Professional Documents
Culture Documents
1
การบําบัดนําเสียทางชีวภาพ
ใช้จุลนิ ทรีย์ (แบคทีเรีย) บําบัดนําเสีย (สารอินทรีย)์
จุลนิ ทรียจ์ ะย่อยสลายและเปลียนรูปสารอินทรียใ์ นนําเสียให้อยูใ่ นรูปของ
สารอนินทรีย์
มี 2 รูปแบบหลัก
1. ระบบบําบัดนําเสียทางชีวภาพแบบใช้ออกซิเจน
2. ระบบบําบัดนําเสียแบบไม่ใช้ออกซิเจน
สารอินทรีย์ (BOD)
จุลินทรีย์
นําเสีย
2
จุลินทรียใ์ นระบบบําบัดนําเสีย
จุลินทรีย์ --> แบคทีเรีย แยกประเภทจากตัวรับอิเล็กตรอน
1. ปฏิกิริยาแบบใช้ออกซิเจน
พลังงานทีได้จะถูกนํามาใช้สร้างเซลล์ใหม่ ดังสมการ
COHNS + O2 + Bac. + E 3----> C5H7O2N (new cell)
จุลินทรียใ์ นระบบบําบัดนําเสีย
2. ปฏิกิริยาแบบไม่ใช้ออกซิเจน
7
ข้อเสียของระบบไร้อากาศ
ต้องการเวลาในการเริมระบบ (start up) นานเพือสร้างจุลนิ ทรีย์
ต้องการระบบบําบัดต่อเนืองเพือให้ผา่ นมาตรฐานนําทิง
ไม่สามารถกําจัดไนโตรเจนและฟอสฟอรัสทางชีวภาพได้
มีความอ่อนไหวต่อการเปลียนแปลงอุณหภูมิ
เกิดกลินเหม็นและเกิดก๊าซทีกัดกร่อนโลหะ
8
หลักการของระบบไร้อากาศ
H2 +CO2
สารอินทรีย์ แบคทีเรีย แบคทีเรีย CH4 + CO2
กลุ่มที 1 กรดระเหยง่าย กลุ่มที 2
สารอินทรียโ์ มเลกุลใหญ่
ไฮโดรไลซิส
สารอินทรียโ์ มเลกุลเล็ก
การสร้างกรด
กรดไขมัน (C>3)
การสร้างอะซิติก
13
1. บ่อเกรอะ/บ่อซึม
14
1. บ่อเกรอะ/บ่อซึม
Septic Tank มีลกั ษณะเป็ นบ่อปิ ด ซึงนําซึมไม่ได้และไม่มกี ารเติมอากาศ
มักใช้สาํ หรับการบําบัดนําเสียจากส้วม ครัว อาคารสํานักงาน
อัตราการเกิดกากตะกอนประมาณ 1 ลิตร/คน/วัน
ระยะเวลากักเก็บควร > 24 ชม.
ต้องมีทอ่ ระบายอากาศ (vent)
ต้องมีการสูบกากตะกอนในบ่อเกรอะ ทุกประมาณ 2-3 ปี
ระวังสิงทีย่อยหรือสลายยาก เช่น พลาสติก ผ้าอนามัย กระดาษชําระ
ประสิทธิภาพในการบําบัดนําเสีย ร้อยละ 40 - 60
นําทิงจากบ่อเกรอะยังคงมีคา่ บีโอดีสงู เกินค่ามาตรฐาน
15
2. บ่อเหม็น
ใช้กาํ จัดสารอินทรียท์ มีี ความเข้มข้นสูงๆ
เป็ นบ่อดินขนาดใหญ่ ลึก 3 – 5 เมตร เวลาเก็บกัก 20 – 50 วัน
มีกลินเหม็น ควรอยูไ่ กลจากชุมชน
ราคาถูก
16
3. Conventional Anaerobic Digester
ใช้ยอ่ ยสลัดจ์จากระบบเอเอส เป็ นถังปิ ด มีระบบระบายก๊าซ
เพิมประสิทธิภาพโดย การกวน และควบคุมอุณหภูมิ
17
4. Two phase Digestion
ประกอบด้วยถังปฏิกรณ์ 2 ใบ
ใบแรกควบคุมการสร้างกรดอะซิตกิ มีการระบาย H2 pH = 6
ใบทีสองควบคุมการผลิตก๊าซมีเทน pH = 7
Acid phase
Methane phase
18
5. Anaerobic Filter
ถังสูงคล้ายถังกรอง ภายในบรรจุตวั กลาง เช่น พลาสติก
นําเสียเข้าทางด้านล่าง แบคทีเรียยึดเกาะติดกับตัวกลาง
ปั ญหา : แพง การอุดตันของแข็งในตัวกลาง และการไหลลัดวงจร
ข้อได้เปรียบ : อัตราภาระสารอินทรียส์ งู การเดินระบบง่าย
19
6. Anaerobic Fluidized Bed
ถังปิ ดทรงสูง ภายในบรรจุตวั กลาง
ขนาดเล็กให้แบคทีเรียเกาะ เช่น ทราย
แอนทราไซท์
ใช้อตั ราการไหลควบคุมตัวกลางให้อยู่
ในสภาพลอยตัวตลอดเวลา
ความเร็วของนําไหลขึน 20 – 40 ม./ชม.
ประสิทธิภาพ 90 %
ข้อดี : รับอัตราภาระสารอินทรียส์ งู
ข้อเสีย : ค่าใช้จา่ ยด้านพลังงานระบบ
สูบนําสูง ตัวกลางราคาแพง 20
7. UASB
Upflow Anaerobic Sludge Blanket
แบคทีเรียถูกเลียงให้จบั ตัวเป็ นก้อน มีนําหนักมาก ตกตะกอนได้ดี
นําเสียเข้าทางด้านล่าง ทําให้เม็ดแบคทีเรียลอยตัว
เม็ดแบคทีเรียขนาด 1 – 3 มม.
มีประสิทธิภาพสูง เพราะมีแบคทีเรียจํานวนมาก
HRT 4 - 8 ชม. SRT 30-50 วัน
ข้อได้เปรียบ : อัตราภาระสารอินทรียส์ งู ระยะเวลากักพักตํา ไม่ตอ้ งการ
ตัวกลางทีมีราคาแพง
ข้อเสียเปรียบ : นําเสียทีมีของแข็งแขวนลอยมากจะทําให้เกิดเม็ด
แบคทีเรียได้ยาก 21
ก๊าซมีเทน
นําทิงออกจากระบบ
ก๊าซมีเทนลอยขึน
ชันสลัดจ์
นําเสียเข้าระบบ
23
24
8. Covered lagoon
บ่อปิ ดคลุมด้วย HDPE
HRT 30-45 days
Depth > 4 m
ประสิทธิภาพในการกําจัด BOD > 60%
ดูแลไม่ยงุ่ ยาก ค่าติดตังไม่สงู
อัตราภาระบรรทุกสารอินทรียต์ ํา (1–2 kg/m3-d)
ต้องการพืนทีมาก
เพิมประสิทธิภาพด้วยการหมุนเวียนนํา
ฤดูกาลมีผล
25
การบําบัดทางชีวภาพแบบเติมอากาศ
ปัจจัยพืนฐานของคนและแบคทีเรีย
ถังเติมอากาศ
นําเสีย
ถังตกตะกอน
นําทีผ่าน
การบําบัด
อากาศ
ตะกอนทีนํากลับมาใช้ใหม่
ตะกอนเหลือ
30
Conventional AS
• ระบบเอเอสแบบธรรมดา หมายถึง ระบบทีมีถงั เติมอากาศ และถัง
ตกตะกอน โดยอาจเติมอากาศแบบผิวหน้าหรือแบบฟองอากาศก็ได้
Organic
Primary
Effluent
Tapered Aeration
Step Aeration
34
AS
ข้อดี ข้อเสีย
• ประสิทธิภาพสูง • ใช้พลังงาน
• ใช้พืนทีน้ อย • ใช้ผดู้ แู ลทีมีความรู้
• ใช้เวลาในการบําบัดน้อย • ปั ญหาเรือง Shock load
• ไม่มกี ลิน • มีกากตะกอนทีต้องบําบัด
• ราคาถูก
35
ออกแบบระบบเบืองต้น
1. ปริมาณนําเสีย
2. ความสามารถในการรองรับนําเสียของระบบ
3. ความสามารถในการบําบัดนําเสีย
36
1. การวัดปริมาณนําเสีย
1. ปริมาณนําเสีย วัดได้จาก
1. การประเมินจากนําใช้
2. การใช้ Flow meter
3. การจับเวลาและวัดปริมาตรของนําเสียทีไหลเข้าถัง
4. การจับเวลาทํางานของเครืองสูบนําเสีย
5. การวัดความเร็วของนําทีไหลในรางระบาย
6. การวัดอัตราการไหลของนําด้วยเวียร์
37
2. ความสามารถในการรองรับนําเสียของระบบ
41
การสังเกตุระบบ
1) สี-กลิน-ตะกอน-ฟองของนําเสีย และสลัดจ์ในถังเติมอากาศ
สลัดจ์มสี นี ําตาลเข้ม ระบบทํางานได้ดี
สลัดจ์มสี ดี าํ ขาดออกซิเจน
สลัดจ์มกี ลินอับคล้ายดิน ให้ออกซิเจนเพียงพอ
สลัดจ์มกี ลินก๊าซไข่เน่า ออกซิเจนไม่เพียงพอ
ฟองสีนําขาวบนผิวนํา จุลนิ ทรียอ์ ายุและจํานวนน้อยไป
ฟองสีนําตาล จุลนิ ทรียอ์ ายุและจํานวนมากไป
2) ลักษณะการเติมอากาศ ต้องทัวถึงและสมําเสมอ
ค่าออกซิเจนละลาย ต้องไม่ตํากว่า 2 มก./ล.
42
การควบคุมระบบบําบัดแบบเติมอากาศ
ลักษณะน้ํา
ระยะเวลา เสียเขาระบบ
ในการ จุลินทรีย Flow rate
บําบัด Efficiency
BOD loading
อุณหภูมิ ปจจัยที่มี pH HRT
ผล SRT
F/M
สารพิษ DO SV30
SVI
การกวน
ธาตุอาหาร
ผสม43
AS ถังเติมอากาศ
Criteria Conventional Completely Mixed Extended Aeration
อัตราภาระบรรทุกสารอินทรีย์ 0.3 – 0.6 0.8 – 1.9 0.1 – 0.4
(กก. บีโอดี/ลบ.ม.-วัน)
อัตราส่วนอาหารต่อจุลนิ ทรีย์ 0.2 – 0.4 0.2 – 0.6 0.05 – 0.15
(F/M) (กก.BOD/กก.MLVSS-วัน)
MLSS (มก./ล.) 1,500 – 3,000 2,500 – 4,000 3,000 – 6,000
อายุสลัดจ์ (วัน) 5 - 15 5 - 15 20 – 30
เวลาเก็บพักนําเสีย (ชม.) 4–8 3–5 18 – 36
อัตราส่วนสูบสลัดจ์กลับ 0.25 – 1.0 0.25 – 1.0 0.5 – 1.5
ออกซิเจนละลาย (มก./ล.) 2.0 2.0 2.0
pH 6.5 – 7.5 6.5 – 7.5 6.5 – 7.5
BOD:N:P 100:5:1 44 100:5:1 100:5:1
AS
ถังตกตะกอน
Criteria Conventional Completely Mixed Extended Aeration
อัตรานําล้น 16 – 33 16 – 33 8 – 16
(ลบ.ม/ตร.ม.-วัน)
อัตราภาระของแข็ง 3–6 3–6 1–5
(กก./ตร.ม.-ชม.)
อัตรานําล้นฝาย 250 250 250
(ลบ.ม./ม.-วัน)
ดัชนีปริมาตรสลัดจ์ 100 – 200 100 – 200 100 – 200
(มล./กรัม)
ถังตกตะกอนเล็ก : สลัดจ์ตกตะกอนไม่ดี
ถังตกตะกอนใหญ่ : สลั45ดจ์ขาดออกซิเจน เน่าได้
การควบคุมการทํางาน
ปริมาณ/ ปริมาณเชือใน
ลักษณะของนํา ระบบ
เสีย 1. การควบคุมค่าอัตราส่วน
Eq. tank อาหารต่อจุลนิ ทรีย์ (F/M)
2. การควบคุมอายุสลัดจ์ อืนๆ
คุณภาพเชือใน (Sludge Age)
ระบบ 3. การควบคุมการสูบสลัดจ์ เวลากักพักนํา (HRT)
การเติมธาตุอาหาร กลับ การควบคุมดูแล
(Nutrient) 4. การดูแลสลัดจ์ เครืองจักร
พารามิเตอร์ต่างๆ 5. การควบคุมค่าอัตราส่วน
เช่น DO pH temp ภาระอินทรียต์ ่อปริมาตรถัง
เติมอากาศ
ปริมาณเชือในบ่อ
1. SV30 (Sludge Volume) = ปริมาตรสลัดจ์ทอ่ี านได้เมือตัง imhoff cone
ทิงไว้ 30 นาที (มล./ล.)
47
ปริมาณเชือในบ่อ
2. MLSS (Mixed liquor suspended solids) = ความเข้มข้นของสาร
แขวนลอยในถังเติมอากาศ
MLVSS (Mixed liquor volatile suspended solids) = ความเข้มข้นของ
จุลนิ ทรียใ์ นถังเติมอากาศ
48
1. F/M
อัตราส่วนอาหารต่อจุลินทรีย์ (F/M)
= นําหนักสารอินทรียท์ เข้
ี าระบบต่อวัน
นําหนักของสารอินทรียใ์ นถังเติมอากาศ
= นําหนักของบีโอดีทเข้
ี าระบบ (กก./วัน)
นําหนัก MLVSS ในถังเติมอากาศ (กก.)
52
2. อายุสลัดจ์ (SRT)
ถังเติมอากาศ
น้ําเสีย
Q 1, C 1 C 3, V ถังตกตะกอน
Q 4, C 4
น้ําที่ผาน
การบําบัด
อากาศ
Q 2, C 2 Q 5, C 5
SRT = C3 V
53
(C5Q5) + (C4Q4)
2. อายุสลัดจ์ (SRT)
Q1 = 200 ลบ.ม./วัน
C3 = 2,000 มก/ล. Q4 = 200 ลบ.ม. /วัน
V = 100 ลบ.ม. C4 = 20 มก/ล.
Q2 = 25 ลบ.ม. /วัน Q5 = 5 ลบ.ม. /วัน
C2 = 8,000 มก/ล. C5 = 8,000 มก/ล.
SRT = C3 V
(C5Q5) + (C4Q4)
= 2,000 มก./ล. x 100 ลบ.ม.
(8,000 มก./ล.)(5 ลบ.ม./วัน) + (20 มก./ล.)(200 ลบ.ม./วัน)
= 4.55 วัน 54 #
2. อายุสลัดจ์ (SRT)
อายุตะกอนนอย
ตกตะกอนไม่ดี
นําขุน่
มีฟองขาว
O2 ถูกใช้มาก
55
2. อายุสลัดจ์ (SRT)
อายุตะกอนมาก
การใช้อาหารน้อย
การเกิดเซลล์ใหม่น้อย
ค่า F:M ตํา
MLSS สูง
ตะกอนตกแน่น
56
3. การควบคุมการสูบสลัดจ์กลับ
1. คํานวณจากความสามารถในการตกตะกอนของสลัดจ์
Q2 = SV30
Q1 1000 – SV30
Q2 = อัตราการสูบสลัดจ์กลับ (ลบ.ม./วัน)
Q1 = อัตราการไหลของนําเสีย (ลบ.ม./วัน)
SV30 = ปริมาตรสลัดจ์ทอ่ี านได้เมือตัง
imhoff cone ทิงไว้ 30 นาที (มล./ล.)
57
3. การควบคุมการสูบสลัดจ์กลับ
1. คํานวณจากความสามารถในการตกตะกอนของสลัดจ์
จงคํานวณหาอัตราการสูบสลัดจ์กลับจากข้อมูลต่อไปนี
อัตราการไหล 1,000 ลบ.ม./วัน
ปริมาตรสลัดจ์หลังจากตกตะกอน 30 นาที (SV30) 200 มล./ล.
Q2 = SV
Q1 1000 – SV
Q2 = 200 x 1000 ลบ.ม./วัน
1000 – 200
อัตราการสูบสลัดจ์กลับ = ลบ.ม./วัน #
58
SVI
SVI = SV30 (มล./ล.) x 1000
MLSS (มก./ล.)
Sludge Volume Index
80 – 120 มล./ก.
ให้หา SVI เมือนํานําจากถังเติมอากาศ 1,000 มล. ใส่กรวยอิมฮอฟฟ์
ตังทิงไว้ 30 นาที ได้ปริมาตรสลัดจ์ 300 มล. ค่า MLSS 2,500
มก./ล.
SVI = 300 มล./ล. x 1000 มก.
2500 มก./ล. ก.
= 120 59มล./ก.
3. การควบคุมการสูบสลัดจ์กลับ
2. การควบคุมระดับความสูงของชันสลัดจ์ในถังตกตะกอน
ระดับความสูงของ
ชันสลัดจ์ปกติ
สลัดจ์ทเก็
ี บไว้ควรสูงไม่เกิน 1 ใน 3 ของความจุถงั
(โดยควบคุมระดับความสูง60ของชันสลัดจ์ 0.3-1.0 ม.)
4. การควบคุมดูแลสลัดจ์
SV30 สิงทีพบ สาเหตุ การแก้ไข
1. สลัดจ์สนี ําตาลอ่อน อายุสลัดจ์ตาํ
. . .. . ตกตะกอนช้า นําขุน่ เป็ นธรรมดาสําหรับระยะ
เกิดฟองสีขาวในถังปฏิกรณ์ เริมเดินระบบ
2. สลัดจ์สนี ําตาลเข้ม ระบบทํางานปกติ
ตกตะกอนเร็ว นําใสมาก
3. สลัดจ์สนี ําตาลเข้มมาก ระบบทํางานปกติ ต้องสูบสลัดจ์สว่ นเกินออก
มีสลัดจ์มากเกินไปในถัง มากขึน
เติมอากาศ
4. สลัดจ์สนี ําตาลเข้ม เกิดดีไนตริฟิเคชัน สูบสลัดจ์สว่ นเกินออกมากขึน
ตกตะกอนเร็ว ตังทิงไว้ 1-2 อาจมีการสะสมของสลัดจ์
ชม. สลัดจ์ลอยขึนผิวนํา ก้นถังเติมอากาศ
5. สลัดจ์สนี ําตาล นําเสียเข้าระบบมาก ลดการสูบสลัดจ์สว่ นเกินเพือ
. .. .. ตกตะกอนช้า นําขุน่ เกินไป เพิมสลัดจ์
การกวนไม่เพียงพอ ตรวจอุปกรณ์เติมอากาศ
4. การควบคุมดูแลสลัดจ์
สาเหตุการเกิดแบคทีเรียเส้นใย
1. ลักษณะของนําเสีย
อัตราการไหลไม่แน่นอน เปลียนแปลง
องค์ประกอบของนําเสียเปลียนแปลง : pH, อุณหภูม,ิ N, P
ลักษณะของนําเสีย : ประเภทคาร์โบไฮเดรท (แป้ งและนําตาล),
กรดอินทรียร์ ะเหยและซัลไฟด์ (จากระบบแอนแอโรบิก)
2. การควบคุมทีไม่ถกู ต้อง
- ค่า DO ตํา
- N และ P น้อยเกินไป
- อัตราการให้สารอินทรียม์ ากเกินไป (และ DO ตํา)
- อัตราการให้สารอินทรียน์ ้อยเกินไป
62
การทําให้ตะกอนแห้ง
Filter press
ลานตากตะกอนทราย
Belt press
5. ควบคุมอัตราส่วนภาระอินทรียต์ ่อปริมาตรถังเติมอากาศ
64
5. ควบคุมอัตราส่วนภาระอินทรียต์ ่อปริมาตรถังเติมอากาศ
จงคํานวณหาอัตราภาระอินทรียต์ ่อปริมาตรถังเติมอากาศ
บ่อบําบัดนําเสียมีความจุ 500 ลบ.ม.
มีอตั รานําไหลเข้า 1,000 ลบ.ม./วัน
ค่าบีโอดีของนําเสียเท่ากับ 500 มก./ล.
OL = QS0
V x 1000
= 500 มก./ล. x 1000 ลบ.ม./วัน
500 ลบ.ม. x 1,000
= กก.บีโอดี/ลบ.ม.-วัน
(ค่าออกแบบสําหรับระบบเอเอส 65
0.8 – 1.9 กก.บีโอดี/ลบ.ม.-วัน)
เวลากักพักนํา (HRT)
เวลากักพักนํา (HRT) คือระยะเวลาทีนําเสียถูกบําบัดในถังเติมอากาศ
ระยะเวลาสันเกินไป : ค่าบีโอดีนําทิงสูง
ระยะเวลายาวเกินไป : เกิดปั ญหาการตกตะกอน
ระยะเวลาทีเหมาะสม (สําหรับค่าบีโอดีประมาณ 200 มก./ล.)
ระบบเอเอสธรรมดา 8 – 12 ชม.
ระยะเวลากักพักนํา = ปริมาตรถังเติมอากาศ (V)
อัตราการไหล (Q)
66
เวลากักพักนํา (HRT)
Q1 = 1000 ลบ.ม./วัน
V = 400 ลบ.ม.
67
Surface Aerator
68
Jet Aerator
69
Diffuser
70
ตัวอย่างปัญหาและวิธีการแก้ไข
ปญหา สาเหตุ การแกไข
1. คา DO ในถังลด - สารอินทรียเขาสูถังเติม - ลดอัตราการเติมน้ําเสียเขา
ต่ําลงกระทันหัน อากาศสูง ระบบ
- เพิ่มการเติมอากาศ
2. คา DO ในถัง - มีสารพิษมาในระบบ ทํา - บําบัดสารพิษกอน
เพิ่มขึ้นกระทันหัน ใหจุลินทรียในถังตาย - เติมน้ําเสียทีละนอยเพื่อให
จุลินทรียปรับตัว
- ถาจุลินทรียตายหมดตอง
เริ่มตนเดินระบบใหม
71
ปัญหาการเดินระบบและวิธีการแก้ไข
ปญหา สาเหตุ การแกไข
3. มีฟองขาว หนา - มีสารซักฟอก หรือสารที่ทํา - ควบคุมการทิ้งสารซักฟอก
ปกคลุมถัง ใหเกิดฟองเขามาในระบบ - ฉีดน้ําทําลายฟอง
มาก
- เติมอากาศมากเกินไป - ลดการเติมอากาศ
- คา MLSS ต่ํา - หยุดการทิ้งสลัดจ
- เพิ่มการหมุนเวียนสลัดจ
72
ปัญหาการเดินระบบและวิธีการแก้ไข
ปญหา สาเหตุ การแกไข
3. มีฟองสีน้ําตาล - MLSS ในถังมากเกินไป - เพิ่มการทิ้งสลัดจทีละนอย
ปกคลุมผิวน้ํา - สลัดจมีอายุมากเกินไป
- คา F/M ต่ํา
- มีแบคทีเรียเสนใยชนิด - เพิ่มการทิ้งสลัดจทีละนอย
Nocardia เพื่อลดอายุสลัดจ
- เติมคลอรีนในทอสงสลัดจ
กลับ หรือ ฉีดสารละลาย
73
คลอรีนลงบนฟอง
ปัญหาการเดินระบบและวิธีการแก้ไข
ปญหา สาเหตุ การแกไข
4. มีจุลินทรีย - ชั้นของสลัดจในถัง - เพิ่มการสูบสลัดจกลับไปยัง
ออกมากับน้ําทิ้ง ตกตะกอนสูงเกินไป ถังเติมอากาศ
มาก - สูบสลัดจสวนเกินออกเพิ่ม
- เกิดขบวนการดีไนตริฟเคชัน - เพิ่มปริมาณการเติม
ในถังตกตะกอน มีฟองอากาศ ออกซิเจนในถังเติมอากาศ
จับกับกลุมสลัดจ หรือ - สูบสลัดจกลับไปถังเติม
ปริมาณออกซิเจนละลายใน อากาศมากขึ้น
ถังเติมอากาศมีนอยเกินไป
74
2. Oxidation ditch
75
76
3. Contact Stabilization Activated Sludge
77
3. Contact Stabilization Activated Sludge
Parameter Typical value
F/M Ratio 0.2 - 0.6 กก.บีโอดี / กก. MLSS-วัน
อายุสลัดจ์ (Sludge Age) 5 - 15 วัน
อัตราภาระอินทรีย์ (Organic Loading) 0.9 - 1.2 กก.บีโอดี / ลบ.ม.-วัน
- MLSS ในถังสัมผัส 1,000 - 3,000 มก./ล.
ในถังปรับเสถียร 4,000 - 10,000 มก./ล.
- HRT ในถังสัมผัส 0.5 - 1 ชัวโมง
ในถังปรับเสถียร 3 - 8 ชัวโมง
อัตราส่วนการสูบสลัดจ์กลับ 0.25 - 1.5
- ความต้องการออกซิเจน
ในถังสัมผัส 0.4 - 0.6 กก.O2 / กก. BOD ทีถูกกําจัด
ในถังปรับเสถียร 0.3 - 0.5 กก.O2 / กก. BOD ทีถูกกําจัด
78
ประสิทธิภาพในการกําจัดบีโอดี ร้อยละ 80 - 90
4. Sequencing Batch Reactor, SBR
79
4. Sequencing Batch Reactor, SBR
Parameter Typical value
F/M Ratio 0.05 - 0.3 กก.บีโอดี / กก. MLSS-วัน
ระยะเวลาบําบัดรวม 12 – 24 ชม.
อายุสลัดจ์ (Sludge Age) 8 - 20 วัน
อัตราภาระอินทรีย์ (Organic Loading) 0.1 - 0.3 กก.บีโอดี / ลบ.ม.-วัน
MLSS 1,500 - 6,000 มก./ล.
ความจุถงั ต่ออัตราไหลเข้าของนําเข้าระบบ 8 - 50 ชัวโมง
ประสิทธิภาพในการกําจัดบีโอดี ร้อยละ 85 - 95
ที่มา : คากําหนดการออกแบบระบบบําบัดน้ําเสีย", สมาคมวิศวกรรมสิ่งแวดลอมแหงประเทศ
ไทย 2540 และ "Wastewater Engineering",80Metcalf&Eddy 1991
5. Aerated lagoon
- ระยะเวลากักพักของสระเติมอากาศ 3 – 10 วัน
- ระยะเวลากักพักของบ่อตกตะกอน 1 – 2 วัน
- ของแข็งแขวนลอย 81
< 1,000 มก./ล.
5. Aerated lagoon
82
6. Stabilization pond
ลม
CO2 + H2 O2 + สาหราย
Aerobic zone
น้ําเสีย แบคทีเรีย น้ําที่ผาน
สําหราย การบําบัด
น้ําเสีย
Anaerobic ตกตะกอน
Zone
ตะกอนอินทรีย
83
ทีมา: นําเสียชุมชนและระบบบําบัดนําเสีย, กรมควบคุมมลพิษ 2545
84
6. Stabilization pond
Anaerobic pond ควรนําตะกอนออกไปกําจัด ทุก 3-5 ปี
Facultative pond อาจเกิดความเป็ นกรดในบ่อ หากเกิดกลิน ให้ใช้
โซเดียมไนเตรทดับกลิน ต้องมีการตัดหญ้า
Aerobic pond อาจเกิดสาหร่ายทีความลึกของบ่อ 0.2 - 0.6 เมตร
ต้องกวนวันละ 1-2 ครัง
86