Professional Documents
Culture Documents
โดย
นางสาวเกศกนก ใจวัง
ตาแหน่ งครู
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ พะเยา
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
หัวข ้อไฟฟ้ าเคมี
9.1 ปฏิกิริยารีดอกซ์
9.2 การดุลสมการรีดอกซ์
9.3 เซลล์ไฟฟ้ าเคมี
9.3.1 เซลล์กลั วานิก
9.3.2 เซลล์อิเล็กโทรไลต์
9.3.3 การผุกร่อนของโลหะและการป้ องกัน
9.4 ความก้าวหน้ าทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเซลล์ไฟฟ้ า
เคมี
ไฟฟ้ าเคมี
การเปลี่ยนแปลงพลังงาน
จากปฏิกิริยาเคมี พลังงานไฟฟ้ า และ
จากพลังงานไฟฟ้ า ปฏิกิริยาเคมี
ปฏิกิริยารีดอกซ์ (Redox)
การถ่ายเทอิเล็กตรอน
ให้และรับอิเล็กตรอนเกิดขึน้ พร้อมกัน
จานวนอิเล็กตรอนที่ให้และรับต้องมีจานวนเท่ากัน
ประกอบด้วย ครึ่งปฏิกิริยาออกซิเดชัน และ ครึ่งปฏิกิริยารีดกั ชันรวมกัน
Redox = Reduction + Oxidation
ทบทวนเลขออกซเิ ดชน
ั (Oxidation Number) O.N.
1. ธาตุอิสระหรือธาตุบริสทุ ธ์ ิ O.N.= 0 เช่น Na Cu O2 N2 S8
2. โลหะหมู่ I O.N. = +1 เสมอ เช่น Li + Na + K +
3. โลหะหมู่ II O.N. = +2 เสมอ เช่น Be2+ Mg2+
4. H มี O.N. = +1
ยกเว้น สารประกอบโลหะไฮไดรด์ เช่น NaH LiH KH ซึ่ง H มี O.N.= -1
5. O มี O.N. = -2
ยกเว้น - สารประกอบเปอร์ออกไซด์ เช่น H2O2 , O มี O.N.= -1
- สารประกอบซุปเปอร์ออกไซด์ เช่น NaO2 , O มี O.N. = -1/2
6. ธาตุหมู่ VII มี O.N. = -1 เช่น F- Cl- Br- I-
7. O.N.ไอออนอะตอมเดี่ยว = ประจุของไอออนนัน้
เช่น Na + มี O. N. = +1, O 2- มี O.N. = -2
8. O.N.สารประกอบ = ประจุที่แสดงไอออนนัน้ เช่น SO 4 2- มี O.N. รวม = -2, NO2 มี
O.N. รวม = 0
ั
ต ัวอย่างการหาเลขออกซเิ ดชน
Mn2O7 =2Mn +
2Mn + 7(-2) =0
2Mn = 14
Mn = +7
MnSO4 = Mn + S
Mn + (-2) = 0
Mn = +2
Oxidation or Reduction ?
1 2
H2(1 atm) 2H+ + 2e- Na+ + e- Na
หลักการดุลสมการรีดอกซ์ โดยใช้เลขออกซิเดชัน
หลักการการดุลสมการรีดอกซ์ โดยใช้ครึ่งปฏิกิริยา
1. หาเลขออกซิเดชันของแต่ละธาตุหรือไอออน (ต่อ 1 อะตอม)
2. แยกเป็ นครึง่ ปฏิกริ ยิ าออกซิเดชันและรีดกั ชัน
3. ดุลจานวนอะตอมและดุลประจุของแต่ละครึง่ ปฏิกริ ยิ า
- ดุล O ด้วย H2O
- ดุล H ด้วย H+
- ดุลประจุดว้ ยการเติม e-
4. ถ่ายเท e- ให้เท่ากัน ทัง้ ออกซิเดชันและรีดกั ชัน
(โดยการคูณไขว้จานวน e- )
5. รวมสมการเป็ นปฏิกริ ยิ ารีดอกซ์
หมายเหตุ
(ถ้าโจทย์กาหนดให้ปฏิกริ ยิ าเกิดในสารละลายเบส
ให้เติม OH- ลงไปเท่ากับจานวน H+ โดยเติมทัง้ สองข้างของสมการ
โดยฝงทีั ่ ม่ ที งั ้ OH-และ H+จะรวมกันเป็ น H2O)
การดุลโดยใช้ครึ่งปฏิกิริยารีดอกซ์ การดุลสมการรีดอกซ์
KCl
Zn Cu
anode Zn2+ Cu2+ cathode
KCl
Zn Cu
สรุปได้ว่า anode Zn2+ Cu2+ cathode
KCl
1. ขัว้ ไฟฟ้า
Zn Cu
2. สารละลายอิเล็กโทรไลต์ anode Zn2+ Cu2+ cathode
3. สะพานไอออน (สะพานเกลือ)
4. โวลต์มิเตอร์
จากส่วนประกอบข้างต้นนักเรียนคิดว่า
ขาดส่วนใดไปแล้ว เซลล์ยงั สามารถถ่ายโอนอิเล็กตรอนได้ตามปกติ
ตอบ โวลต์ มเิ ตอร์
ส่ วนประกอบของเซลล์ กัลวานิก Voltmeter
KCl
1. ขัว้ ไฟฟ้า Zn Cu
anode Zn2+ Cu2+ cathode
เป็ นแหล่งเกิดปฏิกิริยาเคมี
อาจเป็ น - โลหะจุ่มในสารละลายไอออนของโลหะนัน้ ๆ โลหะเฉือ่ ย
- แก๊สผ่านเข้าไปในสารละลายไอออนของแก๊สนัน้ ๆ เช่น
Pt , Hg, C
โดยมีโลหะเฉื่ อยเป็ นตัวให้หรือรับอิเล็กตรอน เป็นต้น
- โลหะ เกลือของโลหะและไอออนลบของเกลือ
- สารละลายไอออนบวก 2 ชนิดของโลหะชนิดเดียวกัน
มีโลหะเฉื่ อยเป็ นตัวให้และรับอิเล็กตรอน
ส่ วนประกอบของเซลล์ กัลวานิก Voltmeter
2. สารละลายอิเล็กโทรไลต์
KCl
- สารละลายเกลือของขัว้ ไฟฟ้ าทัง้ สอง
โดยขัว้ ไฟฟ้ าแต่ละชนิด Zn Cu
ต้องจุ่มอยู่ในสารละลายเกลือของมัน anode Zn2+ Cu2+ cathode
3. สะพานไอออน (สะพานเกลือ)
- เป็ นตัวเชื่อมครึ่งเซลล์ทงั ้ สองเข้าด้วยกัน
- ช่วยรักษาสมดุลของไอออนครึ่งเซลล์
- ทาจากเกลือที่ละลายน้าได้ดีที่มีไอออนบวกและลบ
เคลื่อนที่ด้วยความเร็วใกล้เคียงกัน เช่น KNO3, KCl, NH4NO3
4. โวลต์มิเตอร์
- เป็ นเครื่องมือวัดค่าศักย์ไฟฟ้ าของเซลล์
ปฏิกิริยาของเซลล์กลั วานิก Voltmeter
KCl
Zn และ Cu เรียกว่า ขัว้ ไฟฟ้ า
Zn Cu
anode Zn2+ Cu2+ cathode
หมายเหตุมเิ ตอร์ไฟฟ้าวัดทิศทางการเคลื่อนทีข่ อง e-
โดยเข็มจะเบนตามทิศทางการเคลื่อนทีข่ อง e-
การถ่ายโอนอิเล็กตรอนในเซลล์กลั วานิก
2e-
Zn2+
Cu2+
Zn Cu
anode Zn2+ Cu2+ cathode
Zn Cu
anode Zn2+ Cu2+ cathode
1. ใช้เครื่องหมาย | | แทนสะพานเกลือคันกลางปฏ
่ ิ กิริยาทัง้ สอง
2. ครึ่งเซลล์ออกซิเดชัน แอโนด อยู่ด้านซ้ายของสะพานไอออน
ครึ่งเซลล์รีดกั ชัน แคโทด อยู่ด้านขวาของสะพานไอออน
ครึ่งเซลล์ไฮโดรเจนมาตรฐาน ประกอบด้วย
- ขัว้ ไฟฟ้ าเป็ นแก๊สไฮโดรเจน ความดัน 1 บรรยากาศ
- มี Pt เป็ นสื่อให้และรับอิเล็กตรอน
- สารละลายอิเล็กโทรไลต์เป็ นกรดไฮโดรคลอริก 1 mol/l
- อุณหภูมิ 25C
และกาหนดให้ครึ่งเซลล์นี้มีศกั ย์ไฟฟ้ า 0.00 โวลต์
ศักย์ ไฟฟ้าของเซลล์และศักย์ ไฟฟ้ามาตรฐานของครึ่งเซลล์
นามาต่อกับครึ่งเซลล์ไฮโดรเจนมาตรฐาน
ถ้ าครึ่งเซลล์ มาตรฐานไฮโดรเจนให้ อเิ ล็กตรอนได้ ดีกว่ า
แรงเคลื่อนไฟฟ้าของเซลล์ , Ecell
Ecell = Ecathode - Eanode
ที่สภาวะมาตรฐาน
0 0 0
E cell = E cathode - E anode
0
***ถ้ า E cell มีค่าเป็ นบวกแสดงว่ าปฏิกริ ิยานัน้ สามารถเกิดขึน้ ได้ เอง***
ศักย์ ไฟฟ้าของเซลล์และศักย์ ไฟฟ้ามาตรฐานของครึ่งเซลล์
0.34 V
e- e- หาศักย์ ไฟฟ้าของขัว้ ไฟฟ้าทองแดง
H2(g) E = E - E
cell cathode anode
เซลล์ปฐมภูมิ เซลล์ทุติยภูมิ
ปฏิกิริยาเคมีภายในเซลล์ ปฏิกิริยาเคมีภายในเซลล์สามารถ
เกิดขึน้ อย่างสมบูรณ์ ย้อนกลับได้อีก
ทาให้เกิดปฏิกิริยาย้อนกลับไม่ได้ โดยการอัดไฟเข้าไปใหม่
ไม่สามารถนามาอัดไฟใช้ใหม่ หรือใช้ไฟหมดแล้วสามารถอัดไฟ
ใหม่ได้อีก
ตัวอย่างเซลล์ปฐมภูมิ ตัวอย่างเซลล์ทตุ ิ ยภูมิ
• ถ่านไฟฉาย • เซลล์สะสมไฟฟ้าแบบตะกัว่
• เซลล์แอลคาไลน์ • เซลล์นิกเกิล – แคดเมียม
• เซลล์ปรอท • เซลล์โซเดียม-ซัลเฟอร์
• เซลล์เงิน
• เซลล์เชือ้ เพลิงไฮโดรเจน-ออกซิเจน
• เซลล์เชือ้ เพลิงโพรเพน-ออกซิเจน
เซลล์กลั วานิก ชนิดเซลล์ปฐมภูมิ
1. ถ่ านไฟฉาย
ประกอบด้วย
• กล่องสังกะสี ขัวแอโนด
้
• มีแท่งคาร์บอน แคโทด
• รอบ ๆ แท่งคาร์บอนมีแมงกานีส (IV) ออกไซด์
ซึง่ มีสารละลายของแอมโมเนียคลอไรด์
เป็ นอิเล็กโทรไลต์บรรจุอยู่ โดยทัวไปมี
่ ศักย์ไฟฟ้ าประมาณ 1.5 V
•ผสมกาวลงไปเพราะแอมโมเนียคลอไรด์รวง่ ั ่ าย NH3ทีเ่ กิด ป้องกันไม่ให้เกิด สารประกอบเชิงซ้อนของ
เตตระแอมมีนซิงค์ (II) ไอออน [Zn(NH3)4]2+ และ
ไดอาควาแอมมีนซิงค์ (II) ไอออน[Zn(NH3)2(H2O)2]2+
2+ - ซึง่ จะทาให้ศกั ย์ไฟฟ้าของเซลล์เปลีย่ นแปลง
Anode : Zn(s) Zn (aq) + 2e
Cathode : 2MnO2(s) + 2NH4+(aq) + e- Mn2O3(s) + 2NH3(g) + H2O(l)
ปฏิกิริยารวม : Zn(s) + 2MnO2(s) + 2NH4+(aq) Zn2+(aq) + Mn2O3(s) + 2NH3(g) + H2O(l)
เซลล์กลั วานิก ชนิดเซลล์ปฐมภูมิ
2. เซลล์แอลคาไลน์
ประกอบด้วย
• คล้ายเซลล์ถ่านไฟฉาย ต่างกันทีส่ ารละลาย MnO8 ผสม KOH
NaOH หรือ KOH เป็ นอิเล็กโทรไลต์
• กล่องสังกะสี ขัวแอโนด
้
• มีแท่งคาร์บอน แคโทด
• รอบ ๆ แท่งคาร์บอนมีแมงกานีส (IV) ออกไซด์
โดยทัวไปมี
่ ศักย์ไฟฟ้ าประมาณ 1.5 โวลต์
ผสมผงคาร์บอนโดยอัดติดกับแท่งคาร์บอน
แต่ให้กระแสไฟฟ้าได้นานกว่าเซลล์แห้ง
ประโยชน์
เนื่องจาก OH- และ H2O ทีเ่ กิดขึน้ ในปฏิกริ ยิ า
ใช้ในไฟฉายวิทยุหรืออุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ต่างๆ
สามารถกลับไปเป็ นสารตัง้ ต้นของปฏิกริ ยิ าได้อกี
Anode : Zn(s) + 2OH-(aq) ZnO (s) + H2O(l) + 2e -
Cathode : 2MnO2(s) + 2H2O (l) + 2e- Mn2O3(s) + 2OH-(aq)
ปฏิกิริยารวม : Zn(s) + 2MnO2(s) ZnO(s) + Mn2O3(s)
เซลล์กลั วานิก ชนิดเซลล์ปฐมภูมิ
3. เซลล์ปรอท แอโนด
HgO, KOH
+
ประกอบด้วย
• ใช้ HgOแทนMnO2 ของแอลคาไลน์
• กล่องสังกะสี ขัวแอโนด
้
แคโทด
-
• มีแท่งคาร์บอน แคโทด
• รอบ ๆ แท่งคาร์บอนมีเมอคิวรี (II) ออกไซด์ผสมผงคาร์บอนอัด ให้ศกั ย์ไฟฟ้ าประมาณ 1.3 V
ติดอยู่ และผสมผงคาร์บอนมีสารละลายของ NaOH หรือ KOH ให้กระแสไฟฟ้าต่า
ซึง่ ทาหน้าทีเ่ ป็ นอิเล็กโทรไลต์ ข้อดี คือให้ศกั ย์ไฟฟ้าเกือบคงที่
• ประโยชน์ ใช้ในเครือ่ งฟงั เสียงสาหรับคนหูพกิ าร เครือ่ งคิดเลข ตลอดอายุการใช้งาน
นาฬิกา กล้องถ่ายรูป เครือ่ งตรวจการเต้นของหัวใจ
4. เซลล์เงิน แอโนด
+
ประกอบด้ วย Ag2O,Zn(OH)2,KOH
คล้ายเซลล์ปรอท แต่ใช้Ag2OแทนHgO
• กล่องสังกะสี ขัวแอโนด
้
แคโทด
-
• มีแท่งคาร์บอน แคโทด
•รอบ ๆ แท่งคาร์บอนมีAg2Oผสมผงคาร์บอนโดยอัดติดซึง่ หุม้ ให้ศกั ย์ไฟฟ้ าประมาณ 5 V
ด้วยAgO มีสารละลายของ NaOH หรือ KOH เป็ นอิเล็กโทรไลต์ ขนาดเล็กและอายุการใช้งาน
ผสม Zn(OH)2 นานมากราคาแพง
• ประโยชน์ ใช้ กบั ล้ องถ่ายรูป เครื่ องตรวจการเต้ นของหัวใจ
เครื่ องช่วยฟั ง นาฬิกา เครือ่ งคิดเลข
เซลล์เชื้อเพลิง
5. เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน-ออกซิเจน
ประกอบด้วย
• ใช้H2(g)เข้าไปในช่องแอโนด
ทีม่ แี กรไฟต์ผสมนิกเกิล
• ใช้ O2(g)เข้าไปในช่องแคโทด
ทีม่ แี กรไฟต์ผสมนิเกิลและนิกเกิล (II) ออกไซด์
เพือ่ ช่วยเร่งปฏิกริ ยิ า ให้ศกั ย์ไฟฟ้ าประมาณ 1.2 V
•โซเดียมคาร์บอร์เนตหลอมเหลวเป็ นอิเล็กโทรไลต์ ราคาแพงมาก ใช้กบั เรือดาน้า
ยานพาหนะทางทหาร
Anode : H2(g) + CO32-(l) H2O(g) + CO2(g) + 2e- ในกระสวยอวกาศและยังได้น้า
Cathode : O2(g) + CO2(g) + 2e- CO32-(l) บริสทุ ธิเป็
์ นน้ าดืม่ สาหรับนักบิน
ปฏิกิริยารวม : 2H2(g) + O2(g) 2H2O(g) อวกาศอีกด้วย
เซลล์กลั วานิก ชนิดเซลล์ปฐมภูมิ
6.เซลล์เชื้อเพลิงโพรเพน-ออกซิเจน
ประกอบด้วย
• ใช้แก๊สโพรเพนผ่าน
เข้าไปในช่องแอโนด
• ใช้แก๊สออกซิเจนผ่าน
เข้าไปในช่องแคโทด
• สารละลายกรดซัลฟูรกิ
ปฏิกริ ยิ าสันดาปของก๊าซโพรเพนในเครือ่ งยนต์
เป็ นอิเล็กโทรไลต์
ให้ประสิทธิภาพการทางานสูงประมาณ 2 เท่าของ
• ประโยชน์ ใช้กบั เรือดาน้ายานพาหนะทีใ่ ช้
เครือ่ งยนต์สนั ดาปภายใน
ทางการทหารและในกระสวยอวกาศ
1. เซลล์สะสมไฟฟ้ าแบบตะกัว่
ประกอบด้วย
• แผ่นตะกัว่ เป็ นแอโนด
มีศกั ย์ไฟฟ้ า 2 โวลต์
• เลด(IV)ออกไซด์ ทีเ่ คลือบบนผิวตะกัวเป็
่ นแคโทด
• สารละลายกรดซัลฟูรกิ เข้มข้นร้อยละ 30-38 เป็ นอิเล็กโทรไลต์ สามารถต่อเป็ นอนุ กรมศักย์ไฟฟ้า
• แหล่งกาเนิดไฟฟ้ากระแสตรง เพือ่ ให้ขวั ้ ทัง้ สอง เพิม่ ขึน้ เช่น แบตตอรีรถยนต์ม ี
มีศกั ย์ไฟฟ้าต่างกันและเกิดกระแสไฟฟ้าขึน้ เซลล์อนุ กรมต่อกัน 6 เซล์ เรียก
• ประโยชน์ ใช้เป็ นแหล่งพลังงานไฟฟ้าในรถยนต์หรือ ทัวไปว่
่ า แบตเตอรี่ ถึงแม้จะอัดไฟ
จักรยานยนต์ ใหม่ได้ แต่ PbSO4 ทีเ่ กิดขึน้ ทีข่ วั ้
ทัง้ สองอยูท่ ก่ี น้ ภาชนะ ทาให้ขวั ้ สึก
กร่อนและเสือ่ มสภาพในทีส่ ุด
จ่ายไฟ
ปฏิกิริยารวม Pb + PbO2 + 2H2SO4 2PbSO4 + 2H2O
- + อัดไฟ
เซลล์กลั วานิก ชนิดเซลล์ทุติยภูมิ
2. เซลล์นิกเกิล – แคดเมียม
ประกอบด้วย
•มีโลหะเมียมเป็ นแอโนด
•นิกเกิล (IV) ออกไซด์เป็ นแคโทด และมี NiO(OH) ฉาบอยู่
•มีสารละลายเบสเป็ นอิเล็กโทรไลต์ คือ โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์
• ประโยชน์ เซลล์ชนิดนี้ใช้กบั เครือ่ งคิดเลข กล้องถ่ายรูป
เครือ่ งเลเซอร์ชนิดไร้สาย
่ า เซลล์นิแคด ให้ศกั ย์ไฟฟ้ าประมาณ 1.4 โวลต์
เรียกทัวไปว่
สามารถประจุไฟได้ใหม่การประจุไฟจะเกิดย้อนกลับกับปฏิกริ ยิ าการจ่ายไฟ
ข้อดี ใช้ได้นาน ข้อเสีย กาจัดยาก เพราะแคดเมียมเป็ นโลหะมีพษิ
3. เซลล์โซเดียม-ซัลเฟอร์
ประกอบด้วย
• โซเดียมเหลวเป็ นแอโนด ระหว่าง OxidationและReduction
• กามะถันเหลว เป็ นแคโทด คันด้
่ วยเซรามิกส์ทม่ี รี พู รุนเล็กๆ
(ผสมผงแกรไฟต์เพือ่ เพิม่ ประสิทธิภาพการนาไฟฟ้า) เพือ่ ให้โซเดียมไอออนผ่าน
•บีตาอะลูมนิ า เป็ นของผสมของออกไซด์ของโลหะ ให้ศกั ย์ไฟฟ้ าประมาณ 2.1 V
(Al, Mg, Na) ทีย่ อมให้ Na+ เคลื่อนทีผ่ า่ นได้เป็ นอิเล็กโทรไลต์ สามารถประจุไฟ มีอายุการใช้งาน
นานกว่าเซลล์สะสมไฟฟ้าแบบตะกัว่
แต่ตอ้ งควบคุมอุณหภูมใิ ห้ได้ ~350 oC
Anode : 2Na(l) 2Na2+(l) + 2e- เพือ่ ให้สารอยูใ่ นสภาพหลอมเหลว
Cathode : (n/8)S8(l) + 2e- nS2-(l)
ปฏิกิริยารวม : 2Na(l) + (n/8)S8(l) Na2Sn(l)
เซลล์กลั วานิก ชนิดเซลล์ทุติยภูมิ
3. เซลล์โซเดียม-ซัลเฟอร์
เซลล์อิเล็กโทรไลต์
ไอออนลบเคลื่อนที่เข้ามา
ถ่ายเทอิเล็กตรอน
ไอออนบวกเคลื่อนที่มารับอิเล็กตรอน
เซลล์อิเล็กโทรไลต์ ส่วนประกอบของเซลล์อเิ ล็กโทรไลต์
2. แหล่งกาเนิดไฟฟ้ า
เป็ นแหล่งให้พลังงานของเซลล์
เพื่อให้ปฏิกิริยาที่เกิดขึน้ เองไม่ได้สามารถเกิดปฏิกิริยาได้
ถ้าแยกสารละลายจะมีน้าเข้าไปเกี่ยวข้องในปฏิกิริยา
ดังนัน้ การเลือกปฏิกิริยาที่จะใช้เป็ นแคโทด แอโนด
ก็ต้องพิจารณาศักย์ไฟฟ้ าของน้าด้วย
เซลล์อิเล็กโทรไลต์ การแยกสารละลายด้วยไฟฟ้ า
ตัวอย่างการแยกสลายโซเดียมคลอไรด์ที่หลอมเหลวด้วยไฟฟ้ า
ผ่านพลังงานไฟฟ้ าลงในอิเล็กโทรไลต์โซเดียมคลอไรด์ที่หลอมเหลว
โดยใช้ขวั ้ ไฟฟ้ าเป็ นโลหะเฉื่ อย
การทาโลหะให้บริสทุ ธ์ ิ โดยใช้เซลล์อิเล็กโทรไลต์
Cathode -
Anode +
ทองแดงไม่บริสทุ ธ์ ิ
CuSO4 ทองแดงบริสทุ ธ์ ิ
+
H2SO4 กากตะกอน
เซลล์อิเล็กโทรไลต์ ประโยชน์ ของการแยกสารละลายด้วยไฟฟ้ า
อิเล็กโทรไลต์ สารละลายผสมของคอป
เปอร์ (II) ซัลเฟตกับกรดซัลฟิวริก
เซลล์อิเล็กโทรไลต์ ประโยชน์ ของการแยกสารละลายด้วยไฟฟ้ า
Ag(s) Ag+ + e-
Ag+ + e- Ag(s)
เซลล์อิเล็กโทรไลต์ ประโยชน์ ของการแยกสารละลายด้วยไฟฟ้ า
การชุบโลหะด้ วยกระแสไฟฟ้า
การชุบโลหะด้ วยกระแสไฟฟ้า
หลักการที่สาคัญดังนี้
1. วัตถุที่ต้องการชุบต่อกับขัว้ ลบของแบตเตอรี่
หรือแคโทด
โลหะที่ใช้ชบุ ต่อกับขัว้ บวกของแบตเตอรี่
หรือเป็ นแอโนด
2. สารละลายอิเล็กโทรไลต์มีไอออนของโลหะ
ชนิดที่เดียวกับโลหะที่เป็ นแอโนดหรือโลหะที่ใช้ชบุ
3. ใช้ไฟฟ้ ากระแสตรงเพื่อให้ขวั ้ ไฟฟ้ าเป็ นขัว้ บวกและขัว้ ลบคงเดิม
• 1 2 3 4
เซลล์อิเล็กโทรไลต์ การกัดกร่อนและการป้ องกัน
ลวด
Mg
เซลล์อิเล็กโทรไลต์ การกัดกร่อนและการป้ องกัน
Fe(OH)2(s)
4Fe(OH)2(s) + O2(g) + 2H2O(l) 4Fe(OH)3(s)
เซลล์อิเล็กโทรไลต์ การกัดกร่อนและการป้ องกัน
การเกิดสนิมเหล็ก
บริเวณที่ถกู กัดกร่อนจะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันหรือเป็ นแอโนด
โลหะเหล็ก (Fe(s)) เปลี่ยนไปเป็ น Fe2+
การเกิดสนิมเหล็ก
การเกิดสนิมเหล็กเนื่องจาก CO2
CO2 ละลายนา้ แล้ วเกิด H2CO3 ซึ่งแตกตัวให้ H+
Anode : Fe(s) Fe2+(aq) + 2e-
Cathode : O2(g) + 4H+(aq) + 4e- 2H2O(l)
4Fe2+(aq) + O2(g) + (4+2n)H2O(l) 2Fe2O3.nH2O(s) + 8H+(aq)
เซลล์อิเล็กโทรไลต์ การกัดกร่อนและการป้ องกัน
การป้ องกันการเกิดสนิม
การป้ องกันการเกิดสนิม
2. การเคลือบพืน้ ผิวโลหะด้วยโลหะที่มีความว่องไวมากกว่า
(หรือเป็ นโลหะที่เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันได้ดีกว่า)
3. ทาการชุบด้วยโลหะ
โลหะบางชนิดมีสมบัติพิเศษ กล่าวคือเมื่อทาปฏิกิริยากับออกซิเจนจะ
เกิดเป็ นออกไซด์ของโลหะเคลือบอยู่บนผิวของโลหะนัน้ และไม่เกิดการผุ
กร่อนอีกต่อไป โลหะที่มีสมบัติดงั กล่าวได้แก่ อลูมิเนี ยม ดีบกุ และ
สังกะสี การชุบ หรือเคลือบโดยโลหะที่ Oxide ของโลหะนัน้ คงตัว
สลายตัวยาก จะเป็ นผิวบางๆ คลุมผิวโลหะอีกที ได้แก่ Cr (โครเมียม)
และอลูมิเนี ยม(Al) เป็ นต้น ดังนัน้ Cr2O3.Al2O3 สลายตัวยาก เรียกชื่อว่า
วิธี อะโนไดซ์ (Anodize)
หมายเหตุ เหล็กกล้าไม่เกิดสนิม (stainless steel) เป็ น Fe ผสม Cr
เซลล์อิเล็กโทรไลต์ การกัดกร่อนและการป้ องกัน
การป้ องกันการเกิดสนิม
การป้ องกันการเกิดสนิม
ปฏิกิริยาที่เกิดขึน้
ที่แอโนด Li (s) ------> Li+(s) + e-
ที่แคโทด TiS2(s) + e- -----> TiS2 -(s)
ปฏิกิริยารวม Li(s) + TiS2(s) -----> Li+(s) + TiS2-
(s)
ความก้าวหน้ าทางเทคโนโลยีเกี่ยวข้องกับเซลล์ไฟฟ้ าเคมี
แอโนด โลหะลิเทียม
แคโทด ไทเทเนียมไดซัลไฟด์
แบตเตอรี่อิเล็กโทรไลต์แข็ง
ปฏิกริ ิยาที่
เกิดขึน้ แอโนด Li(s) Li+(ในอิเล็กโทรไลต์ แข็ง) + e-
แบตเตอรี่อากาศ
ตัวออกซิไดส์
ออกซิเจนในอากาศ
ตัวรี ดวิ ซ์
สังกะสี หรื อะลูมีเนียม
อิเล็กโทรไลต์
สารละลาย NaOH เข้ มข้ น
ความก้าวหน้ าทางเทคโนโลยีเกี่ยวข้องกับเซลล์ไฟฟ้ าเคมี
แบตเตอรี่อากาศ
ปฏิกิริยาที่เกิดขึน้ ในเซลล์
แอโนด Zn(s) Zn2+(aq) + 2e-
แคโทด O2(g) + 4e- 2O2-(g)
ปฏิกิริยารวม 2Zn(s) + O2(g) 2ZnO(s)
เมื่อนาแบตเตอรี่ ไปประจุไฟ แก๊ สออกซิเจนจะถูกปล่ อยออก
จากแบตเตอรี่ ส่ วนซิงค์ ออกไซด์ จะถูกรี ดวิ ซ์ ไปเป็ นสังกะสี
ความก้าวหน้ าทางเทคโนโลยีเกี่ยวข้องกับเซลล์ไฟฟ้ าเคมี
การทาอิเล็กโทรไดอะลิซิสน้าทะเล
การทาอิเล็กโทรไดอะลิซิสน้าทะเล
ประโยชน์
ใช้แยกไอออนออกจากสารละลาย
โดยให้ไอออนผ่านเยื่อบาง ๆ ไปยังขัว้ ไฟฟ้ า
ที่มีประจุตรงกันข้าม
ทาให้สารละลายที่อยู่ระหว่างขัว้ ไฟฟ้ าทัง้ สอง
มีจานวนไอออนลดน้ อยลง
หลักการนี้ สามารถนาไปใช้แยกโซเดียมไอออน
และคลอไรด์ไอออนออกจากน้าทะเลได้ ทาให้น้าทะเลกลายเป็ นน้าจืด