law-haz-29032535-พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ พระรำชบัญญัติ กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
วัตถุอันตรำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ พ.ศ. ๒๕๓๕สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๙ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๓๕
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สเป็ำนันกปีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ที่ ๔๗ ในรัชกำลปัจจุบกันำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนัพระบำทสมเด็ จพระปรมิกนำทรมหำภูมิพลอดุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัลกยเดช มีพระบรมรำชโองกำรโปรดเกล้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำฯ
ให้ประกำศว่ำ
โดยที่เป็นกำรสมควรปรับปรุงกฎหมำยว่ำด้วยวัตถุมีพิษ
จึงทรงพระกรุณำโปรดเกล้ำฯ ให้ตรำพระรำชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอม
ของสภำนิติบัญญัติแห่งชำติ ทำหน้ำสทีำนั่รัฐกสภำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ดังต่อไปนี้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑ พระรำชบัญญัตินี้เรียกว่ำ “พระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย พ.ศ. ๒๕๓๕”
มำตรำ ๒๑ พระรำชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ
เป็นต้นไป สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๓ ให้ยกเลิสำนั
ก กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) พระรำชบัญญัติวัตถุมีพิษ พ.ศ. ๒๕๑๐
สำนั(๒) พระรำชบัญญัติวัตถุมกีพำ ิษ (ฉบับที่ ๒)สำนัพ.ศ.
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๒๕๑๖
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ

มำตรำ ๔ ในพระรำชบัญญัตินี้
สำนั“วั ตถุอันตรำย” หมำยควำมว่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำ วัตถุดังต่สอำนัไปนี ้
(๑) วัตถุระเบิดได้
(๒)กวัำ ตถุไวไฟ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) วัตถุออกซิไดซ์และวัตถุเปอร์ออกไซด์
สำนั(๔) วัตถุมีพิษ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) วัตถุที่ทำให้เกิดโรค
(๖)กวัำ ตถุกัมมันตรังสสีำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๗) วัตถุที่ก่อให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงทำงพันธุกรรม
สำนั(๘) วัตถุกัดกร่อน

๑
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๐๙/ตอนที่ ๓๙/หน้ำ ๒๑/๖ เมษำยน ๒๕๓๕
-๒- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๙) วัตถุที่ก่อให้เกิดกำรระคำยเคือง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๑๐) กวัำตถุอย่ำงอื่น ไม่ ว่ำกจะเป็
สำนั นเคมีภัณฑ์หรือสิ่งกอืำ่นใด ที่ อำจทสำให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักเกิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดอันตรำยแก่ กำ
บุคคล สัตว์ พืช ทรัพย์ หรือสิ่งแวดล้อม
ส“ผลิ
ำนักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
” หมำยควำมว่ำ ทำ เพำะ กำ ปรุง ผสม แปรสภำพ ปรุงแต่ง แบ่งบรรจุ กหรืำ อรวมบรรจุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
“นำเข้ำ”๒ หมำยควำมว่ำ นำหรือสั่งเข้ำมำในรำชอำณำจักรซึ่งวัตถุอันตรำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ๓ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
“ส่งออก” หมำยควำมว่ำ ส่งหรือ ดำเนินกำรเพื่อส่งออกไปนอกรำชอำณำจั กรซึ่ง
วัตถุอันตรำย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๔
“น ำผ่ ำ น” หมำยควำมว่ ำ น ำหรื อ ส่ ง วั ต ถุ อั น ตรำยผ่ ำ นรำชอำณำจั ก รโดยมี
สำนักจุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดกของกำรขนส่
ำ งอยู
สำนั่นกอกรำชอำณำจั กร ไม่ว่ำจะมี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กำรขนถ่ำยหรื สำนัอกเปลี ่ยนพำหนะ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
หรือไม่ก็ตำม ทั้งนี้ จะต้องไม่มีกำรใช้ประโยชน์ใด ๆ หรือมีพฤติกรรมใด ๆ เพื่อประโยชน์ทำงกำรค้ำ
เกี่ยวกับวัตถุอันตรำยดั งกล่ำวในรำชอำณำจักกรำ
“นำกลับเข้ำมำ”๕ หมำยควำมว่ำ นำวัตถุอันตรำยที่ส่งออกไปนอกรำชอำณำจักร
สำนักกลั บเข้ำมำในรำชอำณำจักำกร โดยไม่มีกสำรเปลี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ยนแปลงสภำพวัตถุอันกตรำย
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
“ส่ งกลั บ ออกไป”๖ หมำยควำมว่ำ ส่ งวัต ถุอัน ตรำยที่ น ำเข้ำ มำในรำชอำณำจัก ร
ออกไปนอกรำชอำณำจักร โดยไม่มีกำรเปลี่ยนแปลงสภำพวัตสถุำนัอกันงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตรำย กำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี “ขำย”กำหมำยควำมถึสงำนักำรจ ำหน่ำย จ่ำยหรือแจกเพื

กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่อประโยชน์สทำนัำงกำรค้ ำ และให้
หมำยควำมรวมถึงกำรมีไว้เพื่อขำยด้วย
ส“มี
ำนัไกว้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ในครอบครอง” หมำยควำมว่ กำ ำ กำรมีสไว้ำนัในครอบครองไม่ ว่ำเพื่อตนเองหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อผู้อื่น
และไม่ว่ำจะเป็นกำรมีไว้เพื่อขำย เพื่อขนส่ง เพื่อใช้ หรือเพื่อประกำรอื่นใด และรวมถึงกำรทิ้งอยู่ หรือ
สำนักปรำกฏอยู ่ในบริเวณที่อยูก่ใำนควำมครอบครองด้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๗
“ภำชนะบรรจุ” หมำยควำมว่ำ ภำชนะที่มีลักษณะปิดและทำหน้ำที่กักเก็บวัตถุ
อันตรำยอย่ำงปลอดภั สำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
“ฉลำก” หมำยควำมว่ำ รูป รอยประดิ ษ ฐ์ หรือข้ อควำมใด ๆ ซึ่ งแสดงไว้ที่ วัต ถุ
สำนักอังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นตรำย หรือภำชนะบรรจุ กำ หรือหีบห่อสบรรจุ หรือสอดแทรก หรือรวมไว้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กับวัตถุอสันำนั ตรำย หรือภำชนะ
บรรจุ หรือหีบห่อบรรจุ และหมำยควำมรวมถึงเอกสำร หรือคู่มือประกอบกำรใช้วัตถุอันตรำยด้วย

๒
สำนัมำตรำ ๔ นิยำมคำว่ำ “นำเข้กำำ” แก้ไขเพิ่มเติสมำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี โดยพระรำชบั ญญัติวัตถุอันตรำย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ (ฉบับที่ ๔)
พ.ศ. ๒๕๖๒
๓
มำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๔ นิยำมคำว่ำสำนั
“ส่กงออก” แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัติวัตสถุำนั
อันกตรำย (ฉบับที่ ๔)
พ.ศ. ๒๕๖๒
๔
สำนัมำตรำ ๔ นิ ยำมคำว่ำ “นำผ่กำำน” เพิ่ ม โดยพระรำชบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญ ญั ติ วัต ถุอั นตรำย (ฉบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บ ที่ ๔) พ.ศ.
๒๕๖๒
๕
มำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๔ นิยำมคำว่ำส“น
ำนัำกลั บเข้ำมำ” เพิ่มโดยพระรำชบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัติวัตถุอันสตรำย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
๒๕๖๒
๖
มำตรำ ๔ นิยำมคำว่ำ “ส่งกลับออกไป” เพิ่มโดยพระรำชบัญ ญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๔)
พ.ศ. ๒๕๖๒
๗
มำตรำ ๔ นิยำมคำว่ำ “ภำชนะบรรจุ” เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.
สำนัก๒๕๖๒
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
-๓- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
“โฆษณำ”๘ หมำยควำมว่ำ กำรกระทำไม่ว่ำโดยวิธีใด ๆ ให้ประชำชนเห็น หรือได้ยิน

สำนักหรื อทรำบข้อควำม และให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ หมำยควำมรวมถึ งกำรให้ข้อมูล กำรชักกำนำ หรือกำรกระท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ โดยวิธีใด ๆ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
โดยมุ่งหมำยให้มีกำรใช้วัตถุอันตรำยเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในทำงกำรค้ำ
ส“ข้
ำนัอกควำม” ๙ หมำยควำมว่กำำ กำรกระท ำให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัปกรำกฏด้ วยตัวอักษร ภำพกำ ภำพยนตร์
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แสง เสียง เครื่องหมำย หรือกำรกระทำอย่ำงใด ๆ ที่ทำให้บุคคลทั่วไปสำมำรถเข้ำใจควำมหมำยได้
“อนุสัญญำห้ำมอำวุธเคมี ”๑๐ หมำยควำมว่ำ อนุสัญญำว่ำด้วยกำรห้ำมพัฒนำ ผลิต
สะสม และใช้อำวุธสเคมี และว่ำด้วยกำรทำลำยอำวุ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ธเหล่ำนี้ ซึ่งสทำนั
ำขึก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เมื่อวันที่ ๑๓ มกรำคมกพ.ศ. ำ ๒๕๓๖
๑๑
“ค่ำเสียหำยเบื้ องต้น ” หมำยควำมว่ำ ค่ ำใช้จ่ำยเบื้องต้นอัน จำเป็น เร่งด่วนเพื่อ
สำนักชดเชยแก่ ผู้ได้รับควำมเสี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำยหำยจำกวัตสถุำนั
อันกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตรำย และเพื่อเข้ำช่วยเหลื กำ อ เคลื่อนย้สำำนัย กบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำบัด บรรเทำ กำ
หรือขจัดควำมเสียหำยที่เกิดขึ้นเนื่องจำกวัตถุอันตรำย ให้กลับคืนสู่ สภำพเดิมหรือสภำพที่ใกล้เคียงกับ
สภำพเดิม ทั้งนี้ สโดยไม่ ต้องรอกำรพิสูจน์ควำมรั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บผิด สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
“คณะกรรมกำร” หมำยควำมว่ำ คณะกรรมกำรวัตถุอันตรำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี “พนักกงำนเจ้
ำ ำหน้ำที่”สำนั หมำยควำมว่ ำ ผู้ซึ่งรัฐมนตรี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ผู้รับผิดชอบแต่
สำนังกตังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้งให้ปฏิบัติกำร กำ
ตำมพระรำชบัญญัตินี้
“รัฐมนตรีผู้ รับ ผิ ดชอบ” หมำยควำมว่ำ รัสำนั กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ฐมนตรี เจ้ำสังกัดของหน่วยงำนที่ได้รับ
สำนักมอบหมำยให้ รับผิดชอบควบคุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มวัตถุอันสตรำยตำมมำตรำ ๑๙
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๑๒
สมำตรำ ๕ ให้ รัฐมนตรีวก่ำำกำรกระทรวงกลำโหม
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รัฐ มนตรีว่ำกำรกระทรวงกำร
อุ ด มศึ ก ษำ วิ ท ยำศำสตร์ วิ จั ย และนวั ต กรรม รั ฐ มนตรี ว่ ำ กำรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สำนักรังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ฐมนตรี ว่ำกำรกระทรวงคมนำคม
กำ รัสฐำนั
มนตรี ว่ำกำรกระทรวงทรักพำยำกรธรรมชำติ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัแกละสิ ่ งแวดล้ อม
รัฐ มนตรี ว่ำกำรกระทรวงพลั งงำน รัฐ มนตรีว่ำกำรกระทรวงมหำดไทย รัฐ มนตรีว่ำกำรกระทรวง
สำธำรณสุข และรัสฐำนัมนตรี ว่ำกำรกระทรวงอุตสำหกรรม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ควบคุสมำนัส่กงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เสริมและติดตำมดูแลกำรดกำ ำเนินงำน
ของเลขำนุกำร และผู้ช่วยเลขำนุกำรของคณะกรรมกำรวัตถุอันตรำยในกำรปฏิบัติกำรตำมพระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ให้ รั ฐกมนตรี
ำ ว่ ำ กำรกระทรวงอุ ต สำหกรรมมี อกำนำจออกกฎกระทรวงก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำหนด
ค่ำธรรมเนีย มไม่เกิน อัตรำท้ำยพระรำชบัญ ญัติ นี้ และยกเว้นค่ำธรรมเนีย มกับ กำหนดกิจกำรอื่น
กับออกประกำศ ทั้งนี้ เพื่อปฏิบัติกำรตำมพระรำชบัญญัตินี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ให้รัฐกมนตรี
ำ ผู้รับ ผิดสชอบมี อำนำจแต่ง ตั้ง พนักกงำนเจ้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำ หน้ำ ทีส่แำนัละออกประกำศ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เพื่อปฏิบัติกำรตำมพระรำชบัญญัตินี้
สกฎกระทรวงหรื อประกำศนั้นกำเมื่อได้ประกำศในรำชกิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี จจำนุเบกษำแล้วให้กใำช้บังคับได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๘
กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔ นิ ยำมค ำว่ำ “โฆษณำ” เพิ่ ม โดยพระรำชบัญ ญั ติ วัตถุอั นตรำย (ฉบั บ ที่ ๔) พ.ศ.
๒๕๖๒ ส๙ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔ นิยำมคำว่ำ “ข้อควำม” เพิ่ม โดยพระรำชบัญ ญั ติวัตถุอั นตรำย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี๑๐ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔ นิยำมคำว่ำ “อนุสัญญำห้ำมอำวุธเคมี ” เพิ่มโดยพระรำชบัญ ญัติวัตถุอัน ตรำย
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔
ส๑๑ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔ นิยำมคำว่ำ “ค่ำเสียหำยเบื้องต้น” เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๔)
พ.ศ. ๒๕๖๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๑๒ กำ ๕ แก้ไขเพิ่มเติสมำนั
มำตรำ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
โดยพระรำชบั กำ ทบวง กรม (ฉบั
ญญัติปรับปรุงกระทรวง สำนับกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ ๑๙) พ.ศ. ๒๕๖๒ กำ
-๔- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๑
คณะกรรมกำรวัตถุอันตรำย

มำตรำ ๖๑๓ ให้มีคณะกรรมกำรคณะหนึ่ง เรียกว่ำ “คณะกรรมกำรวัตถุอันตรำย”
ประกอบด้วย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงอุตสำหกรรม เป็นประธำนกรรมกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๒) กรรมกำรโดยต
กำ ำแหน่
สำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำนวนสิบเจ็ดคน ได้แกก่ำปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ปลัดกระทรวงพลังงำน ปลัดกระทรวงสำธำรณสุข ปลัดกระทรวงอุตสำหกรรม อธิบดีกรมกำรขนส่งทำงบก
อธิบดีกรมควบคุมสมลพิ ำนักษงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อธิบดีกรมเจ้ำท่ำ อธิบกดีำ กรมธุรกิจพลัสงำนั
งำนกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อธิบดีกรมประมง อธิบกดีำกรมปศุสัตว์
อธิบดีกรมวิชำกำรเกษตร อธิบดีกรมศุลกำกร เลขำธิกำรคณะกรรมกำรอำหำรและยำ ผู้แทนกระทรวงกลำโหม
สำนักผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้แทนกรมกำรค้ำต่ำงประเทศ กำ ผู้แทนสำนั สำนักงำนต ำรวจแห่งชำติ และผูกำ้แทนสำนักงำนปรมำณู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เพื่อสันติ
(๓) กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนไม่เกินแปดคน ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจำกผู้มีควำมรู้
ควำมเชี่ยวชำญ มีผลงำนและประสบกำรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสำขำวิ ชำเคมี วิทยำศำสตร์ วิศวกรรมศำสตร์
สำนักเกษตรศำสตร์ หรือกฎหมำย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ และอย่ำงน้ สำนัอกยสี ่คนให้แต่งตั้งจำกผู้ ทรงคุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ณวุฒิที่เป็นสตัำนั
วแทนขององค์ กำร
สำธำรณประโยชน์และมีประสบกำรณ์กำรดำเนินงำนด้ำนกำรคุ้มครองสุขภำพอนำมัย ด้ำนกำรคุ้มครอง
ผู้บริโภค ด้ำนกำรเกษตรกรรมยั ่งยืน ด้ำนกำรจัดกกำรปั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ญหำวัตถุสอำนัันตรำยในท้ องถิ่น หรือด้ำนสิกำ่งแวดล้อม
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้ อธิบ ดีกรมโรงงำนอุตสำหกรรม เป็นกรรมกำรและเลขำนุกำร และผู้ แทนกรม
สำนักธุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รกิ จ พลั งงำน ผู้ แ ทนกรมโรงงำนอุ
กำ ตสสำหกรรม ผู้ แ ทนกรมวิช ำกำรเกษตร
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ และผู
สำนัก้ แงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทนส ำนั กงำน กำ
คณะกรรมกำรอำหำรและยำ เป็นผู้ช่วยเลขำนุกำร
สกำรแต่ งตั้งกรรมกำรผู้ทรงคุกำณ วุฒิ ให้เป็นไปตำมหลั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กเกณฑ์ วิ ธีกำร และเงื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่อนไขที่
รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงอุตสำหกรรมประกำศกำหนด
มำตรำ ๗๑๔ ให้คณะกรรมกำรมีอำนำจหน้ำที่ ดังต่อไปนี้
(๑) เสนอนโยบำยและแผนกำรบริหำรจัดกำรวัตถุอันตรำยเพื่อขอควำมเห็นชอบจำก
สำนักคณะรั ฐมนตรี เมื่อคณะรักฐำ มนตรีพิจำรณำให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ควำมเห็นชอบแล้ว ให้หกำน่วยงำนที่เกี่ยสวข้ำนัอกงรังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บไปปฏิบัติ กำ
(๒) ให้ควำมเห็นชอบแผนปฏิบัติกำรเพื่อควบคุมกำกับดูแลวัตถุอันตรำย
ส(๓)
ำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำกับดูแล เร่งรัด ติดตำม
กำ และประเมิสนำนั ผลหน่ วยงำนผู้รับผิดชอบในกำรปฏิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บัติ
ให้เป็นไปตำม (๑) และ (๒)
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๔) พิกจำำรณำวินิจฉัยสหรื
ำนัอกให้ ควำมเห็นเกี่ยวกับ อกำนำจหน้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำที่กำรปฏิ
สำนักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัติงำนระหว่ำง กำ
หน่วยงำนผู้รับผิดชอบ
ส(๕)
ำนักให้ ควำมเห็นต่อรัฐมนตรีกำว่ำกำรกระทรวงอุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำหกรรมในกำรออกประกำศตำม กำ
มำตรำ ๑๘ วรรคสอง และมำตรำ ๓๖ วรรคหนึ่ง
๑๓
มำตรำ ๖ แก้ไขเพิม่ เติมโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
๑๔ กำ ๗ แก้ไขเพิ่มเติสำนั
มำตรำ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มโดยพระรำชบั กำ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.
ญญัติวัตถุอันตรำย สำนัก๒๕๖๒
-๕- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๖) ให้ค วำมเห็น ต่อ รัฐ มนตรีผู้รับ ผิด ชอบในกำรออกประกำศตำมมำตรำ ๒๐

สำนักมำตรำ ๒๐/๑ มำตรำ ๓๖
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วรรคสำม สมำตรำ ๓๗ วรรคสอง มำตรำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๔๓ มำตรำ ส๔๔ ำนักมำตรำ ๔๗ (๕)
มำตรำ ๕๑ วรรคสอง (๓) และมำตรำ ๕๑/๕ วรรคสอง
ส(๗)
ำนักให้ คำแนะนำแก่พนักงำนเจ้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำหน้ำที่ในกำรรั บขึ้ นทะเบียนหรือเพิกกถอนทะเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ยน
วัตถุอันตรำย
(๘) ให้คำแนะนำหรือคำปรึกษำแก่รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงอุตสำหกรรม รัฐมนตรี
ผู้รับผิดชอบ หน่วสยงำนผู ้รับผิดชอบ และพนักกงำนเจ้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำหน้ำที่ สในเรื
ำนัก่องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งใด ๆ เกี่ยวกับวัตถุอันกตรำย
ำ
(๙) พิจำรณำเรื่องร้องเรียนจำกผู้ที่ได้รับควำมเดือดร้อนหรือเสียหำยจำกวัตถุอันตรำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี(๑๐) กกำำหนดหลักเกณฑ์ สำนักวิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ธีกำร และเงื่อนไขกำรโฆษณำตำมมำตรำ
กำ สำนัก๕๑/๓ (๔)
(๑๑) แจ้งหรือเผยแพร่ข้อมูลข่ำวสำรเกี่ยวกับวัตถุอันตรำยให้ประชำชนได้ทรำบ
ในกำรนี้ จะระบุชสื่อำนัของวั ตถุอันตรำยหรือชื่อของผู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ประกอบกำรที สำนัก่เกีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ยวข้องด้วยก็ได้ กำ
(๑๒) สอดส่องดูแล ให้คำแนะนำ และเร่งรัดพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ ส่วนรำชกำร หรื อ
สำนักหน่ วยงำนของรัฐ ที่ มีอำนำจหน้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำที่เกีส่ยำนั
วกักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วัตถุอัน ตรำยต่ำง ๆ กให้ำ ป ฏิบั ติกำรตำมอ ำนำจหน้ำที่ ที่
กฎหมำยกำหนด
(๑๓) เสนอควำมเห็นต่อรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงอุ ตสำหกรรมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี
สำนักเกีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ยวกับกำรควบคุมวัตถุกอำ ันตรำย และกำรป้ องกันและเยียวยำควำมเสี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยหำยอันเกิสดำนัจำกวั ตถุอันตรำย
เพื่อเป็นแนวปฏิบัติในกำรดำเนินงำนของหน่วยงำนของรัฐ
ส(๑๔) เสนอรำยงำนเกี่ยวกับกสถำนกำรณ์
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ วัตสถุำนัอกันงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตรำยของประเทศต่อคณะรั กำ ฐมนตรี
อย่ำงน้อยปีละหนึ่งครั้ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี(๑๕) ปฏิกำ บัติกำรอื่นใดตำมที ่กฎหมำยกำหนดให้เป็นกำอำนำจหน้ำที่ขสองคณะกรรมกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำตรำ ๘๑๕ กรรมกำรผู้ทรงคุ

ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ณวุฒิมีวำระอยู
สำนัก่ใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นตำแหน่งครำวละสำมปีกำ กรรมกำร
ผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งพ้นจำกตำแหน่งอำจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่งเกินสองวำระติดต่อกัน
สำนักไม่ ได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๙ นอกจำกกำรพ้ น จำกต ำแหน่ ง ตำมวำระตำมมำตรำ ๘ กรรมกำร
้ทรงคุณวุฒิพ้นจำกตำแหน่กำ ง เมื่อ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ตำย
ส(๒)
ำนักลำออก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) คณะรัฐมนตรีให้ออกเพรำะบกพร่อง ไม่สุจริตต่อหน้ำที่ มีควำมประพฤติเสื่อม
สำนักเสีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยหรือหย่อนควำมสำมำรถกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) เป็นบุคคลล้มละลำย
ส(๕)
ำนักเป็ นคนไร้ควำมสำมำรถหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อคนเสมือนไร้
สำนัควำมสำมำรถ หรือ
(๖) ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพำกษำถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับควำมผิด
สำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ได้กระทำโดยประมำทหรื กำ อควำมผิดลหุ โทษ
๑๕ กำ ๘ แก้ไขเพิ่มเติสมำนัโดยพระรำชบั
มำตรำ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.
ญญัติวัตถุอันตรำย สำนั๒๕๕๑
-๖- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๐ ในกรณี ที่มีกำรแต่งตั้งกรรมกำรผู้ท รงคุณ วุฒิ ในระหว่ำงที่กรรมกำร

้ทรงคุณวุฒิซึ่งแต่งตั้งไว้กำแล้วยังมีวำระอยู
สำนั่ใกนต ำแหน่ง ไม่ว่ำจะเป็นกกำรแต่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งตั้งเพิ่มสขึำนั้นหรื อแต่งตั้งซ่อม
ให้ผู้ได้รับแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งเท่ำกับวำระที่เหลืออยู่ของกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งแต่งตั้งไว้แล้วนั้น
มำตรำ ๑๑ ในกรณีที่กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิดำรงตำแหน่งครบวำระแล้ว แต่ยังมิได้
มีกำรแต่งตั้งกรรมกำรผู้ทรงคุณ วุฒิ ขึ้นใหม่ ให้กรรมกำรผู้ทรงคุณ วุฒิ ซึ่งพ้นจำกตำแหน่งตำมวำระ
ปฏิบัติหน้ำที่ไปพลำงก่ อนจนกว่ำจะมีกำรแต่งกตัำ้งกรรมกำรผู้ทสรงคุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักณงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วุฒิขึ้นใหม่ กำ
มำตรำกำ๑๒ กำรประชุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัมกของคณะกรรมกำรต้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีองมี
กำ กรรมกำรมำประชุ มไม่น้อยกว่ำ
กึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมกำรทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม ถ้ำประธำนกรรมกำรไม่อยู่ในที่ประชุม
ให้กรรมกำรซึ่งมำประชุ มเลือกกรรมกำรคนหนึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งเป็นประธำนในที ่ประชุม
กำรวินิจฉัยชี้ขำดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้ำงมำก กรรมกำรคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในกำร
สำนักลงคะแนน ถ้ำคะแนนเสีกยำงเท่ำกันให้ประธำนในที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ประชุมออกเสียงเพิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่มขึ้นอีกเสียงหนึ
สำนัก่งเป็ นเสียงชี้ขำด
กรรมกำรผู้ใดมีส่วนได้เสียเป็นกำรส่วนตัวในเรื่องใดกรรมกำรผู้นั้นไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนในเรื่องนั้น
มำตรำกำ ๑๓ ให้ ค ณะกรรมกำรมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อ ำนำจแต่ งตัก้ งำอนุ ก รรมกำรเพื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่ อกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พิ จ ำรณำหรื อ กำ
ปฏิบัติกำรอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดตำมที่คณะกรรมกำรมอบหมำยก็ได้
สให้
ำนัคกณะกรรมกำรก ำหนดองค์กำประชุมและวิสธำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ีดำเนิ นงำนของอนุกรรมกำรได้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ตำมควำม
เหมำะสม
มำตรำ ๑๔ ในกำรปฏิ บั ติ ห น้ ำ ที่ ให้ ค ณะกรรมกำร หรื อ คณะอนุ ก รรมกำรที่
คณะกรรมกำรมอบหมำยมี อำนำจออกคำสั่งเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำนหนังสือเรียสกบุำนัคกคลใดมำให้ ถ้อยคำหรือกให้ำ ส่งเอกสำร
หรือวัตถุใด ๆ มำเพื่อประกอบกำรพิจำรณำได้ตำมควำมจำเป็น
หมวด ๒
กำรควบคุมวัตถุอันตรำย
สมำตรำ ๑๕ ในกรณีที่มีกฎหมำยว่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำด้วยกำรใดบั ญญัติ เรื่องใดไว้โดยเฉพำะแล้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วให้
บังคับตำมบทบัญญัติแห่งกฎหมำยว่ำด้วยกำรนั้น แต่ถ้ำมีเหตุอันควรคณะกรรมกำรโดยควำมเห็นชอบ
สำนักของรั ฐมนตรีผู้รักษำกำรตำมกฎหมำยว่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำำนั
ด้วกยกำรนั ้นอำจมีมติให้นำบทบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัติแห่งสพระรำชบั ญญัตินี้ไป
ใช้บังคับเป็นกำรเพิ่มเติมหรือแทนที่กฎหมำยว่ำด้วยกำรนั้น ได้ ทั้งนี้ โดยจะกำหนดระยะเวลำหรือ
เงื่อนไขอย่ำงใดไว้สใำนั
นมติ นั้นก็ได้
มติตำมวรรคหนึ่ง เมื่อรัฐมนตรีผู้รักษำกำรตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรนั้นประกำศใน
สำนักรำชกิ จจำนุเบกษำแล้วให้กำใช้บังคับได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

-๗- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๑๕/๑๑๖ ในกำรมีมติหรือกำรให้ควำมเห็นของคณะกรรมกำร กำรให้ควำม

สำนักเห็ นชอบของรัฐมนตรีผู้รกักำ ษำกำรตำมกฎหมำยอื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่น และกำรออกประกำศของรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ฐมนตรี
สำนัวก่ำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรกระทรวง กำ
อุตสำหกรรม หรือรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบ เพื่อปฏิบัติกำรให้เป็นไปตำมพระรำชบัญญัตินี้ ให้คำนึงถึง
อนุสัญญำห้ำมอำวุสำนั
ธเคมี และสนธิสัญญำและข้กอำผูกพันระหว่ำงประเทศอื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่นประกอบด้วย กำ

มำตรำ ๑๖ ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นเพื่อป้องกันอันตรำยที่จะเกิดแก่บุคคล สัตว์ พืช
ทรัพย์ หรื อสิ่งแวดล้
สำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ม จะมีกำรตรำพระรำชกฤษฎี
กำ กำกำหนดท้ องที่เพื่อห้ ำมกำรครอบครอง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กำร
จำหน่ำย หรือกำรใช้วัตถุอันตรำยอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดก็ได้
มำตรำ ๑๗ ให้จัดตั้งศูนย์ข้อมูลวัตถุอันตรำยขึ้นในกระทรวงอุตสำหกรรม เพื่อเป็น
ศูนย์กลำงประสำนงำนในเรื ่องข้อมูลของวัตถุกอำันตรำยกับส่วสนรำชกำรต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำง ๆ รวมทั้งจำกภำคเอกชน
เพื่อรวบรวมและให้บริกำรข้อมูลทุกชนิดเกี่ยวกับวัตถุอันตรำยตั้งแต่กำรมีอยู่ในต่ำงประเทศ กำรนำเข้ำ
สำนักหรื อกำรผลิตภำยในประเทศ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กำรเคลื่อสนย้
ำนัำกยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำรใช้สอย กำรทำลำยกำ และกำรอื่นใดอั
สำนันกเกีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ยวเนื่อง กำ
มำตรำ ๑๘ วัตถุอันตรำยแบ่งออกตำมควำมจ ำเป็นแก่กำรควบคุม ดังนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี(๑) วักตำถุอัน ตรำยชนิสดำนัทีก่ งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๑ ได้แก่วัตถุอันตรำยทีกำ่กำรผลิต กำรน สำนัำเข้ ำ กำรส่ งออก
หรือกำรมีไว้ในครอบครองต้องปฏิบัติตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรที่กำหนด
ส(๒)
ำนักวังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตถุอัน ตรำยชนิ ดที่ ๒กำได้แก่วัตถุอันสตรำยที ่กำรผลิต กำรนำเข้ำกำกำรส่ งออก
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือกำรมีไว้ในครอบครองต้องแจ้งให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ทรำบก่อนและต้องปฏิบัติตำมหลักเกณฑ์และ
สำนักวิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ธีกำรที่กำหนดด้วย กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) วัตถุอัน ตรำยชนิ ดที่ ๓ ได้แก่วัตถุอันตรำยที่กำรผลิต กำรนำเข้ำ กำรส่ งออก
หรือกำรมีไว้ในครอบครองต้ องได้รับใบอนุญำตกำ
(๔)๑๗ วัตถุอันตรำยชนิดที่ ๔ ได้แก่วัตถุอันตรำยที่ห้ำมมิให้มีกำรผลิต กำรนำเข้ำ
สำนักกำรส่ งออก กำรนำผ่ำนกหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ อกำรมีไว้ในครอบครอง
เพื่อประโยชน์แก่กำรป้องกันและระงับอันตรำยที่อำจมีแก่บุคคล สัตว์ พืช ทรัพย์
หรือสิ่งแวดล้อม ให้รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงอุตสำหกรรมโดยควำมเห็นของคณะกรรมกำรมีอำนำจ
สำนักประกำศในรำชกิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีจ จำนุกำเบกษำระบุ ชสื่ อำนัหรื อ คุ ณ สมบั ติ ข องวั ต ถุกอำั น ตรำย ชนิ ดสของวั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ต ถุ อั น ตรำย
กำหนดเวลำกำรใช้บังคับและหน่วยงำนผู้รับผิดชอบในกำรควบคุมวัตถุอันตรำยดังกล่ำว
มำตรำ ๑๙ เมื่อหน่ วยงำนหนึ่งหน่ว ยงำนใดของกระทรวงหรือทบวงในรำชกำร
สำนักบริ หำรส่วนกลำงมีคำขอเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นผู้รับผิดชอบในกำรควบคุ มวัตถุอันตรำยอย่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำงหนึ่งอย่สำำนั
งใดเพื ่อดำเนินกำร
ตำมพระรำชบัญญัตินี้ ให้คณะกรรมกำรพิจ ำรณำและเสนอควำมเห็นต่อรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวง
อุตสำหกรรมเพื่อสกำรออกประกำศตำมมำตรำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ๑๘ วรรคสอง สำนักกำหนดให้ หน่วยงำนนั้นเป็กำนผู้มีอำนำจ
หน้ำที่รับผิดชอบดำเนินกำรทั้งหมด หรือบำงส่วนเกี่ยวกับวัตถุอันตรำยนั้นได้ ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงควำม
สำนักเชีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ ย วชำญเฉพำะด้ ำ น กจำำนวนบุ ค ลำกร
สำนักควำมสั ม พั น ธ์ กั บ ภำรกิกำจ หลั ก และปริสมำนัำณงำนในควำม
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
รับผิดชอบเป็นสำคั ญ
๑๖
มำตรำ ๑๕/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔
๑๗ กำ ๑๘ (๔) แก้ไขเพิ
มำตรำ สำนั่มกเติงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มโดยพระรำชบัญญัติวัตถุกอำ ันตรำย (ฉบับทีส่ ำนั
๔) กพ.ศ.
๒๕๖๒ กำ
-๘- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่คณะกรรมกำรมีควำมเห็นเป็นอย่ำงอื่นให้รัฐมนตรีของหน่วยงำนที่มีคำขอ
สำนักเป็ นผู้รับผิดชอบยืนยันต่กอำคณะกรรมกำรภำยในสำมสิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บวัน ในกรณีกเช่ำนว่ำนี้ ให้นำเสนอรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ฐมนตรีว่ำกำร
กระทรวงอุตสำหกรรมเพื่อนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีวินิจฉัย
มำตรำ ๒๐ ให้ รั ฐ มนตรีผู้ รับ ผิ ด ชอบโดยควำมเห็ น ของคณะกรรมกำรมีอ ำนำจ
ประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ
๑๘ กำหนดปริมำณ องค์ประกอบ คุณสมบัติและสิ่งเจือปน ภำชนะบรรจุ วิธีตรวจ
ส(๑)
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
และทดสอบภำชนะ ฉลำก กำรผลิต กำรนำเข้ำ กำรส่งออก ด่ำนศุลกำกรที่นำเข้ำ ส่งออก หรือนำผ่ำน
สำนักกำรขำย กำรขนส่ง กำรเก็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บ รักษำ กำรก สำนักำจั ด กำรทำลำย กำรปฏิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำบัติกับ ภำชนะของวั ตถุอันตรำย
กำรให้ แจ้งข้อเท็จจริง กำรให้ ส่งตัวอย่ ำง หรือกำรอื่ นใดเกี่ยวกับวัตถุอั นตรำยเพื่อควบคุม ป้องกั น
บรรเทำหรื อ ระงัสบำนัอักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตรำย ที่ จ ะเกิ ด แก่ บุ กคำคล สั ต ว์ พื ชสำนั
ทรักพงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ย์ หรื อ สิ่ งแวดล้ อ ม กโดยค
ำ ำนึ ง ถึ ง
สนธิสัญญำและข้อผูกพันระหว่ำงประเทศประกอบด้วย
(๑/๑)ก๑๙ำ กำหนดให้มสีกำนัำรด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำเนินกำรถ่ำยทอดควำมรู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้เกี่ยวกับวัตสถุำนัอักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตรำยและให้มี กำ
กำรประกันควำมเสียหำยที่อำจเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม สุขภำพอนำมัย ชีวิต หรือทรัพย์สินซึ่งเกิดจำก
กำรประกอบกิจกำร
(๒)๒๐กกำำหนดให้มีผู้เสชีำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ยวชำญหรื อบุคลำกรเฉพำะรั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บผิดชอบในกำรด สำนักำเนิ นกำรอย่ำง
หนึ่งอย่ำงใดตำม (๑) และ (๑/๑)
ส(๓)
ำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดเกณฑ์ค่ำคลำดเคลื กำ ่อนจำกปริสมำนั ำณที ่กำหนดไว้ของสำระสกำำคัญในวัตถุ
อันตรำย
(๔) กำหนดขั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นตอนกำรขึ สำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทะเบียนวัตถุอันตรำยดักงำกล่ำว สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) ระบุชื่อหรือคุณสมบัติของวัตถุอันตรำยและกรณีที่ได้รับกำรยกเว้นตำมมำตรำ ๓๖
มำตรำ ๒๐/๑ ๒๑ ผู้ เชี่ ย วชำญหรือ บุ ค ลำกรเฉพำะซึ่ งมี ห น้ ำที่ รั บ ผิ ด ชอบในกำร
สำนักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเนินกำรเกี่ยวกับวัตถุกอำันตรำย ต้องปฏิ
สำนับกัตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิตำมหลักเกณฑ์ วิธีกำรและเงื
กำ ่อนไขที่รสัฐำนัมนตรี ผู้รับผิดชอบ
กำหนดโดยควำมเห็นของคณะกรรมกำรโดยประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ
มำตรำกำ๒๐/๒ ๒๒ ผู้นสำนั
ำผ่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นวัตถุอันตรำยชนิดที่ ก๑ำ หรือชนิดที่ ส๒ำนัในแต่ ละครั้งต้อง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
แจ้งให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ทรำบก่อน เมื่อพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ได้รับแจ้งแล้ ว ให้ออกใบนำผ่ำนเพื่อเป็น
หลักฐำนกำรรับแจ้สำนั ง กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้ น ำผ่ ำ นวั ต ถุ อั น ตรำยชนิ ด ที่ ๓ ในแต่ ล ะครั้ ง ต้ อ งได้ รั บ อนุ ญ ำตจำกพนั ก งำน
สำนักเจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหน้ำที่ก่อน เมื่อพนักกงำนเจ้
ำ ำหน้ำที่ไสด้ำนั อนุกญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำตแล้ว ให้ออกใบนำผ่กำำ นเพื่อเป็นหลัสกำนั
ฐำนกำรอนุ ญำต
ใบนำผ่ำนจำกกำรรับแจ้งตำมวรรคหนึ่งหรือจำกกำรอนุญำตตำมวรรคสอง ให้ใช้ได้
ตำมระยะเวลำทีก่ สำหนดในใบน ำผ่ำนนั้น แต่มกิให้ำ กำหนดเกินสีส่สำนัิบกห้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำวันนับแต่วันที่ออกใบน
กำำผ่ำน ทั้งนี้
๑๘ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๐ (๑) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
๑๙
มำตรำ ๒๐ (๑/๑) เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑
ส๒๐ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๐ (๒) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑
๒๑
มำตรำ ๒๐/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑
๒๒ กำ ๒๐/๒ เพิ่มโดยพระรำชบั
มำตรำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญญัติวัตถุอันตรำย ก(ฉบั
ำ บที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
-๙- สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู้นำผ่ำนจะต้องเป็นผู้ประกอบกิจกำรนำเข้ำและส่งออกวัตถุอันตรำยที่เป็นนิติบุคคลซึ่งจดทะเบียนใน
สำนักประเทศไทย
วัตถุอันตรำยที่ นำผ่ำนต้องนำออกไปนอกรำชอำณำจักรภำยในห้ ำวัน นั บแต่วันที่
ตรวจปล่อยวัตถุอันำนัตรำยออกจำกด่
ส ำนศุลกำกรที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่เข้ำมำในรำชอำณำจั กร
กำรแจ้ง กำรขออนุญ ำต และกำรออกใบน ำผ่ำ น ให้เ ป็น ไปตำมหลัก เกณฑ์
วิธีกำร และเงื่อนไขที่หน่วยงำนผู้รับผิดชอบกำหนดโดยควำมเห็นของคณะกรรมกำรโดยประกำศ
ในรำชกิจ จำนุเบกษำ ซึ่งอย่ำงน้อยต้องกำหนดให้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มีกำรประกั นสกำหรั
สำนั บค่ำใช้จ่ำยที่อำจเกิกดำขึ้นจำกกำร
ทำลำยหรือกำรจัดกำรวัตถุอันตรำยตำมมำตรำ ๕๒ มำตรำ ๕๒/๒ และมำตรำ ๘๘
ผู้นำผ่กำำนวัตถุอันตรำยชนิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ที่ ๑ ชนิดที่ ๒ หรือชนิกดำที่ ๓ ตำมวรรคหนึ
สำนัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือวรรคสอง กำ
ต้องปฏิบัติตำมประกำศของรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบที่ออกตำมมำตรำ ๒๐ (๑) (๑/๑) และ (๒) ด้วย
มำตรำ ๒๐/๓ ๒๓ ในกรณีที่มีควำมจำเป็น ต้องนำกลับ เข้ำมำ หรือส่งกลับออกไป
สำนักซึงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่งวัตถุอัน ตรำยชนิด ทีก่ ำ๑ ชนิด ที่ ๒ สหรื
ำนัอกชนิ ด ที่ ๓ ที่ได้ป ฏิบัติตกำมมำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ๒๑สำนัมำตรำ ๒๒ หรือ
มำตรำ ๒๓ แล้ว ให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่มี อำนำจสั่งผ่อนผันกำรปฏิบัติ ตำมบทบัญญัติดังกล่ำว ทั้งนี้
กำรผ่อนผันให้เป็นสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ไปตำมหลั กเกณฑ์ วิธีกำร และเงื่อนไขที่หน่สำนั กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
วยงำนผู ้รับผิดชอบกำหนดโดยควำมเห็น
สำนักของคณะกรรมกำรโดยประกำศในรำชกิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สจำนัจำนุ เบกษำ
๒๔
สมำตรำ ๒๑ ผู้ผลิต ผู้นำเข้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำ ผู้ส่งออก สหรื
ำนัอกผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้ มีไว้ในครอบครองซึ่งกวัำตถุอันตรำย
ชนิดที่ ๑ ต้องปฏิบัติตำมประกำศของรัฐ มนตรีผู้รับผิดชอบที่ออกตำมมำตรำ ๒๐ (๑) (๑/๑) (๒)
สำนักและ (๓)
สมำตรำ ๒๒ ๒๕ ภำยใต้บังคักบำบทบัญ ญั ติมสำตรำ

ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๓๖ ห้ ำมผู้ใดผลิ ต นกำเข้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำ ส่ งออก
หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรำยชนิดที่ ๒ เว้นแต่จะได้แจ้งควำมประสงค์จะดำเนินกำรดังกล่ำว
สำนักให้ พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ทรำบก่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อน สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่อได้มีประกำศระบุวัตถุใดเป็นวัตถุอันตรำยชนิดที่ ๒ ให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้ำ ผู้ส่งออก
หรือผู้มีไว้ในครอบครอง แจ้งกำรดำเนินกำรของตนที่กระทำอยู่ในขณะนั้นให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ทรำบ
สำนักภำยในเวลำที ่กำหนดในประกำศดั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งกล่ำสวำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่อพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ได้รับแจ้งตำมวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่
ออกใบรับแจ้งเพื่อสเป็
ำนันกหลั กฐำนกำรแจ้งให้แก่ผกำู้แจ้ง โดยใบรับสแจ้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักงให้ ใช้ได้ตำมระยะเวลำทีก่กำ ำหนดในใบ
รับแจ้งระยะเวลำที่กำหนดต้องไม่เกินสำมปีนับแต่วันที่ออกใบรับแจ้ง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรแจ้กงำ กำรออกใบรัสบำนัแจ้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ง กำรขอต่ออำยุ และกำรต่ กำ ออำยุใบรับสแจ้ ำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้เป็นไปตำม กำ
หลักเกณฑ์และวิธีกำรที่หน่วยงำนผู้รับผิดชอบกำหนด โดยประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ
สผูำนั
้ผ ลิกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต ผู้น ำเข้ำ ผู้ ส่ งออก หรื
กำ อผู้ มีไว้ในครอบครองซึ ่งวัตถุอันตรำยชนิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำด ที่ ๒ ต้ อง
ปฏิบัติตำมประกำศของรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบที่ออกตำมมำตรำ ๒๐ (๑) (๑/๑) (๒) และ (๓) ด้วย
ส๒๓ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๐/๓ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
๒๔
มำตรำ ๒๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑
๒๕ กำ ๒๒ แก้ไขเพิ่มสเติ
มำตรำ ำนัมกโดยพระรำชบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.
ญญัติวัตถุอันตรำย สำนั๒๕๕๑
- ๑๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๓ ภำยใต้บังคับบทบัญญัติมำตรำ ๓๖ ห้ำมมิให้ผู้ใดผลิต นำเข้ำ ส่งออก

สำนักหรื อมีไว้ในครอบครองซึก่งำวัตถุอันตรำยชนิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัดกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ ๓ เว้นแต่จะได้รับอนุญกำำตจำกพนักงำนเจ้ สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หน้ำที่ กำ
กำรขออนุญำตและกำรอนุญ ำต ให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรที่กำหนดใน
กฎกระทรวง โดยในกฎกระทรวงดั
ส งกล่ำวให้กกำหนดกรณี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ที่พสึงำนั
อนุกญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำตได้และกรณีที่จะอนุกำญำตไม่ได้ไว้
ให้ชัดเจนเท่ำที่จะกระทำได้ เว้นแต่กรณีจำเป็นที่ไม่อำจคำดหมำยได้ล่วงหน้ำและให้กำหนดระยะเวลำ
สำหรับกำรพิจำรณำอนุญำตให้ชัดเจนด้วย
สผูำนั
้ผ ลิกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต ผู้น ำเข้ำ ผู้ ส่ งออก หรื กำ อผู้ มีไว้ในครอบครองซึ ่งวัตถุอันตรำยชนิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำด ที่ ๓ ต้ อ ง
ปฏิบัติตำมประกำศของรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบที่ออกตำมมำตรำ ๒๐ (๑) (๑/๑) (๒) และ (๓) นั้นด้วย๒๖
มำตรำ ๒๔ เมื่อได้มีประกำศระบุชื่อวัตถุใดเป็นวัตถุอันตรำยชนิดที่ ๓ ให้ผู้ ผลิ ต
ผู้นำเข้ำ ผู้ส่งออกสำนั
หรืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้มีไว้ในครอบครองซึ่งกวัำตถุอันตรำยดัสงำนั
กล่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วยื่นคำขอรับใบอนุญำตตำมมำตรำ
กำ
๒๓ ภำยในเวลำที่กำหนดในประกำศดังกล่ ำว และในระหว่ำงระยะเวลำดังกล่ำวให้ ผู้นั้นประกอบ
สำนักกิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จกำรไปพลำงก่อนได้จกนกว่ ำ ำพนักงำนเจ้
สำนัำหน้ ำที่จะสั่งไม่อนุญำตตำมค
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำขอนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๕ ใบอนุ ญ ำตที่ อ อกไปแล้ ว นั้ นสำนัถ้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ต่ อ มำกฎหมำยหรื อ พฤติ กำ
ก ำรณ์ ได้
สำนักเปลี ่ยนแปลงไปหรือมีเกหตุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ สำคัญ เพื่ อคุส้ มำนัครองควำมปลอดภั ย ให้กพำนักงำนเจ้ำหน้สำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำทีก่ผงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ู้ มีอำนำจออก กำ
ใบอนุญำตมีอำนำจสั่งแก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไขในกำรอนุญำตได้ตำมควำมจำเป็น
มำตรำ ๒๖ ใบอนุ ญ ำตซึ่งออกตำมพระรำชบั ญ ญั ติ นี้ ให้ ใช้ ได้ ต ำมระยะเวลำที่
สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดไว้ในใบอนุญำต กแต่
ำ มิให้กำหนดเกิ
สำนันกสำมปี นับแต่วันออกใบอนุกำญำต
สมำตรำ ๒๗ ผู้ได้รับใบอนุญกำตถ้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำประสงค์สจำนัะขอต่ ออำยุใบอนุญำตจะต้กำองยื่นคำขอ
เสียก่อนใบอนุญำตสิ้นอำยุ เมื่อได้ยื่นคำขอดังกล่ำวแล้วให้ถือว่ำมีฐำนะเสมือนผู้ได้รับอนุญำตและให้
สำนักประกอบกิ จกำรต่อไปได้กจำนกว่ำพนักงำนเจ้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หน้ำที่จะสั่งไม่ต่ออำยุใบอนุ
กำ ญำตนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรขอต่ออำยุใบอนุ ญำตและกำรต่ออำยุ ใบอนุญำต ให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์และ
วิธีกำรที่กำหนดในกฎกระทรวง
มำตรำ ๒๘ ในกรณีพ นัก งำนเจ้ำ หน้ำ ที ่ไ ม่อ อกใบอนุญ ำตหรือ ไม่ต ่อ อำยุ
ใบอนุญ ำต ผู้ข ออนุ
สำนัญ ำตหรือผู้ขอต่ออำยุใบอนุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญ ำตมีสิ ทธิสอำนัุทกธรณ์ ต่อรัฐมนตรีผู้รับผิกดำชอบภำยใน
สำมสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือจำกพนักงำนเจ้ำหน้ำที่แจ้งกำรไม่อนุญำตหรือไม่ต่ออำยุใบอนุญำต
สำนักคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำวินิจฉัยของรัฐมนตรีผกู้รำับผิดชอบให้เสป็ำนั
นทีก่สงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ุด กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำตรำ ๒๙ ถ้ำพนักงำนเจ้ำกหน้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำที่ไม่ต่ออำยุ ใบอนุ
สำนั ญำตหรือรัฐมนตรีผู้รกับำผิดชอบได้มี
คำวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์กำรต่ออำยุใบอนุญำต ผู้ขอต่ออำยุใบอนุญำตจะขำยวัตถุอันตรำยที่มีอยู่ ใน
สำนักครอบครองได้ ภำยในกำหนดสำมเดื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อนนั
สำนับกแต่ วันทรำบคำสั่งไม่ต่ออำยุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ใบอนุญำตหรื
สำนัอกทรำบค ำสั่งของ
รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบให้ ยกอุทธรณ์ แล้วแต่กรณี หำกพ้นกำหนดเวลำดั
งกล่ำวแล้วให้นำมำตรำ ๕๒
๒๖
มำตรำ ๒๓ วรรคสำม แก้ไขเพิ่ม เติม โดยพระรำชบัญ ญัติวัตถุอัน ตรำย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.
สำนัก๒๕๕๑
- ๑๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
วรรคสอง วรรคสำมและวรรคสี่ มำใช้บังคับโดยอนุโลม

มำตรำ ๓๐ ถ้ำใบอนุญำตหรือใบสำคัญกำรขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรำยสูญหำย ลบเลือน
หรือชำรุดในสำระส
สำนัำคักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญ ให้ผู้ได้รับอนุญำตยื่นกคำ ำขอรับใบแทนใบอนุ ญำตหรือใบแทนใบสกำำคัญกำรขึ้น
ทะเบียนวัตถุอันตรำยต่อพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ภำยในสิบห้ำวันนับแต่วัน ที่ได้ทรำบกำรสูญหำย ลบเลือน
หรือชำรุด
มำตรำ ๓๑ ผู้ได้รับใบอนุญำตซึ่งมีอำยุใช้ได้เกินสำมเดือนต้องแสดงใบอนุญำตหรือ
สำนักใบแทนไว้ ในที่เปิดเผยและเห็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นได้ง่ำย ณสำนั
สถำนที ่ทำกำรที่ระบุไว้ในใบอนุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญำตนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำตรำ ๓๒ เมื่อ ปรำกฏต่กอำ พนัก งำนเจ้สำำนั

ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หน้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำ ที่ว่ำ ผู ้ได้รับ ใบอนุญ ำตผู
กำ ้ใ ดฝ่ ำ ฝืน
หรือ ไม่ป ฏิบ ัติต ำมพระรำชบั ญ ญั ติ นี้ พนั ก งำนเจ้ ำหน้ ำที่ มี อ ำนำจพิ จำรณำสั่ งพั ก ใช้ ใบอนุ ญ ำตมี
ำหนดเวลำตำมที่เห็นสมควร
กำ แต่ต้ องไม่
สำนัเกกิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นหนึ่งปี และถ้ำเป็นกรณี
กำ สำคัญจะสั่งสเพิำนักกถอนใบอนุ ญำต
เสียก็ได้
มำตรำกำ๓๓ ผู้ถูกสั่งพัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กใช้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือเพิกถอนใบอนุญำตตำมมำตรำ
กำ ๓๒
สำนัมีกสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิทธิอุทธรณ์ต่อ กำ
รั ฐ มนตรี ผู้ รั บ ผิ ด ชอบภำยในก ำหนดสำมสิ บ วั น นั บ แต่ วั น ทรำบค ำสั่ ง ค ำวิ นิ จ ฉั ย ของรั ฐ มนตรี
ผู้รับผิดชอบให้เป็สนำนั ที่สกุดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรอุท ธรณ์ต ำมวรรคหนึ่งย่อ มไม่เ ป็น กำรทุเ ลำกำรบัง คับ ตำมคำสั่งพัก ใช้ห รือ
สำนักเพิ กถอนใบอนุญำต กำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำตรำ ๓๔ ผู้ถูกสั่งเพิกถอนใบอนุ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญำตตำมมำตรำ ๓๒ จะขำยวัตถุอกันำตรำยที่มีอยู่
ในครอบครองได้ภำยในกำหนดสำมเดือนนับแต่วันทรำบคำสั่งเพิกถอนใบอนุญำตหรือทรำบคำสั่งของ
ฐมนตรีผู้รับผิดชอบให้กยำกอุทธรณ์ แล้สวำนัแต่กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก รณี หำกพ้นกำหนดเวลำดั
กำ งกล่ำวแล้สำนั
วให้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นำมำตรำ ๕๒ กำ
วรรคสอง วรรคสำมและวรรคสี่ มำใช้บังคับโดยอนุโลม
มำตรำกำ๓๕ ผู้ ถูกสั่ งสเพิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักกถอนใบอนุ ญ ำตจะขออนุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญ ำตใหม่ อีกสไม่
ำนัไกด้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จนกว่ำจะพ้ น กำ
กำหนดห้ำปีนับแต่วันที่ถูกเพิกถอนใบอนุญำต
มำตรำ ๓๖ ให้ รั ฐ มนตรี ว่ ำ กำรกระทรวงอุ ต สำหกรรมโดยควำมเห็ น ของ
สำนักคณะกรรมกำรประกำศในรำชกิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ จจำนุเสบกษำก ำหนดรำยชื่อของวัตกถุำอันตรำยที่กระบวนกำรผลิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ตและ
ลักษณะที่อำจก่อให้เกิดอันตรำยเป็นที่ทรำบกันแน่ชัดโดยทั่วไป
สกำรผลิ ต หรือกำรนำเข้ำ ซึก่ งวัำ ตถุอันตรำยชนิ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัดกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ ๒ หรือชนิดที่ ๓ ที่อกยูำ่นอกรำยชื่อ
ของประกำศตำมวรรคหนึ่ ง จะต้องน ำมำขอขึ้น ทะเบียนต่อพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ก่อนและเมื่อได้รับ
สำนักใบส ำคัญ กำรขึ้นทะเบี ยกนแล้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ว ให้ ผ ลิตสหรื
ำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นำเข้ำตำมมำตรำ ๒๒กำหรือออกใบอนุ สำนัญกำตให้ ผลิ ตหรือ
นำเข้ำตำมมำตรำสำนั๒๓ ได้ ทั้งนี้ เว้นแต่จะมีประกำศของรัสฐำนัมนตรี
ผู้รับผิดชอบยกเว้นให้ ไม่ต้องขึ้น
ทะเบี ยนอีกถ้ำมีผู้ขึ้น ทะเบี ยนวัตถุ อัน ตรำยอย่ำงเดียวกันนั้นไว้แล้ วหรือในกรณี อื่นที่มีเหตุอันควร
- ๑๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ใบสำคัญกำรขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรำยให้มีอำยุไม่เกินหกปีนับแต่วันที่ออกใบสำคัญกำรขึ้นทะเบียน๒๗
กำรขอขึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นทะเบียนวัตสถุำนัอกันงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตรำย กำรออกใบสำคัญกำกำรขึ้นทะเบียสนวั
ำนักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถุอันตรำยและ กำ
กำรต่ออำยุ ใบส ำคัญ กำรขึ้นทะเบี ยนวัตถุอันตรำย ให้ เป็นไปตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรที่รัฐมนตรี
ผู้รับผิดชอบโดยควำมเห็ นของคณะกรรมกำรกกำหนดโดยประกำศในรำชกิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ จจำนุเบกษำ๒๘กำ

มำตรำ ๓๗ ในกรณีที่กำรขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรำยจำเป็นต้องผลิตหรือนำเข้ำมำซึ่ง
ตัวอย่ำงวัตถุอันตรำยที ่จะขอขึ้นทะเบียนหรือกต้ำองนำเข้ ำมำซึส่งำนัวัตกถุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อันตรำยอย่ำงอื่นเพื่อกใช้ำในกำรผลิต
วัตถุอันตรำยที่จะขอขึ้นทะเบียน และวัตถุอันตรำยนั้นมีกฎหมำยบังคับให้กำรผลิตหรือกำรนำเข้ำต้อง
สำนักได้ รับอนุญำตหรือต้องขึก้นำ ทะเบียนเสียสก่ำนัอกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ผู้ขอขึ้นทะเบียนอำจขออนุ กำ ญำตพนัสกำนั งำนเจ้ ำหน้ำที่เพื่อ
ผลิ ตหรือน ำเข้ำซึ่งวัตถุอัน ตรำยนั้ น ได้ ตำมพระรำชบั ญ ญั ตินี้ โดยให้ ได้รับ ยกเว้น ไม่ต้องปฏิ บัติตำม
ขั้นตอนและวิธีกำรทีสำนั่กกำหนดไว้ ในกฎหมำยว่ำด้กวำยกำรนั้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรผลิตหรือกำรน ำเข้ำมำตำมวรรคหนึ่งต้องเป็นไปตำมหลักเกณฑ์และวิธี กำรที่
ฐมนตรีผู้รับผิดชอบโดยควำมเห็
กำ นของคณะกรรมกำรก ำหนดโดยประกำศในรำชกิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จสำนั
จำนุกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เบกษำ กำ
มำตรำ ๓๘ ห้ ำ มมิ ใ ห้ พ นั ก งำนเจ้ ำ หน้สำนั ำ ทีก่ รงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ั บ ขึ้ น ทะเบี ย นวั ต ถุ อกั นำ ตรำยเมื่ อ
สำนักคณะกรรมกำรเห็ นว่ำ กำ
(๑) วัตถุอันตรำยที่ขอขึ้นทะเบียนไม่เ ป็นที่เชื่อถือได้ว่ำมีคุณประโยชน์ตำมที่ขอขึ้น
ทะเบียนไว้ หรือหำกน ำมำใช้แล้วอำจเกิดอันตรำยแก่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บุคคล สสัำนั
ตว์กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
พืช ทรัพย์ หรือสิ่งแวดล้กำอม โดยไม่มี
วิธีปกติตำมควรที่จะป้องกันได้
(๒) วัตกำถุอันตรำยที่ขสอขึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนั้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทะเบียนใช้ชื่อในทำนองโอ้ กำ อวด ไม่สุภสำพ ำนักหรื ออำจทำให้
เข้ำใจผิดจำกควำมเป็นจริง หรือ
ส(๓)
ตถุอันตรำยที่ขอขึ้นทะเบีกำ ยนเป็ นวัตถุสำนั
อันกตรำยปลอม หรือเป็นวักตำถุอันตรำยที่
พนักงำนเจ้ำหน้ำที่สั่งเพิกถอนทะเบียนแล้ว
คำสั่งไม่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรับขึ้นทะเบียสนของพนั กงำนเจ้ำหน้ำที่ให้เกป็ำนที่สุด
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๓๙ เพื่อประโยชน์ในกำรคุ้มครองบุคคล สัตว์ พืช ทรัพย์ หรือสิ่ งแวดล้อม
สำนักให้ พนักงำนเจ้ำหน้ำที่โดยค
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำแนะนำของคณะกรรมกำรมี อำนำจสั่งกแก้ำ ไขรำยกำรทะเบี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นวัตถุอันตรำย กำ
ได้ตำมควำมจำเป็น
มำตรำ ๔๐ วัตถุอันตรำยใดที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว ต่อมำปรำกฏว่ำไม่มีประโยชน์
สำนักตำมที ่ขึ้นทะเบียนไว้ หรืกอำหำกนำมำใช้แสล้ำนัวกอำจเกิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดอันตรำยแก่บุคคล
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สัตว์ พืช ทรัสพำนั
ย์ กหรืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อสิ่งแวดล้อม กำ
โดยไม่มีวิธีปกติตำมควรที่ จะป้ องกัน ได้ ให้ พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ โดยคำแนะนำของคณะกรรมกำรมี
อำนำจเพิกถอนทะเบี สำนักยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นวัตถุอันตรำยนั้นได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คำสั่งเพิกถอนทะเบียนของพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ให้เป็นที่สุด
๒๗
มำตรำ ๓๖ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระรำชบัญ ญัติวัต ถุอัน ตรำย (ฉบับ ที่ ๓) พ.ศ.
๒๕๕๑
๒๘
มำตรำ ๓๖ วรรคสำม แก้ไ ขเพิ่ม เติม โดยพระรำชบัญ ญัติวัตถุอัน ตรำย (ฉบั บที่ ๓) พ.ศ.
สำนัก๒๕๕๑
- ๑๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เมื่อมีกำรเพิกถอนทะเบียนวัตถุอันตรำยใดแล้ว สิทธิในกำรผลิต นำเข้ำ ส่งออก หรือ

สำนักมีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุกำอันตรำยนั้นเป็สนำนัอักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระงับไป กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำตรำ ๔๑ เจ้ ำของวัตถุอกันำ ตรำยที่ ถูกเพิสำนั

ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กถอนทะเบี ยนต้องจัดกำรท
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำลำยหรื อ
ดำเนิ น กำรกับ วัตถุ อัน ตรำยของตนตำมที่ พ นัก งำนเจ้ำหน้ ำที่ มี ค ำสั่ งภำยในระยะเวลำที่ พ นั กงำน
เจ้ำหน้ำที่กำหนด และให้นำมำตรำ ๕๒ วรรคสอง วรรคสำมและวรรคสี่ มำใช้บังคับโดยอนุโลม
มำตรำ ๔๒๒๙ (ยกเลิก)
มำตรำ ๔๓๓๐ ห้ำมผู้ใดผลิต นำเข้ำ หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรำยชนิดที่ ๔
เว้นแต่ได้รับอนุญสำตเป็ นหนังสือจำกหน่วยงำนผู
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้รับผิดชอบเฉพำะกรณี เพื่อใช้เป็นสำรมำตรฐำนในกำร
วิเครำะห์ ท ำงห้ อ งปฏิ บั ติ กำร กำรขออนุ ญ ำต กำรอนุ ญ ำต ให้ เป็น ไปตำมหลั ก เกณฑ์ วิธีก ำรและ
สำนักเงืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่อนไขที่รัฐ มนตรีผู้ รั บกผิำดชอบกำหนดโดยควำมเห็ น ของคณะกรรมกำรโดยประกำศในรำชกิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จจำ
นุเบกษำ
เมื่อรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงอุตสำหกรรมได้ ประกำศระบุวัตถุใดเป็นวัตถุอันตรำย
สำนักชนิ ดที่ ๔ ให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำ หรือผู้มีไว้ใสนครอบครองปฏิ บัติตำมคำสัก่งำของพนักงำนเจ้
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำหน้
สำนั ำที่ และให้นำ
มำตรำ ๔๑ มำใช้บังคับโดยอนุโลม
มำตรำ ๔๔ ๓๑ ในกรณี มีควำมจำเป็ น ให้ รัฐ มนตรีผู้ รับ ผิ ด ชอบโดยควำมเห็ น ของ
สำนักคณะกรรมกำรมี อ ำนำจประกำศให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สวำนั
ั ต ถุกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ั น ตรำยดั ง ต่ อ ไปนี้ ได้กรำั บ กำรยกเว้ นสไม่ำนัตก้ องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งปฏิ บั ติ ต ำม กำ
พระรำชบั ญ ญั ตินี้ ทั้ งหมดหรื อแต่บ ำงส่ ว น ทั้ งนี้ ให้ เป็ นไปตำมหลั กเกณฑ์ วิธีกำร และเงื่อนไขที่
ประกำศกำหนด สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) วัตถุอัน ตรำยซึ่งโดยลักษณะหรือปริมำณอำจก่อให้เกิดอันตรำยน้อยหรือซึ่ง
สำนักกำรบั งคับตำมมำตรกำรต่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำง ๆ ตำมพระรำชบั ญญัตินี้จะก่อให้เกิดภำระเกิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นควำมสมควร สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) วัตถุอันตรำยซึ่งมีวัตถุประสงค์นำมำใช้เพื่อประโยชน์ในกำรศึกษำ กำรทดสอบ
กำรวิเครำะห์ กำรวิจัย และกำรพัฒนำ
(๓) วักตำถุ อั น ตรำยของกระทรวง
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ทบวง กรม รำชกำรส่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ว นท้สอำนั
งถิก่ นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รั ฐ วิ ส ำหกิ จ กำ
องค์กำรของรัฐ สภำกำชำดไทย หรือหน่วยงำนอื่นตำมที่จะเห็นสมควรกำหนด
มำตรำ ๔๕ ห้ ำ มมิ ให้ ผู้ ใดผลิ ต น ำเข้ ำ ส่ ง ออก หรื อ มี ไว้ ในครอบครองซึ่ ง วั ต ถุ
นตรำยชนิดที่ ๑ วัตถุอกันำ ตรำยชนิดที่ ส๒ำนัหรื อวัตถุอันตรำยชนิดที่ ๓กำดังต่อไปนี้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) วัตถุอันตรำยปลอม
ส(๒)
ตถุอันตรำยผิดมำตรฐำน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) วัตถุอันตรำยเสื่อมคุณภำพ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี(๔) วัตกถุำ อันตรำยที่ต้อสงขึ
ำนั้นกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทะเบียนแต่มิได้ขึ้นทะเบีกำยนไว้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส๒๙ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๔๒ ยกเลิกโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอั นตรำย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑
๓๐
มำตรำ ๔๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑
๓๑ กำ ๔๔ แก้ไขเพิ่มสเติ
ญญัติวัตถุอันกตรำย
ำ (ฉบับที่ ๔)สพ.ศ.
๒๕๖๒ กำ
- ๑๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) วัตถุอันตรำยที่ถูกสั่งเพิกถอนทะเบียน
กำรมีกไว้ำในครอบครองตำมวรรคหนึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ งไม่หมำยควำมรวมถึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งกำรครอบครองขณะจะ
ทำลำย หรือกำรส่ งมอบแก่พ นั กงำนเจ้ ำหน้ำที่ หรือกำรครอบครองเพื่อกำรอย่ำงอื่นตำมหน้ำที่ ที่
กำหนดในกฎหมำย สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๔๖ ผู้ใดรู้ว่ำวัตถุอันตรำยในควำมครอบครองของตนเป็นวัตถุอันตรำยตำม
มำตรำ ๔๕ ผู้นั้นสต้ำนั
องท ำลำย ต้องแจ้งต่อพนักกงำนเจ้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำหน้ำที่สหรื
ต้องส่งมอบให้แก่พนักงำนเจ้
กำ ำหน้ำที่
ตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรที่กำหนดในประกำศที่ออกตำมมำตรำ ๒๐ (๑)
มำตรำ ๔๗ วัตถุอันตรำยหรือสิ่งดังต่อไปนี้ ให้ถือว่ำเป็นวัตถุอันตรำยปลอม
ส(๑)
ำนักสิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่งที่ทำเทียมวัตถุอันตรำยแท้
กำ ทั้งหมดหรืสอำนัแต่ บำงส่วน
(๒) วัตถุอัน ตรำยที่แสดงชื่อว่ ำเป็นวัตถุอันตรำยอื่น หรือแสดงกำหนดเวลำที่วัตถุ
นตรำยหมดอำยุกำรใช้กเำกินควำมเป็นจริ ง กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนั สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) วัตถุอันตรำยที่แสดงชื่อหรือเครื่องหมำยของผู้ผลิตหรือที่ตั้งของสถำนที่ผลิตซึ่ง
มิใช่ควำมจริง
(๔) วัตกถุำ อันตรำยที่แสดงว่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นวัตถุอันตรำยที่ขึ้นกทะเบี
ำ ยนไว้ซึ่งมิสใช่ำนัคกวำมจริ ง
(๕)วัตถุอันตรำยที่ผลิตขึ้นโดยมีสำรสำคัญน้อยหรือมำกกว่ำเกณฑ์ค่ำคลำดเคลื่อน
ตำมมำตรำ ๒๐ ส(๓) ำนักในระดั บ ที่รัฐมนตรีผู้รับกผิำ ดชอบโดยควำมเห็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นของคณะกรรมกำรก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำำหนด โดย
ประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ
มำตรำ ๔๘ วัตถุอันตรำยดังต่อไปนี้ ให้ถือว่ำเป็นวัตถุอันตรำยผิดมำตรฐำน
ส(๑)
ตถุอันตรำยที่ผลิตขึ้นโดยมีกำ สำรสำคัญสน้ำนัอกยหรื อมำกกว่ำเกณฑ์ค่ำกคลำดเคลื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่ อน
ตำมมำตรำ ๒๐ (๓) แต่ไม่ถึงระดับที่กำหนดตำมมำตรำ ๔๗ (๕)
(๒) วักตำถุ อั น ตรำยทีส่ ผำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ลิ ตกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ขึ้ น โดยมี ค วำมบริ สุ ทกธิำ์ สิ่ งเจื อ ปน หรื
สำนัอกลังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ก ษณะอื่ น ที่ มี กำ
ควำมสำคัญต่อคุณสมบัติของวัตถุอันตรำยผิดไปจำกเกณฑ์ที่กำหนดหรือที่ขึ้นทะเบียนไว้
มำตรำกำ๔๙ วัตถุอันตรำยดั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งต่อไปนี้ ให้ถือว่ำเป็นกวัำตถุอันตรำยเสืส่อำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มคุกณงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ภำพ กำ
(๑) วัตถุอันตรำยที่หมดอำยุกำรใช้ตำมที่แสดงไว้ในฉลำก
ส(๒)
ตถุอัน ตรำยที่ แปรสภำพจนมี
กำ ลั กษณะเช่ นเดียวกับวัตถุ อันตรำยปลอมตำม
มำตรำ ๔๗ (๕) หรือวัตถุอันตรำยผิดมำตรฐำน
มำตรำ ๕๐ เมื่ อ คณะกรรมกำรเห็ น ว่ ำ ฉลำกใดไม่ เป็ น ไปตำมมำตรำ ๒๐ (๑)
คณะกรรมกำรมีอำนำจสั ่งให้ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้ำเลิกกำ ใช้ฉลำกดังกล่สำำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ว หรื อดำเนินกำรแก้ไขฉลำกนักำ้นให้ถูกต้อง

- ๑๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๑๓๒ กำรโฆษณำวัตถุอันตรำยจะต้องไม่ใช้ข้อควำมที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้อื่น

สำนักหรื อใช้ข้อควำมที่อำจก่กอำให้เกิดผลเสียสต่ำนัอสักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งคมเป็นส่วนรวม ทั้งนีก้ำไม่ว่ำข้อควำมดั สำนังกกล่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำวนั้นจะเป็น กำ
ข้อควำมที่เกี่ยวกับแหล่งกำเนิด สภำพ คุณภำพ ลักษณะของวัตถุอันตรำย หรือกำรใช้วัตถุอันตรำย
สข้ำนั
อควำมดั งต่อไปนี้ ถือว่ำเป็กนำข้อควำมที่ไม่สเป็ำนันกธรรมต่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อผู้อื่นหรือเป็นข้กอำควำมที่อำจ
ก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม
(๑) ข้อควำมที่เป็นเท็จหรือโอ้อวดเกินควำมจริง
ส(๒)
ำนักข้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อควำมที่จะก่อให้เกิดควำมเข้
กำ ำใจผิดในสำระส ำคัญเกี่ยวกับวัตถุอันกตรำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ไม่ว่ำจะ
กระทำโดยใช้หรืออ้ำงอิงรำยงำนทำงวิชำกำร สถิติ หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งอันไม่เป็นควำมจริงหรือเกินควำมจริง
สำนักหรื อไม่กต็ ำม
(๓) ข้อควำมอย่ำงอื่นตำมที่รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบประกำศกำหนดโดยควำมเห็นของ
คณะกรรมกำร สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๕๑/๑๓๓ กำรโฆษณำจะต้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี องไม่ กระทำด้กำวยวิธีกำรอันอำจเป็
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นอันตรำยต่อ
สุขภำพร่ำงกำย หรือจิตใจ หรือขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชำชน หรืออำจก่อให้เกิดควำมเดือดร้ อน
รำคำญแก่ผู้อื่น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๕๑/๒๓๔ ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นเพื่อป้องกันอันตรำยที่จะเกิดแก่บุคคล สัตว์
พืช ทรัพย์ หรือสิส่งำนั
แวดล้ อมจำกกำรโฆษณำวักตำถุอันตรำยใด สหน่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยงำนผู้รับผิดชอบโดยควำมเห็
กำ นของ
คณะกรรมกำรมีอำนำจประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีกำร และเงื่อนไขสำหรับ
สำนักวังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตถุอันตรำยนั้นในเรื่องกดัำ งต่อไปนี้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) กำรโฆษณำวั ต ถุ อั น ตรำยที่ ต้ อ งกระท ำไปพร้ อ มกั บ ค ำแนะน ำหรือ ค ำเตื อ น
เกี่ยวกับวิธีใช้หรือสอัำนันตรำย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) จำกัดกำรใช้สื่อโฆษณำสำหรับวัตถุอันตรำย
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๓) ห้กำมกำรโฆษณำวั
ำ สตำนัถุอกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ันตรำย กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๕ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๑/๓ ในกรณีที่หน่วยงำนผู้รับผิดชอบเห็นว่ำกำรโฆษณำใดฝ่ำฝืนมำตรำ ๕๑
สำนักมำตรำ ๕๑/๑ หรือฝ่ำฝืกนำหรือไม่ปฏิบัตสิตำนัำมมำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๕๑/๒ ให้หน่วยงำนผู
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้รับผิดชอบมี
สำนัอกำนำจออกค ำสั่ง
ให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้ำ ผู้มีไว้ในครอบครอง หรือผู้ทำกำรโฆษณำซึ่งวัตถุอันตรำยดำเนินกำร ดังต่อไปนี้
ส(๑)
ำนักให้ แก้ไขข้อควำมหรือวิธกีกำำรในกำรโฆษณำ
(๒) ห้ำมกำรใช้ข้อควำมบำงอย่ำงที่ปรำกฏในกำรโฆษณำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๓) ระงั
กำบกำรโฆษณำหรืสำนัอกห้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำมใช้วิธีกำรนั้นในกำรโฆษณำ
กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ให้โฆษณำเพื่อแก้ไขควำมเข้ำใจผิดของผู้อื่นที่อำจเกิดขึ้น ตำมหลักเกณฑ์ วิธีกำร
และเงื่อนไขที่คณะกรรมกำรก ำหนด

๓๒
มำตรำ ๕๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
ส๓๓ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๑/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
๓๔
มำตรำ ๕๑/๒ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
๓๕ กำ ๕๑/๓ เพิม่ โดยพระรำชบั
ำ บที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
- ๑๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกำรออกคำสั่งตำม (๔) ให้หน่วยงำนผู้รับผิดชอบปฏิบัติ ตำมหลักเกณฑ์ วิธีกำร

สำนักและเงื ่อนไขที่คณะกรรมกำรก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำหนด โดยค ำนึงถึงประโยชน์ของผูก้บำ ริโ ภคประกอบกั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ควำมสุจริตใน กำ
กำรกระทำของผู้ผลิต ผู้นำเข้ำ ผู้มีไว้ในครอบครอง หรือผู้ทำกำรโฆษณำซึ่งวัตถุอันตรำย
มำตรำ ๕๑/๔๓๖ ในกรณีหน่วยงำนผู้รับผิดชอบมีเหตุอันควรสงสัยว่ำ ข้อควำมใดที่
ใช้ ในกำรโฆษณำเป็ น เท็ จ หรื อโอ้ อ วดเกิ น ควำมจริ งตำมมำตรำ ๕๑ วรรคสอง (๑) ให้ ห น่ ว ยงำน
ผู้รับผิดชอบมีอำนำจออกค ำสั่งให้ผู้ผลิต ผู้นกำเข้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำ ผู้มีไว้ในครอบครอง หรือ ผู้ทำกำรโฆษณำซึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งวัตถุ
อันตรำยพิสูจน์เพื่อแสดงควำมจริงได้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีในกรณีกำที่ผู้ผลิต ผู้ นำเข้
สำนัำกผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้มีไว้ในครอบครอง หรืกอำ ผู้ทำกำรโฆษณำซึ ่งวัตถุอันตรำย
อ้ ำงรำยงำนทำงวิ ช ำกำร ผลกำรวิจั ย สถิ ติ กำรรั บ รองของสถำบั น หรื อ บุ ค คลอื่ น ใด หรื อ ยื น ยั น
ข้อเท็จจริงอันใดอัสำนั
นหนึ ่งในกำรโฆษณำ ถ้ำผู้ผกำลิต ผู้นำเข้ำ ผูส้มำนัีไว้กใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นครอบครอง หรือผู้ทกำกำรโฆษณำ
ำ
ซึ่งวัตถุอัน ตรำยไม่ส ำมำรถพิสูจ น์ได้ว่ำข้อควำมที่ใ ช้ในกำรโฆษณำเป็นควำมจริงตำมที่กล่ำวอ้ำ ง
สำนักให้ หน่วยงำนผู้รับผิดชอบมี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อำนำจออกคสำนั ำสัก่งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตำมมำตรำ ๕๑/๓ ได้ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๑/๕ ผู้ผ ลิต ผู้ นำเข้ำ ผู้มีไว้สใำนั
๓๗ กำ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
นครอบครอง หรือ ผู้ทำกำรโฆษณำซึ่ง
ต ถุอัน ตรำยผู้ใดสงสัยกว่ำำกำรโฆษณำของตนจะเป็ นกำรฝ่ำฝืนหรืกำอไม่เป็นไปตำมพระรำชบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญญัตินี้
อำจขอให้ ห น่ ว ยงำนผู้ รั บ ผิ ด ชอบพิ จ ำรณำให้ ค วำมเห็ น ในเรื่อ งนั้ น ก่ อ นท ำกำรโฆษณำได้ ทั้ ง นี้
หน่ว ยงำนผู ้รับ ผิสดำนัชอบจะต้ อ งให้ค วำมเห็กนำและแจ้ง ให้ผสู ้ขำนัอทรำบภำยในหกสิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บ วันกำนั บ แต่ว ัน ที่
หน่วยงำนผู้รับผิดชอบได้รับคำขอ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรขอควำมเห็
กำ นและค่
สำนัำกป่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วยกำรในกำรให้ควำมเห็ กำ นตำมวรรคหนึ สำนั่งกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้เป็ นไปตำม กำ
หลั ก เกณฑ์ วิ ธี ก ำร และเงื่ อ นไขที่ รั ฐ มนตรี ผู้ รั บ ผิ ด ชอบประกำศก ำหนดโดยควำมเห็ น ของ
คณะกรรมกำร ค่สำป่ำนัวกยกำรที ่ได้รับให้นำส่งคลักงเป็
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ นรำยได้แผ่นสำนั
ดินกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรให้ควำมเห็นของหน่วยงำนผู้รับผิดชอบตำมวรรคหนึ่ง ไม่ถือว่ำเป็นกำรตัดอำนำจ
สำนักของหน่ วยงำนผู้รับผิดชอบที
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่จะพิจำรณำวิสำนันกิจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ฉัยใหม่เป็นอย่ำงอื่นเมืก่อำมีเหตุอันสมควรสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรใดที่ได้กระทำไปตำมควำมเห็นของหน่วยงำนผู้รับผิดชอบตำมวรรคหนึ่งและ
วรรคสำม ถ้ำได้กระทำโดยสุจริตมิให้ถือว่ำกำรกระทำนั้นเป็นควำมผิดทำงอำญำ
มำตรำ ๕๑/๖๓๘ ในกรณีผู้ที่ได้รับคำสั่งของหน่วยงำนผู้รับผิดชอบตำมมำตรำ ๕๑/๓
หรือมำตรำ ๕๑/๔สำนัไม่กเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่กำำว ให้มีสิทธิอุทสธรณ์ เป็นหนังสือต่อรัฐมนตรีกำผู้รับผิดชอบ
ภำยในสำมสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
คำวินกิจำฉัยของรัฐมนตรี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัให้กเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ป็นที่สุด กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรอุทธรณ์ ตำมวรรคหนึ่ งไม่เป็ นเหตุให้ ทุเลำกำรบังคับตำมคำสั่งของหน่วยงำน
ผู้รับผิดชอบ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส๓๖ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๑/๔ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
๓๗
มำตรำ ๕๑/๕ เพิม่ โดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
๓๘ กำ ๕๑/๖ เพิ่มโดยพระรำชบั
ำ บที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
- ๑๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๑/๗๓๙ กำรพิจำรณำอุทธรณ์ตำมมำตรำ ๕๑/๖ ให้รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบ

สำนักพิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำรณำอุทธรณ์ ให้ แล้กวำเสร็จ ภำยในเก้
สำนัำสิกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บวันนับแต่วันที่ได้รับ กคำำอุท ธรณ์ ถ้ำมีสำนั
เหตุกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จำเป็น ไม่อำจ กำ
พิจำรณำให้แล้วเสร็จภำยในระยะเวลำดังกล่ ำว ให้มีหนังสือแจ้งให้ผู้อุทธรณ์ทรำบก่อนครบกำหนด
ระยะเวลำนั้น ในกำรนี ้ ให้ขยำยระยะเวลำพิกจำำรณำอุทธรณ์สอำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อกไปได้ ไม่เกินเก้ำสิบวันนับกำแต่วันที่ครบ
กำหนดระยะเวลำดังกล่ำว
สมำตรำ ๕๒ เมื่อปรำกฏต่อพนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กงำนเจ้ำหน้สำำนัทีก่วงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ำผู้ผลิต ผู้ นำเข้ำ ผู้ส่งออก
กำ ผู้นำผ่ำน
ผู้นำกลับเข้ำมำ ผู้ส่งกลับออกไป หรือผู้มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรำยผู้ ใดฝ่ำฝืนหรือไม่ปฏิบัติตำม
สำนักพระรำชบั ญ ญัตินี้ ให้พกนัำ ก งำนเจ้ำ หน้สำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำทีก่มงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี อำนำจสั่ง ให้ผู้นั้น ระงักำบ กำรกระทำทีสำนั ่ฝ่ำกฝืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น หรือ แก้ไ ข กำ
หรือปรับปรุง หรือปฏิบัติให้ถูกต้องได้ ในกำรนี้ หำกเป็นกรณีมีเหตุอันสมควร พนักงำนเจ้ำหน้ำที่
จะสั่งให้ ผู้นั้น ส่งออกไปซึ ่ง วัตถุอัน ตรำยนั้นกเพืำ ่ อ คืน ให้แ ก่ผสู้ ผำนัลิกตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี หรือ ผู้จัดส่งวัตถุอันตรำยนักำ ้น หรือ
เพื ่อ กำรอื่ น ตำมควำมเหมำะสมก็ได้ โดยปฏิ บั ติ ตำมหลั ก เกณฑ์ วิธีกำร และเงื่ อ นไขที่ ห น่ ว ยงำน
้รับผิดชอบกำหนดโดยควำมเห็ กำ นของคณะกรรมกำร ๔๐
เมื่อมีกรณีตำมวรรคหนึ่ง ถ้ำปรำกฏว่ำผู้ผลิต ผู้ นำเข้ำ ผู้ส่งออก ผู้นำผ่ำน ผู้นำกลับ
เข้ำมำ ผู้ส่งกลับออกไป หรือผู้มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรำยดั งกล่ำวไม่สำมำรถปฏิบัติให้ถูกต้องได้
สำนักไม่ ว่ำเพรำะไม่มีควำมสำมำรถหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อเพรำะเหตุ อื่นใด ให้พนั กงำนเจ้ำกหน้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำที่มีอำนำจสั ่งให้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนั บุคคลดังกล่ำว กำ
ส่งมอบวัตถุอันตรำยนั้นแก่พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ ณ สถำนที่ที่กำหนด เพื่อทำลำยหรือจัดกำรตำมควรแก่กรณี
โดยคำนึงถึงอันตรำยที ่อำจเกิดขึ้นจำกวัตถุอันกตรำยดั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งกล่ำวด้สวำนั ย๔๑กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณี ที่ วัต ถุ อัน ตรำยนั้ น อำจจ ำหน่ ำยได้ ให้ พ นั ก งำนเจ้ำหน้ ำที่ ด ำเนิ น กำรขำย
สำนักทอดตลำดหรื อขำยให้แกก่ำหน่วยงำนของรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัฐกภำยในสำมเดื อนนับแต่กวำันได้รับมอบ สเงิำนันกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ขำยได้เมื่อหั ก กำ
ค่ำใช้จ่ำยในกำรเก็บรักษำ กำรจำหน่ำย และค่ำภำระที่เกี่ยวข้องแล้วให้เก็บไว้เพื่อคืนแก่เจ้ำของ แต่ถ้ำ
พ้นกำหนดสำมเดืสอำนันดักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งกล่ำวแล้วยังจำหน่ำยไม่ กำได้หำกพนักงำนเจ้ ำหน้ำที่เห็นว่ำกำรผ่อนเวลำต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อไปจะ
เป็นอันตรำยหรือภำระเกินควรก็ให้มีอำนำจสั่งให้ทำลำยหรือจัดกำรตำมควรแก่กรณี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณี กำที่ต้ องทำลำยหรืสำนัอกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
จัดกำรตำมควรแก่กรณีกำหำกมีค่ำใช้จ่ำสยเกิ ำนักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ขึ้นให้เจ้ำของ กำ
วัตถุอันตรำยมีหน้ำที่จ่ำยหรือชดใช้เงินจำนวนนั้นแก่ทำงรำชกำร
มำตรำกำ๕๒/๑ ๔๒
เมื่อสำนั
ปรำกฏต่ อพนักงำนเจ้ำหน้ำกทีำ ่ว่ำผู้ผลิต ผู้นสำเข้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้ส่งออก หรือ กำ
ผู้มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรำย ประกอบกิจกำรอันมีสภำพที่อำจก่อให้เกิดอันตรำย ควำมเสียหำย
หรือควำมเดือดร้สอำนันแก่ บุ คคลหรือทรัพย์สินกทีำ่อยู่ในสถำนประกอบกำรหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อที่อยู่ใกล้เคีกำย งกับสถำน
ประกอบกำร ให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่มีอำนำจสั่งให้ผู้นั้นดำเนินกำรแก้ไขกำรกระทำดังกล่ำว โดยปฏิบัติ
สำนักตำมหลั กเกณฑ์วิธีกำรและเงื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่อนไขที่พนัสกำนั
งำนเจ้ ำหน้ำที่กำหนด กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๙
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีมำตรำ
กำ ๕๑/๗ เพิ่มโดยพระรำชบั ญญัติวัตถุอันตรำย ก(ฉบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๔๐
มำตรำ ๕๒ วรรคหนึ่ ง แก้ ไขเพิ่ ม เติม โดยพระรำชบั ญ ญั ติ วัต ถุ อัน ตรำย (ฉบั บ ที่ ๔) พ.ศ.
๒๕๖๒
ส๔๑ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๒ วรรคสอง แก้ ไขเพิ่ ม เติ ม โดยพระรำชบั ญ ญั ติ วัต ถุ อั น ตรำย (ฉบั บ ที่ ๔) พ.ศ.
๒๕๖๒
๔๒ กำ ๕๒/๑ เพิ่มโดยพระรำชบั
ญญัติวัตถุอันตรำยก(ฉบั
ำ บที่ ๓) พ.ศ.สำนั กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๕๕๑
- ๑๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๕๒/๒๔๓ เมื่อควำมปรำกฏต่อหน่วยงำนผู้รับผิดชอบว่ำวัตถุอันตรำยที่นำเข้ำ

สำนักหรื อนำผ่ำนโดยฝ่ำฝืนหรืกอำ ไม่ปฏิบัติตำมพระรำชบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญญัตินี้ ซึ่งกำรเก็กบำรักษำหรือจำหน่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำกยอำจมี อันตรำย
ต่อ บุค คล สัต ว์ พืช และสิ่ง แวดล้อ ม และไม่ส มควรมีก ำรทำลำยหรือ จั ด กำรในรำชอำณำจัก ร
ให้ ห น่ ว ยงำนผู้ รสั บำนัผิ ดกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ชอบเก็ บ ตั ว อย่ ำ งวั ต ถุกอำั น ตรำยเท่ ำ ทีสำนั
่ จ ำเป็ น เพื่ อ เป็ น พยำนหลักกำฐำนในกำร
ดำเนินคดี และให้หน่วยงำนผู้รับผิดชอบนั้นสั่งให้ผู้นำเข้ำหรือผู้นำผ่ำนส่งวัตถุอันตรำยดังกล่ำวออกไป
นอกรำชอำณำจักรโดยเร่งด่วน
สกำรด ำเนิ น กำรตำมวรรคหนึ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ ง ให้ เป็ น ไปตำมหลั ก เกณฑ์ วิ ธี ก ำร และเงื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ อ นไขที่
หน่วยงำนผู้รับผิดชอบประกำศกำหนดโดยควำมเห็นของคณะกรรมกำร
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณี กำที่กำรดำเนินสกำรตำมวรรคหนึ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี่งมีค่ำใช้จ่ำกยเกิ
ำ ดขึ้ น ให้ผู้นสำนั
ำเข้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือผู้นำผ่ำน กำ
เป็ น ผู้ รั บ ผิ ด ชอบค่ ำใช้ จ่ ำยในกำรด ำเนิ น กำรดั งกล่ ำว ทั้ งนี้ กำรก ำหนดค่ ำใช้ จ่ ำยให้ เป็ น ไปตำม
หลักเกณฑ์ วิธีกำรสำนัและเงื ่อนไขที่หน่วยงำนผู้รกับำผิดชอบประกำศก
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักำหนด
มำตรำกำ๕๓๔๔ (ยกเลิสกำนั) กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๕๔ ในกำรปฏิบัติหน้ำที่ ให้พนักงำนเจ้ ำหน้ำที่มีอำนำจดังต่อไปนี้
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี (๑) เข้กำำไปในสถำนทีส่ปำนัระกอบกำรเกี ่ยวกับวัตถุอกันำ ตรำย สถำนทีสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ผลิกตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วัตถุอันตรำย กำ
สถำนที่เก็บรักษำวัตถุอันตรำย หรือสถำนที่ที่สงสัยว่ำเป็นสถำนที่เช่นว่ำนั้นในระหว่ำงเวลำพระอำทิตย์
ขึ้น ถึงพระอำทิตสย์ำนั
ตกหรื อในเวลำทำกำรของสถำนที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ ดังกล่สำำนัวกหรื อเข้ำไปในพำหนะทีก่บำ รรทุ กวัต ถุ
อันตรำยหรือสงสัยว่ำบรรทุกวัตถุ อันตรำย เพื่อตรวจสอบวัตถุอันตรำย ภำชนะบรรจุวัตถุอันตรำย
สำนักสมุ ดบัญชี เอกสำร หรือกสิำ่งใด ๆ ที่เกี่ยวกั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนับวักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ถุอันตรำย กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) นำวัตถุอันตรำยหรือวัตถุที่สงสัยว่ำเป็นวัตถุอันตรำยในปริมำณพอสมควรไปเป็น
ตัวอย่ำงเพื่อตรวจสอบ
(๓) ตรวจค้น กัก ยึด หรืออำยัดวัตถุอันตรำย ภำชนะบรรจุวัตถุอันตรำย สมุดบัญชี
สำนักเอกสำรหรื อสิ่งใด ๆ ที่เกีก่ยำ วข้อง ในกรณีสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ที่มกีเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หตุสงสัยว่ำมีกำรกระทกำผิำ ดต่อพระรำชบั สำนัญกญังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตินี้ กำ
(๔) มีห นังสือเรียกบุ คคลใดมำให้ ถ้อยคำ หรือให้ส่ งเอกสำรหรือวัตถุใด ๆ มำเพื่อ
ประกอบกำรพิจำรณำได้
มำตรำ ๕๕ วัตถุอันตรำย ภำชนะบรรจุวัตถุอันตรำย สมุดบัญชี เอกสำรและสิ่งของ
ใด ๆ ที่ได้ยึดหรือสอำยั
ำนักดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไว้ตำมมำตรำ ๕๔ (๓)กำถ้ำสิ่งของที่ยึดสหรืำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อำยัดไว้เป็นของเสียง่ำกยำหรือถ้ำกำร
เก็บไว้จะเป็นกำรเสี่ยงต่อควำมเสียหำยหรืออันตรำยที่จะเกิดจำกสิ่งของนั้นหรือค่ำใช้จ่ำยจะเกินส่วน
สำนักกังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บค่ำแห่งสิ่งของนั้น ให้กพำ นักงำนเจ้ำหน้
สำนัำกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่มีอำนำจทำลำยหรือจักดำกำรตำมควรแก่ สำนักกรณี โดยคำนึงถึง
อันตรำยที่อำจเกิดจำกวัตถุอั นตรำยดังกล่ำวด้วย และให้นำมำตรำ ๕๒ วรรคสำมและวรรคสี่ มำใช้
บังคับโดยอนุโลมสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำพนักงำนเจ้ำหน้ำที่พิจำรณำแล้วเห็นว่ำสิ่งของที่ยึดหรืออำยัดไว้มิใช่เป็นทรัพย์ที่ต้อง
สำนักริงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บตำมมำตรำ ๘๘ หรือพนั กำ กงำนอัยกำรสัสำนั
่งเด็กดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ขำดไม่ฟ้องคดี ให้พนักกงำนเจ้
ำ ำหน้ำที่ถสอนกำรอำยั ดหรือคืน
วัตถุอันตรำย ภำชนะบรรจุ วัตถุอันตรำย สมุดบัญชี เอกสำรและสิ
่งนั้น ๆ ให้แก่ผู้ควรได้รับคืนโดยมิชักช้ำ
๔๓
มำตรำ ๕๒/๒ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
๔๔ กำ ๕๓ ยกเลิกโดยพระรำชบั
ญญัติวัตถุอันตรำยก(ฉบั
ำ บที่ ๓) พ.ศ.สำนั กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๕๕๑
- ๑๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่มีกำรคืนสิ่งของที่ยึดหรืออำยัดไว้ หรือเงินที่ขำยได้ ให้แจ้งกำรคืนโดยส่ง

สำนักทำงไปรษณี ย์ลงทะเบียกนตอบรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บไปยังสภูำนัมกิลงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเนำของผู้ควรได้รับคืกนำ แต่ ในกรณีไม่สรำนัู้ตกัวงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้ ควรได้รับคืน กำ
หรือรู้ตัวแต่ไม่รู้ภูมิลำเนำ ถ้ำได้ประกำศในหนังสือพิมพ์หนึ่งฉบับ ที่ได้แพร่หลำยในท้องที่ที่ได้ยึดหรือ
อำยัดสิ่งของนั้น หรืสำนัอกกำรประกำศในหนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีงสือพิกมำ พ์จะไม่คุ้มกับสมูำนัลกค่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำสิ่งของที่จะคืน ถ้ำได้ปกำระกำศไว้ ณ
ที่ทำกำรอำเภอแห่งท้องที่นั้นไม่น้อยกว่ำสิบห้ำวัน ให้ถือว่ำได้มีกำรแจ้งเมื่อครบกำหนดเจ็ดวันนับแต่
วันที่ได้ประกำศในหนังสือพิมพ์ หรือวันที่ครบกำหนดกำรประกำศ ณ ที่ทำกำรอำเภอ แล้วแต่กรณี
สผูำนั
้ขอรั บคืนต้องรับผิดชอบชดใช้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ค่ำภำระต่ำสง ำนัๆ กของรั ฐที่เกิดขึ้นเพรำะกำรประกำศใน
หนังสือพิมพ์พร้อมเงินเพิ่มอีกร้อยละยี่สิบของเงินจำนวนดังกล่ำว
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณีกำที่ไม่สำมำรถจะคื
สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้เพรำะหำตัวผู้ควรได้กรำับคืนไม่พบ ก็สให้ำนัรกักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ษำสิ่งของที่ยึด กำ
ไว้ หรือเงินที่จะคืนให้นั้นไว้ แล้วแต่กรณี หำกภำยในหนึ่งปีนับตั้งแต่ได้แจ้งแก่ผู้ควรได้รับคืนและไม่มีผู้
ควรได้รับคืนมำขอรั สำนับกก็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ให้ตกเป็นของรัฐ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๕๖ ในกำรปฏิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนับกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัติห น้ำที่ พนักงำนเจ้ำกหน้
ำ ำที่ ต้ องแสดงบั
สำนัตกรประจ ำตัวแก่
บุคคลซึ่งเกี่ยวข้อง
บัตรประจำตัวพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ให้เป็นไปตำมแบบที ่รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกำหนด
หมวด ๓
หน้ำที่และควำมรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บผิดทำงแพ่
สำนักงงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๕๗ บทบัญญัติในหมวดนี้ไม่เป็นกำรลบล้ำงหรือจำกัดหน้ำที่และควำมรับผิด
ทำงแพ่งที่บุคคลมีสอำนัยู่ตกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำมบทบัญญัติในหมวดอืก่นำ หรือของบทกฎหมำยอื ่น
มำตรำกำ ๕๘ เพื่อ ประโยชน์

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ใ นกำรกำหนดหน้กำำที่แ ละควำมรัสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บ ผิกดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตำมหมวดนี้ กำ
ให้รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงอุตสำหกรรมมีอำนำจประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำกำหนดวัตถุที่ให้
ถือว่ำเป็นวัตถุอันตรำยตำมควำมในหมวดนี้
มำตรำ ๕๙ ผู้ผลิตวัตถุอันตรำยต้องระมัดระวังในกำรจัดหำวัตถุที่ใช้ในกำรผลิต กำร
กำหนดวิธีกำรและขั
สำนัก้ นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตอนที่ว ำงใจได้ของกำรผลิ
กำ ต กำรจั ดสำนั
ให้กมงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ีภ ำชนะบรรจุที่ มั่น คงแข็
กำ ง แรงและ
ปลอดภัยต่อกำรใช้ กำรเคลื่อนย้ำย และกำรขนส่ง กำรจัดให้มีฉลำกที่แสดงสภำพอันตรำยของสิ่งนั้นที่
สำนักชังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดเจนเพียงพอ ควำมเหมำะสมของกำรเก็
กำ สำนักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รักษำ และกำรตรวจสอบควำมเหมำะสมของผู
กำ ้ที่รับมอบ
วัตถุอันตรำยไปจำกตนหรือผู้ที่อำจคำดหมำยได้ว่ำอำจจะได้รับมอบวัตถุอันตรำยดังกล่ำว
มำตรำ ๖๐ ผู้ น ำเข้ ำ วั ต ถุ อั น ตรำยต้ อ งระมั ด ระวั ง ในกำรเลื อ กหำผู้ ผ ลิ ต กำร
สำนักตรวจสอบคุ ณภำพของวักตำถุอันตรำย กำรตรวจสอบควำมถู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กต้องของภำชนะบรรจุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ แสละฉลำก กำรเลือก
วิธีกำรขนส่งและผูสำนั
้ขนส่ ง ควำมเหมำะสมของกำรเก็บรักษำ และกำรตรวจสอบควำมเหมำะสมของผู
้ที่
รับมอบวัตถุอันตรำยไปจำกตนหรือผู้ที่อำจคำดหมำยได้ว่ำอำจจะได้รับมอบวัตถุอันตรำยดังกล่ำว
- ๒๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๖๑ ผู้ขนส่งต้องระมัดระวังในกำรตรวจสอบควำมถูกต้องของสิ่งที่ใช้ในกำร
สำนักขนส่ งหรือยำนพำหนะและอุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ป กรณ์ ควำมถู กต้องของภำชนะบรรจุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ แ ละฉลำก ควำมเหมำะสมของ
วิธีกำรขนส่ง ควำมถูกต้องของกำรจัดวำงบนยำนพำหนะ และควำมไว้วำงใจได้ของลูกจ้ ำงหรือผู้จัดทำ
กำรงำนให้แก่ตนหรื
สำนัอกร่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วมกับตน กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๖๒ ผู้มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรำยต้องระมัดระวังในกำรตรวจสอบ
ควำมเชื่อถือได้ของผู
สำนั้ผกลิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตหรือผู้นำเข้ำหรือผู้ทกี่จำัดหำวัตถุอันตรำยนั ้นให้แก่ตน ควำมถูกต้อกงของภำชนะ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ
บรรจุและฉลำก ควำมเหมำะสมของกำรเก็บรักษำและควำมไว้วำงใจได้ของผู้ที่รับมอบวัตถุอันตรำยไป
สำนักจำกตนหรื ออำจคำดหมำยได้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ว่ำอำจจะได้สำนัรับกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
มอบวัตถุอันตรำยดังกล่กำำว สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำตรำ ๖๓๔๕ ผู้ผลิต ผู้ นำเข้

ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำ ผู้ขนส่ง ผู้นสำนั
ำผ่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น ผู้นำกลับเข้ำมำ ผู้สก่งำกลับออกไป
หรือผู้มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรำยต้องรับผิดชอบเพื่อกำรเสียหำยอันเกิดแต่ วัตถุอันตรำยที่อยู่ใน
สำนักควำมครอบครองของตน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ เว้ นแต่จะพิสสำนั
ูจน์กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ได้ว่ำควำมเสียหำยนั้ นกเกิำ ดแต่เหตุสุดสวิำนั
สัยกหรื อเกิดเพรำะ
ควำมผิดของผู้ต้องเสียหำยนั้นเอง
มำตรำกำ๖๔ ผู้ขำยหรืสอำนัผูก้สงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่งมอบวัตถุอันตรำยให้กกับำ บุคคลใด ต้อสงรัำนับกผิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดชอบเพื่อกำร กำ
เสียหำยของบุคคลดังกล่ำวอันเกิดแต่วัตถุ อันตรำยนั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่ำควำมเสียหำยนั้นเกิดแต่
เหตุสุดวิสัยหรือเกิสดำนัเพรำะควำมผิ ดของผู้ต้องเสีกำยหำยนั้นเอง สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๖๕ นำยจ้ำงสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ตัวกกำร ผู้ว่ำจ้ำง หรือเจ้ำของกิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จกำรต้องร่สวำนั
มรักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผิดในผลแห่ง กำ
ละเมิดที่บุคคลตำมมำตรำ ๖๓ หรือมำตรำ ๖๔ ได้กระทำไปในกำรทำงำนให้แก่ตน แต่ชอบที่จะได้
ชดใช้จำกบุคคลดัสงำนั
กล่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ว เว้นแต่ตนจะมีส่วนผิกดำในกำรสั่งให้ทสำำนักำรเลื อกหำตัวบุคคล กำรควบคุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ม หรือ
กำรอื่นอันมีผลโดยตรงให้เกิดกำรละเมิดขึ้นนั้น
มำตรำ ๖๖๔๖ ผู้ผลิต ผู้นำเข้ำ ผู้ขำยส่ง ผู้นำผ่ำน ผู้นำกลับเข้ำมำ ผู้ส่งกลับออกไป
ผู้ขำยปลีก คนกลำง และผู้มีส่วนในกำรจำหน่ำยจ่ำยแจกทุกช่วงต่อจำกผู้ผลิตจนถึงผู้ที่รับผิดชอบ
สำนักขณะเกิ ดกำรละเมิดตำมมำตรำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๖๓ หรืสอำนัมำตรำ ๖๔ ต้องร่วมรับผิดกในผลแห่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งกำรละเมิ
ด้วย กำ
สมำตรำ ๖๗ สิทธิเรียกร้องค่กำำเสียหำยอันเกิสำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดแต่ วัตถุอันตรำยตำมพระรำชบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัตินี้
เป็นอันขำดอำยุควำมเมื่อพ้นสำมปีนับแต่วั นที่ผู้ต้องเสียหำยรู้ถึงกำรเสียหำยควำมเป็น วัตถุอันตรำย
สำนักและผู ้พึงต้องใช้ค่ำสินไหมทดแทน
ถ้ำมีกำรเจรจำเกี่ยวกับค่ำสินไหมทดแทนที่พึงจ่ำยระหว่ำงผู้ที่เข้ำใจกันว่ำต้องรับผิด
ใช้ค่ำสินไหมทดแทนและผู ้มีสิทธิได้ค่ำสินไหมทดแทน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ให้อำยุสำนั
ควำมสะดุ ดหยุดอยู่จนกว่ำกจะปรำกฏว่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำ
กำรเจรจำนั้นไม่อำจตกลงกันได้
มำตรำ ๖๘ ผู้ที่ต้องรับผิดตำมมำตรำ ๖๓สมำตรำ
๖๔ มำตรำ ๖๕ หรือมำตรำ ๖๖
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๔๕
มำตรำ ๖๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
๔๖ กำ ๖๖ แก้ไขเพิ่มสเติ
ญญัติวัตถุอันกตรำย
ำ (ฉบับที่ ๔)สพ.ศ.
๒๕๖๒ กำ
- ๒๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ที่ได้ชำระค่ำสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เสียหำยแล้ว ย่อมมีสิทธิไล่เบี้ยเอำกับผู้ที่ส่งมอบวัตถุอันตรำยให้แก่ตน
สำนักหรื อแก่ผู้ซึ่งทำงำนให้แก่กำตน และบรรดำผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั้ทกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี่มีส่วนในกำรส่ งมอบวัตกถุำ อันตรำยดังกล่ สำนัำวในล ำดับต่ำง ๆ
ถัดขึ้นไปคนหนึ่งคนใดหรือหลำยคนก็ได้ไปจนถึงผู้ผลิ ต โดยต้องใช้สิทธิไล่เบี้ยภำยในสำมปีนับแต่วันที่
ตนได้ชำระค่ำสินสไหมทดแทน แต่ถ้ำผู้ใช้สิทธิไกล่ำเบี้ยนั้นเป็นผูส้ทำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ี่จงใจหรื อประมำทเลินเล่อกทำำให้เกิดกำร
ละเมิดขึ้น ผู้นั้นจะมีสิทธิไล่เบี้ยเฉพำะส่วนที่เกินจำกควำมรับผิดโดยเฉพำะของตนเท่ำนั้น
สมำตรำ ๖๙ ในกรณีที่วัตถุอกันำ ตรำยก่อให้เสกิำนั

ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดควำมเสี ยหำยแก่บุคคล สักตำ ว์ พืช หรือ
สิ่งแวดล้อม ถ้ำรัฐได้รับควำมเสียหำยเพรำะต้องเสียค่ำใช้จ่ำยในกำรเข้ำช่วยเหลือ เคลื่อนย้ำย บำบัด
สำนักบรรเทำ หรือขจัดควำมเสี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำยหำยให้เกิดสกำรคื นสู่สภำพเดิมหรือสภำพที
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ใกล้เคี ยงกับสสภำพเดิ ม หรือเป็น
ควำมเสียหำยต่อทรัพย์ ไม่มีเจ้ำของ หรือทรัพยำกรธรรมชำติ หรือเป็นควำมเสียหำยต่อทรัพย์สินของ
แผ่นดิน เมื่อได้รับสำนั
คำร้ องขอจำกหน่วยงำนทีก่ไำด้รับมอบหมำยให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รับผิดชอบวัตถุอันตรำยดั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งกล่ำวให้
พนักงำนอัยกำรมีอำนำจฟ้องเรียกค่ำสินไหมทดแทนเพื่อควำมเสียหำยของรัฐดังกล่ำวได้
มำตรำ ๖๙/๑๔๗ ในกรณีที่วัตถุอันตรำยก่อให้เกิดควำมเสียหำยแก่บุคคล สัตว์ พืช
หรือสิ่ งแวดล้อม และได้มีกำรทำประกันตำมมำตรำ ๒๐ (๑/๑) ให้ ผู้รับประกันภัยจ่ำยค่ำเสี ยหำย
สำนักเบื ้องต้นให้แก่ผู้ได้รับควำมเสี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยหำยจำกวั สำนัตกถุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อันตรำย และให้แก่หกน่ำวยงำนของรัฐสหรื ำนักองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เอกชนที่ได้รับ กำ
มอบหมำยจำกหน่วยงำนของรัฐในกำรเข้ำช่วยเหลือ เคลื่อนย้ำย บำบัด บรรเทำ หรือขจัดควำมเสียหำย
ทีเ่ กิดขึ้น สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
จำนวนค่ำเสียหำยเบื้องต้น กำรเก็บรักษำค่ำเสียหำยเบื้องต้น และกำรจ่ำยค่ำเสียหำย
สำนักเบื ้องต้นตำมวรรคหนึ่ง กให้ำ เป็นไปตำมหลัสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กเกณฑ์ วิธีกำร และเงื่อนไขที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ก่ ำหนดในกฎกระทรวง
ค่ำเสียหำยเบื้องต้นที่หน่วยงำนของรัฐได้รับจำกผู้รับประกันภัยในกำรที่หน่วยงำน
ของรัฐเข้ำช่วยเหลืสำนั อ เคลื ่อนย้ำย บำบัด บรรเทำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ หรือขจัดควำมเสี ยหำยที่เกิดขึ้น ไม่ต้องนกำำส่งคลังเป็น
รำยได้แผ่นดิน
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ให้ถือกว่ำำค่ำเสียหำยเบืสำนั
้องต้ นตำมวรรคสำมเป็นส่กวำนหนึ่งของค่ำสิสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นไหมทดแทนตำม
มำตรำ ๖๙ และไม่ตัดสิทธิพนักงำนอัยกำรในกำรฟ้องเรียกค่ำสินไหมทดแทนดังกล่ำวเพิ่มเติม
เมื่อผู้รับประกันภัยจ่ำยค่ำเสียหำยเบื้องต้นแล้วเป็นจำนวนเงินเท่ำใด ให้ผู้รับประกันภัย
สำนักดังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งกล่ำวมีสิทธิไล่เบี้ยเอำกั กำบบุคคลภำยนอกซึ ่งเป็นผู้ก่อให้เกิดควำมเสี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำยหำยได้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำหมวด ๔ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทกำหนดโทษ
สมำตรำ ๗๐ ผู้ ใ ดไม่ ม ำให้กำถ้ อ ยค ำ หรืสอำนัไม่กสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ ง เอกสำรหรื อ วั ต ถุ กใ ดำ ๆ ตำมที่
คณะกรรมกำรหรือคณะอนุกรรมกำรสั่งตำมมำตรำ ๑๔ หรือที่พนักงำนเจ้ำหน้ำที่มีหนังสือเรียกตำม
สำนักมำตรำ ๕๔ (๔) ต้องระวำงโทษจ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำคุกไม่เสกิำนั
นหนึ ่งเดือน หรือปรับไม่เกินกหนึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่งหมื่นบำท สหรื
ำนัอกทังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้งจำทั้งปรับ กำ
๔๗ กำ ๖๙/๑ เพิ่มโดยพระรำชบั
ำ บที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
- ๒๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๐/๑ ๔๘ ผู้ใดไม่ป ฏิบัติต ำมมำตรำ ๒๐/๑ ต้อ งระวำงโทษจำคุก ไม่เกิน

สำนักหกเดื อน หรือปรับไม่เกิกนำห้ำหมื่นบำท สหรื
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนัอกทังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้งจำทั้งปรับ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำตรำ ๗๐/๒๔๙ ผู้ใดนำผ่ำกนวั

ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ตถุอันตรำยชนิ
สำนัดกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ ๑ โดยไม่ปฏิบัติตำมมำตรำ
กำ ๒๐/๒
วรรคหนึ่งหรือวรรคหก ต้องระวำงโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้ำหมื่นบำท หรือทั้งจำ
ทั้งปรับ
สผูำนั
้ใดน ำผ่ำนวัตถุอันตรำยชนิกดำ ที่ ๒ โดยไม่ปสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ฏิบกัตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิตำมมำตรำ ๒๐/๒ วรรคหนึ
กำ ่งหรือ
วรรคหก ต้องระวำงโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ใดนกำผ่ำ ำนวัตถุอันตรำยชนิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดที่ ๓ โดยไม่ปฏิบัตกิตำำมมำตรำ ๒๐/๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี วรรคสองหรือ
วรรคหก ต้องระวำงโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สผูำนั
้ใดน ำผ่ำนวัตถุอันตรำยชนิกดำที่ ๔ ต้องระวำงโทษจ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำคุกไม่เกินสิบปี หรืกอำ ปรับไม่เกิน
หนึ่งล้ำนบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มำตรำ ๗๑๕๐ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตำมมำตรำ ๒๑ มำตรำ ๒๒ วรรคห้ำ มำตรำ ๔๑ หรือ
มำตรำ ๔๓ วรรคสอง ต้องระวำงโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือสปรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บไม่เกินห้ำหมื่นบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มำตรำ ๗๒ ผู้ใดฝ่ำฝืนมำตรำ ๒๒ วรรคหนึ่ง หรือไม่ปฏิบัติตำมมำตรำ ๒๒ วรรคสอง
หรือตำมมำตรำ ๒๓สำนักวรรคสำม ต้องระวำงโทษจ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำคุกไม่เกินหนึ
สำนั่ งกปีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบำท
กำ หรือ
ทั้งจำทั้งปรับ
มำตรำ ๗๓ ผู้ใดฝ่ำฝืนมำตรำ ๒๓ วรรคหนึ่ง ต้องระวำงโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือ
ปรับไม่เกินสองแสนบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ กำ
มำตรำกำ๗๔ ผู้ใดฝ่ำฝืสนำนัมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๔๓ วรรคหนึ่ง ต้อกงระวำงโทษจ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำคุสำนั
กไม่ เกินสิบปี หรือ
ปรับไม่เกินหนึ่งล้ำนบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้ำกำรกระทำตำมวรรคหนึ่งเป็นกำรกระทำโดยประมำทของผู้นำเข้ำ ผู้ส่งออก หรือ
้มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตกำถุอันตรำยดังกล่
สำนัำวกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้กระทำต้องระวำงโทษปรั
กำ บไม่เกินแปดแสนบำท
๕๑
สมำตรำ ๗๔/๑ ผู้ใช้หรือผูก้สำนับสนุนในกำรกระท
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำควำมผิดซึ่งมีโทษตำมมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๗๓
หรือมำตรำ ๗๔ ในส่วนที่เกี่ยวกับวัตถุอันตรำยชนิดที่ ๓ หรือชนิดที่ ๔ ซึ่งเป็นสำรเคมีพิษหรือสำรที่ใช้
สำนักผลิ ต สำรเคมี พิ ษ ที่ ร ะบุกใำนอนุ สั ญ ญำห้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำ กมอำวุ ธ เคมี ต ำมประกำศของรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ฐ มนตรีสำนั
ว่ ำกกำรกระทรวง
อุตสำหกรรม ตำมมำตรำ ๑๘ ต้องระวำงโทษเช่นเดียวกับตัวกำรในควำมผิดนั้น

๔๘
มำตรำ ๗๐/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑
ส๔๙ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๐/๒ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
๕๐
มำตรำ ๗๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑
๕๑ กำ ๗๔/๑ เพิ่มโดยพระรำชบั
ำ บที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔
- ๒๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๗๔/๒๕๒ กำรกระทำควำมผิดตำมมำตรำ ๗๓ หรือมำตรำ ๗๔ ในส่วนที่

สำนักเกีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ยวกับวัตถุอันตรำยชนิกดำ ที่ ๓ หรือชนิสดำนัทีก่ ๔งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ซึ่งเป็นสำรเคมีพิษหรืกอำ สำรที่ใช้ผลิตสสำรเคมี พิษที่ระบุใน
อนุสัญญำห้ำมอำวุธเคมีตำมประกำศของรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงอุตสำหกรรมตำมมำตรำ ๑๘ หำก
ผู้กระทำควำมผิดสมีำนั สัญกชำติ ไทย แม้จะกระทำนอกรำชอำณำจั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สกำนัร กจะต้ องรับโทษในรำชอำณำจั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กร
ห้ำมมิให้ลงโทษผู้นั้นในรำชอำณำจักรเพรำะกำรกระทำนั้นอีก ถ้ำ
(๑) ได้มีคำพิพำกษำของศำลในต่ำงประเทศอันถึงที่สุดให้ปล่อยตัวผู้นั้น หรือ
ส(๒)
ำนักศำลในต่ ำงประเทศพิพำกษำให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ลงโทษและผู ้นั้นได้พ้นโทษแล้ว กำ
ถ้ำผู้ต้องคำพิพำกษำได้รับโทษส ำหรับกำรกระทำนั้นตำมคำพิพำกษำของศำลใน
สำนักต่งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำงประเทศมำแล้วแต่ยกังำไม่พ้นโทษ ศำลจะลงโทษน้ อยกว่ำที่กฎหมำยก
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำหนดไว้สสำนั ำหรั บควำมผิดนั้น
เพียงใดก็ได้ หรือจะไม่ลงโทษเลยก็ได้ ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงโทษที่ผู้นั้นได้รับมำแล้ว
มำตรำ ๗๔/๓ ๕๓ ผู้ใดไม่ป ฏิบัติต ำมเงื่อ นไขที่รัฐ มนตรีผู้รับ ผิด ชอบกำหนดตำม
สำนักมำตรำ ๔๔ (๒) สำหรับกวัำตถุอันตรำยชนิสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดทีก่ งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
๑ หรือชนิดที่ ๒ ต้องระวำงโทษปรั
กำ บไม่สเำนั
กินกหนึ ่งหมื่นบำท
ผู ้ใ ดไม่ป ฏิบ ัต ิต ำมเงื่อ นไขที ่รัฐ มนตรีผู ้รับ ผิด ชอบก ำหนดตำมมำตรำ ๔๔ (๒)
สำหรับวัตถุอันตรำยชนิดที่ ๓ ต้องระวำงโทษจำคุกไม่เกินสำมเดื อน หรือปรับไม่เกินสำมหมื่นบำท หรือ
สำนักทังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้งจำทั้งปรับ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ผู ้ใ ดไม่ป ฏิบ ัต ิต ำมเงื่อ นไขที ่รัฐ มนตรีผู ้รับ ผิด ชอบก ำหนดตำมมำตรำ ๔๔ (๒)
สำหรับ วัตถุอัน ตรำยชนิ ดที่ ๔ ต้องระวำงโทษจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำคุก ไม่เกินสำนั
หกเดื อน หรือปรับ ไม่เกินกห้ำำหมื่นบำท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
มำตรำ ๗๕ ผู้ใดฝ่ำฝืนมำตรำ ๔๕ (๑) หรือมำตรำ ๔๕ (๕) สำหรับกรณีเพิกถอน
ทะเบียนเพรำะอำจเกิ
อันตรำยโดยไม่มีวิธีปกติ
กำตำมควรที่จะป้ องกั
สำนั นได้ ถ้ำเป็นกำรกระทำเกี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ยวกับวัตถุ
อันตรำยชนิดที่ ๓ ผู้กระทำต้องระวำงโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินเจ็ดแสนบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้ำกำรกระท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำตำมวรรคหนึ ่งเป็นกำรกระทำโดยประมำทของผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้นสำเข้
ำนัำกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้ส่งออก หรือ กำ
มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรำยดังกล่ำว ผู้กระทำต้องระวำงโทษปรับไม่เกินห้ำแสนบำท
มำตรำกำ๗๖ ผู้ใดฝ่ำฝืสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี นมำตรำ ๔๕ (๒) หรือมำตรำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๔๕ (๕) สสำหรั
ำนักบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กรณีเพิกถอน กำ
ทะเบียนเพรำะไม่มีประโยชน์ตำมที่ขึ้นทะเบียนไว้ ถ้ำเป็นกำรกระทำเกี่ ยวกับวัตถุอันตรำยชนิดที่ ๓
ผู้กระทำต้องระวำงโทษจ ำคุกไม่เกินห้ำปี หรือกปรั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บไม่เกินห้ำแสนบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ กำ
ถ้ำกำรกระทำตำมวรรคหนึ่งเป็นกำรกระทำโดยประมำทของผู้นำเข้ำ ผู้ส่งออก หรือ
้มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตกำถุอันตรำยดังกล่
สำนัำวกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้กระทำต้องระวำงโทษปรักำ บไม่เกินสี่แสสนบำท
สมำตรำ ๗๗ ผู้ใดฝ่ำฝืนมำตรำ
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๔๕ (๓) ถ้ำสเป็ำนันกกำรกระท ำเกี่ยวกับวัตถุกอำันตรำยชนิด
ที่ ๓ ต้องระวำงโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้ำกำรกระท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำตำมวรรคหนึ ่งเป็นกำรกระทำโดยประมำท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ผู้กระท
สำนัำต้ องระวำงโทษ
ปรับไม่เกินแปดหมืสำนั
่นบำท
๕๒
มำตรำ ๗๔/๒ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔
๕๓ กำ ๗๔/๓ เพิ่มโดยพระรำชบั
ำ บที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
- ๒๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ ๗๘ ผู้ใดฝ่ำสฝืำนันมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๔๕ (๔) ถ้ำเป็นกกำรกระท
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำเกี่ยสำนั
วัตถุอัน ตรำย กำ
ชนิดที่ ๓ ต้องระวำงโทษจำคุกไม่เกินสำมปี หรือปรับไม่เกินสำมแสนบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มำตรำ ๗๙ ถ้ำกำรกระทำตำมมำตรำ ๗๕ มำตรำ ๗๖ มำตรำ ๗๗ หรือมำตรำ ๗๘
เกี่ยวกับ วัตถุอัน ตรำยชนิ ดที่ ๒ ผู้ กระท ำต้องระวำงโทษสองในสำมของโทษที่ บัญ ญั ติไว้ในมำตรำ
ดังกล่ำว สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๘๐๕๔ ถ้ำกำรกระท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำตำมมำตรำ ๗๕ มำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๗๖ หรือมำตรำ ๗๗ เกี่ยวกับ
วัตถุอันตรำยชนิดที่ ๑ ผู้กระทำต้องระวำงโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่บัญญัติไว้ในมำตรำดังกล่ำว
มำตรำ ๘๑ ผู้ได้รับใบอนุญำตผู้ใดไม่ปฏิบัติตำมมำตรำ ๓๐ หรือมำตรำ ๓๑ ต้อง
สำนักระวำงโทษปรั บไม่เกินหนึกำ่งหมื่นบำท สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๒ ผู้ใดโดยเจตนำก่อให้เกิดควำมเข้ ำใจผิ ดในแหล่งกำเนิด สภำพ คุณภำพ
สำนักปริ มำณ หรือสำระสำคักญำ ประกำรอื่นอัสนำนัเกีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่ยวกับวัตถุอันตรำย ไม่กวำ่ำจะเป็นของตนเองหรื อผู้ อื่น ทำ
หรือใช้ฉลำกที่มีข้อควำมอันเป็นเท็จ หรือข้อควำมที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่ำอำจก่อให้เกิดควำมเข้ำใจผิด
เช่นว่ำนั้น ต้องระวำงโทษจ ำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อปรับไม่เกินสหนึ
ำนั่งกแสนบำท หรือทั้งจำทั้งปรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ บ
ถ้ำผู้กระทำควำมผิดตำมวรรคหนึ่งกระทำผิดซ้ำอีกภำยในหกเดือนนั บแต่วันกระทำ
สำนักควำมผิ ดครั้งก่อน ผู้กระทกำต้ำ องระวำงโทษจสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำคุกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ไม่เกินสองปี หรือปรับไม่กเำกินสองแสนบำท สำนัหรืกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อทั้งจำทั้งปรับ กำ
สมำตรำ ๘๓ ผู้ใดขำยวัตถุอกันำตรำยโดยไม่ มสีฉำนัลำกหรื

ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อมีฉลำกแต่ฉลำกหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำอกำรแสดง
ฉลำกไม่ถูกต้อง หรือขำยวัตถุอันตรำยที่มีฉลำกที่คณะกรรมกำรสั่งเลิกใช้ หรือให้ แก้ไขตำมมำตรำ ๕๐
สำนักต้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
องระวำงโทษจำคุกไม่เกกิำนหกเดือน หรืสอำนัปรักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บไม่เกินห้ำหมื่นบำท หรื
กำอทั้งจำทั้งปรับสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้ำกำรกระทำตำมวรรคหนึ่งเป็นกำรกระทำโดยประมำท ผู้กระทำต้องระวำงโทษ
ปรับไม่เกินสี่หมื่นบำท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ถ้ำกำรกระท
กำ ำตำมวรรคหนึ ่งเป็ นกำรกระทำของผู
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ้ ผลิ ต หรื อผู้นสำนั
ำเข้กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ผู้ กระท ำต้อง กำ
ระวำงโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มำตรำ ๘๔ ผู้ ใดโดยเจตนำหรื อ โดยประมำทรั บ จ้ ำ งท ำฉลำกที่ ไม่ ถู ก ต้ อ งตำม
สำนักกฎหมำย หรือรับจ้ำงติดกตรึ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งฉลำกที่ไม่ถสำนั
ูกต้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งตำมกฎหมำย หรือรับกจ้ำำงทำลำยส่วนอั
สำนันกเป็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นสำระสำคัญ กำ
ของฉลำกที่ถูกต้องตำมกฎหมำย สำหรับวัตถุอันตรำยอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดตำมควำมในหมวด ๒ ต้อง
ระวำงโทษจำคุกไม่สำนั
เกิกนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
หกเดือน หรือปรับไม่เกิกนำ ห้ำหมื่นบำทสหรื
ทั้งจำทั้งปรับ กำ
มำตรำกำ ๘๔/๑ ๕๕ ผูส้ใำนั

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดโฆษณำโดยไม่ เป็น ไปตำมมำตรำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๕๑ สหรื
ไม่ป ฏิบัติต ำม กำ
มำตรำ ๕๑/๑ ต้อสงระวำงโทษจ ำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับสไม่
เกินห้ำหมื่นบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
๕๔
มำตรำ ๘๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
๕๕ กำ ๘๔/๑ เพิ่มโดยพระรำชบั
ำ บที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
- ๒๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๘๔/๒๕๖ ผู้ใดฝ่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัำกฝืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นหรือไม่ปฏิบัติตำมมำตรำ
กำ ๕๑/๒ ต้อสงระวำงโทษจ ำคุกไม่
เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้ำหมื่นบำท หรือทั้งจำทัง้ ปรับ
มำตรำ ๘๔/๓๕๗ ผู้ใดฝ่ำฝืนหรือไม่ปฏิบัติตำมคำสั่งของหน่วยงำนผู้รับผิดชอบตำม
มำตรำ ๕๑/๓ ต้องระวำงโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มำตรำ ๘๕ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตำมมำตรำ ๕๒ วรรคหนึ่ง ต้องระวำงโทษจำคุกไม่เกิน
สำนักสำมเดื อน หรือปรับไม่เกิกนำ สำมหมื่นบำทสำนัหรืกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อทั้งจำทั้งปรับ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำตรำ ๘๕/๑๕๘ ผู้ใดไม่ปฏิกบำ ัติตำมคำสั่งของพนั

ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กงำนเจ้ำหน้ำที่ตำมมำตรำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๕๒/๑
ต้องระวำงโทษจำคุกไม่เกินสำมเดือน หรือปรับไม่เกินสำมหมื่นบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มำตรำ ๘๖ ผู้ ใดไม่ อ ำนวยควำมสะดวกตำมสมควรแก่ พ นั ก งำนเจ้ ำ หน้ ำ ที่ ซึ่ ง
ปฏิบัติกำรตำมมำตรำ ๕๔ ต้องระวำงโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดืสอำนันกหรื
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบำท
มำตรำ ๘๗ ในกรณีที่ศำลพิพำกษำลงโทษบุคคลใดในควำมผิดตำมมำตรำ ๗๑ หรือ
มำตรำ ๗๒ และเป็ สำนันกกรณี ที่ มี ก ำรยกเว้น ไม่กตำ้ อ งได้ รับ ใบอนุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัญกำต ถ้ำมี พ ฤติ ก ำรณ์ ให้ เกห็ำ น ว่ำบุ ค คล
ดังกล่ำวอำจจะกระทำควำมผิดเช่นนั้นอีก ศำลจะสั่งไว้ในคำพิพำกษำห้ำมกำรประกอบกำรเกี่ยวกับ
ตถุอันตรำยมีกำหนดเวลำไม่
กำ เกินห้ำปีนสำนั ับแต่ วันพ้นโทษไปแล้วก็ได้ กำ
สมำตรำ ๘๗/๑๕๙ ผู้ใดเคยถูกกำลงโทษเพรำะเหตุ

ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ระทำควำมผิดตำมพระรำชบั
กำ ญญัตินี้
แล้วครั้งหนึ่ง ถ้ำได้กระทำผิดในบทบัญญัติเดียวกันกับที่เคยถูกลงโทษแล้วนั้นซ้ำอีก ให้ศำลเพิ่มโทษที่
สำนักจะลงแก่ ผู้นั้นอีกกึ่งหนึ่งของอั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ตรำโทษสสำหรั
ควำมผิดนั้น กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๖๐ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๗/๒ ในกรณีที่ผู้กระทำควำมผิดเป็นนิติบุคคล ถ้ ำกำรกระทำควำมผิด
สำนักของนิ ติบุคคลนั้นเกิดจำกกำรสั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งกำรหรืสอำนักำรกระท ำของกรรมกำรหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อผู้จัดกำร ผูส้เชีำนั่ยกวชำญ บุคลำกร
เฉพำะ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในกำรดำเนินงำนของนิติบุคคลนั้น หรือในกรณีที่บุคคลดังกล่ำว
มีห น้ำที่ต้องสั่งกำรหรื อกระทำกำรและละเว้นกำไม่สั่งกำรหรือสไม่ำนักกระท
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำกำรจนเป็นเหตุให้กนำิติบุคคลนั้น
กระทำควำมผิด ผู้นั้นต้องรับโทษตำมที่บัญญัติไว้สำหรับควำมผิดนั้น ๆ ด้วย
๕๖
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี มำตรำ
กำ ๘๔/๒ เพิ่มโดยพระรำชบั ญญัติวัตถุอันตรำย ก(ฉบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ บที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
๕๗
มำตรำ ๘๔/๓ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
๕๘
มำตรำ ๘๕/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑
ส๕๙ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๗/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑
๖๐
มำตรำ ๘๗/๒ แก้ไขเพิ่มเติ มโดยพระรำชบัญ ญั ติแก้ไขเพิ่ มเติมบทบั ญญั ติแ ห่งกฎหมำยที่
สำนักเกีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ
่ยวกับควำมรับผิดในทำงอำญำของผู ้แทนนิสตำนัิบุคกคล
พ.ศ. ๒๕๖๐ กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๒๖ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๘๖๑ วัตถุอันตรำยที่ผลิต นำเข้ำ ส่งออก นำผ่ำน นำกลับเข้ำมำ ส่งกลับ

สำนักออกไป หรือมีไว้ในครอบครองโดยไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สชำนั
อบด้ วยพระรำชบัญญัตินกี้ ภำชนะของวั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ตสถุำนัอกันงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตรำยดังกล่ำว กำ
เครื่องมือและอุปกรณ์ ที่เกี่ยวข้อง หรือทรัพย์สิ นใดบรรดำที่ศำลมี คำพิพำกษำให้ ริบ ให้ ส่ งมอบแก่
หน่วยงำนที่รับผิดสชอบควบคุ มวัตถุอันตรำยดังกกล่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำวเพื่อทำลำยหรื อจัดกำรตำมที่เห็นสมควรต่
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อไป
ในกรณีที่ต้องทำลำยหรือจัดกำรตำมที่เห็นสมควร ให้ศำลมีคำสั่งในคำพิพำกษำให้
เจ้ำของชำระค่ำใช้จ่ำยที่เกิดขึ้นให้แก่ทำงรำชกำรด้วย
มำตรำ ๘๙๖๒ บรรดำควำมผิดตำมพระรำชบัญญัตินี้ที่มีโทษปรับสถำนเดียวหรือ
สำนักเป็ นควำมผิดที่มีโทษจำคุกำกไม่เกินหนึ่งปีสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เว้กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
แต่ควำมผิดตำมมำตรำกำ๗๔ วรรคสองสให้ ำนัคกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ณะกรรมกำรมี กำ
อำนำจเปรียบเทียบได้ และเมื่อผู้กระทำควำมผิดได้ชำระเงินค่ำปรับตำมจำนวนที่เปรียบเทียบภำยใน
สำมสิ บ วัน นั บ แต่สวำนัันกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ผู้ กระทำควำมผิดได้รกับำแจ้ง ให้ ถือว่ำสคดี ำนักเงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ลิกกันตำมบทบัญ ญั ติแกำห่ งประมวล
กฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมอำญำ๖๓
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณี กำที่ ค ณะกรรมกำรเห็ น สมควรจะแต่ งตั้ งกคณะอนุ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ก รรมกำร หรือ พนั ก งำน
เจ้ำหน้ำที่ให้มีอำนำจเปรียบเทียบก็ได้ ทั้งนี้ กำรเปรียบเทียบให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรที่
คณะกรรมกำรกำหนด
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในกรณี กำ ที่ มี ก ำรยึ ด หรื
สำนัอกอำยั ด ของกลำงที่ เกี่ ย วข้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำอ งกั บ กำรกระท
สำนักำควำมผิ ด ตำม
พระรำชบั ญ ญั ติ นี้ ผู้ มีอำนำจเปรี ย บเทียบตำมวรรคหนึ่ งหรือ วรรคสองจะเปรียบเที ยบได้ในกรณี
ดังต่อไปนี้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ในกรณีที่อำจแก้ไขให้ถูก ต้องได้ เมื่อผู้กระทำควำมผิดยินยอมและได้แก้ไขของ
สำนักกลำงที ่ยึดหรืออำยัดไว้ใกห้ำถูกต้อง
(๒) ในกรณีที่ไม่อำจแก้ไขให้ถูกต้องได้ เมื่อผู้กระทำควำมผิดยินยอมให้ของกลำงที่
ยึดหรืออำยัดไว้ตกเป็
สำนันกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ของหน่วยงำนที่รับผิดชอบควบคุ กำ มวัตถุสอำนัันกตรำยดั งกล่ำว
ในกรณี ที่ ผู้ ยิ น ยอมให้ เปรีย บเที ย บได้ แก้ ไขของกลำงให้ ถู ก ต้อ งแล้ ว ให้ พ นั ก งำน
สำนักเจ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหน้ำที่ถอนกำรอำยัดกของกลำงนั ำ ้นเสีสยำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บรรดำสิ่งของที่ตกเป็นของหน่วยงำนที่รับผิดชอบควบคุมวัตถุอันตรำยดังกล่ำวให้
จัดกำรตำมระเบียบที่รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกำหนด
บทเฉพำะกำล
มำตรำกำ๙๐ คำขออนุสำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญกำตใด ๆ ที่ได้ยื่นไว้ต ำมกฎหมำยว่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำด้วยวัสำนั
ตถุกมงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ีพิษและยังอยู่ กำ
ในระหว่ำงพิจำรณำให้ถือเป็นคำขออนุญำตตำมพระรำชบัญญัตินี้โดยอนุโลม ในกรณีที่คำขออนุญำตมี
ข้อแตกต่ำงไปจำกค สำนักำขออนุ ญ ำตตำมพระรำชบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญ ญั ติ นี้ ให้สำนั
ผู้ มกีองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนำจอนุญ ำตมี อำนำจสั
กำ ่ งให้ แ ก้ ไข
เพิ่มเติมได้ตำมควำมจำเป็นเพื่อให้กำรเป็นไปตำมพระรำชบัญญัตินี้
๖๑
มำตรำ ๘๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
ส๖๒ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๘๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑
๖๓
มำตรำ ๘๙ วรรคหนึ่ ง แก้ ไขเพิ่ ม เติม โดยพระรำชบั ญ ญั ติ วัต ถุ อัน ตรำย (ฉบั บ ที่ ๔) พ.ศ.
- ๒๗ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำกำ๙๑ ใบอนุญสำตและใบส
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำคัญกำรขึ้นทะเบี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ยนที่ออกให้สแำนั
ก่บกุคงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
คลใด ๆ ตำม กำ
กฎหมำยว่ำด้วยวัตถุมีพิษก่อนวันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้คงใช้ได้ต่อไปจนสิ้นอำยุที่กำหนดไว้
มำตรำ ๙๒ ให้ ท บทวนบรรดำวัตถุห รือสิ่ งอื่ น ใดที่ มีก ำรประกำศกำหนดให้ เป็ น
วัตถุมีพิษธรรมดำและวัตถุมีพิษร้ำยแรงตำมกฎหมำยว่ำด้วยวัตถุมีพิษ และดำเนินกำรออกประกำศ
กำหนดเป็นวัตถุอสันำนัตรำยชนิ ดที่ ๑ ชนิดที่ ๒กำชนิดที่ ๓ หรืสอำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ชนิกดงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ที่ ๔ ตำมพระรำชบัญกญัำ ตินี้ให้แล้ว
เสร็จภำยในหกเดือนนับแต่วันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ในระหว่
กำ ำงที่กำรดำเนิสนำนักำรตำมวรรคหนึ ่งยังไม่แล้กวำ เสร็จ ให้บทบัสญำนัญักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ิแห่งกฎหมำย กำ
ว่ำด้ ว ยวัต ถุมี พิ ษ ยั งคงใช้ บั งคับ ต่ อไปได้ เว้น แต่ บ ทบั ญ ญั ติเกี่ย วกับ คณะกรรมกำรวัต ถุ มีพิ ษ ให้ ใช้
บทบั ญญัติเกี่ยวกัสบำนัคณะกรรมกำรวั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีตถุอันตรำยตำมพระรำชบั
กำ สำนักญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญัตินี้แทน และให้ กำรต่ กำ ำง ๆ ตำม
พระรำชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับได้ทันทีเท่ำที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมำยว่ำด้วยวัตถุมีพิษ
มำตรำ ๙๓ บรรดำกฎกระทรวงและประกำศที่ออกตำมกฎหมำยว่ำด้วยวัตถุมีพิษ
ให้คงใช้บังคับได้ต่อไปเท่ำที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทแห่งพระรำชบั ญญัตินี้
ผู้รับสนองพระบรมรำชโองกำร
อำนันท์ ปันยำรชุน
นำยกรัฐมนตรีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

- ๒๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อัตรำค่ำธรรมเนียม๖๔
(๑) ใบสำคัญกำรขึสำนั
้นทะเบี ยนวัตถุอันตรำย กำ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัฉบั บละ ๑๕,๐๐๐กำ บำท
(๒) ใบอนุญำตผลิตวัตถุอันตรำย ฉบับละ ๒๐,๐๐๐ บำท
(๓) ใบอนุญำตนำเข้ำวัตถุอันตรำย ฉบับละ ๒๐,๐๐๐ บำท
(๔) ใบอนุญำตส่งสออกวั ตถุอันตรำย
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนัฉบั บละ ๒๐,๐๐๐กำ บำท
(๕) ใบอนุญำตมีไว้ครอบครองซึ่งวัตถุอันตรำย ฉบับละ ๒๐,๐๐๐ บำท
สำนัก(๖) ใบอนุญำตผลิตตัวอย่กำำงวัตถุอันตรำย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ฉบับกำละ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๒,๐๐๐ บำท
(๗) ใบอนุญำตนำเข้ำตัวอย่ำงวัตถุอันตรำย ฉบับละ ๒,๐๐๐ บำท
(๘) ใบแทนใบสำคัสำนั
ญกำรขึ ้นทะเบียนวัตถุอันตรำย
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนัฉบั บละ ๑,๐๐๐กำ บำท
(๙) ใบแทนใบอนุญำต ฉบับละ ๑,๐๐๐ บำท
สำนัก(๑๐) กำรต่ออำยุใบสำคัญกำรขึ้นทะเบียน
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ก ำ สำนั ก งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
วัตถุอันตรำยครั้งละเท่ำกับค่ำธรรมเนียมสำหรับ
ใบสำคัญกำรขึ ้นทะเบียนวัตถุอันตรำย
สำนัก(๑๑) กำรต่ออำยุใบอนุญกำำตครั้งละเท่ำกัสำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บค่กำงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ธรรมเนียม กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำหรับใบอนุญำตแต่ละประเภท
(๑๒)๖๕ ใบนำผ่ำนสำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนัฉบั บละ ๒๐,๐๐๐กำ บำท
ส๖๔ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อัต รำค่ำ ธรรมเนีย ม แก้ไ ขเพิ่ม เติม โดยพระรำชบั ญ ญัติวัต ถุอัน ตรำย (ฉบับ ที่ ๓) พ.ศ.
๒๕๕๑
๖๕ กำ ำธรรมเนียม (๑๒)
อัตรำค่ สำนักเพิ
่มโดยพระรำชบัญญัติวัตกถุำอันตรำย (ฉบับทีส่ ำนั
๔)กพ.ศ.
๒๕๖๒ กำ
- ๒๙ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ปรำกฏว่ำ ในปัจจุบันมีกำรนำ

ตถุอันตรำยมำใช้ในกิจกกำรประเภทต่
ำ สำำนั
ง ๆกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
เป็นจำนวนมำก และวักตำถุอันตรำยบำงชนิ
อำจก่อให้เกิด กำ
อันตรำยอย่ำงร้ำยแรงแก่บุคคล สัตว์ พืช ทรัพย์ และสิ่งแวดล้อมได้ แม้ว่ำในขณะนี้จะมีกฎหมำยที่ใช้
ควบคุมวัตถุที่ ก่อสให้ำนัเกกิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ดอันตรำยอยู่บ้ำงแล้วกก็ำตำม แต่ก็มีอสยูำนั
่ หลำยฉบั บและอยู่ในอำนำจหน้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำที่ของ
หลำยกระทรวง ทบวง กรม ซึ่งกฎหมำยเหล่ำนั้นได้ออกมำต่ำงยุคต่ำงสมัยกัน ทำให้มีบทบัญญัติที่
แตกต่ำงกันและยังไม่ครอบคลุมเพียงพอ สมควรปรับปรุงกฎหมำยว่ำด้วยวัตถุมีพิษโดยขยำยขอบเขต
ให้ ครอบคลุ ม วัตสถุำนั
อันกตรำยต่ ำง ๆ ทุกชนิด กและก
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำหนดหลัสำนั ก เกณฑ์ และวิธีกำรในกำรควบคุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มวัต ถุ
อันตรำยให้เหมำะสมยิ่งขึ้น พร้อมกับจัดระบบบริหำรให้มีกำรประสำนงำนกันระหว่ำงหน่วยงำนต่ำง ๆ
สำนักทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่เกี่ยวข้องกันกับกำรควบคุ กำ มดูแลวัตถุอสันำนัตรำยดั งกล่ำวด้วย จึงจำเป็
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำนต้องตรำพระรำชบั ญญัตินี้
พระรำชบัญญัติวัตสำนั ตรำย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.กำ๒๕๔๔๖๖

ถุอกันงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักหมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สพำนัระรำชบั ญญัติฉบับนี้ คือกโดยที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่ประเทศไทยจะเข้ ำเป็นภำคี
อนุสัญญำว่ำด้วยกำรห้ำมพัฒนำ ผลิต สะสม และใช้อำวุธเคมี และว่ำด้วยกำรทำลำยอำวุธเหล่ำนี้ ซึ่ง
ทำขึ้นเมื่อวันที่ ๑๓ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๓๖ ซึ่งอนุสัญญำดังกล่สำนั ำวกกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำหนดมำตรกำรควบคุมกำเกี่ยวกับกำร
สำนักผลิ ต ได้มำ จัดเก็บ ใช้ กและโยกย้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ำยสำรเคมี พิษและสำรที่ใช้ผลิตสำรเคมี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พิษที่ระบุ
สำนัในอนุ สัญญำห้ำม
อำวุธเคมีในอำณำเขตของบรรดำรัฐภำคีและรัฐนอกภำคี รวมทั้งกำหนดให้รัฐภำคีออกกฎหมำยที่มี
โทษทำงอำญำเพืส่อำนัใช้กบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ั งคับกับบุคคลธรรมดำและนิ
กำ ติบุคคลที
สำนั่อกยูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ในอำณำเขตหรือเขตอกำนำจของรั
ำ ฐ
ภำคีที่กระทำกำรละเมิดมำตรกำรดังกล่ำว และให้ขยำยขอบเขตกำรบังคับใช้กฎหมำยให้ครอบคลุมถึง
สำนักกำรกระท ำที่ต้องห้ำมตำมอนุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สัญญำห้ำสมอำวุ ธเคมีของบุคคลธรรมดำที
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่มีสัญชำติของรั
สำนัฐกภำคี ซึ่งกระทำ
นอกอำณำเขตของรัฐภำคีดว้ ย สมควรแก้ไขเพิ่มเติมพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย พ.ศ. ๒๕๓๕ ในเรื่อง
มำตรกำรในกำรควบคุ มกำรกระทำใด ๆ เกีก่ยำวกับวัตถุอันตรำยที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่เป็นสำรเคมีพิษหรือกสำรที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่ใช้ผลิ ต
สำรเคมี พิ ษ ที่ ร ะบุ ในอนุ สั ญ ญำห้ ำมอำวุธ เคมี แ ละบทก ำหนดโทษให้ ส อดคล้ อ งกั บ พั น ธกรณี ต ำม
สำนักอนุ สัญญำห้ำมอำวุธเคมีกำจึงจำเป็นต้องตรำพระรำชบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญญัตินี้
*พระรำชกฤษฎีกำแก้ไขบทบัญญัติให้สอดคล้องกับกำรโอนอำนำจหน้ำที่ของส่วนรำชกำรให้เป็นไป
๖๗
สำนักตำมพระรำชบั ญญัติปรับกปรุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ งกระทรวงสทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ.
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ๒๕๔๕ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำตรำ ๙๘ ในพระรำชบัญกญัำติวัตถุอันตรำยสำนัพ.ศ.
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๒๕๓๕
(๑) ให้แก้ไขคำว่ำ “อธิบดีกรมโยธำธิกำร” เป็น “อธิบดีกรมธุรกิจพลังงำน” และ
ำว่ำ “ผู้แทนกรมโยธำธิ กำกำร” เป็น “ผู ้แทนกรมธุ
สำนั รกิจพลังงำน” กำ
(๒) ให้เพิ่ม “รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงพลังงำน” เป็นผู้รักษำกำร เฉพำะที่เกี่ยวกับ
วัตถุที่อยู่ในขอบอสำนำจหน้ ำที่ของกระทรวงพลักำงงำน
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พระรำชกฤษฎี
สำนั กำฉบับนี้ คืกำอ โดยที่พระรำชบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักญ ญัติป รับปรุง
กระทรวง ทบวง สกรม พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้บัญญัติให้จัดตั้งส่วนรำชกำรขึ
้นใหม่โดยมีภำรกิจใหม่ ซึ่งได้มี
๖๖
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๑๘/ตอนที่ ๑๐๖ ก/หน้ำ ๕/๑๖ พฤศจิกำยน ๒๕๔๔
๖๗ กำจจำนุเบกษำ เล่สมำนั๑๑๙/ตอนที
รำชกิ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ตุลำคม ๒๕๔๕
่ ๑๐๒ ก/หน้ำ ๖๖/๘ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๐ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรตรำพระรำชกฤษฎี ก ำโอนกิ จ กำรบริ ห ำรและอ ำนำจหน้ ำ ที่ ข องส่ ว นรำชกำรให้ เป็ น ไปตำม
สำนักพระรำชบั ญ ญั ติป รับ ปรุกำงกระทรวง ทบวง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กรม นั้น แล้ ว และเนื่กอำงจำกพระรำชบั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัญกญั ติดังกล่ ำวได้
บัญญัติให้โอนอำนำจหน้ำที่ของส่วนรำชกำร รัฐมนตรีผู้ดำรงตำแหน่งหรือผู้ซึ่งปฏิบัติหน้ำที่ในส่วน
รำชกำรเดิมมำเป็สนำนัของส่ วนรำชกำรใหม่ โดยให้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ มีกำรแก้ไขบทบั ญญัติต่ำงๆ ให้สอดคล้กอำงกับอำนำจ
หน้ำที่ที่โอนไปด้วย ฉะนั้น เพื่ออนุ วัติให้เป็นไปตำมหลักกำรที่ปรำกฏในพระรำชบัญญัติแ ละพระรำช
กฤษฎีกำดังกล่ำว จึงสมควรแก้ไขบทบัญญัติของกฎหมำยให้สอดคล้องกับกำรโอนส่วนรำชกำร เพื่อให้
ผู้เกี่ยวข้องมีควำมชั
สำนัดกเจนในกำรใช้ กฎหมำยโดยไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ต้องไปค้นสำนั หำในกฎหมำยโอนอ ำนำจหน้
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำที่ว่ำตำม
กฎหมำยใดได้ มี ก ำรโอนภำรกิ จ ของส่ ว นรำชกำรหรื อ ผู้ รั บ ผิ ด ชอบตำมกฎหมำยนั้ น ไปเป็ น ของ
สำนักหน่ วยงำนใดหรือผู้ใดแล้กวำ โดยแก้ไขบทบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัญกญั ติของกฎหมำยให้มีกกำรเปลี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่ยนชื่อส่วสนรำชกำร รัฐมนตรี
ผู้ดำรงตำแหน่งหรือผู้ซึ่งปฏิบัติหน้ำที่ของส่วนรำชกำรให้ตรงกับกำรโอนอำนำจหน้ำที่ และเพิ่มผู้แทน
ส่วนรำชกำรในคณะกรรมกำรให้ ตรงตำมภำรกิ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ จที่มีกำรตัดสโอนจำกส่ วนรำชกำรเดิมมำเป็
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ น ของส่วน
รำชกำรใหม่รวมทั้งตัดส่วนรำชกำรเดิมที่มีกำรยุบเลิกแล้ว ซึ่งเป็นกำรแก้ไขให้ตรงตำมพระรำชบัญญัติ
สำนักและพระรำชกฤษฎี
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำดังกกล่
ำ ำว จึงจำเป็สนำนัต้กองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
งตรำพระรำชกฤษฎีกำนี กำ้ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
พระรำชบัญญัติวัตสำนั
ถุอกันงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตรำย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.กำ๒๕๕๑๖๘ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๒๓ ให้ก รรมกำรผู้ท รงคุณ วุฒิต ำมพระรำชบัญ ญั ติวัต ถุอัน ตรำย พ.ศ.
๒๕๓๕ ซึ่งดำรงตสำนัำแหน่ งอยู่ในวัน ก่อนวันทีก่พำระรำชบัญญัสตำนัินีก้ใช้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บังคับ ปฏิบัติห น้ำที่ตกำ่อไปจนกว่ำ
จะได้มีกำรแต่งตั้งกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิตำมพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไข
สำนักเพิ ่ม เติม โดยพระรำชบักญำ ญัตินี้แ ต่ต้อสงไม่
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำนักเ กิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
น หนึ่งร้อ ยแปดสิบ วักนำนับ แต่วัน ที่พสระรำชบั ญ ญัตินี้ใ ช้
บังคับ
มำตรำ ๒๔ คำขอใด ๆ ที่ได้ยื่นไว้ก่อนวันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ถือว่ำเป็น
ำขอตำมพระรำชบัญญักตำิวัตถุอันตรำยสำนั
พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติกมำ โดยพระรำชบัสำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญญักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตินี้ กำ
มำตรำ ๒๕ ให้ ใบอนุ ญ ำตผลิ ต น ำเข้ ำ ส่ งออก หรื อ มี ไว้ ในครอบครองซึ่ งวั ต ถุ
นตรำยชนิดที่ ๓ ที่ออกให้
กำ ตำมพระรำชบั สำนัญ ญัติวัตถุอันตรำย พ.ศ. ก๒๕๓๕
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ก่อนวันสทีำนั่พกระรำชบั ญญัตินี้
ใช้บังคับคงใช้ได้ต่อไปจนสิ้นอำยุที่กำหนดไว้
มำตรำ ๒๖ ให้ใบสำคัญกำรขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรำยชนิดที่ ๒ และชนิดที่ ๓ หรือ
สำนักใบรั บแจ้งกำรดำเนินกำรผลิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ต นำเข้ำ ส่สำนั
งออก หรือมีไว้ในครอบครองซึ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่งวัตถุอันตรำยชนิ ดที่ ๒ ที่ออก
ให้ตำมพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย พ.ศ. ๒๕๓๕ ก่อนวันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ คงใช้ได้ต่อไป
อีกสำมปีนับแต่วันสทีำนั่พกระรำชบั ญญัตินี้ใช้บังคับกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สพำนัระรำชบั ญญัติฉบับนี้ คือ กโดยที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่พระรำชบัสญ
ำนัญักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ติวัตถุอันตรำย กำ
พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้ใสช้ำนั
บังกคังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
บมำเป็นเวลำนำนแล้วกำบทบัญญัติบำงประกำรไม่ เหมำะสมกับสถำนกำรณ์ใน
๖๘ กำจจำนุเบกษำ เล่สมำนั๑๒๕/ตอนที
รำชกิ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กุมภำพันธ์ ส๒๕๕๑
่ ๓๘ ก/หน้ำ ๒๓/๒๕ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ปัจจุบัน ซึ่งมีสภำพปัญหำเกี่ยวกับวัตถุอันตรำยที่ทวีควำมรุนแรงขึ้น มีผลกระทบต่อสุขภำพอนำมัย

สำนักควำมปลอดภั ย ของประชำชนและสิ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ งสแวดล้ อ ม สมควรปรับ ปรุงกบทบั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ญ ญั ติ เกี่ ยสวกั
องค์ป ระกอบ กำ
อำนำจและหน้ำที่ของคณะกรรมกำรวัตถุอันตรำย วำระกำรดำรงตำแหน่งของกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิ
อำนำจของรัฐมนตรี สำนัผกู้รงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ับผิดชอบในกำรกำหนดหลั กำ กเกณฑ์และวิ สำนัธกีกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำร เพื่อคุ้มครองควำมปลอดภั
กำ ยของ
ประชำชน กำรกำหนดให้ ผู้ เชี่ ย วชำญหรือบุ คลำกรเฉพำะต้องปฏิ บั ติตำมหลั กเกณฑ์ วิธีกำรและ
เงื่อนไขที่รัฐมนตรีกำหนด กำรกำหนดอำยุและกำรต่ออำยุใบรับแจ้งกำรดำเนินกำรวัตถุอันตรำยชนิดที่
๒ และใบสำคัญกำรขึ สำนัก้นงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทะเบียนวัตถุอันตรำยชนิ กำ ดที่ ๒ หรือชนิ
สำนัดกทีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่ ๓ กำรอนุญำตให้มีกำรผลิ กำ ต นำเข้ำ
หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรำยชนิดที่ ๔ รวมทั้งกำรยกเลิกอำนำจจับกุมของพนักงำนเจ้ำหน้ำที่
สำนักตลอดจนปรั บปรุงอัตรำค่กำำธรรมเนียมให้สำนั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี เหมำะสมยิ ่งขึ้น จึงจำเป็นกต้ำองตรำพระรำชบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัญกญั ตินี้
พระรำชบัญญัติแสก้ำนัไขเพิ ่มเติมบทบัญญัติแห่งกกฎหมำยที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่เกี่ยสวกั
ำนับกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ควำมรับผิดในทำงอำญำของผู
กำ ้แทน
นิติบคุ คล พ.ศ. ๒๕๖๐๖๙
มำตรำ ๒ พระรำชบั ญ ญัตินี้ให้ ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิจจำ
นุเบกษำเป็นต้นไป
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ศำลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยว่ำ
พระรำชบัญญัติขสำยตรงและตลำดแบบตรง
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกพ.ศ. ำ ๒๕๔๕ มำตรำ ๕๔ เฉพำะในส่วนที่กสำันนิษฐำนให้
กรรมกำรผู้จัดกำร ผู้จัดกำร หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในกำรดำเนินงำนของนิติบุคคลนั้น ต้องรับโทษ
สำนักทำงอำญำร่ วมกับกำรกระท
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำควำมผิดของนิ สำนักตงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ิบุคคล โดยไม่ปรำกฏว่กำมีำ กำรกระทำหรืสำนั
อเจตนำประกำรใด
อันเกี่ยวกับกำรกระทำควำมผิดของนิติบุคคลนั้น ขัดหรือแย้ งต่อรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย
พุทธศักรำช ๒๕๕๐ สำนัมำตรำ ๓๙ วรรคสอง เป็นกำอันใช้บังคับไม่สไำนั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ด้ตกำมรั ฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กรไทย
พุทธศักรำช ๒๕๕๐ มำตรำ ๖ และต่อมำศำลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยในลักษณะดังกล่ำวทำนอง
สำนักเดีงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ยวกัน คือ พระรำชบักญำ ญัติลิขสิทธิ์ สพ.ศ. ๒๕๓๗ มำตรำ ๗๔ พระรำชบั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัติกสำรประกอบกิ จกำร
โทรคมนำคม พ.ศ. ๒๕๔๔ มำตรำ ๗๘ พระรำชบัญญัติสถำนบริกำร พ.ศ. ๒๕๐๙ มำตรำ ๒๘/๔ และ
พระรำชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. ๒๕๑๘ มำตรำ ๗๒/๕ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย
สำนักพุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทธศักรำช ๒๕๕๐ มำตรำ กำ ๓๙ วรรคสอง สำนักเป็งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นอันใช้บังคับไม่ได้ตำมรั
กำ ฐธรรมนูญแห่สงำนั
รำชอำณำจั กรไทย
พุทธศักรำช ๒๕๕๐ มำตรำ ๖ ดังนั้น เพื่อแก้ไขบทบัญญัติของกฎหมำยดังกล่ำวและกฎหมำยอื่นที่มี
บทบัญญัติในลักษณะเดี ยวกันมิให้ขัดหรือแย้งกต่ำอรัฐธรรมนูญสำนัจึงกจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำเป็นต้องตรำพระรำชบักำญญัตินี้
สำนักพระรำชบั ญญัติวัตถุอันกตรำย
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ (ฉบับที่ ส๔)
ำนักพ.ศ. ๒๕๖๒๗๐
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำตรำ ๒ พระรำชบัญญัตกินำี้ให้ใช้บังคับเมืสำนั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ่อพ้กนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
กำหนดหนึ่งร้อยแปดสิ
กำบวันนับแต่
วันประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป
๖๙
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๔/ตอนที่ ๑๘ ก/หน้ำ ๑/๑๑ กุมภำพันธ์ ๒๕๖๐
๗๐ กำจจำนุเบกษำ เล่สมำนั๑๓๖/ตอนที
รำชกิ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เมษำยน ส๒๕๖๒
่ ๕๖ ก/หน้ำ ๒๓๑/๓๐ ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๒ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มำตรำ ๒๘ ให้ ก รรมกำรผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ ซึ่ ง ด ำรงต ำแหน่ ง อยู่ ใ นวั น ก่ อ นวั น ที่
สำนักพระรำชบั ญญัตินี้ใช้บังคักำบเป็นกรรมกำรผู
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัก้ทงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รงคุณวุฒิตำมพระรำชบั
กำ ญญัติวัตถุอันสตรำย พ.ศ. ๒๕๓๕
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัตินี้ต่อไปจนกว่ำ จะครบวำระ
มำตรำ ๒๙ เรื่ อ งร้ อ งเรี ย นที่ ได้ ยื่ น และยั ง คงค้ ำ งพิ จ ำรณำอยู่ ใ นวั น ก่ อ นวั น ที่
พระรำชบัญ ญัตินี้ ใช้บัง คับ ให้เป็น อำนำจของคณะกรรมกำรวัต ถุอัน ตรำยตำมพระรำชบัญ ญัติ
วัตถุอันตรำย พ.ศ.สำนั๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญสญัำนัตกินงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี้ด้วย กำ
มำตรำกำ๓๐ ใบรับแจ้สำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี งกำรด ำเนินกำรนำเข้ำวัตถุกอำ ันตรำยชนิดทีส่ ำนั๒กและใบอนุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ญำต
น ำเข้ ำ วั ต ถุ อั น ตรำยชนิ ด ที่ ๓ ที่ อ อกตำมพระรำชบั ญ ญั ติ วั ต ถุ อั น ตรำย พ.ศ. ๒๕๓๕ ก่ อ นวั น ที่
พระรำชบัญ ญัตินสำนั ี้ใช้กบงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ังคับ ซึ่งมีวัตถุป ระสงค์ กำเพื่อ นำผ่ำ นวัสตำนัถุกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ัน ตรำยให้ถือว่ำเป็นใบน กำ ำผ่ำ นตำม
มำตรำ ๒๐/๒ แห่งพระรำชบัญญัติวัตถุอันตรำย พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัตินี้
สำนักจนกว่ ำใบรับแจ้งหรือใบอนุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญำต แล้วแต่สำนั กรณี จะสิ้นอำยุ
คำขอเกี่ย วกับ กำรแจ้งนำเข้ำ วัต ถุอัน ตรำยชนิดที่ ๒ และกำรขออนุญ ำตนำเข้ำ
วัตถุอัน ตรำยชนิดที่ ๓ ซึ่ง มีวัต ถุป ระสงค์เพื่ อ นำผ่ำนวัตถุสอำนั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ัน ตรำยที ่ได้ยื่น ไว้ตำมพระรำชบั ญ ญัติ
ตถุอันตรำย พ.ศ. ๒๕๓๕ กำ ก่อนวันทีส่พำนัระรำชบั ญญัตินี้ใช้บังคับและยั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ งอยู่ในระหว่ สำนัำกงกำรพิ จำรณำ
ให้ถือว่ำเป็นคำขอแจ้งนำผ่ำนวัตถุอันตรำยชนิดที่ ๒ หรือคำขออนุญำตนำผ่ำนวัตถุอันตรำยชนิดที่ ๓
ตำมมำตรำ ๒๐/๒ แห่ ง พระรำชบั ญ ญั ติกวำ ั ต ถุ อั น ตรำยสำนัพ.ศ.
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ๒๕๓๕ ซึ่ ง แก้ ไ ขเพิ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ ม เติ ม โดย
พระรำชบัญญัตินี้โดยอนุโลม ในกรณีที่คำขอใดมีข้อแตกต่ำงไปจำกหลักเกณฑ์ตำมพระรำชบัญญัตินี้
สำนักให้ พนักงำนเจ้ำหน้ำที่มอี กำนำจสั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่งให้ผู้ยื่นสำนั
คำขอด ำเนินกำรให้เป็นไปตำมพระรำชบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญสญัำนัตกินงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ี้ กำ
สมำตรำ ๓๑ บรรดำกฎกระทรวงหรื
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อประกำศที
สำนัก่องำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
อกตำมพระรำชบัญญัตกิวำัตถุอันตรำย
พ.ศ. ๒๕๓๕ ที่ใ ช้บัง คั บ อยู่ในวัน ก่อ นวัน ที่พ ระรำชบัญ ญัตินี้ใช้บัง คับ ให้ยังคงใช้บังคับ ได้ต่อ ไป
สำนักเพี ย งเท่ ำ ที่ ไม่ ขั ด หรื อ แย้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ง กั บ พระรำชบั
สำนักญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญั ติ วั ต ถุ อั น ตรำย พ.ศ.
กำ ๒๕๓๕ ซึ่ งสแก้
ำนักไงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ขเพิ่ ม เติ ม โดย กำ
พระรำชบัญ ญัตินี้ จนกว่ำจะมีกฎกระทรวงหรือประกำศที่ ออกตำมพระรำชบัญ ญัติวัตถุอันตรำย
พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำรดำเนิ
กำ นกำรออกกฎกระทรวงหรื อประกำศตำมวรรคหนึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ่ง ให้ดำเนิ
สำนันกกำรให้ แล้วเสร็จ
ภำยในหนึ่งร้อ ยแปดสิบ วัน นับ แต่วัน ที่ พ ระรำชบัญ ญัตินี้ใช้บัง คับ หำกไม่ส ำมำรถดำเนิน กำรได้
ให้รัฐมนตรีผู้รับผิสดำนั ชอบรำยงำนเหตุ ผลที่ไม่อำจด
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำเนินกำรได้สตำนั ่อคณะรั ฐมนตรี
มำตรำกำ๓๒ ให้รัฐมนตรี
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนัวก่ำกำรกระทรวงอุ ตสำหกรรมรั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กษำกำรตำมพระรำชบั ญญัตินี้
หมำยเหตุ :- เหตุผสลในกำรประกำศใช้ พระรำชบักำญญัติฉบับนี้ สคืำนั

ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี อ กเนืงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
่องจำกพระรำชบัญญัตกิวำัตถุอันตรำย
พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้ใช้บังคับมำเป็นเวลำนำน ทำให้บทบัญญัติบำงประกำรไม่สอดคล้องกับสถำนกำรณ์ปัจจุบัน
สำนักและยั งไม่มีกำรกำหนดหลั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กเกณฑ์ เกี่ ยสำนั
กำรนำผ่ำน กำรนำกลักำบ เข้ำมำ และกำรส่ งกลั บออกไป
รวมทั้งกำรโฆษณำวั ตถุอันตรำยไว้โดยเฉพำะ ประกอบกับสกลไกกำรควบคุ
มวัตถุอันตรำยยังไม่อำจ
ขับเคลื่อนได้อย่ำงมีประสิทธิภำพเท่ำที่ควร ดังนั้น สมควรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีกำร และเงื่อนไข
สำนักกำรน ำผ่ำนวัตถุอันตรำยไว้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ เป็นกำรเฉพำะ สำนัและมี มำตรกำรกำกับดูแลอย่
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ำงเคร่งครัด โดยมิ
สำนักใงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ห้เปลี่ยนแปลง กำ
- ๓๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
กำรนำผ่ำนวัตถุอันตรำยเป็น กำรนำเข้ำหรือให้ตกเป็นของแผ่นดิน เพื่อป้องกันมิให้ นำวัตถุอันตรำยที่

สำนักนงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำผ่ำนในรำชอำณำจักรมำใช้ กำ ประโยชน์สำนั หรืกองำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ปล่อยทิ้งโดยไม่สำมำรถหำตั กำ วเจ้ำของได้สำนัแกละเกิ ดอันตรำย
ในรำชอำณำจักร รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกำรนำกลับเข้ำมำ และกำรส่งกลับออกไปเพื่อเป็น
กำรลดภำระแก่ผสู้ ปำนัระกอบกำรก ำหนดบทบัญกำญั ติเกี่ยวกับ กำรโฆษณำวั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ตถุอัน ตรำยให้กเำป็นธรรมต่อ
ผู้บริโภคยิ่งขึ้น และแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบและอำนำจหน้ำที่ของคณะกรรมกำรวัตถุอันตรำยโดยให้
รั ฐ มนตรี ว่ ำ กำรกระทรวงอุ ต สำหกรรมเป็ น ประธำนกรรมกำรและปรั บ ปรุ ง องค์ ป ระกอบของ
คณะกรรมกำรวัตสถุำนัอันกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ตรำยให้เหมำะสม เพื่อกให้ำ สำมำรถขับเคลื สำนั่อกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นกำรควบคุมวัตถุอั นตรำยได้
กำ อย่ำงมี
ประสิ ทธิ ภำพยิ่ งขึ้ นและให้ กำรปฏิ บั ติ หน้ ำที่ ของหน่ วยงำนผู้ รั บผิ ดชอบเป็ นไปในแนวทำงเดี ยวกั น
ำหนดให้มีกำรยกเว้นกไม่ำ ต้องปฏิบัติตสำนัำมพระรำชบั ญญัตินี้ ทั้งหมดหรื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ อแต่บ ำงส่สำนั
วนในกรณี กำรนำ
วัต ถุอันตรำยมำใช้เพื่อประโยชน์ในกำรศึกษำ กำรทดสอบ กำรวิเครำะห์ กำรวิ จัย และกำรพัฒนำ
และกำหนดให้มสีกำนั ำรจ่ ำยค่ำเสียหำยเบื้องต้นกเพื
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่อชดเชยแก่สผำนัู้ได้กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
รั บควำมเสียหำยจำกวักำตถุอันตรำย
และผู้เข้ำช่ว ยเหลือ เคลื่อ นย้ำย บ ำบัด บรรเทำ หรือ ขจัด ควำมเสีย หำยที่เกิด ขึ้น รวมทั้งแก้ไ ข
สำนักเพิ ่มเติมบทกำหนดโทษและบทบั
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ญญัสตำนัิเกีก่ยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
วกับ กำรเปรียบเทียบให้ กำ เหมำะสม สำนัจึงกจงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำเป็น ต้องตรำ กำ
พระรำชบัญญัตินี้
๗๑
สำนักพระรำชบั ญญัติปรับปรุงกกระทรวง
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ทบวงสำนักรม (ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ. ๒๕๖๒
สมำตรำ ๒ พระรำชบัญญัตินี้ใกห้ำใช้บังคับตั้งแต่สวำนัันกถังำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ดจำกวันประกำศในรำชกิกำจจำนุเบกษำ
เป็นต้นไป
มำตรำ ๑๒ บรรดำบทบัญญัติแห่งกฎหมำยและพระรำชกฤษฎีกำที่ใช้บังคับอยู่
ในวันก่อนวันที่พระรำชบั ญญัตินี้ใช้บังคับในส่วกนที
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่กำหนดให้รสัฐำนัมนตรี ว่ำกำรกระทรวงวิทยำศำสตร์
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ และ
เทคโนโลยีเป็นผู้รักษำกำรหรือเป็นผู้รักษำกำรร่วม ให้เปลี่ยนเป็นรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกำรอุดมศึกษำ
สำนักวิงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ทยำศำสตร์ วิจัยและนวักำตกรรมเป็นผู้รสักำนัษำกำรหรื อเป็นผู้รักษำกำรร่กำวม ทั้งนี้ ตำมที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนั่กำหนดในบั ญชี ๑
ท้ำยพระรำชบัญญัตินี้
บรรดำบทบัญญัติแห่งกฎหมำยและพระรำชกฤษฎีกำที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่
สำนักพระรำชบั ญญัตินี้ใช้บังคักบำ ในส่วนที่กำหนดให้
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงศึ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ กษำธิกำรเป็ สำนันกผูงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
้รักษำกำรหรือ กำ
เป็นผู้รักษำกำรร่วม หำกเป็นกิจกำรที่อยู่ในอำนำจหน้ำที่ของกระทรวงกำรอุดมศึกษำ วิทยำศำสตร์
วิจัยและนวัตกรรมสำนัให้กเปลี ่ยนเป็นรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกำรอุ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สดำนัมศึ กษำ วิทยำศำสตร์ วิจัยกและนวั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ตกรรม
เป็นผู้รักษำกำรหรือเป็นผู้รักษำกำรร่วม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี บรรดำบทบั
กำ ญญัติแห่งสกฎหมำยที ่ใช้บังคับอยู่ในวันกก่ำอนวันที่ พระรำชบั
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี สำนักญงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ญัตินี้ใช้บังคับ กำ
ในส่วนที่อยู่ในอำนำจหน้ำที่ของกระทรวงกำรอุดมศึกษำ วิทยำศำสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้เพิ่ม
รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกำรอุ ดมศึกษำ วิทยำศำสตร์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วิจัยสและนวั ตกรรมเป็นผู้รักษำกำรร่
ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ วม ทั้งนี้
ตำมที่กำหนดในบัญชี ๒ ท้ำยพระรำชบัญญัตินี้
มำตรำ ๑๗ ให้นำยกรัฐมนตรีรักษำกำรตำมพระรำชบั
ญญัตินี้
๗๑ กำจจำนุเบกษำ เล่สมำนั๑๓๖/ตอนที
รำชกิ กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ พฤษภำคม ๒๕๖๒
่ ๕๗ ก/หน้ำ ๑/๑ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๓๔ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
งำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ สพำนัระรำชบั ญญัติฉบั บนี้ คือ กโดยที
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี ำ ่กำรอุดมศึสำนั
กษำ วิทยำศำสตร์
วิจัยและนวัตกรรม เป็นกลไกสำคัญในกำรพัฒนำประเทศให้เจริญเติบโตอย่ำงมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
เพื่อรองรับควำมเปลี
สำนัก่ยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
นแปลงของโลกที่จะเกิกำดขึ้นในอนำคต สำนัสมควรจั ดตั้งกระทรวงกำรอุ
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ ดมศึกษำ
วิท ยำศำสตร์ วิจัย และนวัต กรรมขึ้น เพื่อ ให้มีก ำรบู ร ณำกำร กำรเรีย นกำรสอน กำรวิจัย และ
กำรสร้ำงสรรค์นวัตกรรมด้ำนวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี และศำสตร์อื่นเข้ำด้วยกัน และให้เกิดควำมร่วมมือ
ในกำรปฏิบัติหน้ำสทีำนั่ระหว่ ำงสถำบันอุดมศึกษำและสถำบั
กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นวิจัยสำนั
ในทิกงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี
ศทำงที่สอดคล้องกับยุทกธศำสตร์
ำ ชำติ
แผน และนโยบำยในกำรพัฒนำประเทศ จึงจำเป็นต้องตรำพระรำชบัญญัตินี้

- ๓๕ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกสัำญชัย/จัดทำ
๑๑ สิงหำคม ๒๕๕๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีวิกภำ ำ/ปรับปรุง

๑ ธันวำคม ๒๕๕๙
วริญำ/เพิ่มเติม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ๑๖ กุมภำพั
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ นธ์ ๒๕๖๐
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ วิชพงษ์/ตรวจ

๒๐ กุมภำพันธ์ ๒๕๖๐
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักปุงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

ณิกำ/เพิ่มเติม กำ
๒ พฤษภำคม ๒๕๖๒
ปริญสินีย์/ตรวจ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ๘สำนั
พฤษภำคม ๒๕๖๒
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ พิไลภรณ์
สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี กำ /เพิ่มเติม
๑๔ พฤษภำคม ๒๕๖๒
วิชพงษ์/ตรวจ
๑๔ พฤษภำคม ๒๕๖๒

law-haz-29032535-พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535

Uploaded by

Document Information

Copyright

Available Formats

Share this document

Share or Embed Document

Sharing Options

Did you find this document useful?

Is this content inappropriate?

Copyright:

Available Formats

law-haz-29032535-พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535

Uploaded by

Copyright:

Available Formats

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี “ขำย”กำหมำยควำมถึสงำนักำรจ ำหน่ำย จ่ำยหรือแจกเพื

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

“โฆษณำ”๘ หมำยควำมว่ำ กำรกระทำไม่ว่ำโดยวิธีใด ๆ ให้ประชำชนเห็น หรือได้ยิน

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

(๖) ให้ค วำมเห็น ต่อ รัฐ มนตรีผู้รับ ผิด ชอบในกำรออกประกำศตำมมำตรำ ๒๐

สมำตรำ ๘๑๕ กรรมกำรผู้ทรงคุ

มำตรำ ๑๐ ในกรณี ที่มีกำรแต่งตั้งกรรมกำรผู้ท รงคุณ วุฒิ ในระหว่ำงที่กรรมกำร

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๑๕/๑๑๖ ในกำรมีมติหรือกำรให้ควำมเห็นของคณะกรรมกำร กำรให้ควำม

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๒๒ ๒๕ ภำยใต้บังคักบำบทบัญ ญั ติมสำตรำ

มำตรำ ๒๓ ภำยใต้บังคับบทบัญญัติมำตรำ ๓๖ ห้ำมมิให้ผู้ใดผลิต นำเข้ำ ส่งออก

วรรคสอง วรรคสำมและวรรคสี่ มำใช้บังคับโดยอนุโลม

สมำตรำ ๓๒ เมื่อ ปรำกฏต่กอำ พนัก งำนเจ้สำำนั

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

เมื่อมีกำรเพิกถอนทะเบียนวัตถุอันตรำยใดแล้ว สิทธิในกำรผลิต นำเข้ำ ส่งออก หรือ

สมำตรำ ๔๑ เจ้ ำของวัตถุอกันำ ตรำยที่ ถูกเพิสำนั

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๕๑๓๒ กำรโฆษณำวัตถุอันตรำยจะต้องไม่ใช้ข้อควำมที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้อื่น

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ในกำรออกคำสั่งตำม (๔) ให้หน่วยงำนผู้รับผิดชอบปฏิบัติ ตำมหลักเกณฑ์ วิธีกำร

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๕๑/๗๓๙ กำรพิจำรณำอุทธรณ์ตำมมำตรำ ๕๑/๖ ให้รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบ

มำตรำ ๕๒/๒๔๓ เมื่อควำมปรำกฏต่อหน่วยงำนผู้รับผิดชอบว่ำวัตถุอันตรำยที่นำเข้ำ

มำตรำกำ๕๓๔๔ (ยกเลิสกำนั) กงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ในกรณีที่มีกำรคืนสิ่งของที่ยึดหรืออำยัดไว้ หรือเงินที่ขำยได้ ให้แจ้งกำรคืนโดยส่ง

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำกำ ๕๘ เพื่อ ประโยชน์

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สมำตรำ ๖๓๔๕ ผู้ผลิต ผู้ นำเข้

สมำตรำ ๖๙ ในกรณีที่วัตถุอกันำ ตรำยก่อให้เสกิำนั

สมำตรำ ๗๐ ผู้ ใ ดไม่ ม ำให้กำถ้ อ ยค ำ หรืสอำนัไม่กสงำนคณะกรรมกำรกฤษฎี

มำตรำ ๗๐/๑ ๔๘ ผู้ใดไม่ป ฏิบัติต ำมมำตรำ ๒๐/๑ ต้อ งระวำงโทษจำคุก ไม่เกิน

สมำตรำ ๗๐/๒๔๙ ผู้ใดนำผ่ำกนวั

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

มำตรำ ๗๔/๒๕๒ กำรกระทำควำมผิดตำมมำตรำ ๗๓ หรือมำตรำ ๗๔ ในส่วนที่

สมำตรำ ๘๓ ผู้ใดขำยวัตถุอกันำตรำยโดยไม่ มสีฉำนัลำกหรื

มำตรำกำ ๘๔/๑ ๕๕ ผูส้ใำนั

สมำตรำ ๘๕/๑๕๘ ผู้ใดไม่ปฏิกบำ ัติตำมคำสั่งของพนั

สมำตรำ ๘๗/๑๕๙ ผู้ใดเคยถูกกำลงโทษเพรำะเหตุ

มำตรำ ๘๘๖๑ วัตถุอันตรำยที่ผลิต นำเข้ำ ส่งออก นำผ่ำน นำกลับเข้ำมำ ส่งกลับ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ปรำกฏว่ำ ในปัจจุบันมีกำรนำ

พระรำชบัญญัติวัตสำนั ตรำย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.กำ๒๕๔๔๖๖

สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ปัจจุบัน ซึ่งมีสภำพปัญหำเกี่ยวกับวัตถุอันตรำยที่ทวีควำมรุนแรงขึ้น มีผลกระทบต่อสุขภำพอนำมัย

หมำยเหตุ :- เหตุผสลในกำรประกำศใช้ พระรำชบักำญญัติฉบับนี้ สคืำนั

กำรนำผ่ำนวัตถุอันตรำยเป็น กำรนำเข้ำหรือให้ตกเป็นของแผ่นดิน เพื่อป้องกันมิให้ นำวัตถุอันตรำยที่