7 Heat Transfer

ขอ
ขอ
2 : 0.0004 K/W
สภาวิศวกร | Council of engineers 3 : 64 K/W
4 : 0.0156 K/W
กร
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
วิชา : Heat Transfer
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
เนือหาวิชา : 402 : 1.การนํ าความร ้อนในหนึงมิตส
ิ ภาวะคงตัว ข ้อที 5 :
จงหาความต ้านทานเชิงความร ้อน (Conductive Resistance) ของฉนวนหุ ้มโพลีไวนีล ทีมีคา่ สัมประสิทธิ
สภ
สภ
การนํ าความร ้อน (Thermal Conductivity) เท่ากับ 0.01 W/m.K โดยทีฉนวนทีหนา 3 เซนติเมตร ถูกนํ า
ข ้อที 1 : ไปหุ ้มท่อขนาดรัศมี 12 เซนติเมตร ยาว 15 เมตร
จงหาความต ้านทานเชิงความร ้อน (Conductive Resistance) ของผนังแผ่นอิฐทีมีความหนา 15 เซนติเมตร
1 : 0.237 K/W
กว ้าง 2 เมตรและสูง 3 เมตร กําหนดให ้ค่าสัมประสิทธิการนํ าความร ้อน (Thermal Conductivity) ของอิฐมี
2 : 0.547 K/W
ค่าเท่ากับ 0.72 W/m.K
3 : 0.103 K/W
1 : 28.0 K/W 4 : 0.178 K/W
2 : 55.56 K/W
3 : 0.0347 K/W คําตอบทีถูกต ้อง : 1
4 : 0.0180 K/W
ข ้อที 6 :
จงหาความต ้านทานเชิงความร ้อน (Conductive Resistance) ของทรงกลมกลวงเส ้นผ่านศูนย์กลางภายใน
3เมตร ทําจากอลูมเิ นียมหนา 3 เซนติเมตร กําหนดให ้ค่าสัมประสิทธิการนํ าความร ้อน (Thermal
ข ้อที 2 : Conductivity) ของอลูมเิ นียมมีคา่ เท่ากับ 240 W/m.K
จงหาความต ้านทานเชิงความร ้อน (Conductive Resistance) ของฉนวนหุ ้มท่อไฟเบอร์กลาส ทีมีคา่
สัมประสิทธิการนํ าความร ้อน (Thermal Conductivity) ค่าเท่ากับ 0.038 W/m.K โดยทีฉนวนหนา 2.5 1:
เซนติเมตร ถูกนํ าไปหุ ้มท่อขนาดเส ้นผ่านศูนย์กลาง 38 เซนติเมตร ยาว 1.5 เมตร
2:
1 : 0.3452 K/W
2 : 0.1500 K/W 3:
3 : 0.3939K/W 4:
4 : 0.5072 K/W
จงหาความต ้านทานเชิงความร ้อน (Conductive Resistance) ของทรงกลมกลวงรัศมีภายใน 3 เมตร ทํา
จากเหล็กกล ้า หนา 5 เซนติเมตร กําหนดให ้ค่าสัมประสิทธิการนํ าความร ้อน (Thermal Conductivity) ของ
เหล็กกล ้ามีคา่ เท่ากับ 58.7 W/m.K
1:
2:
3:
4: 1:
ธิ
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3 2:
สท
สท
3:
ิ
ิ
4:
งวน
งวน
จงหาความต ้านทานเชิงความร ้อน (Conductive Resistance) ของผนังแผ่นไม ้ทีมีความหนา 7.5 คําตอบทีถูกต ้อง : 2
เซนติเมตร กว ้าง 10 เมตรและสูง 3 เมตร กําหนดให ้ค่าสัมประสิทธิการนํ าความร ้อน (Thermal
Conductivity) ของแผ่นไม ้มีคา่ เท่ากับ 0.16 W/m.K
อ ขอส
1 : 25.0 K/W ข ้อที 8 : อ ขอส
รข
รข
วก
ข ้อที 11 :
ิ ว
จงหาอัตราความร ้อนทีถ่ายเทผ่านผนังแผ่นอิฐในสภาวะคงตัว สําหรับอิฐทีมีความหนา 15 เซนติเมตร กว ้าง

าวศ
2 เมตรและสูง 3 เมตร กําหนดให ้ค่าสัมประสิทธิการนํ าความร ้อนของอิฐมีคา่ เท่ากับ 0.72 W/m.K และ
ความแตกต่างอุณหภูมข ิ องผนังทังสองด ้านมีคา่ เป็ น 10 K
า วศิ
1 : 0.3571 W
สภ
สภ
2 : 0.17998 W
3 : 288.2 W
1: 4 : 555.5 W
2: คําตอบทีถูกต ้อง : 3
3:
4:
ข ้อที 12 :
จงหาอัตราความร ้อนทีถ่ายเทผ่านฉนวนหุ ้มท่อไฟเบอร์กลาสในสภาวะคงตัว ฉนวนหุ ้มท่อไฟเบอร์กลาส(k
มีคา่ เท่ากับ 0.038 W/m.K) มีความหนา 2.5 เซนติเมตร ถูกนํ าไปหุ ้มท่อขนาดเส ้นผ่านศูนย์กลาง 38
เซนติเมตร ยาว 1.5 เมตรและความแตกต่างอุณหภูมข ิ องผนังทังสองด ้านมีคา่ เป็ น 10 K
1 : 28.968 W
ข ้อที 9 : 2 : 66.667 W
3 : 25.387 W
4 : 19.716 W
ข ้อที 13 :
จงหาอัตราความร ้อนทีถ่ายเทผ่านผนังแผ่นไม ้ทีมีความหนา 7.5 เซนติเมตร กว ้าง 10 เมตรและสูง 3 เมตร
1 : 1.67 W
ในสภาวะคงตัว กําหนดให ้ค่าสัมประสิทธิการนํ าความร ้อนของแผ่นไม ้มีคา่ เท่ากับ 0.16 W/m.Kและความ
2 : 6.03 W
แตกต่างอุณหภูมข
ิ องผนังทังสองด ้านมีคา่ เป็ น 5 K
3 : 1.81 W
4 : 18.1 W 1 : 0.2 W
2 : 515.2 W
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 3 : 0.0781 W
4 : 320.512 W
ข ้อที 10 :
ข ้อที 14 :
ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
1 : 23.6 เซนติเมตร
วน
วน
1 : 46 W 2 : 15.5 เซนติเมตร
2 : 0.046 W 3 : 5.16 เซนติเมตร
สง
สง
3 : 0.46 W
4 : 4.6 W
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
ข ้อที 15 :
กร
กร
ิ ว
ิ ว
ข ้อที 18 :
าวศ
าวศ
ณ ทีอุณหภูมหิ ้อง วัตถุประเภทใดมีคา่ สัมประสิทธิการนํ าความร ้อน (Thermal Conductivity) ดีทสุ
ี ด
1 : เหล็ก
2 : อลูมเิ นียม
สภ
สภ
3 : เงิน
4 : ทองแดง
1 : 177 W คําตอบทีถูกต ้อง : 3

2 : 44.3 W
3 : 118 W
4 : 56.2 W ข ้อที 19 :
สําหรับการนํ าความร ้อนในกรณีผนังราบหลายชัน เรามักพบว่าการกระจายของอุณหภูมผ ิ า่ นผิวรอยต่อของ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2 วัตถุสองชินทีมาประกอบกัน จะมีการตกของอุณหภูม ิ (Temperature Drop) ขึน การสูญเสียนีเป็ นผลมา
จาก Thermal contact resistance ข ้อใดกล่าวผิดเกียวกับ Thermal contact resistance
1 : Thermal contact resistance ทีผิวรอยต่อขึนอยูก่ บ
ั ความดัน และอุณหภูมท ิ ผิ
ี วรอยต่อ
ข ้อที 16 : 2 : การทําผิวให ้เรียบไม่มผ
ี ลต่อการลดค่า Thermal contact resistance เนืองจากผิวทีขรุขะส่งผลต่อ
การนํ าความร ้อนทีดีกว่า
3 : Thermal contact resistance ทีผิวรอยต่อสามารถลดได ้ด ้วยการใช ้สารเพิมการนํ าความร ้อนทาทีผิว
รอยต่อ
4 : การถ่ายเทความร ้อนทีผิวรอยต่อจะเกิดเฉพาะการนํ าความร ้อนเป็ นส่วนใหญ่
ข ้อที 20 :
ผนังเตาในงานอุตสาหกรรมแห่งหนึงทําด ้วยอิฐทีมีคา่ สัมประสิทธิการนํ าความร ้อน (k) = 1.7 W/m.K
โดยทีอิฐหนา 0.15 เมตร อยูภ
่ ายใต ้สภาวะคงตัว อุณหภูมภ ิ ายนอกและภายในของผนังสามารถวัดได ้เป็ น
1: 1400 K และ 1150 K จงคํานวณหาอัตราการสูญเสียความร ้อนทีผ่านผนัง ซึงมีพนที ื หน ้าตัด 1.5 ตาราง
2: เมตร
1 : 2,833 W
3:
2 : 3,755 W
4: 3 : 4,250 W
4 : 5,125 W
ข ้อที 17 :
ข ้อที 21 :
ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
ิ
งวน
งวน
1 : 10.10 W
2 : 69.73 W
3 : 13.81 W
อ ขอส
4 : 17.00 W
อ ขอส
1 : 190.18 W
รข
รข
2 : 74.38 W
3 : 254.78 W
4 : 126.18 W
วก
วก
วศิ
วศิ
า
ข ้อที 22 :
สภ
สภ
1:
2:
3:
1 : 5.45 เซนติเมตร 4:
3 : 3.63 เซนติเมตร คําตอบทีถูกต ้อง : 1
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 ข ้อที 25 :
ข ้อที 23 :
ทีสภาวะคงตัว มีความร ้อนไหลผ่านผนังบ ้านด ้านหนึงขนาด 100 วัตต์ตอ ่ ตารางเมตร และอากาศในห ้องมี
อุณหภูม ิ 25 องศาเซลเซียส ทําการวัดอุณหภูมท ิ ผนั
ี งห ้องฝั งในบ ้านพบว่ามีอณ
ุ หภูม ิ 29 องศาเซลเซียส จง
หาค่าสัมประสิทธิการพาความร ้อน (h) ของฝั งผนังห ้อง
1:
2:
3:
4:
ข ้อที 24 :
1:
2:
ธิ
ธิ
3:
สท
สท
4:
ิ
วน
วน
สง
สง
ข ้อที 26 :
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
ข ้อที 28 :
กร
กร
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
สภ
1 : 40.50 องศาเซลเซียส
3 : 62 องศาเซลเซียส
ข ้อที 29 :
ข ้อที 27 :
1 : 46.4 องศาเซลเซียส 1 : 38.82 W/m

2 : 52.66 W/m
2 : 42.4 องศาเซลเซียส 3 : 77.77 W/m
ธิ
ธิ
4 : 106.93 W/m
สท
สท
ิ
ิ
วน
งวน
ข ้อที 30 :
ง
อ ขอส
อ ขอส
รข
รข
วก
ก
ิ ว
าวศ
า วศิ
สภ
สภ
1 : 70.77 W/m 1 : 0.34

2 : 72.66 W/m 2 : 0.54
3 : 87.77 W/m 3 : 3.44
4 : 106.93 W/m 4 : 5.40
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 31 : ข ้อที 33 :
1 : 34.39 J
2 : 275.1 kJ
3 : 34.39 kJ
4 : 24.35 J
1 : 2.23 W คําตอบทีถูกต ้อง : 3
2 : 22.3 W
3 : 87.77 W
4 : 0.11 W
ข ้อที 34 :
ธิ
ธิ
ข ้อที 32 :
สท
สท
ิ
ิ
วน
วน
1 : 34.39 W
สง
สง
2 : 275.1 kW
3 : 34.39 kW
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
4 : 24.35 W 1 : 0.0009 K/W.m
คําตอบทีถูกต ้อง : 4 2 : 5.73 K/W.m
กร
กร
3 : 175 K/W.m
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
ข ้อที 35 :
สภ 4 : 0.000141 K/W.m
สภ
ข ้อที 38 :
1 : 465.9 kJ
2 : 116.5 kJ
3 : 465.9 J
4 : 687.2 J
1 : 2.7 W
2 : 26.6 W
3 : 265.8 W
ข ้อที 36 : 4 : 2658 W
ข ้อที 39 :
1 : 687.2 W
2 : 465.9 kW
3 : 4116.5 kW
4 : 1374 W 1 : ลดลงร ้อยละ 98.3
2 : ลดลงร ้อยละ 50
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 3 : ลดลงร ้อยละ 2.6
4 : ลดลงร ้อยละ 1.3
ธิ
ธิ
ข ้อที 37 :
สท
สท
ิ
ิ
ข ้อที 40 :
งวน
งวน
อ ขอส
อ ขอส
ข ้อที 42 :
รข
รข
วก
วก
วศิ
วศิ
า
า
สภ
สภ
1:
2:
3: 1:
4: 2:
3:
4:
ข ้อที 41 :
ข ้อที 43 :
การถ่ายเทความร ้อนผ่านกําแพงทีกันระหว่างแหล่งความร ้อนทีมีอณ ุ หภูมแ ิ ตกต่างกันสองแหล่งในข ้อใด ที
สามารถสมมุตใิ ห ้เป็ นการถ่ายเทความร ้อนด ้วยการนํ าในมิตเิ ดียวได ้อย่างเหมาะสมมากทีสุด
1 : กําแพง ทีมีหนามากเมือเทียบกับความสูงและความกว ้าง
2 : กําแพง ทีสูงมากเมือเทียบกับความกว ้างและความหนา
3 : กําแพง ทีกว ้างมากเมือเทียบกับความกว ้างและความหนา
4 : กําแพงทีหนาน ้อยเมือเทียบกับความสูงและความกว ้าง
ข ้อที 44 :
การถ่ายเทความร ้อนจากของไหลภายในท่อไปสูบ ่ รรยากาศนอกท่อทีมีอณ ุ หภูมต
ิ ํากว่าในข ้อใด ทีมีความ
เหมาะสมในการสมมุตใิ ห ้เป็ นการถ่ายเทความร ้อนด ้วยการนํ าในหนึงมิตม
ิ ากทีสุด
1 : ท่อเส ้นผ่านศูนย์กลางภายใน 0.2 เมตร ยาว 10 เมตร บรรจุนําร ้อนไหลภายใน
2 : ท่อเส ้นผ่านศูนย์กลางภายใน 0.2 เมตร ยาว 10 เมตร บรรจุนําเย็นไหลภายใน
3 : ท่อเส ้นผ่านศูนย์กลางภายใน 0.2 เมตร ยาว 10 เมตร บรรจุไอนํ าอิมตัวไหลภายใน
1: 4 : ท่อเส ้นผ่านศูนย์กลางภายใน 0.2 เมตร ยาว 1 เมตร บรรจุไอนํ าอิมตัวไหลภายใน
ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
3:
วน
วน
4:
ข ้อที 45 :
คําตอบทีถูกต ้อง : 4 ่ รรยากาศภายนอกทีมี
สง
สง
การถ่ายเทความร ้อนจากของไหลทีมีอณ ุ หภูมส

ิ งู ภายในภาชนะทรงกลมไปสูบ
อุณหภูมต ิ ํากว่าในข ้อใด ทีมีความเหมาะสมในการสมมุตใิ ห ้เป็ นการถ่ายเทความร ้อนด ้วยการนํ าในหนึงมิต ิ
มากทีสุด
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
1 : ทรงกลมทีหนาน ้อยๆ เมือเทียบกับ เส ้นผ่านศูนย์กลางภายใน โดยมีลมธรรมชาติพัดความเร็วตํา
ระบายความร ้อนอยูภ
่ ายนอก
2 : ทรงกลมทีหนาน ้อยๆ เมือเทียบกับ เส ้นผ่านศูนย์กลางภายใน โดยมีพัดลมเป่ าประทะทรงกลมระบาย
กร
กร
ความร ้อนอยูภ
่ ายนอก
3 : ทรงกลมทีหนาน ้อยๆ เมือเทียบกับ เส ้นผ่านศูนย์กลางภายใน โดยทรงกลมถูกจุม ่ มิดอยูใ่ นนํ ามัน
ิ ว
ิ ว
4 : ทรงกลมทีหนามากๆ เมือเทียบกับ เส ้นผ่านศูนย์กลางภายใน
าวศ
าวศ
สภ
สภ
ข ้อที 46 :
คําตอบในข ้อใดเรียงลําดับตามค่าสัมประสทธิการนํ าความร ้อนของวัสดุจากน ้อยไปหามาก ณ อุณหภูมห
ิ ้อง
ได ้อย่างถูกต ้อง
1 : ตะกัว เหล็ก อลูมเิ นียม เงิน
2 : เงิน อลูมเิ นียม เหล็ก ตะกัว 1 : 3.888 W
3 : เงิน เหล็ก อลูมเิ นียม ตะกัว 2 : 38.88 kW
4 : ตะกัว อลูมเิ นียม เหล็ก เงิน 3 : 3.888 kW
4 : 3,888 W
ข ้อที 47 :
ข ้อที 49 :
1 : 108 W
2 : 4.32 W
3 : 108,000 W
4 : 4,320 W 1:
3:
ข ้อที 48 : 4:
ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
ิ
ข ้อที 50 :
งวน
งวน
อ ขอส
อ ขอส
รข
รข
วก
วก
วศิ
วศิ
า
า
สภ
สภ
1:
1:
2:
2:
3: 3:
4: 4:
ข ้อที 51 : ข ้อที 53 :
1:
1:
2:
2: 3:
3: 4:
ธิ
ธิ
4:
สท
สท
ิ
วน
วน
ข ้อที 54 :
ข ้อที 52 :
สง
สง
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
กร
กร
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
สภ
1: 1:
2: 2:
3: 3:
4: 4:
ข ้อที 55 : ข ้อที 57 :
1: 1 : 8,143 kW
2 : 81.43 W
2: 3 : 8.143 kW
3: 4 : 8.143 W
4:
ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
ิ
ข ้อที 58 :
งวน
งวน
ข ้อที 56 :
อ ขอส
อ ขอส
รข
รข
ก
วก
ิ ว
าวศ
า วศิ
สภ
สภ
1 : 115.2 kW
1:
2: 2 : 7,152 kW
3: 3 : 1.152 kW
4:
4 : 7.125 kW
ข ้อที 59 :
ข ้อที 61 :
1:
2:
3:
1:
4:
2:
ธิ
ิ
ิ ธ
สท
สท
4:
ิ
วน
วน
ข ้อที 60 : คําตอบทีถูกต ้อง : 1

สง
สง
ข ้อที 62 :
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
กร
กร
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
สภ
1 : 121 W/m
1: 2 : 603 W/m
3 : 757 W/m
2:
4 : 6022 W/m
3:
4:
ข ้อที 65 :
ข ้อที 63 :
1 : 559.5 kW
2 : 144.1kW
3 : 14.4 kW
4 : 138.5 kW
1 : 31.5 kW
2 : 36.5 kW ข ้อที 66 :
ธิ
ธิ
3 : 38.5 kW
สท
สท
4 : 115.5 kW
ิ
ิ
งวน
งวน
ข ้อที 64 :
อ ขอส
อ ขอส
รข
รข
วก
วก
วศิ
วศิ
า
า
สภ
สภ
1 : 1 : 40 W
2 : 2 : 46.2 W
3 : 3 : 80 W
4 : 4 : 92.3 W
ข ้อที 67 : ข ้อที 69 :
1 : 489 W
2 : 516 W
3 : 849 W 1 :
4 : 960 W 2 :
3 :
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 4 :
ข ้อที 68 :
ข ้อที 70 :
ธิ
ิ
ิ ธ
สท
สท
ิ
วน
วน
สง
สง
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
กร
กร
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
สภ
1 :
2 :
3 :
4 :
1:
ข ้อที 71 :
2:
3:
4:
1 :
2 : คําตอบทีถูกต ้อง : 3
3 :
4 :
ธิ
ธิ
ข ้อที 73 :
สท
สท
ิ
ิ
งวน
งวน
ข ้อที 72 :
อ ขอส
อ ขอส
รข
รข
ก
ก
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
สภ
1 : 1.86 W/m.K
2 : 0.019 W/m.K
3 : 16.08 W/m.K
4 : 0.062 W/m.K
2:
ข ้อที 74 : 3:
4:
ข ้อที 76 :
1 : 25 mm.
1:
2 : 22.5 mm.
2:
3 : 17.5 mm.
3:
4 : 12.5 mm.
4:

ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
ข ้อที 75 : ข ้อที 77 :
วน
วน
สง
สง
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
3:
4:
กร
กร
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
ข ้อที 79 :
ข ้อใดเป็ นสมการการนํ าความร ้อนของฟูเรียร์ (Fourier equation) ทีถูกต ้องทีสุด
สภ
สภ
1:
2:
1:
3:
2:
3: 4:
ข ้อที 80 :
การถ่ายเทความร ้อนแบบนํ าความร ้อน เป็ นการศึกษาถึงการเปลียนแปลงอุณหภูมภ
ิ ายในตัวกลาง
ข ้อที 78 : (medium) ดังนัน ตัวกลางใดทีเกิดการนํ าความร ้อนได ้ค่อนข ้างยาก
1 : อิฐบล๊อก
2 : ผนังไม ้
3 : ผนังเหล็ก
4 : ช่องว่างอากาศ
ข ้อที 81 :
การกระจายตัวของอุณหภูมภ
ิ ายในตัวกลาง (medium) สําหรับการนํ าความร ้อนสามารถ ศึกษาถึงชันความ
หนาของตัวกลางเพือหาความต ้านทานทางความร ้อนรวม โดยใช ้หลักการเหมือนกับการศึกษาในเรืองใด
1 : ปั มสูบนํ า
2 : การสูญเสีย (Flow loss in pipe)
3 : ความต ้านทานทางไฟฟ้ า
ธิ
ธิ
4 : ฉนวนของวัสดุ
สท
สท
ิ
ิ
งวน
งวน
1: ข ้อที 82 :
2: ความร ้อนทีจ่ายให ้กับท่อเหล็กจนมีอณ
ุ หภูมส
ิ มําเสมอตลอดพืนทีผิวเรียกว่า Heat Flux หรือ ฟลักความร ้อน
อ ขอส
มีหน่วยตามข ้อใด อ ขอส
4 : เงิน
รข
รข
1:
2:
ก
วก
ิ ว
3:
าวศ
ข ้อที 87 :
วศิ
4:
า
สภ
สภ
1 : One – dimensional conduction

ข ้อที 83 : 2 : One – dimensional transport heat conduction
วัตต์/เมตร.เคลวิน เป็ นหน่วยของค่าคุณสมบัตห ื ยกว่า
ิ นึงในการศึกษาการนํ าความร ้อน หน่วยดังกล่าวมีชอเรี 3 : Steady – state conditions, with volumetric energy – generation
อย่างไร 4 : One-dimensional steady – state conditions, without volumetric energy – generation
1 : Thermal diffusivity คําตอบทีถูกต ้อง : 4

2 : Thermal conductivity
3 : Thermal expansive
4 : Thermal heat flux
ข ้อที 88 :
ข ้อที 84 :
1 : Thermal diffusivity
2 : Thermal expansion
3 : Thermal generation
4 : Thermal conductivity
1 : อุณหภูมด
ิ ้านหลังสูงกว่าอุณหภูมด ิ ้านหน ้าของผนังไม ้
2 : อุณหภูมดิ ้านหน ้าสูงกว่าอุณหภูมด ิ ้านหลังของผนังไม ้
3 : อุณหภูมด ิ ้านหน ้าเท่ากับอุณหภูมด ิ ้านหลังของผนังไม ้
4 : อุณหภูมด ิ ้านหน ้าเท่ากับอุณหภูมข ิ องอากาศ ข ้อที 89 :
การศึกษาการกระจายตัวอุณหภูมภ ิ ายในวัสดุจําเป็ นต ้องทราบเงือนไขขอบเขต และเงือนไขเริมต ้น
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 (Boundary and Initial Condition ) ข ้อใดไม่ใช่คณ ุ สมบัตขิ องเงือนไขดังกล่าว
1 : Constant surface temperature
2 : Constant surface heat flux
ข ้อที 85 : 3 : Radiation surface condition
ข ้อใดต่อไปนีไม่ใช่คณ
ุ สมบัตท
ิ าง Thermophysical Property 4 : Convection surface condition
1 : Thermal conductivity คําตอบทีถูกต ้อง : 3
2 : Specific heat
3 : Kinematics viscosity
4 : Thermal diffusivity
ข ้อที 90 :
ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
ิ
วน
วน
ข ้อที 86 :
ตามหลักโดยทัวไปแล ้ววัสดุชนิดใดมีคา่ สัมประสิทธิการนํ าความร ้อนสูงทีสุด
สง
สง
1 : ไม ้
2 : พลาสติก
3 : นิเกิล 1:
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
กร
กร
2:
3:
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
4:
สภ
สภ
1:
ข ้อที 91 :
2:
3:
4:
ข ้อที 93 :
1:
2:
1:
3:
4: 2:
ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
ิ
3:
ข ้อที 92 :
งวน
งวน
4:
อ ขอส
อ ขอส
รข
รข
2:
ก
วก
ข ้อที 94 :
3:
ิ ว
าวศ
วศิ
4:
า
สภ
สภ
ข ้อที 96 :
1:
2:
1:
3: 2:
3:
4:
ข ้อที 95 :
ข ้อที 97 :
ธิ
ิ
ิ ธ
สท
สท
ิ
วน
วน
สง
สง
1:
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
1:
กร
กร
2:
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
3:
สภ
สภ
4:
ข ้อที 98 :
1:
2:
3:
4:
ข ้อที 100 :
1:
2:
3:
4: 1 : -9.36 kW
2 : -8.36 kW
คําตอบทีถูกต ้อง : 2 3 : -9.46 kW
4 : -8.46 kW
ข ้อที 99 :
ข ้อที 101 :
จากภาพ
ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
ิ
จงหาความต ้านทานความร ้อนรวม เมือ La = 2 m, ka = 0.2 W/m.k, A = 4 m2, Lb = 1 m, kb = 0.3
งวน
วน
W/m.k
ง
อ ขอส
1: อ ขอส
รข
รข
2:
วก
วก
1:
3:
วศิ
วศิ
4:
า
2:
สภ
สภ
ข ้อที 102 : 3:
4:
1: ข ้อที 104 :
2:
3:
4:
1:
ข ้อที 103 :
2:
3:
4:
ธิ
ธิ
ข ้อที 105 :
สท
สท
ิ
ิ
วน
วน
สง
สง
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
กร
กร
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
สภ
1:
1: 2:
3:
2:
4:
3:
4: ข ้อที 108 :
ข ้อที 106 :
สมการการนํ าความร ้อนของทรงกลมในหนึงมิตค
ิ อ
ื ข ้อใด
1:
1:
2:
2:
3:
3: 4:
4:
ธิ
ธิ
ข ้อที 109 :
สท
สท
สําหรับการนําความร้อนแบบสภาวะคงตัวในหนึงมิติ ผ่านผนังแผ่นราบ ข้อใดต่อไปนีทีมีค่าสัมประสิ ทธิการนําความ
ิ
ิ
ร้อน (k) ทีดีทีสุ ด
ข ้อที 107 :
วน
วน
1 : ผนังทีทําจากอลูมิเนี ยมทีอุณหภูมิ 10 องศาเซลเซี ยส
ง
3 : ผนังทีทําจากอลูมิเนี ยมทีอุณหภูมิ -100 องศาเซลเซี ยส
ง
อ ขอส
อ ขอส
คําตอบทีถูกต ้อง : 4 4: ค่าความต้านทานความร้อนทีผิวรอยต่อ มีค่าลดลงเมือเพิมความดันทีผิวรอยต่อ (interface pressure)

รข
รข
วก
วก
ข ้อที 110 :
ประตูบา้ นทําจากไม้หนา 3 เซนติเมตร กว้าง 1.2 เมตรและสูง 2 เมตร ถ้าไม้มีค่าสัมประสิ ทธิการนําความร้อน (Thermal
conductivity) เท่ากับ 0.15 W/m.K จงคํานวณหาค่าความต้านทานเชิงความร้อน (Conduction resistance) ข ้อที 115 :
ข้อใดจัดได้วา่ เป็ นการถ่ายเทความร้อนแบบการนําความร้อน
วศิ
วศิ
1 : 0.05 K/W
1 : ความร้อนทีถ่ายเทจากช่องระบายความร้อนของเครื องคอมพิวเตอร์
า
2 : 0.0833 K/W
2 : ความร้อนทีถ่ายเทสู่ อากาศจากแก้วกาแฟร้อนทีวางไว้
สภ
สภ
3 : 2.7777 K/W
4 : 8.333 K/W 3 : ความร้อนทีถ่ายเทจากหม้อนําโดยพัดลมหม้อนํา
4 : ความร้อนจากแสงแดดทีถ่ายเทผ่านกระจกรถยนต์
ข ้อที 111 :
ประตูบา้ นทําจากไม้หนา 3 เซนติเมตร กว้าง 1.2 เมตรและสูง 2 เมตร ถ้าไม้มีค่าสัมประสิ ทธิการนําความร้อน (Thermal ข ้อที 116 :
conductivity) เท่ากับ 0.15 W/m.K ถ้าความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างผนังทังสองด้านมีค่าเป็ น 15 องศาเซลเซียส จง ฉนวนประเภทใดทีมีค่าความหนาแน่นตําและมีค่าความเป็ นฉนวนสูง
คํานวณหาค่าความร้อนทีถ่ายเทผ่านประตูทีทําจากไม้นี 1 : ไม้สน
1 : 180 W. 2 : อิฐทนไฟ
2 : 120 W. 3 : โฟม ประเภท Polyurethane
3 : 75 W. 4 : ผ้าฝ้ าย
4 : 1 W.
ข ้อที 117 :
ข ้อที 112 : ข้อใดไม่ใช่คุณสมบัติของฉนวนทีดี
ข้อใดน่าจะกล่าวผิดสําหรับการใช้ประโยชน์ของฉนวน
1 : ใช้ได้เฉพาะอุณหภูมิเฉพาะช่วง ไม่กว้างเกินไป
1 : ฉนวนมีส่วนช่วยในการควบคุมอุณหภูมิภายในอุปกรณ์หรื อห้องทีต้องการรักษาระดับอุณหภูมิ 2 : สัมประสิ ทธิ การนําความร้อน(k) มีค่าตํา
2 : ฉนวนมีส่วนช่วยในการประหยัดพลังงาน 3 : นําหนักเบา และมีความหนาแน่นน้อย
3 : ฉนวนสามารถใช้งานได้ในห้วงอุณหภูมิร้อนเท่านัน 4 : มีความคงตัวสู ง เปลียนรู ปได้ยาก
4 : ฉนวนบางประเภทสามารถใช้ในการลดเสี ยงและการสันสะเทือนได้ดว้ ย
เนือหาวิชา : 403 : 2.การนํ าความร ้อนในหนึงมิตส

ิ ภาวะไม่คงตัว
ข ้อที 113 :
ข้อใดไม่ใช่การนําความร้อน
ข ้อที 118 :
1 : การจับด้ามช้อนทีจุ่มอยูน
่ าร้
ํ อน เราจะรู ้สึกร้อนทีมือ
2 : แผ่นโลหะพืนเตารี ดถ่ายโอนความร้อนจากเตารี ดสู่ เนื อผ้า
3 : นําทีอุณหภูมิสูงไหลผ่านท่อ ซึ งนําทําหน้าทีเป็ นตัวกลางทีให้ความร้อนและนําเคลือนทีไปพร้อมกัน
4 : แผ่นหลังคาสังกะสี กลางแดดร้อนทังด้านนอกและด้านใน
ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
1:
ข ้อที 114 :
วน
วน
2:
ข้อใดกล่าวผิดเกียวกับ ค่าความต้านทานความร้อนทีผิวรอยต่อ (thermal contact resistance)
1 : ส่ วนมากจะเกิดทีผิวรอยต่อของวัสดุทีแนบติดกัน 3:
สง
สง
2 : การถ่ายเทความร้อนผ่านผิวรอยต่อ ส่ วนมากเป็ นการนําความร้อน

3 : ค่าความต้านทานความร้อนทีผิวรอยต่อ มีค่าเพิมขึนถ้าผิวรอยต่อทีสัมผัสกันมีความขรุ ขระมาก 4:
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
ด ้วยเงือนไขของวัสดุทกํี าหนด เมือเทียบเคียงกันแล ้วการศึกษาการนํ าความร ้อนแบบสภาวะไม่คงตัวสําหรับ
กร
กร
วัตถุในข ้อใด ทีน่าจะใช ้การวิเคราะห์แบบลัมพ์มากทีสุด
ิ ว
ิ ว
ข ้อที 119 :
าวศ
าวศ
1:
2:
สภ
สภ
3:
4:
2:
3:
ข ้อที 123 :
4:
ข ้อที 120 :
1 : น ้อยกว่า 8 เซนติเมตร
2 : น ้อยกว่า 5.8 เซนติเมตร 1 : ประมาณ 404 นาที
3 : น ้อยกว่า 17 เซนติเมตร
4 : น ้อยกว่า 34 เซนติเมตร 2 : ประมาณ 307 นาที
คําตอบทีถูกต ้อง : 4 3 : ประมาณ 30.75 นาที
4 : ประมาณ 6.75 นาที

ข ้อที 121 :
ด ้วยเงือนไขของวัสดุทกํ
ี าหนด เมือเทียบเคียงกันแล ้วการศึกษาการนํ าความร ้อนแบบสภาวะไม่คงตัวสําหรับ คําตอบทีถูกต ้อง : 4
วัตถุทรงกลมในข ้อใด ทีน่าจะใช ้การวิเคราะห์แบบลัมพ์มากทีสุด
1: ข ้อที 124 :
ด ้วยเงือนไขของวัสดุทกํี าหนด เมือเทียบเคียงกันแล ้วการศึกษาการนํ าความร ้อนแบบสภาวะไม่คงตัวสําหรับ
ธิ
ธิ
2: วัตถุในข ้อใด ทีน่าจะใช ้การวิเคราะห์แบบลัมพ์มากทีสุด
สท
สท
3:
ิ
ิ
4:
1:
วน
วน
ง
ง
3:
อ ขอส
4: อ ขอส
ค่าตัวเลขใดทีใช ้เป็ นตัวกําหนดว่าการคํานวณการนํ าความร ้อนในสภาวะไม่คงตัวในหนึงมิต ิ สามารถใช ้วิธ ี

รข
รข
คําตอบทีถูกต ้อง : 4 การวิเคราะห์ด ้วยวิธกี ารลัมพ์ (Lumped system analysis) ได ้

1 : Bi (Biot number) มีคา่ น ้อยกว่า 0.1
วก
วก
2 : Bi (Biot number) มีคา่ มากกว่า 0.1

ข ้อที 125 : 3 : Nu (Nusselt number) มีคา่ น ้อยกว่า 0.1
ด ้วยเงือนไขของวัสดุทกํี าหนด เมือเทียบเคียงกันแล ้วการศึกษาการนํ าความร ้อนแบบสภาวะไม่คงตัวสําหรับ 4 : Nu (Nusselt number) มีคา่ มากกว่า 0.1
วัตถุในข ้อใด ทีน่าจะใช ้การวิเคราะห์แบบลัมพ์มากทีสุด
วศิ
วศิ
า
า
สภ
สภ
1:
ข ้อที 129 :
2:
3:
4:
1 : 0.3
2 : 0.01
3 : 0.03
ข ้อที 126 :
4 : 0.003
ข ้อที 130 :
1 : ประมาณ 1.99 นาที

2 : ประมาณ 19.85 นาที 1 : ประมาณ 1 นาที
3 : ประมาณ 190.85 นาที 2 : ประมาณ 2 นาที
4 : ประมาณ 1,191 นาที 3 : ประมาณ 3 นาที
4 : ประมาณ 4 นาที
ข ้อที 127 :
ข ้อใดกล่าวถูกต ้องเกียวกับ การวิเคราะห์ด ้วยวิธก
ี ารลัมพ์ (Lumped system analysis) ข ้อที 131 :
1 : อุณหภูมท ิ พิ
ี จารณาแปรผันตามเวลาและตําแหน่ง
ธิ
ธิ
2 : อุณหภูมท ิ พิ
ี จารณาแปรผันตามเวลาเท่านัน
สท
สท
3 : ้ได
ใช ้สําหรับการวิเคราะห์การนํ าความร ้อนแบบคงตัวและไม่คงตัว
ิ
4 : ใช ้ได ้สําหรับเงือนไขขอบเขตแบบการพาความร ้อนเท่านัน

วน
วน
สง
สง
ข ้อที 128 :
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
1:
กร
กร
2:
3:
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
4:
สภ
สภ
1 : ไม่ได ้ โดยทีค่า Bi (Biot number) ค่า0.0208
ข ้อที 132 : 2 : ได ้ โดยทีค่า Bi (Biot number) มีคา่ 0.0208
3 : ได ้ โดยทีค่า Bi (Biot number) มีคา่ 0.0417
4 : ไม่ได ้ โดยทีค่า Bi (Biot number) มีคา่ 0.0417
ข ้อที 135 :
หากลูกบอลทรงกลมถูกทําให ้เย็นตัวลงจากอุณหภูมเิ ท่าเทียมกัน โดยการจุม
่ ในนํ าเย็นทีให ้สัมประสิทธิ
การพาความร ้อนระหว่างผิวเท่าๆ กัน ลูกบอลทรงกลมทําจากวัสดุชนิดใดเย็นตัวเร็วทีสุด
1 : เหล็ก
1 : ได ้ โดยที Bi (Biot number) มีคา่ 0.0139
2 : ตะกัว
2 : ไม่ได ้ โดยที Bi (Biot number) มีคา่ 0.0139
3 : อลูมเิ นียมบริสท
ุ ธิ
3 : ได ้ โดยที Bi (Biot number) มีคา่ 0.0417
4 : ไม่สามารถบอกได ้
4 : ไม่ได ้ โดยที Bi (Biot number) มีคา่ 0.0417
ข ้อที 136 :
ข ้อที 133 :
หากลูกบอลทรงกลมถูกทําให ้เย็นตัวลงจากอุณหภูมเิ ท่าเทียมกัน โดยการจุม
่ ในนํ าเย็นทีให ้สัมประสิทธิ
การพาความร ้อนระหว่างผิวเท่าๆ กัน ลูกบอลทรงกลมทําจากวัสดุชนิดใดเย็นตัวช ้าทีสุด
1 : เหล็ก
2 : ตะกัว
3 : อลูมเิ นียมบริสท
ุ ธิ
4 : ไม่สามารถบอกได ้
1 : ได ้ โดยทีค่า Bi (Biot number) มีคา่ 0.0139 ข ้อที 137 :

3 : ได ้ โดยทีค่า Bi (Biot number) มีคา่ 0.0208
ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
ิ
ข ้อที 134 :
วน
วน
ง
ง
อ ขอส
อ ขอส
ข ้อที 142 :
รข
รข
1: เมือของไหลทีมีอณ ุ หภูมส
ิ งู ชนิด ไหลผ่านวัตถุลม
ั พ์ (Lumped system analysis) ทําให ้อุณหภูมข ิ องวัตถุ
ลัมพ์มค ี า่ สูงขึน กรณีใดในข ้อต่อไปนีทําให ้อุณหภูมขิ องวัตถุลม
ั พ์ มีคา่ เข ้าใกล ้อุณหภูมข
ิ องของไหลเร็วขึน
2:
วก
วก
1 : วัตถุลม
ั พ์มค
ี วามหนาแน่นตํา
3: 2 : สัดส่วนระหว่างปริมาตร / พืนทีผิวของวัตถุมค ี า่ สูง
3 : ความจุความร ้อนจําเพาะของวัตถุลมั พ์มค ี า่ สูง
4 : สัมประสิทธิการพาความร ้อนให ้แก่วตั ถุลมั พ์มค ี า่ ตํา
วศิ
วศิ
4:
า

สภ
สภ
ข ้อที 138 : ข ้อที 143 :

ณ อุณหภูมห ิ ้อง เมือพิจารณาวัสดุทให
ี ้มา วัสดุใดสามารถนํ าความร ้อนได ้ดีทสุ
ี ด สําหรับการคํานวณปั ญหาการนํ าความร ้อนในสภาวะไม่คงตัวในหนึงมิต ิ ตัวแปรใดทีไม่มผ
ี ลโดยตรงต่อการก
ระจายของอุณหภูมภิ ายในวัตถุ
1 : Carbon Steel
2 : Iron 1 : ความหนาแน่นของวัตถุ
3 : Aluminium 2 : สัมประสิทธิการนํ าความร ้อน (k)
4 : Lead 3 : สัมประสิทธิการพาความร ้อน (h)
4 : อุณหภูมเิ ริมต ้น
ข ้อที 139 :
สําหรับการนํ าความร ้อนในวัตถุ ค่า Bi (Biot Number)แสดงถึง ข ้อที 144 :
1 : สัดส่วนของการกระจายความหนืดและความร ้อนในเนือวัตถุทกํ ี าลังไหล
2 : สัดส่วนของโมเมนตัมในการเคลือนทีของการไหล ต่อความหนืดในการไหลนัน
3 : สัดส่วนของการนํ าความร ้อนผ่านวัตถุและสัดส่วนของความร ้อนทีวัตถุสะสมไว ้
4 : สัดส่วนของการพาความร ้อนมาสูว่ ตั ถุและการนํ าความร ้อนในวัตถุ
1 : ตัวแปร m เป็ นตัวแปรไร ้หน่วย

2 : ตัวแปร m ทีเพิมขึนส่งผลให ้วัตถุมก
ี ารตอบสนองกับการเปลียนของอุณหภูมเิ ร็วขึน
ข ้อที 140 :
3 : ตัวแปร m แปรผันโดยตรงกับค่าสัมประสิทธิการนํ าความร ้อน (k)
การใช ้วิธก
ี ารวิเคราะห์อณ
ุ หภูมขิ องวัตถุแบบลัมพ์นัน จะให ้การคํานวณทีใกล ้เคียงทีสุด เมือค่า Bi (Biot
4 : ตัวแปร m แปรผกผันกับค่าพืนทีผิว (A)
number) ทีเกียวข ้องมีคา่ เป็ นอย่างไร
1 : ค่า Bi (Biot number) มีคา่ มากกว่า 0.1 คําตอบทีถูกต ้อง : 2
2 : ค่า Bi (Biot number) มีคา่ มากกว่า 1
3 : ค่า Bi (Biot number) มีคา่ น ้อยกว่า 0.1
4 : ค่า Bi (Biot number) มีคา่ น ้อยกว่า 1
ข ้อที 145 :
คําตอบทีถูกต ้อง : 3 ข ้อใดกล่าวผิด
1:
ข ้อที 141 :
เมือของไหลทีมีอณ ุ หภูมสิ งู ไหลผ่านวัตถุลม
ั พ์ (Lumped system analysis) ทําให ้อุณหภูมข ิ องวัตถุลม
ั พ์ม ี
ิ องของไหลช ้าลง
ธิ
ธิ
ค่าสูงขึน กรณีใดในข ้อต่อไปนีทําให ้อุณหภูมข ิ องวัตถุลม

ั พ์ มีคา่ เข ้าใกล ้อุณหภูมข 2:
สท
สท
1 : สัมประสิทธิการพาความร ้อนให ้แก่วต ั ถุลม

ั พ์มคี า่ สูง
2 : วัตถุลม
ั พ์มคี วามหนาแน่นตํา
ิ
3:
3 : วัตถุลมั พ์มคี วามจุความร ้อนจําเพาะตํา
วน
วน
4 : สัดส่วนระหว่างปริมาตร / พืนทีผิวของวัตถุมค ี า่ สูง

4:
สง
สง
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
กร
กร
ิ ว
ิ ว
ข ้อที 150 :
าวศ
าวศ
1 : 125
สภ
สภ
2 : 12.5
3 : 1.25
4 : 0.125
คําตอบทีถูกต ้อง : 4 1 : การวิเคราะห์ด ้วยวิธก

ี ารลัมพ์ (Lump analysis)
2 : การวิเคราะห์ด ้วยวิธกี ารลัมพ์ (Lump analysis) ด ้วยเงือนไขขอบเขตผสม
3 : การวิเคราะห์ด ้วยวิธก ี ารคํานวณการนํ าความร ้อนแบบสภาวะไม่คงตัวในวัตถุกงอนั
ึ นต์ (Semi-infinite
medium)
ข ้อที 147 : 4 : การวิเคราะห์ด ้วยวิธก ี ารเปิ ดตาราง Transient-temperature charts
ข ้อที 151 :
1 : 0.88
2 : -0.88
3 : 1.14
4 : -1.14
1 : 0.021
ข ้อที 148 : 2 : 0.042
ข ้อใดถูกต ้องทีสุด 3 : 0.21
4 : 0.42
2:
ข ้อที 152 :
3:
4:
ธิ
ธิ
1 : 0.0125 m.
สท
สท
ข ้อที 149 : 2 : 0.0625 m.
ิ
ิ
จากเงือนไขทีกําหนด สภาวะใดทีไม่เหมาะสมต่อการคํานวณการนํ าความร ้อนในสภาวะไม่คงตัวด ้วยวิธก
ี าร 3 : 0.0042 m.
ลัมพ์ (Lump analysis)
วน
วน
4 : 0.0021 m.
1 : วัตถุทมี
ี คา่ สัมประสิทธิการนํ าความร ้อน (k) ทีสูง
ง
ง
2 : วัตถุทมี
ี ขนาดเล็ก
3 : วัตถุอยูใ่ นสภาวะทีมีคา่ สัมประสิทธิการพาความร ้อน (h) ทีสูง
อ ขอส
4 : วัตถุทพืี นทีผิวสัมผัสทีกว ้างและปริมาตรน ้อย อ ขอส
ข ้อที 153 :
รข
รข
วก
วก
วศิ
วศิ
1 : วัตถุทรงกลมทีทําจากอลูมเิ นียมบริสท ุ ธิ
า
2 : วัตถุทรงกลมทีทําจากเหล็กบริสท ุ ธิ
สภ
สภ
3 : วัตถุทรงกลมทีทําจากทองแดงบริสท ุ ธิ
1 : การวิเคราะห์ด ้วยวิธก
ี ารลัมพ์ (Lump analysis) 4 : วัตถุทรงกลมทีทําจากเงินบริสท ุ ธิ
2 : การวิเคราะห์ด ้วยวิธกี ารลัมพ์ (Lump analysis) ด ้วยเงือนไขขอบเขตผสม
3 : การวิเคราะห์ด ้วยวิธก ี ารคํานวณการนํ าความร ้อนแบบสภาวะไม่คงตัวในวัตถุกงอนั
ึ นต์ (Semi-infinite คําตอบทีถูกต ้อง : 2
medium)
4 : การวิเคราะห์ด ้วยวิธก ี ารเปิ ดตาราง Transient-temperature charts
ข ้อที 154 :
1:
1 : 0.011 2:
2 : 0.089
3 : 0.267 3:
4 : 0.535 4:
ข ้อที 155 : ข ้อที 158 :
1 : 0.011
2 : 0.053
ธิ
ิ
ิ ธ
3 : 0.089 1 : 4.65 นาที

4 : 0.267
สท
สท
2 : 5.36 นาที
3 : 6.53 นาที
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3 4 : 7.63 นาที

วน
วน
สง
สง
ข ้อที 156 :
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
ข ้อที 159 : ข ้อที 162 :
สําหรับการไหลผ่านชันชิดผิว (Boundary layer flow) ทีค่าตัวเลขพล ้าน (Prandtl number) มีคา่ น ้อยน ้อย
กร
กร
กว่า 1 ข ้อใดกล่าวถูกต ้อง
1 : ความหนาของชันชิดผิวของอุณหภูมห ิ นากว่าความหนาของชันชิดผิวของความเร็ว
ิ ว
ิ ว
2 : ความหนาของชันชิดผิวของอุณหภูมต ิ ํากว่าความหนาของชันชิดผิวของความเร็ว
าวศ
าวศ
3 : ความหนาของชันชิดผิวของอุณหภูมเิ ท่ากับความหนาของชันชิดผิวของความเร็ว
4 : ค่าตัวเลขพล ้านไม่มผ
ี ลต่อความหนาของชันชิดผิว
สภ
สภ
1:
ข ้อที 163 :
2: ค่าตัวเลขนัทเซล(Nusselt number) เป็ นค่าตัวเลขไร ้หน่วยทีใช ้ในการบอกถึงปริมาณการถ่ายเทความร ้อน
แบบการพา อยากทราบว่าค่าตัวเลขนัทเซลนีเป็ นการเปรียบเทียบกันระหว่างการถ่ายเทความร ้อนแบบใดต่อ
3: แบบใด
1 : การนํ าความร ้อน / การพาความร ้อน
4:
2 : การนํ าความร ้อน / การแผ่รังสีความร ้อน
3 : การพาความร ้อน / การนํ าความร ้อน
4 : การพาความร ้อน / การแผ่รังสีความร ้อน
ข ้อที 160 :
ข ้อที 164 :
ข ้อใดกล่าวถูกต ้องสําหรับของไหลทีมีคา่ ตัวเลขพล ้าน (Prandtl number) โดยทัวไปมีคา่ น ้อยน ้อยกว่า 1
1 : เป็ นของไหลประเภทนํ ามัน (oils)
2 : ความหนาของชันชิดผิวของอุณหภูมต ิ ํากว่าความหนาของชันชิดผิวของความเร็ว
3 : เป็ นของไหลประเภทแก๊ส (gas)
4 : เป็ นของไหลประเภท Liquid metal
1 : 1.75 m.
2 : 2 m. ข ้อที 165 :
3 : 2.25 m. จงคํานวณหาค่า Hydraulic diameter ของท่อรูปทรงสีเหลียมพืนผ ้าทีมีความกว ้างเป็ น 2a และสูง a
4 : 2.5 m.
1:a
2 : 1.25a
เนือหาวิชา : 404 : 3.การพาความร ้อนแบบบังคับ 3 : 1.33a
4 : 1.5a
ข ้อที 161 :
ธิ
ธิ
การพาความร ้อนแบบบังคับสําหรับการไหลภายในท่อ ปั จจัยทีไม่มผ
ี ลต่อค่าตัวเลขนัทเซล (Nusselt
number) ได ้แก่ คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สท
สท
1 : ค่าตัวเลขเรย์โนล (Reynolds number)
ิ
ิ
2 : ค่าตัวเลขพล ้าน (Prandtl number)
งวน
งวน
3 : ค่าแฟกเตอร์ความเสียดทาน (Friction factor) ข ้อที 166 :
4 : ค่าตัวเลขกราชอฟ (Grashof number) ข ้อใดกล่าวผิดเกียวกับการพาความร ้อนแบบบังคับ
1 : การพาความร ้อนแบบบังคับขึนอยูก
่ บั ประเภทของการไหล
อ ขอส
อ ขอส
2 : การพาความร ้อนแบบบังคับขึนอยูก่ บั คุณสมบัตข
ิ องของไหล
3 : การพาความร ้อนแบบบังคับเกียวข ้องกับการเคลือนทีของของไหล

รข
รข
4 : การพาความร ้อนแบบบังคับส่วนมากเกิดได ้ดีในของแข็งมากกว่านํ า คําตอบทีถูกต ้อง : 4
วก
วก
ข ้อที 171 :
สําหรับการไหลภายในท่อ เรานิยมใช ้ ค่า Logarithmic mean temperature difference เป็ นค่าอุณหภูม ิ
ข ้อที 167 : อ ้างอิงสําหรับการคํานวณหาค่าอัตราการถ่ายเทความร ้อน ข ้อใดกล่าวถูกต ้องสําหรับค่า Logarithmic
วศิ
วศิ
ข ้อใดกล่าวผิดเกียวกับการพาความร ้อนแบบบังคับ mean temperature difference นี

า
า
สภ
สภ
1 : ค่าตัวเลขนัทเซล (Nusselt number) มีคา่ สูงในการไหลแบบราบเรียบ เมือเทียบกับการไหลแบบปั น

ป่ วน สําหรับการไหลทีมีรป
ู ทรงและสภาวะเหมือนกัน 1 : การกระจายของอุณหภูมต ่ ความยาวท่อเป็ นเส ้นตรง
ิ อ
2 : การพาความร ้อนแบบบังคับเกิดขึนได ้ดีในของไหลประเภท แก๊ส มากกว่า ของแข็ง 2 : มีคา่ เท่ากับค่าเฉลียทางคณิตศาสตร์ (Averaged mean temperature difference)
3 : การพาความร ้อนมีอยู่ 2 ประเภทคือ แบบบังคับและแบบอิสระ 3 : นิยมใช ้กับเงือนไขทีอุณหภูมข ิ องผนังมีคา่ คงที (Constant wall temperature)
4 : ค่าตัวเลขนัทเซล (Nusselt number) สําหรับการพาความร ้อนแบบบังคับขึนอยูก่ บ
ั รูปทรงทีของไหล 4 : ใช ้ได ้เฉพาะกรณีการถ่ายเทความร ้อนออกจากท่อเท่านัน (Cooling case)
ไหลผ่าน
ข ้อที 172 :
ข ้อที 168 : ข ้อใดกล่าวถูกต ้องสําหรับการพาความร ้อนแบบบังคับสําหรับการไหลภายในท่อ
1 : สําหรับเงือนไขอุณหภูมท ิ ผิ
ี วคงที (Constant surface temperature) การกระจายของอุณหภูม ิ
ภายในท่อเป็ นเส ้นตรง
2 : สําหรับเงือนไขอุณหภูมท ิ ผิ
ี วคงที (Constant surface temperature) ค่าฟลักความร ้อนทีผิวคงที
เนืองจากอุณหภูมท ิ ผิ
ี วคงที
3 : สําหรับเงือนไขฟลักความร ้อนทีผิวคงที (Constant surface heat flux) ค่าอุณหภูมท ิ ผนั
ี งท่อมีคา่
เพิมขึนอย่างเรือย ๆ ตามความยาวของท่อถ ้าสัมประสิทธิการถ่ายเทความร ้อนมีคา่ คงที
4 : สําหรับเงือนไขฟลักความร ้อนทีผิวคงที (Constant surface heat flux) การกระจายของอุณหภูม ิ
ภายในท่อเป็ นเส ้นโค ้งแบบ logarithmic
1:
2:
3:
ข ้อที 173 :
4:
ข ้อที 169 : 1:
การถ่ายเทความร ้อนแบบการพาความร ้อนแบบบังคับ (Force convection) ใช ้กฎอะไรในการอธิบาย
1 : Fourier’s Law 2:
2 : Poisson’s Law
3 : Stefan-Boltzmann’s Law 3:
4 : Newton’s Law
4:
ธิ
ธิ
สท
สท
ข ้อที 170 :
ิ
ข ้อใดกล่าวผิดเกียวกับค่าสัมประสิทธิของการถ่ายเทความร ้อน(Heat transfer coefficient; h) ข ้อที 174 :

วน
วน
1 :
สง
สง
2 : ไม่เป็ นคุณสมบัตข ิ องของไหล

3 : มีทงการพาความร
ั ้อนแบบบังคับและแบบอิสระ
4 : มีคา่ สูงสําหรับของไหลทีมีสถานะแก๊สเมือเทียบกับสถานะของเหลว
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
ข ้อที 178 :
กร
กร
ข ้อใดกล่าวผิด
1 : การพาความร ้อนแบบบังคับในท่อ ปั จจัยหลักทีเราต ้องการทราบคือค่า สัมประสิทธิการถ่ายเทความ
ิ ว
ิ ว
ร ้อนและค่าความดันตกคร่อม
าวศ
าวศ
2 : สําหรับการไหลแบบราบเรียบแบบ fully developed ค่าตัวเลขนัสเซล (Nu) ของเงือนไขอุณหภูม ิ
คงทีมีคา่ สูงกว่ากรณีเงือนไข Constant heat flux
3 : วิธก
ี ารหนึงในการเพิมประสิทธิภาพการถ่ายเทความร ้อนด ้วยการพาความร ้อนแบบบังคับ สําหรับการ
สภ
สภ
1 : 210 kJ/kg ไหลภายในท่อคือการทําให ้ท่อมีผวิ ขุรขะ หรือมีครีบ
4 : สําหรับการไหลแบบราบเรียบแบบ fully developed ภายในท่อ ค่าตัวเลขนัสเซล (Local Nu) มีคา่
2 : 230 kJ/kg คงที
3 : 250 kJ/kg คําตอบทีถูกต ้อง : 2
4 : 300kJ/kg
ข ้อที 179 :
ข ้อที 175 :
ข ้อใดกล่าวถูกต ้องสําหรับท่อรูปทรงสีเหลียมพืนผ ้าทีมีความกว ้างเป็ น a และสูง b
1 : ถ ้า a/b มีคา่ เพิมขึน ค่าตัวเลขนัทเซลมีคา่ ลดลง
2 : ถ ้า a/b มีคา่ เพิมขึน ค่าแฟคเตอร์ของการเสียดทาน(Friction factor) มีคา่ เพิมขึน
3 : ถ ้า a/b มีคา่ เพิมขึน ค่าตัวเลขเรย์โนลมีคา่ ลดลง
1:
4 : ค่า Hydraulic diameter = 4ab / 2ab
2:
3:
4:
ข ้อใดกล่าวถูกต ้องสําหรับท่อรูปทรงสีเหลียมพืนผ ้าทีมีความกว ้างเป็ น a และสูง b
1 : ค่า Hydraulic diameter = ab / (8a+8b)
2 : ค่า Hydraulic diameter = 2ab / (a+b)
3 : ค่า Hydraulic diameter = (8a+ 8b) / ab ข ้อที 180 :
4 : ค่า Hydraulic diameter = 4ab / 2ab
ข ้อที 177 :
1 : 18 kW
2 : 21 kW
ธิ
ธิ
3 : 25 kW
สท
สท
ิ
ิ
1 : 29 W. 4 : 27 kW
2 : 35.7 W
งวน
งวน
3 : 58.1 W
4 : 71.4 W คําตอบทีถูกต ้อง : 2
อ ขอส
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 อ ขอส

รข
รข
ข ้อที 181 :
วก
วก
วศิ
วศิ
า
า
สภ
สภ
1:
2:
1:
3:
2:
3: 4:
ข ้อที 185 :
ของเหลวซึงไหลในท่อกลมทรงกระบอก จะมีคา่ ตัวเลขเรย์โนล (Reynolds number) ลดลงเสมอเมือ
ข ้อที 182 : ลักษณะการไหลเป็ นไปตามข ้อใดต่อไปนี
ของเหลวซึงไหลในท่อกลมทรงกระบอก จะเป็ นการไหลแบบปั นป่ วน (Turbulent flow) เมือลักษณะการ
1 : ของเหลวนัน มีความหนืดเพิมขึน และไหลด ้วยความเร็วลดลง ในขนาดหน ้าตัดท่อทีเท่าเดิม
ไหลเป็ นไปตามข ้อใดต่อไปนี
2 : ของเหลวนัน ไหลด ้วยความเร็วสูงขึน ในขนาดหน ้าตัดท่อทีเพิมขึน โดยทีมีอณุ หภูมสิ งู ขึน
1 : ค่าตัวเลขเรย์โนล (Reynolds Number) > 2100 3 : ของเหลวนัน ไหลด ้วยความเร็วสูงขึน ในขนาดหน ้าตัดท่อทีลดลง โดยทีมีความหนืดลดลง
2 : ค่าตัวเลขเรย์โนล (Reynolds Number) < 11000 4 : ของเหลวนัน ไหลด ้วยความเร็วคงที ในขนาดหน ้าตัดท่อทีเพิมขึน โดยทีมีอณุ หภูมลิ ดลง
3 : ค่าตัวเลขพล ้าน (Prandtl Number) > 0.7
4 : ค่าตัวเลขพล ้าน (Prandtl Number) < 0.7 คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 186 :
ของเหลวซึงไหลบนผนังเรียบ (Flow over a flat surface) จะมี Thermal Boundary Layer หนากว่า
ข ้อที 183 : Momentum Boundary Layer ในกรณีใดต่อไปนี
1 : ค่าตัวเลขพล ้าน (Prandtl number), Pr > 1
2 : ค่าตัวเลขพล ้าน (Prandtl number), Pr < 1
3 : ลักษณะการไหลเป็ นแบบราบเรียบ (Laminar flow)
4 : ลักษณะการไหลเป็ นแบบปั นป่ วน (Turbulent flow)
1:
2: ข ้อที 187 :
3:
ธิ
ธิ
4:
สท
สท
ิ
วน
วน
สง
สง
ข ้อที 184 :
1 : 317.6
2 : 1,836.84
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
3 : 46.15 1 : 83 W/m
4 : 12.10 2 : 2.5 W/m
3 : 519 W/m
กร
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3 4 : 95 W/m
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
ข ้อที 188 :
ข ้อที 191 :
สภ
สภ
การถ่ายเทความร ้อนระหว่างผนังกับของไหลจะมีคา่ ตัวเลขนัทเซล (Nusselt number ) เท่ากับ 3.66 เมือ
ลักษณะการไหลตรงตามข ้อใดต่อไปนี
1 : ของไหลนันไหลในท่อกลมซึงมีอณุ หภูมขิ องผนังท่อคงทีและการไหลนันเป็ นแบบ Laminar และ
Fully Developed
2 : ของไหลนันไหลในท่อกลม ซึงมีคา่ Heat Flux ของผนังคงที และการไหลนันเป็ นแบบ Laminar แต่
ไม่ Fully Developed
1 : 396.9 3 : ของไหลนันไหลขนานกับผนังผิวเรียบซึงมีอณ ุ หภูมค
ิ งที และการไหลเป็ นแบบ Laminar
2 : 315.3 4 : ของไหลนันไหลในท่อกลมซึงมีอณ ุ หภูมขิ องผนังท่อคงทีและการไหลนันเป็ นแบบ Turbulent
3 : 1,255.3
4 : 1,290.9 คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 192 :
ข ้อที 189 :
1 : เมือการไหลเป็ น Turbulent และของไหลนันได ้รับความร ้อนจากผนัง

2 : เมือการไหลเป็ น Laminar และของไหลนันสูญเสียความร ้อนให ้ผนัง
3 : เมือการไหลเป็ น Turbulent และของไหลนันสูญเสียความร ้อนให ้ผนัง
4 : เมือการไหลเป็ น Laminar และของไหลนันไหลแบบ Fully developed
2:
3: ข ้อที 193 :
ในทางทฤษฎีสําหรับการไหลภายนอก เมือของไหลไหลขนานกับผนังเรียบ ชันชิดผิว (Boundary layer)
จะเปลียนจากการไหลแบบราบเรียบ (Laminar flow) เป็ นแบบปั นป่ วน (Turbulent flow) เมือ
4:
1 : ค่าตัวเลขเรย์โนล (Reynolds number) = 500,000
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 2 : ค่าตัวเลขเรย์โนล (Reynolds number) = 21,000

ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
ิ
ข ้อที 194 :
งวน
งวน
อ ขอส
อ ขอส
รข
รข
ข ้อที 197 :
วก
วก
วศิ
วศิ
า
1:
สภ
สภ
1 : ค่าตัวเลขของเรย์โนล (Reynolds Number) = 21,258

2: 2 : ค่าตัวเลขของเรย์โนล (Reynolds Number) = 23,916
3:
4:
ข ้อที 198 :
ข ้อที 195 :
ของไหลในข ้อใดทีมีคา่ ตัวเลขพล ้าน (Prandtl number) เรียงจากน ้อยไปหามาก
1 : อากาศ, นํ า, ปรอท, นํ ามันเครือง
2 : ปรอท, อากาศ, นํ า, นํ ามันเครือง
3 : ปรอท, อากาศ, นํ ามันเครือง, นํ า
4 : นํ า, นํ ามันเครือง, อากาศ, ปรอท 1 : 1.67
2 : 5.00
คําตอบทีถูกต ้อง : 2 3 : 0.555
4 : 0.599
ข ้อที 196 :
ท่อวงแหวนดังรูป ซึงเกิดจากการเอาท่อกลอม 2 ขนาด มาสวมร่วมศูนย์กน
ั เช่นในกรณีของ
Double pipe heat exchanger จะมีคา่ Hydraulic diameter เท่าใด
ข ้อที 199 :
1 : 4.35
ธิ
ธิ
2 : 0.00438
สท
สท
1:D-d
ิ
2:D+d 3 : 0.23
3 : (D + d)/ 2 4 : 228.3
วน
วน
4:
สง
สง
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
ข ้อที 200 :
กร
กร
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
สภ
1:
2:
1: 3:
4:
2:
3:
4:
ข ้อที 203 :
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 ข ้อใดกล่าวถูกต ้องเกียวกับ Thermal boundary layer thickness สําหรับการไหลผ่านบนแผ่นราบ
1 : มีคา่ คงทีสําหรับการไหลแบบราบเรียบ
ข ้อที 201 : 2 : มีคา่ เพิมขึนสําหรับการไหลบนแผ่นราบ
3 : มีคา่ เท่ากับ Hydrodynamic boundary layer thickness
4 : เป็ นบริเวณทีค่าความเร็วมีคา่ ประมาณ 0.999 ของความเร็วทีมาตกกระทบ
ข ้อที 204 :
1 : 3,183 W 1:
2 : 3,545 W
3 : 2,350 W 2:
4 : 2,760 W
ธิ
ธิ
สท
สท
4:
ิ
ิ
ข ้อที 202 :
งวน
งวน
5:
อ ขอส
อ ขอส
รข
รข
ข ้อที 205 : ข ้อที 208 :

วก
วก
1 : อุณหภูมม
ิ ค ี า่ เพิมขึนอย่างต่อเนือง และเป็ นเส ้นตรง
วศิ
วศิ
2 : อุณหภูมมิ ค ี า่ แปรผันตามค่าระยะทาง x
า
3 : อุณหภูมม ิ ค ี า่ คงทีตามแกน x
สภ
สภ
4 : อุณหภูมม ิ ค ี า่ ไม่คงทีตามแกน x
1:
2: ข ้อที 209 :
ค่าสัมประสิทธิการพาความร ้อน (h) สามารถหาค่าได ้จาก Universal functions ในรูปตัวแปรไร ้หน่วย
3:
ตัวแปรไร ้หน่วยดังกล่าวคือข ้อใด
4: 1 : Pr (Prandtl number)
2 : Re (Reynolds number)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3 3 : Nu (Nusselt number)
4 : Ra (Rayleigh number)
ข ้อที 206 :
ข ้อที 210 :
การพาความร ้อนแบบบังคับ มีตวั แปรไร ้หน่วยทีแสดงถึงคุณสมบัตข
ิ องการถ่ายเทโมเมนตัมและพลังงานไป
กับของไหลโดยการถ่ายเทเกิดขึนภายใน Hydrodynamic และ Thermal boundary layer ตามลําดับ
ตัวแปรไร ้หน่วยดังกล่าวคือข ้อใด
1 : Pr (Prandtl number)
1 : 0.99 2 : Re (Reynolds number)
2 : 0.10 3 : Nu (Nusselt number)
3 : 9.99 4 : Ra (Rayleigh number)
4 : 0.50
ข ้อที 211 :
ข ้อที 207 :
ธิ
ธิ
1 : Stefan-Boltzmann constant
1 : 2,350 W/m
2 : Local Nusselt number
สท
สท
2 : 2,400 W/m
3 : Local conduction coefficient
ิ
3 : 2,338 W/m
4 : Local heat transfer coefficient
4 : 2,348 W/m
วน
วน
สง
สง
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
ข ้อที 212 :
พิจารณารูปในข ้อใดทีแสดง Temperature profile สําหรับการไหลแบบ Fully developed สําหรับการไหล
กร
กร
ภายในท่อ
ข ้อที 214 :
ิ ว
ิ ว
การพาความร ้อนแบบบังคับ(Forced convection) เกิดขึนเนืองจากแรงขับเคลือนของไหลให ้มีความเร็ว
าวศ
าวศ
และมีความสามารถในการถ่ายเทความร ้อนได ้มากกว่าการพาความร ้อนแบบธรรมชาติ แรงขับเคลือนดัง
กล่าว คือข ้อใด
1 : Buoyancy forces
1:
สภ
สภ
2 : Viscous forces
3 : Pump forces
4 : Wind energy
2:
ข ้อที 215 :
3:
4: 1:
2:
ข ้อที 213 :
Thermal entrance region คือ ปรากฎการณ์ทอุ ี ณหภูมข
ิ องไหลตามแนวแกนกลางของท่อไม่เกิดการ 3:
เปลียนแปลงเพราะอยูน ่ อก Thermal boundary layer แต่อณ ุ หภูมท
ิ อยู
ี ต ่ ด
ิ กับผนังท่อกลับสูงขึนอย่าง
รวดเร็ว จากคํากล่าวข ้างต ้นนีตรงกับรูปในข ้อใด
4:
1:
ข ้อที 216 :
ตัวกลางในการส่งถ่ายความร ้อนข ้อใดทีพิจารณาได ้ยากในการเกิดการพาความร ้อนแบบบังคับ
1 : นํ า
2 : อากาศ
2: 3 : นํ ามัน
4 : ทราย
ธิ
ธิ
สท
สท
3:
ิ
ิ
ข ้อที 217 :
งวน
งวน
อ ขอส
4:
อ ขอส
รข
รข
วก
วก
วศิ
วศิ
า
า
สภ
สภ
1:
2:
1:
3:
4: 2:
4:
ข ้อที 220 :
1 : 35,478
2 : 35,784
1:
3 : 35,847
4 : 35,748
2:
3:
4:
ข ้อที 221 :
ข ้อที 219 :
ิ
ธิ
ิ ธ
สท
สท
1:
ิ
วน
วน
2:
3:
สง
สง
4:
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
3 : 31.62
กร
กร
ิ ว
ิ ว
ข ้อที 222 :
าวศ
าวศ
ข ้อที 225 :
สภ
สภ
1 : 0.12 m.
1 : การไหลแบบราบเรียบ 2 : 1.2 m.
2 : การไหลแบบช่วงเปลียนแปลง 3 : 10.2 m.
3 : การไหลแบบปั นป่ วน 4 : 11.2 m.
4 : การไหลแบบวิกฤต
ข ้อที 226 :
ข ้อที 223 :
1 : 8,810
2 : 8,705
3 : 8,690
4 : 8,658
1 : 12.34
2 : 13.24
3 : 14.23
4 : 13.42 ข ้อที 227 :
ข ้อที 224 :
1 : ตรงมีคา่ เท่ากับ 0.768
ธิ
ธิ
4 : ไม่ตรงมีคา่ เท่ากับ 0.678
สท
สท
ิ
ิ
งวน
งวน
ข ้อที 228 :
อ ขอส
1 : 29.62
2 : 30.62 อ ขอส
รข
รข
ก
ก
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
1 : ใช ้สําหรับกรณีทมี
ี การแปรผันของคุณสมบัตข
ิ องของไหล
สภ
สภ
1: 2 : ใช ้กับการไหลแบบปั นป่ วนเท่านัน
2: 3 : ใช ้สําหรับการไหลภายนอกเท่านัน
3: 4 : ใช ้ได ้เฉพาะกรณีผนังเรียบ (Smooth pipe) เท่านัน
4:
ข ้อที 232 :
ข ้อที 229 :
1 : ทรงกระบอก
2 : สีเหลียม
1: 3 : ทรงกลม
4 : สามเหลียม
2:
3:
4:
ข ้อที 233 :
ข ้อที 230 :
ข ้อใดถูกต ้องมากทีสุดเกียวกับการพาความร ้อนแบบบังคับ
1 : สําหรับการไหลแบบราบเรียบ (Laminar flow) ภายในท่อค่า Nusselt number มีคา่ คงที

2 : เงือนไข Constant wall heat flux สําหรับการไหลแบบราบเรียบ (Laminar flow) ภายในท่อ คือ 1 : 1,595.28
dT/dR = 0 ถ ้า R เป็ นรัศมีทอ
่ 2 : 1,495.28
ธิ
ธิ
3 : ค่า Nusselt number สําหรับการไหลแบบราบเรียบ (Laminar flow)ภายในท่อสําหรับเงือนไข 3 : 1,395.28

4 : 1,295.28
สท
สท
Constant wall temperature มีคา่ น ้อยกว่ากรณี Constant wall heat flux

4 : ค่าอุณหภูมเิ ฉลีย Bulk mean temperature หาได ้จากค่าเฉลียของอุณหภูมผ
ิ นังกับอุณหภูมอ
ิ ากาศ
ิ
วน
วน
สง
สง
ข ้อที 234 :
ข ้อที 231 :
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
กร
กร
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
สภ
สภ
1:
2:
3:
4:
1:
ข ้อที 237 :
2:
3:
4:
คําตอบทีถูกต ้อง : 2 1 : Logarithmic mean temperature difference

2 : Bulk mean temperature difference
3 : Film temperature difference
4 : Semi logarithmic temperature difference
ข ้อที 235 :
การพาความร ้อนแบบบังคับผ่านวัตถุทรงกลม ตัวแปรไร ้หน่วย (Nu) ได ้มาจากสมการความสัมพันธ์ของ คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ั ของตัวแปรไร ้หน่วย Nu
Whitaker correlation จากสมการความสัมพันธ์ดงั กล่าว ข ้อใดไม่เป็ นฟั งก์ชน
1: ข ้อที 238 :
2:
3:
4:
ธิ
ธิ
สท
สท
ข ้อที 236 :
ิ
ิ
งวน
งวน
1:
2:
อ ขอส
อ ขอส
1 : ค่าตัวเลขพล ้าน (Pr) และค่าตัวเลขเรย์โนลด์ (Re)

รข
รข
3:
2 : ค่าตัวเลขแกรชอฟ (Gr) และค่าตัวเลขเรย์โนลด์ (Re)
4:
ก
3 : ค่าตัวเลขพล ้าน (Pr) และค่าตัวเลขแกรชอฟ (Gr)

ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
4 : ค่าตัวเลขเรย์เลย์ (Ra) และค่าตัวเลขเรย์โนลด์ (Re)
ข ้อที 239 :
สภ
สภ
ข ้อที 242 :
แผ่นสี เหลียมจัตุรัสบางขนาด 0.4 m x 0.4 m มีอุณหภูมิคงที 40 ºC แขวนในแนวดิงในบรรยากาศนิงอุณหภูมิ 15oC จงหา
อัตราการถ่ายเทความร้อนจากแผ่น เมือค่าสัมประสิ ทธิการพาความร้อนเฉลีย (h) = 2.25 W/m2.K
1:
1 : 9W
2: 2 : 18 W
3 : 26 W
3: 4 : 29 W
4:
ข ้อที 243 :
ทรงกลมมีเส ้นผ่านศูนย์กลาง 4 cm อุณหภูม ิ 150 องศาเซลเซียส แขวนในบรรยากาศนิงที 27 องศา
เซลเซียส จงหาค่าสัมประสิทธิการพาความร ้อน ถ ้าทรงกลมมีการพาความร ้อนทีผิว 7.419 W
ข ้อที 240 :
1 : 10W/sq.m.K
2 : 12 W/sq.m.K
3 : 15 W/sq.m.K
4 : 19 W/sq.m.K
1 : 0.0237 m.
2 : 0.0173 m. ข ้อที 244 :
3 : 0.0273 m. ขนมเค ้กรูปทรงกระบอกสูง 8 cm เส ้นผ่าศูนย์กลาง 20 cm มีอณ ุ หภูมผ
ิ วิ ทุกด ้านเท่ากับ 100 องศา
4 : 0.0183 m. เซลเซียส วางไว ้ในห ้องอุณหภูม ิ 27 องศาเซลเซียส จงหาอัตราการสูญเสียการพาความร ้อน โดยมีคา่
สัมประสิทธิการพาเท่ากับ 15 W/sq.m.K สมมุตวิ า่ ไม่มก
ี ารสูญเสียความร ้อนทีผิวด ้านล่างของขนมเค ้ก
ธิ
ธิ
1 : 71.35 W
สท
สท
2 : 89.45 W
เนือหาวิชา : 405 : 4.การพาความร ้อนแบบอิสระ 3 : 98.75 W
ิ
4 : 101.55 W
วน
วน

ในการพาแบบอิสระค่าตัวเลขนัสเซิลท์ (Nu) ขึนอยูก
่ บ
ั ค่าใด
สง
สง
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
ข ้อที 245 :
แท่งโลหะสีเหลียมขนาด 10 cm x 12 cm x 20 cm อันหนึงมีอณ
ุ หภูมผิ วิ สมําเสมอ 120 องศาเซลเซียส
กร
กร
แขวนอยูใ่ นสภาพแวดล ้อมที 20 องศาเซลเซียส จงหาการพาความร ้อนออกจากแท่ง ถ ้าค่าสัมประสิทธิ
การพาความร ้อนมีคา่ 10 W/sq.m.K ข ้อที 249 :
ิ ว
ิ ว
แผ่นจัตรุ ัสขนาด 0.5 x 0.5 m หุ ้มฉนวนด ้านหนึงไว ้ และด ้านทีไม่หุ ้มถือว่าเป็ นผิวดําได ้รับรังสีจากดวงอา
าวศ
าวศ
ทิตย์ด ้วยฟลักซ์ความร ้อนคงที 750 W/sq.m ผิวร ้อนได ้ถ่ายเทความร ้อนโดยการพาอิสระแก่บรรยากาศ
1 : 88 W รอบๆ ซึงมีอณ ุ หภูม ิ 300 K จงหาอุณหภูมท
ิ ผิ
ี ว เมือค่าสัมประสิทธิการพาความร ้อน (h) = 6 W/sq.m.K
2 : 104 W
3 : 112 W
สภ
สภ
4 : 128 W 1 : 325 K
2 : 375 K
คําตอบทีถูกต ้อง : 3 3 : 425 K
4 : 475 K
ข ้อที 246 :
chip สีเหลียมมีผวิ ระบายความร ้อนขนาด 4 x 4 mm ขณะทํางานมีคา่ อุณหภูม ิ 85 องศาเซลเซียส โดยวาง
ในของไหลหล่อเย็นทีมีอณ ุ หภูม1ิ 5 องศาเซลเซียส ถ ้าค่าสัมประสิทธิการพาความร ้อนของไหล 3000
W/sq.m.K จงหาอัตราการพาความร ้อนทีระบายออกจาก chip ข ้อที 250 :
การเคลือนทีของการพาอิสระ(free convection) มีอท
ิ ธิพลหลักมาจากแรงอะไร
1 : 2.46 W
2 : 3.36 W 1 : แรงเฉือย
3 : 4.56. W 2 : แรงตึงผิว
4 : 5.64 W 3 : แรงลอยตัว
4 : ถูกทุกข ้อ
ข ้อที 247 :
เมือพิจารณาในการเคลือนทีแบบคงตัวของการพาอิสระ(free convection)ในช่องแผ่นขนานแนวตัง ข ้อที 251 :
ข ้อความใดถูกต ้อง ในพิจารณาการพาความร ้อนอิสระบนแผ่นร ้อนวางในแนวดิง พบว่าของไหลบริเวณใกล ้แผ่นร ้อนจะมี
อุณหภูมส ิ งู เป็ นผลให ้มีความหนาแน่นตําซึงความแตกต่างของความหนาแน่นนีจะก่อให ้เกิดแรงอะไร
1 : แรงตึงผิวเท่ากับแรงเฉือย
1 : แรงตึงผิว
2 : แรงตึงผิวเท่ากับแรงลอยตัว
2 : แรงลอยตัว
3 : แรงจากนํ าหนักเท่ากับแรงลอยตัว
3 : แรงเฉือย
4 : แรงจากนํ าหนักเท่ากับแรงเฉือย
ข ้อที 248 :
อากาศบรรยากาศบรรจุในช่องสีเหลียมวางในแนวตัง ซึงประกอบด ้วยแผ่นขนานจัตรุ ัส 2 แผ่น ขนาด 0.5 m ข ้อที 252 :
x 0.5 m มีระยะห่างระหว่างแผ่น L = 0.1 m โดยทีแผ่นขนานมีอณ ุ หภูมข
ิ องแผ่นร ้อนและแผ่นเย็นเป็ น T1 ทรงกลมอันหนึงมีอณุ หภูม ิ 142 องศาเซลเซียส วางอยูใ่ นบรรยากาศนิงที 31 องศาเซลเซียส และมีคา่
ธิ
ธิ
= 380 K และ T2 = 320 K ตามลําดับ จงหาอัตราการพาความร ้อนอิสระ ระหว่างแผ่นขนาน เมือ Nu = สัมประสิทธิการพา 17.5 W/sq.m.K จงหาเส ้นผ่านศูนย์กลางของทรงกลม ถ ้ามีการพาความร ้อนออกจาก
ผิว 45 W
สท
สท
7.12
กําหนดให ้คุณสมบัตอิ ากาศที Tf = 350 K มีคา่ k=0.03 W/m.K
ิ
ิ
1 : 63.27 mm
งวน
งวน
1 : 32 W
2 : 46 W 2 : 74.31 mm
3 : 55 W
3 : 85.88 mm
อ ขอส
4 : 60 W
อ ขอส
4 : 92.45 mm 2 : 4.23 W/sq.m.K

รข
รข
3 : 5.47 W/sq.m.K
ก
4 : 6.28 W/sq.m.K
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ

พิจารณาการพาความร ้อนอิสระของการไหลแบบลามินาร์บนแผ่นร ้อนอุณหภูมค ิ งทีวางในแนวดิง (Vertical
hot plate) จงหาว่าฟลักซ์ความร ้อน (local heat flux) สูงสุดจะอยูบ
่ ริเวณด ้านไหนของแผ่น
สภ
สภ
1 : ด ้านบน
2 : ด ้านกลาง ข ้อที 257 :
3 : ด ้านล่าง ผนังเตาผิงกว ้าง 80 cm สูง 50 cm มีอณ
ุ หภูมผ
ิ นัง 50 องศาเซลเซียส อากาศบรรยากาศรอบผนังมี
4 : เท่ากันทังแผ่น อุณหภูม ิ 24 องศาเซลเซียส จงหาอัตราการถ่ายเทความร ้อนของผนัง ถ ้าค่าสัมประสิทธิการพาความร ้อนมี
ค่า 4.358 W/sq.m.K
1 : 25.42 W
2 : 32.54 W
3 : 45.32 W
ข ้อที 254 : 4 : 52.34 W
จงหาค่าการถ่ายเทความร ้อนสูส ่ งแวดล
ิ ้อมโดยการพาอิสระ ของวัตถุทรงกระบอกสูง 10 cm เส ้นผ่าน
ศูนย์กลาง 8 cm มีอณุ หภูมผิ วิ เท่ากับ 100 องศาเซลเซียส และสัมประสิทธิการพาเท่ากับ 37 W/sq.m.K คําตอบทีถูกต ้อง : 3
โดยสิงแวดล ้อมอยูท
่ ี 20 องศาเซลเซียส
1 : 92.25 W
2 : 98.05 W ข ้อที 258 :
3 : 104.15 W แผ่นสีเหลียมขนาด 0.4 m x 0.4 m มีอณ
ุ หภูมค
ิ งที 400 K วางในแนวดิงในบรรยากาศนิงอุณหภูม ิ 300 K
4 : 108.25 W จงหาค่า Gr
1 : 2.25E+8
ข ้อที 255 :
พิจารณาการพาความร ้อนอิสระของการไหลแบบลามินาร์บนแผ่นเย็นอุณหภูมค ิ งทีวางในบรรยากาศแนวดิง 2 : 4.17E+8
(Vertical cold plate) จงหาว่าฟลักซ์ความร ้อน (local heat flux) สูงสุดจะอยูบ
่ ริเวณด ้านไหนของแผ่น
3 : 6.36E+8
1 : ด ้านบน
2 : ด ้านกลาง 4 : 8.24E+8
3 : ด ้านล่าง
4 : เท่ากันทังแผ่น
ข ้อที 259 :
ข ้อที 256 : แผ่นเรียบบางสูง 4 เมตร และกว ้าง 1 เมตร ผิวด ้านหนึงหุ ้มฉนวนไว ้ ผิวทีไม่ได ้หุ ้มฉนวนมีอณ
ุ หภูมค
ิ งที 400
อากาศร ้อนไหลผ่านท่อสีเหลียมทีมีขนาดหน ้าตัดกว ้าง 0.8 m และสูง 0.35 m เพือทําให ้ผิวท่อภายนอกมี K วางในบรรยากาศอุณหภูม ิ 300 K จงหาอัตราการถ่ายเทความร ้อนจากแผ่น เมือค่าสัมประสิทธิการพา(h)
อุณหภูมค ิ งที 45 องศาเซลเซียส ถ ้าท่อนีไม่หุ ้มฉนวนและสัมผัสอากาศที 15 องศาเซลเซียส และวางใน = 5.5 W/sq.m.K
ธิ
ธิ
เพดานใต ้บ ้าน จงหาค่าสัมประสิทธิการพาความร ้อนเฉพาะทีด ้านข ้างท่อ (แผ่นเรียบวางในแนวดิง)

สท
สท
1 : 1600 W
ิ
2 : 1800 W
3 : 2000 W
วน
วน
4 : 2200 W
สง
สง
1 : 3.62 W/sq.m.K คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
ข ้อที 260 :
แผ่นสีเหลียมจัตรุ ัสขนาด 0.4 m x 0.4 m มีอณ
ุ หภูมค
ิ งที 400 K วางในแนวดิงในบรรยากาศนิงอุณหภูม ิ ข ้อที 263 :
กร
กร
300 K จงหาค่าสัมประสิทธิการพาความร ้อน เมือ Nu = 40 วัตถุทรงกลมอุณหภูม ิ 135 องศาC อยูใ่ นอุณหภูมส ิ
ิ งแวดล ้อมที 30 องศาC มีคา่ สัมประสิทธิการพาความ
โดยอากาศที Tf = 350 K มีคา่ k = 0.03 W/m.K ร ้อน 15 W/(sq.m K) จงคํานวณหาเส ้นผ่าศูนย์กลางของวัตถุนี ถ ้าการพาความร ้อนมีคา่ 45 W
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
1 : 2 W/sq.m.K
2 : 3 W/sq.m.K 1 : 67.1 mm
2 : 95.4 mm
สภ
สภ
3 : 6 W/sq.m.K 3 : 108.2 mm
4 : 114.6 mm
4 : 8 W/sq.m.K
ข ้อที 264 :
วัตถุทรงกระบอกดังรูป มีการพาความร ้อนสูส ่ งแวดล
ิ ้อม 34.3 W และสัมประสิทธิการพาความร ้อน 15
ข ้อที 261 : W/(sq.m K) ถ ้าอุณหภูมผิ วิ ของวัตถุเท่ากับ 85 องศาC จงคํานวณหาค่าอุณหภูมส ิ
ิ งแวดล ้อม
ท่อนํ าร ้อนมีเส ้นผ่านศูนย์กลาง 7 cm ยาว 3 m โดยทีอุณหภูมท
ิ อ
่ และอุณหภูมบ
ิ รรยากาศเท่ากับ 343 K
และ 293 K ตามลําดับ จงหาอัตราการถ่ายเทความร ้อนโดยการพาแบบธรรมชาติ เมือ Nu = 17.40, k=
0.02699 W/m.K
1 : 159.3 W
2 : 174.9 W
3 : 196.3 W
4 : 221.2 W
คําตอบทีถูกต ้อง : 4 1 : 15 องศาC
2 : 20 องศาC
ข ้อที 262 :
โลหะแท่งสีเหลียมขนาด 20 mm x 25 mm x 10 mm อุณหภูมผ ิ วิ 125 องศาC อยูใ่ นสภาวะสิงแวดล ้อม 3 : 25 องศาC
บรรยากาศทีมีคา่ สัมประสิทธิการพาความร ้อน 3000 W/(sq.m K) จงหาค่าอุณหภูมขิ องสิงแวดล ้อม ถ ้ามี
การถ่ายเทความร ้อนจากแท่งโลหะนีสูส่ งแวดล
ิ ้อม 0.57 kW 4 : 30 องศาC
ข ้อที 265 :
วัตถุแบนรูปสามเหลียมดังภาพมีฐานกว ้าง 25 mm สูง 30 mm มีอณ ุ หภูมผิ วิ 150 องศาC แขวนไว ้ในสิง
แวดล ้อมทีมีอณุ หภูม ิ 32 องศาC จงหาอัตราการถ่ายเทความร ้อนของวัตถุ ถ ้าค่าสัมประสิทธิการพาความ
ร ้อนมีคา่ 1500 W/(sq.m K)
ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
ิ
งวน
งวน
1 : 114.50 W
อ ขอส
2 : 132.75 W
3 : 151.25 W อ ขอส
4 : 168.45 W
รข
รข
ข ้อที 269 :
คําตอบทีถูกต ้อง : 2 เงือนไขใดทีถือได ้ว่าเป็ นการพาความร ้อนตามธรรมชาติเพียงอย่างเดียว
ก
ก
ิ ว
ิ ว
1 : เมือ Gr/(Re.Re) << 1.0

าวศ
าวศ
ข ้อที 266 :
ข ้อใดกล่าวถูกต ้อง เมือเปรียบเทียบพฤติกรรมการพาความร ้อนระหว่างแบบอิสระและแบบบังคับสําหรับการ 2 : เมือ Gr/(Re.Re) >> 1.0
ไหลโดยทัวไป
สภ
สภ
3 : เมือ Gr/(Re.Re) = 1.0

1 : สัมประสิทธิการพาความร ้อนแบบอิสระมีคา่ น ้อยกว่าสัมประสิทธิการพาแบบบังคับ
4 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
2 : ของไหลทีไหลในระบบการพาแบบอิสระจะไหลช ้ากว่าในระบบการพาแบบบังคับ
3 : การถ่ายเทความร ้อนในระบบการพาแบบอิสระมีคา่ น ้อยกว่าในการพาแบบบังคับ คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 270 :
ข ้อใดกล่าวถูกต ้องเกียวกับค่า Nu (Nusselt Number)
1 : Nu เป็ นอัตราส่วนของการพาความร ้อนต่อการนํ าความร ้อน
ข ้อที 267 : 2 : ถ ้า Nu = 1 จัดเป็ น Pure Conduction

แผ่นสีเหลียมจัตรุ ัสขนาด 0.4 m x 0.4 m มีอณ
ุ หภูมค
ิ งที 400 K วางในแนวดิงในบรรยากาศนิง อุณหภูม ิ
300 K จงหาค่า Rayleigh number (Ra) ถ ้า Pr = 0.697
3 : Nu เป็ น สัมประสิทธิการพาความร ้อนไร ้มิต ิ
1 : 2.2E+8
2 : 2.9E+8
3 : 3.4E+8 คําตอบทีถูกต ้อง : 4
4 : 3.9E+8
ข ้อที 271 :
แผ่นเรียบแนวดิงสูง L = 0.4 m และกว ้าง 0.5 m ผิวด ้านหนึงหุ ้มฉนวนไว ้ ผิวทีไม่ได ้หุ ้มฉนวนมีอณ
ุ หภูม ิ
คงที 400 K วางในบรรยากาศอุณหภูม ิ 300 K จงหาค่าเฉลียตัวเลขนัสเซิล (Nu)
ข ้อที 268 :
จงเรียงลําดับจากค่ามากไปหาน ้อย สําหรับแรงลอยตัวทีเกิดขึนเมือวัตถุอยูใ่ นของไหลทีเป็ น อากาศ, นํ า
และปรอท
1 : อากาศ, นํ า, ปรอท 1 : 72.16

2 : 75.24
2 : ปรอท, อากาศ, นํ า 3 : 77.25
4 : 80.36
ธิ
ธิ
3 : นํ า, ปรอท, อากาศ คําตอบทีถูกต ้อง : 1

สท
สท
4 : ปรอท, นํ า, อากาศ
ิ
ิ
วน
วน
ข ้อที 272 :
แผ่นเรียบแนวดิงสูง 5 เมตร กว ้าง 1.5 เมตร ผิวด ้านหนึงหุ ้มฉนวนไว ้ ผิวทีไม่ได ้หุ ้มฉนวนมีออุณหภูมค
ิ งที
400 K วางในบรรยากาศอุณหภูม ิ 300 K จงหาค่าสัมประสิทธิการพาความร ้อนเฉลีย(h) เมือกําหนดให ้
สง
สง
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
1 : 2.7 W/sq.m K = (As/P)
กร
กร
2 : 2.8 W/sq.m K
ิ ว
ิ ว
3 : 2.9 W/sq.m K
าวศ
าวศ
1:
4 : 3.0 W/sq.m K 2:
สภ
สภ
3:
4:
ข ้อที 273 :
แผ่นเรียบแนวดิงสูง 5 เมตร กว ้าง 1.5 เมตร ผิวด ้านหนึงหุ ้มฉนวนไว ้ ผิวทีไม่ได ้หุ ้มฉนวนมีออุณหภูมค
ิ งที
400 K วางในบรรยากาศอุณหภูม ิ 300 K จงหาอัตราการถ่ายเทความร ้อนจากแผ่น เมือค่าสัมประสิทธิ
การพาความร ้อนเฉลียเท่ากับ 5.51 W/m^2.K ข ้อที 276 :
ถ ้านํ าไข่ต ้มร ้อน (boiling egg) ไปวางใว ้ในยานอวกาศทีอยูน
่ อกโลกหรือนํ าไปวางใว ้บนพืนโลก อยาก
ทราบว่า ณ ทีใดไข่ต ้มร ้อนนีจะเย็นตัวได ้เร็วกว่า
1 : 4111 W
2 : 4122 W
3 : 4133 W 1 : บนพืนโลก
4 : 4144 W
2 : ในยานอวกาศนอกโลก
3 : เย็นตัวได ้เท่ากันทังสองที
ข ้อที 274 :
4 : ไม่สามารถสรุปได ้
อากาศไหลผ่านท่อความร ้อนสีเหลียมผืนผ ้ายาว มีขนาดหน ้าตัดกว ้าง 0.75 m และสูง 0.3 m เพือทําให ้ผิว
ท่อภายนอกมีอณ ุ หภูม ิ 45 องศาเซลเซียส ถ ้าท่อนีไม่หุ ้มฉนวนและสัมผัสอากาศที 15 องศาเซลเซียสใน
เพดานใต ้บ ้าน จงหาค่าสัมประสิทธิการพาความร ้อนทีด ้านข ้างท่อ (แผ่นเรียบวางในแนวดิง) เมือกําหนดให ้
ข ้อที 277 :
แผ่นจตุรัสขนาด 0.5 m x 0.5 m หุ ้มฉนวนด ้านหนึงไว ้และด ้านทีไม่หุ ้มถือว่าเป็ นผิวดําได ้รับรังสีจากดวงอา
ทิตย์ด ้วยฟลักซ์ 600 W/m^2 แผ่นเรียบนีทํามุม 60 องศากับแนวดิง ดังนันหน ้าร ้อนจึงหงายขึน ผิวร ้อนได ้
1: ถ่ายเทความร ้อนโดยการพาอิสระแก่บรรยากาศรอบ ๆ ซึงมีอณ ุ หภูม ิ 300 K จงหาค่าตัวเลขนัสเซลท์เฉลีย
โดยกําหนดให ้
2:
3:
1 : 93.2
4: 2 : 95.4
3 : 97.1
ธิ
ธิ
สท
สท
ข ้อที 275 :
ิ
ิ
อากาศไหลผ่านท่อความร ้อนสีเหลียมผืนผ ้ายาว มีขนาดหน ้าตัดกว ้าง 0.75 m และสูง 0.3 m เพือทําให ้ผิว
งวน
งวน
ท่อภายนอกมีอณ ุ หภูม ิ 45 องศาเซลเซียส ถ ้าท่อนีไม่หุ ้มฉนวนและสัมผัสอากาศที 15 องศาเซลเซียส ใน ข ้อที 278 :
เพดานใต ้บ ้าน จงหาค่าสัมประสิทธิการพาความร ้อนทีผิวด ้านบนท่อ สําหรับผิวด ้านบนท่อความยาวเฉพาะ L แผ่นจัตรุ ัสขนาด 0.5 m x 0.5 m หุ ้มฉนวนด ้านหนึงไว ้ และด ้านทีไม่หุ ้มถือว่าเป็ นผิวดําได ้รับรังสีจากดวงอา
ทิตย์ด ้วยฟลักซ์เท่ากับ 600 W/m^2 แผ่นเรียบนีทํามุม 60 องศากับแนวดิง ดังนันหน ้าร ้อนจึงหงายขึน ผิว
ร ้อนได ้ถ่ายเทความร ้อนโดยการพาอิสระแก่บรรยากาศรอบ ๆ ซึงมีอณ ุ หภูม ิ 300 K จงหาค่าอุณหภูมท ิ ผิ
ี ว
อ ขอส
อ ขอส
เมือค่าสัมประสิทธิการพาความร ้อนเฉลียเท่ากับ 3.16 W/m^2.K

รข
รข
ข ้อที 282 :
1 : 487.9 K
วัตถุดําขนาด 0.43 m2 มีอต
ั ราการแผ่รังสีความร ้อนทีปล่อยออกจากพืนผิว 780.57 W จงหาค่าอุณหภูม ิ
ก
2 : 489.9 K
ของพืนผิว
3 : 491.9 K
ิ ว
ิ ว
4 : 493.9 K 1 : 130 °C
าวศ
าวศ
2 : 138 °C
คําตอบทีถูกต ้อง : 2 3 : 142 °C
4 : 150 °C
สภ
สภ
ข ้อที 279 :
อากาศทีความดันบรรยากาศบรรจุในช่องสีเหลียมวางในแนวดิง ซึงประกอบด ้วยแผ่นขนานจัตรุ ัส 2 แผ่น
ขนาด 0.4 m x 0.4 m โดยมีระยะห่างของแผ่น L = 0.05 m อุณหภูมขิ องแผ่นร ้อนและแผ่นเย็นเป็ น T1 =
380 K และ T2 = 320 K ตามลําดับ จงหาอัตราการถ่ายเทความร ้อนโดยการพาอิสระระหว่างช่องว่าง เมือ ข ้อที 283 :
Nu = 7.12 แท่งโลหะร ้อน (heater) ยาว 0.5 m และมีเส ้นผ่านศูนย์กลาง 2.5 cm มีคา่ สภาพการแผ่รังสี (emissivity)
0.9 โดยมีรังสีความร ้อนออกจากพืนผิว 350 W จงหาอุณหภูมผ ิ วิ ของแท่งโลหะนี
1 : 369.5 °C
1 : 41 W 2 : 351.6 °C
2 : 44 W 3 : 335.7 °C
3 : 47 W 4 : 315.8 °C
4 : 49 W
ข ้อที 284 :
ข ้อที 280 : วัตถุทรงกระบอกแท่งหนึงมีขนาดเส ้นผ่านศูนย์กลาง 0.4 m อุณหภูมผ ิ วิ 300 °C มีคา่ สภาพการแผ่รังสี
ข ้อใดกล่าวถึงนิยามของ Gr (Grashof number) ได ้ถูกต ้อง (emissivity) เป็ น 0.24 มีคา่ การแผ่รังสีความร ้อนทีปล่อยออกจากพืนผิว 1,935.58 W จงหาความยาวของ
วัตถุแท่งนี
1 : คืออัตราส่วนของแรงเสียดทานต่อแรงลอยตัว 1 : 0.055 m
2 : 0.065 m
3 : 0.075 m
2 : คืออัตราส่วนของแรงเสียดทานต่อแรงเฉือย 4 : 0.085 m
3 : คืออัตราส่วนของแรงลอยตัวต่อแรงเสียดทาน คําตอบทีถูกต ้อง : 4
4 : คืออัตราส่วนของแรงเฉือยต่อแรงเสียดทาน
ข ้อที 285 :
วัตถุทรงกลมขนาดเส ้นผ่านศูนย์กลาง 0.3 m มีอณ ุ หภูมผ
ิ วิ 200 °C มีคา่ สภาพการแผ่รังสี (emissivity)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3 เป็ น 0.81 จงหาอัตราการแผ่รังสีความร ้อนทีปล่อยออกจากวัตถุทรงกลมนี
1 : 629 W
2 : 637 W
เนือหาวิชา : 406 : 5.การแผ่รังสีความร ้อน 3 : 642 W
4 : 650 W

ผิวอันหนึงมีอณ
ุ หภูมผ
ิ วิ 5,500 °C มีคา่ สภาพการแผ่รังสี (emissivity) เป็ น 0.9 จงหาอัตราการแผ่รังสี
ธิ
ธิ
ความร ้อนต่อหน่วยพืนผิว
สท
สท
1 : 56.68 MW/m2 ข ้อที 286 :

ิ
2 : 54.82 MW/m2 อุณหภูมข ิ องเปลวไฟภายในเตาหลอมอันหนึงเป็ น 1,900 K สมมติให ้เปลวไฟในเตาหลอมนันเป็ นวัตถุดํา

วน
วน
3 : 52.73 MW/m2 จงหาความยาวคลืนทีให ้การแผ่รังสีสงู สุด

4 : 50.50 MW/m2 1 : 1.53 µm
สง
สง
2 : 1.63 µm
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 3 : 2.53 µm
4 : 2.63 µm
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
โลหะแผ่นหนึงมีพนที ื ผิว 0.6 m2 อุณหภูม ิ 220 °C ทําการแผ่รังสีความร ้อนให ้กับวัสดุอก
ี ชนิดหนึงทีมี
กร
กร
อุณหภูม ิ 65 °C และมีพนที ื ผิวเป็ น 1.5 เท่าของโลหะแผ่น ให ้หาอัตราการแลกเปลียนรังสีความร ้อนสุทธิ
สมมุตวิ า่ ทังคูเ่ ป็ นวัตถุดํา
ิ ว
ิ ว
ข ้อที 287 :
าวศ
าวศ
ื ว 0.332 m2 มีอณ
วัตถุทรงกลมมีพนผิ ุ หภูมผ ิ วิ 154 °C มีคา่ สภาพการแผ่รังสี (emissivity) เป็ น 0.75 วาง 1 : 1,501.93 W
ไว ้ในบริเวณปริมาตรปิ ด (enclosure) ทีมีอณ
ุ หภูม ิ 58 °C จงหาอัตราการแผ่ความร ้อนสุทธิทปล่ ี อยออกจาก 2 : 1,532.28 W
พืนผิววัตถุ 3 : 1,565.64 W
4 : 1,576.03 W
สภ
สภ
1 : 280 W
2 : 290 W คําตอบทีถูกต ้อง : 3
3 : 300 W
4 : 310 W

แท่งวัสดุขนาด 10 x 12 x 20 cm อันหนึงมีอณ ุ หภูมผิ วิ สมําเสมอ 120 °C จงหาค่าการถ่ายเทความร ้อน
โดยการแผ่รังสี ถ ้าค่าสภาพการแผ่รังสี (emissivity) ของผิวเป็ น 0.76
ข ้อที 288 : 1 : 110.58 W
อุณหภูมข ิ องเปลวไฟภายในเตาหลอมแห่งหนึงเป็ น 1,500 K สมมติให ้เปลวไฟในเตาหลอมนันเป็ นวัตถุดํา 2 : 112.43 W
จงหากําลังการแผ่รังสี (Emissive power, Eb) ของเปลวไฟ 3 : 113.80 W
4 : 115.13 W
1 : 287.04 kW/m2
2 : 312.63 kW/m2 คําตอบทีถูกต ้อง : 4
3 : 331.97 kW/m2
4 : 347.28 kW/m2
ข ้อที 293 :
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 ขนมเค๊กนํ าออกจากเตาอบเพือทําให ้เย็นตัวลง โดยทีขนมเค๊กถือว่าเป็ นทรงกระบอกสูง 8 cm และมีเส ้น
ผ่านศูนย์กลาง 20 cm ถ ้าอุณหภูมผ
ิ วิ ของขนมเค๊กทุกด ้านเท่ากับ 90 °C จงหาอัตราการสูญเสียความร ้อน
โดยการแผ่รังสีของขนมเค๊ก โดยทีค่าสภาพการแผ่รังสี (emissivity) ของเค๊กทุกผิวเป็ น 0.4
ข ้อที 289 : 1 : 44.54 W
ื ผิวเท่ากับ 0.43 m2 ท่อวางผ่านห ้องซึงอากาศและผนังห ้องมีอณ
ท่อลมร ้อนไม่หุ ้มฉนวนมีพนที ุ หภูมเิ ท่ากัน 2 : 53.12 W
คือ 25 °C ถ ้า อุณหภูมผ
ิ วิ ท่อเป็ น 110 °C มีคา่ สภาพการแผ่รังสี (emissivity) เป็ น 0.86 และสัมประสิทธิ 3 : 68.32 W
2 4 : 71.85 W
การพาความร ้อนทีผิวท่อเท่ากับ 34 W/m .K จงหาอัตราความร ้อนสูญเสียทังหมดของท่อ
1 : 1,528.52 W คําตอบทีถูกต ้อง : 1
2 : 1,601.78 W
3 : 1,672.23 W
4 : 1,712.55 W
ข ้อที 294 :
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 วัตถุทรงกลมขนาดเส ้นผ่านศูนย์กลาง 50 mm มีอณ ุ หภูมผ
ิ วิ 145 °C อัตราการถ่ายเทความร ้อนโดย
การแผ่รังสีมคี า่ 6.8 W จงหาค่าสภาพการแผ่รังสี (emissivity) ของวัตถุนี
1 : 0.3
2 : 0.4
ข ้อที 290 :
3 : 0.5
ผิวหนึงมีอณุ หภูม ิ T1 = 400 K และ มีพนที
ื A1 เป็ น 4 เท่าของผิว A2 ซึงมีอณ
ุ หภูม ิ T2 = 800 K โดยผิว
4 : 0.6
ทังสองกําลังแลกเปลียนรังสีความร ้อนซึงกันและกัน โดยมีคา่ วิวแฟคเตอร์ F12 = 0.15 จงหาค่าวิวแฟค
เตอร์ F21 คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ
ธิ
1 : 0.4
สท
สท
2 : 0.5
ิ
ิ
3 : 0.6 ข ้อที 295 :
4 : 0.7 วัตถุทรงกระบอกขนาดเส ้นผ่านศูนย์กลาง 20 mm ยาว 80 mm ค่าสภาพการแผ่รังสี (emissivity) เป็ น 0.6
งวน
งวน
ถ ้าวัตถุนมี
ี การแผ่รังสีความร ้อนเท่ากับ 6.81 W จงหาอุณหภูมผ
ิ วิ ของวัตถุ
2 : 110 °C
อ ขอส
3 : 146 °C อ ขอส
4 : 161 °C
รข
รข

ก
ถ ้าค่าอัตรารังสีความร ้อนทังหมดทีตกกระทบบนพืนผิววัตถุเท่ากับ 2,200 W/m2 ซึงมีคา่ อัตราการสะท ้อน

ิ ว
ิ ว
รังสีความร ้อน 450 W/m2 และ มีคา่ อัตราการดูดกลืนรังสีความร ้อน 900 W/m2 จงคํานวณค่าการผ่านทะลุ
าวศ
าวศ
ข ้อที 296 : ของผิว (transmissivity)

จงหาค่าฟลักซ์ความร ้อนสุทธิ (net heat flux) ของผิวทึบอันหนึงทีมีอณ ุ หภูม ิ 500 K และค่าสภาพ
1 : 0.175
การแผ่รังสี (emissivity) เป็ น 0.8 ถ ้าผิวนีมีคา่ อัตรารังสีตกกระทบ (irradiation, G) = 5,000 W/m2 และ 2 : 0.243
2
สภ
สภ
มีคา่ อัตราการดูดกลืนรังสีทผิ
ี ว, Gabs = 3,800 W/m 3 : 0.327
4 : 0.386
1 : 824 W/m2
2 : 965 W/m2 คําตอบทีถูกต ้อง : 4
3 : 1,025 W/m2
4 : 1,164 W/m2
ข ้อที 301 :
คําตอบทีถูกต ้อง : 2 วัตถุดํามีอณ
ุ หภูมท
ิ ผิ
ี ว 390 K จงคํานวณค่า Total emissive power
1 : 977 W/m2
2 : 1,042 W/m2
ข ้อที 297 :
3 : 1,311 W/m2
วัตถุหนึงมีรังสีตกกระทบ (irradiation) = 370 W/m2 วัตถุนมี
ี คา่ การดูดกลืนของผิว (absorptivity) = 0.3
4 : 1,573 W/m2
และ ค่าการผ่านทะลุของผิว (transmissivity) = 0.12 จงหาค่ารังสีความร ้อนทีสะท ้อนออกจากผิววัตถุ
1 : 124.6 W/m2 คําตอบทีถูกต ้อง : 3
2 : 165.6 W/m2
3 : 194.8 W/m2
4 : 214.6 W/m2 ข ้อที 302 :
วัตถุดํามีอณ
ุ หภูมผ
ิ วิ 450 K จงหาค่าความยาวคลืนทีให ้ค่า Emissive power มีคา่ สูงสุด
1 : 6.44 ไมครอน
ข ้อที 298 : 4 : 7.63 ไมครอน
วัตถุอนั หนึงได ้รับอัตรารังสีตกกระทบ (irradiation) เท่ากับ 500 W/m2 ซึงวัตถุนมี
ี อต
ั ราการดูดกลืนรังสี
เท่ากับ 150 W/m2 และค่าอัตราการผ่านทะลุของรังสีมค ี า่ 25 W/m2 จงหาค่าสภาพการสะท ้อนรังสี
(reflectivity) ของผิว
1 : 0.32
2 : 0.48 ข ้อที 303 :
3 : 0.65 วัตถุดํามีคา่ Emissive power เท่ากับ 2,540 W/m2 จงคํานวณอุณหภูมผ
ิ วิ วัตถุนี
4 : 0.83 1 : 150 °C
2 : 163 °C
4 : 191 °C
ข ้อที 299 :
จงหาค่ารังสีตกกระทบ (irradiation) บนวัตถุอนั หนึง ถ ้าค่าการผ่านทะลุของผิว (transmissivity) มีคา่
ธิ
ธิ
0.03 และค่าการสะท ้อนของผิว (reflectivity) มีคา่ 0.5 ในขณะทีวัดค่ารังสีทถู

ี กดูดกลืนได ้โดยตรงซึง
2
สท
สท
เท่ากับ 94 W/m ข ้อที 304 :

จงหาค่าการปล่อยออกของรังสี (emissive power) ของวัตถุ ที 1,145 K และมีคา่ สภาพการแผ่รังสี
ิ
1 : 200 W/m2 (emissivity) เป็ น 0.85

W/m2
วน
วน
2 : 225
3 : 250 W/m2 1 : 53.26 kW/m2
W/m2 2 : 67.94 kW/m2
สง
สง
4 : 285
3 : 75.27 kW/m2
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 4 : 82.84 kW/m2
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
เตาเผารูปทรงกระบอกตังอันหนึง ฝาด ้านบนรูปจานกลมมีพนที
ื A1 เท่ากับ 0.1 m2, T1 = 300 K ในขณะที
ฝาล่างมีพนทีื A2 = 0.1 m2, T2 = 600 K และผนังเตาภายในด ้านข ้างมีพนที ื A3 = 0.2 m2, T3 = 800 K
กร
กร
ถ ้าถือว่าผิวภายในเตานีเป็ นปริมาตรปิ ด (enclosure) และกําหนดให ้วิวแฟคเตอร์ F12 = 0.2 จงหาค่าวิว
แฟคเตอร์ F31
ิ ว
ิ ว
ข ้อที 305 :
าวศ
าวศ
ื ผิว 2.5 cm2 อุณหภูม ิ 1,000 K มีการแผ่รังสีความร ้อนออกที 3.5 W จงหาค่าสภาพ
แผ่นเรียบมีพนที 1 : 0.2
การแผ่รังสี (emissivity) ของผิวทีอุณหภูมด
ิ งั กล่าว 2 : 0.3
1 : 0.18 3 : 0.4
4 : 0.5
สภ
สภ
2 : 0.25
3 : 0.84
4 : 0.83 คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 310 :
เตาเผารูปทรงกระบอกตังอันหนึง ฝาบนรูปจานกลมมีพนที
ื A1 เท่ากับ 0.1 m2, T1 = 300 K ในขณะทีฝา
ข ้อที 306 :
ล่างมีพนที
ื A2 = 0.1 m2, T2 = 600 K และผนังข ้างภายในเตามีพนที
ื A3 = 0.2 m2, T3 = 800 K ถ ้า
จงหาค่าอัตราการแลกเปลียนรังสีความร ้อนสุทธิของวัตถุผวิ เรียบ 1 ซึงมีพนที
ื 0.75 m2 อุณหภูมผ
ิ วิ 700 K
ู่ วิ A1
ถือว่าภายในเตานีเป็ นปริมาตรปิ ด (enclosure) และผิวดํา จงหาค่าอัตราการแผ่รังสีความร ้อนสุทธิสผ
กับวัตถุผวิ เรียบ 2 ซึงมีพนที
ื 2 m2 อุณหภูมผ
ิ วิ 250 K โดยทีค่า view factor, F12 = 0.13 สมมติวา่ เป็ น
กําหนดให ้วิวแฟคเตอร์ F12 = 0.2
วัตถุดําทังสองผิว
1 : 1.31 kW 1 : 1.67 kW
2 : 2.28 kW 2 : 1.74 kW
3 : 3.06 kW 3 : 1.83 kW
4 : 3.55 kW 4 : 1.96 kW
ข ้อที 307 : ข ้อที 311 :

วัตถุทรงกลมมีเส ้นผ่านศูนย์กลาง 18 cm อุณหภูมผ
ิ วิ 150 °C อัตราการถ่ายเทความร ้อนโดยการแผ่รังสี วัตถุดํามีอณ
ุ หภูม ิ 500 K จงหากําลังแผ่ออกของรังสีความร ้อนทีความยาวคลืนทีให ้ค่าสูงสุด (maximum
จากผิวมีคา่ 80.5 W จงหาค่าสภาพการแผ่รังสี (emissivity) ของวัตถุนี monochromatic emissive power)
[ค่าคงทีของ Wien displacement law เท่ากับ 2,898 µm.K]
1 : 0.37
2 : 0.44
3 : 0.54
4 : 0.61
1 : 347.05 W/m2.µm
2 : 366.19 W/m2.µm
ข ้อที 308 : 3 : 380.52 W/m2.µm
วัตถุทรงกลมมีอณุ หภูมผ ิ วิ 125 °C อัตราการถ่ายเทความร ้อนโดยการแผ่รังสีทผิ
ี วมีคา่ 65 W ค่าสภาพ 4 : 400.56 W/m2.µm
การแผ่รังสี (emissivity) ของผิวมีคา่ 0.66 จงหาขนาดเส ้นผ่านศูนย์กลางของวัตถุนี
1 : 3.65 cm คําตอบทีถูกต ้อง : 4
2 : 5.75 cm
3 : 7.42 cm
ธิ
ธิ
4 : 8.23 cm
ข ้อที 312 :
สท
สท
วัตถุดํามีอณ
ุ หภูม ิ 1,640 K จงหาค่ากําลังแผ่ออกของรังสีความร ้อนของวัตถุ (monochromatic emissive
ิ
ิ
power, Eb) ทีความยาวคลืน 2.30 µm
งวน
งวน
ข ้อที 309 :
อ ขอส
อ ขอส
1 : 0.1187 MW/m2.µm กล่องปริมาตรปิ ดถือเป็ นวัตถุดําดังรูป มีอณ

ุ หภูมท
ิ พื
ี นผิว 1 (ผิวข ้างด ้านขวาของกล่อง) เท่ากับ 500 K, พืน
รข
รข
ผิวที 2 (ผิวกลางทัง 4 ด ้าน) เท่ากับ 400 K และพืนผิวที 3 (ผิวข ้างด ้านซ ้าย) มีอณ
ุ หภูม ิ 350 K จงหา
2 : 0.1311 MW/m2.µm
การแผ่รังสีความร ้อนสุทธิระหว่างผิวที 1 ไปยังผิวที 3
3 : 0.1562 MW/m2.µm
ก
วก
4 : 0.1996 MW/m2.µm
ิ ว
าวศ
า วศิ
สภ
สภ
ข ้อที 313 :
แผ่นโลหะมีอณ ุ หภูมผ ิ วิ 205 °C และค่า emissivity เท่ากับ 0.8 วางไว ้ในบริเวณปิ ด (enclosure) ขนาด
ใหญ่มอ ี ณ
ุ หภูม ิ 24 °C ถ ้าอัตราการแผ่รังสีความร ้อนสุทธิจากผิวเป็ น 378 W จงหาพืนทีผิวของแผ่น 1 : 38.35 kW
2 : 47.63 kW
1 : 0.188 m2 3 : 53.11 kW
2 : 0.388 m2 4 : 61.29 kW
3 : 0.588 m2
4 : 0.788 m2
ข ้อที 317 :
จงหาอัตราการแผ่รังสีความร ้อนสุทธิจากผิวที 1 ไปยังผิวที 2 ของแผ่นเรียบทีจัดวางดังรูป โดยมีคา่ view
factor, F1-2 ≈ 0.1
ข ้อที 314 :
ื ผิว 2.5 cm2 มีอต
แผ่นเรียบมีพนที ั ราการแผ่รังสีความร ้อนที 5.5 W และมีคา่ สภาพการแผ่รังสี (emissivity)
เท่ากับ 0.25 จงหาอุณหภูมผิ วิ ของแผ่น
1 : 1,016.61 K
2 : 1,116.16 K
3 : 1,126.61 K
4 : 1,216.16 K 1 : 7.15 kW
2 : 10.67 kW
คําตอบทีถูกต ้อง : 2 3 : 14.32 kW
4 : 17.09 kW
ข ้อที 315 :
กล่องปิ ดถือเป็ นวัตถุดําดังรูป มีอณ
ุ หภูมพ
ิ นผิ
ื ว 1 (ผิวล่างของกล่อง) เท่ากับ 550 K, พืนผิว 2 (ผิวบน)
เท่ากับ 400 K และพืนผิว 3 (ผิวข ้างทัง 4 ด ้าน) มีอณุ หภูม ิ 500 K จงหาการแผ่รังสีความร ้อนสุทธิระหว่าง
ผิวที 1 ไปยังผิวที 2 ข ้อที 318 :
วัตถุทรงสีเหลียมมีขนาด 10 cm x 15 cm x 18 cm อันหนึงมีอณ ุ หภูมผ
ิ วิ สมําเสมอ 180 ºC อยูใ่ นสภาวะ
สิงแวดล ้อมที 25 ºC จงหาค่าการแผ่รังสีความร ้อนของวัตถุนี ถ ้าค่าสภาพการแผ่รังสี (emissivity) มีคา่
0.48
1 : 28.88 kW
2 : 41.21 kW
ธิ
ธิ
3 : 52.73 kW
1 : 112.5 W
สท
สท
4 : 63.77 kW
2 : 126.1 W
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3 3 : 137.5 W

4 : 143.3 W
วน
วน
สง
สง
ข ้อที 316 :
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
4 : 12.6 cm
ข ้อที 319 :
วัตถุทรงกลมมีเส ้นผ่านศูนย์กลาง 18 cm อุณหภูมผ
ิ วิ 310 K โดยมีคา่ emissivity เท่ากับ 0.37 จงหาอัตรา คําตอบทีถูกต ้อง : 3
กร
กร
การแผ่รังสีความร ้อนของวัตถุ
1 : 15.6 W
ิ ว
ิ ว
2 : 17.9 W
าวศ
าวศ
ข ้อที 324 :
3 : 19.7 W วัตถุทรงสีเหลียมมีมต
ิ ิ 12 cm x 18 cm x L cm ชินหนึงมีอณุ หภูมผ
ิ วิ 150 ºC มีคา่ การแผ่รังสีความร ้อน
4 : 21.6 W จากผิวทังหมดเป็ น 140 W ถ ้าค่า emissivity ของผิวเท่ากับ 0.55 จงหาค่า L ของวัตถุนี
สภ
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3 1 : 6.5 cm
2 : 9.7 cm
3 : 14.6 cm
4 : 16.1 cm
ข ้อที 320 :
วัตถุทรงกลมพืนทีผิวเท่ากับ 0.07 m2 มีอต
ั ราการแผ่รังสีความร ้อน 75 W และค่า emissivity เท่ากับ 0.65 คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สมมติไม่คด ิ ผลการพาความร ้อน จงประมาณค่าอุณหภูมท ิ ผิ
ี วของวัตถุ
1 : 140 ºC
2 : 230 ºC ข ้อที 325 :
3 : 320 ºC วัตถุทรงสีเหลียมมีมต
ิ ิ 6 cm x 8 cm x 10 cm ถ ้าค่าอัตราการแผ่รังสีความร ้อนจากผิวทังหมดเป็ น 55 W
4 : 410 ºC และค่า emissivity ของผิวมีคา่ เท่ากับ 0.66 จงหาค่าอุณหภูมผิ วิ ของวัตถุ
1 : 105.3 ºC
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 2 : 122.5 ºC
3 : 159.9 ºC
4 : 171.6 ºC
ข ้อที 321 :
วัตถุทรงกระบอกเส ้นผ่านศูนย์กลาง 50 mm ยาว 200 mm อยูใ่ นสภาวะสิงแวดล ้อมที 22 ºC มีคา่ สภาพ คําตอบทีถูกต ้อง : 4
การแผ่รังสี (emissivity) ทุกผิวเท่ากับ 0.8 จงหาอุณหภูมผ
ิ วิ ของวัตถุ ถ ้าอัตราการแผ่รังสีความร ้อนของ
วัตถุมคี า่ เท่ากับ 55 W สมมติไม่คด
ิ การพาความร ้อน
1 : 130.7 ºC ข ้อที 326 :
2 : 157.4 ºC วัตถุทรงสีเหลียมมีมต
ิ ิ 5 cm x 10 cm x 8 cm อันหนึงมีอณ
ุ หภูมผ
ิ วิ 120 °C และค่าอัตราการแผ่รังสีความ
3 : 186.2 ºC ร ้อนจากผิวทังหมดเป็ น 35 W จงหาค่า emissivity ของวัตถุ
4 : 198.1 ºC 1 : 0.45
2 : 0.62
4 : 0.88

วัตถุทรงกระบอกเส ้นผ่านศูนย์กลาง 35 mm ยาว 80 mm มีอณ ุ หภูมผ
ิ วิ 135 ºC วางอยูใ่ นสภาวะสิง
แวดล ้อมที 20 ºC และมีอตั ราการแผ่รังสีความร ้อนออกเท่ากับ 10 W จงหาค่าสภาพ
การแผ่รังสี(emissivity)ของวัตถุ ข ้อที 327 :
1 : 0.2 จงหาค่า net heat flux ของวัตถุทบ ึ ตามรูป ถ ้าค่า irradiation, G = 4,500 W/m2, ค่า surface
2 : 0.4 absorption = 3,200 W/m2
3 : 0.6 [แนะนํ า: ใช ้สมดุลย์ความร ้อนทีผิว]
4 : 0.8
ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
ิ
ข ้อที 323 :
วัตถุทรงกระบอกมีความยาว (L) เท่ากับรัศมี (r) อุณหภูมผิ วิ เท่ากับ 128 ºC ค่า emissivity เท่ากับ 0.6 1 : 976 W/m2
งวน
งวน
และมีอต ั ราการแผ่รังสีความร ้อนออกเท่ากับ 25 W จงหาเส ้นผ่านศูนย์กลางของวัตถุนี
2 : 1,178 W/m2
1 : 4.3 cm 3 : 1,252 W/m2
2 : 7.1 cm
1,371 W/m2
อ ขอส
3 : 9.5 cm
4 :
อ ขอส
รข
รข
ข ้อที 332 :
ก
ข ้อที 328 : วัตถุดําอุณหภูมท

ิ ผิ
ี ว 180 °C จงหาค่า total emissive power ของวัตถุ
ิ ว
ิ ว
จงหาอุณหภูมผ ี า่ 1,300 W/m2, ค่า irradiation, G =

ิ วิ ของวัตถุดงั รูป ถ ้า net heat flux ของวัตถุมค 1 : 1,786 W/m2
าวศ
าวศ
5,000 W/m2 และค่า surface absorption = 3,600 W/m2 2 : 2,049 W/m2

[แนะนํ า: ใช ้สมดุลย์ความร ้อนทีผิว]
3 : 2,387 W/m2
4 : 2,506 W/m2
สภ
สภ
1 : 201.5 ºC ข ้อที 333 :

2 : 237.4 ºC จงหาอัตรารังสีความร ้อนสุทธิทผิ
ี ว 2 ได ้รับ เมือแลกเปลียนรังสีความร ้อนกับผิว 1 ดังรูป ถ ้าวิวแฟคเตอร์ F2-
3 : 245.4 ºC = 0.2 และ F2-3 = 0.16
(1,3)
4 : 266.3 ºC
ข ้อที 329 :
จงหาค่า absorptivity ของผิวอันหนึงซึงมี net heat flux = 2,300 W/m2 และมีคา่ irradiation G =
4,800 W/m2, ค่า surface absorption = 2,800 W/m2 1 : 2,259 W
2 : 2,397 W
1 : 0.45
3 : 2,468 W
2 : 0.58
4 : 2,545 W
3 : 0.63
4 : 0.68
ข ้อที 334 :
จงหาค่าฟลักความร ้อนสุทธิ (net heat flux) ของวัตถุอณ
ุ หภูมผ
ิ วิ 500K, emissivity = 0.8 ตามรูป ถ ้าค่า
ข ้อที 330 :
irradiation, G = 5,000 W/m2, ค่า surface absorption = 3,800 W/m2
จงหาค่า reflectivity ของผิววัตถุหนึงซึงมีคา่ heat flux = 1,500 W/m2 และค่า irradiation = 6,200
[แนะนํ า: ใช ้สมดุลย์ความร ้อนทีผิว]
W/m2, ค่า surface absorption = 3,400 W/m2 และค่า surface transmission = 1,900 W/m2
1 : 0.145
2 : 0.193
3 : 0.225
4 : 0.264
1 : 765 W/m2
2 : 865 W/m2
3 : 965 W/m2
ข ้อที 331 : 4 : 1,065 W/m2
ธิ
ธิ
จงหาค่า irradiation ทีตกบนผิวหนึงซึงมีคา่ absorptivity = 0.42 และ reflectivity = 0.37 โดยสามารถ

สท
สท
วัดค่า transmitted flux ได ้โดยตรงบนผิวซึงเท่ากับ 38 W/m2 คําตอบทีถูกต ้อง : 3

ิ
1 : 152 W/m2
วน
วน
2 : 164 W/m2
3 : 177 W/m2 ข ้อที 335 :
ื ผิว 0.05 m2 อุณหภูม ิ 180 °C มีการแผ่รังสีความร ้อนกับวัตถุดําอีกอันหนึงทีมีพนที
สง
สง
4 : 181 W/m2 วัตถุดํามีพนที ื ผิวเท่ากัน

และมีอณ ุ หภูม ิ 50 °C ให ้หาอัตราการแผ่รังสีความร ้อนสุทธิ
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
1 : 88.5 W
2 : 105.3 W ข ้อที 340 :
3 : 126.8 W อุณหภูมข ิ องเปลวไฟภายในเตาหลอมแห่งหนึงเป็ น 2,400 K จงหากําลังการแผ่ออกรังสีของเปลวไฟ ถ ้า
กร
กร
4 : 141.1 W emissivity = 0.95
MW/m2
ิ ว
ิ ว
1 : 1.235
าวศ
าวศ
2 : 1.523 MW/m2
3 : 1.787 MW/m2
4 : 1.925 MW/m2
ข ้อที 336 :
สภ
สภ
วัตถุ A พืนทีผิว 0.55 m2 มีการแผ่รังสีความร ้อนให ้กับวัตถุ B ทีมีพนที
ื ผิวเท่ากันมีอณ
ุ หภูม ิ 65 °C จงหา คําตอบทีถูกต ้อง : 3
อุณหภูมข ิ องวัตถุ A ถ ้าอัตราการแผ่รังสีความร ้อนสุทธิของวัตถุ A มีคา่ 1,100 W สมมุตวิ า่ เป็ นวัตถุดําทังคู่
1 : 133.4 °C
2 : 149.5 °C
ข ้อที 341 :
3 : 174.3 °C
จงเรียงลําดับความยาวคลืน (wave length) จากค่ามากไปหาน ้อย ระหว่าง คลืนวิทยุ, รังสีอน
ิ ฟราเรด และ
4 : 195.8 °C
รังสีแกมมา
คําตอบทีถูกต ้อง : 4 1 : คลืนวิทยุ, รังสีอน
ิ ฟราเรด ,รังสีแกมมา
2 : รังสีแกมมา, คลืนวิทยุ, รังสีอน ิ ฟราเรด
3 : รังสีอน
ิ ฟราเรด, รังสีแกมมา, คลืนวิทยุ
4 : รังสีอนิ ฟราเรด, คลืนวิทยุ, รังสีแกมมา
ข ้อที 337 :
วัตถุทรงกลมเส ้นผ่านศูนย์กลาง 9.6 cm อุณหภูมผ
ิ วิ 205 °C อยูใ่ นสิงแวดล ้อมที 30 °C มีอต
ั ราการแผ่รังสี คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ความร ้อน 48 W จงหาค่า emissivity ของวัตถุ
1 : 0.36
2 : 0.49
ข ้อที 342 :
3 : 0.56
อุณหภูมข ิ องเปลวไฟภายในเตาหลอมแห่งหนึงเป็ น 2,300 K สมมุตใิ ห ้เปลวไฟเป็ นวัตถุดํา จงหาค่า
4 : 0.66
ความยาวคลืน (wave length) ทีทําให ้ค่ากําลังการแผ่รังสีคลืนเดียวมีคา่ สูงสุด (maximum
monochromatic emissive power)
1 : 0.96 µm
2 : 1.26 µm
3 : 1.53 µm
ข ้อที 338 : 4 : 1.84 µm
วัตถุทรงกลมรัศมี 120 mm อุณหภูมผ ิ วิ 200 °C วางอยูใ่ นสภาวะแวดล ้อมที 25 °C จงหาอัตราการแผ่รังสี
ความร ้อนของวัตถุนี โดยทีค่า emissivity ของผิวมีคา่ 0.8 คําตอบทีถูกต ้อง : 2
1 : 410.8 W
2 : 432.4 W
3 : 458.2 W
ข ้อที 343 :
4 : 465.5 W
ดวงอาทิตย์มอ ี ณ
ุ หภูม ิ 5,800 K ถือว่าเป็ นวัตถุดํา จงหากําลังการแผ่รังสี (emissive power)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 1 : 6.416 x 106 W/m2
2 : 6.416 x 107 W/m2
3 : 6.416 x 108 W/m2
ข ้อที 339 : 4 : 6.416 x 109 W/m2
สเปกตรัมของการแผ่รังสีความร ้อนซึงถือเป็ นคลืนแม่เหล็กไฟฟ้ า ช่วงทีมองเห็นได ้มีคา่ เท่ากับข ้อใด
1:
ธิ
ธิ
สท
สท
2:
ข ้อที 344 :
ิ
ิ
วัตถุร ้อนมีอณ
ุ หภูม ิ 2,800 K ถ ้าสมมุตใิ ห ้เป็ นวัตถุดํา จงหากําลังการแผ่รังสีทงหมด
ั
3:
งวน
งวน
1 : 3.485 x 106 W/m2
4:
2 : 3.485 x 107W/m2
3 : 3.485 x 108 W/m2
อ ขอส
4 : 3.485 x อ ขอส
109 W/m2
ผนังเตาหนา 0.05 m มีคา่ การนํ าความร ้อน (k) 1.2 W/m.K ทีผิวด ้านนอกของผนังเตาอุณหภูม ิ 500K มี
รข
รข
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 ่ รรยากาศ

สภาพการแผ่รังสี (emissivity) = 0.8 มีการถ่ายเทความร ้อนในรูปของการแผ่รังสีความร ้อนสูบ
และในรูปการพาความร ้อน กําหนดให ้บรรยากาศมีอณ ุ หภูม ิ 300 K และสัมประสิทธิการพาความร ้อน 25
W/m2.K จงหาอุณหภูมผ ิ วิ ด ้านในของผนังเตา
ก
วก
ิ ว
ข ้อที 345 : 1 : 742 K

2 : 811 K
าวศ
ท่อส่งไอนํ าไม่มฉ
ี นวนหุ ้ม เดินแนวท่อผ่านห ้องซึงอากาศและผนังห ้องมีอณ ุ หภูมเิ ดียวกัน คือ 25 °C ท่อมี
เส ้นผ่านศูนย์กลาง 70 mm อุณหภูมผ ิ วิ ท่อ 180 °C ค่า emissivity ทีผิวเท่ากับ 0.8 และ สัมประสิทธิ 3 : 852 K
วศิ
2
การพาความร ้อนทีผิวท่อกับอากาศเท่ากับ 20 W/m .K จงหาอัตราการสูญเสียความร ้อนทังหมดจากผิวท่อ 4 : 804 K
า
ต่อหน่วยความยาว
สภ
สภ
1 : 953 W/m
2 : 973 W/m
3 : 1023 W/m
4 : 1053 W/m ข ้อที 350 :
ค่า spectral distribution ของการแผ่รังสีของผิวหนึงมีการกระจายรังสีดงั รูป จงหาค่ากําลังปล่อยออก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3 ทังหมดของผิวนี (total emissive power, E)
ข ้อที 346 :
แผ่นบางขนาด 0.1 m x 0.1 m วางไว ้ภายในพืนทีปิ ด (enclosure) ขนาดใหญ่ซงมี ึ อณุ หภูม ิ 300 K ผิวล่าง
แผ่นหุ ้มฉนวนและทีผิวบนควบคุมอุณหภูมค ิ งทีเท่ากับ 500 K โดยอาศัยฮีตเตอร์ไฟฟ้ า ถ ้าสภาพการแผ่รังสี
(emissivity) ของแผ่นเท่ากับ 0.8 จงคํานวณอัตราการแผ่รังสีความร ้อนสุทธิของแผ่น
1 : 13.98 W
2 : 24.67 W 1 : 1,500 W/m2
3 : 27.52 W 2 : 2,000 W/m2
4 : 30.01 W 3 : 2,500 W/m2
4 : 3,000 W/m2
ข ้อที 347 :
แผ่นบางขนาด 50 cm x 50 cm ผิวล่างของแผ่นหุ ้มฉนวนไว ้และมีความร ้อนสูญเสียออกจากผิวบนทีอัตรา
่ ากาศโดยรอบซึงมีอณ ข ้อที 351 :
400 W สูอ ุ หภูม ิ 290 K ถ ้าให ้ผิวแผ่นมีคา่ สภาพการแผ่รังสี (emissivity) 0.9 และ
ทรงกลมอลูมเิ นียมมีเส ้นผ่านศูนย์กลาง D = 2 m ดังรูป โดยการทําเป็ นสูญญากาศภายในและใช ้เป็ นห ้อง
สัมประสิทธิการพาความร ้อนทีผิวแผ่นเท่ากับ 15 W/m2.K จงหาอุณหภูมข ิ องแผ่น ทดสอบการแผ่รังสี ถ ้าผิวภายในเคลือบด ้วยผงถ่านดําที 327 °C จงหาค่า irradiation (G) บนผิวทดสอบ
1 : 342 K เล็กๆ (A1) ทีวางในห ้องทดสอบนี
2 : 362 K
3 : 382 K
4 : 402 K
ข ้อที 348 : 1 : 7,348.3 W/m2

พืนผิวขนาด 0.5 m2 มีคา่ สภาพการแผ่รังสี (emissivity) 0.8 และอุณหภูม ิ 200 °C วางไว ้ภายในบริเวณพืน 2 : 7,438.3 W/m2
ผิวปิ ดขนาดใหญ่ (enclosure) ซึงมีอณ
ุ หภูม ิ 30 °C จงหาอัตราการแผ่รังสีความร ้อนทีออกจากผิว 3 : 7,514.9 W/m2
4 : 7,648.3 W/m2
ธิ
ธิ
1 : 1,046 W
2 : 1,135 W
สท
สท
3 : 1,195 W คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ิ
4 : 1,214 W
วน
วน
ข ้อที 352 :
สง
สง
ถ ้าพลังงานรังสีความร ้อนตกกระทบบนวัตถุ คือ G = 2,200 W/m2 มีปริมาณรังสีทสะท

ี ้อนกลับ 450 W/m2
และมีการดูดกลืนรังสี 900 W/m2 จงหาค่าการผ่านทะลุ (transmissivity) ของวัตถุ
ข ้อที 349 :
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
1 : 0.38
2 : 0.44
3 : 0.48 ข ้อที 356 :
กร
กร
4 : 0.52 พืนผิวของทรงกลมร่วมศูนย์กลาง (concentric sphere) แสดงดังรูป โดยกําหนดให ้ R1 = (2/3)R2 จงหา
ค่าวิวแฟคเตอร์ F2-1
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
ข ้อที 353 :
สภ
สภ
ผิวอันหนึงมีคา่ spectral irradiation ดังรูป จงหาค่า total irradiation (G) ของผิวนี
1 : 0.333
2 : 0.444
3 : 0.545
4 : 1.000
1 : 10,000 W/m2
2 : 15,000 W/m2 ข ้อที 357 :
3 : 20,000 W/m2 ผิวอันหนึงมีอณ
ุ หภูม ิ 500 K และค่า spectral emissive power ดังรูป จงหาค่า emissivity ของผิวนี
4 : 25,000 W/m2
ข ้อที 354 :
ข ้อใดคือคุณสมบัตข
ิ องวัตถุดํา (blackbody)
1 : ดูดรังสีตกกระทบทังหมดไว ้ ไม่มก ี ารสะท ้อนกลับ 1 : 0.46
2 : แผ่รังสีได ้มากกว่าวัตถุอนๆ
ื ทุกชนิดทีอุณหภูมแิ ละความยาวคลืนเดียวกัน 2 : 0.56
3 : แผ่รังสีออกโดยไม่ขนกั ึ บทิศทาง 3 : 0.66
4 : ถูกทุกข ้อ 4 : 0.76
ข ้อที 355 : ข ้อที 358 :

พืนผิว A1 มีเส ้นผ่านศูนย์กลาง d และวางในพืนผิวปิ ดรูปครึงทรงกลม A3 ดังรูป ถ ้า d = 0.1D จงหาค่าวิว พิจารณาการแผ่รังสีของพืนผิวปิ ด A1, A2 และ A3 ดังรูป ซึงเป็ นวัตถุดํา ให ้ A1 เป็ นพืนผิวเล็กมีคา่ เท่ากับ
แฟคเตอร์ F1-3
0.05 m2 อุณหภูม ิ 1,200 K จงหาค่าอัตราการแผ่รังสีสท
ุ ธิของผิว A1 กับ A3 ซึงมีอณ
ุ หภูม ิ 800 K ถ ้า
กําหนดให ้ F13 = 0.877
ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
ิ
1 : 0.1
2 : 0.4
งวน
งวน
3 : 0.7 1 : 4.14 kW
4 : 1.0 2 : 4.42 kW
3 : 4.68 kW
อ ขอส
คําตอบทีถูกต ้อง : 4 4 : 4.85 kW อ ขอส
1 : แบบไหลสวนทางกัน (counterflow)
รข
รข
คําตอบทีถูกต ้อง : 1 2 : แบบไหลตามกัน (parallel flow)

3 : ได ้ทังแบบไหลสวนทางกันและแบบไหลตามกัน
4 : ไม่สามารถเป็ นไปได ้ทังแบบไหลสวนทางกันและแบบไหลตามกัน
ก
ก
ิ ว
ิ ว
ข ้อที 359 :
าวศ
าวศ
เตาเผาทรงกระบอกตังมีผวิ ภายในกําหนดดังรูปคือ A1 และ A2 คือผิวล่างและผิวบน ส่วน A3 คือผิวข ้าง ถ ้า

ให ้ H = D/2 และค่าวิวแฟคเตอร์ F12 = 0.38 จงหาค่าวิวแฟคเตอร์ F31
ข ้อที 363 :
สภ
สภ
เครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบท่อซ ้อนกัน ใช ้เพือหล่อเย็นนํ ามันเครืองจากอุณหภูม ิ 160 °C ให ้เหลือ 60

°C โดยใช ้นํ าเย็นทีอุณหภูม ิ 25 °C เป็ นตัวหล่อเย็นอัตราการไหลของของไหลทังคูเ่ ป็ น 2 kg/s เท่ากัน จง
หาอุณหภูมท ิ ทางออกของนํ
ี าเย็น
กําหนดให ้ค่าความร ้อนจําเพาะของนํ ามันและนํ าเท่ากับ 2,263 J/kg.K และ 4,180 J/kg.K ตามลําดับ
1 : 74.19 °C
2 : 79.14 °C
1 : 0.31 3 : 84.19 °C
2 : 0.38 4 : 89.14 °C
3 : 0.62
4 : 1.00 คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 364 :
เครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบท่อซ ้อนชนิดไหลสวนทางกันใช ้เพือให ้ความร ้อนแก่นําที 0.8 kg/s จาก
ข ้อที 360 : อุณหภูมเิ ข ้า Tc,i = 30 °C เป็ น Tc,o = 80 °C โดยใช ้นํ ามันร ้อนไหลเข ้าที Th,i = 120 °C และไหลออกที
วัตถุทรงกลมมีอณุ หภูมผ ิ วิ 125 °C อัตราการถ่ายเทความร ้อนโดยการแผ่รังสีทผิ
ี วมีคา่ 65 W ค่าสภาพ
การแผ่รังสี (emissivity) ของผิวมีคา่ 0.66 จงหาขนาดเส ้นผ่านศูนย์กลางของวัตถุนี Th,o = 85 °C โดยเครืองนีมีคา่ สัมประสิทธิการถ่ายเทความร ้อนรวม (U) = 125 W/m2.K จงหาพืนทีการ
ถ่ายเทความร ้อนของเครือง
1 : 9.58 cm
กําหนดให ้ค่าความร ้อนจําเพาะของนํ าเท่ากับ 4,180 J/kg.K
2 : 12.25 cm
3 : 14.84 cm 1 : 21.6 m2
4 : 15.07 cm 2 : 24.3 m2
3 : 28.4 m2
4 : 31.6 m2
เนือหาวิชา : 407 : 6.Application หรือ Practical Used
ข ้อที 361 : ข ้อที 365 :

นํ าถูกใช ้เป็ นของไหลทํางานทังคูใ่ นเครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบท่อซ ้อนกัน (double pipe heat เครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบไหลสวนทางกันของของไหล 2 ชนิด ซึงของไหลร ้อนมีอณ ุ หภูมเิ ข ้าและ
exchanger) โดยนํ าร ้อนไหลเข ้าที 90 °C และ 10,000 kg/hr ในขณะนํ าเย็นไหลเข ้าที 10 °C และ ออกเป็ น 65 และ 40 °C ส่วนของไหลเย็นมีอณ ุ หภูมเิ ข ้าและออกเป็ น 15 และ 30 °C จงหาค่า
20,000 kg/hr ถ ้าค่า effectiveness ของเครืองนีเป็ น 60% จงหาอัตราความร ้อนทีนํ าเย็นได ้รับ ถ ้าสมมติวา่ effectiveness ของเครืองนี ถ ้าของไหลเย็นมีคา่ ความจุน ้อยทีสุด
ค่าความร ้อนจําเพาะ (Cp) ของนํ าคงทีและเท่ากับ 4.18 kJ/kg.K
1 : 0.25
1 : 518.4 kW 2 : 0.3
2 : 534.5 kW 3 : 0.35
3 : 557.3 kW 4 : 0.4
4 : 572.4 kW
ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
ข ้อที 366 :
วน
วน
ข ้อที 362 : ในเครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบไหลตามกัน (parallel-flow, pf) และแบบไหลสวนทางกัน

เครืองแลกเปลียนความร ้อนอันหนึงใช ้นํ ามันเครืองร ้อนเพือการอุน
่ นํ า นํ ามันเครืองไหลเข ้าที 140 °C และ (counterflow, cf) ถ ้าให ้อุณหภูมท
ิ างเข ้าและทางออกของเครืองแลกเปลียนทังคูม
่ ค
ี า่ เหมือนกัน ค่าการ
สง
สง
ออกที 62 °C ส่วนนํ าไหลเข ้าที 30 °C และออกที 70 °C โดยของไหลทังคูม ่ อ

ี ต
ั ราการไหลเท่ากัน อยาก ถ่ายเทความร ้อน (Q) เหมือนกัน และค่าสัมประสิทธิการถ่ายเทความร ้อนรวม (U) เหมือนกัน ข ้อใดกล่าวถูก
ทราบว่าเครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบไหนสามารถทํางานได ้ภายใต ้เงือนไขนี ต ้องเกียวกับพืนทีถ่ายเทความร ้อน (A) ของเครืองทังสองแบบ
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
1 : A,cf > A,pf 3 : 511.6 kW
2 : A,cf < A,pf 4 : 522.6 kW
3 : A,cf = A,pf
กร
กร
4 : ไม่มค
ี ําตอบใดถูก คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
ข ้อที 371 :
ถ ้าให ้ของไหล 3 ชนิด คือ อากาศ ปรอทและนํ ามันเครือง ซึงมีคา่ พลานท์นัมเบอร์ (Pr) = 0.7, 0.025 และ
ข ้อที 367 : 1,500 ตามลําดับ แต่ละอย่างให ้ไหลผ่านแผ่นผิวเรียบร ้อน (hot flat plate) อยากทราบว่าของไหลชนิด
สภ
สภ
เครืองแลกเปลียนความร ้อนอันหนึงใช ้นํ ามันเครืองร ้อนเพือการอุน
่ นํ าซึงนํ ามันเครืองไหลเข ้าที 110 ºC และ ไหนจะให ้ค่าความหนาของชันชิดผิวของความเร็ว (velocity boundary layer thickness) โตกว่าความหนา
ออกที 60 ºC นํ าไหลเข ้าที 40 ºC และออกที 70 ºC จงหาอัตราการไหลของนํ ามันเครืองถ ้านํ ามีอต ั ราการ ของชันชิดผิวของความร ้อน (thermal boundary layer thickness)
ไหลเท่ากับ 4 kg/s กําหนดให ้ค่าความร ้อนจําเพาะของนํ ามันและนํ าเท่ากับ 2,263 J/kg.K และ 4,180 1 : อากาศ
J/kg.K ตามลําดับ 2 : ปรอท
1 : 4.03 kg/s 3 : นํ ามันเครือง
2 : 4.23 kg/s 4 : เท่ากันทังสามของไหล
3 : 4.43 kg/s
4 : 4.63 kg/s คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 372 :
ในการไหลผ่านแผ่นเรียบ ความสัมพันธ์ระหว่างความหนาของชันชิดผิวของความเร็ว (velocity boundary
ข ้อที 368 : layer thickness) และ ความหนาของชันชิดผิวของความร ้อน (thermal boundary layer thickness) ขึน
นํ าถูกใช ้เป็ นของไหลทํางานทังคูใ่ นเครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบไหลตัดกัน (cross-flow heat อยูก่ บ
ั ค่าของตัวแปรใด
exchanger) โดยนํ าร ้อนไหลเข ้าที 90 °C และ 10,000 kg/hr ในขณะนํ าเย็นไหลเข ้าที 10 °C และ 1 : เรย์โนลด์นัมเบอร์ (Re)
20,000 kg/hr ถ ้าค่า effectiveness ของเครืองนีเป็ น 60% จงหาอุณหภูมทิ างออกของนํ าเย็น ถ ้าสมมติวา่ 2 : นัสเซิลท์นัมเบอร์ (Nu)
ค่าความร ้อนจําเพาะ (Cp) ของนํ าคงทีและเท่ากับ 4.18 kJ/kg.K 3 : สัมประสิทธิความเสียดทาน (Cf)
1 : 33.8 °C 4 : พลานท์นัมเบอร์ (Pr)
2 : 34.1 °C
3 : 36.5 °C คําตอบทีถูกต ้อง : 4
4 : 37.4 °C
ข ้อที 373 :
เครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบท่อซ ้อนไหลสวนทางกัน (counter flow) มีอณ ุ หภูมข ิ องไหลร ้อนทีทาง
เข ้าและออกเท่ากับ 65 และ 40 °C ตามลําดับ และอุณหภูมข
ิ องไหลเย็นทีทางเข ้า 15 และทางออก 30
ข ้อที 369 : °C จงหาค่า Effectiveness ของเครืองแลกเปลียนความร ้อนนี ถ ้าของไหลเย็นมีคา่ อัตราความจุความร ้อน
ในการแลกเปลียนความร ้อนของหน่วยปรับคืนความร ้อน (gas-to-gas heat recovery unit) อากาศมี (heat capacity) น ้อยทีสุด
อุณหภูมไิ หลเข ้าและออกที 30 °C และ 260 °C ตามลําดับ โดยแก๊สไอเสียร ้อนมีอณ
ุ หภูมไิ หลเข ้าและออก 1 : 0.3
ที 400 °C และ 150 °C ตามลําดับ ค่าความแตกต่างของอุณหภูมเิ ฉลียเชิงล็อค(LMTD)ทีเหมาะสมผ่าน 2 : 0.4
เครืองแลกเปลียนความร ้อนนี มีคา่ ประมาณเท่าไร 3 : 0.5
1 : 150 °C 4 : 0.6
2 : 140 °C
3 : 130 °C คําตอบทีถูกต ้อง : 1
4 : 120 °C
ข ้อที 374 :
ธิ
ธิ
เครืองแลกเปลียนความร ้อนท่อซ ้อนแบบไหลสวนทางกัน (counter flow) มีนําร ้อนไหลเข ้าที 2.5 kg/s
สท
สท
และอุณหภูม ิ 100 °C ส่วนนํ าเย็นไหลเข ้าที 5.0 kg/s และอุณหภูม ิ 20 °C มีคา่ ประสิทธิผล
ข ้อที 370 : (effectiveness) = 0.8 อัตราการถ่ายเทความร ้อนทังหมดเท่ากับ 670 kW จงหาอุณหภูมท ิ างออกของนํ า
ิ
ิ
นํ าเย็นไหลเข ้าเครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบท่อซ ้อนไหลสวนทางกันที 10 °C และ 8 kg/s โดยทีมีนํา ร ้อนและนํ าเย็น โดยทีค่าความร ้อนจําเพาะ (Cp) ของนํ าเย็น = 4,178 J/kg.K และ นํ าร ้อน = 4,188
งวน
งวน
ร ้อนไหลเข ้าเครืองนีที 70 °C และ 2 kg/s ถ ้าสมมติวา่ ค่าความร ้อนจําเพาะ (Cp) ของนํ าคงทีและเท่ากับ J/kg.K
4.18 kJ/kg.K จงหาอัตราการถ่ายเทความร ้อนสูงสุดทีจะทําได ้ 1 : Tc,o = 42 °C, Th,o = 36 °C
1 : 491.6 kW 2 : Tc,o = 52 °C, Th,o = 36 °C
อ ขอส
2 : 501.6 kW อ ขอส
3 : Tc,o = 42 °C, Th,o = 23 °C 2 : 1,052 kW

รข
รข
4 : Tc,o = 52 °C, Th,o = 23 °C 3 : 1,152 kW

4 : 1,252 kW
ก

ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
ข ้อที 375 : ข ้อที 379 :

เครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบไหลตัดกัน (cross-flow) นํ าร ้อนไหลเข ้าทีอุณหภูม ิ 90 °C อัตราการไหล เครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบท่อซ ้อนชนิดไหลสวนทางกัน ใช ้เพือถ่ายเทความร ้อนจากนํ าร ้อนให ้แก่นํา
สภ
สภ
10,000 kg/h ในขณะทีนํ าเย็นไหลเข ้าทีอุณหภูม ิ 10 °C อัตราการไหล 20,000 kg/h ถ ้าค่า effectiveness เย็น โดยนํ าร ้อนมีอณ
ุ หภูมเิ ข ้าและออกเท่ากับ 260 °C และ 140 °C ตามลําดับ และนํ าเย็นมีอณ
ุ หภูมเิ ข ้า
ของเครืองเป็ น 60% จงหาอุณหภูมทิ างออกนํ าร ้อน โดยทีค่าความร ้อนจําเพาะของ นํ าเย็น, Cp,c = 4,179 และออกเท่ากับ 70 °C และ 125 °C จงหาความแตกต่างของอุณหภูมเิ ชิงล็อค (Logarithmic mean
J/kg.K และ นํ าร ้อน, Cp,h = 4,195 J/kg.K temperature difference, LMTD)
1 : 30 °C 1 : 84 °C
2 : 42 °C 2 : 89 °C
3 : 49 °C 3 : 94 °C
4 : 51 °C 4 : 99 °C
ข ้อที 376 : ข ้อที 380 :

ื ผิว 10 m2 โดยใช ้แก๊สไอเสียซึงไหลเข ้าที 2
เครืองแลกเปลียนความร ้อนไหลตัดกัน (cross-flow) มีพนที เครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบท่อซ ้อนชนิดไหลตามกัน ใช ้เพือถ่ายเทความร ้อนจากนํ าร ้อนให ้แก่นําเย็น
kg/s และ 325 °C แลกเปลียนความร ้อนกับนํ าเย็นที 0.5 kg/s อุณหภูมทิ างเข ้าและออกเท่ากับ 25 และ โดยนํ าร ้อนมีอณ
ุ หภูมเิ ข ้าและออกเท่ากับ 260 °C และ 140 °C ตามลําดับ และนํ าเย็นมีอณ
ุ หภูมเิ ข ้าและ
150 °C ตามลําดับ จงหาค่าสัมประสิทธิการถ่ายเทความร ้อนรวม (U) ถ ้าค่าตัวประกอบแก ้ไข (LMTD) F = ออกเท่ากับ 70 °C และ 125 °C จงหาความแตกต่างของอุณหภูมเิ ชิงล็อค (Logarithmic mean
0.94 โดยทีค่า Cp ของนํ าและอากาศ เท่ากับ 4,203 J/kg.K และ 1,040 J/kg.K ตามลําดับ temperature difference, LMTD)
1 : 64.5 °C
1 : 145.89 W/m2.K 2 : 68.9 °C
2 : 150.36 W/m2.K 3 : 72.3 °C
3 : 155.45 W/m2.K 4 : 76.7 °C
4 : 160.28 W/m2.K
ข ้อที 381 :
ข ้อที 377 : ก๊าซไอเสียร ้อนไหลเข ้าท่อมีครีบของเครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบไหลตัดกัน (cross-flow) ที 300 °C
เครืองแลกเปลียนความร ้อนถูกออกแบบเพือหล่อเย็นสารละลายเอททิลแอลกอฮอล์ (ethyl alcohol และออกที 100 °C เพือใช ้ให ้ความร ้อนแก่นําอัดตัวที 1 kg/s จาก 35 °C เป็ น 125 °C จงหาอัตราการ
solution) ซึงเอททิลแอลกอฮอล์ ไหลเข ้าที 8.7 kg/s มีอณ ุ หภูมเิ ข ้าและออกเป็ น 75 และ 45 °C ตาม ถ่ายเทความร ้อนสูงสุด (maximum heat transfer rate)
ลําดับ โดยใช ้นํ าเป็ นสารหล่อเย็นไหลเข ้าที 9.6 kg/s และ 20 °C จงหาอุณหภูมท ิ างออกของนํ า กําหนดให ้ค่าความร ้อนจําเพาะของก๊าซไอเสียและนํ าเท่ากับ 1,000 J/kg.°C และ 4,197 J/kg.°C ตาม
กําหนดให ้ Cp,h = 3,840 J/kg.°C, Cp,c = 4,180 J/kg.°C ลําดับ
1 : 0.33 MW
1 : 43 °C 2 : 0.48 MW
2 : 45 °C 3 : 0.50 MW
3 : 47 °C 4 : 0.63 MW
4 : 49 °C
ธิ
ธิ
สท
สท
ข ้อที 382 :
ิ
ข ้อที 378 : ก๊าซไอเสียร ้อนไหลเข ้าท่อมีครีบของเครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบไหลตัดกัน (cross-flow) ที 300 °C

เครืองแลกเปลียนความร ้อนโดยของไหลร ้อน ไหลเข ้าที 10.0 kg/s มีอณ ุ หภูมเิ ข ้าและออก เป็ น 70 และ และออกที 100 °C เพือใช ้ให ้ความร ้อนแก่นําอัดตัวที 1 kg/s จาก 35 °C เป็ น 125 °C ค่า U ถือตามพืนที
วน
วน
40 °C ตามลําดับ โดยใช ้นํ าเป็ นสารหล่อเย็นไหลเข ้าที 10.5 kg/s และ 20 °C จงหาอัตราการถ่ายเทความ
ผิวด ้านก๊าซเป็ น 100 W/m2.°C และ NTU = 2.1 จงหาพืนทีผิวถ่ายเทความร ้อนด ้านก๊าซ(Ah)
ร ้อนทีให ้แก่นําเย็น
สง
สง
กําหนดให ้ Cp,h = 3,840 J/kg.°C, Cp,c = 4,180 J/kg.°C กําหนดให ้ค่าความร ้อนจําเพาะของก๊าซไอเสียและนํ าเท่ากับ 1000 J/kg.°C และ 4197 J/kg.°C ตามลําดับ
1 : 1,002 kW 1 : 33.8 m2
ขอ
ขอ
ขอ
ขอ
2 : 35.9 m2 1 : 2.25 kg/s
3 : 39.7 m2 2 : 2.5 kg/s
3 : 2.75 kg/s
กร
กร
4 : 41.4 m2
4 : 3.0 kg/s
ิ ว
ิ ว
าวศ
าวศ
ข ้อที 383 :
ข ้อที 387 :
สภ
สภ
เครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบไหลตัดกัน โดยมีคา่ U และพืนทีตามด ้านก๊าซเป็ น 100 W/m2.°C และ 40 เครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบไหลตัดกัน (cross-flow) ถูกออกแบบเพือทําการหล่อเย็นนํ าร ้อน [Cp =
m2 ตามลําดับ โดยมีนําเย็นไหลเข ้าที 1 kg/s และ 35 °C แลกเปลียนกับก๊าซร ้อนซึงไหลเข ้าที 1.5 kg/s
4,180 J/kg.°C] ซึงไหลเข ้าที 0.25 kg/s และ 90 °C โดยใช ้อากาศเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp = 1,005 J/kg.
และ 250 °C จงหาค่า NTU
กําหนดให ้ค่าความร ้อนจําเพาะของก๊าซร ้อนและนํ าเท่ากับ 1,000 J/kg.°C และ 4,197 J/kg.°C ตามลําดับ °C] อากาศไหลเข ้าที 15 °C และ 2.0 kg/s โดยทีค่าสัมประสิทธิการถ่ายเทความร ้อนรวม (overall heat
(NTU = UA/Cmin) transfer coefficient) = 250 W/m2.°C จงหาพืนทีถ่ายเทความร ้อน โดยให ้ค่า NTU = 2.0
1 : 1.52 1 : 6.54 m2
2 : 2.67 2 : 8.36 m2
3 : 3.42 3 : 10.37 m2
4 : 4.35
4 : 12.25 m2
ข ้อที 384 :
ข ้อที 388 :
ก๊าซไอเสียร ้อนไหลเข ้าท่อของเครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบไหลตัดกัน (cross-flow) ที 1.5 kg/s และ
เครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบไหลตัดกัน (cross-flow) ถูกออกแบบให ้หล่อเย็นนํ าร ้อน [Cp = 4,180
250 °C เพือใช ้ให ้ความร ้อนแก่นําอัดตัวทีอัตราการไหล 1 kg/s และ 35 °C จงหาอัตราการถ่ายเทความ
ร ้อนของเครืองนี โดยทีค่า effectiveness = 0.82 และกําหนดให ้ค่าความร ้อนจําเพาะของก๊าซร ้อนและนํ า J/kg.°C] ซึงไหลเข ้าที 0.25 kg/s และ 90 °C โดยใช ้อากาศเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp = 1,005 J/kg.°C] ซึง
เท่ากับ 1,000 J/kg.°C และ 4,197 J/kg.°C ตามลําดับ ไหลเข ้าที 15 °C และ 2.0 kg/s จงคํานวณหาอุณหภูมน
ิ ํ าทีทางออก ถ ้าค่า effectiveness = 0.72
1 : 0.185 MW 1 : 36 °C
2 : 0.225 MW 2 : 38 °C
3 : 0.265 MW 3 : 40 °C
4 : 0.295 MW 4 : 42 °C
ข ้อที 385 : ข ้อที 389 :

นํ ามันร ้อน (hot oil) ที 100 °C ใช ้ทําให ้อากาศร ้อนในเครืองแลกเปลียนความร ้อน shell-and-tube และ เครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบไหลตัดกัน (cross-flow) ถูกออกแบบให ้หล่อเย็นนํ าร ้อน [Cp = 4,180
อากาศไหลใน shell ที 2.0 kg/s ค่าความร ้อนจําเพาะของอากาศเป็ น 1,009 J/kg.°C ถูกทําให ้ร ้อนจาก 20
J/kg.°C] ซึงไหลเข ้าที 0.25 kg/s และ 90 °C โดยใช ้อากาศเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp = 1,005 J/kg.°C] ซึง
เป็ น 80 °C ค่าความร ้อนจําเพาะของนํ ามันเป็ น 2,100 J/kg.°C และอัตราการไหลของนํ ามันเป็ น 3 kg/s
จงหา Effectiveness ไหลเข ้าที 15 °C และ 2.0 kg/s จงคํานวณหาอุณหภูมอ
ิ ากาศทีทางออก ถ ้าค่า effectiveness = 0.72
1 : 0.67 1 : 34.6 °C
2 : 0.70 2 : 37.5 °C
3 : 0.72 3 : 40.2 °C
4 : 0.75 4 : 43.1 °C

ธิ
ธิ
สท
สท
ิ
ิ
ข ้อที 386 : ข ้อที 390 :
งวน
งวน
นํ ามันร ้อน (hot oil) ใช ้ทําให ้อากาศร ้อนในเครืองแลกเปลียนความร ้อน shell-and-tube โดยนํ ามันไหลใน เครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบไหลสวนทางกัน (counter-flow) ถูกออกแบบให ้หล่อเย็นนํ ามัน [Cp =
ท่อ 6 กลับ ไหลเข ้าที 100 °C และออกที 80 °C อากาศไหลเข ้าใน shell เทียวเดียวที 2.0 kg/s และ 2,000 J/kg.K] ซึงไหลเข ้าที 2 kg/s และ 100 °C โดยใช ้นํ าเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp = 4,170 J/kg.K] ซึง
20 °C ถูกทําให ้ร ้อนเป็ น 80 °C จงหาอัตราการไหลของนํ ามัน ไหลเข ้าที 20 °C และ 0.48 kg/s จงคํานวณหาอุณหภูมน
ิ ํ าทีทางออก ถ ้าค่า effectiveness = 0.82
กําหนดให ้ค่าความร ้อนจําเพาะของอากาศและนํ ามันเท่ากับ 1,009 J/kg.°C และ 2,018 J/kg.°C ตาม
อ ขอส
ลําดับ 1 : 81.3 °C อ ขอส
2 : 83.5 °C kg/s และ 20 °C สัมประสิทธิการถ่ายเทความร ้อนรวมเท่ากับ 300 W/m2.°C จงหาพืนทีการถ่ายเทความ

รข
รข
3 : 85.6 °C ร ้อนของเครือง ซึงมีคา่ NTU = 2.3

4 : 87.5 °C
1 : 58.1 m2
วก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3 2 : 61.7 m2

ิ ว
3 : 63.9 m2
าวศ
4 : 65.4 m2
วศิ
ข ้อที 391 :
า
เครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบไหลสวนทางกัน (counter-flow) ถูกออกแบบให ้หล่อเย็นนํ ามัน [Cp = คําตอบทีถูกต ้อง : 2

สภ
สภ
2,000 J/kg.K] ซึงไหลเข ้าที 2 kg/s และ 100 °C โดยใช ้นํ าเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp = 4,170 J/kg.K] ซึง
ไหลเข ้าที 20 °C และ 0.48 kg/s สัมประสิทธิการถ่ายเทความร ้อนรวม (overall heat transfer
coefficient) U = 400 W/m2.°C จงคํานวณหาพืนทีผิวทีมีการถ่ายเทความร ้อน โดยทีค่า NTU = 2.5 ข ้อที 395 :
เครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบไหลตัดกัน ถูกออกแบบให ้หล่อเย็นนํ ามันเครืองร ้อน [Cp,h = 2,300 J/kg.
1 : 10.23 m2 °C] ซึงไหลเข ้าที 3.5 kg/s และ 85 °C และใช ้นํ าเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp,c = 4,180 J/kg.°C] ไหลเข ้าที 4.9
2 : 12.51 m2
kg/s และ 20 °C สัมประสิทธิการถ่ายเทความร ้อนรวมเท่ากับ 300 W/m2.°C จงหาอุณหภูมน
ิ ํ ามันเครือง
3 : 14.36 m2
ทีทางออก ถ ้าค่า Effectiveness = 0.68
4 : 16.56 m2
1 : 36.9 °C
คําตอบทีถูกต ้อง : 2 2 : 38.3 °C
3 : 40.8 °C
4 : 42.6 °C

เครืองแลกเปลียนความร ้อน shell-and-tube ได ้ออกแบบเพือให ้ความร ้อนแก่นําซึงไหลเข ้าท่อที 1 kg/s
และ 19 °C โดยการผ่านนํ ามันเครืองร ้อนทีอุณหภูม ิ 90 °C ใน shell ของเครือง ถ ้าค่า effectiveness =
0.7 จงหาอุณหภูมน ิ ํ ามันทีออกจากเครือง
กําหนดให ้ค่าความร ้อนจําเพาะของนํ ามันและนํ าเท่ากับ 2,100 J/kg.C และ 4,180 J/kg.°C ตามลําดับ ข ้อที 396 :
เครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบไหลตัดกัน ถูกออกแบบให ้หล่อเย็นนํ ามันเครืองร ้อน [Cp,h = 2,300 J/kg.
1 : 34.5 °C
°C] ซึงไหลเข ้าที 3.5 kg/s และ 85 °C และใช ้นํ าเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp,c = 4,180 J/kg.°C] ไหลเข ้าที 4.9
2 : 36.8 °C
3 : 38.6 °C kg/s และ 20 °C สัมประสิทธิการถ่ายเทความร ้อนรวมเท่ากับ 300 W/m2.°C จงหาอุณหภูมน
ิ ํ าทีทางออก
4 : 40.3 °C ถ ้าค่า Effectiveness = 0.68
1 : 35.1 °C
2 : 37.4 °C
3 : 39.6 °C
4 : 41.3 °C
ข ้อที 393 :
เครืองแลกเปลียนความร ้อน shell-and-tube ได ้ออกแบบเพือให ้ความร ้อนแก่นําซึงไหลเข ้าท่อที 1 kg/s คําตอบทีถูกต ้อง : 2
และ 19 °C โดยการผ่านนํ ามันเครืองร ้อนทีอุณหภูม ิ 90 °C ใน shell โดยพืนทีผิวการถ่ายเทความร ้อน(A)
= 25.2 m2 และสัมประสิทธิการถ่ายเทความร ้อนรวม (overall heat transfer coefficient) U = 250
W/m2.°C จงหาค่า NTU ข ้อที 397 :
กําหนดให ้ค่าความร ้อนจําเพาะของนํ ามันและนํ าเท่ากับ 2,100 J/kg.°C และ 4,180 J/kg.°C ตามลําดับ เครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบไหลตามกัน ถูกออกแบบให ้หล่อเย็นของไหลร ้อน [Cp,h = 3,840 J/kg.
1 : 1.8 °C] ซึงไหลเข ้าที 8.7 kg/s และ 75 °C ออกที 45 °C โดยใช ้นํ าเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp,c = 4,180 J/kg.°C]
2 : 2 ซึงไหลเข ้าที 9.6 kg/s และ 15 °C ออกที 40 °C สัมประสิทธิการถ่ายเทความร ้อนรวมเท่ากับ 500
3 : 2.2
W/m2.°C จงหาพืนทีถ่ายเทความร ้อน
4 : 2.4
1 : 75.17 m2
ธิ
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2 2 : 80.28 m2

สท
สท
3 : 85.56 m2
ิ
4 : 90.68 m2
วน
วน
ข ้อที 394 :
เครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบไหลตัดกัน ถูกออกแบบให ้หล่อเย็นนํ ามันเครืองร ้อน [Cp,h = 2,300 J/kg. คําตอบทีถูกต ้อง : 4
°C] ซึงไหลเข ้าที 3.5 kg/s และ 85 °C และใช ้นํ าเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp,c = 4,180 J/kg.°C] ไหลเข ้าที 4.9
สง
สง
ข ้อที 398 :
ขอ
ขอ
ขอ
เครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบไหลสวนทางกัน ถูกออกแบบให ้หล่อเย็นของไหลร ้อน [Cp,h = 3,840
J/kg.°C] ซึงไหลเข ้าที 8.7 kg/s และ 75 °C ออกที 45 °C โดยใช ้นํ าเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp,c = 4,180
กร
J/kg.°C] ซึงไหลเข ้าที 9.6 kg/s และ 15 °C ออกที 40 °C ค่าสัมประสิทธิการถ่ายเทความร ้อนรวมเท่ากับ
500 W/m2.°C จงหาพืนทีถ่ายเทความร ้อน
ิ ว
1 : 60.02 m2
2
3
:
: าวศ
61.85
62.26
m2
m2
4 : 63.14 m2
สภ
ข ้อที 399 :
เครืองแลกเปลียนความร ้อนแบบไหลสวนทางกัน ใช ้เพือหล่อเย็นนํ ามันร ้อนซึงไหลเข ้าที 120 °C ออกที
85 °C โดยใช ้นํ าเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp,c = 4,180 J/kg.°C] ซึงไหลเข ้าที 0.8 kg/s และ 30 °C ไหลออกที
80 °C ถ ้าสัมประสิทธิการถ่ายเทความร ้อนรวม 125 W/m2.°C จงคํานวณพืนทีผิวถ่ายเทความร ้อน
1 : 28.4 m2
2 : 30.5 m2
3 : 32.1 m2
4 : 34.3 m2
ข ้อที 400 :
เครืองแลกเปลียนความร ้อน shell-and-tube ใช ้เพือให ้ความร ้อนแก่นําซึงไหลเข ้าที 0.7 kg/s และ 20 °C
ไหลออกที 65 °C โดยใน shell มีนํามันเครืองร ้อนไหลเข ้าที 120 °C และออกที 60 °C นํ านันจะไหลใน
ท่อผนังบางจํานวน 10 ท่อทีมีเส ้นผ่านศูนย์กลาง 25 mm ถ ้าค่า U = 400 W/m2.°C จงหาความยาวของ
ท่อ โดยค่าความร ้อนจําเพาะของนํ ามันและนํ าเท่ากับ 2,100 และ 4,197 J/kg.°C ตามลําดับ ค่าตัวประกอบ
แก ้ไข(LMTD), F=0.9
1 : 9.26 m
2 : 9.93 m
3 : 10.35 m
4 : 10.94 m
สภาวิศวกร 487/1 ซอย รามคําแหง 39 (เทพลีลา 1) แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310 สาย
ด่วน 1303 โทรสาร 02-935-6695
@ สงวนลิขสิทธิ 2555 สภาวิศวกร : ติดต่อสภาวิศวกร | Contact

7 Heat Transfer

Uploaded by

Document Information

Copyright

Available Formats

Share this document

Share or Embed Document

Sharing Options

Did you find this document useful?

Is this content inappropriate?

Copyright:

Available Formats

7 Heat Transfer

Uploaded by

Copyright:

Available Formats

ขอ

1 : 25.0 K/W ข ้อที 8 : อ ขอส

จงหาอัตราความร ้อนทีถ่ายเทผ่านผนังแผ่นอิฐในสภาวะคงตัว สําหรับอิฐทีมีความหนา 15 เซนติเมตร กว ้าง

1 : 177 W คําตอบทีถูกต ้อง : 3

คําตอบทีถูกต ้อง : 1 ข ้อที 25 :

1 : 46.4 องศาเซลเซียส 1 : 38.82 W/m

1 : 70.77 W/m 1 : 0.34

คําตอบทีถูกต ้อง : 1 คําตอบทีถูกต ้อง : 4

คําตอบทีถูกต ้อง : 4 2 : 5.73 K/W.m

การถ่ายเทความร ้อนจากของไหลทีมีอณ ุ หภูมส

คําตอบทีถูกต ้อง : 1 คําตอบทีถูกต ้อง : 1

คําตอบทีถูกต ้อง : 2 คําตอบทีถูกต ้อง : 2

ข ้อที 60 : คําตอบทีถูกต ้อง : 1

คําตอบทีถูกต ้อง : 1 คําตอบทีถูกต ้อง : 2

คําตอบทีถูกต ้อง : 3 คําตอบทีถูกต ้อง : 4

มีหน่วยตามข ้อใด อ ขอส

1 : One – dimensional conduction

1 : Thermal diffusivity คําตอบทีถูกต ้อง : 4

3 : ผนังทีทําจากอลูมิเนี ยมทีอุณหภูมิ -100 องศาเซลเซี ยส

คําตอบทีถูกต ้อง : 4 4: ค่าความต้านทานความร้อนทีผิวรอยต่อ มีค่าลดลงเมือเพิมความดันทีผิวรอยต่อ (interface pressure)

เนือหาวิชา : 403 : 2.การนํ าความร ้อนในหนึงมิตส

2 : การถ่ายเทความร้อนผ่านผิวรอยต่อ ส่ วนมากเป็ นการนําความร้อน

คําตอบทีถูกต ้อง : 4 3 : ประมาณ 30.75 นาที

4 : ประมาณ 6.75 นาที

ค่าตัวเลขใดทีใช ้เป็ นตัวกําหนดว่าการคํานวณการนํ าความร ้อนในสภาวะไม่คงตัวในหนึงมิต ิ สามารถใช ้วิธ ี

คําตอบทีถูกต ้อง : 4 การวิเคราะห์ด ้วยวิธกี ารลัมพ์ (Lumped system analysis) ได ้

2 : Bi (Biot number) มีคา่ มากกว่า 0.1

1 : ประมาณ 1.99 นาที

4 : ใช ้ได ้สําหรับเงือนไขขอบเขตแบบการพาความร ้อนเท่านัน

1 : ได ้ โดยทีค่า Bi (Biot number) มีคา่ 0.0139 ข ้อที 137 :

คําตอบทีถูกต ้อง : 4 คําตอบทีถูกต ้อง : 1

ข ้อที 138 : ข ้อที 143 :

1 : ตัวแปร m เป็ นตัวแปรไร ้หน่วย

ค่าสูงขึน กรณีใดในข ้อต่อไปนีทําให ้อุณหภูมข ิ องวัตถุลม

1 : สัมประสิทธิการพาความร ้อนให ้แก่วต ั ถุลม

4 : สัดส่วนระหว่างปริมาตร / พืนทีผิวของวัตถุมค ี า่ สูง

คําตอบทีถูกต ้อง : 4 1 : การวิเคราะห์ด ้วยวิธก

4 : วัตถุทพืี นทีผิวสัมผัสทีกว ้างและปริมาตรน ้อย อ ขอส

คําตอบทีถูกต ้อง : 1 ข ้อที 157 :

ข ้อที 155 : ข ้อที 158 :

3 : 0.089 1 : 4.65 นาที

คําตอบทีถูกต ้อง : 3 4 : 7.63 นาที

เนือหาวิชา : 404 : 3.การพาความร ้อนแบบบังคับ 3 : 1.33a

3 : การพาความร ้อนแบบบังคับเกียวข ้องกับการเคลือนทีของของไหล

4 : การพาความร ้อนแบบบังคับส่วนมากเกิดได ้ดีในของแข็งมากกว่านํ า คําตอบทีถูกต ้อง : 4

ข ้อใดกล่าวผิดเกียวกับการพาความร ้อนแบบบังคับ mean temperature difference นี

1 : ค่าตัวเลขนัทเซล (Nusselt number) มีคา่ สูงในการไหลแบบราบเรียบ เมือเทียบกับการไหลแบบปั น

ข ้อใดกล่าวผิดเกียวกับค่าสัมประสิทธิของการถ่ายเทความร ้อน(Heat transfer coefficient; h) ข ้อที 174 :

2 : ไม่เป็ นคุณสมบัตข ิ องของไหล

3 : 250 kJ/kg คําตอบทีถูกต ้อง : 2

คําตอบทีถูกต ้อง : 1 อ ขอส

1 : เมือการไหลเป็ น Turbulent และของไหลนันได ้รับความร ้อนจากผนัง

ข ้อที 190 : คําตอบทีถูกต ้อง : 1

1 : ค่าตัวเลขของเรย์โนล (Reynolds Number) = 21,258

ข ้อที 205 : ข ้อที 208 :

ข ้อที 218 : คําตอบทีถูกต ้อง : 3

1: 2 : ใช ้กับการไหลแบบปั นป่ วนเท่านัน

3: 4 : ใช ้ได ้เฉพาะกรณีผนังเรียบ (Smooth pipe) เท่านัน

1 : สําหรับการไหลแบบราบเรียบ (Laminar flow) ภายในท่อค่า Nusselt number มีคา่ คงที

3 : ค่า Nusselt number สําหรับการไหลแบบราบเรียบ (Laminar flow)ภายในท่อสําหรับเงือนไข 3 : 1,395.28

Constant wall temperature มีคา่ น ้อยกว่ากรณี Constant wall heat flux

คําตอบทีถูกต ้อง : 2 1 : Logarithmic mean temperature difference

1 : ค่าตัวเลขพล ้าน (Pr) และค่าตัวเลขเรย์โนลด์ (Re)

3 : ค่าตัวเลขพล ้าน (Pr) และค่าตัวเลขแกรชอฟ (Gr)