Professional Documents
Culture Documents
Chemistry of Crystal
1
Gemology -Crystallography-
1. Chemical bonding
NaCl
2
Gemology -Crystallography-
3
Gemology -Crystallography-
สัญลักษณ์และประจุ รัศมีของไอออน
เลขอะตอม ธาตุ
ของไอออน (Å)
4 Beryllium Be2+ 0.35
5 Boron B3+ 0.23
6 Carbon C4+ 0.15
8 Oxygen O2- 1.40
9 Fluorine F- 1.36
12 Magnesium Mg2+ 0.66
13 Aluminium Al3+ 0.51
14 Silicon Si4+ 0.40
19 Potassium K+ 1.33
20 Calcium Ca2+ 0.99
22 Titanium Ti4+ 0.68
23 Vanadium V2+ 0.74
24 Chromium Cr3+ 0.63
25 Manganese Mn2+ , Mn3+ 0.80 , 0.66
26 Iron Fe2+ , Fe3+ 0.74 , 0.64
28 Nickel Ni2+ 0.69
29 Copper Cu+ 0.96
40 Zirconium Zr4+ 0.79
2. Closet packing
4
Gemology -Crystallography-
การจัดเรียงอนุ ภาคแบบจัดตัวชิดทีส่ ุดทัง้ 2 แบบนี้ แต่ละอนุ ภาคจะสัมผัสกับอนุ ภาคอื่น ๆ อีก 12 อนุ ภาค
โดยอยู่ห่างเท่า ๆ กัน มี 6 อนุ ภาคอยู่ในระนาบเดียวกัน อีก 3 อนุ ภาคอยู่ชนั ้ บท อีก 3 อนุ ภาคอยู่ชนั ้ ล่าง จํานวน
อนุ ภาคทีใ่ กล้ทส่ี ุดของแต่ละอนุ ภาคในผลึกนัน้ เรียกว่า เลขโคออร์ดเิ นชัน (coordination number) ในกรณีน้ีเลขโค
ออร์ดเิ นชันเป็ น 12
3. Phenomena
1. Isomorphism – ภาวะรูปร่างเหมือนกัน
ปรากฏการณ์ทผ่ี ลึกสองชนิดหรือมากกว่าสองชนิด มีองค์ประกอบทางเคมีแตกต่างกัน แต่มโี ครงสร้าง
ผลึกเป็ นแบบเดียวกัน เช่น โซเดียมคลอไรด์ (NaCl) กับ แมกนีเซียมออกไซด์ (MgO) ซึ่งเป็ นพลอย
สังเคราะห์ชนิดหนึ่ง มีช่อื เรียกว่า Periclase มีโครงสร้างผลึกเหมือนกันแต่มสี มบัตติ ่างกัน เช่น NaCl
ละลายนํ้าได้ ความหนาแน่นตํ่า ความแข็งน้อย จุดหลอมเหลวตํ่า ในขณะที่ MgO ละลายนํ้าไม่ได้ ความ
หนาแน่ นสูง ความแข็งมากกว่า จุดหลอมเหลวสูงกว่า ผลึกทัง้ สองมีโครงสร้างผลึกคล้ายคลึงกัน หรือ
5
Gemology -Crystallography-
NaCl MgO
2. Polymorphism – ภาวะรูปร่างหลายแบบ
ปรากฏการณ์ท่ีผลึกชนิดหนึ่ง มีโครงสร้างผลึกได้สองหรือมากกว่าสองแบบ เนื่องจากพันธะระหว่าง
อะตอมและการจัดเรียงอนุภาคในผลึกแตกต่างกัน โดยอาจเกิดจากสภาวะทีแ่ ตกต่างกันในขณะตกผลึก
เช่น แคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) จะรู้จกั ในชื่อของแร่ท่ีเป็ นอัญมณี 2 ชนิด คือ Calcite และ
Aragonite ซึง่ มีโครงสร้างทีแ่ ตกต่างกันภายใต้สภาวะทีแ่ ตกต่างกัน โดย Calcite มีโครงสร้างผลึกอยู่
ในระบบ Hexagonal ระบบย่อย Trigonal ส่วน Aragonite มีโครงสร้างผลึกเป็ น Orthorhombic
อีกตัวอย่างหนึ่ง คือ Diamond และ Graphite ที่ต่างก็ประกอบด้วยอะตอมของคาร์บอกน แต่ มี
โครงสร้างต่างกัน
Calcite Aragonite
6
Gemology -Crystallography-
7
Gemology -Crystallography-
Crystallography
1. Type of crystal
ผลึกทีเ่ จริญเติบโตขึน้ มาจะมีลกั ษณะทีแ่ ตกต่างกัน 2 ลักษณะ คือ
1. Single crystal – ผลึกเดีย่ ว
เป็ นผลึกที่มกี ารเรียงตัวของอะตอมที่ยดึ ติดกันเป็ นระเบียบในสามมิติ สามารถมองเห็นเป็ นผลึก
โดด ๆ เช่น ผลึก Quartz ผลึก Diamond ผลึก Corundum ซึง่ มีรปู ร่างต่าง ๆ กัน
2. Aggregate หรือ Polycrystalline – ผลึกรวม
เป็ นกลุม่ ผลึกรวมอยูด่ ว้ ยกันโดยจัดเรียงตัวอย่างไม่เป็ นระเบียบ มีการเบียดเสียดกันแน่น ผลึกรวม
แบ่งเป็ น 2 กลุ่ม ได้แก่
1) Microcrystalline material – เป็ นกลุม ่ ผลึกเล็กจัดเรียงตัวไม่เป็ นระเบียบ ไม่สามารถมองเห็น
ด้วยตาเปล่า ต้องมองผ่านกล้องจุลทรรศน์ เช่น Nephrite
8
Gemology -Crystallography-
2. Bravais lattice
โครงสร้างของผลึกประกอบด้วยการเรียงตัวของอนุ ภาคในผลึก ซึ่งอาจเป็ น อะตอม โมเลกุล หรือไอออน
อย่างเป็ นระเบียบในสามมิติ มีแบบแผนทีแ่ น่นอน การเรียงตัวของจุดทีต่ าํ แหน่งซึง่ โครงข่ายของเส้นตรงตัดกันในปริภูมิ
ถูก เรียกว่ า แลตทิซปริภู มิ (space lattices) การเรีย งตั วในสามมิติโดยไม่ส้นิ สุด และแต่ ล ะจุ ดในปริ ภูมิจ ะมี
สภาพแวดล้อมทีเ่ หมือนกันภายในผลึก จุดทีก่ ล่าวถึงจะเป็ นตําแหน่งของอนุภาคในผลึกนันเอง ่ สําหรับส่วนทีเ่ ล็กทีส่ ดุ
ของ space lattices ทีส่ ามารถใช้เป็ นตัวแทนการจัดเรียงอนุภาคในผลึกชนิดนัน้ ๆ เรียกว่า Unit cell เป็ นส่วนเล็ก ซึง่
ยังคงสมบัตแิ ละลักษณะเหมือนผลึกนัน้ อยู่
โดยเวกเตอร์ทงั ้ สามมีความยาวเป็ น a, b และ c ตามแกน X, Y และ Z ตามลําดับ โดยใช้ α, β และ γ เป็ นมุมระหว่าง
ด้าน b กับ c, a กับ c และ a กับ b ตามลําดับ เรียกด้าน a , b , c และมุมระหว่างด้าน α, β และ γ ว่าค่าคงตัวแลตทิซ
(lattice constants)
9
Gemology -Crystallography-
3. Crystal face
10
Gemology -Crystallography-
ผลึก Peridot
11
Gemology -Crystallography-
ผลึกแร่อญ
ั มณีบางชนิด หน้ า ผลึกหลายหน้ าพยายามเกิดในพื้นที่เ ดียวกัน จึงเกิดเป็ นหน้ าผลึกแคบ ๆ
เติบโตมาด้วยกัน ทําให้เกิดเป็ นแนวร่องขนานบนผลึก (Striations) พบได้ในผลึก Tourmaline, Quartz
อย่ า งไรก็ต าม ไม่ ว่ า อั ตราการเติบ โตของผลึก จะมีค วามแตกต่ า งกั นอย่ า งไร รูป ร่ า งของผลึก ที่ไ ด้จ ะมี
ความสัมพันธ์กบั รูปร่างของ unit cell การเกิดหน้าของผลึกจะสัมพันธ์กบั โครงสร้างเครือข่ายของ lattice
4. Crystal symmetry
ผลึกประกอบด้วยหน้าผลึกและมุมระหว่างหน้าผลึกที่เป็ นระเบียบแบบแผน เมื่อพิจารณาแล้วจะเห็นว่ามี
ความสมมาตรอย่างใดอย่างหนึ่งเสมอ รูปร่างภายนอกของผลึกจะแสดงสมมาตรของผลึก (crystal symmetry) มี
ด้วยกัน 3 ประเภท คือ
1) Planar symmetry – สมมาตรเชิงระนาบ
คือระนาบจินตนาการที่แบ่งรูปผลึกออกเป็ น 2 ส่วนที่เหมือนกัน โดยแต่ละส่วนจะเป็ นภาพเสมือน
สะท้อนจากกระจกเงาของอีกส่วนหนึ่ง ดังรูป
12
Gemology -Crystallography-
13
Gemology -Crystallography-
14
Gemology -Crystallography-
6. Crystal system
มีการแบ่งระบบผลึก (crystal system) ออกเป็ น 6 ระบบ กําหนดให้ a, b และ c เป็ นแกนผลึก โดย a เป็ น
แกนทางด้านหน้า-หลัง b เป็ นแกนทางขวา-ซ้าย และ c เป็ นแกนทางแนวดิง่ บน-ล่าง ในกรณีทแ่ี กนยาวเท่ากันจะใช้
สัญลักษณ a1, a2 และ a3 จะได้กล่าวถึงลักษณะของแกนผลึก มุมทีแ่ กนผลึกตัดกัน α, β, γ และแร่อญ
ั มณีทพ่ี บได้ใน
แต่ละระบบดังต่อไปนี้
15
Gemology -Crystallography-
แร่ทจ่ี ดั อยู่ในระบบนี้ได้แก่ Diamond, Garnet, Spinel, Synthetic Spinel, YAG, Synthetic Cubic
Zirconia หรือ CZ, Strontium Titanate
a. Cube เป็ นรูปลูกเต๋า 6 หน้า เช่น Diamond, Fluorite, Pyrite, Cuprite เป็ นต้น
16
Gemology -Crystallography-
2) Tetragonal System
แกนผลึก : มี 3 แกน
ความยาวของแกน : มี 2 แกนยาวเท่ากัน 1 แกนยาว หรือสัน้ กว่า a = b ≠ c
มุมทีแ่ กนตัดกัน : α = β = γ = 90°
a. Square prism เช่น Diamond, Zircon, Synthetic Rutile, Cassiterite เป็ นต้น
3) Hexagonal System
แกนผลึก : มี 4 แกน
ความยาวของแกน : 3 แกนยาวเท่า กันอยูใ่ นระนาบเดียวกัน a1 = a2 = a3
1 แกนยาวหรือสัน้ กว่า ตัง้ ฉากกับฐาน a = b ≠ c
มุมทีแ่ กนตัดกัน : 3 แกนทีอ่ ยูใ่ นระนาบเดียวกันตัดกัน 60°
ส่วนแกนที่ 4 ตัง้ ฉากกับระนาบนี้ α = β = 90° , γ = 120°
17
Gemology -Crystallography-
18
Gemology -Crystallography-
g. Botryoidal-พวงองุน
่ เช่น Smithsonite
19
Gemology -Crystallography-
5) Orthorhombic System
แกนผลึก : มี 3 แกน
ความยาวของแกน : ไม่เท่ากันทัง้ 3 แกน a ≠ b ≠ c
มุมทีแ่ กนตัดกัน : ทุกแกนตัดกัน 90° , α = β = γ = 90°
แร่ทจ่ี ดั อยูใ่ นระบบนี้ได้แก่ Peridot, Topaz, Iolite, Chrysoberyl, Zoisite, Andalusite เป็ นต้น
20
Gemology -Crystallography-
6) Monoclicnic System
แกนผลึก : มี 3 แกน
ความยาวของแกน : ทัง้ 3 แกนยาวไม่เท่ากัน a ≠ b ≠ c
มุมทีแ่ กนตัดกัน : 2 แกนตัดกัน 90° อีก 1 แกนตัดกับ 2 แกนแรกเป็ นมุมเอียง
α = γ = 90° , β ≠ 90°
แฮบิตทีพ่ บในระบบนี้คอื
21
Gemology -Crystallography-
7) Triclinic System
แกนผลึก : มี 3 แกน
ความยาวของแกน : 3 แกนยาวไม่เท่ากัน a ≠ b ≠ c
มุมทีแ่ กนตัดกัน : ทุกแกนตัดกันเป็ นมุมเอียง , α ≠ β ≠ γ ≠ 90°
แฮบิตทีพ่ บในระบบนี้คอื
Axinite Rhodonite
c. Bladed เช่น Kyanite เป็ นต้น
22