำงทรัพย์โดยพลัน โดยผู้ไถ่ไม่ต้องปฏิบัติตำมมำตรำ ๓๓๓ วรรคสำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๙๓ ในกำรขำยฝำก คู่สัญญำจะตกลงกันไม่ให้ผู้ซื้อจำหน่ำยทรัพย์สินซึ่งขำย
สำนักฝำกก็ ได้ ถ้ำและผู้ซื้อจำหน่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำยทรัพย์สินสนัำนั้นกฝ่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำฝืนสัญญำไซร้ ก็ต้องรักบำผิดต่อผู้ขำยในควำมเสี ยหำยใด ๆ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อันเกิดแต่กำรนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๔๙๔ ท่ำนห้สำำนัมมิกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ให้ใช้สิทธิไถ่ทรัพย์สินซึก่ำงขำยฝำกเมื่อสพ้ำนั
นเวลำดั งจะกล่ำว
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ต่อไปนี้
ส(๑)
ำนักถ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเป็นอสังหำริมทรัพย์ กกำำหนดสิบปีนับสำนั
แต่กเวลำซื ้อขำย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๒) ถ้ำเป็นสังหำริมทรัพย์ กำหนดสำมปีนับแต่เวลำซื้อขำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๙๕ ถ้ำในสัญญำมีกำหนดเวลำไถ่เกินไปกว่ำนั้น ท่ำนให้ลดลงมำเป็นสิบปี
และสำมปีตำมประเภททรั พย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๔๙๖ ๑๐ กำหนดเวลำไถ่


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นั้น อำจทำสักญำญำขยำยกำหนดเวลำไถ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ไ ด้ แต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กำหนดเวลำไถ่รวมกันทั้งหมด ถ้ำเกินกำหนดเวลำตำมมำตรำ ๔๙๔ ให้ลดลงมำเป็นกำหนดเวลำตำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๙๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรขยำยก กำ ำหนดเวลำไถ่ ตำมวรรคหนึ่ งอย่ำงน้กอำ ยต้อ งมี ห ลั กสฐำนเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี น หนั งสื อลง
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ลำยมือชื่อผู้รับไถ่ ถ้ำเป็นทรัพย์สินซึ่งกำรซื้อขำยกันจะต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงำน
เจ้ำหน้ำที่ ห้ำมมิสให้ำนัยกกกำรขยำยเวลำขึ ้นเป็นกข้ำอต่อสู้บุคคลภำยนอกผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ได้สิทธิมำโดยเสี ยกค่ำ ำตอบแทน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
และโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้ว เว้นแต่จะได้นำหนังสือหรือหลักฐำนเป็นหนังสือ
สำนักดังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งกล่ำวไปจดทะเบียนหรื กำอจดแจ้งต่อพนั กงำนเจ้
สำนั ำหน้ำที่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๔๙๗ สิทธิในกำรไถ่กทำรัพย์สินนั้น จะพึ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงใช้ ได้แต่บุคคลเหล่ำนี้ คืกอำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
(๑) ผู้ขำยเดิม หรือทำยำทของผู้ขำยเดิม หรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๔๙๒ แก้ ไขเพิ่ ม เติ มโดยพระรำชบั ญ ญั ติแ ก้ไขเพิ่ มเติ ม ประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๔๑
๑๐
มำตรำ ๔๙๖ แก้ไขเพิ่ มเติม โดยพระรำชบัญ ญั ติแก้ไขเพิ่ มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ.ก๒๕๔๑
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๘๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๒) ผู้รับโอนสิทธินั้น หรือ


(๓) บุกคำคลซึ่งในสัญญำยอมไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี โดยเฉพำะว่ำให้เป็นกผูำ้ไถ่ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๔๙๘ สิทธิในกำรไถ่กทำรัพย์สินนั้น จะพึ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงใช้ ได้เฉพำะต่อบุคคลเหล่กำำนี้ คือ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
(๑) ผู้ซื้อเดิม หรือทำยำทของผู้ซื้อเดิม หรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ผู้ รั บ โอนทรั พ ย์ สิ น หรื อ รั บ โอนสิ ท ธิ เหนื อ ทรั พ ย์ สิ น นั้ น แต่ ในข้ อ นี้ ถ้ ำ เป็ น
สังหำริมทรัพย์จะใช้
สำนัสกิทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ธิได้ต่อเมื่อผู้รับโอนได้รกู้ใำนเวลำโอน ว่ำสทรั
ำนักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์สินตกอยู่ในบังคับแห่กงสิำ ทธิไถ่คืน

มำตรำกำ๔๙๙ สินไถ่นสั้นำนัถ้กำไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ได้กำหนดกันไว้ว่ำเท่ำกใดไซร้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ท่ำนให้ไถ่สตำนัำมรำคำที ่ขำยฝำก
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ถ้ำปรำกฏในเวลำไถ่ว่ำสินไถ่ห รือรำคำขำยฝำกที่กำหนดไว้สูงกว่ำรำคำขำยฝำกที่
แท้จริงเกินอัตรำร้สอำนัยละสิ บห้ำต่อปี ให้ไถ่ได้ตำมรำคำขำยฝำกที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนั่แกท้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จริงรวมประโยชน์ตอบแทนร้
กำ อยละ
สิบห้ำต่อปี๑๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๐๐ ค่ำฤชำธรรมเนียมกำรขำยฝำกซึ่งผู้ซื้อได้ออกไปนั้น ผู้ไถ่ต้องใช้ให้แก่ผู้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ซื้อพร้อมกับสินไถ่
ส่วนค่กำำฤชำธรรมเนียสมกำรไถ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ทรัพย์นั้น ผู้ไถ่พึงออกใช้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๕๐๑ ทรัพย์สินซึ่งกไถ่ำ นั้น ท่ำนว่ำสต้ำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องส่ งคืนตำมสภำพที่เป็นกอยูำ ่ในเวลำไถ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แต่ถ้ำ หำกว่ำทรัพย์สินนั้นถูกทำลำยหรือทำให้เสื่อมเสียไปเพรำะควำมผิดของผู้ซื้อไซร้ ท่ำนว่ำผู้ซื้อ
สำนักจะต้ องใช้ค่ำสินไหมทดแทน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๕๐๒ ทรัพย์สินซึ่งกไถ่ำ นั้น ท่ำนว่ำบุสำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี คคลผู ้ไถ่ย่อมได้รับคืนไปโดยปลอดจำก
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สิทธิใด ๆ ซึ่งผู้ซื้อเดิม หรือทำยำท หรือผู้รับโอนจำกผู้ซื้อเดิมก่อให้เกิดขึ้นก่อนเวลำไถ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถ้ ำ ว่ ำกเช่ำ ำ ทรั พ ย์ สิ น ทีสำนั
่ อ ยูก่ ใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นระหว่ ำ งขำยฝำกอักนำได้ จ ดทะเบี ยสนเช่ ำ ต่ อ พนั ก งำน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เจ้ำหน้ำที่แล้วไซร้ ท่ำนว่ำกำรเช่ำนั้นหำกมิได้ทำขึ้นเพื่อจะให้เสียหำยแก่ผู้ขำย กำหนดเวลำเช่ำยังคงมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เหลืออยู่อีกเพียงใด ก็ให้คงเป็นอันสมบูรณ์อยู่เพียงนั้น แต่มิให้เกินกว่ำปีหนึ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๒
ขำยตำมตัวอย่ำง ขำยตำมค
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำพรรณนำ
สำนักขำยเผื ่อชอบ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๕๐๓ ในกำรขำยตำมตัวอย่ำงนั้น ผู้ขำยจำต้องส่งมอบทรัพย์สินให้ตรงตำม
ตัวอย่ำง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกำรขำยตำมคำพรรณนำ ผู้ขำยจำต้องส่งมอบทรัพย์สินให้ตรงตำมคำพรรณนำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๐๔ ในข้อรับผิดเพื่อกำรส่งของไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตรงตำมตัวอย่ำง หรือไม่ตรงตำมคำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๑
มำตรำ ๔๙๙ วรรคสอง เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ.ก๒๕๔๑
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๙๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

พรรณนำนั้น ท่ำนห้ำมมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนดปีหนึ่งนับแต่เวลำส่งมอบ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๐๕ อันว่ำขำยเผื่อชอบนั้น คือกำรซื้ อขำยกันโดยมีเงื่อนไขว่ำให้ผู้ซื้อได้มี
โอกำสตรวจดูทรัพสำนั
ย์สกินงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก่อนรับซื้อ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๕๐๖ กำรตรวจดู ท รั พ ย์ สิ น นั้ น ถ้ ำ ไม่ ได้ ก ำหนดเวลำกั น ไว้ ผู้ ข ำยอำจ
กำหนดเวลำอันสมควร และบอกกล่ำวแก่ผู้ซื้อกให้ำ ตอบภำยในกสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำหนดนั ้นได้ว่ำจะรับซื้อหรือกไม่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ

มำตรำก๕๐๗
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ทรัพย์สสำนั
ิ นอักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้ซื้อจะพึ งตรวจดูก่อกนที
ำ ่ จะส่ งมอบแก่
สำนักันกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้น ถ้ำผู้ซื้อไม่ กำ
ตรวจรับภำยในเวลำที่กำหนดไว้โดยสัญญำ หรือโดยประเพณี หรือโดยคำบอกกล่ำวของผู้ขำยท่ำนว่ำ
ผู้ขำยย่อมไม่มีควำมผู
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พันต่อไป กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๕๐๘ เมื่อทรัสพำนัย์กสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ินนั้นได้ส่งมอบแก่ผู้ซื้อกเพืำ ่อให้ตรวจดูแสล้ำนัว กกำรซื ้อขำยย่อม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เป็นอันบริบูรณ์ในกรณีต่อไปนี้ คือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ถ้ำผู้ซื้อมิได้บอกกล่ำวว่ำไม่ยอมรับซื้อสภำยในเวลำที
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
่กำหนดไว้โดยสัญญำ หรือ
สำนักโดยประเพณี หรือโดยคกำบอกกล่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำว หรืสอำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ถ้ำผู้ซื้อไม่ส่งทรัพย์สินคืนภำยในกำหนดเวลำดังกล่ำวมำนั้น หรือ
ส(๓)
ำนักถ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำผู้ซื้อใช้รำคำทรัพย์สินกนัำ ้นสิ้นเชิง หรือสแต่
ำนักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำงส่วน หรือ กำ
(๔) ถ้ำผู้ซื้อจำหน่ำยทรัพย์สินนั้น หรือทำประกำรอื่นอย่ำงใดอันเป็นปริยำยว่ำรับซื้อ
สำนักของนั ้น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำส่วนที่ ๓ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ขำยทอดตลำด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๐๙ กำรขำยทอดตลำดย่อมบริบูรณ์ เมื่อผู้ทอดตลำดแสดงควำมตกลงด้วย
สำนักเคำะไม้ หรือด้วยกิริยำอืก่นำ อย่ำงใดอย่ำสงหนึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตำมจำรีตประเพณีในกำรขำยทอดตลำด
กำ สำนักถ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยังมิได้แสดง กำ
เช่นนั้นอยู่ตรำบใด ท่ำนว่ำผู้สู้รำคำจะถอนคำสู้รำคำของตนเสียก็ยังถอนได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๑๐ ผู้ซื้อในกำรขำยทอดตลำดจะต้องทำตำมคำโฆษณำบอกขำย และตำม
สำนักควำมข้ ออื่น ๆ ซึ่งผู้ทอดตลำดได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ แถลงก่สอำนันประเดิ มกำรสู้รำคำทรัพย์กสำ ินเฉพำะรำยไป
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๕๑๑ ท่ำนห้ำมมิให้ผกู้ทำ อดตลำดเข้ำสสูำนั้รำคำ


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หรือใช้ให้ผู้หนึ่งผู้ใดเข้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำสู้รำคำใน
กำรทอดตลำดซึ่งตนเป็นผู้อำนวยกำรเอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๑๒ ท่ำนห้ำมมิให้ผู้ขำยเข้ำสู้รำคำเอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หรือใช้ให้ผู้หนึ่งผู้ใดเข้ำสู้รำคำ เว้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แต่จะได้แถลงไว้โดยเฉพำะในคำโฆษณำบอกกำรทอดตลำดนั้น ว่ำผู้ขำยถือสิทธิที่จะเข้ำสู้รำคำด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๙๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๕๑๓ เมื่ อใดผู้ ท อดตลำดเห็ น ว่ำรำคำซึ่ งมี ผู้ สู้ สู งสุ ดนั้ น ยั งไม่ เพี ย งพอ ผู้
สำนักทอดตลำดอำจถอนทรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีพกย์ำสินจำกกำรทอดตลำดได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๕๑๔ ผู้สู้รำคำย่อมพ้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำนควำมผูกพันสในรำคำซึ ่งตนสู้แต่ขณะเมื่อกมีำผู้อื่นสู้รำคำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สู งขึ้ น ไป ไม่ ว่ำกำรที่ ผู้ อื่ น สู้ นั้ น จะสมบู รณ์ ห รือ มิ ส มบู รณ์ ป ระกำรใด อี ก ประกำรหนึ่ งเมื่ อ ใดถอน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทรัพย์สินรำยนั้นจำกกำรทอดตลำด ผู้สู้รำคำก็พ้นควำมผูกพันแต่ขณะที่ถอนนั้นดุจกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๑๕ ผู้สู้รำคำสูงสุดต้องใช้รำคำเป็นเงินสด เมื่อกำรซื้อขำยบริบูรณ์ หรือ
สำนักตำมเวลำที ่กำหนดไว้ในคกำำโฆษณำบอกขำย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๕๑๖ ถ้ำผู้สู้รำคำสูกำงสุ ดละเลยเสีสยำนัไม่กใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ช้รำคำไซร้ ท่ำนให้ ผู้ทกอดตลำดเอำ

ทรัพย์สินนั้นออกขำยอีกซ้ำหนึ่ง ถ้ำและได้เงินเป็นจำนวนสุทธิไม่คุ้มรำคำและค่ำขำยทอดตลำดชั้นเดิม
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้สู้รำคำเดิมคนนั้นต้องรักบำผิดในส่วนที่ขสำด
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๑๗ ถ้ำเงินรำยได้ในกำรทอดตลำดส่ วนหนึ่งส่วนใดค้ำงชำระอยู่ เพรำะเหตุ
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ทอดตลำดละเลยไม่บังกคัำบตำมบทในมำตรำ ๕๑๕ หรือมำตรำ ๕๑๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ไซร้ ท่ำนว่ำสผูำนั้ทกอดตลำดจะต้ อง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
รับผิด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ แลกเปลี่ยน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๑๘ อั น ว่ำแลกเปลี่ ยนนั้ น คื อสั ญ ญำซึ่งคู่ก รณี ต่ ำงโอนกรรมสิ ท ธิ์แห่ ง
สำนักทรั พย์สินให้กันและกัน กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๑๙ บทบัญญัติทั้งหลำยในลักษณะซื้อขำยนั้น ท่ำนให้ใช้ถึงกำรแลกเปลี่ยนด้วย
สำนักโดยให้ ถือว่ำผู้เป็นคู่สัญญำแลกเปลี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ยนเป็
สำนันกผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ขำยในส่วนทรัพย์สินซึ่งกตนได้
ำ ส่งมอบ และเป็ นผู้ซื้อในส่วน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทรัพย์สินซึ่งตนได้รับในกำรแลกเปลี่ยนนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๒๐ ถ้ำคู่สัญญำฝ่ำยหนึ่งในสัญญำแลกเปลี่ยนตกลงจะโอนเงินเพิ่มเข้ำกับ
สำนักทรั พย์สินสิ่งอื่นให้แก่อีกกฝ่ำ ำยหนึ่งไซร้ สบททั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้งหลำยอันว่ำด้วยรำคำในลั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กษณะซื้อขำยนั ้น ให้ใช้ถึงเงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เช่นว่ำนั้นด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๕๒๑ อันว่ำสให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนันกั้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คือสัญญำซึ่งบุคคลคนหนึ
กำ ่งเรียกว่ำสผูำนั้ให้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โอนทรัพย์สิน กำ
- ๙๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ของตนให้โดยเสน่หำแก่บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่ำ ผู้รับ และผู้รับยอมรับเอำทรัพย์สินนั้น


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๒๒ กำรให้นั้นจะทำด้วยปลดหนี้ให้แก่ผู้รับ หรือด้วยชำระหนี้ซึ่งผู้รับค้ำง
ชำระอยู่ก็ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๕๒๓ กำรให้นั้น ท่ำนว่ำย่อมสมบูรณ์ต่อเมื่อส่งมอบทรัพย์สินที่ให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๒๔ กำรให้สิทธิอันมีหนังสือตรำสำรเป็นสำคัญนั้น ถ้ ำมิได้ส่งมอบตรำสำร
สำนักให้ แก่ผู้รับ และมิได้มีหนักงำสือบอกกล่ำวแก่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัลกูกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หนี้แห่งสิทธินั้น ท่ำนว่กำำกำรให้ย่อมไม่สสำนั
มบูกรงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ณ์ กำ

สมำตรำ ๕๒๕ กำรให้ ทรัพกย์ำสิ นซึ่ งถ้ำจะซืส้อำนัขำยกั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี น จะต้องท ำเป็ น หนักำงสื อและจด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทะเบียนต่อพนักงำนเจ้ำหน้ำที่นั้น ท่ำนว่ำย่อมสมบูรณ์ต่อเมื่อได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อ
สำนักพนั กงำนเจ้ำหน้ำที่ ในกรณี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เช่นนี้ กำรให้ ย่อกมเป็
สำนั นอันสมบูรณ์โดยมิพกักำต้องส่งมอบ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๒๖ ถ้ำกำรให้ทรัพย์สินหรือให้คำมั ่นว่ำจะให้ทรัพย์สินนั้นได้ทำเป็นหนังสือ
สำนักและจดทะเบี ยนต่อพนักกำงำนเจ้ำหน้ำทีส่แำนัล้กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี และผู้ให้ไม่ส่งมอบทรักพำย์สินนั้นแก่ผสู้รำนั
ับไซร้ ท่ำนว่ ำผู้รับ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ชอบที่จะเรียกให้ส่งมอบตัวทรัพย์สินหรือรำคำแทนทรัพย์สินนั้นได้ แต่ไม่ชอบที่จะเรียกค่ำสินไหม
ทดแทนอย่ำงหนึ่งสอย่
ำนัำกงใดด้ วยอีกได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๕๒๗ ถ้ำผู้ให้สผำนัูกกตนไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ว่ำจะชำระหนี้เป็นกครำว
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ๆ ท่ำนว่ำสหนี
ำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ั้นเป็นอันระงับ กำ
สิ้นไปเมื่อผู้ให้หรือผู้รับตำย เว้นแต่จะขัดกับเจตนำอันปรำกฏแต่มูลหนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๒๘ ถ้ำทรัพย์สินซึ่งให้นั้นมีค่ำภำระติดพัน และผู้รับละเลยเสียไม่ชำระค่ำ
สำนักภำระติ ดพันนั้นไซร้ ท่ำกนว่ำ ำโดยเงื่อนไขอั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนันกระบุ ไว้ในกรณีสิทธิเลิกสักญำ ญำต่ำงตอบแทนกั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นนั้น ผู้ให้จะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เรียกให้ส่งทรัพย์สินที่ให้นั้นคืนตำมบทบัญญัติว่ำด้วยคืนลำภมิ ควรได้นั้นก็ได้ เพียงเท่ำที่ควรจะเอำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทรัพย์นั้นไปใช้ชำระค่ำภำระติดพันนั้น
แต่สิทกธิำเรียกคืนอันนีส้ยำนั่อกมเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นอันขำดไป ถ้ำบุคคลภำยนอกเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นสผูำนั้มกีสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิทธิจะเรียกให้ กำ
ชำระค่ำภำระติดพันนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๒๙ ถ้ำทรัพย์สินที่ให้มีรำคำไม่พอกับกำรที่จะช ำระค่ำภำระติดพันไซร้
สำนักท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำผู้รับจะต้องชำระแต่
กำ เพียงเท่ำรำคำทรั พย์สินเท่ำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๕๓๐ ถ้ำกำรให้นั้นมีกำค่ำภำระติดพันสำนัท่กำนว่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำผู้ให้จะต้องรับผิดเพืก่อำ ควำมชำรุด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บกพร่องหรือเพื่อกำรรอนสิทธิเช่นเดียวกันกับผู้ขำย แต่ท่ำนจำกัดไว้ว่ำไม่เกินจำนวนค่ำภำระติดพัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๓๑ อัน ผู้ให้ จะเรียกถอนคืนกำรให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เพรำะเหตุผู้ รับประพฤติเนรคุณ นั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ท่ำนว่ำอำจจะเรียกได้แต่เพียงในกรณีดังจะกล่ำวต่อไปนี้
(๑) ถ้ำกผูำ ้รับได้ประทุษสร้ำนัำยต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อผู้ให้เป็นควำมผิดฐำนอำชญำอย่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำงร้สำำนั
ยแรงตำมประมวล
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๙๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

กฎหมำยลักษณะอำชญำ หรือ
(๒) ถ้ำกผูำ ้รับได้ทำให้ผสู้ให้ำนัเสีกยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ชื่อเสียง หรือหมิ่นประมำทผู
กำ ้ให้อย่ำงร้สำำนั
ยแรง หรือ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๓) ถ้ำผู้รับได้บอกปัดไม่ยอมให้สิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่ผู้ให้ ในเวลำที่ผู้ให้ยำกไร้
และผู้รับยังสำมำรถจะให้
ส ได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๕๓๒ ทำยำทของผู้ให้อำจเรียกให้ถอนคืนกำรให้ได้แต่เฉพำะในเหตุที่ผู้รับได้
ฆ่ำผู้ให้ตำยโดยเจตนำและไม่ ชอบด้วยกฎหมำยกำ หรือได้กีดกันสผูำนั้ให้กไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ว้มิให้ถอนคืนกำรให้ กำ
แต่ว่ำผู้ให้ได้ฟ้องคดีไว้แล้วอย่ำงใดโดยชอบ ทำยำทของผู้ให้จะว่ำคดีอันนั้นต่อไปก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๓๓ เมื่อผู้ให้ได้ให้อภัยแก่ผู้รับในเหตุประพฤติเนรคุณนั้นแล้วก็ดี หรือเมื่อ
เวลำได้ล่วงไปแล้วสหกเดื อนนับแต่เหตุเช่นนั้นได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำทรำบถึงบุคคลผู
สำนั้ชกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อบที่จะเรียกถอนคืนกำรให้ กำ ได้นั้นก็ดี
ท่ำนว่ำหำอำจจะถอนคืนกำรให้ได้ไม่
อนึ่ง ท่กำำนห้ำมมิให้ฟ้อสงคดี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มื่อพ้นเวลำสิบปีภำยหลักำงเหตุกำรณ์เช่สนำนั
ว่ำกนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้น กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๓๔ เมื่ อ ถอนคื น กำรให้ ท่ ำ นให้ ส่ ง คื น ทรั พ ย์ สิ น ตำมบทบั ญ ญั ติ แ ห่ ง
สำนักประมวลกฎหมำยนี ้ ว่ำด้กวำยลำภมิควรได้สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๕๓๕ กำรให้อันจะกล่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำวต่อไปนี้ ท่สำนั
ำนว่ ำจะถอนคืนเพรำะเหตุกเำนรคุณไม่ได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คือ
(๑) ให้กเำป็นบำเหน็จสิสนำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี จ้ำกงโดยแท้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ให้สิ่งที่มีค่ำภำระติดพัน
ส(๓)
ำนักให้ โดยหน้ำที่ธรรมจรรยำกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ให้ในกำรสมรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๓๖ กำรให้ อั น จะให้ เป็ น ผลต่ อเมื่ อผู้ ให้ ต ำยนั้ น ท่ ำนให้ บั งคั บ ด้ ว ยบท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กฎหมำยว่ำด้วยมรดกและพินัยกรรม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกเช่
ำ ำทรัพย์ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


หมวด ๑
บทเบ็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดเสร็จทั่วไป สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๕๓๗ อันว่ำเช่ำทรัพย์สินนั้น คือสสัำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ญกญำซึ ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่ำ ผู้ให้เช่ำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตกลงให้บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่ำ ผู้เช่ำ ได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งชั่ว
สำนักระยะเวลำอั นมีจำกัด และผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้เช่ำตกลงจะให้
สำนัคกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ำเช่ำเพื่อกำรนั้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๙๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๕๓๘ เช่ำอสัสงำนัหำริ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มทรัพย์นั้น ถ้ำมิได้มีหกลัำกฐำนเป็นหนัสงำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สือกอย่ ำงหนึ่งอย่ำง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ใดลงลำยมือชื่อฝ่ำยที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญ ท่ำนว่ำจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหำได้ไม่ ถ้ำเช่ำมีกำหนดกว่ำ
สำมปีขึ้นไป หรือสกำนั
ำหนดตลอดอำยุ ของผู้ เช่ำหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อผู้ให้เช่ำไซร้สำนั
หำกมิ ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยน
ต่อพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ ท่ำนว่ำกำรเช่ำนั้นจะฟ้องร้องให้บังคับคดีได้แต่เพียงสำมปี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๕๓๙ ค่ำฤชำธรรมเนีกยำมทำสัญญำเช่ำสนัำนั้นกคูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่สัญญำพึงออกใช้เสมอกักนำทั้งสองฝ่ำย

มำตรำกำ๕๔๐ อันอสัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งหำริ มทรัพย์ ท่ำนห้ ำมมิ ใกห้ำเช่ำกันเป็นกสำหนดเวลำเกิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นกว่ำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สำมสิบปี ถ้ำได้ทำสัญญำกันไว้เป็นกำหนดเวลำนำนกว่ำนั้น ท่ำนก็ให้ลดลงมำเป็นสำมสิบปี
สอนึ
ำนั่งกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำหนดเวลำเช่ำดังกล่ำกวมำนี
ำ ้ เมื่อสิ้นลงแล้ วจะต่อสัญญำอีกก็ได้ แต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ต้องอย่ำให้
เกินสำมสิบปีนับแต่วันต่อสัญญำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๔๑ สัญญำเช่ำนั้นจะทำกันเป็นกำหนดว่ำตลอดอำยุของผู้ให้เช่ำหรือของผู้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เช่ำก็ให้ทำได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๔๒ บุคคลหลำยคนเรียกเอำสังหำริมทรัพย์อันเดียวกันอำศัยมูลสัญญำเช่ำ
ต่ำงรำย ท่ำนว่ำทรั พย์กตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั กไปอยู่ในครอบครองผูกำ้เช่ำคนใดก่อนด้
สำนัวยสั ญญำเช่ำทรัพย์นั้น คนนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นมีสิทธิยิ่ง
กว่ำคนอื่น ๆ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๔๓ บุ คคลหลำยคนเรียกร้องเอำอสั งหำริมทรัพย์อันเดียวกันอำศัยมูล
สัญญำเช่ำต่ำงรำยสำนัท่ำกนให้ วินิจฉัยดังต่อไปนี้ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ถ้ำกำรเช่ำนั้นเป็นประเภทซึ่งมิได้บังคับไว้โดยกฎหมำยว่ำต้องจดทะเบียน ท่ำน
สำนักให้ ถือว่ำผู้เช่ำซึ่งได้ทรัพย์กสำ ินไปไว้ในครอบครองก่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อนด้วยสัญญำเช่ำของตนนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นมีสิทธิสยำนัิ่งกว่ ำคนอื่น ๆ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๒) ถ้ำกำรเช่ำทุก ๆ รำยเป็นประเภทซึ่งบังคับไว้โดยกฎหมำยว่ำต้องจดทะเบียน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ท่ำนให้ถือว่ำผู้เช่ำซึ่งได้จดทะเบียนกำรเช่ำของตนก่อนนั้นมีสิทธิยิ่งกว่ำคนอื่น ๆ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๓) ถ้ำกกำรเช่
ำ ำมีทั้งประเภทซึ ่งต้องจดทะเบียนและประเภทซึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งไม่สตำนั
้องจดทะเบี ยนตำม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กฎหมำยยันกันอยู่ไซร้ ท่ำนว่ำผู้เช่ำคนที่ได้จดทะเบียนกำรเช่ำของตนนั้นมีสิทธิยิ่งกว่ำ เว้นแต่ผู้เช่ำคน
อื่นจะได้ทรัพย์สินสนัำนั้นกไปไว้ ในครอบครองด้วยกำรเช่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำของตนเสีสำนั
ยก่กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นวันจดทะเบียนนั้นแล้กวำ

มำตรำกำ๕๔๔ ทรัพย์สสำนัินกซึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งเช่ำนั้น ผู้เช่ำจะให้เช่กำำช่วงหรือโอนสิสำนั
ทธิกขงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องตนอันมีใน กำ
ทรัพย์สินนั้นไม่ว่ำทั้งหมดหรือแต่บำงส่วนให้แก่บุคคลภำยนอก ท่ำนว่ำหำอำจทำได้ไม่ เว้นแต่จะได้ตก
ลงกันไว้เป็นอย่ำงอื ่นในสั
สำนั ญญำเช่ำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำผู้เช่ำประพฤติฝ่ำฝืนบทบัญญัติอันนี้ ผู้ให้เช่ำจะบอกเลิกสัญญำเสียก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๔๕ ถ้ำผู้เช่ำเอำทรัพย์สินซึ่งตนเช่สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำไปให้ ผู้อื่นเช่ำช่วงอีกทอดหนึ่งโดยชอบ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ท่ำนว่ำผู้เช่ำช่วงย่อมต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่ำเดิมโดยตรง ในกรณีเช่นว่ำนี้หำกผู้เช่ำช่วงจะได้ใช้ค่ำเช่ำ
สำนักให้ แก่ผู้เช่ำไปก่อน ท่ำนว่กำำผู้เช่ำช่วงหำอำจจะยกขึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นเป็นข้อต่อสู้ผู้ให้กเช่ำ ำได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๙๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

อนึ่ง บทบัญญัติอันนี้ไม่ห้ำมกำรที่ผู้ให้เช่ำจะใช้สิทธิของตนต่อผู้เช่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๒
หน้ำที่และควำมรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บผิดของผู ้ให้กเช่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ำ กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๕๔๖ ผู้ให้เช่ำจำต้องส่กำงมอบทรัพย์สสินำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ซึ่งกให้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เช่ำนั้นในสภำพอันซ่อมแซมดี
กำ แล้ว

มำตรำกำ ๕๔๗ ผู้ เช่ำสต้ำนัอกงเสี


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ย ค่ำใช้ จ่ำยไปโดยควำมจ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำเป็ น และสมควรเพื ่ อ รักษำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทรัพย์สินซึ่งเช่ำนั้นเท่ำใด ผู้ให้เช่ำจำต้องชดใช้ให้ แก่ผู้เช่ำ เว้นแต่ค่ำใช้จ่ำยเพื่อบำรุงรักษำตำมปกติ
และเพื่อซ่อมแซมเพีสำนัยกงเล็ กน้อย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๕๔๘ ถ้ำผู้ให้สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เช่ำกส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งมอบทรัพย์สินซึ่งเช่ำกนัำ้นโดยสภำพไม่สำนั
เหมำะแก่ กำรที่จะ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ใช้เพื่อประโยชน์ที่เช่ำมำ ผู้เช่ำจะบอกเลิกสัญญำเสียก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๕๔๙ กำรส่สงมอบทรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี พย์สินซึ่งเช่ำก็ดี ควำมรั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บผิดของผูส้ใำนั
ห้เกช่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำในกรณีชำรุด กำ
บกพร่องและรอนสิทธิก็ดี ผลแห่งข้อสัญญำว่ำจะไม่ต้องรับผิดก็ดี เหล่ำนี้ ท่ำนให้บังคับด้วยบทบัญญัติ
ทั้งหลำยแห่งประมวลกฎหมำยนี ้ว่ำด้วยกำรซื้อกขำยอนุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ โลมควำมตำมควร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๕๕๐ ผู้ให้เช่สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำย่กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มต้องรับผิดในควำมชกำรุำ ดบกพร่องอัสนำนั
เกิกดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ขึ้น ในระหว่ำง กำ
เวลำเช่ำ และผู้ให้เช่ำต้องจัดกำรซ่อมแซมทุกอย่ำงบรรดำซึ่งเป็นกำรจำเป็นขึ้น เว้นแต่กำรซ่อมแซม
ชนิดซึ่งมีกฎหมำยหรื
สำนัอกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำรีตประเพณีว่ำผู้เช่ำจะพึ
กำ งต้องทำเองสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๕๕๑ ถ้ำควำมช
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักำรุ ดบกพร่องแห่งทรัพย์กสำ ินที่เช่ำนั้นไม่สเำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ป็นกเหตุ ถึงแก่ผู้เช่ำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จะต้องปรำศจำกกำรใช้แ ละประโยชน์ และผู้ให้เช่ำยังแก้ไขได้ไซร้ ผู้เช่ำต้องบอกกล่ำวแก่ผู้ให้เช่ำให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จัดกำรแก้ไขควำมชำรุดบกพร่องนั้นก่อน ถ้ำและผู้ให้เช่ำไม่จัดทำให้คืนดีภำยในเวลำอันสมควร ผู้เช่ำ
สำนักจะบอกเลิ กสัญญำเสียก็ไกด้ำ หำกว่ำควำมช
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำรุกดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บกพร่องนั้นร้ำยแรงถึกงสมควรจะท
ำ ำเช่สนำนันัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำหมวด ๓ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หน้ำที่และควำมรับผิดของผู้เช่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๕๕๒ อันผู้เช่ำจะใช้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำทรัพย์สินที่ เช่สำนั
ำเพืกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อกำรอย่ำงอื่นนอกจำกที
กำ ่ ใช้กันตำม
ประเพณีนิยมปกติ หรือกำรดังกำหนดไว้ในสัญญำนั้น ท่ำนว่ำหำอำจจะทำได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๕๓ ผู้เช่ำจำต้องสงวนทรัพย์สินสทีำนั่เกช่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำนั้นเสมอกับที่วิญญูชกนจะพึ

งสงวน
ทรัพย์สินของตนเอง และต้องบำรุงรักษำทั้งทำกำรซ่อมแซมเล็กน้อยด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๙๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๕๕๔ ถ้ำผู้เช่ำกระทำกำรฝ่ำฝืนบทบัญญัติในมำตรำ ๕๕๒ มำตรำ ๕๕๓


สำนักหรื อฝ่ำฝืนข้อสัญญำ ผู้ให้กำเช่ำจะบอกกล่สำำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วให้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้เช่ำปฏิบัติให้ถูกต้องตำมบทกฎหมำยหรื
กำ สำนัอกข้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อสัญญำนั้น ๆ กำ
ก็ได้ ถ้ำและผู้เช่ำละเลยเสียไม่ปฏิบัติตำม ท่ำนว่ำผู้ให้เช่ำจะบอกเลิกสัญญำเสียก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๕๕ ผู้ เช่ ำ จ ำต้ อ งยอมให้ ผู้ ให้ เช่ ำ หรื อ ตั ว แทนของผู้ ให้ เช่ ำ เข้ ำตรวจดู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทรัพย์สินที่เช่ำเป็นครั้งครำว ในเวลำและระยะอันสมควร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๕๖ ถ้ำในระหว่ำงเวลำเช่ำมีเหตุจะต้องซ่อมแซมทรัพย์สินซึ่งเช่ำนั้นเป็น
สำนักกำรเร่ งร้อน และผู้ให้เช่กำำประสงค์จะทำกำรอั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นจำเป็นเพื่อที่จะซ่อมแซมเช่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นว่ำนั้นสไซร้
ำนักท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำผู้เช่ำจะ กำ
ไม่ยอมให้ทำนั้นไม่ได้ แม้ถึงว่ำกำรนั้นจะเป็นควำมไม่สะดวกแก่ตน ถ้ำกำรซ่อมแซมเป็นสภำพซึ่งต้อง
กิน เวลำนำนเกินสสมควร จนเป็นเหตุให้ทรัพกย์ำสินนั้นไม่เหมำะแก่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรที่จะใช้เพื่ อประโยชน์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ที่เช่ำมำ
ผู้เช่ำจะบอกเลิกสัญญำเสียก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๕๗ ในกรณีอย่ำงใด ๆ ดังจะกล่ำวต่อไปนี้ คือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ถ้ำทรัพย์สินที่เช่ำนั้นชำรุดควรที่ผู้ให้เช่ำสจะต้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
องซ่อมแซมก็ดี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๒) ถ้ำกจะต้
ำ องจัดกำรอย่
สำนัำกงหนึ ่งอย่ำงใดเพื่อปัดป้อกงภยั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นตรำยแก่ทสรัำนัพกย์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สินนั้นก็ดี กำ
(๓) ถ้ำบุคคลภำยนอกรุกล้ำเข้ำมำในทรัพย์สินที่เช่ำหรือเรียกอ้ำงสิทธิอย่ำงใดอย่ำง
หนึ่งเหนือทรัพย์สสินำนันัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก็ดี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในเหตุดังกล่ำวนั้นให้ผู้เช่ำแจ้งเหตุแก่ผู้ให้เช่ำโดยพลัน เว้นแต่ผู้ให้เช่ำจะได้ทรำบเหตุ
สำนักนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นอยู่ก่อนแล้ว กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำผู้เช่ำละเลยเสียไม่ปฏิบัติตำมบทบัญญัตินี้ไซร้ ท่ำนว่ำ ผู้เช่ำจะต้องรับผิดต่อผู้ให้
เช่ำในเมื่อผู้ให้เช่ำสต้ำนัองเสี ยหำยอย่ำงใด ๆ เพรำะควำมละเลยชั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กช้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ของผู้เช่ำนั้น กำ

มำตรำกำ๕๕๘ อันทรัสพำนัย์กสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ินที่เช่ำนั้น ถ้ำมิได้รับอนุกำญำตของผู้ให้เสช่ำนัำก่กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น ผู้เช่ำจะทำ กำ
กำรดัดแปลงหรือต่อเติมอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดหำได้ไม่ ถ้ำและผู้เช่ำทำไปโดยมิ ได้รับอนุญำตของผู้ให้เช่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เช่นนั้นไซร้ เมื่อผู้ให้เช่ำเรียกร้อง ผู้เช่ำจะต้องทำให้ทรัพย์สินนั้นกลับคืนคงสภำพเดิม ทั้งจะต้องรับผิด
สำนักต่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อผู้ให้เช่ำในควำมสูญหำยหรื
กำ อบุบสลำยอย่ สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งใด ๆ อันเกิดแต่กำรดักดำแปลงต่อเติมนัสำนั
้นด้กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย กำ

สมำตรำ ๕๕๙ ถ้ำไม่มีกำหนดโดยสั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญำหรืสอำนัโดยจำรี ตประเพณีว่ำจะพึกงำชำระค่ำเช่ำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ณ เวลำใด ท่ำนให้ชำระเมื่อสิ้นระยะเวลำอันได้ตกลงกำหนดกันไว้ทุกครำวไป กล่ำวคือว่ำถ้ำเช่ำกัน
สำนักเป็ นรำยปีก็พึงชำระค่ำเช่กำำเมื่อสิ้นปี ถ้ำเช่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำกักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นรำยเดือนก็พึงชำระค่
กำ ำเช่ำเมื่อสิ้นเดื
สำนัอนกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๕๖๐ ถ้ำผู้เช่ำไม่ชำระค่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำเช่ำ ผู้ให้เสช่ำนั
ำจะบอกเลิ กสัญญำเสียก็ได้กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แต่ถ้ำค่ำเช่ำนั้นจะพึงส่งเป็นรำยเดือน หรือส่งเป็นระยะเวลำยำวกว่ำรำยเดือนขึ้นไป
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ให้เช่ำต้องบอกกล่ำวแก่กผำู้เช่ำก่อนว่ำให้สชำนั
ำระค่ ำเช่ำภำยในเวลำใด ซึ่งกพึำงกำหนดอย่ำให้สำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี น้อกยกว่ ำสิบห้ำวัน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๖๑ ถ้ำมิได้ทำหนังสือลงลำยมือชื่อของคู่สัญญำแสดงไว้ต่อกันว่ำทรัพย์สิน
สำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ให้เช่ำมีสภำพเป็นอยู่อกย่ำ ำงไร ท่ำนให้สสำนัันกนิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ษฐำนไว้ก่อนว่ำผู้เช่ำได้กรำับทรัพย์สินทีส่เช่ำนัำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นไปโดยสภำพ กำ
- ๙๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

อันซ่อมแซมดีแล้ว และเมื่อสัญญำได้เลิกหรือระงับลง ผู้เช่ำก็ต้องส่งคืนทรัพย์สินในสภำพเช่นนั้น เว้นแต่


สำนักจะพิ สูจน์ได้ว่ำทรัพย์สินกนัำ้นมิได้ซ่อมแซมไว้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัดกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ีในขณะที่ส่งมอบ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๕๖๒ ผู้เช่ำจะต้องรักบำผิดในควำมสูสญำนัหำยหรื


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อบุบสลำยอย่ำงใดกๆำ อันเกิดขึ้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แก่ทรัพย์สินที่เช่ำ เพรำะควำมผิดของผู้เช่ำเอง หรือของบุคคลซึ่งอยู่กับผู้เช่ำ หรือของผู้เช่ำช่วง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แต่ผู้เช่ำไม่ต้องรับผิดในควำมสูญหำยหรือบุบสลำยอันเกิดแต่กำรใช้ทรัพย์สินนั้นโดย
ชอบ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๕๖๓ คดีอันสผูำนั้ให้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เช่ำจะฟ้องผู้เช่ำเกี่ยวแก่
กำสัญญำเช่ำนั้นสำนั
ท่ำกนห้ ำมมิให้ฟ้อง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เมื่อพ้นกำหนดหกเดือนนับแต่วันส่งคืนทรัพย์สินที่เช่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ควำมระงั บแห่งสัญญำเช่ำ กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๕๖๔ อันสัญสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญำเช่ ำนั้น ท่ำนว่ำย่อมระงักบำไปเมื่อสิ้นกำหนดเวลำที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ ได้ตกลง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กันไว้ มิพักต้องบอกกล่ำวก่อน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๖๕ กำรเช่ำถือสวนนั้น ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำเช่ำกันปีหนึ่ง
กำรเช่กำำนำก็ให้สันนิษสฐำนไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ก่อนว่ำเช่ำกันตลอดฤดูกำทำนำปีหนึ่ง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สมำตรำ ๕๖๖ ถ้ำกำหนดเวลำเช่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำไม่ปรำกฏในควำมที ่ตกลงกันหรือไม่พกำึงสันนิษฐำน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้ไซร้ ท่ำนว่ำคู่สัญญำฝ่ำยใดจะบอกเลิกสัญญำเช่ำในขณะเมื่อสุดระยะเวลำอันเป็นกำหนดชำระค่ำ
สำนักเช่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำก็ได้ทุกระยะ แต่ต้อกงบอกกล่
ำ ำวแก่สอำนัีกฝ่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยหนึ่งให้รู้ตัวก่อนชั่วกกำหนดเวลำช
ำ ำระค่
สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เช่ำระยะหนึ่ง กำ
เป็นอย่ำงน้อยแต่ไม่จำต้องบอกกล่ำวล่วงหน้ำกว่ำสองเดือน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๕๖๗ ถ้ำทรัสพำนัย์สกินงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ซึ่งให้เช่ำสูญหำยไปทัก้งำหมดไซร้ ท่ำนว่ ำสักญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ญำเช่ำก็ย่อม กำ
ระงับไปด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๖๘ ถ้ำทรัพย์สินซึ่งให้เช่ำสูญหำยไปแต่เพียงบำงส่วนและมิได้เป็นเพรำะ
สำนักควำมผิ ดของผู้เช่ำ ท่ำนว่กำำผู้เช่ำจะเรียกให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัลกดค่ ำเช่ำลงตำมส่วนที่สูญกหำยก็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณี เช่น นี้ ถ้ำผู้ เช่ำไม่ส ำมำรถใช้ส อยทรัพ ย์สิ น ส่ วนที่ยั งคงเหลื ออยู่นั้นส ำเร็จ
ประโยชน์ได้ดังที่ไสด้ำนัมุ่งกหมำยเข้ ำทำสัญญำเช่ำไซร้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ท่ำนว่ำผู้เช่สำำนั
จะบอกเลิ กสัญญำเสียก็ได้ กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ ๕๖๙ อั น สัสญำนัญำเช่


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำอสั งหำริมทรัพ ย์ นกั้ำน ย่อ มไม่ ระงับสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ไปเพรำะเหตุ โอน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กรรมสิทธิ์ทรัพย์สสินำนัซึ่งกให้ เช่ำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้รับโอนย่อมรับไปทั้งสิทธิและหน้ำที่ของผู้โอนซึ่งมีต่อผู้เช่ำนั้นด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๙๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๕๗๐ ในเมื่อสิ้ นกำหนดเวลำเช่ำซึ่งได้ตกลงกัน ไว้นั้ นถ้ำผู้ เช่ำยังคงครอง


สำนักทรั พย์สินอยู่ และผู้ให้เช่กำำรู้ควำมนั้นแล้สวำนัไม่กทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ักท้วงไซร้ ท่ำนให้ถือว่กำำคู่สัญญำเป็นอัสำนั
นได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทำสัญญำใหม่ กำ
ต่อไปไม่มีกำหนดเวลำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๗๑ ถ้ำสัญญำเช่ำที่นำได้เลิกหรื อระงับลง เมื่อผู้เช่ำได้เพำะปลูกข้ำวลง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แล้วไซร้ ท่ำนว่ำผู้เช่ำย่อมมีสิทธิที่จะครองนำนั้นต่อไปจนกว่ำจะเสร็จกำรเกี่ยวเก็บ แต่ต้องเสียค่ำเช่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ เช่ำซื้อ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๗๒ อันว่ำเช่ำซื้อนั้น คือสัญญำซึ่งเจ้ำของเอำทรัพย์สินออกให้เช่ำ และให้
สำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำมั่นว่ำจะขำยทรัพย์สกินำนั้นหรือว่ำจะให้
สำนัทกรังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พย์สินนั้นตกเป็นสิทธิแกก่ำผู้เช่ำ โดยเงื่อสนไขที ่ผู้เช่ำได้ใช้เงิน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เป็นจำนวนเท่ำนั้นเท่ำนี้ครำว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สัญญำเช่ำซื้อนั้นถ้ำไม่ทำเป็นหนังสือ ท่ำนว่สำำนัเป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โมฆะ กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๕๗๓ ผู้เช่ำจะบอกเลิกสัญญำในเวลำใดเวลำหนึ่งก็ได้ด้วยส่งมอบทรัพย์สิน
กลับคืนให้แก่เจ้ำของโดยเสี ยค่ำใช้จ่ำยของตนเอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๕๗๔ ในกรณีสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ผิดกนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดไม่ใช้เงินสองครำวติดกำๆ กัน หรือกระท
สำนัำผิ ดสัญญำในข้อ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ที่เป็นส่วนสำคัญ เจ้ำของทรัพย์สินจะบอกเลิกสัญญำเสียก็ได้ ถ้ำเช่นนั้นบรรดำเงินที่ได้ใช้มำแล้วแต่
ก่อน ให้ริบเป็นของเจ้
สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของทรัพย์สินและเจ้ำของทรักำ พย์สินชอบทีสำนัก่จงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ะกลับเข้ำครองทรัพย์สกินำนั้นได้ด้วย
อนึ่ ง ในกรณี กระทำผิ ดสั ญ ญำเพรำะผิดนัดไม่ใช้เงินซึ่งเป็นครำวที่สุ ดนั้น ท่ำนว่ำ
สำนักเจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำของทรัพย์สินชอบทีก่จำะริบบรรดำเงิสนำนัทีก่ไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้ใช้มำแล้วแต่ก่อนและกลั
กำ บเข้ำครองทรั
สำนัพกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์สินได้ต่อเมื่อ กำ
ระยะเวลำใช้เงินได้พ้นกำหนดไปอีกงวดหนึ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ลักษณะ ๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จ้ำงแรงงำน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๕๗๕ อันว่ำสจ้ำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำงแรงงำนนั ้น คือสัญญำซึก่งำบุคคลคนหนึ่งสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เรียกกว่ ำลูกจ้ำง ตก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ลงจะทำงำนให้แก่บุ คคลอีกคนหนึ่ ง เรียกว่ำนำยจ้ำง และนำยจ้ำงตกลงจะให้ สิ นจ้ำงตลอดเวลำที่
ทำงำนให้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๕๗๖ ถ้ำตำมพฤติ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรณ์ไม่อำจจะคำดหมำยได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ว่ำงำนนัสำนั
้นจะพึ งทำให้เปล่ ำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ไซร้ ท่ำนย่อมถือเอำโดยปริ ยำยว่ำมีคำมั่นจะให้สินจ้ำง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๕๗๗ นำยจ้สำนั


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำงจะโอนสิ ท ธิข องตนให้ แกก่ำ บุ คคลภำยนอกก็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ได้ เมื่ อลู ก จ้ ำง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๙๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ยินยอมพร้อมใจด้วย
ลูกจ้ำงจะให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บุคคลภำยนอกท ำงำนแทนตนก็ได้เมืก่อำนำยจ้ำงยินยอมพร้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อมใจด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ถ้ำคู่สัญญำฝ่ำยใดทำกำรฝ่ำฝืนบทบัญญัตินี้ คู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่งจะบอกเลิกสัญญำ
เสียก็ได้ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๕๗๘ ถ้ำลูกจ้ำงรับรองโดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยำยว่ำตนเป็นผู้มีฝีมือ
พิเศษ หำกมำปรำกฏว่ ำไร้ฝีมือเช่นนั้นไซร้ ท่ำกนว่ำ ำนำยจ้ำงชอบที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก่จงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ะบอกเลิกสัญญำเสียได้กำ

มำตรำกำ๕๗๙ กำรทีส่ ลำนัูกกจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำงขำดงำนไปโดยเหตุกอำันสมควรและชั
สำนั่วกระยะเวลำน้ อย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พอสมควรนั้น ท่ำนว่ำไม่ทำให้นำยจ้ำงมีสิทธิบอกเลิกสัญญำได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๘๐ ถ้ำไม่มี กำหนดโดยสั ญ ญำหรือจำรีตประเพณี ว่ำจะพึงจ่ำยสิ นจ้ำง
สำนักเมืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อไร ท่ำนว่ำพึงจ่ำยเมืก่อำงำนได้ทำแล้วสเสร็
ำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถ้ำกำรจ่ำยสินจ้ำงนั้นกได้ำ กำหนดกันไว้สเำนั
ป็นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระยะเวลำก็ให้ กำ
พึงจ่ำยเมื่อสุดระยะเวลำเช่นนั้นทุกครำวไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๕๘๑ ถ้ำระยะเวลำที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ได้ตกลงว่ำจ้ำงกันนัก้นำ สุดสิ้นลงแล้วสลูำนักจ้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำงยังคงทำงำน กำ
อยู่ต่อไปอีก และนำยจ้ำงรู้ดังนั้นก็ไม่ทักท้วงไซร้ ท่ำนให้ สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำคู่สัญญำเป็นอันได้ทำ
สัญญำจ้ำงกันใหม่สโำนัดยควำมอย่ ำงเดียวกันกับสักำญญำเดิม แต่คสู่สำนััญกญำฝ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำยใดฝ่ำยหนึ่ งอำจจะเลิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กสัญญำ
เสียได้ด้วยกำรบอกกล่ำวตำมควำมในมำตรำต่อไปนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๘๒ ถ้ำคู่สัญญำไม่ได้กำหนดลงไว้ในสัญญำว่ำจะจ้ำงกันนำนเท่ำไร ท่ำนว่ำ
ฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งจะเลิ
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สัญญำด้วยกำรบอกกล่กำำวล่วงหน้ำในเมื
สำนั่อกถึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งหรือก่อนจะถึงกำหนดจ่
กำ ำยสินจ้ำง
ครำวใดครำวหนึ่ง เพื่อให้เป็นผลเลิ กสัญญำกันเมื่อถึงกำหนดจ่ำยสินจ้ำงครำวถัดไปข้ำงหน้ำก็อำจทำ
สำนักได้ แต่ไม่จำต้องบอกกล่ำกวล่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ วงหน้ำกว่ำสสำมเดื อน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่ง ในเมื่อบอกกล่ำวดังว่ำนี้ นำยจ้ำงจะจ่ำยสินจ้ำงแก่ลูกจ้ำงเสียให้ครบจำนวนที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จะต้องจ่ำยจนถึงเวลำเลิกสัญญำตำมกำหนดที่บอกกล่ำวนั้นทีเดียว แล้วปล่อยลูกจ้ำงจำกงำนเสีย
สำนักในทั นทีก็อำจทำได้ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๕๘๓ ถ้ำลูกจ้ำงจงใจขั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดคำสั่งของนำยจ้ ำงอันชอบด้วยกฎหมำยก็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดี หรือ
ละเลยไม่นำพำต่อคำสั่งเช่นว่ำนั้นเป็นอำจิณก็ดี ละทิ้งกำรงำนไปเสียก็ดี กระทำควำมผิดอย่ำงร้ำยแรง
สำนักก็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดี หรือทำประกำรอื่นอักนำ ไม่สมแก่กำรปฏิ
สำนับกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัติหน้ำที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถู
กำ กต้องและสุ
สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ริตก็ดี ท่ำนว่ำ กำ
นำยจ้ำงจะไล่ออกโดยมิพักต้องบอกกล่ำวล่วงหน้ำหรือให้สินไหมทดแทนก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๘๔ ถ้ำจ้ำงแรงงำนรำยใดมีสำระสำคัญอยู่ที่ตัวบุคคลผู้เป็นนำยจ้ำง ท่ำนว่ำ
สำนักสังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญญำจ้ำงเช่นนั้นย่อมระงั
กำ บไปด้วยมรณะแห่ งนำยจ้ำง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๘๕ เมื่อกำรจ้ำงแรงงำนสุ ดสิ้ นลงแล้ ว ลู กจ้ำงชอบที่จะได้รับใบส ำคัญ
สำนักแสดงว่ ำลูกจ้ำงนั้นได้ทำงำนมำนำนเท่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำสไร่ำนัแกละงำนที ่ทำนั้นเป็นงำนอย่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำำงไร สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๐๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๕๘๖ ถ้ำลูกจ้สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำงเป็ นผู้ซึ่งนำยจ้ำงได้จ้ำงเอำมำแต่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ต่ำงถิ่นโดยนำยจ้ ำงออกเงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ค่ำเดินทำงให้ไซร้ เมื่อกำรจ้ำงแรงงำนสุดสิ้นลง และถ้ำมิได้กำหนดกันไว้ เป็นอย่ำงอื่นในสัญญำแล้ว
ท่ำนว่ำนำยจ้ำงจำต้
สำนัอกงใช้ เงินค่ำเดินทำงขำกลับกให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ แต่จะต้องเป็
สำนันกดังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งต่อไปนี้ คือ กำ
(๑) สัญญำมิได้เลิกหรือระงับเพรำะกำรกระทำหรือควำมผิดของลูกจ้ำง และ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ลูกจ้ำงกลับไปยังถิ่นที่ได้จ้ำงเอำมำภำยในเวลำอันสมควร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๗
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ จ้ำงทำของ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๘๗ อันว่ำจ้ำงทำของนั้น คือสัญญำซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่ำผู้รับจ้ำง ตก
สำนักลงจะท ำกำรงำนสิ่งใดสิ่งกหนึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่งจนสำเร็จให้
สำนัแกก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่กำำผู้ว่ำจ้ำง และผู
สำนั้ว่ำกจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำงตกลงจะให้ กำ
สินจ้ำงเพื่อผลสำเร็จแห่งกำรที่ทำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๕๘๘ เครื่อสงมืำนัอกต่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำง ๆ ส ำหรับใช้ทำกำรงำนให้
กำ สำเร็จสนัำนั้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้ รับจ้ำงเป็นผู้ กำ
จัดหำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๘๙ ถ้ำสัมภำระสำหรับทำกำรงำนที่กล่ำวนั้นผู้รับจ้ำงเป็นผู้จัดหำ ท่ำนว่ำ
สำนักต้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องจัดหำชนิดที่ดี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๕๙๐ ถ้ำสัมภำระนัก้นำ ผู้ว่ำจ้ำงเป็นสผูำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้จัดกหำมำส่ ง ท่ำนให้ผู้รับจ้ำกงใช้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สัมภำระ
ด้ว ยควำมระมัด ระวังและประหยั ดอย่ ำให้ เปลื องเสี ย เปล่ ำ เมื่อ ท ำกำรงำนส ำเร็จแล้ ว มีสั มภำระ
สำนักเหลื ออยู่ก็ให้คืนแก่ผู้ว่ำจ้กำำง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๙๑ ถ้ำควำมชำรุดบกพร่องหรือควำมชักช้ำในกำรที่ทำนั้นเกิดขึ้นเพรำะ
สำนักสภำพแห่ งสัมภำระซึ่งผูก้วำ่ำจ้ำงส่งให้ก็ดสี ำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เพรำะค ำสั่งของผู้ว่ำจ้ำงก็ดกี ำท่ำนว่ำผู้รับจ้ำสงไม่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้องรับผิด เว้น กำ
แต่จะได้รู้อยู่แล้วว่ำสัมภำระนั้นไม่เหมำะหรือว่ำคำสั่งนั้นไม่ถูกต้องและมิได้บอกกล่ำวตักเตือน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๙๒ ผู้รับจ้ำงจำต้องยอมให้ผู้ว่ำจ้ำงหรือตัวแทนของผู้ว่ำจ้ำงตรวจตรำกำร
สำนักงำนได้ ตลอดเวลำที่ทำอยูกำ่นั้น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๕๙๓ ถ้ ำผู้ รั บ จ้ำงไม่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เริ่ ม ท ำกำรในเวลำอั น ควร หรือ ท ำกำรชั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ก ช้ ำ ฝ่ ำ ฝื น
ข้อกำหนดแห่ งสั ญ ญำก็ดี หรือทำกำรชักช้ำโดยปรำศจำกควำมผิดของผู้ว่ำจ้ำง จนอำจคำดหมำย
สำนักล่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วงหน้ำได้ว่ำกำรนั้นจะไม่
กำ สำเร็จภำยในก
สำนัำหนดเวลำที ่ได้ตกลงกันกไว้ำ ก็ดี ผู้ว่ำจ้ำงชอบที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่จะเลิกสัญญำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เสียได้ มิพักต้องรอคอยให้ ถึงเวลำกำหนดส่งมอบของนั้นเลย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๕๙๔ ถ้ำในระหว่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำงเวลำที่ทำกำรอยู่นั้นกำเป็นวิสัยจะคำดหมำยล่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วงหน้ำได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๐๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

แน่นอนว่ำ กำรที่ทำนั้นจะสำเร็จอย่ำงบกพร่องหรือจะเป็นไปในทำงอันฝ่ำฝืนข้อสัญญำเพรำะควำมผิด
สำนักของผู ้รับจ้ำงไซร้ ผู้ว่ำจ้ำกงจะบอกกล่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำวให้
สำนัผกู้รงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ับจ้ำงแก้ไขสิ่งที่บกพร่อกงให้
ำ คืนดี หรือทสำกำรให้ เป็นไปตำม
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สัญญำภำยในเวลำอันสมควรซึ่งกำหนดให้ในคำบอกกล่ำวนั้นก็ได้ ถ้ำและคลำดกำหนดนั้นไป ท่ำนว่ำ
ผู้ว่ำจ้ำงชอบที่จะเอำกำรนั ้นให้บุคคลภำยนอกซ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อมแซมหรือสทำนั ำต่กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไปได้ ซึ่งผู้รับจ้ำงจะต้กอำงเสี่ยงควำม
เสียหำยและออกค่ำใช้จ่ำยทั้งสิ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๕๙๕ ถ้ำผู้รับจ้ำงเป็กำนผู้จัดหำสัมภำระไซร้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ควำมรับผิดของผู้รกั ำบจ้ำงในกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บกพร่องนั้น ท่ำนให้บังคับด้วยบทแห่งประมวลกฎหมำยนี้ ลักษณะซื้อขำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๙๖ ถ้ำผู้ รับจ้ำงส่ งมอบกำรที่ทำไม่ทันเวลำที่ได้กำหนดไว้ในสัญ ญำก็ดี
หรือถ้ำไม่ได้กำหนดเวลำไว้ ในสัญญำเมื่อล่วงพ้กนำ เวลำอันควรแก่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัเกหตุ ก็ดี ผู้ว่ำจ้ำงชอบที่จะลดสิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นจ้ำงลง
หรือถ้ำสำระสำคัญแห่งสัญญำอยู่ที่เวลำ ก็ชอบที่จะเลิกสัญญำได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๙๗ ถ้ำผู้ว่ำจ้ำงยอมรับมอบกำรที่ทำนั้นแล้วโดยมิได้อิดเอื้อน ผู้รับจ้ำงก็ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ต้องรับผิดเพื่อกำรที่ส่งมอบเนิ่นช้ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๙๘ ถ้ำผู้ว่ำจ้ำงยอมรับมอบกำรที่ทำนั้นแล้วทั้งชำรุดบกพร่องมิได้อิดเอื้อน
โดยแสดงออกชัดสหรืำนัอกโดยปริ ยำย ผู้รับจ้ำงก็ไม่กตำ ้องรับผิด เว้นสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี แต่กคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วำมชำรุดบกพร่องนั้นกเป็ำ นเช่นจะไม่
พึงพบได้ในขณะเมื่อรับมอบ หรือผู้รับจ้ำงได้ปิดบังควำมนั้นเสีย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๙๙ ในกรณีที่ส่งมอบเนิ่นช้ำไปก็ดี หรือส่งมอบกำรที่ทำชำรุดบกพร่องก็ดี
ท่ำนว่ำผู้ว่ำจ้ำงชอบที
สำนัก่จงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ะยึดหน่วงสินจ้ำงไว้ได้ กเว้ำ นแต่ผู้รับจ้ำงจะให้ ประกันตำมสมควร กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๖๐๐ ถ้ำมิได้สกำนัำหนดไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เป็นอย่ำงอื่นในสัญ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำญำไซร้ ท่ำนว่สำำนั
ผู้รกับงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จ้ำงจะต้องรับ กำ
ผิดเพื่อกำรที่ทำชำรุดบกพร่องเพียงแต่ที่ปรำกฏขึ้นภำยในปีหนึ่งนับแต่วันส่งมอบ หรือที่ปรำกฏขึ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ภำยในห้ำปี ถ้ำกำรที่ทำนั้นเป็นสิ่งปลูกสร้ำงกับพื้นดิน นอกจำกเรือนโรงทำด้วยเครื่องไม้
แต่ข้อกจำำกัดนี้ท่ำนมิให้สใำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ช้บกังงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คับเมื่อปรำกฏว่ำผู้รับจ้กำำงได้ปิดบังควำมช
สำนัำรุกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดบกพร่องนั้น กำ

สมำตรำ ๖๐๑ ท่ำนห้ำมมิให้กฟำ ้องผู้รับจ้ำงเมืสำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่อพ้กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ปีหนึ่งนับแต่วันกำรชกำรุำ ดบกพร่อง
ได้ปรำกฏขึ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๐๒ อันสินจ้ำงนั้นพึงใช้ให้เมื่อรับมอบกำรที่ทำ
สถ้ำนั
ำกำรที ่ทำนั้นมีกำหนดว่ำจะส่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งรับกันเป็นสส่ำนัวนกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ๆ และได้ระบุจำนวนสิกำนจ้ำงไว้เป็น
ส่วน ๆ ไซร้ ท่ำนว่ำพึงใช้สินจ้ำงเพื่อกำรแต่ละส่วนในเวลำรับเอำส่วนนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๐๓ ถ้ำผู้รับจ้ำงเป็นผู้จัดหำสัมภำระ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
และกำรที่จ้ำงทำนั้นพังทลำยหรือบุบ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สลำยลงก่อนได้ส่งมอบกันถูกต้องไซร้ ท่ำนว่ำควำมวินำศอันนั้นตกเป็นพับแก่ผู้รับจ้ำง หำกควำมวินำศ
สำนักนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นมิได้เป็นเพรำะกำรกระท
กำ ำของผู้ว่ำจ้สำำนั
ง กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๐๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ในกรณีเช่นว่ำนี้ สินจ้ำงก็เป็นอันไม่ต้องใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๐๔ ถ้ำผู้ว่ำจ้ำงเป็นผู้จัดหำสัมภำระ และกำรที่จ้ำงทำนั้นพังทลำยหรือบุบ
สลำยลงก่อนได้สส่งมอบกั นถูกต้องไซร้ ท่ำนว่ำกควำมวิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นำศนั้นสตกเป็ นพับแก่ผู้ว่ำจ้ำง หำกควำมวิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นำศนั้น
มิได้เป็นเพรำะกำรกระทำของผู้รับจ้ำง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณี เช่น ว่ำนี้ สิ น จ้ำงก็เป็น อันไม่ ต้องใช้ เว้นแต่ควำมวินำศนั้นเป็ นเพรำะกำร
กระทำของผู้ว่ำจ้ำสงำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๖๐๕ ถ้ำกำรทีสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่จ้ำกงยังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งทำไม่แล้วเสร็จอยู่ตรำบใด
กำ ผู้ว่ำจ้ำงอำจบอกเลิ กสัญญำได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เมื่อเสียค่ำสินไหมทดแทนให้แก่ผู้รับจ้ำงเพื่อควำมเสียหำยอย่ำงใด ๆ อันเกิดแต่กำรเลิกสัญญำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๐๖ ถ้ำสำระสำคัญแห่งสัญญำอยู่ที่ควำมรู้ควำมสำมำรถของตัวผู้รับจ้ำง
สำนักและผู ้รับจ้ำงตำยก็ดี หรืกอำตกเป็นผู้ไม่สสำมำรถท
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำกำรที่รับจ้ำงนั้นต่กอำไปได้ด้วยมิใช่สเพรำะควำมผิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดของ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ตนก็ดี ท่ำนว่ำสัญญำนั้นย่อมเป็นอันสิ้นลง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำและกำรส่ ว นที่ ได้ ท ำขึ้น แล้ วนั้ น เป็ น ประโยชน์ แก่ผู้ ว่ำจ้ำงไซร้ ท่ ำนว่ำผู้ ว่ำจ้ำง
สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำต้องรับเอำไว้และใช้สกินำจ้ำงตำมสมควรแก่ ส่วนนั้น ๆ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๖๐๗ ผู้รับจ้ำงจะเอำกำรที


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่รับจ้ ำสงทัำนั้งกหมดหรื อแบ่งกำรแต่บำงส่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วนไปให้ผู้
รับจ้ำงช่วงทำอีกทอดหนึ่งก็ได้ เว้นแต่สำระสำคัญแห่งสัญญำนั้นจะอยู่ที่ควำมรู้ควำมสำมำรถของตัวผู้
สำนักรังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บจ้ำง แต่ผู้รับจ้ำงคงต้อกงรั
ำ บผิดเพื่อควำมประพฤติ หรือควำมผิดอย่กำำงใด ๆ ของผู้รสับำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี จ้ำกงช่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วง กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกลัำกษณะ ๘ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รับขน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๐๘ อันว่ำผู้ขนส่งภำยในควำมหมำยแห่งกฎหมำยลักษณะนี้ คือบุคคล
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้รับขนส่งของหรือคนโดยสำรเพื
กำ ่อบำเหน็
สำนัจกเป็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นทำงค้ำปกติของตน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๖๐๙ กำรรับขนของหรื


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อคนโดยสำรในหน้ ำที่ของกรมรถไฟหลวงแห่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งกรุง
สยำม และกำรขนไปรษณียภัณฑ์ในหน้ำที่กรมไปรษณีย์โทรเลขนั้น ท่ำนให้บังคับตำมกฎหมำยและกฎ
สำนักข้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อบังคับสำหรับทบวงกำรนั
กำ ้น ๆ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รับขนของทำงทะเล ท่ำนให้บังคับตำมกฎหมำยและกฎข้อบังคับว่ำด้วยกำรนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ รับขนของ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๖๑๐ อันบุคคลผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก้ทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำควำมตกลงกับผู้ขนส่งกเพื
ำ ่อให้ขนของส่สงำนั
ไปนั ้น เรียกว่ำผู้ส่ง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๐๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

หรือผู้ตรำส่ง
บุคคลผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ้ซึ่งเขำส่งของไปถึ
สำนักงนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้น เรียกว่ำผู้รับตรำส่งกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บำเหน็จอันจะต้องจ่ำยให้เพื่อกำรขนส่งของนั้น เรียกว่ำค่ำระวำงพำหนะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๑๑ อันว่ำอุปกรณ์แห่งค่ำระวำงพำหนะนั้น ได้แก่ค่ำใช้จ่ำยอย่ำงใด ๆ ตำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จำรีตประเพณีอันผู้ขนส่งได้เสียไปโดยควรในระหว่ำงขนส่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๑๒ ถ้ำผู้ขนส่งเรียกเอำใบกำกับของ ผู้ส่งต้องทำให้
ใบกำกักบำ ของนั้นต้องแสดงรำยกำรต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อไปนี้ คือ กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) สภำพและน้ำหนัก หรือขนำดแห่งของที่ส่ง กับสภำพ จำนวน และเครื่องหมำย
แห่งหีบห่อ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ตำบลที่กำหนดให้ส่ง
(๓) ชื่อกหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อยี่ห้อ และส
สำนัำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของผู้รับตรำส่ง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ตำบลและวันที่ออกใบกำกับของนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่งใบกำกับของนั้นต้องลงลำยมือชื่อผู้ส่งเป็สำนั นสกำคั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๑๓ ถ้ำผู้ส่งเรียกเอำใบตรำส่ง ผู้ขนส่งก็ต้องทำให้
สใบตรำส่ งนั้นต้องแสดงรำยกำรต่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อไปนี้ คือ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) รำยกำรดังกล่ำวไว้ในมำตรำ ๖๑๒ อนุมำตรำ ๑, ๒ และ ๓
(๒) ชื่อกหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อยี่ห้อของผูส้สำนั่งกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) จำนวนค่ำระวำงพำหนะ
ส(๔)
ำนักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำบลและวันที่ออกใบตรำส่ กำ ง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่งใบตรำส่งนั้นต้องลงลำยมือชื่อผู้ขนส่งเป็นสำคัญ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๑๔ แม้ว่ำใบตรำส่งจะได้ออกให้แก่บุคคลผู้ใดโดยนำมก็ตำม ท่ำนว่ำย่อม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สลักหลังโอนให้กันได้ เว้นแต่จะมีข้อห้ำมกำรสลักหลังไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๑๕ ถ้ำได้ทำใบตรำส่งให้แก่กัน ท่ำนว่ำของนั้นจะรับมอบเอำไปได้ต่อเมื่อ
เวนคืนใบตรำส่ง สหรืำนัอกเมืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อผู้รับตรำส่งให้ประกันกำตำมควร สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๖๑๖ ผู้ขนส่สงำนัจะต้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องรับผิดในกำรที่ของอั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นเขำได้มอบหมำยแก่ ตนนั้นสูญ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หำยหรือบุบสลำยหรือส่งมอบชักช้ำ เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่ำกำรสูญหำยหรือบุบสลำยหรือชักช้ำนั้นเกิด
แต่เหตุสุดวิสัย หรืสอำนัเกิกดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แต่สภำพแห่งของนั้นเอง
กำ หรือเกิดเพรำะควำมผิ ดของผู้ส่งหรือผู้รับกตรำส่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ง

มำตรำกำ๖๑๗ ผู้ขนส่สงำนัจะต้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องรับผิดในกำรที่ของสูกำญหำยหรือบุบสสลำยหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อส่งชักช้ำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อันเกิดแต่ควำมผิสดำนั
ของผู ้ขนส่งคนอื่น หรือบุคคลอื่นซึ่งตนหำกได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มอบหมำยของนั้นไปอีกทอดหนึ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๖๑๘ ถ้ำของนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้ส่งไปโดยมีผู้ขนส่งหลำยคนหลำยทอด
กำ สำนักท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำผู้ขนส่ง กำ
- ๑๐๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ทั้งนั้นจะต้องรับผิดร่วมกันในกำรสูญหำย บุบสลำย หรือส่งชักช้ำ


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๑๙ ถ้ำของเป็นสภำพอันจะก่อให้เกิดอันตรำยได้ หรือเป็นสภำพเกลือกจะ
ก่อให้เกิดเสียหำยแก่
สำนับกุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คคลหรือทรัพย์สินไซร้ กผูำ้ส่งต้องแสดงสภำพแห่ งของนั้นไว้ก่อนทำสักญำ ญำ ถ้ำมิได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทำเช่นนั้นผู้ส่งจะต้องรับผิดในกำรเสียหำยไม่ว่ำอย่ำงใด ๆ อันเกิดแต่ของนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๖๒๐ ผู้ ขนส่ งไม่ตก้อำงรับผิ ดในเงินสำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ทองตรำ ธนบัตร ธนำคำรบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ต ร ตั๋ วเงิน
พันธบัตร ใบหุ้น ใบหุ้นกู้ ประทวนสินค้ำ อัญมณี และของมีค่ำอย่ำงอื่น ๆ หำกมิได้รับบอกรำคำหรือ
สำนักสภำพแห่ งของไว้ในขณะที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ส่งมอบแก่ตนสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แต่ถ้ำของนั้นได้บอกรำคำ ท่ำนว่ำควำมรับผิดของผู้ขนส่งก็ย่อมจำกัดเพียงไม่เกิน
รำคำที่บอก สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๖๒๑ ค่ำสินสไหมทดแทนในกำรส่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งมอบของชั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กช้ำนั้น ท่สำำนันห้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำมมิให้คิดเกิน กำ
กว่ำจำนวนเช่นจะพึงกำหนดให้ในเหตุของสูญหำยสิ้นเชิง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๖๒๒ ของถึงสเมืำนั่อกใดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ผู้ขนส่งต้องบอกกล่ำกวแก่
ำ ผู้รับตรำส่งสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๖๒๓ ควำมรับผิดของผู


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ขนส่งย่อมสุสำนั
ดสิก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ลงในเมื่อผู้รับตรำส่งได้กรำับเอำของไว้
แล้วโดยไม่อิดเอื้อน และได้ใช้ค่ำระวำงพำหนะกับทั้งอุปกรณ์เสร็จแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีแต่ควำมที
กำ ่กล่ำวนี้ท่ำสนมิำนัใกห้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ใช้บังคับในกรณีที่ของสู กำญหำยหรือบุสบำนั สลำยเห็ นไม่ได้แต่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สภำพภำยนอกแห่งของนั้น หำกว่ำได้บอกกล่ำวควำมสูญหำยหรือบุบสลำยแก่ผู้ขนส่งภำยในแปดวัน
นับแต่วันส่งมอบ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่ ง บทบั ญ ญั ติ ทั้ งหลำยนี้ ท่ ำนมิ ให้ ใช้ บั งคั บ ในกรณี ที่ มี ก ำรทุ จริต หรือ ประมำท
สำนักเลิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นเล่ออย่ำงร้ำยแรงอันกจะปรั
ำ บเอำเป็นสควำมผิ ดของผู้ขนส่งได้ กำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๒๔ ในข้อควำมรับผิดของผู้ขนส่งในกำรที่ของสูญหำยหรือบุบสลำยหรือ
สำนักส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งชักช้ำนั้น ท่ำนห้ำมมิกให้ำ ฟ้องเมื่อพ้นกสำนั
ำหนดปี หนึ่งนับแต่ส่งมอบกหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อปีหนึ่งนับแต่
สำนัวกันงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ที่ควรจะได้ส่ง กำ
มอบ เว้นแต่ในกรณีที่มีกำรทุจริต
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๒๕ ใบรับ ใบตรำส่ ง หรือเอกสำรอื่น ๆ ทำนองนั้นก็ดี ซึ่งผู้ขนส่ งออก
สำนักให้ แก่ผู้ส่งนั้น ถ้ำมีข้อควำมยกเว้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นหรือสจำนัำกักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ควำมรับผิดของผู้ขนส่กงำประกำรใด ท่สำำนันว่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำควำมนั้นเป็น กำ
โมฆะ เว้นแต่ผู้ส่งจะได้แสดงควำมตกลงด้วยชัดแจ้งในกำรยกเว้นหรือจำกัดควำมรับผิดเช่นว่ำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๒๖ ตรำบใดของยังอยู่ในมือผู้ขนส่ง ตรำบนั้นผู้ส่ง หรือถ้ำได้ทำใบตรำส่ง
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ทรงใบตรำส่งนั้น อำจจะให้
กำ ผู้ขนส่งงดกำรส่ งของนั้นไป หรือให้สก่งกลั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บคืน หรือให้
สำนัจัดกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรแก่ของนั้น กำ
เป็นอย่ำงอื่นประกำรใดก็ ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในเหตุเช่นนี้ ผู้ขนส่งชอบที่จะได้รับเงินค่ำระวำงพำหนะตำมส่วนแห่งระยะทำงที่ได้
สำนักจังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดกำรขนส่งไปแล้ว กับกทัำ้งค่ำใช้จ่ำยอื่นสำนัๆกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ต้องเสียไปเพรำะเหตุกทำี่บอกงดหรือเพรำะส่ งของกลับคืน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๐๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

หรือเพรำะจัดกำรเป็นประกำรอื่นนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๒๗ เมื่อของถึงตำบลที่กำหนดให้ส่งและผู้รับตรำส่งได้เรียกให้ส่งมอบแล้ว
ท่ำนว่ำแต่นั้นไปสิสทำนัธิทกั้งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หลำยของผู้ส่งอันเกิดแต่
กำสัญญำรับขนนั ้นย่กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั มตกไปได้แก่ผู้รับตรำส่กงำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๒๘ ถ้ำว่ำของสูญหำยไปเพรำะเหตุสุดวิสัย ท่ำนว่ำผู้ขนส่งไม่มีสิทธิจะได้
เงินค่ำระวำงพำหนะ
สำนักถ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำและได้รับไปไว้ก่อนแล้กวำ เท่ำใดต้องส่งสคืำนันจงสิ ้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๖๒๙ ถ้ำผู้ขสนส่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คนใดส่งมอบของเสียแต่
กำ ก่อนได้รับค่ำสระวำงพำหนะและ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อุป กรณ์ ไซร้ ท่ำนว่ำผู้ขนส่ งคนนั้ น ยังคงต้องรับผิ ดต่อผู้ ขนส่งก่อน ๆ ตนเพื่อค่ำระวำงพำหนะและ
อุปกรณ์ซึ่งยังค้ำงชสำนั
ำระแก่ เขำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๖๓๐ ผู้ขนส่สงำนัชอบที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่จะยึดหน่วงเอำของไว้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ก่อนได้ตำมทีส่จำนัำเป็ นเพื่อประกัน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กำรใช้เงินค่ำระวำงพำหนะและอุปกรณ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๖๓๑ ถ้ำหำตั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัวผูก้รงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ับตรำส่งไม่พบก็ดี หรืกอำถ้ำผู้รับตรำส่สงำนั
บอกปั ดไม่ยอมรับ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
มอบของก็ดี ผู้ขนส่งต้องบอกกล่ำวไปยังผู้ส่งทันที และถำมเอำคำสั่งของผู้ส่ง
สถ้ำนั
ำหำกว่ ำพฤติกำรณ์ขัดขวำงไม่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำมำรถจะท สำนัำได้ ดังนี้ก็ดี หรือถ้ำผู้ส่งละเลยเสี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยไม่ส่ง
คำสั่งมำในเวลำอันควรก็ดี หรือส่งมำเป็นคำสั่งอันไม่อำจปฏิบัติให้เป็นไปได้ก็ดี ท่ำนว่ำผู้ขนส่งมีอำนำจ
สำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่จะเอำของไปฝำกไว้ ณกำสำนักงำนฝำกทรั สำนักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์ได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำของนั้น เป็ นลหุภัณ ฑ์ของสดเสียได้ และกำรหน่วงช้ำไว้ย่อมเป็นกำรเสี่ยงควำม
เสียหำยก็ดี หรือถ้สำนัำรำคำของนั ้นดูไม่น่ำจะคุ้มกค่ำำระวำงพำหนะและอุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ปกรณ์ก็ดี ผู้ขนส่งจะเอำของนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้น
ออกขำยทอดตลำดเสียก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อนึ่ง กำรเอำของไปฝำกหรื
กำ อเอำออกขำยทอดตลำดเช่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นว่ำนั้น ผู้ขสนส่
ำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต้องบอกกล่ำว กำ
แก่ผู้ส่งหรือผู้รับตรำส่งมิให้ชักช้ำ เว้นแต่ไม่สำมำรถจะทำได้ ถ้ำและผู้ขนส่งละเลยเสียไม่บอกกล่ำวไซร้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ท่ำนว่ำจะต้องรับผิดใช้ค่ำเสียหำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๓๒ เมื่อเอำของออกขำยทอดตลำดแล้ วได้เงินจำนวนสุ ทธิเท่ำใด ให้ ผู้
ขนส่งหักเอำไว้เป็สนำนัเงิกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ค่ำระวำงพำหนะและค่กำำอุปกรณ์ ถ้ำและยั งมีเงินเหลืออยู่อีกเท่ำใดต้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องส่งมอบ
ให้แก่บุคคลผู้ควรที่จะได้เงินนั้นโดยพลัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๓๓ ถ้ำของนั้นได้ขนส่งไปโดยมีผู้ขนส่งหลำยคนหลำยทอด ท่ำนว่ำผู้ขนส่ง
ทอดหลังที่สุดอำจใช้
สำนักสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิทธิดังกล่ำวไว้ในมำตรำกำ๖๓๐, ๖๓๑,สำนั
๖๓๒ นั้น ในกำรเรียกค่ำระวำงพำหนะ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
และอุปกรณ์อันค้ำงชำระแก่ผู้ขนส่งทั่วทุกคนได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๒ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รับขนคนโดยสำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๐๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๖๓๔ ผู้ขนส่สงำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี จะต้ องรับผิดต่อคนโดยสำรในควำมเสี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยหำยอั
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เกิดแก่ตัวเขำ กำ
หรือ ในควำมเสื่ อมเสี ย อย่ ำงใด ๆ อัน เป็ น ผลโดยตรงแต่ กำรที่ ต้ องชัก ช้ำในกำรขนส่ ง เว้น แต่ก ำร
เสียหำยหรือชักช้สำนัำนั้นกเกิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดแต่เหตุสุดวิสัยหรือเกิกำดแต่ควำมผิดของคนโดยสำรนั ้นเอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๖๓๕ เครื่องเดินทำงหำกได้มอบหมำยแก่ผู้ขนส่งทันเวลำ ท่ำนว่ำต้องส่ง
มอบในขณะคนโดยสำรถึ ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๖๓๖ ถ้ำคนโดยสำรไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รับมอบเครื่องเดินกำทำงของตนภำยในเวลำเดื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อนหนึ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
นับแต่วันเครื่องเดินทำงนั้นถึงไซร้ ผู้ขนส่งอำจเอำออกขำยทอดตลำดเสียได้
สถ้ำนั
ำ เครื ่ อ งเดิ น ทำงนั้ น มี ส ภำพเป็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ น ของสดของเสี ย ได้ ผู้ ข นส่ ง อำจเอำออกขำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทอดตลำดได้ เมื่อของนั้นถึงแล้วรออยู่ล่วงเวลำกว่ำยี่สิบสี่ชั่วโมง
บทบัญกญั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ติในมำตรำ ส๖๓๒ นั้น ท่ำนให้ใช้บังคับแก่กคำ ดีดังว่ำนี้ด้วยอนุ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัโกลมตำมควร
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๓๗ สิทธิและควำมรับผิ ดของผู้ขสำนั นส่กงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เพื่อเครื่องเดินทำงอันกได้ำ มอบหมำย
สำนักแก่ ผู้ขนส่งนั้น แม้ผู้ขนส่กงจะมิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ได้คิดเอำค่สำนั
ำขนส่ งต่ำงหำกก็ตำม ท่ำนให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บังคับตำมควำมในหมวด ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สมำตรำ ๖๓๘ ผู้ขนส่งไม่ต้อกงรัำ บผิดในเครื่อสงเดิ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทำงซึ่งตนมิได้รับมอบหมำย
กำ เว้นแต่
เมื่อเครื่องเดินทำงนั้นสูญหำยหรือบุบสลำยไปเพรำะควำมผิดของผู้ขนส่งหรือลูกจ้ำงของผู้ขนส่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๓๙ ตั๋ว ใบรับ หรือเอกสำรอื่นทำนองเช่นว่ำนี้อันผู้ขนส่งได้ส่งมอบแก่คน
โดยสำรนั้น หำกมีสขำนั้อกควำมยกเว้ นหรือจำกัดควำมรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บผิดของผูสำนั
้ขนส่ งอย่ำงใด ๆ ท่ำนว่ำข้อกควำมนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้นเป็น
โมฆะ เว้นแต่คนโดยสำรจะได้ตกลงด้วยชัดแจ้งในกำรยกเว้นหรือจำกัดควำมรับผิดเช่นนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๙
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ยืม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกยืำมใช้คงรูป สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๖๔๐ อันว่ำยืมใช้คงรูปนั้น คือสัญญำซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่ำผู้ให้ยืม ให้
บุคคลอีกคนหนึ่งสเรีำนัยกกว่ ำผู้ยืม ใช้สอยทรัพย์สกินำ สิ่งใดสิ่งหนึ่งสได้ำนัเปล่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ และผู้ยืมตกลงว่ำจะคื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นทรัพย์สิน
นั้น เมื่อได้ใช้สอยเสร็จแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๔๑ กำรให้ยืมใช้คงรูปนั้น ท่ำนว่สำำนัย่อกมบริ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บูรณ์ต่อเมื่อส่งมอบทรัพย์สินซึ่ง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้ยืม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๐๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๖๔๒ ค่ ำฤชำธรรมเนี ย มในกำรท ำสั ญ ญำก็ ดี ค่ ำ ส่ งมอบและค่ ำ ส่ ง คื น


สำนักทรั พย์สินซึ่งยืมก็ดี ย่อมตกแก่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ผู้ยืมเป็นผูส้เำนั
สียกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๖๔๓ ทรัพย์สินซึ่งยืกมำ นั้น ถ้ำผู้ยืมเอำไปใช้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรอย่ำงอื่นนอกจำกกำรอั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นเป็น
ปกติแก่ทรัพย์สินนั้น หรือนอกจำกกำรอันปรำกฏในสัญญำก็ดี เอำไปให้บุคคลภำยนอกใช้สอยก็ดี เอำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ไปไว้นำนกว่ำที่ควรจะเอำไว้ก็ดี ท่ำนว่ำผู้ยืมจะต้องรับผิดในเหตุทรัพย์สินนั้นสูญหำยหรือบุบสลำยไป
อย่ำงหนึ่งอย่ำงใดสำนั
แม้กถงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ึงจะเป็นเพรำะเหตุสุดวิกสำ ัย เว้นแต่จะพิสำนั
สูจกน์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้ว่ำถึงอย่ำงไร ๆ ทรัพกำย์สินนั้นก็คง
จะต้องสูญหำยหรือบุบสลำยอยู่นั่นเอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๔๔ ผู้ยืมจำต้องสงวนทรัพย์สินซึ่งยืมไปเหมือนเช่นวิญญูชนจะพึงสงวน
ทรัพย์สินของตนเอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๖๔๕ ในกรณี


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัทกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ั้ งหลำยดั งกล่ ำวไว้ ในมำตรำ
กำ ๖๔๓ นัสำนั
้ น ก็กดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี หรือ ถ้ ำผู้ ยื ม กำ
ประพฤติฝ่ำฝืนต่อควำมในมำตรำ ๖๔๔ ก็ดี ผู้ให้ยืมจะบอกเลิกสัญญำเสียก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๖๔๖ ถ้ำมิได้สกำนัำหนดเวลำกั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นไว้ ท่ำนให้คกืนำ ทรัพย์สินที่ยสืมำนัเมืก่องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ผู้ยืมได้ใช้สอย กำ
ทรัพย์สินนั้นเสร็จแล้วตำมกำรอันปรำกฏในสัญญำ แต่ผู้ให้ยืมจะเรียกคืนก่อนนั้นก็ได้เมื่อเวลำได้ ล่วง
ไปพอแก่กำรที่ผู้ยสืมำนั
จะได้ ใช้สอยทรัพย์สินนั้นเสร็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำจแล้ว สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำเวลำก็มิได้กำหนดกันไว้ ทั้งในสัญญำก็ไม่ปรำกฏว่ำยืมไปใช้เพื่อกำรใดไซร้ ท่ำนว่ำ
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ให้ยืมจะเรียกของคืนเมืก่อำ ไรก็ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๖๔๗ ค่ำใช้จ่ำยอันกเป็ำ นปกติแก่กำรบ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำรุ งรักษำทรัพย์สินซึ่งยืมกนัำ้น ผู้ยืมต้อง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นผู้เสีย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๔๘ อันกำรยืมใช้คงรูป ย่อมระงับสิ้นไปด้วยมรณะแห่งผู้ยืม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๖๔๙ ในข้อสควำมรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บผิดเพื่อเสียค่ำทดแทนอั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นเกี่ยวกับสกำรยื มใช้คงรูปนั้น
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ท่ำนห้ำมมิให้ฟ้องเมื่อพ้นเวลำหกเดือนนับแต่วันสิ้นสัญญำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักยืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มใช้สิ้นเปลือง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๕๐ อั น ว่ ำ ยื ม ใช้ สิ้ น เปลื อ งนั้ น คื อ สั ญ ญำซึ่ ง ผู้ ให้ ยื ม โอนกรรมสิ ท ธิ์ ใ น
สำนักทรั พย์สินชนิดใช้ไปสิ้นไปนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นเป็นปริมำณมี
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดให้ไปแก่ผู้ยืม และผู
กำ ้ยืมตกลงว่ำสจะคื
ำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทรัพย์สินเป็น กำ
ประเภท ชนิด และปริ มำณเช่นเดียวกันให้แทนทรัพย์สินซึ่งให้สยำนัืมกนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
้น กำ
สัญญำนี้ย่อมบริบูรณ์ต่อเมื่อส่งมอบทรัพย์สินที่ยืม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๐๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๖๕๑ ค่ำฤชำธรรมเนียมในกำรทำสัญญำก็ดี ค่ำส่งมอบและส่งคืนทรัพย์สินซึ่ง


สำนักยืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มก็ดี ย่อมตกแก่ผู้ยืมเป็กนำ ผู้เสีย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๖๕๒ ถ้ำในสัญญำไม่กำมีกำหนดเวลำให้


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ืนทรัพย์สินซึ่งยืมไป ผูก้ให้ำ ยืมจะบอก
กล่ำวแก่ผู้ยืมให้คืนทรัพย์สินภำยในเวลำอันควร ซึ่งกำหนดให้ในคำบอกกล่ำวนั้นก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๕๓ กำรกู้ยืมเงินกว่กำำสองพันบำทขึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้นไปนั ้น ถ้ำมิได้มีหลักฐำนแห่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งกำรกู้ยืม
เป็นหนังสืออย่ำงใดอย่ำงหนึ่งลงลำยมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญ จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหำได้ไม่๑๒
ในกำรกูกำ้ ยื ม เงิน มี ห ลั กสฐำนเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี น หนั งสื อ นั้ น ท่ ำนว่กำำ จะน ำสื บ กำรใช้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักเงิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น ได้ ต่ อ เมื่ อ มี กำ
หลักฐำนเป็นหนังสืออย่ำงใดอย่ำงหนึ่งลงลำยมือชื่อผู้ให้ยืมมำแสดงหรือเอกสำรอันเป็นหลักฐำนแห่ง
กำรกู้ยืมนั้นได้เวนคื
สำนันกแล้ ว หรือได้แทงเพิกถอนลงในเอกสำรนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ส้นำนัแล้ ว
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำก๖๕๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ท่ำนห้ำสมมิ
ำนักใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ห้คิดดอกเบี้ยเกินร้อยละสิ
กำ บห้ำต่อปี ถ้สำำนัในสั ญญำกำหนด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ดอกเบี้ยเกินกว่ำนั้น ก็ให้ลดลงมำเป็นร้อยละสิบห้ำต่อปี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำก๖๕๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ท่ำนห้ำสมมิ
ำนักใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ห้คิดดอกเบี้ยในดอกเบีก้ยำ ที่ค้ำงชำระ แต่
สำนัทกว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเมื่อดอกเบี้ย กำ
ค้ำงชำระไม่น้อยกว่ำปีหนึ่ง คู่สัญญำกู้ยืมจะตกลงกันให้เอำดอกเบี้ยนั้นทบเข้ำกับต้นเงินแล้วให้คิด
ดอกเบี้ยในจำนวนเงิ
สำนันกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ทบเข้ำกันนั้นก็ได้ แต่กกำรตกลงเช่
ำ นนัส้นำนั
ต้อกงท ำเป็นหนังสือ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ส่วนประเพณี กำรค้ำขำยที่คำนวณดอกทบต้นในบัญ ชีเดินสะพัดก็ดี ในกำรค้ำขำย
สำนักอย่ ำงอื่นทำนองเช่นว่ำนีก้กำ็ดี หำอยู่ในบังสคัำนับกแห่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งบทบัญญัติซึ่งกล่ำวมำในวรรคก่
กำ อนนัส้นำนัไม่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๖๕๖ ถ้ำทำสัญญำกูก้ยำ ืมเงินกัน และผู


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้กกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ู้ยืมยอมรับเอำสิ่งของหรื
กำอทรัพย์สิน
อย่ำงอื่นแทนจำนวนเงินนั้นไซร้ ท่ำนให้คิดเป็นหนี้เงินค้ำงชำระโดยจำนวนเท่ำกับรำคำท้องตลำดแห่ง
สำนักสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่งของหรือทรัพย์สินนั้นกในเวลำและ
ำ ณสสถำนที ่ส่งมอบ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำทำสัญญำกู้ยืมเงินกัน และผู้ให้กู้ยืมยอมรับเอำสิ่งของหรือทรัพย์สินอย่ำงอื่นเป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรชำระหนี้แทนเงินที่กู้ยืมไซร้ หนี้อันระงับไปเพรำะกำรชำระเช่นนั้น ท่ำนให้คิดเป็นจำนวนเท่ำกับ
สำนักรำคำท้ องตลำดแห่งสิ่งของหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อทรัพย์สสินำนั
นั้นกในเวลำและ ณ สถำนทีก่สำ่งมอบ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมตกลงกันอย่ำงใด ๆ ขัดกับข้อควำมดังกล่ำวมำนี้ ท่ำนว่ำเป็นโมฆะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๑๐
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ฝำกทรัพย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำหมวด ๑ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทเบ็ดเสร็จทั่วไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๒
มำตรำ ๖๕๓ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำย
สำนักแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พ.ศ. ๒๕๔๘ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๔) สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๐๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๖๕๗ อันว่ำฝำกทรัพย์นั้น คือสัญญำซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่ำผู้ฝำก ส่งมอบ


สำนักทรั พย์สินให้แก่บุคคลอีกกคนหนึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่ง เรียกว่สำำนั
ผู้รกับงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ฝำก และผู้รับฝำกตกลงว่
กำ ำจะเก็บรักษำทรั พย์สินนั้นไว้ใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อำรักขำแห่งตน แล้วจะคืนให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๕๘ ถ้ำโดยพฤติกำรณ์พึงคำดหมำยได้ว่ำเขำรับฝำกทรัพย์ก็เพื่อจะได้รับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บำเหน็จค่ำฝำกทรัพย์เท่ำนั้นไซร้ ท่ำนให้ถือว่ำเป็นอันได้ตกลงกันแล้วโดยปริยำยว่ำมีบำเหน็จเช่นนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๕๙ ถ้ำกำรรับฝำกทรัพย์เป็นกำรทำให้เปล่ำไม่มีบำเหน็จไซร้ ท่ำนว่ำผู้รับ
สำนักฝำกจ ำต้องใช้ควำมระมักดำระวังสงวนทรัสพำนัย์สกินงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ซึ่งฝำกนั้นเหมือนเช่นเคยประพฤติ
กำ ในกิสำนั
จกำรของตนเอง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำกำรรับฝำกทรัพย์นั้นมีบำเหน็จค่ำฝำก ท่ำนว่ำผู้รับฝำกจำต้องใช้ควำมระมัดระวัง
และใช้ฝีมือเพื่อสงวนทรั พย์สิน นั้น เหมือนเช่กนำ วิญญูช นจะพึสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งประพฤติ โดยพฤติกำรณ์กดำังนั้น ทั้งนี้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย่อมรวมทั้งกำรใช้ฝีมืออันพิเศษเฉพำะกำรในที่จะพึงใช้ฝีมือเช่นนั้นด้วย
ถ้ำและผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้รับฝำกเป็นผูสำนั
้มีวกิ ชงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำชีพเฉพำะกิจกำรค้ำขำยหรื
กำ ออำชีวะอย่
สำนัำกงหนึ ่งอย่ำงใดก็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จำต้องใช้ควำมระมัดระวังและใช้ฝี มือเท่ ำที่เป็ นธรรมดำจะต้องใช้และสมควรจะต้องใช้ในกิจกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ค้ำขำยหรืออำชีวะอย่ ำงนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๖๐ ถ้ำผู้ฝำกมิได้อนุญำต และผู้รับฝำกเอำทรัพย์สินซึ่งฝำกนั้นออกใช้สอย
เอง หรือเอำไปให้สบำนัุคกคลภำยนอกใช้ สอย หรือกให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บุคคลภำยนอกเก็ บรักษำไซร้ ท่ำนว่ำผู้รกับำฝำกจะต้อง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รับผิดเมื่อทรัพย์สินซึ่งฝำกนั้นสูญหำยหรือบุบสลำยอย่ำงหนึ่งอย่ำงใด แม้ถึงจะเป็นเพรำะเหตุสุดวิสัย
สำนักเว้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นแต่จะพิสูจน์ได้ว่ำถึงกอย่ำ ำงไร ๆ ทรัพสย์ำนัสินกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้นก็คงจะต้องสูญหำยหรื
กำ อบุบสลำยอยูส่นำนัั่นกเอง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๖๖๑ ถ้ำบุคคลภำยนอกอ้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำงว่ำมีสสิทำนั
ธิเกหนื อทรัพย์สินซึ่งฝำกและยื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่นฟ้องผู้รับ
ฝำกก็ดี หรือยึดทรัพย์สินนั้นก็ดี ผู้รับฝำกต้องรีบบอกกล่ำวแก่ผู้ฝำกโดยพลัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๖๒ ถ้ำได้กำหนดเวลำกันไว้ว่ำจะพึงคืนทรัพย์สินซึ่งฝำกนั้นเมื่อไร ท่ำนว่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้รับฝำกไม่มีสิทธิจะคืนทรัพย์สินก่อนถึงเวลำกำหนด เว้นแต่ในเหตุจำเป็นอันมิอำจจะก้ำวล่วงเสียได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๖๓ ถึงแม้ว่ำคู่สัญญำจะได้กำหนดเวลำไว้ว่ำจะพึงคืนทรัพย์สินซึ่งฝำกนั้น
เมื่อไรก็ตำม ถ้ำว่ำสผูำนั้ฝกำกจะเรี ยกคืนในเวลำใด กๆำ ผู้รับฝำกก็ต้อสงคื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้ กำ

มำตรำกำ๖๖๔ ถ้ำคู่สสัญำนัญำไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ได้กำหนดเวลำไว้ว่ ำกจะพึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งคืนทรัพย์สสำนั
ินซึก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ฝำกนั้นเมื่อไร กำ
ไซร้ ผู้รับฝำกอำจคืนทรัพย์สินนั้นได้ทุกเมื่อ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๖๕ ผู้รับฝำกจำต้องคืนทรัพย์สินซึ่งรับฝำกไว้นั้นให้แก่ผู้ฝำก หรือทรัพย์สิน
สำนักนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นฝำกในนำมของผู้ใดกคืำนให้แก่ผู้นั้นสหรื
ำนัอกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้รับฝำกได้รับคำสั่งโดยชอบให้
กำ คืนทรัสพำนัย์สกินงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้นไปแก่ ผู้ใด กำ
คืนให้แก่ผู้นั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แต่หำกผู้ฝำกทรัพย์ตำย ท่ำนให้คืนทรัพย์สินนั้นให้แก่ทำยำท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๑๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๖๖๖ เมื่อคืนทรัพย์ ถ้ำมีดอกผลเกิดแต่ทรัพย์สินซึ่งฝำกนั้นเท่ำใด ผู้รับฝำก


สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำต้องส่งมอบพร้อมไปกักบำ ทรัพย์สินนั้นสด้ำนั
วยกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๖๖๗ ค่ำคืนทรัพย์สกินำซึ่งฝำกนั้น ย่สอำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มตกแก่ ผู้ฝำกเป็นผู้เสีย กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๖๖๘ ค่ำใช้ จ่ำยใดอัน ควรแก่กำรบ ำรุงรักษำทรัพย์ สิ น ซึ่งฝำกนั้ น ผู้ ฝ ำก
จำต้องชดใช้ให้แก่สำนั
ผู้รกับงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ฝำก เว้นแต่จะได้ตกลงกั
กำ นไว้โดยสัญสญำฝำกทรั พย์ว่ำผู้รับฝำกจะต้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำองออกเงิน
ค่ำใช้จ่ำยนั้นเอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๖๙ ถ้ำไม่ได้กำหนดเวลำไว้ในสัญญำ หรือไม่มีกำหนดโดยจำรีต ประเพณี
ว่ ำ บ ำเหน็ จ ค่ ำ ฝำกทรั พ ย์ นั้ น จะพึ ง ช ำระเมืก่ อำไรไซร้ ท่ ำ นให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัชกำระเมื ่ อ คื น ทรั พ ย์ สิ น ซึก่ งำฝำก ถ้ ำ ได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำหนดเวลำกันไว้เป็นระยะอย่ำงไร ก็พึงชำระเมื่อสิ้นระยะเวลำนั้นทุกครำวไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๗๐ ผู้รับฝำกชอบที่จะยึดหน่วงเอำทรัพย์สินซึ่งฝำกนั้นไว้ได้ จนกว่ำจะ
ได้รับเงินบรรดำที่ค้ำงชำระแก่ตนเกี่ยวด้วยกำรฝำกทรัพย์นั้นสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๖๗๑ ในข้ อ ควำมรับ ผิ ด เพื่ อ ใช้ เงิน บ ำเหน็ จ ค่ ำฝำกทรัพ ย์ ก็ ดี ชดใช้ เงิ น
ค่ำใช้จ่ำยก็ดี ใช้คส่ำำนั
สินกไหมทดแทนเกี ่ยวแก่กำรฝำกทรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พย์ก็ดสี ำนัท่ำกนห้ ำมมิให้ฟ้องเมื่อพ้นเวลำหกเดื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อน
นับแต่วันสิ้นสัญญำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๒
วิธีเฉพำะกำรฝำกเงิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๗๒ ถ้ำฝำกเงิน ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำ ผู้รับฝำกไม่พึงต้องส่งคืนเป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เงินทองตรำอันเดียวกันกับที่ฝำก แต่จะต้องคืนเงินให้ครบจำนวน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีอนึ่ง ผูก้รำับฝำกจะเอำเงิ
สำนันกซึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่งฝำกนั้นออกใช้ก็ได้ แต่กำหำกจำต้องคืนสำนั
เงินกให้ ครบจำนวน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เท่ำนั้น แม้ว่ำเงินซึ่งฝำกนั้นจะได้สูญหำยไปด้วยเหตุสุดวิสัยก็ตำม ผู้รับฝำกก็จำต้องคืนเงินเป็นจำนวน
ดังว่ำนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๖๗๓ เมื่อใดผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้รับกฝำกจ
สำนั ำต้องคืนเงินแต่เพีกยำงเท่ำจำนวนทีส่ฝำนัำกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ผู้ฝำกจะเรียก กำ
ถอนเงินคืนก่อนถึงเวลำที่ได้ตกลงกันไว้ไม่ได้ หรือฝ่ำยผู้รับฝำกจะส่งคืนเงินก่อนถึงเวลำนั้นก็ไม่ได้ดุจกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ วิธีเฉพำะส ำหรับเจ้ำสำนักโรงแรมกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๖๗๔ เจ้ำสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กโรงแรมหรื
สำนั อโฮเต็ล หรือสถำนที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่อื่นทำนองเช่
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ว่ำนั้น จะต้อง กำ
- ๑๑๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

รับผิดเพื่อควำมสูญหำยหรือบุบสลำยอย่ำงใด ๆ อันเกิดแก่ทรัพย์สินซึ่งคนเดินทำงหรือแขกอำศัยหำก
สำนักได้ พำมำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๖๗๕ เจ้ำสำนักต้อกงรัำ บผิดในกำรทีส่ำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ทรักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์ สินของคนเดินทำงหรืกำอแขกอำศัย
สูญหำยหรือบุบสลำยไปอย่ำงใด ๆ แม้ถึงว่ำควำมสูญหำยหรือบุบสลำยนั้นจะเกิดขึ้นเพรำะผู้คนไปมำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เข้ำออก ณ โรงแรม โฮเต็ล หรือสถำนที่เช่นนั้น ก็คงต้องรับผิด
สควำมรั บ ผิ ดนี้ ถ้ำเกี่ยวด้วยเงิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นทองตรำ ธนบั
สำนักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ร ตั๋วเงิน พันธบัตร ใบหุ
กำ ้ น ใบหุ้ น กู้
ประทวนสินค้ำ อัญมณี หรือของมีค่ำอื่น ๆ ให้จำกัดไว้เพียงห้ำพันบำท เว้นแต่จะได้ฝำกของมีค่ำเช่นนี้
สำนักไว้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แก่เจ้ำสำนักและได้บอกรำคำแห่
กำ งของนั
สำนั้นกชังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดแจ้ง๑๓ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แต่เจ้ำสำนักไม่ต้องรับผิดเพื่อควำมสูญหำยหรือบุบสลำยอันเกิดแต่เหตุสุดวิสัย หรือ
แต่สภำพแห่งทรัพสำนั ย์สกินงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้น หรือแต่ควำมผิ ดของคนเดิกำ นทำงสำนั
หรืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แขกอำศัยผู้นั้นเอง หรืกอำบริวำรของ
เขำ หรือบุคคลซึ่งเขำได้ต้อนรับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๗๖ ทรัพย์สินซึ่งมิได้นำฝำกบอกรำคำชัดแจ้งนั้น เมื่อพบเห็นว่ำสูญหำย
หรือบุบสลำยขึ้น คนเดินทำงหรือแขกอำศัยต้องแจ้งควำมนั้นสต่ำนัอกเจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำสำนักโรงแรม โฮเต็ลกำหรือสถำนที่
สำนักเช่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นนั้นทันที มิฉะนั้นท่ำกนว่ำ ำเจ้ำสำนักย่สอำนั
มพ้กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำกควำมรับผิดดังบัญกญัำ ติไว้ในมำตรำสำนั๖๗๔ และ ๖๗๕
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สมำตรำ ๖๗๗ ถ้ำมีคำแจ้งควำมปิ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดไว้ในโรงแรม โฮเต็ล หรือสถำนที่อื่นกทำำนองเช่นว่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นี้ เป็นข้อควำมยกเว้นหรือจำกัดควำมรับผิดของเจ้ำสำนักไซร้ ท่ำนว่ำควำมนั้นเป็นโมฆะ เว้นแต่คน
สำนักเดิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นทำงหรือแขกอำศัยจะได้
กำ ตกลงด้วยชัสดำนัแจ้ งในกำรยกเว้นหรือจำกักดำควำมรับผิดดัสงว่ำนัำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้น กำ

สมำตรำ ๖๗๘ ในข้อควำมรักบำผิดใช้ค่ำสินไหมทดแทนเพื


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่อทรัพย์สินของคนเดิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นทำง
หรือของแขกอำศัยสูญหำยหรือบุบสลำยนั้น ท่ำนห้ำมมิให้ฟ้องเมื่อพ้นเวลำหกเดือนนับแต่วันที่คน
สำนักเดิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นทำงหรือแขกอำศัยออกไปจำกสถำนที
กำ สำนั่นกั้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๗๙ เจ้ำสำนักชอบที่จะยึดหน่วงเครื่องเดินทำงหรือทรัพย์สินอย่ำงอื่นของ
สำนักคนเดิ นทำงหรือแขกอำศั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำยอั นเอำไว้ในโรงแรม โฮเต็ล หรือสถำนที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่ เช่นนั้ นได้จนกว่
สำนัำกจะได้ รับใช้เงิน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บรรดำที่ค้ำงชำระแก่ตน เพื่อกำรพักอำศัยและกำรอื่น ๆ อันได้ทำให้แก่คนเดินทำงหรือแขกอำศัย
ตำมที่เขำพึงต้องกำรนั
สำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รวมทั้งกำรชดใช้เงินทักำ้งหลำยที่ได้ออกแทนไปด้ วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เจ้ำสำนักจะเอำทรัพย์สินที่ได้ยึดหน่วงไว้เช่นว่ำนั้นออกขำยทอดตลำดแล้วหักเอำเงิน
สำนักใช้ จำนวนที่ค้ำงชำระแก่กตำนรวมทั้งค่ำฤชำธรรมเนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยมและค่ำใช้จ่ำยในกำรขำยทอดตลำดนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นจำกเงินที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ขำยทรัพย์สินนั้นก็ได้ แต่ท่ำนมิให้เจ้ำสำนักใช้สิทธิดังว่ำนี้ จนเมื่อ
ส(๑)
ำนักทรั พย์สินนั้นตกอยู่แก่ตนเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นเวลำนำนถึสำนั งหกสั ปดำห์ยังมิได้รับชำระหนี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้สิน และ
(๒) อย่ ำ งน้ อ ยเดื อ นหนึ่ ง ก่ อ นวั น ขำยทอดตลำด ตนได้ ป ระกำศโฆษณำใน
สำนักหนั งสือพิมพ์ประจำท้องถิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่นฉบับหนึ่งแจ้สงำนั
ควำมจ ำนงที่จะขำยทรัพย์กสำิน บอกลักษณะแห่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งทรัพย์สินที่จะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ขำยโดยย่อ กับถ้ำสรูำนั้ชื่อกเจ้ ำของ ก็บอกด้วย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๓
มำตรำ ๖๗๕ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัตแิ ก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ง
สำนักและพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๒๕๔๘ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ชย์ (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ. สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๑๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

เมื่ อ ขำยทอดตลำดหั ก ใช้ ห นี้ ดั งกล่ ำ วแล้ ว มี เงิน เหลื อ อยู่ อี ก เท่ ำ ใดต้ อ งคื น ให้ แ ก่
สำนักเจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำของ หรือฝำกไว้ ณ สกำนั
ำ กงำนฝำกทรั พย์กตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ำมบทบัญญัติในมำตรำกำ ๓๓๑ และ ๓๓๓ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีลักกำ ษณะ ๑๑ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


ค้ำประกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำหมวด ๑ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทเบ็ดเสร็จทั่วไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๖๘๐ อันว่ำค้ำประกักำนนั้น คือสัญญำซึ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก่งบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คคลภำยนอกคนหนึ่งกเรีำ ยกว่ำ ผู้ค้ำ
ประกัน ผูกพันตนต่อเจ้ำหนี้คนหนึ่ง เพื่อชำระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้น
อนึ่ง สักญำ ญำค้ำประกัสนำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นั้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถ้ำมิได้มีหลักฐำนเป็นหนั
กำ งสืออย่ำงใดอย่
สำนัำกงหนึ ่งลงลำยมือ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ชื่อผู้ค้ำประกันเป็นสำคัญ ท่ำนว่ำจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหำได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๖๘๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๑๔
อันค้สำประกั นนั้นจะมีได้แต่เฉพำะเพื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่อหนี้อันสมบูสรำนัณ์กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หนี้ในอนำคตหรือหนี้มีเงื่อนไขจะประกันไว้เพื่อเหตุกำรณ์ซึ่งหนี้นั้นอำจเป็นผลได้จริง
ก็ประกันได้ แต่ตส้อำนังระบุ วัตถุประสงค์ในกำรก่กำอหนี้รำยที่ค้ำประกั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี น ลักษณะของมูลหนีกำ้ จำนวนเงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สูงสุดที่ค้ำประกัน และระยะเวลำในกำรก่อหนี้ที่จะค้ำประกัน เว้นแต่เป็นกำรค้ำประกันเพื่อกิจกำร
สำนักเนื ่องกันไปหลำยครำวตำมมำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๖๙๙สำนัจะไม่ ระบุระยะเวลำดังกล่ำกวก็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สัญญำค้ำประกันต้องระบุหนี้หรือสัญญำที่ค้ำประกันไว้โดยชัดแจ้ง และผู้ค้ำประกัน
ย่อมรับผิดเฉพำะหนี
สำนั้หกรืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อสัญญำที่ระบุไว้เท่ำนัก้นำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หนี้อันเกิดแต่สัญญำซึ่งไม่ผูกพันลูกหนี้เพรำะทำด้วยควำมสำคัญผิดหรือเพรำะเป็นผู้
สำนักไร้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ควำมสำมำรถนั้นก็อกำจจะมี
ำ ประกันสอย่ำนัำกงสมบู รณ์ได้ ถ้ำหำกว่ำกผูำ้ค้ำประกันรู้เหตุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัสกำคั ญผิดหรือไร้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ควำมสำมำรถนั้นในขณะที่เข้ำทำสัญญำผูกพันตน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ ๖๘๑/๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๑๕
สข้ำนั
อตกลงใดที ่ กำหนดให้ ผู้ คก้ำประกั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นต้ องรัสบำนัผิ กดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อย่ำงเดีย วกั บ กำ
ลูกหนี้ร่วมหรือในฐำนะเป็นลูกหนี้ร่วม ข้อตกลงนั้นเป็นโมฆะ
สควำมในวรรคหนึ ่ง มิให้ใช้บกังคัำ บแก่กรณีผู้คส้ำประกั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นซึ่งเป็นนิติบุคคลและยิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นยอมเข้ำ
ผูกพันตนเพื่อรับผิดอย่ำงลูกหนี้ร่วมหรือในฐำนะเป็นลูกหนี้ร่วม ในกรณีเช่นนั้นผู้ค้ำประกันซึ่งเป็นนิติ
สำนักบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คคลนั้นย่อมไม่มีสิทธิดกังำที่บัญญัติไว้ในมำตรำ ๖๘๘ มำตรำ ๖๘๙ กและมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ๖๙๐สำนั๑๖กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๖๘๑ แก้ไขเพิ
สำนั่มเติ มโดยพระรำชบัญ ญั ติ แก้กไำขเพิ่ มเติมประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ. ๒๕๕๗
๑๕
มำตรำ ๖๘๑/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ. ๒๕๕๗
๑๖
มำตรำ ๖๘๑/๑ วรรคสอง เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๒๑) พ.ศ.ก๒๕๕๘
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๑๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๖๘๒ ท่ ำนว่ ำบุ ค คลจะยอมเข้ ำเป็ น ผู้ รั บ เรือ น คื อ เป็ น ประกั น ของผู้ ค้ ำ
สำนักประกั นอีกชั้นหนึ่ง ก็เป็นกได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำบุ คคลหลำยคนยอมตนเข้ำเป็น ผู้ค้ำประกันในหนี้รำยเดียวกันไซร้ ท่ำนว่ำผู้ค้ำ
ประกันเหล่ำนั้นมีคำนั
ส วำมรั บผิดอย่ำงลูกหนี้ร่วมกักำน แม้ถึงว่ำจะมิสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ได้กเข้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำรับค้ำประกันรวมกันกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๘๓ อัน ค้ำประกันอย่ำงไม่มีจำกัดนั้นย่อมคุ้มถึงดอกเบี้ยและค่ำสินไหม
ทดแทนซึ่งลูกหนี้คสำนั
้ำงชกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำระ ตลอดจนค่ำภำระติกดำ พันอันเป็นอุปสำนั
กรณ์ แห่งหนี้รำยนั้นด้วย กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๖๘๔ ผู้ค้ำประกั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย่อมรับผิดเพื่อค่ำฤชำธรรมเนี
กำ ยมควำมซึ
สำนั่งกลูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กหนี้จะต้องใช้ กำ
ให้แก่เจ้ำหนี้ แต่ถ้ำโจทก์ฟ้องคดีโดยมิได้เรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้นั้นก่อนไซร้ ท่ำนว่ำผู้ค้ำประกัน
หำต้องรับผิดเพื่อสใช้ำนัคก่ำฤชำธรรมเนี ยมเช่นนั้นไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๖๘๕ ถ้ำเมื่อสบัำนังคักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ตำมสัญญำค้ำประกันกนัำ้น ผู้ค้ำประกันสไม่
ำนัชกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำระหนี้ทั้งหมด กำ
ของลูกหนี้ รวมทั้งดอกเบี้ ย ค่ำสิน ไหมทดแทน และอุปกรณ์ด้วยไซร้ หนี้ยังเหลืออยู่เท่ำใด ท่ำนว่ำ
ลูกหนี้ยังคงรับผิดสต่ำนัอเจ้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนี้ในส่วนที่เหลือนั้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๖๘๕/๑๑๗ บรรดำข้อตกลงเกี่ยวกับกำรค้ำประกันที่แตกต่ำงไปจำกมำตรำ
๖๘๑ วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสำม มำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๖๘๖ มำตรำ
สำนัก๖๙๔ มำตรำ ๖๙๘ และมำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๖๙๙
เป็นโมฆะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๒
ผลก่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำอนชำระหนี้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๖๘๖๑๘ เมื่อลูกหนี้ผิดนัด ให้ เจ้ำหนี้มีห นังสื อบอกกล่ ำวไปยังผู้ค้ำประกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ภำยในหกสิ บ วัน นั บ แต่วัน ที่ลู กหนี้ ผิ ดนั ด และไม่ว่ำกรณี จะเป็ นประกำรใดเจ้ำหนี้ จะเรียกให้ ผู้ ค้ ำ
สำนักประกั นชำระหนี้ก่อนที่หกนัำ งสือบอกกล่สำำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วจะไปถึ งผู้ค้ำประกันมิได้ แต่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ไม่ตัดสิทธิผู้คส้ำประกั นที่จะชำระ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หนี้เมื่อหนี้ถึงกำหนดชำระ
สในกรณี ที่เจ้ำหนี้มิได้มีหนังสืกอำ บอกกล่ำวภำยในก
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำหนดเวลำตำมวรรคหนึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ง ให้ผู้ค้ำ
ประกันหลุดพ้นจำกควำมรับผิดในดอกเบี้ยและค่ำสินไหมทดแทน ตลอดจนค่ำภำระติดพันอันเป็น
สำนักอุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ปกรณ์แห่งหนี้รำยนั้นบรรดำที
กำ ่เกิดขึ้นสภำยหลั งจำกพ้นกำหนดเวลำตำมวรรคหนึ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่อเจ้ำหนี้มีสิทธิเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้หรือผู้ค้ำประกันมีสิทธิชำระหนี้ได้ตำม
วรรคหนึ่ง ผู้ค้ำประกั
สำนันกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อำจชำระหนี้ทั้งหมดหรืกอำ ใช้สิทธิชำระหนี สำนั้ตกำมเงื ่อนไขและวิธีกำรในกำรช
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำระหนี้

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


๑๗
มำตรำ ๖๘๕/๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๒๑) พ.ศ. ๒๕๕๘
๑๘
มำตรำ ๖๘๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญ ญั ติ แก้ไขเพิ่ มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ.ก๒๕๕๗
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๑๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ที่ลูกหนี้มีอยู่กับ เจ้ำหนี้ ก่อนกำรผิดนัดชำระหนี้ ทั้งนี้ เฉพำะในส่วนที่ตนต้องรับผิดก็ได้ และให้นำ


สำนักควำมในมำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๗๐๑ วรรคสอง
กำ มำใช้บสังำนัคับกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โดยอนุโลม กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในระหว่ำงที่ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ตำมเงื่อนไขและวิธีกำรในกำรชำระหนี้ของลูกหนี้
ตำมวรรคสำม เจ้ำหนี สำนัก้จงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ะเรียกดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นกเพรำะเหตุ
ำ ที่ลูกสหนี
ำนั้ผกิดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นัดในระหว่ำงนั้นมิได้กำ
กำรชำระหนี้ของผู้ค้ำประกันตำมมำตรำนี้ ไม่กระทบกระเทือนสิทธิของผู้ค้ำประกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตำมมำตรำ ๖๙๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๘๗ ผู้ค้ำประกันไม่จำต้องชำระหนี้ก่อนถึงเวลำกำหนดที่จะชำระ แม้ถึงว่ำ
สำนักลูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กหนี้จะไม่อำจถือเอำซึก่งำประโยชน์แห่งสเงืำนั่อกนเวลำเริ ่มต้นหรือเวลำสุกดำสิ้นได้ต่อไปแล้สวำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สมำตรำ ๖๘๘ เมื่อเจ้ ำหนี้ทกำวงให้ ผู้ค้ำประกั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนันกชงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำระหนี้ ผู้ ค้ำประกันจะขอให้
กำ เรียก
ลูกหนี้ชำระก่อนก็ได้ เว้นแต่ลูกหนี้จะถูกศำลพิพำกษำให้เป็นคนล้มละลำยเสียแล้ว หรือไม่ปรำกฏว่ำ
สำนักลูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กหนี้ไปอยู่แห่งใดในพระรำชอำณำเขต
กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๘๙ ถึงแม้จะได้เรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี ้ดังกล่ำวมำในมำตรำก่อนนั้นแล้วก็ตำม
สำนักถ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำผู้ค้ำประกันพิสูจน์ได้กวำ่ำลูกหนี้นั้นมีทสำงที
ำนัก่จงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ะชำระหนี้ได้ และกำรทีกำ่จะบังคับให้ลสูกำนั
หนีก้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชำระหนี้ นั้นจะ กำ
ไม่เป็นกำรยำกไซร้ ท่ำนว่ำเจ้ำหนี้จะต้องบังคับกำรชำระหนี้รำยนั้นเอำจำกทรัพย์สินของลูกหนี้ก่อน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๙๐ ถ้ำเจ้ำหนี้มีทรัพย์ของลูกหนี้ยึดถือไว้เป็นประกันไซร้ เมื่อผู้ค้ำประกัน
สำนักร้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องขอ ท่ำนว่ำเจ้ำหนี้จะต้
กำ องให้ชำระหนีสำนั
้เอำจำกทรั พย์ซึ่งเป็นประกักนำนั้นก่อน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สมำตรำ ๖๙๑๑๙ ในกรณีที่เกจ้ำำหนี้ตกลงกับสลูำนักหนี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ อันมีผลเป็นกำรลดจกำนวนหนี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้ที่มี
กำรค้ำประกันรวมทั้งดอกเบี้ย ค่ำสินไหมทดแทน หรือค่ำภำระติดพันอันเป็นอุปกรณ์แห่งหนี้รำยนั้น
สำนักให้ เจ้ำหนี้มีหนังสือแจ้งให้กำผู้ค้ำประกันทรำบถึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งข้อตกลงดังกล่ำวภำยในหกสิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บวันนับสแต่ำนัวกันงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ที่ตกลงกันนั้น กำ
ถ้ำลูกหนี้ได้ชำระหนี้ตำมที่ได้ลดแล้วก็ดี ลูกหนี้ชำระหนี้ตำมที่ได้ลดไม่ครบถ้วนแต่ผู้ค้ำประกันได้ชำระ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หนี้ส่วนที่เหลือนั้นแล้วก็ดี หรือลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตำมที่ได้ลดแต่ผู้ค้ำประกันได้ชำระหนี้ตำมที่ได้ลดนั้น
สำนักแล้ วก็ดี ให้ผู้ค้ำประกันกเป็ำ นอันหลุดพ้นสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี จำกกำรค้ ำประกัน ในกำรช
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำำระหนี้ของผูส้ คำนั้ำประกั นดังกล่ำว
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้ค้ำประกัน มีสิทธิชำระหนี้ได้แม้จะล่วงเลยกำหนดเวลำชำระหนี้ตำมที่ได้ลดแต่ต้องไม่เกินหกสิบวัน
นับแต่วันที่ครบกสำหนดเวลำช ำระหนี้ดังกล่ำกวำในกรณีที่เจ้ำสหนี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัก้มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ีหนังสือแจ้งให้ผู้ค้ำประกั กำ นทรำบถึง
ข้อตกลงดังกล่ำวเมื่อล่วงเลยกำหนดเวลำชำระหนี้ตำมที่ได้ ลดแล้ว ให้ผู้ค้ำประกันมีสิทธิชำระหนี้ได้
สำนักภำยในหกสิ บวันนับแต่วกันำ ที่เจ้ำหนี้มีหนัสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งสืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แจ้งให้ผู้ค้ำประกันทรำบถึกำ งข้อตกลงนัส้นำนักทังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้งนี้ ข้อตกลงที่ กำ
ทำขึ้นภำยหลังที่ลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้แล้ว หำกในข้อตกลงนั้นมีกำรขยำยเวลำชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้
มิให้ถือว่ำเป็นกำรผ่ สำนัอกนเวลำตำมมำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๗๐๐๒๐กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ข้อตกลงใดที่มีผลเป็นกำรเพิ่มภำระแก่ผู้ค้ำประกันให้มำกกว่ำที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๙
มำตรำ ๖๙๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญ ญั ติ แก้ไขเพิ่ มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ. ๒๕๕๗
๒๐
มำตรำ ๖๙๑ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัตแิ ก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ง
สำนักและพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๒๕๕๘ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ชย์ (ฉบับที่ ๒๑) พ.ศ. สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๑๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ข้อตกลงนั้นเป็นโมฆะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๙๒ อำยุควำมสะดุดหยุดลงเป็นโทษแก่ลูกหนี้นั้น ย่อมเป็นโทษแก่ผู้ค้ำ
ประกันด้วย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


หมวด ๓
ผลภำยหลั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งชำระหนีส้ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๖๙๓ ผู้ค้ำประกัน ซึ่งได้ชำระหนี้แล้ว ย่อมมีสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอำจำกลูกหนี้
เพื่อต้นเงินกับดอกเบี
สำนัก้ยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
และเพื่อกำรที่ต้องสูญหำยหรื
กำ อเสียหำยไปอย่ ำงใด ๆ เพรำะกำรค้ำประกั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นนั้น
อนึ่ง ผู้ค้ำประกันย่อมเข้ำรับช่วงสิทธิของเจ้ำหนี้บรรดำมีเหนือลูกหนี้ด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๙๔ นอกจำกข้อต่อสู้ซึ่งผู้ค้ำประกันมีต่อเจ้ำหนี้นั้น ท่ำนว่ำผู้ค้ำประกันยัง
อำจยกข้อต่อสู้ทั้งหลำยซึ่งลูกหนี้มีต่อเจ้ำหนี้ขึ้นต่อสู้ได้ด้วย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๖๙๕ ผู้ค้ำประกันซึ่งละเลยไม่ยกข้อต่อสู้ของลูกหนี้ขึ้นต่อสู้เจ้ำหนี้นั้น ท่ำน
ว่ำย่อมสิ้นสิทธิที่จสะไล่
ำนักเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บี้ยเอำแก่ลูกหนี้เพียงเท่
กำำที่ไม่ย กขึ้นเป็สำนั
นข้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต่อสู้ เว้นแต่จะพิสูจน์กได้ำ ว่ำตนมิได้รู้
ว่ำมีข้อต่อสู้เช่นนั้น และที่ไม่รู้นั้นมิได้เป็นเพรำะควำมผิดของตนด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๙๖ ผู้ค้ำประกันไม่มีสิทธิจะไล่เบี้ยเอำแก่ลูกหนี้ได้ ถ้ำว่ำตนได้ชำระหนี้
แทนไปโดยมิได้บอกลู
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หนี้ และลูกหนี้ยังมิรู้ควำมมำช
กำ ำระหนีส้ซำนั้ำอีกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีเช่นว่ำนี้ ผู้ค้ำประกันก็ได้แต่เพียงจะฟ้องเจ้ำหนี้เพื่อคืนลำภมิควรได้เท่ำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๙๗ ถ้ำเพรำะกำรกระทำอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งของเจ้ำหนี้เอง เป็นเหตุให้ผู้ค้ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ประกันไม่อำจเข้ำรับช่วงได้ทั้งหมดหรือแต่บำงส่วนในสิทธิก็ดี จำนองก็ดี จำนำก็ดี และบุริมสิ ทธิอันได้
สำนักให้ ไว้แก่เจ้ำหนี้แต่ก่อนหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำอในขณะทำสัสญ
ำนัญำค้ ำประกันเพื่อชำระหนี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ้นั้น ท่ำนว่ำผูส้คำนั
้ำประกั นย่อมหลุด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พ้นจำกควำมรับผิดเพียงเท่ำที่ตนต้องเสียหำยเพรำะกำรนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ควำมระงั
สำนักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สิ้นไปแห่งกำรค้ำประกักนำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๙๘ อันผู้ค้ำประกันย่อมหลุดพ้นจำกควำมรับผิดในขณะเมื่อหนี้ของลูกหนี้
สำนักระงั บสิ้นไปไม่ว่ำเพรำะเหตุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ใด ๆ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๙๙ กำรค้ำประกันเพื่อกิจกำรเนื่องกันไปหลำยครำวไม่มีจำกัดเวลำเป็น
สำนักคุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ณ แก่เจ้ำหนี้ นั้น ท่ำนว่กำำผู้ค้ำประกันสอำจเลิ กเสี ยเพื่อครำวอันเป็กนำ อนำคตได้ โดยบอกกล่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำวควำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๑๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ประสงค์นั้นแก่เจ้ำหนี้
ในกรณีกำเช่นนี้ ท่ำนว่ำสผูำนั้คก้ำประกั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นไม่ต้องรับผิดในกิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จกำรที่ลูกหนีส้กำนัระท ำลงภำยหลัง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
คำบอกกล่ำวนั้นได้ไปถึงเจ้ำหนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๐๐ ๒๑ ถ้ำค้ำประกัน หนี้อันจะต้องช ำระ ณ เวลำมีกำหนดแน่นอนและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เจ้ำหนี้ยอมผ่อนเวลำให้แก่ลูกหนี้ ผู้ค้ำประกันย่อมหลุดพ้นจำกควำมรับผิด เว้นแต่ผู้ค้ำประกันจะได้ตกลง
ด้วยในกำรผ่อนเวลำนั
สำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ข้อตกลงที่ผู้ค้ำประกันทำไว้ล่วงหน้ำก่อนเจ้ำหนี้ผ่อนเวลำอันมีผลเป็นกำรยินยอมให้
สำนักเจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนี้ผ่อนเวลำ ข้อตกลงนั
กำ ้นใช้บังคับมิสไำนั
ด้ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมในวรรคสอง มิให้ใช้บังคับแก่กรณีผู้ค้ำประกันซึ่งเป็นสถำบันกำรเงินหรือค้ำ
ประกันเพื่อสินจ้ำสงเป็
ำนันกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ปกติธุระ๒๒ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๗๐๑ ผู้ค้ำประกั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จะขอชำระหนี้แก่เจ้ำหนี
กำ้ตั้งแต่เมื่อถึงกสำหนดช ำระก็ได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ถ้ำเจ้ำหนี้ไม่ยอมรับชำระหนี้ ผู้ค้ำประกันก็เป็นอันหลุดพ้นจำกควำมรับผิด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ลักษณะ ๑๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จำนอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนับทเบ็ ดเสร็จทั่วไป
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๐๒ อันว่ำจำนองนั้น คือสัญ ญำซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่ำผู้จำนอง เอำ
สำนักทรั พย์สิ น ตรำไว้แก่บุ คคลอี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ก คนหนึ่ ง สเรีำนัยกกว่ ำผู้ รับจำนอง เป็นประกั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ น กำรชำระหนี
สำนัก้ งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โดยไม่ส่งมอบ กำ
ทรัพย์สินนั้นให้แก่ผู้รับจำนอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้รับจำนองชอบที่จะได้รับชำระหนี้จำกทรัพย์สินที่จำนองก่อนเจ้ำหนี้สำมัญมิพักต้อง
สำนักพิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เครำะห์ว่ำกรรมสิทธิ์ในทรั
กำ พย์สินจะได้สโำนัอนไปยั งบุคคลภำยนอกแล้กวำหรือหำไม่ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สมำตรำ ๗๐๓ อันอสังหำริมกทรัำ พย์นั้นอำจจสำนองได้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ไม่ว่ำประเภทใด ๆ กำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สังหำริมทรัพย์อันจะกล่ำวต่อไปนี้ก็อำจจำนองได้ดุจกัน หำกว่ำได้จดทะเบียนไว้แล้ว
สำนักตำมกฎหมำย คือ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) เรือมีระวำงตั้งแต่ห้ำตันขึ้นไป
๒๓

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๗๐๐ แก้ไขเพิ
สำนั่มเติ มโดยพระรำชบัญ ญั ติ แก้กไำขเพิ่ มเติมประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ. ๒๕๕๗
๒๒
มำตรำ ๗๐๐ วรรคสำม เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๒๑) พ.ศ. ๒๕๕๘
๒๓
มำตรำ ๗๐๓ วรรคสอง (๑) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำย
สำนักแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พ.ศ. ๒๕๔๘ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๔) สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๑๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๒) แพ
(๓) สัตกว์ำ พำหนะ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) สังหำริมทรัพย์อื่นใด ๆ ซึ่งกฎหมำยหำกบัญญัติไว้ให้จดทะเบียนเฉพำะกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๐๔ สัญญำจำนองต้องระบุทรัพย์สินซึ่งจำนอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๗๐๕ กำรจำนองทรั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำพย์สินนั้น นอกจำกผู ้เป็นเจ้ำของในขณะนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ้นแล้ว ท่ำน
ว่ำใครอื่นจะจำนองหำได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๐๖ บุ คคลมีก รรมสิ ทธิ์ในทรัพ ย์สิ นแต่ภ ำยในบั งคับ เงื่อนไขเช่น ใด จะ
จำนองทรัพย์สินนัส้นำนัได้กแงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต่ภำยในบังคับเงื่อนไขเช่
กำ นนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๗๐๗ บทบัสญำนัญักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ิมำตรำ ๖๘๑ ว่ำด้วยค้กำำประกันนั้น สท่ำนัำนให้ ใช้ได้ในกำร
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จำนอง อนุโลมตำมควร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๗๐๘ สัญญำจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำนองนั ้นต้องมีจำนวนเงินกระบุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ไว้เป็นเรือนเงิ
สำนันกไทยเป็ นจำนวน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แน่ตรงตัว หรือจำนวนขั้นสูงสุดที่ได้เอำทรัพย์สินจำนองนั้นตรำไว้เป็นประกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๐๙ บุคคลคนหนึ่งจะจำนองทรัพย์สินของตนไว้เพื่อประกันหนี้อันบุคคล
สำนักอืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่นจะต้องชำระ ก็ให้ทำได้
กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๗๑๐ ทรั พ ย์ สิ น หลำยสิ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ ง มี เจ้ ำของคนเดี ย วหรือหลำยคนจะจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำนองเพื่ อ
ประกันกำรชำระหนี้แต่รำยหนึ่งรำยเดียว ท่ำนก็ให้ทำได้
และในกำรนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้คู่สัญญำจะตกลงกั นดังต่อไปนี้ก็ได้ คืกอำว่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ให้ผู้รับจำนองใช้สิทธิบังคับเอำแก่ทรัพย์สินซึ่งจำนองตำมลำดับอันระบุไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ให้ถือเอำทรัพย์สินแต่ละสิ่งเป็นประกันหนี้เฉพำะแต่ส่วนหนึ่งส่วนใดที่ระบุไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๑๑ กำรที่จะตกลงกันไว้เสียแต่ก่อนเวลำหนี้ถึงกำหนดชำระเป็นข้อควำม
อย่ำงใดอย่ำงหนึ่งสว่ำนั
ำ กถ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำไม่ชำระหนี้ ให้ผู้รับจำนองเข้
กำ ำเป็นเจ้ำสของทรั พย์สินซึ่งจำนอง หรืกอำว่ำให้จัดกำร
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แก่ทรัพย์สินนั้นเป็นประกำรอื่นอย่ำงใด นอกจำกตำมบทบัญญัติทั้งหลำยว่ำด้วยกำรบังคับจำนองนั้นไซร้
สำนักข้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อตกลงเช่นนั้นท่ำนว่ำไม่ กำสมบูรณ์ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๗๑๒ แม้ถึงว่ำมีข้อกสัำญญำเป็นอย่ำสงอืำนั่นกก็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ตำม ทรัพย์สินซึ่งจำนองไว้
กำ แก่บุคคล
คนหนึ่งนั้น ท่ำนว่ำจะเอำไปจำนองแก่บุคคลอีกคนหนึ่งในระหว่ำงเวลำที่สัญญำก่อนยังมีอำยุอยู่ก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๑๓ ถ้ำมิได้ตกลงกันไว้เป็นอย่ำสงอืำนั่นกในสั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ญญำจำนอง ท่ำนว่ำผู้จำนองจะ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ชำระหนี้ล้ำงจำนองเป็นงวด ๆ ก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๑๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๗๑๔ อันสัญญำจำนองนั้น ท่ำนว่ำต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อ


สำนักพนั กงำนเจ้ำหน้ำที่ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๗๑๔/๑ ๒๔ บรรดำข้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อตกลงเกี่ ย วกั
สำนับกกำรจ ำนองที่ แตกต่ำงไปจำกมำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
๗๒๘ มำตรำ ๗๒๙ และมำตรำ ๗๓๕ เป็นโมฆะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำหมวด ๒ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สิทธิจำนองครอบเพียงใด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๗๑๕ ทรัพย์สินซึ่งจกำนองย่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อมเป็นสประกั นเพื่อกำรชำระหนี้กับกทัำ้งค่ำอุปกรณ์
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต่อไปนี้ด้วย คือ
(๑) ดอกเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ค่ำสินไหมทดแทนในกำรไม่ชำระหนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ค่ำฤชำธรรมเนียมในกำรบังคับจำนอง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๑๖ จำนองย่อมครอบไปถึงบรรดำทรัพย์สินซึ่งจำนองหมดทุกสิ่ง แม้จะได้
ชำระหนี้แล้วบำงส่สำนั
วนกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๗๑๗ แม้ว่ำสทรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์สิ นซึ่งจำนองจะแบ่งกออกเป็
ำ นหลำยส่
สำนัวนก็ ตำม ท่ำนว่ำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จำนองก็ยังคงครอบไปถึงส่วนเหล่ำนั้นหมดทุกส่วนด้วยกันอยู่นั่นเอง
สถึำนั
งกระนั ้นก็ดี ถ้ำผู้รับจำนองยิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นยอมด้วย ท่สำำนั
นว่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จะโอนทรัพย์สินส่วนหนึ
กำ ่งส่วนใดไป
ปลอดจำกจำนองก็ให้ทำได้ แต่ควำมยินยอมดังว่ำนี้หำกมิได้จดทะเบียน ท่ำนว่ำจะยกเอำขึ้นเป็นข้อ
สำนักต่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อสู้แก่บุคคลภำยนอกหำได้
กำ ไม่ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๑๘ จ ำนองย่อมครอบไปถึงทรัพย์ทั้ งปวงอันติดพั นอยู่กับทรัพย์สิ น ซึ่ง
สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนอง แต่ต้องอยู่ภำยในบั
กำ งคับซึ่งท่ำนจสำนั
ำกักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไว้ในสำมมำตรำต่อไปนีก้ ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๗๑๙ จำนองที่ดินกไม่ำ ครอบไปถึงเรืสำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อนโรงอั นผู้จำนองปลูกสร้กำำงลงในที่ดิน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ภำยหลังวันจำนอง เว้นแต่จะมีข้อควำมกล่ำวไว้โดยเฉพำะในสัญญำว่ำให้ครอบไปถึง
แต่กระนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ น ก็ ดี ผู้รับ จสำนองจะให้ ขำยเรือนโรงนั้กนำรวมไปกับที่ดสินำนัด้กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยก็ได้ แต่ผู้รับ กำ
จำนองอำจใช้บุริมสิทธิของตนได้เพียงแก่รำคำที่ดินเท่ำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๒๐ จำนองเรือนโรงหรือสิ่งปลู กสร้ำงอย่ำงอื่นซึ่งได้ทำขึ้นไว้บนดินหรือใต้
สำนักดิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น ในที่ดินอันเป็นของคนอื
กำ ่นเขำนั้นย่อสมไม่
ำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รอบไปถึงที่ดินนั้นด้วยกำฉันใดกลับกันก็สฉำนัันกนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้น กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๔
มำตรำ ๗๑๔/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนัก(ฉบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บที่ ๒๐) พ.ศ. ๒๕๕๗ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๑๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๗๒๑ จำนองไม่ครอบไปถึงดอกผลแห่งทรัพย์สินซึ่งจำนอง เว้นแต่ในเมื่อ


สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้รับจำนองได้บอกกล่ำวแก่
กำ ผู้จำนองหรืสอำนั
ผู้รกับงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โอนแล้วว่ำตนจำนงจะบั
กำงคับจำนอง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำหมวด ๓ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สิทธิและหน้ำที่ของผู้รับจำนองและผู้จำนอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๒๒ ถ้ำทรัพย์สิ นได้จำนองแล้ ว และภำยหลั งที่จดทะเบียนจำนองมีจด
สำนักทะเบี ยนภำระจำยอมหรืกอำ ทรัพยสิทธิอสย่ำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำงอืกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่น โดยผู้รับจำนองมิได้ยกินำ ยอมด้วยไซร้สท่ำนัำกนว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำสิทธิจำนอง กำ
ย่อมเป็ นใหญ่กว่ำภำระจ ำยอมหรือทรัพยสิทธิอย่ำงอื่นนั้น หำกว่ำเป็นที่เสื่อมเสียแก่สิทธิของผู้ รับ
จำนองในเวลำบังสคัำนั
บจกำนองก็ ให้ลบสิทธิที่กล่ำกวหลั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งนั้นเสียจำกทะเบี ยน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๗๒๓ ถ้ำทรัพสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ย์สกินงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ซึ่งจำนองบุบสลำย หรืกอำ ถ้ำทรัพย์สินซึส่งำนัจำนองแต่ สิ่งใดสิ่ง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หนึ่ งสู ญ หำยหรือบุ บ สลำย เป็ น เหตุให้ ไม่เพียงพอแก่กำรประกันไซร้ ท่ ำนว่ำผู้รับจำนองจะบั งคับ
จำนองเสียในทันทีสำนั
ก็ไกด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เว้นแต่เมื่อเหตุนั้นมิได้กเำป็นเพรำะควำมผิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ดของผู้จำนอง และผู้จำนองก็เสนอจะ
สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนองทรัพย์สินอื่นแทนให้กำ มีรำคำเพียสงพอ หรือเสนอจะรับซ่อมแซมแก้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ไขควำมบุ บสลำยนั
สำนั ้นภำยใน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เวลำอันสมควรแก่เหตุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๒๔ ผู้จำนองใดได้จำนองทรัพย์สินของตนไว้เพื่อประกันหนี้อันบุคคลอื่น
สำนักจะต้ องชำระแล้วและเข้กำำชำระหนี้เสียสเองแทนลู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กหนี้เพื่อจะปัดป้กอำงมิให้ต้องบังคัสบำนัจกำนอง
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ท่ำนว่ำผู้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จำนองนั้นชอบที่จะได้รับเงินใช้คืนจำกลูกหนี้ตำมจำนวนที่ตนได้ชำระไป
สถ้ำนั
ำว่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต้ องบั งคั บ จ ำนอง ท่ ำกนว่
ำ ำ ผู้ จ ำนองชอบที ่ จะได้ รับ เงิน ใช้ คืน จำกลู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ก หนี้ ต ำม
จำนวนซึ่งผู้รับจำนองจะได้รับใช้หนี้จำกกำรบังคับจำนองนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๒๕ เมื่อบุ ค คลสองคนหรือกว่ำนั้น ต่ำงได้จำนองทรัพ ย์สิ นแห่ งตนเพื่ อ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ประกันหนี้แต่รำยหนึ่งรำยเดียวอันบุคคลอื่นจะต้องชำระและมิได้ระบุลำดับไว้ไซร้ ท่ำนว่ำผู้จำนองซึ่ง
สำนักได้ เป็นผู้ชำระหนี้ หรือเป็กำนเจ้ำของทรัพสย์ำนัสกินงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ซึ่งต้องบังคับจำนองนั้นกำหำมีสิทธิจะไล่สเำนั
บี้ยกเอำแก่ ผู้จำนอง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อื่น ๆ ต่อไปได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๒๖ เมื่อบุคคลหลำยคนต่ำงได้จำนองทรัพย์สินแห่งตนเพื่อประกันหนี้แต่
สำนักรำยหนึ ่งรำยเดียวอันบุคกคลอื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่นจะต้องชสำระและได้ ระบุลำดับไว้ด้วยไซร้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ท่ำนว่ำกำรที
สำนัก่ผงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ู้รับจำนองยอม กำ
ปลดหนี้ให้แก่ผู้จำนองคนหนึ่งนั้น ย่อมทำให้ผู้จำนองคนหลัง ๆ ได้หลุดพ้นด้วยเพียงขนำดที่เขำต้องรับ
ควำมเสียหำยแต่กสำรนั ้น
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๗๒๗ ๒๕ ให้ นสำนั


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำบทบั ญ ญั ติมำตรำ ๖๙๑กมำตรำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ๖๙๗ สมำตรำ ๗๐๐ และ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
มำตรำ ๗๐๑ มำใช้ บังคับกับกรณีที่บุคคลจำนองทรัพย์สินเพืส่อำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ประกั นหนี้อันบุคคลอื่นจะต้องชำระด้วย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๕
มำตรำ ๗๒๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญ ญั ติ แก้ไขเพิ่ มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ.ก๒๕๕๗
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๒๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

โดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๒๗/๑๒๖ ไม่ว่ำกรณีจะเป็นประกำรใด ผู้จำนองซึ่งจำนองทรัพย์สินของตน
ไว้เพื่อประกันหนีส้อำนั
ันบุกคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คลอื่นจะต้องชำระ ไม่กตำ้องรับผิดในหนีสำนั
้นั้นกเกิ นรำคำทรัพย์สินที่จำนองในเวลำที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่
บังคับจำนองหรือเอำทรัพย์จำนองหลุด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ข้อตกลงใดอันมีผลให้ผู้จำนองรับผิดเกินที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง หรือให้ผู้จำนองรับ
ผิดอย่ำงผู้ค้ำประกั
สำนันกข้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อตกลงนั้น เป็ น โมฆะกไม่
ำ ว่ำข้ อตกลงนั
สำนั้ นกจะมี อยู่ในสัญ ญำจำนองหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อท ำเป็ น
ข้อตกลงต่ำงหำก ทั้งนี้ เว้นแต่เป็นกรณีที่นิติบุคคลเป็นลูกหนี้และบุคคลผู้มีอำนำจในกำรจัดกำรตำม
สำนักกฎหมำยหรื อบุคคลที่มีอกำนำจควบคุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ มกำรด
สำนักำเนิ นงำนของนิติบุคคลนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ้นเป็นผู้จำนองทรั
สำนักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์สินของตนไว้ กำ
เพื่อประกันหนี้นั้นของนิติบุคคลและผู้จำนองได้ทำสัญญำค้ำประกันไว้เป็นสัญญำต่ำงหำก ๒๗

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักกำรบั งคับจำนอง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๗๒๘
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๒๘
เมื่อสจะบั งคับจำนองนั้น ผู้รับจำนองต้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องมีหนังสสืำนัอกบอกกล่ ำวไปยัง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ลูกหนี้ก่อนว่ำให้ชำระหนี้ภำยในเวลำอันสมควรซึ่งต้องไม่น้อยกว่ำหกสิบวันนับแต่วันที่ลูกหนี้ได้รับคำ
บอกกล่ำวนั้น ถ้ำสและลู กหนี้ละเลยเสียไม่ปฏิบกัตำิตำมคำบอกกล่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำวกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้รับจำนองจะฟ้องคดีตก่อำ ศำลเพื่อให้
พิพำกษำสั่งให้ยึดทรัพย์สินซึ่งจำนองและให้ขำยทอดตลำดก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณีกำตำมวรรคหนึส่งำนัถ้ำกเป็ นกรณีผู้จำนองซึ่งจำนองทรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พย์สินของตนไว้ เพื่อประกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หนี้อันบุคคลอื่นต้องชำระ ผู้รับจำนองต้องส่งหนังสือบอกกล่ำวดังกล่ำวให้ผู้จำนองทรำบภำยในสิบห้ำ
วันนับแต่วันที่ส่งหนั
สำนังกสืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อแจ้งให้ลูกหนี้ทรำบ ถ้กำำผู้รับจำนองมิไสด้ำนัดำเนิ นกำรภำยในกำหนดเวลำสิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บห้ำวัน
นั้น ให้ผู้จำนองเช่นว่ำนั้นหลุดพ้นจำกควำมรับผิดในดอกเบี้ยและค่ำสินไหมทดแทนซึ่งลูกหนี้ค้ำงชำระ
สำนักตลอดจนค่ ำภำระติดพันกอัำนเป็นอุปกรณ์สำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี แห่กงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หนี้รำยนั้นบรรดำที่เกิกดำขึ้นนับแต่วันทีส่พำนั้นกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดเวลำสิบ กำ
ห้ำวันดังกล่ำว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๗๒๙
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๒๙
ในกำรบั
สำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คับจำนองตำมมำตรำ ๗๒๘ กำ ถ้ำไม่มีกำรจ
สำนัำนองรำยอื ่นหรือ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บุริมสิทธิอื่นอันได้จดทะเบียนไว้เหนือทรัพย์สินอันเดียวกันนี้ ผู้รับจำนองจะฟ้องคดีต่อศำลเพื่อเรียก
เอำทรัพย์จำนองหลุ สำนัดกภำยในบั งคับแห่งเงื่อนไขดั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งจะกล่ำวต่อสไปนี
ำนัก้แงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทนกำรขำยทอดตลำดก็กำได้
(๑) ลูกหนี้ได้ขำดส่งดอกเบี้ยมำแล้วเป็นเวลำถึงห้ำปี และ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๖
สำนัมำตรำ ๗๒๗/๑ เพิ่มโดยพระรำชบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญ ญัติแก้สไขเพิ
ำนัก่มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เติมประมวลกฎหมำยแพ่กงำและพำณิชย์
(ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ. ๒๕๕๗
๒๗
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๗๒๗/๑ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัติแก้ไขเพิ่มสเติำนัมกประมวลกฎหมำย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แพ่งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๒๑) พ.ศ. ๒๕๕๘
๒๘
มำตรำ ๗๒๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญ ญั ติ แก้ไขเพิ่ มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ง และ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ. ๒๕๕๗
๒๙
มำตรำ ๗๒๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญ ญั ติ แก้ไขเพิ่ มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ.ก๒๕๕๗
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๒๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๒) ผู้รับจำนองแสดงให้เป็นที่พอใจแก่ศำลว่ำรำคำทรัพย์สินนั้นน้อยกว่ำจำนวนเงิน
สำนักอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นค้ำงชำระ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๗๒๙/๑๓๐ เวลำใดกๆำ หลังจำกที่หสนีำนั้ถกึงกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำหนดชำระ ถ้ำไม่มีกำรจ
กำ ำนองรำย
อื่นหรือบุริมสิทธิอื่นอันได้จดทะเบียนไว้เหนือทรัพย์สินอันเดียวกันนี้ ผู้จำนองมีสิทธิแจ้งเป็นหนังสื อไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ยังผู้รับจำนองเพื่อให้ผู้รับจำนองดำเนินกำรให้มีกำรขำยทอดตลำดทรัพย์สินที่จำนองโดยไม่ต้องฟ้อง
เป็นคดีต่อศำล โดยผู สำนัก้รงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ับจำนองต้องดำเนินกำรขำยทอดตลำดทรั
กำ สำนักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์สินที่จำนองภำยในเวลำหนึ
กำ ่งปีนับ
แต่ วัน ที่ ได้ รั บ หนั งสื อ แจ้ งนั้ น ทั้ งนี้ ให้ ถื อว่ ำหนั งสื อแจ้ งของผู้ จ ำนองเป็ น หนั งสื อ ยิ น ยอมให้ ข ำย
สำนักทอดตลำด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณี ที่ ผู้ รั บ จ ำนองไม่ ได้ ด ำเนิ น กำรขำยทอดตลำดทรัพ ย์ สิ น ที่ จ ำนองภำยใน
ระยะเวลำที่กำหนดไว้ ในวรรคหนึ่ง ให้ผู้จำนองพ้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นจำกควำมรั สำนับกผิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดในดอกเบี้ยและค่ำสินกไหมทดแทน

ซึ่งลูกหนี้ค้ำงชำระ ตลอดจนค่ำภำระติดพันอันเป็นอุปกรณ์แห่งหนี้รำยนั้นบรรดำที่ เกิดขึ้นภำยหลัง
สำนักวังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นที่พ้นกำหนดเวลำดังกล่ กำ ำว สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่ อ ผู้ รั บ จ ำนองขำยทอดตลำดทรัพ ย์สิ น ที่ จ ำนองได้ เงิน สุ ท ธิจ ำนวนเท่ ำใด ผู้ รับ
จำนองต้องจัดสรรชำระหนี้และอุปกรณ์ให้เสร็จสิ้นไป ถ้ำยังมีสเำนังินกเหลื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อก็ต้องส่งคืนให้แก่ผู้จำนอง หรือ
สำนักแก่ บุ คคลผู้ควรจะได้เงิกนำนั้ น แต่ถ้ำได้สเงิำนันกน้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อยกว่ำจำนวนที่ค้ำงชกำระ ำ ให้ เป็ น ไปตำมที ่กำหนดไว้ใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
มำตรำ ๗๓๓ และในกรณีที่ผู้จำนองเป็นบุคคลซึ่งจำนองทรัพย์สินเพื่อประกันหนี้อันบุคคลอื่นจะต้อง
ชำระ ผู้จำนองย่อสมรั ำนับกผิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดเพียงเท่ำที่มำตรำ ๗๒๗/๑ กำ กำหนดไว้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๗๓๐ เมื่ อ ทรั


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัพกย์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สิ น อั น หนึ่ งอั น เดี ย วได้
กำจ ำนองแก่ ผู้ รสั บำนัจกำนองหลำยคน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ด้วยกัน ท่ำนให้ถือลำดับผู้รับจำนองเรียงตำมวันและเวลำจดทะเบียน และผู้รับจำนองคนก่อนจักได้รับ
ใช้หนี้ก่อนผู้รับจำนองคนหลั ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๗๓๑ อัน ผู้รสับำนัจกำนองคนหลั


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งจะบังคับตำมสิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ทธิของตนให้
สำนัเกสีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยหำยแก่ผู้รับ กำ
จำนองคนก่อนนั้น ท่ำนว่ำหำอำจทำได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๗๓๒ ทรัพย์สสำนัินกซึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งจำนองขำยทอดตลำดได้
กำ เงินเป็นจำนวนสุ
สำนักทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ธิเท่ำใด ท่ำน กำ
ให้จัดใช้แก่ผู้รับจำนองเรียงตำมลำดับ และถ้ำยังมีเงินเหลืออยู่อีก ก็ให้ส่งมอบแก่ผู้จำนอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๓๓ ถ้ำเอำทรัพย์จำนองหลุดและรำคำทรัพย์สินนั้นมีประมำณต่ำกว่ำ
๓๑

สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนวนเงินที่ค้ำงชำระกักนำอยู่ก็ดี หรือถ้ำสเอำทรั พย์สินซึ่งจำนองออกขำยทอดตลำดใช้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนัหกนีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ ได้เงินจำนวน กำ
สุทธิน้อยกว่ำจำนวนเงินที่ค้ำงชำระกันอยู่นั้นก็ดี เงินยังขำดจำนวนอยู่เท่ำใดลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดในเงินนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๓๔ ถ้ำจำนองทรัพย์สินหลำยสิ่งเพื่อประกันหนี้แต่รำยหนึ่งรำยเดียวและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๐
มำตรำ ๗๒๙/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ. ๒๕๕๗
๓๑
มำตรำ ๗๓๓ แก้ไขเพิ่ มเติม โดยพระรำชบัญ ญั ติแก้ไขเพิ่ มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ พุทธศักรำช ๒๔๗๘กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๒๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มิได้ระบุลำดับไว้ไซร้ ท่ำนว่ำผู้ รับจำนองจะใช้สิทธิของตนบังคับแก่ทรัพย์สินนั้น ๆ ทั้งหมด หรือแต่


สำนักเพี ยงบำงสิ่งก็ได้ แต่ท่ำนห้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำมมิให้ทำเช่นสำนั
นั้นกแก่ ทรัพย์สินมำกสิ่งกว่ำกทีำ่จำเป็นเพื่อใช้หสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นี้ตกำมสิ ทธิแห่งตน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ถ้ำผู้รับจำนองใช้สิทธิของตนบังคับแก่ทรัพย์สินทั้งหมดพร้อมกัน ท่ำนให้แบ่งภำระ
แห่งหนี้นั้นกระจำยไปตำมส่
ส วนรำคำแห่งทรัพกย์ำ สินนั้น ๆ เว้นสำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี แต่กใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นกรณีที่ได้ระบุจำนวนเงิ กำ นจำนองไว้
เฉพำะทรัพย์สินแต่ละสิ่ง ๆ เป็นจำนวนเท่ำใด ท่ำนให้แบ่งกระจำยไปตำมจำนวนเงินจำนองที่ระบุไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เฉพำะทรัพย์สิ่งนั้น ๆ
สแต่
ำนัถก้ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้รับจำนองใช้สิทธิของตนบั
กำ งคับแก่ทสรัำนั พย์กสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ินอันใดอันหนึ่งแต่เพียกงสิ
ำ ่งเดียวไซร้
ผู้รับจำนองจะให้ชำระหนี้อันเป็นส่วนของตนทั้งหมดจำกทรัพย์สินอันนั้นก็ได้ ในกรณีเช่นนั้น ท่ำนให้
สำนักถืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อว่ำผู้ รับ จำนองคนถัดกไปโดยล
ำ ำดับ ย่สำนั
อมเข้ ำรับช่ว งสิ ทธิของผู้ รับกำจำนองคนก่อสนและจะเข้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำบังคับ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จำนองแทนที่คนก่อนก็ได้แต่เพียงเท่ำจำนวนซึ่งผู้รับจำนองคนก่อนจะพึงได้รับจำกทรัพย์สินอื่น ๆ
ตำมบทบัญญัติดังสกล่ ำนัำกวมำในวรรคก่ อนนั้น กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๗๓๕๓๒ เมื่อสผูำนั้รับกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี จำนองคนใดจะบังคับจกำำนองเอำแก่ผสู้รำนั
ับโอนทรั พย์สินซึ่ง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จำนอง ผู้รับจำนองต้องมีจดหมำยบอกกล่ำวแก่ผู้รับโอนล่วงหน้ำเป็นระยะเวลำไม่น้อยกว่ำหกสิบวัน
ก่อน จึงจะบังคับจสำนองได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


หมวด ๕
สิทธิและหน้ำที่ของผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้รับโอนทรัพสย์ำนั
สินกซึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่งจำนอง กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๗๓๖ ผู้รับโอนทรัพย์สินซึ่งจำนองจะไถ่ถอนจำนองก็ได้ ถ้ำหำกมิได้เป็นตัว
ลูกหนี้หรือผู้ค้ำประกั
สำนันกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือเป็นทำยำทของลูกกหนี
ำ ้หรือผู้ค้ำประกั
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๗๓๗๓๓ ผู้รับสโอนจะไถ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถอนจำนองเมื่อใดก็กำได้ แต่ถ้ำผู้รับสจำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนองได้ บอกกล่ำว
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ว่ำจะบังคับจำนอง ผู้รับโอนต้องไถ่ถอนจำนองภำยในหกสิบวันนับแต่วันรับคำบอกกล่ำว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๗๓๘ ผู้รับโอนซึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ประสงค์จะไถ่ถอนจำนองต้
กำ องบอกกล่ำสวควำมประสงค์ นั้น
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แก่ผู้เป็นลูกหนี้ชั้นต้น และต้องส่งคำเสนอไปยังบรรดำเจ้ำหนี้ที่ได้จดทะเบียน ไม่ว่ำในทำงจำนองหรื อ
ประกำรอื่น ว่ำจะรั บใช้
สำนั เงินให้เป็นจำนวนอันสมควรกั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บรำคำทรัสำนัพกย์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สินนั้น กำ
คำเสนอนั้นให้แจ้งข้อควำมทั้งหลำยต่อไปนี้ คือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๑) ตำแหน่
กำ งแหล่งที่แสละลั กษณะแห่งทรัพย์สินซึ่งกจำำนอง
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) วันซึ่งโอนกรรมสิทธิ์
ส(๓)
ำนักชืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อเจ้ำของเดิม กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ชื่อและภูมิลำเนำของผู้รับโอน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๒
มำตรำ ๗๓๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญ ญั ติ แก้ไขเพิ่ มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ. ๒๕๕๗
๓๓
มำตรำ ๗๓๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญ ญั ติ แก้ไขเพิ่ มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ.ก๒๕๕๗
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๒๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๕) จำนวนเงินที่เสนอว่ำจะใช้
(๖) คกำนวณยอดจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำนวนเงิ นที่ ค้ำงช ำระแก่เจ้ำหนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ คนหนึ่ ง ๆ รวมทั ้งอุปกรณ์ และ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จำนวนเงินที่จะจัดเป็นส่วนใช้แก่บรรดำเจ้ำหนี้ตำมลำดับกัน
สอนึ
ำนั่งกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้คัดสำเนำรำยงำนจดทะเบี
กำ ยนของเจ้สำนั ำพนั กงำนในเรื่องทรัพย์สินกซึำ่งจำนองนั้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อันเจ้ำพนักงำนรับรองว่ำเป็นสำเนำถูกถ้วนสอดส่งไปด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๗๓๙ ถ้ำเจ้ำหนี้คนหนึ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งคนใดไม่ยสอมรั
ำนักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คำเสนอ เจ้ำหนี้คนนัก้นำต้องฟ้องคดี
ต่อศำลภำยในเดือนหนึ่งนับแต่วันมีคำเสนอเพื่อให้ศำลพิพำกษำสั่งขำยทอดตลำดทรัพย์สินซึ่งจำนอง
สำนักนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้น แต่ว่ำเจ้ำหนี้นั้นจะต้กอำงปฏิบัติกำรดัสงำนั
จะกล่ ำวต่อไปนี้ด้วย คือ กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ออกเงินทดรองค่ำฤชำธรรมเนียมกำรขำยทอดตลำด
ส(๒)
ำนักต้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องเข้ำสู้รำคำเอง หรือกแต่
ำ งคนเข้ำสู้รำคำเป็ นจำนวนเงินสูงกว่ำที่ผกู้รำับโอนเสนอ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จะใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๓) บอกกล่
กำ ำวกำรทีส่ ตำนันไม่ ยอมนั้ นให้ ผู้ รับโอนและเจ้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำหนี้ ค นอืสำนั
่น กๆงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บรรดำได้จ ด กำ
ทะเบียน กับทั้งเจ้ำของทรัพย์คนก่อนและลูกหนี้ชั้นต้นทรำบด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๗๔๐ ถ้ำขำยทอดตลำดได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เงินจำนวนสุทกธิำ ล้ำจำนวนเงินสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ที่ผกู้รงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ับโอนเสนอว่ำ กำ
จะใช้ ท่ำนให้ผู้รับโอนเป็นผู้ออกใช้ค่ำฤชำธรรมเนียมในกำรขำยทอดตลำด ถ้ำได้ไม่ถึงล้ำจำนวน ท่ำน
ให้เจ้ำหนี้ผู้ร้องขอให้
สำนัขกำยทอดตลำดเป็ นผู้ออกกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๗๔๑ เมื่อเจ้สำำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หนีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ทั้งหลำยได้สนองรับคำเสนอทั
กำ ่ว ทุกคนแล้
สำนัวกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โดยแสดงออก กำ
ชัดหรือโดยปริยำยก็ดี ท่ำนว่ำจำนองหรือบุริมสิทธิก็เป็นอันไถ่ถอนได้ด้วยผู้รับโอนใช้เงิน หรือวำงเงิน
ตำมจำนวนที่เสนอจะใช้ แทนกำรชำระหนี้ กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๗๔๒ ถ้ำกำรบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนังคักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บจำนองก็ดี ถอนจำนองก็
กำ ดี เป็นเหตุให้สทำนัรักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์สินซึ่งจำนอง กำ
หลุดมือไปจำกบุคคลผู้ได้ทรัพย์ สินนั้นไว้แต่ก่อนไซร้ ท่ำนว่ำกำรที่ทรัพย์สินหลุดมือไปเช่นนั้นหำมีผล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ย้อนหลังไม่ และบุริมสิทธิทั้งหลำยของเจ้ำหนี้แห่งผู้ที่ทรัพย์หลุดมือไปอันมีอยู่เหนือทรัพย์สินและได้
สำนักจดทะเบี ยนไว้นั้น ก็ย่อมเข้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำอยู่ในลำดับสหลัำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บุริมสิทธิอันเจ้ำหนี้ของผูกำ้จำนอง หรือเจ้สำนั
ำของคนก่ อนได้จด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทะเบียนไว้
สในกรณี เช่นนี้ ถ้ำสิทธิใด ๆ อักำนมีอยู่เหนือทรัสำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี พย์กสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ินซึ่งจำนองเป็นคุณหรืกอำเป็นโทษแก่
บุคคลผู้ได้ทรัพย์สินซึ่งจำนองไว้แต่ก่อนได้ระงับไปแล้วด้วยเกลื่อนกลืนกันในขณะที่ได้ทรัพย์สินนั้นมำ
สำนักไซร้ สิทธินั้นท่ำนให้กลับกคืำนมำเป็นคุณหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัอกเป็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นโทษแก่บุคคลผู้นั้นได้กำอีก ในเมื่อทรัพสย์ำนัสกินงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ซึ่งจำนองกลับ กำ
หลุดมือไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๔๓ ถ้ำผู้รับโอนได้ทำให้ทรัพย์สินซึ่งจำนองเสื่อมรำคำลงเพรำะกำรกระทำ
สำนักหรื อควำมประมำทเลิ นกเล่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อแห่ งตน เป็สำนั
น เหตุ ให้ เจ้ำหนี้ทั้งหลำยผูก้ มำ ีสิ ทธิจำนองหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัอกบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ริมสิ ท ธิเหนื อ กำ
ทรัพย์สินนั้นต้องเสี ยหำยไซร้ ท่ำนว่ำผู้รับโอนจะต้องรับผิดเพื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
่อควำมเสียหำยนั้น อย่ำงไรก็ดี อันผู้รับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
โอนจะเรียกเอำเงินจำนวนใด ๆ ซึ่งตนได้ออกไป หรือเรียกให้ชดใช้ค่ำใช้จ่ำยที่ตนได้ทำให้ทรัพย์สินดี
สำนักขึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นนั้น ท่ำนว่ำหำอำจจะเรี
กำ ยกได้ไม่ เว้สนำนั
แต่กทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี่เป็นกำรทำให้ทรัพย์สกินำ นั้นงอกรำคำขึ
สำนั้นกและจะเรี ยกได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๒๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

เพียงเท่ำจำนวนรำคำที่งอกขึ้นเมื่อขำยทอดตลำดเท่ำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๖
ควำมระงับสิก้นำ ไปแห่งสัญญำจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำนอง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๗๔๔ อันจำนองย่กอำมระงับสิ้นไปสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


๓๔
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
(๑) เมื่อหนี้ที่ประกันระงับสิ้นไปด้วยเหตุประกำรอื่นใดมิใช่เหตุอำยุควำม
(๒) เมืก่อำปลดจำนองให้สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี แก่กผงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ู้จำนองด้วยหนังสือเป็นกสำำคัญ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) เมื่อผู้จำนองหลุดพ้น
ส(๔)
ำนักเมื ่อถอนจำนอง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) เมื่อขำยทอดตลำดทรัพย์สินซึ่งจำนองตำมคำสั่งศำลอันเนื่องมำแต่กำรบังคับ
สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนองหรือถอนจำนอง กหรื ำ อเมื่อมีกำรขำยทอดตลำดทรั พย์สินตำมมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๗๒๙/๑สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๖) เมื่อเอำทรัพย์สินซึ่งจำนองนั้นหลุด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๗๔๕ ผู้รับจสำนองจะบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งคับจำนองแม้เมื่อกหนี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้ที่ ประกันนั้นสำนั
ขำดอำยุ ควำมแล้ว
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ก็ได้ แต่จะบังคับเอำดอกเบี้ยที่ค้ำงชำระในกำรจำนองเกินกว่ำห้ำปีไม่ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๔๖ กำรชำระหนี้ไม่ว่ำครั้งใด ๆ สิ้นเชิงหรือแต่บำงส่วนก็ดี กำรระงับหนี้
สำนักอย่ ำงใด ๆ ก็ดี กำรตกลงกั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นแก้ไขเปลี่ยสนแปลงจ ำนองหรือหนี้อันจำนองเป็
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นประกัสนำนั
นั้นกเป็ นประกำรใด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ก็ดี ท่ำนว่ำต้องน ำควำมไปจดทะเบี ยนต่อพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ในเมื่อมีคำขอร้องของผู้มีส่ วนได้เสี ย
มิฉะนั้นท่ำนห้ำมมิสใำนัห้ยกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภำยนอก
กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ลักษณะ ๑๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จำนำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทเบ็ดเสร็จทั่วไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๗๔๗ อันว่ำสจำนัำนกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนั้น คือสัญญำซึ่งบุคคลคนหนึ
กำ ่ง เรียกว่
สำนัำกผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ จำนำ ส่งมอบ กำ
สังหำริมทรัพย์สิ่งหนึ่งให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่ำผู้รับจำนำ เพื่อเป็นประกันกำรชำระหนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๔๘ กำรจ ำน ำนั้ น ย่ อมเป็ น ประกั น เพื่ อกำรช ำระหนี้ กั บ ทั้ งค่ ำอุ ป กรณ์
สำนักต่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อไปนี้ด้วย คือ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ดอกเบี้ย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๔
มำตรำ ๗๔๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญ ญั ติ แก้ไขเพิ่ มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ.ก๒๕๕๗
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๒๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๒) ค่ำสินไหมทดแทนในกำรไม่ชำระหนี้
(๓) ค่ำกฤชำธรรมเนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ยมในกำรบั งคับจำนำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ค่ำใช้จ่ำยเพื่อรักษำทรัพย์สินซึ่งจำนำ
ส(๕)
ำนักค่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำสินไหมทดแทนเพื่อควำมเสี
กำ ยหำยอันสเกิำนัดกแต่ ควำมชำรุดบกพร่องแห่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งทรัพย์สิน
จำนำซึ่งไม่เห็นประจักษ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๗๔๙ คู่สัญญำจำนกำจะตกลงกั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นให้สบำนัุคกคลภำยนอกเป็ นผู้เก็บรักกษำทรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ พย์สิน
จำนำไว้ก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๕๐ ถ้ำทรัพย์สินที่จำนำเป็นสิทธิซึ่งมีตรำสำร และมิได้ส่งมอบตรำสำรนั้น
ให้แก่ผู้รับจำนำ ทัส้งำนัมิกได้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บอกกล่ำวเป็นหนังสือกแจ้
ำ งกำรจำนำแก่
สำนัลกูกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หนี้แห่งสิทธินั้นด้วยไซร้กำท่ำนว่ำกำร
จำนำย่อมเป็นโมฆะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๕๑ ถ้ำจำนำตรำสำรชนิดออกให้แก่บุคคลเพื่อเขำสั่ง ท่ำนห้ำมมิให้ยกขึ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เป็นข้อต่อสู้บุคคลภำยนอก เว้นแต่จะได้สลักหลังไว้ที่ตรำสำรให้ ปรำกฏกำรจำนำเช่นนั้น
อนึ่ง ในกำรนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ไม่จำเป็สนำนัต้อกงบอกกล่ ำวแก่ลูกหนี้แห่กงำตรำสำร สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สมำตรำ ๗๕๒ ถ้ำจำนำตรำสำรชนิ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดออกให้สแำนั
ก่บกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ุคคลโดยนำมและจะโอนกั
กำ นด้วยสลัก
หลังไม่ได้ ท่ำนว่ำต้องจดข้อควำมแสดงกำรจำนำไว้ให้ ปรำกฏในตรำสำรนั้นเอง และท่ำนห้ำมมิให้
สำนักยกขึ ้นเป็นข้อต่อสู้ลูกหนีก้แำห่งตรำสำรหรืสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อบุกคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คลภำยนอก เว้นแต่จะได้
กำ บอกกล่ำวกำรจ
สำนักำนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนั้นให้ทรำบ กำ
ถึงลูกหนี้แห่งตรำสำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๕๓ ถ้ำจำนำใบหุ้น หรือใบหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อ ท่ำนห้ำมมิให้ยกขึ้นเป็นข้อ
สำนักต่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อสู้ บ ริ ษัทหรื อบุ คคลภำยนอก
กำ เว้น แต่
สำนัจกะได้ จดลงทะเบียนกำรจกำำนำนั้น ไว้ในสมุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัดกของบริ ษัทตำม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บทบัญญัติทั้งหลำยในลักษณะ ๒๒ ว่ำด้วยกำรโอนหุ้นหรือหุ้นกู้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๗๕๔ ถ้ำสิทสธิำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ซึ่งกจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนำนั้นถึงกำหนดชำระก่
กำ อนหนี้ซึ่งประกั
สำนันกไว้ นั้นไซร้ ท่ำน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ว่ำลู ก หนี้ แห่ งสิ ท ธิต้อ งส่ งมอบทรัพ ย์ สิ น อัน เป็ นวัต ถุแ ห่ งสิ ท ธิให้ แก่ ผู้ รับ จำนำ และทรัพ ย์ สิ น นั้ น ก็
กลำยเป็นของจำนสำแทนสิ ทธิซึ่งจำนำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำสิทธิซึ่งจำนำนั้นเป็นมูลหนี้ซึ่งต้องชำระเป็นเงิน และถึงกำหนดชำระก่อนหนี้ซึ่ง
สำนักประกั น ไว้นั้ น ไซร้ ท่ ำนว่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำำต้ อ งใช้ เงิน ให้
สำนัแกก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้ รับ จ ำน ำและผู้ จ ำน ำร่
กำ ว มกั น ถ้ ำ และเขำทั ้ งสองนั้ น ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ปรองดองตกลงกันได้ ท่ำนว่ำแต่ละคนชอบที่จะเรียกให้วำงเงินจำนวนนั้นไว้ ณ สำนักงำนฝำกทรัพย์
ได้เพื่อประโยชน์อสันำนัร่วกมกั น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๗๕๕ ถ้ำจำนสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำสิกทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ธิ ท่ำนห้ำมมิให้ทำสิทกธิำนั้นให้สิ้นไป หรื
สำนัอกแก้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไขสิทธินั้นให้ กำ
เสียหำยแก่ผู้รับจำน ำโดยผู้รับจำนำมิได้ยินยอมด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๗๕๖ กำรทีส่จำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ะตกลงกั นไว้เสียแต่ก่อนเวลำหนี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ถึงกำหนดช
สำนัำระเป็ นข้อควำม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๒๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

อย่ำงใดอย่ำงหนึ่ งว่ำ ถ้ำไม่ชำระหนี้ ให้ผู้รับจำนำเข้ำเป็นเจ้ำของทรัพย์สินจำนำ หรือให้จัดกำรแก่


สำนักทรั พย์สินนั้นเป็นประกำรอื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่นนอกจำกตำมบทบั ญญัติทั้งหลำยว่ำด้วกยกำรบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งคับจำนสำนั
ำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไซร้ ข้อตกลง กำ
เช่นนั้นท่ำนว่ำไม่สมบูรณ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๕๗ บทบัญญัติทั้งหลำยในลักษณะ ๑๓ นี้ ท่ำนให้ใช้บังคับแก่สัญญำจำนำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ที่ทำกับผู้ตั้งโรงรับจำนำโดยอนุญำตรัฐบำลแต่เพียงที่ไม่ขัดกับกฎหมำย หรือกฎข้อบังคับว่ำด้วยโรง
จำนำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สิทธิและหน้ำที่ของผู้จำนำและผู้รับจำนำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๗๕๘ ผู้รับจสำนำนัำชอบที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่จะยึดของจำนำไว้กไำด้ทั้งหมดจนกว่สำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำจะได้ รับชำระหนี้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
และค่ำอุปกรณ์ครบถ้วน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๗๕๙ ผู้รับจสำน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัำจ ำต้องรักษำทรัพย์สินจกำน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำไว้ให้ปลอดภั
สำนัยกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
และต้องสงวน กำ
ทรัพย์สินจำนำนั้นเช่นอย่ำงวิญญูชนจะพึงสงวนทรัพย์สินของตนเอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๖๐ ถ้ ำ ผู้ รั บ จ ำน ำเอำทรั พ ย์ สิ น ซึ่ ง จ ำน ำออกใช้ เอง หรื อ เอำไปให้
สำนักบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คคลภำยนอกใช้สอย กหรืำ อเก็บรักษำโดยผู ้จำนำมิได้ยินยอมด้วยไซร้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ท่ำนว่ำผู้รับสจำนัำนกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำจะต้องรับผิด กำ
เพื่อที่ทรัพย์สินจำนำนั้นสูญหำย หรือบุบสลำยไปอย่ำงใด ๆ แม้ทั้งเป็นเพรำะเหตุสุดวิสัย เว้นแต่จะ
พิสูจน์ได้ว่ำถึงอย่ำสงไร ๆ ก็คงจะต้องสูญหำย หรื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อบุบสลำยอยูสำนั
่นั่นกเอง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๗๖๑ ถ้ำมิได้สกำนัำหนดไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เป็นอย่ำงอื่นในสักญำ ญำ หำกมีดอกผลนิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ตินัยงอกจำก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทรัพ ย์ สิ น นั้ น อย่ ำงไร ท่ ำนให้ ผู้ รั บ จ ำน ำจั ดสรรใช้ เป็ น ค่ำดอกเบี้ ย อัน ค้ำงช ำระแก่ ต น และถ้ำไม่ มี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ดอกเบี้ยค้ำงชำระ ท่ำนให้จัดสรรใช้ต้นเงินแห่งหนี้อันได้จำนำทรัพย์สินเป็นประกันนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๖๒ ค่ำใช้จ่ำยใด ๆ อันควรแก่ก ำรบำรุงรักษำทรัพย์สินจำนำนั้น ผู้จำนำ
จำต้องชดใช้ให้แก่สผำนัู้รับกจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนำ เว้นแต่จะได้กำหนดไว้
กำ เป็นอย่ำงอื ่นในสั
สำนั ญญำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๗๖๓ ท่ำนห้สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำมมิ ให้ฟ้องคดีดังจะกล่ำวต่กำอไปนี้ เมื่อพ้นสหกเดื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อนนับแต่วัน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ส่งคืน หรือขำยทอดตลำดทรัพย์สินจำนำ คือ
ส(๑)
ำนักฟ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อ งเรี ย กค่ ำ สิ น ไหมทดแทนเพื
กำ ่ อ ควำมบุ บ สลำยอั น ผู้ รั บ จ ำน ำก่กำอ ให้ เกิ ด แก่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทรัพย์สินจำนำ
(๒) ฟ้กอำงเรียกให้ชดใช้สคำนั่ำใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี จ่ำยเพื่อกำรบำรุงรักษำทรั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พย์สินจำนำสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ฟ้องเรียกค่ำสินไหมทดแทนเพื่อควำมเสี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ยหำยอันเกิดแก่ผู้รับจำนำ เพรำะควำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ชำรุดบกพร่องในทรัพย์สินจำนำซึ่งไม่เห็นประจักษ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๒๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

หมวด ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักกำรบั งคับจำนำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๖๔ เมื่อจะบังคับจำนำ ผู้รับจำนำต้องบอกกล่ำวเป็นหนังสือไปยังลูกหนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ก่อนว่ำ ให้ชำระหนี้และอุปกรณ์ภำยในเวลำอันควรซึ่งกำหนดให้ในคำบอกกล่ำวนั้น
สถ้ำนั
ำลูกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หนี้ละเลยไม่ปฏิบัติตำมค
กำ ำบอกกล่ำวสผูำนั้รับกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำนำชอบที่จะเอำทรัพกย์ำสินซึ่งจำนำ
ออกขำยได้ แต่ต้องขำยทอดตลำด
อนึ่ง ผูก้รำับจำนำต้องมีสจำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดหมำยบอกกล่ ำวไปยังผู้จำน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำบอกเวลำและสถำนที ่ซึ่งจะขำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทอดตลำดด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๖๕ ถ้ำไม่สำมำรถจะบอกกล่ำวก่อนได้ ผู้รับจำนำจะเอำทรัพย์สินจำนำ
สำนักออกขำยทอดตลำดเสี ยในเมื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่อหนี้ค้ำงชำระมำล่ วงเวลำเดือนหนึ่งแล้กวำก็ให้ทำได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๖๖ ถ้ำจำนำตั๋วเงิน ท่ำนให้ผู้รับสจำนัำนกำเก็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บเรียกเงินตำมตั๋วเงินนั้นในวันถึง
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนด ไม่จำเป็นต้องบอกกล่
กำ ำวก่อน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๗๖๗ เมื่อบังคับจำนกำำได้เงินจำนวนสุ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัทกธิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เท่ำใด ท่ำนว่ำผู้รับจำนกำต้
ำ องจัดสรร
ชำระหนี้และอุปกรณ์เพื่อให้เสร็จสิ้นไป และถ้ำยังมีเงินเหลือก็ต้องส่งคืนให้แก่ผู้จำนำ หรือแก่บุคคลผู้
สำนักควรจะได้ เงินนั้น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำได้เงินน้อยกว่ำจำนวนค้ำงชำระ ท่ำนว่ำลูกหนี้ก็ยังคงต้องรับใช้ในส่วนที่ขำดอยู่นั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๖๘ ถ้ำจำนำทรัพย์สินหลำยสิ่งเพื่อประกันหนี้แต่รำยหนึ่งรำยเดียว ท่ำน
สำนักว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำผู้รับจำนำจะเลือกเอำทรั
กำ พย์สินสิ่งหนึ ่งสิก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ใดออกขำยก็ได้ แต่จะขำยจนเกิ
กำ นกว่ำสทีำนั่ จกำเป็ นเพื่อใช้เงิน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ตำมสิทธิแห่งตนนั้นหำได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมระงับสิ้นไปแห่งกำรจำนำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๗๖๙ อันจำนสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำย่กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มระงับสิ้นไป กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) เมื่อหนี้ซึ่งจำนำเป็นประกันอยู่นั้นระงับสิ้นไปเพรำะเหตุประกำรอื่นมิใช่เพรำะ
อำยุควำม หรือ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) เมื่อผู้รับจำนำยอมให้ทรัพย์สินจำนำกลับคืนไปสู่ครอบครองของผู้จำนำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๑๔ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เก็บของในคลังสินค้ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๒๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

หมวด ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนับทเบ็ ดเสร็จทั่วไป
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๗๐ อัน ว่ำนำยคลั งสินค้ำนั้น คือบุคคลผู้รับทำกำรเก็บรักษำสินค้ำเพื่อ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บำเหน็จเป็นทำงค้ำปกติของตน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๗๑ บทบัญญัติทั้งหลำยในประมวลกฎหมำยนี้อันว่ำด้วยฝำกทรัพย์นั้ น
สำนักท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนให้นำมำใช้บังคับแก่กกำำรเก็บของในคลั
สำนังกสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นค้ำด้วยเพียงเท่ำที่ไม่กขำัดกับบทบัญญัสตำนั
ิในลั กษณะนี้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สมำตรำ ๗๗๒ บทบัญญัติมำตรำ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๖๑๖, ๖๑๙,
สำนัก๖๒๓, ๖๒๕, ๖๓๐, ๖๓๑
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ และ ๖๓๒
อันว่ำด้วยกำรรับขนนั้น ท่ำนให้นำมำใช้บังคับแก่กำรเก็บของในคลังสินค้ำ อนุโลมตำมควรแก่บท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๗๓ นำยคลังสินค้ำจำต้องยอมให้ผู้ทรงใบรับของคลังสินค้ำ หรือผู้ทรง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ประทวนสินค้ำตรวจสินค้ำและเอำตัวอย่ำงไปได้ในเวลำอันควรระหว่ ำงเวลำทำงำนทุกเมื่อ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๗๔ นำยคลังสินค้ำจะเรียกให้ผู้ฝำกถอนสินค้ำไปก่อนสิ้นระยะเวลำที่ตก
ลงกันไว้นั้น ท่ำนว่สำนั
ำหำอำจท ำได้ไม่ ถ้ำไม่มีกำหนดเวลำส่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งคืนสำนั
สินกค้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำ นำยคลังสินค้ำจะส่งกคืำ นได้ต่อเมื่อ
บอกกล่ำวให้ผู้ฝำกทรำบล่วงหน้ำเดือนหนึ่ง แต่ท่ำนมิให้ผู้ฝำกต้องถูกบังคับให้ถอนสินค้ำไปก่อนเวลำ
สำนักล่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วงแล้วสองเดือน นับแต่กำวันที่ได้ส่งมอบฝำกไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำหมวด ๒ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ใบรับของคลังสินค้ำและประทวนสินค้ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๗๕ ถ้ำผู้ฝำกต้องกำรไซร้ นำยคลังสินค้ำต้องส่งมอบเอกสำรซึ่งเอำออก
สำนักจำกทะเบี ยนมีต้นขั้วเฉพำะกำรอั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นมีใบรับสของคลั งสินค้ำฉบับหนึ่ง และประทวนสิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นค้ำฉบั
สำนับกหนึ ่งให้แก่ผู้ฝำก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สมำตรำ ๗๗๖ อัน ใบรับของคลั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งสินค้ำนั้นสำนั
ย่อกมให้ สิทธิแก่ผู้ฝำกที่จะสลั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กหลังโอน
กรรมสิทธิ์ในสินค้ำไปเป็นของผู้อื่นได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๗๗ อันประทวนสินค้ำนั้น ย่อมให้สิทธิแก่ผู้ฝำกที่จะสลักหลังจำนำสินค้ำ
ซึ่งจดแจ้งไว้ในประทวนได้ โดยไม่ต้องส่งมอบสิกนำ ค้ำนั้นแก่ผู้รับสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สลักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หลัง กำ
แต่ว่ำเมื่อผู้ ฝำกประสงค์จะจำนำสิ นค้ำ ต้องแยกประทวนออกเสียจำกใบรับของ
สำนักคลั งสินค้ำ และส่งมอบประทวนนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นให้แสก่ำนัผู้รกับงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สลักหลัง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๗๘ ใบรับของคลังสินค้ำและประทวนสินค้ำ ต้องมีเลขลำดับตรงกันกับ
สำนักเลขในต้ นขั้ว และลงลำยมื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อชื่อของนำยคลั
สำนังกสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นค้ำ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๒๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

อนึ่ ง ใบรั บ ของคลั งสิ น ค้ ำและประทวนสิ น ค้ ำนั้ น ท่ ำนให้ มี รำยละเอี ยดดังกล่ ำว


สำนักต่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อไปนี้ คือ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ชื่อหรือยี่ห้อ และสำนักของผู้ฝำก
ส(๒)
ำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ตั้งคลังสินค้ำ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ค่ำบำเหน็จสำหรับเก็บรักษำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) สภำพของสินค้ำที่เก็บรักษำ และน้ำหนักหรือขนำดแห่งสินค้ำนั้น กับทั้งสภำพ
จำนวน และเครื่อสงหมำยหี บห่อ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) สถำนที่และวันออกใบรับของคลังสินค้ำและประทวนสินค้ำนั้น
(๖) ถ้ำกได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ กำหนดกันไว้สำนั
ว่ำกให้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เก็บสินค้ำไว้ชั่วเวลำเท่กำำใดให้แจ้งกำหนดนั ้นด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๗) ถ้ำของที่เก็บรักษำมีประกันภัย ให้แสดงจำนวนเงินที่ประกันภัยกำหนดเวลำที่
ประกันภัย และชืส่อำนั
หรืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยี่ห้อของผู้รับประกันภักยำด้วย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่ง นำยคลังสินค้ำต้องจดรำยละเอียดทั้งนี้ลงไว้ในต้นขั้วด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๗๙ อันใบรับของคลังสินค้ำก็ดี ประทวนสินค้ ำก็ดี ท่ำนว่ำหำอำจออกให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หรือสลักหลังให้แก่ผู้ถือได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๘๐ เมื่อใดผู้ฝำกสลักหลังประทวนสินค้ำให้แก่ผู้รับจำนำ คู่สัญญำต้องจดแจ้ง
กำรที่สลักหลังนั้นสลงไว้ ในใบรับของคลังสินค้ำกด้ำวย
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำมิได้จดแจ้งไว้ดังนั้น ท่ำนว่ำกำรจำนำนั้นหำอำจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ผู้ซื้อสินค้ำสืบไป
สำนักนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นได้ไม่ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๗๘๑ เมื่อประทวนสิ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำนค้ำได้สลักหลั งและส่
สำนั งมอบแก่ผู้รับจำนำแล้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ว ให้ผู้ฝำก
กับผู้รับจำนำจดลงไว้ในประทวนสินค้ำเป็นสำคัญ ว่ำได้จดข้อควำมตำมที่บัญญัติในมำตรำก่อนไว้ในใบ
สำนักรังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บของคลังสินค้ำแล้ว กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๘๒ เมื่อใดผู้ฝำกจำนำสินค้ำและส่งมอบประทวนสินค้ำแก่ผู้รับสลักหลังแล้ว
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้รับสลักหลังเช่นนั้นต้อกงมี
ำ จดหมำยบอกกล่ ำวแก่นำยคลังสินค้ำให้กทำรำบจำนวนหนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ซึ่งกจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ำนำสินค้ำนั้น กำ
เป็นประกัน ทั้งจำนวนดอกเบี้ยและวันอันหนี้นั้นจะถึงกำหนดชำระ เมื่อนำยคลังสินค้ำได้รับคำบอก
กล่ำวเช่นนั้นแล้วสต้ำนั
องจดรำยกำรทั ้งนั้นลงในต้กนำขั้ว
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำและมิได้จ ดในต้น ขั้วเช่นนั้ น ท่ำนว่ำกำรจำนำนั้ นหำอำจจะยกขึ้นเป็ นข้อต่อสู้
สำนักเจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนี้ทั้งหลำยของผู้ฝำกได้
กำ ไม่ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๗๘๓ ผู้ทรงเอกสำรอั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ น มีทั้ง ใบรัสบำนั
ของคลั งสิน ค้ำและประทวนสิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ น ค้ำนั้น
จะให้นำยคลังสินค้ำแยกสินค้ำที่เก็บรักษำไว้ออกเป็นหลำยส่วนและให้ส่งมอบเอกสำรแก่ตนส่วนละใบ
สำนักก็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้ ในกรณีเช่นนี้ผู้ทรงเอกสำรต้
กำ องคืนสเอกสำรเดิ มแก่นำยคลังสินค้กำำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่ง ค่ำใช้จ่ำยในกำรแยกสินค้ำและกำรส่งมอบเอกสำรใหม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นั้น ผู้ทรงเอกสำรต้องรับใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๗๘๔ กรรมสิสำนัทธิก์ใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นสินค้ำที่เก็บรักษำไว้กนำั้น ท่ำนว่ำอำจโอนได้ แต่ด้วยสลัก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๓๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

หลังใบรับของคลังสินค้ำเท่ำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๘๕ สินค้ำซึ่งเก็บรักษำไว้นั้นอำจจำนำได้แต่ด้วยสลักหลังประทวนสินค้ำ
เมื่อ ประทวนสิ นสค้ำนั
ำได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ส ลั ก หลั งแล้ ว สิ น ค้ำนัก้นำ จะจำน ำแก่สผำนั
ู้ อื่นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อีก ชั้น หนึ่ งด้ วยสลั กหลักำงใบรับ ของ
คลังสินค้ำอย่ำงเดียวกับสลักหลังประทวนสินค้ำนั้นก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๗๘๖ ตรำบใดสิ นกค้ำ ำที่ เก็ บ รักษำไว้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัไกม่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้จ ำน ำ ท่ ำนว่ำจะโอนใบรั
กำ บ ของ
คลังสินค้ำและประทวนสินค้ำไปต่ำงหำกจำกกันไม่ได้อยู่ตรำบนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๘๗ ในกำรสลักหลังลงในประทวนสินค้ำครั้งแรกนั้น ต้องจดแจ้งจำนวน
หนี้ที่จำนำสินค้ำเป็สำนั
นประกั น ทั้งจำนวนดอกเบีก้ยำที่จะต้องชำระและวั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นที่หนี้จะถึงกำหนดชกำระด้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ วย

มำตรำกำ๗๘๘ อันสินสค้ำนัำทีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่เก็บรักษำไว้ในคลังนั้นกจะรั
ำ บเอำไปได้สแำนั
ต่เกมืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อเวนคืนใบรับ กำ
ของคลังสินค้ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๗๘๙ ถ้ำได้แสยกประทวนสิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นค้ำออกสลักหลั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งจำนำแล้ว จะรั
สำนับกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เอำสินค้ำได้แต่ กำ
เมื่อเวนคืนทั้งใบรับของคลังสินค้ำและประทวนสินค้ำ
สแต่
ำนัวก่ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้ทรงใบรับของคลังสินกค้ำ ำอำจให้คืนสิสนำนัค้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แก่ตนได้ในเวลำใด ๆ เมืกำ่อวำงเงินแก่
นำยคลังสินค้ำเต็มจำนวนหนี้ซึ่งลงไว้ในประทวนสินค้ำ กับทั้งดอกเบี้ยจนถึงวันกำหนดชำระหนี้นั้นด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีอนึ่ง จกำนวนเงิ
ำ นที่วำงเช่
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นี้นำยคลังสินค้ำต้องชกำระแก่ำ ผู้ทรงประทวนสิ นค้ำในเมื่อ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เขำเวนคืนประทวนนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๙๐ ถ้ำหนี้ซึ่งสินค้ำจำนำเป็นประกันมิได้ชำระเมื่อวันถึงกำหนดไซร้ ผู้ทรง
สำนักประทวนสิ นค้ำเมื่อได้ยื่นกำคำคัดค้ำนตำมระเบี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยบแล้ว ชอบที่จะให้นกำยคลั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งสินค้ำขำยทอดตลำดสิ นค้ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
นั้นได้ แต่ท่ำนห้ำมมิให้ขำยทอดตลำดก่อนแปดวันนับแต่วันคัดค้ำน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๗๙๑ ผู้ทรงประทวนสิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นค้ำต้องมีจดหมำยบอกกล่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำวให้ผสู้ฝำนัำกทรำบเวลำและ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สถำนที่จะขำยทอดตลำด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๙๒ นำยคลังสินค้ำต้องหักเงินที่ค้ำงชำระแก่ตนเนื่องด้วยกำรเก็บรักษำ
สำนักสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นค้ำนั้นจำกจำนวนเงินกำสุทธิที่ขำยทอดตลำดได้ และเมื่อผู้ทรงประทวนสิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นค้ำนำประทวนมำเวนคื น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ต้องเอำเงินที่เหลือนั้นให้ตำมจำนวนที่ค้ำงชำระแก่เขำ
สถ้ำนั
ำมีกเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งินเหลือเท่ำใด ต้องใช้กแำก่ผู้รับจำนำคนหลั งเมื่อเขำเวนคืนใบรับของคลั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งสินค้ำ
หรือถ้ำไม่มีผู้รับจำนำคนหลัง หรือผู้รับจำนำคนหลังได้รับชำระหนี้แล้ว ก็ให้ชำระเงินที่เหลืออยู่นั้นแก่
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ทรงใบรับของคลังสินค้กำำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๙๓ ถ้ำจำนวนเงินสุทธิที่ขำยทอดตลำดได้ไม่พอชำระหนี้แก่ผู้ทรงประทวน
สำนักสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น ค้ำไซร้ นำยคลั งสิ นกค้ำำต้ อ งคื น ประทวนสิ น ค้ ำแก่เขำ กั บ จดบอกจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำนวนเงินสำนั
ที่ ไกด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ช ำระลงไว้ใน กำ
- ๑๓๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ประทวนสินค้ำนั้น แล้วจดลงไว้ในสมุดบัญชีของตนด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๙๔ ผู้ทรงประทวนสินค้ำมีสิทธิจะไล่เบี้ยเอำจำนวนเงินที่ยังค้ำงชำระนั้น
แก่ผู้สลักหลังคนก่สอำนันกๆงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทั้งหมด หรือแต่คนใดคนหนึ
กำ ่งได้ แต่สตำนั
้องได้ ขำยทอดตลำดภำยในเดื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อนหนึ่งนับ
แต่วันคัดค้ำน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่ง ท่ำนห้ำมมิให้ฟ้องไล่เบี้ยเมื่อพ้นเวลำปีหนึ่งนับแต่วันขำยทอดตลำด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๙๕ บทบัญญัติทั้งหลำยในประมวลกฎหมำยนี้อันว่ำด้วยตั๋วเงินนั้น ท่ำนให้
สำนักใช้ ได้ถึงประทวนสินค้ำและใบรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บของคลั
สำนังสิกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ค้ำซึ่งได้สลักหลังอย่ำกงประทวนสิ
ำ นค้สำำนั
นั้นกด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วย เพียงที่ไม่ กำ
ขัดกับบทบัญญัติทั้งหลำยในลักษณะนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๙๖ ถ้ำเอกสำรมีทั้งใบรับของคลังสินค้ำและประทวนสินค้ำหรือแต่อย่ำง
สำนักหนึ ่งอย่ำงใดสูญหำยไป กเมืำ ่อผู้ทรงเอกสำรนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ๆ ให้ประกันตำมสมควรแล้
กำ วจะให้นำยคลั งสินค้ ำออกให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ใหม่ก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีเช่นนี้นำยคลังสินค้ำต้องจดหมำยลงไว้ ในต้นขั้วเป็นสำคัญ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๑๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำตัวแทน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


หมวด ๑
บทเบ็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดเสร็จทั่วไป สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๗๙๗ อั น ว่ ำสั ญ ญำตั ว แทนนั้ น คื อ สั ญ ญำซึ่ งให้ บุ ค คลคนหนึ่ ง เรีย กว่ ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตัวแทน มีอำนำจทำกำรแทนบุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่ำตัวกำร และตกลงจะทำกำรดังนั้น
อันควำมเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นตัวแทนนัสำนั
้นจะเป็ นโดยตั้งแต่งแสดงออกชั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดหรือโดยปริ ยำยก็
สำนั ย่อมได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สมำตร ๗๙๘ กิจกำรอันใดท่กำำนบังคับไว้โดยกฎหมำยว่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำต้องทำเป็นหนักำงสือ กำรตั้ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตัวแทนเพื่อกิจกำรอันนั้นก็ต้องทำเป็นหนังสือด้วย
กิจกำรอั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นใดท่ำนบังคัสบำนัไว้กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ำต้องมีหลักฐำนเป็นหนักำงสื อ กำรตั้งตัวสแทนเพื ่อกิจกำรอัน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
นั้นก็ต้องมีหลักฐำนเป็นหนังสือด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๙๙ ตัวกำรคนใดใช้บุคคลผู้ไร้ควำมสำมำรถเป็นตัวแทน ท่ำนว่ำตัวกำรคน
สำนักนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นย่อมต้องผูกพันในกิจกกำรที
ำ ่ตัวแทนกระท
สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๐๐ ถ้ำตัวแทนได้รับ มอบอำนำจแต่เฉพำะกำร ท่ำนว่ำจะทำกำรแทน
สำนักตังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วกำรได้แต่เพียงในสิ่งทีก่จำำเป็น เพื่อให้สกำนั
ิจอักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เขำได้มอบหมำยแก่ตนนั
กำ ้นสำเร็จลุล่วสงไป
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๓๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๘๐๑ ถ้ำตัวแทนได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รับมอบอำนำจทั่วไป กท่ำำนว่ำจะทำกิจสใด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักๆงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ในทำงจัดกำร กำ
แทนตัวกำรก็ย่อมทำได้ทุกอย่ำง
สแต่
ำนักกำรเช่ นอย่ำงจะกล่ำวต่อกไปนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้ ท่ำนว่ำหำอำจจะท ำได้ไม่ คือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๑) ขำยหรือจำนองอสังหำริมทรัพย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ให้เช่ำอสังหำริมทรัพย์กว่ำสำมปีขึ้นไป
ส(๓)
ำนักให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ประนีประนอมยอมควำม
(๕) ยื่นกำฟ้องต่อศำล สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๖) มอบข้อพิพำทให้อนุญำโตตุลำกำรพิจำรณำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๐๒ ในเหตุ ฉุ ก เฉิ น เพื่ อ จะป้ อ งกั น มิ ให้ ตั ว กำรต้ อ งเสี ย หำย ท่ ำ นให้
สำนักสังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นนิษฐำนไว้ก่อนว่ำตัวกแทนจะท
ำ ำกำรใด
สำนักๆงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เช่นอย่ำงวิญ ญูชนจะพึ
กำงกระทำ ก็ย่อสมมี
ำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนำจจะทำได้ กำ
ทั้งสิ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๘๐๓ ตัว แทนไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มีสิทธิจะได้รับบำเหน็กจำ เว้นแต่จะได้สมำนัีขก้องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ตกลงกันไว้ใน กำ
สัญญำว่ำมีบำเหน็จ หรือทำงกำรที่คู่สัญญำประพฤติต่อกันนั้นเป็นปริยำยว่ำมีบำเหน็จ หรือเคยเป็น
ธรรมเนียมมีบำเหน็
สำนัจกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๘๐๔ ถ้ำในสัสญำนัญำอั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นเดียวตัวกำรคนเดียกวตั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้งตัวแทนหลำยคนเพื ่อแก่กำรอัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เดียวกันไซร้ ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำตัวแทนจะต่ำงคนต่ำงทำกำรนั้น ๆ แยกกันไม่ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๐๕ ตัวแทนนั้น เมื่อไม่ได้รับควำมยินยอมของตัวกำรจะเข้ำทำนิติกรรมอัน
สำนักใดในนำมของตั วกำรทำกักำบตนเองในนำมของตนเองหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อในฐำนเป็นกตัำวแทนของบุคสคลภำยนอกหำได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ไม่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เว้นแต่นิติกรรมนั้นมีเฉพำะแต่กำรชำระหนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๘๐๖ ตัวกำรซึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่งกมิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้เปิดเผยชื่อจะกลับกแสดงตนให้
ำ ปรำกฏและเข้ ำรับเอำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สัญญำใด ๆ ซึ่งตัวแทนได้ทำไว้แทนตนก็ได้ แต่ถ้ำตัวกำรผู้ใดได้ยอมให้ตัวแทนของตนทำกำรออกหน้ำ
เป็นตัวกำรไซร้ ท่สำำนันว่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำตัวกำรผู้ นั้นหำอำจจะท
กำ ำให้เสื่อมเสีสยำนั
ถึงกสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทธิของบุคคลภำยนอกอั
กำ นเขำมีต่อ
ตัวแทน และเขำขวนขวำยได้มำแต่ก่อนที่รู้ว่ำเป็นตัวแทนนั้นได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๒
หน้ำที่และควำมรักบำ ผิดของตัวแทนต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตัวกำร กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๘๐๗ ตัวแทนต้องทำกำรตำมคำสัส่งำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แสดงออกชั ดหรือโดยปริยำยของตัวกำร
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่อไม่มีคำสั่งเช่นนั้น ก็ต้องดำเนินตำมทำงที่เคยทำกันมำในกิจกำรค้ำขำยอันเขำให้ตนทำอยู่นั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อนึ่ ง บทบั
กำ ญ ญั ติม ำตรำ
สำนัก๖๕๙ ว่ำด้วยกำรฝำกทรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำพย์ นั้ น ท่ ำนให้
สำนันกำมำใช้ ด้วยโดย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๓๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

อนุโลมตำมควร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๐๘ ตัวแทนต้องทำกำรด้วยตนเอง เว้นแต่จะมีอำนำจใช้ตัวแทนช่วงทำ
กำรได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๘๐๙ เมื่อตัวกำรมีประสงค์จะทรำบควำมเป็นไปของกำรที่ได้มอบหมำยแก่
ตัวแทนนั้นในเวลำใดสำนักๆงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ซึ่งสมควรแก่เหตุ ตัวกแทนก็
ำ ต้องแจ้งสให้ำนัตกัวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรทรำบ อนึ่ง เมื่อกำรเป็
กำ นตัวแทน
นั้นสิ้นสุดลงแล้ว ตัวแทนต้องแถลงบัญชีด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๑๐ เงินและทรัพย์สินอย่ำงอื่นบรรดำที่ตัวแทนได้รับไว้เกี่ยวด้วยกำรเป็ น
ตัวแทนนั้น ท่ำนว่สำำนั
ตัวกแทนต้ องส่งให้แก่ตัวกำรจงสิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่ง สิทธิทั้งหลำยซึ่งตัวแทนขวนขวำยได้มำในนำมของตนเองแต่โดยฐำนที่ทำกำร
สำนักแทนตั วกำรนั้น ตัวแทนก็กำต้องโอนให้แก่สตำนััวกำรจงสิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๑๑ ถ้ำตัวแทนเอำเงินซึ่งควรจะได้ ส่งแก่ตัวกำร หรือซึ่งควรจะใช้ในกิจของ
สำนักตังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วกำรนั้นไปใช้สอยเป็นกประโยชน์
ำ ตนเสีสำนั
ย กท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำตัวแทนต้องเสียดอกเบี
กำ ้ยในเงินนัส้นำนันักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แต่วันที่ได้เอำ กำ
ไปใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๑๒ ถ้ำมีควำมเสียหำยเกิดขึ้นอย่ำงใด ๆ เพรำะควำมประมำทเลินเล่อของ
สำนักตังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วแทนก็ดี เพรำะไม่ทำกำรเป็
กำ นตัวแทนก็
สำนักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี หรือเพรำะทำกำรโดยปรำศจำกอ
กำ ำนำจหรื อนอกเหนือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อำนำจก็ดี ท่ำนว่ำตัวแทนจะต้องรับผิด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๑๓ ตัวแทนผู้ใดตั้งตัวแทนช่วงตำมที่ตัวกำรระบุตัวให้ตั้ง ท่ำนว่ำตัวแทนผู้
สำนักนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นจะต้องรับผิดแต่เพียกงในกรณี
ำ ที่ตนได้
สำนัรกู้วงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ำตัวแทนช่วงนั้นเป็นผูก้ทำี่ไม่เหมำะแก่สกำนั
ำรกหรื อเป็นผู้ที่ไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สมควรไว้วำงใจแล้วและมิได้แจ้งควำมนั้นให้ตัวกำรทรำบหรือมิได้เลิกถอนตัวแทนช่วงนั้นเสียเอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๘๑๔ ตัวแทนช่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัวกงย่ อมรับผิดโดยตรงต่อตักวำกำรฉันใดกลับสกัำนันกก็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ฉันนั้น กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำหมวด ๓ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หน้ำที่และควำมรับผิดของตัวกำรต่อตัวแทน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๘๑๕ ถ้ำตัวแทนมีปกระสงค์


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ไซร้ ตัวสกำรต้ องจ่ำยเงินทดรองให้แกก่ำตัวแทนตำม
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำนวนที่จำเป็น เพื่อทำกำรอันมอบหมำยแก่ตัวแทนนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๑๖ ถ้ำในกำรจัดทำกิจกำรอันเขำมอบหมำยแก่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตนนั้น ตัวแทนได้ออกเงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทดรองหรือออกเงินค่ำใช้จ่ำยไป ซึ่งพิเครำะห์ตำมเหตุควรนับว่ำเป็นกำรจำเป็นได้ไซร้ ท่ำนว่ำตัวแทน
สำนักจะเรี ยกเอำเงินชดใช้จำกตั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วกำร รวมทั้งสดอกเบี ้ยนับแต่วันที่ได้ออกเงิกำนไปนั้นด้วยก็ไสด้ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
- ๑๓๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ถ้ำในกำรจัดทำกิจกำรอันเขำมอบหมำยแก่ตนนั้น ตัวแทนต้องรับภำระเป็นหนี้ขึ้น
สำนักอย่ ำงหนึ่ งอย่ำงใด ซึ่งพิกเำครำะห์ ตำมเหตุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัคกวรนั บว่ำเป็นกำรจำเป็นกได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ไซร้ ท่ำนว่ำสตัำนัวกแทนจะเรี ยกให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ตัวกำรชำระหนี้แทนตนก็ได้ หรือถ้ำยังไม่ถึงเวลำกำหนดชำระหนี้ จะให้ตัวกำรให้ประกันอันสมควรก็ได้
สถ้ำนั
ำในกำรจั ดทำกิจกำรอันเขำมอบหมำยแก่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ตนนั
สำนั ้น เป็นเหตุให้ตัวแทนต้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำองเสียหำย
อย่ำงหนึ่งอย่ำงใด มิใช่เป็นเพรำะควำมผิดของตนเองไซร้ ท่ำนว่ำตัวแทนจะเรียกเอำค่ำสินไหมทดแทน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จำกตัวกำรก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๑๗ ในกรณีที่มีบำเหน็จตัวแทนถ้ำไม่มีข้อสัญญำตกลงกันไว้เป็นอย่ำงอื่ น
สำนักท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำบำเหน็จนั้นพึงจ่ำกยให้
ำ ต่อเมื่อกำรเป็
สำนันกตังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วแทนได้สุดสิ้นลงแล้วกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๘๑๘ กำรในหน้ำทีกำ่ตัวแทนส่วนใดตั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัวกแทนได้ ทำมิชอบในส่วกนนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้น ท่ำนว่ำ
ตัวแทนไม่มีสิทธิจะได้บำเหน็จ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๑๙ ตัวแทนชอบที่จะยึดหน่วงทรัพย์สินอย่ำงใด ๆ ของตัวกำรอันตกอยู่ใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมครอบครองของตนเพรำะเป็นตัวแทนนั้นเอำไว้ได้ จนกว่ ำจะได้รับเงินบรรดำค้ำงชำระแก่ตน
สำนักเพรำะกำรเป็ นตัวแทน กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำหมวด ๔ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมรับผิดของตัวกำรและตัวแทนต่อบุคคลภำยนอก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๘๒๐ ตัวกำรย่อมมีกำควำมผูกพันต่สำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อบุกคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คลภำยนอกในกิจกำรทักำ ้งหลำยอั น
ตัวแทนหรือตัวแทนช่วงได้ทำไปภำยในขอบอำนำจแห่งฐำนตัวแทน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๒๑ บุคคลผู้ใดเชิด บุคคลอีกคนหนึ่งออกแสดงเป็นตัว แทนของตนก็ดี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รู้แ ล้ว ยอมให้ บุ คคลอีกคนหนึ่ งเชิดตัว เขำเองออกแสดงเป็นตัวแทนของตนก็ดี ท่ ำนว่ำบุ คคลผู้ นั้ น
สำนักจะต้ องรับผิดต่อบุคคลภำยนอกผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้สุจริตสเสมื
ำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นว่ำบุคคลอีกคนหนึ่งนัก้นำเป็นตัวแทนของตน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๘๒๒ ถ้ำตัวแทนทกำกำรอั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นใดเกินสอำนั
ำนำจตั วแทน แต่ทำงปฏิบกัตำิของตัวกำร
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทำให้บุคคลภำยนอกมีมูลเหตุอันสมควรจะเชื่อว่ำกำรอันนั้นอยู่ภำยในขอบอำนำจของตัวแทนไซร้
สำนักท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนให้ใช้บทบัญญัติมำตรำก่
กำ อนนี้เป็นบทบั
สำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คับ แล้วแต่กรณี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๘๒๓ ถ้ำตัวแทนกระท


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำกำรอันใดอั
สำนันกหนึ ่งโดยปรำศจำกอำนำจก็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดี หรื อทำ
นอกทำเหนือขอบอำนำจก็ดี ท่ำนว่ำย่อมไม่ผูกพันตัวกำร เว้นแต่ตัวกำรจะให้สัตยำบันแก่กำรนั้น
ถ้ำตัวกำรไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ให้สัตยำบั น กท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ำนว่ำตัวแทนย่อมต้องรักำบผิดต่อบุคคลภำยนอกโดยล ำพัง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ตนเอง เว้นแต่จ ะพิ สูจ น์ได้ว่ำบุ คคลภำยนอกนั้นได้รู้อยู่ว่ำตนท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำกำรโดยปรำศจำกอำนำจ หรือทำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นอกเหนือขอบอำนำจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๓๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๘๒๔ ตัวแทนคนใดทำสัญญำแทนตัวกำรซึ่งอยู่ต่ำงประเทศและมีภูมิลำเนำ


สำนักในต่ ำงประเทศ ท่ำนว่ำตักวำ แทนคนนั้นจะต้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัอกงรั บผิดตำมสัญญำนั้นแต่กำลำพังตนเอง แม้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัทกั้งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชื่อของตัวกำร กำ
จะได้เปิดเผยแล้ว เว้นแต่ข้อควำมแห่งสัญญำจะแย้งกันกับควำมรับผิดของตัวแทน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๒๕ ถ้ำตัวแทนเข้ำทำสัญญำกับบุคคลภำยนอกโดยเห็นแก่อำมิสสินจ้ำง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เป็นทรัพย์สินอย่ำงใด ๆ หรือประโยชน์อย่ำงอื่นอันบุคคลภำยนอกได้ให้เป็นลำภส่วนตัวก็ดี หรือให้
คำมั่นว่ำจะให้ก็ดสี ท่ำนัำนว่ ำตัวกำรหำต้องผูกพันกในสั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ญญำซึ่งตัวสแทนของตนได้ ทำนั้นไม่ เว้นกแต่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ตัวกำรจะ
ได้ยินยอมด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๕
ควำมระงับสิก้นำไปแห่งสัญญำตั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัวกแทน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๘๒๖ อันสัญญำตัวแทนย่อมระงับสิ้นไปด้วยตัวกำรถอนตัวแทน หรือด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตัวแทนบอกเลิกเป็นตัวแทน
อนึ่ง สักญำ ญำตัวแทนย่สอำนัมระงั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บสิ้นไป เมื่อคู่สัญญำฝ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำยใดฝ่ำยหนึสำนั
่งตำย หรือตกเป็น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้ไร้ควำมสำมำรถ หรือล้มละลำย เว้นแต่จะปรำกฏว่ำขัดกับข้อสัญญำหรือสภำพแห่งกิจกำรนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๒๗ ตัวกำรจะถอนตัวแทน และตัวแทนจะบอกเลิกเป็นตัวแทนเสียในเวลำ
สำนักใด ๆ ก็ได้ทุกเมื่อ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คู่สัญญำฝ่ำยซึ่งถอนตัวแทนหรือบอกเลิกเป็นตัวแทนในเวลำที่ไม่สะดวกแก่อีกฝ่ำย
หนึ่ง จะต้องรับผิสดำนั
ต่อกคูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่สัญญำฝ่ำยนั้นในควำมเสี
กำ ยหำยอย่ำงใด
สำนักๆงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อัน เกิดแต่กำรนั้น เว้นกแต่
ำ ในกรณีที่
เป็นควำมจำเป็นอันมิอำจจะก้ำวล่วงเสียได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๒๘ เมื่อสัญญำตัวแทนระงับสิ้นไปเพรำะตัวกำรตำยก็ดี ตัวกำรตกเป็นผู้ไร้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมสำมำรถหรือล้มละลำยก็ดี ท่ำนว่ำตัวแทนต้องจัดกำรอันสมควรทุกอย่ำงเพื่อจะปกปักรักษำ
สำนักประโยชน์ อันเขำได้มอบหมำยแก่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ตนไปสำนัจนกว่ ำทำยำทหรือผู้แทนของตั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วกำรจะอำจเข้ ำปกปักรักษำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประโยชน์นั้น ๆ ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๒๙ เมื่อสัญญำตัวแทนระงับสิ้นไปเพรำะตัวแทนตำยก็ดี ตัวแทนตกเป็นผู้
สำนักไร้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ควำมสำมำรถหรือล้มกละลำยก็
ำ ดี ท่ำสนว่
ำนัำกทำยำทหรื อบุคคลผู้รับหน้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำที่ดูแลทรัพสย์ำนั
มรดกของตั วแทน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
โดยชอบด้วยกฎหมำยต้องบอกกล่ำวแก่ตัวกำรและจัดกำรเพื่อปกปักรักษำประโยชน์ของตัวกำรไป
ตำมสมควรแก่พฤติ กำรณ์
สำนั จนกว่ำตัวกำรอำจเข้กำำปกปักรักษำประโยชน์
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นั้น ๆ ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๘๓๐ อัน เหตุ


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัทกี่ ทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำให้ สัญ ญำตัวแทนระงักำบสิ้ นไปนั้นจะเกิ
สำนัดกแต่ ตัวกำรหรือ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ตัวแทนก็ตำม ท่ำสนห้ ำมมิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คู่สัญญำอีกฝ่ สำำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ยหนึ ่ง จนกว่ำจะได้บอกกล่ำวเหตุนั้น ๆ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ไปยังคู่สัญญำฝ่ำยนั้นแล้ว หรือจนกว่ำคู่สัญญำฝ่ำยนั้นจะได้ทรำบเหตุแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๓๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๘๓๑ อันควำมระงับสิ้นไปแห่งสัญญำตัวแทนนั้น ท่ำนห้ำมมิให้ยกขึ้นเป็น


สำนักข้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อต่อสู้บุคคลภำยนอกผูกำ้ทำกำรโดยสุจสำนั
ริตกเว้ นแต่บุคคลภำยนอกหำกไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ทรำบควำมนั ้นเพรำะควำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประมำทเลินเล่อของตนเอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๓๒ ในเมื่อสั ญ ญำตัว แทนระงับ สิ้ นไป ตัวกำรชอบที่จะเรียกให้ เวนคืน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หนังสือมอบอำนำจอย่ำงใด ๆ อันได้ให้ไว้แก่ตัวแทนนั้นได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ตัวแทนค้ำต่ำง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๓๓ อันว่ำตัวแทนค้ำต่ำง คือบุคคลซึ่งในทำงค้ำขำยของเขำย่อมทำกำรซื้อ
สำนักหรื
อขำยทรัพย์สิน หรือรักบำ จัดทำกิจกำรค้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำขำยอย่ ำงอื่นในนำมของตนเองต่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำงตัวกำรสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๓๔ ถ้ำมิได้ตกลงกันไว้เป็นอย่ำงอื ่น ท่ำนว่ำตัวแทนค้ำต่ำงชอบที่จะได้รับ
สำนักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเหน็จโดยอัตรำตำมธรรมเนี
กำ ยมเพื่อกิสจำนั
กำรค้ ำขำยอันตนได้จัดกำรให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ตกลงไปนั้นทุสกำนัรำยไป
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๘๓๕ บทบัญญัติทั้งกหลำยแห่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งประมวลกฎหมำยนี ้อันว่ำด้วยตัวกแทนนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้นท่ำน
ให้ใช้บังคับถึงตัวแทนค้ำต่ำงด้วย เพียงที่ไม่ขัดกับบทบัญญัติในหมวดนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๓๖ บุคคลผู้ไร้ควำมสำมำรถหำอำจจะทำกำรเป็นตัวแทนค้ำต่ำงได้ไม่ เว้น
แต่จะได้รับอำนำจโดยชอบให้ ทำได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๘๓๗ ในกำรที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่ตกัวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แทนค้ำต่ำงทำกำรขำยหรื
กำ อซื้อหรือจัสดำนัทกำกิ จกำรค้ำขำย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อย่ำงอื่นต่ำงตัวกำรนั้น ท่ำนว่ำตัวแทนค้ำต่ำงย่อมได้ซึ่งสิทธิอันมีต่อคู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่งในกิจกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เช่นนั้น และตัวแทนค้ำต่ำงย่อมเป็นผู้ต้องผูกพันต่อคู่สัญญำฝ่ำยนั้นด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๓๘ ถ้ำคู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่งไม่ชำระหนี้ไซร้ ท่ำนว่ ำตัวแทนค้ำต่ำงหำต้อง
รับผิดต่อตัวกำรเพืสำนั
่อชกำระหนี ้นั้นเองไม่ เว้นแต่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำจะได้มีข้อกำหนดในสั ญญำหรือมีปริยำยแต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ทำงกำรที่
ตัวกำรกับตัวแทนประพฤติต่อกัน หรือมีธรรมเนียมในท้องถิ่นว่ำจะต้องรับผิดถึงเพียงนั้น
อนึ่ง ตักวำแทนค้ำต่ำงคนใดเข้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำรับประกันกำรปฏิบกัตำิตำมสัญญำโดยนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดั งกล่ำวมำใน กำ
วรรคก่อนนั้นไซร้ ท่ำนว่ำตัวแทนคนนั้นชื่อว่ำเป็นตัวแทนฐำนประกัน ชอบที่จะได้รับบำเหน็จพิเศษ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๓๙ ถ้ำตัวแทนค้ำต่ำงได้ทำกำรขำยเป็นรำคำต่ำไปกว่ำที่ตัวกำรกำหนด
สำนักหรื อทำกำรซื้อเป็นรำคำสู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำงไปกว่ำที่ตัวกำรก
สำนักำหนดไซร้ หำกว่ำตัวแทนรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บใช้เศษที่ขสำดเกิ นนั้นแล้ ว ท่ำน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ว่ำกำรขำยหรือกำรซื ้ออันนั้นตัวกำรก็ต้องรับขำยรับซื้อ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๘๔๐ ถ้ำตัวสแทนค้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำต่ำงได้ทำกำรขำยได้กรำำคำสูงกว่ำที่ตสัวำนักำรก
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำหนด หรือ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๓๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ทำกำรซื้อได้รำคำต่ำกว่ำที่ตัวกำรกำหนดไซร้ ท่ำนว่ำตัวแทนหำอำจจะถือเอำเป็นประโยชน์ของตน
สำนักได้ ไม่ ต้องคิดให้แก่ตัวกำร
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๘๔๑ ตัวแทนค้ำต่กำงท


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำกำรไปอย่สำำนั
งไรบ้ ำง ท่ำนให้แถลงรำยงำนแก่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ตัวกำร
และเมื่อได้ทำกำรค้ำต่ำงเสร็จลงแล้ว ก็ให้แจ้งแก่ตัวกำรทรำบมิให้ชักช้ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๘๔๒ เมื่ อ ใดเขำมอบหมำยทรั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สพำนัย์กสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิ น ไว้ แ ก่ ตั ว แทนค้ ำ ต่ ำกงำ ท่ ำ นให้ น ำ
บทบัญญัติทั้งหลำยแห่งประมวลกฎหมำยนี้ ลักษณะฝำกทรัพย์มำใช้บังคับ อนุโลมตำมควร
อนึ่ง ในกรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ที่เป็นควำมจ ำเป็นอันมิก้ำวล่วงเสียได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ท่ำนว่ำตัวแทนค้
สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต่ำงจะจัดกำร กำ
แก่ทรัพย์สินนั้นตำมวิธีกำรดังบัญญัติไว้ในมำตรำ ๖๓๑ ว่ำด้วยรับขนนั้นก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๔๓ ตัวแทนค้ำต่ำงคนใดได้รับคำสั่งให้ขำยหรือซื้อทรัพย์สินอันมีรำยกำร
สำนักขำนรำคำของสถำนแลกเปลี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ่ยน ท่ำนว่สำนั
ำตักวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แทนคนนั้นจะเป็นผู้ซื้อกำหรือผู้ขำยเองก็สำนั
ได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เว้นแต่จะมีข้อ กำ
ห้ำมไว้ชัดแจ้งโดยสัญญำ ในกรณีเช่นนั้น รำคำอันจะพึงใช้เงินแก่กันก็พึงกำหนดตำมรำยกำรขำนรำคำ
ทรัพย์สินนั้ น ณ สสถำนแลกเปลี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
่ยนในเวลำเมื่อตัวแทนค้ำต่สำงให้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คำบอกกล่ำวว่ำตนจะเป็นผู้ซื้อหรือ
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ขำย กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่อตัวกำรรับคำบอกกล่ำวเช่นนั้น ถ้ำไม่บอกปัดเสียในทันที ท่ำนให้ถือว่ำตัวกำรเป็น
อันได้สนองรับกำรนั
สำนั้นกแล้ ว
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่ง แม้ในกรณีเช่นนั้น ตัวแทนค้ำต่ำงจะคิดเอำบำเหน็จก็ย่อมคิดได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๔๔ ในระหว่ำงตัวกำรกับตัวแทนค้ำต่ำง ท่ำนให้ถือว่ำกิจกำรอันตัวแทนได้
ทำให้ตกลงไปนั้นสย่ำนัอกมมีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผลเสมือนดังว่ำได้ทำให้
กำตกลงไปในนำมของตั วกำรโดยตรง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ลักษณะ ๑๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นำยหน้ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๘๔๕ บุคคลผู้ใดตกลงจะให้ค่ำบำเหน็จแก่นำยหน้ำเพื่อที่ชี้ช่องให้ได้เข้ำทำ
สัญญำก็ดี จัดกำรให้สำนัไกด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทำสัญญำกันก็ดี ท่ำนว่กำำบุคคลผู้นั้นจะต้ สำนัอกงรั บผิดใช้ค่ำบำเหน็จก็ตก่อำ เมื่อสั ญญำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้นได้ทำกันสำเร็จเนื่องแต่ผลแห่งกำรที่นำยหน้ำได้ชี้ช่องหรือจัดกำรนั้น ถ้ำสัญญำที่ได้ทำกันไว้นั้นมี
สำนักเงืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อนไขเป็นเงื่อนบังคับก่กอำ นไซร้ ท่ำนว่สำจะเรี ยกร้องบำเหน็จค่ำนำยหน้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำยังหำได้ไม่สำนั จนกว่ ำเงื่อนไขนั้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สำเร็จแล้ว
สนำยหน้ ำมีสิ ทธิจ ะได้รับ ชดได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ค่ ำใช้ จ่ ำ ยทีส่ ไำนั
ด้ เกสีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย ไปก็ต่ อเมื่ อได้ตกลงกักำน ไว้เช่น นั้ น
ควำมข้อนี้ท่ำนให้ใช้บังคับแม้ถึงว่ำสัญญำจะมิได้ทำกันสำเร็จ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๔๖ ถ้ ำกิจ กำรอั น ได้ มอบหมำยแก่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
น ำยหน้ ำนั้ น โดยพฤติ กำรณ์ เป็ น ที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คำดหมำยได้ว่ำย่อมทำให้แต่เพื่อจะเอำค่ำบำเหน็จไซร้ ท่ำนให้ถือว่ำได้ตกลงกันโดยปริยำยว่ำมีค่ำ
สำนักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเหน็จนำยหน้ำ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๓๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ค่ำบำเหน็จนั้นถ้ำมิได้กำหนดจำนวนกันไว้ ท่ำนให้ถือว่ำได้ตกลงกันเป็นจำนวนตำม
สำนักธรรมเนี ยม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๘๔๗ ถ้ำนำยหน้ำทกำำกำรให้แก่บุคสคลภำยนอกด้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วยก็ดี หรือได้กำรับคำมั่นแต่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บุคคลภำยนอกเช่นนั้นว่ำจะให้ค่ำบำเหน็จอันไม่ควรแก่นำยหน้ำผู้กระทำกำรโดยสุจริตก็ดี เป็นกำรฝ่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ฝื น ต่ อ กำรที่ ต นเข้ ำรั บ ท ำหน้ ำที่ ไซร้ ท่ ำ นว่ ำนำยหน้ ำหำมี สิ ท ธิจ ะได้ รับ ค่ ำ บ ำเหน็ จ หรือ รั บ ชดใช้
ค่ำใช้จ่ำยที่ได้เสียสไปไม่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๘๔๘ ตัวนำยหน้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไม่ต้องรับผิดไปถึงกำรช
กำำระหนี้ตำมสัสญำนัญำซึ ่งได้ทำต่อกัน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เพรำะตนเป็นสื่อ เว้นแต่จะมิได้บอกชื่อของฝ่ำยหนึ่งให้รู้ถึงอีกฝ่ำยหนึ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๔๙ กำรรับ เงิน หรือรับช ำระหนี้อัน จะพึงช ำระตำมสั ญ ญำนั้น ท่ ำนให้
สำนักสังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นนิษฐำนไว้ก่อนว่ำนำยหน้
กำ ำย่อมไม่มีอสำนำจที ่จะรับแทนผู้เป็นคู่สัญกำญำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๑๗ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ประนี ประนอมยอมควำม กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๕๐ อันว่ำประนีประนอมยอมควำมนั้น คือสัญญำซึ่งผู้เป็นคู่สัญญำทั้งสอง
สำนักฝ่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยระงับข้อพิพำทอันใดอั
กำ นหนึ่งซึ่งมีอยูส่หำนัรืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จะมีขึ้นนั้นให้เสร็จไปด้กวำยต่ำงยอมผ่อนผั
สำนันกให้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แก่กัน กำ

สมำตรำ ๘๕๑ อันสัญญำประนี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ประนอมยอมควำมนั ้น ถ้ำมิได้มีหลักฐำนเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นหนังสือ
อย่ำงใดอย่ำงหนึ่งลงลำยมือชื่อฝ่ำยที่ต้องรับผิด หรือลำยมือชื่อตัวแทนของฝ่ำยนั้นเป็นสำคัญ ท่ำนว่ำ
สำนักจะฟ้ องร้องให้บังคับคดีหกำได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ไม่ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๕๒ ผลของสัญญำประนีประนอมยอมควำมนั้น ย่อมทำให้กำรเรียกร้องซึ่ง
สำนักแต่ ละฝ่ำยได้ยอมสละนั้นกระงั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บสิ้นไป และท
สำนัำให้ แต่ละฝ่ำยได้สิทธิตำมทีกำ่แสดงในสัญญำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้นกว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเป็นของตน กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีลักกำ ษณะ ๑๘ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


กำรพนัน และขันต่อ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๘๕๓ อันกำรพนันหรื


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อขันต่อนั้น ท่สำนั
ำนว่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหำก่อให้เกิดหนี้ไม่ สิ่งกทีำ ่ได้ให้กันไป
ในกำรพนันหรือขันต่อก็จะทวงคืนไม่ได้ เพรำะเหตุหำมูลหนี้อย่ำงหนึ่งอย่ำงใดมิได้
ข้อบัญกญัำ ติที่กล่ำวนี้ ท่สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนให้ ใช้ตลอดถึงข้อตกลงเป็กำนมูลหนี้อย่ำงหนึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่งกอย่ ำงใดอันฝ่ำย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ข้ำงเสียพนันขันต่สอำนั
หำกท ำให้แก่อีกฝ่ำยหนึ่งเพื่อจะใช้หนี้เงินพนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นหรือขันต่อนั้นด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๘๕๔ อันกำรออกสลำกกิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นแบ่งก็ดี ออกสลำกกิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นรวบก็ดสี ำนั
ท่ำกนว่ ำเป็นสัญญำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๓๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

อันจะผูกพันต่อเมื่อรัฐบำลได้ให้อำนำจหรือให้สัตยำบันแก่กำรนั้นเฉพำะรำย นอกนั้นท่ำนให้บังคับ
สำนักตำมบทบั ญญัติมำตรำ ๘๕๓
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๘๕๕ ภำยในบังคักบำแห่ งบทบัญ ญัสำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ติมกำตรำ ๓๑๒ และ ๙๑๖กำตั๋ว เงินหรือ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เอกสำรอย่ำงอื่นทุกฉบับซึ่งออกให้เต็มจำนวน หรือแต่โดยส่วน เพื่อแทนเงินใด ๆ อันได้แต่ชนะพนัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หรือขันต่อก็ดี ออกให้เพื่อใช้เงินที่ยืมมำใช้ในกำรพนันหรือขันต่อเช่นว่ำนั้นก็ดี ท่ำนว่ำไม่สมบูรณ์
สเพื
ำนั่อกประโยชน์ แห่งบทบัญญักตำินี้ เงินรำยใดให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัยกืมงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แก่บุคคลกำลังเล่นกำรพนั
กำ นหรือขัน
ต่อ ในเวลำหรือ ณ สถำนที่เล่นเช่นนั้น ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำเงินนั้นได้ให้ยืมไปเพื่อเล่นกำรพนัน
สำนักหรื อขันต่อ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีลักกำ ษณะ ๑๙ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


บัญชีเดินสะพัด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๕๖ อันว่ำสัญญำบัญชีเดินสะพัดสำนั นั้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
คือสัญญำซึ่งบุคคลสองคนตกลงกั น
สำนักว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำสืบแต่นั้นไป หรือในชักำ่วเวลำกำหนดอั
สำนันกใดอั นหนึ่ง ให้ตัดทอนบักญำ ชีหนี้ทั้งหมดหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัอกแต่ บำงส่วนอัน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เกิดขึ้นแต่กิจกำรในระหว่ำงเขำทั้งสองนั้นหักกลบลบกัน และคงชำระแต่ส่วนที่เป็นจำนวนคงเหลือโดย
ดุลภำค สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๘๕๗ กำรนสำตัำนั๋วกเงิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นลงเป็นรำยกำรในบัญกชีำ เดินสะพัดนั้นสำนั
ท่ำกนให้ สันนิษฐำน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ไว้ก่อนว่ำได้ลงด้วยเงื่อนไขว่ำจะมีผู้ชำระเงินตำมตั๋วนั้น ถ้ำและตั๋วนั้นมิได้ชำระเงินไซร้ จะเพิกถอน
รำยกำรอันนั้นเสียสก็ำนัได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๘๕๘ ถ้ำคู่สัญสญำมิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ได้กำหนดกันไว้ว่ำให้หักกทอนบั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ญชีโดยระยะเวลำอย่ ำงไรไซร้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ท่ำนให้ถือเอำเป็นกำหนดหกเดือน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๘๕๙ คู่สัญสญำฝ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำยใดจะบอกเลิกสัญ ญำบั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญ ชี เดิ น สะพัสำนั
ด กและให้ หั กทอน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บัญชีกันเสียในเวลำใด ๆ ก็ได้ ถ้ำไม่มีอะไรปรำกฏเป็นข้อขัดกับที่กล่ำวมำนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๖๐ เงินส่วนที่ผิดกันอยู่นั้นถ้ำยังมิได้ชำระ ท่ำนให้คิดดอกเบี้ยนับแต่วันที่
สำนักหังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กทอนบัญชีเสร็จเป็นต้กนำไป สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีลักกำ ษณะ ๒๐ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


ประกันภัย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๑ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทเบ็ดเสร็จทั่วไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๔๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๘๖๑ อันว่ำสสัำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญญำประกั นภัยนั้น คือสัญกญำซึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่งบุคคลคนหนึ
สำนัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตกลงจะใช้ค่ำ กำ
สินไหมทดแทน หรือใช้เงินจำนวนหนึ่งให้ในกรณีวินำศภัยหำกมีขึ้น หรือในเหตุอย่ำงอื่นในอนำคตดัง
ได้ระบุไว้ในสัญญำสำนัและในกำรนี ้บุคคลอีกคนหนึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งตกลงจะส่งเงิ
สำนันซึก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เรียกว่ำ เบี้ยประกันภักยำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๖๒ ตำมข้อควำมในลักษณะนี้
สคำนั
ำว่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
“ผู้รับประกันภัย” ท่กำำนหมำยควำมว่สำนั ำ กคูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่สัญญำฝ่ำยซึ่งตกลงจะใช้ กำ ค่ำสินไหม
ทดแทน หรือใช้เงินจำนวนหนึ่งให้
ค ำว่ ำก“ผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้ เอำประกั นสำนั
ภั ยกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
” ท่ ำ นหมำยควำมว่ ำกำคู่ สั ญ ญำฝ่ ำ ยซึ ่ ง ตกลงจะส่
สำนั ง เบี้ ย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประกันภัย
สคำนั
ำว่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
“ผู้รับประโยชน์ ” ท่ำกนหมำยควำมว่
ำ สำำนับุกคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คลผู้จะพึงได้รับค่ำสินกไหมทดแทน

หรือรับจำนวนเงินใช้ให้
อนึ่ง ผูก้เำอำประกันภัยสและผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้รับประโยชน์นั้น จะเป็กนำบุคคลคนหนึ่งสคนเดี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยวกันก็ได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๖๓ อันสัญญำประกันภัยนั้น ถ้ำสผูำนั้เอำประกั กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นภัยมิได้มีส่วนได้เสียในเหตุที่
สำนักประกั นภัยไว้นั้นไซร้ ท่ำกนว่ำ ำย่อมไม่ผูกพัสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นคูก่สงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัญญำแต่อย่ำงหนึ่งอย่ำกงใด
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๘๖๔ เมื่อคู่สัญญำประกั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นภัยยกเอำภั
สำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ใดโดยเฉพำะขึ้นเป็นข้กอำพิจำรณำใน
กำรวำงกำหนดจำนวนเบี้ยประกันภัย และภัยเช่นนั้นสิ้นไปหำมีไม่แล้ว ท่ำนว่ำภำยหน้ำแต่นั้นไป ผู้เอำ
สำนักประกั นภัยชอบที่จะได้ลกดเบี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้ยประกันภัสยำนั
ลงตำมส่ วน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๘๖๕ ถ้ ำในเวลำทกำำสั ญ ญำประกัสำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี น ภักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้ เอำประกั น ภั ยก็ ดีกหรื
ำ อในกรณี
ประกันชีวิต บุคคลอันกำรใช้เงินย่อมอำศัยควำมทรงชีพหรือมรณะของเขำนั้นก็ดี รู้อยู่แล้วละเว้นเสีย
สำนักไม่ เปิดเผยข้อควำมจริงซึก่งำอำจจะได้จูงใจผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้รกับงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ประกันภัยให้เรียกเบี้ยกประกั
ำ นภัยสูงขึส้นำนั
อีกกหรื อให้บอกปัด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ไม่ยอมทำสัญญำ หรือว่ำรู้อยู่แล้วแถลงข้อควำมนั้นเป็นควำมเท็จไซร้ ท่ำนว่ำสัญญำนั้นเป็นโมฆียะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำมิได้ใช้สิทธิบอกล้ำงภำยในกำหนดเดือนหนึ่งนับแต่วันที่ผู้รับประกันภัยทรำบมูล
สำนักอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นจะบอกล้ำงได้ก็ดี หรืกอำมิได้ใช้สิทธินั้นสำนั
ภำยในก ำหนดห้ำปีนับแต่วกันำทำสัญญำก็ดสี ท่ำนัำนว่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำสิทธินั้นเป็น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อันระงับสิ้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๖๖ ถ้ำผู้รับ ประกันภัยได้รู้ข้อควำมจริงดังกล่ำวในมำตรำ ๘๖๕ นั้นก็ดี
สำนักหรื อรู้ ว่ำข้อแถลงควำมเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ น ควำมเท็ จสก็ำนัดีกหรื อควรจะได้ รู้เช่นนั้ นกหำกใช้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ควำมระมั
สำนัดกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระวังดังจะพึ ง กำ
คำดหมำยได้แต่วิญญูชนก็ดี ท่ำนให้ฟังว่ำสัญญำนั้นเป็นอันสมบูรณ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๖๗ อันสัญญำประกันภัยนั้น ถ้ำมิได้มีหลักฐำนเป็นหนังสืออย่ำงใดอย่ำง
สำนักหนึ ่งลงลำยมือชื่อฝ่ำยทีก่ตำ้องรับผิดหรือสลำยมื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อชื่อตัวแทนของฝ่ำยนัก้นำเป็นสำคัญ ท่สำำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นว่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จะฟ้องร้องให้ กำ
บังคับคดีหำได้ไม่สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้ส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัยอันมีเนื้อควำมต้องตำมสัญญำนั้นแก่ผู้เอำประกันภัย
สำนักฉบั บหนึ่ง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๔๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

กรมธรรม์ประกันภัย ต้องลงลำยมือชื่อของผู้รับประกันภัยและมีรำยกำร ดังต่อไปนี้


(๑) วัตกถุำ ที่เอำประกันสภัำนัย กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ภัยใดซึ่งผู้รับประกันภัยรับเสี่ยง
ส(๓)
ำนักรำคำแห่ งมูลประกันภัยกถ้ำำหำกได้กำหนดกั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไว้ กำ
(๔) จำนวนเงินซึ่งเอำประกันภัย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) จำนวนเบี้ยประกันภัย และวิธีส่งเบี้ยประกันภัย
ส(๖)
ำนักถ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหำกสัญญำประกันภัยกมีำ กำหนดเวลำสต้ำนัอกงลงเวลำเริ ่มต้นและเวลำสิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ้นสุดไว้ด้วย
(๗) ชื่อหรือยี่ห้อของผู้รับประกันภัย
(๘) ชื่อกหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อยี่ห้อของผูส้เำนั
อำประกั นภัย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๙) ชื่อของผู้รับประโยชน์ ถ้ำจะพึงมี
ส(๑๐) วันทำสัญญำประกันภักยำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑๑) สถำนที่และวันที่ได้ทำกรมธรรม์ประกันภัย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๖๘ อันสัญญำประกันภัยทะเล ท่ำนให้ บังคับตำมบทบัญญัติแห่งกฎหมำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทะเล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๒
ประกั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นวินำศภัย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


ส่วนที่ ๑
บทเบ็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดเสร็จทั่วไป สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๘๖๙ อันคำว่ำ “วินำศภัย” ในหมวดนี้ ท่ำนหมำยรวมเอำควำมเสียหำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อย่ำงใด ๆ บรรดำซึ่งจะพึงประมำณเป็นเงินได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๗๐ ถ้ำได้ทำสัญญำประกันภัยเป็นสองรำยหรือกว่ำนั้นพร้อมกันเพื่อควำม
วินำศภัยอันเดียวกั สำนันกและจ ำนวนเงินซึ่งเอำประกั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นภัยรวมกัสนำนัทัก้งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หมดนั้นท่วมจำนวนที่วกินำ ำศจริงไซร้
ท่ำนว่ำผู้ รั บ ประโยชน์ ช อบที่ จ ะได้รั บ ค่ำสิ น ไหมทดแทนเพี ยงเสมอจ ำนวนวิน ำศจริงเท่ ำนั้ น ผู้ รับ
สำนักประกั นภัยแต่ละคนต้องใช้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เงินจำนวนวิสนำนั
ำศจริ งแบ่งตำมส่วนมำกน้อกยที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่ตนได้รับประกั
สำนันกภังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยไว้ กำ
อันสัญญำประกันภัยทั้งหลำย ถ้ำลงวันเดียวกัน ท่ำนให้ถือว่ำได้ทำพร้อมกัน
สถ้ำนั
ำได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทำสัญญำประกันภัยเป็กนำสองรำยหรือสกว่ำนัำกนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นสืบเนื่องเป็นลำดับกันกำท่ำนว่ำผู้รับ
ประกันภัยคนแรกจะต้องรับผิดเพื่อควำมวิ นำศภัยก่อน ถ้ำและจำนวนเงินซึ่งผู้รับประกันภัยคนแรกได้
สำนักใช้ นั้นยังไม่คุ้มจำนวนวินกำศภั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ยไซร้ ผู้รับสประกั นภัยคนถัดไปก็ต้องรับกผิำ ดในส่วนที่ยังสขำดอยู
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่นั้นต่อ ๆ กัน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ไปจนกว่ำจะคุ้มวินสำนั ำศกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๘๗๑ ถ้ำได้ทสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำสักญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญำประกันภัยเป็นสองรำยหรื
กำ อกว่ำนัส้นำนัพร้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มกันก็ดี หรือ กำ
- ๑๔๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สืบ เนื ่อ งเป็น ล ำดับ กัน ก็ด ี ท่ำ นว่ำ กำรที ่ย อมสละสิท ธิอ ัน มีต ่อ ผู ้รับ ประกัน ภัย รำยหนึ ่ง นั ้น ไม่
สำนักกระทบกระทั ่งถึงสิทธิแกละหน้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำที่ของผูส้รำนั
ับประกั นภัยรำยอื่น ๆ กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๘๗๒ ก่อนเริ่มเสี่ยกงภัำ ย ผู้เอำประกัสำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นภักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จะบอกเลิกสัญญำเสียกก็ำ ได้ แต่ผู้รับ
ประกันภัยชอบที่จะได้เบี้ยประกันภัยกึ่งจำนวน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๘๗๓ ถ้ำในระหว่ำกงอำยุ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สัญญำประกั
สำนันกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ภัยนั้น มูลประกันภัยได้กำลดน้อยถอย
ลงไปหนักไซร้ ท่ำนว่ำผู้เอำประกันภัยชอบที่จะได้ลดจำนวนเงินซึ่งเอำประกันภัยไว้ และลดจำนวนเงิน
สำนักเบี ้ยประกันภัย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรลดจำนวนเบี้ยประกันภัยนั้น ให้เป็นผลต่อในอนำคต
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๗๔ ถ้ำคู่สัญญำได้กำหนดรำคำแห่งมูลประกันภัยไว้ ผู้รับประกันภัยชอบที่
สำนักจะได้ ลดจำนวนค่ำสินไหมทดแทน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ก็แต่สเำนัมื่อกพิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สูจน์ได้ว่ำรำคำแห่งมูลกำประกันภัยตำมที
สำนั่ไกด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตกลงกันไว้นั้น กำ
เป็นจำนวนสูงเกินไปหนัก และคืนจำนวนเบี้ยประกันภัยให้ตำมส่วนกับทั้งดอกเบี้ยด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๘๗๕ ถ้ำวัตสถุำนัอันกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ได้เอำประกั นภัยไว้นั้นกำเปลี่ยนมือไปจำกผู ้เอำประกันภัย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
โดยพินัยกรรมก็ดี หรือโดยบัญญัติกฎหมำยก็ดี ท่ำนว่ำสิทธิอันมีอยู่ในสัญญำประกันภัยก็ย่อมโอนตำม
ไปด้วย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำในสัญญำมิได้กำหนดไว้เป็นอย่ำงอื่น เมื่อผู้เอำประกันภัยโอนวัตถุที่เอำประกันภัย
สำนักและบอกกล่ ำวกำรโอนไปยั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งผู้รับประกัสนำนัภักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไซร้ ท่ำนว่ำสิทธิอันมีอกยูำ ่ในสัญญำประกั
สำนันกภังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยนั้นย่อมโอน กำ
ตำมไปด้วย อนึ่ง ถ้ำในกำรโอนเช่นนี้ช่องแห่งภัยเปลี่ยนแปลงไปหรือเพิ่มขึ้นหนักไซร้ ท่ำนว่ำสัญญำ
ประกันภัยนั้นกลำยเป็
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โมฆะ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๘๗๖ ถ้ ำ ผูส้ รำนั


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ั บกประกั น ภั ย ต้ อ งค ำพิ พ ำกษำให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เป็ น คนล้
สำนักมงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ละลำย ผู้ เอำ กำ
ประกันภัยจะเรียกให้หำประกันอันสมควรให้แก่ตนก็ได้ หรือจะบอกเลิกสัญญำเสียก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำผู้เอำประกันภัยต้องคำพิพำกษำให้เป็นคนล้มละลำย ท่ำนให้ใช้วิธีเดียวกันนี้บังคับ
สำนักตำมควรแก่ เรื่ อ ง แต่ กกระนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้ น ก็ ดี ถ้ ำ เบี ้ ย ประกั
สำนั น ภั ย ได้ ส่ งแล้ ว เต็กมำจ ำนวนเพื่ อ อำยุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักปงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระกั น ภั ย เป็ น กำ
ระยะเวลำมำกน้อยเท่ำใดไซร้ ท่ำนห้ำมมิให้ผู้รับประกันภัยบอกเลิกสัญญำก่อนระยะเวลำนั้นสุดลง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๗๗ ผู้รับประกันภัยจำต้องใช้ค่ำสินไหมทดแทนดังจะกล่ำวต่อไปนี้ คือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๑) เพืก่อำจำนวนวินำศภั ยอักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั แท้จริง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) เพื่อควำมบุบสลำยอันเกิดแก่ทรัพย์สินซึ่งได้เอำประกันภัยไว้เพรำะได้จัดกำรตำม
สมควรเพื่อป้องปัสดำนั
ควำมวิ นำศภัย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) เพื่อบรรดำค่ำใช้จ่ำยอันสมควรซึ่งได้เสียไปเพื่อรักษำทรัพย์สินซึ่งเอำประกันภัย
สำนักไว้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้นมิให้วินำศ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อันจำนวนวินำศจริงนั้น ท่ำนให้ตีรำคำ ณ สสถำนที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
่และในเวลำซึ่งเหตุวินำศภัยนั้นได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เกิดขึ้น อนึ่ง จำนวนเงินซึ่งได้เอำประกันภัยไว้นั้น ท่ำนให้สันนิ ษฐำนไว้ก่อนว่ำเป็นหลักประมำณอัน
สำนักถูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กต้องในกำรตีรำคำเช่นกว่ำำนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๔๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ท่ำนห้ำมมิให้คิดค่ำสินไหมทดแทนเกินไปกว่ำจำนวนเงินซึ่งเอำประกันภัยไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๗๘ ค่ำใช้จ่ำยในกำรตีรำคำวินำศภัยนั้น ท่ำนว่ำผู้รับประกันภัยต้องเป็นผู้
ออกใช้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๘๗๙ ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิ ดในเมื่อควำมวินำศภัยหรือเหตุอื่นซึ่งได้
ระบุไว้ในสัญญำนัสำนั
้นได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เกิดขึ้นเพรำะควำมทุจกริำต หรือควำมประมำทเลิ นเล่ออย่ำงร้ำยแรงของผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้เอำ
ประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์
ผู้ รั บ ประกั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ น ภั ย ไม่ ตส้ อำนั
งรักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผิ ด ในควำมวิน ำศภั ยกอัำน เป็ น ผลโดยตรงมำแต่ ค วำมไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สมประกอบในเนื้อแห่งวัตถุที่เอำประกันภัย เว้นแต่จะได้ตกลงกันเป็นอย่ำงอื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๘๐ ถ้ำควำมวินำศภัยนั้นได้เกิดขึ้นเพรำะกำรกระทำของบุคคลภำยนอกไซร้
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้รับ ประกัน ภัย ได้ใช้ค่ำกสิำน ไหมทดแทนไปเป็ นจำนวนเพียงใด ผู้กรับำ ประกันภัยย่สอำนัมเข้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำรับช่วงสิทธิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ของผู้เอำประกันภัยและของผู้รับประโยชน์ซึ่งมีต่อบุคคลภำยนอกเพียงนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำผู้รับประกันภัยได้ใช้ค่ำสินไหมทดแทนไปแต่ เพียงบำงส่วนไซร้ ท่ำนห้ำมมิให้ผู้รับ
สำนักประกั นภัยนั้นใช้สิทธิของตนให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เสื่อมเสีสยำนัสิกทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ธิของผู้เอำประกันภัย กหรืำ อผู้รับประโยชน์
สำนักในกำรที ่เขำจะ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เรียกร้องเอำค่ำสินไหมทดแทนจำกบุคคลภำยนอกเพื่อเศษแห่งจำนวนวินำศนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๘๑ ถ้ ำ ควำมวิ น ำศเกิ ด ขึ้ น เพรำะภั ย มี ขึ้ น ดั ง ผู้ รั บ ประกั น ภั ย ตกลง
สำนักประกั นภัยไว้ไซร้ เมื่อผู้กเอำประกั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นภัยหรื
สำนัอกผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้รับประโยชน์ทรำบควำมวิ
กำ นำศนั้นแล้วสำนั ต้อกงบอกกล่ ำวแก่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้รับประกันภัยโดยไม่ชักช้ำ
สถ้ำนั
ำมิกไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้ปฏิบัติตำมบทบัญญัตกิทำ ี่กล่ำวมำในวรรคก่ อน ผู้รับประกันภัยอำจเรี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยกร้องค่ำ
สินไหมทดแทนเพื่อควำมเสียหำยอย่ำงใด ๆ อันเกิดแต่กำรนั้นได้ เว้นแต่อีกฝ่ำยหนึ่งจะพิสูจน์ได้ว่ำไม่
สำนักสำมำรถที ่จะปฏิบัติได้ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๘๒ ในกำรเรียกให้ ใช้ค่ำสิ นไหมทดแทน ท่ำนห้ ำมมิให้ ฟ้ องคดีเมื่อพ้ น
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดเวลำสองปีนับแต่กวำันวินำศภัย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกำรเรียกให้ใช้หรือให้คื นเบี้ยประกันภัย ท่ำนห้ำมมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นเวลำสองปี
นับแต่วันซึ่งสิทธิจสะเรี
ำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กให้ใช้หรือคืนเบี้ยประกักำนภัยถึงกำหนดสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
วิธีเฉพำะกำรประกันภัยในกำรรับขน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๘๘๓ อันสัญสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญำประกั นภัยในกำรรับขนนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้น ย่อมคุ้มถึสงำนั
ควำมวิ นำศภัยทุก
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อย่ำงซึ่งอำจเกิดแก่ ของที่ข นส่งในระหว่ำงเวลำตั้งแต่ผู้ขนส่งสได้ำนัรกับงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ของไป จนได้ส่งมอบของนั
กำ
้นแก่ผู้รับ
ตรำส่ง และจำนวนค่ำสินไหมทดแทนนั้น ย่อมกำหนดตำมที่ของซึ่งขนส่งนั้นจะได้มีรำคำเมื่อถึงตำบล
สำนักอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นกำหนดให้ส่ง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๔๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๘๘๔ ถ้ำของซึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่งกขนส่ งนั้นได้เอำประกันกภัำยเมื่ออยู่ในระหว่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำกงส่ งเดินทำงไป
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ท่ำนให้คิดมูลประกันภัยในของนั้นนับรวมทั้งรำคำของ ณ สถำนที่และในเวลำที่ผู้ขนส่งได้รับของ และ
ให้เพิ่มค่ำระวำงส่สงำนั
ของไปยั งสถำนที่ส่งมอบแก่กำผู้รับตรำส่ง กัสบำนัทั้งกค่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำใช้จ่ำยอื่น ๆ เนื่องด้วกยกำรส่
ำ งของ
ไปนั้นเข้ำด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำไรอันจะพึงได้ในเวลำเมื่อส่งมอบของนั้น ย่อมจะคิดรวมเข้ำเป็นมูลประกันภัยได้
ต่อเมื่อได้มีข้อตกลงกั
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไว้เช่นนั้นชัดแจ้ง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๘๘๕ อันสัญสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญำประกั นภัยในกำรรับขนนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้น ถึงแม้กำรขนส่ งจะต้องสะดุด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หยุดลงชั่วขณะหรือจะต้องเปลี่ยนทำงหรือเปลี่ยนวิธีขนส่งอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดโดยเหตุจำเป็นในระหว่ำง
ส่งเดินทำงก็ดี ท่ำสนว่
ำนัำกสังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญญำนั้นก็ย่อมคงเป็นอักนำ สมบูรณ์อยู่ เว้
สำนันแต่ จะได้ระบุไว้ในสัญญำเป็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำนอย่ำงอื่น

มำตรำกำ๘๘๖ อันกรมธรรม์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ประกันภัยในกำรรับกขนนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้น นอกจำกที
สำนั่ไกด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระบุไว้แล้วใน กำ
มำตรำ ๘๖๗ ต้องมีรำยกำรเพิ่มขึ้นอีกดังจะกล่ำวต่อไปนี้ คือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ระบุทำงและวิธีขนส่ง
(๒) ชื่อกหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อยี่ห้อของผูส้ขำนันส่ ง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) สถำนที่ซึ่งกำหนดให้รับและส่งมอบของ
ส(๔)
ำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดระยะเวลำขนส่งกตำมแต่ ำ มี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ประกันภัยค้ำจุน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๘๘๗ อันว่ำสประกั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นภัยค้ำจุนนั้น คือสัญกญำประกั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นภัยซึส่งำนั
ผู้รกับงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ประกันภัยตก กำ
ลงว่ำจะใช้ค่ำสินไหมทดแทนในนำมของผู้เอำประกันภัย เพื่อควำมวินำศภัยอันเกิดขึ้นแก่บุคคลอีกคนหนึ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
และซึ่งผู้เอำประกันภัยจะต้องรับผิดชอบ
บุคคลผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ้ต้องเสียหำยชอบที ่จะได้รับค่ำสินไหมทดแทนตำมที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ตนควรจะได้ นั้นจำกผู้รับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประกันภัยโดยตรง แต่ค่ำสินไหมทดแทนเช่นว่ำนี้หำอำจจะคิดเกินไปกว่ำจำนวนอันผู้รับประกันภัยจะ
พึงต้องใช้ตำมสัญสญำนั ้นได้ไม่ ในคดีระหว่ำงบุกคำ คลผู้ ต้องเสียสหำยกั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บผู้รับประกันภัยนั้น กท่ำำนให้ผู้ต้อง
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เสียหำยเรียกตัวผู้เอำประกันภัยเข้ำมำในคดีด้วย
อนึ่ง ผูก้รำับประกันภัยนัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นแม้ จะได้ส่งค่ำสินไหมทดแทนให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ แก่ผู้เอำประกั นภัยแล้ว ก็ยัง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หำหลุดพ้นจำกควำมรับผิดต่อบุคคลผู้ต้องเสียหำยนั้นไม่ เว้นแต่ตนจะพิสูจน์ได้ว่ำสินไหมทดแทนนั้นผู้
เอำประกันภัยได้ใสช้ำนั
ให้กแงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก่ผู้ต้องเสียหำยแล้ว กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๘๘๘ ถ้ำค่ำสิสนำนัไหมทดแทนอั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นผู้รับประกักนำ ภัยได้ใช้ไปโดยค
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำพิ พำกษำนั้นยัง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ไม่คุ้มค่ำวินำศภัยสเต็ำนัมกจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนวนไซร้ ท่ำนว่ำผู้เอำประกั
กำ
นภัยก็ยสังำนัคงต้ องรับใช้จำนวนที่ยังขำด เว้นไว้แต่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บุคคลผู้ต้องเสียหำยจะได้ละเลยเสียไม่เรียกตัวผู้เอำประกันภัยเข้ำมำสู่คดีด้วยดังกล่ำวไว้ในมำตรำก่อน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๔๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

หมวด ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ประกันชีวิต
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๘๙ ในสัญญำประกันชีวิตนั้น กำรใช้จำนวนเงินย่อมอำศัยควำมทรงชีพ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หรือมรณะของบุคคลคนหนึ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๙๐ จำนวนเงินอันจะพึงใช้นั้น จะชำระเป็นเงินจำนวนเดียว หรือเป็นเงิ น
สำนักรำยปี ก็ได้ สุดแล้วแต่จะตกลงกั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นระหว่ำสงคู
ำนั่สกัญ ญำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๘๙๑ แม้ในกรณี กทำี่ ผู้ เอำประกันสภัำนัยกมิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ได้เป็ น ผู้ รับ ประโยชน์กเองก็
ำ ดี ผู้ เอำ
ประกันภัยย่อมมีสิทธิที่จะโอนประโยชน์แห่งสัญญำนั้นให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งได้ เว้นแต่จะได้ส่งมอบ
สำนักกรมธรรม์ ประกันภัยให้แกก่ำ ผู้รับประโยชน์
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัไปแล้ ว และผู้รับประโยชน์กไำด้บอกกล่ำวเป็สนำนัหนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งสือไปยังผู้รับ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประกันภัยแล้วว่ำตนจำนงจะถือเอำประโยชน์แห่งสัญญำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำกรมธรรม์ประกันภัยได้ทำเป็นรูปให้ใช้สเงิำนันตำมเขำสั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
่งแล้ว ท่ำนให้นำบทบัญญัติ
สำนักมำตรำ ๓๐๙ มำใช้บังคักบำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๘๙๒ ในกรณีบอกล้กำำงสัญญำตำมควำมในมำตรำ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๘๖๕ ผู้รับประกั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นภัยต้อง
คืนค่ำไถ่ถอนกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ผู้เอำประกันภัยหรือทำยำทของผู้นั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๙๓ กำรใช้เงินอำศัยเหตุควำมทรงชีพ หรือมรณะของบุคคลผู้ใด แม้ได้
แถลงอำยุของบุคสคลผู
ำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ั้นไว้คลำดเคลื่อนไม่ถูกกต้ำองเป็นเหตุให้สไำนั
ด้กกำหนดจ ำนวนเบี้ยประกักนำภัยไว้ต่ำไซร้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ท่ำนให้ลดจำนวนเงินอันผู้รับประกันภัยจะพึงต้องใช้นั้นลงตำมส่วน
แต่ถ้ำกผูำ้รับประกันภัยสพิำนัสูกจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี น์ได้ว่ำในขณะที่ทำสัญกญำนั
ำ ้นอำยุที่ถูกสต้ำนัอกงแท้ จริงอยู่นอก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จำกัดอัตรำตำมทำงค้ำปกติของเขำแล้ว ท่ำนว่ำสัญญำนั้นเป็นโมฆียะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๘๙๔ ผู้เอำประกั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ภัยชอบที่จะบอกเลิกสัญกำญำประกันภัยเสี
สำนัยในเวลำใด ๆ ก็ได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ด้วยกำรงดไม่ส่งเบี้ยประกันภัยต่อไป ถ้ำและได้ส่งเบี้ยประกันภัยมำแล้วอย่ำงน้อยสำมปีไซร้ ท่ำนว่ำ
ผู้เอำประกันภัยชอบที ่จะได้รับเงินค่ำเวนคืนกกรมธรรม์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ประกัสนำนัภักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือรับกรมธรรม์ใช้เกงินำ สำเร็จจำก
ผู้รับประกันภัย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๙๕ เมื่อใดจะต้องใช้จำนวนเงินในเหตุมรณะของบุคคลคนหนึ่งคนใด ท่ำน
ว่ำผู้รับประกันภัยสจำนั
ำต้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งใช้เงินนั้นในเมื่อมรณภักำยอันนั้นเกิดขึส้นำนัเว้กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แต่ กำ
(๑) บุคคลผู้นั้นได้กระทำอัตวินิบำตด้วยใจสมัครภำยในปีหนึ่งนับแต่วันทำสัญญำ
สำนักหรื อ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) บุคคลผู้นั้นถูกผู้รับประโยชน์ฆ่ำตำยโดยเจตนำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่ ๒ นี้ ท่ำนว่ำผู้ รับประกันภัยจำต้องใช้เงินค่ำไถ่ถอนกรมธรรม์ให้แก่ผู้เอำ
สำนักประกั นภัย หรือให้แก่ทำยำทของผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๔๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๘๙๖ ถ้ำมรณภั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัยกเกิ ดขึ้นเพรำะควำมผิดของบุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ คคลภำยนอก
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้รับประกันภัย กำ
หำอำจจะเรียกเอำค่ำสินไหมทดแทนจำกบุคคลภำยนอกนั้นได้ไม่ แต่สิทธิของฝ่ำยทำยำทแห่งผู้มรณะ
ในอันจะได้ค่ำสินสไหมทดแทนจำกบุ คคลภำยนอกนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นหำสูญสิส้นำนัไปด้ วยไม่ แม้ทั้งจำนวนเงิกนำอันจะพึงใช้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตำมสัญญำประกันชีวิตนั้นจะหวนกลับมำได้แก่ตนด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๘๙๗ ถ้ำผู้ เอำประกั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ น ภัยได้เอำประกั นภัยไว้โดยกำหนดว่ำ กเมืำ ่อตนถึงซึ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ควำมมรณะให้ใช้เงินแก่ทำยำททั้งหลำยของตนโดยมิได้เจำะจงระบุชื่อผู้หนึ่งผู้ใดไว้ไซร้ จำนวนเงินอัน
สำนักจะพึ งใช้นั้น ท่ำนให้ฟังเอำเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นสินทรัพย์สสำนั่วกนหนึ ่งแห่งกองมรดกของผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ้เอำประกันภัยสำนัซึ่งกเจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนี้จะเอำใช้ กำ
หนี้ได้
สถ้ำนัำ ได้ เ อำประกั น ภั ย ไว้ โ ดยก
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำหนดว่ ำสให้ำนัใกช้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เ งิ น แก่ บุ ค คลคนใดคนหนึ กำ ่ ง โดย
เฉพำะเจำะจง ท่ำนว่ำเฉพำะแต่จำนวนเงินเบี้ยประกันภัยซึ่งผู้เอำประกันภัยได้ส่งไปแล้วเท่ำนั้นจักเป็น
สำนักสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นทรัพย์ส่วนหนึ่งแห่งกองมรดกของผู
กำ ้เสอำประกั นภัยอันเจ้ำหนี้จะเอำใช้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ หนี้ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๒๑ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ตั๋วเงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนับทเบ็ ดเสร็จทั่วไป
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๙๘ อันตั๋วเงินตำมควำมหมำยแห่งประมวลกฎหมำยนี้มีสำมประเภท ๆ
สำนักหนึ ่ง คือตั๋วแลกเงิน ประเภทหนึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ง คือตัส๋วำนั
สัญกญำใช้ เงิน ประเภทหนึ่งกคืำ อเช็ค
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๙๙ ข้อควำมอันใดซึ่งมิได้มีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมำยลักษณะนี้ ถ้ำ
สำนักเขีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยนลงในตั๋วเงิน ท่ำนว่กำำข้อควำมอันนัส้นำนั
หำเป็ นผลอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดแก่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ตั๋วเงินนั้นไม่สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๙๐๐ บุคคลผู้ลงลำยมื


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อชื่อของตนในตั
สำนัก๋วงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เงินย่อมจะต้องรับผิดตำมเนื
กำ ้อควำม
ในตั๋วเงินนั้น
ถ้ำลงเพี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำยงแต่เครื่องหมำยอย่ ำงหนึ่งอย่ำงใด เช่นกแกงไดหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อลำยพิ
สำนัมกพ์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นิ้วมืออ้ำงเอำ กำ
เป็นลำยมือชื่อในตั๋วเงินไซร้ แม้ถึงว่ำจะมีพยำนลงชื่อรับรองก็ตำม ท่ำนว่ำหำให้ผลเป็นลงลำยมือชื่อใน
ตั๋วเงินนั้นไม่ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๙๐๑ ถ้ำบุคสคลคนใดลงลำยมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อชื่อของตนในตั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๋วเงิน และมิ
สำนัไกด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เขียนแถลงว่ำ กำ
กระทำกำรแทนบุสคำนั
คลอี กคนหนึ่งไซร้ ท่ำนว่ำบุคคลคนนั้นย่อสมเป็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นผู้รับผิดตำมควำมในตั๋วเงินนั้น
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๙๐๒ ถ้ำตั๋วเงิสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นลงลำยมื อชื่อของบุคคลหลำยคน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มีทั้งบุคสคลซึ ่งไม่อำจจะเป็น
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๔๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

คู่สัญญำแห่งตั๋วเงินนั้นได้เลย หรือเป็ นได้แต่ไม่เต็มผลไซร้ ท่ำนว่ำกำรนี้ย่อมไม่กระทบกระทั่งถึงควำม


สำนักรังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บผิดของบุคคลอื่น ๆ นอกนั
กำ ้นซึ่งคงต้อสงรั
ำนับกผิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดตำมตั๋วเงิน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๙๐๓ ในกำรใช้เงินตำมตั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๋วเงิน ท่ำนมิ
สำนัให้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้วันผ่อน กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๙๐๔ อันผู้ทรงนั้น หมำยควำมว่ำ บุคคลผู้มีตั๋วเงินไว้ในครอบครอง โดยฐำน
เป็นผู้รับเงิน หรือสเป็ำนันกผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้รับสลักหลัง ถ้ำและเป็กนำตั๋วเงินสั่งจ่ำยให้
สำนัแกก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้ถือ ๆ ก็นับว่ำเป็นผู้ทกรงเหมื
ำ อนกัน

มำตรำกำ๙๐๕ ภำยในบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงคังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บแห่ งบทบัญญัติมำตรำ
กำ ๑๐๐๘ บุคสคลผู ้ได้ตั๋วเงินไว้ใน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ครอบครอง ถ้ำแสดงให้ปรำกฏสิทธิด้วยกำรสลักหลังไม่ขำดสำย แม้ถึงว่ำกำรสลักหลังรำยที่สุดจะเป็น
สลักหลังลอยก็ตำม สำนัท่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นให้ถือว่ำเป็นผู้ทรงโดยชอบด้
กำ วยกฎหมำย เมื่อใดรำยกำรสลักหลักำงลอยมีสลัก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หลังรำยอื่นตำมหลังไปอีก ท่ำนให้ถือว่ำบุคคลผู้ที่ลงลำยมือชื่อในกำรสลักหลังรำยที่สุดนั้น เป็นผู้ได้ไป
สำนักซึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ง่ ตัว๋ เงินด้วยกำรสลักหลักำงลอย อนึง่ คำสลั
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หลังเมือ่ ขีดฆ่ำเสียแล้ว กท่ำำนให้ถือเสมือสนว่
ำนักำมิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้มีเลย กำ
ถ้ำบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดต้องปรำศจำกตั๋วเงินไปจำกครอบครอง ท่ำนว่ำผู้ทรงซึ่งแสดงให้
ปรำกฏสิทธิของตนในตั๋วตำมวิธีกำรดังกล่ำวมำในวรรคก่อสนนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
้น หำจำต้องสละตั๋วเงินไม่ เว้นแต่จะ
สำนักได้ มำโดยทุจริต หรือได้มกำด้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ วยควำมประมำทเลิ นเล่ออย่ำงร้ำยแรง กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่ง ข้อควำมในวรรคก่อนนี้ ให้ใช้บังคับตลอดถึงผู้ทรงตั๋วเงินสั่งจ่ำยให้แก่ผู้ถือด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๐๖ คำว่ำคู่สัญญำคนก่อน ๆ นั้น รวมทั้งผู้สั่งจ่ำย หรือผู้ออกตั๋วเงินและ
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้สลักหลังคนก่อน ๆ ด้วกยำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๙๐๗ เมื่อใดไม่มีทกี่ในตั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ๋วเงินซึ่งจะสลั
สำนักกหลั งได้ต่อไปไซร้ ท่ำ นอนุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญำตให้เอำ
กระดำษแผ่นหนึ่งผนึกต่อเข้ำกับตั๋วเงินเรียกว่ำใบประจำต่อ นับเป็นส่วนหนึ่งแห่งตั๋วเงินนั้น
กำรสลักำกหลังในใบประจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำต่ อครั้งแรกต้องเขียนคำบบนตั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๋วเงินเดิสมำนั
บ้ำกงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บนใบประจำ กำ
ต่อบ้ำง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตั๋วแลกเงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรออกและสลักหลังตั๋วแลกเงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๙๐๘ อันว่ำตัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๋วแลกเงิ นนั้น คือหนังสือตรำสำรซึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งบุคคลคนหนึ ่ง เรียกว่ำผู้สั่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จ่ำย สั่งบุคคลอีกคนหนึ ่ง เรียกว่ำผู้จ่ำย ให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งสแก่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บุคคลคนหนึ่ง หรือให้ใช้ตำมคำสั่งของ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บุคคลคนหนึ่งซึ่งเรียกว่ำผู้รับเงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๔๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๙๐๙ อันตั๋วแลกเงินนั้น ต้องมีรำยกำรดังกล่ำวต่อไปนี้ คือ


(๑) คำบอกชื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่อว่ำเป็นสตัำนั ๋วแลกเงิ น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) คำสั่งอันปรำศจำกเงื่อนไขให้จ่ำยเงินเป็นจำนวนแน่นอน
ส(๓)
ำนักชืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อ หรือยี่ห้อผู้จ่ำย กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) วันถึงกำหนดใช้เงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) สถำนที่ใช้เงิน
ส(๖)
ำนักชืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อ หรือยี่ห้อผู้รับเงิน หรืกำอคำจดแจ้งว่ำสให้ำนัใกช้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เงินแก่ผู้ถือ กำ
(๗) วันและสถำนที่ออกตั๋วเงิน
(๘) ลำยมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อชื่อผู้สั่งจ่ำสยำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๙๑๐ ตรำสำรอันมีกำรำยกำรขำดตกบกพร่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องไปจำกที่ท่ำนระบุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำบังคับไว้ใน
มำตรำก่อนนี้ ย่อมไม่สมบูรณ์เป็นตั๋วแลกเงิน เว้นแต่ในกรณีดังจะกล่ำวต่อไปนี้ คือ
ตั๋วแลกเงิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นซึ่งไม่ระบุเสวลำใช้ เงิน ท่ำนให้ถือว่ำพึงใช้กำเงินเมื่อได้เห็นสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถ้ำสถำนที่ใช้เงินมิได้แถลงไว้ในตั๋วแลกเงิน ท่ำนให้ ถือเอำภูมิลำเนำของผู้จ่ำยเป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สถำนที่ใช้เงิน
ถ้ำตั๋วกแลกเงิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นไม่แสดงให้
สำนักปงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รำกฏสถำนที่ออกตั๋วกท่ำ ำนให้ถือว่ำตัส๋วำนัเงิกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้นได้ออก ณ กำ
ภูมิลำเนำของผู้สั่งจ่ำย
สถ้ำนั
ำมิกไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้ลงวัน ออกตั๋ว ท่ำนว่กำำผู้ทรงโดยชอบด้
สำนัวกยกฎหมำยคนหนึ ่งคนใดท
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำกำรโดย
สุจริตจะจดวันตำมที่ถูกต้องแท้จริงลงก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๑๑ ผู้สั่งจ่ำยจะเขียนข้อควำมกำหนดลงไว้ว่ำจำนวนเงินอันจะพึงใช้นั้นให้
คิดดอกเบี้ยด้วยก็สไำนั
ด้ กและในกรณี เช่นนั้น ถ้ำกมิำได้กล่ำวลงไว้สเป็ำนันกอย่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำงอื่น ท่ำนว่ำดอกเบีก้ยำ ย่อมคิดแต่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วันที่ลงในตั๋วเงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๑๒ อันตั๋วแลกเงินนั้นจะออกสั่งให้ใช้เงินตำมคำสั่งของผู้สั่งจ่ำยก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่ง จะสั่งจ่ำยเอำจำกตัวผู้สั่งจ่ำยเอง หรือสั่งจ่ำยเพื่อบุคคลภำยนอกก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๑๓ อันวันถึงกำหนดของตั๋วแลกเงินนั้น ท่ำนว่ำย่อมเป็นอย่ำงใดอย่ำงหนึ่ง
ดังกล่ำวต่อไปนี้ คืสอำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ในวันใดวันหนึ่งที่กำหนดไว้ หรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๒) เมืก่อำสิ้นระยะเวลำอั
สำนันกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดไว้นับแต่วันที่ลงในตั
กำ ๋วนั้น หรือ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) เมื่อทวงถำม หรือเมื่อได้เห็น หรือ
ส(๔)ำนักเมื ่อสิ้นระยะเวลำอันกำหนดไว้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นับแต่ได้สเำนั
ห็นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๙๑๔ บุคคลผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้สั่งกจ่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยหรือสลักหลังตั๋วแลกเงิ
กำ นย่อมเป็นอัสนำนัสักญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญำว่ำ เมื่อตั๋ว กำ
นั้นได้นำยื่นโดยชอบแล้ วจะมีผู้รับรองและใช้เงินตำมเนื้อควำมแห่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งตั๋ว ถ้ำและตั๋วแลกเงินนั้นเขำไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เชื่อถือโดยไม่ยอมรับรองก็ดี หรือไม่ยอมจ่ำยเงินก็ดี ผู้สั่งจ่ำยหรือผู้สลักหลังก็จะใช้เงินแก่ผู้ทรง หรือ
สำนักแก่ ผู้สลักหลังคนหลังซึ่งกต้ำ องถูกบังคับให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัใช้กเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งินตำมตั๋วนั้น ถ้ำหำกว่กำำ ได้ทำถูกต้ องตำมวิ ธีกำรในข้อไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๔๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

รับรองหรือไม่จ่ำยเงินนั้นแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๑๕ ผู้สั่งจ่ำยตั๋วแลกเงินและผู้สลักหลังคนใด ๆ ก็ดี จะจดข้อกำหนดซึ่งจะ
กล่ำวต่อไปนี้ลงไว้สชำนััดแจ้ งในตั๋วนั้นก็ได้ คือ กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ข้อกำหนดลบล้ำงหรือจำกัดควำมรับผิดของตนเองต่อผู้ทรงตั๋วเงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ข้อกำหนดยอมลดละให้แก่ผู้ทรงตั๋วเงินซึ่งหน้ำที่ทั้งหลำยอันผู้ทรงจะพึงต้องมีแก่
ตนบำงอย่ำงหรือทัสำนั
้งหมด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๙๑๖ บุคคลทั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้งหลำยผู ้ถูกฟ้องในมูลตั๋วแลกเงิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นหำอำจจะต่
สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สู้ผู้ทรงด้วยข้อ กำ
ต่อสู้อันอำศัยควำมเกี่ยวพันกันเฉพำะบุคคลระหว่ำงตนกับผู้สั่งจ่ำยหรือกับผู้ทรงคนก่อน ๆ นั้นได้ไม่
เว้นแต่กำรโอนจะได้
สำนัมกีขงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉล กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๙๑๗ อันตั๋วแลกเงิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทุกฉบับ ถึงแม้ว่ำจะมิใกช่ำสั่งจ่ำยให้แก่บสุคำนัคลเพื ่อเขำสั่งก็ตำม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ท่ำนว่ำย่อมโอนให้กันได้ด้วยสลักหลังและส่งมอบ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่อผู้สั่งจ่ำยเขียนลงในด้ำนหน้ำแห่งตั๋วแลกเงิ นว่ำ “เปลี่ยนมือไม่ได้” ดังนี้ก็ดี หรือ
สำนักเขีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยนคำอื่นอันได้ควำมเป็ กำ นทำนองเช่นสำนั
เดียกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วกันนั้นก็ดี ท่ำนว่ำตั๋วกเงิำนนั้นย่อมจะโอนให้ กันได้แต่โดย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
รูปกำรและด้วยผลอย่ำงกำรโอนสำมัญ
สอนึ
ำนั่งกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตั๋วเงินจะสลักหลังให้แกก่ำผู้จ่ำยก็ได้ ไม่วส่ำำนัผูก้จงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ำยจะได้รับรองตั๋วนั้นหรืกำอไม่ หรือจะ
สลักหลังให้แก่ผู้สั่งจ่ำย หรือให้แก่คู่ สัญญำฝ่ำยอื่นใดแห่งตั๋วเงินนั้นก็ได้ ส่วนบุคคลทั้งหลำยเหล่ำนี้ก็
สำนักย่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อมจะสลักหลังตั๋วเงินนัก้นำต่อไปอีกได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๙๑๘ ตั๋วแลกเงินอักนำสั่งให้ใช้เงินแก่สำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ผู้ถกืองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้น ท่ำนว่ำย่อมโอนไปเพี
กำ ยงด้วยส่ง
มอบให้กัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๑๙ คำสลักหลังนั้นต้องเขียนลงในตั๋วแลกเงินหรือใบประจำต่อ และต้อง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลงลำยมือชื่อผู้สลักหลัง
กำรสลักำกหลังย่อมสมบูสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รณ์กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แม้ทั้งมิได้ระบุชื่อผู้รับประโยชน์
กำ ไว้ด้วยสำนั
หรืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แม้ผู้สลักหลัง กำ
จะมิได้กระทำอะไรยิ่งไปกว่ำลงลำยมือชื่อของตนที่ด้ำนหลังตั๋วแลกเงินหรือที่ใบประจำต่อก็ย่อมฟัง
เป็นสมบูรณ์ดุจกันสำนักำรสลั กหลังเช่นนี้ท่ำนเรียกกว่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำ “สลักหลังสลอย”
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๙๒๐ อันกำรสลั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หลังย่อมโอนไปซึ่งบรรดำสิ
กำ ทธิอันเกิดแต่ ตั๋วกแลกเงิ
สำนั น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ถ้ำสลักหลังลอย ผู้ทรงจะปฏิบัติดังกล่ำวต่อไปนี้ประกำรหนึ่งประกำรใดก็ได้ คือ
ส(๑)
ำนักกรอกควำมลงในที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ว่ำงด้กวำยเขียนชื่อของตนเองหรื อชื่อบุคคลอื่นผู้ใดผูกำ้หนึ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
(๒) สลักหลังตั๋วเงินต่อไปอีกเป็นสลักหลังลอย หรือสลักหลังให้แก่บุคคลอื่นผู้ใดผู้หนึ่ง
(๓) โอนตั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๋วเงินนั้นให้สไปแก่ บุคคลภำยนอกโดยไม่กกำรอกควำมลงในที
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่วก่ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ง และไม่สลัก กำ
หลังอย่ำงหนึ่งอย่สำงใด
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๙๒๑ กำรสลั


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักกหลั งตั๋ว แลกเงิน ซึ่งสั่ งให้กำใช้เงิน แก่ผู้ ถือสนัำนั้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ย่อมเป็น เพี ย ง กำ
- ๑๕๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ประกัน (อำวัล) สำหรับผู้สั่งจ่ำย


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๒๒ กำรสลักหลังนั้นต้องให้เป็นข้อควำมอันปรำศจำกเงื่อนไข ถ้ำและวำง
เงื่อนไขบังคับลงไว้สำนั
อย่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งใด ท่ำนให้ถือเสมือนว่กำำข้อเงื่อนไขนั้นสมิำนัได้กเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ขียนลงไว้เลย กำ
อนึ่ง กำรสลักหลังโอนแต่บำงส่วน ท่ำนว่ำเป็นโมฆะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๙๒๓ ผู้สลักหลังคนใดระบุ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ข้อควำมห้
สำนัำกมสลั กหลังสืบไปลงไว้แล้กวำ ผู้สลักหลัง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คนนั้นย่อมไม่ต้องรับผิดต่อบุคคลอันเขำสลักหลังตั๋วแลกเงินนั้นให้ไปในภำยหลัง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๒๔ ถ้ำตั๋วแลกเงินสลักหลังต่อเมื่อสิ้นเวลำเพื่อคัดค้ำนกำรไม่รับรองหรือ
กำรไม่ใช้เงินนั้นแล้
สำนัวไซร้ ท่ำนว่ำผู้รับสลักหลักงำย่อมได้ไปซึ่งสิสทำนัธิ กแงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ห่งกำรรับรองตำมแต่มกีตำ่อผู้จ่ำย กับ
สิทธิไล่เบี้ยเอำแก่บรรดำผู้ซึ่งสลักหลังตั๋วเงินนั้นภำยหลังที่สิ้นเวลำเช่นนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีแต่ถ้ำกตัำ๋วเงินนั้นได้มีคสัดำนัค้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นกำรไม่รับรองหรือกำรไม่ กำ ใช้เงินมำแต่สำนั
ก่อกนสลั กหลังแล้ว
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ไซร้ ท่ำนว่ำผู้รับสลักหลังย่อมได้ไปแต่เพียงสิทธิของผู้ซึ่งสลักหลังให้แก่ตนอันมีต่อผู้รับรองต่อผู้สั่งจ่ำย
และต่อบรรดำผู้ทสี่สำนั
ลักกหลั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งตั๋วเงินนั้นมำก่อนย้อนขึ้นไปจนถึงเวลำคั ดค้ำนเท่ำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๒๕ เมื่อใดควำมที่ส ลั กหลั งมีข้อกำหนดว่ำ “รำคำอยู่ที่ เรียกเก็บ ” ก็ดี
“เพื่อเรียกเก็บ” สก็ำนั
ดี ก“ในฐำนจั ดกำรแทน” ก็กดำ ี หรือควำมสสำนวนอื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ นใดอันเป็นปริยำยว่กำำตัวแทนไซร้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ท่ำนว่ำผู้ทรงตั๋วแลกเงินจะใช้สิทธิทั้งปวงอันเกิดแต่ตั๋วนั้นก็ย่อมได้ทั้งสิ้น แต่ว่ำจะสลักหลังได้เพียงใน
สำนักฐำนเป็ นตัวแทน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีเช่นนี้ คู่สัญญำทั้งหลำยซึ่งต้องรับผิดอำจจะต่อสู้ผู้ทรงได้แต่เพียงด้วยข้อต่อสู้
อันจะพึงใช้ได้ต่อผูส้สำนัลักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หลังเท่ำนั้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๙๒๖ เมื่อใดควำมที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่สลักหลังมีข้อกำหนดว่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำำ “รำคำเป็นประกั น” ก็ดี “รำคำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เป็นจำนำ” ก็ดี หรือข้อกำหนดอย่ำงอื่นใดอันเป็นปริยำยว่ำจำนำไซร้ ท่ำนว่ำผู้ทรงตั๋วแลกเงินจะใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สิทธิทั้งปวงอันเกิดแต่ตั๋วนั้นก็ย่อมได้ทั้งสิ้น แต่ถ้ำผู้ทรงสลักหลังตั๋วนั้ น ท่ำนว่ำกำรสลักหลังย่อมใช้ได้
สำนักเพี ยงในฐำนเป็นคำสลักหลั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งของตัวแทนสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คู่ สั ญ ญำทั้ งหลำยซึ่ งต้ อ งรับ ผิ ด หำอำจจะต่ อ สู้ ผู้ ท รงด้ ว ยข้ อ ต่ อ สู้ อั น อำศั ย ควำม
เกี่ยวพันเฉพำะบุคสคลระหว่ ำงตนกับผู้สลักหลังนัก้นำได้ไม่ เว้นแต่กสำรสลั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กหลังจะได้มีขึ้นด้วยคบคิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดกันฉ้อฉล

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรรับรอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๙๒๗ อัน ตัส๋วำนั


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี แลกเงิ น นั้น จะน ำไปยื่ นแก่กำผู้ จ่ำย ณ ที่ อสยูำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ข องผู ้ จ่ำย เพื่ อให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
รับรองเมื่อไร ๆ ก็สไำนั
ด้ กจนกว่ ำจะถึงเวลำกำหนดใช้เงิน และผู้ทสรงจะเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นผู้ยื่นหรือเพียงแต่ผู้ที่ได้ตั๋วนั้นไว้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในครอบครองจะเป็นผู้นำไปยื่นก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีในตั๋วแลกเงิ
กำ นนั้น ผู้สสั่งจ่ำนัำกยจะลงข้ อกำหนดไว้ว่ำให้กนำ ำยื่นเพื่อรับรอง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัโดยก ำหนดเวลำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๕๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

จำกัดไว้ให้ยื่น หรือไม่กำหนดเวลำก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ผู้สั่งจ่กำยจะห้
ำ ำมกำรนสำตัำนัก๋วงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แลกเงินยื่นเพื่อรับรองก็กำได้ เว้นแต่ในกรณี
สำนักทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี่เป็นตั๋วเงินอัน กำ
ได้ออกสั่งให้ใช้เงินเฉพำะ ณ สถำนที่อื่นใดอันมิใช่ภูมิลำเนำของผู้จ่ำย หรือได้ออกสั่งให้ใ ช้เงินในเวลำ
ใดเวลำหนึ่งนับแต่สไำนั ด้เกห็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่ง ผู้สั่งจ่ำยจะลงข้อกำหนดไว้ว่ำยังมิให้นำตั๋วยื่นเพื่อให้รับรองก่อนถึงกำหนดวันใด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
วันหนึ่งก็ได้
สผูำนั
้สลักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หลังทุกคนจะลงข้อกกำหนดไว้
ำ ว่ำ ให้นสำนั
ำตัก๋วงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เงินยื่นเพื่อรับรอง โดยก กำำหนดเวลำ
จำกัดไว้ให้ยื่น หรือไม่กำหนดเวลำก็ได้ เว้นแต่ผู้สั่งจ่ำยจะได้ห้ำมกำรรับรอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๒๘ ผู้ทรงตั๋วแลกเงินอันสั่งให้ใช้เงินเมื่อสิ้นระยะเวลำกำหนดอย่ำงใดอย่ำง
หนึ่งนั บ แต่ได้เห็ นสำนั
นั้ นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต้องน ำตั๋ว เงิน ยื่ นเพื่อให้
กำ รับ รองภำยในหกเดื อนนับแต่วันที่ลงในตั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๋ วเงิน หรื อ
ภำยในเวลำช้ำเร็วกว่ำนั้นตำมแต่ผู้สั่งจ่ำยจะได้ระบุไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๒๙ ภำยในบังคับบทบัญญัติมำตรำ ๙๒๗ ผู้ทรงตั๋วแลกเงินมีสิทธิที่จะยื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตั๋วเงินแก่ผู้จ่ำยได้ในทันใดเพื่อให้รับรอง ถ้ำและเขำไม่รับรองภำยในเวลำยี ่สิบสี่ชั่วโมงไซร้ ผู้ทรงก็มี
สำนักสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทธิที่จะคัดค้ำน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๙๓๐ ในกำรยื่นตั๋วกแลกเงิ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นเพื่อให้เสขำรั
ำนักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รองนั้น ผู้ทรงไม่จำต้อกงปล่
ำ อยตั๋วนั้น
ให้ไว้ในมือผู้จ่ำย
อนึ่ง ผูก้จำ ่ำยจะเรียกให้สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยื่นกตังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๋วแลกเงินแก่ตนอีกเป็กนำครั้งที่สองในวัสนำนัรุก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ขึ้นแต่วันที่ยื่น กำ
ครั้งแรกนั้นก็ได้ ท่ำนห้ำมมิให้คู่กรณีที่มีส่วนได้เสียยกเอำกำรที่มิได้อนุวัตตำมคำเรียกอันนี้ขึ้นเป็นข้อ
ต่อสู้ เว้นแต่กำรเรีสยำนักนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นได้ระบุไว้ในคำคัดค้ำนกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๙๓๑ กำรรัสบำนัรองนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นพึงกระทำด้วยเขียกนลงไว้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ในด้ำนหน้
สำนัำกแห่ งตั๋วแลกเงิน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เป็นถ้อยคำสำนวนว่ำ “รับรองแล้ว” หรือควำมอย่ำงอื่นทำนองเช่นเดียวกันนั้น และลงลำยมือชื่อของ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้จ่ำย อนึ่ง แต่เพียงลำยมือชื่อของผู้จ่ำยลงไว้ในด้ำนหน้ำแห่งตั๋วแลกเงิน ท่ำนก็จัดว่ำเป็นคำรับรองแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๓๒ ตั๋วแลกเงินฉบับใดเขียนสั่งให้ใช้เงินในกำหนดระยะเวลำอย่ำงใดอย่ำง
หนึ่ งนั บ แต่วัน ที่ ลสงในตั ๋ว เงิน นั้ น แต่ห ำกมิได้กลำ งวัน ไว้ก็ดี หรืสำนัอ ตัก๋งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ว เงิน ฉบั บใดสั่ งให้ ใช้เงิกนำ ในก ำหนด
ระยะเวลำอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งนับแต่ได้เห็น แต่หำกคำรับรองตั๋วนั้นมิได้ลงวันไว้ก็ดี ตั๋วแลกเงินเช่นว่ำมำ
สำนักนีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ ท่ำนว่ำผู้ทรงจะจดวันกออกตั ำ ๋วหรือวันสรัำนั บรองลงตำมที ่แท้จริงก็ได้ แล้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วพึงให้ใช้เงินสตำมนั ้น
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อนึ่ง ท่ำนบัญญัติไว้ว่ำ ในกรณีที่ผู้ทรงทำกำรโดยสุจริตแต่ลงวันคลำดเคลื่อนไปด้วย
สำคัญผิด และในกรณี ลงวันผิดทุกสถำน หำกว่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำในภำยหลังสตัำนั๋วเงิ นนั้นตกไปยังมือผู้ทรงโดยชอบด้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วย
กฎหมำยแล้ว ตั๋วเงิน จะเสียไปเพรำะเหตุนั้นก็ห ำไม่ ท่ำนให้ คงเป็นตั๋วเงินที่ใช้ได้ และพึงใช้เงินกัน
สำนักเสมื อนดังว่ำวันที่ได้จดลงนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นเป็นวันที่ถสูกำนั
ต้อกงแท้ จริง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๓๓ ถ้ำกำรรับรองมิได้ลงวัน ท่ำนให้ถือเอำวันสุดท้ำยแห่ งระยะเวลำอัน
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดไว้เพื่อรับรองนั้นกเป็ำ นวันรับรอง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๕๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๙๓๔ ถ้ำผู้ จสำนั


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ ำยเขี ยนค ำรับ รองลงในตัก๋ วำแลกเงิน แล้ ว สแต่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักหงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำกกลั บ ขี ด ฆ่ ำ กำ
เสียก่อนตั๋วเงินนั้นหลุดพ้นไปจำกมือตนไซร้ ท่ำนให้ถือเป็นอันว่ำได้บอกปัดไม่รับรอง แต่ถ้ำผู้จ่ำยได้
แจ้งควำมเป็นหนัสงสืำนัอกไปยั งผู้ทรง หรือคู่สัญญำฝ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำำยอื่นซึ่งได้ลสงนำมในตั ๋วเงินว่ำตนรับรองตัก๋วำเงินนั้นก่อน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แล้ว จึงมำขีดฆ่ำคำรับรองต่อภำยหลังไซร้ ท่ำนว่ำผู้จ่ำยก็คงต้องผูกพันอยู่ตำมเนื้อควำมที่ตนได้เขียน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รับรองนั้นเอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๓๕ อันกำรรับรองนั้นย่อมมีได้สองสถำน คือรับรองตลอดไป หรือรับรอง
สำนักเบี ่ยงบ่ำย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรรับรองตลอดไป คือยอมตกลงโดยไม่แก้แย้งคำสั่งของผู้สั่งจ่ำยแต่อย่ำงหนึ่งอย่ำง
ใดเลย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนกำรรับรองเบี่ยงบ่ำยนั้น กล่ำวเป็นเนื้อควำมทำผลแห่งตั๋วเงินให้แผกไปจำกที่
สำนักเขีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยนสั่งไว้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กล่ำวโดยเฉพำะก็คือว่ำ ถ้ำคำรับรองมีเงื่อนไขก็ดี หรือรับรองแต่เพียงบำงส่วนก็ดี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ท่ำนว่ำเป็นรับรองเบี่ยงบ่ำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๓๖ คำรับรองเบี่ยงบ่ำยนั้น ผู้ทรงตั๋วแลกเงินจะบอกปัดเสียก็ได้ และถ้ำ
ไม่ได้คำรับรองอันสไม่ำนัเกบีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ยงบ่ำย จะถือเอำว่ำตั๋วกเงิำนนั้นเป็นอันขำดควำมเชื ่อถือรับรองก็ได้ กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถ้ำผู้ทรงรับเอำคำรับรองเบี่ยงบ่ำย และผู้สั่งจ่ำยหรือผู้สลักหลังมิได้ให้อำนำจแก่ผู้
สำนักทรงโดยแสดงออกชั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดหรืกำอโดยปริยำยให้ สำนัรกับงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เอำคำรับรองเบี่ยงบ่ำยเช่ กำ นนั้นก็ดี หรืสอำนัไม่กยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ินยอมด้วยใน กำ
ภำยหลั งก็ดี ท่ำนว่ำผู้ สั่งจ่ ำยหรือผู้ ส ลั กหลั งนั้น ๆ ย่อมหลุ ดพ้น จำกควำมรับผิ ดตำมตั๋วเงินนั้ นแต่
บทบัญญัติทั้งนี้ท่ำสนมิ
ำนักให้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ใช้ไปถึงกำรรับรองแต่กบำำงส่วนซึ่งได้บสอกกล่ ำวก่อนแล้วโดยชอบ กำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถ้ำผู้สั่งจ่ำยหรือผู้สลักหลังตั๋วเงินรับคำบอกกล่ำวกำรรับรองเบี่ยงบ่ำยแล้วไม่โต้แย้ง
สำนักไปยั งผู้ทรงภำยในเวลำอักำนสมควร ท่ำนให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักถงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ือว่ำผู้สั่งจ่ำยหรือผู้สลักกำหลังนั้นเป็นอัสนำนั
ได้กยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ินยอมด้วยกับ กำ
กำรนั้นแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๙๓๗ ผู้จ่ำยได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัทกำกำรรั บรองตั๋วแลกเงินแล้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำวย่ อมต้องผูกสพัำนั
นในอั นจะจ่ำยเงิน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จำนวนที่รับรองตำมเนื้อควำมแห่งคำรับรองของตน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ อำวัล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๓๘ ตั๋วแลกเงินจะมีผู้ค้ำประกันรับประกันกำรใช้เงินทั้งจำนวนหรือแต่
สำนักบำงส่ วนก็ได้ ซึ่งท่ำนเรียกกว่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำ “อำวัล” สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อันอำวัลนั้นบุคคลภำยนอกคนใดคนหนึ่งจะเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นผู้รับ หรือแม้คู่สัญญำแห่งตั๋วเงินนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งจะเป็นผู้รับก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๕๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๙๓๙ อันกำรรับอำวัลย่อมทำให้กันด้วยเขียนลงในตั๋วเงินนั้นเอง หรือที่ใบ


สำนักประจ ำต่อ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกำรนี้พึงใช้ถ้อยคำสำนวนว่ำ “ใช้ได้เป็นอำวัล” หรือสำนวนอื่นใดทำนองเดียวกัน
นั้น และลงลำยมือสำนั
ชื่อกผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้รับอำวัล กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่ง เพียงแต่ลงลำยมือชื่อของผู้รับอำวัลในด้ำนหน้ำแห่งตั๋วเงิน ท่ำนก็จัดว่ำเป็นคำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รับอำวัลแล้ว เว้นแต่ในกรณีที่เป็นลำยมือชื่อของผู้จ่ำยหรือผู้สั่งจ่ำย
สในค
ำนักำรั บอำวัลต้องระบุว่ำรับประกั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นผู้ใด หำกมิ
สำนัได้กรงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ะบุ ท่ำนให้ถือว่ำรับประกั
กำ นผู้สั่งจ่ำย

มำตรำกำ๙๔๐ ผู้รับอำวั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัลกย่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อมต้องผูกพันเป็นอย่ำงเดี
กำ ยวกันกับบุคคลซึ
สำนัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตนประกัน กำ
แม้ถึงว่ำควำมรับผิดใช้เงินอันผู้รับอำวัลได้ประกันอยู่นั้นจะตกเป็นใช้ไม่ได้ด้วยเหตุใด
ๆ นอกจำกเพรำะท สำนัำผิกดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แบบระเบียบ ท่ำนว่ำข้กอำ ที่สัญญำรับอำวั
สำนัลกนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นก็ยังคงสมบูรณ์ กำ
เมื่อผู้ รั บ อำวัลได้ใช้เงินไปตำมตั๋ว แลกเงิน แล้ ว ย่ อมได้สิ ทธิในอัน จะไล่ เบี้ ยเอำแก่
สำนักบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คคลซึ่งตนได้ประกันไว้กำกับทั้งบุคคลทัส้งำนั
หลำยผู ้รับผิดแทนตัวผู้นั้น กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๔ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กำรใช้เงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๔๑ อันตั๋วแลกเงินนั้น ย่อมจะพึงใช้เงินในวันถึงกำหนด และถึงกำหนดวัน
สำนักใดผู ้ทรงต้องนำตั๋วเงินไปยื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่นเพื่อให้ใช้เงิสนำนั
ในวักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นนั้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๙๔๒ อัน จะบังคับกให้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ผู้ท รงตั๋วแลกเงิ
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รับเงินใช้ก่อนตั๋วเงินถึกงำกำหนดนั้น
ท่ำนว่ำหำอำจจะทำได้ไม่
อนึ่ง ผูก้จำ ่ำยคนใดใช้เงิสนำนัไปแต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ก่อนเวลำตั๋วเงินถึงกกำหนด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ท่ำนว่ำสย่ำนั
อมท ำเช่นนั้นด้วย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เสี่ยงเครำะห์ของตนเอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๙๔๓ อันกำรถึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนังกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดแห่งตั๋วแลกเงินซึกำ่งสั่งให้ใช้เงิ นเมืสำนั
่อสิก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระยะเวลำอัน กำ
ใดอันหนึ่งนับแต่วันได้เห็นนั้น ท่ำนให้กำหนดนับแต่วันรับรอง หรือวันคัดค้ำน
สถ้ำนั
ำไม่ มีคำคัดค้ำน และคำรับกรองมิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ได้ลงวันสำนั
ท่ำกนให้ ถือว่ำผู้รับรองได้ให้กคำำรับรองนั้น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ในวันท้ำยแห่งกำหนดเวลำซึ่งจำกัดไว้ตำมกฎหมำย หรือตำมสัญญำเพื่อกำรยื่นตั๋วนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๔๔ อันตั๋วแลกเงินซึ่งให้ใช้เงินเมื่อได้เห็นนั้น ท่ำนว่ำย่อมจะพึงใช้เงินในวัน
เมื่อยื่นตั๋ว ทั้งนี้ ต้สำนั
องยืกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่นให้ใช้เงินภำยในกำหนดเวลำ
กำ ซึ่งบังคัสบำนัไว้กเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พื่อกำรยื่นให้รับรองตั๋วกเงิำนชนิดให้ใช้
เงินในเวลำใดเวลำหนึ่งภำยหลังได้เห็นนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๔๕ กำรใช้เงินจะเรียกเอำได้ต่อสเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
่อได้เวนตั๋วแลกเงินให้ ผู้ใช้เงินจะให้ผู้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทรงลงลำยมือชื่อรับรองในตั๋วเงินนั้นก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๕๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๙๔๖ อันตั๋วแลกเงินนั้น ถ้ำเขำจะใช้เงินให้แต่เพียงบำงส่วน ท่ำนว่ำผู้ทรงจะ


สำนักบอกปั ดเสียไม่ยอมรับเอำก็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำและรับเอำเงินที่เขำใช้แต่เพียงบำงส่วน ผู้ทรงต้องบั นทึกข้อควำมนั้นลงไว้ในตั๋ว
เงิน และส่งมอบใบรัำนับกให้
ส แก่ผู้ใช้เงิน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๙๔๗ ถ้ำตั๋วแลกเงินมิได้ยื่นเพื่อให้ใช้เงินในวันถึงกำหนดไซร้ ท่ำนว่ำผู้รับรอง
จะเปลื้องตนให้พ้นสำนั
จำกควำมรั บผิดโดยวำงจำนวนเงิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นที่ค้ำงชสำระตำมตั ๋วนั้นไว้ก็ได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๙๔๘ ถ้ำผู้ทสรงตั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัก๋ งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วแลกเงินยอมผ่อนเวลำให้
กำ แก่ผู้จ่ำยไซร้
สำนัท่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นว่ำผู้ทรงสิ้ น กำ
สิทธิที่จะไล่เบี้ยเอำแก่ผู้เป็นคู่สัญญำคนก่อน ๆ ซึ่งมิได้ตกลงในกำรผ่อนเวลำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๔๙ ภำยในบังคับแห่งบทบัญญัติมำตรำ ๑๐๐๙ บุคคลผู้ใช้เงินในเวลำถึง
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดย่อมเป็นอันหลุดกพ้ำ นจำกควำมรัสบำนัผิกดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เว้นแต่ตนจะได้ทำกำรฉ้
กำอฉลหรือมีควำมประมำทเลิ นเล่อ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อย่ำงร้ำยแรง อนึ่งบุคคลซึ่งกล่ำวนี้จำต้องพิสูจน์ให้เห็นจริงว่ำได้มีกำรสลักหลังติดต่อกันเรียบร้อยไม่
ขำดสำย แต่ไม่จำต้สำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
องพิ สูจน์ลำยมือชื่อของเหล่ำผู้สลักหลัง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๕
กำรสอดเข้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำแก้หน้ำสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๙๕๐ ผู้ สั่ งจ่ ำยหรือผู้ ส ลั กหลั งจะระบุ บุ คคลผู้ ห นึ่งผู้ ใดไว้ก็ได้ว่ำเป็ นผู้ จะ
รับรอง หรือใช้เงินสยำมประสงค์ ณ สถำนที่ใช้เกงิำน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ภำยในเงื่อนบังคับดังจะกล่ำวต่อไปข้ำงหน้ำ บุคคลผู้หนึ่งผู้ใดจะรับรองหรือใช้เงิน
สำนักตำมตั ๋วแลกเงินในฐำนเป็กนำ ผู้สอดเข้ำแก้สหำนัน้ำกบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี คคลใดผู้ลงลำยมือชื่อกในตั
ำ ๋วนั้นก็ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้สอดเข้ำแก้หน้ำนั้นจะเป็นบุคคลภำยนอกก็ได้ แม้จะเป็นผู้จ่ำยหรือบุคคลซึ่งต้องรับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผิดโดยตั๋วเงินนั้นอยู่แล้วก็ได้ ห้ำมแต่ผู้รับรองเท่ำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ผู้สอดเข้
กำ ำแก้หน้ำจำต้สำนั
องให้ คำบอกกล่ำวโดยไม่ชกักำช้ำ เพื่อให้คู่สสัญำนัญำฝ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำยซึ่งตนเข้ำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แก้หน้ำนั้นทรำบกำรที่ตนเข้ำแก้หน้ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) กำรรับรองเพื่อแก้หน้ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๕๑ กำรรับรองด้วยสอดเข้ำแก้หน้ำ ย่อมมีได้ในบรรดำกรณีซึ่งผู้ทรงมีสิทธิ
ไล่เบี้ยได้ก่อนถึงกสำหนดตำมตั ๋วเงินอันเป็นตั๋วสำมำรถจะรั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บรองได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรรับรองด้วยสอดเข้ำแก้หน้ำนั้น ผู้ทรงจะบอกปัดเสียก็ได้ แม้ถึงว่ำบุคคลผู้ซึ่งบ่งไว้
สำนักว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำจะเป็นผู้รับรอง หรือใช้ กำเงินยำมประสงค์สำนันกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ั้นจะเป็นผู้เสนอเข้ำรับรองก็
กำ บอกปัดได้สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำผู้ ท รงยอมให้ เข้ ำรั บ รองแล้ ว ผู้ ท รงย่ อสมเสี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ยสิ ท ธิไล่ เบี้ ย ก่ อ นถึ งก ำหนดเอำแก่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คู่สัญญำทั้งหลำยซึ่งต้องรับผิดต่อตน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๕๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๙๕๒ อันกำรรับรองด้วยสอดเข้ำแก้หน้ำนั้น ย่อมทำด้วยเขียนระบุควำมลง


สำนักบนตั ๋วแลกเงิน และลงลำยมื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อชื่อของผูส้สำนั
อดเข้ ำแก้หน้ำเป็นสำคัญ อนึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ง ต้องระบุลงไว้
สำนัวก่ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรรับรองนั้น กำ
ทำให้เพื่อผู้ใด ถ้ำมิได้ระบุไว้เช่นนั้น ท่ำนให้ถือว่ำทำให้เพื่อผู้สั่งจ่ำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๕๓ ผู้รับรองด้วยสอดเข้ำแก้หน้ำย่อมต้องรับผิดต่อผู้ทรงตั๋วเงินนั้น และ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รับผิดต่อผู้สลักหลังทั้งหลำยภำยหลังคู่สัญญำฝ่ำยซึ่งตนเข้ำแก้หน้ำอย่ำงเดียวกันกับที่คู่สัญญำฝ่ำยนั้น
ต้องรับผิดอยู่เอง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ (๒)
สำนักำรใช้ เงินเพื่อแก้หน้ำ กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๙๕๔ อันกำรใช้เงินกเพืำ ่อแก้หน้ำย่อสมมี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัไกด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ในบรรดำกรณีซึ่งผู้ทรงมี
กำ สิทธิไล่เบี้ย
เมื่อตั๋วเงินถึงกำหนดหรือก่อนถึงกำหนด
กำรใช้กเำงินนั้น ท่ำนว่ำสอย่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักำงช้ ำที่สุดต้องทำในวันรุก่งขึำ ้น แต่วันท้ำยแห่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนังกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดเวลำซึ่ง กำ
จำกัดอนุญำตไว้ให้ทำคำคัดค้ำนกำรไม่ใช้เงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๙๕๕ ถ้ำตั๋วสแลกเงิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นได้รับรองเพื่อแก้หน้กำำแล้วก็ดี หรือได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัมีตกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัวบุคคลระบุว่ำ กำ
เป็นผู้จะใช้เงินยำมประสงค์แล้วก็ดี ผู้ทรงต้องยื่นตั๋วเงินนั้นต่อบุคคลนั้น ๆ ณ สถำนที่ใช้เงิน และถ้ำ
จำเป็นก็ต้องจัดกำรท
สำนักำค ำคัดค้ำนกำรไม่ใช้เงินกอย่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำงช้ำที่สุดในวั
สำนันกรุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่งขึ้นแต่วันท้ำยแห่งกำหนดเวลำอั
กำ น
จำกัดไว้เพื่อทำคำคัดค้ำน
ถ้ำไม่คกัำดค้ำนภำยในกสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำหนดเวลำนั ้น ท่ำนว่ำคู่สกัญำ ญำฝ่ ำยที่ได้รสะบุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัวผู้ ใช้เงินยำม กำ
ประสงค์ หรือคู่สัญญำฝ่ำยซึ่งได้มี ผู้รับรองตั๋วเงินให้แล้วนั้น กับทั้งบรรดำผู้สลักหลังในภำยหลังย่อม
เป็นอันหลุดพ้นจำกควำมรั บผิด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๙๕๖ กำรใช้สเำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งินกเพืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อแก้หน้ำนั้น ใช้เพื่อคูก่สำัญญำฝ่ำยใดต้สอำนังใช้ จงเต็มจำนวน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อันคู่สัญญำฝ่ำยนั้นจะต้องใช้ เว้นแต่ค่ำชักส่วนลดดังบัญญัติไว้ในมำตรำ ๙๖๘ (๔)
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้ทรงคนใดบอกปัดไม่ยอมรับเงินอันเขำใช้ให้ ท่ำนว่ำผู้ทรงคนนั้นย่อมเสียสิทธิในอัน
สำนักจะไล่ เบี้ยเอำแก่บุคคลทัก้งหลำยเหล่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำนั้นสซึำนั่งพอที ่จะได้หลุดพ้นจำกควำมรั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บผิดเพรำะกำรใช้ เงินนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สมำตรำ ๙๕๗ กำรใช้เงินเพืก่อำแก้หน้ำต้องทสำให้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ป็นหลักฐำนด้วยใบรับกเขีำยนลงในตั๋ว
แลกเงิน ระบุควำมว่ำได้ใช้เงินเพื่อบุคคลผู้ใด ถ้ำมิได้ระบุตัวไว้ดังนั้น ท่ำนให้ถือว่ำกำรใช้เงินนั้นได้ทำ
สำนักไปเพื ่อผู้สั่งจ่ำย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตั๋วแลกเงินกับทั้งคำคัดค้ำนหำกว่ำได้ทำคัดค้ำน ต้องส่งให้แก่บุคคลผู้ใช้เงินเพื่อแก้หน้ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๕๘ บุคคลผู้ใช้เงินเพื่อแก้หน้ำย่อมรับช่วงสิทธิทั้งปวงของผู้ทรงอันมีต่อ
สำนักคูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่สัญญำฝ่ำยซึ่งตนได้ใช้กเำงินแทนไป และต่
สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คู่สัญญำทั้งหลำยผู้ต้อกงรั
ำ บผิดต่อคู่สัญสำนั
ญำฝ่ ำยนั้น แต่หำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อำจจะสลักหลังตัส๋วำนั
แลกเงิ นนั้นอีกต่อไปได้ไม่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่ง บรรดำผู้ซึ่งสลักหลังภำยหลังคู่สัญญำฝ่ำยซึ่งเขำได้ใช้เงินแทนไปนั้น ย่อมหลุด
สำนักพ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นจำกควำมรับผิด กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๕๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ในกรณีแข่งกันเข้ำใช้เงินเพื่อแก้หน้ำ ท่ำนว่ำกำรใช้เงินรำยใดจะให้ผลปลดหนี้มำก
สำนักรำยที ่สุด พึงนิยมเอำรำยนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นเป็นดียิ่ง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำไม่ดำเนินตำมวิธีดังกล่ำวนี้ ท่ำนว่ำผู้ใช้เงินทั้งที่รู้เช่นนั้นย่อมเสียสิทธิในอันจะไล่
เบี้ยเอำแก่บุคคลทั้งำนัหลำยซึ
ส ่งพอที่จะได้หลุดพ้นกจำกควำมรั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บผิสดำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๖
สิทธิไล่เบี้ยเพรำะเขำไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ รับรองหรื
สำนัอกไม่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ใช้เงิน กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๙๕๙ ผู้ทรงตั๋วแลกเงินจะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอำแก่บรรดำผู้สลักหลัง ผู้สั่งจ่ำย
และบุคคลอื่น ๆ ซึสำนั
่งต้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งรับผิดตำมตั๋วเงินนั้นก็กได้ำ คือ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ก) ไล่เบี้ยได้เมื่อตั๋วเงินถึงกำหนดในกรณีไม่ใช้เงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีข) ไล่เกบีำ้ยได้แม้ทั้งตั๋วเงิสำนั
นยักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไม่ถึงกำหนดในกรณีดักงจะกล่
ำ ำวต่อไปนีสำนั
้ คืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ถ้ำเขำบอกปัดไม่รับรองตั๋วเงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ถ้ำผู้จ่ำยหำกจะได้รับรองหรือไม่กส็ตำนั ำมกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตกเป็นคนล้มละลำย หรื กำ
อได้งดเว้น
สำนักกำรใช้ หนี้ แม้กำรงดเว้นกำใช้หนี้นั้นจะมิสไำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ด้มกีคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำพิพำกษำเป็นหลักฐำนก็ กำ ตำม หรือถ้สำำนั
ผู้จก่ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยถูกยึ ดทรัพย์ กำ
และกำรยึดทรัพย์นั้นไร้ผล
สำนัก(๓) ถ้ำผู้สั่งจ่ำยตั๋วเงินชนิกดำไม่จำเป็นต้องให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัผกู้ใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดรับรองนั้นตกเป็นคนล้กมำ ละลำย

มำตรำกำ๙๖๐ กำรที่ตสั๋วำนัแลกเงิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นขำดรับรองหรือขำดใช้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เงินนั้น ต้อสงท
ำนัำให้ เป็นหลักฐำน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ตำมแบบระเบียบด้วยเอกสำรฉบับหนึ่ง เรียกว่ำคำคัดค้ำน
สคำนั
ำคักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ค้ำนกำรไม่ใช้ เงินต้อกงทำ ำในวันซึ่งจะพึ
สำนังกใช้ เงินตำมตั๋วนั้ น หรือกวัำน ใดวันหนึ่ ง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ภำยในสำมวันต่อแต่นั้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี คำคัดกค้ำำนกำรไม่รับรองต้ องทำภำยในจำกัดเวลำซึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งกำหนดไว้เพืสำนั
่อกำรยื ่นตั๋วเงินให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เขำรับรอง หรือภำยในสำมวันต่อแต่นั้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่อมีคำคัดค้ำนกำรไม่รับรองขึ้นแล้วก็เป็นอันไม่ต้องยื่นเพื่ อให้ใช้เงิน และไม่ต้องทำ
สำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำคัดค้ำนกำรไม่ใช้เงิน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีทั้งหลำยซึ่งกล่ำวไว้ในมำตรำ ๙๕๙ (ข) (๒) นั้น ท่ำนว่ำผู้ทรงยังหำอำจจะใช้
สิทธิไล่เบี้ยได้ไม่ จนกว่ ำจะได้ยื่นตั๋วเงินให้ผู้จ่ำกยใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ เงิน และได้สทำนัำคกำคั ดค้ำนขึ้นแล้ว
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ในกรณีทั้งหลำยดังกล่ำวไว้ในมำตรำ ๙๕๙ (ข) (๓) นั้น ท่ำนว่ำถ้ำเอำคำพิพำกษำซึ่ง
สำนักสังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่งให้ผู้สั่งจ่ำยเป็นคนล้มกละลำยออกแสดง
ำ สำนัก็กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นกำรเพียงพอที่จะทกำให้ ำ ผู้ทรงสำมำรถใช้
สำนักสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิทธิไล่เบี้ยได้ กำ

สมำตรำ ๙๖๑ ค ำคั ด ค้ ำนนักำ้ น ให้ น ำยอ ำเภอ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักหรื อ ผู้ ท ำกำรแทนนำยอ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำำเภอ หรื อ
ทนำยควำมผู้ได้รับอนุญำตเพื่อกำรนี้เป็นผู้ทำ
รัฐมนตรี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ *กระทรวงยุสตำนัิธรรมมี อำนำจออกกฎข้อบักำงคับเพื่อปฏิบสัตำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ิกำรให้ เป็นไปตำม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมำยนี ้ อันว่ำด้วยกำรออกใบอนุญสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำตและกำรท ำคำคัดค้ำน รวมทั้งกำหนด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อัตรำค่ำฤชำธรรมเนียมอันเกี่ยวกับกำรนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๕๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๙๖๒ ในคำคัดค้ำนนั้นนอกจำกชื่อ ตำแหน่ง และลำยมือชื่อของผู้ทำ ต้องมี


สำนักสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเนำตั๋วเงินกับรำยกำรสลั กำ กหลังทั้งหมดตรงถ้ อยตรงคำกับระบุควำมดั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งจะกล่ำวต่อสไปนี ้ คือ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๑) ชื่อ หรือยี่ห้อของบุคคลผู้คัดค้ำนและผู้ถูกคัดค้ำน
ส(๒)
ำนักมูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ล หรือเหตุที่ต้องทำคกำคั ำ ดค้ำนตั๋วเงินสำนักำรทวงถำมและค
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำตอบ กถ้ำำมี หรือข้อ
ที่ว่ำหำตัวผู้จ่ำยหรือผู้รับรองไม่พบ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ถ้ำมีกำรรับรอง หรือใช้เงินเพื่อแก้หน้ำ ให้แถลงลักษณะแห่งกำรเข้ำแก้หน้ำทั้ง
ชื่อหรือยี่ห้อของผูส้รำนั
ับรองหรื อผู้ใช้เงินเพื่อแก้หกน้ำำและชื่อบุคคลซึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่งกเขำเข้ ำแก้หน้ำนั้นด้วย กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
(๔) สถำนที่และวันทำคำคัดค้ำน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ให้ผู้ทกำคำ ำคัดค้ำนส่งมอบค ำคัดค้ำนแก่ผู้ร้องขอให้กทำ ำ และให้ผู้ทำค
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำคักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดค้ ำนรีบส่งคำ กำ
บอกกล่ำวกำรคัดค้ำนนั้นไปยังผู้ถูกคัดค้ำน ถ้ำทรำบภูมิลำเนำก็ให้ส่งโดยจดหมำยลงทะเบียนไปรษณีย์
หรือส่งมอบไว้ ณสภูำนัมกิลงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเนำของผู้นั้นก็ได้ ถ้ำไม่
กำ ทรำบภูมิลำเนำก็
สำนักใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ห้ปิดสำเนำคำคัดค้ำนไว้ กำยังที่ซึ่งเห็น
ได้ง่ำย ณ ที่ว่ำกำรอำเภอประจำท้องที่อันผู้ถูกคัดค้ำนมีถิ่นที่อยู่ครั้งหลังที่สุด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๖๓ ผู้ทรงต้องให้คำบอกกล่ำวกำรที่เขำไม่รับรองตั๋วแลกเงิน หรือไม่ใช้เงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นั้นไปยังผู้สลักหลังถัดตนขึ้นไปกับทั้งผู้สั่งจ่ำยด้วยภำยในเวลำสี ่วันต่อจำกวันคัดค้ำน หรือต่อจำกวัน
สำนักยืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่นตั๋วในกรณีที่มีข้อกำหนดว่
กำ ำ “ไม่จำต้สอำนั งมีกคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำคัดค้ำน” กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้สลักหลังทุก ๆ คนต้องให้คำบอกกล่ำวไปยังผู้สลักหลังถัดตนขึ้นไปภำยในสองวัน
ให้ทรำบคำบอกกล่ สำนัำวอั นตนได้รับ จดแจ้งให้กทำรำบชื่อและสสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักกของผู ้ที่ได้ให้คำบอกกล่กำำวมำก่อน ๆ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้นด้วย ทำเช่นนี้ติดต่อกันไปโดยลำดับจนกระทั่งถึงผู้สั่งจ่ำย อนึ่งจำกัดเวลำซึ่งกล่ำวมำนั้น ท่ ำนนับแต่
สำนักเมืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อคนหนึ่ง ๆ ได้รับคำบอกกล่
กำ ำวแต่คนก่ สำนัอกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำผู้สลักหลังคนหนึ่งคนใดมิได้ระบุสำนักของตนไว้ก็ดี หรือได้ระบุแต่อ่ำนไม่ได้ควำม
ก็ดี ท่ำนว่ำสุดแต่คสำนัำบอกกล่ ำวได้ส่งไปยังผู้สลักกหลั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งคนก่อนก็สเป็ำนันกอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นพอแล้ว กำ
บุ คคลผู้จ ะต้องให้ คำบอกกล่ ำว จะทำคำบอกกล่ำวเป็นรูปอย่ำงใดก็ได้ทั้งสิ้ น แม้
สำนักเพี ยงแต่ด้วยส่งตั๋วแลกเงิกนำ คืนก็ใช้ได้ อนึสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งต้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งพิสูจน์ได้ว่ำได้ส่งคำบอกกล่
กำ ำวภำยในเวลำก ำหนด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ถ้ำส่งคำบอกกล่ำวเป็นหนังสือจดทะเบียนไปรษณีย์ หำกว่ำหนังสือนั้นได้ส่งไปรษณีย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ภำยในเวลำกำหนดดังกล่ำวมำนั้นไซร้ ท่ำนให้ถือว่ำคำบอกกล่ำวเป็นอันได้ส่งภำยในจำกัดเวลำบังคับแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บุคคลซึกำ่งมิได้ให้คำบอกกล่ ำวภำยในจำกัดเวลำดักงำได้ว่ำมำนั้นหำเสี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สิทธิไล่เบี้ยไม่ กำ
แต่จะต้องรับผิดเพื่อควำมเสียหำยอย่ำงใด ๆ อันเกิดแต่ควำมประมำทเลินเล่อของตน แต่ท่ำนมิให้คิด
ค่ำสินไหมทดแทนเกิ สำนันกกว่ ำจำนวนในตั๋วแลกเงิกนำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๙๖๔ ด้ว ยข้สำนั


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อ กกำหนดเขี ยนลงไว้ว่ำ “ไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จ ำต้ องมี ค ำคัสดำนัค้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น” ก็ ดี “ไม่ มี กำ
คัดค้ำน” ก็ดี หรือสำนวนอื่นใดทำนองนั้นก็ดี ผู้สั่งจ่ำยหรือผู้สลักหลังจะยอมปลดเปลื้องผู้ทรงจำกกำร
ทำคำคัดค้ำนกำรไม่ สำนัรับกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รองหรือกำรไม่ใช้เงินก็กได้ำ เพื่อตนจะได้สใำนัช้สกิทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ธิไล่เบี้ย กำ
ข้อกำหนดอันนี้ ย่อมไม่ปลดผู้ทรงให้พ้ นจำกหน้ำที่นำตั๋วเงินยื่นภำยในเวลำกำหนด
สำนักหรื อจำกหน้ำที่ให้คำบอกกล่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำวตั๋วเงินขำดควำมเชื ่อถือแก่ผู้สลักหลักงำคนก่อนหรือผูส้สำนัั่งจ่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ย อนึ่ง หน้ำที่ กำ
นำสืบว่ำไม่ปฏิบัตสิใำนัห้กเป็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นไปตำมกำหนดเวลำจ กำ
ำกัดนั้น ย่อมตกอยู ่แก่บุคคลผู้แสวงจะใช้ควำมข้อนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เป็นข้อต่อสู้ผู้ทรงตั๋วแลกเงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ข้อกำหนดอั กำ นนี้ ถ้ำผูส้สำนัั่งจ่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยเป็นผู้เขียนลงไปแล้กวำย่อมเป็นผลตลอดถึ งคู่สัญญำทั้ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๕๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ปวงบรรดำที่ได้ลงลำยมือชื่อในตั๋วเงินนั้น ถ้ำและทั้งมีข้อกำหนดดังนี้แล้ว ผู้ทรงยังขืนทำคำคัดค้ำนไซร้


สำนักท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำผู้ทรงต้องเป็นผู้อกอกค่
ำ ำใช้จ่ำยเพืส่อำนักำรนั ้น หำกว่ำข้อกำหนดนักำ้นผู้สลักหลังเป็สนำนัผูก้เขีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยนลง และถ้ำ กำ
มีคำคัดค้ำนทำขึ้น ไซร้ ท่ำนว่ำค่ำใช้จ่ ำยในกำรคัดค้ำนนั้นอำจจะเรียกเอำใช้ได้จำกคู่สั ญ ญำอื่น ๆ
บรรดำที่ได้ลงลำยมืสำนัอกชืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อในตั๋วเงินนั้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๙๖๕ ในกรณีตั๋วเงินภำยในประเทศ ถ้ำผู้จ่ำยบันทึกลงไว้ในตั๋วแลกเงินเป็น
ข้อควำมบอกปัดสไม่ำนัรกับงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รองหรือไม่ยอมใช้เงินกำทั้งลงวันที่บอกปั
สำนักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ลงลำยมือชื่อไว้ด้วยแล้กำวท่ำนว่ำคำ
คัดค้ำนนั้นก็เป็นอันไม่จำเป็นต้องทำ และผู้ทรงต้องส่งคำบอกกล่ำวขำดควำมเชื่อถือไปยังบุคคลซึ่งตน
สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนงจะไล่เบี้ยภำยในสี่วกันำ ต่อจำกวันเขำบอกปั ดไม่รับรองนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๙๖๖ คำบอกกล่ำวขำดควำมเชื


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่อถืสอำนัในกรณี ไม่รับรองหรือไม่ใกช้ำเงินนั้น ต้อง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มีรำยกำรคือ วันที่ลงในตั๋วแลกเงิน ชื่อหรือยี่ห้อของผู้สั่งจ่ำยและของผู้จ่ำย จำนวนเงินในตั๋วเงิน วันถึง
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดใช้เงิน ชื่อหรือยีก่หำ้อและสำนักของผู
สำนัก้ทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รงตั๋วเงิน วันที่คัดค้ำนหรื
กำ อวันที่บอกปั ดไม่
สำนั รับรองหรือไม่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ใช้เงิน กับข้อควำมว่ำเขำไม่รับรองหรือไม่ใช้เงินตำมตั๋วเงินนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๙๖๗ ในเรื่องตั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั๋วแลกเงิ นนั้น บรรดำบุคคลผู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ้สั่งจ่ำยก็ดี รับสรองก็ ดี สลักหลังก็ดี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หรือรับประกันด้วยอำวัลก็ดี ย่อมต้องร่วมกันรับผิดต่อผู้ทรง
สผูำนั
้ทกรงย่ อมมีสิทธิว่ำกล่ำวเอำควำมแก่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บรรดำบุ
สำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คลเหล่ำนี้เรียงตัวหรืกอำรวมกันก็ได้
โดยมิพักต้องดำเนินตำมลำดับที่คนเหล่ำนั้นมำต้องผูกพัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สิทธิเช่กนำ เดียวกันนี้ ย่สอำนั
มมีกแงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก่บุคคลทุกคนซึ่งได้ลงลำยมื
กำ อชื่อในตัส๋วำนั
เงินกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
และเข้ำถือเอำ กำ
ตั๋วเงินนั้น ในกำรที่จะใช้บังคับเอำแก่ผู้ที่มีควำมผูกพันอยู่แล้วก่อนตน
สกำรว่ ำกล่ ำวเอำควำมแก่คกู่สำัญ ญำคนหนึ่งสำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ซึ่งกต้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องรับผิ ดย่อมไม่ตัดหนทำงที
กำ ่จะว่ำ
กล่ำวเอำควำมแก่คู่สัญญำคนอื่น ๆ แม้ทั้งจะเป็นฝ่ำยอยู่ในลำดับภำยหลังบุคคลที่ได้ว่ำกล่ำวเอำควำม
สำนักมำก่ อน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๖๘ ผู้ทรงจะเรียกร้องเอำเงินใช้จำกบุคคลซึ่งตนใช้สิทธิไล่เบี้ยนั้นก็ได้ คือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี(๑) จำนวนเงิ
กำ นในตั๋วสแลกเงิ นซึ่งเขำไม่รับรองหรือกไม่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ใช้กับทั้งดอกเบี
สำนัก้ยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้วย หำกว่ำมี กำ
ข้อกำหนดไว้ว่ำให้คิดดอกเบี้ย
ส(๒)
ำนักดอกเบี ้ยอัตรำร้อยละห้ำกต่ำอปีนับแต่วันถึสงำนักกำหนด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ค่ำใช้จ่ำยในกำรคัดค้ำน และในกำรส่งคำบอกกล่ำวของผู้ทรงไปยังผู้สลักหลังถัด
สำนักจำกตนขึ ้นไปและผู้สั่งจ่ำกยำ กับทั้งค่ำใช้จส่ำำนัยอืก่นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๆ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ค่ำชักส่วนลดซึ่งถ้ำไม่มีข้อตกลงกันไว้ ท่ำนให้คิดร้อยละ ๑/๖ ในต้นเงินอันจะพึง
ใช้ตำมตั๋วเงิน และไม่
สำนัวก่ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กรณีจะเป็นอย่ำงไร ท่กำำนมิให้คิดสูงกว่สำำนัอัตกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รำนี้ กำ
ถ้ำใช้สิทธิไล่เบี้ยก่อนถึงกำหนด ท่ำนให้หักลดจำนวนเงินในตั๋วเงินลงให้ร้อยละห้ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๖๙ คู่สัญญำฝ่ำยซึ่งเข้ำถือเอำและใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เงินตำมตั๋วแลกเงิน อำจจะเรียกเอำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เงินใช้จำกคู่สัญญำทั้งหลำยซึ่งต้องรับผิดต่อตนได้ คือ
(๑) เงิกนำเต็มจำนวนซึ่งสตนได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ใช้ไป
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๕๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๒) ดอกเบี้ยในจำนวนเงินนั้น คิดอัตรำร้อยละห้ำต่อปีนับแต่วันที่ได้ใช้เงินไป


(๓) ค่ำกใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ จ่ำยต่ำง ๆ อัสำนั
นตนต้ องออกไป
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ค่ำชักส่วนลดจำกต้นเงินจำนวนในตั๋วแลกเงินตำมที่กำหนดไว้ในมำตรำ ๙๖๘
อนุมำตรำ (๔) ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๙๗๐ คู่สัญญำทุกฝ่ำยซึ่งต้องรับผิดและถูกไล่เบี้ย หรืออยู่ในฐำนะจะถูกไล่
เบี้ยได้นั้น อำจจะใช้
สำนัเงิกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แล้วเรียกให้เขำสละตั๋วกเงิำ นให้แก่ตนได้สำนัรวมทั ้งคำคัดค้ำนและบัญชีกรำับเงินด้วย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้สลักหลังทุกคนซึ่งเข้ำถือเอำและใช้เงินตำมตั๋วแลกเงินแล้ว จะขีดฆ่ำคำสลักหลัง
สำนักของตนเองและของเหล่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีำกผูำ้สลักหลังภำยหลั สำนักงตนนั ้นเสียก็ได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๙๗๑ ผู้สั่งจ่ำยก็ดี กผูำ้รับรองก็ดี ผู้สสำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ลักกหลั งคนก่อนก็ดี ซึ่งเขำสลั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กหลังหรือ
โอนตั๋วแลกเงินให้อีกทอดหนึ่งนั้น หำมีสิทธิจะไล่เบี้ยเอำแก่คู่สัญญำฝ่ำยซึ่งตนย่อมต้องรับผิดต่อเขำอยู่
สำนักก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อนแล้วตำมตั๋วเงินนั้นได้
กำไม่ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๗๒ ในกรณีใช้สิทธิไล่เบี้ยภำยหลัสำนั กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งกำรรั บรองแต่บำงส่วน ท่ำนว่ำคู่สัญญำ
สำนักฝ่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยซึ่งใช้เงินอันเป็นจำนวนเขำไม่
กำ รับรองนั
สำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อำจจะเรียกให้จดระบุกคำวำมที่ใช้เงินนีส้ลำนังไว้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ในตั๋วเงิน และ กำ
เรียกให้ทำใบรับให้แก่ตนได้ อนึ่งผู้ทรงตั๋วเงินต้องให้สำเนำตั๋วเงินอันรับรองว่ำถูกต้องแก่คู่สัญญำฝ่ำย
นั้นพร้อมทั้งคำคัดสค้ำนัำนด้ วย เพื่อให้เขำสำมำรถใช้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สิทธิไล่เบี้ยในภำยหลั งได้สืบไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๙๗๓ เมื่อกำหนดเวลำจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำกัดซึ่งจะกล่ำวต่กอำไปนี้ได้ล่วงพ้นสไปแล้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ว คือ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๑) กำหนดเวลำสำหรับยื่ นตั๋วแลกเงินชนิดให้ใช้เงินเมื่อได้เห็น หรือในระยะเวลำ
อย่ำงใดอย่ำงหนึ่งสภำยหลั งได้เห็น
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) กำหนดเวลำสำหรับทำคำคัดค้ำนกำรไม่รับรองหรือกำรไม่ใช้เงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๓) กำหนดเวลำส
กำ ำหรัสำนั
บยืก่นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตั๋วเพื่อให้ใช้เงิน ในกรณี
กำ ที่มีข้อกำหนดว่
สำนัำก“ไม่ จำต้องมีคำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
คัดค้ำน”
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ท่ำนว่ำผู้ทรงย่อมสิ้นสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอำแก่เหล่ำผู้สลักหลัง ผู้สั่งจ่ำย และคู่สัญญำอื่น ๆ
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ต้องรับผิด เว้นแต่ผู้รับกรอง
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่ง ถ้ำไม่ยื่นตั๋วแลกเงินเพื่อให้เขำรับรองภำยในเวลำจำกัดดังผู้สั่งจ่ำยได้กำหนดไว้
ท่ำนว่ำผู้ทรงย่อมเสีสำนัยกสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทธิที่จะไล่เบี้ยทั้งเพื่อกำรที
กำ ่เขำไม่ใช้เงิสนำนัและเพื ่อกำรที่เขำไม่รับรอง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เว้นแต่จะ
ปรำกฏจำกข้อกำหนดว่ำ ผู้สั่งจ่ำยหมำยเพียงแต่จะปลดตนเองให้พ้นจำกประกันกำรรับรอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถ้ำข้อกกำำหนดจำกัดเวลำยื สำนัก่นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตั๋วแลกเงินนั้นมีอยู่ที่คกำสลั
ำ กหลัง ท่ำนว่สำนัำกเฉพำะแต่ ผู้สลัก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หลังเท่ำนั้นจะอำจเอำประโยชน์ในข้อกำหนดนั้นได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๗๔ กำรยื่นตั๋วแลกเงินก็ดี กำรทำคำคัดค้ำนก็ดี ถ้ำมีเหตุจำเป็นอันมิอำจ
สำนักก้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำ วล่ ว งเสี ย ได้ ม ำขั ด ขวำงมิ
กำ ใ ห้ ท ำได้สำนั
ภ ำยในก ำหนดเวลำจ ำกักดำส ำหรั บ กำรนัสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ น ไซร้ ท่ ำ นให้ ยื ด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กำหนดเวลำออกไปอี กได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เหตุจำเป็นอันมิอำจก้ำวล่วงเสียได้ดังว่ำมำนั้น ผู้ทรงต้องบอกกล่ำวแก่ผู้สลักหลังคน
สำนักถังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดตนขึ้นไปโดยไม่ชักช้กำำและคำบอกกล่
สำนัำวนั ้นต้องเขียนระบุลงในตักำ๋วเงิน หรือใบประจ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำต่อต้องลงวัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๖๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

และลงลำยมือชื่อของผู้ทรง กำรอื่น ๆ นอกจำกที่กล่ำวนี้ ท่ำนให้บังคับตำมบทบัญญัติ มำตรำ ๙๖๓


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เมื่อเหตุ
กำจำเป็นอันมิอสำจก้ ำวล่วงเสียได้นั้นสุดสิ้นกลงแล้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ว ผู้ทรงต้สอำนังยืก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นตั๋วเงินให้เขำ กำ
รับรองหรือใช้เงินโดยไม่ชักช้ำ และถ้ำจำเป็นก็ทำคำคัดค้ำนขึ้น
สถ้ำนั
ำเหตุ จำเป็นอันมิอำจก้ำวล่กวำงเสียได้นั้น ยัสงำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี คงมี อยู่ต่อไปจนเป็นเวลำกว่กำำสำมสิบวัน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ภำยหลังตั๋วเงินถึงกำหนดไซร้ ท่ำนว่ำจะใช้สิทธิไล่เบี้ยก็ได้ และถ้ำเช่นนั้นกำรยื่นตั๋วเงินก็ดี กำรทำคำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คัดค้ำนก็ดี เป็นอันไม่จำเป็นต้องทำ
สในส่
ำนักวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นตั๋วเงินชนิดที่ให้ใช้เงินกเมื ำ ่อได้เห็น หรืสอำนัให้กใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ช้เงินในระยะเวลำอย่ำกงหนึ ำ ่งอย่ำงใด
ภำยหลั งได้เห็ น นั้ น กำหนดสำมสิบ วัน เช่นว่ำมำนี้ ท่ำนให้ นับแต่วันที่ผู้ท รงได้ให้ คำบอกกล่ำวเหตุ
สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเป็ น อั น มิ อ ำจก้ ำ วล่กวำงเสี ย ได้ นั้ น แก่สำนั
ผู้ สกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ลั ก หลั งถั ด ตนขึ้ น ไป และถึ
กำ ง แม้ ว่ ำ จะเป็
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรก่ อ นล่ ว ง กำ
กำหนดเวลำยื่นตั๋วเงิน ก็ให้นับเช่นนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๗
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนัตั๋วกแลกเงิ นเป็นสำรับ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๙๗๕ อันตั๋วสแลกเงิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นนั้น นอกจำกชนิดทีก่สำั่งจ่ำยแก่ผู้ถือแล้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ว กจะออกไปเป็
สำนั นคู่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ฉีกควำมต้องกันสองฉบับหรือกว่ำนั้นก็อำจจะออกได้
สคูำนั
่ฉีกกเหล่ ำนี้ต้องมีหมำยลำดักบำลงไว้ ในตัวตรำสำรนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นเอง มิฉะนั้นคู่ฉีกแต่กลำ ะฉบับย่อม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ใช้ได้เป็นตั๋วแลกเงินฉบับหนึ่ง ๆ แยกเป็นตั๋วเงินต่ำงฉบับกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บุคคลทุ กำกคนซึ่งเป็นผูส้ทำนัรงตั ๋วเงินอันมิได้ระบุว่ำได้กอำอกเป็นตั๋วเดี่ยสวนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จะเรียกให้ส่ง กำ
มอบคู่ฉีกสองฉบับหรือกว่ำนั้นแก่ตนก็ได้ โดยยอมให้คิดค่ำใช้จ่ำยเอำแก่ตน ในกำรนี้ผู้ทรงต้องว่ำกล่ำว
ไปยังผู้สลักหลังคนถั
สำนักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตนขึ้นไป และผู้สลักหลั กำงคนนั้นก็จำต้สำนั
องช่ วยผู้ทรงว่ำกล่ำวไปยังกผูำ้ที่สลักหลัง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้แก่ตนต่อไปอีก สืบเนื่องกันไปเช่นนี้ตลอดสำยจนกระทั่งถึงผู้สั่งจ่ำย อนึ่งผู้สลักหลังทั้งหลำยจำต้อง
สำนักเขีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยนคำสลักหลังของตนเป็ กำ นควำมเดียวกั สำนันกลงในฉบั บคู่ฉีกใหม่แห่งตัก๋วำสำรับนั้นอีกด้สวำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ย กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๗๖ ถ้ำผู้ทรงตั๋วแลกเงินสำรับหนึ่งสลักหลังคู่ฉีกสองฉบับหรือกว่ำนั้นให้แก่
สำนักบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คคลต่ำงคนกัน ท่ำนว่กำผูำ ้ทรงย่อมต้องรั
สำนับกผิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดตำมคู่ฉีกเช่นว่ำนั้นทุกกำๆ ฉบับ และผูส้สำนัลักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หลังภำยหลังผู้ กำ
ทรงทุก ๆ คนก็ต้องรับผิดตำมคู่ฉีกอันตนเองได้สลักลงไปนั้น เสมือนดังว่ำคู่ฉีกที่ว่ำนั้นแยกเป็นตั๋วเงิน
ต่ำงฉบับกัน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๙๗๗ ถ้ำคู่ฉสีกำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สองฉบั บหรือกว่ำนั้นในสำรักำบหนึ่งได้เปลี่ยสนมื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัอกไปยั งผู้ทรงโดย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ชอบด้วยกฎหมำยต่ำงคนกันไซร้ ในระหว่ำงผู้ทรงเหล่ำนั้นด้วยกัน คนใดได้เป็นสิทธิก่อน ท่ำนให้ถือว่ำ
คนนั้นเป็นเจ้ำของอั
สำนันกแท้ จริงแห่งตั๋วเงินนั้น แต่กำควำมใด ๆ ในบทมำตรำนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ไม่กระทบกระทัก่งำถึงสิทธิของ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บุคคลผู้ทำกำรโดยชอบด้วยกฎหมำยรับรองหรือใช้เงินไปตำมคู่ฉีกฉบับซึ่งเขำยื่นแก่ตนก่อน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๗๘ คำรับรองนั้นจะเขียนลงในคูสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
่ฉีกกฉบั บใดก็ได้ และจะต้องเขียนลงในคู่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ฉีกแต่เพียงฉบับเดียวเท่ำนั้น
ถ้ำผู้จก่ำยรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บรองลงไปกว่
สำนัำกฉบั บหนึ่ง และคู่ฉีกซึ่งรักบำรองเช่นนั้นตกไปถึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งมือผู้ทรงโดย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๖๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ชอบด้วยกฎหมำยต่ำงคนกันไซร้ ท่ำนว่ำผู้จ่ำยจะต้องรับผิดตำมคู่ฉีกนั้น ๆ ทุกฉบับ เสมือนดังว่ำแยก


สำนักเป็ นตั๋วเงินต่ำงฉบับกัน กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๙๗๙ ถ้ำผู้รับรองตัก๋วำเงินซึ่งออกเป็สนำนัสำรั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บใช้เงินไปโดยมิได้เรียกกให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ส่งมอบคู่
ฉีกฉบับซึ่งมีคำรับรองของตนนั้นให้แก่ตนและในเวลำตั๋วเงินถึงกำหนด คู่ฉีกฉบับนั้นไปตกอยู่ในมือผู้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทรงโดยชอบด้วยกฎหมำยคนใดคนหนึ่งไซร้ ท่ำนว่ำผู้รับรองจะต้องรับผิดต่อผู้ทรงคู่ฉีกฉบับนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๘๐ ภำยในบังคับแห่งบทบัญญัติทั้งหลำยซึ่งกล่ำวมำก่อนนั้น ถ้ำคู่ฉีกฉบับ
สำนักใดแห่ งตั๋วเงินออกเป็นสกำรัำ บได้หลุดพ้นสไปด้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยกำรใช้เงินหรือประกำรอื
กำ ่นฉบับหนึ่งสแล้
ำนัวกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ท่ำนว่ำตั๋วเงิน กำ
ทั้งสำรับก็ย่อมหลุดพ้นไปตำมกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๘๑ คู่สัญญำซึ่งส่งคู่ฉีกฉบับหนึ่งไปให้เขำรับรอง ต้องเขียนแถลงลงในคู่ฉีก
สำนักฉบั บอื่นว่ำคู่ฉีกฉบับโน้นกำอยู่ในมือบุคคลชื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่อกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไร ส่วนบุคคลคนนั้นก็กจำำต้องสละตั๋วให้ แก่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ผู้ทรงโดยชอบ กำ
ด้วยกฎหมำยแห่งคู่ฉีกฉบับอื่นนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำบุคคลคนนั้นบอกปัดไม่ยอมให้ ท่ำนว่ำผูส้ทำนัรงยั กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งจะใช้สิทธิไล่เบี้ยไม่ได้จนกว่ำจะได้
สำนักทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำคัดค้ำนระบุควำมดังต่กอำ ไปนี้ คือ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ว่ำคู่ฉีกฉบับซึ่งได้ส่งไปเพื่อรับรองนั้น เขำไม่สละให้แก่ตนเมื่อทวงถำม
ส(๒)
ำนักว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำไม่สำมำรถจะให้เขำรักบำรองหรือใช้เงินสำนั
ด้วกยคู ่ฉีกฉบับอื่นได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตั๋วสัญญำใช้เงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๙๘๒ อันว่ำตัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๋วสักญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญำใช้เงินนั้น คือหนังสืกอำตรำสำรซึ่งบุคสคลคนหนึ ่ง เรียกว่ำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้ออกตั๋ว ให้คำมั่นสัญญำว่ำจะใช้เงินจำนวนหนึ่งให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง หรือใช้ให้ตำมคำสั่งของบุคคล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อีกคนหนึ่ง เรียกว่ำผู้รับเงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๘๓ ตั๋วสัญญำใช้เงินนั้น ต้องมีรำยกำรดังจะกล่ำวต่อไปนี้ คือ
ส(๑)
ำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำบอกชื่อว่ำเป็นตั๋วสัญกญำใช้
ำ เงิน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) คำมั่นสัญญำอันปรำศจำกเงื่อนไขว่ำจะใช้เงินเป็นจำนวนแน่นอน
(๓) วันกถึำ งกำหนดใช้เงิสนำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) สถำนที่ใช้เงิน
ส(๕)
ำนักชืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อ หรือยี่ห้อของผู้รับเงิกนำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๖) วันและสถำนที่ออกตั๋วสัญญำใช้เงิน
(๗) ลำยมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อชื่อผู้ออกตัส๋วำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๘๔ ตรำสำรอันมีรำยกำรขำดตกบกพร่องไปจำกที่ท่ำนระบุบังคับไว้ใน
สำนักมำตรำก่ อนนี้ ย่อมไม่สมบู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรณ์เป็นตั๋วสัญสำนั
ญำใช้ เงิน เว้นแต่ในกรณีดังกจะกล่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำวต่อไปนีส้ ำนั
คือกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๖๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ตั๋วสัญญำใช้เงินซึ่งไม่ระบุเวลำใช้เงิน ท่ำนให้ถือว่ำ พึงใช้เงินเมื่อได้เห็น


ถ้ำสถำนที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ใช้เงินมิได้สแำนั
ถลงไว้ ในตั๋วสัญญำใช้เงิน กท่ำำนให้ถือเอำภูสมำนัิลกำเนำของผู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ออก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ตรำสำรนั้นเป็นสถำนที่ใช้เงิน
สถ้ำนั
ำตัก๋วงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สัญญำใช้เงินไม่ระบุสกถำนที
ำ ่ ออกตั๋ว สท่ำนั
ำนให้ ถือว่ำ ตั๋วนั้นได้ออก กณำ ภูมิลำเนำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของผู้ออกตั๋ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำมิได้ลงวัน ออกตั๋ว ท่ำนว่ำผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมำยคนหนึ่งคนใดทำกำรโดย
สุจริตจะจดวันตำมที
สำนั่ถกูกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต้องแท้จริงลงก็ได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๙๘๕ บทบัญสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญัตกิทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ั้งหลำยในหมวด ๒ ว่ำกด้ำ วยตั๋วแลกเงินสำนั
ดังกจะกล่ ำวต่อไปนี้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ท่ำนให้ยกมำบังคับในเรื่องตั๋วสัญญำใช้เงินเพียงเท่ำที่ไม่ขัดกับสภำพแห่งตรำสำรชนิดนี้ คือบทมำตรำ
๙๑๑, ๙๑๓, ๙๑๖, สำนัก๙๑๗, ๙๑๙, ๙๒๐, ๙๒๒
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ถึง ๙๒๖, ส๙๓๘ ถึง ๙๔๗, ๙๔๙, ๙๕๐,
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๙๕๔ ถึ ง
๙๕๙, ๙๖๗ ถึง ๙๗๑
ถ้ำเป็นกตัำ ๋วสัญญำใช้เงิสนำนัทีก่องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อกมำแต่ต่ำงประเทศกท่ำ ำนให้นำบทบัสญ
ำนัญักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ติต่อไปนี้มำใช้ กำ
บังคับด้วย คือบทมำตรำ ๙๖๐ ถึง ๙๖๔, ๙๗๓, ๙๗๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๙๘๖ ผู้ออกตัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๋วสักญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญำใช้เงินย่อมต้องผูกพักำนเป็นอย่ำงเดียสวกั
ำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กับผู้รับรองตั๋ว กำ
แลกเงิน
สตัำนั
๋วสักญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญำใช้เงินซึ่งให้ใช้เงินกในเวลำใดเวลำหนึ
ำ สำนัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ภำยหลังได้เห็นนั้น ต้กอำงนำยื่นให้ ผู้
ออกตั๋วจดรับรู้ภำยในจำกัดเวลำดังกำหนดไว้ในมำตรำ ๙๒๘ กำหนดเวลำนี้ให้นับแต่วันจดรับรู้ซึ่งลง
สำนักลำยมื อชื่อผู้ออกตั๋ว ถ้ำกผูำ้ออกตั๋วบอกปัสดำนัไม่กยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อมจดรับรู้และลงวันไซร้
กำ กำรที่เขำบอกปั
สำนักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เช่นนี้ท่ำนว่ำ กำ
ต้องทำให้เป็นหลักฐำนขึ้นด้วยคำคัดค้ำน และวันคัดค้ำนนั้นให้ถือเป็นวันเริ่มต้นในกำรนับกำหนดเวลำ
แต่ได้เห็น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เช็ค
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๙๘๗ อันว่ำเช็คนั้น คือหนังสือตรำสำรซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่ำ ผู้สั่งจ่ำย สั่ง
ธนำคำรให้ใช้เงินสจำนัำนวนหนึ ่งเมื่อทวงถำมให้แกก่ำบุคคลอีกคนหนึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่งกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือให้ใช้ตำมคำสั่งของบุ
กำ คคลอีกคน
หนึ่ง อันเรียกว่ำผู้รับเงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๘๘ อันเช็คนั้น ต้องมีรำยกำรดังกล่ำวต่อไปนี้ คือ
ส(๑)
ำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำบอกชื่อว่ำเป็นเช็ค กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) คำสั่งอันปรำศจำกเงื่อนไขให้ใช้เงินเป็นจำนวนแน่นอน
(๓) ชื่อกำหรือยี่ห้อและส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนของธนำคำร กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ชื่อ หรือยี่ห้อของผู้รับเงิน หรือคำจดแจ้สงำนัว่ำกให้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ใช้เงินแก่ผู้ถือ กำ
(๕) สถำนที่ใช้เงิน
(๖) วันกและสถำนที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่ออกเช็
สำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๖๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๗) ลำยมือชื่อผู้สั่งจ่ำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๘๙ บทบั ญ ญั ติทั้งหลำยในหมวด ๒ อันว่ำด้ว ยตั๋วแลกเงิน ดังจะกล่ ำว
ต่อไปนี้ ท่ำนให้ ยสกมำบั งคับในเรื่องเช็คเพียงเท่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำที่ไม่ขัดกับสสภำพแห่ งตรำสำรชนิดนี้ คืกำอบทมำตรำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๙๑๐, ๙๑๔ ถึง ๙๒๓, ๙๒๕, ๙๒๖, ๙๓๘ ถึง ๙๔๐, ๙๔๕, ๙๔๖, ๙๕๙, ๙๖๗, ๙๗๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำเป็นเช็คที่ออกมำแต่ต่ำงประเทศ ท่ำนให้นำบทบัญญัติดังต่อไปนี้มำใช้บังคับด้วย
คือบทมำตรำ ๙๒๔,
สำนั๙๖๐ ถึง ๙๖๔, ๙๗๓ ถึงกำ๙๗๗, ๙๘๐ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๙๙๐ ผู้ทรงเช็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัคกต้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องยื่นเช็คแก่ธนำคำรเพื
กำ่อให้ใช้เงิน คือสว่ำนัำถ้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเป็นเช็คให้ใช้ กำ
เงินในเมืองเดียวกันกับที่ออกเช็คต้องยื่นภำยในเดือนหนึ่งนับแต่วันออกเช็คนั้น ถ้ำเป็นเช็คให้ใช้เงินที่
อื่นต้องยื่นภำยในสำมเดื อน ถ้ำมิฉะนั้นท่ำนว่ำกผูำ้ทรงสิ้นสิทธิทสี่จำนัะไล่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เบี้ยเอำแก่ผู้สลักหลังทัก้งำปวง ทั้งเสีย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สิทธิอันมีต่อผู้สั่งจ่ำยด้วยเพียงเท่ำที่จะเกิดควำมเสียหำยอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดแก่ผู้สั่งจ่ำยเพรำะกำรที่
สำนักละเลยเสี ยไม่ยื่นเช็คนั้น กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่ง ผู้ทรงเช็คซึ่งผู้สั่งจ่ำยหลุดพ้นจำกควำมรับผิดไปแล้วนั้น ท่ำนให้รับช่วงสิทธิของ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้สั่งจ่ำยคนนั้นอันมีต่อธนำคำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๙๑ ธนำคำรจำต้องใช้เงินตำมเช็คซึ่งผู้เคยค้ำกับธนำคำรให้ออกเบิกเงินแก่
ตน เว้นแต่ในกรณีสดำนัังกล่ ำวต่อไปนี้ คือ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ไม่มีเงินในบัญชีของผู้เคยค้ำคนนั้นเป็นเจ้ำหนี้พอจะจ่ำยตำมเช็คนั้น หรือ
(๒) เช็กคำนั้นยื่นเพื่อให้สใช้ำนัเงิกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เมื่อพ้นเวลำหกเดือนนักบำแต่วันออกเช็คสำนัหรืกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อ กำ
(๓) ได้มีคำบอกกล่ำวว่ำเช็คนั้นหำยหรือถูกลักไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๙๒ หน้ำที่และอำนำจของธนำคำรซึ่งจะใช้เงินตำมเช็คอันเบิกแก่ตนนั้น
สำนักท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำเป็นอันสุดสิ้นไปเมื
กำ่อกรณีเป็นดังสจะกล่ ำวต่อไปนี้ คือ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) มีคำบอกห้ำมกำรใช้เงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) รู้ว่ำผู้สั่งจ่ำยตำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี(๓) รู้วก่ำำศำลได้มีคำสัส่งำนั
รักกษำทรั พย์ชั่วครำว หรือกคำำสั่งให้ผู้สั่งจ่ำสยเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คนล้มละลำย กำ
หรือได้มีประกำศโฆษณำคำสั่งเช่นนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๙๓ ถ้ำธนำคำรเขียนข้อควำมลงลำยมือชื่อบนเช็ค เช่นคำว่ำ “ใช้ได้” หรือ
สำนัก“ใช้ เงินได้” หรือคำใด ๆกำอันแสดงผลอย่สำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำงเดี ยวกัน ท่ำนว่ำธนำคำรต้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องผูกพันในฐำนเป็ นลูกหนี้ชั้นต้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ในอันจะต้องใช้เงินแก่ผู้ทรงตำมเช็คนั้น
สถ้ำนั
ำผูก้ทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รงเช็คเป็นผู้จัดกำรให้กธำนำคำรลงข้อควำมรั บรองดังว่ำนั้น ท่ำนว่ำกผูำ้สั่งจ่ำยและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้สลักหลังทั้งปวงเป็นอันหลุดพ้นจำกควำมรับผิดตำมเช็คนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถ้ำธนำคำรลงข้
กำ อควำมรัสำนับกรองดั งนั้นโดยคำขอร้อกงของผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้สั่งจ่ำย ท่สำนั
ำนว่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำผู้สั่งจ่ำยและ กำ
ปวงผู้สลักหลังก็หสำหลุ ดพ้นไปไม่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๙๙๔ ถ้ำในเช็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัคกมีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เส้นขนำนคู่ขีดขวำงไว้กขำ ้ำงด้ำนหน้ำ สกัำนับกมีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือไม่มีคำว่ำ กำ
- ๑๖๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

“และบริษัท” หรือคำย่ออย่ำงใด ๆ แห่งข้อควำมนี้อยู่ในระหว่ำงเส้นทั้งสองนั้นไซร้ เช็คนั้นชื่อว่ำเป็น


สำนักเช็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คขีดคร่อมทั่วไป และจะใช้ กำ เงินตำมเช็สคำนันัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้แต่เฉพำะให้แก่ธนำคำรเท่
กำ ำนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำในระหว่ำงเส้ น ทั้ งสองนั้น กรอกชื่อธนำคำรอัน หนึ่ งอัน ใดลงไว้โดยเฉพำะ เช็ ค
เช่นนั้นชื่อว่ำเป็นเช็ำนัคขีกดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ส คร่อมเฉพำะ และจะใช้กำเงินตำมเช็คนัส้นำนัได้กเฉพำะให้ แก่ธนำคำรอันกนัำ้น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๙๙๕ (๑) เช็คไม่มีขีดคร่อม ผู้สั่งจ่ำยหรือผู้ทรงคนใดคนหนึ่งจะขีดคร่อมเสีย
ก็ได้ และจะทำเป็สนำนั
ขีดกคร่ อมทั่วไปหรือขีดคร่อกมเฉพำะก็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) เช็คขีดคร่อมทั่วไป ผู้ทรงจะทำให้เป็นขีดคร่อมเฉพำะเสียก็ได้
(๓) เช็กคำขีดคร่อมทั่วไปก็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัดกี งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ขีดคร่อมเฉพำะก็ดี ผู้ทกรงจะเติ
ำ มคำลงว่สำำนั“ห้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำมเปลี่ยนมือ” กำ
ก็ได้
ส(๔)
ำนักเช็ คขีดคร่อมเฉพำะให้แกก่ำ ธนำคำรใด ธนำคำรนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นจะซ้ำขีดคร่อมเฉพำะให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ไปแก่
ธนำคำรอื่นเพื่อเรียกเก็บเงินก็ได้
(๕) เช็กคำไม่มีขีดคร่อมก็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัดกี เช็ คขีดคร่อมทั่วไปก็ดี ส่กำงไปยังธนำคำรใดเพื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่อให้เรียกเก็บ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เงิน ธนำคำรนั้นจะลงขีดคร่อมเฉพำะให้แก่ตนเองก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๙๙๖ กำรขีสดำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี คร่กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มเช็คตำมที่อนุญำตไว้กใำนมำตรำก่อนนัสำนั
้น กท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำเป็นส่วน กำ
สำคัญอันหนึ่งของเช็ค ใครจะลบล้ำงย่อมไม่เป็นกำรชอบด้วยกฎหมำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙๙๗ เช็คขีดคร่อมเฉพำะให้แก่ธนำคำรกว่ำธนำคำรหนึ่ งขึ้นไป เมื่อนำเบิก
สำนักเอำแก่ ธนำคำรใด ท่ำนให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำธนำคำรนั้นบอกปั ดเสียอย่ำใช้เงินให้ เว้นกแต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ที่ขีดคร่อมให้สำนั
แก่กธงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นำคำรในฐำน กำ
เป็นตัวแทนเรียกเก็บเงิน
สธนำคำรใดซึ ่งเขำนำเช็คเบิกกขืำนใช้เงินไปตำมเช็
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ที่ขีดคร่อมอย่ำงว่ำมำนักำ้นก็ดี ใช้เงิน
ตำมเช็คอันเขำขีดคร่อมทั่วไปเป็นประกำรอื่นนอกจำกใช้ให้แก่ธนำคำรอันใดอันหนึ่งก็ดี ใช้เงินตำมเช็ค
สำนักอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นเขำขีดคร่อมเฉพำะเป็กำนประกำรอื่นสนอกจำกใช้ ให้แก่ธนำคำรซึก่งเขำเจำะจงขี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ดสคร่ำนัอกมให้ โดยเฉพำะ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หรือแก่ธนำคำรตัวแทนเรียกเก็บเงินของธนำคำรนั้นก็ดี ท่ำนว่ำธนำคำรซึ่งใช้เงินไปดังกล่ำวนี้จะต้อง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รับผิดต่อผู้เป็นเจ้ำของอันแท้จริงแห่งเช็คนั้น ในกำรที่เขำจะต้องเสียหำยอย่ำงใด ๆ เพรำะกำรที่ตนใช้
สำนักเงิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นไปตำมเช็คดังนั้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แต่หำกเช็คใดเขำนำยื่นเพื่อให้ใช้เงิน และเมื่อยื่นไม่ปรำกฏว่ำเป็นเช็คขีดคร่อมก็ดี
หรือไม่ปรำกฏว่ำมีสำนัรอยขี ดคร่อมอันได้ลบล้ำงหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำอแก้ไขเปลี่ยนแปลงเพิ ่มเติมเป็นประกำรอืกำ่นนอกจำกที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อนุญำตไว้โดยกฎหมำยก็ดี เช็คเช่นนี้ถ้ำธนำคำรใดใช้เงินไปโดยสุจริตและปรำศจำกประมำทเลินเล่อ
สำนักท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำธนำคำรนั้นไม่ต้อกงรัำ บผิดหรือต้อสงมีำนัหกน้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำที่รับใช้เงินอย่ำงใด ๆกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๙๙๘ ธนำคำรใดซึก่งำเขำนำเช็คขีดสคร่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มเบิกเงิน ใช้เงินไปตำมเช็
กำ คนั้น โดย
สุจริตและปรำศจำกประมำทเลินเล่อ กล่ำวคือว่ำถ้ำเป็นเช็คขีดคร่อมทั่วไปก็ใช้เงินให้แก่ธนำคำรอันใด
สำนักอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นหนึ่ง ถ้ำเป็นเช็คขีดคร่กำอมเฉพำะก็ใช้สให้ำนัแกก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ธนำคำรซึ่งเขำเจำะจงขีกำดคร่อมให้โดยเฉพำะ หรือใช้ให้แก่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ธนำคำรตัวแทนเรีสยำนักเก็ บเงินของธนำคำรนั้นไซร้ ท่ำนว่ำธนำคำรซึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
่งใช้เงินไปตำมเช็คนั้นฝ่ ำยหนึ่ง กับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำเช็คตกไปถึงมือผู้รับเงินแล้ว ผู้สั่งจ่ำยอีกฝ่ำยหนึ่งต่ำงมีสิทธิเป็นอย่ำงเดียวกัน และเข้ำอยู่ในฐำนะ
สำนักอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นเดียวกันเสมือนดังว่ำกเช็ำ คนั้นได้ใช้เงินสให้
ำนัแกก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้เป็นเจ้ำของอันแท้จริกงำแล้ว สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๖๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๙๙๙ บุคคลใดได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เช็คขีดคร่อมของเขำมำซึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งมีคำว่ำ “ห้สำำนั
มเปลี ่ยนมือ” ท่ำน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ว่ำบุคคลนั้นไม่มีสิทธิในเช็คนั้นยิ่งไปกว่ำ และไม่สำมำรถให้สิทธิในเช็คนั้นต่อไปได้ดีกว่ำสิทธิของบุคคล
อันตนได้เช็คของเขำมำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๐๐๐ ธนำคำรใดได้รับเงินไว้เพื่อผู้เคยค้ำของตนโดยสุจริตและปรำศจำก
ประมำทเลิน เล่อสำนั
อันกเป็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น เงินเขำใช้ให้ ตำมเช็กคำ ขีดคร่อมทั่วสไปก็
ำนักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี ขีดคร่อมเฉพำะให้ แกก่ำตนก็ดี หำก
ปรำกฏว่ำผู้เคยค้ำนั้นไม่มีสิทธิหรือมีสิทธิเพียงอย่ำงบกพร่องในเช็คนั้นไซร้ ท่ำนว่ำเพียงแต่เหตุที่ได้รับ
สำนักเงิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นไว้หำทำให้ธนำคำรนัก้นำต้องรับผิดต่อสผูำนั้เป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เจ้ำของอันแท้จริงแห่งกเช็ำ คนั้นแต่อย่ำงหนึ
สำนัก่งอย่ ำงใดไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำหมวด ๕ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อำยุควำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๐๑ ในคดีฟ้องผู้รับรองตั๋วแลกเงิ นก็ดี ผู้ออกตั๋วสัญญำใช้เงินก็ดี ท่ำน
สำนักห้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำมมิให้ฟ้องเมื่อพ้นเวลำสำมปี
กำ นับแต่วสันำนัตั๋วกนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้น ๆ ถึงกำหนดใช้เงินกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๐๒ ในคดีที่ผู้ทกรงตั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ๋วเงินฟ้องผูส้สำนั
ลักกหลั งและผู้สั่งจ่ำย ท่ำนห้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำำมมิให้ฟ้อง
เมื่อพ้นเวลำปีหนึ่งนับแต่วันที่ได้ลงในคำคัดค้ำนซึ่งได้ทำขึ้นภำยในเวลำอันถูกต้องตำมกำหนด หรือนับ
สำนักแต่ วันตั๋วเงินถึงกำหนด กในกรณี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ที่มีข้อกสำหนดไว้ ว่ำ “ไม่จำต้องมีคำคักดำค้ำน”
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๐๓ ในคดีผู้สลักกำหลังทั้งหลำยฟ้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัอกงไล่ เบี้ยกันเองและไล่เบีก้ยำ เอำแก่ผู้สั่ง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จ่ำยแห่งตั๋วเงิน ท่ำนห้ำมมิให้ฟ้องคดีเมื่อ พ้นเวลำหกเดือนนับแต่วันที่ผู้สลักหลังเข้ำถือเอำตั๋วเงินและ
สำนักใช้ เงิน หรือนับแต่วันที่ผกู้สำลักหลังนั้นเองถู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักกฟ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๐๔ เมื่ออำยุควำมสะดุดหยุดลงเพรำะกำรอันหนึ่งอันใด ซึ่งกระทำแก่
สำนักคูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่สัญญำแห่งตั๋วเงินฝ่ำยใดฝ่
กำ ำยหนึ่ง ท่ำนว่
สำนัำกย่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อมมีผลสะดุดหยุดลงเพีกยำงแต่แก่คู่สัญญำฝ่
สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยนั้น กำ

สมำตรำ ๑๐๐๕ ถ้ำตั๋วเงินได้กำทำขึ้นหรือได้โสอนหรื


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อสลักหลังไปแล้วในมูกลำ หนี้อันหนึ่ง
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อันใด และสิทธิตำมตั๋วเงินนั้นมำสูญสิ้นไปเพรำะอำยุควำมก็ดี หรือเพรำะละเว้นไม่ดำเนินกำรให้ต้อง
สำนักตำมวิ ธีใด ๆ อันจะพึงต้กอำงทำก็ดี ท่ำนว่สำำนัหนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้เดิมนั้นก็ยังคงมีอยู่ตำมหลั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กกฎหมำยอั นแพร่
สำนั หลำยทั่วไป
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เท่ำที่ลูกหนี้มิได้ต้องเสียหำยแต่กำรนั้น เว้นแต่จะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่ำงอื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ตั๋วเงินปลอม
สำนักตังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๋วเงินถูกลัก และตั๋วเงินกหำย
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๑๐๐๖ กำรที


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก่ ลงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยมื อ ชื่ อ อั น หนึ่ ง ในตัก๋ วำ เงิ น เป็ น ลำยมื
สำนัอกปลอม ย่ อ มไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๖๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

กระทบกระทั่งถึงควำมสมบูรณ์แห่งลำยมือชื่ออื่น ๆ ในตั๋วเงินนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๐๗ ถ้ำข้อควำมในตั๋วเงินใด หรือในคำรับรองตั๋วเงินรำยใด มีผู้ แก้ไข
เปลี่ยนแปลงในข้สอำนั
สำคั ญโดยที่คู่สัญญำทั้งปวงผู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ต้องรับผิดตำมตั
สำนัก๋วงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เงินมิได้ยินยอมด้วยหมดทุ
กำ กคนไซร้
ท่ำนว่ำตั๋วเงินนั้นก็เป็นอันเสีย เว้นแต่ยังคงใช้ได้ต่อคู่สัญญำซึ่งเป็นผู้ทำกำรแก้ไขเปลี่ยนแปลงนั้น หรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ได้ยินยอมด้วยกับกำรแก้ไขเปลี่ยนแปลงนั้น กับทั้งผู้สลักหลังในภำยหลัง
สแต่
ำนัหกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำกตั๋วเงินใดได้มีผู้แก้ไขเปลี
กำ ่ยนแปลงในข้สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำคัญ แต่ควำมเปลี่ยนแปลงนั
กำ ้นไม่
ประจั กษ์ และตั๋ ว เงิน นั้ น ตกอยู่ ในมือ ผู้ ท รงโดยชอบด้ ว ยกฎหมำยไซร้ ท่ ำนว่ำผู้ ท รงคนนั้ น จะเอำ
สำนักประโยชน์ จำกตั๋วเงินนั้นกก็ำได้ เสมือนดังสว่ำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำมิกไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้มีกำรแก้ไขเปลี่ยนแปลงเลย
กำ และจะบัสงำนัคักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรใช้เงินตำม กำ
เนื้อควำมแห่งตั๋วนั้นก็ได้
สกล่
ำนัำกวโดยเฉพำะ กำรแก้ไขเปลี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ยนแปลงเช่นสจะกล่ ำวต่อไปนี้ ท่ำนถือว่ำกเป็ำ นกำรแก้ไข
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ คือกำรแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่ำงใด ๆ แก่วันที่ลง จำนวนเงินอันจะพึงใช้ เวลำ
สำนักใช้ เงิน สถำนที่ใช้เงิน กักบำทั้งเมื่อตั๋วเงินสเขำรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บรองไว้ทั่วไปไม่เจำะจงสถำนที
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ใช้เงิสนำนัไปเติ มควำมระบุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สถำนที่ใช้เงินเข้ำโดยที่ผู้รับรองมิได้ยินยอมด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๐๐๘ ภำยในบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คับแห่งบทบัญญัติทั้งหลำยในประมวลกฎหมำยนี
กำ ้ เมื่อใด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ลำยมือชื่อในตั๋วเงินเป็นลำยมือปลอมก็ดี เป็นลำยมือชื่อลงไว้โดยที่บุคคลซึ่งอ้ำงเอำเป็นเจ้ำของลำยมือ
ชื่อนั้นมิได้มอบอำนำจให้ ลงก็ดี ท่ำนว่ำลำยมือชืก่อำปลอมหรือลงปรำศจำกอ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนำจเช่นนั้นเป็นอักนำ ใช้ไม่ได้เลย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ใครจะอ้ำงอิงอำศัยแสวงสิทธิอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดเพื่อยึด หน่วงตั๋วเงินไว้ก็ดี เพื่อทำให้ตั๋วนั้นหลุดพ้นก็ดี
สำนักหรื อเพื่อบังคับกำรใช้เงินกำเอำแก่คู่สัญญำแห่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตั๋วนั้นคนใดคนหนึ่งก็ดกี ำท่ำนว่ำไม่อำจจะท
สำนักำได้ เป็นอันขำด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เว้นแต่คู่สัญญำฝ่ำยซึ่งจะพึงถูกยึดหน่วงหรือถูกบังคับใช้เงินนั้นจะอยู่ในฐำนเป็นผู้ต้องตัดบทมิให้ยกข้อ
ลำยมือชื่อปลอม สหรืำนัอกข้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อลงลำยมือชื่อปรำศจำกอ กำ ำนำจนั้นขึ้นสเป็
ำนันกข้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อต่อสู้ กำ
แต่ข้อควำมใด ๆ อันกล่ำวมำในมำตรำนี้ ท่ำนมิให้กระทบกระทั่งถึงกำรให้สัตยำบัน
สำนักแก่ ลำยมือชื่อซึ่งลงไว้โดยปรำศจำกอ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำนำจแต่ หำกไม่ถึงแก่เป็นลำยมืกอำปลอม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๐๙ ถ้ำมีผู้นำตั๋วเงินชนิดจะพึงใช้เงินตำมเขำสั่ งเมื่อทวงถำมมำเบิกต่อ
สำนักธนำคำรใด และธนำคำรนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นได้ใช้เงินให้สไำนั
ปตำมทำงค้ ำปกติโดยสุจริตกและปรำศจำกประมำทเลิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นเล่อไซร้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ท่ำนว่ำธนำคำรไม่มีหน้ำที่จะต้องนำสืบว่ำกำรสลักหลังของผู้รับเงิน หรือกำรสลักหลังในภำยหลังรำย
ใด ๆ ได้ทำไปด้วสยอำศั ยรับมอบอำนำจแต่บุคกำคลซึ่งอ้ำงเอำเป็
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนันกเจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำของคำสลักหลังนั้น กและถึ
ำ งแม้ว่ำ
รำยกำรสลักหลังนั้นจะเป็นสลักหลังปลอมหรือปรำศจำกอำนำจก็ตำม ท่ำนให้ถือว่ำธนำคำรได้ใช้เงิน
สำนักไปถู กระเบียบ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๑๐ เมื่อผู้ทรงตัก๋วำ เงินซึ่งหำยหรืสำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อถูกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ลักทรำบเหตุแล้ว ในทักำนใดนั้นต้อง
บอกกล่ำวเป็นหนังสือไปยังผู้ออกตั๋วเงิน ผู้จ่ ำย ผู้สมอ้ำงยำมประสงค์ ผู้รับรองเพื่อแก้หน้ำและผู้รับ
สำนักอำวั ล ตำมแต่มี เพื่อให้บกอกปั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ดไม่ใช้เงินสตำมตั ๋วเงินนั้น
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๑๑ ถ้ำตั๋วเงินหำยไปแต่ก่อนเวลำล่วงเลยกำหนดใช้เงิน ท่ำนว่ำบุคคลซึ่ง
สำนักได้ เป็นผู้ทรงตั๋วเงินนั้นจะร้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องขอไปยังสผูำนั
้สั่งกจ่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยให้ ๆ ตั๋วเงินเป็นเนืก้อำควำมเดียวกันสำนั
แก่กตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นใหม่อีกฉบับ กำ
- ๑๖๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

หนึ่งก็ได้ และในกำรนี้ถ้ำเขำประสงค์ก็วำงประกันให้ไว้แก่ผู้สั่งจ่ำย เพื่อไว้ทดแทนที่เขำหำกจะต้อง


สำนักเสีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยหำยแก่ผู้หนึ่งผู้ใดในกรณี
กำ ที่ตั๋วเงินซึ่งสว่ำนัำหำยนั ้นจะกลับหำได้ กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่ ง ผู้ สั่ งจ่ ำยรั บ ค ำขอร้อ งดั งว่ำมำนั้ น แล้ ว หำกบอกปั ด ไม่ ยอมให้ ตั๋ ว เงิน คู่ ฉบั บ
เช่นนั้น อำจจะถูกบัำนังคักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ส บให้ออกให้ก็ได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


ลักษณะ ๒๒
หุ้นส่กำวนและบริษัทสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


หมวด ๑
บทเบ็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดเสร็จทั่วไป สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๐๑๒ อันว่ำสัญญำจัดตั้งห้ำงหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้น คือสัญญำซึ่งบุคคล
ตั้งแต่สองคนขึ้นไปตกลงเข้ำกันเพื่อกระทำกิจกำรร่วมกัน ด้วสยประสงค์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จะแบ่งปั นกำไรอันจะพึงได้แต่
สำนักกิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จกำรที่ทำนั้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๑๓ อันห้ำงหุ้นส่กวำนหรือบริษัทนัสำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้น กท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนกำหนดเป็นสำมประเภท
กำ คือ
(๑) ห้ำงหุ้นส่วนสำมัญ
(๒) ห้กำงหุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้นส่วนจำกัดสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) บริษัทจำกัด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๑๔ บรรดำสำนักงำนสำหรับจดทะเบียนห้ำงหุ้นส่วนและบริษัททั้งหลำย
สำนักนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้น ให้รัฐมนตรี*เจ้ำกระทรวงซึ
กำ ่งบัญชำกำรจดทะเบี ยนห้ำงหุ้นส่วนและบริ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ษัทเป็นสำนั
ผู้อกอกกฎข้ อบังคับ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จัดตั้งขึ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๐๑๕ ห้ำงหุส้นำนัส่วกนหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อบริษัทเมื่อได้จดทะเบี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยนตำมบัญญัสตำนัิแห่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งลักษณะนี้แล้ว กำ
ท่ำนจัดว่ำเป็นนิติบุคคลต่ำงหำกจำกผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นทั้งหลำยซึ่งรวมเข้ำกันเป็นหุ้นส่ วนหรือ
บริษัทนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๐๑๖๓๕ กำรจดทะเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยนห้ำงหุ้นส่วนหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อบริษัท กำรแก้
สำนักไขข้ อควำมที่ได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จดทะเบีย นไว้ในภำยหลั ง และกำรจดทะเบี ย นอย่ ำงอื่ น ตำมที่ ลั ก ษณะ ๒๒ หุ้ น ส่ ว นและบริ ษั ท
กำหนดให้ จดทะเบี
สำนัยกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้ จดทะเบี ย นต่อนำยทะเบี
กำ ยน ณ สสำนัำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนทะเบียนหุ้ นส่วนบริ
กำ ษั ท ตำมที่
รัฐมนตรีเจ้ำกระทรวงประกำศกำหนด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๑๗ ถ้ ำ ข้ อ ควำมที่ จ ะจดทะเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ย น หรื อ ประกำศโฆษณำเกิ ด ขึ้ น ใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๕
มำตรำ ๑๐๑๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งหัวหน้ำคณะรักษำควำมสงบแห่งชำติ ที่ ๒๑/๒๕๖๐
สำนักเรืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ออำนวยควำมสะดวกในกำรประกอบธุ
่อง กำรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมำยเพื สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รกิกจำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๖๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ต่ำงประเทศไซร้ ท่ำนให้ นั บ กำหนดเวลำส ำหรับกำรจดทะเบียนหรือประกำศโฆษณำข้อควำมนั้น


สำนักตังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้งแต่เวลำเมื่อคำบอกกล่กำำวกำรนั้นมำถึงสตำนัำบลที ่จดทะเบียนหรือตำบลที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่จะประกำศโฆษณำนั ้นเป็นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สมำตรำ ๑๐๑๘ ในกำรจดทะเบี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยน ท่ ำนให้
สำนัเสีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยค่ำธรรมเนียมตำมกฎข้
กำ อบั งคั บซึ่ ง
รัฐมนตรี*เจ้ำกระทรวงตั้งไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๑๙ ถ้ำคำขอจดทะเบี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยนหรือสเอกสำรซึ ่งต้องจดทะเบียนไม่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มีรำยกำร
บริบูรณ์ตำมที่บังคับไว้ในลักษณะนี้ ว่ำให้จดแจ้งก็ดี หรือถ้ำรำยกำรอันใดซึ่งจะแจ้งในคำขอหรือ ใน
สำนักเอกสำรนั ้นขัดกับกฎหมำยก็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดี หรือถ้ำสเอกสำรใดซึ ่งกำหนดไว้ว่ำให้กสำ ่งด้วยกันกับคสำขอจดทะเบี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยนยัง
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ขำดอยู่มิได้ส่งให้ครบก็ดี หรือถ้ำไม่ปฏิบัติตำมเงื่อนไขข้ออื่นซึ่งกฎหมำยบังคับไว้ก็ดี นำยทะเบียนจะไม่
ยอมรับ จดทะเบี ยสำนั
นก็กไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้ จนกว่ำคำขอจดทะเบี กำ ย นหรือเอกสำรนั ้นจะได้ทำให้ บ ริบูรณ์กหำรือแก้ไขให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถูกต้อง หรือได้ส่งเอกสำรซึ่งกำหนดไว้นั้นครบทุกสิ่งอันหรือได้ปฏิบัติตำมเงื่อนไขข้อนั้นแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๒๐๓๖ บุคคลทุกคนเมื่อได้เสียค่ำธรรมเนียมตำมที่กำหนดในกฎกระทรวงแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ชอบที่จะตรวจเอกสำรซึ่งนำยทะเบียนเก็บรักษำไว้ได้ หรือจะขอให้ คัดสำเนำหรือเนื้อควำมในเอกสำร
สำนักฉบั บใด ๆ พร้อมด้วยคำรักำบรองว่ำถูกต้อสงมอบให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ก็ได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้มีส่วนได้เสียของห้ำงหุ้นส่วนหรือบริษัทใด ๆ เมื่อได้เสียค่ำธรรมเนียมตำมที่กำหนด
ในกฎกระทรวงแล้สำนั ว กชอบที ่จะขอให้นำยทะเบีกำยนทำใบสำคัสญำนัแสดงกำรจดทะเบี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยนห้ำงหุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นส่วนหรือ
บริษัทนั้นให้ก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๒๐/๑ ให้ รัฐมนตรีเจ้ำกระทรวงมีอำนำจออกกฎกระทรวงลดหรือ
๓๗

ยกเว้นค่ำธรรมเนีสยำนั
มทีก่องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อกตำมมำตรำ ๑๐๑๘กำและมำตรำ ๑๐๒๐
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๐๒๑ นำยทะเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยนทุกคนจะต้องแต่งย่กอำรำยกำรซึ่งได้สลำนังทะเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยนส่งไปลง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พิ ม พ์ โฆษณำในหนั งสื อ รำชกิ จ จำนุ เบกษำเป็ น ครำว ๆ ตำมแบบซึ่ งรัฐ มนตรี*เจ้ ำกระทรวงจะได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำหนดให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๒๒ เมื่อได้พิ มพ์โฆษณำดังนั้ นแล้ ว ท่ำนให้ ถือว่ำบรรดำเอกสำรและ
ข้อ ควำมซึ่ งลงทะเบี
สำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นอั น ได้ ก ล่ ำวถึ งในย่อกรำยกำรนั
ำ ้ น เป็สำนั
น อักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รู้แ ก่บุ ค คลทั้ งปวงไม่กเำลื อ กว่ ำเป็ น
ผู้เกี่ยวข้องด้วยห้ำงหุ้นส่วนหรือด้วยบริษัทนั้น หรือที่ไม่เกี่ยวข้อง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๒๓ ๓๘
ผู้ เป็ น หุ้ น ส่ ว นก็ ดี ห้ ำ งหุ้ น ส่ ว นก็ ดี หรื อ บริ ษั ท ก็ ดี จะถื อ เอำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๐๒๐ แก้ไสขเพิ
ำนั่มกเติ มโดยพระรำชบัญญัติแกก้ำไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๓๗
มำตรำ ๑๐๒๐/๑ เพิ่มโดยคำสั่งหัวหน้ำคณะรักษำควำมสงบแห่งชำติ ที่ ๒๑/๒๕๖๐ เรื่อง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมำยเพื่ออำนวยควำมสะดวกในกำรประกอบธุรกิจ
๓๘
มำตรำ ๑๐๒๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ.ก๒๕๕๑
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๖๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ประโยชน์แก่บุคคลภำยนอกเพรำะเหตุที่มีสัญญำหรือเอกสำร หรือข้อควำมอันบังคับให้จดทะเบียน
สำนักตำมลั กษณะนี้ยังไม่ได้ จนกว่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำจะได้จดทะเบี ยนแล้ว แต่ฝ่ำยบุคคลภำยนอกจะถื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อเอำประโยชน์ เช่นว่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
นั้นได้
สแต่
ำนัถกึงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กระนั้นก็ดี ผู้เป็ นหุ้นส่กำวน ผู้ถือหุ้น ห้สำนั
ำงหุกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นส่วน หรือบริษัทซึ่งได้กำรับชำระหนี้
ก่อนจดทะเบียนนั้นย่อมไม่จำต้องคืน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๒๓/๑ ๓๙ ห้ ำกงหุำ ้ น ส่ ว นหรื อสบริ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักษงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ั ท จะยกมำตรำ ๑๐๒๓กำ ขึ้ น ต่ อ สู้
บุคคลภำยนอกผู้สุจริตเพื่อไม่ให้ต้องรับผิดโดยอ้ำงว่ำผู้เป็นหุ้นส่วน ห้ำงหุ้นส่วน บริษัทหรือกรรมกำร
สำนักไม่ มีอำนำจกระทำกำรมิกได้ำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๒๔ ในระหว่ำงผูก้เป็ำ นหุ้นส่วนด้วสยกัำนันกก็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดี หรือในระหว่ำงผู้ถือกหุำ้นด้วยกันก็ดี
ในระหว่ำงผู้เป็นหุ้นส่วนกับห้ำงหุ้นส่วนก็ดี ในระหว่ำงผู้ถือหุ้นกับบริษัทก็ดี ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้ก่อน
สำนักว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำบรรดำสมุดบัญชีเอกสำรของห้
กำ ำงหุ้นส่สวำนันหรื อบริษัท หรือของผู้ชำระบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญชีห้ำงหุ้นสส่ำนั
วนหรื อบริษัทใด ๆ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
นั้น ย่อมเป็นพยำนหลักฐำนอันถูกต้องตำมข้อควำมที่ได้บันทึกไว้ในนั้นทุกประกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ห้ำงหุ้นส่วนสำมัญ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทวิเครำะห์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๐๒๕ อันว่สำำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ห้ำกงหุ ้นส่วนสำมัญนั้น คือห้กำำงหุ้นส่วนประเภทซึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งผู้เป็นหุ้นส่วน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หมดทุกคนต้องรับผิดร่วมกันเพื่อหนี้ทั้งปวงของหุ้นส่วนโดยไม่มีจำกัด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมเกี่ยวพันระหว่ำงผู้เป็นหุ้นส่วนด้วยกันเอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๐๒๖ ผู้เป็นสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หุ้นกส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วนทุกคนต้องมีสิ่งหนึ่งกสิำ่งใดมำลงหุ้นด้สวำนั
ยในห้ ำงหุ้นส่วน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สิ่งที่นำมำลงด้วยนั้น จะเป็นเงินหรือทรัพย์สินสิ่งอื่น หรือลงแรงงำนก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๒๗ ในเมื่อมีกรณีเป็นข้อสงสัย ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำสิ่งซึ่งนำมำลง
สำนักหุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นด้วยกันนั้นมีค่ำเท่ำกักนำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๙
มำตรำ ๑๐๒๓/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนัก(ฉบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๗๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๐๒๘ ถ้ำผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดได้ลงแต่แรงงำนของตนเข้ำเป็นหุ้น และใน


สำนักสังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญญำเข้ำหุ้นส่วนมิได้ตกีรำ ำคำค่ำแรงไว้สำนัท่ำกนให้ คำนวณส่ วนกำไรของผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ที่เป็นหุ้นสส่ำนั
วนด้ วยลงแรงงำน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เช่นนั้น เสมอด้วยส่วนถัวเฉลี่ยของผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งได้ลงเงินหรือลงทรัพย์สินเข้ำหุ้นในกำรนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๒๙ ถ้ำผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งเอำทรัพย์สินมำให้ใช้เป็นกำรลงหุ้นด้วยไซร้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมเกี่ยวพันระหว่ำงผู้เป็นหุ้นส่วนคนนั้นกับห้ำงหุ้นส่วนในเรื่องส่งมอบและซ่อมแซมก็ดี ควำมรับผิด
เพื่อชำรุดบกพร่อสงก็
ำนัดกี งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ควำมรับผิดเพื่อกำรรอนสิ
กำ ทธิก็ดี ข้อสยกเว้ นควำมรับผิดก็ดี ท่ำนให้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บังคับตำม
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมำยนี้ ว่ำด้วยเช่ำทรัพย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๓๐ ถ้ำผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งให้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินอั นใดอันหนึ่งเป็น
กำรลงหุ้ น ด้วยไซร้สำนัควำมเกี ่ย วพั น ระหว่ำงผูก้เป็ำ น หุ้ นส่ วนคนนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้ นกกังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บห้ ำงหุ้ นส่ วนในเรื่องส่
กำ งมอบและ
ซ่อมแซมก็ดี ควำมรับผิดเพื่อชำรุดบกพร่องก็ดี ควำมรับผิดเพื่อกำรรอนสิทธิก็ดี ข้อยกเว้นควำมรับผิด
สำนักก็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดี ท่ำนให้บังคับตำมบทบั
กำ ญญัติแห่งประมวลกฎหมำยนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ ว่ำด้วยซื้อกขำยำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๓๑ ถ้ำผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดละเลยไม่ ส่งมอบส่วนลงหุ้นของตนเสียเลย
สำนักท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำต้องส่งคำบอกกล่กำำวเป็นจดหมำยจดทะเบี ยนไปรษณีย์ไปยังกผูำ้เป็นหุ้นส่วนคนนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้ส่งมอบส่วน กำ
ลงหุ้นของตนมำภำยในเวลำอันสมควร มิฉะนั้นผู้เป็นหุ้นส่วนคนอื่น ๆ จะลงเนื้อเห็นพร้อมกั น หรือ
โดยเสียงข้ำงมำกด้สำนั
วยกักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นสุดแต่ข้อสัญญำ ให้เอำผู
กำ ้เป็นหุ้นส่วนคนนั ้นออกเสียได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๑๐๓๒ ห้ำมมิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัให้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เปลี่ยนแปลงข้อสัญญำเดิ
กำ มแห่งห้ำงหุส้นำนั
ส่วกนหรื อประเภท
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แห่งกิจกำร นอกจำกด้วยควำมยินยอมของผู้เป็นหุ้นส่วนหมดด้วยกันทุกคน เว้นแต่จะมีข้อตกลงกันไว้
เป็นอย่ำงอื่น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๐๓๓ ถ้ำผูส้เำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ป็นกหุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นส่วนมิได้ตกลงกันไว้กใำนกระบวนจัดสกำรห้ ำงหุ้นส่วนไซร้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ท่ำนว่ำผู้เป็น หุ้ นส่วนย่อมจัดกำรห้ำงหุ้ นส่วนนั้นได้ทุกคน แต่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดจะเข้ำทำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สัญญำอันใดซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนอีกคนหนึ่งทักท้วงนั้นไม่ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณีกำเช่นนี้ ท่ำนให้สถำนั
ือว่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้เป็นหุ้นส่วนย่อมเป็นกหุำ้นส่วนผู้จัดกำรทุ
สำนักกคน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๓๔ ถ้ำได้ตกลงกั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ น ไว้ว่ำกำรงำนของห้ ำงหุ้นส่วนนั้นจักให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำเป็น ไปตำม
เสียงข้ำงมำกแห่งผู้เป็นหุ้นส่วนไซร้ ท่ำนให้ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งมีเสียงเป็นคะแนนหนึ่ง โดยไม่ต้อง
สำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนึงถึงจำนวนที่ลงหุ้นด้กวำ ยมำกหรือน้อสยำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๓๕ ถ้ำได้ตกลงกั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำนไว้ว่ำจะให้ผสู้เำนั
ป็นกหุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นส่วนหลำยคนจัดกำรห้
กำ ำงหุ้นส่วน
ไซร้ หุ้นส่วนผู้จัดกำรแต่ละคนจะจัดกำรห้ำงหุ้นส่วนนั้นก็ได้ แต่หุ้นส่วนผู้จัดกำรคนหนึ่งคนใดจะทำ
สำนักกำรอั นใดซึ่งหุ้นส่วนผู้จัดกกำรอี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ กคนหนึ่งสทัำนักกท้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วงนั้นไม่ได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๓๖ อัน หุ้ นส่วนผู้ จัดกำรนั้ น จะเอำออกจำกตำแหน่งได้ต่อเมื่อผู้ เป็ น
สำนักหุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นส่วนทั้งหลำยอื่นยินยอมพร้
กำ อมกัน เว้สนำนัแต่ จะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่กำำงอื่น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๗๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๐๓๗ ถึงแม้สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ว่ำกผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลำยได้กตำกลงให้ผู้เป็นหุส้นำนัส่กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นคนเดียวหรือ กำ
หลำยคนเป็นผู้จัดกำรห้ำงหุ้นส่วนก็ดี ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนนอกจำกผู้ จัดกำรย่อมมีสิทธิที่จะไต่ถำมถึง
กำรงำนของห้ ำงหุ ้ นกส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ว นที่จั ดอยู่ นั้ น ได้ทุ กเมืก่อำ และมี สิ ทธิทสำนั
ี่ จะตรวจและคั ดส ำเนำสมุกดำ บัญ ชี และ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เอกสำรใด ๆ ของหุ้นส่วนได้ด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๓๘ ห้ำมมิให้ผู้เกป็ำนหุ้นส่วนประกอบกิ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี จกำรอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดซึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งมีสภำพ
ดุจเดียวกัน และเป็นกำรแข่งขันกับกิจกำรของห้ำงหุ้นส่วนนั้น ไม่ว่ำทำเพื่อประโยชน์ตนหรือประโยชน์
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้อื่น โดยมิได้รับควำมยิกนำยอมของผู้เป็นสหุำนั้นกส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วนคนอื่น ๆ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดทำกำรฝ่ำฝืนต่อบทบัญญัติมำตรำนี้ไซร้ ผู้เป็นหุ้นส่วนคนอื่น ๆ
ชอบที่จะเรียกเอำผลก ำไรซึ่งผู้นั้นหำได้ทั้งหมด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ หรือเรี ยกเอำค่
สำนัำกสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นไหมทดแทนเพื่อกำรทีกำ่ห้ำงหุ้นส่วน
ได้รับควำมเสียหำยเพรำะเหตุนั้น แต่ท่ำนห้ำมมิให้ฟ้องเรียกเมื่อพ้นเวลำปีหนึ่งนับแต่วันทำกำรฝ่ำฝืน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๓๙ ผู้ เป็ น หุ้ น ส่ ว นจ ำต้ อ งจั ด กำรงำนของห้ ำ งหุ้ น ส่ ว นด้ ว ยควำม
ระมัดระวังให้มำกเสมือนกับจัดกำรงำนของตนเองฉะนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๐๔๐ ห้ำมมิให้ชักนำเอำบุคคลผู้อื่นเข้ำมำเป็นหุ้นส่วนในห้ำงหุ้นส่วนโดย
มิได้รับควำมยินยอมของผู ้เป็นหุ้นส่วนหมดด้วกยกัำ นทุกคน เว้นสแต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่ำกงอื
ำ ่น

มำตรำกำ๑๐๔๑ ถ้ำผูส้เำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ป็นกหุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นส่วนคนใดคนหนึ่งโอนส่
กำ วนกำไรของตนในห้ ำงหุ้นส่วน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทั้งหมดก็ดี หรือ แต่บ ำงส่ วนก็ ดี ให้ แก่ บุ คคลภำยนอกโดยมิได้รับ ควำมยิน ยอมของผู้ เป็ น หุ้ นส่ ว น
ทั้งหลำยอื่นไซร้ ท่สำำนันว่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บุคคลภำยนอกนั้นจะกลำยเป็
กำ นเข้ำหุ้นสำนั
ส่วกนด้ วยก็หำมิได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๑๐๔๒ ควำมเกี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่ยกวพั นระหว่ำงหุ้นส่วนผู้จัดกกำรกั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บผู้เป็นหุ้นสส่ำนัวนทั ้งหลำยอื่นนั้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ท่ำนให้บังคับด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมำยนี้ว่ำด้วยตัวแทน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๐๔๓ ถ้ำผูส้เป็ำนันกหุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นส่วนอันมิได้เป็นผู้จัดกกำรเอื
ำ ้อมเข้ำมำจั
สำนัดกำรงำนของห้ ำง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หุ้นส่วนก็ดี หรือผู้เป็ นหุ้น ส่วนซึ่งเป็นผู้จัดกำรกระทำล่วงขอบอำนำจของตนก็ดี ท่ำนให้ บังคับด้วย
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมำยนี ้ ว่ำด้วยจัดกกำรงำนนอกสั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่งสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๐๔๔ อันสส่ำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วนก ำไรก็ดี ส่ วนขำดทุนก็กดำี ของผู้ เป็นหุ้สนำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ส่วกนทุ ก ๆ คนนั้น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ย่อมเป็นไปตำมส่วนที่ลงหุ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๔๕ ถ้ำหุ้นส่วนของผู้ใดได้กำหนดไว้แต่เพียงข้ำงฝ่ำยกำไรว่ำจะแบ่งเอำ
สำนักเท่ ำไร หรือกำหนดแต่เกพีำ ย งข้ำงขำดทุสนำนัว่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี จะยอมขำดเท่ำไรฉะนีก้ไำซร้ ท่ำนให้ สัสนำนั
นิษกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ฐำนไว้ก่ อนว่ำ กำ
หุ้นส่วนของผู้นั้นมีสสำนั่วกนกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำไรและส่วนขำดทุนเป็กำนอย่ำงเดียวกัสนำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๐๔๖ ผู้เป็สนำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หุ้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ส่วนไม่ว่ำคนหนึ่งคนใดหำมี
กำ สิทธิจะได้สรำนั
ับบกำเหน็ จเพื่อที่ได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๗๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

จัดกำรงำนของห้ำงหุ้นส่วนนั้นไม่ เว้นแต่จะได้มีควำมตกลงกันไว้เป็นอย่ำงอื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๔๗ ถ้ำชื่อของผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งออกจำกหุ้นส่วนไปแล้วยังคงใช้เรียกขำน
ติดเป็นชื่อห้ำงหุ้นสส่ำนั
วนอยู ่ ท่ำนว่ำผู้เป็นหุ้นส่วนนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นชอบที่จะเรีสยำนักให้ งดใช้ชื่อของตนเสียได้กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๐๔๘ ผู้เป็นหุ้นส่ว นคนหนึ่งจะเรียกเอำส่วนของตนจำกหุ้นส่ว นอื่น ๆ
แม้ในกิจกำรค้ำขำยอั
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ใดซึ่งไม่ปรำกฏชื่อของตนก็
กำ ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมเกี่ยวพันระหว่ำงผู้เป็นหุ้นส่วนกับบุคคลภำยนอก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๑๐๔๙ ผู้ เป็สำนั


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี น หุก้ นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ส่ ว นจะถือ เอำสิ ท ธิใกดำ ๆ แก่ บุ ค คลภำยนอกในกิ จ กำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ค้ำขำยซึ่งไม่ปรำกฏชื่อของตนนั้นหำได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๐๕๐ กำรใด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักๆงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อันผู้เป็นหุ้ นส่วนคนใดคนหนึ
กำ ่งได้จัดสทำนัำไปในทำงที ่เป็น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ธรรมดำกำรค้ำขำยของห้ำงหุ้นส่วนนั้น ท่ำนว่ำผู้เป็นหุ้นส่วนหมดทุกคนย่อมมีควำมผูกพันในกำรนั้น ๆ ด้วย
และจะต้องรั บ ผิ ดสำนั
ร่วกมกั น โดยไม่จ ำกัดจำนวนในกำรช
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำระหนี
สำนั้กอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น ได้ก่ อให้ เกิดขึ้น เพรำะจั
กำ ด กำรไป
เช่นนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๕๑ ผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งออกจำกหุ้นส่วนไปแล้วยังคงต้องรับผิดในหนี้ซึ่งห้ำง
หุ้นส่วนได้ก่อให้เกิสดำนัขึก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก่อนที่ตนได้ออกจำกหุก้นำส่วนไป สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๐๕๒ บุคสคลผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัก้เงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ข้ำเป็นหุ้นส่วนในห้ำงหุ
กำ้นส่วนย่อมต้อสงรั
ำนับกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผิดในหนี้ใด ๆ กำ
ซึ่งห้ำงหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่ตนเข้ำมำเป็นหุ้นส่วนด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๐๕๓ ห้ำงหุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้นกส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วนซึ่งมิได้จดทะเบียนนักำ้น ถึงแม้จะมี ขส้อำนัจกำกังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดอำนำจของ กำ
หุ้ น ส่ ว นคนหนึ่ ง ในกำรที่ จ ะผู ก พั น ผู้ เป็ น หุ้ น ส่ ว นคนอื่ น ๆ ท่ ำ นว่ ำ ข้ อ จ ำกั ด เช่ น นั้ น ก็ ห ำมี ผ ลถึ ง
บุคคลภำยนอกไม่สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๐๕๔ บุคคลใดแสดงตนว่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำเป็นหุ้นส่วนด้กำวยวำจำก็ดี ด้สวำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยลำยลั กษณ์อักษร
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ก็ดี ด้วยกิริยำก็ดี ด้วยยินยอมให้เขำใช้ชื่อตนเป็นชื่อห้ำงหุ้นส่ว นก็ดี หรือรู้แล้วไม่คัดค้ำนปล่อยให้เขำ
แสดงว่ำตนเป็นหุส้นำนัส่กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นก็ดี ท่ำนว่ำบุคคลนั้นกย่ำอมต้องรับผิดสต่ำนัอกบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คคลภำยนอกในบรรดำหนี กำ ้ของห้ำง
หุ้นส่วนเสมือนเป็นหุ้นส่วน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถ้ำผู้เป็กนำ หุ้นส่วนคนหนึ
สำนั่งกคนใดตำยไปแล้ ว และห้กำำงหุ้นส่วนนั้นยัสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งคงค้ ำต่อไปในชื่อ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เดิมของห้ำง ท่ำนว่ ำเหตุเพียงที่คงใช้ชื่อเดิมนั้นก็ดี หรือใช้ชื่อสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ของหุ ้นส่วนผู้ตำยควบอยู่ด้วยก็ดี หำทำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้ควำมรับผิดมีแก่กองทรัพย์มรดกของผู้ตำยเพื่อหนี้ใด ๆ อันห้ำงหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นภำยหลัง
สำนักมรณะนั ้นไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๗๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรเลิกและชำระบัญชีห้ำงหุ้นส่วนสำมัญ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๐๕๕ ห้ำงหุ้นส่วนสำมัญย่อมเลิกกันด้วยเหตุดังกล่ำวต่อไปนี้
ส(๑)
ำนักถ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำในสัญญำทำไว้มีกำหนดกรณีกำ อันใดเป็สนำนัเหตุ ที่จะเลิกกัน เมื่อมีกรณีกำนั้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
(๒) ถ้ำสัญญำทำไว้เฉพำะกำหนดกำลใด เมื่อสิ้นกำหนดกำลนั้น
(๓) ถ้กำสัำ ญญำทำไว้เฉพำะเพื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่อทำกิจกำรอย่ำงหนึกำ่งอย่ำงใดแต่อสย่ำนัำงเดี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยว เมื่อเสร็จ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กำรนั้น
ส(๔)
ำนักเมื ่อผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งให้คำบอกกล่ ำวแก่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนอื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่น ๆ ตำม
กำหนดดังบัญญัติไว้ในมำตรำ ๑๐๕๖
(๕) เมืก่อำผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งตำย หรือล้มละลำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ หรือตกเป็นสผูำนั้ไร้กคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วำมสำมำรถ กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๕๖ ถ้ำห้ำงหุ้นส่วนได้ตั้งขึ้นไม่สำนั มีกกำหนดกำลอย่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำงหนึ่งอย่ำงใดเป็ นยุติ
สำนักท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำจะเลิ กได้ต่อเมื่อกผูำ ้ เป็ น หุ้ น ส่ วนคนใดคนหนึ ่งบอกเลิกเมื่อกสิำ้ นรอบปีในทำงบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัญ ชีเงินของห้ ำง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หุ้นส่วนนั้น และผู้เป็นหุ้นส่วนนั้นต้องบอกกล่ำวควำมจำนงจะเลิกล่วงหน้ำไม่น้อยกว่ำหกเดือน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๕๗ ถ้ำผู้ เป็นหุ้ นส่ วนคนใดร้องขอเมื่อมีกรณี อย่ำงใดอย่ำงหนึ่งดั งจะ
สำนักกล่ ำวต่อไปนี้ ศำลอำจสัก่งำให้ห้ำงหุ้นส่วนสำมั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญเลิกกันเสียก็ได้ คือ กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งนอกจำกผู้ร้องฟ้องนั้น ล่วงละเมิดบทบังคับใด ๆ
อันเป็นข้อสำระสสำคัำนัญกซึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่งสัญญำหุ้นส่วนกำหนดไว้
กำ แก่ตน โดยจงใจหรื อเลินเล่ออย่ำงร้ำยแรง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๒) เมื่อกิจกำรของห้ำงหุ้นส่วนนั้นจะทำไปก็มีแต่ขำดทุนอย่ำงเดียว และไม่มีหวังจะ
สำนักกลั บฟื้นตัวได้อีก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) เมื่อมีเหตุอื่นใด ๆ ทำให้ห้ำงหุ้นส่วนนั้นเหลือวิสัยที่จะดำรงคงอยู่ต่อไปได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๐๕๘ เมื่อเหตุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ันใดอันหนึ่งเกิดขึ้นเกี่ยกวด้ำ วยผู้เป็นหุ้นส่สำนั
วนคนหนึ ่ง ซึ่งตำม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ควำมในมำตรำ ๑๐๕๗ หรือมำตรำ ๑๐๖๗ เป็นเหตุให้ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลำยนอกนั้นมีสิทธิจะเรียกให้
เลิกห้ ำงหุ้ นส่วนได้ ไซร้
สำนั ในเมื่อผู้เป็ นหุ้น ส่วนเหล่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำนั้ นยื่นคำร้สำนั
องกท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำศำลจะสั่งให้กำจั กำดหุ้นส่วนผู้
ต้นเหตุคนนั้นออกเสียจำกห้ำงหุ้นส่วนแทนสั่งให้เลิกห้ำงหุ้นส่วนก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีในกำรแบ่กำ งทรัพย์สินสระหว่ ำงห้ำงหุ้นส่วนกับผู้เป็กนำหุ้นส่วนซึ่งถูกสกำนัำจักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นั้น ท่ำนให้ตี กำ
รำคำทรัพย์สินของห้ำงหุ้นส่วนตำมรำคำที่เป็นอยู่ในเวลำแรกยื่นคำร้องขอให้กำจัด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๕๙ ถ้ำเมื่อสิ้นกำหนดกำลซึ่งได้ตกลงกันไว้ และผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลำย
สำนักหรื อผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งเคยได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จัดกำรอยูส่ในระหว่ ำงกำหนดนั้น ยังคงด
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำเนินกำรค้ำสของห้ ำงหุ้นส่วนอยู่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ต่อไปโดยมิได้ชำระบั ญชีหรือชำระเงินกันให้เสร็จไปไซร้ ท่ำนให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถือว่ำผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งปวงได้ตกลงคง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทำกำรเป็นหุ้นส่วนกันสืบไปโดยไม่มีกำหนดกำล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๗๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๐๖๐ ในกรณีอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งซึ่งกล่ำวไว้ในมำตรำ ๑๐๕๕ อนุมำตรำ ๔


สำนักหรื ออนุมำตรำ ๕ นั้น ถ้กำำผู้เป็นหุ้นส่วนที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่ยักงอยู ่รับซื้อหุ้นของผู้ที่ออกจำกหุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นส่วนไปไซร้ ท่ำนว่ำสัญญำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หุ้นส่วนนั้นก็ยังคงใช้ได้ต่อไปในระหว่ำงผู้เป็นหุ้นส่วนที่ยังอยู่ด้วยกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๖๑ เมื่อห้ำงหุ้นส่วนเลิกกันแล้วก็ให้จัดกำรชำระบัญชีเว้นแต่จะได้ตกลง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กั น ให้ จั ด กำรทรั พ ย์ สิ น โดยวิ ธีอื่ น ในระหว่ำงผู้ เป็ น หุ้ น ส่ ว นด้ ว ยกั น หรือ ว่ำห้ ำงหุ้ น ส่ ว นนั้ น ศำลได้
พิพำกษำให้ล้มละลำย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำกำรเลิกห้ำงหุ้นส่วนนั้นได้เป็นไปโดยที่เจ้ำหนี้เฉพำะตัวของผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคน
สำนักหนึ ่งได้ให้คำบอกกล่ำวก็กดำ ี หรือโดยที่ผสู้เำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ป็นกหุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นส่วนคนใดคนหนึ่งล้กมำละลำยก็ดี ท่ำสนว่ ำนัำกจะงดกำรช ำระ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บัญชีเสียได้ต่อเมื่อเจ้ำหนี้คนนั้น หรือเจ้ำพนักงำนรักษำทรัพย์ยินยอมด้วย
สกำรช ำระบัญชีนั้น ให้ผู้เป็นกหุำ้นส่วนทั้งหมดด้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัวกยกั นจัดทำ หรือให้บุคคลอื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่นซึ่งผู้เป็น
หุ้นส่วนได้ตั้งแต่งขึ้นนั้นเป็นผู้จัดทำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรแต่กงำตั้งผู้ชำระบัญสชีำนัให้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วินิจฉัยชี้ขำดโดยคะแนนเสี กำ ยงข้ำงมำกของผู ้เป็นหุ้นส่วน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๖๒ กำรชำระบัญชี ให้ทำโดยลสำดั ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บดังนี้ คือ
(๑) ให้กชำำระหนี้ทั้งหลำยซึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ค้ำงชำระแก่บุคคลภำยนอก กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ให้ชดใช้เงินทดรองและค่ำใช้จ่ำยซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนได้ออกของตนไปเพื่อจัดกำรค้ำ
ของห้ำง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ให้คืนทุนทรัพย์ซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ละคนได้ลงเป็นหุ้น
ถ้ำยังมีกทำ รัพย์เหลืออยูส่อำนัีกเท่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำไร ก็ให้เฉลี่ยแจกเป็นกกำำไรในระหว่ำงผู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้เป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หุ้นส่วน กำ

สมำตรำ ๑๐๖๓ ถ้ำเมื่อได้กชำำระหนี้ซึ่งค้ำสงชำนัำระแก่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บุคคลภำยนอกและชดใช้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เงิน
ทดรองและค่ำใช้จ่ำยแล้ว สินทรัพย์ที่ยังอยู่ไม่พอจะคืนแก่ผู้เป็นหุ้นส่ วนให้ครบจำนวนที่ลงหุ้นไซร้
สำนักส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วนที่ขำดนี้คือขำดทุน กซึำ่งต้องคิดเฉลี่ยสช่ำนั
วยกั นขำด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กำรจดทะเบี ยนห้ำงหุ้นส่วนสำมัญกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๖๔ อันห้ำงหุ้นส่วนสำมัญนั้น จะจดทะเบียนก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรลงทะเบี
กำ ยนนั้น ท่สำำนันบักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คับให้มีรำยกำรดังนี้ คืกอำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ชื่อห้ำงหุ้นส่วน
ส(๒)
ำนักวังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตถุที่ประสงค์ของห้ำงหุก้นำ ส่วน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ที่ตั้งสำนักงำนแห่งใหญ่และสำขำทั้งปวง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๔) ชื่อกำและที่สำนักกัสบำนั
ทั้งกอำชี วะของผู้เป็นหุ้นส่วนทุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ก ๆ คน ถ้ำผูส้เำนั
ป็นกหุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นส่วนคนใดมี กำ
ชื่อยี่ห้อ ก็ให้ลงทะเบี ยนทั้งชื่อและยี่ห้อด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) ชื่อหุ้นส่วนผู้จัดกำร ในเมื่อได้ตั้งแต่งให้เป็นผู้จัดกำรแต่เพียงบำงคน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๖) ถ้ำกมีำ ข้อจำกัดอำนำจของหุ ้นส่วนผู้จัดกำรประกำรใดให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ลงไว้ดส้วำนั
ย กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๗๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๗) ตรำซึ่งใช้เป็นสำคัญของห้ำงหุ้นส่วน
ข้อควำมซึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ ง ลงทะเบีสยำนั
นนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ น จะลงรำยกำรอื่น ๆกำอี กอัน คู่สั ญ ญำเห็
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สมควรจะให้ กำ
ประชำชนทรำบด้วยก็ได้
สกำรลงทะเบี ยนนั้น ต้องลงลำยมื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อชื่อของผูส้เำนั
ป็นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หุ้น ส่วนทุกคน และต้อกงประทั
ำ บตรำ
ของห้ำงหุ้นส่วนนั้นด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้พนักงำนทะเบียนทำใบสำคัญแสดงกำรจดทะเบียนส่งมอบให้แก่ห้ำงหุ้นส่วนนั้น
ฉบับหนึ่ง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๐๖๔/๑๔๐ สหุำนั้นกส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วนผู้จัดกำรคนใดในห้ำกงหุำ ้นส่วนจดทะเบี
สำนัยกนจะลำออกจำก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตำแหน่ง ให้ยื่นใบลำออกต่อหุ้นส่วนผู้จัดกำรอื่นคนหนึ่งคนใด กำรลำออกมีผลนับแต่วันที่ใบลำออกไป
ถึงหุ้นส่วนผู้จัดกำรอื
สำนั่นกนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่ห้ำงหุ้นส่วนจดทะเบียนมีหุ้นส่วนผู้จัดกำรคนเดียว ให้หุ้นส่วนผู้จัดกำรที่จะ
สำนักลำออกจำกต ำแหน่งแจ้กงำเป็นหนังสือให้สผำนัู้เป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดทรำบเพื
กำ ่อนัดประชุ
สำนักมงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
และพิจำรณำ กำ
ตั้งผู้จัดกำรคนใหม่ พร้อมกับแนบใบลำออกไปด้วย กำรลำออกมีผลนับแต่วันที่ใบลำออกไปถึงหุ้นส่วน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้นั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หุ้นส่วกนผู ำ ้จัดกำรซึ่งลำออกตำมวรรคหนึ ่งหรือวรรคสอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จะแจ้งกำรลำออกของตนให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นำยทะเบียนทรำบด้วยก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๖๔/๒ ๔๑ เมื่อมี กำรเปลี่ ยนแปลงหุ้ นส่ วนผู้ จัดกำร ให้ ห้ ำงหุ้ นส่ ว นจด
สำนักทะเบี ยนนำควำมไปจดทะเบี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยนภำยในสิสำนั
บสีก่วงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ันนับแต่วันที่มีกำรเปลีก่ยำนแปลง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๖๕ ผู้เป็นหุ้นส่วกนอำจถื


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อเอำประโยชน์ แก่บุคคลภำยนอกในบรรดำสิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ทธิ
อันห้ำงหุ้นส่วนจดทะเบียนนั้นได้มำ แม้ในกิจกำรซึ่งไม่ปรำกฏชื่อของตน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๖๖ ห้ ำมมิ ให้ ผู้ เป็ น หุ้ น ส่ ว นคนหนึ่ งคนใดในห้ ำงหุ้ น ส่ ว นจดทะเบีย น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ประกอบกิจกำรอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดอันมีสภำพเป็นอย่ำงเดียวกัน และเป็นกำรแข่งขันกับกิจกำรของห้ำง
สำนักหุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นส่วนนั้น ไม่ว่ำทำเพื่อกประโยชน์
ำ ตนหรื
สำนัอเพื ่อประโยชน์ผู้อื่น หรือกไปเข้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำเป็นหุ้นส่สวำนั
นไม่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำกัดควำมรับ กำ
ผิดในห้ำงหุ้นส่วนอื่น ซึ่งประกอบกิจกำรอันมีสภำพเป็นอย่ำงเดียวกั น และแข่งขันกับกิจกำรของห้ำง
หุ้นส่วนจดทะเบียสนนั ำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เว้นไว้แต่จะได้รับคำยิกนำยอมของผู้เป็นสหุำนั้นกส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วนอื่นทั้งหมด กำ
แต่ข้อห้ำมเช่นว่ำมำนี้ ท่ำนว่ำจะไม่พึงใช้ได้ ถ้ำหำกผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลำยได้รู้อยู่แล้ว
สำนักในเวลำเมื ่อลงทะเบียนห้กำำงหุ้นส่วนนั้นว่สำำนัผูก้เงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ป็นหุ้นส่วนคนหนึ่ง ได้ทกำกิ
ำ จกำร หรือเข้สำนั
ำเป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หุ้นส่วนอยู่ใน กำ
ห้ำงหุ้นส่วนอื่นอันมีวัตถุที่ประสงค์อย่ำงเดียวกัน และในสัญญำเข้ำหุ้ นส่วนที่ทำไว้ต่อกันนั้นก็ไม่ได้
บังคับให้ถอนตัวออก สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


๔๐
มำตรำ ๑๐๖๔/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ฉบับที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๔๙
๔๑
มำตรำ ๑๐๖๔/๒ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนัก(ฉบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๔๙ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๗๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๐๖๗ ถ้ำผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดกระทำกำรฝ่ำฝืนต่อบทบัญญัติในมำตรำก่อน


สำนักนีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ไซร้ ท่ำนว่ำห้ำงหุ้นส่วกนซึำ ่ งจดทะเบียสนนั
ำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชอบที่จะเรียกเอำผลกกำไรอัำ นผู้นั้นหำได้
สำนัทกั้งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หมดหรือเรียก กำ
เอำค่ำสินไหมทดแทนเพื่อควำมเสียหำยซึ่งห้ำงหุ้นส่วนได้รับเพรำะเหตุนั้น
สแต่
ำนัทกั้งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นี้ท่ำนห้ำมมิให้ฟ้องเรียกกเมื
ำ ่อพ้นเวลำปีสำนั
หนึก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นับแต่วันทำกำรฝ่ำฝืนกำ
อนึ่ง บทบัญญัติมำตรำนี้ไม่ลบล้ำงสิทธิของผู้เป็น หุ้นส่วนทั้งหลำยนอกนั้น ในอันจะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เรียกให้เลิกห้ำงหุ้นส่วน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๖๘ ควำมรับผิดของผู้เป็นหุ้นส่วนในห้ำงหุ้นส่วนจดทะเบียน อันเกี่ยวแก่
สำนักหนี ้ซึ่งห้ำงหุ้นส่วนได้ก่อกให้ำ เกิดขึ้นก่อนทีส่ำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ตนออกจำกหุ ้นส่วนนั้น ย่อกมมี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ จำกัดเพียงสองปี
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ับแต่เมื่อออก กำ
จำกหุ้นส่วน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๖๙ นอกจำกในกรณีทั้งหลำยที่บัญญัติไว้ในมำตรำ ๑๐๕๕ ท่ำนว่ำห้ำง
สำนักหุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นส่วนจดทะเบียนย่อมเลิ
กำ กกันเมื่อห้ำงหุ ้นส่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั วนนั้นล้มละลำย กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๗๐ เมื่อใดห้ำงหุ้นส่วนซึ่งจดทะเบี ยนผิดนัดชำระหนี้ เมื่อนั้นเจ้ำหนี้ของ
สำนักห้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำงหุ้นส่วนนั้นชอบที่จะเรี
กำ ยกให้ชำระหนี
สำนั้เอำแต่ ผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งก็ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๗๑ ในกรณีที่กล่กำำวไว้ในมำตรำ ส๑๐๗๐


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นั้น ถ้ำผู้เป็นหุ้นส่วนนกำพิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สูจน์ได้ว่ำ
(๑) สินทรัพย์ของห้ำงหุ้นส่วนยังมีพอที่จะชำระหนี้ได้ทั้งหมดหรือบำงส่วน และ
(๒) กำรที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่จะบังคับเอำแก่
สำนักหงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ำงหุ้นส่วนนั้นไม่เป็นกำรยำกฉะนี
กำ ้ไซร้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ศำลจะบั งคับให้ เอำสิ นทรัพย์ของห้ ำงหุ้ นส่วนนั้นชำระหนี้ก่อนก็ได้ สุดแต่ศำลจะ
เห็นสมควร สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๐๗๒ ถ้ำห้สำำนังหุกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นส่วนซึ่งจดทะเบียนยักงำมิได้เลิกกันตรำบใด เจ้ำหนี้ของผู้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เป็ น หุ้ น ส่ วนเฉพำะตัวย่ อมใช้สิ ท ธิได้แต่เพี ยงในผลกำไรหรือเงินซึ่งห้ ำงหุ้ นส่ วนค้ำงช ำระแก่ผู้ เป็ น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หุ้นส่วนคนนั้นเท่ำนั้ น ถ้ำห้ำงหุ้นส่วนนั้นเลิกกันแล้ว เจ้ำหนี้ย่อมใช้สิทธิได้ตลอดจนถึงหุ้นของผู้เป็น
สำนักหุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นส่วนคนนั้นอันมีในสินกทรั
ำ พย์ของห้ำงหุ สำนั้นกส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำส่วนที่ ๖ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรควบห้ำงหุ้นส่วนจดทะเบียนเข้ำกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๗๓ ห้ ำงหุ้ นส่วกนจดทะเบี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ยนห้สำนัำงหนึ ่งจะควบเข้ำเป็นอันกเดีำ ยวกับห้ ำง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หุ้นส่วนจดทะเบียนอีกห้ำงหนึ่งก็ได้ โดยควำมยินยอมของผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมด เว้นแต่จะได้ตกลงกัน
สำนักไว้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นอย่ำงอื่น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๗๔ เมื่อห้ำงหุ้นส่วนจดทะเบียนห้ำงใดปลงใจจะควบเข้ำกันกับห้ำงอื่น
สำนักห้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำงหุ้นส่วนนั้นต้องโฆษณำในหนั
กำ งสือพิสำนั
มพ์กแงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ห่งท้องที่นั้นสองครั้งเป็กำนอย่ำงน้อย และส่ ง คำบอกกล่ำว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๗๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ควำมประสงค์ที่จะควบเข้ำกันนั้นแก่บรรดำผู้ซึ่งห้ำงหุ้นส่วนรู้ว่ำเป็นเจ้ำหนี้ และขอให้เจ้ำหนี้ผู้มีข้อ
สำนักคังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดค้ำนอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดกำ ในกำรที่จะทสำนั ำนั้นกส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งคำคัดค้ำนไปภำยในสำมเดื กำ อนนับแต่สวำนั ันบอกกล่ ำว
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ถ้ำไม่มีใครคัดค้ำนภำยในกำหนดเวลำเช่นว่ำนั้น ก็ให้พึงถือว่ำไม่มีคัดค้ำน
สถ้ำนั
ำ มีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คั ด ค้ ำ นไซร้ ท่ ำ นมิ ให้กหำ้ ำ งหุ้ น ส่ ว นจัสดำนักำรควบเข้ ำ กั น เว้ น แต่ จกะได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ใ ช้ ห นี้ ที่
เรียกร้องหรือให้ประกันเพื่อหนี้นั้นแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๗๕ เมื่อห้ำงได้คกวบเข้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำกันแล้วสำนั
ต่ำกงห้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำงก็ต่ำงมีหน้ำที่จะต้อกงน
ำ ำควำมนั้น
จดลงทะเบียน ว่ำได้ควบเข้ำกันเป็นห้ำงหุ้นส่วนขึ้นใหม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๗๖ ห้ำงหุ้นส่วนใหม่นี้ย่อมได้ไปทั้งสิทธิ ทั้งต้องอยู่ในควำมรับผิดของ
ห้ำงหุ้นส่วนเดิมทีส่ได้ำนัคกวบเข้ ำกันนั้นทั้งสิ้น กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ห้ำงหุ้นส่วนจำกัด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๐๗๗ อัน ห้ำงหุ้นส่วนจำกัดนั้น คือห้ ำงหุ้นส่วนประเภทหนึ่ง ซึ่งมีผู้เป็น
หุ้นส่วนสองจำพวก สำนัดักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จะกล่ำวต่อไปนี้ คือ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ผู้เป็นหุ้นส่วนคนเดียวหรือหลำยคนซึ่งมีจำกัดควำมรับผิดเพียงไม่เกินจำนวนเงิน
สำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ตนรับจะลงหุ้นในห้ำงหุกำ้นส่วนนั้นจำพวกหนึ ่ง และ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ผู้เป็นหุ้นส่วนคนเดียวหรือหลำยคนซึ่งต้องรับผิดร่วมกันในบรรดำหนี้ของห้ำง
หุ้นส่วนไม่มีจำกัดสจำนั
ำนวนอี กจำพวกหนึ่ง กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๐๗๘ อันห้สำำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งหุก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ส่วนจำกัดนั้น ท่ำนบังกคัำบว่ำต้องจดทะเบี
สำนัยกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรลงทะเบียนนั้น ต้องมีรำยกำรดังต่อไปนี้ คือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ชื่อห้ำงหุ้นส่วน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๒) ข้อกแถลงควำมว่
ำ ำสเป็ำนันกห้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำงหุ้นส่วนจำกัด และวักตำถุที่ประสงค์ของห้
สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งหุ้นส่วนนั้น กำ
(๓) ที่ตั้งสำนักงำนแห่งใหญ่และสำนักงำนสำขำทั้งปวง
ส(๔)
ำนักชืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อ ยี่ ห้ อ ส ำนั ก และอำชี กำ วะของผู้เป็ นสำนั
หุ้ นกส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วนจำพวกจำกัดควำมรั กำ บ ผิ ด และ
จำนวนเงินซึ่งเขำเหล่ำนั้นได้ลงหุ้นด้วยในห้ำงหุ้นส่วน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๕) ชื่อกำยี่ห้อ สำนัก และอำชี วะของผู้เป็นหุ้นส่วนจกำำพวกไม่จำกัดสควำมรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บผิด
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๖) ชื่อหุ้นส่วนผู้จัดกำร
ส(๗)
ำนักถ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำมีข้อจำกัดอำนำจหุ้นกส่ำวนผู้จัดกำรอันสจะผู กพันห้ำงหุ้นส่วนนั้นประกำรใดให้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ลง
ไว้ด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ข้อควำมซึ
กำ ่ ง ลงทะเบีสยำนั นนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ น จะลงรำยกำรอื่น ๆกำอี กอัน คู่สั ญ ญำเห็
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สมควรจะให้ กำ
ประชำชนทรำบด้สวำนั ยก็กไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรลงทะเบียนนั้น ต้องลงลำยมือชื่อของผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคน และต้องประทับตรำ
สำนักของห้ ำงหุ้นส่วนนั้นด้วยกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๗๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ให้พนักงำนทะเบียนทำใบสำคัญแสดงกำรจดทะเบียนส่งมอบให้แก่ห้ำงหุ้นส่วนนั้น
สำนักฉบั บหนึ่ง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๗๘/๑๔๒ หุ้นส่วกนผู


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้จัดกำรคนใดจะลำออกจำกต ำแหน่ง ให้กยำื่นใบลำออก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต่อหุ้นส่วนผู้จัดกำรคนหนึ่งคนใด กำรลำออกมีผลนับแต่วันที่ใบลำออกไปถึงหุ้นส่วนผู้จัดกำรอื่นนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณี ที่ ห้ ำงหุ้ น ส่ ว นจ ำกั ด มี หุ้ น ส่ ว นผู้ จั ด กำรคนเดี ย ว ให้ หุ้ น ส่ ว นผู้ จั ด กำรที่ จ ะ
ลำออกจำกตำแหน่ สำนังแจ้ งเป็นหนังสือให้ผู้เป็นกหุำ้นส่วนคนหนึ่งสคนใดทรำบเพื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่อนัดประชุมและพิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จำรณำ
ตั้งหุ้นส่วนผู้จัดกำรคนใหม่ พร้อมกับแนบใบลำออกไปด้วย กำรลำออกมีผลนับแต่วันที่ใบลำออกไปถึง
สำนักหุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นส่วนผู้นั้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หุ้นส่วนผู้จัดกำรซึ่งลำออกตำมวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง จะแจ้งกำรลำออกของตนให้
นำยทะเบียนทรำบด้ สำนัวกยก็ ได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๐๗๘/๒๔๓ สเมืำนั่อกมีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรเปลี่ยนแปลงหุ้นส่วกนผู
ำ ้จัดกำร ให้หสำนั
้ำงหุกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นส่วนจำกัดนำ กำ
ควำมไปจดทะเบียนภำยในสิบสี่วันนับแต่วันที่มีกำรเปลี่ยนแปลง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๐๗๙ อันห้สำำนังหุกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นส่วนจำกัดนั้น ถ้ำยังมิกไำด้จดทะเบียนอยู
สำนั่ตกรำบใด ท่ำนให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ถือว่ำเป็ น ห้ ำงหุ้ น ส่ วนสำมัญ ซึ่งผู้ เป็ น หุ้ นส่ ว นทั้ งหมดย่อมต้องรับผิ ดร่วมกัน ในบรรดำหนี้ ของห้ ำง
หุ้นส่วนโดยไม่มีจสำกัำนัดกจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนวน จนกว่ำจะได้จดทะเบี กำ ยน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๐๘๐ บทบัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญกญังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ติว่ำด้วยห้ำงหุ้นส่วนสำมั
กำ ญ ข้อใด ๆ หำกมิ ได้ยกเว้นหรื อ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แก้ไขเปลี่ยนแปลงไปโดยบทบัญญัติแห่งหมวด ๓ นี้ ท่ำนให้นำมำใช้บังคับแก่ห้ำงหุ้นส่วนจำกัดด้วย
สถ้ำนั
ำผูก้ เงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ป็ น หุ้ น ส่ ว นจำพวกไม่กจำำกั ดควำมรับสผิำนัดกนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ นมี อยู่ห ลำยคนด้วยกักนำ ท่ ำนให้ ใช้
บทบัญญัติสำหรับห้ำงหุ้นส่วนสำมัญเป็นวิธีบังคับในควำมเกี่ยวพันระหว่ำงคนเหล่ำนั้นเอง และควำม
สำนักเกีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ยวพันระหว่ำงผู้เป็นหุก้นำส่วนเหล่ำนั้นสกัำนับห้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งหุ้นส่วน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๘๑ ห้ำมมิให้เอำชื่อของผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดควำมรับผิดมำเรียก
สำนักขำนระคนเป็ นชื่อห้ำง กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๘๒ ถ้ ำ ผู้ เป็ นกหุำ้ น ส่ ว นจ ำพวกจ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักำกั ด ควำมรั บ ผิ ด คนใดยิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำน ยอมโดย
แสดงออกชัดหรือโดยปริยำยให้ใช้ชื่อของตนระคนเป็นชื่อห้ำงไซร้ ท่ำนว่ำผู้เป็นหุ้นส่วนคนนั้นจะต้อง
สำนักรังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บผิดต่อบุคคลภำยนอกเสมืกำ อนดังว่ำเป็สนำนัหุก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ส่วนจำพวกไม่จำกัดควำมรั
กำ บผิดฉะนั้นสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แต่ในระหว่ำงผู้เป็นหุ้นส่วนกันเองนั้น ควำมรับผิดของผู้เป็นหุ้นส่วนเช่นนี้ ท่ำนให้คง
บังคับตำมสัญญำหุสำนั
้นส่กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


๔๒
มำตรำ ๑๐๗๘/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ฉบับที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๔๙
๔๓
มำตรำ ๑๐๗๘/๒ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนัก(ฉบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๔๙ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๗๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๐๘๓ กำรลงหุ้นของผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดควำมรับผิดนั้น ท่ำนว่ำต้อง


สำนักให้ ลงเป็นเงินหรือทรัพย์กสำินอย่ำงอื่น ๆ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๘๔ ห้ ำมมิให้ แกบ่ำ งเงิน ปันผลหรื


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัอกดอกเบี ้ยให้ แก่ผู้ เป็นหุ้ นกส่ำ วนจำพวก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำกัดควำมรับผิด นอกจำกผลกำไรซึ่งห้ำงหุ้นส่วนทำมำค้ำได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำทุนของห้ำงหุ้นส่วนลดน้อยลงไปเพรำะค้ำ ขำยขำดทุน ท่ำนห้ำมมิให้แบ่งเงินปัน
ผลหรือดอกเบี้ยให้สำนั
แก่กผงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกั
กำ ดควำมรับผิดสำนั
จนกว่ ำทุนซึ่งขำดไปนั้นจะได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ คืนมำเต็ม
จำนวนเดิม
แต่ถ้ำกผูำ้เป็นหุ้นส่วนจสำพวกจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำกัดควำมรับผิดคนใดได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ รับเงินปันสผลหรื อดอกเบี้ยไป
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แล้วโดยสุจริต ท่ำนว่ำหำอำจจะบังคับให้เขำคืนเงินนั้นได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๘๕ ถ้ำผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดควำมรับผิดได้แสดงด้วยจดหมำยหรือ
สำนักใบแจ้ งควำมหรือด้วยวิกธำีอย่ำงอื่นให้บสุ คำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี คลภำยนอกทรำบว่ ำตนได้กำลงหุ้ นไว้มำกกว่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำจกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนวนซึ่งได้จด กำ
ทะเบียนเพียงใด ท่ำนว่ำผู้นั้นจะต้องรับผิดเท่ำถึงจำนวนเพียงนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๑๐๘๖ ข้สอำนัซึ่กงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตกลงกั น ในระหว่ ำ งผูกำ้ เ ป็ น หุ้ น ส่ ว นทั
สำนั้ งกหลำย เพื่ อ จะ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เปลี่ยนแปลงประเภททรัพย์สินที่ลงหุ้น หรือเพื่อจะลดจำนวนลงหุ้นแห่งผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัด
ควำมรับผิดคนหนึส่งำนัคนใดนั ้น ท่ำนว่ำยังไม่เป็นกผลแก่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บุคคลภำยนอกจนกว่ ำจะได้จดทะเบียกนำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เมื่อได้จดทะเบียนแล้วไซร้ ข้อตกลงนั้น ๆ ก็ ย่อมมีผลแต่เพียงเฉพำะแก่หนี้อันห้ำง
สำนักหุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นภำยหลั
กำ งเวลำที่ไสด้ำนั
จดทะเบี ยนแล้วเท่ำนั้น กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๘๗ อัน ห้ ำงหุ้ นกำส่ ว นจำกัดนั้นสำนัท่กำนว่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำต้องให้ แต่เฉพำะผูก้ เำป็นหุ้ นส่ ว น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำพวกไม่จำกัดควำมรับผิดเท่ำนั้นเป็นผู้จัดกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๘๘ ถ้ำผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดควำมรับผิดผู้ใดสอดเข้ำไปเกี่ยวข้อง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จัดกำรงำนของห้ำงหุ้นส่วน ท่ำนว่ำผู้นั้นจะต้องรับผิดร่วมกันในบรรดำหนี้ทั้งหลำยของห้ำงหุ้นส่วนนั้น
สำนักโดยไม่ จำกัดจำนวน กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แต่กำรออกควำมเห็นและแนะนำก็ดี ออกเสียงเป็นคะแนนนับในกำรตั้งและถอด
ถอนผู้จัดกำรตำมกรณี ที่มีบังคับไว้ในสัญญำหุก้นำ ส่วนนั้นก็ดี ท่สำำนันหำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บว่ำเป็นกำรสอดเข้กำำไปเกี่ยวข้อง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จัดกำรงำนของห้ำงหุ้นส่วนนั้นไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๘๙ ผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดควำมรับผิดนั้น จะตั้งให้เป็นผู้ชำระบัญชี
ของห้ำงหุ้นส่วนก็สได้ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๐๙๐ ผู้เป็สนำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หุ้นกส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วนจำพวกจำกัดควำมรักำบผิดจะประกอบกำรค้ ำขำยอย่ำง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ใด ๆ เพื่อประโยชน์ ตนหรือเพื่อประโยชน์บุคคลภำยนอกก็สไำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ด้ กแม้ ว่ำกำรงำนเช่นนั้นจะมีสภำพเป็น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อย่ำงเดียวกันกับกำรค้ำขำยของห้ำงหุ้นส่วนก็ไม่ห้ำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๘๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๐๙๑ ผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดควำมรับผิดจะโอนหุ้นของตนปรำศจำก


สำนักควำมยิ นยอมของผู้เป็นหุก้นำ ส่วนอื่น ๆ ก็สโำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อนได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๙๒ กำรที่ผู้เป็นกหุำ้นส่วนจำพวกจ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำกักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดควำมรับผิดตำยก็ดี ล้กมำละลำยหรือ
ตกเป็นคนไร้ควำมสำมำรถก็ดี หำเป็นเหตุให้ห้ำงหุ้นส่วนจำกัดต้องเลิกกันไม่ เว้นแต่จะได้มีข้อสัญญำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กันไว้เป็นอย่ำงอื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๙๓ ถ้ำผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดควำมรับผิดผู้ใดตำย ท่ำนว่ำทำยำท
สำนักของผู ้นั้นย่อมเข้ำเป็นหุ้นกส่ำวนแทนที่ผู้ตสำยำนัเว้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นแต่จะได้มีข้อสัญญำกักนำไว้เป็นอย่ำงอืส่นำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๙๔ ถ้ำผู้เป็นหุ้นกส่ำวนจำพวกจำกั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดควำมรั
สำนั บผิดผู้ใดล้มละลำยกำท่ำนว่ำต้อง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เอำหุ้นของผู้นั้นในห้ำงหุ้นส่วนออกขำยเป็นสินทรัพย์ในกองล้มละลำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๙๕ ตรำบใดห้ำงหุ้นส่วนจำกั ดยังมิได้เลิกกัน ตรำบนั้นเจ้ำหนี้ของห้ำง
ย่อมไม่มีสิทธิจะฟ้องร้องผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดควำมรับผิสดำนัได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แต่เมื่อกำห้ ำงหุ้น ส่วนนัส้ นำนัได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เลิกกันแล้ ว เจ้ำหนี้ของห้ กำ ำงมีสิ ทธิฟ้อสงร้
ำนัอกงผู ้เป็นหุ้ นส่วน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จำพวกจำกัดควำมรับผิดได้เพียงจำนวนดังนี้ คือ
ส(๑)
ำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนวนลงหุ้นของผู้เป็นหุก้นำ ส่วนเท่ำที่ยังสค้ำนัำงส่ งแก่ห้ำงหุ้นส่วน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๒) จำนวนลงหุ้นเท่ำที่ผู้เป็นหุ้นส่วนได้ถอนไปจำกสินทรัพย์ของห้ำงหุ้นส่วน
(๓) จำนวนเงิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นปันผลและดอกเบี ้ยซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วกนได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ รับไปแล้วโดยทุ จริตและฝ่ำฝืน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ต่อบทมำตรำ ๑๐๘๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ บริษัทจำกัด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สภำพและกำรตั้งบริษัทจำกัด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๐๙๖๔๔ อันสว่ำนัำบริ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ษัทจำกัดนั้น คือบริษกัทำประเภทซึ่งตั้งสขึำนั้นด้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วยแบ่งทุนเป็น กำ
หุ้นมีมูลค่ำเท่ำ ๆ กัน โดยผู้ถือหุ้นต่ำงรับผิดจำกัดเพียงไม่เกินจำนวนเงินที่ตนยังส่งใช้ไม่ครบมูลค่ำของ
หุ้นที่ตนถือ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๔๔
มำตรำ ๑๐๙๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ.ก๒๕๓๕
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๘๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๐๙๖ ทวิ๔๕ (ยกเลิก)


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๙๗๔๖ บุคคลใด ๆ ตั้งแต่สำมคนขึ้นไปจะเริ่มก่อกำรและตั้งเป็นบริษัท
จำกัดก็ได้ โดยเข้ำสชืำนั่อกกังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นทำหนังสือบริคณห์สนธิ
กำ และกระทำกำรอย่ ำงอื่นตำมบทบัญญัตกิแำห่งประมวล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กฎหมำยนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๐๙๘ หนังสือบริคกณห์


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สนธินั้น ต้สอำนั
งมีกรงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยกำรดังต่อไปนี้ คือ กำ
(๑) ชื่อบริษัทอันคิดจะตั้งขึ้น ซึ่งต้องมีคำว่ำ “จำกัด” ไว้ปลำยชื่อนั้นด้วยเสมอไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๒) ทีก่สำำนักงำนของบริ ษัทกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ซึ่งบอกทะเบียนนั้นจะตัก้งำอยู่ ณ ที่ใดในพระรำชอำณำเขต
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) วัตถุที่ประสงค์ทั้งหลำยของบริษัท
ส(๔)
ำนักถ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อยคำสำแดงว่ำ ควำมรักบำ ผิดของผู้ถือหุส้นำนัจะมี จำกัด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๕) จำนวนทุนเรือนหุ้นซึ่งบริษัทคิดกำหนดจะจดทะเบียนแบ่ง ออกเป็นหุ้นมีมูลค่ำ
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดหุ้นละเท่ำไร กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๖) ชื่อ สำนัก อำชีวะ และลำยมือชื่อของบรรดำผู้เริ่มก่อกำร ทั้งจำนวนหุ้นซึ่งต่ำง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คนต่ำงเข้ำชื่อซื้อไว้คนละเท่ำใด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐๙๙ หนังสือบริคณห์สนธินั้น ท่ำนให้ทำเป็นต้นฉบับไว้ไม่น้อยกว่ำสอง
ฉบับ และให้ลงลำยมื
สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชื่อของบรรดำผู้เ ริ่มก่กอำกำร และลำยมื สำนัอกชืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อทั้งปวงนั้นให้มีพยำนลงชื
กำ ่อรับรอง
ด้วยสองคน
หนังสืกอำบริคณห์สนธิซสึ่งำนัได้กทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนั้น ท่ำนบังคับให้นำฉบักำ บหนึ่งไปจดทะเบี ยนและมอบไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ณ หอทะเบียนในส่วนพระรำชอำณำเขตซึ่งบ่งไว้ว่ำจะบอกทะเบียนตั้งสำนักงำนของบริษัทนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๐๐ ผู้เริ่มก่อกำรทุกคนต้องลงชื่อซื้อหุ้น ๆ หนึ่งเป็นอย่ำงน้อย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๐๑ บุคคลซึ่งเป็นกรรมกำรของบริษัทจำกัดจะรับผิดโดยไม่จำกัดก็ได้ ถ้ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กรณีเป็นเช่นนั้นไซร้ ท่ำนว่ำต้องจดแถลงควำมรับผิดเช่นนั้นลงไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิด้วย
อันควำมรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บผิดโดยไม่สำนั
จำกักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดของผู้เป็นกรรมกำรนัก้นำ ย่อมถึงที่ สุดสเมื
ำนั่อกล่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วงเวลำสองปี กำ
นับแต่วันที่ตัวเขำออกจำกตำแหน่งกรรมกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๐๒ ห้ำมมิให้ชี้ชวนประชำชนให้ซื้อหุ้น
๔๗

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๑๐๓ (ยกเลิก)
๔๘

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๔๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๐๙๖ ทวิ สยกเลิ กโดยพระรำชบั ญ ญั ติแ ก้กไำขเพิ่ ม เติม ประมวลกฎหมำยแพ่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๓๕
๔๖
มำตรำ ๑๐๙๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๔๗
มำตรำ ๑๑๐๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ชย์ (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๘๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๑๐๔ จำนวนหุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทั้งหมดซึ่งบริษัทคิดจะจดทะเบี
กำ ยนนั้นสำนั
ต้อกงมี ผู้เข้ำชื่อซื้อ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หรือออกให้กันเสร็จก่อนกำรจดทะเบียนของบริษัท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๐๕ อันหุ้นนั้น ท่ำนห้ำมมิให้ออกโดยรำคำต่ำไปกว่ำมูลค่ำของหุ้นที่ตั้งไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรออกหุ้นโดยรำคำสูงกว่ำมูลค่ำของหุ้นที่ตั้งไว้นั้น หำกว่ำหนังสือบริคณห์สนธิให้
อำนำจไว้ ก็ให้ ออกได้ และในกรณีเช่นนั้น ต้กอำงส่งใช้จำนวนที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่ลก้ำมู ลค่ำพร้อมกันไปกับกกำรส่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งใช้เงิน
ครำวแรก
อนึ่ง เงิกำนส่งใช้ค่ำหุ้นครำวแรกนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้น ต้องมิให้น้อยกว่กำำร้อยละยี่สิบห้สำำนัแห่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งมูลค่ำของหุ้น กำ
ที่ตั้งไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๐๖ กำรที่เข้ำชื่อซื้อหุ้นนั้นย่อมผูกพันผู้เข้ำชื่อโดยเงื่อนไขว่ำ ถ้ำบริษัท
สำนักตังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้งขึ้นแล้วจะใช้จำนวนเงิกนำ ค่ำหุ้นนั้น ๆ สให้ำนัแกก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บริษัทตำมหนังสือชี้ชวนและข้
กำ อบังคับสของบริ ษัท
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๐๗ เมื่อหุ้นชนิดซึ่งจะต้องลงเงิ นนั้นได้มีผู้เข้ำชื่อซื้อหมดแล้ว ผู้เริ่มก่อ
สำนักกำรต้ องนัดบรรดำผู้เข้ำกชืำ่อซื้อหุ้นมำประชุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัมกกังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นเป็นกำรประชุมใหญ่กโดยไม่ ำ ชักช้ำ ประชุ สำนัมกอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นนี้ให้เรียกว่ำ กำ
ประชุมตั้งบริษัท
สอนึ
ำนั่กง งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้ ผู้ เริ่มก่อกำรส่ งรำยงำนกำรตั
กำ ้งบริสษำนัั ทกมีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คำรับรองของตนว่ำถูกกำต้อง และมี
ข้อควำมที่เกี่ยวแก่กิจกำรอันจะพึงกระทำในที่ประชุมตั้งบริษัททุก ๆ ข้อตำมควำมในมำตรำต่อไปนี้
สำนักไปยั งผู้เข้ำชื่อซื้อหุ้นทุกคนอย่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำงน้อยเจ็ดสำนั วันกก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อนวันนัดประชุม กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่ อ ได้ ส่ งรำยงำนตั้ งบริษั ท แก่ ผู้ เข้ ำชื่ อ ซื้ อ หุ้ น แล้ ว ผู้ เริ่ม ก่ อ กำรต้ อ งจั ด ส่ งส ำเนำ
รำยงำนอันมีคำรับสรองว่ ำถูกต้องตำมที่บังคับไว้กใำนมำตรำนี้ไปยัสำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งนำยทะเบี ยนบริษัทโดยพลักนำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อนึ่ง ให้ผู้เริ่มก่อกำรจัดให้มีบัญชีแถลงรำยชื่อ ฐำนะ และสำนักของผู้เข้ำชื่อซื้อหุ้น
สำนักกังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บจำนวนหุ้นซึ่งต่ำงคนได้ กำ ลงชื่อซื้อไว้เพืส่อำนัเสนอต่ อที่ประชุมนั้นด้วย กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทบัญญัติทั้งหลำยแห่งมำตรำ ๑๑๗๖, ๑๑๘๗, ๑๑๘๘, ๑๑๘๙, ๑๑๙๑, ๑๑๙๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
และ ๑๑๙๕ นั้น ท่ำนให้นำมำใช้บังคับแก่กำรประชุมตั้งบริษัทด้วยโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๐๘ กิจกำรอันจะพึงทำในที่ประชุมตั้งบริษัทนั้น คือ
ส(๑) ทำควำมตกลงตั้งข้อบักำงคับต่ำง ๆ ของบริ ษัท ทั้งนี้ อำจกำหนดวิกำ ธีกำรแก้ ไข
๔๙
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ปัญหำหรือข้อขัดแย้งที่ไม่สำมำรถหำข้อยุติระหว่ำงกรรมกำรหรือผู้ถือหุ้นไว้ด้วยก็ได้
(๒) ให้กสำ ัตยำบัน แก่บสรรดำสั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญญำซึ่งผู้เริ่มก่อกำรได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ทำไว้ และค่สำนั
ำใช้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จ่ำยอย่ำงหนึ่ง กำ
อย่ำงใดซึ่งเขำต้องออกไปในกำรเริ่มก่อบริษัท
ส(๓)
ำนักวำงก ำหนดจำนวนเงินซึก่งำจะให้แก่ผู้เริ่มสก่ำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อกำร ถ้ำหำกมีเจตนำว่ำจะให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๔) วำงกำหนดจำนวนหุ้นบุริมสิทธิ ทั้งกำหนดสภำพและบุริมสิทธิแห่งหุ้นนั้น ๆ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๔๘
มำตรำ ๑๑๐๓ ยกเลิกโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑
๔๙
มำตรำ ๑๑๐๘ (๑) แก้ไขเพิ่ มเติมโดยคำสั่งหัวหน้ำคณะรักษำควำมสงบแห่งชำติ ที่ ๒๑/
สำนัก๒๕๖๐
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เรื่อง กำรแก้ไขเพิ่มกเติำมกฎหมำยเพื่อสอำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ รกิจ
ำนวยควำมสะดวกในกำรประกอบธุ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๘๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ว่ำเป็นสถำนใดเพียงใด ถ้ำหำกจะมีหุ้นเช่นนั้นในบริษัท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๕) วำงก
กำ ำหนดจำนวนหุ สำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำมัญ หรือหุ้นบุริมสิทกธิำซึ่งออกให้เหมืสอำนันหนึ ่งว่ำได้ใช้เต็ม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ค่ำแล้วหรือได้ใช้แต่บำงส่วนแล้ว เพรำะใช้ให้ด้วยอย่ำงอื่นนอกจำกตัวเงิน และกำหนดว่ำเพียงใดซึ่งจะ
ถือเอำเป็นว่ำได้ใช้สเำนั
งินกแล้ ว ถ้ำหำกจะมีหุ้นเช่นกนัำ้นในบริษัท สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้ แ ถลงในที่ ป ระชุ ม โดยเฉพำะว่ำ ซึ่ งจะออกหุ้ น สำมั ญ หรือ หุ้ น บุ ริม สิ ท ธิให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เหมือนหนึ่งว่ำได้ใช้เงินแล้วเช่นนั้น เพื่อแทนคุณแรงงำนหรือตอบแทนทรั พย์สินอย่ำงใด ให้พรรณนำ
จงชัดเจนทุกประกำรสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๖) เลื อกตั้งกรรมกำรและพนักงำนสอบบัญ ชีอันเป็นชุดแรกของบริษัท และวำง
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดอำนำจของคนเหล่ กำำนี้ด้วย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๑๐๙ ผู้เริ่มก่อกำรหรื


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อผู้เข้ำชื่อซืส้อำนั
หุ้กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จะออกเสียงลงคะแนนไม่
กำ ได้ ถ้ำตนมี
ส่วนได้เสียโดยพิเศษในปัญหำที่ยกขึ้นวินิจฉัยนั้น
อนึ่ง มติ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ของที่ประชุมสตัำนั้งกบริงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ษัทย่อมไม่สมบูรณ์ เว้กนำ แต่ที่ประชุมจะได้
สำนักลงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งมติโดยเสียง กำ
ข้ำงมำก อันมีคะแนนของผู้เข้ำชื่อซื้อหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่ำกึ่งจำนวนผู้เข้ำชื่อซื้อหุ้นทั้งหมดซึ่งมีสิทธิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลงคะแนนได้ และคิ ดตำมจำนวนหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่ำกึ่งจำนวนหุ ้นของผู้ถือหุ้นนั้น ๆ ทั้งหมดด้วยกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๑๐ เมื่อได้ประชุมตั้งบริษัทแล้ว ให้ผู้เริ่มก่อกำรบริษัทมอบกำรทั้งปวง
ให้แก่กรรมกำรของบริ
สำนักษงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัท กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่อกรรมกำรได้รับกำรแล้ว ก็ให้ลงมือจัดกำรเรียกให้ผู้เริ่มก่อกำรและผู้เข้ำชื่อซื้อหุ้น
สำนักทังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้งหลำยใช้เงินในหุ้นซึ่งกจะต้
ำ องใช้เป็นตัสวำนัเงิกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เรียกหุ้นหนึ่งไม่น้อยกว่
กำำร้อยละยี่สิบห้สำนั
ำ ตำมที ่ได้กำหนด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ไว้ในหนังสือชี้ชวนบอกกล่ำวป่ำวร้องหรือหนังสือชวนให้ซื้อหุ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๑๑ เมื่อจำนวนเงินซึ่งว่ำไว้ในมำตรำ ๑๑๑๐ ได้ใช้เสร็จแล้ว กรรมกำร
สำนักต้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องไปขอจดทะเบียนบริกษำ ัทนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คำขอและข้อควำมที่ลงในทะเบียนนั้น ให้ระบุรำยกำรตำมที่ได้ตกลงกันในที่ประชุม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตั้งบริษัท ดังต่อไปนี้ คือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๑) จำนวนหุ
กำ ้นทั้งสิ้นสซึำนั่งได้ มีผู้เข้ำชื่อซื้อ หรือได้จกัดำออกให้แล้วแยกให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ปรำกฏว่ำเป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ชนิดหุ้นสำมัญเท่ำใด หุ้นบุริมสิทธิเท่ำใด
ส(๒)
ำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนวนหุ้นสำมัญหรือหุก้นำบุริมสิทธิ ซึ่งออกให้ เหมือนหนึ่งว่ำได้ ใช้เต็กมำค่ำแล้วหรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้ใช้แต่บ ำงส่ วนแล้ ว นอกจำกที่ใช้เป็ นตัว เงิน และหุ้ นที่ได้ใช้แต่บำงส่ วนนั้น ให้ บอกว่ำได้ใช้แล้ ว
สำนักเพี ยงใด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) จำนวนเงินที่ได้ใช้แล้วหุ้นละเท่ำใด
ส(๔)
ำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนวนเงินที่ได้รับไว้เป็นกค่ำ ำหุ้นรวมทั้งสิส้นำนัเท่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ใด กำ
(๕) ชื่อ อำชีวะ และที่สำนักของกรรมกำรทุกคน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๖) ถ้ำกให้
ำ กรรมกำรต่สำงมี ำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนำจจัดกำรของบริษัทกได้ำ โดยลำพังตัวสให้ำนัแกสดงอ ำนำจของ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กรรมกำรนั้น ๆ สว่ำนัำคนใดมี เพียงใด และบอกจำนวนหรือชืส่อำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กรรมกำรซึ ่งจะลงชื่อเป็นสำคัญ ผูกพัน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บริษัทได้นั้นด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๗) ถ้ำกตัำ ้งบริษัทขึ้นชั่วสกำลก ำหนดอันหนึ่ง ให้บอกกำลก
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำหนดอันสนัำนั ้นด้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วย กำ
- ๑๘๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๘) ที่ตั้งสำนักงำนแห่งใหญ่และสำขำทั้งปวง
กำรลงทะเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ย นจะมีสำนั
ร ำยกำรอย่ ำ งอื่ น ซึ่ ง กรรมกำรเห็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ น สมควรจะให้ ท รำบแก่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประชำชนก็ลงได้
สในกำรขอจดทะเบี ยนนั้น ถ้ำกได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ทำข้อบังคับสของบริ ษัทไว้ประกำรใดบ้ำงต้กำองส่งสำเนำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ข้อบังคับนั้น ๆ ไปด้วย กับทั้งสำเนำรำยงำนกำรประชุมตั้งบริษัทหนังสือทั้งสองนี้ กรรมกำรต้องลง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลำยมือชื่อรับรองคนหนึ่งเป็นอย่ำงน้อย
สวรรคห้ ำ๕๐ (ยกเลิก)
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้พนักงำนทะเบียนทำใบสำคัญแสดงกำรจดทะเบียนส่งมอบให้แก่บริษัทฉบับหนึ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๑๑/๑ ในกำรจัดตั้งบริษัท ถ้ำได้ดำเนินกำรครบทุกขั้นตอนดังต่อไปนี้
๕๑

ภำยในวัน เดียวกัสบำนัวันกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ผู้เริ่มก่อกำรจัดทำหนักำงสือบริคณห์ สสำนั นธิกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กรรมกำรจะขอจดทะเบี กำ ยนหนังสือ
บริคณห์สนธิ และจดทะเบียนบริษัทไปพร้อมกันภำยในวันเดียวกันก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี(๑) จัดกให้ ำ มีผู้เข้ำชื่อซืส้อำนั
หุ้นกครบตำมจ ำนวนหุ้นทั้งหมดที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่บริษัทจะจดทะเบี ยน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๒) ประชุมจัดตั้งบริษัทเพื่อพิจำรณำกิจกำรต่ำง ๆ ตำมมำตรำ ๑๑๐๘ โดยมีผู้เริ่ม
ก่อกำรและผู้เข้ำชื่อซื้อหุ้นทุกคนเข้ำร่วมประชุม และผู้เริ่มก่สอำนักำรและผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
้เข้ำชื่อซื้อหุ้นทุกคนให้ควำม
สำนักเห็ นชอบในกิจกำรที่ได้ปกระชุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ มกันนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ผู้เริ่มก่อกำรได้มอบกิจกำรทั้งปวงให้แก่กรรมกำร
ส(๔)
ำนักกรรมกำรได้ เรียกให้ ผู้เกข้ำำชื่อซื้อหุ้นใช้สเงิำนันกค่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำหุ้ นตำมมำตรำ ๑๑๑๐ กำ วรรคสอง
และเงินค่ำหุ้นดังกล่ำวได้ใช้เสร็จแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๑๒ ถ้ำกำรจดทะเบียนมิได้ทำภำยในสำมเดือนนับแต่ประชุมตั้งบริษัท
ไซร้ ท่ำนว่ำบริษัทสนัำนั้นกเป็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นอันไม่ได้ตั้งขึ้น และบรรดำเงิ
กำ นที่ได้สรำนั
ับไว้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำกผู้เข้ำชื่อซื้อหุ้นนั้นต้กอำ งใช้คืนเต็ม
จำนวนมิให้ลดเลย
ถ้ำมีจกำนวนเงิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นเช่นว่สำำนันั้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ค้ำงอยู่มิได้คืนในสำมเดืกำอนภำยหลังกำรประชุ มตั้งบริษัท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ไซร้ ท่ำนว่ำกรรมกำรของบริษัทต้องรับผิ ดร่วมกันที่จะใช้ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยคิดตั้งแต่เวลำสิ้ น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำหนดสำมเดือนนั้น
แต่ถ้ำกกรรมกำรคนใดพิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สำนัสกูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จน์ได้ว่ำ กำรที่เงินขำดหรื กำ อที่ ใช้ คื น ช้สำำนั
ไปมิ ได้เป็นเพรำะ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ควำมผิดของตนไซร้ กรรมกำรคนนั้นก็ไม่ต้องรับผิดในกำรใช้ต้นเงินหรือดอกเบี้ย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๑๓ ผู้เริ่มก่อกำรบริษัทต้องรับผิดร่วมกันและโดยไม่จำกัด ในบรรดำหนี้
สำนักและกำรจ่ ำยเงินซึ่งที่ประชุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มตั้งบริษัทมิสำนั
ได้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นุมัติ และแม้จะได้มีอนุกมำ ัติก็ยังคงต้องรัสำนั
บผิกดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อยู่เช่นนั้นไป กำ
จนกว่ำจะได้จดทะเบียนบริษัท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๑๔ เมื่อบริษัทได้จดทะเบียนแล้ว ผู้เข้ำชื่อซื้อหุ้นจะร้องฟ้องขอให้ศำล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๕๐
มำตรำ ๑๑๑๑ วรรคห้ำ ยกเลิกโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๕๑
มำตรำ ๑๑๑๑/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนัก(ฉบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๘๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

เพิกถอนกำรที่ตนได้เข้ำชื่อซื้อ โดยยกเหตุว่ำสำคัญผิด หรือต้องข่มขู่ หรือถูกลวงล่อฉ้อฉลนั้นท่ำนว่ำ


สำนักหำอำจท ำได้ไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๑๑๕ ถ้ำหำกว่ำชืก่อำบริษัทซึ่งตั้งไว้สำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในหนั งสือบริค ณห์สนธิพ้อกงกัำ บชื่อบริษัท
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อื่นซึ่งได้จดทะเบียนแล้วก็ดี หรือพ้องกับชื่อซึ่งตั้งไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิฉบับอื่นอันได้จดทะเบียน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แล้วก็ดี หรือคล้ำยคลึงกับชื่อเช่นกล่ำวนั้นจนน่ำจะลวงให้มหำชนหลงไปได้ก็ดี ท่ำนว่ำบุคคลผู้ที่มีส่วน
ได้เสียคนหนึ่งคนใดจะฟ้ องเรียกเอำค่ำสินไหมทดแทนแก่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ผู้เริส่มำนัก่อกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรบริษัทก็ได้ และจะร้กอำ งขอให้ศำล
สั่งบังคับให้เปลี่ยนชื่อนั้นเสียใหม่ก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เมื่อศำลมี
กำ คำสั่งเช่นนัส้นำนั
แล้กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก็ต้องบอกชื่อซึ่งเปลี่ยกนใหม่
ำ นั้นจดลงทะเบี ยนแทนชื่อเก่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
และต้องแก้ใบสำคัญกำรจดทะเบียนด้วยตำมกันไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๑๖ ๕๒ บุคคลผู้มีส่ วนได้เสียคนใดคนหนึ่งประสงค์จะได้สำเนำหนังสื อ
สำนักบริ คณห์สนธิและข้อบังกคัำบบรรดำมีในบริ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัษกัทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หนึ่งบริษัทใด ก็ชอบทีก่จำ ะเรียกได้จำกบริ
สำนัษกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัทนั้น ในกำรนี้ กำ
บริษัทจะเรียกเอำเงินไม่เกินฉบับละสิบบำทก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หุ้นและผู้ถือหุ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๑๑๗๕๓ อันสมูำนัลกค่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำของหุ้น ๆ หนึ่งนั้น มิใกห้ำต่ำกว่ำห้ำบำทสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๑๑๘ อันหุ้นนั้น ท่กำำ นว่ำจะแบ่งแยกหำได้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ถ้ำบุคคลมีจำนวนแต่สองคนขึ้นไปถือหุ้น ๆ เดียวร่วมกัน ท่ำนว่ำต้องตั้งให้คนใดคน
สำนักหนึ ่งในจำนวนนั้นแต่คนเดี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยวเป็นผู้ใช้สสิทำนั
ธิใกนฐำนเป็ นผู้ถือหุ้น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่ง บุคคลทั้งหลำยซึ่งถือหุ้น ๆ เดียวร่วมกัน ต้องร่วมกั นรับผิดต่อบริษัทในกำรส่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ใช้มูลค่ำของหุ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๑๙ หุ้นทุก ๆ หุ้นจำต้องให้ใช้เป็นเงินจนเต็มค่ำ เว้นแต่หุ้นซึ่งออกตำม
บทบัญญัติมำตรำส๑๑๐๘ อนุมำตรำ (๕) หรือกมำตรำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ๑๒๒๑สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกำรใช้เงินเป็นค่ำหุ้นนั้น ผู้ถือหุ้นจะหักหนี้กับบริษัทหำได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๒๐ บรรดำเงินค่ำหุ้นซึ่งยังจะต้องส่งอีกนั้น กรรมกำรจะเรียกให้ผู้ถือหุ้น
ส่งใช้เสียเมื่อใดก็ไสด้ำนัเว้กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แต่ที่ประชุมใหญ่จะได้กวำินิจฉัยเป็นอย่สำำนั
งอืก่นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๕๒
มำตรำ ๑๑๑๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ. ๒๕๔๘
๕๓
มำตรำ ๑๑๑๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ พุทธศักรำช ๒๔๗๗ กำ(ฉบับที่ ๒) สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๘๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๑๒๑ กำรเรียกเงินค่ำหุ้นแต่ละครำวนั้น ท่ำนบังคับว่ำให้ส่งคำบอกกล่ำว


สำนักล่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วงหน้ำไม่ต่ำกว่ำยี่สิบเอ็
กำดวันด้วยจดหมำยส่ งลงทะเบียนไปรษณีกยำ์ และผู้ถือหุ้นสทุำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กคนจะต้ องใช้เงิน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ตำมจำนวนที่เรียกนั้น สุดแต่กรรมกำรจะได้กำหนดไปว่ำให้ส่งไปยังผู้ใด ณ ที่ใดและเวลำใด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๒๒ ถ้ำและเงินอันจะพึงส่งใช้เป็นค่ำหุ้นตำมเรียกนั้นผู้ถือหุ้นคนใดมิได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่งใช้ตำมวันกำหนดไซร้ ผู้นั้นจำต้องเสียดอกเบี้ยนับแต่วันที่กำหนดให้ส่งใช้จนถึงวันที่ได้ส่งเสร็จ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๒๓ ถ้ำผู้ ถือหุ้ นคนใดละเลยไม่ส่ งใช้เงินที่ เรียกค่ำหุ้ น ตำมวันกำหนด
สำนักกรรมกำรจะส่ งคำบอกกล่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำวด้วยจดหมำยส่ งลงทะเบียนไปรษณีย์ไกปยั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งผู้นั้น ให้ส่งสใช้
ำนัเกงิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นที่เรียกกับทั้ง กำ
ดอกเบี้ยด้วยก็ได้
สในค
ำนักำบอกกล่ ำวอันนี้ ให้กำหนดเวลำไปพอสมควรเพื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่อให้ใช้เงินที่เรียกกักบำทั้งดอกเบี้ย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
และต้องบอกไปด้วยว่ำให้ส่งใช้ ณ สถำนที่ใด อนึ่ง ในคำบอกกล่ำวนั้นจะแจ้งไปด้วยก็ได้ว่ำ ถ้ำไม่ใช้
สำนักเงิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นตำมเรียก หุ้นนั้นอำจจะถู
กำ กริบ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๒๔ ถ้ำในคำบอกกล่ำวมีข้อแถลงควำมถึ งกำรริบหุ้นด้วยแล้ว หำกเงินค่ำ
สำนักหุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นที่เรียกกับทั้งดอกเบี้ยกยัำ งคงค้ำงชำระอยู
สำนั่ตกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รำบใด กรรมกำรจะบอกริ
กำ บหุ้นนั้น ๆ เมื
สำนั่อใดก็ ได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สมำตรำ ๑๑๒๕ หุ้นซึ่งริบแล้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำวนั้นให้เอำออกขำยทอดตลำดโดยไม่ ชักช้กำำ ได้จำนวน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เงินเท่ำใดให้เอำหักใช้ค่ำหุ้นที่เรียกกับดอกเบี้ยค้ำงชำระ ถ้ำยังมีเงินเหลือเท่ำใดต้องส่งคืนให้แก่ผู้ถื อ
สำนักหุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นนั้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๑๒๖ แม้ว่ำวิธีกำรริ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บหุ้นขำยหุ้นสำนั
จะไม่ ถูกต้องด้วยระเบียบก็กดำี ท่ำนว่ำหำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นเหตุให้สิทธิของผู้ซื้อหุ้นซึ่งริบนั้นเสื่อมเสียไปอย่ำงไรไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๒๗ ให้บริษัททำใบหุ้น คือใบสำคัญสำหรับหุ้นใบหนึ่งหรือหลำยใบ มอบ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้เป็นคู่มือแก่ผู้ถือหุ้นจงทุก ๆ คน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เมื่อมอบใบหุ
กำ ้นนั้น จะเรี
สำนัยกกค่ ำธรรมเนียมก็ได้ สุดกแต่ำ กรรมกำรจะกสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำหนด แต่มิให้เกิน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สิบบำท ๕๔

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๒๘ ในใบหุ้นทุก ๆ ใบให้กรรมกำรอย่ำงน้อยหนึ่งคนลงลำยมือชื่อเป็น
สำคัญ๕๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในใบหุ้นนั้นต้องมีข้อควำมต่อไปนี้ คือ
ส(๑)
ำนักชืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อบริษัท กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) เลขหมำยหุ้นที่กล่ำวถึงในใบหุ้นนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๕๔
มำตรำ ๑๑๒๗ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติ มประมวลกฎหมำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แพ่งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ. ๒๕๔๘
๕๕
มำตรำ ๑๑๒๘ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งหัวหน้ำคณะรักษำควำมสงบแห่งชำติ ที่
สำนัก๒๑/๒๕๖๐
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่มเติมกฎหมำยเพื
เรื่อง กำรแก้ไขเพิ สำนั่อกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ำนวยควำมสะดวกในกำรประกอบธุ รกิจ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๘๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๓) มูลค่ำหุ้นหนึ่งเป็นเงินเท่ำใด
(๔) ถ้ำกและเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นหุ้นที่ยสังำนัไม่กไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้ใช้เงินเสร็จ ให้จดลงว่กำำได้ใช้เงินค่ำหุ้นสำนั
แล้กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หุ้นละเท่ำใด กำ
(๕) ชื่อผู้ถือหุ้น หรือคำแถลงว่ำได้ออกใบหุ้นนั้นให้แก่ผู้ถือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๒๙ อันว่ำหุ้นนั้นย่อมโอนกันได้โดยมิต้องได้รับควำมยินยอมของบริ ษัท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เว้นแต่เมื่อเป็นหุ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ้น ซึ่งมีข้อบังคับของบริษัทกำหนดไว้เป็นอย่ำงอื่น
สกำรโอนหุ ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นนั้น ถ้ำมิไสด้ำนั
ทำเป็ นหนังสือและลงลำยมืกอำชื่อของผู้โอน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กับผู้รับโอน มีพยำนคนหนึ่งเป็นอย่ำงน้อยลงชื่อรับรองลำยมือนั้น ๆ ด้วยแล้ว ท่ำนว่ำ เป็นโมฆะ อนึ่ง
สำนักตรำสำรอั นนั้นต้องแถลงเลขหมำยของหุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นซึก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั โอนกันนั้นด้วย กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรโอนเช่นนี้จะนำมำใช้แก่บริษัทหรือบุคคลภำยนอกไม่ได้ จนกว่ำจะได้จดแจ้งกำร
โอนทั้งชื่อและสำนัสำนั
กของผู ้รับโอนนั้นลงในทะเบีกำยนผู้ถือหุ้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๑๑๓๐ หุ้นใดเงิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนันกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ที่เรียกค่ำหุ้นยังค้ำงชำระอยู
กำ ่ หุ้ นนั้นบริสษำนััทกจะไม่ ยอมรับจด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทะเบียนให้โอนก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๑๓๑ ในระหว่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำงสิบสี่วันก่อนกำรประชุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มใหญ่ สำมัญสำนับริกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ษัทจะปิดสมุด กำ
ทะเบียนพักกำรโอนหุ้นเสียก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๓๒ ในเหตุบำงอย่ำงเช่นผู้ถือหุ้นตำยก็ดี หรือล้มละลำยก็ดี อันเป็นเหตุ
สำนักให้ บุคคลอื่นเป็นผู้มีสิทกธิำจะได้หุ้นขึ้ นนัส้นำนัหำกว่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำบุคคลนั้นนำใบหุก้นำมำเวนคืน เมืส่อำนัเป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วิสัยจะทำได้ กำ
ทั้งได้นำหลักฐำนอันสมควรมำแสดงด้วยแล้ว ก็ให้บริษัทรับบุคคลนั้นลงทะเบียนเป็นผู้ถือหุ้นสืบไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๓๓ หุ้นซึ่งโอนกันนั้น ถ้ำเป็นหุ้นอันยังมิได้ส่งเงินใช้เต็มจำนวนค่ำหุ้ น
สำนักท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำผู้โอนยังคงต้องรักบำผิดในจำนวนเงิสำนั
นทีก่ยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ังมิได้ส่งใช้ให้ครบถ้วนนั
กำ้น แต่ว่ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ผู้โอนไม่ต้องรับผิดในหนี้อันหนึ่งอันใดของบริษัทซึ่งได้ก่อให้เกิดขึ้นภำยหลังโอน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ผู้โอนไม่ต้องรับผิดออกส่วนใช้หนี้ เว้นแต่ควำมปรำกฏขึ้นแก่ศำลว่ำบรรดำผู้ที่ยัง
สำนักถืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อหุ้นของบริษัทอยู่นั้นไม่
กำสำมำรถออกส่สำนั
วนใช้ หนี้อันเขำจะพึงต้องออกใช้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นั้นได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ข้อควำมรับผิดเช่นว่ำมำนั้น ท่ำนห้ำมมิให้ฟ้องผู้โอนเมื่อพ้นสองปีนับแต่ได้จดแจ้ง
กำรโอนนั้นลงในทะเบี
สำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นผู้ถือหุ้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๑๓๔ ใบหุส้นำนัออกให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี แก่ผู้ถือนั้น จะออกได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ก็แต่เมื่อมีขส้ำนั
อบักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คับของบริษัท กำ
อนุญำตไว้ และจะออกให้ได้แต่เฉพำะเพื่อหุ้นซึ่งได้ใช้เต็มค่ำแล้ว ในกรณีเช่นว่ำนี้ ผู้ทรงใบหุ้นชนิดระบุ
ชื่อย่อมมีสิทธิจะได้สำนั
รับกใบหุ ้นชนิดออกให้แก่ผู้ถกือำ เมื่อเวนคืนใบหุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้นกชนิ ดระบุชื่อนั้นให้ขีดฆ่ำกเสีำ ย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๑๑๓๕ หุ้นชนิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัดกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่มีใบหุ้นออกให้แก่ผู้ถือนักำ้น ย่อมโอนกันสได้ำนัเกพีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยงด้วยส่งมอบ กำ
ใบหุ้นแก่กนั สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๑๓๖ ผู้ทรงใบหุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นชนิดออกให้แก่ผู้ถือย่กอำมมีสิทธิจะมำขอเปลี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ยนเอำใบหุ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๑๘๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ชนิดระบุชื่อได้ เมื่อเวนคืนใบหุ้นฉบับออกให้แก่ผู้ถือนั้นให้ขีดฆ่ำเสีย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๓๗ ถ้ำข้อบังคับของบริษัทมีกำหนดไว้เป็นองค์คุณอันหนึ่งสำหรับผู้จะ
เป็นกรรมกำร ว่ำสจำนั
ำจะต้ องเป็นผู้ถือหุ้นเป็นจำนวนเท่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำหนึ่งเท่สำำนัใดไซร้ หุ้นเช่นนี้ท่ำนว่ำต้อกงเป็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นหุ้นชนิด
ระบุชื่อ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๑๓๘ บริษัทจำกัดกต้ำ องมีสมุดทะเบี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยนผู
สำนั ้ถือหุ้น มีรำยกำรดังต่อกไปนี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้คือ
(๑) ชื่อและสำนัก กับอำชีวะ ถ้ำว่ำมี ของผู้ถือหุ้น ข้อแถลงเรื่องหุ้นของผู้ถือหุ้นคน
สำนักหนึ ่ง ๆ แยกหุ้นออกตำมเลขหมำยและจ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนัำนวนเงิ นที่ได้ใช้แล้ว หรือกทีำ ่ได้ตกลงกันให้สำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถือกว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเป็นอันได้ใช้ กำ
แล้วในหุ้นของผู้ถือหุ้นคนหนึ่ง ๆ
ส(๒)
ำนักวังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นเดือนปีซึ่งได้ลงทะเบีกยำนบุคคลผู้หนึ่งสำนั
ๆ เป็ นผู้ถือหุ้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๓) วันเดือนปีซึ่งบุคคลคนใดคนหนึ่งขำดจำกเป็นผู้ถือหุ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๔) เลขหมำยใบหุ
กำ ้นและวั นที่ลงในใบหุ้น ชนิดออกให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ แก่ผู้ถือ และเลขหมำยของหุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี้น กำ
ซึ่งได้ลงไว้ในใบหุ้นนั้น ๆ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) วันที่ได้ขีดฆ่ำใบหุ้นชนิดระบุชื่อ หรือชนิสดำนัออกให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แก่ผู้ถือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๓๙ สมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเริ่มแต่วันจดทะเบียนบริษัทนั้นให้รักษำไว้ ณ
สำนั กงำนของบริสษำนััทกแห่ งที่ได้บ อกทะเบียนไว้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สมุด ทะเบี ยสนนี
ำนัก้ ให้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เปิดให้ แก่ผู้ถือหุ้ นทั้งกหลำยดู
ำ ได้ใน
ระหว่ำงเวลำทำกำรโดยไม่เรีย กค่ำธรรมเนียมอย่ำงหนึ่งอย่ำงใด แต่ กรรมกำรจะจำกัดเวลำลงไว้
สำนักอย่ ำงไรพอสมควรก็ได้ หำกไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ น้อยกว่ำสวัำนั นละสองชั ่วโมง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้เป็นหน้ำที่ของกรรมกำรที่จะส่งสำเนำบัญชีรำยชื่อผู้ที่ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ทั้ง หมด
ในเวลำที่ประชุม สและรำยชื ่อผู้ที่ขำดจำกเป็นผูก้ถำ ือหุ้นจำเดิมแต่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัวันกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ประชุมสำมัญครั้งที่แล้กวำมำนั้น ไปยัง
นำยทะเบียนอย่ำงน้อยปีละครั้ง และมิให้ช้ำกว่ำวันที่สิบสี่นับแต่กำรประชุมสำมัญ บัญชีรำยชื่อนี้ให้มี
สำนักรำยกำรบรรดำที ่ระบุไว้ใกนมำตรำก่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อนนัส้นำนัทุกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ประกำร กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๔๐ ผู้ถือหุ้นชอบที่จะเรียกให้ส่งมอบสำเนำทะเบียนเช่นว่ำนั้นหรือแต่
๕๖

สำนักตอนหนึ ่งตอนใดแก่ตนได้กำเมื่อเสียค่ำสำเนำแต่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ไม่เกินหน้ำละห้ำบำทกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๑๔๑ สมุ ด ทะเบี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ย นผู้ ถื อ หุ้ นสนัำนั้ นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ท่ ำ นให้ สั น นิ ษ ฐำนไว้กกำ่ อ นว่ ำ เป็ น
พยำนหลั กฐำนอัน ถู กต้ องในข้อ กระทงควำมบรรดำที่ ก ฎหมำยบั งคั บ หรือ ให้ อำนำจให้ เอำลงใน
สำนักทะเบี ยนนั้น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๑๔๒ ถ้ำบริษัทได้กอำอกหุ้นบุริมสิทสธิำนัไปแล้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ว ได้กำหนดไว้ว่ำบุรกิมำสิทธิจะมีแก่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หุ้นนั้น ๆ เป็นอย่ำงไร ท่ำนห้ำมมิให้แก้ไขอีกเลย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๕๖
มำตรำ ๑๑๔๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ.ก๒๕๔๘
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๘๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๑๔๓ ห้ำมมิให้บริษัทจำกัดเป็นเจ้ำของถือหุ้นของตนเอง หรือรับจำนำหุ้น


สำนักของตนเอง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำส่วนที่ ๓ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
วิธีจัดกำรบริษัทจำกัด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑. บทเบ็ดเสร็จทั่วไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๑๔๔ บรรดำบริกษำัทจำกัด ให้ มสีกำนัรรมกำรคนหนึ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งหรือหลำยคนด้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วยกั น
จัดกำรตำมข้อบังคับของบริษัท และอยู่ในควำมครอบงำของที่ประชุมใหญ่แห่งผู้ถือหุ้นทั้งปวง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๔๕ จำเดิมแต่ได้จดทะเบียนบริษัทแล้ว ท่ำนห้ำมมิให้ตั้งข้อบังคับขึ้นใหม่
หรือเพิ่มเติมเปลี่ยนแปลงข้อบังคับหรือข้อควำมในหนังสือบริสคำนัณห์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สนธิแต่อย่ำงหนึ่งอย่ำงใด เว้นแต่จะ
สำนักได้ มีกำรลงมติพิเศษ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๑๔๖ บรรดำข้อกบัำงคับอันได้ตั้งสขึำนั้นใหม่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หรือได้เพิ่มเติมเปลีก่ยำ นแปลงนั้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นหน้ำที่ของบริษัทที่จะจัดให้ไปจดทะเบียนภำยในกำหนดสิบสี่วันนับแต่วันที่ได้มีกำรลงมติพิเศษ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๔๗ (ยกเลิก)
๕๗

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๔๘ บรรดำบริษัทจำกัด ต้องมีส ำนักงำนบอกทะเบียนไว้แห่ งหนึ่งซึ่ง
สำนักธุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รกำรติดต่อและคำบอกกล่กำ ำวทั้งปวงจะส่
สำนังกถึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งบริษัทได้ ณ ที่นั้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ค ำบอกกล่ ำ วสถำนที่ ตั้ งแห่ งส ำนั ก งำนที่ ได้ บ อกทะเบี ย นไว้ ก็ ดี หรื อ เปลี่ ย นย้ ำ ย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สถำนที่ก็ดี ให้ส่งแก่นำยทะเบียนบริษัท และให้นำยทะเบียนจดข้อควำมนั้นลงในทะเบียน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๔๙ ตรำบใดหุ้นทั้งหลำยยังมิได้ชำระเงินเต็มจำนวน ท่ำนว่ำตรำบนั้น
บริษัทจะลงพิมพ์สหำนัรือกแสดงจ ำนวนต้นทุนของบริ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ษัทในหนังสสืำนั
ออย่ ำงหนึ่งอย่ำงใดเช่นในคกำำบอกกล่ำว
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ป่ำวร้องก็ดี ในตั๋วเงินและบัญชีสิ่งของก็ดี ในจดหมำยก็ดี ต้องแสดงไว้ให้ชัดเจนด้วยในที่เดียวกันว่ำ
สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนวนเงินต้นทุนได้ชำระแล้
กำ วเพียงกี่ส่วสนำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี๒.
กำ กรรมกำร สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๑๕๐ ผู้เป็นกรรมกำรจะพึงมีจำนวนมำกน้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อยเท่ำใด และจะพึงได้บำเหน็จ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๕๗
มำตรำ ๑๑๔๗ ยกเลิกโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนัก(ฉบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๙๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

เท่ำใด ให้สุดแล้วแต่ที่ประชุมใหญ่จะกำหนด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๕๑ อันผู้เป็นกรรมกำรนั้น เฉพำะแต่ที่ประชุมใหญ่เท่ำนั้นอำจจะตั้งหรือ
ถอนได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๑๕๒ ในเมื่อมีกำรประชุมสำมัญครั้งแรกภำยหลังแต่จดทะเบียนบริษัทก็ดี
และในเมื่อมีกำรประชุ มสำมัญครั้งแรกในปีทกุกำ ๆ ปีต่อไปก็สดำนัี ผูก้เงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ป็นกรรมกำรต้องออกจำกต
กำ ำแหน่ง
โดยจำนวนหนึ่งในสำมเป็นอัตรำ ถ้ำและจำนวนกรรมกำรจะแบ่งออกให้ตรงเป็นส่วนสำมไม่ได้ ก็ให้
สำนักออกโดยจ ำนวนใกล้ที่สุดกกัำบส่วนหนึ่งในสำม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๑๕๓ ตั ว กรรมกำรที


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ จ ะต้ อ งออกจำกต ำแหน่ ง ในปี แ รกและปี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ที่ ส อง
ภำยหลังจดทะเบียนบริษัทนั้น ถ้ำกรรมกำรมิได้ตกลงกันไว้เองเป็นวิธีอื่นไซร้ ก็ให้ จับสลำกกัน ส่วนปี
สำนักหลั ง ๆ ต่อไปให้กรรมกำรคนที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ได้อยู่ในตสำนั
ำแหน่ งนำนที่สุดนั้นเป็นผู้ตก้อำงออก
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กรรมกำรผู้ออกไปนั้นจะเลือกเข้ำรับตำแหน่งอีกก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๑๕๓/๑ สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กรรมกำรคนใดจะลำออกจำกต
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ำแหน่ ง สให้
๕๘
ำนัยกื่ นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ใบลำออกต่อ กำ
บริษัท กำรลำออกมีผลนับแต่วันที่ใบลำออกไปถึงบริษัท
สกรรมกำรซึ ่งลำออกตำมวรรคหนึ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ง จะแจ้งสกำรลำออกของตนให้ นำยทะเบี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยนทรำบ
ด้วยก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๕๔ ถ้ำกรรมกำรคนใดล้มละลำย หรือตกเป็นผู้ไร้ควำมสำมำรถไซร้ ท่ำน
ว่ำกรรมกำรคนนั้นสำนั
เป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อันขำดจำกตำแหน่ง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๑๕๕ ถ้ำตสำแหน่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งว่ำงลงในสภำกรรมกำรเพรำะเหตุ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อสื่นำนันอกจำกถึ งครำว
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ออกตำมเวรไซร้ ท่ำนว่ำกรรมกำรจะเลือกผู้อื่นตั้งขึ้นใหม่ให้เต็มที่ว่ำงก็ได้ แต่บุคคลที่ได้เป็นกรรมกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ใหม่เช่นนั้น ให้มีเวลำอยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่ำกำหนดเวลำที่กรรมกำรผู้ออกไปนั้นชอบที่จะอยู่ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๕๖ ถ้ำที่ประชุมใหญ่ถอนกรรมกำรผู้หนึ่งออกก่อนครบกำลกำหนดของ
เขำ และตั้งคนอื่นสขึำนั้นกไว้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แทนที่ไซร้ ท่ำนว่ำบุคกคลที
ำ ่เป็นกรรมกำรใหม่ นั้นให้อยู่ในตำแหน่กงำได้เพียงเท่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำหนดเวลำที่กรรมกำรผู้ถูกถอนนั้นชอบที่จะอยู่ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๕๗ เมื่อมีกำรเปลี่ยนแปลงกรรมกำร ให้บริษัทนำควำมไปจดทะเบียน
๕๙

ภำยในสิบสี่วันนับสแต่
ำนัวกันงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ที่มีกำรเปลี่ยนแปลง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


๕๘
มำตรำ ๑๑๕๓/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ฉบับที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๔๙
๕๙
มำตรำ ๑๑๕๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๕) พ.ศ.ก๒๕๔๙
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๙๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๑๕๘ นอกจำกจะมีข้อบังคับของบริษัทไว้เป็นอย่ำงอื่น ท่ำนว่ำกรรมกำรมี


สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนำจดังพรรณนำไว้ในหกมำตรำต่
กำ อไปนี
สำนั้ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๑๕๙ ในจำนวนกรรมกำรนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้น แม้ ตำแหน่
สำนั งจะว่ำงไปบ้ำง กรรมกำรที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่มีตัว
อยู่ก็ย่อมทำกิจกำรได้ แต่ถ้ำในเวลำใดจำนวนกรรมกำรลดน้อยลงกว่ำจำนวนอันจำเป็นที่จะเป็น องค์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ประชุมได้ตลอดเวลำเช่นนั้น กรรมกำรที่มีตัวอยู่ย่อมทำกิจกำรได้เฉพำะแต่ในเรื่องที่จะเพิ่มกรรมกำร
ขึ้นให้ครบจำนวนหรื
สำนัอกนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดเรียกประชุมใหญ่ของบริ
กำ ษัทเท่ำนั้น สจะกระท ำกำรอย่ำงอื่นไม่ได้กำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๑๑๖๐ กรรมกำรจะวำงก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำหนดไว้ก็ได้วก่ำำจำนวนกรรมกำรเข้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำประชุมกี่คน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จึงจะเป็นองค์ประชุมทำกิจกำรได้ ถ้ำและมิได้กำหนดไว้ดังนั้นไซร้ (เมื่อจำนวนกรรมกำรเกินกว่ำสำมคน)
ท่ำนว่ำต้องมีกรรมกำรเข้ ำประชุมสำมคนจึงจะเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นองค์ประชุสมำนั
ได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๑๖๑ ข้อปรึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักกษำซึ ่งเกิดเป็นปัญหำในประชุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มกรรมกำรนั
สำนั้นกให้ ชี้ขำดตัดสิน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เอำเสียงข้ำงมำกเป็นใหญ่ ถ้ำและคะแนนเสียงเท่ำกัน ให้ผู้เป็นประธำนเป็นผู้ออกเสียงชี้ขำด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๑๖๒ กรรมกำรคนหนึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งคนใดจะนัดเรียกกให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ประชุมกรรมกำรเมื ่อใดก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สมำตรำ ๑๑๖๓ กรรมกำรจะเลื


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อกกรรมกำรคนหนึ ่งขึ้นเป็นประธำนทีก่ปำระชุม และ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จะกำหนดเวลำว่ำให้อยู่ในตำแหน่งเพียงใดก็ได้ แต่ถ้ำหำกมิได้เลือกกันไว้เช่นนั้น หรือผู้เป็นประธำนไม่
สำนักมำประชุ มตำมเวลำที่ได้กนำัดหมำยไซร้ กรรมกำรที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่มำประชุมนั้นจะเลื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำอกกันคนหนึส่งขึำนั้นกเป็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นประธำนใน กำ
กำรประชุมเช่นนั้นก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๖๔ กรรมกำรจะมอบอำนำจอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดของตนให้ แก่ผู้จัดกำร
สำนักหรื อให้แก่อนุกรรมกำรซึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่งตั้งขึ้นจำกผูส้ทำนัี่เป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กรรมกำรด้วยกันก็ได้กำในกำรใช้อำนำจซึ
สำนัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้มอบหมำย กำ
เช่นนั้น ผู้จัดกำรทุกคนหรืออนุกรรมกำรทุกคนต้องทำตำมคำสั่งหรือข้อบังคับซึ่งกรรมกำรทั้งหลำยได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำหนดให้ทุกอย่ำงทุกประกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๖๕ ถ้ำกำรมอบอำนำจมิได้กำหนดไว้เป็นอย่ำงอื่นไซร้ ข้อปรึกษำซึ่งเกิด
เป็นปัญหำขึ้นในทีสำนั่ป ระชุ มอนุกรรมกำรทั้งหลำยให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ตัดสินเอำเสี
สำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งข้ำงมำกเป็นใหญ่ ถ้ำกและคะแนน

เสียงเท่ำกัน ให้ผู้เป็นประธำนชี้ขำด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๖๖ บรรดำกำรซึ่งกรรมกำรคนหนึ่งได้ทำไปแม้ในภำยหลังควำมปรำกฏ
ว่ำกำรตั้งแต่งกรรมกำรคนนั ้นมีข้อบกพร่องอยูก่บำ ้ำงก็ดี หรือเป็สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นผูก้บงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กพร่องด้วยองค์คุณควรแก่
กำ ตำแหน่ง
กรรมกำรก็ดี ท่ำนว่ำกำรที่ได้ทำนั้นย่อมสมบูรณ์เสมือนดังว่ำบุคคลผู้นั้นได้รับกำรแต่งตั้งโดยถูกต้อง
สำนักและบริ บูรณ์ด้วยองค์คุณกของกรรมกำร
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๖๗ ควำมเกี่ยวพันกันในระหว่ำงกรรมกำรและบริษัทและบุคคลภำยนอกนั้น
สำนักท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนให้บังคับตำมบทบัญกญัำ ติแห่งประมวลกฎหมำยนี ้ ว่ำด้วยตัวแทนกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๙๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๑๖๘ ในอัสนำนัทีก่จงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ะประกอบกิจกำรของบริ
กำ ษั ท นั้ น กรรมกำรต้ องใช้ควำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เอื้อเฟื้อสอดส่องอย่ำงบุคคลค้ำขำยผู้ประกอบด้วยควำมระมัดระวัง
สว่ำนั
ำโดยเฉพำะ กรรมกำรต้องรั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำบผิดชอบร่วมกัสำนันกในประกำรต่ ำง ๆ ดังจะกล่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำวต่อไปนี้
คือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) กำรใช้เงินค่ำหุ้นนั้น ได้ใช้กันจริง
ส(๒)
ำนักจังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดให้ มีและรักษำไว้ให้กเรีำ ยบร้อย ซึ่งบรรดำสมุ ดบัญ ชีและเอกสำรที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ กฎหมำย
กำหนดไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๓) กำรแจกเงิ
กำ นปันผลหรื
สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดอกเบี้ยให้เป็นไปโดยถูกำกต้องตำมที่กฎหมำยก ำหนดไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๔) บังคับกำรให้เป็นไปโดยถูกต้องตำมมติของที่ประชุมใหญ่
สอนึ
ำนั่ งกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ท่ำนห้ำมมิให้ผู้เป็นกรรมกำรประกอบกำรค้
กำ ำขำยใด ๆ อันมีสภำพเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นอย่ำง
เดียวกัน และเป็นกำรแข่งขันกับกำรค้ำขำยของบริษัทนั้น ไม่ว่ำทำเพื่อประโยชน์ตนหรือเพื่อประโยชน์
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้อื่น หรือไปเข้ำหุ้นส่วกนไม่
ำ จำกัดควำมรัสำนับกผิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดในห้ ำงค้ำขำยอื่นซึ่งกประกอบกิ
ำ จกำรมี
สำนัสกภำพเป็ นอย่ำง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เดียวกันและแข่งขันกับกิจกำรของบริษัท โดยมิได้รับควำมยินยอมของที่ประชุมใหญ่ของผู้ถือหุ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทบัญญัติที่กล่ำวมำข้ำงบนนี้ให้ใช้บังคับตลอดถึ งบุคคลซึ่งเป็นผู้แทนของกรรมกำรด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๖๙ ถ้ำกรรมกำรทำให้ เกิดเสียหำยแก่บ ริษัท ๆ จะฟ้ องร้องเรียกเอำ
สินไหมทดแทนแก่สกำนัรรมกำรก็ ได้ หรือในกรณีทกี่บำริษัทไม่ยอมฟ้สอำนังร้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ง ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งคนใดจะเอำคดี
กำ นั้น
ขึ้นว่ำก็ได้
อนึ่ง กำรเรี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยกร้องเช่นสำนันี้ กเจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนี้ของบริษัทจะเป็นกผูำ้เรียกบังคับก็ไสด้ำนัเท่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ที่เจ้ำหนี้ยังคง กำ
มีสิทธิเรียกร้องแก่บริษัทอยู่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๗๐ เมื่อกำรซึ่งกรรมกำรคนใดได้ทำไปได้รับอนุมัติของที่ประชุมใหญ่
สำนักแล้ ว ท่ำนว่ำกรรมกำรคนนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นไม่ต้องรับผิสดำนัในกำรนั ้นต่อผู้ถือหุ้นซึ่งได้กใำห้อนุมัติหรือต่สอำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บริกษงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัทอีกต่อไป กำ
ท่ำนห้ำมมิให้ผู้ถือหุ้นซึ่งมิได้ให้อนุมัติด้วยนั้นฟ้องคดีเมื่อพ้นเวลำหกเดือนนับแต่วันที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ประชุมใหญ่ให้อนุมัติแก่กำรเช่นว่ำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓. ประชุมใหญ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๑๗๑ ให้มสีกำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำรประชุ มผู้ถือหุ้นทั่วไปเป็นกประชุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ มใหญ่ภำยในหกเดื อนนับแต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
วันที่ได้จดทะเบียนบริษัท และต่อนั้นไปก็ให้มีกำรประชุมเช่นนี้ครั้งหนึ่งเป็นอย่ำงน้อยทุกระยะเวลำสิบ
สองเดือน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรประชุมเช่นนี้ เรียกว่ำประชุมสำมัญ
กำรประชุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มใหญ่ครำวอื สำนั่นบรรดำมี นอกจำกนี้ เรียกว่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำำประชุมวิสำมัสญ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๗๒ กรรมกำรจะเรียกประชุมวิสำมัญเมื่อใดก็ได้สุดแต่จะเห็นสมควร
ถ้ำบริกษำัทขำดทุนลงถึสงำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กึ่งกจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนวนต้นทุน กรรมกำรต้
กำ องเรียกประชุสำนั
มวิกสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำมัญทันทีเพื่อ กำ
- ๑๙๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

แจ้งให้ผู้ถือหุ้นทรำบกำรที่ขำดทุนนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๗๓ กำรประชุมวิสำมัญจะต้องนัดเรียกให้มีขึ้นในเมื่อผู้ถือหุ้นมีจำนวน
หุ้ น รวมกั น ไม่น้ อสยกว่
ำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หนึ่ งในห้ ำแห่ งจ ำนวนหุ
กำ ้ น ของบริษั ทสำนั
ได้กเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ข้ำชื่อกัน ท ำหนังสื อร้อกงขอให้
ำ เรีย ก
ประชุมเช่นนั้น ในหนังสือร้องขอนั้นต้องระบุว่ำประสงค์ให้เรียกประชุมเพื่อกำรใด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๑๗๔ เมื่อผู้ถือหุก้ นำยื่นคำร้องขอให้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัเกรีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยกประชุมวิสำมัญดังได้
กำกล่ำวมำใน
มำตรำก่อนนี้แล้ว ให้กรรมกำรเรียกประชุมโดยพลัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถ้ำและกรรมกำรมิ
กำ ได้สเำนั
รียกกประชุ มภำยในสำมสิบกวัำนนับแต่วันยื่นสคำนัำร้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งไซร้ ผู้ถือหุ้น กำ
ทั้งหลำยซึ่งเป็นผู้ร้อง หรือผู้ถือหุ้นคนอื่น ๆ รวมกันได้จำนวนดังบังคับไว้นั้นจะเรียกประชุมเองก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๗๕๖๐ คำบอกกล่ำวเรียกประชุมใหญ่ให้ลงพิมพ์โฆษณำในหนังสือ พิมพ์
สำนักแห่ งท้องที่อย่ำงน้อยหนึก่งำครำวก่อนวันนัสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดประชุ มไม่น้อยกว่ำเจ็ดวันกำและส่งทำงไปรษณี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ย์ตอบรับไปยัง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้ถือหุ้นทุกคนที่มีชื่อในทะเบียนของบริษัทก่อนวันนัดประชุมไม่น้อยกว่ำเจ็ดวัน เว้นแต่เป็นคำบอก
กล่ำวเรียกประชุมสใหญ่ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เพื่อลงมติพิเศษ ให้กระทำกำรดังว่ำนั้นสำนั
ก่อกนวั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นนัดประชุมไม่น้อยกว่ำสิบสี่วัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี คำบอกกล่
กำ ำวเรียกประชุ
สำนัมกใหญ่ นั้น ให้ระบุสถำนทีก่ ำวัน เวลำ และสภำพแห่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งกิจกำรที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จะได้ป ระชุม ปรึกษำกั น และในกรณี ที่เป็ น คำบอกกล่ ำวเรียกประชุม ใหญ่ เพื่ อลงมติ พิ เศษให้ ระบุ
ข้อควำมที่จะนำเสนอให้ ลงมติด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๑๗๖ ผู้ถือสหุำนั้นทักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่วทุกคนมีสิทธิจะเข้ำประชุ
กำ มในที่ประชุสมำนั
ใหญ่ ได้เสมอ ไม่ว่ำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จะเป็นประชุมชนิดใดครำวใด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๗๗ วิธีดังบัญญัติไว้ในมำตรำต่อ ๆ ไปนี้ ท่ำนให้ใช้บังคับแก่กำรประชุม
สำนักใหญ่ เว้นแต่จะมีข้อบังคักบำของบริษัทกำหนดไว้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เป็นข้อควำมขัดกัน กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๗๘ ในกำรประชุมใหญ่ ถ้ำไม่มีผู้ถือหุ้นมำเข้ำ ประชุมรวมกันแทนหุ้นได้
สำนักถึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งจำนวนหนึ่งในสี่แห่งทุกนำ ของบริษัทเป็สนำนัอย่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำงน้อยแล้ว ท่ำนว่ำที่ปกระชุ
ำ มอันนั้นจะปรึ
สำนักกษำกิ จกำรอันใด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หำได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๗๙ กำรประชุมใหญ่เรียกนัดเวลำใด เมื่อล่วงเวลำนัดนั้นไปแล้วถึงชั่วโมง
สำนักหนึ ่ง จำนวนผู้ถือหุ้นซึ่งกมำเข้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำประชุมยัสงำนั
ไม่กคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รบถ้วนเป็น องค์ประชุมกดัำ งบัญญัติไว้ในมำตรำ ๑๑๗๘ นั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ไซร้ หำกว่ำกำรประชุมใหญ่นั้นได้เรียกนัดเพรำะผู้ถือหุ้นร้องขอ ท่ำนให้เลิกประชุม
สถ้ำนั
ำกำรประชุ มใหญ่นั้นมิใช่ชกนิำดซึ่งเรียกนัดเพรำะผู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ถือหุ้นร้องขอไซร้ ท่ำกนให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ เรียกนัด
ใหม่อีกครำวหนึ่งภำยในสิบสี่วัน และกำรประชุมใหญ่ครั้งหลังนี้ท่ำนไม่บังคับว่ำจำต้องครบองค์ประชุม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๘๐ ในกำรประชุมผู้ถือหุ้ นทั่วสไปเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นประชุมใหญ่ทุก ๆ ครั้ง ให้ผู้เป็น
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๖๐
มำตรำ ๑๑๗๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ.ก๒๕๕๑
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๙๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ประธำนในสภำกรรมกำรนั่งเป็นประธำน
ถ้ำประธำนกรรมกำรเช่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนันกว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนี้ไม่มีตัวก็ดี หรือไม่มกำเข้
ำ ำประชุมจนล่
สำนัวงเวลำนั ดไปแล้ว
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สิบห้ำนำทีก็ดี ให้ผู้ถือหุ้นทั้งหลำยซึ่งอยู่ในที่นั้นเลือกผู้ถือหุ้นคนหนึ่งในจำนวนซึ่งมำประชุมขึ้นนั่งเป็น
ประธำน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๑๘๑ ผู้นั่งเป็นประธำนจะเลื่อนกำรประชุมใหญ่ใด ๆ ไปเวลำอื่นโดยควำม
ยินยอมของที่ประชุ
สำนัมกก็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้ แต่ในที่ประชุมซึ่งได้กเำลื่อนมำนั้น ท่สำำนั
นมิกใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ห้ปรึกษำกิจกำรอันใดนอกไปจำกที
กำ ่
ค้ำงมำแต่วันประชุมก่อน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๘๒ ในกำรลงคะแนนโดยวิธีชูมือนั้น ท่ำนให้นับว่ำผู้ถือหุ้นทุกคนที่มำ
ประชุมเองหรือมอบฉั สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทะให้ผู้อื่นมำประชุมแทนมี
กำ เสียงหนึ่งสเป็ำนันกคะแนน แต่ในกำรลงคะแนนลั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บ ท่ำน
ให้นับว่ำผู้ถือหุ้นทุกคนมีคะแนนเสียงเสียงหนึ่งต่อหุ้นหนึ่งที่ตนถือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๘๓ ถ้ำมีข้อบังคับของบริษัทวำงเป็นกำหนดไว้ว่ำ ต่อเมื่อผู้ถือหุ้นเป็นผู้มี
หุ้น แต่จ ำนวนเท่ำใดขึ้น ไปจึงให้ ออกเสียงเป็นคะแนนได้ไซร้สำนัท่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นว่ำผู้ ถือหุ้ นทั้งหลำยซึกำ่งไม่มีหุ้ นถึง
สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนวนเท่ำนั้นย่อมมีสิทกธิำที่จะเข้ำรวมกัสนำนัให้กไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้จำนวนหุ้นดังกล่ำว แล้
กำวตั้งคนหนึ่งในพวกของตนให้ เป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้รับฉันทะออกเสียงแทนในกำรประชุมใหญ่ใด ๆ ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๘๔ ผู้ถือหุ้นคนใดยังมิได้ชำระเงินค่ำหุ้นซึ่งบริษัทได้เรียกเอำแต่ตนให้
สำนักเสร็ จสิ้น ท่ำนว่ำผู้ถือหุ้นกคนนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้นไม่มีสิทธิสอำนั
อกเสี ยงเป็นคะแนน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๑๘๕ ผู้ถือหุ้นคนใดมี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ส่วนได้เสียสเป็ำนันกพิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เศษในข้ออันใดซึ่งที่ประชุ
กำ มจะลงมติ
ท่ำนห้ำมมิให้ผู้ถือหุ้นคนนั้นออกเสียงลงคะแนนด้วยในข้อนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๘๖ ผู้ทรงใบหุ้นชนิดออกให้แก่ผู้ถือหำอำจออกเสียงเป็นคะแนนได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เว้นแต่จะได้นำใบหุ้นของตนนั้นมำวำงไว้แก่บริษัทแต่ก่อนเวลำประชุม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๘๗ ผู้ถือหุ้นทุกคนจะมอบฉันทะให้ผู้ อื่นออกเสียงแทนตนก็ได้ แต่กำร
มอบฉันทะเช่นนี้ตส้อำนังทกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเป็นหนังสือ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๑๘๘ หนังสสืำนัอตัก้งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ผู้รับฉันทะนั้น ให้ลงวันกำและลงลำยมือสชืำนั่อผูก้ถงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ือหุ้นและให้มี กำ
รำยกำรดังต่อไปนี้ คือ
ส(๑)ำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนวนหุ้นซึ่งผู้มอบฉันทะนั กำ ้นถืออยู่ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ชื่อผู้รับฉันทะ
(๓) ตั้งกผูำ้รับฉันทะนั้นสเพืำนั่อกกำรประชุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มครั้งครำวใด กหรืำ อตั้งไว้ชั่วระยะเวลำเพี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยงใด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๘๙ อันหนังสือตั้งผู้รับฉันทะนั้น ถ้ำผู้มีชื่อรับฉันทะประสงค์จะออกเสียง
สำนักในกำรประชุ มครั้งใด ต้อกงน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำไปวำงต่อผูส้เำนั
ป็นกประธำนแต่ เมื่อเริ่ม หรือกำก่อนเริ่มประชุสมำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ครัก้งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้น กำ
- ๑๙๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๑๙๐ ในกำรประชุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มใหญ่ใด ๆ ข้อมติอกันำ เสนอให้ลงคะแนนท่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนให้ตัดสิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ด้วยวิธีชูมือ เว้นแต่เมื่อก่อนหรือในเวลำที่แสดงผลแห่งกำรชูมือนั้น จะได้มีผู้ถือหุ้นสองคนเป็นอย่ำง
น้อยติดใจร้องขอให้สำนัลกงคะแนนลั บ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๑๙๑ ในกำรประชุมใหญ่ใด ๆ เมื่อผู้เป็นประธำนแสดงว่ำมติอันใดนับ
คะแนนชูมือเป็นอัสนำนัว่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้หรือตกก็ดี และได้จกดลงไว้
ำ ในสมุดรำยงำนประชุ มของบริษัทดังกนัำ้นแล้ว ท่ำน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้ถือเป็นหลักฐำนเพียงพอที่จะฟังได้ตำมนั้น
ถ้ำมีผกู้ตำิดใจร้องขอให้สลำนังคะแนนลั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บไซร้ ท่ำนให้ถกือำ ว่ำผลแห่งคะแนนลั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บนั้นเป็นมติ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ของที่ประชุม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๙๒ ถ้ำมีผู้ติดใจร้องขอโดยชอบให้ลงคะแนนลับ กำรลงคะแนนเช่ นนั้น
สำนักจะทำด้วยวิธีใดสุดแล้วแต่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำผู้เป็นประธำนจะสั ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๙๓ ถ้ำคะแนนเสียงเท่ำกัน จะเป็ นในกำรชูมือก็ดี หรือในกำรลงคะแนน
สำนักลังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บก็ดี ให้ผู้เป็นประธำนในที
กำ ่ประชุมมีคสะแนนอี กเสียงหนึ่งเป็นเสียงชีก้ขำ ำด
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๑๙๔ กำรใดทีก่กำฎหมำยกำหนดให้ ต้องทำโดยมติพิเศษ ทีก่ปำ ระชุมใหญ่


๖๑
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต้องลงมติในเรื่องนั้นโดยคะแนนเสียงข้ำงมำกไม่ต่ำกว่ำสำมในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้น
สำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่มำประชุมและมีสิทธิอกอกเสี
ำ ยงลงคะแนน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๑๙๕ กำรประชุมกใหญ่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นั้นถ้ำได้นสัดำนัเรีกยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กหรือได้ประชุมกัน หรืกอำ ได้ลงมติฝ่ำ
ฝืนบทบัญญัติในลักษณะนี้ก็ดี หรือฝ่ำฝืนข้อบังคับของบริษัทก็ดี เมื่อกรรมกำรหรือผู้ถือหุ้นคนหนึ่งคน
สำนักใดร้ องขึ้น แล้ ว ให้ ศำลเพิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำก ถอนมติ ข องที
สำนั่ ปกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระชุมใหญ่ อันผิ ดระเบีกยำบนั้ นเสี ย แต่สตำนั้อกงร้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องขอภำยใน กำ
กำหนดเดือนหนึ่งนับแต่วันลงมตินั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ๔. บัญชีงบดุล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๙๖ อันบัญชีงบดุลนั้น ท่ำนว่ำต้องทำอย่ำงน้อยครั้งหนึ่งทุกรอบสิบสอง
สำนักเดืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อน คือเมื่อเวลำสุดรอบสิ
กำ บสองเดือนอัสำนั
นจักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ว่ำเป็นขวบปีในทำงบัญกำชีเงินของบริษัทสำนั
นั้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนึ่ง งบดุลต้องมีรำยกำรย่อแสดงจำนวนสินทรัพย์และหนี้สินของบริษัทกับทั้งบัญชี
กำไรและขำดทุน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๑๙๗ งบดุสลำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นั้นกต้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องจัดให้มีผู้สอบบัญชีคกนหนึ
ำ ่งหรือหลำยคนตรวจสอบแล้ ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
นำเสนอเพื่ออนุมัตสำนั
ิในทีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ประชุมใหญ่ภำยในสี่เดืกอำนนับแต่วันที่ลสำนั
งในงบดุ ลนั้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๖๑
มำตรำ ๑๑๙๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญั ติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ.ก๒๕๕๑
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๙๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

อนึ่ง ให้ส่งสำเนำงบดุลไปยังบุคคลทุกคนบรรดำมีชื่อในทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัท
สำนักแต่ ก่อนวันนัดประชุมใหญ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำล่วงหน้ำไม่นส้อำนั
ยกว่ ำสำมวัน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นอกจำกนั้นให้มีสำเนำงบดุลเปิดเผยไว้ในสำนักงำนของบริษัทในระหว่ำงเวลำเช่นว่ำ
นั้น เพื่อให้ผู้ทรงใบหุ
สำนั้นกชนิ ดออกให้แก่ผู้ถือนั้นตรวจดู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ได้ด้วย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๑๙๘ ในเมื่อเสนองบดุล กรรมกำรต้องเสนอรำยงำนต่อที่ประชุมใหญ่
แสดงว่ำภำยในรอบปี
สำนักซงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ึ่งพิจำรณำกันอยู่นั้นกำรงำนของบริ
กำ ษัทสได้
ำนัจกัดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทำไปเป็นประกำรใด กำ

มำตรำกำ๑๑๙๙ บุคคลใดประสงค์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี จะได้สำเนำงบดุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ลฉบับหลังทีส่สำนัุดกจำกบริ ษัทใด ๆ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ก็ชอบที่จะซื้อเอำได้โดยรำคำไม่เกินฉบับละยี่สิบบำท๖๒
สให้
ำนัเกป็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นหน้ำที่ของกรรมกำรทีกำ่จะส่งสำเนำงบดุ
สำนัลกทุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กฉบับไปยังนำยทะเบีกยำนไม่ช้ำกว่ำ
เดือนหนึ่งนับแต่วันซึ่งงบดุลนั้นได้รับอนุมัติในที่ประชุมใหญ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๕. เงินปันผลและเงินสำรอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๒๐๐ กำรแจกเงินปันผลนั้น ต้องคิดตำมส่วนจำนวนซึ่งผู้ถือหุ้นได้ส่งเงิน
แล้วในหุ้นหนึ่ง ๆสเว้ำนันกแต่ จะได้ตกลงกันไว้เป็นกอย่ำ ำงอื่นในเรื่องหุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้นกบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ริมสิทธิ กำ

มำตรำกำ๑๒๐๑ ห้ำมมิสใำนัห้ปกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ระกำศอนุญำตเงินปันผลกำนอกจำกโดยมติ
สำนัของที ่ประชุมใหญ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กรรมกำรอำจจ่ำยเงินปันผลระหว่ำงกำลให้แก่ผู้ ถือหุ้นได้เป็นครั้งเป็นครำว ในเมื่อ
ปรำกฏแก่กรรมกำรว่ สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บริษัทมีกำไรสมควรพอที กำ่จะทำเช่นนั้นสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ห้ำมมิให้จ่ำยเงินปันผลจำกเงินประเภทอื่นนอกจำกเงินกำไร ถ้ำหำกบริษัทขำดทุน
สำนักห้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำมมิให้จ่ำยเงินปันผลจนกว่
กำ ำจะได้แก้ไสขให้ำนักหงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยขำดทุนเช่นนั้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรจ่ ำยเงิน ปั น ผลนั้ น ให้ ก ระท ำภำยในหนึ่ งเดื อ นนั บ แต่ วัน ที่ ที่ ป ระชุม ใหญ่ ห รื อ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กรรมกำรลงมติ แล้วแต่กรณี๖๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๐๒ ทุกครำวที่แจกเงินปันผล บริษัทต้องจัดสรรเงินไว้เป็นทุนสำรอง
อย่ำงน้อยหนึ่งในยี ่สิบกส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั วนของจำนวนผลกำไรซึกำ ่งบริษัททำมำหำได้ จำกกิจกำรของบริษกัทำ จนกว่ำทุน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำรองนั้ น จะมีจำนวนถึงหนึ่ งในสิ บ ของจำนวนทุนของบริษั ทหรือมำกกว่ำนั้น แล้ วแต่จะได้ตกลง
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดไว้ในข้อบังคับของบริ กำ ษัท สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำได้ออกหุ้นโดยคิดเอำรำคำเกินกว่ำที่ปรำกฏในใบหุ้นเท่ำใด จำนวนที่คิดเกินนี้ท่ำน
ให้บวกทบเข้ำในทุสนำนัสกำรองจนกว่ ำทุนสำรองจะมี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จำนวนเท่ำถึสงำนั
ที่กกำหนดไว้ ในวรรคก่อน กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


๖๒
มำตรำ ๑๑๙๙ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แพ่งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ. ๒๕๔๘
๖๓
มำตรำ ๑๒๐๑ วรรคสี่ เพิ่มโดยคำสั่งหัวหน้ำคณะรักษำควำมสงบแห่งชำติ ที่ ๒๑/๒๕๖๐
สำนักเรืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ออำนวยควำมสะดวกในกำรประกอบธุ
่อง กำรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมำยเพื สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รกิกจำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๙๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๒๐๓ ถ้ำจ่ำยเงินปันผลไปโดยฝ่ำฝืนควำมในมำตรำทั้งสองซึ่งกล่ำวมำไซร้


สำนักเจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนี้ทั้งหลำยของบริษกัทำ ชอบที่จะเรียสกเอำเงิ นจำนวนซึ่งได้แจกไปคื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำนมำยังบริษัทสได้
ำนักแต่ ว่ำถ้ำผู้ถือหุ้น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
คนใดได้รับเงินปันผลไปแล้วโดยสุจริต ท่ำนว่ำจะกลับบังคับให้เขำจำคืนนั้นหำได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๐๔ ๖๔ กำรบอกกล่ำวว่ำจะปั นผลอย่ำงใด ๆ อันได้อนุญำตให้จ่ำยนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้บริษัท มีจดหมำยบอกกล่ำวไปยังตัวผู้ถือหุ้นที่ปรำกฏชื่ออยู่ในทะเบียนผู้ถือหุ้นทุกคน แต่ในกรณีที่
บริษัทมีหุ้นชนิดทีส่มำนัีใบหุ ้นออกให้แก่ผู้ถือ ให้โฆษณำในหนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งสือสพิำนัมกพ์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แห่งท้องที่อย่ำงน้อยหนึกำ่งครำวด้วย

มำตรำกำ๑๒๐๕ เงินปัสนำนัผลนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้น แม้จะค้ำงจ่ำยอยู่ กท่ำำนว่ำหำอำจจะคิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัดกเอำดอกเบี ้ยแก่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บริษัทได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๖. สมุดและบัญชี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๐๖ กรรมกำรต้องจัดให้ถือบัญสชีำนั ซึ่งกกล่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำวต่อไปนี้ไว้ให้ถูกถ้วนจริง ๆ คือ
(๑) จำนวนเงิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นที่บริษสัทำนัได้กรงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ับและได้จ่ำย ทั้งรำยกำรอั
กำ นเป็นเหตุใสห้ำนัรับกหรื อจ่ำยเงินทุก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
รำยไป
ส(๒)
ำนักสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นทรัพย์และหนี้สินของบริ กำ ษัท สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๒๐๗ กรรมกำรต้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องจัดให้จดบันทึกรำยงำนกำรประชุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มสำนัและข้ อมติทั้งหมด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ของที่ป ระชุมผู้ถือหุ้ นและของที่ป ระชุมกรรมกำรลงไว้ในสมุดโดยถูกต้อง สมุดนี้ให้ เก็บรักษำไว้ ณ
สำนักงำนที่ได้จดทะเบี ยนของบริษัท บันทึกเช่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำนนั้นอย่ำงหนึสำนั
่งอย่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำงใด เมื่ อได้ลงลำยมือกชืำ่อของผู้เป็น
ประธำนแห่งกำรประชุมซึ่งได้ลงมติ หรือซึ่งได้ดำเนินกำรงำนประชุมก็ดี หรือได้ลงลำยมือชื่อของผู้เป็น
สำนักประธำนแห่ งกำรประชุมกถัำ ดจำกครั้งนั้นสมำก็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้กกำ่อนว่ำเป็นหลักสฐำนอั นถูกต้องแห่ง
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ข้อควำมที่ได้จดบันทึกลงในสมุดนั้น ๆ และให้ สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำกำรลงมติและกำรดำเนินของที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ประชุมอันได้จดบันทึกไว้นั้นได้เป็นไปโดยชอบ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีผู้ถือหุก้นำคนใดจะขอตรวจเอกสำรดั งกล่ำวมำข้ำงต้กนำ ในเวลำใดเวลำหนึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งระหว่ำงเวลำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทำกำรงำนก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กำรสอบบัญชี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๐๘ ผู้สอบบัญชีนั้น จะเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ก็ได้ แต่บุคคลผู้มีส่วนได้
สำนักเสีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยในกำรงำนที่บริษัททกำโดยสถำนอื
ำ ่นสอย่
ำนัำกงหนึ ่งอย่ำงใดนอกจำกเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำนแต่ผู้ถือหุ้นในบริ
สำนักษงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัทเท่ำนั้นแล้ว กำ
ท่ำนว่ำจะเลือกเอำมำเป็ นตำแหน่งผู้สอบบัญชีหำได้ไม่ กรรมกำรก็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ดี หรือผู้อื่นซึ่งเป็นตัวแทนหรือเป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๖๔
มำตรำ ๑๒๐๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ.ก๒๕๕๑
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๙๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ลูกจ้ำงของบริษัทก็ดี เวลำอยู่ในตำแหน่งนั้ น ๆ ก็จะเลือกเอำมำเป็นตำแหน่งผู้สอบบัญชีของบริษัทหำ


สำนักได้ ไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๒๐๙ ผู้สอบบัญชีกนำั้น ให้ที่ประชุมสำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำมักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญเลือกตั้งทุกปี กำ
ผู้สอบบัญชีคนซึ่งออกไปนั้นจะเลือกกลับเข้ำรับตำแหน่งอีกก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๒๑๐ ผู้สอบบัญชีกคำวรจะได้สินจ้ำสงเท่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ใด ให้ที่ประชุมใหญ่กำหนด
กำ

มำตรำกำ๑๒๑๑ ถ้ำมีสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ตำแหน่ งว่ำงลงในจำนวนผูกำ้ ส อบบัญ ชี ให้สกำนัรรมกำรนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดเรียก
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประชุมวิสำมัญ เพื่อให้เลือกตั้งขึ้นใหม่ให้ครบจำนวน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๑๒ ถ้ำมิได้เลือกตั้งผู้สอบบัญชีโดยวิธีดังกล่ำวมำ เมื่อผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่ำ
สำนักห้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำคนร้องขอ ก็ให้ศำลตัก้งำผู้สอบบัญชีประจ
สำนัำปี นั้น และกำหนดสินจ้ำกงให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ด้วย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๑๓ ให้ผู้สอบบัญชีทุกคนเข้ำตรวจสอบสรรพสมุ ดและบัญชีของบริษัทใน
สำนักเวลำอั นสมควรได้ทุกเมืก่อำ และในกำรอัสนำนัเกีก่ยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วด้วยสมุดและบัญชีเช่กนำ นั้นให้ไต่ถำมสอบสวนกรรมกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หรือผู้อื่น ๆ ซึ่งเป็นตัวแทน หรือเป็นลูกจ้ำงของบริษัทได้ไม่ว่ำคนหนึ่งคนใด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๑๔ ผู้สอบบัญชีต้องทำรำยงำนว่ำด้วยงบดุลและบัญชียื่นต่อที่ประชุม
สำนักสำมั ญ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้สอบบัญชีต้องแถลงในรำยงำนเช่นนั้นด้วยว่ำตนเห็นว่ำงบดุลได้ทำโดยถูกถ้วนควร
ฟังว่ำสำแดงให้เห็สนำนั
กำรงำนของบริ ษัทที่เป็นอยูก่ตำ ำมจริงและถูสกำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ต้อกงหรื อไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรตรวจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๒๑๕ เมื่อผู้ ถือหุ้ นในบริษั ทมีจำนวนรวมกัน ไม่น้อยกว่ำหนึ่งในห้ ำของ
จำนวนหุ้นทั้งหมดสำนัทกำเรื ่องรำวร้องขอไซร้ ให้กรำัฐมนตรี*เจ้ำหน้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ตั้งผู้ตรวจอันทรงควำมสำมำรถ กำ จะ
เป็นคนเดียวหรือหลำยคนก็ตำม ไปตรวจกำรงำนของบริษัทจำกัดนั้นและทำรำยงำนยื่นให้ทรำบ
ก่อ นทีก่ จำ ะตั้ งผู้ ต รวจเช่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนันกนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ น รัฐ มนตรี* จะบั งคั บกให้ำ ค นทั้ งหลำยผู
สำนั้ ยกื่ นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เรื่อ งรำววำง กำ
ประกัน เพื่อรับออกเงินค่ำใช้สอยในกำรตรวจนั้นก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๑๖ กรรมกำรก็ดี ลูกจ้ำงและตัวแทนของบริษัทก็ดี จำต้องส่งสรรพสมุด
สำนักและเอกสำรทั ้งปวงซึ่งตนเก็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บรักษำหรือสอยู
ำนั่ใกนอำนำจแห่งตนนั้นให้แกก่ำผู้ตรวจ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้ตรวจคนหนึ่งคนใดจะให้ก รรมกำร ลูกจ้สำำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ง และตั วแทนของบริษัทสำบำนตัวแล้ว
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สอบถำมคำให้กำรในเรื่องอันเนื่องด้วยกำรงำนของบริษัทนั้นก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๙๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๒๑๗ ผู้ตรวจต้องทำรำยงำนยื่น และรำยงำนนั้นจะเขียนหรือตีพิมพ์สุดแต่


สำนักรังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ฐมนตรี*เจ้ำหน้ำที่จะบักญำ ชำ สำเนำรำยงำนนั ้นให้รัฐมนตรี*ส่งไปยักงำสำนักงำนบริษสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ัท ซึก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้จดทะเบียน กำ
ไว้ กับทั้งส่งแก่ผู้ถือหุ้นซึ่งยื่นเรื่องรำวขอให้ตรวจนั้นด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๑๘ ค่ำใช้สอยในกำรตรวจเช่นนี้ ผู้ยื่นเรื่องรำวขอให้ตรวจต้องใช้ทั้งสิ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เว้นแต่ถ้ำบริษัทในครำวประชุมใหญ่ครั้งแรกเมื่อตรวจสำเร็จลงแล้วได้ยินยอมว่ำจะจ่ำยจำกสินทรัพย์
ของบริษทั นั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๑๒๑๙ รัฐ มนตรี


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี *เจ้ำหน้ำที่โดยล ำพังกตนเอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ จะตั้งผูส้ ตำนัรวจคนเดี ยวหรือ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หลำยคนให้ไปตรวจกำรของบริษัทเพื่อทำรำยงำนยื่นต่อรัฐบำลก็ได้ กำรตั้งผู้ตรวจเช่นว่ำมำนี้จะพึงมี
เมื่อใดสุดแล้วแต่รสัฐำนัมนตรี *จะเห็นสมควร กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรเพิ่มทุนและลดทุน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๒๒๐ บริษัทจำกัดอำจเพิ่มทุนของบริษัทขึ้นได้ด้วยออกหุ้นใหม่โดยมติ
พิเศษของประชุมสผูำนั
้ถือกหุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๒๒๑ บริษสัทำนัจำกั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดจะออกหุ้นใหม่ให้เหมืกำอนหนึ่งว่ำได้ใช้สำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เต็มกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ค่ำแล้ว หรือได้ กำ
ใช้แต่บ ำงส่ ว นแล้ วด้ วยอย่ ำงอื่น นอกจำกให้ ใช้เป็ นตัว เงินนั้ นไม่ได้ เว้น แต่จะท ำตำมมติพิ เศษของ
ประชุมผู้ถือหุ้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๒๒๒๖๕ บรรดำหุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นที่ออกใหม่นั้น ต้องเสนอให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ แก่ผู้ถือหุส้นำนัทัก้งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หลำยตำมส่วน กำ
จำนวนหุ้นซึ่งเขำถืออยู่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คำเสนอเช่นนี้ ต้องทำเป็นหนังสือบอกกล่ำวไปยังผู้ถือหุ้นทุก ๆ คน ระบุจำนวนหุ้น
สำนักให้ ทรำบว่ำผู้นั้นชอบที่จกะซืำ ้อได้กี่หุ้น และให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดวันว่ำถ้ำพ้นวันนัก้นำ ไปมิได้มีคำสนองมำแล้ วจะถือว่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เป็นอันไม่รับซื้อ
สเมืำนั่ อกวังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น ที่ ก ำหนดล่ ว งไปแล้กำว ก็ ดี หรื อ ผู้ ถสื ำนั
อ หุก้ นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้ บ อกมำว่ ำ ไม่ รั บ ซืก้ อำ หุ้ น นั้ น ก็ ดี
กรรมกำรจะเอำหุ้นเช่นนั้นขำยให้แก่ผู้ถือหุ้นคนอื่นหรือจะรับซื้อไว้เองก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๒๓ หนังสือบอกกล่ำวที่เสนอให้ผู้ถือหุ้นซื้อหุ้นใหม่นั้น ต้องลงวันเดือน
๖๖

ปีและลำยมือชื่อของกรรมกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


๖๕
มำตรำ ๑๒๒๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑
๖๖
มำตรำ ๑๒๒๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ชย์ (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๐๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๒๒๔ บริษัทจำกัดจะลดทุนของบริษัทลงด้วยลดมูล ค่ำแต่ละหุ้ น ๆ ให้


สำนักต่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำลง หรือลดจำนวนหุ้นกให้
ำ น้อยลงโดยมติ
สำนัพกิเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ศษของประชุมผู้ถือหุ้นกก็ำได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๒๒๕ อันทุนของบริ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ษัทนั้นจะลดลงไปให้ ถึงต่ำกว่ำจำนวนหนึก่งำในสี่ ของทุน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทั้งหมดหำได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๒๒๖ เมื่อบริษกัทำ ประสงค์จะลดทุ


สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต้องโฆษณำควำมประสงค์ นั้นใน
๖๗
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หนังสือพิมพ์แห่งท้องที่อย่ำงน้อยหนึ่งครำว และต้องมีหนังสือบอกกล่ำวไปยังบรรดำผู้ซึ่งบริษัทรู้ว่ำ
สำนักเป็ นเจ้ำหนี้ของบริษัท บอกให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ทรำบรำยกำรซึ ่งประสงค์จะลดทุนกลงและขอให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ เจ้สำำนัหนีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ ผู้มีข้อคัดค้ำน กำ
อย่ำงหนึ่งอย่ำงใดในกำรลดทุนนั้น ส่งคำคัดค้ำนไปภำยในสำมสิบวันนับแต่วันที่บอกกล่ำวนั้น
สถ้ำนั
ำไม่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มีผู้ใดคัดค้ำนภำยในกำหนดเวลำสำมสิ
กำ สบำนัวักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก็ให้พึงถือว่ำไม่มีกำรคักดำค้ำน
ถ้ำหำกมีเจ้ำหนี้คัดค้ำน บริษัทจะจัดกำรลดทุนลงไม่ได้ จนกว่ำจะได้ใช้หนี้หรือให้
สำนักประกั นเพื่อหนี้รำยนั้นแล้กำว
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๒๗ ถ้ำมีเจ้ำหนี้คนหนึ่งคนใดละเลยเสี ยมิได้คัดค้ำนในกำรที่บริษัทจะลด
สำนักทุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นลง เพรำะเหตุว่ำตนไม่ กำทรำบควำม สและเหตุ ที่ไม่ทรำบนั้นมิได้เป็กนำเพรำะควำมผิสดำนัของเจ้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำหนี้คนนั้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แต่อย่ำงใดไซร้ ท่ำนว่ำผู้ถือหุ้นทั้งหลำยบรรดำที่ได้รับเงินคืนไปตำมส่วนที่ลดหุ้นลงนั้น ยังคงจะต้องรับ
ผิดต่อเจ้ำหนี้เช่นนัส้นำนัเพีกยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งจำนวนที่ได้รับทุนคืนกไปชั
ำ ่วเวลำสองปีสำนั
นับกแต่ วันที่ได้จดทะเบียนกำรลดทุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นนั้น

มำตรำกำ๑๒๒๘ มติพสิเำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ศษซึ ่งอนุญำตให้เพิ่มทุนหรืกอำลดทุนนั้น บริสษำนััทกต้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องจดทะเบียน กำ
ภำยในสิบสี่วันนับแต่วันที่ได้ลงมตินั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๗
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หุ้นกู้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๒๒๙
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๖๘
บริสษำนััทกจะออกหุ ้นกู้ไม่ได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๒๓๐ (ยกเลิก) กำ


๖๙
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๒๓๑๗๐ (ยกเลิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
) กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๖๗
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๒๒๖ แก้ไสขเพิ
ำนั่มกเติ มโดยพระรำชบัญญัติแกก้ำไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๖๘
มำตรำ ๑๒๒๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑
๖๙
มำตรำ ๑๒๓๐ ยกเลิกโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนัก(ฉบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๐๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๒๓๒๗๑ (ยกเลิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
) กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๒๓๓๗๒ (ยกเลิก) กำ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๒๓๔๗๓ (ยกเลิก)
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๓๕ (ยกเลิก)
๗๔

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


ส่วนที่ ๘
เลิกกำบริษัทจำกัด สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๒๓๖ อันบริษัทจำกัดย่อมเลิกกันด้วยเหตุดังจะกล่ำวต่อไปนี้ คือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ถ้ำในข้อบังคับของบริษัทมีกำหนดกรณีสอำนัันใดเป็ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นเหตุที่จะเลิกกัน เมื่อมีกรณีนั้น
(๒) ถ้ำกบริ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ษัทได้ตั้งขึ้นสไว้ำนัเฉพำะก ำหนดกำลใด เมื่อกสิำ้นกำหนดกำลนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนั
(๓) ถ้ำบริษัทได้ตั้งขึ้นเฉพำะเพื่อทำกิจกำรอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดแต่อย่ำงเดียว เมื่ อเสร็จ
กำรนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) เมื่อมีมติพิเศษให้เลิก
(๕) เมืก่อำบริษัทล้มละลำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๒๓๗ นอกจำกนี้ศกำลอำจสั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่งให้เลิสกำนับริกษงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัทจำกัดด้วยเหตุต่อไปนีกำ้ คือ
(๑) ถ้ำทำผิดในกำรยื่นรำยงำนประชุมตั้งบริษัท หรือทำผิดในกำรประชุมตั้งบริษัท
(๒) ถ้กำบริ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ษัทไม่เริ่มทสำกำรภำยในปี หนึ่งนับแต่วั นกำจดทะเบียน หรื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัอหยุ ดทำกำรถึงปี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หนึ่งเต็ม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ถ้ำกำรค้ำของบริษัททำไปก็มีแต่ขำดทุนอย่ำงเดียว และไม่มีทำงหวังว่ำจะกลับ
สำนักฟืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นตัวได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔)๗๕ ถ้ำจำนวนผู้ถือหุ้นลดน้อยลงจนเหลือไม่ถึงสำมคน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๗๐
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๒๓๑ ยกเลิสกำนัโดยพระรำชบั ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติำ มประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑
๗๑
สำนัมำตรำ ๑๓๓๒ ยกเลิกโดยพระรำชบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัติแก้สไำนั
ขเพิกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่กำงและพำณิชย์
(ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑
๗๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๒๓๓ ยกเลิสกำนัโดยพระรำชบั ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติำ มประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑
๗๓
มำตรำ ๑๒๓๔ ยกเลิกโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑
๗๔
มำตรำ ๑๒๓๕ ยกเลิกโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนัก(ฉบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๐๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๕)๗๖ เมื่อมีเหตุอื่นใดทำให้บริษัทนั้นเหลือวิสัยที่จะดำรงคงอยู่ต่อไปได้
แต่อย่กำำงไรก็ดี ในกรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัทกำผิ ดในกำรยื่นรำยงำนประชุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มตั้งบริษัทสำนัหรืกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อทำผิดในกำร กำ
ประชุมตั้งบริษัท ศำลจะสั่งให้ยื่นรำยงำนประชุมตั้งบริษัท หรือให้มีกำรประชุมตั้งบริษัทแทนสั่งให้เลิก
บริษัทก็ได้ แล้วแต่สำนั
จะเห็ นควร
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


ส่วนที่ ๙
กำรควบบริ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ษัทจำกัดเข้สำำนั
กันกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๒๓๘ อันบริษัทจำกัดนัน้ จะควบเข้ำกันมิได้ เว้นแต่จะเป็นไปโดยมติพิเศษ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๓๙ มติพิเศษซึ่งวินิจฉัยให้ควบบริษัทจำกัดเข้ำกันนั้น บริษัทต้องนำไป
สำนักจดทะเบี ยนภำยในสิบสี่วกันำ นับตั้งแต่วันลงมติ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๔๐ บริษัทต้องโฆษณำในหนัสงำนั สือกพิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มพ์แห่งท้องที่อย่ำงน้กอำยหนึ่งครำว
สำนักและส่ งคำบอกกล่ำวไปยักงำบรรดำผู้ซึ่งบริสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ษัทกรูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ว่ำเป็นเจ้ำหนี้ของบริษกัทำ บอกให้ทรำบรำยกำรที ่ประสงค์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จะควบบริษัทเข้ำกัน และขอให้เจ้ำหนี้ผู้มีข้อคัดค้ำนอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดในกำรควบบริษัทเข้ำกันนั้นส่ง
คำคัดค้ำนไปภำยในหกสิ บวันนับแต่วันที่บอกกล่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำว
๗๗
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำไม่มีใครคัดค้ำนภำยในกำหนดเวลำเช่นว่ำนั้น ก็ให้พึงถือว่ำไม่มีคัดค้ำน
ถ้ำหำกมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เจ้ำหนี้คัดค้ำสนำนับริ ษัทจะจัดกำรควบเข้ำกักนำ มิได้ จนกว่ำจะได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ช้หนี้หรือได้ให้ กำ
ประกันเพื่อหนี้รำยนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๔๑ บริ ษั ท ได้ ค วบเข้ ำกั น แล้ ว เมื่ อ ใด ต่ ำงบริ ษั ท ต้ อ งน ำควำมไปจด
สำนักทะเบี ยนภำยในสิบสี่วันกนัำบแต่วันที่ควบเข้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำกกังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น และบริษั ทจำกัดอันกได้
ำ ตั้งขึ้นใหม่ดส้วำนั
ยควบเข้ ำกันนั้น ก็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ต้องจดทะเบียนเป็นบริษัทใหม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๒๔๒ จำนวนทุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นเรือนหุ้นของบริษัทใหม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นั้น ต้องเท่ำสกัำนั
บยอดรวมจ ำนวน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทุนเรือนหุ้นของบริษัทเดิมอันมำควบเข้ำกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๔๓ บริษัทใหม่นี้ย่อมได้ไปทั้งสิทธิและควำมรับผิดบรรดำมีอยู่แก่บ ริษัท
สำนักเดิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มอันได้มำควบเข้ำกันกนัำ้นทั้งสิ้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๗๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๒๓๗ (๔) แก้ ไขเพิ
สำนั ่มเติมโดยพระรำชบัญญัตกแิ ำก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๗๖
มำตรำ ๑๒๓๗ (๕) เพิ่มโดยคำสั่งหัวหน้ำคณะรักษำควำมสงบแห่งชำติ ที่ ๒๑/๒๕๖๐ เรื่อง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมำยเพื่ออำนวยควำมสะดวกในกำรประกอบธุรกิจ
๗๗
มำตรำ ๑๒๔๐ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำย
สำนักแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พ.ศ. ๒๕๕๑ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๘) สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๐๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ส่วนที่ ๑๐
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนัหนั งสือบอกกล่ำว
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๔๔ อันหนังสือบอกกล่ำวซึ่งบริษัทจะพึงส่งถึงผู้ถือหุ้ นนั้น ถ้ำว่ำได้ส่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มอบให้แล้วถึงตัวก็ดี หรือส่งไปโดยทำงไปรษณีย์สลักหลังถึงสำนักอำศัยของผู้ถือหุ้นดังที่ปรำกฏใน
ทะเบียนของบริษสทั ำนัแล้กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก็ดี ท่ำนให้ถือว่ำเป็นอักนำได้ส่งชอบแล้สวำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๒๔๕ หนังสสืำนัอบอกกล่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำวใด ๆ เมื่อได้สก่งำโดยทำงไปรษณี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัย์สกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ลักหลังถูกต้อง กำ
แล้ว ท่ำนให้ถือว่ำเป็นอันได้ส่งถึงมือผู้รับในเวลำที่หนังสือเช่นนั้นจะควรไปถึงได้ตำมทำงกำรปกติแห่ง
ไปรษณีย์ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๑๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กำรถอนทะเบียนบริษัทร้ำง๗๘ กำ
ส ำนั
ก งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๒๔๖ (ยกเลิสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ก)กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๑๒
กำรแปรสภำพห้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำสงหุำนั้นกส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วนจดทะเบียนและห้ำงหุ
กำ ้นส่วนจำกัด สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เป็นบริษัทจำกัด ๗๙

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๒๔๖/๑๘๐ สห้ำนัำงหุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นส่วนจดทะเบียนหรือกห้ำ ำงหุ้นส่วนจำกัสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดทีก่มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ีผู้เป็นหุ้นส่วน กำ
ตั้งแต่สำมคนขึ้นไปอำจแปรสภำพเป็นบริษัทจำกัดได้ โดยควำมยินยอมของผู้ เป็นหุ้นส่วนทุกคนและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ดำเนินกำร ดังต่อไปนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๑) แจ้กำงควำมยิน ยอมของผู ้เป็นหุ้ นส่วนที่จะให้กแำปรสภำพห้ ำงหุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้นกส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วนเป็นบริษัท กำ
จำกัดเป็นหนังสือต่อนำยทะเบียนภำยในสิบสี่วันนับแต่วันที่ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนให้ควำมยินยอม
ส(๒)
ำนักประกำศโฆษณำในหนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกงำสือพิ มพ์แห่งท้สอำนังที ่อย่ำงน้อยหนึ่ งครำว และมี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ หนังสือ
บอกกล่ำวไปยังบรรดำผู้ซึ่งรู้ว่ำเป็ น เจ้ำหนี้ของห้ ำงหุ้นส่วนบอกให้ทรำบรำยกำรที่ประสงค์จะแปร
สำนักสภำพห้ ำงหุ้นส่วนเป็นบริ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำษัท และขอให้ เจ้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั หนี้ผู้มีข้อคัดค้ำนอย่ำงหนึ
กำ ่งอย่ำงใดในกำรแปรสภำพเป็ น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บริษัทจำกัดนั้น ส่งคำคัดค้ำนไปภำยในสำมสิบวันนับแต่วันที่บอกกล่ำวนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๗๘
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ส่วนที
กำ ่ ๑๑ กำรถอนทะเบี ยนบริษัทร้ำง มำตรำ ๑๒๔๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยกเลิกโดยพระรำชบั ญ ญั ติแก้ไข
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๗๙
ส่วนที่ ๑๒ กำรแปรสภำพห้ำงหุ้นส่วนจดทะเบียนและห้ำงหุ้นส่วนจำกัดเป็นบริษัทจำกัด เพิ่ม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
โดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๘๐
มำตรำ ๑๒๔๖/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนัก(ฉบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๐๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ถ้ำมี กำรคัด ค้ ำน ห้ ำงหุ้ น ส่ ว นนั้ น จะแปรสภำพมิ ได้ จนกว่ำจะได้ช ำระหนี้ ห รือ ให้
สำนักประกั นเพื่อหนี้นั้นแล้ว กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๒๔๖/๒ ๘๑ ในกรณี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ไม่ มีก ำรคัดสค้ำนั
ำนหรื อมีกำรคัดค้ำนแต่หก้ ำำงหุ้ นส่ว นได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชำระหนี้ห รือให้ ป ระกัน เพื่ อหนี้ นั้ น แล้ ว ผู้ เป็ นหุ้ นส่ ว นทุ กคนต้องประชุมเพื่อให้ ควำมยินยอมและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ดำเนินกำรในเรื่อง ดังต่อไปนี้
ส(๑)
ำนักจังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดทำหนังสือบริคณห์สนธิ กำ และข้อบังคับสของบริ ษัท (ถ้ำมี)
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๒) กำหนดจำนวนทุนเรือนหุ้นของบริษัท ซึ่งต้องเท่ำกับส่วนลงหุ้นของผู้เป็นหุ้นส่วน
สำนักทุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กคนในห้ำงหุ้นส่วน และก กำ ำหนดจำนวนหุ สำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของบริษัทที่จะตกได้แก่กำหุ้นส่วนแต่ละคนสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) กำหนดจำนวนเงินที่ได้ใช้แล้วในแต่ละหุ้น ซึ่งต้องไม่น้อยกว่ำร้อยละยี่สิบห้ำแห่ง
มูลค่ำของหุ้นแต่ลสะหุ
ำนั้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ที่ตั้งไว้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) กำหนดจำนวนหุ้นสำมัญหรือหุ้นบุริมสิทธิ รวมทั้งกำหนดสภำพและบุริมสิทธิ
สำนักของหุ ้นซึ่งจะออกและจัดกสรรหุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้นให้แก่ผสู้เำนัป็นกหุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นส่วน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) แต่งตั้งกรรมกำรและกำหนดอำนำจของกรรมกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๖) แต่งตั้งผู้สอบบัญชี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี(๗) ดำเนิ
กำ นกำรในเรื่อสงอื ำนั่นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ๆ ที่จำเป็นในกำรแปรสภำพ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกำรดำเนินกำรตำมวรรคหนึ่ง ให้นำบทบัญญัติเกี่ยวกับบริษัทจำกัดว่ำด้วยกำรนั้น
ๆ มำใช้บังคับโดยอนุ
สำนัโกลมงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๒๔๖/๓๘๒ สหุำนั้นกส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วนผู้จัดกำรเดิมต้องส่งมอบกิ
กำ จกำร ทรัพสำนั
ย์สกินงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บัญชีเอกสำร กำ
และหลั กฐำนต่ำง ๆ ของห้ ำงหุ้ น ส่ว นให้ แก่คณะกรรมกำรบริษัท ภำยในสิบสี่ วัน นับแต่วัน ที่ผู้เป็ น
หุ้นส่วนได้ให้ควำมยิสำนันกยอมและด ำเนินกำรในเรืก่อำงต่ำง ๆ ตำมมำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๑๒๔๖/๒ เสร็จสิ้นแล้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำว
ในกรณีที่ผู้เป็นหุ้นส่วนยังไม่ได้ชำระเงินค่ำหุ้นหรือชำระเงินค่ำหุ้นไม่ครบร้อยละยี่สิบ
สำนักห้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำของมูลค่ำหุ้น หรือยังกไม่ำ ได้โอนกรรมสิ ทธิก์ทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั รัพย์สิน หรือทำเอกสำรหลั
กำ กฐำนกำรใช้สำนัสกิทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ธิต่ำง ๆ ให้แก่ กำ
คณะกรรมกำร ให้คณะกรรมกำรบริษัทมีหนังสือแจ้งให้ผู้เป็นหุ้นส่วนชำระเงินค่ำหุ้น โอนกรรมสิทธิ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หรือทำเอกสำรหลักฐำนกำรใช้สิทธิต่ำง ๆ แล้วแต่กรณี ให้แก่คณะกรรมกำรภำยในสำมสิบวันนับแต่
สำนักวังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นที่ได้รับหนังสือแจ้ง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๒๔๖/๔ คณะกรรมกำรบริ ษสัทำนัต้อกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี


งขอจดทะเบียนกำรแปรสภำพเป็ น
๘๓
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กำ
บริษัทจำกัดต่อนำยทะเบียน ภำยในสิบสี่วันนับแต่วันที่ได้ดำเนินกำรตำมมำตรำ ๑๒๔๖/๓ ครบถ้วนแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกำรขอจดทะเบี
กำ ยนแปรสภำพเป็ นบริษัทจำกัดกคณะกรรมกำรต้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ องยื
สำนั ่นรำยงำนกำร
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประชุมที่ผู้เป็นหุ้นส่วนได้ร่วมกันพิจำรณำให้ควำมยินยอมและดำเนินกำรแปรสภำพห้ำงหุ้นส่วนเป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๘๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๒๔๖/๒ เพิส่มำนัโดยพระรำชบั ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติำ มประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๘๒
มำตรำ ๑๒๔๖/๓ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๘๓
มำตรำ ๑๒๔๖/๔ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนัก(ฉบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๐๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

บริษัทจำกัดตำมมำตรำ ๑๒๔๖/๒ หนังสือบริคณห์สนธิ ข้อบังคับ และบัญชีรำยชื่อผู้ถือหุ้น พร้อมกับ


สำนักกำรขอจดทะเบี ยนด้วย กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๒๔๖/๕๘๔ เมื่อนำยทะเบี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยนได้รสับำนัจดทะเบี ยนกำรแปรสภำพห้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำงหุ้นส่วน
จดทะเบียนหรือห้ำงหุ้นส่วนจำกัดเป็นบริษัทจำกัดแล้ว ให้ห้ำงหุ้นส่วนจดทะเบียน หรือห้ำงหุ้นส่วน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จำกัดเดิมหมดสภำพกำรเป็นห้ำงหุ้นส่วนจดทะเบียนหรือห้ำงหุ้นส่วนจำกัดตำมประมวลกฎหมำยแพ่ง
และพำณิชย์และให้
สำนันกำยทะเบี ยนหมำยเหตุไว้ใกนทะเบี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ยน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๑๒๔๖/๖ ๘๕สำนัเมืก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อ ห้ ำ งหุ้ น ส่ ว นจดทะเบีกำย นหรื อ ห้ ำ งหุส้ นำนัส่กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นจ ำกั ด ได้ จ ด กำ
ทะเบียนแปรสภำพเป็นบริษัทจำกัดแล้ว บริษัทย่อมได้ไปทั้งทรัพย์สิน หนี้ สิทธิ และควำมรับผิดของ
ห้ำงหุ้นส่วนจดทะเบี
สำนัยกนหรื อห้ำงหุ้นส่วนจำกัดกเดิำ มทั้งหมด สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๑๒๔๖/๗๘๖ สเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนั่อกจดทะเบี ยนแปรสภำพเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำนบริษัทจำกัดสแล้
ำนักวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หำกบริษัทไม่ กำ
สำมำรถชำระหนี้ที่รับมำจำกห้ำงหุ้นส่วนที่แปรสภำพได้ ให้เจ้ำหนี้บังคับชำระหนี้เอำจำกผู้เป็นหุ้นส่วน
ในห้ำงหุ้นส่วนที่แสปรสภำพได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตำมที่ผู้เป็นหุ้นส่วนจะต้องรับผิสดำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในหนี ้ของห้ำงหุ้นส่วน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๕
กำรชำระบัญชีกำห้ำงหุ้นส่วนจดทะเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ห้ำงหุ้นส่วนจำกัด และบริษัทจำกัด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๒๔๗๘๗ กำรชกำระบั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ญชีห้ำงหุส้นำนั
ส่วกนจดทะเบี ยน หรือห้ำงหุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ้นส่วนจำกัด
หรือบริษัทจำกัดซึ่งล้มละลำยนั้น ให้จัดทำไปตำมบทกฎหมำยลักษณะล้มละลำยที่คงใช้อยู่ตำมแต่จะ
สำนักทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รัฐมนตรีเจ้ำหน้ำที่จะออกกฎกระทรวงว่ำด้วยกำรชำระบัญชีห้ำงหุ้นส่วนและบริษัท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
และกำหนดอัตรำค่ำฤชำธรรมเนียมก็ออกได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๔๘ เมื่อกล่ำวถึงประชุมใหญ่ในหมวดนี้ ท่ำนหมำยควำมดังต่อไปนี้ คือ
ส(๑) ถ้ำเกี่ย วกับ ห้ ำงหุ้ น ส่ วกนจดทะเบี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ยนและห้ ำงหุ้ น ส่ ว นจำกัด ก็คื อกำกำรประชุ ม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หุ้นส่วนทั้งปวงซึ่งอำศัยคะแนนเสียงข้ำงมำกเป็นใหญ่ในกำรวินิจฉัย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๘๔
สำนัมำตรำ ๑๒๔๖/๕ เพิ่มโดยพระรำชบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัติแก้สไำนั
ขเพิกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ มเติมประมวลกฎหมำยแพ่กำงและพำณิชย์
(ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๘๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๒๔๖/๖ เพิส่มำนัโดยพระรำชบั ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติำ มประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๘๖
มำตรำ ๑๒๔๖/๗ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๘๗
มำตรำ ๑๒๔๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ พุทธศักรำช ๒๔๗๙กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๐๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๒) ถ้ ำเกี่ ย วกั บ บริ ษั ท จ ำกั ด ก็ คื อ กำรประชุ ม ใหญ่ ต ำมที่ ได้ บั ญ ญั ติ ไว้ในมำตรำ
สำนัก๑๑๗๑
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๒๔๙ ห้ำงหุ้นส่วกนก็


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ดี บริษัทก็ดสีำนั
แม้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จะได้เลิกกันแล้ว ก็ให้พกึงำ ถือว่ำยังคง
ตั้งอยู่ตรำบเท่ำเวลำที่จำเป็นเพื่อกำรชำระบัญชี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๒๕๐ หน้ำที่ของผู


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ชำระบัญ ชี สคืำนั
อชกำระสะสำงกำรงำนของห้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ำงหุ้ น ส่วน
หรือบริษัทนั้นให้เสร็จไป กับจัดกำรใช้หนี้เงินและแจกจำหน่ำยสินทรัพย์ของห้ำงหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๕๑ ห้ ำงหุ้ นส่วนก็ดี บริษัทก็ดี ในเมื่อเลิกกันเพรำะเหตุอื่นนอกจำก
ล้มละลำย หุ้นส่วสนผู
ำนั้จกัดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรห้ำง หรือกรรมกำรของบริกำ ษัทย่อสมเข้
ำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นผู้ชำระบัญชี เว้นไว้กแำต่ข้อสัญญำ
ของห้ำงหรือข้อบังคับของบริษัทจะมีกำหนดไว้เป็นสถำนอื่น
ถ้ำไม่กมำีผู้ชำระบัญชีดสังำนัว่ำกมำนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ และเมื่อพนักงำนอักำยกำรหรือบุคคลอื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก่นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้มีส่วนได้เสีย กำ
ในกำรนี้ร้องขอ ท่ำนให้ศำลตั้งผู้ชำระบัญชี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๒๕๒ หุ้นส่สวำนันผูกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้จัดกำร หรือกรรมกำรบริกำษัทมีอำนำจโดยต
สำนัำแหน่ งเดิมฉันใด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เมื่อเป็นผู้ชำระบัญชีก็ยังคงมีอำนำจอยู่ฉันนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๕๓ ภำยในสิบสี่วันนับแต่ได้เลิกห้ำงเลิกบริษัท หรือถ้ำศำลได้ตั้งผู้ชำระ
สำนักบังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญชีนับแต่วันที่ศำลตั้ง กผูำ้ชำระบัญชีต้อสงกระท ำดังจะกล่ำวต่อไปนี้ กคืำอ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) บอกกล่ำวแก่ประชำชนโดยประกำศโฆษณำในหนังสือพิมพ์ แห่งท้องที่อย่ำง
๘๘

น้อยหนึ่งครำวว่ำสห้ำนั
ำงหุกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นส่วนหรือบริษัทนั้นได้กเำลิกกันแล้วและให้
สำนักผงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ู้เป็นเจ้ำหนี้ทั้งหลำยยื่นกคำำทวงหนี้แก่
ผู้ชำระบัญชี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๒) ส่กงำคำบอกกล่ำวอย่ สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งเดียวกันเป็นจดหมำยลงทะเบี
กำ ยนไปรษณี ย์ไปยังเจ้ำหนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทั้งหลำยทุก ๆ คน บรรดำมีชื่อปรำกฏในสมุด บัญชีหรือเอกสำรของห้ำงหรือบริษัทนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๑๒๕๔ กำรเลิ
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หุ้ น ส่ ว นหรือบริษั ท นัก้ นำ ผู้ ช ำระบั ญ ชีสำนั
ต้ อกงน ำบอกให้ จ ด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทะเบี ย นภำยในสิ บ สี่ วั น นั บ แต่วัน ที่ เลิ กกั น และในกำรนี้ ต้ องระบุ ชื่ อ ผู้ ช ำระบั ญ ชี ทุ ก ๆ คนให้ จ ด
ลงทะเบียนไว้ด้วยสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๑๒๕๕ ผู้ชสำระบั


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญชีต้องทำงบดุลขึ้นโดยเร็
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วที่สุดที่เป็นสวิำนัสกัยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จะทำได้ ส่งให้ กำ
ผู้สอบบัญชีตรวจสอบลงสำคัญว่ำถูกต้อง แล้วต้องเรียกประชุมใหญ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๕๖ ธุรกำรอันที่ประชุมใหญ่จะพึงทำนั้น คือ
(๑) รักบำรองให้หุ้นส่วสนผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนั้จกังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดกำรหรือกรรมกำรบริกษำัทคงเป็นผู้ชำระบั
สำนักญ ชีต่อไป หรือ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เลือกตั้งผู้ชำระบัญสำนั
ชีใกหม่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ขึ้นแทนที่ และ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๘๘
มำตรำ ๑๒๕๓ (๑) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัตแิ ก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ.ก๒๕๕๑
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๐๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๒) อนุมัติบัญชีงบดุล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อนึ่ง กทีำ่ประชุมใหญ่จสะสั
ำนั่งกให้ ผู้ชำระบัญชีทำบัญชีตกีรำำคำทรัพย์สินสหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้ทำกำรใด ๆ กำ
ก็ได้สุดแต่ที่ประชุมจะเห็นสมควร เพื่อชำระสะสำงกิจกำรของห้ำงหุ้นส่วนหรือบริษัทให้เสร็จไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๕๗ ผู้ชำระบัญชีซึ่งมิใช่เป็นขึ้นเพรำะศำลตั้งนั้น ท่ำนว่ำจะถอนเสียจำก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตำแหน่งและตั้งผู้อื่นแทนที่ก็ได้ ในเมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลำยออกเสียงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน หรือที่
ประชุมใหญ่ของผูส้ถำนัือหุกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นได้ลงมติดังนั้น แต่ศำลย่ กำ อมสั่งถอนผู้ชสำนั
ำระบั ญชีจำกตำแหน่งและตักำ้งผู้อื่นแทนที่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้ ไม่เลือกว่ำจะเป็นผู้ชำระบัญชีซึ่งศำลตั้งหรือมิใช่ศำลตั้ง ในเมื่อมีคำร้องขอของผู้เป็นหุ้นส่วนในห้ำง
สำนักคนใดคนหนึ ่งหรือของผูก้ถำือหุ้นในบริษัทสมีำนัหุ้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รวมกันนับได้ถึงหนึ่งในยีกำ่สิบแห่งทุนของบริ
สำนักษงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัท โดยจำนวน กำ
ที่ส่งใช้เงินเข้ำทุนแล้วนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๕๘ เมื่อมีกำรเปลี่ยนตัวผู้ ชำระบัญ ชีใหม่ครั้งใด ผู้ช ำระบัญชีต้องนำ
สำนักควำมจดทะเบี ยนภำยในสิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำบสี่วันนับแต่วสันำนัทีก่ไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้เปลี่ยนตัวกันนั้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๕๙ ผู้ชำระบัญชีทั้งหลำยย่อมมีสำนั กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อำนำจดั งจะกล่ำวต่อไปนี้ คือ
(๑) แก้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำต่ำงว่ำต่ำงในนำมของห้ ำงหุ้นส่วนหรือบริกำษัทในอรรถคดีสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี พิพกำทอั นเป็นแพ่ง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หรืออำชญำทั้งปวง และทำประนีประนอมยอมควำม
ส(๒) ดำเนินกิจกำรของห้ำงหุ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ้ นส่วนหรือบริสำนั
ษัทกตำมแต่ จำเป็น เพื่อกำรช
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำระสะสำง
กิจกำรให้เสร็จไปด้วยดี
(๓) ขำยทรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พย์สินของห้ สำนัำกงหุ ้นส่วนหรือบริษัท กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ทำกำรอย่ำงอื่น ๆ ตำมแต่จำเป็น เพื่อชำระบัญชีให้เสร็จไปด้วยดี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๖๐ ข้อจำกัดอำนำจของผู้ชำระบัญชีอย่ำงใด ๆ จะอ้ำงเป็นสมบูรณ์ต่อ
สำนักบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คคลภำยนอกหำได้ไม่ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๖๑ ถ้ำมีผู้ชำระบัญชีหลำยคน กำรใด ๆ ที่ผู้ชำระบัญชีกระทำย่อมไม่
สำนักเป็ นอันสมบูรณ์ นอกจำกผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ชำระบั ญ ชีสทำนั
ั้งหลำยจะได้ ทำร่วมกัน เว้กนำ แต่ที่ประชุมสใหญ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หรือศำลจะได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กำหนดอำนำจไว้เป็นอย่ำงอื่นในเวลำตั้งผู้ชำระบัญชี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๖๒ ถ้ำมีมติของที่ประชุมใหญ่ห รือคำบังคับของศำลให้อำนำจผู้ชำระ
สำนักบังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญชีให้ทำกำรแยกกันได้
กำ ท่ำนว่ำต้องนสำนั
ำควำมจดทะเบี ยนภำยในสิกบำ สี่วันนับแต่วสันำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ลงมติ หรือออกคำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บังคับนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๖๓ ค่ำธรรมเนียม ค่ำภำระติดพัน และค่ำใช้จ่ำยซึ่งต้องเสียโดยควรใน
สำนักกำรช ำระบัญชีนั้น ท่ำนว่กำำผู้ชำระบัญชีตส้อำนังจักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดกำรใช้ก่อนหนี้เงินรำยอื
กำ่น ๆ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๖๔ ถ้ำเจ้ำหนี้คนใดมิได้มำทวงถำมให้ใช้หนี้ ผู้ชำระบัญชีต้องวำงเงิน
สำนักเท่ ำจำนวนหนี้นั้น ตำมบทแห่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งประมวลกฎหมำยนี ้ ว่ำด้วยวำงทรัพย์กสำ ินแทนชำระหนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๐๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๑๒๖๕ ผู้ชำระบั


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญชีจะเรียกให้ผู้เป็นหุ้นกส่ำวนหรือผู้ถือหุส้นำนัส่งกใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เงินลงหุ้นอัน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เป็ น ส่ ว นยั งค้ำงช ำระอยู่ นั้ น ก็ได้ และเงิน ที่ ค้ำงช ำระนี้ ถึงแม้จะได้ต กลงกัน ไว้ก่ อนโดยสั ญ ญำเข้ ำ
หุ้นส่วน หรือโดยข้สำนัอบักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คับของบริษัทว่ำจะได้เกรีำยกต่อภำยหลัสงำนั ก็ตกำมงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เมื่อเรียกเช่นนี้แล้ว ท่กำำนว่ำต้องส่ง
ใช้ทันที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๒๖๖ ถ้ำผู้ชำระบักญำ ชีมำพิจำรณำเห็


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ว่ำ เมื่อเงินลงทุนหรือเงิกนำ ค่ำหุ้นได้ใช้
เสร็จหมดแล้ว สินทรัพย์ก็ยังไม่พอกับหนี้สินไซร้ ผู้ชำระบัญชีต้องร้องขอต่อศำลทันที เพื่อให้ออกคำสั่ง
สำนักว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำห้ำงหุ้นส่วนหรือบริษกัทำนั้นล้มละลำยสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๒๖๗ ผู้ชำระบัญกชีำต้องทำรำยงำนยื


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไว้ ณ หอทะเบียนทุกระยะสำมเดื
กำ อน
ครั้งหนึ่งว่ำได้จัดกำรไปอย่ำงใดบ้ำง แสดงให้เห็นควำมเป็นไปของบัญชีที่ชำระอยู่นั้น และรำยงำนนี้ให้
สำนักเปิ ดเผยแก่ผู้เป็นหุ้นส่วนและผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ถือหุ้น และเจ้ ำหนี้ทั้งหลำยตรวจดูได้กโดยไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ต้องเสียค่สำำนั
ธรรมเนี ยม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๖๘ ถ้ำกำรชำระบัญชีนั้นยังคงท ำอยู่โดยกำลกว่ำปีหนึ่งขึ้นไป ผู้ชำระ
สำนักบังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญชีต้องเรียกประชุมใหญ่
กำ ในเวลำสิ้นสปีำนัทกุกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ปีนับแต่เริ่มทำกำรชำระบั
กำ ญ ชี และต้สอำนังทกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำรำยงำนยื่นที่ กำ
ประชุมว่ำได้จัดกำรไปอย่ำงไรบ้ำง ทั้งแถลงให้ทรำบควำมเป็นไปแห่งบัญชีโดยละเอียด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๖๙ อันทรัพย์สินของห้ำงหุ้นส่วนหรือของบริษัทนั้น จะแบ่งคืนให้แก่ผู้
สำนักเป็ นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุก้นำได้แต่เพียงเท่สำำนัที่ไกม่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ต้องเอำไว้ใช้ในกำรชำระหนี
กำ ้ของห้ำงหุ
สำนั้นกส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วนหรือบริษัท กำ
เท่ำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๗๐ เมื่อกำรชำระบัญชีกิจกำรของห้ำงหุ้นส่วนหรือบริษัทสำเร็จลง
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ชำระบัญชีต้องทำรำยงำนกำรชกำ ำระบั
สำนัญกชีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แสดงว่ำ กำรชำระบัญกำชีนั้นได้ดำเนินสไปอย่ ำงใด และได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จั ดกำรทรั พ ย์ สิ น ของห้ ำงหุ้ น ส่ ว นหรื อ บริษั ท นั้น ไปประกำรใด แล้ วให้ เรียกประชุมใหญ่ เพื่ อเสนอ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รำยงำนนั้น และชี้แจงกิจกำรต่อที่ประชุม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เมื่อทีก่ ปำ ระชุม ใหญ่ ได้สำนั
ให้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นุ มัติรำยงำนนั้น แล้ วกผูำ้ ช ำระบัญ ชีตส้ อำนังนกำข้ อควำมที่ ได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประชุมกันนั้นไปจดทะเบียนภำยในสิบสี่วันนับแต่วันประชุม เมื่อได้จดทะเบียนแล้วดังนี้ให้ถื อว่ำเป็น
ที่สุดแห่งกำรชำระบั สำนัญกชีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๑๒๗๑ เมื่อสเสร็


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรชำระบัญชีแล้ว ท่ำกนให้
ำ มอบบรรดำสมุ
สำนักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
และบัญชี และ กำ
เอกสำรทั้งหลำยของห้ำงหุ้นส่วนหรือบริษัทซึ่งได้ชำระบัญชีนั้นไว้แก่นำยทะเบียนภำยในกำหนดสิบสี่
วันดังกล่ำวไว้ในมำตรำก่ อน และให้นำยทะเบีกยำนรักษำสมุดและบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญชี และเอกสำรเหล่ำนักำ้นไว้สิบปีนับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แต่วันถึงที่สุดแห่งกำรชำระบัญชี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สมุดและบั
กำ ญชีและเอกสำรเหล่ ำนี้ ให้เปิดให้แก่บกรรดำบุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ คคลผู้มีสส่วำนันได้ เสียตรวจดูได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
โดยไม่เรียกค่ำธรรมเนี ยมอย่ำงหนึ่งอย่ำงใด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๑๒๗๒ ในคดี


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัฟก้องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งเรียกหนี้สินซึ่งห้ำงหุ้นกส่ำวนหรือบริษัทสำนัหรืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้เป็นหุ้นส่ว น กำ
- ๒๐๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

หรือผู้ถือหุ้น หรือผู้ชำระบัญชีเป็นลูกหนี้อยู่ในฐำนเช่นนั้น ท่ำนห้ำมมิให้ฟ้องเมื่อพ้นกำหนดสองปีนับ


สำนักแต่ วันถึงที่สุดแห่งกำรชำระบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญชี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๒๗๓ บทบัญญัตกิแำห่งมำตรำ ๑๑๗๒


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถึงมำตรำ ๑๑๙๓ กับมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๑๑๙๕
มำตรำ ๑๒๐๗ เหล่ ำนี้ ท่ ำนให้ ใช้บั งคับ แก่กำรประชุมใหญ่ ซึ่งมีขึ้ นในระหว่ำงช ำระบัญ ชีด้วยโดย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำหมวด ๖ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรถอนทะเบียนห้ำงหุ้นส่วนจดทะเบียน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ห้ำงหุ้นส่สวำนันจ ำกัด และบริษัทจำกัดร้กำำง๘๙
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๗๓/๑ ๙๐ เมื่อ ใดนำยทะเบี ยนมี มูล เหตุ อัน ควรเชื่ อว่ำห้ ำงหุ้ น ส่ ว นจด
สำนักทะเบี ยน ห้ำงหุ้นส่วนจำกั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ด หรือบริษัทสจำนัำกักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดใด มิได้ทำกำรค้ำขำยหรื กำ อประกอบกำรงำนแล้ ว ให้นำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทะเบี ย นมีห นั งสื อส่ งทำงไปรษณี ย์ ตอบรับ ไปยังห้ ำงหุ้ นส่ว นหรือบริษัท เพื่อสอบถำมว่ำยังทำกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ค้ำขำยหรือประกอบกำรงำนอยู ่หรือไม่ และแจ้งว่ำหำกมิได้รสับำนัคกำตอบภำยในสำมสิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บวันนับแต่วันที่ส่ง
สำนักหนั งสือจะได้โฆษณำในหนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งสือพิมพ์เพื่อสขีำนัดกชืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อห้ำงหุ้นส่วนหรือบริษกัทำนั้นออกเสียจำกทะเบี ยน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ถ้ำนำยทะเบี ยนได้รับ คำตอบจำกห้ ำงหุ้ นส่ วนหรือบริษัท นั้นว่ำ ห้ ำงหุ้ น ส่ว นหรือ
บริษัทมิได้ทำกำรค้ ำขำยหรื
สำนั อประกอบกำรงำนแล้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วหรือมิได้รสับำนัคกำตอบภำยในสำมสิ บวันนักำบแต่วันที่ส่ง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หนังสือ ให้นำยทะเบียนโฆษณำในหนังสือพิมพ์แห่งท้องที่อย่ำงน้อยหนึ่งครำวและส่งหนังสือบอกกล่ำว
สำนักทำงไปรษณี ย์ตอบรับไปยั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำงห้ำงหุ้นส่วนหรื
สำนัอกบริ ษัทว่ำ เมื่อพ้นเวลำเก้กำำสิบวันนับแต่สวำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ันทีก่สงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่งหนังสือบอก กำ
กล่ำวห้ำงหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นจะถูกขีดชื่อออกจำกทะเบียน เว้นแต่จะแสดงเหตุให้เห็นเป็นอย่ำงอื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๗๓/๒๙๑ ในกรณีที่ห้ำงหุ้นส่วนหรือบริษัทเลิกกันแล้วและอยู่ระหว่ำงกำร
สำนักชงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำระบัญชี หำกนำยทะเบี กำยนมีมูลเหตุอสันำนัควรเชื ่อว่ำไม่มีตัวผู้ชำระบักญำชีทำกำรอยู่ หรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัอกกำรงำนของห้ ำง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หุ้นส่วนหรือบริษัทได้ชำระสะสำงตลอดแล้ว แต่ผู้ชำระบัญชีมิได้ทำรำยงำนกำรชำระบัญชี หรือมิได้ยื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จดทะเบียนเสร็จกำรชำระบัญชีต่อนำยทะเบียน ให้นำยทะเบียนมีหนังสือส่งทำงไปรษณีย์ตอบรับไปยัง
สำนักห้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำงหุ้นส่วนหรือบริษัท กและผู
ำ ้ชำระบัญสชีำนัณกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สถำนที่อันปรำกฏเป็นสกำนั ำ กงำนสุดท้ำสยำนัแจ้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งให้ดำเนินกำร กำ
เพื่อให้มีตัวผู้ชำระบัญชี หรือยื่นรำยงำนกำรชำระบัญชี หรือจดทะเบียนเสร็จกำรชำระบัญชี แล้วแต่
กรณี และแจ้ งว่ำสหำกมิ ได้ดำเนิ น กำรดังกล่ ำกวภำยในระยะเวลำหนึ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่ งร้อยแปดสิบ วันนักบำ แต่วันที่ ส่ ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หนังสือนั้นแล้ว จะได้โฆษณำในหนังสือพิมพ์เพื่อขีดชื่อห้ำงหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นออกเสียจำกทะเบียน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถ้ำห้ำกงหุำ ้นส่วนหรือบริสำนัษัทกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือผู้ชำระบัญชีมิได้ดกำเนิำ นกำรภำยในก สำนักำหนดเวลำตำม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ส๘๙ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๖ กำรถอนทะเบียนห้ำงหุ้นส่วนจดทะเบียนห้ ำงหุ้นส่วนจำกัด และบริษัทจำกัดร้ำง
สำนักมำตรำ ๑๒๗๓/๑ ถึงมำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๑๒๗๓/๔ เพิส่มำนั
โดยพระรำชบั ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติำมประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๙๐
มำตรำ ๑๒๗๓/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๙๑
มำตรำ ๑๒๗๓/๒ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนัก(ฉบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๑๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

วรรคหนึ่ง ให้นำยทะเบียนโฆษณำในหนังสือพิมพ์แห่งท้องที่อย่ำงน้อยหนึ่งครำว และส่งหนังสือบอก


สำนักกล่ ำวทำงไปรษณีย์ตอบรักำบไปยังห้ำงหุ้นสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ส่วกนหรื อบริษัทและผู้ชำระบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำญชีว่ำเมื่อพ้นสกำนั
ำหนดเวลำเก้ ำสิบ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
วันนับแต่วันที่ส่งหนังสือบอกกล่ำว ห้ำงหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นจะถูกขีดชื่อออกจำกทะเบียน เว้นแต่จะ
แสดงเหตุให้เห็นเป็สำนั
นอย่ ำงอื่น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๒๗๓/๓๙๒ เมื่อสิ้นกำหนดเวลำตำมที่แจ้งในหนังสือบอกกล่ำวตำมมำตรำ
๑๒๗๓/๑ หรือมำตรำ ๑๒๗๓/๒ แล้ว และห้กำำงหุ้นส่วนหรือสบริ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัษกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัท หรือผู้ชำระบัญชีมิได้กแำ สดงเหตุให้
เห็นเป็นอย่ำงอื่น นำยทะเบียนจะขีดชื่อห้ำงหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นออกเสียจำกทะเบียนก็ได้ ในกำรนี้
สำนักให้ ห้ำงหุ้นส่วนหรือบริษกัทำ นั้นสิ้นสภำพนิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัตกิบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ุคคลตั้งแต่เมื่อนำยทะเบี กำ ยนขีดชื่อห้ำงหุ
สำนั้นกส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วนหรือบริษัท กำ
ออกเสียจำกทะเบียน แต่ควำมรับผิดของหุ้นส่วนผู้จัดกำร ผู้เป็นหุ้นส่วน กรรมกำร ผู้จัดกำร และผู้ถือ
หุ้นมีอยู่เท่ำไรก็ให้สำนั
คงมี อยู่อย่ำงนั้นและพึงเรียกำกบังคับได้เสมืสอำนันห้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำงหุ้นส่วนหรือบริษัทกนัำ้นยังมิได้สิ้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สภำพนิติบุคคล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๗๓/๔๙๓ ถ้ำห้ำงหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วน บริษัท ผู้ถือหุ้น หรือเจ้ำหนี้ใด ๆ
ของห้ำงหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นรู้สึกว่ำต้องเสียหำยโดยไม่เป็นสธรรมเพรำะกำรที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
่ห้ำงหุ้นส่วนหรือบริษัท
สำนักถูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กขีดชื่อออกจำกทะเบียกนำ เมื่อห้ำงหุ้นสส่ำนั วนกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้เป็นหุ้นส่วน บริษัท ผูก้ถำือหุ้นหรือเจ้ำหนี
สำนั้ยกื่นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คำร้องต่อศำล กำ
และศำลพิจำรณำได้ควำมเป็นที่พอใจว่ำในขณะที่ขีดชื่อห้ำงหุ้นส่วนหรือบริษัทออกจำกทะเบียนห้ำง
หุ้นส่วนหรือบริษสัทำนัยังกทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำกำรค้ำขำยหรือยังประกอบกำรงำนอยู
กำ สำนั่ กหรื อเห็นเป็นกำรยุติ ธรรมในกำรที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่จ ะ
ให้ห้ำงหุ้นส่วนหรือบริษัทได้กลับคืนสู่ทะเบียนก็ดี ศำลจะสั่งให้จดชื่อห้ำงหุ้นส่วนหรือบริษัทกลับคืน
สำนักเข้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำสู่ทะเบียนก็ได้ และให้กถำ ือว่ำห้ำงหุ้นส่สวำนั
นหรื อบริษัทนั้นยังคงอยู่ตลอดมำเสมื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อนมิได้สมำนัีกกำรขี ดชื่อออกเลย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
โดยศำลจะสั่งและวำงข้อกำหนดไว้เป็นประกำรใด ๆ ตำมที่เห็นเป็นกำรยุติธรรมด้วยก็ได้เพื่อให้ห้ำง
หุ้นส่วนหรือบริษัทสำนัและบรรดำบุ คคลอื่น ๆ กลักบำ คืนสู่ฐำนะอันสใกล้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี่สุดกับฐำนะเดิมเสมือกนห้ ำ ำงหุ้นส่วน
หรือบริษัทนั้นมิได้ถูกขีดชื่อออกจำกทะเบียนเลย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรร้ อกำงขอให้ ห้ ำงหุ้สนำนั
ส่ วกนหรื อบริษั ท กลั บคื นสูก่ ทำะเบี ยน ห้ ำมมิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัให้กรงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้อ งขอเมื่อ พ้ น กำ
กำหนดสิบปีนับแต่วันที่นำยทะเบียนขีดชื่อห้ำงหุ้นส่วนหรือบริษัทออกจำกทะเบียน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ลักษณะ ๒๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำคม๙๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๑๒๗๔ - ๑๒๙๗


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก(ยกเลิ ก)
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๙๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๒๗๓/๓ เพิส่มำนัโดยพระรำชบั ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติำ มประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๙๓
มำตรำ ๑๒๗๓/๔ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
๙๔
ลักษณะ ๒๓ สมำคม มำตรำ ๑๒๗๔ ถึงมำตรำ ๑๒๙๗ ยกเลิกโดยพระรำชบัญ ญั ติให้ ใช้
สำนักบทบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ญญัติบรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่สำนั กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งและพำณิ ชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่กำ พ.ศ. ๒๕๓๕ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๑๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

พระรำชกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สให้ำนัใช้กบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทบัญญัติ บรรพ ๔ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์๙๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


พระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำประชำธิปก พระปกเกล้ำเจ้ำอยู่ หัว มีพระบรมรำช
โองกำรดำรัสเหนืสอำนั
เกล้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำฯ ให้ประกำศจงทรำบทั
กำ่วกันว่ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

โดยที่กกำรประมวลกฎหมำยแห่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งบ้ำนเมืองได้ดำเนิรกมำถึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งครำวที่ควรประกำศใช้ บรรพ ๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จึ่งทรงพระกรุณำโปรดเกล้ำฯ สั่งว่ำ ให้เพิ่มบทบัญญัติบรรพ ๔ ตั้งแต่มำตรำ ๑๒๙๘
สำนักถึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งมำตรำ ๑๔๓๔ ตำมทีกำ่ได้ตรำไว้ต่อท้สำำนัยพระรำชกฤษฎี กำนี้เข้ำเป็กำนส่วนหนึ่งแห่สงำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ประมวลกฎหมำย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้ใช้พกระรำชกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ กสำนี
ำนั้ตกั้งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แต่วันที่ ๑ เมษำยน พุกทำธศักรำช ๒๔๗๕
สำนักเป็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นต้นไป กำ

สประกำศมำ ณ วันที่ ๑๖ มีนกำคม


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ พุทธศักรำช
สำนัก๒๔๗๓ เป็นปีที่ ๖ ในรัชกชกำลปั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ จจุบัน

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๙๕ กำจจำนุเบกษำ เล่สมำนั๔๗/-/หน้
รำชกิ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำ ๔๔๒/๑๘ มีนำคมกำ๒๔๗๓ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๑๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

บรรพ ๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ทรัพย์สิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทเบ็ดเสร็จทั่วไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๒๙๘ ทรัพสยสิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัทกธิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทั้งหลำยนั้น ท่ำนว่ำจะก่
กำ อตั้งขึ้นได้แต่สดำนั
้วยอำศั ยอำนำจใน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประมวลกฎหมำยนี้หรือกฎหมำยอื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒๙๙ ภำยในบังคับแห่งบทบัญญัติในประมวลกฎหมำยนี้หรือกฎหมำยอื่น
สำนักท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำกำรได้มำโดยนิ ตกิำกรรมซึ่งอสังหำริ
สำนักมงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทรัพย์ หรือทรัพยสิทธิกอำันเกี่ยวกับอสัสงำนั
หำริ มทรัพย์นั้นไม่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บริบูรณ์ เว้นแต่นิติกรรมจะได้ทำเป็นหนังสือและได้จดทะเบียนกำรได้มำกับพนักงำนเจ้ำหน้ำที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำมีผู้ได้มำซึ่งอสังหำริมทรัพย์หรือทรัพยสิทสำนั
ธิอกันงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เกี่ยวกับอสังหำริมทรัพกย์ำ โดยทำงอื่น
สำนักนอกจำกนิ ติกรรม สิทธิกขำองผู้ได้มำนั้นสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถ้ ำกยังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งมิได้จดทะเบียนไซร้กท่ำ ำนว่ำจะมีกำรเปลี ่ยนแปลงทำง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทะเบียนไม่ได้ และสิทธิอันยังมิได้จดทะเบียนนั้น มิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภำยนอกผู้ได้สิทธิมำโดย
เสียค่ำตอบแทนและโดยสุ จริต และได้จดทะเบีกยำ นสิทธิโดยสุจสริำนัตแล้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ว
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๑๓๐๐ ถ้ำได้สจำนัดทะเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยนกำรโอนอสังหำริกมำ ทรัพย์หรือทรัสพำนัยสิกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ทธิอันเกี่ยวกับ กำ
อสังหำริมทรัพย์เป็นทำงเสียเปรียบแก่บุคคลผู้อยู่ในฐำนะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อน
ไซร้ ท่ำนว่ำบุคคลนั
สำนั้นกอำจเรี ยกให้เพิกถอนกำรจดทะเบี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยนนั้นสำนั
ได้กแต่ กำรโอนอันมีค่ำตอบแทน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ซึ่งผู้รับ
โอนกระทำกำรโดยสุจริตนั้น ไม่ว่ำกรณีจะเป็นประกำรใด ท่ำนว่ำจะเรียกให้เพิกถอนทะเบียนไม่ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๐๑ บทบั ญ ญั ติ แ ห่ ง สองมำตรำก่ อ นนี้ ท่ ำ นให้ ใ ช้ บั ง คั บ ถึ ง กำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เปลี่ยนแปลง ระงับ และกลับคืนมำแห่งทรัพยสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหำริมทรัพย์นั้นด้วยโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๐๒๙๖ บทบัญญัติแห่งสำมมำตรำก่อนนี้ ให้ใช้บังคับถึง เรือมีระวำงตั้งแต่
ห้ำตันขึ้นไป ทั้งแพและสั ตว์พำหนะด้วยโดยอนุกำโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๓๐๓ ถ้ำบุสคำนัคลหลำยคนเรี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยกเอำสังหำริ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มทรัพย์เดียวกั
สำนันกโดยอำศั ยหลัก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กรรมสิทธิ์ต่ำงกันไซร้ ท่ำนว่ำทรัพย์สินตกอยู่ในครอบครองของบุคคลใด บุคคลนั้นมีสิทธิยิ่งกว่ำบุคคล
อื่น ๆ แต่ต้องได้ทสรัำนั
พย์กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ั้นมำโดยมีค่ำตอบแทนและได้
กำ กำรครอบครองโดยสุ จริต
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ท่ำนมิ ให้ ใช้ม ำตรำนี้ บั งคับ ถึงสั งหำริมทรัพ ย์ซึ่งระบุ ไว้ในมำตรำก่อนและในเรื่อ ง
สำนักทรั พย์สินหำย กับทรัพย์กสำินที่ได้มำโดยกำรกระท
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำผิด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๙๖
มำตรำ ๑๓๐๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ.ก๒๕๔๘
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๑๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๓๐๔ สำธำรณสมบัติของแผ่นดินนั้น รวมทรัพย์สินทุกชนิดของแผ่นดินซึ่ง


สำนักใช้ เพื่อสำธำรณประโยชน์กำหรือสงวนไว้เพืสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่อประโยชน์ ร่วมกัน เช่น กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ที่ดินรกร้ำงว่ำงเปล่ำ และที่ดินซึ่งมีผู้เวนคืนหรือทอดทิ้งหรือกลับมำเป็นของ
แผ่นดินโดยประกำรอื
ส ำนัก่นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตำมกฎหมำยที่ดิน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ทรัพ ย์สิ น สำหรับ พลเมืองใช้ร่วมกัน เป็นต้นว่ำ ที่ช ำยตลิ่ง ทำงน้ำ ทำงหลวง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทะเลสำบ
ส(๓)
ำนักทรั พย์สินใช้เพื่อประโยชน์
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ของแผ่นดินสโดยเฉพำะ เป็นต้นว่ำ ป้อมและโรงทหำร
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สำนักรำชกำรบ้ำนเมือง เรือรบ อำวุธยุทธภัณฑ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๐๕ ทรัพย์สินซึ่งเป็นสำธำรณสมบัติของแผ่นดินนั้นจะโอนแก่กันมิได้
เว้นแต่อำศัยอำนำจแห่ งบทกฎหมำยเฉพำะหรืกอำพระรำชกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักำกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๑๓๐๖ ท่ ำสนห้


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มมิ ให้ ย กอำยุ ค วำมขึก้ นำเป็ น ข้ อ ต่ อ สู้ กสำนั
ั บ แผ่ น ดิ น ในเรื่ อ ง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทรัพย์สินอันเป็นสำธำรณสมบัติของแผ่นดิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๓๐๗ ท่ำนห้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำกมมิ ให้ยึดทรัพย์สินของแผ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ น ดิน ไม่ว่ำ ทรั พกย์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั สิน นั้น จะเป็น กำ
สำธำรณสมบัติของแผ่นดินหรือไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กรรมสิทธิ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กำรได้
สำนั มำซึ่งกรรมสิทธิ์ กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๓๐๘ ที่ดินสแปลงใดเกิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดที่งอกริมตลิ่ง ทีก่งำอกย่อมเป็นทรัสำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี พย์กสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ินของเจ้ำของ กำ
ที่ดินแปลงนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๐๙ เกำะที่ เกิ ด ในทะเลสำบ หรือ ในทำงน้ ำหรือ ในเขตน่ ำนน้ ำของ
สำนักประเทศก็ ดี และท้องทำงน้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำที่เขินขึ้นก็ดสีำนัเป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทรัพย์สินของแผ่นดิน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๓๑๐ บุ ค คลใดสร้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำ งโรงเรื อ นในที
สำนัก่ ดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิ น ของผู้ อื่ น โดยสุ จ ริ ตกไซร้
ำ ท่ ำ นว่ ำ
เจ้ำของที่ดินเป็นเจ้ำของโรงเรือนนั้น ๆ แต่ต้องใช้ค่ำแห่งที่ดินเพียงที่เพิ่มขึ้นเพรำะสร้ำงโรงเรือนนั้น
สำนักให้ แก่ผู้สร้ำง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แต่ถ้ำเจ้ำของที่ดินสำมำรถแสดงได้ว่ำ มิไสด้ำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มีคกวำมประมำทเลิ นเล่อ จะบอกปัดไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ยอมรับโรงเรือนนั้นและเรียกให้ผู้สร้ำงรื้อถอนไป และทำที่ดินให้เป็นตำมเดิมก็ได้ เว้นไว้แต่ถ้ำกำรนี้จะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๑๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ทำไม่ได้โดยใช้เงินพอสมควรไซร้ ท่ำนว่ำเจ้ำของที่ดินจะเรียกให้ผู้สร้ำงซื้อที่ดินทั้งหมดหรือแต่บำงส่วน
สำนักตำมรำคำตลำดก็ ได้ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๓๑๑ บุ คคลใดสร้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำำงโรงเรือนในที
สำนั่ ดกิ นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของผู้ อื่นโดยไม่สุ จริตกไซร้
ำ ท่ ำนว่ ำ
บุคคลนั้นต้องทำที่ดินให้เป็นตำมเดิมแล้วส่งคืนเจ้ำของ เว้นแต่เจ้ำของจะเลือกให้ส่งคืนตำมที่เป็นอยู่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีเช่นนี้เจ้ำของที่ดินต้องใช้รำคำโรงเรือนหรือใช้ค่ำแห่งที่ดินเพียงที่เพิ่มขึ้นเพรำะสร้ำงโรงเรือน
นั้นแล้วแต่จะเลือสกำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๓๑๒ บุคคลใดสร้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำงโรงเรือนรุกล้ำเข้กำำไปในที่ ดินของผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้อกื่นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โดยสุจริตไซร้ กำ
ท่ำนว่ำบุคคลนั้นเป็นเจ้ำของโรงเรือนที่สร้ำงขึ้น แต่ต้องเสียเงินให้แก่เจ้ำของที่ดินเป็นค่ำใช้ที่ดินนั้น
และจดทะเบียนสิสทำนัธิกเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ป็นภำระจำยอม ต่อภำยหลั กำ งถ้ำโรงเรืสอำนันนั ้นสลำยไปทั้งหมด เจ้ำกของที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่ดินจะ
เรียกให้เพิกถอนกำรจดทะเบียนเสียก็ได้
ถ้ำบุคคลผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้สร้ำงโรงเรืสอำนั
นนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นกระทำกำรโดยไม่สุจกริำต ท่ำนว่ำเจ้ำของที ่ดินจะเรียกให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้สร้ำงรื้อถอนไป และทำที่ดินให้เป็นตำมเดิมโดยผู้สร้ำงเป็นผู้ออกค่ำใช้จ่ำยก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๓๑๓ ถ้ำผูส้เำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ป็นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เจ้ำของที่ดินโดยมีเงื่อนไขสร้
กำ ำงโรงเรืสอำนั
นในที ่ดินนั้น และ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ภำยหลังที่ดินตกเป็นของบุคคลอื่นตำมเงื่อนไขไซร้ ท่ำนให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมำยนี้ว่ำ
ด้วยลำภมิควรได้มสำนั
ำใช้กบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ังคับ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๓๑๔ ท่ำนให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัใกช้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บทบัญญัติมำตรำ ๑๓๑๐,
กำ ๑๓๑๑ สและ ๑๓๑๓ บังคับ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ตลอดถึงกำรก่อสร้ำงใด ๆ ซึ่งติดที่ดินและกำรเพำะปลูกต้นไม้หรือธัญชำติด้วยโดยอนุโลม
สแต่
ำนัขก้ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วหรือธัญชำติอย่ำงอื่นกอัำนจะเก็บเกี่ยวรวงผลได้ ครำวหนึ่งหรือหลำยครำวต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อปี
เจ้ ำของที่ ดิ น ต้อ งยอมให้ บุ ค คลผู้ ก ระท ำกำรโดยสุ จริต หรือผู้ เป็ น เจ้ ำของที่ ดิน โดยมีเงื่อ นไขซึ่งได้
สำนักเพำะปลู กลงไว้นั้น คงครองที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ดินจนกว่สำำนั
จะเสร็ จกำรเก็บเกี่ยวโดยใช้กำเงินคำนวณตำมเกณฑ์
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ค่ำเช่ำที่ดิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
นั้น หรือเจ้ำของที่ดินจะเข้ำครอบครองในทันทีโดยใช้ค่ำทดแทนให้แก่อีกฝ่ำยหนึ่งก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๓๑๕ บุคคลใดสร้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำงโรงเรือน หรือทำกำรก่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อสร้ำงอย่ำงอื
สำนั่นกซึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่งติดที่ดิน หรือ กำ
เพำะปลู ก ต้ น ไม้ ห รื อ ธัญ ชำติ ในที่ ดิ น ของตนด้ ว ยสั ม ภำระของผู้ อื่น ท่ ำนว่ำบุ ค คลนั้ น เป็ น เจ้ำของ
สัมภำระ แต่ต้องใช้ ค่ำกสังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั มภำระ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๓๑๖ ถ้ำเอำสั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนังกหำริ มทรัพย์ของบุคคลหลำยคนมำรวมเข้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนัำกกังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นจนเป็นส่วน กำ
ควบหรือแบ่งแยกไม่ได้ไซร้ ท่ำนว่ำบุคคลเหล่ำนั้นเป็นเจ้ำของรวมแห่งทรัพย์ที่รวมเข้ำกัน แต่ละคนมี
ส่วนตำมค่ำแห่งทรัสำนั
พย์กขงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องตนในเวลำที่รวมเข้ำกกัำบทรัพย์อื่น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำทรัพย์อันหนึ่ งอำจถือได้ว่ำเป็น ทรัพย์ประธำนไซร้ ท่ำนว่ำเจ้ำของทรัพย์นั้นเป็น
สำนักเจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำของทรัพย์ที่รวมเข้ำกักนำ แต่ผู้เดียว แต่สำนั
ต้อกงใช้ ค่ำแห่งทรัพย์อื่น ๆ ให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำแก่เจ้ำของทรัสพำนัย์กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ั้น ๆ กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


- ๒๑๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๓๑๗ บุคคลใดใช้สัมภำระของบุคคลอื่นทำสิ่งใดขึ้นใหม่ไซร้ ท่ำนว่ำเจ้ำของ


สำนักสังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มภำระเป็ น เจ้ ำของสิ่กงนัำ ้ น โดยมิต้องคสำนั
ำนึกงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ว่ำสั มภำระนั้น จะกลักบำคืนตำมเดิมได้สำนั
ห รืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไม่ แต่ต้องใช้ กำ
ค่ำแรงงำน
สแต่
ำนัถก้ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ค่ำแรงงำนเกินกว่ำค่ำสักมำ ภำระที่ใช้นั้นสมำกไซร้ ท่ำนว่ำผู้ทำเป็นเจ้กำำของทรัพย์ที่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทำขึ้น แต่ต้องใช้ค่ำสัมภำระ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๓๑๘ บุคคลอำจได้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำมำซึ่งกรรมสิสทำนั
ธิ์แกห่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งสังหำริมทรัพย์อันไม่กมำีเจ้ำของโดย
เข้ำถือเอำ เว้นแต่กำรเข้ำถือเอำนั้นต้องห้ำมตำมกฎหมำย หรือฝ่ำฝืนสิทธิของบุคคลอื่นที่จะเข้ำถือเอำ
สำนักสังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งหำริมทรัพย์นั้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๓๑๙ ถ้ ำเจ้ ำของสั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ง หำริ ม ทรัพสย์ำนั
เลิกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ครอบครองทรัพ ย์ด้ วกยเจตนำสละ

กรรมสิทธิ์ไซร้ ท่ำนว่ำสังหำริมทรัพย์นั้นไม่มีเจ้ำของ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๒๐ ภำยในบังคับแห่งกฎหมำยเฉพำะและกฎข้อบังคับในเรื่องนั้น ท่ำน
ว่ำสัตว์ป่ำไม่มีเจ้ำของตรำบเท่ำที่ยังอยู่อิสระ สัตว์ป่ำในสวนสัสตำนัว์กและปลำในบ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อหรือในที่น้ำซึ่งเจ้ำของ
สำนักกังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นไว้นั้น ท่ำนว่ำไม่ใช่สัตกว์ำ ไม่มีเจ้ำของ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สัตว์ป่ำที่คนจับได้นั้น ถ้ำมันกลับคืนอิสระและเจ้ำของไม่ติดตำมโดยพลันหรือเลิก
ติดตำมเสียแล้ว ฉะนี สำนั้ทกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ำนว่ำไม่มีเจ้ำของ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สัตว์ซึ่งเลี้ยงเชื่องแล้ว ถ้ำมันทิ้งที่ไปเลย ท่ำนว่ำไม่มีเจ้ำของ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๒๑ ภำยในบังคับแห่งกฎหมำยเฉพำะและกฎข้อบังคับในเรื่องนั้น ผู้ใด
จับสัตว์ป่ำได้ในทีส่รำนั
กร้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งว่ำงเปล่ำหรือในที่น้ำสำธำรณะก็
กำ ดี หรื
สำนัอกจังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บได้ในที่ดิน หรือที่น้ำมี
กำเจ้ำของโดย
เจ้ำของมิได้แสดงควำมหวงห้ำมก็ดี ท่ำนว่ำผู้นั้นเป็นเจ้ำของสัตว์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๒๒ บุคคลใดทำให้สัตว์ป่ำบำดเจ็บแล้วติดตำมไปและบุคคลอื่นจับสัตว์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นั้นได้ก็ดี หรือสัตว์นั้นตำยลงในที่ดินของบุคคลอื่นก็ดี ท่ำนว่ำบุคคลแรกเป็นเจ้ำของสัตว์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๒๓ บุคคลเก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหำย ต้องทำอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดดังต่อไปนี้
ส(๑)
ำนักส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งมอบทรั พ ย์ สิ น นั้ น แก่กำผู้ ข องหำยหรืสอำนัเจ้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของ หรือ บุ ค คลอื่ น ผูก้ มำี สิ ท ธิ จะรั บ
ทรัพย์สินนั้น หรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี(๒) แจ้กงำแก่ผู้ของหำยหรื
สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เจ้ำของ หรือบุคคลอืก่นำผู้มีสิ ทธิจะรับสทรั ำนักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์สินนั้นโดยมิ กำ
ชักช้ำ หรือ
ส(๓) ส่งมอบทรัพย์สินนั้นแก่กำเจ้ำพนักงำนตสำรวจ
ำนั๙๗กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หรือพนักงำนเจ้ำหน้กำำที่อื่นภำยใน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำมวัน และแจ้งพฤติกำรณ์ ตำมที่ทรำบอันอำจเป็นเครื่องช่วยในกำรสืบหำตัวบุคคลผู้มีสิทธิจะรับ
สำนักทรั พย์สินนั้น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๙๗
มำตรำ ๑๓๒๓ วรรคหนึ่ ง (๓) แก้ ไขเพิ่ ม เติม โดยพระรำชบั ญ ญั ติ แก้ ไขเพิ่ ม เติ ม ประมวล
สำนักกฎหมำยแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งและพำณิชย์ ก(ฉบั
ำ บที่ ๑๔) พ.ศ.สำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๕๔๘ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๑๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

แต่ถ้ำไม่ทรำบตัวผู้ของหำย เจ้ำของ หรือบุคคลอื่นผู้มีสิทธิจะรับทรัพย์สินก็ดี หรือ


สำนักบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คคลดังระบุนั้นไม่รับมอบทรั
กำ พย์สินก็ดสี ำนั ท่ำกนให้ ดำเนินกำรตำมวิธีอกันำบัญญัติไว้ในอนุสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ (๓)
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทั้งนี้ ท่ำนว่ำผู้เก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหำยต้องรักษำทรัพย์สินนั้นไว้ด้วยควำมระมัดระวัง
อันสมควรจนกว่ำจะส่สำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มอบ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๓๒๔ ผู้เก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหำย อำจเรียกร้องเอำรำงวัลจำกบุค คลผู้มีสิทธิ
จะรับทรัพย์สินนัส้นำนั เป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำนวนร้อยละสิบแห่งกค่ำำทรัพย์สินภำยในรำคำสำมหมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่นบำท และถ้
กำ ำรำคำสูง
กว่ำนั้ น ขึ้น ไปให้ คิดให้ อี กร้ อยละห้ ำในจำนวนที่ เพิ่ มขึ้น แต่ ถ้ำผู้ เก็ บได้ ซึ่งทรัพ ย์สิ น หำยได้ ส่ งมอบ
สำนักทรั พ ย์ สิ น แก่ เจ้ ำพนั ก งำนต
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำรวจหรือสพนั ำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนเจ้ำหน้ ำที่ อื่น ให้กเสีำย เงิน อี กร้อยละสองครึ ่งแห่ งค่ ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทรัพย์สินเป็นค่ำธรรมเนียมแก่ทบวงกำรนั้น ๆ เพิ่มขึ้นเป็นส่วนหนึ่งต่ำงหำกจำกรำงวัลซึ่งให้แก่ผู้เก็บ
ได้ แต่ค่ำธรรมเนียสมนี ำนัก้ใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ห้จำกัดไว้ไม่เกินหนึ่งพันกำบำท๙๘ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำผู้เก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหำยมิได้ปฏิบัติตำมบทบัญญัติในมำตรำก่อนไซร้ท่ำนว่ำผู้ นั้น
สำนักไม่ มีสิทธิจะรับรำงวัล กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๒๕ ถ้ำผู้เก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหำยได้สำนั ปฏิกบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัติตำมบทบัญญัติมำตรำกำ๑๓๒๓ แล้ว
สำนักและผู ้มีสิทธิจะรับทรัพย์กสำินนั้นมิได้เรียกเอำภำยในหนึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งปีนับแต่วันทีก่เำก็บได้ไซร้ ท่ำนว่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำกกรรมสิ ทธิ์ตกแก่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้เก็บได้
สแต่
ำนัถก้ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทรัพย์สินซึ่งไม่มีผู้เรียกเอำนั
กำ ้ นเป็นโบรำณวั ตถุไซร้ กรรมสิทธิ์แห่งกทรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ พย์สินนั้น
ตกแก่แผ่นดิน แต่ผู้เก็บได้มีสิทธิจะได้รับรำงวัลร้อยละสิบแห่งค่ำทรัพย์สินนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๒๖ กำรเก็บได้ซึ่งทรัพย์สินอันตกหรือทิ้งทะเล หรือทำงน้ำ หรือน้ำซัดขึ้น
ฝั่งนั้น ท่ำนให้บังคัสบำนัตำมกฎหมำยและกฎข้ อบักงำคับว่ำด้วยกำรนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๓๒๗ ภำยในบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงคังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บแห่งกฎหมำยอำชญำกำกรรมสิทธิ์แห่สงำนั
สิ่งกใดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ๆ ซึ่งได้ใช้ใน กำ
กำรกระทำผิด หรือได้มำโดยกำรกระทำผิด หรือเกี่ยวกับกำรกระทำผิดโดยประกำรอื่น และได้ส่งไว้ใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมรักษำของกรมในรัฐบำลนั้น ท่ำนว่ำตกเป็นของแผ่นดิน ถ้ำเจ้ำของมิได้เรียกเอำภำยในหนึ่ง ปีนับ
สำนักแต่ วันส่ง หรือถ้ำได้ฟ้องคดี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อำชญำต่อศำลแล้ วนับแต่วันที่คำพิพำกษำถึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งที่สุด แต่ถส้ำไม่
ำนัทกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รำบตัวเจ้ำของ กำ
ท่ำนให้ผ่อนเวลำออกไปเป็นห้ำปี
สถ้ำนั
ำทรั พย์สินเป็นของเสียง่ำยกำหรือถ้ำหน่วงช้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำไว้ จะเป็นกำรเสี่ยงควำมเสี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยหำยหรือ
ค่ำใช้จ่ำยจะเกินส่วนกับค่ำของทรัพย์สินนั้นไซร้ ท่ ำนว่ำกรมในรัฐบำลจะจัดให้เอำออกขำยทอดตลำด
สำนักก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อนถึงกำหนดก็ได้ แต่กกำ่อนที่จะขำยให้สำนั
จัดกกำรตำมควรเพื ่อบันทึกกรำยกำรอั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นเป็นสเครื
ำนัก่องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งให้บุคคลผู้มี กำ
สิทธิจะรับทรัพย์สินนั้นอำจทรำบว่ำเป็นทรัพย์สินของตนและพิสูจน์สิทธิได้ เมื่อขำยแล้วได้เงินเป็น
จำนวนสุทธิเท่ำใดให้
สำนัถกืองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไว้แทนตัวทรัพย์สิน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๙๘
มำตรำ ๑๓๒๔ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญ ญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำย
สำนักแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พ.ศ. ๒๕๔๘ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๔) สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๑๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๓๒๘ ๙๙ สั ง หำริ ม ทรั พ ย์ มี ค่ ำ ซึ่ ง ซ่ อ นหรื อ ฝั ง ไว้ นั้ น ถ้ ำ มี ผู้ เก็ บ ได้ โ ดย
สำนักพฤติ กำรณ์ซึ่งไม่มีผู้ใดสำมำรถอ้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำงว่ำเป็สำนั
นเจ้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำของได้ ให้กรรมสิทธิ์ตกกเป็
ำ นของแผ่นสดิำนันกผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้เก็บได้ต้องส่ง กำ
มอบทรัพย์นั้นแก่เจ้ำพนักงำนตำรวจหรือพนักงำนเจ้ำหน้ำที่อื่น แล้วมีสิทธิจะได้รับรำงวัลหนึ่งในสำม
แห่งค่ำทรัพย์นั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๓๒๙ สิทธิของบุคคลผู้ได้มำซึ่งทรัพย์สินโดยมีค่ำตอบแทนและโดยสุจริตนั้น
ท่ำนว่ำมิเสียไป ถึสงแม้
ำนักวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ำผู้โอนทรัพย์สินให้จะได้กทำ รัพย์สินนั้นมำโดยนิ ติกรรมอันเป็นโมฆียะกและนิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ติกรรม
นั้นได้ถูกบอกล้ำงภำยหลัง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๓๐ สิทธิของบุคคลผู้ซื้อทรัพย์สินโดยสุจริตในกำรขำยทอดตลำดตำม
คำสั่งศำล หรือคสำสัำนั่งกเจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำพนักงำนรักษำทรัพย์กใำนคดีล้มละลำยนั
สำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ท่ำนว่ำมิเสียไป ถึงแม้กำภำยหลังจะ
พิสูจน์ได้ว่ำทรัพย์สินนั้นมิใช่ของจำเลย หรือลูกหนี้โดยคำพิพำกษำ หรือผู้ล้มละลำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๓๑ สิทธิของบุคคลผู้ได้ เงินตรำมำโดยสุจริตนั้น ท่ำนว่ำมิเสียไป ถึงแม้
ภำยหลังจะพิสูจน์ได้ว่ำเงินนั้นมิใช่ของบุคคลซึ่งได้โอนให้มำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๓๓๒ บุ ค คลผู้ ซื้อ ทรัพ ย์ สิ น มำโดยสุ จริตในกำรขำยทอดตลำด หรือ ใน
ท้องตลำด หรือจำกพ่ อค้ำซึ่งขำยของชนิดนัก้นำ ไม่จำต้องคืนสให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักแงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก่เจ้ำของแท้จริง เว้นแต่
กำ เจ้ ำของจะ
ชดใช้รำคำที่ซื้อมำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๓๓ ท่ำนว่ำกรรมสิทธิ์นั้น อำจได้มำโดยอำยุควำมตำมที่บัญ ญั ติไว้ใน
ลักษณะ ๓ แห่งบรรพนี ้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๓๓๔ ที่ดินสรกร้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งว่ำงเปล่ำ และที่ดินซึ่งกมีำ ผู้เวนคืนหรือสทอดทิ ้งหรือกลับมำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เป็นของแผ่นดินโดยประกำรอื่นตำมกฎหมำยที่ดินนั้น ท่ำนว่ำบุคคลอำจได้มำตำมกฎหมำยที่ดิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แดนแห่งกรรมสิทธิ์ และกำรใช้กรรมสิทธิ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๓๓๕ ภำยในบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คับแห่งบทบัญญัติในประมวลกฎหมำยนี
กำ สำนั้หกรืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อกฎหมำยอื่น กำ
ท่ำนว่ำแดนแห่งกรรมสิทธิ์ที่ดินนั้นกินทั้งเหนือพื้นดินและใต้พื้นดินด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๓๖ ภำยในบั งคั บ แห่ งกฎหมำย เจ้ำของทรัพ ย์สิ น มีสิ ท ธิใช้ส อยและ
สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหน่ ำยทรั พ ย์ สิ น ของตนและได้
กำ ซึ่ งดอกผลแห่ งทรัพ ย์สิ น นั้ น กักบำ ทั้ งมี สิ ท ธิติ ดสตำมและเอำคื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี น ซึ่ ง
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๙๙
มำตรำ ๑๓๒๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ.ก๒๕๔๘
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๑๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ทรัพย์สินของตนจำกบุคคลผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ และมีสิทธิขัดขวำงมิให้ผู้อื่นสอดเข้ำเกี่ยวข้องกับ
สำนักทรั พย์สินนั้นโดยมิชอบด้กวำยกฎหมำย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๓๓๗ บุ คคลใดใช้กำสิ ทธิของตนเป็สำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นเหตุ ให้ เจ้ำของอสั งหำริมกำทรัพย์ได้รับ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ควำมเสียหำย หรือเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคำดหมำยได้ว่ำจะเป็นไปตำมปกติและเหตุอันควรใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่อเอำสภำพและตำแหน่งที่อยู่แห่งทรัพย์สินนั้นมำคำนึงประกอบไซร้ ท่ำนว่ำเจ้ำของอสังหำริมทรัพย์
มีสิทธิจะปฏิบัติกสำรเพื
ำนัก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อยังควำมเสียหำยหรือกเดืำอดร้อนนั้นให้สสำนัิ้นกไปงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทั้งนี้ ไม่ลบล้ำงสิทธิกทำี่จะเรียกเอำ
ค่ำทดแทน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๓๘ ข้อจำกัดสิทธิแห่งเจ้ำของอสังหำริมทรัพย์ซึ่งกฎหมำยกำหนดไว้นั้น
ท่ำนว่ำไม่จำต้องจดทะเบี ยน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ข้อจำกัดเช่นนี้ ท่ำนว่ำจะถอนหรือแก้ให้หย่อนลงโดยนิติกรรมไม่ได้ นอกจำกจะได้ทำ
สำนักนิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ติกรรมเป็นหนังสือและจดทะเบี
กำ ยนกับสพนั
ำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนเจ้ำหน้ำที่ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ข้อจำกัดซึ่งกำหนดไว้เพื่อสำธำรณประโยชน์นั้น ท่ำนว่ำจะถอนหรือแก้ให้หย่อนลง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มิได้เลย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๓๙ เจ้ำของที่ดินจำต้องรับน้ำซึ่งไหลตำมธรรมดำจำกที่ดินสูงมำในที่ดิน
ของตน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
น้ำไหลตำมธรรมดำมำยังที่ดินต่ำ และจำเป็นแก่ที่ดินนั้นไซร้ ท่ำนว่ำเจ้ำของที่ดินซึ่ง
สำนักอยู ่สูงกว่ำจะกันเอำไว้ได้กเพีำ ยงที่จำเป็นแก่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัทกี่ดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ินของตน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๓๔๐ เจ้ำของที่ดกินำจำต้องรับน้ำซึส่งำนัไหลเพรำะระบำยจำกที


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ดินกสูำงมำในที่ดิน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของตน ถ้ำก่อนที่ระบำยนั้นน้ำได้ไหลเข้ำมำในที่ดินของตนตำมธรรมดำอยู่แล้ว
ถ้ำได้รกับำ ควำมเสียหำยเพรำะกำรระบำยน้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ท่ำนว่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำำเจ้ำของที่ดินสต่ำนัำอำจเรี ยกร้องให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เจ้ำของที่ดินสูงทำทำงระบำยน้ำและออกค่ำใช้จ่ำยในกำรนั้น เพื่อระบำยน้ำไปให้ตลอดที่ดินต่ำจนถึง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทำงน้ำ หรือท่อน้ำสำธำรณะ ทั้งนี้ ไม่ลบล้ำงสิทธิแห่งเจ้ำของที่ดินต่ำในอันจะเรียกเอำค่ำทดแทน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๔๑ ท่ำนมิให้เจ้ำของอสังหำริมทรัพย์ทำหลังคำหรือกำรปลูกสร้ำงอย่ำง
อื่น ซึ่งทำให้น้ำฝนตกลงยั งทรัพย์สินซึ่งอยู่ติดต่กอำกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๓๔๒ บ่อ สสระ


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หลุมรับน้ำโสโครก หรืกอำ หลุมรับปุ๋ย หรื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัอกขยะมู ลฝอยนั้น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ท่ำนว่ำจะขุดในระยะสองเมตรจำกแนวเขตที่ดินไม่ได้
สคูำนั
หรืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรขุดร่องเพื่อวำงท่อกน้ำำใต้ดินหรือสิส่งำนั
อื่นกซึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่งคล้ำยกันนั้น ท่ำนว่ำจะท
กำ ำใกล้แนว
เขตที่ดินกว่ำครึ่งหนึ่งแห่งส่วนลึกของคูหรือร่องนั้นไม่ได้ แต่ถ้ำทำห่ำงแนวเขตหนึ่งเมตรหรือกว่ำนั้น
สำนักท่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนว่ำทำได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำกระท ำกำรดั งกล่ ำวไว้ในสองวรรคก่ อสนใกล้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แ นวเขตไซร้ ท่ ำนว่ำต้ องใช้ ควำม
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ระมัดระวังตำมควร เพื่อป้องกันมิให้ดินหรือทรำยพังลง หรือมิให้น้ำหรือสิ่งโสโครกซึมเข้ำไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๑๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๓๔๓ ห้ำมมิให้ขุดดินหรือบรรทุกน้ำหนักบนที่ดินเกินควรจนอำจเป็นเหตุ


สำนักอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นตรำยแก่ควำมอยู่มั่นกแห่ำ งที่ดินติดต่อสำนั
เว้นกแต่ จะจัดกำรเพียงพอเพืก่อำป้องกันควำมเสี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัยกหำย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๓๔๔ รั้ว กำแพงกำรั้วต้นไม้ คู ซึส่งหมำยเขตที


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ดินนั้น ท่ำนให้กสำันนิษฐำนไว้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก่อนว่ำเจ้ำของที่ดินทั้งสองข้ำงเป็นเจ้ำของรวมกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๓๔๕ เมื่อรั้วต้นไม้กำหรือคูซึ่งมิได้ใสช้ำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทำงระบำยน้ำ เป็นของเจ้
กำ ำของที่ดิน
ทั้งสองข้ำงรวมกัน ท่ำนว่ำเจ้ำของข้ำงใดข้ำงหนึ่งมีสิทธิที่จะตัดรั้ วต้นไม้ หรือถมคูนั้นได้ถึงแนวเขต
สำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ดินของตน แต่ต้องก่อกกำแพง
ำ หรือทำรัสำนั
้วตำมแนวเขตนั ้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๓๔๖ ถ้ำมีต้นไม้อกยูำ่บนแนวเขตทีส่ำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดินกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้ก่กอำนว่ำเจ้ำของ
ที่ดินทั้งสองข้ำงเป็นเจ้ำของต้นไม้รวมกัน ดอกผลเป็นของเจ้ำของที่ดินคนละส่วนเสมอกัน และถ้ำตัด
สำนักต้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นลงไซร้ ไม้นั้นเป็นของเจ้
กำ ำของที่ดินคนละส่ วนดุจกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เจ้ ำของแต่ล ะฝ่ำยจะต้องกำรให้ ขุดหรือตัดต้นไม้ก็ได้ ค่ำใช้จ่ำยในกำรนั้นต้องเสี ย
เท่ำกันทั้งสองฝ่ำย แต่ถ้ำเจ้ำของอีกฝ่ำยหนึ่งสละสิทธิในต้นสไม้ำนัไกซร้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ฝ่ำยที่ต้องกำรขุดหรืกอำตัดต้องเสีย
สำนักค่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำใช้จ่ำยฝ่ำยเดียว ถ้ำต้กนำ ไม้นั้น เป็นหลัสำนั
กเขตและจะหำหลั กเขตอื่นกำไม่เหมำะเหมือสนำนัท่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนว่ำฝ่ำยหนึ่ง กำ
ฝ่ำยใดจะต้องกำรให้ขุดหรือตัดไม่ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๔๗ เจ้ำของที่ดินอำจตัดรำกไม้ซึ่งรุกเข้ำมำจำกที่ดินติดต่อและเอำไว้เสีย
สำนักถ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำกิ่งไม้ยื่นล้ำเข้ำมำ เมืก่อำเจ้ำของที่ดินได้สำนั
บอกผู ้ครอบครองที่ดินติดต่กอำ ให้ตัดภำยในเวลำอั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นสมควรแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แต่ผู้นั้นไม่ตัด ท่ำนว่ำเจ้ำของที่ดินตัดเอำเสียได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๔๘ ดอกผลแห่งต้นไม้ที่หล่นตำมธรรมดำลงในที่ดินติดต่อแปลงใด ท่ำน
สำนักให้ สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำเป็กำนดอกผลของที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ดินกแปลงนั
สำนั ้น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๔๙ ที่ ดิ น แปลงใดมี ที่ ดิ น แปลงอื่ น ล้ อ มอยู่ จ นไม่ มี ท ำงออกถึ ง ทำง
สำนักสำธำรณะได้ ไซร้ ท่ำนว่ำกเจ้ำ ำของที่ดินแปลงนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นจะผ่ำนที่ดินซึ่งล้อมอยูกำ่ไปสู่ทำงสำธำรณะได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ที่ดินแปลงใดมีทำงออกได้แต่เมื่อต้องข้ำมสระ บึง หรือทะเล หรือมีที่ชันอันระดับ
ที่ดินกับทำงสำธำรณะสู งกว่ำกันมำกไซร้ ท่ำนว่กำำให้ใช้ควำมในวรรคต้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นบังคับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ที่และวิธีทำทำงผ่ำนนั้น ต้องเลือกให้พอควรแก่ควำมจำเป็นของผู้มีสิทธิจะผ่ำน กับ
สำนักทังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้งให้คำนึงถึงที่ดินที่ล้อกมอยู
ำ ่ให้เสียหำยแต่
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้อยที่สุดที่จะเป็นได้ ถ้ำกจำำเป็นผู้มีสิทธิจสะผ่
ำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นจะสร้ำงถนน กำ
เป็นทำงผ่ำนก็ได้
สผูำนั
้มีสกิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทธิจะผ่ำนต้องใช้ค่ำทดแทนให้
กำ แก่เจ้ำสของที ่ดินที่ล้อมอยู่เพื่อควำมเสี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยหำยอัน
เกิดแต่เหตุที่มีทำงผ่ำนนั้น ค่ำทดแทนนั้นนอกจำกค่ำเสียหำยเพรำะสร้ำงถนน ท่ำนว่ำจะกำหนดเป็น
สำนักเงิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นรำยปีก็ได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


- ๒๒๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๓๕๐ ถ้ำที่ดินแบ่งแยกหรือแบ่งโอนกันเป็นเหตุให้แปลงหนึ่งไม่มีทำงออก


สำนักไปสู ่ทำงสำธำรณะไซร้ กท่ำำนว่ำเจ้ำของที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่ดกินงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แปลงนั้นมีสิทธิเรียกร้กอำ งเอำทำงเดินสตำมมำตรำก่ อนได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เฉพำะบนที่ดินแปลงที่ได้แบ่งแยกหรือแบ่งโอนกันและไม่ต้องเสียค่ำทดแทน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๕๑ เจ้ำของที่ดิน เมื่อบอกล่วงหน้ำตำมสมควรแล้ว อำจใช้ที่ดินติดต่อ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เพียงที่จำเป็นในกำรปลูกสร้ำงหรือซ่อมแซมรั้ว กำแพง หรือโรงเรือน ตรงหรือใกล้แนวเขตของตน แต่
จะเข้ำไปในเรือนทีสำนั
อ่ ยูก่ขงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องเพื่อนบ้ำนข้ำงเคียงไม่
กำได้ เว้นแต่ได้รสับำนัควำมยิ นยอม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ถ้ ำได้ ก่ อ ควำมเสี ย หำยให้ เกิ ด ขึ้ น ไซร้ ท่ ำ นว่ ำเพื่ อ นบ้ ำนข้ ำ งเคี ย งจะเรีย กเอำค่ ำ
สำนักทดแทนก็ ได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๓๕๒ ท่ำนว่ำถ้ำเจ้กำำของที่ดินได้รสับำนัค่กำทดแทนตำมสมควรแล้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกวำต้องยอมให้
ผู้อื่นวำงท่อน้ำ ท่อระบำยน้ำ สำยไฟฟ้ำ หรือสิ่งอื่นซึ่งคล้ำยกันผ่ำนที่ดินของตน เพื่อประโยชน์แก่ที่ดิน
สำนักติงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดต่อ ซึ่งถ้ำไม่ยอมให้ผก่ำำนก็ไม่มีทำงจะวำงได้ หรือถ้ำจะวำงได้ก็เกปลื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ องเงินมำกเกิ
สำนันควร แต่เจ้ำของ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ที่ดินอำจให้ยกเอำประโยชน์ของตนขึ้นพิจำรณำด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่อมีเหตุผลพิเศษ ถ้ำจะต้องวำงเหนือพื้นดิสนำนัไซร้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ท่ำนว่ำเจ้ำของที่ดินอำจเรียกให้ซื้อ
สำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ดินของตนบำงส่วนตำมควรที
กำ ่จะใช้ในกำรนั ้น โดยรำคำคุ้มค่ำที่ดกินำ และค่ำทดแทนควำมเสี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยหำยซึ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อำจมีเพรำะกำรขำยนั้นด้วย
สถ้ำนั
ำพฤติ กำรณ์เปลี่ยนไป เจ้ำกของที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่ดินอำจเรีสำนัยกให้ ย้ำยถอนสิ่งที่วำงนั้นกไปไว้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ณ ส่วน
อื่นแห่งที่ดินของตนตำมแต่จะเหมำะแก่ประโยชน์แห่งเจ้ำของที่ดิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ค่ำย้ำยถอนนั
กำ ้นเจ้ำของที
สำนัก่ดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ินติดต่อเป็นผู้เสีย แต่ถก้ำำมีพฤติกำรณ์พสิเำนั
ศษไซร้ ท่ำนว่ำจะ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ให้เจ้ำของที่ดินอีกฝ่ำยหนึ่งช่วยเสียค่ำย้ำยถอนตำมส่วนอันควรก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๕๓ บุคคลอำจพำปศุสัตว์ของตนผ่ำนหรือเข้ำไปในที่ดินของผู้อื่นซึ่งมิได้
สำนักกังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นเพื่อไปเลี้ยง และอำจเข้
กำ ำไปเอำน้ำในบ่
สำนัอกหรื อสระในที่เช่นว่ำนั้นมำใช้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ได้ เว้นแต่ทสี่ดำนัินกเป็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นที่เพำะปลูก กำ
หรือเตรียมเพื่อเพำะปลูก หว่ำน หรือมีธัญชำติขึ้นอยู่แล้ว แต่ท่ำนว่ำเจ้ำของที่ดินย่อมห้ำมได้เสมอ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๓๕๔ ถ้ำมีสจำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำรีกตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ประเพณีแห่งท้องถิ่นให้กทำ ำได้และถ้ำเจ้สำำนั
ของไม่ ห้ำม บุคคล
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อำจเข้ำไปในที่ป่ำ ที่ดง หรือในที่มีหญ้ำเลี้ยงสัตว์ซึ่งเป็นที่ดินของผู้อื่น เพื่อเก็บฟืน หรือผลไม้ป่ำ ผัก
เห็ด และสิ่งเช่นกัสนำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๓๕๕ เจ้ำสของที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ดินริมทำงน้ำ หรือมีทกำงน้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำผ่ำน ไม่มสีสำนั
ิทธิกจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ะชักเอำน้ำไว้ กำ
เกินกว่ำที่จำเป็นแก่ประโยชน์ของตนตำมควร ให้เป็นเหตุเสื่อมเสียแก่ที่ดินแปลงอื่นซึ่งอยู่ตำมทำงน้ำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กรรมสิทธิ์รวม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


- ๒๒๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๓๕๖ ถ้ำทรัพย์สินเป็นของบุคคลหลำยคนรวมกัน ท่ำนให้ใช้บทบัญญัติใน


สำนักหมวดนี ้บังคับ เว้นแต่จะมี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำกฎหมำยบัญสญัำนัติไกว้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นอย่ำงอื่น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๓๕๗ ท่ำนให้สันนิกษำ ฐำนไว้ก่อนว่สำำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ผู้เป็กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นเจ้ำของรวมกันมีส่วนเท่
กำ ำกัน

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๓๕๘ ท่ ำนให้ สั นนิ ษ ฐำนไว้ก่อนว่ำเจ้ำของรวมมีสิ ท ธิจัดกำรทรัพ ย์สิ น
รวมกัน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในเรื่องจัดกำรตำมธรรมดำ ท่ำนว่ำพึงตกลงโดยคะแนนข้ำงมำกแห่งเจ้ำของรวม
สำนักแต่ เจ้ำของรวมคนหนึ่ง กๆำ อำจทำสิ่งใดสิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่งหนึ ่งในทำงจัดกำรตำมธรรมดำได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เว้นแต่สำนั
ฝ่ำกยข้ ำงมำกได้ ตก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ลงไว้เป็นอย่ำงอื่น แต่เจ้ำของรวมคนหนึ่ง ๆ อำจทำกำรเพื่อรักษำทรัพย์สินได้เสมอ
สในเรื ่ องจัดกำรอัน เป็ น สำระส
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำคั ญ ท่ ำนว่สำำนั
ต้อกงตกลงกั น โดยคะแนนข้กำำงมำกแห่ ง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เจ้ำของรวม และคะแนนข้ำงมำกนั้นต้องมีส่วนไม่ต่ำกว่ำครึ่งหนึ่งแห่งค่ำทรัพย์สิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรเปลี กำ ่ ย นแปลงวั ตสถุำนัทกี่ ปงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระสงค์ นั้ น ท่ ำนว่ำจะตกลงกั
กำ น ได้ ก็ แสำนั
ต่ เกมืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ อ เจ้ำของรวม กำ
เห็นชอบทุกคน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๓๕๙ เจ้ำของรวมคนหนึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ง ๆ อำจใช้สกิทำธิอันเกิดแต่กรรมสิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ทธิ์ครอบไปถึง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อต่อสู้บุคคลภำยนอก แต่ในกำรเรียกร้องเอำทรัพย์สินคืนนั้น ท่ำนว่ำต้องอยู่ใน
บังคับแห่งเงื่อนไขที
สำนั่ระบุ ไว้ในมำตรำ ๓๐๒ แห่กงำประมวลกฎหมำยนี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๑๓๖๐ เจ้ำของรวมคนหนึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ง ๆ มีสิทธิใช้ทกำรัพย์สินได้ แต่สกำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำรใช้ นั้นต้องไม่ขัด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ต่อสิทธิแห่งเจ้ำของรวมคนอื่น ๆ
สท่ำนัำนให้ สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำกเจ้ำำของรวมคนหนึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่งกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ๆ มีสิทธิได้ดอกผลตำมส่กำวนของตนที่
มีในทรัพย์สินนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๖๑ เจ้ำของรวมคนหนึ่ ง ๆ จะจำหน่ำยส่วนของตน หรือจำนอง หรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ก่อให้เกิดภำระติดพันก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี แต่ตัวกทรัำ พย์สินนั้นจะจ
สำนัำหน่ ำย จำนำ จำนอง หรืกอำก่อให้เกิดภำระติ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัดกพังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นได้ก็แต่ด้วย กำ
ควำมยินยอมแห่งเจ้ำของรวมทุกคน
สถ้ำนั
ำเจ้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำของรวมคนใดจำหน่ำกยำ จำนำ จำนองสำนัหรืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก่อให้เกิดภำระติดพันกทรั ำ พย์สินโดย
มิได้รับควำมยินยอมแห่งเจ้ำของรวมทุกคน แต่ภำยหลังเจ้ำของรวมคนนั้นได้เป็นเจ้ำของทรัพย์สินแต่ผู้
สำนักเดีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยวไซร้ ท่ำนว่ำนิติกรรมนักำ ้นเป็นอันสมบู
สำนัรณ์
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๓๖๒ เจ้ำของรวมคนหนึ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ง ๆ จสำต้ำนัอกงช่ วยเจ้ำของรวมคนอื่นกำๆ ตำมส่วน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของตนในกำรออกค่ำจัดกำร ค่ำภำษีอำกร และค่ำรักษำ กับทั้งค่ำใช้ทรัพย์สินรวมกันด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๖๓ เจ้ำของรวมคนหนึ่ง ๆ มีสสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ิทธิกเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รียกให้แบ่งทรัพย์สินได้กำเว้นแต่จะมี
นิติกรรมขัดอยู่ หรือถ้ำวัตถุที่ประสงค์ที่เป็นเจ้ำของรวมกันนั้นมีลักษณะเป็นกำรถำวร ก็เรียกให้แบ่ง
สำนักไม่ ได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๒๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สิทธิเรียกให้แบ่งทรัพย์สินนั้น ท่ำนว่ำจะตัดโดยนิติกรรมเกินครำวละสิบปีไม่ได้
ท่ำนว่กำเจ้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำของรวมจะเรี
สำนัยกกให้ แบ่งทรัพย์สินในเวลำที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ไม่เป็นโอกำสอั
สำนันกควรไม่ ได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สมำตรำ ๑๓๖๔ กำรแบ่งทรักพำย์สินพึงกระทสำโดยแบ่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งทรัพย์สินนั้นเองระหว่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำงเจ้ำของ
รวม หรือโดยขำยทรัพย์สินแล้วเอำเงินที่ขำยได้แบ่งกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำเจ้ำของรวมไม่ตกลงกันว่ำจะแบ่งทรัพย์สินอย่ำงไรไซร้ เมื่อเจ้ำของรวมคนหนึ่งคน
ใดขอ ศำลอำจสั่งสให้
ำนัเกอำทรั พย์สินนั้นออกแบ่งกำถ้ำส่วนที่แบ่งสให้ำนัไกม่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เท่ำกันไซร้ จะสั่งให้ทดแทนกั
กำ นเป็น
เงินก็ได้ ถ้ำกำรแบ่งเช่นว่ำนี้ไม่อำจทำได้หรือจะเสียหำยมำกนักก็ดี ศำลจะสั่งให้ขำยโดยประมูลรำคำ
สำนักกังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นระหว่ำงเจ้ำของรวมหรื กำอขำยทอดตลำดก็สำนักไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๓๖๕ ถ้ำเจ้ำของรวมต้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องรับผิดสชอบร่ วมกันต่อบุคคลภำยนอกในหนี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้อัน
เกี่ยวกับทรัพย์สินรวม หรือในหนี้ซึ่งได้ก่อขึ้นใหม่เพื่อชำระหนี้เดิมดังว่ำนั้นก็ดี ในเวลำแบ่ง เจ้ำของ
สำนักรวมคนหนึ ่ง ๆ จะเรียกให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำเอำทรัพย์สินสรวมนั ้นชำระหนี้เสียก่อน หรืกอำให้เอำเป็นประกั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนันกก็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้ กำ
ถ้ำเจ้ ำของรวมคนหนึ่ งต้องรับผิ ดต่อเจ้ำของรวมคนอื่นในหนี้ ซึ่งเกิดจำกกำรเป็ น
เจ้ำของรวม หรือในหนี้ซึ่งได้ก่อขึ้นใหม่เพื่อชำระหนี้เดิมดังสว่ำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ก็ดี ในเวลำแบ่ง เจ้ำของรวมผู ้เป็น
สำนักเจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนี้จะเรียกให้เอำส่วกนซึ ำ ่งจะได้แก่ลสูกำนัหนี ้ของตนในทรัพย์สินรวมนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นชำระหนี้เสสีำนั
ย ก่กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น หรือให้เอำ กำ
เป็นประกันก็ได้
สสิำนั
ทธิกทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี่กล่ำวมำข้ำงต้นนี้อำจใช้ กำ แก่ผู้รับโอนสำนั
หรืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้สืบกรรมสิทธิ์ในส่วนของเจ้
กำ ำของ
รวมนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถ้ำจำเป็ กำนจะต้องขำยทรั สำนัพกย์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สินรวมไซร้ ท่ำนให้นำบทบักำ ญญัติมำตรำก่
สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นมำใช้บังคับ กำ

สมำตรำ ๑๓๖๖ เจ้ำของรวมคนหนึ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ง ๆ ต้อสงรัำนับกผิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดตำมส่วนของตนเช่นเดี
กำยวกับผู้ขำย
ในทรัพย์สินซึ่งเจ้ำของรวมคนอื่น ๆ ได้รับไปในกำรแบ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ครอบครอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๓๖๗ บุคคลใดยึกดำถือทรัพย์สินโดยเจตนำจะยึ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดถือเพื่อตน ท่กำำนว่ำบุคคล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้นได้ซึ่งสิทธิครอบครอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๖๘ บุคคลอำจได้มำซึ่งสิทธิครอบครองโดยผู้อื่นยึดถือไว้ให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๖๙ บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินไว้ ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำ บุคคลนั้น
สำนักยึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดถือเพื่อตน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๗๐ ผู้ครอบครองนั้น ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำครอบครองโดยสุจริต
สำนักโดยควำมสงบและโดยเปิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกดำ เผย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๒๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๑๓๗๑ ถ้ำสพิำนัสูจกน์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ได้ว่ำบุคคลใดครอบครองทรั
กำ พย์สินสเดี
ำนัยกวกั น สองครำว
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำบุคคลนั้นได้ครอบครองติดต่อกันตลอดเวลำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๗๒ สิ ท ธิ ซึ่ ง ผู้ ค รอบครองใช้ ในทรั พ ย์ สิ น ที่ ค รอบครองนั้ น ท่ ำ นให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำเป็นสิทธิซึ่งผู้ครอบครองมีตำมกฎหมำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๗๓ ถ้ำทรัพย์สินเป็นอสังหำริมทรัพย์ที่ได้จดไว้ในทะเบียนที่ดิน ท่ำนให้
สำนักสังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นนิษฐำนไว้ก่อนว่ำบุคกคลผู
ำ ้มีชื่อในทะเบี
สำนัยนเป็ นผู้มีสิทธิครอบครองกำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๓๗๔ ถ้ำผู้ครอบครองถู


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กรบกวนในกำรครอบครองทรั พย์สกินำ เพรำะมีผู้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สอดเข้ำเกี่ยวข้องโดยมิชอบด้วยกฎหมำยไซร้ ท่ำนว่ำผู้ครอบครองมีสิทธิจะให้ปลดเปลื้องกำรรบกวน
สำนักนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นได้ ถ้ำเป็นที่น่ำวิตกว่กำำจะยังมีกำรรบกวนอี ก ผู้ครอบครองจะขอต่กอำ ศำลให้สั่งห้ำมก็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัไกด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรฟ้องคดีเพื่อปลดเปลื้องกำรรบกวนนั้น ท่ำนว่ำต้องฟ้องภำยในปีหนึ่งนับแต่เวลำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถูกรบกวน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๗๕ ถ้ำผู้ครอบครองถูกแย่งกำรครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมำยไซร้
ท่ำนว่ำผู้ครอบครองมี
สำนักสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิทธิจะได้คืนซึ่งกำรครอบครอง
กำ เว้นแต่สอำนัีกฝ่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยหนึ่งมีสิทธิเหนือทรัพกย์ำสินดีกว่ำซึ่ง
จะเป็นเหตุให้เรียกคืนจำกผู้ครอบครองได้
กำรฟ้กอำงคดีเพื่อเอำคืสนำนัซึก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรครอบครองนั้น ท่กำำนว่ำต้องฟ้องภำยในปี หนึ่งนับแต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เวลำถูกแย่งกำรครอบครอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๗๖ ถ้ำจะต้องส่งทรัพย์สิ นคืนแก่บุคคลผู้มีสิทธิเอำคืนไซร้ ท่ำนให้นำ
สำนักบทบั ญญัติมำตรำ ๔๑๒กถึำ ง ๔๑๘ แห่งสประมวลกฎหมำยนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ว่ำด้วยลำภมิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ควรได้มำใช้สบำนัังคักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บโดยอนุโลม กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๗๗ ถ้ำผู้ครอบครองสละเจตนำครอบครอง หรือไม่ยึดถือทรัพย์สินต่อไป
สำนักไซร้ กำรครอบครองย่อมสุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดสิ้นลง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำเหตุอันมีสภำพเป็นเหตุชั่วครำวมีมำขัดขวำงมิให้ผู้ครอบครองยึดถือทรัพย์ สินไซร้
ท่ำนว่ำกำรครอบครองไม่ สุดสิ้นลง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๓๗๘ กำรโอนไปซึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งกำรครอบครองนัก้นำย่อมทำได้โดยส่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนังมอบทรั พย์สินที่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ครอบครอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๗๙ ถ้ำผู้รับโอนหรือผู้แทนยึดถือทรัพย์สินอยู่แล้ว ท่ำนว่ำกำรโอนไปซึ่ง
สำนักกำรครอบครองจะท ำเพีกยำงแสดงเจตนำก็สำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๘๐ กำรโอนไปซึ่ ง กำรครอบครองย่ อ มเป็ น ผล แม้ ผู้ โ อนยั ง ยึ ด ถื อ
สำนักทรั พย์สินอยู่ ถ้ำผู้โอนแสดงเจตนำว่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำต่อสไปจะยึ ดถือทรัพย์สินนั้นแทนผู
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้รับโอน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๒๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ถ้ำทรัพย์สินนั้นผู้แทนของผู้โอนยึดถืออยู่ กำรโอนไปซึ่งกำรครอบครองจะทำโดยผู้
สำนักโอนสั ่งผู้แทนว่ำ ต่อไปให้กยำ ึดถือทรัพย์สสินำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ไว้กแงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทนผู้รับโอนก็ได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๓๘๑ บุคคลใดยึดกำถือทรัพย์สินอยู


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ในฐำนะเป็
สำนั นผู้แทนผู้ครอบครอง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บุคคล
นั้นจะเปลี่ยนลักษณะแห่ งกำรยึดถือได้ ก็แต่โดยบอกกล่ำวไปยังผู้ครอบครองว่ำไม่เจตนำจะยึดถือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทรัพย์สินแทนผู้ครอบครองต่อไป หรือตนเองเป็นผู้ครอบครองโดยสุจริต อำศัยอำนำจใหม่อันได้จำก
บุคคลภำยนอก สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๓๘๒ บุ คสคลใดครอบครองทรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี พย์สินกของผู
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้ อื่น ไว้โดยควำมสงบและโดย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เปิดเผยด้วยเจตนำเป็นเจ้ำของ ถ้ำเป็นอสังหำริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลำสิบปี ถ้ำเป็น
สังหำริมทรัพย์ได้คสำนั
รอบครองติ ดต่อกันเป็นเวลำห้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำปีไซร้ ท่ำนว่ ำบุกคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั คลนั้นได้กรรมสิทธิ์ กำ

มำตรำกำ๑๓๘๓ ทรัพสย์ำนัสินกอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นได้มำโดยกำรกระทำผิ
กำดนั้น ท่ำนว่ำผูส้กำนัระท ำผิดหรือผู้รับ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
โอนไม่สุจริตจะได้กรรมสิทธิ์โดยอำยุควำมก็แต่เมื่อพ้นกำหนดอำยุควำมอำชญำ หรือพ้นเวลำที่กำหนด
ไว้ในมำตรำก่อน สถ้ำนั
ำกกำหนดไหนยำวกว่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำ ท่ำนให้ใช้กำหนดนั้นสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๘๔ ถ้ำผู้ครอบครองขำดยึดถือทรัพย์สินโดยไม่สมัครและได้คืนภำยใน
เวลำปี ห นึ่ งนั บ ตั้งสแต่
ำนักวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัน ขำดยึ ดถือหรือได้คืนกโดยฟ้
ำ องคดีภสำยในก ำหนดนั้นไซร้ ท่ำนมิกใำห้ ถือว่ำกำร
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ครอบครองสะดุดหยุดลง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๘๕ ถ้ ำ โอนกำรครอบครองแก่ กั น ผู้ รั บ โอนจะนั บ เวลำซึ่ ง ผู้ โ อน
ครอบครองอยู่ก่อสนนั
ำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รวมเข้ำกับเวลำครอบครองของตนก็
กำ สไำนั
ด้ กถ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำผู้รับโอนนับรวมเช่นกนัำ้น และถ้ำมี
ข้อบกพร่องในระหว่ำงครอบครองของผู้โอนไซร้ ท่ำนว่ำข้อบกพร่องนั้นอำจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ผู้รับโอนได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๘๖ บทบัญญัติว่ำด้วยอำยุควำมในประมวลกฎหมำยนี้ ท่ำนให้ใช้บังคับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในเรื่องอำยุควำมได้สิทธิอันกล่ำวไว้ในลักษณะนี้โดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีภำระจ
กำ ำยอม สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๓๘๗ อสังหำริมทรัพย์อำจต้องตกอยู่ในภำระจำยอมอันเป็นเหตุให้เจ้ำของ
ต้องยอมรับกรรมบำงอย่ ำงซึ่งกระทบถึงทรัพย์กสำ ินของตน หรืสอำนัต้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งงดเว้นกำรใช้สิทธิบำงอย่
กำ ำงอันมีอยู่
ในกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินนั้น เพื่อประโยชน์แก่อสังหำริมทรัพย์อื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๘๘ เจ้ำของสำมยทรัพย์ไม่มีสิทสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ธิทกำกำรเปลี ่ยนแปลงในภำรยทรัพย์หรือ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในสำมยทรัพย์ซึ่งทำให้เกิดภำระเพิ่มขึ้นแก่ภำรยทรัพย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๒๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๓๘๙ ถ้ำควำมต้องกำรแห่งเจ้ำของสำมยทรัพย์เปลี่ยนแปลงไป ท่ำนว่ำ


สำนักควำมเปลี ่ยนแปลงนั้นไม่กใำห้สิทธิแก่เจ้ำของสำมยทรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี พย์ที่จะทำให้เกิกดำภำระเพิ่มขึ้นแก่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ภำรยทรั
สำนั พย์ได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สมำตรำ ๑๓๙๐ ท่ำนมิให้เจ้กำำของภำรยทรัสพำนัย์ปกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ระกอบกรรมใด ๆ อันจะเป็
กำ นเหตุให้
ประโยชน์แห่งภำระจำยอมลดไปหรือเสื่อมควำมสะดวก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๓๙๑ เจ้ำของสำมยทรั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พย์มีสิทธิสทำนัำกำรทุ กอย่ำงอันจำเป็นเพืกำ่อรักษำและ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ใช้ ภ ำระจ ำยอม แต่ต้ องเสี ย ค่ ำใช้จ่ ำยของตนเอง ในกำรนี้ เจ้ ำของสำมยทรัพ ย์ จะก่ อ ให้ เกิด ควำม
สำนักเสีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยหำยแก่ภำรยทรัพย์ไกด้ำก็แต่น้อยที่สุดสตำมพฤติ กำรณ์
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เจ้ำของสำมยทรัพย์ต้องเสียค่ำใช้จ่ำยของตนเองรักษำซ่อมแซมกำรที่ได้ทำไปแล้วให้
เป็นไปด้วยดี แต่ถส้ำำนัเจ้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของภำรยทรัพย์ได้รับประโยชน์
กำ ด้วยไซร้
สำนัท่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นว่ำต้องออกค่ำใช้จ่ำยตำมส่
กำ วนแห่ง
ประโยชน์ที่ได้รับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๙๒ ถ้ำภำระจำยอมแตะต้องเพียงส่วนหนึ่งแห่ งภำรยทรัพย์ เจ้ำของ
ทรัพย์นั้นอำจเรียกให้ย้ำยไปยังส่วนอื่นก็ได้ แต่ต้องแสดงได้วส่ำำนักำรย้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำยนั้นเป็นประโยชน์แก่ตนและรับ
สำนักเสีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยค่ำใช้จ่ำย ทั้งนี้ ต้องไม่
กำ ทำให้ควำมสะดวกของเจ้ ำของสำมยทรัพกย์ำ ลดน้อยลง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สมำตรำ ๑๓๙๓ ถ้ำมิได้กำหนดไว้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เป็นอย่ำงอื
สำนั่นกในนิ ติกรรมอันก่อให้เกิดกภำระจ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำยอม
ไซร้ ท่ำนว่ำภำระจำยอมย่อมติดไปกับสำมยทรัพย์ซึ่งได้จำหน่ำย หรือตกไปในบังคับแห่งสิทธิอื่น
ท่ำนว่กำำจะจำหน่ำย หรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัอกทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำให้ภำระจำยอมตกไปในบั
กำ งคับแห่งสิสทำนัธิอกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ื่นต่ำงหำกจำก กำ
สำมยทรัพย์ไม่ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๙๔ ถ้ำมีกำรแบ่งแยกภำรยทรัพย์ ท่ำนว่ำภำระจำยอมยังคงมีอยู่ทุกส่วน
สำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่แยกออก แต่ถ้ำในส่วกนใดภำระจ
ำ ำยอมนั
สำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไม่ใช้และใช้ไม่ได้ตำมรูกำปกำร ท่ำนว่ำสเจ้
ำนัำกของส่ วนนั้นจะ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เรียกให้พ้นจำกภำระจำยอมก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๓๙๕ ถ้ำมีสกำนัำรแบ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งแยกสำมยทรัพย์ กท่ำำนว่ำภำระจำยอมยั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งคงมีอยู่เพื่อ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประโยชน์แก่ทุกส่วนที่แยกออกนั้น แต่ถ้ำภำระจำยอมนั้นไม่ใช้และใช้ไม่ได้ตำมรูปกำรเพื่อประโยชน์
แก่ส่วนใดไซร้ ท่ำสนว่ำนัำกเจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำของภำรยทรัพย์จะเรีกยำกให้พ้นจำกภำระจ ำยอมอันเกี่ยวกับทรัพกย์ำส่วนนั้นก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๑๓๙๖ ภำระจสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำยอมซึ ่งเจ้ำของรวมแห่งสำมยทรั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พย์คนหนึส่งำนั
ได้มกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำ หรือใช้อยู่นั้น กำ
ท่ำนให้ถือว่ำเจ้ำของรวมได้มำหรือใช้อยู่ด้วยกันทุกคน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๙๗ ถ้ำภำรยทรัพย์หรือสำมยทรัพย์สลำยไปทั้งหมด ท่ำนว่ำภำระจำยอม
สำนักสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นไป กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


- ๒๒๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๓๙๘ ถ้ำภำรยทรัพย์และสำมยทรัพย์ตกเป็นของเจ้ำของคนเดียวกัน ท่ำน


สำนักว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเจ้ำของจะให้เพิกถอนกำรจดทะเบี
กำ ยสนภำระจ ำยอมก็ได้ แต่ถ้ำยังกมิำได้เพิกถอนทะเบี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นไซร้ ภำระจำ กำ
ยอมยังคงมีอยู่ในส่วนบุคคลภำยนอก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓๙๙ ภำระจำยอมนั้น ถ้ำมิได้ใช้สิบปี ท่ำนว่ำย่อมสิ้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๔๐๐ ถ้ำภำระจำยอมหมดประโยชน์


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ แก่สำมยทรัพย์ไซร้ ท่ำกนว่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำภำระจำ
ยอมนั้นสิ้นไป แต่ถ้ำควำมเป็นไปมีทำงให้กลับใช้ภำระจำยอมได้ไซร้ ท่ำนว่ ำภำระจำยอมนั้นกลับมีขึ้น
สำนักอีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กแต่ต้องยังไม่พ้นอำยุคกวำมที
ำ ่ระบุไว้ในมำตรำก่ อน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำภำระจำยอมยังเป็นประโยชน์แก่สำมยทรัพย์อยู่บ้ำง แต่เมื่อเทียบกับภำระอันตก
อยู่แก่ภำรยทรัพย์สแำนัล้กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ประโยชน์นั้นน้อยนักไซร้
กำ ท่ำนว่ำเจ้ำสของภำรยทรั พย์จะขอให้พ้นกจำกภำระจ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำ
ยอมทั้งหมด หรือแต่บำงส่วนก็ได้ แต่ต้องใช้ค่ำทดแทน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๐๑ ภำระจำยอมอำจได้มำโดยอำยุควำม ท่ำนให้นำบทบัญญัติว่ำด้วย
อำยุควำมได้สิทธิอันกล่ำวไว้ในลักษณะ ๓ แห่งบรรพนี้มำใช้บสังำนัคับกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
โดยอนุโลม กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


ลักษณะ ๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ อำศัย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๔๐๒ บุ คคลใดได้รับสิ ทธิอำศัยในโรงเรือน บุคคลนั้นย่อมมีสิ ทธิอยู่ ใน
โรงเรือนนั้นโดยไม่สตำนั้อกงเสี ยค่ำเช่ำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๔๐๓ สิทธิสอำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำศักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้น ท่ำนว่ำจะก่อให้เกิกดำโดยมีกำหนดเวลำ หรือตลอดชีวิต
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ของผู้อำศัยก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำไม่มีกำหนดเวลำ ท่ำนว่ำสิทธินั้นจะเลิกเสียในเวลำใด ๆ ก็ได้แต่ต้องบอกล่วงหน้ำ
สำนักแก่ ผู้อำศัยตำมสมควร กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำให้สิทธิอำศัยโดยมีกำหนดเวลำ กำหนดนั้นท่ำนมิให้เกินสำมสิบปี ถ้ำกำหนดไว้
นำนกว่ำนั้ น ให้ ลสดลงมำเป็ น สำมสิบ ปี กำรให้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำสิท ธิอำศัยจะต่
สำนัอกอำยุ ก็ได้ แต่ต้องกำหนดเวลำไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เกิน
สำมสิบปีนับแต่วันทำต่อ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๐๔ สิทธิอำศัยนั้นจะโอนกันไม่ได้แม้โดยทำงมรดก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๐๕ สิทธิอำศัยนั้นถ้ำมิได้จำกัดไว้ชั ดแจ้งว่ำให้เพื่อประโยชน์แก่ผู้อำศัย
สำนักเฉพำะตั วไซร้ บุคคลในครอบครั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วและในครั
สำนักวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เรือนของผู้อำศัยจะอยูก่ดำ้วยก็ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๐๖ ถ้ำผู้ให้อำศัยมิได้ห้ำมไว้ชัดแจ้ง ผู้อำศัยจะเก็บเอำดอกผลธรรมดำ
สำนักหรื อผลแห่งที่ดิน มำใช้เกพีำยงที่จำเป็นแก่สคำนัวำมต้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องกำรของครัวเรือนก็กำได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๒๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๔๐๗ ผู้ให้อสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำศักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไม่จำต้องบำรุงรักษำทรักพำ ย์สินให้อยู่ในควำมซ่ อมแซมอันดี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้อำศัยจะเรียกให้ชดใช้ค่ำใช้จ่ำย ซึ่งได้ออกไปในกำรทำให้ทรัพย์สินดีขึ้นหำได้ไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๐๘ เมื่อสิทธิอำศัยสิ้นลง ผู้อำศัยต้องส่งทรัพย์สินคืนแก่ผู้ให้อำศัย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๔๐๙ ท่ำนให้นำบทบั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัติแห่งประมวลกฎหมำยนี ้ว่ำด้วยหน้กำำที่และควำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รับผิดของผู้เช่ำอันกล่ำวไว้ในมำตรำ ๕๕๒ ถึง ๕๕๕ มำตรำ ๕๕๘, ๕๖๒ และ ๕๖๓ มำใช้บังคับโดย
สำนักอนุ โลม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกลัำกษณะ ๖ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สิทธิเหนือพื้นดิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๑๐ เจ้ำของที่ดินอำจก่อให้ เกิสดำนัสิกทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ธิเหนือพื้นดินเป็นคุณกแก่ ำ
บุคคลอื่น
สำนักโดยให้ บุคคลนั้นมีสิทธิเป็กนำ เจ้ำของโรงเรืสอำนันกสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งปลูกสร้ำง หรือสิ่งเพำะปลู
กำ ก บนดินหรื สำนัอกใต้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดินนั้น กำ

สมำตรำ ๑๔๑๑ ถ้ำมิได้กำหนดไว้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เป็นอย่สำงอื
ำนัก่นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ในนิติกรรมอันก่อให้เกิกำดสิทธิเหนือ
พื้นดินไซร้ ท่ำนว่ำสิทธินั้นอำจโอนได้และรับมรดกกันได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๑๒ สิทธิเหนือพื้นดินนั้นจะก่อให้เกิดโดยมี กำหนดเวลำ หรือตลอดชีวิต
เจ้ำของที่ดิน หรือสตลอดชี วิตผู้ทรงสิทธิเหนือพืก้นำดินนั้นก็ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถ้ำก่อให้เกิดสิทธิพื้นดินโดยมีกำหนดเวลำไซร้ ท่ำนให้นำบทบัญญัติมำตรำ ๑๔๐๓
สำนักวรรค ๓ มำใช้บังคับโดยอนุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ โลม สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๑๓ ถ้ำสิทธิเหนือพื้นดินนั้นไม่มีกำหนดเวลำไซร้ ท่ำนว่ำคู่กรณีฝ่ ำยใดจะ
สำนักบอกเลิ กเสียในเวลำใดก็กไำด้ แต่ต้องบอกล่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัวกงหน้ ำแก่อีกฝ่ำยหนึ่งตำมสมควร
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ถ้ำมีค่ำสเช่
ำนัำกซึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่งจำต้องให้แก่ กำ
กันไซร้ ท่ำนว่ำต้องบอกล่วงหน้ำปีหนึ่ง หรือให้ค่ำเช่ำปีหนึ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๑๔ ถ้ ำ ผู้ ท รงสิ ท ธิเหนื อ พื้ น ดิ น ละเลยไม่ ป ฏิ บั ติ ต ำมเงื่อ นไขอั น เป็ น
สำนักสำระส ำคัญซึ่งระบุไว้ในนิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ติกรรมก่อตัส้งำนั
สิทกธิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้นก็ดี หรือถ้ำมีค่ำเช่กำำซึ่งจะต้องให้แสก่ำนักันกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แต่ผู้ทรงสิทธิ กำ
เหนื อพื้น ดิน ละเลยไม่ช ำระถึงสองปี ติด ๆ กันก็ดี ท่ำนว่ำคู่กรณี อีกฝ่ ำยหนึ่งจะบอกเลิ กสิทธิเหนือ
พื้นดินก็ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๔๑๕ สิทธิสเำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หนืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พื้นดินนั้นไม่สิ้นไปโดยเหตุ
กำ ที่โรงเรือนสำนั
สิ่งกปลู กสร้ำ ง หรือ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สิ่งเพำะปลูกสลำยไป แม้กำรสลำยนั้นจะเป็นเพรำะเหตุสุดวิสสัยำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


- ๒๒๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๔๑๖ เมื่อสิทธิเหนือพื้นดินสิ้นไป ผู้ทรงสิทธิจะรื้อถอนโรงเรือน สิ่งปลูก


สำนักสร้ ำง สิ่งเพำะปลูกของตนไปก็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ได้ แต่ต้อสงท
ำนัำให้ ที่ดินเป็นตำมเดิม กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แต่ถ้ำเจ้ำของที่ดินจะไม่ยอมให้รื้อถอนไป และบอกเจตนำจะซื้อตำมรำคำท้องตลำด
ไซร้ ท่ำนว่ำผู้ทรงสิำนั
ส ทธิกเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หนือพื้นดินจะไม่ยอมขำยไม่
กำ ได้ เว้นแต่สจำนัะมีกเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หตุอันสมควร กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


ลักษณะ ๗
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกสิำทธิเก็บกิน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๔๑๗ อสังหำริมทรัพย์อำจต้องตกอยู่ในบังคับสิทธิเก็บกินอันเป็นเหตุให้ผู้
ทรงสิทธินั้นมีสิทธิสคำนัรอบครอง ใช้ และถือเอำซึก่งำประโยชน์แห่สงทรั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์สินนั้น กำ
ผู้ทรงสิทธิเก็บกินมีอำนำจจัดกำรทรัพย์สิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ผู้ทรงสิกำทธิเก็บกินในป่สำำนัไม้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เหมืองแร่ หรือที่ขุดหินกำมีสิทธิทำกำรแสวงประโยชน์ จำก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ป่ำไม้ เหมืองแร่ หรือที่ขุดหินนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๔๑๘ สิทธิสเก็ำนับกกิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นนั้น จะก่อให้เกิดโดยมีกำกำหนดเวลำ หรื
สำนัอกตลอดชี วิตแห่งผู้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทรงสิทธิกไ็ ด้
สถ้ำนั
ำไม่ มีกำหนดเวลำ ท่ำนให้กสำ ันนิษฐำนไว้สกำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่อนว่ ำสิทธิเก็บกินมีอยู่ตลอดชี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วิตผู้ทรง
สิทธิ
ถ้ำมีกกำหนดเวลำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ท่สำำนั
นให้ น ำบทบั ญ ญั ติมำตรำก๑๔๐๓
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ วรรคส๓ำนักมำใช้ บังคับ โดย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อนุโลม
สถ้ำนั
ำผูก้ทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รงสิทธิเก็บกินถึงแก่ควำมตำย
กำ ท่ำนว่ำสสิำนัทกธิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้นย่อมสิ้นไปเสมอ กำ

มำตรำกำ ๑๔๑๙ ถ้ำทรั


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัพกย์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สิ นสลำยไปโดยไม่ได้กคำ่ำทดแทนไซร้สำนั
ท่ ำกนว่ ำเจ้ำของไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จำต้องทำให้คืนดี แต่ถ้ำเจ้ำของทำให้ทรัพย์สินคืนดีขึ้นเพียงใด ท่ำนว่ำสิทธิเก็บกินก็กลับมีขึ้นเพียงนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำได้ค่ำทดแทนไซร้ ท่ำนว่ำเจ้ำของหรือผู้ทรงสิทธิเก็บกินต้องทำให้ทรัพย์สินคืนดี
สำนักเพี ยงที่สำมำรถทำได้ตำมจ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำนวนเงินค่สำำนัทดแทนที ่ได้รับ และสิทธิกเำก็บกินกลั บมีขสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ึ้นเพีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยงที่ทรัพย์สิ น กำ
กลับคืนดี แต่ถ้ำพ้นวิสัยที่จะทำให้กลับคืนดีได้ สิทธิเก็บกินก็เป็นอันสิ้นไป และค่ำทดแทนนั้นต้องแบ่ง
กันระหว่ำงเจ้ำของทรั
สำนักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์สิน และผู้ทรงสิทธิเก็กบำกินตำมส่วนแห่ สำนังควำมเสี ยหำยของตน กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วิธีนี้ให้ใช้บังคับโดยอนุโลมถึงกรณีซึ่งทรัพย์สินถูกบังคับซื้อ และกรณีซึ่งทรัพย์สิน
สำนักสลำยไปแต่ บำงส่วน หรืกอำกำรทำให้คืนดีสนำนัั้นกพ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นวิสัยในบำงส่วน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๔๒๐ เมื่อสิทธิเก็บกำกินสิ้นลง ผู้ทรงสิ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัทกธิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต้องส่งทรัพย์สินคืนแก่กเำจ้ำของ
ถ้ำทรัพย์สินสลำยไป หรือเสื่อมรำคำลง ผู้ทรงสิทธิเก็บกินต้องรับผิด เว้นแต่จะพิสูจน์
สำนักได้ ว่ำควำมเสียหำยนั้นมิกได้ำ เกิดขึ้นเพรำะควำมผิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดของตน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำผู้ทรงสิทธิเก็บกินใช้ทรัพย์สินสิ้นเปลืองไปโดยมิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ชอบ ท่ำนว่ำต้องทำให้มีมำแทน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำทรัพย์สินเสื่อมรำคำเพรำะกำรใช้ตำมควรไซร้ ท่ำนว่ำผู้ทรงสิทธิเก็บกินไม่จำต้อง
สำนักให้ ค่ำทดแทน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๒๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๔๒๑ ในกำรใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สิทธิเก็บกินนั้น ผู้ทรงสิกำทธิต้องรักษำทรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัพกย์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สินเสมอกับที่ กำ
วิญญูชนพึงรักษำทรัพย์สินของตนเอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๒๒ ถ้ำมิได้กำหนดไว้เป็นอย่ำงอื่นในนิติกรรมอันก่อให้เกิดสิทธิเก็บกิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ไซร้ ท่ำนว่ำผู้ ทรงสิทธินั้ น จะโอนกำรใช้สิ ทธิของตนให้ บุคคลภำยนอกก็ได้ ในกรณี เช่นนั้นเจ้ำของ
ทรัพย์สินอำจฟ้องร้ องผู
สำนั ้รับโอนโดยตรง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๔๒๓ เจ้ำสของทรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี พย์สินจะคัดค้ำนมิให้กำใช้ทรัพย์สินในทำงอั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นมิชอบด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กฎหมำย หรือมิสมควรก็ได้
สถ้ำนั
ำเจ้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำของพิสูจน์ได้ว่ำสิทธิขกองตนตกอยู
ำ ่ในภยั
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตรำย ท่ำนว่ำจะเรียกให้ กำ ผู้ทรงสิทธิ
เก็บกินหำประกันให้ก็ได้ เว้นแต่ในกรณีซึ่งผู้ให้ทรัพย์สินสงวนสิทธิเก็บกินในทรัพย์สินนั้นไว้เพื่อตนเอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถ้ำผู้ทกรงสิ
ำ ทธิเก็บกินสละเลยไม่ หำประกันมำให้ภำยในเวลำอั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นควรซึสำนัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำหนดให้เพื่อ กำ
กำรนั้น หรือถ้ำผู้ทรงสิทธิเก็บกินมินำพำต่อคำคัดค้ำนแห่งเจ้ำของ ยังคงใช้ทรัพย์สินนั้นในทำงอันมิ
ชอบด้วยกฎหมำยสำนัหรืกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อมิสมควรไซร้ ท่ำนว่ ำกศำลจะตั

้งผู้รักสษำทรั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พย์เพื่อจัดกำรทรัพย์สินแทนผู้ทรง
สำนักสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทธิเก็บกินก็ได้ แต่เมื่อหำประกั
กำ นมำให้สแำนัล้วกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ศำลจะถอนผู้รักษำทรัพกำย์ที่ตั้งขึ้นไว้นั้นสก็ำนัได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๔๒๔ ผู้ทรงสิทธิเกก็ำบกินจำต้องสงวนภำวะแห่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งทรัพย์สินมิให้กเำปลี่ยนไปใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำระสำคัญ กับต้องบำรุงรักษำปกติและซ่อมแซมเล็กน้อยด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถ้ำจำเป็
กำนต้องซ่อมแซมใหญ่ หรือมีกำรสำคัญอันต้กอำ งทำเพื่อรักษำทรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์สินไซร้ ท่ำน กำ
ว่ำ ผู้ท รงสิท ธิเ ก็บ กิน ต้อ งแจ้ง แก่เจ้ำ ของทรัพ ย์สิน โดยพลัน และต้อ งยอมให้จัด ทำกำรนั้น ๆ ไป
ถ้ำ เจ้ำ ของทรัพย์สสำนัินกละเลยเสี ย ท่ำนว่ำผู้ทรงสิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำทธิเก็บกินจะจั
สำนัดกทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำกำรนั้นไปโดยให้เจ้ ำกของทรั
ำ พย์สิน
ออกค่ำใช้จ่ำยก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๒๕ ค่ำใช้จ่ำยอันเป็นกำรจรนั้น ท่ำนว่ำเจ้ำของต้องเป็นผู้ออก แต่เพื่อจะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ออกค่ำใช้จ่ำยเช่นว่ำนี้ หรือค่ำใช้จ่ำยตำมควำมในมำตรำก่อน เจ้ำของจะจำหน่ำยทรัพย์สินบำงส่วนก็
สำนักได้ เว้นแต่ผู้ทรงสิทธิเก็บกกิำนจะเต็มใจทดรองเงิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นตำมที่จำเป็นโดยไม่กคำิดดอกเบี้ย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สมำตรำ ๑๔๒๖ ในระหว่ำงทีกำ่สิทธิเก็บกินยัสงมีำนัอกยูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ ผู้ทรงสิทธิต้องออกค่ำกใช้ำ จ่ำยในกำร
จัดกำรทรัพย์สินตลอดจนเสียภำษีอำกร กับทั้งต้องใช้ดอกเบี้ยหนี้สินซึ่งติดพันทรัพย์สินนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๒๗ ถ้ำเจ้ำของทรัพย์สินต้องกำร ผู้ทรงสิทธิเก็บกินจำต้องเอำทรัพย์สิน
ประกันวินำศภัยเพื ่อประโยชน์
สำนั แก่เจ้ำของทรัพกย์ำ สิน และถ้ำทรัสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี พย์กสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ินนั้นได้เอำประกันภัยกไว้ำ แล้ว ผู้ทรง
สิทธิเก็บกินต้องต่อสัญญำประกันนั้นเมื่อถึงครำวต่อ
ผู้ทรงสิกทำ ธิเก็บกินต้องเสี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัยกเบีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ยประกันระหว่ำงที่สิทกธิำของตนยังมีอยูสำนั
่ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๒๘ คดีอันเกี่ยวกับสิทธิเก็บกินในระหว่ำงเจ้ำของทรัพย์สินกับผู้ทรงสิทธิ
สำนักเก็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บกิน หรือผู้รับโอนนัก้นำ ท่ำนห้ำมมิให้สำนั
ฟ้อกงเมื ่อเกินปีหนึ่งนับแต่วกันำสิทธิเก็บกินสุสดำนัสิก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ลง แต่ในคดีที่ กำ
- ๒๓๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

เจ้ำของทรัพย์สินเป็นโจทก์นั้น ถ้ำเจ้ำของไม่อำจรู้ว่ำสิทธิเก็บกินสุดสิ้นลงเมื่อใด ท่ำนให้นับอำยุควำมปี


สำนักหนึ ่งนั้นตั้งแต่เวลำที่เจ้ำกของทรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ พย์สินได้สรำนัู้ หรื อควรรู้ว่ำสิทธิเก็บกินสุกดำสิ้นลง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกลัำกษณะ ๘ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ภำระติดพันในอสังหำริมทรัพย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๒๙ อสังหำริมทรัพย์อำจต้องตกอยู่ในภำระติดพันอันเป็นเหตุให้ผู้รับ
สำนักประโยชน์ มีสิทธิได้รับกำรช
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำระหนี้เป็นครำว ๆ จำกทรัพย์สินนั้น หรืกอำ ได้ใช้และถือเอำซึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ประโยชน์แห่ง กำ
ทรัพย์สินตำมที่ระบุไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๓๐ ภำระติดพันในอสังหำริมทรัพย์นั้น จะก่อให้เกิดโดยมีกำหนดเวลำ
สำนักหรื อตลอดชีวิตแห่งผู้รับกประโยชน์
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ก็ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำไม่มีกำหนดเวลำ ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำภำระติดพันในอสังหำริมทรัพย์มีอยู่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตลอดชีวิตผู้รับประโยชน์
ถ้ำมีกกำหนดเวลำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ท่สำำนั
นให้ น ำบทบั ญ ญั ติมำตรำก๑๔๐๓
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ วรรคส๓ำนักมำใช้ บังคับ โดย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๓๑ ถ้ำมิได้กำหนดไว้เป็นอย่ำงอื่นในนิติกรรมอันก่อให้เกิดภำระติดพัน
สำนักไซร้ ท่ำนว่ำภำระติดพันกในอสั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งหำริมทรัสพำนัย์กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ั้นจะโอนกันไม่ได้แม้โดยทำงมรดก
กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๔๓๒ ถ้ำผู้รับประโยชน์


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ละเลยไม่สปำนัฏิกบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัติตำมเงื่อนไขอันเป็นสำระส
กำ ำคัญซึ่ง
ระบุ ไว้ในนิ ติ ก รรมก่ อ ตั้ งภำระติ ด พั น นั้ น ไซร้ ท่ ำนว่ำ คู่ กรณี อี ก ฝ่ ำยหนึ่ งจะบอกเลิ ก สิ ท ธิข องผู้ รั บ
สำนักประโยชน์ เสียก็ได้ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๓๓ ถ้ ำเจ้ ำของทรัพ ย์ สิ น มิ ได้ ช ำระหนี้ ต ำมภำระติ ด พั น ไซร้ ท่ ำนว่ ำ
สำนักนอกจำกทำงแก้ ส ำหรั บกำกำรไม่ช ำระหนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้ ผูกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ รับประโยชน์อำจขอให้กำศำลตั้งผู้ รักษำทรั
สำนักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์เพื่ อจัดกำร กำ
ทรัพย์สินและชำระหนี้แทนเจ้ำของ หรือสั่งให้เอำทรัพย์สินออกขำยทอดตลำด และเอำเงินที่ขำยได้
จ่ำยให้ผู้รับประโยชน์
สำนักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำมจำนวนที่ควรได้ เพรำะเจ้ กำ ำของทรัสพำนัย์สกินงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไม่ชำระหนี้ กับทั้งค่ำกแห่ ำ งภำระติด
พันด้วย
ถ้ำเจ้ำกของทรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ พย์สิ นหำประกั นมำให้แล้ว ศำลจะไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ออกคำสั่งตั้งสผูำนั้รักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ษำทรัพย์ หรือ กำ
คำสั่งขำยทอดตลำด หรือจะถอนผู้รักษำทรัพย์ที่ตั้งขึ้นไว้นั้น ก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๓๔ ท่ำนให้นำมำตรำ ๑๓๘๘ ถึง ๑๓๙๕ และมำตรำ ๑๓๙๗ ถึง ๑๔๐๐
สำนักมำใช้ บังคับถึงภำระติดพักนำในอสังหำริมสทรัำนัพกย์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี โดยอนุโลม กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


- ๒๓๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

พระรำชบัญญัติ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ให้ใช้บทบัญสญั
ำนัตกิบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมำย
กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แพ่งและพำณิชย์ พุทธศักรำช ๒๔๗๗
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


ในพระปรมำภิไธยสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวอำนันทมหิดล
คณะผู้สำเร็กจำรำชกำรแทนพระองค์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ตำมประกำศประธำนสภำผู้แทนรำษฎร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ลงวันทีส่ ๗ำนัมีกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำคม พุทธศักรำช ๒๔๗๗)
กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนุวัตน์จำตุรนต์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อำทิกำตย์ทิพอำภำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เจ้ำพระยำยมรำช
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำตรำไว้ ณ วันทีสำนั
่ ๒๗ พฤษภำคม พุทธศักรำช
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๒๔๗๘ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เป็นปีที่ ๒ ในรัชชกำลปัจจุบัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
โดยที่สกำภำผู้แทนรำษฎรลงมติ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ว่ำ กำรประมวลกฎหมำยแห่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งบ้ำนเมื
สำนัอกงได้ ดำเนินมำถึง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ครำวที่ควรใช้บรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จึ่งมีพระบรมรำชโองกำรให้ตรำพระรำชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ
สำนักสภำผู ้แทนรำษฎร ดั่งต่อกไปนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑ พระรำชบัญญัตกินำี้ให้เรียกว่ำ “พระรำชบั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญญัติให้ใช้บทบัญกญัำ ติบรรพ ๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ พุทธศักรำช ๒๔๗๗”
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๑๐๐ ให้ใช้พระรำชบัญญัตินี้ตั้งแต่วันประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓ ให้เพิ่มบทบัญญัติบรรพ ๕ ตั้งแต่มำตรำ ๑๔๓๕ ถึงมำตรำ ๑๕๙๘ ตำมที่
ได้ตรำไว้ต่อท้ำยพระรำชบั ญญัตินี้เข้ำเป็นส่วนหนึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งแห่งประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิกชำย์ และให้ใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บทบัญญัติแห่งบรรพนี้ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลำคม พุทธศักรำช ๒๔๗๘ เป็นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔ บทบัญญัติแห่งบรรพนี้ไม่กระทบกระเทือนถึง
ส(๑)
ำนักกำรสมรส ซึ่งได้มีอยู่กก่อำนวันใช้ป ระมวลกฎหมำยบรรพนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ และทัก้ำงสั มพัน ธ์ใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ครอบครัว อันเกิดแต่กำรสมรสนั้น ๆ
(๒) กำรใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อำนำจปกครอง ควำมปกครอง กำรอนุกบำ ำล กำรรับบุสตำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รบุกญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ธรรม ซึ่งมีอยู่ กำ
ก่อนวันใช้ประมวลกฎหมำยบรรพนี ้ หรือสิทธิและหนี้อันเกิดแต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรนั้น ๆ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๑๐๐ กำ สำนั
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ ม ก๕๒/-/หน้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๒๔๗๘ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำ ๔๗๔/๒๙ พฤษภำคม
- ๒๓๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๕ ฐำนะของภริ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัยกำก่ อนใช้ประมวลกฎหมำยบรรพนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ อำจพิ
สำนัสกูจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น์ได้โดยบันทึก กำ
ในทะเบียนตำมแบบที่กฎหมำยกำหนดไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๑๐๑ (ยกเลิก)
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้รับสนองพระบรมรำชโองกำร
นำยพันเอก พระยำพหลพลพยุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สหำนั
เสนำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นำยกรัฐมนตรี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๐๑
มำตรำ ๖ ยกเลิกโดยพระรำชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระรำชบัญญัติไห้ไช้บทบัญญัติบัพ ๕
สำนักแห่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
งประมวนกดหมำยแพ่งและพำนิ ช พุทธสัสกำนั
รำชกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
๒๔๗๗ พุทธสักรำช ๒๔๘๖ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๓๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

พระรำชกำหนด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำแก้ไขเพิ่มเติมสพระรำชบั ญญัติไห้ไช้บทบัญกญัำติบัพ ๕ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แห่งประมวนกดหมำยแพ่งและพำนิช พุทธสักรำช ๒๔๗๗
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีพุทธสั
กำกรำช ๒๔๘๖สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


ในพระปรมำภิไธยสมเด็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จพระเจ้ำอยูส่หำนั
ัวอำนั นทมหิดล
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
คณะผู้สำเร็จรำชกำรแทนพระองค์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ (ตำมประกำศประธำนสภำผู ้แทนรำษฎร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลงวันที่ ๔ สิงหำคม พุทธศักรำช ๒๔๘๐
และวันที่ ๑๖ ธันกวำคม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ พุทธศักสรำชำนัก๒๔๘๔)งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อำทิตย์ทิพอำภำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักปรี ดี พนมยงค์
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตรำไว้ ณ วันที่ ๑๙ มิถุนำยน พุทธศักรำช ๒๔๘๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เป็นปีที่ ๑๐ ในรัชกำลปัจสจุำนับกันงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
โดยที่เห็ นสมควรขยำยกำรใช้บทบัญญัติบรรพ ๕ แห่ งประมวลกฎหมำยแพ่งและ
พำณิชย์ให้ทั่วถึง สเพืำนั่อกควำมมั ่นคงและวัฒนธรรมแห่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งชำติ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

และโดยที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่มีเหตุฉุกเฉิสนำนั
ซึ่งกจะเรี ยกประชุมสภำผู้แทนรำษฎรให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ทันสท่ำนั
วงที มิได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สจึำนั
งมีกพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระบรมรำชโองกำรให้กตำรำพระรำชกำหนดขึ ้นไว้โดยอำศัยอำนำจตำมควำมใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
มำตรำ ๕๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย ดังต่อไปนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑ พระรำชก ำหนดนี้ ใ ห้ เ รี ย กว่ ำ “พระรำชก ำหนดแก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระรำชบัญญัติไห้ไช้บทบัญญัติบัพ ๕ แห่งประมวนกดหมำยแพ่งและพำนิช พุทธสักรำช ๒๔๗๗ พุทธ
สำนักสังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กรำช ๒๔๘๖” กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒ ให้ใช้พระรำชก กำำหนดนี้ตั้งแต่สวำนัันกประกำศในรำชกิ จจำนุเกบกษำเป็ นต้น


๑๐๒
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ
ไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓ ให้ยกเลิกมำตรำ ๖ แห่งพระรำชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๕ แห่ง
ประมวลกฎหมำยแพ่ สำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
และพำณิชย์ พุทธศักรำชกำ ๒๔๗๗ แต่สำนั
ไม่กให้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กระทบกระเทือนถึงกำรสมรสของ
กำ
บุคคลซึ่งนับถือศำสนำอิสลำม ซึ่งได้มีอยู่ก่อนวันใช้พระรำชกำหนดนี้ และทั้งสัมพันธ์ในครอบครัวอัน
สำนักเกิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดแต่กำรสมรสนั้น ๆ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๑๐๒ กำ สำนั
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ ม ก๖๐/ตอนที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มิถุนำยน ๒๔๘๖
่ ๓๒/หน้ำ ๑๐๘๙/๑๙ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๓๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ผู้รับสนองพระบรมรำชโองกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จอมพล ป. พิบูลสงครำม
นำยกรัสฐำนั
มนตรี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


พระรำชบัญญัติอนุมัติพระรำชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระรำชบัญญัติไห้ไช้บทบัญญัติบัพ ๕ แห่งประมวน
กดหมำยแพ่งและพำนิ
สำนักชงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พุทธสักรำช ๒๔๗๗ กพุำทธสักรำช ๒๔๘๖ พุทธสักรำช ๒๔๘๖๑๐๓กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๑๐๓ กำ สำนั
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ ม ก๖๐/ตอนที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กันยำยน ๒๔๘๖
่ ๔๗/หน้ำ ๑๓๔๓/๑๔ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๓๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

พระรำชบัญญัติ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ให้ใช้บทบัญสญั
ำนัตกิบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมำย
กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แพ่งและพำณิชย์ ที่ได้ตรวจชำระใหม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีพ.ศ. กำ ๒๕๑๙ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


ภูมิพกลอดุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ลยเดช ป.ร.สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้ไว้ ณ วันที่ ๕ ตุลำคม พ.ศ. ๒๕๑๙
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ เป็นสำนั
ปีทกี่ งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๓๑ ในรัชกำลปัจจุบัน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สพระบำทสมเด็ จพระปรมินทรมหำภู
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มิพลอดุสลำนัยเดช มีพระบรมรำชโองกำรโปรดเกล้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำฯ
ให้ประกำศว่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
โดยที่เป็นกำรสมควรปรับปรุงบทบัญญัติบรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์เสียใหม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จึงทรงพระกรุณำโปรดเกล้ำฯ ให้ตรำพระรำชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอม
ของรัฐสภำ ดังต่อสไปนี
ำนัก้ งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑ พระรำชบัสญำนัญักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ินี้เรียกว่ำ “พระรำชบักญำญัติให้ใช้บทบัสญำนัญักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิบรรพ ๕ แห่ง กำ
ประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ. ๒๕๑๙”
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๑๐๔ พระรำชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิจจำ
สำนักนุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เบกษำเป็นต้นไป กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓ ให้ยกเลิกบทบัญญัติบรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ ซึ่ง
สำนักได้ ใช้บั งคับ โดยพระรำชบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญ ญั ติ ให้ ใช้ บสำนั
ทบักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญ ญั ติบรรพ ๕ แห่ งประมวลกฎหมำยแพ่
กำ งและพำณิ ช ย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พุทธศักรำช ๒๔๗๗ และให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ ที่ได้ตรวจ
ชำระใหม่ ท้ำยพระรำชบั ญญัตินี้แทน เว้นแต่ใกนกรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ที่พระรำชบั
สำนัญ ญัตินี้บัญญัติเป็นอย่ำงอืกำ่น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๔ บทบัญญัสตำนัิบรรพ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๕ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งและพำณิ ชย์ ที่ได้ตรวจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ชำระใหม่ ท้ำยพระรำชบั ญ ญั ตินี้ ไม่กระทบกระเทือนถึงบทบัญ ญั ติมำตรำ ๔ และมำตรำ ๕ แห่ ง
พระรำชบัญญัติให้สใำนัช้บกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทบัญญัติบรรพ ๕ แห่งกประมวลกฎหมำยแพ่
ำ งและพำณิชย์ พุทธศักกรำช
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ๒๔๗๗

มำตรำกำ๕ บทบัญญัสตำนัิบรรพ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๕ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งและพำณิ ชย์ ที่ได้ตรวจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ชำระใหม่ ท้ำยพระรำชบั ญญัตินี้ ไม่กระทบกระเทือนถึงควำมสมบู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รณ์ของกำรหมั้น กำรสมรส สัญญำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๑๐๔ กำ สำนั
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ ม ก๙๓/ตอนที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ ๑๒๙/ฉบับพิเศษกำหน้ำ ๔/๑๕ ตุลสำคม
ำนัก๒๕๑๙
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๓๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ก่อนสมรส กำรเป็นบิดำมำรดำกับบุตร กำรเป็นผู้ปกครอง กำรเป็นผู้อนุบำลหรือผู้พิทักษ์ และกำรรับ


สำนักบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตรบุญธรรมที่ได้มีอยู่แกล้ำวในวันใช้บังคัสำนั
บบทบั ญญัติบรรพ ๕ แห่งกประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ที่ได้ตรวจชำระใหม่ ท้ำยพระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖ กำรเปลี่ยนแปลงเพิกถอนสัญญำก่อนสมรส ซึ่งสัญญำก่อนสมรสนั้นได้ทำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ขึ้นไว้ก่อนวันใช้บังคับบทบัญญัติบรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ ที่ได้ตรวจชำระใหม่
ท้ำยพระรำชบัญสญัำนัตกินงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี้ ให้กระทำได้โดยคู่สมรสน
กำ ำหนังสือสัสญำนัญำก่ อนสมรสพร้อมด้วยข้กำอตกลงกำร
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เปลี่ยนแปลงเพิกถอนไปยื่นต่อนำยทะเบียนสมรส ณ ท้องที่ที่ตนทำกำรสมรส และให้นำยทะเบียน
สำนักสมรสจดกำรเปลี ่ยนแปลงเพิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กถอนสัญสญำก่
ำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นสมรสไว้ในทะเบี ยนสมรส
กำ และแนบหนั สำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สือสัญญำก่อน กำ
สมรส พร้อมด้วยข้อตกลงเปลี่ยนแปลงเพิกถอนไว้ท้ำยทะเบียนสมรสด้วย
สกำรเปลี ่ยนแปลงเพิกถอนสักญำ ญำก่อนสมรสจะกระท
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำได้ต่อเมื่อได้รับกอนุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ญ ำตจำก
ศำลตำมเงื่อนไขและกรณีที่ระบุไว้ในมำตรำ ๑๔๖๗ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ ที่ได้ตรวจ
สำนักชงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำระใหม่ท้ำยพระรำชบักญำ ญัตินี้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗ บทบัญญัติบรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิชย์ ที่ได้ตรวจ
สำนักชงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำระใหม่ท้ำยพระรำชบักญำ ญัตินี้ ไม่กระทบกระเทื อนถึงอำนำจกำรจั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำดกำรสินบริคสณห์ำนักทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี่คู่สมรสฝ่ำยใด กำ
ฝ่ำยหนึ่งได้มีอยู่แล้วในวันใช้บังคับบทบัญญัติบรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ ที่ ได้
ตรวจช ำระใหม่ สท้ำนั ำยพระรำชบั ญ ญั ตินี้ แต่ใกห้ำ ถื อว่ำสิ น เดิ มสตำมบทบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญ ญั ติ บ รรพ ๕ แห่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งประมวล
กฎหมำยแพ่ งและพำณิ ช ย์ เดิ ม ของฝ่ ำ ยใดเป็ น สิ น ส่ ว นตั ว ตำมบทบั ญ ญั ติ บ รรพ ๕ แห่ งประมวล
สำนักกฎหมำยแพ่ งและพำณิชกย์ำที่ได้ตรวจชำระใหม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ท้ำยพระรำชบัญญัตินกำี้ของฝ่ำยนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เพื่อประโยชน์แห่งมำตรำนี้ ถ้ำคู่สมรสฝ่ำยใดเป็นผู้จัดกำรสินบริคณห์แต่ฝ่ำยเดียว
ให้ถือว่ำคู่สมรสอีสกำนั
ฝ่ำกยหนึ ่งได้ยินยอมให้คู่สมรสฝ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำยนั้นจัดกำรสิ สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สมรสและสินส่วนตัวตำมวรรคหนึ
กำ ่ง
ของตนด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณีกำที่คู่สมรสฝ่ำยใดประสงค์ จะใช้อำนำจจัดกำรสิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นส่วนตัวตำมวรรคหนึ ่งที่เป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ส่วนของตน ถ้ำคู่สมรสนั้น มิได้เป็นผู้จัดกำรสินบริคณห์ให้แจ้งให้คู่สมรสอีกฝ่ำยหนึ่งทรำบ และให้คู่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมรสทั้งสองฝ่ำยร่วมกันจัดกำรแบ่งสินส่วนตัวดังกล่ำวที่อยู่ในสภำพที่แบ่งได้ให้แก่ฝ่ำยที่ประสงค์จะ
สำนักจังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดกำร แต่ถ้ำสินส่วนตัวกนัำ้นไม่อยู่ในสภำพที
สำนัก่แงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บ่งได้ให้ทั้งสองฝ่ำยจัดกกำรร่ ำ วมกัน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๘ บทบัญญัติบรรพกำ ๕ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและพำณิกชำย์ที่ได้ตรวจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชำระใหม่ ท้ำยพระรำชบัญญัตินี้ไม่กระทบกระเทือนถึงกำรจัดกำรสินเดิมที่เปลี่ยนเป็นสินส่วนตัวตำม
สำนักมำตรำ ๗ ซึ่งได้กระทำไปแล้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วก่อนวันทีส่พำนั
ระรำชบั ญญัตินี้ใช้บังคับ กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๙ บรรดำอำยุควำมหรื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อระยะเวลำที
สำนัก่ บงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทบัญญัติในประมวลกฎหมำยแพ่
กำ ง
และพำณิชย์ได้กำหนดไว้ก่อนวันใช้บังคับบทบัญญัติบรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ที่
สำนักได้ ตรวจชำระใหม่ท้ำยพระรำชบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัตินสี้ ำนัถ้ำกหำกยั งไม่สุดสิ้นลงในวันกทีำ่ใช้บังคับบทบัสญำนัญักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ิบรรพ ๕ แห่ง กำ
ประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิ ช ย์ ที่ได้ตรวจช ำระใหม่ท้ำสยพระรำชบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ญ ญั ติ นี้ และอำยุควำมหรือ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ระยะเวลำที่กำหนดขึ้นใหม่นั้น แตกต่ำงกับอำยุควำมหรือระยะเวลำที่กำหนดไว้แต่เดิมก็ให้นำอำยุ
สำนักควำมหรื อระยะเวลำที่ยกำวกว่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำมำบังคับสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๓๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๐ คำว่ำ “ค่สำนั


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำอุกปงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำระเลี้ยงดู” ในบรรดำบทกฎหมำยซึ
กำ ส่งำนั
มีคกวำมหมำยถึ งค่ำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อุปกำระเลี้ยงดูตำมนัยของบทบัญญัติมำตรำ ๑๕๐๖ และมำตรำ ๑๕๐๗ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่ง
และพำณิชย์เดิมนัส้นำนัให้ ใช้คำว่ำ “ค่ำเลี้ยงชีพ”กแทน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๑ บทบัญญัติแห่งกฎหมำยใดอ้ำงถึงบรรพ ๕ หรือบทบัญญัติในบรรพ ๕
แห่งประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิชย์เดิม ให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำถือว่ำบทบัญสญัำนั
ติแกห่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งกฎหมำยนั้นอ้ำงถึงบรรพ
กำ ๕ หรือ
บทบัญญัติในบรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่ ท้ำพระรำชบัญญัติ
สำนักนีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ ในบทมำตรำที่มีนัยเช่กนำเดียวกัน แล้วสแต่
ำนักกรณี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๒ ให้นำยกรัฐมนตรี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ รักษำกำรตำมพระรำชบั ญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


ผู้รับสนองพระบรมรำชโองกำร
หม่อมรำชวงศ์สเสนี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ย์ ปรำโมช สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นำยกรัฐมนตรีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


- ๒๓๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ บรรพ ๕๑๐๕


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ครอบครัว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


ลักษณะ ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกกำรสมรส
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


หมวด ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำกำรหมั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๔๓๕ กำรหมั้นจะทำได้ต่อเมื่อชำยและหญิงมีอำยุสิบเจ็ดปีบริบูรณ์แล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรหมั้นที่ฝ่ำฝืนบทบัญญัติวรรคหนึ่งเป็นโมฆะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๓๖ ๑๐๖ ผู้ เยำว์ จ ะท ำกำรหมั้ น ได้ ต้ อ งได้ รั บ ควำมยิ น ยอมของบุ ค คล
ดังต่อไปนี้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) บิดำและมำรดำ ในกรณีที่มีทั้งบิดำมำรดำ
(๒) บิกดำำหรื อมำรดำสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณี ที่ มำรดำหรือบิ ด ำตำยหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อถู กถอนอ
สำนักำนำจปกครอง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หรือไม่อยู่ในสภำพหรือฐำนะที่อำจให้ควำมยินยอม หรือโดยพฤติกำรณ์ผู้เยำว์ไม่อำจขอควำมยินยอม
จำกมำรดำหรือบิสดำนั
ำได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ผู้รับบุตรบุญธรรม ในกรณีที่ผู้เยำว์เป็นบุตรบุญธรรม
(๔) ผูก้ปำกครอง ในกรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัทกี่ไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ม่มีบุคคลซึ่งอำจให้ ควำมยิ
กำ น ยอมตำมสำนั(๑) (๒) และ (๓)
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หรือมีแต่บุคคลดังกล่ำวถูกถอนอำนำจปกครอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรหมั้นที่ผู้เยำว์ทำโดยปรำศจำกควำมยินยอมดังกล่ำวเป็นโมฆียะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๓๗๑๐๗ กำรหมั้นจะสมบูรณ์เมื่อฝ่ำยชำยได้ส่งมอบหรือโอนทรัพย์สินอัน
เป็นของหมั้นให้แสก่ำนั
หญิกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งเพื่อเป็นหลักฐำนว่ำจะสมรสกั
กำ บหญิงนัสำนั
้น กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่อหมั้นแล้วให้ของหมั้นตกเป็นสิทธิแก่หญิง
สินสอด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เป็นทรัพย์สินสำนั
ซึ่งกฝ่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยชำยให้แก่บิดำมำรดำกำ ผู้รับบุตรบุญธรรมหรื อผู้ปกครอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ฝ่ำยหญิง แล้วแต่กรณี เพื่อตอบแทนกำรที่หญิงยอมสมรส ถ้ำไม่มีกำรสมรสโดยมีเหตุสำคัญอันเกิดแก่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๐๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บรรพ
กำ ๕ แก้ไขเพิ่มสเติำนัมกโดยพระรำชบั ญญัติให้ใช้บกรรพ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ๕ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ. ๒๕๑๙
๑๐๖
มำตรำ ๑๔๓๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๐๗
มำตรำ ๑๔๓๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๓๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

หญิงหรือโดยมีพฤติกำรณ์ซึ่งฝ่ำยหญิงต้องรับผิดชอบ ทำให้ชำยไม่สมควรหรือไม่อำจสมรสกับหญิงนั้น
สำนักฝ่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยชำยเรียกสินสอดคืนกได้
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำจะต้องคืน ของหมั้นหรือสินสอดตำมหมวดนี้ ให้นำบทบัญญัติมำตรำ ๔๑๒ ถึง
มำตรำ ๔๑๘ แห่งประมวลกฎหมำยนี
ส ้ว่ำด้วยลำภมิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ควรได้มำใช้
สำนับกังคังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บโดยอนุโลม กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๔๓๘ กำรหมั้นไม่เป็นเหตุที่จะร้องขอให้ ศำลบังคับให้ ส มรสได้ ถ้ำได้มี
ข้อตกลงกันไว้ว่ำจะให้
สำนักเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บี้ยปรับในเมื่อผิดสัญญำหมั
กำ ้น ข้อตกลงนั
สำนั้นกเป็ นโมฆะ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๑๔๓๙๑๐๘ เมืสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่อมีกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำรหมั้นแล้ว ถ้ำฝ่ำยใดผิ
กำ ดสัญ ญำหมั้นสำนั
อีกกฝ่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยหนึ่งมีสิทธิ กำ
เรียกให้รับผิดใช้ค่ำทดแทน ในกรณีที่ฝ่ำยหญิงเป็นฝ่ำยผิดสัญญำหมั้นให้คืนของหมั้นแก่ฝ่ำยชำยด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๔๐ ค่ำทดแทนนั้นอำจเรียกได้ ดังต่อไปนี้
(๑) ทดแทนควำมเสี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยสหำยต่ อกำยหรือชื่อเสียงแห่กงชำยหรื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อหญิงนัส้นำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ทดแทนควำมเสียหำยเนื่องจำกกำรที่คู่หมั้น บิดำมำรดำ หรือบุคคลผู้กระทำกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในฐำนะเช่นบิดำมำรดำได้ใช้จ่ำยหรือต้องตกเป็นลูกหนี้เนื่องในกำรเตรี ยมกำรสมรสโดยสุจริตและตำม
สำนักสมควร
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ทดแทนควำมเสียหำยเนื่องจำกกำรที่คู่หมั้นได้จัดกำรทรัพย์สินหรือกำรอื่นอัน
เกี่ยวแก่อำชีพหรือสำนั
ทำงท ำมำหำได้ของตนไปโดยสมควรด้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วยกำรคำดหมำยว่ ำจะได้มีกำรสมรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ในกรณีที่หญิงเป็นผู้มีสิทธิได้ค่ำทดแทน ศำลอำจชี้ขำดว่ำ ของหมั้นที่ตกเป็นสิทธิแก่
สำนักหญิ งนั้นเป็นค่ำทดแทนทั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ้งหมดหรือเป็สนำนัส่กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นหนึ่งของค่ำทดแทนทีกำ่หญิงพึงได้รับสหรื
ำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ศำลอำจให้ค่ำ กำ
ทดแทนโดยไม่คำนึงถึงของหมั้นที่ตกเป็นสิทธิแก่หญิงนั้นก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๔๑ ๑๐๙ ถ้ำคู่ห มั้นฝ่ำยหนึ่งตำยก่อนสมรส อีกฝ่ำยหนึ่งจะเรียกร้ องค่ำ
สำนักทดแทนมิ ได้ ส่วนของหมักำ้นหรือสินสอดนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้นกไม่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ว่ำชำยหรือหญิงตำย กหญิ
ำ งหรือฝ่ำยหญิ
สำนังกไม่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต้องคืนให้แก่ กำ
ฝ่ำยชำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๔๔๒ ในกรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัมกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ีเหตุสำคัญอันเกิดแก่หญิกำงคู่หมั้นทำให้สชำนั
ำยไม่ สมควรสมรส
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กับหญิงนั้น ชำยมีสิทธิบอกเลิกสัญญำหมั้นได้และให้หญิงคืนของหมั้นแก่ชำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๔๓ ในกรณีมีเหตุสำคัญอันเกิดแก่ชำยคู่หมั้นทำให้หญิงไม่สมควรสมรส
สำนักกังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บชำยนั้น หญิงมีสิทธิบกอกเลิ
ำ กสัญญำหมั
สำนั้นกได้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โดยมิต้องคืนของหมั้นกแก่
ำ ชำย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


๑๐๘
มำตรำ ๑๔๓๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๐๙
มำตรำ ๑๔๔๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๔๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๔๔๔ ถ้ำเหตุอันทำให้คู่หมั้นบอกเลิกสัญญำหมั้นเป็นเพรำะกำรกระทำชั่ว


สำนักอย่ ำงร้ำยแรงของคู่หมั้นกอีำกฝ่ำยหนึ่งซึ่งสได้ำนักกระท
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำภำยหลังกำรหมั้น กคูำ่หมั้นผู้กระทำชั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่วอย่ ำงร้ำยแรงนั้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ต้องรับผิดใช้ค่ำทดแทนแก่คู่หมั้นผู้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญำหมั้นเสมือนเป็นผู้ผิดสัญญำหมั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๔๕๑๑๐ ชำยหรือหญิงคู่หมั้นอำจเรียกค่ำทดแทนจำกผู้ซึ่งได้ร่วมประเวณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กับคู่หมั้นของตนโดยรู้หรือควรจะรู้ถึงกำรหมั้นนั้ น เมื่อได้บอกเลิกสัญญำหมั้นแล้วตำมมำตรำ ๑๔๔๒
หรือมำตรำ ๑๔๔๓ สำนัแล้ วแต่กรณี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๔๔๖๑๑๑ ชำยหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อหญิงคู่หมั้นอำจเรียกค่กำำทดแทนจำกผูสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ซึ่งกได้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ข่มขืนกระทำ กำ
ชำเรำหรือพยำยำมข่มขืนกระทำชำเรำคู่หมั้นของตนโดยรู้หรือควรจะรู้ถึงกำรหมั้นนั้นได้โดยไม่จำต้อง
บอกเลิกสัญญำหมัสำนั
้น กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๔๔๗๑๑๒ ค่สำำนัทดแทนอั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นจะพึงชดใช้แก่กกำันตำมหมวดนีส้ใำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ห้ศกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำลวินิจฉัยตำม กำ
ควรแก่พฤติกำรณ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สิทธิเรียกร้องค่ำทดแทนตำมหมวดนี้ นอกจำกค่ ำทดแทนตำมมำตรำ ๑๔๔๐ (๒) ไม่
สำนักอำจโอนกั น ได้ แ ละไม่ ตกกทอดไปถึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งทำยำท เว้ น แต่ สิ ท ธิ นั้ น จะได้กำรับ สภำพกั น สไว้ำนัเป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หนั งสื อ หรื อ กำ
ผู้เสียหำยได้เริ่มฟ้องคดีตำมสิทธินั้นแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๔๗/๑๑๑๓ สิทธิเรียกร้องค่ำทดแทนตำมมำตรำ ๑๔๓๙ ให้มีอำยุควำมหก
สำนักเดืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อนนับแต่วันที่ผิดสัญญำหมั
กำ ้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สิทธิเรียกร้องค่ำทดแทนตำมมำตรำ ๑๔๔๔ ให้มีอำยุควำมหกเดือนนับแต่วันรู้หรือ
ควรรู้ถึงกำรกระทสำนั ำชัก่วงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อย่ำงร้ำยแรงอันเป็นเหตุ กำ ให้บอกเลิกสัสำนั
ญญำหมั ้น แต่ต้องไม่เกินห้กำำปีนับแต่วัน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กระทำกำรดังกล่ำว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สิทธิเรีกยำกร้องค่ำทดแทนตำมมำตรำ ๑๔๔๕ และมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๑๔๔๖สำนัให้กมงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ีอำยุควำมหก กำ
เดือนนั บ แต่วัน ที่ ช ำยหรือหญิ งคู่ห มั้น รู้ห รือควรรู้ถึงกำรกระท ำของผู้ อื่น อันจะเป็น เหตุให้ เรียกค่ ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทดแทนและรู้ ตั ว ผู้ จ ะพึ ง ใช้ ค่ ำทดแทนนั้ น แต่ ต้ อ งไม่ เกิ น ห้ ำ ปี นั บ แต่ วั น ที่ ผู้ อื่ น นั้ น ได้ ก ระท ำกำร
สำนักดังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งกล่ำว๑๑๔ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๑๐
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๔๔๕ แก้ไสขเพิำนัก่มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เติมโดยพระรำชบัญญัติแกก้ำไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๖) พ.ศ. ๒๕๕๐
๑๑๑
สำนักมำตรำ ๑๔๔๖ แก้ไขเพิ่มเติกมำ โดยพระรำชบัสญำนัญักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ิแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่
กำ งและ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๖) พ.ศ. ๒๕๕๐
๑๑๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๔๔๗ แก้ไสขเพิำนัก่มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เติมโดยพระรำชบัญญัติแกก้ำไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๑๓
มำตรำ ๑๔๔๗/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๑๔
มำตรำ ๑๔๔๗/๑ วรรคสำม แก้ ไขเพิ่ ม เติ ม โดยพระรำชบั ญ ญั ติ แ ก้ ไขเพิ่ ม เติ ม ประมวล
สำนักกฎหมำยแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งและพำณิชย์ ก(ฉบั
ำ บที่ ๑๖) พ.ศ.สำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๕๕๐ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๔๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๔๔๗/๒๑๑๕ สิทธิเรียกคืนของหมั้นตำมมำตรำ ๑๔๓๙ ให้มีอำยุควำมหก


สำนักเดืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อนนับแต่วันที่ผิดสัญญำหมั
กำ ้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สิทธิเรียกคืนของหมั้นตำมมำตรำ ๑๔๔๒ ให้มีอำยุควำมหกเดือนนับแต่วันที่ได้บอก
เลิกสัญญำหมั้น ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


หมวด ๒
เงื่อนไขแห่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งกำรสมรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๔๔๘ กำรสมรสจะทำได้ต่อเมื่อชำยและหญิงมีอำยุสิบเจ็ดปีบริบูรณ์แล้ว
แต่ในกรณีที่มีเหตุสอำนัันสมควร ศำลอำจอนุญำตให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ทำกำรสมรสก่
สำนัอนนั ้นได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๑๔๔๙ กำรสมรสจะกระท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำมิได้ถ้ำชำยหรืกำอหญิงเป็นบุคสคลวิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ลจริตหรือเป็น กำ
บุคคลซึ่งศำลสั่งให้เป็นคนไร้ควำมสำมำรถ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๔๕๐ ชำยหญิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงซึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่งเป็นญำติสืบสำยโลหิกตำโดยตรงขึ้นไปหรื
สำนัอกลงมำก็ ดี เป็นพี่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
น้องร่วมบิดำมำรดำหรือร่วมแต่บิดำหรือมำรดำก็ดี จะทำกำรสมรสกันไม่ได้ ควำมเป็นญำติดังกล่ำวมำ
นี้ให้ถือตำมสำยโลหิ
สำนัตกโดยไม่ คำนึงว่ำจะเป็นญำติ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ โดยชอบด้วสยกฎหมำยหรื อไม่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๑๔๕๑ ผู้รับสบุำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ตรบุ ญธรรมและบุตรบุญธรรมจะสมรสกั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นสไม่ำนัได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๔๕๒ ชำยหรือหญิกำงจะทำกำรสมรสในขณะที


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ตนมีคู่สมรสอยู่ไกม่ำได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๑๔๕๓ หญิสงทีำนั่สกำมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ตำยหรือที่กำรสมรสสิกำ้นสุดลงด้วยประกำรอื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่นจะทำกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สมรสใหม่ได้ต่อเมื่อกำรสิ้นสุดแห่งกำรสมรสได้ผ่ำนพ้นไปแล้วไม่น้อยกว่ำสำมร้อยสิบวัน เว้นแต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) คลอดบุตรแล้วในระหว่ำงนั้น
(๒) สมรสกั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บคู่สมรสเดิ ม กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนั สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) มีใบรับรองแพทย์ประกำศนียบัตรหรือปริญญำซึ่งเป็นผู้ประกอบกำรรักษำโรคใน
สำขำเวชกรรมได้สตำนัำมกฎหมำยว่ ำมิได้มีครรภ์ กหรืำ อ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) มีคำสั่งของศำลให้สมรสได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๕๔ ผู้เยำว์จะทำกำรสมรสให้นำควำมในมำตรำ ๑๔๓๖ มำใช้บังคับโดย
อนุโลม สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๔๕๕ กำรให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัคกวำมยิ นยอมให้ทำกำรสมรสจะกระท
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำได้สแำนั
ต่โกดยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ลงลำยมือชื่อในทะเบียนขณะจดทะเบียสนสมรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๑๕
มำตรำ ๑๔๔๗/๒ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนัก(ฉบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๔๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๒) ท ำเป็ น หนั งสื อ แสดงควำมยิน ยอมโดยระบุ ชื่อ ผู้ จะสมรสทั้ งสองฝ่ ำยและลง
สำนักลำยมื อชื่อของผู้ให้ควำมยิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำนยอม สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ถ้ำมีเหตุจำเป็น จะให้ควำมยินยอมด้วยวำจำต่อหน้ำพยำนอย่ำงน้อยสองคนก็ได้
สควำมยิ นยอมนั้น เมื่อให้แล้วกถอนไม่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๕๖ ถ้ำไม่มีผู้ที่มีอำนำจให้ควำมยินยอมตำมมำตรำ ๑๔๕๔ หรือมีแต่
ไม่ให้ควำมยินยอมหรื
สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไม่อยู่ในสภำพที่อำจให้กคำ วำมยินยอม สหรื
ำนัอกโดยพฤติ กำรณ์ผู้เยำว์ไม่กอำำจขอควำม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยินยอมได้ ผู้เยำว์อำจร้องขอต่อศำลเพื่ออนุญำตให้ทำกำรสมรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๕๗ กำรสมรสตำมประมวลกฎหมำยนี้จะมีได้เฉพำะเมื่อได้จดทะเบียน
แล้วเท่ำนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๔๕๘ กำรสมรสจะท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำได้ต่อเมื่อชำยหญิกงำยินยอมเป็นสำมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัภกริงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยำกันและต้อง กำ
แสดงกำรยิ น ยอมนั้ น ให้ ป รำกฏโดยเปิ ดเผยต่อหน้ำนำยทะเบียนและให้ นำยทะเบียนบันทึ กควำม
ยินยอมนั้นไว้ด้วยสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๔๕๙ กำรสมรสในต่ำงประเทศระหว่ำงคนที่มีสัญชำติไทยด้วยกัน หรือ
ฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งมีสสำนั
ัญชำติ ไทย จะทำตำมแบบที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่กำหนดไว้ตำมกฎหมำยไทยหรื อกฎหมำยแห่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งประเทศ
นั้นก็ได้
ในกรณีกำที่คู่สมรสประสงค์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ะจดทะเบียนตำมกฎหมำยไทย
กำ ให้พนัสกำนังำนทู ตหรือกงสุล
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ไทยเป็นผู้รับจดทะเบียน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๖๐ เมื่อมีพฤติกำรณ์พิเศษซึ่งไม่อำจทำกำรจดทะเบียนสมรสต่อนำย
สำนักทะเบี ยนได้เพรำะชำยหรืกอำ หญิงฝ่ำยใดฝ่สำำนัยหนึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งหรือทั้งสองฝ่ำยตกอยู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่ในอันตรำยใกล้
สำนัควำมตำย หรืออยู่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ในภำวะกำรรบหรือสงครำม ถ้ำชำยและหญิงนั้นได้แสดงเจตนำจะสมรสกันต่อหน้ำบุคคลซึ่งบรรลุนิติ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ภำวะที่อยู่ ณ ที่นั้น แล้วให้บุคคลดังกล่ำวจดแจ้งกำรแสดงเจตนำขอทำกำรสมรสของชำยและหญิงนั้น
สำนักไว้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นหลักฐำน และต่อกมำชำยหญิ
ำ งได้สจำนัดทะเบี ยนสมรสกันภำยในเก้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำำสิบวันนับแต่สวำนัันกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อำจทำกำรจด กำ
ทะเบียนต่อนำยทะเบียนได้ โดยแสดงหลักฐำนต่อนำยทะเบียนและให้นำยทะเบียนจดแจ้งวัน เดือน ปี
สถำนที่ที่แสดงเจตนำขอท ำกำรสมรส และพฤติ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กำรณ์พิเศษนั ้นไว้
สำนั ในทะเบียนสมรส ให้ถกือำว่ำวันแสดง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เจตนำขอทำกำรสมรสต่อบุคคลดังกล่ำวเป็นวันจดทะเบียนสมรสต่อนำยทะเบียนแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ควำมในมำตรำนี
กำ ้ มิให้สำนั
ใช้กบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ั งคับ ถ้ำหำกจะมีกำรสมรสในวั
กำ น แสดงเจตนำขอท ำกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สมรส กำรสมรสนั้นจะตกเป็นโมฆะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ควำมสั
สำนักมงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พันธ์ระหว่ำงสำมีภริยำกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๔๖๑ สำมีสภำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ริยกำต้ องอยู่กินด้วยกันฉันสำมี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ภริยำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๔๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำมีภริยำต้องช่วยเหลืออุปกำระเลี้ยงดูกันตำมควำมสำมำรถและฐำนะของตน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๖๒๑๑๖ ในกรณีที่สำมีภริยำไม่สำมำรถที่จะอยู่กินด้วยกันฉันสำมีภริยำ
โดยปกติสุขได้ หรืสำนั
อถ้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรอยู่ร่วมกันจะเป็นกอัำนตรำยแก่กำยหรื
สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จิตใจหรือทำลำยควำมผำสุ
กำ กอย่ำง
มำก สำมีหรือภริยำฝ่ำยที่ไม่สำมำรถที่จะอยู่กินด้วยกันฉันสำมีภริยำโดยปกติสุขได้หรือฝ่ำยที่จะต้อง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รับ อัน ตรำยหรื อถูกทำลำยควำมผำสุ ก อำจร้องต่อศำลเพื่อให้ มีคำสั่ งอนุญ ำตให้ ตนอยู่ต่ำงหำกใน
ระหว่ำงที่เหตุนั้นสๆำนัยักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มีอยู่ก็ได้ ในกรณีเช่นนีก้ศำำลจะกำหนดจ ำนวนค่
สำนั ำอุปกำระเลี้ยงดูให้กฝำ่ำยหนึ่งจ่ำย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้แก่อีกฝ่ำยหนึ่งตำมควรแก่พฤติกำรณ์ก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๖๓ ในกรณี ที่ ศ ำลสั่ งให้ ส ำมี ห รือ ภริยำเป็ น คนไร้ค วำมสำมำรถหรือ
เสมือนไร้ควำมสำมำรถ ภริยำหรือสำมีย่อมเป็กนำผู้อนุบำลหรือสผูำนั้พกิทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ักษ์ แต่เมื่อผู้มีส่วนได้เสีกยำหรืออัยกำร
ร้องขอ และถ้ำมีเหตุสำคัญ ศำลจะตั้งผู้อื่นเป็นผู้อนุบำลหรือผู้พิทักษ์ก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๖๔๑๑๗ ในกรณีที่คู่สมรสฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งเป็นคนวิกลจริต ไม่ว่ำศำลจะได้
สั่งให้เป็นคนไร้ควำมสำมำรถหรือไม่ ถ้ำคู่สมรสอีกฝ่ำยหนึ่งไม่สอำนัุปกกำระเลี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
้ยงดูฝ่ำยที่วิกลจริตตำมมำตรำ
สำนัก๑๔๖๑ วรรคสอง หรือกระท
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำกำรหรือสไม่ ำนักกระท ำกำรอย่ำงใด อันเป็กนำ เหตุให้ฝ่ำยทีส่วำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ิกลจริ ตอยู่ในภำวะ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อันน่ำจะเกิดอันตรำยแก่กำยหรือจิตใจ หรือตกอยู่ในภำวะอันน่ำจะเกิดควำมเสียหำยทำงทรัพย์สินถึง
ขนำด บุคคลตำมที สำนั่รกะบุ ไว้ในมำตรำ ๒๘ หรือกำผู้อนุบำลอำจฟ้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัองคู ่สมรสอีกฝ่ำยหนึ่งเรียกกค่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำอุปกำระ
เลี้ยงดูให้แก่ฝ่ำยที่วิกลจริต หรือขอให้ศำลมีคำสั่งใด ๆ เพื่อคุ้มครองฝ่ำยที่วิกลจริตนั้นได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณี กำฟ้ องเรีย กค่ ำสอุำนั
ปกำระเลี ้ ยงดูตำมวรรคหนึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่ ง ถ้ ำยั งมิ ได้ มสีคำนัำสักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ งของศำลว่ำคู่ กำ
สมรสซึ่งวิกลจริตเป็ น คนไร้ควำมสำมำรถก็ให้ ขอต่อศำลในคดีเดียวกันให้ ศำลมีคำสั่งว่ำคู่สมรสซึ่ง
วิกลจริตนั้นเป็นคนไร้สำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วำมสำมำรถ โดยขอให้กำตั้งตนเองหรือสผูำนั้อื่นกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ศำลเห็นสมควรเป็นผูก้อำนุบำล หรือ
ถ้ำได้มีคำสั่งของศำลแสดงว่ำคู่สมรสซึ่งวิกลจริตเป็นคนไร้ควำมสำมำรถอยู่แล้ว จะขอให้ถอดถอนผู้
สำนักอนุ บำลคนเดิม และแต่งกตัำ้งผู้อนุบำลคนใหม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
็ได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกำรขอให้ศำลมีคำสั่งใด ๆ เพื่อคุ้มครองคู่ส มรสฝ่ำยที่วิกลจริตโดยมิได้เรียกค่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อุปกำระเลี้ยงดูด้วยนั้น จะไม่ขอให้ศำลมีคำสั่งให้คู่สมรสฝ่ำยที่วิกลจริตนั้นเป็นคนไร้ควำมสำมำรถ
สำนักหรื อจะไม่ขอเปลี่ย นผู้อกนุำ บ ำลก็ได้ แต่สถำนั้ำศำลเห็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นว่ำวิธีกำรคุ้มครองที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ ขอนั้ น จำต้สำนั องมี ผู้อนุบำลหรือ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เปลี่ ย นผู้ อนุ บ ำล ให้ ศำลมีค ำสั่ งให้ จั ดกำรท ำนองเดี ยวกับ ที่ บัญ ญั ติไว้ในวรรคสอง แล้ วจึ งมีค ำสั่ ง
คุ้มครองตำมที่เห็นสำนัสมควรกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
[เลขมำตรำ ๒๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมำตรำ ๑๕ แห่งพระรำชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติ
สำนักบรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งและพำณิ ชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่กำพ.ศ. ๒๕๓๕]สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


๑๑๖
มำตรำ ๑๔๖๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่ม เติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ. ๒๕๕๑
๑๑๗
มำตรำ ๑๔๖๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๔๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๔๖๔/๑๑๑๘ ในระหว่ำงกำรพิจำรณำคดีตำมมำตรำ ๑๔๖๔ ถ้ำมีคำขอศำล


สำนักอำจก ำหนดวิธีกำรชั่วครำวเกี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ยวกับกำรอุ
สำนัปกกำระเลี ้ยงดูหรือกำรคุ้มครองคู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่สมรสฝ่ำยที
สำนั่วกิกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ลจริตได้ตำมที่ กำ
เห็นสมควร และหำกเป็นกรณีฉุกเฉินให้นำบทบัญญัติเรื่องคำขอในเหตุฉุกเฉินตำมประมวลกฎหมำย
วิธีพิจำรณำควำมแพ่
สำนังกมำใช้ บังคับ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


หมวด ๔
ทรัพย์สินกำระหว่ำงสำมีภสริำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยำกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๔๖๕ ถ้ำสำมีภริยำมิได้ทำสัญญำกันไว้ในเรื่องทรัพย์สินเป็นพิเศษก่อน
สมรส ควำมสัมพัสนำนั
ธ์รกะหว่ ำงสำมีภริยำในเรื่องทรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พย์สินนั้น ให้สำนั
บังกคังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บตำมบทบัญญัติในหมวดนี กำ ้
ถ้ำข้อควำมใดในสัญญำก่อนสมรสขัดต่อควำมสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของ
สำนักประชำชน หรือระบุให้ใกช้ำกฎหมำยประเทศอื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่นบังคับเรื่องทรัพย์สินนัก้นำ ข้อควำมนั้นสๆำนัเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นโมฆะ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๖๖ สัญญำก่อนสมรสเป็นโมฆะ ถ้ำมิได้จดแจ้งข้อตกลงกันเป็นสัญญำ
สำนักก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อนสมรสนั้นไว้ในทะเบีกยำนสมรสพร้อมกั
สำนับกกำรจดทะเบี ยนสมรส หรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำอมิ ได้ทำเป็นหนั
สำนังกสืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อลงลำยมือชื่อ กำ
คู่สมรสและพยำนอย่ำงน้อยสองคนแนบไว้ท้ำยทะเบียนสมรสและได้จดไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับ
กำรจดทะเบียนสมรสว่ ำได้มีสัญญำนั้นแนบไว้กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๔๖๗ เมื่อสสมรสแล้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วจะเปลี่ยนแปลงเพิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำกถอนสัญญำก่ อนสมรสนั
สำนั ้นไม่ได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
นอกจำกจะได้รับอนุญำตจำกศำล
สเมืำนั่อกได้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มีคำสั่งของศำลถึงที่สกุดำให้เปลี่ยนแปลงเพิ กถอนสัญญำก่อนสมรสแล้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ว ให้ศำล
แจ้งไปยังนำยทะเบียนสมรสเพื่อจดแจ้งไว้ในทะเบียนสมรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๖๘ ข้อควำมในสัญญำก่อนสมรสไม่มีผลกระทบกระเทือนถึงสิทธิของ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บุคคลภำยนอกผู้ทำกำรโดยสุจริตไม่ว่ำจะได้เปลี่ยนแปลงเพิกถอนโดยคำสั่งของศำลหรือไม่ก็ตำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๖๙ สัญญำที่เกี่ยวกับทรัพย์สินใดที่สำมีภริยำได้ทำไว้ต่อกันในระหว่ำง
เป็ น สำมีภ ริย ำกันสนัำนั้ นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ฝ่ ำยใดฝ่ำยหนึ่ งจะบอกล้
กำ ำงเสี ยในเวลำใดที ่เป็นสำมีภ ริยำกันอยูกำ่ห รือภำยใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำหนดหนึ่ งปี นั บ แต่ วัน ที่ ข ำดจำกกำรเป็ น สำมี ภ ริย ำกั น ก็ ได้ แต่ ไม่ ก ระทบกระเทื อ นถึ งสิ ท ธิข อง
สำนักบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คคลภำยนอกผู้ทำกำรโดยสุ กำ จริต สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๔๗๐ ทรัพย์สินระหว่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำงสำมีภริยสำำนันอกจำกที ่ได้แยกไว้เป็นสิกนำส่วนตัวย่อม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นสินสมรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๗๑ สินส่วนตัวได้แก่ทรัพย์สิน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๑๘
มำตรำ ๑๔๖๔/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนัก(ฉบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๔๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๑) ที่ฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งมีอยู่ก่อนสมรส
(๒) ทีก่เป็ำ นเครื่องใช้สสอยส่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นตัว เครื่องแต่งกำย กหรืำ อเครื่อ งประดั
สำนับกกำยตำมควรแก่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ฐำนะ หรือเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นในกำรประกอบอำชีพหรือวิชำชีพของคู่สมรสฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่ง
ส(๓)
ำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งได้มำระหว่
กำ ำงสมรสโดยกำรรั บมรดกหรือโดยกำรให้กำโดยเสน่หำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
(๔) ที่เป็นของหมั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๔๗๒ สินส่วนตัวนัก้นำ ถ้ำได้แลกเปลี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่ยกนเป็ นทรัพย์สินอื่นก็ดี ซื้อกำทรัพย์สินอื่น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มำก็ดี หรือขำยได้เป็นเงินมำก็ดี ทรัพย์สินอื่นหรือเงินที่ได้มำนั้นเป็นสินส่วนตัว
สิ น ส่ วกนตั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ว ที่ ถู ก ท ำลำยไปทั ้ งหมดหรือแต่บ ำงส่กวำน แต่ได้ ทรัพสย์ำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สิ นกอืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่นหรือเงินมำ กำ
ทดแทน ทรัพย์สินอื่นหรือเงินที่ได้มำนั้นเป็นสินส่วนตัว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๗๓ สินส่วนตัวของคู่สมรสฝ่ำยใดให้ฝ่ำยนั้นเป็นผู้จัดกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๗๔ สินสมรสได้แก่ทรัพย์สิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ที่คู่สมรสได้มำระหว่ำงสมรส
(๒) ทีก่ฝำ่ำยใดฝ่ำยหนึ่สงได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัมกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำระหว่ำงสมรสโดยพินกัยำกรรมหรือโดยกำรให้ เป็นหนังสือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เมื่อพินัยกรรมหรือหนังสือยกให้ระบุว่ำเป็นสินสมรส
ส(๓)
ำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่เป็นดอกผลของสินส่วกนตัำ ว สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำกรณีเป็นที่สงสัยว่ำทรัพย์สินอย่ำงหนึ่งเป็นสินสมรสหรือมิใช่ ให้สันนิษฐำนไว้ก่อน
สำนักว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเป็นสินสมรส กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๔๗๕ ถ้ำสินสมรสใดเป็


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นจำพวกที
สำนั่รกะบุ ไว้ในมำตรำ ๔๕๖ กแห่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งประมวล
กฎหมำยนี้ หรือที่มีเอกสำรเป็ น สำคัญ สำมีห รือภริยำจะร้องขอให้ ลงชื่อตนเป็นเจ้ำของรวมกั นใน
สำนักเอกสำรนั ้นก็ได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๗๖ สำมี แ ละภริย ำต้ อ งจั ด กำรสิ น สมรสร่ ว มกั น หรือ ได้ รับ ควำม
๑๑๙

สำนักยิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นยอมจำกอีกฝ่ำยหนึ่งกในกรณีำ ดังต่อไปนี
สำนั้ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ขำย แลกเปลี่ยน ขำยฝำก ให้เช่ำซื้อ จำนอง ปลดจำนอง หรือโอนสิทธิจำนอง
ซึ่งอสังหำริมทรัพสย์ำนั
หรืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สังหำริมทรัพย์ที่อำจจำนองได้
กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ก่อตั้งหรือกระทำให้สุดสิ้นลงทั้งหมดหรือบำงส่วนซึ่งภำระจำยอม สิทธิอำศัย
สำนักสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทธิเหนือพื้นดิน สิทธิเก็กบำ กิน หรือภำระติ
สำนัดกพังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นในอสังหำริมทรัพย์ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ให้เช่ำอสังหำริมทรัพย์เกินสำมปี
ส(๔)
ำนักให้ กู้ยืมเงิน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) ให้โดยเสน่หำ เว้นแต่กำรให้ที่พอควรแก่ฐำนำนุรูปของครอบครัวเพื่อกำรกุศล
สำนักเพื ่อกำรสังคม หรือตำมหน้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำที่ธรรมจรรยำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๖) ประนีประนอมยอมควำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๑๙
มำตรำ ๑๔๗๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๔๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๗) มอบข้อพิพำทให้อนุญำโตตุลำกำรวินิจฉัย
(๘) นกำทรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ พย์สินไปเป็สนำนัประกั นหรือหลักประกันต่กอำเจ้ำพนักงำนหรืสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อศำล
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรจัดกำรสินสมรสนอกจำกกรณีที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง สำมีหรือภริยำจัดกำรได้
โดยมิต้องได้รับควำมยิ
ส ำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยอมจำกอีกฝ่ำยหนึ่ง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๔๗๖/๑๑๒๐ สำมีและภริยำจะจัดกำรสินสมรสให้แตกต่ำงไปจำกที่บัญญัติ
ไว้ในมำตรำ ๑๔๗๖สำนัทักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้งหมดหรือบำงส่วนได้กก็ตำ่อเมื่อได้ทำสัสญำนัญำก่ อนสมรสไว้ตำมที่บัญกญัำ ติในมำตรำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๑๔๖๕ และมำตรำ ๑๔๖๖ ในกรณีดังกล่ำวนี้ กำรจัดกำรสินสมรสให้เป็นไปตำมที่ระบุไว้ในสัญญำ
สำนักก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อนสมรส กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่สัญญำก่อนสมรสระบุกำรจัดกำรสินสมรสไว้แต่เพียงบำงส่วนของมำตรำ
๑๔๗๖ กำรจัดกำรสิ
สำนันกสมรสนอกจำกที ่ระบุไว้ใกนสั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ญญำก่อนสมรสให้ เป็นไปตำมมำตรำ ๑๔๗๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๑๔๗๗๑๒๑ สำมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัภกริงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยำฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งมีสิทกธิำฟ้อง ต่อสู้ หรืสอำนัดำเนิ นคดีเกี่ยวกับ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กำรสงวนบ ำรุงรั กษำสิ น สมรส หรื อเพื่ อ ประโยชน์ แก่สิ น สมรส หนี้อั นเกิดแต่กำรฟ้ อ ง ต่อสู้ หรือ
ดำเนินคดีดังกล่ำวสำนั
ให้กถงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ือว่ำเป็นหนี้ที่สำมีภริยำเป็ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นลูกหนี้ร่วมกั น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๗๘ เมื่อฝ่ ำยใดต้องให้ ควำมยินยอมหรือลงชื่อกับอีกฝ่ำยหนึ่งในเรื่อง
จัดกำรทรัพย์สินแต่
สำนัไม่กใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ห้ควำมยินยอมหรือไม่ยกอมลงชื
ำ ่อโดยปรำศจำกเหตุ ผล หรือไม่อยู่ใกนสภำพที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่อำจ
ให้ควำมยินยอมได้ อีกฝ่ำยหนึ่งอำจร้องขอต่อศำลให้สั่งอนุญำตแทนได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๗๙ กำรใดที่สำมีหรือภริยำกระทำ ซึ่งต้องรับควำมยินยอมร่วมกัน และ
ถ้ำกำรนั้นมีกฎหมำยบั ญญัติให้ทำเป็นหนังสือกหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อให้จดทะเบี ยนต่
สำนั อพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ กควำมยิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นยอม
นั้นต้องทำเป็นหนังสือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๘๐๑๒๒ กำรจัดกำรสินสมรสซึ่งต้องจัดกำรร่วมกันหรือต้องได้รับควำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ยิน ยอมจำกอีกฝ่ำยหนึ่งตำมมำตรำ ๑๔๗๖ ถ้ำคู่สมรสฝ่ำยหนึ่งได้ทำนิติกรรมไปแต่เพียงฝ่ำยเดียว
สำนักหรื อโดยปรำศจำกควำมยิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นยอมของคู่สสำนัมรสอี กฝ่ำยหนึ่ง คู่สมรสอีกกำฝ่ำยหนึ่งอำจฟ้สำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องให้ ศำลเพิกถอน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
นิติกรรมนั้นได้ เว้นแต่คู่สมรสอีกฝ่ำยหนึ่งได้ให้สัตยำบันแก่นิติกรรมนั้นแล้ว หรือในขณะที่ทำนิติกรรม
นั้นบุคคลภำยนอกได้ สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระทำโดยสุจริตและเสียกค่ำำตอบแทน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรฟ้องให้ศำลเพิกถอนนิติกรรมตำมวรรคหนึ่งห้ำมมิให้ฟ้องเมื่อพ้นหนึ่งปี นับแต่
สำนักวังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นที่ได้รู้เหตุอันเป็นมูลให้กำเพิกถอน หรือสเมื
ำนั่อกพ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นสิบปีนับแต่วันที่ได้ทกำนิำ ติกรรมนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๒๐
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๔๗๖/๑ เพิ ่มโดยพระรำชบั
สำนั ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ มประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๒๑
มำตรำ ๑๔๗๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแ ก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๒๒
มำตรำ ๑๔๘๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๔๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๔๘๑ สำมีหรือภริยำไม่มีอำนำจทำพินัยกรรมยกสินสมรสที่เกินกว่ำส่วน


สำนักของตนให้ แก่บุคคลใดได้กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๔๘๒๑๒๓ ในกรณีกทำี่สำมีหรือภริยสำมี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัอกำนำจจั ดกำรสินสมรสแต่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ฝ่ำยเดียวคู่
สมรสอีกฝ่ำยหนึ่งก็ยังมีอำนำจจัดกำรบ้ำนเรือนและจัดหำสิ่งจำเป็นสำหรับครอบครัวตำมสมควรแก่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อัตภำพได้ ค่ำใช้จ่ำยในกำรนี้ย่อมผูกพันสินสมรสและสินส่วนตัวของทั้งสองฝ่ำย
สถ้ำนั
ำสำมี ห รื อ ภริ ย ำจั ด กำรบ้กำำนเรือ นหรือ จัสดำนัหำสิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ งจำเป็ น ส ำหรับ ครอบครั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ว เป็ น ที่
เสียหำยถึงขนำด อีกฝ่ำยหนึ่งอำจร้องขอให้ศำลสั่งห้ำมหรือจำกัดอำนำจนี้เสียได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๘๓ ในกรณีที่สำมีหรือภริยำมีอำนำจจัดกำรสินสมรสแต่ฝ่ำยเดียว ถ้ำ
๑๒๔

สำมีหรือภริยำจะกระท ำ หรือกำลังกระทำกำรอย่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำงใดอย่ำงหนึ
สำนั่งกในกำรจั ดกำรสินสมรสอักนำพึงเห็นได้ว่ำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จะเกิดควำมเสียหำยถึงขนำด อีกฝ่ำยหนึ่งอำจร้องขอให้ศำลสั่งห้ำมมิให้กระทำกำรนั้นได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๘๔๑๒๕ ถ้ำสำมีหรือภริยำฝ่ำยซึ่งมีอำนำจจัดกำรสินสมรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) จัดกำรสินสมรสเป็นที่เสียหำยถึงขนำดสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ไม่กอำุปกำระเลี้ยงดูสอำนัีกกฝ่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำยหนึ่ง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) มีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือทำหนี้เกินกึ่งหนึ่งของสินสมรส
ส(๔)
ำนักขังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดขวำงกำรจัดกำรสินสมรสของอี กำ กฝ่ำยหนึ
สำนัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรกำ
(๕) มีพฤติกำรณ์ปรำกฏว่ำจะทำควำมหำยนะให้แก่สินสมรส
อีกฝ่ำกยหนึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่งอำจร้องขอให้ ศำลสั่งอนุญำตให้ตนเป็กนำ ผู้จัดกำรสินสมรสแต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ผู้เดียวหรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สั่งให้แยกสินสมรสได้
สในกรณี ตำมวรรคหนึ่ง ถ้ำมีกคำำขอ ศำลอำจก
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำหนดวิ ธีคุ้มครองชั่วครำวเพื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ อจัดกำร
สินสมรสได้ตำมที่เห็นสมควร และหำกเป็นกรณีฉุกเฉินให้นำบทบัญญัติเรื่องคำขอในเหตุฉุกเฉินตำม
สำนักประมวลกฎหมำยวิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ธีพิจกำรณำควำมแพ่
ำ สงมำใช้ บังคับ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๘๔/๑ ในกรณีที่ศำลได้มีคำสั่งห้ำมหรือจำกัดอำนำจในกำรจัดกำร
๑๒๖

สำนักสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นสมรสของสำมีหรือภริกำยำตำมมำตรำสำนั ๑๔๘๒ มำตรำ ๑๔๘๓ หรืกอำมำตรำ ๑๔๘๔
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัถ้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต่อมำเหตุแห่ง กำ
กำรนั้นหรือพฤติกำรณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป สำมีหรือภริยำอำจร้องขอต่อศำลให้ยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลง
คำสั่งที่ห้ำมหรือจสำกัำนัดกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนำจจัดกำรสินสมรสนัก้นำ ได้ ในกำรนี้ศสำลจะมี คำสั่งใด ๆ ตำมที่เห็กนำสมควรก็ได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


๑๒๓
สำนักมำตรำ ๑๔๘๒ แก้ไขเพิ่มเติกมำ โดยพระรำชบัสญำนัญักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ิแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่
กำ งและ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๒๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๔๘๓ แก้ไสขเพิ
ำนัก่มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เติมโดยพระรำชบัญญัติแกก้ำไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๒๕
มำตรำ ๑๔๘๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๒๖
มำตรำ ๑๔๘๔/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนัก(ฉบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๔๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๔๘๕ สำมี ห รือ ภริ ย ำอำจร้ อ งขอต่ อ ศำลให้ ต นเป็ น ผู้ จั ด กำรสิ น สมรส
สำนักโดยเฉพำะอย่ ำงใดอย่ำงหนึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่งหรือเข้ำร่วมจัสำนั
ดกำรในกำรนั ้นได้ ถ้ำกำรที่จกะท
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำเช่นนั้นจะเป็
สำนันประโยชน์ ยิ่งกว่ำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สมำตรำ ๑๔๘๖ ๑๒๗ เมื่อศำลได้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มีคำพิ พำกษำหรื อคำสั่งถึงที่สุดตำมควำมในมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
๑๔๘๒ วรรคสอง มำตรำ ๑๔๘๓ มำตรำ ๑๔๘๔ มำตรำ ๑๔๘๔/๑ หรือมำตรำ ๑๔๘๕ อันเป็นคุณ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แก่ผู้ร้องขอ หรือตำมมำตรำ ๑๔๙๑ มำตรำ ๑๔๙๒/๑ หรือมำตรำ ๑๕๙๘/๑๗ หรือเมื่อสำมีหรือ
ภริยำพ้นจำกกำรเป็สำนันกบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คคลล้มละลำย ให้ศำลแจ้
กำ งไปยังนำยทะเบี
สำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นเพื่อจดแจ้งไว้ในทะเบีกำยนสมรส

มำตรำกำ๑๔๘๗๑๒๘ ในระหว่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำงที่เป็นสำมีภริยำกันกำ ฝ่ำยใดจะยึดสหรืำนัอกอำยั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดทรัพย์สิน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ของอีกฝ่ำยหนึ่งไม่ได้ เว้นแต่เป็นกำรยึดหรืออำยัดทรัพย์สินในคดีที่ฟ้องร้องเพื่อกำรปฏิบัติหน้ำที่หรือ
รักษำสิทธิระหว่ำสงสำมี ภริยำตำมที่บัญญัติไว้โกดยเฉพำะในประมวลกฎหมำยนี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้หรือที่ประมวลกฎหมำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
นี้บัญญัติไว้โดยเฉพำะให้สำมีภริยำฟ้องร้องกันเองได้ หรือเป็นกำรยึด หรืออำยัดทรัพย์สินสำหรับค่ำ
สำนักอุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ปกำระเลี้ยงดูและค่ำฤชำธรรมเนี
กำ ยมทีส่ยำนัังมิกไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้ชำระตำมคำพิพำกษำของศำล
กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๘๘ ถ้ำสำมีหรือภริยำต้องรับผิดสำนั เป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ส่วนตัวเพื่อชำระหนี้ที่กก่อำไว้ก่อนหรือ
สำนักระหว่ ำงสมรส ให้ชำระหนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นั้นด้วยสินส่สวำนั
นตักวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของฝ่ำยนั้นก่อน เมื่อไม่
กำพอจึงให้ชำระด้
สำนัวยสิ นสมรสที่เป็น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ส่วนของฝ่ำยนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๘๙ ถ้ำสำมีภริยำเป็นลูกหนี้ร่วมกัน ให้ชำระหนี้นั้นจำกสินสมรสและสิน
สำนักส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วนตัวของทั้งสองฝ่ำย กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๔๙๐ หนี้ที่สำมีภกริำยำเป็นลูกหนีส้รำนั่วมกั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นนั้นให้รวมถึงหนี้ที่สกำมีำ หรือภริยำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก่อให้เกิดขึ้นในระหว่ำงสมรส ดังต่อไปนี้
(๑)๑๒๙กำหนี้เกี่ยวแก่กำรจั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรบ้ำนเรือนและจัดหำสิ กำ ่งจำเป็นสำหรั สำนับกครอบครั ว กำร
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อุปกำระเลี้ยงดูตลอดถึงกำรรักษำพยำบำลบุคคลในครอบครัวและกำรศึกษำของบุตรตำมสมควรแก่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อัตภำพ
(๒) หนีกำ้ที่เกี่ยวข้องกับสสิำนันกสมรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) หนี้ที่เกิดขึ้นเนื่องจำกกำรงำนซึ่งสำมีภริยำทำด้วยกัน
ส(๔)
ำนักหนี ้ ที่ ส ำมี ห รื อ ภริย ำก่กอำขึ้ น เพื่ อ ประโยชน์
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ต นฝ่ ำ ยเดี ย วแต่ อี ก ฝ่กำำยหนึ่ งได้ ให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สัตยำบัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๒๗
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๔๘๖ แก้ไสขเพิ
ำนัก่มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เติมโดยพระรำชบัญญัติแกก้ำไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๒๘
มำตรำ ๑๔๘๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๒๙
มำตรำ ๑๔๙๐ (๑) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ง
สำนักและพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๒๕๓๓ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๔๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๔๙๑ ถ้ำสำมีหรือภริยำต้องคำพิพำกษำให้ล้มละลำย สินสมรสย่อมแยก


สำนักจำกกั นโดยอำนำจกฎหมำยนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บแต่วันทีส่ศำนั
ำลพิ พำกษำให้ล้มละลำยนัก้นำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๔๙๒ ๑๓๐ เมื่ อ ได้กแำยกสิ น สมรสตำมมำตรำ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๑๔๘๔ วรรคสอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มำตรำ
๑๔๙๑ หรือมำตรำ ๑๕๙๘/๑๗ วรรคสอง แล้ว ให้ ส่วนที่แยกออกตกเป็นสินส่วนตัวของสำมีหรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ภริยำ และบรรดำทรัพย์สินที่ฝ่ำยใดได้มำในภำยหลังไม่ให้ถือเป็นสินสมรส แต่ให้เป็นสินส่วนตัวของ
ฝ่ำยนั้น และสินสมรสที ่คู่สมรสได้มำโดยพินัยกกรรมหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อโดยกำรให้ เป็นหนังสือตำมมำตรำกำ ๑๔๗๔ (๒)
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ในภำยหลัง ให้ตกเป็นสินส่วนตัวของสำมีและภริยำฝ่ำยละครึ่ง
ดอกผลของสิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นส่วนตัสวำนั ที่ไกด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มำหลังจำกที่ได้แยกสินกสมรสแล้
ำ วให้เป็สนำนัสินกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ส่วนตัว กำ

สมำตรำ ๑๔๙๒/๑ ๑๓๑ ในกรณี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ที่ มีกำรแยกสิ
สำนันกสมรสโดยค ำสั่งศำล กำรยกเลิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กกำร
แยกสินสมรสให้กระทำได้เมื่อสำมีหรือภริยำร้องขอต่อศำล และศำลได้มีคำสั่งให้ยกเลิก แต่ถ้ำภริยำ
สำนักหรื อสำมีคัดค้ำนศำลจะสักำ่งยกเลิกกำรแยกสิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สมรสได้ต่อเมื่อเหตุแห่กงำกำรแยกสินสมรสได้ สิ้นสุดลงแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เมื่อมีกำรยกเลิกกำรแยกสิ นสมรสตำมวรรคหนึ่ง หรือกำรแยกสิ นสมรสสิ้นสุดลง
เพรำะสำมีหรือภริยำพ้นจำกกำรเป็นบุคคลล้มละลำย ให้ทสรัำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พย์กสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ินที่เป็นสินส่วนตัวอยูก่ในวั

นที่ศำลมี
สำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำสั่งหรือในวันที่พ้นจำกกำรเป็
กำ นบุคคลล้ มละลำย
สำนั ยังคงเป็นสินส่วนตั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำวต่อไปตำมเดิสมำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๔๙๓ ในกรณีที่ไม่กมำีสินสมรสแล้วสำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำมี และภริยำต้องช่วยกันออกค่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำใช้สอย
สำหรับกำรบ้ำนเรือนตำมส่วนมำกและน้อยแห่งสินส่วนตัวของตน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๕
ควำมเป็นกโมฆะของกำรสมรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๔๙๔ กำรสมรสจะเป็นโมฆะก็แต่เฉพำะที่บัญญัติไว้ในหมวดนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๔๙๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๑๓๒
กำรสมรสที ่ฝ่ำฝืนมำตรำ ๑๔๔๙
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มำตรำ ๑๔๕๐ มำตรำ ๑๔๕๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
และมำตรำ ๑๔๕๘ เป็นโมฆะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๙๖ ค ำพิ พ ำกษำของศำลเท่ ำนั้ น ที่ จะแสดงว่ำ กำรสมรสที่ ฝ่ ำฝื น
๑๓๓

สำนักมำตรำ ๑๔๔๙ มำตรำ ๑๔๕๐


งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ และมำตรำ
สำนัก๑๔๕๘ เป็นโมฆะ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๓๐
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๔๙๒ แก้ไสขเพิ
ำนัก่มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เติมโดยพระรำชบัญญัติแกก้ำไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๓๑
มำตรำ ๑๔๙๒/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๓๒
มำตรำ ๑๔๙๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๕๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

คู่สมรส บิดำมำรดำ หรือผู้สืบสันดำนของคู่สมรสอำจร้องขอให้ศำลพิพำกษำว่ำกำร


สำนักสมรสเป็ นโมฆะได้ ถ้ำไม่กมำีบุคคลดังกล่ำสวำนัผูก้มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ีส่วนได้เสียจะร้องขอให้กอำัยกำรเป็นผู้ร้อสงขอต่ อศำลก็ได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สมำตรำ ๑๔๙๗๑๓๔ กำรสมรสที


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่เป็นโมฆะ เพรำะฝ่ ำฝืนมำตรำ ๑๔๕๒ บุกำคคลผู้มีส่วน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้เสียคนใดคนหนึ่งจะกล่ำวอ้ำงขึ้น หรือจะร้องขอให้ศำลพิพำกษำว่ำกำรสมรสเป็นโมฆะก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๔๙๗/๑ ในกรณี กำ ที่ศำลมีคำพิสพำนัำกษำถึ งที่สุดว่ำกำรสมรสใดเป็


กำ นโมฆะ
๑๓๕
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้ศำลแจ้งไปยังนำยทะเบียนเพื่อบันทึกควำมเป็นโมฆะไว้ในทะเบียนสมรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๙๘ กำรสมรสที่เป็นโมฆะ ไม่ก่อให้เกิดควำมสัมพันธ์ทำงทรัพย์สิน
๑๓๖

ระหว่ำงสำมีภริยำสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่กำรสมรสเป็นโมฆะ ทรัพย์สินที่ฝ่ำยใดมีหรือได้มำไม่ว่ำก่อนหรือหลังกำร
สำนักสมรสรวมทั ้งดอกผลคงเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นของฝ่ำยนัส้นำนัส่กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นบรรดำทรัพย์สินที่ทกำมำหำได้
ำ ร่วมกัสนำนัให้กแงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บ่งคนละครึ่ง กำ
เว้นแต่ศำลจะเห็นสมควรสั่งเป็นประกำรอื่น เมื่อได้พิเครำะห์ถึงภำระในครอบครัว ภำระในกำรหำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เลี้ยงชีพ และฐำนะของคู ก่ รณีทั้งสองฝ่ำย ตลอดจนพฤติกำรณ์สำนัอื่นกทังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้งปวงแล้ว กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๔๙๙๑๓๗ กำรสมรสที่เป็นโมฆะ เพรำะฝ่ำฝืนมำตรำ ๑๔๔๙ มำตรำ ๑๔๕๐
หรือมำตรำ ๑๔๕๘ สำนัไม่ ทำให้ชำยหรือหญิงผู้สกมรสโดยสุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ จริตเสืสำนั
่อมสิ ทธิที่ได้มำเพรำะกำรสมรสก่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อนมีคำ
พิพำกษำถึงที่สุดให้เป็นโมฆะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรสมรสที
กำ ่เป็นโมฆะเพรำะฝ่ ำฝืนมำตรำ ๑๔๕๒กำไม่ทำให้ชำยหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อหญิ
สำนั งผู้สมรสโดย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สุจริตเสื่อมสิทธิที่ได้มำ เพรำะกำรสมรสก่อนที่ชำยหรือหญิงนั้นรู้ถึงเหตุที่ทำให้กำรสมรสเป็นโมฆะ แต่
กำรสมรสที่เป็นโมฆะดั งกล่ำว ไม่ทำให้คู่สมรสเกิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดสิทธิรับมรดกในฐำนะทำยำทโดยธรรมของคู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ่สมรส
อีกฝ่ำยหนึ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรสมรสที
กำ ่เป็นโมฆะเพรำะฝ่ ำฝืนมำตรำ ๑๔๔๙ กมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ๑๔๕๐สหรื
ำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มำตรำ ๑๔๕๘ กำ
หรือฝ่ำฝืนมำตรำ ๑๔๕๒ ถ้ำคู่สมรสฝ่ำยใดได้สมรสโดยสุจริตฝ่ำยนั้นมีสิทธิเรียกค่ำทดแทนได้ และถ้ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรสมรสที่ เป็ น โมฆะนั้ น ท ำให้ ฝ่ ำ ยที่ ได้ ส มรสโดยสุ จ ริต ต้ อ งยำกจนลงเพรำะไม่ มี ร ำยได้ พ อจำก
สำนักทรั พย์สิน หรือจำกกำรงำนที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่เคยทำอยูส่กำนั่อกนมี คำพิพำกษำถึงที่สุด กหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อก่อนที่จะได้ รู้วก่ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั กำรสมรสของ กำ
ตนเป็นโมฆะ แล้วแต่กรณี ฝ่ำยนั้นมีสิทธิเรียกค่ำเลี้ยงชีพได้ด้วย สิทธิเรียกค่ำเลี้ยงชีพในกรณีนี้ให้นำ
มำตรำ ๑๕๒๖ วรรคหนึ ่ง และมำตรำ ๑๕๒๘กมำใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บังคับโดยอนุ
สำนักโงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ลม กำ
๑๓๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๔๙๖ แก้ไสขเพิ
ำนัก่มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เติมโดยพระรำชบัญญัติแกก้ำไขเพิ่ มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๓๔
สำนักมำตรำ ๑๔๙๗ แก้ไขเพิ่มเติกมำ โดยพระรำชบัสญำนัญักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ิแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่
กำ งและ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๓๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๔๙๗/๑ เพิ ่มโดยพระรำชบั
สำนั ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ มประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๓๖
มำตรำ ๑๔๙๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๓๗
มำตรำ ๑๔๙๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๕๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สิทธิเรียกร้องค่ำทดแทน หรือค่ำเลี้ยงชีพตำมวรรคสำม มีกำหนดอำยุควำมสองปีนับ


สำนักแต่ วัน ที่มีคำพิพำกษำถึกงำที่สุด ส ำหรับสกรณี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรสมรสเป็นโมฆะเพรำะฝ่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำฝืน มำตรำ
สำนัก๑๔๔๙ มำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
๑๔๕๐ หรือมำตรำ ๑๔๕๘ หรือนับแต่วันที่รู้ถึงเหตุที่ทำให้กำรสมรสเป็นโมฆะ สำหรับกรณีกำรสมรส
เป็นโมฆะเพรำะฝ่สำำนัฝืนกมำตรำ ๑๔๕๒
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๔๙๙/๑๑๓๘ ในกรณีที่กำรสมรสเป็นโมฆะ ข้อตกลงระหว่ำงคู่สมรสว่ำฝ่ำย
ใดจะเป็นผู้ใช้อำนำจปกครองบุ ตรคนใด หรือฝ่กำำยใดหรือทั้งสองฝ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยจะเป็นผู้ออกเงินค่ำอุกปำกำระเลี้ยงดู
บุตรเป็นจำนวนเท่ำใด ให้ทำเป็นหนังสือ หำกตกลงกันไม่ได้ให้ศำลเป็นผู้ชี้ขำด ในกำรพิจำรณำชี้ขำด
สำนักถ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำศำลเห็นว่ำมีเหตุที่ถกอนอ ำ ำนำจปกครองของคู ่สมรสนั้นได้ตำมมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๑๕๘๒ สศำลจะถอนอ ำนำจ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ปกครองของคู่สมรสและสั่งให้บุคคลภำยนอกเป็นผู้ปกครองก็ได้ ทั้งนี้ ให้ศำลคำนึงถึงควำมผำสุกและ
ประโยชน์ของบุตสรนัำนั้นกเป็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นสำคัญ และให้นำควำมในมำตรำ
กำ ๑๕๒๑ มำใช้บังคับโดยอนุโลมกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ ๑๕๐๐ ๑๓๙ สกำรสมรสที


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ เป็ น โมฆะไม่ ก ระทบถึ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งสิ ท ธิ ขสองบุ ค คลภำยนอก
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้ ก ระท ำกำรโดยสุ จ ริ ต ซึ่ งได้ ม ำก่ อ นมี ก ำรบั น ทึ ก ควำมเป็ น โมฆะไว้ ในทะเบี ย นสมรสตำมมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๔๙๗/๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๖
กำรสิ้นกสุำดแห่งกำรสมรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๕๐๑ กำรสมรสย่อมสิ้นสุดลงด้วยควำมตำย กำรหย่ำ หรือศำลพิพำกษำ
ให้เพิกถอน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๕๐๒ กำรสมรสที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่เป็นโมฆียะสิ้นสุดลงเมืกำ่อศำลพิพำกษำให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัเกพิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กถอน กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๐๓ เหตุที่จะขอให้ศำลพิพำกษำเพิกถอนกำรสมรส เพรำะเหตุว่ำเป็น
สำนักโมฆี ยะ มีเฉพำะในกรณีกทำี่คู่สมรสทำกำรฝ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำกฝืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นมำตรำ ๑๔๔๘ มำตรำ กำ ๑๕๐๕ มำตรำ
สำนัก๑๕๐๖ มำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
๑๕๐๗ และมำตรำ ๑๕๐๙
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๐๔ กำรสมรสที่เป็นโมฆียะเพรำะฝ่ำฝืนมำตรำ ๑๔๔๘ ผู้มีส่วนได้เสีย
สำนักขอให้ เพิกถอนกำรสมรสได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ แต่บิดำมำรดำหรื อผู้ปกครองที่ให้ควำมยิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นยอมแล้วจะขอให้ เพิกถอนกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สมรสไม่ได้
สถ้ำนั
ำศำลมิ ได้สั่งให้เพิกถอนกำรสมรสจนชำยหญิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มีอำยุครบตำมมำตรำก๑๔๔๘
ำ หรือ
เมื่อหญิงมีครรภ์ก่อนอำยุครบตำมมำตรำ ๑๔๔๘ ให้ถือว่ำกำรสมรสสมบูรณ์มำตั้งแต่เวลำสมรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๓๘
มำตรำ ๑๔๙๙/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัตแิ ก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๓๙
มำตรำ ๑๕๐๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๕๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๕๐๕ กำรสมรสที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ได้กระทำไปโดยคู่สกมรสฝ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำยหนึ่งสสำคั
ำนักญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผิดตัวคู่สมรส กำ
กำรสมรสนั้นเป็นโมฆียะ
สสิำนั
ทธิกขงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อเพิกถอนกำรสมรสเพรำะส
กำ ำคัญผิดตัสวำนัคูก่สงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มรสเป็นอันระงับเมื่อเวลำได้
กำ ผ่ำนพ้น
ไปแล้วเก้ำสิบวันนับแต่วันสมรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๐๖ ถ้ำคู่สมรสได้กำทำกำรสมรสโดยถู


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กกลฉ้อฉลอันถึงขนำดซึก่งำถ้ำมิได้มีกล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ฉ้อฉลนั้นจะไม่ทำกำรสมรส กำรสมรสนั้นเป็นโมฆียะ
ควำมในวรรคหนึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ง ไม่สำนั
ใช้กบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ังคับในกรณีที่กลฉ้อฉลนั
กำ ้นเกิดขึ้นโดยบุ
สำนัคกคลที ่สำม โดยคู่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สมรสอีกฝ่ำยหนึ่งมิได้รู้เห็นด้วย
สสิำนั
ทธิกขงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อเพิกถอนกำรสมรสเพรำะถู กำ กกลฉ้อฉลเป็
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อันระงับเมื่อเวลำได้ผก่ำำนพ้นไปแล้ว
เก้ำสิบวันนับแต่วันที่รู้หรือควรได้รู้ถึงกลฉ้อฉล หรือเมื่อเวลำได้ผ่ำนพ้นไปแล้วหนึ่งปี นับแต่วันสมรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๐๗ ถ้ำคู่สมรสได้ทำกำรสมรสโดยถูกข่มขู่อันถึงขนำดซึ่งถ้ำมิได้มีกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ข่มขู่นั้นจะไม่ทำกำรสมรส กำรสมรสนั้นเป็นโมฆียะ
สิทธิขกอเพิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ กถอนกำรสมรสเพรำะถู กข่มขู่เป็นอันระงั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บ เมื่อเวลำได้สผำนั่ำนพ้ นไปแล้วหนึ่ง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ปีนับแต่วันที่พ้นจำกกำรข่มขู่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๐๘๑๔๐ กำรสมรสที่เป็นโมฆียะเพรำะคู่สมรสสำคัญผิดตัวหรือถูกกลฉ้อฉล
สำนักหรื อถูกข่มขู่ เฉพำะแต่คกู่สำมรสที่สำคัญผิสดำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ตัวกหรื อถูกกลฉ้อฉลหรือถูกข่กมำ ขู่เท่ำนั้นขอเพิสกำนัถอนกำรสมรสได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณี ที่ ผู้ มี สิ ท ธิ ข อเพิ ก ถอนกำรสมรสเป็ น บุ ค คลที่ ถู ก ศำลสั่ ง ให้ เ ป็ น คนไร้
ควำมสำมำรถ ให้สำนั บุคกคลซึ ่งอำจร้องขอต่อศำลให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สั่งให้บุ คคลวิ
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ลจริตเป็นคนไร้ควำมสำมำรถ กำ ตำม
มำตรำ ๒๙ ขอเพิกถอนกำรสมรสได้ด้วย แต่ถ้ำผู้มีสิทธิขอเพิกถอนกำรสมรสเป็นคนวิกลจริตที่ศำลยัง
สำนักไม่ ได้สั่งให้เป็นคนไร้ควำมสำมำรถ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บุคสคลดั
ำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กล่ำวจะร้องขอเพิกถอนกำรสมรสก็
กำ ไสด้ำนัแต่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต้องขอให้ศำล กำ
สั่งให้คนวิกลจริตเป็นคนไร้ควำมสำมำรถพร้อมกันด้วย ในกรณีที่ศำลมีคำสั่งให้ยกคำขอให้ศำลสั่งเป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คนไร้ควำมสำมำรถ ก็ให้ศำลมีคำสั่งยกคำขอเพิกถอนกำรสมรสของบุคคลดังกล่ำวนั้นเสียด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี คำสั่งศำลให้
กำ ยกคำขอเพิ สำนักกถอนกำรสมรสของบุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี คคลตำมวรรคสองไม่
กำ สำนักกระทบกระเทื อน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สิทธิกำรขอเพิกถอนกำรสมรสของคู่สมรส แต่คู่สมรสจะต้องใช้สิทธินั้นภำยในกำหนดระยะเวลำที่คู่
สมรสมีอยู่ ถ้ำระยะเวลำดั งกล่ำวเหลืออยู่ไม่ถกึงหกเดื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อนนับแต่สำนั
วันกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ศำลมีคำสั่งให้ยกคำขอเพิ กำ กถอนกำร
สมรสของบุคคลดังกล่ำวหรือไม่มีเหลืออยู่เลย ก็ให้ขยำยระยะเวลำนั้นออกไปได้ให้ครบหกเดือนหรือ
สำนักอีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กหกเดือนนับแต่วันที่ศกำลมี
ำ คำสั่งให้ยกค สำนัำขอเพิ กถอนกำรสมรสของบุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ คคลดังกล่ำวสำนั แล้กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แต่กรณี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๔๐
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เดิกมำกำรร้องขอต่อศำลให้ สั่งให้บุคคลวิกลจริตเป็นคนไร้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ควำมสำมำรถอยู
สำนัก่ในมำตรำ ๒๙ แต่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
โดยผลของพระรำชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ.
๒๕๓๕ นั้น กำรร้องขอต่อศำลให้สั่งให้บุคคลวิกลจริตเป็นคนไร้ควำมสำมำรถอยู่ในมำตรำ ๒๘ แต่โดยที่มำตรำ ๑๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แห่ งพระรำชบัญ ญั ติให้ใช้บทบั ญ ญั ติบรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิ ชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ.
๒๕๓๕ ให้แก้เลขมำตรำ ๒๙ เป็นมำตรำ ๒๘ เฉพำะแต่ในมำตรำ ๑๔๖๔ และมำตรำ ๑๕๑๙ เท่ำนั้น จึงมิได้แก้ไข
สำนักเลขมำตรำที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ปรำกฏในมำตรำ กำ ๑๕๐๘ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๕๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๕๐๙ กำรสมรสที่ มิ ได้ รับ ควำมยิ น ยอมของบุ ค คลดั งกล่ ำวในมำตรำ
สำนัก๑๔๕๔ กำรสมรสนั้นเป็กนำโมฆียะ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๑๐ กำรสมรสที


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ เป็ น โมฆี ย ะเพรำะมิ ได้ รับ ควำมยิ น ยอมของบุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ค คล
ดังกล่ำวในมำตรำ ๑๔๕๔ เฉพำะบุคคลที่อำจให้ควำมยินยอมตำมมำตรำ ๑๔๕๔ เท่ำนั้น ขอให้เพิก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถอนกำรสมรสได้
สสิำนั
ทธิกขงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อเพิกถอนกำรสมรสตำมมำตรำนี
กำ ้เป็นสอัำนันกระงั บเมื่อคู่สมรสนั้นมีอำยุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ครบยี่สิบปี
บริบูรณ์หรือเมื่อหญิงมีครรภ์
กำรฟ้กอำงขอเพิกถอนกำรสมรสตำมมำตรำนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ให้มีอกำยุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ควำมหนึ่งปีสนำนัับกแต่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วันทรำบกำร กำ
สมรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๑๑ กำรสมรสที่ได้มีคำพิพำกษำให้เพิกถอนนั้น ให้ถือว่ำสิ้นสุดลงในวันที่
สำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำพิพำกษำถึงที่สุด แต่จกะอ้
ำ ำงเป็นเหตุเสสืำนั่อมสิ ทธิของบุคคลภำยนอกผู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ทำกำรโดยสุสจำนั
ริตกไม่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้ เว้นแต่จะ กำ
ได้จดทะเบียนกำรเพิกถอนกำรสมรสนั้นแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๕๑๒ ให้นสำบทบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญญัติว่ำด้วยผลของกำรหย่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำโดยคำพิสพำนัำกษำมำใช้ บังคับ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แก่ผลของกำรเพิกถอนกำรสมรสโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๑๓ ถ้ำปรำกฏว่ำคู่สมรสที่ถูกฟ้องเพิกถอนกำรสมรสได้รู้เห็นเป็นใจใน
สำนักเหตุ แห่งโมฆียะกรรม คูก่สำมรสนั้นจะต้อสงรัำนับกผิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดใช้ค่ำทดแทนควำมเสีกำยหำยซึ่ งคู่สมรสอี
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ฝ่ำยหนึ่งได้รับ กำ
ต่อกำย ชื่อเสี ย งหรือทรัพ ย์ สิ น เนื่ องจำกกำรสมรสนั้น และให้ น ำมำตรำ ๑๕๒๕ มำใช้บังคับ โดย
อนุโลม สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำหำกกำรเพิกถอนกำรสมรสตำมวรรคหนึ่งทำให้อีกฝ่ำยหนึ่งยำกจนลง และไม่มี
สำนักรำยได้ พอจำกทรัพย์สินกหรืำ อจำกกำรงำนตำมที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่เคยทำอยู่ระหว่ำงสมรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ คู่สมรสที่ ถสูกำนัฟ้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งนั้นจะต้องรับ กำ
ผิดในค่ำเลี้ยงชีพดังที่บัญญัติไว้ในมำตรำ ๑๕๒๖ ด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๕๑๔ กำรหย่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำกนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นจะทำได้แต่โดยควำมยิ
กำนยอมของทั้งสสองฝ่ ำยหรือโดยคำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พิพำกษำของศำล
สกำรหย่ ำโดยควำมยินยอมต้องท
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำเป็นหนังสือสและมี พยำนลงลำยมือชื่ออย่ำกงน้ำ อยสองคน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๑๕๑๕ เมื่อได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัจกดทะเบี ยนสมรสตำมประมวลกฎหมำยนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ส้ ำนั
กำรหย่ ำโดยควำม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ยินยอมจะสมบูรณ์ต่อเมื่อสำมีและภริยำได้จดทะเบียนกำรหย่ำนั้นแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๑๖ เหตุฟ้องหย่ำมีดังต่อไปนี้
(๑)๑๔๑กสำมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ หรือภริยำอุ
สำนัปกกำระเลี ้ยงดูหรือยกย่องผูกำ้อื่นฉันภริยำหรืสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อสำมี เป็นชู้หรือมี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ชู้ หรือร่วมประเวณี กับผู้อื่นเป็นอำจิณ อีกฝ่ำยหนึ่งฟ้องหย่ำได้สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๔๑
มำตรำ ๑๕๑๖ (๑) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ง
สำนักและพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๒๕๕๐ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ชย์ (ฉบับที่ ๑๖) พ.ศ. สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๕๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๒) สำมีห รือภริย ำประพฤติชั่ว ไม่ว่ำควำมประพฤติชั่วนั้นจะเป็นควำมผิดอำญำ


สำนักหรื อไม่ ถ้ำเป็นเหตุให้อีกกฝ่ำำยหนึ่ง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ก) ได้รับควำมอับอำยขำยหน้ำอย่ำงร้ำยแรง
สำนัก(ข) ได้ รั บ ควำมดู ถู ก เกลี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำย ดชั ง เพรำะเหตุ ที่ ค งเป็ น สำมี ห รื อ ภริ ยกำำของฝ่ ำ ยที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ประพฤติชั่วอยู่ต่อไป หรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ค) ได้รับควำมเสียหำยหรือเดือดร้อนเกินควร ในเมื่อเอำสภำพ ฐำนะและควำม
เป็นอยู่ร่วมกันฉันสสำมี
ำนักภงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ริยำมำคำนึงประกอบ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อีกฝ่ำยหนึ่งนั้นฟ้องหย่ำได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๓) สำมี
กำ ห รือภริย ำทสำร้ำนัำกยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือทรมำนร่ำงกำยหรื กำ อจิต ใจ หรือสหมิ ำนัก่ นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ประมำทหรือ กำ
เหยียดหยำมอีกฝ่ำยหนึ่งหรือบุพกำรีของอีกฝ่ำยหนึ่ง ทั้งนี้ ถ้ำเป็นกำรร้ำยแรง อีกฝ่ำยหนึ่งนั้นฟ้อง
หย่ำได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) สำมีหรือภริยำจงใจละทิ้งร้ำงอีกฝ่ำยหนึ่งไปเกินหนึ่งปี อีกฝ่ำยหนึ่งนั้นฟ้องหย่ำได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๔/๑)ก๑๔๒ำ สำมีหรือภริสยำนัำต้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องคำพิพำกษำถึงที่สุดให้ กำ จำคุก และได้สถำนัูกกจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำคุกเกินหนึ่งปี กำ
ในควำมผิดที่อีกฝ่ำยหนึ่งมิได้มีส่วนก่อให้เกิดกำรกระทำควำมผิดหรือยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในกำร
กระทำควำมผิดนัส้นำนัด้วกยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
และกำรเป็นสำมีภริยกำกั ำ
นต่อไปจะเป็สำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นเหตุ ให้อีกฝ่ำยหนึ่งได้รับควำมเสียหำย
สำนักหรื อเดือนร้อนเกินควร อีกำกฝ่ำยหนึ่งนั้นฟ้สำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องหย่ ำได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔/๒) สำมีและภริยำสมัครใจแยกกันอยู่เพรำะเหตุที่ไม่ อำจอยู่ร่วมกันฉันสำมี
๑๔๓

ภริยำได้โดยปกติสสำนั ุขตลอดมำเกิ นสำมปี หรือแยกกั


กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นอยู่ตำมค สำนัำสัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของศำลเป็นเวลำเกินสำมปี กำ ฝ่ำยใด
ฝ่ำยหนึ่งฟ้องหย่ำได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๕)๑๔๔กสำมี
ำ หรือภริยำถู สำนักกศำลสั ่งให้เป็นคนสำบสูญกำหรือไปจำกภูมสิลำนัำเนำหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อถิ่นที่อยู่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เป็นเวลำเกินสำมปีโดยไม่มีใครทรำบแน่ว่ำเป็นตำยร้ำยดีอย่ำงไร อีกฝ่ำยหนึ่งฟ้องหย่ำได้
ส(๖)
ำนักสำมี หรือภริยำไม่ให้ควำมช่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วยเหลืออุปสกำระเลี ้ยงดูอีกฝ่ำยหนึ่งตำมสมควรหรื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อ
ทำกำรเป็นปฏิปักษ์ต่อกำรที่เป็นสำมีหรือภริยำกันอย่ำงร้ำยแรง ทั้งนี้ ถ้ำกำรกระทำนั้นถึงขนำดที่อีก
สำนักฝ่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยหนึ่ งเดือดร้อนเกินกควรในเมื
ำ ่อเอำสภำพ ฐำนะและควำมเป็นกำอยู่ร่วมกันฉันสสำมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ภ ริยำมำคำนึ ง
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประกอบ อีกฝ่ำยหนึ่งนั้นฟ้องหย่ำได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๗) สำมีหรือภริยำวิกลจริตตลอดมำเกินสำมปี และควำมวิกลจริตนั้นมีลักษณะยำก
สำนักจะหำยได้ กับทั้งควำมวิกกำ ลจริตถึงขนำดที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก่จงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ะทนอยู่ร่วมกันฉันสำมีกภำ ริยำต่อไปไม่ไสด้ำนัอีกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ฝ่ำยหนึ่งฟ้อง กำ
หย่ำได้
ส(๘)
ำนักสำมี หรือภริยำผิดทัณฑ์กบำนที่ทำให้ไว้เป็สำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นหนั งสือในเรื่องควำมประพฤติ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อีกฝ่ำย
หนึ่งฟ้องหย่ำได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๙) สำมี
กำ หรือภริยำเป็สนำนัโรคติ ดต่ออย่ำงร้ำยแรงอันกอำจเป็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นภัยแก่สอำนั ีกฝ่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยหนึ่งและโรค กำ
มีลักษณะเรื้อรังไม่มีทำงที่จะหำยได้ อีกฝ่ำยหนึ่งนั้นฟ้องหย่ำได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๔๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๕๑๖ (๔/๑)
สำนักเพิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่มโดยพระรำชบัญ ญัติแก้กไำขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๔๓
มำตรำ ๑๕๑๖ (๔/๒) เพิ่มโดยพระรำชบัญ ญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๔๔
มำตรำ ๑๕๑๖ (๕) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ง
สำนักและพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๒๕๓๓ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๕๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๑๐) สำมีหรือภริยำมีสภำพแห่งกำยทำให้ส ำมีหรือภริยำนั้นไม่อำจร่วมประเวณีได้


สำนักตลอดกำล อีกฝ่ำยหนึ่งฟ้กอำ งหย่ำได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๑๗ เหตุฟ้องหย่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำำตำมมำตรำส๑๕๑๖ (๑) และ (๒) ถ้ำสำมี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ หรือภริยำ
แล้วแต่กรณี ได้ยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในกำรกระทำที่เป็นเหตุหย่ำนั้น ฝ่ำยที่ยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นั้นจะยกเป็นเหตุฟ้องหย่ำไม่ได้
สเหตุ
ำนักฟงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้องหย่ำตำมมำตรำ ๑๕๑๖ กำ (๑๐) ถ้ำเกิสำนัดเพรำะกำรกระท ำของอีกกฝ่ำ ำยหนึ่ง อีก
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ฝ่ำยหนึ่งนั้นจะยกเป็นเหตุฟ้องหย่ำไม่ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณีกำฟ้องหย่ำโดยอำศั
สำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เหตุแห่งกำรผิดทัณฑ์บกำนตำมมำตรำ ส๑๕๑๖ (๘) นั้น ถ้ำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ศำลเห็นว่ำควำมประพฤติของสำมีหรือภริยำอันเป็นเหตุให้ทำทัณฑ์บนเป็นเหตุ เล็กน้อยหรือไม่สำคัญ
เกี่ยวแก่กำรอยู่ร่วสมกั
ำนันกฉังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นสำมีภริยำโดยปกติสกุขำ ศำลจะไม่พิพสำกษำให้ หย่ำก็ได้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๑๕๑๘ สิทธิสฟำนั้อกงหย่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำย่อมหมดไปในเมื่อกฝ่ำำยที่มีสิทธิฟ้อสงหย่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้กระทำกำร กำ
อันแสดงให้เห็นว่ำได้ให้อภัยในกำรกระทำของอีกฝ่ำยหนึ่งซึ่งเป็นเหตุให้เกิดสิทธิฟ้องหย่ำนั้นแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๕๑๙ ในกรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี่คู่สมรสฝ่ ำยใดฝ่ ำยหนึกำ่งเป็นคนวิกลจริ
สำนัตกและมี เหตุห ย่ำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เกิดขึ้นไม่ว่ำเหตุนั้นจะได้เกิดขึ้นก่อนหรือภำยหลังกำรเป็นคนวิกลจริต ให้บุคคลซึ่งอำจร้องขอต่อศำล
ให้สั่งให้บุคคลวิกสลจริ
ำนักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นคนไร้ควำมสำมำรถตำมมำตรำ
กำ ๒๘
สำนัมีกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนำจฟ้องคู่สมรสอีกฝ่กำำยหนึ่งขอให้
ศำลพิพำกษำให้หย่ำขำดจำกกันและแบ่งทรัพย์สินได้ ในกรณีเช่นว่ำนี้ ถ้ำยังมิได้มีคำสั่งของศำลแสดง
สำนักว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำคู่สมรสซึ่งวิกลจริตเป็กนำคนไร้ควำมสำมำรถก็ ให้บุคคลดังกล่ำวขอร้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำองขอต่อศำลในคดี เดียวกันนั้นให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ศำลมีคำสั่งว่ำคู่สมรสซึ่งวิกลจริตนั้นเป็นคนไร้ควำมสำมำรถ
สเมืำนั่อกบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คคลดังกล่ำวเห็นสมควร กำ จะร้องขอต่สอำนัศำลให้ มีคำสั่งตำมมำตรำก๑๕๒๖
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ หรือ
มำตรำ ๑๕๓๐ ด้วยก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณีกำที่คู่สมรสซึ่งถูสกำนัอ้ำกงว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเป็นคนวิกลจริตยังไม่กไำด้ถูกสั่งให้เป็นสคนไร้ ควำมสำมำรถ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หำกศำลเห็นว่ำคู่สมรสนั้นยังไม่เป็นคนที่ควรสั่งให้เป็นคนไร้ควำมสำมำรถก็ให้ยกฟ้องคดีนั้นเสีย ถ้ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เห็นว่ำเป็นบุคคลที่ควรสั่งให้เป็นคนไร้ควำมสำมำรถ แต่ยังไม่สมควรจะให้มีกำรหย่ำ ก็ให้ศำลสั่งให้คู่
สำนักสมรสนั ้นเป็นคนไร้ควำมสำมำรถโดยไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนัจกะสังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่งเรื่องผู้อนุบำลหรือจะตักำ ้งผู้อื่นเป็นผูส้อำนั
นุบกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำลตำมมำตรำ กำ
๑๔๖๓ ก็ได้ คงพิพำกษำยกแต่เฉพำะข้อหย่ำ ในกรณีเช่นนี้ศำลจะสั่งกำหนดค่ำเลี้ยงชีพด้วยก็ได้ ใน
กรณีที่ศำลเห็นว่ำสคูำนั่สมรสนั ้นวิกลจริตอันควรสัก่งำให้เป็นคนไร้คสวำมสำมำรถและทั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี้งมีเหตุควรให้
กำ หย่ำด้วย
ก็ให้ศำลสั่งในคำพิพำกษำให้คู่สมรสนั้นเป็นคนไร้ควำมสำมำรถ ตั้งผู้อนุบำลและให้หย่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณีกำนี้ ถ้ำศำลเห็นสว่ำนั ำเหตุ หย่ำที่ยกขึ้นอ้ำงในกำรฟ้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องร้องนั้นไม่สเำนั หมำะสมแก่ สภำพ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ของคู่สมรสซึ่งเป็นคนไร้ควำมสำมำรถที่จะหย่ำจำกคู่สมรสอีกฝ่ำยหนึ่งก็ดี ตำมพฤติกำรณ์ไม่สมควรที่
จะให้มีกำรหย่ำขำดจำกกั นก็ดี ศำลจะพิพำกษำไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ให้หย่ำก็ได้สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
[เลขมำตรำ ๒๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมำตรำ ๑๕ แห่งพระรำชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติ
สำนักบรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งและพำณิ ชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่กำพ.ศ. ๒๕๓๕]สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


- ๒๕๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๕๒๐๑๔๕ ในกรณีหย่ำโดยควำมยินยอม ให้สำมีภริยำทำควำมตกลงเป็น


สำนักหนั งสือว่ำฝ่ำยใดจะเป็นกผูำ้ใช้อำนำจปกครองบุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ตรคนใด ถ้ำมิได้ตกลงกั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำนหรือตกลงกัสนำนั
ไม่กไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้ ให้ศำลเป็นผู้ กำ
ชี้ขำด
สในกรณี หย่ำโดยคำพิพำกษำของศำล
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ให้ศำลซึ
สำนั่ งกพิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำรณำคดีฟ้องหย่ำนั้นกชีำ ้ขำดด้วยว่ำ
ฝ่ำยใดจะเป็นผู้ใช้อำนำจปกครองบุตรคนใด ในกำรพิจำรณำชี้ขำดถ้ำศำลเห็นว่ำมีเหตุที่จะถอนอำนำจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ปกครองของคู่ส มรสนั้ น ได้ต ำมมำตรำ ๑๕๘๒ ศำลจะถอนอำนำจปกครองของคู่ส มรสและสั่ งให้
บุคคลภำยนอกเป็สำนั นผูก้ปงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กครองก็ได้ ทั้งนี้ ให้กศำำลคำนึงถึงควำมผำสุ กและประโยชน์ของบุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ตรนั้นเป็น
สำคัญ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๒๑ ถ้ ำปรำกฏว่ำผู้ ใช้ อำนำจปกครองหรือผู้ ป กครองตำมมำตรำ
๑๔๖

๑๕๒๐ ประพฤติสตำนั
นไม่ สมควร หรือภำยหลังพฤติ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กำรณ์ได้เปลี
สำนั่ยกนแปลงไป ศำลมีอำนำจสั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่งเปลี่ยนตัว
ผู้ใช้อำนำจปกครองหรือผู้ปกครองโดยคำนึงถึงควำมผำสุกและประโยชน์ของบุตรเป็นสำคัญ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๒๒ ถ้ำสำมีภริยำหย่ำโดยควำมยินยอม ให้ทำควำมตกลงกันไว้ในสัญญำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หย่ำว่ำสำมีภริยำทั้งสองฝ่ำย หรือสำมีหรือภริยำฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ ่งจะออกเงินค่ำอุปกำระเลี้ยงดูบุตรเป็น
สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนวนเงินเท่ำใด กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำหย่ำโดยคำพิพำกษำของศำลหรือในกรณีที่สัญญำหย่ำมิได้กำหนดเรื่องค่ำอุปกำระ
เลี้ยงดูบุตรไว้ ให้ศสำลเป็ นผู้กำหนด
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๕๒๓๑๔๗ เมืสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่อศำลพิ พำกษำให้หย่ำกันกเพรำะเหตุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ตำมมำตรำ ๑๕๑๖ (๑)
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ภริยำหรือสำมีมีสิทธิได้รับค่ำทดแทนจำกสำมีหรือภริยำและจำกผู้ซึ่งได้รับกำรอุปกำระเลี้ยงดูหรือยก
ย่อง หรือผู้ซึ่งเป็นสเหตุ
ำนักแงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ห่งกำรหย่ำนั้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำมีจะเรียกค่ำทดแทนจำกผู้ซึ่งล่วงเกินภริยำไปในทำนองชู้สำวก็ได้ และภริยำจะ
สำนักเรีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยกค่ำทดแทนจำกหญิกงำอื่นที่แสดงตนโดยเปิ ดเผยเพื่อแสดงว่ำตนมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำควำมสัมพันธ์สกำนัับกสำมี ในทำนองชู้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สำวก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำสำมี ห รื อภริ ย ำยิ น ยอมหรือรู้เห็ น เป็ น ใจให้ อีกฝ่ ำยหนึ่ งกระท ำกำรตำมมำตรำ
สำนัก๑๕๑๖ (๑) หรือให้ผู้อื่นกกระท
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำกำรตำมวรรคสอง สำมีหรือภริยำนั้นกจะเรี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ยกค่ำทดแทนไม่ ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สมำตรำ ๑๕๒๔ ถ้ำเหตุแห่กงกำรหย่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำตำมมำตรำ ๑๕๑๖ (๓) (๔) หรือกำ(๖) เกิดขึ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เพรำะฝ่ำยผู้ต้องรับผิดชอบก่อให้เกิดขึ้นโดยมุ่งประสงค์ให้อีกฝ่ำยหนึ่งไม่อำจทนได้ จึงต้องฟ้องหย่ำ
สำนักอีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กฝ่ำยหนึ่งมีสิทธิได้รับค่กำำทดแทนจำกฝ่สำำนัยทีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ต้องรับผิด กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๔๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๕๒๐ แก้ไสขเพิ
ำนัก่มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เติมโดยพระรำชบัญญัติแกก้ำไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๔๖
มำตรำ ๑๕๒๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๔๗
มำตรำ ๑๕๒๓ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำย
สำนักแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พ.ศ. ๒๕๕๐ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๖) สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๕๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๕๒๕ ค่ำทดแทนตำมมำตรำ ๑๕๒๓ และมำตรำ ๑๕๒๔ นั้น ให้ ศำล


สำนักวิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นิจฉัยตำมควรแก่พฤติกกำำรณ์ โดยศำลจะสั สำนัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้ชำระครั้งเดียวหรือกแบ่ำ งชำระเป็นงวด สำนัๆกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มีกำหนดเวลำ กำ
ตำมที่ศำลจะเห็นสมควรก็ได้
สในกรณี ที่ ผู้ จ ะต้ อ งช ำระค่ ำกทดแทนเป็
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ น คูส่สำนัมรสของอี ก ฝ่ ำยหนึ่ ง ให้กศำำลค ำนึ งถึ ง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำนวนทรัพย์สินที่คู่สมรสนั้นได้รับไปจำกกำรแบ่งสินสมรสเพรำะกำรหย่ำนั้นด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๒๖ ในคดีหย่ำ กถ้ำำเหตุแห่งกำรหย่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นควำมผิดของคู่สมรสฝ่
กำ ำยใดฝ่ำย
หนึ่งแต่ฝ่ำยเดียว และกำรหย่ำนั้นจะทำให้อีกฝ่ำยหนึ่งยำกจนลง เพรำะไม่มีรำยได้พอจำกทรัพย์สิน
สำนักหรื อจำกกำรงำนตำมที่เกคยท
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำอยู่ระหว่ำสงสมรส อีกฝ่ำยหนึ่งนั้นจะขอให้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ฝ่ำยที่ต้องรัสบำนั
ผิดกจ่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยค่ำเลี้ยงชีพ กำ
ให้ได้ ค่ำเลี้ยงชีพนี้ศำลอำจให้เพียงใดหรือไม่ให้ก็ได้ โดยคำนึงถึงควำมสำมำรถของผู้ให้และฐำนะของ
ผู้รับและให้นำบทบั สำนัญกญังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ติมำตรำ ๑๕๙๘/๓๙ กมำตรำ ำ ๑๕๙๘/๔๐ และมำตรำ ๑๕๙๘/๔๑กำ มำใช้บังคับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สิทธิเรีกยำกร้องค่ำเลี้ยงชีสำนั
พเป็ นอันสิ้นสุด ถ้ำมิได้ฟ้อกงหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อฟ้องแย้งในคดี
สำนักหงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย่ำนั้น กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๒๗ ถ้ำหย่ำขำดจำกกันเพรำะเหตุ วิกลจริตตำมมำตรำ ๑๕๑๖ (๗) หรือ
สำนักเพรำะเหตุ เป็นโรคติดต่อกอย่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำงร้ำยแรงตำมมำตรำ ๑๕๑๖ (๙) คู่สมรสอี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กฝ่ำยหนึ่งสต้ำนั
องออกค่ ำเลี้ยงชีพ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ให้แก่ฝ่ำยทีว่ ิกลจริตหรือฝ่ำยที่เป็นโรคติดต่อนั้นโดยคำนวณค่ำเลี้ยงชีพอนุโลมตำมมำตรำ ๑๕๒๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๒๘ ถ้ำฝ่ำยที่รับค่ำเลี้ยงชีพสมรสใหม่ สิทธิรับค่ำเลี้ยงชีพย่อมหมดไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๒๙ สิทธิฟ้องร้องโดยอำศัยเหตุในมำตรำ ๑๕๑๖ (๑) (๒) (๓) หรือ (๖)
หรือมำตรำ ๑๕๒๓ สำนัย่กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มระงับไปเมื่อพ้นกำหนดหนึ
กำ ่งปีนับแต่สวำนัันกผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้กล่ำวอ้ำงรู้หรือควรรู้ควำมจริ
กำ งซึ่งตน
อำจยกขึ้นกล่ำวอ้ำง
เหตุอันกำจะยกขึ้นฟ้องหย่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำกไม่ ได้แล้วนั้น อำจนำสืบกสนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บสนุนคดีฟส้อำนั
งหย่ ำซึ่งอำศัยเหตุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อย่ำงอื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๕๓๐ ขณะคดี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักฟงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้องหย่ำอยู่ในระหว่ำงพิกจำำรณำ ถ้ำฝ่ำยใดร้
สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งขอ ศำลอำจ กำ
สั่งชั่วครำวให้จัดกำรตำมที่เห็นสมควร เช่น ในเรื่องสินสมรส ที่พักอำศัย กำรอุปกำระเลี้ยงดูสำมีภริยำ
และกำรพิทักษ์อุปสกำระเลี ้ยงดูบุตร
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๕๓๑ กำรสมรสที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่จดทะเบียนตำมกฎหมำยนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้น กำรหย่สำนั
ำโดยควำมยิ นยอม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ของคู่สมรสทั้งสองฝ่ำยมีผลนับแต่เวลำจดทะเบียนกำรหย่ำเป็นต้นไป
สกำรหย่ ำโดยคำพิพำกษำมีผกลแต่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ เวลำที่คำพิ พำกษำถึ
สำนั งที่สุด แต่จะอ้ำงเป็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำนเหตุเสื่อม
สิทธิของบุคคลภำยนอกผู้ทำกำรโดยสุจริตไม่ได้ เว้นแต่จะได้จดทะเบียนกำรหย่ำนั้นแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๓๒ เมื่อหย่ำกันแล้วให้จัดกำรแบ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งทรัพย์สินของสำมีภริยำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แต่ในระหว่ำงสำมีภริยำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๕๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(ก) ถ้ำเป็นกำรหย่ำโดยควำมยิ นยอมของทั้งสองฝ่ำย ให้จัดกำรแบ่งทรัพย์สินของ


สำนักสำมี ภริยำตำมที่มีอยู่ในเวลำจดทะเบี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยนกำรหย่ ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ข) ถ้ำเป็ น กำรหย่ ำโดยค ำพิ พ ำกษำของศำล ค ำพิ พ ำกษำส่ ว นที่ บั งคั บ ทรัพ ย์สิ น
ระหว่ำงสำมีภริยำนัำนั้นกมีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ส ผลย้อนหลังไปถึงวันฟ้กอำงหย่ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๕๓๓ เมื่อหย่ำกันให้แบ่งสินสมรสให้ชำยและหญิงได้ส่วนเท่ำกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๓๔ สินสมรสที่คู่สมรสฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งจำหน่ำยไปเพื่อประโยชน์ตนฝ่ำย
สำนักเดีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยวก็ดี จ ำหน่ำยไปโดยเจตนำท
กำ ำให้สคำนัู่สมรสอี กฝ่ ำยหนึ่งเสี ยหำยก็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดี จ ำหน่ ำยไปโดยมิ ได้รับควำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ยินยอมของคู่สมรสอีกฝ่ำยหนึ่งในกรณีที่กฎหมำยบังคับว่ำกำรจำหน่ำยนั้นจะต้องได้รับควำมยินยอม
ของอีกฝ่ ำยหนึ่ งด้สำนั
ว ยก็ ดี จงใจท ำลำยให้ สูญกหำยไปก็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ดี ให้ ถสำนั
ือเสมื อนว่ำทรัพย์สิ นนั้น ยักงำคงมีอยู่เพื่ อ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จัดแบ่งสินสมรสตำมมำตรำ ๑๕๓๓ และถ้ำคู่สมรสอีกฝ่ำยหนึ่งได้รับส่วนแบ่งสินสมรสไม่ครบตำม
สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนวนที่ควรจะได้ ให้คกู่สำมรสฝ่ำยที่ได้สจำนัำหน่ ำยหรือจงใจทำลำยสิกนำสมรสนั้นชดใช้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี จำกสิ
สำนั นสมรสส่วน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ของตนหรือสินส่วนตัว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๕๓๕ เมื่อสกำรสมรสสิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ นสุ ดลง ให้ แบ่กงควำมรั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บผิ ดในหนี
สำนัก้ ทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี่จะต้องรับผิ ด กำ
ด้วยกันตำมส่วนเท่ำกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนับิกดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำมำรดำกับบุตร กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ บิดำมำรดำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๕๓๖ เด็กเกิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัดแต่ หญิงขณะเป็นภริยำชำยหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อภำยในสำมร้
สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยสิบวันนับแต่ กำ
วันที่กำรสมรสสิ้นสุดลง ให้สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมำยของชำยผู้เป็นสำมี หรือเคย
เป็นสำมี แล้วแต่กสรณี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้นำควำมในวรรคหนึ่งมำใช้บังคับแก่บุตรที่เกิดจำกหญิงก่อนที่ได้มีคำพิพำกษำถึง
สำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่สุดของศำลแสดงว่ำกำรสมรสเป็
กำ นโมฆะ
สำนัหรื อภำยในระยะเวลำสำมร้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อยสิบวันนับแต่
สำนัวกันงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้น กำ

สมำตรำ ๑๕๓๗ ในกรณีที่หกำญิ งทำกำรสมรสใหม่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นั้นเป็นกำรฝ่ำฝืนมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๑๔๕๓
และคลอดบุตรภำยในสำมร้อยสิบวันนับแต่วันที่กำรสมรสสิ้นสุดลง ให้สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำเด็กที่เกิด
สำนักแต่ หญิงนั้ นเป็น บุตรชอบด้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วยกฎหมำยของชำยผู ้เป็นสำมีคนใหม่กำและห้ำมมิให้นสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำข้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สันนิษฐำนใน กำ
มำตรำ ๑๕๓๖ ทีส่วำนั
่ำเด็กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมำยของสำมี
กำ
เสดิำนั
มมำใช้ บังคับ ทั้งนี้ เว้นแต่มีคำพิพำกษำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ของศำลแสดงว่ำเด็กมิใช่บุตรชอบด้วยกฎหมำยของชำยผู้เป็นสำมีคนใหม่นั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๕๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๕๓๘๑๔๘ ในกรณีที่ชำยหรือหญิงสมรสฝ่ำฝืนมำตรำ ๑๔๕๒ เด็กที่เกิดใน


สำนักระหว่ ำงกำรสมรสที่ฝ่ำฝืกนำนั้น ให้สันนิ ษสฐำนไว้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ก่อนว่ำเป็นบุตรชอบด้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำวยกฎหมำยของชำยผู ้เป็นสำมีซึ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ได้จดทะเบียนสมรสครั้งหลัง
สในกรณี ที่หญิงสมรสฝ่ำฝืนมำตรำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๑๔๕๒ สถ้ำนัำมีกคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำพิพำกษำถึงที่สุดแสดงว่
กำ ำเด็กมิใช่
บุตรชอบด้วยกฎหมำยของชำยผู้เป็นสำมีซึ่งได้จดทะเบียนสมรสครั้งหลัง ให้นำข้อสันนิษฐำนในมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๕๓๖ มำใช้บังคับ
สให้
ำนันกำควำมในวรรคหนึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งมำใช้
กำ บั งคับแก่เด็กสำนั
ที่เกกิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดภำยในสำมร้อยสิบวักนำนับแต่วันที่
ศำลมีคำพิพำกษำถึงที่สุดให้กำรสมรสเป็นโมฆะเพรำะฝ่ำฝืนมำตรำ ๑๔๕๒ ด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๓๙ ในกรณีที่สันนิษฐำนว่ำเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมำยของชำยผู้เป็น
หรือเคยเป็นสำมีตสำมมำตรำ ๑๕๓๖ มำตรำ ๑๕๓๗
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ หรือมำตรำ สำนัก๑๕๓๘ ชำยผู้เป็นหรือเคยเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นสำมีจะ
ไม่รับเด็กเป็นบุตรของตนก็ได้ โดยฟ้องเด็กกับมำรดำเด็กร่วมกันเป็นจำเลยและพิสูจน์ได้ว่ำตนไม่ได้อยู่
สำนักร่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วมกับมำรดำเด็กในระยะเวลำตั
กำ ้งครรภ์สำนั
คือกระหว่ ำงหนึ่งร้อยแปดสิกบำวันถึงสำมร้อยสิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนับกวังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นก่อนเด็กเกิด กำ
หรือตนไม่สำมำรถเป็นบิดำของเด็กได้เพรำะเหตุอย่ำงอื่น๑๔๙
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แต่ถ้ำในขณะยื่นฟ้องมำรดำเด็กไม่มีชีวิตอยูส่ำนัจะฟ้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
องเด็กแต่ผู้เดียวเป็นจำเลยก็ได้ ถ้ำ
สำนักเด็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กไม่มีชีวิตอยู่ไม่ว่ำมำรดำของเด็
กำ กจะมี
สำนัชีวกิตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อยู่หรือไม่ จะยื่นคำร้อกำงขอให้ศำลแสดงว่สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เด็กนั้นไม่เป็น กำ
บุตรก็ได้ ในกรณีที่มำรดำของเด็กหรือทำยำทของเด็กยังมีชีวิตอยู่ ให้ศำลส่งสำเนำคำร้องนี้ไปให้ด้วย
และถ้ำศำลเห็นสมควร จะส่งสำเนำคำร้องไปให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำอัยกำรพิจำรณำเพื ่อดำเนินคดีแทนเด็กด้วกยก็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ได้

มำตรำกำ๑๕๔๐๑๕๐ (ยกเลิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
) กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๔๑ ชำยผู้เป็นหรื


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำอเคยเป็นสำมีสำนั
จะฟ้ องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตกรตำมมำตรำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ
๑๕๓๙ ไม่ได้ ถ้ำปรำกฏว่ำตนเป็นผู้แจ้งกำรเกิดของเด็กในทะเบียนคนเกิดเองว่ำเป็นบุตรของตน หรือ
สำนักจังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดหรือยอมให้มีกำรแจ้งกดัำงกล่ำว สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๔๒ กำรฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตร ชำยผู้เป็นหรือเคยเป็นสำมีต้อง
๑๕๑

สำนักฟ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องภำยในหนึ่งปีนับแต่กวำันรู้ถึงกำรเกิดสของเด็ ก แต่ห้ำมมิให้ฟ้องเมื่อกพ้ำ นสิบปีนับแต่สวำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ันเกิกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดของเด็ก กำ
ในกรณีที่มีคำพิพำกษำของศำลแสดงว่ำเด็กมิใช่บุตรชอบด้วยกฎหมำยของชำยผู้เป็น
สำมีคนใหม่ตำมมำตรำ ๑๕๓๗ หรือชำยผู้เป็กนำสำมีในกำรสมรสครั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้งหลังตำมมำตรำ ๑๕๓๘
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ถ้ำชำยผู้
เป็นหรือเคยเป็นสำมีซึ่งต้องด้วยบทสันนิษฐำนว่ำเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมำยของตนตำมมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๔๘
สำนักมำตรำ ๑๕๓๘ แก้ไขเพิ่มเติกมำ โดยพระรำชบัสญำนัญักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ิแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ กำ งและ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๔๙
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๕๓๙ วรรคหนึ
สำนัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบั กำ ญญัติแก้ไขเพิ่มสเติำนัมกประมวลกฎหมำย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แพ่งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๕๐
มำตรำ ๑๕๔๐ ยกเลิกโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๕๑
มำตรำ ๑๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๖๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

๑๕๓๖ ประสงค์จะฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตร ให้ฟ้องคดีภำยในหนึ่งปีนับแต่วันที่รู้ว่ำมีคำพิพำกษำถึง


สำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่สุด กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๔๓๑๕๒ ในกรณีทกำี่ชำยผู้เป็นหรือสเคยเป็


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นสำมีได้ฟ้องคดีไม่รับกเด็
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ กเป็นบุตร
แล้ว และตำยก่อนคดีนั้นถึงที่สุด ผู้มีสิทธิได้รับมรดกร่วมกับเด็กหรือผู้จะเสียสิทธิรับมรดกเพรำะกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เกิดของเด็กนั้นจะขอเข้ำเป็นคู่ควำมแทนที่หรืออำจถูกเรียกให้เข้ำมำเป็นคู่ควำมแทนที่ชำยผู้เป็นหรือ
เคยเป็นสำมีก็ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๕๔๔๑๕๓ กำรฟ้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตกำร ผู้มีสิทธิได้รสับำนัมรดกร่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วมกับเด็ก
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หรือผู้จะเสียสิทธิรับมรดกเพรำะกำรเกิดของเด็กอำจฟ้องได้ในกรณีดังต่อไปนี้
ส(๑)
ำนักชำยผู ้เป็นหรือเคยเป็นสำมี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ตำยก่อนพ้สนำนัระยะเวลำที ่ชำยผู้เป็นหรือกเคยเป็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นสำมี
จะพึงฟ้องได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๒) เด็กกำเกิดภำยหลังกำรตำยของชำยผู ้เป็นหรือเคยเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นสำมี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตรในกรณี (๑) ต้องฟ้องภำยในหกเดือนนับแต่วันที่รู้ถึง
กำรตำยของชำยผู้เป็นหรือเคยเป็นสำมี กำรฟ้องคดีไม่รับเด็กสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บุตรในกรณี (๒) ต้องฟ้กอำงภำยในหก
สำนักเดืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อนนับแต่วันที่รู้ถึงกำรเกิ
กำ ดของเด็ก แต่สไำนั
ม่วก่ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นกรณีใด ห้ำมมิให้ฟก้อำงเมื่อพ้นสิบปีนสับำนัแต่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วันเกิดของเด็ก กำ
ให้นำมำตรำ ๑๕๓๙ มำใช้บังคับแก่กำรฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตรตำมวรรคหนึ่งโดย
อนุโลม สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๕๔๕๑๕๔ เมืส่อำนัปรำกฏข้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อเท็จจริงต่อเด็กว่กำำตนมิได้เป็นบุสตำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รสืกบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำยโลหิตของ กำ
ชำยผู้ เป็ น สำมี ข องมำรดำตน เด็ ก จะร้ อ งขอต่ อ อั ย กำรให้ ฟ้ อ งคดี ป ฏิ เสธควำมเป็ น บุ ต รชอบด้ ว ย
กฎหมำยของชำยนั ้นก็กไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ด้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรฟ้องคดีตำมวรรคหนึ่ง ถ้ำเด็กได้รู้ข้อเท็จจริงก่อนบรรลุนิติภำวะว่ำตนมิได้เป็น
สำนักบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตรของชำยผู้เป็นสำมีขกองมำรดำ ำ ห้ำมอั
สำนัยกกำรฟ้ องคดีเมื่อพ้นหนึ่งปีกำนับแต่วันที่เด็กสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บรรลุ นิติภำวะ แต่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ถ้ำเด็กรู้ข้อเท็จจริงดังกล่ำวหลังจำกบรรลุนิติภำวะแล้ว ห้ำมอัยกำรฟ้องคดีเมื่อพ้นหนึ่งปีนับแต่วันที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เด็กรู้เหตุนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ไม่ว่ำกรณี
กำ ใด ๆ ห้ำมมิ ให้กฟงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ้องคดีปฏิเสธควำมเป็กนำบุตรเมื่อพ้น สิสบำนัปีกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ับแต่วันที่เด็ก กำ
บรรลุนิติภำวะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๔๖ เด็กเกิดจำกหญิงที่มิได้มีกำรสมรสกับชำย ให้ถือว่ำเป็นบุตรชอบ
๑๕๕

สำนักด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วยกฎหมำยของหญิงนัก้นำ เว้นแต่จะมีกสฎหมำยบั ญญัติไว้เป็นอย่ำงอืก่นำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๕๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๕๔๓ แก้ไสขเพิ
ำนัก่มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เติมโดยพระรำชบัญญัติแกก้ำไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๕๓
มำตรำ ๑๕๔๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๕๔
มำตรำ ๑๕๔๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๖๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๑๕๔๗ เด็สกำนั


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เกิกดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำกบิ ด ำมำรดำที่ มิ ไกด้ำส มรสกั น จะเป็
สำนันกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บุ ต รชอบด้ ว ย กำ
กฎหมำยต่ อ เมื่ อ บิ ด ำมำรดำได้ ส มรสกั น ในภำยหลั งหรือ บิ ด ำได้ จ ดทะเบี ย นว่ ำเป็ น บุ ต รหรือ ศำล
พิพำกษำว่ำเป็นบุสตำนั
ร กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๕๔๘๑๕๖ บิดำจะจดทะเบียนเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมำยได้ต่อเมื่อได้รับ
ควำมยินยอมของเด็สำนักกและมำรดำเด็ ก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณี ที่เด็กและมำรดำเด็กไม่ได้มำให้ควำมยินยอมต่อหน้ำนำยทะเบียนให้นำย
สำนักทะเบี ยนแจ้งกำรขอจดทะเบี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยนของบิดสำไปยั งเด็กและมำรดำเด็ก ถ้กำำเด็กหรือมำรดำเด็
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไม่คัดค้ำนหรือ กำ
ไม่ให้ควำมยินยอมภำยในหกสิบวันนับแต่กำรแจ้งนั้นถึงเด็กหรือมำรดำเด็ก ให้สันนิษฐำนว่ำเด็กหรือ
มำรดำเด็กไม่ให้คสวำมยิ นยอม ถ้ำเด็กหรือมำรดำเด็
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กอยู่นอกประเทศไทยให้ ขยำยเวลำนั้นกเป็ำ นหนึ่ งร้อย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แปดสิบวัน
ในกรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำที่ เด็กหรือมำรดำเด็ กคัดค้ำนว่ำผู้ขอจดทะเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยนไม่ใช่บสิดำนั
ำ กหรืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อไม่ให้ควำม กำ
ยินยอม หรือไม่อำจให้ควำมยินยอมได้ กำรจดทะเบียนเด็กเป็นบุตรต้องมีคำพิพำกษำของศำล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่อศำลได้พิพำกษำให้บิดำจดทะเบียนเด็กสเป็ำนันกบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตรได้ และบิดำได้นำคกำพิ ำ
พำกษำไป
สำนักขอจดทะเบี ยนต่อนำยทะเบี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยน ให้นำยทะเบี ยนดำเนินกำรจดทะเบีกยำนให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๔๙ เมื่อนำยทะเบี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยนได้แจ้งกำรขอจดทะเบี ยนขอรับเด็กกเป็ำ นบุตรชอบ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้วยกฎหมำยไปยังเด็กและมำรดำเด็กตำมมำตรำ ๑๕๔๘ แล้ว ไม่ว่ำเด็กหรือมำรดำเด็กจะคัดค้ำนกำร
สำนักจดทะเบี ยนรับเด็กเป็นบุกตำ รตำมมำตรำสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๑๕๔๘ หรือไม่ ภำยในกำหนดเวลำไม่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เกินสเก้ำนัำกสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บวันนับแต่วัน กำ
แจ้งกำรขอจดทะเบียนถึงเด็กหรือมำรดำเด็ก เด็กหรือมำรดำเด็กอำจแจ้งให้นำยทะเบียนจดบันทึกไว้
ได้ว่ำผู้ขอจดทะเบีสยำนันไม่ สมควรเป็นผู้ใช้อำนำจปกครองบำงส่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สวำนั
นหรื อทั้งหมด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เมื่อได้มีคำแจ้งของเด็กหรือมำรดำเด็กดังกล่ำวในวรรคหนึ่งแล้ว แม้จะได้มี กำรจด
สำนักทะเบี ยนรับเด็กเป็นบุตรตำมมำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๑๕๔๘ บิดำของเด็กก็ยังใช้อำนำจปกครองบำงส่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นหรือทั้งหมด กำ
ตำมที่ เด็ ก หรื อ มำรดำเด็ ก แจ้ งว่ ำบิ ด ำไม่ ส มควรเป็ น ผู้ ใช้ อ ำนำจปกครองนั้ น ไม่ ได้ จนกว่ำศำลจะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พิพำกษำให้บิดำของเด็กใช้อำนำจปกครองบำงส่วนหรือทั้งหมด หรือกำหนดเวลำเก้ำสิบวันนับแต่วันที่
สำนักเด็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กหรือมำรดำเด็กแจ้งต่กอำ นำยทะเบียนว่ สำนัำผูก้ขงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อจดทะเบียนรับเด็กเป็กนำ บุตรไม่สมควรใช้ สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนำจปกครอง กำ
บำงส่วนหรือทั้งหมดนั้นได้ล่วงพ้นไปโดยเด็กหรือมำรดำเด็กมิได้ร้องขอต่อศำลให้พิพำกษำว่ำผู้ขอจด
ทะเบียนรับเด็กเป็สนำนับุกตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รไม่เป็นผู้สมควรใช้อำนำจปกครองบำงส่
กำ สำนัวกนหรื อทั้งหมด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ในคดีที่ศำลพิพำกษำว่ำผู้ขอจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรเป็นผู้ไม่สมควรใช้อำนำจ
สำนักปกครองบำงส่ วนหรือทัก้งำหมด ศำลจะพิสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี พำกษำในคดี เดียวกันนั้นให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำผู้ใดเป็นผู้ใช้อสำนำจปกครองหรื อ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เป็นผู้ปกครองเพื่อกำรปกครองบำงส่วนหรือทั้งหมดก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๕๐๑๕๗ (ยกเลิก)
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๕๕
มำตรำ ๑๕๔๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ. ๒๕๕๑
๑๕๖
มำตรำ ๑๕๔๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๖๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๕๕๑ ในกรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัทกี่มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ีกำรคัดค้ำนว่ำผู้ซึ่งขอจดทะเบี
กำ ยนรับเด็สำนั
กเป็กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นบุตรมิใช่บิดำ กำ
ของเด็ก เมื่อผู้ซึ่งขอจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรนำคดีไปสู่ศำลขอให้ศำลพิพำกษำว่ำผู้ขอจดทะเบียน
รับเด็กเป็นบุตรเป็สนำนับิกดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำของเด็ก เด็กหรือมำรดำเด็
กำ กจะขอให้ ศำลพิ
สำนั พำกษำในคดีเดียวกักนำนั้นก็ได้ว่ำผู้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ขอจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรแม้จะเป็นบิดำของเด็ก ก็เป็นผู้ไม่สมควรใช้อำนำจปกครองบำงส่วนหรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทั้งหมด ในกรณีเช่นว่ำนี้ให้นำควำมในวรรคสำมของมำตรำ ๑๕๔๙ มำใช้บังคับโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๕๒ ในกรณีที่เด็กไม่มีมำรดำหรือมีมำรดำแต่มำรดำถูกถอนอำนำจ
๑๕๘

สำนักปกครองบำงส่ วนหรือทัก้งำหมดและศำลได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัตกั้งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้อื่นเป็นผู้ปกครองบำงส่
กำ วนหรือทั้งหมดไว้ ก่อนมีกำรจด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทะเบียนรับเด็กเป็นบุตร บิดำซึ่งจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมำยแล้วจะร้องขอต่อศำลให้
มีคำสั่งถอนควำมเป็สำนันกผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ปกครองบำงส่วนหรือทัก้งำหมดของผู้ปกครองและให้ บิดำเป็นผู้ใช้อำนำจปกครอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ก็ได้ ถ้ ำศำลเห็ น ว่ำบิ ด ำอำจใช้อ ำนำจปกครองเพื่ อ ควำมผำสุ กและประโยชน์ ข องเด็ ก ได้ ดี ยิ่งกว่ ำ
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ปกครอง ศำลจะมีคำสัก่งำถอนควำมเป็สนำนัผู้ปกกครองบำงส่ วนหรือทั้งกหมดของผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้ปกครองและให้ บิดำเป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้ใช้อำนำจปกครองก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๕๕๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๑๕๙
(ยกเลิ
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
) กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๕๔ ผู้มีส่ วนได้กเำสียจะขอให้ ศสำลถอนกำรจดทะเบี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยนเด็กกำรับเป็ นบุ ตร
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เพรำะเหตุว่ำผู้ขอให้จ ดทะเบี ยนนั้น มิใช่บิดำก็ได้ แต่ต้องฟ้องภำยในสำมเดือนนับแต่วันที่รู้กำรจด
สำนักทะเบี ยนนั้น อนึ่ง ห้ำมมิกใำห้ฟ้องเมื่อพ้นสิสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บปีกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ับแต่วันจดทะเบียน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๕๕ ในคดีฟ้องขอให้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ รับเด็กเป็สนำนั
บุตกรชอบด้ วยกฎหมำย ให้กสำันนิษฐำนไว้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก่อนว่ำเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมำยของชำยเมื่อปรำกฏข้อเท็จจริงอย่ำงหนึ่งอย่ำงใด ดังต่อไปนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๑) เมืก่อำมีกำรข่มขืนกระท ำชำเรำ ฉุดคร่ำ หรือหน่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำวงเหนี่ยวกักขัสงำนัหญิ งมำรดำโดยมิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ชอบด้วยกฎหมำยในระยะเวลำซึ่งหญิงนั้นอำจตั้งครรภ์ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) เมื่อมีกำรลักพำหญิงมำรดำไปในทำงชู้สำวหรือมีกำรล่อลวงร่วมประเวณีกับหญิง
สำนักมำรดำในระยะเวลำซึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งหญิ
กำ งนั้นอำจตั้งครรภ์
สำนักไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) เมื่อมีเอกสำรของบิดำแสดงว่ำเด็กนั้นเป็นบุตรของตน
ส(๔)
ำนักเมื ่อปรำกฏในทะเบียนคนเกิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดว่ำเด็กเป็สนำนั
บุตกรโดยมี หลักฐำนว่ำบิดำเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นผู้แจ้งกำร
เกิดหรือรู้เห็นยินยอมในกำรแจ้งนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๕) เมืก่อำ บิดำมำรดำได้ อยูก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั กินด้วยกันอย่ำ งเปิดเผยในระยะเวลำซึ
กำ สำนั่งหญิ งมำรดำอำจ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ตั้งครรภ์ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๕๗
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๕๕๐ ยกเลิสำนั
กโดยพระรำชบั ญญัติแก้ไขเพิ่มกเติ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ มประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๕๘
มำตรำ ๑๕๕๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๕๙
มำตรำ ๑๕๕๓ ยกเลิกโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนัก(ฉบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๖๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๖) เมื่อได้มีกำรร่วมประเวณีกับหญิงมำรดำในระยะเวลำซึ่งหญิงนั้นอำจตั้งครรภ์ได้
สำนักและมี เหตุอันควรเชื่อได้กว่ำำ เด็กนั้นมิได้เป็สนำนับุกตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รของชำยอื่น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๗) เมื่อมีพฤติกำรณ์ที่รู้กันทั่วไปตลอดมำว่ำเป็นบุตร๑๖๐
สพฤติ กำรณ์ที่รู้กันทั่วไปตลอดมำว่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำเป็นบุตรนัสำนั้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้พิจำรณำข้อเท็จจริงกทีำ่แสดงควำม
เกี่ยวข้องฉันบิดำกับบุตรซึ่งปรำกฏในระหว่ำงตัวเด็กกับครอบครัวที่เด็กอ้ำงว่ำตนสังกัดอยู่ เช่น บิดำให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรศึกษำ ให้ควำมอุปกำระเลี้ยงดูหรือยอมให้เด็กนั้นใช้ชื่อสกุลของตนหรือโดยเหตุประกำรอื่น
สในกรณี ใดกรณีหนึ่งดังกล่ำวข้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำงต้น ถ้ำปรำกฏว่ ำชำยไม่อำจเป็นบิดำของเด็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กนั้นได้
ให้ยกฟ้องเสีย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๕๖ กำรฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรในระหว่ำงที่เด็กเป็นผู้เยำว์ ถ้ำเด็ก
มีอำยุยังไม่ครบสิสบำนั
ห้ำกปีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บริบูรณ์ ผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็
กำ สกำนั
เป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้ฟ้องแทน ในกรณีที่เด็กำกไม่มีผู้แทน
โดยชอบธรรม หรือมีแต่ผู้แทนโดยชอบธรรมไม่สำมำรถทำหน้ำที่ได้ ญำติสนิทของเด็กหรืออัยกำรอำจ
สำนักร้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องขอต่อศำลให้ตั้งผู้แทนเฉพำะคดี
กำ เพื่อสทำนัำหน้ ำที่ฟ้องคดีแทนเด็กก็กได้ำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่ อเด็ กมี อ ำยุ สิ บ ห้ ำปี บ ริบู รณ์ เด็ กต้ อ งฟ้ องเอง ทั้ งนี้ โดยไม่ จำต้ อ งได้ รับ ควำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีในกรณีกำที่เด็กบรรลุนิตสิภำนัำวะแล้ ว จะต้องฟ้องคดีภกำยในหนึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่งปีนับแต่
สำนัวกันงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บรรลุนิติภำวะ กำ
ในกรณี ที่ เด็ ก ตำยในระหว่ ำงที่ เด็ ก นั้ น ยั งมี สิ ท ธิฟ้ อ งคดี ข อให้ รั บ เด็ ก เป็ น บุ ต รอยู่
ผู้สืบสันดำนของเด็สำนั
กจะฟ้ องคดีขอให้รับเด็กเป็กนำบุตรก็ได้ ถ้ำผูส้สำนัืบกสังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นดำนของเด็กได้รู้เหตุทกี่อำ ำจขอให้รับ
เด็กเป็นบุตรมำก่อนวันที่เด็กนั้นตำย ผู้สืบสันดำนของเด็กจะต้องฟ้องภำยในหนึ่งปีนับแต่วันที่เด็กนั้นตำย
สำนักถ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำผู้สืบสันดำนของเด็กได้ กำรู้เหตุที่อำจขอให้สำนักรงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ับเด็กเป็นบุตรภำยหลังกทีำ่เด็กนั้นตำย ผูส้สำนัืบกสังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นดำนของเด็ก กำ
จะต้องฟ้องภำยในหนึ่งปีนับแต่วันที่รู้เหตุดังกล่ำว แต่ทั้งนี้ ต้องไม่พ้นสิบปีนับแต่วันที่เด็กนั้นตำย
สกำรฟ้ องคดีขอให้รับเด็กเป็นกบุำ ตรในระหว่ำสงที
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนั่ผกู้สงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ืบสันดำนของเด็กเป็นกผูำ้เยำว์ ให้นำ
ควำมในวรรคหนึ่งและวรรคสองมำใช้บังคับโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๕๗๑๖๑ กำรเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมำยตำมมำตรำ ๑๕๔๗ ให้มีผลนับแต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
วันที่เด็กเกิด แต่ทั้งนี้จะอ้ำงเป็นเหตุเสื่อมสิทธิของบุคคลภำยนอกผู้ทำกำรโดยสุจริตในระหว่ำงเวลำ
สำนักตังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้งแต่เด็กเกิดจนถึงเวลำที
กำ่บิดำมำรดำได้สำนั
สมรสกั นหรือบิดำได้จดทะเบี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยนว่ำเป็นบุตสรหรื
ำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ศำลพิพำกษำ กำ
ถึงที่สุดว่ำเป็นบุตรไม่ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๕๘ กำรฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรของผู้ตำยที่ได้ฟ้องภำยในกำหนด
สำนักอำยุ ควำมมรดก ถ้ำศำลได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พิพำกษำว่ำเด็ กเป็
สำนั นบุตรชอบด้วยกฎหมำยของผู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ตำย เด็สกำนั
นั้นกมีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สิทธิรับมรดก กำ
ในฐำนะทำยำทโดยธรรม
สในกรณี ที่ได้มีกำรแบ่งมรดกไปแล้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ว ให้นำบทบั
สำนักญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญัติแห่งประมวลกฎหมำยนี กำ ้ว่ำด้วย
เรื่องลำภมิควรได้มำใช้บังคับโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๖๐
มำตรำ ๑๕๕๕ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แพ่งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ. ๒๕๕๑
๑๖๑
มำตรำ ๑๕๕๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ.ก๒๕๕๑
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๖๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๕๕๙ เมื่อได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัจดทะเบี ยนเด็กเป็นบุตรแล้กวำจะถอนมิได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สมำตรำ ๑๕๖๐ บุตรเกิดระหว่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำงสมรสซึ่งศำลพิ
สำนักพ ำกษำให้เพิกถอนภำยหลั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งนั้นให้ถือ
ว่ำเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำหมวด ๒ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สิทธิและหน้ำที่ของบิดำมำรดำและบุตร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๖๑ บุตรมีสิทธิใกช้ำชื่อสกุลของบิสดำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่บิดำไม่ปรำกฏ บุตรมีสิทธิใช้ชื่อสกุลของมำรดำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๖๒ ผู้ใดจะฟ้องบุพกำรีของตนเป็นคดีแพ่งหรือคดีอำญำมิได้ แต่เมื่อผู้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นั้นหรือญำติสนิทของผู้นั้นร้องขอ อัยกำรจะยกคดีขึ้นว่ำกล่ำวก็ ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๖๓ บุตรจำต้องอุปกำระเลี้ยงดูบิดำมำรดำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๖๔ บิดำมำรดำจำต้องอุปกำระเลี้ยงดูและให้กำรศึกษำตำมสมควรแก่
สำนักบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตรในระหว่ำงที่เป็นผู้เยำว์
กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บิดำมำรดำจำต้องอุปกำระเลี้ยงดูบุตรซึ่งบรรลุนิติภำวะแล้วแต่เฉพำะผู้ทุพพลภำพ
และหำเลี้ยงตนเองมิ
สำนัไกด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๕๖๕ กำรร้สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องขอค่ ำอุปกำระเลี้ยงดูบุตกรหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อขอให้บุตสรได้
ำนักรงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ับกำรอุปกำระ กำ
เลี้ยงดูโดยประกำรอื่น นอกจำกอัยกำรจะยกคดีขึ้นว่ำกล่ ำวตำมมำตรำ ๑๕๖๒ แล้ว บิดำหรือมำรดำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จะนำคดีขึ้นว่ำกล่ำวก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๖๖๑๖๒ บุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภำวะต้องอยู่ใต้อำนำจปกครองของบิดำ
มำรดำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อำนำจปกครองอยู่กับบิดำหรือมำรดำในกรณีดังต่อไปนี้
(๑) มำรดำหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อบิดำตำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ไม่แน่นอนว่ำมำรดำหรือบิดำมีชีวิตอยู่หรือตำย
ส(๓)
ำนักมำรดำหรื อบิดำถูกศำลสัก่งำให้เป็นคนไร้คสวำมสำมำรถหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อเสมือนไร้คกวำมสำมำรถ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ
(๔) มำรดำหรือบิดำต้องเข้ำรักษำตัวในโรงพยำบำลเพรำะจิตฟั่นเฟือน
(๕) ศำลสั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งให้อำนำจปกครองอยู ่กับบิดำหรือมำรดำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๖) บิดำและมำรดำตกลงกันตำมที่มีกฎหมำยบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ญญัติไว้ให้ตกลงกันได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๖๒
มำตรำ ๑๕๖๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๖๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๕๖๗ ผู้ใช้อสำนำจปกครองมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สิทธิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) กำหนดที่อยู่ของบุตร
ส(๒)
ำนักทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำโทษบุตรตำมสมควรเพื
กำ่อว่ำกล่ำวสั่งสอน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ให้บุตรทำกำรงำนตำมสมควรแก่ควำมสำมำรถและฐำนำนุรูป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) เรียกบุตรคืนจำกบุคคลอื่นซึ่งกักบุตรไว้โดยมิชอบด้วยกฎหมำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๖๘ เมื่อบุคคลใดมีบุตรติดมำได้สมรสกับบุคคลอื่ น อำนำจปกครองที่มี
สำนักต่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อบุตรอยู่กับผู้ที่บุตรนั้นกติำ ดมำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๖๙ ผู้ใช้อำนำจปกครองเป็


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นผู้แสทนโดยชอบธรรมของบุ ตร กในกรณี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ที่บุตร
ถูกศำลสั่ งให้ เป็ น คนไร้ ควำมสำมำรถหรือ เสมื อนไร้ควำมสำมำรถ ผู้ ใช้ อำนำจปกครองย่อมเป็ น ผู้
สำนักอนุ บำลหรือผู้พิทักษ์ แล้กวำแต่กรณี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๖๙/๑ ในกรณีที่ผู้เยำว์ถูกศำลสั
๑๖๓
่งให้เป็นคนไร้ควำมสำมำรถและศำลมี
สำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำสั่งตั้งบุคคลอื่นซึ่งมิใช่กผำ ู้ใช้อำนำจปกครองหรื อผู้ปกครองเป็นผู้อกนุำบำลให้คำสั่งนัส้นำนัมีกผงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ลเป็นกำรถอน กำ
ผู้ใช้อำนำจปกครอง หรือผู้ปกครองที่เป็นอยู่ในขณะนั้น
สในกรณี ที่ บุ ค คลซึ่ ง บรรลุกนำ ิ ติ ภ ำวะและไม่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักมงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี คู่ ส มรสถู ก ศำลสั่ ง ให้
กำ เ ป็ น คนไร้
ควำมสำมำรถหรือเสมือนไร้ควำมสำมำรถ ให้ บิดำมำรดำ หรือบิดำหรือมำรดำเป็นผู้อนุบำลหรือผู้
สำนักพิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทักษ์ แล้วแต่กรณี เว้นกแต่ ำ ศำลจะสั่งเป็สนำนัอย่ ำงอื่น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๗๐ คำบอกกล่กำำวที่ผู้ใช้อำนำจปกครองตำมมำตรำ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๑๕๖๖กำหรือมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๑๕๖๘ แจ้งไปหรือรับแจ้งมำ ให้ถือว่ำเป็นคำบอกกล่ำวที่บุตรได้แจ้งไปหรือรับแจ้งมำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๗๑ อำนำจปกครองนั้น รวมทั้งกำรจัดกำรทรัพย์สินของบุตรด้วย และ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้จัดกำรทรัพย์สินนั้นด้วยควำมระมัดระวังเช่นวิญญูชนจะพึงกระทำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๗๒ ผู้ใช้อำนำจปกครองจะทำหนี้ที่บุตรจะต้องทำเองโดยมิได้รับควำม
ยินยอมของบุตรไม่สำนั
ได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๕๗๓ ถ้ำบุสตำนัรมีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เงินได้ ให้ใช้เงินนั้นเป็กนำค่ำอุปกำระเลีส้ยำนังดูกแงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ละกำรศึกษำ กำ
ก่อน ส่วนที่เหลือผู้ใช้อำนำจปกครองต้องเก็บรักษำไว้เพื่อส่งมอบแก่บุตร แต่ถ้ำผู้ใช้อำนำจปกครองไม่
มีเงินได้เพียงพอแก่ กำรครองชี
สำนั พตำมสมควรแก่กำฐำนะ ผู้ใช้อำนำจปกครองจะใช้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เงินนั้นตำมสมควรก็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ได้
เว้นแต่จะเป็นเงินได้ที่เกิดจำกทรัพย์สินโดยกำรให้โดยเสน่หำหรือพินัยกรรมซึ่งมีเงื่อนไขว่ำมิให้ผู้ใช้
สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนำจปกครองได้ประโยชน์ กำ จำกทรัพย์สสำนั
ินนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ๆ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๖๓
มำตรำ ๑๕๖๙/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนัก(ฉบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๖๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๕๗๔๑๖๔ นิติกรรมใดอันเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้เยำว์ดังต่อไปนี้ ผู้ใช้อำนำจ


สำนักปกครองจะกระท
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำมิได้ กเว้ำนแต่ศำลจะอนุ สำนัญกำต งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ขำย แลกเปลี่ยน ขำยฝำก ให้เช่ำซื้อ จำนอง ปลดจำนอง หรือโอนสิทธิจำนอง
ซึ่งอสังหำริมทรัพย์ำนั
ส หรืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สังหำริมทรัพย์ที่อำจจำนองได้กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) กระทำให้ สุดสิ้ นลงทั้งหมดหรือบำงส่ วน ซึ่งทรัพยสิ ทธิของผู้ เยำว์อันเกี่ยวกับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อสังหำริมทรัพย์
ส(๓)
ำนักก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อตั้งภำระจำยอม สิทกธิำอ ำศัย สิทธิเสหนื ำนัอกพืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นดิน สิทธิเก็บกิน ภำระติ
กำ ด พั นใน
อสังหำริมทรัพย์ หรือทรัพยสิทธิอื่นใดในอสังหำริมทรัพย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๔) จกำหน่ำ ำยไปทั้งหมดหรื อบำงส่วนซึ่งสิทธิเรียกกร้ำ องที่จะให้ได้สมำนัำซึก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ทรัพยสิทธิใน กำ
อสังหำริมทรัพย์ หรือสังหำริมทรัพย์ที่อำจจำนองได้ หรือสิทธิเรียกร้องที่จะให้ท รัพย์สินเช่นว่ำนั้นของ
ผู้เยำว์ปลอดจำกทรั สำนัพกยสิ ทธิที่มีอยู่เหนือทรัพย์กสำินนั้น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) ให้เช่ำอสังหำริมทรัพย์เกินสำมปี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๖) ก่อกข้ำ อผูกพันใด ๆสำนั
ที่มกุ่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้เกิดผลตำม (๑) (๒)กหรื ำ อ (๓) สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๗) ให้กู้ยืมเงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๘) ให้ โ ดยเสน่ ห ำ เว้ น แต่ จ ะเอำเงิ น ได้สขำนั กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
องผู ้ เยำว์ ให้ แ ทนผู้ เยำว์ เพื่ อ กำร กุ ศ ล
สำนักสำธำรณะ เพื่อกำรสังคมกำหรือตำมหน้ำสทีำนั่ธรรมจรรยำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ทั้งนี้ พอสมควรแก่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ฐำนำนุรสูปำนั ของผู ้เยำว์
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๙) รับกำรให้โดยเสน่หำที่มีเงื่อนไขหรือค่ำภำระติดพัน หรือไม่รับกำรให้โดยเสน่หำ
ส(๑๐) ประกันโดยประกำรใดกำๆ อันอำจมีผสลให้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักผงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ู้เยำว์ต้องถูกบังคับชำระหนี
กำ ้หรือทำ
นิติกรรมอื่นทีม่ ีผลให้ผู้เยำว์ต้องรับเป็นผู้รับชำระหนี้ของบุคคลอื่นหรือแทนบุคคลอื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๑๑) กนำำทรัพย์สิ น ไปแสวงหำผลประโยชน์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นอกจำกในกรณี
กำ ที่บสำนั
ัญกญังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ติไว้ในมำตรำ กำ
๑๕๙๘/๔ (๑) (๒) หรือ (๓)
ส(๑๒) ประนีประนอมยอมควำม
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑๓) มอบข้อพิพำทให้อนุญำโตตุลำกำรวินิจฉัย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๗๕ ถ้ำในกิจกำรใด ประโยชน์ของผู้ใช้อำนำจปกครอง หรือประโยชน์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ของคู่สมรสหรือบุตรของผู้ใช้อำนำจปกครองขัดกับประโยชน์ของผู้เยำว์ ผู้ใช้อำนำจปกครองต้องได้รับ
สำนักอนุ ญำตจำกศำลก่อนจึงกทำำกิจกำรนั้นได้สำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มิฉกะนั ้นเป็นโมฆะ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๗๖ ประโยชน์ขกองผู


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้ใช้อำนำจปกครอง หรือของคู่สมรสหรือกบุำ ตรของผู้ใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อำนำจปกครองตำมมำตรำ ๑๕๗๕ ให้หมำยควำมรวมถึงประโยชน์ในกิจกำรดังต่อไปนี้ด้วย คือ
(๑) ประโยชน์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ในกิจสกำรที ่ ก ระท ำกั บ ห้ ำงหุ้ น ส่ วกนสำมั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ญ ที่ บุ ค คลดั
สำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กล่ ำวนั้ น เป็ น กำ
หุ้นส่วน
ส(๒)
ำนักประโยชน์ ในกิ จ กำรทีก่ กำระท ำกั บ ห้ ำงหุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้ นกส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ว นจ ำกั ด ที่ บุ ค คลดั งกล่
กำ ำ วนั้ น เป็ น
หุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดควำมรับผิด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๖๔
มำตรำ ๑๕๗๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๖๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๕๗๗ บุคคลใดจะโอนทรัพย์สินให้ผู้เยำว์โดยพินัยกรรมหรือโดยกำรให้โดย


สำนักเสน่ หำซึ่งมีเงื่อนไขให้บกุคำคลอื่นนอกจำกผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก้ใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ช้อำนำจปกครองเป็นกผูำ้จัดกำรจนกว่ำสผูำนั้เยำว์ จะบรรลุนิติ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ภำวะก็ได้ ผู้ จั ดกำรนั้ น ต้ องเป็ น ผู้ ซึ่งผู้ โอนระบุ ชื่อไว้ หรือ ถ้ำมิได้ระบุ ไว้ก็ให้ ศ ำลสั่ ง แต่กำรจัดกำร
ทรัพย์สินนั้นต้องอยู
สำนั่ภกำยใต้ บังคับมำตรำ ๕๖ มำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๕๗ มำตรำ สำนัก๖๐
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
[เลขมำตรำ ๕๖ มำตรำ ๕๗ มำตรำ ๖๐ แก้ ไขเพิ่ ม เติ ม โดยมำตรำ ๑๕ แห่ ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระรำชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่
พ.ศ. ๒๕๓๕] สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๕๗๘ ในกรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี่อำนำจปกครองสิ้นไปเพรำะผู
กำ ้เยำว์บสำนั
รรลุกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นิติภำวะ ผู้ใช้ กำ
อำนำจปกครองต้องรีบส่งมอบทรัพย์สินที่จัดกำรและบัญชีในกำรนั้นให้ผู้บรรลุนิติภำวะเพื่อรับรอง ถ้ำ
มีเอกสำรเกี่ยวกับสเรืำนั่อกงจังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดกำรทรัพย์สินนั้น ก็ใกห้ำส่งมอบพร้อมกัสำนั บบักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญชี กำ
ในกรณีที่อำนำจปกครองสิ้นไปเพรำะเหตุอื่นนอกจำกที่ กล่ำวในวรรคหนึ่ง ให้มอบ
สำนักทรั พย์ สิ น บั ญ ชี และเอกสำรที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่เกี่ย วกัสบำนัเรืก่องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งจัดกำรทรัพย์สิน ให้กแำก่ผู้ใช้อำนำจปกครอง ถ้ำมี หรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้ปกครอง แล้วแต่กรณี เพื่อรับรอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๕๗๙ ในกรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี่คู่สมรสฝ่ำยหนึ่งถึงแก่กคำวำมตำยและมีสำนั
บุตกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รที่เกิดด้วยกัน กำ
และคู่สมรสอีกฝ่ำยหนึ่งจะสมรสใหม่ ถ้ำคู่สมรสนั้นได้ครอบครองทรัพย์สินอันเป็นสัดส่วนของบุตรไว้
อย่ำงถูกต้องแล้ว สจะส่
ำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มอบทรัพย์สินให้แก่บุตกรในเมื
ำ ่อสำมำรถจั
สำนักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรก็ได้ หรือมิฉะนั้นจะเก็
กำ บรักษำไว้
เพื่อมอบให้บุตรเมื่อถึงเวลำอันสมควรก็ได้ แต่ถ้ำทรัพย์สินใดเป็นจำพวกที่ระบุไว้ในมำตรำ ๔๕๖ หรือ
สำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่มีเอกสำรเป็นสำคัญ ให้กำลงชื่อบุตรเป็นสเจ้
ำนัำกของรวมในเอกสำรนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้น ก่กำอนที่จะจัดกำรดั
สำนังกล่ ำวคู่สมรสนั้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จะทำกำรสมรสมิได้
สในกรณี ที่มีเหตุอันสมควร ศำลจะมี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ คำสั่งให้สคำนัู่สกมรสดั งกล่ำวทำกำรสมรสไปก่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อนก็ได้
คำสั่งศำลเช่นว่ำนี้ ให้ระบุไว้ด้วยว่ำให้คู่สมรสปฏิบัติกำรแบ่งแยกทรัพย์สินและทำบัญชีทรัพย์สิน ตำม
สำนักควำมในวรรคหนึ ่งภำยในก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำหนดเวลำเท่สำนั
ำใดภำยหลั งกำรสมรสนั้นด้กวำย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่กำรสมรสได้กระทำไปโดยมิได้ปฏิบัติตำมวรรคหนึ่ง หรือในกรณีที่คู่สมรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ไม่ปฏิบัติตำมคำสั่งของศำลดังกล่ำวในวรรคสอง เมื่อควำมปรำกฏแก่ศำลเอง หรือเมื่อญำติของผู้เยำว์
สำนักหรื ออัยกำรร้องขอ ศำลมี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำอำนำจสั่งให้สถำนั
อนอ ำนำจปกครองจำกคู่สกมรสนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้น หรือจะมอบให้ บุคคลหนึ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บุคคลใดทำบัญชีและลงชื่อบุตรเป็นเจ้ำของรวมในเอกสำรดังกล่ำวแทนโดยให้คู่สมรสเสียค่ำใช้จ่ำยก็ได้
สเพื
ำนั่อกประโยชน์ แห่งมำตรำนีก้ ให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ถือว่ำบุตรบุสญำนัธรรมของคู ่สมรสที่ตำยไปและที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่มีชีวิต
อยู่ทั้งสองฝ่ำยเป็นบุตรที่เกิดจำกคู่สมรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๘๐ ผู้เยำว์ซึ่งบรรลุนิติภำวะแล้ว ผู้ใช้อำนำจปกครองหรือผู้ปกครอง
๑๖๕

จะให้กำรรับรองกำรจั ดกำรทรัพย์สินของผู้เยำว์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ได้ต่อเมื่อได้สำนั
รับกมอบทรั พย์สินบัญชีและเอกสำรตำม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
มำตรำ ๑๕๗๘ แล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๖๕
มำตรำ ๑๕๘๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๖๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๕๘๑ คดีเกี่ยวกับกำรจัดกำรทรัพย์สินในระหว่ำ งผู้เยำว์กับผู้ใช้อำนำจ


สำนักปกครองนั ้น ห้ำมมิให้ฟ้อกงเมื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่อพ้นหนึ่งปีสนำนัับกแต่ เวลำที่อำนำจปกครองสิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นไป สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำอำนำจปกครองสิ้นไปขณะบุตรยังเป็นผู้เยำว์อยู่ ให้เริ่มนับอำยุควำมในวรรคหนึ่ง
ตั้งแต่เวลำที่ผู้เยำว์ำนั
ส บรรลุ นิติภำวะ หรือเมื่อมีผกู้แำทนโดยชอบธรรมขึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นใหม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๕๘๒ ถ้ ำ ผู้ ใช้ อ ำนำจปกครองเป็ น คนไร้ ค วำมสำมำรถหรื อ เสมื อ นไร้
ควำมสำมำรถโดยค สำนัำสัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของศำลก็ดี ใช้อำนำจปกครองเกี
กำ ่ยวแก่
สำนัตัวกผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้เยำว์โดยมิชอบก็ดี ประพฤติ
กำ ชั่วร้ำย
ก็ดี ในกรณี เหล่ ำนี้ ศำลจะสั่ งเอง หรื อจะสั่ งเมื่ อญำติ ของผู้ เยำว์ห รืออั ยกำรร้อ งขอให้ ถ อนอำนำจ
สำนักปกครองเสี ยบำงส่วนหรืกอำทั้งหมดก็ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำผู้ใช้อำนำจปกครองล้มละลำยก็ดี หรือจัดกำรทรัพย์สินของผู้เยำว์ในทำงที่ผิดจน
อำจเป็นภัยก็ดี ศำลจะสั ่งตำมวิธีในวรรคหนึ่งให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำถอนอำนำจจัสดำนั กำรทรั พย์สินเสียก็ได้ กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๑๕๘๓ ผู้ถูกสถอนอ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนำจปกครองบำงส่วกนหรื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อทั้งหมดนัส้นำนัถ้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เหตุดังกล่ำวไว้ กำ
ในมำตรำก่อนสิ้นไปแล้ว และเมื่อตนเองหรือญำติของผู้เยำว์ร้องขอ ศำลจะสั่งให้มีอำนำจปกครอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ดังเดิมก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๘๔ กำรที่ผู้ ใช้อำนำจปกครองถูกถอนอำนำจปกครองบำงส่ ว นหรือ
ทั้งหมด ไม่เป็นเหตุ ให้กผงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ู้นั้นพ้นจำกหน้ำที่อุปกำระเลี
กำ ้ยงดูผู้เยำว์สำนั
ตำมกฎหมำย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๕๘๔/๑๑๖๖สำนับิกดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำหรือมำรดำย่อมมีสิ ทกธิำที่จะติดต่อกับสบุำนัตกรของตนได้ ตำม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ควรแก่พฤติกำรณ์ ไม่ว่ำบุคคลใดจะเป็นผู้ใช้อำนำจปกครองหรือผู้ปกครองก็ตำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ควำมปกครอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๕๘๕ บุคคลที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก่ยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ังไม่บรรลุนิติภำวะและไม่
กำ มีบิดำมำรดำหรื
สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บิดำมำรดำถูก กำ
ถอนอำนำจปกครองเสียแล้วนั้น จะจัดให้มีผู้ปกครองขึ้นในระหว่ำงที่เป็นผู้เยำว์ก็ได้
สในกรณี ที่ผู้ใช้อำนำจปกครองถู
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กถอนอำนำจปกครองบำงส่ วนตำมมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๑๕๘๒
วรรคหนึ่ง ศำลจะตั้งผู้ปกครองในส่วนที่ผู้ใช้อำนำจปกครองถูกถอนอำนำจปกครองนั้นก็ได้ หรือใน
สำนักกรณี ที่ผู้ใช้อำนำจปกครองถู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กถอนอำนำจจั ดกำรทรัพย์สินตำมมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๑๕๘๒ วรรคสอง ศำลจะตั้ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้ปกครองเพื่อจัดกำรทรัพย์สินก็ได้ ๑๖๗

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


๑๖๖
มำตรำ ๑๕๘๔/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๖๗
มำตรำ ๑๕๘๕ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำย
สำนักแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พ.ศ. ๒๕๓๓ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๖๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๕๘๖๑๖๘ ผู้ปกครองตำมมำตรำ ๑๕๘๕ นั้น ให้ตั้งโดยคำสั่งศำลเมื่อมีกำร


สำนักร้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องขอของญำติของผู้เยำว์
กำ อัยกำร หรืสอำนั
ผู้ซกึ่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บิดำหรือมำรดำที่ตำยที
กำหลังได้ระบุชสื่อำนั
ไว้กในพิ นัยกรรมให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เป็นผู้ปกครอง
สภำยใต้ บังคับมำตรำ ๑๕๙๐กำกำรตั้งผู้ปกครองนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นถ้ำมีข้อกำหนดพินัยกรรมก็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ให้ศำล
ตั้งตำมข้อกำหนดพินัยกรรม เว้นแต่พินัยกรรมนั้นไม่มีผลบังคับหรือบุคคลที่ระบุชื่อไว้ในพินัยกรรมนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เป็นบุคคลที่ต้องห้ำมมิให้เป็นผู้ปกครองตำมมำตรำ ๑๕๘๗
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๘๗ บุคคลที่บรรลุนิติภำวะแล้วอำจถูกตั้งเป็นผู้ปกครองได้ เว้นแต่
(๑) ผู้ซกึ่งำศำลสั่งว่ำเป็นสคนไร้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ควำมสำมำรถ หรือเสมืกำอนไร้ควำมสำมำรถ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ผู้ซึ่งเป็นบุคคลล้มละลำย
ส(๓)
ำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ซึ่งไม่เหมำะสมที่จะปกครองผู
กำ ้เยำว์หรืสอำนัทรักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์สินของผู้เยำว์ กำ
(๔) ผู้ซึ่งมีหรือเคยมีคดีในศำลกับผู้เยำว์ ผู้บุพกำรีหรือพี่น้องร่วมบิดำมำรดำหรือร่วม
สำนักแต่ บิดำหรือมำรดำกับผูก้เยำว์
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕)๑๖๙ ผู้ซึ่งบิดำหรือมำรดำที่ตำยได้ทำหนังสือระบุชื่อห้ำมไว้มิให้เป็นผู้ปกครอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๕๘๘
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๑๗๐
หำกปรำกฏว่ ำบุคคลที่ศำลตั้งกให้ำ เป็นผู้ปกครองเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้ต้องห้ำมมิให้ กำ
เป็นผู้ปกครองตำมมำตรำ ๑๕๘๗ อยู่ในขณะที่ศำลตั้งให้เป็นผู้ปกครองโดยปรำกฏแก่ศำลเองหรือผู้มี
ส่ ว นได้ เสี ย หรื อ อัสยำนักำรร้ อ งขอ ให้ ศ ำลสั่ งเพิกกำถอนค ำสั่ งตัส้ งำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ผู้ ปกกครองนั ้ น เสี ย และมี คกำสั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่ ง เกี่ ย วกั บ
ผู้ปกครองต่อไปตำมที่เห็นสมควร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรเพิกำก ถอนค ำสั่ ง ตัส้ำนั
ง ผูก้ ปงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กครองตำมวรรคหนึก่ งำ ไม่ ก ระทบกระเทื อ นสิ ท ธิ ข อง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บุคคลภำยนอกผู้กระทำกำรโดยสุจริต เว้นแต่ในกรณีกำรเพิกถอนคำสั่งตั้งผู้ปกครองที่ต้องห้ำมตำม
มำตรำ ๑๕๘๗ (๑) สำนักหรื อ (๒) กำรกระทำของผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ป กครองไม่สผำนัู กกพังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นผู้ เยำว์ไม่ว่ำบุคคลภำยนอกจะได้
กำ
กระทำกำรโดยสุจริตหรือไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๘๙๑๗๑ (ยกเลิก)
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๕๙๐
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ผูส้ปำนักครองมี
๑๗๒
ได้ครำวหนึ่งเพียกงคนเดี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ยว แต่ใสนกรณี มีข้อกำหนด
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พินั ยกรรมให้ ตั้งผู้ ป กครองหลำยคนหรือเมื่ อมีผู้ร้องขอโดยมีเหตุผลอันสมควร ให้ ศำลมีอำนำจตั้ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๖๘
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๕๘๖ แก้ไสขเพิ
ำนัก่มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เติมโดยพระรำชบัญญัติแกก้ำไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๖๙
สำนักมำตรำ ๑๕๘๗ (๕) แก้ไขเพิกำ่มเติมโดยพระรำชบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่
กำ ง
และพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๗๐
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๕๘๘ แก้ไสขเพิ
ำนัก่มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เติมโดยพระรำชบัญญัติแกก้ำไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๗๑
มำตรำ ๑๕๘๙ ยกเลิกโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๗๒
มำตรำ ๑๕๙๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๗๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ผู้ ป กครองได้ ต ำมจ ำนวนที่ ศ ำลเห็ น ว่ำ จำเป็ น ในกรณี ที่ ตั้ งผู้ ป กครองหลำยคนศำลจะก ำหนดให้
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ปกครองเหล่ำนั้นกระทกำกำรร่
ำ วมกันหรืสำนั อกกำหนดอ ำนำจเฉพำะสำหรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำบคนหนึ่ง ๆ ก็สไำนั
ด้ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำตรำ ๑๕๙๑๑๗๓ ควำมเป็กนำผู้ปกครองนั้นสเริำนั่มกแต่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วันทรำบคำสั่งตั้งของศำล
กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๕๙๒ ๑๗๔ ให้ผู้ปกครองรีบทำบัญชีทรัพย์สินของผู้อยู่ในปกครองให้เสร็จ
ภำยในสำมเดือนนัสำนั
บแต่ วันที่ทรำบคำสั่งตั้งของศำล
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ แต่ผู้ปกครองจะร้ องต่อศำลก่อนสิ้นกกำำหนดขอให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยืดเวลำก็ได้
บัญชีนกั้นำ ต้องมีพยำนรัสบำนัรองควำมถู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กต้องอย่ำงน้อกยสองคน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ พยำนสองคนนั ้นต้องเป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้บรรลุนิติภำวะและเป็นญำติของผู้อยู่ในปกครอง แต่ถ้ำหำญำติไม่ได้จะให้ผู้อื่นเป็นพยำนก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๙๓ ให้ผู้ปกครองยื่นสำเนำบัญชีทรัพย์สินที่ตนรับรองว่ำถูกต้องต่อศำล
สำนักฉบั บหนึ่งภำยในสิบวันนักบำ แต่วันที่ได้ทสำบัำนัญกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ชีทรัพย์สินแล้ว และศำลจะสั
กำ ่งให้ผู้ปกครองชี ้แจงเพิ่มเติม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หรือให้นำเอกสำรมำประกอบเพื่อแสดงให้เห็นว่ำบัญชีนั้นถูกต้องแล้วก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำศำลมิได้มีคำสั่ งเป็ นอย่ำงอื่น ภำยในสิ บสำนั
ห้ ำกวังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
นนับ แต่วันยื่นบั ญ ชี หรื อวัน ชี้แจง
สำนักเพิ ่มเติม หรือวันนำเอกสำรยื
กำ ่นประกอบสำนั แล้กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แต่กรณี ให้ถือว่ำศำลยอมรักำ บบัญชีนั้นแล้
สำนัวกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๗๕
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สมำตรำ ๑๕๙๔ ถ้ำผู้ปกครองไม่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ป ฏิบั ติเกีส่ยำนัวแก่ กำรทำบัญชีทรัพย์สินกำหรือกำรยื่น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บัญชีทรัพย์สินให้ถูกต้องครบถ้วนตำมที่บัญญัติไว้ในมำตรำ ๑๕๙๒ หรือมำตรำ ๑๕๙๓ หรือไม่ปฏิบัติ
สำนักตำมค ำสั่งศำลซึ่งสั่ งตำมมำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๑๕๙๓สำนัหรื อศำลไม่พอใจในบัญกชีำทรัพย์สิ นเพรำะท
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักำขึ ้นด้วยควำม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เลินเล่ออย่ำงร้ำยแรงหรือไม่สุจริ ต หรือเห็นได้ชัดว่ำผู้ปกครองหย่อนควำมสำมำรถ ศำลจะสั่งถอน
ผู้ปกครองนั้นเสียสก็ำนั
ได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๕๙๕ ก่อนที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่ศกำลยอมรั บบัญชีนั้น ห้ำมมิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำให้ผู้ปกครองทสำนั
ำกิกจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรใด เว้นแต่ กำ
เป็นกำรเร่งร้อนและจำเป็น แต่จะยกข้อห้ำมดังกล่ำวขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภำยนอกผู้กระทำกำรโดย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สุจริตและเสียค่ำตอบแทนไม่ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๙๖ ถ้ำมีหนี้เป็นคุณแก่ผู้ปกครองแต่เป็นโทษต่อผู้อยู่ในปกครองหรือเป็น
คุณแก่ผู้อยู่ในปกครองแต่ เป็นโทษต่อผู้ปกครอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ให้ผู้ปกครองแจ้
สำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ข้อควำมเหล่ำนั้นต่อศำลก่
กำ อนลงมือ
ทำบัญชีทรัพย์สิน
ถ้ำผู้ปกกครองรู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้ว่ำมีหสนีำนั้ เป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คุณ แก่ตนแต่เป็นโทษต่กำ อผู้ อยู่ ในปกครอง และมิได้แจ้ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ข้อควำมนั้นต่อศำล หนี้ของผู้ปกครองนั้นย่อมสูญไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๗๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๕๙๑ แก้ไสขเพิ
ำนัก่มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เติมโดยพระรำชบัญญัติแกก้ำไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๗๔
มำตรำ ๑๕๙๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๗๕
มำตรำ ๑๕๙๓ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำย
สำนักแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พ.ศ. ๒๕๓๓ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๗๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ถ้ำผู้ป กครองรู้ว่ำมีห นี้ เป็นโทษต่อตนแต่เป็นคุณ แก่ผู้ อยู่ในปกครอง และมิได้แจ้ง


สำนักข้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อควำมนั้นต่อศำล ศำลจะสั
กำ ่งถอนผู้ปกครองก็ ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๙๗ เมื่อศำลเห็นกำสมควรโดยลำพั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ง กหรืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั อเมื่อผู้มีส่วนได้เสียหรืกำออัยกำรร้อง
ขอ ศำลอำจสั่งให้ผู้ปกครอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) หำประกันอันสมควรในกำรจัดกำรทรัพย์สินของผู้อยู่ในปกครอง ตลอดจนกำร
มอบคืนทรัพย์สินสนัำนั
้น กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) แถลงถึงควำมเป็นอยู่แห่งทรัพย์สินของผู้อยู่ในปกครอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๙๘ ในระหว่ำงปกครอง ถ้ำผู้อยู่ในปกครองได้ทรัพย์สินอันมีค่ำมำโดย
ทำงมรดกหรือกำรให้
สำนักโดยเสน่ หำ ให้นำมำตรำก๑๕๙๒
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ถึงมำตรำ
สำนัก๑๕๙๗ มำใช้บังคับโดยอนุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำโลม

มำตรำกำ๑๕๙๘/๑ ให้สำนัผู้ปกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กครองทำบัญชีทรัพย์สกินำส่งต่อศำลปีลสะครั
ำนัก้งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นับแต่วันเป็น กำ
ผู้ปกครอง แต่เมื่อศำลได้รับบัญชีปีแรกแล้วจะสั่งให้ส่งบัญชีเช่นว่ำนั้นในระยะเวลำเกินหนึ่งปีก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๕๙๘/๒ ผูส้ปำนักครองมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สิทธิและหน้ำที่เช่กนำเดียวกับผู้ใช้อสำนำจปกครองตำม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๖๔ วรรคหนึ่ง และมำตรำ ๑๕๖๗
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๙๘/๓ ผู้ปกครองเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้อยู่ในปกครอง
ให้นำมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๑๕๗๐สมำตรำ ๑๕๗๑ มำตรำ ๑๕๗๒
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มำตรำ ๑๕๗๔ มำตรำ ๑๕๗๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
มำตรำ ๑๕๗๖ และมำตรำ ๑๕๗๗ มำใช้บังคับแก่ผู้ปกครองและผู้อยู่ในปกครองโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๙๘/๔ เงินได้ของผู้อยู่ในปกครองนั้น ผู้ปกครองย่อมใช้ได้ตำมสมควร
สำนักเพื ่อกำรอุปกำระเลี้ยงดูกแำละกำรศึกษำของผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้อยู่ในปกครอง ถ้ำมีเหลื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำอให้ใช้เพื่อแสวงหำผลประโยชน์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เฉพำะในเรื่องต่อไปนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ซื้อพันธบัตรรัฐบำลไทยหรือพันธบัตรที่รัฐบำลไทยค้ำประกัน
(๒) รับกำขำยฝำกหรือรัสบำนัจกำนองอสั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งหำริมทรัพย์ในล
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำำดับแรก แต่จสำนั
ำนวนเงิ นที่รับขำย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ฝำกหรือรับจำนองต้องไม่เกินกึ่งรำคำตลำดของอสังหำริมทรัพย์นั้น
ส(๓)
ำนักฝำกประจ ำในธนำคำรทีกำ่ได้ตั้งขึ้นโดยกฎหมำยหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อที่ได้รับอนุญำตให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ประกอบ
กิจกำรในรำชอำณำจักร
(๔) ลงทุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นอย่ำงอื่นซึ่งสศำลอนุ ญำตเป็นพิเศษ กำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๙๘/๕ ถ้ ำผู้ อกยูำ่ ในปกครองรูส้ จำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ัก ผิกดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชอบและมี อ ำยุ ไม่ ต่ ำกว่
กำ ำ สิ บ ห้ ำ ปี
บริบูรณ์เมื่อผู้ปกครองจะทำกิจกำรใดที่สำคัญ ให้ปรึกษำหำรือผู้อยู่ในปกครองก่อนเท่ำที่จะทำได้
กำรที่ผกำู้อยู่ในปกครองได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัยกินงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยอมด้วยนั้นหำคุ้มผู้ปกครองให้
กำ พ้นจำกควำมรั บผิดไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


- ๒๗๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๕๙๘/๖๑๗๖ ควำมปกครองสิ้นสุดลงเมื่อผู้อยู่ในปกครองตำยหรือบรรลุนิติ


สำนักภำวะ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๙๘/๗๑๗๗ ควำมเป็


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นผู้ปกครองสิส้นำนัสุกดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ลงเมื่อผู้ปกครอง กำ
(๑) ตำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ลำออกโดยได้รับอนุญำตจำกศำล
ส(๓)
ำนักเป็ นคนไร้ควำมสำมำรถหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อเสมือนไร้คสวำมสำมำรถ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) เป็นบุคคลล้มละลำย
(๕) ถูกกถอนโดยค
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำสั่งสศำล
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๙๘/๘๑๗๘ ให้ศำลสั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งถอนผู้ปกครองในกรณี ดังต่อไปนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๑) ผู้ปกครองละเลยไม่กระทำกำรตำมหน้ำที่
(๒) ผู้ปกำกครองประมำทเลิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เล่ออย่ำงร้ำยแรงในหน้กำำที่ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ผู้ปกครองใช้อำนำจหน้ำที่โดยมิชอบ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ผู้ปกครองประพฤติมิชอบซึ่งไม่สมควรแก่ หน้ำที่
(๕) ผู้ปกำกครองหย่อนควำมสำมำรถในหน้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำที่จนน่ำกจะเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นอันตรำยแก่
สำนักปงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระโยชน์ของผู้ กำ
อยู่ในปกครอง
ส(๖)
ำนักมีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กรณีดังบัญญัติไว้ในมำตรำ
กำ ๑๕๘๗ (๓) สำนั(๔) หรือ (๕)
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๑๕๙๘/๙ กำรร้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งขอให้ถอนผู้ปกครองตำมมำตรำ
กำ ๑๕๙๘/๘ นั้น ผู้อยู่ใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ปกครองซึ่งมีอำยุไม่ต่ำกว่ำสิบห้ำปีบริบูรณ์ หรือญำติของผู้อยู่ในปกครองหรืออัยกำรจะเป็นผู้ร้องขอก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๙๘/๑๐ ในระหว่ำงพิ จำรณำคำร้องขอให้ ถอนผู้ ปกครอง ศำลจะตั้ง
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้จัดกำรชั่วครำวให้จัดกำรทรั
กำ พย์สินของผู
สำนั้อกยูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ในปกครองแทนผู้ปกครองก็
กำ ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๙๘/๑๑ ถ้ำ ควำมปกครองหรือ ควำมเป็น ผู ้ป กครองสิ ้น สุด ลง ให้
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ปกครองหรือทำยำทรีบกส่ำ งมอบทรัพย์สสินำนัทีก่จงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัดกำรแก่ผู้อยู่ในปกครองกำหรือทำยำทหรืสำนั
อผูก้ปงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กครองคนใหม่ กำ
และให้ ทำบัญ ชีในกำรจัดกำรทรัพย์สิน ส่งมอบภำยในเวลำหกเดือน และถ้ำมีเอกสำรเกี่ยวกับเรื่อง
จัด กำรทรั พ ย์ สิ นสนัำนั้ นกก็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้ ส่ งมอบพร้อมกับบักญำชี แต่เมื่อผู้ ปสกครองหรื อทำยำทร้องขอศำลจะสั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ งให้
ยืดเวลำก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ให้นำมำตรำ กำ ๑๕๘๐ สและมำตรำ ๑๕๘๑ มำใช้บังกคัำบโดยอนุโลม สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๗๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๕๙๘/๖ แก้ ไขเพิ
สำนั ่มเติมโดยพระรำชบัญญัตกิแำก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๗๗
มำตรำ ๑๕๙๘/๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๗๘
มำตรำ ๑๕๙๘/๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.ก๒๕๓๓
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๗๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๕๙๘/๑๒ นั บ แต่ วัน ส่ งมอบบั ญ ชี ให้ เริ่ม คิด ดอกเบี้ ยในจำนวนเงิน ซึ่ ง
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ปกครองหรือผู้อยู่ในปกครองจะต้
กำ องคืสนำนัให้กแงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก่กัน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำผู้ปกครองใช้เงินของผู้อยู่ในปกครองนอกจำกเพื่อประโยชน์ของผู้อยู่ ในปกครอง
แล้ว ให้เสียดอกเบีำนั
ส ้ยร้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยละสิบห้ำต่อปีในจำนวนเงิ กำ นนั้นตั้งแต่สวำนั
ันใช้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นต้นไป กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๕๙๘/๑๓ ผู้ อ ยู่ ในปกครองมี บุ ริ ม สิ ท ธิ เหนื อ ทรั พ ย์ สิ น ทั้ ง หมดของ
ผู้ปกครองเพื่อชำระหนี ้ซึ่งค้ำงอยู่แก่ตน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บุริมสิทธินี้ให้อยู่ในลำดับที่หกถัดจำกบุริมสิทธิสำมัญอย่ำงอื่นตำมมำตรำ ๒๕๓ แห่ง
สำนักประมวลกฎหมำยนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๙๘/๑๔ ผู้ปกครองไม่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มีสิทธิได้รสับำนับกำเหน็ จ เว้นแต่ในกรณีตก่อำไปนี้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
(๑) มีข้อกำหนดไว้ในพินั ยกรรมให้ ผู้ ป กครองได้รับบ ำเหน็จ ในกรณี เช่นว่ำนี้ ให้
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ปกครองได้รับบำเหน็จกเท่ำ ำที่กำหนดในพิ
สำนันกัยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กรรม กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ในกรณีที่พินัยกรรมไม่ได้กำหนดบำเหน็จไว้ แต่ไม่มีข้อกำหนดห้ำมผู้ปกครองรับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บำเหน็ จ ผู้ป กครองจะร้องขอต่อศำลให้ กำหนดบำเหน็จในภำยหลั งก็ได้ ศำลจะกำหนดให้ ห รือไม่
สำนักเพี ยงใดก็ได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ในกรณี ที่ ไม่ มี ค ำสั่ ง ตั้ ง ผู้ ป กครองไว้ ในพิ นั ย กรรม และไม่ มี ข้ อ ก ำหนดห้ ำ ม
ผู้ปกครองรับบำเหน็สำนัจกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ศำลจะกำหนดบำเหน็กจำให้แก่ผู้ปกครองในค ำสั่งตั้งผู้ปกครองก็ได้กำหรือถ้ำศำล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มิได้กำหนด ผู้ปกครองจะร้องขอต่อศำลให้กำหนดบำเหน็จในภำยหลังก็ได้ ศำลจะกำหนดให้หรือไม่
สำนักเพี ยงใดก็ได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกำรพิจำรณำกำหนดบำเหน็จ ให้ศำลพิเครำะห์ถึงพฤติกำรณ์ รำยได้และฐำนะ
ควำมเป็นอยู่ของผูส้ปำนักครองและผู ้อยู่ในปกครอง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำผู้ ป กครองหรือผู้ อยู่ในปกครองแสดงได้ว่ำ พฤติกำรณ์ รำยได้ห รือฐำนะควำม
สำนักเป็ นอยู่ของผู้ปกครองหรืกอำ ผู้อยู่ในปกครองได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เปลี่ยนแปลงไปภำยหลักำงที่ได้เข้ำรับหน้สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำทีก่ผงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ู้ปกครอง ศำล กำ
จะสั่งให้บำเหน็จ งด ลด เพิ่ม หรือกลับให้บำเหน็จแก่ผู้ปกครองอีกก็ได้ แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ให้ใช้บังคับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แก่กรณีที่มีข้อกำหนดห้ำมไว้ในพินัยกรรมมิให้ผู้ปกครองได้รับบำเหน็จด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๙๘/๑๕๑๗๙ ในกรณีที่ศำลสั่งให้สำมีหรือภริยำเป็นคนไร้ควำมสำมำรถ
และภริยำหรือสำมี เป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ผู้อนุบำล ให้นำบทบัญกญัำ ติว่ำด้วยสิทสธิำนั
และหน้ ำที่ของผู้ใช้อำนำจปกครองมำใช้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บังคับโดยอนุโลม เว้นแต่สิทธิตำมมำตรำ ๑๕๖๗ (๒) และ (๓)
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๙๘/๑๖ คู่สมรสซึ่งเป็นผู้อนุบำลของคู่สมรสที่ถูกศำลสั่งให้เป็นคนไร้
๑๘๐

ควำมสำมำรถมีอำนำจจั ดกำรสินส่วนตัวของคูก่สำมรสอีกฝ่ำยหนึสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งและมี อำนำจจัดกำรสินสมรสแต่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ผู้ เดียว

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


๑๗๙
มำตรำ ๑๕๙๘/๑๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
และพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๘๐
มำตรำ ๑๕๙๘/๑๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ง
สำนักและพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๒๕๓๓ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๗๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

แต่กำรจัดกำรสินส่วนตัวและสินสมรสตำมกรณีที่ระบุไว้ในมำตรำ ๑๔๗๖ วรรคหนึ่ง คู่สมรสนั้นจะ


สำนักจังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดกำรไม่ได้ เว้นแต่จะได้กำรับอนุญำตจำกศำล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๙๘/๑๗ ในกรณีกำที่ศำลสั่งให้สำมี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัหกรืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อภริยำเป็นคนไร้ควำมสำมำรถและ
กำ
ศำลเห็นไม่สมควรให้คู่สมรสเป็นผู้อนุบำล และตั้งบิดำหรือมำรดำหรือบุคคลภำยนอกเป็นผู้อนุบำล ใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กรณีเช่นว่ำนี้ ให้ผู้อนุบำลเป็นผู้ จัดกำรสินสมรสร่วมกันกับคู่สมรสอีกฝ่ำยหนึ่ง เว้นแต่ถ้ำมีเหตุสำคัญ
อันจะเกิดควำมเสีสยำนัหำยแก่ คนไร้ควำมสำมำรถกำศำลจะสั่งเป็นสอย่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัำกงอื ่นก็ได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อย่ำงไรก็ตำม เมื่อมีกรณีดังกล่ำวตำมวรรคหนึ่ง คู่สมรสอีกฝ่ำยหนึ่งมีสิทธิร้องขอต่อ
สำนักศำลให้ สั่งแยกสินสมรสได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๙๘/๑๘ ๑๘๑ ในกรณี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ที่ บิ ด ำมำรดำเป็ น ผู้ อนุบำลบุ ตร ถ้ำกบุำตรนั้นยังไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บรรลุนิติภำวะ ให้นำบทบัญญัติว่ำด้วยสิทธิและหน้ำที่ของผู้ใช้อำนำจปกครองมำใช้บังคับโดยอนุโลม
สำนักแต่ ถ้ำบุตรนั้นบรรลุนิติภกำวะแล้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ว ให้นำบทบั ญญัติว่ำด้วยสิทธิและหน้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำที่ของผู้ปกครองมำใช้ บังคับโดย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อนุโลม เว้นแต่สิทธิตำมมำตรำ ๑๕๖๗ (๒) และ (๓)
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่บุคคลอื่นซึ่งมิใช่บิดำมำรดำหรือมิสใำนั
ช่คกู่สงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มรสเป็นผู้อนุบำล ให้นกำำบทบัญญัติ
สำนักว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำด้วยสิทธิและหน้ำที่ขกองผู
ำ ้ปกครองมำใช้
สำนับกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ังคับโดยอนุโลม แต่ถ้ำผูกำ้อยู่ในควำมอนุสบำนัำลบรรลุ นิติภำวะ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แล้วจะใช้สิทธิตำมมำตรำ ๑๕๖๗ (๒) และ (๓) ไม่ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ บุตรบุญธรรม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๙๘/๑๙๑๘๒ บุคคลที่มีอำยุไม่ต่ำกว่ำยี่สิบห้ำปีจะรับบุคคลอื่นเป็นบุตรบุญ
สำนักธรรมก็ ได้ แต่ผู้นั้นต้องมีกอำำยุแก่กว่ำผู้ที่จสะเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บุตรบุญธรรมอย่ำงน้อกยสิ
ำ บห้ำปี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๙๘/๒๐ กำรรับบุตรบุญธรรม ถ้ำผู้ที่จะเป็นบุตรบุญธรรมมีอำยุไม่ต่ำกว่ำ
สำนักสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บห้ำปี ผู้นั้นต้องให้ควำมยิ
กำ นยอมด้วย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๙๘/๒๑ กำรรั กำ บผู้เยำว์เป็นสำนั


บุตกรบุ ญธรรมจะกระทำได้กตำ่อเมื่อได้รับ
๑๘๓
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ควำมยินยอมของบิดำและมำรดำของผู้จะเป็นบุตรบุญธรรม ในกรณีที่บิดำหรือมำรดำคนใดคนหนึ่ง
สำนักตำยหรื อถูกถอนอำนำจปกครองต้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องได้สรำนั
ับควำมยิ นยอมของมำรดำหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อบิดำซึ่งยังมีสอำนั
ำนำจปกครอง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๘๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๕๙๘/๑๘สำนั
แก้กไขเพิ ่มเติมโดยพระรำชบัญกญัำติแก้ไขเพิ่มเติมสประมวลกฎหมำยแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ง
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
และพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๘๒
มำตรำ ๑๕๙๘/๑๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
และพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๘๓
มำตรำ ๑๕๙๘/๒๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ง
สำนักและพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๒๕๓๓ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๗๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ถ้ำไม่มีผู้มีอำนำจให้ควำมยินยอมดังกล่ำวในวรรคหนึ่ง หรือมีแต่บิดำหรือมำรดำคน
สำนักใดคนหนึ ่งหรือทั้งสองคนไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำมำรถแสดงเจตนำให้ ควำมยินยอมได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ หรือไม่ให้ควำมยิ
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยอมและกำร กำ
ไม่ให้ควำมยินยอมนั้นปรำศจำกเหตุผลอันสมควรและเป็นปฏิปักษ์ต่อสุขภำพ ควำมเจริญหรือสวัสดิภำพ
ของผู้เยำว์ มำรดำหรื
สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บิดำหรือผู้ประสงค์จกะขอรั
ำ บบุ ตรบุญสำนั
ธรรมหรื ออัยกำรจะร้องขอต่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อศำลให้ มี
คำสั่งอนุญำตแทนกำรให้ควำมยินยอมตำมวรรคหนึ่งก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๙๘/๒๒ ในกำรรั กำ บผู้เยำว์เป็สนำนั


บุตกรบุ ญธรรม ถ้ำผู้เยำว์เป็กนำผู้ถูกทอดทิ้ง
๑๘๔
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
และอยู่ในควำมดูแลของสถำนสงเครำะห์เด็กตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรสงเครำะห์และคุ้มครองเด็ก ให้
สำนักสถำนสงเครำะห์ เด็กเป็กนำผู้ให้ ควำมยินสยอมแทนบิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดำและมำรดำ ถ้กำำสถำนสงเครำะห์
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด็กไม่ให้ควำม กำ
ยินยอม ให้นำควำมในมำตรำ ๑๕๙๘/๒๑ วรรคสอง มำใช้บังคับโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๙๘/๒๓๑๘๕ ในกรณีที่ผู้เยำว์มิได้ถูกทอดทิ้ง แต่อยู่ในควำมอุปกำระเลี้ยง
สำนักดูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของสถำนสงเครำะห์เกด็ำกตำมกฎหมำยว่ สำนัำกด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วยกำรสงเครำะห์และคุกำ้มครองเด็ก บิสดำนั
ำและมำรดำ หรือ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บิดำหรือมำรดำในกรณีที่มำรดำหรือบิดำคนใดคนหนึ่งตำยหรือถูกถอนอำนำจปกครอง จะทำหนังสือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มอบอำนำจให้สถำนสงเครำะห์ เด็กดังกล่ำวเป็นผู้มีอำนำจให้สคำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
วำมยิ นยอมในกำรรับผู้เยำว์เป็นบุตรบุญ
สำนักธรรมแทนตนก็ ได้ ในกรณี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำเช่นนั้นให้นำควำมในมำตรำ ๑๕๙๘/๒๒ กมำใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บังคับโดยอนุ
สำนัโกลม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หนังสือมอบอำนำจตำมวรรคหนึ่งจะถอนเสียมิได้ตรำบเท่ำที่ผู้เยำว์ยังอยู่ในควำม
อุปกำระเลี้ยงดูของสถำนสงเครำะห์ เด็กนั้น กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๕๙๘/๒๔๑๘๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้มีอำนำจให้ควำมยินยอมแทนสถำนสงเครำะห์
กำ เด็กในกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
รับบุตรบุญธรรมตำมมำตรำ ๑๕๙๘/๒๒ หรือมำตรำ ๑๕๙๘/๒๓ จะรับผู้เยำว์ซึ่งอยู่ในควำมดูแลหรือ
อยู่ในควำมอุปกำระเลี ้ยงดูของสถำนสงเครำะห์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำเด็กนั้นเป็นบุสตำนั
รบุกญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ธรรมของตนเองได้ต่อกเมื
ำ ่อศำลได้มี
คำสั่งอนุญำตตำมคำขอของผู้นั้นแทนกำรให้ควำมยินยอมของสถำนสงเครำะห์เด็ก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๙๘/๒๕๑๘๗ ผู้จะรับบุตรบุญธรรมหรือผู้จะเป็นบุตรบุญธรรม ถ้ำมีคู่สมรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อยู่ต้องได้รับควำมยินยอมจำกคู่สมรสก่อน ในกรณีที่คู่สมรสไม่อำจให้ควำมยินยอมได้หรือไปเสียจำก
สำนักภูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มิลำเนำหรือถิ่นที่อยู่แกละหำตั
ำ วไม่พบเป็
สำนันกเวลำไม่ น้อยกว่ำหนึ่งปี ต้กอำงร้องขอต่อศำลให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักมงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ีคำสั่งอนุญำต กำ
แทนกำรให้ควำมยินยอมของคู่สมรสนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


๑๘๔
สำนักมำตรำ ๑๕๙๘/๒๒ แก้ไขเพิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่มเติมโดยพระรำชบั
สำนักญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่
กำ ง
และพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๘๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๕๙๘/๒๓สำนั
แก้กไขเพิ ่มเติมโดยพระรำชบัญกญัำติแก้ไขเพิ่มเติมสประมวลกฎหมำยแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ง
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
และพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๘๖
มำตรำ ๑๕๙๘/๒๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
และพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๘๗
มำตรำ ๑๕๙๘/๒๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ง
สำนักและพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๒๕๓๓ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๗๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๕๙๘/๒๖ ผู้เยำว์ที่เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลใดอยู่จะเป็นบุตรบุญธรรม


สำนักของบุ คคลอื่นอีกในขณะเดี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยวกันไม่ได้ สเว้ำนั
นแต่ เป็นบุตรบุญธรรมของคู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่สมรสของผู้รับสำนั
บุตกรบุ ญธรรม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ถ้ำคู่สมรสฝ่ำยหนึ่งจะจดทะเบียนรับผู้เยำว์ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของคู่สมรสอีกฝ่ำย
หนึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของตนด้
ส วยจะต้องได้รกับำควำมยินยอมของคู
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่สมรสซึ่งเป็นผู้รับบุตรบุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญธรรมอยู่
แล้วและมิให้นำมำตรำ ๑๕๙๘/๒๑ มำใช้บังคับ๑๘๘
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๙๘/๒๗ กำรรั กำ บบุตรบุญธรรมจะสมบู รณ์ต่อเมื่อได้จดทะเบี


กำ ยนตำม
๑๘๙
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กฎหมำย แต่ถ้ำผู้จะเป็นบุตรบุญธรรมนั้นเป็นผู้เยำว์ต้องปฏิบัติ ตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรรับเด็กเป็น
สำนักบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตรบุญธรรมก่อน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๙๘/๒๘ บุตรบุกญำธรรมย่อมมีฐสำนะอย่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำงเดียวกับบุตรชอบด้กำวยกฎหมำย
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของผู้รับบุตรบุญธรรมนั้น แต่ไม่สูญสิทธิและหน้ำที่ในครอบครัวที่ได้กำเนิดมำ ในกรณีเช่นนี้ ให้บิดำ
สำนักมำรดำโดยก ำเนิดหมดอกำนำจปกครองนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สบำนัแต่ วันเวลำที่เด็กเป็นบุตรบุกำญธรรมแล้ว สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้นำบทบัญญัติในลักษณะ ๒ หมวด ๒ แห่งบรรพนี้มำใช้บังคับโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๕๙๘/๒๙ สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรรั บบุตรบุญธรรมไม่ก่อกำให้เกิดสิทธิรับสมรดกของบุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ตรบุญ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ธรรมในฐำนะทำยำทโดยธรรมเพรำะเหตุกำรณ์รับบุตรบุญธรรมนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๙๘/๓๐ ถ้ำบุตรบุญธรรมซึ่งไม่มีคู่สมรสหรื อผู้สืบสันดำนตำยก่อนผู้รับ
สำนักบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตรบุญธรรม ผู้รับบุตรบุ
กำญธรรมมีสิทสธิำนั
เรียกกร้ องเอำทรัพย์สินที่ตนได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ให้แก่บุตรบุสญำนัธรรมคื นจำกกอง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
มรดกของบุตรบุญธรรมเพียงเท่ำที่ทรัพย์สินนั้นยังคงเหลืออยู่ภำยหลังที่ชำระหนี้ของกองมรดกเสร็จ
สิ้นแล้ว สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ห้ำมมิให้ฟ้องคดีเรียกร้องสิทธิตำมวรรคหนึ่ ง เมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่เวลำที่ผู้รับ
สำนักบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตรบุญธรรมได้รู้หรือควรได้
กำ รู้ถึงควำมตำยของบุ ตรบุญธรรมหรือเมืกำ่อพ้นกำหนดสิสบำนัปีกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ับแต่วันที่บุตร กำ
บุญธรรมตำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๕๙๘/๓๑ สกำรเลิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กรับบุตรบุญธรรม ถ้กำำบุตรบุญธรรมบรรลุ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นิติภำวะแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จะเลิกโดยควำมตกลงกันในระหว่ำงผู้รับบุตรบุญธรรมกับบุตรบุญธรรมเมื่อใดก็ได้
สถ้ำนั
ำบุกตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รบุญธรรมยังไม่บรรลุกนำิติภำวะ กำรเลิสำนักรักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บุตรบุญธรรมจะทำได้กตำ ่อเมื่อได้รับ
ควำมยินยอมของบิดำและมำรดำ และให้นำมำตรำ ๑๕๙๘/๒๐ และมำตรำ ๑๕๙๘/๒๑ มำใช้บังคับ
สำนักโดยอนุ โลม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่ได้รับผู้เยำว์เป็นบุตรบุญธรรมตำมมำตรำ ๑๕๙๘/๒๑ วรรคสอง มำตรำ
๑๕๙๘/๒๒ มำตรำ สำนั๑๕๙๘/๒๓ มำตรำ ๑๕๙๘/๒๔
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ หรือมำตรำ ๑๕๙๘/๒๖ วรรคสองกำ ถ้ำบุตรบุญ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


๑๘๘
มำตรำ ๑๕๙๘/๒๖ วรรคสอง เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
และพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๘๙
มำตรำ ๑๕๙๘/๒๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ง
สำนักและพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๒๕๓๓ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๗๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ธรรมยังไม่บรรลุนิติภำวะ กำรเลิกรับบุตรบุญธรรมให้กระทำได้ต่อเมื่อมีคำสั่งศำลโดยคำร้องขอของผู้มี
สำนักส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วนได้เสียหรืออัยกำร๑๙๐กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรเลิกรับบุตรบุญธรรมจะสมบูรณ์ต่อเมื่อได้จดทะเบียนตำมกฎหมำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๙๘/๓๒ กำรรับบุตรบุญธรรมย่อมเป็นอันยกเลิกเมื่อมีกำรสมรสฝ่ำฝืน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๔๕๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๙๘/๓๓ คดีฟ้องเลิกกำรรับบุตรบุญธรรมนั้น เมื่อ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๑)๑๙๑กำฝ่ำยหนึ่งทำกำรชั สำนัก่วงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ร้ำยไม่ว่ำจะเป็นควำมผิกดำ อำญำหรือไม่สำนั เป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เหตุให้อีกฝ่ำย กำ
หนึ่งอับอำยขำยหน้ำอย่ำงร้ำยแรง หรือถูกเกลียดชั ง หรือได้รับควำมเสียหำยหรือเดือดร้อนเกินควร
อีกฝ่ำยหนึ่งฟ้องเลิสกำนัได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒)๑๙๒ ฝ่ำยหนึ่งหมิ่นประมำทหรือเหยียดหยำมอีกฝ่ำยหนึ่งหรือบุพกำรีของอีกฝ่ำย
สำนักหนึ ่งอันเป็นกำรร้ำยแรงกำอีกฝ่ำยหนึ่งฟ้สอำนังเลิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กได้ ถ้ำบุตรบุญธรรมกระท
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำกำรดังกล่ สำนัำวต่ อคู่สมรสของ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้รับบุตรบุญธรรม ให้ผู้รับบุตรบุญธรรมฟ้องเลิกได้
สำนัก๑๙๓งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ฝ่ำยหนึ่งกระทำกำรประทุษร้ำยอีกสฝ่ำนัำยหนึ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
่งหรือบุพกำรีหรือคู่สมรสของอีก
สำนักฝ่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยหนึ่งเป็นเหตุให้เกิดอักำนตรำยแก่กำยหรื สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จิตใจอย่ำงร้ำยแรงและกำรกระท กำ ำนั้นเป็
สำนันควำมผิ ดที่มีโทษ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อำญำ อีกฝ่ำยหนึ่งฟ้องเลิกได้
ส(๔)
ำนักฝ่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยหนึ่งไม่อุปกำระเลี้ยกงดูำ อีกฝ่ำยหนึ่ง สอีำนักฝ่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยหนึ่งนั้นฟ้องเลิกได้ กำ
(๕) ฝ่ำยหนึ่งจงใจละทิ้งอีกฝ่ำยหนึ่งไปเกินหนึ่งปี อีกฝ่ำยหนึ่งนั้นฟ้องเลิกได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๖) ฝ่ำกยหนึำ ่งต้องคำพิสพำนัำกษำถึ งที่สุดให้จำคุกเกินกสำมปี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ เว้นแต่คสวำมผิ ดที่กระทำโดย
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประมำท อีกฝ่ำยหนึ่งฟ้องเลิกได้
ส(๗)
ำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้รับบุตรบุญธรรมทำผิกดำหน้ำที่บิด ำมำรดำ และกำรกระทำนั้นเป็กนำ กำรละเมิด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือไม่ปฏิบัติตำมมำตรำ ๑๕๖๔ มำตรำ ๑๕๗๑ มำตรำ ๑๕๗๓ มำตรำ ๑๕๗๔ หรือมำตรำ ๑๕๗๕
สำนักเป็ นเหตุให้เกิดหรืออำจเกิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำดควำมเสียหำยอย่ ำงร้ำยแรงต่อบุตรบุญธรรม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บุตรบุญธรรมฟ้ องเลิกได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๘)๑๙๔ ผู้รับบุตรบุญธรรมผู้ใดถูกถอนอำนำจปกครองบำงส่วนหรือทั้งหมด และเหตุที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถูกถอนอำนำจปกครองนั้นมีพฤติกำรณ์แสดงให้เห็นว่ำ ผู้นั้นไม่สมควรเป็นผู้รับบุตรบุญธรรมต่อไป
สำนักบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตรบุญธรรมฟ้องเลิกได้กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๙)๑๙๕ (ยกเลิก)
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๙๐
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๕๙๘/๓๑สำนั วรรคสำม แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญ ญั ติแสก้ำนัไขเพิ ่มเติมประมวล
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๙๑
สำนักมำตรำ ๑๕๙๘/๓๓ (๑) แก้กไำขเพิ่มเติมโดยพระรำชบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แพ่งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๙๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๕๙๘/๓๓สำนั(๒)กแก้ ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำญญัติแก้ไขเพิ่มสเติำนัมกประมวลกฎหมำย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แพ่งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๙๓
มำตรำ ๑๕๙๘/๓๓ (๓) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แพ่งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๙๔
มำตรำ ๑๕๙๘/๓๓ (๘) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำย
สำนักแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พ.ศ. ๒๕๓๓ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๗๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๕๙๘/๓๔ สห้ำนัำมมิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ให้ฟ้องขอเลิกกำรรับกบุำตรบุญธรรมเมืส่อำนัพ้กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำหนดหนึ่งปี กำ
นับแต่วันที่ผู้ขอเลิกกำรรับบุตรบุญธรรมรู้ หรือควรได้รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุให้เลิกกำรนั้น หรือเมื่อ
พ้นกำหนดสิบปีนสับำนัแต่กเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หตุนั้นเกิดขึ้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๕๙๘/๓๕๑๙๖ กำรฟ้องเลิกกำรรับบุตรบุญธรรม ถ้ำบุตรบุญธรรมมีอำยุไม่
ครบสิบห้ำปีบริบูสรณ์
ำนัใกห้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บิดำมำรดำโดยกำเนิดกเป็ำ นผู้มีอำนำจฟ้สำนั
องแทน แต่ถ้ำบุตรบุญธรรมมี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อำยุสิบห้ำ
ปีบริบูรณ์แล้วบุตรบุญธรรมฟ้องได้โดยไม่ต้องได้รับควำมยินยอมจำกผู้ใด
ในกรณีกำตำมวรรคหนึ่งสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อัยกกำรจะฟ้ องคดีแทนบุตรบุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำญธรรมก็ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๕๙๘/๓๖ กำรเลิกกำรับบุตรบุญธรรมโดยค


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำพิพำกษำของศำลกำย่อมมีผลแต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เวลำที่คำพิพำกษำถึงที่สุด แต่จะอ้ำงเป็นเหตุเสื่อมสิทธิของบุคคลภำยนอกผู้ทำกำรโดยสุจริตไม่ได้ เว้น
สำนักแต่ ได้จดทะเบียนแล้ว กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๙๘/๓๗ เมื่อผู้รับบุตรบุญธรรมตำยหรื
๑๙๗
อมีกำรเลิกรับบุตรบุญธรรม ถ้ำ
สำนักบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตรบุญธรรมยังไม่บรรลุกำนิติภำวะ ให้บสำนั ิดำมำรดำโดยก ำเนิดกลับมีกอำ ำนำจปกครองนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนับกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แต่เวลำที่ผู้รับ กำ
บุตรบุญธรรมตำย หรือนับแต่เวลำที่จดทะเบียนเลิกกำรรับบุตรบุญธรรมตำมมำตรำ ๑๕๙๘/๓๑ หรือ
นั บ แต่เวลำที่ศำลมี
สำนัคกำพิ พำกษำถึงที่ สุดให้ เลิกกำกำรรับบุ ตรบุสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญ ธรรม เว้นแต่ศำลเห็ นสมควรสั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ งเป็ น
ประกำรอื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณี กำที่มีกำรตั้งผู้ปสกครองของผู ้เป็นบุตรบุญธรรมไว้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ก่อนผู้รับสำนับุตกรบุ ญธรรมตำย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หรือก่อนกำรเลิกรับบุตรบุญธรรม ให้ผู้ปกครองยังคงมีอำนำจหน้ำที่เช่นเดิมต่อไป เว้นแต่บิดำมำรดำ
โดยกำเนิดจะร้องขอ สำนักและศำลมี คำสั่งให้ผู้ร้องขอเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นผู้มีอำนำจปกครอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรเปลี่ยนผู้ใช้อำนำจปกครองตำมวรรคหนึ่งหรือผู้ปกครองตำมวรรคสองไม่เป็นเหตุ
สำนักเสืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อมสิทธิที่บุคคลภำยนอกได้
กำ มำโดยสุจสริำนัตกก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อนผู้รับบุตรบุญธรรมตำยหรื
กำ อก่อนจดทะเบี ยนเลิกกำรรับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บุตรบุญธรรม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้พ นัก งำนอัย กำรเป็นผู้มีอำนำจร้อ งขอเพื่อให้ศ ำลมีคำสั่งเป็นประกำรอื่น ตำม
สำนักวรรคหนึ ่ง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกลัำกษณะ ๓ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ค่ำอุปกำระเลี้ยงดู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๙๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๕๙๘/๓๓ส(๙)
ำนักยกเลิ กโดยพระรำชบัญญัตกิแก้ำ ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๙๖
มำตรำ ๑๕๙๘/๓๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
และพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓
๑๙๗
มำตรำ ๑๕๙๘/๓๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ง
สำนักและพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๒๕๕๑ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ชย์ (ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ. สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๗๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๕๙๘/๓๘ ค่ำอุปกำระเลี้ยงดูระหว่ำงสำมีภริยำ หรือระหว่ำงบิดำมำรดำ


สำนักกังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บบุตรนั้นย่อมเรียกจำกกั
กำ นได้ในเมื่อฝ่สำำนัยทีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ ควรได้รับอุปกำระเลี้ยกงดูำ ไม่ได้รับกำรอุสำนั
ปกำระเลี ้ยงดูหรือ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ได้รับกำรอุปกำระเลี้ยงดูไม่เพียงพอแก่อัตภำพ ค่ำอุปกำระเลี้ยงดูนี้ศำลอำจให้เพียงใดหรือไม่ให้ก็ได้
โดยคำนึงถึงควำมสำมำรถของผู ้มีหน้ำที่ต้องให้กำฐำนะของผู้รับสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี และพฤติ กำรณ์แห่งกรณี กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๕๙๘/๓๙ เมื่อผู้มีส่วนได้เสียแสดงว่ำพฤติกำรณ์ รำยได้ หรือฐำนะของ
คู่กรณีได้เปลี่ยนแปลงไป ศำลจะสั่งแก้ไขในเรืก่อำงค่ำอุปกำระเลี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้ยกงดูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โดยให้เพิกถอน ลด เพิกำ่ม หรือกลับ
ให้ค่ำอุปกำระเลี้ยงดูอีกก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณีกำที่ศำลไม่พิพำกษำให้ ค่ำอุปกำระเลี้ยงดู เพรำะเหตุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ แต่เพียสำนั
งอีกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ฝ่ำยหนึ่งไม่อยู่ กำ
ในฐำนะที่จะให้ค่ำอุปกำระเลี้ยงดูได้ในขณะนั้น หำกพฤติกำรณ์ รำยได้ หรือฐำนะของอีกฝ่ำยหนึ่งนั้น
ได้เปลี่ยนแปลงไปสำนัและพฤติ กำรณ์รำยได้หรือกฐำนะของผู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้เรียสกร้
ำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งอยู่ในสภำพที่ควรได้รกับำค่ำอุปกำระ
เลี้ยงดู ผู้เรียกร้องอำจร้องขอให้ศำลเปลี่ยนแปลงคำสั่งในคดีนั้นใหม่ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๙๘/๔๐ ค่ำอุปกำระเลี้ยงดูนั้นให้ชำระเป็นเงินโดยวิธีชำระเป็นครั้งครำว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตำมกำหนด เว้นแต่คู่กรณีจะตกลงกันให้ชำระเป็นอย่ำงอื่นหรื อโดยวิธีอื่น ถ้ำไม่มีกำรตกลงกันและมี
สำนักเหตุ พิเศษ เมื่อฝ่ำยใดฝ่ำกยหนึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่งร้องขอและศำลเห็ นสมควร จะกำหนดให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ค่ำอุปกำระเลี
สำนั้ยกงดู เป็นอย่ำงอื่น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หรือโดยวิธีอื่น โดยจะให้ชำระเป็นเงินด้วยหรือไม่ก็ได้
สในกรณี ขอค่ำอุปกำระเลี้ยงดูกำบุตร เมื่อมีเหตุ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัพกิเศษและศำลเห็ นเป็นกำรสมควรเพื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่อ
ประโยชน์แก่บุตร จะกำหนดให้บุตรได้รับกำรอุปกำระเลี้ยงดูโดยประกำรใด ๆ นอกจำกที่คู่กรณีตกลง
สำนักกังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น หรือนอกจำกที่ฝ่ำยใดฝ่กำ ำยหนึ่งร้องขอก็
สำนักไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้ เช่นให้ไปอยู่ในสถำนกำรศึ
กำ กษำหรือสวิำนัชำชี พ โดยให้ผู้ที่มี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หน้ำที่ต้องชำระค่ำอุปกำระเลี้ยงดูออกค่ำใช้จ่ำยในกำรนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕๙๘/๔๑ สิทธิที่จะได้ค่ำอุปกำระเลี้ยงดูนั้น จะสละหรือโอนมิได้และไม่
สำนักอยู ่ในข่ำยแห่งกำรบังคับกคดี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


- ๒๘๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

พระรำชบัญญัติ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ให้ใช้บทบัญสญั
ำนัตกิบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รรพ ๖ แห่งประมวลกฎหมำย
กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แพ่งและพำณิชย์ พุทธศักรำช ๒๔๗๗
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


ในพระปรมำภิไธยสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวอำนันทมหิดล
คณะผู้สำเร็กจำรำชกำรแทนพระองค์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ตำมประกำศประธำนสภำผู้แทนรำษฎร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ลงวันทีส่ ๗ำนัมีกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำคม พุทธศักรำช ๒๔๗๗)กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนุวัตน์จำตุรนต์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อำทิ
กำตย์ทิพอำภำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เจ้ำพระยำยมรำช
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ตรำไว้ ณ วัสนำนั
ที่ ก๕งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มิถุนำยน พุทธศักรำชกำ๒๔๗๘ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เป็นปีที่ ๒ ในรัชชกำลปัจจุบัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
โดยที่สกำภำผู้แทนรำษฎรลงมติ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ว่ำ กำรประมวลกฎหมำยแห่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งบ้ำนเมื
สำนัอกงได้ ดำเนินมำถึง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ครำวที่ควรใช้บรรพ ๖ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จึ่งมีพระบรมรำชโองกำรให้ตรำพระรำชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ
สำนักสภำผู ้แทนรำษฎร ดั่งต่อกไปนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑ พระรำชบัญญัตกินำี้ให้เรียกว่ำ “พระรำชบั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญญัติให้ใช้บทบัญกญัำ ติบรรพ ๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ พุทธศักรำช ๒๔๗๗”
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๑๙๘ ให้ใช้พระรำชบัญญัตินี้ ตั้งแต่วันประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ ๓ ให้ เพิ่ ม บทบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญั ติ บรรพ ๖ ตั้ งแต่มกำำตรำ ๑๕๙๙สำนั
ถึงกมำตรำ ๑๗๕๕
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ตำมที่ได้ตรำไว้ต่อท้ำยพระรำชบัญญัตินี้เข้ำเป็นส่วนหนึ่งแห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ และ
ให้ใช้บทบัญญัติแสห่ำนั
งบรรพนี ้ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลำคม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พุทธศักรำชสำนั๒๔๗๘ เป็นต้นไป
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๔๑๙๙ (ยกเลิกส)ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้รับสนองพระบรมรำชโองกำร
นำยพันเอก พระยำพหลพลพยุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สหำนั
เสนำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ส๑๙๘
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๕๒/-/หน้ำ ๕๒๙/๗ มิถุนำยน ๒๔๗๘
๑๙๙
มำตรำ ๔ ยกเลิกโดยพระรำชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระรำชบัญญัติไห้ไช้บทบัญญัติบัพ ๖
สำนักแห่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
งประมวนกดหมำยแพ่งและพำนิ ช พุทธสัสกำนั
รำชกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๒๔๗๗ พุทธสักรำช ๒๔๘๖กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๘๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

นำยกรัฐมนตรี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


- ๒๘๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

พระรำชกำหนด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำแก้ไขเพิ่มเติมสพระรำชบั ญญัติไห้ไช้บทบัญกญัำติบัพ ๖ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แห่งประมวนกดหมำยแพ่งและพำนิช พุทธสักรำช ๒๔๗๗
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีพุทธสั
กำกรำช ๒๔๘๖สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


ในพระปรมำภิไธยสมเด็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จพระเจ้ำอยูส่หำนั
ัวอำนั นทมหิดล
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
คณะผู้สำเร็จรำชกำรแทนพระองค์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ (ตำมประกำศประธำนสภำผู ้แทนรำษฎร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลงวันที่ ๔ สิงหำคม พุทธศักรำช ๒๔๘๐
และวันที่ ๑๖ ธันกวำคม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ พุทธศักสรำชำนัก๒๔๘๔)งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อำทิตย์ทิพอำภำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักปรี ดี พนมยงค์
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตรำไว้ ณ วันที่ ๑๙ มิถุนำยน พุทธศักรำช ๒๔๘๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เป็นปีที่ ๑๐ ในรัชกำลปัจสจุำนับกันงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
โดยที่เห็ นสมควรขยำยกำรใช้บทบัญญัติบรรพ ๖ แห่ งประมวลกฎหมำยแพ่งและ
พำณิชย์ให้ทั่วถึง สเพืำนั่อกควำมมั ่นคงและวัฒนธรรมแห่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งชำติ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

และโดยที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่มีเหตุฉุกเฉิสนำนั
ซึ่งกจะเรี ยกประชุมสภำผู้แทนรำษฎรให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ทันสท่ำนั
วงที มิได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สจึำนั
งมีกพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระบรมรำชโองกำรให้กตำรำพระรำชกำหนดขึ ้นไว้ โดยอำศัยอำนำจตำมควำมใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
มำตรำ ๕๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย ดังต่อไปนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑ พระรำชก ำหนดนี้ ใ ห้ เรี ย กว่ ำ “พระรำชก ำหนดแก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระรำชบัญญัติไห้ไช้บทบัญญัติบัพ ๖ แห่งประมวนกดหมำยแพ่งและพำนิช พุทธสักรำช ๒๔๗๗ พุทธ
สำนักสังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กรำช ๒๔๘๖” กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒ ให้ใช้พระรำชกกำหนดนี ้ตั้งแต่วสันำนั


ประกำศในรำชกิ จจำนุเบกษำเป็
กำ นต้นไป
๒๐๐
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๓ ให้ยกเลิกสมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๔ แห่งพระรำชบัญกญัำ ติให้ใช้บ ทบัสญำนัญักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ิบรรพ ๖ แห่ง กำ
ประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ พุทธศักรำช ๒๔๗๗
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ผู้รับสนองพระบรมรำชโองกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จอมพล ป. สพิำนับูลกสงครำม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๒๐๐ กำ สำนั
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ ม ก๖๐/ตอนที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มิถุนำยน ๒๔๘๖
่ ๓๒/หน้ำ ๑๐๙๒/๑๙ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๘๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

นำยกรัฐมนตรี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระรำชบัญญัติอนุมัติพระรำชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระรำชบัญญัติไห้ไช้บทบัญญัติบัพ ๖ แห่งประมวน
กดหมำยแพ่งและพำนิ
สำนักชงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พุทธสักรำช ๒๔๗๗ กพุำทธสักรำช ๒๔๘๖ พุทธสักรำช ๒๔๘๖๒๐๑กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๒๐๑ กำ สำนั
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ ม ก๖๐/ตอนที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กันยำยน ๒๔๘๖
่ ๔๗/หน้ำ ๑๓๔๕/๑๔ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๘๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

บรรพ ๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ มรดก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทเบ็ดเสร็จทั่วไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรตกทอดแห่งทรัพย์มรดก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๕๙๙ เมื่อบุสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี คคลใดตำย มรดกของบุคคลนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นตกทอดแก่สทำนั
ำยำท
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทำยำทอำจเสียไปซึ่งสิทธิในมรดกได้แต่โดยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมำยนี้หรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กฎหมำยอื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๐๐ ภำยใต้บังคับของบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมำยนี้ กองมรดกของ
ผู้ ต ำยได้ แ ก่ ท รั พสย์ำนั
สิ นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทุ ก ชนิ ด ของผู้ ต ำย ตลอดทั
กำ ้ งสิ ท ธิ ห น้สำำนัทีก่ แงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ละควำมรับ ผิ ด ต่ ำง ๆกำเว้น แต่ ต ำม
กฎหมำยหรือว่ำโดยสภำพแล้ว เป็นกำรเฉพำะตัวของผู้ตำยโดยแท้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๐๑ ทำยำทไม่จำต้องรับผิดเกินกว่ำทรัพย์มรดกที่ตกทอดได้แก่ตน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๐๒ เมื่อบุคคลใดต้องถือว่ำถึงแก่ควำมตำยตำมควำมในมำตรำ ๖๒ แห่ง
สำนักประมวลกฎหมำยนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ มรดกของบุ
กำ คคลนั้นสำนั
ตกทอดแก่ ทำยำท
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำพิสูจน์ได้ว่ำบุคคลนั้นยังคงมีชีวิตอยู่ หรือตำยในเวลำอื่นผิดไปจำกเวลำดังระบุไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในคำสั่งที่สั่งให้เป็นคนสำบสูญ ให้ใช้บทบัญญั ติมำตรำ ๖๓ แห่งประมวลกฎหมำยนี้บังคับแก่ทำยำท
สำนักของบุ คคลนั้น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
[เลขมำตรำ ๖๒ มำตรำ ๖๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมำตรำ ๑๕ แห่งพระรำชบัญญัติให้ใช้
บทบัญญัติบรรพ ส๑ำนัแห่ งประมวลกฎหมำยแพ่กงำและพำณิชย์ทสี่ไำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ด้ตกรวจช ำระใหม่ พ.ศ. ๒๕๓๕]
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๑๖๐๓ กองมรดกย่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อมตกทอดแก่ทำยำทโดยสิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ทธิตำมกฎหมำยหรื อโดย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พินัยกรรม
สทำยำทที ่มีสิทธิตำมกฎหมำยกำเรียกว่ำ “ทำยำทโดยธรรม”
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทำยำทที่มีสิทธิตำมพินัยกรรม เรียกว่ำ “ผู้รับพินัยกรรม”
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๒ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรเป็นทำยำท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๘๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๖๐๔ บุคคลธรรมดำจะเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นทำยำทได้กก็ตำ ่อเมื่อมีสภำพบุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัคกคลหรื อสำมำรถ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
มีสิทธิได้ตำมมำตรำ ๑๕ แห่งประมวลกฎหมำยนี้ ในเวลำที่เจ้ำมรดกถึงแก่ควำมตำย
สเพื
ำนั่อกประโยชน์ แห่งมำตรำนี้ กให้ำ ถือว่ำเด็กที่เสกิำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดมำรอดอยู ่ภำยในสำมร้อยสิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บวันนับแต่
เวลำที่เจ้ำมรดกถึงแก่ควำมตำยนั้น เป็นทำรกในครรภ์มำรดำอยู่ในเวลำที่เจ้ำมรดกถึงแก่ควำมตำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๐๕ ทำยำทคนใดยั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กย้ำย หรือสปิำนั
ดบักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทรัพย์มรดกเท่ำส่ วนทีก่ตำนจะได้หรือ
มำกกว่ำนั้นโดยฉ้อฉลหรือรู้อยู่ว่ำ ตนทำให้เสื่อมประโยชน์ของทำยำทคนอื่น ทำยำทคนนั้นต้องถูก
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำจัดมิให้ได้มรดกเลย กแต่ำ ถ้ำได้ยักย้ำยหรื สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ปิดบังทรัพย์มรดกน้อยกว่ กำ ำส่วนที่ตนจะได้ ทำยำทคนนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ต้องถูกกำจัดมิให้ได้มรดกเฉพำะส่วนที่ได้ยักย้ำยหรือปิดบังไว้นั้น
สมำตรำนี ้ มิให้ ใช้บั งคับ แก่ผู้รกับำ พินัยกรรม สซึำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งผูก้ ตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยได้ทำพินัยกรรมยกทรั
กำ พย์สิ นให้
เฉพำะสิ่งเฉพำะอย่ำง ในอันที่จะได้รับทรัพย์สินนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๐๖ บุคคลดังต่อไปนี้ต้องถูกกำจัดมิให้รับมรดกฐำนเป็นผู้ไม่สมควร คือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ผู้ที่ต้องคำพิพำกษำถึงที่สุดว่ำได้เจตนำกระท ำ หรือพยำยำมกระทำให้เจ้ำมรดก
สำนักหรื อผู้มีสิทธิได้รับมรดกก่กอำ นตนถึงแก่ควำมตำยโดยมิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ชอบด้วยกฎหมำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ผู้ที่ได้ฟ้องเจ้ำมรดกหำว่ำทำควำมผิดโทษประหำรชีวิตและตนเองกลับต้องคำ
พิพำกษำถึงที่สุดว่สำำนัมีกคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วำมผิดฐำนฟ้องเท็จหรืกอำทำพยำนเท็จสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ผู้ที่รู้แล้วว่ำ เจ้ำมรดกถูกฆ่ำโดยเจตนำ แต่มิได้นำข้อควำมนั้นขึ้นร้องเรียนเพื่อ
สำนักเป็ นทำงที่จะเอำตัวผู้กระท
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำผิดมำลงโทษ สำนักแต่ ข้อนี้มิให้ใช้บังคับถ้ำกบุำ คคลนั้นมีอำยุสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยังกไม่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ครบสิบหกปี กำ
บริบูรณ์ หรือเป็นคนวิกลจริตไม่สำมำรถรู้ผิดชอบ หรือถ้ำผู้ที่ฆ่ำนั้นเป็นสำมีภริยำหรือผู้บุพกำรีหรือ
ผู้สืบสันดำนของตนโดยตรง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ผู้ที่ฉ้อฉลหรือข่มขู่ให้เจ้ำมรดกทำ หรือเพิกถอน หรือเปลี่ยนแปลงพินัยกรรมแต่
สำนักบำงส่ วนหรือทั้งหมดซึ่งเกี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่ยวกับทรัพย์มสรดก หรือไม่ให้กระทำกำรดักงำกล่ำวนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
(๕) ผู้ที่ปลอม ทำลำย หรือปิดบังพินัยกรรมแต่บำงส่วนหรือทั้งหมด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เจ้ำมรดกอำจถอนข้อกำจัดฐำนเป็นผู้ไม่สมควรเสียก็ได้โดยให้อภัยไว้เป็นลำยลักษณ์
สำนักอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กษร กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๐๗ กำรถูกกำจักำดมิให้รับมรดกนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นกำรเฉพำะตัว ผู้สืบกำสันดำนของ
ทำยำทที่ถูกกำจัดสืบมรดกต่อไปเหมือนหนึ่งว่ำทำยำทนั้นตำยแล้ว แต่ในส่วนทรัพย์สินซึ่งผู้สืบสันดำน
สำนักได้ รับ มรดกมำเช่น นี้ ทำยำทที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ว่ำนั้น ไม่สำนั
มีสกิทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ธิที่จะจั ดกำรและใช้ดกังำ ที่ระบุไว้ในบรรพ ๕ ลักษณะ ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หมวด ๓ แห่งประมวลกฎหมำยนี้ ในกรณีเช่นนั้นให้ใช้มำตรำ ๑๕๔๘ บังคับโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักำรตั ดมิให้รับมรดก กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๖๐๘ เจ้ำมรดกจะตั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดทำยำทโดยธรรมของตนคนใดมิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สใำนั
ห้รกับงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มรดกก็ได้แต่ กำ
- ๒๘๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ด้วยแสดงเจตนำชัดแจ้ง
(๑) โดยพิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นัยกรรม สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) โดยทำเป็นหนังสือมอบไว้แก่พนักงำนเจ้ำหน้ำที่
สตัำนั
วทำยำทผู ้ถูกตัดมิให้รับมรดกนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นต้องระบุสไว้ำนัให้กชงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัดเจน กำ
แต่เมื่อบุคคลใดได้ทำพินัยกรรมจำหน่ำยทรัพย์มรดกเสียทั้งหมดแล้ว ให้ถือว่ำบรรดำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทำยำทโดยธรรมผู้ที่มิได้รับประโยชน์จำกพินัยกรรม เป็นผู้ถูกตัดมิให้รับมรดก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๐๙ กำรแสดงเจตนำตัดมิให้รับมรดกนั้นจะถอนเสียก็ได้
ถ้ำกำรตั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ด มิให้ รับ มรดกนั
สำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้ทำโดยพินัยกรรมกจะถอนเสี
ำ ยได้สกำนั
็แต่กโงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดยพินัยกรรม กำ
เท่ำนั้น แต่ถ้ำกำรตัดมิให้รับมรดกได้ทำเป็นหนังสือมอบไว้แก่พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ กำรถอนจะทำตำม
แบบใดแบบหนึ่งดัสงำนับัญ ญัติไว้ในมำตรำ ๑๖๐๘กำ(๑) หรือ (๒) สก็ำนัได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรสละมรดกและอื่น ๆ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๖๑๐ ถ้ ำมรดกตกทอดแก่ผู้ เยำว์ หรือบุ คคลวิกลจริต หรือบุ ค คลผู้ ไม่
สำมำรถจะจัดทำกำรงำนของตนเองได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ตำมควำมหมำยแห่
กำ งมำตรำ ๓๒ แห่งประมวลกฎหมำยนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ และ
บุคคลนั้นยังไม่มีผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้อนุบำล หรือผู้พิทักษ์ เมื่ อผู้มีส่วนได้เสีย หรือพนักงำน
สำนักอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยกำรร้องขอ ก็ให้ศำลตัก้งำผู้ปกครอง ผูส้อำนั
นุบกำล หรือผู้พิทักษ์ แล้วแต่กกำ รณี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
[เลขมำตรำ ๓๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมำตรำ ๑๕ แห่งพระรำชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติ
บรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิกชำย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี พ.ศ. ๒๕๓๕]
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๑๖๑๑ ทำยำทซึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งเป็นผู้เยำว์ บุคคลวิกกลจริ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ต หรือบุ คสคลผู ้ไม่สำมำรถจะ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จั ดท ำกำรงำนของตนเองได้ ตำมควำมหมำยแห่ งมำตรำ ๓๒ แห่ งประมวลกฎหมำยนี้ จะท ำกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ดังต่ อไปนี้ ไม่ได้ เว้น แต่จ ะได้รั บ ควำมยิน ยอมของบิ ด ำมำรดำ ผู้ ป กครอง ผู้ อ นุ บ ำล หรือผู้ พิ ทั ก ษ์
สำนักแล้ วแต่กรณี และได้รับอนุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มัติจำกศำลแล้ วคืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนั สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) สละมรดก
ส(๒)
ำนักรังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บมรดกอันมีค่ำภำระติกดำพันหรือเงื่อนไข สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
[เลขมำตรำ ๓๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมำตรำ ๑๕ แห่งพระรำชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติ
สำนักบรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งและพำณิ ชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่กำพ.ศ. ๒๕๓๕]สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สมำตรำ ๑๖๑๒ กำรสละมรดกนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้น ต้องแสดงเจตนำชั ดแจ้งเป็นหนังกสืำอมอบไว้แก่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ หรือทำเป็นสัญญำประนีประนอมยอมควำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๑๓ กำรสละมรดกนั้น จะทำแต่สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เพีกยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งบำงส่วน หรือทำโดยมีกเำงื่อนไข หรือ
เงื่อนเวลำไม่ได้
กำรสละมรดกนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้น จะถอนเสี ยมิได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๘๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๖๑๔ ถ้ำทำยำทสละมรดกด้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วยวิธีใดโดยที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่รู้อยู่ว่ำกำรทีส่ำนั
ทำเช่ นนั้นจะทำให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เจ้ำหนี้ของตนเสียเปรียบ เจ้ำหนี้มีสิทธิที่จะร้องขอให้เพิกถอนกำรสละมรดกนั้นเสียได้ แต่ควำมข้อนี้มิ
ให้ใช้บังคับ ถ้ำปรำกฏว่ ำในขณะที่สละมรดกนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ น บุค คลซึ่ งสเป็
ำนันกผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ ได้ล ำภงอกแต่กำรนั้นกมิำ ได้รู้เท่ำถึง
ข้อควำมจริงอันเป็นทำงให้เจ้ำหนี้ต้องเสียเปรียบนั้นด้วย แต่หำกกรณีเป็นกำรสละมรดกโดยเสน่หำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เพียงแต่ทำยำทผู้สละมรดกเป็นผู้รู้ฝ่ำยเดียวเท่ำนั้นก็พอแล้ว ที่จะขอเพิกถอนได้
สเมืำนั่อกได้ เพิกถอนกำรสละมรดกแล้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ว เจ้ำหนีส้จำนัะร้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องขอให้ศำลสั่ง เพื่อให้กตำ นรับมรดก
แทนที่ทำยำทและในสิทธิของทำยำทนั้นก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีในกรณีกำเช่นนี้ เมื่อได้ชสำระหนี ้ของทำยำทนั้นให้แก่กเำจ้ำหนี้แล้ว ถ้ำสส่ำนัวนของทำยำทนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี้น กำ
ยังมีเหลืออยู่อีก ก็ให้ได้แก่ผู้สืบสันดำนของทำยำทนั้น หรือทำยำทอื่นของเจ้ำมรดก แล้วแต่กรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๑๕ กำรที่ทำยำทสละมรดกนั้น มีผลย้อนหลังไปถึงเวลำที่เจ้ำมรดกตำย
เมื่อทำยำทโดยธรรมคนใดสละมรดก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ผู้สืบสันดำนของทำยำทคนนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนั้นกสืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บมรดกได้ตำม กำ
สิทธิของตน และชอบที่จะได้รับส่วนแบ่งเท่ำกับส่วนแบ่งที่ผู้สละมรดกนั้นจะได้รับ แต่ผู้สืบสันดำนนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ต้องไม่ใช่ผู้ที่บิดำมำรดำ ผู้ปกครอง หรือผู้อนุบำล แล้วแต่กรณี ได้บอกสละมรดกโดยสมบูรณ์ในนำม
สำนักของผู ้สืบสันดำนนั้น กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๑๖ ถ้ำผู้ สื บสั นกำดำนของผู้ สละมรดกได้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มรดกมำดังกล่ ำวไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ในมำตรำ
๑๖๑๕ แล้ว ผู้ที่ได้สละมรดกนั้นไม่มีสิทธิในส่วนทรัพย์สินอันผู้สืบสันดำนของตนได้รับมรดกมำ ในอัน
สำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่จะจัดกำรและใช้ดังทีก่รำะบุไว้ในบรรพสำนั๕กลังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กษณะ ๒ หมวด ๓ แห่ กำ งประมวลกฎหมำยนี ้ และให้ใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
มำตรำ ๑๕๔๘ บังคับโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๑๗ ผู้รับพินัยกรรมคนใดสละมรดก ผู้นั้นรวมตลอดทั้งผู้สืบสันดำนไม่มี
สำนักสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทธิจะรับมรดกที่ได้สละแล้
กำ วนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๑๘ ถ้ำทำยำทโดยธรรมผู้ที่ได้สละมรดกไม่มีผู้สืบสันดำนที่จะรับมรดกได้
สำนักหรื อผู้รับพินัยกรรมได้สกละมรดก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ให้ปันสส่ำนัวนแบ่ งของผู้ที่ได้สละมรดกนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้น ๆ แก่ทำยำทอื
สำนัก่นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของเจ้ ำมรดก กำ
ต่อไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๑๙ ผู้ใดจะสละหรือจำหน่ำยจ่ำยโอนโดยประกำรใด ซึ่งสิทธิอันหำกจะมี
สำนักในภำยหน้ ำในกำรสืบมรดกผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ที่ยังมีชีวิตสอยู
ำนั่นกั้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไม่ได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกลัำกษณะ ๒ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สิทธิโดยธรรมในกำรรับมรดก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนับทเบ็ ดเสร็จทั่วไป
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๘๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๖๒๐ ถ้ำผู้ใดตำยโดยไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้หรือทำพิ นัยกรรมไว้แต่ไม่มีผล
บังคับได้ ให้ปันทรัสพำนัย์กมงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รดกทั้งหมดแก่ทำยำทโดยธรรมของผู
กำ ส้ตำนั
ำยนั ้นตำมกฎหมำย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ถ้ำผู้ใดตำยโดยได้ทำพินัยกรรมไว้ แต่พินัยกรรมนั้นจำหน่ำยทรัพย์หรือมีผลบังคับได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แต่เพียงบำงส่วนแห่งทรัพย์มรดก ให้ปันส่วนที่มิได้จำหน่ำยโดยพินัยกรรม หรือส่วนที่พินัยกรรมไม่มี
ผลบังคับให้แก่ทำยำทโดยธรรมตำมกฎหมำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๖๒๑ เว้นแต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัผกู้ทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำพินัยกรรมจะได้แสดงเจตนำก
กำ ำหนดไว้
สำนัในพิ นัยกรรมเป็น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อย่ำงอื่น แม้ทำยำทโดยธรรมคนใดจะได้รับทรัพย์สินอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดตำมพินัยกรรม ทำยำทคนนั้นก็
ยังมีสิทธิที่จะเรียสกเอำส่ วนโดยธรรมของตนจำกทรั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พย์มรดกส่
สำนัวนที ่ยังไม่ได้จำหน่ำยโดยพิกำนัยกรรมจน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เต็มอีกก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๒๒ พระภิกษุนั้น จะเรียกร้องเอำทรัพย์มรดกในฐำนะที่เป็นทำยำทโดย
ธรรมไม่ได้ เว้นแต่จะได้สึกจำกสมณเพศมำเรียกร้องภำยในกสำหนดอำยุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมตำมมำตรำ ๑๗๕๔
แต่พระภิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กษุนั้น อำจเป็
สำนันกผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้รับพินัยกรรมได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๒๓ ทรัพย์สินของพระภิ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กษุที่ไสด้ำนัมกำในระหว่ ำงเวลำที่อยู่ในสมณเพศนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้น
เมื่อพระภิกษุนั้นถึงแก่มรณภำพให้ตกเป็นสมบัติของวัดที่เป็นภูมิลำเนำของพระภิกษุนั้น เว้นไว้แต่
สำนักพระภิ กษุนั้นจะได้จำหน่กำำยไปในระหว่ำสงชีำนัวกิตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หรือโดยพินัยกรรม กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๒๔ ทรัพย์สินใดเป็


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นของบุคคลก่ อนอุ
สำนั ปสมบทเป็นพระภิกษุกทรั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ พย์สินนั้น
หำตกเป็นสมบัติของวัดไม่ และให้เป็นมรดกตกทอดแก่ทำยำทโดยธรรมของบุคคลนั้น หรือบุคคลนั้น
สำนักจะจ ำหน่ำยโดยประกำรใดตำมกฎหมำยก็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนัได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๒๕ ถ้ำผู้ ตำยเป็นผู้ ส มรสแล้ ว กำรคิดส่ ว นแบ่งและกำรปัน ทรัพ ย์สิ น
สำนักระหว่ ำงผู้ตำยกับคู่สมรสที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ยังมีชีวิตอยู่นสั้นำนัให้กเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ป็นไปดังนี้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ในเรื่องส่วนแบ่งในทรัพย์สินระหว่ำงสำมีภริยำให้อยู่ในบังคับของบทบัญญัติแห่ง
ประมวลกฎหมำยนี สำนั้ วก่ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้ว ยกำรหย่ำโดยยินยอมทั กำ ้ งสองฝ่ ำสยำนัอักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มีบทบัญ ญั ติเพิ่มเติมให้
กำบ ริบู รณ์ ใน
มำตรำ ๑๖๓๗ และ ๑๖๓๘ และโดยเฉพำะต้องอยู่ในบังคับแห่ งมำตรำ ๑๕๑๓ ถึง ๑๕๑๗ แห่ ง
สำนักประมวลกฎหมำยนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ แต่กกำำรคิดส่วนแบ่งสนัำนั้นกมีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผลตั้งแต่วันที่กำรสมรสได้
กำ สิ้นไปด้วยเหตุ ควำมตำยนั
สำนั ้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๒) ในเรื่องส่ว นแบ่ งในทรัพย์มรดกของผู้ตำย ให้ อยู่ในบังคับของบทบัญญั ติแห่ ง
บรรพนี้ นอกจำกมำตรำ ๑๖๓๗ และ ๑๖๓๘กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๖๒๖ เมื่อสได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัปกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ฏิบัติตำมมำตรำ ๑๖๒๕กำ (๑) แล้ว ให้สคำนัิดกส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วนแบ่งทรัพย์ กำ
มรดกระหว่ำงทำยำทโดยธรรม ดังต่อไปนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ทรั พ ย์ มรดกนั้ น ให้ แบ่ งแก่ท ำยำทตำมล ำดับและชั้น ต่ำง ๆ ดังที่ บัญ ญั ติ ไว้ใน
สำนักหมวด ๒ แห่งลักษณะนีก้ ำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๘๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๒) ส่วนแบ่งอันจะได้แก่ทำยำทในลำดับและชั้นต่ำง ๆ นั้น ให้แบ่งในระหว่ำงบรรดำ


สำนักทำยำทในล ำดับและชั้นนักำ้น ๆ ดังที่บัญญัสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ติไกว้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ในหมวด ๓ แห่งลักษณะนี
กำ ้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๒๗ บุตรนอกกฎหมำยที


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่บิดำได้สำนัรับกรองแล้ วและบุตรบุญธรรมนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้น ให้ถือ
ว่ำเป็นผู้สืบสันดำน เหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมำย ตำมควำมหมำยแห่งประมวลกฎหมำยนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๒๘ สำมีภริยำทีกำ่ร้ำงกัน หรือแยกกั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อยู่โดยยังมิได้หย่ำขำดจำกกั
กำ นตำม
กฎหมำย มิได้สิ้นไปซึ่งสิทธิโดยธรรมในกำรสืบมรดกซึ่งกันและกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๒
กำรแบ่งทรัพกย์ำมรดกระหว่ำสงทำยำท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
โดยธรรมในลำดับและชั้นต่ำง ๆ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๒๙ ทำยำทโดยธรรมมีหกลำดัสำนั กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บเท่ ำนั้น และภำยใต้บังคับแห่งมำตรำ
สำนัก๑๖๓๐ วรรค ๒ แต่ละลกำดั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บมีสิทธิได้รสับำนั
มรดกก่ อนหลังดังต่อไปนี้ คืกอำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ผู้สืบสันดำน
ส(๒)
ำนักบิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดำมำรดำ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) พี่น้องร่วมบิดำมำรดำเดียวกัน
(๔) พีก่นำ้องร่วมบิดำหรืสอำนัร่วกมมำรดำเดี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยวกัน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) ปู่ ย่ำ ตำ ยำย
ส(๖)
ำนักลุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ง ป้ำ น้ำ อำ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นก็เป็นทำยำทโดยธรรม ภำยใต้บังคับของบทบัญญัติพิเศษ
สำนักแห่ งมำตรำ ๑๖๓๕ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๓๐ ตรำบใดที่มีทำยำทซึ่งยังมีชีวิตอยู่ หรือมีผู้รับมรดกแทนที่ยังไม่ขำด
สำนักสำย แล้วแต่กรณี ในลำดั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำบหนึ่ง ๆ ที่ระบุ
สำนัไว้กใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นมำตรำ ๑๖๒๙ ทำยำทผู กำ ้ที่อยู่ในลำดัสำนั
บถักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ลงไปไม่มีสิทธิ กำ
ในทรัพย์มรดกของผู้ตำยเลย
สแต่
ำนัคกวำมในวรรคก่ อนนี้มิให้กใช้ำ บังคับในกรณีสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เฉพำะที ่มีผู้สืบสันดำนคนใดยั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งมีชีวิตอยู่
หรือมีผู้รับมรดกแทนที่กัน แล้วแต่กรณี และมีบิดำมำรดำยังมีชีวิตอยู่ ในกรณีเช่นนั้นให้บิดำมำรดำได้
สำนักส่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วนแบ่งเสมือนหนึ่งว่ำเป็กำนทำยำทชั้นบุสตำนัร กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๓๑ ในระหว่ำงผูกำ้สืบสันดำนต่ำสงชัำนั้นกกังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นนั้น บุตรของเจ้ำมรดกอั
กำ นอยู่ในชั้น
สนิทที่สุดเท่ำนั้นมีสิทธิรับมรดก ผู้สืบสันดำนที่อยู่ในชั้นถัดลงไปจะรับมรดกได้ก็แต่โดยอำศัยสิทธิใน
สำนักกำรรั บมรดกแทนที่ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กำรแบ่สงส่ำนัวกนมรดกของทำยำทโดยธรรม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๙๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ในลำดับและชั้นต่ำง ๆ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำส่วนที่ ๑ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ญำติ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๓๒ ภำยใต้บังคับแห่งมำตรำ ๑๖๒๙ วรรคสุดท้ำย กำรแบ่งส่วนมรดก
สำนักของทำยำทโดยธรรมในล
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำำดับญำติให้เป็สนำนัไปตำมบทบั ญญัติในส่วนทีก่ ำ๑ แห่งหมวดนีส้ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สมำตรำ ๑๖๓๓ ทำยำทโดยธรรมในล


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำดัสบำนัเดีกยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วกัน ในล ำดับ หนึ่ง ๆกำที่ระบุไว้ใน
มำตรำ ๑๖๒๙ นั้น ชอบที่จะได้รับส่วนแบ่งเท่ำกัน ถ้ำในลำดับหนึ่งมีทำยำทโดยธรรมคนเดียว ทำยำท
สำนักโดยธรรมคนนั ้นมีสิทธิได้กรำับส่วนแบ่งทั้งสหมด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๓๔ ระหว่ำงผู้สืบสันดำนที่รับมรดกแทนที ่กันในส่วนแบ่งของสำยหนึ่ง ๆ
สำนักตำมบทบั ญญัติในลักษณะ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๒ หมวด ๔ สนัำนั ้นกให้ ได้รับส่วนแบ่งมรดกดักงำนี้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ถ้ำมีผู้สืบสันดำนต่ำงชั้นกัน บุตรของผู้ตำยซึ่งอยู่ในชั้นสนิทที่สุดเท่ำนั้นมีสิทธิรับ
มรดก ผู้สืบสันดำนในชั ้นถัดลงไปจะรับมรดกได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำก็แต่โดยอำศัยสสิำนัทกธิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ในกำรรับมรดกแทนที่ กำ
(๒) ผู้สืบสันดำนในชั้นเดียวกันได้รับส่วนแบ่งเท่ำกัน
(๓) ถ้กำำในชั้นหนึ่ งมีผสู้ สำนัืบกสังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นดำนคนเดียว ผู้ สืบสักนำดำนคนนั้นมีสสำนั ิ ทธิกไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้รับส่วนแบ่ง กำ
ทั้งหมด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ คู่สมรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๖๓๕ ลำดัสบำนัและส่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วนแบ่งของคู่สมรสที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ยังมีชีวิตอยู่ใสนกำรรั บมรดกของ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้ตำยนั้น ให้เป็นไปดังต่อไปนี้
ส(๑)
ำนักถ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำมี ท ำยำทตำมมำตรำ กำ ๑๖๒๙ (๑)สำนั
ซึ่ งกยังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งมี ชี วิต อยู่ ห รือ มี ผู้ รับกมรดกแทนที
ำ ่
แล้วแต่กรณี คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น มีสิทธิได้ส่วนแบ่งเสมือนหนึ่งว่ำตนเป็นทำยำทชั้นบุตร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๒) ถ้ำกมีำ ทำยำทตำมมำตรำ ๑๖๒๙ (๓) และทำยำทนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นยังมีชีวิตสอยู ำนั่ หกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รือมีผู้รับมรดก กำ
แทนที่ หรือถ้ำไม่มีทำยำทตำมมำตรำ ๑๖๒๙ (๑) แต่มีทำยำทตำมมำตรำ ๑๖๒๙ (๒) แล้วแต่กรณี คู่
สมรสที่ยังมีชีวิตอยูสำนั
่นั้นกมีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สิทธิได้รับมรดกกึ่งหนึก่งำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ถ้ำมีทำยำทตำมมำตรำ ๑๖๒๙ (๔) หรือ (๖) และทำยำทนั้นยังมีชีวิตอยู่ หรือมี
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้รับมรดกแทนที่ หรือมีกทำ ำยำทตำมมำตรำ ๑๖๒๙ (๕) แล้วแต่กกรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ คู่สมรสที่ยสังมีำนัชกีวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิตอยู่ มีสิทธิได้ กำ
มรดกสองส่วนในสำม สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ถ้ำไม่มีทำยำทดังที่ระบุไว้ในมำตรำ ๑๖๒๙ คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นมีสิทธิได้รับ
สำนักมรดกทั ้งหมด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๙๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๖๓๖ ถ้ำเจ้สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำมรดกมี ภริยำที่ชอบด้วยกฎหมำยก่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อนใช้สำนั
ประมวลกฎหมำย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แพ่ งและพำณิ ช ย์ บ รรพ ๕ หลำยคนยั งมีชี วิต อยู่ ภริย ำเหล่ ำนั้ น ทั้ งหมดรวมกัน มีสิ ทธิได้รับ มรดก
ตำมลำดับชั้นและส่
สำนัวกนแบ่ งดังระบุไว้ในมำตรำกำ ๑๖๓๕ แต่ใสนระหว่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำงกันเองให้ภริยำน้อกยแต่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ละคนมี
สิทธิได้รับมรดกกึ่งส่วนที่ภริยำหลวงจะพึงได้รับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๓๗ ถ้ำคู่สมรสฝ่กำำยใดที่ยังมีชีวิตสำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อยูก่เป็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นผู้รับประโยชน์ตำมสักญำ ญำประกัน
ชีวิต คู่สมรสฝ่ำยนั้นมีสิทธิรับจำนวนเงินทั้งหมดที่ได้ตกลงไว้กับผู้รับประกันภัย แต่จำต้องเอำจำนวน
สำนักเบี ้ยประกันภัย เพียงเท่กำำที่พิสูจน์ได้ว่ำสูสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งกว่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำจำนวนเงินที่ผู้ตำยจะพึ
กำงส่งใช้เป็นเบี้ยสำนั
ประกั นภัยได้ ตำม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
รำยได้หรือฐำนะของตนโดยปกติไปชดใช้สินเดิมของคู่สมรสอีกฝ่ำยหนึ่ง หรือสินสมรส แล้วแต่กรณี
สถึำนั
งอย่ ำงไรก็ดี จำนวนเงินเบีกำ้ยประกันภัยซึส่งำนัจะพึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งส่ งคืนตำมบทบัญญักตำ ิข้ำงต้นนั้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รวมทั้งสิ้นต้องไม่เกินจำนวนเงินที่ผู้รับประกันภัยได้ชำระให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๓๘ เมื่อคู่สมรสทั้งสองฝ่ำยได้ลงทุนออกเงินในกำรทำสัญญำ และตำม
สัญญำนั้นทั้งสองฝ่ำยจะต้องได้รับเงินปีในขณะที่ยังมีชีวิตอยูส่รำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
่วมกั น และเมื่อฝ่ำยหนึ่งฝ่ำยใดตำย ฝ่ำย
สำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ยังมีชีวิตอยู่ยังจะต้องได้
กำรับเงินปีต่อไปตลอดอำยุ ฝ่ำยที่ยังมีชีวิตอยู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ จำต้องชดใช้สสำนัินกเดิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มของอีกฝ่ำย กำ
หนึ่ง หรือสินสมรสแล้วแต่กรณี สุดแต่ว่ำได้เอำเงิ นสินเดิม หรือสินสมรสไปใช้ในกำรลงทุนนั้น เงินที่
จะต้องชดใช้สินเดิสมำนัหรืกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อสินสมรสดังว่ำนี้ ให้ชกดใช้
ำ เท่ำจำนวนเงิ นซึกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ่งผู้จ่ำยเงินรำยปีจะเรียกให้ กำ ใช้เพิ่มขึ้น
เป็นพิเศษ เพื่อผู้จ่ำยจะได้จ่ำยเงินรำยปีให้แก่คู่สมรสฝ่ำยที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นต่อไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๔
กำรรับกำมรดกแทนที่กสันำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๖๓๙ ถ้ำบุคคลใดซึ่งจะเป็นทำยำทตำมมำตรำ ๑๖๒๙ (๑) (๓) (๔) หรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๖) ถึงแก่ควำมตำย หรือถูกกำจัดมิให้ รับมรดกก่อนเจ้ำมรดกตำย ถ้ำบุคคลนั้นมีผู้สื บสั นดำนก็ให้
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้สืบสันดำนรับมรดกแทนที
กำ ่ ถ้ำผู้สืบสัสนำนั
ดำนคนใดของบุ คคลนั้นถึงกแก่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ควำมตำยหรื
สำนัอถูกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กกำจัดมิให้รับ กำ
มรดกเช่นเดียวกัน ก็ให้ผู้สืบสันดำนของผู้สืบสันดำนนั้นรับมรดกแทนที่ และให้มีกำรรับมรดกแทนที่
กันเฉพำะส่วนแบ่สงำนั
ของบุ คคลเป็นรำย ๆ สืบต่กอำกันเช่นนี้ไปจนหมดสำย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๖๔๐๒๐๒ เมืสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่อบุกคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คลใดต้องถือว่ำถึงแก่กคำวำมตำยตำมควำมในมำตรำ ๖๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แห่งประมวลกฎหมำยนี้ ให้มีกำรรับมรดกแทนที่กันได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๒๐๒ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เดิมกำรถึงแก่ควำมตำยด้วยเหตุสำบสูญ อยู่ในมำตรำ ๖๕ แต่โดยผลของพระรำชบัญญัติให้
ใช้บทบัญญัติบรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ. ๒๕๓๕ นั้น กำรถึงแก่ควำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตำยด้วยเหตุสำบสูญ อยู่ในมำตรำ ๖๒ แต่โดยที่ มำตรำ ๑๕ แห่ งพระรำชบั ญ ญั ติ ให้ใช้บ ทบั ญ ญั ติบรรพ ๑ แห่ ง
ประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ. ๒๕๓๕ ให้แก้เลขมำตรำ ๖๕ เป็นมำตรำ ๖๒ เฉพำะแต่
สำนักในมำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๑๖๐๒ เท่ำนั้น จึกงำมิได้แก้ไขเลขมำตรำที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ปรำกฏในมำตรำ ๑๖๔๐ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๙๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๖๔๑ ถ้ำบุคคลใดซึ่งจะเป็นทำยำทตำมมำตรำ ๑๖๒๙ (๒) หรือ (๕) ถึงแก่


สำนักควำมตำย หรือถูกกำจัดกมิำให้รับมรดกก่สอำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นเจ้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำมรดกตำย ถ้ำมีทำยำทในล
กำ ำดับเดียวกั นยักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั มีชีวิตอยู่ ก็ให้ กำ
ส่วนแบ่งทั้งหมดตกได้แก่ทำยำทนั้นเท่ำนั้น ห้ำมมิให้มีกำรรับมรดกแทนที่กันต่อไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๔๒ กำรรับมรดกแทนที่กันนั้น ให้ใช้บังคับแต่ในระหว่ำงทำยำทโดยธรรม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๔๓ สิทธิที่จะรักบำ มรดกแทนทีส่กำนัันกนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นได้เฉพำะแก่ผู้สืบสันกดำนโดยตรง

ผู้บุพกำรีหำมีสิทธิดังนั้นไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๔๔ ผู้สืบสันดำนจะรับมรดกแทนที่ได้ต่อเมื่อมีสิทธิบริบูรณ์ในกำรรับ
มรดก สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๖๔๕ กำรที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่บุคกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั คลใดสละมรดกของบุคกคลอี
ำ กคนหนึ่งนัสำนั
้น กไม่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตัดสิทธิของผู้ กำ
สละที่จะรับมรดกแทนที่บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นในกำรสืบมรดกบุคคลอื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ลักษณะ ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พินัยกรรม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทเบ็ดเสร็จทั่วไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๖๔๖ บุคคลใดจะแสดงเจตนำโดยพิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีนกัยำกรรมกำหนดกำรเผื ่อตำยในเรื่อง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทรัพย์สินของตนเอง หรือในกำรต่ำง ๆ อันจะให้เกิดเป็นผลบังคับได้ตำมกฎหมำยเมื่อตนตำยก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๖๔๗ กำรแสดงเจตนำก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำหนดกำรเผืก่อำตำยนั้นย่อมทสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้วยคำสั่งครั้ง กำ
สุดท้ำยกำหนดไว้ในพินัยกรรม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๔๘ พินัยกรรมนั้นต้องทำตำมแบบซึ่งระบุไว้ในหมวด ๒ แห่งลักษณะนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๔๙ ผู้ จั ดกำรมรดกซึ่งผู้ ตำยตั้งไว้ย่อ มมีอำนำจและหน้ ำที่ ในอันที่ จะ
จัดกำรทำศพของผูสำนั
้ตำย เว้นแต่ผู้ตำยจะได้ตั้งบุกคำ คลอื่นไว้โดยเฉพำะให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี จัดกำรดังว่ำนั้น กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถ้ำผู้ตำยมิได้ตั้งผู้จัดกำรมรดกหรือบุคคลใดไว้ให้เป็นผู้จัดกำรทำศพ หรือทำยำทมิได้
สำนักมอบหมำยตั ้งให้บุคคลใดเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นผู้จัดกำรทสำศพ บุคคลผู้ได้รับทรัพย์มรดกโดยพิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นัยกรรมหรื อโดยสิทธิโดย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ธรรมเป็นจำนวนมำกที ่สุด เป็นผู้มีอำนำจและตกอยู่ในหน้ำทีส่ตำนั้อกงจังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ดกำรทำศพ เว้นแต่ศำลจะเห็
กำ
นเป็น
กำรสมควรตั้งบุคคลอื่นให้จัดกำรเช่นนั้น ในเมื่อบุคคลผู้มีส่วนได้เสียคนใดคนหนึ่งร้องขอขึ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๙๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๖๕๐ ค่ำใช้จ่ำยเกิด มีห นี้เป็น คุณ แก่บุค คลใดในกำรจัด กำรทำศพนั้น


สำนักให้ เรียกเอำได้ตำมบุริมสิกทำ ธิที่ระบุไว้ในมำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๒๕๓ (๒) แห่งประมวลกฎหมำยนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำกำรจัดกำรทำศพ ต้องชักช้ำไปด้วยประกำรใด ๆ ให้บุคคลผู้มีอำนำจตำมควำมใน
มำตรำก่อนกันเงินำนัส เป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำนวนอันสมควรจำกสิกำนทรัพย์แห่งกองมรดกเพื ่อใช้ในกำรนี้ โดยให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บุคคลผู้มี
ส่วนได้เสียคนใดคนหนึ่งร้องต่อศำลได้ในกรณีที่ไม่ตกลงหรือคัดค้ำนกำรกันเงินจำนวนนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กรณีจะเป็นอย่ำงไรก็ตำม เงินค่ำใช้จ่ำย หรือเงินที่กันไว้อันเกี่ยวกับกำรจัดกำรทำศพ
นั้น ให้กันไว้ได้แต่สเำนั
พียกงจ ำนวนตำมสมควรแก่ฐกำนะในสมำคมของผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้ตำย แต่จะต้องไม่เป็นกกำรเสื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่อมเสีย
ต่อสิทธิของเจ้ำหนี้ของผู้ตำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๕๑ ภำยใต้บังคับบทบัญญัติลักษณะ ๔
ส(๑)
ำนักเมื ่อตำมข้อกำหนดพินัยกกรรม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บุคคลใดมี สำนัสกิทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ธิที่จะได้รับทรัพย์มรดกทั กำ ้งหมดของ
เจ้ำมรดก หรือตำมเศษส่วน หรือตำมส่วนที่เหลือแห่งทรัพย์มรดก ซึ่งมิได้แยกไว้ต่ำงหำกเป็นพิเศษ
สำนักจำกกองมรดก บุคคลนั้นกำเรียกว่ำผู้รับพิสนำนััยกรรมลั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กษณะทั่วไป และมี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำสิทธิและควำมรั สำนับกผิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดเช่นเดียวกับ กำ
ทำยำทโดยธรรม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) เมื่ อ ตำมข้อ กำหนดพิ นั ยกรรม บุ ค คลใดมี สิ ท ธิที่ จะได้ รับ ทรัพ ย์สิ น เฉพำะสิ่ ง
สำนักเฉพำะอย่ ำง ซึ่งเจำะจงไว้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ โดยเฉพำะ หรื สำนัอกแยกไว้ ต่ำงหำกเป็นพิเศษจำกกองมรดก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนับุกคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คลนั้นเรียกว่ำ กำ
ผู้รับพินัยกรรมลักษณะเฉพำะ และมีสิทธิและควำมรับผิดที่เกี่ยวกับทรัพย์สินเท่ำนั้น
สในกรณี ที่ มีข้ อสงสั ย ให้ สั นกนิำษ ฐำนไว้ก่ อนว่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำกผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ รับ พิ นั ยกรรมเป็น ผู้ รกับำ พิ นั ยกรรม
ลักษณะเฉพำะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๕๒ บุคคลผู้อยู่ในควำมปกครองนั้น จะทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกของ
ตนให้ แก่ผู้ ป กครองหรื อคู่ส มรส บุ พ กำรี หรืกอำ ผู้ สื บสั นดำนสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หรืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พี่ น้ องของผู้ ป กครองไม่
กำ ได้ จ นกว่ ำ
ผู้ปกครองจะได้ทำคำแถลงกำรณ์ปกครองตำมที่บัญญัติไว้ในมำตรำ ๑๕๗๗ และมำตรำต่อ ๆ ไป แห่ง
สำนักประมวลกฎหมำยนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้เสร็จกสิำ ้นแล้ว สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๕๓ ผู้เขียน หรือพยำนในพินัยกรรมจะเป็นผู้รับทรัพย์ตำมพินัยกรรมนั้น
สำนักไม่ ได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้ใช้บทบัญญัติในวรรคก่อนบังคับแก่คู่สมรสของผู้เขียนหรือพยำนในพินัยกรรมด้วย
สพนั
ำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนเจ้ำหน้ ำที่ซึ่งได้จดข้
กำ อควำมแห่ งพิสำนั
นัยกกรรมที ่พยำนนำมำแจ้กงำตำมมำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๑๖๖๓ ให้ถือว่ำเป็นผู้เขียนพินัยกรรมตำมควำมหมำยแห่งมำตรำนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๕๔ ควำมสำมำรถของผู้ ทำพินัยกรรมนั้นให้พิจำรณำแต่ในเวลำที่ทำ
พินัยกรรมเท่ำนั้นสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมสำมำรถของผู้รับพินัยกรรมนั้น ให้พิจำรณำแต่ในเวลำที่ผู้ทำพินัยกรรมตำย
สำนักเท่ ำนั้น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักแบบพิ นัยกรรม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๙๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๖๕๕ พินัยกรรมนั้น จะทำได้ก็แต่ตำมแบบใดแบบหนึ่งดังที่บัญญัติไว้ใน
หมวดนี้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๖๕๖ พินัยกรรมนั้น จะทำตำมแบบดังนี้ก็ได้ กล่ำวคือต้องทำเป็นหนังสือ
ลงวัน เดือน ปี ในขณะที ่ทำขึ้น และผู้ทำพินัยกกรรมต้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ องลงลำยมื สำนัอกชืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อไว้ต่อหน้ำพยำนอย่ำกงน้ ำ อยสองคน
พร้อมกัน ซึ่งพยำนสองคนนั้นต้องลงลำยมือชื่อรับรองลำยมือชื่อของผู้ทำพินัยกรรมไว้ในขณะนั้น
กำรขูกดำลบ ตก เติม สหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัอกกำรแก้ ไขเปลี่ ยนแปลงอย่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำงอื่ น ซึ่งพิ นสำนั
ัยกรรมนั ้นย่อมไม่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สมบูรณ์ เว้นแต่จะได้ปฏิบัติตำมแบบอย่ำงเดียวกับกำรทำพินัยกรรมตำมมำตรำนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๕๗ พินัยกรรมนั้น จะทำเป็นเอกสำรเขียนเองทั้งฉบับก็ได้ กล่ำวคือผู้ทำ
สำนักพิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นัยกรรมต้องเขียนด้วยมื
กำอตนเองซึ่งข้อสำนั
ควำมทั ้งหมด วัน เดือน ปี กและลำยมื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อชื่อของตน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรขูดลบ ตก เติม หรือกำรแก้ไขเปลี่ ยนแปลงอย่ำงอื่น ซึ่งพิ นัยกรรมนั้นย่อมไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมบูรณ์ เว้นแต่ผู้ทำพินัยกรรมจะได้ทำด้วยมือตนเอง และลงลำยมื อชื่อกำกับไว้
บทบัญกญั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ติมำตรำ ๙ สแห่
ำนังกประมวลกฎหมำยนี ้ มิให้กำใช้บังคับแก่พินสัยำนักรรมที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ทำขึ้นตำม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
มำตรำนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๕๘ พินัยกรรมนั้น จะทำเป็นเอกสำรฝ่ำยเมืองก็ได้ กล่ำวคือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๑) ผู้ทกำำพินัยกรรมต้สอำนั
งไปแจ้ งข้อควำมที่ตนประสงค์
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จะให้ใส่ไว้ใสนพิ
ำนันกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัยกรรมของตน กำ
แก่กรมกำรอำเภอต่อหน้ำพยำนอีกอย่ำงน้อยสองคนพร้อมกัน
ส(๒)
ำนักกรมกำรอ ำเภอต้องจดข้กอำ ควำมที่ผู้ทำพิสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นัยกกรรมแจ้ งให้ทรำบนั้นลงไว้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ และอ่ำน
ข้อควำมนั้นให้ผู้ทำพินัยกรรมและพยำนฟัง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๓) เมืก่อำผู้ทำพินัยกรรมและพยำนทรำบแน่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีชัดว่ำข้กอำควำมที่กรมกำรอ
สำนักำเภอจดนั ้นเป็น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กำรถูกต้องตรงกันกับที่ผู้ทำพินัยกรรมแจ้งไว้แล้ว ให้ผู้ทำพินัยกรรมและพยำนลงลำยมือชื่อไว้เป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำคัญ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๔) ข้กอำควำมที่กรมกำรอสำนักำเภอจดไว้ นั้น ให้ กรมกำรอ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำเภอลงลำยมื สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชื่อและลงวัน กำ
เดือน ปี ทั้งจดลงไว้ด้วยตนเองเป็นสำคัญว่ำ พินัยกรรมนั้นได้ทำขึ้นถูกต้องตำมบทบัญญัติอนุมำตรำ ๑
ถึง ๓ ข้ำงต้น แล้วสประทั บตรำตำแหน่งไว้เป็นกสำำคัญ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรขูดลบ ตก เติม หรือกำรแก้ไขเปลี่ ยนแปลงอย่ำงอื่น ซึ่งพิ นัยกรรมนั้นย่อมไม่
สำนักสมบู รณ์ เว้นแต่ผู้ทำพินกัยำกรรม พยำน สและกรมกำรอ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำเภอจะได้ลงลำยมื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อชื่อกำกับสไว้ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๕๙ กำรท ำพินกัยำ กรรมแบบเอกสำรฝ่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำยเมืองนั้น จะทำนอกที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ ว่ำ กำร
อำเภอก็ได้ เมื่อมีกำรร้องขอเช่นนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๖๐ พินัยกรรมนั้น จะทำเป็นเอกสำรลั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บก็ได้ กล่ำวคือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ผู้ทำพินัยกรรมต้องลงลำยมือชื่อในพินัยกรรม
(๒) ผู้ทกำำพินัยกรรมต้อสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งผนึกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กพินัยกรรมนั้น แล้วลงลำยมื
กำ อชื่อคำบรอยผนึ กนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๒๙๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๓) ผู้ทำพินัยกรรมต้องนำพินัยกรรมที่ผนึกนั้นไปแสดงต่อกรมกำรอำเภอ และพยำน


สำนักอีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กอย่ำงน้อยสองคน และให้ กำ ถ้อยคำต่อสบุำนัคกคลทั ้งหมดเหล่ำนั้นว่ำเป็กนำ พินัยกรรมของตน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถ้ำพินัยกรรม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
นั้นผู้ ทำพินั ยกรรมมิได้เป็น ผู้เขียนเองโดยตลอด ผู้ทำพินัยกรรมจะต้องแจ้งนำมและภูมิลำเนำของ
ผู้เขียนให้ทรำบด้วสยำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) เมื่ อ กรมกำรอ ำเภอจดถ้ อ ยค ำของผู้ ท ำพิ นั ย กรรมและวั น เดื อ น ปี ที่ ท ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พินัยกรรมมำแสดงไว้บนซองนั้นและประทับตรำตำแหน่งแล้ว ให้กรมกำรอำเภอผู้ทำพินัยกรรมและ
พยำนลงลำยมือชืส่อำนั บนซองนั ้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรขูดลบ ตก เติม หรือกำรแก้ไขเปลี่ ยนแปลงอย่ำงอื่น ซึ่งพิ นัยกรรมนั้นย่อมไม่
สำนักสมบู รณ์ เว้นแต่ผู้ทำพินกัยำกรรมจะได้ลงลำยมื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อชื่อกำกับไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๖๑ ถ้ำบุคคลผู้เกป็ำนทั้งใบ้และหูสหำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นวกหรื อผู้ที่พูดไม่ได้ มีควำมประสงค์
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จะ
ทำพินัยกรรมเป็นแบบเอกสำรลับ ให้ผู้นั้นเขียนด้วยตนเองบนซองพินัยกรรมต่อหน้ำกรมกำรอำเภอ
สำนักและพยำนซึ ่งข้อควำมว่กำำพินัยกรรมที่ผสนึำนักกนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นเป็นของตนแทนกำรให้
กำ ถ้อยคำดังทีส่กำนั
ำหนดไว้ ในมำตรำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
๑๖๖๐ (๓) และถ้ำหำกมีผู้เขียนก็ให้เขียนชื่อกับภูมิลำเนำของผู้เขียนพินัยกรรมนั้นไว้ด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้กรมกำรอำเภอจดลงไว้บนซองเป็นสำคัญสำนั ว่ำกผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ทำพินัยกรรมได้ปฏิบัตกิตำำมข้อควำม
สำนักในวรรคก่ อนแล้ว แทนกำรจดถ้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อยคำของผู
สำนัก้ทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำพินัยกรรม กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๖๒ พินัยกรรมซึ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งได้ทำเป็น แบบเอกสำรฝ่ ำยเมืองหรือเอกสำรลั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บนั้น
กรมกำรอ ำเภอจะเปิ ด เผยแก่ บุ คคลอื่ น ใดไม่ ได้ในระหว่ำงที่ ผู้ ท ำพิ นั ยกรรมยั งมี ชีวิต อยู่ และผู้ ท ำ
สำนักพิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นัยกรรมจะเรียกให้กรมกำรอ
กำ ำเภอส่งสมอบพิ นัยกรรมนั้นแก่ตนในเวลำใด
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๆ กรมกำรอ ำเภอจำต้องส่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
มอบให้
สถ้ำนั
ำพิกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัยกรรมนั้นทำเป็นแบบเอกสำรฝ่
กำ ำยเมื
สำนัองกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก่อนส่งมอบพินัยกรรมกำให้กรมกำร
อำเภอคัดสำเนำพินัยกรรมไว้แล้วลงลำยมือชื่อประทับตรำตำแหน่งเป็นสำคัญ สำเนำพินัยกรรมนั้นจะ
สำนักเปิ ดเผยแก่บุคคลอื่นใดไม่กำได้ในระหว่ำงทีสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ผู้ทกำพิ นัยกรรมยังมีชีวิตอยูก่ ำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๖๓ เมื่อมีพฤติกำรณ์พิเศษซึ่งบุคคลใดไม่สำมำรถจะทำพินัยกรรมตำม
สำนักแบบอื ่น ที่กำหนดไว้ได้กเช่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ น ตกอยู่ ในอั นกตรำยใกล้
สำนั ควำมตำย หรืกอำเวลำมีโรคระบำด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หรือสงครำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บุคคลนั้นจะทำพินัยกรรมด้วยวำจำก็ได้
สเพื
ำนั่อกกำรนี ้ ผู้ทำพินัยกรรมต้กอำงแสดงเจตนำก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำหนดข้
สำนั อพินัยกรรมต่อหน้กำำพยำนอย่ำง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น้อยสองคนซึ่งอยู่พร้อมกัน ณ ที่นั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี พยำนสองคนนั
กำ ้นต้องไปแสดงตนต่ อกรมกำรอำเภอโดยมิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ชักช้ำสและแจ้ งข้อควำมที่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้ทำพินัยกรรมได้สั่งไว้ด้วยวำจำนั้น ทั้งต้องแจ้งวัน เดือน ปี สถำนที่ที่ทำพินัยกรรมและพฤติกำรณ์
พิเศษนั้นไว้ด้วย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้กรมกำรอำเภอจดข้อควำมที่พยำนแจ้งนั้นไว้ และพยำนสองคนนั้นต้องลงลำยมือ
สำนักชืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อไว้ หรือมิฉะนั้น จะให้กำเสมอกับกำรลงลำยมื อชื่อได้ก็แต่ด้วยลงลำยพิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มพ์นิ้วมือโดยมี
สำนักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยำนลงลำยมือ กำ
ชื่อรับรองสองคนสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๖๖๔ ควำมสมบู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รณ์แห่งพินัยกรรมซึ่งทกำขึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้นตำมมำตรำก่
สำนัอกนนั ้นย่อมสิ้นไป
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๒๙๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

เมื่อพ้นกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่เวลำผู้ทำพินัยกรรมกลับมำสู่ฐำนะที่จะทำพินัยกรรมตำมแบบอื่นที่
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดไว้ได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๖๕ เมื่อผู้ทำพินกัยำกรรมจะต้องลงลำยมื


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อชื่อตำมมำตรำ ๑๖๕๖,
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๑๖๕๘,
๑๖๖๐ จะให้เสมอกับลงลำยมือชื่อได้ ก็แต่ด้วยลงลำยพิมพ์นิ้วมื อโดยมีพยำนลงลำยมือชื่อรับรองไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ด้วยสองคนในขณะนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๖๖ บทบั ญ ญัติมำตรำ ๙ วรรคสอง แห่ งประมวลกฎหมำยนี้ มิให้ใช้
สำนักบังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งคับแก่พยำนผู้ที่จะต้อกงลงลำยมื
ำ อชื่อตำมมำตรำ ๑๖๕๖, ๑๖๕๘,ก๑๖๖๐
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
[เลขมำตรำ ๙ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยมำตรำ ๑๕ แห่งพระรำชบัญญัติให้ ใช้
บทบัญญัตบิ รรพ ส๑ำนัแห่ งประมวลกฎหมำยแพ่กงำและพำณิชย์ทสี่ไำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ด้ตกรวจช ำระใหม่ พ.ศ. ๒๕๓๕]
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๑๖๖๗ เมื่อสคนในบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งคับไทยจะทำพินัยกรรมในต่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำงประเทศ พินัยกรรมนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อำจท ำตำมแบบซึ่งกฎหมำยของประเทศที่ ทำพินั ยกรรมบั ญ ญั ติไว้ หรือตำมแบบที่ก ฎหมำยไทย
บัญญัติไว้ก็ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีเมื่อทำพิ
กำ นัยกรรมตำมแบบที ่กฎหมำยไทยบัญญัตกิไำว้ อำนำจและหน้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ที่ของกรมกำร กำ
อำเภอตำมมำตรำ ๑๖๕๘, ๑๖๖๐, ๑๖๖๑, ๑๖๖๒, ๑๖๖๓ ให้ตกแก่บุคคลดังต่อไปนี้ คือ
ส(๑)
ำนักพนั กงำนทูต หรือกงสุลฝ่กำำ ยไทย กระทำกำรตำมขอบอ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนำจของตนกำหรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
(๒) พนักงำนใด ๆ ซึ่งมีอำนำจตำมกฎหมำยของต่ำงประเทศนั้น ๆ ที่จะรับบันทึกข้อ
สำนักแจ้ งควำมไว้เป็นหลักฐำนได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๖๘ ผู้ทำพินัยกรรมไม่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จำเป็นสต้ำนั
องเปิ ดเผยข้อควำมในพินกัยำกรรมนั้นให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พยำนทรำบ เว้นแต่กฎหมำยจะได้ระบุไว้เป็นอย่ำงอื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๖๙๒๐๓ ในระหว่ำงเวลำที่ประเทศตกอยู่ในภำวะกำรรบหรือกำรสงครำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บุคคลที่รับรำชกำรทหำรหรือทำกำรเกี่ยวข้องอยู่กับรำชกำรทหำร จะทำพินัยกรรมตำมแบบที่บัญญัติ
สำนักไว้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ในมำตรำ ๑๖๕๘ มำตรำ กำ ๑๖๖๐ หรื สำนัอกมำตรำ ๑๖๖๓ ก็ได้ ในกรณี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เช่นว่ำนั้นสำนั ให้กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยทหำรหรือ กำ
ข้ำรำชกำรฝ่ำยทหำรชั้นสัญญำบัตรมีอำนำจและหน้ำที่เช่นเดียวกับกรมกำรอำเภอ
สบทบั ญญัติวรรคก่อนให้นำมำใช้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บังคับแก่กสรณี
ำนัทกี่บงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ุคคลที่รับรำชกำรทหำรหรื กำ อทำกำร
เกี่ย วข้องอยู่ กับ รำชกำรทหำรทำพินั ยกรรมในต่ำงประเทศในระหว่ำงที่ปฏิบัติกำรเพื่ อประเทศใน
สำนักภำวะกำรรบหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อ กำรสงครำมในต่
กำ ำงประเทศโดยอนุ โลม และในกรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เช่ น ว่ำ นีส้ ำนั
ให้กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยทหำรหรือ กำ
ข้ำรำชกำรฝ่ำยทหำรชั้นสัญญำบัตรมีอำนำจและหน้ำที่เช่นเดียวกับพนักงำนทูตหรือกงสุลฝ่ำยไทย
สถ้ำนั
ำผูก้ทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำพินัยกรรมตำมควำมในสองวรรคก่
กำ อสนนั
ำนั้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ป่วยเจ็บหรือต้องบำดเจ็กบำ และอยู่ใน
โรงพยำบำล ให้ แ พทย์ แ ห่ งโรงพยำบำลนั้ น มี อ ำนำจและหน้ ำที่ เช่ น เดี ย วกั บ กรมกำรอ ำเภอหรื อ
สำนักพนั กงำนทูต หรือกงสุลฝ่กำำยไทย แล้วแต่สกำนัรณี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ด้วย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๐๓
มำตรำ ๑๖๖๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ชย์ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๔๙๕ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๙๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๖๗๐ บุคคลต่อไปนี้จะเป็นพยำนในกำรทำพินัยกรรมไม่ได้


(๑) ผู้ซกึ่งำยังไม่บรรลุนสิตำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ิภำวะ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) บุคคลวิกลจริตหรือบุคคลซึ่งศำลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ควำมสำมำรถ
ส(๓)
ำนักบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คคลที่หูหนวก เป็นใบ้กหรื ำ อจักษุบอดทัสำนั
้งสองข้ ำง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๖๗๑ เมื่ อ บุ ค คลใดนอกจำกผู้ ท ำพิ นั ย กรรมเป็ น ผู้ เขี ย นข้ อ ควำมแห่ ง
พินัยกรรม บุคคลนั ้นต้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั องลงลำยมือชื่อของตนทักำ้งระบุว่ำเป็นผูส้เำนั
ขียกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำบุคคลนั้นเป็นพยำนด้วย ให้เขียนข้อควำมระบุว่ำตนเป็นพยำนไว้ต่อท้ำยลำยมือ
สำนักชืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อของตนเช่นเดียวกับพยำนอื
กำ ่น ๆ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๗๒๒๐๔ ให้รัฐมนตรี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ว่ำกำรกระทรวงมหำดไทย กลำโหม และต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำงประเทศ
มีอ ำนำจและหน้ ำที่ เท่ ำที่ เกี่ ย วกั บ กระทรวงนั้ น ๆ ที่ จะออกกฎกระทรวง เพื่ อ ให้ ก ำรเป็ น ไปตำม
สำนักประมวลกฎหมำยบรรพนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ้ รวมทั้งกำหนดอั
สำนักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รำค่ำฤชำธรรมเนียมอันกเกี
ำ ่ยวกับกำรนั้นสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๓ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ผลและกำรตี ควำมแห่งพินัยกรรมกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๗๓ สิ ท ธิ แ ละหน้ ำที่ ใด ๆ อั น เกิ ด ขึ้ น ตำมพิ นั ย กรรม ให้ มี ผ ลบั งคั บ
สำนักเรีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยกร้องกันได้ตั้งแต่ผู้ทกำพิ
ำ นัยกรรมตำยเป็ นต้นไป เว้นแต่ผู้ทำพิกนำัยกรรมจะได้กสำหนดเงื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่อนไขหรือ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เงื่อนเวลำให้มีผลบังคับเรียกร้องกันได้ภำยหลัง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๗๔ ถ้ำข้อกำหนดพินัยกรรมมีเงื่อนไข และเงื่อนไขนั้นสำเร็จเสียก่อน
สำนักเวลำที ่ ผู้ ท ำพิ นั ย กรรมตำย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ หำกว่ ำ เป็สนำนัเงืก่องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นไขบังคับ ก่ อน ข้อ กำหนดพิ
กำ นั ย กรรมนั
สำนัก้ นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มี ผ ลเมื่ อผู้ ท ำ กำ
พินัยกรรมตำย หำกว่ำเป็นเงื่อนไขบังคับหลัง ข้อกำหนดพินัยกรรมนั้นเป็นอันไร้ผล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำเงื่อนไขบังคับก่อนสำเร็จภำยหลังที่ผู้ทำพินัยกรรมตำย ข้อกำหนดพินัยกรรมมีผล
สำนักตังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้งแต่เวลำเงื่อนไขสำเร็จกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำเงื่อนไขบังคับหลังสำเร็จภำยหลังที่ผู้ทำพินัยกรรมตำย ข้อกำหนดพินัยกรรมมีผล
ตั้งแต่เวลำที่ผู้ทำพิสนำนััยกกรรมตำย แต่ตกเป็นอันกไร้ำ ผลในเมื่อเงื่อสนไขนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นสำเร็จ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แต่ถ้ำผู้ทำพินัยกรรมได้กำหนดไว้ในพินัยกรรมว่ำ ในกรณีที่กล่ำวมำในสองวรรคก่อน
สำนักนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้น ให้ควำมสำเร็จแห่งกเงืำ่อนไขมีผลย้อสนหลั งไปถึงเวลำที่ผู้ทำพินัยกำกรรมตำย ก็ให้สำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไปตำมเจตนำ กำ
ของผู้ทำพินัยกรรมนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๗๕ เมื่อพินัยกรรมมีเงื่อนไขบังคับก่อน ผู้รับประโยชน์ตำมข้อควำมแห่ง
สำนักพิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นัยกรรมนั้นจะร้องต่อกศำลขอให้
ำ ตั้งผูส้จำนััดกำรทรั พย์สินที่ยกให้โดยพิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นัยกรรมนั้นสจนกว่ ำจะถึงเวลำที่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เงื่อนไขสำเร็จ หรืสอำนั
จนกว่ ำควำมสำเร็จแห่งเงื่อนไขตกเป็นอันสพ้ำนันวิกสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ัยก็ได้ กำ
๒๐๔
มำตรำ ๑๖๗๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ พุทธศักรำช ๒๔๗๙ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๙๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ถ้ำศำลเห็นเป็นกำรสมควร จะตั้งผู้ร้องนั้นเป็นผู้จัดกำรทรัพย์สินเสียเอง และเรียกให้


สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ร้องนั้นวำงประกันตำมที
กำ่สมควรก็ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๗๖ พินัยกรรมจะท


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำขึ้นโดยให้ บุคกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั คลใดตกอยู่ในภำระติดกพัำ นที่จะต้อง
ก่อตั้งมูลนิธิ หรือจะสั่งจัดสรรทรัพย์สินไว้โดยตรง เพื่อประโยชน์อย่ำงใดอย่ำงหนึ่งตำมบทบัญญั ติ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑๐ แห่งประมวลกฎหมำยนี้ก็ได้
ส[เลขมำตรำ ๑๑๐ แก้ไขเพิ่มกเติำ มโดยมำตรำสำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๑๕กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แห่งพระรำชบัญญัติให้กใำช้บทบัญญัติ
บรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ. ๒๕๓๕]
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๗๗ เมื่อมีพินัยกรรมก่อตั้งมูลนิธิขึ้นตำมมำตรำก่อน ให้เป็นหน้ำที่ ของ
ทำยำทหรือผู้จัดกำรมรดก แล้วแต่กรณี ที่จะต้กอำ งร้องขอให้รัฐสบำลให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อำนำจจัดตั้งขึ้นเป็นกนิำติบุคคลตำม
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มำตรำ ๑๑๔ แห่งประมวลกฎหมำยนี้ เว้นแต่จะได้มีข้อกำหนดไว้ในพินัยกรรมเป็นอย่ำงอื่น
ถ้ำบุคกคลดั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งกล่ำวแล้วสมิำนัได้กรงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้องขอให้รัฐบำลให้อำนำจ
กำ บุคคลผู้มีส่สวนได้ เสียคนหนึ่งคน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ใดหรือพนักงำนอัยกำรจะเป็นผู้ร้องขอก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
[เลขมำตรำ ๑๑๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมำตรำสำนั ๑๕กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แห่งพระรำชบัญญัติให้กใำช้บทบัญญัติ
สำนักบรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งและพำณิ ชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่กำพ.ศ. ๒๕๓๕]สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สมำตรำ ๑๖๗๘ เมื่อมูลนิธิกใดซึ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่งก่อตั้งขึ้นโดยพิ นัยกรรมได้ตั้งขึ้นเป็นนิกตำ ิบุคคลแล้ว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้ ถื อว่ ำทรั พ ย์ สิ น ซึ่งผู้ ท ำพิ นั ย กรรมจั ด สรรไว้เพื่ อกำรนั้ น ตกเป็ น ของนิ ติ บุ ค คลนั้ น ตั้ งแต่เวลำซึ่ ง
สำนักพิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นัยกรรมมีผล เว้นแต่จกะมี ำ ข้อกำหนดไว้สำนัในพิ นัยกรรมเป็นอย่ำงอื่น กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๗๙ ถ้ำจัดตั้งมูกลำนิธิขึ้นไม่ได้ตำมวั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถุที่ประสงค์ ให้ทรัพย์สกินำ ตกทอดไป
ตำมที่ระบุไว้ในพินัยกรรม
ถ้ำพินกัยำกรรมไม่ได้ระบุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัไว้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เมื่อทำยำทหรือผู้จัดกำรมรดก
กำ หรือพนัสำนั กงำนอั ยกำร หรือ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บุคคลผู้มีส่วนได้เสียคนใดคนหนึ่งร้องขอ ให้ศำลจัดสรรทรัพย์สินนั้นให้แก่นิติบุคคลอื่นซึ่งปรำกฏว่ำมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
วัตถุที่ประสงค์ใกล้ชิดที่สุดกับควำมประสงค์ของผู้ทำพินัยกรรม
ถ้ำหำกว่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำจัดสรรทรัพสำนัย์สกินงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อย่ำงนี้ไม่ได้ก็ดี หรือว่กำำมูลนิธินั้นตั้งขึส้ำนั
นไม่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้ เพรำะเป็น กำ
กำรขัดต่อกฎหมำย หรือขัดต่อควำมสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชำชนก็ดี ข้อกำหนด
พินัยกรรมในกำรจัสำนั
ดตัก้งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มูลนิธินั้นเป็นอันไร้ผล กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๖๘๐ เจ้ำหนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้ขกองผู ้ทำพินัยกรรมมีสิทธิกทำ ี่จะร้องขอให้สเพิำนักกถอนข้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อกำหนด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พินัยกรรมซึ่งก่อตั้งมูลนิธินั้นได้เพียงเท่ำที่ตนต้องเสียประโยชน์เนื่องแต่กำรนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๘๑ ถ้ำทรัพย์สินซึ่งเป็นวัตถุแห่งพินัยกรรมนั้นได้สูญหำย ทำลำย หรือ
สำนักบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บสลำยไป และพฤติกกำรณ์
ำ ทั้งนี้เป็นผลให้
สำนักไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้ทรัพย์สินอื่นมำแทน กหรื
ำ อได้สิทธิเรียสกร้
ำนัอกงเอำค่ ำสินไหม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทดแทนทรัพย์สินสนัำนั้น กผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้รับพินัยกรรมจะเรียกให้
กำ
ส่งมอบของแทนซึ ่งได้รับมำนั้น หรือจะเรียกร้องเอำค่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สินไหมทดแทนเสียเองก็ได้แล้วแต่กรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๙๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๖๘๒ เมื่ อ พิ นั ย กรรมท ำขึ้ น เป็ น กำรปลดหนี้ ห รื อ โอนสิ ท ธิ เรี ย กร้ อ ง
สำนักพิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นัยกรรมนั้นมีผลเพียงจ กำำนวนซึ่งคงค้สำำนั
งชกำระอยู ่ในเวลำที่ผู้ทำพินกัยำกรรมตำย เว้สนำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี แต่กผงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ู้ทำพินัยกรรม กำ
จะได้กำหนดไว้เป็นอย่ำงอื่น
สถ้ำนั
ำมีกเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อกสำรอันเป็นหลักฐำนแห่กำ งหนี้ที่ปลดให้
สำนัหกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รือสิทธิเรียกร้องที่โอนไปนั
กำ ้น ก็ให้ส่ง
มอบแก่ผู้รับ พินัยกรรมและให้ใช้มำตรำ ๓๐๓ ถึง ๓๑๓, ๓๔๐ แห่งประมวลกฎหมำยนี้บังคับโดย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนุโลม แต่ถ้ำผู้ทำพินัยกรรมจะต้องกระทำกำรหรือดำเนินกำรอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งตำมมำตรำนั้น ๆ แล้ว
บุคคลผู้ต้องจัดกำรตำมพิ นัยกรรมหรือผู้รับพิกนำัยกรรมจะกระท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักำกำรหรื อดำเนินกำรนั้นกำๆ แทนผู้ทำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พินัยกรรมก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๘๓ พินัยกรรมที่บุคคลทำให้แก่เจ้ำหนี้คนใดของตนนั้น ให้สันนิษฐำนไว้
ก่อนว่ำ มิได้ทำขึ้นสเพื
ำนั่อกชงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำระหนี้อันค้ำงชำระแก่กเำจ้ำหนี้คนนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๖๘๔ เมื่อสควำมข้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อใดข้อหนึ่งในพินัยกกรรมอำจตี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ควำมได้ เป็นหลำยนัย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ให้ถือเอำตำมนัยที่จะสำเร็จผลตำมควำมประสงค์ของผู้ทำพินัยกรรมนั้นได้ดีที่สุด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๖๘๕ ในกรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัทกี่ผงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ู้ทำพินัยกรรมได้กำหนดผู
กำ ้รับพินัยกรรมไว้
สำนักโงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดยคุณสมบัติที่ กำ
ทรำบตั ว แน่ น อนได้ ถ้ ำ มี บุ ค คลหลำยคนทรงไว้ ซึ่ งคุ ณ สมบั ติ ที่ จ ะเป็ น ผู้ รับ พิ นั ย กรรมตำมที่ ผู้ ท ำ
พินัยกรรมกำหนดไว้
สำนัดกังงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้นได้ ในกรณีที่มีข้อสงสั
กำย ให้ถือว่ำทุกสคนมี สิทธิที่จะได้รับส่วนปันกเท่ำ ำ ๆ กัน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พินัยกรรมที่ตั้งผู้ปกครองทรัพย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๑๖๘๖ ๒๐๕ สอัำนันกว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ทรั ส ต์ นั้ น จะก่ อ ตั้ งขึก้ นำ โดยตรงหรื อสำนั
โดยทำงอ้ อ มด้ ว ย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พินัยกรรมหรือด้วยนิติกรรมใด ๆ ที่มีผลในระหว่ำงชีวิตก็ดีหรือเมื่อตำยแล้วก็ดี หำมีผลไม่ เว้นแต่โดย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อำศัยอำนำจตำมบทบัญญัติแห่งกฎหมำยเพื่อกำรก่อตั้งทรัสต์เท่ำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๘๗ ถ้ำผู้ทำพินัยกรรมประสงค์จะยกทรัพย์สินให้แก่ผู้เยำว์ หรือผู้ซึ่งศำล
ได้ สั่ ง ให้ เป็ น คนไร้
สำนัคกวำมสำมำรถ หรื อ เสมืกอำนไร้ ค วำมสำมำรถ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หรื อ แก่ ผู้ ซึ่ ง ต้ อ งรั กกษำตั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ว อยู่ ใ น
โรงพยำบำลเพรำะเหตุวิกลจริต แต่ต้องกำรมอบกำรเก็บรักษำและจัดกำรทรัพย์สินนั้นแก่บุคคลอื่น
สำนักนอกจำกบิ ดำมำรดำ ผูก้ ปำกครอง ผู้ อนุสบำนัำลกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หรือผู้ พิทั ก ษ์ของบุ คกคลเช่
ำ น นั้ น ผู้ ทสำพิ ำนันกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยกรรมต้องตั้ ง กำ
ผู้ปกครองทรัพย์ขึ้น
สกำรตั ้งผู้ปกครองทรัพย์นี้ ห้ำกมมิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ให้ตั้งขึ้นเป็สนำนั
เวลำเกิ นกว่ำกำหนดแห่งกำรเป็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นผู้เยำว์
หรือกำหนดที่ศำลได้สั่งให้เป็นคนไร้ควำมสำมำรถ หรือเสมือนไร้ควำมสำมำรถ หรือกำหนดที่ต้อง
สำนักรังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กษำตัวอยู่ในโรงพยำบำล กำ แล้วแต่กรณีสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๐๕
มำตรำ ๑๖๘๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชย์ (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ.ก๒๕๕๐
ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๐๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๖๘๘ กำรตั้งผู้ปกครองทรัพย์นั้น ในส่วนที่เกี่ยวด้วยอสังหำริมทรัพย์หรือ


สำนักทรั พยสิทธิใด ๆ อันเกี่ยกวกั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บ อสังหำริมสำนั
ทรักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์ ย่อมไม่บริบูรณ์ เว้นกำแต่จะได้จดทะเบี
สำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นต่อพนักงำน กำ
เจ้ำหน้ำที่
สบทบั ญญัติที่กล่ำวมำในวรรคก่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อนนี้ ให้ใช้สบำนัังกคังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บแก่เรือมีระวำงตั้งแต่กหำ ้ำตันขึ้นไป
ทั้งแพและสัตว์พำหนะด้วย๒๐๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๘๙ นอกจำกบุกคำคลที่ระบุไว้ในมำตรำ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๑๕๕๗ แห่งประมวลกฎหมำยนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้
นิติบุคคล หรือบุคคลธรรมดำที่มีควำมสำมำรถบริบูรณ์ จะรับตั้งเป็นผู้ปกครองทรัพย์ก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๙๐ ผู้ปกครองทรัพย์นั้น ย่อมตั้งขึ้นได้โดย
ส(๑)
ำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ทำพินัยกรรม กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) บุคคลซึ่งระบุไว้ในพินัยกรรมให้เป็นผู้ตั้ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๙๑ เว้น แต่ผู้ทำพินัยกรรมจะได้กำหนดไว้เป็นอย่ำงอื่นในพินัยกรรม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้ปกครองทรัพย์จะทำพินัยกรรมตั้งบุคคลอื่นให้ทำกำรสืบแทนตนก็ ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๙๒ เว้น แต่ผู้ทำพินัยกรรมจะได้กำหนดไว้ในพินัยกรรมเป็นอย่ำงอื่น
ในส่ว นที่เ กี่ยวด้วสยทรั
ำนักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์สินที่ได้รับมอบไว้ ผูก้ปำ กครองทรัพย์สมำนัีสกิทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ธิและหน้ำที่เช่นเดียวกักำบผู้ปกครอง
ตำมควำมหมำยในบรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมำยนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๕
กำรเพิกถอนและกำรตกไปแห่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สงพิำนันกัยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กรรม กำ
หรือข้อกำหนดพินัยกรรม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๙๓ ผู้ทำพินัยกรรมจะเพิกถอนพินัยกรรมของตนเสี ยทั้งหมด หรือแต่
สำนักบำงส่ วนในเวลำใดก็ได้ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๙๔ ถ้ำจะเพิกถอนพิ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นัยกรรมฉบั
สำนับกก่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อนเสียทั้งหมด หรือแต่กบำำงส่วนด้วย
พินัยกรรมฉบับหลัง กำรเพิกถอนจะสมบูรณ์ต่อเมื่อพินัยกรรมฉบับหลังนั้นได้ทำตำมแบบใดแบบหนึ่ง
สำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่กฎหมำยบัญญัติไว้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๖๙๕ ถ้ำพินัยกรรมได้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ทำเป็นต้สนำนั
ฉบักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บแต่ฉบับเดียว ผู้ทำพิกนำัยกรรมอำจ
เพิกถอนพินัยกรรมนั้นทั้งหมดหรือบำงส่วนได้ โดยทำลำยหรือขีดฆ่ำเสียด้วยควำมตั้งใจ
ถ้ำพินกัยำกรรมได้ทำเป็สนำนัต้กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ฉบับหลำยฉบับ กำรเพิกำกถอนนั้นไม่บสริำนั
บูรกณ์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เว้นแต่จะได้ กำ
กระทำแก่ต้นฉบับสเหล่ ำนั้นทุกฉบับ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๐๖
มำตรำ ๑๖๘๘ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำย
สำนักแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พ.ศ. ๒๕๔๘ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๔) สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๐๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๖๙๖ ถ้ำผูส้ทำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำพิกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัยกรรมได้โอนไปโดยสมบู
กำ รณ์ซึ่งทรัพย์สสำนัินกอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นเป็นวัตถุแห่ง กำ
ข้อกำหนดพินัยกรรมใดด้วยควำมตั้งใจ ข้อกำหนดพินัยกรรมนั้นเป็นอันเพิกถอนไป
สวิำนั
ธีเกดีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยวกันนี้ให้ใช้บังคับ เมื่อกผูำ้ทำพินัยกรรมได้
สำนัทกำลำยทรั พย์สินนั้นด้วยควำมตั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้งใจ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๖๙๗ ถ้ำผู้ทำพินัยกรรมมิได้แสดงเจตนำไว้ในพินัยกรรมเป็นอย่ำงอื่น และ
ปรำกฏว่ำพินัยกรรมฉบั บก่อนกับฉบับหลังขักดำกัน ให้ถือว่ำพิสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นัยกกรรมฉบั บก่อนเป็นอันกเพิำ กถอนโดย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พินัยกรรมฉบับหลัง เฉพำะในส่วนที่มีข้อควำมขัดกันนั้นเท่ำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๖๙๘ ข้อกำหนดพินัยกรรมนั้น ย่อมตกไป
ส(๑)
ำนักเมื ่อผู้รับพินัยกรรมตำยก่กอำ นผู้ทำพินัยกรรม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) เมื่อข้อกำหนดพินัยกรรมเป็นผลใช้ได้ต่อเมื่อเงื่อนไขอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งสำเร็จลง
สำนักและผู ้ รับ พินั ย กรรมตำยเสี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ย ก่ อนเงื่อนไขส ำเร็จ หรือปรำกฏเป็ นกทีำ่แน่นอนอยู่แสล้ำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ว ว่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เงื่อนไขนั้นไม่ กำ
อำจจะสำเร็จได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) เมื่อผู้รับพินัยกรรมบอกสละพินัยกรรมสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๔) เมืก่อำทรัพย์สินทั้งหมดที ่ยกให้สูญหำย หรือถูกกทำำลำยโดยผู้ทำพิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนันกัยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กรรมมิได้ตั้งใจ กำ
ในระหว่ำงที่ผู้ทำพินั ยกรรมยังมีชีวิตอยู่ และผู้ทำพินัยกรรมมิได้ได้มำซึ่งของแทน หรือซึ่งสิทธิที่จะ
เรียกค่ำทดแทนในกำรที ่ทรัพย์สินนั้นสูญหำยไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๖๙๙ ถ้ำพิสนำนััยกรรม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หรือข้อกำหนดในพิกำนัยกรรม เกี่ยวกั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนับกทรั พย์สินรำยใด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เป็นอันไร้ผลด้วยประกำรใด ๆ ทรัพย์สินรำยนั้นตกทอดแก่ทำยำทโดยธรรมหรือได้แก่แผ่นดิน แล้วแต่
กรณี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมเสียเปล่ำแห่งพินัยกรรมหรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ข้อกำหนดพินัยกรรม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๗๐๐ ภำยใต้บังคักบำแห่งบทบัญญัสตำนัิในหมวดนี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้ บุคคลจะจำหน่กำำยทรัพย์สิน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ใด ๆ โดยนิติกรรมที่มีผลในระหว่ำงชีวิต หรือเมื่อตำยแล้ว โดยมีข้อกำหนดห้ำมมิให้ผู้รับประโยชน์โอน
สำนักทรั พย์สินนั้นก็ได้ แต่ต้อกงมีำ บุคคลใดบุคสคลหนึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งนอกจำกผู้รับประโยชน์
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กำหนดไว้ สสำหรั ำนักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นผู้จะได้รับ กำ
ทรัพย์สินนั้นเป็นสิทธิเด็ดขำด ในเมื่อมีกำรละเมิดข้อกำหนดห้ำมโอน
สผูำนั
้ซึ่งกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดขึ้น ดังกล่ำวนั้นกต้ำองเป็ นผู้สำมำรถจะมี สิ ทธิต่ำง ๆ ได้อยู่ใกนขณะที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่กำร
จำหน่ำยทรัพย์สินนั้นมีผลบังคับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถ้ำมิได้กกำ ำหนดบุคคลทีสำนั่จะเป็ นผู้รับทรัพย์สินในเมื่อกมีำ กำรละเมิดข้สอำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำหนดห้ ำมโอนไว้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ให้ถือว่ำข้อกำหนดห้ ำมโอนนั้นเป็นอันไม่มีเลย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๗๐๑ ข้อสกำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำหนดห้ ำมโอนตำมมำตรำก่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อนนั้ น จะให้สมำนั
ีกำหนดเวลำหรื อ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
- ๓๐๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ตลอดชีวิตของผู้รับประโยชน์ก็ได้
ถ้ำไม่ไกด้ำกำหนดเวลำห้สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำมโอนไว้ ในกรณีที่ผู้รับประโยชน์
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เป็นบุคคลธรรมดำ ให้ถือว่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ข้อกำหนดห้ำมโอนมีระยะเวลำอยู่ตลอดชีวิตของผู้รับประโยชน์ แต่ในกรณีที่ผู้รับประโยชน์เป็นนิติ
บุคคล ให้มีระยะเวลำเพี ยงสำมสิบปี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำได้กำหนดเวลำห้ำมโอนไว้ กำหนดนั้นมิให้เกินสำมสิบปี ถ้ำกำหนดไว้นำนกว่ำนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ก็ให้ลดลงมำเป็นสำมสิบปี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๐๒ ข้อกำหนดห้ำมโอนอันเกี่ยวกับสังหำริมทรัพย์ซึ่งไม่อำจจดทะเบียน
สำนักกรรมสิ ทธิ์ได้นั้น ให้ถือว่กำำเป็นอันไม่มีเลยสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ข้ อ ก ำหนดห้ ำ มโอนเกี่ ย วกั บ อสั ง หำริ ม ทรั พ ย์ ห รื อ ทรั พ ยสิ ท ธิ อั น เกี่ ยวกั บ
อสังหำริมทรัพย์นสั้นำนัไม่ บริบูรณ์ เว้นแต่จะได้ทกำำเป็นหนังสือและจดทะเบี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยนกำรห้ำมโอนต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อพนักงำน
เจ้ำหน้ำที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บทบัญกำญัติในวรรคก่สอำนันนีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ ให้ใช้บังคับแก่เรือมีระวำงตั
กำ ้งแต่ห้ำตัสนำนัขึ้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไป ทั้งแพและ กำ
สัตว์พำหนะด้วย๒๐๗
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ ๑๗๐๓ พินสัยำนักรรมซึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งบุค คลที่มีอำยุยังกไม่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ค รบสิบ ห้ ำ ปีสำนั
บ ริกบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ูรณ์ทำขึ้นนั้น กำ
เป็นโมฆะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๐๔ พินัยกรรมซึ่งบุคคลผู้ถูกศำลสั่งให้เป็นคนไร้ควำมสำมำรถทำขึ้นนั้น
สำนักเป็ นโมฆะ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พิ นั ย กรรมซึ่ งบุ ค คลผู้ ถู ก อ้ ำงว่ ำเป็ น คนวิ ก ลจริต แต่ ศ ำลยั งไม่ ได้ สั่ งให้ เป็ น คนไร้
ควำมสำมำรถทำขึ ้นนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ้น จะเป็นอันเสียเปล่ำกก็ำแต่เมื่อพิสูจน์สไำนั ด้วก่ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ในเวลำที่ทำพินัยกรรมนั กำ ้นผู้ทำจริต
วิกลอยู่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๐๕ พิ นั ย กรรมหรื อ ข้ อ ก ำหนดพิ นั ย กรรมนั้ น ถ้ ำ ได้ ท ำขึ้ น ขั ด ต่ อ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทบัญญัติแห่งมำตรำ ๑๖๕๒, ๑๖๕๓, ๑๖๕๖, ๑๖๕๗, ๑๖๕๘, ๑๖๖๐, ๑๖๖๑ หรือ ๑๖๖๓ ย่อม
สำนักเป็ นโมฆะ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๗๐๖ ข้อกำหนดพิกนำ ัยกรรมเป็นโมฆะ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ถ้ำตั้งผู้รับพินัยกรรมไว้โดยมีเงื่อนไขว่ำ ให้ผู้รับพินัยกรรมจำหน่ำยทรัพย์สินของ
สำนักเขำเองโดยพิ นัยกรรมให้กแำก่ผู้ทำพินัยกรรม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักหรื อแก่บุคคลภำยนอก กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ถ้ำกำหนดบุคคลซึ่งไม่อำจที่จะทรำบตัวแน่นอนได้เป็นผู้รับพินัยกรรม แต่ผู้รับ
พินัยกรรมตำมพิสนำนััยกรรมลั กษณะเฉพำะนั้นกอำจก
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำหนดโดยให้สำนักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ุคคลใดคนหนึ่ งเป็นผูก้รำะบุเลือกเอำ
จำกบุคคลอื่นหลำยคน หรือจำกบุคคลอื่นหมู่ใดหมู่หนึ่ง ซึ่งผู้ทำพินัยกรรมระบุไว้ก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี(๓) ถ้ำกทรั
ำ พย์สินที่ยกให้
สำนัโกดยพิ นัยกรรมระบุไว้ไม่ชกัดำแจ้งจนไม่อำจที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่จกะทรำบแน่ นอน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ได้ หรือถ้ำให้บุคคลใดคนหนึ ่งกำหนดให้มำกน้อยเท่ำใดตำมแต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ใจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๐๗
มำตรำ ๑๗๐๒ วรรคสำม แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำย
สำนักแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พ.ศ. ๒๕๔๘ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๔) สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๐๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๗๐๗ ถ้ำข้สอำนักกำหนดพิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นัยกรรมตั้งผู้รับกพิำ นัยกรรมโดยมี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัเงืก่องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นไขว่ำให้ผู้รับ กำ
พินัยกรรมจำหน่ำยทรัพย์สินที่ยกให้โดยพินัยกรรมนั้นแก่บุคคลอื่น ให้ถือว่ำเงื่อนไขนั้นเป็นอันไม่มีเลย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๐๘ เมื่อผู้ทำพินัยกรรมตำยแล้ว บุคคลผู้มีส่วนได้เสียคนใดคนหนึ่งจะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ร้องขอให้ศำลสั่งเพิกถอนพินัยกรรมซึ่งได้ทำขึ้นเพรำะเหตุข่มขู่ก็ได้ แต่หำกผู้ทำพินัยกรรมยังมีชีวิตอยู่
ต่อมำเกินหนึ่งปีนสับำนัแต่กผงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ู้ทำพินัยกรรมพ้นจำกกำรข่
กำ มขู่แล้ว จะมี
สำนักกำรร้ องขอเช่นว่ำนั้นไม่ได้กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๑๗๐๙ เมื่อสผูำนั้ทำพิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นัยกรรมตำยแล้ว บุคกคลผู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้มีส่วนได้เสสีำนั
ยคนใดคนหนึ ่งจะ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ร้องขอให้ศำลสั่งเพิกถอนพินัยกรรมซึ่งได้ทำขึ้นเพรำะสำคัญผิดหรือกลฉ้อฉลได้ก็ต่อเมื่อควำมสำคัญ
ผิดหรือกลฉ้อฉลนัสำนั
้นถึกงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ขนำด ซึ่งถ้ำมิได้มีควำมส กำ ำคัญผิดหรือสกลฉ้ อฉลเช่นนั้น พินัยกรรมนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นก็จะมิได้
ทำขึ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีควำมในวรรคก่
กำ อ นนีสำนั
้ ให้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ใช้ บั งคั บ แม้ ถึ งว่ ำ กลฉ้กำอ ฉลนั้ น บุ ค คลซึ
สำนัก่ งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มิ ใช่ เป็ น ผู้ รั บ กำ
ประโยชน์ตำมพินัยกรรมได้ก่อขึ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แต่พิ นั ย กรรมซึ่ งได้ ทำขึ้นโดยส ำคัญ ผิ ด หรืสำนั กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อกลฉ้ อฉลย่อ มมีผ ลบั งคับ ได้ เมื่ อผู้ ท ำ
สำนักพิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นัยกรรมมิได้เพิกถอนพิกำนัยกรรมนั้นภำยในหนึ ่งปีนับแต่ที่ได้รู้ถึงกำรส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำคัญผิดหรือสกลฉ้ ำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ฉลนั้น กำ

สมำตรำ ๑๗๑๐ คดีฟ้องขอให้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เพิ กถอนข้อสำนั
กำหนดพิ นัยกรรมนั้น มิให้กำฟ้องเมื่อ พ้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำหนดดังนี้
(๑) สำมเดื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อนภำยหลัสงำนัทีก่ผงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ู้ทำพินัยกรรมตำย ในกรณี
กำ ที่โจทก์รู้เหตุสำนั
แห่กงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรที่จะขอให้ กำ
เพิกถอนได้ ในระหว่ำงที่ผู้ทำพินัยกรรมมีชีวิตอยู่ หรือ
ส(๒)
ำนักสำมเดื อนภำยหลังที่โจทก์
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำได้รู้เหตุเช่นนัส้นำนัในกรณี อื่นใด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แต่ถ้ำโจทก์ไม่รู้ว่ำมีข้อกำหนดพิ นัยกรรมอันกระทบกระทั่ งถึงส่ วนได้เสี ยของตน
สำนักแม้ ว่ำโจทก์จะได้รู้เหตุแกห่ำงกำรที่จะขอให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เพิกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ถอนได้ก็ดี อำยุควำมสำมเดื กำ อนให้เริ่มสนัำนั
บแต่ ขณะที่โจทก์รู้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หรือควรจะได้รู้ว่ำมีข้อกำหนดพินัยกรรมนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แต่อย่ำงไรก็ดี ห้ำมมิให้ฟ้องคดีเช่นนี้เมื่อพ้นสิบปีนับแต่ผู้ทำพินัยกรรมตำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๔
วิธีจัดกำรและปั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นทรัพย์มสรดก
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


หมวด ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีผูก้จำัดกำรมรดก สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๗๑๑ ผู้จัดกำรมรดกนั้นรวมตลอดทั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
้งบุคคลที่ตั้งขึ้นโดยพินัยกรรมหรือโดย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คำสั่งศำล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๐๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๗๑๒ ผู้จัดกำรมรดกโดยพินัยกรรมอำจตั้งขึ้นได้


(๑) โดยผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ทำพินัยกรรมเอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) โดยบุคคลซึ่งระบุไว้ในพินัยกรรม ให้เป็นผู้ตง้ั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๑๓ ทำยำทหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงำนอัยกำรจะร้องต่อศำลขอให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตั้งผู้จัดกำรมรดกก็ได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
ส(๑)
ำนักเมื ่อเจ้ำมรดกตำย ทำยำทโดยธรรมหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อผูก้รงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ับพินัยกรรมได้สูญหำยไป กำ หรืออยู่
นอกรำชอำณำเขต หรือเป็นผู้เยำว์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี(๒) เมืก่ อำ ผู้ จั ด กำรมรดกหรื อ ทำยำทไม่ ส ำมำรถกหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อ ไม่ เต็ ม ใจที ่ จ ะจั
สำนั ด กำร หรือ มี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เหตุขัดข้องในกำรจัดกำร หรือในกำรแบ่งปันมรดก
ส(๓)
ำนักเมืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อข้อกำหนดพินัยกรรมซึ กำ่งตั้งผู้จัดกำรมรดกไว้ ไม่มีผลบังคับได้ด้วยประกำรใด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๆ
กำรตั้ งผู้ จั ด กำรมรดกนั้ น ถ้ ำมี ข้ อ ก ำหนดพิ นั ย กรรมก็ ให้ ศ ำลตั้ งตำมข้ อ ก ำหนด
สำนักพิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นัยกรรม และถ้ำไม่มีกขำ้ อกำหนดพินัยสกรรม ก็ให้ศำลตั้งเพื่อประโยชน์
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ แก่กองมรดกตำมพฤติ กำรณ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
และโดยคำนึงถึงเจตนำของเจ้ำมรดก แล้วแต่ศำลจะเห็นสมควร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๗๑๔ เมื่อสศำลตั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้งให้ผู้ใดเป็นผู้จัดกำรมรดกเพื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่อกำรใดโดยเฉพำะ ผู้นั้นไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จำต้องทำบัญชีทรัพย์มรดก เว้นแต่จะจำเป็นเพื่อกำรนั้น หรือศำลสั่งให้ทำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๑๕ ผู้ทำพินัยกรรมจะตั้งบุคคลคนเดียวหรือหลำยคนให้เป็นผู้จัดกำร
สำนักมรดกก็ ได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เว้นแต่จะมีข้อกำหนดไว้ในพินัยกรรมเป็นอย่ำงอื่น ถ้ำมีผู้จัดกำรมรดกหลำยคน แต่
ผู้จัดกำรเหล่ำนั้นบำงคนไม่ สำมำรถ หรือไม่เต็มกใจที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่จะจัดกำร สและยั งมีผู้จัดกำรมรดกเหลืออยู
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่แต่คนเดียว
ผู้นั้นมีสิทธิที่จะจัดกำรมรดกได้โดยลำพัง แต่ถ้ำมีผู้จัดกำรมรดกเหลืออยู่หลำยคน ให้สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำ
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้จัดกำรเหล่ำนั้นแต่ละคนจะจั
กำ ดกำรโดยล สำนัำพั งไม่ได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๑๖ หน้ำที่ผู้จัดกำรมรดกที่ศำลตั้ง ให้เริ่มนับแต่วันที่ได้ฟังหรือถือว่ำได้
สำนักฟังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งคำสั่งศำลแล้ว กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๗๑๗ ในเวลำใดกำๆ ภำยในหนึ่งสปีำนันกับงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี แต่วันที่เจ้ำมรดกตำยกำแต่ต้องเป็น
เวลำภำยหลังที่เจ้ำมรดกตำยแล้วสิบห้ำวัน ทำยำทหรือผู้มีส่วนได้เสียคนใดคนหนึ่ง จะแจ้งควำมถำม
สำนักไปยั งผู้ที่ถูกตั้งเป็นผู้จัดกำรมรดกโดยพิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นสำนั
ัยกรรมว่ ำจะรับเป็นผู้จัดกำรมรดกหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อไม่กส็ไำนั
ด้ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำผู้ที่ได้รับแจ้งควำมมิได้ตอบรับเป็นผู้จัดกำรมรดกภำยในหนึ่งเดือนนับแต่วันรับ
แจ้งควำมนั้น ให้ถสืำนั อว่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้นั้นปฏิเสธ แต่กำรรับกเป็ำ นผู้จัดกำรมรดกนั ้น จะทำภำยหลังหนึ่งกปีำนับแต่วันที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เจ้ำมรดกตำยไม่ได้ เว้นแต่ศำลจะอนุญำต
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๑๘ บุคคลต่อไปนี้จะเป็นผู้จัดกำรมรดกไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ผู้ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภำวะ
(๒) บุกคำคลวิกลจริต หรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อบุกคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั คลซึ่งศำลสั่งให้เป็นผู้เกสมื
ำ อนไร้ควำมสำมำรถ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๐๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๓) บุคคลซึ่งศำลสั่งให้เป็นคนล้มละลำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๑๙ ผู้จัดกำรมรดกมีสิทธิและหน้ำที่ที่จะทำกำรอันจำเป็น เพื่อให้กำร
เป็ น ไปตำมคำสั่ งสแจ้
ำนังกชังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดหรื อโดยปริย ำยแห่กงำพิ นัยกรรม และเพื ่ อจัดกำรมรดกโดยทั่วกไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ หรือเพื่ อ
แบ่งปันทรัพย์มรดก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๗๒๐ ผู้จัดกำรมรดกต้


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องรับผิดต่สอำนัทำยำทตำมที ่บัญญัติไว้ในมำตรำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๘๐๙
ถึง ๘๑๒, ๘๑๙, ๘๒๓ แห่งประมวลกฎหมำยนี้โดยอนุโลม และเมื่อเกี่ยวกับบุคคลภำยนอก ให้ใช้
สำนักมำตรำ ๘๓๑ บังคับโดยอนุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ โลม สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๗๒๑ ผู้จัดกำรมรดกไม่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มีสิทธิทสี่จำนัะได้ รับบำเหน็จจำกกองมรดก
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เว้น แต่
พินัยกรรม หรือทำยำทโดยจำนวนข้ำงมำกจะได้กำหนดให้ไว้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๒๒ ผู้จัดกำรมรดกจะทำนิติกรรมใด ๆ ซึ่งตนมีส่วนได้เสียเป็นปฏิปักษ์
ต่อกองมรดกหำได้ไม่ เว้นแต่พินัยกรรมจะได้อนุญำตไว้ หรือสได้ำนัรับกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อนุญำตจำกศำล กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๗๒๓ ผู้จัดกำรมรดกต้องจัดกำรโดยตนเอง เว้นแต่จะทำกำรโดยตัวแทนได้
ตำมอำนำจที่ให้ ไสว้ำนัชัดกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แจ้งหรือโดยปริยำยในพิ
กำ นั ย กรรม หรืสอำนัโดยค ำสั่ งศำล หรือในพฤติ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กำรณ์ เพื่ อ
ประโยชน์แก่กองมรดก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๒๔ ทำยำทย่อมมีควำมผูกพันต่อบุคคลภำยนอกในกิจกำรทั้งหลำยอัน
ผู้จัดกำรมรดกได้ทสำนั
ำไปภำยในขอบอ ำนำจในฐำนะที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่เป็นผู้จัดกำรมรดก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำผู้จัดกำรมรดกเข้ำทำนิติกรรมกับบุคคลภำยนอก โดยเห็นแก่ทรัพย์สินอย่ำงใด ๆ
สำนักหรื อประโยชน์อย่ำงอื่นใด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อันบุคคลภำยนอกได้ ให้ หรือได้ให้คำมั่นกว่ำำจะให้เป็นลำภส่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัวกนตั ว ทำยำทหำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ต้องผูกพันไม่ เว้นแต่ทำยำทจะได้ยินยอมด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๗๒๕ ผู้จัดสกำรมรดกต้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องสืบหำโดยสมควรซึ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งตัวผู้มีส่วสนได้
ำนักเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สียและแจ้งไป กำ
ให้ทรำบถึงข้อกำหนดพินัยกรรมที่เกี่ยวกับผู้มีส่วนได้เสียนั้นภำยในเวลำอันสมควร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๒๖ ถ้ำผู้จัดกำรมรดกมีห ลำยคน กำรทำกำรตำมหน้ำที่ของผู้ จัดกำร
สำนักมรดกนั ้นต้องถือเอำเสียกงข้ำ ำงมำก เว้นแต่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัจกะมี ข้ อกำหนดพินัยกรรมเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นอย่ำงอื่น ถ้สำำนั
เสีกยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งเท่ำกัน เมื่อผู้ กำ
มีส่วนได้เสียร้องขอ ก็ให้ศำลเป็นผู้ชี้ขำด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๒๗ ผู้มีส่วนได้เสียคนหนึ่งคนใดจะร้องขอให้ศำลสั่งถอนผู้จัดกำรมรดก
สำนักเพรำะเหตุ ผู้จัดกำรมรดกละเลยไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ทำกำรตำมหน้ ำที่ หรือเพรำะเหตุกำอย่ำงอื่นที่สมควรก็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ได้ แต่ต้ องร้อง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ขอเสียก่อนที่กำรปัสำนั
นมรดกเสร็ จสิ้นลง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แม้ถึงว่ำจะได้เข้ำรับตำแหน่งแล้วก็ดี ผู้จัดกำรมรดกจะลำออกจำกตำแหน่งโดยมีเหตุ
สำนักอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นสมควรก็ได้ แต่ต้องได้กำรับอนุญำตจำกศำล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๐๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๗๒๘ ผู้จัดสกำรมรดกต้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องลงมือจัดทำบัญกำชีทรัพย์มรดกภำยในสิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บห้ำวัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๑) นั บ แต่ เจ้ ำ มรดกตำย ถ้ ำ ในขณะนั้ น ผู้ จั ด กำรมรดกได้ รู้ ถึ ง กำรตั้ ง แต่ ง ตำม
พินัยกรรมที่มอบหมำยไว้ แก่ตน หรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) นั บแต่วัน ที่เริ่มหน้ำที่ผู้จัดกำรมรดกตำมมำตรำ ๑๗๒๖ ในกรณีที่ศำลตั้งเป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้จัดกำรมรดก หรือ
ส(๓)
ำนักนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บแต่วันที่ผู้จัดกำรมรดกรั
กำ บเป็นผู้จัดกำรมรดกในกรณี อื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๑๗๒๙ ผู้จัดสกำรมรดกต้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องจัดทำบัญชีทกรัำพย์มรดกให้แสล้ำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วเสร็ จภำยในหนึ่ง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เดือ นนั บ แต่ เวลำที่ ร ะบุ ไว้ในมำตรำ ๑๗๒๘ แต่ กำหนดเวลำนี้ เมื่อ ผู้ จัด กำรมรดกร้อ งขอก่อนสิ้ น
กำหนดเวลำหนึ่งเดื อนกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ศำลจะอนุญำตให้ขยำยต่กำ อไปอีกก็ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บัญ ชีนั้น ต้องทำต่อหน้ำพยำนอย่ำงน้อยสองคน ซึ่งต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในกอง
สำนักมรดกนั ้นด้วย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บุคคลซึ่งจะเป็นพยำนในกำรทำพินัยกรรมไม่ได้ตำมมำตรำ ๑๖๗๐ จะเป็นพยำนใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรทำบัญชีใด ๆ ที่ต้องทำขึ้นตำมบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมำยนี ้ไม่ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๓๐ ให้นำมำตรำ ๑๕๖๓, ๑๕๖๔ วรรค ๑ และ ๒ และ ๑๕๖๕ แห่ง
ประมวลกฎหมำยนี สำนั้มกำใช้ บังคับโดยอนุโลม ในระหว่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำงทำยำทกั
สำนับกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้จัดกำรมรดกโดยพินัยกกรรมและใน

ระหว่ำงศำลกับผู้จัดกำรมรดกที่ศำลตั้ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๓๑ ถ้ำผู้จัดกำรมรดกมิได้จัดทำบัญชีภำยในเวลำและตำมแบบที่กำหนดไว้
หรือถ้ำบัญชีนั้นไม่สำนั
เป็นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ที่พอใจแก่ศำล เพรำะควำมประมำทเลิ
กำ นเล่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ออย่ำงร้ำยแรง หรือกำรทุ
กำ จริต หรือ
ควำมไม่สำมำรถอันเห็นประจักษ์ของผู้จัดกำรมรดก ศำลจะถอนผู้จัดกำรมรดกเสียก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๓๒ ผู้จัดกำรมรดกต้องจัดกำรตำมหน้ำที่และทำรำยงำนแสดงบัญชีกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จั ด กำรและแบ่ งปั น มรดกให้ เสร็ จ ภำยในหนึ่ งปี นั บ แต่ วั น ที่ ร ะบุ ไว้ในมำตรำ ๑๗๒๘ เว้น แต่ ผู้ ท ำ
สำนักพิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นัยกรรม ทำยำทโดยจกำนวนข้
ำ ำงมำก สหรื
ำนัอกศำลจะได้ กำหนดเวลำให้กำไว้เป็นอย่ำงอื่นสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สมำตรำ ๑๗๓๓ กำรให้อนุมกำัติ กำรปลดเปลื


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้อกงควำมรั บผิด หรือข้อตกลงอื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่น ๆ อัน
เกี่ย วกับรำยงำนแสดงบัญชีกำรจัดกำรมรดกดังที่บัญญัติไว้ในมำตรำ ๑๗๓๒ นั้น จะสมบูรณ์ต่อเมื่อ
สำนักรำยงำนแสดงบั ญชีนั้นได้กำส่งมอบล่วงหน้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำแก่
สำนั ทำยำทพร้อมด้วยเอกสำรอั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นเกี่ยวกั บสกำรนั ้นไม่น้อยกว่ำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สิบวันก่อนแล้ว
สคดี
ำนัเกกีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ย วกับ กำรจั ดกำรมรดกนั
กำ ้ น มิ ให้ ท ำยำทฟ้ องเกิน กว่ำห้ ำปีนั บแต่กำกำรจัดกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มรดกสิ้นสุดลง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๒ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรรวบรวมจำหน่ำยทรัพย์มรดกเป็นตัวเงิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ และกำรชสำนัำระหนี ้กับแบ่งปันทรัพย์มกรดก
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๐๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๗๓๔ เจ้ำหนี้กองมรดกชอบแต่จะได้รับกำรชำระหนี้ จำกทรัพย์สินในกอง
มรดกเท่ำนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๗๓๕ ทำยำทจำต้องบอกทรัพย์มรดกและหนี้สิ นของผู้ตำยตำมที่ตนรู้
ทั้งหมดแก่ผู้จัดกำรมรดก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๗๓๖ ตรำบใดที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่เจ้ำหนี้กองมรดก หรือกผูำ้รับพินัยกรรมทีสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ปรำกฏตั ว ยังไม่ได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
รับชำระหนี้ หรือส่วนได้ตำมพินัยกรรมแล้วทุกคน ให้ถือว่ำทรัพย์มรดกยังคงอยู่ในระหว่ำงจัดกำร
สในระหว่ ำงเวลำเช่นว่ำนั้น ผูก้จำัดกำรมรดกชอบที
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่จะทำกำรใด ๆ ในทำงจักำดกำรตำมที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำเป็น ได้ เช่น ฟ้องคดีห รือแก้ฟ้องในศำลและอื่น ๆ อนึ่ง ผู้จัดกำรมรดกต้องทำกำรทุกอย่ำงตำมที่
สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเป็น เพื่อเรียกเก็บหนีกำ้สินซึ่งค้ำงชำระอยู ่แก่กองมรดกภำยในเวลำอั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นเร็วที่สุดสทีำนั
่จะท ำได้ และเมื่อ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เจ้ำหนี้กองมรดกได้รับชำระหนี้แล้ว ผู้จัดกำรมรดกต้องทำกำรแบ่งปันมรดก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๗๓๗ เจ้ำหนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้กกองมรดกจะบั งคับสิทธิเรีกยำกร้องต่อทำยำทคนใดก็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ได้ แต่ถ้ำมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ผู้จัดกำรมรดก ให้เจ้ำหนี้เรียกเข้ำมำในคดีด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๓๘ ก่อนแบ่งมรดก เจ้ำหนี้กองมรดกจะบังคับชำระหนี้เต็มจำนวนจำก
สำนักกองมรดกก็ ได้ ในกรณีเกช่ำนนี้ ทำยำทคนหนึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ง ๆ อำจเรียกให้ชำระหนี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้จำกทรัพย์มสำนั
รดกของเจ้ ำมรดก
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หรือให้เอำเป็นประกันก็ได้จนถึงเวลำแบ่งมรดก
สเมืำนั่อกแบ่ งมรดกแล้ว เจ้ำหนี้อกำจเรี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ยกให้ทำยำทคนใดคนหนึ ่งชำระหนี้ไกด้ำเพียงไม่เกิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทรัพย์มรดกที่ทำยำทคนนั้นได้รับไป ในกรณีเช่นนี้ ทำยำทคนใดซึ่งได้ชำระหนี้แก่เจ้ำหนี้กองมรดกเกิน
สำนักกว่ ำส่วนที่ตนจะต้องเฉลีก่ยำใช้หนี้ ทำยำทคนนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้นมีสิทธิไล่เบี้ยจำกทำยำทคนอื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่นได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๓๙ ให้ ช ำระหนี้ ที่ ก องมรดกค้ ำงช ำระตำมล ำดั บ ต่ อ ไปนี้ และตำม
สำนักบทบั ญญัติแห่งประมวลกฎหมำยนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ว่ำสด้ำนัวยบุ ริมสิทธิ โดยต้องไม่เป็กำนที่เสื่อมเสียแก่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนับกรรดำเจ้ ำหนี้ผู้มี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
บุริมสิทธิพิเศษตำมประมวลกฎหมำยนี้หรือกฎหมำยอื่น และบรรดำเจ้ำหนี้ที่มีประกันโดยกำรจำนำ
หรือกำรจำนอง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ค่ำใช้จ่ำยเพื่อประโยชน์อันร่วมกันของกองมรดก
(๒) ค่ำกใช้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ จ่ำยในกำรทสำศพเจ้ ำมรดก
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ค่ำภำษีอำกรซึ่งกองมรดกค้ำงชำระอยู่
ส(๔)
ำนักค่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำจ้ำงซึ่งเจ้ำมรดกค้ำงชกำระแก่ ำ เสมียน สคนใช้ และคนงำน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
(๕) ค่ำเครื่องอุปโภคบริโภคอันจำเป็นประจำวันซึ่งส่งให้แก่เจ้ำมรดก
(๖) หนีกำ้สินสำมัญของเจ้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำมรดก
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๗) บำเหน็จของผู้จัดกำรมรดก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๑๗๔๐ เว้นสำนั


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี แต่กเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จ้ ำมรดกหรือ กฎหมำยจะได้
กำ ก ำหนดไว้
สำนัเป็กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น อย่ำงอื่ น ให้ กำ
- ๓๐๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

จัดสรรทรัพย์สินของเจ้ำมรดกเพื่อชำระหนี้ตำมลำดับต่อไปนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี(๑) ทรักพำ ย์สินนอกจำกอสั
สำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หำริมทรัพย์ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) อสังหำริมทรัพย์ซึ่งจัดสรรไว้ชัดแจ้งในพินัยกรรมว่ำสำหรับชำระหนี้ถ้ำหำกว่ำมี
ทรัพย์สินเช่นนั้น ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) อสังหำริมทรัพย์ซึ่งทำยำทโดยธรรมชอบที่จะได้รับในฐำนะเช่นนั้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) อสังหำริมทรัพย์ซึ่งเจ้ำมรดกทำพินัยกรรมให้แก่ผู้ใดผู้หนึ่งโดยมีเงื่อนไขว่ำ ผู้นั้น
ต้องชำระหนี้ของเจ้ ำมรดก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) อสังหำริมทรัพย์ซึ่งเจ้ำมรดกทำพินัยกรรมให้โดยลักษณะทั่วไปดังบัญญัติไว้ใน
สำนักมำตรำ ๑๖๕๑
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๖) ทรัพย์สินเฉพำะอย่ำงซึ่งเจ้ำมรดกทำพินัยกรรมให้โดยลักษณะเฉพำะดังบัญญัติ
ไว้ในมำตรำ ๑๖๕๑ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทรัพย์สินอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งซึ่งได้จัดสรรไว้ตำมควำมที่กล่ำวมำแล้วข้ำงต้นนั้น ให้เอำ
สำนักออกขำยทอดตลำด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี แต่กทำำยำทคนใดคนหนึ ่งอำจมิให้มีกำรขำยเช่นกว่ำ ำนั้นได้ โดยชสำระรำคำทรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี พย์สิน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
นั้นทั้งหมด หรือแต่บำงส่วนตำมที่ผู้ตีรำคำซึ่งศำลตั้งขึ้นได้ กำหนดให้ จนพอแก่จำนวนที่จะชำระหนี้
ให้แก่เจ้ำหนี้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๗๔๑ เจ้ำหนี้กองมรดกคนใดคนหนึ่ง จะคัดค้ำนกำรขำยทอดตลำดหรือ
กำรตีรำคำทรัพย์สสำนั ินดักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระบุไว้ในมำตรำก่อน โดยเสี
กำ ยค่ำใช้จ่ำสยของตนเองก็ ได้ ถ้ำเจ้ำหนี้ไกด้ำร้องคัดค้ำน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แล้ว ยังได้กระทำกำรขำยทอดตลำด หรือตีรำคำไป จะยกกำรขำยทอดตลำดหรือตีรำคำนั้นขึ้นยันต่อ
สำนักเจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนี้ผู้ร้องคัดค้ำนแล้วกนัำ้นหำได้ไม่ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๗๔๒ ถ้ำในกำรชกำระหนี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้ซึ่งค้ำงชสำระอยู ่แก่ตน เจ้ำหนี้คนใดคนหนึ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งได้รับ
ตั้งในระหว่ำงที่ผู้ตำยมีชีวิตอยู่ ให้เป็นผู้รับประโยชน์ในกำรประกันชีวิต เจ้ำหนี้คนนั้นชอบที่จะได้รับ
สำนักเงิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นทั้งหมด ซึ่งได้ตกลงไว้
กำกับผู้รับประกัสำนั
น กอนึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ง เจ้ำหนี้เช่นว่ำนั้น จกำต้
ำ องส่งเบี้ยประกั
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ภัยคืนเข้ำกอง กำ
มรดกก็ต่อเมื่อเจ้ำหนี้คนอื่น ๆ พิสูจน์ได้ว่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) กำรที่ผู้ตำยชำระหนี้ให้แก่เจ้ำหนี้โดยวิธีดังกล่ำวมำนั้นเป็นกำรขัดต่อบทบัญญัติ
สำนักมำตรำ ๒๓๗ แห่งประมวลกฎหมำยนี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ สและ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) เบี้ยประกันภัยเช่นว่ำนั้น เป็นจำนวนสูงเกินส่วนเมื่อเทียบกับรำยได้หรือฐำนะ
ของผู้ตำย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถึงอย่ำงไรก็ดี เบี้ยประกันภัยซึ่งจะพึงส่งคืนเข้ำกองมรดกนั้นต้องไม่เกินกว่ำจำนวน
สำนักเงิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นที่ผู้รับประกันชำระให้กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๗๔๓ ทำยำทโดยธรรม


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ หรือผู้รสับำนัพิกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัยกรรมโดยลักษณะทั่วกไปไม่
ำ จำต้อง
ปฏิบัติตำมข้อกำหนดในพินัยกรรมลักษณะเฉพำะเกินกว่ำจำนวนทรัพย์มรดกที่ตนได้รับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๔๔ ผู้จัดกำรมรดกไม่จำต้องส่สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งมอบทรั พย์มรดกหรือส่วนใดส่วนหนึ่ง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แห่งทรัพย์มรดกให้แก่ทำยำทก่อนปีหนึ่งนับแต่วันที่เจ้ำมรดกถึงแก่ควำมตำย เว้นแต่เจ้ำหนี้กองมรดก
สำนักและผู ้รับพินัยกรรมที่ปรำกฏตั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วได้รับชำระหนี ้และส่วนได้ตำมพินัยกรรมแล้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วทุกคนสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๐๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรแบ่งมรดก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๗๔๕ ถ้ำมีทำยำทหลำยคน ทำยำทเหล่ ำนั้นมีสิทธิและหน้ำที่เกี่ยวกับ
ทรัพย์มรดกร่วมกัสนำนัจนกว่ ำจะได้แบ่งมรดกกักนำเสร็จแล้ว และให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ช้มำตรำ ๑๓๕๖ ถึงมำตรำ
กำ ๑๓๖๖
แห่งประมวลกฎหมำยนี้บังคับ เพียงเท่ำที่ไม่ขัดกับบทบัญญัติแห่งบรรพนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๔๖ ภำยใต้บังคับแห่งกฎหมำย หรือข้อควำมในพินัยกรรมถ้ำหำกมี ให้
สันนิษฐำนไว้ก่อนว่สำนั
ำ กผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้เป็นทำยำทด้วยกันมีส่วกนเท่
ำ ำกันในกองมรดกที ่ยังไม่ได้แบ่ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำกำ๑๗๔๗ กำรทีสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ทำยำทคนใดได้ รับทรัพย์สกินำอย่ำงหนึ่งอย่ ำสงใด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หรือประโยชน์
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
อย่ำงอื่นใดจำกเจ้ำมรดกโดยกำรให้ หรือโดยกำรอย่ำงอื่นใด ซึ่งทำให้โดยเสน่หำในระหว่ำงเวลำที่เจ้ำ
มรดกยังมีชีวิตอยูส่นำนัั้นกหำท
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำให้สิทธิในกำรแบ่งปันทรัพย์มรดกของทำยำทคนนั ้น ต้องเสื่อมเสียไปแต่
สำนักโดยประกำรใดไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตร ๑๗๔๘ ทำยำทคนใดครอบครองทรั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สพำนัย์กมงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รดกซึ่ งยังมิได้แบ่งกัน ทำยำทคนนั
กำ ้น
มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้แบ่งทรัพย์มรดกนั้นได้ แม้ว่ำจะล่วงพ้นกำหนดอำยุควำมตำมมำตรำ ๑๗๕๔
สำนักแล้ วก็ดี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สิทธิที่จะเรียกให้แบ่งทรัพย์มรดกตำมวรรคก่อน จะตัดโดยนิติกรรมเกินครำวละสิบปี
ไม่ได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๗๔๙ ถ้ำมีสคำนัดีกฟงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้องเรียกทรัพย์มรดก ผูก้ำซึ่ งอ้ำงว่ำตนเป็สำนั
นทำยำทมี สิทธิใน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทรัพย์มรดกนั้น จะร้องสอดเข้ำมำในคดีก็ได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แต่ศำลจะเรียกทำยำทอื่น นอกจำกคู่ควำม หรือผู้ร้องสอด ให้ เข้ำมำรับส่วนแบ่ง
สำนักหรื อกันส่วนแห่งทรัพย์มกรดกไว้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ เพื่อทำยำทอื
สำนัก่นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นั้นไม่ได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๗๕๐ กำรแบ่งปันกทรั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ พย์มรดกนั้นสำนั
อำจท ำได้โดยทำยำทต่ำงเข้กำำครอบครอง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทรัพย์สินเป็นส่วนสัด หรือโดยกำรขำยทรัพย์มรดกแล้วเอำเงินที่ขำยได้มำแบ่งปันกันระหว่ำงทำยำท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถ้ำกำรแบ่
กำ งปันมิได้เป็สนำนั
ไปตำมวรรคก่ อน แต่ได้ทำโดยสั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญำ จะฟ้สำนั
องร้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องให้บังคับคดี กำ
หำได้ไม่ เว้นแต่จะมีหลักฐำนเป็นหนังสืออย่ำงหนึ่งอย่ำงใด ลงลำยมือชื่อฝ่ำยที่ต้องรับผิ ดหรือตัวแทน
ของฝ่ ำยนั้ น เป็ นสสำนั
ำคักญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ในกรณี เช่ น นี้ ให้ น ำมำตรำ
กำ ๘๕๐,สำนั
๘๕๒ แห่ งประมวลกฎหมำยนี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ ว่ ำ ด้ ว ย
ประนีประนอมยอมควำมมำใช้บังคับโดยอนุโลม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๕๑ ภำยหลังที่ได้แบ่งมรดกกัสนำนัแล้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ว ถ้ำทรัพย์สินทั้งหมดหรื
กำ
อบำงส่วน
ซึ่งทำยำทคนใดคนหนึ่งได้รับตำมส่วนแบ่งปันนั้น หลุดมือ ไปจำกทำยำทคนนั้นเนื่องจำกกำรรอนสิทธิ
สำนักทำยำทคนอื ่น ๆ จำต้องใช้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ค่ำทดแทน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๑๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

หนี้เช่นว่ำนั้น เป็นอันระงับเมื่อมีกำรตกลงกันไว้เป็นอย่ำงอื่น หรือกำรรอนสิทธิเป็น


สำนักผลเนื ่องมำจำกควำมผิดกของทำยำทผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้ถูกสำนั
รอนสิ ทธิ หรือเนื่องมำจำกเหตุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ซึ่งเกิดขึ้นภำยหลั งกำรแบ่งปัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทำยำทคนอื่น ๆ ต้องใช้ค่ำทดแทนให้แก่ทำยำทผู้ถูกรอนสิทธิตำมส่วนแห่งส่วนแบ่ง
ของตน แต่ให้หักจำนั
ส ำนวนที ่เป็นส่วนเฉลี่ย ซึ่งทำยำทผู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ถูกรอนสิ
สำนัทกธิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จะต้องออกกับเขำด้วกยนัำ ้นออกเสีย
แต่ถ้ำทำยำทคนใดคนหนึ่งเป็นคนหนี้สินล้นพ้นตัว ทำยำทคนอื่น ๆ ต้องรับผิดในส่วนของทำยำทคน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นั้นตำมส่วนเฉลี่ยเช่นเดียวกัน แต่ให้หักจำนวนที่เป็นส่วนเฉลี่ยซึ่งทำยำทผู้ที่จะได้รับค่ำทดแทนจะต้อง
ออกแทนทำยำทผูส้ทำนัี่มกีหงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นี้สินล้นพ้นตัวนั้นออกเสีกำย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทบัญญัติในวรรคก่อน ๆ มิให้ใช้บังคับแก่ผู้รับพินัยกรรมลักษณะเฉพำะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๕๒ คดีฟ้องให้รับผิดเนื่องจำกกำรรอนสิทธิตำมมำตรำ ๑๗๕๑ นั้น มิให้
ฟ้องเมื่อพ้นกำหนดสำมเดื อนนับแต่เมื่อถูกรอนสิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ทธิ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ลักษณะ ๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มรดกที่ไม่มีผู้รับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๗๕๓ ภำยใต้บังคับแห่งสิทธิของเจ้ำหนี้กองมรดก เมื่อบุคคลใดถึงแก่ควำม
ตำยโดยไม่มีทำยำทโดยธรรมหรื อผู้รับพินัยกรรม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ หรือกำรตั้งสมูำนั
ลนิกธงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิตำมพินัยกรรม มรดกของบุ
กำ คคลนั้น
ตกทอดแก่แผ่นดิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะ ๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกอำยุ
ำ ควำม สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๑๗๕๔ ห้ำมมิให้ฟ้องคดีมรดกเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปี นับแต่เมื่อเจ้ำมรดกตำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หรือนับแต่เมื่อทำยำทโดยธรรมได้รู้ หรือควรได้รู้ถึงควำมตำยของเจ้ำมรดก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี คดีฟ้อกงเรีำ ยกตำมข้อกสำหนดพิ นัยกรรม มิให้ฟ้องเมืกำ่อพ้นกำหนดหนึ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่งปีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นับแต่เมื่อผู้ รับ กำ
พินัยกรรมได้รู้หรือควรได้รู้ถึงสิทธิซึ่งตนมีอยู่ตำมพินัยกรรม
สภำยใต้ บังคับแห่งมำตรำ ๑๙๓/๒๗
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ แห่งประมวลกฎหมำยนี ้ ถ้ำสิทธิกเรีำยกร้องของ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เจ้ำหนี้อันมีต่อเจ้ำมรดกมีกำหนดอำยุควำมยำวกว่ำหนึ่งปี มิให้เจ้ำหนี้นั้นฟ้องร้องเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปี
สำนักนังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บแต่เมื่อเจ้ำหนี้ได้รู้ หรืกอำ ควรได้รู้ถึงควำมตำยของเจ้ ำมรดก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถึงอย่ำงไรก็ดี สิ ทธิเรียกร้องตำมที่ว่ำมำในวรรคก่อน ๆ นั้น มิให้ ฟ้ องร้องเมื่อพ้ น
กำหนดสิบปีนับแต่สำนั เมืก่องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เจ้ำมรดกตำย กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
[เลขมำตรำ ๑๙๓/๒๗ แก้ ไขเพิ่ ม เติ ม โดยมำตรำ ๑๕ แห่ งพระรำชบั ญ ญั ติให้ ใช้
สำนักบทบั ญญัติบรรพ ๑ แห่งกประมวลกฎหมำยแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจช
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำระใหม่ พ.ศ. สำนั๒๕๓๕]
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗๕๕ อำยุควำมหนึ่งปีนั้น จะยกขึ้นต่อสู้ได้ก็แต่โดยบุคคลซึ่งเป็นทำยำท
สำนักหรื อบุคคลซึ่งชอบที่จะใช้กำสิทธิของทำยำท
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัหรื อโดยผู้จัดกำรมรดก กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๑๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

พระรำชกฤษฎีกำให้ใช้บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ บรรพ ๑ และ ๒ ที่ได้ตรวจ


สำนักชงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำระใหม่๒๐๘ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

พระรำชกฤษฎีกำให้
สำนัใกช้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมำยแพ่
กำ สงำนัและพำณิ ชย์ บรรพ ๓ ที่ไกด้ำ ตรวจชำระ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ใหม่๒๐๙
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระรำชกฤษฎีกำให้
สำนัใกช้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บทบัญญัติ บรรพ ๔ แห่กำงประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิชย์๒๑๐ กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนัก*พระรำชบั ญญัติเทียบตกำแหน่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งรัฐมนตรีสำนั
กับกตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำแหน่งเสนำบดีแต่ก่อนกำพุทธศักรำช ๒๔๗๕ ๒๑๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สมำตรำ ๓ ในพระรำชบัญญักำติและกฎหมำยอื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ใด ซึ่งประกำศใช้อยู่ในเวลำนี
กำ ้ คำว่ำ
เสนำบดี ให้อ่ำนเป็นรัฐมนตรี คำที่กล่ำวถึงเสนำบดีกระทรวงใด ๆ ให้หมำยควำมว่ำ รัฐมนตรีว่ำกำร
สำนักกระทรวงนั ้น ๆ และคำว่กำำ กฎเสนำบดีสให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัอก่ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นเป็นกฎกระทรวง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

พระรำชบัญญัติแสก้ำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ไขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิสชำนัย์ กพุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทธศักรำช ๒๔๗๖๒๑๒ กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒ ให้ใช้พระรำชบัญญัตินี้ ตั้งแต่วันประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ พุทธศักรำช ๒๔๗๗๒๑๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒ ให้ใช้พระรำชบัญญัตินี้ตั้งแต่วันประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ พุทธศักรำช ๒๔๗๗ (ฉะบับที่ ๒)๒๑๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒ ให้ใช้พระรำชบัญญัตินี้ตั้งแต่วันประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักพระรำชบั ญญัติแก้ไขเพิก่มำเติมประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิชย์ พุกทำธศักรำช ๒๔๗๗


สำนั(ฉะบั บที่ ๓)๒๑๕
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สมำตรำ ๒ ให้ใช้พระรำชบัญกญัำ ตินี้ตั้งแต่วันประกำศในรำชกิ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี จจำนุเบกษำเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นต้นไป

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


๒๐๘
ำนักรำชกิ
ส๒๐๙ จจำนุเบกษำ เล่ม ๔๒/-/หน้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำ ๑/๑๑ พฤศจิ
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำยน ๒๔๖๘ กำ
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๔๕/-/หน้ำ ๑/๑ มกรำคม ๒๔๗๑
๒๑๐
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ ม ก๔๗/-/หน้ ำ ๔๔๒/๑๘ มีนำคม
กำ ๒๔๗๓
๒๑๑ กำ สำนั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๔๙/-/หน้ำ ๕๗๗/๒๕ ธันวำคม ๒๔๗๕
๒๑๒
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๕๐/-/หน้ำ ๑๓/๒ เมษำยน ๒๔๗๖
ส๒๑๓
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๕๑/-/หน้ำ ๔๔๑/๒ กันยำยน ๒๔๗๗
๒๑๔
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๕๒/-/หน้ำ ๗๑/๒๑ เมษำยน ๒๔๗๘
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๒๑๕ กำ สำนั
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ ม ก๕๒/-/หน้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๒๔๗๘ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำ ๓๓๗/๕ พฤษภำคม
- ๓๑๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

พระรำชบั ญ ญั ติ ให้ ใช้ บ ทบั ญ ญั ติ บ รรพ ๕ แห่ งประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิ ช ย์ พุ ท ธศั ก รำช
สำนัก๒๔๗๗ ๒๑๖
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒ ให้ใช้พระรำชบัญกญัำ ตินี้ตั้งแต่วันประกำศในรำชกิ


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี จจำนุเบกษำเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นต้นไป

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


พระรำชบั ญ ญั ติ ให้ ใช้บ ทบั ญ ญั ติ บรรพ ๖ แห่ งประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิ ช ย์ พุ ท ธศั กรำช
๒๔๗๗๒๑๗ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๒ ให้ใช้พระรำชบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญญัตินี้ ตั้งแต่วันประกำศในรำชกิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จจำนุสำนั
เบกษำเป็ นต้นไป
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

พระรำชบัญญัติแสก้ำนั
ไขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งและพำณิสชำนัย์ กพุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทธศักรำช ๒๔๗๘๒๑๘ กำ

มำตรำกำ๒ ให้ใช้พระรำชบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญญัตินี้เมื่อพ้นกำหนดเก้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำำสิบวัน นับแต่ วันกประกำศในรำช
สำนั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กิจจำนุเบกษำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ ๓ พระรำชบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญกญังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ตินี้ให้ ใช้บั งคับเฉพำะสั
กำ ญ ญำจ ำนองที
สำนั่ ได้กทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำตั้งแต่วันใช้ กำ
พระรำชบัญญัติเป็นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖ บทบัญญัติมำตรำ ๕๒ แห่งกฎหมำยลักษณะล้มละลำย ร.ศ. ๑๓๐ และ
สำนักบทบั ญญัติแห่งกฎหมำยอื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่นใดซึ่งเกี่ยวถึสงำนัสิทกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ธิของผู้รับจำนองจะนำมำใช้
กำ บังคับได้ เสพีำนั
ยงเท่ ำที่ไม่ขัดหรือ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แย้งกับบทบัญญัติมำตรำ ๗๓๓ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ ตำมที่ได้แก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระรำชบัญญัตินสี้ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักพระรำชบั ญญัติแก้ไขเพิก่มำเติมประมวลกฎหมำยแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและพำณิชย์ พุกทำธศักรำช ๒๔๗๙
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั๒๑๙
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒ ให้ใช้พระรำชบัญญัตินี้ตั้งแต่วันประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระรำชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระรำชบัญญัติไห้ไช้บทบัญญัติบัพ ๕ แห่งประมวนกดหมำยแพ่งและ
พำนิช พุทธสักรำชสำนั๒๔๗๗ พุทธสักรำช ๒๔๘๖
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
๒๒๐
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๒ ให้ใช้พระรำชก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำหนดนี้ตั้งแต่วันประกำศในรำชกิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จจำนุสเำนั
บกษำเป็ นต้นไป
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๒๑๖ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๕๒/-/หน้ำ ๔๗๔/๒๙ พฤษภำคม ๒๔๗๘
๒๑๗
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๕๒/-/หน้ำ ๕๒๙/๗ มิถุนำยน ๒๔๗๘
ส๒๑๘
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๕๒/-/หน้ำ ๑๓๒๐/๒๙ กันยำยน ๒๔๗๘
๒๑๙
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๕๓/-/หน้ำ ๖๓๔/๒๒ พฤศจิกำยน ๒๔๗๙
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๒๒๐ กำ สำนั
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ ม ก๖๐/ตอนที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มิถุนำยน ๒๔๘๖
่ ๓๒/หน้ำ ๑๐๘๙/๑๙ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๑๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

พระรำชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระรำชบัญญัติไห้ไช้บทบั ญญัติบัพ ๖ แห่งประมวนกดหมำยแพ่งและ


สำนักพำนิ ช พุทธสักรำช ๒๔๗๗
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พุทธสักรำชสำนั
๒๔๘๖ ๒๒๑
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒ ให้ใช้พระรำชกำหนดนี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ตั้งแต่วันสประกำศในรำชกิ จจำนุเบกษำเป็
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นต้นไป

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


พระรำชบัญญัติอนุมัติพระรำชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระรำชบัญญัติไห้ไช้บทบัญญัติบัพ ๕ แห่งประมวน
กดหมำยแพ่งและพำนิ
สำนักชงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พุทธสักรำช ๒๔๗๗ กพุำทธสักรำช ๒๔๘๖ พุทธสักรำช ๒๔๘๖๒๒๒กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำกำ๒ ให้ใช้พระรำชบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญญัตินี้ตั้งแต่วันประกำศในรำชกิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จจำนุสเำนั
บกษำเป็ นต้นไป
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

พระรำชบัญญัติอนุสำนั
มัตกิพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระรำชกำหนดแก้ไขเพิก่มำเติมพระรำชบัสญำนัญักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิไห้ไช้บทบัญญัติบัพ ๖กแห่
ำ งประมวน
กดหมำยแพ่งและพำนิช พุทธสักรำช ๒๔๗๗ พุทธสักรำช ๒๔๘๖ พุทธสักรำช ๒๔๘๖๒๒๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒ ให้ใช้พระรำชบัญญัตินี้ตั้งแต่วันประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักพระรำชบั ญญัติแก้ไขเพิก่มำเติมประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิชย์ (ฉบั


กำบที่ ๖) พ.ศ. ส๒๔๙๕
๒๒๔
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒ พระรำชบัญญัตินกี้ให้ำ ใช้บังคับตั้งแต่สำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วันกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ ๑ ตุลำคม พ.ศ. ๒๔๙๓กำ เป็นต้นไป

สำนักพระรำชบั ญญัติแก้ไขเพิก่มำเติมประมวลกฎหมำยแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและพำณิชย์ (ฉบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำบที่ ๗) พ.ศ. ส๒๔๙๖ ๒๒๕
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สมำตรำ ๒ พระรำชบั ญ ญัตกินำ ี้ให้ ใช้บังคับตัส้ำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งแต่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิ
กำ จจำ
นุเบกษำเป็นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๑๙๒๒๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๒ พระรำชบัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญกญังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตินี้ให้ ใช้บังคับตั้งแต่วกันำ ถัดจำกวันประกำศในรำชกิ จจำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
นุเบกษำเป็นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมำยเหตุ :- เหตุ ผ ลในกำรประกำศใช้ พ ระรำชบั ญ ญั ติ ฉ บั บ นี้ คื อ เนื่ อ งจำกรั ฐ ธรรมนู ญ แห่ ง
สำนักรำชอำณำจั กรไทย มำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๒๘ วรรคสอง บัญญัติว่ำ ชำยและหญิกงำมีสิทธิเท่ำเทียสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มกักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำต้องแก้ไข กำ
บทบัญญัติในประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญโดย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๒๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีรำชกิจจำนุเบกษำ เล่ ม ก๖๐/ตอนที ่ ๓๒/หน้ำ ๑๐๙๒/๑๙
กำ มิถุนำยน ๒๔๘๖
๒๒๒ กำ สำนั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๖๐/ตอนที่ ๔๗/หน้ำ ๑๓๔๓/๑๔ กันยำยน ๒๔๘๖
๒๒๓
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๖๐/ตอนที่ ๔๗/หน้ำ ๑๓๔๕/๑๔ กันยำยน ๒๔๘๖
ส๒๒๔
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๖๙/ตอนที่ ๑๒/หน้ำ ๑๘๙/๒๖ กุมภำพันธ์ ๒๔๙๕
๒๒๕
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๗๐/ตอนที่ ๘/หน้ำ ๑๗๖/๒๗ มกรำคม ๒๔๙๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๒๒๖ กำ สำนั
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ ม ก๙๓/ตอนที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ ๑๒๙/ฉบับพิเศษกำหน้ำ ๑/๑๕ ตุลสำคม
ำนัก๒๕๑๙
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๑๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์มำตรำ ๒๐ เพื่อให้สอดคล้องกับกำรแก้ไขเพิ่มเติม
สำนักบทบั ญญัติมำตรำ ๑๔๔๕
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ซึ่งให้ศำลมีอสำนำจอนุ ญำตให้ชำยและหญิกำงที่มีอำยุต่ำกว่สำำนัสิบกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี แปดปีบริบูรณ์ กำ
ทำกำรสมรสได้ โดยบัญญัติให้ชำยหญิงซึ่งได้รับอนุญำตจำกศำลทำกำรสมรสได้ก่อนอำยุครบสิบแปดปี
บริบูรณ์บรรลุนิตสิภำนัำวะโดยกำรสมรส นอกจำกนี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ได้พิจำรณำเห็
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ว่ำ มำตรำ ๓๗ มำตรำกำ๓๘ มำตรำ
๓๙ มำตรำ ๔๐ มำตรำ ๔๑ มำตรำ ๔๒ มำตรำ ๔๓ มำตรำ ๕๐ และวรรคสองของมำตรำ ๑๓๗ เป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทบัญญัติที่จำกัดสิทธิสตรี สมควรยกเลิกเสีย จึงจำเป็นต้องตรำพระรำชบัญญัตินี้ขึ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระรำชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ ที่ได้ตรวจชำระใหม่
สำนักพ.ศ. ๒๕๑๙๒๒๗
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒ พระรำชบั ญ ญัตกินำ ี้ให้ ใช้บังคับตัส้ำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งแต่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิ
กำ จจำ
นุเบกษำเป็นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๒ ให้นำยกรัฐมนตรีรักษำกำรตำมพระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักหมำยเหตุ :- เหตุ ผ ลในกำรประกำศใช้


งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระรำชบั ญ ญั ติ ฉ บั บ นีก้ำคื อ เนื่ อ งจำกรั
สำนัฐกธรรมนู ญ แห่ ง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
รำชอำณำจักรไทยมำตรำ ๒๘ วรรคสอง บัญ ญัติว่ำชำยและหญิงมีสิ ทธิเท่ำเทียมกัน จำต้องแก้ไข
บทบัญญัติในประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิกชำย์ เพื่อให้สอดคล้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งกับบทบัญญัติของรัฐกธรรมนู
ำ ญแห่ง
รำชอำณำจักรไทย จึงจำเป็นต้องตรำพระรำชบัญญัตินี้ขึ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๒๑๒๒๘
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒ พระรำชบั ญ ญัตินี้ให้ ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิจจำ
สำนักนุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เบกษำเป็นต้นไป กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๑ กำรเสนอขำยหุ้นและหุ้นกู้ต่อประชำชนที่ได้มีกำรจดทะเบียนหนังสือชี้
สำนักชวน หนังสือบอกกล่ำวป่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำำวร้อง หรือหนั
สำนังสืกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ออย่ำงอื่นในกำรชี้ชวนให้กำ ซื้อหุ้นหรือหุส้นำนักูก้โดยถู กต้องตำม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กฎหมำยในวันประกำศพระรำชบัญญัตินี้ในรำชกิจจำนุเบกษำแล้ว ให้คงดำเนินกำรต่อไปได้อีกไม่เกิน
เก้ำสิ บ วัน นั บ แต่สวัำนั
น ทีก่พงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระรำชบั ญ ญั ตินี้ ใช้บังกคัำ บ และให้ นำมำตรำ ๑๒๓๐ มำตรำ ๑๒๓๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มำตรำ
๑๒๓๒ มำตรำ ๑๒๓๓ มำตรำ ๑๒๓๔ และมำตรำ ๑๒๓๕ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ มำ
สำนักใช้ บังคับจนกว่ำจะพ้นกำหนดเวลำดั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งกล่สำนั
ำวกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๒ บริษัทใดจัดตั้งกขึำ้นตำมประมวลกฎหมำยแพ่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและพำณิชย์กอำ ยู่ก่อนวันที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับและมีผู้ถือหุ้นตั้งแต่หนึ่งร้อยคนอยู่แล้ว หรือมีผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งร้อยคน
สำนักขึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้น ไปภำยหลั งวัน ที่พ ระรำชบั
กำ ญ ญั ตินสี้ ใำนั
ช้บกังงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คับ ให้ ยังคงเป็นบริษกั ทำตำมประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์ต่อไป สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๒๗
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๙๓/ตอนที่ ๑๒๙/ฉบับพิเศษ หน้ำ ๔/๑๕ ตุลำคม ๒๕๑๙
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๒๒๘ กำ สำนั
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ ม ก๙๕/ตอนที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ ๑๔๙/ฉบับพิเศษกำหน้ำ ๙๘/๒๕ ธัสนำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วำคม ๒๕๒๑ กำ
- ๓๑๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๓ ให้รัฐมนตรี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัวก่ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรกระทรวงพำณิชย์รกักำษำกำรตำมพระรำชบั ญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

หมำยเหตุ :- เหตุสผำนัลในกำรประกำศใช้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี พ ระรำชบั
กำ ญ ญั ติ ฉ บัสำนั
บ นีก้ งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คื อ เนื่ อ งจำกได้ มี ก ำรประกำศใช้
กำ
พระรำชบัญญัติบริษัทมหำชนจำกัด พ.ศ. ๒๕๒๑ ซึ่งกำหนดให้บริษัทมหำชนจำกัดต้องมีผู้ถือหุ้นตั้งแต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หนึ่ งร้ อ ยคน และมี บ ทบั ญ ญั ติ ค วบคุ ม กำรเสนอขำยหุ้ น และหุ้ น กู้ เพื่ อ ป้ อ งกั น มิ ให้ ป ระชำชนถู ก
หลอกลวงแล้ว สมควรก ำหนดห้ำมมิให้บริษัทกจำ ำกัดตำมประมวลกฎหมำยแพ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและพำณิกชำ ย์มีผู้ถือหุ้น
ถึงหนึ่งร้อยคนและเสนอขำยหุ้น หรือหุ้นกู้ต่อประชำชน ซึ่งจำเป็นต้องแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำย
สำนักแพ่ งและพำณิชย์ บรรพกำ๓ ลักษณะ ๒๒
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัหมวด ๔ เฉพำะมำตรำทีก่เำกี่ยวข้องให้สอดคล้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องกับหลักกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ดังกล่ำว จึงจำเป็นต้องตรำพระรำชบัญญัตินี้ขึ้น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓๒๒๙
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒ พระรำชบั ญ ญัตินี้ให้ ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิจจำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นุเบกษำเป็นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๒ ในกรณีที่มีกำรให้ของหมั้นกันไว้ก่อนวันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้
ของหมั้นดังกล่ำวตกเป็ นสิทธิแก่หญิงเมื่อได้ทำกำรสมรสแล้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๖๓ นิติกรรมที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก่ คงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ู่ส มรสฝ่ำยหนึ่งได้กระท
กำำไปในกำรจัดสกำรสิ นสมรส โดย
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ปรำศจำกควำมยินยอมของคู่สมรสอีกฝ่ำยหนึ่งก่อนวันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ กำรให้สัตยำบัน
หรือกำรขอให้ศำลเพิ
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถอนนิติกรรมนั้น ให้เป็กนำไปตำมมำตรำสำนั๑๔๘๐ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งและ
พำณิชย์ก่อนกำรแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๔ ถ้ำมีคดีฟ้องขอให้ศำลแสดงว่ำกำรสมรสเป็นโมฆะเพรำะเหตุสมรสฝ่ำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ฝืนบทบัญญัติมำตรำ ๑๔๕๒ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ค้ำงพิจำรณำอยู่ในศำลใดในวันที่
สำนักพระรำชบั ญญัตินี้ใช้บังคักบำ ให้ศำลนั้นพิสจำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำรณำพิ พำกษำคดีต่อไปได้จกำนกว่ำคดีจะถึงสทีำนั่สุดกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สมำตรำ ๖๕ ในกรณีที่มีกำรสมรสฝ่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำฝืนมำตรำ ๑๔๕๒ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ง
และพำณิชย์ สิทธิเรียกค่ำเลี้ยงชีพหรือสิทธิในมรดกของคู่สมรสที่ตำยซึ่งคู่สมรสอีกฝ่ำยหนึ่งที่สมรส
สำนักโดยสุ จริตมีอยู่แล้วก่อนวั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำนที่พระรำชบัสำนั
ญญักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตินี้ใช้บังคับ ให้เป็นไปตำมมำตรำ
กำ ๑๔๙๙ แห่งประมวล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ก่อนกำรแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๖ ในกำรจดทะเบียนเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมำย ถ้ำเจ้ำหน้ำ ที่ได้ส่ง
สำนักแจ้ งควำมกำรขอจดทะเบี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ย นไปยั ง เด็สกำนัหรื อ มำรดำเด็ ก แล้ ว แต่กยำั งไม่ มี ก ำรจดทะเบี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ย นก่ อ นวั น ที่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๒๒๙ กำ สำนั
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ ม ก๑๐๗/ตอนที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ ๑๘๗/ฉบับพิเกศษำ หน้ำ ๑/๒๖ กัสนำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยำยน ๒๕๓๓ กำ
- ๓๑๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ กำรจดทะเบียนเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมำยให้บังคับตำมบทบัญญัติแห่ง
สำนักประมวลกฎหมำยแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและพำณิ
กำ ชย์ซึ่งแก้สำนั
ไขเพิ ่มเติมโดยพระรำชบัญกญัำตินี้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๖๗ บิ ด ำซึ่ งได้ จดทะเบี


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ย นรั บ เด็สกำนัเป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บุ ต รชอบด้ ว ยกฎหมำยก่
กำ อ นวั น ที่
พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับย่อมมีสิทธิร้องขอต่อศำลให้ถอนควำมเป็นผู้ปกครองได้ตำมมำตรำ ๑๕๕๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัตินี้ ไม่ว่ำบิดำจะได้เคยร้อง
ขอต่อศำลให้มีคำสัสำนั
่งถอนควำมเป็ นผู้ปกครองมำก่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อนแล้วหรือสไม่
ำนักก็ตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำม กำ

มำตรำกำ๖๘ ในกรณีทสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ี่มีกกำรตั ้งผู้ปกครองโดยพินัยกกรรม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ถ้ำผู้ที่ทำพิ
สำนันกัยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กรรมตำยก่อน กำ
วันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ กำรตั้งผู้ปกครองให้เป็นไปตำมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ก่อน
กำรแก้ไขเพิ่มเติมสโดยพระรำชบั ญญัตินี้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๖๙ บทบัญสญัำนัติมกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำตรำ ๑๕๙๘/๒๒ และมำตรำ
กำ ๑๕๙๘/๒๓ แห่งประมวล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัตินี้ไม่กระทบกระเทือนถึงควำมสมบูรณ์
ของกำรให้ควำมยิสนำนัยอมในกำรรั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บเด็กเป็นบุตรบุญธรรมที่ได้สกำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ระท ำไปแล้วก่อนวันที่พระรำชบัญญัตินี้
สำนักใช้ บังคับ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๗๐ บทบัญญัติบรรพ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๕ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำชย์ซึ่งแก้ไข
เพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัตินี้ไม่กระทบกระเทือนถึงควำมสมบูรณ์ของกำรหมั้น กำรสมรส สัญญำก่อน
สำนักสมรส กำรเป็นบิดำมำรดำกั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บบุตร กำรเป็
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้ปกครอง และกำรรับกบุำตรบุญธรรมทีส่ไำนั
ด้มกีองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยู่แล้วในวันที่ กำ
พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เว้นแต่ในกรณีที่พระรำชบัญญัตินี้บัญญัติไว้เป็นอย่ำงอื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๑ บรรดำอำยุควำมหรือระยะเวลำที่บทบัญญัติในประมวลกฎหมำยแพ่ง
สำนักและพำณิ ชย์ ไ ด้ ก ำหนดไว้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ก่ อ นวั น ทีสำนั
่ พ กระรำชบั ญ ญั ติ นี้ ใ ช้ บั งกคัำบ หำกยั ง ไม่สำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สิ้ นกสุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด ลงในวั น ที่ กำ
พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และอำยุควำมหรือระยะเวลำที่กำหนดขึ้นใหม่นั้นแตกต่ำงกับอำยุควำมหรือ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ระยะเวลำที่กำหนดไว้เดิม ก็ให้นำอำยุควำมหรือระยะเวลำที่ยำวกว่ำมำบังคับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมำยเหตุ :- เหตุผ ลในกำรประกำศใช้พระรำชบัญ ญั ติฉบั บนี้ คือ โดยที่ บทบัญ ญั ติบ รรพ ๕ แห่ ง
ประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิ ช ย์ ว่ำด้ ว ยควำมสมบู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ รณ์สขำนั
องกำรหมั ้ น และผลของกำรหมั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ น กำร
คุ้มครองคู่สมรสที่วิกลจริต กำรจัดกำรสินสมรส กำรแยกสินสมรสและรวมสินสมรส กำรสมรสที่เป็น
สำนักโมฆะ เหตุห ย่ ำ ผู้ใช้อำนำจปกครองบุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สตำนัรในกรณี มีกำรหย่ำ บทสักนำนิษฐำนควำมเป็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บุตรชอบด้ว ย กำ
กฎหมำย กำรฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตร กำรฟ้องปฏิเสธควำมเป็นบุตร กำรจดทะเบียนเด็กเป็น บุตร
กำรฟ้องให้รับเด็กสเป็ ำนันกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บุตร อำนำจปกครอง กกำรเป็ ำ นผู้อนุบสำลและผู ้พิทักษ์ กำรจัดกำรทรั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พย์สินของ
ผู้เยำว์ สิทธิหน้ำที่ของบิดำมำรดำและบุตร ผู้ปกครอง และบุตรบุญธรรม นั้น ยังไม่สอดคล้องและไม่
สำนักเอื ้อ อำนวยต่อ สภำพควำมเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ น อยู่ใสนสั
ำนังกคมปั จ จุบัน สมควรปรักำบ ปรุง แก้ไ ขให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัเ หมำะสม ยิ่ง ขึ้น
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
จึ งจำเป็ น ต้องตรำพระรำชบั ญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


- ๓๑๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

พระรำชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่
สำนักพ.ศ. ๒๕๓๕๒๓๐
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒ พระรำชบัญญัตินกี้ใำห้ใช้บังคับเมืส่อำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี พ้นกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดหกสิบวันนับแต่กวำันถัดจำกวัน
ประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๘ ให้นำยกรัฐมนตรี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ และรัฐมนตรี
สำนักว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำกำรกระทรวงมหำดไทยรั
กำ กษำกำร
ตำมพระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจำกบทบัญญัติบรรพ ๑ แห่ง
ประมวลกฎหมำยแพ่สำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
และพำณิชย์ซึ่งได้ใช้บกังำคับโดยพระรำชกฤษฎี กำให้ใช้บทบัญญัตกิแำห่งประมวล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กฎหมำยแพ่งและพำณิชย์บรรพ ๑ และบรรพ ๒ ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ. ๒๔๖๘ ได้ใช้บังคับมำเป็น
สำนักเวลำนำนและบทบั ญญักตำิหลำยประกำรล้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักำสมั ย ไม่เหมำะสมและสอดคล้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องกับสภำพสั งคมปัจจุบัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สมควรปรับปรุงแก้ไขให้เหมำะสมยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องตรำพระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักพระรำชบั ญญัติแก้ไขเพิก่มำเติมประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิชย์ (ฉบั


กำบที่ ๑๑) พ.ศ.สำนั
๒๕๓๕ ๒๓๑
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒ พระรำชบัญญัตกินำี้ให้ใช้บังคับเมืสำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่อพ้กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หกสิบวันนับแต่วันประกำศในรำช
กำ
กิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่มีกำรแก้ไขพระรำชบัญญัติ
บริษัทมหำชนจำกัสำนั
ด พ.ศ. ๒๕๒๑ ให้ยกเลิกกำรก
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำหนดอัตรำส่ สำนัวกนกำรถื อหุ้น และจำนวนผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ถือหุ้นของ
บริษัทมหำชนจำกัด และเพื่อให้กำรแปรสภำพบริษัทจำกัดเป็นบริษัทมหำชนจำกัด เป็นไปโดยควำม
สำนักสมั ค รใจ ในกรณี ที่ บ ริกษำั ท จ ำกั ด ประสงค์
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี จ ะชี้ ช วนให้ ป ระชำชนร่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ว มลงทุ น สจึำนั
ง จกำเป็ น ต้ อ งตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักพระรำชบั ญญัติแก้ไขเพิก่มำเติมประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิชย์ (ฉบั


กำบที่ ๑๒) พ.ศ.สำนั
๒๕๔๑ ๒๓๒
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒ พระรำชบั ญ ญัตกินำ ี้ให้ ใช้บังคับตัส้ำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งแต่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิ
กำ จจำ
นุเบกษำเป็นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖ บทบั ญ ญั ติ ม ำตรำ ๔๙๙ วรรคสอง แห่ งประมวลกฎหมำยแพ่ งและ
พำณิชย์ ซึ่งแก้ไขเพิ
สำนั่มกเติ มโดยพระรำชบัญญักตำิ นี้ มิให้ใช้บังคัสบำนัแก่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สัญญำขำยฝำกที่ได้ทกำไว้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ก่อนวัน ที่
พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ส๒๓๐
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๐๙/ตอนที่ ๔๒/หน้ำ ๑/๘ เมษำยน ๒๕๓๕
๒๓๑
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๐๙/ตอนที่ ๔๓/หน้ำ ๕๖/๘ เมษำยน ๒๕๓๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๒๓๒ กำ สำนั
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ ม ก๑๑๕/ตอนที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เมษำยน ๒๕๔๑
่ ๑๘ ก/หน้ำ ๑/๙ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๑๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจำกประมวลกฎหมำยแพ่งและ


สำนักพำณิ ชย์ในเรื่องขำยฝำกมี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บ ทบั ญ ญั ติยสังำนัไม่กเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หมำะสม เป็นเหตุให้มกีกำ ำรเอำเปรียบผู สำนั้ขกำยฝำกโดยกำร
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำหนดสินไถ่ที่สูงเกิน ควร เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมำยห้ำมเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรำ รวมทั้งในกรณีที่ถึง
ก ำหนดเวลำไถ่ ผสู้ ซำนัื้ อกฝำกมั ก จะหลี ก เลี่ ย งไม่กยำ อมให้ มี ก ำรไถ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัจกนเป็ น เหตุ ให้ ผู้ ข ำยฝำกต้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อ งสู ญ เสี ย
กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินไปโดยไม่ชอบธรรม นอกจำกนี้ เห็นควรปรับปรุงระยะเวลำในกำรใช้สิท ธิไถ่ใน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สัญญำขำยฝำกให้เหมำะสมยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องตรำพระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๔๑๒๓๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒ พระรำชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑๙ สิงหำคม พ.ศ. ๒๕๔๑ เป็น
ต้นไป สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักหมำยเหตุ :- เหตุผ ลในกำรประกำศใช้


งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนัพกระรำชบั ญ ญั ติฉบั บนี้ คืกอำ โดยที่ พ ระรำชบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักญ ญั ติคุ้ มครอง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แรงงำน พ.ศ. ๒๕๔๑ ได้บัญญัติให้หนี้ที่เกิดจำกกำรไม่ชำระค่ำจ้ำง ค่ำล่วงเวลำ ค่ำทำงำนในวันหยุด
ค่ำล่วงเวลำในวันสหยุ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ด ค่ำชดเชย ค่ำชดเชยพิเศษ เงินสะสมสำนัเงิกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สมทบ หรือเงินเพิ่มให้กลำ ูกจ้ำง หรือ
สำนักกรมสวั สดิกำรและคุ้มครองแรงงำน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ แล้สวำนัแต่กกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รณี มีบุริมสิทธิเหนือทรั
กำพย์สินทั้งหมดของนำยจ้ ำงซึ่งเป็น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ลูกหนี้ในลำดับ เดีย วกับ บุริมสิทธิในค่ำภำษีอำกรตำมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิช ย์ ดังนั้น
จึง สมควรแก้ไ ขเพิ สำนั่ มกเติ ม มำตรำ ๒๕๓ แห่กงประมวลกฎหมำยแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งและพำณิ ช ย์ ให้ สกอดคล้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อ งกั บ
กฎหมำยว่ำด้วยกำรคุ้มครองแรงงำนในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของลูกจ้ำง โดยให้รวมควำมถึง สิทธิของ
สำนักเสมี ยน คนใช้ และคนงำน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ตำมที่บัญญัสตำนั
ิไว้กใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นมำตรำ ๒๕๓ เดิมด้วกยำโดยกำหนดลสำดัำนับกบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ริมสิทธิในเงิน กำ
ที่ลูกจ้ำงมีสิทธิได้รับอยู่ในลำดับเดียวกับบุริมสิทธิในค่ำภำษีอำกร ประกอบกับสภำวะเศรษฐกิจและ
สังคมได้เปลี่ยนแปลงไป สมควรแก้ไขเพิ่มเติกมำมำตรำ ๒๕๗สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี แห่กงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ประมวลกฎหมำยแพ่งกและพำณิำ ชย์
เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และจำนวนเงินสูงสุดของบุริมสิทธิในเงินที่ลูกจ้ำงมีสิทธิได้รับให้เหมำะสมกับ
สำนักสภำวะเศรษฐกิ จและสังกคมของประเทศในปั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จุบันด้วย จึงจำเป็นต้กอำงตรำพระรำชบั ญกญังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ตินี้ กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ. ๒๕๔๘๒๓๔
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒ พระรำชบั ญ ญัตินี้ให้ ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิจจำ
นุเบกษำเป็นต้นไปสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๗ พระรำชบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัญกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญัตินี้ไม่กระทบถึงนิติกกรรม
ำ สิทธิ หน้ำสทีำนั่ หรื อควำมรับผิด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ตำมกฎหมำยอันได้กระทำลงหรือมีขึ้นก่อนวันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นกำรสมควรแก้ไขเพิ่มเติม
สำนักบทบั ญญัติในประมวลกฎหมำยแพ่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งและพำณิ ชย์ในส่วนที่เกี่ยวกับกสัำญญำซื้อขำยอสั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนังหำริ มทรัพย์และ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สังหำริมทรัพย์ ประเภทของสั งหำริ มทรัพย์ที่ต้องจดทะเบียนต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ จำนวนเงินในกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๓๓
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๑๕/ตอนที่ ๔๘ ก/หน้ำ ๑/๑๗ สิงหำคม ๒๕๔๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๒๓๔ กำ สำนั
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ ม ก๑๒๒/ตอนที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ ๑๑๐ ก/หน้ำ ก๑/๒๓
ำ พฤศจิกำยน
สำนั๒๕๔๘
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๑๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

กู้ยืมเงินที่ต้องมีหลักฐำนแห่งกำรกู้ยืมเป็นหนังสือ จำนวนเงินที่เจ้ำสำนักโรงแรมต้องรับผิดในกำรที่
สำนักทรั พย์สินของคนเดินทำงหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อแขกอำศัสยำนัสูกญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หำย อัตรำค่ำธรรมเนีกยำมและค่ำคัดสสำเนำเอกสำรตำมที ่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ปรำกฏในบทบัญญัติที่ว่ำด้วยบริษัทจำกัด รวมถึงจำนวนเงินรำงวัลหรือค่ำธรรมเนียมที่บุคคลผู้มีสิทธิ
จะรับทรัพย์สิน หำยต้สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งช ำระให้ แก่ผู้เก็บได้กหำรือแก่ส่วนรำชกำรที ่รับผิ ดชอบ เพื่อให้สกอดคล้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ องกั บ
สภำพกำรณ์ทำงเศรษฐกิจและสภำวกำรณ์ในปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องตรำพระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระรำชบัญญัติแสก้ำนั
ไขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งและพำณิสชำนัย์ ก(ฉบั บที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๔๙
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
๒๓๕

มำตรำกำ๒ พระรำชบัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญกญังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตินี้ให้ ใช้บังคับตั้งแต่วกันำ ถัดจำกวันประกำศในรำชกิ จจำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
นุเบกษำเป็นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นกำรสมควรแก้ไขเพิ่มเติม
สำนักบทบั ญญัติในลักษณะ ๒๒
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ หุ้นส่วนและบริ
สำนักษงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัทของบรรพ ๓ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่
กำ งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กรณีกำรลำออกของหุ้นส่วนผู้จัดกำรในห้ำงหุ้นส่วนจดทะเบียนและห้ำงหุ้นส่วนจำกัด และกำรลำออก
ของกรรมกำรบริสษำนั
ัทจกำกั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ด กำหนดเวลำที่กำรลำออกมีผล ตลอดจนกำรจดทะเบี ยนเปลี่ยนแปลงต่อ
สำนักนำยทะเบี ย นภำยในกำหนดเวลำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เพืส่ อำนัให้กเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กิ ดควำมชั ดเจนในผลทำงกฎหมำย
กำ สและกำรน ำผลทำง
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กฎหมำยและข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่ำวไปใช้อ้ำงอิง จึงจำเป็นต้องตรำพระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๖) พ.ศ. ๒๕๕๐๒๓๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒ พระรำชบั ญ ญัตินี้ให้ ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิจจำ
นุเบกษำเป็นต้นไปสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๗ พระรำชบัสญำนัญักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ินี้ไม่กระทบถึงนิติกรรมกำสิทธิ หน้ำที่ หรื
สำนัอกควำมรั บผิดตำม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กฎหมำยอันได้กระทำลงหรือมีขึ้นก่อนวันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๘ ให้รัฐมนตรีสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ว่ำกกำรกระทรวงยุ ติธรรมรักกษำกำรตำมพระรำชบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

หมำยเหตุ :- เหตุสผำนั
ลในกำรประกำศใช้ พระรำชบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัติฉบับนีส้ ำนั
คือกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โดยที่มำตรำ ๓ ของรัฐกธรรมนู
ำ ญแห่ง
รำชอำณำจักรไทย (ฉบับชั่วครำว) พุทธศักรำช ๒๕๔๙ ให้ควำมคุ้มครองศักดิ์ศรีควำมเป็นมนุษย์ สิทธิ
สำนักเสรี ภำพ และควำมเสมอภำค
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บรรดำทีส่ชำนันชำวไทยเคยได้ รับควำมคุกำ้มครองตำมประเพณี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรปกครอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประเทศไทยในระบอบประชำธิป ไตยอัน มีพ ระมหำกษั ตริย์ท รงเป็ นประมุข แต่บทบัญ ญั ติม ำตรำ
๑๔๔๕ มำตรำ ๑๔๔๖ มำตรำ ๑๔๔๗/๑ วรรคสำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มำตรำ ส๑๕๑๖ (๑) และมำตรำ ๑๕๒๓
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วรรคหนึ่ง
แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ เป็นบทบัญญัติที่เลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพรำะ
สำนักเหตุ แห่งควำมแตกต่ำงในเรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่องเพศ สมควรแก้ ไขบทบัญญัติดังกล่ำวให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สอดคล้องกับสำนั
หลักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรมีสิทธิเท่ำ กำ
เทียมกันระหว่ำงชำยและหญิ ง และหลักกำรห้ำมมิให้เลือกปฏิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพรำะเหตุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๓๕
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๒๓/ตอนที่ ๑๗ ก/หน้ำ ๑/๒๒ กุมภำพันธ์ ๒๕๔๙
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๒๓๖ กำ สำนั
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ ม ก๑๒๔/ตอนที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กันยำยน ส๒๕๕๐
่ ๕๓ ก/หน้ำ ๑๔/๑๒ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๒๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

แห่งควำมแตกต่ำงในเรื่องเพศที่เคยได้รับควำมคุ้มครองตำมประเพณีกำรปกครองประเทศไทย ใน
สำนักระบอบประชำธิ ปไตยอันกมีำ พระมหำกษัตสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ริยก์ทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รงเป็นประมุข จึงจำเป็กำนต้องตรำพระรำชบั ญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

พระรำชบัญญัติแสก้ำนั
ไขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งและพำณิสชำนัย์ ก(ฉบั บที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๐
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ๒๓๗

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๒ พระรำชบั ญ ญัตินี้ให้ ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิจจำ
นุเบกษำเป็นต้นไปสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักหมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สพำนั
ระรำชบั ญญัติฉบับนี้ คือ เนืกำ่องจำกได้มีกฎหมำยว่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำด้วยทรัสต์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
เพื่อธุรกรรมในตลำดทุนซึ่งกำหนดให้สำมำรถก่อตั้งทรัสต์เพื่อเป็นเครื่องมืออีกประกำรหนึ่งที่จะทำให้
ธุรกรรมในตลำดทุสำนั
นเป็ นไปอย่ำงมีประสิทธิภกำพและสำมำรถแก้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สำนักไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ขข้อติดขัดบำงประกำรในกำรระดม
กำ
ทุ น และในกำรประกอบธุร กิ จ ในตลำดทุ น ได้ ดั งนั้ น เพื่ อให้ ส อดคล้ องกั บ กฎหมำยดั งกล่ ำว จึ ง
สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเป็นต้องตรำพระรำชบักำญญัตินี้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

พระรำชบัญญัติแสก้ำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ไขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิสชำนัย์ ก(ฉบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ๒๓๘
บที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒ พระรำชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วัน
ประกำศในรำชกิจสจำนุ เบกษำเป็นต้นไป กำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักหมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พระรำชบั
สำนั ญญัติฉบับนี้ คือกำโดยที่ประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งและ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พำณิชย์บรรพ ๓ ลักษณะ ๒๒ ว่ำด้วยหุ้นส่วนและบริษัทใช้บังคับมำเป็นเวลำนำน บทบัญญัติบำง
มำตรำสร้ำงภำระโดยไม่ จำเป็นแก่ป ระชำชนและก่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อให้เกิดสควำมยุ ่งยำก ซ้ำซ้อน และควำมล่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำช้ำต่อ
กำรปฏิบัติหน้ำที่ของส่วนรำชกำร นอกจำกนี้ ยังเป็นอุปสรรคต่อกำรเสริมสร้ำงศักยภำพในกำรแข่งขัน
สำนักของประเทศอี กด้วย ดักงำนั้น เพื่อขจัดปัสญำนัหำและอุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ปสรรคดังกล่ำวและเพื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่อให้กำรด ำเนิกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั นกิจกำรค้ำใน กำ
รูปแบบของห้ำงหุ้นส่วนและบริษัทมีควำมคล่องตัวมำกยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องตรำพระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักพระรำชบั ญญัติแก้ไขเพิก่มำเติมประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิชย์ (ฉบั


กำบที่ ๑๙) พ.ศ.สำนั
๒๕๕๑ ๒๓๙
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒ พระรำชบั ญ ญัตกินำ ี้ให้ ใช้บังคับตัส้ำนั


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งแต่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิ
กำ จจำ
นุเบกษำเป็นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมำยเหตุ :- เหตุผ ลในกำรประกำศใช้พระรำชบัญ ญั ติฉบั บนี้ คือ โดยที่ บทบัญ ญั ติบ รรพ ๕ แห่ ง
ประมวลกฎหมำยแพ่
สำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
และพำณิชย์ว่ำด้วยกำรร้
กำ องต่อศำลขอให้ สั่งอนุญำตให้สำมีภริยกำอยู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่ต่ำงหำก
กำรเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมำยของหญิง กำรเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมำยของชำย กำรนับวันที่เป็นบุตร
สำนักชอบด้ วยกฎหมำยของบิกดำำ และกำรกลัสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บมีกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนำจปกครองบุตรที่ยกังำไม่บรรลุนิติภำวะเมื ่อมีกำรเลิกรับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

ส๒๓๗
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๙ ก/หน้ำ ๔๒/๑๔ มกรำคม ๒๕๕๑
๒๓๘
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๔๑ ก/หน้ำ ๑๒/๓ มีนำคม ๒๕๕๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๒๓๙ กำ สำนั
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ ม ก๑๒๕/ตอนที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มีนำคม ๒๕๕๑
่ ๔๕ ก/หน้ำ ๕/๗ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๒๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

บุตรบุญธรรม นั้น ยังไม่สอดคล้องและไม่เอื้ออำนวยต่อสภำพควำมเป็นอยู่ในสังคมปัจจุบัน สมควร


สำนักปรั บปรุงแก้ไขให้เหมำะสมยิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งขึ้น จึงจำเป็
สำนันกต้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องตรำพระรำชบัญญัตกินำ ี้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

พระรำชบัญญัติแสก้ำนั
ไขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งและพำณิสชำนัย์ ก(ฉบั บที่ ๒๐) พ.ศ. ๒๕๕๗
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ๒๔๐

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๒ พระรำชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้ำสิบวันนับแต่วันประกำศ
ในรำชกิจจำนุเบกษำเป็ นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๑๘ บทบัญญัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ติขกองพระรำชบั ญญัตินี้ไม่กกระทบกระเทื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อนถึ
สำนังกสังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญญำที่ได้ทำไว้ กำ
ก่อนวันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เว้นแต่กรณีที่พระรำชบัญญัตินี้บัญญัติไว้เป็นอย่ำงอื่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๙ ในกรณีที่ลูกหนี้ผิดนัดนับแต่วันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ สิทธิและ
สำนักหน้ ำที่ของเจ้ำหนี้และผู้คกำ้ำประกัน ให้เป็สนำนัไปตำมมำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๖๘๖ แห่งกประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งและพำณิชย์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๒๐ ในกรณีสทำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ี่เจ้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หนี้กระทำกำรใด ๆ นับกแต่
ำ วันที่พระรำชบั
สำนักญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญัตินี้ใช้บังคับ กำ
อันมีผลเป็นกำรลดจำนวนหนี้ที่มีกำรค้ำประกัน รวมทั้งดอกเบี้ย ค่ำสินไหมทดแทน หรือค่ำภำระติด
พันอันเป็นอุปกรณ์สำนัแกห่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งหนี้ รำยนั้น ให้ผู้ค้ำประกั
กำ นเป็น อันหลุ
สำนัดกพ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นจำกกำรค้ำประกันตำมเงื
กำ ่อนไขที่
บัญ ญั ติไว้ในมำตรำ ๖๙๑ วรรคหนึ่ ง แห่ งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิช ย์ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย
สำนักพระรำชบั ญญัตินี้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๑ บทบัญญัติตำมมำตรำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๗๒๗ แห่
สำนังกประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ชย์ซึ่ง
แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัตินี้ ให้ใช้กับสัญญำจำนองที่ยังมีผลบังคับอยู่ในวันที่พระรำชบั ญญัตินี้
สำนักใช้ บังคับด้วย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๒ บทบัญญัติตำมมำตรำ ๗๒๘ และมำตรำ ๗๓๕ แห่งประมวลกฎหมำย
สำนักแพ่ งและพำณิชย์ซึ่งแก้ไกขเพิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่มเติมโดยพระรำชบั ญญัตินี้ ให้ใช้บังคับกกัำบกำรบังคับจสำนองที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ทำขึ้นนับแต่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
วันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับด้วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๓ บทบัญญัติตำมมำตรำ ๗๓๗ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ซึ่ง
สำนักแก้ ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัตินี้ ให้ใสช้ำนับกังงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คับกับกรณีที่ผู้รับโอนต้กอำงกำรไถ่ถอนจสำนองเมื ่อมีกำรบอก
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กล่ำวบั งคับ จำนองตำมมำตรำ ๗๓๕ แห่ งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิ ชย์ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระรำชบัญญัตินสี้ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๒๔ ให้รัฐมนตรี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัวก่ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรกระทรวงพำณิชย์รกักำษำกำรตำมพระรำชบั ญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๒๔๐ กำ
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่สำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ม ๑๓๑/ตอนที กำ พฤศจิกำยน
่ ๗๗ ก/หน้ำ ๑๔/๑๓ สำนั๒๕๕๗
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๒๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

หมำยเหตุ :- เหตุ ผ ลในกำรประกำศใช้พ ระรำชบั ญ ญั ติฉ บั บ นี้ คื อ โดยที่ บ ทบั ญ ญั ติข องประมวล
สำนักกฎหมำยแพ่ งและพำณิกชำย์ที่ใช้บังคับอยู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่ในปั จจุบันยังไม่เพียงพอทีก่จำ ะคุ้มครองสิทสธิำนัแกละให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ควำมเป็น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ธรรมแก่ผู้ค้ำประกันและผู้จำนองซึ่งมิใช่ลูกหนี้ชั้ นต้น แต่เป็นเพียงบุคคลภำยนอกที่ยอมผูกพันตนต่อ
เจ้ำหนี้ในกำรที่จะชสำนัำระหนี ้แทนลูกหนี้เท่ำนั้นกำโดยข้อเท็จจริสงำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในทำงปฏิ บัติปรำกฏว่ำเจ้ำกหนี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้ส่วนใหญ่
ซึ่งเป็ น สถำบั น กำรเงิน หรือผู้ ป ระกอบอำชีพให้ กู้ยืม มักจะอำศัยอำนำจต่อรองที่สู งกว่ำหรือควำม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ได้เปรียบในทำงกำรเงินกำหนดข้ อตกลงอันเป็นกำรยกเว้นสิทธิของผู้ค้ำประกันหรือผู้จำนองตำมที่
กฎหมำยบัญญัติไสว้ำนัหรืกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อให้ค้ำประกัน หรือผู้จกำนองต้
ำ องรับผิดสเสมืำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นเป็นลูกหนี้ชั้นต้น กรณี กำ จึงส่งผลให้
ผู้ค้ำประกัน หรือผู้จำนองซึ่งเป็นประชำชนทั่วไปไม่ได้รับควำมคุ้มครองตำมเจตนำรมณ์ของกฎหมำย
สำนักรวมทั ้งต้องกลำยเป็นผู้ถกูกำฟ้องล้มละลำยอี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักกเป็ นจำนวนมำก ดังนั้นกเพื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่อสร้ำงควำมเป็
สำนันกธรรมให้ แก่ผู้ค้ำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประกันและผู้จำนอง จึงจำเป็นต้องตรำพระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๒๑) พ.ศ. ๒๕๕๘๒๔๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒ พระรำชบั ญ ญัตินี้ให้ ใช้บังคับตั้ งแต่วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิจจำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นุเบกษำเป็นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘ ข้อตกลงใดที่ได้ทำขึ้นระหว่ำงวันที่พระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล
กฎหมำยแพ่งและพำณิ ชย์ (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ. ก๒๕๕๗
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ มีผลใช้สบำนัังคักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จนถึงวันก่อนวันที่พระรำชบั
กำ ญญัตินี้
ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับต่อไปได้เท่ำ ที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและ
สำนักพำณิ ชย์ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมกโดยพระรำชบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ญสำนั
ญัตกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ินี้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๙ ในกรณี ที่ เจ้ ำหนีกำ้ กระท ำกำรใดสำนัๆกระหว่


ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำงวัน ที่ พ ระรำชบักำญ ญั ติแก้ ไข
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ. ๒๕๕๗ มีผลใช้บังคับจนถึงวันก่อนวันที่
สำนักพระรำชบั ญญัตินี้ใช้บังคักบำ อันมีผลเป็นสกำรลดจ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนวนหนี้ที่มีกำรค้ำประกั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ น รวมทั้งสดอกเบี ้ย ค่ำสินไหม
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ทดแทน หรือค่ำภำระติดพันอันเป็น อุปกรณ์ แห่งหนี้รำยนั้น ให้เจ้ำหนี้มีหนังสือแจ้งให้ผู้ค้ำประกัน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ทรำบถึงกำรลดหนี้ดังกล่ำวภำยในหกสิบวันนับแต่วันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้ บังคับ และให้ผู้ค้ำประกัน
สำนักเป็ นอันหลุดพ้นจำกกำรค้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำประกันตำมเงื สำนั่อกนไขที ่บัญญัติไว้ในมำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๖๙๑ วรรคหนึ
สำนัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แห่งประมวล กำ
กฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐ ให้รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงพำณิชย์รักษำกำรตำมพระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นกำรสมควรแก้ไขบทบัญญัติ
ของประมวลกฎหมำยแพ่ งและพำณิชย์ในเรื่อกำงกำรค้ำประกัสนำนัและจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนองเพื่อให้มีควำมเหมำะสมแก่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
กำรประกอบธุรกิจในปัจจุบัน สมควรกำหนดให้ผู้ค้ำประกันที่เป็นนิติบุคคลสำมำรถผูกพันตนเพื่อรับ
สำนักผิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดอย่ ำงลู กหนี้ ร่วมได้ กรวมทั
ำ ้ งสำมำรถท
สำนัำข้ อตกลงล่ วงหน้ำยินยอมให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มี ก ำรผ่ อสนเวลำได้ หำกเป็ น
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๒๔๑ กำ สำนั
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ ม ก๑๓๒/ตอนที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กรกฎำคมส๒๕๕๘
่ ๖๓ ก/หน้ำ ๓๐/๑๔ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๒๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สถำบั น กำรเงิ น หรื อ ประกอบอำชี พ ค้ ำประกั น เพื่ อ สิ น จ้ ำ งเป็ น ปกติ ธุ ร ะ จึ ง จ ำเป็ น ต้ อ งตรำ
สำนักพระรำชบั ญญัตินี้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

พระรำชบัญญัติแสก้ำนั
ไขเพิ ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งและพำณิสชำนัย์ ก(ฉบั บที่ ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ๒๔๒

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


มำตรำ ๒ พระรำชบั ญ ญัตินี้ให้ ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิจจำ
นุเบกษำเป็นต้นไปสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักหมำยเหตุ :- เหตุ ผ ลในกำรประกำศใช้


งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระรำชบั ญ ญั ติ ฉ บั บ นีก้ำคื อ เนื่ อ งจำกกฎหมำยว่ ำ ด้ ว ย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หลักประกันทำงธุรกิจได้บัญญัติให้สำมำรถนำสิทธิเรียกร้องมำเป็นหลักประกันกำรชำระหนี้ได้โดย
ไม่ต้อ งส่งมอบกำรครอบครอง จึงสมควรแก้กไำขให้ สิทธิตำมสั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัญกญำหลั กประกันทำงธุรกิกำจเหนือสิทธิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เรียกร้องที่นำมำเป็นหลักประกันตกไปเป็นของผู้รับโอนเมื่อมีกำรโอนสิทธิเรียกร้องนั้นไปเช่นเดียวกับ
สำนักสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทธิจำนอง จำนำ หรือค้กำประกั
ำ น จึงจสำเป็
ำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต้องตรำพระรำชบัญญักตำินี้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คำสั่งหัวหน้ำคณะรั กษำควำมสงบแห่งชำติ ที่ ๒๑/๒๕๖๐ เรืส่อำนัง กกำรแก้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ไขเพิ่มเติมกฎหมำยเพื่ออำนวย
สำนักควำมสะดวกในกำรประกอบธุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ รกิจ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๔๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สข้ำนั
อ ก๑๗ ในกรณีที่กฎหมำยกำกฎ หรือระเบีสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยบใดก ำหนดให้ผู้ขอรับอนุกมำ ัติ อนุญำต
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือใบอนุญำต หรือผู้ยื่นขอจดทะเบียนหรือจดแจ้ง หรือผู้แจ้ง ต้องใช้เอกสำรที่ทำงรำชกำรออกให้ แก่
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นั้น เพื่อ ประกอบกำรพิ กำ จ ำรณำหรืสอำนั ดำเนิ น กำร ให้เ ป็น หน้ำกทีำ่ข องผู้มีอำนำจอนุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มัติ อนุญ ำต
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ออกใบอนุญำต รับจดทะเบียน รับจดแจ้ง หรือรับแจ้งนั้น ที่จะต้องดำเนินกำรให้หน่วยงำนที่ออก
เอกสำรรำชกำรเช่ สำนันกว่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนั้ น ส่ งข้อมู ล หรื อส ำเนำเอกสำรดั
กำ งกล่
สำนัำกวมำเพื ่อประกอบกำรพิกจำ ำรณำหรือ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดำเนินกำร ในกรณีที่ผู้มีอำนำจดังกล่ำวประสงค์ได้สำเนำเอกสำรนั้นจำกผู้ขอรับอนุมัติ อนุญำต หรือ
สำนักใบอนุ ญำต หรือผู้ยื่นขอจดทะเบี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยนหรืสอำนัจดแจ้ ง หรือผู้แจ้ง ให้ผู้มีอกำนำจนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้นเป็นผู้จสัดำนัทกำส ำเนำเอกสำร
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ดังกล่ำวเอง เพื่อประโยชน์แห่งกำรนี้ ห้ำมมิให้เรียกเก็บค่ำใช้จ่ำยที่เกิ ดจำกกำรทำสำเนำดังกล่ำว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จำกผู้ขอรับอนุมัติ อนุญำต หรือใบอนุญำตหรือผู้ยื่นขอจดทะเบียนหรือจดแจ้ง หรือผู้แจ้ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ข้อ ๑๘ คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๔๒
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๒/ตอนที่ ๑๐๔ ก/หน้ำ ๔๙/๕ พฤศจิกำยน ๒๕๕๘
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๒๔๓ กำ สำนั
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ ม ก๑๓๔/ตอนพิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เศษ ๙๗ ง/หน้กำำ๔๙/๔ เมษำยนส๒๕๖๐
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๒๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ


กองกฎหมำยไทย/ปรับปรุง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ๓๑ มีกนำำคม ๒๕๕๗
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ นุสรำ/เพิ่มเติม


สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
๗ เมษำยน ๒๕๖๐
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

You might also like