You are on page 1of 57

3/10/2562 สภาวิศวกร

สาขา : โยธา
วิชา : Water Supply Engineering and Design
เนือหาวิชา : 566 : Sources of public water supply, quality and quantity requirements

ข ้อที 1 :
หากนํ าบาดาลทีสูบขึนมามีปริมาณเหล็กและแมงกานีสละลายอยูม
่ าก จะทําให ้นํ ามีลก
ั ษณะอย่างไร

1 : มีกลิน
2 : เกิดเป็ นฝ้ าทีผิวนํ า
ี ลํา
3 : นํ ามีสค
4 : มีรสชาติไม่น่าดืม
5 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 2 :
ข ้อเสียของการนํ านํ าใต ้ดินมาใช ้เพือการประปาคือ

1 : มักมีปริมาณโลหะหนักสูง
2 : ทําให ้เกิดปั ญหาแผ่นดินทรุด
3 : นํ ามักมีความอ่อนมาก
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 3 :
ความกระด ้างชัวคราวในนํ าเกิดจากสารประกอบใด

1 : Magnesium Carbonate
2 : Calcium Chloride
3 : Sodium Chloride
4 : Calcium Sulphate
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 4 :
ลักษณะสมบัตข
ิ องนํ าตัวใดทีมีความสําคัญสําหรับการพิจารณาคุณภาพของนํ าดิบทีมาจากใต ้ดิน

1 : E. Coli
2 : ความขุน่
3 : ธาตุเหล็ก
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 5 :
การทดสอบเพือดูความเพียงพอในการให ้นํ าของนํ าใต ้ดินคือ

1 : Pumping Test
2 : Pump Priming
3 : Drawdown Test
4 : Permeability Test
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 6 :
บ่อนํ าตืน คือบ่อทีขุดถึงชันนํ าใด

1 : Water Table
2 : Confined Aquifer
3 : Unconfined Aquifer
4 : Impervious Stratum
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 7 :
สารก่อมะเร็งทีมีโอกาสพบในแหล่งนํ าเกิดจาก

1 : โลหะหนัก
2 : คลอรีนทําปฏิกริ ย
ิ ากับสารอินทรียท์ มี
ี อยูใ่ นนํ า
3 : การปนเปื อนจากเชือโรค
4 : การเน่าเปื อยของสารอินทรียใ์ นนํ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 8 :
Aqueduct คืออะไร

1 : ท่อจ่ายนํ าจากโรงกรองประปาสูผ ่ ู ้บริโภค


2 : ท่อลําเลียงนํ าจากแหล่งนํ าดิบสูโ่ รงกรองประปา
3 : ท่อระบายนํ าฝนจากถนนสูแ ่ หล่งรับนํ า
4 : ท่อระบายนํ าเสียจากบ ้านเรือนสูร่ ะบบบําบัดนํ าเสีย
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 9 :

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 1/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
จากตารางแสดงคุณภาพนํ าดิบ นํ าจากแหล่งใดน่าจะเป็ นนํ าใต ้ดิน

1 : 1 และ 2
2 : 2 และ 3
3 : 3 และ 4
4 : 1 และ 4
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 10 :
่ า่ งเก็บนํ า โดยวิธ ี Rational Method หากเลือกใช ้ค่าสัมประสิทธิการไหลนอง (C) สูงเกินไปจะมีผลต่อปริมาณนํ าที
ในการประเมินปริมาณนํ าดิบทีจะไหลเข ้าสูอ
คํานวณได ้อย่างไร

1 : ปริมาณนํ าไหลนองสูงกว่าทีควรจะเป็ น ทําให ้มีความเสียงในการขาดแคลนนํ า


2 : ปริมาณนํ าไหลนองตํากว่าทีควรจะเป็ น ทําให ้มันใจว่าจะมีนําไหลเข ้าอ่างเพียงพอ
3 : ปริมาณนํ าไหลนองสูงกว่าทีควรจะเป็ น ทําให ้มันใจว่าจะมีนําไหลเข ้าอ่างเพียงพอ
4 : ปริมาณนํ าไหลนองตํากว่าทีควรจะเป็ น ทําให ้มีความเสียงในการขาดแคลนนํ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 11 :
ข ้อใดไม่ใช่วต
ั ถุประสงค์ของการผลิตนํ าประปา

1 : ต ้องเป็ นระบบผลิตนํ าประปาทีมีอายุการใช ้งานยาวนาน


2 : ไม่มขี ้อถูก
3 : ต ้องผลิตให ้ได ้ซึงคุณภาพทีดี
4 : ต ้องผลิตให ้ได ้ซึงปริมาณทีพอเพียง
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 12 :
มลสารใดในนํ าบาดาลทีไม่สามารถกําจัดออกด ้วยวิธก
ี ารพืนฐาน

1 : คลอไรด์
2 : เหล็ก
3 : แมงกานีส
4 : ความขุน

คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 13 :
ื นํ าจําพวกสาหร่ายเซลล์เดียวจํานวนมาก จะสามารถกําจัดได ้โดยใช ้สารเคมีตวั ใดใส่ลงไปในแหล่งนํ า
ถ ้าแหล่งนํ าดิบมีพช

1 : โซเดียมไธโอซัลเฟต
2 : คอปเปอร์ซล ั เฟต
3 : คลอรีน
4 : กรดซัลฟุรก
ิ เจือจาง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 14 :
หน่วยทีใช ้วัดความขุน
่ ในนํ าทีใช ้ในปั จจุบน
ั คืออะไร

1 : mg/L
2 : NTU
3 : Abs.
4 : JTU
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 15 :
การวิเคราะห์คณ
ุ ภาพนํ าใต ้ดินจะต ้องพิจารณาพารามิเตอร์ตวั ใดเป็ นอันดับแรก

1 : Salinity
2 : Alkalinity
3 : Hardness
4 : Turbidity
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 16 :
ข ้อใดไม่ใช่ผลของความขุน

1 : ขัดขวางการสังเคราะห์แสงของพืชนํ า
2 : ขัดขวางการฆ่าเชือโรคโดยคลอรีน
3 : ยากต่อการกําจัดในการผลิตนํ าประปา

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 2/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
4 : มีผลต่อทัศนคติของผู ้ใช ้นํ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 17 :
ุ ภาพนํ าทางชีววิทยา ข ้อใดไม่ใช่สาเหตุของการใช ้โคลิฟอร์มแบคทีเรียเป็ นตัวชีวัด
การวิเคราะห์คณ

1 : แบคทีเรียประเภทนีจะพบในลําไส ้ของสัตว์เลือดอุน่ ทุกชนิด ซึงก็คอื มนุษย์และสัตว์


2 : วิธก
ี ารตรวจหาแบคทีเรียประเภทนีทําได ้ง่ายกว่าแบคทีเรียทีทําให ้เกิดโรคประเภทอืน
3 : แบคทีเรียประเภทนีเพิมจํานวนได ้รวดเร็ว
4 : แบคทีเรียประเภทนีทนทานต่อสภาวะแวดล ้อมภายนอกได ้ดีกว่าแบคทีเรียประเภทอืน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 18 :
สารเคมีตวั ใดทีใช ้เป็ นสารปรุงแต่งในนํ าประปา

1 : ฟลูออไรด์
2 : คลอไรด์
3 : โบรมีน
4 : แคลเซียม
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 19 :
จงบอกถึงความเหมาะสมในการใช ้นํ าประปาของอุตสาหกรรมทีใช ้หม ้อต ้ม (Boiler)

1 : เหมาะสม เพราะสะดวกดี
2 : เหมาะสม เพราะนํ าประปามีคณุ ภาพดีอยูแ่ ล ้ว
3 : ไม่เหมาะสม เพราะนํ าประปาไม่สะอาดเพียงพอ
4 : ไม่เหมาะสม เพราะต ้องมีการปรับปรุงคุณภาพก่อน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 20 :
ข ้อใดกล่าวไม่ถก
ู ต ้อง

1 : คุณภาพของนํ าผิวดินจะค่อนข ้างคงทีในแต่ละฤดูกาล


2 : นํ ากระด ้างจะพบมากในนํ าบาดาล
3 : นํ าบาดาลส่วนใหญ่จะค่อนข ้างใส
4 : นํ าจากอ่างเก็บนํ าสามารถนํ ามาผลิตนํ าประปาได ้
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 21 :
การเลือกแหล่งนํ าดิบสําหรับผลิตนํ าประปา จะต ้องพิจารณาอะไรบ ้าง

1 : คุณภาพนํ า
2 : ปริมาณนํ า
3 : ความผันแปรของคุณภาพนํ าและปริมาณนํ า
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 22 :
พืนทีรับนํ าฝนขนาด 10 ไร่ เมือฝนตกจะมีความสูงของระดับนํ าเท่ากับ 927 มม. ในระยะเวลา 1 ปี จะมีการสูญเสียนํ าโดยการระเหย 290 มม. ซึมเข ้าสูใ่ ต ้ดิน 90 มม.
จงประมาณปริมาณนํ าทีเหลืออยูใ่ นพืนทีรับนํ าฝนนี

1 : 875.2 ลบ.ม.
2 : 4640 ลบ.ม.
3 : 8752 ลบ.ม.
4 : 14832 ลบ.ม.
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 23 :
จงหาปริมาณการไหลของนํ าใต ้ดินแบบชันหินไม่ถก ่ อ
ู กดทับเข ้าสูบ ่ บาดาล ถ ้าระดับนํ าสถิตย์อยูท
่ ี 10.7 เมตร และระดับนํ าในบ่อลดลงภายหลังสูบเท่ากับ 4.6 เมตร
กําหนดให ้สัมประสิทธิการซึมผ่าน(K) 2.273 เมตร/วัน และรัศมีกรวยนํ ายุบ (R) 30.5 เมตร ให ้เส ้นผ่านศูนย์กลางของบ่อสูบ 0.76 เมตร

1 : 2.58 L/s
2 : 1.738 L/s
3 : 0.64 L/s
4 : 6.55 L/s
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 24 :
นํ าพุร ้อนเป็ นแหล่งนํ าประเภทใด

1 : บ่อนํ าใต ้ดิน


2 : บ่อบาดาลมีแรงดัน
3 : พืนทีเติมนํ า
4 : บ่อนํ าซับ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 25 :
ท่อกรุคอ
ื อะไร

1 : ท่อทีใช ้เป็ นผนังถาวรของบ่อบาดาล


2 : ท่อทีใช ้กรองนํ าในบ่อบาดาล
3 : ท่อทีใช ้รับนํ าหนักแผ่นคอนกรีตปิ ดบ่อบาดาลทีระดับพืนดิน
4 : ท่อทีใช ้ขุดบ่อบาดาล
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 3/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

ข ้อที 26 :
บ่อสังเกตการณ์คอ
ื อะไร

1 : บ่อทีใช ้ตรวจสอบว่าคุณภาพของนํ าเปลียนแปลงไปตามระยะเวลาหรือไม่


2 : บ่อทีใช ้ตรวจสอบว่าปริมาณของนํ าลดลงไปอย่างไรเมือมีการสูบทดสอบ
3 : บ่อทีใช ้ตรวจสอบการปนเปื อนของสารพิษในนิคมอุตสาหกรรม
4 : บ่อทีใช ้ตรวจสอบการยุบตัวของแผ่นดินเมือมีการขุดนํ าบาดาล
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 27 :
แหล่งนํ ามีคา่ ความเป็ นด่างในรูปแคลเซียมคาร์บอเนตในปริมาณเท่าไรจึงไม่สมควรนํ ามาใช ้เป็ นนํ าบริโภค เพราะจะมีรสไม่น่าดืม

1 : มากกว่า 100 มก.ต่อลิตร


2 : มากกว่า 200 มก.ต่อลิตร
3 : มากกว่า 300 มก.ต่อลิตร
4 : มากกว่า 400 มก.ต่อลิตร
5 : มากกว่า 500 มก.ต่อลิตร
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 28 :
แหล่งนํ าดิบสําหรับทํานํ าประปาควรมีคา่ บีโอดีเท่าไร

1 : ไม่เกิน 2 มก.ต่อลิตร
2 : ไม่เกิน 4 มก.ต่อลิตร
3 : ไม่เกิน 6 มก.ต่อลิตร
4 : ไม่เกิน 8 มก.ต่อลิตร
5 : ไม่เกิน 10 มก.ต่อลิตร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 29 :
สิงทีไม่ได ้นํ ามาใช ้ในการประมาณปริมาณนํ าใช ้สําหรับครัวเรือนคืออะไร

1 : ระบบการจ่ายนํ า
2 : อัตราการใช ้นํ าต่อบุคคล
3 : มาตรฐานการครองชีพของชุมชนทีใช ้บริการ
4 : จํานวนประชากรผู ้ได ้รับบริการ
5 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 30 :
สําหรับชุมชนทีอยูร่ ว่ มกันเป็ นกลุม
่ มีพลเมืองน ้อยกว่า 2,500 คน ควรมีการเก็บกักนํ าประปาสําหรับการดับเพลิงติดต่อกันนานเท่าไร

1 : ไม่น ้อยกว่า 3 ชัวโมง


2 : ไม่น ้อยกว่า 4 ชัวโมง
3 : ไม่น ้อยกว่า 5 ชัวโมง
4 : ไม่น ้อยกว่า 6 ชัวโมง
5 : ไม่น ้อยกว่า 7 ชัวโมง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 31 :
สําหรับชุมชนขนาดใหญ่ควรเก็บกักนํ าประปาไว ้สําหรับการดับเพลิงติดต่อกันนานเท่าไร

1 : ไม่น ้อยกว่า 6 ชัวโมง


2 : ไม่น ้อยกว่า 8 ชัวโมง
3 : ไม่น ้อยกว่า 10 ชัวโมง
4 : ไม่น ้อยกว่า 12 ชัวโมง
5 : ไม่น ้อยกว่า 15 ชัวโมง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 32 :
บ่อสูบนํ าบาดาล ควรห่างจากส ้วมหรือทีทิงขยะไม่น ้อยกว่ากีเมตร

1 : 10
2 : 30
3 : 50
4 : 100
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 33 :
สารเจือปนใดในนํ าดิบทีโรงประปาทัวไปกําจัดไม่ได ้

1 : เหล็ก
2 : ความขุน่
3 : เชือโรค
4 : สารหนู
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 34 :
สารเจือปนใดในนํ าดิบทีอาจไม่จําเป็ นต ้องบําบัด

1 : เหล็ก
2 : ความขุน่
3 : เชือโรค
4 : คลอไรด์
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 4/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
ข ้อที 35 :
ค่ามาตรฐานของนํ าดืมทัวไปควรมีคา่ ความขุน
่ ไม่เกินเท่าใด

1 : 5 NTU
2 : 10 NTU
3 : 20 NTU
4 : 25 NTU
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 36 :
ถ ้า [H+] = 10^-2 จะมีคา่ พีเอชเท่าใด

1 : 10
2:8
3:2
4 : 0.02
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 37 :
ถ ้านํ ามีกา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์เจือปนอยูจ
่ ะทําให ้ค่าพีเอชของนํ ามีแนวโน ้มเป็ นอย่างไร

1 : เป็ นด่าง
2 : เป็ นกรด
3 : เป็ นกลาง
4 : เป็ นเกลือ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 38 :
ฝนกรดเกิดจากสาเหตุใด

1 : ฝนตกลงมาผ่านชันบรรยากาศทีมีกา๊ ซซัลเฟอร์ไดออกไซด์
2 : ฝนตกลงมายังแหล่งนํ าทีมีการเจือปนของนํ าเสีย
3 : ปริมาณฝนทีตกในบริเวณหนึงๆ เป็ นระยะเวลานาน
4 : ฝนทีตกในบริเวณทีมีป่าไม ้อุดมสมบูรณ์
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 39 :
ข ้อใดคุณลักษณะทีสําคัญของนํ าใต ้ดินทีแตกต่างจากนํ าผิวดิน

1 : มีความขุน่ มาก
2 : มีความเข ้มข ้นของออกซิเจนละลายนํ าสูงกว่า
3 : ตัวเชือจุลชีพมีมากกว่า
4 : มีแร่ธาตุตา่ งๆ มาก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 40 :
สารเคมีในข ้อใดเมือเติมลงในนํ าจะทําให ้นํ ามีพเี อชเพิมขึน

1 : H2SO4
2 : HCl
3 : NaOH
4 : HOCl
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 41 :
หากพบความกระด ้างของนํ ามีคา่ 400 มก./ล. as CaCO3 จัดเป็ นนํ ากระด ้างประเภทใด

1 : นํ ากระด ้างมาก
2 : นํ ากระด ้าง
3 : นํ าอ่อน
4 : นํ ากระด ้างพอประมาณ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 42 :
ความกระด ้างของนํ าทําให ้เกิดปั ญหาต่างๆ "ยกเว ้น"ข ้อใด

1 : เกิดตะกรันในหม ้อ
2 : เกิดตะกอนของแข็งติดวัสด ุ ต่างๆ
3 : ทําให ้ผักต่างๆ เหนียวขึน
4 : ดืมนํ าดังกล่าวจะทําให ้ท ้องเสีย
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 43 :
ค่ามาตรฐานความกระด ้างของนํ าของการประปานครหลวงมีคา่ ไม่เกินเท่าใด

1 : 200 มก./ล. as CaCO3


2 : 300 มก./ล. as CaCO3
3 : 400 มก./ล. as CaCO3
4 : 500 มก./ล. as CaCO3
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 44 :
ปริมาณฟลูออไรด์ทอยู
ี ใ่ นนํ าประปาควรมีปริมาณเท่าใด

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 5/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

1 : 0.01 มก./ล.
2 : 0.1 มก./ล.
3 : 1 มก./ล.
4 : 10 มก./ล.
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 45 :
การตกตะกอนของกรวด ทราย หรืออนุภาคทีมีนําหนักมากจัดเป็ นการตกตะกอนประเภทใด

1 : Discrete Settling
2 : Flocculant Settling
3 : Zone settling
4 : Compression Settling
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 46 :
การตกตะกอนทีมีความเข ้มข ้นของตะกอนแขวนลอยปานกลาง มีการตกตะกอนเห็นเด่นชัดระหว่างชันนํ าใสส่วนบนกับตะกอนส่วนล่างอย่างชัดเจน จัดเป็ นการตก
ตะกอนแบบใด

1 : Discrete Settling
2 : Flocculant Settling
3 : Zone Settling
4 : Compression Settling
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 47 :
หากพบว่านํ าดิบมีความกระด ้างทีประกอบด ้วย Ca++ และ Mg++ รวมกับพวกไออนลบทีเป็ นพวก alklinity จะมีวธิ ก
ี ารกําจัดอย่างไร

1 : เติมปูนขาวเพือให ้ตกตะกอน
2 : เติม Soda Ash เพือกําจัดความกระด ้าง
3 : ใช ้วิธ ี Ion exchange
4 : ไม่ต ้องแก ้ไขเนืองจากไม่มผ
ี ลต่อคุณภาพนํ าดิบ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 48 :
นํ าหนึงลิตรมีปริมาณของแข็งทังหมดอยู่ 600 มิลลิกรัม ถ ้านํ ามีปริมาตร 400 ลบ.ม. จะมีปริมาณของแข็งทังหมดเท่าใด

1 : 0.24 กิโลกรัม
2 : 2.4 กิโลกรัม
3 : 24 กิโลกรัม
4 : 240 กิโลกรัม
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 49 :
มาตรฐานนํ าดืมองค์การอนามัยโลกยอมให ้มีเหล็กได ้สูงสุดเท่าใด

1 : 0.01 มก./ล.
2 : 0.1 มก./ล.
3 : 1 มก./ล.
4 : 10 มก./ล.
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 50 :
ี อปั ญหาให ้กับผู ้ใช ้นํ าประปา โดยทําให ้นํ ามีสแ
ธาตุทก่ ี ดงและมีกลิน

1 : ทองแดง
2 : แมกมีเซียม
3 : เหล็ก
4 : สังกะสี
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 51 :
สารใดทีเมือพบในนํ าแล ้ว สามารถตีความได ้ว่าเป็ นนํ าทีสัมผัสกับนํ าเสียทีมีความสกปรก และอาจมีเชือโรค

1 : ฟอสเฟต
2 : ซัลเฟต
3 : แอมโมเนีย
4 : คาร์บอเนต
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 52 :
นํ ากระด ้างทําให ้สบูเ่ กิดฟองได ้ยาก จึงทําให ้สินเปลืองสบูใ่ นงานซักล ้างธาตุทเป็
ี นต ้นเหตุของนํ ากระด ้าง ได ้แก่

1 : เหล็ก
2 : แมงกานีส
3 : แมกนีเซียม
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 53 :
สารใดเมืออยูใ่ นระบบจ่ายนํ าประปาแบบทีมีปลายตัน (dead end) แล ้วอาจทําให ้เกิดก๊าซไข่เน่า

1 : แอมโมเนีย
2 : ฟอสเฟต
3 : ซัลเฟต

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 6/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
4 : คาร์บอเนต
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 54 :
ลักษณะสมบัตท
ิ างกายภาพของนํ าเกิดขึนจากสารบางอย่าง ซึงเราสามารถทราบได ้จากประสาทสัมผัสทัง 5 ของมนุษย์ ได ้แก่

1 : ความขุน่
2 : สี
3 : อุณหภูม ิ
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 55 :
แบคทีเรียทีอยูใ่ นลําไส ้คนและสัตว์มากทีสุด มีชอเรี
ื ยกว่า

1 : เอนเทอริค พีโทเจน
2 : โคลิฟอร์มแบคทีเรีย
ั ฟอวิไบรโอ แบคทีเรีย
3 : ดีซล
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 56 :
แบคทีเรียชนิดไหนทีใช ้เป็ นดัชนีในการตรวจคุณภาพนํ า

1 : เอนเทอริค พีโทเจน
2 : โคลิฟอร์มแบคทีเรีย
ั ฟอวิไบรโอ แบคทีเรีย
3 : ดีซล
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 57 :
กระบวนการใดถือว่าจําเป็ นและขาดไม่ได ้ในระบบทําความสะอาดนํ า

1 : กระบวนการกําจัดสารแขวนลอย
2 : กระบวนการกําจัดสารละลาย
3 : กระบวนการฆ่าเชือโรค
4 : ทุกกระบวนการทีกล่าวถึง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 58 :
แหล่งนํ าดิบทีนํ ามาใช ้ในการผลิตนํ าประปาควรเป็ นนํ าใต ้ดินมากกว่านํ าผิวดินเพราะ

1 : มีสารละลายในนํ ามากกว่า
2 : มีความจําเป็ นต ้องใช ้ระบบขนส่งนํ าน ้อย
3 : มีโอกาสสัมผัสกับสารพิษน ้อยกว่า
4 : ถูกทังข ้อ ข. และ ค.
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 59 :
นํ าใต ้ดินและนํ าผิวดินเป็ นแหล่งนํ าดิบทีใช ้ในกระบวนการผลิตนํ าประปา ข ้อใดไม่ใช่คณ
ุ สมบัตข
ิ องนํ าผิวดิน

1 : มีความขุน่ น ้อยกว่านํ าใต ้ดิน


2 : มีแร่ธาตุตา่ งๆมากกว่านํ าใต ้ดิน
ี ากกว่านํ าใต ้ดิน
3 : มีสม
4 : มีความกระด ้างมากกว่านํ าใต ้ดิน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 60 :
โรคอิไต-อิไต (Itai-Itai) เกิดจากอะไร และมีอาการของโรคอย่างไร

1 : แคดเมียม ทําให ้สายตาผิดปกติและปวดกระดูก****


2 : แคดเมียม ทําให ้เกิดอาการชาบริเวณปลายมือปลายเท ้า
3 : แคดเมียม ทําให ้ระบบประสาทผิดปกติ
4 : ตะกัว ทําให ้ระบบประสาทผิดปกติ
5 : ตะกัว ทําให ้เกิดอาการกระตุกของกล ้ามเนือ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 61 :
ข ้อใดไม่ใช่ข ้อเสียของนํ ากระด ้าง

1 : ทําให ้เปลืองสบูใ่ นการซักล ้าง


2 : ทําให ้เกิดตะกรันในหม ้อนํ า
3 : อาจทําให ้เกิดนิว
4 : อาจทําให ้เป็ นโรคหัวใจ
5 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 62 :
นํ าประปาควรมีคา่ ของแข็งทังหมดเท่าไร

1 : น ้อยกว่า 100 มก.ต่อลิตร


2 : น ้อยกว่า 200 มก.ต่อลิตร
3 : น ้อยกว่า 300 มก.ต่อลิตร
4 : น ้อยกว่า 400 มก.ต่อลิตร
5 : น ้อยกว่า 500 มก.ต่อลิตร
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 7/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

ข ้อที 63 :
นํ าประปาควรมีความกระด ้างประมาณเท่าไร

1 : 20-50 มก.ต่อลิตรแคลเซียมคาร์บอเนต
2 : 50-80 มก.ต่อลิตรแคลเซียมคาร์บอเนต
3 : 80-100 มก.ต่อลิตรแคลเซียมคาร์บอเนต
4 : 100-120 มก.ต่อลิตรแคลเซียมคาร์บอเนต
5 : 120-150 มก.ต่อลิตรแคลเซียมคาร์บอเนต
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 64 :
วิธก ิ รือคณิตศาสตร์แบบใดทีนิยมใช ้กับชุมชนเก่าขนาดใหญ่ทผ่
ี ารคาดการณ์จํานวนประชากรตามหลักสถิตห ี านการพัฒนามาแล ้ว เช่น จังหวัดสุพรรณบุรี จังงหวัด
อุบลราชธานี

1 : แบบเลขคณิต
2 : แบบเรขาคณิต
3 : แบบอัตราเพิมลดลง
4 : แบบ Logistic S
5 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 65 :
สําหรับนํ าประปาทีจัดว่าเป็ นนํ ากระด ้าง (Scaling water) ข ้อใดต่อไปนีผิด

1 : จะเป็ นนํ าทีอาจก่อให ้เกิดการกัดกร่อนท่อส่งนํ าได ้ง่าย


2 : มีคา่ RI (Ryznar Index) ตํา โดยปกติจะตํากว่า 6.2
3 : มีคา่ LI (Langelier Index) เป็ นค่าลบ
4 : โดยปกตินําประปาจะมีคณ ุ ภาพดี หากมีความกระด ้างอยูเ่ ล็กน ้อย
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 66 :
่ ู ้ใช ้แห่งหนึง พบว่ามีคา่ Ryznar Index เท่ากับ 5.2 จากผลวิเคราะห์ดงั กล่าว ข ้อใดต่อไปนี ผิด
จากการวิเคราะห์ตวั อย่างนํ าประปาทีพร ้อมจ่ายสูผ

1 : นํ าดังกล่าวมีแนวโน ้มสูงทีจะสร ้างตะกรัน ควรปรับพีเอชให ้สูงขึน


2 : นํ าดังกล่าวมีแนวโน ้มสูงทีจะสร ้างตะกรัน ควรปรับพีเอชให ้ตําลง
3 : นํ าดังกล่าวมีแนวโน ้มสูงทีจะกัดกร่อน ควรปรับพีเอชให ้สูงขึน
4 : นํ าดังกล่าวมีแนวโน ้มสูงทีจะกัดกร่อน ควรปรับพีเอชให ้ตําลง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 67 :
่ ู ้ใช ้แห่งหนึง พบว่ามีคา่ Langelier Index เป็ น บวกจากผลวิเคราะห์ดงั กล่าวข ้อใดต่อไปนี ผิด
จากการวิเคราะห์ตวั อย่างนํ าประปาทีพร ้อมจ่ายสูผ

1 : นํ าดังกล่าวมีแนวโน ้มสูงทีจะสร ้างตะกรัน ควรปรับพีเอชให ้สูงขึน


2 : นํ าดังกล่าวมีแนวโน ้มสูงทีจะสร ้างตะกรัน ควรปรับพีเอชให ้ตําลง
3 : นํ าดังกล่าวมีแนวโน ้มสูงทีจะกัดกร่อน ควรปรับพีเอชให ้สูงขึน
4 : นํ าดังกล่าวมีแนวโน ้มสูงทีจะกัดกร่อน ควรปรับพีเอชให ้ตําลง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 68 :
ลักษณะสมบัตข
ิ องนํ าดิบในข ้อใดมีหน่วยเป็ น มิลลิกรัมต่อลิตร

1 : ความขุน่
2 : บีโอดี
3 : พีเอช
4 : สภาพด่าง
5 : ความกระด ้าง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 69 :
ข ้อมูลของนํ าดิบใดต่อไปนีไม่ต ้องนํ ามาวิเคราะห์กอ
่ นเข ้าระบบผลิตนํ าประปา

1 : ความขุน่
2 : สี
3 : สภาพด่าง
4 : พีเอช
5 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 70 :
ในการก่อตะกอนโดยใช ้สารส ้มเป็ นสารก่อตะกอนโดยใช ้ Jar Tester ปริมาณทีใช ้คือ 50 มิลลิกรัมต่อนํ าดิบ 500 มิลลิลต
ิ ร อยากทราบว่าจะมีความเข ้มข ้นเป็ นเท่าใด

1 : 10 ppm
2 : 50 ppm
3 : 100 ppm
4 : 200 ppm
5 : 400 ppm
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 71 :
ชันนํ าประเภทใดทีอยูล
่ ก
ึ จากผิวดินมากทีสุด

1 : Intermediate Zone
2 : Capillary Zone
3 : Soil-water Zone
4 : Groundwater Zone

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 8/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
5 : Aeration Zone
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 72 :
การทีมีปริมาณไนเตรตปนเปื อนอยูใ่ นนํ าประปามากกว่า 45 mg-NO3- / L จะมีผลอย่างไรต่อผู ้ใช ้นํ า

1 : เป็ นสารก่อมะเร็ง
2 : ทําให ้เด็กตัวเขียวคลําและอาจตายได ้
3 : ทําลายระบบหายใจ
4 : ทําให ้นํ ามีกลิน
5 : ทําให ้นํ ามีรสเค็ม
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 73 :
พีเอช (pH) ย่อมาจากคําว่าอะไร

1 : Positive Head
2 : Potential Head
3 : Positive of Hydrogen ion
4 : Power Head
5 : Potential of Hydrogen ion
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 74 :
นํ าดิบประเภทใดต่อไปนีเหมาะสมทีจะนํ ามาผลิตนํ าประปามากทีสุดในปริมาณทีเท่ากัน

1 : นํ ากร่อย
2 : นํ าผิวดินทีอยูใ่ กล ้ชุมชน
3 : นํ าบาดาลทีมีเหล็กมาก
4 : คลองชลประทาน
5 : ทะเลสาบใกล ้อ่าวไทย
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 75 :
เจ ้าหน ้าทีสิงแวดล ้อมวัดค่าพีเอชของนํ าเสียทีเข ้าระบบได ้เท่ากับ 3 ต ้องการปรับค่าพีเอชของนํ าเสียให ้เป็ นกลางต ้องใช ้สารเคมีตวั ใด

1 : ซัลฟูรค ิ
2 : ไฮโดรคลอริค
3 : โซเดียมไฮดรอกไซด์
4 : อะซิตกิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 76 :
อัตราส่วน บีโอดี:ไนโตรเจน:ฟอสฟอรัส ทีต ้องการสําหรับจุลน
ิ ทรียใ์ นระบบบําบัดนํ าเสียมีคา่ เท่าใด

1 : 100:0.5:0.1
2 : 100:0.5:1
3 : 100:5:1
4 : 100:5:0.1
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 77 :
การบําบัดนํ าเสียทีใช ้พืชนํ าในการบําบัดเช่น ธูปฤาษี กก เป็ นส่วนหนึงในการบําบัดนํ าเสีย เราเรียกระบบนีว่าระบบใด

1 : Constructed wetland
2 : Aerobic pond
3 : Thicking filter
4 : Upflow anaerobic sludge blanket
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 78 :
การบําบัดนํ าเสียทีใช ้พืชนํ าในการบําบัดเช่น ธูปฤาษี กก เป็ นส่วนหนึงในการบําบัดนํ าเสีย เราเรียกระบบนีว่าระบบใด

1 : Constructed wetland
2 : Aerobic pond
3 : Thicking filter
4 : Upflow anaerobic sludge blanket
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 79 :
ค่าออกซิเจนละลายนํ าทีมีในระบบ Activated Sludge AS ไม่ควรตํากว่าเท่าใด

1 : 0.02 mg/l
2 : 0.2 mg/l
3 : 2 mg/l
4 : 20 mg/l
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 80 :
เมือเก็บนํ าตัวอย่างจากแหล่งนํ าผิวดินแล ้ว ค่าพารามิเตอร์ใดควรทําการวัดทันที

1 : สี
2 : ความขุน

3 : พีเอช
4 : ค่าของแข็งละลายนํ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 9/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

ข ้อที 81 :
ค่าบีโอดีของคุณภาพนํ าทิงจากโรงงานอุตสาหกรรมและนิคมอุตสาหกรรมกําหนดให ้มีคา่ ไม่เกินกีมิลลิกรัมต่อลิตร

1:2
2 : 20
3 : 40
4 : 100
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 82 :
สารเคมีทเป็
ี นด่างเมือเตรียมเป็ นสารละลายแล ้วควรเก็บไว ้ในภาชนะแบบใด

1 : ขวดแก ้วใส
2 : ขวดสีชา
3 : ขวดพลาสติก
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 83 :
เมือเก็บตัวอย่างนํ าเสียมาแล ้วพารามิเตอร์ใดควรเป็ นรักษาตัวอย่างด ้วยการแช่เย็นทีอุณหภูม ิ 4 องศาเซลเซียส

1 : ฟอสฟอรัส
2 : นํ ามันและไขมัน
3 : ไนโตรเจนในรูปทีเคเอน
4 : บีโอดี
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 84 :
การเก็บตัวอย่างนํ าทีออกมาจากก๊อกนํ าทีถูกต ้องควรทําอย่างไร

1 : เก็บตัวอย่างนํ าทันทีเมือเปิ ดก๊อกนํ าแล ้ว


2 : เปิ ดก๊อกนํ าและปล่อยนํ าทิง 1 - 2 นาที แล ้วค่อยเก็บตัวอย่างนํ า
3 : ใช ้แอลกอฮอล์เช็ดบริเวณปากก๊อกนํ าก่อนเปิ ดแล ้วจึงเก็บตัวอย่างนํ าทันที
4 : เก็บอย่างไรก็ได ้ขึนอยูก
่ บ
ั ความสะดวกของผู ้เก็บเพราะถือว่านํ าทีผ่านก๊อกย่อมเป็ นตัวแทนของนํ าทังหมดแล ้ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 85 :
ระบบบําบัดทีมีแบคทีเรียจับตัวรวมกันเป็ นกลุม ื ยกเฉพาะว่า Granular sludge เราเรียกระบบบําบัดนันว่าระบบใด
่ ทีมีชอเรี

1 : Upflow anaerobic sludge blanket


2 : Activated Sludge
3 : Sequencing Batch Reactor
4 : conctructed wetland
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 86 :
ความกระด ้างถาวรเกิดจากสิงใดและมีวธิ ก
ี ารแก ้ไขปั ญหาอย่างไร

1 : เกิดจากไบคาร์บอนเนตของแคลเซียม แมกนีเซียม แก ้ไขโดยการต ้มให ้เดือด


2 : เกิดจากไบคาร์บอนเนตของแคลเซียม แมกนีเซียม แก ้ไขโดยการเติมหินปูนและตกตะกอน
3 : เกิดจากคลอไรของแคลเซียมและเมกนีเซียมแก ้ไขโดยใช ้กระบวนการ Lime Soda
4 : เกิดจากคลอไรของแคลเซียมและเมกนีเซียม แก ้ไขโดยการต ้มให ้เดือด
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 87 :
ค่าคลอรีนอิสระคงเหลือตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกปี 1993 นํ าประปาควรมีคลอรีนอิสระคงเหลือไม่น ้อยกว่าเท่าใด

1 : 0.05 mg/l
2 : 0.1 mg/l
3 : 0.15 mg/l
4 : 0.2 mg/l
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 88 :
การกําจัดอินทรียไ์ นโตรเจน สุดท ้ายแล ้วจะได ้ผลิตภัณฑ์เป็ นอะไร

1 : ไนเตรด
2 : ไนไตร
3 : ไนโตรเจน ก๊าซ
4 : แอมโมเนียม ไนโตรเจน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 89 :
การรายงานผลกระทบสิงแวดล ้อมหรือ EIA มีหน่วยงานใดควบคุมดูแล

1 : กรมควบคุมมลพิษ
2 : สํานักงานนโยบายและแผน
3 : กรมโรงงานอุตสาหกรรม
4 : การนิคมอุตสาหกรรม
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 90 :
การใช ้ Activated Carbon สามารถใช ้ในการกําจัดสิงใดได ้บ ้าง

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 10/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

1 : สารอินทรีย ์
2 : นํ ามันและไขมัน
3 : สารพิษ
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 91 :
TKN สามารถใช ้บ่งบอกค่าอะไรได ้บ ้าง

1 : สารอินทรียไ์ นโตรเจนและแอมโมเนียไนโตรเจน
2 : ฟอสฟอรัสและฟอสเฟต
3 : ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม
4 : สารอินทรียค ์ าร์บอน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 92 :
นํ าเสียจากแหล่งใด ให ้ค่าบีโอดีของนํ าเสียสูงทีสุด

1 : โรงงานผลิดเบียร์
2 : ตลาด
3 : โรงแรม
4 : โรงงานย ้อมผ ้า
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 93 :
ข ้อใดไม่จัดเป็ นนํ าเสียอุตสาหกรรม

1 : นํ าจากระบวนการผลิต
2 : การใช ้นํ าของพนักงานและนํ าจากสํานักงาน
3 : นํ าจากการหล่อเย็น
4 : นํ าจากหอพักทีเป็ นสวัสดิการโรงงาน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

เนือหาวิชา : 567 : Water standards population prediction, water consumption and flow variation

ข ้อที 94 :
ชุมชนแห่งหนึงมีการเพิมของประชากรด ้วยการเพิมอย่างคงทีของอัตราการเพิมของประชากร จะต ้องใช ้วิธก
ี ารคาดคะเนแบบใดในการคาดคะเนจํานวนประชากร
ในอนาคต

1 : Arithmetic Progression
2 : Geometric Progression
3 : Decrease Rate of Increase
4 : Logistic Method
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 95 :
จงคํานวณหาอัตราการสูบนํ าทีต ้องใช ้เพือการออกแบบเครืองสูบนํ า ทีจะสูบนํ าจากแหล่งนํ าสูโ่ รงกรองประปาโดยให ้ทํางาน 8 ชัวโมง เมือจํานวนประชากรใน
ั = 50000 คน อัตราการเพิมคงที 1% ต่อปี อัตราการใช ้นํ า 300 ลิตร/คน/วัน และให ้ Design Period ของเครืองสูบนํ าเป็ น 10 ปี
ปั จจุบน

1 : 191 ลิตร/วินาที
2 : 191 ลบ.ม./นาที
3 : 34.4 ลิตร/วินาที
4 : 34.4 ลบ.ม./นาที
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 96 :
ปั จจัยที ไม่ม ี ผลต่ออัตราการใช ้นํ าของประชากรในชุมชนคือ

1 : เศรษฐกิจของชุมชน
2 : แรงดันนํ าในท่อ
3 : คุณภาพนํ าประปา
4 : จํานวนประชากร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 97 :
ี ารคาดคะเนจํานวนประชากรทีนิยมใช ้ทีสุดคือ
วิธก

1 : Constant Percentage Growth Rate


2 : Arithmetic Method
3 : Mathematical Trends
4 : Graphical Extention
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 98 :
ในอีก 15 ปี ข ้างหน ้า ชุมชนแห่งหนึงจะมีจํานวนประชากรรวม 150000 คน และมีอต ั ราการใช ้นํ าต่อคนเท่ากับ 300 ลิตรต่อคนต่อวัน คาดว่าอัตราการใช ้นํ าสูงสุดใน
รอบวันจะเป็ น 2 เท่าของอัตาการใช ้นํ าเฉลีย ให ้หาปริมาณความต ้องการใช ้นํ าสูงสุดในรอบวัน

1 : 300000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
2 : 109500 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
3 : 90000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
4 : 45000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 99 :
ข ้อใดทีใช ้อัตราการใช ้นํ าในการออกแบบขนาดของระบบประปาทีไม่เหมาะสม

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 11/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

1 : เครืองสูบนํ าดิบ ใช ้อัตราการใช ้นํ าสูงสุดในรอบวัน


2 : ระบบผลิตนํ าประปา ใช ้อัตราการใช ้นํ าสูงสุดในรอบวัน
3 : เครืองสูบนํ าแรงสูง ใช ้อัตราการใช ้นํ าสูงสุดในรอบวัน
4 : ระบบท่อแจกจ่ายนํ าประปา ใช ้อัตราการใช ้นํ าสูงสุดในรอบชัวโมง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 100 :
หมูบ่ ้านจัดสรรแห่งหนึงคาดว่าเมือเสร็จสินโครงการจะมีจํานวนประชากรอยูอ ่ าศัยประมาณ 15000 คน มีอต ั ราการใช ้นํ าเฉลีย 150 ลิตร/คน/วัน และการใช ้นํ าสําหรับ
กิจกรรมอืนๆ อีกจํานวน 20 ลิตร/วินาที กําหนดให ้อัตราการใช ้นํ าสูงสุดในรอบวันเป็ น 1.5 เท่าของอัตราการใช ้นํ าเฉลีย ให ้หาอัตราการใช ้นํ าสูงสุดในรอบวันของ
หมูบ ่ ้านแห่งนี

1 : 3375 ลูกบาศก์เมตร/วัน
2 : 3405 ลูกบาศก์เมตร/วัน
3 : 5967 ลูกบาศก์เมตร/วัน
4 : 3978 ลูกบาศก์เมตร/วัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 101 :
ข ้อใดเรียงลําดับอัตราการใช ้นํ าจากมากทีสุดไปน ้อยทีสุดได ้อย่างถูกต ้อง
1. อัตราการใช ้นํ าสูงสุดในรอบชัวโมง
2. อัตราการใช ้นํ าสูงสุดในรอบวัน
3. อัตราการใช ้นํ าสูงสุดในรอบสัปดาห์
4. อัตราการใช ้นํ าเฉลียในรอบวัน

1:1234
2:4321
3:4123
4:3214
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 102 :
การทํานายประชากรเพือใช ้ออกแบบโรงผลิตนํ าประปาสําหรับชุมชนทีไม่อาจขยายตัวได ้เนืองจากพืนทีจํากัดจะใช ้การคาดคะเนประชากรแบบใด

1 : แบบเลขคณิต (Arithmetic method)


2 : แบบเรขาคณิต (Geometric method)
3 : แบบอัตราเพิมลดลง (Decreasing-Rate-of-Increase method)
4 : แบบ Logistic S
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 103 :
ในการคาดคะเนประชากรเพือออกแบบโรงผลิตนํ าประปา จังหวัดใดทีจะผิดพลาดได ้มากทีสุด

1 : ปั ตตานี
2 : พิษณุโลก
3 : ชลบุรี
4 : สระบุรี
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 104 :
ข ้อใดไม่ใช่สาเหตุของการทําให ้อัตราการใช ้นํ าต่อคนต่อวันสูงขึน

1 : ประชากรทีแท ้จริงมีมากกว่าทีระบุไว ้ในสํามโนครัว


2 : มีการเพิมแรงดันนํ าจากโรงประปา
3 : มีการรัวไหลของท่อประปา
4 : มีโรงงานอุตสาหกรรมทีใช ้นํ าเป็ นผลิตภัณฑ์จํานวนมาก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 105 :
ข ้อใดไม่ใช่ผลกระทบของนํ าประปาเนืองมาจากความขุน

1 : ทําให ้ประสิทธิภาพของคลอรีนลดลง
2 : ทําให ้มีสภาพไม่น่าใช ้
3 : ทําให ้เกิดการพาหรือเก็บสะสมสารพิษอันตราย
4 : ทําให ้เกิดคราบบนเครืองสุขภัณฑ์
5 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 106 :
จังหวัดสุพรรณบุรม ี พ
ี ลเมือง 8,000 คน ในปี พ.ศ.2520 และ 10,000 คน ในปี พ.ศ.2530 และ 14,000 คน ในปี พ.ศ.2540 จงคาดคะเนจํานวนพลเมืองของจังหวัด
สุพรรณบุรใี นปี พ.ศ.2555 โดยวิธเี ลขคณิต

1 : 18,000 คน
2 : 18,500 คน
3 : 20,000 คน
4 : 20,500 คน
5 : 21,000 คน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 107 :
โรคอิไต-อิไต (Itai-Itai) เกิดจากอะไร และมีอาการของโรคอย่างไร

1 : แคดเมียม ทําให ้สายตาผิดปกติและปวดกระดูก


2 : แคดเมียม ทําให ้เกิดอาการชาบริเวณปลายมือปลายเท ้า
3 : แคดเมียม ทําให ้ระบบประสาทผิดปกติ
4 : ตะกัว ทําให ้ระบบประสาทผิดปกติ

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 12/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
5 : ตะกัว ทําให ้เกิดอาการกระตุกของกล ้ามเนือ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 108 :
ข ้อใดไม่ใช่ข ้อเสียของนํ ากระด ้าง

1 : ทําให ้เปลืองสบูใ่ นการซักล ้าง


2 : ทําให ้เกิดตะกรันในหม ้อนํ า
3 : อาจทําให ้เกิดนิว
4 : อาจทําให ้เป็ นโรคหัวใจ
5 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 109 :
นํ าประปาควรมีคา่ ของแข็งทังหมดเท่าไร

1 : น ้อยกว่า 400 มก.ต่อลิตร


2 : น ้อยกว่า 500 มก.ต่อลิตร
3 : น ้อยกว่า 100 มก.ต่อลิตร
4 : น ้อยกว่า 200 มก.ต่อลิตร
5 : น ้อยกว่า 300 มก.ต่อลิตร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 110 :
นํ าประปาควรมีความกระด ้างประมาณเท่าไร

1 : 20-50 มก.ต่อลิตรแคลเซียมคาร์บอเนต
2 : 50-80 มก.ต่อลิตรแคลเซียมคาร์บอเนต
3 : 80-100 มก.ต่อลิตรแคลเซียมคาร์บอเนต
4 : 100-120 มก.ต่อลิตรแคลเซียมคาร์บอเนต
5 : 120-150 มก.ต่อลิตรแคลเซียมคาร์บอเนต
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 111 :
วิธก ิ รือคณิตศาสตร์แบบใดทีนิยมใช ้กับชุมชนเก่าขนาดใหญ่ทผ่
ี ารคาดการณ์จํานวนประชากรตามหลักสถิตห ี านการพัฒนามาแล ้ว เช่น จังหวัดสุพรรณบุรี จังงหวัด
อุบลราชธานี

1 : แบบเลขคณิต
2 : แบบเรขาคณิต
3 : แบบอัตราเพิมลดลง
4 : แบบ Logistic S
5 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 112 :
ประชากรในอําเภอหนึงมีจํานวน 130000 คน ในปี พศ. 2540 และมีจํานวน 180000 คน ในปี พศ. 2548 หากคํานวณแบบ arithmetic จะมีประชากรประมาณเท่าใดใน
ปี พศ. 2551

1 : 198750
2 : 199290
3 : 200100
4 : 203270
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 113 :
ประชากรในอําเภอหนึงมีจํานวน 130000 คน ในปี พศ. 2540 และมีจํานวน 180000 คน ในปี พศ. 2548 หากคํานวณแบบ Geometric จะมีประชากรประมาณเท่าใดใน
ปี 2551

1 : 198750
2 : 199290
3 : 200100
4 : 203270
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 114 :
ื ในวงจํากัด เมือเติบโตถึงทีสุด จํานวนประชากรจะอิมตัวไม่สามารถเพิมขึนอีกจะต ้องใช ้
หากต ้องการคํานวณการคาดคะเนการเพิมของประชากรในชุมชนทีมีพนที
หลักการคาดคะเนจํานวนประชากรแบบใด

1 : แบบเลขคณิต
2 : แบบเรขาคณิต
3 : แบบอัตราเพิมลดลง
4 : แบบ Logisyic S
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 115 :
สําหรับชุมชนทีมีพลเมืองน ้อยกว่า 2500 คน จะต ้องออกแบบปริมาณนํ าสําหรับดับเพลิง ในกรณีเกิดเพลิงไหม ้ติดต่อกันไม่น ้อยกว่ากีชัวโมง

1 : 5 ชม.
2 : 8 ชม.
3 : 10 ชม.
4 : 12 ชม.
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 116 :
จังหวัดหนึงมีจํานวนพลเมืองในปี พศ. 2536 และ 2546 เท่ากับ 1,000,000 และ 2,000,000 คนตามลําดับ จงคํานวณหาจํานวนพลเมืองในปี พศ. 2556 โดยให ้
จํานวนพลเมืองของจังหวัดนีเพิมแบบเรขาคณิตและมีคา่ สูงสุดได ้ไม่เกิน 6,000,000 คน

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 13/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

1 : 2,500,000 คน
2 : 2,800,000 คน
3 : 3,200,000 คน
4 : 3,600,000 คน
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 117 :
จังหวัดหนึงมีจํานวนพลเมืองในปี พศ. 2540 และ 2550 เท่ากับ 20,000 และ 30,000 คนตามลําดับ จงคํานวณหาจํานวนพลเมืองในปี พศ. 2575 โดยให ้จํานวน
พลเมืองของจังหวัดนีมีอต
ั ราการเพิมคงที

1 : 55,000 คน
2 : 60,000 คน
3 : 65,000 คน
4 : 70,000 คน
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 118 :
ในเมืองแห่งหนึงทํานายประชากรล่วงหน ้าไว ้ที 34,600 คน มีความต ้องการใช ้นํ า 200 ลิตรต่อคนต่อวัน ถ ้าสัมประสิทธิการใช ้นํ าสูงสุดรายชัวโมงมีคา่ เท่ากับ 1.50
รายวัน 1.15 รายเดือน 1.20 จงคํานวณปริมาณนํ าทีจะใช ้ในการออกแบบระบบขนส่งนํ าจากแหล่งนํ าไปยังระบบทําความสะอาดนํ า

1 : 398 ลบ.ม./ชม.
2 : 497 ลบ.ม./ชม.
3 : 518 ลบ.ม./ชม.
4 : 416 ลบ.ม./ชม.
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 119 :
จงประเมินจํานวนประชากรในปี พ.ศ. 2550 โดยวิธอ
ี นุกรมเรขาคณิต (Geometric progression method) โดยข ้อมูลสํามะโนประชากรของเมืองแห่งหนึงเป็ นดังนี

1 : 45,600
2 : 58,000
3 : 30,000
4 : 38,000
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 120 :
จงหาสัมประสิทธิการใช ้นํ าสูงสุดรายวัน (coefficients of maximum daily demands) เมือความต ้องการนํ าใช ้นํ ารายวันคิดเป็ นเปอร์เซ็นต์ของค่าเฉลียดังนี

1 : 1.10
2 : 0.25
3 : 1.05
4 : 1.20
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 121 :
จงหาสัมประสิทธิการใช ้นํ าสูงสุดรายเดือน (coefficient of monthly demand) โดยมีความต ้องการใช ้นํ ารายเดือนคิดเป็ นเปอร์เซ็นต์ของการใช ้นํ าตลอดปี ดงั นี

1 : 0.78
2 : 1.12
3 : 1.20
4 : 0.84
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 122 :
ื ใดในประเทศไทยทีมีอต
พืนที ั ราการใช ้นํ าประปาน ้อยทีสุด

1 : กรุงเทพมหานคร
2 : ชนบท
3 : ชานเมือง
4 : เทศบาล
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 123 :
อุปกรณ์ข ้อใดต่อไปนี ไม่ใช ้ ในการวัดอัตราการไหลของนํ า
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 14/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

1 : Parshall flumes
2 : Venturi tube
3 : Rectangular weir
4 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 124 :
การวัดอัตราการไหลในข ้อใดแตกต่างจากพวก

1 : Parshall flume
2 : Nozzle flow
3 : Venturi meter
4 : Orifice meter
5 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 125 :
การสูบนํ าจากปั มหอยโข่งมีคา่ เท่ากับ 710 gpm มีคา่ เท่ากับข ้อใดต่อไปนี

1 : 0.028 m3/s
2 : 0.045 m3/s
3 : 44 L/s
4 : 2.68 m3/s
5 : 2683 L/s
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 126 :
ความเร็วของการไหลในท่อเพือป้ องกันการตกตะกอนเท่ากับเท่าไหร่

1 : 0.1 m/s
2 : 0.2 m/s
3 : 0.4 m/s
4 : 0.6 m/s
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

เนือหาวิชา : 568 : Design of water distribution systems

ข ้อที 127 :
ข ้อใดทีไม่ถก
ู ต ้อง

1 : ท่อพีวซี สี ฟ ี ้ าใช ้สําหรับเป็ นท่อรับแรงดันสําหรับนํ าประปา ส่วนท่อพีวซ ี เี ทาใช ้สําหรับเป็ นท่อระบายนํ า


ี ส
2 : ความยาวมาตรฐานของท่อพีวซ ี ามท ้องตลาด ยาวท่อนละ 4 เมตร
ี ต
3 : ท่อพีวซ ี ชี นคุ
ั ณภาพ 13.5 หมายถึง สามารถใช ้รับแรงดันปลอดภัยได ้ถึง 13.5 บาร์
4 : ข ้อดีของท่อพีวซ ี ค ี อ ่ เหมาะสําหรับใช ้งานกลางแจ ้งเนืองจากทนทานต่อแสงแดดได ้ดี
ื ติดตังง่าย มีความยืดหยุน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 128 :
มีเครืองสูบนํ าขนาดเดียวกัน 2 เครือง สําหรับสูบนํ าเข ้าสูร่ ะบบท่อจ่ายนํ าประปา คําตอบในข ้อใดทีถูกต ้อง

1 : หากต ้องการอัตราการไหลสูงๆ ให ้ต่อเครืองสูบนํ าแบบอนุกรม


2 : หากต ้องการแรงดันสูงๆ ให ้ต่อเครืองสูบนํ าแบบขนาน
3 : หากต ้องการอัตราการไหลสูงๆ ให ้ต่อเครืองสูบนํ าแบบขนาน
4 : การต่อเครืองสูบนํ าทังแบบอนุกรมและแบบขนาน ไม่ให ้ผลทีแตกต่างกัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 129 :
แรงดันของนํ าประปาในท่อจ่าย บริเวณเขตบ ้านพักอาศัยควรมีคา่ เท่าใด

1 : 70 - 140 KPa
2 : 140 - 350 KPa
3 : 350 - 490 KPa
4 : 490 - 700 KPa
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 130 :
ท่อเมนประปาทีต ้องการออกแบบให ้รับนํ าสําหรับการดับเพลิงด ้วย ต ้องมีขนาดอย่างตําเท่าใด

1 : 10 ซม.
2 : 15 ซม.
3 : 20 ซม.
4 : 30 ซม.
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 131 :
ข ้อใดคือไม่ใช่วต
ั ถุประสงค์ของถังเก็บนํ าในระบบจ่ายนํ าประปา

1 : ทําให ้ปั มทํางานน ้อยลง


2 : ควบคุมแรงดันของนํ าในท่อจ่ายให ้สมําเสมอ
3 : ช่วยฆ่าเชือโรคในนํ า ขณะเก็บกักในถัง
4 : ช่วยเพิมแรงดันของนํ าในท่อจ่าย กรณีอยูไ่ กลจากโรงทํานํ าประปา
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 132 :
การติดตังปั มนํ า 2 ตัวแบบอนุกรม จะทําให ้เกิดผลอย่างไร เมือเทียบกับการติดตังปั มแบบเดียวกันเพียงตัวเดียว

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 15/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

1 : ได ้ปริมาณนํ าเพิมขึน แต่แรงดันลดลง


2 : ได ้ปริมาณนํ าเพิมขึน แต่แรงดันคงเดิม
3 : ได ้ปริมาณนํ าคงเดิม แต่แรงดันเพิมขึน
4 : ได ้ปริมาณนํ า และ แรงดันคงเดิม
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 133 :
ปั มทีนิยมใช ้ในงานประปาจากนํ าผิวดินได ้แก่

1 : Impulse Pump
2 : Rotary Pump
3 : Submersible Pump
4 : Centrifugal Pump
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 134 :
ความเร็วของการไหลของนํ าในท่อ โดยปรกติไม่ควรเกิน

1 : 1-2 เมตรต่อวินาที
2 : 3-5 เมตรต่อวินาที
3 : 5-8 เมตรต่อวินาที
4 : 8-12 เมตรต่อวินาที
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 135 :
จากคุณลักษณะของปั มตามทีบริษัทผู ้ผลิตให ้มา ดังรูป ถ ้าต ้องการสูบนํ าปริมาณ 150 gpm ให ้ได ้ความสูง 35 เมตร ควรเลือกใช ้ปั มรุน
่ ใด

1 : รุน
่ A หรือ B
2 : รุน่ D หรือ E
3 : ไม่มรี น
ุ่ ทีเหมาะสม
4 : ใช ้ได ้ทุกรุน

คําตอบทีถูกต ้อง : 3

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 16/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

ข ้อที 136 :
ี ้ในการคํานวณหา ท่อสมมูลย์ได ้แก่
ทฤษฎีทางชลศาสตร์ทใช

1 : Hazen-Williams Formula
2 : Manning’s Equation
3 : Hardy Cross Analysis
4 : Rational Method
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 137 :
่ หนึงทีใช ้แทนชุดของท่อจ่ายนํ าในระบบประปา หมายถึง
ท่อสมมูลย์เป็ นท่อสมมติทอ

1 : แรงดันนํ าในท่อสมมูลย์เท่ากับผลรวมของแรงดันนํ าของท่อจ่ายนํ าทังชุด


2 : ปริมาณนํ าในท่อสมมูลย์เท่ากับผลรวมของปริมาณนํ าของท่อจ่ายนํ าทังชุด
3 : แรงดันสูญเสียในท่อสมมูลย์เท่ากับผลรวมของแรงดันสูญเสียของท่อจ่ายนํ าทังชุด
4 : แรงดันนํ าคูณปริมาณในท่อสมมูลย์เท่ากับผลรวมของแรงดันนํ าคูณปริมาณของท่อจ่ายนํ าทังชุด
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 138 :
ระบบท่อจ่ายนํ าวิธใี ดจึงเหมาะทีสุดสําหรับชุมชนทีอยูก
่ น
ั หนาแน่นมากในใจกลางเมือง และอยูก
่ น
ั เบาบางมากทีบริเวณชานเมือง

1:

2:

3:
4 : ถูกทังข ้อ 1. และ 3.
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 139 :
ในระบบท่อส่งนํ าภายใต ้แรงดัน ทีมีทศ
ิ ทางการไหลของนํ า (ดังรูป) จะติดตังวาล์วระบายอากาศ (Air Released Valve) ทีจุดใด

1:

2:

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 17/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

3:

4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 140 :
เครืองสูบนํ าชนิดใดเหมาะสําหรับใช ้สูบนํ าจากบ่อบาดาลทีมีความลึกมากๆ

1 : Piston Pump
2 : Submersible Pump
3 : Air-Jet Pump
4 : Diaphragm Pump
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 141 :
ข ้อใดไม่ใช่วธิ ท ี ้สําหรับการเชือมต่อท่อพลาสติกชนิด HDPE
ี ใช

1 : การใช ้ความร ้อน


2 : การใช ้กาวสําหรับต่อท่อ
3 : การใช ้หน ้าแปลน
4 : การใช ้ข ้อต่อแบบเกลียว
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 142 :
ข ้อใดเป็ นลําดับการต่ออุปกรณ์ทอ
่ เข ้ากับเครืองสูบนํ าอย่างถูกต ้อง

1 : วาล์วปิ ดเปิ ด ข ้อต่อยืดหยุน่ เครืองสูบนํ า เช็กวาล์ว ข ้อต่อยืดหยุน ่ วาล์วปิ ดเปิ ด


2 : ข ้อต่อยืดหยุน่ วาล์วปิ ดเปิ ด เครืองสูบนํ า วาล์วปิ ดเปิ ด เช็กวาล์ว ข ้อต่อยืดหยุน ่
3 : วาล์วปิ ดเปิ ด ข ้อต่อยืดหยุน ่ เครืองสูบนํ า ข ้อต่อยืดหยุน่ วาล์วปิ ดเปิ ด เช็กวาล์ว
4 : วาล์วปิ ดเปิ ด ข ้อต่อยืดหยุน ่ เครืองสูบนํ า ข ้อต่อยืดหยุน่ เช็กวาล์ว วาล์วปิ ดเปิ ด
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 143 :
จากหลักการออกแบบท่อโดยวิธท
ี อ
่ สมมูลย์ ข ้อใดทีไม่ถก
ู ต ้อง

1:

2:

3:

4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 144 :
ข ้อใดคือวัตถุประสงค์หลักในการกําหนดความเร็วของการไหลของนํ าในท่อส่งนํ า

1 : เพือลดการกัดกร่อนท่อและอุปกรณ์ทอ่
2 : เพือป้ องกันการตกตะกอนภายในท่อ
3 : เพือความประหยัดในการลงทุนก่อสร ้าง
4 : เพือลดภาระในการบํารุงรักษาระบบท่อส่งนํ า
5 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 145 :
สําหรับการสูบจ่ายนํ าประปาเข ้าสูร่ ะบบท่อจ่ายนํ าโดยใช ้เครืองสูบจ่ายนํ าโดยตรง ข ้อใดทีไม่ถก
ู ต ้อง

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 18/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

1 : การจ่ายนํ าโดยใช ้เครืองสูบจ่ายนํ าโดยตรง เหมาะกับระบบจ่ายนํ าประปาขนาดใหญ่


2 : การจ่ายนํ าโดยใช ้เครืองสูบจ่ายนํ าโดยตรง ควบคุมการเปลียนแปลงของอัตราการไหลได ้ง่าย
3 : การจ่ายนํ าโดยใช ้เครืองสูบจ่ายนํ าโดยตรง มีคา่ ลงทุนก่อสร ้างและค่าดูแลรักษาตํา
4 : การจ่ายนํ าโดยใช ้เครืองสูบจ่ายนํ าโดยตรง อาจประสบปั ญหาการจ่ายนํ า เนืองจากไม่มรี ะบบสํารองนํ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 146 :
ข ้อใดไม่ใช่ข ้อดีของ การใช ้ระบบท่อแจกจ่ายนํ าแบบเป็ นวงบรรจบ (Loop System)

1 : ไม่มป
ี ั ญหาเรืองคูณภาพนํ าทีปลายท่อ
2 : ลดปั ญหานํ าไม่ไหลในกรณีทมี ี การซ่อมแซมท่อจ่ายนํ า
3 : ค่าลงทุนก่อสร ้างและค่าบํารุงรักษาตํา
4 : เหมาะสําหรับระบบแจกจ่ายนํ าขนาดใหญ่
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 147 :
ปั จจัยทีต ้องพิจารณาในการวางท่อแจกจ่ายนํ าประปาประกอบด ้วยอะไรบ ้าง

1 : รูปแบบของแนวถนน
2 : ลักษณะสูงตําของพืนที
3 : ลักษณะการใช ้ทีดินและแนวโน ้มการพัฒนาในอนาคต
4 : ทีตังของโรงกรองนํ าและถังเก็บนํ า
5 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 148 :
ข ้อใดทีไม่ถก
ู ต ้อง

1 : การวางท่อจ่ายนํ าประปาจะต ้องให ้มีความลาดเอียงไปตามทิศทางการไหลเพือให ้นํ าไหลได ้ดีขน



2 : การติดตังวาล์วระบายอากาศในท่อจ่ายนํ าประปา ควรติดตังในทุกๆ จุดทีเป็ นจุดสูงสุดของท่อ
3 : ควรติดตังประตูนําในระบบท่อจ่ายนํ า ในทุกๆ จุดทีมีการเชือมต่อท่อแยก
4 : ควรติดตังจุดระบายตะกอนออกจากระบบท่อจ่ายนํ า เพือช่วยในการทําความสะอาดระบบท่อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 149 :
ท่อชนิดใดทีไม่ใช ้เป็ นท่อนํ าประปา

1 : ท่อซีเมนต์ใยหิน
2 : ท่อเหล็กอาบสังกะสี
3 : ท่อทองแดง
4 : ท่อคอนกรีต
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 150 :
ต ้องการสูบนํ าจากถังเก็บนํ า A ไปยังถังเก็บนํ า B ด ้วยอัตราการสูบนํ าเท่ากับ 35 ลิตร/วินาที ถ ้าเฮดสูญเสียทีเกิดขึนจากการไหลของนํ าผ่านท่อและอุปกรณ์ตา่ งๆ
มีคา่ รวมเท่ากับ 7.5 เมตร กําหนดให ้ประสิทธิภาพของเครืองสูบนํ าเป็ น 70% ให ้คํานวณหาขนาดแรงม ้าของเครืองสูบนํ า

1 : 2 แรงม ้า
2 : 3.6 แรงม ้า
3 : 7.4 แรงม ้า
4 : 9.9 แรงม ้า
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 151 :
ถังยืน (Stand Pipe) ต่างกับหอถังสูง (Elevated Storage) อย่างไร

1 : ถังยืนเป็ นถังเก็บนํ าทีมีความสูงน ้อยกว่าหอถังสูงแต่เก็บนํ าได ้มากกว่า


2 : ถังยืนเป็ นถังเก็บนํ าทีมีความสูงมากกว่าหอถังสูงแต่เก็บนํ าได ้น ้อยกว่า
3 : ถังยืนเป็ นถังเก็บนํ าทีมีความสูงมากกว่าและมีแรงส่งนํ ามากกว่าหอถังสูง
4 : ถังยืนเป็ นถังเก็บนํ าทีเก็บนํ าได ้น ้อยกว่าแต่มแ
ี รงส่งนํ ามากกว่าหอถังสูง
5 : ถังยืนเป็ นถังเก็บนํ าทีเก็บนํ าได ้น ้อยกว่าและมีแรงส่งนํ าน ้อยกว่าหอถังสูง
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 152 :
ข ้อใดไม่ใช่ข ้อเสียของการวางท่อจ่ายนํ าประปาแบบแยกแขนง

1 : จะต ้องปิ ดประตูนําของท่อทีอยูถ


่ ด
ั ไประหว่างทําการซ่อมทีจุดใดจุดหนึง ทําให ้ท่อทีอยูถ ่ ด ี ํ าใช ้จนกว่าการซ่อมจะเสร็จ
ั ไปไม่มน
2 : การออกแบบขนาดท่อให ้ได ้ถูกต ้องเหมาะสมต ้องใช ้การคํานวณทียุง่ ยากีดไปไม่มน ี ํ าใช ้จนกว่าการซ่อมจะเสร็จ
3 : ไม่มขี ้อใดถูกต ้อง
4 : นํ าบริเวณปลายท่อมีการเจริญเติบโตของจุลน ิ ทรียแ
์ ละอาจเกิดกลินขึนได ้เพราะนํ าอยูใ่ นลักษณะนิงนานๆ

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 19/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
5 : ควบคุมปริมาณคลอรีนทีปลายท่อได ้ยากเพราะลักษณะสมบัตข
ิ องนํ าไม่คงที
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 153 :
ระบบท่อจ่ายนํ าประปานิยมใช ้ท่อชนิดใดเป็ นท่อทีติดตังกับเครืองสูบนํ าหรือใช ้เป็ นท่อลอดถนน ทีต ้องรับนํ าหนักและแรงสันสะเทือนได ้ดี

1 : ท่อซีเมนต์ใยหิน
2 : ท่อเหล็กอาบสังกะสี
3 : ท่อเหล็กกล ้า
4 : ท่อ PVC
5 : ท่อ PE
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 154 :
ในระบบท่อจ่ายนํ าประปานิยมใช ้ท่อชนิดใดเป็ นท่อต่อเข ้าตามตรอกหรือทางแคบคดเคียว

1 : ท่อซีเมนต์ใยหิน
2 : ท่อเหล็กอาบสังกะสี
3 : ท่อเหล็กกล ้า
4 : ท่อเหล็กเหนียว
5 : ท่อ PE
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 155 :
ั ราการใช ้นํ า 250 ลิตร/คน/วัน อยากทราบว่าใน 1 เดือนจะมีอต
ชุมชนแห่งหนึงมีบ ้านพักอาศัย 100 หลังคาเรือน คอนโดมิเนียม 2 หลังๆละ 80 ห ้องมีอต ั ราการใช ้นํ า
กีลูกบาศก์เมตร โดยกําหนดให ้บ ้านพักอาศัยมีประชากรเฉลีย 5 คน/หลัง คอนโดมิเนียม 3 คน/ห ้อง

1 : 735
2 : 7350
3 : 7350000
4 : 245
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 156 :
นํ าจากโรงประปาถูกส่งไปให ้ชุมชนหนึงด ้วยอัตราการไหล 25 MGD ซึงใช ้ท่อคอนกรีตระยะทาง 1.5 กิโลเมตร จงหาขนาดเส ้นผ่าศูนย์กลางของท่อ เมือกําหนด
ให ้ สัมประสิทธิความเสียดทานของท่อเท่ากับ 0.02 และค่าเฮดสูญเสียเท่ากับ 100 เมตร

1 : 0.03 เมตร
2 : 0.5 เมตร
3 : 0.8 เมตร
4 : 1.0 เมตร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 157 :
ั เลิกใช ้เนืองจากเป็ นอันตรายต่อสุขภาพของผู ้ใช ้
ท่อจ่ายนํ าแบบใดทีปั จจุบน

1 : ท่อซีเมนต์ใยหิน
2 : ท่อเหล็กอาบสังกะสี
3 : ท่อพลาสติก
4 : ท่อเหล็กกล ้า
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 158 :
ประตูนําแบบใดทีเปิ ด-ปิ ดนํ าได ้โดยหมุนได ้รอบแกนและสามารถปรับอัตราการไหลได ้ดี

1 : Gate valve
2 : Butterfly valve
3 : Check valve
4 : Blow-off valve
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 159 :
ความดันตําสุดในท่อจ่ายนํ าประปาควรมีคา่ เท่าไร

1 : ไม่ควรตํากว่า 1 bars
2 : ไม่ควรตํากว่า 2 bars
3 : ไม่ควรตํากว่า 3 bars
4 : ไม่ควรตํากว่า 4 bars
5 : ไม่ควรตํากว่า 5 bars
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 160 :
ในการออกแบบระบบท่อจ่ายนํ าประปาต ้องคํานวณหาขนาดท่อทีเหมาะสมโดยต ้องมีขนาดใหญ่พอทีจะทําให ้ความเร็วในการไหลของนํ าในท่อไม่เกินความเร็วที
กําหนด อยากทราบว่าโดยทัวไปนิยมใช ้ค่าความเร็วเท่าไร

1 : 1 เมตรต่อวินาที
2 : 3 เมตรต่อวินาที
3 : 5 เมตรต่อวินาที
4 : 6 เมตรต่อวินาที
5 : 8 เมตรต่อวินาที
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 161 :
ข ้อใดไม่ถก
ู ต ้อง

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 20/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

1 : หนึงหน่วยความดันของนํ าทีก ้นถังซึงบรรจุนําหนึงลูกบาศก์เมตรจะมีคา่ 9.79 kPa


2 : ความสูงของนํ าหนึงเมตร จะมีความดันเทียบเท่ากับ 9.79 kPa
3 : ค่าสัมประสิทธิความเสียดทานหรือค่าความหยาบของผิวท่อ (C) จะมีคา่ สูงสําหรับท่อใหม่ ผิวเรียบ และมีคา่ ตําสําหรับท่อเก่า ผิวขรุขระ

4 : สูตรทีนิยมใช ้ในการคํานวณออกแบบระบบท่อจ่ายนํ าคือสูตรของ Hazen-Williams


5 : ความดันคือค่าของนํ าหนักทีกระทําบนพืนที
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 162 :
ประตูนําชนิดใดทีนิยมใช ้สําหรับควบคุมการไหลของนํ า ณ จุดทีมีการเปลียนแปลงทิศทางการไหล

1 : Gate Valves
2 : Check Valves
3 : Angle Valves
4 : Butterfly Valves
5 : Globe Valves
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 163 :
ข ้อใดไม่ใช่หลักการสําคัญในการพิจารณาหากรรมวิธท
ี เหมาะสมในการผลิ
ี ตนํ าประปาก่อนทีจะจ่ายนํ าบริการเป็ นสารธารณูปโภค

1 : ต ้องให ้มีความสะอาดปลอดภัยในแง่ของสุขภาพอนามัย
2 : ต ้องให ้มีลกั ษณะน่าใช ้
3 : ต ้องให ้ได ้กรรมวิธท
ี ประหยั
ี ดทีสุดในด ้านการก่อสร ้าง
4 : ต ้องให ้ได ้กรรมวิธท ดค่าใช ้จ่ายในการดําเนินงานมากทีสุด
ี ประหยั

5 : ต ้องให ้ได ้ปริมาณมากพอกับการให ้บริการ
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 164 :
ปั จจัยทีควรพิจารณาในการเลือกทีตังของทางนํ าเข ้าของระบบจัดส่งนํ าดิบในการผลิตนํ าประปา ข ้อใดไม่ถก
ู ต ้อง

1 : ไม่ควรสร ้างไว ้ทีบริเวณส่วนโค ้งของแหล่งนํ า


2 : ควรเป็ นบริเวณทีมีลมพัดผ่านดี
3 : ควรเป็ นบริเวณทีอยูใ่ กล ้กับโรงผลิตนํ าประปามากทีสุด
4 : ควรเป็ นบริเวณทีอยูใ่ กล ้กับสถานีสบ
ู นํ ามากทีสุด
5 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 165 :
ข ้อใดคือส่วนประกอบของกระบวนการ Coagulation Flocculation ทีถูกต ้อง

1 : กวนช ้า -> กวนเร็ว -> ตกตะกอน


2 : ตกตะกอน-> กวนช ้า -> กวนเร็ว
3 : กวนเร็ว -> กวนช ้า -> ตกตะกอน
4 : กวนเร็ว -> ตกตะกอน -> กวนช ้า
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 166 :
ให ้หาความกว ้างและความยาวของถังผสมช ้าเมือให ้อัตราการไหลเข ้าของนํ าเท่ากับ 25000 ลบ.ม.ต่อวัน เวลาเก็บกัก 30 นาที ความลึกของนํ าในถัง 5 ม. และ
ความกว ้าง : ความยาว = 2:1

1 : กว ้าง 5.00 ม. ยาว 12.50 ม.


2 : กว ้าง 14.50 ม. ยาว 7.25 ม.
3 : กว ้าง 7.25 ม. ยาว 14.50 ม.
4 : กว ้าง12.50 ม. ยาว 5.00 ม.
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 167 :
ข ้อใดผิดทีสุดเกียวกับระบบจ่ายนํ า

1 : ระบบจ่ายนํ าแบบอาศัยแรงโน ้มถ่วงของโลกมักมีหอถังสูง


2 : ท่อจ่ายนํ าแบบแขนงเหมาะสําหรับชุมชนขนาดใหญ่เนืองจากค่าติดตังสูง
3 : ท่อจ่ายนํ าแบบวงจรปิ ดจะมีการไหลของนํ าประปาตลอดเวลาในท่อ
4 : ท่อประธานในท่อจ่ายนํ าแบบวงจรปิ ดมีขนาดยาวกว่าท่อประธานในท่อจ่ายนํ าแบบแขนง
5 : ข ้อ ค. และข ้อ ง.
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 168 :
ความดันนํ าในท่อประธานจ่ายนํ าประปาข ้อใดไม่เหมาะสม

1 : ความดันเทียบเท่ากับนํ าสูง 5 เมตร


2 : ความดันเทียบเท่ากับนํ าสูง 10 เมตร
3 : ความดันเทียบเท่ากับนํ าสูง 15 เมตร
4 : ความดันเทียบเท่ากับนํ าสูง 20 เมตร
5 : ความดันเทียบเท่ากับนํ าสูง 25 เมตร
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 169 :
ปั มมีอยูด ี ว่ นเข ้าไปเกียวข ้องด ้วย
่ ้วยกันหลายชนิดแต่มเี พียง 2 ชนิดทีวิศวกรชลศาสตร์มส

1 : ปั มแบบเซนตริฟค ู อล (centrifugal pump) และแบบโรตารี (Rotary pump)


2 : แบบใช ้แรงฉีด (jet pump) และแบบลูกสูบชัก (reciprocating pump)
3 : แบบลูกสูบชัก กับแบบเซนตริฟค ู อล
4 : แบบลูกสูบชักและแบบใช ้แรงกระแทก (hydraulic ram)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 21/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

ข ้อที 170 :
กราฟเฮดของระบบ (system head curve) คือ

1 : กราฟระหว่างอัตราการไหลกับความต่างระดับของของเหลวทีปลายท่อดูดและท่อจ่าย
2 : กราฟระหว่างอัตราการไหลกับพลังงานทีสูญเสียไปในการไหลผ่านระบบเนืองจากความฝื ดในเส ้นท่อ
3 : กราฟแสดงการทํางานของปั ม (Performance curve)
4 : กราฟของเฮดสถิตรวมกับกราฟเฮดความฝื ด
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 171 :
การเลือกตําแหน่งทีติดตังปั มควรพิจารณาที

1 : จุดทํางานของปั ม
2 : NPSH
3 : ประสิทธิภาพ
4 : กราฟเฮดของระบบ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 172 :
ในกรณีทต
ี ้องให ้ปั มทํางานร่วมกันแบบขนานควรเลือกปั มอย่างไร

1 : ปั มชนิดเดียวกันต่อขนานกัน
2 : ปั มต่างชนิดกันทํางานร่วมกัน
3 : ปั มทีมี NPSH น ้อย
4 : ปั มทีมี NPSH มาก
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 173 :
กราฟลักษณะการทํางานของปั มทีผลิตมาแต่ละรุน
่ ได ้โดยการทดลองให ้ปั มซึงมีใบพัดขนาดหนึงทํางานด ้วยรอบความเร็วคงที การแก ้ปั ญหาเมือลักษณะการ
ทํางานของปั มแตกต่างไปจากมาตรฐานทีบริษัทผู ้ผลิตทดลองไว ้ ทําได ้โดยใช ้กฎเกณฑ์อะไร

1 : กฎการไหลต่อเนือง
2 : กฎสมดุลของพลังงาน
3 : กฎโมเมนต์
4 : กฎความสัมพันธ์ (affinity laws)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 174 :
การออกแบบถังจ่ายนํ า (distribution reservoir) ใช ้ข ้อมูลอัตราการใช ้นํ า

1 : รายชัวโมง
2 : รายวัน
3 : รายเดือน
4 : รายปี
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 175 :
การหาความจุของถังจ่ายนํ าทีเหมาะสมสามารถใช ้เทคนิคของการสร ้างกราฟอะไร

1 : กราฟสะสม (mass diagram)


2 : กราฟโค ้งความจุ
3 : กราฟโค ้งพืนที
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 176 :
ตําแหน่งของถังกระจายนํ าควรจะอยูท
่ ใด
ี ในระบบ

1 : ใกล ้แหล่งนํ าดิบ


2 : บริเวณทีราบใกล ้ศูนย์กลางการใช ้นํ า
่ ริเวณพืนทีสูงใกล ้ศูนย์กลางการใช ้นํ า
3 : อยูบ
4 : อยูห่ า่ งจากเขตเมือง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 177 :
การออกแบบระบบกระจายนํ าประกอบด ้วยขันตอนต่าง ๆ ในทีนีข ้อใดทีไม่ใช่ขนตอนการออกแบบ
ั ระบบกระจายนํ า

1 : จัดเตรียมแผนทีรายละเอียดของเมืองทีต ้องการกระจายนํ า
2 : ประเมินความต ้องการใช ้นํ าสูงสุดรวมถึงการเจริญเติบโตในอนาคต และนํ าสําหรับใช ้ในการดับเพลิง
3 : ออกแบบขนาดท่อส่งนํ า
4 : ออกแบบระบบทําความสะอาดนํ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 178 :
ความดันทีปลายก๊อกนํ าอย่างน ้อยเท่าไร เพือสนองความพอใจของผู ้ใช ้นํ า

1 : 1.5 เมตร ความสูงนํ า


2 : 2.5 เมตร ความสูงนํ า
3 : 3.5 เมตร ความสูงนํ า
4 : 4.5 เมตร ความสูงนํ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 179 :
ในระบบท่อความเร็วในเส ้นท่อทีไม่ทําให ้ขนาดท่อใหญ่จนเกินไป และไม่ทําให ้เกิดความฝื ดมากเกินไป ควรเป็ นเช่นไร

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 22/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

1 : 0.6 เมตรต่อวินาที
2 : 1.2 เมตรต่อวินาที
3 : 2.4 เมตรต่อวินาที
4 : 4.8 เมตรต่อวินาที
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 180 :
่ ํากว่าเส ้นลาดชลศาสตร์ (hydraulic grade line) เพือ
สิงสําคัญในการวางท่อควรจะต ้องวางท่อให ้อยูต

1 : ไม่ให ้เกิดความดันลบในเส ้นท่อ


2 : ให ้มีความดันทีจะจ่ายนํ าได ้เพียงพอ
3 : ถูกทัง 1. และ 2.
4 : ไม่ถกู ทัง 1. และ 2.
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 181 :
ในระบบกระจายนํ าสิงทีต ้องคํานึงถึงคือ ความดันสูงสุดข ้อจํากัดนีกําหนดจากอะไร

1 : ความดันทีปลายท่อทีต ้องการ
2 : ความดันทีท่อสามารถทนได ้
3 : ถูกทังข ้อ 1. และ 2.
4 : ไม่ถก
ู ทัง 1. และ 2.
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 182 :
ในระบบกระจายนํ าการออกแบบทีดีจะต ้องตรวจเช็คความดันในท่อแต่ละจุดและจะต ้องเขียนเส ้นชันระดับความดันทีเท่ากันบนโครงข่ายของระบบ เพือดู

1 : ขอบเขตของความดันสูงสุด และตําสุด
2 : ความสมําเสมอ(ระยะห่างทีคงที)ระหว่างเส ้นระดับชันความดัน
3 : ถูกทัง ก. และ ข.
4 : เพือดูความเสียดทานในเส ้นท่อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 183 :
การไหลในท่อภายใต ้ความดัน ค่าความสูญเสียความดัน (head loss) สามารถแสดงอยูใ่ นรูป h = k.(Q^x) ค่า x จะมีคา่ เท่ากับเท่าไร เมือใช ้สูตรของ Hazen –
William

1 : 1.75
2 : 1.85
3 : 2.00
4 : ไม่ถก
ู ทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 184 :
ในโครงข่ายท่อทีเป็ นแบบวงรอบอาศัยวิธข
ี อง Hardy Cross อาศัยหลักการอะไร

1 : ปริมาณนํ าทีไหลเข ้าหาจุดต่อเท่ากับปริมาณนํ าไหลออกจากจุดต่อ


2 : ผลรวมตามเครืองหมายของความดันทีสูญเสียไปในวงรอบต ้องเท่ากับศูนย์
3 : สมมุตเิ ป็ นเครืองหมายบวกในทิศทางการไหลตามเข็มนาฬกา ิ และเครืองหมายลบในทิศทางการไหลทวนเข็มนาฬกา

4 : ถูกทังข ้อ ก. และ ข.
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 185 :
องค์ประกอบของระบบประปาชุมชน ประกอบด ้วย 1. ระบบส่งนํ า 2. ระบบทําความสะอาดนํ า 3. แหล่งนํ า 4. ถังกระจายนํ า 5. ระบบกระจายนํ า 6. อ่างเก็บนํ า จง
เลือกข ้อทีจัดลําดับขององค์ประกอบระบบประปาชุมชนอย่างถูกต ้อง

1 : 1-2-3-4-5-6
2 : 6-1-2-3-5-4
3 : 3-6-1-2-4-5
4 : 3-6-4-1-2-5
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 186 :
จงประมาณการช่วงทํางานของปั มทีอัตราการสูบเท่าไร ถ ้าจํากัดว่าประสิทธิภาพจะต ้องไม่ตํากว่า 79% โดยค่าในตารางเป็ นผลทีได ้จากการทดสอบปั มเครืองหนึง

1 : 864-784
2 : 670-898
3 : 784-898
4 : 784-1,134
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 187 :

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 23/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
จงประมาณอัตราการสูบจุดทีปั มทํางานได ้ดีทสุ
ี ด โดยอาศัยตารางผลการทดสอบปั มเครืองหนึง

1 : 1,450
2 : 255
3 : 780
4 : 1,136
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 188 :
่ งั จ่ายนํ า โดยมีข ้อมูลอัตราการใช ้นํ าของวันทีมีการใช ้นํ าสูงสุด เป็ นรายชัวโมง ดังตาราง จงหาอัตราการ
ระบบประปาของเมืองอาศัยการสูบนํ าจากบ่อบาดาลขึนสูถ
สูบนํ าเฉลียตลอด 24 ชัวโมง เป็ น ลบ.ม.ต่อชัวโมง

1 : 630
2 : 530
3 : 430
4 : 330
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 189 :
่ งั จ่ายนํ า โดยมีข ้อมูลอัตราการใช ้นํ าของวันทีมีการใช ้นํ าสูงสุด เป็ นรายชัวโมง ดังตาราง จงหาความจุท ี
ระบบประปาของเมืองอาศัยการสูบนํ าจากบ่อบาดาลขึนสูถ
เหมาะสมของถังจ่ายนํ าหน่วยเป็ น ลบ.ม.

1 : 530
2 : 630
3 : 1,530
4 : 2,430
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 190 :
ระบบท่อกระจายนํ าตามรูป ถ ้าการสูญเสียความดันจาก A ไป B เท่ากับ 0.17 ฟุต และจาก A ไป C เท่ากับ 0.05 ฟุต ดังนันค่าการสูญเสียความดันจาก B ไป C จะ
เป็ นเท่าไร

1 : 0.22 ฟุต
2 : 0.17 ฟุต
3 : 0.12 ฟุต
4 : 0.05 ฟุต
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 24/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

ข ้อที 191 :
ในระบบประปาอย่างง่ายซึงประกอบด ้วยสถานีสบ ู ย์กลางการใช ้นํ าดังรูป จงหาอัตราการไหลออกทีจุด B โดยใช ้ค่า
ู นํ า ระบบท่อ และถังจ่ายนํ า โดยมีศน
สัมประสิทธิ C ของท่อเท่ากับ 100 โดยมีสต
ู รของ Hazgen William
V(m/sec) = 0.85 C.(R^0.65).(S^0.54)

1 : 0.13 ลบ.ม./ชม.
2 : 0.07 ลบ.ม./ชม.
3 : 0.20 ลบ.ม./ชม.
4 : 0.40 ลบ.ม./ชม.
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 192 :
ในระบบประปาอย่างง่ายซึงประกอบด ้วยสถานีสบ ู ย์กลางการใช ้นํ าดังรูป จงหาอัตราการไหลในท่อ AB โดยใช ้ค่าสัมประสิทธิ
ู นํ า ระบบท่อ และถังจ่ายนํ า โดยมีศน
C ของท่อเท่ากับ 100 โดยมีสต
ู รของ Hazgen William
V(m/sec) = 0.85C(R^0.65).(S^0.54)

1 : 0.13 ลบ.ม./ชม.
2 : 0.07 ลบ.ม./ชม.
3 : 0.20 ลบ.ม./ชม.
4 : 0.40 ลบ.ม./ชม.
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 193 :
ในระบบประปาอย่างง่ายซึงประกอบด ้วยสถานีสบ ู ย์กลางการใช ้นํ าดังรูป จงหาอัตราการไหลในท่อ BC โดยใช ้ค่าสัมประสิทธิ
ู นํ า ระบบท่อ และถังจ่ายนํ า โดยมีศน
C ของท่อเท่ากับ 100 โดยมีสต
ู รของ Hazgen William

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 25/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
V(m/sec) = 0.85C.(R^0.65).(S^0.54)

1 : 0.13 ลบ.ม./ชม.
2 : 0.07 ลบ.ม./ชม.
3 : 0.20 ลบ.ม./ชม.
4 : 0.40 ลบ.ม./ชม.
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 194 :
ตามรูปลักษณะการติดตังปั ม หมายเลข 1 คืออะไร

1 : เชควาล์ว
2 : ฟุตวาล์ว
3 : ประตูนํา
4 : ปั ม
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 195 :
การออกแบบระบบวางท่อจ่ายนํ า ้ในรูปแบบใดมีจด
ุ Dead end

1 : แบบแยกแขนง
2 : แบบวงรอบ
3 : ไม่เกิด Dead end ทังสองแบบ
4 : เกิด Dead end ทังสองแบบ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 196 :
ข ้อใดต่อไปนี ไม่ใช่ หน ้าทีของถังเก็บนํ าประปาก่อนสูบจ่ายไปยังผู ้ใช ้ (Clear well)

1 : อาจใช ้เป็ นถังฆ่าเชือโรคให ้กับนํ าประปาด ้วย


2 : ใช ้เป็ นถังเก็บนํ าสําหรับใช ้งานในโรงกรองด ้วย เช่น นํ าล ้างย ้อนถังกรองทราย
3 : ใช ้เป็ นถังเก็บนํ าสํารองสําหรับจ่ายนํ าในช่วงทีมีอต
ั ราการใช ้นํ าสูงมากๆ (Peak flow)
4 : ไม่มค ี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 197 :
สําหรับระบบการจ่ายนํ าประปาแบบวงจร (Loop distribution system) ข ้อใดต่อไปนีผิด

1 : เป็ นระบบทีเหมาะสมสําหรับการใช ้ในระบบขนาดใหญ่ เช่นในเมืองใหญ่


2 : ใช ้งบประมาณในการก่อสร ้างท่อส่งนํ ามากกว่าระบบจ่ายนํ าแบบแยก
3 : สามารถปิ ดซ่อมระบบท่อบางส่วนได ้โดยยังสามารถจ่ายนํ าให ้กับผู ้ใช ้ได ้
4 : ไม่มคี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 26/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
ข ้อที 198 :
เครืองสูบนํ าสําหรับการส่งจ่ายนํ าประปาเข ้าสูร่ ะบบการจ่ายนํ าไปยังผู ้ใช ้ มักใช ้เครืองสูบนํ าแบบใดต่อไปนี

1 : Axial flow centrifugal pump


2 : Radial flow centrifugal pump
3 : Positive displacement pump
4 : Submersible centrifugal pump
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 199 :
ในระบบท่อส่งนํ าประปา เมือท่อส่งนํ าตัดผ่านคลอง มักจะนิยมยกระดับท่อส่งนํ าขึนสูงเหนือคลอง เพือให ้สามารถซ่อมบํารุงได ้ และเพือมิให ้กีดขวางการเดินเรือใน
คลอง ในการยกท่อดังกล่าว จะต ้องติดตังอุปกรณ์ชนิดหนึงไว ้ทีจุดสูงสุดของท่อ อุปกรณ์นันคืออะไรต่อไปนี และมีเหตุผลใดในการติดตังไว ้

1 : Air release valve เนืองจากต ้องการนํ าอากาศจากภายนอกเข ้าสูร่ ะบบท่อจ่ายนํ าเพือให ้แรงดันในท่อสมดุล ทําให ้นํ าไหลไปได ้
2 : Air release valve เนืองจากต ้องการระบายอากาศภายในระบบท่อจ่ายนํ าทีเกิดจากแรงดันของนํ าออกจากระบบท่อ มิฉะนันอาจเกิดการสะสมของอากาศและทําให ้นํ าไหลไปไม่ได ้
3 : Pressure reducing valve เพือลดแรงดันของนํ าเนืองจากการยกตัวของท่อ มิฉะนันอาจทําให ้ท่อแตกรัวได ้
4 : Check valve เพือบังคับให ้นํ าไหลไปในทิศทางเดียว ขึนหรือลงเท่านัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 200 :
ท่อชนิดใดต่อไปนี ไม่เหมาะสม ในการใช ้สําหรับระบบจ่ายนํ าประปา

1 : ท่อ PE
2 : ท่อ PB
3 : ท่อ PVC
4 : ท่อ Asbestos cement
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 201 :
อุปกรณ์ใดไม่จําเป็ นสําหรับปั มทีล่อนํ าเองได ้ (Self Priming)

1 : Strainer
2 : Foot Valve
3 : Flexible pipe
4 : Air Relief Valve
5 : motor
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 202 :
ก๊อกนํ าทีใช ้ตามบ ้านทัวไปเป็ นอุปกรณ์ชนิดใด

1 : Butterfly valve
2 : Gate valve
3 : Check valve
4 : Ball valve
5 : Air relief valve
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 203 :
ข ้อใดไม่ถก
ู ต ้องของการออกแบบท่อส่งนํ า

1 : การกําหนดแนวท่อส่งนํ าควรจะกําหนดให ้เป็ นแนวตรงสันและอยูใ่ นแนวระดับอย่างสมําเสมอ


2 : ใช ้อุปกรณ์เท่าทีจําเป็ น เพราะส่วนใหญ่มรี าคาแพง
3 : ท่อส่งนํ าควรจะวางบนดินทีกระทุ ้งจนแน่นเพือป้ องกันการทรุดตัว
4 : ท่อส่งนํ าควรเลือกชนิดทีดีทสุ ี ดเพราะเมือฝั งดินแล ้วจะไม่มก
ี ารขุดขึนมาซ่อมแซมอีก
5 : ท่อส่งนํ าทีใช ้บางพืนทีเช่นชายฝั งจะต ้องเป็ นท่อทีทนต่อการกัดกร่อนได ้ดี
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 204 :
ข ้อใดคือสาเหตุของการเกิด water hammer

1 : อัตราการไหลของนํ าขึนๆลงๆ
2 : การปิ ดวาล์วนํ าเร็วเกินไป
3 : ผลของก๊าซทีละลายอยูใ่ นนํ า
4 : การทีปั มไม่มนี ํ าล่อ (Pump priming)
5 : การทีนํ ามีเฮดไม่ถงึ ตามทีต ้องการ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 205 :
การทีมีกา๊ ซไข่เน่า (H2S) อยูใ่ นนํ าจะทําให ้มีผลอย่างไรกับระบบท่อส่งนํ า

1 : กัดกร่อนท่อส่งนํ าและอุปกรณ์ตอ ่ พ่วง


2 : ทําให ้ค่าพีเอชสูงขึน
3 : ทําลายแบคทีเรียทีปนเปื อนอยูใ่ นท่อนํ า
4 : ทําให ้นํ ามีส ี
5 : ทําให ้นํ ามีความขุน
่ เพิมขึน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 206 :
ถ ้าต ้องการวางท่อส่งนํ าตามแนวชายฝั ง ข ้อใดกล่าวไม่ถก
ู ต ้อง

1 : ท่อส่งนํ าควรจะวางบนดินทีกระทุ ้งจนแน่นเพือป้ องกันการทรุดตัว


2 : การกําหนดแนวท่อส่งนํ าควรจะกําหนดให ้เป็ นแนวตรงสันและอยูใ่ นแนวระดับอย่างสมําเสมอ
3 : ท่อส่งนํ าทีใช ้ควรเป็ นประเภททีนิยมในท ้องตลาดเพราะจะมีขนาดให ้เลือกมาก
4 : ถ ้าวางท่อส่งนํ าลอดใต ้ถนน ต ้องใช ้ท่อส่งทีทําจากวัสดุอด
ั แรงเพือทนต่อการกดทับได ้
5 : ถูกทุกข ้อ

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 27/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 207 :
ถังสูงเก็บนํ าประปาทรงกระบอก มีความสูงเท่ากับ 5 เมตร เส ้นผ่าศูนย์กลางเท่ากับ 2.5 เมตร มีระดับนํ าอยูท
่ ี 4.5 เมตรจากระดับพืนดิน จะสามารถเก็บนํ าประปาได ้
กีลูกบาศก์เมตร

1 : 2.45
2 : 4.9
3 : 24.5
4 : 18.0
5 : 22.0
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 208 :
ถ ้าต ้องการสูบนํ าด ้วยอัตรา 400 ลูกบาศก์เมตร/ชัวโมง โดยมี TDH เท่ากับ 56 เมตร อยากทราบว่าต ้องใช ้ปั มขนาดกีแรงม ้า ถ ้ากําหนดให ้ประสิทธิภาพปั มอยูท
่ ี
80%

1 : 37.5
2 : 82
3 : 100.8
4 : 102.6
5 : 150
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 209 :
ต ้องการสูบนํ าด ้วยอัตรา 400 ลูกบาศก์เมตร/ชัวโมง เพือยกเฮดให ้ได ้ 56 เมตร ถ ้ามีปัมขนาด 45 แรงม ้าอยู่ 5ตัว ปั มแต่ละสามารถยกเฮดได ้ 56 เมตร ซึงแต่ละตัวมี
ประสิทธิภาพ 80% อยากทราบว่าต ้องใช ้ปั มกีตัวและปั มแต่ละตัวต่อกันแบบใด

1 : ใช ้ปั ม 2 ตัวต่อแบบขนาน
2 : ใช ้ปั ม 2 ตัวต่อแบบอนุกรม
3 : ใช ้ปั ม 3 ตัวต่อแบบขนาน
4 : ใช ้ปั ม 3 ตัวต่อแบบอนุกรม
5 : ไม่มข ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 210 :
นํ าไหลผ่านข ้องอ 45°ด ้วยความเร็ว 0.5 เมตรต่อวินาที ค่าคงทีของข ้องอเท่ากับ 0.2 จงหาค่าการสูญเสียรองด ้วยข ้องอนี

1 : 0.0012 เมตร
2 : 0.0019 เมตร
3 : 0.0025 เมตร
4 : 0.0031 เมตร
5 : 0.063 เมตร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 211 :
ข ้อใดไม่ใช่การสูญเสียพลังงานในท่อแบบการสูญเสียรอง (Minor head Loss)

1 : การไหลผ่านข ้องอ
2 : การไหลผ่านวาล์ว
3 : การไหลผ่านท่อทีมีความขรุขระ
4 : การไหลผ่านท่อทีมีการเปลียนแปลงพืนทีหน ้าตัดแบบทันทีทน
ั ใด
5 : การไหลผ่านประตูนํา
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 212 :
ข ้อใดคือวัตถุประสงค์ของการออกแบบบ่อสูบ

1 : เพือให ้ของเหลวไหลเข ้าปลายท่อดูดอย่างสมําเสมอและไม่ให ้มีอากาศเข ้าไปปะปนกับของเหลว


2 : เพือให ้ของเหลวไหลเข ้าปลายท่อดูดอย่างสมําเสมอและไม่ให ้มีขยะเข ้าไปปะปนกับของเหลว
3 : เพือให ้ของเหลวไหลเข ้าปลายท่อดูดอย่างสมําเสมอและให ้ของเหลวมีการปั นป่ วนอย่างพียงพอเพือทีจะง่ายต่อการสูบนํ าไปใช ้
4 : เพือป้ องกันขยะเข ้าไปอุดตันปั มสูบนํ า
5 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 213 :
การแยกไขมันออกจากนํ ามันทําได ้ด ้วยการใช ้กระบวนการใด

1 : Precitation
2 : DAF
3 : sedimentation
4 : iox exchange
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 214 :
วิธกี ารใดทีใช ้ในการกําจัดโลหะหนักทีละลายอยูใ่ นนํ า

1 : Coagulation Flocculation
2 : Grit chamber
3 : precipitation
4 : solidification
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 215 :
การใช ้ระบบบําบัดแบบไม่ใช ้อากาศในการบําบัดนํ าเสีย ผลิตภัณฑ์ทได
ี ้จากระบบคืออะไร

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 28/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
1 : methane ,carbon dioxide
2 : methane ,sulphate
3 : new cell, Nitrogen
4 : Hydrogen Sulphide ,new cell
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 216 :
ข ้อในต่อไปนีเป็ นระบบบําบัดนํ าเสียแบบไม่ใช ้อากาศทังหมด

1 : Activated Sludge, RBC, Septic tank


2 : UASB, septic tank, Anaerobic pond
3 : Oxidation ditch, SBR, UASB
4 : Activated, constructed wetland, Oxidation ditch
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 217 :
ข ้อใดเป็ นระบบบําบัดนํ าเสียทีจุลชีพส่วนใหญ่แขวนลอยอยูใ่ นนํ า

1 : Activated Sludge, Oxidation Ditch, Aerated lagoon


2 : RBC, UASB, Anaerobic filter
3 : Activated Sludge, SBR, RBC
4 : SBR, UASB, Thicking filter
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 218 :
ข ้อใดทีเป็ นจริงสําหรับการตกตะกอนแบบโดด

1 : เป็ นลักษณะตะกอนทีเป็ นฟล ้อกเกิดขึนจากการสร ้างตะกอนและรวมตะกอน


2 : เกิดการแบ่งชันระหว่างชันตะกอนและชันนํ าใสอย่างชัดเจนในระหว่างการตกตะกอน
3 : เกิดขึนเมืออนุภาคมีความเข ้มข ้นสูงๆ
4 : ความเร็วในการตกตะกอนของอนุภาคเพิมขึนเรือยๆ ตามระยะทางทีตกลงมา
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 219 :
การทํา Jar test หมายถึง

1 : การหาประสิทธิภาพในการกรองของสารกรองหลายๆ ชนิด
2 : การทดสอบหาปริมาณสารเคมีและค่าพีเอชทีเหมาะสมทีใช ้ในการสร ้างตะกอนและรวมตะกอน
3 : การหาความเร็วของการกรองเพือให ้ได ้ประสิทธิภาพในการผลิตนํ าประปา
4 : การหาค่าคุณภาพนํ าดิบเพือเลือกอัตราการไหลทีเหมาะสมในการเข ้าระบบผลิตนํ าประปา
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

เนือหาวิชา : 569 : Design of water treatment plant and planning

ข ้อที 220 :
ในระบบประปาทีใช ้นํ าบาดาลเป็ นแหล่งนํ าดิบ ข ้อใดคือวัตถุประสงค์ของการสูบนํ าขึนมาฉีดพ่นผ่านถาดหลายๆ ชัน

1 : ถูกทุกข ้อ
2 : ทําให ้เกิดปฏิกริ ย
ิ าเคมีกบ
ั แร่ธาตุทละลายอยู
ี ใ่ นนํ า
3 : เติมออกซิเจนให ้กับนํ าบาดาล
4 : กําจัดกลินและแก๊สออกจากนํ าบาดาล
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 221 :
หน่วยปฏิบต
ั ก
ิ ารใดมีวต
ั ถุประสงค์เพือสร ้างตะกอนความขุน
่ ให ้จับเป็ นก ้อนใหญ่ให ้ตกตะกอนง่ายขึน

1 : Rapid-Mixing
2 : Coagulation
3 : Flocculation
4 : Sedimentation
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 222 :
วิธใี ดเป็ นการกําจัดความกระด ้างถาวรในนํ า

1 : Coagulation and Flocculation


2 : Ion Exchange
3 : Chlorination
4 : Tray Aeration
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 223 :
การใช ้คลอรีนฆ่าเชือโรคในนํ าประปาทีนิยมใช ้กันอยูท
่ วไป
ั อาจก่อให ้เกิดปั ญหาใด

1 : ท่อจ่ายนํ าอุดตัน
2 : ท่อจ่ายนํ าถูกกัดกร่อน
3 : เกิดสารก่อมะเร็ง
4 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 224 :
Backwash Water หมายถึงอะไร

1 : นํ าทีระบายออกจากก ้นถังตกตะกอน
2 : นํ าทีใช ้ในการล ้างถังกรอง

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 29/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
3 : นํ าเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม
4 : นํ าทีบําบัดแล ้วนํ ากลับมาใช ้ใหม่
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 225 :
วิธกี ารทีนิยมในการใช ้หาปริมาณทีเหมาะสมของสารส ้มเพือให ้การจับตะกอนทีดีคอ

1 : ทํา Jar Test


2 : คํานวณจากสมการเคมี
3 : ดูจากกราฟความสัมพันธ์ของปฏิกริ ย
ิ า
4 : ทํา Titration
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 226 :
เหล็กในนํ าสามารถถูกกําจัดด ้วยวิธใี ด

1 : Coagulation
2 : Filtration
3 : Softening
4 : Oxidation
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 227 :
วิธท ี ยมใช ้ในการกําจัดสีและกลินในนํ าได ้แก่
ี นิ

1 : Activated Carbon
2 : Ion Exchange
3 : Chlorination
4 : Precipitation
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 228 :
จงเลือกกระบวนการทีดีทสุ
ี ดในการออกแบบระบบบําบัดนํ าผิวดิน ทีมีความขุน

1 : Screening -> Sand Filter -> Coagulation -> Flocculation -> Settling Tank -> Disinfection
2 : Screening -> Flocculation -> Coagulation -> Sand Filter -> Settling Tank -> Disinfection
3 : Screening -> Coagulation -> Flocculation -> Settling Tank -> Sand Filter -> Disinfection
4 : Screening -> Flocculation -> Coagulation -> Disinfection -> Settling Tank -> Sand Filter
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 229 :
จงเลือกกระบวนการทีดีทสุ
ี ดในการออกแบบระบบบําบัดนํ าใต ้ดิน ทีมีธาตุเหล็กสูง

1 : Screening -> Sand Filter -> Reverse Osmosis


2 : Screening -> Coagulation -> Flocculation -> Settling Tank -> Sand Filter -> Disinfection
3 : Screening -> Precipitation -> Settling Tank -> Sand Filter -> Disinfection
4 : Tray Aerator -> Detention Tank -> Sand Filter -> Disinfection
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 230 :
ในการฆ่าเชือโรคด ้วยการเติมคลอรีนลงในนํ าในปริมาณทีมากพอ จนทําให ้เกิด Free Chlorine Residue ในปริมาณ 5 มก./ล. ให ้หาปริมาณของ Hypochlorous
Acid และ Hypochlorite Ion เมือนํ ามี pH = 7 ที 20 องศาเซลเซียส

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 30/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

1 : HOCL 1.0 มก./ล. OCL- 4.0 มก./ล.


2 : OCL- 1.0 มก./ล. HOCL 4.0 มก./ล.
3 : NCL3 1.0 มก./ล. HOCL 4.0 มก./ล.
4 : HOCL 1.0 มก./ล. NCL3 4.0 มก./ล.
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 231 :
ชุมชนแห่งหนึงมีความต ้องการใช ้นํ าสะสมในรอบ 24 ชัวโมงเป็ น 3000 ลูกบาศก์เมตร หากระบบผลิตนํ าประปาต ้องการเดินระบบผลิตนํ าเพียงวันละ 10 ชัวโมง
ระบบประปานีจะต ้องมีอต
ั ราการผลิตนํ าประปาเท่าใด

1 : 1250 ลูกบาศก์เมตรต่อชัวโมง
2 : 300 ลูกบาศก์เมตรต่อชัวโมง
3 : 125 ลูกบาศก์เมตรต่อชัวโมง
4 : 214 ลูกบาศก์เมตรต่อชัวโมง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 232 :
ี ยมใช ้ในระบบผลิตนํ าประปาทัวๆ ไป
ข ้อใดไม่ใช่สารเคมีทนิ

1 : สารส ้ม
2 : ปูนขาว
3 : คลอรีน
4 : เกลือแกง
5 : โซดาไฟ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 233 :
ข ้อใดไม่ใช่วต
ั ถุประสงค์ของการทํา Jar Test ในงานวิศวกรรมการประปา

1 : เพือหาค่าความขุน ่ ของนํ าดิบ


2 : เพือหาปริมาณสารเคมีสําหรับกระบวนการรวมตะกอน
3 : เพือหาระยะเวลกาการรวมตะกอนทีเหมาะสม
4 : เพือจําลองกระบวนการสร ้างแกนตะกอนและการรวมตะกอน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 234 :
หากต ้องการใช ้นํ าจากแม่นําเป็ นแหล่งนํ าดิบเพือการประปา ข ้อใดมีความสําคัญในการออกแบบสถานีสบ
ู นํ า (Water Intake) น ้อยทีสุด

1 : การเปลียนแปลงของระดับนํ าตามฤดูกาล
2 : การแยกชันของนํ าเนืองจากความแตกต่างของอุณหภูม ิ (Stratification)
3 : การป้ องกันอันตรายจากวัตถุทลอยมากั
ี บนํ า
4 : การกัดเซาะและพังทลายของตลิงแม่นํา
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 31/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

ข ้อที 235 :
ข ้อใดคือเหตุผลหลักในการใช ้คลอรีนสําหรับการฆ่าเชือโรคในนํ าประปา เมือเปรียบเทียบกับการใช ้โอโซนและแสงอุลตร ้าไวโอเลต

1 : ประสิทธิภาพในการฆ่าเชือโรคสูงกว่า โอโซนและแสงอุลตร ้าไวโอเลต


2 : ไม่มอี น
ั ตรายต่อผู ้บริโภคในระยะยาว
3 : ใช ้งานได ้ง่าย ไม่กอ่ ให ้เกิดสารพิษ
4 : มีความคงตัวอยูใ่ นนํ าได ้นาน สามารถฆ่าเชือโรคทีอาจปนเปื อนในระบบท่อส่งนํ าได ้
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 236 :
ข ้อใดไม่ใช่วส
ั ดุททํ
ี าหน ้าทีในการกรองความขุน
่ สําหรับถังกรองนํ าในระบบผลิตนํ าประปา

1 : ถ่านแอนทราไซต์
2 : ทราย
3 : ทรายหยาบ
4 : กรวด
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 237 :
ค่าศักย์รวมของนํ า (Total Head) ณ จุดใดๆ จะประกอบไปด ้วยอะไรบ ้าง

1 : Elevation Head
2 : Water Head หรือ Pressure Head
3 : Velocity Head
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 238 :
แรงดันนํ าขนาด 1 บาร์ เทียบเท่ากับความสูงของนํ ากีเมตร

1 : 100 เมตร
2 : 10 เมตร
3 : 1 เมตร
4 : 0.1 เมตร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 239 :

1 : 195 วัตต์
2 : 700 วัตต์
3 : 729 วัตต์
4 : 18000 วัตต์
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 240 :
กระบวนการใดไม่จําเป็ นทีต ้องใช ้ในการผลิตนํ าประปาทีมาจากอ่างเก็บนํ า

1 : การกรอง
2 : การเติมอากาศ
3 : การดักด ้วยตะแกรง
4 : การเติมสารเคมีเพือตกตะกอน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 241 :
ข ้อใดกล่าวถึงบ่อสูบ (Sump Tank) ไม่ถก
ู ต ้อง

1 : วัตถุประสงค์ของบ่อสูบเพือให ้ของเหลวไหลเข ้าปลายท่อดูดอย่างสมําเสมอ


2 : การออกแบบควรหลีกเลียงการหักมุมของทางนํ าเปิ ดเพือทีจะทําให ้ความเร็วของนํ าสมําเสมอและไม่เกิดนํ าวน
่ อ
3 : ท่อนํ าของเหลวเข ้าสูบ ่ สูบควรอยูใ่ กล ้ท่อดูดมากทีสุดเพือทีจะง่ายต่อการสูบนํ า ไม่สญ
ู เสียเฮด
4 : การติดตังแพรอบๆท่อดูดสามารถช่วยป้ องกันไม่ให ้อากาศเข ้าไปผสมกับนํ าได ้
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 242 :
ในกระบวนการก่อตะกอนโดยใช ้สารส ้มของโรงประปาแห่งหนึง จะเกิดตะกอนตกอยูด
่ ้านล่างปริมาณมาก อยากทราบว่าตะกอนเหล่านีเป็ นการตกตะกอนใน
ลักษณะใด

1 : แบบโดด
2 : แบบรวมกลุม ่
3 : แบบแบ่งชัน
4 : แบบอัดตัว
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 243 :
การผสมในถังกวนข ้อใดทีทําให ้การผสมเกิดขึนได ้ไม่ดเี ท่าทีควรหรือถ ้าจะให ้ประสิทธิภาพดีต ้องใช ้พลังงานมาก

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 32/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

1 : การกวนในเส ้นท่อ
2 : การใช ้ Hydraulic jump
3 : การใช ้ใบกวน
4 : การใช ้เครืองพ่นอากาศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 244 :
ข ้อใดไม่ใช่ Static mixer

1 : In-line blender
2 : Hydraulic jump
3 : Agitator
4 : Pashall flume
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 245 :
ข ้อใดไม่ใช่ปัจจัยทีมีผลต่อการตกตะกอน

1 : ความเข ้มข ้นของอนุภาค


2 : ความดันบรรยากาศ
3 : ขนาดและนํ าหนักของอนุภาค
4 : อุณหภูมขิ องนํ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 246 :
ในการตกตะกอนของอนุภาคแบบโดด (Discrete particle) จะไม่มแ
ี รงใดมาเกียวข ้อง

1 : แรงลอยตัว
2 : แรงเนืองจากนํ าหนักของอนุภาค
3 : แรงเนืองจากความกดดันบรรยากาศ
4 : แรงเนืองจากความเสียดทาน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 247 :
ในการกรองนํ าโดยใช ้ทรายกรอง การทีมีอนุภาคความขุน
่ ถูกกักอยูต
่ ามช่องว่างของสารกรองเรียกว่าอะไร

1 : Indept-filtration
2 : Slime
3 : Sludge cake
4 : Schmutzdeck layer
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 248 :
การใช ้คลอรีนในการฆ่าเชือโรคของโรงประปานิยมใช ้คลอรีนในรูปแบบใด

1 : ผงปูนคลอรีน
2 : นํ าคลอรีน
3 : ก๊าซคลอรีน
4 : แบบใดก็ได ้
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 249 :
วัตถุประสงค์ของการทําจาร์เทสต์ (Jar Test) เพืออะไร

1 : หาปริมาณของสารก่อตะกอนทีเหมาะสม
2 : หาพีเอชของการก่อตะกอนทีเหมาะสม
3 : ถูกทังสองข ้อ
4 : ผิดทังสองข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 250 :
ชุมชนขนาดใหญ่ทตั
ี งอยูร่ ม
ิ แม่นํา ควรสร ้างระบบประปาแบบใดเหมาะสมทีสุด

1 : กรอง + ฆ่าเชือโรค
2 : ทําให ้ตกตะกอน + กรอง + ฆ่าเชือโรค
3 : ทําให ้ตกตะกอน + ฆ่าเชือโรค
4 : ตะแกรง + ทําให ้ตกตะกอน + ฆ่าเชือโรค
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 251 :
การเติมอากาศเหมาะกับการบําบัดนํ าดิบประเภทใด

1 : นํ าผิวดิน
2 : นํ าใต ้ดิน
3 : นํ าทะเล
4 : นํ าฝน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 252 :
โรงผลิตนํ าประปาแห่งหนึงใช ้ระบบทรายกรองเร็วสําหรับอัตราการผลิต 150 ลบ.ม.ต่อชัวโมง ด ้วยอัตราการกรอง 5 ลบ.ม.ต่อชัวโมงต่อตารางเมตร โดยมีเงือไขว่า
ในขณะทีถังกรองใบหนึงกําลังถูกล ้างกลับอยูน
่ ัน อัตราการกรองของถังใบอืนจะต ้องไม่เกิน 6 ลบ.ม.ต่อชัวโมงต่อตารางเมตร จงหาจํานวนถังกรองและพืนทีของ
ถังแต่ละใบ

1 : ถังกรอง 3 ใบ แต่ละใบมีพนที
ื 5 ตารางเมตร
2 : ถังกรอง 5 ใบ แต่ละใบมีพนที
ื 3 ตารางเมตร

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 33/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
3 : ถังกรอง 5 ใบ แต่ละใบมีพนที
ื 6 ตารางเมตร
4 : ถังกรอง 6 ใบ แต่ละใบมีพนที
ื 5 ตารางเมตร
5 : ถังกรอง 6 ใบ แต่ละใบมีพนที ื 3 ตารางเมตร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 253 :
อัตราภาระเวียร์ (weir loading rate) คืออะไร

1 : ความเร็วทีเหมาะสมของนํ าทีไหลผ่านเวียร์
2 : ปริมาณทีเหมาะสมของนํ าทีไหลผ่านเวียร์
3 : ความยาวของเวียร์ทเหมาะสมต่
ี อการไหลของนํ า
4 : ขนาดของเวียร์ทเหมาะสมต่
ี อการไหลของนํ า
5 : พืนทีหน ้าตัดของเวียร์ทเหมาะสมต่
ี อการไหลของนํ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 254 :
ในการออกแบบถังตกตะกอน องค์ประกอบทีสําคัญต่อประสิทธิภาพของการตกตะกอน ทีนํ ามาใช ้ในการพิจารณาออกแบบคือ

1 : ค่าภาระผิว (surface loading)


2 : ระยะเวลาการตกตะกอน (detention time)
3 : ความลึกของถังตกตะกอน
4 : ความเร็วตามแนวนอนของนํ าในถังตกตะกอน
5 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 255 :
ข ้อใดคือระบบทีเหมาะสมในการผลิตนํ าประปาจากนํ าบาดาล

1 : ตะแกรง + กวนเร็ว + กวนช ้า + ตกตะกอน + กรอง + เติมคลอรีน


2 : ตะแกรง + กรอง + เติมคลอรีน
3 : ตะแกรง + กวนเร็ว + กวนช ้า + กรอง + เติมคลอรีน
4 : ตะแกรง + เติมอากาศ + กรอง + เติมคลอรีน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 256 :
ถังตกตะกอนแบบสีเหลียมสําหรับอัตราการไหล 16400 ลบ.ม./วัน ทีระยะเวลาเก็บกัก 30 นาที จงออกแบบขนาดของถังตกตะกอน (ก*ย*ล) เมือกําหนดให ้ ความ
ลึกเป็ น 2 เท่าของความกว ้าง และความยาวเป็ น 1.75 เท่าของความลึก

1 : 3.7*12.8*7.8
2 : 3.7*7.3*12.8
3 : 3.7*12.8*7.3
4 : 3.5*12.3*7.0
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 257 :
ถ ้านํ าดิบทีจะนํ ามาผลิตนํ าประปามีกา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์อส
ิ ระมาก ควรทําอย่างไร

1 : ต ้องกําจัดออกก่อนโดยการเติมอากาศและโซดาแอช
2 : ต ้องกําจัดออกก่อนโดยการเติมเติมปูนขาวและโซดาแอช
3 : ไม่ต ้องกําจัด เพราะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มป
ี ระโยชน์ในกระบวนการฆ่าเชือโรค
4 : ไม่ต ้องกําจัด เพราะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มสี ว่ นช่วยในกระบวนการรวมตะกอน
5 : ต ้องกําจัดออกก่อนโดยการเติมอากาศหรือเติมปูนขาว
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 258 :
การจับเป็ นก ้อนของทรายกรอง และคราบของแคลเซียมคาร์บอเนตทีผนังถังกรองกับรางระบายนํ าล ้าง สามารถแก ้ไขได ้ด ้วยวิธใี ด

1 : ใช ้ Polyphosphate
2 : ใช ้ Recarbonation
3 : ใช ้ Excess Lime
4 : ใช ้ Lime and Soda Ash
5 : ใช ้ Phenolic
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 259 :
จงใช ้สมการอัตราการดูดซึมของก๊าซ เพือหาเวลาทีใช ้ในการเติมอากาศในการกําจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากนํ าดิบของระบบการผลิตนํ าประปา โดย
ทําให ้ความเข ้มข ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในนํ าดิบลดลงจาก 30 มก./ล. เหลือ 10 มก./ล. (กําหนดให ้ค่าความเข ้มข ้นอิมตัวของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ม ี
ค่าเท่ากับ 0.5 มก./ล. และค่าอัตราส่วนคงทีสําหรับรูปแบบการสัมผัสนันๆ (Kg) มีคา่ เท่ากับ 0.2 ต่อวินาที)

1 : 5 วินาที
2 : 5.3 วินาที
3 : 5.5 วินาที
4 : 5.7 วินาที
5 : 6 วินาที
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 260 :
ในกระบวนการผลิตนํ าประปา จงออกแบบขนาดของถังผสมเร็วและกําลังงานทีต ้องการ เพือใช ้ในการผสมสารส ้มกับนํ าดิบซึงมีอต
ั ราการไหล 20,000 ลบ.ม.ต่อวัน
โดยกําหนดให ้ detention time เท่ากับ 30 วินาที และใช ้กําลังงาน 6 วัตต์ตอ
่ นํ า 1 ลิตรต่อวินาที

1 : ขนาดถังผสม 2 x 2 ตารางเมตร ลึก 2 เมตร มี free board 0.5 เมตร และกําลังงานเป็ น 1,000 วัตต์
2 : ขนาดถังผสม 2 x 2 ตารางเมตร ลึก 1.5 เมตร มี free board 0.5 เมตร และกําลังงานเป็ น 1,200 วัตต์
3 : ขนาดถังผสม 1.8 x 1.8 ตารางเมตร ลึก 2 เมตร มี free board 0.5 เมตร และกําลังงานเป็ น 1,200 วัตต์
4 : ขนาดถังผสม 1.6 x 1.6 ตารางเมตร ลึก 2 เมตร มี free board 0.5 เมตร และกําลังงานเป็ น 1,400 วัตต์
5 : ขนาดถังผสม 1.5 x 1.5 ตารางเมตร ลึก 1.5 เมตร มี free board 0.5 เมตร และกําลังงานเป็ น 1,500 วัตต์
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 34/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
ข ้อที 261 :
ิ มให ้มีเส ้นผ่านศูนย์กลางใหญ่เกินเท่าไร และความลาดเอียงของก ้นถังควรมีคา่ ประมาณเท่าไร
ในการออกแบบถังตกตะกอนรูปกลม โดยทัวไปไม่นย

่ อ่งตะกอน
1 : ใหญ่ไม่เกิน 50 เมตร และความลาดเอียงของก ้นถังประมาณ 7% โดยลาดลงสูแ
2 : ใหญ่ไม่เกิน 60 เมตร และความลาดเอียงของก ้นถังประมาณ 8% โดยลาดลงสูแ่ อ่งตะกอน
3 : ใหญ่ไม่เกิน 20 เมตร และความลาดเอียงของก ้นถังประมาณ 4% โดยลาดลงสูแ ่ อ่งตะกอน
4 : ใหญ่ไม่เกิน 30 เมตร และความลาดเอียงของก ้นถังประมาณ 5% โดยลาดลงสูแ ่ อ่งตะกอน
5 : ใหญ่ไม่เกิน 40 เมตร และความลาดเอียงของก ้นถังประมาณ 6% โดยลาดลงสูแ ่ อ่งตะกอน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 262 :
จุดทีเติมคลอรีนก่อนบําบัด สําหรับเครืองเติมคลอรีนแบบอัดเข ้าท่อ (pump feeder) อยูท
่ ใด

1 : เติมทีท่อดูด ก่อนเข ้าสูเ่ ครืองสูบนํ าดิบ


2 : เติมลงในท่อส่ง ทีออกจากเครืองสูบนํ าดิบ
3 : เติมลงในจุดทีนํ าไหลเข ้าสูถ ่ งั สร ้างตะกอนพอดี
4 : เติมลงในจุดก่อนทีนํ าจะไหลเข ้าสูถ ่ งั สร ้างตะกอน
5 : เติมลงในถังสร ้างตะกอน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 263 :
ข ้อใดไม่ใช่วธิ ก
ี ารลดคลอรีน (Dechlorination)

1 : เติมสาร Sodium hydroxide


2 : เติมสาร Sodium bisulphite
3 : เติมสาร Sodium sulphite
4 : เติมสาร Sulfur dioxide
5 : ดูดซับด ้วยเม็ดถ่านกัมมันต์
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 264 :
ข ้อใดไม่ใช่วธิ ก
ี ารวิเคราะห์ฟลูออไรด์ในนํ า

1 : วัดโดยตรงด ้วยอิเล็กโทรดจําเพาะ
2 : วัดโดยให ้ฟลูออไรด์ทําปฏิกริ ย
ิ ากับกรดแก่แล ้วจึงวัดด ้วยอิเล็กโทรดจําเพาะ
3 : วัดโดยทําการกลันฟลูออไรด์ออกมาในรูปกรดก่อนนํ ามาทําปฏิกริ ย ิ าเกิดสีโดย SPADNS method
4 : วัดโดยให ้ฟลูออไรด์ทําปฏิกริ ยิ ากับ SPADNS dye
5 : วัดโดยให ้ฟลูออไรด์ทําปฏิกริ ย ิ ากับ alizarin dye
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 265 :
ข ้อใดไม่ใช่วธิ ก
ี ารกําจัดความกระด ้าง

1 : การต ้ม
2 : การเติมปูนขาว
3 : การเติมปูนขาวและโซเดียมคาร์บอเนต
4 : การเติมปูนขาวและสารส ้ม
5 : การแลกเปลียนประจุไฟฟ้ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 266 :
จงคํานวณหาปริมาณคลอรีนทีต ้องการสูงสุดในแต่ละวัน สําหรับการฆ่าเชือโรคในนํ าประปาทีมีการไหล 5,000 ลบ.ม.ต่อวัน โดยค่าความเข ้มข ้นของคลอรีนทีเติม
ลงไปมีคา่ เท่ากับ 2 มก.ต่อลิตร

1 : 0.5 กิโลกรัมต่อวัน
2 : 1 กิโลกรัมต่อวัน
3 : 5 กิโลกรัมต่อวัน
4 : 10 กิโลกรัมต่อวัน
5 : 15 กิโลกรัมต่อวัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 267 :
ข ้อใดไม่ใช่วธิ ก
ี ารขจัดเกลือ (Desalination)

1 : วิธก
ี ลัน (Distillation)
2 : วิธแี ยกด ้วยไฟฟ้ า-เยือกรอง (Electrodialysis)
3 : วิธแ ี ลกเปลียนประจุไฟฟ้ า (Ion Exchange)
4 : วิธท ี ําให ้เย็นจนแข็ง (Freezing)
5 : วิธอ ี อสโมซิสผันกลับ (Reverse Osmosis)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 268 :
เหล็กจะต ้องอยูใ่ นรูปใดจึงถูกวัดได ้โดยใช ้ Phenanthrolin Method ในการตรวจวัด

1 : Fe
2 : Fe+1
3 : Fe+2
4 : Fe+3
5 : Fe+4
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 269 :
Disinfection เหมือนหรือต่างกับ Sterilization อย่างไร

1 : เหมือนกัน เพราะใช ้ความร ้อนเท่ากันในการฆ่าเชือโรค


2 : เหมือนกัน เพราะใช ้สารเคมีในการฆ่าเชือโรคเหมือนกัน
3 : ไม่เหมือนกัน เพราะ Sterilization จะฆ่าเชือทังหมดไม่วา่ จะทําให ้เกิดโรคหรือไม่ทําให ้เกิดโรค ในขณะที Disinfection จะฆ่าเฉพาะเชือทีทําให ้เกิดโรคเท่านัน

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 35/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
4 : ไม่เหมือนกัน เพราะ Disinfection จะฆ่าเชือโรคที Sterilization ไม่สามารถฆ่าได ้
5 : ไม่เหมือนกัน เพราะ Sterilization จะมีกระบวนการทีซับซ ้อนและมีหลายวิธม ี ากกว่า Disinfection
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 270 :
ข ้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของการกําจัดสิงปนเปื อนโดยการรวมตะกอน

1 : กําจัดความขุน

2 : กําจัดสี
3 : กําจัดสารทีทําให ้เกิดกลิน
4 : กําจัดสารทีทําให ้เกิดรส
5 : กําจัดสารฟอสฟอรัสและไนโตรเจน
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 271 :
ทีสภาวะความดันและอุณหภูมป
ิ กติ (1 atm และ 25 C) ออกซิเจนละลายนํ าได ้ประมาณกี มก./ล.

1:2
2:5
3:8
4 : 10
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 272 :
ก๊าซไข่เน่า (H2S) จะมีความเข ้มข ้นอิมตัวในนํ าได ้กีโมล/ลิตร ที 1.5 บรรยากาศ โดย K H2S = 2 โมล/ลิตร-บรรยากาศ

1:1
2:2
3:3
4:4
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 273 :
เครืองเติมอากาศแบบใดทีมีการสูญเสียเฮดนํ าตําสุด

1 : แบบถาด (tray)
2 : แบบบันได (cascade)
3 : แบบโปรย (spray)
4 : แบบฟองอากาศ (bubble)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 274 :
ิ มใช ้ปรับพีเอชในนํ า
สารเคมีใดทีไม่นย

1 : โซเดียมคลอไรด์
2 : คาร์บอนไดออกไซด์
3 : กรดเกลือ
4 : โซดาแอช
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 275 :
สารใดทีไม่ใช ้กําจัดความกระด ้างในนํ า

1 : ปูนขาว
2 : โซดาแอช
3 : โซดาไฟ
4 : คาร์บอนไดออกไซด์
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 276 :
สารใดทีไม่ใช ้กําจัดความขุน
่ ในนํ า

1 : ปูนขาว
2 : เหล็กออกไซด์
3 : โซดาไฟ
4 : โพลิเมอร์
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 277 :
จงระบุคา่ velocity gradient (G s^-1) ทีเหมาะสมสําหรับถังกวนเร็วและถังกวนช ้า

1 : 50 และ 20
2 : 100 และ 40
3 : 300 และ 80
4 : 600 และ 120
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 278 :
สิงใดทีไม่ควรทําในการออกแบบถังกวนเร็ว

1 : ออกแบบเป็ นรูปถังทรงกระบอก
2 : ติดใบพัดหลายระดับเพือช่วยในการกวน
3 : ติด baffle ช่วยกวนนํ า
4 : ออกแบบให ้เป็ นรางไหลไป-มา
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 36/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

ข ้อที 279 :
ถ ้าใช ้สารส ้ม 28.2 มก./ล. เวลากวน 45 วินาที จากสูตร GT = 5.9 x 10^6/C^1.46 ใช ้อัตราไหลนํ า 2000 ลบ.ม./วัน เดินระบบ 24 ชม.จะต ้องใช ้มอเตอร์กวนขนาดกี
แรงม ้า ถ ้ามอเตอร์มป ี ระสิทธิภาพ 75% จากสูตร G = (P(watt) /2x10^-5 x V(cu.ft.))^0.5

1:1
2 : 1.5
3:2
4 : 2.5
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 280 :
ใช ้ค่า G 24 S^-1 ใช ้สารส ้ม 25 มก./ล. อัตราไหลนํ าดิบ 100 ลบ.ม./ชม. จากสูตร G^2.8 x T = 44x10^5 / C ถ ้าออกแบบถังกวนช ้าเป็ นแบบแผ่นกันนํ า (baffle) ไหล
วนไปมา ต ้องการให ้มีความเร็วนํ าไหลในถัง 0.2 ม./วิ. ระยะกว ้างของราง 0.5 ม. นํ าในถังจะลึกกีซม.

1 : 23
2 : 28
3 : 38
4 : 43
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 281 :
ี ้ออกแบบถังตกตะกอน
สิงใดทีไม่ใช่พารามิเตอร์ทใช

1 : ความกว ้างถัง
2 : ความลึกถัง
3 : ความเร็วนํ าไหล
4 : ปริมาณตะกอน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 282 :
ถังตกตะกอนในระบบประปาทัวไปมักออกแบบให ้มีเวลากักเก็บนํ าในถังประมาณกีชัวโมง

1:1
2:3
3:5
4 : 10
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 283 :
สิงใดทีไม่ควรมีในถังตกตะกอน

1 : แผ่นกระจายนํ าเข ้าถัง


2 : รางนํ าล ้นออกจากถัง
3 : ท่อช่วยตกตะกอนในถัง
4 : ชุดเติมโพลิเมอร์ชว่ ยตกตะกอน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 284 :
ถังตกตะกอนกลมขนาด 31 เมตร นํ าลึก 4 เมตร ใช ้กับอัตราไหลนํ า 30000 ลบ.ม./วัน เดินระบบ 24 ชัวโมง หากถังตกตะกอนสีเหลียมยาว 48 เมตร จะมีเวลากักนํ ากี
ชัวโมง

1:2
2:4
3:6
4:8
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 285 :
ข ้อใดไม่ใช่การทํางานของถังกรองแบบไหลขึน (upflow)

1 : เวลาล ้างย ้อนนํ าไหลจากข ้างบนลงข ้างล่าง


2 : มักใช ้อากาศช่วยเป่ าเวลาล ้างย ้อน
3 : นํ าไหลจากก ้นถังขีนไปข ้างบน
4 : ชันกรวดอยูข ่ ้างล่าง ชันทรายอยูข่ ้างบน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 286 :

ข ้อใดไม่ใช่ข ้อดีของถังกรองแบบมีชนกรอง 2 ชัน

1 : ลดการสูญเสียแรงดันนํ า
2 : กรองนํ าได ้มากขึน
3 : กรองนํ าได ้ใสขึน
4 : ไม่ต ้องล ้างย ้อนบ่อย
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 287 :
ข ้อใดไม่ใช่การทํางานของระบบทรายกรองช ้า

1 : ใช ้กับนํ าทีมีความขุน
่ ไม่มากนัก
2 : ไม่ต ้องล ้างย ้อนบ่อย
3 : จุลนิ ทรียม์ บ
ี ทบาทในการกรอง
4 : ควรเติมสารส ้มช่วยจับตะกอน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 37/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

ข ้อที 288 :
การล ้างย ้อนถังกรอง อาจทําได ้หลายวิธ ี ยกเว ้นวิธใี ด

1 : ใช ้คราด
2 : ใช ้ปั มสูบนํ าออก
3 : ใช ้นํ าฉีด
4 : ใช ้ลมเป่ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 289 :
สารใดทีใช ้กําจัดเชือโรคออกจากนํ าแล ้วอาจเกิดสิงตกค ้างในนํ า

1 : คาร์บอน
2 : คลอรีน
3 : โอโซน
4 : ยูว ี
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 290 :
ได ้มีการประยุกต์การทําจาร์เทสท์ (jar test) ในการบําบัดนํ าหลายประการ ยกเว ้นกระบวนการใด

1 : การหาปริมาณสารส ้มทีเหมาะสมในการกําจัดความขุน
่ ในนํ า
2 : การหาปริมาณกรดหรือด่างทีเหมาะสมในการปรับสภาพนํ า
3 : การหาปริมาณคลอรีนทีเหมาะสมในการกําจัดเชือโรคในนํ า
4 : การหาปริมาณอากาศทีเหมาะสมในการเติมออกซิเจนในนํ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 291 :
ข ้อใดไม่ใช่วธิ ก
ี ําจัดเหล็กในนํ า

1 : เติมอากาศ
2 : เติมคลอรีน
3 : กรองผ่านแอกทิเวเต็ดคาร์บอน
4 : กรองผ่านเรซิน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 292 :
Powder Activated Carbon ใช ้เติมในถังใด

1 : ถังกรอง
2 : ถังตกตะกอน
3 : ถังกวน
4 : ถังฆ่าเชือโรค
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 293 :
กระบวนการทีใช ้เรซินในการกําจัดแคลเซียมในนํ าเรียกว่าอะไร

1 : Electrodialysis
2 : Reverse Osmosis
3 : Carbon Adsorption
4 : Ion Exchange
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 294 :
กระบวนการทีใช ้สารดูดจับสารปนเปื อนออกจากนํ าเรียกว่าอะไร

1 : Electrodialysis
2 : Reverse Osmosis
3 : Carbon Adsorption
4 : Ion Exchange
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 295 :
แหล่งนํ าดิบต ้องการสารส ้มในการเกิด Coagulation Flocculation ประมาณ 25 มกง/ล. นํ าดิบ 5000 ลบ.ม./วัน จงคํานวนหาปริมาณสารส ้มทีต ้องการใช ้เป็ น
กิโลกรัม/วัน

1 : 200 กิโลกรัม/วัน
2 : 125 กิโลกรัม/วัน
3 : 100 กิโลกรัม/วัน
4 : 25 กิโลกรัม/วัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 296 :
การออกแบบถังผสมช ้าควรมีระยะเวลาเก็บกักไม่เกินเท่าใด

1 : 1 วัน
2 : 12 ชม.
3 : 30 นาที
4 : 60 วินาที
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 297 :

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 38/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
จงคํานวณจํานวนถังก๊าซคลอรีนทีต ้องการเก็บไว ้ใช ้ใน 2 สัปดาห์ เมือมีปริมาณคลอรีนทีต ้องการใช ้ 500 กิโลกรัม/วัน ขนาดความจุของถังก๊าซคลอรีน 1000
กิโลกรัม/ถัง

1 : 2 ถัง
2 : 5 ถัง
3 : 7 ถัง
4 : 10 ถัง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 298 :
ชุมชนแห่งหนึงต ้องการสร ้างระบบประปา คาดว่าจะมีผู ้ใช ้บริการ 10000 คน อัตราการใช ้นํ า 200 ลิตร/คน/วัน นํ าใช ้ในการอุตสาหกรรมประมาณวันละ 1000 ลบ.ม.
อัตราการรัวไหลในเส ้นท่อจ่ายนํ าประมาณ 15 % ของนํ าทีจ่ายทังหมด จะมีอต ั ราการใช ้นํ าเฉลียเท่าใด

1 : 2301 ลบ.ม./วัน
2 : 2550 ลบ.ม./วัน
3 : 3450 ลบ.ม./วัน
4 : 3500 ลบ.ม./วัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 299 :
ข ้อใดเรียงลําดับขันตอนการผลิตนํ าประปาจากก่อนไปหลังได ้ถูกต ้องทีสุด

1 : ตะแกรง ถังกรอง ถังกวน ถังตกตะกอน


2 : ถังกวน ถังตกตะกอน ถังกรอง เติมคลอรีน
3 : ตะแกรง เติมคลอรีน ถังตกตะกอน ถังกรอง
4 : ถังกรอง เติมคลอรีน ถังกวน ถังตกตะกอน
5 : ถังเก็บนํ า ถังกรอง เติมคลอรีน ถังตกตะกอน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 300 :
ข ้อใดไม่ใช่สารสร ้างตะกอน

1 : สารส ้ม
2 : Ferric sulfate
3 : Ferric chloride
4 : Polyelctrolytes
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 301 :
จงคํานวณกําลังงานทีถังกวนเร็วต ้องใช ้เมือมีอต
ั ราไหลเข ้าของนํ าดิบเท่ากับ 1,000 ลบ.ม. ต่อวันเวลากักเก็บในถังเป็ น 40 วินาที ค่าความเร็วเกรเดียนท์เท่ากับ 800
ต่อนาทีและค่า dynamic viscosity เท่ากับ 0.001 นิวตัน วินาที/ตารางเมตร

1 : 182 วัตต์
2 : 296 วัตต์
3 : 371 วัตต์
4 : 513 วัตต์
5 : 594 วัตต์
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 302 :
ลักษณะเด่นของระบบ Slow Sand Filter

1 : สามารถทําความสะอาดสารกรองโดยไม่ต ้องนํ าทรายออกไปล ้างข ้างนอก


่ ตําได ้ดี และใช ้อุปกรณ์ไฟฟ้ าและเครืองกลน ้อย
2 : กรองนํ าทีมีความขุน
3 : มีความสามารถในการกรองนํ าได ้สูง
4 : ใช ้เนือทีในการก่อสร ้างระบบน ้อยเหมาะกับบริเวณทีมีพนทีื จํากัด
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 303 :
ข ้อใดไม่ใช่คณ
ุ สมบัตข
ิ องถังกวนเร็ว

1 : อัตราไหลเข ้าของนํ าดิบเท่ากับ 800 ลบ.ม. ต่อวัน


2 : เวลากักเก็บในถังเป็ น 50 วินาที
3 : ค่า dynamic viscosity เท่ากับ 0.003 นิวตัน วินาที/ตารางเมตร
4 : ค่า velocity gradient เท่ากับ 70 ต่อนาที
5 : ไม่มขี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 304 :
ข ้อใดถูกทีสุดเกียวกับถังกวนเร็ว

1 : ระยะเวลาเก็บกักทีเหมาะสมแปรผันตรงกับค่าความเร็วเกรเดียนท์
2 : ความหนืดของนํ าแปรผันตรงกับค่าความเร็วเกรเดียนท์
3 : ใช ้ hydraulic jumpแทนใบพัดสําหรับกวนได ้
4 : ถูกทุกข ้อ
5 : ไม่มข ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 305 :
จงคํานวณอัตรานํ าล ้นของถังตกตะกอนทรงสีเหลียมทีมีอต
ั ราไหลเข ้าของนํ าดิบ 500 ลบ.ม. ต่อวัน ความลึกของนํ าในถังเท่ากับ 3 เมตรและมีเวลากักเก็บในถัง 2
ชัวโมง

1 : 36 ลบ.ม./ตร.ม/วัน
2 : 42 ลบ.ม./ตร.ม/วัน
3 : 54 ลบ.ม./ตร.ม/วัน

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 39/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
4 : 60 ลบ.ม./ตร.ม/วัน
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 306 :
จงคํานวณเวลากักเก็บในถังตกตะกอนทรงสีเหลียมทีมีอต
ั รานํ าล ้น 40 ลบ.ม./ตร.ม/วัน อัตราไหลเข ้าของนํ าดิบ 250 ลบ.ม. ต่อวัน ความลึกของนํ าในถังเท่ากับ 5
เมตร

1 : 0.5 ชัวโมง
2 : 0.8 ชัวโมง
3 : 1.0 ชัวโมง
4 : 1.5 ชัวโมง
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 307 :
หากอนุภาคส่วนใหญ่ในนํ าดิบมีความเร็วสุดท ้ายในการตกตะกอนเท่ากับ 40 เมตร/วัน อัตรานํ าล ้นในข ้อใดต่อไปนีทีเหมาะสมสําหรับถังตกตะกอนทรงสีเหลียมทีมี
อัตราไหลเข ้าของนํ าดิบ 250 ลบ.ม. ต่อวัน ความหนาแน่นนํ าเท่ากับ 1.004 กรัม/ลบ.ซม.

1 : 40 ลบ.ม./ตร.ม/วัน
2 : 50 ลบ.ม./ตร.ม/วัน
3 : 60 ลบ.ม./ตร.ม/วัน
4 : 70 ลบ.ม./ตร.ม/วัน
5 : 80 ลบ.ม./ตร.ม/วัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 308 :
ข ้อใดถูกทีสุดเกียวกับค่า head loss ของถังกรอง

1 : ค่า head loss ของชันกรองทีสะอาดอยูใ่ นช่วงไม่เกิน 0.8 เมตร


2 : ความลึกของชันกรองแปรผกผันกับค่า head loss
3 : ขนาดอนุภาคไส ้กรองแปรผันตรงกับค่า head loss
4 : ข ้อ ก. และค.
5 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 309 :
กระบวนการใดเกิดขึนในถังกรอง

1 : ดูดติด (absorption)
2 : แลกเปลียนประจุไฟฟ้ า (electrolytic action)
3 : ย่อยสลาย (biological metabolism)
4 : กรองผ่านช่องว่าง (straining)
5 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 310 :
จงเลือกวัสดุไส ้กรองทีควรวางไว ้ตําแหน่งบนสุดของถังกรอง

1 : ทราย
2 : แอนทราไซท์
3 : กรวดหยาบ
4 : กรวดละเอียด
5 : การ์เน็ ต
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 311 :
อัตราการล ้างไส ้กรองด ้วยนํ าในข ้อใดทีไม่เหมาะสมสําหรับถังกรองแบบหนึงชันกรอง (ทราย)

1 : 3.5 ลบ.ม/ตร.ม/นาที
2 : 5.5 ลบ.ม/ตร.ม/นาที
3 : 6.5 ลบ.ม/ตร.ม/นาที
4 : 0.5 ลบ.ม/ตร.ม/นาที
5 : 2.0 ลบ.ม/ตร.ม/นาที
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 312 :
อัตราการล ้างไส ้กรองด ้วยนํ าในข ้อใดทีไม่เหมาะสมสําหรับถังกรองแบบสองชันกรอง (ทรายและแอนทราไซท์)

1 : 0.5 ลบ.ม/ตร.ม/นาที
2 : 1.5 ลบ.ม/ตร.ม/นาที
3 : 2.0 ลบ.ม/ตร.ม/นาที
4 : 3.5 ลบ.ม/ตร.ม/นาที
5 : 4.0 ลบ.ม/ตร.ม/นาที
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 313 :
สารในข ้อใดเกิดเมือเติมคลอรีนลงในนํ าและมีฤทธิฆ่าเชือมากทีสุด

1 : OCl-
2 : HOCl
3 : NH2CL
4 : NHCL2
5 : ถูกทัง ค. และ ง.
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 314 :
www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 40/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
วิธก
ี ารใดไม่สามารถฆ่าเชือโรคในนํ าประปาได ้

1 : เติมด่าง
2 : เติมโอโซน
3 : เติมไอโอดีน
4 : ใช ้แสงUV
5 : ไม่มขี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 315 :
การเติมอากาศในกระบวนการผลิตนํ าประปาจากแหล่งนํ าใต ้ดินทําเพือจุดประสงค์ใด

1 : กําจัดสารอินทรียใ์ นนํ าดิบ


2 : กําจัดสีในนํ าดิบ
3 : กําจัดกลินในนํ าดิบ
4 : กําจัดเหล็กในนํ าดิบ
5 : ข ้อ 3. และข ้อ 4.
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 316 :
ข ้อใดต่อไปนีใช ้บําบัดนํ ากระด ้างในกระบวนการผลิตนํ าประปา

1 : เติมโซดาไฟ
2 : เติมไตรโซเดียมฟอสเฟต
3 : เติมกรดเกลือ
4 : ข ้อ 1. และข ้อ 2.
5 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 317 :
การเติมคลอรีนลงในนํ าดิบก่อนเข ้ากระบวนการผลิตนํ าประปาเป็ นไปเพือจุดประสงค์ใด

1 : เร่งการตกตะกอนในถังตกตะกอน
2 : ป้ องกันการเกิดสาหร่ายในชันกรอง
3 : ลดกลินและรสในนํ าดิบ
4 : ถูกทุกข ้อ
5 : ไม่มขี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 318 :
ท่อส่งนํ าดิบเข ้าโรงผลิตนํ าประปามีขนาดเส ้นผ่าศูนย์กลาง 10 ซม. พืนทีส่งนํ ามีความลาดชัน 1% หากสัมประสิทธิความเร็วนํ าเท่ากับ 90 จงคํานวณหาอัตราไหล
ของนํ าทีเข ้ามายังโรงผลิตโดยใช ้สูตรของ Williams-Hazen ดังแสดงไว ้ในสมการข ้างล่าง

1 : 0.00216 ลบ.ม./วินาที
2 : 0.00394 ลบ.ม./วินาที
3 : 0.00489 ลบ.ม./วินาที
4 : 0.00673 ลบ.ม./วินาที
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 319 :
ท่อส่งนํ าดิบเข ้าโรงผลิตนํ าประปามีขนาดเส ้นผ่าศูนย์กลางเท่าไรจึงจะส่งนํ าได ้ปริมาณเท่ากับกับความต ้องการของพลเมือง 20,000 คนทีมีอต ั ราการใช ้นํ า
เฉลีย250 ลิตร/คน/วันและมีอต ั รานํ าใช ้ดับเพลิงสูงสุด 30,000 ลิตร/นาที ทังนีให ้ใช ้สูตรของ Williams-Hazen ดังแสดงไว ้ในสมการข ้างล่างในการคํานวณ

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 41/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
1 : 0.2453 เมตร
2 : 0.4925 เมตร
3 : 0.6057 เมตร
4 : ไม่มข
ี ้อถูก
5 : 0.1817 เมตร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 320 :
ระบบผลิตนํ าประปาได ้ใช ้สารส ้มเติมลงไป 23 มก./ลิตร ในนํ าดิบทีมีอต
ั ราไหลเข ้า 0.5 ลบ.ม./วินาที มีคา่ TSS เท่ากับ 40 มก./ลิตรเกิดเป็ นตะกอนสารส ้มทังหมด
ตามสูตร Ss = 86.4Q (0.44A + S + P)หลังผ่านถังตกตะกอนพบว่าTSS ของนํ าออกเท่ากับ 10 มก./ลิตร สลัดจ์(ของผสมระหว่างของแข็งและนํ า)ทีก ้นถังตกตะกอน
มีปริมาณของแข็งแห ้งต่อนํ า 1.4 % โดยนํ าหนักและมีความถ่วงจําเพาะเท่ากับ 3.05 จงหาปริมาตรสลัดจ์ทต ี ้องนํ าไปกําจัด

1 : 92.56 ลบ.ม./วัน
2 : 122.62 ลบ.ม./วัน
3 : 157.91 ลบ.ม./วัน
4 : 178.04 ลบ.ม./วัน
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 321 :
จงหาว่าถังกวนและถังตกตะกอนมีประสิทธิภาพการกําจัดตะกอนรวมเท่าไร หากปริมาณสารส ้มทีเติมลงไปเท่ากับ 23 มก./ลิตร อัตราไหลเข ้าของนํ าดิบเท่ากับ 1
ลบ.ม./วินาที นํ าดิบมีคา่ TSS เท่ากับ 40 มก./ลิตรเกิดเป็ นตะกอนสารส ้มทังหมดตามสูตร Ss = 86.4Q (0.44A + S + P) หลังผ่านถังตกตะกอนพบว่าTSS ของนํ า
ออกเท่ากับ 10 มก./ลิตรและสลัดจ์(ของผสมระหว่างของแข็งและนํ า)ทีก ้นถังตกตะกอนมีความถ่วงจําเพาะเท่ากับ 4.0

1 : 80 %
2 : 85 %
3 : 90 %
4 : 95 %
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 322 :
ข ้อใดไม่สามารถกําจัดได ้โดยการเติมโปตัสเซียมเปอร์แมงกาเนต

1 : เหล็ก
2 : แมงกานีส
3 : ฟลูออไรด์
4 : กลิน
5 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 323 :
ข ้อใดต่อไปนีจัดว่าเป็ นคุณสมบัตท
ิ เหมาะสมที
ี สุดสําหรับการผลิตนํ าประปา

1 : ความเร็วนํ าในท่อประธานเท่ากับ 1.5 เมตรต่อวินาที


2 : ปริมาณคลอรีนตกค ้างในนํ าออกจากโรงประปาเท่ากับ 300 มก./ลิตร
3 : อัตรานํ าล ้นของถังตกตะกอนรูปสีเหลียมผืนผ ้าเท่ากับ 8 ลบ.ม/วัน
4 : ข ้อ ก. และ ค.
5 : ไม่มขี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 324 :
ถังตกตะกอนรูปทรงกระบอกถังหนึงมีรัศมี 5 เมตร ระดับนํ าในถังสูง 5 เมตร รองรับนํ าดิบทีมีอต
ั ราไหลเข ้า 0.30 ลบ.ม/นาที หากถังนีสามารถกําจัดตะกอนในนํ าเข ้า
ได ้ 90% ข ้อใดต่อไปนีถูก

1 : อัตรานํ าล ้นของถังเท่ากับ 0.5 ลบ.ม/ตร.ม/วัน


2 : 90 % ของอนุภาคตะกอนมีความเร็วสุดท ้ายในการตกตะกอนมากกว่าหรือเท่ากับ 0.000764 ลบ.ม/ตร.ม/นาที
3 : 10 % ของตะกอนมีความเร็วสุดท ้ายในการตกตะกอนเท่ากับ 0.000007 ลบ.ม/ตร.ม/นาที
4 : ข ้อ ก. และ ข.
5 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 325 :
ข ้อใดไม่สามารถกําจัดได ้โดยเรซินแลกเปลียนไอออน

1 : กลิน
2 : เหล็ก
3 : ตะกัว
4 : ความกระด ้าง
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 42/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

ข ้อที 326 :
ข ้อใดไม่สามารถกําจัดได ้โดยถ่านกัมมันต์

1 : กลิน
2 : สี
3 : โลหะหนัก
4 : กรดอินทรีย ์
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 327 :
ข ้อใดไม่สามารถกําจัดได ้โดยเมมเบรน

1 : กลิน
2 : สี
3 : ความกระด ้าง
4 : เหล็กและแมงกานีส
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 328 :
ข ้อใดต่อไปนีทีการประปาควรทําทีสุดเมือพบว่านํ าประปามีคา่ ความกระด ้าง 315 มก.CaCO3/ลิตร

1 : นํ านํ าไปเติมปูนขาวและตกตะกอน
2 : นํ านํ าไปเติมโซเดียมซิลเิ กตและตกตะกอน
3 : นํ านํ าไปเติมแคลเซียมไฮดรอกไซด์และตกตะกอน
4 : นํ านํ าไปต ้มและตกตะกอน
5 : นํ านํ าไปไปผ่านเรซินแลกเปลียนไอออน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 329 :
ข ้อใดต่อไปนีทีการประปาควรทําทีสุดเมือพบว่านํ าประปามีกลินและมีสาหร่ายปน

1 : เติมอากาศในนํ าดิบและตกตะกอนก่อนเข ้าระบบ


2 : นํ านํ าไปผ่านเรซินแลกเปลียนไอออน
3 : นํ านํ าไปไปผ่านถ่านกัมมันต์
4 : นํ านํ าไปต ้ม
5 : เติมคลอรีนในนํ าดิบก่อนเข ้าถังตกตะกอน
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 330 :
ข ้อใดต่อไปนีทีการประปาควรทําทีสุดเมือพบว่านํ าประปามีปริมาณฟลูออไรด์ 1.35 มก./ลิตร

1 : เติมอากาศในนํ าดิบและตกตะกอนก่อนเข ้าระบบ


2 : เติมคลอรีนในนํ าดิบก่อนเข ้าถังตกตะกอน
3 : เพิมปริมาณสารส ้มทีใช ้เติมในถังกวน
4 : นํ านํ าไปเติมปูนขาวและตกตะกอน
5 : นํ านํ าไปไปผ่านถ่านกัมมันต์
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 331 :
ข ้อใดต่อไปนีทีการประปาควรทําทีสุดเมือพบว่านํ าประปามีปริมาณสารหนู 0.03 มก./ลิตร

1 : เติมอากาศในนํ าดิบและตกตะกอนก่อนเข ้าระบบ


2 : เติมคลอรีนในนํ าดิบก่อนเข ้าถังตกตะกอน
3 : เพิมปริมาณสารส ้มทีใช ้เติมในถังกวน
4 : นํ านํ าไปไปผ่านถ่านกัมมันต์
5 : ยังไม่ต ้องทําอะไร
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 332 :
ข ้อใดต่อไปนีทีการประปาควรทําทีสุดเมือพบว่านํ าประปามีปริมาณซัลเฟต 50 มก./ลิตร

1 : เติมอากาศในนํ าดิบและตกตะกอนก่อนเข ้าระบบ


2 : เติมคลอรีนในนํ าดิบก่อนเข ้าถังตกตะกอน
3 : นํ านํ าไปไปเติมด่างทับทิมแล ้วตกตะกอน
4 : นํ านํ าไปไปผ่านถ่านกัมมันต์
5 : ยังไม่ต ้องทําอะไร
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 333 :
ข ้อใดต่อไปนีทีการประปาควรทําเมือพบว่านํ าประปามีส ี 50 หน่วย

1 : เติมอากาศในนํ าดิบและตกตะกอนก่อนเข ้าระบบ


2 : เติมคลอรีนในนํ าดิบก่อนเข ้าถังตกตะกอน
3 : นํ านํ าไปผ่านถ่านกัมมันต์
4 : ข ้อ 2. และ 3.
5 : ข ้อ 1. และ 3.
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 334 :
ข ้อใดต่อไปนีทีการประปาควรทําเมือพบว่านํ าประปามีสารTHMs 100 มก./ลิตร

1 : เติมอากาศในนํ าดิบและตกตะกอนก่อนเข ้าระบบ


2 : เติมคลอรีนในนํ าดิบก่อนเข ้าถังตกตะกอน

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 43/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
3 : เพิมปริมาณคลอรีนทีเติมหลังตกตะกอน
4 : นํ านํ าไปผ่านถ่านกัมมันต์
5 : นํ านํ าไปต ้ม
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 335 :
ในการทําความสะอาดนํ าใต ้ดินทีมีธาตุเหล็กอยู่ จําเป็ นต ้องผ่านขบวนการ

1 : เติมคลอรีน
2 : เติมสารส ้ม
3 : เติมอากาศ
4 : เติมปูนขาว
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 336 :
นิยามของ Velocity Gradient คืออะไร

1 : สัดส่วนของความเร็วต่อเวลา
2 : สัดส่วนของเวลาต่อความเร็ว
3 : สัดส่วนของความเร็วสัมพัทธ์ตอ
่ ระยะทาง
4 : สัดส่วนของระยะทางต่อความเร็วสัมพัทธ์
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 337 :
ข ้อใดคือส่วนประกอบของกระบวนการ Coagulation Flocculation ทีถูกต ้อง

1 : กวนช ้า -> กวนเร็ว -> ตกตะกอน


2 : ตกตะกอน-> กวนช ้า -> กวนเร็ว
3 : กวนเร็ว -> กวนช ้า -> ตกตะกอน
4 : กวนเร็ว -> ตกตะกอน -> กวนช ้า
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 338 :
ให ้หาความกว ้างและความยาวของถังผสมช ้าเมือให ้อัตราการไหลเข ้าของนํ าเท่ากับ 25000 ลบ.ม.ต่อวัน เวลาเก็บกัก 30 นาที ความลึกของนํ าในถัง 5 ม. และ
ความกว ้าง : ความยาว = 2:1

1 : กว ้าง 5.00 ม. ยาว 12.50 ม.


2 : กว ้าง 14.50 ม. ยาว 7.25 ม.
3 : กว ้าง 7.25 ม. ยาว 14.50 ม.
4 : กว ้าง12.50 ม. ยาว 5.00 ม.
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 339 :
สารใดต่อไปนีสามารถแยกออกจากนํ า โดยกระบวนการแลกเปลียนอิออน

1 : ไฮโดรเจนอิออน
2 : ไฮดรอกไซด์ออ ิ อน
3 : แคลเซียมอิออน
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 340 :
ค่า C ในสมการไอโซเทอมของ Langmuir (x/m = k*C^1/n) คืออะไร

1 : ความเข ้มข ้นก่อนการทดลอง


2 : ความเข ้มข ้นใดๆ ระหว่างการทดลอง
3 : ความเข ้มข ้นทีเหลือสุดท ้าย
4 : ความเข ้มข ้นทีถูกกําจัดออก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 341 :
การตกตะกอนแบบ Flocculent Settling หมายถึงอะไร

1 : การตกตะกอนทีตะกอนไม่มก
ี ารเพิมขนาด
2 : การตกตะกอนแบบชัน
3 : การตกตะกอนแบบอัดตัว
4 : การตกตะกอนแบบเพิมขนาด
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 342 :
ในการเติมสารส ้มนัน ฟล๊อคสารส ้มทีเกิดขึนนันคืออะไร

1:

2:

3:

4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 343 :
ปั จจัยใดทีไม่มผ
ี ลต่อค่าออกซิเจนละลายนํ าอิมตัว

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 44/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

1 : ปริมาณคลอไรด์ในนํ า
2 : ความเข ้มข ้นของออกซิเจนเริมต ้น
3 : ระดับความสูงจากนํ าทะเล
4 : อุณหภูม ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 344 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่ใช่สาเหตุสําคัญในการปรับค่าพีเอช (pH adjustment) ของนํ าดิบในการทํานํ าประปาและนํ าเสียก่อนการบําบัด

1 : ทําให ้ระบบโคแอกกูเลชัน-ฟลอคคูเลชันทํางานได ้มีประสิทธิภาพสูงขึน


2 : ป้ องกันการกัดกร่อนหรือตกผลึกของนํ าในระบบ
3 : ปรับสีของนํ าในระบบให ้น่าดูมากขึน
4 : ทําให ้แบคทีเรียในระบบบําบัดนํ าเสียเจริญเติบโตได ้ดี
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 345 :
สิงเจือปนใดต่อไปนี ไม่สามารถกําจัดออกได ้ด ้วยวิธบ
ี ําบัดนํ าแบบกายภาพ

1 : กรวด ทราย
2 : ไขมัน นํ ามัน
3 : สีตา่ งๆ ทีเจือปนในนํ าเสีย
4 : เศษอาหารต่างๆ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 346 :
สําหรับเครืองกรองนํ าแบบหลายชันกรอง ปกติจะมีการใช ้สารกรองซึงประกอบด ้วย ทราย สารกาเน็ ทและถ่านแอนทราไซด์ เพือให ้การกรองได ้ประสิทธิภาพสูง
ทีสุด ข ้อใดต่อไปนีควรเป็ นลําดับการเรียงตัวของสารกรองทีเหมาะสม (จากบนลงล่าง)

1 : ทราย สารกาเน็ ท ถ่านแอนทราไซด์


2 : ถ่านแอนทราไซด์ ทราย สารกาเน็ ท
3 : สารกาเน็ ท ทราย ถ่านแอนทราไซด์
4 : ทราย ถ่านแอนทราไซด์ สารกาเน็ ท
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 347 :
ข ้อใดต่อไปนี ไม่ใช่วต
ั ถุประสงค์ในการทําแอเรชันและดีแอเรชันให ้กับนํ าในระบบประปา

1 : เพือกําจัดกลินและรสของนํ าดิบ
2 : เพือป้ องกันการกัดกร่อนทีอาจเกิดขึนจากสารประกอบต่างๆ ในนํ าดิบ
3 : เพือลดพีเอชของนํ าและป้ องกันการตกผลึกของหินปูน
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 348 :
ข ้อใดต่อไปนี ไม่ใช่วธิ ท
ี เป็
ี นไปได ้ ในการเพิมประสิทธิภาพของระบบแอเรชันและดีแอเรชัน (ทังแบบใบพัดและแบบฟองอากาศ) ให ้กับนํ าดิบทีจะผลิตนํ าประปา
และนํ าเสียทีจะทําการบําบัด

1 : ปิ ดฝาถังปฏิกริ ย
ิ า เพือเพิมความดัน
2 : เพิมขนาดของฟองอากาศ เพือเพิมพืนทีผิวสัมผัสระหว่างอากาศกับนํ า
3 : เพิมความเร็วใบพัด เพือเพิมความปั นป่ วนภายในถังปฏิกริ ย
ิ า
4 : ลดขนาดถังปฏิกริ ย ิ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 349 :
ข ้อใดต่อไปนี ไม่ถก
ู ต ้องเกียวกับกระบวนการดูดติดผิว

1 : มักนิยมใช ้ถ่านกัมมันต์เป็ นตัวกลาง (Adsorbent) ในระบบบําบัดนํ าเสีย


2 : ถ่านกัมมันต์มพี นที
ื ผิวสัมผัสตํากว่าตัวกลางแบบสารอินทรียส ์ งั เคราะห์และมีราคาตํา
3 : โดยทัวไป ตัวกลางทีใช ้ในระบบจะอยูใ่ นแบบเกล็ด (Granular) และแบบผง (Powder)
4 : ไม่มข
ี ้อผิด
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 350 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่ถก
ู ต ้องเกียวกับกระบวนการแลกเปลียนไอออน (Ion exchange)

1 : สารทีนิยมใช ้ในกระบวนการนีคือ สารเรซินทีพัฒนามาจากสารอินทรียโ์ พลีเมอร์


2 : สามารถนํ ามาใช ้ในการกําจัดไอออนต่างๆ ออกจากนํ าได ้
3 : สามารถใช ้ในการบําบัดนํ าเสียทีมีสงสกปรกขนาดใหญ่
ิ ๆ ทีไม่ละลายนํ าได ้เป็ นอย่างดี
4 : กระบวนการนี สามารถประยุกต์ใช ้เป็ นกระบวนการกรองได ้ด ้วย
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 351 :
จากกราฟของการเติมคลอรีนให ้กับนํ าชนิดต่างๆ กําหนดให ้แกน y คือปริมาณคลอรีนตกค ้าง (Cl2 residual) และแกน x คือปริมาณคลอรีนทีเติม (Cl2 dosage) จง
วิเคราะห์ผลและบ่งบอกถึงลักษณะของนํ าทีสอดคล ้องกับผลการเติมคลอรีนเพือทําการฆ่าเชือโรค ตามลําดับ

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 45/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

1 : นํ าประปา นํ าทีมีแอมโมเนียและสารอืนๆ นํ าบริสท ุ ธิ


2 : นํ าบริสทุ ธิ นํ าประปา นํ าทีมีแอมโมเนียและสารอืนๆ
3 : นํ าบริสท ุ ธิ นํ าทีมีแอมโมเนียและสารอืนๆ นํ าประปา
4 : นํ าทีมีแอมโมเนียและสารอืนๆ นํ าบริสท ุ ธิ นํ าประปา
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 352 :
ี ้ในการปรับพีเอช
สารใดต่อไปนีไม่ใช่สารเคมีทใช

1 : Calcium oxide
2 : Sodium hydroxide
3 : Sodium sulfide
4 : Sulfuric acid
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 353 :
เป้ าหมายของกระบวนการ Air Flotation คืออะไร

1 : การทําให ้อากาศลอย
2 : การทําให ้ตะกอนลอย
3 : การทําให ้ตะกอนลอยแล ้วจม
4 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 354 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่จัดเป็ นปั จจัยสําคัญในกระบวนการแยกด ้วย Membrane separation

1 : ความเข ้มข ้น (Concentration)


2 : ความดัน (Pressure)
3 : ระยะเวลาทําปฏิกริ ย
ิ า (Reaction time)
4 : พลังงานไฟฟ้ า (Electronic potential)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 355 :
ข ้อใดต่อไปนีเป็ นวัตถุประสงค์ของกระบวนการ Disinfection

1 : การทําลายจุลน ิ ทรียท
์ ก
ุ ชนิด
2 : การทําลายเชือโรค
3 : การทําลายแบกทีเรีย
4 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 356 :
การฆ่าเชือโรควิธใี ดทีทําให ้มีสารตกค ้างสําหรับฆ่าเชือโรค

1 : UV
2 : Chlorine
3 : Ozone
4 : UV และ Ozone
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 357 :
ข ้อใดไม่ถก
ู ต ้องเกียวกับการดูดติดผิวด ้วยแอ็คติเว ้ตเต็ดคาร์บอน

1 : แอ็คติเว ้ตเต็ดคาร์บอนทีมีพนที
ื ผิวจําเพาะ (ตร.เมตร/กรัม) สูง จะมีขด
ี ความสามารถในการดูดติดผิว (Adsorptive Capacity) สูง
2 : การใช ้คาร์บอนผงมักจะเป็ นการใช ้แล ้วทิง เนืองจากการทํารีเจนเนอเรชัน (Regeneration) ให ้กับคาร์บอนผงทีเสือมแล ้วมักจะไม่คุ ้มค่า
3 : การเติมคาร์บอนผงมักจะเติมลงไปในนํ าทีผ่านการตกตะกอนหรือการกรองแล ้ว
4 : การทํารีเจนเนอเรชัน (Regeneration) ให ้กับคาร์บอนแบบเกร็ดทุกครัง จะมีคาร์บอนสูญเสียประมาณ 5%
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 358 :
ข ้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของแอ็คติเว ้ตเต็ดคาร์บอน

1 : ใช ้กําจัดกรดฮิวมิก และกรดฟั ลวิกทีเป็ นสาเหตุของสี กลิน รส ในนํ า


2 : กําจัดคลอรีนในนํ า ในกรณีทคลอรี
ี นตกค ้างในนํ ามากเกินไป
3 : กําจัดสารไฮโดรคาร์บอนแบบลูกโซ่อมตั ิ ว (Saturated Chain Hydrocarbon)
4 : ไม่มข ี ้อใดผิด
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 359 :
ข ้อใดไม่ถก
ู ต ้องเกียวกับปั จจัยต่างๆ ทีมีอท
ิ ธิพลต่อการดูดติดผิว

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 46/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
1 : พีเอชมีอท
ิ ธิพลต่อการแตกตัวเป็ นไอออนและการละลายนํ าของสารต่างๆ จึงทําให ้มีผลต่อการดูดติดผิวด ้วย
2 : ความปั นป่ วนสูง เช่น การทีมีการกวนนํ าในถังผสม จะทําให ้ขีดความสามารถในการดูดติดผิวสูงขึน
3 : ขีดความสามารถในการดูดติดผิวจะมีคา่ ลดลงทีอุณหภูมส ิ งู เนืองจากการดูดติดผิวเป็ นปฏิกริ ย
ิ าแบบ Exothermic
4 : การดูดติดผิวจะเกิดขึนได ้ดีทสุ
ี ดเมือสารมีขนาดเล็กกว่าโพรงของแอ็คติเว ้ตเต็ดคาร์บอนเล็กน ้อย
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 360 :
ข ้อใดต่อไปนี ไม่ใช่ปัจจัยสําคัญทีควรพิจารณาถึงเกียวกับกระบวนการ Coagulation - Flocculation

ิ าทีใช ้ (Reactor types)


1 : รูปแบบถังปฏิกริ ย
2 : ระดับพีเอชของนํ า (pH)
3 : ค่าความปั นปวนหรือความเร็วเเกรเดียนท์ (Velocity gradient)
4 : เวลาสัมผัสหรือเวลากักนํ า (Detention time)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 361 :
หากค่า KLa ของเครืองเติมอากาศเครืองหนึงซึงวัดค่าทีอุณหภูม ิ 25 องศาเซลเซียส มีคา่ เท่ากับ 4.2 ต่อชัวโมง ค่า KLa ทีอุณหภูม ิ 20 องศาเซลเซียสจะมีคา่ เป็ น
อย่างไรเมือกําหนดให ้ค่า Ө เท่ากับ 1.020

1 : มากกว่า 4.2 ต่อชัวโมง


2 : น ้อยกว่า 4.2 ต่อชัวโมง
3 : เท่ากับ 4.2 ต่อชัวโมง
4 : ไม่มขี ้อใดถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 362 :
ข ้อใดต่อไปนีเป็ นกลไกการเคลือนย ้ายสารแขวนลอยเข ้าหาสารกรอง (Transport mechanism) ทีสอดคล ้องกับหมายเลข 1 ถึง 3 ตามลําดับ

1:

2:
3:

4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 363 :
การออกแบบถังกวนเร็วด ้วยสารเคมีชนิดสารส ้ม (Alum) ปริมาณ 18 มก/ล ทีพีเอชเท่ากับ 6.4 จงคํานวณหาค่าความเป็ นด่างอย่างน ้อยทีจําเป็ นต ้องมีเพือควบคุม
ให ้พีเอชมีคา่ คงทีและทําให ้กลไกของการเกิดการโคแอกกูเลชันมีประสิทธิภาพสูงสุด กําหนดให ้ สมการสตอยชิโอเมตริคของการสร ้างโคแอกกูเลชันด ้วยสารส ้ม
คือ

1:

2:

3:

4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 364 :
จงหาความสูญเสียเฮด (headloss) เมือนํ าไหลผ่านตะแกรงแบบหยาบโดยที ความเร็วในรางก่อนถึงตะแกรงเท่ากับ 0.6 เมตรต่อวินาที ความเร็วไหลผ่านช่อง
ตะแกรง 0.8 เมตรต่อวินาที และสัมประสิทธิสูญเสียเฮด (headloss coefficient) เท่ากับ 0.65

1 : 0.022 m
2 : 0.038 m
3 : 0.041 m
4 : 0.053 m
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 47/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

ข ้อที 365 :
จากการศึกษาคุณสมบัตข
ิ องนํ าดิบพบว่ามีลก
ั ษณะดังต่อไปนี (หน่วย มก/ล หินปูน)

1 : 500 350 มก/ล หินปูน


2 : 350 350 มก/ล หินปูน
3 : 500 300 มก/ล หินปูน
4 : 350 500 มก/ล หินปูน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 366 :
จงหาความสูญเสียเฮด (headloss) เมือนํ าไหลผ่านตะแกรงแบบหยาบทีมีขยะอุดตันอยูค ่ ด
ิ เป็ นพืนที 50 % ของช่องตะแกรง โดยทีความเร็วในรางก่อนถึงตะแกรง
เท่ากับ 0.6 เมตรต่อวินาที ความเร็วไหลผ่านช่องตะแกรงเมือไม่มข
ี ยะตกค ้างเท่ากับ 0.8 เมตรต่อวินาที และสัมประสิทธิสูญเสียเฮด (headloss coefficient) เมือมี
ขยะตกค ้างเท่ากับ 0.6

1 : 0.105 m
2 : 0.138 m
3 : 0.187 m
4 : 0.243 m
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 367 :
ู ต ้องเกียวกับการฆ่าเชือโรคในนํ าด ้วยการใช ้คลอรีน
ข ้อใดต่อไปนีไม่ถก

1 : สภาพพีเอชตํา ทําให ้ประสิทธิภาพในการฆ่าเชือโรคสูงขึนและสินเปลืองคลอรีนน ้อยลง


2 : การใช ้คลอรีนรวม (Combined Chlorine) ทําให ้สามารถใช ้เวลาสัมผัสตํากว่าการใช ้คลอรีนอิสระ (Free available Chlorine)
3 : ความต ้องการคลอรีนในระบบทัวไปจะต ้องคํานึงถึงความต ้องการคลอรีนและปริมาณคลอรีนทีต ้องการให ้ตกค ้างเพือสํารองไว ้ฆ่าเชือโรค
4 : ความขุน่ ของนํ า อาจเป็ นเกาะกําบังให ้กับเชือโรคหรือจุลน
ิ ทรีย ์ ส่งผลให ้คลอรีนไม่สามารถเข ้าไปสัมผัสและฆ่าเชือโรคได ้
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 368 :
การใช ้ Mechanical bar screen ในระบบการบําบัดขันต ้น ประกอบด ้วย ช่วงว่างในนํ าเสียไหลผ่านกว ้าง 30 มม. และความกว ้างของ Bar หนา 10 มม. จงคํานวณ
หาความเร็วของนํ าเสียทีไหลผ่านระหว่าง Bar เมือ อัตราการไหลของนํ าเสียเข ้าสูร่ ะบบ (Q) เท่ากับ 80000 ม3/วัน ความกว ้าง (W) และความสูง (D) ของช่องทาง
เข ้าของนํ าเสีย (Channel) เท่ากับ 1.5 ม. และ 1 ม. ตามลําดับ

1 : 1.25 ม/วินาที
2 : 0.83 ม/วินาที
3 : 0.52 ม/วินาที
4 : 0.75 ม/วินาที
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 369 :
ในการใช ้เครืองแอเรเตอร์แบบโปรยนํ า (Spray Aerators) โดยใช ้หัวฉีดซึงติดอยูก
่ บ
ั ที (Fixed nozzle/orifice) เป่ านํ าขึนไปบนอากาศ ในอัตราการไหลทีผ่านหัวฉีด
เท่ากับ 0.1 ลบ.ม./นาที จงคํานวณหาความดันลด (Head loss) เป็ นเมตร ทีสอดคล ้องกับขนาดของรูบนหัวฉีดขนาดเท่ากับ 2.5 เซนติเมตร กําหนดให ้ ค่าคงทีของ
หัวฉีด (CD) มีคา่ เท่ากับ 0.9

1 : 0.51 เมตร
2 : 0.73 เมตร
3 : 1.25 เมตร
4 : 1.85 เมตร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 370 :
การใช ้สารส ้มในอัตรา 50 มิลลิกรัมต่อลิตร สําหรับระบบบําบัดทีมีอต
ั ราไหล นํ าเสีย 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวันนัน จะมีตะกอนเคมีเกิดขึนวันละกีกิโลกรัม (มวล
โมเลกุลสารส ้มเท่ากับ 666 และมวลโมเลกุลตะกอนอะลูมเิ นียมไฮดรอกไซด์เท่ากับ 78 และกําหนดให ้สารส ้มตกตะกอนทังหมด)

1 : 1.17 กิโลกรัม
2 : 2.34 กิโลกรัม
3 : 3.51 กิโลกรัม
4 : 4.68 กิโลกรัม
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 371 :
เครืองสูบนํ าสําหรับการสูบจ่ายสารเคมีให ้กับระบบผลิตนํ าประปา มักใช ้เครืองสูบนํ าแบบใดต่อไปนี

1 : Axial flow centrifugal pump


2 : Radial flow centrifugal pump
3 : Positive displacement pump
4 : Submersible centrifugal pump
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 372 :
สารใดต่อไปนี ไม่ใช ้ ในกระบวนการฆ่าเชือโรค (Disinfection process) ในกระบวนการผลิตนํ าประปา

1:

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 48/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

2:

3:

4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 373 :
สําหรับระบบการฆ่าเชือโรคด ้วยคลอรีน (Chlorine disinfection process) ในกระบวนการผลิตนํ าประปาข ้อใดต่อไปนีผิด

1 : การเติมกาซคลอรีนให ้กับนํ า มักส่งผลให ้พีเอชของนํ ามีแนวโน ้มสูงขึน


2 : คลอรีนอิสระ(Free Chlorine) มีฤทธิในการฆ่าเชือโรคสูงกว่าคลอรีนรวม (Combined Chlorine)
3 : คลอรีนรวม (Combined Chlorine) คงตัวอยูใ่ นระบบท่อส่งนํ าได ้นานกว่า คลอรีนอิสระ(Free Chlorine)
4 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 374 :
ข ้อใดต่อไปนีผิด

1 : รูป(ชนิด)ของสารประกอบคลอรีนในนํ า ขึนอยูก ่ บ
ั พีเอชของนํ า
2 : เมือคลอรีนทําปฏิกริ ยิ ากับสารบางชนิดในนํ า เช่น ฟี นอล อาจก่อให ้เกิดกลินรสได ้
3 : หากนํ ามีความขุน ่ อาจลดความสามารถในการฆ่าเชือโรคของคลอรีนได ้ จึงควรเติมคลอรีนเพือฆ่าเชือโรคในนํ าใสทีผ่านการกรองแล ้ว
4 : ไม่มคี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 375 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่ใช่ปัจจัยทีมีผลต่อประสิทธิภาพในการฆ่าเชือโรคด ้วยคลอรีน

1 : ค่าออกซิเจนละลายในนํ า
2 : ค่าพีเอชของนํ า
3 : ความเข ้มข ้นของคลอรีน
4 : เวลาสัมผัสระหว่างคลอรีนกับนํ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 376 :
ข ้อใดต่อไปนี ไม่ใช ้ ในการฆ่าเชือโรคให ้กับนํ าประปา

1 : การฆ่าเชือโรคด ้วยคลอรีน
2 : การฆ่าเชือโรคด ้วยแสงอินฟราเรด
3 : การฆ่าเชือโรคด ้วยโอโซน
4 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 377 :
ในการออกแบบถังเติมคลอรีนเพือการฆ่าเชือโรค ได ้มีการนํ าผลการวิเคราะห์นําทางเคมีและทางชีวภาพไปใช ้ในการกําหนดค่าในการออกแบบถังเติมคลอรีน โดย
ได ้ค่าดังนี

1 : 2.7 ลูกบาศก์เมตร
2 : 27 ลูกบาศก์เมตร
3 : 270 ลูกบาศก์เมตร
4 : 2700 ลูกบาศก์เมตร
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 378 :
ข ้อใดต่อไปนี ไม่ใช ้ ในการทําลายคลอรีนส่วนเกินออกจากนํ าประปา

1:

2:

3:

4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 379 :
ในการเติมคลอรีนเพือการฆ่าเชือโรค อาจก่อให ้เกิดสารทีเป็ นอันตรายขึน(Chlorine disinfection by-product) สําหรับสารดังกล่าว ข ้อใดต่อไปนี ผิด

1:

2:

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 49/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

3:

4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 380 :
ข ้อใดต่อไปนี ผิด

1:

2:

3:

4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 381 :
ข ้อใดต่อไปนี ไม่ ส่งผลต่อการคัดเลือกชนิดและตําแหน่งการติดตังอาคารชักนํ าดิบ (Raw water intake structure)

1 : คุณภาพของนํ าดิบ
2 : ระดับนํ าและความเปลียนแปลงของระดับนํ าในแต่ละฤดูกาล
3 : ความเร็วในการไหลของนํ าดิบ
4 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 382 :
อาคารชักนํ าดิบแบบจมใต ้นํ า (Raw water submerged intake structure) แห่งหนึงมีชอ ่ งทางนํ านํ าดิบเข ้าเป็ นรูปสีเหลียมจัตรุ ัสพร ้อมตะแกรงทีมี Screen area
effective factor เท่ากับ 0.6 ถ ้าต ้องการนํ านํ าดิบเข ้าด ้วยอัตรา 4320 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จะต ้องใช ้ช่องทางนํ านํ าดิบเข ้าขนาดเท่าใด กําหนดให ้ความเร็วของ
นํ าดิบทีไหลผ่านตะแกรงเท่ากับ 0.06 เมตรต่อวินาที

1 : 1.18 เซนติเมตร
2 : 1.18 เมตร
3 : 4.32 เซนติเมตร
4 : 4.32 เมตร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 383 :
ข ้อใดต่อไปนี ไม่สามารถใช ้ ในการกําจัดสาหร่ายออกจากนํ าดิบได ้อย่างมีประสิทธิภาพ

1 : การเติมคลอรันให ้กับนํ าดิบ (Pre-Chlorination)


2 : การใช ้กลไกการกรองในถังกรอง (Filtration)
3 : การใช ้ Fine screen ในการกรองนํ าดิบ
4 : การใช ้ Microstrainer ในการกรองนํ าดิบ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 384 :
ข ้อใดต่อไปนี ไม่ใช่ วัตถุประสงค์ของการทําแอเรชันและ/หรือดีแอเรชัน (Aeration and Deaeration) ให ้กับนํ าดิบ

1:

2:

3:

4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 385 :
ปั จจัยในข ้อใดต่อไปนี ไม่ม ี ผลต่อการทําแอเรชัน (Aeration) ให ้กับนํ าดิบ

1 : ความเข ้มข ้นของกาซ (ทีต ้องการเติม) เดิมทีมีอยูใ่ นนํ า


2 : ความเข ้มข ้นของกาซ (ทีต ้องการเติม) เดิมทีมีอยูใ่ นอากาศ
3 : เวลาสัมผัสระหว่างกาซ (ทีต ้องการเติม) กับนํ า
4 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 386 :
กลไกในการตกตะกอนใดต่อไปนี เกิดขึนในถังตกตะกอนทีใช ้ในการตกตะกอนฟล ้อกทีเกิดจากกระบวนการ coagulation-flocculation

1 : การตกตะกอนแบบโดดเท่านัน
2 : การตกตะกอนแบบรวมกลุม
่ เท่านัน
3 : การตกตะกอนแบบโดด และการตกตะกอนแบบรวมกลุม

4 : การตกตะกอนแบบโดด การตกตะกอนแบบรวมกลุม
่ และการตกตะกอนแบบมีอป
ุ สรรค
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 50/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

ข ้อที 387 :
สําหรับ แอเรเตอร์ (Aerator) และดีแอเรเตอร์ (Deaerator) ข ้อใดต่อไปนี ผิด

1 : แอเรเตอร์แบบหัวฉีด (Spray Aerator) ให ้เวลาในการสัมผัสระหว่างนํ ากับอากาศสูง แต่ให ้พืนทีผิวสัมผัสตํา


2 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง
3 : แอเรเตอร์แบบถาด(Tray Aerator) มักนิยมใช ้ตัวกลางเช่น ถ่านวางไว ้บนถาด เพือช่วยเพิมเวลาและพืนทีสัมผัส
4 : ดีแอเรเตอร์แบบสุญญากาศ (Vacuum Deaerator) ใช ้ในการกําจัดกาซทีละลายนํ าเช่น CO2 ออกจากนํ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 388 :
ข ้อใดต่อไปนี ไม่ใช่ กลไกทีเกิดขึนจากการใช ้สารส ้มในการทํา Coagulation

1 : กลไกการทําลายอํานาจประจุของอนุภาคคอลลอยด์
2 : กลไกการห่อหุ ้มอนุภาคคอลลอยด์ไว ้ในผลึกสารประกอบทีเกิดขึน
3 : กลไกการใช ้สารอินทรียโ์ พลีเมอร์เป็ นสะพานเชือมอนุภาคคอลลอยด์
4 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 389 :
ในการเรียงขนาดเฉลียของอนุภาคในนํ า จากใหญ่ไปหาเล็ก ข ้อใดต่อไปนี ถูก

1 : ทรายละเอียด ตะกอนดิน แบคทีเรีย คอลลอยด์ ไวรัส


2 : ทรายละเอียด ตะกอนดิน แบคทีเรีย ไวรัส คอลลอยด์
3 : ทรายละเอียด ตะกอนดิน คอลลอยด์ แบคทีเรียไวรัส
4 : ทรายละเอียด คอลลอยด์ ตะกอนดิน แบคทีเรีย ไวรัส
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 390 :
สารใดต่อไปนี ไม่ใช ้ ในกระบวนการปรับพีเอชของนํ าในกระบวนการผลิตนํ าประปา

1:

2:

3:

4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 391 :
ในกระบวนการ coagulation-flocculation โดยปกติจะประกอบด ้วยถังกวนเร็วและถังกวนช ้า สําหรับถังกวนเร็ว ข ้อใดต่อไปนี ถูก

1 : ถังกวนเร็วจะมีคา่ ความปั นป่ วนสูง เวลากักนํ าสูง


2 : ถังกวนเร็วจะมีคา่ G (Velocity Gradient) สูง เวลากักนํ าตํา
3 : ถังกวนเร็วจะมีคา่ ความปั นป่ วนตํา เวลากักนํ าตํา
4 : ถังกวนเร็วจะมีคา่ G (Velocity Gradient) ตํา เวลากักนํ าสูง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 392 :
ในกระบวนการ coagulation-flocculation โดยปกติจะประกอบด ้วยถังกวนเร็วและถังกวนช ้า สําหรับถังกวนช ้า ข ้อใดต่อไปนี ถูก

1 : ถังกวนช ้าจะมีคา่ ความปั นป่ วนสูง เวลากักนํ าสูง


2 : ถังกวนช ้าจะมีคา่ G (Velocity Gradient) สูง เวลากักนํ าตํา
3 : ถังกวนช ้าจะมีคา่ ความปั นป่ วนตํา เวลากักนํ าตํา
4 : ถังกวนช ้าจะมีคา่ G (Velocity Gradient) ตํา เวลากักนํ าสูง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 393 :
อุปกรณ์หรือกระบวนการข ้อใดต่อไปนี ไม่สามารถ ใช ้ในการทํา coagulation ได ้

1 : Hydraulic jump
2 : Static mixer
3 : In-line Blender
4 : ไม่มคี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 394 :
ในการออกแบบ ถังกวนช ้า ข ้อใดต่อไปนี ผิด

1 : ควรออกแบบให ้มีเวลากักนํ าสูงกว่าถังกวนเร็ว โดยปกติไม่ควรตํากว่า 20 นาที


2 : ควรออกแบบให ้ถังเป็ นแบบกวนผสมโดยสมบูรณ์ (Completely mix reactor) เพือควบคุมคุณภาพนํ าให ้คงที
3 : อาจออกแบบให ้ใช ้ใบพัดชนิดต่างๆเช่น ใบพาย (Paddle) ใบพัดเรือ (Propeller) เป็ นอุปกรณ์ในการสร ้างความปั นป่ วนให ้กับนํ า
4 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 395 :
สําหรับกลไกการเกิด flocculation ข ้อใดต่อไปนี ผิด

1 : โดยรวมแล ้ว กลไกการเกิด flocculation คือการสร ้างโอกาสให ้ฟล ้อกมาสัมผัสกัน เพือรวมตัวกันเป็ นฟล ้อกขนาดใหญ่ขน

2 : กลไกในการเกิด flocculation มี 2 ชนิดคือ Perikinesis และ Orthokinesis
3 : ในทางปฏิบต ั ิ กลไกทีเกิดขึนในถังกวนช ้า มักเป็ นแบบ Perikinesis
4 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 51/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
ข ้อที 396 :
ในการปรับพีเอชให ้กับนํ า วิศวกรมักใช ้ไดอะแกรมลอเรนซ์-คาลเวล (Lawrence-Caldwell Diagram) ช่วยในการคํานวณหาปริมาณสารเคมีทต
ี ้องใช ้ในการปรับพี
เอชของนํ า พารามิเตอร์ใดต่อไปนี ไม่ปรากฏ (และไม่มผ ี ลกระทบ) ในไดอะแกรมดังกล่าว

1 : Ionic Strength
2 : Total dissolved solid
3 : Water temperature
4 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 397 :
สําหรับค่า Zeta Potential ในกระบวนการ Coagulation ข ้อใดต่อไปนี ผิด

1 : คอลลอยด์ทมี ี เสถียรภาพตํา จะมีคา่ Zeta Potential สูง ทําให ้คอลลอยด์รวมตัวกันได ้ง่าย


2 : Zeta Potential หมายถึงค่าศักย์ไฟฟ้ าทีผิวนอกสุดของคอลลอยด์ทเคลื ี อนทีไปพร ้อมๆกับอนุภาคคอลลอยด์
3 : กลไกการลดความหนาของชันกระจาย มีผลโดยตรงกับค่า Zeta Potential
4 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 398 :
ในระบบออสโมซิสย ้อนกลับ (Reverse osmosis) คําว่า Concentration polarization หมายถึงข ้อใดต่อไปนี

1 : การสะสมตัวของสารละลายบน Boundary layer ของแผ่นเยือเมมเบรน


2 : ความเข ้มข ้นของสารละลายทีใช ้ในการล ้างแผ่นเยือเมมเบรน
3 : ความเข ้มข ้นของสารละลายหลังจากการล ้างแผ่นเยือเมมเบรน
4 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 399 :
ในขันตอนรีเจนเนอเรชัน (Regeneration) ของระบบแลกเปลียนไอออน (Ion exchange) ข ้อใดต่อไปนี ผิด

1 : เรซินประเภทกรดอ่อนและด่างอ่อน สินเปลืองสารในการทํารีเจนเนอเรชันมากกว่าเรซินประเภทกรดแก่และด่างแก่
2 : ประสิทธิภาพในการทํารีเจนเนอเรชันในทางปฏิบต ั ิ จะมีคา่ ตํากว่า 100% หรือไม่สามารถฟื นฟูสภาพของเรซินได ้ทังหมด
3 : เกลือแกง (NaCl) สามารถใช ้ในการทํารีเจนเนอเรชันได ้ทังกับเรซินประเภทกรดแก่และด่างแก่
4 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 400 :
ข ้อใดต่อไปนี ไม่ใช่ วัตถุประสงค์ของขันตอนการล ้างย ้อน (Backwash) ในระบบแลกเปลียนไอออน (Ion exchange)

1 : ล ้างความขุน่ หรือสารแขวนลอยทีติดอยูบ ่ นเรซิน


2 : ล ้างสารเคมีในการทํารีเจนเนอเรชันออกจากเรซิน
3 : ทําให ้ชันเรซินเรียงตัวใหม่ เพือให ้นํ าสามารถกระจายผ่านชันได ้สมําเสมอขึน
4 : ทําลายการจับตัวเป็ นก ้อนของเรซินทีอาจเกิดขึนระหว่างการทํางาน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 401 :
สําหรับการกรองแบบกรองตรง (Direct filtration) ข ้อใดต่อไปนี ผิด

1 : มักใช ้กับนํ าดิบทีมีความขุน่ ตําตลอดทังปี


2 : อาจไม่จําเป็ นต ้องมีการเติมโคแอกกูแลนท์ (Coagulant)
3 : ถ ้าจําเป็ นต ้องมีการเติมโคแอกกูแลนท์ (Coagulant) ควรควบคุมให ้กลไกของ Coagulation เป็ นแบบ Sweep coagulation
4 : ไม่มค ี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 402 :
โคแอกกูแลนท์เอด (Coagulant Aid) หมายถึงข ้อใดต่อไปนี

1 : การเพิมอัตราการกวนในถังกวนเร็ว เพือช่วยเพิมประสิทธิภาพการเกิด Coagulation


2 : สารทีเติมลงไปเพือช่วยส่งเสริมการเกิด Coagulation เช่น โพลีอเิ ลคโตรไลท์
3 : โคแอกกูแลนท์ (Coagulant) เช่นสารส ้ม ทีผ่านการปรับปรุงคุณภาพทําให ้มีประสิทธิภาพการเกิด Coagulation สูงขึนมาก
4 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 403 :
สําหรับถังกรองทรายแบบกรองช ้า (Slow sand filter) ข ้อใดต่อไปนี ผิด

1 : ไม่มค ี ําตอบทีถูกต ้อง


2 : โดยปกติ ต ้องการพืนทีในการก่อสร ้างสูงมาก ดังนันจึงเหมาะกับเขตชนบท
3 : ผู ้ดูแลระบบควรหมันลอกสาหร่ายและจุลน ิ ทรียท
์ ติ
ี ดบนผิวถังกรองออก เพือรักษาคุณภาพนํ า
4 : อัตราการกรองจะตํา อยูทประมาณ
ี 3-7 เมตรต่อวัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 404 :
สําหรับถังกรองทรายแบบกรองเร็ว (Rapid sand filter) ข ้อใดต่อไปนี ผิด

1 : อัตราการกรองจะสูงกว่าถังกรองทรายแบบกรองช ้าหลายสิบเท่า
2 : ในทุกกรณี ไม่จําเป็ นต ้องมีการทํา Coagulation-flocculation เนืองจากถังกรองมีประสิทธิภาพสูงอยูแ
่ ล ้ว
3 : เมือสารกรองอุดตัน จะต ้องทําการล ้างย ้อน (Backwash)
4 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 405 :
การทํา Pre-chlorination ให ้กับนํ าดิบ ทําเพือวัตถุประสงค์ข ้อใดต่อไปนี

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 52/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
1 : เพือลดปั ญหาเกียวกับสาหร่ายในนํ าดิบทีอาจไปอุดตันถังกรองทรายได ้
2 : เพือปรับพีเอชของนํ าดิบให ้เหมาะสม
3 : เพือช่วยให ้ประสิทธิภาพของการทํา Coagulation-flocculation สูงขึนมากๆ
4 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 406 :
ปั จจัยข ้อใดต่อไปนี ไม่ ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทํางานของระบบออสโมซิสย ้อนกลับ (Reverse osmosis)

1 : อุณหภูมแ ิ ละพีเอชของนํ า
2 : ความเข ้มข ้นของนํ าดิบ
3 : แรงดันของนํ าผ่านเมมเบรน
4 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 407 :
สําหรับการเติมฟลูออไรด์ให ้กับนํ าประปา ข ้อใดต่อไปนี ผิด

1 : ปริมาณฟลูออไรด์ในนํ าประปาควรมีคา่ ประมาณ 1 มิลลิกรัมต่อลิตรทังนีขึนกับฟลูออไรด์ปริมาณในนํ าดิบเดิมด ้วย


2 : ปริมาณฟลูออไรด์ในนํ าประปาขึนกับอุณหภูม ิ ถ ้าอุณหภูมสิ งู ควรลดปริมาณฟลูออไรด์ลง เพือมิให ้ผู ้บริโภคได ้รับปริมาณฟลูออไรด์มากเกินไป
3 : สารทีใช ้ในการเติมฟลูออไรด์ให ้กับนํ าประปาคือ NaF (Sodium Fluoride)
4 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 408 :
นํ าดิบข ้อใดต่อไปนี เป็ นนํ าทียากต่อการทํา Coagulation-flocculation ทีสุด

1 : นํ าทีมีความขุน
่ มาก และความเป็ นด่างสูง
2 : นํ าทีมีความขุน่ น ้อย และความเป็ นด่างน ้อย
3 : นํ าทีมีความขุน ่ มาก แต่ความเป็ นด่างตํา
4 : นํ าทีมีความขุน ่ น ้อย และความเป็ นด่างสูง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 409 :
ข ้อใดต่อไปนี ไม่ใช่ สาเหตุของการไหลลัดทางในถังตกตะกอน

1 : ค่าพีเอชของนํ า
2 : ความแตกต่างของความขุน
่ นํ า
3 : ความแตกต่างของอุณหภูมนิ ํา
4 : กระแสลมทีผิวนํ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 410 :
สําหรับถังตกตะกอนแบบโซลิดคอนแทคท์ (Solid contact clarifier) ข ้อใดต่อไปนี ผิด

1 : ถังตกตะกอนแบบนีจะรวมกระบวนการ Coagulation-flocculation ไว ้ในถังตกตะกอน


2 : ถังตกตะกอนแบบนีไม่สามารถเพิมประสิทธิภาพการตกตะกอนด ้วยการใช ้แผ่นเอียง เนืองจากในถังเต็มไปด ้วยชันสลัดจ์

3 : ถังโซลิดคอนแทคท์แบ่งได ้เป็ น 2 แบบคือ แบบหมุนเวียนสลัดจ์ (Sludge recirculation) และแบบมีชนสลั
ดจ์ (Sludge blanket)
4 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 411 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่จัดว่าเป็ นข ้อกําหนดในการออกแบบถังตกตะกอน

1 : Surface Overflow Rate


2 : ความลึกและเวลากักนํ าของถัง
3 : ความเร็วของนํ าทีไหลเข ้าถัง
4 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 412 :
การจัดการตะกอนทีเกิดขึนในระบบประปา วิธใี ดทีจะได ้ผลิตภัณฑ์ทมี
ี มล
ู ค่าเพิมสูงสุด

1 : Open-Air drying Beds


2 : Gravity Belt Thickeners
3 : Sludge Digester
4 : Pressure Filtration
5 : Belt and Frame Filtration
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 413 :
ในการใช ้สารส ้มในการก่อตะกอนนํ าดิบทีมีอต
ั ราการไหลเท่ากับ 10 ลิตรต่อวินาที อยากทราบว่าใน 1 วันจะมีการใช ้สารส ้มกีกิโลกรัม เมือความเข ้มข ้นของสารส ้ม
ทีใช ้คือ 30 พีพเี อ็ม

1 : 100 กิโลกรัม
2 : 200 กิโลกรัม
3 : 300 กิโลกรัม
4 : 26 กิโลกรัม
5 : 52 กิโลกรัม
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 414 :
สารเคมีในข ้อใดทีใช ้เป็ นสารก่อตะกอนทังหมด

1 : Aluminum hydroxide, Lime, Sodium hydroxide

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 53/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
2 : Soda, Lime, Chlorine
3 : Lime, Chlorine, Ferrous sulfate
4 : Aluminum sulfate, Ferric chloride, Ferrous sulfate
5 : Ferric chloride, Lime, Calcium carbonate
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 415 :
ต ้องการเตรียมสารละลายสารส ้ม 2.5% จํานวน 300 ลิตร จะต ้องใช ้สารส ้มเท่าใด

1 : 2 กิโลกรัม
2 : 7.5 กิโลกรัม
3 : 25 กิโลกรัม
4 : 75 กิโลกรัม
5 : ไม่มขี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 416 :
ข ้อใดกล่าวไม่ถก
ู ต ้อง

ิ ากับคลอรีนจะได ้สารฆ่าเชือโรคทีมีฤทธิตกค ้างในเส ้นท่อ


1 : เมือแอมโมเนียในนํ าทําปฏิกริ ย
2 : ท่อส่งจ่ายนํ าทีเวลาใดๆ จะใช ้ค่าคงที (C) ในการคํานวณค่าเดิมตลอด
3 : สารก่อตะกอนส่วนใหญ่จะทําให ้ค่าพีเอชในนํ าลดลงถ ้านํ ามีสภาพด่างไม่เหมาะสม
4 : สามารถใช ้ถ่านกัมมันต์ในการกําจัดยาฆ่าแมลงในนํ า
5 : การใช ้เรซินแลกเปลียนไอออนไม่เหมาะกับการนํ ามาใช ้กับนํ าทีมีคา่ ความขุน
่ สูง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 417 :
ข ้อใดคือเหตุผลสําคัญในการล ้างย ้อน (Back wash) สําหรับถังกรองนํ า

1 : เพราะอาจมีเชือจุลนิ ทรียเ์ ติบโตในถังกรอง


2 : ชันกรองเริมมีการเรียงตัวไม่ด ี
3 : เกิดการอุดตันของชันทรายกรอง
4 : เป็ นการกรองสวนทางกับทิศทางการกรองเดิม เพือให ้ได ้ซึงอัตราการกรองสูงสุด
5 : เพือกําจัดสารกรองทีเสือมสภาพ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 418 :
ี ้สําหรับฆ่าเชือโรค
สารใดต่อไปนีไม่ใช่สารเคมีทใช

1 : ClO2
2 : HOCl
3 : KMnO4
4 : FeCl3
5 : H2O2
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 419 :
ข ้อใดกล่าวไม่ถก
ู ต ้องเกียวกับคอลลอยด์

1 : สามารถตกตะกอนด ้วยตัวของมันเองในเวลาทีจํากัด
2 : เป็ นสารทีแขวนลอยอยูใ่ นนํ า
3 : สามารถวิเคราะห์ปริมาณได ้โดยการวิเคราะห์ในหน่วย NTU
4 : ถ ้ามีปริมาณมากๆจะทําให ้นํ าขุน

5 : ถ ้าเกาะกันจนมีนําหนักมากจะสามารถตกตะกอนได ้ดี
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 420 :
ถ ้านํ าประปาทีผลิตได ้มีพเี อชตํากว่า 6.5 จะบ่งชีถึงอะไร

1 : มีสารแขวนลอยมากเกินไป
2 : มีสารก่อตะกอนปนเปื อนไปกับนํ าประปา
3 : ระบบกรองนํ ามีปัญหา
4 : มีการเติมสารเคมีทเป็
ี นกรดในกระบวนการผลิตนํ าประปา
5 : มีโอกาสทําให ้ท่อส่งนํ าเกิดการกัดกร่อน
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 421 :
. การก่อตะกอนด ้วยเฟอร์รัสซัลเฟต (Ferrous Sulfate) ควรจะต ้องมีสารเคมีใดใช ้ร่วมด ้วย

1 : Lime
2 : Chlorine
3 : Alum
4 : Sodium Aluminate
5 : Bentonite
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 422 :
กระบวนการใดต่อไปนีมีกลไกการทํางานแตกต่างจากพวก

1 : Slow sand filtration


2 : Ion exchange filtration
3 : Pressure filtration
4 : Dual media filtration
5 : Rapid sand filtration
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 423 :

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 54/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
ในกระบวนการปรับปรุงคุณภาพนํ าโดยใช ้ถ่านกัมมันต์ อยากทราบว่าถ่านกัมมันต์มก
ี ลไกใดในการปรับปรุงคุณภาพนํ า

1 : Sorption
2 : Adsorption
3 : Absorption
4 : Filtration
5 : Ion Exchange
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 424 :
การเติมอากาศในระบบผลิตนํ าประปาจะกระทําเมือใด

1 : พีเอชตํา
2 : มีกา๊ ซละลายอยูใ่ นนํ ามาก
3 : ลดความขุน ่
4 : นํ ามีส ี
5 : กําจัดแบคทีเรีย
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 425 :
การฟื นอํานาจให ้กับเรซินเรียกว่าอะไร

1 : Wash out
2 : Back washing
3 : Reverse osmosis
4 : Back cleaning
5 : Regenerate
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 426 :
การฟื นอํานาจให ้กับถ่านกัมมันต์แบบเกร็ดนิยมใช ้วิธก
ี ารตามข ้อใด

1 : เผาทีอุณหภูมส ิ งู
2 : ชะล ้างด ้วยตัวทําละลาย
3 : ใช ้จุลนิ ทรียย
์ อ
่ ยสลาย
4 : ใช ้ไอนํ า
5 : ไม่นย ิ มนํ ามาใช ้ใหม่ ส่วนใหญ่จะทิงเลย
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 427 :
ข ้อใดคือสารทีจะพบในนํ าทีผ่านการแลกเปลียนไอออนมาแล ้ว

1 : แคลเซียม
2 : แมงกานีส
3 : เหล็ก
4 : โซเดียม
5 : ซัลเฟต
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 428 :
การออกแบบตะแกรงดักเศษตะกอนขนาดใหญ่ต ้องคํานึงถึงเรืองใดมากทีสุด

1 : แรงงานคน
2 : การเกิด Headloss
3 : ระดับนํ า
4 : ความเร็วในการไหลของนํ า
5 : ปริมาณขยะ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 429 :
ข ้อใดไม่เกียวข ้องกับค่าลาดความเร็ว (velocity gradient) ในการกวนนํ า

1 : ความเร็วรอบของการกวน
2 : ขนาดถังกวน
3 : อุณหภูม ิ
4 : รูปร่างใบกวน
5 : แรงโน ้มถ่วงของโลก
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 430 :
วิธกี ารใดต่อไปนีสามารถกําจัดเหล็กและแมงกานีสทีละลายอยูใ่ นนํ าได ้

1 : Aeration and Filtration


2 : Sedimentation and Filtration
3 : pH Adjustment and Sedimentation
4 : Mixing and Chlorination
5 : Screening and Sedimentation
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 431 :
ถ ้านํ าดิบทีนํ ามาผลิตนํ าประปาเป็ นแหล่งนํ าทีมีการปนเปื อนนํ าเสียจากชุมชน กระบวนการไหนในการผลิตนํ าประปาทีต ้องระวังเป็ นพิเศษ

1 : Grit Chamber
2 : Mixing
3 : Sedimentation
4 : Disinfection
5 : Filtration

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 55/57
3/10/2562 สภาวิศวกร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 432 :
การฆ่าเชือโรควิธก
ี ารใดต่อไปนีมีทจะทํ
ี าให ้มีฤทธิในการฆ่าเชือโรคตกค ้างในเส ้นท่อ

1 : KMnO4
2 : H2O2
3 : O3
4 : HOCl
5 : UV
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 433 :
การกวนเร็วแบบใดใช ้เวลาในการทํางานน ้อยทีสุด

1 : In-line Blender
2 : Impeller Mixing
3 : Baffled wall
4 : Aeration Mixing
5 : ไม่มขี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 434 :
ปั จจัยทีมีอท
ิ ธิพลน ้อยทีสุดต่อการตกตะกอนในถังตกตะกอน ในระบบผลิตนํ าประปาคือข ้อใด

1 : อุณหภูมข ิ องนํ า
2 : นํ าหนักของตะกอน
3 : ความเข ้มข ้นของตะกอนในนํ า
4 : ระยะเวลาในการตกตะกอน
5 : ปริมาณตะกอน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 435 :
การตกตะกอนแบบใดทีไม่ต ้องพึงพาปั จจัยภายนอกในการตกตะกอน

1 : การตกตะกอนแบบโดด
2 : การตกตะกอนแบบรวมกลุม่
3 : การตกตะกอนแบบแบ่งชัน
4 : การตกตะกอนแบบอัดตัว
5 : การตกตะกอนโดยการเติมสารเคมี
คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 436 :
ั ราการไหล 1 m3/s ไหลเข ้าถังกวนเร็วซึงต่อแบบขนาน มีระยะเวลาเก็บกักของแต่ละถังเท่ากับ 10 นาที อยากทราบว่าถ ้าถังกวนเร็วทรงกระบอกมีเส ้น
นํ าดิบทีมีอต
ผ่าศูนย์กลาง 8 เมตร มีความสูง 2.5 เมตร จะต ้องใช ้ถังกวนเร็วจํานวนกีถัง

1 : 2 ถัง
2 : 3 ถัง
3 : 4 ถัง
4 : 5 ถัง
5 : 6 ถัง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 437 :
่ เก็บตัวอย่างของอนุภาคตลอดชันความสูง โดยใช ้เวลาไม่เกิน 1 ชัวโมง
การตกตะกอนแบบใดทีต ้องทําการสุม

1 : การตกตะกอนแบบโดด
2 : การตกตะกอนแบบรวมกลุม่
3 : การตกตะกอนแบบแบ่งชัน
4 : การตกตะกอนแบบอัดตัว
5 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 438 :
ตะกอนทีเกิดขึนในกระบวนการใดมีความเข ้มข ้นมากทีสุด

1 : Clarifier Tank
2 : Sedimentation Tank
3 : Grit Chamber
4 : Flocculation Tank
5 : Thickener Tank
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 439 :
จงเรียงลําดับขนาดของเม็ดดินต่อไปนีจากขนาดเล็กทีสุดไปหาขนาดใหญ่ทสุ
ี ด Sand, Coarse Sand, Silt, Gravel

1 : Sand, Coarse Sand, Silt, Gravel


2 : Sand, Silt, Coarse Sand, Gravel
3 : Gravel, Silt, Sand, Coarse Sand
4 : Sand, Coarse Sand, Gravel, Silt
5 : Silt, Sand, Coarse Sand, Gravel
คําตอบทีถูกต ้อง : 5

ข ้อที 440 :
โรงงานแห่งหนึงมีนําเสียวันละ 1500 ลบ.ม./วัน มีคา่ ความสกปรกในรูปบีโอดีเท่ากับ 300 มก./ล. จงหาปริมาณบีโอดีตอ
่ วัน

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 56/57
3/10/2562 สภาวิศวกร

1 : 45 กก./วัน
2 : 450 กก./วัน
3 : 4500 กก./วัน
4 : 45000 กก./วัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 441 :
ถังเติมอากาศมีพนที
ื 450 ตร.ม. ลึก 10 ม. มีอต
ั ราการไหลของนํ าเสีย 50 ลิตร/นาที จะมีระยะเวลาเก็บกักนํ าเสียในถังเติมอากาศกีวัน

1 : 9 วัน
2 : 1.562 วัน
3 : 90 วัน
4 : 15.625 วัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อที 442 :
โรงบําบัดนํ าเสียแห่งหนึงมีเครืองเติมอากาศสําหรับใช ้งาน 2 ตัวและเครืองเติมอากาศสํารอง 1 ตัว ตัวละ 15 แรงม ้า ถ ้าค่าไฟฟ้ าหน่วยละ 3 บาท โรงบําบัดจะต ้อง
จ่ายค่าไฟฟ้ าต่อเดือนเป็ นเงินเท่าใด

1 : 1611.36 บาท
2 : 32400 บาท
3 : 48340.8 บาท
4 : 72511.2 บาท
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 443 :
จงหาความเร็วการไหลในท่อระบายนํ า ซึงมีเส ้นผ่านศูนย์กลาง 0.8 เมตร มีความลาดเท่ากับ 0.001 เมตร/เมตร และมีความยาวท่อเท่ากับ 150 เมตร กําหนดค่า n =
0.015

1 : 1.82 m/sec
2 : 0.72 m/sec
3 : 0.15 m/sec
4 : 0.12 m/sec
คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 444 :
ถ ้าต ้องการเก็บก๊าซมีเทน 5000 กก. ทีอุณหภูม ิ 25 องศาเซลเซียส และความดัน 2 atm จะต ้องการถังทีมีปริมาตรเท่าใด

1 : 2.5 x 10^5 lit


2 : 3.12 x 10^5 lit
3 : 3.82 x 10^6 lit
4 : 4.02 x 10^6 lit
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ข ้อที 445 :
ระบบบําบัดนํ าเสียใดทีจุลชีพส่วนใหญ่เกาะบนตัวกลาง

1 : activated sludge, trickling filter, anaerobic pond


2 : UASB, oxidation ditch, RBC
3 : RBC, Anaerobic filter, Trickling filter
4 : RBC, activated sludge, aerobic pond
คําตอบทีถูกต ้อง : 3

www.coe.or.th/coe-2/main/coeHome.php?aMenu=701012&aSubj=82&aMajid=1 57/57

You might also like