Professional Documents
Culture Documents
วิชาสามัญเคมี
วันที่ 24 ต.ค. 64 เวลา 13:30-15:00 น.
ข้อสอบโดย : สถาบันกวดวิชา OnDemand
ชื่อ-นามสกุล เลขที่นั่งสอบ
สถานที่สอบ ห้องสอบ
กรุณาอ่านค�ำอธิบายให้เข้าใจ ก่อนลงมือท�ำข้อสอบ
1. ลักษณะแบบทดสอบ ข้อสอบจ�ำนวน 45 ข้อ (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
2. ก่อนตอบค�ำถามให้เขียนชื่อ-นามสกุล เลขที่นั่งสอบ สถานที่สอบ และห้องสอบ
บนหน้าปกข้อสอบ
3. ให้เขียนชื่อ-นามสกุล ข้อมูลส่วนบุคคลและที่นั่งสอบในกระดาษค�ำตอบ
และตรวจสอบเลขที่นั่งว่าตรงกับบัตรประจ�ำตัวผู้เข้าสอบ
4. ใช้ดินสอด�ำเบอร์ 2B ระบายวงกลมตัวเลือกในกระดาษค�ำตอบให้เต็มวง
(ห้ามระบายนอกวง) ถ้าต้องการเปลี่ยนตัวเลือกใหม่ต้องลบให้สะอาดจน
หมดรอยด�ำแล้วจึงระบายวงกลมตัวเลือกใหม่
5. เมื่อสอบเสร็จให้วางกระดาษค�ำตอบไว้ด้าน บนข้อสอบ
6. ห้ามน�ำกระดาษค�ำตอบออกจากห้องสอบ
7. ไม่อนุญาตให้ผู้เข้าสอบออกจากห้องสอบก่อนหมดเวลาสอบ
8. ไม่อนุญาตให้ผู้คุมสอบเปิดอ่านข้อสอบ
ก�ำหนดให้
มวลอะตอม
H = 1 C = 12 N = 14 Ne = 20
O = 16 Na = 23 Mg = 24 S = 32
K = 39 Cl = 35.5 Mn = 55 Cu = 63.5
I = 127
log 2 = 0.3 log 3 = 0.5 log 5 = 0.7
ค่าคงที่ของแก๊ส R = 0.082 L·atm/mol·K
เคมีสามัญ หน้า 3
วันที่ 24 ต.ค. 64 เวลา 13:30-15:00 น.
ข้อใดผิด
1. D อยู่หมู่เดียวกับธาตุที่มีเลขอะตอม 15
2. A มีพลังงานไอออไนเซชันน้อยกว่า J
3. J เป็นธาตุกึ่งโลหะเช่นเดียวกับธาตุอาร์เซนิก
4. สารประกอบไฮไดรด์ของ D มีจุดเดือดต�่ำกว่าสารประกอบไฮไดรด์ของ E
5. รัศมีอะตอมของ G เล็กกว่าอะตอมของ J
เคมีสามัญ หน้า 4
วันที่ 24 ต.ค. 64 เวลา 13:30-15:00 น.
Ca2+(g) + O2-(g)
Ca(g) + 12 O2(g)
+178 kJ/mol
Ca(s) + 12 O2(g)
-635 kJ/mol
CaO(s)
5. ก�ำหนดค่าพลังงานพันธะดังนี้
ชนิดของพันธะ C-H C-C C-O O-H O=O C=O
พลังงานพันธะ
412 348 360 463 496 743
(kJ/mol)
ข้อใดถูกต้อง
1. EJ6 เป็นโมเลกุลไม่มีขั้ว แต่ GA3 และ ED3 เป็นโมเลกุลมีขั้ว
2. แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลของ A2D มีค่าน้อยกว่า A2E
3. โครงสร้างลิวอิสของ ED2 และ GJ3 ไม่เป็นไปตามกฎออกเตต
4. มุมระหว่างพันธะในโมเลกุล DJ2 ใหญ่กว่าในโมเลกุล A2D
5. จ�ำนวนอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยวที่อะตอมกลางของ GDJ3 มี 1 คู่
8. พิจารณาสารประกอบของธาตุสมมติ A ต่อไปนี้
C3H6A6 C5H12A2 C9H13A
เมื่อวิเคราะห์สารประกอบ C9H13A พบว่ามีร้อยละโดยมวลของธาตุ C เท่ากับ 80.0
ข้อใดเรียงล�ำดับร้อยละโดยมวลของธาตุ A ในสารประกอบทั้ง 3 ชนิดจากน้อยไปมากได้ถูกต้อง
1. C3H6A6 C5H12A2 C9H13A
2. C5H12A2 C3H6A6 C9H13A
3. C5H12A2 C9H13A C3H6A6
4. C9H13A C3H6A6 C5H12A2
5. C9H13A C5H12A2 C3H6A6
เคมีสามัญ หน้า 8
วันที่ 24 ต.ค. 64 เวลา 13:30-15:00 น.
10. นักเรียนคนหนึ่งเตรียมสารละลายตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ขั้นที่ 1 ชั่งโซเดียมคลอไรด์ (NaCl) มวล 29.25 กรัม แล้วใส่ลงในบีกเกอร์ขนาด
500.0 มิลลิลิตร
ขั้นที่ 2 เติมน�้ำกลั่น 100.0 มิลลิลิตรลงในบีกเกอร์ คนให้สารละลาย
ขั้นที่ 3 เทสารละลายในขั้นที่ 2 ลงในขวดก�ำหนดปริมาตรขนาด 500.0 มิลลิลิตร
จากนั้นเติมน�้ำกลั่นลงไปจนถึงขีดบอกปริมาตร
ขั้นที่ 4 แบ่งสารละลายในขั้นที่ 3 มา 200.0 มิลลิลิตร แล้วใส่ลงในขวดก�ำหนดปริมาตร
ขนาด 500.0 มิลลิลิตรอีกใบหนึ่ง
ขั้นที่ 5 เติมสารละลายแบเรียมคลอไรด์ (BaCl2) เข้มข้น 2.00 โมลต่อลิตร ปริมาตร
200.0 มิลลิลิตร แล้วเติมน�้ำกลั่นจนถึงขีดบอกปริมาตร
สารละลายที่นักเรียนคนนี้เตรียมได้มีความเข้มข้นของคลอไรด์ไอออนร้อยละเท่าใดโดยมวล
ต่อปริมาตร
1. 1.20
2. 2.00
3. 4.26
4. 6.39
5. 7.10
เคมีสามัญ หน้า 9
วันที่ 24 ต.ค. 64 เวลา 13:30-15:00 น.
13. ปฏิกิริยาระหว่างแก๊สไฮโดรเจนซัลไฟด์กับสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์เป็นดังสมการ
H2S(g) + NaOH(aq) Na2S(aq) + H2O(l) (สมการยังไม่ดุล)
โดยกระบวนการนี้ให้ผลได้ร้อยละ 92 ถ้าเริ่มต้นด้วยแก๊สไฮโดรเจนซัลไฟด์ 1.25 กรัม ผ่านลงใน
สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์เข้มข้น 0.200 โมลาร์ ปริมาตร 250 มิลลิลิตร จะเกิด
โซเดียมซัลไฟด์หนักกี่กรัม
1. 1.79
2. 1.95
3. 2.64
4. 3.59
5. 3.90
1.00
0.90
ความเข้มข้นของ X
0.80
(mol/dm3)
0.70
พิจารณาข้อความต่อไปนี้
ก. อัตราการเกิดปฏิกิริยาขึ้นกับความเข้มข้นของสาร A และสาร B
ข. สาร X ท�ำให้พลังงานก่อกัมมันต์ของปฏิกิริยาเพิ่มขึ้น
ค. เมื่อความเข้มข้นของสาร B เพิ่มเป็น 2 เท่า อัตราการเกิดปฏิกิริยาเพิ่มเป็น 2 เท่า
ง. ค่า y ในการทดลองที่ 2 มีค่ามากกว่า 40
ข้อใดผิด
1. ข. เท่านั้น
2. ข. และ ง. เท่านั้น
3. ค. และ ง. เท่านั้น
4. ก., ข. และ ค.
5. ข., ค. และ ง.
เคมีสามัญ หน้า 13
วันที่ 24 ต.ค. 64 เวลา 13:30-15:00 น.
หากอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีไม่ขึ้นกับความเข้มข้นของสารตั้งต้น ข้อใดถูกต้อง
1. ปฏิกิริยารวม A D จะเกิดได้ต้องให้ความร้อนเข้าไป 600 kJ/mol
2. เมื่อเพิ่มอุณหภูมิ ปฏิกิริยา A D จะเกิดได้ช้าลงเพราะเป็นปฏิกิริยาคายความร้อน
3. ปฏิกิริยาในขั้นที่ 2 เกิดได้ช้าสุด เนื่องจากพลังงานของปฏิกิริยามีค่าน้อยที่สุด
4. เรียงล�ำดับพลังงานของสารจากมากไปน้อย : สาร C > สาร B > สาร A > สาร D
5. พลังงานของสารตั้งต้นและสารผลิตภัณฑ์ของปฏิกิริยารวมมีค่าต่างกัน 45 kJ/mol
k1k22 k1k22
1. 2.
k23 k3
k1k2 k2 k1
3. 4. k
k3 3
k1k2
5. k3
24. สารละลายเบสอ่อน BOH เข้มข้น 2.00 mol/dm3 ทีอ่ ณ ุ หภูมิ 25 oC มีรอ้ ยละการแตกตัวของเบส
เท่ากับ 0.500 แล้วสารละลายเบสอ่อน BOH เข้มข้น 0.500 mol/dm3 ที่อุณหภูมิ 25 oC
มีค่า pH เท่ากับเท่าใด (ก�ำหนดให้ log 2 = 0.3 และ log 5 = 0.7)
1. 2.30
2. 3.70
3. 11.4
4. 11.7
5. 12.3
เมื่อน�ำสารละลาย Ca(OH)2 เข้มข้น 1.0 × 10-3 โมลาร์ ปริมาตร 25.0 มิลลิลิตร มาผสมกับ
สารละลาย HNO3 100.0 มิลลิลิตร มีความเข้มข้นค่าหนึ่ง แล้วปรับปริมาตรด้วยน�้ำกลั่น
จนสารละลายผสมเป็น 200.0 มิลลิลิตร พบว่าสารละลายผสมที่ได้มี pH เท่ากับ 10.0
ถ้าน�ำสารละลาย HNO3 ที่มีความเข้มข้นข้างต้นมาหยดด้วยอินดิเคเตอร์ชนิดต่าง ๆ แล้วสีของ
สารละลายแต่ละอินดิเคเตอร์จะเป็นดังข้อใด
(ก�ำหนดให้ log 2 = 0.3, log 3 = 0.5 และ log 5 = 0.7)
สีของสารละลายเมื่อหยดอินดิเคเตอร์
ไทมอลบลู โบรโมฟีนอลบลู เมทิลเรด
1. แดง เหลือง แดง
2. ส้ม เหลือง แดง
3. เหลือง เขียว แดง
4. เหลือง เขียว ส้ม
5. เหลือง น�้ำเงิน ส้ม
เคมีสามัญ หน้า 17
วันที่ 24 ต.ค. 64 เวลา 13:30-15:00 น.
27. ปฏิกิริยารีดอกซ์ในข้อใดที่อะตอมในตัวถูกรีดิวซ์มีการเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชันมากที่สุด
1. MnO2 + 2KBr + 2H2SO4 MnSO4 + K2SO4 + 2H2O + Br2
2. 2Fe(OH)3 + 3OCl -
2FeO4 + 3Cl- + 4H+ + H2O
2-
แผนภาพเซลล์ในข้อใดต่อไปนี้สามารถเกิดปฏิกิริยาได้เองและมีศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์
มากที่สุด
1. Al(s) | Al3+(aq, 1M) || Ni2+(aq, 1M) | Ni(s)
2. Pb(s) | Pb2+(aq, 1M) || Al3+(aq, 1M) | Al(s)
3. Al(s) | Al3+(aq, 1M) || Cu2+(aq, 1M) | Cu(s)
4. Cr(s) | Cr3+(aq, 1M) || Pb2+(aq, 1M) | Pb(s)
5. Cu(s) | Cu2+(aq, 1M) || Cr3+(aq, 1M) | Cr(s)
เคมีสามัญ หน้า 19
วันที่ 24 ต.ค. 64 เวลา 13:30-15:00 น.
O O C17H31
O C17H29
O H
1. OH , ,
O
O H
2. , ,
O
OH
3. , ,
O H
4. OH , ,
O
OH
5. , ,
เคมีสามัญ หน้า 23
วันที่ 24 ต.ค. 64 เวลา 13:30-15:00 น.
35. พิจารณาแผนภาพต่อไปนี้
สาร A
HCl(aq)/Δ
ether H2O
สาร B สาร C
สาร D/H+ NaOH (aq)
methyl heptanoate สาร E
สาร F
N-methylbutanamide
ข้อใดถูกต้อง
1. สาร A มีจุดเดือดต�่ำกว่า methyl heptanoate
2. สาร F มีหมู่ฟังก์ชันเช่นเดียวกับ pentan-2-amine
3. สาร D และสาร E เป็นสารตัวเดียวกัน
4. CH3(CH2)5CONH2 เกิดปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสในภาวะเบสจะได้สาร B
5. ต้มสาร D และ F ในกรดได้ methyl butanoate
เคมีสามัญ หน้า 24
วันที่ 24 ต.ค. 64 เวลา 13:30-15:00 น.
OH H+
? A+B
O
O
ก�ำหนดให้ มวลต่อโมลของสาร A มากกว่าสาร B
ข้อใดถูกต้อง
1. สาร B มีจุดเดือด 100 องศาเซลเซียส
2. สาร A มีหมู่ฟังก์ชันเช่นเดียวกันกับ acetylene
3. การเกิดปฏิกิริยาทรานส์เอสเทอริฟิเคชันส่งผลให้สาร A สามารถละลายน�้ำได้ดี
4. สาร A เกิดปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสในกรดจนสมบูรณ์ได้ผลิตภัณฑ์เพียง 1 ชนิด
5. สาร A และ B สามารถฟอกจางสีสารละลายโบรมีนในที่มืดได้
37. พอลิเมอร์ในข้อใดเกิดจากมอนอเมอร์เพียงชนิดเดียว
Cl Cl
1. n
2.
Cl n
O H H H
3. N O NH 4. N O N
n n
O H
5. N N O O
H O
n
เคมีสามัญ หน้า 25
วันที่ 24 ต.ค. 64 เวลา 13:30-15:00 น.
38. พอลิเมอร์ที่มีโครงสร้างดังข้อใดไม่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ
O
1. O
n
O
2. O
n
O
3. O
n
O
O
4.
n
O
5. O O
O
n
เคมีสามัญ หน้า 26
วันที่ 24 ต.ค. 64 เวลา 13:30-15:00 น.
39. พิจารณาโครงสร้างของมอนอเมอร์ของพอลิอะคริลิกแอซิดต่อไปนี้
OH
O
ข้อใดเป็นสารเคมีที่เหมาะสมต่อการน�ำมาพัฒนาสมบัติของพอลิอะคริลิกแอซิดจนเกิดโครงสร้าง
แบบร่างแห ส่งผลให้ไม่ละลายน�้ำแต่อุ้มน�้ำได้ เพื่อน�ำไปผลิตเป็นไฮโดรเจลที่ใช้ท�ำผ้าอ้อม
ส�ำเร็จรูปและดินวิทยาศาสตร์
1. O=C=N N=C=O
HO
2. HO OH
OH OH
3.
O
4. O
5.
เคมีสามัญ หน้า 27
วันที่ 24 ต.ค. 64 เวลา 13:30-15:00 น.
20 20
15 15
10 10
5 5
ความหนาแน่นของโลหะชนิดนี้มีค่าเท่าใด
1. 3.1 g/mL
2. 7.9 g/mL
3. 6.4 g/mL
4. 3.14 g/mL
5. 7.86 g/mL
เคมีสามัญ หน้า 28
วันที่ 24 ต.ค. 64 เวลา 13:30-15:00 น.
44. พิจารณาปฏิกิริยาต่อไปนี้
A(g) + B(g) ? 2C(g)
เมื่อน�ำแก๊ส A และแก๊ส B มาอย่างละ 12 โมล ใส่ในภาชนะปิดขนาด 4 ลิตร ที่อุณหภูมิ 300 K
พบว่าที่สมดุลมีแก๊ส C เกิดขึ้น 8 โมล ถ้าเติมแก๊ส C เพิ่มเข้าไปในระบบอีก 12 โมล เมื่อระบบ
เข้าสู่สมดุลใหม่จะมีแก๊ส C อยู่กี่โมล
2 12 22 32
3 13 23 33
4 14 24 34
5 15 25 35
6 16 26 36
7 17 27 37
8 18 28 38
9 19 29 39
10 20 30 40
กระดาษคําตอบหนา 1
ตอนท่ี 2 แบบอตันยั เปนแบบระบายคําตอบทเ่ีปนตวัเลขทค่ีํานวณไดลงในกระดาษคําตอบ
จํานวน 5 ขอ (ขอ 41 - 45) ขอละ 4 คะแนน รวม 20 คะแนน
วธิกีารตอบ ใหใชปากกาเขยีนคําตอบทเ่ีปนตวัเลขลงในชองวางใหตรงกบัหลกัเลขครบทง้ัหกหลกั
ใหใชดนิสอดํา 2B ระบายคําตอบในวงกลมใหตรงกบัหลกัเลข
ตองระบายคําตอบใหถกตองครบทง้ัหกหลกั
ถาคําตอบเปนเลขจํานวนเตม็ ตวัอยาง ถาคําตอบมทีศนยิมดวย ตวัอยาง ถาคําตอบมเีฉพาะทศนยิม ตวัอยาง
ใหระบายวงกลมทต่ีรงกบัหลกัเลข 0 3 7 5 . 0 0 ใหระบายวงกลมหลงัจดทศนยิม 0 0 4 6 . 1 0 ตองระบายเลขศนย (0) 0 0 0 0 . 2 8
41 42 43 44 45
กระดาษคําตอบหนา 2