Professional Documents
Culture Documents
อ
รข
รข
สภาวิศวกร | Council of engineers ข ้อที 5 :
เหล็กกล ้าคาร์บอนปานกลางมีคา่ ความแข็ง (Hardness) เป็ นอย่างไร เทียบกับเหล็กกล ้าคาร์บอนสูงภายใต ้เงือนไข
สภาวะการอบชุบเหมือนกัน
ก
วิชา : Engineering Materials 1 : น ้อยกว่า
ิ ว
ิ ว
2 : มากกว่า
าวศ
าวศ
3 : เท่ากัน
เนือหาวิชา : 238 : 01 Metals 4 : ไม่สามารถระบุได ้ว่าเป็ นอย่างไร
สภ
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 1 :
แร่ Bauxite ทีเป็ นวัตถุดบ
ิ ในการถลุงอะลูมเิ นียม มีสารประกอบใดเป็ นสารประกอบหลัก
1 : Bayer ข ้อที 6 :
2 : Al2O3 ข ้อใดต่อไปนีไม่ใช่วต
ั ถุประสงค์ของการเติมธาตุโครเมียม (Cr) ในเหล็กกล ้าผสมสูง (High alloy steels)
3: Al2(SO4)3 1 : ลดการผุกร่อน
4 : Na3AlF6 2 : เพิมความแข็งแรง
3 : เพิมความเหนียว ขึนรูปง่าย
4 : เพิมความสามารถในการต ้านทานการคืบ (Creep)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 2 :
เหล็กหล่อ หมายถึง เหล็กทีมีปริมาณของธาตุคาร์บอนผสมอยูร่ ะหว่างค่าดังข ้อใด ข ้อที 7 :
1 : 0.022 - 6.7 % โดยนํ าหนัก ในกระบวนการผลิตเหล็กหล่อเหนียว (Nodular cast iron) ธาตุใดทีเติมลงไปเพือทําให ้แกรไฟต์รวมตัวกันเป็ น
2 : 1.2 - 6.7 % โดยนํ าหนัก อนุภาคทรงกลม
3 : 2.0 - 4.3 % โดยนํ าหนัก 1 : โครเมียม
4 : 2.0 - 6.7 % โดยนํ าหนัก 2 : ซีเรียม
3 : คาร์บอน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4 4 : โคบอลต์
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 3 :
เหล็กกล ้าคาร์บอนปานกลาง มีปริมาณของธาตุคาร์บอนผสมอยูเ่ ป็ นปริมาณเท่าใด
1 : 0.40 % โดยปริมาตร ข ้อที 8 :
2 : 0.40 % โดยนํ าหนัก ทองเหลือง (Brass) คือโลหะผสมของธาตุหลักธาตุใด
3 : 0.04 % โดยปริมาตร 1 : ทองแดง และเงิน
4 : 0.04 % โดยนํ าหนัก 2 : ทองแดง และดีบกุ
3 : ทองแดง และตะกัว
คําตอบทีถูกต ้อง : 2 4 : ทองแดง และสังกะสี
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 4 :
เหล็กกล ้าคาร์บอนตํา มักนิยมนํ ามาใช ้ผลิตเป็ นผลิตภัณฑ์ในข ้อใด
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
1 : ตัวถังรถยนต์ ข ้อที 9 :
โลหะผสมสูงกลุม ั ลอย (Superalloys) เช่น Nickel-based superalloys มักนิยมนํ าไปใช ้งานใดในปั จจุบน
่ ซูเปอร์อล ั
สท
สท
2 : ลูกสูบ
3 : มีดกลึง 1 : ใบพัดในเครืองกังหันก๊าซในเครืองบินไอพ่น
4 : ดอกสว่าน 2 : อุปกรณ์ภายในเครืองคอมพิวเตอร์เช่น ฮาร์ดดิสค์
วน
วน
3 : ลูกสูบเครืองยนต์
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 4 : มีดกลึง
สง
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ขอ ขอ
ขอ ขอ
ข ้อที 10 : ข ้อที 15 :
โลหะใดไม่ใช่โลหะทนไฟ (Refractory Metal) โลหะใดไม่เหมาะสมสําหรับนํ ามาทําเป็ นกระทะเพือปรุงอาหาร
กร
กร
ิ ว
3 : แทนทาลัม 3 : ทองแดง
าวศ
าวศ
4 : เยอรมันเนียม 4 : แมกนีเซียม
สภ
ข ้อที 11 : ข ้อที 16 :
โลหะใดจัดเป็ นโลหะมีสกุล (Noble Metal) พิวเตอร์ (Pewter) คือ โลหะผสมใด
1 : ทังสเตน 1 : ดีบก
ุ ผสม
2 : แพลตินัม 2 : ทองแดงผสม
3 : ซิลก
ิ อน 3 : อะลูมเิ นียมผสม
4 : เยอรมันเนียม 4 : ไทเทเนียมผสม
ข ้อที 12 : ข ้อที 17 :
ข ้อใดคือลักษณะเด่นของโลหะทัวไป โลหะใดทีนํ ามาใช ้ทําเป็ นชินส่วนเครืองบินน ้อยทีสุด
1 : เป็ นฉนวนความร ้อนทีดี 1 : ไทเทเนียม
2 : เป็ นตัวนํ าความร ้อนทีดี 2 : อะลูมเิ นียม
3 : เป็ นตัวต ้านทานการกัดกร่อนทีดี 3 : สังกะสี
4 : มีความยืดหยุน ่ สูง 4 : นิกเกิล
ข ้อที 13 : ข ้อที 18 :
โลหะใดจัดเป็ นโลหะหนัก เหล็กกล ้าไร ้สนิมเกรด 18-8 หมายถึง เหล็กกล ้าทีผสมโลหะชนิดใดเป็ นปริมาณสูงสุดสองชนิดแรก
1 : แมกนีเซียม 1 : โครเมียม-นิเกิล
2 : อะลูมเิ นียม 2 : ไทเทเนียม-นิเกิล
3 : เบอริลเลียม 3 : โครเมียม-ซิลกิ อน
4 : โมลิบดินัม 4 : ไทเทเนียม-ซิลก ิ อน
ข ้อที 14 : ข ้อที 19 :
โลหะใดทีไม่ควรนํ ามาเป็ นภาชนะบรรจุอาหาร ผลิตภัณฑ์ใดทีไม่สามารถใช ้อะลูมเิ นียมเป็ นส่วนผสมหลักได ้
ธิ
ธิ
สท
2 : ตะกัว 2 : ตัวถังรถยนต์
3 : ดีบก
ุ 3 : กระป๋ องนํ าอัดลม
ิ
วน
สง
ขอ
ขอ
อ
อ
รข
รข
ข ้อที 20 : ข ้อที 25 :
เหล็กหล่อชนิดใดต่อไปนีสามารถทนแรงกระแทกได ้ดีทสุ
ี ด ข ้อใดไม่ใช่สมบัตเิ ด่นของอะลูมเิ นียม
ก
1 : เหล็กหล่อเทา 1 : นํ าหนักเบา
2 : เหล็กหล่อขาว 2 : ทนอุณหภูมไิ ด ้สูง
ิ ว
ิ ว
3 : เหล็กหล่อผสมโครเมียมสูง 3 : อ่อนแต่เหนียว
าว ศ
าวศ
4 : เหล็กหล่ออบเหนียว 4 : นํ าความร ้อนได ้ดี
สภ
ข ้อที 21 : ข ้อที 26 :
เหล็กชนิดใดต่อไปนีสามารถกลึงเพือตกแต่งขึนรูปได ้ง่ายทีสุด บรอนซ์ คือ โลหะผสมชนิดใด
1 : เหล็กกล ้าชุบแข็ง 1 : ทองแดงผสมดีบก ุ
2 : เหล็กหล่อขาว 2 : อะลูมเิ นียมผสมทองแดง
3 : เหล็กหล่อกราไฟต์กลม 3 : ดีบก
ุ ผสมตะกัว
4 : เหล็กกล ้าไร ้สนิมเฟร์ไรต์ 4 : นิเกิลผสมไทเทเนียม
ข ้อที 22 : ข ้อที 27 :
เหล็กกล ้าชนิดใดมีสภาพดึงยืดได ้ (Ductility) มากทีสุด ภายใต ้สภาวะการอบชุบทีเหมือนกัน ข ้อใดคือลักษณะเด่นของเหล็กหล่อขาว
1 : เหล็กกล ้าคาร์บอนตํา 1 : แข็ง ยากต่อการตกแต่ง
2 : เหล็กกล ้าคาร์บอนปานกลาง 2 : อ่อน เหนียว ตกแต่ง-ขึนรูปได ้ง่าย
3 : เหล็กกล ้าคาร์บอนสูง 3 : รับแรงอัดและแรงสันสะเทือนได ้ดี
4 : เหล็กกล ้าเครืองมือ 4 : ไม่ทนต่อการเสียดสี
ข ้อที 23 : ข ้อที 28 :
ในกระบวนการผลิตเหล็กหล่อเทา ธาตุใดทีต ้องเติมลงไปเพือทําให ้คาร์บอนรวมตัวกันเป็ นกราไฟต์ เหล็กหล่อเทาต่างจากเหล็กหล่อขาวอย่างไร
1 : อะลูมเิ นียม 1 : ิ ก
เหล็กหล่อเทามีซล ิ อนเป็ นส่วนผสม แต่เหล็กหล่อขาวไม่ม ี
2 : ซิลก
ิ อน 2 : เหล็กหล่อเทามีกราไฟต์อส ิ ระเป็ นส่วนหนึงของโครงสร ้าง แต่เหล็กหล่อขาวไม่ม ี
3 : แคลเซียม 3 : เหล็กหล่อเทามีความแข็งมากกว่าเหล็กหล่อขาว
4 : แมกนีเซียม 4 : เหล็กหล่อเทาสามารถรับแรงกระแทกได ้น ้อยกว่าเหล็กหล่อขาว
ข ้อที 24 : ข ้อที 29 :
ข ้อใดไม่ใช่สมบัตข
ิ องเหล็กกล ้าคาร์บอนตํา ผลิตภัณฑ์ใดไม่ควรเลือกทําจากเหล็กกล ้าคาร์บอนตํา
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
1 : มีความเหนียวสูง 1 : ใบมีดกลึง
สท
สท
2 : สามารถตกแต่งขึนรูปได ้ง่าย 2 : ลวด
3 : สามารถชุบแข็งได ้ง่าย 3 : เหล็กแผ่น
4 : ไม่สามารถรับแรงกระแทกได ้มาก 4 : ท่อ
วน
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3 คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สง
สง
ขอ ขอ
ขอ ขอ
ข ้อที 35 :
ข ้อที 30 : โลหะใดต่อไปนีมีจด
ุ หลอมเหลวทีตําทีสุด
ในกระบวนการผลิตเหล็กหล่อกราไฟต์กลม ธาตุใดทีต ้องเติมลงไปเพือทําให ้กราไฟต์อส
ิ ระเป็ นทรงกลม
กร
กร
1 : ทองแดง
1 : อะลูมเิ นียม 2 : ทองแดงผสมสังกะสี
2 : ซิลก
ิ อน
ิ ว
ิ ว
3 : ทองแดงผสมเหล็ก
3 : แคลเซียม
าวศ
าวศ
4 : ทองแดงผสมนิเกิล
4 : แมกนีเซียม
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สภ
สภ
ข ้อที 36 :
ข ้อที 31 : ชินงานใดต่อไปนีมีความแข็งแรงสูงสุด
เหล็กกล ้าผสมชนิดใดทีไม่สามารถชุบแข็งได ้ดี
1 : เหล็กกล ้าคาร์บอนตําชุบแข็ง
1 : เหล็กกล ้าโมลิบดินัม 2 : เหล็กกล ้าคาร์บอนปานกลางชุบแข็ง
2 : เหล็กกล ้าไร ้สนิมออสเทไนต์ 3 : เหล็กกล ้าผสมตําชุบแข็ง
3 : เหล็กกล ้าแมงกานีส 4 : เหล็กกล ้าไร ้สนิมออสเทไนต์ชบ
ุ แข็ง
4 : เหล็กกล ้าโครเมียม
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 37 :
ข ้อที 32 : โลหะชนิดใดต่อไปนีทีเหมาะสมสําหรับทําเครืองยนต์ (Engine block) สําหรับรถแข่งมากทีสุด
เหล็กกล ้าถูกแบ่งแยกออกจากเหล็กหล่อด ้วยปริมาณคาร์บอนกีเปอร์เซ็นต์
1 : เหล็กกล ้า (Steel) เนืองจากหล่อง่ายทีสุด
1 : 1% 2 : เหล็กกล ้าไร ้สนิม (Stainless steel) เพราะทนต่อการเกิดสนิมได ้ดี
2 : 2% 3 : อะลูมเิ นียมผสม (Aluminium alloy) เพราะมีนําหนักเบา
3 : 3% 4 : โลหะผสมยิงยวด (Superalloy) เพราะทนอุณหภูมส ิ งู ได ้ดี
4 : 4%
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 38 :
ข ้อที 33 : วัสดุแม่เหล็กถาวรชนิดใดต่อไปนีทีให ้กําลังแม่เหล็กสูงสุด
ธาตุผสมใดทีมีสว่ นสําคัญในการทําให ้เหล็กกล ้าไร ้สนิมทนต่อการเกิดสนิมในบรรยากาศปกติ และต ้องมีปริมาณธาตุ
อย่างน ้อยสุดเท่าใด 1 : เหล็กคาร์บอน
2 : อัลนิโค (Alnico)
1 : 13% โดยนํ าหนักโครเมียม 3 : เฟร์ไรต์ (Hard Ferrite)
2 : 8% โดยนํ าหนักโครเมียม 4 : นิโอดิเมียม-บอรอน (NdFeB)
3 : 13% โดยนํ าหนักนิเกิล
4 : 8% โดยนํ าหนักนิเกิล คําตอบทีถูกต ้อง : 4
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 39 :
เหล็กเส ้น เหล็กข ้ออ ้อย ทีใช ้ในงานก่อสร ้างทัวไป เป็ นเหล็กในกลุม
่ ใด
ข ้อที 34 :
1 : เหล็กกล ้าคาร์บอนตํา
ธิ
ธิ
สท
1 : เหล็กกล ้า Hypoeutectoid plain-carbon คือเหล็กกล ้าทีมีปริมาณคาร์บอนมากกว่า 0.8% โดยนํ าหนัก 3 : เหล็กกล ้าคาร์บอนสูง
2 : เหล็กเส ้นทีใช ้ในงานก่อสร ้างทําจากเหล็กหล่อ
ิ
4 : เหล็กกล ้าผสม
3 : ธาตุทมี
ี บทบาทในการทําให ้เหล็กกล ้าไร ้สนิมสามารถทนต่อการกัดกร่อนได ้ดีคอ
ื โครเมียม
วน
วน
4 : เหล็กหล่อเป็ นโลหะผสมประเภท Ferrous ทีมีปริมาณคาร์บอนน ้อยกว่า 2.4% โดยนํ าหนัก คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สง
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 40 :
ขอ
ขอ
อ
อ
โลหะชนิดใดต่อไปนีสามารถนํ ามารีดเย็นเป็ นแผ่นบางได ้ง่ายทีสุด 1 : เหล็กหล่อเทา (Gray cast iron)
รข
รข
1 : อะลูมเิ นียม 2 : เหล็กหล่อขาว (White cast iron)
2 : ทองแดง 3 : เหล็กหล่อเหนียว (Ductile iron)
4 : เหล็กหล่ออบเหนียว (Malleable iron)
ก
3 : ทองเหลือง
4 : เหล็กกล ้าไร ้สนิม
ิ ว
ิ ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
าว ศ
าว ศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 46 :
สภ
สภ
ข ้อที 41 : โลหะชนิดใดต่อไปนีเหมาะสําหรับการผลิตถังไฮโดรเจนเหลวสําหรับยานอวกาศมากทีสุด
โลหะชนิดใดต่อไปนีขึนรูปเย็นได ้ยากทีสุด 1 : อะลูมเิ นียมผสมทองแดง
1 : ทองเหลือง (Brass) 2 : อะลูมเิ นียมผสมลิเทียม
2 : เหล็กกล ้าคาร์บอนตํา (Low carbon steel) 3 : อะลูมเิ นียมผสมซิลคิ อน
3 : เหล็กกล ้าไร ้สนิมเฟร์ไรต์ (Ferritic stainless steel) 4 : อะลูมเิ นียมผสมสังกะสี
4 : เหล็กกล ้าไร ้สนิมออสเทไนต์ (Austenetic stainless steel)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 47 :
ข ้อที 42 : โลหะกลุม ่ ใดต่อไปนีเหมาะสําหรับผลิตกระดูกเทียม (Surgical implants) มากทีสุด
โลหะชนิดใดต่อไปนีทีเหมาะสําหรับการผลิตวงล ้อรถยนต์มากทีสุด 1 : อะลูมเิ นียมผสม (Aluminium alloys)
1 : อะลูมเิ นียมบริสท
ุ ธิ 2 : ไทเทเนียมผสม (Titanium alloys)
2 : อะลูมเิ นียมผสมซิลค ิ อน 3 : แมกนีเซียมผสม (Magnesium alloys)
3 : อะลูมเิ นียมผสมทองแดง 4 : ทองแดงผสม (Copper alloys)
4 : อะลูมเิ นียมผสมแมงกานีส
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 48 :
ข ้อที 43 : ข ้อใดไม่ใช่คณ
ุ ลักษณะเด่นของเหล็กกล ้าคาร์บอน
โลหะชนิดใดต่อไปนีไม่เกิดสนิม 1 : ทนทานการกัดกร่อนได ้ดี
1 : เหล็กกล ้าไร ้สนิม 2 : มีสมบัตท
ิ างกลอยูใ่ นเกณฑ์ดจ ี งึ สามารถนํ าไปใช ้งานได ้หลากหลายทางวิศวกรรม
2 : ทองแดง 3 : เหล็กกล ้าทีมีปริมาณคาร์บอนตํามักนํ าไปใช ้ทําเหล็กเส ้น เหล็กข ้ออ ้อย สําหรับอุตสาหกรรมก่อสร ้าง
3 : อะลูมเิ นียม 4 : สามารถขึนรูปได ้ทังร ้อนและเย็น
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ผิด
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 44 :
เหล็กกล ้าชนิดใดต่อไปนีเหมาะสําหรับใช ้งานทีอุณหภูมส
ิ งู
ข ้อที 49 :
1 : เหล็กกล ้าคาร์บอนสูง (High carbon steel) ข ้อใดไม่ใช่วส
ั ดุพอลิเมอร์
2 : เหล็กกล ้าไร ้สนิมเฟร์ไรต์ (Ferritic stainless steel)
ิ
ิ
1 : ยาง (Rubber)
ิ ธ
ิ ธ
3 : เหล็กกล ้าไร ้สนิมออสเทไนต์ (Austenetic stainless steel)
2 : พลาสติก (Plastic)
สท
สท
4 : เหล็กกล ้าไร ้สนิมมาร์เทนไซต์ (Martensitic stainless steel)
3 : ไม ้ (Wood)
4 : แก ้ว (Glass)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
วน
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สง
สง
ข ้อที 45 :
เหล็กหล่อชนิดใดต่อไปนีเหมาะสําหรับงานทีต ้องทนต่อการสึกหรอได ้ดี
ข ้อที 50 :
ขอ ขอ
ขอ ขอ
ยางทีผ่านกระบวนการ Vulcanization แล ้ว จัดเป็ นพอลิเมอร์ประเภทใด
1 : พอลิเมอร์แบบสายโซ่ตรง (Linear polymer) ข ้อที 55 :
ปั จจัยใดมีผลต่อสมบัตเิ ชิงกลของพอลิเมอร์แบบกึงผลึก (Semicrystalline polymers)
กร
กร
ิ ว
3 : การอบอ่อน (Annealing)
าวศ
าวศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สภ
สภ
ข ้อที 51 :
ข ้อใดเป็ นพอลิเมอร์แบบโครงข่าย (network)
1 : พอลิสไตรีน (Polystyrene) ข ้อที 56 :
2 : ฟี นอลฟอร์มลั ดีไฮด์ (Phenol-formaldehyde) จากกราฟความเค ้น-ความเครียด (Stress-strain plot) กราฟเส ้นใดแสดงสมบัตข
ิ องวัสดุยด
ื หยุน
่ (Elastomeric
3 : พอลิเอทธิลนี (Polyethylene) polymer)
4 : พอลิพรอพิลน ี (Polypropylene)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 52 :
ข ้อใดเป็ นลักษณะของเทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic)
1 : แข็งตัวเมือถูกความร ้อน และอ่อนตัวเมือลดอุณหภูม ิ
2 : อ่อนตัวเมือถูกความร ้อน แต่กลับมาแข็งตัวเมือลดอุณหภูม ิ
3 : แข็งตัวเมือถูกความร ้อน และไม่สามารถทําให ้อ่อนตัวได ้อีก
4 : แข็งตัวเมือถูกความร ้อน แต่สามารถทําให ้อ่อนตัวได ้เมือลดอุณหภูม ิ 1 : I
2 : II
คําตอบทีถูกต ้อง : 2 3 : III
4 : IV
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 53 :
พอลิเมอร์ใดต่อไปนีเป็ นเทอร์โมเซ็ตติง (Thermosetting)
1 : พอลิพรอพิลนี (Polypropylene) ข ้อที 57 :
2 : พอลิเอทธิลน
ี (Polyethylene) พอลิเมอร์ใดต่อไปนีเป็ นเทอร์โมพลาสติก (Thermoplastics)
3 : พอลิเอสเทอร์ไม่อมตั
ิ ว (Unsaturated polyester)
4 : พอลิไวนีลคลอไรด์ (Polyvinyl chloride) 1 : PVC
2 : Epoxy resins
คําตอบทีถูกต ้อง : 3 3 : Polyester
4 : Melamine
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 54 :
ข ้อใดต่อไปนีกล่าวไม่ถก
ู ต ้อง
1 : โคพอลิเมอร์ (Copolymer) ประกอบด ้วย มอนอเมอร์มากกว่าหนึงชนิดเรียงต่อกัน ข ้อที 58 :
2 : อัลเทอร์เนตโคพอลิเมอร์ (Alternate copolymer) ประกอบด ้วย มอนอเมอร์มากกว่าหนึงชนิดเรียงต่อแบบ ข ้อใดต่อไปนีไม่ใช่พอลิเมอร์
ธิ
ธิ
สลับกัน
1 : พอลิเอทิลน ี (Polyethylene)
สท
สท
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สง
สง
ขอ
ขอ
อ
อ
รข
รข
ข ้อที 59 : ข ้อที 64 :
ี ํา
เพราะเหตุใดยางรถยนต์จงึ มีสด ขวดพลาสติกใสทีใช ้บรรจุนําอัดลมในท ้องตลาดมักทําด ้วยพอลิเมอร์ชนิดใด
ก
1 : เนืองจากต ้องสัมผัสถนนซึงมีความสกปรก จึงผสมสีดําลงไป 1 : พอลิโพรพิลนี (Polypropylene)
2 : ี ําลงไป
เนืองจากต ้องการให ้มีความแข็งแรงขึน จึงใส่สารเสริมแรงชนิดหนึงซึงมีสด 2 : พอลิสไตรีน (Polystyrene)
ิ ว
ิ ว
3 : เพือให ้ง่ายต่อการดูแลรักษา 3 : พอลิเอทิลน
ี เทอร์ฟาทาเลต (Polyethylene terephthalate)
าว ศ
าว ศ
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก 4 : พอลิเมทิล เมทาครีเลต (Polymethyl methacrylate)
สภ
ข ้อที 60 : ข ้อที 65 :
โดยทัวไปพอลิเมอร์มส
ี มบัตเิ ชิงกลในข ้อใดต่อไปนีมากกว่าวัสดุวศ
ิ วกรรมชนิดอืนๆ เราสามารถเพิมสมบัตใิ นการรับแรงกระแทกให ้กับพลาสติกทีเปราะได ้โดยการผสมสิงใดต่อไปนีลงไปในพลาสติก
1 : Tensile Strength 1 : ยาง (Rubber)
2 : Modulus of Elasticity 2 : สารเสริมแรง (Reinforcing filler)
3 : Yield Strength 3 : สารป้ องกันการแตกหักของสายโซ่โมเลกุล (Stabilizer)
4 : Elongation 4 : สารเพิมเนือ (Extender)
ข ้อที 61 : ข ้อที 66 :
วัตถุดบิ ทีใช ้ในการผลิตพอลิเมอร์มาจากแหล่งใด ถ ้านํ าขวดพลาสติกทีทําจากพอลิเอทิลน
ี ไปบรรจุนําอัดลมและปิ ดฝาให ้แน่น จะเกิดสิงใดขึน
1 : แก๊สธรรมชาติ 1 : ไม่มส ิ
ี งใดเปลี
ยนแปลง
2 : นํ ามันปิ โตรเลียม 2 : นํ าอัดลมจะมีสท ี จางลง
ี
3 : ผลิตผลทางการเกษตร 3 : แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จะระเหยออกไป
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก 4 : ปริมาณของนํ าอัดลมจะลดลง
ข ้อที 62 : ข ้อที 67 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่ใช่ลก
ั ษณะหรือสมบัตข
ิ องเทอร์โมเซตติง (Thermosetting) ข ้อใดต่อไปนีไม่เป็ นความจริง
1 : มีโครงสร ้างตาข่าย 1 : โดยทัวไป พอลิเมอร์มค ี า่ การนํ าความร ้อนทีตํากว่าโลหะมาก
2 : นํ ามาขึนรูปใหม่ไม่ได ้ 2 : โดยทัวไป อากาศมีคา่ การนํ าความร ้อนทีตํากว่าพอลิเมอร์มาก
3 : ทนแรงกระแทกได ้ดี 3 : โดยทัวไป พอลิเมอร์มค ี า่ สัมประสิทธิของการขยายตัวเมือได ้รับความร ้อนมากกว่าโลหะ
4 : ทนความร ้อนได ้ดี 4 : โดยทัวไป เซรามิกมีคา่ สัมประสิทธิของการขยายตัวเมือได ้รับความร ้อนมากกว่าพอลิเมอร์
ข ้อที 63 : ข ้อที 68 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่ใช่โครงสร ้างของโคพอลิเมอร์ (Copolymer) กระบวนการในข ้อใดต่อไปนีเป็ นกระบวนการสร ้างพอลิเมอร์จากมอนอเมอร์
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
1 : โครงสร ้างแบบบล็อก (Block) 1 : Monomerization
สท
สท
2 : โครงสร ้างแบบสลับ (Alternating) 2 : Polymerization
3 : โครงสร ้างแบบเชิงเส ้น (Linear) 3 : Hydration
4 : ่ (Random)
โครงสร ้างแบบสุม 4 : Annealing
วน
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3 คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สง
สง
ขอ ขอ
ขอ ขอ
เนือหาวิชา : 240 : 03 Engineering ceramics
ข ้อที 69 :
เทฟลอน (Teflon) คือชือทางการค ้าของพอลิเมอร์ในข ้อใด
กร
กร
1 : Polystyrene ข ้อที 74 :
2 : Polyurethane
ิ ว
ิ ว
ปฏิกริ ย
ิ าทีเกิดขึนเมือผสมซีเมนต์กบ
ั นํ าคือปฏิกริ ย
ิ าใด
3 : Polytetrafluoroethylene
าวศ
าวศ
สภ
4 : ปฏิกริ ย ิ า Dehydration
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 70 :
พลาสติกในข ้อใดทีสามารถนํ ามาให ้ความร ้อนแล ้วหลอมเหลวเพือนํ าไปขึนรูปใหม่ได ้
1 : ไนลอน ข ้อที 75 :
2 : เมลามีน การเติมแร่ยปิ ซัม (Gypsum) ลงในซีเมนต์มวี ต
ั ถุประสงค์อย่างไร
3 : เบคาไลท์
4 : อีพอกซี 1 : เพือลดต ้นทุนวัตถุดบิ
2 : เพือควบคุมเวลาการแข็งตัวของซีเมนต์
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 3 : เพือเพิมความแข็งแรงให ้กับซีเมนต์
4 : ี ายุการใช ้งานทีนานขึน
เพือให ้ซีเมนต์มอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 71 :
ข ้อใดจัดเป็ นวัสดุอล
ี าสโตเมอร์
1 : เมลามีน ข ้อที 76 :
2 : อะคริลค ิ ทําไมเซรามิกโดยทัวไปมีสมบัตท
ิ แข็
ี ง (Hard) และเปราะ (Brittle) กว่าโลหะ
3 : ซิลโิ คน
4 : เทฟลอน 1 : การเคลือนทีของ Dislocation เกิดขึนในเซรามิกได ้ง่ายกว่าโลหะ
2 : เซรามิกทัวไปยึดกันด ้วยพันธะแวนเดอร์วาลส์ แต่โลหะยึดกันด ้วยพันธะโลหะ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3 3 : ในเซรามิก ระนาบอะตอมเกิดการเลือน (Slip) ได ้บางระนาบเท่านัน
4 : เซรามิกมีความหนาแน่นสูงกว่าโลหะ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 72 :
ข ้อใดกล่าวไม่ถก
ู ต ้อง
1 : เทอร์โมเซตติงมีความแข็งแกร่งสูง เนืองจากมีโครงสร ้างตาข่ายทีแน่นหนา ข ้อที 77 :
2 : เทอร์โมพลาสติกแสดงพฤติกรรมทางความร ้อนด ้วยการเปลียนแปลงสมบัตท ิ างกายภาพเพียงอย่างเดียว ข ้อใดไม่ใช่สมบัตข
ิ องเซรามิก
3 : อีลาสโตเมอร์แสดงพฤติกรรมทางความร ้อนด ้วยการเปลียนแปลงทางกายภาพและทางเคมีโดยมีโครงสร ้าง
ตาข่ายหลวมๆ เกิดขึน 1 : เป็ นฉนวนทังทางความร ้อนและไฟฟ้ า
4 : เทอร์โมเซตติงสามารถนํ ามาให ้ความร ้อนแล ้วหลอมเหลวเพือนํ าไปขึนรูปใหม่ได ้ 2 : ความต ้านทานต่อแรงกระแทกตํา
3 : ทนต่อแรงดึงได ้ดี
คําตอบทีถูกต ้อง : 4 4 : เฉือยต่อการเกิดปฏิกริ ย
ิ าเคมี
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 73 :
ธิ
ธิ
ข ้อใดกล่าวเกียวกับ Tg ของพอลิเมอร์ถก
ู ต ้องทีสุด
ข ้อที 78 :
สท
สท
วน
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ขอ
ขอ
อ
อ
รข
รข
ข ้อที 84 :
ข ้อใดกล่าวถูกต ้อง
ข ้อที 79 :
วัสดุในข ้อใดเหมาะทีจะทําเป็ นวัสดุขด
ั ถู (Abrasive material) 1 : การขึนรูปแก ้วจะทําขณะทีแก ้วมีสภาพเป็ นของเหลวทีมีความหนืดสูง
ก
2 : การขึนรูปแก ้วจะเกิดปฏิกริ ย
ิ า Sintering
1 : เหล็ก
ิ ว
ิ ว
3 : แก ้วโดยทัวไปเป็ นของแข็งทีมีผลึก
2 : อะลูมนิ า
าวศ
าว ศ
4 : หลังจากขึนรูปแก ้วแล ้วต ้องนํ าแก ้วไปอบและเผา
3 : พอลิเอทิลนี
4 : ไม ้ คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สภ
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 85 :
การเพิมความแข็งแรงให ้กับแก ้วโดยวิธเี ทมเปอร์ (Temper) หรือ Chemical treatment มีหลักการอย่างไร
ข ้อที 80 :
Glass transition temperature คืออะไร 1 : ทําให ้เกิดความเค ้นแรงดึงทีผิวและความเค ้นแรงอัดภายในเนือแก ้ว
2 : ทําให ้เกิดความเค ้นแรงอัดทีผิวและความเค ้นแรงดึงภายในเนือแก ้ว
1 : อุณหภูมจ
ิ ด ุ หลอมเหลว (Melting point) ของแก ้ว 3 : ทําให ้เกิดความเค ้นแรงอัดในเนือแก ้ว
2 : อุณหภูมทิ แก ี ้วมีสภาพการนํ าไฟฟ้ า 4 : ทําให ้เกิดความเค ้นแรงดึงในเนือแก ้ว
3 : อุณหภูมท ิ แก ี ้วเปลียนจากสภาพทีมีความหนืดสูงเป็ นสภาพทีแข็งและเปราะ
4 : อุณหภูมท ิ แก ี ้วกลายเป็ นไอ คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 86 :
เซรามิกประเภทใดมีความเหนียว (Toughness) ดีทสุ
ี ดทีอุณหภูมห
ิ ้อง
ข ้อที 81 :
ข ้อใดไม่ใช่เซรามิกวิศวกรรม (Engineering ceramic) 1 : ซิลก
ิ อนไนไตรด์ (Silicon nitride)
2 : ซิลกิ อนคาร์ไบด์ (Silicon carbide)
1 : พอร์ซเิ ลน (Porcelain) 3 : อะลูมน ิ า (Alumina)
2 : อะลูมนิ า (Alumina) 4 : Partially stabilized zirconia
3 : ซิลก
ิ อนไนไตรด์ (Silicon nitride)
4 : เซอร์โคเนีย (Zirconia) คําตอบทีถูกต ้อง : 4
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 87 :
Glass-ceramic แตกต่างจาก แก ้ว (Glass) อย่างไร
ข ้อที 82 :
เซรามิกลักษณะใดทีไม่เหมาะสมสําหรับการนํ ามาใช ้ทําเป็ นกระดูกเทียม 1 : แก ้วโปร่งใสแต่ Glass-ceramic ไม่โปร่งใส
2 : แก ้วไม่นําไฟฟ้ า แต่ Glass-ceramic นํ าไฟฟ้ า
1 : เซรามิกทีมีสมบัตต
ิ ้านทานการผุกร่อนทีดี 3 : แก ้วนํ าความร ้อนได ้ไม่ด ี แต่ Glass-ceramic สามารถนํ าความร ้อนได ้
2 : เซรามิกทีมีความหนาแน่นสูง 4 : แก ้วทนการเปลียนแปลงความร ้อน (Thermal shock) ได ้ แต่ Glass-ceramic ทนไม่ได ้
3 : เซรามิกทีมีความแข็งแรงสูง
4 : เซรามิกทีสามารถยึดติดกับเนือเยือได ้ดี คําตอบทีถูกต ้อง : 1
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 88 :
Pyroelectric ceramic มีสมบัตเิ ด่นในข ้อใด
ข ้อที 83 :
1 : สามารถเปลียนสมบัตท
ิ างกลให ้เป็ นสมบัตไิ ฟฟ้ า
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
ทําไมปั จจุบน ิ า (Alumina) มาใช ้ทําหัวเทียนแทนโลหะ
ั นิยมนํ าเซรามิกวิศวกรรม เช่น อะลูมน
2 : สามารถเปลียนสมบัตทิ างไฟฟ้ าให ้เป็ นสมบัตท ิ างกล
สท
สท
1 : เซรามิกมีความแข็งแรงมากกว่าโลหะทีอุณหภูมส
ิ งู 3 : สามารถเปลียนสมบัตท ิ างไฟฟ้ าให ้เป็ นสมบัตท ิ างเคมี
2 : เซรามิกเป็ นวัสดุเปราะกว่าโลหะ 4 : สามารถเปลียนสมบัตท ิ างความร ้อนให ้เป็ นสมบัตท ิ างไฟฟ้ า
3 : เซรามิกมีการนํ าไฟฟ้ าทีดีกว่าโลหะ
วน
วน
4 : เซรามิกมีความหนาแน่นตํากว่าโลหะ คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สง
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 89 :
ขอ ขอ
ขอ ขอ
เซรามิกประเภทแก ้วต่างจากเซรามิกโดยทัวไปอย่างไร 1 : โครงผลึกซีเซียมคลอไรด์
2 : โครงผลึกโซเดียมคลอไรด์
1 : แก ้วไม่มผ
ี ลึก แต่เซรามิกโดยทัวไปเป็ นโครงสร ้างทีมีผลึก (Crystalline)
3 : โครงผลึกฟลูออไรด์
กร
กร
ิ ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
าวศ
าวศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 95 :
สภ
สภ
ข ้อใดไม่ใช่วส
ั ดุโครงสร ้างซิลเิ กต
ข ้อที 90 :
ผลิตภัณฑ์ใดต่อไปนีไม่จําเป็ นต ้องใช ้วัสดุเซรามิก 1 : อะลูมน ิ า
2 : ควอทซ์
1 : กระสวยอวกาศ
3 : ไมก ้า
2 : เตาเผา
4 : ทัลค์
3 : ลูกถ ้วยไฟฟ้ า (Electrical insulator)
4 : มีดผ่าตัด
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 96 :
วัสดุเซรามิกมีพันธะชนิดใด
ข ้อที 91 :
ข ้อใดไม่ชว่ ยทําให ้วัสดุทผลิ
ี ตจากอะลูมน
ิ า (Alumina) มีสมบัตโิ ปร่งแสง (Translucent) ได ้ 1 : พันธะโลหะ
2 : พันธะโควาเลนต์
1 : อะลูมน ิ าทีใช ้มีความบริสท
ุ ธ์สงู มาก
3 : พันธะไอออนิก
2 : เป็ นวัสดุผลึกเดียว (Single crystal)
4 : พันธะไอออนิกร่วมพันธะโควาเลนต์
3 : การจัดเรียงตัวของผลึกมีทศ ิ ทางใกล ้เคียงกันมาก
4 : ขอบเกรน (Grain boundary) มีความหนามาก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 92 :
กระถางปลูกต ้นไม ้ โอ่งดิน อิฐมอญ จัดเป็ นเซรามิกประเภทใด ข ้อที 97 :
1 : Stoneware ไม ้จัดเป็ นวัสดุประเภทใด
2 : Earthenware 1 : วัสดุเชิงประกอบ
3 : Porcelain 2 : พอลิคาร์บอเนต
4 : Bone China 3 : พอลิไวนิลคลอไรด์
4 : พอลิเมอร์
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 93 :
วัสดุทนไฟทีใช ้ในเตาเผาอุณหภูมส
ิ งู มักทําจากวัสดุในข ้อใดต่อไปนี ข ้อที 98 :
1 : CaO เพราะเหตุใดไม ้จึงรับแรงดัด (Bending force) ได ้ดี
2 : Feldspar 1 : เส ้นใยเรียงตัวในทิศใดทิศหนึง
ธิ
ธิ
3 : Cement 2 : มีความเหนียวสูง
สท
สท
4 : ไม ้มีนําหนักเบา
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
วน
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สง
สง
ข ้อที 94 :
วัสดุแบเรียมไททาเนต (BaTiO3) มีโครงผลึกแบบใด ข ้อที 99 :
ขอ
ขอ
อ
อ
ข ้อใดเป็ นส่วนประกอบหลักของยางมะตอย (Asphalt) 1 : ทราย (Sand) หินฟั นม ้า (Feldspar) และซีเมนต์ (Cement)
รข
รข
1 : ธาตุคาร์บอน (C) และ ไนโตรเจน (N) 2 : หินย่อย (Aggregate) หินฟั นม ้า (Feldspar) และซีเมนต์ (Cement)
2 : ธาตุคาร์บอน (C) และ ไฮโดรเจน (H) 3 : ทราย (Sand) หินย่อย (Aggregate) และซีเมนต์ (Cement)
4 : ทราย (Sand) หินย่อย (Aggregate) และบิทเู มน (Bitumen)
ก
3 : ธาตุคาร์บอน (C) และ ซัลเฟอร์ (S)
4 : ธาตุคาร์บอน (C) และ ออกซิเจน (O)
ิ ว
ิ ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
าว ศ
าว ศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สภ
ข ้อที 100 :
ไม ้มีสมบัตท
ิ างกลตามข ้อใด
ข ้อที 105 :
1 : เท่ากันทุกทิศทาง สมการ delta ferrite + L --> austenite เรียกปฏิกริ ย
ิ านีว่าปฏิกริ ย
ิ าใด
2 : ความแข็งแรงตามแนวความยาวมากกว่าแนวขวาง
1 : Eutectoid
3 : ความแข็งแรงขนานเส ้นใยตํากว่าความแข็งแรงตังฉาก
2 : Eutectic
4 : โมดูลสั เท่ากันทุกทิศทาง
3 : Peritectic
4 : Peritectoid
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 101 :
ยางมะตอย (Asphalt) และยางมะตอยผสม (Asphalt mix) มีสมบัตต
ิ า่ งกันอย่างไร
ข ้อที 106 :
1 : ยางมะตอยมีแรงเสียดทาน (Friction) มากกว่ายางมะตอยผสม ข ้อใดไม่ใช่ข ้อมูลทีสามารถทราบได ้จากแผนภาพเฟส (Phase diagram)
2 : ยางมะตอยผสมมีแรงเสียดทาน (Friction) มากกว่ายางมะตอย
1 : สภาพการละลายได ้ของธาตุหนึงในอีกธาตุหนึง
3 : ยางมะตอยและยางมะตอยผสมใช ้ทําพืนรับแรงทีมีสมบัตใิ กล ้เคียงกัน
2 : อุณหภูมท
ิ สารเริ
ี มหลอมละลาย
4 : ยางมะตอยแข็งแรงมากกว่ายางมะตอยผสม
3 : ความดันทีสารเปลียนเฟส
4 : ปริมาตรของสารทีหลอมเหลว
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 102 :
การใช ้คอนกรีตในการก่อสร ้าง คอนกรีตถูกใช ้เพือให ้รับแรงประเภทใด
ข ้อที 107 :
1 : แรงดึง (Tension) ข ้อใดไม่ใช่ข ้อมูลทีสามารถทราบได ้จากแผนภาพเฟส (Phase diagram)
2 : แรงอัด (Compression)
1 : อุณหภูมท
ิ โลหะผสมเริ
ี มแข็งตัวเป็ นของแข็ง
3 : แรงเฉือน (Shear)
2 : สภาพการละลายได ้ของธาตุหนึงในอีกธาตุหนึง ณ สภาวะสมดุล
4 : แรงบิด (Torsion)
3 : เฟสต่างๆ ทีมีอยูใ่ นเนือวัสดุ
4 : ขนาดและรูปร่างของโครงสร ้างจุลภาค
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 103 :
ความสามารถในการทํางาน (Workability) ของคอนกรีตสามารถทดสอบด ้วยวิธใี ด
ข ้อที 108 :
1 : การทดสอบความล ้า (Fatigue test)
2 : การทดสอบโดยใช ้แรงอัด (Compressive test)
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
3 : การทดสอบความแข็งแบบบริเนลล์ (Brinell)
สท
สท
4 : การทดสอบการยุบตัว (Slump test)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
วน
วน
สง
สง
ข ้อที 104 :
ส่วนประกอบหลักของคอนกรีตคือข ้อใด
ขอ ขอ
ขอ ขอ
ข ้อใดคือปฏิกริ ย
ิ าทีเกิดขึนในแผนภาพเฟสของ Fe-Fe3C ทีกําหนดให ้ ปฏิกริ ย
ิ ายูเทกทอยด์ (Eutectoid) ของเหล็กกล ้าคาร์บอน เกิดทีปริมาณคาร์บอนกีเปอร์เซ็นต์โดยนํ าหนัก
กร
กร
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 111 :
ข ้อใดไม่ใช่ข ้อมูลทีได ้จากการอ่านแผนภาพเฟสในสภาวะทีสมดุล
ธิ
ธิ
1 : ชนิดของเฟสทีเกิดขึน
2 : ปริมาณของเฟสทีเกิดขึน
สท
สท
3 : อุณหภูมท
ิ สารเริ
ี มแข็งตัว (Solidify) หรือหลอมเหลว (Melt)
ิ
4 : ชนิดของโครงสร ้างผลึกของเฟสทีเกิดขึน
วน
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สง
สง
ข ้อที 112 :
ขอ
ขอ
อ
อ
สารละลาย (Solution) และของผสม (Mixture) แตกต่างกันอย่างไร
รข
รข
1 : สารละลายจะเกิดการแยกกันของสารทําให ้เกิดเฟสมากกว่าหนึงเฟส ของผสมจะเกิดเป็ นเนือเดียวกันมีเพียง ข ้อที 117 :
หนึงเฟส จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – นิกเกิล (Ni) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง 47%โดยนํ าหนักและนิกเกิล
53% โดยนํ าหนัก ที 1300 องศาเซลเซียส ประกอบด ้วยเฟสอะไร
ก
2 : สารละลายจะเกิดเฉพาะในของเหลวเท่านัน ของผสมจะเกิดจากการผสมของเหลวและของแข็งด ้วยกัน
3 : สารละลายจะเกิดเป็ นเนือเดียวกันมีเพียงหนึงเฟส ของผสมจะเกิดการแยกกันของสารทําให ้เกิดเฟสมากกว่า
ิ ว
ิ ว
หนึงเฟส
าว ศ
าว ศ
4 : สารละลายจะเกิดจากการรวมกันของของเหลวและของแข็งเป็ นเฟสเดียว ของผสมจะเกิดจากการรวมกันของ
สารทําให ้กลายเป็ นเฟสเดียว
สภ
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 113 :
เส ้น Liquidus มีความสําคัญอย่างไร
1 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุล เฟสจะเป็ นเฟสของเหลวทังหมดทีอุณหภูมต ิ ํากว่าเส ้น Liquidus
2 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุล อุณหภูมท
ิ อยู ่ ํากว่าเส ้น Liquidus เฟสของเหลวเปลียนเป็ นเฟสของแข็ง
ี ต
3 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุล เฟสของแข็งชนิดหนึงจะเริมเกิดเป็ นเฟสของแข็งมากกว่าหนึงชนิดทีเส ้น Liquidus
4 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุล อุณหภูมสิ งู กว่าเส ้น Liquidus เฟสของเหลวเริมเกิดเป็ นเฟสของแข็งทังหมด
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 114 :
เส ้น Solidus มีความสําคัญอย่างไร
1 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุล เฟสของแข็งชนิดหนึงจะเริมเกิดเป็ นเฟสของแข็งมากกว่าหนึงชนิดทีเส ้น Solidus
2 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุล อุณหภูมท
ิ อยู
ี ต ่ ํากว่าเส ้น Solidus จะประกอบด ้วยเฟสของเหลวและเฟสของแข็ง
1 : เฟสของเหลว และเฟสของแข็ง α
3 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุล อุณหภูมทิ อยู
ี ต ่ ํากว่าเส ้น Solidus เฟสของเหลวจะเปลียนเป็ นเฟสของแข็งทังหมด
2 : เฟสของแข็ง α
4 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุล อุณหภูมท ิ อยู
ี ส ่ งู กว่าเส ้น Solidus จะประกอบด ้วยเฟสของแข็งทังหมด
3 : เฟสสารประกอบ Cu-Ni
4 : เฟสของเหลว
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 115 :
ั ษณะของเส ้น Solvus
ข ้อใดไม่ใช่ลก
ข ้อที 118 :
1 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุล เฟสของแข็งชนิดหนึงจะเริมเกิดเป็ นเฟสของแข็งมากกว่าหนึงชนิดทีเส ้น Solvus จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – นิกเกิล (Ni) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง 30% โดยนํ าหนักและนิกเกิล
2 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุล อุณหภูมท ิ อยู ่ ํากว่าเส ้น Solvus จะประกอบด ้วยเฟสของเหลวและเฟสของแข็ง
ี ต 70% โดยนํ าหนัก ถูกให ้ความร ้อนจากอุณหภูมห
ิ ้อง อยากทราบว่าเฟสของเหลวเริมเกิดขึนทีอุณหภูมใิ ด
3 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุล เส ้น Solvus จะเป็ นเส ้นแสดงขีดจํากัดการละลาย (Solubility limit) ของเฟสของแข็ง
สองเฟส
4 : ภายใต ้สภาวะทีสมดุลอุณหภูมท ิ เหนื
ี อเส ้น Solvus เป็ นเฟสของแข็งทังหมด
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ิ
ิ
ข ้อที 116 :
ิ ธ
ิ ธ
ข ้อใดไม่ทําให ้เกิด Isomorphous systems
สท
สท
1 : โครงสร ้างผลึกของแต่ละธาตุมโี ครงสร ้างแบบเดียวกัน
2 : ธาตุแต่ละตัวต ้องรวมกันเกิดเป็ นสารประกอบ (Compound)
วน
วน
3 : ขนาดของอะตอมทังสองธาตุมค ี วามแตกต่างกันไม่เกิน 15%
4 : ธาตุแต่ละตัวควรมีคา่ Valence electron เหมือนกัน
สง
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ขอ ขอ
ขอ ขอ
นิเกิล 45% อยากทราบเปอร์เซ็นต์โดยนํ าหนักของเฟสทังสองของโลหะผสมนี
กร
กร
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
สภ
ข ้อที 119 :
ข ้อใดไม่เกียวข ้องกับการเกิดโครงสร ้างแกน (Cored structure) ข ้อที 121 :
1 : เกิดในสภาวะทีไม่สมดุล
2 : เกิดจากความเข ้มข ้นของส่วนประกอบทางเคมี (Chemical composition) ในแต่ละส่วนต่างกัน
3 : สามารถแก ้ไขได ้โดยการทํากรรมวิธท
ี างความร ้อน (Heat treatment)
4 : การเย็นตัวลงอย่างช ้าๆ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 120 :
จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – นิเกิล (Ni) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง 47%โดยนํ าหนักและนิเกิล
53%โดยนํ าหนักที 1300 องศาเซลเซียส ประกอบด ้วยเฟสสองเฟส คือ เฟสของแข็ง α ซึงมีสว่ นประกอบโดยนํ า
หนักของทองแดง 42% และ นิเกิล 58% และเฟสของเหลวซึงมีสว่ นประกอบโดยนํ าหนักของทองแดง 55% และ
ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
ิ
วน
วน
สง
สง
ขอ
ขอ
อ
อ
จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – นิกเกิล (Ni) ค่า Degree of freedom บนเส ้น Liquidus มีคา่ เท่าใด ขึนบ ้าง
รข
รข
ก
ก
ิ ว
ิ ว
าว ศ
าว ศ
สภ
สภ
1 : Degree of freedom = 0
2 : Degree of freedom = 1
3 : Degree of freedom = 2
4 : Degree of freedom = 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
1 : Eutectic reaction และ Eutectoid reaction
2 : Peritectic reaction และ Eutectoid reaction
3 : Eutectic reaction และ Peritectoid reaction
ข ้อที 122 :
4 : Monotectic reaction และ Eutectoid reaction
จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – สังกะสี (Zn) ในช่วงอุณหภูมต ิ งแต่
ั 500 องศาเซลเซียส ถึง 750 องศา
เซลเซียส ของโลหะผสมทีมีเปอร์เซ็นต์โดยนํ าหนักของสังกะสีตงแต่
ั 60% ถึง 100% มีปฏิกริ ย
ิ า Invariant ใดเกิด
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 123 :
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
สท
สท
วน
วน
สง
สง
ขอ ขอ
ขอ ขอ
จากแผนภาพเฟสของ นิกเกิล (Ni)- ไททาเนียม (Ti) มีปฏิกริ ย
ิ า Invariant ใดเกิดขึนบ ้าง ด ้วยเงิน (Ag) 85%โดยนํ าหนัก อยากทราบว่าโลหะผสมนีถูกให ้ความร ้อนถึงอุณหภูมเิ ท่าใด
กร
กร
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
สภ
1 : Monotectic reaction, Peritectic reaction และ Eutectoid reaction 1 : ประมาณ 750 องศาเซลเซียส
2 : Monotectic reaction, Peritectic reaction และ Peritectoid reaction 2 : ประมาณ 800 องศาเซลเซียส
3 : Peritectic reaction, Eutectic reaction และ Eutectoid reaction 3 : ประมาณ 850 องศาเซลเซียส
4 : Eutectoid reaction, Peritectoid reactionและ Peritectic reaction 4 : ประมาณ 950 องศาเซลเซียส
ธิ
สท
สท
ิ
ิ
วน
วน
สง
สง
ขอ
ขอ
อ
อ
ประกอบด ้วยเงิน (Ag) 85% โดยนํ าหนัก อยากทราบว่าเฟสของแข็ง β ประกอบด ้วยเงินกีเปอร์เซ็นต์โดยนํ าหนัก
รข
รข
ก
ก
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
สภ
1 : เฟสของเหลว และเฟสของแข็ง δ
2 : เฟสของเหลว และเฟสของแข็ง ε 1 : ประมาณ 90% โดยนํ าหนัก
3 : เฟสของแข็ง ε 2 : ประมาณ 95% โดยนํ าหนัก
4 : เฟสของเหลว เฟสของแข็ง δ และเฟสของแข็ง ε 3 : ประมาณ 5% โดยนํ าหนัก
4 : ประมาณ 10% โดยนํ าหนัก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 126 :
จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – เงิน (Ag) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง 10%โดยนํ าหนัก และเงิน ข ้อที 127 :
90%โดยนํ าหนัก ถูกให ้ความร ้อนจนเกิดเฟสของแข็ง β และเฟสของเหลว ถ ้าส่วนประกอบของเฟสของเหลว จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – นิกเกิล (Ni) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง 30%โดยนํ าหนักและนิเกิล
70%โดยนํ าหนัก ที 1350 องศาเซลเซียส ประกอบด ้วยเฟสอะไร
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
สท
สท
วน
วน
สง
สง
ขอ ขอ
ขอ ขอ
กร
กร
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
สภ
1 : เฟสของเหลว
2 : เฟสของเหลว และเฟสของแข็ง α
3 : เฟสของแข็ง α
4 : เฟสของสารประกอบระหว่างทองแดงและนิเกิล
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
1 : เฟสของเหลว
2 : เฟสของเหลว และเฟสของแข็ง δ
3 : เฟสของเหลว และเฟสของแข็ง ε
ข ้อที 128 :
4 : เฟสของแข็ง γ
จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – สังกะสี (Zn) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง 20%โดยนํ าหนักและสังกะสี
80%โดยนํ าหนัก ที 800 องศาเซลเซียส ประกอบด ้วยเฟสอะไร
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 129 :
จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – สังกะสี (Zn) โลหะผสมประกอบด ้วยทองแดง 20%โดยนํ าหนักและสังกะสี
80%โดยนํ าหนัก ที 500 องศาเซลเซียส ประกอบด ้วยเฟสอะไร
ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
ิ
วน
วน
สง
สง
ขอ
ขอ
อ
อ
รข
รข
ก
ก
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
สภ
1 : เฟสของเหลว 1 : เฟสของแข็งสองชนิดคือ (α Pb) และ (βSn)
2 : เฟสของแข็ง ε 2 : เฟสของแข็ง (α Pb) และเฟสของเหลว
3 : เฟสของแข็ง δ 3 : เฟสของแข็ง (βSn) และเฟสของเหลว
4 : เฟสของเหลว และเฟสของแข็ง ε 4 : เฟสของเหลว
ิ
ิ ธ
ิ ธ
สท
สท
วน
วน
สง
สง
ขอ ขอ
ขอ ขอ
จากแผนภาพเฟสของตะกัว (Pb) – ดีบก
ุ (Sn) บริเวณทีเป็ น α มีความหมายว่าอย่างไร
กร
กร
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
สภ
ข ้อที 132 :
ข ้อที 133 :
ข ้อใดไม่ใช่ลก
ั ษณะของโครงสร ้างจุลภาคของส่วนประกอบ Eutectic
1 : Lamellar
2 : Rodlike
3 : Globular
4 : Homogeneous
ธิ
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สท
สท
ิ
ข ้อที 134 :
วน
วน
ปฏิกริ ย
ิ าต่อไปนี ข ้อใดไม่ใช่ปฏิกริ ย
ิ า Invariant
1 : Eutectic reaction
สง
สง
2 : Monotectic reaction
3 : Peritectoid reaction
ขอ
ขอ
อ
อ
4 : Oxidation reaction 2 : อากาศในเตาอบ
รข
รข
3 : นํ าเปล่า
คําตอบทีถูกต ้อง : 4 4 : นํ ามัน
ก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
ข ้อที 135 :
จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – นิกเกิล (Ni) ค่า Degree of freedom ระหว่างเส ้น Solidus และ Liquidus มี
ข ้อที 138 :
กรรมวิธก ี ารอบชนิดใดต่อไปนี ทําให ้ชินงานมีความแข็งแรงสูงทีสุด
สภ
สภ
1 : การอบในกระบวนการ (Process annealing)
2 : การอบปรกติ (Normalizing)
3 : การอบอ่อนเต็มที (Full annealing)
4 : สเฟี ยรอยไดซิง (Spheroidizing)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 139 :
ในการอบอ่อนเต็มที (Full annealing) ชินงานถูกทําให ้เย็นลงด ้วยตัวกลางชนิดใด
1 : อากาศปรกตินอกเตาอบ
2 : อากาศในเตาอบ
3 : นํ าเปล่า
4 : นํ ามัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 136 :
ข ้อใดต่อไปนีเป็ นปฏิกริ ย
ิ า Monotectic ข ้อที 141 :
ข ้อใดคือโครงสร ้างทีได ้จากการเย็นตัวอย่างช ้าๆ ของเหล็กกล ้าคาร์บอนตําทีมีโครงสร ้างออสเทไนต์ (Austenite)
1: 1 : เพอร์ไลต์ (Pearlite) และ เฟร์ไรต์ (Ferrite)
2: 2 : เพอร์ไลต์ (Pearlite) และ ซีเมนไทต์ (Cementite)
3 : เบไนต์ (Bainite)
3: 4 : มาร์เทนไซต์ (Martensite)
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สท
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
วน
วน
ข ้อที 142 :
ข ้อที 137 : จากแผนภาพการแปลงคงอุณหภูม ิ (Isothermal transformation diagram) ของเหล็กกล ้าคาร์บอน 1.13 wt%C
สง
สง
กรรมวิธก ี ารชุบทีใช ้ตัวกลางชนิดใดต่อไปนี ทีทําให ้เกิดอัตราการคายความร ้อนจากชินงานมากทีสุด ข ้อใดคือโครงสร ้างสุดท ้ายของชินงานเหล็กกล ้าคาร์บอน 1.13 wt%C ขนาดเล็กทีถูกอบทีอุณหภูม ิ 920 องศา
เซลเซียส จนมีโครงสร ้างเป็ นออสเทไนต์ (Austenite) ตลอดทังชินก่อนทําให ้เย็นตัวลงอย่างรวดเร็ว จนชินงานมี
1 : อากาศปกติ
ขอ ขอ
ขอ ขอ
ิ
อุณหภูม ิ 400 องศาเซลเซียส และแช่ชนงานไว ้ทีอุณหภูมน
ิ นาน
ี 1 นาที ก่อนทําให ้เย็นตัวถึงอุณหภูมห
ิ ้อง
ข ้อที 145 :
ข ้อใดคือปั จจัยทีมีผลต่อความแข็งของเหล็กกล ้าคาร์บอนปานกลาง
กร
กร
1 : ปริมาณคาร์บอน
2 : อุณหภูมก ิ อ
่ นการชุบแข็ง
ิ ว
ิ ว
3 : อัตราการชุบแข็ง
าวศ
าวศ
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สภ
สภ
ข ้อที 146 :
โครงสร ้างเพอร์ไลต์ (Pearlite) ในเหล็กกล ้าเป็ นโครงสร ้างทีได ้จากปฏิกริ ย
ิ าอะไร
1 : ยูเทกติก (Eutectic)
2 : ยูเทกทอยด์ (Eutectoid)
3 : เพริเทกติก (Peritectic)
4 : เพริเทกทอยด์ (Peritectoid)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 147 :
ในภาวะสมดุล ณ อุณหภูมต ิ ํากว่าอุณหภูมย
ิ เู ทคทอยด์เล็กน ้อย โครงสร ้างเหล็กกล ้าคาร์บอนตํา (0.2wt%C)
ประกอบด ้วยโครงสร ้างของเฟสกึงเสถียร (Metastable phase) ใดบ ้าง และเกิดขึนในปริมาณเท่าใด
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 143 :
ข ้อใดคือวัตถุประสงค์ของการอบปรกติ (Normalizing)
1 : เพือปรับปรุงสมบัตเิ ชิงกลให ้ดีขน
ึ
2 : เพือปรับปรุงโครงสร ้างให ้สมําเสมอ
3 : เป็ นการทําลายความเครียดภายใน
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
ธิ
ข ้อที 144 :
ข ้อใดคือวัตถุประสงค์ของการอบอ่อน (Annealing)
สท
สท
2 : เพือให ้ได ้โครงสร ้างทีมีความอ่อนตัวสูง 2 : เฟร์ไรต์ (Ferrite) 20% และ เพอร์ไลต์ (Pearlite) 80%
วน
วน
สง
ขอ
อ
อ
รข
รข
ข ้อที 148 : ข ้อที 150 :
ลักษณะโครงสร ้างบริเวณรอบรอยเชือม (HAZ) ในเหล็กกล ้าคาร์บอนตําส่วนทีติดกับบริเวณหลอมเหลว (Fusion จากแผนภาพเฟสดีบก ุ -ตะกัว โลหะผสมของดีบก
ุ 85% และตะกัว 15% โดยนํ าหนัก จํานวน 750 กรัมทีอุณหภูมส
ิ งู
zone) ของรอยเชือมคือ ข ้อใดต่อไปนี กว่า 183˚C เล็กน ้อย ประกอบด ้วยเฟส Proeutectic β กีกรัม
ก
1 : โครงสร ้างมีขนาดเกรนหยาบ
ิ ว
ิ ว
2 : โครงสร ้างมีขนาดเกรนละเอียด
าว ศ
าว ศ
3 : โครงสร ้างเป็ นมาร์เทนไซต์ (Martensite)
4 : โครงสร ้างเป็ นเบไนต์ (Bainite)
สภ
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 149 :
จากแผนภาพเฟสดีบก ุ -ตะกัว โครงสร ้างของโลหะผสมดีบก
ุ และตะกัวทีอุณหภูมต
ิ ํากว่า 183˚C เล็กน ้อย ประกอบ
ด ้วยเฟส Proeutectic α 73.2% โดยนํ าหนัก และเฟสของ Eutectic (α + β) 26.8% โดยนํ าหนัก ส่วนผสมของ
โลหะนีคือข ้อใด
1 : 323.4
2 : 482.6
3 : 526.7
4 : 651.2
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 151 :
จากแผนภาพเฟสดีบก ุ -ตะกัว โลหะผสมของดีบกุ 85% และตะกัว 15% โดยนํ าหนัก จํานวน 750 กรัมทีอุณหภูมต
ิ ํา
กว่า 183˚C เล็กน ้อย ประกอบด ้วยเฟส α กีกรัม
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
1 : ดีบก
ุ 20% และตะกัว 80% โดยนํ าหนัก
สท
สท
2 : ดีบก ุ 25% และตะกัว 75% โดยนํ าหนัก
3 : ดีบก ุ 30% และตะกัว 70% โดยนํ าหนัก
4 : ดีบก ุ 35% และตะกัว 65% โดยนํ าหนัก
วน
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สง
สง
ขอ ขอ
ขอ ขอ
หนัก ส่วนผสมของโลหะนีคือข ้อใด
กร
กร
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
สภ
1 : 323.65
2 : 240.64 1 : ทองแดง 10% และเงิน 90% โดยนํ าหนัก
3 : 120.75 2 : ทองแดง 15% และเงิน 85% โดยนํ าหนัก
4 : 94.36 3 : ทองแดง 20% และเงิน 80% โดยนํ าหนัก
4 : ทองแดง 25% และเงิน 75% โดยนํ าหนัก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 152 :
จากแผนภาพเฟสของทองแดง (Cu) – เงิน (Ag) โครงสร ้างของโลหะผสมทองแดงและเงินทีอุณหภูมต ิ ํากว่า ข ้อที 153 :
779˚C เล็กน ้อย ประกอบด ้วยเฟส Proeutectic α 68% โดยนํ าหนัก และเฟสของ Eutectic (α + β) 32% โดยนํ า โลหะผสมของทองแดง 70% และ เงิน 30% โดยนํ าหนัก จํานวน 800 กรัม ทีอุณหภูมต
ิ ํากว่า 779 องศาเซลเซียส
เล็กน ้อย จะมีเฟสใดเกิดขึนบ ้างและเกิดขึนเป็ นจํานวนเท่าใด
ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
ิ
วน
วน
สง
สง
ขอ
ขอ
อ
อ
รข
รข
ก
ก
ิ ว
ิ ว
าวศ
าว ศ
สภ
สภ
1 : เฟส (Cu) 410.5 กรัม และเฟส (Ag) 389.5 กรัม 1 : เฟส (Cu) 610.5 กรัม และเฟส (Ag) 189.5 กรัม
2 : เฟส (Cu) 501.7 กรัม และเฟส (Ag) 298.3 กรัม 2 : เฟส (Cu) 510.7 กรัม และเฟส (Ag) 298.3 กรัม
3 : เฟส (Cu) 524.6 กรัม และเฟส (Ag) 275.4 กรัม 3 : เฟส (Cu) 524.6 กรัม และเฟส (Ag) 275.4 กรัม
4 : เฟส (Cu) 588.8 กรัม และเฟส (Ag) 211.5 กรัม 4 : เฟส (Cu) 730 กรัม และเฟส (Ag) 70 กรัม
ิ
ิ ธ
ิ ธ
สท
สท
วน
วน
สง
สง
ขอ ขอ
ขอ ขอ
จากแผนภาพเฟสของ นิกเกิล (Ni)- ไททาเนียม (Ti) ข ้อใดคือปฏิกริ ย
ิ า Eutectic ทีเกิดขึน จากแผนภาพเฟสของ นิกเกิล (Ni) - ไททาเนียม (Ti) ข ้อใดคือปฏิกริ ย
ิ า Peritectic ทีเกิดขึน
กร
กร
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
สภ
1: 1:
2: 2:
3: 3:
4: 4:
ธิ
4 : 2
สท
สท
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
วน
วน
ข ้อที 158 :
สง
สง
จากแผนภาพเฟสทองแดง-เงิน ถ ้าโลหะผสมของทองแดง 70% และ เงิน 30% โดยนํ าหนัก จํานวน 800 กรัม ที
อุณหภูม ิ 800 องศาเซลเซียส จะมีเฟสใดเกิดขึนบ ้างและเกิดขึนเป็ นจํานวนเท่าใด
ขอ
ขอ
อ
อ
รข
รข
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ก
ิ ว
ิ ว
ข ้อที 161 :
าวศ
าวศ
เหล็กกล ้าคาร์บอน 0.8wt%C ชุบในนํ าเย็นจากอุณหภูม ิ 1000 องศาเซลเซียส จะได ้โครงสร ้างใด
สภ
สภ
1 : เฟส (Cu) 610.5 กรัม และเฟสของเหลว 189.5 กรัม 1 : มาร์เทนไซต์ (Martensite)
2 : เฟส (Cu) 549.6 กรัม และเฟสของเหลว 250.4 กรัม 2 : เฟร์ไรต์ (Ferrite)
3 : เฟส (Cu) 580.6 กรัม และเฟสของเหลว 219.4 กรัม 3 : เพอร์ไลต์ (Pearlite)
4 : เฟส (Cu) 730 กรัม และเฟสของเหลว 70 กรัม 4 : ออสเทไนต์ (Austenite)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
สท
สท
ข ้อที 160 :
ซีเมนไทต์ (Cementite) ในเหล็กกล ้าคาร์บอนเป็ นเฟส (Phase) ชนิดใด
วน
วน
1 : ธาตุบริสท
ุ ธิ
2 : สารละลายของแข็ง (Solid solution)
สง
สง
3 : สารประกอบ (Compound)
4 : สารประกอบระหว่างโลหะ (Intermetallic compound)
ขอ ขอ
ขอ ขอ
โลหะผสมในข ้อใดต่อไปนีทีสามารถเพิมความแข็งแรงโดยการบ่มแข็ง (Age hardening) ได ้ เฟสของแข็งเฟสแรกทีเกิดจากการแข็งตัวจากสภาวะของเหลวของ Al+20wt%Si คือข ้อใด
กร
กร
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
สภ
1 : Al + 4wt%Cu 1 : (Al)
2 : Al + 8wt%Cu 2 : (Si)
3 : Al + 12wt%Cu 3 : Eutectic ((Al)+(Si))
4 : Al + 16wt%Cu 4 : สารประกอบอะลูมเิ นียมซิลไิ ซด์
ธิ
สท
สท
ิ
ิ
วน
วน
สง
สง
ขอ
ขอ
อ
อ
โครงสร ้างงานหล่อทองเหลือง (Zn+ 20wt%Cu) โดยทัวไป จะเป็ นดังในข ้อใด ช่วงการแข็งตัว (Freezing range) ของโลหะผสม Cu + 40wt%Ni มีคา่ ประมาณเท่าใด
รข
รข
ก
ก
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
สภ
1 : 10 องศาเซลเซียส
2 : 40 องศาเซลเซียส
3 : 100 องศาเซลเซียส
4 : 150 องศาเซลเซียส
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
1 : สารละลายของแข็ง (Solid solution) ส่วนผสมเท่ากันทุกตําแหน่ง
2 : สารละลายของแข็ง (Solid solution) ลักษณะเป็ นเดนไดรท์ (Dendrite)
3 : สารประกอบ (Compound) ส่วนผสมเท่ากันทุกตําแหน่ง
ข ้อที 166 :
4 : สารประกอบ (Compound) ลักษณะเป็ นเดนไดรท์ (Dendrite)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 165 :
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
สท
สท
วน
วน
สง
สง
ขอ ขอ
ขอ ขอ
โลหะผสม Cu + 40wt%Ni แข็งตัวอย่างช ้าๆ ในภาวะสมดุล การแข็งตัวจะเริมต ้นและสินสุดทีอุณหภูมใิ ดโดย
กร
กร
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
สภ
ประมาณ (องศาเซลเซียส)
1 : เริมต ้น 1455 สินสุด 1085
2 : เริมต ้น 1455 สินสุด 1240
3 : เริมต ้น 1280 สินสุด 1240
4 : เริมต ้น 1280 สินสุด 1085
ข ้อที 168 :
ข ้อมูลในข ้อใดต่อไปนีทีไม่สามารถหาได ้จากแผนภาพเฟส (Phase diagram)
1 : ชนิดของเฟสในภาวะสมดุล
2 : ส่วนผสมของเฟสในภาวะสมดุล
3 : ปริมาณของเฟสในภาวะสมดุล
4 : รูปร่างของเฟสในภาวะสมดุล
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
ข ้อที 169 :
โครงสร ้างทีได ้จากกระบวนการมาร์เทมเปอริง (Martempering) คือโครงสร ้างใด
วน
วน
1 : เฟร์ไรต์ (Ferrite)
2 : เพอร์ไรต์ (Pearite)
สง
สง
3 : เบไนต์ (Bainite)
4 : มาร์เทนไซต์ (Martensite)
ขอ
ขอ
อ
อ
รข
รข
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ก
ิ ว
ิ ว
ข ้อที 170 :
าวศ
าวศ
ธาตุใดส่งเสริมให ้เกิดแกรไฟต์ (Graphite) แทนทีจะเกิดคาร์ไบด์ (Carbide) ในเหล็กหล่อ
1 : Cr
2 : Mn
สภ
สภ
3 : Mo
4 : Si
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 171 :
วัตถุประสงค์หลักของการอบคืนไฟ (Tempering) คือข ้อใด
1 : เพิมความแข็งให ้กับเพอร์ไลต์ (Pearlite)
2 : เพิมความแข็งให ้กับมาร์เทนไซต์ (Martensite)
3 : เพิมความเหนียวให ้กับเพอร์ไลต์ (Pearlite)
4 : เพิมความเหนียวให ้กับมาร์เทนไซต์ (Martensite)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 172 :
การอบปรกติ (Normalizing) สําหรับเหล็กกล ้า 0.2wt%C ควรอบทีอุณหภูมใิ ด (องศาเซลเซียส)
1 : 700
2 : 800 1 : 200
3 : 950 2 : 400
4 : 1050 3 : 500
4 : 600
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 173 :
อุณหภูมท ิ เหมาะสมในการบ่
ี มเพือเพิมความแข็ง (Aging) สําหรับโลหะผสม Al + 4wt%Cu คือข ้อใด (องศา ข ้อที 174 :
เซลเซียส)
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
สท
สท
วน
วน
สง
สง
ขอ ขอ
ขอ ขอ
ในการหล่อโลหะผสม Cu + 10wt%Sn จะเกิดปฏิกริ ย
ิ าเพริเทกติก (Peritectic) ได ้หรือไม่
กร
กร
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สท
สท
ข ้อที 178 :
ิ
วัสดุสว่ นใหญ่ในกลุม
่ ใดทีเปราะ (Brittle) มากทีสุด
ข ้อที 176 :
1 : พลาสติก
วน
วน
สง
4 : เซรามิก
ขอ
ขอ
อ
อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4 3 : ใช ้แรงดึงน ้อยกว่าความต ้านแรงดึง (Tensile strength)
รข
รข
4 : ใช ้แรงดึงมากกว่าความต ้านแรงดึง (Tensile strength)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ก
ข ้อที 179 :
ิ ว
ิ ว
วัสดุสว่ นใหญ่ในกลุม
่ ใดมีสภาพยืดหยุน
่ ได ้ (Ductile) มากทีสุด
าวศ
าวศ
1 : โลหะ
2 : เซรามิก ข ้อที 184 :
3 : พอลิเมอร์ สมบัตใิ ดบ่งชีถึงพลังงานทีวัสดุดด
ู กลืนไว ้ในช่วงการเสียรูปชัวคราวของวัสดุ (Elastic deformation) และเมือมีการ
ปลดแรงกระทําออกแล ้ว พลังงานนีจะต ้องถูกคลายกลับคืนมา
สภ
สภ
4 : วัสดุเชิงประกอบ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 182 :
วัสดุในข ้อใดต่อไปนีมีความแข็ง (Hardness) มากทีสุด
1 : เหล็กหล่อขาว ข ้อที 187 :
2 : เหล็กกล ้าเครืองมือ เซรามิกสามารถรับแรงชนิดใดได ้ดีทสุ
ี ด
3 : อะลูมน
ิ า 1 : แรงดึง (Tension)
4 : แท่งนาโนเพชร 2 : แรงอัด (Compression)
ิ
ิ
3 : แรงบิด (Torsion)
ิ ธ
ิ ธ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4 4 : แรงกระแทก (Impact)
สท
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
วน
วน
ข ้อที 183 :
ภายใต ้แรงดึงอย่างไรทีทําให ้เหล็กกล ้าคาร์บอนตําเสียรูปอย่างไม่สมําเสมอ (Non-uniform deformation)
สง
สง
1 : ใช ้แรงดึงน ้อยกว่าความต ้านแรงคราก (Yield strength) ข ้อที 188 :
2 : ใช ้แรงดึงมากกว่าความต ้านแรงคราก (Yield strength) ชินงานในลักษณะใดทีต ้านทานการเสียรูปด ้วยการดึงมากทีสุด
ขอ ขอ
ขอ ขอ
1 : ชินงานทีมีความแข็งตึงมาก (Stiffness) ข ้อใดถูกต ้อง
2 : ชินงานทีมีความเหนียวมาก (Toughness) 1 : ความเค ้นจริง คือ แรงกระทําต่อหนึงหน่วยพืนทีของชินงานเริมต ้นก่อนรับแรง
3 : ชินงานทีมีสภาพดึงยืดได ้มาก (Ductility)
กร
กร
ิ ว
าวศ
ต ้นก่อนการเปลียนแปลง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 189 :
สภ
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 192 :
วัสดุในข ้อใดต่อไปนีมีความแข็งแรง (Strength) มากทีสุด
1 : ท่อนาโนคาร์บอน
ธิ
ธิ
สท
วน
สง
ข ้อที 193 :
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ขอ
ขอ
อ
อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
รข
รข
ข ้อที 198 :
ความสามารถในการเปลียนแปลงรูปร่างของวัสดุกอ
่ นการแตกหัก หมายถึง สมบัตข
ิ ้อใด
ก
ข ้อที 203 :
ิ ว
ิ ว
1 : ความแข็งตึง (Stiffness) จงคํานวณค่าความเครียดทางวิศวกรรม (Engineering strain) ของวัสดุรป ู ร่างเป็ นแท่งยาว 2.2 เมตร และพืนทีหน ้า
าว ศ
าวศ
ตัดเป็ นรูปสีเหลียมจัตรุ ัสมีความยาวแต่ละด ้านเท่ากับ 50 มิลลิเมตร เมือนํ าไปรับแรงดึงปรากฏว่าความยาวเพิมขึน
2 : สภาพดึงยืดได ้ (Ductility) เป็ น 2.202 เมตร
3 : ความยืดหยุน่ (Resilience)
1 : 0.09
4 : ความล ้า (Fatigue)
สภ
สภ
2 : 0.009
3 : 0.0009
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
4 : 0.00009
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 199 :
ข ้อใดกล่าวผิด เกียวกับกฎของฮุก (Hooke’s law)
1 : ความสัมพันธ์ของความเค ้น (Stress) และความเครียด (Strain) ทีแปรผันตรงซึงกันและกัน ข ้อที 204 :
2 : ค่าคงทีของการแปรผันทีเป็ นไปตามกฎของฮุก คือ ค่ามอดุลส ั สภาพยืดหยุน
่ (Modulus of elasticity) ู ทรงกระบอกเส ้นผ่านศูนย์กลาง 10
จงคํานวณค่าความเค ้นทางวิศวกรรม (Engineering stress) ของวัสดุรป
3 : การเสียรูปทีเกิดขึนซึงความเค ้น (Stress) และความเครียด (Strain) แปรผันตรงซึงกันและกันนี เรียกว่า การ มิลลิเมตร ยาว 1 เมตร และถูกรับแรงดึงขนาด 50,000 N
เสียรูปอย่างถาวร (Plastic deformation)
1 : 640 GPa
4 : ค่ามอดุลสั สภาพยืดหยุน่ เป็ นค่าทีบอกถึงความแข็งตึง (Stiffness) ของวัสดุในการต ้านทานต่อการเสียรูปแบบ
2 : 640 MPa
ยืดหยุน่ (Elastic deformation) ของวัสดุ
3 : 640 kPa
4 : 640 Pa
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 200 :
ความล ้า (Fatigue) ของวัสดุหมายถึงอะไร
ข ้อที 205 :
1 : การยืดตัวทีละน ้อย เนืองจากวัสดุรับแรงเป็ นเวลานาน ลวดทองแดงยาว 500 มิลลิเมตร มีคา่ มอดุลสั ของสภาพยืดหยุน ่ (Modulus of elasticity) 110 GPa ถูกดึงด ้วยแรง
2 : วัสดุมค
ี วามแข็งแรงลดลง เนืองจากรับแรงซําซาก ดึงจนมีความเค ้น 350 MPa หากการเสียรูปทีเกิดขึนนีเป็ นการเสียรูปแบบยืดหยุน
่ (Elastic deformation) ลวด
3 : การสึกหรอของชินงาน เนืองจากรับแรงซําซากเป็ นเวลานาน ทองแดงจะถูกยืดออกจนมีความยาวเปลียนแปลงไปจากเดิมกีมิลลิเมตร
4 : การแตกร ้าวของชินงาน เนืองจากรับแรงซําซากเป็ นเวลานาน
1 : 0.016
2 : 0.16
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
3 : 1.6
4 : 16
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
สท
สท
ข ้อที 202 :
สภาพดึงยืดได ้ (Ductility) ของโลหะสามารถทดสอบได ้โดยวิธใี ด
วน
วน
1 : การทดสอบโดยใช ้แรงดึง (Tensile test) 1 : วัสดุ A มีความแข็งตึง (Stiffness) มากกว่าวัสดุ B
2 : การทดสอบความแข็ง (Hardness test) 2 : วัสดุ A มีความเหนียว (Toughness) มากกว่าวัสดุ B
สง
สง
3 : การทดสอบโดยใช ้แรงกระแทก (Impact test) 3 : วัสดุ A มีความยืดหยุน
่ (Resilience) มากกว่าวัสดุ B
4 : การทดสอบความล ้า (Fatigue test) 4 : วัสดุ A มีสภาพดึงยืดได ้ (Ductility) มากกว่าวัสดุ B
ขอ ขอ
ขอ ขอ
ิ
วัสดุชนหนึ
งถูกดึงจนขาดเป็ น 2 ส่วน พบว่าบริเวณรอยขาดแยกแตกแบบราบเรียบ แสดงว่าวัสดุนน่
ี าจะมีสมบัต ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 อย่างไร
กร
กร
ิ ว
ข ้อที 207 :
4 : มีความแข็ง (Hardness) ตํา และสภาพดึงยืดได ้ (Ductility) ตํา
าวศ
าวศ
แท่งโลหะมีพนที
ื หน ้าตัดเป็ นรูปสีเหลียมผืนผ ้า มีขนาดกว ้างเท่ากับ 7 เซนติเมตร ความหนาเท่ากับ 3 เซนติเมตร ทํา
จากเหล็กกล ้าเกรด 1020 ซึงมีคา่ ความต ้านแรงดึง (Tensile strength) เท่ากับ 380 MPa และค่าความต ้านแรง
คราก (Yield strength) เท่ากับ 180 MPa เมือแท่งโลหะนีได ้รับแรงดึง 25,000 นิวตัน จะเกิดการเสียรูปอย่างไร คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สภ
สภ
1 : เกิดการเสียรูปแบบยืดหยุน
่
2 : เกิดการเสียรูปอย่างถาวรโดยเสียรูปอย่างสมําเสมอตลอดทังชินงาน
3 : เกิดการเสียรูปอย่างถาวรโดยเสียรูปอย่างไม่สมําเสมอตลอดทังชินงาน ข ้อที 212 :
4 : เกิดการเสียรูปอย่างถาวรโดยเสียรูปอย่างไม่สมําเสมอตลอดทังชินงานและแตกหัก ข ้อใดเป็ นภาพแสดงการเกิดครีพ (Creep) ของวัสดุ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 208 :
ชินงานทดสอบชนิดหนึงเมือได ้รับความเค ้น 30,000 lb/in2 จะก่อให ้เกิดความเครียดเท่ากับ 0.05 จงคํานวณหาค่า
มอดุลส ั ของสภาพยืดหยุน
่ (Modulus of elasticity) ในหน่วย lb/in2 ของชินงานทดสอบนี
1:
2:
3:
4:
1:
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 209 :
หากต ้องการเปรียบเทียบการเปลียนแปลงขนาดของวัสดุตามทิศทางการดึงต่อการเปลียนแปลงขนาดในทิศทางตัง
ฉากกับทิศทางการดึงของวัสดุชนิดต่างๆ ควรนํ าสมบัตข
ิ องวัสดุในข ้อใดต่อไปนีมาพิจารณาเปรียบเทียบ
1 : ความเค ้น (Stress)
2 : อัตราส่วนของปั วซอง (Poisson’s ratio)
3 : ความเหนียว (Toughness)
4 : มอดุลส
ั ของสภาพยืดหยุน ่ (Modulus of elasticity)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
2:
ข ้อที 210 :
วัสดุในข ้อใดต่อไปนีมีความแข็ง (Hardness) มากทีสุด
1 : พอลิไวนิลคลอไรด์
ธิ
ธิ
สท
4 : ซิลก
ิ อนคาร์ไบด์
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
วน
วน
สง
สง
ข ้อที 211 : 3:
ขอ
ขอ
อ
อ
รข
รข
ก
ก
ิ ว
ิ ว
าวศ
าว ศ
สภ
สภ
4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 215 :
การทดสอบวัดค่าความแข็งแบบใดทีไม่ใช ้กับวัสดุโลหะ
1 : บริเนล (Brinell)
2 : วิกเกอร์ส (Vickers)
3 : นูป (Knoop)
4 : ชอร์ (Shore)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
ข ้อที 214 :
สท
สท
เมือนํ าชินงานทดสอบทีมีความยาวเริมต ้น 50 มม. เส ้นผ่านศูนย์กลางเริมต ้น 12.5 มม. มาทดสอบแรงดึงปรากฎว่า
ได ้ความสัมพันธ์ระหว่างแรงทีใช ้ดึงกับระยะยืดดังรูป ค่า yield strength at 0.2% offset ของวัสดุนมี
ี คา่ เป็ นเท่าไร ข ้อที 217 :
ข ้อใดไม่ใช่คา่ ทีได ้จากการทดสอบแรงดึง
วน
วน
1 : มอดุลสั ของสภาพยืดหยุน ่ (Modulus of elasticity)
2 : ความแข็งแรง (Strength)
สง
สง
3 : เปอร์เซ็นต์การยืดตัว (Percentage elongation)
4 : ความแข็ง (Hardness)
ขอ ขอ
ขอ ขอ
4:D
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
กร
กร
ิ ว
ิ ว
ข ้อที 218 :
าวศ
าวศ
สภ
3 : การครีพ (Creep)
4 : แรงกระแทก (Impact)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 219 :
ค่าเปอร์เซ็นต์การลดลงของพืนทีหน ้าตัด (Percent reduction in area) จากการทดสอบแรงดึงเป็ นค่าทีแสดงสมบัต ิ
ใดของวัสดุ
1 : สภาพดึงยืดได ้ (Ductility)
2 : มอดุลส
ั ของสภาพยืดหยุน ่ (Modulus of elasticity)
3 : ความแข็งแรง (Strength)
4 : มอดุลสั ของรีซเิ ลียนซ์ (Modulus of resilience)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 223 :
จากการทดสอบสมบัตด
ิ ้านการดึงของอะลูมเิ นียม ตําแหน่งใดในกราฟแสดงจุดคราก (Yield point) ของวัสดุ
ข ้อที 221 :
จากการทดสอบสมบัตด
ิ ้านการดึงของอะลูมเิ นียม ตําแหน่งใดในกราฟแสดงจุดเริมเกิดปรากฏการณ์คอคอดของวัสดุ
ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
ิ
วน
วน
1 : A
2 : B
สง
สง
1:A 3 : C
2:B 4 : D
3:C
ขอ
ขอ
อ
อ
รข
รข
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ก
ิ ว
ิ ว
ข ้อที 224 :
าวศ
าวศ
จากกราฟข ้างล่างเป็ นผลการทดสอบสมบัตข
ิ องวัสดุด ้านใด
สภ
สภ
1 : ถ ้าวัสดุได ้รับความเค ้นสลับทีี 50 MPa จะมีอายุการใช ้งาน 1,000,000 รอบ
2 : ถ ้าวัสดุได ้รับความเค ้นสลับทีี 40 MPa จะมีอายุการใช ้งาน 1,000,000 รอบ
3 : ถ ้าวัสดุได ้รับความเค ้นสลับทีี 30 MPa จะมีอายุการใช ้งาน 1,000,000 รอบ
4 : ถ ้าวัสดุได ้รับความเค ้นสลับทีี 20 MPa จะไม่เกิดความเสียหายเนืองจากความล ้า
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
1 : ทดสอบความล ้า (Fatigue)
2 : ทดสอบการครีพ (Creep) ข ้อที 228 :
3 : ทดสอบแรงอัด (Compression) แท่งไนลอนมีพนที ื หน ้าตัดเป็ นรูปสีเหลียมผืนผ ้า มีขนาดกว ้างเท่ากับ 7 เซนติเมตร ความหนาเท่ากับ 3 เซนติเมตร
4 : ทดสอบแรงดัด (Bending) ซึงมีคา่ ความต ้านแรงดึง (Tensile strength) เท่ากับ 75 MPa และค่าความต ้านแรงคราก (Yield strength) เท่ากับ
50 MPa ควรให ้แท่งไนลอนได ้รับแรงดึงเท่าใดจึงจะไม่เกิดการเสียรูปอย่างถาวร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
1 : 50 kN
2 : 150 kN
3 : 50 MN
ข ้อที 225 : 4 : 150 MN
ปรากฏการณ์คอคอด (Necking) ของการทดสอบแรงดึงวัสดุเหล็กกล ้าคาร์บอนตําเริมเกิดขึนในช่วงใด
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
1 : ก่อนถึงจุดคราก (Yield point)
2 : เมือถึงจุดคราก (Yield point)
3 : จุดความเค ้นสูงสุด
4 : จุดแตกหัก ข ้อที 229 :
แท่งไนลอนมีพนที ื หน ้าตัดเป็ นรูปวงกลม มีขนาดเส ้นผ่านศูนย์กลาง เท่ากับ 5 เซนติเมตร ซึงมีคา่ ความต ้านแรงดึง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3 (Tensile strength) เท่ากับ 75 MPa และค่าความต ้านแรงคราก (Yield strength) เท่ากับ 50 MPa เมือแท่งไนลอน
นีได ้รับแรงดึง 20 กิโลนิวตัน จะเกิดการเสียรูปอย่างไร
1 : เกิดการเสียรูปอย่างถาวรโดยเสียรูปอย่างไม่สมําเสมอตลอดทังชินงานและแตกหัก
ข ้อที 226 : 2 : เกิดการเสียรูปอย่างถาวรโดยเสียรูปอย่างสมําเสมอตลอดทังชินงาน
ข ้อใดกล่าวเกียวกับขีดจํากัดความล ้า (Fatigue limit) ถูกต ้อง 3 : เกิดการเสียรูปอย่างถาวรโดยเสียรูปอย่างไม่สมําเสมอตลอดทังชินงาน
4 : เกิดการเสียรูปแบบยืดหยุน
่
1 : เป็ นค่าความเค ้นสลับสูงสุดทีไม่กอ ่ ให ้เกิดความล ้า
2 : ขีดจํากัดอายุการใช ้งานเมือได ้รับแรงกระทําซําไปซํามา คําตอบทีถูกต ้อง : 4
3 : ถ ้าได ้รับความเค ้นสลับมากกว่าขีดจํากัดนีจะไม่ทําให ้เกิดความเสียหายจากความล ้า
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
4 : ถ ้าได ้รับความเค ้นสลับน ้อยกว่าขีดจํากัดนีจะทําให ้เกิดความเสียหายจากความล ้า
สท
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 เนือหาวิชา : 244 : 07 Physical and chemical properties and testing
วน
วน
ข ้อที 230 :
ข ้อที 227 : วัสดุสว่ นใหญ่ในกลุม ั ประสิทธิการขยายตัวเนืองจากความร ้อนมากทีสุด
่ ใดมีสม
สง
สง
ข ้อใดกล่าวเกียวกับผลการทดสอบความล ้าในภาพข ้างล่างได ้ถูกต ้อง
1 : โลหะ
2 : เซรามิก
ขอ ขอ
ขอ ขอ
3 : พอลิเมอร์ ่ งว่างระหว่างแถบเวเลนซ์
3 : โครงสร ้างของสารทีมีอเิ ล็กตรอนเต็มแถบเวเลนซ์ (Valance band) แต่ชอ
4 : วัสดุเชิงประกอบ (Valance band) และแถบการนํ า (Conduction band) ห่างกันไม่มาก
4 : โครงสร ้างของสารทีมีอเิ ล็กตรอนเต็มแถบเวเลนซ์ (Valance band) แต่ชอ่ งว่างระหว่างแถบเวเลนซ์
กร
กร
ิ ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
าวศ
าวศ
ข ้อที 231 :
วัสดุสว่ นใหญ่ในกลุม ั ประสิทธิการขยายตัวเนืองจากความร ้อนน ้อยทีสุด
่ ใดมีสม
ข ้อที 236 :
สภ
สภ
1 : โลหะ
โครงสร ้างของสารตัวนํ าไฟฟ้ าคือข ้อใด
2 : เซรามิก
3 : พอลิเมอร์ 1 : โครงสร ้างของสารทีมีอเิ ล็กตรอนไม่เต็มแถบเวเลนซ์ (Valance band)
4 : วัสดุเชิงประกอบ 2 : โครงสร ้างของสารทีระดับพลังงานของแถบการนํ า (Conduction band) ซ ้อนอยูก
่ บ
ั ระดับพลังงานของแถบเว
เลนซ์ (Valance band)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2 3 : ถูกทังข ้อ 1 และ 2
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ผิด
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 232 :
วัสดุสว่ นใหญ่ในกลุม
่ ใดสามารถนํ าความร ้อนได ้ดีทสุ
ี ด
1 : โลหะ
ข ้อที 237 :
2 : เซรามิก
แม่เหล็กถาวร (Hard magnet) หมายถึงข ้อใด
3 : พอลิเมอร์
4 : วัสดุเชิงประกอบ 1 : วัสดุทง่ี ายต่อการทําเป็ นแม่เหล็ก
2 : วัสดุทสามารถรั
ี กษาภาวะการเป็ นแม่เหล็กได ้ดี
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 3 : วัสดุทต ี ้องใช ้สนามแม่เหล็กภายนอกน ้อยเพือทําเป็ นแม่เหล็ก
4 : เหล็กทีมีสนามแม่เหล็กตกค ้างอยูภ ่ ายใน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 233 :
วัสดุชนิดใดเหมาะสําหรับนํ ามาทําเป็ นตัวนํ าความร ้อนได ้ดีทสุ
ี ด
1 : เหล็กกล ้าไร ้สนิม
ข ้อที 238 :
2 : อะลูมเิ นียม
แม่เหล็กชัวคราว (Soft magnet) หมายถึงข ้อใด
3 : พลาสติก
4 : กระจก 1 : วัสดุทง่ี ายต่อการทําเป็ นแม่เหล็ก
2 : วัสดุทสามารถลบล
ี ้างอํานาจแม่เหล็กได ้ง่าย
คําตอบทีถูกต ้อง : 2 3 : วัสดุทต ี ้องใช ้สนามแม่เหล็กภายนอกน ้อยเพือทําเป็ นแม่เหล็ก
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 234 :
่ งว่างของแถบพลังงาน (Energy band gap) กว ้าง
วัสดุประเภทใดทีมีชอ
1 : สารตัวนํ า (Conductor)
ข ้อที 239 :
2 : สารกึงตัวนํ า (Semiconductor)
อุณหภูมค ิ รู ี (Curie temperature) คือ อุณหภูมใิ ด
3 : ฉนวน (Insulator)
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ผิด 1 : อุณหภูมท
ิ เกิี ดการเปลียนโครงสร ้างผลึก
2 : อุณหภูมทิ เกิี ดการเปลียนสภาพความเป็ นแม่เหล็ก
ธิ
ธิ
สท
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 235 :
วน
วน
สง
ข ้อที 240 :
2 : โครงสร ้างของสารทีระดับพลังงานของแถบการนํ า (Conduction band) ซ ้อนอยูก
่ บ
ั ระดับพลังงานของแถบเว
เมือแสงตกกระทบวัสดุใดๆ ปรากฏการณ์ใดสามารถเกิดขึนได ้บ ้าง
เลนซ์ (Valance band)
ขอ
ขอ
อ
อ
1 : แสงสะท ้อนกลับ 2 : การดูดกลืนแสง (Absorption)
รข
รข
2 : แสงผ่านทะลุโดยเกิดการหักเหขึนภายใน 3 : การหักเหของแสง (Refraction)
3 : แสงถูกดูดกลืน 4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก
ก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ิ ว
ิ ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
าวศ
าวศ
ข ้อที 246 :
ข ้อที 241 : โลหะในข ้อใดต่อไปนีมีสภาพนํ าไฟฟ้ า (Electrical conductivity) น ้อยทีสุด
สภ
สภ
ี ี จะเกิดปรากฏการณ์ใดขึน
เมือแสงตกกระทบลงบนวัสดุโปร่งใส (Transparent) ไม่มส 1 : ุ ธิ ทีใช ้งาน ณ อุณหภูมต
ทองแดงบริสท ิ ํา
1 : แสงสะท ้อนกลับ 2 : ทองแดงบริสทุ ธิ ทีใช ้งาน ณ อุณหภูมสิ งู
2 : แสงผ่านทะลุโดยเกิดการหักเหขึนภายใน 3 : ทองแดงผสมนิเกิลและผ่านกระบวนการรีดเย็น ทีใช ้งาน ณ อุณหภูมต
ิ ํา
3 : แสงถูกดูดกลืน 4 : ทองแดงผสมนิเกิลและผ่านกระบวนการรีดเย็น ทีใช ้งาน ณ อุณหภูมสิ งู
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 247 :
ข ้อที 242 : โลหะในข ้อใดต่อไปนีมีสภาพต ้านทานไฟฟ้ า (Electrical resistivity) น ้อยทีสุด
เซลล์แสงอาทิตย์ (Solar cell) ใช ้หลักการใดในการเปลียนพลังงานจากแสงให ้เป็ นพลังงานไฟฟ้ า 1 : ุ ธิ ทีใช ้งาน ณ อุณหภูมต
ทองแดงบริสท ิ ํา
1 : การดูดกลืนพลังงานของแสงในสารกึงตัวนํ า 2 : ทองแดงบริสทุ ธิ ทีใช ้งาน ณ อุณหภูมสิ งู
2 : การหักเหของคลืนแสงในสารกึงตัวนํ า 3 : ทองแดงผสมนิเกิลและผ่านกระบวนการรีดเย็น ทีใช ้งาน ณ อุณหภูมต
ิ ํา
3 : การสะท ้อนของแสงทีผิวของสารกึงตัวนํ า 4 : ทองแดงผสมนิเกิลและผ่านกระบวนการรีดเย็น ทีใช ้งาน ณ อุณหภูมสิ งู
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 248 :
ข ้อที 243 : ถ ้าต ้องการเพิมสภาพนํ าไฟฟ้ า (Electrical conductivity) ให ้กับสารกึงตัวนํ า (Semiconductor) ควรทําอย่างไร
วัสดุใดต่อไปนีมีคา่ ความเป็ นแม่เหล็กตําทีสุด 1 : ลดอุณหภูมก ิ ารใช ้งาน
1 : วัสดุไดอะแมกนิตก ิ (Diamagnetic material) 2 : เติมสารเจือปน
2 : วัสดุพาราแมกนิตก ิ (Paramagnetic material) 3 : นํ าไปผ่านกระบวนการขึนรูปเย็น
3 : วัสดุเฟร์โรแมกนิตก ิ (Ferromagnetic material) 4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก
4 : วัสดุเฟร์รแ
ิ มกนิตก
ิ (Ferrignetic material)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 249 :
ข ้อที 244 : ถ ้าต ้องการเพิมสภาพนํ าไฟฟ้ า (Electrical conductivity) ให ้กับสารตัวนํ า (Conductor) ควรทําอย่างไร
ไดโอดเปล่งแสง (Light emitting diode, LED) ใช ้หลักการใดในการทํางาน 1 : ลดอุณหภูมก ิ ารใช ้งาน
1 : การสะท ้อนแสง (Reflection) 2 : เติมสารเจือปน
2 : การดูดกลืนแสง (Absorption) 3 : นํ าไปผ่านกระบวนการขึนรูปเย็น
3 : การหักเหของแสง (Refraction) 4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สท
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
วน
วน
ข ้อที 250 :
ข ้อที 245 : เมือสัมผัสโต๊ะไม ้และโต๊ะเหล็กทีตังอยูใ่ นห ้องปรับอากาศบริเวณเดียวกัน เราจะรู ้สึกโต๊ะเย็นไม่เท่ากันอย่างไร
สง
สง
แว่นขยาย (Magnifier) ใช ้หลักการใดในการทํางาน 1 : โต๊ะเหล็กเย็นกว่า เพราะเหล็กมีความจุความร ้อนมากกว่าไม ้
1 : การสะท ้อนแสง (Reflection) 2 : โต๊ะเหล็กเย็นกว่า เพราะเหล็กถ่ายเทความร ้อนได ้ดีกว่าไม ้
ขอ ขอ
ขอ ขอ
3 : โต๊ะเหล็กเย็นกว่า เพราะเหล็กมีความหนาแน่นมากกว่าไม ้ 3 : การเติม (Doping) ด ้วยธาตุโบรอน (B3+) เข ้าไปแทนทีซิลก
ิ อน (Si4+) ในโครงสร ้างผลึกทําให ้เกิดเป็ นสาร
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก กึงตัวนํ าแบบ N-type
4 : การแพร่ (Diffusion) มีบทบาทอย่างมากในการทําสารกึงตัวนํ าประเภท Extrinsic semiconductor
กร
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
ข ้อที 251 :
ถ ้าให ้ความร ้อนกับชินงานทีมีความหนามากจะเกิดสิงใดขึน ข ้อที 256 :
วัสดุสว่ นใหญ่ในกลุม
่ ใดต่อไปนีมีจด
ุ หลอมเหลว (Melting point) สูงทีสุด
สภ
สภ
ข ้อที 252 :
เพราะเหตุใดจึงเห็นสีในวัสดุโปร่งใส (Transparent) บางชนิด ข ้อที 257 :
1 : แสงทีส่งผ่านถูกดูดกลืนไปในบางช่วงความยาวคลืน ลวดทองเหลืองยาว 1 เมตร ถูกทําให ้ร ้อนจนมีอณ
ุ หภูมส
ิ งู 70 องศาเซลเซียส จากอุณหภูม ิ 30 องศาเซลเซียส ขณะ
2 : แสงทีส่งผ่านเกิดการหักเหขึนภายในเนือวัสดุ ทีปลายทังสองข ้างถูกยึด จงหาขนาดของความเค ้นทีเกิดขึนในหน่วย MPa กําหนดให ้ค่ามอดูลส ั ของสภาพยืดหยุน
่
3 : มีการผสมเม็ดสีลงในเนือวัสดุ (Modulus of elasticity) ของทองเหลืองมีคา่ 97 GPa และสัมประสิทธิการขยายตัวเนืองจากความร ้อน
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก -6
(Coeffeicient of thermal expansion) ของทองเหลืองมีคา่ 20×10 องศาเซลเซียส -1
1 : +0.08
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
2 : -0.08
3 : +77.60
4 : -77.60
ข ้อที 253 :
ข ้อใดต่อไปนีทําให ้เกิดสนิมไม่มส ี นผิวชินงานเหล็กกล ้าทีมีรอยขีดข่วนในบรรยากาศทีมีความชืน
ี บ คําตอบทีถูกต ้อง : 4
1 : ผิวชินงานถูกเคลือบด ้วยสังกะสี
2 : ผิวชินงานถูกเคลือบด ้วยโครเมียม
3 : ผิวชินงานถูกเคลือบด ้วยดีบก
ุ ข ้อที 258 :
4 : ผิวชินงานถูกเช็ดทําความสะอาดด ้วยนํ าสะอาดเป็ นประจํา วัสดุในข ้อใดต่อไปนีเกิดการขยายตัวเนืองจากความร ้อนสูงทีสุด
1 : ซิลก
ิ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
2 : เหล็กกล ้า
3 : พอลิเอทิลน ี
4 : อะลูมนิ า
ข ้อที 254 :
ข ้อความใดต่อไปนีเป็ นการกล่าวทีถูกต ้อง คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ
2 : ทังสเตน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สท
สท
3 : พอลิไวนิลคลอไรด์
4 : อะลูมเิ นียม
ิ
ิ
วน
วน
สง
ขอ
อ
อ
วัสดุในข ้อใดต่อไปนีสามารถนํ าไฟฟ้ าได ้ดีขนเมื
ึ ออุณหภูมล
ิ ดลง ข ้อใดไม่ใช่แม่เหล็กถาวร
รข
รข
1 : อะลูมเิ นียม 1 : วัสดุไดอะแมกนิตก ิ
2 : ซิลก
ิ อน 2 : วัสดุพาราแมกนิตก ิ
ก
3 : พอลิเอสเทอร์ 3 : วัสดุเฟร์โรแมกนิตก ิ
4 : แคดเมียมซัลไฟด์ 4 : ข ้อ 1 และ 2 ถูก
ิ ว
ิ ว
าว ศ
าวศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สภ คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สภ
เนือหาวิชา : 245 : 08 Structures of materials
ข ้อที 261 :
การทํางานของอุปกรณ์วด
ั แสงทัวไปในการถ่ายภาพเกียวข ้องกับปรากฏการณ์ใด
1 : การเปล่งแสง (Luminescence) ข ้อที 266 :
2 : การนํ าไฟฟ้ าด ้วยแสง (Photoconductivity) พันธะใดเป็ นพันธะทางกายภาพ (Physical bond)
3 : การเรืองแสงแบบฟลูออเรสเซนซ์ (Fluorescence)
4 : การเรืองแสงแบบฟอสฟอเรสเซนซ์ (Phosphorescence) 1 : พันธะโลหะ (Metallic bond)
2 : พันธะไอออนิก (Ionic bond)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2 3 : พันธะโควาเลนซ์ (Covalent bond)
4 : พันธะแวนเดอร์วาลส์ (Van der Waals bond)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 262 :
เพราะเหตุใดพอลิเมอร์ทมี
ี ความเป็ นผลึกสูงจึงไม่โปร่งใส (Transparent)
1 : การมีผลึกทําให ้เกิดการเปล่งแสงมาก ข ้อที 267 :
2 : การมีผลึกทําให ้เกิดการเรืองแสงมาก โครงสร ้างผลึกชนิดใดมีการจัดเรียงอะตอมอย่างหนาแน่นทีสุด
3 : การมีผลึกทําให ้เกิดการกระเจิงของแสงในเนือวัสดุมาก
4 : การมีผลึกทําให ้อิเล็กตรอนเลือนระดับชันพลังงานได ้มาก 1 : โครงสร ้างลูกบาศก์อย่างง่าย (Simple cubic)
2 : โครงสร ้างลูกบาศก์กงกลางเซล
ึ (Body-centered cubic)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3 3 : โครงสร ้างลูกบาศก์กงกลางผิ
ึ วหน ้า (Face-centered cubic)
4 : โครงสร ้างออร์โทรอมบิกกึงกลางฐาน (Base-centered orthorhombic)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 263 :
หากต ้องการตรวจสอบวัสดุตวั อย่างว่าเป็ นแม่เหล็กถาวร (Hard magnet) หรือแม่เหล็กชัวคราว (Soft magnet) ควร
พิจารณาจากสมบัตใิ นข ้อใดต่อไปนี
ข ้อที 268 :
1 : ค่าความไวต่อสภาพแม่เหล็ก (Magnetic susceptibility) โครงสร ้างของออสเทไนต์ (Austenite) ในเหล็กกล ้า มีโครงสร ้างผลึกรูปแบบใด
2 : ค่าความสามารถซึมซับแม่เหล็ก (Magnetic permeability)
3 : เส ้นโค ้งฮิสเทอรีซส
ิ (Hysteresis loop) 1 : Body-centered cubic (BCC)
4 : ค่าคงทีไดอิเล็กทริก (Dielectric constant) 2 : Face-centered cubic (FCC)
3 : Hexagonal close-packed (HCP)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3 4 : Body-centered cubic (BCC) และ Face-centered cubic (FCC)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 264 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่ใช่วส
ั ดุไดอะแมกนิตก
ิ
ข ้อที 269 :
1 : อะลูมน
ิ ัมออกไซด์ (Al2O3) วัสดุชนิดใดต่อไปนีมีพันธะหลักเป็ นพันธะโคเวเลนต์ (Covalent bond)
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
2 : แมกนีไทต์ (Fe3O4) 1 : Ni
สท
สท
3 : ทองแดง (Cu) 2 : SiC
4 : สังกะสี (Zn) 3 : H2O ระหว่างโมเลกุล
วน
วน
4 : MgO
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สง
สง
ข ้อที 265 :
ขอ ขอ
ขอ ขอ
ข ้อที 270 :
ทังสเตนที 20 องศาเซลเซียส มีโครงสร ้างผลึกแบบ Body-centered cubic (BCC) โดยมีคา่ lattice parameter
0.3165 นาโนเมตร (nm) จงคํานวณหาค่ารัศมีอะตอมของโลหะทังสเตนในหน่วยนาโนเมตร (nm)
กร
กร
ข ้อที 275 :
1 : 0.1371 โครงสร ้างผลึกแบบ Hexagonal closed pack (HCP) ในหนึงหน่วยเซลล์ (Unit cell) ประกอบด ้วยกีอะตอม
ิ ว
ิ ว
2 : 0.1432 1 : 2 อะตอม
าวศ
าวศ
3 : 0.2315 2 : 4 อะตอม
4 : 0.7309 3 : 6 อะตอม
4 : 8 อะตอม
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สภ
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 271 :
กําหนดให ้ a, b, c คือค่าความยาวแต่ละด ้านของหน่วยเซลล์ และ α, β, γ คือมุมระหว่างด ้าน ถ ้าพบว่าโครงสร ้าง ข ้อที 276 :
ผลึกแบบหนึงมีคา่ a≠b≠c และ α = β = γ = 90 องศา อยากทราบว่าโครงสร ้างผลึกนีมีชอว่ ื าอะไร ข ้อใดต่อไปนีมีโครงสร ้างแบบ Closed-pack
1 : Cubic 1 : Body-centered tetragonal
2 : Tetragonal 2 : Body-centered cubic
3 : Orthorhombic 3 : Face-centered cubic
4 : Monoclinic 4 : Base-centered orthorhombic
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 278 :
ข ้อใดไม่ใช่สาเหตุททํ
ี าให ้พอลิเมอร์ชนิดทีสามารถเกิดโครงสร ้างผลึกได ้มีลก
ั ษณะเป็ นแบบกึงผลึก
ข ้อที 273 : (Semicrystalline) เท่านัน
โครงสร ้างผลึกแบบ body-centered cubic (BCC) ในหนึงหน่วยเซลล์ (Unit cell) ประกอบด ้วยกีอะตอม
1 : เพราะพอลิเมอร์มโี ครงสร ้างผลึกทียุง่ ยากซับซ ้อน
1 : 1 อะตอม 2 : เพราะพอลิเมอร์มส ี ายโซ่โมเลกุลทียาวมาก
2 : 2 อะตอม 3 : เพราะการจัดเรียงตัวให ้เป็ นระเบียบของทุกโมเลกุลของพอลิเมอร์ทําได ้ยาก
3 : 3 อะตอม 4 : เพราะพอลิเมอร์มส ี ายโซ่โมเลกุลทีสันเกินไป
4 : 4 อะตอม
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ
ธิ
ข ้อที 279 :
สท
สท
วน
สง
4 : 4 อะตอม
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ขอ
ขอ
อ
อ
รข
รข
ข ้อที 280 : ข ้อที 285 :
พันธะเคมีทเกิี ดในสายโซ่หลักของโมเลกุลพอลิเมอร์คอ
ื พันธะชนิดใด ข ้อใดคือโครงสร ้างผลึกของมาร์เทนไซต์ (Martensite)
ก
1 : พันธะโคเวเลนต์ (Covalent bond) 1 : Face-centered cubic (FCC)
ิ ว
ิ ว
2 : พันธะไอออนิก (Ionic bond) 2 : Body-centered cubic (BCC)
าว ศ
าว ศ
3 : พันธะโลหะ (Metallic bond) 3 : Body-centered tetragonal (BCT)
4 : พันธะแวนเดอร์วาลส์ (Van der Waals bond) 4 : Face-centered tetragonal (FCT)
สภ
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 287 :
ข ้อที 282 : โครงสร ้างจุลภาคของรอยเชือมเหล็กกล ้าไร ้สนิมออสเทไนต์ (Austenite stainless steel) บริเวณพืนทีหลอมเหลว
ข ้อใดคือคําจํากัดความของ Tg (Glass transition temperature) (Fusion zone) ประกอบด ้วยเฟสต่างๆ ดังในข ้อใดต่อไปนี
1 : อุณหภูมท ิ สายโซ่
ี รองของโมเลกุลพอลิเมอร์สามารถเคลือนทีได ้ 1 : ออสเทไนต์ (Austenite)
2 : อุณหภูมท ิ สายโซ่
ี หลักของโมเลกุลพอลิเมอร์สามารถเคลือนทีได ้ 2 : ออสเทไนต์ (Austenite) และ เฟร์ไรต์ (Ferrite)
3 : อุณหภูมใิ นการเกิดผลึก 3 : ออสเทไนต์ (Austenite) และ เพอร์ไลต์ (Pearlite)
4 : อุณหภูมใิ นการหลอมเหลว 4 : ออสเทไนต์ (Austenite) และ คาร์ไบด์ (Carbide)
ิ
ิ ธ
ิ ธ
ข ้อที 289 :
ข ้อที 284 : ทําไมข ้อบกพร่องแบบ Frenkel มักเกิดกับ Cation มากกว่า Anion
สท
สท
พอลิเมอร์ทไม่ี สามารถเกิดโครงสร ้างผลึกได ้ คือพอลิเมอร์ชนิดใดต่อไปนี
1 : Cation มีขนาดใหญ่กว่า Anion
1 : พอลิเอทิลน
ี (Polyethylene) 2 : Anion มีขนาดใหญ่กว่า Cation
วน
วน
2 : พอลิเอทิลนี เทเรฟทาเลต (Polyethylene terephthalate) 3 : การแทรกของ Anion ในผลึกเกิดได ้ง่ายกว่า
3 : ไนลอน (Nylon) 4 : Anion มักจะอยูไ่ ม่เป็ นระเบียบ
4 : พอลิสไตรีน (Polystyrene)
สง
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ขอ ขอ
ขอ ขอ
ข ้อที 290 : ข ้อที 295 :
ทําไมแกรไฟต์ (Graphite) ถึงสามารถหลุดออกเป็ นแผ่นๆได ้ง่าย พันธะในข ้อใดต่อไปนีมีความแข็งแรงน ้อยทีสุด
กร
กร
ิ ว
าวศ
สภ
ข ้อที 297 :
ข ้อที 292 : พันธะใดต่อไปนีเกิดขึนระหว่างโมเลกุลของนํ าในนํ าแข็ง
ข ้อใดไม่ถก
ู ต ้องเมือกล่าวถึงโครงสร ้างของแก ้ว 1 : พันธะโคเวเลนซ์
1 : แก ้วมีโครงสร ้างเป็ นตาข่าย (Network structure) ทีมีทศ
ิ ทางไม่แน่นอน 2 : พันธะไอออนิก
2 : พันธะของโครงสร ้างของแก ้วยึดกันด ้วยพันธะไอออนิก (Ionic bond) 3 : พันธะไฮโดรเจน
3 : แก ้วมีโครงสร ้างแบบไม่เป็ นผลึก 4 : พันธะโลหะ
4 : โครงสร ้างของแก ้วเกิดจากการยึดกันของ SiO44 -
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 298 :
สารประกอบของ LiAg มีหน่วยเซลล์เป็ นแบบ Simple cubic และอะตอมทังสองชนิดต่างมีเลขโคออร์ดเิ นชันเท่ากับ
ข ้อที 293 : 8 ดังนัน หน่วยเซลล์ดงั กล่าวนีจะมีลก
ั ษณะเหมือนกับผลึกในข ้อใด
โครงสร ้างผลึกแบบ Perovskite มีความสําคัญสําหรับวัสดุประเภทใด
1 : NaCl
1 : Pyroelectric material 2 : ZnS
2 : Piezoelectric material 3 : CsCl
3 : Semiconductor 4 : AgCl
4 : Capacitor
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 299 :
ข ้อที 294 : ข ้อใดกล่าวถึงพันธะไอออนิกไม่ถก
ู ต ้อง
ธิ
ธิ
ข ้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของอะตอม
สท
สท
วน
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ขอ
ขอ
อ
อ
ข ้อที 300 : ข ้อใดคือลักษณะเด่นของวัสดุอล
ิ าสโตเมอร์ (Elastomer)
รข
รข
พันธะทีเกิดขึนระหว่างสายโซ่โมเลกุลของพอลิเมอร์เป็ นพันธะชนิดใด 1 : มีความแข็งและความแข็งแรงสูง
1 : พันธะแวนเดอร์วาลส์ (Van der Waals bond) 2 : มีสภาพดึงยืดได ้สูงและกลับคืนสูส่ ภาพเดิมหลังปล่อยแรงกระทํา
ก
2 : พันธะโลหะ (Metallic bond) 3 : ทนความร ้อนได ้สูง
3 : พันธะไอออนิก (Ionic bond) 4 : สามารถขึนรูปซําได ้เมือให ้ความร ้อน
ิ ว
ิ ว
4 : พันธะโควาเลนซ์ (Covalent bond)
าว ศ
าว ศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สภ
สภ
ข ้อที 306 :
ข ้อที 301 : เหตุใดโลหะจึงมีการนํ าไฟฟ้ าและความร ้อนได ้ดี
ตําหนิแบบใดพบได ้เฉพาะในเซรามิกเท่านัน 1 : เพราะโครงสร ้างมีความเป็ นผลึกสูง
1 : ตําหนิแบบช่องว่าง (Vacancy) 2 : เพราะโครงสร ้างมีการจัดเรียงตัวของอะตอมหนาแน่น
2 : ตําหนิแบบดิสโลเคชัน (Dislocation) 3 : เพราะโครงสร ้างมีอเิ ล็กตรอนอิสระ
3 : ตําหนิแบบชอตกี (Schottky defect) 4 : เพราะโครงสร ้างมีทงแอนไอออนและแคทไอออน
ั (Anion and cation)
4 : ตําหนิแบบแทรกช่องว่างระหว่างอะตอม (Interstitial defect)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 307 :
ข ้อที 302 : เหล็กกล ้าคาร์บอนตํามีการจัดเรียงของโครงสร ้างอะตอมอย่างไรทีอุณหภูมห
ิ ้อง
โดยทัวไปอะตอมโลหะมีการจัดเรียงตัวของโครงสร ้างเป็ นอย่างไร 1 : Body-centered cubic (BCC)
1 : ผลึกเดียว (Single crystal) 2 : Face-centered cubic (FCC)
2 : หพุผลึก (Polycrystalline) 3 : Body-centered tetragonal (BCT)
3 : กึงผลึก (Semi-crystalline) 4 : Face-centered tetragonal (FCT)
4 : อสัณฐาน (Amorphous)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 308 :
ข ้อที 303 : สิงใดต่อไปนีไม่สามารถพบได ้ในวัสดุผลึกเดียว (Single crystal)
เหตุใดยาง (Rubber) สามารถดึงยืดได ้มากและกลับคืนสูร่ ป
ู ร่างเดิมหลังปล่อยแรงกระทํา 1 : ตําหนิแบบช่องว่าง (Vacancy)
1 : เพราะโครงสร ้างโมเลกุลเป็ นแบบสายโซ่ตรง (Linear polymer) สูง 2 : รอยต่อระหว่างเกรน (Grain boundary)
2 : เพราะโครงสร ้างโมเลกุลเป็ นแบบโครงร่างตาข่าย (Network polymer) สูง 3 : รอยต่อระหว่างเฟส (Phase boundary)
3 : เพราะโครงสร ้างมีการเชือมต่อระหว่างสายโซ่โมเลกุลในระดับหนึง (Lightly crosslinked polymer) 4 : ตําหนิแบบแทรกช่องว่างระหว่างอะตอม (Interstitial defect)
4 : เพราะโครงสร ้างโมเลกุลเป็ นแบบกิงก ้าน (Branched polymer) สูง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 309 :
ข ้อที 304 : ข ้อใดต่อไปนีไม่ใช่ปัจจัยทีมีผลต่อการจัดเรียงตัวของโครงสร ้างอะตอมในเซรามิก
ปฏิกริ ย
ิ าใดทีทําให ้เกิดการเชือมสายโซ่โมเลกุลในยาง (Rubber) 1 : ชนิดของตําหนิ
1 : Polymerization 2 : ขนาดของอะตอม
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
2 : Oxidation 3 : สมดุลประจุของโครงสร ้าง
สท
สท
3 : Condensation 4 : ชนิดของอะตอม
4 : Vulcanization
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
วน
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สง
สง
ข ้อที 310 :
ข ้อที 305 : ข ้อใดคือลักษณะทัวไปของพอลิเมอร์ชนิดเทอร์โมเซตติง (Thermosetting)
ขอ ขอ
ขอ ขอ
1 : มีโครงสร ้างโมเลกุลเป็ นแบบโครงร่างตาข่าย (Network) สามารถขึนรูปใหม่ได ้เมือให ้ความร ้อน 2 : Tetrahedral
2 : มีโครงสร ้างโมเลกุลเป็ นแบบสายโซ่ตรง (Linear) สามารถขึนรูปใหม่ได ้เมือให ้ความร ้อน 3 : Octahedral
3 : มีโครงสร ้างโมเลกุลเป็ นแบบโครงร่างตาข่าย (Network) ไม่สามารถขึนรูปใหม่ได ้เมือให ้ความร ้อน 4 : Cubic
กร
กร
ิ ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
าวศ
าวศ
ข ้อที 311 :
สภ
สภ
ตําหนิแบบใดไม่สามารถเพิมความแข็งแรงให ้ชินงานโลหะได ้
ข ้อที 315 :
1 : ตําหนิแบบแทนที (Substitutional defect) ข ้อใดต่อไปนีถูกต ้องทีสุด
2 : ตําหนิแบบแทรกตัวในช่องว่าง (Interstitial defect)
1 : เหล็กโครงสร ้าง FCC มีความแข็งแรงเพิมขึนช ้ากว่าเหล็กโครงสร ้าง BCC ระหว่างการขึนรูปเย็น (Cold
3 : ตําหนิแบบช่องว่าง (Vacancy)
working)
4 : ตําหนิแบบดิสโลเคชัน (Dislocation)
2 : การเคลือน (Dislocation) ในผลึกโครงสร ้าง FCC สามารถเคลือนทีได ้ยากกว่าในผลึกโครงสร ้าง BCC
3 : การเคลือน (Dislocation) ในผลึกโครงสร ้าง FCC สามารถเคลือนทีได ้ง่ายกว่าในผลึกโครงสร ้าง HCP
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ผิด
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 312 :
ข ้อใดคือลักษณะของตําหนิแบบชอตกี (Schottky defect)
1 : เกิดการแทรกตัวของแคทไอออน และเกิดช่องว่างของแคทไอออนในโครงสร ้าง ข ้อที 316 :
2 : เกิดการแทรกตัวของแอนไอออน และเกิดช่องว่างของแอนไอออนในโครงสร ้าง การชุบแข็งเหล็กกล ้าคาร์บอนปานกลาง ต ้องทําการเผาเหล็กจนได ้โครงสร ้างใดก่อนทําให ้เย็นตัวอย่างรวดเร็ว
3 : เกิดการแทรกตัวของแอนไอออน และเกิดช่องว่างของแอนไอออนในโครงสร ้าง
1 : เฟร์ไรต์ (Ferrite)
4 : เกิดช่องว่างของแคทไอออนและแอนไอออนในโครงสร ้าง
2 : ออสเทไนต์ (Austenite)
3 : ซีเมนไทต์ (Cementite)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
4 : มาร์เทนไซต์ (Martensite)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 313 :
ข ้อใดต่อไปนีกล่าวไม่ถก
ู ต ้องเกียวกับโครงสร ้างพอลิเมอร์
1 : พันธะทีเกิดขึนภายในและระหว่างสายโซ่โมเลกุลเป็ นพันธะโควาเลนต์ ข ้อที 317 :
2 : โครงสร ้างโมเลกุลหลักประกอบไปด ้วยคาร์บอนและไฮโดรเจน เหล็กหล่อขาว (White cast iron) มีโครงสร ้างจุลภาคดังในข ้อใดต่อไปนี
3 : สายโซ่โมเลกุลโดยทัวไปมีนําหนัก 10,000 ถึง 1,000,000 กรัมต่อโมล
1 : เฟร์ไรต์ และ เพอร์ไลต์ (Ferrite & Pearlite)
4 : มีโครงสร ้างทังแบบธรรมชาติและแบบสังเคราะห์
2 : ซีเมนไทต์ และ เพอร์ไลต์ (Cementite & Pearlite)
3 : เฟร์ไรต์ และ แกรไฟต์ (Ferrite & Graphite)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
4 : เพอร์ไลต์ และ แกรไฟต์ (Peartite & Graphite)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 314 :
กําหนดให ้ไอออน Zn2+ และ S2- มีขนาดรัศมี 0.074 และ 0.184 นาโนเมตร ตามลําดับ จากตารางต่อไปนี จง
ทํานายลักษณะรูปแบบโครงสร ้างผลึกของสารประกอบ ZnS ข ้อที 318 :
ข ้อใดคือโครงสร ้างของเหล็กกล ้าคาร์บอนปานกลางทีได ้จากการปล่อยให ้เย็นอย่างช ้าๆ จากโครงสร ้างออสเทไนต์
อ ัตราส่วนขนาดของแคทไอออน (Austenite)
รูปแบบโครงสร้างผลึกเซรามิก
ธิ
ธิ
สท
วน
สง
1 : Triangular
ขอ
ขอ
อ
อ
4 : ขันตอนการสินสุดปฏิกริ ย
ิ า (Termination)
รข
รข
ข ้อที 319 :
ข ้อใดคือโครงสร ้างจุลภาคของเหล็กกล ้าคาร์บอนทีผ่านการเผาด ้วยอุณหภูมค
ิ งทีประมาณ 730 - 750 องศา คําตอบทีถูกต ้อง : 3
เซลเซียส เป็ นเวลานาน 20 ชัวโมง
ก
1 : เพอร์ไลต์หยาบ (Coarse pearlite)
ิ ว
ิ ว
2 : เพอร์ไลต์ละเอียด (Fine pearlite)
าวศ
าว ศ
ข ้อที 324 :
3 : สเฟี ยรอยไดต์ (Spheroidite) เหล็กกล ้าคาร์บอนปานกลาง (0.4wt%C) ในข ้อใดต่อไปนี มีความแข็งมากทีสุด
4 : เบไนต์แบบขนนก (Feathery bainite)
1 : อบทีอุณหภูม ิ 1050 องศาเซลเซียส ปล่อยให ้เย็นในเตา
สภ
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3 2 : อบทีอุณหภูม ิ 1050 องศาเซลเซียส ปล่อยให ้เย็นในอากาศ
3 : อบทีอุณหภูม ิ 950 องศาเซลเซียส ปล่อยให ้เย็นในเตา
4 : อบทีอุณหภูม ิ 950 องศาเซลเซียส ปล่อยให ้เย็นในนํ า
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 321 :
ข ้อใดกล่าวไม่ถก
ู ต ้อง
1 : Equiaxed grains เป็ นเกรนทีเกิดจากผลึกทีโตสมําเสมอในทุกทิศทาง ข ้อที 326 :
2 : Columnar grains พบบริเวณทีนํ าโลหะสัมผัสกับผิวแม่พม ิ พ์ โครงสร ้างของเหล็กกล ้าคาร์บอนในข ้อใดต่อไปนีทีทนต่อแรงกระแทกทีอุณหภูมต
ิ ําได ้ดีทสุ
ี ด
3 : Equiaxed grains เกิดเนืองจากนํ าโลหะเย็นตัวอย่างรวดเร็ว
4 : Columnar grains มิทศ ่ ายในของแม่พม
ิ ทางเติบโตเข ้าสูภ ิ พ์ 1 : ออสเทไนต์ (Austenite) เกรนขนาดใหญ่
2 : เฟร์ไรต์ (Ferrite) เกรนขนาดใหญ่
คําตอบทีถูกต ้อง : 2 3 : ออสเทไนต์ (Austenite) เกรนขนาดเล็ก
4 : เฟร์ไรต์ (Ferrite) เกรนขนาดเล็ก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
เนือหาวิชา : 247 : 10 Structure-Property relationships
ิ
ิ ธ
ิ ธ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สท
สท
ข ้อที 323 : ข ้อที 328 :
วน
วน
ขันตอนใดต่อไปนี ไม่ใช่ขนตอนในการเกิ
ั ดปฏิกริ ย
ิ าพอลิเมอร์ไรเซชันแบบเติม (Addition Polymerization) การเติมสาร Intermediate oxides ในแก ้วเพือประโยชน์อะไร
1 : ขันเริมต ้นปฏิกริ ย
ิ า (Initiation) 1 : เพือให ้สามารถขึนรูปแก ้วได ้ง่ายขึน
สง
สง
2 : ขันตอนการดําเนินไปของปฏิกริ ย ิ า (Propagation) 2 : เพือให ้แก ้วมีความหนืดตําลง
3 : ขันตอนการเกิดโครงสร ้างตาข่าย (Vulcanization) 3 : เพือปรับปรุงสมบัตข ิ องแก ้ว
ขอ ขอ
ขอ ขอ
4 : เพือทําให ้แก ้วหลอมตัวทีอุณหภูมต
ิ ําลง 4 : เหล็กกล ้าไร ้สนิมดูเพล็กซ์ (Duplex stainless steel)
กร
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ออกไซด์แผ่นนัน
สท
สท
วน
สง
ขอ
อ
อ
โครงสร ้างจุลภาคระหว่างเพอร์ไลต์หยาบ (Coarse pearlite) และเพอร์ไลต์ละเอียด (Fine pearlite) โครงสร ้างใดมี
รข
รข
ข ้อที 338 : ความแข็งแรงมากกว่า และเพราะอะไร
ในโลหะชนิดเดียวกัน ลักษณะทางโครงสร ้างจุลภาคใดต่อไปนีทีสามารถเสียรูปจากการดึงได ้ง่ายทีสุด
1 : เพอร์ไลต์หยาบแข็งแรงมากกว่า เพราะมีปริมาณคาร์บอนอิสระมากกว่า
1 : มีเกรนเป็ นทรงกลม
ก
2 : เพอร์ไลต์ละเอียดแข็งแรงมากกว่า เพราะมีปริมาณคาร์บอนอิสระมากกว่า
2 : มีเกรนเป็ นรูปเข็ม 3 : เพอร์ไลต์หยาบแข็งแรงมากกว่า เพราะมีขนาดของเกรนใหญ่กว่า
ิ ว
ิ ว
3 : มีเกรนเป็ นรูปแผ่น 4 : เพอร์ไลต์ละเอียดแข็งแรงมากกว่า เพราะมีขนาดของเกรนเล็กกว่า
าว ศ
าว ศ
4 : เท่ากันในทุกลักษณะของโครงสร ้าง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สภ
สภ
ข ้อที 343 :
ข ้อที 339 : จงเรียงลําดับโครงสร ้างจุลภาคทีมีความแข็งจากมากไปน ้อย
โครงสร ้างผลึกชนิดใดต่อไปนีสามารถเสียรูปจากการดึงได ้ง่ายทีสุด
1 : เพอร์ไลต์ (Pearlite), เบไนต์ (Bainite), มาร์เทนไซต์ (Martensite)
1 : Hexagonal closed-pack (HCP) 2 : เบไนต์ (Bainite), เพอร์ไลต์ (Pearlite), มาร์เทนไซต์ (Martensite)
2 : Face-centered cubic (FCC) 3 : มาร์เทนไซต์ (Martensite), เบไนต์ (Bainite), เพอร์ไลต์ (Pearlite)
3 : Body-centered cubic (BCC) 4 : เบไนต์ (Bainite), มาร์เทนไซต์ (Martensite), เพอร์ไลต์ (Pearlite)
4 : Simple cubic (SC)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 344 :
ข ้อที 340 : โครงสร ้างของเหล็กกล ้าสเฟี ยรอยไดซ์ (Spheroidized steel) มีสมบัตท
ิ างกลอย่างไร และเพราะอะไร
เพราะเหตุใดเซอร์โคเนียมออกไซด์ (ZrO2) ทีผสมด ้วยอิเทียมออกไซด์ (Y2O3) หรือทีเรียกว่า Yttria-stabilized
1 : มีความแข็งสูง เพราะปรากฏโครงสร ้างของซีเมนไทต์ (Cementite) แบบแท่ง
zirconia (YSZ) จึงสามารถนํ ามาใช ้เป็ นตัวตรวจวัดปริมาณก๊าซออกซิเจน (Oxygen sensor) ได ้ 2 : มีความอ่อนตัวสูง เพราะปรากฏโครงสร ้างของซีเมนไทต์ (Cementite) แบบกลม
1 : เนืองจากการผสมอิเทียมออกไซด์ทําให ้เกิดช่องว่างของประจุบวก (Cation vacancy) ขึนในโครงสร ้างผลึก 3 : มีความแข็งสูง เพราะปรากฏโครงสร ้างของกราไฟต์ (Graphite) แบบแท่ง
ของเซอร์โคเนียมออกไซด์ ทําให ้ออกซิเจนไอออนสามารถเคลือนทีเข ้ามาได ้ จึงสามารถใช ้ตรวจวัดปริมาณ 4 : มีความอ่อนตัวสูง เพราะปรากฏโครงสร ้างของกราไฟต์ (Graphite) แบบกลม
ออกซิเจนได ้
2 : เนืองจากการผสมอิเทียมออกไซด์ทําให ้เกิดช่องว่างของประจุลบ (Anion vacancy) ขึนในโครงสร ้างผลึก คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ของเซอร์โคเนียมออกไซด์ ทําให ้ออกซิเจนไอออนสามารถเคลือนทีเข ้ามาได ้ จึงสามารถใช ้ตรวจวัดปริมาณ
ออกซิเจนได ้
3 : เนืองจากอิเทียมไอออนมีขนาดเล็กกว่าเซอร์โคเนียมไอออน เมือผสมกันแล ้วเกิดการแทนทีของประจุบวกขึน
ส่งผลให ้โครงสร ้างผลึกของเซอร์โคเนียมออกไซด์เกิดการหดตัว ทําให ้ออกซิเจนไอออนสามารถเคลือนทีเข ้ามา ข ้อที 345 :
ได ้ จึงสามารถใช ้ตรวจวัดปริมาณออกซิเจนได ้ เซรามิกทัวไปมีคา่ ของสมบัตใิ นข ้อใดน ้อยกว่าของโลหะทัวไป
4 : เนืองจากเนืองจากอิเทียมไอออนมีขนาดใหญ่กว่าเซอร์โคเนียมไอออน เมือผสมกันแล ้วเกิดการแทนทีของ 1 : Hardness
ประจุบวกขึน ส่งผลให ้โครงสร ้างผลึกของเซอร์โคเนียมออกไซด์เกิดการขยายตัว ทําให ้ออกซิเจนไอออนสามารถ 2 : Thermal insulation
เคลือนทีเข ้ามาได ้ จึงสามารถใช ้ตรวจวัดปริมาณออกซิเจนได ้ 3 : Toughness
4 : Chemical resistance
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 341 :
ทําไมเซรามิกทีมีโครงสร ้างคล ้ายกับผลึกเดียว (Like a single crystal) ถึงยอมให ้แสงผ่านได ้ (Translucent) ข ้อที 346 :
1 : เนืองจากภายในเกรนมีการจัดเรียงอะตอมทีเกือบจะอยูใ่ นทิศทางเดียวกัน วัสดุในข ้อใดสามารถดูดกลืนพลังงานไว ้ก่อนทีจะเสียรูปทรงอย่างถาวรได ้สูง
2 : เนืองจากขอบเกรนมีความหนา 1 : แผ่นพลาสติกพอลิสไตรีน
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
3 : เนืองจากภายในเกรนมีธาตุอนมาแทรก
ื 2 : แผ่นยาง
สท
สท
4 : ่ งว่างเกิดขึนภายในเกรน
เนืองจากมีชอ 3 : แผ่นกระจก
4 : แผ่นสังกะสี
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
วน
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สง
สง
ข ้อที 342 :
ข ้อที 347 :
ขอ ขอ
ขอ ขอ
ข ้อใดกล่าวถึงกระบวนการเกิดผลึกใหม่ (Recrystallization) ไม่ถก
ู ต ้อง ข ้อที 352 :
ข ้อใดคือลักษณะโครงสร ้างและสมบัตท
ิ พบได
ี ้ในพอลิเมอร์ชนิดเทอร์โมเซตติง (Thermosetting)
กร
กร
ิ ว
าวศ
สภ
ข ้อที 354 :
ข ้อที 349 : เหตุใดเหล็กกล ้าไร ้สนิมจึงมีความต ้านทานการเกิดสนิมได ้ดี
กระบวนการอัดรีด (Extrusion) เป็ นขันตอนหนึงทีนํ ามาใช ้ขึนรูปผลิตภัณฑ์พลาสติกต่างๆ ยกเว ้นข ้อใด
1: มีธาตุนเิ กิลผสมอยู่ ซึงช่วยสร ้างชันฟิ ลม
์ นิเกิลออกไซด์ป้องกันการเกิด Oxidation ทีผิวชินงานได ้ดี
1 : ท่อนํ า 2: มีธาตุโครเมียมผสมอยู่ ซึงช่วยสร ้างชันฟิ ลม ์ โครเมียมออกไซด์ป้องกันการเกิด Oxidation ทีผิวชินงานได ้ดี
2 : ยางรถยนต์ 3: มีธาตุโครเมียมผสมอยู่ ซึงช่วยสร ้างชันฟิ ลม ์ โครเมียมคาร์ไบด์ป้องกันการเกิด Oxidation ทีผิวชินงานได ้ดี
3 : ฉนวนหุ ้มสายไฟ 4: มีธาตุอะลูมเิ นียมผสมอยู่ ซึงช่วยสร ้างชันฟิ ลม ์ อะลูมเิ นียมออกไซด์ป้องกันการเกิด Oxidation ทีผิวชินงานได ้
4 : ถุงพลาสติก ดี
ข ้อที 356 :
ข ้อที 351 : ในการให ้ความร ้อนเพือขึนรูปผลิตภัณฑ์แก ้ว (Glass product) จําเป็ นต ้องพิจารณาสมบัตใิ ดเป็ นหลัก
ธิ
ธิ
สท
1 : Mixing 2 : ความหนาแน่น
2 : Pressing
ิ
3 : ความใส
3 : Sintering 4 : ความแข็ง
วน
วน
4 : Machining
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สง
สง
ขอ
ขอ
อ
อ
รข
รข
ข ้อที 357 : ข ้อที 362 :
ข ้อใดเรียงลําดับตัวกลางทีช่วยในการชุบแข็งเหล็กกล ้าจากน ้อยไปมากได ้ถูกต ้อง ขันตอนใดต่อไปนีไม่สามารถช่วยเพิมความแข็งแรงให ้กับผลิตภัณฑ์เทอร์โมพลาสติก
ก
1 : นํ า, อากาศ, เตา 1 : การใช ้ความเครียดเหนียวนํ าให ้เกิดโครงสร ้างผลึก
2 : นํ ามัน, อากาศ, เตา 2 : การเพิมความยาวเฉลียของสายโซ่โมเลกุล
ิ ว
ิ ว
3 : เตา, นํ า, นํ ามัน 3 : การผสมสารเติมแต่ง (Filler)
าว ศ
าว ศ
4 : อากาศ, นํ ามัน, นํ า 4 : การหลอมผนึก (Sintering) ของสายโซ่โมเลกุล
สภ
ข ้อที 358 : ข ้อที 363 :
ข ้อใดไม่ใช่สาเหตุของการขึนรูปหัวน ้อตหรือตะปู ด ้วยวิธก
ี ารอัดขึนรูปเย็น (Cold forging) ข ้อใดแสดงความสัมพันธ์ระหว่างกระบวนการและโครงสร ้างได ้ถูกต ้อง
1 : เพิมความแข็ง 1 : การสังเคราะห์พอลิเมอร์แบบเติม (Addition polymerization) ทําให ้เกิดพอลิเมอร์แบบโครงร่างตาข่าย
2 : เพิมความแข็งแรง 2 : การหลอมผนึก (Sintering) ในเซรามิกทําให ้โครงสร ้างอนุภาคดินเชือมติดกันโดยมีรพู รุนเพิมมากขึน
3 : เพิมความแข็งได ้ขนาดรูปร่างทีแม่นยํา 3 : การรีดร ้อนแผ่นโลหะทําให ้โครงสร ้างจุลภาคมีเกรนละเอียด
4 : เพิมสภาพดึงยืดได ้ดีขน
ึ 4 : การชุบแข็งแบบตกตะกอนในโลหะผสม ต ้องทําให ้โครงสร ้างของแข็งเกิดการละลายอย่างยิงยวด (Super
saturated solid solution) ก่อนทําให ้เกิดการตกตะกอน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 359 :
โครงสร ้างพอลิเมอร์ทมี
ี ความเป็ นผลึกมากขึน ส่งผลต่อสมบัตโิ ดยทัวไปอย่างไร ข ้อที 364 :
1 : มีจด
ุ หลอมเหลวสูงขึน กระบวนการใดต่อไปนีไม่สามารถช่วยเพิมความแข็งแรงให ้กับชินงานโลหะได ้
2 : มีความแข็งแรงมากขึน 1 : การทําคาร์บไู รซิง (Carburizing)
3 : มีความสามารถในการละลายดีขน
ึ 2 : การทําสเฟี ยร์รอยไดซิง (Spheroidizing)
4 : มีความหนาแน่นมากขึน 3 : การรีดเย็น
4 : การอัดขึนรูป
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 360 :
ข ้อใดเปรียบเทียบโครงสร ้างหรือสมบัตริ ะหว่างผลิตภัณฑ์แก ้ว (Glass product) และกลาสเซรามิก (Glass ข ้อที 365 :
ceramic) ไม่ถกู ต ้อง หากมีการเพิมปริมาณธาตุคาร์บอนให ้กับเหล็กกล ้า จะมีผลต่อโครงสร ้างและสมบัตอ
ิ ย่างไร
1 : ผลิตภัณฑ์แก ้วมีโครงสร ้างอสัณฐาน กลาสเซรามิกมีโครงสร ้างผลึก 1 : เกิดปริมาณเฟสเฟร์ไรต์มากขึน มีความแข็งเพิมขึน
2 : ผลิตภัณฑ์แก ้วมีลกั ษณะใส กลาสเซรามิกมีลก ั ษณะขุน ่ ทึบ 2 : เกิดปริมาณเฟสเฟร์ไรต์มากขึน มีความแข็งลดลง
3 : ผลิตภัณฑ์แก ้วมีความแข็งแรงสูง กลาสเซรามิกมีความแข็งแรงตํา 3 : เกิดปริมาณเฟสซีเมนไทต์มากขึน มีความแข็งเพิมขึน
4 : ผลิตภัณฑ์แก ้วนํ าความร ้อนได ้ตํา กลาสเซรามิกนํ าความร ้อนได ้สูง 4 : เกิดปริมาณเฟสซีเมนไทต์มากขึน มีความแข็งลดลง
ิ
ิ ธ
ิ ธ
ในการเตรียมผลิตภัณฑ์เซรามิกดิน (Clay product) มักจะคัดแยกขนาดอนุภาคของดินแล ้วนํ ามาผสมกันใน เหตุใดการผลิตดอกสว่านแบบหัวเพชรจึงออกแบบให ้ผลิตเป็ นผลึกเพชรเคลือบบนแกนโลหะ แทนทีการออกแบบ
อัตราส่วนต่างๆ เพราะสาเหตุใด เป็ นดอกสว่านเพชรทังแท่ง
สท
สท
1 : ลดราคาต ้นทุน 1 : เพิมความเหนียวให ้กับดอกสว่าน
2 : ลดปริมาณรูพรุน 2 : เพิมความแข็งให ้กับดอกสว่าน
วน
วน
3 : ลดปริมาณนํ าทีต ้องใช ้ 3 : เพิมความทนต่อความร ้อนให ้กับดอกสว่าน
4 : ลดความแข็งเปราะ 4 : เพิมความต ้านทานการกัดกร่อนให ้กับดอกสว่าน
สง
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2 คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ขอ ขอ
ขอ ขอ
ข ้อที 367 :
ข ้อใดกล่าวถูกต ้องเกียวกับวัสดุกลุม
่ อิลาสโตเมอร์ (Elastomer)
กร
กร
ข ้อที 372 :
1 : ไม่สามารถนํ ามารีไซเคิล (Recycle) ได ้เลย ข ้อใดกล่าวไม่เหมาะสมเกียวกับการเลือกใช ้วัสดุประกอบ
2 : มีโครงสร ้างชนิด Crosslink
ิ ว
ิ ว
1 : เฟสเนือพืนโลหะมีความเหนียวสูง เฟสเสริมแรงเซรามิกช่วยเพิมความแข็ง
3 : มักจะขึนรูปด ้วยวิธก
ี ารขึนรูปด ้วยความร ้อน (Thermoforming)
าวศ
าวศ
2 : เฟสเนือพืนพอลิเมอร์มน
ี ํ าหนักเบา เฟสเสริมแรงโลหะช่วยเพิมความแข็งแรง
4 : อุณหภูมกิ ารเปลียนสภาพเป็ นแก ้วมีคา่ สูงกว่าอุณหภูมห
ิ ้อง
3 : เฟสเนือพืนเซรามิกทนการกัดกร่อนดี เฟสเสริมแรงเซรามิกช่วยเพิมความแข็งทีอุณหภูมส
ิ งู
4 : เฟสเนือพืนโลหะทนความร ้อนได ้ดี เฟสเสริมแรงพอลิเมอร์ชว่ ยเพิมความแข็ง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สภ
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 368 :
ข ้อใดจับคูผ
่ ลิตภัณฑ์กบ
ั กระบวนการผลิตทีเหมาะสมได ้ไม่ถก
ู ต ้อง
ข ้อที 373 :
1 : ท่อประปา ผลิตด ้วยกระบวนการ Extrusion ข ้อใดต่อไปนีกล่าวไม่ถก
ู ต ้องเกียวกับโครงสร ้างและสมบัตข
ิ องพอลิเมอร์
2 : แป้ นกดโทรศัพท์ ผลิตด ้วยกระบวนการ Injection molding
1 : โครงสร ้างแบบโครงตาข่าย (Network) มีความยืดหยุน ่ สูงกว่าโครงสร ้างแบบสายโซ่ตรง
3 : ยางแผ่นปูพน
ื ผลิตด ้วยกระบวนการ Compression molding
2 : โครงสร ้างแบบสายโซ่ตรงสามารถขึนรูปใหม่ได ้เมือให ้ความร ้อน
4 : ขวดแกลลอน ผลิตด ้วยกระบวนการ Thermoforming
3 : โครงสร ้างแบบกิงมีจด
ุ หลอมเหลวตํากว่าแบบสายโซ่ตรง
4 : โครงสร ้างแบบสายโซ่ตรงมีความหนาแน่นมากกว่าแบบกิง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 369 :
จุดประสงค์หลักในการใช ้แก๊สทีใช ้ปกคลุม (Shielding gas) จําพวก Ar, He หรือ CO2 ในการเชือมด ้วยไฟฟ้ า คือข ้อ
ข ้อที 374 :
ใด ข ้อใดต่อไปนีกล่าวไม่ถก
ู ต ้อง
1 : ช่วยให ้โครงสร ้างจุลภาคบริเวณรอยเชือมมีเกรนละเอียด 1 : กระบวนการ Polymerization ในพอลิเมอร์ ทําให ้เกิดการเชือมต่อของสายโซ่โมเลกุล
2 : ช่วยในการหลอมละลายระหว่างลวดเชือมกับชินงาน 2 : กระบวนการ Sintering ในงานโลหกรรมผง เป็ นการหลอมผนึกอนุภาคทําให ้เกิดความแข็งแรง
3 : ป้ องกันออกซิเจนทําปฏิกริ ย
ิ ากับรอยเชือม 3 : ปฎิกริ ย
ิ า Hydration ทําให ้ซีเมนต์เกิดการแข็งตัว
4 : ไม่ทําให ้เกิดสารมลทิน (Slag) ในแนวเชือม 4 : ปฎิกริ ยิ า Vitrification เกิดขึนในกระบวนการหลอมแก ้ว ทําให ้มีรพ
ู รุนสูง
ธิ
สท
วน
สง
ขอ
อ
อ
2 : ขัดผิวชินงานให ้เรียบและกัดผิวชินงานด ้วยกรด
รข
รข
3 : ขัดผิวจนชินงานมีความบางมาก ๆ
ข ้อที 377 : 4 : ไม่ต ้องเตรียมผิวชินงาน
ข ้อใดต่อไปนีเปรียบเทียบข ้อมูลระหว่างเหล็กกล ้าเกรด AISI 1010 และ AISI 304 ได ้ถูกต ้อง
ก
1 : เหล็กกล ้าเกรด AIS 1010 ต ้านทานการกัดกร่อนได ้ดีกว่า เกรด AISI 304 คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ิ ว
ิ ว
2 : เหล็กกล ้าเกรด AIS 1010 มีปริมาณธาตุนเิ กิลมากกว่า เกรด AISI 304
าว ศ
าว ศ
3 : เหล็กกล ้าเกรด AIS 1010 มีโครงสร ้างผลึกเป็ นแบบ BCC แต่เกรด AISI 304 เป็ นแบบ FCC
4 : เหล็กกล ้าเกรด AIS 1010 มีราคาสูงกว่าเกรด AISI 304 ข ้อที 382 :
ถ ้าต ้องการวิเคราะห์ลก ี ารหล่อ ควรเลือกใช ้
ั ษณะทางโครงสร ้างจุลภาคของห ้องเครืองยนต์ดเี ซลทีผ่านกรรมวิธก
สภ
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4 เครืองมือใด
1 : มาตรวัดการเลียวเบนของรังสีเอกซ์ (X-ray diffractometer)
2 : กล ้องจุลทรรศน์อเิ ล็กตรอนแบบส่องผ่าน (Transmission electron microscope)
ข ้อที 378 : 3 : กล ้องจุลทรรศน์อเิ ล็กตรอนแบบกราดวิเคราะห์ (Scanning electron microscope)
ข ้อใดคือลักษณะโครงสร ้างผลึกและสมบัตเิ ด่นของวัสดุเพียโซอิเล็กทริก (Piezoelectric material) 4 : กล ้องถ่ายรูปดิจต
ิ อล (Digital camera)
1 : โครงสร ้างอสัณฐาน สามารถเปลียนแรงทางกลเป็ นแม่เหล็กได ้
2 : โครงสร ้างผลึกแบบสมมาตร สามารถเปลียนแรงทางกลเป็ นความร ้อนได ้ คําตอบทีถูกต ้อง : 3
3 : โครงสร ้างผลึกแบบสมมาตร สามารถเปลียนพลังงานไฟฟ้ าเป็ นความร ้อนได ้
4 : โครงสร ้างผลึกแบบไม่สมมาตร สามารถเปลียนแรงทางกลเป็ นไฟฟ้ าได ้
ข ้อที 383 :
คําตอบทีถูกต ้อง : 4 ถ ้าต ้องการตรวจสอบการยึดติดของผลิตภัณฑ์วงจรรวม (Integrated circuit) บนแผงวงจรรวม (Printed circuit
board) ด ้วยการยึดพืนผิว (Surface mount) ควรเลือกใช ้เครืองมือใด
1 : กล ้องถ่ายรูปดิจต
ิ อล (Digital camera)
ข ้อที 379 : 2 : กล ้องจุลทรรศน์แบบแสง (Optical microscope)
กระบวนการประกอบแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นิยมหลอมโลหะบัดกรี เช่น ตะกัว-ดีบก
ุ ของตัววงจรรวมเชือมติดกับ 3 : กล ้องจุลทรรศน์อเิ ล็กตรอนแบบส่องผ่าน (Transmission electron microscope)
ทองแดงบนแผ่นวงจร ทําให ้เกิดชันสารประกอบเชิงโลหะ (Intermetallic compound) ชนิด ทองแดง-ดีบกุ ระหว่าง 4 : มาตรวัดการเลียวเบนของรังสีเอ็กซ์ (X-ray diffractometer)
กลาง ซึงชันสารประกอบเชิงโลหะนีมีข ้อดีและข ้อเสียอย่างไร
1 : ช่วยให ้ตัววงจรยึดเกาะกับแผงวงจร และนํ าไฟฟ้ าได ้ดีขนึ คําตอบทีถูกต ้อง : 2
2 : ช่วยเพิมการนํ าไฟฟ้ าได ้ดีขน
ึ แต่มรี อยต่อความเปราะสูง
3 : ช่วยให ้ตัววงจรยึดเกาะกับแผงวงจร แต่ลดสภาพการนํ าไฟฟ้ า
4 : ช่วยเพิมการนํ าไฟฟ้ า และทนความร ้อนได ้ดีขน ึ ข ้อที 384 :
ถ ้าต ้องการวิเคราะห์การกระจายตัวของเฟสทีเกิดขึนจากกระบวนการเชือมยึดติดของผลิตภัณฑ์วงจรรวม
คําตอบทีถูกต ้อง : 2 (Integrated circuit) บนแผงวงจรรวม (Printed circuit board) ควรเลือกใช ้เครืองมือใด
1 : มาตรวัดการเลียวเบนของรังสีเอกซ์ (X-ray diffractometer)
2 : กล ้องจุลทรรศน์แบบแสง (Optical microscope)
ข ้อที 380 : 3 : กล ้องจุลทรรศน์อเิ ล็กตรอนแบบกราดวิเคราะห์ (Scanning electron microscope)
การเหนียวนํ าให ้เกิดโครงสร ้างผลึกด ้วยความเครียด (Strain-induced crystallization) ในระหว่างกระบวนการเป่ า 4 : กล ้องจุลทรรศน์อเิ ล็กตรอนแบบส่องผ่าน (Transmission electron microscope)
ขึนรูป (Blow molding) ขวดพลาสติก ส่งผลต่อผลิตภัณฑ์ทได ี ้อย่างไร
1 : มีความแข็งแรงและความใสมากขึน คําตอบทีถูกต ้อง : 3
2 : มีสภาพดึงยืดและความขุน
่ มากขึน
3 : มีความแข็งและความสามารถในการละลายลดลง
4 : มีสภาพดึงยืดและความแข็งลดลง ข ้อที 385 :
ถ ้าต ้องการวิเคราะห์โครงสร ้างผลึกของวัสดุ ควรเลือกใช ้เครืองมือใด
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
1 : มาตรวัดการเลียวเบนของรังสีเอกซ์ (X-ray diffractometer)
ิ
ิ
2 : กล ้องจุลทรรศน์แบบแสง (Optical microscope)
ิ ธ
ิ ธ
3 : กล ้องจุลทรรศน์อเิ ล็กตรอนแบบกราดวิเคราะห์ (Scanning electron microscope)
สท
สท
เนือหาวิชา : 248 : 11 Methods and tools for structure investigation
4 : กล ้องถ่ายรูปดิจต
ิ อล (Digital camera)
วน
วน
ข ้อที 381 : คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ถ ้าต ้องการวิเคราะห์โครงสร ้างจุลภาคของชินงานโลหะด ้วยกล ้องจุลทรรศน์แบบแสง (Optical microscope) ควร
สง
สง
เตรียมชินงานอย่างไร
1 : ขัดผิวชินงานให ้เรียบ
ข ้อที 386 :
ขอ ขอ
ขอ ขอ
ถ ้าต ้องการวิเคราะห์ทศ ิ อน (Silicon wafer) ควรเลือกใช ้เครืองมือใด
ิ ทางการเรียงตัวของอะตอมในแว่นผลึกซิลก ถ ้าต ้องการวิเคราะห์โครงสร ้างการจัดเรียงตัวของอะตอมต่างๆ ควรเลือกใช ้เครืองมือใด
1 : กล ้องจุลทรรศน์แบบแสง (Optical microscope) 1 : มาตรวัดการเลียวเบนของรังสีเอกซ์ (X-ray diffractometer)
กร
กร
2 : กล ้องจุลทรรศน์อเิ ล็กตรอนแบบกราดวิเคราะห์ (Scanning electron microscope) 2 : กล ้องจุลทรรศน์อเิ ล็กตรอนแบบกราดวิเคราะห์ (Scanning electron microscope)
3 : กล ้องจุลทรรศน์อเิ ล็กตรอนแบบส่องผ่าน (Transmission electron microscope) 3 : กล ้องจุลทรรศน์แบบแสง (Optical microscope)
4 : กล ้องถ่ายรูปดิจต
ิ อล (Digital camera) 4 : กล ้องถ่ายรูปดิจต
ิ อล (Digital camera)
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
ธิ
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
วน
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สง
สง
ข ้อที 396 :
ข ้อที 391 :
ขอ
ขอ
อ
อ
ในการเปรียบเทียบโครงสร ้างจุลภาคระหว่างแผ่นเหล็กกล ้าทีผ่านกระบวนการรีดร ้อนและทีผ่านกระบวนการรีดเย็น
รข
รข
ควรเลือกใช ้เครืองมือใด ข ้อที 401 :
1 : มาตรวัดการเลียวเบนของรังสีเอกซ์ (X-ray diffractometer) กรรมวิธก ี ารทางความร ้อนใด คือ การเผาชินงานทีขึนรูปด ้วยผงโลหะ เพือให ้ผงโลหะเชือมติดกัน
ก
2 : กล ้องจุลทรรศน์อเิ ล็กตรอนแบบส่องผ่าน (Transmission electron microscope) 1 : การอบอ่อน (Annealing)
3 : กล ้องจุลทรรศน์แบบแสง (Optical microscope) 2 : การอบปกติ (Normalizing)
ิ ว
ิ ว
4 : กล ้องถ่ายรูปดิจต
ิ อล (Digital camera) 3 : การอบคืนตัว (Tempering)
าว ศ
าว ศ
4 : การอบซินเตอร์ (Sintering)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สภ
สภ
เนือหาวิชา : 249 : 12 Metals processing
ข ้อที 402 :
กรรมวิธก ี ารขึนรูปโลหะใดต่อไปนีทีก่อให ้เกิดการสูญเปล่าของวัตถุดบ
ิ น ้อยทีสุด
ข ้อที 397 :
ในการดึงเหล็กให ้เป็ นเส ้นลวด ต ้องใช ้แรงดึงในช่วงใด 1 : การหล่อด ้วยแม่พม
ิ พ์ทราย (Sand casting)
2 : การหล่อแบบใช ้แม่แบบ (Die casting)
1 : ไม่เกินความต ้านแรงคราก (Yield strength) 3 : การขึนรูปโลหะผง (Powder Metallurgy)
2 : ไม่เกินความต ้านแรงดึง (Tensile strength) 4 : การตกแต่ง (Machining)
3 : มากกว่าความต ้านแรงคราก (Yield strength) แต่ไม่เกินความต ้านแรงดึง (Tensile strength)
4 : มากกว่าความต ้านแรงดึง (Tensile strength) แต่ไม่ถงึ จุดแตกหัก (Fracture point) คําตอบทีถูกต ้อง : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 403 :
ในการขึนรูปเย็น (Cold working) ข ้อใดต่อไปนีถูกต ้องทีสุด
ข ้อที 398 :
ในการตัดชินงานต ้องเลือกมีดตัดอย่างไร 1 : ควบคุมขนาดของชินงานให ้เทียงตรงได ้ยาก
2 : เกิดออกไซด์ทผิ
ี วชินงาน
1 : มีดตัดต ้องมีความแข็งมากกว่าชินงาน 3 : ชินงานมีความแข็ง (Hardness) มากขึน
2 : มีดตัดต ้องมีความแข็งแรงมากกว่าชินงาน 4 : เกิดการตกผลึกใหม่ (Recrystallization)
3 : มีดตัดต ้องมีความเหนียวมากกว่าชินงาน
4 : มีดตัดทนความร ้อนได ้ดี คําตอบทีถูกต ้อง : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 404 :
ข ้อใดคือข ้อดีของการขึนรูปร ้อน (Hot working) ของโลหะ
ข ้อที 399 :
ข ้อใดคือข ้อดีของการขึนรูปด ้วยการหล่อแบบหล่อทราย (Sand casting) 1 : สามารถลดขนาดชินงานได ้คราวละมาก ๆ
2 : สามารถควบคุมขนาดของชินงานได ้ง่าย
1 : ผลิตได ้เร็ว คราวละมาก ๆ 3 : ชินงานมีความแข็งเพิมมากขึน
2 : ต ้นทุนแบบหล่อตํา 4 : ผิวชินงานเรียบ เงางาม
3 : ชินงานมีผวิ เรียบ ไม่ต ้องตกแต่งเพิม
4 : ขนาดชินงานมีความแม่นยําสูง คําตอบทีถูกต ้อง : 1
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 405 :
ข ้อใดคือข ้อด ้อยของการขึนรูปร ้อน (Hot working) ของโลหะ
ข ้อที 400 :
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
การขึนรูปเย็น (Cold working) หมายถึง การขึนรูปด ้วยแรงทางกล ณ อุณหภูมใิ ด 1 : ควบคุมขนาดของชินงานให ้เทียงตรงได ้ยาก
สท
สท
2 : ชินงานมีความเปราะมากขึน
1 : อุณหภูมต
ิ ํากว่าอุณหภูมห ิ ้อง 3 : เกิดความเค ้นตกค ้างภายในเนือชินงานมากขึน
2 : อุณหภูมติ ํากว่าอุณหภูมก ิ ารเกิดผลึก (Crystallization temperature) 4 : ชินงานมีสภาพดึงยืด (Ductility) ลดลง
วน
วน
3 : อุณหภูมต ิ ํากว่าอุณหภูมก ิ ารตกผลึกใหม่ (Recrystallization temperature)
4 : อุณหภูมต ิ ํากว่าอุณหภูมก ิ ารเปลียนสภาพจากเปราะเป็ นดึงยืดได ้ (Ductile-brittle transition temperature) คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สง
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ขอ ขอ
ขอ ขอ
ข ้อที 406 : ข ้อที 411 :
ข ้อใดคือข ้อดีของการขึนรูปเย็น (Cold working) ของโลหะ การหล่อชินงานเครืองประดับ นิยมใช ้การหล่อแบบใด
กร
กร
ิ ว
าวศ
สภ
ธิ
1 : ผิวเรียบ ความแข็งแรงลดลง
สท
สท
2 : ผิวเรียบ ความแข็งแรงเพิมขึน
3 : ผิวหยาบ ความแข็งแรงลดลง
ิ
4 : ผิวหยาบ ความแข็งแรงเพิมขึน
วน
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สง
สง
1 : การกลึง (Turning)
2 : การกัด (Milling)
ขอ
ขอ
อ
อ
3 : การไส (Shaping) 4 : Cubic boron nitride
รข
รข
4 : การเจาะ (Drilling)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ก
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
ข ้อที 421 :
ข ้อที 416 : เหล็กกล ้าชนิดใดต่อไปนีตัดแต่งได ้ยากทีสุด
ในการแล่นประสาน (Brazing) เพือทําให ้แผ่นเหล็กสองแผ่นเชือมติดกัน ควรเลือกใช ้ลวดเชือมชนิดใดต่อไปนี
1 : เหล็กกล ้าไร ้สนิมเฟร์ไรต์ (Ferritic stainless steel)
สภ
สภ
1 : เหล็กกล ้า 2 : เหล็กกล ้าคาร์บอนตํา (Low carbon steel)
2 : อะลูมเิ นียม 3 : เหล็กกล ้าผสม (Alloy steel)
3 : ทองแดง 4 : เหล็กกล ้าเครืองมือ (Tool steel)
4 : ทองเหลือง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 422 :
ข ้อที 417 : ี ารรีดร ้อน (Hot rolling) ควรเลือกใช ้ลูกรีดแบบใด
ในการรีด Slab เพือให ้ได ้เหล็กแผ่น (Sheet metal) ด ้วยกรรมวิธก
รูขนึ (Riser) ในงานหล่อมีไว ้เพืออะไร และความเร็วรอบอย่างไร เพือลดขนาดอย่างรวดเร็ว
1 : เพือให ้นํ าโลหะล ้นออกมานอกแบบ 1 : ควรใช ้ลูกรีดขนาดใหญ่ ผิวหยาบ และความเร็วสูง
2 : เพือให ้นํ าโลหะในส่วนรูขน
ึ (Riser) เติมเต็มในชินส่วนงานหล่อขณะแข็งตัว 2 : ควรใช ้ลูกรีดขนาดใหญ่ ผิวหยาบ และความเร็วรอบตํา
3 : เพือให ้มีการหดตัวหลังการเย็นตัวของงานหล่อ 3 : ควรใช ้ลูกรีดขนาดใหญ่ ผิวละเอียด และความเร็วรอบสูง
4 : เพือเพิมนํ าหนักในการกดทับแบบงานหล่อ 4 : ควรใช ้ลูกรีดขนาดใหญ่ ผิวละเอียด และความเร็วรอบตํา
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4 คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ิ ธ
ิ ธ
สท
สท
ข ้อที 420 : ข ้อที 425 :
วน
วน
วัสดุในข ้อใดต่อไปนีมีความเหนียว (Toughness) สูงทีสุด โลหะในข ้อใดต่อไปนีสามารถหล่อได ้ง่ายทีสุด
1 : เหล็กกล ้าคาร์บอนสูง (High carbon steel) 1 : เหล็กหล่อเทา (Gray cast iron)
สง
สง
2 : เหล็กกล ้าความเร็วรอบสูง (High speed steel) 2 : เหล็กหล่อขาว (White cast iron)
3 : อะลูมน
ิ า (Alumina) 3 : เหล็กหล่อเหนียว (Ductile cast iron)
ขอ ขอ
ขอ ขอ
4 : เหล็กหล่ออบเหนียว (Malleable cast iron)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
กร
กร
ิ ว
ิ ว
ข ้อที 431 :
าวศ
าวศ
สภ
ข ้อที 432 :
ข ้อที 427 : กระบวนการใดทีเหมาะสมสําหรับการขึนรูปแผ่นโลหะให ้เป็ นชินงานรูปถ ้วย
การลดปั ญหาการแตกร ้าวในการเชือมเหล็กกล ้าผสมตําสามารถทําได ้โดยวิธใี ดต่อไปนี
1 : การหล่อขึนรูป (Casting)
1 : ให ้ความร ้อนชินงานก่อนเชือม 2 : การทุบขึนรูป (Forging)
2 : อบชินงานหลังการเชือม 3 : การลากขึนรูป (Deep drawing)
3 : ใช ้ก๊าซเฉือยคลุมขณะเชือม 4 : การอัดรีด (Extrusion)
4 : เชือมโดยใช ้กําลังไฟฟ้ าตํา
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 433 :
ข ้อที 428 : กรรมวิธใี ดต่อไปนีไม่สามารถเพิมความแข็งแรงให ้ชินงานโลหะได ้
กระบวนการผลิตในข ้อใดต่อไปนีทีเหมาะทีสุดในการผลิตใบพัดของเครืองกังหันก๊าซ (Gas turbine blades)
1 : การรีดร ้อน (Hot rolling)
1 : การหล่อด ้วยแม่พม
ิ พ์ทราย (Sand casting) 2 : การรีดเย็น (Cold rolling)
2 : การหล่อแบบใช ้แม่แบบ (Die casting) 3 : การทุบขึนรูป (Forging)
3 : การหล่อจากแบบพอกหุน ่ (Investment casting) 4 : การดึงรีด (Drawing)
4 : การทุบขึนรูป (Forging)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 434 :
ข ้อที 429 : การอบปกติ (Normalizing) ของเหล็กกล ้าคาร์บอนตํา จะต ้องมีการให ้ความร ้อนและการเย็นตัวของชินงานอย่างไร
กรรมวิธใี ดต่อไปนีสามารถผลิตแผ่นเหล็กกล ้าทีมีขนาดเทียงตรงตามทีต ้องการได ้ดีทสุ
ี ด
1 : การรีดร ้อน (Hot rolling) 1 : ให ้ความร ้อนจนชินงานเปลียนโครงสร ้างเป็ นออสเทไนต์และเฟร์ไรต์ และปล่อยให ้เย็นตัวในเตาอบ
2 : การรีดเย็น (Cold rolling) 2 : ให ้ความร ้อนจนชินงานเปลียนโครงสร ้างเป็ นออสเทไนต์ทงหมด
ั และปล่อยให ้เย็นตัวในอากาศ
3 : การทุบขึนรูป (Forging) 3 : ให ้ความร ้อนจนชินงานเปลียนโครงสร ้างเป็ นออสเทไนต์ทงหมด
ั และปล่อยให ้เย็นตัวในนํ า
4 : การดึงรีด (Drawing) 4 : ให ้ความร ้อนจนชินงานเปลียนโครงสร ้างเป็ นออสเทไนต์และซีเมนไทต์ และปล่อยให ้เย็นตัวในนํ า
ธิ
สท
สท
ข ้อที 430 :
ข ้อใดไม่ใช่กลไกการเพิมความแข็งแรงให ้กับอะลูมเิ นียมและอะลูมเิ นียมผสม
วน
วน
สง
ขอ
อ
อ
3 : แจกัน 3 : ยาง
รข
รข
4 : ถ ้วยกาแฟ 4 : ปูนปลาสเตอร์
ก
ิ ว
ิ ว
าว ศ
าว ศ
ข ้อที 436 : ข ้อที 441 :
ผลิตภัณฑ์เซรามิกในข ้อใดเหมาะกับการขึนรูปโดยการหล่อแบบ (Slip casting) ในการผลิตเซรามิกชนิดทีมีดนิ เป็ นองค์ประกอบหลัก (Clay products) ด ้วยวิธก
ี ารหล่อแบบ (Slip casting) แบบที
ใช ้ในการขึนรูปควรมีลก
ั ษณะอย่างไรและเพราะเหตุใด
สภ
สภ
1 : อ่างล ้างหน ้า
2 : กระเบืองปูพนและผนั
ื ง 1 : เนืองจากผลิตภัณฑ์ทได
ี ้มีการขยายขนาด จึงต ้องทําให ้แบบมีขนาดเล็กกว่างานจริง
3 : โอ่งมังกร 2 : เนืองจากผลิตภัณฑ์ทได
ี ้มีจะมีขนาดเท่าเดิม ดังนันแบบจะมีขนาดเท่างานจริง
4 : ท่อระบายนํ า 3 : เนืองจากผลิตภัณฑ์ทไดี ้มีการหดตัว จึงต ้องทําให ้แบบมีขนาดใหญ่กว่างานจริง
4 : ผลิตภัณฑ์ทได
ี ้อาจจะหดตัวหรือขยายตัวก็ได ้ การเผือขนาดแบบแล ้วแต่ชนิดของผลิตภัณฑ์
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 437 :
ผลิตภัณฑ์เซรามิกในข ้อใดเหมาะกับการขึนรูปโดยการอัดรีด (Extrusion) ข ้อที 442 :
1 : สุขภัณฑ์ในห ้องนํ า กระจก เป็ นผลิตภัณฑ์ทมั
ี กจะได ้จากการขึนรูปแบบใด
2 : ถ ้วยกาแฟ 1 : การเป่ า (Blowing)
3 : กระเบืองมุงหลังคา 2 : การอัด (Pressing)
4 : ท่อนํ าทิง 3 : การดึง (Drawing)
4 : การอัดรีด (Extrusion)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 438 :
ข ้อใดต่อไปนีจะไม่เกิดขึนเมือให ้ความร ้อนกับเซรามิกในกระบวนการอบแห ้ง (Drying) ข ้อที 443 :
1 : นํ าระหว่างอนุภาคถูกขจัดออก ผลิตภัณฑ์ประเภทใดขึนรูปโดยการเป่ า (Blowing)
2 : สารอินทรียถ ์ ก
ู ขจัดออก 1 : ขวดแก ้ว
3 : ผลิตภัณฑ์หลังอบมีขนาดใหญ่ขน ึ 2 : จานแก ้ว
4 : ผลิตภัณฑ์หลังอบมีความแข็งแรงตําและเปราะ 3 : กระจก
4 : เลนส์
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 439 :
ข ้อใดต่อไปนีไม่เกิดขึนในกระบวนการ Sintering ข ้อที 444 :
1 : Solid-state diffusion ั ถุประสงค์ในการใช ้ดินเป็ นวัตถุดบ
ข ้อใดไม่ใช่วต ิ ในเซรามิกดังเดิม (Conventional ceramics)
2 : อนุภาคเกิดการเชือมต่อกันบริเวณทีสัมผัสกับอนุภาคอืน 1 : ดินช่วยในเรืองความเหนียวขณะขึนรูปทําให ้ขึนรูปได ้ง่าย
3 : เกิดการหลอมละลายเป็ นของเหลว 2 : ดินช่วยให ้เซรามิกคงรูปอยูไ่ ด ้ขณะเผา
4 : ช่องว่างระหว่างอนุภาคมีขนาดเล็กลง 3 : ดินช่วยให ้เซรามิกมีความหนาแน่นสูง
4 : ดินมีราคาถูก
ิ
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ิ ธ
ิ ธ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สท
สท
ข ้อที 440 :
วน
วน
ในการขึนรูปเซรามิกชนิดทีมีดน ี ารหล่อแบบ (Slip casting) ใช ้วัสดุ
ิ เป็ นองค์ประกอบหลัก (Clay products) โดยวิธก ข ้อที 445 :
ใดเป็ นแบบหล่อ ในการบดผสมวัตถุดบ
ิ สําหรับผลิตเซรามิก ทําไมจึงต ้องมีการควบคุมการกระจายขนาดอนุภาค (Particle size
สง
สง
1 : ทราย distribution)
2 : โลหะ 1 : เพือให ้วัตถุดบ
ิ หลอมตัวได ้ง่าย
ขอ ขอ
ขอ ขอ
2 : เพือให ้วัตถุดบ
ิ สามารถอัดตัวกันเพือให ้มีชอ่ งว่างน ้อยทีสุด 2 : Drying
3 : เพือให ้วัตถุดบิ ผสมกันได ้ดียงขึ
ิ น 3 : Tempering
4 : เพือให ้วัตถุดบ ิ ไม่เกิดการหดตัวหลังให ้ความร ้อน 4 : Blowing
กร
กร
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
ข ้อที 453 :
ข ้อที 448 : กระจกหน ้าต่างเป็ นผลิตภัณฑ์ทมั
ี กจะได ้จากกรรมวิธก
ี ารขึนรูปใดต่อไปนี
การเกิดเป็ นเนือแก ้ว (Vitrification) จะทําให ้เกิดผลในข ้อใด
1 : Pressing
1 : สัมประสิทธิการขยายตัวเนืองจากความร ้อน (Coefficient of thermal expansion) ตําลง 2 : Drawing
2 : การนํ าความร ้อน (Thermal conductivity) ตําลง 3 : Blowing
3 : การนํ าไฟฟ้ า (Electrical conductivity) ดีขน
ึ 4 : Casting
4 : การเสียรูป (Warpage) ตําลง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 454 :
ข ้อที 449 : ข ้อใดกล่าวเกียวกับกรรมวิธท
ี างความร ้อนของแก ้วไม่ถก
ู ต ้อง
ในเซรามิกแบบดังเดิม (Conventional ceramic) การเติม Flux จะมีประโยชน์ในเรืองใด
1 : การอบอ่อนแก ้วทําเพือลดปริมาณความเค ้นตกค ้างของชินงาน
1 : ทําให ้ผลิตภัณฑ์เกิดเป็ นเนือแก ้ว 2 : การอบอ่อนแก ้วทําได ้โดยการให ้ความร ้อนถึงจุดอ่อนตัวแล ้วปล่อยให ้เย็นตัวช ้าๆ จนถึงอุณหภูมห
ิ ้อง
2 : ทําให ้การเกิดเป็ นเนือแก ้วสามารถเกิดทีอุณหภูมต
ิ ําลง 3 : การเพิมความแข็งให ้กับแก ้ว (Glass tempering) ทําได ้โดยการให ้ความร ้อนถึงจุดอ่อนตัว แล ้วทําให ้เย็น
3 : ไม่ให ้ผลิตภัณฑ์เกิดการหดตัว ตัวอย่างรวดเร็วโดยการเป่ าลม
ธิ
ธิ
4 : ทําให ้มีความเปราะน ้อยลง 4 : ชินงานทีเย็นตัวอย่างรวดเร็วจากการเพิมความแข็งให ้กับแก ้ว (Glass tempering) จะทําให ้เกิดความเค ้นอัดที
ผิวและเกิดความเค ้นแรงดึงทีเนือภายใน
สท
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
วน
วน
ข ้อที 450 :
เนือหาวิชา : 251 : 14 Polymers processing
สง
สง
ขอ
อ
อ
รข
รข
ข ้อที 455 : ข ้อที 460 :
ผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ทได
ี ้จากการขึนรูปด ้วยเครืองอัดรีด (Extrusion) จะมีลก
ั ษณะแบบใด ผงถ่าน (Carbon black) ทีใช ้เป็ นส่วนผสมในยางรถยนต์ เป็ นสารเติมแต่งชนิดใด
ก
1 : เป็ นภาชนะกลวง 1 : สี (Colorant)
2 : รูปร่างลักษณะซับซ ้อนมาก 2 : สารเสริมแรง (Reinforcing filler)
ิ ว
ิ ว
3 : รูปร่างหน ้าตัดเหมือนกันตลอดความยาวของชินงาน 3 : สารไม่เสริมแรง (Non-reinforcing filler)
าว ศ
าว ศ
4 : ข ้อ 1 2 และ 3 ถูก 4 : สารป้ องกันการติดไฟ (Flame retardant)
สภ
ข ้อที 456 : ข ้อที 461 :
ิ มใช ้กับพอลิเมอร์ชนิดเทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic)
กระบวนการขึนรูปชนิดใดทีไม่นย ผลิตภัณฑ์ททํ ี าจากพอลิเมอร์ชนิดใดต่อไปนีมีการหดตัวหลังกระบวนการขึนรูปมากทีสุด
1 : การฉีดขึนรูป (Injection molding) 1 : วัสดุยด
ื หยุน
่ (Elastomer)
2 : การเป่ าขึนรูป (Blow molding) 2 : เทอร์โมเซตติง (Thermosetting)
3 : การอัดรีด (Extrusion) 3 : เทอร์โมพลาสติกชนิดทีเกิดโครงสร ้างผลึก (Crystalline thermoplastic)
4 : การอัดเข ้ากับแบบ (Compression molding) 4 : เทอร์โมพลาสติกชนิดทีไม่เกิดโครงสร ้างผลึก (Non-crystalline thermoplastic)
ข ้อที 459 :
ขวดพลาสติก เป็ นผลิตภัณฑ์ทมั
ี กจะได ้จากการขึนรูปแบบใด ข ้อที 464 :
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
1 : การฉีดขึนรูป (Injection molding) เพราะเหตุใดกระบวนการขึนรูปแบบอัดเข ้ากับแบบ (Compression molding) จึงนิยมใช ้กับพอลิเมอร์ชนิดเทอร์โม
เซตติง (Thermosetting) มากกว่าพอลิเมอร์ชนิดเทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic)
สท
สท
2 : การเป่ าขึนรูป (Blow molding)
3 : การอัดรีด (Extrusion) 1 : ประหยัดพลังงาน เนืองจากในกระบวนการผลิตเทอร์โมเซตติง มีความต ้องการใช ้อุณหภูมท
ิ ตํ
ี ากว่าใน
4 : การอัดเข ้ากับแบบ (Compression molding) กระบวนการผลิตเทอร์โมพลาสติก
วน
วน
2 : การขึนรูปเทอร์โมเซตติง ไม่จําเป็ นต ้องมีการหล่อเย็น
คําตอบทีถูกต ้อง : 2 3 : ผลิตภัณฑ์ทไดี ้จากการขึนรูปเทอร์โมเซตติง มีผวิ ทีเป็ นมันวาวกว่า
4 : ใช ้เวลาในการขึนรูปน ้อยกว่า
สง
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ขอ ขอ
ขอ ขอ
กร
กร
ิ ว
าวศ
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 472 :
แผ่นฟิ ลม์ พลาสติกเป็ นผลิตภัณฑ์ทมั
ี กจะได ้จากกรรมวิธก
ี ารขึนรูปใดต่อไปนี
ข ้อที 467 :
ช ้อนพลาสติกตักไอศกรีม เป็ นผลิตภัณฑ์ทมั
ี กจะได ้จากการขึนรูปแบบใด 1 : Injection molding
2 : Extrusion
1 : การหล่อ (Casting) 3 : Compression molding
2 : การอัดเข ้าแบบ (Compression molding)
3 : การฉีดขึนรูป (Injection molding) 4 : Blow molding
4 : การอัดรีด (Extrusion)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 473 :
ข ้อที 468 : ขันตอนใดต่อไปนีทีไม่เกียวข ้องกับการสังเคราะห์พอลิเมอร์แบบเติม (Addition polymerization)
กล่องพลาสติกใสสําหรับใส่ขนมเค ้กชินเล็กๆ เป็ นผลิตภัณฑ์ทมั
ี กจะได ้จากการขึนรูปแบบใด
1 : Initiation
1 : การขึนรูปด ้วยความร ้อน (Thermo-forming) 2 : Termination
2 : การอัดเข ้าแบบ (Compression molding) 3 : Condensation
3 : การฉีดขึนรูป (Injection molding) 4 : Propagation
4 : การเป่ าขึนรูป (Blow molding)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ธิ
ธิ
ข ้อที 474 :
สท
สท
1 : เปลือกหุ ้มสายเคเบิล
1 : การอัดรีด (Extrusion) 2 : ใบพัดลม
วน
วน
สง
ขอ
อ
อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
รข
รข
ข ้อที 475 :
แกลลอนนํ ามันควรผลิตด ้วยกระบวนการขึนรูปใด
ก
ข ้อที 480 :
1 : การฉีดขึนรูป (Injection molding)
ิ ว
ิ ว
ผลิตภัณฑ์ใดต่อไปนีทีนิยมผลิตจากวัสดุเชิงประกอบ (Composites)
2 : การเป่ าขึนรูป (Blow molding)
าว ศ
าว ศ
3 : การอัดรีด (Extrusion) 1 : ถ ้วยกาแฟ
4 : การอัดเข ้าแบบ (Compression molding) 2 : หม ้อหุงข ้าว
3 : ไม ้เทนนิส
สภ
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2 4 : กรอบแว่นตา
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 476 :
พอลิเมอร์ชนิดใดนิยมขึนรูปด ้วยกระบวนการอัดเข ้าแบบ (Compression molding)
ข ้อที 481 :
1 : พอลิสไตรีน (Polystyrene)
ไฟเบอร์กลาส (Fiberglass) เป็ นวัสดุชนิดใด
2 : พอลิเอทธิลนี (Polyethylene)
3 : พอลิพรอพิลน ี (Polypropylene) 1 : วัสดุเชิงประกอบ (Composite) ทีมีอล
ี าสโตเมอร์ (Elastomer) เป็ นโครงสร ้างพืน (Matrix)
4 : ฟี นอลฟอร์มลั ดีไฮด์ (Phenol-formaldehyde)
2 : วัสดุเชิงประกอบ (Composite) ทีมีเซรามิก (Ceramic) เป็ นโครงสร ้างพืน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4 3 : วัสดุเชิงประกอบทีมีแก ้ว (Glass) เป็ นโครงสร ้างพืน (Matrix)
ข ้อที 478 :
วัตถุประสงค์หลักในการพัฒนาวัสดุเชิงประกอบ (Composites) คือข ้อใด
ข ้อที 483 :
1 : เพิมความรวดเร็วในการผลิตและประสิทธิภาพการผลิต เซอร์เมท (Cermet) เป็ นวัสดุชนิดใด
2 : ลดต ้นทุนการผลิต เพิมความสามารถในการแข่งขัน
3 : ปรับปรุงสมบัตบ
ิ างประการของชินงาน เช่น ความแข็งแรง 1 : เซรามิก
4 : ลดผลกระทบต่อสิงแวดล ้อมและใช ้ทรัพยากรให ้คุ ้มค่า 2 : วัสดุเชิงประกอบ (Composite) มีโลหะเป็ นโครงสร ้างพืน (Matrix)
3 : วัสดุเชิงประกอบ (Composite) มีเซรามิกเป็ นโครงสร ้างพืน (Matrix)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3 4 : โลหะชนิดหนึง มีความแข็งสูง ใช ้เป็ นมีดกลึง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ิ
ิ
ิ ธ
ิ ธ
สท
สท
ข ้อที 479 :
วัสดุในข ้อใดต่อไปนีไม่ใช่วส
ั ดุเชิงประกอบ (Composites)
ข ้อที 484 :
1 : ทังสเตนคาไบด์ (Tungsten carbide)
วน
วน
เคฟลาร์ (Kevlar) เป็ นเส ้นใยชนิดใด
2 : เซอร์เมท
3 : คอนกรีตเสริมเหล็ก (Reinforced concrete) 1 : เส ้นใยธรรมชาติ
สง
สง
4 : พรีเพรก 2 : เส ้นใยพอลิเมอร์สงั เคราะห์
3 : เส ้นใยแก ้ว
4 : เส ้นใยคาร์บอน
ขอ ขอ
ขอ ขอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
กร
กร
ข ้อที 490 :
ิ ว
ิ ว
าวศ
สภ
ข ้อที 491 :
ข ้อที 486 : ข ้อใดกล่าวไม่ถก
ู ต ้อง
วัสดุเชิงประกอบ (Composite) ชนิดใดต่อไปนีทีเหมาะสําหรับผลิตก ้านสูบ (Connecting rods) ในเครืองยนต์
1 : สารเสริมแรงส่วนมากมีความเหนียวสูง
1 : อะลูมเิ นียมเสริมใยแก ้ว (Glass fibers) 2 : การทํา PMC ช่วยเพิมความแข็งแรงให ้สูงขึน
2 : อะลูมเิ นียมเสริมใยซิลกิ อนคาร์ไบด์ (SiC) 3 : การทํา MMC ช่วยเพิมความต ้านทานต่อการเกิดครีพให ้สูงขึน
3 : อะลูมเิ นียมเสริมใยหิน (Asbestos) 4 : การทํา CMC ช่วยเพิมความเหนียวให ้สูงขึน
4 : อะลูมเิ นียมเสริมใยเหล็ก (Steel)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 492 :
ข ้อที 487 : สารเสริมแรงชนิดใดใช ้ทําวัสดุเชิงประกอบแบบโครงสร ้าง (Structural composite)
ข ้อใดต่อไปนีเป็ นวัสดุเชิงประกอบทีมีสมบัตแ
ิ บบไอโซทรอปิ ก
1 : เส ้นใยแก ้วชนิดสัน
1 : คานไม ้ 2 : วิสเกอร์ซลิ ก
ิ อนคาร์ไบด์
2 : โครงเครืองบินไฟเบอร์กลาส 3 : ผงทังสเตนคาร์ไบด์
3 : ยางรถยนต์เสริมแรงด ้วยคาร์บอนแบล็ก 4 : แผงรังผึง
4 : ชินส่วนกระสวยอวกาศทําจากเส ้นใยยาวเคฟลาร์และอีพอกซี (Kevlar-epoxy)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 493 :
ข ้อที 488 : คอนกรีตเป็ นวัสดุเชิงประกอบ (Composites) ทีมีวส
ั ดุชนิดใดเป็ นเฟสเนือพืน (Matrix)
ข ้อใดไม่ใช ้วิธเี พิมความแข็งแรงให ้กับวัสดุเชิงประกอบ
1 : หิน
1 : ลดขนาดของอนุภาคให ้เล็กลง 2 : ซีเมนต์
2 : ลดความยาวเส ้นใยเสริมแรงให ้สันลง 3 : ยิปซัม
3 : เพิมแรงยึดเหนียวระหว่างเนือพืนและอนุภาคเสริมแรง 4 : ทราย
4 : ปรับการกระจายตัวของอนุภาคในเนือพืนให ้สมําเสมอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ
ธิ
ข ้อที 494 :
สท
สท
วน
สง
4 : ลดต ้นทุนการผลิต
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ขอ
ขอ
อ
รข
ข ้อที 495 :
ข ้อใดไม่ใช่ผลของการทําวัสดุเชิงประกอบ (Composites) ทีมีโลหะเป็ นเฟสเนือพืน (Matrix)
ก
1 : เพิมความเหนียว
ิ ว
2 : เพิมความต ้านทานต่อการสึกหรอ
าว ศ
3 : เพิมมอดุลส
ั จําเพาะ
4 : เพิมความต ้านทานต่อการเกิดครีพ (Creep)
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 496 :
วัสดุเซอร์เมท (Cermet) เป็ นวัสดุเชิงประกอบ (Composite) ทีมีลก
ั ษณะเป็ นอย่างไร
1 : วัสดุเซรามิกเป็ นโครงสร ้างพืน (Matrix) เสริมแรงด ้วยโลหะ
2 : วัสดุโลหะเป็ นโครงสร ้างพืน (Matrix) และเสริมแรงด ้วยเซรามิก
3 : วัสดุพอลิเมอร์เป็ นโครงสร ้างพืน (Matrix) และเสริมแรงด ้วยเซรามิก
4 : วัสดุพอลิเมอร์เป็ นโครงสร ้างพืน (Matrix) และเสริมแรงด ้วยโลหะ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สภาวิศวกร 487/1 ซอย รามคําแหง 39 (เทพลีลา 1) แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310 สายด่วน
1303 โทรสาร 02-935-6695
@ สงวนลิขสิทธิ 2555 สภาวิศวกร : ติดต่อสภาวิศวกร | Contact