Professional Documents
Culture Documents
เหล็กกล ้าไร ้สนิ มเกรด 18-8 หมายถึง ธาตุทมี ่ี บทบาทในการทาให ้เหล็กกล ้าไร ้สนิ มสา
่ นวัตถุดบ
ทีเป็ ิ ในการถลุงอะลูมเิ นี ยม ่
เหล็กกล ้าทีผสมโลหะชนิ ดใดเป็ นปริมาณสูงสุดส มารถทนต่อการกัดกร่อนได ้ดีคอื โครเมียม 4 :
มีสารประกอบใดเป็ นสารประกอบหลัก >> องชนิดแรก // โครเมียม-นิ เกิล เหล็กหล่อเป็ นโลหะผสมประเภท Ferrous
Al2O3 19. ผลิตภัณฑ ์ใดทีไม่่ สามารถใช ้อะลูมเิ นี ย ่ ปริมาณคาร ์บอนน้อยกว่า 2.4%
ทีมี
2. เหล็กหล่อ หมายถึง มเป็ นส่วนผสมหลักได ้ // ไส ้หลอดไฟ โดยนาหนั ้ ก Ans3
่ ปริมาณของธาตุคาร ์บอนผสมอยูร่ ะหว่า
เหล็กทีมี 20. ้
เหล็กหล่อชนิดใดต่อไปนี สามารถทนแร ่
ข ้อที 35
งค่าดังข ้อใด >> 2.0 - 6.7 % โดยนาหนั ้ ก งกระแทกได ้ดีทสุ่ี ด // เหล็กหล่ออบเหนี ยว :โลหะใดต่อไปนี มี ้ จด ุ หลอมเหลวทีต ่ ่าทีสุ
่ ด
3. เหล็กกล ้าคาร ์บอนปานกลาง 21. ้
เหล็กชนิ ดใดต่อไปนี สามารถกลึ ่
งเพือต 1 : ทองแดง
มีปริมาณของธาตุคาร ์บอนผสมอยูเ่ ป็ นปริมาณเ ้ ่
กแต่งขึนรูปได ้ง่ายทีสุด// 2 : ทองแดงผสมสังกะสี
ท่าใด>>0.40 % โดยนาหนั ้ ก เหล็กหล่อกราไฟต ์กลม 3 : ทองแดงผสมเหล็ก
4. เหล็กกล ้าคาร ์บอนตา ่ 22. เหล็กกล ้าชนิ ดใดมีสภาพดึงยืดได ้ 4 : ทองแดงผสมนิ เกิล
มักนิ ยมนามาใช ้ผลิตเป็ นผลิตภัณฑ ์ในข ้อใด (Ductility) มากทีสุ ่ ด คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2
>> ตัวถังรถยนต ์, ลูกสูบ, มีดกลึง, ดอกสว่าน ภายใต ้สภาวะการอบชุบทีเหมื ่ อนกัน// ข ้อที่ 36
Ans 1 เหล็กกล ้าคาร ์บอนตา ่ ้
:ชินงานใดต่ อไปนี มี ้ ความแข็งแรงสูงสุด
5. เหล็กกล ้าคาร ์บอนปานกลางมีคา่ ความแข็ง 23. ในกระบวนการผลิตเหล็กหล่อเทา 1 : เหล็กกล ้าคาร ์บอนต่าชุบแข็ง
(Hardness) เป็ นอย่างไร ่
ธาตุใดทีต ้องเติมลงไปเพือท ่ าให ้คาร ์บอนรวมตัวกั 2 : เหล็กกล ้าคาร ์บอนปานกลางชุบแข็ง
เทียบกับเหล็กกล ้าคาร ์บอนสูงภายใต ้เงือนไขสภ่ นเป็ นกราไฟต ์ // ซิลก ิ อน 3 : เหล็กกล ้าผสมต่าชุบแข็ง
าวะการอบชุบเหมือนกัน >> น้อยกว่า 24. ข ้อใดไม่ใช่สมบัตข ิ องเหล็กกล ้าคาร ์บอ 4 : เหล็กกล ้าไร ้สนิ มออสเทไนต ์ชุบแข็ง
6. ข ้อใดต่อไปนี ไม่้ ใช่วต ั ถุประสงค ์ของการเติมธา ่
นตา //สามารถชุบแข็งได ้ง่าย คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 3
ตุโครเมียม (Cr) ในเหล็กกล ้าผสมสูง (High 25. ข ้อใดไม่ใช่สมบัตเิ ด่นของอะลูมเิ นี ยม// ข ้อที่ 37
alloy steels) >> เพิมความเหนี ่ ้ ปง่าย
ยว ขึนรู ทนอุณหภูมไิ ด ้สูง :โลหะชนิดใดต่อไปนี ที ้ เหมาะสมส
่ าหรับทาเครือ่
7. ในกระบวนการผลิตเหล็กหล่อเหนี ยว 26. บรอนซ ์ คือ โลหะผสมชนิดใด งยนต ์ (Engine block)
(Nodular cast iron) //ทองแดงผสมดีบุก สาหรับรถแข่งมากทีสุ ่ ด
่ มลงไปเพือท
ธาตุใดทีเติ ่ าให ้แกรไฟต ์รวมตัวกันเป็ 27. ข ้อใดคือลักษณะเด่นของเหล็กหล่อขา 1 : เหล็กกล ้า (Steel) เนื่ องจากหล่อง่ายทีสุ ่ ด
นอนุ ภาคทรงกลม >> ซีเรียม ว// แข็ง ยากต่อการตกแต่ง 2 : เหล็กกล ้าไร ้สนิ ม (Stainless steel)
8. ทองเหลือง (Brass) 28. เหล็กหล่อเทาต่างจากเหล็กหล่อขาวอย่ เพราะทนต่อการเกิดสนิ มได ้ดี
คือโลหะผสมของธาตุหลักธาตุใด >> ทองแดง างไร// 3 : อะลูมเิ นี ยมผสม (Aluminium alloy)
และสังกะสี เหล็กหล่อเทามีกราไฟต ์อิสระเป็ นส่วนหนึ่ งของโ เพราะมีนาหนั ้ กเบา
9. โลหะผสมสูงกลุม ่ ซูเปอร ์อัลลอย ครงสร ้าง แต่เหล็กหล่อขาวไม่มี 4 : โลหะผสมยิงยวด ่ (Superalloy)
(Superalloys) เช่น Nickel-based 29. ผลิตภัณฑ ์ใดไม่ควรเลือกทาจากเหล็ก เพราะทนอุณหภูมส ิ งู ได ้ดี
superalloys มักนิ ยมนาไปใช ้งานใดในปัจจุบน กล ้าคาร ์บอนต่า// ใบมีดกลึง
ั คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 3
่ ่
// ใบพัดในเครืองกังหันก๊าซในเครืองบินไอพ่น 30. ในกระบวนการผลิตเหล็กหล่อกราไฟต ์ ข ้อที่ 38
10. โลหะใดไม่ใช่โลหะทนไฟ (Refractory กลม :วัสดุแม่เหล็กถาวรชนิดใดต่อไปนี ที ้ ให
่ ้กาลังแม่เ
Metal)//เยอรมันเนี ยม ธาตุใดทีต ่ ้องเติมลงไปเพือท ่ าให ้กราไฟต ์อิสระเป็ หล็กสูงสุด
11. โลหะใดจัดเป็ นโลหะมีสกุล (Noble นทรงกลม//แมกนี เซียม 1 : เหล็กคาร ์บอน
Metal)//แพลตินัม 31. เหล็กกล ้าผสมชนิ ดใดทีไม่ ่ สามารถชุบ 2 : อัลนิ โค (Alnico)
12. ข ้อใดคือลักษณะเด่นของโลหะทัวไป// ่ แข็งได ้ดี// เหล็กกล ้าไร ้สนิ มออสเทไนต ์ 3 : เฟร ์ไรต ์ (Hard Ferrite)
เป็ นตัวนาความร ้อนทีดี ่ 32. เหล็กกล ้าถูกแบ่งแยกออกจากเหล็กหล่ 4 : นิ โอดิเมียม-บอรอน (NdFeB)
13. โลหะใดจัดเป็ นโลหะหนัก// โมลิบดินัม อด ้วยปริมาณคาร ์บอนกีเปอร ่ ์เซ็นต ์// 2% คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4
14. โลหะใดทีไม่่ ควรนามาเป็ นภาชนะบรรจุ 33. ธาตุผสมใดทีมี ่ สว่ นสาคัญในการทาให ้เ ข ้อที่ 39 :เหล็กเส ้น เหล็กข ้ออ ้อย
อาหาร// ตะกัว่ หล็กกล ้าไร ้สนิ มทนต่อการเกิดสนิ มในบรรยากา ่ ้ในงานก่อสร ้างทั่วไป เป็ นเหล็กในกลุม
ทีใช ่ ใด
15. โลหะใดไม่เหมาะสมสาหรับนามาทาเป็ ศปกติ 1 : เหล็กกล ้าคาร ์บอนตา ่
่ งอาหาร// อะลูมเิ นี ยม,
นกระทะเพือปรุ และต ้องมีปริมาณธาตุอย่างน้อยสุดเท่าใด// 2 : เหล็กกล ้าคาร ์บอนปานกลาง
เหล็กกล ้าไร ้สนิ ม, ทองแดง ,แมกนี เซียม Ans 4 13% โดยนาหนั ้ กโครเมียม 3 : เหล็กกล ้าคาร ์บอนสูง
16. พิวเตอร ์ (Pewter) คือ โลหะผสมใด // 34. ข ้อความใดต่อไปนี เป็ ้ นการกล่าวทีถู ่ กต ้ 4 : เหล็กกล ้าผสม
ดีบุกผสม อง1 : เหล็กกล ้า Hypoeutectoid plain- คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 1
17. ่ ้ ่
โลหะใดทีนามาใช ้ทาเป็ นชินส่วนเครือง carbon ข ้อที่ 40
่ ด// ไทเทเนี ยม, อะลูมเิ นี ยม, สังกะสี, คือเหล็กกล ้าทีมี
บินน้อยทีสุ ่ ปริมาณคาร ์บอนมากกว่า :โลหะชนิดใดต่อไปนี สามารถน ้ ามารีดเย็นเป็ นแ
นิ กเกิล Ans 3 0.8% โดยนาหนัก 2 :้ ผ่นบางได ้ง่ายทีสุด ่
เหล็กเส ้นทีใช ่ ้ในงานก่อสร ้างทาจากเหล็กหล่อ 1 : อะลูมเิ นี ยม
3: 2 : ทองแดง
3 : ทองเหลือง 2 : อะลูมเิ นี ยมผสมลิเทียม คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2
4 : เหล็กกล ้าไร ้สนิ ม 3 : อะลูมเิ นี ยมผสมซิลค ิ อน ข ้อที่ 52
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 1 4 : อะลูมเิ นี ยมผสมสังกะสี :ข ้อใดเป็ นลักษณะของเทอร ์โมพลาสติก
่
ข ้อที 41 คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2 (Thermoplastic)
:โลหะชนิดใดต่อไปนี ขึ ้ นรู ้ ปเย็นได ้ยากทีสุ
่ ด ข ้อที่ 47 ่ กความร ้อน
1 : แข็งตัวเมือถู
1 : ทองเหลือง (Brass) :โลหะกลุม ่ ใดต่อไปนี เหมาะส ้ าหรับผลิตกระดูกเ และอ่อนตัวเมือลดอุ ่ ณหภูมิ
2 : เหล็กกล ้าคาร ์บอนต่า (Low carbon ทียม (Surgical implants) มากทีสุ ่ ด ่
2 : อ่อนตัวเมือถูกความร ้อน
steel) 1 : อะลูมเิ นี ยมผสม (Aluminium alloys) แต่กลับมาแข็งตัวเมือลดอุ่ ณหภูมิ
3 : เหล็กกล ้าไร ้สนิ มเฟร ์ไรต ์ (Ferritic 2 : ไทเทเนี ยมผสม (Titanium alloys) ่
3 : แข็งตัวเมือถูกความร ้อน
stainless steel) 3 : แมกนี เซียมผสม (Magnesium alloys) และไม่สามารถทาให ้อ่อนตัวได ้อีก
4 : เหล็กกล ้าไร ้สนิ มออสเทไนต ์ (Austenetic 4 : ทองแดงผสม (Copper alloys) 4 : แข็งตัวเมือถู ่ กความร ้อน
stainless steel) คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2 ่
แต่สามารถทาให ้อ่อนตัวได ้เมือลดอุ ณหภูมิ
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 3 ข ้อที่ 48 คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2
ข ้อที 42่ :ข ้อใดไม่ใช่คุณลักษณะเด่นของเหล็กกล ้าคาร ์ ข ้อที่ 53
:โลหะชนิดใดต่อไปนี ที ้ เหมาะส
่ าหรับการผลิตวง บอน :พอลิเมอร ์ใดต่อไปนี เป็ ้ นเทอร ์โมเซ็ตติง้
ล ้อรถยนต ์มากทีสุด ่ 1 : ทนทานการกัดกร่อนได ้ดี (Thermosetting)
1 : อะลูมเิ นี ยมบริสท ุ ธิ ์ 2: 1 : พอลิพรอพิลน ี (Polypropylene)
2 : อะลูมเิ นี ยมผสมซิลค ิ อน มีสมบัตท ิ างกลอยูใ่ นเกณฑ ์ดีจงึ สามารถนาไปใ 2 : พอลิเอทธิลน ี (Polyethylene)
3 : อะลูมเิ นี ยมผสมทองแดง ช ้งานได ้หลากหลายทางวิศวกรรม 3 : พอลิเอสเทอร ์ไม่อมตั ่ิ ว (Unsaturated
4 : อะลูมเิ นี ยมผสมแมงกานี ส 3: polyester)
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2 เหล็กกล ้าทีมี ่ ปริมาณคาร ์บอนต่ามักนาไปใช ้ทา 4 : พอลิไวนี ลคลอไรด ์ (Polyvinyl chloride)
ข ้อที่ 43 :โลหะชนิดใดต่อไปนี ไม่ ้ เกิดสนิ ม เหล็กเส ้น เหล็กข ้ออ ้อย คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 3
1 : เหล็กกล ้าไร ้สนิ ม สาหรับอุตสาหกรรมก่อสร ้าง ข ้อที่ 54 :ข ้อใดต่อไปนี กล่้ าวไม่ถก ู ต ้อง
2 : ทองแดง 4 : สามารถขึนรู ้ ปได ้ทังร ้ ้อนและเย็น 1 : โคพอลิเมอร ์ (Copolymer) ประกอบด ้วย
3 : อะลูมเิ นี ยม คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 1 มอนอเมอร ์มากกว่าหนึ่ งชนิดเรียงต่อกัน
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ผิด ้
เนื อหาวิชา : 239 : 02 Engineering 2 : อัลเทอร ์เนตโคพอลิเมอร ์ (Alternate
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4 polymers copolymer) ประกอบด ้วย
ข ้อที่ 44 ข ้อที่ 49 :ข ้อใดไม่ใช่วสั ดุพอลิเมอร ์ มอนอเมอร ์มากกว่าหนึ่ งชนิดเรียงต่อแบบสลับกั
:เหล็กกล ้าชนิ ดใดต่อไปนี เหมาะส ้ าหรับใช ้งานที่ 1 : ยาง (Rubber) น
อุณหภูมส ิ งู 2 : พลาสติก (Plastic) 3 : แรนดอมโคพอลิเมอร ์ (Random
1 : เหล็กกล ้าคาร ์บอนสูง (High carbon 3 : ไม้ (Wood) copolymer) ประกอบด ้วย
steel) 4 : แก ้ว (Glass) มอนอเมอร ์มากกว่าหนึ่ งชนิดเรียงต่อแบบสุม ่
2 : เหล็กกล ้าไร ้สนิ มเฟร ์ไรต ์ (Ferritic คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4 4 : กราฟท ์โคพอลิเมอร ์ (Graft copolymer)
stainless steel) ่
ข ้อที 50 :ยางทีผ่ ่ านกระบวนการ ประกอบด ้วย
3 : เหล็กกล ้าไร ้สนิ มออสเทไนต ์ (Austenetic Vulcanization แล ้ว มอนอเมอร ์มากกว่าหนึ่ งชนิดเรียงต่ออยูใ่ นสายโ
stainless steel) จัดเป็ นพอลิเมอร ์ประเภทใด ่ี นเส ้นตรง
ซ่ทเป็
4 : เหล็กกล ้าไร ้สนิ มมาร ์เทนไซต ์ 1 : พอลิเมอร ์แบบสายโซ่ตรง (Linear คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4
(Martensitic stainless steel) polymer) ข ้อที่ 55
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 3 2 : พอลิเมอร ์แบบครอสลิงค ์ (Crosslinked :ปัจจัยใดมีผลต่อสมบัตเิ ชิงกลของพอลิเมอร ์แบ
ข ้อที่ 45 polymer) ่ ก (Semicrystalline polymers)
บกึงผลึ
:เหล็กหล่อชนิดใดต่อไปนี เหมาะส ้ าหรับงานทีต ่ ้ 3 : พอลิเมอร ์แบบสายเดียว ่ (Single chain ้
1 : นาหนั กโมเลกุล (Molecular weight)
องทนต่อการสึกหรอได ้ดี polymer) 2 : ระดับของสภาพเป็ นผลึก (Degree of
1 : เหล็กหล่อเทา (Gray cast iron) 4 : พอลิเมอร ์แบบกิง่ (Branched polymer) crystallinity)
2 : เหล็กหล่อขาว (White cast iron) คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2 3 : การอบอ่อน (Annealing)
3 : เหล็กหล่อเหนี ยว (Ductile iron) ข ้อที่ 51 :ข ้อใดเป็ นพอลิเมอร ์แบบโครงข่าย 4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก
4 : เหล็กหล่ออบเหนี ยว (Malleable iron) (network) คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2 1 : พอลิสไตรีน (Polystyrene) ข ้อที่ 56 :จากกราฟความเค ้น-ความเครียด
ข ้อที่ 46 2 : ฟี นอลฟอร ์มัลดีไฮด ์ (Phenol- (Stress-strain plot)
:โลหะชนิดใดต่อไปนี เหมาะส ้ าหรับการผลิตถังไ formaldehyde) กราฟเส ้นใดแสดงสมบัตข ิ องวัสดุยดื หยุน่
ฮโดรเจนเหลวสาหรับยานอวกาศมากทีสุ ่ ด 3 : พอลิเอทธิลน ี (Polyethylene) (Elastomeric polymer)
1 : อะลูมเิ นี ยมผสมทองแดง 4 : พอลิพรอพิลน ี (Polypropylene)
ข ้อที่ 62 ่
3 : โดยทัวไป
:ข ้อใดต่อไปนี ไม่ ้ ใช่ลก ั ษณะหรือสมบัตข ิ องเทอร ์ ์
พอลิเมอร ์มีค่าสัมประสิทธิของการขยายตั ่
วเมือไ
โมเซตติง้ (Thermosetting) ด ้รับความร ้อนมากกว่าโลหะ
1 : มีโครงสร ้างตาข่าย 4 : โดยทัวไป่
2 : นามาขึนรู ้ ปใหม่ไม่ได ้ ์
เซรามิกมีคา่ สัมประสิทธิของการขยายตั ่
วเมือได ้
3 : ทนแรงกระแทกได ้ดี รับความร ้อนมากกว่าพอลิเมอร ์
4 : ทนความร ้อนได ้ดี คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 3 ข ้อที่ 68
่
ข ้อที 63 :กระบวนการในข ้อใดต่อไปนี เป็ ้ นกระบวนการส
1:I
:ข ้อใดต่อไปนี ไม่ ้ ใช่โครงสร ้างของโคพอลิเมอร ์ ร ้างพอลิเมอร ์จากมอนอเมอร ์
2 : II
(Copolymer) 1 : Monomerization
3 : III
1 : โครงสร ้างแบบบล็อก (Block) 2 : Polymerization
4 : IV
่ กต ้อง : 4 2 : โครงสร ้างแบบสลับ (Alternating) 3 : Hydration
คาตอบทีถู
3 : โครงสร ้างแบบเชิงเส ้น (Linear) 4 : Annealing
ข ้อที่ 57
4 : โครงสร ้างแบบสุม ่ (Random) คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2
:พอลิเมอร ์ใดต่อไปนี เป็ ้ นเทอร ์โมพลาสติก
่
คาตอบทีถูกต ้อง : 3 ่
ข ้อที 69 :เทฟลอน (Teflon)
(Thermoplastics)
ข ้อที่ 64 ่
คือชือทางการค ้าของพอลิเมอร ์ในข ้อใด
1 : PVC
:ขวดพลาสติกใสทีใช ่ ้บรรจุนาอั ้ ดลมในท ้องตลา 1 : Polystyrene
2 : Epoxy resins
ดมักทาด ้วยพอลิเมอร ์ชนิ ดใด 2 : Polyurethane
3 : Polyester
1 : พอลิโพรพิลน ี (Polypropylene) 3 : Polytetrafluoroethylene
4 : Melamine
่ กต ้อง : 1 2 : พอลิสไตรีน (Polystyrene) 4 : Polyvinyl chloride
คาตอบทีถู
3 : พอลิเอทิลน ี เทอร ์ฟาทาเลต คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 3
ข ้อที่ 58 :ข ้อใดต่อไปนีไม่ ้ ใช่พอลิเมอร ์
(Polyethylene terephthalate) ข ้อที่ 70
1 : พอลิเอทิลน ี (Polyethylene)
4 : พอลิเมทิล เมทาครีเลต (Polymethyl :พลาสติกในข ้อใดทีสามารถน ่ ามาให ้ความร ้อน
2 : พอลิคาร ์โบเนต (Polycarbonate)
methacrylate) แล ้วหลอมเหลวเพือน ่ าไปขึนรู
้ ปใหม่ได ้
3 : ซิลค ิ อนคาร ์ไบด ์ (Silicon carbide)
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 3 1 : ไนลอน
4 : ซิลโิ คน (Silicone)
่ กต ้อง : 3 ข ้อที่ 65 2 : เมลามีน
คาตอบทีถู
:เราสามารถเพิมสมบั ่ ตใิ นการรับแรงกระแทกให ้ 3 : เบคาไลท ์
ข ้อที่ 59 :เพราะเหตุใดยางรถยนต ์จึงมีสด ี า
่ ่
1 : เนื่ องจากต ้องสัมผัสถนนซึงมี ่ ความสกปรก กับพลาสติกทีเปราะได ้โดยการผสมสิงใดต่อไป 4 : อีพอกซี
้
นี ลงไปในพลาสติ ก คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 1
จึงผสมสีดาลงไป
1 : ยาง (Rubber) ่
ข ้อที 71 :ข ้อใดจัดเป็ นวัสดุอล ี าสโตเมอร ์
2 : เนื่ องจากต ้องการให ้มีความแข็งแรงขึน้
2 : สารเสริมแรง (Reinforcing filler) 1 : เมลามีน
จึงใส่สารเสริมแรงชนิดหนึ่ งซึงมี ่ สด ี าลงไป
่ 3 : สารป้ องกันการแตกหักของสายโซ่โมเลกุล 2 : อะคริลค ิ
3 : เพือให ้ง่ายต่อการดูแลรักษา
(Stabilizer) 3 : ซิลโิ คน
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก
4 : สารเพิมเนื ่ อ้ (Extender) 4 : เทฟลอน
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2
คาตอบทีถูกต ้อง : 1่ คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 3
ข ้อที่ 60
่ ข ้อที่ 66 ข ้อที่ 72 :ข ้อใดกล่าวไม่ถก ู ต ้อง
:โดยทัวไปพอลิ เมอร ์มีสมบัตเิ ชิงกลในข ้อใดต่อไ
:ถ ้านาขวดพลาสติกทีท ่ าจากพอลิเอทิลน ี ไปบรร 1 : เทอร ์โมเซตติงมี ้ ความแข็งแกร่งสูง
้
ปนี มากกว่ าวัสดุวศ ิ วกรรมชนิดอืนๆ ่
จุนาอัดลมและปิ ดฝาให ้แน่ น จะเกิดสิงใดขึน้
้ ่ เนื่ องจากมีโครงสร ้างตาข่ายทีแน่ ่ นหนา
1 : Tensile Strength
1 : ไม่มส ี งใดเปลี ิ่ ่
ยนแปลง 2:
2 : Modulus of Elasticity
้
2 : นาอัดลมจะมีสท ่ี
ี จางลง เทอร ์โมพลาสติกแสดงพฤติกรรมทางความร ้อน
3 : Yield Strength
3 : แก๊สคาร ์บอนไดออกไซด ์จะระเหยออกไป ด ้วยการเปลียนแปลงสมบั ่ ตท ิ างกายภาพเพียงอ
4 : Elongation
4 : ปริมาณของนาอั ้ ดลมจะลดลง ย่างเดียว
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4
คาตอบทีถูกต ้อง : 3 ่ 3:
ข ้อที่ 61
่ ้
:วัตถุดบ ิ ทีใช ่ ้ในการผลิตพอลิเมอร ์มาจากแหล่ง ข ้อที 67 :ข ้อใดต่อไปนีไม่เป็ นความจริง อีลาสโตเมอร ์แสดงพฤติกรรมทางความร ้อนด ้ว
1 : โดยทัวไป ่ ่
ยการเปลียนแปลงทางกายภาพและทางเคมี โดย
ใด
พอลิเมอร ์มีค่าการนาความร ้อนทีต ่ ่ากว่าโลหะม มีโครงสร ้างตาข่ายหลวมๆ เกิดขึน ้
1 : แก๊สธรรมชาติ
้ นปิ โตรเลียม าก 4:
2 : นามั
2 : โดยทัวไป ่ เทอร ์โมเซตติงสามารถน ้ ามาให ้ความร ้อนแล ้วห
3 : ผลิตผลทางการเกษตร
อากาศมีค่าการนาความร ้อนทีต ่ ่ากว่าพอลิเมอร ์ ลอมเหลวเพือน ่ าไปขึนรู้ ปใหม่ได ้
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก
มาก คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4
ข ้อที่ 73 :ข ้อใดกล่าวเกียวกั่ บ Tg ข ้อที่ 78 ข ้อใดไม่ใช่ผลทีเกิ
่ ดจากการเกิดรูพรุน 3 : เซรามิกมีการนาไฟฟ้ าทีดี ่ กว่าโลหะ
ของพอลิเมอร ์ถูกต ้องทีสุ ่ ด (Porosity) ในเนื ออิ ้ ฐทนไฟ 4 : เซรามิกมีความหนาแน่ นต่ากว่าโลหะ
1 : Tg 1 : อิฐทนไฟเป็ นฉนวนทางความร ้อนทีดี ่ ขน
ึ้ คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 1
เป็ นอุณหภูมท ่ี ้บ่งบอกการเปลียนสถานะของ
ิ ใช ่ 2: ่
ข ้อที 84 :ข ้อใดกล่าวถูกต ้อง
พอลิเมอร ์จากแข็งเปราะเป็ นหลอมเหลว อิฐทนไฟสามารถทนต่อการเปลียนแปลงอุ ่ ณหภู 1 :
2 : ถ ้าพอลิเมอร ์ถูกนาไปใช ้งาน ณ ึ้
มิได ้ดีขน การขึนรู ้ ปแก ้วจะทาขณะทีแก ่ ้วมีสภาพเป็ นของเ
อุณหภูมส ิ งู กล่าว Tg 3: หลวทีมี ่ ความหนืดสูง
พอลิเมอร ์นั้นจะมีความแข็งเปราะ อิฐทนไฟมีความต ้านทานต่อการผุกร่อนดีขน ึ้ 2 : การขึนรู ้ ปแก ้วจะเกิดปฏิกริ ยิ า Sintering
3 : Tg 4 : อิฐทนไฟมีความแข็งแรงลดลง 3 : แก ้วโดยทั่วไปเป็ นของแข็งทีมี ่ ผลึก
เป็ นสมบัตท ่
ิ างความร ้อนของพอลิเมอร ์ทีแสดงก คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 3 4:
่ ่
ารเปลียนสถานะในส่วนทีเป็ นอสัณฐาน ่
ข ้อที 79 หลังจากขึนรู ้ ปแก ้วแล ้วต ้องนาแก ้วไปอบและเผา
(Amorphous region) :วัสดุในข ้อใดเหมาะทีจะท ่ าเป็ นวัสดุขด
ั ถู คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 1
4 : ถ ้า Tg ของพอลิเมอร ์เท่ากับ -20oC (Abrasive material) ข ้อที่ 85
แสดงว่า เมือน ่ ามาใช ้งาน ณ อุณหภูมห ิ ้อง 1 : เหล็ก ่
:การเพิมความแข็ งแรงให ้กับแก ้วโดยวิธเี ทมเปอ
(25oC) จะมีความแข็งเปราะ 2 : อะลูมน ิ า ร ์ (Temper) หรือ Chemical treatment
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 3 3 : พอลิเอทิลน ี มีหลักการอย่างไร
้
เนื อหาวิ ชา : 240 : 03 Engineering 4 : ไม้ 1:
ceramics คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2 ทาให ้เกิดความเค ้นแรงดึงทีผิ ่ วและความเค ้นแรง
ข ้อที่ 74 ่
ข ้อที 80 :Glass transition temperature อัดภายในเนือแก ้ว ้
:ปฏิกริ ยิ าทีเกิ ่ ดขึนเมื ้ อผสมซี
่ ้ อปฏิ
เมนต ์กับนาคื คืออะไร 2:
กิรยิ าใด 1 : อุณหภูมจิ ด ุ หลอมเหลว (Melting point) ทาให ้เกิดความเค ้นแรงอัดทีผิ ่ วและความเค ้นแรง
1 : ปฏิกริ ยิ า Hydration ของแก ้ว ดึงภายในเนื อแก ้ ้ว
2 : ปฏิกริ ยิ า Oxidation 2 : อุณหภูมท ิ แก ี่ ้วมีสภาพการนาไฟฟ้ า 3 : ทาให ้เกิดความเค ้นแรงอัดในเนื อแก ้ ้ว
3 : ปฏิกริ ยิ า Reduction 3: 4 : ทาให ้เกิดความเค ้นแรงดึงในเนื อแก ้ว ้
4 : ปฏิกริ ยิ า Dehydration อุณหภูมท ิ แก ี่ ้วเปลียนจากสภาพที ่ ่ ความหนื ดสู
มี คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 1 งเป็ นสภาพทีแข็งและเปราะ ่ ่
ข ้อที 86 :เซรามิกประเภทใดมีความเหนี ยว
ข ้อที่ 75 :การเติมแร่ยป ่ (Gypsum)
ิ ซัม 4 : อุณหภูมท ิ แก ่ี ้วกลายเป็ นไอ (Toughness) ดีทสุ ่ี ดทีอุ่ ณหภูมห ิ ้อง
ลงในซีเมนต ์มีวต ั ถุประสงค ์อย่างไร คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 3 1 : ซิลก ิ อนไนไตรด ์ (Silicon nitride)
่
1 : เพือลดต ้นทุนวัตถุดบ ิ ่
ข ้อที 81 :ข ้อใดไม่ใช่เซรามิกวิศวกรรม 2 : ซิลก ิ อนคาร ์ไบด ์ (Silicon carbide)
2 : เพือควบคุ่ มเวลาการแข็งตัวของซีเมนต ์ (Engineering ceramic) 3 : อะลูมน ิ า (Alumina)
3 : เพือเพิ ่ มความแข็่ งแรงให ้กับซีเมนต ์ 1 : พอร ์ซิเลน (Porcelain) 4 : Partially stabilized zirconia
่
4 : เพือให ้ซีเมนต ์มีอายุการใช ้งานทีนานขึ ่ น้ 2 : อะลูมน ิ า (Alumina) คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2 3 : ซิลก ิ อนไนไตรด ์ (Silicon nitride) ข ้อที่ 87 :Glass-ceramic แตกต่างจาก แก ้ว
ข ้อที 76 :ทาไมเซรามิกโดยทั่วไปมีสมบัตท
่ ่ี ง
ิ แข็ 4 : เซอร ์โคเนี ย (Zirconia) (Glass) อย่างไร
(Hard) และเปราะ (Brittle) กว่าโลหะ คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 1 1 : แก ้วโปร่งใสแต่ Glass-ceramic ไม่โปร่งใส
1 : การเคลือนที ่ ่
ของ Dislocation ข ้อที 82 ่ 2 : แก ้วไม่นาไฟฟ้ า แต่ Glass-ceramic
้
เกิดขึนในเซรามิกได ้ง่ายกว่าโลหะ :เซรามิกลักษณะใดทีไม่ ่ เหมาะสมสาหรับการนา นาไฟฟ้ า
2: มาใช ้ทาเป็ นกระดูกเทียม 3 : แก ้วนาความร ้อนได ้ไม่ดี แต่ Glass-
เซรามิกทั่วไปยึดกันด ้วยพันธะแวนเดอร ์วาลส ์ 1 : เซรามิกทีมี ่ สมบัตต ิ ้านทานการผุกร่อนทีดี ่ ceramic สามารถนาความร ้อนได ้
แต่โลหะยึดกันด ้วยพันธะโลหะ 2 : เซรามิกทีมี ่ ความหนาแน่ นสูง 4 : แก ้วทนการเปลียนแปลงความร ่ ้อน
3 : ในเซรามิก ระนาบอะตอมเกิดการเลือน ่ 3 : เซรามิกทีมี ่ ความแข็งแรงสูง (Thermal shock) ได ้ แต่ Glass-ceramic
(Slip) ได ้บางระนาบเท่านั้น 4 : เซรามิกทีสามารถยึ ่ ้ อได
ดติดกับเนื อเยื ่ ้ดี ทนไม่ได ้
4 : เซรามิกมีความหนาแน่ นสูงกว่าโลหะ คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2 คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 1
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 3 ข ้อที่ 83 ่
ข ้อที 88 :Pyroelectric ceramic
ข ้อที่ 77 :ข ้อใดไม่ใช่สมบัตข ิ องเซรามิก :ทาไมปัจจุบน ั นิ ยมนาเซรามิกวิศวกรรม เช่น มีสมบัตเิ ด่นในข ้อใด
้
1 : เป็ นฉนวนทังทางความร ้อนและไฟฟ้ า อะลูมน ิ า (Alumina) 1:
2 : ความต ้านทานต่อแรงกระแทกต่า มาใช ้ทาหัวเทียนแทนโลหะ สามารถเปลียนสมบั ่ ตท
ิ างกลให ้เป็ นสมบัตไิ ฟฟ้ า
3 : ทนต่อแรงดึงได ้ดี 1: 2:
4 : เฉื่ อยต่อการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี เซรามิกมีความแข็งแรงมากกว่าโลหะทีอุ่ ณหภูมิ สามารถเปลียนสมบั ่ ตทิ างไฟฟ้ าให ้เป็ นสมบัตทิ า
คาตอบทีถู ่ กต ้อง: 3 สูง งกล
2 : เซรามิกเป็ นวัสดุเปราะกว่าโลหะ
3: 2 : Feldspar 3:
สามารถเปลียนสมบั ่ ตท
ิ างไฟฟ้ าให ้เป็ นสมบัตท ิ า 3 : Cement ความแข็งแรงขนานเส ้นใยต่ากว่าความแข็งแรง
งเคมี 4 : Mullite ้
ตังฉาก
4: คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4 4 : โมดูลสั เท่ากันทุกทิศทาง
สามารถเปลียนสมบั ่ ตทิ างความร ้อนให ้เป็ นสมบั ข ้อที่ 94 :วัสดุแบเรียมไททาเนต (BaTiO3) คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2
ติทางไฟฟ้ า มีโครงผลึกแบบใด ่
ข ้อที 101 :ยางมะตอย (Asphalt)
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4 1 : โครงผลึกซีเซียมคลอไรด ์ และยางมะตอยผสม (Asphalt mix)
ข ้อที่ 89 2 : โครงผลึกโซเดียมคลอไรด ์ มีสมบัตต ิ ่างกันอย่างไร
:เซรามิกประเภทแก ้วต่างจากเซรามิกโดยทั่วไป 3 : โครงผลึกฟลูออไรด ์ 1 : ยางมะตอยมีแรงเสียดทาน (Friction)
อย่างไร 4 : โครงผลึกเพอรอฟสไกต ์ มากกว่ายางมะตอยผสม
1 : แก ้วไม่มผ ี ลึก คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4 2 : ยางมะตอยผสมมีแรงเสียดทาน (Friction)
แต่เซรามิกโดยทั่วไปเป็ นโครงสร ้างทีมี ่ ผลึก ข ้อที่ 95 :ข ้อใดไม่ใช่วสั ดุโครงสร ้างซิลเิ กต มากกว่ายางมะตอย
(Crystalline) 1 : อะลูมน ิ า 3:
2 : แก ้วสามารถดึงยืดได ้ 2 : ควอทซ ์ ยางมะตอยและยางมะตอยผสมใช ้ทาพืนรั ้ บแรงที่
แต่เซรามิกโดยทั่วไปมีสมบัตเิ ปราะ 3 : ไมก ้า มีสมบัตใิ กล ้เคียงกัน
3 : แก ้วทนแรงดึงได ้ดี 4 : ทัลค ์ 4 : ยางมะตอยแข็งแรงมากกว่ายางมะตอยผสม
แต่เซรามิกทนแรงอัดได ้ดี คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 1 คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2
4 : แก ้วทนทานต่อสารเคมีได ้ดี ข ้อที่ 96 :วัสดุเซรามิกมีพน ั ธะชนิ ดใด ข ้อที่ 102 :การใช ้คอนกรีตในการก่อสร ้าง
แต่เซรามิกโดยทั่วไปเกิดปฏิกริ ยิ าได ้ง่าย 1 : พันธะโลหะ คอนกรีตถูกใช ้เพือให ่ ้รับแรงประเภทใด
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 1 2 : พันธะโควาเลนต ์ 1 : แรงดึง (Tension)
่
ข ้อที 90 3 : พันธะไอออนิ ก 2 : แรงอัด (Compression)
:ผลิตภัณฑ ์ใดต่อไปนี ไม่ ้ จาเป็ นต ้องใช ้วัสดุเซรา 4 : พันธะไอออนิ กร่วมพันธะโควาเลนต ์ 3 : แรงเฉือน (Shear)
มิก คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4 4 : แรงบิด (Torsion)
1 : กระสวยอวกาศ ้
เนื อหาวิชา : 241 : 04 Asphalt wood and คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2
2 : เตาเผา concrete ข ้อที่ 103 :ความสามารถในการทางาน
3 : ลูกถ ้วยไฟฟ้ า (Electrical insulator) ข ้อที่ 97 :ไม้จัดเป็ นวัสดุประเภทใด (Workability)
4 : มีดผ่าตัด 1 : วัสดุเชิงประกอบ ของคอนกรีตสามารถทดสอบด ้วยวิธใี ด
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4 2 : พอลิคาร ์บอเนต 1 : การทดสอบความล ้า (Fatigue test)
ข ้อที 91่ 3 : พอลิไวนิ ลคลอไรด ์ 2 : การทดสอบโดยใช ้แรงอัด (Compressive
:ข ้อใดไม่ชว่ ยทาให ้วัสดุทผลิ ี่ ตจากอะลูมน ิ า 4 : พอลิเมอร ์ test)
(Alumina) มีสมบัตโิ ปร่งแสง (Translucent) คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4 3 : การทดสอบความแข็งแบบบริเนลล ์
ได ้ ข ้อที่ 98 :เพราะเหตุใดไม้จึงรับแรงดัด (Brinell)
1 : อะลูมน ิ าทีใช ่ ้มีความบริสท ุ ธ ์สูงมาก (Bending force) ได ้ดี 4 : การทดสอบการยุบตัว (Slump test)
่
2 : เป็ นวัสดุผลึกเดียว (Single crystal) 1 : เส ้นใยเรียงตัวในทิศใดทิศหนึ่ ง คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4
3: 2 : มีความเหนี ยวสูง ข ้อที่ 104
การจัดเรียงตัวของผลึกมีทศ ิ ทางใกล ้เคียงกันมา ้
3 : เนื อไม้มี ความหนาแน่ นสูง :ส่วนประกอบหลักของคอนกรีตคือข ้อใด
ก 4 : ไม้มีนาหนักเบา ้ 1 : ทราย (Sand) หินฟันม้า (Feldspar)
4 : ขอบเกรน (Grain boundary) คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 1 และซีเมนต ์ (Cement)
มีความหนามาก ่
ข ้อที 99 2 : หินย่อย (Aggregate) หินฟันม้า
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4 :ข ้อใดเป็ นส่วนประกอบหลักของยางมะตอย (Feldspar) และซีเมนต ์ (Cement)
่
ข ้อที 92 :กระถางปลูกต ้นไม้ โอ่งดิน อิฐมอญ (Asphalt) 3 : ทราย (Sand) หินย่อย (Aggregate)
จัดเป็ นเซรามิกประเภทใด 1 : ธาตุคาร ์บอน (C) และ ไนโตรเจน (N) และซีเมนต ์ (Cement)
1 : Stoneware 2 : ธาตุคาร ์บอน (C) และ ไฮโดรเจน (H) 4 : ทราย (Sand) หินย่อย (Aggregate)
2 : Earthenware 3 : ธาตุคาร ์บอน (C) และ ซัลเฟอร ์ (S) และบิทูเมน (Bitumen)
3 : Porcelain 4 : ธาตุคาร ์บอน (C) และ ออกซิเจน (O) คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 3
4 : Bone China คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2 ้
เนื อหาวิชา : 242 : 05 Phase equilibrium
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2 ข ้อที่ 100 :ไม้มีสมบัตท ิ างกลตามข ้อใด diagrams and their interpretation
ข ้อที่ 93 1 : เท่ากันทุกทิศทาง ข ้อที่ 105 :สมการ delta ferrite + L -->
:วัสดุทนไฟทีใช ่ ้ในเตาเผาอุณหภูมส ิ งู มักทาจาก 2: austenite เรียกปฏิกริ ยิ านี ว่้ าปฏิกริ ยิ าใด
วัสดุในข ้อใดต่อไปนี ้ ความแข็งแรงตามแนวความยาวมากกว่าแนวขว 1 : Eutectoid
1 : CaO าง 2 : Eutectic
3 : Peritectic ของผสมจะเกิดจากการรวมกันของสารทาให ้ก
4 : Peritectoid ลายเป็ นเฟสเดียว
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 3 คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 3
่
ข ้อที 106 ่
ข ้อที 113 :เส ้น Liquidus
่
:ข ้อใดไม่ใช่ข ้อมูลทีสามารถทราบได ้จากแผนภ มีความสาคัญอย่างไร
าพเฟส (Phase diagram) 1 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุ ่ ล
1: เฟสจะเป็ นเฟสของเหลวทังหมดที ้ ่ ณหภูมต
อุ ิ ่ากว่
สภาพการละลายได ้ของธาตุหนึ่งในอีกธาตุหนึ่ ง าเส ้น Liquidus
2 : อุณหภูมท ่ี
ิ สารเริ ่
มหลอมละลาย 2 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุ ่ ล
่
3 : ความดันทีสารเปลี ่
ยนเฟส อุณหภูมท ิ อยู ี่ ต ่ ่ากว่าเส ้น Liquidus
่
4 : ปริมาตรของสารทีหลอมเหลว 1 : 0.025% เฟสของเหลวเปลียนเป็ ่ นเฟสของแข็ง
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4 2 : 0.8% 3 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุล ่
ข ้อที่ 107 3 : 2.0% เฟสของแข็งชนิ ดหนึ่ งจะเริมเกิ ่ ดเป็ นเฟสของแข็
่
:ข ้อใดไม่ใช่ข ้อมูลทีสามารถทราบได ้จากแผนภ 4 : 4.3% คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2 งมากกว่าหนึ งชนิดทีเส ้น Liquidus่ ่
าพเฟส (Phase diagram) ่
ข ้อที 110 4 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุ ่ ล อุณหภูมส ิ งู กว่าเส ้น
1 : อุณหภูมท ่
ิ โลหะผสมเริ
ี ่
มแข็งตัวเป็ นของแข็ง :โครงสร ้างใดคือโครงสร ้างของเหล็กกล ้าคาร ์บอ Liquidus
2: นส่วนผสมยูเทกทอยด ์ทีเย็ ่ นตัวอย่างช ้าๆ เฟสของเหลวเริมเกิ ่ ดเป็ นเฟสของแข็งทังหมด ้
สภาพการละลายได ้ของธาตุหนึ่งในอีกธาตุหนึ่ ง ผ่านปฏิกริ ยิ ายูเทคทอยด ์ คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2
ณ สภาวะสมดุล เรียกโครงสร ้างทีเกิ ่ ดขึนว่้ าอะไร ่
ข ้อที 114 :เส ้น Solidus มีความสาคัญอย่างไร
3 : เฟสต่างๆ ทีมี ่ อยูใ่ นเนือวั
้ สดุ 1 : เฟร ์ไรต ์ (Ferrite) 1 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุ ่ ล
4 : ขนาดและรูปร่างของโครงสร ้างจุลภาค 2 : เพอร ์ไลต ์ (Pearlite) เฟสของแข็งชนิ ดหนึ งจะเริมเกิ ่ ่ ดเป็ นเฟสของแข็
่
คาตอบทีถูกต ้อง : 4 3 : ออสเทไนต ์ (Austenite) งมากกว่าหนึ่ งชนิดทีเส ่ ้น Solidus
ข ้อที่ 108 4 : ซีเมนไทต ์ (Cementite)คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุ ่ ล
:ข ้อใดคือปฏิกริ ยิ าทีเกิ่ ดขึนในแผนภาพเฟสของ
้ 2 อุณหภูมท ิ อยู ่ ี ต ่
่ ากว่าเส ้น Solidus
Fe-Fe3C ทีก ่ าหนดให ้ ข ้อที่ 111 จะประกอบด ้วยเฟสของเหลวและเฟสของแข็ง
:ข ้อใดไม่ใช่ข ้อมูลทีได ่ ้จากการอ่านแผนภาพเฟ 3 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุ ่ ล
สในสภาวะทีสมดุ ่ ล อุณหภูมท ิ อยู ่ ี ต ่
่ ากว่าเส ้น Solidus
1 : ชนิ ดของเฟสทีเกิ ่ ดขึน้ เฟสของเหลวจะเปลียนเป็ ่ นเฟสของแข็งทังหมด ้
2 : ปริมาณของเฟสทีเกิ ่ ดขึน้ 4 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุล ่
3 : อุณหภูมท ่
ิ สารเริ
ี ่
มแข็งตัว (Solidify) อุณหภูมท ิ อยู ี่ ส ่ งู กว่าเส ้น Solidus
หรือหลอมเหลว (Melt) จะประกอบด ้วยเฟสของแข็งทังหมด ้
4: คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 3
่ ดขึนค
ชนิ ดของโครงสร ้างผลึกของเฟสทีเกิ ้ าตอ ข ้อที่ 115 :ข ้อใดไม่ใช่ลก ั ษณะของเส ้น Solvus
่ กต ้อง : 4
บทีถู 1 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุล ่
ข ้อที่ 112 :สารละลาย (Solution) เฟสของแข็งชนิ ดหนึ่ งจะเริมเกิ ่ ดเป็ นเฟสของแข็
และของผสม (Mixture) แตกต่างกันอย่างไร งมากกว่าหนึ งชนิดทีเส ้น Solvus ่ ่
1 : Peritic, Eutectic, Eutectoid
1: 2 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุ ่ ล
2 : Peritectic, Eutectic, Eutectoid
3 : Peritectic, Eutectic, Eutectertic
สารละลายจะเกิดการแยกกันของสารทาให ้เกิดเ อุณหภูมท ิ อยู ี่ ต ่ ่ากว่าเส ้น Solvus
ฟสมากกว่าหนึ่ งเฟส จะประกอบด ้วยเฟสของเหลวและเฟสของแข็ง
4 : Peritectic, Eutectic, Monotectic
้ ยวกันมีเพียงหนึ่ งเฟส
ของผสมจะเกิดเป็ นเนือเดี ่
3 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุ ล เส ้น Solvus
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2
2 : สารละลายจะเกิดเฉพาะในของเหลวเท่านั้น จะเป็ นเส ้นแสดงขีดจากัดการละลาย
ข ้อที่ 109 :ปฏิกริ ยิ ายูเทกทอยด ์ (Eutectoid)
ของผสมจะเกิดจากการผสมของเหลวและของแ (Solubility limit) ของเฟสของแข็งสองเฟส
ของเหล็กกล ้าคาร ์บอน
่ มาณคาร ์บอนกีเปอร ่ ้ ข็งด ้วยกัน 4 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุ่ ลอุณหภูมท ี่ อเส ้น
ิ เหนื
เกิดทีปริ ์เซ็นต ์โดยนาหนั ก
3: Solvus เป็ นเฟสของแข็งทังหมด้
้ ยวกันมีเพียงหนึ่ งเฟ
สารละลายจะเกิดเป็ นเนือเดี คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2
ส ่
ข ้อที 116 :ข ้อใดไม่ทาให ้เกิด Isomorphous
ของผสมจะเกิดการแยกกันของสารทาให ้เกิดเฟ systems
สมากกว่าหนึ่ งเฟส 1:
4: โครงสร ้างผลึกของแต่ละธาตุมโี ครงสร ้างแบบเดี
สารละลายจะเกิดจากการรวมกันของของเหลวแ ยวกัน
ละของแข็งเป็ นเฟสเดียว
2:
ธาตุแต่ละตัวต ้องรวมกันเกิดเป็ นสารประกอบ
(Compound)
3:
ขนาดของอะตอมทังสองธาตุ้ มค
ี วามแตกต่างกัน
ไม่เกิน 15%
4 : ธาตุแต่ละตัวควรมีคา่ Valence electron
เหมือนกัน
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2
ข ้อที่ 117 : จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu)
– นิ กเกิล (Ni) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง
47%โดยนาหนั ้ ้
กและนิ กเกิล 53% โดยนาหนั ก
ที่ 1300 องศาเซลเซียส ประกอบด ้วยเฟสอะไร
1 : เปอร ์เซ็นต ์ของเฟสของเหลว คือ 61.5% และ
1 : ประมาณ 1200 องศาเซลเซียส เปอร ์เซ็นต ์ของเฟสของแข็ง α คือ 38.5%
2 : ประมาณ 1300 องศาเซลเซียส 2 : เปอร ์เซ็นต ์ของเฟสของเหลว คือ 38.5% และ
3 : ประมาณ 1350 องศาเซลเซียส เปอร ์เซ็นต ์ของเฟสของแข็ง α คือ 61.5%
4 : ประมาณ 1380 องศาเซลเซียส 3 : เปอร ์เซ็นต ์ของเฟสของเหลว คือ 44.5% และ
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 3 เปอร ์เซ็นต ์ของเฟสของแข็ง α คือ 55.5%
่
ข ้อที 119 4 : เปอร ์เซ็นต ์ของเฟสของเหลว คือ 55.5% และ
่
:ข ้อใดไม่เกียวข ้องกับการเกิดโครงสร ้างแกน เปอร ์เซ็นต ์ของเฟสของแข็ง α คือ 44.5%
(Cored structure) คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2
1 : เกิดในสภาวะทีไม่ ่ สมดุล ่
ข ้อที 121 : จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu)
2: – นิ กเกิล (Ni) ค่า Degree of freedom
เกิดจากความเข ้มข ้นของส่วนประกอบทางเคมี บนเส ้น Liquidus มีค่าเท่าใด
(Chemical composition)
ในแต่ละส่วนต่างกัน
1 : เฟสของเหลว และเฟสของแข็ง α 2 : 3:
เฟสของแข็ง α สามารถแก ้ไขได ้โดยการทากรรมวิธท ี างความร ้อ
3 : เฟสสารประกอบ Cu-Ni น (Heat treatment)
่ กต ้อง : 1 4 : การเย็นตัวลงอย่างช ้าๆ คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4
4 : เฟสของเหลว คาตอบทีถู
่
ข ้อที่ 118 :จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) ข ้อที 120 : จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu)
– นิ กเกิล (Ni) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง – นิ เกิล (Ni) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง
47%โดยนาหนั ้ กและนิ เกิล 53%โดยนาหนั้ กที่
30% โดยนาหนั ้ กและนิ กเกิล 70% โดยนาหนั ้ ก
1300 องศาเซลเซียส ประกอบด ้วยเฟสสองเฟส
ถูกให ้ความร ้อนจากอุณหภูมห ิ ้อง
อยากทราบว่าเฟสของเหลวเริมเกิ ่ ดขึนที้ อุ่ ณหภูมิ คือ เฟสของแข็ง α
่ สว่ นประกอบโดยนาหนั
ซึงมี ้ กของทองแดง 42%
ใด
และ นิ เกิล 58%
และเฟสของเหลวซึงมี ่ สว่ นประกอบโดยนาหนั
้ กข
องทองแดง 55% และ นิ เกิล 45% 1 : Degree of freedom = 0 2 : Degree
อยากทราบเปอร ์เซ็นต ์โดยนาหนั ้ กของเฟสทังสอ้ of freedom = 1
งของโลหะผสมนี ้ 3 : Degree of freedom = 2 4 : Degree
of freedom = 3
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2
่
ข ้อที 122 : จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu)
– สังกะสี (Zn) ในช่วงอุณหภูมต ้ั
ิ งแต่ 500
องศาเซลเซียส ถึง 750 องศาเซลเซียส
ของโลหะผสมทีมี ่ เปอร ์เซ็นต ์โดยนาหนั
้ กของสังก
้
ะสีตงแต่
ั 60% ถึง 100% มีปฏิกริ ยิ า Invariant
ใดเกิดขึนบ ้ ้าง
1 : Eutectic reaction และ Eutectoid 1 : ประมาณ 750 องศาเซลเซียส 1 : ประมาณ 90% โดยนาหนั ้ ก
reaction 2 : ประมาณ 800 องศาเซลเซียส 2 : ประมาณ 95% โดยนาหนั ้ ก
2 : Peritectic reaction และ Eutectoid 3 : ประมาณ 850 องศาเซลเซียส 3 : ประมาณ 5% โดยนาหนัก ้
reaction 4 : ประมาณ 950 องศาเซลเซียส 4 : ประมาณ 10% โดยนาหนั ้ ่ กต ้อง
ก คาตอบทีถู
3 : Eutectic reaction และ Peritectoid คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 3 :2
reaction ข ้อที่ 125 :จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) ข ้อที่ 127 :จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu)
4 : Monotectic reaction และ Eutectoid – สังกะสี (Zn) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง – นิ กเกิล (Ni) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง
reaction 20%โดยนาหนั ้ ้
กและสังกะสี 80%โดยนาหนั ก ที่ 30%โดยนาหนั ้ ้
กและนิ เกิล 70%โดยนาหนั ก ที่
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2 598 องศาเซลเซียส ประกอบด ้วยเฟสอะไร 1350 องศาเซลเซียส ประกอบด ้วยเฟสอะไร
ข ้อที่ 123 :จากแผนภาพเฟสของ นิ กเกิล (Ni)-
ไททาเนี ยม (Ti) มีปฏิกริ ยิ า Invariant
ใดเกิดขึนบ้ ้าง
1 : เฟสของเหลว และเฟสของแข็ง δ
2 : เฟสของเหลว และเฟสของแข็ง ε
3 : เฟสของแข็ง ε
1 : Monotectic reaction, Peritectic 4 : เฟสของเหลว เฟสของแข็ง δ
reaction และ Eutectoid reaction และเฟสของแข็ง ε
่ กต ้อง : 4 1 : เฟสของเหลว
2 : Monotectic reaction, Peritectic คาตอบทีถู
่ 2 : เฟสของเหลว และเฟสของแข็ง α
reaction และ Peritectoid reaction ข ้อที 126 :จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu)
3 : เฟสของแข็ง α
3 : Peritectic reaction, Eutectic reaction – เงิน (Ag) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง 4:
และ Eutectoid reaction 10%โดยนาหนั ้ ก และเงิน 90%โดยนาหนั ้ ก
เฟสของสารประกอบระหว่างทองแดงและนิ เกิล
4 : Eutectoid reaction, Peritectoid ถู
ก ให ้ความร ้อนจนเกิ ด เฟสของแข็ ง β ่ กต ้อง : 2
คาตอบทีถู
reactionและ Peritectic reaction และเฟสของเหลว
่
คาตอบทีถูกต ้อง : 3 ถ ้าส่วนประกอบของเฟสของเหลวประกอบด ้วยเงิ
้ ข ้อที่ 128 :จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu)
ข ้อที่ 124 :จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) น (Ag) 85% โดยนาหนั ก
– สังกะสี (Zn) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง
– เงิน (Ag) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง อยากทราบว่ า เฟสของแข็ งβ ้ ้
่ ้ 20%โดยนาหนั กและสังกะสี 80%โดยนาหนั ก ที่
10% โดยนาหนั ้ กและเงิน 90%โดยนาหนั้ ก ประกอบด ้วยเงินกีเปอร ์เซ็นต ์โดยนาหนั ก
800 องศาเซลเซียส ประกอบด ้วยเฟสอะไร
ถูกให ้ความร ้อนจนเกิดเฟสของแข็ง
และเฟสของเหลว
ถ ้าส่วนประกอบของเฟสของเหลวประกอบด ้วยเงิ
น (Ag) 85%โดยนาหนั ้ ก
อยากทราบว่าโลหะผสมนี ถู ้ กให ้ความร ้อนถึงอุณ
หภูมเิ ท่าใด
ข ้อที่ 131 :จากแผนภาพเฟสของตะกัว่ (Pb) – ข ้อที่ 134 :ปฏิกริ ยิ าต่อไปนี ้ ข ้อใดไม่ใช่ปฏิกริ ยิ า
ดีบุก (Sn) โลหะผสมประกอบด ้วยดีบุก Invariant
้ ่ ้
61.9%โดยนาหนักและตะกัว 38.1%โดยนาหนัก 1 : Eutectic reaction
ที่ 183 องศาเซลเซียส ประกอบด ้วยเฟสอะไรบ ้าง 2 : Monotectic reaction
3 : Peritectoid reaction
4 : Oxidation reaction
คาตอบทีถู่ กต ้อง : 4
1 : เฟร ์ไรต ์ (Ferrite) 80% และ เพอร ์ไลต ์ ข ้อที่ 151 :จากแผนภาพเฟสดีบก
ุ -ตะกัว่
1 : ออสเทไนต ์ (Austenite) และ เบไนต ์ โลหะผสมของดีบุก 85% และตะกัว่ 15%
(Bainite) (Pearlite) 20%
โดยนาหนั้ ก จานวน 750 กรัมทีอุ ่ ณหภูมติ ่ากว่า 1 : เฟส (Cu) 410.5 กรัม และเฟส (Ag) 389.5 คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 1
183˚C เล็กน้อย ประกอบด ้วยเฟส α กีกรั ่ ม กรัม ่
ข ้อที 156 : จากแผนภาพเฟสของ นิ กเกิล (Ni) - ไททาเนี ยม
2 : เฟส (Cu) 501.7 กรัม และเฟส (Ag) 298.3 ่ ดขึน้
(Ti) ข ้อใดคือปฏิกริ ยิ า Peritectic ทีเกิ
กรัม
3 : เฟส (Cu) 524.6 กรัม และเฟส (Ag) 275.4
กรัม
4 : เฟส (Cu) 588.8 กรัม และเฟส (Ag) 211.5
กรัม
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4
ข ้อที่ 154 : โลหะผสมของทองแดง 70% และ
เงิน 30% โดยนาหนั ้ ก จานวน 800 กรัม
่ ณหภูมส
ทีอุ ิ งู กว่า 779 องศาเซลเซียส เล็กน้อย
จะมีเฟสใดเกิดขึนบ ้ ้างและเกิดขึนเป็
้ นจานวนเท่า
1 : 323.65 2 : 240.64 3: ใด
120.75 4 : 94.36 1:
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 3
2:
ข ้อที่ 152 : จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu)
– เงิน (Ag) 3:
โครงสร ้างของโลหะผสมทองแดงและเงินทีอุ่ ณหภู 4:
มิต่ากว่า 779˚C เล็กน้อย ประกอบด ้วยเฟส คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 4
Proeutectic α 68% โดยนาหนั ้ ก และเฟสของ
ข ้อที่ 157 : ในระบบ Ternary
Eutectic (α + β) 32% โดยนาหนั ้ ก ่
ซึงประกอบด ้วยส่วนประกอบ 3 ชนิ ด
ส่วนผสมของโลหะนีคื ้ อข ้อใด
อยากทราบว่าถ ้าให ้อุณหภูมส ่
ิ ามารถเปลียนแปล
งได ้ แต่ความดันมีค่าคงที่
1 : เฟส (Cu) 610.5 กรัม และเฟส (Ag) 189.5 จะมีจานวนเฟสเกิดขึนได ้ ่ ดพร ้อมกันกีเฟ
้มากทีสุ ่
กรัม สทีอุ ่ ณหภูมแิ ละส่วนประกอบเดียวกัน
2 : เฟส (Cu) 510.7 กรัม และเฟส (Ag) 298.3 1:5 2:4 3:3 4:2
กรัม ่
คาตอบทีถูกต ้อง : 2
3 : เฟส (Cu) 524.6 กรัม และเฟส (Ag) 275.4 ข ้อที่ 158 : จากแผนภาพเฟสทองแดง-เงิน
กรัม ถ ้าโลหะผสมของทองแดง 70% และ เงิน 30%
4 : เฟส (Cu) 730 กรัม และเฟส (Ag) 70 กรัม โดยนาหนั้ ่ ณหภูมิ 800
ก จานวน 800 กรัม ทีอุ
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 3 องศาเซลเซียส
1 : ทองแดง 10% และเงิน 90% โดยนาหนั ้ ก ข ้อที่ 155 : จากแผนภาพเฟสของ นิ กเกิล (Ni)- จะมีเฟสใดเกิดขึนบ้ ้างและเกิดขึนเป็
้ นจานวนเท่า
2 : ทองแดง 15% และเงิน 85% โดยนาหนั ้ ก ไททาเนี ยม (Ti) ข ้อใดคือปฏิกริ ยิ า Eutectic ใด
3 : ทองแดง 20% และเงิน 80% โดยนาหนัก ้ ่ ดขึน้
ทีเกิ
4 : ทองแดง 25% และเงิน 75% โดยนาหนั ้ ก
่
คาตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที่ 153 : โลหะผสมของทองแดง 70% และ
เงิน 30% โดยนาหนั ้ ก จานวน 800 กรัม
่ ณหภูมต
ทีอุ ิ ่ากว่า 779 องศาเซลเซียส เล็กน้อย
จะมีเฟสใดเกิดขึนบ ้ ้างและเกิดขึนเป็
้ นจานวนเท่า
ใด
3 : สารประกอบ (Compound)
ส่วนผสมเท่ากันทุกตาแหน่ ง ข ้อที่ 167
่ ดขึนจากการแข็
:โครงสร ้างทีเกิ ้ งตัวของโลหะผส
4 : สารประกอบ (Compound)
ลักษณะเป็ นเดนไดรท ์ (Dendrite) ม Pb + 30wt%Sn ในภาวะสมดุล
คาตอบทีถู ่ กต ้อง : 2 ประกอบด ้วยโครงสร ้างยูเทกติก (Eutectic
ข ้อที่ 165 :ช่วงการแข็งตัว (Freezing range) microconstituent) ประมาณเท่าใด
ของโลหะผสม Cu + 40wt%Ni
มีค่าประมาณเท่าใด
1 : Al + 4wt%Cu
ข ้อที่ 173 ่ ณหภูมิ
ของเหล็กกล ้าคาร ์บอน 0.8wt%C ทีอุ
:อุณหภูมท ่ี
ิ เหมาะสมในการบ่ ่ มความแข็
มเพือเพิ ่ ้
ง 300 องศาเซลเซียส เกิดขึนได ้ค่อนข ้างช ้า
(Aging) สาหรับโลหะผสม Al + 4wt%Cu เพราะเหตุใด
คือข ้อใด (องศาเซลเซียส)