6 พรบ พัทยา รวมปี 62

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ พระรำชบัญญัติ กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ระเบียบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ พ.ศ. ๒๕๔๒สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๙ พฤศจิกำยน พ.ศ. ๒๕๔๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สเป็ำนันกปีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ที่ ๕๔ ในรัชกำลปัจจุบกันำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนัพระบำทสมเด็ จพระปรมิกนำทรมหำภูมิพลอดุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัลกยเดช มีพระบรมรำชโองกำรโปรดเกล้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำฯ
ให้ประกำศว่ำ
โดยที่เป็นกำรสมควรปรับปรุงกฎหมำยว่ำด้วยระเบียบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ
พระรำชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบำงประกำรเกี่ยวกับกำรจำกัดสิทธิและเสรีภำพของ
บุคคล ซึ่งมำตรำ ๒๙ ประกอบกับมำตรำ ๓๕ และมำตรำ ๔๘ ของรัฐธรรมนูญสแห่ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งรำชอำณำจักรไทย
บัญญัติให้กระทสำนั
ำได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โดยอำศัยอำนำจตำมบทบั
กำ
ญญัติแห่งกฎหมำย
จึงทรงพระกรุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ณำโปรดเกล้ ำฯ ให้ตรำพระรำชบักญำ ญัติขึ้นไว้โดยค
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำแนะน ำและยินยอม กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของรัฐสภำ ดังต่อไปนี้
มำตรำ ๑ พระรำชบัญญัตินี้เรียกว่ำ “พระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมือง
พัทยำ พ.ศ. ๒๕๔๒”กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนัมำตรำ ๒๑ พระรำชบัญกญัำ ตินี้ให้ใช้บังคัสำนั

กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บตัก้งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แต่วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิ
กำ จจำ
นุเบกษำเป็นต้นไป
สำนัมำตรำ ๓ ให้ยกเลิก กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) พระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ พ.ศ. ๒๕๒๑
(๒)กพระรำชก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำหนดแก้ ไขเพิ่มเติมพระรำชบัญกญัำติระเบียบบริหสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำรรำชกำรเมื องพัทยำ กำ
พ.ศ. ๒๕๒๑ พ.ศ. ๒๕๒๓
สำนั(๓) พระรำชบัญญัติระเบีกยำบบริหำรรำชกำรเมื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องพัทยำ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๒๕๓๔
มำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๔ บทบั ญสำนั
ญักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิแห่ งกฎหมำย กฎ ระเบี
กำ ยบ ข้ อบั งคั บสำนั
ข้อกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บัญ ญั ติ ประกำศ กำ
หรือคำสั่งใดที่ได้กำหนดเป็นอำนำจหน้ำที่ของนำยกเมืองพัทยำหรือปลัดเมืองพัทยำตำมกฎหมำยว่ำ
ด้ว ยระเบี ย บบริ
สำนัหกำรรำชกำรเมื องพั ทยำ กให้ำ ถือว่ำบทบัญสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิแห่ งกฎหมำย กฎ ระเบี
กำ ย บ ข้ อบั งคั บ

๑
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๑๖/ตอนที่ ๑๒๐ ก/หน้ำ ๒๑/๒๙ พฤศจิกำยน ๒๕๔๒
-๒- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ข้ อ บั ญ ญั ติ ประกำศ หรื อ ค ำสั่ งนั้ น อ้ ำ งถึ ง ประธำนสภำเมื อ งพั ท ยำหรื อ นำยกเมื อ งพั ท ยำตำม
สำนักพระรำชบั ญญัตินี้ แล้วแต่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำกรณี ทั้งนี้ เท่สำนั
ำทีก่ไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญกญัำ ติแห่งพระรำชบั
สำนัญกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญัตินี้ กำ
สมำตรำ ๕ ในพระรำชบัญญักตำินี้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
“สมำชิก” หมำยควำมว่ำ สมำชิกสภำเมืองพัทยำ
“ข้อบัญญัติ” หมำยควำมว่ำ ข้อบัญญัติเมืองพัทยำ
ส“ผู
ำนั้วก่ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รำชกำรจังหวัด” หมำยควำมว่
กำ ำ ผู้ว่ำรำชกำรจั งหวัดชลบุรี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
“รัฐมนตรี” หมำยควำมว่ำ รัฐมนตรีผู้รักษำกำรตำมพระรำชบัญญัตินี้
มำตรำ ๖ ให้รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงมหำดไทยรักษำกำรตำมพระรำชบัญญัตินี้
และให้มีอำนำจออกกฎกระทรวง ระเบียบ ข้อกบัำงคับ หรือประกำศ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เพื่อปฏิบัติกำรตำมพระรำชบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัตินี้
กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำแล้วให้ใช้บังคับได้
หมวด ๑
กำรจัดตั้งเมืองพัทยำสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำตรำ ๗ ให้จัดตั้งเมืองพัทกยำเป็
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นองค์กรปกครองส่ วนท้องถิ่นมีอำณำเขตตำมเขต
เมืองพัทยำที่มีอยู่ในวันก่อนวันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีให้เมือกงพั
ำ ทยำมีฐำนะเป็
สำนันกนิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ติบุคคล กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรแก้ไขเปลี่ยนแปลงเขตเมืองพัทยำให้ตรำเป็นพระรำชกฤษฎีกำ
หมวด ๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กำรบริ
สำนั หำรเมืองพัทยำ กำ
มำตรำกำ๘ กำรบริหำรเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งพัทยำประกอบด้วย กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) สภำเมืองพัทยำ
ส(๒)
ำนักนำยกเมื องพัทยำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนที่ ๑
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สภำเมืองพัทยำ
มำตรำกำ๙ สภำเมืองพั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัทกยำประกอบด้ วยสมำชิกกำจำนวนยี่สิบสีส่คำนันกซึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งเลือกตั้งโดย กำ
รำษฎรผู้มีสิทธิเลือสำนั
กตัก้งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ในเขตเมืองพัทยำ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่ตำแหน่งสมำชิกว่ำงลงไม่ว่ำด้วยเหตุใดและยังมิได้มีกำรเลือกตั้งสมำชิกขึ้น
สำนักแทนต ำแหน่งที่ว่ำง ให้สกภำเมื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ องพัทยำประกอบด้ วยสมำชิกเท่ำที่มีอกยูำ่
-๓- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ควำมในวรรคหนึ่ ง มิ ให้ น ำมำใช้ บั ง คั บ แก่ ก รณี ที่ ได้ จั ด ให้ มี ก ำรเลื อ กตั้ งใหม่ ต ำม
สำนักกฎหมำยว่ ำด้วยกำรเลืกอำกตั้งสมำชิกสภำท้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องถิ่นหรือผู้บริหำรท้อกงถิำ ่นเพรำะเหตุสทำนัี่มกีผงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ู้ได้รับเลือกตั้ง กำ
ไม่ครบจำนวน ถ้ำในกำรจัดให้มีกำรเลือกตั้งใหม่นั้นยังได้ไม่ครบจำนวนอีก ให้ถือว่ำสภำเมืองพัทยำนั้น
ประกอบด้วยจำนวนสมำชิ กเท่ำที่มีอยู่จนกว่ำจะครบอำยุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ของสภำเมื องพัทยำ เว้นแต่จะมีจกำนวนสมำชิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ก
ไม่ถึงสองในสำมของจำนวนตำมวรรคหนึ่ง ๒
๓
สมำตรำ ๑๐ ผู้มีสิท ธิเลือ กตั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ง สมำชิก และผู
สำนัก้มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ีสิท ธิส มัค รรับ เลือ กตั้งกเป็
ำ น สมำชิก
ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ำมตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรเลือกตั้งสมำชิก สภำท้องถิ่นหรือ
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้บริหำรท้องถิ่น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำตรำ ๑๑๔ (ยกเลิก) กำ

มำตรำกำ๑๒๕ (ยกเลิกส)ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๖ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๓ (ยกเลิก)
มำตรำ ๑๔๗ (ยกเลิก)
มำตรำ ๑๕ อำยุของสภำเมืองพัทยำมีกำหนดครำวละสี่ปีนับแต่วันเลือกตั้ง
สมำชิกกำภำพของสมำชิสกำนัเริก่มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ตั้งแต่วันเลือกตั้ง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำตรำ ๑๖ ก่อนเข้ำรับหน้กำำที่ สมำชิกต้อสงปฏิ

ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักญ ำณตนในที่ประชุมสภำเมื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องพัทยำ
ด้วยถ้อยคำดังต่อไปนี้
“ข้ำพเจ้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำ (ชื่อผู้ปฏิญสำณ) ขอปฏิญำณว่ำ ข้ำพเจ้กำำจะปฏิบัติหน้ำสทีำนั่ด้วกยควำมซื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่อสัตย์
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
สุจริตตำมควำมเห็นของข้ำพเจ้ำโดยบริสุทธิ์ใจ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม”

๒
สำนัมำตรำ ๙ วรรคสำม เพิ่มโดยพระรำชบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัติสระเบี
ำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บบริหำรรำชกำรเมืองพัทกยำ
ำ (ฉบับที่ ๓)
พ.ศ. ๒๕๖๒
๓
มำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๑๐ แก้ไขเพิ่มสเติำนัมกโดยพระรำชบั ญญัติระเบียบบริ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ หำรรำชกำรเมื
สำนัองพั ทยำ (ฉบับที่ ๓)
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
พ.ศ. ๒๕๖๒
๔
สำนัมำตรำ ๑๑ ยกเลิกโดยพระรำชบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัติระเบียสบบริ
ำนักหงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำรรำชกำรเมืองพัทยำ (ฉบั กำ บที่ ๓) พ.ศ.
๒๕๖๒
๕
มำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๑๒ ยกเลิกโดยพระรำชบั ญญัติระเบียบบริหกำรรำชกำรเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ องพัสทำนัยำกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. กำ
๒๕๖๒
๖
มำตรำ ๑๓ ยกเลิกโดยพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.
๒๕๖๒
๗
มำตรำ ๑๔ ยกเลิกโดยพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.
สำนัก๒๕๖๒
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
-๔- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๗ สมำชิกเป็น ผู้แทนของประชำชนในเขตเมืองพั ทยำ และต้องปฏิบั ติ

สำนักหน้ ำที่ตำมควำมเห็นของตนโดยบริ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สุทธิส์ใำนั
จ กไม่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อยู่ในควำมผูกมัดแห่งกอำณั
ำ ติมอบหมำยใด ๆ
สมำตรำ ๑๘๘ (ยกเลิก) กำ


มำตรำ ๑๙ สมำชิกภำพของสมำชิกสิ้นสุดลง เมื่อ
ส(๑)
ำนักถึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งครำวออกตำมอำยุของสภำเมื กำ องพัทยำหรื อมีกำรยุบสภำเมืองพัทกยำำ
(๒) ตำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๓) ลำออก กำ โดยยื่นหนั งสืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ลำออกต่อประธำนสภำเมื กำ องพัทยำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๙
(๔) กระทำกำรอันต้องห้ำมตำมมำตรำ ๔๙ วรรคสำม
ำนั๑๐
ส(๕) ขำดคุณสมบัติหรือมีลกักำษณะต้องห้ำมตำมมำตรำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๑๐
(๖) ขำดประชุมสภำเมืองพัทยำสำมครั้งติดต่อกันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๗) สภำเมืกำ องพัทยำมีสมำนัติใกห้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พ้นจำกตำแหน่ง เพรำะมี กำ ควำมประพฤติ สำนัใกนทำงที ่จะนำมำ
ซึ่งควำมเสื่อมเสียหรือก่อควำมไม่สงบเรียบร้อยแก่เมืองพัทยำ หรือกระทำกำรอันเสื่อมเสียประโยชน์
ของสภำเมืองพัทสยำำนักโดยมี งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำชิกจำนวนไม่น้อยกว่ำหนึ่งในสำมของจ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ำนวนสมำชิกเท่ำที่มีอยู่เข้ำชื่อ
สำนักเสนอให้ สภำเมืองพัทยำพิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จำรณำ และมติ สำนักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ังกล่ำวต้องมีคะแนนเสีกยำงไม่น้อยกว่ำสำมในสี ่ของจำนวน
สมำชิกเท่ำที่มีอยู่ ทั้งนี้ ให้สมำชิกภำพสิ้นสุดลงนับแต่วันที่สภำเมืองพัทยำมีมติ
ส(๘)
ำนักรำษฎรผู ้มีสิทธิเลือกตั้งกในเขตเมื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ องพัทสยำได้ ลงคะแนนเสียงให้พ้นกจำกต
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำแหน่ง
ตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมำชิกสภำท้องถิ่นหรือผู้บริหำรท้องถิ่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เมื่อมีขก้ำอสงสัยเกี่ยวกัสบำนัสมำชิ กภำพของสมำชิกผูก้ใำดสิ้นสุดลงตำมสำนั(๔)
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๕) หรือ (๖)
หรือเมื่อได้รับ แจ้งจำกคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งว่ำสมำชิกภำพของสมำชิกผู้ใดสิ้นสุดลงตำม (๕)
ให้ผู้ว่ำรำชกำรจังสหวั
ำนัดกสอบสวนและวิ นิจฉัยให้กแำล้วเสร็จภำยในหกสิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บวันนับแต่วันที่ผู้ว่ำรำชกำรจั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งหวัด
เห็นว่ำมีเหตุอันควรสงสัยหรือได้รับแจ้งจำกคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง แล้วแต่กรณี แม้ว่ำสมำชิกผู้นั้น
สำนักจะได้ พ้นจำกตำแหน่งไปแล้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วไม่ว่ำด้วสยเหตุ ใด เว้นแต่เพรำะเหตุกตำำย หรือพ้นจำกต
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักำแหน่ งไปแล้ว
เกินสองปี ทั้งนี้ ตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรที่กำหนดในกฎกระทรวง๑๑
ในกรณีที่ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดวินิจฉัยว่ำสมำชิกภำพของสมำชิกผู้นั้นสิ้นสุดลงตำม (๔)
สำนัก(๕) หรือ (๖) ให้ผู้ว่ำรำชกำรจั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งหวัดประกำศค ำวินิจฉัยให้ทรำบทั่วกักนำ ไม่ว่ำผู้นั้นจะได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัพกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้นจำกตำแหน่ง กำ
ไปก่อนแล้วหรือไม่ก็ตำม โดยในคำวินิจฉัยนั้นให้ระบุเหตุที่ทำให้พ้นจำกตำแหน่งไว้ และให้สมำชิกภำพ
ของสมำชิกผู้นั้นสิส้นำนัสุกดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ลงตั้งแต่วันที่มีเหตุตำมกำ(๔) (๕) หรือสำนั (๖)กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แต่ไม่กระทบต่อกำรดำเนิ กำ นงำนและ
กำรรับค่ำตอบแทนที่ได้กระทำไปก่อนวันที่มีกำรประกำศคำวินิจฉัย ถ้ำในขณะที่ประกำศคำวินิจฉัย
๘
สำนัมำตรำ ๑๘ ยกเลิกโดยพระรำชบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัติระเบียสบบริ
ำรรำชกำรเมืองพั ทยำ (ฉบั
กำ บที่ ๓) พ.ศ.
๒๕๖๒
๙
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๑๙ วรรคหนึส่งำนั(๔)กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แก้ไขเพิ่ มเติมโดยพระรำชบั
กำ ญ ญั ติระเบียบบริ
สำนักหงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำรรำชกำรเมือง กำ
พัทยำ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒
๑๐
มำตรำ ๑๙ วรรคหนึ่ง (๕) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมือง
๑๑
มำตรำ ๑๙ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ
สำนัก(ฉบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
-๕- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ดังกล่ำวผู้นั้นกำลังดำรงตำแหน่งสมำชิกสภำท้องถิ่นหรือผู้บริหำรท้ องถิ่นอันเป็นผลจำกกำรเลือกตั้ง
สำนักต่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำ งวำระหรือ ต่ำ งองค์กกำรปกครองส่วสำนั นท้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งถิ่น กัน ให้ผู้นั้น พ้น จำกต
กำ ำแหน่ง ทีส่กำนัำลักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ง ดำรงอยู่ด้ว ย กำ
และในกรณีที่เป็นผลให้ถูกห้ำมใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือใช้สิทธิเลือกตั้ง ให้ถือว่ำวันที่ประกำศ
คำวินิจ ฉัย เป็น วัสนำนั
เริก่มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นับ ระยะเวลำต้อ งห้ำกมดั
ำ ง กล่ำ ว ทัส้งำนันี้กคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำวินิจ ฉัย ของผู้ว่ำ รำชกำรจั
กำ ง หวัด
ตำมมำตรำนี้ให้เป็นที่สุด ๑๒
ในกรณีที่ส มำชิก ภำพของสมำชิก สิ้น สุด ลงตำม (๘) พร้อ มกัน ทั้ง หมด ให้ถือ ว่ำ
ทยำ๑๓
เป็นกำรยุบสภำเมืสอำนังพักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๒๐๑๔ (ยกเลิสกำนั) กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๑๑๕ ในกรณีที่ตำแหน่

ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งสมำชิกว่สำำนั
งลงเกิ นกึ่งหนึ่งของจำนวนสมำชิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กตำม
มำตรำ ๙ วรรคหนึ่ง ให้ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดรำยงำนเสนอรัฐมนตรีเพื่อพิจำรณำสั่งยุบสภำเมืองพัทยำก็ได้
มำตรำ ๒๒ ให้สภำเมืองพัทยำเลือกสมำชิกเป็นประธำนสภำเมืองพัทยำคนหนึ่งและ
รองประธำนสภำเมืองพัทยำจำนวนสองคน แล้วเสนอผู้ว่ำรำชกำรจั งหวัดแต่งตั้ง
กำรเลืกอำกประธำนสภำเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งพัทยำและรองประธำนสภำเมื
กำ องพัทสยำให้ กระทำในกำร
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
ประชุมสภำเมืองพัทยำครั้งแรกภำยหลังจำกกำรเลือกตั้งทั่วไป
มำตรำ ๒๓ ๑๖ ประธำนสภำเมื องพั ท ยำและรองประธำนสภำเมื องพั ท ยำ อยู่ใน
สำนักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำแหน่งจนครบอำยุขกองสภำเมื
ำ อ งพัสทำนัยำกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือ มีก ำรยุบ สภำเมือกำงพัท ยำ หรือ ถืสำนั
อว่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มีกำรยุบสภำ กำ
เมืองพัทยำตำมมำตรำ ๑๙ วรรคสี่
มำตรำ ๒๔ นอกจำกกำรพ้นจำกตำแหน่งตำมมำตรำ ๒๓ ประธำนสภำเมืองพัทยำ
สำนักและรองประธำนสภำเมื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกอำงพัทยำพ้นจำกต
สำนัำแหน่ ง เมื่อ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) พ้นจำกสมำชิกภำพแห่งสภำเมืองพัทยำ
(๒) ลำออก โดยยื่นหนังสือลำออกต่อผู้ว่ำรำชกำรจังหวัด
๑๒
กำ ๑๙ วรรคสำมสำนัแก้กไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญกญัำ ติระเบียบบริหสำรรำชกำรเมื องพัทยำ
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒
๑๓
สำนัมำตรำ ๑๙ วรรคสี่ เพิ่มโดยพระรำชบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัติสระเบี
บบริหำรรำชกำรเมืองพัทกยำ ำ (ฉบับที่ ๓)
พ.ศ. ๒๕๖๒
๑๔
กำ ๒๐ ยกเลิกโดยพระรำชบั ญญัติระเบียบบริหกำรรำชกำรเมื
๒๕๖๒
๑๕
มำตรำ ๒๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ (ฉบับที่ ๓)
พ.ศ. ๒๕๖๒
๑๖
มำตรำ ๒๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ (ฉบับที่ ๓)
สำนักพ.ศ.
๒๕๖๒ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
-๖- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๕ ในกรณีที่ตำแหน่งประธำนสภำเมืองพัทยำหรือรองประธำนสภำเมือง
สำนักพังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ท ยำว่ำงลง เพรำะเหตุ
กำใดเหตุ ห นึ่ งตำมมำตรำ ๒๔ ให้ ส ภำเมือกงพั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ท ยำเลื อกสมำชิ กขึ้น เพื่ อดำรง
ตำแหน่งที่ว่ำงแทนภำยในสิบห้ำวันนับแต่วันที่ตำแหน่งว่ำงลง
มำตรำ ๒๖ ประธำนสภำเมืองพัทยำมีหน้ำที่ดำเนินกำรประชุมและดำเนินกิจกำร
อื่นให้เป็นไปตำมข้อบังคับเมืองพัทยำ
สรองประธำนสภำเมื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องพัทยำมี กำ ห น้ ำที่ช่ วยประธำนสภำเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีองพัทยำปฏิกำบัติกำรตำม
หน้ำที่และกระทำกิจกำรตำมที่ประธำนสภำเมืองพัทยำมอบหมำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณี กำที่ ไม่ มี ป ระธำนสภำเมื องพั ทยำหรือประธำนสภำเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องพั
สำนัทกยำไม่ อยู่ห รือไม่
สำมำรถปฏิบัติหน้ำที่ได้หรือไม่ปฏิบัติหน้ำที่ ให้รองประธำนสภำเมืองพัทยำคนที่หนึ่งปฏิบัติหน้ำที่
แทน และในกรณีสำนั ที่ ไกม่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มีป ระธำนสภำเมื องพักทำ ยำและรองประธำนสภำเมื สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีองพั ทยำคนที กำ ่ ห นึ่ ง หรื อ
ประธำนสภำเมืองพัทยำและรองประธำนสภำเมืองพัทยำคนที่หนึ่งไม่อยู่ หรือไม่สำมำรถปฏิบัติหน้ำที่
สำนักได้ หรือไม่ปฏิบัติหน้ำที่ ให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรองประธำนสภำเมื องพัทยำคนที่สองปฏิบกำัติหน้ำที่แทน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกำรประชุม ครั้ งใดถ้ ำไม่มี ผู้ ป ฏิ บั ติห น้ ำที่ ป ระธำนในที่ ป ระชุม ให้ ส มำชิก เลื อ ก
กันเองเพื่อทำหน้ำที่ประธำนในที่ประชุมสำหรับกำรประชุมครัสำนั
้งนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกำรประชุกำ ม ครั้ งใดสำนัถ้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้ ท ำหน้ ำที่ ป ระธำนในที กำ ่ ป ระชุ ม สั่ ง ปิสดำนั
ประชุ ม ก่อ นหมด
ระเบียบวำระกำรประชุม แต่สมำชิกจำนวนไม่น้อยกว่ำหนึ่งในสำมของสมำชิกเท่ำที่มีอยู่เสนอให้เปิด
ประชุม ให้ ดำเนินสำนักำรประชุ มตำมระเบียบวำระกำรประชุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สมำนั
นั้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต่อไป จนกว่ำสมำชิกจะมี กำ มติให้ ปิ ด
ประชุม และให้นำควำมในวรรคสำมและวรรคสี่มำใช้บังคับกับกรณีดังกล่ำว
มำตรำ ๒๗ ประธำนสภำเมืองพัทยำอำจแต่งตั้งเลขำนุกำรประธำนสภำเมืองพัทยำ
และผู้ช่วยเลขำนุกสำรประธำนสภำเมื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องพัทยำไม่
กำ เกินจำนวนรองประธำนสภำเมื องพัทยำ เพื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่อช่วยเหลือ
กิจกำรตำมที่ได้รับมอบหมำย
บุ ค คลซึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ ง ได้ รั บ กำรแต่ ง ตั้ ง เป็ นเลขำนุ ก ำรป
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ระธำนสภ ำเมื
สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งพั ทยำหรื อ กำ
ผู้ช่วยเลขำนุกำรประธำนสภำเมืองพัทยำ ต้องมิใช่รองนำยกเมืองพัทยำ เลขำนุกำรนำยกเมืองพัทยำ
ผู้ช่วยเลขำนุกำรนำยกเมืองพัทยำ ประธำนที่ปรึกษำหรือที่ปรึกษำ
เลขำนุกกำำรประธำนสภำเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องพัทยำ และผู้ช่วยเลขำนุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กำรประธำนสภำเมื องพัทยำพ้น
จำกตำแหน่ง เมื่อ
ส(๑)
ำนักประธำนสภำเมื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องพัทยำพ้
กำนจำกตำแหน่สงำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ประธำนสภำเมืองพัทยำมีคำสั่งให้พ้นจำกตำแหน่ง
(๓) ตำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ลำออก โดยยื่นหนังสือลำออกต่อประธำนสภำเมืองพัทยำ
ส(๕)
ำนักต้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องคำพิพำกษำให้จำคุกกและถู ำ กคุมขังอยู สำนั่โดยหมำยของศำล
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ ๒๘ ให้ ป ลัสดำนัเมืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งพั ท ยำท ำหน้ ำ ที่ เลขำนุ
กำ ก ำรสภำเมืสอำนังพักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ท ยำ มี ห น้ ำ ที่ กำ
รับผิดชอบงำนธุรสกำรและกำรจั ดประชุมและงำนอื่นใดตำมที่สสำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ภำเมื องพัทยำมอบหมำย

-๗- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๙ ภำยในสิบห้ำวันนับแต่วันเลือกตั้งสมำชิกอันเป็นกำรเลือกตั้งทั่วไป ให้

้ว่ำรำชกำรจังหวัดเรียกประชุ
กำ มสภำเมืสอำนังพักทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยำครั้งแรก กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในปีปฏิทินหนึ่งให้มีสมัยประชุมสำมัญของสภำเมืองพัทยำไม่น้อยกว่ำสองสมัย แต่
ต้องไม่เกินสี่สมัย จำนัำนวนสมั
ส ยประชุมสำมัญและวั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นเริ่มสมัยสประชุ มสำมัญประจำปีแต่ลกะสมั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ยให้สภำ
เมืองพัทยำกำหนด แต่สภำเมืองพัทยำจะกำหนดจำนวนสมัยประชุมและวันเริ่มสมัยประชุมสำหรับปี
แรกเป็นกำรเฉพำะก็ได้
สสมั
ำนัยกประชุ มสำมัญให้มีกำหนดสำมสิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บวัน แต่
สำนัถ้กำมีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กรณีจำเป็นสภำเมืองพักำทยำจะมีมติ
ขยำยสมัยประชุมสำมัญออกไปอีกก็ได้แต่ต้องไม่เกินสำมสิบวัน
มำตรำ ๓๐ เมื่อมีกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งเมืองพัทยำ นำยกเมืองพัทยำหรือ
สมำชิกไม่น้อยกว่สำำนั
หนึก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ในสำมของจำนวนสมำชิ กำ กเท่ำที่มีอยู่ สอำจยื ่นคำร้องต่อประธำนสภำเมื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องพัทยำ
ขอให้เปิดประชุมสมัยวิสำมัญได้ และให้ประธำนสภำเมืองพัทยำเรี ยกประชุมสมัยวิสำมัญโดยกำหนด
สำนักวังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นประชุมภำยในเจ็ดวันกนัำบแต่วันที่ได้รสับำนัคำร้ อง
สมัยประชุมวิสำมัญให้มีกำหนดสิบห้ำวัน
มำตรำกำ๓๑ ภำยใต้บสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ังคักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มำตรำ ๒๙ ให้ประธำนสภำเมื
กำ องพัทสยำเรี
กประชุมสภำ กำ
เมืองพัทยำตำมสมัยประชุม
สในกรณี ที่ไม่มีประธำนสภำเมื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำองพัทยำหรือสประธำนสภำเมื องพัท ยำไม่กเำรียกประชุม
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตำมกฎหมำย ให้ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดเป็นผู้เรียกประชุมและนัดให้สมำชิกมำประชุมในกรณีดังต่อไปนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี(๑) สมำชิ
กำ กจำนวนไม่สนำนั้อกยกว่ ำหนึ่งในสำมของสมำชิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กทั้งหมดเท่สำำนั
ที่มกีองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยู่มีสิทธิยื่นคำ กำ
ร้องต่อผู้ว่ำรำชกำรจั งหวัด ขอให้ เรีย กประชุมสภำเมืองพัทยำได้ และให้ ผู้ ว่ ำรำชกำรจังหวัดเรียก
ประชุมสภำเมืองพัสำนั
ทยำกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ภำยในเจ็ดวันนับแต่วกันำที่ได้รับคำร้องสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) กรณี ที่ไม่มีกำรประชุมภำยในระยะเวลำเจ็ดวันนับแต่วันเริ่มกำหนดให้มีกำร
สำนักประชุ มตำมมำตรำ ๒๙ กหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อมำตรำ ๓๐สำนั แล้กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แต่กรณี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดเป็นผู้เรียกประชุมสภำเมืองพัทยำ ประธำนสภำเมือง
พัทยำ และรองประธำนสภำเมืองพัทยำ จะทำหน้ำที่เป็นประธำนในที่ประชุมมิได้และให้สมำชิกเลือก
สำนักกังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นเองเพื่อทำหน้ำที่ประธำนในที
กำ ่ประชุสมำนั
สำหรั บกำรประชุมครั้งนั้น กำ
สมำตรำ ๓๒ กำรประชุมสภำเมื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องพัทยำ ต้สอำนังมีกสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มำชิกมำประชุมไม่น้อกยกว่
ำ ำกึ่งหนึ่ง
ของจำนวนสมำชิกเท่ำที่มีอยู่ จึงจะเป็นองค์ประชุม
นำยกเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องพัทยำ รองนำยกเมื องพัทยำ หรือผู้ซึ่งกนำยกเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ องพัทสยำมอบหมำยมี สิทธิ
เข้ำประชุมสภำเมืองพัทยำ และมีสิทธิแถลงข้อเท็จจริงตลอดจนแสดงควำมคิดเห็นเกี่ยวกับงำนใน
หน้ำที่ของตนต่อทีส่ปำนัระชุ ม แต่ไม่มีสิทธิออกเสียกงลงคะแนน
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๓๓ กำรลงมติ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัวิกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิจฉัยข้อปรึกษำให้ถือเอำเสี
กำ ยงข้ำงมำกเป็
สำนันกเกณฑ์ เว้นแต่ที่
บัญญัติไว้เป็นอย่ำสงอื ่นในพระรำชบัญญัตินี้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำชิกคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในกำรลงคะแนน ถ้ำมีคะแนนเสียงเท่ำกันให้ประธำนใน
สำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ประชุมมีสิทธิออกเสียงเพิ
กำ ่มขึ้นอีกเสียสงหนึ
ำนัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นเสียงชี้ขำด กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
-๘- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๓๔ สภำเมืสอำนังพักทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ยำจะกระทำกำรใดอักนำ มิใช่เป็นอำนำจหน้ ำที่ ของเมือง
พัทยำไม่ได้
มำตรำ ๓๕ กำรประชุมสภำเมืองพัทยำต้องกระทำโดยเปิดเผยตำมลักษณะที่ได้
กำหนดไว้ในข้อบังคับกำรประชุมสภำเมืองพัทยำ แต่ถ้ำนำยกเมืองพัทยำหรือสมำชิกจำนวนไม่น้อย
กว่ำหนึ่งในสี่ของจสำนวนสมำชิ กเท่ำที่มีอยู่ร้องขอให้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ประชุมลับสำนัก็กให้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ประชุมลับ กำ
มำตรำกำ ๓๖ ในที่ ป ระชุ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักมงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สภำเมืองพั ท ยำ สมำชิกำกมีสิ ท ธิตั้ งกระทู
สำนั้ ถกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำมนำยกเมือ ง กำ
พัทยำในเรื่องที่เกี่ยวกับงำนในหน้ำที่ของนำยกเมืองพัทยำ
มำตรำ ๓๗ สมำชิกจำนวนไม่น้อยกว่ำหนึ่งในสำมของจำนวนสมำชิกเท่ำที่มีอยู่มี
สำนักสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทธิเข้ำชื่อเสนอญัตติขกอเปิ
ำ ดอภิป รำยทัสำนั
่วไปในที ่ประชุมสภำเมืองพักทำ ยำเพื่อให้นำยกเมื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องพัทยำแถลง
ข้อเท็จจริงหรือแสดงควำมเห็นในปัญหำอันเกี่ยวกับกำรบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำโดยไม่มีกำรลงมติ
ญั ตติ ตำมวรรคหนึ่ งให้ ยื่นต่ อประธำนสภำเมื อ งพั ทยำ และให้ ประธำนสภำเมือ ง
ทยำกำหนดวันสำหรับกกำรอภิ
ำ ปรำยทัส่วำนัไปกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ซึ่งต้ องไม่เร็วกว่ำห้ำวันกและไม่
ำ ช้ำกว่ำสิสบำนัห้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วันนับแต่วันที่ กำ
ได้รับญัตติ แล้วแจ้งให้นำยกเมืองพัทยำทรำบ
มำตรำ ๓๘ สภำเมืองพัทยำมีอำนำจเลือกสมำชิกตั้งเป็นคณะกรรมกำรสำมัญของ
สำนักสภำเมื องพัทยำ และมีอกำนำจเลื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อกบุคสคลผูำนัก้เงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ป็นหรือมิได้เป็นสมำชิกกำตั้งเป็นคณะกรรมกำรวิ สำมัญของ
สภำเมืองพัทยำเพื่อกระทำกิจกำรหรือพิจำรณำสอบสวน หรือศึกษำเรื่องใด ๆ อันอยู่ในอำนำจหน้ำที่
ของสภำเมืองพัทยำแล้ วรำยงำนต่อสภำเมืองพักทำ ยำ
ในกำรตั้ งคณะกรรมกำรวิส ำมั ญ ตำมวรรคหนึ่ ง นำยกเมืองพัท ยำมีสิ ท ธิเสนอชื่ อ
สำนักบุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คคลผู้เป็นหรือมิได้เป็นกสมำชิ
ำ ก เพื่อให้สำนัสภำเมื องพัทยำแต่งตั้งเป็นกกรรมกำรในคณะกรรมกำรวิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สำมัญ
ได้ไม่เกินหนึ่งในสี่ของจำนวนกรรมกำรทั้งหมด
คณะกรรมกำรที่สภำเมืองพัทยำตั้งขึ้นตำมวรรคหนึ่ง จะแต่งตั้งคณะอนุกรรมกำร
สำนักเพื ่อพิจำรณำหรือปฏิบัตกิกำำรในเรื่องใดเรืสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่องหนึ ่งตำมที่คณะกรรมกำรมอบหมำยก็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ได้สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำตรำ ๓๙ สภำเมืองพัทยำมี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อำนำจตรำข้สอำนับักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คับเกี่ยวกับจรรยำบรรณของสมำชิ
กำ ก
ข้ อ บั งคั บ กำรประชุ ม เกี่ ย วกั บ กำรเลื อ กและกำรปฏิ บั ติ ห น้ ำที่ ข องประธำนสภำเมื อ งพั ท ยำ รอง
สำนักประธำนสภำเมื องพัทยำ กคณะกรรมกำรและคณะอนุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ กรรมกำรของสภำเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องพัทยำ วิธีกสำรประชุ ม กำรเสนอ
และพิจำรณำร่ำงข้อบัญญัติ กำรเสนอญัตติ กำรปรึกษำ กำรอภิปรำย กำรลงมติ กำรตั้งและตอบ
กระทู้ถำม กำรเปิสดำนัอภิกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ปรำยทั่วไป กำรรักษำระเบี กำ ยบและควำมเรีสำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บร้อย และกิจกำรอื่นกอัำนเป็นหน้ำที่
ของสภำเมืองพัทยำ
มำตรำ ๔๐ เงินประจำตำแหน่ง เงินค่ำเบีส้ยำนั
ประชุ ม และประโยชน์ตอบแทนอื่นของ
ประธำนสภำเมืองพัทยำ รองประธำนสภำเมืองพัทยำ สมำชิก เลขำนุ กำรประธำนสภำเมืองพัทยำ
-๙- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้ช่วยเลขำนุ กำรประธำนสภำเมืองพัทยำ กรรมกำรสำมัญหรือกรรมกำรวิสำมัญที่สภำเมืองพัทยำ

สำนักตังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้งขึ้น หรืออนุกรรมกำรที
กำ่คณะกรรมกำรตั
สำนั้งกขึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้น ให้เป็นไปตำมที่กำหนดในพระรำชกฤษฎี
กำ กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำส่วนที่ ๒ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นำยกเมืองพัทยำ
มำตรำ ๔๑ ให้เมืองพัทยำมีนำยกเมืองพัทยำคนหนึ่งซึ่งเลือกตั้งโดยรำษฎรผู้มีสิทธิ
สำนักเลืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อกตั้งในเขตเมืองพัทยำ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรเลือกตั้งนำยกเมืองพัทยำให้กระทำโดยวิธีออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ
สหลั
ำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เกณฑ์และวิธีกำรสมัครรั
กำบเลือกตั้งและกำรเลื อกตั้งนำยกเมืองพัทกยำำ ให้เป็นไป
ตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรเลือกตั้งสมำชิกสภำท้องถิ่นหรือผู้บริหำรท้องถิ่น
มำตรำ ๔๒๑๗ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนำยกเมืองพัทยำและผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น
นำยกเมืองพัทยำ ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ำมตำมกฎหมำยว่ ำด้วยกำรเลือกตั้งสมำชิก
สำนักสภำท้ องถิ่นหรือผู้บริหำรท้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องถิ่น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นนำยกเมืองพัทยำ นอกจำกต้องมีคุณ สมบัติและไม่มี
ลักษณะต้องห้ำมตำมวรรคหนึ ่งแล้ว ต้องมีคุณกสมบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ติ ดังต่อไปนี
สำนั้ดก้วงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย กำ
(๑) มีอำยุไม่ต่ำกว่ำสำมสิบห้ำปีนับถึงวันเลือกตั้ง
(๒) สำเร็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จกำรศึกษำไม่ ต่ำกว่
สำนั ำปริญญำตรีหรือเทียกบเท่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำตรำ ๔๓๑๘ (ยกเลิก) กำ

มำตรำกำ๔๔๑๙ (ยกเลิสกำนั) กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

๒๐ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๕ นำยกเมืองพัทยำมีวำระอยู่ในตำแหน่งครำวละสี่ปีนับแต่วันเลือกตั้ง
สำนักแต่ จะดำรงตำแหน่งติดต่กอำ กันเกินสองวำระไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ได้
ในกรณีที่นำยกเมืองพัทยำดำรงตำแหน่งไม่ครบระยะเวลำสี่ปีก็ให้ถือว่ำเป็นหนึ่งวำระ
และเมื่อได้ดำรงตสำแหน่ งสองวำระติดต่อกันกแล้ำ วจะดำรงตำแหน่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งได้อีกเมื่อพ้นระยะเวลำสี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ปีนับแต่
วันพ้นจำกตำแหน่ง
๑๗
สำนัมำตรำ ๔๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัตสิรำนั
ะเบีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยบบริหำรรำชกำรเมืองพัทกยำ
ำ (ฉบับที่ ๓)
พ.ศ. ๒๕๖๒
๑๘
มำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๔๓ ยกเลิกโดยพระรำชบั ญญัติระเบียบบริหกำรรำชกำรเมื
๒๕๖๒
๑๙
มำตรำ ๔๔ ยกเลิกโดยพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.
๒๕๖๒
๒๐
มำตรำ ๔๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ (ฉบับที่ ๓)
- ๑๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๔๖ ให้มีกำรมอบหมำยงำนในหน้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำที่นำยกเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องพัทยำภำยในเจ็ ดวันนับแต่
วันที่ได้มีกำรประกำศผลกำรเลือกตั้งนำยกเมืองพัทยำ
สนำยกเมื องพัทยำอำจแต่งตัก้งำรองนำยกเมือสงพั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัทกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยำจำนวนไม่เกินสี่คนซึก่งำมิใช่สมำชิก
เป็นผู้ช่วยเหลือในกำรบริหำรรำชกำรของเมืองพัทยำตำมที่นำยกเมืองพัทยำมอบหมำย
๒๑
สมำตรำ ๔๗ รองนำยกเมืกอำงพัทยำต้องมีสคำนัุณกสมบั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ติและไม่มีลักษณะต้กำองห้ำมตำม
มำตรำ ๔๒ เว้นแต่ในส่วนที่เกี่ยวกับอำยุให้นับถึงวันแต่งตั้ง
มำตรำ ๔๘ นำยกเมืองพัทยำมีอำนำจหน้ำที่ ดังต่อไปนี้
ส(๑)
ำหนดนโยบำยและรับกผิำดชอบในกำรบริ สำนักหงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำรรำชกำรของเมืองพัทกำยำให้เป็นไป
ตำมกฎหมำย ข้อบัญญัติ และนโยบำย
(๒) สั่งกำอนุญำต และอนุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัมกัตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิเกี่ยวกับรำชกำรของเมืกอำ งพัทยำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) แต่ ง ตั้ ง และถอดถอนรองนำยกเมื อ งพั ท ยำ เลขำนุ ก ำรนำยกเมื อ งพั ท ยำ
ผู้ช่วยเลขำนุกำรนำยกเมืองพัทยำ ประธำนที่ปรึกษำ ที่ปรึกษำหรื อคณะที่ปรึกษำ
(๔) วำงระเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยบเพื่อให้ งำนของเมื
สำนั องพัทยำเป็นไปด้กำวยควำมเรียบร้สำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อยกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) ปฏิบัติหน้ำที่อื่นตำมที่คณะรัฐมนตรี นำยกรัฐมนตรี รัฐมนตรี หรือผู้ว่ำรำชกำร
จั ง หวั ด มอบหมำย
สำนัหรื อ ตำมที่ ก ฎหมำยก ำหนดให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เป็ น อสำนำจหน้ ำ ที่ ข องนำยกเมื อกงพั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ท ยำหรื อ
นำยกเทศมนตรีหรือคณะเทศมนตรี
มำตรำ ๔๙๒๒ นำยกเมืองพัทยำ รองนำยกเมืองพัทยำ เลขำนุกำรนำยกเมืองพัทยำ
ผู้ช่วยเลขำนุกำรนำยกเมื องพัทยำ ประธำนที่ปกรึำกษำ และที่ปสรึำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กษำ ต้องไม่กระทำกำร ดังกต่ำอไปนี้
(๑) ดำรงตำแหน่งหรือหน้ำที่ใดในส่วนรำชกำร หน่วยงำนของรัฐ รัฐวิสำหกิจ หรือ
สำนักกำรพำณิ ช ย์ ข องเมื อ งพักำท ยำหรื อ บริ ษสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ั ท ซึก่ งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เมื อ งพั ท ยำถื อ หุ้ น หรืกำอ ต ำแหน่ งผู้ บสำนั
ริ หกำรท้ อ งถิ่ น หรื อ
พนักงำนส่วนท้องถิ่น เว้นแต่ตำแหน่งที่ต้องดำรงตำมบทบัญญัติแห่งกฎหมำย หรือเป็นกำรปฏิบัติ
หน้ำที่เพื่อประโยชน์ในกำรบริหำรรำชกำรแผ่นดินหรือตำมนโยบำยของรัฐบำล
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๒) รับกำเงิน หรือประโยชน์ ใด ๆ เป็นพิเศษจำกส่กวำนรำชกำร หรืสอำนัหน่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วยงำนของรัฐ กำ
หรือรัฐวิสำหกิจ หรือกำรพำณิชย์ของเมืองพัทยำหรือบริษัทซึ่งเมืองพัทยำถือหุ้น นอกเหนือไปจำกที่
ส่วนรำชกำร หน่สวำนัยงำนของรั ฐ รัฐวิสำหกิจกหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อกำรพำณิสชำนั ย์หกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รือบริษัท ปฏิบัติกับบุกคำคลในธุรกิจ
กำรงำนตำมปกติ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๓) เป็กนำ ผู้มีส่วนได้เสีสยำนัในสั ญ ญำหรือกิจกำรที่กกระท
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำหรือ จะกระท สำนักำกั บหรือให้ แก่
เมืองพัทยำ หรือมีส่วนได้เสียในสัญญำหรือกิจกำรที่กระทำหรือจะกระทำกับหรือให้แก่องค์กรปกครอง
ส่ วนท้ องถิ่น อื่น สโดยมี พฤติกำรณ์ แสดงให้ เห็กนำ ว่ำเป็น กำรต่สำำนังตอบแทนหรื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อเอื้อประโยชน์
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ส่ ว นตน
ระหว่ำงกัน หรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้ำงหุ้นส่วนหรือบริ ษัทที่เป็นคู่สัญญำกับเมืองพัทยำอันมี
๒๑
มำตรำ ๔๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ (ฉบับที่ ๓)
พ.ศ. ๒๕๖๒
๒๒
มำตรำ ๔๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ (ฉบับที่ ๓)
- ๑๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลักษณะเป็นกำรผูกขำดตัดตอน ทั้งนี้ ไม่ว่ำโดยทำงตรงหรือทำงอ้อม เว้นแต่ในส่วนที่เป็นผู้ถือหุ้น

สำนักในบริ ษัทมหำชนจำกัดอยู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ก่อนได้รับกำรเลื
กตั้ง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทบั ญ ญั ติ ม ำตรำนี้ มิ ให้ ใช้ บั งคั บ แก่ ก รณี ที่ บุ ค คลตำมวรรคหนึ่ ง ได้ รั บ เบี้ ย หวั ด
บำเหน็จ บำนำญ ำนัเงิกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ส ปีพระบรมวงศำนุว งศ์กำหรือเงินอื่นใดในลั กษณะเดียวกัน และมิกำให้ใช้บังคับ
แก่กรณีที่บุคคลตำมวรรคหนึ่งรับเงินตอบแทนค่ำเบี้ยประชุมหรือเงินอื่นใดเนื่องจำกกำรดำรงตำแหน่ง
กรรมำธิกำรของรัฐสภำ สภำผู้แทนรำษฎร วุฒิ สภำ หรือสภำเมืองพัทยำหรือสภำท้องถิ่นอื่น หรือ
กรรมกำรที่มีกฎหมำยบั ญญัติให้เป็นโดยตำแหน่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้นำควำมใน (๒) และ (๓) มำใช้บังคับแก่สมำชิกด้วยโดยอนุโลม
มำตรำ ๕๐ นำยกเมืองพัทยำพ้นจำกตำแหน่ง เมื่อ
ส(๑)
ำนักถึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งครำวออกตำมวำระ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ตำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๓) เมืก่อำมีกำรยุบสภำเมืสำนัอกงพั ทยำตำมมำตรำ ๗๖ กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ลำออก โดยยื่นหนังสือลำออกต่อผู้ว่ำรำชกำรจังหวัด
สำนั๒๓
(๕)กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ขำดคุณสมบัติหรือมีลกักำษณะต้องห้ำมตำมมำตรำ
๔๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๖) กระทกำ ำกำรฝ่ำฝืนสมำตรำ ๔๙
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๔
(๗) รัฐมนตรีพิจำรณำสอบสวนและสั่งให้ออกจำกตำแหน่งตำมมำตรำ ๙๖/๑
ส(๘)
ำนักรำษฎรผู ้มีสิทธิเลือกตั้งกในเขตเมื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ องพัทสยำได้ ลงคะแนนเสียงให้พ้นกจำกต
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำแหน่ง
ตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมำชิกสภำท้องถิ่นหรือผู้บริหำรท้องถิ่น
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เมื่อมีขกำ้อสงสัยเกี่ยวกัสบำนัควำมเป็ นนำยกเมืองพัทกยำผู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้ใดสิ้นสุดลงตำม (๕) หรือ (๖)
หรือเมื่อได้รับแจ้งจำกคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งว่ำควำมเป็นนำยกเมืองพัทยำผู้ใดสิ้นสุดลงตำม (๕)
ให้ผู้ว่ำรำชกำรจังสหวัำนัดกสอบสวนและวิ นิจฉัยให้กแำล้วเสร็จภำยในหกสิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บวันนับแต่วันที่ผู้ว่ำรำชกำรจั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งหวัด
เห็นว่ำมีเหตุอัน ควรสงสัยหรือได้รับ แจ้งจำกคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง แล้วแต่กรณี แม้ว่ำนำยก
สำนักเมื องพัทยำผู้ นั้น จะได้พก้นำ จำกตำแหน่สงำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ไปแล้ วไม่ว่ำด้วยเหตุใด เว้กนำ แต่เพรำะเหตุสำนัตำย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หรือพ้นจำก
ตำแหน่งไปแล้วเกินสองปี ทั้งนี้ ตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรที่กำหนดในกฎกระทรวง๒๕
ในกรณีที่ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดวินิจฉัยว่ำนำยกเมืองพัทยำพ้นจำกตำแหน่งตำม (๕)
สำนักหรื อ (๖) ให้ผู้ว่ำรำชกำรจั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งหวัดประกำศค สำนักำวิ นิจฉัยให้ทรำบทั่วกันกำไม่ว่ำผู้นั้นจะได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัพก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำกตำแหน่ง กำ
ไปก่อนแล้วหรือไม่ก็ตำม โดยในคำวินิจฉัยนั้นให้ระบุเหตุที่ทำให้พ้นจำกตำแหน่งไว้ด้วย และให้นำยก
เมืองพัทยำผู้นั้นพ้สนำนัจำกต ำแหน่งตั้งแต่วันที่มกีเำหตุตำม (๕) หรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัอกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
(๖) แต่ไม่กระทบต่อกำรด กำ ำเนินงำน
และกำรรับ ค่ำ ตอบแทนที่ไ ด้ก ระทำไปก่อ นวัน ที่มีก ำรประกำศคำวินิจ ฉัย ถ้ำ ในขณะที่ป ระกำศ
สำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำวินิจ ฉัย ดัง กล่ำ วผู้นกั้นำกำลัง ดำรงตสำแหน่ ง สมำชิก สภำท้อ งถิ่นกำหรือ ผู้บ ริห ำรท้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัอกงถิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่น อัน เป็น ผล กำ
จำกกำรเลือกตั้งต่ำงวำระหรือต่ำงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกัน ให้ผู้นั้นพ้นจำกตำแหน่งที่กำลังดำรง
๒๓
กำ ๕๐ วรรคหนึส่งำนั(๕) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญั ติระเบียสบบริ
ำรรำชกำรเมือง กำ
๒๔
มำตรำ ๕๐ วรรคหนึ่ง (๗) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมือง
๒๕
มำตรำ ๕๐ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ
- ๑๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อยู่ด้วย และในกรณี ที่เป็ น ผลให้ ถูกห้ ำมใช้สิ ทธิส มัครรับเลื อกตั้งหรือใช้สิทธิเลือกตั้ง ให้ ถือว่ำวันที่
สำนักประกำศค ำวินิจฉัยเป็นวักนำ เริ่มนับระยะเวลำต้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องห้ำมดังกล่ำว ทั้งนีก้ ำคำวินิจฉัยของผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้ว่ำกรำชกำรจั งหวัด
ตำมมำตรำนี้ให้เป็นที่สุด๒๖
สในระหว่ ำงที่ไม่มีนำยกเมืองพักทำยำ ให้ปลัดเมืสอำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งพักทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยำปฏิบัติหน้ำที่ของนำยกเมืกำ องพัทยำ
เท่ำที่จำเป็นได้เป็นกำรชั่วครำวจนกว่ำนำยกเมืองพัทยำซึ่งได้รับเลือกตั้งขึ้นใหม่จะเข้ำรับหน้ำที่๒๗
สมำตรำ ๕๑ รองนำยกเมืองพั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำทยำพ้นจำกตสำแหน่ ง เมื่อ
(๑) นำยกเมืองพัทยำพ้นจำกตำแหน่ง
(๒) นำยกเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องพัทยำมี คำสั
สำนั ่งให้พ้นจำกตำแหน่ง กำ
(๓) ตำย
ส(๔)
ำนักลำออก โดยยื่นหนังสือลำออกต่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อนำยกเมื
สำนัอกงพั ทยำ
(๕) ขำดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ำมตำมมำตรำ ๔๗
(๖) กระท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำกำรฝ่ำฝืนสมำตรำ ๔๙
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้นำควำมในวรรคสองและวรรคสำมของมำตรำ ๕๐ มำใช้บังคับกับกรณีรองนำยก
เมืองพัทยำด้วยโดยอนุโลม๒๘
มำตรำ ๕๒ นำยกเมื อ งพั ท ยำอำจแต่ ง ตั้ ง เลขำนุ ก ำรนำยกเมื อ งพั ท ยำและ
ผู้ช่วยเลขำนุกำรนำยกเมื องพัทยำไม่เกินจำนวนรองนำยกเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อสงพั
ำนักทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยำ และอำจแต่งตั้งผู้ทกรงคุ
ำ ณวุฒิเป็น
ประธำนที่ปรึกษำและที่ปรึกษำได้จำนวนรวมกันแล้วไม่เกินห้ำคน เพื่อช่วยเหลือในกำรบริหำรรำชกำร
สำนักเมืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องพัทยำตำมที่นำยกเมื
กำองพัทยำมอบหมำย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บุคคลที่ได้รับแต่งตั้งเป็นเลขำนุกำรนำยกเมืองพัทยำ ผู้ช่วยเลขำนุกำรนำยกเมืองพัทยำ
ประธำนที่ป รึกษำสำนัและที ่ ป รึกษำ ต้ องมิใช่สกมำชิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ก และให้สนำนั
ำควำมในวรรคสองและวรรคสำมของ
มำตรำ ๕๐ และมำตรำ ๕๑ (๑) (๒) (๓) (๔) และ (๖) มำใช้บังคับแก่กำรพ้นจำกตำแหน่งของบุคคล
งกล่ำวด้วยโดยอนุโลมก๒๙ำ
สำนักดังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๓ เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอย่ำงอื่นของ
สำนักนำยกเมื องพัทยำ รองนำยกเมื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องพัทสยำำนัเลขำนุ กำรนำยกเมืองพักทำ ยำ ผู้ ช่ว ยเลขำนุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำรนำยกเมือง กำ
พัทยำ ประธำนที่ปรึกษำหรือที่ปรึกษำ ให้เป็นไปตำมที่กำหนดในพระรำชกฤษฎีกำ
หมวด ๓
๒๖
สำนัมำตรำ ๕๐ วรรคสำม แก้ไขเพิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่มเติมโดยพระรำชบั ญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องพัทยำ
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒
๒๗
กำ ๕๐ วรรคสี่ สเพิำนั่มโดยพระรำชบั ญญัติระเบียบบริ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ หำรรำชกำรเมื องพั
สำนั ทยำ (ฉบับที่ ๓)
พ.ศ. ๒๕๖๒
๒๘
มำตรำ ๕๑ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒
๒๙
มำตรำ ๕๒ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติระเบี ยบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ
- ๑๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ระเบียบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ
สมำตรำ ๕๔ ให้นำยกเมืองพั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำทยำควบคุมและรั บผิดชอบในกำรบริหำรกิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จกำรของ
เมืองพัทยำและเป็นผู้บังคับบัญชำพนักงำนเมืองพัทยำและลูกจ้ำงเมืองพัทยำ
สมำตรำ ๕๕ เมืองพัทยำแบ่งกส่ำวนรำชกำรดัสงต่ำนัอกไปนี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้
(๑) สำนักปลัดเมืองพัทยำ
(๒) ส่วกนรำชกำรอื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่น สตำมที ่นำยกเมืองพัทยำประกำศก
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำหนดโดยควำมเห็ นชอบของ
กระทรวงมหำดไทย
สกำรก ำหนดอำนำจหน้ำที่ของส
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำนักปลัดเมืสอำนังพักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทยำ และส่วนรำชกำรอืกำ่นตำมวรรค
หนึ่ง ให้เป็นไปตำมที่นำยกเมืองพัทยำประกำศกำหนด โดยควำมเห็นชอบของกระทรวงมหำดไทย
มำตรำ ๕๖ ให้มีปลัดเมืองพัทยำคนหนึ่งเป็นผู้บังคับบัญชำพนักงำนเมืองพัทยำและ
ลูกจ้ำงเมืองพัทยำรองจำกนำยกเมืองพัทยำ และรับผิดชอบควบคุ มดูแลรำชกำรประจำของเมืองพัทยำ
สำนักให้ เป็นไปตำมนโยบำย กและมี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อำนำจหน้ สำนัำกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อื่นตำมที่มีกฎหมำยกกำหนดหรื
ำ อตำมที
สำนั่นกำยกเมื องพัทยำ
มอบหมำย
สกำรบริ หำรงำนบุคคลของเมืกอำงพัทยำให้เป็นสไปตำมกฎหมำยว่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำด้วยกำรนักำ้น
มำตรำกำ๕๗ ในกรณีสทำนัี่มกีคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วำมจำเป็นเพื่อประโยชน์
กำ แก่รำชกำรเมื องพั
สำนั ทยำที่จะต้อง
อำศัยข้ำรำชกำร พนักงำน หรือลูกจ้ำงของหน่วยรำชกำร หน่วยงำนของรัฐ รัฐวิสำหกิจ หรือองค์กร
ปกครองส่ ว นท้ อสงถิำนั่นกอืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่น มำปฏิ บั ติงำนชั่วครำว กำ นำยกเมื อสงพัำนัทกยำอำจขอยื มตัว ผู้ นั้นมำช่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วยปฏิ บั ติ
รำชกำรของเมืองพัทยำเป็นกำรชั่วครำวโดยมีกำหนดเวลำก็ให้กระทำได้ แต่ต้องทำควำมตกลงกับ
สำนักหน่ วยรำชกำร หน่วยงำนของรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ฐ รัฐวิสสำนั
ำหกิ จ หรือองค์กรปกครองส่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วนท้องถิ่นอืส่นำนันัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก่อน และเมื่อ กำ
หมดควำมจำเป็นเมื่อใดให้รีบส่งตัวผู้นั้นคืนสังกัดเดิม
ให้ ถื อ ว่ ำข้ ำ รำชกำร พนั ก งำนหรื อ ลู ก จ้ ำ งของหน่ ว ยรำชกำร หน่ ว ยงำนของรั ฐ
สำนักรังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ฐ วิ ส ำหกิ จ หรื อ องค์ กกรปกครองส่
ำ วสนท้
ำนัอกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งถิ่ น ผู้ ได้ รับ แต่ งตั้ งตำมวรรคหนึ
กำ ่ ง มีสอำนัำนำจหน้ ำที่ เป็ น
พนักงำนเมืองพัทยำตำมพระรำชบัญญัตินี้โดยไม่ขำดจำกสถำนภำพเดิม และคงได้รับเงินเดือนหรือ
ค่ำจ้ำง แล้วแต่กรณี สำนัจำกสั งกัดเดิม
มำตรำกำ๕๘ อำนำจหน้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ในกำรสั่งหรือกำรปฏิบกัตำิรำชกำรของรองนำยกเมื องพัทยำ
ให้เป็นไปตำมที่นำยกเมืองพัทยำมอบหมำย
สในกรณี ที่ น ำยกเมื อ งพั ท ยำไม่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อ ำจปฏิ บสั ตำนั
ิ ร ำชกำรได้ ให้ ร องนำยกเมื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อ งพั ท ยำ
ตำมลำดับที่นำยกเมืองพัทยำจัดไว้เป็นผู้รักษำรำชกำรแทน ถ้ำไม่มีรองนำยกเมืองพัทยำหรือมีแต่ไม่
สำนักอำจปฏิ บัติรำชกำรได้ ให้กปำ ลัดเมืองพัทยำเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้รักษำรำชกำรแทน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อำนำจในกำรสั่ง กำรอนุญำต กำรอนุมัติ หรื
อกำรปฏิบัติรำชกำรที่นำยกเมืองพัทยำ
จะพึงปฏิบัติหรือดำเนินกำรตำมกฎหมำย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อบัญญัติ หรือคำสั่งใด หรือมติของ
สำนักคณะรั ฐมนตรีในเรื่องใดกำถ้ำกฎหมำย สกฎ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักระเบี ยบ ข้อบังคับ ข้อบักำญญัติ หรือคำสั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั หรือมติของ กำ
- ๑๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คณะรัฐมนตรีในเรื่องนั้นไม่ได้กำหนดในเรื่องกำรมอบอำนำจไว้เป็นอย่ำงอื่น นำยกเมื องพัทยำอำจ

สำนักมอบอ ำนำจโดยทำเป็นหนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งสือให้รองนำยกเมื องพัทยำเป็นผู้ปฏิบัตกิรำำชกำรแทนนำยกเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องพัทยำก็ได้
แต่ถ้ำมอบให้ปลัดเมืองพัทยำหรือรองปลัดเมืองพัทยำปฏิบัติรำชกำรแทน ให้ทำเป็นคำสั่งและประกำศ
ให้ประชำชนทรำบสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรปฏิบัติรำชกำรแทนนำยกเมืองพัทยำตำมวรรคสำม ต้องกระทำภำยใต้กำรกำกับ
ดูแลและกรอบนโยบำยที่นำยกเมืองพัทยำกำหนดไว้
มำตรำ ๕๙ ในกรณีที่มีรองปลัดเมืองพัทยำ อำนำจในกำรสั่งหรือกำรปฏิบัติรำชกำร
สำนักของรองปลั ดเมืองพัทยำกำให้เป็นไปตำมทีสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ปลักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เมืองพัทยำมอบหมำยกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งปลัดเมืองพัทยำหรือมีแต่ไม่อำจปฏิบัติรำชกำรได้ ให้
รองปลัดเมืองพัทสยำเป็ นผู้รักษำรำชกำรแทน กถ้ำำมีรองปลัดเมืสอำนังพักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ทยำหลำยคนให้รองปลักดำเมืองพัทยำ
ผู้มีอำวุโสตำมระเบียบแบบแผนของรำชกำรเป็นผู้รักษำรำชกำรแทน ถ้ำไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรองปลัด
องพัทยำหรือมีแต่ไม่อกำจปฏิ
ำ บัติรำชกำรได้ ให้นำยกเมืองพัทยำแต่กำงตั้งหัวหน้ำ ส่วสนรำชกำรของเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อง
พัทยำหรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่ำเป็นผู้รักษำรำชกำรแทน
อำนำจในกำรสั่ง กำรอนุญำต กำรอนุมัติ หรื อกำรปฏิบัติรำชกำรที่ปลัดเมืองพัทยำ
สำนักจะพึ งปฏิบัติหรือดำเนินกกำรตำมกฎหมำย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สำนักกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้กอำบัญญัติ หรือคสำสั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนั่งกใด หรือมติของ
คณะรัฐมนตรีในเรื่องใด ถ้ำกฎหมำย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อบัญญัติ หรือคำสั่งนั้น หรือมติของ
คณะรัฐมนตรีในเรืสำนั ่องนั ้นไม่ได้กำหนดเรื่องกำรมอบอ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำนำจไว้สำนั
เป็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อย่ำงอื่น ปลัดเมืองพัทกำยำอำจมอบ
อำนำจโดยทำเป็นหนังสือให้รองปลัดเมืองพัทยำปฏิบัติรำชกำรแทนปลัดเมืองพัทยำก็ได้ แต่ถ้ำจะมอบ
สำนักให้ หัวหน้ำส่ วนรำชกำรของเมื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องพัทยำหรื สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่ กำ ำปฏิบัติรำชกำรแทน ให้ทำเป็น
คำสั่งและประกำศให้ประชำชนทรำบ
มำตรำ ๖๐ ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้ำส่วนรำชกำรของเมืองพัทยำหรือผู้
สำนักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำรงตำแหน่งเทียบเท่ำกหรื ำ อมีแต่ไม่อสำจปฏิ บัติรำชกำรได้ ให้ปลักดำเมืองพัทยำแต่สำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งตัก้ งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พนักงำนเมือง กำ
พัทยำคนหนึ่งเป็นผู้รักษำรำชกำรแทนได้ ทั้งนี้ ให้ทำเป็นคำสั่งและประกำศให้ประชำชนทรำบ
อำนำจในกำรสั่ ง กำรอนุ ญ ำต กำรอนุ มัติ หรือ กำรปฏิ บั ติรำชกำรที่ หั วหน้ ำส่ ว น
สำนักรำชกำรของเมื องพัทยำหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อผู้ดำรงตำแหน่
สำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เทียบเท่ำจะพึงปฏิบัตกิ ำหรือดำเนินกำรตำมกฎหมำย กฎ
ระเบี ย บ ข้อบั งคับ ข้อบั ญ ญั ติ หรือคำสั่งใด หรือมติของคณะรัฐมนตรีในเรื่องใด ถ้ำกฎหมำย กฎ
ระเบียบ ข้อบังคับสำนั
ข้อกบังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญญัติ หรือคำสั่งนั้น หรื
กำอมติของคณะรั
สำนัฐมนตรี ในเรื่องนั้นไม่ได้กำหนดเรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่องกำร
มอบอำนำจไว้เป็นอย่ำงอื่น หัวหน้ำส่วนรำชกำรของเมืองพัทยำหรือผู้ดำรงตำแหน่งเที ยบเท่ำอำจมอบ
ำนำจโดยทำเป็นหนังสืกอำให้พนักงำนเมืสอำนังพักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทยำคนใดคนหนึ่งปฏิบกัตำิรำชกำรแทนได้สำนัแล้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วแต่กรณี กำ
สมำตรำ ๖๑ ในกำรปฏิบัตกิหำน้ำที่ ให้นำยกเมื

ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งพัทยำ รองนำยกเมือกงพั
ำ ทยำ และ
พนักงำนเมืองพัทยำเป็นเจ้ำพนักงำนตำมประมวลกฎหมำยอำญำ
หมวด ๔ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อำนำจหน้ำที่ของเมืองพัทยำ
- ๑๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๖๒ ภำยใต้บสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ังคักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แห่งบทบัญญัติของกฎหมำย
กำ เมืองพัสทำนั
ยำมี อำนำจหน้ำที่
ดำเนินกำรในเขตเมืองพัทยำในเรื่องดังต่อไปนี้
ส(๑)
ำนักกำรรั กษำควำมสงบเรียบร้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) กำรส่งเสริมและรักษำคุณภำพสิ่งแวดล้อมและทรัพยำกรธรรมชำติ
(๓) กำรคุ้มครองและดูแลรักษำทรัพย์สินอันเป็นสำธำรณสมบัติของแผ่นดิน
ส(๔)
ำนักกำรวำงผั งเมืองและกำรควบคุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มกำรก่อสสร้ำนัำกงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) กำรจัดกำรเกี่ยวกับที่อยู่อำศัยและกำรปรับปรุงแหล่งเสื่อมโทรม
(๖) กำรจั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดกำรจรำจรสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๐
(๖/๑) กำรส่งเสริมและสนับสนุนสถำนีตำรวจ และหน่วยงำนอื่นในกำรปฏิบัติ
หน้ำที่ตำม (๑) และ
สำนั(๖)
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๗) กำรรักษำควำมสะอำดและควำมเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้ำนเมือง
(๘) กำรก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำจัดมูลฝอยและสิ ่งปฏิกูล และกำรบำบัดกำน้ำเสีย
(๙) กำรจัดให้มีน้ำสะอำดหรือกำรประปำ
(๑๐) กำรจัดให้มีกำรควบคุมตลำด ท่ำเทียบเรื อ และที่จอดรถ
(๑๑) กกำรควบคุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ มอนำมั
สำนัยกและควำมปลอดภั ยในร้ำกนจ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำหน่ำยอำหำร
สำนัโรงมหรสพ และ
สถำนบริกำรอื่น
ส(๑๒) กำรควบคุมและส่งเสริกมำกิจกำรท่องเทีส่ยำนัวกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑๓) กำรบำรุงรักษำศิลปะ จำรีตประเพณี ภูมิปัญญำท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดี
สำนักของท้ องถิ่น
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑๔) อำนำจหน้ำที่อื่นตำมที่กฎหมำยกำหนดให้เป็นของเทศบำลนครหรือของเมือง
พัทยำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๖๓ ในกำรปฏิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนับกัตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิหน้ำที่ตำมกฎหมำยที่บกัญำ ญัติให้เป็นอำนำจหน้ ำที่ของเมือง
พัทยำหรือข้อบัญญัติ ให้นำยกเมืองพัทยำ รองนำยกเมืองพัทยำ ปลัดเมืองพัทยำ รองปลัดเมืองพัทยำ
หัวหน้ำส่วนรำชกำรของเมืองพัทยำ หรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่ำ และพนักงำนเมืองพัทยำ ซึ่งนำยก
องพัทยำแต่งตั้งเป็นพนั กำกงำนเจ้ำหน้ำสทีำนั่สกำหรั บปฏิบัติหน้ำที่ดังกล่กำำว และให้มีฐำนะเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นพนักงำนฝ่ำย
ปกครองหรือตำรวจตำมประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมอำญำ
สในกำรปฏิ บัติหน้ำที่ของพนักกงำนเจ้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำหน้ำที่ตสำนั ำมวรรคหนึ ่งให้มีอำนำจดังกต่ำอไปนี้
(๑) เข้ำไปในอำคำรหรือบริเวณที่ตั้งอำคำรที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ำมีกำรฝ่ำฝืนหรือไม่
สำนักปฏิ บัติตำมกฎหมำยหรืกอำข้อบัญญัติ ในเวลำระหว่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำงพระอำทิตย์ขกึ้นำถึงพระอำทิตสย์ำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ตกหรื อในเวลำทำ
กำรของสถำนที่นั้น
ส(๒)
ำนักมีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หนังสือสอบถำมหรือเรีกำยกบุคคลใดมำชี สำนั้แกจงข้ อเท็จจริงหรือสั่งให้กแำสดงเอกสำร
หรือ หลั กฐำนอื่ น ที่ เกี่ ย วข้ องกับ กำรกระท ำที่ มี เหตุอั น ควรสงสั ยว่ำมี กำรฝ่ ำฝื น หรือ ไม่ ป ฏิ บั ติ ต ำม
สำนักกฎหมำยหรื อข้อบัญญัตกิ ำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๐
มำตรำ ๖๒ (๖/๑) เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ (ฉบับที่ ๓)
- ๑๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ยึดหรืออำยัดเอกสำร หลักฐำน ยำนพำหนะ หรือสิ่งใด ๆ เพื่อใช้เป็นหลักฐำนใน

สำนักกำรด ำเนินคดี
(๔) จับกุมผู้กระทำควำมผิดตำมกฎหมำย หรือข้อบัญญัติเพื่อดำเนินคดี
สหลั
เกณฑ์และวิธีกำรปฏิบกัตำิหน้ำที่ของพนัสกำนังำนเจ้ ำหน้ำที่ตำมวรรคสอง
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ให้เป็นไป
ตำมระเบียบที่นำยกเมืองพัทยำกำหนด โดยควำมเห็นชอบของกระทรวงมหำดไทย
ในกรณีที่มีกำรกระทำควำมผิดตำมกฎหมำย หรือข้อบัญญัติตำมวรรคหนึ่ง นำยก
เมืองพัทยำ ปลัดสเมืำนัอกงพังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทยำ หรือหัวหน้ำส่วนรำชกำรของเมื
กำ องพั
สำนั ทยำ หรือผู้ดำรงตำแหน่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งเทียบเท่ำ
แล้วแต่กรณี เห็นว่ำผู้ต้องหำไม่ควรได้รับโทษจำคุก ให้มีอำนำจเปรียบเทียบ และเมื่อผู้กระทำควำมผิด
สำนักชงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำระค่ำปรับตำมที่เปรียกบเที ำ ยบภำยในสำมสิ บวันนับแต่วันที่มีกำรเปรี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยบเทียบ ให้สถำนั
ือว่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คดีเลิกกันตำม กำ
ประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมอำญำ
สในกรณี ที่ผู้กระทำควำมผิดไม่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำยอมเปรียบเทีสำนั
ยบกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือเมื่อยอมแล้วแต่ไม่กชำำระค่ำปรับ
ภำยในกำหนดเวลำ ให้พนักงำนเมืองพัทยำซึ่งนำยกเมืองพัทยำแต่งตั้งมีอำนำจในกำรสอบสวนและมี
สำนักฐำนะเป็ นพนักงำนสอบสวนตำมประมวลกฎหมำยวิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ธีพิจำรณำควำมอำญำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เมื่อทสำกำรสอบสวนเสร็ จ
ให้ส่งรำยงำนกำรสอบสวนไปยังพนักงำนอัยกำร เพื่อดำเนินคดีในศำลต่อไป โดยให้ถือว่ำรำยงำนกำร
สอบสวนนั้นเป็นสสำนวนกำรสอบสวนตำมประมวลกฎหมำยวิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ธีพิจำรณำควำมอำญำ
เงินค่ำกปรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บให้เป็นรำยได้
สำนัขกองเมื องพัทยำ
สมำตรำ ๖๔ เมืองพัทยำอำจให้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บ ริกำรแก่สบำนัุคกคล หน่วยรำชกำร หน่วกยงำนของรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ฐ
รัฐวิสำหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น โดยมีค่ำตอบแทนได้ เมื่อบริกำรนั้นโดยปกติเป็น
สำนักบริ กำรที่มีค่ำตอบแทน กำ
กำรประกอบกำรพำณิชย์ของเมืองพัทยำให้ตรำเป็นข้อบัญญัติ
สกำรประกอบกิ จกำรใดที่เมือกงพั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ทยำมีรำยได้
สำนัหกรืองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผลพลอยได้อันเกิดจำกกำรกระท
กำ ำ
ตำมอำนำจหน้ำที่จะไม่ตรำเป็นข้อบัญญัติก็ได้
มำตรำ ๖๕ เมื อ งพั ท ยำอำจด ำเนิ น กิ จ กำรนอกเขตเมื อ งพั ท ยำ เมื่ อ กำรนั้ น
จำเป็นต้องทำและเป็นกำรที่เกี่ยวเนื่องกับกิจกำรที่ดำเนินกำรตำมอำนำจหน้ำที่ที่อยู่ภำยในเขตเมือง
ทยำ หรือเป็นประโยชน์กำแก่เมืองพัทยำสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรดำเนินกิจกำรตำมวรรคหนึ่งต้องได้รับควำมเห็นชอบจำกสภำเมืองพัทยำ และ
ได้รับควำมยินยอมจำกองค์ กรปกครองส่วนท้อกงถิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่นที่จะเข้ำไปด
สำนัำเนิ นกำร
ในกรณีที่ไม่ได้รั บ ควำมยินยอมจำกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตำมวรรคสอง ให้
สำนักนำยกเมื องพัทยำรำยงำนต่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อผู้ว่ำรำชกำรจั
สำนังกหวั ดเพื่อพิจำรณำ ถ้ำผู้วก่ำำรำชกำรจังหวัสดำนัเห็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ว่ำกำรดำเนิน กำ
กิจกำรนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อประชำชนเป็นส่วนรวม ให้ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดดำเนินกำรให้นำยกเมือง
พัทยำและผู้แทนองค์
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รปกครองส่วนท้องถิ่นทีก่เำกี่ยวข้องมำประชุ
สำนัมกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เพื่อหำข้อยุติร่วมกัน กำ
มำตรำกำ๖๖ ในกรณีสทำนัี่องค์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กรปกครองส่วนท้องถิก่ นำ ใดดำเนินกิจสกำรใดที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่อยู่นอกเขต
เมืองพัทยำอันมีลสักำนัษณะที ่จะมีผลกระทบกระเทือนต่อควำมสงบเรี
ยบร้อย หรือควำมปลอดภัยของ
ประชำชนในเขตเมืองพัทยำ ให้นำยกเมืองพัทยำเสนอผู้ว่ำรำชกำรจังหวัด แต่งตั้งคณะกรรมกำรขึ้น
สำนักเพื ่อพิจำรณำปัญหำดังกล่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำำวร่วมกัน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่อผู้ว่ำรำชกำรจังหวัด ได้รับข้อเสนอของนำยกเมืองพัทยำตำมวรรคหนึ่ง ให้ผู้ว่ำ

สำนักรำชกำรจั งหวัดดำเนินกำรแต่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งตั้งคณะกรรมกำรขึ ้นชุดหนึ่งภำยในสิกบำห้ำวันนับแต่ไสด้ำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รับกข้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อเสนอและถ้ำ กำ
คณะกรรมกำรได้ พิจำรณำและมีมติอย่ำงใดแล้ว ให้เสนอผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดเพื่อแจ้งให้เมืองพัทยำ
และองค์กรปกครองส่ สำนักวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องดำเนิ
กำ นกำรตำมมติสำนั
ของคณะกรรมกำรต่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อไป ในกรณี
กำ ที่หำข้อ
ยุติไม่ได้ ให้รัฐมนตรีเป็นผู้ชี้ขำด
คณะกรรมกำรตำมวรรคสอง ให้ ป ระกอบด้ ว ยผู้ แ ทนเมื อ งพั ท ยำ ผู้ แ ทนองค์ ก ร
ปกครองส่วนท้องถิสำนั่นทีก่เงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กี่ยวข้อง และบุคคลอื่นกตำมที
ำ ่ผู้ว่ำรำชกำรจั งหวัดเห็นสมควร กำ
มำตรำกำ ๖๗ ในกรณีสทำนัี่ หกน่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ว ยรำชกำร รัฐวิส ำหกิกำจ หรือหน่ วยงำนของรั ฐ ดำเนิ น
กิจกำรใดที่อยู่นอกเขตเมืองพัทยำอันมีลักษณะที่จะมีผลกระทบกระเทือนต่อควำมสงบเรียบร้อยหรือ
ควำมปลอดภัยของประชำชนในเขตเมื องพัทกยำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ให้นำยกเมืสอำนังพักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทยำรำยงำนต่อผู้ว่ำรำชกำรจั
กำ งหวัด
เพื่อแจ้งให้หน่วยรำชกำร รัฐวิสำหกิจ หรือหน่วยงำนของรัฐที่เกี่ยวข้องพิจำรณำและหำข้อยุติร่วมกัน
มำตรำ ๖๘ ในกรณี จำเป็ น เพื่ อ ประโยชน์ ในกำรให้ บ ริกำรแก่ ป ระชำชนอย่ำงมี
ประสิ ท ธิภ ำพและลดภำระทำงกำรเงินของเมื องพั ท ยำ เมืสอำนังพักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทยำอำจมอบให้ บุ คคลอื กำ
่น หรือเข้ ำ
สำนักร่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วมกับบุคคลอื่นกระทำกิ กำจกำรที่อยู่ในอสำนั
ำนำจหน้ ำที่ของเมืองพัทยำได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ในกรณีเช่นสนัำนั
้น กผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้กระทำกิจกำร กำ
มีสิทธิเรียกเก็บค่ำธรรมเนียม ค่ำบริกำร หรือค่ำตอบแทน ที่เกี่ยวข้องกับกิจกำรนั้นแทนเมืองพัทยำ
ตำมอัตรำที่ได้ทำควำมตกลงกั บเมืองพัทยำได้กำ
กำรกระทำกิจกำรตำมวรรคหนึ่งต้องได้รับควำมเห็นชอบจำกสภำเมืองพัทยำ และ
สำนักรังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ฐมนตรีก่อน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หลักเกณฑ์ วิธีกำร และเงื่อนไขในกำรกระทำกิจกำรตำมวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตำมที่
กำหนดไว้ในข้อบัสญำนัญักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิ ทั้งนี้ ข้อบัญญัติดังกล่กำำวต้องไม่มีลักสษณะที ่อำจเป็นผลให้ ประชำชนผู
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ใช้หรือ
รับบริกำรต้องเสียค่ำบริกำรหรือค่ำใช้จ่ำยอื่นสูงขึ้น
มำตรำ ๖๙ เมืองพัทยำอำจร่วมกับ หน่วยรำชกำร หน่วยงำนของรัฐ รัฐวิสำหกิจ
หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น จัดตั้งองค์กำรขึ้นเรียกว่ำ สหกำร มีฐำนะเป็นนิติบุคคล เพื่อทำ
สำนักกิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จกำรใดอันอยู่ภำยใต้อกำนำจหน้
ำ ำที่ของเมื
งพัทยำได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรจัดตั้งสหกำรจะทำได้โดยตรำเป็นพระรำชกฤษฎีกำ โดยระบุชื่อ อำนำจหน้ำที่
และวิธีกำรบริกำรและกำรด ำเนินงำนไว้ และเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ อจะยุบเลิกสหกำร ให้ตรำเป็นพระรำชกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กำ โดย
ระบุวิธีจัดกำรทรัพย์สินไว้ด้วย
หมวด ๕
ข้อบัญกำญัติเมืองพัทยำสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๗๐ เมืองพัทยำมีอำนำจตรำข้อบัสำนั
ญญักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ติโดยไม่ขัดหรือแย้งต่อกำกฎหมำยใน
กรณีดังต่อไปนี้
(๑) กำรปฏิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บัติให้เป็นสไปตำมอ ำนำจหน้ำที่ของเมือกงพั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ทยำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) เมื่อมีกฎหมำยบัญญัติให้เมืองพัทยำมีอำนำจตรำข้อบัญญัติได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี(๓) กำรให้กำ บริกำรโดยมี สำนัคก่ำตอบแทนตำมมำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี๖๔ กำ วรรคหนึ่ง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) กำรพำณิชย์ตำมมำตรำ ๖๔ วรรคสอง
ส(๕)
ำนักกำรคลั ง กำรงบประมำณ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กำรเงิ น สทรั ำนัพกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์ สิ น กำรจั ด หำผลประโยชน์
กำ จ ำก
ทรัพย์สิน กำรจ้ำง และกำรพัสดุ
ในข้อบัญญัติตำมวรรคหนึ่ง จะกำหนดโทษจำคุกหรือโทษปรับหรือทั้งจำและปรับผู้
ละเมิดข้อบัญญัติไสว้ำนัด้วกยก็ ได้ แต่จะกำหนดโทษจ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำคุกเกินหกเดืสำนั
อนและโทษปรั บเกินหนึ่งหมืกำ่นบำทไม่ได้
ข้อบัญญัติตำม (๕) ต้องมีมำตรฐำนไม่ต่ำกว่ำมำตรฐำนกลำงที่กระทรวงมหำดไทย
ำหนด กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ข้อบัญญัติตำมวรรคหนึ่งจะตรำขึ้นได้ต้องได้รับควำมเห็นชอบจำกสภำเมืองพัทยำ
มำตรำ ๗๑ ร่ำงข้อบัญญัติจะเสนอได้ก็แต่โดยนำยกเมืองพัทยำ สมำชิก หรือรำษฎร
้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเมืกอำงพัทยำตำมกฎหมำยว่ ำด้วยกำรเข้ำชื่อเสนอข้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อบัญญัติท้อสงถิ
ำนัก่นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่สมำชิกเป็นผู้เสนอร่ำงข้อบั ญญัติ ต้องมีสมำชิกลงนำมรับรองไม่น้อยกว่ำ
สองคน
ร่ำงข้อกบัำ ญญัติเกี่ยวกัสบำนักำรเงิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี น สมำชิกจะเสนอได้กำต่อเมื่อมีคำรับสรองของนำยกเมื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อง
พัทยำ
มำตรำ ๗๒ ร่ำงข้อบัญญัติเกี่ยวกับกำรเงิน หมำยควำมถึงร่ำงข้อบัญญัติว่ำด้วยเรื่อง
สำนักใดเรื ่องหนึ่ง ดังต่อไปนี้ กำ
(๑) กำรจัดเก็บ ยกเลิก ลด เปลี่ยนแปลง แก้ไข ผ่อน หรือวำงระเบียบ กำรบังคับอัน
เกี่ยวกับภำษีอำกรสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) กำรเก็บรักษำเงิน กำรจ่ำยเงิน หรือกำรโอนงบประมำณของเมืองพัทยำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๓) กำรกู
กำ ้เงิน กำรค้ำประกั น หรือกำรใช้เงินกู้ กำ
(๔) กำรคลั ง กำรงบประมำณ กำรเงิน ทรั พ ย์ สิ น กำรจั ด หำผลประโยชน์ จ ำก
ทรัพย์สิน กำรจ้ำง และกำรพัสดุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณีกำเป็นที่สงสัยว่สำำนั
ร่ำกงข้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อบัญญัติใดเป็นร่ำงข้อกบัำ ญญัติเกี่ยวกัสบำนั
กำรเงิ นที่จะต้องมี
คำรับรองของนำยกเมืองพัทยำ ให้ประธำนสภำเมืองพัทยำเป็นผู้วินิจฉัย
มำตรำ ๗๓ ภำยใต้บังคับมำตรำ ๗๖ ร่ำงข้อบัญญัติที่สภำเมืองพัทยำไม่เห็นชอบ
สำนักด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วยให้เป็นอันตกไป กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ร่ำงข้อบัญญัติที่ตกไปตำมวรรคหนึ่ง จะเสนอใหม่ได้เมื่อพ้นหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับ
แต่วันที่ร่ำงข้อบัญสญัำนัตกินงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ั้นตกไป กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๗๔ งบประมำณรำยจ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำยประจำปีของเมืกอำงพัทยำต้องตรำเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ข้อบัญญัติ ใน กำ
กรณี ที่ ข้ อ บั ญ ญัสตำนั
ิ ง บประมำณรำยจ่ ำ ยประจ ำปี อ อกไม่ ทสัำนั
น ปีกงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บประมำณใหม่ ให้ ใกช้ำข้ อ บั ญ ญั ติ
งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีของปีงบประมำณก่อนนั้นไปพลำงก่อน
- ๑๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีที่ตั้งไว้ไม่พอสำหรับกำรใช้จ่ำย หรือมีควำม
สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเป็นที่จะต้องตั้งรำยจ่กำำยขึ้นใหม่ระหว่
สำนัำงปี งบประมำณ ให้ตรำเป็กำนข้อบัญญัติงสบประมำณรำยจ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำย
เพิ่มเติม
มำตรำ ๗๕ ร่ ำ งข้ อ บั ญ ญั ติ ง บประมำณรำยจ่ ำ ยประจ ำปี แ ละร่ ำ งข้ อ บั ญ ญั ติ
งบประมำณรำยจ่ำยเพิ่มเติม สภำเมืองพัทยำจะต้องพิจำรณำให้เสร็จภำยในสี่สิบห้ำวันนับแต่วันที่สภำ
เมืองพัทยำได้รับร่สำำนั
งข้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บัญญัติงบประมำณรำยจ่ กำ ำยนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ ำ สภำเมื อ งพั ท ยำพิ จ ำรณำร่ ำ งข้ อ บั ญ ญั ติ งบประมำณรำยจ่ ำ ยไม่ เสร็ จ ภำยใน
ำหนดเวลำตำมวรรคหนึ กำ ่ง ให้ถือว่ำสภำเมื
งพัทยำได้ให้ควำมเห็ นกำชอบในร่ำงข้อสบัำนัญกญังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ติงบประมำณ กำ
รำยจ่ำยนั้น และให้นำยกเมืองพัทยำลงนำมใช้บังคับเป็นข้อบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยต่อไป
สในกำรพิ จำรณำร่ำงข้อบัญกญัำติงบประมำณรำยจ่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำยของสภำเมืองพัทกยำำ กำรเสนอ
กำรแปรญัตติ หรือกำรกระทำด้วยประกำรใด ๆ ที่มีผลให้สมำชิกมีส่วนไม่ว่ำโดยตรงหรือโดยอ้อมใน
สำนักกำรใช้ งบประมำณรำยจ่กำำย จะกระทำมิสไำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ด้ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๖ ในกรณีที่สภำเมืองพัทยำไม่เห็สนำนัชอบด้ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
วยกับร่ำงข้อบัญญัติงบประมำณ
สำนักรำยจ่ ำยประจำปีหรือร่ำกงข้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อบัญญัติงบประมำณรำยจ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำยเพิ่มเติม ให้กำสภำเมืองพัทยำตั
สำนัก้งคณะกรรมกำร
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คณะหนึ่งประกอบด้วยกรรมกำรจำนวนสิบห้ำคน เพื่อพิจำรณำหำข้อยุติควำมขัดแย้งในสำระสำคัญที่
บัญญัติไว้ในร่ำงข้สอำนั
บัญกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญัติงบประมำณรำยจ่ำยนั กำ ้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คณะกรรมกำรตำมวรรคหนึ่ง ให้ ป ระกอบด้ว ยสมำชิกซึ่งสภำเมือ งพั ทยำแต่งตั้ ง
สำนักจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนวนเจ็ดคนและบุคคลซึ กำ ่งเป็นหรือมิสไำนั
ด้เป็กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นสมำชิกซึ่งนำยกเมืองพั กำทยำเสนอจำนวนเจ็ ดคน และให้
กรรมกำรทั้งสิบสี่คนร่วมกันปรึ กษำและเสนอบุคคลซึ่งมิได้เป็นกรรมกำรและมิได้เป็นสมำชิกคนหนึ่ง
ทำหน้ำที่เป็นประธำนคณะกรรมกำรดั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งกล่ำวภำยในเจ็
กำ ดวันนัสบำนั
แต่กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ันที่กรรมกำรครบจำนวนสิ กำ บสี่คน
ในกรณีที่ไม่สำมำรถเสนอบุคคลที่จะทำหน้ำที่เป็นประธำนได้ภำยในกำหนดเวลำ
สำนักตำมวรรคสอง ให้ผู้ว่ำรำชกำรจั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งหวัดตัส้งำนับุกคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คลซึ่งมิได้เป็นกรรมกำรและมิ กำ ได้เป็นสมำชิ กขึ้นทำหน้ำที่
ประธำนคณะกรรมกำรดังกล่ำว
ให้คณะกรรมกำรตำมวรรคหนึ่งพิจำรณำและรำยงำนผลกำรพิจำรณำต่อสภำเมือง
ทยำให้แล้วเสร็จภำยในสิ กำ บห้ำวันนับแต่
สำนัวกันงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ที่แต่งตั้งประธำนคณะกรรมกำรกำ ในกรณี
สำนัทกี่ งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คณะกรรมกำร กำ
ไม่สำมำรถพิจำรณำให้แล้วเสร็จภำยในระยะเวลำที่กำหนด ให้ประธำนคณะกรรมกำรรวบรวมผลกำร
พิจำรณำ แล้ววินสิจำนั
ฉัยกชีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ขำดและรำยงำนต่อสภำเมื กำ องพัทยำโดยเร็ สำนักวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำสภำเมืองพัทยำยังไม่เห็นชอบด้วยกับผลกำรพิจำรณำของคณะกรรมกำร หรือผล
สำนักกำรวิ นิจฉัยของประธำนคณะกรรมกำร
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนั แล้กวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แต่ก รณี ให้ร่ำงข้อบัญกญัำ ติงบประมำณรำยจ่ ำยนั้ นเป็นอัน
ตกไปและให้รัฐมนตรีสั่งยุบสภำเมืองพัทยำ
มำตรำ ๗๗ ภำยในเจ็ดวัน นับ แต่ วันที่ ส ภำเมือ งพั ท ยำมี มติ เห็ น ชอบด้ว ยกั บร่ำง
สำนักข้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อบัญญัติใดให้ประธำนสภำเมื
กำ องพัทยำส่
สำนังร่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งข้อบัญญัตินั้นให้ผู้ว่ำรำชกำรจั
กำ งหวัดพิสจำนัำรณำ
ผู้ว่ำรำชกำรจั งหวัดต้องพิจำรณำร่ำงข้อบัสำนั
ญ ญักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ติตำมวรรคหนึ่ งให้ เสร็กำจและส่งคื น
ประธำนสภำเมืองพัทยำภำยในสิบห้ำวันนับแต่วันที่ได้รับร่ำงข้อบัญญัตินั้น ถ้ำผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดไม่
- ๒๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พิจ ำรณำให้ แล้ วเสร็จ ภำยในระยะเวลำที่กำหนดให้ ถือว่ำผู้ ว่ำรำชกำรจังหวัดเห็ นชอบด้วยกับร่ำง

สำนักข้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อบัญญัติดังกล่ำว กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดเห็นชอบด้ วยกับร่ำงข้อบัญญัติตำมวรรคหนึ่ง ให้ส่งให้
นำยกเมืองพัทยำลงนำมใช้
ส บังคับเป็นข้อบัญญักำติต่อไป แต่ถ้ำสผูำนั้ว่ำกรำชกำรจั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งหวัดไม่เห็นชอบด้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วยให้ส่ง
ร่ำงข้อบัญญัตินั้นพร้อมด้วยเหตุผลที่ไม่เห็นชอบด้วยคืนไปยังสภำเมืองพัทยำเพื่อพิจำรณำใหม่ ถ้ำสภำ
เมืองพัทยำมีมติยืนยันตำมร่ำงข้อบัญญัติเดิมด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ำสองในสำมของสมำชิกเท่ำที่
มีอยู่ ให้ประธำนสภำเมื องพัทยำแจ้งให้ผู้ว่ำรำชกำรจั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งหวัดทรำบและส่ งร่ำงข้อบัญญัตินั้นกให้ำ นำยกเมือง
พัทยำลงนำมใช้บังคับเป็นข้อบัญญัติต่อไป
มำตรำ ๗๘ ข้อบัญญัตินั้นให้ประกำศไว้โดยเปิดเผย ณ ศำลำว่ำกำรเมืองพัทยำและ
ให้มีผลใช้บังคับได้สำนั
ดังกนีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ถ้ำเป็นข้อบัญญัติว่ำด้วยงบประมำณรำยจ่ำย ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจำกวัน
สำนักประกำศเป็ นต้นไปหรือตำมที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่กำหนดไว้สใำนั
นข้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บัญญัตินั้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ถ้ำเป็นข้อบัญญัติอื่น ให้มีผลใช้บังคับเมื่ อพ้นเจ็ดวันนับแต่วันประกำศ เว้นแต่
ข้อบัญญัตินั้นจะกำหนดไว้เป็นประกำรอื่น แต่ต้องไม่เร็วกว่ำวัสนำนัถักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำกวันประกำศ กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ให้ปลักดำเมืองพัทยำเป็สนำนัผูก้รับงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผิดชอบในกำรประกำศข้
กำ อบัญญัติตำมวรรคหนึ ่ง และให้
ระบุวันที่ที่ประกำศไว้ด้วย
มำตรำ ๗๙ ให้เมืองพัทยำจัดให้ มีสำเนำข้อบัญญัติ ไว้ ณ ศำลำว่ำกำรเมืองพัทยำ
สำนักเพื ่อให้ประชำชนตรวจดูกไำด้ และหำกประชำชนประสงค์
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี จะได้สำเนำข้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อบัญญัติใด สๆำนัให้ เมืองพัทยำจัด
ให้โดยคิดค่ำตอบแทนได้ไม่เกินค่ำใช้จ่ำยตำมที่จ่ำยจริงในกำรดำเนินกำรดังกล่ำว
หมวด ๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนัรำยได้ และรำยจ่ำย
มำตรำกำ๘๐ ภำษีบำรุสงำนัท้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งที่ ภำษีโรงเรือนและทีก่ดำิน ภำษีป้ำย และอำกรกำรฆ่ ำสัตว์
และค่ำธรรมเนี ย มรวมถึงผลประโยชน์ อื่นอันเกิดจำกกำรฆ่ำสัตว์ ในเขตเมืองพัทยำ ให้ เมืองพัทยำ
จัดเก็บเป็นรำยได้สขำนั
องเมื องพัทยำตำมกฎหมำยว่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำำด้วยกำรนั้นสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๘๑ กิจกำรใดที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก่มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ีกฎหมำยมอบหน้ำที่ให้กำเทศบำลหรือนำยกเทศมนตรี เป็น
เจ้ำหน้ำที่ดำเนินกำรหรือกำหนดให้แบ่งรำยได้ให้เทศบำล ถ้ำกิจกำรนั้นอยู่ในเขตเมืองพัทยำ ให้เมือง
พัทยำหรือนำยกเมื สำนัอกงพั ทยำเป็ น เจ้ำหน้ำที่ดกำเนิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ น กำรหรือสให้
ำนัเกมืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องพัทยำได้รับส่ วนแบ่กงำรำยได้ตำม
กฎหมำยนั้น และบรรดำค่ำธรรมเนียม ค่ำใบอนุญำต และค่ำปรับ เนื่องในกิจกำรเช่นว่ำนั้น ให้เป็น
สำนักรำยได้ ของเมืองพัทยำ กำ

- ๒๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๒ เมืองพัทยำมีอำนำจออกข้อบัญญัติเก็บภำษีอำกรและค่ำธรรมเนียม
สำนักเพิ ่มขึ้นไม่เกินร้อยละสิกบำของภำษีอำกรและค่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำธรรมเนียมประเภทใดประเภทหนึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งหรื
สำนั อทุกประเภท
ดังต่อไปนี้
ส(๑)
ำนักภำษี ธุรกิจเฉพำะตำมประมวลรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ษฎำกร
สำนัซึก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สถำนประกอบกำรอยูกำ่ในเขตเมือง
พัทยำ
(๒) ค่ำธรรมเนียมใบอนุญำตขำยสุรำตำมกฎหมำยว่ำด้วยสุรำ ซึ่งร้ำนขำยสุรำอยู่ใน
เขตเมืองพัทยำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ค่ำธรรมเนียมใบอนุญำตในกำรเล่นกำรพนันตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรพนัน ซึ่ง
สำนักสถำนที ่เล่นกำรพนันอยูก่ในเขตเมื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ องพัทยำ
ในกำรเสียภำษีอำกรและค่ำธรรมเนียมตำมมำตรำนี้เศษของหนึ่งบำทให้ปัดทิ้ง
สภำษี อำกรและค่ำธรรมเนียกมตำมมำตรำนี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ส้ ำนั
ให้กถงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ือเป็นภำษีอำกรและค่กำำธรรมเนียม
ตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรนั้น
มำตรำ ๘๓ เมืองพัทยำมีอำนำจออกข้อบัญญัติเก็บภำษีมูลค่ำเพิ่มโดยให้กำหนด
เป็นอัตรำภำษีมูลค่ำเพิ่มเพิ่มขึ้นจำกอัตรำที่เรียกเก็บตำมประมวลรั ษฎำกร ดังต่อไปนี้
(๑) ในกรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ที่ประมวลรั สำนัษกฎำกรเรี ยกเก็บภำษีมูลค่กำำเพิ่มในอัตรำร้สอำนัยละศู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นย์ ให้เมือง
พัทยำเก็บอัตรำร้อยละศูนย์
ส(๒)
ำนักในกรณี ที่ประมวลรัษฎำกรเรี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยกเก็บภำษีสำนักมงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ูลค่ำเพิ่มในอัตรำอื่น ให้ กำเมืองพัทยำ
เก็บหนึ่งในเก้ำของอัตรำภำษีมูลค่ำเพิ่มตำมประมวลรัษฎำกร
ภำษีมกู ลำค่ำเพิ่มที่เก็บสเพิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนั่ มกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ขึ้ นตำมมำตรำนี้ ให้ ถือกำเป็ นภำษีมูล ค่สำำนั
เพิก่ มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตำมประมวล กำ
รัษฎำกร
มำตรำ ๘๔ เมื่อเมืองพัทยำออกข้อบัญญัติตำมมำตรำ ๘๒ (๑) หรือมำตรำ ๘๓ แล้ว
สำนักให้ เป็นหน้ำที่ของกรมสรรพำกรที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่จะจัดสเก็ำนับกภำษี ดังกล่ำวให้เมืองพัทกยำำ
มำตรำ ๘๕ เมืองพัทยำจะมอบให้ กระทรวง ทบวง กรม ซึ่งมีห น้ำที่จัด เก็บภำษี
สำนักอำกร ค่ำธรรมเนียม ค่ำกใบอนุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ญำต ค่ ำสตอบแทน หรือรำยได้อื่นใดกำเพื่อเมืองพัทยำก็
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัไกด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ในกรณีเช่นนี้ กำ
เมื่อได้หักค่ำใช้จ่ำยไม่เกินร้อยละหนึ่งตำมที่กำหนดในกฎกระทรวงแล้ว ให้กระทรวง ทบวง กรม นั้น
ส่งมอบให้แก่เมืองพัสำนัทกยำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๘๖ ในกำรปฏิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนับกัตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิตำมมำตรำ ๘๐ มำตรำกำ ๘๑ หรือข้อสำนั
บัญกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญัติที่ออกตำม กำ
มำตรำ ๘๒ (๒) หรือ (๓) ให้เมืองพัทยำมีอำนำจแต่งตั้งเจ้ำหน้ำที่เพื่อปฏิบัติกำร และให้เจ้ำหน้ำที่ซึ่ง
ได้รับแต่งตั้งมีอำนำจและหน้ ำที่ตำมกฎหมำยว่กำำด้วยกำรนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกำรบังคับเรียกเก็บภำษีค้ำงตำมมำตรำ ๘๐ มำตรำ ๘๑ มำตรำ ๘๒ (๒) หรือ (๓)
สำนักหรื อมำตรำ ๘๓ เมื่อได้กรับำ ควำมเห็นชอบจำกนำยกเมื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อ งพัทยำ ให้กปำลัดเมืองพัทยำมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัอกำนำจสั ่งยึดและ
สั่งขำยทอดตลำดทรั พย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภำษีอำกรโดยมิ
ต้องขอให้ศำลออกหมำยยึดหรือสั่ง แต่
ถ้ำจะขำยทอดตลำดต้องได้รับอนุญำตจำกผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดด้วย
- ๒๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
วิธีกำรขำยทอดตลำดทรัพย์สินตำมวรรคสอง ให้ ปฏิบัติตำมประมวลกฎหมำยวิธี

สำนักพิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำรณำควำมแพ่งโดยอนุกำ โลม สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เงินที่ได้จำกกำรขำยทอดตลำดทรัพย์สินนั้น ให้หักค่ำธรรมเนียมกับค่ำใช้จ่ำยในกำร
ยึดและขำยและเงินำนัภำษี
ส อำกรค้ำง ถ้ำมีเงินเหลืกอำ ให้คืนให้แก่เสจ้ำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำของทรั พย์สิน

มำตรำ ๘๗ ภำษีและค่ำธรรมเนียมรถยนต์และล้อเลื่ อนที่จัดเก็บได้ในจังหวัดชลบุรี
ให้จัดสรรให้แก่เมืสำนั
องพักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทยำโดยให้ถือว่ำเมืองพั
กำทยำเป็นเทศบำล ทั้งนี้ ตำมหลักเกณฑ์กแำละวิธีกำรที่
บัญญัติไว้ในกฎหมำยว่ำด้วยกำรนั้น
มำตรำ ๘๘ ในกรณีที่มีกฎหมำยกำหนดให้จัดสรรหรือแบ่งรำยได้ อันเกิดจำกภำษี
อำกร ค่ำธรรมเนีสยำนั ม กค่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำใบอนุญำต หรือค่ำปรักำบใด ๆ ให้แก่สเทศบำลหรื อองค์กรปกครองส่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วนท้องถิ่น
อื่น ให้เมืองพัทยำได้รับส่วนแบ่งรำยได้ดังกล่ำวด้วย เช่นเดียวกับเทศบำลหรือองค์กรปกครองส่วน
สำนักท้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องถิ่น นั้ น และเพื่อประโยชน์
กำ ในกำรนี
สำนั้ ให้ ถือว่ำเมืองพัทยำเป็นกเทศบำลหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อองค์
สำนักกรปกครองส่ วน
ท้องถิ่นอื่น แล้วแต่กรณี
มำตรำกำ๘๙ เมืองพัทสยำอำจมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รำยได้อื่นดังต่อไปนีก้ ำ
(๑) ภำษีอำกร ค่ำธรรมเนียม ค่ำใบอนุญำต หรือค่ำปรับใด ตำมที่มีกฎหมำยบัญญัติไว้
ส(๒)
ำนักรำยได้ จำกทรัพย์สินของเมื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องพัทยำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) รำยได้จำกสำธำรณูปโภคของเมืองพัทยำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๔) รำยได้
กำ จำกกำรพำณิ สำนัชกย์งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของเมืองพัทยำ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) รำยได้จำกกำรจำหน่ำยพันธบัตรเมื่อได้รับควำมเห็นชอบจำกกระทรวงมหำดไทย
และกระทรวงกำรคลั สำนังกร่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วมกัน และตรำเป็นข้อกบัำญญัติแล้ว สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๖) เงินกู้ เมื่อได้รับควำมเห็นชอบจำกกระทรวงมหำดไทย และตรำเป็นข้อบัญญัติ
สำนักแล้ ว ถ้ำเป็นเงินกู้จำกต่ำกงประเทศต้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ องได้สำนั
รับกควำมเห็ นชอบจำกกระทรวงกำรคลั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งด้วสยำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๗) เงินอุดหนุนหรือรำยได้อื่นตำมที่รัฐบำลหรือหน่วยงำนของรัฐจัดสรรให้
(๘) เงิน ช่ ว ยเหลื อ จำกต่ ำงประเทศ องค์ ก ำรต่ ำงประเทศ หรือ องค์ ก ำรระหว่ำ ง
สำนักประเทศ ถ้ำเป็นกรณีที่เกงินำ ช่วยเหลือดังสกล่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัำกวมี เงื่อนไขหรือข้อผูกพันกใด
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ๆ ต้องได้รับสำนั
ควำมเห็ นชอบจำก
กระทรวงมหำดไทยและกระทรวงกำรคลังร่ วมกันก่อน ถ้ำกรณีไม่มีเงื่อนไขหรือข้อผู กพันใด ๆ ให้
รำยงำนให้กระทรวงมหำดไทยทรำบ
(๙) เงินช่วยเหลือและค่ำตอบแทน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๑๐) กเงิำนและทรัพย์สสินำนัอย่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำงอื่นที่มีผู้อุทิศให้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑๑) รำยได้อื่นตำมที่มีกฎหมำยบัญญัติให้เป็นของเมืองพัทยำ
มำตรำ ๙๐ กำรตั้งงบประมำณเป็นเงินอุดหนุนเมื องพัทยำ ให้รัฐบำลตั้งให้เมือง
ทยำโดยตรง ทั้งนี้ ให้กคำ ำนึงถึงควำมเหมำะสมของปริ มำณงำน กและรำยได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ของรัสำนั
ฐทีก่ไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ด้รับจำกเมือง กำ
พัทยำด้วย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ภำยใต้บังคับแห่งกฎหมำยอื่น เงินอุดหนุนที่รัฐบำลจัดให้แก่เมืองพัทยำ รัฐมนตรีจะ
สำนักออกระเบี ยบเพื่อกำหนดกำรใช้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จ่ำยเงินสดัำนั
งกล่ ำวก็ได้
- ๒๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๙๑ เมืองพัทสยำอำจมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รำยจ่ำยดังต่อไปนี้ กำ
(๑) เงินเดือน
ส(๒)
ำนักค่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำจ้ำง กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ค่ำตอบแทน
(๔) ค่ำใช้สอย
ส(๕)
ำนักค่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำวัสดุ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๖) ค่ำครุภัณฑ์
(๗) ค่ำกทีำ ่ดินและสิ่งก่อสสร้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัำกงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๘) เงินอุดหนุน
ส(๙)
ำนักรำยจ่ ำยตำมข้อผูกพัน กำ
(๑๐) รำยจ่ำยอื่นตำมที่กฎหมำยบัญญัติ หรือข้อบัญญัติกำหนด
มำตรำ ๙๒ กำรจ่ำยเงินของเมืองพัทยำ ให้เป็นไปตำมที่ได้อนุญำตไว้ในข้อบัญญัติ
งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีหรือข้อบัญญัติงบประมำณรำยจ่สำำนัยเพิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
่มเติม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำรจ่ำกยเงิ
ำ นที่มิได้อนุญ ำตไว้
สำนั ในข้อบัญญัติงบประมำณรำยจ่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำยตำมวรรคหนึ ่ง ให้กระทำ
ได้เฉพำะเมื่อเป็นกรณีฉุกเฉินและจำเป็นเพื่อประโยชน์ ในกำรรักษำประโยชน์ของเมืองพัทยำ หรือกำร
ป้องกันภัยพิบัติสสำธำรณะ หรือกำรรักษำควำมสงบเรี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยบร้อสยำนัในกรณี เช่นนั้น นำยกเมือกงพั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ทยำจะสั่ง
จ่ำยเงิน จำกเงิน สะสมไปก่อนก็ได้ แต่ต้องรำยงำนให้ ส ภำเมืองพัท ยำทรำบในกำรประชุมครั้งแรก
สำนักหลั งจำกกำรสั่งจ่ำยเงินกและให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ตั้งงบประมำณรำยจ่ ำ ยชดใช้เงินสะสมต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อไป ทั้งนีส้ ำนั
กำรจ่ ำยเงินสะสม
และกำรตั้งงบประมำณรำยจ่ำยชดใช้เงินสะสมให้เป็นไปตำมระเบียบที่กระทรวงมหำดไทยกำหนด
สงบประมำณรำยจ่ ำยที่ตั้งไว้เกพืำ่อกำรใด จะโอนไปเพื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่อใช้จ่ำยสำหรับกำรอื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ่นไม่ได้ เว้น
แต่จะมีข้อบัญญัติให้โอนได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำรจ่ำกยเงิ
ำ นของเมืองพั สำนัทกยำตำมวรรคหนึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี่ง หรือกำรน
กำ ำเงินของกิสจำนักำรที ่เมื องพัทยำ
เป็นเจ้ำของหรือเป็นหุ้นส่วนหรือถือหุ้นในกิจกำรนั้น ไปใช้จ่ำยเพื่อกำรฝึกอบรมหรือดูงำนในต่ำงประเทศ
ของนำยกเมืองพัทยำ รองนำยกเมืองพัทยำ เลขำนุกำรนำยกเมืองพัทยำ ผู้ช่วยเลขำนุกำรเมืองพัทยำ
สำนักประธำนที ่ปรึกษำ ที่ปรึกกษำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ประธำนสภำเมื องพัทยำ รองประธำนสภำเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องพัทยำสำนั สมำชิ ก เลขำนุกำร
ประธำนสภำเมืองพัทยำ หรือผู้ช่วยเลขำนุกำรประธำนสภำเมืองพัทยำ จะกระทำมิได้ ๓๑
มำตรำ ๙๓ เมื่อสิ้นปีงบประมำณ ให้นำยกเมืองพัทยำประกำศรำยกำรรับจ่ำยเงิน
สำนักประจ ำปีงบประมำณที่สกิ้นำสุดลงพร้อมทัส้งำนัรำยกำรผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กพันที่เบิ กตัดปีงกบประมำณไว้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ เผยแพร่ ให้ประชำชน
ทรำบภำยในสำมสิบวันนับแต่วันที่สิ้นสุดปีงบประมำณ
สให้
ำนัสกำนั กงำนตรวจเงิน แผ่ นกดิำนเป็นผู้ ตรวจสอบกำรรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บเงิน กำรจ่ำยเงิกนำ กำรบัญ ชี
กำรเงินและทรัพย์สินอื่น ๆ ของเมืองพัทยำ และทำรำยงำนผลกำรตรวจสอบเสนอนำยกเมืองพัทยำ
สำนักเพื ่อเสนอสภำเมืองพัทยำต่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อไป สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๑
มำตรำ ๙๒ วรรคสี่ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ (ฉบับที่ ๓)
- ๒๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๗
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กำรกำกับดูแล
มำตรำ ๙๔ ให้ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดมีอำนำจหน้ำที่กำกับดูแลกำรปฏิบัติรำชกำรของ
เมืองพัทยำ เพื่อกำรนี้ ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดมีอำนำจสั่งสอบสวนข้อเท็จจริงหรือสั่งให้นำยกเมืองพัทยำ
ชี้แจงแสดงควำมคิสดำนัเห็กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นเกี่ยวกับกำรปฏิบัติรำชกำรของเมื
กำ องพัสำนั
ทยำได้
มำตรำกำ๙๕ บรรดำเรืสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่องที ่เมืองพัทยำต้องเสนอไปยั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งรัฐมนตรีหสรืำนั
อกระทรวง ทบวง
กรม ให้นำยกเมืองพัทยำรำยงำนให้ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดทรำบด้วย ในกำรนี้ ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดจะทำ
ควำมเห็นเสนอรัฐสมนตรี หรือกระทรวง ทบวงกกรม
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ แล้วแต่กสรณี
ำนักเพื ่อประกอบกำรพิจำรณำด้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วยก็ได้
มำตรำกำ๙๖๓๒ เพื่อประโยชน์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกำรกำกับดูแลตำมมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๙๔ ในกรณี ที่ผู้ว่ำรำชกำร
จังหวัด เห็น ว่ำ กำรปฏิบัติรำชกำรของเมืองพัทยำเป็นไปในทำงที่อำจก่อให้เกิดควำมเสียหำยแก่
เมืองพัทยำ หรือสเสีำนัยหำยแก่
รำชกำร ให้ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดสมีำนั กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อำนำจหน้ ำที่ในกำรชี้แจง แนะนำ หรือ
สำนักตังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กเตือนผู้ดำรงตำแหน่กงำที่มีอำนำจหน้สำนั ำทีก่ใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นกำรดำเนินกำรดังกล่กำำ ว หรือในกรณี สำนัเห็กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สมควรจะสั่ง กำ
เพิกถอนกำรกระทำหรือให้ระงับกำรปฏิบัติของผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่ำวไว้ก็ได้ และในกรณีที่สั่งเพิกถอน
หรือระงับ ให้ผู้ดสำรงต ำแหน่งที่ได้รับคำสั่งมีกสำิทธิอุทธรณ์ต่สอำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รัฐกมนตรี ได้ภำยในสิบห้ำวักนำนับแต่วันที่
ได้รับคำสั่งของผู้ว่ำรำชกำรจังหวัด และเมื่อรัฐมนตรีวินิจฉัยเป็นประกำรใดให้ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดและ
้ที่เกี่ยวข้องดำเนินกำรตำมค
กำ ำวินิจฉัยสนัำนั
้น กคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำวินิจฉัยของรัฐมนตรีใกห้ำเป็นที่สุด สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่อควำมปรำกฏโดยมีหลักฐำนตำมสมควรต่อผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดว่ำ นำยกเมืองพัทยำ
รองนำยกเมืองพัสทำนัยำกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ประธำนสภำเมืองพั ทกยำำ หรือรองประธำนสภำเมื องพัทยำผู้ใด กจงใจทอดทิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้ง
หรือ ละเลยไม่ป ฏิบั ติกำรตำมอำนำจหน้ ำที่อันจะเป็ นเหตุให้ เสี ยหำยแก่รำชกำรอย่ำงร้ำยแรง หรือ
สำนักปฏิ บัติกำรไม่ชอบด้วยอกำนำจหน้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำที่ หรื
สำนัอกประพฤติ ตนฝ่ำฝืนต่อควำมสงบเรี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยบร้อสำนั
ย หรื อฝ่ำฝืนคำสั่ง
ของผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดที่สั่งกำรตำมวรรคหนึ่ง ให้ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดดำเนินกำรแต่งตั้งคณะกรรมกำร
สอบสวนโดยพลัน และให้คณะกรรมกำรสอบสวนดำเนินกำรให้แล้วเสร็จภำยในเก้ำสิบวันนับแต่วันที่
สำนักได้ รับแต่งตั้ง ทั้งนี้ ตำมหลั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กเกณฑ์และวิ ธีกกำรที
สำนั ่กำหนดในกฎกระทรวง
๓๓
สมำตรำ ๙๖/๑ เมื่อผลกำรสอบสวนตำมมำตรำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๙๖ วรรคสอง ปรำกฏว่กำผูำ ้ถูกกล่ำวหำ
กระทำควำมผิดตำมที่ถูกสอบสวน ให้ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดรำยงำนให้รัฐมนตรีพิจำรณำและสั่ง ให้ผู้ถูก
สำนักสอบสวนพ้ นจำกตำแหน่กงำภำยในสำมสิสบำนัวันกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นับแต่วันที่ได้รับรำยงำน กำ ไม่ว่ำผู้นั้นจะได้
สำนัพก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำกตำแหน่ง กำ
ไปก่อนแล้วหรือไม่ก็ตำม เว้นแต่เพรำะเหตุตำยหรือพ้นจำกตำแหน่งไปแล้วเกินสองปี โดยในคำสั่ง
ดังกล่ำวให้ระบุเหตุ
สำนัทกี่ทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำให้พ้นจำกตำแหน่งไว้
กำ และให้มีผลตัสำนั
้งแต่ วันที่รัฐมนตรีมีคำสั่ง กแต่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ไม่กระทบ
ต่อกำรดำเนิ น งำนและกำรรับ ค่ำตอบแทนที่ได้กระท ำไปก่อนวัน ที่มีคำสั่ งนั้ น ถ้ำในขณะที่มีคำสั่ ง
๓๒
มำตรำ ๙๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ (ฉบับที่ ๓)
พ.ศ. ๒๕๖๒
๓๓
มำตรำ ๙๖/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.
สำนัก๒๕๖๒
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ดังกล่ำวผู้นั้นกำลังดำรงตำแหน่งสมำชิกสภำท้องถิ่นหรือผู้บริหำรท้องถิ่นอันเป็นผลจำกกำรเลือกตั้ง
สำนักต่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำ งวำระหรือ ต่ำ งองค์กกำรปกครองส่วสำนั
นท้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งถิ่น กัน ให้ผู้นั้น พ้น จำกต
กำ ำแหน่ง ทีส่กำนัำลักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ง ดำรงอยู่ด้ว ย กำ
และให้ถือว่ำวันที่สั่งให้พ้นจำกตำแหน่งดังกล่ำวเป็นวันเริ่มนับระยะเวลำต้องห้ ำมกำรใช้สิทธิสมัคร
รับเลือกตั้ง คำสั่งสของรั ฐมนตรีให้เป็นที่สุด กำ

มำตรำ ๙๗ ในกรณี ที่เมืองพัทยำดำเนินกำรนอกเขตเมืองพัทยำตำมมำตรำ ๖๕
และกิจกำรนั้นมีลสักำนัษณะที ่อำจนำมำซึ่งควำมเดืกำอดร้อนรำคำญแก่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักปงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระชำชนในเขตเมืองพัทกำยำ หรืออำจ
กระทบกระเทือนต่อควำมสงบเรียบร้อย หรือควำมปลอดภัยของประชำชนในเขตเมืองพัทยำหรือ
สำนักองค์
กรปกครองส่วนท้องถิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่นอื่น ผู้ว่ำรำชกำรจั งหวัดมีอำนำจแนะนำให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ปรับปรุงแก้ไสขหรื
ำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กระทำกำรใด กำ
ๆ ได้ตำมสมควร ในกรณี ที่เมืองพัทยำไม่ปฏิบัติตำมและผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดเห็ นว่ำไม่มีเหตุผลอัน
สมควร ผู้ว่ำรำชกำรจั
หวัดจะออกคำสั่งระงับกกำรด ำ ำเนินกิจกำรดั
กล่ำวก็ได้ กำ
มำตรำกำ๙๘ เพื่อคุ้มสครองประโยชน์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ของประชำชนในเขตเมื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องพัสทำนัยำหรื อประโยชน์
ของประเทศเป็นส่วนรวม ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดจะรำยงำนเสนอควำมเห็นต่อรัฐมนตรีเพื่อพิจำรณำสั่ง
ยุบสภำเมืองพัทยำก็ ได้
เมื่อมีกกรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ตำมวรรคหนึ
สำนั่งกหรืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อกรณีอื่นตำมที่กำหนดไว้
กำ ในพระรำชบั ญกญังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ตินี้ รัฐมนตรีมี กำ
อำนำจยุบสภำเมืองพัทยำ และให้แสดงเหตุผลไว้ในคำสั่งด้วย
มำตรำ ๙๙ บรรดำอำนำจหน้ำที่ของผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดตำมพระรำชบัญ ญัตินี้
สำนักถ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดพิกจำ ำรณำเห็นสมควร จะทำหนังสือมอบอำนำจให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ รองผู้ว่ำรำชกำรจั งหวัดปฏิบัติ
แทนก็ได้ แต่ต้องแจ้งให้เมืองพัทยำทรำบและให้รำยงำนกระทรวงมหำดไทยทรำบด้วย
บทเฉพำะกำล
มำตรำ ๑๐๐ ให้สมำชิกสภำเมืองพัทยำตำมพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำร
อ งพั ท ยำ พ.ศ. ๒๕๒๑ กำ ซึ่ ง ด ำรงต ำแหน่ งอยู่ในวัน ก่ อนวัน ที่ พกระรำชบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ญ ญั ตสิ นำนัี้ ใช้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บั งคั บ พ้ น จำก กำ
ตำแหน่ง และให้ เลือกตั้งสมำชิกสภำเมืองพัทยำตำมพระรำชบัญญัตินี้ภำยในเก้ำสิบวันนับแต่วันที่
พระรำชบัญญัตินสี้ใช้ำนับกังงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คับ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๑๐๑ ให้ปลัสดำนัเมืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งพัทยำตำมพระรำชบักญำญัติระเบียบบริ
สำนัหกำรรำชกำรเมื อง
พัทยำ พ.ศ. ๒๕๒๑ ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ พ้นจำกตำแหน่ง
และให้มีกำรเลือกตั
สำนั้งนำยกเมื องพัทยำภำยในเก้กำำสิบวันนับแต่สวำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ันทีก่พงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคักำบ
ในระหว่ำงที่ไม่มีนำยกเมืองพัทยำตำมวรรคหนึ่ง ให้ปลัดเมืองพัทยำซึ่งได้รับแต่งตั้ง
สำนักตำมพระรำชบั ญญัตินี้ ปฏิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บัติหน้ำที่ในฐำนะนำยกเมื องพัทยำเท่ำทีกำ่จำเป็นได้เป็นสกำรชั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่วครำวจนกว่ำ
นำยกเมืองพัทยำซึสำนั
่งได้กรงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ับเลือกตั้งจะเข้ำรับหน้กำำที่ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่ไม่มีปลัดเมืองพัทยำตำมวรรคสอง ให้หัวหน้ำสำนักปลัดเมืองพัทยำ ตำม
สำนักพระรำชบั ญญัติระเบียบบริ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ หำรรำชกำรเมื สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งพัทยำ พ.ศ. ๒๕๒๑ กซึำ่งดำรงตำแหน่สงำนั อยูก่ใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นวันก่อนวันที่ กำ
- ๒๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ยังคงอยู่ในตำแหน่งและปฏิบัติห น้ำที่ในฐำนะนำยกเมืองพัทยำเท่ำที่จำ

สำนักเป็ นได้เป็นกำรชั่วครำว กจนกว่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำนำยกเมืสอำนังพักทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยำที่ได้รับเลือกตั้งจะเข้กำำรับหน้ำที่ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำตรำ ๑๐๒ ในระหว่ำงทีก่ไม่ำ มีกฎหมำยว่ำสด้ำนัวกยกำรเลื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อกตั้งสมำชิกสภำท้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องถิ่นหรือ
ผู้บริหำรท้องถิ่น ให้นำกฎหมำยว่ำด้วยกำรเลือกตั้งสมำชิกสภำเทศบำลมำใช้ บังคับกับกำรเลือกตั้ง
สมำชิกสภำเมืองพัทยำหรือนำยกเมืองพัทยำเท่ำที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งพระรำชบัญญัตินี้
ทั้งนี้ ให้ยกเว้นไม่สตำนั
้องเรี ยกเก็บเงินประกันกำรสมั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ คร สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกำรเลือกตั้งนำยกเมืองพัทยำ ให้ถือเขตเมืองพัทยำเป็นเขตเลือกตั้ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณีกำ ที่ มี ก ำรเลื อ กตั
สำนั้ งกสมำชิ ก สภำเมื อ งพั ท ยำกำ และนำยกเมืสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อ งพั ท ยำในครำว
เดียวกัน ให้ใช้หน่วยเลือกตั้ง ที่เลือกตั้ง เจ้ำพนักงำนผู้ดำเนินกำรเลือกตั้ง คณะกรรมกำรตรวจคะแนน
เจ้ำหน้ำที่คะแนนสและบั ญชีรำยชื่อผู้มีสิทธิเลือกกตั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ้งร่วมกันก็ไสด้ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ใบสมัครและบั ตรเลือกตั้งสมำชิกสภำเมืองพัทยำ หรือนำยกเมืองพัทยำให้ เป็นไป
สำนักตำมที ่กระทรวงมหำดไทยก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำหนด สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เพื่อประโยชน์ในกำรดำเนินกำรเลือกตั้งให้เป็นไปโดยเรียบร้อย กระทรวงมหำดไทย
อำจออกระเบียบกำหนดวิธีปฏิบัติในกำรเลือกตั้งสมำชิกสภำเมื องพัทยำหรือนำยกเมืองพัทยำเท่ำที่ไม่
สำนักขังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดหรือแย้งกับกฎหมำยว่กำำด้วยกำรเลือสกตัำนั้งกสมำชิ กสภำเทศบำลได้ กำ
สมำตรำ ๑๐๓ ให้โอนบรรดำกิ

ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จกำร ทรัพสย์ำนัสินกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หนี้ สิทธิ และเงินงบประมำณของ
กำ
เมืองพัทยำที่มีอยู่ในวันก่อนวันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ไปเป็นของเมืองพัทยำตำมพระรำชบัญญัตินี้
มำตรำ ๑๐๔ ให้บรรดำพนักงำนเมืองพัทยำและลูกจ้ำงเมืองพัทยำซึ่งดำรงตำแหน่ง
อยู่ในวัน ก่อ นวันสทีำนั่พกระรำชบั ญ ญั ติ นี้ ใช้บังคักบำเป็น พนั กงำนเมื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัอกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งพั ท ยำหรือลู กจ้ำงเมือกำงพัท ยำตำม
พระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีในระหว่ กำ ำงที่ยังไม่มีกสฎหมำยเกี ่ยวกับกำรบริหำรงำนบุ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ คคลของพนั สำนักกงำนเมื องพัทยำ
และลูกจ้ำงเมืองพัทยำ ให้กำรบริหำรงำนบุคคลของพนักงำนเมืองพัทยำและลูกจ้ำงเมืองพัทยำเป็นไป
ตำมพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ พ.ศ. ๒๕๒๑
มำตรำ ๑๐๕ ให้บรรดำข้อบัญญัติ กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกำศของเมืองพัทยำ
และมติของเมืองพัสำนั
ทยำซึ ่งออกโดยสภำเมืองพักำทยำตำมพระรำชบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อง
พัทยำ พ.ศ. ๒๕๒๑ และใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระรำชบัญ ญัตินี้ใช้บังคับ เป็นข้อบัญญัติ กฎ
สำนักระเบี ยบ ข้อบังคับ ประกำศ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ และมติของเมื
งพัทยำตำมพระรำชบักญำ ญัตินี้ ทั้งนี้ สเท่ำนัำกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ไม่ขัดหรือแย้ง กำ
กับพระรำชบัญญัตินี้
มำตรำ ๑๐๖ บรรดำพระรำชกฤษฎี กำ กฎกระทรวง ระเบี ย บ ข้อ บั งคั บ และ
สำนักประกำศในเรื ่องใดที่ออกตำมพระรำชบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั ติร ะเบียบบริหำรรำชกำรเมื
กำ องพัทยำ สพ.ศ. ๒๕๒๑ หรือที่
แก้ไขเพิ่มเติม หรืสอำนั
ที่ใกช้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บังคับกับเมืองพัทยำหรืกอำ กิจกำรของเมืสอำนังพักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทยำ และใช้บังคับอยู่ในวั
กำ
นก่อนวันที่
พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้คงใช้บังคับได้ต่อไปเท่ำที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระรำชบัญญัตินี้ จนกว่ำจะมี
- ๒๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระรำชกฤษฎีกำ กฎกระทรวง ระเบียบ ข้อบังคับ หรือประกำศในเรื่องนั้น ตำมพระรำชบัญญัตินี้ขึ้น

สำนักใช้ บังคับแทน
ผู้รับสนองพระบรมรำชโองกำร
ชวน หลีกภัย
นำยกรัสฐำนั
มนตรี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

- ๒๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักร

สำนักไทยก ำหนดให้ ส มำชิกสภำท้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องถิ่น ต้ อสงมำจำกกำรเลื อกตั้งและคณะผู
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ บ ริห ำรท้สอำนั
งถิก่นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือผู้บริห ำร กำ
ท้องถิ่นให้มำจำกกำรเลือกตั้งโดยตรงของประชำชนหรือมำจำกควำมเห็นชอบของสภำท้องถิ่น แต่
เนื่องจำกกำรปกครองท้ องถิ่นในรูปแบบเมือกงพัำ ทยำในปัจจุสบำนัันซึกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งมีปลัดเมืองพัทยำทำหน้ กำ ำที่บริหำร
กิจกำรเมืองพัทยำโดยสัญญำจ้ำงยังไม่สอดคล้องและเป็นไปตำมบทบัญญัติ ของรัฐธรรมนูญดังกล่ำว
ประกอบกับสมควรจัดระเบียบกำรปกครองเมืองพัทยำใหม่ให้เหมำะสมกับสภำวกำรณ์ และเพื่อให้
เมืองพัทยำมีควำมเป็
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อิสระในกำรกำหนดนโยบำย
กำ กำรปกครอง กำรบริหำร กำรบริหกำรงำนบุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ คคล
กำรเงิน และกำรคลัง สอดคล้อ งกับ หลัก กำรที่กำหนดไว้ในรัฐ ธรรมนูญ แห่งรำชอำณำจั ก รไทย
สำนักจึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งจำเป็นต้องตรำพระรำชบั
กำ ญญัตินี้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระรำชบัญญัติระเบี
สำนัยกบบริ หำรรำชกำรเมืองพักทำยำ (ฉบับที่ ๒)สำนัพ.ศ.
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๒๕๕๒๓๔
มำตรำกำ๒ พระรำชบัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญกญังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตินี้ให้ ใช้บังคับตั้งแต่วกันำ ถัดจำกวันประกำศในรำชกิ จจำ
นุเบกษำเป็นต้นไป
สำนักหมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พสำนั
ระรำชบั ญญัติฉบับนี้ คือ โดยที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่พระรำชบัญสญั
ำนัตกิรงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ะเบียบบริหำร กำ
รำชกำรเมืองพัทยำมีบทบัญญัติบำงประกำรไม่เหมำะสมกับสภำวะในปัจจุบัน เป็นกำรจำกัดสิทธิของ
ประชำชน ทั้งสิทสธิำนั
ของผู ้สมัครรับเลือกตั้ง และสิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ทธิของประชำชนผู ้มีสิทธิเลือกตั้ง สมควรเปิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดกว้ำงให้
เป็นสิทธิและเสรีภำพของประชำชน จึงจำเป็นต้องตรำพระรำชบัญญัตินี้
พระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรเมืองพัทยำ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒๓๕
มำตรำ ๒ พระรำชบั ญ ญัตินี้ให้ ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิจจำ
สำนักนุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เบกษำเป็นต้นไป กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๘ ให้นำยกเมืองพัทยำ ประธำนสภำเมืองพัทยำ รองประธำนสภำเมือง
ทยำ และสมำชิกสภำเมื กำ องพัทยำ ซึส่งำนั
ดำรงต ำแหน่งอยู่ในวันก่อกนวั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ น ที่พระรำชบั
สำนัญกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญัตินี้ใช้บังคับ กำ
ตำมประกำศคณะรักษำควำมสงบแห่งชำติ ที่ ๘๕/๒๕๕๗ เรื่อง กำรได้มำซึ่งสมำชิกสภำท้องถิ่นหรือ
ผู้บริหำรท้องถิ่นเป็สำนั
นกำรชั ่วครำว ลงวันที่ ๑๐กกรกฎำคม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ พุทสธศั
ำนักกรำช ๒๕๕๗ คำสั่งหัวหน้กำำคณะรักษำ
ควำมสงบแห่งชำติ ที่ ๑/๒๕๕๗ เรื่อง กำรได้มำซึ่งสมำชิกสภำท้องถิ่นหรือผู้บริหำรท้องถิ่นเป็นกำรชั่วครำว
สำนักลงวั นที่ ๒๕ ธันวำคม พุกทำ ธศักรำช ๒๕๕๗
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี คำสั่งหัวหน้ำคณะรักษำควำมสงบแห่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สงำนั
ชำติ ที่ ๖/๒๕๖๐
เรื่อง กำรแต่งตั้งนำยกเมืองพัทยำ ลงวันที่ ๑๖ กุมภำพันธ์ พุทธศักรำช ๒๕๖๐ และคำสั่งหัวหน้ำ
คณะรักษำควำมสงบแห่ งชำติ ที่ ๑๕/๒๕๖๑กำเรื่อง กำรแก้สไำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ขปักญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หำกำรบริหำรรำชกำรเมื กำ องพัทยำ
ลงวันที่ ๒๕ กันยำยน พุทธศักรำช ๒๕๖๑ ยังคงดำรงตำแหน่งต่อไปจนกว่ำคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง
สำนักจะประกำศก ำหนดให้มีกกำรเลื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อกตั้งนำยกเมื
งพัทยำ หรือสมำชิกสภำเมื กำ องพัทยำ แล้สวำนั
แต่กกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รณี โดยให้พ้น กำ
จำกตำแหน่งตั้งแต่ วันที่คณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งประกำศให้
มีกำรเลือกตั้ง หรือจนกว่ำจะพ้นจำก
๓๔
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๘๕ ก/หน้ำ ๑๓/๑๓ พฤศจิกำยน ๒๕๕๒
๓๕ กำจจำนุเบกษำ เล่สมำนั๑๓๖/ตอนที
รำชกิ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เมษำยน ส๒๕๖๒
่ ๕๐ ก/หน้ำ ๑๒๐/๑๖ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตำแหน่งด้วยเหตุอื่นตำมประกำศคณะรักษำควำมสงบแห่งชำติและคำสั่งหัวหน้ำคณะรักษำควำมสงบ
สำนักแห่ งชำติดังกล่ำว
เมื่อคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งประกำศกำหนดให้ มีกำรเลือกตั้ งนำยกเมืองพัทยำ
หรือสมำชิกสภำเมืำนั
ส องพั ทยำแล้ว ให้ประกำศคณะรั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กษำควำมสงบแห่ งชำติและคำสั่งหัวหน้กำำคณะรักษำ
ควำมสงบแห่งชำติตำมวรรคหนึ่ง เฉพำะในส่วนที่เกี่ยวกับเมืองพัทยำเป็นอันยกเลิก
สมำตรำ ๒๙ บทบัญญัติมำตรำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๔๕ แห่งสพระรำชบั ญญัติระเบียบบริกหำ ำรรำชกำร
เมืองพัทยำ พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัตินี้ มิให้ใช้บังคับกับนำยกเมืองพัทยำ
สำนักซึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่งดำรงตำแหน่งหรือเคยด
กำ ำรงตำแหน่งสอยู
ำนั่กก่องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นวันเลือกตั้งครั้งแรกภำยหลั
กำ งพระรำชบั
สำนัญกญังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตินี้ใช้บังคับ กำ
สมำตรำ ๓๐ ให้รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงมหำดไทยรั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กษำกำรตำมพระรำชบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัตินี้
สำนักหมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สพำนัระรำชบั ญญัติฉบับนี้ คือ กโดยที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่เป็นกำรสมควรแก้ ไขเพิ่มเติม
บทบัญญัติเกี่ยวกับจำนวนสมำชิกสภำเมืองพัทยำ คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ำมของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
สมำชิกสภำเมืองพัสำนั
ทยำกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
และผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็ นสมำชิ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กสภำเมืองพัทยำ และผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
สำนักนำยกเมื องพัทยำ ผู้มีสกิทำธิส มัครรับเลืสอำนักตักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ้งเป็นนำยกเมืองพัทยำให้ กำ สอดคล้องกัสบำนักฎหมำยว่ ำด้ว ย
กำรเลือกตั้งสมำชิกสภำท้องถิ่น หรือผู้บริห ำรท้องถิ่น รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมกำรสิ้นสุดสมำชิกภำพ
ของสมำชิ กสภำเมื สำนัอกงพั ท ยำ กำรพ้ น จำกตำแหน่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ง นำยกเมืสำนั
องพั ท ยำ เลขำนุ กำรนำยกเมื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องพั ท ยำ
ผู้ช่วยเลขำนุกำรนำยกเมืองพัทยำ ประธำนที่ปรึกษำ และที่ปรึกษำ รวมทั้งกำรกระทำอันเป็นกำร
สำนักต้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องห้ำมของนำยกเมือกงพัำ ทยำ รองนำยกเมื องพัทยำ เลขำนุกำรนำยกเมื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ องพัทยำสำนัผูก้ชงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่วยเลขำนุกำร กำ
นำยกเมืองพัทยำ ประธำนที่ปรึกษำ ที่ปรึกษำ และสมำชิกเมืองพัทยำ ตลอดจนอำนำจหน้ำที่ของ
เมืองพัทยำและกำรกสำนักำกั บดูแลเมืองพัทยำ เพืกำ่อให้ได้มำซึ่งสมำชิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สภำเมืองพัทยำ นำยกเมื กำ องพัทยำ
และผู้ทำหน้ำ ที่ช่ว ยเหลือ ในกำรบริห ำรรำชกำรของเมือ งพัท ยำที่เหมำะสมแก่ก ำรปฏิบัติห น้ำ ที่
สำนักมีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ควำมซื่อสัตย์สุจริต สำมำรถปฏิ
กำ บัติหสำนั
น้ำกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่เพื่ อประโยชน์แก่ส่วนรวม
กำ เป็นไปตำมหลั กธรรมำภิบำล
และมีประสิทธิภำพ จึงจำเป็นต้องตรำพระรำชบัญญัตินี้

- ๓๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พิมพ์มำดำ/เพิ่มเติม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ๒๒
สำนักเมษำยน ๒๕๖๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกพจนำ/ตรวจ
ำ
๒๕ เมษำยน ๒๕๖๒

6 พรบ พัทยา รวมปี 62

Uploaded by

Document Information

Original Title

Copyright

Available Formats

Share this document

Share or Embed Document

Sharing Options

Did you find this document useful?

Is this content inappropriate?

Copyright:

Available Formats

6 พรบ พัทยา รวมปี 62

Uploaded by

Copyright:

Available Formats

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนัมำตรำ ๒๑ พระรำชบัญกญัำ ตินี้ให้ใช้บังคัสำนั

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๑๑๔ (ยกเลิก) กำ

สมำตรำ ๑๖ ก่อนเข้ำรับหน้กำำที่ สมำชิกต้อสงปฏิ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๗ สมำชิกเป็น ผู้แทนของประชำชนในเขตเมืองพั ทยำ และต้องปฏิบั ติ

สมำตรำ ๑๘๘ (ยกเลิก) กำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ๒๐๑๔ (ยกเลิสกำนั) กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๑๑๕ ในกรณีที่ตำแหน่

มำตรำกำ ๒๘ ให้ ป ลัสดำนัเมืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๒๙ ภำยในสิบห้ำวันนับแต่วันเลือกตั้งสมำชิกอันเป็นกำรเลือกตั้งทั่วไป ให้

มำตรำกำ ๓๖ ในที่ ป ระชุ

ผู้ช่วยเลขำนุ กำรประธำนสภำเมืองพัทยำ กรรมกำรสำมัญหรือกรรมกำรวิสำมัญที่สภำเมืองพัทยำ

สมำตรำ ๔๓๑๘ (ยกเลิก) กำ

มำตรำกำ๔๔๑๙ (ยกเลิสกำนั) กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ลักษณะเป็นกำรผูกขำดตัดตอน ทั้งนี้ ไม่ว่ำโดยทำงตรงหรือทำงอ้อม เว้นแต่ในส่วนที่เป็นผู้ถือหุ้น

คณะรัฐมนตรีในเรื่องนั้นไม่ได้กำหนดในเรื่องกำรมอบอำนำจไว้เป็นอย่ำงอื่น นำยกเมื องพัทยำอำจ

สมำตรำ ๖๑ ในกำรปฏิบัตกิหำน้ำที่ ให้นำยกเมื

(๓) ยึดหรืออำยัดเอกสำร หลักฐำน ยำนพำหนะ หรือสิ่งใด ๆ เพื่อใช้เป็นหลักฐำนใน

เมื่อผู้ว่ำรำชกำรจังหวัด ได้รับข้อเสนอของนำยกเมืองพัทยำตำมวรรคหนึ่ง ให้ผู้ว่ำ

มำตรำกำ ๖๗ ในกรณีสทำนัี่ หกน่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

พิจ ำรณำให้ แล้ วเสร็จ ภำยในระยะเวลำที่กำหนดให้ ถือว่ำผู้ ว่ำรำชกำรจังหวัดเห็ นชอบด้วยกับร่ำง

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

วิธีกำรขำยทอดตลำดทรัพย์สินตำมวรรคสอง ให้ ปฏิบัติตำมประมวลกฎหมำยวิธี

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ยังคงอยู่ในตำแหน่งและปฏิบัติห น้ำที่ในฐำนะนำยกเมืองพัทยำเท่ำที่จำ

สมำตรำ ๑๐๓ ให้โอนบรรดำกิ

พระรำชกฤษฎีกำ กฎกระทรวง ระเบียบ ข้อบังคับ หรือประกำศในเรื่องนั้น ตำมพระรำชบัญญัตินี้ขึ้น

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักร

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

You might also like