Professional Documents
Culture Documents
ประเภทของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน
ชนิดของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน
การอ่านชื่อสารประกอบไฮโดรคาร์บอน
การเผาไหม้สารประกอบไฮโดรคาร์บอน (Combustion)
สารประกอบที่อิ่มตัวและไม่อิ่มตัว
สมบัติเบื้องต้นของไฮโดรคาร์บอนที่ควรทราบ
การเขียนสูตรของสารอินทรีย์
C5H12 CH3CH2CH2CH2CH3
เพนเทน หรือ
CH3(CH2)3CH3
สูตรทั่วไปของสารอินทรีย์
ลาดับ ประเภท สูตรทั่วไป หมู่ฟังก์ชัน ชื่อ
1. Alkane - - -
2. Alkene - = พันธะคู่
3. Alkyne - พันธะสาม
4. Aromatic - - -
5. Alcohol R-OH -OH ไฮดรอกซิล
6. Ether R-O-R -O- แอลคอกซี
7. Aldehyde R-CHO -CHO คาร์บอกซาลดีไฮด์
8. Ketone R-CO-R -CO- คาร์บอนิล
9. Carboxylic acid R-COOH -COOH คาร์บอกซิล
10. Ester R-COO-R -COO- แอลคอกซีคาร์บอนิล
11. Amine R-NH2 -NH2 อะมิโน
12. Amide R-CONH2 -CONH2 เอไมด์
n-hexane 2-methylpentane
รูปจาก : http://en.wikipedia.org/wiki
รูปจาก : http://www.elmhurst.edu
สิ่งที่เราต้องการมากที่สุด มัก
ต้องแลกด้วยสิ่งที่มีค่ามากที่สุด
เสมอ
สารประกอบไฮโดรคาร์บอน (Hydrocarbon)
การอ่านชื่อ
1. สารประกอบแอลเคน (Alkane)
หลักการ 1) เลือกโซ่ยาวที่สุดเป็นหลัก
2) กาหนดหมู่ที่มาเกาะให้มีค่าน้อยที่สุด
3) บอกจานวนของหมู่ที่มาเกาะด้วย di , tri , tetra …
สารประกอบ ชื่อ
Alicyclics
สารประกอบ ชื่อ
2. สารประกอบแอลคีน (Alkene)
หลักการ 1) ใช้หลักการเดียวกับการอ่านชื่อของแอลเคน
2) ให้พันธะคู่เป็นตาแหน่งที่น้อยที่สุดเสมอ
3) ลาดับการเรียงหมู่ให้เรียงตามพจนานุกรม
สารประกอบ ชื่อ
Alicyclics
สารประกอบ ชื่อ
3. สารประกอบแอลไคน์ (Alkyne)
สารประกอบ ชื่อ
4. สารประกอบอะโรมาติก (Aromatic)
จุดเดือด – จุดหลอมเหลวของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน
เนื่องจากสารประกอบไฮโดรคาร์บอนมีแรงลอนดอนเป็นแรงยึดเหนี่ยวภายนอก จึงทาให้มีจุด
เดือด – จุดหลอมเหลวต่า โดยจุดเดือด – จุดหลอมเหลวจะแปรผันตามมวลโมเลกุล
ปฏิกิริยาต่างๆของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน
1. ปฏิกิริยาการแทนที่ (Substitution reaction)
การทดสอบสารประกอบไฮโดรคาร์บอน
1. Br2/CCl4
2. KMnO4
ผลการทดสอบ
ฟีนอล (Phenol)
ฟีนอล เป็นแอลกอฮอร์ที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน
สมบัติของแอลกอฮอร์
การทดสอบแอลกอฮอร์
แอลกอฮอร์ทดสอบกับโลหะโซเดียม ได้แก๊ส H2
สมบัติของกรดคาร์บอกซิลิก
การทดสอบสารประกอบคาร์บอกซิลิก
1. ทดสอบกับ Na เกิดแก๊ส H2
การอ่านชื่อสารประกอบเอสเทอร์
1. HCOOC3H7 ……………………………………………………………
2. CH3COOC2H5 ……………………………………………………………
3. C4H9COOC2H5 ……………………………………………………………
4. C3H7OOCCH3 ……………………………………………………………
5.
……………………………………………………………
ปฏิกิริยาที่เกี่ยวข้องกับสารประกอบเอสเทอร์
สมบัติของสารประกอบเอสเทอร์
R-CO-R
การอ่านชื่อของสารประกอบแอลดีไฮด์
การอ่านชื่อของสารประกอบคีโตน
สมบัติของสารประกอบแอลดีไฮด์และคีโตน
การอ่านชื่อของสารประกอบเอมีน
สมบัติของสารประกอบเอมีน
+ HCl Cl-
การอ่านชื่อสารประกอบเอไมด์
สมบัติของสารประกอบเอมีน
ปฏิกิริยาไฮโดรไลซิส (Hydrolysis)
+ H2O +
1) ไฮโดรไลซิสในสารละลายกรด
2) ไฮโดรไลซิสในสารละลายเบส
การสกัดด้วยตัวทาละลายอินทรีย์
ข้อสอบชุด A ข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัย
1. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ถูกต้อง (Ent’19)
1. ไฮโดรคาร์บอนเป็นแก๊ส 2. ไฮโดรคาร์บอนสันดาปได้ดี
3. ไฮโดรคาร์บอนมีพันธะโคเวเลนต์ 4. ไฮโดรคาร์บอนเป็นสารอินทรีย์ที่มีในธรรมชาติ
4. เมื่อนาไฮโดรคาร์บอน 3 ชนิด คือ C6H14 , C8H18 และ C10H22 อย่างละ 1 โมลมาเผาไหม้ ปริมาณ
ออกซิเจนที่ต้องใช้ในการเผาไหม้เรียงลาดับจากมากไปน้อยเป็นไปตามข้อใด (Ent’ ต.ค.42)
1. C6H14 > C8H18 > C10H22 2. C8H18 > C6H14 > C10H22
3. C8H18 > C10H22 > C6H14 4. C10H22 > C8H18 > C6H14
6. เมื่อเขียนสมการแสดงการเผาไหม้ของบิวเทนในออกซิเจน ผลบวกของเลขสัมประสิทธิ์ต่างๆใน
สมการที่ดุลแล้วจะเท่ากับเท่าใด (Ent’24)
1. 12 2. 15 3. 20 4. 33
ความดันเดียวกัน (Ent’23)
1. 4 2. 5 3. 7 4. 9
13. กราฟแสดงแนวโน้มของสมบัติของอัลเคนตามจานวนคาร์บอนอะตอมในโมเลกุลข้อใดเป็นไปไม่ได้
ก. ข.
ค. ง.
ค. ง.
ข้อสรุปใดถูกต้อง
ก. ในปฏิกิริยาการเผาไหม้ การเกิดเขม่า A > B > C > D
ข. ในปฏิกิริยาการเผาไหม้ การเกิดเขม่า D > A > B > C
ค. ในปฏิกิริยาไฮโดรจีเนชัน ปริมาตรของแก๊สไฮโดรเจนที่ใช้ A > C > D > B
ง. ในปฏิกิริยาไฮโดรจีเนชัน ปริมาตรของแก๊สไฮโดรเจนที่ใช้ D > B > A > C
18. สารประกอบในข้อใดที่มีโครงสร้างแบบโซ่เปิดชนิดอิ่มตัว และแบบวง ชนิดไม่อิ่มตัว ตามล้าดับ
ก. และ ข. และ
ค. และ ง. และ
19. สาร A มีสูตรโมเลกุล พิจารณาสารประกอบต่อไปนี้
1. ไซโคลแอลเคน 2. ไซโคลแอลเคน 2 วงติดกัน
3. ไซโคลแอลคีน 4. วงของไซโคลแอลเคนและไซโคลแอลคีนติดกัน
5. สารประกอบแอลไคน์ 6. สารประกอบอะโรมาติก
สาร A อาจเป็นสารประกอบใดบ้าง
ก. 6 เท่านั้น ข. 1, 4 และ 5
ค. 1, 2 และ 5 ง. 2, 3 และ 5
20. สารคู่ใดมีสมบัติทางเคมีและกายภาพคล้ายคลึงกันมากที่สุด
ก. และ
ข. และ
OH
ค. และ
O O
ง. และ
© 2011 All Rights Reserved. www.Edu-deo.com
สงวนลิขสิทธิ์โดย www.Edu-deo.com ห้ามผูใ้ ดท้าซ้าหรือลอกเลียนแบบ หรือคัดลอกบทความไปใช้โดยมิได้รับอนุญาต
อดิลักษณ์ พิสุทธิ์ปัญญา (พี่ต๊ะ) | 31| www.edu-deo.com
21. สารประกอบคู่ใดสามารถท้าปฏิกิริยาต่อไปนี้ได้
1. ฟอกสีสารละลายโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต
2. จุดติดไฟ
3. ฟอกสีโบรมีนในคาร์บอเตตระคลอไรด์ได้โดยสารละลายไม่เปลี่ยนสีกระดาษลิตมัสสีน้าเงิน
ก. และ ข. และ
ค. และ ง. และ
22. สารประกอบไฮโดรคาร์บอน A และ B เมื่อน้ามาทดลองสมบัติต่างๆ ได้ผลดังนี้
สารประกอบ
สมบัติ
A B
การละลายน้้า ไม่ละลาย ไม่ละลาย
ติดไฟให้เปลวไฟสว่าง ติดไฟให้เปลวไฟสว่างมี
การเผาไหม้
ไม่มีเขม่า เขม่ามาก
การฟอกสี
ไม่ฟอกสีโบรมีน ไม่ฟอกสีโบรมีน
โบรมีนในที่มืด
ฟอกสีและเกิดแก๊สที่เปลี่ยนสี
การฟอกสี ไม่ฟอกสีโบรมีน และไม่มี
กระดาษลิตมัสจากสีน้าเงิน
โบรมีนในที่สว่าง แก๊สเกิดขึ้น
เป็นสีแดง
สารละลายโบรมีน
ไม่ละลายน้้า สารละลายโบรมีน เปลี่ยนเป็นไม่มีสี เกิดแก๊สที่ สารละลาย
A
A อยู่ชั้นบน ไม่เปลี่ยนสี เปลี่ยนเป็นสีลิตมัส ไม่เปลี่ยนสี
น้้าเงิน แดง
ข. กับ
ค. กับ
ง. กับ
28. ในปฏิกิริยา + HBr เป็น
ก. โพรฟีน ข. บิวทีน
ค. เพนทีน ง. เพนเทน
29. ปฏิกิริยาที่เกิดจากข้อ 28 คือปฏิกิริยา
ก. แทนที่ ข. รวมตัว
ค. ออกซิเดชัน ง. พอลิเมอไรเซชัน
ก. 1 และ 2 ข. 2 เท่านั้น ค. 3 ง. 4
34. สารต่อไปนี้สารใดใช้ น้อยที่สุดในการท้าปฏิกิริยาฟอกสี
(A) (B)
(C) (D)
40. พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้
สารอินทรีย์ สูตรโครงสร้าง มวลโมเลกุล จุดเดือด(°C)
1 60 141
2 60 97
3 59 49
4 58 -0.5
เอทานอล เอทิลแอซีเตต
ก. 12 13
ข. 12 123 4
ค. 123 123 4
ง. 123 13
42. สารประกอบในข้อใดสามารถเกิดพันธะไฮโดรเจนระหว่างโมเลกุลได้ทั้งหมด
ก.
ข.
ค.
ง.
43.แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลแบบพันธะไฮโดรเจนข้อใด ผิด
45.การเรียงล้าดับจุดเดือดของสารประกอบต่อไปนี้จากน้อยไปหามาก ตรงกับข้อใด
1. 2.
3. 4.
ก. ข.
ค. ง.
46. ก้าหนดให้สารA, B, C และ D มีสูตรโครงสร้างดังนี้
ข้อใด ถูกต้อง
ก. สารทั้ง 4 ชนิดเป็นไอโซเมอร์ (Isomer) กัน
ข. สารทั้ง 4 ชนิดมีจุดเดือดสูงกว่าบิวเทน
ค. สารทั้ง 4 ชนิดมีจุดเดือดต่้ากว่าบิวทานอล
ง. สารทั้ง 4 ชนิด แต่ละชนิดสามารถเกิดพันธะไฮโดรเจนระหว่างโมเลกุลได้
47. พิจารณาเปรียบเทียบจุดเดือดของสารอินทรีย์
1. สูงกว่า
O O
2. สูงกว่า
3. สูงกว่า
ข้อใดถูกต้อง
ก. 1 เท่านั้น ข. 1 และ 3 ค. ถูกต้องทุกข้อ ง. ไม่สามารถเปรียบเทียบได้
48. ข้อความใดถูกต้องมากที่สุด
ก. สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ในน้้ามีสมบัติเป็นเบส แต่สารละลายบิวทานอลในน้้าไม่เป็นเบส
เพราะพันธะระหว่างคาร์บอนกับหมู่ไฮดรอกซืลเป็นพันธะโคเวเลนต์ที่มีขั้ว
ข. กรดบิวทาโนอิกมีสมบัติเป็นกรด เพราะท้าปฏิกิริยากับสารละลาย NaOH และ ได้แต่
บิวทานอล มีสมบัติเบส เพราะไม่ท้าปฏิกิริยากับสารละลาย NaOH และ
ค.บิวทานอลมีสมบัติเป็นเบส เพราะสามารถท้าปฏิกิริยากับกรดแอซิติกได้สารประกอบเอสเทอร์
เกิดขึ้น
ง. กรดบิวทาโนอิกมีจุดเดือดสูงกว่าบิวทานอล แต่ละลายน้้าได้น้อยกว่าบิวทานอล
49. แอลกอฮอล์ในข้อใดมีสมบัติเป้นกรดมากที่สุด
ก. ข.
ค. ง.
50. สารต่อไปนี้จัดเป็นสารประเภทใดตามล้าดับ
4. และ
ข้อใด ถูกต้อง
ก. 1 2 และ 3 ข. 2 3 และ 4
ค. 2 เท่านั้น ง. 1 3 และ 4
58.พิจารณาสารอินทรีย์ต่อไปนี้
a. b.
c. d.
e. f.
g. h.
i.
ข้อใดเป็นปฏิกิริยาการเกิดเอสเทอร์
ก. a + d c ข. b + f h
ค. d + f g ง. f + h i
59.
ปฏิกิริยา การเติม
กระดาษลิตมัส การละลายน้า้ ปฏิกิริยากับNa ก่อนผ่านน้้า หลังผ่านน้้า การเผาไหม้
ปูนใส ปูนใส
สาร
ไม่
A ไม่เปลี่ยนสี ละลาย เกิดฟองแก๊ส ไม่มีแก๊ส ติดไฟได้
เปลี่ยนแปลง
B น้้าเงินเป็นแดง ละลาย เกิดฟองแก๊ส มีแก๊ส สารละลายขุ่น ติดไฟได้
จากตารางข้างบนนี้ เมื่อน้าสาร A มาท้าปฏิกิริยากับสาร B ผลที่เกิดจะได้สารใด
ก. แอลกอฮอล์ ข. กรดอินทรีย์ ค. ไฮโดรคาร์บอน ง.เอสเทอร์
63.
กับโลหะ กับ ใน
สารอินทรีย์ การละลายน้า กับ แล้วต้ม กับ
โซเดียม ที่(มืด)
สาร ไม่ละลาย ไม่ท้าปฏิกิริยา ไม่ให้ฟองแก๊ส ไม่ให้ฟองแก๊ส ฟอกสี
ให้ฟองแก๊ส
สาร ละลาย ไม่เกิดปฏิกิริยา ไม่ให้ฟองแก๊ส ไม่ฟอกสี
ไฮโดรเจน
เกิดปฏิกิริยา
หลังจากท้าให้เป็น
สาร ไม่ละลาย ไม่ให้ฟองแก๊ส ไม่ให้ฟองแก๊ส ไม่ฟอกสี
กรดได้สารเมีกลิ่น
ฉุนแสบจมูก
ข้อสรุปที่ได้จากการทดลองนี้ ข้อใดถูกต้อง ที่สุด
ก.สาร เป็นแอลกอฮอล์ , สาร เป็นแอลคีน, ,สาร เป็นเอสเทอร์
ข.สาร เป็นแอลเคน , สาร เป็นกรดอ่อน , สาร เป็นแอลกอฮอล์
ค.สาร เป็นแอลคีน , สาร เป็นแอลกอฮอล์ ,สาร เป็นเอสเทอร์
ง.สาร เป็นเอสเทอร์ , สาร เป็นแอลไคน์ , สาร เป็นกรดอ่อน
64.พิจารณาผลการทดสอบสารอินทรีย์ต่อไปนี้
สารที่ใช้ทดสอบ
สารอินทรีย์
น้า (ต้ม) ใน
ละลาย ไม่เกิด เกิด ไม่เกิด ไม่เปลี่ยน
ไม่ละลาย ไม่เกิด ไม่เกิด ไม่เกิด สีจางลง
ละลาย ไม่เกิด ไม่เกิด เกิดปฎิกิริยา ไม่เปลี่ยน
ละลาย เกิด เกิด เกิดปฎิกิริยา ไม่เปลี่ยน
สารในข้อใดเป็นไปได้
ก.
ข.
ค.
ง.
ค. ง.
67. สารประกอบในข้อใดที่ทุกสารเคมีหมู่คาร์บอนิลอยู่ในโมเลกุล
1.
2.
3.
4.
ข้อใด ถูกต้อง
ก. 1 เท่านั้น ข. 1 และ 2
ค. 3 และ 4 เท่านั้น ง. 1, 3 และ 4
ปฏิกิริยาต่างๆที่เกิดขึ้นในสารประกอบคาร์บอน
ก. + + HBr
ข. + +
ค. CO +
ง. + 2Na +
ง.
75. การระบุชนิดของปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น ข้อใด ผิด
ก. (ปฏิกิริยาการรวมตัว)
ข. (ปฏิกิริยาการรวมตัว)
ค. (ปฏิกิริยาการสะเทิน)
ง. (ปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชัน)
76. พิจารณาปฏิกิริยาต่อไปนี้
1.
2. แสง
3.
ความร้อน
4. (-
B + เอทานอล
ก.
ข. (
ค. ( (
ง. (
ตัวเร่งปฏิกิริยา
78.โพรพานาไมด์ + สาร A + สาร B
ความร้อน
สาร B เปลี่ยนสีกระดาษลิตมัสจากสีแดงเป็นสีน้าเงิน
พิจารณาจากข้อความต่อไปนี้
1. สาร B คือเอมีน
2. หมู่ฟังก์ชันของสาร A คือ –OH
3. สาร A ทาปฏิกิริยากับโลหะโซเดียมเกิดแก๊สไฮโดรเจน
4. สาร A ทาปฏิกิริยากับกรดเอทาโนอิกโดยมีกรดซัลฟิวริกเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาได้โพรพิล
เอทาโนเอตข้อใด ถูกต้อง
ก. 1 และ 2 ข. 1 และ 3 ค. 3 และ 4 ง. 3 เท่านั้น
ก. ข.
ค. ง.
80. สารประกอบต่อไปนี้
1. 2. 3. 4.
ปฏิกิริยาข้อใด ผิด
ก. สารประกอบ 1, 2, 3 และ 4 ไม่ฟอกสีสารละลาย
ข. สารประกอบ 3 และ 4 ทาปฏิกิริยากับกรดไฮโดรคลอริกได้เกลือ
ค. สารประกอบ 1 และ 4 เกิดไฮโดรลิซิสในสารละลายกรดได้สารประกอบ 2
ง. สารประกอบ 2 เกิดฟองแก๊สกับสารละลาย
ก.
ข.
ค.
ง.
A B C
ก.
ข.
ค.
ง.
สารทั้งสี่ละลายอยู่ในตัวทาละลายอินทรีย์ที่เหมาะสม เมื่อสกัดสารละลายผสมดังกล่าวด้วย
สารละลาย หรือ ผลการสกัดควรเป็นข้อใด
ตัวทาละลายที่ใช้สกัด สารที่พบในชั้นสารอินทรีย์ สารที่พบในชั้นน้า
ก. D A, B, C
ข. B, D A, C
ค. B A, C, B
ง. B, C, D A
A. B. C.
86. มีกี่ไอโซเมอร์ที่มีหมู่ฟังก์ชันเป็น
ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง.4
87.สารคู่ใดต่อไปนี้มีจานวนไอโซเมอร์เท่ากัน
ก. กรดบิวทาโนอิก และบิวทีน ข. บิวทีน และโพรพานอล
ค. บิวทานอล และกรดบิวทาโนอิก ง. โพรพานอล และกรดบิวทาโนอิก
89. พิจารณาโครงสร้างของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนต่อไปนี้
1. 2.
3. 4.
ข้อใดเป็นโครงสร้างของสารชนิดเดียวกัน
ก. 1 และ 2 ข. 2 และ 3 ค. 1 และ 3 ง.2 และ 4
90. สารคู่ใดจัดเป็นไอโซเมอร์ซึ่งกันและกัน
ก. ข.
ค. ง.